• Microsoft เคยประกาศไว้ล่วงหน้าว่าจะขึ้นราคาผลิตภัณฑ์กลุ่ม server ที่ติดตั้งใช้งานในองค์กร (ไม่ใช่ระบบ cloud อย่าง Microsoft 365 หรือ Azure) แต่ตอนนี้มาแน่นอนแล้ว และเริ่มตั้งแต่ เดือนกรกฎาคม 2025 เป็นต้นไป

    สินค้าเป้าหมายในการขึ้นราคาได้แก่:
    - SharePoint Server
    - Exchange Server
    - Skype for Business Server  → ขึ้นราคา 10%

    ส่วนที่ขึ้นหนักกว่านั้นคือพวก CAL (สิทธิ์ที่ให้ผู้ใช้หรืออุปกรณ์เชื่อมเข้าระบบเซิร์ฟเวอร์ของ Microsoft ได้):
    - Core CAL Suite → ขึ้น 15%
    - Enterprise CAL Suite → ขึ้นถึง 20%

    Microsoft อ้างว่าสาเหตุหลักคือ “ต้นทุนการดูแลรักษาและอัปเดตผลิตภัณฑ์ฝั่ง on-premises” รวมถึงยอดรายได้จากส่วนนี้ที่ “ลดลง” ในช่วงปีหลัง ๆ — จึงต้องขึ้นราคาเพื่อชดเชย พร้อมกันนั้น Microsoft ก็ไม่ลืมกระตุ้นให้คน “ย้ายไปใช้บริการแบบคลาวด์แทน”

    อีกสิ่งที่น่าสนใจคือ Microsoft เริ่มออก “Subscription Edition” สำหรับ Exchange Server และ Skype for Business Server → ย้ายการซัพพอร์ตไปใช้โมเดลแบบ Modern Lifecycle (อัปเดตต่อเนื่อง แทนที่จะมีเวอร์ชันใหญ่ใหม่ทุก 3 ปี)

    https://www.neowin.net/news/microsoft-jacks-up-prices-for-on-premises-server-products-and-cals/
    Microsoft เคยประกาศไว้ล่วงหน้าว่าจะขึ้นราคาผลิตภัณฑ์กลุ่ม server ที่ติดตั้งใช้งานในองค์กร (ไม่ใช่ระบบ cloud อย่าง Microsoft 365 หรือ Azure) แต่ตอนนี้มาแน่นอนแล้ว และเริ่มตั้งแต่ เดือนกรกฎาคม 2025 เป็นต้นไป สินค้าเป้าหมายในการขึ้นราคาได้แก่: - SharePoint Server - Exchange Server - Skype for Business Server  → ขึ้นราคา 10% ส่วนที่ขึ้นหนักกว่านั้นคือพวก CAL (สิทธิ์ที่ให้ผู้ใช้หรืออุปกรณ์เชื่อมเข้าระบบเซิร์ฟเวอร์ของ Microsoft ได้): - Core CAL Suite → ขึ้น 15% - Enterprise CAL Suite → ขึ้นถึง 20% Microsoft อ้างว่าสาเหตุหลักคือ “ต้นทุนการดูแลรักษาและอัปเดตผลิตภัณฑ์ฝั่ง on-premises” รวมถึงยอดรายได้จากส่วนนี้ที่ “ลดลง” ในช่วงปีหลัง ๆ — จึงต้องขึ้นราคาเพื่อชดเชย พร้อมกันนั้น Microsoft ก็ไม่ลืมกระตุ้นให้คน “ย้ายไปใช้บริการแบบคลาวด์แทน” อีกสิ่งที่น่าสนใจคือ Microsoft เริ่มออก “Subscription Edition” สำหรับ Exchange Server และ Skype for Business Server → ย้ายการซัพพอร์ตไปใช้โมเดลแบบ Modern Lifecycle (อัปเดตต่อเนื่อง แทนที่จะมีเวอร์ชันใหญ่ใหม่ทุก 3 ปี) https://www.neowin.net/news/microsoft-jacks-up-prices-for-on-premises-server-products-and-cals/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft jacks up prices for on-premises server products and CALs
    Microsoft has increased the prices of its on-premises server products and Client Access License (CAL) Suites by up to 20%. Organizations will have to decide whether to stay or go to Cloud products.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลายคนอาจจำได้ว่า Microsoft เคยประกาศชัดว่า Skype for Business จะสิ้นยุค เพราะได้เปลี่ยนผ่านมาสู่ Microsoft Teams แทนหมดแล้ว โดยเฉพาะในบริการแบบ cloud เช่น Office 365

    แต่เบื้องหลังคือ:
    ยังมีองค์กรใหญ่อีกจำนวนมากที่ใช้งาน Skype for Business Server แบบติดตั้งในองค์กร (on-prem) และ… Teams ยังไม่มีเวอร์ชัน on-prem → ไม่มีตัวแทนจริง ๆ ที่แทนที่ Skype ได้

    นั่นคือเหตุผลที่ Microsoft เพิ่งเปิดตัว Skype for Business Server Subscription Edition (SE) อย่างเป็นทางการ เพื่อใช้ต่อจากเวอร์ชันเดิม (2015/2019) ที่จะหมดอายุพร้อมกับ Windows 10 ในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 นี้

    SE จะไม่มีฟีเจอร์ใหม่แบบหวือหวา แต่จะได้รับ:
    - อัปเดตความปลอดภัยต่อเนื่อง
    - ระบบติดตั้งและซัพพอร์ตตามนโยบาย "Modern Lifecycle" ของ Microsoft
    - ใช้งานต่อจาก 2015 หรือ 2019 ได้แบบอัปเกรดในที่เดิม ไม่ต้องติดตั้งใหม่หมด

    ถือเป็นการยืดอายุ Skype for Business Server อีกหลายปีสำหรับองค์กรที่ไม่สามารถหรือไม่ต้องการย้ายไปใช้ระบบ cloud ได้ในตอนนี้

    https://www.neowin.net/news/skype-for-business-server-se-now-available-because-teams-cant-solve-one-problem/
    หลายคนอาจจำได้ว่า Microsoft เคยประกาศชัดว่า Skype for Business จะสิ้นยุค เพราะได้เปลี่ยนผ่านมาสู่ Microsoft Teams แทนหมดแล้ว โดยเฉพาะในบริการแบบ cloud เช่น Office 365 แต่เบื้องหลังคือ: 🔧 ยังมีองค์กรใหญ่อีกจำนวนมากที่ใช้งาน Skype for Business Server แบบติดตั้งในองค์กร (on-prem) และ… Teams ยังไม่มีเวอร์ชัน on-prem → ไม่มีตัวแทนจริง ๆ ที่แทนที่ Skype ได้ นั่นคือเหตุผลที่ Microsoft เพิ่งเปิดตัว Skype for Business Server Subscription Edition (SE) อย่างเป็นทางการ เพื่อใช้ต่อจากเวอร์ชันเดิม (2015/2019) ที่จะหมดอายุพร้อมกับ Windows 10 ในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 นี้ SE จะไม่มีฟีเจอร์ใหม่แบบหวือหวา แต่จะได้รับ: - อัปเดตความปลอดภัยต่อเนื่อง - ระบบติดตั้งและซัพพอร์ตตามนโยบาย "Modern Lifecycle" ของ Microsoft - ใช้งานต่อจาก 2015 หรือ 2019 ได้แบบอัปเกรดในที่เดิม ไม่ต้องติดตั้งใหม่หมด ถือเป็นการยืดอายุ Skype for Business Server อีกหลายปีสำหรับองค์กรที่ไม่สามารถหรือไม่ต้องการย้ายไปใช้ระบบ cloud ได้ในตอนนี้ https://www.neowin.net/news/skype-for-business-server-se-now-available-because-teams-cant-solve-one-problem/
    WWW.NEOWIN.NET
    Skype for Business Server SE now available because Teams can't solve one problem
    It seems that Microsoft can't truly kill off Skype once and for all, and the culprit this time around seems to be a missing configuration in Teams.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลายคนอาจไม่รู้ว่า Microsoft Edge มีเวอร์ชัน “for Business” ด้วย — มันไม่ใช่แค่ Edge ธรรมดา แต่เป็น เบราว์เซอร์ที่มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย, การจัดการ, และ AI เสริมมาสำหรับองค์กร โดยเฉพาะ

    ล่าสุด Microsoft ออกบล็อกโพสต์ชื่อว่า “Better browser security starts with Edge for Business – and you” พร้อมเปิดเผยว่า:

    “เราขอให้พาร์ตเนอร์ด้านไอทีและความปลอดภัยทั่วโลก ช่วยโปรโมต Edge for Business โดยใส่เป็นส่วนหนึ่งของแพ็กเกจโซลูชันองค์กรที่ขายให้ลูกค้า”

    พูดง่าย ๆ คือ เขาอยากให้ทุกบริษัทที่ขายบริการความปลอดภัย, MSP, MSSP หรือ ISV ใส่ Edge for Business ไปในแพ็กเกจด้วย เหมือนกับเป็น one-stop solution

    Microsoft เลยจัดแพ็กของพร้อมใช้แบบครบเครื่อง:
    - วิดีโออธิบายความเสี่ยงการโจมตีผ่านเบราว์เซอร์
    - เดโมของ Edge Management Services และ Microsoft 365 Lighthouse
    - Whitepaper ความปลอดภัย
    - Pitch deck พร้อม landing page สวย ๆ เหมือนของ Apple เลย

    ไอเดียคือ "ไม่ได้บังคับพาร์ตเนอร์ให้ใช้" — แค่ส่งสัญญาณว่า “โปรโมตสิ แล้วเราจะช่วยซัพพอร์ตเต็มที่” เพื่อชิงตลาดจาก Chrome และเบราว์เซอร์อื่นในภาคองค์กร

    https://www.neowin.net/news/microsoft-wants-partners-to-promote-edge-for-business/
    หลายคนอาจไม่รู้ว่า Microsoft Edge มีเวอร์ชัน “for Business” ด้วย — มันไม่ใช่แค่ Edge ธรรมดา แต่เป็น เบราว์เซอร์ที่มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย, การจัดการ, และ AI เสริมมาสำหรับองค์กร โดยเฉพาะ ล่าสุด Microsoft ออกบล็อกโพสต์ชื่อว่า “Better browser security starts with Edge for Business – and you” พร้อมเปิดเผยว่า: 📣 “เราขอให้พาร์ตเนอร์ด้านไอทีและความปลอดภัยทั่วโลก ช่วยโปรโมต Edge for Business โดยใส่เป็นส่วนหนึ่งของแพ็กเกจโซลูชันองค์กรที่ขายให้ลูกค้า” พูดง่าย ๆ คือ เขาอยากให้ทุกบริษัทที่ขายบริการความปลอดภัย, MSP, MSSP หรือ ISV ใส่ Edge for Business ไปในแพ็กเกจด้วย เหมือนกับเป็น one-stop solution Microsoft เลยจัดแพ็กของพร้อมใช้แบบครบเครื่อง: - วิดีโออธิบายความเสี่ยงการโจมตีผ่านเบราว์เซอร์ - เดโมของ Edge Management Services และ Microsoft 365 Lighthouse - Whitepaper ความปลอดภัย - Pitch deck พร้อม landing page สวย ๆ เหมือนของ Apple เลย ไอเดียคือ "ไม่ได้บังคับพาร์ตเนอร์ให้ใช้" — แค่ส่งสัญญาณว่า “โปรโมตสิ แล้วเราจะช่วยซัพพอร์ตเต็มที่” เพื่อชิงตลาดจาก Chrome และเบราว์เซอร์อื่นในภาคองค์กร https://www.neowin.net/news/microsoft-wants-partners-to-promote-edge-for-business/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft wants partners to promote Edge for Business
    Microsoft has encouraged its partners and independent solution vendors (ISVs) to bundle Edge for Business in their security offerings.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ฮ่องกง 14,999
    ล่องเรือยอร์ช บิน Business class

    🗓 จำนวนวัน 3วัน 2 คืน
    ✈ HX-ฮ่องกง แอร์ไลน์
    พักโรงแรม

    กระเช้านองปิง 360
    หมู่บ้านวัฒนธรรมนองปิง
    พระใหญ่เทียนถาน
    ล่องเรือยอร์ช ชมเกาะฮ่องกง
    Shopping จิมซาจุ่ย
    Shopping Citygate Outlets

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์ฮ่องกง #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    #ฮ่องกง 14,999 🔥🔥 ล่องเรือยอร์ช บิน Business class 😱 🗓 จำนวนวัน 3วัน 2 คืน ✈ HX-ฮ่องกง แอร์ไลน์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐⭐ 📍 กระเช้านองปิง 360 📍 หมู่บ้านวัฒนธรรมนองปิง 📍 พระใหญ่เทียนถาน 📍 ล่องเรือยอร์ช ชมเกาะฮ่องกง 📍 Shopping จิมซาจุ่ย 📍 Shopping Citygate Outlets รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์ฮ่องกง #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) สั่งการทูตพาณิชย์ในจีน 7 แห่ง ตรวจสอบกรณีพบข้าวหอมกัมพูชาดอดใช้ธงชาติไทยและตรารับรองข้าวหอมมะลิไทยขายในจีน เผยเจอบางยี่ห้อใช้ภาษาไทยกำกับว่าเป็นข้าวหอมมะลิไทยจริง ขอให้เร่งหารือผู้นำเข้าและแพลตฟอร์มออนไลน์ระงับการวางจำหน่าย ประชาสัมพันธ์ตรารับรองให้คนจีนรู้จัก ประสานหน่วยงาน SAMR เข้าไปดูแล และดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาด

    น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยถึงกรณีที่คนไทยในจีนได้แจ้งพบมีการนำข้าวที่ผลิตในกัมพูชาส่งออกมาที่จีน แต่บนบรรจุภัณฑ์มีการใช้ธงชาติไทยและตราสัญลักษณ์ที่คล้ายกับตรารับรองข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งเป็นรูปรวงข้าวบนพื้นหลังสีเขียว ที่ออกโดยกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อรับรองคุณภาพข้าวหอมมะลิไทยที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน วางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตในจีน ว่า ได้สั่งการให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ ประเทศจีน เร่งตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาผู้บริโภคชาวจีนเกิดความสับสน หรือเข้าใจผิดว่าเป็นข้าวที่นำเข้าจากประเทศไทย หรือเป็นข้าวหอมมะลิไทยจริง เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ อาจส่งผลกระทบต่อ ภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น ที่มีต่อข้าวหอมมะลิไทยในตลาดจีน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000060599

    #Thaitimes #MGROnline #กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ #ทูตพาณิชย์ #จีน #ข้าวหอมกัมพูชา #ธงชาติไทย #ตรารับรอง #ข้าวหอมมะลิไทย
    กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) สั่งการทูตพาณิชย์ในจีน 7 แห่ง ตรวจสอบกรณีพบข้าวหอมกัมพูชาดอดใช้ธงชาติไทยและตรารับรองข้าวหอมมะลิไทยขายในจีน เผยเจอบางยี่ห้อใช้ภาษาไทยกำกับว่าเป็นข้าวหอมมะลิไทยจริง ขอให้เร่งหารือผู้นำเข้าและแพลตฟอร์มออนไลน์ระงับการวางจำหน่าย ประชาสัมพันธ์ตรารับรองให้คนจีนรู้จัก ประสานหน่วยงาน SAMR เข้าไปดูแล และดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาด • น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยถึงกรณีที่คนไทยในจีนได้แจ้งพบมีการนำข้าวที่ผลิตในกัมพูชาส่งออกมาที่จีน แต่บนบรรจุภัณฑ์มีการใช้ธงชาติไทยและตราสัญลักษณ์ที่คล้ายกับตรารับรองข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งเป็นรูปรวงข้าวบนพื้นหลังสีเขียว ที่ออกโดยกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อรับรองคุณภาพข้าวหอมมะลิไทยที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน วางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตในจีน ว่า ได้สั่งการให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ ประเทศจีน เร่งตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาผู้บริโภคชาวจีนเกิดความสับสน หรือเข้าใจผิดว่าเป็นข้าวที่นำเข้าจากประเทศไทย หรือเป็นข้าวหอมมะลิไทยจริง เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ อาจส่งผลกระทบต่อ ภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น ที่มีต่อข้าวหอมมะลิไทยในตลาดจีน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000060599 • #Thaitimes #MGROnline #กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ #ทูตพาณิชย์ #จีน #ข้าวหอมกัมพูชา #ธงชาติไทย #ตรารับรอง #ข้าวหอมมะลิไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าคุณใช้ VPN เพื่อทำงานจากที่บ้านหรือเข้าระบบภายในบริษัท มีโอกาสสูงที่คุณจะเคยใช้หรือเคยได้ยินชื่อ NetExtender ของ SonicWall — แต่ตอนนี้แฮกเกอร์กำลังปลอมตัวแอปนี้ แล้วแจกผ่าน “เว็บปลอมที่หน้าตาเหมือนของจริงเป๊ะ”

    แฮกเกอร์ใช้วิธี SEO poisoning และโฆษณา (malvertising) เพื่อดันเว็บปลอมให้ขึ้นอันดับบน Google จนคนทั่วไปเผลอกดเข้าไป — และเมื่อคุณดาวน์โหลดแอป VPN ปลอมนี้มา ก็เท่ากับมอบ ชื่อผู้ใช้, รหัสผ่าน, โดเมน, และค่าการตั้งค่าภายในระบบองค์กร ให้แฮกเกอร์ไปครบชุดเลย

    ตัวแอปนี้ยัง “ลงลายเซ็นดิจิทัล” จากบริษัทปลอมชื่อ “CITYLIGHT MEDIA PRIVATE LIMITED” เพื่อหลอกระบบความปลอดภัยเบื้องต้นอีกด้วย

    ข่าวดีคือ SonicWall กับ Microsoft สามารถตรวจจับมัลแวร์ตัวนี้ได้แล้ว แต่ถ้าคุณหรือทีมไอทีใช้อุปกรณ์ป้องกันจากค่ายอื่น อาจยังไม่มีการอัปเดต signature นั้น — ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือ “อย่าดาวน์โหลดแอป VPN จากที่อื่นนอกจากเว็บทางการ!”

    แฮกเกอร์ปลอมแอป SonicWall NetExtender แล้วแจกผ่านเว็บเลียนแบบของจริง  
    • เว็บปลอมถูกดันขึ้นอันดับบน Google ด้วยเทคนิค SEO poisoning และ malvertising  
    • ผู้ใช้ทั่วไปมีโอกาสหลงเชื่อสูง

    ไฟล์ติดมัลแวร์มีการเซ็นดิจิทัลหลอก โดยบริษัทปลอม “CITYLIGHT MEDIA PRIVATE LIMITED”  
    • หลอกระบบความปลอดภัยพื้นฐาน เช่น antivirus หรือ firewall

    แอปที่ถูกดัดแปลงประกอบด้วย:  • NetExtender.exe: ดัดแปลงให้ขโมยชื่อผู้ใช้, รหัสผ่าน, โดเมน และ config  
    • NEService.exe: ถูกแก้ให้ข้ามการตรวจสอบ digital certificate

    ข้อมูลของผู้ใช้จะถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่แฮกเกอร์ควบคุมเมื่อกด “เชื่อมต่อ VPN”  
    • ทำให้แฮกเกอร์สามารถใช้รหัสเพื่อเข้าระบบองค์กรได้โดยตรง

    SonicWall และ Microsoft ออกคำเตือนและปรับ signature เพื่อจับมัลแวร์ตัวนี้แล้ว  
    • แต่ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์อื่นอาจยังไม่สามารถตรวจจับได้

    SonicWall แนะนำให้ดาวน์โหลดแอป VPN แค่จากเว็บทางการเท่านั้น:  
    • sonicwall.com  
    • mysonicwall.com

    https://www.techradar.com/pro/security/sonicwall-warns-of-fake-vpn-apps-stealing-user-logins-and-putting-businesses-at-risk-heres-what-we-know
    ถ้าคุณใช้ VPN เพื่อทำงานจากที่บ้านหรือเข้าระบบภายในบริษัท มีโอกาสสูงที่คุณจะเคยใช้หรือเคยได้ยินชื่อ NetExtender ของ SonicWall — แต่ตอนนี้แฮกเกอร์กำลังปลอมตัวแอปนี้ แล้วแจกผ่าน “เว็บปลอมที่หน้าตาเหมือนของจริงเป๊ะ” แฮกเกอร์ใช้วิธี SEO poisoning และโฆษณา (malvertising) เพื่อดันเว็บปลอมให้ขึ้นอันดับบน Google จนคนทั่วไปเผลอกดเข้าไป — และเมื่อคุณดาวน์โหลดแอป VPN ปลอมนี้มา ก็เท่ากับมอบ ชื่อผู้ใช้, รหัสผ่าน, โดเมน, และค่าการตั้งค่าภายในระบบองค์กร ให้แฮกเกอร์ไปครบชุดเลย ตัวแอปนี้ยัง “ลงลายเซ็นดิจิทัล” จากบริษัทปลอมชื่อ “CITYLIGHT MEDIA PRIVATE LIMITED” เพื่อหลอกระบบความปลอดภัยเบื้องต้นอีกด้วย ข่าวดีคือ SonicWall กับ Microsoft สามารถตรวจจับมัลแวร์ตัวนี้ได้แล้ว แต่ถ้าคุณหรือทีมไอทีใช้อุปกรณ์ป้องกันจากค่ายอื่น อาจยังไม่มีการอัปเดต signature นั้น — ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือ “อย่าดาวน์โหลดแอป VPN จากที่อื่นนอกจากเว็บทางการ!” ✅ แฮกเกอร์ปลอมแอป SonicWall NetExtender แล้วแจกผ่านเว็บเลียนแบบของจริง   • เว็บปลอมถูกดันขึ้นอันดับบน Google ด้วยเทคนิค SEO poisoning และ malvertising   • ผู้ใช้ทั่วไปมีโอกาสหลงเชื่อสูง ✅ ไฟล์ติดมัลแวร์มีการเซ็นดิจิทัลหลอก โดยบริษัทปลอม “CITYLIGHT MEDIA PRIVATE LIMITED”   • หลอกระบบความปลอดภัยพื้นฐาน เช่น antivirus หรือ firewall ✅ แอปที่ถูกดัดแปลงประกอบด้วย:  • NetExtender.exe: ดัดแปลงให้ขโมยชื่อผู้ใช้, รหัสผ่าน, โดเมน และ config   • NEService.exe: ถูกแก้ให้ข้ามการตรวจสอบ digital certificate ✅ ข้อมูลของผู้ใช้จะถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่แฮกเกอร์ควบคุมเมื่อกด “เชื่อมต่อ VPN”   • ทำให้แฮกเกอร์สามารถใช้รหัสเพื่อเข้าระบบองค์กรได้โดยตรง ✅ SonicWall และ Microsoft ออกคำเตือนและปรับ signature เพื่อจับมัลแวร์ตัวนี้แล้ว   • แต่ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์อื่นอาจยังไม่สามารถตรวจจับได้ ✅ SonicWall แนะนำให้ดาวน์โหลดแอป VPN แค่จากเว็บทางการเท่านั้น:   • sonicwall.com   • mysonicwall.com https://www.techradar.com/pro/security/sonicwall-warns-of-fake-vpn-apps-stealing-user-logins-and-putting-businesses-at-risk-heres-what-we-know
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • หั่นกระท้อนแช่อิ่มไวสุด ๆ!
    หั่นเนื้อผลไม้ได้เร็ว เท่ากัน สวยงาม ไม่เละ
    เหมาะกับการผลิต “กระท้อนแช่อิ่ม” ปริมาณมาก
    ใช้งานง่าย ปลอดภัย มีถาดกันมือ พร้อมล้อเลื่อนเคลื่อนย้ายสะดวก

    จุดเด่นของเครื่องนี้

    โครงสร้าง สแตนเลส แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นานหลายปี
    หั่นไวต่อเนื่อง 200-300 กก./ชั่วโมง เหมาะกับสายแปรรูปขาย
    ใบมีด แท่งคู่แนวตั้ง หั่นได้ “เท่ากันทุกชิ้น” ไม่เละ ไม่เสียเนื้อ
    มี ถาดกันมือ (Safety) เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้
    มีล้อเลื่อน 4 จุด เคลื่อนย้ายสะดวก ไม่ต้องยกให้เมื่อย
    ทำความสะอาดง่าย แยกชิ้นส่วนได้ ไม่ยุ่งยาก
    หั่นกระท้อนแช่อิ่มได้ "พอดีคำ" พร้อมจัดแพ็คขายหรือดองทันที!

    ข้อมูลทางเทคนิค
    - มอเตอร์: 1.5 แรงม้า
    - กระแสไฟ: 220 โวลต์ (ไฟบ้านทั่วไป)
    - ขนาดเครื่อง: 38.5 x 68 x 81 ซม.
    - น้ำหนัก: 65 กิโลกรัม
    - กำลังผลิต: 200-300 กก./ชั่วโมง

    สนใจสินค้าเครื่องไหน สามารถเข้ามาดูที่ร้านได้เลยนะคะ
    เวลาเปิดทำการ :
    จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00
    และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00
    แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7

    #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼‼
    ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน
    m.me/yonghahheng แชทเลย
    LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า)
    หรือ https://lin.ee/5H812n9
    02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    www.yoryonghahheng.com
    E-mail : sales@yoryonghahheng.com
    yonghahheng@gmail.com

    #เครื่องหั่นกระท้อน #เครื่องหั่นผลไม้ #เครื่องหั่นแช่อิ่ม #เครื่องหั่นผลไม้แปรรูป #กระท้อนแช่อิ่ม #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #หั่นกระท้อนเร็ว #เครื่องหั่นผลไม้ดอง #เครื่องหั่นเชิงพาณิชย์ #เครื่องหั่นอุตสาหกรรม #แปรรูปผลไม้ #กระท้อนดอง #กระท้อนแช่อิ่ม #กระท้อนแช่อิ่มโบราณ #กระท้อนแช่อิ่มสูตรดั้งเดิม #กระท้อนแช่อิ่มหวานเย็น #กระท้อนแช่อิ่มขายดี #ผลไม้แช่อิ่ม #ของกินเล่น #ของกินอร่อย #ผลไม้แปรรูป #ของฝากขึ้นชื่อ #กระท้อนดอง #แช่อิ่มทำขาย #กระท้อนพร้อมทาน
    หั่นกระท้อนแช่อิ่มไวสุด ๆ! ✨ หั่นเนื้อผลไม้ได้เร็ว เท่ากัน สวยงาม ไม่เละ เหมาะกับการผลิต “กระท้อนแช่อิ่ม” ปริมาณมาก ใช้งานง่าย ปลอดภัย มีถาดกันมือ พร้อมล้อเลื่อนเคลื่อนย้ายสะดวก ✅ จุดเด่นของเครื่องนี้ 📌 โครงสร้าง สแตนเลส แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นานหลายปี 📌 หั่นไวต่อเนื่อง 200-300 กก./ชั่วโมง เหมาะกับสายแปรรูปขาย 📌 ใบมีด แท่งคู่แนวตั้ง หั่นได้ “เท่ากันทุกชิ้น” ไม่เละ ไม่เสียเนื้อ 📌 มี ถาดกันมือ (Safety) เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ 📌 มีล้อเลื่อน 4 จุด เคลื่อนย้ายสะดวก ไม่ต้องยกให้เมื่อย 📌 ทำความสะอาดง่าย แยกชิ้นส่วนได้ ไม่ยุ่งยาก 📌 หั่นกระท้อนแช่อิ่มได้ "พอดีคำ" พร้อมจัดแพ็คขายหรือดองทันที! 🔧 ข้อมูลทางเทคนิค - มอเตอร์: 1.5 แรงม้า - กระแสไฟ: 220 โวลต์ (ไฟบ้านทั่วไป) - ขนาดเครื่อง: 38.5 x 68 x 81 ซม. - น้ำหนัก: 65 กิโลกรัม - กำลังผลิต: 200-300 กก./ชั่วโมง สนใจสินค้าเครื่องไหน สามารถเข้ามาดูที่ร้านได้เลยนะคะ เวลาเปิดทำการ : จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00 แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼‼ ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน m.me/yonghahheng👈👈 แชทเลย LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือ https://lin.ee/5H812n9 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 www.yoryonghahheng.com E-mail : sales@yoryonghahheng.com yonghahheng@gmail.com #เครื่องหั่นกระท้อน #เครื่องหั่นผลไม้ #เครื่องหั่นแช่อิ่ม #เครื่องหั่นผลไม้แปรรูป #กระท้อนแช่อิ่ม #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #หั่นกระท้อนเร็ว #เครื่องหั่นผลไม้ดอง #เครื่องหั่นเชิงพาณิชย์ #เครื่องหั่นอุตสาหกรรม #แปรรูปผลไม้ #กระท้อนดอง #กระท้อนแช่อิ่ม #กระท้อนแช่อิ่มโบราณ #กระท้อนแช่อิ่มสูตรดั้งเดิม #กระท้อนแช่อิ่มหวานเย็น #กระท้อนแช่อิ่มขายดี #ผลไม้แช่อิ่ม #ของกินเล่น #ของกินอร่อย #ผลไม้แปรรูป #ของฝากขึ้นชื่อ #กระท้อนดอง #แช่อิ่มทำขาย #กระท้อนพร้อมทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องบดแห้งสแตนเลส รุ่น 20B บดถั่วลันเตาอบแห้งเป็นผงได้ง่ายๆ ในพริบตา!
    ใครทำธุรกิจอาหารสุขภาพ แปรรูปสมุนไพร หรืออบผงโปรตีนจากพืช ต้องไม่พลาด!

    เหมาะกับการบดของแห้งทุกชนิด เช่น ถั่วลันเตาอบแห้ง ถั่วเหลือง ข้าวโอ๊ต สมุนไพร ฯลฯ
    มาพร้อมฟันตี 3 แบบ: Cutting, Pinmill และ Hammermill
    ปลอดภัยด้วยระบบ Safety Door เซ็นเซอร์ตัดไฟทันทีเมื่อเปิดฝา
    มอเตอร์ 5HP 380V (3 เฟส) แข็งแรง ประหยัดไฟ
    มีระบบ หล่อเย็น + ปล่องลม + ถุงผ้าดักฝุ่น หมดกังวลเรื่องฝุ่นฟุ้ง
    ใช้งานง่าย ล้างสะดวก โครงสร้างเป็น สแตนเลสทั้งตัว มาตรฐานอุตสาหกรรม

    พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ
    รับประกันสินค้า มีอะไหล่รองรับ
    แอดไลน์เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม/ขอใบเสนอราคาได้เลยค่ะ
    LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า)
    หรือ https://lin.ee/HV4lSKp

    สามารถเข้ามาเลือกชมสินค้าได้ที่
    แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7
    เวลาเปิดทำการ :
    จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00
    และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00

    #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼‼
    ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน

    02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    www.yoryonghahheng.com
    E-mail : sales@yoryonghahheng.com
    yonghahheng@gmail.com

    #เครื่องบดแห้ง #เครื่องบดสมุนไพร #เครื่องบดถั่ว #บดถั่วลันเตา #เครื่องบดอาหารแห้ง #เครื่องบดผงละเอียด #เครื่องบดอุตสาหกรรม #เครื่องบดสมุนไพรแห้ง #บดอาหารแห้ง #เครื่องบดผง #บดพืชอบแห้ง #บดธัญพืช #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #อุปกรณ์แปรรูปสมุนไพร #เครื่องบดแสตนเลส #เครื่องบดผงอุตสาหกรรม #บดผงอาหาร #บดผงสมุนไพร #เครื่องบดแห้งคุณภาพสูง #เครื่องจักรผลิตอาหารสุขภาพ
    🟩 เครื่องบดแห้งสแตนเลส รุ่น 20B บดถั่วลันเตาอบแห้งเป็นผงได้ง่ายๆ ในพริบตา! ใครทำธุรกิจอาหารสุขภาพ แปรรูปสมุนไพร หรืออบผงโปรตีนจากพืช ต้องไม่พลาด! 📌 เหมาะกับการบดของแห้งทุกชนิด เช่น ถั่วลันเตาอบแห้ง ถั่วเหลือง ข้าวโอ๊ต สมุนไพร ฯลฯ 📌 มาพร้อมฟันตี 3 แบบ: Cutting, Pinmill และ Hammermill 📌 ปลอดภัยด้วยระบบ Safety Door เซ็นเซอร์ตัดไฟทันทีเมื่อเปิดฝา 📌 มอเตอร์ 5HP 380V (3 เฟส) แข็งแรง ประหยัดไฟ 📌 มีระบบ หล่อเย็น + ปล่องลม + ถุงผ้าดักฝุ่น หมดกังวลเรื่องฝุ่นฟุ้ง 📌 ใช้งานง่าย ล้างสะดวก โครงสร้างเป็น สแตนเลสทั้งตัว มาตรฐานอุตสาหกรรม ✅ พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ ✅ รับประกันสินค้า มีอะไหล่รองรับ ✅ แอดไลน์เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม/ขอใบเสนอราคาได้เลยค่ะ LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือ https://lin.ee/HV4lSKp สามารถเข้ามาเลือกชมสินค้าได้ที่ แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 เวลาเปิดทำการ : จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00 #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼‼ ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 www.yoryonghahheng.com E-mail : sales@yoryonghahheng.com yonghahheng@gmail.com #เครื่องบดแห้ง #เครื่องบดสมุนไพร #เครื่องบดถั่ว #บดถั่วลันเตา #เครื่องบดอาหารแห้ง #เครื่องบดผงละเอียด #เครื่องบดอุตสาหกรรม #เครื่องบดสมุนไพรแห้ง #บดอาหารแห้ง #เครื่องบดผง #บดพืชอบแห้ง #บดธัญพืช #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #อุปกรณ์แปรรูปสมุนไพร #เครื่องบดแสตนเลส #เครื่องบดผงอุตสาหกรรม #บดผงอาหาร #บดผงสมุนไพร #เครื่องบดแห้งคุณภาพสูง #เครื่องจักรผลิตอาหารสุขภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลายองค์กรยังมอง CISO เป็น “ฝ่าย IT” ที่คอยกันภัยอยู่ท้ายขบวน แต่วันนี้ CISO ต้องเปลี่ยนบทบาทเป็น พาร์ตเนอร์ธุรกิจ ที่ตอบคำถาม CEO ได้ว่า “เราปลอดภัยพอจะเดินหน้าต่อหรือยัง?”

    ไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิคอีกต่อไป — คำถามสำคัญกลายเป็นเรื่องแบบนี้:
    - ทีมเราทำให้ธุรกิจคล่องตัวขึ้น หรือแค่เป็นตัวถ่วง?
    - ดาต้าอยู่ตรงไหนจริง ๆ กันแน่ (รวม shadow IT ด้วยไหม)?
    - สิ่งที่เราทำ ถูกมองว่า "ช่วย" หรือ "ขวาง" คนอื่น?
    - เราเล่าเรื่องความเสี่ยงให้ผู้บริหารเข้าใจได้ หรือยังพูดแบบเทคนิคจ๋าจนไม่มีใครฟัง?

    และที่น่าสนใจคือ… AI เองก็เปลี่ยนบทบาททีม Cyber แล้ว — จากคนทำ log analysis → กลายเป็นผู้ช่วยหาช่องโหว่แบบอัตโนมัติ ดังนั้นคำถามที่เพิ่มขึ้นคือ “เราจะใช้ AI เสริมทีม หรือโดนแทนที่?”

    คำถามสำคัญ:

    CISO ควรถามตัวเองว่าเป็น “ผู้ขับเคลื่อนธุรกิจ” หรือ “ตัวถ่วง”  
    • ถ้าทีมอื่นไม่อยากชวนเราเข้าประชุมช่วงวางแผน อาจมีปัญหาเรื่อง perception  
    • ควรเปลี่ยนบทบาทจาก “ตำรวจ” เป็น “ที่ปรึกษา”

    กลยุทธ์รักษาความปลอดภัยต้องสมดุลกับระดับความเสี่ยงที่ธุรกิจยอมรับได้  
    • ปิดทุกอย่างไม่ได้ = ธุรกิจหยุด  
    • เปิดหมด = เสี่ยงเกินไป  
    • ต้อง “รู้จังหวะว่าเสี่ยงแค่ไหนถึงพอเหมาะ”

    ข้อมูลประเภทไหนอยู่ที่ไหน = หัวใจของแผน Cyber  
    • หลายองค์กรมี “ข้อมูลลับ” ที่หลุดอยู่นอกระบบหลัก เช่น shared drive, shadow IT  
    • รวมถึงดาต้าจากบริษัทที่ควบรวมมา

    วัดผลแบบไหนถึงจะสื่อสารกับบอร์ดได้ดี?  
    • อย่าวัดแค่ patch กี่เครื่อง หรือ alert เยอะแค่ไหน  
    • ควรวัดว่า “สิ่งที่ทำ” ส่งผลยังไงกับ KPI ธุรกิจ เช่น revenue loss prevented

    พูดแบบ technical จ๋าเกินไป = ผู้บริหารไม่เข้าใจความเสี่ยงจริง  
    • ต้องฝึกเล่าเรื่อง “ความเสี่ยงทางธุรกิจ” ไม่ใช่แค่ “config ผิด”

    วัฒนธรรมทีมก็สำคัญ: ทีมเรากล้าท้าทายความเห็น CISO ไหม?  
    • ถ้าไม่มี dissent = ผู้นำอาจมองไม่เห็น blind spot ตัวเอง

    ลูกค้าต้องการให้เราทำอะไรด้านความปลอดภัยบ้าง?  
    • วิเคราะห์จาก security questionnaire ที่ลูกค้าส่ง  
    • ใช้เป็น data สร้าง business case ได้ว่า “ถ้าไม่ทำ = เสียรายได้กลุ่มนี้”

    AI จะเปลี่ยนวิธีจัดทีม Cyber อย่างไร?  
    • ลดความต้องการคน entry-level (SOC Tier 1)  
    • ต้องเน้นฝึก analyst ที่เก่งขึ้น (Tier 2+) ที่รู้จัก “ทำงานร่วมกับ AI”

    ความเสี่ยงใหม่ไม่ได้มาจาก Zero-day เสมอไป — แต่มาจาก “สิ่งที่เราไม่รู้ว่ามีอยู่”  
    • เช่น ระบบเก่า, S3 bucket ที่ลืมปิด, API ใหม่ที่ไม่มีคนดู

    CISO ควรถามว่า: “ศัตรูเราเป็นใคร และเขาจะมาโจมตีช่องไหน?”  
    • วางแผนจาก threat model และจัด stack ให้พร้อมต่ออนาคต เช่น Quantum-resistant crypto

    https://www.csoonline.com/article/4009212/10-tough-cybersecurity-questions-every-ciso-must-answer.html
    หลายองค์กรยังมอง CISO เป็น “ฝ่าย IT” ที่คอยกันภัยอยู่ท้ายขบวน แต่วันนี้ CISO ต้องเปลี่ยนบทบาทเป็น พาร์ตเนอร์ธุรกิจ ที่ตอบคำถาม CEO ได้ว่า “เราปลอดภัยพอจะเดินหน้าต่อหรือยัง?” ไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิคอีกต่อไป — คำถามสำคัญกลายเป็นเรื่องแบบนี้: - ทีมเราทำให้ธุรกิจคล่องตัวขึ้น หรือแค่เป็นตัวถ่วง? - ดาต้าอยู่ตรงไหนจริง ๆ กันแน่ (รวม shadow IT ด้วยไหม)? - สิ่งที่เราทำ ถูกมองว่า "ช่วย" หรือ "ขวาง" คนอื่น? - เราเล่าเรื่องความเสี่ยงให้ผู้บริหารเข้าใจได้ หรือยังพูดแบบเทคนิคจ๋าจนไม่มีใครฟัง? และที่น่าสนใจคือ… AI เองก็เปลี่ยนบทบาททีม Cyber แล้ว — จากคนทำ log analysis → กลายเป็นผู้ช่วยหาช่องโหว่แบบอัตโนมัติ ดังนั้นคำถามที่เพิ่มขึ้นคือ “เราจะใช้ AI เสริมทีม หรือโดนแทนที่?” คำถามสำคัญ: ✅ CISO ควรถามตัวเองว่าเป็น “ผู้ขับเคลื่อนธุรกิจ” หรือ “ตัวถ่วง”   • ถ้าทีมอื่นไม่อยากชวนเราเข้าประชุมช่วงวางแผน อาจมีปัญหาเรื่อง perception   • ควรเปลี่ยนบทบาทจาก “ตำรวจ” เป็น “ที่ปรึกษา” ✅ กลยุทธ์รักษาความปลอดภัยต้องสมดุลกับระดับความเสี่ยงที่ธุรกิจยอมรับได้   • ปิดทุกอย่างไม่ได้ = ธุรกิจหยุด   • เปิดหมด = เสี่ยงเกินไป   • ต้อง “รู้จังหวะว่าเสี่ยงแค่ไหนถึงพอเหมาะ” ✅ ข้อมูลประเภทไหนอยู่ที่ไหน = หัวใจของแผน Cyber   • หลายองค์กรมี “ข้อมูลลับ” ที่หลุดอยู่นอกระบบหลัก เช่น shared drive, shadow IT   • รวมถึงดาต้าจากบริษัทที่ควบรวมมา ✅ วัดผลแบบไหนถึงจะสื่อสารกับบอร์ดได้ดี?   • อย่าวัดแค่ patch กี่เครื่อง หรือ alert เยอะแค่ไหน   • ควรวัดว่า “สิ่งที่ทำ” ส่งผลยังไงกับ KPI ธุรกิจ เช่น revenue loss prevented ✅ พูดแบบ technical จ๋าเกินไป = ผู้บริหารไม่เข้าใจความเสี่ยงจริง   • ต้องฝึกเล่าเรื่อง “ความเสี่ยงทางธุรกิจ” ไม่ใช่แค่ “config ผิด” ✅ วัฒนธรรมทีมก็สำคัญ: ทีมเรากล้าท้าทายความเห็น CISO ไหม?   • ถ้าไม่มี dissent = ผู้นำอาจมองไม่เห็น blind spot ตัวเอง ✅ ลูกค้าต้องการให้เราทำอะไรด้านความปลอดภัยบ้าง?   • วิเคราะห์จาก security questionnaire ที่ลูกค้าส่ง   • ใช้เป็น data สร้าง business case ได้ว่า “ถ้าไม่ทำ = เสียรายได้กลุ่มนี้” ✅ AI จะเปลี่ยนวิธีจัดทีม Cyber อย่างไร?   • ลดความต้องการคน entry-level (SOC Tier 1)   • ต้องเน้นฝึก analyst ที่เก่งขึ้น (Tier 2+) ที่รู้จัก “ทำงานร่วมกับ AI” ✅ ความเสี่ยงใหม่ไม่ได้มาจาก Zero-day เสมอไป — แต่มาจาก “สิ่งที่เราไม่รู้ว่ามีอยู่”   • เช่น ระบบเก่า, S3 bucket ที่ลืมปิด, API ใหม่ที่ไม่มีคนดู ✅ CISO ควรถามว่า: “ศัตรูเราเป็นใคร และเขาจะมาโจมตีช่องไหน?”   • วางแผนจาก threat model และจัด stack ให้พร้อมต่ออนาคต เช่น Quantum-resistant crypto https://www.csoonline.com/article/4009212/10-tough-cybersecurity-questions-every-ciso-must-answer.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    10 tough cybersecurity questions every CISO must answer
    From anticipating new threats to balancing risk management and business enablement, CISOs face a range of complex challenges that require continual reflection and strategic execution.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องผสมอาหารแบบถังสับ Multifunctional Cutter
    สามารถทำหลายๆ ฟังก์ชั่นในตัวเดียวกัน เช่น สับ ผสม บด อาหารได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีระบบตั้งเวลาและเซ็นเซอร์ความปลอดภัย เมื่อเปิดฝาเครื่อง เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
    สามารถนำมาใช้ปรุงอาหารหลากหลายเช่น ไส้กรอก ลูกชิ้น หมูยอ หมูเด้ง พริกแกง สับกระเทียม และอื่นๆ อีกมากมาย

    เครื่องถังสับผสม ขนาด 5 ลิตร สแตนเลส
    ✔ใบมีด 4 ใบ
    ✔มอเตอร์ 1.5 HP. 220V
    ✔ใส่วัตถุดิบได้ 1-3 กก./ครั้ง
    ✔มีตัวตั้งเวลา 120 วินาที
    ✔ขนาดเครื่อง 25 x 32 x 60 cm.
    ✔ตัวฝาปิดถ้าไม่ปิดเครื่องจะไม่ทำงาน

    ย.ย่งฮะเฮง จำหน่ายเครื่องจักรแปรรูปอาหาร หลากหลายชนิด
    สนใจสินค้าเครื่องไหน สามารถเข้ามาดูที่ร้านได้เลยนะคะ
    เวลาเปิดทำการ :
    จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00
    และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00
    แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7

    #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼‼
    ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน
    m.me/yonghahheng แชทเลย
    LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า)
    หรือ https://lin.ee/5H812n9
    02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    www.yoryonghahheng.com
    E-mail : sales@yoryonghahheng.com
    yonghahheng@gmail.com

    #ถังสับผสม #ถังปั่น #เครื่องปั่นผสม #เครื่องตีลูกชิ้น #ทำหมูยอ #ลูกชิ้น #เครื่องตีหมูเด้ง #เครื่องสับ #เครื่องผลิตลูกชิ้น
    เครื่องผสมอาหารแบบถังสับ Multifunctional Cutter สามารถทำหลายๆ ฟังก์ชั่นในตัวเดียวกัน เช่น สับ ผสม บด อาหารได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีระบบตั้งเวลาและเซ็นเซอร์ความปลอดภัย เมื่อเปิดฝาเครื่อง เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน สามารถนำมาใช้ปรุงอาหารหลากหลายเช่น ไส้กรอก ลูกชิ้น หมูยอ หมูเด้ง พริกแกง สับกระเทียม และอื่นๆ อีกมากมาย เครื่องถังสับผสม ขนาด 5 ลิตร สแตนเลส ✔ใบมีด 4 ใบ ✔มอเตอร์ 1.5 HP. 220V ✔ใส่วัตถุดิบได้ 1-3 กก./ครั้ง ✔มีตัวตั้งเวลา 120 วินาที ✔ขนาดเครื่อง 25 x 32 x 60 cm. ✔ตัวฝาปิดถ้าไม่ปิดเครื่องจะไม่ทำงาน ย.ย่งฮะเฮง จำหน่ายเครื่องจักรแปรรูปอาหาร หลากหลายชนิด สนใจสินค้าเครื่องไหน สามารถเข้ามาดูที่ร้านได้เลยนะคะ เวลาเปิดทำการ : จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00 แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼‼ ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน m.me/yonghahheng 👈👈 แชทเลย LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือ https://lin.ee/5H812n9 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 www.yoryonghahheng.com E-mail : sales@yoryonghahheng.com yonghahheng@gmail.com #ถังสับผสม #ถังปั่น #เครื่องปั่นผสม #เครื่องตีลูกชิ้น #ทำหมูยอ #ลูกชิ้น #เครื่องตีหมูเด้ง #เครื่องสับ #เครื่องผลิตลูกชิ้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 0 รีวิว
  • Salesforce เจ้าของ Slack ประกาศปรับราคาชุดใหญ่ โดยเฉพาะแผน Business+ และ Enterprise+ โดยเพิ่มราคาต่อผู้ใช้รายเดือนขึ้นหลายดอลลาร์ — ยกตัวอย่างแผน Business+ ที่จ่ายรายปีจะขึ้นจาก $12.50 → $15 ต่อผู้ใช้/เดือน และถ้าจ่ายรายเดือนจะโดดเป็น $18 เลยทีเดียว!

    แต่ Salesforce ก็ไม่ได้ขึ้นราคาเฉย ๆ เค้าให้เหตุผลว่า “เพราะเพิ่มฟีเจอร์ AI มาให้” เช่น สรุปบทสนทนาแบบอัตโนมัติ (conversation recap), โน้ตจาก huddle, สรุปไฟล์, AI search, แปลข้อความ และอื่น ๆ

    และถ้ายังไม่พอ Salesforce ยังเปิดตัว Agentforce — แพลตฟอร์มที่ให้องค์กรสร้าง AI agent ใช้เอง เช่น ผู้ช่วยจัดประชุม ผู้ช่วยตอบคำถาม เริ่มต้นที่ $125 จนถึง $550 ต่อผู้ใช้ต่อเดือน (เฉพาะฟีเจอร์เสริมนี้เท่านั้นนะครับ ยังไม่รวม Slack)

    เบื้องหลังข่าวนี้คือยุคใหม่ของ SaaS ที่ไม่ใช่แค่ “ขึ้นราคา” แต่คือการ “ผูก AI มาพร้อมกันเลย” เพราะบริษัท tech ต่าง ๆ ต้องการให้ AI สร้างรายได้ ไม่ใช่แค่เป็นต้นทุน GPU แพง ๆ โดยไม่ได้กำไรกลับมา

    Salesforce ปรับราคาค่าบริการ Slack Plan แบบจ่ายเงิน (บางแผน)  
    • Business+ จาก $12.50 → $15 ต่อ user/เดือน (จ่ายรายปี)  
    • จ่ายรายเดือน: จาก $15 → $18  • แผน Foundations, Starter, Pro ไม่ขึ้นราคา

    เพิ่มฟีเจอร์ AI มาในทุกแผนแบบจ่ายเงิน  
    • Pro: สรุปบทสนทนา (recaps), สรุป huddle  
    • Business+/Enterprise+: เพิ่ม AI search, สรุปไฟล์, แปลภาษา และอื่น ๆ

    เปิดแผนใหม่ “Enterprise+”  
    • มีฟีเจอร์ด้าน admin, ค้นหาขั้นสูง และระบบควบคุมระดับองค์กร

    เปิดตัว Agentforce: แพลตฟอร์มสร้าง AI agent ขององค์กรเอง  
    • Agentforce 1 Editions เริ่มที่ $125 ถึง $550 ต่อ user/เดือน  
    • สร้าง digital labor (แรงงาน AI) ประจำทีม

    Salesforce ระบุว่าการให้ทุกคนมี AI ใช้งาน “คือยุทธศาสตร์ระดับองค์กร”  
    • เน้นว่าองค์กรที่ไม่เอา AI มาใช้เลย อาจตกขบวน  
    • แต่ก็ยอมรับว่า “หลายองค์กรยังแปลง AI ให้เป็นมูลค่าทางธุรกิจไม่สำเร็จ”

    ไม่สามารถปฏิเสธ AI ได้ แม้จะไม่ได้ใช้ก็ตาม  
    • ทุกแผนแบบจ่ายเงินจะได้ฟีเจอร์ AI โดยอัตโนมัติ  
    • องค์กรที่ใช้เฉพาะ Slack chat/chatbot อาจต้องจ่ายมากขึ้นโดยไม่คุ้ม

    Agentforce ราคาเริ่มต้นสูงมากสำหรับตลาดทั่วไป  
    • ระดับ $550/user/month ถือว่าสูงเกินการเข้าถึงของ SME หรือ startup  
    • ยิ่งรวมกับราคาของ Slack, ค่าใช้จ่ายต่อ user จะพุ่งขึ้นเร็วมาก

    มีกรณีที่ผ่านมา Salesforce เคยฝึกโมเดล AI โดยใช้ข้อมูลลูกค้า โดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า  
    • ทำให้เกิดความกังวลด้าน privacy และการควบคุมข้อมูลขององค์กร

    หลายองค์กรยังไม่แน่ใจว่า AI ใน Slack “ช่วยงานจริง” หรือเป็นแค่ gimmick  
    • มีรายงานว่าองค์กรขนาดใหญ่บางแห่ง เริ่มถอยจากการใช้ AI แบบเต็มรูปแบบ

    https://www.techspot.com/news/108366-salesforce-latest-price-increase-comes-promise-more-ai.html
    Salesforce เจ้าของ Slack ประกาศปรับราคาชุดใหญ่ โดยเฉพาะแผน Business+ และ Enterprise+ โดยเพิ่มราคาต่อผู้ใช้รายเดือนขึ้นหลายดอลลาร์ — ยกตัวอย่างแผน Business+ ที่จ่ายรายปีจะขึ้นจาก $12.50 → $15 ต่อผู้ใช้/เดือน และถ้าจ่ายรายเดือนจะโดดเป็น $18 เลยทีเดียว! แต่ Salesforce ก็ไม่ได้ขึ้นราคาเฉย ๆ เค้าให้เหตุผลว่า “เพราะเพิ่มฟีเจอร์ AI มาให้” เช่น สรุปบทสนทนาแบบอัตโนมัติ (conversation recap), โน้ตจาก huddle, สรุปไฟล์, AI search, แปลข้อความ และอื่น ๆ และถ้ายังไม่พอ Salesforce ยังเปิดตัว Agentforce — แพลตฟอร์มที่ให้องค์กรสร้าง AI agent ใช้เอง เช่น ผู้ช่วยจัดประชุม ผู้ช่วยตอบคำถาม เริ่มต้นที่ $125 จนถึง $550 ต่อผู้ใช้ต่อเดือน (เฉพาะฟีเจอร์เสริมนี้เท่านั้นนะครับ ยังไม่รวม Slack) เบื้องหลังข่าวนี้คือยุคใหม่ของ SaaS ที่ไม่ใช่แค่ “ขึ้นราคา” แต่คือการ “ผูก AI มาพร้อมกันเลย” เพราะบริษัท tech ต่าง ๆ ต้องการให้ AI สร้างรายได้ ไม่ใช่แค่เป็นต้นทุน GPU แพง ๆ โดยไม่ได้กำไรกลับมา ✅ Salesforce ปรับราคาค่าบริการ Slack Plan แบบจ่ายเงิน (บางแผน)   • Business+ จาก $12.50 → $15 ต่อ user/เดือน (จ่ายรายปี)   • จ่ายรายเดือน: จาก $15 → $18  • แผน Foundations, Starter, Pro ไม่ขึ้นราคา ✅ เพิ่มฟีเจอร์ AI มาในทุกแผนแบบจ่ายเงิน   • Pro: สรุปบทสนทนา (recaps), สรุป huddle   • Business+/Enterprise+: เพิ่ม AI search, สรุปไฟล์, แปลภาษา และอื่น ๆ ✅ เปิดแผนใหม่ “Enterprise+”   • มีฟีเจอร์ด้าน admin, ค้นหาขั้นสูง และระบบควบคุมระดับองค์กร ✅ เปิดตัว Agentforce: แพลตฟอร์มสร้าง AI agent ขององค์กรเอง   • Agentforce 1 Editions เริ่มที่ $125 ถึง $550 ต่อ user/เดือน   • สร้าง digital labor (แรงงาน AI) ประจำทีม ✅ Salesforce ระบุว่าการให้ทุกคนมี AI ใช้งาน “คือยุทธศาสตร์ระดับองค์กร”   • เน้นว่าองค์กรที่ไม่เอา AI มาใช้เลย อาจตกขบวน   • แต่ก็ยอมรับว่า “หลายองค์กรยังแปลง AI ให้เป็นมูลค่าทางธุรกิจไม่สำเร็จ” ‼️ ไม่สามารถปฏิเสธ AI ได้ แม้จะไม่ได้ใช้ก็ตาม   • ทุกแผนแบบจ่ายเงินจะได้ฟีเจอร์ AI โดยอัตโนมัติ   • องค์กรที่ใช้เฉพาะ Slack chat/chatbot อาจต้องจ่ายมากขึ้นโดยไม่คุ้ม ‼️ Agentforce ราคาเริ่มต้นสูงมากสำหรับตลาดทั่วไป   • ระดับ $550/user/month ถือว่าสูงเกินการเข้าถึงของ SME หรือ startup   • ยิ่งรวมกับราคาของ Slack, ค่าใช้จ่ายต่อ user จะพุ่งขึ้นเร็วมาก ‼️ มีกรณีที่ผ่านมา Salesforce เคยฝึกโมเดล AI โดยใช้ข้อมูลลูกค้า โดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า   • ทำให้เกิดความกังวลด้าน privacy และการควบคุมข้อมูลขององค์กร ‼️ หลายองค์กรยังไม่แน่ใจว่า AI ใน Slack “ช่วยงานจริง” หรือเป็นแค่ gimmick   • มีรายงานว่าองค์กรขนาดใหญ่บางแห่ง เริ่มถอยจากการใช้ AI แบบเต็มรูปแบบ https://www.techspot.com/news/108366-salesforce-latest-price-increase-comes-promise-more-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Salesforce hikes Slack prices, adds AI tools for all paid users
    According to a recent announcement from Salesforce, Slack customers will now have to pay more but will receive new AI-based features in return. Paid plans for the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอนนี้หลายคนเริ่มใช้ AI แบบจริงจังในการทำงาน เช่น ใช้ ChatGPT ทำสรุปรายงาน หรือ Copilot เขียนสไลด์ รายงานจาก Gallup พบว่าในปี 2025 พนักงานในสหรัฐฯ ที่ใช้ AI “อย่างน้อยไม่กี่ครั้งต่อปี” พุ่งจาก 21% → 40% ภายใน 2 ปี ส่วนคนที่ใช้ “ทุกสัปดาห์” เพิ่มเป็น 19% และใช้งาน “ทุกวัน” ก็ถึง 8% แล้ว

    พนักงานสายคอขาวอย่างเทคโนโลยี การเงิน และผู้บริหารนี่แหละที่ใช้มากสุด โดยเฉพาะผู้จัดการระดับสูงถึง 1 ใน 3 ใช้ AI หลายครั้งต่อสัปดาห์ แต่ที่น่าคิดคือ... มีแค่ 22% เท่านั้นที่บอกว่าองค์กรของตัวเอง “มีแผน AI ที่ชัดเจน” อีก 30% พอมีนโยบายบ้าง แต่เกือบครึ่ง "มึน" ว่าจะใช้ยังไงดี

    และปัญหาใหญ่ที่พนักงานเจอคือ AI ในที่ทำงาน “ไม่มีประโยชน์ชัดเจน” หลายคนโดนบังคับให้ใช้โดยไม่รู้ว่าได้อะไรกลับมา บางคนบอกตรง ๆ ว่า “เครื่องมือมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย”...

    ด้าน Salesforce ก็มองจากมุมเทคโนโลยี พบว่า AI agent (พวกที่สั่งแล้วทำงานให้ เช่นจัดข้อมูล ตอบอีเมล) แม้จะเก่งขึ้น แต่ยังมีข้อจำกัดเยอะ—โดยเฉพาะ งานที่มีหลายขั้นตอนหรือมีบริบทซับซ้อน เช่น ต้องถามกลับลูกค้า หรือเชื่อมโยงข้อมูลจากหลายแหล่ง

    ยิ่งกว่านั้น ยังพบว่า AI Agent ส่วนใหญ่ “ไม่เข้าใจเรื่องข้อมูลลับ” ถ้าเราไม่สั่งให้ปฏิเสธแบบชัดเจน มันอาจเปิดเผยข้อมูลได้ทันที ซึ่งเป็นช่องโหว่ใหญ่ขององค์กร

    การใช้งาน AI ในที่ทำงานเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง  
    • คนใช้ AI อย่างน้อยปีละไม่กี่ครั้ง: เพิ่มจาก 21% (2023) → 40% (2025)  
    • พนักงานระดับผู้จัดการ ใช้งานบ่อยกว่าระดับปฏิบัติการเกือบเท่าตัว

    องค์กรยังขาดแนวทาง AI ที่ชัดเจน  
    • มีเพียง 22% เท่านั้นที่บอกว่า “องค์กรมีแผนเกี่ยวกับ AI”  
    • 70% ของพนักงานยังไม่มีนโยบายชัดเจนหรือการฝึกอบรมเรื่อง AI

    ความเชื่อมั่นต่อ AI สูงขึ้นในกลุ่มที่ได้ใช้งานจริง  
    • คนที่ใช้ AI ตอบลูกค้าโดยตรง เชื่อว่ามันช่วย 68%  
    • คนที่ไม่เคยใช้ กลับเห็นด้วยแค่ 13% ว่า AI มีประโยชน์

    จากฝั่งเทคโนโลยี: AI agent ทำงานเดี่ยว ๆ ได้ดี แต่ยังล้มเหลวกับงานซับซ้อน  
    • งานขั้นเดียว: สำเร็จเฉลี่ย 58%  
    • งานหลายขั้น เช่นถาม–ตอบต่อเนื่อง: สำเร็จเพียง 35%

    การใส่ prompt ให้ AI ระวังข้อมูลลับได้ผล แต่ลดความแม่นในการทำงาน  
    • ระบบจะลังเลหรือยอมปฏิเสธมากเกินไปเมื่อเจอข้อมูลอ่อนไหว

    AI ที่มีความสามารถด้านเหตุผลและกล้าถามเพื่อความเข้าใจ จะมีความแม่นยำมากกว่า  
    • โดยเฉพาะในงานที่ต้องวิเคราะห์ บริบท หรือวางแผนหลายขั้น

    องค์กรที่ผลักดัน AI โดยไม่มี “เป้าหมาย” จะทำให้พนักงานสับสนและต่อต้าน  
    • ความล้มเหลวของการใช้งาน AI มักมาจากขาดการสื่อสารจากผู้นำ

    เครื่องมือ AI ที่ไม่มีประโยชน์ชัดเจน อาจกลายเป็นภาระมากกว่าความช่วยเหลือ  
    • ผู้ใช้จะรู้สึกว่า “ถูกรบกวน” มากกว่า “ได้รับการสนับสนุน”

    AI agent ปัจจุบันยังไม่ปลอดภัยเรื่องข้อมูลอ่อนไหว หากไม่มี prompt ป้องกันเฉพาะ  
    • อาจส่งผลให้เกิดการรั่วไหลของข้อมูลที่ควรเป็นความลับ

    AI ที่สื่อสารด้วยคำสั่งหลายขั้น มักพลาดหากไม่มี context หรือการถามกลับ  
    • มีความเสี่ยงที่ให้คำตอบผิด หรือทำงานไม่ตรงวัตถุประสงค์

    องค์กรไม่ควรมอง AI เป็นของเล่น แต่ต้องสื่อสาร-ฝึกอบรมให้ใช้อย่างมีเป้าหมาย  
    • โดยเฉพาะพนักงานที่ไม่ได้อยู่สายเทคโนโลยี

    https://www.techspot.com/news/108350-more-workers-using-ai-but-businesses-struggle-make.html
    ตอนนี้หลายคนเริ่มใช้ AI แบบจริงจังในการทำงาน เช่น ใช้ ChatGPT ทำสรุปรายงาน หรือ Copilot เขียนสไลด์ รายงานจาก Gallup พบว่าในปี 2025 พนักงานในสหรัฐฯ ที่ใช้ AI “อย่างน้อยไม่กี่ครั้งต่อปี” พุ่งจาก 21% → 40% ภายใน 2 ปี ส่วนคนที่ใช้ “ทุกสัปดาห์” เพิ่มเป็น 19% และใช้งาน “ทุกวัน” ก็ถึง 8% แล้ว พนักงานสายคอขาวอย่างเทคโนโลยี การเงิน และผู้บริหารนี่แหละที่ใช้มากสุด โดยเฉพาะผู้จัดการระดับสูงถึง 1 ใน 3 ใช้ AI หลายครั้งต่อสัปดาห์ แต่ที่น่าคิดคือ... มีแค่ 22% เท่านั้นที่บอกว่าองค์กรของตัวเอง “มีแผน AI ที่ชัดเจน” อีก 30% พอมีนโยบายบ้าง แต่เกือบครึ่ง "มึน" ว่าจะใช้ยังไงดี และปัญหาใหญ่ที่พนักงานเจอคือ AI ในที่ทำงาน “ไม่มีประโยชน์ชัดเจน” หลายคนโดนบังคับให้ใช้โดยไม่รู้ว่าได้อะไรกลับมา บางคนบอกตรง ๆ ว่า “เครื่องมือมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย”... ด้าน Salesforce ก็มองจากมุมเทคโนโลยี พบว่า AI agent (พวกที่สั่งแล้วทำงานให้ เช่นจัดข้อมูล ตอบอีเมล) แม้จะเก่งขึ้น แต่ยังมีข้อจำกัดเยอะ—โดยเฉพาะ งานที่มีหลายขั้นตอนหรือมีบริบทซับซ้อน เช่น ต้องถามกลับลูกค้า หรือเชื่อมโยงข้อมูลจากหลายแหล่ง ยิ่งกว่านั้น ยังพบว่า AI Agent ส่วนใหญ่ “ไม่เข้าใจเรื่องข้อมูลลับ” ถ้าเราไม่สั่งให้ปฏิเสธแบบชัดเจน มันอาจเปิดเผยข้อมูลได้ทันที ซึ่งเป็นช่องโหว่ใหญ่ขององค์กร ✅ การใช้งาน AI ในที่ทำงานเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง   • คนใช้ AI อย่างน้อยปีละไม่กี่ครั้ง: เพิ่มจาก 21% (2023) → 40% (2025)   • พนักงานระดับผู้จัดการ ใช้งานบ่อยกว่าระดับปฏิบัติการเกือบเท่าตัว ✅ องค์กรยังขาดแนวทาง AI ที่ชัดเจน   • มีเพียง 22% เท่านั้นที่บอกว่า “องค์กรมีแผนเกี่ยวกับ AI”   • 70% ของพนักงานยังไม่มีนโยบายชัดเจนหรือการฝึกอบรมเรื่อง AI ✅ ความเชื่อมั่นต่อ AI สูงขึ้นในกลุ่มที่ได้ใช้งานจริง   • คนที่ใช้ AI ตอบลูกค้าโดยตรง เชื่อว่ามันช่วย 68%   • คนที่ไม่เคยใช้ กลับเห็นด้วยแค่ 13% ว่า AI มีประโยชน์ ✅ จากฝั่งเทคโนโลยี: AI agent ทำงานเดี่ยว ๆ ได้ดี แต่ยังล้มเหลวกับงานซับซ้อน   • งานขั้นเดียว: สำเร็จเฉลี่ย 58%   • งานหลายขั้น เช่นถาม–ตอบต่อเนื่อง: สำเร็จเพียง 35% ✅ การใส่ prompt ให้ AI ระวังข้อมูลลับได้ผล แต่ลดความแม่นในการทำงาน   • ระบบจะลังเลหรือยอมปฏิเสธมากเกินไปเมื่อเจอข้อมูลอ่อนไหว ✅ AI ที่มีความสามารถด้านเหตุผลและกล้าถามเพื่อความเข้าใจ จะมีความแม่นยำมากกว่า   • โดยเฉพาะในงานที่ต้องวิเคราะห์ บริบท หรือวางแผนหลายขั้น ‼️ องค์กรที่ผลักดัน AI โดยไม่มี “เป้าหมาย” จะทำให้พนักงานสับสนและต่อต้าน   • ความล้มเหลวของการใช้งาน AI มักมาจากขาดการสื่อสารจากผู้นำ ‼️ เครื่องมือ AI ที่ไม่มีประโยชน์ชัดเจน อาจกลายเป็นภาระมากกว่าความช่วยเหลือ   • ผู้ใช้จะรู้สึกว่า “ถูกรบกวน” มากกว่า “ได้รับการสนับสนุน” ‼️ AI agent ปัจจุบันยังไม่ปลอดภัยเรื่องข้อมูลอ่อนไหว หากไม่มี prompt ป้องกันเฉพาะ   • อาจส่งผลให้เกิดการรั่วไหลของข้อมูลที่ควรเป็นความลับ ‼️ AI ที่สื่อสารด้วยคำสั่งหลายขั้น มักพลาดหากไม่มี context หรือการถามกลับ   • มีความเสี่ยงที่ให้คำตอบผิด หรือทำงานไม่ตรงวัตถุประสงค์ ‼️ องค์กรไม่ควรมอง AI เป็นของเล่น แต่ต้องสื่อสาร-ฝึกอบรมให้ใช้อย่างมีเป้าหมาย   • โดยเฉพาะพนักงานที่ไม่ได้อยู่สายเทคโนโลยี https://www.techspot.com/news/108350-more-workers-using-ai-but-businesses-struggle-make.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    More workers are using AI, but businesses still struggle to make it useful
    Gallup's latest research finds that the use of AI among US employees has nearly doubled over the past two years. In 2023, just 21 percent of workers...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอนนี้ Microsoft ตั้งใจจะผลักดัน “Copilot” ให้กลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะประจำทั้งคนทั่วไปและในองค์กร พอไปดูหน้าเว็บโฆษณาต่าง ๆ ก็จะเห็นว่า Copilot ช่วยสรุปเนื้อหา สร้างเอกสาร และวางโครงสไลด์ได้ทันใจ

    แต่แล้ว หน่วยงาน NAD (National Advertising Division) ในสหรัฐฯ ก็ออกมา “ตักเตือน” Microsoft ว่าการโฆษณานั้นอาจทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดในจุดสำคัญบางจุด โดยเฉพาะการใช้คำว่า “Copilot” ทั้งในเวอร์ชันผู้ช่วยในแอปต่าง ๆ กับ Business Chat ซึ่งจริง ๆ แล้วประสบการณ์ใช้งานต่างกันพอสมควร

    Business Chat ต้องการการตั้งค่าและขั้นตอนเพิ่มเติมกว่าจะเริ่มทำงานได้ ไม่ได้คลิกแล้วพิมพ์คุยได้เลยแบบ Copilot ใน Word หรือ PowerPoint แต่ในหน้าโฆษณากลับไม่ได้อธิบายความต่างเหล่านี้อย่างชัดเจน

    NAD ยังชี้ว่า Microsoft ไม่ควรระบุว่า Copilot “ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและ ROI” โดยไม่มีหลักฐานที่ “น่าเชื่อถือพอ” ถึงแม้จะมีการอ้างอิงผลการทดลองในสหราชอาณาจักรที่ว่าผู้ใช้ประหยัดเวลาได้เฉลี่ย 26 นาทีต่อวันก็ตาม

    สุดท้าย Microsoft ตอบกลับอย่างมืออาชีพว่า ถึงแม้จะไม่เห็นด้วยกับบางข้อ แต่ก็ได้ปรับข้อความโฆษณาบางจุดให้สอดคล้องกับคำแนะนำของ NAD แล้ว

    Microsoft ถูก NAD วิจารณ์เรื่องโฆษณา Copilot ที่อาจทำให้ผู้บริโภคสับสน  
    • โฆษณา Copilot ไม่แยกแยะชัดเจนระหว่าง Copilot ทั่วไปกับ Business Chat  
    • Business Chat ต้องใช้ขั้นตอนมากกว่า แต่โฆษณากลับไม่อธิบายจุดนี้

    NAD ไม่ยอมรับการกล่าวอ้างผลลัพธ์โดยไม่มีหลักฐานที่เหมาะสม  
    • Microsoft อ้างว่า Copilot ช่วยเพิ่ม productivity และ ROI แต่ NAD ระบุว่าหลักฐานยังไม่เพียงพอ  
    • แม้จะมีการทดลองใน UK ที่ระบุว่าผู้ใช้ประหยัดเวลา 26 นาทีต่อวัน

    Microsoft ตอบรับคำแนะนำและปรับข้อความโฆษณาแล้วบางส่วน  
    • แสดงความร่วมมือแม้ไม่เห็นด้วยทุกประเด็น

    การใช้คำว่า “Copilot” โดยไม่มีการแยกประเภท อาจทำให้ผู้ใช้สับสน  
    • ผู้ใช้ทั่วไปอาจคาดหวังให้ Business Chat ทำงานได้เร็วแบบเดียวกับ Copilot ในแอปต่าง ๆ  
    • ความคาดหวังผิดอาจนำไปสู่ความไม่พอใจในการใช้งานจริง

    ข้อความโฆษณาที่กล่าวอ้างประสิทธิภาพ อาจเกินจริงถ้าไม่มีข้อมูลยืนยันที่โปร่งใส  
    • การใช้คำว่า “เพิ่ม ROI” ต้องมีการอ้างอิงวิจัยที่สอดคล้องกับบริบทการใช้งานจริง  
    • การขาด transparency อาจทำลายความเชื่อมั่นของลูกค้า

    ผู้ใช้ต้องเข้าใจว่า Copilot แต่ละเวอร์ชันมีระดับความสามารถต่างกัน  
    • ควรศึกษาฟีเจอร์เฉพาะของ Copilot ในแอปต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจใช้งานหรือซื้อบริการเพิ่มเติม

    https://www.neowin.net/news/watchdog-finds-microsoft-guilty-of-confusing-advertising-when-it-comes-to-copilot/
    ตอนนี้ Microsoft ตั้งใจจะผลักดัน “Copilot” ให้กลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะประจำทั้งคนทั่วไปและในองค์กร พอไปดูหน้าเว็บโฆษณาต่าง ๆ ก็จะเห็นว่า Copilot ช่วยสรุปเนื้อหา สร้างเอกสาร และวางโครงสไลด์ได้ทันใจ แต่แล้ว หน่วยงาน NAD (National Advertising Division) ในสหรัฐฯ ก็ออกมา “ตักเตือน” Microsoft ว่าการโฆษณานั้นอาจทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดในจุดสำคัญบางจุด โดยเฉพาะการใช้คำว่า “Copilot” ทั้งในเวอร์ชันผู้ช่วยในแอปต่าง ๆ กับ Business Chat ซึ่งจริง ๆ แล้วประสบการณ์ใช้งานต่างกันพอสมควร Business Chat ต้องการการตั้งค่าและขั้นตอนเพิ่มเติมกว่าจะเริ่มทำงานได้ ไม่ได้คลิกแล้วพิมพ์คุยได้เลยแบบ Copilot ใน Word หรือ PowerPoint แต่ในหน้าโฆษณากลับไม่ได้อธิบายความต่างเหล่านี้อย่างชัดเจน NAD ยังชี้ว่า Microsoft ไม่ควรระบุว่า Copilot “ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและ ROI” โดยไม่มีหลักฐานที่ “น่าเชื่อถือพอ” ถึงแม้จะมีการอ้างอิงผลการทดลองในสหราชอาณาจักรที่ว่าผู้ใช้ประหยัดเวลาได้เฉลี่ย 26 นาทีต่อวันก็ตาม สุดท้าย Microsoft ตอบกลับอย่างมืออาชีพว่า ถึงแม้จะไม่เห็นด้วยกับบางข้อ แต่ก็ได้ปรับข้อความโฆษณาบางจุดให้สอดคล้องกับคำแนะนำของ NAD แล้ว ✅ Microsoft ถูก NAD วิจารณ์เรื่องโฆษณา Copilot ที่อาจทำให้ผู้บริโภคสับสน   • โฆษณา Copilot ไม่แยกแยะชัดเจนระหว่าง Copilot ทั่วไปกับ Business Chat   • Business Chat ต้องใช้ขั้นตอนมากกว่า แต่โฆษณากลับไม่อธิบายจุดนี้ ✅ NAD ไม่ยอมรับการกล่าวอ้างผลลัพธ์โดยไม่มีหลักฐานที่เหมาะสม   • Microsoft อ้างว่า Copilot ช่วยเพิ่ม productivity และ ROI แต่ NAD ระบุว่าหลักฐานยังไม่เพียงพอ   • แม้จะมีการทดลองใน UK ที่ระบุว่าผู้ใช้ประหยัดเวลา 26 นาทีต่อวัน ✅ Microsoft ตอบรับคำแนะนำและปรับข้อความโฆษณาแล้วบางส่วน   • แสดงความร่วมมือแม้ไม่เห็นด้วยทุกประเด็น ‼️ การใช้คำว่า “Copilot” โดยไม่มีการแยกประเภท อาจทำให้ผู้ใช้สับสน   • ผู้ใช้ทั่วไปอาจคาดหวังให้ Business Chat ทำงานได้เร็วแบบเดียวกับ Copilot ในแอปต่าง ๆ   • ความคาดหวังผิดอาจนำไปสู่ความไม่พอใจในการใช้งานจริง ‼️ ข้อความโฆษณาที่กล่าวอ้างประสิทธิภาพ อาจเกินจริงถ้าไม่มีข้อมูลยืนยันที่โปร่งใส   • การใช้คำว่า “เพิ่ม ROI” ต้องมีการอ้างอิงวิจัยที่สอดคล้องกับบริบทการใช้งานจริง   • การขาด transparency อาจทำลายความเชื่อมั่นของลูกค้า ‼️ ผู้ใช้ต้องเข้าใจว่า Copilot แต่ละเวอร์ชันมีระดับความสามารถต่างกัน   • ควรศึกษาฟีเจอร์เฉพาะของ Copilot ในแอปต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจใช้งานหรือซื้อบริการเพิ่มเติม https://www.neowin.net/news/watchdog-finds-microsoft-guilty-of-confusing-advertising-when-it-comes-to-copilot/
    WWW.NEOWIN.NET
    Watchdog finds Microsoft guilty of confusing advertising when it comes to Copilot
    A U.S. watchdog has criticized Microsoft for making statements about Copilot that are not a "good fit" for making objective claims regarding increased productivity.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ฮ่องกง บิน Business Class 12,999
    ไหว้พระวัดดัง + เที่ยวอิสระ + อาหาร 3 มื้อ

    🗓 จำนวนวัน 3วัน 2 คืน
    ✈ HX-ฮ่องกง แอร์ไลน์
    พักโรงแรม

    ช้อปปิ้งเต็มวัน
    จิมซาจุ่ย
    เจ้าแม่กวนอิม รีพัลส์เบย์
    วัดเจ้าแม่กวนอิมฮ่องฮำ
    วัดแชกงหมิว
    วัดหวังต้าเซียน

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์ฮ่องกง #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    #ฮ่องกง บิน Business Class 12,999 🔥🔥 ไหว้พระวัดดัง + เที่ยวอิสระ + อาหาร 3 มื้อ 😱 🗓 จำนวนวัน 3วัน 2 คืน ✈ HX-ฮ่องกง แอร์ไลน์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐⭐ 📍 ช้อปปิ้งเต็มวัน 📍 จิมซาจุ่ย 📍 เจ้าแม่กวนอิม รีพัลส์เบย์ 📍 วัดเจ้าแม่กวนอิมฮ่องฮำ 📍 วัดแชกงหมิว 📍 วัดหวังต้าเซียน รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์ฮ่องกง #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • Sony ยืนยันกลยุทธ์พอร์ตเกม PlayStation ไปยัง PC อย่างรอบคอบ
    Sony Interactive Entertainment ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์การนำเกม PlayStation มาสู่ PC อย่างรอบคอบและไม่เร่งรีบ โดยเน้นให้เกมเอกสิทธิ์ของ PlayStation เป็นตัวขับเคลื่อนยอดขายเครื่องคอนโซลก่อนที่จะเปิดตัวบนแพลตฟอร์มอื่น.

    รายละเอียดกลยุทธ์ของ Sony
    Sony ยังคงรักษาช่วงเวลาพิเศษสำหรับเกม PlayStation เช่น Spider-Man 2 และ God of War Ragnarok ที่เปิดตัวบน PS5 ก่อน PC.
    Hermen Hulst (CEO ของ Studio Business Group) ระบุว่า Sony ใช้แนวทางที่ "รอบคอบและมีแบบแผน" ในการนำเกมไปสู่แพลตฟอร์มอื่น.
    เกม Stellar Blade และ The Last of Us Part II Remastered เป็นตัวอย่างล่าสุดของเกมที่ถูกพอร์ตไปยัง PC หลังจากเปิดตัวบน PS5.
    Sony มองว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมเกมช่วยผลักดันนวัตกรรม และไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการเปลี่ยนกลยุทธ์.

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    เกม PlayStation จะยังคงมีช่วงเวลาพิเศษบนคอนโซลก่อน PC ซึ่งอาจทำให้ผู้เล่น PC ต้องรอเป็นเวลานาน.
    Sony อาจพลาดโอกาสในการแข่งขันกับ Microsoft ที่ใช้กลยุทธ์เปิดตัวเกมพร้อมกันบน Xbox และ PC.
    ผู้เล่นที่ต้องการเล่นเกม PlayStation บน PC อาจต้องรอหลายปี ก่อนที่เกมจะถูกพอร์ตมา.

    แนวทางสำหรับผู้เล่น
    ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเกมที่ Sony วางแผนพอร์ตไปยัง PC เพื่อวางแผนการเล่นล่วงหน้า.
    พิจารณาซื้อ PlayStation หากต้องการเล่นเกมเอกสิทธิ์โดยไม่ต้องรอ เนื่องจาก Sony ยังคงเน้นการขายคอนโซล.
    ใช้แพลตฟอร์มอื่นที่มีเกมเอกสิทธิ์เปิดตัวพร้อมกันบน PC เช่น Xbox Game Pass หรือ Steam.

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตลาดเกม
    Sony คาดการณ์รายได้จากการขายเกมบน PC จะเพิ่มขึ้นเกือบ 500 ล้านดอลลาร์ในปี 2023.
    Microsoft ใช้กลยุทธ์เปิดตัวเกมพร้อมกันบน Xbox และ PC เพื่อขยายฐานผู้เล่น.
    เกมที่พอร์ตจากคอนโซลไปยัง PC อาจมีปัญหาด้านประสิทธิภาพ เช่น การปรับแต่งกราฟิกและการควบคุม.

    https://www.techspot.com/news/108331-playstation-doubles-down-slow-thoughtful-pc-porting-strategy.html
    Sony ยืนยันกลยุทธ์พอร์ตเกม PlayStation ไปยัง PC อย่างรอบคอบ Sony Interactive Entertainment ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์การนำเกม PlayStation มาสู่ PC อย่างรอบคอบและไม่เร่งรีบ โดยเน้นให้เกมเอกสิทธิ์ของ PlayStation เป็นตัวขับเคลื่อนยอดขายเครื่องคอนโซลก่อนที่จะเปิดตัวบนแพลตฟอร์มอื่น. รายละเอียดกลยุทธ์ของ Sony ✅ Sony ยังคงรักษาช่วงเวลาพิเศษสำหรับเกม PlayStation เช่น Spider-Man 2 และ God of War Ragnarok ที่เปิดตัวบน PS5 ก่อน PC. ✅ Hermen Hulst (CEO ของ Studio Business Group) ระบุว่า Sony ใช้แนวทางที่ "รอบคอบและมีแบบแผน" ในการนำเกมไปสู่แพลตฟอร์มอื่น. ✅ เกม Stellar Blade และ The Last of Us Part II Remastered เป็นตัวอย่างล่าสุดของเกมที่ถูกพอร์ตไปยัง PC หลังจากเปิดตัวบน PS5. ✅ Sony มองว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมเกมช่วยผลักดันนวัตกรรม และไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการเปลี่ยนกลยุทธ์. ผลกระทบและข้อควรระวัง ‼️ เกม PlayStation จะยังคงมีช่วงเวลาพิเศษบนคอนโซลก่อน PC ซึ่งอาจทำให้ผู้เล่น PC ต้องรอเป็นเวลานาน. ‼️ Sony อาจพลาดโอกาสในการแข่งขันกับ Microsoft ที่ใช้กลยุทธ์เปิดตัวเกมพร้อมกันบน Xbox และ PC. ‼️ ผู้เล่นที่ต้องการเล่นเกม PlayStation บน PC อาจต้องรอหลายปี ก่อนที่เกมจะถูกพอร์ตมา. แนวทางสำหรับผู้เล่น ✅ ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเกมที่ Sony วางแผนพอร์ตไปยัง PC เพื่อวางแผนการเล่นล่วงหน้า. ✅ พิจารณาซื้อ PlayStation หากต้องการเล่นเกมเอกสิทธิ์โดยไม่ต้องรอ เนื่องจาก Sony ยังคงเน้นการขายคอนโซล. ✅ ใช้แพลตฟอร์มอื่นที่มีเกมเอกสิทธิ์เปิดตัวพร้อมกันบน PC เช่น Xbox Game Pass หรือ Steam. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตลาดเกม ✅ Sony คาดการณ์รายได้จากการขายเกมบน PC จะเพิ่มขึ้นเกือบ 500 ล้านดอลลาร์ในปี 2023. ✅ Microsoft ใช้กลยุทธ์เปิดตัวเกมพร้อมกันบน Xbox และ PC เพื่อขยายฐานผู้เล่น. ‼️ เกมที่พอร์ตจากคอนโซลไปยัง PC อาจมีปัญหาด้านประสิทธิภาพ เช่น การปรับแต่งกราฟิกและการควบคุม. https://www.techspot.com/news/108331-playstation-doubles-down-slow-thoughtful-pc-porting-strategy.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    PlayStation doubles down on slow, "thoughtful" PC porting strategy
    Sony Interactive Entertainment's Studio Business Group CEO Hermen Hulst says the company is continuing to take a "measured" approach to porting major first-party games to PC. Although...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องหั่นผัก Vegetable Cutter
    เครื่องหั่นผัก แบบ 6 จาน ใบมีด #ทดลองหั่นฟักทองเป็นทรงลูกเต๋า
    เครื่องนี้มีให้เลือกหั่นได้ถึง6แบบ ได้แก่ หั่นเต๋า หั่นแท่ง หั่นฝอย หั่นแว่น 3ขนาด - -

    - กำลังผลิต 50-100kg/HR
    - มอเตอร์ 1 แรงม้า
    - 220 V.
    - ขนาด 50*23*55 ซม.
    - น้ำหนัก 26 กิโลกรัม

    โปรโมชั่นตอนนี้ ราคา 45,000 บาท ลดเหลือ 36,000 บาท เท่านั้น

    สนใจสินค้าเครื่องไหน สามารถเข้ามาดูที่ร้านได้เลยนะคะ
    เวลาเปิดทำการ :
    จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00
    และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00
    แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7
    #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼‼
    ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน
    m.me/yonghahheng แชทเลย
    LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า)
    หรือ https://lin.ee/5H812n9
    02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    www.yoryonghahheng.com
    E-mail : sales@yoryonghahheng.com
    yonghahheng@gmail.com

    #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #เครื่องบด #เครื่องหั่น #เครื่องสไลด์
    #เครื่องบดผง #อะไหล่ #เครื่องเลื่อย #เครื่องซีลสูญญากาศ
    #เครื่องหั่นผัก #เครื่องผ่าปลา #เครื่องปอกเปลือก
    #เครื่องบดยา #เครื่องหั่นผักอเนกประสงค์ #หั่นเต๋า #หั่นเผือก #ขูดเนย #หั่นผัก #หั่นอเนกประสงค์ #vegetablecutter
    เครื่องหั่นผัก Vegetable Cutter เครื่องหั่นผัก แบบ 6 จาน ใบมีด #ทดลองหั่นฟักทองเป็นทรงลูกเต๋า เครื่องนี้มีให้เลือกหั่นได้ถึง6แบบ ได้แก่ หั่นเต๋า หั่นแท่ง หั่นฝอย หั่นแว่น 3ขนาด - - - กำลังผลิต 50-100kg/HR - มอเตอร์ 1 แรงม้า - 220 V. - ขนาด 50*23*55 ซม. - น้ำหนัก 26 กิโลกรัม โปรโมชั่นตอนนี้ ราคา 45,000 บาท ลดเหลือ 36,000 บาท เท่านั้น สนใจสินค้าเครื่องไหน สามารถเข้ามาดูที่ร้านได้เลยนะคะ เวลาเปิดทำการ : จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00 แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼‼ ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน m.me/yonghahheng👈👈 แชทเลย LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือ https://lin.ee/5H812n9 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 www.yoryonghahheng.com E-mail : sales@yoryonghahheng.com yonghahheng@gmail.com #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #เครื่องบด #เครื่องหั่น #เครื่องสไลด์ #เครื่องบดผง #อะไหล่ #เครื่องเลื่อย #เครื่องซีลสูญญากาศ #เครื่องหั่นผัก #เครื่องผ่าปลา #เครื่องปอกเปลือก #เครื่องบดยา #เครื่องหั่นผักอเนกประสงค์ #หั่นเต๋า #หั่นเผือก #ขูดเนย #หั่นผัก #หั่นอเนกประสงค์ #vegetablecutter
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft Edge for Business เปิดตัวระบบจัดการรหัสผ่านที่ปลอดภัยสำหรับองค์กร
    Microsoft ได้เปิดตัว ฟีเจอร์ Secure Password Deployment สำหรับ Edge for Business ซึ่งช่วยให้ ผู้ดูแลระบบสามารถแชร์รหัสผ่านที่เข้ารหัสกับผู้ใช้ในองค์กร โดยไม่ต้องใช้ กระดาษโน้ตหรืออีเมล

    ผู้ดูแลระบบสามารถ จัดการรหัสผ่านผ่าน Microsoft Edge management service ใน Microsoft 365 admin center โดยสามารถ เพิ่ม, อัปเดต และเพิกถอนรหัสผ่านสำหรับกลุ่มผู้ใช้เฉพาะ

    ข้อมูลจากข่าว
    - Microsoft Edge for Business เปิดตัว Secure Password Deployment สำหรับองค์กร
    - ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถแชร์รหัสผ่านที่เข้ารหัสกับผู้ใช้โดยไม่ต้องใช้กระดาษโน้ตหรืออีเมล
    - รหัสผ่านจะถูกจัดเก็บใน Edge password manager และสามารถใช้ autofill ได้
    - รหัสผ่านถูกผูกกับโปรไฟล์งานใน Edge บนอุปกรณ์ Windows ที่มีการจัดการ
    - ผู้ใช้ไม่สามารถดู, แก้ไข หรือส่งออกรหัสผ่านจาก password manager ได้

    ความปลอดภัยและข้อจำกัด
    Microsoft ใช้ Information Protection SDK เพื่อเข้ารหัสรหัสผ่าน และการถอดรหัสจะเกิดขึ้น เฉพาะเมื่อผู้ใช้ได้รับการตรวจสอบสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ที่มีความรู้ด้านเทคนิคสามารถเปิดเผยรหัสผ่านผ่าน Developer Tools

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ผู้ดูแลระบบควรจำกัดการเข้าถึง Developer Tools ผ่าน DeveloperToolsAvailability policy
    - รหัสผ่านที่แชร์ไม่สามารถดูหรือแก้ไขได้ อาจทำให้เกิดปัญหาในการจัดการ
    - ต้องใช้ Microsoft 365 Business Premium, E3 หรือ E5 subscription เพื่อใช้งานฟีเจอร์นี้
    - ต้องมีสิทธิ์ Edge admin หรือ Global admin ใน Microsoft 365 admin center

    https://www.neowin.net/news/edge-for-business-gets-secure-password-deployment-for-organizations/
    🔐 Microsoft Edge for Business เปิดตัวระบบจัดการรหัสผ่านที่ปลอดภัยสำหรับองค์กร Microsoft ได้เปิดตัว ฟีเจอร์ Secure Password Deployment สำหรับ Edge for Business ซึ่งช่วยให้ ผู้ดูแลระบบสามารถแชร์รหัสผ่านที่เข้ารหัสกับผู้ใช้ในองค์กร โดยไม่ต้องใช้ กระดาษโน้ตหรืออีเมล ผู้ดูแลระบบสามารถ จัดการรหัสผ่านผ่าน Microsoft Edge management service ใน Microsoft 365 admin center โดยสามารถ เพิ่ม, อัปเดต และเพิกถอนรหัสผ่านสำหรับกลุ่มผู้ใช้เฉพาะ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Microsoft Edge for Business เปิดตัว Secure Password Deployment สำหรับองค์กร - ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถแชร์รหัสผ่านที่เข้ารหัสกับผู้ใช้โดยไม่ต้องใช้กระดาษโน้ตหรืออีเมล - รหัสผ่านจะถูกจัดเก็บใน Edge password manager และสามารถใช้ autofill ได้ - รหัสผ่านถูกผูกกับโปรไฟล์งานใน Edge บนอุปกรณ์ Windows ที่มีการจัดการ - ผู้ใช้ไม่สามารถดู, แก้ไข หรือส่งออกรหัสผ่านจาก password manager ได้ 🔥 ความปลอดภัยและข้อจำกัด Microsoft ใช้ Information Protection SDK เพื่อเข้ารหัสรหัสผ่าน และการถอดรหัสจะเกิดขึ้น เฉพาะเมื่อผู้ใช้ได้รับการตรวจสอบสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ที่มีความรู้ด้านเทคนิคสามารถเปิดเผยรหัสผ่านผ่าน Developer Tools ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ผู้ดูแลระบบควรจำกัดการเข้าถึง Developer Tools ผ่าน DeveloperToolsAvailability policy - รหัสผ่านที่แชร์ไม่สามารถดูหรือแก้ไขได้ อาจทำให้เกิดปัญหาในการจัดการ - ต้องใช้ Microsoft 365 Business Premium, E3 หรือ E5 subscription เพื่อใช้งานฟีเจอร์นี้ - ต้องมีสิทธิ์ Edge admin หรือ Global admin ใน Microsoft 365 admin center https://www.neowin.net/news/edge-for-business-gets-secure-password-deployment-for-organizations/
    WWW.NEOWIN.NET
    Edge for Business gets secure password deployment for organizations
    Microsoft Edge for Business customers can now enable secure password deployment, removing the need for organization members to share passwords insecurely.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากปีนังไปกัวลาลัมเปอร์ รถไฟเร็วกว่าเครื่องบิน?

    การรถไฟมาลายา (KTM Berhad) ประเทศมาเลเซีย เปิดตัวห้องรับรองผู้โดยสารชั้นธุรกิจ (Business Class) ที่ชื่อว่า รูบี้ เลาจน์ (Ruby Lounge) ที่สถานีรถไฟบัตเตอร์เวิร์ธ (Butterworth) รัฐปีนัง เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2568 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารชั้นธุรกิจของบริการรถไฟ ETS พักคอยแยกจากห้องโถงผู้โดยสารรวม รองรับได้ 40 ที่นั่ง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งตู้กดน้ำดื่ม เครื่องดื่มร้อน ห้องน้ำแยกเฉพาะ ช่องปลั๊กไฟ โดยจะเปิดให้ผู้โดยสารชั้นธุรกิจเข้าใช้บริการก่อนเวลารถไฟออก 1 ชั่วโมง นับเป็นแห่งที่สองต่อจากสถานี KL Sentral กรุงกัวลาลัมเปอร์

    บริการถไฟ ETS ชั้นธุรกิจ (Business Class) ขบวน Platinum (EP) และ Express (EX) ไปยังปลายทางกรุงกัวลาลัมเปอร์ และสถานีเซกามัต รัฐยะโฮร์ แต่ละขบวนจะมีที่นั่งชั้นธุรกิจ 36 ที่นั่ง นอกจากผู้โดยสารจะได้ใช้บริการ Ruby Lounge แล้ว ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งที่นั่งกว้างขึ้น ไฟอ่านหนังสือ ช่องเสียบปลั๊กและยูเอสบี หน้าจอส่วนตัว โดยจ่ายในราคาที่สูงกว่าที่นั่งปกติ แต่ระหว่างการเดินทางมีอาหารและของว่างให้บริการตลอดการเดินทาง ปัจจุบันค่าโดยสารชั้นธุรกิจระหว่างบัตเตอร์เวิร์ธ ถึง KL Sentral ราคาเริ่มต้นที่ 167-176 ริงกิตต่อเที่ยว (1,286-1,355 บาท)

    ที่ผ่านมามีผู้โดยสารจากปีนังส่วนหนึ่งนิยมใช้บริการรถไฟ ETS แทนที่จะเดินทางด้วยเครื่องบิน เพราะเมื่อเทียบกับการเดินทางไปสนามบินปีนัง การรอเที่ยวบินและพบปัญหาเที่ยวบินล่าช้า และการเดินทางจากสนามบินกัวลาลัมเปอร์ (KUL) หรือสนามบินซูบัง (SZB) ไปยังใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์นั้นยุ่งยากและเสียเวลาพอกัน เมื่อเทียบกับการเดินทางด้วยรถไฟใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมงเศษเท่านั้น นอกจากนี้ยังนั่งสบายกว่าเครื่องบิน ผู้โดยสารส่วนมากเป็นบุคคลวีไอพีและนักธุรกิจ

    นูรูล อัซฮา โมคมิน (Nurul Azha Mokmin) ผู้จัดการทั่วไปแผนกบริการ ETS และ Intercity ของ KTMB กล่าวกับสำนักข่าวเบอร์นามา ว่าจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟ ETS เพิ่มขึ้น 10% ต่อปี และยังคงมีความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งโครงการรถไฟทางคู่เกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู กำลังจะแล้วเสร็จ ก่อนหน้านี้ KTMB ได้รับมอบขบวนรถไฟ ETS ใหม่จำนวน 2 ชุด จากทั้งหมด 10 ชุด มูลค่า 400 ล้านริงกิต เพื่อยกระดับคุณภาพและขีดความสามารถในการให้บริการ ขณะนี้อยู่ในระหว่างทดสอบการให้บริการ คาดว่าจะเริ่มให้บริการเส้นทางเกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bharu) ตั้งแต่ปี 2569 หลังจากนั้นจะเปิดเส้นทางใหม่ ยะโฮร์บาห์รู-บัตเตอร์เวิร์ธ และยะโฮร์บาห์รู-ปาดังเบซาร์อีกด้วย

    #Newskit
    จากปีนังไปกัวลาลัมเปอร์ รถไฟเร็วกว่าเครื่องบิน? การรถไฟมาลายา (KTM Berhad) ประเทศมาเลเซีย เปิดตัวห้องรับรองผู้โดยสารชั้นธุรกิจ (Business Class) ที่ชื่อว่า รูบี้ เลาจน์ (Ruby Lounge) ที่สถานีรถไฟบัตเตอร์เวิร์ธ (Butterworth) รัฐปีนัง เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2568 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารชั้นธุรกิจของบริการรถไฟ ETS พักคอยแยกจากห้องโถงผู้โดยสารรวม รองรับได้ 40 ที่นั่ง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งตู้กดน้ำดื่ม เครื่องดื่มร้อน ห้องน้ำแยกเฉพาะ ช่องปลั๊กไฟ โดยจะเปิดให้ผู้โดยสารชั้นธุรกิจเข้าใช้บริการก่อนเวลารถไฟออก 1 ชั่วโมง นับเป็นแห่งที่สองต่อจากสถานี KL Sentral กรุงกัวลาลัมเปอร์ บริการถไฟ ETS ชั้นธุรกิจ (Business Class) ขบวน Platinum (EP) และ Express (EX) ไปยังปลายทางกรุงกัวลาลัมเปอร์ และสถานีเซกามัต รัฐยะโฮร์ แต่ละขบวนจะมีที่นั่งชั้นธุรกิจ 36 ที่นั่ง นอกจากผู้โดยสารจะได้ใช้บริการ Ruby Lounge แล้ว ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งที่นั่งกว้างขึ้น ไฟอ่านหนังสือ ช่องเสียบปลั๊กและยูเอสบี หน้าจอส่วนตัว โดยจ่ายในราคาที่สูงกว่าที่นั่งปกติ แต่ระหว่างการเดินทางมีอาหารและของว่างให้บริการตลอดการเดินทาง ปัจจุบันค่าโดยสารชั้นธุรกิจระหว่างบัตเตอร์เวิร์ธ ถึง KL Sentral ราคาเริ่มต้นที่ 167-176 ริงกิตต่อเที่ยว (1,286-1,355 บาท) ที่ผ่านมามีผู้โดยสารจากปีนังส่วนหนึ่งนิยมใช้บริการรถไฟ ETS แทนที่จะเดินทางด้วยเครื่องบิน เพราะเมื่อเทียบกับการเดินทางไปสนามบินปีนัง การรอเที่ยวบินและพบปัญหาเที่ยวบินล่าช้า และการเดินทางจากสนามบินกัวลาลัมเปอร์ (KUL) หรือสนามบินซูบัง (SZB) ไปยังใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์นั้นยุ่งยากและเสียเวลาพอกัน เมื่อเทียบกับการเดินทางด้วยรถไฟใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมงเศษเท่านั้น นอกจากนี้ยังนั่งสบายกว่าเครื่องบิน ผู้โดยสารส่วนมากเป็นบุคคลวีไอพีและนักธุรกิจ นูรูล อัซฮา โมคมิน (Nurul Azha Mokmin) ผู้จัดการทั่วไปแผนกบริการ ETS และ Intercity ของ KTMB กล่าวกับสำนักข่าวเบอร์นามา ว่าจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟ ETS เพิ่มขึ้น 10% ต่อปี และยังคงมีความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งโครงการรถไฟทางคู่เกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู กำลังจะแล้วเสร็จ ก่อนหน้านี้ KTMB ได้รับมอบขบวนรถไฟ ETS ใหม่จำนวน 2 ชุด จากทั้งหมด 10 ชุด มูลค่า 400 ล้านริงกิต เพื่อยกระดับคุณภาพและขีดความสามารถในการให้บริการ ขณะนี้อยู่ในระหว่างทดสอบการให้บริการ คาดว่าจะเริ่มให้บริการเส้นทางเกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bharu) ตั้งแต่ปี 2569 หลังจากนั้นจะเปิดเส้นทางใหม่ ยะโฮร์บาห์รู-บัตเตอร์เวิร์ธ และยะโฮร์บาห์รู-ปาดังเบซาร์อีกด้วย #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 292 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไทยออยล์แจ้งเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเลหมายเลข 2 (SBM-2) ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยมีน้ำมันรั่วไหลบางส่วนหลุดรอดจากบูมที่กั้นไว้ ซึ่งไทยออยล์กำลังดำเนินการกำจัดคราบน้ำมัน
    .
    บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)หรือTOP ออกแถลงการณ์แจ้งว่า เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 23.54 น. ได้เกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเลหมายเลข 2 (SBM-2) ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี อันเนื่องจากเกิดเหตุสุดวิสัยจากคลื่นสูงและลมกรรโชกแรงกะทันหัน บริษัทฯ ได้ดำเนินการหยุดการขนถ่ายน้ำมัน ตามระเบียบวิธีปฏิบัติด้านความปลอดภัยตามมาตรฐาน หลังจากนั้นระบบป้องกันของทุ่น SBM-2 (Breakaway Coupling) ได้ทำงานตามที่ออกแบบไว้ซึ่งเป็นไปตามระบบมาตรฐานความปลอดภัย
    .
    อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่วาล์วของระบบป้องกันของทุ่นกำลังปิดจะมีน้ำมันบางส่วนไหลออกมาซึ่งระบบดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันความเสียหายต่อระบบทุ่น SBM-2
    .
    คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/business/detail/9680000053010
    .
    #MGROnline #ไทยออยล์
    ไทยออยล์แจ้งเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเลหมายเลข 2 (SBM-2) ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยมีน้ำมันรั่วไหลบางส่วนหลุดรอดจากบูมที่กั้นไว้ ซึ่งไทยออยล์กำลังดำเนินการกำจัดคราบน้ำมัน . บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)หรือTOP ออกแถลงการณ์แจ้งว่า เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 23.54 น. ได้เกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเลหมายเลข 2 (SBM-2) ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี อันเนื่องจากเกิดเหตุสุดวิสัยจากคลื่นสูงและลมกรรโชกแรงกะทันหัน บริษัทฯ ได้ดำเนินการหยุดการขนถ่ายน้ำมัน ตามระเบียบวิธีปฏิบัติด้านความปลอดภัยตามมาตรฐาน หลังจากนั้นระบบป้องกันของทุ่น SBM-2 (Breakaway Coupling) ได้ทำงานตามที่ออกแบบไว้ซึ่งเป็นไปตามระบบมาตรฐานความปลอดภัย . อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่วาล์วของระบบป้องกันของทุ่นกำลังปิดจะมีน้ำมันบางส่วนไหลออกมาซึ่งระบบดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันความเสียหายต่อระบบทุ่น SBM-2 . คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/business/detail/9680000053010 . #MGROnline #ไทยออยล์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • Vendor Email Compromise (VEC): ภัยเงียบที่สร้างความเสียหายกว่า $300 ล้าน
    Vendor Email Compromise (VEC) เป็น รูปแบบการโจมตีทางไซเบอร์ที่ใช้ AI เพื่อเลียนแบบอีเมลธุรกิจจริง ทำให้สามารถ หลอกลวงพนักงานให้ตอบกลับหรือส่งข้อมูลสำคัญ โดยไม่ต้องใช้ลิงก์หรือไฟล์แนบ

    รายงานจาก Abnormal AI พบว่า 72% ของพนักงานในองค์กรขนาดใหญ่มีปฏิสัมพันธ์กับอีเมล VEC โดย ตอบกลับหรือส่งต่ออีเมลที่ไม่มีลิงก์หรือไฟล์แนบ ซึ่งช่วยให้แฮกเกอร์สามารถ เข้าถึงข้อมูลสำคัญและดำเนินการฉ้อโกงทางการเงิน

    VEC มีอัตราการมีส่วนร่วมสูงกว่า Business Email Compromise (BEC) ถึง 90% และสร้างความเสียหายทางการเงินรวมกว่า $300 ล้านทั่วโลกในปีที่ผ่านมา

    ข้อมูลจากข่าว
    - VEC ใช้ AI เพื่อเลียนแบบอีเมลธุรกิจจริง ทำให้สามารถหลอกลวงพนักงานได้ง่ายขึ้น
    - 72% ของพนักงานในองค์กรขนาดใหญ่มีปฏิสัมพันธ์กับอีเมล VEC
    - VEC มีอัตราการมีส่วนร่วมสูงกว่า BEC ถึง 90%
    - ความเสียหายทางการเงินจาก VEC รวมกว่า $300 ล้านทั่วโลกในปีที่ผ่านมา
    - ภูมิภาค EMEA (ยุโรป, ตะวันออกกลาง, แอฟริกา) มีอัตราการมีส่วนร่วมสูงสุด แต่มีอัตราการรายงานต่ำสุดเพียง 0.27%

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - พนักงานในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมีความเสี่ยงสูงสุด โดยมีอัตราการมีส่วนร่วมถึง 71.3%
    - VEC สามารถหลีกเลี่ยงการตรวจจับของระบบ Multi-Factor Authentication (MFA) และตัวกรองอีเมลแบบเดิม
    - 98.5% ของ VEC scams ไม่ได้รับการรายงาน และมักถูกค้นพบหลังจากเกิดความเสียหายทางการเงินแล้ว
    - องค์กรต้องปรับกลยุทธ์ด้านความปลอดภัย โดยเน้นการตรวจจับพฤติกรรมทางจิตวิทยาแทนการตรวจสอบข้อมูลรับรอง

    ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ องค์กรใช้ AI-powered email analytics เพื่อตรวจจับความผิดปกติในอีเมล รวมถึง เพิ่มมาตรการตรวจสอบผู้ขาย และฝึกอบรมพนักงานให้รู้จักการโจมตีแบบ social engineering

    https://www.csoonline.com/article/4001733/vendor-email-compromise-the-silent-300m-threat-cisos-cant-ignore.html
    📧 Vendor Email Compromise (VEC): ภัยเงียบที่สร้างความเสียหายกว่า $300 ล้าน Vendor Email Compromise (VEC) เป็น รูปแบบการโจมตีทางไซเบอร์ที่ใช้ AI เพื่อเลียนแบบอีเมลธุรกิจจริง ทำให้สามารถ หลอกลวงพนักงานให้ตอบกลับหรือส่งข้อมูลสำคัญ โดยไม่ต้องใช้ลิงก์หรือไฟล์แนบ รายงานจาก Abnormal AI พบว่า 72% ของพนักงานในองค์กรขนาดใหญ่มีปฏิสัมพันธ์กับอีเมล VEC โดย ตอบกลับหรือส่งต่ออีเมลที่ไม่มีลิงก์หรือไฟล์แนบ ซึ่งช่วยให้แฮกเกอร์สามารถ เข้าถึงข้อมูลสำคัญและดำเนินการฉ้อโกงทางการเงิน VEC มีอัตราการมีส่วนร่วมสูงกว่า Business Email Compromise (BEC) ถึง 90% และสร้างความเสียหายทางการเงินรวมกว่า $300 ล้านทั่วโลกในปีที่ผ่านมา ✅ ข้อมูลจากข่าว - VEC ใช้ AI เพื่อเลียนแบบอีเมลธุรกิจจริง ทำให้สามารถหลอกลวงพนักงานได้ง่ายขึ้น - 72% ของพนักงานในองค์กรขนาดใหญ่มีปฏิสัมพันธ์กับอีเมล VEC - VEC มีอัตราการมีส่วนร่วมสูงกว่า BEC ถึง 90% - ความเสียหายทางการเงินจาก VEC รวมกว่า $300 ล้านทั่วโลกในปีที่ผ่านมา - ภูมิภาค EMEA (ยุโรป, ตะวันออกกลาง, แอฟริกา) มีอัตราการมีส่วนร่วมสูงสุด แต่มีอัตราการรายงานต่ำสุดเพียง 0.27% ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - พนักงานในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมีความเสี่ยงสูงสุด โดยมีอัตราการมีส่วนร่วมถึง 71.3% - VEC สามารถหลีกเลี่ยงการตรวจจับของระบบ Multi-Factor Authentication (MFA) และตัวกรองอีเมลแบบเดิม - 98.5% ของ VEC scams ไม่ได้รับการรายงาน และมักถูกค้นพบหลังจากเกิดความเสียหายทางการเงินแล้ว - องค์กรต้องปรับกลยุทธ์ด้านความปลอดภัย โดยเน้นการตรวจจับพฤติกรรมทางจิตวิทยาแทนการตรวจสอบข้อมูลรับรอง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ องค์กรใช้ AI-powered email analytics เพื่อตรวจจับความผิดปกติในอีเมล รวมถึง เพิ่มมาตรการตรวจสอบผู้ขาย และฝึกอบรมพนักงานให้รู้จักการโจมตีแบบ social engineering https://www.csoonline.com/article/4001733/vendor-email-compromise-the-silent-300m-threat-cisos-cant-ignore.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Vendor email compromise: The silent $300M threat CISOs can’t ignore
    AI-crafted VEC scams are bypassing MFA, legacy filters, and employee awareness, demanding a fundamental shift in enterprise email defense strategy.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบ.นปอ.ตรวจสภาพความพร้อมรบ ร้อย.ปตอ.เฉพาะกิจ สนับสนุนตามแผนเผชิญเหตุกองทัพบก มุ่งเน้นความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ ปกป้องห้วงอากาศและผืนดินไทยจากภัยคุกคามทางอากาศทุกรูปแบบ

    เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.พล.ท.ไพบูลย์ พุ่มพิเชฏฐ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก (นปอ.ทบ.) ตรวจสภาพความพร้อมรบ ของกองร้อยปืนใหญ่ต่อสู่อากาศยานเฉพาะกิจ (ร้อย.ปตอ.เฉพาะกิจ) ซึ่งจัดเตรียมไว้เพื่อสนับสนุนกำลังรบหลักทางภาคพื้น ตอบสนองต่อภัยคุกคามทางอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยคุกคามจากระบบอากาศยานไร้คนขับ ได้โดยทันทีเมื่อสั่ง

    ผบ.นปอ. ได้กล่าวให้โอวาทแก่กำลังพลพร้อมเน้นย้ำบทบาทสำคัญของทหารปืนใหญ่ต่อสูอากาศยาน(ปตอ.) ในภารกิจการพิทักษ์ห้วงอากาศและผืนดินไทยให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามทางอากาศของฝ่ายตรงข้าม

    “หน้าที่ของทหาร ปตอ. คือการยืนหยัดเป็นปราการด่านแรกในห้วงอากาศ ปกป้องอธิปไตย และความมั่นคงของชาติ ด้วยอาวุธทันสมัย และหัวใจที่กล้าหาญ”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://m.mgronline.com/business/detail/9680000052316

    #MGROnline #กองทัพบก
    ผบ.นปอ.ตรวจสภาพความพร้อมรบ ร้อย.ปตอ.เฉพาะกิจ สนับสนุนตามแผนเผชิญเหตุกองทัพบก มุ่งเน้นความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ ปกป้องห้วงอากาศและผืนดินไทยจากภัยคุกคามทางอากาศทุกรูปแบบ • เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.พล.ท.ไพบูลย์ พุ่มพิเชฏฐ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก (นปอ.ทบ.) ตรวจสภาพความพร้อมรบ ของกองร้อยปืนใหญ่ต่อสู่อากาศยานเฉพาะกิจ (ร้อย.ปตอ.เฉพาะกิจ) ซึ่งจัดเตรียมไว้เพื่อสนับสนุนกำลังรบหลักทางภาคพื้น ตอบสนองต่อภัยคุกคามทางอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยคุกคามจากระบบอากาศยานไร้คนขับ ได้โดยทันทีเมื่อสั่ง • ผบ.นปอ. ได้กล่าวให้โอวาทแก่กำลังพลพร้อมเน้นย้ำบทบาทสำคัญของทหารปืนใหญ่ต่อสูอากาศยาน(ปตอ.) ในภารกิจการพิทักษ์ห้วงอากาศและผืนดินไทยให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามทางอากาศของฝ่ายตรงข้าม • “หน้าที่ของทหาร ปตอ. คือการยืนหยัดเป็นปราการด่านแรกในห้วงอากาศ ปกป้องอธิปไตย และความมั่นคงของชาติ ด้วยอาวุธทันสมัย และหัวใจที่กล้าหาญ” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://m.mgronline.com/business/detail/9680000052316 • #MGROnline #กองทัพบก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องบดแห้ง สแตนเลส รุ่น 20B (ทดลองบด #พริกหม่าล่า) #พริกฮวาเจียว
    เครื่องนี้เหมาะสำหรับการบดของแห้งให้เป็นผงละเอียดตามต้องการโดยผ่านรูตะแกรงขนาดนั้นๆ
    ฟันตี มี 3 แบบ cutting , pinmill , hammermill
    ระบบ Safety Door (เซ็นเซอร์ตัดการทำงานของห้องบดเมื่อเปิดฝา )
    พร้อมระบบการลำเลียงของ
    มอเตอร์ 5 HP 380 V. ( มอเตอร์ระบบ3จังหวะ เพื่อกันการกระชากไฟฟ้า มอเตอร์มาตรฐานยุโรป ช่วยลดค่าไฟ )
    ขนาดชิ้นงานก่อนบดมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 1 ซม.
    มีระบบหล่อเย็น พร้อมปล่องระบายลมและถุงผ้าดักฝุ่น

    สามารถเข้ามาเลือกชมสินค้าได้ที่
    แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7
    เวลาเปิดทำการ :
    จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00
    และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00

    #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼‼
    ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน
    LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า)
    หรือ https://lin.ee/HV4lSKp
    02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    www.yoryonghahheng.com
    E-mail : sales@yoryonghahheng.com
    yonghahheng@gmail.com

    #เครื่องบดแห้ง #บดผง #บดสมุนไพร #บดแป้ง #บดข้าวสาร #เครื่องบดข้าวสาร #เครื่องบดสมุนไพร #เครื่องบดธัญญพืช
    #เครื่องบดของแห้ง #บดผงสมุนไพรไทย #เครื่องโม่ #เครื่องบดเป็นผง #สมุนไพร #บดกากอ้อย #ผงสาหร่าย #สาหร่ายอบแห้ง #สาหร่ายเกาหลี #สาหร่ายสาหร่ายบดเป็นผง #พริกชวงเจียว #ผงหม่าล่า
    เครื่องบดแห้ง สแตนเลส รุ่น 20B (ทดลองบด #พริกหม่าล่า) #พริกฮวาเจียว เครื่องนี้เหมาะสำหรับการบดของแห้งให้เป็นผงละเอียดตามต้องการโดยผ่านรูตะแกรงขนาดนั้นๆ 📌ฟันตี มี 3 แบบ cutting , pinmill , hammermill 📌ระบบ Safety Door (เซ็นเซอร์ตัดการทำงานของห้องบดเมื่อเปิดฝา ) 📌พร้อมระบบการลำเลียงของ 📌มอเตอร์ 5 HP 380 V. ( มอเตอร์ระบบ3จังหวะ เพื่อกันการกระชากไฟฟ้า มอเตอร์มาตรฐานยุโรป ช่วยลดค่าไฟ ) 📌ขนาดชิ้นงานก่อนบดมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 1 ซม. 📌มีระบบหล่อเย็น พร้อมปล่องระบายลมและถุงผ้าดักฝุ่น สามารถเข้ามาเลือกชมสินค้าได้ที่ แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 เวลาเปิดทำการ : จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00 #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼‼ ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือ https://lin.ee/HV4lSKp 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 www.yoryonghahheng.com E-mail : sales@yoryonghahheng.com yonghahheng@gmail.com #เครื่องบดแห้ง #บดผง #บดสมุนไพร #บดแป้ง #บดข้าวสาร #เครื่องบดข้าวสาร #เครื่องบดสมุนไพร #เครื่องบดธัญญพืช #เครื่องบดของแห้ง #บดผงสมุนไพรไทย #เครื่องโม่ #เครื่องบดเป็นผง #สมุนไพร #บดกากอ้อย #ผงสาหร่าย #สาหร่ายอบแห้ง #สาหร่ายเกาหลี #สาหร่ายสาหร่ายบดเป็นผง #พริกชวงเจียว #ผงหม่าล่า
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 336 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรมการค้าภายในแจ้งข่าวผู้บริโภค สัปดาห์นี้ได้เห็นราคาน้ำมันปาล์มต่ำกว่าขวดละ 50 บาทแน่นอน หลังสต๊อกเดิมของผู้ผลิตที่ซื้อช่วงต้นทุนสูงหมดแล้ว มีแต่ต้นทุนใหม่ที่ราคาลดลง เผยอาจได้เห็นขวดละ 45-46 บาท พร้อมเร่งดันส่งออกน้ำมันปาล์มดิบหลังสต๊อกเพิ่ม ย้ำโรงสกัดรับซื้อปาล์มน้ำมันกิโลกรัมละ 5.20 บาท ใครฝ่าฝืนเจอเล่นงานตามกฎหมาย

    นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้ประชุมร่วมกับผู้ผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุขวด 7 ราย และผู้ประกอบการห้างค้าปลีกค้าส่งออก 11 ราย เพื่อพิจารณาโครงสร้างต้นทุนปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม พบว่าสต๊อกน้ำมันปาล์มที่เป็นต้นทุนเดิมในช่วงที่ราคาผลปาล์มสดอยู่ในระดับสูงกิโลกรัม (กก.) ละ 8-10 บาท และราคาน้ำมันปาล์มขวดขายเกินขวดละ 50 บาทนั้น เริ่มหมดแล้ว และขณะนี้ราคาผลปาล์มสดอยู่ที่ กก.ละ 5-5.20 บาท ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง และสามารถขายได้ที่ต่ำกว่าขวดละ 50 บาทได้ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป

    “เดิม ในช่วงที่ราคาผลปาล์ม กก.ละ 8-10 บาท ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร แต่ผู้ผลิตก็ใช้วิธีการซื้อถัว เพื่อให้สามารถขายน้ำมันปาล์มขวดในราคาไม่สูงจนเกินไป เพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้บริโภค แต่ขณะนี้ต้นทุนต่ำลงแล้ว ผู้ผลิตทุกรายยืนยันว่าสัปดาห์นี้เป็นต้นไปราคาน้ำมันปาล์มขวดจะต่ำกว่าขวดละ 50 บาทแน่นอน หรือลงไปอยู่ที่ระดับประมาณ 45-46 บาทต่อขวด”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000051923

    #MGROnline #กรมการค้าภายใน #ราคาน้ำมันปาล์ม #ต่ำกว่าขวดละ50บาท #น้ำมันปาล์มดิบ #ปาล์มน้ำมัน
    กรมการค้าภายในแจ้งข่าวผู้บริโภค สัปดาห์นี้ได้เห็นราคาน้ำมันปาล์มต่ำกว่าขวดละ 50 บาทแน่นอน หลังสต๊อกเดิมของผู้ผลิตที่ซื้อช่วงต้นทุนสูงหมดแล้ว มีแต่ต้นทุนใหม่ที่ราคาลดลง เผยอาจได้เห็นขวดละ 45-46 บาท พร้อมเร่งดันส่งออกน้ำมันปาล์มดิบหลังสต๊อกเพิ่ม ย้ำโรงสกัดรับซื้อปาล์มน้ำมันกิโลกรัมละ 5.20 บาท ใครฝ่าฝืนเจอเล่นงานตามกฎหมาย • นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้ประชุมร่วมกับผู้ผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุขวด 7 ราย และผู้ประกอบการห้างค้าปลีกค้าส่งออก 11 ราย เพื่อพิจารณาโครงสร้างต้นทุนปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม พบว่าสต๊อกน้ำมันปาล์มที่เป็นต้นทุนเดิมในช่วงที่ราคาผลปาล์มสดอยู่ในระดับสูงกิโลกรัม (กก.) ละ 8-10 บาท และราคาน้ำมันปาล์มขวดขายเกินขวดละ 50 บาทนั้น เริ่มหมดแล้ว และขณะนี้ราคาผลปาล์มสดอยู่ที่ กก.ละ 5-5.20 บาท ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง และสามารถขายได้ที่ต่ำกว่าขวดละ 50 บาทได้ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป • “เดิม ในช่วงที่ราคาผลปาล์ม กก.ละ 8-10 บาท ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร แต่ผู้ผลิตก็ใช้วิธีการซื้อถัว เพื่อให้สามารถขายน้ำมันปาล์มขวดในราคาไม่สูงจนเกินไป เพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้บริโภค แต่ขณะนี้ต้นทุนต่ำลงแล้ว ผู้ผลิตทุกรายยืนยันว่าสัปดาห์นี้เป็นต้นไปราคาน้ำมันปาล์มขวดจะต่ำกว่าขวดละ 50 บาทแน่นอน หรือลงไปอยู่ที่ระดับประมาณ 45-46 บาทต่อขวด” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000051923 • #MGROnline #กรมการค้าภายใน #ราคาน้ำมันปาล์ม #ต่ำกว่าขวดละ50บาท #น้ำมันปาล์มดิบ #ปาล์มน้ำมัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI-powered “Repeaters”: เทคนิคใหม่ของอาชญากรไซเบอร์
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก AU10TIX ได้ค้นพบกลยุทธ์ใหม่ที่อาชญากรไซเบอร์ใช้ในการเจาะระบบของ ธนาคารและแพลตฟอร์มคริปโต โดยใช้ AI-powered Repeaters ซึ่งเป็น ตัวตนดิจิทัลปลอมที่ถูกปรับแต่งเล็กน้อย เพื่อหลบเลี่ยงระบบตรวจจับ

    Repeaters ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อโจมตีทันที แต่จะ ทดสอบระบบป้องกันขององค์กร โดยใช้ ตัวตนดิจิทัลที่ถูกปรับแต่งเล็กน้อย เช่น เปลี่ยนใบหน้า, แก้ไขหมายเลขเอกสาร หรือปรับพื้นหลังของภาพ

    เมื่อระบบตรวจสอบแต่ละตัวตนแยกกัน จะไม่สามารถตรวจจับความผิดปกติได้ ทำให้ Repeaters สามารถ ผ่านกระบวนการยืนยันตัวตน (KYC) และการตรวจสอบไบโอเมตริกซ์ ได้อย่างง่ายดาย

    ข้อมูลจากข่าว
    - Repeaters เป็นตัวตนดิจิทัลปลอมที่ถูกปรับแต่งเล็กน้อยเพื่อทดสอบระบบป้องกันขององค์กร
    - ใช้เทคนิค deepfake เพื่อเปลี่ยนใบหน้า, หมายเลขเอกสาร และพื้นหลังของภาพ
    - สามารถหลบเลี่ยงระบบตรวจสอบไบโอเมตริกซ์และ KYC ได้อย่างง่ายดาย
    - AU10TIX เปิดตัว “consortium validation” เพื่อให้หลายองค์กรแชร์ข้อมูลและตรวจจับ Repeaters ได้ดีขึ้น
    - ระบบใหม่ช่วยให้สามารถตรวจจับตัวตนที่ถูกใช้ซ้ำในหลายแพลตฟอร์มได้แบบเรียลไทม์

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ระบบตรวจสอบตัวตนแบบดั้งเดิมอาจไม่สามารถรับมือกับ Repeaters ได้
    - อาชญากรไซเบอร์สามารถใช้ Repeaters เพื่อเจาะระบบของธนาคารและแพลตฟอร์มคริปโต
    - ต้องมีการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ใช้ในหลายแพลตฟอร์มเพื่อป้องกันการโจมตีแบบเงียบ
    - ไม่มีโซลูชันใดที่สามารถป้องกัน Repeaters ได้ 100% ต้องใช้การตรวจสอบแบบหลายชั้น

    Repeaters แสดงให้เห็นว่า AI กำลังถูกใช้เพื่อพัฒนาเทคนิคการโจมตีที่ซับซ้อนมากขึ้น องค์กรต้อง ปรับปรุงระบบตรวจสอบตัวตนให้สามารถตรวจจับตัวตนที่ถูกใช้ซ้ำ และ ใช้การตรวจสอบแบบพฤติกรรมเพื่อป้องกันการโจมตีในอนาคต

    https://www.techradar.com/pro/security/cybercriminals-are-deploying-deepfake-sentinels-to-test-detection-systems-of-businesses-heres-what-you-need-to-know
    🛡️ AI-powered “Repeaters”: เทคนิคใหม่ของอาชญากรไซเบอร์ นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก AU10TIX ได้ค้นพบกลยุทธ์ใหม่ที่อาชญากรไซเบอร์ใช้ในการเจาะระบบของ ธนาคารและแพลตฟอร์มคริปโต โดยใช้ AI-powered Repeaters ซึ่งเป็น ตัวตนดิจิทัลปลอมที่ถูกปรับแต่งเล็กน้อย เพื่อหลบเลี่ยงระบบตรวจจับ Repeaters ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อโจมตีทันที แต่จะ ทดสอบระบบป้องกันขององค์กร โดยใช้ ตัวตนดิจิทัลที่ถูกปรับแต่งเล็กน้อย เช่น เปลี่ยนใบหน้า, แก้ไขหมายเลขเอกสาร หรือปรับพื้นหลังของภาพ เมื่อระบบตรวจสอบแต่ละตัวตนแยกกัน จะไม่สามารถตรวจจับความผิดปกติได้ ทำให้ Repeaters สามารถ ผ่านกระบวนการยืนยันตัวตน (KYC) และการตรวจสอบไบโอเมตริกซ์ ได้อย่างง่ายดาย ✅ ข้อมูลจากข่าว - Repeaters เป็นตัวตนดิจิทัลปลอมที่ถูกปรับแต่งเล็กน้อยเพื่อทดสอบระบบป้องกันขององค์กร - ใช้เทคนิค deepfake เพื่อเปลี่ยนใบหน้า, หมายเลขเอกสาร และพื้นหลังของภาพ - สามารถหลบเลี่ยงระบบตรวจสอบไบโอเมตริกซ์และ KYC ได้อย่างง่ายดาย - AU10TIX เปิดตัว “consortium validation” เพื่อให้หลายองค์กรแชร์ข้อมูลและตรวจจับ Repeaters ได้ดีขึ้น - ระบบใหม่ช่วยให้สามารถตรวจจับตัวตนที่ถูกใช้ซ้ำในหลายแพลตฟอร์มได้แบบเรียลไทม์ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ระบบตรวจสอบตัวตนแบบดั้งเดิมอาจไม่สามารถรับมือกับ Repeaters ได้ - อาชญากรไซเบอร์สามารถใช้ Repeaters เพื่อเจาะระบบของธนาคารและแพลตฟอร์มคริปโต - ต้องมีการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ใช้ในหลายแพลตฟอร์มเพื่อป้องกันการโจมตีแบบเงียบ - ไม่มีโซลูชันใดที่สามารถป้องกัน Repeaters ได้ 100% ต้องใช้การตรวจสอบแบบหลายชั้น Repeaters แสดงให้เห็นว่า AI กำลังถูกใช้เพื่อพัฒนาเทคนิคการโจมตีที่ซับซ้อนมากขึ้น องค์กรต้อง ปรับปรุงระบบตรวจสอบตัวตนให้สามารถตรวจจับตัวตนที่ถูกใช้ซ้ำ และ ใช้การตรวจสอบแบบพฤติกรรมเพื่อป้องกันการโจมตีในอนาคต https://www.techradar.com/pro/security/cybercriminals-are-deploying-deepfake-sentinels-to-test-detection-systems-of-businesses-heres-what-you-need-to-know
    WWW.TECHRADAR.COM
    This sneaky fraud tactic uses deepfakes to outsmart your favorite digital services
    Repeaters are used to test your system’s defense before large-scale attack
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 0 รีวิว
  • Jumpbox: อุปกรณ์ที่อาจมาแทน VPN สำหรับธุรกิจ
    บริษัท Remote.It ได้เปิดตัว Jumpbox ซึ่งเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงเครือข่ายจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องใช้ VPN โดย Jumpbox ถูกออกแบบมาให้เป็นโซลูชัน plug-and-play ที่ไม่ต้องตั้งค่าเครือข่ายเพิ่มเติม

    จุดเด่นของ Jumpbox
    Jumpbox ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถ ควบคุมและตรวจสอบเครือข่ายหลายเครือข่ายพร้อมกัน โดยไม่ต้องพึ่งพา VPN ซึ่งมักมีข้อจำกัด เช่น ต้องมีการตั้งค่าที่ซับซ้อน และอาจมีจุดอ่อนด้านความปลอดภัย

    อุปกรณ์นี้มาพร้อมกับ 2 USB 2.0 ports, 2 USB 3.0 ports, 1 Gigabit Ethernet port, 1 HDMI และ 3.5mm audio jack รวมถึงรองรับ Wi-Fi 6, 5G, Bluetooth และ Starlink

    ข้อมูลจากข่าว
    - Jumpbox เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงเครือข่ายจากระยะไกลโดยไม่ต้องใช้ VPN
    - Remote.It พัฒนา Jumpbox ร่วมกับ Embedded Works เพื่อให้เป็นโซลูชันที่ง่ายต่อการใช้งาน
    - Jumpbox มาพร้อมกับ Remote.It software และสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ผ่านเครือข่ายเซลลูลาร์
    - อุปกรณ์นี้มีราคา $99.99 และมาพร้อมกับ Remote.It Business Plan เป็นเวลา 1 ปี
    - Jumpbox มีฟีเจอร์ Zero Trust เช่น การเข้ารหัสข้อมูลและการควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกล

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - VPN ยังคงเป็นที่นิยมในตลาด และ Jumpbox อาจไม่สามารถแทนที่ VPN ได้ทั้งหมด
    - Jumpbox ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเป็นโซลูชัน Zero Trust Network Access (ZTNA) อย่างเป็นทางการ
    - ต้องรอดูว่าธุรกิจจะยอมรับ Jumpbox แทน VPN หรือไม่
    - การใช้เครือข่ายเซลลูลาร์อาจมีข้อจำกัดด้านความเร็วและค่าใช้จ่าย

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเครือข่าย
    Jumpbox อาจเป็นทางเลือกใหม่สำหรับธุรกิจที่ต้องการ ลดความยุ่งยากในการตั้งค่า VPN และเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงเครือข่าย อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูว่าตลาดจะตอบรับเทคโนโลยีนี้อย่างไร และว่ามันจะสามารถแทนที่ VPN ได้จริงหรือไม่

    https://www.techradar.com/pro/vpns-are-fragile-and-limited-startup-wants-to-replace-business-virtual-private-networks-with-physical-plug-and-play-device
    🔍 Jumpbox: อุปกรณ์ที่อาจมาแทน VPN สำหรับธุรกิจ บริษัท Remote.It ได้เปิดตัว Jumpbox ซึ่งเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงเครือข่ายจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องใช้ VPN โดย Jumpbox ถูกออกแบบมาให้เป็นโซลูชัน plug-and-play ที่ไม่ต้องตั้งค่าเครือข่ายเพิ่มเติม 🕵️‍♂️ จุดเด่นของ Jumpbox Jumpbox ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถ ควบคุมและตรวจสอบเครือข่ายหลายเครือข่ายพร้อมกัน โดยไม่ต้องพึ่งพา VPN ซึ่งมักมีข้อจำกัด เช่น ต้องมีการตั้งค่าที่ซับซ้อน และอาจมีจุดอ่อนด้านความปลอดภัย อุปกรณ์นี้มาพร้อมกับ 2 USB 2.0 ports, 2 USB 3.0 ports, 1 Gigabit Ethernet port, 1 HDMI และ 3.5mm audio jack รวมถึงรองรับ Wi-Fi 6, 5G, Bluetooth และ Starlink ✅ ข้อมูลจากข่าว - Jumpbox เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงเครือข่ายจากระยะไกลโดยไม่ต้องใช้ VPN - Remote.It พัฒนา Jumpbox ร่วมกับ Embedded Works เพื่อให้เป็นโซลูชันที่ง่ายต่อการใช้งาน - Jumpbox มาพร้อมกับ Remote.It software และสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ผ่านเครือข่ายเซลลูลาร์ - อุปกรณ์นี้มีราคา $99.99 และมาพร้อมกับ Remote.It Business Plan เป็นเวลา 1 ปี - Jumpbox มีฟีเจอร์ Zero Trust เช่น การเข้ารหัสข้อมูลและการควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกล ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - VPN ยังคงเป็นที่นิยมในตลาด และ Jumpbox อาจไม่สามารถแทนที่ VPN ได้ทั้งหมด - Jumpbox ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเป็นโซลูชัน Zero Trust Network Access (ZTNA) อย่างเป็นทางการ - ต้องรอดูว่าธุรกิจจะยอมรับ Jumpbox แทน VPN หรือไม่ - การใช้เครือข่ายเซลลูลาร์อาจมีข้อจำกัดด้านความเร็วและค่าใช้จ่าย 🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเครือข่าย Jumpbox อาจเป็นทางเลือกใหม่สำหรับธุรกิจที่ต้องการ ลดความยุ่งยากในการตั้งค่า VPN และเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงเครือข่าย อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูว่าตลาดจะตอบรับเทคโนโลยีนี้อย่างไร และว่ามันจะสามารถแทนที่ VPN ได้จริงหรือไม่ https://www.techradar.com/pro/vpns-are-fragile-and-limited-startup-wants-to-replace-business-virtual-private-networks-with-physical-plug-and-play-device
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 249 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts