• https://youtu.be/Y3GTMu1kK18?si=f1lPLP_l3Jl2Usu8
    https://youtu.be/Y3GTMu1kK18?si=f1lPLP_l3Jl2Usu8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 0 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง บันทึกวันฉลอง
    “บันทึกวันฉลอง”
    เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม เป็นวันฉลองประกาศอิสรภาพ ( จากการเป็นลูกกระเป๋งของอังกฤษ) ของประเทศที่ประกาศตัว เป็นผู้นำโลกหมายเลขหนึ่ง เป็นจักรวรรดิยุคใหม่ เรียกได้ว่าเป็นวันสำคัญของโลกเชียวนะ ผมจะไม่เขียนอะไรถึง ในฐานะคนใกล้ชิด ติดตามเขียนถึงเกือบทุกวัน มันจะดูใจจืดไป แต่บังเอิญยังไม่มีเวลา ช้าไปหน่อยคงไม่เป็นไร ให้คุณนายกุ้งแห้งพักให้หายเหนื่อยจากการรับแขก บรรดาเพื่อนรัก ร่วมนิสัย ร่วมสันดาน ที่คุณนายเชิญมางานฉลองก่อน ท่านใดที่ไม่ได้รับเชิญ ผมว่าน่าจะเป็นโชคดี ที่ไม่ต้องไปยืนทำหน้าปูเลี่ยนใส่กัน ส่วนมันจะเป็นการสำแดงอะไรในการเชิญ ไม่เชิญ ประเทศที่มีอารยะธรรม วัฒนธรรม สืบทอดย้อนไปได้เป็นพันปีอย่างเรา ย่อมมองออก และ รอเวลา ดำเนินการที่เหมาะสม
    ในฐานะคนใกล้ชิด ผมมองจักรวรรดิอเมริกาอย่างไร ขอถือโอกาสขยายบันทึกต่อไปนี้ เป็นการสดุดีในวันฉลอง
    ชื่อ: ตามใบเกิดใช้ชื่อว่า สหรัฐอเมริกา มี ชื่อ เล่น ว่า ไอ้กัน หรือ เมกา
นอกจากนี้ ยังมีชื่อ ที่ถูกเรียกบ่อยตามความประพฤติ ว่า Ugly America และยังมีชื่อ ที่บางคน บางพวก เรียก ด้วยความเอียน ว่า จิ๊กโก๋ปากซอย (ตามพฤติกรรมเทียบเคียงอีกเช่นกัน)
    นามแฝง: นักล่า (น่าจะมีรูปถ่ายแบบ หน้าตรง และหน้าข้างประกอบ แต่ทำไม่เป็นครับ)
    อุปนิสัยเด่น: เหมือนคนที่โตแต่ตัว แต่ไม่มีวุฒิภาวะ ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า โตแต่ตัว สมองเท่าเม็ดถัวเขียว แยกแยะดีชั่วไม่ออก เรื่องควรทำไม่ทำ เรื่องไม่ควรทำ ดันทำ ถ้ามีวุฒิภาวะ ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ สมดังที่เขาเรียกว่าพี่เบิ้ม โลกคงไม่วุ่นวายอย่างที่เป็นอยู่
อีกนิสัยที่โดดเด่นคือ เป็นมิตรเฉพาะกับผู้ที่ตนได้ประโยชน์ เมื่อหมดประโยชน์ ก็สามารถทำได้ทุกวิถีทางเพื่อให้ขาดกับมิตร รวมไปถึงการ กำจัด และ ทำลาย โดยไม่มีเหนียมอาย ถ้าเป็นบุคคล ก็เรียกว่า เป็นประเภทเพื่อนกิน เออ มันก็เป็นเพื่อนกินจริงๆแหละ กินแบบตะกรามเสียด้วย
    (เข้าใจว่า ไม่เคยอ่านหนังสือกำลังภายใน ที่โด่งดัง อยู่อีกฝั่งของโลก จึงไม่รู้จัก คำสอนที่หนังสือกำลังภายในพวกนี้ เขียนไว้เป็นอุทาหรณ์เสมอว่า บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระ คงมีพวกลูกหาบคุยให้ฟัง แต่จับความได้แค่ ท่อนหลัง คนอื่น เขาก็จำท่อนหลังได้เหมือนกันนะ)
    สันดาน: กร่าง อวดดี ชอบข่มขู่ ทั้งทางกิริยา วาจา และอาวุธ และยังมีสันดานที่ถ้าเป็นบุคคล เขาก็เรียกว่าเป็นประเภท มือถือสากปากถือศีล ตัวเองทำได้ ห้ามใครด่า แต่ถ้าคนอื่นทำบ้าง ไม่ใช่แค่ด่า มันทั้งประณาม และคว่ำบาตรเป็นการแถม ถ้ายังไม่สาแก่ใจ พร้อมที่จะยกทัพกรีฑา ไปบดขยี้
    อาณาเขตประเทศ: ขณะนี้ มีเนื้อที่ประมาณ 9.83 ล้าน ตารางกิโลเมตร กว้างใหญ่มากกกก แต่ยังใหญไม่พอ จึงมีความต้ังใจ ว่า จะครอบครองโลกใบนี้ทั้งใบให้ได้ ถ้ามีโลกมากกว่า 1 ก็คงหวังจะครองทั้งหมดด้วย นี่ก็ได้ข่าวว่า จะเปฺิดให้ตีตั๋วจองไปท่องเที่ยวดาวอังคาร และมีแผนจะไปอมดวงจันทร์ ทำตัวดั่งเป็นพระราหู ถ้าจะเจ๋งจริง ต้องอมดวงอาทิตย์ด้วยนะ ดูๆไปแล้วเหมือนเป็นคนขี้โม้ ถ้าเป็นบุคคล น่าจะเข้าข่ายดาวพุธเสีย ปากหาเรื่อง พูดจาหาความจริงได้ยาก ถึงเดี๋ยวนี้ยังมีคนไม่เช่ือเรื่องไปดวงจันทร์
เม้นท์มาถามลุงนิทาน ว่า ตกลงเมกาไปดวงจันทร์จริงหรือเปล่าคับ เล่นเอาลุงนิทาน อึ้งไป ตอบไม่ได้เหมือนกันหลานเอ๋ย
    พลเมือง: ของแท้ดั้งเดิมเรียกว่า อินเดียนแดง แต่พวกที่มาไล่ล่าฆ่า อินเดียนแดง และแย่งถิ่นที่อยู่เขาไปและเรียกตัวเองว่าคนอเมริกัน นั้น มีสาระพัดสายพันธ์ และสาระพัดสีผิว แต่ก็มีคนพยายามที่จะคัดสายพันธ์ใหม่ เอาสีเข้มๆออกไป สงสัยไม่ถูกโฉลก ให้เหลือแต่ผิวสีขาว และผมทอง แต่เท่าที่สังเกตดู แผนนี้ไม่น่าสำเร็จ แต่ไอ้ชั่วจอมโหดยังไม่ล้มเลิกแผน ใช้ทั้งวิธีคุม วิธีตอน ทั้งอาหาร ทั้งยา และเขื้อโรคเหลืออย่างเดียว อย่าให้พูดต่อเลย เสียวน่ะ
    ผู้นำประเทศ: เรียกว่า ประธานาธิบดี มาจากการเลือกต้ัง ที่ไม่จำกัดอาชีวะ
ดังนั้น ผู้นำประเทศ จึงมีต้ังแต่ นักคิด นักรบ นักรัก นักเลง นักแสดง คนขายของ ขายถั่ว ขายน้ำมัน เป็นต้น แต่คนปัจจุบัน ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร แม้แต่สื่อนอก พวกกันเองยังด่าขรม จะว่าเป็นนักพูด ก็ไม่เชิงเพราะพูดจา ไม่เอาเหนียง ซ้ำชาก แถมพักหลังนี่ เลอะเทอะชอบกล ไม่อยากวิจารณ์มาก เอาว่า คงกำลังดวงตก
    ระบอบการปกครอง: อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย แต่มีข้อมูลมากมาย บอกว่า ไม่จริงหรอก
ประชาธิปไตยบ้าบออะไร มันเป็นเป็นเผด็จการทุนนิยมต่างหาก ซึ่งกำกับ สับโขก ดูแลโดยนายทุนข้ามชาติที่เป็นเจ้าของโรงพิมพ์แบงค์ หลายโรง
    พรรคการเมือง: มี 2 พรรคผูกขาด แต่ พรรคไหนชนะ ก็ไม่มีความหมาย เพราะการเลือกต้ัง มีเพื่อเป็นการฝึกพูด ฝึกหาเสียง ฝึกประท้วง สร้างการจ้างงาน กระจายรายได้ แถมให้สื่อยักษ์ มีงานทำ เพราะ เจ้าของโรงพิมพ์แบงค์ เป็นเจ้าของสื่อ และ เป็นเจ้าของนักการเมือง ทั้ง 2 พรรค ที่สำคัญ เป็นการทดสอบ การโฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของระบอบการปกครอง
    สินค้าออกสำคัญ บัญชี 1: ทุนนิยมเสรี ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน
(หมายเหตุ: สินค้าส่งออกบัญชีนี้ น่าจะเป็นของปลอมเกือบทั้งหมด เพราะ บรรดาผู้นำเข้าสินค้า ไม่ว่าจะสมัครใจ เพราะเคลิ้มตามโฆษณาชวนเชื่อ หรือถูกบังคับให้นำเข้าไปใช้ ก็ตาม แต่ปรากฏผล ไม่น่าพอใจ เหมือนกัน คือ ฉ ห กันถ้วนหน้า แต่ไม่รู้จะไปร้องเรียนกับใคร ได้แต่ก้มหน้ามองหัวแม่เท้าทุกวัน ที่แย่ไปกว่านั้น คือ พวกที่ ฉ ห มีกว่าครึ่งที่ยังไม่รู้ตัวว่า ฉ ห เพราะอะไร โถ โถ)
    สินค้าส่งออกสำคัญ บัญชี 2: แนวทางการศึกษา และ ความคิดทางวิชาการ
(หมายเหตุ: สินค้่าส่งออกบัญชีนี้ มีส่วนสัมพันธ์กับบัญชี 1 เมื่อใดที่ การส่งออกบัญชีนี้ลดลง หรือไม่ได้ผล การส่งออกตามบัญชี 1 จะลดลง ตามไปด้วย แต่คงจะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นสินค้า ที่ส่งออกมาเป็นเวลานาน ฝังรากลงลึก และมีผู้คนหลายประเภท ติดกับ นอนสบาย พุงปลิ้น อยู่ในคอก มันคงฉุดให้ลุกขึ้นยืน แล้วเดินออกจากคอกยากหน่อย แต่ไม่มีอะไรคงทนถาวรตลอดกาล เป็นหลักสัจธรรม คอยดูกันไป)
    สินค้าส่งออกสำคัญ บัญชี 3: วัฒนธรรมอเมริกา ผ่าน การบันเทิง และสื่อทุกประเภท
(หมายเหตุ: สินค้าส่งออกบัญชีนี้ มีผู้สนใจมาก แม้จะเน่าเละแค่ไหน แต่ผู้ใช้เสพติดกันมาก ถือเป็นความสำเร็จ แท้จริงของการส่งออก หนังหลายเรื่องสนุกดีครับ ลุงนิทานก็ชอบดู โกหกได้เก่งจัง แต่ให้เลิกดูก็ไม่ถึงกับลงแเดง)
    สินค้านำเข้าสำคัญ: หมายถึงสินค้า ที่เป็นที่ต้องการอย่างที่สุด โดยการเป็นเจ้าของ หรือครอบครอง ไม่ว่าโดยวิธีการใด
อันดับ 1 คือ พลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญ
อันดับ 2 คือ พลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญ
อันดับ 3 คือ พลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญ
    นโยบายต่างประเทศ: ดู ภาพ ประกอบ us foreign policy flow chart
    มิตรประเทศ: ประเทศที่มีพลังงาน และ แร่ธาตุ (หลอกล่อให้คบ แล้ว ขะโมยของเขาได้)
    ประเทศที่ไม่เป็นมิตร: ประเทศที่มีพลังงาน และแร่ธาตุ (เขาไม่คบด้วย และยังขะโมยของเขาไม่ได้)
    ประเทศลูกพี่: อังกฤษ (ถึงจะประกาศอิสรภาพต้ังหลายร้อยปี จนจัดงานฉลองหลอกตัวเอง แต่อิสระ ไม่จริงนี่หว่า แน่จริงตัดขาดให้ดูหน่อย แล้วค่อยทำกร่าง)
    ประเทศที่ถือเป็นก๊วน: อังกฤษ ฝรั่งเศส ( ผลัดกันเล่น ผลัดกันกิน มันไม่ตัดขาดกันจริงหรอก ดูไปก็แล้วกัน)
    ประเทศลูกน้อง: ทั้งโลก ยกเว้น กลุ่ม BRICS และพวก และ 2 ประเภทข้างต้น
    ประเทศที่ไม่เป็นมิตรอย่างถาวร : เกาหลีเหนือ ( เข้าใจว่าเหตุผลสำคัญ คือ ประธานาธิบดีอเมริกาคนปัจจุบัน หน้าไม่รับ กับผมทรงบังคับของเกาหลีเหนือ)
    เครื่องมือหากินที่ขาดไม่ได้ และควบคุมได้ บัญชี 1: UN, World Bank, IMF, NATO
    เครื่องมือหากินที่ขาดไม่ได้ และควบคุมได้ บัญชี 2: หน่วยงาน ประเภทสถาบัน มูลนิธิ องค์กรไม่ค้ากำไร (NGO) ที่ให้ทุนการศึกษาทุกระดับ การวิจัย การสนับสนุนกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน (หน่วยงานพวกนี้ มีความสำคัญมาก เป็นเฟืองสำคัญ ที่ทำให้กลไกเกือบทุกอย่าง ของอเมริกา เดิน โดยแทบจะไม่มีสิ่งใดขวางกั้น เพราะ ไม่รู้ว่าองค์กรเหล่านี้ คือตัวเฟืองสำคัญ และเป็นหน่วยงานสังกัด ฝ่ายความมั่นคง หรือข่าวกรอง พูดง่ายๆ ว่า เป็น พวก CIA ปลอมตัวนั่นแหละ)
    เครื่องมือหากินที่สำคัญ ยังควบคุมไม่ได้หมด แต่พยายามอยู่: EU ( เป็นรายการต้มตุ๋น ลวงโลกของจริง ทั้งต้มกันเอง และ ต้มชาวโลก)
    ผู้แทนประเทศ: ทูต ผู้แทนการค้า นักธุรกิจ ครู อาจารย์ นักวิชาการ นักเขียน นักสอนศาสนา นักท่องเที่ยว สื่อ โดยเฉพาะ พวกที่แฝงตัวคลุกอยู่กับคนท้องถิ่น ตัวดีนักทำได้เนียนมาก พวกนี้เรียกว่า มาปฏิบัติภาระกิจ ( พูดง่ายๆ ว่า เป็นพวก CIA ปลอมตัว อีกเข่นกัน วุ้ย ทำไมมันมากันแยะนัก ไหนว่า แค่อยากได้ตั้กกะแตน ทำไมต้องถึงกับขี่ช้างมา)
    คุณสมบัติของผู้แทนประเทศ: ไม่ใช้วิจารณญาณ ไม่มีมารยาท มีความสามารถในการหาข่าวเชิงลึก มีความรู้และสามารถเรื่องอาวุธและการใช้ ถนัดในการแปลงสาสน์ และใช้กลวิธีการเสี้ยม มากกว่าวิธีทางการทูต การค้า การสอน การเขียน ฯลฯ แล้วแต่กรณี
    หน่วยงานนอกประเทศ ที่ทำหน้าที่สำคัญ: นอกเหนือจาก องค์กรเปิดเผย เช่นสถานทูต หน่วยงานทางทหาร หน่วยงานให้ความช่วยเหลือ เช่น USAID , Chamber of commerce แล้วหน่วยงานเอกชน อีก 3 ประเภท ที่ทำหน้าที่สำคัญ คือ สำนักงานตรวจสอบบัญชีระหว่างประเทศ และ สำนักงานกฏหมายระหว่างประเทศ บริษัทประกันภัยระหว่างประเทศ ซึ่งจะได้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับธุรกิจในประเทศเป้าหมาย ส่งกลับไปให้สำนักใหญ่ที่อเมริกา ดังนั้น คุณสมบัติ ของบุคคลากร ที่ส่งไปประจำในสำนักงานเหล่านี้ในหลายประเทศ ทำงานประสานกับหน่วยงานความมั่นคง หน่วยงานข่าวกรอง ของอเมริกา ( พวก C ปลอมตัว อีกแล้ว นี่ อย่านึกว่าผมพูดเล่น แล้วไม่ใช่เรื่องจริงนะ)
    เครื่องทุ่นแรง: บรรดา “เด็กดี” ทั้งหลายที่อยู่ในท้องถิ่น ที่ อเมริกา สนับสนุน ไม่ว่าโดยการศึกษา หน้าที่การงาน การสนับสนุนทางสังคม ทางการเมือง โดยทางตรง หรือ ทางอ้อม คนเล่านี้ใช้ชีวิต อยู่ในกรอบ หรือคอก ที่อเมริกาสร้างให้อยู่ ทางความคิด เขาเล่าน้ัน มีทุกสาขาอาขีพ ทุกเพศ ทุกวัย มีความเชื่อมั่นว่าอเมริกาเท่าน้ัน คือศิวิไลซ์ และ วิถีทุนนิยมเสรี คือวิถีที่นำความเจริญมาให้ประเทศตนเอง เครื่องทุ่นแรงเหล่านี้ ครั้งแล้ว ครั้งเล่า ที่พาประเทศของตนติดอยู่ในกับดักมากขึ้น แต่ไม่เคยเรียนรู้ ไม่เคยจดจำ จึงเป็นเครื่องทุ่นแรง ที่อเมริกาเสาะแสวงหา เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา มิให้ขาดรุ่น ขาดจำนวน
จุดแข็ง: การใช้สื่อ ทุกรูปแบบ เพื่อฟอกย้อมความคิด ความเห็น ของพวกโลกสวย และจิตอ่อน (เป็นเรื่องน่าสนใจมาก ว่าทำไมถึงว่าง่ายนักหนา กับสื่อฟอก มันบอกอะไรละเชื่อหมด ธรรมะ ของพระพุทธองค์ พระราโชวาท ของพระเจ้าอยู่หัว ทำไมถึง ไม่จดจำ ไม่เขื่อถือ นำไปปฏิบัติบ้าง )
    จุดอ่อน: ออกอาการง่าย เวลามีอารมณ์ เช่น น้ำลายเยิ้มไปหมด เวลา อยากได้ อยากกิน ขอแนะนำว่า ใช้ผ้าเข็ดที่มุมปากแบบผู้ดีบ่อยๆ น่าจะช่วยได้บ้าง แต่ถ้าทำไม่เป็น คงต้องเข้าไปหลักสูตรฝึกอบรม ความอดกลั้น อันเป็นมารยาทอย่างหนึ่งของผู้ที่เจริญแล้ว
    เครื่องมือสื่อสารทุกชนิด: เป็นเครื่องมือที่ใช้จารกรรมข้อมูลทั้งสื้น รวมทั้ง เครื่องมือที่ใช้เขียนอยู่นี้ และที่ท่านทั้งหลายกำลังใช้อ่านกัน ฮา
    ชาตะ: วันที่ 4 กรกฎาคม คศ 1767
    มรณะ: มันต้องมีสักวันน่า อาจจะจวนแล้วก็ได้ จักรวรรดิยิ่งใหญ่ทุกราย มีวันล่มสลาย โรมันว่ายิ่งใหญ่จบแบบไหน ยกตัวอย่างไกลไป เอาใกล้สุด จักรภพอังกฤษ ใหญ่ และกร่างขนาดไหน วันนี้เหลือเป็นแค่เกาะเล็กเท่าปลายนิ้วก้อยข้างซ้าย แถมถูกต่างชาติ โดยเฉพาะพวกที่เคยเป็นขี้ข้า เข้าไปซื้อทรัพย์สินในกรุง จนคนอังกฤษเองต้องย้ายครัว ไปอยู่ชนบทกันหมด ไอ้ที่สะใจ คือต้องไปยืนกุมรับคำสั่ง จากคนที่ตัวเองเคยดูถูกกดขี่ ตอนนี้ยังกัดฟัน ทำซ่า เบ่งขวา ขู่ซ้าย จมไม่ลง
    อเมริกา จงจำไว้เป็นอุทาหรณ์ คุณนายกุ้งแห้ง ควรต้ังใจอ่านบันทึกนี้ ไม่มีใครเขาจะเตือนสติกันตรงๆ อย่างนี้หรอก มีแต่คนป้อยอ ให้หัวทิ่มก้นโด่งทั้งนั้น ท่าน้ันเซลฟี่ลำบากหน่อยนะคุณนาย แล้วอย่าลืมรายงานตรงไปตรงมา ไปยังนายใหญ่ จะให้ดีส่งไปที่ หน่วย CRS ของ Congress ให้ทำหนังสือแปะหน้า ส่งเข้าสภาสูงเลย ว่ามีคนเขาเขียนบันทึกสดุดีเตือนใจไว้อย่างไร กลัวแต่ว่า ไอ้พวกเสมียนที่จ้างไว้ จะไม่มีปัญญาแปลสำนวนลุงนิทานละซี เอาไปให้พี่เจฟฟรี่ แปลก็แล้วกัน ถึงจะเป็นฝรั่งแต่ภาษาไทยเก่งพอตัว ไม่เสียแรงส่งมาฝังตัวใกล้ชิดเสียนานหลายสิบปี
    สวัสดีครับอเมริกา หวังว่าปีหน้ายังมีวันฉลอง !
คนเล่านิทาน
6 กค. 2557
    เรื่อง บันทึกวันฉลอง “บันทึกวันฉลอง” เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม เป็นวันฉลองประกาศอิสรภาพ ( จากการเป็นลูกกระเป๋งของอังกฤษ) ของประเทศที่ประกาศตัว เป็นผู้นำโลกหมายเลขหนึ่ง เป็นจักรวรรดิยุคใหม่ เรียกได้ว่าเป็นวันสำคัญของโลกเชียวนะ ผมจะไม่เขียนอะไรถึง ในฐานะคนใกล้ชิด ติดตามเขียนถึงเกือบทุกวัน มันจะดูใจจืดไป แต่บังเอิญยังไม่มีเวลา ช้าไปหน่อยคงไม่เป็นไร ให้คุณนายกุ้งแห้งพักให้หายเหนื่อยจากการรับแขก บรรดาเพื่อนรัก ร่วมนิสัย ร่วมสันดาน ที่คุณนายเชิญมางานฉลองก่อน ท่านใดที่ไม่ได้รับเชิญ ผมว่าน่าจะเป็นโชคดี ที่ไม่ต้องไปยืนทำหน้าปูเลี่ยนใส่กัน ส่วนมันจะเป็นการสำแดงอะไรในการเชิญ ไม่เชิญ ประเทศที่มีอารยะธรรม วัฒนธรรม สืบทอดย้อนไปได้เป็นพันปีอย่างเรา ย่อมมองออก และ รอเวลา ดำเนินการที่เหมาะสม ในฐานะคนใกล้ชิด ผมมองจักรวรรดิอเมริกาอย่างไร ขอถือโอกาสขยายบันทึกต่อไปนี้ เป็นการสดุดีในวันฉลอง ชื่อ: ตามใบเกิดใช้ชื่อว่า สหรัฐอเมริกา มี ชื่อ เล่น ว่า ไอ้กัน หรือ เมกา
นอกจากนี้ ยังมีชื่อ ที่ถูกเรียกบ่อยตามความประพฤติ ว่า Ugly America และยังมีชื่อ ที่บางคน บางพวก เรียก ด้วยความเอียน ว่า จิ๊กโก๋ปากซอย (ตามพฤติกรรมเทียบเคียงอีกเช่นกัน) นามแฝง: นักล่า (น่าจะมีรูปถ่ายแบบ หน้าตรง และหน้าข้างประกอบ แต่ทำไม่เป็นครับ) อุปนิสัยเด่น: เหมือนคนที่โตแต่ตัว แต่ไม่มีวุฒิภาวะ ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า โตแต่ตัว สมองเท่าเม็ดถัวเขียว แยกแยะดีชั่วไม่ออก เรื่องควรทำไม่ทำ เรื่องไม่ควรทำ ดันทำ ถ้ามีวุฒิภาวะ ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ สมดังที่เขาเรียกว่าพี่เบิ้ม โลกคงไม่วุ่นวายอย่างที่เป็นอยู่
อีกนิสัยที่โดดเด่นคือ เป็นมิตรเฉพาะกับผู้ที่ตนได้ประโยชน์ เมื่อหมดประโยชน์ ก็สามารถทำได้ทุกวิถีทางเพื่อให้ขาดกับมิตร รวมไปถึงการ กำจัด และ ทำลาย โดยไม่มีเหนียมอาย ถ้าเป็นบุคคล ก็เรียกว่า เป็นประเภทเพื่อนกิน เออ มันก็เป็นเพื่อนกินจริงๆแหละ กินแบบตะกรามเสียด้วย (เข้าใจว่า ไม่เคยอ่านหนังสือกำลังภายใน ที่โด่งดัง อยู่อีกฝั่งของโลก จึงไม่รู้จัก คำสอนที่หนังสือกำลังภายในพวกนี้ เขียนไว้เป็นอุทาหรณ์เสมอว่า บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระ คงมีพวกลูกหาบคุยให้ฟัง แต่จับความได้แค่ ท่อนหลัง คนอื่น เขาก็จำท่อนหลังได้เหมือนกันนะ) สันดาน: กร่าง อวดดี ชอบข่มขู่ ทั้งทางกิริยา วาจา และอาวุธ และยังมีสันดานที่ถ้าเป็นบุคคล เขาก็เรียกว่าเป็นประเภท มือถือสากปากถือศีล ตัวเองทำได้ ห้ามใครด่า แต่ถ้าคนอื่นทำบ้าง ไม่ใช่แค่ด่า มันทั้งประณาม และคว่ำบาตรเป็นการแถม ถ้ายังไม่สาแก่ใจ พร้อมที่จะยกทัพกรีฑา ไปบดขยี้ อาณาเขตประเทศ: ขณะนี้ มีเนื้อที่ประมาณ 9.83 ล้าน ตารางกิโลเมตร กว้างใหญ่มากกกก แต่ยังใหญไม่พอ จึงมีความต้ังใจ ว่า จะครอบครองโลกใบนี้ทั้งใบให้ได้ ถ้ามีโลกมากกว่า 1 ก็คงหวังจะครองทั้งหมดด้วย นี่ก็ได้ข่าวว่า จะเปฺิดให้ตีตั๋วจองไปท่องเที่ยวดาวอังคาร และมีแผนจะไปอมดวงจันทร์ ทำตัวดั่งเป็นพระราหู ถ้าจะเจ๋งจริง ต้องอมดวงอาทิตย์ด้วยนะ ดูๆไปแล้วเหมือนเป็นคนขี้โม้ ถ้าเป็นบุคคล น่าจะเข้าข่ายดาวพุธเสีย ปากหาเรื่อง พูดจาหาความจริงได้ยาก ถึงเดี๋ยวนี้ยังมีคนไม่เช่ือเรื่องไปดวงจันทร์
เม้นท์มาถามลุงนิทาน ว่า ตกลงเมกาไปดวงจันทร์จริงหรือเปล่าคับ เล่นเอาลุงนิทาน อึ้งไป ตอบไม่ได้เหมือนกันหลานเอ๋ย พลเมือง: ของแท้ดั้งเดิมเรียกว่า อินเดียนแดง แต่พวกที่มาไล่ล่าฆ่า อินเดียนแดง และแย่งถิ่นที่อยู่เขาไปและเรียกตัวเองว่าคนอเมริกัน นั้น มีสาระพัดสายพันธ์ และสาระพัดสีผิว แต่ก็มีคนพยายามที่จะคัดสายพันธ์ใหม่ เอาสีเข้มๆออกไป สงสัยไม่ถูกโฉลก ให้เหลือแต่ผิวสีขาว และผมทอง แต่เท่าที่สังเกตดู แผนนี้ไม่น่าสำเร็จ แต่ไอ้ชั่วจอมโหดยังไม่ล้มเลิกแผน ใช้ทั้งวิธีคุม วิธีตอน ทั้งอาหาร ทั้งยา และเขื้อโรคเหลืออย่างเดียว อย่าให้พูดต่อเลย เสียวน่ะ ผู้นำประเทศ: เรียกว่า ประธานาธิบดี มาจากการเลือกต้ัง ที่ไม่จำกัดอาชีวะ
ดังนั้น ผู้นำประเทศ จึงมีต้ังแต่ นักคิด นักรบ นักรัก นักเลง นักแสดง คนขายของ ขายถั่ว ขายน้ำมัน เป็นต้น แต่คนปัจจุบัน ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร แม้แต่สื่อนอก พวกกันเองยังด่าขรม จะว่าเป็นนักพูด ก็ไม่เชิงเพราะพูดจา ไม่เอาเหนียง ซ้ำชาก แถมพักหลังนี่ เลอะเทอะชอบกล ไม่อยากวิจารณ์มาก เอาว่า คงกำลังดวงตก ระบอบการปกครอง: อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย แต่มีข้อมูลมากมาย บอกว่า ไม่จริงหรอก
ประชาธิปไตยบ้าบออะไร มันเป็นเป็นเผด็จการทุนนิยมต่างหาก ซึ่งกำกับ สับโขก ดูแลโดยนายทุนข้ามชาติที่เป็นเจ้าของโรงพิมพ์แบงค์ หลายโรง พรรคการเมือง: มี 2 พรรคผูกขาด แต่ พรรคไหนชนะ ก็ไม่มีความหมาย เพราะการเลือกต้ัง มีเพื่อเป็นการฝึกพูด ฝึกหาเสียง ฝึกประท้วง สร้างการจ้างงาน กระจายรายได้ แถมให้สื่อยักษ์ มีงานทำ เพราะ เจ้าของโรงพิมพ์แบงค์ เป็นเจ้าของสื่อ และ เป็นเจ้าของนักการเมือง ทั้ง 2 พรรค ที่สำคัญ เป็นการทดสอบ การโฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของระบอบการปกครอง สินค้าออกสำคัญ บัญชี 1: ทุนนิยมเสรี ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน
(หมายเหตุ: สินค้าส่งออกบัญชีนี้ น่าจะเป็นของปลอมเกือบทั้งหมด เพราะ บรรดาผู้นำเข้าสินค้า ไม่ว่าจะสมัครใจ เพราะเคลิ้มตามโฆษณาชวนเชื่อ หรือถูกบังคับให้นำเข้าไปใช้ ก็ตาม แต่ปรากฏผล ไม่น่าพอใจ เหมือนกัน คือ ฉ ห กันถ้วนหน้า แต่ไม่รู้จะไปร้องเรียนกับใคร ได้แต่ก้มหน้ามองหัวแม่เท้าทุกวัน ที่แย่ไปกว่านั้น คือ พวกที่ ฉ ห มีกว่าครึ่งที่ยังไม่รู้ตัวว่า ฉ ห เพราะอะไร โถ โถ) สินค้าส่งออกสำคัญ บัญชี 2: แนวทางการศึกษา และ ความคิดทางวิชาการ
(หมายเหตุ: สินค้่าส่งออกบัญชีนี้ มีส่วนสัมพันธ์กับบัญชี 1 เมื่อใดที่ การส่งออกบัญชีนี้ลดลง หรือไม่ได้ผล การส่งออกตามบัญชี 1 จะลดลง ตามไปด้วย แต่คงจะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นสินค้า ที่ส่งออกมาเป็นเวลานาน ฝังรากลงลึก และมีผู้คนหลายประเภท ติดกับ นอนสบาย พุงปลิ้น อยู่ในคอก มันคงฉุดให้ลุกขึ้นยืน แล้วเดินออกจากคอกยากหน่อย แต่ไม่มีอะไรคงทนถาวรตลอดกาล เป็นหลักสัจธรรม คอยดูกันไป) สินค้าส่งออกสำคัญ บัญชี 3: วัฒนธรรมอเมริกา ผ่าน การบันเทิง และสื่อทุกประเภท
(หมายเหตุ: สินค้าส่งออกบัญชีนี้ มีผู้สนใจมาก แม้จะเน่าเละแค่ไหน แต่ผู้ใช้เสพติดกันมาก ถือเป็นความสำเร็จ แท้จริงของการส่งออก หนังหลายเรื่องสนุกดีครับ ลุงนิทานก็ชอบดู โกหกได้เก่งจัง แต่ให้เลิกดูก็ไม่ถึงกับลงแเดง) สินค้านำเข้าสำคัญ: หมายถึงสินค้า ที่เป็นที่ต้องการอย่างที่สุด โดยการเป็นเจ้าของ หรือครอบครอง ไม่ว่าโดยวิธีการใด
อันดับ 1 คือ พลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญ
อันดับ 2 คือ พลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญ
อันดับ 3 คือ พลังงาน และแร่ธาตุที่สำคัญ นโยบายต่างประเทศ: ดู ภาพ ประกอบ us foreign policy flow chart มิตรประเทศ: ประเทศที่มีพลังงาน และ แร่ธาตุ (หลอกล่อให้คบ แล้ว ขะโมยของเขาได้) ประเทศที่ไม่เป็นมิตร: ประเทศที่มีพลังงาน และแร่ธาตุ (เขาไม่คบด้วย และยังขะโมยของเขาไม่ได้) ประเทศลูกพี่: อังกฤษ (ถึงจะประกาศอิสรภาพต้ังหลายร้อยปี จนจัดงานฉลองหลอกตัวเอง แต่อิสระ ไม่จริงนี่หว่า แน่จริงตัดขาดให้ดูหน่อย แล้วค่อยทำกร่าง) ประเทศที่ถือเป็นก๊วน: อังกฤษ ฝรั่งเศส ( ผลัดกันเล่น ผลัดกันกิน มันไม่ตัดขาดกันจริงหรอก ดูไปก็แล้วกัน) ประเทศลูกน้อง: ทั้งโลก ยกเว้น กลุ่ม BRICS และพวก และ 2 ประเภทข้างต้น ประเทศที่ไม่เป็นมิตรอย่างถาวร : เกาหลีเหนือ ( เข้าใจว่าเหตุผลสำคัญ คือ ประธานาธิบดีอเมริกาคนปัจจุบัน หน้าไม่รับ กับผมทรงบังคับของเกาหลีเหนือ) เครื่องมือหากินที่ขาดไม่ได้ และควบคุมได้ บัญชี 1: UN, World Bank, IMF, NATO เครื่องมือหากินที่ขาดไม่ได้ และควบคุมได้ บัญชี 2: หน่วยงาน ประเภทสถาบัน มูลนิธิ องค์กรไม่ค้ากำไร (NGO) ที่ให้ทุนการศึกษาทุกระดับ การวิจัย การสนับสนุนกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน (หน่วยงานพวกนี้ มีความสำคัญมาก เป็นเฟืองสำคัญ ที่ทำให้กลไกเกือบทุกอย่าง ของอเมริกา เดิน โดยแทบจะไม่มีสิ่งใดขวางกั้น เพราะ ไม่รู้ว่าองค์กรเหล่านี้ คือตัวเฟืองสำคัญ และเป็นหน่วยงานสังกัด ฝ่ายความมั่นคง หรือข่าวกรอง พูดง่ายๆ ว่า เป็น พวก CIA ปลอมตัวนั่นแหละ) เครื่องมือหากินที่สำคัญ ยังควบคุมไม่ได้หมด แต่พยายามอยู่: EU ( เป็นรายการต้มตุ๋น ลวงโลกของจริง ทั้งต้มกันเอง และ ต้มชาวโลก) ผู้แทนประเทศ: ทูต ผู้แทนการค้า นักธุรกิจ ครู อาจารย์ นักวิชาการ นักเขียน นักสอนศาสนา นักท่องเที่ยว สื่อ โดยเฉพาะ พวกที่แฝงตัวคลุกอยู่กับคนท้องถิ่น ตัวดีนักทำได้เนียนมาก พวกนี้เรียกว่า มาปฏิบัติภาระกิจ ( พูดง่ายๆ ว่า เป็นพวก CIA ปลอมตัว อีกเข่นกัน วุ้ย ทำไมมันมากันแยะนัก ไหนว่า แค่อยากได้ตั้กกะแตน ทำไมต้องถึงกับขี่ช้างมา) คุณสมบัติของผู้แทนประเทศ: ไม่ใช้วิจารณญาณ ไม่มีมารยาท มีความสามารถในการหาข่าวเชิงลึก มีความรู้และสามารถเรื่องอาวุธและการใช้ ถนัดในการแปลงสาสน์ และใช้กลวิธีการเสี้ยม มากกว่าวิธีทางการทูต การค้า การสอน การเขียน ฯลฯ แล้วแต่กรณี หน่วยงานนอกประเทศ ที่ทำหน้าที่สำคัญ: นอกเหนือจาก องค์กรเปิดเผย เช่นสถานทูต หน่วยงานทางทหาร หน่วยงานให้ความช่วยเหลือ เช่น USAID , Chamber of commerce แล้วหน่วยงานเอกชน อีก 3 ประเภท ที่ทำหน้าที่สำคัญ คือ สำนักงานตรวจสอบบัญชีระหว่างประเทศ และ สำนักงานกฏหมายระหว่างประเทศ บริษัทประกันภัยระหว่างประเทศ ซึ่งจะได้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับธุรกิจในประเทศเป้าหมาย ส่งกลับไปให้สำนักใหญ่ที่อเมริกา ดังนั้น คุณสมบัติ ของบุคคลากร ที่ส่งไปประจำในสำนักงานเหล่านี้ในหลายประเทศ ทำงานประสานกับหน่วยงานความมั่นคง หน่วยงานข่าวกรอง ของอเมริกา ( พวก C ปลอมตัว อีกแล้ว นี่ อย่านึกว่าผมพูดเล่น แล้วไม่ใช่เรื่องจริงนะ) เครื่องทุ่นแรง: บรรดา “เด็กดี” ทั้งหลายที่อยู่ในท้องถิ่น ที่ อเมริกา สนับสนุน ไม่ว่าโดยการศึกษา หน้าที่การงาน การสนับสนุนทางสังคม ทางการเมือง โดยทางตรง หรือ ทางอ้อม คนเล่านี้ใช้ชีวิต อยู่ในกรอบ หรือคอก ที่อเมริกาสร้างให้อยู่ ทางความคิด เขาเล่าน้ัน มีทุกสาขาอาขีพ ทุกเพศ ทุกวัย มีความเชื่อมั่นว่าอเมริกาเท่าน้ัน คือศิวิไลซ์ และ วิถีทุนนิยมเสรี คือวิถีที่นำความเจริญมาให้ประเทศตนเอง เครื่องทุ่นแรงเหล่านี้ ครั้งแล้ว ครั้งเล่า ที่พาประเทศของตนติดอยู่ในกับดักมากขึ้น แต่ไม่เคยเรียนรู้ ไม่เคยจดจำ จึงเป็นเครื่องทุ่นแรง ที่อเมริกาเสาะแสวงหา เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา มิให้ขาดรุ่น ขาดจำนวน
จุดแข็ง: การใช้สื่อ ทุกรูปแบบ เพื่อฟอกย้อมความคิด ความเห็น ของพวกโลกสวย และจิตอ่อน (เป็นเรื่องน่าสนใจมาก ว่าทำไมถึงว่าง่ายนักหนา กับสื่อฟอก มันบอกอะไรละเชื่อหมด ธรรมะ ของพระพุทธองค์ พระราโชวาท ของพระเจ้าอยู่หัว ทำไมถึง ไม่จดจำ ไม่เขื่อถือ นำไปปฏิบัติบ้าง ) จุดอ่อน: ออกอาการง่าย เวลามีอารมณ์ เช่น น้ำลายเยิ้มไปหมด เวลา อยากได้ อยากกิน ขอแนะนำว่า ใช้ผ้าเข็ดที่มุมปากแบบผู้ดีบ่อยๆ น่าจะช่วยได้บ้าง แต่ถ้าทำไม่เป็น คงต้องเข้าไปหลักสูตรฝึกอบรม ความอดกลั้น อันเป็นมารยาทอย่างหนึ่งของผู้ที่เจริญแล้ว เครื่องมือสื่อสารทุกชนิด: เป็นเครื่องมือที่ใช้จารกรรมข้อมูลทั้งสื้น รวมทั้ง เครื่องมือที่ใช้เขียนอยู่นี้ และที่ท่านทั้งหลายกำลังใช้อ่านกัน ฮา ชาตะ: วันที่ 4 กรกฎาคม คศ 1767 มรณะ: มันต้องมีสักวันน่า อาจจะจวนแล้วก็ได้ จักรวรรดิยิ่งใหญ่ทุกราย มีวันล่มสลาย โรมันว่ายิ่งใหญ่จบแบบไหน ยกตัวอย่างไกลไป เอาใกล้สุด จักรภพอังกฤษ ใหญ่ และกร่างขนาดไหน วันนี้เหลือเป็นแค่เกาะเล็กเท่าปลายนิ้วก้อยข้างซ้าย แถมถูกต่างชาติ โดยเฉพาะพวกที่เคยเป็นขี้ข้า เข้าไปซื้อทรัพย์สินในกรุง จนคนอังกฤษเองต้องย้ายครัว ไปอยู่ชนบทกันหมด ไอ้ที่สะใจ คือต้องไปยืนกุมรับคำสั่ง จากคนที่ตัวเองเคยดูถูกกดขี่ ตอนนี้ยังกัดฟัน ทำซ่า เบ่งขวา ขู่ซ้าย จมไม่ลง อเมริกา จงจำไว้เป็นอุทาหรณ์ คุณนายกุ้งแห้ง ควรต้ังใจอ่านบันทึกนี้ ไม่มีใครเขาจะเตือนสติกันตรงๆ อย่างนี้หรอก มีแต่คนป้อยอ ให้หัวทิ่มก้นโด่งทั้งนั้น ท่าน้ันเซลฟี่ลำบากหน่อยนะคุณนาย แล้วอย่าลืมรายงานตรงไปตรงมา ไปยังนายใหญ่ จะให้ดีส่งไปที่ หน่วย CRS ของ Congress ให้ทำหนังสือแปะหน้า ส่งเข้าสภาสูงเลย ว่ามีคนเขาเขียนบันทึกสดุดีเตือนใจไว้อย่างไร กลัวแต่ว่า ไอ้พวกเสมียนที่จ้างไว้ จะไม่มีปัญญาแปลสำนวนลุงนิทานละซี เอาไปให้พี่เจฟฟรี่ แปลก็แล้วกัน ถึงจะเป็นฝรั่งแต่ภาษาไทยเก่งพอตัว ไม่เสียแรงส่งมาฝังตัวใกล้ชิดเสียนานหลายสิบปี สวัสดีครับอเมริกา หวังว่าปีหน้ายังมีวันฉลอง !
คนเล่านิทาน
6 กค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว



  • รัฐอิสราเอลก่อตั้งขึ้นในปี 1947 โดย "ไซออนิสต์" = ซาตานิสต์คาซาเรียน

    ตัวการยุแหย่สร้างความแตกแยกโกลาหลหรือทำลาย ไทยพุทธ - ไทยมุสลิม ตัวจริงคือ ไซออนิสต์.




    #อิสราเอลสงครามครั้งสุดท้าย

    สงครามระหว่างความมืดและแสงสว่างคือสงครามระหว่างซาตานและพระเจ้า

    ระหว่างสายเลือดสัตว์เลื้อยคลานของซาตานและสายเลือดมนุษย์ของพระเยซู

    อิสราเอลเป็นประเทศสุดท้ายเพราะโควิดเปิดเผยการทุจริตในระบบการดูแลสุขภาพและการเมืองของเรา

    อิสราเอลจะเปิดเผยต้นตอของการทุจริตและความชั่วร้ายทั้งหมดในระบบศาสนาของเรา
    การเปิดเผยการจี้พระคัมภีร์โดยซาตานเมื่อหลายศตวรรษก่อน

    แสงสว่างบนโลกใบนี้ถูกแสงเทียมแห่งความมืดทำให้มืดลง

    งูเข้าไปในสวนเอเดนและแอบเข้าไปในหลุมงู

    หัวของงูในวาติกัน ส่วนลำตัวของงูสร้างเส้นทางสายไหมที่นำไปสู่อู่ฮั่นซึ่งมันแพร่กระจายพิษของมัน
    ซ่อนตัวอยู่ในหลุมงูในอิสราเอล ซึ่งลัทธิซาตานจี้พระคัมภีร์บางส่วนและกลายเป็นแสงเทียมที่หลอกล่อมนุษยชาติด้วยความถี่แห่งความชั่วร้ายของความกลัว ความอับอาย และความรู้สึกผิด

    แยกจากพระเจ้าและความรักที่เราทุกคนเป็น แบ่งแยกศาสนา เชื้อชาติ การเมือง ทำให้เกิดความมืดมนมาหลายศตวรรษ
    แยกจากกันโดยกลุ่มเล็กๆ ที่ได้ประโยชน์จากการควบคุมพลังงานและผู้คน

    กลุ่มเล็กๆ นี้ คือ ชนชั้นสูงซาตาน อิลูมินาติ คณะปกครอง

    ราชวงศ์ทั้งหมดในยุโรป ประเทศบอลติก และรัสเซีย อ้างว่าบรรพบุรุษของตนคือโวตันหรือโอดิน
    โวตันหรือโอดินเป็นเพนดรากอน - งู - งู - สัตว์เลื้อยคลาน

    ราชวงศ์ 13 ราชวงศ์เป็นลูกผสมของสัตว์เลื้อยคลานที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ โดยแสร้งทำเป็นมนุษย์

    สัญลักษณ์ของงูมีอยู่ทั่วไปในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิก ในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในนครวาติกัน พระสันตปาปาประทับนั่งในปากงูเหมือนลิ้นและเทศนาหลอกลวง
    สายเลือดดรูซของพระเยซูสืบเชื้อสายมาจาก “เจโธร” นักบวชแห่งมีเดียนในพระคัมภีร์ และ “โตราห์” (อพยพ 2:18)
    ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา “อับราฮัม ลินคอล์น” สืบเชื้อสายมาจากตระกูลคาห์ลูนี

    ในปี 1855 ISIS ก่อตั้งขึ้นโดยกษัตริย์แห่งโมร็อกโกและลิเบีย [ตระกูลฮัสซัน] ร่วมกับตระกูลโรทัลอังกฤษ
    พวกเขาลงนามในกฎหมายโมฮัมเหม็ดดีซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสังหารสายเลือดของพระเยซูคริสต์ [DRUZE]
    6 ปีต่อมา พวกเขาได้รวมเข้ากับ Skull n Bones:
    Rothschilds, Schiff, Rockefellers, Scherff หรือที่รู้จักในชื่อ Bush, Kissingers เป็นต้น
    Skull n Bones_ISIS สังหาร JFK

    1855 - ISIS ก่อตั้งโดยตระกูลซานุสซีซึ่งมีความเชื่อมโยงกับราชวงศ์อังกฤษ (คาซาเรียน)
    1861 - รวมเข้ากับกะโหลกและกระดูก 322 ชิ้น (คาซาเรียน)
    1870 - 1930 บริษัทเภสัชยักษ์ใหญ่ (คาซาเรียน)
    1871 พระราชบัญญัติอังกฤษ (รัฐธรรมนูญลับที่จัดทำโดยสมาคมลับ) คาซาเรียน
    1912 เรือไททานิค/โอลิมปิกจม
    (ใครอยู่บนเรือ เกิดอะไรขึ้นกันแน่)
    1913 ธนาคารกลางสหรัฐ
    1917 - 1923 การปฏิวัติบอลเชวิค
    1945 - 1959 ปฏิบัติการกระดาษคลิป/ม็อกกิ้งเบิร์ด 1948 - อิสราเอลก่อตั้งขึ้น (รัฐบาลคาซาเรียน/บอลเชวิค)
    1949 - มอสสาด = ก่อตั้งซีไอเอ

    พลเอกฟลินน์ ผู้แจ้งเบาะแสเปิดโปงเครือข่ายก่อการร้ายของกูเลน:

    • ฟลินน์ค้นพบว่ารัฐบาลโอบามากำลังจัดหาเงินทุนและอาวุธให้กับนักรบญิฮาดที่โบกธงไอเอสในเวลาต่อมา

    • การกระทำของนักรบญิฮาดเหล่านี้เกิดขึ้นในฉนวนกาซา

    • โอบามาด้วยความช่วยเหลือของซีไอเอ นาโต้ และพวกพ้องนักรบญิฮาดของเขา กำลังพยายามเอาชนะอัสซาดในซีเรีย

    • รัฐบาลที่ทรยศเหล่านี้จัดหาเงินทุนให้ไอเอส

    • สหรัฐฯ/นักรบญิฮาดกลายเป็นอาหรับสปริง ทำลายเสถียรภาพในตะวันออกกลาง และสร้างวิกฤตการอพยพระหว่างประเทศ

    • ฮิลลารีมีส่วนร่วมในการเปิดตัวอาหรับสปริงในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศภายใต้รัฐบาลโอบามา
    • ฟลินน์เปิดโปงการมีส่วนเกี่ยวข้องในเครือข่ายผู้ก่อการร้ายกูเลนของรัฐบาลโอบามาและโดยปริยายของเอช. ดับเบิลยู. บุช, จี. บุช, คลินตัน, กระทรวงการต่างประเทศ, เอฟบีไอ, ซีไอเอ และหน่วยข่าวกรองอเมริกัน

    ตอนนี้ กลับมาที่อิสราเอลในวันนี้

    อย่าหลงกล/
    อาคารที่ถล่มลงมาในฉนวนกาซาจากขีปนาวุธลูกหนึ่งนั้นถูกรื้อถอนโดยการควบคุม
    ผู้ปฏิบัติการของดีพสเตตทั้งในค่ายอิสราเอลและปาเลสไตน์
    ถูกแทรกซึมมานานแล้ว (Mossad/CIA)//

    ผู้ควบคุมอิสราเอลก็คือ MOSSAD >>MI6 ของสหราชอาณาจักร>>ROTHSCHILDs>>CIA

    เซิร์ฟเวอร์ Dominion มีอะไรให้ปกปิดมากมาย
    ตั้งแต่การค้ามนุษย์ไปจนถึงการก่อตั้ง Epstein ไปจนถึงธนาคารในวาติกัน
    กลุ่มมาเฟีย Mossad/Kazarian ที่ควบคุมยูเครน
    ความเชื่อมโยงจากหลุมพรางแห่งการทุจริตของชนชั้นนำอิสราเอลนั้นลึกล้ำเข้าไปในการควบคุมของ MSM สมยศ จิราวณิชานันท์ ของสหรัฐอเมริกา

    https://rumble.com/v4bzuzo-khazarian-mafia-ผู้กินเทพ-ภาค2-ของ2.html


    รัฐอิสราเอลก่อตั้งขึ้นในปี 1947 โดย "ไซออนิสต์" = ซาตานิสต์คาซาเรียน ตัวการยุแหย่สร้างความแตกแยกโกลาหลหรือทำลาย ไทยพุทธ - ไทยมุสลิม ตัวจริงคือ ไซออนิสต์. #อิสราเอลสงครามครั้งสุดท้าย สงครามระหว่างความมืดและแสงสว่างคือสงครามระหว่างซาตานและพระเจ้า ระหว่างสายเลือดสัตว์เลื้อยคลานของซาตานและสายเลือดมนุษย์ของพระเยซู อิสราเอลเป็นประเทศสุดท้ายเพราะโควิดเปิดเผยการทุจริตในระบบการดูแลสุขภาพและการเมืองของเรา อิสราเอลจะเปิดเผยต้นตอของการทุจริตและความชั่วร้ายทั้งหมดในระบบศาสนาของเรา การเปิดเผยการจี้พระคัมภีร์โดยซาตานเมื่อหลายศตวรรษก่อน แสงสว่างบนโลกใบนี้ถูกแสงเทียมแห่งความมืดทำให้มืดลง งูเข้าไปในสวนเอเดนและแอบเข้าไปในหลุมงู หัวของงูในวาติกัน ส่วนลำตัวของงูสร้างเส้นทางสายไหมที่นำไปสู่อู่ฮั่นซึ่งมันแพร่กระจายพิษของมัน ซ่อนตัวอยู่ในหลุมงูในอิสราเอล ซึ่งลัทธิซาตานจี้พระคัมภีร์บางส่วนและกลายเป็นแสงเทียมที่หลอกล่อมนุษยชาติด้วยความถี่แห่งความชั่วร้ายของความกลัว ความอับอาย และความรู้สึกผิด แยกจากพระเจ้าและความรักที่เราทุกคนเป็น แบ่งแยกศาสนา เชื้อชาติ การเมือง ทำให้เกิดความมืดมนมาหลายศตวรรษ แยกจากกันโดยกลุ่มเล็กๆ ที่ได้ประโยชน์จากการควบคุมพลังงานและผู้คน กลุ่มเล็กๆ นี้ คือ ชนชั้นสูงซาตาน อิลูมินาติ คณะปกครอง ราชวงศ์ทั้งหมดในยุโรป ประเทศบอลติก และรัสเซีย อ้างว่าบรรพบุรุษของตนคือโวตันหรือโอดิน โวตันหรือโอดินเป็นเพนดรากอน - งู - งู - สัตว์เลื้อยคลาน ราชวงศ์ 13 ราชวงศ์เป็นลูกผสมของสัตว์เลื้อยคลานที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ โดยแสร้งทำเป็นมนุษย์ สัญลักษณ์ของงูมีอยู่ทั่วไปในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิก ในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในนครวาติกัน พระสันตปาปาประทับนั่งในปากงูเหมือนลิ้นและเทศนาหลอกลวง สายเลือดดรูซของพระเยซูสืบเชื้อสายมาจาก “เจโธร” นักบวชแห่งมีเดียนในพระคัมภีร์ และ “โตราห์” (อพยพ 2:18) ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา “อับราฮัม ลินคอล์น” สืบเชื้อสายมาจากตระกูลคาห์ลูนี ในปี 1855 ISIS ก่อตั้งขึ้นโดยกษัตริย์แห่งโมร็อกโกและลิเบีย [ตระกูลฮัสซัน] ร่วมกับตระกูลโรทัลอังกฤษ พวกเขาลงนามในกฎหมายโมฮัมเหม็ดดีซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสังหารสายเลือดของพระเยซูคริสต์ [DRUZE] 6 ปีต่อมา พวกเขาได้รวมเข้ากับ Skull n Bones: Rothschilds, Schiff, Rockefellers, Scherff หรือที่รู้จักในชื่อ Bush, Kissingers เป็นต้น Skull n Bones_ISIS สังหาร JFK 1855 - ISIS ก่อตั้งโดยตระกูลซานุสซีซึ่งมีความเชื่อมโยงกับราชวงศ์อังกฤษ (คาซาเรียน) 1861 - รวมเข้ากับกะโหลกและกระดูก 322 ชิ้น (คาซาเรียน) 1870 - 1930 บริษัทเภสัชยักษ์ใหญ่ (คาซาเรียน) 1871 พระราชบัญญัติอังกฤษ (รัฐธรรมนูญลับที่จัดทำโดยสมาคมลับ) คาซาเรียน 1912 เรือไททานิค/โอลิมปิกจม (ใครอยู่บนเรือ เกิดอะไรขึ้นกันแน่) 1913 ธนาคารกลางสหรัฐ 1917 - 1923 การปฏิวัติบอลเชวิค 1945 - 1959 ปฏิบัติการกระดาษคลิป/ม็อกกิ้งเบิร์ด 1948 - อิสราเอลก่อตั้งขึ้น (รัฐบาลคาซาเรียน/บอลเชวิค) 1949 - มอสสาด = ก่อตั้งซีไอเอ พลเอกฟลินน์ ผู้แจ้งเบาะแสเปิดโปงเครือข่ายก่อการร้ายของกูเลน: • ฟลินน์ค้นพบว่ารัฐบาลโอบามากำลังจัดหาเงินทุนและอาวุธให้กับนักรบญิฮาดที่โบกธงไอเอสในเวลาต่อมา • การกระทำของนักรบญิฮาดเหล่านี้เกิดขึ้นในฉนวนกาซา • โอบามาด้วยความช่วยเหลือของซีไอเอ นาโต้ และพวกพ้องนักรบญิฮาดของเขา กำลังพยายามเอาชนะอัสซาดในซีเรีย • รัฐบาลที่ทรยศเหล่านี้จัดหาเงินทุนให้ไอเอส • สหรัฐฯ/นักรบญิฮาดกลายเป็นอาหรับสปริง ทำลายเสถียรภาพในตะวันออกกลาง และสร้างวิกฤตการอพยพระหว่างประเทศ • ฮิลลารีมีส่วนร่วมในการเปิดตัวอาหรับสปริงในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศภายใต้รัฐบาลโอบามา • ฟลินน์เปิดโปงการมีส่วนเกี่ยวข้องในเครือข่ายผู้ก่อการร้ายกูเลนของรัฐบาลโอบามาและโดยปริยายของเอช. ดับเบิลยู. บุช, จี. บุช, คลินตัน, กระทรวงการต่างประเทศ, เอฟบีไอ, ซีไอเอ และหน่วยข่าวกรองอเมริกัน ตอนนี้ กลับมาที่อิสราเอลในวันนี้ อย่าหลงกล/ อาคารที่ถล่มลงมาในฉนวนกาซาจากขีปนาวุธลูกหนึ่งนั้นถูกรื้อถอนโดยการควบคุม ผู้ปฏิบัติการของดีพสเตตทั้งในค่ายอิสราเอลและปาเลสไตน์ ถูกแทรกซึมมานานแล้ว (Mossad/CIA)// ผู้ควบคุมอิสราเอลก็คือ MOSSAD >>MI6 ของสหราชอาณาจักร>>ROTHSCHILDs>>CIA เซิร์ฟเวอร์ Dominion มีอะไรให้ปกปิดมากมาย ตั้งแต่การค้ามนุษย์ไปจนถึงการก่อตั้ง Epstein ไปจนถึงธนาคารในวาติกัน กลุ่มมาเฟีย Mossad/Kazarian ที่ควบคุมยูเครน ความเชื่อมโยงจากหลุมพรางแห่งการทุจริตของชนชั้นนำอิสราเอลนั้นลึกล้ำเข้าไปในการควบคุมของ MSM [CIA] ของสหรัฐอเมริกา https://rumble.com/v4bzuzo-khazarian-mafia-ผู้กินเทพ-ภาค2-ของ2.html
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว


  • Dr. Peter McCullough: "ทุกคนที่เกี่ยวข้องในองค์กรนี้ควรได้รับการเรียกให้ใช้ความยุติธรรม"

    Conspirators:
    • WEF and associated politicians
    • Gates Foundation
    • CEPI - founded by Gates
    • WHO
    • Wellcome Trust
    • Rockefeller Foundation
    • CCP
    • GAVI
    • Eco Health Alliance
    • CDC, NIH, FDA, regulatory agencies across the world
    • Vaccine manufacturers
    • Corporate media & big tech
    • Hospital systems


    "นี่เป็นอาชญากรรมในระดับโลกทั่วโลก ... ทุกคนที่เกี่ยวข้องในองค์กรนี้ควรถูกนำไปสู่ความยุติธรรม"



    Dr. Peter McCullough: "ทุกคนที่เกี่ยวข้องในองค์กรนี้ควรได้รับการเรียกให้ใช้ความยุติธรรม" Conspirators: • WEF and associated politicians • Gates Foundation • CEPI - founded by Gates • WHO • Wellcome Trust • Rockefeller Foundation • CCP • GAVI • Eco Health Alliance • CDC, NIH, FDA, regulatory agencies across the world • Vaccine manufacturers • Corporate media & big tech • Hospital systems "นี่เป็นอาชญากรรมในระดับโลกทั่วโลก ... ทุกคนที่เกี่ยวข้องในองค์กรนี้ควรถูกนำไปสู่ความยุติธรรม"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาหารตามสั่งสายลวด ร้านลับ(สายตา)ในปัจจุบัน #สมุทรปราการ #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #ต้องลอง #กิน #อาหาร #อร่อย #eat #food #foodie #delicious #thaifood #streetfood #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    อาหารตามสั่งสายลวด ✨ร้านลับ(สายตา)ในปัจจุบัน🤣 #สมุทรปราการ #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #ต้องลอง #กิน #อาหาร #อร่อย #eat #food #foodie #delicious #thaifood #streetfood #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ..ศาลการเมืองโลกผีบ้า.

    ..นี้ถือว่ามิตรที่ดีใจยุคนั้น ส่วนจะแลกมากับอะไรเราก็มิรู้ได้.
    #ไต้หวันพิพากษาให้เป็นของไทย
    #อาร์เจนตินาพิพากษาให้เป็นของไทย
    #ออสเตรเลียพิพากษาให้เป็นของไทย

    ..นี้คือศัตรูไทยของแท้ พร้อมทำลายชาติไทยตลอดเวลาที่มีโอกาสและถือว่าคือชาติที่ชั่วเลวทำเพื่อผลประโยชน์ตนเองเท่านั้น.

    #ญี่ปุ่นพิพากษาให้เป็นของกัมพูชา
    #รัสเซียพิพากษาให้เป็นของกัมพูชา
    #ฝรั่งเศสพิพากษาให้เป็นของกัมพูชา
    #อังกฤษพิพากษาให้เป็นของกัมพูชา
    #อียิปต์พิพากษาให้เป็นของกัมพูชา
    #เปรูพิพากษาให้เป็นของกัมพูชา
    #อิตาลีพิพากษาให้เป็นของกัมพูชา
    #โปแลนด์เป็นประธานพิพากษาให้เป็นของกัมพูชา
    #ปานามาเป็นรองประธานพิพากษาให้เป็นของกัมพูชา



    วันที่ 15 มิถุนายน 2505 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ได้ตัดสินให้ปราสาทเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา

    ผู้พิพากษา
    ผู้พิพากษามีทั้งหมด 14 ท่าน คะแนนเสียง 9 ต่อ 3 ตัดสินว่าปราสาทเขาพระวิหารอยู่ในอาณาเขตภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา และ คะแนนเสียง 7 ต่อ 5 ตัดสินว่า ไทยต้องคืนวัตถุสิ่งประติมากรรม แผ่นศิลา ส่วนปรักหักพังของอนุสาวรีย์รูปหินทราย เครื่องปั้นดินเผาโบราณและปราสาทหรือบริเวณเขาพระวิหารให้แก่กัมพูชา

    โบดาน วินิอาร์สกิ (Bohdan Winiarski) : ชาวโปแลนด์ เป็นประธาน— พิพากษาให้เป็นของกัมพูชา

    ริคาร์โด อาลฟาโร (Ricardo Alfaro) : ชาวปานามา เป็นรองประธาน — พิพากษาให้เป็นของกัมพูชา

    ลูซิโอ มอเรโน กินตานา (Lucio Moreno Quintana) : ชาวอาร์เจนตินา — พิพากษาให้เป็นของไทย

    เวลลิงตัน คู (Wellington Koo) : ชาวจีนไต้หวัน — พิพากษาให้เป็นของไทย

    เซอร์ เพอร์ซี สเปนเดอร์ (Percy Spender) : ชาวออสเตรเลีย — พิพากษาให้เป็นของไทย

    จูลส์ บาเดอวังต์ (Jules Basdevant) : ชาวฝรั่งเศส — พิพากษาให้เป็นของกัมพูชา

    อับดุล บาดาวี (Abdul Badawi) : ชาวอียิปต์ — พิพากษาให้เป็นของกัมพูชา

    เซอร์ เจรัลด์ ฟิตซ์มอริส (Sir Gerald Fitzmaurice) : ชาวอังกฤษ — พิพากษาให้เป็นของกัมพูชา

    วลาดิเมียร์ คอเรดสกี (Vladimir Koretsky) : ชาวรัสเซีย — พิพากษาให้เป็นของกัมพูชา

    โคะทะโระ ทะนะกะ (Kotaro Tanaka) : ชาวญี่ปุ่น — พิพากษาให้เป็นของกัมพูชา

    โจเซ่ บุสตามันเต อี ริเบโร (José Bustamante y Rivero) : ชาวเปรู — พิพากษาให้เป็นของกัมพูชา

    เกตาโน มอเรลลี (Gaetano Morelli) : ชาวอิตาลี — พิพากษาให้เป็นของกัมพูชา

    สปีโรปูลอส (Jean Spiropoulos) : ชาวกรีก — งดออกเสียง (ป่วย)

    โรแบร์โต คอร์โดวา (Roberto Cordova) : ชาวเม็กซิโก — งดออกเสียง (ป่วย)

    ฟิลิป เจสซัป (Philip Jessup) : ชาวอเมริกา (ทนายฝ่ายไทย)

    กานเย กวนเยต์ (Garnier-Coignet) : นายทะเบียนศาล


    ..ศาลการเมืองโลกผีบ้า. ..นี้ถือว่ามิตรที่ดีใจยุคนั้น ส่วนจะแลกมากับอะไรเราก็มิรู้ได้. #ไต้หวันพิพากษาให้เป็นของไทย #อาร์เจนตินาพิพากษาให้เป็นของไทย #ออสเตรเลียพิพากษาให้เป็นของไทย ..นี้คือศัตรูไทยของแท้ พร้อมทำลายชาติไทยตลอดเวลาที่มีโอกาสและถือว่าคือชาติที่ชั่วเลวทำเพื่อผลประโยชน์ตนเองเท่านั้น. #ญี่ปุ่นพิพากษาให้เป็นของกัมพูชา #รัสเซียพิพากษาให้เป็นของกัมพูชา #ฝรั่งเศสพิพากษาให้เป็นของกัมพูชา #อังกฤษพิพากษาให้เป็นของกัมพูชา #อียิปต์พิพากษาให้เป็นของกัมพูชา #เปรูพิพากษาให้เป็นของกัมพูชา #อิตาลีพิพากษาให้เป็นของกัมพูชา #โปแลนด์เป็นประธานพิพากษาให้เป็นของกัมพูชา #ปานามาเป็นรองประธานพิพากษาให้เป็นของกัมพูชา วันที่ 15 มิถุนายน 2505 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ได้ตัดสินให้ปราสาทเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา ผู้พิพากษา ผู้พิพากษามีทั้งหมด 14 ท่าน คะแนนเสียง 9 ต่อ 3 ตัดสินว่าปราสาทเขาพระวิหารอยู่ในอาณาเขตภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา และ คะแนนเสียง 7 ต่อ 5 ตัดสินว่า ไทยต้องคืนวัตถุสิ่งประติมากรรม แผ่นศิลา ส่วนปรักหักพังของอนุสาวรีย์รูปหินทราย เครื่องปั้นดินเผาโบราณและปราสาทหรือบริเวณเขาพระวิหารให้แก่กัมพูชา โบดาน วินิอาร์สกิ (Bohdan Winiarski) : ชาวโปแลนด์ เป็นประธาน— พิพากษาให้เป็นของกัมพูชา ริคาร์โด อาลฟาโร (Ricardo Alfaro) : ชาวปานามา เป็นรองประธาน — พิพากษาให้เป็นของกัมพูชา ลูซิโอ มอเรโน กินตานา (Lucio Moreno Quintana) : ชาวอาร์เจนตินา — พิพากษาให้เป็นของไทย เวลลิงตัน คู (Wellington Koo) : ชาวจีนไต้หวัน — พิพากษาให้เป็นของไทย เซอร์ เพอร์ซี สเปนเดอร์ (Percy Spender) : ชาวออสเตรเลีย — พิพากษาให้เป็นของไทย จูลส์ บาเดอวังต์ (Jules Basdevant) : ชาวฝรั่งเศส — พิพากษาให้เป็นของกัมพูชา อับดุล บาดาวี (Abdul Badawi) : ชาวอียิปต์ — พิพากษาให้เป็นของกัมพูชา เซอร์ เจรัลด์ ฟิตซ์มอริส (Sir Gerald Fitzmaurice) : ชาวอังกฤษ — พิพากษาให้เป็นของกัมพูชา วลาดิเมียร์ คอเรดสกี (Vladimir Koretsky) : ชาวรัสเซีย — พิพากษาให้เป็นของกัมพูชา โคะทะโระ ทะนะกะ (Kotaro Tanaka) : ชาวญี่ปุ่น — พิพากษาให้เป็นของกัมพูชา โจเซ่ บุสตามันเต อี ริเบโร (José Bustamante y Rivero) : ชาวเปรู — พิพากษาให้เป็นของกัมพูชา เกตาโน มอเรลลี (Gaetano Morelli) : ชาวอิตาลี — พิพากษาให้เป็นของกัมพูชา สปีโรปูลอส (Jean Spiropoulos) : ชาวกรีก — งดออกเสียง (ป่วย) โรแบร์โต คอร์โดวา (Roberto Cordova) : ชาวเม็กซิโก — งดออกเสียง (ป่วย) ฟิลิป เจสซัป (Philip Jessup) : ชาวอเมริกา (ทนายฝ่ายไทย) กานเย กวนเยต์ (Garnier-Coignet) : นายทะเบียนศาล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • TSMC 2nm มาแรง! ลูกค้าแห่จองล่วงหน้าเพียบ — AI และ HPC แย่งชิงกำลังผลิตก่อนเปิดสายการผลิตจริง

    TSMC ผู้ผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลกจากไต้หวัน กำลังเตรียมเปิดสายการผลิตระดับ 2 นาโนเมตร (2nm) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุดในอุตสาหกรรม ณ ขณะนี้ โดยมีรายงานว่า TSMC ได้รับคำสั่งจองจากลูกค้าถึง 15 รายแล้ว และในจำนวนนี้มีถึง 10 รายที่มุ่งเน้นการใช้งานด้าน HPC (High Performance Computing) เช่น AI, Cloud และเซิร์ฟเวอร์ระดับองค์กร2

    แม้ Apple จะยังคงเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุด โดยจองกำลังผลิตมากกว่าครึ่งของทั้งหมดสำหรับชิป A20, M6 และ R2 ที่จะใช้ใน iPhone, MacBook และ Vision Pro รุ่นถัดไป แต่สิ่งที่น่าสนใจคือการที่บริษัทด้าน AI อย่าง Google, Amazon, Broadcom และ OpenAI ก็เข้ามาจองพื้นที่ผลิตสำหรับชิป ASIC แบบ custom ที่ใช้ในงาน AI โดยเฉพาะ

    NVIDIA และ AMD ก็ไม่พลาด โดยเตรียมใช้ 2nm สำหรับ GPU รุ่นใหม่ เช่น Rubin Ultra และ Instinct MI450 ซึ่งจะเป็นหัวใจของระบบ AI และ HPC ในยุคถัดไป ขณะที่ MediaTek และ Qualcomm ก็เตรียมใช้ในสมาร์ตโฟนระดับเรือธงเช่นกัน

    สิ่งที่ทำให้ 2nm ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วคือโครงสร้างราคาที่น่าสนใจ และประสิทธิภาพที่สูงกว่ารุ่น 3nm อย่างชัดเจน โดย TSMC คาดว่าจะเริ่มผลิตจำนวนมากในครึ่งหลังของปี 2026 และชิปจากลูกค้ารายแรกจะเริ่มเข้าสู่ตลาดในต้นปี 2027

    TSMC ได้รับคำสั่งจอง 2nm จากลูกค้าแล้ว 15 ราย
    10 รายเน้นใช้งานด้าน HPC เช่น AI, Cloud, เซิร์ฟเวอร์
    แสดงถึงแนวโน้มที่เปลี่ยนจากมือถือสู่การประมวลผลขั้นสูง

    Apple จองกำลังผลิตมากกว่าครึ่งของทั้งหมด
    ใช้กับชิป A20, M6 และ R2 สำหรับ iPhone, Mac และ Vision Pro
    เตรียมใช้เทคโนโลยี WMCM แทน InFO เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น

    ลูกค้า HPC รายใหญ่เข้าร่วม เช่น Google, Amazon, Broadcom, OpenAI
    มุ่งพัฒนาชิป ASIC สำหรับงาน AI โดยเฉพาะ
    ต้องการประสิทธิภาพสูงและการประหยัดพลังงาน

    NVIDIA และ AMD เตรียมใช้ 2nm สำหรับ GPU รุ่นใหม่
    Rubin Ultra และ Instinct MI450 จะใช้เทคโนโลยีนี้
    เป็นหัวใจของระบบ AI และ HPC ยุคถัดไป

    MediaTek และ Qualcomm ใช้ในสมาร์ตโฟนระดับเรือธง
    Dimensity 9600 และ Snapdragon รุ่นถัดไป
    คาดว่าจะเริ่มผลิตปลายปี 2026

    โครงสร้างราคาของ 2nm ดึงดูดลูกค้าจำนวนมาก
    ถูกกว่า 3nm ในบางกรณี / ประสิทธิภาพสูงกว่า
    ทำให้การผลิต ramp-up เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้า

    https://wccftech.com/tsmc-2nm-process-has-reportedly-secured-up-to-fifteen-customers/
    📰 TSMC 2nm มาแรง! ลูกค้าแห่จองล่วงหน้าเพียบ — AI และ HPC แย่งชิงกำลังผลิตก่อนเปิดสายการผลิตจริง TSMC ผู้ผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลกจากไต้หวัน กำลังเตรียมเปิดสายการผลิตระดับ 2 นาโนเมตร (2nm) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุดในอุตสาหกรรม ณ ขณะนี้ โดยมีรายงานว่า TSMC ได้รับคำสั่งจองจากลูกค้าถึง 15 รายแล้ว และในจำนวนนี้มีถึง 10 รายที่มุ่งเน้นการใช้งานด้าน HPC (High Performance Computing) เช่น AI, Cloud และเซิร์ฟเวอร์ระดับองค์กร2 แม้ Apple จะยังคงเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุด โดยจองกำลังผลิตมากกว่าครึ่งของทั้งหมดสำหรับชิป A20, M6 และ R2 ที่จะใช้ใน iPhone, MacBook และ Vision Pro รุ่นถัดไป แต่สิ่งที่น่าสนใจคือการที่บริษัทด้าน AI อย่าง Google, Amazon, Broadcom และ OpenAI ก็เข้ามาจองพื้นที่ผลิตสำหรับชิป ASIC แบบ custom ที่ใช้ในงาน AI โดยเฉพาะ NVIDIA และ AMD ก็ไม่พลาด โดยเตรียมใช้ 2nm สำหรับ GPU รุ่นใหม่ เช่น Rubin Ultra และ Instinct MI450 ซึ่งจะเป็นหัวใจของระบบ AI และ HPC ในยุคถัดไป ขณะที่ MediaTek และ Qualcomm ก็เตรียมใช้ในสมาร์ตโฟนระดับเรือธงเช่นกัน สิ่งที่ทำให้ 2nm ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วคือโครงสร้างราคาที่น่าสนใจ และประสิทธิภาพที่สูงกว่ารุ่น 3nm อย่างชัดเจน โดย TSMC คาดว่าจะเริ่มผลิตจำนวนมากในครึ่งหลังของปี 2026 และชิปจากลูกค้ารายแรกจะเริ่มเข้าสู่ตลาดในต้นปี 2027 ✅ TSMC ได้รับคำสั่งจอง 2nm จากลูกค้าแล้ว 15 ราย ➡️ 10 รายเน้นใช้งานด้าน HPC เช่น AI, Cloud, เซิร์ฟเวอร์ ➡️ แสดงถึงแนวโน้มที่เปลี่ยนจากมือถือสู่การประมวลผลขั้นสูง ✅ Apple จองกำลังผลิตมากกว่าครึ่งของทั้งหมด ➡️ ใช้กับชิป A20, M6 และ R2 สำหรับ iPhone, Mac และ Vision Pro ➡️ เตรียมใช้เทคโนโลยี WMCM แทน InFO เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น ✅ ลูกค้า HPC รายใหญ่เข้าร่วม เช่น Google, Amazon, Broadcom, OpenAI ➡️ มุ่งพัฒนาชิป ASIC สำหรับงาน AI โดยเฉพาะ ➡️ ต้องการประสิทธิภาพสูงและการประหยัดพลังงาน ✅ NVIDIA และ AMD เตรียมใช้ 2nm สำหรับ GPU รุ่นใหม่ ➡️ Rubin Ultra และ Instinct MI450 จะใช้เทคโนโลยีนี้ ➡️ เป็นหัวใจของระบบ AI และ HPC ยุคถัดไป ✅ MediaTek และ Qualcomm ใช้ในสมาร์ตโฟนระดับเรือธง ➡️ Dimensity 9600 และ Snapdragon รุ่นถัดไป ➡️ คาดว่าจะเริ่มผลิตปลายปี 2026 ✅ โครงสร้างราคาของ 2nm ดึงดูดลูกค้าจำนวนมาก ➡️ ถูกกว่า 3nm ในบางกรณี / ประสิทธิภาพสูงกว่า ➡️ ทำให้การผลิต ramp-up เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้า https://wccftech.com/tsmc-2nm-process-has-reportedly-secured-up-to-fifteen-customers/
    WCCFTECH.COM
    TSMC's 2nm Process Has Reportedly Secured up to Fifteen Customers, Ten of Which Will Use It for HPC Products, Indicating Phenomenal Demand
    TSMC's N2 process is witnessing massive demand, and it is revealed that the Taiwan giant has secured fifteen customers for their 2nm node.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • ScaleFlux CSD 5320 — SSD ที่บีบอัดข้อมูลได้ทันที พร้อมทะลุขีดจำกัดความเร็วและความจุของ PCIe Gen5

    ในโลกของศูนย์ข้อมูลที่ต้องรับมือกับข้อมูลมหาศาลทุกวินาที ScaleFlux ได้เปิดตัว SSD รุ่นใหม่ CSD 5320 ที่ไม่ใช่แค่เร็ว แต่ “ฉลาด” ด้วยการบีบอัดข้อมูลแบบเรียลไทม์ในตัวฮาร์ดแวร์ โดยไม่ต้องพึ่ง CPU ของระบบหลักเลยแม้แต่นิดเดียว

    CSD 5320 เป็น SSD ระดับองค์กรที่ใช้ PCIe Gen5 x4 พร้อมชิป SFX 5000 ที่รวมเอา ARM processor และ hardware acceleration สำหรับการบีบอัด/คลายข้อมูลโดยเฉพาะ ทำให้สามารถจัดเก็บข้อมูลได้มากกว่าความจุ NAND จริงถึง 4 เท่าในบางกรณี และยังลดการเขียนซ้ำซ้อนซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของ SSD ได้อย่างมาก

    ผลการทดสอบจาก TweakTown และ WebProNews รายงานว่า SSD รุ่นนี้สามารถอ่านข้อมูลแบบต่อเนื่องได้ถึง 14GB/s และเขียนได้มากกว่า 13GB/s เมื่อใช้กับข้อมูลที่บีบอัดได้ดี ส่วนการทำงานแบบสุ่ม (random IOPS) ก็แตะระดับ 3.3 ล้าน IOPS ซึ่งสูงกว่าหลายรุ่นในตลาด PCIe Gen5

    นอกจากความเร็วแล้ว จุดเด่นของ CSD 5320 คือ “ประสิทธิภาพต่อวัตต์” ที่เหนือกว่า SSD ทั่วไปถึง 3 เท่า และสามารถลดต้นทุนการจัดเก็บข้อมูลในงานที่มีข้อมูลซ้ำซ้อน เช่น log, database, หรือ workload ด้าน AI/ML ที่ต้องการทั้งความเร็วและความจุ

    แม้จะมีรุ่นเริ่มต้นที่ 7.68TB แต่เมื่อรวมเทคโนโลยีบีบอัดแล้วสามารถขยายได้ถึง 256TB ในการใช้งานจริง ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งใน SSD ที่มีความจุสูงที่สุดในตลาดองค์กร ณ ตอนนี้

    ScaleFlux เปิดตัว SSD CSD 5320 สำหรับองค์กร
    ใช้ PCIe Gen5 x4 พร้อมชิป SFX 5000 แบบ custom
    มีระบบบีบอัด/คลายข้อมูลในตัวโดยไม่ใช้ CPU หลัก

    ความเร็วทะลุขีดจำกัดของ Gen5 SSD ทั่วไป
    อ่านต่อเนื่องได้มากกว่า 14GB/s / เขียนได้มากกว่า 13GB/s
    Random IOPS สูงถึง 3.3 ล้านใน workload แบบองค์กร

    เพิ่มความจุได้มากกว่าความจุ NAND จริง
    บีบอัดข้อมูลได้สูงสุด 4 เท่า
    รุ่น 7.68TB สามารถใช้งานจริงได้ถึง 256TB

    ประสิทธิภาพต่อวัตต์สูงกว่า SSD ทั่วไป
    ลด write amplification / ยืดอายุการใช้งาน
    เหมาะกับงาน AI, ML, database, log analytics

    มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน
    รองรับ compressible workload ได้ดีที่สุดในตลาด
    ใช้ได้กับศูนย์ข้อมูลที่มีข้อจำกัดด้านพลังงานและพื้นที่

    https://www.techradar.com/pro/like-nothing-else-out-there-scaleflux-extraordinary-ssd-compresses-datasets-on-the-fly-and-delivers-equally-extraordinary-performance-says-review
    📰 ScaleFlux CSD 5320 — SSD ที่บีบอัดข้อมูลได้ทันที พร้อมทะลุขีดจำกัดความเร็วและความจุของ PCIe Gen5 ในโลกของศูนย์ข้อมูลที่ต้องรับมือกับข้อมูลมหาศาลทุกวินาที ScaleFlux ได้เปิดตัว SSD รุ่นใหม่ CSD 5320 ที่ไม่ใช่แค่เร็ว แต่ “ฉลาด” ด้วยการบีบอัดข้อมูลแบบเรียลไทม์ในตัวฮาร์ดแวร์ โดยไม่ต้องพึ่ง CPU ของระบบหลักเลยแม้แต่นิดเดียว CSD 5320 เป็น SSD ระดับองค์กรที่ใช้ PCIe Gen5 x4 พร้อมชิป SFX 5000 ที่รวมเอา ARM processor และ hardware acceleration สำหรับการบีบอัด/คลายข้อมูลโดยเฉพาะ ทำให้สามารถจัดเก็บข้อมูลได้มากกว่าความจุ NAND จริงถึง 4 เท่าในบางกรณี และยังลดการเขียนซ้ำซ้อนซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของ SSD ได้อย่างมาก ผลการทดสอบจาก TweakTown และ WebProNews รายงานว่า SSD รุ่นนี้สามารถอ่านข้อมูลแบบต่อเนื่องได้ถึง 14GB/s และเขียนได้มากกว่า 13GB/s เมื่อใช้กับข้อมูลที่บีบอัดได้ดี ส่วนการทำงานแบบสุ่ม (random IOPS) ก็แตะระดับ 3.3 ล้าน IOPS ซึ่งสูงกว่าหลายรุ่นในตลาด PCIe Gen5 นอกจากความเร็วแล้ว จุดเด่นของ CSD 5320 คือ “ประสิทธิภาพต่อวัตต์” ที่เหนือกว่า SSD ทั่วไปถึง 3 เท่า และสามารถลดต้นทุนการจัดเก็บข้อมูลในงานที่มีข้อมูลซ้ำซ้อน เช่น log, database, หรือ workload ด้าน AI/ML ที่ต้องการทั้งความเร็วและความจุ แม้จะมีรุ่นเริ่มต้นที่ 7.68TB แต่เมื่อรวมเทคโนโลยีบีบอัดแล้วสามารถขยายได้ถึง 256TB ในการใช้งานจริง ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งใน SSD ที่มีความจุสูงที่สุดในตลาดองค์กร ณ ตอนนี้ ✅ ScaleFlux เปิดตัว SSD CSD 5320 สำหรับองค์กร ➡️ ใช้ PCIe Gen5 x4 พร้อมชิป SFX 5000 แบบ custom ➡️ มีระบบบีบอัด/คลายข้อมูลในตัวโดยไม่ใช้ CPU หลัก ✅ ความเร็วทะลุขีดจำกัดของ Gen5 SSD ทั่วไป ➡️ อ่านต่อเนื่องได้มากกว่า 14GB/s / เขียนได้มากกว่า 13GB/s ➡️ Random IOPS สูงถึง 3.3 ล้านใน workload แบบองค์กร ✅ เพิ่มความจุได้มากกว่าความจุ NAND จริง ➡️ บีบอัดข้อมูลได้สูงสุด 4 เท่า ➡️ รุ่น 7.68TB สามารถใช้งานจริงได้ถึง 256TB ✅ ประสิทธิภาพต่อวัตต์สูงกว่า SSD ทั่วไป ➡️ ลด write amplification / ยืดอายุการใช้งาน ➡️ เหมาะกับงาน AI, ML, database, log analytics ✅ มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน ➡️ รองรับ compressible workload ได้ดีที่สุดในตลาด ➡️ ใช้ได้กับศูนย์ข้อมูลที่มีข้อจำกัดด้านพลังงานและพื้นที่ https://www.techradar.com/pro/like-nothing-else-out-there-scaleflux-extraordinary-ssd-compresses-datasets-on-the-fly-and-delivers-equally-extraordinary-performance-says-review
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • Toshiba โชว์พลัง “ฮาร์ดดิสก์” สู้ PCIe 5.0 ด้วย JBOD 78 ลูก — เมื่อความจุและความเร็วไม่จำเป็นต้องใช้ SSD เสมอไป

    ย้อนกลับไปในปี 2023 Toshiba ได้สร้างการทดลองที่น่าทึ่งแต่กลับถูกมองข้ามในวงกว้าง ด้วยการใช้ฮาร์ดดิสก์ 78 ลูกในระบบ JBOD (Just a Bunch Of Disks) เพื่อแสดงให้เห็นว่า “ฮาร์ดดิสก์ธรรมดา” ก็สามารถให้ความเร็วระดับ PCIe 5.0 ได้ หากจัดการอย่างถูกวิธี

    ทีมวิศวกรของ Toshiba ในยุโรปใช้แชสซี AIC J4078-02-04X แบบ 4U ใส่ฮาร์ดดิสก์ MG08 ขนาด 18TB แบบ SAS ทั้งหมด 78 ลูก เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ Supermicro ผ่านลิงก์ SAS4 และควบคุมด้วย RAID controller จาก Adaptec ผลลัพธ์คือความจุรวม 1.5PB และความเร็วทะลุ 17GB/s — เทียบเท่ากับ SSD PCIe 5.0 ในระดับองค์กร

    แต่ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือการเพิ่มฮาร์ดดิสก์แต่ละลูกให้ผลลัพธ์แบบ “เกือบเชิงเส้น” คือยิ่งใส่มาก ความเร็วรวมก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยฮาร์ดดิสก์แต่ละลูกให้ความเร็วเฉลี่ย 300MB/s และเมื่อรวมกันถึง 78 ลูก ความเร็วรวมก็ทะลุขีดจำกัดของเครือข่าย 100Gbps ได้อย่างง่ายดาย

    แม้ SSD จะครองตลาดในด้านความเร็ว แต่การทดลองนี้แสดงให้เห็นว่า HDD ยังมีบทบาทสำคัญในงานที่ต้องการความจุสูงและต้นทุนต่ำ เช่น cold storage หรือระบบ backup ขนาดใหญ่ และหากปรับแต่ง firmware กับ hardware เพิ่มเติม Toshiba เชื่อว่าระบบนี้สามารถดันความเร็วได้ถึง 20GB/s

    น่าเสียดายที่การทดลองนี้ไม่ได้รับความสนใจจากสื่อกระแสหลัก และวิดีโอรีวิวมีผู้ชมเพียงไม่กี่ร้อยคน ทั้งที่เป็นการพิสูจน์ว่า “เทคโนโลยีเก่า” ยังสามารถแข่งขันได้ในโลกที่หมุนเร็วด้วย SSD และ NVMe

    Toshiba ใช้ฮาร์ดดิสก์ 78 ลูกในระบบ JBOD เพื่อทดสอบความเร็ว
    ใช้แชสซี AIC J4078-02-04X / ฮาร์ดดิสก์ MG08 18TB SAS
    เชื่อมต่อผ่าน SAS4 กับเซิร์ฟเวอร์ Supermicro / ควบคุมด้วย Adaptec RAID

    ความเร็วรวมทะลุ 17GB/s เทียบเท่า PCIe 5.0
    ฮาร์ดดิสก์แต่ละลูกให้ความเร็ว ~300MB/s
    ความเร็วเพิ่มขึ้นเกือบเชิงเส้นเมื่อเพิ่มจำนวนดิสก์

    ความจุรวม 1.5PB เหมาะกับงาน cold storage และ backup
    ต้นทุนต่อ GB ต่ำกว่าระบบ SSD
    เหมาะกับ data center ที่ต้องการความจุสูงแต่ไม่เน้น latency

    Toshiba เชื่อว่าระบบนี้สามารถดันถึง 20GB/s ด้วยการปรับแต่ง
    ต้องปรับ firmware และ optimize hardware เพิ่มเติม
    แสดงให้เห็นศักยภาพของ HDD ในงานระดับองค์กร

    การทดลองไม่ได้รับความสนใจจากสื่อกระแสหลัก
    วิดีโอรีวิวมีผู้ชมเพียง ~400 คน
    เป็นการพิสูจน์ว่าเทคโนโลยีเก่ายังมีคุณค่าในบริบทใหม่

    https://www.techradar.com/pro/two-years-ago-toshiba-used-78-hard-drives-to-reach-pcie-5-0-speeds-in-massive-1-5pb-jbod-setup-but-barely-anyone-noticed
    📰 Toshiba โชว์พลัง “ฮาร์ดดิสก์” สู้ PCIe 5.0 ด้วย JBOD 78 ลูก — เมื่อความจุและความเร็วไม่จำเป็นต้องใช้ SSD เสมอไป ย้อนกลับไปในปี 2023 Toshiba ได้สร้างการทดลองที่น่าทึ่งแต่กลับถูกมองข้ามในวงกว้าง ด้วยการใช้ฮาร์ดดิสก์ 78 ลูกในระบบ JBOD (Just a Bunch Of Disks) เพื่อแสดงให้เห็นว่า “ฮาร์ดดิสก์ธรรมดา” ก็สามารถให้ความเร็วระดับ PCIe 5.0 ได้ หากจัดการอย่างถูกวิธี ทีมวิศวกรของ Toshiba ในยุโรปใช้แชสซี AIC J4078-02-04X แบบ 4U ใส่ฮาร์ดดิสก์ MG08 ขนาด 18TB แบบ SAS ทั้งหมด 78 ลูก เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ Supermicro ผ่านลิงก์ SAS4 และควบคุมด้วย RAID controller จาก Adaptec ผลลัพธ์คือความจุรวม 1.5PB และความเร็วทะลุ 17GB/s — เทียบเท่ากับ SSD PCIe 5.0 ในระดับองค์กร แต่ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือการเพิ่มฮาร์ดดิสก์แต่ละลูกให้ผลลัพธ์แบบ “เกือบเชิงเส้น” คือยิ่งใส่มาก ความเร็วรวมก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยฮาร์ดดิสก์แต่ละลูกให้ความเร็วเฉลี่ย 300MB/s และเมื่อรวมกันถึง 78 ลูก ความเร็วรวมก็ทะลุขีดจำกัดของเครือข่าย 100Gbps ได้อย่างง่ายดาย แม้ SSD จะครองตลาดในด้านความเร็ว แต่การทดลองนี้แสดงให้เห็นว่า HDD ยังมีบทบาทสำคัญในงานที่ต้องการความจุสูงและต้นทุนต่ำ เช่น cold storage หรือระบบ backup ขนาดใหญ่ และหากปรับแต่ง firmware กับ hardware เพิ่มเติม Toshiba เชื่อว่าระบบนี้สามารถดันความเร็วได้ถึง 20GB/s น่าเสียดายที่การทดลองนี้ไม่ได้รับความสนใจจากสื่อกระแสหลัก และวิดีโอรีวิวมีผู้ชมเพียงไม่กี่ร้อยคน ทั้งที่เป็นการพิสูจน์ว่า “เทคโนโลยีเก่า” ยังสามารถแข่งขันได้ในโลกที่หมุนเร็วด้วย SSD และ NVMe ✅ Toshiba ใช้ฮาร์ดดิสก์ 78 ลูกในระบบ JBOD เพื่อทดสอบความเร็ว ➡️ ใช้แชสซี AIC J4078-02-04X / ฮาร์ดดิสก์ MG08 18TB SAS ➡️ เชื่อมต่อผ่าน SAS4 กับเซิร์ฟเวอร์ Supermicro / ควบคุมด้วย Adaptec RAID ✅ ความเร็วรวมทะลุ 17GB/s เทียบเท่า PCIe 5.0 ➡️ ฮาร์ดดิสก์แต่ละลูกให้ความเร็ว ~300MB/s ➡️ ความเร็วเพิ่มขึ้นเกือบเชิงเส้นเมื่อเพิ่มจำนวนดิสก์ ✅ ความจุรวม 1.5PB เหมาะกับงาน cold storage และ backup ➡️ ต้นทุนต่อ GB ต่ำกว่าระบบ SSD ➡️ เหมาะกับ data center ที่ต้องการความจุสูงแต่ไม่เน้น latency ✅ Toshiba เชื่อว่าระบบนี้สามารถดันถึง 20GB/s ด้วยการปรับแต่ง ➡️ ต้องปรับ firmware และ optimize hardware เพิ่มเติม ➡️ แสดงให้เห็นศักยภาพของ HDD ในงานระดับองค์กร ✅ การทดลองไม่ได้รับความสนใจจากสื่อกระแสหลัก ➡️ วิดีโอรีวิวมีผู้ชมเพียง ~400 คน ➡️ เป็นการพิสูจน์ว่าเทคโนโลยีเก่ายังมีคุณค่าในบริบทใหม่ https://www.techradar.com/pro/two-years-ago-toshiba-used-78-hard-drives-to-reach-pcie-5-0-speeds-in-massive-1-5pb-jbod-setup-but-barely-anyone-noticed
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • Windows NT 3.5: จุดเปลี่ยนที่ทำให้ Microsoft ก้าวสู่โลกองค์กร — จาก “Daytona” สู่รากฐานของ Windows ยุคใหม่

    ย้อนกลับไปเมื่อ 31 ปีก่อน วันที่ 21 กันยายน 1994 Microsoft ได้เปิดตัว Windows NT 3.5 ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่เปลี่ยนภาพลักษณ์ของ Windows จากระบบสำหรับผู้ใช้ทั่วไป สู่ระบบปฏิบัติการที่องค์กรเริ่มให้ความสนใจอย่างจริงจัง โดยใช้โค้ดเนมว่า “Daytona” เพื่อสื่อถึงความเร็วและประสิทธิภาพที่เหนือกว่าเวอร์ชันก่อนหน้า

    Windows NT 3.5 ถูกออกแบบใหม่จากรากฐาน โดยทีมของ Dave Cutler ที่เคยพัฒนา VMS จาก DEC ได้สร้างระบบ fully 32-bit พร้อม kernel แบบ hybrid, memory protection และ preemptive multitasking ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ระบบปฏิบัติการระดับองค์กรต้องการในยุคนั้น

    แม้หน้าตาจะยังคล้าย Windows 3.1 ด้วย Program Manager และ File Manager แบบเดิม แต่ภายใน NT 3.5 ได้ปรับปรุงระบบเครือข่ายครั้งใหญ่ เช่น TCP/IP stack ที่เขียนใหม่ทั้งหมด พร้อม Winsock, FTP, Telnet และ Remote Access Service ทำให้สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพในยุคที่อินเทอร์เน็ตเพิ่งเริ่มเข้าสู่สาธารณะ

    ที่สำคัญ NT 3.5 ไม่ได้จำกัดอยู่แค่สถาปัตยกรรม x86 แต่ยังรองรับ MIPS, Alpha และ PowerPC ผ่านระบบ HAL (Hardware Abstraction Layer) ซึ่งเป็นแนวคิดล้ำยุคในตอนนั้น และกลายเป็นรากฐานของความสามารถ cross-platform ใน Windows ยุคหลัง

    แม้จะยังไม่เหมาะกับโน้ตบุ๊กในยุคนั้นเพราะขาด driver สำหรับ PCMCIA และต้องการ RAM สูงกว่ามาตรฐานทั่วไป แต่ NT 3.5 ก็ได้รับการยอมรับในฐานะระบบที่ “จริงจัง” และเป็นจุดเริ่มต้นของสาย Windows NT ที่นำไปสู่ Windows 2000, XP และ Windows 11 ในปัจจุบัน

    Windows NT 3.5 เปิดตัวเมื่อ 21 กันยายน 1994
    ใช้โค้ดเนม “Daytona” เพื่อสื่อถึงความเร็วและประสิทธิภาพ
    เป็นเวอร์ชันที่เปลี่ยน NT จากแนวคิดสู่ผลิตภัณฑ์จริง

    พัฒนาโดยทีมของ Dave Cutler จาก DEC
    ใช้สถาปัตยกรรม fully 32-bit / kernel แบบ hybrid
    มี memory protection และ preemptive multitasking

    ปรับปรุงระบบเครือข่ายครั้งใหญ่
    TCP/IP stack ใหม่ / Winsock / FTP / Telnet / RAS
    รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในยุคเริ่มต้น

    รองรับหลายสถาปัตยกรรมผ่าน HAL
    x86, MIPS, Alpha, PowerPC
    แนวคิด cross-platform ที่นำไปสู่ Windows ยุคใหม่

    มีสองรุ่น: Workstation และ Server
    Workstation รองรับผู้ใช้พร้อมกัน 10 คน / ไม่รองรับ Mac
    Server รองรับฟีเจอร์เครือข่ายเต็มรูปแบบ

    เป็นรากฐานของ Windows XP และ Windows 11
    NT 3.5 ปูทางสู่ NT 4.0, Windows 2000 และ XP
    โค้ดเบส NT ยังคงใช้ใน Windows 11 ปัจจุบัน

    https://www.tomshardware.com/software/windows/microsofts-pivotal-windows-nt-3-5-release-made-it-a-serious-contender-31-years-ago-today
    📰 Windows NT 3.5: จุดเปลี่ยนที่ทำให้ Microsoft ก้าวสู่โลกองค์กร — จาก “Daytona” สู่รากฐานของ Windows ยุคใหม่ ย้อนกลับไปเมื่อ 31 ปีก่อน วันที่ 21 กันยายน 1994 Microsoft ได้เปิดตัว Windows NT 3.5 ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่เปลี่ยนภาพลักษณ์ของ Windows จากระบบสำหรับผู้ใช้ทั่วไป สู่ระบบปฏิบัติการที่องค์กรเริ่มให้ความสนใจอย่างจริงจัง โดยใช้โค้ดเนมว่า “Daytona” เพื่อสื่อถึงความเร็วและประสิทธิภาพที่เหนือกว่าเวอร์ชันก่อนหน้า Windows NT 3.5 ถูกออกแบบใหม่จากรากฐาน โดยทีมของ Dave Cutler ที่เคยพัฒนา VMS จาก DEC ได้สร้างระบบ fully 32-bit พร้อม kernel แบบ hybrid, memory protection และ preemptive multitasking ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ระบบปฏิบัติการระดับองค์กรต้องการในยุคนั้น แม้หน้าตาจะยังคล้าย Windows 3.1 ด้วย Program Manager และ File Manager แบบเดิม แต่ภายใน NT 3.5 ได้ปรับปรุงระบบเครือข่ายครั้งใหญ่ เช่น TCP/IP stack ที่เขียนใหม่ทั้งหมด พร้อม Winsock, FTP, Telnet และ Remote Access Service ทำให้สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพในยุคที่อินเทอร์เน็ตเพิ่งเริ่มเข้าสู่สาธารณะ ที่สำคัญ NT 3.5 ไม่ได้จำกัดอยู่แค่สถาปัตยกรรม x86 แต่ยังรองรับ MIPS, Alpha และ PowerPC ผ่านระบบ HAL (Hardware Abstraction Layer) ซึ่งเป็นแนวคิดล้ำยุคในตอนนั้น และกลายเป็นรากฐานของความสามารถ cross-platform ใน Windows ยุคหลัง แม้จะยังไม่เหมาะกับโน้ตบุ๊กในยุคนั้นเพราะขาด driver สำหรับ PCMCIA และต้องการ RAM สูงกว่ามาตรฐานทั่วไป แต่ NT 3.5 ก็ได้รับการยอมรับในฐานะระบบที่ “จริงจัง” และเป็นจุดเริ่มต้นของสาย Windows NT ที่นำไปสู่ Windows 2000, XP และ Windows 11 ในปัจจุบัน ✅ Windows NT 3.5 เปิดตัวเมื่อ 21 กันยายน 1994 ➡️ ใช้โค้ดเนม “Daytona” เพื่อสื่อถึงความเร็วและประสิทธิภาพ ➡️ เป็นเวอร์ชันที่เปลี่ยน NT จากแนวคิดสู่ผลิตภัณฑ์จริง ✅ พัฒนาโดยทีมของ Dave Cutler จาก DEC ➡️ ใช้สถาปัตยกรรม fully 32-bit / kernel แบบ hybrid ➡️ มี memory protection และ preemptive multitasking ✅ ปรับปรุงระบบเครือข่ายครั้งใหญ่ ➡️ TCP/IP stack ใหม่ / Winsock / FTP / Telnet / RAS ➡️ รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในยุคเริ่มต้น ✅ รองรับหลายสถาปัตยกรรมผ่าน HAL ➡️ x86, MIPS, Alpha, PowerPC ➡️ แนวคิด cross-platform ที่นำไปสู่ Windows ยุคใหม่ ✅ มีสองรุ่น: Workstation และ Server ➡️ Workstation รองรับผู้ใช้พร้อมกัน 10 คน / ไม่รองรับ Mac ➡️ Server รองรับฟีเจอร์เครือข่ายเต็มรูปแบบ ✅ เป็นรากฐานของ Windows XP และ Windows 11 ➡️ NT 3.5 ปูทางสู่ NT 4.0, Windows 2000 และ XP ➡️ โค้ดเบส NT ยังคงใช้ใน Windows 11 ปัจจุบัน https://www.tomshardware.com/software/windows/microsofts-pivotal-windows-nt-3-5-release-made-it-a-serious-contender-31-years-ago-today
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Microsoft’s pivotal Windows NT 3.5 release made it a serious contender, 31 years ago today
    'Daytona' tuned, trimmed, and accelerated Microsoft's clean-slate fully-32-bit OS.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฮกเกอร์โจมตีระบบเช็กอินสนามบินยุโรป — เมื่อจุดรวมศูนย์กลายเป็นจุดอ่อนของโครงสร้างการบิน

    สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบบเช็กอินอัตโนมัติของสนามบินใหญ่ในยุโรป เช่น Heathrow, Berlin Brandenburg และ Brussels Zaventem เกิดความล่มอย่างหนักจากการโจมตีทางไซเบอร์ที่พุ่งเป้าไปยังระบบ cMUSE ของบริษัท Collins Aerospace ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแบบ “common-use” ที่ให้สายการบินหลายแห่งใช้ร่วมกันผ่าน backend เดียว

    ระบบนี้ออกแบบมาเพื่อให้สนามบินสามารถแชร์เคาน์เตอร์เช็กอิน คีออส และระบบ boarding ได้อย่างยืดหยุ่น โดยใช้โครงสร้างแบบ cloud ที่รวมข้อมูลผู้โดยสารไว้ในจุดเดียวเพื่อความสะดวกในการจัดการ แต่เมื่อ backend ล่ม ทุกอย่างก็หยุดลงทันที

    Brussels ต้องยกเลิกเที่ยวบิน 45 เที่ยวจากทั้งหมด 257 เที่ยวในวันเดียว และแจ้งผู้โดยสารว่าอาจมีดีเลย์สูงสุดถึง 90 นาที ส่วน Berlin ปิดการใช้งานคีออสทั้งหมดและเปลี่ยนไปใช้การเช็กอินแบบ manual โดยตรงจากสายการบิน ขณะที่ Heathrow ยังสามารถดำเนินการได้ส่วนใหญ่ แต่ต้องใช้วิธี fallback แบบแมนนวลซึ่งทำให้กระบวนการช้าลง

    Collins Aerospace ยืนยันว่าเป็น “เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับไซเบอร์” แต่ยังไม่เปิดเผยรูปแบบการโจมตีที่เกิดขึ้น โดยระบบ cMUSE ที่ล่มนั้นยังรวมถึงเครื่องพิมพ์แท็กกระเป๋าและเครื่องสแกนชีวภาพที่เชื่อมต่อกับ backend เดียวกัน ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้เช่นกัน

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนที่ EU จะบังคับใช้กฎ NIS2 ในเดือนตุลาคม ซึ่งจะขยายคำจำกัดความของ “โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ” ให้ครอบคลุมถึงผู้ให้บริการ IT ที่สนับสนุนสนามบินและสายการบินโดยตรง รวมถึงกฎ Part-IS ของ EASA ที่มุ่งยกระดับความปลอดภัยไซเบอร์ในระบบการบิน

    ระบบ cMUSE ของ Collins Aerospace ถูกโจมตีทางไซเบอร์
    เป็นแพลตฟอร์มเช็กอินแบบ common-use ที่ใช้ร่วมกันหลายสายการบิน
    ใช้โครงสร้างแบบ cloud ที่รวมข้อมูลผู้โดยสารไว้ในจุดเดียว

    สนามบินใหญ่ในยุโรปได้รับผลกระทบ
    Brussels ยกเลิก 45 เที่ยวบิน / ดีเลย์สูงสุด 90 นาที
    Berlin ปิดคีออสทั้งหมด / Heathrow ใช้ fallback แบบ manual

    ระบบที่เชื่อมต่อกับ cMUSE ก็ล่มตามไปด้วย
    เครื่องพิมพ์แท็กกระเป๋าและเครื่องสแกนชีวภาพไม่สามารถใช้งานได้
    ระบบไม่สามารถ fallback ได้แบบ graceful ต้องใช้แรงงานคนแทน

    EU เตรียมบังคับใช้กฎ NIS2 และ Part-IS
    ขยายคำจำกัดความของ “โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ” ไปยังผู้ให้บริการ IT
    มุ่งยกระดับความปลอดภัยไซเบอร์ในระบบการบิน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/europes-check-in-systems-knocked-offline-after-cyberattack
    📰 แฮกเกอร์โจมตีระบบเช็กอินสนามบินยุโรป — เมื่อจุดรวมศูนย์กลายเป็นจุดอ่อนของโครงสร้างการบิน สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบบเช็กอินอัตโนมัติของสนามบินใหญ่ในยุโรป เช่น Heathrow, Berlin Brandenburg และ Brussels Zaventem เกิดความล่มอย่างหนักจากการโจมตีทางไซเบอร์ที่พุ่งเป้าไปยังระบบ cMUSE ของบริษัท Collins Aerospace ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแบบ “common-use” ที่ให้สายการบินหลายแห่งใช้ร่วมกันผ่าน backend เดียว ระบบนี้ออกแบบมาเพื่อให้สนามบินสามารถแชร์เคาน์เตอร์เช็กอิน คีออส และระบบ boarding ได้อย่างยืดหยุ่น โดยใช้โครงสร้างแบบ cloud ที่รวมข้อมูลผู้โดยสารไว้ในจุดเดียวเพื่อความสะดวกในการจัดการ แต่เมื่อ backend ล่ม ทุกอย่างก็หยุดลงทันที Brussels ต้องยกเลิกเที่ยวบิน 45 เที่ยวจากทั้งหมด 257 เที่ยวในวันเดียว และแจ้งผู้โดยสารว่าอาจมีดีเลย์สูงสุดถึง 90 นาที ส่วน Berlin ปิดการใช้งานคีออสทั้งหมดและเปลี่ยนไปใช้การเช็กอินแบบ manual โดยตรงจากสายการบิน ขณะที่ Heathrow ยังสามารถดำเนินการได้ส่วนใหญ่ แต่ต้องใช้วิธี fallback แบบแมนนวลซึ่งทำให้กระบวนการช้าลง Collins Aerospace ยืนยันว่าเป็น “เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับไซเบอร์” แต่ยังไม่เปิดเผยรูปแบบการโจมตีที่เกิดขึ้น โดยระบบ cMUSE ที่ล่มนั้นยังรวมถึงเครื่องพิมพ์แท็กกระเป๋าและเครื่องสแกนชีวภาพที่เชื่อมต่อกับ backend เดียวกัน ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้เช่นกัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนที่ EU จะบังคับใช้กฎ NIS2 ในเดือนตุลาคม ซึ่งจะขยายคำจำกัดความของ “โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ” ให้ครอบคลุมถึงผู้ให้บริการ IT ที่สนับสนุนสนามบินและสายการบินโดยตรง รวมถึงกฎ Part-IS ของ EASA ที่มุ่งยกระดับความปลอดภัยไซเบอร์ในระบบการบิน ✅ ระบบ cMUSE ของ Collins Aerospace ถูกโจมตีทางไซเบอร์ ➡️ เป็นแพลตฟอร์มเช็กอินแบบ common-use ที่ใช้ร่วมกันหลายสายการบิน ➡️ ใช้โครงสร้างแบบ cloud ที่รวมข้อมูลผู้โดยสารไว้ในจุดเดียว ✅ สนามบินใหญ่ในยุโรปได้รับผลกระทบ ➡️ Brussels ยกเลิก 45 เที่ยวบิน / ดีเลย์สูงสุด 90 นาที ➡️ Berlin ปิดคีออสทั้งหมด / Heathrow ใช้ fallback แบบ manual ✅ ระบบที่เชื่อมต่อกับ cMUSE ก็ล่มตามไปด้วย ➡️ เครื่องพิมพ์แท็กกระเป๋าและเครื่องสแกนชีวภาพไม่สามารถใช้งานได้ ➡️ ระบบไม่สามารถ fallback ได้แบบ graceful ต้องใช้แรงงานคนแทน ✅ EU เตรียมบังคับใช้กฎ NIS2 และ Part-IS ➡️ ขยายคำจำกัดความของ “โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ” ไปยังผู้ให้บริการ IT ➡️ มุ่งยกระดับความปลอดภัยไซเบอร์ในระบบการบิน https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/europes-check-in-systems-knocked-offline-after-cyberattack
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Hackers attack Europe’s automatic flight check-in systems — flight delayed and cancelled after Collins cyberattack
    An incident at Collins Aerospace shut down the cloud back-end for its cMUSE platform this weekend, crippling kiosks and forcing manual fallback at Heathrow, Berlin, and Brussels.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • WeAct Display FS — จอ USB ขนาดจิ๋วราคา $2 ที่อาจเปลี่ยนวิธีมองข้อมูลบนคอมพิวเตอร์

    WeAct Display FS คือจอแสดงผลขนาด 0.96 นิ้วที่เชื่อมต่อผ่าน USB โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นจอเสริมสำหรับแสดงข้อมูลระบบ หรือแม้แต่ใช้เป็นจอภาพที่สองแบบพกพา ด้วยราคาประมาณ $2 บน AliExpress อุปกรณ์นี้กลายเป็นที่สนใจในกลุ่มผู้ใช้สาย embedded และนักพัฒนา DIY อย่างรวดเร็ว2

    แม้จะมีขนาดเท่ากับแฟลชไดรฟ์ แต่จอนี้ให้ความละเอียด 160×80 พิกเซล รองรับสีแบบ RGB565 ถึง 65,536 สี และมีพอร์ต USB-A แบบ reversible ที่สามารถเสียบได้ทั้งสองด้านโดยไม่ต้องกังวลเรื่องทิศทางการใช้งาน

    WeAct มีซอฟต์แวร์สองตัวสำหรับใช้งานจอนี้ ได้แก่ WeAct Studio System Monitor ที่ใช้ Python และสามารถปรับแต่ง UI ได้ตามใจ เช่น แสดงอุณหภูมิ CPU, สภาพอากาศ หรือข้อความต่าง ๆ และ WeAct Studio Screen Projection ที่จำลองจอนี้เป็นจอภาพจริงบน Windows เพื่อย้ายหน้าต่างหรือแสดงภาพแบบเต็มจอ แม้จะมีข้อจำกัดด้านขนาดและความละเอียด

    แม้บริษัทจะระบุว่ารองรับเฉพาะ Windows แต่เนื่องจากซอฟต์แวร์ตัวแรกเป็นโอเพ่นซอร์ส จึงสามารถใช้งานบน macOS, Linux และ Raspberry Pi ได้ หากมี Python 3.9+ และความสามารถในการปรับแต่งโค้ด

    อย่างไรก็ตาม มีข้อกังวลด้านความปลอดภัยจากผู้ใช้บางรายที่ตั้งคำถามว่าอุปกรณ์ USB จากผู้ผลิตจีนอาจถูกใช้เป็นช่องทางแอบแฝง เช่น เปลี่ยนเป็นคีย์บอร์ดเพื่อส่งคำสั่งอัตโนมัติ หรือฝังมัลแวร์ผ่าน driver ที่ไม่ได้เปิดเผยซอร์สโค้ด

    WeAct Display FS เป็นจอ USB ขนาด 0.96 นิ้ว ราคาประหยัด
    ความละเอียด 160×80 พิกเซล / สี RGB565 65,536 สี
    ขนาดเท่าแฟลชไดรฟ์ (43 x 14.5 มม.) / พอร์ต USB-A แบบ reversible

    มีซอฟต์แวร์ให้เลือกใช้งาน 2 แบบ
    WeAct Studio System Monitor ใช้ Python / ปรับแต่ง UI ได้
    WeAct Studio Screen Projection จำลองเป็นจอภาพจริงบน Windows

    รองรับระบบปฏิบัติการหลากหลาย
    แม้จะระบุว่าใช้ได้เฉพาะ Windows แต่สามารถใช้บน Linux/macOS ได้
    ต้องมี Python 3.9+ และปรับแต่งโค้ดเอง

    ใช้งานได้กับ Raspberry Pi และ SBC อื่น ๆ
    เหมาะสำหรับแสดงสถานะระบบหรือข้อมูลเซ็นเซอร์
    มีรุ่น 3.5 นิ้ว 480×320 พิกเซล สำหรับผู้ต้องการจอใหญ่ขึ้น

    คำเตือนเกี่ยวกับความปลอดภัยของอุปกรณ์ USB
    อุปกรณ์ USB อาจเปลี่ยนโหมดเป็น HID เช่น คีย์บอร์ด เพื่อส่งคำสั่ง
    ซอฟต์แวร์บางตัวไม่มีซอร์สโค้ด อาจมีความเสี่ยงด้านความโปร่งใส
    การติดตั้ง driver โดยไม่ตรวจสอบ อาจเปิดช่องให้มัลแวร์แฝงตัว
    ผู้ใช้ควรระวังการให้สิทธิ์ระดับ admin กับอุปกรณ์ที่ไม่รู้แหล่งที่มา

    https://www.cnx-software.com/2025/09/18/2-weact-display-fs-adds-a-0-96-inch-usb-information-display-to-your-computer/
    📰 WeAct Display FS — จอ USB ขนาดจิ๋วราคา $2 ที่อาจเปลี่ยนวิธีมองข้อมูลบนคอมพิวเตอร์ WeAct Display FS คือจอแสดงผลขนาด 0.96 นิ้วที่เชื่อมต่อผ่าน USB โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นจอเสริมสำหรับแสดงข้อมูลระบบ หรือแม้แต่ใช้เป็นจอภาพที่สองแบบพกพา ด้วยราคาประมาณ $2 บน AliExpress อุปกรณ์นี้กลายเป็นที่สนใจในกลุ่มผู้ใช้สาย embedded และนักพัฒนา DIY อย่างรวดเร็ว2 แม้จะมีขนาดเท่ากับแฟลชไดรฟ์ แต่จอนี้ให้ความละเอียด 160×80 พิกเซล รองรับสีแบบ RGB565 ถึง 65,536 สี และมีพอร์ต USB-A แบบ reversible ที่สามารถเสียบได้ทั้งสองด้านโดยไม่ต้องกังวลเรื่องทิศทางการใช้งาน WeAct มีซอฟต์แวร์สองตัวสำหรับใช้งานจอนี้ ได้แก่ WeAct Studio System Monitor ที่ใช้ Python และสามารถปรับแต่ง UI ได้ตามใจ เช่น แสดงอุณหภูมิ CPU, สภาพอากาศ หรือข้อความต่าง ๆ และ WeAct Studio Screen Projection ที่จำลองจอนี้เป็นจอภาพจริงบน Windows เพื่อย้ายหน้าต่างหรือแสดงภาพแบบเต็มจอ แม้จะมีข้อจำกัดด้านขนาดและความละเอียด แม้บริษัทจะระบุว่ารองรับเฉพาะ Windows แต่เนื่องจากซอฟต์แวร์ตัวแรกเป็นโอเพ่นซอร์ส จึงสามารถใช้งานบน macOS, Linux และ Raspberry Pi ได้ หากมี Python 3.9+ และความสามารถในการปรับแต่งโค้ด อย่างไรก็ตาม มีข้อกังวลด้านความปลอดภัยจากผู้ใช้บางรายที่ตั้งคำถามว่าอุปกรณ์ USB จากผู้ผลิตจีนอาจถูกใช้เป็นช่องทางแอบแฝง เช่น เปลี่ยนเป็นคีย์บอร์ดเพื่อส่งคำสั่งอัตโนมัติ หรือฝังมัลแวร์ผ่าน driver ที่ไม่ได้เปิดเผยซอร์สโค้ด ✅ WeAct Display FS เป็นจอ USB ขนาด 0.96 นิ้ว ราคาประหยัด ➡️ ความละเอียด 160×80 พิกเซล / สี RGB565 65,536 สี ➡️ ขนาดเท่าแฟลชไดรฟ์ (43 x 14.5 มม.) / พอร์ต USB-A แบบ reversible ✅ มีซอฟต์แวร์ให้เลือกใช้งาน 2 แบบ ➡️ WeAct Studio System Monitor ใช้ Python / ปรับแต่ง UI ได้ ➡️ WeAct Studio Screen Projection จำลองเป็นจอภาพจริงบน Windows ✅ รองรับระบบปฏิบัติการหลากหลาย ➡️ แม้จะระบุว่าใช้ได้เฉพาะ Windows แต่สามารถใช้บน Linux/macOS ได้ ➡️ ต้องมี Python 3.9+ และปรับแต่งโค้ดเอง ✅ ใช้งานได้กับ Raspberry Pi และ SBC อื่น ๆ ➡️ เหมาะสำหรับแสดงสถานะระบบหรือข้อมูลเซ็นเซอร์ ➡️ มีรุ่น 3.5 นิ้ว 480×320 พิกเซล สำหรับผู้ต้องการจอใหญ่ขึ้น ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับความปลอดภัยของอุปกรณ์ USB ⛔ อุปกรณ์ USB อาจเปลี่ยนโหมดเป็น HID เช่น คีย์บอร์ด เพื่อส่งคำสั่ง ⛔ ซอฟต์แวร์บางตัวไม่มีซอร์สโค้ด อาจมีความเสี่ยงด้านความโปร่งใส ⛔ การติดตั้ง driver โดยไม่ตรวจสอบ อาจเปิดช่องให้มัลแวร์แฝงตัว ⛔ ผู้ใช้ควรระวังการให้สิทธิ์ระดับ admin กับอุปกรณ์ที่ไม่รู้แหล่งที่มา https://www.cnx-software.com/2025/09/18/2-weact-display-fs-adds-a-0-96-inch-usb-information-display-to-your-computer/
    WWW.CNX-SOFTWARE.COM
    $2 WeAct Display FS adds a 0.96-inch USB information display to your computer - CNX Software
    WeAct Display FS is an inexpensive 0.96-inch USB display dongle designed to add an information display or a tiny secondary display to your computer or
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • iPhone Air: บางที่สุดเท่าที่ Apple เคยทำ แต่กลับซ่อมง่ายกว่าที่คิด — เมื่อดีไซน์บางไม่จำเป็นต้องแลกกับความเปราะ

    iFixit ได้ทำการแกะเครื่อง iPhone Air ซึ่งเป็น iPhone ที่บางที่สุดเท่าที่ Apple เคยผลิตมา ด้วยความหนาเพียง 5.64 มม. หลายคนคาดว่าความบางจะทำให้ซ่อมยาก เปราะ และเต็มไปด้วยกาว แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม — Apple ใช้ดีไซน์ที่ชาญฉลาดเพื่อให้ซ่อมง่ายขึ้น และยังคงความแข็งแรงไว้ได้อย่างน่าทึ่ง

    หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญคือการย้าย logic board ไปอยู่ด้านบนของแบตเตอรี่ ทำให้เกิด “disassembly tree” แบบแบน — หมายถึงการถอดชิ้นส่วนไม่ต้องผ่านหลายชั้น ลดความเสี่ยงในการทำชิ้นส่วนอื่นเสียหาย และทำให้การเปลี่ยนแบตเตอรี่หรือจอภาพง่ายขึ้น

    แบตเตอรี่ของ iPhone Air มีขนาด 12.26 Wh ซึ่งเล็กกว่ารุ่นก่อนหน้า แต่ Apple ใช้เทคนิคการจัดการพลังงานเพื่อให้ใช้งานได้ตลอดวัน และที่สำคัญคือแบตเตอรี่สามารถถอดเปลี่ยนได้ง่ายมาก ด้วยแถบกาวที่ “ปลดออกด้วยไฟฟ้า” เพียงต่อไฟ 12V ก็สามารถยกแบตออกได้โดยไม่ต้องงัดหรือเสี่ยงต่อการเสียหาย

    อีกจุดที่น่าสนใจคือพอร์ต USB-C ที่ Apple ใช้เทคนิคการพิมพ์โลหะ 3D ด้วยไทเทเนียม ซึ่งช่วยลดขนาดและน้ำหนักของโครงสร้างโดยรวม แม้จะยังไม่มีอะไหล่ขายจาก Apple แต่พอร์ตนี้สามารถถอดเปลี่ยนได้ และมีแนวโน้มว่าอะไหล่จากผู้ผลิตภายนอกจะตามมาในไม่ช้า

    แม้จะมีจุดอ่อนบางจุด เช่น บริเวณพลาสติกที่ใช้เป็นช่องสัญญาณ ซึ่งอาจเป็นจุดที่เปราะเมื่อไม่มีชิ้นส่วนภายใน แต่โดยรวมแล้ว iPhone Air ได้คะแนนซ่อมง่ายถึง 7/10 จาก iFixit และถือเป็นตัวอย่างของการออกแบบที่บางแต่ไม่ทิ้งความสามารถในการซ่อม

    iPhone Air เป็น iPhone ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมี
    ความหนาเพียง 5.64 มม. บางกว่ารุ่น Galaxy S25 Edge
    ใช้ดีไซน์ใหม่ที่ย้าย logic board ไปด้านบนแบตเตอรี่

    โครงสร้างภายในออกแบบให้ซ่อมง่าย
    “disassembly tree” แบบแบน ลดความเสี่ยงในการถอด
    ไม่ต้องผ่านหลายชั้นเพื่อเปลี่ยนแบตหรือจอ

    แบตเตอรี่ถอดง่ายด้วยกาวปลดด้วยไฟฟ้า
    ใช้ไฟ 12V เพื่อปลดแถบกาวภายใน ~70 วินาที
    เป็นแบตชนิดเดียวกับ MagSafe Battery Pack

    พอร์ต USB-C ใช้เทคโนโลยีพิมพ์โลหะ 3D
    ใช้ไทเทเนียมพิมพ์แบบ binder jetting
    ลดวัสดุได้ถึง 33% และยังคงความแข็งแรง

    ได้คะแนนซ่อมง่าย 7/10 จาก iFixit
    มีคู่มือซ่อมตั้งแต่วันแรก
    ชิ้นส่วนหลักสามารถเข้าถึงได้ง่าย

    https://www.ifixit.com/News/113171/iphone-air-teardown
    📰 iPhone Air: บางที่สุดเท่าที่ Apple เคยทำ แต่กลับซ่อมง่ายกว่าที่คิด — เมื่อดีไซน์บางไม่จำเป็นต้องแลกกับความเปราะ iFixit ได้ทำการแกะเครื่อง iPhone Air ซึ่งเป็น iPhone ที่บางที่สุดเท่าที่ Apple เคยผลิตมา ด้วยความหนาเพียง 5.64 มม. หลายคนคาดว่าความบางจะทำให้ซ่อมยาก เปราะ และเต็มไปด้วยกาว แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม — Apple ใช้ดีไซน์ที่ชาญฉลาดเพื่อให้ซ่อมง่ายขึ้น และยังคงความแข็งแรงไว้ได้อย่างน่าทึ่ง หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญคือการย้าย logic board ไปอยู่ด้านบนของแบตเตอรี่ ทำให้เกิด “disassembly tree” แบบแบน — หมายถึงการถอดชิ้นส่วนไม่ต้องผ่านหลายชั้น ลดความเสี่ยงในการทำชิ้นส่วนอื่นเสียหาย และทำให้การเปลี่ยนแบตเตอรี่หรือจอภาพง่ายขึ้น แบตเตอรี่ของ iPhone Air มีขนาด 12.26 Wh ซึ่งเล็กกว่ารุ่นก่อนหน้า แต่ Apple ใช้เทคนิคการจัดการพลังงานเพื่อให้ใช้งานได้ตลอดวัน และที่สำคัญคือแบตเตอรี่สามารถถอดเปลี่ยนได้ง่ายมาก ด้วยแถบกาวที่ “ปลดออกด้วยไฟฟ้า” เพียงต่อไฟ 12V ก็สามารถยกแบตออกได้โดยไม่ต้องงัดหรือเสี่ยงต่อการเสียหาย อีกจุดที่น่าสนใจคือพอร์ต USB-C ที่ Apple ใช้เทคนิคการพิมพ์โลหะ 3D ด้วยไทเทเนียม ซึ่งช่วยลดขนาดและน้ำหนักของโครงสร้างโดยรวม แม้จะยังไม่มีอะไหล่ขายจาก Apple แต่พอร์ตนี้สามารถถอดเปลี่ยนได้ และมีแนวโน้มว่าอะไหล่จากผู้ผลิตภายนอกจะตามมาในไม่ช้า แม้จะมีจุดอ่อนบางจุด เช่น บริเวณพลาสติกที่ใช้เป็นช่องสัญญาณ ซึ่งอาจเป็นจุดที่เปราะเมื่อไม่มีชิ้นส่วนภายใน แต่โดยรวมแล้ว iPhone Air ได้คะแนนซ่อมง่ายถึง 7/10 จาก iFixit และถือเป็นตัวอย่างของการออกแบบที่บางแต่ไม่ทิ้งความสามารถในการซ่อม ✅ iPhone Air เป็น iPhone ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมี ➡️ ความหนาเพียง 5.64 มม. บางกว่ารุ่น Galaxy S25 Edge ➡️ ใช้ดีไซน์ใหม่ที่ย้าย logic board ไปด้านบนแบตเตอรี่ ✅ โครงสร้างภายในออกแบบให้ซ่อมง่าย ➡️ “disassembly tree” แบบแบน ลดความเสี่ยงในการถอด ➡️ ไม่ต้องผ่านหลายชั้นเพื่อเปลี่ยนแบตหรือจอ ✅ แบตเตอรี่ถอดง่ายด้วยกาวปลดด้วยไฟฟ้า ➡️ ใช้ไฟ 12V เพื่อปลดแถบกาวภายใน ~70 วินาที ➡️ เป็นแบตชนิดเดียวกับ MagSafe Battery Pack ✅ พอร์ต USB-C ใช้เทคโนโลยีพิมพ์โลหะ 3D ➡️ ใช้ไทเทเนียมพิมพ์แบบ binder jetting ➡️ ลดวัสดุได้ถึง 33% และยังคงความแข็งแรง ✅ ได้คะแนนซ่อมง่าย 7/10 จาก iFixit ➡️ มีคู่มือซ่อมตั้งแต่วันแรก ➡️ ชิ้นส่วนหลักสามารถเข้าถึงได้ง่าย https://www.ifixit.com/News/113171/iphone-air-teardown
    WWW.IFIXIT.COM
    Apple’s Thinnest iPhone Still Stands Up to Repairs
    To be honest, we were holding our breath for the iPhone Air. Thinner usually means flimsier, harder to fix, and more glued-down parts. But the iPhone Air proves otherwise. Apple has somehow built its…
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • HIROH Phone โดย Murena — สมาร์ตโฟนเรือธงที่กล้าตัดขาดจาก Google พร้อมสวิตช์ฆ่าเพื่อความเป็นส่วนตัว

    ในยุคที่ข้อมูลส่วนตัวกลายเป็นสินค้าราคาแพง Murena และ HIROH ได้ร่วมมือกันเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ที่กล้าฉีกทุกกฎของตลาด ด้วย HIROH Phone ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ /e/OS แบบไร้ Google และฟีเจอร์เด่นคือ “Kill Switch” ทั้งแบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อปิดกล้อง ไมโครโฟน และการเชื่อมต่อไร้สายทั้งหมดในคลิกเดียว

    ในยุคที่ข้อมูลส่วนตัวกลายเป็นสินค้าราคาแพง Murena และ HIROH ได้ร่วมมือกันเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ที่กล้าฉีกทุกกฎของตลาด ด้วย HIROH Phone ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ /e/OS แบบไร้ Google และฟีเจอร์เด่นคือ “Kill Switch” ทั้งแบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อปิดกล้อง ไมโครโฟน และการเชื่อมต่อไร้สายทั้งหมดในคลิกเดียว

    HIROH Phone ใช้ชิป MediaTek Dimensity 8300 พร้อม RAM 16 GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 512 GB ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับเรือธง รองรับการใช้งานหนักทั้งมัลติทาสก์ เกม และสื่อมัลติมีเดีย หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K พร้อม Gorilla Glass Victus ให้ความคมชัดและทนทาน

    กล้องหลัก 108 MP พร้อมกล้องเสริม 13 MP และมาโคร รวมถึงกล้องหน้า 32 MP ตอบโจทย์สายถ่ายภาพ ส่วนแบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 33W และมีการเชื่อมต่อครบครันทั้ง Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3, NFC และ USB-C

    ระบบ /e/OS ที่ติดตั้งมาเป็นเวอร์ชันล่าสุดบนพื้นฐาน Android 16 ไม่มีบริการ Google ใด ๆ แต่ยังสามารถติดตั้งแอปยอดนิยมได้ผ่าน App Lounge ที่ไม่ต้องล็อกอิน Google และไม่มีตัวติดตามซ่อนอยู่

    HIROH ยังมีรุ่น Platinum Edition สำหรับผู้สั่งจอง 500 คนแรก โดยเปิดให้จองล่วงหน้าด้วยเงินมัดจำ €99 และรับส่วนลด €200 จากราคาปกติ €1,199 เหลือเพียง €999 โดยจะเริ่มจัดส่งในช่วงต้นปี 2026

    HIROH Phone โดย Murena เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวขั้นสูง
    มี Kill Switch แบบฮาร์ดแวร์สำหรับตัดวงจรกล้องและไมโครโฟน
    มี Kill Switch แบบซอฟต์แวร์สำหรับปิดการเชื่อมต่อไร้สายทั้งหมด

    สเปกระดับเรือธง
    ชิป MediaTek Dimensity 8300 / RAM 16 GB / ROM 512 GB
    หน้าจอ AMOLED 6.67″ ความละเอียด 1.5K พร้อม Gorilla Glass Victus

    กล้องและแบตเตอรี่จัดเต็ม
    กล้องหลัง 108 MP + 13 MP + มาโคร / กล้องหน้า 32 MP
    แบตเตอรี่ 5,000 mAh / ชาร์จไว 33W

    ระบบปฏิบัติการ /e/OS แบบไร้ Google
    ไม่มีบริการ Google หรือตัวติดตาม
    รองรับการติดตั้งแอปผ่าน App Lounge โดยไม่ต้องล็อกอิน

    รองรับการเชื่อมต่อครบครัน
    Wi-Fi 6E / Bluetooth 5.3 / NFC / USB-C / Dual SIM
    รองรับ 2G–5G / มี microSD สูงสุด 2TB

    เปิดให้จองล่วงหน้าแล้ว
    มัดจำ €99 / ราคาสุทธิ €999 จากราคาปกติ €1,199
    รุ่น Platinum Edition สำหรับ 500 คนแรก พร้อมจัดส่งต้นปี 2026

    คำเตือนเกี่ยวกับข้อจำกัดและความไม่ชัดเจน
    ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับแบรนด์ HIROH และผู้ผลิตจริง
    การใช้ /e/OS อาจไม่รองรับบางแอปที่พึ่งพา Google Services
    Kill Switch แบบฮาร์ดแวร์อาจไม่สะดวกสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    การรับประกันและบริการหลังการขายยังไม่มีรายละเอียดแน่ชัด

    https://news.itsfoss.com/murena-powered-hiroh-phone/
    📰 HIROH Phone โดย Murena — สมาร์ตโฟนเรือธงที่กล้าตัดขาดจาก Google พร้อมสวิตช์ฆ่าเพื่อความเป็นส่วนตัว ในยุคที่ข้อมูลส่วนตัวกลายเป็นสินค้าราคาแพง Murena และ HIROH ได้ร่วมมือกันเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ที่กล้าฉีกทุกกฎของตลาด ด้วย HIROH Phone ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ /e/OS แบบไร้ Google และฟีเจอร์เด่นคือ “Kill Switch” ทั้งแบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อปิดกล้อง ไมโครโฟน และการเชื่อมต่อไร้สายทั้งหมดในคลิกเดียว ในยุคที่ข้อมูลส่วนตัวกลายเป็นสินค้าราคาแพง Murena และ HIROH ได้ร่วมมือกันเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ที่กล้าฉีกทุกกฎของตลาด ด้วย HIROH Phone ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ /e/OS แบบไร้ Google และฟีเจอร์เด่นคือ “Kill Switch” ทั้งแบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อปิดกล้อง ไมโครโฟน และการเชื่อมต่อไร้สายทั้งหมดในคลิกเดียว HIROH Phone ใช้ชิป MediaTek Dimensity 8300 พร้อม RAM 16 GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 512 GB ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับเรือธง รองรับการใช้งานหนักทั้งมัลติทาสก์ เกม และสื่อมัลติมีเดีย หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K พร้อม Gorilla Glass Victus ให้ความคมชัดและทนทาน กล้องหลัก 108 MP พร้อมกล้องเสริม 13 MP และมาโคร รวมถึงกล้องหน้า 32 MP ตอบโจทย์สายถ่ายภาพ ส่วนแบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 33W และมีการเชื่อมต่อครบครันทั้ง Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3, NFC และ USB-C ระบบ /e/OS ที่ติดตั้งมาเป็นเวอร์ชันล่าสุดบนพื้นฐาน Android 16 ไม่มีบริการ Google ใด ๆ แต่ยังสามารถติดตั้งแอปยอดนิยมได้ผ่าน App Lounge ที่ไม่ต้องล็อกอิน Google และไม่มีตัวติดตามซ่อนอยู่ HIROH ยังมีรุ่น Platinum Edition สำหรับผู้สั่งจอง 500 คนแรก โดยเปิดให้จองล่วงหน้าด้วยเงินมัดจำ €99 และรับส่วนลด €200 จากราคาปกติ €1,199 เหลือเพียง €999 โดยจะเริ่มจัดส่งในช่วงต้นปี 2026 ✅ HIROH Phone โดย Murena เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวขั้นสูง ➡️ มี Kill Switch แบบฮาร์ดแวร์สำหรับตัดวงจรกล้องและไมโครโฟน ➡️ มี Kill Switch แบบซอฟต์แวร์สำหรับปิดการเชื่อมต่อไร้สายทั้งหมด ✅ สเปกระดับเรือธง ➡️ ชิป MediaTek Dimensity 8300 / RAM 16 GB / ROM 512 GB ➡️ หน้าจอ AMOLED 6.67″ ความละเอียด 1.5K พร้อม Gorilla Glass Victus ✅ กล้องและแบตเตอรี่จัดเต็ม ➡️ กล้องหลัง 108 MP + 13 MP + มาโคร / กล้องหน้า 32 MP ➡️ แบตเตอรี่ 5,000 mAh / ชาร์จไว 33W ✅ ระบบปฏิบัติการ /e/OS แบบไร้ Google ➡️ ไม่มีบริการ Google หรือตัวติดตาม ➡️ รองรับการติดตั้งแอปผ่าน App Lounge โดยไม่ต้องล็อกอิน ✅ รองรับการเชื่อมต่อครบครัน ➡️ Wi-Fi 6E / Bluetooth 5.3 / NFC / USB-C / Dual SIM ➡️ รองรับ 2G–5G / มี microSD สูงสุด 2TB ✅ เปิดให้จองล่วงหน้าแล้ว ➡️ มัดจำ €99 / ราคาสุทธิ €999 จากราคาปกติ €1,199 ➡️ รุ่น Platinum Edition สำหรับ 500 คนแรก พร้อมจัดส่งต้นปี 2026 ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับข้อจำกัดและความไม่ชัดเจน ⛔ ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับแบรนด์ HIROH และผู้ผลิตจริง ⛔ การใช้ /e/OS อาจไม่รองรับบางแอปที่พึ่งพา Google Services ⛔ Kill Switch แบบฮาร์ดแวร์อาจไม่สะดวกสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ⛔ การรับประกันและบริการหลังการขายยังไม่มีรายละเอียดแน่ชัด https://news.itsfoss.com/murena-powered-hiroh-phone/
    NEWS.ITSFOSS.COM
    A Flagship Smartphone With Kill Switches? Meet the Murena-Powered HIROH Phone
    A premium smartphone running de-Googled /e/OS, complete with hardware kill switches.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 15 ช๊อกโกแลตมีประกัน (ตอนจบ)

    ฝูงชนออกมาตามถนนมากขึ้นทุกวัน ความรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกวัน มือปืนซุ่มยิงเริ่มทำงานอย่างขยันขันแข็งขึ้นทุกวัน แล้ววันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ที่ Maiden Square ก็เหมือนเป็นสนามรบ ตำรวจปราบจราจลไม่สามารถทำอะไรได้มาก หัวหน้าฝ่ายค้าน Vitali Klitschko ซึ่งมาร่วมประชุมวันก่อนกับสหภาพยุโรป บอกขอยกเลิกข้อตกลงที่คุยกันไว้ โดยไม่ให้เหตุผล ส่วนนาย Yanukovich หายตัวไปจากเมือง Kiev !

    ใครเป็นคนเริ่มการซุ่มยิง ข่าววงในหลุดมาจากมือเก๋า ของหน่วยงานความมั่นคงของอเมริกา ว่า พวกซุ่มยิงหรือพวกแม่นปืน (sniper) มาจากองค์กรพวกขวาจัดของ Ukraine National Assembly – Ukanian People’s Self-Defense (UNA-UNSO)

    หัวหน้าของ UNA-UNSO คือนาย Andriy Shkil ซึ่งเป็นที่ปรึกษา ให้แก่คุณนายหางเปีย Tymoshenko มากว่า 10 ปี ! ตลอดเวลาที่อเมริกาเล่นละเลงสี ส้ม ในช่วงปี ค.ศ. 2003-2004 เพื่อหนุน Ukraine ให้เข้า NATO และชักใย นาย Viktor Yuskchenko สู้กับฝ่ายหนุนรัสเซียนั้น ข่าวบอกว่า UNA-UNSO ทำหน้าที่เป็นการ์ดคุ้มครองความปลอดภัย ให้คุณนายหางเปียและคุณหุ่น Yushchenko

    ข่าวว่า UNA_UNSO มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพวก the German National Democratic Party (NDP) ของเยอรมัน
    ตั้งแต่สหภาพโซเวียต ล่มสลายในปี ค.ศ. 1991 สมาชิกที่มารวมตัวเป็นกลุ่ม UNA-UNSO มักอยู่เบื้องหลังการต่อต้านรัสเซียเกือบทุกรายการ แหล่งข่าวจากหน่วยความมั่นคงของอเมริการะบุว่า พวกนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม “GLADIO” ซึ่งเป็นองค์กรลับภายใต้การดูแลของ NATO และไม่ใช่พวก Ukraine รักชาติ อย่างที่พวกสื่อตะวันตกเอาไปลงกัน

    แหล่งข่าวเดียวกันนี้ ยืนยันว่า UNA-UNSO มีส่วนเกี่ยวข้อง (โดยมีการยืนยันอย่างเป็นทางการ) ตั้งแต่เหตุการณ์ใน Lithunia เมื่อปี ค.ศ. 1991, Pridnister Republic 1992, anti Moscow Abkhazia War 1993, Chechen War, the US-organized Kosovo Campaign Against the Serbs และ Aug 8 2008 war in Georgia รายงานบอกว่า UNA-UNSO เกี่ยวข้องกับงานสกปรกของ NATO ทุกรายการตั้งแต่เลิกสงครามเย็นเป็นต้นมา โดยเป็นการทำงานในนามของ NATO และโยนให้รัสเซียเป็นแพะ โดยกลุ่มพวกนี้อ้างตัวว่า เป็นหน่วยงานพิเศษของรัสเซีย Russian special Forces

    ถ้าเป็นเรื่องจริงว่า UNA-UNSO ไม่ใช่ชาว Ukraine แต่เป็นหน่วยงานลับสูงสุดของ NATO โดยใช้ Ukraine เป็นฐาน ก็น่าคิดว่าการพยายาม เจรจาประนีประนอมของสหภาพยุโรป เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ Kiev โดยไม่เชิญตัวเล่นสำคัญไปร่วมด้วย เหตุการรุนแรงที่กำลังดำเนินอยู่ ก็น่าจะถูกวางยาให้การแอบเจรจา ล่มเละเรียบร้อย เป็นการสั่งสอน

    แต่อย่างว่า สหภาพยุโรปไม่มี NATO ก็เหมือนเต่าไม่มีกระดอง NATO ไม่มีอเมริกา ก็เหมือนเต่าตาบอด แถมไม่มีผักบุ้งให้กิน มันจะแตกกันจริงหรือ ร้าวอาจจะมี แต่เพื่อเป้าหมายเดียวกัน มันก็รวมตัวกันเล่นละครต่อไปได้น่า

    ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า หลังจากได้รับเลือกเป็นประธานาธิ บดี เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2014 นี้เอง ประธานาธิบดี Petro Poroshenko เจ้าพ่อช๊อกโกแลต ก็แอบมีนัดกับคณะผู้แทน ที่นำโดยผู้อำนวยการของ National Service of Covert Operations (หรือ CIA National Clandestine Service) ชื่อนาย Frank Archibald รวมทั้ง นาย Jeffery Egan อดีตหัวหน้า CIA ประจำ Ukraine และนาย Raymond Mark Davidson หัวหน้า CIA ประจำ Ukraine คนปัจจุบัน, นาย Mark Buggy (CIA Istanbul) Andrzei Derlatka (CIA Polish intelligence Agency) และนาย Kevin Duffin เจ้าหน้าที่ CIA ซึ่งมีตำแหน่งเป็นรองประธานอาวุโสของบริษัทประกันภัย ชื่อ Brower
    แล้วประธานาธิบดี Poroshenko และนาย Archibald ก็ได้ลงนามในสัญญา ชื่อ “Agreement on Military Cooperation between U.S and Ukraine”

    เห็นรายชื่อและตำแหน่งของคณะผู้แทนของอเมริกา ที่เข้าพบประธานาธิบดีครั้งนี้ น่าสงสัย ว่าจะลับ ลวงหลอก หรือไง แต่เซียนแบบเรา ๆ (ฮา) ก็พอจะเดากันได้ ตอนนี้ไม่ง่ายเหมือนปลอกกล้วยหรอก ที่สภาสูงจะอนุมัติ ให้อเมริกาให้ความร่วมมือทางทหาร โดยตรงกับ Ukraine ด้วยการส่งทหารไปทำการฝึกและเข้าร่วมการรบใน Ukraine มันก็เลยต้องเล่นกลกันหน่อย ใช้ให้บริษัทประกันภัย Brower ซึ่งเป็นของ CIA ออกหน้าแทน เรื่องแบบนี้ มันงานถนัดอยู่แล้ว ก็จัดการไม่ยาก และไม่เป็นข่าวมากนัก ขืนทำตรงไปตรงมา โป๊ตายชัก โลกรู้หมดว่า กำลังอะไร เอาน่าถึงโลกจะรู้แล้ว แต่อย่าให้ถึงกับเป็นข่าวว่อนเน็ตเลย

    นอกจากลงนาม เกี่ยวกับความร่วมมือทางการทหาร กับบริษัทประกัน Brower แล้ว (จัดฉากได้ห่วยแตกจริง ๆ ) รัฐบาลใหม่ของ Ukraine ยังลงนามในสัญญา เพื่อรื้อฟื้นความร่วมมือของ LITPOLUKRBRIG (the Lithuanian – Polish – Brigade) ซึ่งเป็นการรวมมือหน่วยรบของกองกำลัง 3 ประเทศ อีกด้วย

    นาย Sergei Lavrov รมต. กระทรวงต่างประเทศรัสเซียบอกว่า มันง่ายมากสำหรับอเมริกา ที่จะกล่าวหาประเทศเขา เมื่อมีเหตุการณ์ไม่ปรกติใดเกิดขึ้นใน Ukraine และบอกว่ารัสเซียต้องเป็นฝ่ายแก้ไข เขาบอกว่าขณะที่ ฝั่งตะวันออกและทางใต้ของ Ukraine ต่อต้านรัฐบาลที่อยู่ที่ Kiev ไม่ได้เป็นหุ่นเชิดของ Kremlin มันน่าจะอธิบายให้เห็นสัมพันธ์ของรัฐบาลใน Kiev กับอเมริกาแล้วนะ

    ขณะเดี่ยวกับนายพล Rasmussen เลขาธิการ NATO บอกว่าแผนของ NATO ที่จะขยายไปทางตะวันออก ยังเดินหน้าต่อไป

    “NATO กำลังใช้วิกฤติการณ์ใน Ukraine เป็นเครื่องมือในการวางแผนการทำสงคราม และอเมริกาได้ตกลงแล้ว ที่จะตั้งฐานทัพที่ยุโรปตะวันออก” ศจ. Francis Boyle จาก Harvard ซึ่งเป็นผู้ชำนาญ ด้านรัสเซียกล่าว

    เขาบอกต่อไปว่า วิกฤติการณ์ใน Ukraine ได้ถูกวางแผนให้เป็นสงคราม นี่มันเป็นแผนการรบ มันเป็นบทเริ่มสำหรับให้ NATO ใช้กำลังทหาร ทั้งทางอากาศ ทางทะเล และทางบก เพื่อให้เข้าไปถึงรัสเซีย มันชัดเจนว่า NATO กำลังเดินเส้นทางนั้น
    ในวันกล่าวสุนทรพจน์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของนาย Poroshenko เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 2014 นี้เอง เขาได้กล่าว โดยสรุปว่า เขาพยายามจะใช้นโยบายการฑูต เพื่อให้เกิดสันติภาพและความมั่นคง และใช้กองทัพในกรณีที่ประเทศของเขา (Ukraine) ถูกข่มขู่ด้านอธิปไตยทางเขตแดน และผู้ใดที่รุกรานเขตแดนของ Ukraine โปรดจำไว้ด้วยว่า ใครมาด้วยดาบ ก็จะต้องแพ้ไปด้วยคมดาบ เช่นเดียวกัน ช็อกโกแลตชักไม่หวานเสียแล้ว

    ขณะเดียวกัน NATO ก็กำลังใช้กรณีของ Ukraine เป็นใบเบิกเงิน เงินค่าสมาชิก NATO เช่นเดียวกัน เรื่องนี้นาย Obama รีบทำหน้าใหญ่ บอกอเมริกาพร้อมที่จะควักกระเป๋า 1 พันล้านเหรียญ เพื่อเพิ่มกองกำลังสำหรับยุโรปตะวันออกโดยเฉพาะ แหม รวยจัง เงินเดือนเจ้าหน้าที่รัฐบาลบ้านตัวเองจ่ายเขาครบหรือยัง

    อันที่จริง นาย Obama ต้องการจะขอให้สภาสูงให้ blank cheque แก่เขาจำนวน 5 พันล้านเหรียญ เพื่อเอาเงินจำนวนนี้ ไปใช้สำหรับการรบในต่างประเทศ และโดยไม่นับรวมอยู่ในงบประมาณกลาโหม ยังไม่มีข่าวว่าสภาสูง อนุมัติหรือยัง

    เรื่องสภาสูงเป็นเรื่องนึง แต่เรื่องออกข่าวเกทับเป็นอีกเรื่องนึง

    ในการกล่าวสุนทรพจน์กับนักเรียน นายร้อย West Point ในวันจบหลักสูตร ประธานาธิบดี Obama ทำหน้าเข้ม (จริง ๆ ก็เข้มอยู่แล้ว ฮา) บอกว่าอเมริกายังจะเป็นผู้นำของโลกไปอีกหลายร้อยปี กองทัพของเรายังไม่มี
    ใครหน้าไหน ในโลกนี้มาทาบรัศมีได้ ใครที่บอกเป็นอย่างอื่น หรือบอกว่า อเมริกากำลังตกต่ำ เตี้ยลง เตี้ยลง หรือความเป็นผู้นำของ เรากำลังจะจางหายไป คิดใหม่นะ โอกาสที่ใครจะมาเทียบเรา แทบไม่มีเลย ไม่มีทางเฉียดเลยด้วยซ้ำ … อเมริกากำลังพูดกับใครกันแน่

    ในการประชุมขององค์กร Bilderberg องค์กรลับสุดยอดของโลก ครั้งที่ 62 เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ถึง 1 มิถุนายน คศ 2014 ที่กรุง Copenhagen, Denmark มีข่าวรั่วออกมาว่าประเด็นเรื่อง Ukraine เป็นวาระสำคัญและลับสุด ที่ประชุมหารือ ถึงการดำเนินการร่วมกัน ของอเมริกากับสหภาพยุโรป ในกรณีที่กองทัพของรัสเซียจะบุกเข้า Ukraine และความพร้อมของฝ่ายตะวันตกในการเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 3

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    1 กค. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 15 ช๊อกโกแลตมีประกัน (ตอนจบ) ฝูงชนออกมาตามถนนมากขึ้นทุกวัน ความรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกวัน มือปืนซุ่มยิงเริ่มทำงานอย่างขยันขันแข็งขึ้นทุกวัน แล้ววันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ที่ Maiden Square ก็เหมือนเป็นสนามรบ ตำรวจปราบจราจลไม่สามารถทำอะไรได้มาก หัวหน้าฝ่ายค้าน Vitali Klitschko ซึ่งมาร่วมประชุมวันก่อนกับสหภาพยุโรป บอกขอยกเลิกข้อตกลงที่คุยกันไว้ โดยไม่ให้เหตุผล ส่วนนาย Yanukovich หายตัวไปจากเมือง Kiev ! ใครเป็นคนเริ่มการซุ่มยิง ข่าววงในหลุดมาจากมือเก๋า ของหน่วยงานความมั่นคงของอเมริกา ว่า พวกซุ่มยิงหรือพวกแม่นปืน (sniper) มาจากองค์กรพวกขวาจัดของ Ukraine National Assembly – Ukanian People’s Self-Defense (UNA-UNSO) หัวหน้าของ UNA-UNSO คือนาย Andriy Shkil ซึ่งเป็นที่ปรึกษา ให้แก่คุณนายหางเปีย Tymoshenko มากว่า 10 ปี ! ตลอดเวลาที่อเมริกาเล่นละเลงสี ส้ม ในช่วงปี ค.ศ. 2003-2004 เพื่อหนุน Ukraine ให้เข้า NATO และชักใย นาย Viktor Yuskchenko สู้กับฝ่ายหนุนรัสเซียนั้น ข่าวบอกว่า UNA-UNSO ทำหน้าที่เป็นการ์ดคุ้มครองความปลอดภัย ให้คุณนายหางเปียและคุณหุ่น Yushchenko ข่าวว่า UNA_UNSO มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพวก the German National Democratic Party (NDP) ของเยอรมัน ตั้งแต่สหภาพโซเวียต ล่มสลายในปี ค.ศ. 1991 สมาชิกที่มารวมตัวเป็นกลุ่ม UNA-UNSO มักอยู่เบื้องหลังการต่อต้านรัสเซียเกือบทุกรายการ แหล่งข่าวจากหน่วยความมั่นคงของอเมริการะบุว่า พวกนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม “GLADIO” ซึ่งเป็นองค์กรลับภายใต้การดูแลของ NATO และไม่ใช่พวก Ukraine รักชาติ อย่างที่พวกสื่อตะวันตกเอาไปลงกัน แหล่งข่าวเดียวกันนี้ ยืนยันว่า UNA-UNSO มีส่วนเกี่ยวข้อง (โดยมีการยืนยันอย่างเป็นทางการ) ตั้งแต่เหตุการณ์ใน Lithunia เมื่อปี ค.ศ. 1991, Pridnister Republic 1992, anti Moscow Abkhazia War 1993, Chechen War, the US-organized Kosovo Campaign Against the Serbs และ Aug 8 2008 war in Georgia รายงานบอกว่า UNA-UNSO เกี่ยวข้องกับงานสกปรกของ NATO ทุกรายการตั้งแต่เลิกสงครามเย็นเป็นต้นมา โดยเป็นการทำงานในนามของ NATO และโยนให้รัสเซียเป็นแพะ โดยกลุ่มพวกนี้อ้างตัวว่า เป็นหน่วยงานพิเศษของรัสเซีย Russian special Forces ถ้าเป็นเรื่องจริงว่า UNA-UNSO ไม่ใช่ชาว Ukraine แต่เป็นหน่วยงานลับสูงสุดของ NATO โดยใช้ Ukraine เป็นฐาน ก็น่าคิดว่าการพยายาม เจรจาประนีประนอมของสหภาพยุโรป เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ Kiev โดยไม่เชิญตัวเล่นสำคัญไปร่วมด้วย เหตุการรุนแรงที่กำลังดำเนินอยู่ ก็น่าจะถูกวางยาให้การแอบเจรจา ล่มเละเรียบร้อย เป็นการสั่งสอน แต่อย่างว่า สหภาพยุโรปไม่มี NATO ก็เหมือนเต่าไม่มีกระดอง NATO ไม่มีอเมริกา ก็เหมือนเต่าตาบอด แถมไม่มีผักบุ้งให้กิน มันจะแตกกันจริงหรือ ร้าวอาจจะมี แต่เพื่อเป้าหมายเดียวกัน มันก็รวมตัวกันเล่นละครต่อไปได้น่า ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า หลังจากได้รับเลือกเป็นประธานาธิ บดี เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2014 นี้เอง ประธานาธิบดี Petro Poroshenko เจ้าพ่อช๊อกโกแลต ก็แอบมีนัดกับคณะผู้แทน ที่นำโดยผู้อำนวยการของ National Service of Covert Operations (หรือ CIA National Clandestine Service) ชื่อนาย Frank Archibald รวมทั้ง นาย Jeffery Egan อดีตหัวหน้า CIA ประจำ Ukraine และนาย Raymond Mark Davidson หัวหน้า CIA ประจำ Ukraine คนปัจจุบัน, นาย Mark Buggy (CIA Istanbul) Andrzei Derlatka (CIA Polish intelligence Agency) และนาย Kevin Duffin เจ้าหน้าที่ CIA ซึ่งมีตำแหน่งเป็นรองประธานอาวุโสของบริษัทประกันภัย ชื่อ Brower แล้วประธานาธิบดี Poroshenko และนาย Archibald ก็ได้ลงนามในสัญญา ชื่อ “Agreement on Military Cooperation between U.S and Ukraine” เห็นรายชื่อและตำแหน่งของคณะผู้แทนของอเมริกา ที่เข้าพบประธานาธิบดีครั้งนี้ น่าสงสัย ว่าจะลับ ลวงหลอก หรือไง แต่เซียนแบบเรา ๆ (ฮา) ก็พอจะเดากันได้ ตอนนี้ไม่ง่ายเหมือนปลอกกล้วยหรอก ที่สภาสูงจะอนุมัติ ให้อเมริกาให้ความร่วมมือทางทหาร โดยตรงกับ Ukraine ด้วยการส่งทหารไปทำการฝึกและเข้าร่วมการรบใน Ukraine มันก็เลยต้องเล่นกลกันหน่อย ใช้ให้บริษัทประกันภัย Brower ซึ่งเป็นของ CIA ออกหน้าแทน เรื่องแบบนี้ มันงานถนัดอยู่แล้ว ก็จัดการไม่ยาก และไม่เป็นข่าวมากนัก ขืนทำตรงไปตรงมา โป๊ตายชัก โลกรู้หมดว่า กำลังอะไร เอาน่าถึงโลกจะรู้แล้ว แต่อย่าให้ถึงกับเป็นข่าวว่อนเน็ตเลย นอกจากลงนาม เกี่ยวกับความร่วมมือทางการทหาร กับบริษัทประกัน Brower แล้ว (จัดฉากได้ห่วยแตกจริง ๆ ) รัฐบาลใหม่ของ Ukraine ยังลงนามในสัญญา เพื่อรื้อฟื้นความร่วมมือของ LITPOLUKRBRIG (the Lithuanian – Polish – Brigade) ซึ่งเป็นการรวมมือหน่วยรบของกองกำลัง 3 ประเทศ อีกด้วย นาย Sergei Lavrov รมต. กระทรวงต่างประเทศรัสเซียบอกว่า มันง่ายมากสำหรับอเมริกา ที่จะกล่าวหาประเทศเขา เมื่อมีเหตุการณ์ไม่ปรกติใดเกิดขึ้นใน Ukraine และบอกว่ารัสเซียต้องเป็นฝ่ายแก้ไข เขาบอกว่าขณะที่ ฝั่งตะวันออกและทางใต้ของ Ukraine ต่อต้านรัฐบาลที่อยู่ที่ Kiev ไม่ได้เป็นหุ่นเชิดของ Kremlin มันน่าจะอธิบายให้เห็นสัมพันธ์ของรัฐบาลใน Kiev กับอเมริกาแล้วนะ ขณะเดี่ยวกับนายพล Rasmussen เลขาธิการ NATO บอกว่าแผนของ NATO ที่จะขยายไปทางตะวันออก ยังเดินหน้าต่อไป “NATO กำลังใช้วิกฤติการณ์ใน Ukraine เป็นเครื่องมือในการวางแผนการทำสงคราม และอเมริกาได้ตกลงแล้ว ที่จะตั้งฐานทัพที่ยุโรปตะวันออก” ศจ. Francis Boyle จาก Harvard ซึ่งเป็นผู้ชำนาญ ด้านรัสเซียกล่าว เขาบอกต่อไปว่า วิกฤติการณ์ใน Ukraine ได้ถูกวางแผนให้เป็นสงคราม นี่มันเป็นแผนการรบ มันเป็นบทเริ่มสำหรับให้ NATO ใช้กำลังทหาร ทั้งทางอากาศ ทางทะเล และทางบก เพื่อให้เข้าไปถึงรัสเซีย มันชัดเจนว่า NATO กำลังเดินเส้นทางนั้น ในวันกล่าวสุนทรพจน์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของนาย Poroshenko เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 2014 นี้เอง เขาได้กล่าว โดยสรุปว่า เขาพยายามจะใช้นโยบายการฑูต เพื่อให้เกิดสันติภาพและความมั่นคง และใช้กองทัพในกรณีที่ประเทศของเขา (Ukraine) ถูกข่มขู่ด้านอธิปไตยทางเขตแดน และผู้ใดที่รุกรานเขตแดนของ Ukraine โปรดจำไว้ด้วยว่า ใครมาด้วยดาบ ก็จะต้องแพ้ไปด้วยคมดาบ เช่นเดียวกัน ช็อกโกแลตชักไม่หวานเสียแล้ว ขณะเดียวกัน NATO ก็กำลังใช้กรณีของ Ukraine เป็นใบเบิกเงิน เงินค่าสมาชิก NATO เช่นเดียวกัน เรื่องนี้นาย Obama รีบทำหน้าใหญ่ บอกอเมริกาพร้อมที่จะควักกระเป๋า 1 พันล้านเหรียญ เพื่อเพิ่มกองกำลังสำหรับยุโรปตะวันออกโดยเฉพาะ แหม รวยจัง เงินเดือนเจ้าหน้าที่รัฐบาลบ้านตัวเองจ่ายเขาครบหรือยัง อันที่จริง นาย Obama ต้องการจะขอให้สภาสูงให้ blank cheque แก่เขาจำนวน 5 พันล้านเหรียญ เพื่อเอาเงินจำนวนนี้ ไปใช้สำหรับการรบในต่างประเทศ และโดยไม่นับรวมอยู่ในงบประมาณกลาโหม ยังไม่มีข่าวว่าสภาสูง อนุมัติหรือยัง เรื่องสภาสูงเป็นเรื่องนึง แต่เรื่องออกข่าวเกทับเป็นอีกเรื่องนึง ในการกล่าวสุนทรพจน์กับนักเรียน นายร้อย West Point ในวันจบหลักสูตร ประธานาธิบดี Obama ทำหน้าเข้ม (จริง ๆ ก็เข้มอยู่แล้ว ฮา) บอกว่าอเมริกายังจะเป็นผู้นำของโลกไปอีกหลายร้อยปี กองทัพของเรายังไม่มี ใครหน้าไหน ในโลกนี้มาทาบรัศมีได้ ใครที่บอกเป็นอย่างอื่น หรือบอกว่า อเมริกากำลังตกต่ำ เตี้ยลง เตี้ยลง หรือความเป็นผู้นำของ เรากำลังจะจางหายไป คิดใหม่นะ โอกาสที่ใครจะมาเทียบเรา แทบไม่มีเลย ไม่มีทางเฉียดเลยด้วยซ้ำ … อเมริกากำลังพูดกับใครกันแน่ ในการประชุมขององค์กร Bilderberg องค์กรลับสุดยอดของโลก ครั้งที่ 62 เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ถึง 1 มิถุนายน คศ 2014 ที่กรุง Copenhagen, Denmark มีข่าวรั่วออกมาว่าประเด็นเรื่อง Ukraine เป็นวาระสำคัญและลับสุด ที่ประชุมหารือ ถึงการดำเนินการร่วมกัน ของอเมริกากับสหภาพยุโรป ในกรณีที่กองทัพของรัสเซียจะบุกเข้า Ukraine และความพร้อมของฝ่ายตะวันตกในการเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 1 กค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 14 ตกสำรวจ

    ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี Ukraine เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 ปรากฎว่า ผู้ได้รับเลือกคือ นาย Petro Poroshenko เจ้าพ่อช็อคโกแลต อ้าว ! ไหงเป็นงั้น เดิมนางเหยี่ยว Nuland บอกจะเอา นาย Yats (Arseniy Yatssenyuk) มาลงแข่ง ระหว่างรอแข่งเอานาย Yats ไปเป็นนายกฯ กินเมืองไว้ก่อน แต่นาย Yats นี้อยู่พรรคเดียวกับคุณนายผมเปีย ซึ่งช่วงนั้นคุณนายติดคุกอยู่หลายข้อหา พอคุณนายผมเปีย หลุดจากคุก ไม่รู้ใครเป็นคนจัดการ ปล่อยตัวคุณนายออกมา (เออ ! เขาเล่นกันได้สนุกไม่แพ้บ้านเรา) ตกลงคุณนายผมเปียเลยไปลงสมัคร (ในฐานะหุ่นเชิดให้กับฝ่ายอเมริกา แต่สื่ออเมริกาบอกเป็นหุ่นเชิดของคุณพี่ปูติน !)

    ส่วนรายเจ้าพ่อช็อคโกแลต ก็กลับตาลปัตร คุณนาย Merkel และสหภาพยุโรปบอก ฉันจะเอานักมวย คือ นาย Vitaly Klitscheko แล้วถูกนางเหยี่ยวให้ F ไปหนึ่งตัวนั่นนะ ปรากฎว่านาย Klits เกิดอาการถอดใจ บอกว่าเจ้าพ่อช็อคโกแลตคะแนนดีกว่าผมแยะ สรุปเลยเป็นการแข่งระหว่างสหภาพยุโรปกับอเมริกา ! น่าสนใจ หมากตานี้ เหมือนจะเป็นรัสเซียนั่งดูอยู่บนภู !

    นาย Poroshenko ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีไปก็จริง แต่นักวิเคราะห์การเมือง ที่ไม่ได้เป็นหุ่นของฝ่ายตะวันตก บอกว่ามีตำแหน่งแต่ไม่มีอำนาจ จะแก้ไขปัญหา Ukraine อย่างจริงจังได้อย่างไร คอยดูฤดูใบไม้ร่วงนี้แล้วกัน ว่าถึงตอนนั้น Ukraine ยังเลี้ยงตัวเองได้อยู่หรือเปล่า และแก๊ซจากรัสเซีย จะยังส่งมาตามท่อส่งอยู่หรือเปล่า แล้วก็คงจะได้รู้กันว่าใครจะร่วงตามใบไม้

    วิกฤติ Ukraine คงไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วจบง่าย ๆ เหมือนไฟไหม้ฟาง อุตส่าห์วางแผน ลงแรง ลงเงิน กันไปแยะ คงเล่นกันอีกยาว ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าใครควรป็นคนตะโกน เราชนะ เราชนะแล้ว We Won, We Won !

    การ “เล่น” ของอเมริกาแรงขึ้นทุกวัน และเย้ยฟ้าท้าดิน ใครจะด่า ใครจะประท้วง ใครจะเปิดโปง อเมริกาไม่สนใจ เล่นต่อมันไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ตะโกน เราชนะแล้ว หรือไง ?
    ก่อนการเลือกตั้งของ Ukraine เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน Ukraine มันน่ามึนงงสงสัย ท้าทายความเข้าใจของชาวโลก ประธานาธิบดี Viktor Yanukovich ถูกไล่ออกจากตำแหน่ง แล้วหลบหนี หายไปจากสงครามกลางเมืองในประเทศของตัวเอง หลังจากมีการประท้วงกันอย่างรุนแรง มีการยิงกัน ระเบิดใส่ทั้งคนทั้งตึก เผาบ้านช่อง ตึกรามไหม้วอด โดยผู้ที่เรียกตัวเองว่า “ฝ่ายต่อต้าน”

    ฝ่ายต่อต้านบอก พวกเขาไม่พอใจที่ประธานาธิบดี Yanukovich ปฎิเสธที่จะรับข้อเสนอของสหภาพยุโรป ในการรับ Ukraine เป็นสมาชิก แต่ไม่มีใคร รวมทั้งสื่อตะวันตก ที่จะบอกถึงข้อเท็จจริงว่า ข้อเสนอของสหภาพยุโรป เป็นข้อเสนอ อย่างหลวม ๆ ไม่มีข้ออะไรชัดเจน เมื่อเปรียบเทียบกับข้อเสนอของรัสเซีย ที่ประกาศจะยกหนี้ให้ Ukraine เป็นจำนวน 15 billion ยูโร และลดราคาแก๊ซที่ส่งให้ ลงจำนวน 1 ใน 3 ของราคาที่เคยซื้อขายกัน

    คนนอกฟังแล้วงง ตกลงฝ่ายต่อต้านต้องการอะไรกันแน่

    ก่อนเหตุการณ์จะบานปลาย หลังจากนางเหยี่ยว Nuland ให้ F แก่สหภาพยุโรป ไปไม่เท่าไหร่ สหภาพยุโรปตัดสินใจเดินหน้าแก้ ปัญหา Ukraine ต่อ โดยรมว. ตปท. เยอรมัน นาย Frank-Walter Steinmeier เสนอให้ฝรั่งเศส นาย Laurent Fabius บินมา Kiev และมาคุยหาทางออกร่วมกัน ก่อนที่สถานการณ์ใน Ukraine จะเดือดพล่านกว่านี้ รมว.ตปท. โปแลนด์ ก็ได้รับเชิญให้มาร่วมด้วย การเจรจาที่ Kiev ยังมีตัวแทนจากสหภาพยุโรปคนอื่นและ ตัวประธานาธิบดี Yanukovich รวมทั้งมีตัวแทนจากฝ่ายค้าน และตัวแทนจากรัสเซียมาร่วมหารือ แต่ไม่มีแม้แต่เงา คือ ตัวแทนของอเมริกา เพราะไม่ได้รับเชิญ !

    การเข้ามาพยายามแก้ไขสถานการณ์ของสหภาพยุโรป โดยไม่มีอเมริกา ถือเป็นเรื่องแปลกยิ่ง ทำให้เริ่มเห็นเค้าลาง ของรอยความไม่ลงกัน ระหว่างอเมริกากับสภาพยุโรป ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา (สงสัยอเมริกาให้คะแนน F กับสหภาพยุโรปมากไปหน่อย ฮา) คราวนี้สหภาพยุโรปอาจจะบอกว่า งั้นเราคุยกันเองบ้างก็ได้ ให้ F กับอเมริกาเป็นการตอบแทนไป

    หลังจากการคุย ทุกฝ่ายตกลงเห็นพ้อง ที่จะให้มีการเลือกตั้งในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2013 และปล่อยตัว คุณนายหางเปีย Tymoshenko ออกจากคุก ดูเป็นการประนีประนอมที่น่าจะมีอนาคต และดูเหมือนจะเป็นทางออกให้กับทุกฝ่าย พอที่จะทำให้การจราจลหยุดลงได้

    คุยกันเสร็จไม่ทันพ้น 12 ชั่วโมง สถานการณ์กลับตาละปัตร เลวร้ายลงไปใหญ่ สงสัยเชิญแขกมามาคุยไม่ครบ แบบนี้ มันหักหน้า หักหลังกันหรือไง

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    1 กค. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 14 ตกสำรวจ ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี Ukraine เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 ปรากฎว่า ผู้ได้รับเลือกคือ นาย Petro Poroshenko เจ้าพ่อช็อคโกแลต อ้าว ! ไหงเป็นงั้น เดิมนางเหยี่ยว Nuland บอกจะเอา นาย Yats (Arseniy Yatssenyuk) มาลงแข่ง ระหว่างรอแข่งเอานาย Yats ไปเป็นนายกฯ กินเมืองไว้ก่อน แต่นาย Yats นี้อยู่พรรคเดียวกับคุณนายผมเปีย ซึ่งช่วงนั้นคุณนายติดคุกอยู่หลายข้อหา พอคุณนายผมเปีย หลุดจากคุก ไม่รู้ใครเป็นคนจัดการ ปล่อยตัวคุณนายออกมา (เออ ! เขาเล่นกันได้สนุกไม่แพ้บ้านเรา) ตกลงคุณนายผมเปียเลยไปลงสมัคร (ในฐานะหุ่นเชิดให้กับฝ่ายอเมริกา แต่สื่ออเมริกาบอกเป็นหุ่นเชิดของคุณพี่ปูติน !) ส่วนรายเจ้าพ่อช็อคโกแลต ก็กลับตาลปัตร คุณนาย Merkel และสหภาพยุโรปบอก ฉันจะเอานักมวย คือ นาย Vitaly Klitscheko แล้วถูกนางเหยี่ยวให้ F ไปหนึ่งตัวนั่นนะ ปรากฎว่านาย Klits เกิดอาการถอดใจ บอกว่าเจ้าพ่อช็อคโกแลตคะแนนดีกว่าผมแยะ สรุปเลยเป็นการแข่งระหว่างสหภาพยุโรปกับอเมริกา ! น่าสนใจ หมากตานี้ เหมือนจะเป็นรัสเซียนั่งดูอยู่บนภู ! นาย Poroshenko ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีไปก็จริง แต่นักวิเคราะห์การเมือง ที่ไม่ได้เป็นหุ่นของฝ่ายตะวันตก บอกว่ามีตำแหน่งแต่ไม่มีอำนาจ จะแก้ไขปัญหา Ukraine อย่างจริงจังได้อย่างไร คอยดูฤดูใบไม้ร่วงนี้แล้วกัน ว่าถึงตอนนั้น Ukraine ยังเลี้ยงตัวเองได้อยู่หรือเปล่า และแก๊ซจากรัสเซีย จะยังส่งมาตามท่อส่งอยู่หรือเปล่า แล้วก็คงจะได้รู้กันว่าใครจะร่วงตามใบไม้ วิกฤติ Ukraine คงไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วจบง่าย ๆ เหมือนไฟไหม้ฟาง อุตส่าห์วางแผน ลงแรง ลงเงิน กันไปแยะ คงเล่นกันอีกยาว ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าใครควรป็นคนตะโกน เราชนะ เราชนะแล้ว We Won, We Won ! การ “เล่น” ของอเมริกาแรงขึ้นทุกวัน และเย้ยฟ้าท้าดิน ใครจะด่า ใครจะประท้วง ใครจะเปิดโปง อเมริกาไม่สนใจ เล่นต่อมันไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ตะโกน เราชนะแล้ว หรือไง ? ก่อนการเลือกตั้งของ Ukraine เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน Ukraine มันน่ามึนงงสงสัย ท้าทายความเข้าใจของชาวโลก ประธานาธิบดี Viktor Yanukovich ถูกไล่ออกจากตำแหน่ง แล้วหลบหนี หายไปจากสงครามกลางเมืองในประเทศของตัวเอง หลังจากมีการประท้วงกันอย่างรุนแรง มีการยิงกัน ระเบิดใส่ทั้งคนทั้งตึก เผาบ้านช่อง ตึกรามไหม้วอด โดยผู้ที่เรียกตัวเองว่า “ฝ่ายต่อต้าน” ฝ่ายต่อต้านบอก พวกเขาไม่พอใจที่ประธานาธิบดี Yanukovich ปฎิเสธที่จะรับข้อเสนอของสหภาพยุโรป ในการรับ Ukraine เป็นสมาชิก แต่ไม่มีใคร รวมทั้งสื่อตะวันตก ที่จะบอกถึงข้อเท็จจริงว่า ข้อเสนอของสหภาพยุโรป เป็นข้อเสนอ อย่างหลวม ๆ ไม่มีข้ออะไรชัดเจน เมื่อเปรียบเทียบกับข้อเสนอของรัสเซีย ที่ประกาศจะยกหนี้ให้ Ukraine เป็นจำนวน 15 billion ยูโร และลดราคาแก๊ซที่ส่งให้ ลงจำนวน 1 ใน 3 ของราคาที่เคยซื้อขายกัน คนนอกฟังแล้วงง ตกลงฝ่ายต่อต้านต้องการอะไรกันแน่ ก่อนเหตุการณ์จะบานปลาย หลังจากนางเหยี่ยว Nuland ให้ F แก่สหภาพยุโรป ไปไม่เท่าไหร่ สหภาพยุโรปตัดสินใจเดินหน้าแก้ ปัญหา Ukraine ต่อ โดยรมว. ตปท. เยอรมัน นาย Frank-Walter Steinmeier เสนอให้ฝรั่งเศส นาย Laurent Fabius บินมา Kiev และมาคุยหาทางออกร่วมกัน ก่อนที่สถานการณ์ใน Ukraine จะเดือดพล่านกว่านี้ รมว.ตปท. โปแลนด์ ก็ได้รับเชิญให้มาร่วมด้วย การเจรจาที่ Kiev ยังมีตัวแทนจากสหภาพยุโรปคนอื่นและ ตัวประธานาธิบดี Yanukovich รวมทั้งมีตัวแทนจากฝ่ายค้าน และตัวแทนจากรัสเซียมาร่วมหารือ แต่ไม่มีแม้แต่เงา คือ ตัวแทนของอเมริกา เพราะไม่ได้รับเชิญ ! การเข้ามาพยายามแก้ไขสถานการณ์ของสหภาพยุโรป โดยไม่มีอเมริกา ถือเป็นเรื่องแปลกยิ่ง ทำให้เริ่มเห็นเค้าลาง ของรอยความไม่ลงกัน ระหว่างอเมริกากับสภาพยุโรป ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา (สงสัยอเมริกาให้คะแนน F กับสหภาพยุโรปมากไปหน่อย ฮา) คราวนี้สหภาพยุโรปอาจจะบอกว่า งั้นเราคุยกันเองบ้างก็ได้ ให้ F กับอเมริกาเป็นการตอบแทนไป หลังจากการคุย ทุกฝ่ายตกลงเห็นพ้อง ที่จะให้มีการเลือกตั้งในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2013 และปล่อยตัว คุณนายหางเปีย Tymoshenko ออกจากคุก ดูเป็นการประนีประนอมที่น่าจะมีอนาคต และดูเหมือนจะเป็นทางออกให้กับทุกฝ่าย พอที่จะทำให้การจราจลหยุดลงได้ คุยกันเสร็จไม่ทันพ้น 12 ชั่วโมง สถานการณ์กลับตาละปัตร เลวร้ายลงไปใหญ่ สงสัยเชิญแขกมามาคุยไม่ครบ แบบนี้ มันหักหน้า หักหลังกันหรือไง สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 1 กค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 13 นางเหยี่ยว F

    ปฎิบัติการสีส้มแน่นอน หยุดไม่ได้แล้ว แต่จะเดินต่ออย่างไร เดือนกันยายน ค.ศ. 2013 มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย Viktor Pinchuk ลุกขึ้นจัดการประชุมใหญ่เกี่ยวกับอนาคตของ Ukraine สื่อยักษ์ Economist บอกเป็นการจัดการสัมมนาของการฑูตระดับสูงและเข้มข้น

    ในจำนวนแขกที่มาเข้าร่วมสัมมนาคือ ระดับครีมของนักการเมืองหัวแถวของแทบทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่ นายและนาง Clinton, อดีตหัวหน้า CIA นายพล Petraeus, อดีต รมว.คลัง Lawrence Summers, อดีตผู้ว่าการธนาคารโลก Rober Zoellick, รัฐมนตรี ตปท. สวีเดน Carl Bildt, Shimon Peres, Tony Blair, Gerhard Schroder, Dominique, Strauss-Kahn, Mario Monti, ประธานาธิบดี Lithuanian รวมทั้งประธานาธิบดี Viktor Yanukovych (ซึ่งหลังจากนั้น 5 เดือนก็ถูกขับไล่กระเด็นออกจากตำแหน่ง) และนาย Petro Poroshenko (ผู้ที่ได้รับเลือกเข้ามาเป็นประธานาธิบดีแทน !) ก็มา ขาดแต่ไอ้ปึ้งหัวเหม่งของเรา (ตอนนั้น) นึกว่าเป็นพวกครีม ฮา

    หัวข้อของการหารือคือ “Deep and Comprehensive Free Trade Agreement” (DCFTA) ระหว่าง Ukraine กับสหภาพยุโรป และการที่ Ukraine สนใจจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายตะวันตก สุ้มเสียง แนวทางการคุย เป็นการโยนหินถามทางในการที่ Ukraine จะตัดเชือกคล้องข้อมือกับรัสเซีย เพื่อไปซบโลกตะวันตก
    เป็นการจัดงานประชุมลับหลังรัส เซียหรือ คนจัดบอก ไม่ใช่ ไม่ใช่ เราไม่ใช่ พวก Bilderberg เราทำอะไรเปิดเผย เราเชิญรัสเซียมาด้วย และรัสเซียก็มา นู่น นั่งอยู่นู่น ไม่เห็นเหรอ

    คุณพี่ปูตินส่งมือขวาคือนาย Sergei Glazyev ที่ปรึกษาใหญ่ด้านการเมืองมานั่งฟังด้วย นาย Glazyev บอกว่า ความเห็นของตะวันตกกับของรัสเซียต่างกันสิ้นเชิง เราไม่ได้มองว่า Ukraine จะต้องอยู่หรือไม่อยู่กับตะวันตกหรือกับรัสเซีย แต่เรามองที่ความเป็นจริงของฐานะทางเศรษฐกิจของ Ukraine มากกว่า

    ซึ่งขณะนี้ Ukraine ขาดดุลย์การค้าต่างประเทศอยู่แยะ มีการกู้ยืมต่างประเทศสูง Ukraine คงไม่แคล้วตกเป็นผู้ผิดนัด กับเจ้าหนี้ต่างประเทศนั้น เว้นแต่จะมีใครมาช่วยซื้อหนี้ขนาดใหญ่นี้ออกไป (Sizable Bailout !)

    Forbes รายงานว่าสิ่งที่รัสเซียพูดใกล้ความเป็นจริง มากกว่าภาษานักการฑูตระดับสูงที่พูดกันอยู่ในที่ประชุมที่ Brussels และ Kiev

    สำหรับด้านการเมือง นสพ. Times ของ London รายงานว่า นาย Glazyev บอกว่าเป็นไปได้ว่า ชนส่วนน้อยใน Ukraine ตะวันออก ที่ยังพูดภาษารัสเซีย อาจจะมีการเคลื่อนไหว เพื่อแยกประเทศ เป็นการประท้วง ถ้ามีการตัดสัมพันธ์กับรัสเซีย และรัสเซียก็มีสิทธิตามกฎหมาย ที่จะสนับสนุนคนพวกนี้ อืม ! พูดสั้น ๆ แต่ความหมายแรง

    ตกลง Ukraine กำลังเล่นอะไร บรรดานักวิเคราะห์มองว่า Ukraine กำลังเหยียบเรือ 2 แคมบ้าง บ้างก็ว่า Yanukovych อ่อนแอ ตัดสินใจไม่ได้

    รัสเซียบอกไม่สนใจว่า Ukraine จะอยู่กับใคร รัสเซียต้องการให้ Ukraine เป็นสะพานเชื่อมระหว่างตะวันตกกับรัสเซียมากกว่า แล้วอเมริกาละ ยังอยากจะละเลงสีส้มต่อไปไหม?
    แน่นอนการจัดประชุมใหญ่ เมื่อเดือนกันยายนนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นลำพัง โดยเศรษฐีคนไหนฟิตจัดขึ้นมาหรอกน่า มันต้องมีลูกหนุน ลูกเชียร์ จากลูกพี่ด้วย คุณนาย Victoria Nuland มาแล้ว หล่อนคือผู้คุมเกมการละเลงสีส้ม ตัวจริง ! Nuland เป็นนางเหยี่ยว อดีตที่ปรึกษาของ **** Cheney เคยเป็นผช.ฑูตประจำ NATO และเป็นโฆษกของคุณนาย Clinton และเป็นคุณเมียของนาย Robert Kagan เหยี่ยวอีกตัวหนึ่ง และโดยคุณสมบัติเฉพาะตัว Nuland เป็นผู้ชำนาญการรุ่นเก๋ากึกด้านรัสเซีย ที่เหลืออยู่ไม่กี่คนในอเมริกา

    การที่ Nuland มากำกับการละเลงสีส้ม ชัดเจนว่านโยบายของ Bush คนลูกที่จะสร้างสงครามเย็นยุคใหม่ ปิดล้อมรัสเซียต่อไป ได้ส่งไม้ต่อให้กับ Obama ผู้ทำตัวเหมือนคนขายของรับ order ลูกค้ามากกว่าเป็นประธานาธิบดี (อันนี้ ยืนยันว่า คนเขียนนิทานไม่ได้พูดเอง แต่สื่อปากจัดของค่ายตะวันตกด่ากันเอง)

    Nuland พูดที่วอชิงตันว่า ตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มสลาย อเมริกาใช้เงินไปกว่า 5 พันล้านเหรียญ เพื่อให้มีอิทธิพลทางการเมืองใน Ukraine เราไม่ได้ลงทุนใน “น้ำมัน” โปรดเข้าใจ มันไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจ (เรารวยนะ) แต่มันเป็นเรื่องภูมิศาสตร์การเมือง เรามองว่า Ukraine เป็นจุดอ่อนของรัสเซีย (Russia’s Achilles’ heel) เราสามารถใช้ Ukraine สร้างปัญหาให้กับรัสเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ว้าว ! อย่าได้ประมาทหน้านางเหยี่ยวเชียว จิกได้ เจ็บจริง ๆ

    โลกหันขวับ มามองนางเหยี่ยวตัวใหม่ ไมค์ทุกตัวจ่อปากคุณนาย เมื่อ Nuland หลุดปากบอกว่า เราต้องเปลี่ยนเอาไอ้นาย Yanukovych ออกไปจากตำแหน่งด่วน แล้วใครมาแทนล่ะ มีคนตะโกนถาม เห็นว่า Angela Merkel และสหภาพยุโรป อยากจะเอาอดีตนักมวย ชื่อ Vitaly Klitschenko มาสวมแทนไม่ใช่หรือ
    คุณนายบอก “F… the Eu” พูดแบบนี้ไม่ดังแซงหน้าคุณนาย Clinton ได้ยังไง

    ไม่ใช่นักมวยเข้าใจใหม่ ฉันไม่เอานักมวย ไม่ใช่ “Klits” แต่เป็น “Yats” คุณนายเหยี่ยวหมายถึง Arseniy Yatsenyuk เด็กสร้างอีกคนของอเมริกาที่ถนัดเรื่องใช้ยาแรง ตามใบสั่งของ IMF
    แล้วนาย Yats ก็ได้งาน เขาทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรี เข้าไปดูแล Ukraine ให้เป็นไปตามที่อเมริกาต้องการ ที่สำคัญคือต้องจัดการเลือกตั้งในวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 ปีนี้ให้ได้ แม้ว่าชาว Ukraine ฝั่งตะวันออกจะไม่ได้มาเลือกตั้ง เพราะถูกคุณพี่ปูตินฉก Crimea กลับเข้ามาอยู่ในกล้ามใหญ่ของตน

    แต่แผนการนางเหยี่ยวลึกซึ้ง ไม่เสียทีอยู่ร่วมกรงเหยี่ยวกับพวกไอ้เสือเอาวา แผนการนี้มันเป็น win-win สำหรับอเมริกาของจริง

    ถ้ารัสเซียไม่ย้ายกองเรือ ก็มีหวังถูกเขมือบ เรื่องถูกเขมือบกองเรือนี่ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย รัสเซียอาจถึงหายนะได้ ทางเลือกเกือบไม่มี ดังนั้นจึงยึด Crimea มาไว้ก่อน ยึดมาทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นไปตามแผนของอเมริกา ที่อยากให้รัสเซียทำ เป็นหมากการเมืองที่อเมริกากำลังอยากให้รัสเซียเล่นอย่างยิ่ง หาบทผู้ร้ายให้รัสเซีย หาโอกาสที่จะประกาศบอกโลกว่า เห็นมั้ย รัสเซียก็เหมือนเดิม กำลังขยายอำนาจ แบบนี้จะปล่อยไว้หรือ

    อเมริกากำลังต้องการหาผู้ร้ายใจ จะขาด เพื่อให้พวกขวัญอ่อนง้อ ให้ NATO คงอยู่ต่อไป และอเมริการจะได้ชักใยให้ NATO ทำภาระกิจ ของจริง ที่อเมริกา ไม่ได้บอกให้สมาชิก NATO รู้

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    1 กค. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 13 นางเหยี่ยว F ปฎิบัติการสีส้มแน่นอน หยุดไม่ได้แล้ว แต่จะเดินต่ออย่างไร เดือนกันยายน ค.ศ. 2013 มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย Viktor Pinchuk ลุกขึ้นจัดการประชุมใหญ่เกี่ยวกับอนาคตของ Ukraine สื่อยักษ์ Economist บอกเป็นการจัดการสัมมนาของการฑูตระดับสูงและเข้มข้น ในจำนวนแขกที่มาเข้าร่วมสัมมนาคือ ระดับครีมของนักการเมืองหัวแถวของแทบทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่ นายและนาง Clinton, อดีตหัวหน้า CIA นายพล Petraeus, อดีต รมว.คลัง Lawrence Summers, อดีตผู้ว่าการธนาคารโลก Rober Zoellick, รัฐมนตรี ตปท. สวีเดน Carl Bildt, Shimon Peres, Tony Blair, Gerhard Schroder, Dominique, Strauss-Kahn, Mario Monti, ประธานาธิบดี Lithuanian รวมทั้งประธานาธิบดี Viktor Yanukovych (ซึ่งหลังจากนั้น 5 เดือนก็ถูกขับไล่กระเด็นออกจากตำแหน่ง) และนาย Petro Poroshenko (ผู้ที่ได้รับเลือกเข้ามาเป็นประธานาธิบดีแทน !) ก็มา ขาดแต่ไอ้ปึ้งหัวเหม่งของเรา (ตอนนั้น) นึกว่าเป็นพวกครีม ฮา หัวข้อของการหารือคือ “Deep and Comprehensive Free Trade Agreement” (DCFTA) ระหว่าง Ukraine กับสหภาพยุโรป และการที่ Ukraine สนใจจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายตะวันตก สุ้มเสียง แนวทางการคุย เป็นการโยนหินถามทางในการที่ Ukraine จะตัดเชือกคล้องข้อมือกับรัสเซีย เพื่อไปซบโลกตะวันตก เป็นการจัดงานประชุมลับหลังรัส เซียหรือ คนจัดบอก ไม่ใช่ ไม่ใช่ เราไม่ใช่ พวก Bilderberg เราทำอะไรเปิดเผย เราเชิญรัสเซียมาด้วย และรัสเซียก็มา นู่น นั่งอยู่นู่น ไม่เห็นเหรอ คุณพี่ปูตินส่งมือขวาคือนาย Sergei Glazyev ที่ปรึกษาใหญ่ด้านการเมืองมานั่งฟังด้วย นาย Glazyev บอกว่า ความเห็นของตะวันตกกับของรัสเซียต่างกันสิ้นเชิง เราไม่ได้มองว่า Ukraine จะต้องอยู่หรือไม่อยู่กับตะวันตกหรือกับรัสเซีย แต่เรามองที่ความเป็นจริงของฐานะทางเศรษฐกิจของ Ukraine มากกว่า ซึ่งขณะนี้ Ukraine ขาดดุลย์การค้าต่างประเทศอยู่แยะ มีการกู้ยืมต่างประเทศสูง Ukraine คงไม่แคล้วตกเป็นผู้ผิดนัด กับเจ้าหนี้ต่างประเทศนั้น เว้นแต่จะมีใครมาช่วยซื้อหนี้ขนาดใหญ่นี้ออกไป (Sizable Bailout !) Forbes รายงานว่าสิ่งที่รัสเซียพูดใกล้ความเป็นจริง มากกว่าภาษานักการฑูตระดับสูงที่พูดกันอยู่ในที่ประชุมที่ Brussels และ Kiev สำหรับด้านการเมือง นสพ. Times ของ London รายงานว่า นาย Glazyev บอกว่าเป็นไปได้ว่า ชนส่วนน้อยใน Ukraine ตะวันออก ที่ยังพูดภาษารัสเซีย อาจจะมีการเคลื่อนไหว เพื่อแยกประเทศ เป็นการประท้วง ถ้ามีการตัดสัมพันธ์กับรัสเซีย และรัสเซียก็มีสิทธิตามกฎหมาย ที่จะสนับสนุนคนพวกนี้ อืม ! พูดสั้น ๆ แต่ความหมายแรง ตกลง Ukraine กำลังเล่นอะไร บรรดานักวิเคราะห์มองว่า Ukraine กำลังเหยียบเรือ 2 แคมบ้าง บ้างก็ว่า Yanukovych อ่อนแอ ตัดสินใจไม่ได้ รัสเซียบอกไม่สนใจว่า Ukraine จะอยู่กับใคร รัสเซียต้องการให้ Ukraine เป็นสะพานเชื่อมระหว่างตะวันตกกับรัสเซียมากกว่า แล้วอเมริกาละ ยังอยากจะละเลงสีส้มต่อไปไหม? แน่นอนการจัดประชุมใหญ่ เมื่อเดือนกันยายนนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นลำพัง โดยเศรษฐีคนไหนฟิตจัดขึ้นมาหรอกน่า มันต้องมีลูกหนุน ลูกเชียร์ จากลูกพี่ด้วย คุณนาย Victoria Nuland มาแล้ว หล่อนคือผู้คุมเกมการละเลงสีส้ม ตัวจริง ! Nuland เป็นนางเหยี่ยว อดีตที่ปรึกษาของ Dick Cheney เคยเป็นผช.ฑูตประจำ NATO และเป็นโฆษกของคุณนาย Clinton และเป็นคุณเมียของนาย Robert Kagan เหยี่ยวอีกตัวหนึ่ง และโดยคุณสมบัติเฉพาะตัว Nuland เป็นผู้ชำนาญการรุ่นเก๋ากึกด้านรัสเซีย ที่เหลืออยู่ไม่กี่คนในอเมริกา การที่ Nuland มากำกับการละเลงสีส้ม ชัดเจนว่านโยบายของ Bush คนลูกที่จะสร้างสงครามเย็นยุคใหม่ ปิดล้อมรัสเซียต่อไป ได้ส่งไม้ต่อให้กับ Obama ผู้ทำตัวเหมือนคนขายของรับ order ลูกค้ามากกว่าเป็นประธานาธิบดี (อันนี้ ยืนยันว่า คนเขียนนิทานไม่ได้พูดเอง แต่สื่อปากจัดของค่ายตะวันตกด่ากันเอง) Nuland พูดที่วอชิงตันว่า ตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มสลาย อเมริกาใช้เงินไปกว่า 5 พันล้านเหรียญ เพื่อให้มีอิทธิพลทางการเมืองใน Ukraine เราไม่ได้ลงทุนใน “น้ำมัน” โปรดเข้าใจ มันไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจ (เรารวยนะ) แต่มันเป็นเรื่องภูมิศาสตร์การเมือง เรามองว่า Ukraine เป็นจุดอ่อนของรัสเซีย (Russia’s Achilles’ heel) เราสามารถใช้ Ukraine สร้างปัญหาให้กับรัสเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ว้าว ! อย่าได้ประมาทหน้านางเหยี่ยวเชียว จิกได้ เจ็บจริง ๆ โลกหันขวับ มามองนางเหยี่ยวตัวใหม่ ไมค์ทุกตัวจ่อปากคุณนาย เมื่อ Nuland หลุดปากบอกว่า เราต้องเปลี่ยนเอาไอ้นาย Yanukovych ออกไปจากตำแหน่งด่วน แล้วใครมาแทนล่ะ มีคนตะโกนถาม เห็นว่า Angela Merkel และสหภาพยุโรป อยากจะเอาอดีตนักมวย ชื่อ Vitaly Klitschenko มาสวมแทนไม่ใช่หรือ คุณนายบอก “F… the Eu” พูดแบบนี้ไม่ดังแซงหน้าคุณนาย Clinton ได้ยังไง ไม่ใช่นักมวยเข้าใจใหม่ ฉันไม่เอานักมวย ไม่ใช่ “Klits” แต่เป็น “Yats” คุณนายเหยี่ยวหมายถึง Arseniy Yatsenyuk เด็กสร้างอีกคนของอเมริกาที่ถนัดเรื่องใช้ยาแรง ตามใบสั่งของ IMF แล้วนาย Yats ก็ได้งาน เขาทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรี เข้าไปดูแล Ukraine ให้เป็นไปตามที่อเมริกาต้องการ ที่สำคัญคือต้องจัดการเลือกตั้งในวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 ปีนี้ให้ได้ แม้ว่าชาว Ukraine ฝั่งตะวันออกจะไม่ได้มาเลือกตั้ง เพราะถูกคุณพี่ปูตินฉก Crimea กลับเข้ามาอยู่ในกล้ามใหญ่ของตน แต่แผนการนางเหยี่ยวลึกซึ้ง ไม่เสียทีอยู่ร่วมกรงเหยี่ยวกับพวกไอ้เสือเอาวา แผนการนี้มันเป็น win-win สำหรับอเมริกาของจริง ถ้ารัสเซียไม่ย้ายกองเรือ ก็มีหวังถูกเขมือบ เรื่องถูกเขมือบกองเรือนี่ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย รัสเซียอาจถึงหายนะได้ ทางเลือกเกือบไม่มี ดังนั้นจึงยึด Crimea มาไว้ก่อน ยึดมาทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นไปตามแผนของอเมริกา ที่อยากให้รัสเซียทำ เป็นหมากการเมืองที่อเมริกากำลังอยากให้รัสเซียเล่นอย่างยิ่ง หาบทผู้ร้ายให้รัสเซีย หาโอกาสที่จะประกาศบอกโลกว่า เห็นมั้ย รัสเซียก็เหมือนเดิม กำลังขยายอำนาจ แบบนี้จะปล่อยไว้หรือ อเมริกากำลังต้องการหาผู้ร้ายใจ จะขาด เพื่อให้พวกขวัญอ่อนง้อ ให้ NATO คงอยู่ต่อไป และอเมริการจะได้ชักใยให้ NATO ทำภาระกิจ ของจริง ที่อเมริกา ไม่ได้บอกให้สมาชิก NATO รู้ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 1 กค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Feiniu NAS รุ่นใหม่จุเกิน 180TB พร้อม UPS และช่อง SD — แต่ราคายังเป็นปริศนา”

    Feiniu ผู้ผลิต NAS จากจีนเปิดตัวรุ่นใหม่ที่สร้างความสนใจในวงการเก็บข้อมูล ด้วยคุณสมบัติที่ไม่ธรรมดา ทั้งความจุเกิน 180TB, ระบบสำรองไฟ (UPS) ในตัว และช่องเสียบ SD card สำหรับการเชื่อมต่อแบบพกพา โดยรุ่น 6-bay จะเปิดตัวในเดือนตุลาคม 2025 และรุ่น 4-bay จะตามมาในช่วงปลายปีนี้

    จุดเด่นที่สุดคือการรวม UPS เข้ากับตัว NAS ซึ่งช่วยป้องกันข้อมูลเสียหายจากไฟดับแบบฉับพลัน โดยระบบจะยังคงทำงานช่วงสั้น ๆ หลังไฟตก เพื่อให้ฮาร์ดดิสก์สามารถปิดตัวอย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ NAS ระดับ enterprise ยังไม่ค่อยมีให้เห็น

    ดีไซน์ของรุ่น 6-bay มาในรูปทรงแนวนอน สีเทาด้านข้าง ดำด้านหน้า พร้อมโลโก้ “fn” และปุ่มพลังงานสีแดง ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อมีทั้ง USB-C, USB-A และ SD card slot ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถโอนข้อมูลจากกล้องหรืออุปกรณ์พกพาได้สะดวกขึ้น

    Feiniu ยังระบุว่ารุ่นนี้จะมีทั้งเวอร์ชันมาตรฐานและ Pro โดยใช้คำว่า “highly playable” และ “มีเซอร์ไพรส์” แต่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับสเปกภายใน เช่น CPU, RAM, ระบบไฟล์ หรือประสิทธิภาพพลังงาน

    แม้จะมีฟีเจอร์น่าสนใจ แต่ราคายังไม่เปิดเผย ทำให้ผู้บริโภคยังไม่สามารถประเมินความคุ้มค่าได้ และต้องรอดูว่า Feiniu จะวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์นี้ในตลาดระดับไหน

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Feiniu เปิดตัว NAS รุ่นใหม่ที่รองรับความจุเกิน 180TB
    มีระบบ UPS ในตัวเพื่อป้องกันข้อมูลเสียหายจากไฟดับ
    รุ่น 6-bay จะเปิดตัวในเดือนตุลาคม 2025 และรุ่น 4-bay จะตามมาในปลายปี
    มีพอร์ต USB-C, USB-A และ SD card slot สำหรับการเชื่อมต่อภายนอก

    จุดเด่นด้านการออกแบบและการใช้งาน
    ดีไซน์แนวนอน สีเทา-ดำ พร้อมปุ่มพลังงานสีแดง
    UPS ช่วยให้ระบบยังทำงานช่วงสั้น ๆ หลังไฟดับ เพื่อปิดฮาร์ดดิสก์อย่างปลอดภัย
    SD card slot เพิ่มความสะดวกในการโอนข้อมูลจากอุปกรณ์พกพา
    มีเวอร์ชันมาตรฐานและ Pro พร้อมคำโปรยว่า “highly playable” และ “มีเซอร์ไพรส์”

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    NAS ระดับ enterprise บางรุ่นมีความจุเกิน 1PB แต่ยังไม่มี UPS ในตัว
    ระบบ UPS ใน NAS ยังเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ไม่แพร่หลาย
    fnOS ของ Feiniu เป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมในกลุ่ม DIY NAS
    การรวม UPS กับ NAS อาจช่วยลดความจำเป็นในการใช้ UPS แยกต่างหาก

    https://www.techradar.com/pro/this-nas-has-an-integrated-ups-and-can-accommodate-more-than-180tb-of-storage-as-well-as-a-memory-card-but-i-wonder-how-much-it-will-cost
    🗄️ “Feiniu NAS รุ่นใหม่จุเกิน 180TB พร้อม UPS และช่อง SD — แต่ราคายังเป็นปริศนา” Feiniu ผู้ผลิต NAS จากจีนเปิดตัวรุ่นใหม่ที่สร้างความสนใจในวงการเก็บข้อมูล ด้วยคุณสมบัติที่ไม่ธรรมดา ทั้งความจุเกิน 180TB, ระบบสำรองไฟ (UPS) ในตัว และช่องเสียบ SD card สำหรับการเชื่อมต่อแบบพกพา โดยรุ่น 6-bay จะเปิดตัวในเดือนตุลาคม 2025 และรุ่น 4-bay จะตามมาในช่วงปลายปีนี้ จุดเด่นที่สุดคือการรวม UPS เข้ากับตัว NAS ซึ่งช่วยป้องกันข้อมูลเสียหายจากไฟดับแบบฉับพลัน โดยระบบจะยังคงทำงานช่วงสั้น ๆ หลังไฟตก เพื่อให้ฮาร์ดดิสก์สามารถปิดตัวอย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ NAS ระดับ enterprise ยังไม่ค่อยมีให้เห็น ดีไซน์ของรุ่น 6-bay มาในรูปทรงแนวนอน สีเทาด้านข้าง ดำด้านหน้า พร้อมโลโก้ “fn” และปุ่มพลังงานสีแดง ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อมีทั้ง USB-C, USB-A และ SD card slot ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถโอนข้อมูลจากกล้องหรืออุปกรณ์พกพาได้สะดวกขึ้น Feiniu ยังระบุว่ารุ่นนี้จะมีทั้งเวอร์ชันมาตรฐานและ Pro โดยใช้คำว่า “highly playable” และ “มีเซอร์ไพรส์” แต่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับสเปกภายใน เช่น CPU, RAM, ระบบไฟล์ หรือประสิทธิภาพพลังงาน แม้จะมีฟีเจอร์น่าสนใจ แต่ราคายังไม่เปิดเผย ทำให้ผู้บริโภคยังไม่สามารถประเมินความคุ้มค่าได้ และต้องรอดูว่า Feiniu จะวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์นี้ในตลาดระดับไหน ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Feiniu เปิดตัว NAS รุ่นใหม่ที่รองรับความจุเกิน 180TB ➡️ มีระบบ UPS ในตัวเพื่อป้องกันข้อมูลเสียหายจากไฟดับ ➡️ รุ่น 6-bay จะเปิดตัวในเดือนตุลาคม 2025 และรุ่น 4-bay จะตามมาในปลายปี ➡️ มีพอร์ต USB-C, USB-A และ SD card slot สำหรับการเชื่อมต่อภายนอก ✅ จุดเด่นด้านการออกแบบและการใช้งาน ➡️ ดีไซน์แนวนอน สีเทา-ดำ พร้อมปุ่มพลังงานสีแดง ➡️ UPS ช่วยให้ระบบยังทำงานช่วงสั้น ๆ หลังไฟดับ เพื่อปิดฮาร์ดดิสก์อย่างปลอดภัย ➡️ SD card slot เพิ่มความสะดวกในการโอนข้อมูลจากอุปกรณ์พกพา ➡️ มีเวอร์ชันมาตรฐานและ Pro พร้อมคำโปรยว่า “highly playable” และ “มีเซอร์ไพรส์” ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ NAS ระดับ enterprise บางรุ่นมีความจุเกิน 1PB แต่ยังไม่มี UPS ในตัว ➡️ ระบบ UPS ใน NAS ยังเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ไม่แพร่หลาย ➡️ fnOS ของ Feiniu เป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมในกลุ่ม DIY NAS ➡️ การรวม UPS กับ NAS อาจช่วยลดความจำเป็นในการใช้ UPS แยกต่างหาก https://www.techradar.com/pro/this-nas-has-an-integrated-ups-and-can-accommodate-more-than-180tb-of-storage-as-well-as-a-memory-card-but-i-wonder-how-much-it-will-cost
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • “LightSolver เปิดตัว LPU — คอมพิวเตอร์เลเซอร์ที่อาจแซง GPU และควอนตัมในงานจำลองฟิสิกส์”

    ในโลกที่การประมวลผลระดับสูงยังคงพึ่งพา CPU, GPU และควอนตัมคอมพิวเตอร์เป็นหลัก บริษัทสตาร์ทอัพจากอิสราเอลชื่อ LightSolver ได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่อาจเปลี่ยนเกมทั้งหมด — Laser Processing Unit หรือ LPU ซึ่งใช้เลเซอร์ในการคำนวณโดยตรงแทนการประมวลผลแบบดิจิทัล

    LPU ถูกออกแบบมาเพื่อแก้สมการเชิงอนุพันธ์ย่อย (Partial Differential Equations หรือ PDEs) ซึ่งเป็นหัวใจของการจำลองฟิสิกส์ เช่น สมการความร้อน สมการคลื่น และสมการชโรดิงเงอร์ โดยใช้คุณสมบัติธรรมชาติของเลเซอร์ในฐานะคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้สามารถจำลองพฤติกรรมของระบบจริงได้โดยไม่ต้องแปลงเป็นดิจิทัลก่อน

    ต่างจากระบบควอนตัมที่ต้องใช้การทดลองซ้ำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เชื่อถือได้ LPU ของ LightSolver ใช้หน่วยความจำแบบออปติกฝังตัว ซึ่งช่วยให้สถานะของเลเซอร์ถูกเก็บไว้ใน resonator และสามารถคำนวณต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องย้ายข้อมูลออกไป ทำให้การคำนวณแต่ละรอบใช้เวลาในระดับนาโนวินาที และไม่ขึ้นอยู่กับขนาดของปัญหา

    ที่น่าสนใจคือ LPU ไม่ได้ใช้ชิปโฟโตนิกแบบ 2D เหมือนที่หลายบริษัทพัฒนา แต่ใช้การออกแบบแบบ 3D ซึ่งช่วยให้ขยายขนาดได้ง่ายกว่า และมีศักยภาพในการรองรับตัวแปรถึง 1 ล้านตัวภายในปี 2029 โดยเริ่มจาก 100,000 ตัวในปี 2027

    LightSolver ได้เปิดให้เข้าถึง LPU Lab สำหรับนักวิจัยและวิศวกร โดยมีทั้งฮาร์ดแวร์เวอร์ชัน Alpha และ emulator ดิจิทัล พร้อมคอมไพเลอร์ที่แปลงสมการ PDE เป็นคำสั่งสำหรับเลเซอร์โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเข้าใจฟิสิกส์ของเลเซอร์เอง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    LightSolver เปิดตัว Laser Processing Unit (LPU) สำหรับแก้สมการ PDE โดยตรง
    ใช้เลเซอร์แบบ grid ทำงานร่วมกันแทนการประมวลผลแบบดิจิทัล
    หน่วยความจำแบบออปติกช่วยลดการเคลื่อนย้ายข้อมูลและเพิ่มความเร็ว
    การคำนวณใช้เวลาในระดับนาโนวินาที และไม่ขึ้นอยู่กับขนาดปัญหา

    ความสามารถและแผนการพัฒนา
    รองรับการจำลองสมการความร้อน คลื่น และชโรดิงเงอร์
    ออกแบบแบบ 3D ต่างจากชิปโฟโตนิกทั่วไปที่เป็น 2D
    ตั้งเป้ารองรับ 100,000 ตัวแปรในปี 2027 และ 1 ล้านตัวในปี 2029
    เปิดให้เข้าถึง LPU Lab พร้อม emulator และคอมไพเลอร์สำหรับนักวิจัย

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    PDE เป็นหัวใจของการจำลองในวิศวกรรม เช่น fluid dynamics และ structural mechanics
    คอมพิวเตอร์ควอนตัมยังมีข้อจำกัดด้าน I/O และต้องใช้การทดลองซ้ำหลายครั้ง
    LPU ได้รับความสนใจจาก HPC centers และห้องทดลองระดับชาติ
    มีการร่วมมือกับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์จำลอง เช่น Ansys เพื่อเร่งการประมวลผล

    https://www.techradar.com/pro/laser-processing-units-could-give-traditional-cpus-gpus-and-quantum-computers-a-run-for-their-money-but-dont-expect-them-to-run-windows-anytime-soon
    💡 “LightSolver เปิดตัว LPU — คอมพิวเตอร์เลเซอร์ที่อาจแซง GPU และควอนตัมในงานจำลองฟิสิกส์” ในโลกที่การประมวลผลระดับสูงยังคงพึ่งพา CPU, GPU และควอนตัมคอมพิวเตอร์เป็นหลัก บริษัทสตาร์ทอัพจากอิสราเอลชื่อ LightSolver ได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่อาจเปลี่ยนเกมทั้งหมด — Laser Processing Unit หรือ LPU ซึ่งใช้เลเซอร์ในการคำนวณโดยตรงแทนการประมวลผลแบบดิจิทัล LPU ถูกออกแบบมาเพื่อแก้สมการเชิงอนุพันธ์ย่อย (Partial Differential Equations หรือ PDEs) ซึ่งเป็นหัวใจของการจำลองฟิสิกส์ เช่น สมการความร้อน สมการคลื่น และสมการชโรดิงเงอร์ โดยใช้คุณสมบัติธรรมชาติของเลเซอร์ในฐานะคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้สามารถจำลองพฤติกรรมของระบบจริงได้โดยไม่ต้องแปลงเป็นดิจิทัลก่อน ต่างจากระบบควอนตัมที่ต้องใช้การทดลองซ้ำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เชื่อถือได้ LPU ของ LightSolver ใช้หน่วยความจำแบบออปติกฝังตัว ซึ่งช่วยให้สถานะของเลเซอร์ถูกเก็บไว้ใน resonator และสามารถคำนวณต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องย้ายข้อมูลออกไป ทำให้การคำนวณแต่ละรอบใช้เวลาในระดับนาโนวินาที และไม่ขึ้นอยู่กับขนาดของปัญหา ที่น่าสนใจคือ LPU ไม่ได้ใช้ชิปโฟโตนิกแบบ 2D เหมือนที่หลายบริษัทพัฒนา แต่ใช้การออกแบบแบบ 3D ซึ่งช่วยให้ขยายขนาดได้ง่ายกว่า และมีศักยภาพในการรองรับตัวแปรถึง 1 ล้านตัวภายในปี 2029 โดยเริ่มจาก 100,000 ตัวในปี 2027 LightSolver ได้เปิดให้เข้าถึง LPU Lab สำหรับนักวิจัยและวิศวกร โดยมีทั้งฮาร์ดแวร์เวอร์ชัน Alpha และ emulator ดิจิทัล พร้อมคอมไพเลอร์ที่แปลงสมการ PDE เป็นคำสั่งสำหรับเลเซอร์โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเข้าใจฟิสิกส์ของเลเซอร์เอง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ LightSolver เปิดตัว Laser Processing Unit (LPU) สำหรับแก้สมการ PDE โดยตรง ➡️ ใช้เลเซอร์แบบ grid ทำงานร่วมกันแทนการประมวลผลแบบดิจิทัล ➡️ หน่วยความจำแบบออปติกช่วยลดการเคลื่อนย้ายข้อมูลและเพิ่มความเร็ว ➡️ การคำนวณใช้เวลาในระดับนาโนวินาที และไม่ขึ้นอยู่กับขนาดปัญหา ✅ ความสามารถและแผนการพัฒนา ➡️ รองรับการจำลองสมการความร้อน คลื่น และชโรดิงเงอร์ ➡️ ออกแบบแบบ 3D ต่างจากชิปโฟโตนิกทั่วไปที่เป็น 2D ➡️ ตั้งเป้ารองรับ 100,000 ตัวแปรในปี 2027 และ 1 ล้านตัวในปี 2029 ➡️ เปิดให้เข้าถึง LPU Lab พร้อม emulator และคอมไพเลอร์สำหรับนักวิจัย ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ PDE เป็นหัวใจของการจำลองในวิศวกรรม เช่น fluid dynamics และ structural mechanics ➡️ คอมพิวเตอร์ควอนตัมยังมีข้อจำกัดด้าน I/O และต้องใช้การทดลองซ้ำหลายครั้ง ➡️ LPU ได้รับความสนใจจาก HPC centers และห้องทดลองระดับชาติ ➡️ มีการร่วมมือกับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์จำลอง เช่น Ansys เพื่อเร่งการประมวลผล https://www.techradar.com/pro/laser-processing-units-could-give-traditional-cpus-gpus-and-quantum-computers-a-run-for-their-money-but-dont-expect-them-to-run-windows-anytime-soon
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Apollo A6000 คืนชีพ Amiga ยุคใหม่ — FPGA 68080 แรงกว่าเดิม 400 เท่า พร้อมรันเกมคลาสสิกและระบบใหม่ในเครื่องเดียว”

    หลังจากที่ Commodore ล้มละลายไปเมื่อ 31 ปีก่อน และทิ้งให้แฟน Amiga ต้องพึ่งพาเครื่องเก่าและอีมูเลเตอร์มานาน ในที่สุด Apollo Computing จากเยอรมนีก็ได้เปิดตัว “Apollo A6000” — เครื่อง Amiga ยุคใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อเป็น “Next-gen Amiga ที่แท้จริง” โดยใช้เทคโนโลยี FPGA เพื่อจำลองสถาปัตยกรรม Motorola 68000 อย่างสมบูรณ์ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพแบบก้าวกระโดด

    หัวใจของเครื่องคือชิป V4 AC68080 ที่ใช้เวลาในการพัฒนานานกว่า 10 ปี โดยผ่านการ reverse-engineer ทั้งชุดคำสั่งและโครงสร้างของ Amiga ดั้งเดิม พร้อมเสริมด้วยชุดคำสั่ง AMMX ที่ช่วยให้การประมวลผลกราฟิกและเสียงเร็วขึ้นอย่างมาก ตัวเครื่องมี RAM ถึง 2GB (Fast RAM) และ 12MB (Chip RAM) ซึ่งมากกว่ารุ่น A600 เดิมถึง 404 เท่า

    Apollo A6000 ยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ ApolloOS ที่สามารถรันซอฟต์แวร์ Amiga OS 3.x ได้เต็มรูปแบบ รวมถึงเกม Atari และ MacOS รุ่นเก่าได้อีกด้วย ตัวเครื่องมีพอร์ตเชื่อมต่อทันสมัย เช่น HDMI, USB, Ethernet, SD card, CF card และยังรองรับอุปกรณ์คลาสสิกอย่างเมาส์และจอยสติ๊กแบบ Amiga

    ดีไซน์ภายนอกยังคงความคลาสสิกของ Amiga A600 ด้วยเคส 3D พิมพ์แบบ FDM และคีย์บอร์ดกลไกที่ใช้สวิตช์ Cherry MX พร้อมฝาครอบ ABS เพื่อความทนทานและสัมผัสแบบเรโทร

    แม้ราคาจะสูงถึง €960 หรือประมาณ $1,128 แต่เครื่องล็อตแรกจำนวน 40 เครื่องก็ขายหมดภายในไม่กี่ชั่วโมง และ Apollo เตรียมเปิดรับออร์เดอร์ใหม่ในเดือนตุลาคมนี้

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Apollo A6000 เป็นเครื่อง Amiga ยุคใหม่ที่ใช้ FPGA จำลองสถาปัตยกรรม 68000
    ใช้ชิป V4 AC68080 พร้อมชุดคำสั่ง AMMX ที่พัฒนาโดย Apollo เอง
    RAM รวม 2GB Fast RAM และ 12MB Chip RAM มากกว่ารุ่น A600 เดิมถึง 404 เท่า
    รัน ApolloOS ที่รองรับ Amiga OS 3.x, Atari และ MacOS รุ่นเก่า

    ฮาร์ดแวร์และการออกแบบ
    มีพอร์ต HDMI, USB, Ethernet, SD card, CF card และพอร์ตคลาสสิกของ Amiga
    เคสพิมพ์ 3D แบบ FDM พร้อมคีย์บอร์ดกลไก Cherry MX และฝาครอบ ABS
    รองรับการใช้งานทันทีแบบ plug-and-play พร้อมเกมและเดโมในตัว
    ขายล็อตแรก 40 เครื่องในราคา €960 และเตรียมเปิดรับออร์เดอร์ใหม่เร็ว ๆ นี้

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    FPGA ช่วยให้สามารถจำลองฮาร์ดแวร์เก่าได้อย่างแม่นยำและปรับแต่งได้
    AMMX เป็นชุดคำสั่งที่เพิ่มประสิทธิภาพด้านมัลติมีเดียให้กับ 68080
    Apollo เคยผลิตบอร์ด Vampire สำหรับ Amiga รุ่นเก่ามาก่อน
    ความนิยมของ Amiga ยังคงอยู่ในกลุ่มนักพัฒนาและนักสะสมทั่วโลก

    https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/proper-next-gen-amiga-launched-by-apollo-computing-promises-full-fpga-powered-backwards-compatibility-with-its-new-68080-chip
    🕹️ “Apollo A6000 คืนชีพ Amiga ยุคใหม่ — FPGA 68080 แรงกว่าเดิม 400 เท่า พร้อมรันเกมคลาสสิกและระบบใหม่ในเครื่องเดียว” หลังจากที่ Commodore ล้มละลายไปเมื่อ 31 ปีก่อน และทิ้งให้แฟน Amiga ต้องพึ่งพาเครื่องเก่าและอีมูเลเตอร์มานาน ในที่สุด Apollo Computing จากเยอรมนีก็ได้เปิดตัว “Apollo A6000” — เครื่อง Amiga ยุคใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อเป็น “Next-gen Amiga ที่แท้จริง” โดยใช้เทคโนโลยี FPGA เพื่อจำลองสถาปัตยกรรม Motorola 68000 อย่างสมบูรณ์ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพแบบก้าวกระโดด หัวใจของเครื่องคือชิป V4 AC68080 ที่ใช้เวลาในการพัฒนานานกว่า 10 ปี โดยผ่านการ reverse-engineer ทั้งชุดคำสั่งและโครงสร้างของ Amiga ดั้งเดิม พร้อมเสริมด้วยชุดคำสั่ง AMMX ที่ช่วยให้การประมวลผลกราฟิกและเสียงเร็วขึ้นอย่างมาก ตัวเครื่องมี RAM ถึง 2GB (Fast RAM) และ 12MB (Chip RAM) ซึ่งมากกว่ารุ่น A600 เดิมถึง 404 เท่า Apollo A6000 ยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ ApolloOS ที่สามารถรันซอฟต์แวร์ Amiga OS 3.x ได้เต็มรูปแบบ รวมถึงเกม Atari และ MacOS รุ่นเก่าได้อีกด้วย ตัวเครื่องมีพอร์ตเชื่อมต่อทันสมัย เช่น HDMI, USB, Ethernet, SD card, CF card และยังรองรับอุปกรณ์คลาสสิกอย่างเมาส์และจอยสติ๊กแบบ Amiga ดีไซน์ภายนอกยังคงความคลาสสิกของ Amiga A600 ด้วยเคส 3D พิมพ์แบบ FDM และคีย์บอร์ดกลไกที่ใช้สวิตช์ Cherry MX พร้อมฝาครอบ ABS เพื่อความทนทานและสัมผัสแบบเรโทร แม้ราคาจะสูงถึง €960 หรือประมาณ $1,128 แต่เครื่องล็อตแรกจำนวน 40 เครื่องก็ขายหมดภายในไม่กี่ชั่วโมง และ Apollo เตรียมเปิดรับออร์เดอร์ใหม่ในเดือนตุลาคมนี้ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Apollo A6000 เป็นเครื่อง Amiga ยุคใหม่ที่ใช้ FPGA จำลองสถาปัตยกรรม 68000 ➡️ ใช้ชิป V4 AC68080 พร้อมชุดคำสั่ง AMMX ที่พัฒนาโดย Apollo เอง ➡️ RAM รวม 2GB Fast RAM และ 12MB Chip RAM มากกว่ารุ่น A600 เดิมถึง 404 เท่า ➡️ รัน ApolloOS ที่รองรับ Amiga OS 3.x, Atari และ MacOS รุ่นเก่า ✅ ฮาร์ดแวร์และการออกแบบ ➡️ มีพอร์ต HDMI, USB, Ethernet, SD card, CF card และพอร์ตคลาสสิกของ Amiga ➡️ เคสพิมพ์ 3D แบบ FDM พร้อมคีย์บอร์ดกลไก Cherry MX และฝาครอบ ABS ➡️ รองรับการใช้งานทันทีแบบ plug-and-play พร้อมเกมและเดโมในตัว ➡️ ขายล็อตแรก 40 เครื่องในราคา €960 และเตรียมเปิดรับออร์เดอร์ใหม่เร็ว ๆ นี้ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ FPGA ช่วยให้สามารถจำลองฮาร์ดแวร์เก่าได้อย่างแม่นยำและปรับแต่งได้ ➡️ AMMX เป็นชุดคำสั่งที่เพิ่มประสิทธิภาพด้านมัลติมีเดียให้กับ 68080 ➡️ Apollo เคยผลิตบอร์ด Vampire สำหรับ Amiga รุ่นเก่ามาก่อน ➡️ ความนิยมของ Amiga ยังคงอยู่ในกลุ่มนักพัฒนาและนักสะสมทั่วโลก https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/proper-next-gen-amiga-launched-by-apollo-computing-promises-full-fpga-powered-backwards-compatibility-with-its-new-68080-chip
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    ‘Proper next-gen Amiga’ launched by Apollo Computing — promises full FPGA-powered backwards compatibility with its new 68080 chip
    Thirty-one years after Commodore went bankrupt, ceasing development of next-generation Amiga computers, a German Amiga accelerator company steps up.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ช่างซ่อมคอมฯ เจอเคส ‘สัตว์ประหลาด’ — การจัดสายไฟสุดโหดที่อาจบาดมือและทำลายระบบในพริบตา”

    เรื่องราวสุดสะเทือนวงการ PC Building เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้ Reddit และเจ้าของร้านซ่อมคอมฯ elishalewisusaf ได้รับเครื่องเกมมิ่งพีซีจากลูกค้ารายหนึ่งที่มีการดัดแปลงภายในอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะบริเวณ PSU shroud ที่ถูกเจาะทะลุเหล็กแบบไม่ปราณี จนดูเหมือนถูก “เอเลี่ยน” ฉีกออกเพื่อปกป้องรังของมัน

    แม้ PSU shroud จะมีช่องสำหรับเดินสายอยู่แล้ว แต่เจ้าของเครื่องกลับเลือกใช้วิธี “ผ่าตรง” ด้วยเครื่องมือไม่ระบุชนิด ทำให้เกิดรอยแผลเหล็กบิดเบี้ยวที่อาจบาดมือได้ง่าย และอาจทำให้สายไฟภายในเสียหายหรือเกิดการลัดวงจรจากเศษโลหะและฝุ่นที่สะสม

    ในภาพยังเห็นว่าพีซีเครื่องนี้เคยเป็นของแบรนด์ Digital Storm ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการประกอบเครื่องด้วยความประณีต และมีบริการซัพพอร์ตตลอดชีพ แต่เจ้าของกลับเลือกใช้วิธี DIY ที่เสี่ยงแทนการติดต่อบริษัท

    การ์ดจอที่ติดตั้งอยู่คาดว่าเป็น Asus Dual RTX 3060 หรือ 4060 ซึ่งหมายความว่าเครื่องนี้น่าจะประกอบมาไม่เกิน 4 ปี แต่กลับมีฝุ่นสะสมหนาแน่น และใช้ SSD SATA ขนาด 256GB ที่ติดตั้งไว้บน PSU shroud ซึ่งไม่เหมาะกับการใช้งานเกมในยุค 2025

    แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยว่าเครื่องมีปัญหาอะไร แต่ช่างซ่อมและผู้เชี่ยวชาญใน Reddit ต่างคาดว่าอาจมีสายไฟที่ถูกบาดหรือเกิดการลัดวงจรจากการดัดแปลงที่ไม่เหมาะสม

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ช่างซ่อมพบพีซีที่มีการเจาะ PSU shroud อย่างรุนแรงจนเหล็กบิดเบี้ยว
    การดัดแปลงนี้อาจเกิดจากความพยายามเดินสาย 8-pin ที่สั้นเกินไป
    เครื่องเป็นของแบรนด์ Digital Storm ที่มีชื่อเสียงด้านการประกอบคุณภาพสูง
    ใช้ SSD SATA 256GB ซึ่งไม่เหมาะกับเกมมิ่งในยุคปัจจุบัน

    ความเห็นจากช่างและชุมชน
    ช่างซ่อมเรียกเครื่องนี้ว่า “monstrosity” และ “บาดมือได้”
    ผู้ใช้ Reddit ส่วนใหญ่เห็นว่าเป็น user error ที่ไม่ควรเกิดขึ้น
    บางคนเสนอว่าเจ้าของควรใช้สายต่อหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนลงมือ
    การจัดสายไฟที่ดีช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    การจัดสายไฟที่ไม่ดีอาจทำให้พัดลมติดสายและเกิดความร้อนสะสม
    การเจาะเคสโดยไม่ระวังอาจทำให้โครงสร้างอ่อนแอและเกิดเสียงรบกวน
    SSD SATA มีความเร็วต่ำกว่า NVMe และไม่เหมาะกับเกมขนาดใหญ่ในปี 2025
    Digital Storm มีบริการ Lifetime Support ซึ่งควรใช้ก่อนลงมือ DIY

    https://www.tomshardware.com/desktops/pc-building/repairer-brands-customers-gaming-pc-a-monstrosity-skin-lacerating-cable-management-technique-provokes-horror
    🧨 “ช่างซ่อมคอมฯ เจอเคส ‘สัตว์ประหลาด’ — การจัดสายไฟสุดโหดที่อาจบาดมือและทำลายระบบในพริบตา” เรื่องราวสุดสะเทือนวงการ PC Building เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้ Reddit และเจ้าของร้านซ่อมคอมฯ elishalewisusaf ได้รับเครื่องเกมมิ่งพีซีจากลูกค้ารายหนึ่งที่มีการดัดแปลงภายในอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะบริเวณ PSU shroud ที่ถูกเจาะทะลุเหล็กแบบไม่ปราณี จนดูเหมือนถูก “เอเลี่ยน” ฉีกออกเพื่อปกป้องรังของมัน แม้ PSU shroud จะมีช่องสำหรับเดินสายอยู่แล้ว แต่เจ้าของเครื่องกลับเลือกใช้วิธี “ผ่าตรง” ด้วยเครื่องมือไม่ระบุชนิด ทำให้เกิดรอยแผลเหล็กบิดเบี้ยวที่อาจบาดมือได้ง่าย และอาจทำให้สายไฟภายในเสียหายหรือเกิดการลัดวงจรจากเศษโลหะและฝุ่นที่สะสม ในภาพยังเห็นว่าพีซีเครื่องนี้เคยเป็นของแบรนด์ Digital Storm ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการประกอบเครื่องด้วยความประณีต และมีบริการซัพพอร์ตตลอดชีพ แต่เจ้าของกลับเลือกใช้วิธี DIY ที่เสี่ยงแทนการติดต่อบริษัท การ์ดจอที่ติดตั้งอยู่คาดว่าเป็น Asus Dual RTX 3060 หรือ 4060 ซึ่งหมายความว่าเครื่องนี้น่าจะประกอบมาไม่เกิน 4 ปี แต่กลับมีฝุ่นสะสมหนาแน่น และใช้ SSD SATA ขนาด 256GB ที่ติดตั้งไว้บน PSU shroud ซึ่งไม่เหมาะกับการใช้งานเกมในยุค 2025 แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยว่าเครื่องมีปัญหาอะไร แต่ช่างซ่อมและผู้เชี่ยวชาญใน Reddit ต่างคาดว่าอาจมีสายไฟที่ถูกบาดหรือเกิดการลัดวงจรจากการดัดแปลงที่ไม่เหมาะสม ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ช่างซ่อมพบพีซีที่มีการเจาะ PSU shroud อย่างรุนแรงจนเหล็กบิดเบี้ยว ➡️ การดัดแปลงนี้อาจเกิดจากความพยายามเดินสาย 8-pin ที่สั้นเกินไป ➡️ เครื่องเป็นของแบรนด์ Digital Storm ที่มีชื่อเสียงด้านการประกอบคุณภาพสูง ➡️ ใช้ SSD SATA 256GB ซึ่งไม่เหมาะกับเกมมิ่งในยุคปัจจุบัน ✅ ความเห็นจากช่างและชุมชน ➡️ ช่างซ่อมเรียกเครื่องนี้ว่า “monstrosity” และ “บาดมือได้” ➡️ ผู้ใช้ Reddit ส่วนใหญ่เห็นว่าเป็น user error ที่ไม่ควรเกิดขึ้น ➡️ บางคนเสนอว่าเจ้าของควรใช้สายต่อหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนลงมือ ➡️ การจัดสายไฟที่ดีช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ การจัดสายไฟที่ไม่ดีอาจทำให้พัดลมติดสายและเกิดความร้อนสะสม ➡️ การเจาะเคสโดยไม่ระวังอาจทำให้โครงสร้างอ่อนแอและเกิดเสียงรบกวน ➡️ SSD SATA มีความเร็วต่ำกว่า NVMe และไม่เหมาะกับเกมขนาดใหญ่ในปี 2025 ➡️ Digital Storm มีบริการ Lifetime Support ซึ่งควรใช้ก่อนลงมือ DIY https://www.tomshardware.com/desktops/pc-building/repairer-brands-customers-gaming-pc-a-monstrosity-skin-lacerating-cable-management-technique-provokes-horror
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ASUS ปฏิวัติสล็อต PCIe — ส่งพลังงานได้ถึง 250W โดยไม่ต้องใช้สายเสริม พร้อมเปิดทางสู่ยุค GPU ไร้สาย”

    ตั้งแต่ PCIe ถือกำเนิดในช่วงต้นยุค 2000 สล็อตกราฟิกบนเมนบอร์ดสามารถจ่ายไฟได้สูงสุดเพียง 75W ซึ่งเพียงพอสำหรับการ์ดจอระดับเริ่มต้นเท่านั้น ส่วนการ์ดจอระดับกลางและสูงต้องพึ่งพาสายไฟเสริมจาก PSU เสมอ แต่ล่าสุด ASUS ได้เปิดตัวแนวคิดใหม่ที่อาจเปลี่ยนแปลงวงการพีซีไปตลอดกาล — สล็อต PCIe ที่สามารถจ่ายไฟได้สูงถึง 250W โดยไม่ต้องใช้สายเสริมเลย

    แนวคิดนี้ใช้การปรับแต่ง “gold finger” ด้านหน้าของสล็อต PCIe โดยรวมสายไฟ 12V จำนวน 5 เส้นเข้าด้วยกัน พร้อมเพิ่มความหนาและใช้วัสดุที่นำไฟฟ้าได้ดีขึ้น ทำให้สามารถรับกระแสไฟได้มากขึ้นอย่างปลอดภัย โดยมีการเสริมพลังงานผ่านหัวต่อ 8-pin PCIe บนเมนบอร์ด ซึ่งช่วยป้อนพลังงานเพิ่มเติมให้กับสล็อตโดยตรง

    ASUS ตั้งเป้าให้แนวคิดนี้รองรับการ์ดจอระดับกลาง เช่น RTX 5060 Ti หรือ Radeon RX 9060 XT ที่มีการใช้พลังงานระหว่าง 150–220W ซึ่งอยู่ในขอบเขตที่สล็อตใหม่สามารถรองรับได้โดยไม่ต้องใช้สายเสริม การ์ดจอเหล่านี้จะสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพผ่านสล็อต PCIe เพียงอย่างเดียว

    แม้ ASUS จะมีมาตรฐาน GC-HPWR สำหรับการ์ดจอไร้สายอยู่แล้ว แต่แนวคิดใหม่นี้ถือเป็นทางเลือกที่ “ถูกกว่า” และ “ง่ายกว่า” เพราะไม่ต้องเพิ่มช่องเชื่อมต่อพิเศษภายในตัวการ์ดหรือเมนบอร์ด ทำให้เหมาะกับตลาดระดับกลางที่ต้องการความสะอาดในการจัดสายและลดต้นทุนการผลิต

    ที่สำคัญคือ การออกแบบใหม่นี้ยังคงความเข้ากันได้กับสล็อต PCIe แบบเดิม หากใช้การ์ดจอที่รองรับในเมนบอร์ดทั่วไป ก็จะกลับไปใช้การจ่ายไฟแบบเดิมได้ทันที แต่หากใช้กับเมนบอร์ดที่รองรับการจ่ายไฟ 250W ก็จะสามารถใช้งานแบบไร้สายได้เต็มรูปแบบ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ASUS พัฒนาแนวคิดสล็อต PCIe ที่สามารถจ่ายไฟได้ถึง 250W โดยไม่ต้องใช้สายเสริม
    ใช้การรวมสาย 12V จำนวน 5 เส้น พร้อมเพิ่มความหนาและวัสดุนำไฟฟ้า
    เสริมพลังงานผ่านหัวต่อ 8-pin PCIe บนเมนบอร์ด
    รองรับการ์ดจอระดับกลาง เช่น RTX 5060 Ti และ RX 9060 XT

    จุดเด่นของแนวคิด
    ไม่ต้องใช้สายไฟเสริม ทำให้เคสสะอาดและจัดสายง่ายขึ้น
    เหมาะกับตลาด mainstream ที่ต้องการลดต้นทุนและความซับซ้อน
    ยังคงความเข้ากันได้กับสล็อต PCIe แบบเดิม
    เป็นทางเลือกที่ถูกกว่า GC-HPWR สำหรับการ์ดจอไร้สาย

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    PCIe มาตรฐานเดิมจ่ายไฟได้เพียง 75W ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการ์ดจอส่วนใหญ่
    GC-HPWR ของ ASUS เคยใช้ใน RTX 4070 และเมนบอร์ด Z790 TUF Gaming
    MSI เคยใช้หัวต่อ 8-pin บนเมนบอร์ดเพื่อเสริมพลังงานเช่นกัน
    การออกแบบแบบนี้อาจนำไปสู่มาตรฐานใหม่ของ GPU ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/asus-gives-us-the-pcie-finger-teases-new-concept-that-boosts-motherboard-gpu-slot-power-to-250w
    🔌 “ASUS ปฏิวัติสล็อต PCIe — ส่งพลังงานได้ถึง 250W โดยไม่ต้องใช้สายเสริม พร้อมเปิดทางสู่ยุค GPU ไร้สาย” ตั้งแต่ PCIe ถือกำเนิดในช่วงต้นยุค 2000 สล็อตกราฟิกบนเมนบอร์ดสามารถจ่ายไฟได้สูงสุดเพียง 75W ซึ่งเพียงพอสำหรับการ์ดจอระดับเริ่มต้นเท่านั้น ส่วนการ์ดจอระดับกลางและสูงต้องพึ่งพาสายไฟเสริมจาก PSU เสมอ แต่ล่าสุด ASUS ได้เปิดตัวแนวคิดใหม่ที่อาจเปลี่ยนแปลงวงการพีซีไปตลอดกาล — สล็อต PCIe ที่สามารถจ่ายไฟได้สูงถึง 250W โดยไม่ต้องใช้สายเสริมเลย แนวคิดนี้ใช้การปรับแต่ง “gold finger” ด้านหน้าของสล็อต PCIe โดยรวมสายไฟ 12V จำนวน 5 เส้นเข้าด้วยกัน พร้อมเพิ่มความหนาและใช้วัสดุที่นำไฟฟ้าได้ดีขึ้น ทำให้สามารถรับกระแสไฟได้มากขึ้นอย่างปลอดภัย โดยมีการเสริมพลังงานผ่านหัวต่อ 8-pin PCIe บนเมนบอร์ด ซึ่งช่วยป้อนพลังงานเพิ่มเติมให้กับสล็อตโดยตรง ASUS ตั้งเป้าให้แนวคิดนี้รองรับการ์ดจอระดับกลาง เช่น RTX 5060 Ti หรือ Radeon RX 9060 XT ที่มีการใช้พลังงานระหว่าง 150–220W ซึ่งอยู่ในขอบเขตที่สล็อตใหม่สามารถรองรับได้โดยไม่ต้องใช้สายเสริม การ์ดจอเหล่านี้จะสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพผ่านสล็อต PCIe เพียงอย่างเดียว แม้ ASUS จะมีมาตรฐาน GC-HPWR สำหรับการ์ดจอไร้สายอยู่แล้ว แต่แนวคิดใหม่นี้ถือเป็นทางเลือกที่ “ถูกกว่า” และ “ง่ายกว่า” เพราะไม่ต้องเพิ่มช่องเชื่อมต่อพิเศษภายในตัวการ์ดหรือเมนบอร์ด ทำให้เหมาะกับตลาดระดับกลางที่ต้องการความสะอาดในการจัดสายและลดต้นทุนการผลิต ที่สำคัญคือ การออกแบบใหม่นี้ยังคงความเข้ากันได้กับสล็อต PCIe แบบเดิม หากใช้การ์ดจอที่รองรับในเมนบอร์ดทั่วไป ก็จะกลับไปใช้การจ่ายไฟแบบเดิมได้ทันที แต่หากใช้กับเมนบอร์ดที่รองรับการจ่ายไฟ 250W ก็จะสามารถใช้งานแบบไร้สายได้เต็มรูปแบบ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ASUS พัฒนาแนวคิดสล็อต PCIe ที่สามารถจ่ายไฟได้ถึง 250W โดยไม่ต้องใช้สายเสริม ➡️ ใช้การรวมสาย 12V จำนวน 5 เส้น พร้อมเพิ่มความหนาและวัสดุนำไฟฟ้า ➡️ เสริมพลังงานผ่านหัวต่อ 8-pin PCIe บนเมนบอร์ด ➡️ รองรับการ์ดจอระดับกลาง เช่น RTX 5060 Ti และ RX 9060 XT ✅ จุดเด่นของแนวคิด ➡️ ไม่ต้องใช้สายไฟเสริม ทำให้เคสสะอาดและจัดสายง่ายขึ้น ➡️ เหมาะกับตลาด mainstream ที่ต้องการลดต้นทุนและความซับซ้อน ➡️ ยังคงความเข้ากันได้กับสล็อต PCIe แบบเดิม ➡️ เป็นทางเลือกที่ถูกกว่า GC-HPWR สำหรับการ์ดจอไร้สาย ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ PCIe มาตรฐานเดิมจ่ายไฟได้เพียง 75W ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการ์ดจอส่วนใหญ่ ➡️ GC-HPWR ของ ASUS เคยใช้ใน RTX 4070 และเมนบอร์ด Z790 TUF Gaming ➡️ MSI เคยใช้หัวต่อ 8-pin บนเมนบอร์ดเพื่อเสริมพลังงานเช่นกัน ➡️ การออกแบบแบบนี้อาจนำไปสู่มาตรฐานใหม่ของ GPU ในอนาคต https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/asus-gives-us-the-pcie-finger-teases-new-concept-that-boosts-motherboard-gpu-slot-power-to-250w
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Asus gives us the PCIe finger — teases new concept that boosts motherboard GPU slot power to 250W
    This could be a cheaper way for Asus to make cableless graphics cards in the future.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Nvidia เปิดตัว DGX Spark พร้อมชิป N1 — ยืนยัน GB10 Superchip คือ N1 SoC ตัวเดียวกัน ต่างแค่เป้าหมายการใช้งาน”

    ในงานแถลงข่าวล่าสุด Nvidia ได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ DGX Spark ระบบประมวลผล AI รุ่นใหม่ที่ใช้ชิป N1 ซึ่งเป็น ARM-based SoC ที่พัฒนาร่วมกับ MediaTek โดย Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia ยืนยันว่า N1 SoC และ GB10 Superchip ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้คือชิปตัวเดียวกันทุกประการ เพียงแต่ใช้ชื่อแตกต่างกันตามกลุ่มเป้าหมาย

    GB10 ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในระบบ DGX Spark และอุปกรณ์ระดับมืออาชีพ เช่นเวิร์กสเตชันและเซิร์ฟเวอร์ โดยมี CPU แบบ 20-core ARM v9.2 แบ่งเป็น 2 คลัสเตอร์ พร้อม GPU ที่ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell มี 6,144 CUDA cores เทียบเท่ากับ RTX 5070 และรองรับการประมวลผล FP32 ได้ถึง 31 TFLOPS รวมถึง 1,000 TOPS สำหรับงาน AI แบบ reduced precision (NVFP4)

    ชิปนี้ใช้การออกแบบแบบ multi-die โดยมีการเชื่อมต่อระหว่าง CPU และ GPU ด้วย interconnect C2C ที่ให้แบนด์วิดท์สูงถึง 600 GB/s และมีระบบแคชร่วมระหว่างสอง die เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลแบบ low-latency

    แม้ N1 จะยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่การยืนยันจาก Nvidia ทำให้เห็นชัดว่า GB10 คือเวอร์ชันเต็มของ N1 ที่จะถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์ระดับ consumer เช่น แล็ปท็อปหรือเดสก์ท็อปในอนาคต โดยอาจมีการลดสเปกบางส่วนเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานทั่วไป

    ที่น่าสนใจคือ DGX Spark ใช้ระบบปฏิบัติการ Linux ที่ปรับแต่งสำหรับงาน AI โดยเฉพาะ ขณะที่ N1 มีการทดสอบบน Windows แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่า Nvidia กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าสู่ตลาด Windows-on-ARM อย่างจริงจัง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Jensen Huang ยืนยันว่า N1 SoC และ GB10 Superchip เป็นชิปตัวเดียวกัน
    GB10 ใช้ CPU 20-core ARM v9.2 และ GPU Blackwell 6,144 CUDA cores
    รองรับ FP32 ได้ถึง 31 TFLOPS และ NVFP4 ได้ถึง 1,000 TOPS
    ใช้การออกแบบ multi-die พร้อมแคชร่วมและ interconnect C2C แบนด์วิดท์ 600 GB/s

    การใช้งานและเป้าหมาย
    GB10 ใช้ใน DGX Spark และอุปกรณ์ระดับมืออาชีพ
    N1 จะถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์ consumer เช่น แล็ปท็อปและเดสก์ท็อป
    DGX Spark ใช้ Linux OS ที่ปรับแต่งสำหรับงาน AI
    N1 มีการทดสอบบน Windows แล้ว เตรียมเข้าสู่ตลาด Windows-on-ARM

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    GB10 ใช้หน่วยความจำ LPDDR5X-9400 บัส 256-bit รองรับสูงสุด 128 GB
    GPU มี L2 cache ขนาด 24 MB ที่สามารถแชร์กับ CPU ได้
    ใช้ PCIe Gen 5 x8 สำหรับเชื่อมต่อกับ NIC และอุปกรณ์เสริม
    การออกแบบแบบ 2.5D บนกระบวนการผลิต 3nm จาก TSMC

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/nvidia-ceo-huang-says-upcoming-dgx-spark-systems-are-powered-by-n1-silicon-confirms-gb10-superchip-and-n1-n1x-socs-are-identical
    🧠 “Nvidia เปิดตัว DGX Spark พร้อมชิป N1 — ยืนยัน GB10 Superchip คือ N1 SoC ตัวเดียวกัน ต่างแค่เป้าหมายการใช้งาน” ในงานแถลงข่าวล่าสุด Nvidia ได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ DGX Spark ระบบประมวลผล AI รุ่นใหม่ที่ใช้ชิป N1 ซึ่งเป็น ARM-based SoC ที่พัฒนาร่วมกับ MediaTek โดย Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia ยืนยันว่า N1 SoC และ GB10 Superchip ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้คือชิปตัวเดียวกันทุกประการ เพียงแต่ใช้ชื่อแตกต่างกันตามกลุ่มเป้าหมาย GB10 ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในระบบ DGX Spark และอุปกรณ์ระดับมืออาชีพ เช่นเวิร์กสเตชันและเซิร์ฟเวอร์ โดยมี CPU แบบ 20-core ARM v9.2 แบ่งเป็น 2 คลัสเตอร์ พร้อม GPU ที่ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell มี 6,144 CUDA cores เทียบเท่ากับ RTX 5070 และรองรับการประมวลผล FP32 ได้ถึง 31 TFLOPS รวมถึง 1,000 TOPS สำหรับงาน AI แบบ reduced precision (NVFP4) ชิปนี้ใช้การออกแบบแบบ multi-die โดยมีการเชื่อมต่อระหว่าง CPU และ GPU ด้วย interconnect C2C ที่ให้แบนด์วิดท์สูงถึง 600 GB/s และมีระบบแคชร่วมระหว่างสอง die เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลแบบ low-latency แม้ N1 จะยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่การยืนยันจาก Nvidia ทำให้เห็นชัดว่า GB10 คือเวอร์ชันเต็มของ N1 ที่จะถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์ระดับ consumer เช่น แล็ปท็อปหรือเดสก์ท็อปในอนาคต โดยอาจมีการลดสเปกบางส่วนเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ที่น่าสนใจคือ DGX Spark ใช้ระบบปฏิบัติการ Linux ที่ปรับแต่งสำหรับงาน AI โดยเฉพาะ ขณะที่ N1 มีการทดสอบบน Windows แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่า Nvidia กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าสู่ตลาด Windows-on-ARM อย่างจริงจัง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Jensen Huang ยืนยันว่า N1 SoC และ GB10 Superchip เป็นชิปตัวเดียวกัน ➡️ GB10 ใช้ CPU 20-core ARM v9.2 และ GPU Blackwell 6,144 CUDA cores ➡️ รองรับ FP32 ได้ถึง 31 TFLOPS และ NVFP4 ได้ถึง 1,000 TOPS ➡️ ใช้การออกแบบ multi-die พร้อมแคชร่วมและ interconnect C2C แบนด์วิดท์ 600 GB/s ✅ การใช้งานและเป้าหมาย ➡️ GB10 ใช้ใน DGX Spark และอุปกรณ์ระดับมืออาชีพ ➡️ N1 จะถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์ consumer เช่น แล็ปท็อปและเดสก์ท็อป ➡️ DGX Spark ใช้ Linux OS ที่ปรับแต่งสำหรับงาน AI ➡️ N1 มีการทดสอบบน Windows แล้ว เตรียมเข้าสู่ตลาด Windows-on-ARM ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ GB10 ใช้หน่วยความจำ LPDDR5X-9400 บัส 256-bit รองรับสูงสุด 128 GB ➡️ GPU มี L2 cache ขนาด 24 MB ที่สามารถแชร์กับ CPU ได้ ➡️ ใช้ PCIe Gen 5 x8 สำหรับเชื่อมต่อกับ NIC และอุปกรณ์เสริม ➡️ การออกแบบแบบ 2.5D บนกระบวนการผลิต 3nm จาก TSMC https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/nvidia-ceo-huang-says-upcoming-dgx-spark-systems-are-powered-by-n1-silicon-confirms-gb10-superchip-and-n1-n1x-socs-are-identical
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เซลล์เชื้อเพลิงเซรามิกพิมพ์สามมิติจาก DTU — เบา ทน และผลิตพลังงานได้มากกว่าหนึ่งวัตต์ต่อกรัม พร้อมพลิกโฉมอุตสาหกรรมการบิน”

    ทีมนักวิจัยจาก Technical University of Denmark (DTU) ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ที่อาจเปลี่ยนอนาคตของเซลล์เชื้อเพลิงสำหรับการบิน ด้วยการพัฒนาเซลล์เชื้อเพลิงแบบใหม่ที่เรียกว่า “Monolithic Gyroidal Solid Oxide Cell” หรือ “The Monolith” ซึ่งผลิตด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติจากวัสดุเซรามิกทั้งหมด

    จุดเด่นของเซลล์เชื้อเพลิงนี้คือโครงสร้างแบบ “gyroid” ซึ่งเป็นรูปทรงเรขาคณิตที่เรียกว่า triply periodic minimal surface (TPMS) มีคุณสมบัติด้านการกระจายความร้อนดีเยี่ยม พื้นที่ผิวสูง และน้ำหนักเบา โดยได้รับแรงบันดาลใจจากโครงสร้างธรรมชาติ เช่น ปะการังและปีกผีเสื้อ

    ต่างจากเซลล์เชื้อเพลิงทั่วไปที่ใช้โลหะเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งคิดเป็นกว่า 75% ของน้ำหนักทั้งหมด เซลล์เชื้อเพลิงแบบใหม่ของ DTU ใช้เซรามิกล้วน ทำให้เบากว่า ทนต่อการกัดกร่อน และสามารถผลิตพลังงานได้มากกว่า 1 วัตต์ต่อกรัม ซึ่งเป็นอัตราส่วนพลังงานต่อน้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมการบิน

    นอกจากนี้ “The Monolith” ยังสามารถสลับโหมดการทำงานระหว่างการผลิตพลังงานและการเก็บพลังงาน (electrolysis mode) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในโหมด electrolysis สามารถผลิตไฮโดรเจนได้มากกว่ามาตรฐานถึง 10 เท่า

    การผลิตด้วยการพิมพ์สามมิติยังช่วยลดขั้นตอนการประกอบ ลดจำนวนชิ้นส่วน และเพิ่มความแม่นยำในการควบคุมโครงสร้างภายใน ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง และสามารถปรับแต่งการออกแบบได้ตามความต้องการเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรม

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    DTU พัฒนาเซลล์เชื้อเพลิงแบบใหม่ชื่อ “Monolithic Gyroidal Solid Oxide Cell” หรือ “The Monolith”
    ใช้โครงสร้าง gyroid ซึ่งเป็น TPMS เพื่อเพิ่มพื้นที่ผิวและลดน้ำหนัก
    ผลิตจากเซรามิกทั้งหมด ไม่มีส่วนประกอบโลหะ
    ให้พลังงานมากกว่า 1 วัตต์ต่อกรัม ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในอุตสาหกรรมการบิน

    คุณสมบัติเด่นของเซลล์เชื้อเพลิง
    ทนต่ออุณหภูมิสูงถึง 100°C และสลับโหมดการทำงานได้ระหว่างผลิตและเก็บพลังงาน
    โหมด electrolysis เพิ่มอัตราการผลิตไฮโดรเจนได้ถึง 10 เท่า
    โครงสร้าง gyroid ช่วยกระจายความร้อนและไหลเวียนก๊าซได้ดี
    การพิมพ์สามมิติช่วยลดขั้นตอนการผลิตและต้นทุน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    TPMS ถูกใช้ในงานวิศวกรรม เช่น heat exchanger และวัสดุโครงสร้างเบา
    เซลล์เชื้อเพลิงแบบ solid oxide (SOC) ถูกใช้ในโรงพยาบาล เรือ และระบบพลังงานหมุนเวียน
    การใช้เซรามิกแทนโลหะช่วยลดปัญหาการกัดกร่อนและเพิ่มอายุการใช้งาน
    DTU เป็นหนึ่งในสถาบันที่มีผลงานวิจัยด้านพลังงานสะอาดระดับแนวหน้าในยุโรป

    https://www.tomshardware.com/3d-printing/researchers-3d-print-lightweight-ceramic-fuel-cell-suggests-alternative-power-source-for-the-aerospace-industry
    🔬 “เซลล์เชื้อเพลิงเซรามิกพิมพ์สามมิติจาก DTU — เบา ทน และผลิตพลังงานได้มากกว่าหนึ่งวัตต์ต่อกรัม พร้อมพลิกโฉมอุตสาหกรรมการบิน” ทีมนักวิจัยจาก Technical University of Denmark (DTU) ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ที่อาจเปลี่ยนอนาคตของเซลล์เชื้อเพลิงสำหรับการบิน ด้วยการพัฒนาเซลล์เชื้อเพลิงแบบใหม่ที่เรียกว่า “Monolithic Gyroidal Solid Oxide Cell” หรือ “The Monolith” ซึ่งผลิตด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติจากวัสดุเซรามิกทั้งหมด จุดเด่นของเซลล์เชื้อเพลิงนี้คือโครงสร้างแบบ “gyroid” ซึ่งเป็นรูปทรงเรขาคณิตที่เรียกว่า triply periodic minimal surface (TPMS) มีคุณสมบัติด้านการกระจายความร้อนดีเยี่ยม พื้นที่ผิวสูง และน้ำหนักเบา โดยได้รับแรงบันดาลใจจากโครงสร้างธรรมชาติ เช่น ปะการังและปีกผีเสื้อ ต่างจากเซลล์เชื้อเพลิงทั่วไปที่ใช้โลหะเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งคิดเป็นกว่า 75% ของน้ำหนักทั้งหมด เซลล์เชื้อเพลิงแบบใหม่ของ DTU ใช้เซรามิกล้วน ทำให้เบากว่า ทนต่อการกัดกร่อน และสามารถผลิตพลังงานได้มากกว่า 1 วัตต์ต่อกรัม ซึ่งเป็นอัตราส่วนพลังงานต่อน้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมการบิน นอกจากนี้ “The Monolith” ยังสามารถสลับโหมดการทำงานระหว่างการผลิตพลังงานและการเก็บพลังงาน (electrolysis mode) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในโหมด electrolysis สามารถผลิตไฮโดรเจนได้มากกว่ามาตรฐานถึง 10 เท่า การผลิตด้วยการพิมพ์สามมิติยังช่วยลดขั้นตอนการประกอบ ลดจำนวนชิ้นส่วน และเพิ่มความแม่นยำในการควบคุมโครงสร้างภายใน ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง และสามารถปรับแต่งการออกแบบได้ตามความต้องการเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรม ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ DTU พัฒนาเซลล์เชื้อเพลิงแบบใหม่ชื่อ “Monolithic Gyroidal Solid Oxide Cell” หรือ “The Monolith” ➡️ ใช้โครงสร้าง gyroid ซึ่งเป็น TPMS เพื่อเพิ่มพื้นที่ผิวและลดน้ำหนัก ➡️ ผลิตจากเซรามิกทั้งหมด ไม่มีส่วนประกอบโลหะ ➡️ ให้พลังงานมากกว่า 1 วัตต์ต่อกรัม ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในอุตสาหกรรมการบิน ✅ คุณสมบัติเด่นของเซลล์เชื้อเพลิง ➡️ ทนต่ออุณหภูมิสูงถึง 100°C และสลับโหมดการทำงานได้ระหว่างผลิตและเก็บพลังงาน ➡️ โหมด electrolysis เพิ่มอัตราการผลิตไฮโดรเจนได้ถึง 10 เท่า ➡️ โครงสร้าง gyroid ช่วยกระจายความร้อนและไหลเวียนก๊าซได้ดี ➡️ การพิมพ์สามมิติช่วยลดขั้นตอนการผลิตและต้นทุน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ TPMS ถูกใช้ในงานวิศวกรรม เช่น heat exchanger และวัสดุโครงสร้างเบา ➡️ เซลล์เชื้อเพลิงแบบ solid oxide (SOC) ถูกใช้ในโรงพยาบาล เรือ และระบบพลังงานหมุนเวียน ➡️ การใช้เซรามิกแทนโลหะช่วยลดปัญหาการกัดกร่อนและเพิ่มอายุการใช้งาน ➡️ DTU เป็นหนึ่งในสถาบันที่มีผลงานวิจัยด้านพลังงานสะอาดระดับแนวหน้าในยุโรป https://www.tomshardware.com/3d-printing/researchers-3d-print-lightweight-ceramic-fuel-cell-suggests-alternative-power-source-for-the-aerospace-industry
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Nvidia เร่งดัน HBM4 ความเร็ว 10Gbps รับมือ AMD MI450 — เมื่อสงครามแบนด์วิดท์กลายเป็นเดิมพันของ AI ยุคใหม่”

    ในปี 2025 Nvidia กำลังเดินเกมรุกเพื่อเตรียมรับมือกับการเปิดตัวแพลตฟอร์ม MI450 Helios ของ AMD ที่จะมาถึงในปี 2026 โดยเน้นไปที่การเพิ่มความเร็วของหน่วยความจำ HBM4 ให้สูงถึง 10Gbps ต่อพิน ซึ่งมากกว่ามาตรฐานของ JEDEC ที่กำหนดไว้ที่ 8Gbps

    หากสำเร็จ ความเร็วนี้จะทำให้แบนด์วิดท์ต่อ stack เพิ่มจาก 2TB/s เป็น 2.56TB/s และเมื่อใช้ 6 stack ต่อ GPU จะได้แบนด์วิดท์รวมถึง 15TB/s ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งสำหรับงาน AI inference ขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในแพลตฟอร์ม Rubin CPX ที่ออกแบบมาเพื่อการประมวลผลระดับ petabyte ต่อวินาที

    อย่างไรก็ตาม การผลักดันความเร็วนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะยิ่งเร็วก็ยิ่งต้องใช้พลังงานมากขึ้น มีข้อจำกัดด้าน timing และความเสถียรของ base die ซึ่งทำให้ Nvidia อาจต้องแบ่งรุ่น Rubin ออกเป็นหลายระดับ โดยใช้ HBM4 ที่เร็วที่สุดเฉพาะในรุ่น CPX และใช้รุ่นมาตรฐานในรุ่นทั่วไป

    ในด้านซัพพลายเออร์ SK hynix ยังคงเป็นผู้ผลิตหลักของ HBM4 ให้ Nvidia แต่ Samsung กำลังเร่งพัฒนา base die ด้วยเทคโนโลยี 4nm FinFET ซึ่งอาจให้ความเร็วสูงกว่าและใช้พลังงานน้อยลง ส่วน Micron ก็เริ่มส่งตัวอย่าง HBM4 ที่มีแบนด์วิดท์เกิน 2TB/s แต่ยังไม่ยืนยันว่าจะถึง 10Gbps หรือไม่

    ฝั่ง AMD ก็ไม่น้อยหน้า โดย MI450 จะใช้ HBM4 สูงสุดถึง 432GB ต่อ GPU ซึ่งเน้นความจุมากกว่าแบนด์วิดท์ และมาพร้อมสถาปัตยกรรม CDNA 4 ที่ออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ Rubin โดยตรงในงาน inference

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Nvidia กำลังผลักดัน HBM4 ให้เร็วถึง 10Gbps ต่อพิน เพื่อใช้ในแพลตฟอร์ม Rubin
    ความเร็วนี้จะให้แบนด์วิดท์สูงถึง 15TB/s ต่อ GPU เมื่อใช้ 6 stack
    Rubin CPX มีเป้าหมายแบนด์วิดท์รวม 1.7PB/s ต่อ rack
    SK hynix เป็นผู้ผลิตหลักของ HBM4 ให้ Nvidia ในช่วงแรกของการผลิต

    การแข่งขันและกลยุทธ์
    Samsung พัฒนา base die ด้วยเทคโนโลยี 4nm FinFET เพื่อเพิ่มความเร็วและลดพลังงาน
    Micron ส่งตัวอย่าง HBM4 ที่มีแบนด์วิดท์เกิน 2TB/s แต่ยังไม่ยืนยันความเร็ว 10Gbps
    AMD MI450 ใช้ HBM4 สูงสุด 432GB ต่อ GPU เน้นความจุมากกว่าแบนด์วิดท์
    CDNA 4 ของ AMD ออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ Rubin ในงาน inference โดยเฉพาะ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    JEDEC กำหนดมาตรฐาน HBM4 ที่ 8Gbps ต่อพิน
    การเพิ่มความเร็ว I/O ส่งผลต่อพลังงาน ความร้อน และ yield ของการผลิต
    Nvidia อาจแบ่งรุ่น Rubin ตามระดับความเร็วของ HBM4 เพื่อควบคุมต้นทุนและความเสถียร
    การรับรองซัพพลายเออร์แบบแบ่งเฟสช่วยให้ Nvidia ขยายการผลิตได้อย่างยืดหยุ่น

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-wants-10gbps-hbm4-to-rival-amd-mi450
    ⚡ “Nvidia เร่งดัน HBM4 ความเร็ว 10Gbps รับมือ AMD MI450 — เมื่อสงครามแบนด์วิดท์กลายเป็นเดิมพันของ AI ยุคใหม่” ในปี 2025 Nvidia กำลังเดินเกมรุกเพื่อเตรียมรับมือกับการเปิดตัวแพลตฟอร์ม MI450 Helios ของ AMD ที่จะมาถึงในปี 2026 โดยเน้นไปที่การเพิ่มความเร็วของหน่วยความจำ HBM4 ให้สูงถึง 10Gbps ต่อพิน ซึ่งมากกว่ามาตรฐานของ JEDEC ที่กำหนดไว้ที่ 8Gbps หากสำเร็จ ความเร็วนี้จะทำให้แบนด์วิดท์ต่อ stack เพิ่มจาก 2TB/s เป็น 2.56TB/s และเมื่อใช้ 6 stack ต่อ GPU จะได้แบนด์วิดท์รวมถึง 15TB/s ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งสำหรับงาน AI inference ขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในแพลตฟอร์ม Rubin CPX ที่ออกแบบมาเพื่อการประมวลผลระดับ petabyte ต่อวินาที อย่างไรก็ตาม การผลักดันความเร็วนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะยิ่งเร็วก็ยิ่งต้องใช้พลังงานมากขึ้น มีข้อจำกัดด้าน timing และความเสถียรของ base die ซึ่งทำให้ Nvidia อาจต้องแบ่งรุ่น Rubin ออกเป็นหลายระดับ โดยใช้ HBM4 ที่เร็วที่สุดเฉพาะในรุ่น CPX และใช้รุ่นมาตรฐานในรุ่นทั่วไป ในด้านซัพพลายเออร์ SK hynix ยังคงเป็นผู้ผลิตหลักของ HBM4 ให้ Nvidia แต่ Samsung กำลังเร่งพัฒนา base die ด้วยเทคโนโลยี 4nm FinFET ซึ่งอาจให้ความเร็วสูงกว่าและใช้พลังงานน้อยลง ส่วน Micron ก็เริ่มส่งตัวอย่าง HBM4 ที่มีแบนด์วิดท์เกิน 2TB/s แต่ยังไม่ยืนยันว่าจะถึง 10Gbps หรือไม่ ฝั่ง AMD ก็ไม่น้อยหน้า โดย MI450 จะใช้ HBM4 สูงสุดถึง 432GB ต่อ GPU ซึ่งเน้นความจุมากกว่าแบนด์วิดท์ และมาพร้อมสถาปัตยกรรม CDNA 4 ที่ออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ Rubin โดยตรงในงาน inference ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Nvidia กำลังผลักดัน HBM4 ให้เร็วถึง 10Gbps ต่อพิน เพื่อใช้ในแพลตฟอร์ม Rubin ➡️ ความเร็วนี้จะให้แบนด์วิดท์สูงถึง 15TB/s ต่อ GPU เมื่อใช้ 6 stack ➡️ Rubin CPX มีเป้าหมายแบนด์วิดท์รวม 1.7PB/s ต่อ rack ➡️ SK hynix เป็นผู้ผลิตหลักของ HBM4 ให้ Nvidia ในช่วงแรกของการผลิต ✅ การแข่งขันและกลยุทธ์ ➡️ Samsung พัฒนา base die ด้วยเทคโนโลยี 4nm FinFET เพื่อเพิ่มความเร็วและลดพลังงาน ➡️ Micron ส่งตัวอย่าง HBM4 ที่มีแบนด์วิดท์เกิน 2TB/s แต่ยังไม่ยืนยันความเร็ว 10Gbps ➡️ AMD MI450 ใช้ HBM4 สูงสุด 432GB ต่อ GPU เน้นความจุมากกว่าแบนด์วิดท์ ➡️ CDNA 4 ของ AMD ออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ Rubin ในงาน inference โดยเฉพาะ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ JEDEC กำหนดมาตรฐาน HBM4 ที่ 8Gbps ต่อพิน ➡️ การเพิ่มความเร็ว I/O ส่งผลต่อพลังงาน ความร้อน และ yield ของการผลิต ➡️ Nvidia อาจแบ่งรุ่น Rubin ตามระดับความเร็วของ HBM4 เพื่อควบคุมต้นทุนและความเสถียร ➡️ การรับรองซัพพลายเออร์แบบแบ่งเฟสช่วยให้ Nvidia ขยายการผลิตได้อย่างยืดหยุ่น https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-wants-10gbps-hbm4-to-rival-amd-mi450
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Nvidia wants 10Gbps HBM4 to blunt AMD’s MI450, report claims — company said to be pushing suppliers for more bandwidth
    Nvidia’s Rubin platform bets big on 10Gb/s HBM4, but speed brings supply risk, and AMD’s MI450 is around the corner.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts