• กระทรวงกลาโหมสหรัฐมีคำสั่งส่งกองเรือรบไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในตะวันออกกลาง หนึ่งในนั้นคือเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี USS Thomas Hudner

    เรือพิฆาต USS Thomas Hudner ชั้นอาลีห์เบิร์ก (Arleign Burke Class) (DDG-116) ของกองทัพเรือสหรัฐ มีจุดเด่นด้านการป้องกันขีปนาวุธพิสัยไกล (BMD - Ballistic Missile Defense) มีระบบอำนวยการรบเอจีส (AEGIS Combat System - ACS) และยังมีการติดตั้งระบบอาวุธนำสมัยต่างๆมากมาย

    กองเรือรบที่ถูกส่งไปครั้งนี้มีศักยภาพหลากหลายตั้งแต่การต่อต้านอากาศยาน ต่อต้านเรือ มีอำนาจการยิงไกลกำหนดเป้าหมายภาคพื้นดิน ไปจนถึงระบบตรวจการณ์และสงครามอิเล็กทรอนิกส์
    กระทรวงกลาโหมสหรัฐมีคำสั่งส่งกองเรือรบไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในตะวันออกกลาง หนึ่งในนั้นคือเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี USS Thomas Hudner เรือพิฆาต USS Thomas Hudner ชั้นอาลีห์เบิร์ก (Arleign Burke Class) (DDG-116) ของกองทัพเรือสหรัฐ มีจุดเด่นด้านการป้องกันขีปนาวุธพิสัยไกล (BMD - Ballistic Missile Defense) มีระบบอำนวยการรบเอจีส (AEGIS Combat System - ACS) และยังมีการติดตั้งระบบอาวุธนำสมัยต่างๆมากมาย กองเรือรบที่ถูกส่งไปครั้งนี้มีศักยภาพหลากหลายตั้งแต่การต่อต้านอากาศยาน ต่อต้านเรือ มีอำนาจการยิงไกลกำหนดเป้าหมายภาคพื้นดิน ไปจนถึงระบบตรวจการณ์และสงครามอิเล็กทรอนิกส์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน!!

    ขณะนี้อิสราเอลกำลังเปิดฉากโจมตีระลอกใหม่ เป้าหมายสนามบินเมห์ราบาด (Mehrabad International Airport) ในเตหะราน และสนามบินบูเชห์ร (Bushehr International Airport) ทางใต้ของอิหร่าน

    มีรายงานว่ามีเครื่องบินรบของกองทัพอากาศอิหร่านประจำการอยู่ที่สนามบินแห่งนี้ นี่ถือเป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ที่สำคัญในโครงสร้างพื้นฐานด้านการป้องกันทางอากาศของอิหร่าน
    ด่วน!! ขณะนี้อิสราเอลกำลังเปิดฉากโจมตีระลอกใหม่ เป้าหมายสนามบินเมห์ราบาด (Mehrabad International Airport) ในเตหะราน และสนามบินบูเชห์ร (Bushehr International Airport) ทางใต้ของอิหร่าน มีรายงานว่ามีเครื่องบินรบของกองทัพอากาศอิหร่านประจำการอยู่ที่สนามบินแห่งนี้ นี่ถือเป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ที่สำคัญในโครงสร้างพื้นฐานด้านการป้องกันทางอากาศของอิหร่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • วอลเลส เบอร์เกอร์และไก่ทอด #wallace #ไก่ทอด #สมุทรปราการ #แพรกษา #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #กิน #อร่อย #อาหาร #พาชิม #eat #kfc #delicious #thaifood #fastfood #streetfood #thailand #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    วอลเลส เบอร์เกอร์และไก่ทอด #wallace #ไก่ทอด #สมุทรปราการ #แพรกษา #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #กิน #อร่อย #อาหาร #พาชิม #eat #kfc #delicious #thaifood #fastfood #streetfood #thailand #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • **วลีจีน ‘นักล่ากวางไม่ยี่หระกระต่าย’**

    สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันสั้นๆ เรื่อง ‘วลีเด็ด’

    เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> คงจำได้ว่าตอนท้ายเรื่องพระเอกขอลาออกจากราชการ เหตุผลของเขานั้นหากอ่านจากซับไทยอาจไม่ค่อยเข้าใจความหมาย Storyฯ จึงขอแปลใหม่โดยมีความแตกต่างจากซับไทยเล็กน้อยว่า “จนเมื่อมาพบกับโต้วเจา นางทำให้กระหม่อมรู้ว่า นักล่ากวางเมื่อเจอกระต่ายต้องยับยั้งชั่งใจ นักล่าสัตว์เจอภูเขาต้องมองให้กว้าง” (หมายเหตุ ในซับไทยใช้คำว่า ‘นายพราน’ ซึ่งไม่ผิดแต่ทำให้บริบทที่มาของวลีนี้ขาดหายไป)

    ยังฟังดูงงๆ ใช่ไหม? จะเข้าใจความหมายของมันก็ต้องเข้าใจบริบทและที่มาของมันค่ะ สองประโยค “นักล่ากวาง.... ต้องมองให้กว้าง” นี้ไม่ใช่วลีจีนโบราณ แต่มันมีรากฐานมาจากวรรณกรรมโบราณที่ชื่อว่า ‘หวยหนานจื่อ’ (淮南子 / บุรุษเมืองหวยหนาน) ถูกยกมาจากบรรพที่มีชื่อว่า ‘ซัวหลินซุ่น’ (说林训/ คำสอนจากป่าไม้)

    หวยหนานจื่อเป็นผลงานในยุคสมัยฮั่นตะวันตกของอ๋องหวยหนาน (หลิวอัน) และบัณฑิตในสังกัด ต่อมาถูกนำถวายให้แก่องค์ฮั่นอู่ตี้ (ปี 138 ก่อนคริสตกาล) เดิมมีทั้งหมด 3 บทรวม 62 บรรพ: บทใน 21 บรรพยาวกว่าสองแสนอักษร (ปัจจุบันเหลือเพียงหนึ่งแสนสามหมื่นอักษร); บทกลาง 8 บรรพ (สูญหายไปแล้ว); และบทนอก 33 บรรพ (สูญหายไปแล้ว) โดยเนื้อหาของหวยหนานจื่อครอบคลุมเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ตำนานเล่าขาน (เช่นเรื่องหนี่ว์วาซ่อมแซมฟ้า โฮ่วอี้ยิงตะวัน) ข้อมูลทางธรรมชาติ (เช่นฤดูกาล) หลักหยินหยาง คำสอนขงจื๊อ คำสอนลัทธิเต๋า กลยุทธ์การศึกการทหาร ฯลฯ เรียบเรียงเป็นคำกล่าวสอนชี้ชวนให้คิดและสะท้อนปรัชญาชีวิต จัดเป็นหนึ่งในวรรณกรรมที่อ่านยากมากที่สุดของจีน ทั้งด้วยภาษาที่ใช้และเนื้อหาที่ลึกซึ้งแอบแฝง โดยมีหลายวรรคหลายประโยคที่ถูกยกย่องเป็น ‘วลีเด็ด’ ข้ามกาลเวลาจวบจนปัจจุบัน

    ประโยค “นักล่ากวางเมื่อเจอกระต่ายต้องยับยั้งชั่งใจ” แปลงมาจากหนึ่งในวรรคเด็ดของ ‘หวยหนานจื่อ-ซัวหลินซุ่น’ ที่อ่านเต็มๆ ว่า “นักล่ากวางไม่ยี่หระกระต่าย คนเจรจาสินค้าพันตำลึงทองไม่ถกเถียงเงินจำนวนเล็กน้อย” (逐鹿者不顾兔,决千金之货者不争铢两之价。) ความหมายก็คือว่า คนเราเมื่อมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ก็ไม่ควรวอกแวกไปกับเรื่องเล็กน้อยที่ผ่านเข้ามา เหมือนกับนักล่ากวางที่มีเป้าหมายคือกวาง ก็ไม่ควรเสียสมาธิและพลังงานไปกับการล่ากระต่ายที่ผ่านเข้ามา

    ส่วนประโยคหลัง “นักล่าสัตว์เจอภูเขาต้องมองให้กว้าง” แปลงมาจากอีกหนึ่งในวรรคเด็ดของ ‘หวยหนานจื่อ-ซัวหลินซุ่น’ ที่อ่านเต็มๆ ว่า “นักล่าสัตว์มองไม่เห็นภูเขาไท่ซาน ความกระหายภายนอกบดบังความกระจ่างภายในใจ” (逐兽者目不见太山,嗜欲在外,则明所蔽矣。) ความหมายก็คือว่า เมื่อเราใจจดจ่ออยู่กับบางอย่างเราจะมองไม่เห็นภาพใหญ่ เหมือนกับนายพรานที่มัวแต่มองเหยื่อจนไม่เห็นความสวยงามของภูเขา และความต้องการบางอย่างอาจรุนแรงจนบดบังสติความคิดที่ควรมี

    เมื่อเข้าใจบริบทที่มาของประโยคทั้งสองแล้ว เพื่อนเพจคงเข้าใจได้ไม่ยากถึงความนัยที่แท้จริง... พระเอกบอกว่า นางเอกสอนให้เขามองข้ามความสะใจชั่ววูบของการแก้แค้น แต่ให้มองการพลิกคดีของติ้งกั๋วกงและตระกูลเจี่ยงเป็นเป้าหมายใหญ่ และไม่ให้ความแค้นมาบดบังความรู้สึกผิดชอบชั่วดีและภาระหน้าที่ในการผดุงธรรมเพื่อบ้านเมือง มองข้ามความรู้สึกส่วนตัวไปยังภาพที่ใหญ่กว่าซึ่งก็คือความเดือดร้อนหรือความสุขสงบของประชาชน

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://www.cosmopolitan.com/tw/entertainment/movies/g63261255/blossom-ending/
    https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_27370559
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.ihchina.cn/details/7011.html
    https://paper.people.com.cn/fcyym/html/2024-08/02/content_26075300.htm
    https://ctext.org/huainanzi/shuo-lin-xun/zhs
    https://www.xinfajia.net/4835.html
    https://www.gushiwen.cn/mingju/juv_2e11ccdf0840.aspx
    https://www.shidianguji.com/zh/mingju/7474306868938162226

    #จิ่วฉงจื่อ #วลีจีน #หวยหนานจื่อ #นายพรานกับกระต่าย #สาระจีน
    **วลีจีน ‘นักล่ากวางไม่ยี่หระกระต่าย’** สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันสั้นๆ เรื่อง ‘วลีเด็ด’ เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> คงจำได้ว่าตอนท้ายเรื่องพระเอกขอลาออกจากราชการ เหตุผลของเขานั้นหากอ่านจากซับไทยอาจไม่ค่อยเข้าใจความหมาย Storyฯ จึงขอแปลใหม่โดยมีความแตกต่างจากซับไทยเล็กน้อยว่า “จนเมื่อมาพบกับโต้วเจา นางทำให้กระหม่อมรู้ว่า นักล่ากวางเมื่อเจอกระต่ายต้องยับยั้งชั่งใจ นักล่าสัตว์เจอภูเขาต้องมองให้กว้าง” (หมายเหตุ ในซับไทยใช้คำว่า ‘นายพราน’ ซึ่งไม่ผิดแต่ทำให้บริบทที่มาของวลีนี้ขาดหายไป) ยังฟังดูงงๆ ใช่ไหม? จะเข้าใจความหมายของมันก็ต้องเข้าใจบริบทและที่มาของมันค่ะ สองประโยค “นักล่ากวาง.... ต้องมองให้กว้าง” นี้ไม่ใช่วลีจีนโบราณ แต่มันมีรากฐานมาจากวรรณกรรมโบราณที่ชื่อว่า ‘หวยหนานจื่อ’ (淮南子 / บุรุษเมืองหวยหนาน) ถูกยกมาจากบรรพที่มีชื่อว่า ‘ซัวหลินซุ่น’ (说林训/ คำสอนจากป่าไม้) หวยหนานจื่อเป็นผลงานในยุคสมัยฮั่นตะวันตกของอ๋องหวยหนาน (หลิวอัน) และบัณฑิตในสังกัด ต่อมาถูกนำถวายให้แก่องค์ฮั่นอู่ตี้ (ปี 138 ก่อนคริสตกาล) เดิมมีทั้งหมด 3 บทรวม 62 บรรพ: บทใน 21 บรรพยาวกว่าสองแสนอักษร (ปัจจุบันเหลือเพียงหนึ่งแสนสามหมื่นอักษร); บทกลาง 8 บรรพ (สูญหายไปแล้ว); และบทนอก 33 บรรพ (สูญหายไปแล้ว) โดยเนื้อหาของหวยหนานจื่อครอบคลุมเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ตำนานเล่าขาน (เช่นเรื่องหนี่ว์วาซ่อมแซมฟ้า โฮ่วอี้ยิงตะวัน) ข้อมูลทางธรรมชาติ (เช่นฤดูกาล) หลักหยินหยาง คำสอนขงจื๊อ คำสอนลัทธิเต๋า กลยุทธ์การศึกการทหาร ฯลฯ เรียบเรียงเป็นคำกล่าวสอนชี้ชวนให้คิดและสะท้อนปรัชญาชีวิต จัดเป็นหนึ่งในวรรณกรรมที่อ่านยากมากที่สุดของจีน ทั้งด้วยภาษาที่ใช้และเนื้อหาที่ลึกซึ้งแอบแฝง โดยมีหลายวรรคหลายประโยคที่ถูกยกย่องเป็น ‘วลีเด็ด’ ข้ามกาลเวลาจวบจนปัจจุบัน ประโยค “นักล่ากวางเมื่อเจอกระต่ายต้องยับยั้งชั่งใจ” แปลงมาจากหนึ่งในวรรคเด็ดของ ‘หวยหนานจื่อ-ซัวหลินซุ่น’ ที่อ่านเต็มๆ ว่า “นักล่ากวางไม่ยี่หระกระต่าย คนเจรจาสินค้าพันตำลึงทองไม่ถกเถียงเงินจำนวนเล็กน้อย” (逐鹿者不顾兔,决千金之货者不争铢两之价。) ความหมายก็คือว่า คนเราเมื่อมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ก็ไม่ควรวอกแวกไปกับเรื่องเล็กน้อยที่ผ่านเข้ามา เหมือนกับนักล่ากวางที่มีเป้าหมายคือกวาง ก็ไม่ควรเสียสมาธิและพลังงานไปกับการล่ากระต่ายที่ผ่านเข้ามา ส่วนประโยคหลัง “นักล่าสัตว์เจอภูเขาต้องมองให้กว้าง” แปลงมาจากอีกหนึ่งในวรรคเด็ดของ ‘หวยหนานจื่อ-ซัวหลินซุ่น’ ที่อ่านเต็มๆ ว่า “นักล่าสัตว์มองไม่เห็นภูเขาไท่ซาน ความกระหายภายนอกบดบังความกระจ่างภายในใจ” (逐兽者目不见太山,嗜欲在外,则明所蔽矣。) ความหมายก็คือว่า เมื่อเราใจจดจ่ออยู่กับบางอย่างเราจะมองไม่เห็นภาพใหญ่ เหมือนกับนายพรานที่มัวแต่มองเหยื่อจนไม่เห็นความสวยงามของภูเขา และความต้องการบางอย่างอาจรุนแรงจนบดบังสติความคิดที่ควรมี เมื่อเข้าใจบริบทที่มาของประโยคทั้งสองแล้ว เพื่อนเพจคงเข้าใจได้ไม่ยากถึงความนัยที่แท้จริง... พระเอกบอกว่า นางเอกสอนให้เขามองข้ามความสะใจชั่ววูบของการแก้แค้น แต่ให้มองการพลิกคดีของติ้งกั๋วกงและตระกูลเจี่ยงเป็นเป้าหมายใหญ่ และไม่ให้ความแค้นมาบดบังความรู้สึกผิดชอบชั่วดีและภาระหน้าที่ในการผดุงธรรมเพื่อบ้านเมือง มองข้ามความรู้สึกส่วนตัวไปยังภาพที่ใหญ่กว่าซึ่งก็คือความเดือดร้อนหรือความสุขสงบของประชาชน (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.cosmopolitan.com/tw/entertainment/movies/g63261255/blossom-ending/ https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_27370559 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.ihchina.cn/details/7011.html https://paper.people.com.cn/fcyym/html/2024-08/02/content_26075300.htm https://ctext.org/huainanzi/shuo-lin-xun/zhs https://www.xinfajia.net/4835.html https://www.gushiwen.cn/mingju/juv_2e11ccdf0840.aspx https://www.shidianguji.com/zh/mingju/7474306868938162226 #จิ่วฉงจื่อ #วลีจีน #หวยหนานจื่อ #นายพรานกับกระต่าย #สาระจีน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🧠 Sandia เปิดตัว SpiNNaker 2: ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เลียนแบบสมองมนุษย์
    Sandia National Laboratories ได้เปิดตัว SpiNNaker 2 ซึ่งเป็น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ออกแบบให้ทำงานเหมือนสมองมนุษย์ โดย ไม่มีระบบปฏิบัติการและไม่มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายใน

    SpiNNaker 2 ใช้สถาปัตยกรรม neuromorphic ซึ่งช่วยให้ สามารถประมวลผลแบบขนานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - SpiNNaker 2 ใช้สถาปัตยกรรม neuromorphic เพื่อเลียนแบบการทำงานของสมองมนุษย์
    - ไม่มีระบบปฏิบัติการและไม่มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายใน
    - ใช้ 152 คอร์ต่อชิป และมี 48 ชิปต่อเซิร์ฟเวอร์บอร์ด
    - ระบบเต็มรูปแบบมี 1,440 บอร์ด, 69,120 ชิป และ 138,240 เทราไบต์ของ DRAM
    - ข้อมูลถูกเก็บไว้ใน SRAM และ DRAM เพื่อเพิ่มความเร็วในการประมวลผล

    🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมซูเปอร์คอมพิวเตอร์
    SpiNNaker 2 อาจเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถเลียนแบบการทำงานของสมอง และ ช่วยให้สามารถประมวลผลข้อมูลได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาดิสก์

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้ว่าระบบนี้จะสามารถจำลองเซลล์ประสาทได้ 150-180 ล้านเซลล์ แต่ยังห่างไกลจากสมองมนุษย์ที่มี 100 พันล้านเซลล์
    - ต้องติดตามว่า SpiNNaker 2 จะสามารถนำไปใช้ในงานด้านความมั่นคงแห่งชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่
    - การไม่มีระบบปฏิบัติการอาจทำให้การพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับระบบนี้มีข้อจำกัด
    - ต้องรอดูว่าเทคโนโลยีนี้จะสามารถแข่งขันกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์แบบดั้งเดิมได้หรือไม่

    🚀 อนาคตของ SpiNNaker 2 และการประมวลผลแบบ neuromorphic
    SpiNNaker 2 อาจเป็นก้าวแรกในการพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่สามารถเลียนแบบสมองมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าระบบนี้จะสามารถนำไปใช้ในงานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่

    https://www.techradar.com/pro/a-system-inspired-by-the-human-brain-has-quietly-been-activated-at-a-us-nuclear-lab-and-it-has-no-operating-system-or-storage
    🧠 Sandia เปิดตัว SpiNNaker 2: ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เลียนแบบสมองมนุษย์ Sandia National Laboratories ได้เปิดตัว SpiNNaker 2 ซึ่งเป็น ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ออกแบบให้ทำงานเหมือนสมองมนุษย์ โดย ไม่มีระบบปฏิบัติการและไม่มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายใน SpiNNaker 2 ใช้สถาปัตยกรรม neuromorphic ซึ่งช่วยให้ สามารถประมวลผลแบบขนานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ ข้อมูลจากข่าว - SpiNNaker 2 ใช้สถาปัตยกรรม neuromorphic เพื่อเลียนแบบการทำงานของสมองมนุษย์ - ไม่มีระบบปฏิบัติการและไม่มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายใน - ใช้ 152 คอร์ต่อชิป และมี 48 ชิปต่อเซิร์ฟเวอร์บอร์ด - ระบบเต็มรูปแบบมี 1,440 บอร์ด, 69,120 ชิป และ 138,240 เทราไบต์ของ DRAM - ข้อมูลถูกเก็บไว้ใน SRAM และ DRAM เพื่อเพิ่มความเร็วในการประมวลผล 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมซูเปอร์คอมพิวเตอร์ SpiNNaker 2 อาจเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถเลียนแบบการทำงานของสมอง และ ช่วยให้สามารถประมวลผลข้อมูลได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาดิสก์ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้ว่าระบบนี้จะสามารถจำลองเซลล์ประสาทได้ 150-180 ล้านเซลล์ แต่ยังห่างไกลจากสมองมนุษย์ที่มี 100 พันล้านเซลล์ - ต้องติดตามว่า SpiNNaker 2 จะสามารถนำไปใช้ในงานด้านความมั่นคงแห่งชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ - การไม่มีระบบปฏิบัติการอาจทำให้การพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับระบบนี้มีข้อจำกัด - ต้องรอดูว่าเทคโนโลยีนี้จะสามารถแข่งขันกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์แบบดั้งเดิมได้หรือไม่ 🚀 อนาคตของ SpiNNaker 2 และการประมวลผลแบบ neuromorphic SpiNNaker 2 อาจเป็นก้าวแรกในการพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่สามารถเลียนแบบสมองมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าระบบนี้จะสามารถนำไปใช้ในงานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ https://www.techradar.com/pro/a-system-inspired-by-the-human-brain-has-quietly-been-activated-at-a-us-nuclear-lab-and-it-has-no-operating-system-or-storage
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚀 Utran เปิดตัว PCIe 5.0 Host Card รองรับ 28 M.2 SSDs พร้อมความเร็ว 109GB/s
    Utran Technology ได้เปิดตัว PCIe 5.0 Host Card รุ่นใหม่ ที่สามารถ รองรับ SSD M.2 ได้ถึง 28 ตัว โดยให้ ความเร็วในการอ่านสูงสุด 109GB/s และความจุรวม 224TB

    การ์ดนี้ ใช้ Broadcom AtlasII PEX89144 switch เพื่อจัดการ แบนด์วิดท์ภายในและการเชื่อมต่อ โดยมี สองรุ่นให้เลือก ได้แก่ HM-5281A และ HM-5282A

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - PCIe 5.0 Host Card รองรับ SSD M.2 ได้ถึง 28 ตัว
    - ให้ความเร็วในการอ่านสูงสุด 109GB/s และความจุรวม 224TB
    - ใช้ Broadcom AtlasII PEX89144 switch เพื่อจัดการแบนด์วิดท์
    - รุ่น HM-5281A ใช้ PCIe Gen5 x16 link เดียว ส่วน HM-5282A ใช้สอง x16 links
    - รองรับระบบปฏิบัติการ Windows, Windows Server และ Linux

    🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และ HPC
    PCIe 5.0 Host Card เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเร็วสูง เช่น AI และ HPC แต่ อาจเกินความจำเป็นสำหรับการใช้งานทั่วไป

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การ์ดนี้ไม่มีระบบป้องกันไฟดับในระดับการ์ด ต้องใช้ SSD ที่มีระบบป้องกันของตัวเอง
    - แม้ว่าจะรองรับ hot plug แต่ตัวการ์ดเองไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้ขณะใช้งาน
    - ต้องติดตามว่าตลาดจะตอบรับผลิตภัณฑ์นี้อย่างไร เนื่องจากมีความเร็วสูงเกินความต้องการของผู้ใช้ทั่วไป
    - การใช้พัดลมแรงดันสูงและหม้อน้ำอาจทำให้เกิดเสียงรบกวนในสภาพแวดล้อมที่ไม่ใช่ศูนย์ข้อมูล

    🚀 อนาคตของ PCIe 5.0 Host Card
    Utran เตรียมเริ่มจัดส่ง PCIe 5.0 Host Card ในช่วงฤดูร้อนปี 2025 และ ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่นจะพัฒนาโซลูชันที่คล้ายกันหรือไม่

    https://www.techradar.com/pro/gpu-like-internal-card-combines-28-m-2-ssds-to-offer-up-to-109gb-s-read-speed-and-224tb-storage-but-i-struggle-to-see-any-real-use-for-it
    🚀 Utran เปิดตัว PCIe 5.0 Host Card รองรับ 28 M.2 SSDs พร้อมความเร็ว 109GB/s Utran Technology ได้เปิดตัว PCIe 5.0 Host Card รุ่นใหม่ ที่สามารถ รองรับ SSD M.2 ได้ถึง 28 ตัว โดยให้ ความเร็วในการอ่านสูงสุด 109GB/s และความจุรวม 224TB การ์ดนี้ ใช้ Broadcom AtlasII PEX89144 switch เพื่อจัดการ แบนด์วิดท์ภายในและการเชื่อมต่อ โดยมี สองรุ่นให้เลือก ได้แก่ HM-5281A และ HM-5282A ✅ ข้อมูลจากข่าว - PCIe 5.0 Host Card รองรับ SSD M.2 ได้ถึง 28 ตัว - ให้ความเร็วในการอ่านสูงสุด 109GB/s และความจุรวม 224TB - ใช้ Broadcom AtlasII PEX89144 switch เพื่อจัดการแบนด์วิดท์ - รุ่น HM-5281A ใช้ PCIe Gen5 x16 link เดียว ส่วน HM-5282A ใช้สอง x16 links - รองรับระบบปฏิบัติการ Windows, Windows Server และ Linux 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และ HPC PCIe 5.0 Host Card เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเร็วสูง เช่น AI และ HPC แต่ อาจเกินความจำเป็นสำหรับการใช้งานทั่วไป ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การ์ดนี้ไม่มีระบบป้องกันไฟดับในระดับการ์ด ต้องใช้ SSD ที่มีระบบป้องกันของตัวเอง - แม้ว่าจะรองรับ hot plug แต่ตัวการ์ดเองไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้ขณะใช้งาน - ต้องติดตามว่าตลาดจะตอบรับผลิตภัณฑ์นี้อย่างไร เนื่องจากมีความเร็วสูงเกินความต้องการของผู้ใช้ทั่วไป - การใช้พัดลมแรงดันสูงและหม้อน้ำอาจทำให้เกิดเสียงรบกวนในสภาพแวดล้อมที่ไม่ใช่ศูนย์ข้อมูล 🚀 อนาคตของ PCIe 5.0 Host Card Utran เตรียมเริ่มจัดส่ง PCIe 5.0 Host Card ในช่วงฤดูร้อนปี 2025 และ ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่นจะพัฒนาโซลูชันที่คล้ายกันหรือไม่ https://www.techradar.com/pro/gpu-like-internal-card-combines-28-m-2-ssds-to-offer-up-to-109gb-s-read-speed-and-224tb-storage-but-i-struggle-to-see-any-real-use-for-it
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌍 ARM และ Nvidia วิจารณ์มาตรการควบคุมการส่งออกชิป AI ของสหรัฐฯ
    Rene Haas, CEO ของ ARM ได้เข้าร่วมกับ Jensen Huang, CEO ของ Nvidia ในการวิจารณ์ มาตรการควบคุมการส่งออกชิป AI ของสหรัฐฯ โดยระบุว่า ข้อจำกัดเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมและผู้บริโภค

    Haas กล่าวในงาน Founders Forum Global ที่ Oxford ว่า การจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีจะทำให้ตลาดเล็กลงและส่งผลเสียต่อผู้บริโภค

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - ARM CEO Rene Haas และ Nvidia CEO Jensen Huang วิจารณ์มาตรการควบคุมการส่งออกชิป AI ของสหรัฐฯ
    - Haas ระบุว่าการจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีจะทำให้ตลาดเล็กลงและส่งผลเสียต่อผู้บริโภค
    - สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกชิป AI ไปยังจีนตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 ซึ่งส่งผลให้ Nvidia สูญเสียรายได้กว่า 8 พันล้านดอลลาร์
    - Huang เตือนว่าหากข้อจำกัดยังคงดำเนินต่อไป Huawei อาจใช้โอกาสนี้ในการเร่งพัฒนาเทคโนโลยี AI
    - Haas เปิดเผยว่าเขาใช้เวลามากขึ้นในการเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อหาทางออกที่สมดุล

    🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    ข้อจำกัดของสหรัฐฯ อาจทำให้บริษัทจีนเร่งพัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง และ ลดการพึ่งพาชิปจากบริษัทตะวันตก

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ข้อจำกัดอาจส่งผลให้บริษัทจีน เช่น Huawei เร่งพัฒนาเทคโนโลยี AI และกลายเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งขึ้น
    - Nvidia สูญเสียรายได้กว่า 8 พันล้านดอลลาร์จากมาตรการนี้ และอาจต้องปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ
    - ต้องติดตามว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะปรับเปลี่ยนนโยบายหรือไม่ หลังจากการวิจารณ์จากผู้นำอุตสาหกรรม
    - การแข่งขันระหว่างจีนและสหรัฐฯ ในด้าน AI อาจทวีความรุนแรงขึ้นในอนาคต

    🚀 อนาคตของตลาดชิป AI
    ARM และ Nvidia กำลังผลักดันให้รัฐบาลสหรัฐฯ ทบทวนมาตรการควบคุมการส่งออก โดยเชื่อว่า การเปิดตลาดจะช่วยให้เทคโนโลยีเติบโตได้เร็วขึ้นและเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/arm-ceo-joins-nvidia-in-stance-against-us-export-controls-rene-haas-says-narrower-access-not-good-for-industry-or-consumer
    🌍 ARM และ Nvidia วิจารณ์มาตรการควบคุมการส่งออกชิป AI ของสหรัฐฯ Rene Haas, CEO ของ ARM ได้เข้าร่วมกับ Jensen Huang, CEO ของ Nvidia ในการวิจารณ์ มาตรการควบคุมการส่งออกชิป AI ของสหรัฐฯ โดยระบุว่า ข้อจำกัดเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมและผู้บริโภค Haas กล่าวในงาน Founders Forum Global ที่ Oxford ว่า การจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีจะทำให้ตลาดเล็กลงและส่งผลเสียต่อผู้บริโภค ✅ ข้อมูลจากข่าว - ARM CEO Rene Haas และ Nvidia CEO Jensen Huang วิจารณ์มาตรการควบคุมการส่งออกชิป AI ของสหรัฐฯ - Haas ระบุว่าการจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีจะทำให้ตลาดเล็กลงและส่งผลเสียต่อผู้บริโภค - สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกชิป AI ไปยังจีนตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 ซึ่งส่งผลให้ Nvidia สูญเสียรายได้กว่า 8 พันล้านดอลลาร์ - Huang เตือนว่าหากข้อจำกัดยังคงดำเนินต่อไป Huawei อาจใช้โอกาสนี้ในการเร่งพัฒนาเทคโนโลยี AI - Haas เปิดเผยว่าเขาใช้เวลามากขึ้นในการเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อหาทางออกที่สมดุล 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ข้อจำกัดของสหรัฐฯ อาจทำให้บริษัทจีนเร่งพัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง และ ลดการพึ่งพาชิปจากบริษัทตะวันตก ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ข้อจำกัดอาจส่งผลให้บริษัทจีน เช่น Huawei เร่งพัฒนาเทคโนโลยี AI และกลายเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งขึ้น - Nvidia สูญเสียรายได้กว่า 8 พันล้านดอลลาร์จากมาตรการนี้ และอาจต้องปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ - ต้องติดตามว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะปรับเปลี่ยนนโยบายหรือไม่ หลังจากการวิจารณ์จากผู้นำอุตสาหกรรม - การแข่งขันระหว่างจีนและสหรัฐฯ ในด้าน AI อาจทวีความรุนแรงขึ้นในอนาคต 🚀 อนาคตของตลาดชิป AI ARM และ Nvidia กำลังผลักดันให้รัฐบาลสหรัฐฯ ทบทวนมาตรการควบคุมการส่งออก โดยเชื่อว่า การเปิดตลาดจะช่วยให้เทคโนโลยีเติบโตได้เร็วขึ้นและเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/arm-ceo-joins-nvidia-in-stance-against-us-export-controls-rene-haas-says-narrower-access-not-good-for-industry-or-consumer
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    ARM CEO joins Nvidia in stance against US export controls — Rene Haas says narrower access 'not good' for industry or consumer
    “If you narrow access to technology and you force other ecosystems to grow up, it’s not good."
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🏭 จีนเปิดตัว QiMeng: ระบบ AI ออกแบบชิปเต็มรูปแบบ
    สถาบันวิทยาศาสตร์จีน (CAS) ได้เปิดตัว QiMeng ซึ่งเป็น ระบบ AI ที่สามารถออกแบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของชิปได้โดยอัตโนมัติ โดยใช้ LLM (Large Language Model) ในการแปลงความต้องการด้านประสิทธิภาพเป็นสถาปัตยกรรม CPU

    QiMeng เป็นโครงการโอเพ่นซอร์สที่มุ่งเน้นการออกแบบชิปแบบครบวงจร และ สามารถลดระยะเวลาการออกแบบจากหลายสัปดาห์เหลือเพียงไม่กี่วัน

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - QiMeng เป็นระบบ AI ที่สามารถออกแบบ CPU ได้โดยอัตโนมัติ
    - โครงการนี้เป็นโอเพ่นซอร์สและพัฒนาโดยสถาบันวิทยาศาสตร์จีน (CAS)
    - QiMeng-CPU-v1 มีประสิทธิภาพเทียบเท่า Intel 486 (1989)
    - QiMeng-CPU-v2 มีประสิทธิภาพเทียบเท่า Arm Cortex A53 (2012)
    - ระบบนี้สามารถลดระยะเวลาการออกแบบชิปจากหลายสัปดาห์เหลือเพียงไม่กี่วัน

    🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    QiMeng อาจเป็นก้าวสำคัญในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก โดยเฉพาะ หลังจากที่สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกซอฟต์แวร์ออกแบบชิปให้กับบริษัทจีน

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - QiMeng-CPU-v2 ยังมีประสิทธิภาพต่ำกว่าชิปที่ใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่
    - ต้องติดตามว่า QiMeng จะสามารถพัฒนา CPU ที่แข่งขันกับชิประดับสูงได้หรือไม่
    - การออกแบบชิปด้วย AI อาจต้องใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์จำนวนมาก
    - ต้องรอดูว่าอุตสาหกรรมจะนำ QiMeng ไปใช้ในระดับกว้างหรือไม่

    🚀 อนาคตของ QiMeng และการออกแบบชิปด้วย AI
    QiMeng อาจเป็นก้าวแรกในการพัฒนาเทคโนโลยีออกแบบชิปด้วย AI ซึ่ง อาจช่วยให้จีนสามารถลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากตะวันตกและเร่งการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ของตนเอง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/china-claims-to-have-developed-the-worlds-first-ai-designed-processor-llm-turned-performance-requests-into-cpu-architecture
    🏭 จีนเปิดตัว QiMeng: ระบบ AI ออกแบบชิปเต็มรูปแบบ สถาบันวิทยาศาสตร์จีน (CAS) ได้เปิดตัว QiMeng ซึ่งเป็น ระบบ AI ที่สามารถออกแบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของชิปได้โดยอัตโนมัติ โดยใช้ LLM (Large Language Model) ในการแปลงความต้องการด้านประสิทธิภาพเป็นสถาปัตยกรรม CPU QiMeng เป็นโครงการโอเพ่นซอร์สที่มุ่งเน้นการออกแบบชิปแบบครบวงจร และ สามารถลดระยะเวลาการออกแบบจากหลายสัปดาห์เหลือเพียงไม่กี่วัน ✅ ข้อมูลจากข่าว - QiMeng เป็นระบบ AI ที่สามารถออกแบบ CPU ได้โดยอัตโนมัติ - โครงการนี้เป็นโอเพ่นซอร์สและพัฒนาโดยสถาบันวิทยาศาสตร์จีน (CAS) - QiMeng-CPU-v1 มีประสิทธิภาพเทียบเท่า Intel 486 (1989) - QiMeng-CPU-v2 มีประสิทธิภาพเทียบเท่า Arm Cortex A53 (2012) - ระบบนี้สามารถลดระยะเวลาการออกแบบชิปจากหลายสัปดาห์เหลือเพียงไม่กี่วัน 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ QiMeng อาจเป็นก้าวสำคัญในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก โดยเฉพาะ หลังจากที่สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกซอฟต์แวร์ออกแบบชิปให้กับบริษัทจีน ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - QiMeng-CPU-v2 ยังมีประสิทธิภาพต่ำกว่าชิปที่ใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ - ต้องติดตามว่า QiMeng จะสามารถพัฒนา CPU ที่แข่งขันกับชิประดับสูงได้หรือไม่ - การออกแบบชิปด้วย AI อาจต้องใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์จำนวนมาก - ต้องรอดูว่าอุตสาหกรรมจะนำ QiMeng ไปใช้ในระดับกว้างหรือไม่ 🚀 อนาคตของ QiMeng และการออกแบบชิปด้วย AI QiMeng อาจเป็นก้าวแรกในการพัฒนาเทคโนโลยีออกแบบชิปด้วย AI ซึ่ง อาจช่วยให้จีนสามารถลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากตะวันตกและเร่งการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ของตนเอง https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/china-claims-to-have-developed-the-worlds-first-ai-designed-processor-llm-turned-performance-requests-into-cpu-architecture
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚀 PCIe 7.0 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมความเร็วสูงสุด 512GB/s
    PCI-SIG ได้ประกาศ เปิดตัวมาตรฐาน PCIe 7.0 อย่างเป็นทางการ ซึ่งช่วยให้ สามารถรับส่งข้อมูลได้สูงสุด 512GB/s ผ่าน 16 เลน และ เริ่มต้นการสำรวจแนวทางสำหรับ PCIe 8.0 ที่อาจมีความเร็วถึง 1TB/s

    PCIe 7.0 เพิ่มอัตราการส่งข้อมูลเป็น 128 GT/s ต่อเลน ซึ่ง เร็วกว่า PCIe 6.0 ถึงสองเท่า และเร็วกว่า PCIe 5.0 ถึงสี่เท่า

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - PCIe 7.0 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมอัตราการส่งข้อมูล 128 GT/s ต่อเลน
    - สามารถรับส่งข้อมูลได้สูงสุด 512GB/s ผ่าน 16 เลน
    - ใช้เทคนิค PAM4 signaling และ FLIT encoding เหมือน PCIe 6.0
    - ต้องเพิ่มความถี่สัญญาณเป็น 32 GHz เพื่อรองรับความเร็วที่สูงขึ้น
    - PCI-SIG เริ่มต้นการสำรวจแนวทางสำหรับ PCIe 8.0 ที่อาจมีความเร็วถึง 1TB/s

    🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี
    PCIe 7.0 จะช่วยให้เซิร์ฟเวอร์และศูนย์ข้อมูลสามารถรองรับแอปพลิเคชันที่ต้องการแบนด์วิดท์สูง เช่น 800G Ethernet, Ultra Ethernet และ Quantum Computing

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การเพิ่มความถี่สัญญาณเป็น 32 GHz อาจทำให้การรักษาคุณภาพสัญญาณบนสายทองแดงเป็นเรื่องท้าทาย
    - PCIe 7.0 อาจต้องใช้ระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
    - PCIe 8.0 อาจต้องใช้เทคโนโลยีออปติคอลแทนสายทองแดงเพื่อรองรับความเร็วที่สูงขึ้น
    - ต้องติดตามว่า PCIe 7.0 จะสามารถเข้าสู่ตลาดได้ตามแผนในปี 2028-2029 หรือไม่

    🚀 อนาคตของ PCIe และการเชื่อมต่อความเร็วสูง
    PCI-SIG กำลังพัฒนา PCIe 8.0 ซึ่งอาจมีความเร็วถึง 1TB/s และ อาจต้องใช้เทคโนโลยีออปติคอลเพื่อรองรับการส่งข้อมูลที่เร็วขึ้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/pcie-7-0-spec-finalized-with-up-to-512gb-s-speeds-pci-sig-targets-1tb-s-for-8-0-as-exploration-phase-begins
    🚀 PCIe 7.0 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมความเร็วสูงสุด 512GB/s PCI-SIG ได้ประกาศ เปิดตัวมาตรฐาน PCIe 7.0 อย่างเป็นทางการ ซึ่งช่วยให้ สามารถรับส่งข้อมูลได้สูงสุด 512GB/s ผ่าน 16 เลน และ เริ่มต้นการสำรวจแนวทางสำหรับ PCIe 8.0 ที่อาจมีความเร็วถึง 1TB/s PCIe 7.0 เพิ่มอัตราการส่งข้อมูลเป็น 128 GT/s ต่อเลน ซึ่ง เร็วกว่า PCIe 6.0 ถึงสองเท่า และเร็วกว่า PCIe 5.0 ถึงสี่เท่า ✅ ข้อมูลจากข่าว - PCIe 7.0 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมอัตราการส่งข้อมูล 128 GT/s ต่อเลน - สามารถรับส่งข้อมูลได้สูงสุด 512GB/s ผ่าน 16 เลน - ใช้เทคนิค PAM4 signaling และ FLIT encoding เหมือน PCIe 6.0 - ต้องเพิ่มความถี่สัญญาณเป็น 32 GHz เพื่อรองรับความเร็วที่สูงขึ้น - PCI-SIG เริ่มต้นการสำรวจแนวทางสำหรับ PCIe 8.0 ที่อาจมีความเร็วถึง 1TB/s 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี PCIe 7.0 จะช่วยให้เซิร์ฟเวอร์และศูนย์ข้อมูลสามารถรองรับแอปพลิเคชันที่ต้องการแบนด์วิดท์สูง เช่น 800G Ethernet, Ultra Ethernet และ Quantum Computing ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การเพิ่มความถี่สัญญาณเป็น 32 GHz อาจทำให้การรักษาคุณภาพสัญญาณบนสายทองแดงเป็นเรื่องท้าทาย - PCIe 7.0 อาจต้องใช้ระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น - PCIe 8.0 อาจต้องใช้เทคโนโลยีออปติคอลแทนสายทองแดงเพื่อรองรับความเร็วที่สูงขึ้น - ต้องติดตามว่า PCIe 7.0 จะสามารถเข้าสู่ตลาดได้ตามแผนในปี 2028-2029 หรือไม่ 🚀 อนาคตของ PCIe และการเชื่อมต่อความเร็วสูง PCI-SIG กำลังพัฒนา PCIe 8.0 ซึ่งอาจมีความเร็วถึง 1TB/s และ อาจต้องใช้เทคโนโลยีออปติคอลเพื่อรองรับการส่งข้อมูลที่เร็วขึ้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/pcie-7-0-spec-finalized-with-up-to-512gb-s-speeds-pci-sig-targets-1tb-s-for-8-0-as-exploration-phase-begins
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚀 AMD เปิดตัวแผนพัฒนา AI ครอบคลุม GPU, เครือข่าย, ซอฟต์แวร์ และสถาปัตยกรรม Rack
    AMD ได้เปิดตัว แผนพัฒนา AI ที่ครอบคลุมทุกด้านของโครงสร้างพื้นฐาน AI ตั้งแต่ GPU ไปจนถึงเครือข่ายและซอฟต์แวร์ โดยเน้น การเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลและลดต้นทุนต่อโทเค็น

    AMD เปิดตัว Instinct MI350 และ MI355X ซึ่งเป็น GPU รุ่นใหม่ที่ใช้กระบวนการผลิต 3nm และมีหน่วยความจำ HBM3E สูงสุด 288MB

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Instinct MI350 และ MI355X มีประสิทธิภาพ inferencing เร็วขึ้นกว่าเดิม 3 เท่า
    - ต้นทุนต่อโทเค็นถูกลงถึง 40% เมื่อเทียบกับ Nvidia B200
    - AMD เตรียมเปิดตัว MI400 ในปี 2026 และ MI500 ในปี 2027
    - MI400 จะมีหน่วยความจำ HBM4 สูงสุด 432GB และแบนด์วิดท์ 19.6TB/s
    - AMD เปิดตัวเครือข่าย AI NIC รุ่นใหม่ Pollara 400 ที่ใช้มาตรฐาน Ultra Ethernet

    🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และ HPC
    AMD กำลังแข่งขันกับ Nvidia ในทุกด้านของโครงสร้างพื้นฐาน AI โดย พัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - AMD ต้องพิสูจน์ว่า GPU รุ่นใหม่สามารถแข่งขันกับ Nvidia Blackwell ได้จริง
    - Ultra Accelerator Link (UAL) อาจต้องใช้เวลาสักระยะก่อนที่อุตสาหกรรมจะนำไปใช้แทน NVLink
    - ต้องติดตามว่า AMD จะสามารถดึงดูดนักพัฒนาให้ใช้ ROCm แทน CUDA ได้หรือไม่
    - การแข่งขันระหว่าง AMD และ Nvidia อาจส่งผลต่อราคาของโครงสร้างพื้นฐาน AI ในอนาคต

    🚀 อนาคตของ AI และโครงสร้างพื้นฐาน
    AMD กำลังขยายขอบเขตของเทคโนโลยี AI โดยเน้น การพัฒนา GPU, เครือข่าย, ซอฟต์แวร์ และสถาปัตยกรรม Rack เพื่อให้สามารถแข่งขันกับ Nvidia ได้อย่างเต็มที่

    https://www.techspot.com/news/108297-amd-new-ai-roadmap-spans-gpus-networking-software.html
    🚀 AMD เปิดตัวแผนพัฒนา AI ครอบคลุม GPU, เครือข่าย, ซอฟต์แวร์ และสถาปัตยกรรม Rack AMD ได้เปิดตัว แผนพัฒนา AI ที่ครอบคลุมทุกด้านของโครงสร้างพื้นฐาน AI ตั้งแต่ GPU ไปจนถึงเครือข่ายและซอฟต์แวร์ โดยเน้น การเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลและลดต้นทุนต่อโทเค็น AMD เปิดตัว Instinct MI350 และ MI355X ซึ่งเป็น GPU รุ่นใหม่ที่ใช้กระบวนการผลิต 3nm และมีหน่วยความจำ HBM3E สูงสุด 288MB ✅ ข้อมูลจากข่าว - Instinct MI350 และ MI355X มีประสิทธิภาพ inferencing เร็วขึ้นกว่าเดิม 3 เท่า - ต้นทุนต่อโทเค็นถูกลงถึง 40% เมื่อเทียบกับ Nvidia B200 - AMD เตรียมเปิดตัว MI400 ในปี 2026 และ MI500 ในปี 2027 - MI400 จะมีหน่วยความจำ HBM4 สูงสุด 432GB และแบนด์วิดท์ 19.6TB/s - AMD เปิดตัวเครือข่าย AI NIC รุ่นใหม่ Pollara 400 ที่ใช้มาตรฐาน Ultra Ethernet 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และ HPC AMD กำลังแข่งขันกับ Nvidia ในทุกด้านของโครงสร้างพื้นฐาน AI โดย พัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - AMD ต้องพิสูจน์ว่า GPU รุ่นใหม่สามารถแข่งขันกับ Nvidia Blackwell ได้จริง - Ultra Accelerator Link (UAL) อาจต้องใช้เวลาสักระยะก่อนที่อุตสาหกรรมจะนำไปใช้แทน NVLink - ต้องติดตามว่า AMD จะสามารถดึงดูดนักพัฒนาให้ใช้ ROCm แทน CUDA ได้หรือไม่ - การแข่งขันระหว่าง AMD และ Nvidia อาจส่งผลต่อราคาของโครงสร้างพื้นฐาน AI ในอนาคต 🚀 อนาคตของ AI และโครงสร้างพื้นฐาน AMD กำลังขยายขอบเขตของเทคโนโลยี AI โดยเน้น การพัฒนา GPU, เครือข่าย, ซอฟต์แวร์ และสถาปัตยกรรม Rack เพื่อให้สามารถแข่งขันกับ Nvidia ได้อย่างเต็มที่ https://www.techspot.com/news/108297-amd-new-ai-roadmap-spans-gpus-networking-software.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AMD's new AI roadmap spans GPUs, networking, software, and rack architectures
    That's the situation AMD found itself in as it entered its latest Advancing AI event. But rather than letting these potential roadblocks deter them, AMD made it...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🧠 AI ยังไม่สามารถใช้เหตุผลได้อย่างแท้จริง
    แม้ว่าหลายบริษัทจะอ้างว่า AI สามารถใช้เหตุผลได้ แต่ งานวิจัยล่าสุดจาก Apple และ ETH Zürich พบว่า AI ล้มเหลวในการแก้ปัญหาตรรกะที่ซับซ้อน โดยเฉพาะ ปริศนา Tower of Hanoi และโจทย์คณิตศาสตร์ระดับโอลิมปิก

    นักวิจัย ทดสอบ AI หลายรุ่น โดยให้ แก้ปริศนา Tower of Hanoi และอธิบายขั้นตอน พบว่า AI สามารถแก้โจทย์ง่าย ๆ ได้ แต่เมื่อจำนวนดิสก์เพิ่มขึ้น AI กลับทำผิดพลาดและให้คำตอบที่ขัดแย้งกันเอง

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Apple และ ETH Zürich ทดสอบ AI กับปริศนา Tower of Hanoi และโจทย์คณิตศาสตร์ระดับโอลิมปิก
    - AI สามารถแก้โจทย์ง่าย ๆ ได้ แต่ล้มเหลวเมื่อความซับซ้อนเพิ่มขึ้น
    - Google Gemini 2.5 Pro ทำคะแนนได้ 24% จากการให้คำตอบบางส่วน แต่ไม่มี AI ตัวใดแก้โจทย์ได้สมบูรณ์
    - OpenAI o3-mini ทำคะแนนได้เพียง 2% และมักข้ามขั้นตอนหรือให้คำตอบที่ขัดแย้งกันเอง
    - นักวิจัยพบว่า AI ไม่ได้ใช้เหตุผลจริง ๆ แต่เพียงจับคู่รูปแบบข้อมูลที่เคยเห็นมาก่อน

    🔥 ผลกระทบต่อการพัฒนา AI
    แม้ว่าบริษัทเทคโนโลยี จะโฆษณาว่า AI สามารถใช้เหตุผลได้ แต่ งานวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นว่า AI ยังไม่สามารถคิดอย่างเป็นระบบได้จริง

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - AI อาจให้คำตอบที่ดูน่าเชื่อถือ แต่ไม่ได้มีตรรกะที่ถูกต้องเสมอไป
    - AI ที่ใช้ในงานที่ต้องการเหตุผล เช่น การแพทย์และกฎหมาย อาจต้องมีระบบตรวจสอบเพิ่มเติม
    - ต้องติดตามว่าบริษัทเทคโนโลยีจะพัฒนา AI ให้มีความสามารถด้านตรรกะที่ดีขึ้นได้หรือไม่
    - นักวิจัยเสนอให้ใช้ AI ร่วมกับระบบตรรกะเชิงสัญลักษณ์เพื่อเพิ่มความแม่นยำ

    🚀 อนาคตของ AI และตรรกะ
    แม้ว่า AI จะยังไม่สามารถใช้เหตุผลได้อย่างแท้จริง แต่ นักวิจัยกำลังพัฒนาแนวทางใหม่ เช่น การรวม AI กับตรรกะเชิงสัญลักษณ์ เพื่อให้ AI สามารถให้คำตอบที่ถูกต้องมากขึ้น

    https://www.techspot.com/news/108294-ai-flunks-logic-test-multiple-studies-reveal-illusion.html
    🧠 AI ยังไม่สามารถใช้เหตุผลได้อย่างแท้จริง แม้ว่าหลายบริษัทจะอ้างว่า AI สามารถใช้เหตุผลได้ แต่ งานวิจัยล่าสุดจาก Apple และ ETH Zürich พบว่า AI ล้มเหลวในการแก้ปัญหาตรรกะที่ซับซ้อน โดยเฉพาะ ปริศนา Tower of Hanoi และโจทย์คณิตศาสตร์ระดับโอลิมปิก นักวิจัย ทดสอบ AI หลายรุ่น โดยให้ แก้ปริศนา Tower of Hanoi และอธิบายขั้นตอน พบว่า AI สามารถแก้โจทย์ง่าย ๆ ได้ แต่เมื่อจำนวนดิสก์เพิ่มขึ้น AI กลับทำผิดพลาดและให้คำตอบที่ขัดแย้งกันเอง ✅ ข้อมูลจากข่าว - Apple และ ETH Zürich ทดสอบ AI กับปริศนา Tower of Hanoi และโจทย์คณิตศาสตร์ระดับโอลิมปิก - AI สามารถแก้โจทย์ง่าย ๆ ได้ แต่ล้มเหลวเมื่อความซับซ้อนเพิ่มขึ้น - Google Gemini 2.5 Pro ทำคะแนนได้ 24% จากการให้คำตอบบางส่วน แต่ไม่มี AI ตัวใดแก้โจทย์ได้สมบูรณ์ - OpenAI o3-mini ทำคะแนนได้เพียง 2% และมักข้ามขั้นตอนหรือให้คำตอบที่ขัดแย้งกันเอง - นักวิจัยพบว่า AI ไม่ได้ใช้เหตุผลจริง ๆ แต่เพียงจับคู่รูปแบบข้อมูลที่เคยเห็นมาก่อน 🔥 ผลกระทบต่อการพัฒนา AI แม้ว่าบริษัทเทคโนโลยี จะโฆษณาว่า AI สามารถใช้เหตุผลได้ แต่ งานวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นว่า AI ยังไม่สามารถคิดอย่างเป็นระบบได้จริง ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - AI อาจให้คำตอบที่ดูน่าเชื่อถือ แต่ไม่ได้มีตรรกะที่ถูกต้องเสมอไป - AI ที่ใช้ในงานที่ต้องการเหตุผล เช่น การแพทย์และกฎหมาย อาจต้องมีระบบตรวจสอบเพิ่มเติม - ต้องติดตามว่าบริษัทเทคโนโลยีจะพัฒนา AI ให้มีความสามารถด้านตรรกะที่ดีขึ้นได้หรือไม่ - นักวิจัยเสนอให้ใช้ AI ร่วมกับระบบตรรกะเชิงสัญลักษณ์เพื่อเพิ่มความแม่นยำ 🚀 อนาคตของ AI และตรรกะ แม้ว่า AI จะยังไม่สามารถใช้เหตุผลได้อย่างแท้จริง แต่ นักวิจัยกำลังพัฒนาแนวทางใหม่ เช่น การรวม AI กับตรรกะเชิงสัญลักษณ์ เพื่อให้ AI สามารถให้คำตอบที่ถูกต้องมากขึ้น https://www.techspot.com/news/108294-ai-flunks-logic-test-multiple-studies-reveal-illusion.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AI flunks logic test: Multiple studies reveal illusion of reasoning
    Apple researchers have uncovered a key weakness in today's most hyped AI systems – they falter at solving puzzles that require step-by-step reasoning. In a new paper,...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🖥️ LibreOffice สนับสนุนแคมเปญช่วยผู้ใช้ย้ายจาก Windows 10 ไปใช้ Linux
    Microsoft เตรียมยุติการสนับสนุน Windows 10 ในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากต้องตัดสินใจว่าจะ อัปเกรดเป็น Windows 11 หรือมองหาทางเลือกอื่น ซึ่งแคมเปญ End of 10 กำลังช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เปลี่ยนไปใช้ Linux ได้ง่ายขึ้น

    LibreOffice เข้าร่วมสนับสนุนแคมเปญนี้ โดยเน้นให้ผู้ใช้ พิจารณาเปลี่ยนจาก Microsoft Office ไปใช้ LibreOffice ซึ่งเป็น ชุดโปรแกรมสำนักงานแบบโอเพ่นซอร์สที่ไม่มีค่าลิขสิทธิ์

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Microsoft จะยุติการสนับสนุน Windows 10 ในวันที่ 14 ตุลาคม 2025
    - End of 10 เป็นแคมเปญที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนไปใช้ Linux ได้ง่ายขึ้น
    - LibreOffice สนับสนุนแคมเปญนี้ และแนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนจาก Microsoft Office ไปใช้ LibreOffice
    - Linux มีความโปร่งใสและให้เสรีภาพแก่ผู้ใช้มากกว่า Windows
    - Microsoft กำลังผลักดันให้ผู้ใช้เข้าสู่ระบบคลาวด์และโมเดลสมัครสมาชิก

    🔥 ผลกระทบต่อผู้ใช้ Windows 10
    ผู้ใช้ที่ ไม่สามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 เนื่องจากข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ อาจต้อง พิจารณาทางเลือกอื่น เช่น Linux และ LibreOffice

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - Windows 10 ที่ไม่ได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยอาจมีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์
    - LibreOffice ยังมีปัญหาด้านความเข้ากันได้กับไฟล์ของ Microsoft Office ในบางกรณี
    - Linux อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวสำหรับผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับ Windows
    - ต้องติดตามว่า Microsoft จะมีข้อเสนอเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ Windows 10 หรือไม่

    🚀 อนาคตของ Linux และ LibreOffice
    LibreOffice กำลังผลักดันให้ผู้ใช้พิจารณาทางเลือกที่เป็นโอเพ่นซอร์ส ซึ่งอาจช่วยให้ ผู้ใช้สามารถควบคุมระบบของตนเองได้มากขึ้น

    https://www.techspot.com/news/108293-libreoffice-backs-campaign-help-users-move-windows-10.html
    🖥️ LibreOffice สนับสนุนแคมเปญช่วยผู้ใช้ย้ายจาก Windows 10 ไปใช้ Linux Microsoft เตรียมยุติการสนับสนุน Windows 10 ในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากต้องตัดสินใจว่าจะ อัปเกรดเป็น Windows 11 หรือมองหาทางเลือกอื่น ซึ่งแคมเปญ End of 10 กำลังช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เปลี่ยนไปใช้ Linux ได้ง่ายขึ้น LibreOffice เข้าร่วมสนับสนุนแคมเปญนี้ โดยเน้นให้ผู้ใช้ พิจารณาเปลี่ยนจาก Microsoft Office ไปใช้ LibreOffice ซึ่งเป็น ชุดโปรแกรมสำนักงานแบบโอเพ่นซอร์สที่ไม่มีค่าลิขสิทธิ์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Microsoft จะยุติการสนับสนุน Windows 10 ในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 - End of 10 เป็นแคมเปญที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนไปใช้ Linux ได้ง่ายขึ้น - LibreOffice สนับสนุนแคมเปญนี้ และแนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนจาก Microsoft Office ไปใช้ LibreOffice - Linux มีความโปร่งใสและให้เสรีภาพแก่ผู้ใช้มากกว่า Windows - Microsoft กำลังผลักดันให้ผู้ใช้เข้าสู่ระบบคลาวด์และโมเดลสมัครสมาชิก 🔥 ผลกระทบต่อผู้ใช้ Windows 10 ผู้ใช้ที่ ไม่สามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 เนื่องจากข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ อาจต้อง พิจารณาทางเลือกอื่น เช่น Linux และ LibreOffice ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - Windows 10 ที่ไม่ได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยอาจมีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ - LibreOffice ยังมีปัญหาด้านความเข้ากันได้กับไฟล์ของ Microsoft Office ในบางกรณี - Linux อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวสำหรับผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับ Windows - ต้องติดตามว่า Microsoft จะมีข้อเสนอเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ Windows 10 หรือไม่ 🚀 อนาคตของ Linux และ LibreOffice LibreOffice กำลังผลักดันให้ผู้ใช้พิจารณาทางเลือกที่เป็นโอเพ่นซอร์ส ซึ่งอาจช่วยให้ ผู้ใช้สามารถควบคุมระบบของตนเองได้มากขึ้น https://www.techspot.com/news/108293-libreoffice-backs-campaign-help-users-move-windows-10.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    LibreOffice backs campaign to help users move from Windows 10 to Linux – and ditch Office, too
    Microsoft plans to end support for Windows 10 security updates on October 14, 2025, even though the operating system remains the most widely used desktop platform. This...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📞 บริษัทต่าง ๆ กำลังกลับลำ ไม่แทนที่ฝ่ายบริการลูกค้าด้วย AI
    แม้ว่าหลายบริษัทจะเคยวางแผน แทนที่ฝ่ายบริการลูกค้าด้วย AI แต่ 50% ขององค์กรเหล่านั้นกำลังกลับลำ เนื่องจากพบว่า AI ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    จากการสำรวจของ Gartner ในเดือนมีนาคม 2025 พบว่า 95% ของผู้นำฝ่ายบริการลูกค้าวางแผนที่จะรักษาพนักงานมนุษย์ไว้ และ ใช้ AI เป็นเครื่องมือเสริมแทน

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - 50% ของบริษัทที่เคยวางแผนแทนที่ฝ่ายบริการลูกค้าด้วย AI กำลังกลับลำ
    - Gartner สำรวจผู้นำฝ่ายบริการลูกค้า 163 คน พบว่า 95% วางแผนรักษาพนักงานมนุษย์ไว้
    - AI ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือเสริม ไม่ใช่ตัวแทนที่สมบูรณ์ของมนุษย์
    - ลูกค้า 51% เชื่อว่ามนุษย์สามารถแก้ไขปัญหาได้ดีกว่า AI ขณะที่มีเพียง 7% ที่ไว้วางใจ AI
    - บางบริษัทใหญ่ยังคงเดินหน้าปลดพนักงานและแทนที่ด้วย AI แม้ว่าจะพบปัญหาในการดำเนินการ

    🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมบริการลูกค้า
    แม้ว่า AI จะช่วยลดต้นทุนได้ในบางกรณี แต่ ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาและบำรุงรักษา AI อาจสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - AI ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์
    - ลูกค้าหลายคนกลัวว่า AI จะทำให้พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงการช่วยเหลือจากมนุษย์ได้
    - บริษัทที่เดินหน้าใช้ AI แทนพนักงานอาจเผชิญกับปัญหาด้านความพึงพอใจของลูกค้า
    - ต้องติดตามว่าบริษัทต่าง ๆ จะปรับกลยุทธ์การใช้ AI ในบริการลูกค้าอย่างไรในอนาคต

    🚀 อนาคตของ AI ในบริการลูกค้า
    Gartner แนะนำให้บริษัทใช้ AI เป็นเครื่องมือเสริมแทนการแทนที่พนักงานทั้งหมด เพื่อให้ สามารถรักษาคุณภาพการบริการและความพึงพอใจของลูกค้าได้

    https://www.techspot.com/news/108291-companies-abandoning-plans-replace-human-customer-care-ai.html
    📞 บริษัทต่าง ๆ กำลังกลับลำ ไม่แทนที่ฝ่ายบริการลูกค้าด้วย AI แม้ว่าหลายบริษัทจะเคยวางแผน แทนที่ฝ่ายบริการลูกค้าด้วย AI แต่ 50% ขององค์กรเหล่านั้นกำลังกลับลำ เนื่องจากพบว่า AI ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการสำรวจของ Gartner ในเดือนมีนาคม 2025 พบว่า 95% ของผู้นำฝ่ายบริการลูกค้าวางแผนที่จะรักษาพนักงานมนุษย์ไว้ และ ใช้ AI เป็นเครื่องมือเสริมแทน ✅ ข้อมูลจากข่าว - 50% ของบริษัทที่เคยวางแผนแทนที่ฝ่ายบริการลูกค้าด้วย AI กำลังกลับลำ - Gartner สำรวจผู้นำฝ่ายบริการลูกค้า 163 คน พบว่า 95% วางแผนรักษาพนักงานมนุษย์ไว้ - AI ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือเสริม ไม่ใช่ตัวแทนที่สมบูรณ์ของมนุษย์ - ลูกค้า 51% เชื่อว่ามนุษย์สามารถแก้ไขปัญหาได้ดีกว่า AI ขณะที่มีเพียง 7% ที่ไว้วางใจ AI - บางบริษัทใหญ่ยังคงเดินหน้าปลดพนักงานและแทนที่ด้วย AI แม้ว่าจะพบปัญหาในการดำเนินการ 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมบริการลูกค้า แม้ว่า AI จะช่วยลดต้นทุนได้ในบางกรณี แต่ ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาและบำรุงรักษา AI อาจสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - AI ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์ - ลูกค้าหลายคนกลัวว่า AI จะทำให้พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงการช่วยเหลือจากมนุษย์ได้ - บริษัทที่เดินหน้าใช้ AI แทนพนักงานอาจเผชิญกับปัญหาด้านความพึงพอใจของลูกค้า - ต้องติดตามว่าบริษัทต่าง ๆ จะปรับกลยุทธ์การใช้ AI ในบริการลูกค้าอย่างไรในอนาคต 🚀 อนาคตของ AI ในบริการลูกค้า Gartner แนะนำให้บริษัทใช้ AI เป็นเครื่องมือเสริมแทนการแทนที่พนักงานทั้งหมด เพื่อให้ สามารถรักษาคุณภาพการบริการและความพึงพอใจของลูกค้าได้ https://www.techspot.com/news/108291-companies-abandoning-plans-replace-human-customer-care-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Half of companies planning to replace customer service with AI are reversing course
    Within a couple of years, 50 percent of the organizations that had planned to replace their customer service personnel with AI models are expected to reverse their...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤖 นักวิจัยสอนหุ่นยนต์เล่นแบดมินตันด้วย AI และ Nvidia RTX
    นักวิจัยจาก ETH Zürich ได้พัฒนา หุ่นยนต์สี่ขา ANYmal-D ให้สามารถ เล่นแบดมินตันได้โดยใช้ AI และการเรียนรู้แบบเสริมกำลัง (Reinforcement Learning) โดยใช้ Nvidia RTX 2080 Ti ในการฝึกฝน

    หุ่นยนต์ เรียนรู้การเคลื่อนไหวและการตีลูกแบดมินตันโดยไม่ต้องมีการตั้งโปรแกรมล่วงหน้า โดยใช้ Isaac Gym virtual simulator

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - นักวิจัยจาก ETH Zürich พัฒนาหุ่นยนต์ ANYmal-D ให้เล่นแบดมินตันได้
    - ใช้ AI และ Reinforcement Learning ในการฝึกฝน
    - หุ่นยนต์เรียนรู้การเคลื่อนไหวผ่าน Isaac Gym virtual simulator
    - ใช้ Nvidia RTX 2080 Ti ในการฝึกฝนกว่า 7,500 รอบ ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง
    - สามารถติดตามลูกแบดมินตันด้วยกล้องสเตอริโอในตัว และใช้โมเดลพยากรณ์เสียงรบกวนเพื่อคาดการณ์ตำแหน่งของลูกแบด

    🔥 ผลกระทบต่อการพัฒนาหุ่นยนต์
    เทคนิคนี้ ช่วยให้หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้การเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนโดยไม่ต้องตั้งโปรแกรมทีละขั้นตอน ซึ่งอาจ นำไปใช้กับงานอื่น ๆ เช่น การตรวจสอบอุตสาหกรรมและการช่วยเหลือฉุกเฉิน

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การใช้ AI ในการฝึกหุ่นยนต์ต้องใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์สูง
    - ต้องติดตามว่าหุ่นยนต์จะสามารถเล่นแบดมินตันได้ดีขึ้นเมื่อพัฒนาเพิ่มเติมหรือไม่
    - การนำ AI ไปใช้ในงานที่ต้องการความแม่นยำสูงยังคงเป็นความท้าทาย
    - ต้องรอดูว่าเทคโนโลยีนี้จะสามารถนำไปใช้กับหุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้หรือไม่

    🚀 อนาคตของหุ่นยนต์ AI
    หุ่นยนต์ที่สามารถ เรียนรู้การเคลื่อนไหวแบบเต็มตัวโดยไม่ต้องตั้งโปรแกรมทีละขั้นตอน อาจ ช่วยให้การพัฒนาหุ่นยนต์สำหรับงานอุตสาหกรรมและการช่วยเหลือฉุกเฉินมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    https://www.techspot.com/news/108279-researchers-teach-robot-play-badminton-using-nvidia-rtx.html
    🤖 นักวิจัยสอนหุ่นยนต์เล่นแบดมินตันด้วย AI และ Nvidia RTX นักวิจัยจาก ETH Zürich ได้พัฒนา หุ่นยนต์สี่ขา ANYmal-D ให้สามารถ เล่นแบดมินตันได้โดยใช้ AI และการเรียนรู้แบบเสริมกำลัง (Reinforcement Learning) โดยใช้ Nvidia RTX 2080 Ti ในการฝึกฝน หุ่นยนต์ เรียนรู้การเคลื่อนไหวและการตีลูกแบดมินตันโดยไม่ต้องมีการตั้งโปรแกรมล่วงหน้า โดยใช้ Isaac Gym virtual simulator ✅ ข้อมูลจากข่าว - นักวิจัยจาก ETH Zürich พัฒนาหุ่นยนต์ ANYmal-D ให้เล่นแบดมินตันได้ - ใช้ AI และ Reinforcement Learning ในการฝึกฝน - หุ่นยนต์เรียนรู้การเคลื่อนไหวผ่าน Isaac Gym virtual simulator - ใช้ Nvidia RTX 2080 Ti ในการฝึกฝนกว่า 7,500 รอบ ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง - สามารถติดตามลูกแบดมินตันด้วยกล้องสเตอริโอในตัว และใช้โมเดลพยากรณ์เสียงรบกวนเพื่อคาดการณ์ตำแหน่งของลูกแบด 🔥 ผลกระทบต่อการพัฒนาหุ่นยนต์ เทคนิคนี้ ช่วยให้หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้การเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนโดยไม่ต้องตั้งโปรแกรมทีละขั้นตอน ซึ่งอาจ นำไปใช้กับงานอื่น ๆ เช่น การตรวจสอบอุตสาหกรรมและการช่วยเหลือฉุกเฉิน ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การใช้ AI ในการฝึกหุ่นยนต์ต้องใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์สูง - ต้องติดตามว่าหุ่นยนต์จะสามารถเล่นแบดมินตันได้ดีขึ้นเมื่อพัฒนาเพิ่มเติมหรือไม่ - การนำ AI ไปใช้ในงานที่ต้องการความแม่นยำสูงยังคงเป็นความท้าทาย - ต้องรอดูว่าเทคโนโลยีนี้จะสามารถนำไปใช้กับหุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้หรือไม่ 🚀 อนาคตของหุ่นยนต์ AI หุ่นยนต์ที่สามารถ เรียนรู้การเคลื่อนไหวแบบเต็มตัวโดยไม่ต้องตั้งโปรแกรมทีละขั้นตอน อาจ ช่วยให้การพัฒนาหุ่นยนต์สำหรับงานอุตสาหกรรมและการช่วยเหลือฉุกเฉินมีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.techspot.com/news/108279-researchers-teach-robot-play-badminton-using-nvidia-rtx.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Researchers teach robot to play badminton using Nvidia RTX machine learning
    Scientists at ETH Zürich recently published a study and video (below) explaining how they trained a quadrupedal robot to play badminton. The research could demonstrate the usefulness...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚀 อดีตวิศวกร Intel ก่อตั้ง AheadComputing เพื่อพัฒนา CPU RISC-V ประสิทธิภาพสูง
    กลุ่มอดีตวิศวกรจาก Intel ได้ก่อตั้ง AheadComputing ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่มุ่งเน้น การออกแบบ CPU RISC-V ตั้งแต่ต้น โดยมีเป้าหมาย แก้ไขปัญหาคอขวดด้านประสิทธิภาพของ CPU ในงาน AI และ Cloud Computing

    AheadComputing ได้รับเงินทุนตั้งต้น 21.5 ล้านดอลลาร์ และ ขยายทีมจาก 4 คนเป็น 40 คนภายใน 5 เดือน โดยเน้น การพัฒนา CPU ที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้พลังงานน้อย

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - AheadComputing ก่อตั้งโดยอดีตวิศวกร Intel ที่มีประสบการณ์รวมกันเกือบ 100 ปี
    - เลือกใช้สถาปัตยกรรม RISC-V แทน x86 เพื่อรองรับงาน AI และ Cloud Computing
    - CPU RISC-V ของบริษัทออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ single-thread และ multi-core
    - เน้นการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและรองรับระบบ multi-processor
    - ได้รับเงินทุนตั้งต้น 21.5 ล้านดอลลาร์ และขยายทีมจาก 4 คนเป็น 40 คนภายใน 5 เดือน

    🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม CPU และ AI
    AheadComputing เชื่อว่า CPU RISC-V จะช่วยแก้ปัญหาคอขวดด้านประสิทธิภาพ และ สามารถแข่งขันกับ Intel และ AMD ในตลาดเซิร์ฟเวอร์และ Edge Computing

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - CPU RISC-V ยังอยู่ในช่วงพัฒนา และต้องพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพเหนือกว่าชิป x86
    - ต้องติดตามว่า AheadComputing จะสามารถดึงดูดพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อขยายตลาดได้หรือไม่
    - การแข่งขันในตลาด CPU กำลังรุนแรงขึ้น โดย Nvidia และ Qualcomm กำลังพัฒนา Arm-based CPUs
    - ต้องรอดูว่า RISC-V จะสามารถกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมได้หรือไม่

    https://www.techspot.com/news/108281-former-intel-engineers-form-aheadcomputing-break-cpu-performance.html
    🚀 อดีตวิศวกร Intel ก่อตั้ง AheadComputing เพื่อพัฒนา CPU RISC-V ประสิทธิภาพสูง กลุ่มอดีตวิศวกรจาก Intel ได้ก่อตั้ง AheadComputing ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่มุ่งเน้น การออกแบบ CPU RISC-V ตั้งแต่ต้น โดยมีเป้าหมาย แก้ไขปัญหาคอขวดด้านประสิทธิภาพของ CPU ในงาน AI และ Cloud Computing AheadComputing ได้รับเงินทุนตั้งต้น 21.5 ล้านดอลลาร์ และ ขยายทีมจาก 4 คนเป็น 40 คนภายใน 5 เดือน โดยเน้น การพัฒนา CPU ที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้พลังงานน้อย ✅ ข้อมูลจากข่าว - AheadComputing ก่อตั้งโดยอดีตวิศวกร Intel ที่มีประสบการณ์รวมกันเกือบ 100 ปี - เลือกใช้สถาปัตยกรรม RISC-V แทน x86 เพื่อรองรับงาน AI และ Cloud Computing - CPU RISC-V ของบริษัทออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ single-thread และ multi-core - เน้นการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและรองรับระบบ multi-processor - ได้รับเงินทุนตั้งต้น 21.5 ล้านดอลลาร์ และขยายทีมจาก 4 คนเป็น 40 คนภายใน 5 เดือน 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม CPU และ AI AheadComputing เชื่อว่า CPU RISC-V จะช่วยแก้ปัญหาคอขวดด้านประสิทธิภาพ และ สามารถแข่งขันกับ Intel และ AMD ในตลาดเซิร์ฟเวอร์และ Edge Computing ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - CPU RISC-V ยังอยู่ในช่วงพัฒนา และต้องพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพเหนือกว่าชิป x86 - ต้องติดตามว่า AheadComputing จะสามารถดึงดูดพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อขยายตลาดได้หรือไม่ - การแข่งขันในตลาด CPU กำลังรุนแรงขึ้น โดย Nvidia และ Qualcomm กำลังพัฒนา Arm-based CPUs - ต้องรอดูว่า RISC-V จะสามารถกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมได้หรือไม่ https://www.techspot.com/news/108281-former-intel-engineers-form-aheadcomputing-break-cpu-performance.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Former Intel engineers form AheadComputing to break CPU performance limits with RISC-V design
    Rather than building on the legacy of x86, the team is betting on RISC-V, which they believe is better suited to the demands of modern workloads, particularly...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📱 วงจรอุบาทว์ของการใช้หน้าจอในเด็กและวัยรุ่น
    การใช้หน้าจอมากเกินไป อาจทำให้เกิดปัญหาทางอารมณ์และพฤติกรรม เช่น ความวิตกกังวล, ภาวะซึมเศร้า, ความก้าวร้าว และสมาธิสั้น ซึ่งส่งผลให้ เด็กหันไปใช้หน้าจอมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้

    งานวิจัยจาก มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ได้วิเคราะห์ ข้อมูลจากกว่า 100 งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเด็กกว่า 292,000 คนทั่วโลก

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - การใช้หน้าจอมากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาทางอารมณ์และพฤติกรรม เช่น วิตกกังวลและซึมเศร้า
    - เด็กอายุ 6-10 ปีได้รับผลกระทบมากที่สุด และพบว่าเด็กชายมีแนวโน้มได้รับผลกระทบมากกว่าเด็กหญิง
    - งานวิจัยนี้วิเคราะห์ข้อมูลจากกว่า 100 งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเด็กกว่า 292,000 คนทั่วโลก
    - วิดีโอเกมมีความเสี่ยงสูงกว่าคอนเทนต์หน้าจอประเภทอื่น ๆ ในการทำให้เกิดปัญหาพฤติกรรม
    - นักวิจัยแนะนำให้แก้ไขทั้งสองด้าน—ลดเวลาหน้าจอและจัดการปัญหาทางอารมณ์ของเด็ก

    🔥 ผลกระทบของวิดีโอเกมต่อพฤติกรรมเด็ก
    แม้ว่าวิดีโอเกมบางประเภท จะมีประโยชน์ด้านการศึกษาและช่วยพัฒนาทักษะ แต่ การใช้มากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อพฤติกรรมและอารมณ์

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การลดเวลาหน้าจอเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ หากไม่แก้ไขปัญหาทางอารมณ์ของเด็ก
    - เด็กที่มีปัญหาทางอารมณ์อาจใช้วิดีโอเกมเป็นเครื่องมือในการหลีกเลี่ยงปัญหา
    - การใช้หน้าจอมากเกินไปอาจส่งผลต่อพัฒนาการทางสติปัญญาและการเรียนรู้
    - ต้องติดตามว่าผู้ปกครองและนักการศึกษาจะนำแนวทางแก้ไขนี้ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่

    🚀 แนวทางแก้ไขและการป้องกัน
    นักวิจัยแนะนำ แนวทาง 3-6-9-12 ซึ่งกำหนด ข้อจำกัดการใช้หน้าจอตามช่วงอายุของเด็ก เพื่อช่วยให้ เด็กสามารถพัฒนาทักษะทางสังคมและอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/13/how-screen-use-can-be-a-vicious-cycle-for-some-children-and-adolescents
    📱 วงจรอุบาทว์ของการใช้หน้าจอในเด็กและวัยรุ่น การใช้หน้าจอมากเกินไป อาจทำให้เกิดปัญหาทางอารมณ์และพฤติกรรม เช่น ความวิตกกังวล, ภาวะซึมเศร้า, ความก้าวร้าว และสมาธิสั้น ซึ่งส่งผลให้ เด็กหันไปใช้หน้าจอมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ งานวิจัยจาก มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ได้วิเคราะห์ ข้อมูลจากกว่า 100 งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเด็กกว่า 292,000 คนทั่วโลก ✅ ข้อมูลจากข่าว - การใช้หน้าจอมากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาทางอารมณ์และพฤติกรรม เช่น วิตกกังวลและซึมเศร้า - เด็กอายุ 6-10 ปีได้รับผลกระทบมากที่สุด และพบว่าเด็กชายมีแนวโน้มได้รับผลกระทบมากกว่าเด็กหญิง - งานวิจัยนี้วิเคราะห์ข้อมูลจากกว่า 100 งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเด็กกว่า 292,000 คนทั่วโลก - วิดีโอเกมมีความเสี่ยงสูงกว่าคอนเทนต์หน้าจอประเภทอื่น ๆ ในการทำให้เกิดปัญหาพฤติกรรม - นักวิจัยแนะนำให้แก้ไขทั้งสองด้าน—ลดเวลาหน้าจอและจัดการปัญหาทางอารมณ์ของเด็ก 🔥 ผลกระทบของวิดีโอเกมต่อพฤติกรรมเด็ก แม้ว่าวิดีโอเกมบางประเภท จะมีประโยชน์ด้านการศึกษาและช่วยพัฒนาทักษะ แต่ การใช้มากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อพฤติกรรมและอารมณ์ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การลดเวลาหน้าจอเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ หากไม่แก้ไขปัญหาทางอารมณ์ของเด็ก - เด็กที่มีปัญหาทางอารมณ์อาจใช้วิดีโอเกมเป็นเครื่องมือในการหลีกเลี่ยงปัญหา - การใช้หน้าจอมากเกินไปอาจส่งผลต่อพัฒนาการทางสติปัญญาและการเรียนรู้ - ต้องติดตามว่าผู้ปกครองและนักการศึกษาจะนำแนวทางแก้ไขนี้ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ 🚀 แนวทางแก้ไขและการป้องกัน นักวิจัยแนะนำ แนวทาง 3-6-9-12 ซึ่งกำหนด ข้อจำกัดการใช้หน้าจอตามช่วงอายุของเด็ก เพื่อช่วยให้ เด็กสามารถพัฒนาทักษะทางสังคมและอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/13/how-screen-use-can-be-a-vicious-cycle-for-some-children-and-adolescents
    WWW.THESTAR.COM.MY
    How screen use can be a vicious cycle for some children and adolescents
    To cope with behavioral problems linked to excessive screen use, such as aggression or anxiety, some children take refuge... in screens.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⚖️ Google ฟ้อง LATAM Airlines ในสหรัฐฯ กรณีข้อพิพาทเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ในบราซิล
    Google ได้ยื่นฟ้อง LATAM Airlines ในศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่เมืองซานโฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยต้องการให้ศาล ประกาศว่าศาลบราซิลไม่มีอำนาจบังคับให้ Google ลบวิดีโอ YouTube ในสหรัฐฯ

    LATAM Airlines พยายามใช้คำสั่งศาลบราซิลเพื่อบังคับให้ Google ลบวิดีโอทั่วโลก ซึ่ง Google มองว่า เป็นการละเมิดสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Google ฟ้อง LATAM Airlines ในศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เพื่อปกป้องสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็น
    - วิดีโอที่เป็นข้อพิพาทกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของ LATAM ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก
    - LATAM Airlines ฟ้อง Google ในบราซิลตั้งแต่ปี 2018 เพื่อให้ลบวิดีโอดังกล่าว
    - ศาลสูงสุดของบราซิลเตรียมพิจารณาว่ามีอำนาจสั่งให้ Google ลบวิดีโอทั่วโลกหรือไม่
    - Google ระบุว่าศาลของแต่ละประเทศควรมีอำนาจเฉพาะต่อเนื้อหาที่เข้าถึงได้ในประเทศนั้น ๆ เท่านั้น

    🔥 ผลกระทบต่อกฎหมายอินเทอร์เน็ตและสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็น
    กรณีนี้ สะท้อนถึงความขัดแย้งระหว่างกฎหมายของประเทศต่าง ๆ และการควบคุมเนื้อหาบนแพลตฟอร์มออนไลน์

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - หากศาลบราซิลมีอำนาจสั่งให้ลบวิดีโอทั่วโลก อาจส่งผลกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นบนอินเทอร์เน็ต
    - คดีนี้อาจสร้างแบบอย่างให้ประเทศอื่น ๆ ใช้อำนาจศาลของตนเพื่อควบคุมเนื้อหาทั่วโลก
    - ต้องติดตามว่าศาลสหรัฐฯ จะตัดสินให้ Google มีสิทธิ์ปฏิเสธคำสั่งศาลต่างประเทศหรือไม่
    - กรณีนี้อาจส่งผลต่อแนวทางการกำกับดูแลแพลตฟอร์มออนไลน์ในอนาคต

    Google พยายามปกป้องหลักการที่ว่าศาลของแต่ละประเทศควรมีอำนาจเฉพาะต่อเนื้อหาที่เข้าถึงได้ในประเทศนั้น ๆ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าคดีนี้จะส่งผลต่อแนวทางการกำกับดูแลแพลตฟอร์มออนไลน์ทั่วโลกอย่างไร

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/13/google-sues-latam-airlines-in-us-over-brazilian-youtube-video-dispute
    ⚖️ Google ฟ้อง LATAM Airlines ในสหรัฐฯ กรณีข้อพิพาทเกี่ยวกับวิดีโอ YouTube ในบราซิล Google ได้ยื่นฟ้อง LATAM Airlines ในศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่เมืองซานโฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยต้องการให้ศาล ประกาศว่าศาลบราซิลไม่มีอำนาจบังคับให้ Google ลบวิดีโอ YouTube ในสหรัฐฯ LATAM Airlines พยายามใช้คำสั่งศาลบราซิลเพื่อบังคับให้ Google ลบวิดีโอทั่วโลก ซึ่ง Google มองว่า เป็นการละเมิดสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Google ฟ้อง LATAM Airlines ในศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เพื่อปกป้องสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็น - วิดีโอที่เป็นข้อพิพาทกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของ LATAM ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก - LATAM Airlines ฟ้อง Google ในบราซิลตั้งแต่ปี 2018 เพื่อให้ลบวิดีโอดังกล่าว - ศาลสูงสุดของบราซิลเตรียมพิจารณาว่ามีอำนาจสั่งให้ Google ลบวิดีโอทั่วโลกหรือไม่ - Google ระบุว่าศาลของแต่ละประเทศควรมีอำนาจเฉพาะต่อเนื้อหาที่เข้าถึงได้ในประเทศนั้น ๆ เท่านั้น 🔥 ผลกระทบต่อกฎหมายอินเทอร์เน็ตและสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็น กรณีนี้ สะท้อนถึงความขัดแย้งระหว่างกฎหมายของประเทศต่าง ๆ และการควบคุมเนื้อหาบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - หากศาลบราซิลมีอำนาจสั่งให้ลบวิดีโอทั่วโลก อาจส่งผลกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นบนอินเทอร์เน็ต - คดีนี้อาจสร้างแบบอย่างให้ประเทศอื่น ๆ ใช้อำนาจศาลของตนเพื่อควบคุมเนื้อหาทั่วโลก - ต้องติดตามว่าศาลสหรัฐฯ จะตัดสินให้ Google มีสิทธิ์ปฏิเสธคำสั่งศาลต่างประเทศหรือไม่ - กรณีนี้อาจส่งผลต่อแนวทางการกำกับดูแลแพลตฟอร์มออนไลน์ในอนาคต Google พยายามปกป้องหลักการที่ว่าศาลของแต่ละประเทศควรมีอำนาจเฉพาะต่อเนื้อหาที่เข้าถึงได้ในประเทศนั้น ๆ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าคดีนี้จะส่งผลต่อแนวทางการกำกับดูแลแพลตฟอร์มออนไลน์ทั่วโลกอย่างไร https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/13/google-sues-latam-airlines-in-us-over-brazilian-youtube-video-dispute
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Google sues LATAM Airlines in US over Brazilian YouTube video dispute
    (Reuters) -Alphabet's Google sued Chile-based LATAM Airlines in U.S. federal court in San Jose, California on Thursday, seeking a declaration that Brazilian courts cannot force the tech giant to take down a YouTube video in the United States that accused a LATAM employee of sexually abusing a child.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📈 Coinbase เตรียมเปิดตัวบริการซื้อขาย Perpetual Futures ในสหรัฐฯ
    Coinbase กำลังเตรียมเปิดตัว บริการซื้อขาย Perpetual Futures ที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของ CFTC ซึ่งเป็น ก้าวสำคัญในการขยายตลาดอนุพันธ์คริปโตในสหรัฐฯ

    Perpetual Futures เป็น ตราสารอนุพันธ์ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถเดิมพันราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่มีวันหมดอายุ และ มีการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Coinbase เตรียมเปิดตัวบริการซื้อขาย Perpetual Futures ในสหรัฐฯ
    - บริการนี้จะสอดคล้องกับข้อกำหนดของ Commodity Futures Trading Commission (CFTC)
    - Perpetual Futures ช่วยให้นักลงทุนสามารถเดิมพันราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่มีวันหมดอายุ
    - Max Branzburg รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Coinbase ประกาศข่าวนี้ในงาน State of Crypto Summit ที่นิวยอร์ก
    - ตลาดคริปโตได้รับแรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับกฎระเบียบที่ผ่อนคลายและความต้องการความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น

    🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมคริปโต
    Coinbase เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ผลักดันให้ตลาดอนุพันธ์คริปโตเติบโตในสหรัฐฯ โดย นักลงทุนสามารถใช้ตราสารอนุพันธ์เพื่อป้องกันความเสี่ยงหรือเพิ่มผลตอบแทน

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - Perpetual Futures มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีเลเวอเรจสูงและสามารถทำให้เกิดการขาดทุนจำนวนมาก
    - ตลาดอนุพันธ์คริปโตยังคงอยู่ภายใต้การตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแล
    - ต้องติดตามว่า CFTC จะมีข้อกำหนดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อขายตราสารอนุพันธ์คริปโตหรือไม่
    - นักลงทุนควรศึกษาความเสี่ยงก่อนเข้าร่วมตลาดอนุพันธ์คริปโต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/13/coinbase-to-launch-cftc-compliant-perpetual-futures-trading-in-us
    📈 Coinbase เตรียมเปิดตัวบริการซื้อขาย Perpetual Futures ในสหรัฐฯ Coinbase กำลังเตรียมเปิดตัว บริการซื้อขาย Perpetual Futures ที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของ CFTC ซึ่งเป็น ก้าวสำคัญในการขยายตลาดอนุพันธ์คริปโตในสหรัฐฯ Perpetual Futures เป็น ตราสารอนุพันธ์ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถเดิมพันราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่มีวันหมดอายุ และ มีการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง ✅ ข้อมูลจากข่าว - Coinbase เตรียมเปิดตัวบริการซื้อขาย Perpetual Futures ในสหรัฐฯ - บริการนี้จะสอดคล้องกับข้อกำหนดของ Commodity Futures Trading Commission (CFTC) - Perpetual Futures ช่วยให้นักลงทุนสามารถเดิมพันราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่มีวันหมดอายุ - Max Branzburg รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Coinbase ประกาศข่าวนี้ในงาน State of Crypto Summit ที่นิวยอร์ก - ตลาดคริปโตได้รับแรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับกฎระเบียบที่ผ่อนคลายและความต้องการความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมคริปโต Coinbase เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ผลักดันให้ตลาดอนุพันธ์คริปโตเติบโตในสหรัฐฯ โดย นักลงทุนสามารถใช้ตราสารอนุพันธ์เพื่อป้องกันความเสี่ยงหรือเพิ่มผลตอบแทน ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - Perpetual Futures มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีเลเวอเรจสูงและสามารถทำให้เกิดการขาดทุนจำนวนมาก - ตลาดอนุพันธ์คริปโตยังคงอยู่ภายใต้การตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแล - ต้องติดตามว่า CFTC จะมีข้อกำหนดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อขายตราสารอนุพันธ์คริปโตหรือไม่ - นักลงทุนควรศึกษาความเสี่ยงก่อนเข้าร่วมตลาดอนุพันธ์คริปโต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/13/coinbase-to-launch-cftc-compliant-perpetual-futures-trading-in-us
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Coinbase to launch CFTC-compliant perpetual futures trading in US
    (Reuters) -Coinbase plans to launch perpetual futures trading in the United States, with the offering set to comply with regulatory standards outlined by the Commodity Futures Trading Commission, a top executive at the crypto exchange said on Thursday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..สิ่งที่เห็นผ่านสื่ออีลิท กับสิ่งที่เป็นจริงหลังฉาก เราไม่รู้แน่นอน.

    ..JUST IN: 🇺🇸🇰🇵 ทำเนียบขาวเผยว่าประธานาธิบดีทรัมป์เปิดใจที่จะร่วมเจรจากับผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จองอึน
    ..สิ่งที่เห็นผ่านสื่ออีลิท กับสิ่งที่เป็นจริงหลังฉาก เราไม่รู้แน่นอน. ..JUST IN: 🇺🇸🇰🇵 ทำเนียบขาวเผยว่าประธานาธิบดีทรัมป์เปิดใจที่จะร่วมเจรจากับผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จองอึน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • แซ่บต้นซอย #สมุทรปราการ #แพรกษา #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #กิน #อร่อย #อาหาร #พาชิม #eat #delicious #food #thaifood #thailand #streetfood #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    แซ่บต้นซอย #สมุทรปราการ #แพรกษา #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #กิน #อร่อย #อาหาร #พาชิม #eat #delicious #food #thaifood #thailand #streetfood #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • ..ข้อเท็จจริงจริงๆเราไม่ทราบได้.,แต่ถ้าจริงเพื่อปราบปรามเดอะแก๊งอาชญากรรมต่างๆและเดอะแก๊งค้ามนุษย์ในสหรัฐหรือทั่วอเมริกาหรือล้างบางครั้งใหญ่ในอเมริกาก็น่าฟังได้.

    ..💥 ข่าวล่าสุด: สงครามของทรัมป์ต่อการล่วงละเมิดเด็ก – ประธานาธิบดีที่ทำลายล้างอาณาจักรของพวกชอบเด็กที่พวกเขาสาบานว่าจะไม่มีวันถูกแตะต้อง

    💥 คำสั่งฝ่ายบริหารของทรัมป์ได้เปิดฉากการปราบปรามการล่วงละเมิดเด็ก การค้ามนุษย์ และผู้ล่าเหยื่อออนไลน์ที่โหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ในขณะที่คนอื่นพูด เขาก็ลงมือทำ และรัฐบาลเงาก็ไม่เคยให้อภัยเขาเลย

    👉 อ่านเรื่องราวทั้งหมดได้ที่นี่: https://amg-news.com/just-in-trumps-executive-war-on-child-abuse-the-president-who-shattered-the-pedophile-empire-they-swore-would-never-be-touched/
    ..ข้อเท็จจริงจริงๆเราไม่ทราบได้.,แต่ถ้าจริงเพื่อปราบปรามเดอะแก๊งอาชญากรรมต่างๆและเดอะแก๊งค้ามนุษย์ในสหรัฐหรือทั่วอเมริกาหรือล้างบางครั้งใหญ่ในอเมริกาก็น่าฟังได้. ..💥 ข่าวล่าสุด: สงครามของทรัมป์ต่อการล่วงละเมิดเด็ก – ประธานาธิบดีที่ทำลายล้างอาณาจักรของพวกชอบเด็กที่พวกเขาสาบานว่าจะไม่มีวันถูกแตะต้อง 💥 คำสั่งฝ่ายบริหารของทรัมป์ได้เปิดฉากการปราบปรามการล่วงละเมิดเด็ก การค้ามนุษย์ และผู้ล่าเหยื่อออนไลน์ที่โหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ในขณะที่คนอื่นพูด เขาก็ลงมือทำ และรัฐบาลเงาก็ไม่เคยให้อภัยเขาเลย 👉 อ่านเรื่องราวทั้งหมดได้ที่นี่: https://amg-news.com/just-in-trumps-executive-war-on-child-abuse-the-president-who-shattered-the-pedophile-empire-they-swore-would-never-be-touched/
    AMG-NEWS.COM
    JUST IN: TRUMP’S EXECUTIVE WAR ON CHILD ABUSE - THE PRESIDENT WHO SHATTERED THE PEDOPHILE EMPIRE THEY SWORE WOULD NEVER BE TOUCHED - amg-news.com - American Media Group
    Trump’s executive orders launched the most ruthless crackdown on child abuse, human trafficking, and online predators in U.S. history. While others talked, he took action — and the Deep State has never forgiven him.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียสกัดกั้นเหยื่อค้ามนุษย์อะดรีโนโครมจากเครื่องบินของอิสราเอลสู่ฮอลลีวูด

    หน่วยรบพิเศษของรัสเซียได้ปลดปล่อยเด็กที่ถูกค้ามนุษย์จำนวนมากจากเครื่องบินส่วนตัวที่จดทะเบียนในอิสราเอล ขณะที่สงครามของประธานาธิบดีปูตินกับอุตสาหกรรมอะดรีโนโครมทั่วโลกกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น
    -
    การเลือกตั้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เมื่อไม่นานนี้ส่งคลื่นความตกตะลึงไปยังเครือข่ายการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศ เนื่องจากทรัมป์เตรียมที่จะยุติสงครามในยูเครนภายในเดือนมกราคม ผู้ค้าเด็กและพ่อค้าอะดรีโนโครมจึงต้องดิ้นรนอย่างสุดชีวิตเพื่อเคลื่อนย้ายเหยื่อให้ได้มากที่สุดก่อนที่การดำเนินการของพวกเขาจะถูกปิดลง
    -
    ปูตินเข้าใจดีว่าความสิ้นหวังของพ่อค้าอะดรีโนโครมจะนำไปสู่ความประมาทและความผิดพลาด และเขากำลังใช้ช่วงเวลานี้โจมตีที่ใจกลางอุตสาหกรรม

    💫ขอขอบคุณฮีโร่ที่รักสำหรับงานและบริการอันกล้าหาญของคุณ พวกเราผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกกำลังสวดภาวนาให้คุณ! กลับบ้านอย่างปลอดภัย!

    ————————————————
    #EarthAlliance
    ⚔สงครามที่มองไม่เห็น⚔
    @DUMBSandUNDERGROUND
    การทำลายล้างเป็นหนทางเดียวเท่านั้น
    @deNAZIficationMilitaryQperationZ
    ————————————————

    https://rumble.com/v5runsh-russia-intercepts-israeli-jet-trafficking-adrenochrome-victims-to-hollywood.html
    รัสเซียสกัดกั้นเหยื่อค้ามนุษย์อะดรีโนโครมจากเครื่องบินของอิสราเอลสู่ฮอลลีวูด หน่วยรบพิเศษของรัสเซียได้ปลดปล่อยเด็กที่ถูกค้ามนุษย์จำนวนมากจากเครื่องบินส่วนตัวที่จดทะเบียนในอิสราเอล ขณะที่สงครามของประธานาธิบดีปูตินกับอุตสาหกรรมอะดรีโนโครมทั่วโลกกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น - การเลือกตั้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เมื่อไม่นานนี้ส่งคลื่นความตกตะลึงไปยังเครือข่ายการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศ เนื่องจากทรัมป์เตรียมที่จะยุติสงครามในยูเครนภายในเดือนมกราคม ผู้ค้าเด็กและพ่อค้าอะดรีโนโครมจึงต้องดิ้นรนอย่างสุดชีวิตเพื่อเคลื่อนย้ายเหยื่อให้ได้มากที่สุดก่อนที่การดำเนินการของพวกเขาจะถูกปิดลง - ปูตินเข้าใจดีว่าความสิ้นหวังของพ่อค้าอะดรีโนโครมจะนำไปสู่ความประมาทและความผิดพลาด และเขากำลังใช้ช่วงเวลานี้โจมตีที่ใจกลางอุตสาหกรรม 💫ขอขอบคุณฮีโร่ที่รักสำหรับงานและบริการอันกล้าหาญของคุณ พวกเราผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกกำลังสวดภาวนาให้คุณ! กลับบ้านอย่างปลอดภัย! ———————————————— #EarthAlliance ⚔สงครามที่มองไม่เห็น⚔ @DUMBSandUNDERGROUND การทำลายล้างเป็นหนทางเดียวเท่านั้น @deNAZIficationMilitaryQperationZ ———————————————— https://rumble.com/v5runsh-russia-intercepts-israeli-jet-trafficking-adrenochrome-victims-to-hollywood.html
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ไม่มีอะไรบังเอิญ.
    ..เรื่องอีกมุม,อ่านเพลินๆ ที่เหลือขึ้นอยู่กับคุณไตร่ตรองเอง.

    ..Underground Warfare โดย ARIEL ทาง X

    คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ทำให้ร่างกายของคนทั้งร่างระเหยเมื่อสัมผัสหรือไม่? มันมืดสนิท โดยเฉพาะถ้าคุณอยู่ในระบบถ้ำใต้ดิน คุณเรียกมันว่าอะไรได้?

    “กำแพงแห่งความเสื่อมโทรม”? หรือ “กำแพงแห่งการระเหยที่อันตราย”? หรืออาจเรียกอีกอย่างว่า “สนามสลายตัวทางชีวภาพ” หรือ “กำแพงแห่งการละลายโมเลกุล” ฉันไม่แน่ใจ แต่เป็นสิ่งที่กองทัพของเราต้องเผชิญ และหลายคนก็เสียชีวิตด้วยวิธีนี้

    คุณลองนึกภาพดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากไม่รู้ว่ากำแพงเหล่านี้อยู่ที่ไหนในระบบถ้ำหรืออุโมงค์ที่มืดสนิท ลองนึกภาพว่าไม่เพียงแต่ต้องเผชิญกับภัยคุกคามนี้เท่านั้น แต่ยังต้องจัดการกับสิ่งที่อาจไร้มนุษยธรรมซึ่งหากินเวลากลางคืนและมองเห็นได้อย่างชัดเจนในความมืดด้วย?

    คุณรู้ไหมว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการกำจัดพวกโง่ๆ เหล่านี้และทำแผนที่พวกมัน? หลายทศวรรษที่ผ่านมา พวกเราหลายคนไม่อยากเห็นโลกนี้ในแบบที่มันเป็นจริงๆ คุณต้องเข้าใจว่าสงครามใต้ดินนั้นร้ายแรงกว่าสิ่งที่คุกคามบนพื้นผิวมาก

    การเผชิญหน้าระหว่าง Deep Springs และ Nevada Test Site อาจเป็นเรื่องใหญ่และวิกฤตที่สุด แผนที่ความผิดปกติของแรงโน้มถ่วงยังชี้ให้เห็นถึงการมีอยู่ของถ้ำขนาดใหญ่ใต้พื้นที่ดังกล่าวอีกด้วย ตัวแทน "YF" ให้พิกัดต่อไปนี้เป็นตำแหน่งของสิ่งอำนวยความสะดวกการขยายตัวของ Deep Springs โดยส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใกล้ฐานภูเขาซึ่งมีประตูทางเข้าไปยังสิ่งอำนวยความสะดวกใต้ดิน: N 37 22 30 - E 117 58 0; N 38 21 0 - E 115 35 0; N 35 39 0 - E 114 51 0; และ Yucca Lake: N 37 0 30 - E 116 7 0

    ผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ "ไดแอน" อ้างว่าเธอเคยเผชิญหน้ากับมนุษย์ต่างดาวหลายครั้งตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก ระหว่างการเผชิญหน้าครั้งหนึ่ง เธอถูกส่งตัวผ่านลิฟต์แม่เหล็กไปยังสถานที่ร่วมระหว่างมนุษย์ต่างดาวและทหารใต้ศูนย์ทดสอบอาวุธกองทัพเรือทะเลสาบจีน ซึ่งเธอสังเกตเห็นมนุษย์และสัตว์จำนวนมากในกรงที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม นอกจากนี้ยังมีสถานที่ใต้ดินขนาดใหญ่ที่อาจอยู่ใต้ยอดเขา Argus และ/หรือ Southeast Peaks ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ Trona ในเขตอนุรักษ์ทะเลสาบจีน

    ตอนนี้คุณทุกคนควรทราบข้อเท็จจริงนี้แล้วเพราะฉันได้แสดงร่างกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรที่เสนอในปี 2021 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร Christopher Smith เพื่อหยุดการทดลองลูกผสมระหว่างมนุษย์และสัตว์ สิ่งนี้ควรบอกทุกคนที่อ่านสิ่งนี้ว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นตั้งแต่ทศวรรษ 1970 ฉันได้อธิบายว่าทั้งหมดนี้ทำอย่างไร

    นี่คือเหตุผลหนึ่งที่โดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่าเรากำลังเผชิญกับ "เครือข่ายค้าประเวณีโบราณ" เพื่อนๆ หากคุณรู้ว่ากองทัพของเรากำลังเผชิญกับอะไรอยู่ด้านล่างเราหลายไมล์ คุณคงจะให้อภัยได้มากขึ้นเล็กน้อยในการคาดหวังว่าการดำเนินการนี้จะดำเนินต่อไปโดยไม่บ่นว่าทำไมจึงใช้เวลานานมาก

    นี่เป็นองค์ประกอบอื่นนอกเหนือจากสิ่งที่เราเห็นบนพื้นผิวในแง่ขององค์ประกอบทางการเมือง เพราะเมื่อพวกเขาพบผู้คนที่ต้องการการช่วยเหลือ พวกเขาต้องเผชิญกับความเป็นไปได้ที่พวกเขากำลังพาไวรัสร้ายแรงมาด้วย หากเป็นเช่นนั้น พวกเขาจำเป็นต้องล็อกดาวน์ เพราะมีแนวโน้มสูงมากที่กองทัพของเราเองจะตกเป็นเหยื่อของอันตรายนี้ หากเปิดห้องแล็บชีวภาพที่มีระดับการปนเปื้อนสูง ซึ่งไม่สามารถกลับขึ้นมาบนพื้นผิวได้

    โรคต่างๆ ที่นั่นจะทำให้เกิดโรคระบาดทั่วโลกอย่างแท้จริง ทำไมน่ะหรือ? เพราะนักวิทยาศาสตร์ด้านมืดกำลังเล่นกับสารเคมีที่ไม่ได้มาจากโลกใบนี้ด้วยซ้ำ เป็นสิ่งที่อันตรายยิ่งกว่าสิ่งใดๆ ที่เราถือว่าอันตรายอยู่แล้ว

    ~T แก้ไข: คิดถึงแผ่นดินไหว คิดถึงน้ำท่วม คิดถึงอาวุธไมโครเวฟ

    ฉันบอกคุณแล้วว่าสงครามนี้จะดำเนินต่อไปอีกนานหลังจากที่ทรัมป์กลับมา แต่แล้วโลกก็จะรู้ อาเรียล

    ขออธิษฐานให้กองกำลังพันธมิตรโลกและกาแล็กซีของเรา

    แกะที่ไม่รู้เรื่องราวกำลังเผชิญกับปัญหาที่ไร้ค่าของตนเอง..

    ------------------------------------
    ⚔สงครามที่มองไม่เห็น⚔ ใน
    @DUMBSandUNDERGROUND

    สงครามที่มองไม่เห็น - กวาดล้างใต้ดินและช่วยเหลือเด็กและผู้ใหญ่

    https://rumble.com/v2ul25y-the-invisble-war-cleanout-the-underground-and-rescuing-children-and-adults.html
    ..ไม่มีอะไรบังเอิญ. ..เรื่องอีกมุม,อ่านเพลินๆ ที่เหลือขึ้นอยู่กับคุณไตร่ตรองเอง. ..Underground Warfare โดย ARIEL ทาง X คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ทำให้ร่างกายของคนทั้งร่างระเหยเมื่อสัมผัสหรือไม่? มันมืดสนิท โดยเฉพาะถ้าคุณอยู่ในระบบถ้ำใต้ดิน คุณเรียกมันว่าอะไรได้? “กำแพงแห่งความเสื่อมโทรม”? หรือ “กำแพงแห่งการระเหยที่อันตราย”? หรืออาจเรียกอีกอย่างว่า “สนามสลายตัวทางชีวภาพ” หรือ “กำแพงแห่งการละลายโมเลกุล” ฉันไม่แน่ใจ แต่เป็นสิ่งที่กองทัพของเราต้องเผชิญ และหลายคนก็เสียชีวิตด้วยวิธีนี้ คุณลองนึกภาพดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากไม่รู้ว่ากำแพงเหล่านี้อยู่ที่ไหนในระบบถ้ำหรืออุโมงค์ที่มืดสนิท ลองนึกภาพว่าไม่เพียงแต่ต้องเผชิญกับภัยคุกคามนี้เท่านั้น แต่ยังต้องจัดการกับสิ่งที่อาจไร้มนุษยธรรมซึ่งหากินเวลากลางคืนและมองเห็นได้อย่างชัดเจนในความมืดด้วย? คุณรู้ไหมว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการกำจัดพวกโง่ๆ เหล่านี้และทำแผนที่พวกมัน? หลายทศวรรษที่ผ่านมา พวกเราหลายคนไม่อยากเห็นโลกนี้ในแบบที่มันเป็นจริงๆ คุณต้องเข้าใจว่าสงครามใต้ดินนั้นร้ายแรงกว่าสิ่งที่คุกคามบนพื้นผิวมาก การเผชิญหน้าระหว่าง Deep Springs และ Nevada Test Site อาจเป็นเรื่องใหญ่และวิกฤตที่สุด แผนที่ความผิดปกติของแรงโน้มถ่วงยังชี้ให้เห็นถึงการมีอยู่ของถ้ำขนาดใหญ่ใต้พื้นที่ดังกล่าวอีกด้วย ตัวแทน "YF" ให้พิกัดต่อไปนี้เป็นตำแหน่งของสิ่งอำนวยความสะดวกการขยายตัวของ Deep Springs โดยส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใกล้ฐานภูเขาซึ่งมีประตูทางเข้าไปยังสิ่งอำนวยความสะดวกใต้ดิน: N 37 22 30 - E 117 58 0; N 38 21 0 - E 115 35 0; N 35 39 0 - E 114 51 0; และ Yucca Lake: N 37 0 30 - E 116 7 0 ผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ "ไดแอน" อ้างว่าเธอเคยเผชิญหน้ากับมนุษย์ต่างดาวหลายครั้งตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก ระหว่างการเผชิญหน้าครั้งหนึ่ง เธอถูกส่งตัวผ่านลิฟต์แม่เหล็กไปยังสถานที่ร่วมระหว่างมนุษย์ต่างดาวและทหารใต้ศูนย์ทดสอบอาวุธกองทัพเรือทะเลสาบจีน ซึ่งเธอสังเกตเห็นมนุษย์และสัตว์จำนวนมากในกรงที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม นอกจากนี้ยังมีสถานที่ใต้ดินขนาดใหญ่ที่อาจอยู่ใต้ยอดเขา Argus และ/หรือ Southeast Peaks ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ Trona ในเขตอนุรักษ์ทะเลสาบจีน ตอนนี้คุณทุกคนควรทราบข้อเท็จจริงนี้แล้วเพราะฉันได้แสดงร่างกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรที่เสนอในปี 2021 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร Christopher Smith เพื่อหยุดการทดลองลูกผสมระหว่างมนุษย์และสัตว์ สิ่งนี้ควรบอกทุกคนที่อ่านสิ่งนี้ว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นตั้งแต่ทศวรรษ 1970 ฉันได้อธิบายว่าทั้งหมดนี้ทำอย่างไร นี่คือเหตุผลหนึ่งที่โดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่าเรากำลังเผชิญกับ "เครือข่ายค้าประเวณีโบราณ" เพื่อนๆ หากคุณรู้ว่ากองทัพของเรากำลังเผชิญกับอะไรอยู่ด้านล่างเราหลายไมล์ คุณคงจะให้อภัยได้มากขึ้นเล็กน้อยในการคาดหวังว่าการดำเนินการนี้จะดำเนินต่อไปโดยไม่บ่นว่าทำไมจึงใช้เวลานานมาก นี่เป็นองค์ประกอบอื่นนอกเหนือจากสิ่งที่เราเห็นบนพื้นผิวในแง่ขององค์ประกอบทางการเมือง เพราะเมื่อพวกเขาพบผู้คนที่ต้องการการช่วยเหลือ พวกเขาต้องเผชิญกับความเป็นไปได้ที่พวกเขากำลังพาไวรัสร้ายแรงมาด้วย หากเป็นเช่นนั้น พวกเขาจำเป็นต้องล็อกดาวน์ เพราะมีแนวโน้มสูงมากที่กองทัพของเราเองจะตกเป็นเหยื่อของอันตรายนี้ หากเปิดห้องแล็บชีวภาพที่มีระดับการปนเปื้อนสูง ซึ่งไม่สามารถกลับขึ้นมาบนพื้นผิวได้ โรคต่างๆ ที่นั่นจะทำให้เกิดโรคระบาดทั่วโลกอย่างแท้จริง ทำไมน่ะหรือ? เพราะนักวิทยาศาสตร์ด้านมืดกำลังเล่นกับสารเคมีที่ไม่ได้มาจากโลกใบนี้ด้วยซ้ำ เป็นสิ่งที่อันตรายยิ่งกว่าสิ่งใดๆ ที่เราถือว่าอันตรายอยู่แล้ว ~T แก้ไข: คิดถึงแผ่นดินไหว คิดถึงน้ำท่วม คิดถึงอาวุธไมโครเวฟ ฉันบอกคุณแล้วว่าสงครามนี้จะดำเนินต่อไปอีกนานหลังจากที่ทรัมป์กลับมา แต่แล้วโลกก็จะรู้ อาเรียล ขออธิษฐานให้กองกำลังพันธมิตรโลกและกาแล็กซีของเรา แกะที่ไม่รู้เรื่องราวกำลังเผชิญกับปัญหาที่ไร้ค่าของตนเอง.. ------------------------------------ ⚔สงครามที่มองไม่เห็น⚔ ใน @DUMBSandUNDERGROUND สงครามที่มองไม่เห็น - กวาดล้างใต้ดินและช่วยเหลือเด็กและผู้ใหญ่ https://rumble.com/v2ul25y-the-invisble-war-cleanout-the-underground-and-rescuing-children-and-adults.html
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔐 ช่องโหว่ Secure Boot ใน Windows อาจเปิดทางให้แฮกเกอร์ติดตั้งมัลแวร์
    Microsoft ได้แก้ไข ช่องโหว่ Secure Boot ที่ถูกค้นพบโดย Binarly ซึ่งช่วยให้แฮกเกอร์สามารถ ปิดระบบรักษาความปลอดภัยและติดตั้ง bootkit malware บนพีซีได้

    ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับ BIOS update utility ที่ลงนามด้วย Microsoft’s UEFI CA 2011 certificate ซึ่ง สามารถอ่านและแก้ไขตัวแปร NVRAM ได้โดยไม่มีการตรวจสอบ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - ช่องโหว่ Secure Boot ถูกค้นพบโดย Binarly และได้รับการแก้ไขใน Patch Tuesday เดือนมิถุนายน 2025
    - ช่องโหว่เกิดจาก BIOS update utility ที่ลงนามด้วย Microsoft’s UEFI CA 2011 certificate
    - แฮกเกอร์สามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อปิด Secure Boot และรันโมดูล UEFI ที่ไม่ได้ลงนาม
    - ช่องโหว่นี้ถูกพบในปี 2022 และถูกอัปโหลดไปยัง VirusTotal ในปี 2024 ก่อนถูกแจ้งให้ Microsoft ทราบในเดือนกุมภาพันธ์ 2025
    - Microsoft พบว่าช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อ 14 โมดูล และได้แก้ไขทั้งหมดในอัปเดตล่าสุด

    ⚠️ ผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้ใช้
    ช่องโหว่นี้ อาจทำให้มัลแวร์ฝังตัวอยู่ในระบบได้แม้จะเปลี่ยนฮาร์ดไดรฟ์ และ อาจถูกใช้ในการโจมตีระดับสูงที่ต้องการเข้าถึงระบบอย่างลึกซึ้ง

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ผู้ใช้ควรอัปเดต Windows เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันช่องโหว่นี้
    - แฮกเกอร์ที่มีสิทธิ์ admin สามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อเขียนข้อมูลลงในหน่วยความจำระหว่างกระบวนการบูต
    - ช่องโหว่นี้อาจถูกใช้ในการโจมตีที่ไม่สามารถลบออกได้ แม้จะติดตั้งระบบปฏิบัติการใหม่
    - ต้องติดตามว่ามีอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากช่องโหว่นี้หรือไม่

    🚀 อนาคตของ Secure Boot และการรักษาความปลอดภัย
    Microsoft กำลังปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยของ Secure Boot และ อาจมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของ UEFI เพื่อป้องกันช่องโหว่ในอนาคต

    https://www.techradar.com/pro/security/a-worrying-windows-secureboot-issue-could-let-hackers-install-malware-heres-what-we-know-and-whether-you-need-to-update
    🔐 ช่องโหว่ Secure Boot ใน Windows อาจเปิดทางให้แฮกเกอร์ติดตั้งมัลแวร์ Microsoft ได้แก้ไข ช่องโหว่ Secure Boot ที่ถูกค้นพบโดย Binarly ซึ่งช่วยให้แฮกเกอร์สามารถ ปิดระบบรักษาความปลอดภัยและติดตั้ง bootkit malware บนพีซีได้ ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับ BIOS update utility ที่ลงนามด้วย Microsoft’s UEFI CA 2011 certificate ซึ่ง สามารถอ่านและแก้ไขตัวแปร NVRAM ได้โดยไม่มีการตรวจสอบ ✅ ข้อมูลจากข่าว - ช่องโหว่ Secure Boot ถูกค้นพบโดย Binarly และได้รับการแก้ไขใน Patch Tuesday เดือนมิถุนายน 2025 - ช่องโหว่เกิดจาก BIOS update utility ที่ลงนามด้วย Microsoft’s UEFI CA 2011 certificate - แฮกเกอร์สามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อปิด Secure Boot และรันโมดูล UEFI ที่ไม่ได้ลงนาม - ช่องโหว่นี้ถูกพบในปี 2022 และถูกอัปโหลดไปยัง VirusTotal ในปี 2024 ก่อนถูกแจ้งให้ Microsoft ทราบในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 - Microsoft พบว่าช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อ 14 โมดูล และได้แก้ไขทั้งหมดในอัปเดตล่าสุด ⚠️ ผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ ช่องโหว่นี้ อาจทำให้มัลแวร์ฝังตัวอยู่ในระบบได้แม้จะเปลี่ยนฮาร์ดไดรฟ์ และ อาจถูกใช้ในการโจมตีระดับสูงที่ต้องการเข้าถึงระบบอย่างลึกซึ้ง ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ผู้ใช้ควรอัปเดต Windows เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันช่องโหว่นี้ - แฮกเกอร์ที่มีสิทธิ์ admin สามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อเขียนข้อมูลลงในหน่วยความจำระหว่างกระบวนการบูต - ช่องโหว่นี้อาจถูกใช้ในการโจมตีที่ไม่สามารถลบออกได้ แม้จะติดตั้งระบบปฏิบัติการใหม่ - ต้องติดตามว่ามีอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากช่องโหว่นี้หรือไม่ 🚀 อนาคตของ Secure Boot และการรักษาความปลอดภัย Microsoft กำลังปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยของ Secure Boot และ อาจมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของ UEFI เพื่อป้องกันช่องโหว่ในอนาคต https://www.techradar.com/pro/security/a-worrying-windows-secureboot-issue-could-let-hackers-install-malware-heres-what-we-know-and-whether-you-need-to-update
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔍 จีนเตรียมใช้ AI ตรวจสอบผู้ใช้ VPN และ Telegram
    จีนกำลังพัฒนา เครื่องมือ AI เพื่อตรวจสอบผู้ใช้ VPN และ Telegram โดยมีเป้าหมายเพื่อ ควบคุมการเข้าถึงข้อมูลจากต่างประเทศและลดการต่อต้านรัฐบาล

    เทคโนโลยีนี้ถูกนำเสนอใน งาน China International Exhibition on Police Equipment ซึ่งเป็น งานแสดงเทคโนโลยีตำรวจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - จีนพัฒนา AI เพื่อตรวจสอบผู้ใช้ VPN และ Telegram
    - งาน China International Exhibition on Police Equipment เป็นเวทีสำคัญในการนำเสนอเทคโนโลยีนี้
    - เครื่องมือ AI สามารถตรวจจับการใช้ VPN และระบุผู้ใช้ที่เข้าถึง Telegram ผ่านหมายเลขโทรศัพท์จีน
    - ระบบสามารถสแกนข้อความที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและฮ่องกง
    - เครื่องมือนี้รวบรวมข้อมูลจาก Telegram กว่า 30 พันล้านข้อความ และติดตาม 70 ล้านบัญชี

    ⚠️ ผลกระทบต่อความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ต
    จีนมี กฎหมายควบคุมอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวดที่สุดในโลก และการพัฒนา AI นี้ อาจทำให้การเข้าถึงข้อมูลจากต่างประเทศยากขึ้น

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ผู้ใช้ VPN ในจีนอาจเผชิญกับการตรวจสอบที่เข้มงวดขึ้น
    - Telegram อาจถูกควบคุมมากขึ้น โดยเฉพาะบัญชีที่ใช้หมายเลขโทรศัพท์จีน
    - การสแกนข้อความทางการเมืองอาจส่งผลต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
    - ต้องติดตามว่าจีนจะขยายการใช้เทคโนโลยีนี้ไปยังแพลตฟอร์มอื่น ๆ หรือไม่

    🚀 อนาคตของการควบคุมอินเทอร์เน็ตในจีน
    จีนกำลัง เพิ่มการใช้ AI ในการควบคุมอินเทอร์เน็ต ซึ่งอาจส่งผลต่อ การเข้าถึงข้อมูลและเสรีภาพทางดิจิทัลของประชาชน

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ai-to-power-chinas-policing-future-and-vpn-and-telegram-users-are-at-risk
    🔍 จีนเตรียมใช้ AI ตรวจสอบผู้ใช้ VPN และ Telegram จีนกำลังพัฒนา เครื่องมือ AI เพื่อตรวจสอบผู้ใช้ VPN และ Telegram โดยมีเป้าหมายเพื่อ ควบคุมการเข้าถึงข้อมูลจากต่างประเทศและลดการต่อต้านรัฐบาล เทคโนโลยีนี้ถูกนำเสนอใน งาน China International Exhibition on Police Equipment ซึ่งเป็น งานแสดงเทคโนโลยีตำรวจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ✅ ข้อมูลจากข่าว - จีนพัฒนา AI เพื่อตรวจสอบผู้ใช้ VPN และ Telegram - งาน China International Exhibition on Police Equipment เป็นเวทีสำคัญในการนำเสนอเทคโนโลยีนี้ - เครื่องมือ AI สามารถตรวจจับการใช้ VPN และระบุผู้ใช้ที่เข้าถึง Telegram ผ่านหมายเลขโทรศัพท์จีน - ระบบสามารถสแกนข้อความที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและฮ่องกง - เครื่องมือนี้รวบรวมข้อมูลจาก Telegram กว่า 30 พันล้านข้อความ และติดตาม 70 ล้านบัญชี ⚠️ ผลกระทบต่อความเป็นส่วนตัวและเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ต จีนมี กฎหมายควบคุมอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวดที่สุดในโลก และการพัฒนา AI นี้ อาจทำให้การเข้าถึงข้อมูลจากต่างประเทศยากขึ้น ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ผู้ใช้ VPN ในจีนอาจเผชิญกับการตรวจสอบที่เข้มงวดขึ้น - Telegram อาจถูกควบคุมมากขึ้น โดยเฉพาะบัญชีที่ใช้หมายเลขโทรศัพท์จีน - การสแกนข้อความทางการเมืองอาจส่งผลต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น - ต้องติดตามว่าจีนจะขยายการใช้เทคโนโลยีนี้ไปยังแพลตฟอร์มอื่น ๆ หรือไม่ 🚀 อนาคตของการควบคุมอินเทอร์เน็ตในจีน จีนกำลัง เพิ่มการใช้ AI ในการควบคุมอินเทอร์เน็ต ซึ่งอาจส่งผลต่อ การเข้าถึงข้อมูลและเสรีภาพทางดิจิทัลของประชาชน https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ai-to-power-chinas-policing-future-and-vpn-and-telegram-users-are-at-risk
    WWW.TECHRADAR.COM
    China police seeks to use AI to crackdown on VPN and Telegram usage
    People in China need a VPN to access most social media apps and international news sites
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts