• ## รัชกาลที่ 5 กับการเลิกบ่อนการพนัน...!!! ##
    ..
    ..
    เมื่อคราวที่ รัชกาล 5 เสด็จประพาสยุโรป ทรงเสด็จไปศึกษาบ่อนการพนันแหล่งใหญ่ของ ยุโรป ที่เมือง มอนติคาโล
    .
    ทรงส่งชิปราคา 100 ฟรังก์ มาพระราชทาน สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ 3 เหรียญ เป็นที่ระลึก
    .
    พร้อมพระราชหัตถ์เลขามีความตอนหนึ่งว่า...
    .
    “ได้เรียนตำราเล่นเบี้ยอย่างฝรั่งเข้าใจแล้ว ข้อซึ่งเข้าใจกันว่าเล่นไม่น่าสนุกนั้นไม่จริงเลย สนุกยิ่งกว่าอไรๆ หมด ถ้าชาวบางกอกรู้ได้ไปเล่นแล้ว ฉิบหายกันไม่เหลือ ถ้าหากว่าไปถึงเมืองเราเข้าเมื่อไร จะรอช้าสักวันเดียวก็ไม่ควร ต้องห้ามทันที ถ้ารู้ถึงผู้ดีเล่นเบี้ยของเรา น่ากลัวอย่างยิ่ง จะดื่มไม่เงย แต่ฉันเปนคนไม่เล่นเบี้ยเลย ยังนึกรู้สึกสนุก ...”
    .
    บทความ โดย โรม บุนนาค
    https://shorturl.asia/lBfp5
    ....
    ....
    ปีนี้ รัฐบาล จะมอบ คาสิโน บ่อนพนันออนไลน์ ถูกกฎหมาย ให้ประเทศไทย...???
    .
    ไอ้คำขวัญวันเด็กปี 2568 ที่ว่า "ทุกโอกาสคือการเรียนรู้" ให้เรียนรู้อะไรครับ...???
    .
    ให้เด็กๆเรียนรู้กับบ่อนการพนัน...???
    .
    ให้เด็กเรียนรู้ เป็นนักแจกไพ่...???
    .
    และที่ว่า GDP จะโต ก็คือ เรื่องโกหก...???
    .
    สภาพัฒน์ บอกว่า เงินพนันนี้ เป็นเงินโอน คือ เงินพนัน ไหลจาก นักพนัน ไปสู่เจ้าของบ่อนพนัน
    .
    เงินจากการพนันมีลักษณะเป็น "เงินโอน (Transfer)" จะไม่ถูกนำมาคำนวณเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจเนื่องจากไม่ทำให้เกิดผลผลิต (Production) ดังนั้น ธุรกิจ กาสิโน อาจจะไม่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อระบบเศรษฐกิจมากเท่าที่มีการคาดการณ์ไว้
    https://shorturl.asia/wJ2vQ
    .
    ผู้ที่จะได้ประโยชน์หลัก คือเจ้าของบ่อน ซึ่งก็คือ ทุนยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ กับทุนภายในประเทศ (ซึ่งบางคนเชื่อว่าเป็นทุนการเมือง)
    .
    ดังนั้น จะไม่มีผลต่อ GDP เท่าไหร่ เพราะเงินเล่นพนันไม่ได้สร้างผลิตภัณฑ์อะไร ไม่สามารถ เจนเนอร์เรส GDP ให้โตได้...!!!
    .
    ตัวเลขการจ้างงานจาก คาสิโน จะมีเพีบงประมาณ 9,000 -15,300 ตำแหน่ง โดย ตำแหน่งพนักการเสิร์ฟน้ำและอาหาร พนักงานแจกไพ่ ไม่ได้ช่วยให้มีแรงงานไทยเพิ่มทักษะเพิ่ม Skill มีฝีมือ อะไรเพิ่มเติมได้เลย...
    .
    โดยอ้างว่าจะมีตัวเลขจากการท่องเทียวเพิ่มขึ้น 1 - 4 แสนล้าน (ตัวเลขกลมๆ)...
    .
    ขณะเดียวกันก็ระบุว่า จะมีรายได้จากภาษี 1 - 3 หมื่นล้าน ต่อปี (ตัวเลขกลมๆ)
    .
    คำถามคือ คุ้มมั้ย...???
    .
    รัฐได้รายได้มาไม่ถึง 10% แต่ปัญหาสังคมที่จะตามมาอีกมากมายไม่รู้กี่เรื่อง...!!!
    ...
    ...
    สรุป
    .
    คนได้ประโยชน์หลัก คือ เจ้าของบ่อน แลกกับ รายได้ของรัฐไม่ถึง 10%
    โดยการ "เซ่นสังเวย ประชาชน" ด้วยการ "ก่อปัญหาสังคม" ให้ประเทศ แลก กับกำไรของ เจ้าของบ่อน ใช่หรือไม่...???
    ## รัชกาลที่ 5 กับการเลิกบ่อนการพนัน...!!! ## .. .. เมื่อคราวที่ รัชกาล 5 เสด็จประพาสยุโรป ทรงเสด็จไปศึกษาบ่อนการพนันแหล่งใหญ่ของ ยุโรป ที่เมือง มอนติคาโล . ทรงส่งชิปราคา 100 ฟรังก์ มาพระราชทาน สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ 3 เหรียญ เป็นที่ระลึก . พร้อมพระราชหัตถ์เลขามีความตอนหนึ่งว่า... . “ได้เรียนตำราเล่นเบี้ยอย่างฝรั่งเข้าใจแล้ว ข้อซึ่งเข้าใจกันว่าเล่นไม่น่าสนุกนั้นไม่จริงเลย สนุกยิ่งกว่าอไรๆ หมด ถ้าชาวบางกอกรู้ได้ไปเล่นแล้ว ฉิบหายกันไม่เหลือ ถ้าหากว่าไปถึงเมืองเราเข้าเมื่อไร จะรอช้าสักวันเดียวก็ไม่ควร ต้องห้ามทันที ถ้ารู้ถึงผู้ดีเล่นเบี้ยของเรา น่ากลัวอย่างยิ่ง จะดื่มไม่เงย แต่ฉันเปนคนไม่เล่นเบี้ยเลย ยังนึกรู้สึกสนุก ...” . บทความ โดย โรม บุนนาค https://shorturl.asia/lBfp5 .... .... ปีนี้ รัฐบาล จะมอบ คาสิโน บ่อนพนันออนไลน์ ถูกกฎหมาย ให้ประเทศไทย...??? . ไอ้คำขวัญวันเด็กปี 2568 ที่ว่า "ทุกโอกาสคือการเรียนรู้" ให้เรียนรู้อะไรครับ...??? . ให้เด็กๆเรียนรู้กับบ่อนการพนัน...??? . ให้เด็กเรียนรู้ เป็นนักแจกไพ่...??? . และที่ว่า GDP จะโต ก็คือ เรื่องโกหก...??? . สภาพัฒน์ บอกว่า เงินพนันนี้ เป็นเงินโอน คือ เงินพนัน ไหลจาก นักพนัน ไปสู่เจ้าของบ่อนพนัน . เงินจากการพนันมีลักษณะเป็น "เงินโอน (Transfer)" จะไม่ถูกนำมาคำนวณเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจเนื่องจากไม่ทำให้เกิดผลผลิต (Production) ดังนั้น ธุรกิจ กาสิโน อาจจะไม่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อระบบเศรษฐกิจมากเท่าที่มีการคาดการณ์ไว้ https://shorturl.asia/wJ2vQ . ผู้ที่จะได้ประโยชน์หลัก คือเจ้าของบ่อน ซึ่งก็คือ ทุนยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ กับทุนภายในประเทศ (ซึ่งบางคนเชื่อว่าเป็นทุนการเมือง) . ดังนั้น จะไม่มีผลต่อ GDP เท่าไหร่ เพราะเงินเล่นพนันไม่ได้สร้างผลิตภัณฑ์อะไร ไม่สามารถ เจนเนอร์เรส GDP ให้โตได้...!!! . ตัวเลขการจ้างงานจาก คาสิโน จะมีเพีบงประมาณ 9,000 -15,300 ตำแหน่ง โดย ตำแหน่งพนักการเสิร์ฟน้ำและอาหาร พนักงานแจกไพ่ ไม่ได้ช่วยให้มีแรงงานไทยเพิ่มทักษะเพิ่ม Skill มีฝีมือ อะไรเพิ่มเติมได้เลย... . โดยอ้างว่าจะมีตัวเลขจากการท่องเทียวเพิ่มขึ้น 1 - 4 แสนล้าน (ตัวเลขกลมๆ)... . ขณะเดียวกันก็ระบุว่า จะมีรายได้จากภาษี 1 - 3 หมื่นล้าน ต่อปี (ตัวเลขกลมๆ) . คำถามคือ คุ้มมั้ย...??? . รัฐได้รายได้มาไม่ถึง 10% แต่ปัญหาสังคมที่จะตามมาอีกมากมายไม่รู้กี่เรื่อง...!!! ... ... สรุป . คนได้ประโยชน์หลัก คือ เจ้าของบ่อน แลกกับ รายได้ของรัฐไม่ถึง 10% โดยการ "เซ่นสังเวย ประชาชน" ด้วยการ "ก่อปัญหาสังคม" ให้ประเทศ แลก กับกำไรของ เจ้าของบ่อน ใช่หรือไม่...???
    SHORTURL.ASIA
    ร.๕ กับการเลิกบ่อนการพนัน! ที่ว่าไม่สนุกนั้นไม่จริงเลย ฉันเป็นคนไม่เล่นเบี้ยยังรู้สึกสนุก!!
    ในสมัยก่อน ระบบการเก็บภาษียังไม่กว้างขวางพอที่จะหาเงินมาใช้ในการพัฒนาประเทศ บ่อนการพนันจึงเป็นอีกทางหนึ่งของรายได้รัฐ และได้มากเสียด้วย แต่การพนันก็ทำให้คนลุ่มหลงได้ง่าย จนไม่ยอมทำมาหากิน เป็นหนี้เป็นสิน เสียผู้เสียคน ทำให้ครอบครั
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Venom” vs. “Poison”: Which One Is More Harmful To You?

    Here’s the obvious thing about poison and venom: you don’t want either one in your body. But after that, things can get confusing. Although the two words are sometimes used interchangeably in casual use, a distinction is made between them in scientific contexts.

    In this article, we’ll look at the key differences between poison and venom as well as the adjective forms poisonous and venomous, especially in the context of snakes, plants, and other living things.

    Quick summary

    The word poison can refer to any substance that is inherently harmful to a living thing—especially a substance that’s intended to be harmful. The word venom is more specific—it refers to a poisonous substance produced in the body of an animal and actively used to cause harm through injection, such as through a snake bite, a spider bite, or an insect sting. Venom is sometimes called poison in casual use, and animals that are venomous are sometimes casually described as poisonous, as in poisonous snakes. But in reference to organisms, there is a difference: poison is secreted through the skin or delivered through ingestion.

    What is the difference between poison vs. venom?

    The word poison can refer to any substance with an inherent property that makes it harmful or even deadly. The word is perhaps most often used to refer to substances that are intended to cause harm in this way, as in rat poison or The poison they used was a nerve agent.

    The word poison is also sometimes used to refer to naturally occurring toxic chemicals and substances, such as arsenic or cyanide (which can also be used intentionally to cause harm). It’s also sometimes used to refer to manufactured chemicals that aren’t intended to cause harm but can if ingested, such as bleach or other cleaners.

    The term venom is much more specific—it refers to a dangerous substance produced in the body of an animal, such as in some snakes, spiders, and wasps, and delivered via injection. Such animals may use venom as a way to defend themselves or as part of how they prey on other animals. Snakes are known for delivering venom via a bite, but some can spray or “spit” venom. Wasps and other insects can inject venom via stingers. Some jellyfish inject venom through barbed tentacles.

    The toxicity of venom varies widely. The effects of different venoms range from minor irritation to death.

    The toxic substances produced by some animals may be referred to as poison instead of venom. This is the case when the substance is simply secreted by the animal or stored inside its body (as in the poison-arrow frog), as opposed to being actively injected or sprayed.

    Animals aren’t the only living things that produce poisonous substances. Many plants contain substances that are toxic if they’re ingested or come into contact with skin, but such a substance is typically called a poison as opposed to a venom.

    Despite the technical distinction between the words, animal venom is sometimes generally referred to as poison.

    Another difference in how we use the words: unlike the word venom, poison is also commonly used as a verb. It can mean “to administer poison to (a person or animal)” or “to add poison to something,” as in She poisoned the soup.

    poisonous vs. venomous

    The adjective poisonous is used broadly to describe substances that are considered poisons. It may also be applied to things that contain a substance considered a poison, as in The leaves of that plant are poisonous.

    The adjective venomous is more narrowly applied to animals that produce venom, especially if they’re able to inject that venom as a way of actively defending themselves or preying on other animals.

    However, in the context of animals, the word poisonous is often used casually to mean the same thing as venomous, such as in terms like poisonous snakes, which is often used to distinguish such snakes from ones that don’t have venom.

    Although rare, it’s possible for an animal to be accurately described as both poisonous and venomous. The Asian tiger snake is one commonly cited example of this: it has a venomous bite, but it’s also poisonous because its body contains the poison from the poisonous toads that it eats.

    Copyright 2025, AAKKHRA, All Rights Reserved.
    “Venom” vs. “Poison”: Which One Is More Harmful To You? Here’s the obvious thing about poison and venom: you don’t want either one in your body. But after that, things can get confusing. Although the two words are sometimes used interchangeably in casual use, a distinction is made between them in scientific contexts. In this article, we’ll look at the key differences between poison and venom as well as the adjective forms poisonous and venomous, especially in the context of snakes, plants, and other living things. Quick summary The word poison can refer to any substance that is inherently harmful to a living thing—especially a substance that’s intended to be harmful. The word venom is more specific—it refers to a poisonous substance produced in the body of an animal and actively used to cause harm through injection, such as through a snake bite, a spider bite, or an insect sting. Venom is sometimes called poison in casual use, and animals that are venomous are sometimes casually described as poisonous, as in poisonous snakes. But in reference to organisms, there is a difference: poison is secreted through the skin or delivered through ingestion. What is the difference between poison vs. venom? The word poison can refer to any substance with an inherent property that makes it harmful or even deadly. The word is perhaps most often used to refer to substances that are intended to cause harm in this way, as in rat poison or The poison they used was a nerve agent. The word poison is also sometimes used to refer to naturally occurring toxic chemicals and substances, such as arsenic or cyanide (which can also be used intentionally to cause harm). It’s also sometimes used to refer to manufactured chemicals that aren’t intended to cause harm but can if ingested, such as bleach or other cleaners. The term venom is much more specific—it refers to a dangerous substance produced in the body of an animal, such as in some snakes, spiders, and wasps, and delivered via injection. Such animals may use venom as a way to defend themselves or as part of how they prey on other animals. Snakes are known for delivering venom via a bite, but some can spray or “spit” venom. Wasps and other insects can inject venom via stingers. Some jellyfish inject venom through barbed tentacles. The toxicity of venom varies widely. The effects of different venoms range from minor irritation to death. The toxic substances produced by some animals may be referred to as poison instead of venom. This is the case when the substance is simply secreted by the animal or stored inside its body (as in the poison-arrow frog), as opposed to being actively injected or sprayed. Animals aren’t the only living things that produce poisonous substances. Many plants contain substances that are toxic if they’re ingested or come into contact with skin, but such a substance is typically called a poison as opposed to a venom. Despite the technical distinction between the words, animal venom is sometimes generally referred to as poison. Another difference in how we use the words: unlike the word venom, poison is also commonly used as a verb. It can mean “to administer poison to (a person or animal)” or “to add poison to something,” as in She poisoned the soup. poisonous vs. venomous The adjective poisonous is used broadly to describe substances that are considered poisons. It may also be applied to things that contain a substance considered a poison, as in The leaves of that plant are poisonous. The adjective venomous is more narrowly applied to animals that produce venom, especially if they’re able to inject that venom as a way of actively defending themselves or preying on other animals. However, in the context of animals, the word poisonous is often used casually to mean the same thing as venomous, such as in terms like poisonous snakes, which is often used to distinguish such snakes from ones that don’t have venom. Although rare, it’s possible for an animal to be accurately described as both poisonous and venomous. The Asian tiger snake is one commonly cited example of this: it has a venomous bite, but it’s also poisonous because its body contains the poison from the poisonous toads that it eats. Copyright 2025, AAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • Pete Hegseth ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของรัฐบาลทรัมป์ แยกไม่ออกระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน! (ASEAN - Association of Southeast Asian Nations) กับเอเซีย (ASIA)

    Duckworth: มีกี่ประเทศในอาเซียน?

    Hegseth: เรามีพันธมิตรในเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย

    Duckworth: ประเทศเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในอาเซียน
    Pete Hegseth ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของรัฐบาลทรัมป์ แยกไม่ออกระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน! (ASEAN - Association of Southeast Asian Nations) กับเอเซีย (ASIA) Duckworth: มีกี่ประเทศในอาเซียน? Hegseth: เรามีพันธมิตรในเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย Duckworth: ประเทศเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในอาเซียน
    Haha
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 22 0 รีวิว
  • TSMC เตรียมเริ่มการผลิตชิป A-Series ของ Apple ในสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก นับเป็นก้าวสำคัญสำหรับโรงงานในรัฐแอริโซนา

    TSMC และ Apple ได้ร่วมมือกันเพื่อผลิตชิปในสหรัฐฯ โดย TSMC ได้ทำการทดสอบต่าง ๆ และกำลังขยายธุรกิจกับ Apple ในภูมิภาคนี้ รายงานใหม่ระบุว่า TSMC จะเริ่มการผลิตชิป A-Series ของ Apple ในสหรัฐฯ เร็ว ๆ นี้ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญสำหรับผู้ผลิตชิปที่ได้ขยายโครงสร้างพื้นฐานออกนอกประเทศบ้านเกิด

    ชิป iPhone ที่ผลิตในสหรัฐฯ ครั้งแรกจะเข้าสู่การผลิตในปริมาณมากในไตรมาสนี้ รายงานจาก Nekkei Asia ระบุว่า TSMC จะเริ่มการผลิตชิป A-Series ของ Apple ในสหรัฐฯ และชิปเหล่านี้อาจถูกใช้ในรุ่น iPhone เก่าหรือฮาร์ดแวร์ใหม่ที่ไม่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด การทดสอบการผลิตชิปที่โรงงานของ TSMC ใกล้เมืองฟีนิกซ์ได้เสร็จสิ้นแล้ว และผู้ผลิตชิปจะเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป

    Apple มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในกระบวนการนี้และอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการตรวจสอบคุณภาพและประสิทธิภาพของชิป รายงานระบุว่าชิปที่สามารถใช้งานได้ในเชิงพาณิชย์อาจเข้าสู่การผลิตในปริมาณมากในไตรมาสนี้ และการประกันคุณภาพเป็นกระบวนการเดียวที่เหลืออยู่

    นอกจากนี้ Apple ยังวางแผนที่จะใช้ชิป A16 Bionic สำหรับรุ่น iPhone 15 และ iPhone 15 Plus รวมถึงชิป S9 ที่จะผลิตโดย TSMC ที่โรงงานในรัฐแอริโซนา ชิป S9 เปิดตัวพร้อมกับ Apple Watch Series 9 และยังคงใช้ใน Apple Watch Ultra 2

    นี่เป็นครั้งแรกที่ Apple จะผลิตชิปในประเทศของตนเองและเป็นก้าวสำคัญสำหรับ TSMC ด้วย TSMC ยังมีลูกค้ารายอื่นที่ทำงานร่วมกับโรงงานในรัฐแอริโซนา เช่น AMD

    https://wccf.tech/1ft0o
    TSMC เตรียมเริ่มการผลิตชิป A-Series ของ Apple ในสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก นับเป็นก้าวสำคัญสำหรับโรงงานในรัฐแอริโซนา TSMC และ Apple ได้ร่วมมือกันเพื่อผลิตชิปในสหรัฐฯ โดย TSMC ได้ทำการทดสอบต่าง ๆ และกำลังขยายธุรกิจกับ Apple ในภูมิภาคนี้ รายงานใหม่ระบุว่า TSMC จะเริ่มการผลิตชิป A-Series ของ Apple ในสหรัฐฯ เร็ว ๆ นี้ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญสำหรับผู้ผลิตชิปที่ได้ขยายโครงสร้างพื้นฐานออกนอกประเทศบ้านเกิด ชิป iPhone ที่ผลิตในสหรัฐฯ ครั้งแรกจะเข้าสู่การผลิตในปริมาณมากในไตรมาสนี้ รายงานจาก Nekkei Asia ระบุว่า TSMC จะเริ่มการผลิตชิป A-Series ของ Apple ในสหรัฐฯ และชิปเหล่านี้อาจถูกใช้ในรุ่น iPhone เก่าหรือฮาร์ดแวร์ใหม่ที่ไม่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด การทดสอบการผลิตชิปที่โรงงานของ TSMC ใกล้เมืองฟีนิกซ์ได้เสร็จสิ้นแล้ว และผู้ผลิตชิปจะเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป Apple มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในกระบวนการนี้และอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการตรวจสอบคุณภาพและประสิทธิภาพของชิป รายงานระบุว่าชิปที่สามารถใช้งานได้ในเชิงพาณิชย์อาจเข้าสู่การผลิตในปริมาณมากในไตรมาสนี้ และการประกันคุณภาพเป็นกระบวนการเดียวที่เหลืออยู่ นอกจากนี้ Apple ยังวางแผนที่จะใช้ชิป A16 Bionic สำหรับรุ่น iPhone 15 และ iPhone 15 Plus รวมถึงชิป S9 ที่จะผลิตโดย TSMC ที่โรงงานในรัฐแอริโซนา ชิป S9 เปิดตัวพร้อมกับ Apple Watch Series 9 และยังคงใช้ใน Apple Watch Ultra 2 นี่เป็นครั้งแรกที่ Apple จะผลิตชิปในประเทศของตนเองและเป็นก้าวสำคัญสำหรับ TSMC ด้วย TSMC ยังมีลูกค้ารายอื่นที่ทำงานร่วมกับโรงงานในรัฐแอริโซนา เช่น AMD https://wccf.tech/1ft0o
    WCCF.TECH
    TSMC To Begin Mass Production Of Apple’s First U.S.-Made A-Series Chips For The iPhone, Marking A Major Milestone For Its Arizona Plant
    TSMC is aiming to begin mass production of Apple's A-series chips for the iPhone as soon as this quarter at its Arizona plant.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • “บิ๊กโจ๊ก” พร้อมภรรยา ย่องรับทราบข้อกล่าวหา หลัง ปปง.แจ้งเอาผิดคดีฟอกเงิน
    .
    https://shorturl.asia/UsEcX
    “บิ๊กโจ๊ก” พร้อมภรรยา ย่องรับทราบข้อกล่าวหา หลัง ปปง.แจ้งเอาผิดคดีฟอกเงิน . https://shorturl.asia/UsEcX
    WWW.PPTVHD36.COM
    “บิ๊กโจ๊ก” พร้อมภรรยา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา คดีฟอกเงินโยงเว็บพนัน
    “บิ๊กโจ๊ก” พร้อมภรรยา ย่องรับทราบข้อกล่าวหา หลัง ปปง.แจ้งเอาผิดคดีฟอกเงิน ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา-ขอยื่นคำให้การภายใน 30 วัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขายอาคารพาณิชย์ 3.5 ชั้น สุดยอดทำเล 3.2 ล้าน เจ้าของขายเอง 🏢✨
    🌟 จุดเด่น:
    - 📍 ทำเลที่ตั้ง: https://shorturl.asia/xCQbK
    หน้าจอย คาร์แคร์ ต.บ้านป้อม อ.อยุธยา จ.อยุธยา
    - 🏷️ ราคา: 3,200,000 บาท (สามารถต่อรองได้)
    - 📏 หน้ากว้าง 4 เมตร สูง ~6 เมตร ลึก ~ 14 เมตร และพื้นที่จอดรถ
    - 🛠️ น้ำพร้อม ไฟพร้อม พร้อมเข้าอยู่หรือเปิดกิจการ
    🔑 จุดบวก :
    - ใกล้วัดวรเชษฐ์ วัดกษัตราธิราช วัดไชยวัฒนาราม ออกถนน 347 ขึ้นเหนือ หรือเข้ากรุงเทพฯ ง่ายมากๆ
    - เหมาะสำหรับธุรกิจหลากหลาย, ปล่อยเช่า, อยู่อาศัย หรือขายสินค้าให้นักท่องเที่ยว
    📞 สนใจติดต่อ: ลุงเล็ก 081-7328722
    ปล. ลุงเป็นคน Analog ไม่เล่น Social รบกวนโทรฯ เป็นหลักนะครับ

    #อยุธยา #ตึกแถวอยุธยา #อาคารพาณิชย์ #วัดวรเชษฐ์ #วัดกษัตราธิราช #วัดไชยวัฒนาราม #บุพเพสันนิวาส #มองดูเรือ #โรตีอยุธยา #ของฝากอยุธยา #ลงทุนอยุธยา
    ขายอาคารพาณิชย์ 3.5 ชั้น สุดยอดทำเล 3.2 ล้าน เจ้าของขายเอง 🏢✨ 🌟 จุดเด่น: - 📍 ทำเลที่ตั้ง: https://shorturl.asia/xCQbK หน้าจอย คาร์แคร์ ต.บ้านป้อม อ.อยุธยา จ.อยุธยา - 🏷️ ราคา: 3,200,000 บาท (สามารถต่อรองได้) - 📏 หน้ากว้าง 4 เมตร สูง ~6 เมตร ลึก ~ 14 เมตร และพื้นที่จอดรถ - 🛠️ น้ำพร้อม ไฟพร้อม พร้อมเข้าอยู่หรือเปิดกิจการ 🔑 จุดบวก : - ใกล้วัดวรเชษฐ์ วัดกษัตราธิราช วัดไชยวัฒนาราม ออกถนน 347 ขึ้นเหนือ หรือเข้ากรุงเทพฯ ง่ายมากๆ - เหมาะสำหรับธุรกิจหลากหลาย, ปล่อยเช่า, อยู่อาศัย หรือขายสินค้าให้นักท่องเที่ยว 📞 สนใจติดต่อ: ลุงเล็ก 081-7328722 ปล. ลุงเป็นคน Analog ไม่เล่น Social รบกวนโทรฯ เป็นหลักนะครับ #อยุธยา #ตึกแถวอยุธยา #อาคารพาณิชย์ #วัดวรเชษฐ์ #วัดกษัตราธิราช #วัดไชยวัฒนาราม #บุพเพสันนิวาส #มองดูเรือ #โรตีอยุธยา #ของฝากอยุธยา #ลงทุนอยุธยา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 296 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประวัติ และ ที่มาของ..ไส้อั่ว
    คำแปล(ภาษาไทย)อยู่ล่างสุด

    "Sai Oua" (Thai: ไส้อั่ว) or "Northern Thai Sausage" is a traditional food of the northern part of Thailand.
    .
    The culture of stuffing meat into the intestines is a way to preserve food since ancient times. It was found that this method of food preservation began in the Babylonian Empire tens of thousands of years ago. It is said that the Babylonians used finely ground meat to stuff into the intestines of goats and dried them in the sun until they were dry and stored as supplies when traveling to transport goods across the desert to sell in various lands before spreading to Europe and Asia, especially in southern China where there were many tribes such as the Tai Yai, Zhuang and Bai Yue, etc., which became the origin of the Silk Road in the later era.
    .
    "Sai Oua" in the northern part of Thailand, some people assume that this type of food was influenced by the Shan people or Tai Yai people who added spices to season the meat and grilled it until it had a fragrant smell. Later, the Shan people or Tai Yai had to flee from the war to settle in a new place in the northern part of Thailand. The Shan people brought this type of cooking culture with them, making "Sai Oua" a local food of the northern part of Thailand by default.
    .
    But some people assume that in ancient times, when it was a merit-making festival, villagers often brought a lot of pork to cook. But sometimes there was too much pork. Therefore, there is leftover pork, so there is a method of food preservation to prevent spoilage. Originally, it was cut into pieces and grilled or dried in the sun to store for later consumption. However, it was later developed and modified to be stored for a longer period of time by making fermented pork sausage and "Sai Oua", etc.
    .
    How to make "Sai Oua" It can be made by mixing finely ground pork with herbs and spices such as galangal, lemongrass, coriander root, garlic, shallots, kaffir lime peel, shrimp paste, turmeric and coriander. Then stuff it into the pork intestines and grill until cooked, which is popularly eaten with sticky rice and "Nam Prik Num" (Northern Thai Green Chilli Dip), which is a Thai sauce from the northern part of Thailand. Herbs and spices are what give "Sai Oua" its distinctive flavor and aroma. However, there is no fixed recipe for making "Sai Oua" because each region has its own unique flavoring, but the basics are still similar.
    .
    Note: The meaning of the word "Sai Oua" in the northern language, by starting with the word "Sai" which means "Intestines". The word "Oua" means to insert or stuff or stuff ingredients into the intestines.
    .

    “ไส้อั่ว” อาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือของประเทศไทย
    .
    วัฒนธรรมการยัดเนื้อและไขมันสัตว์ เข้าไปในลำไส้เป็นวิธีถนอมอาหาร มีมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรบาบิลอนเมื่อหลายหมื่นปีก่อน กล่าวกันว่าชาวบาบิลอนใช้เนื้อบดละเอียดยัดเข้าไปในลำไส้แพะแล้วตากแดดให้แห้ง จากนั้นจึงเก็บเอาไว้เป็นเสบียงในการเดินทางเพื่อขนส่งสินค้าข้ามทะเลทรายไปขายในดินแดนต่างๆ ก่อนจะแพร่หลายไปสู่ทวีปยุโรปและเอเชีย โดยเฉพาะทางตอนใต้ของจีนซึ่งมีชนเผ่าหลายเผ่า เช่น ไทใหญ่ จ้วง และไป๋เยว่ บนเส้นทางสายไหม
    .
    “ไส้อั่ว” ในภาคเหนือของไทย สันนิษฐานว่าได้รับอิทธิพลมาจากรัฐฉาน หรือ ชาวไทใหญ่ที่ปรุงรสเนื้อด้วยเครื่องเทศและย่างจนมีกลิ่นหอม ต่อมาชาวไทใหญ่หรือชาวไทใหญ่ต้องอพยพหนีสงครามไปตั้งถิ่นฐานใหม่ทางภาคเหนือของประเทศไทย ชาวไทใหญ่ได้นำวัฒนธรรมการทำอาหารแบบนี้ติดตัวมาด้วย ทำให้ "ไส้อั่ว" เป็นอาหารพื้นเมืองของภาคเหนือของประเทศไทยโดยปริยาย
    .
    แต่บางคนก็เข้าใจว่าในสมัยโบราณเมื่อเป็นงานบุญชาวบ้านมักจะนำเนื้อหมูมาทำอาหารเป็นจำนวนมาก แต่บางครั้งก็มีเนื้อหมูมากเกินไป จึงมีเนื้อหมูเหลือ จึงมีวิธีถนอมอาหารไม่ให้เน่าเสีย เดิมทีจะหั่นเป็นชิ้นแล้วย่างหรือตากแห้งเพื่อเก็บไว้รับประทานภายหลัง แต่ภายหลังได้มีการพัฒนาและดัดแปลงให้เก็บไว้ได้นานขึ้นโดยทำเป็นไส้กรอกหมูหมักและ "ไส้อั่ว" เป็นต้น

    วิธีทำ “ไส้อั่ว” ทำได้โดยนำเนื้อหมูบดละเอียดมาผสมกับสมุนไพรและเครื่องเทศ เช่น ข่า ตะไคร้ รากผักชี กระเทียม หอมแดง เปลือกมะกรูด กะปิ ขมิ้น ผักชี แล้วนำไปยัดใส่เครื่องในหมูแล้วปิ้งให้สุก นิยมทานคู่กับข้าวเหนียวและ “น้ำพริกหนุ่ม” ซึ่งเป็นน้ำจิ้มไทยภาคเหนือของประเทศไทย สมุนไพรและเครื่องเทศเป็นส่วนประกอบที่ทำให้ “ไส้อั่ว” มีรสชาติและกลิ่นหอมเฉพาะตัว แต่ไม่มีสูตรการทำ “ไส้อั่ว” ตายตัว เพราะแต่ละภาคจะมีรสชาติเฉพาะตัว แต่หลักการทำยังคงคล้ายๆ กัน
    .
    หมายเหตุ: ความหมายของคำว่า “ไส้อั่ว” ในภาษาเหนือ โดยขึ้นต้นด้วยคำว่า “ไส้” คำว่า “ไส้อั่ว” แปลว่า การสอดหรือยัดวัตถุดิบเข้าไปในไส้

    ไส้อั่ว รสลิ้นคนไทย ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพดี รสเข้มข้น หอมมาก
    แนะนำ "ไส้อั่วเม็งราย" ของ ร้านอัมพร
    เปิดมานานหลายสิบปี (เดิม)ร้านตั้งอยู่ที่ เชิงสะพานเม็งราย ฝั่งหนองหอย
    ปัจจุบันกลายเป็นโรงแรมหรูของกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา
    ปัจจุบัน ย้ายยาอยู่ริมถนนมหิดล ตรงข้ามปากทางเข้าเชียงใหม่แลนด์
    มี ไส้อั่ว แหนม แหนมหม้อ น้ำพริกหนุ่ม แค๊บหมู หมูกระจก แกงฮังเล..

    https://maps.app.goo.gl/jfhXDnJbQL1w8Kk9A
    .
    ประวัติ และ ที่มาของ..ไส้อั่ว คำแปล(ภาษาไทย)อยู่ล่างสุด "Sai Oua" (Thai: ไส้อั่ว) or "Northern Thai Sausage" is a traditional food of the northern part of Thailand. . The culture of stuffing meat into the intestines is a way to preserve food since ancient times. It was found that this method of food preservation began in the Babylonian Empire tens of thousands of years ago. It is said that the Babylonians used finely ground meat to stuff into the intestines of goats and dried them in the sun until they were dry and stored as supplies when traveling to transport goods across the desert to sell in various lands before spreading to Europe and Asia, especially in southern China where there were many tribes such as the Tai Yai, Zhuang and Bai Yue, etc., which became the origin of the Silk Road in the later era. . "Sai Oua" in the northern part of Thailand, some people assume that this type of food was influenced by the Shan people or Tai Yai people who added spices to season the meat and grilled it until it had a fragrant smell. Later, the Shan people or Tai Yai had to flee from the war to settle in a new place in the northern part of Thailand. The Shan people brought this type of cooking culture with them, making "Sai Oua" a local food of the northern part of Thailand by default. . But some people assume that in ancient times, when it was a merit-making festival, villagers often brought a lot of pork to cook. But sometimes there was too much pork. Therefore, there is leftover pork, so there is a method of food preservation to prevent spoilage. Originally, it was cut into pieces and grilled or dried in the sun to store for later consumption. However, it was later developed and modified to be stored for a longer period of time by making fermented pork sausage and "Sai Oua", etc. . How to make "Sai Oua" It can be made by mixing finely ground pork with herbs and spices such as galangal, lemongrass, coriander root, garlic, shallots, kaffir lime peel, shrimp paste, turmeric and coriander. Then stuff it into the pork intestines and grill until cooked, which is popularly eaten with sticky rice and "Nam Prik Num" (Northern Thai Green Chilli Dip), which is a Thai sauce from the northern part of Thailand. Herbs and spices are what give "Sai Oua" its distinctive flavor and aroma. However, there is no fixed recipe for making "Sai Oua" because each region has its own unique flavoring, but the basics are still similar. . Note: The meaning of the word "Sai Oua" in the northern language, by starting with the word "Sai" which means "Intestines". The word "Oua" means to insert or stuff or stuff ingredients into the intestines. . “ไส้อั่ว” อาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือของประเทศไทย . วัฒนธรรมการยัดเนื้อและไขมันสัตว์ เข้าไปในลำไส้เป็นวิธีถนอมอาหาร มีมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรบาบิลอนเมื่อหลายหมื่นปีก่อน กล่าวกันว่าชาวบาบิลอนใช้เนื้อบดละเอียดยัดเข้าไปในลำไส้แพะแล้วตากแดดให้แห้ง จากนั้นจึงเก็บเอาไว้เป็นเสบียงในการเดินทางเพื่อขนส่งสินค้าข้ามทะเลทรายไปขายในดินแดนต่างๆ ก่อนจะแพร่หลายไปสู่ทวีปยุโรปและเอเชีย โดยเฉพาะทางตอนใต้ของจีนซึ่งมีชนเผ่าหลายเผ่า เช่น ไทใหญ่ จ้วง และไป๋เยว่ บนเส้นทางสายไหม . “ไส้อั่ว” ในภาคเหนือของไทย สันนิษฐานว่าได้รับอิทธิพลมาจากรัฐฉาน หรือ ชาวไทใหญ่ที่ปรุงรสเนื้อด้วยเครื่องเทศและย่างจนมีกลิ่นหอม ต่อมาชาวไทใหญ่หรือชาวไทใหญ่ต้องอพยพหนีสงครามไปตั้งถิ่นฐานใหม่ทางภาคเหนือของประเทศไทย ชาวไทใหญ่ได้นำวัฒนธรรมการทำอาหารแบบนี้ติดตัวมาด้วย ทำให้ "ไส้อั่ว" เป็นอาหารพื้นเมืองของภาคเหนือของประเทศไทยโดยปริยาย . แต่บางคนก็เข้าใจว่าในสมัยโบราณเมื่อเป็นงานบุญชาวบ้านมักจะนำเนื้อหมูมาทำอาหารเป็นจำนวนมาก แต่บางครั้งก็มีเนื้อหมูมากเกินไป จึงมีเนื้อหมูเหลือ จึงมีวิธีถนอมอาหารไม่ให้เน่าเสีย เดิมทีจะหั่นเป็นชิ้นแล้วย่างหรือตากแห้งเพื่อเก็บไว้รับประทานภายหลัง แต่ภายหลังได้มีการพัฒนาและดัดแปลงให้เก็บไว้ได้นานขึ้นโดยทำเป็นไส้กรอกหมูหมักและ "ไส้อั่ว" เป็นต้น วิธีทำ “ไส้อั่ว” ทำได้โดยนำเนื้อหมูบดละเอียดมาผสมกับสมุนไพรและเครื่องเทศ เช่น ข่า ตะไคร้ รากผักชี กระเทียม หอมแดง เปลือกมะกรูด กะปิ ขมิ้น ผักชี แล้วนำไปยัดใส่เครื่องในหมูแล้วปิ้งให้สุก นิยมทานคู่กับข้าวเหนียวและ “น้ำพริกหนุ่ม” ซึ่งเป็นน้ำจิ้มไทยภาคเหนือของประเทศไทย สมุนไพรและเครื่องเทศเป็นส่วนประกอบที่ทำให้ “ไส้อั่ว” มีรสชาติและกลิ่นหอมเฉพาะตัว แต่ไม่มีสูตรการทำ “ไส้อั่ว” ตายตัว เพราะแต่ละภาคจะมีรสชาติเฉพาะตัว แต่หลักการทำยังคงคล้ายๆ กัน . หมายเหตุ: ความหมายของคำว่า “ไส้อั่ว” ในภาษาเหนือ โดยขึ้นต้นด้วยคำว่า “ไส้” คำว่า “ไส้อั่ว” แปลว่า การสอดหรือยัดวัตถุดิบเข้าไปในไส้ ไส้อั่ว รสลิ้นคนไทย ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพดี รสเข้มข้น หอมมาก แนะนำ "ไส้อั่วเม็งราย" ของ ร้านอัมพร เปิดมานานหลายสิบปี (เดิม)ร้านตั้งอยู่ที่ เชิงสะพานเม็งราย ฝั่งหนองหอย ปัจจุบันกลายเป็นโรงแรมหรูของกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา ปัจจุบัน ย้ายยาอยู่ริมถนนมหิดล ตรงข้ามปากทางเข้าเชียงใหม่แลนด์ มี ไส้อั่ว แหนม แหนมหม้อ น้ำพริกหนุ่ม แค๊บหมู หมูกระจก แกงฮังเล.. https://maps.app.goo.gl/jfhXDnJbQL1w8Kk9A .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 383 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อวสาน" รถญี่ปุ่นในไทย
    จากมุมมองของ Nikkei Asia
    .
    ในวาระส่งท้ายปีเก่า 2567 ต้อนรับปีใหม่ 2568 สื่อยักษ์ใหญ่ชื่อดังของญี่ปุ่นคือ นิคเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) ได้เผยแพร่สารคดีข่าว NIKKEI Film : The sound of engines vanishing in Thailand (นิคเคอิ ฟิล์ม : เสียงของเครื่องยนต์ที่กำลังหายไปจากประเทศไทย) ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับสถานการณ์ของบรรดารถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นที่ครั้งหนึ่งเคยครอบครองตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมากกว่า 90% แต่ในห้วงระยะเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้นกลับถูกรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนรุกไล่ ทำให้ในปี 2567 เหลือส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ในตลาดรถใหม่เพียง 76%
    .
    แม้ว่าในปัจจุบันรถยนต์ค่ายญี่ปุ่นจะยังคงสามารถครอบครองตลาดรถใหม่ในประเทศไทยได้มากกว่า 3 ใน 4 แต่เมื่อพิจารณาปัจจัยจากรอบด้านแล้วไม่ว่าจะเป็น แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภค พลวัตรของเหล่าดีลเลอร์ผู้ขายรถยนต์ทั่วประเทศไทย การทยอยปิดโรงงาน การไหลออกของบุคลากร-พนักงาน-ผู้บริหารจากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นไปสู่ค่ายรถจีน รวมไปถึงการคาดการณ์ตลาดรถยนต์ในอนาคตแล้วรถยนต์ญี่ปุ่นหนีไม่พ้นอาจต้องสูญพันธุ์จากประเทศไทยในอนาคตอันใกล้ หากไม่เร่งปรับตัวให้เร็วกว่านี้
    .
    "ผมเพิ่งซื้อรถยนต์บีวายดีรุ่นใหม่ล่าสุด แล้วผมก็เปรียบเทียบรถอีวี กับ รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบดั้งเดิมเพื่อศึกษาความแตกต่าง ... ฟังก์ชันในรถอีวีของจีนนั้นครบครันมาก อัตราการเร่งก็ฉับไวมาก" คุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ให้สัมภาษณ์กับนิคเคอิเป็นภาษาญี่ปุ่นอันคล่องแคล่ว และเปรียบเทียบต่อว่า
    .
    "ผมมองญี่ปุ่นจากหลาย ๆ มุม ด้วยความที่สำเร็จมาตั้งแต่ในยุคอะนาล็อก ญี่ปุ่นกลับไม่สามารถปรับตัวได้รวดเร็วพอในยุคของเทคโนโลยีดิจิทัล เทียบกับจีนที่ไม่ได้มีความสำเร็จมากนักในยุคของอะนาล็อก แต่พอยุคสมัยของเทคโนโลยีดิจิทัลมาถึง จีนจึงพยายามอย่างมากที่จะดิสรัปอุตสาหกรรมรถยนต์"
    .
    นิคเคอิอธิบายว่า ประเทศไทยซึ่งมีประชากรราว 66 ล้านคน และเป็นระบบเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของอาเซียน นั้นได้ชื่อเล่นว่าเป็น "ดีทรอยต์แห่งเอเชีย (Detroit of Asia)" ด้วยบรรดาบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศก่อนหน้านี้นานหลายทศวรรษ แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในปี 2566 ที่บริษัทรถยนต์จากจีนรุกเข้่ามาทำตลาด และย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยอย่างจริงจัง
    .
    "เกือบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา รถยนต์ญี่ปุ่นสามารถครอบครองยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศไทยได้มากเกือบ 90% แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อ รถอีวีจากจีนบุกตลาดประเทศไทยในปี 2566 ส่งผลให้ยอดขายรถใหม่ในประเทศไทยของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นลดลงต่ำกว่า 80% (เหลือ 77.8% ในปี 2566 และ เหลือ 76.2% ในปี 2567)" นิคเคอิระบุ
    .
    จากนั้นจึงกล่าวกว่า บีวายดี (BYD) คือ หัวหอกของบริษัทรถยนต์จีนที่เข้ามาแย่งชิงตลาดในประเทศไทยจากบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น โดยนิคเคอิได้ดำเนินการสำรวจการขยายตัวของจำนวนดีลเลอร์รถบีวายดีในไทยพบว่า เกือบ 50% ของดีลเลอร์รถบีวายดีนั้นก่อนหน้านั้นเคยเป็นดีลเลอร์ของรถยนต์ค่ายญี่ปุ่น โดยบีวายดีขยายสาขาไปทั่วประเทศ โดยไม่เพียงกวาดดีลเลอร์จากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นให้เข้ามาซุกใต้ปีก แต่รวมถึงค่ายรถยนต์จากตะวันตกด้วยเช่นกัน
    .
    การรุกไล่ของค่ายรถยนต์จากจีนไม่หยุดอยู่แค่ในระดับการส่งรถยนต์จากจีนมาขายยังเมืองไทย แต่ยังมีการขยายโรงงานผลิตมายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่องด้วย ยกตัวอย่างเช่น บีวายดีที่เพิ่งเริ่มเดินสายพานโรงงานผลิตรถยนต์แบบเต็มระบบแห่งแรกในต่างแดนที่ จ.ระยอง เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ทำให้บุคลากรในแวดวงรถยนต์คนไทยที่มีความสามารถตั้งแต่ระดับฝ่ายผลิต จนถึงผู้บริหารที่เคยสังกัดอยู่กับค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ไหลไปอยู่กับบริษัทรถยนต์จีนจำนวนมาก
    .
    ด้วยแรงจูงใจสำคัญเป็นค่าตอบแทนที่มากกว่าเดิม 30% 50% 80% หรือกระทั่งเพิ่มขึ้นเท่าตัว!
    .
    นายสื่อ ชิงเคอ (史青科) หรือ Parker Shi ประธานของเกรท วอลล์ มอเตอร์ อินเตอร์เนชันแนล เจ้าของแบรนด์รถยนต์จีน GWM ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงคู่แข่งค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น และการดึงตัวผู้บริหารระดับสูงจากโตโยต้ามาทำงานกับเกรทวอลล์ฯ โดยระบุว่า
    .
    "ด้วยความสัตย์จริง และความเคารพต่อโตโยต้า และรถแบรนด์จากใจ เพราะพวกเขานั้นยอดเยี่ยมจริง ๆ (excellent) คุณวุฒิกร (สุริยะฉันทนานนท์) นั้นเคยทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมที่โตโยต้า และนี่คือเหตุผลที่เขามาอยู่กับเรา" และกล่าวต่อว่า "ถ้าหากคุณไม่มีความกล้าหาญที่จะสู้ ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง คุณก็ตาย ถ้าหากคุณไม่มีอาวุธที่ดีพอ ผลิตภัณฑ์ที่ดี รูปแบบธุรกิจที่ดี กลยุทธ์ที่ดี คุณก็ตาย ถ้าคุณไม่มีทีมเวิร์คที่ดี คุณก็ตาย ... มันไม่มีคนอยู่รอดหรอก เพราะที่กำลังเป็นอยู่นี้คือคือสงคราม ที่เกิดขึ้นในตลาดที่แข่งขันกันอย่างรุนแรง"
    .
    นิคเคอิ เอเชียยังมีโอกาสได้สัมภาษณ์ผู้บริหารบริษัทรถยนต์ชาวญี่ปุ่นในไทยที่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนาม โดยผู้บริหารชาวญี่ปุ่นคนนี้ยอมรับว่า บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นละเลยความต้องการของผู้บริโภคไทยไปมาก รวมถึงนำเสนอสินค้าที่เทคโนโลยีล้าหลังไปแล้วให้กับตลาดในประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทย ซึ่งแตกต่างจากค่ายรถจากจีน
    .
    "มันเป็นความจริงที่ว่าแบรนด์รถญี่ปุ่นนั้นมัวแต่มุ่งเน้นไปที่ตลาดใหญ่ ๆ อย่างในยุโรป สหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับตลาดนั้น ๆ นอกจากนี้สิ่งที่เราตัดสินใจผิดพลาดมากที่สุดก็คือ ความรวดเร็วของการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า
    .
    "และมันเป็นเรื่องจริงที่ค่ายรถญี่ปุ่นนำเสนอสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีค่อนข้างล้าหลัง ซึ่งวางขายอยู่แล้วในประเทศกำลังพัฒนามาขายให้ (ตลาดไทย) ผมคิดว่า นี่เองเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยไม่พอใจ และความไม่พอใจนั้นยิ่งนานวันก็สะสมเพิ่มขึ้น ๆ" ผู้บริหารค่ายรถญี่ปุ่นในไทยกล่าวเปิดอก
    .
    ทั้งนี้จากข้อมูลการสำรวจของ LiB Consulting ระบุว่า ภายในปี 2578 (ค.ศ.2035) หรืออีก 10 ปีข้างหน้า ยอดขายรถใหม่ในเมืองไทยจะเปลี่ยนโฉมไปอย่างสิ้นเชิง โดยรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในจะลดปริมาณลงจากปัจจุบันที่ราว 78.5% เหลือเพียง 15% โดยรถอีวี และรถยนต์พลังงานใหม่จะกินส่วนแบ่งการตลาดที่เหลือ จะถูกแบ่งให้รถอีวี (50.7%) และ รถยนต์เทคโนโลยีไฮบริด-อื่นๆ (34.3%)
    .
    ด้วยสถานการณ์และแนวโน้มเช่นนี้ทำให้ ณ ปัจจุบันถือเป็นโอกาสสุดท้ายของค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นในการขยับขับเคลื่อนเพื่อไล่ตามรถอีวีจากจีนให้ทัน และกอบกู้สถานการณ์ด้วยการอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง และตัดสินใจให้เร็ว และฉับไวมากขึ้น
    .
    ทั้งนี้ทั้งนั้น ในเรื่องนี้คุณบุณยสิทธิ์ ประธานเครือสหพัฒน์วัย 87 ที่คร่ำหวอดทั้งในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค แวดวงอุตสาหกรรม และมีสายสัมพันธ์อันล้ำลึกกับแวดวงอุตสาหกรรมไทย ญี่ปุ่น และจีน กล่าวทิ้งท้ายสารคดีข่าวชิ้นนี้เป็นคำแนะนำให้กับบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่กำลังเพลี่ยงพล้ำในประเทศไทยไว้อย่างน่าสนใจว่า
    .
    ในมุมของคุณบุญยสิทธิ์ เดิมทีประธานบริษัทญี่ปุ่นเกือบทั้งหมดนั้นเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท โดยคนเหล่านี้มีจิตวิญญาณของการบุกเบิกและก่อตั้ง แต่เมื่อมาถึงวันนี้ที่ประธานบริษัทกลายเป็นคนรุ่นใหม่ ๆ ที่เติบโตมาภายในกรอบของบริษัท คนเหล่านี้เวลาตัดสินใจอะไรจึงกระทำด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง ซึ่งหากผู้บริหารรุ่นใหม่เล่านี้ไม่ได้ตัดสินใจเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยตัวเอง การตัดสินใจก็จะล่าช้า ไม่ทันการณ์
    .
    อย่างไรก็ตาม ประธานเครือสหพัฒน์ยังกล่าวให้ความหวังด้วยว่า ในสายตาของชาวไทยแบรนด์ญี่ปุ่นยังได้รับความน่าเชื่อถืออย่างสูงอยู่ คนไทยยังมีความเชื่อว่ารถญี่ปุ่นนั้นดีกว่ารถจีน รถยนต์จีนนั้นมีดีเฉพาะเรื่องของแบตเตอรี่ และรถอีวี ซึ่งเมื่อไหร่ที่ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นเปิดตัวรถที่เป็นรถยนต์อีวีบ้าง ตนก็เชื่อว่าคนไทยจะกลับมานิยมรถยนต์ญี่ปุ่นเหมือนเดิม ซึ่งตนก็คาดหวังว่าบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นจะสามารถแข่งขันกับบริษัทรถยนต์จากจีนได้
    .
    สารคดีข่าวชิ้นนี้ของนิคเคอิ สื่อธุรกิจยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ด้วยการรุกคืบอย่างไม่หยุดหย่อนของค่ายรถยนต์จีน เวลาของค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นในไทยนั้นคงเหลือน้อยลงทุกที พร้อมกับทิ้งฉากหลังเป็นภาพพระปรางค์วัดอรุณยามดวงอาทิตย์อัสดง
    .
    แล้วท่านผู้อ่านบูรพาไม่แพ้ละครับ มองว่า ค่ายรถญี่ปุ่นใกล้ถึงคราอวสานจากตลาดไทยหรือยัง? หรือ คิดว่าค่ายรถญี่ปุ่นยังมีโอกาสที่จะกู้สถานการณ์ ช่วงชิงตลาดรถยนต์ไทยกลับคืนมาได้ หากมีการปรับเปลี่ยนวิธีคิด และวิธีทำดังที่นิคเคอิ เอเชียรายงานเอาไว้?
    .
    เนื่องวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ๒๕๖๘ ทีมงานเพจบูรพาไม่แพ้ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่าน และครอบครัวมีความสุข สมหวังในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ สวัสดีปีใหม่ครับ 😄 🙏 🎊 🇹🇭 🇯🇵 🇨🇳
    .
    .
    อ้างอิง :
    NIKKEI Film : The sound of engines vanishing in Thailand
    https://www.youtube.com/watch?v=w7ldtHt6Mn4
    "อวสาน" รถญี่ปุ่นในไทย จากมุมมองของ Nikkei Asia . ในวาระส่งท้ายปีเก่า 2567 ต้อนรับปีใหม่ 2568 สื่อยักษ์ใหญ่ชื่อดังของญี่ปุ่นคือ นิคเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) ได้เผยแพร่สารคดีข่าว NIKKEI Film : The sound of engines vanishing in Thailand (นิคเคอิ ฟิล์ม : เสียงของเครื่องยนต์ที่กำลังหายไปจากประเทศไทย) ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับสถานการณ์ของบรรดารถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นที่ครั้งหนึ่งเคยครอบครองตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมากกว่า 90% แต่ในห้วงระยะเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้นกลับถูกรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนรุกไล่ ทำให้ในปี 2567 เหลือส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ในตลาดรถใหม่เพียง 76% . แม้ว่าในปัจจุบันรถยนต์ค่ายญี่ปุ่นจะยังคงสามารถครอบครองตลาดรถใหม่ในประเทศไทยได้มากกว่า 3 ใน 4 แต่เมื่อพิจารณาปัจจัยจากรอบด้านแล้วไม่ว่าจะเป็น แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภค พลวัตรของเหล่าดีลเลอร์ผู้ขายรถยนต์ทั่วประเทศไทย การทยอยปิดโรงงาน การไหลออกของบุคลากร-พนักงาน-ผู้บริหารจากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นไปสู่ค่ายรถจีน รวมไปถึงการคาดการณ์ตลาดรถยนต์ในอนาคตแล้วรถยนต์ญี่ปุ่นหนีไม่พ้นอาจต้องสูญพันธุ์จากประเทศไทยในอนาคตอันใกล้ หากไม่เร่งปรับตัวให้เร็วกว่านี้ . "ผมเพิ่งซื้อรถยนต์บีวายดีรุ่นใหม่ล่าสุด แล้วผมก็เปรียบเทียบรถอีวี กับ รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบดั้งเดิมเพื่อศึกษาความแตกต่าง ... ฟังก์ชันในรถอีวีของจีนนั้นครบครันมาก อัตราการเร่งก็ฉับไวมาก" คุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ให้สัมภาษณ์กับนิคเคอิเป็นภาษาญี่ปุ่นอันคล่องแคล่ว และเปรียบเทียบต่อว่า . "ผมมองญี่ปุ่นจากหลาย ๆ มุม ด้วยความที่สำเร็จมาตั้งแต่ในยุคอะนาล็อก ญี่ปุ่นกลับไม่สามารถปรับตัวได้รวดเร็วพอในยุคของเทคโนโลยีดิจิทัล เทียบกับจีนที่ไม่ได้มีความสำเร็จมากนักในยุคของอะนาล็อก แต่พอยุคสมัยของเทคโนโลยีดิจิทัลมาถึง จีนจึงพยายามอย่างมากที่จะดิสรัปอุตสาหกรรมรถยนต์" . นิคเคอิอธิบายว่า ประเทศไทยซึ่งมีประชากรราว 66 ล้านคน และเป็นระบบเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของอาเซียน นั้นได้ชื่อเล่นว่าเป็น "ดีทรอยต์แห่งเอเชีย (Detroit of Asia)" ด้วยบรรดาบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศก่อนหน้านี้นานหลายทศวรรษ แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในปี 2566 ที่บริษัทรถยนต์จากจีนรุกเข้่ามาทำตลาด และย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยอย่างจริงจัง . "เกือบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา รถยนต์ญี่ปุ่นสามารถครอบครองยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศไทยได้มากเกือบ 90% แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อ รถอีวีจากจีนบุกตลาดประเทศไทยในปี 2566 ส่งผลให้ยอดขายรถใหม่ในประเทศไทยของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นลดลงต่ำกว่า 80% (เหลือ 77.8% ในปี 2566 และ เหลือ 76.2% ในปี 2567)" นิคเคอิระบุ . จากนั้นจึงกล่าวกว่า บีวายดี (BYD) คือ หัวหอกของบริษัทรถยนต์จีนที่เข้ามาแย่งชิงตลาดในประเทศไทยจากบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น โดยนิคเคอิได้ดำเนินการสำรวจการขยายตัวของจำนวนดีลเลอร์รถบีวายดีในไทยพบว่า เกือบ 50% ของดีลเลอร์รถบีวายดีนั้นก่อนหน้านั้นเคยเป็นดีลเลอร์ของรถยนต์ค่ายญี่ปุ่น โดยบีวายดีขยายสาขาไปทั่วประเทศ โดยไม่เพียงกวาดดีลเลอร์จากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นให้เข้ามาซุกใต้ปีก แต่รวมถึงค่ายรถยนต์จากตะวันตกด้วยเช่นกัน . การรุกไล่ของค่ายรถยนต์จากจีนไม่หยุดอยู่แค่ในระดับการส่งรถยนต์จากจีนมาขายยังเมืองไทย แต่ยังมีการขยายโรงงานผลิตมายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่องด้วย ยกตัวอย่างเช่น บีวายดีที่เพิ่งเริ่มเดินสายพานโรงงานผลิตรถยนต์แบบเต็มระบบแห่งแรกในต่างแดนที่ จ.ระยอง เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ทำให้บุคลากรในแวดวงรถยนต์คนไทยที่มีความสามารถตั้งแต่ระดับฝ่ายผลิต จนถึงผู้บริหารที่เคยสังกัดอยู่กับค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ไหลไปอยู่กับบริษัทรถยนต์จีนจำนวนมาก . ด้วยแรงจูงใจสำคัญเป็นค่าตอบแทนที่มากกว่าเดิม 30% 50% 80% หรือกระทั่งเพิ่มขึ้นเท่าตัว! . นายสื่อ ชิงเคอ (史青科) หรือ Parker Shi ประธานของเกรท วอลล์ มอเตอร์ อินเตอร์เนชันแนล เจ้าของแบรนด์รถยนต์จีน GWM ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงคู่แข่งค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น และการดึงตัวผู้บริหารระดับสูงจากโตโยต้ามาทำงานกับเกรทวอลล์ฯ โดยระบุว่า . "ด้วยความสัตย์จริง และความเคารพต่อโตโยต้า และรถแบรนด์จากใจ เพราะพวกเขานั้นยอดเยี่ยมจริง ๆ (excellent) คุณวุฒิกร (สุริยะฉันทนานนท์) นั้นเคยทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมที่โตโยต้า และนี่คือเหตุผลที่เขามาอยู่กับเรา" และกล่าวต่อว่า "ถ้าหากคุณไม่มีความกล้าหาญที่จะสู้ ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง คุณก็ตาย ถ้าหากคุณไม่มีอาวุธที่ดีพอ ผลิตภัณฑ์ที่ดี รูปแบบธุรกิจที่ดี กลยุทธ์ที่ดี คุณก็ตาย ถ้าคุณไม่มีทีมเวิร์คที่ดี คุณก็ตาย ... มันไม่มีคนอยู่รอดหรอก เพราะที่กำลังเป็นอยู่นี้คือคือสงคราม ที่เกิดขึ้นในตลาดที่แข่งขันกันอย่างรุนแรง" . นิคเคอิ เอเชียยังมีโอกาสได้สัมภาษณ์ผู้บริหารบริษัทรถยนต์ชาวญี่ปุ่นในไทยที่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนาม โดยผู้บริหารชาวญี่ปุ่นคนนี้ยอมรับว่า บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นละเลยความต้องการของผู้บริโภคไทยไปมาก รวมถึงนำเสนอสินค้าที่เทคโนโลยีล้าหลังไปแล้วให้กับตลาดในประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทย ซึ่งแตกต่างจากค่ายรถจากจีน . "มันเป็นความจริงที่ว่าแบรนด์รถญี่ปุ่นนั้นมัวแต่มุ่งเน้นไปที่ตลาดใหญ่ ๆ อย่างในยุโรป สหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับตลาดนั้น ๆ นอกจากนี้สิ่งที่เราตัดสินใจผิดพลาดมากที่สุดก็คือ ความรวดเร็วของการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า . "และมันเป็นเรื่องจริงที่ค่ายรถญี่ปุ่นนำเสนอสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีค่อนข้างล้าหลัง ซึ่งวางขายอยู่แล้วในประเทศกำลังพัฒนามาขายให้ (ตลาดไทย) ผมคิดว่า นี่เองเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยไม่พอใจ และความไม่พอใจนั้นยิ่งนานวันก็สะสมเพิ่มขึ้น ๆ" ผู้บริหารค่ายรถญี่ปุ่นในไทยกล่าวเปิดอก . ทั้งนี้จากข้อมูลการสำรวจของ LiB Consulting ระบุว่า ภายในปี 2578 (ค.ศ.2035) หรืออีก 10 ปีข้างหน้า ยอดขายรถใหม่ในเมืองไทยจะเปลี่ยนโฉมไปอย่างสิ้นเชิง โดยรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในจะลดปริมาณลงจากปัจจุบันที่ราว 78.5% เหลือเพียง 15% โดยรถอีวี และรถยนต์พลังงานใหม่จะกินส่วนแบ่งการตลาดที่เหลือ จะถูกแบ่งให้รถอีวี (50.7%) และ รถยนต์เทคโนโลยีไฮบริด-อื่นๆ (34.3%) . ด้วยสถานการณ์และแนวโน้มเช่นนี้ทำให้ ณ ปัจจุบันถือเป็นโอกาสสุดท้ายของค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นในการขยับขับเคลื่อนเพื่อไล่ตามรถอีวีจากจีนให้ทัน และกอบกู้สถานการณ์ด้วยการอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง และตัดสินใจให้เร็ว และฉับไวมากขึ้น . ทั้งนี้ทั้งนั้น ในเรื่องนี้คุณบุณยสิทธิ์ ประธานเครือสหพัฒน์วัย 87 ที่คร่ำหวอดทั้งในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค แวดวงอุตสาหกรรม และมีสายสัมพันธ์อันล้ำลึกกับแวดวงอุตสาหกรรมไทย ญี่ปุ่น และจีน กล่าวทิ้งท้ายสารคดีข่าวชิ้นนี้เป็นคำแนะนำให้กับบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่กำลังเพลี่ยงพล้ำในประเทศไทยไว้อย่างน่าสนใจว่า . ในมุมของคุณบุญยสิทธิ์ เดิมทีประธานบริษัทญี่ปุ่นเกือบทั้งหมดนั้นเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท โดยคนเหล่านี้มีจิตวิญญาณของการบุกเบิกและก่อตั้ง แต่เมื่อมาถึงวันนี้ที่ประธานบริษัทกลายเป็นคนรุ่นใหม่ ๆ ที่เติบโตมาภายในกรอบของบริษัท คนเหล่านี้เวลาตัดสินใจอะไรจึงกระทำด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง ซึ่งหากผู้บริหารรุ่นใหม่เล่านี้ไม่ได้ตัดสินใจเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยตัวเอง การตัดสินใจก็จะล่าช้า ไม่ทันการณ์ . อย่างไรก็ตาม ประธานเครือสหพัฒน์ยังกล่าวให้ความหวังด้วยว่า ในสายตาของชาวไทยแบรนด์ญี่ปุ่นยังได้รับความน่าเชื่อถืออย่างสูงอยู่ คนไทยยังมีความเชื่อว่ารถญี่ปุ่นนั้นดีกว่ารถจีน รถยนต์จีนนั้นมีดีเฉพาะเรื่องของแบตเตอรี่ และรถอีวี ซึ่งเมื่อไหร่ที่ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นเปิดตัวรถที่เป็นรถยนต์อีวีบ้าง ตนก็เชื่อว่าคนไทยจะกลับมานิยมรถยนต์ญี่ปุ่นเหมือนเดิม ซึ่งตนก็คาดหวังว่าบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นจะสามารถแข่งขันกับบริษัทรถยนต์จากจีนได้ . สารคดีข่าวชิ้นนี้ของนิคเคอิ สื่อธุรกิจยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ด้วยการรุกคืบอย่างไม่หยุดหย่อนของค่ายรถยนต์จีน เวลาของค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นในไทยนั้นคงเหลือน้อยลงทุกที พร้อมกับทิ้งฉากหลังเป็นภาพพระปรางค์วัดอรุณยามดวงอาทิตย์อัสดง . แล้วท่านผู้อ่านบูรพาไม่แพ้ละครับ มองว่า ค่ายรถญี่ปุ่นใกล้ถึงคราอวสานจากตลาดไทยหรือยัง? หรือ คิดว่าค่ายรถญี่ปุ่นยังมีโอกาสที่จะกู้สถานการณ์ ช่วงชิงตลาดรถยนต์ไทยกลับคืนมาได้ หากมีการปรับเปลี่ยนวิธีคิด และวิธีทำดังที่นิคเคอิ เอเชียรายงานเอาไว้? . เนื่องวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ๒๕๖๘ ทีมงานเพจบูรพาไม่แพ้ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่าน และครอบครัวมีความสุข สมหวังในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ สวัสดีปีใหม่ครับ 😄 🙏 🎊 🇹🇭 🇯🇵 🇨🇳 . . อ้างอิง : NIKKEI Film : The sound of engines vanishing in Thailand https://www.youtube.com/watch?v=w7ldtHt6Mn4
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 570 มุมมอง 1 รีวิว
  • EP5 นี้ขอนำเสนอข้อมูลเพื่อแลกเปลี่ยนประเด็นด้านความปลอดภัยทางการบินที่ขอมุ่งเน้นไปทางด้านความปลอดภัยของเครื่องบินขณะทำการวิ่งขึ้นหรือกำลังวิ่งลงบนทางวิ่งที่สนามบินนะครับ

    จากข้อมูลรายงานด้านความปลอดภัย (Safety Report) ปี 2024 ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) ได้จำแนกเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่มีโอกาสเกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากที่จำเป็นจะต้องจัดการอย่างเร่งด่วนอยู่ 5 เหตุการณ์ คือ 1 การควบคุมอากาศยานเข้าสู่สภาพภูมิประเทศ (Controlled Flight Into Terrain: CFIT) 2 การสูญเสียการควบคุมขณะทำการบิน (Loss Of Control In-Flight: LOC-I) 3 การชนกันกลางอากาศ (Mid-Air Collision: MAC) 4 การเกิดอากาศยานไถลออกนอกทางวิ่ง (Runway Excursion: RE) และ 5 การล่วงล้ำบนทางวิ่ง (Runway Incursion: RI)

    ที่จะขอพูดถึงในครั้งนี้ขอกล่าวถึงอากาศยานไถลออกนอกทางวิ่งเป็นหลักเพื่อที่จะนำเข้าสู่หัวข้อและเนื้อหาการประชุมของ ICAO ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ( ICAO APAC) เมื่อต้นป 67 ที่ผ่านมา

    การไถลออกนอกทางวิ่ง ICAO ได้ให้นิยามไว้คือการที่เครื่องบินเบี่ยงเบนออกจากทางวิ่งหรือการวิ่งเลยออกปลายทางวิ่งในขณะที่ทำการบินลงหรือวิ่งขึ้นซึ่งในปัจจุบันเรามักจะได้ยินข่าวจากต่างประเทศตามสื่อต่างๆเกี่ยวกับเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งอยู่บ่อยครั้งโดยเฉพาะในช่วงที่สนามบินมีสภาพอากาศแปรปรวนหรือมีฝนตกฟ้าคะนอง เมื่อไม่กี่ปีมานี้ประเทศไทยเราก็มีกรณีเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งเช่นเดียวกันที่จังหวัดเชียงรายซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีรายงานผลการสอบสวนอากาศยานอุบัติการณ์รุนแรงฉบับสุดท้าย (Final Aircraft Serious Incident Investigation Report) ที่จะแจ้งให้ทราบถึงสาเหตุหรือปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุของเหตุการณ์นั้นว่าคืออะไร (โดยตามมาตรฐาน ICAO นั้น รายงานฉบับสุดท้ายควรออกมาภายใน 12 เดือนหลังจากที่เกิดเหตุการณ์)

    การไถลออกนอกทางวิ่งบนพื้นที่ของสนามบินที่ออกแบบและสร้างได้ตามมาตรฐานหรือสูงกว่ามาตรฐานจะลดโอกาสการเกิดความเสียหายต่อตัวอากาศยานและการบาดเจ็บของผู้โดยสารที่อยู่บนเครื่องได้อย่างมีนัยสำคัญ ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คล้ายๆกับการที่เราบังเอิญขับรถพุ่งออกจากถนนจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ แต่พอดีพื้นที่ด้านข้างหรือไหล่ถนนนั้นเป็นพื้นที่โล่งๆที่มีความยาวและความกว้างเพียงพอให้เราควบคุมรถยนต์ให้ค่อยๆหยุดลงได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ได้ปะทะหรือชนเข้ากับสิ่งใดเราก็ปลอดภัย แต่ถ้าหากพื้นที่ด้านข้างถนนแคบหรือมีน้อยแถมมีสิ่งกีดขวางต่าง ๆ เช่น ต้นไม้ เสาไฟฟ้า เกาะกลางถนนหรือเป็นคลองส่งน้ำชลประทานหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นใด เราก็ยิ่งมีโอกาสได้รับอันตรายมากเท่านั้น แต่สำหรับสิ่งที่เราพูดถึงอยู่นี้เป็นอากาศยานหรือวัตถุที่มีขนาด มวล น้ำหนัก และความเร็วที่แตกต่างกันกับรถยนต์มาก ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจึงแตกต่างจากกรณีของรถยนต์อย่างสิ้นเชิง

    ในส่วนของพื้นที่ที่รองรับการออกนอกทางวิ่งของเครื่องบินเราเรียกว่าพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งหรือ Runway Strip ซึ่งจะมีขนาดที่แตกต่างกันตามประเภทของทางวิ่งที่รองรับอากาศยานรวมทั้งทางหยุด (Stop Way) (ถ้ามี) ทั้งนี้ยังรวมถึงอีกพื้นที่หนึ่งก็คือพื้นที่ปลอดภัยปลายทางวิ่ง (Runway End Safety Area: RESA) ที่เอาไว้สำหรับรองรับการวิ่งเลยปลายทางวิ่งออกไปและในกรณีที่เครื่องบินลงก่อนถึงจุดเริ่มต้นของหัวทางวิ่ง (Runway Threshold) ด้วยเช่นกัน (สามารถดาวน์โหลดข้อกำหนดสำนักงานการบินพลเรือน (กพท.) ฉบับที่ 37 ในเว็ปไซต์ กพท.หรือ ICAO Annex 14 Vol.1 ในเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเพื่อดูในรายละเอียดได้) พื้นที่เหล่านี้จะถูกออกแบบมาเพื่อให้เครื่องบินสามารถหยุดได้อย่างปลอดภัยในกรณีเกิด Runway excursion ขึ้น

    เราลองมาดูนิยามและมาตรฐานในข้อกำหนดของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ก่อนดีกว่า ความหมายของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งตามข้อกำหนด กพท. ฉบับที่ 37 (อ้างอิงจากมาตรฐานของ ICAO Annex 14 Vol.1 - Aerodrome Design and Operations) กำหนดไว้ว่า “พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway Strip) หมายความว่า พื้นที่ที่กําหนดไว้ซึ่งรวมถึงทางวิ่งและทางหยุด (ถ้ามี) ที่กําหนดไว้เพื่อ (1) ลดความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายแก่อากาศยานที่วิ่งออกนอกทางวิ่ง และ (2) ป้องกันอากาศยานที่บินอยู่เหนือพื้นที่ดังกล่าวระหว่างการปฏิบัติการวิ่งขึ้นหรือการบินลงของอากาศยาน
    2. ขนาดของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง
    ข้อ 145 พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งต้องขยายต่อออกไปจากหัวทางวิ่งและยาวเลยปลายทางวิ่งหรือทางหยุดไม่น้อยกว่าระยะทาง ดังต่อไปนี้
    (1) หกสิบ (60) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 2, 3 หรือ 4
    (2) หกสิบ (60) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 1 และเป็นทางวิ่งแบบบินลงด้วยเครื่องวัดประกอบการบิน
    (3) สามสิบ (30) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 1 และเป็นทางวิ่งแบบบินลงโดยไม่ใช้เครื่องวัดประกอบการบิน
    ข้อ 146 พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งของทางวิ่งแบบพรีซิชั่น (Precision) และทางวิ่งแบบนอนพรีซิชั่น (Non-Precision) ต้องขยายไปทางด้านข้างแต่ละด้านของเส้นกึ่งกลางทางวิ่งและแนวเส้นกึ่งกลางทางวิ่งที่ต่อขยายออกไปตลอดความยาวของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งนั้นเป็นระยะทางอย่างน้อย ดังต่อไปนี้
    (1) หนึ่งร้อยสี่สิบ (140) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 3 หรือ 4
    (2) เจ็ดสิบ (70) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 1 หรือ 2
    4. การปรับระดับพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง
    ข้อ 152 เพื่อประโยชน์ในการรองรับเครื่องบินที่จะใช้ทางวิ่ง ในกรณีที่เครื่องบินวิ่งออกนอกทางวิ่ง สนามบินต้องปรับระดับ (Graded portion) ส่วนของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งของทางวิ่งแบบบินลงด้วยเครื่องวัด

    ประกอบการบิน อย่างน้อยภายในระยะจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่งและแนวเส้นกึ่งกลางทางวิ่งที่ขยายออกไปดังต่อไปนี้
    (1) หนึ่งร้อยห้า (105) เมตร สําหรับทางวิ่งแบบพรีซิชั่นที่มีรหัสตัวเลขเป็น 3 หรือ 4 ตามรูปที่ 9
    (2) เจ็ดสิบห้า (75) เมตร สําหรับทางวิ่งแบบนอนพรีซิชั่นที่มีรหัสตัวเลขเป็น 3 หรือ 4
    (3) สี่สิบ (40) เมตร สําหรับทางวิ่งแบบพรีซิชั่นและทางวิ่งแบบนอนพรีซิชั่นที่มีรหัสตัวเลขเป็น 1หรือ 2
    ข้อ 161 หากมีความจำเป็นต้องมีการระบายน้ำที่เหมาะสม สนามบินอาจจัดให้มีรางระบายน้ำแบบเปิดโล่งบริเวณพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion) ที่อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งได้ แต่ต้องวางตําแหน่งของรางระบายน้ำให้อยู่ห่างจากทางวิ่งให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้” อันนี้คือข้อมูลที่อยู่ในข้อกำหนด กพท.ฉบับ37

    สนามบินสุวรรณภูมิมีรหัสอ้างอิงของสนามบิน 4E (ตามข้อกำหนด กพท. ฉบับที่ 37 ส่วนที่ 4 รหัสอ้างอิงสนามบิน ข้อ 23, 24 และ25) คือมีความยาวของทางวิ่งเกิน 1800 เมตร และรองรับเครื่องบินที่มีระยะห่างระหว่างปลายปีก 65 เมตรขึ้นไปแต่ไม่ถึง 80 เมตร ดังนั้นพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งด้านข้างที่วัดออกจากจุดเส้นกึ่งกลางทางวิ่งจึงต้องมีขนาดอย่างน้อย 140 เมตรตลอดแนวความยาวของทางวิ่ง แต่ต้องไม่ลืมว่ามีการใช้คำว่า “อย่างน้อย” นั้น ถ้ามากกว่าก็จะยิ่งดี

    สำหรับสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งเป็นสนามบินหลักของบ้านเราที่มีภาพประกอบวาระการประชุมของ ICAO Asia and Pacific (ICAO APAC) ที่จะได้กล่าวต่อไป ได้มีการติดตั้งรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งตามความยาวของทางวิ่งฝั่งตะวันออกห่างจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่งที่ระยะ 120 เมตร (ข้อมูลจาก AIP Thailand) เพื่อวัตถุประสงค์ในการช่วยระบายน้ำสำหรับกรณีมีปริมาณน้ำฝนจำนวนมากอยู่บนทางวิ่งหรือพื้นที่โดยรอบ ตรงบริเวณที่เรียกว่าพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion of Runway Strip) หรือตั้งแต่ 105 เมตรจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่งเป็นต้นไป (ตามข้อกำหนด กพท. 4. การปรับระดับพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง ข้อ 152 วงเล็บ 1)

    ขณะที่มาตรฐานของ ICAO Annex 14 Vol.1 - Aerodrome Design and Operations, 9 edition July 2022 หน้า 3-13 ข้อ 3.4.16 บันทึก (Note) 1 ได้ระบุว่า รางระบายน้ำแบบเปิดโล่งสามารถที่จะติดตั้งได้ในกรณีที่มีความจำเป็นต่อการระบายน้ำฝนจำนวนมากแต่จะต้องพิจารณาติดตั้งให้ไกลที่สุดเท่าที่จะปฏิบัติได้บนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับหรือพื้นที่ “Non-graded portion” ของทางวิ่ง (Note 1. - Where deemed necessary for proper drainage, an open-air storm water conveyance may be allowed in the non-graded portion of a runway strip and would be placed as far as practicable from the runway.) ดังนั้นการมีรางระบายน้ำแบบเปิดโล่งของสนามบินนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการติดตั้งที่ไม่สอดคล้องหรือผิดจากมาตรฐานการก่อสร้างแต่อย่างใด

    อย่างไรก็ตาม จากรายงานการประชุมครั้งที่ 5 ของ ICAO APAC ของคณะทำงาน Aerodrome Design and Operations Task Force เมื่อวันที่ 30 ม.ค. – 2 ก.พ. 67 ที่จัดขึ้นที่จังหวัดเชียงรายโดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากประเทศภาคีสมาชิก 14 ประเทศและองค์กรทางการบินระหว่างประเทศอีก 3 หน่วยงานรวม 62 คน ( The Fifth Meeting of the Asia/Pacific Aerodrome Design and Operations Task Force: AP-ADO/TF/5: Chiang Rai) ในหัวข้อวาระประชุมที่ 4 เรื่อง “การวางแผน การออกแบบ และการก่อสร้างสนามบิน” (Planning, Design and Construction of Aerodromes) นั้น มีการหยิบยกประเด็นของรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งที่อยู่บนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (OPEN-AIR STORM WATER CONVEYANCE IN RUNWAY STRIP) ขึ้นมาใหม่ซึ่งนำเสนอโดย ICAO-The Cooperative Development of Operational Safety and Continuing Airworthiness Programme – South East Asia (COSCAP-SEA) โดยระบุว่าการมีอยู่ของรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งบนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion) ของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway Strip) อาจนำมาซึ่งอันตรายต่างๆโดยเฉพาะกับเครื่องบินที่ไถลออกนอกทางวิ่ง ยิ่งในช่วงที่สนามบินมีสภาพอากาศแปรปรวน ฝนตกและทางวิ่งเปียกลื่น การมีอยู่ของรางระบายน้ำนั้นอาจจะทำให้เหตุการณ์ลื่นไถลออกนอกทางวิ่ง(ที่ไปถึงบริเวณที่ติดตั้งรางระบายน้ำฯ) รุนแรงยิ่งขึ้น อันนี้เองอาจจะถือได้ว่าเป็นการเริ่มทบทวนมาตรฐานด้านกายภาพสนามบินของ ICAO ก็เป็นได้ และจากการนำเสนอข้อมูลในวาระนี้ก่อนที่จะสรุปอยู่ในรายงานในภาพรวมนั้นได้มีการนำรูปภาพตัวอย่างของกรณีการไถลออกนอกทางวิ่งในประเทศต่างๆ รวมทั้งตัวอย่างภาพของสนามบินสุวรรณภูมิที่มีเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งและหยุดอยู่ตรงหน้ารางระบายน้ำคอนกรีตเพียงไม่กี่เมตรมาแสดงด้วย

    มีข้อที่น่าสนใจและน่าสังเกตก็คือจากภาพที่มีการนำเสนอที่มีการไถลออกนอกทางวิ่งจากวาระการประชุมนี้รูปหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นที่สนามบินฮิโรชิมาประเทศญี่ปุ่นมีการไถลออกจากทางวิ่งไปจนเกือบถึงขอบของ Runway Strip ซึ่งไม่โครงสร้างหรือสิ่งปลูกสร้างใดหรือแม้แต่รางระบายน้ำคอนกรีตอยู่บนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion) นี้เลย จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากมีรางระบายน้ำอยู่บนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับนี้ซึ่งตามมาตรฐานของ ICAO สามารถอยู่ได้เราคงพอจะนึกภาพออก และเมื่อไปดูข้อมูลด้านกายภาพของสนามบินฮิโรชิมานี้ใน AIP Japan (Aeronautical Information Publication, Japan) พบว่าพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งหรือ Runway Strip ของสนามบินนี้อยู่ที่ 150 เมตรจากกึ่งกลางทางวิ่งซึ่งสูงกว่ามาตรฐานปัจจุบันซึ่งมีการก่อสร้างมานานแล้วนั่นหมายความว่าถ้าหากมีรางระบายน้ำหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นใดบนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งนี้แม้มาตรฐานสากลจะยอมให้อยู่ได้ อากาศยานอุบัติการณ์รุนแรงก็สามารถจะคาดการณ์ว่าเกิดขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่นกรณีที่เคยเกิดขึ้นกับสนามบินสมุยที่มีอาคาร Tower เก่าอยู่บน Runway Strip แล้วเครื่องไถลออกไปก็ก่อให้เกิดอุบัติเหตุมาแล้วเมื่อ 4 สิงหาคม 2552 หรือกรณีของสายการบิน One to Go ที่สนามบินภูเก็ตที่ผ่านมาหลายปีมาแล้วเช่นกันที่พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการรองรับอากาศยาน

    ในที่ประชุมคณะทำงาน Aerodrome Design and Operations Task Force - ICAO APAC ยังได้มีการกล่าวถึงข้อมูลสถิติการศึกษาการออกนอกทางวิ่งของอากาศยานในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ได้ทำไว้ โดยแสดงให้เห็นว่าในจำนวน 100 เปอร์เซ็นต์ของเหตุการณ์ออกนอกทางวิ่ง 90 เปอร์เซ็นต์เครื่องบินสามารถหยุดได้อย่างปลอดภัยบนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway strip) บนขอบเขตของพื้นที่ปรับระดับ (Graded portion) คืออยู่ในระยะ 105 เมตรจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่ง ส่วนที่เหลืออีก 10 เปอร์เซ็นต์จะเลย 105 เมตรออกไปถึงพื้นที่ที่ไม่ปรับระดับ (Non-graded portion) คือตั้งแต่ 105 เมตรขึ้นไปจนถึงขอบของ Runway strip ซึ่งจากสถิติข้อมูลการศึกษาอันนี้ในจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์นี้ในบางครั้งมีการไถลออกไปไกลถึง 152 เมตร และบางครั้งถึง 210 เมตรเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามมีตัวอย่างหนึ่งที่เครื่องบินไถลออกไปจากทางวิ่งไปถึง 219 เมตรที่ประเทศอินเดียเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2019 ก็มีมาแล้ว (มีภาพประกอบ)

    เนื้อหาข้อมูลใน Final Report ของที่ประชุมคณะทำงาน Aerodrome Design and Operations Task Force นี้ (ในหน้า 4-5) นี้ มีการระบุให้ข้อมูลว่ามีตัวอย่างของเอกสารคำแนะนำ (Advisory circular) AC150/5300-13B ของหน่วยงานการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (FAA) ว่าตำแหน่งของร่องน้ำหรือรางระบายน้ำหรือกำแพงป้องกันนั้นขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่แต่ละพื้นที่บริเวณนั้นแต่ไม่ว่ากรณีใดๆก็ตามจะไม่มีการตั้งอยู่บนขอบเขตของพื้นที่ปลอดภัยของทางวิ่งเลย โดยความกว้างของพื้นที่ปลอดภัยทางวิ่งของเขาจะอยู่ที่ 500 ฟุต หรือ152 เมตร
    “4.28 The WP/20 provided an example of the FAA advisory circular: AC150/5300-13B where it reads, “location of ditch, swale, or headwall depends on the site condition but in no case within the limits of runway safety area (RSA).” The width of the RSA, as specified in Appendix G of the AC is 500 feet (152m).”
    นอกจากนี้ผู้แทนของหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินพลเรือนของสาธารณรัฐเกาหลีได้ออกมาให้การสนับสนุนประเด็นหัวข้อนี้และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่ากฎระเบียบด้านการบินของเกาหลีใต้ในหัวข้อที่เกี่ยวกับมาตรฐานพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งของสนามบินนั้นออกข้อกำหนดไว้ว่าการก่อสร้างรางระบายน้ำแบบเปิดโล่งจะต้องก่อสร้างให้เลยจากพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-graded portion) ของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway strip) ออกไปเท่านั้นและยังเรียกร้องให้รัฐต่าง ๆ พัฒนาคู่มือนโนบายและวิธีปฏิบัติในการที่จะยอมรับกายภาพที่ไม่สอดคล้องตามมาตรฐานของตนบนพื้นฐานจากการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    “4.31 The Republic of Korea supported the Working Paper and shared that their regulations required open air drains to be constructed beyond the non-graded portion of the runway strips and expressed the need for States to develop Policy and Procedures for accepting non-compliances based on safety risk assessment”.

    สำหรับสนามบินหลักของบ้านเราที่มีรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งบนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway strip) ในส่วนที่เรียกว่าพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-graded portion) นี้นั้น ถ้าดูจากสถิติตามรายงานของที่ประชุมนี้แล้ว 90 เปอร์เซ็นของเครื่องบินที่ไถลออกนอกทางวิ่งจะออกไปไม่ถึงพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ หรือบริเวณที่มีรางระบายน้ำคอนกรีตฯนี้ ยกเว้นเพียง 10 เปอร์เซ็นเท่านั้น อย่างไรก็ดีจะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่รัฐหรือผู้ดำเนินการสนามบินจะนำเรื่องดังกล่าวมาทบทวนข้อมูลสถิติ จำนวนและชนิดของอากาศยานที่มาใช้บริการ โอกาสความเป็นไปได้ต่าง ๆ รวมทั้งทบทวนกฎระเบียบหรือทำการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอีกครั้งตามที่หน่วยงานการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (FAA) และหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินพลเรือนของสาธารณรัฐเกาหลีได้ได้นำเสนอมาในรายงาน เพื่อลดโอกาสความรุนแรงจากการเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ขึ้น ถ้าตัวเลขในปัจจุบันจำนวนเที่ยวบินของทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น จำนวนการไถลออกนอกทางวิ่งของทั้ง 90 เปอร์เซ็นและของ 10 เปอร์เซ็นก็น่าจะมากตาม คงไม่น่าจะมีใครอยากคิดว่าตนเองจะเป็นผู้ที่อยู่ใน 10 เปอร์เซ็นนั้นอย่างแน่นอน ทั้งนี้หากดูข้อมูลเหตุการณ์ของสายการบิน Asiana airlines ที่ออกนอกทางวิ่งสนามบินฮิโรชิมาของญี่ปุ่นที่มี Runway strip ที่ 150 เมตรจากกึ่งกลางทางวิ่งโดยไถลไปไกลจนเกือบถึงขอบ Runway strip โดยไม่มีรางระบายน้ำฯหรือสิ่งปลูกสร้างใดบนพื้นที่บริเวณนี้แม้แต่น้อยตามที่กล่าวไว้ข้างต้นกับในขณะที่เหตุการณ์ของสุวรรณภูมิที่เครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งจนไปเกือบถึงรางระบายน้ำแบบเปิดโล่ง แต่โชคดีที่คานยึดของฐานล้อเครื่องบินมีการครูดเป็นร่องลึกและเป็นทางยาวไปกับทางวิ่งประมาณเกือบ 400 เมตร (อ้างอิงข้อมูลจากรายงานฉบับสุดท้ายของสำนักงานคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยาน) ก่อนหยุดลง จึงเป็นเหตุการณ์ที่ยังไม่ได้ก่อให้เกิดอากาศยานอุบัติเหตุแต่อย่างใด แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปได้ทุกครั้ง หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงปรารถนาขึ้นเราต้องสูญเสียอะไรบ้างกับการไม่ได้ป้องกันกันแต่เนิ่น ๆ เป็นเรื่องที่ผู้ที่เกี่ยวข้องน่าจะนำไปพิจารณาทบทวนดูหรือไม่

    โดยรวมแล้วการที่สนามบินมีรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่ง (Open-Air Storm Water Conveyance) อยู่บนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway Strip) ตรงบริเวณที่เรียกว่าพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ(Non-Graded Portion) สามารถทำได้หรือจัดให้มีอยู่ได้โดยไม่ได้ถือว่าเป็นการดำเนินการที่ผิดจากมาตรฐานแต่อย่างใดเพราะ ICAO Annex 14 Vol. 1 เปิดไว้ให้ทำได้เพียงแต่ขอให้พิจารณาติดตั้งให้ไกลที่สุดจากทางวิ่งซึ่งไม่ได้กำหนดว่าระยะเท่าไร ดังนั้นจึงอยู่ในดุลยพินิจของหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินหรือการดำเนินการของสนามบินในแต่ละประเทศที่จะพิจารณากันในมิติต่าง ๆ อย่างรอบคอบ
    จากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมานี้ซึ่งรวมถึงเนื้อหาในรายงานการประชุมของ ICAO ในครั้งนี้จะเห็นได้ว่า
    1. ประเทศบางประเทศอย่างเช่นกรณีของสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐเกาหลีได้มีการพัฒนาให้มีกฎระเบียบหรือกฎหมายด้านความปลอดภัยทางการบินของตนเองที่สูงกว่ามาตรฐานของ ICAO โดยไม่ต้องมีข้อกำหนดด้านมาตรฐานที่ชัดเจนของ ICAO Annex ออกมาแต่อย่างใด
    2. มาตรฐานที่ ICAO ออกมาในรูปแบบ Annex ต่าง ๆ ที่ออกมาเพื่อให้แต่ละประเทศนำไปออกเป็นกฎหมายหรือกฎระเบียบข้อบังคับของตนเองนั้นยังมีช่องว่าง (Gap) ส่วนที่จะต้องมีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงให้ดียิ่งขึ้นหรือปลอดภัยมากขึ้นอยู่เสมอ
    3. กรณีที่มีเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งอีก โอกาสของ 10 เปอร์เซ็นต์ที่เครื่องบินจะวิ่งเลยไปถึงพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion) ยังมีอยู่หากยังไม่ได้ทำการประเมินความเสี่ยงและมีการกำหนดมาตรการลดความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยเฉพาะสนามบินที่รองรับแบบอากาศยาน (Aircraft Code) ชนิดใหญ่ ๆ ได้
    4. รายงานฉบับสุดท้ายการสอบสวนอากาศยานแบบ Airbus A330-321ที่ไถลออกนอกทางวิ่งที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อ 8 กันยายน 2556 มีการระบุถึงการครูดของคานยึดฐานล้อหลักด้านขวาประมาณ 365 เมตร และวิ่งพ้นขอบทางวิ่งไปบนพื้นดินที่เป็นพื้นที่ปลอดภัยของทางวิ่งระยะทางประมาณ ๑๐๐ เมตรจึงหยุดนิ่ง กรณีเช่นนี้ถ้าหากไม่มีการครูดกับทางวิ่งด้วยระยะทางและความลึกตามรายงานดังกล่าว โอกาสที่อากาศยานอาจจะไปถึงรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งก็เป็นได้เมื่อลองเปรียบเทียบกับกรณีของสายการบิน Asiana Airlines ที่สนามบินฮิโรชิมา อย่างไรก็ตามรายงานผลการสอบสวนฯควรมีข้อแนะนำโดยตรงไปยัง ICAO (Safety recommendations to ICAO) ด้วยหรือไม่ถึงความเป็นไปได้ของสภาวะอันตรายนี้เพื่อให้ ICAO มีการพิจารณาหรืออาจจะทบทวนมาตรฐานกายภาพของทางวิ่งที่ยอมให้มีรางระบายน้ำแบบเปิดโล่งบนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับนี้

    ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลที่จะนำสรุปได้ว่าแต่ละประเทศที่มีลักษณะทางกายภาพทางวิ่งของสนามบินแบบนี้โดยเฉพาะประเทศเรานั้นจะดำเนินการไปในในทิศทางใด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะนำมาเสนออีกครั้งการจะทำให้สมดุลกันระหว่างการลงทุนรายจ่ายการป้องกันด้านความปลอดภัย (Protection) กับการสร้างรายได้การดำเนินงาน (Production) เมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้วผู้ที่เกี่ยวข้องจะเลือกวิธีแบบใด และแบบไหนจะยั่งยืนกว่ากัน ประชาชนผู้ใช้บริการสามารถมีส่วนร่วมได้หรือไม่

    ข้อมูลทั้งหมดเป็นทัศนคติส่วนบุคคลที่อ้างอิงจากเอกสารและรายงานที่เปิดเผยในเวปไซต์หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ สามารถค้นหาและสืบค้นได้โดยทั่วไป อาจมีข้อมูลบางอย่างที่ไม่ได้กล่าวถึงและข้อมูลบางอย่างปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปแล้วตามช่วงเวลาที่เปลี่ยนไป ผู้อ่านโปรดใช้ดุลยพินิจและพิจารณาอีกครั้ง

    เอกสารอ้างอิง(สามารสืบค้นได้บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต):
    1. ICAO Safety Report 2024Edition
    2. ICAO Annex 14 - Aerodrome Design and Operations, 9 edition, July 2022
    3. ข้อกำหนดสำนักงานการบินพลเรือนฉบับที่ 37
    4. Aircraft Accident Investigation Report, Asiana Airlines INC. HL-7762, November 24,2016 - JTSB
    5. www.telegraph.co.uk/travel/news/asiana-plane-skids-off-runway-in-japan-leaving-20-injured/
    6. รายงานฉบับสุดท้ายการสอบสวนอากาศยานแบบ Airbus A330-321 เครื่องหมายสัญชาติและทะเบียน HS-TEFฯ โดยคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักรปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยานประเทศไทย
    7. Agenda Item 4: Planning, Design and Construction of Aerodromes/ “Open-Air Strom Water Conveyance in Runway Strip” - The Fifth Meeting of the Asia/Pacific Aerodrome Design and Operations Task Force (AP-ADO/TF/5) Chaing Rai, Thailand 30 January – 2 February 2024
    8. Final Report: The Fifth Meeting of the Asia/Pacific Aerodrome Design and Operations Task Force (AP-ADO/TF/5) Chaing Rai, Thailand 30 January – 2 February 2024
    9. AIP Japan HIROSHIMA, RJOA AD2-6 (13/9/18)
    10. AIP Thailand, AD 2-VTBS-1-16, 28 NOV 24, VTBS AD2.12 RUNWAY PHYSICAL CHARACTERISTICS
    11. https://en.wikipedia.org/wiki/Bangkok_Airways_Flight_266
    12. https://www.theguardian.com/world/2009/aug/04/thailand-plane-crash
    13. https://en.wikipedia.org/wiki/One-Two-Go_Airlines_Flight_269
    14. https://www.aviation-accidents.net/jet-airways-boeing-b737-800-vt-jbg-flight-9w2374/



    EP5 นี้ขอนำเสนอข้อมูลเพื่อแลกเปลี่ยนประเด็นด้านความปลอดภัยทางการบินที่ขอมุ่งเน้นไปทางด้านความปลอดภัยของเครื่องบินขณะทำการวิ่งขึ้นหรือกำลังวิ่งลงบนทางวิ่งที่สนามบินนะครับ จากข้อมูลรายงานด้านความปลอดภัย (Safety Report) ปี 2024 ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) ได้จำแนกเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่มีโอกาสเกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากที่จำเป็นจะต้องจัดการอย่างเร่งด่วนอยู่ 5 เหตุการณ์ คือ 1 การควบคุมอากาศยานเข้าสู่สภาพภูมิประเทศ (Controlled Flight Into Terrain: CFIT) 2 การสูญเสียการควบคุมขณะทำการบิน (Loss Of Control In-Flight: LOC-I) 3 การชนกันกลางอากาศ (Mid-Air Collision: MAC) 4 การเกิดอากาศยานไถลออกนอกทางวิ่ง (Runway Excursion: RE) และ 5 การล่วงล้ำบนทางวิ่ง (Runway Incursion: RI) ที่จะขอพูดถึงในครั้งนี้ขอกล่าวถึงอากาศยานไถลออกนอกทางวิ่งเป็นหลักเพื่อที่จะนำเข้าสู่หัวข้อและเนื้อหาการประชุมของ ICAO ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ( ICAO APAC) เมื่อต้นป 67 ที่ผ่านมา การไถลออกนอกทางวิ่ง ICAO ได้ให้นิยามไว้คือการที่เครื่องบินเบี่ยงเบนออกจากทางวิ่งหรือการวิ่งเลยออกปลายทางวิ่งในขณะที่ทำการบินลงหรือวิ่งขึ้นซึ่งในปัจจุบันเรามักจะได้ยินข่าวจากต่างประเทศตามสื่อต่างๆเกี่ยวกับเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งอยู่บ่อยครั้งโดยเฉพาะในช่วงที่สนามบินมีสภาพอากาศแปรปรวนหรือมีฝนตกฟ้าคะนอง เมื่อไม่กี่ปีมานี้ประเทศไทยเราก็มีกรณีเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งเช่นเดียวกันที่จังหวัดเชียงรายซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีรายงานผลการสอบสวนอากาศยานอุบัติการณ์รุนแรงฉบับสุดท้าย (Final Aircraft Serious Incident Investigation Report) ที่จะแจ้งให้ทราบถึงสาเหตุหรือปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุของเหตุการณ์นั้นว่าคืออะไร (โดยตามมาตรฐาน ICAO นั้น รายงานฉบับสุดท้ายควรออกมาภายใน 12 เดือนหลังจากที่เกิดเหตุการณ์) การไถลออกนอกทางวิ่งบนพื้นที่ของสนามบินที่ออกแบบและสร้างได้ตามมาตรฐานหรือสูงกว่ามาตรฐานจะลดโอกาสการเกิดความเสียหายต่อตัวอากาศยานและการบาดเจ็บของผู้โดยสารที่อยู่บนเครื่องได้อย่างมีนัยสำคัญ ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คล้ายๆกับการที่เราบังเอิญขับรถพุ่งออกจากถนนจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ แต่พอดีพื้นที่ด้านข้างหรือไหล่ถนนนั้นเป็นพื้นที่โล่งๆที่มีความยาวและความกว้างเพียงพอให้เราควบคุมรถยนต์ให้ค่อยๆหยุดลงได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ได้ปะทะหรือชนเข้ากับสิ่งใดเราก็ปลอดภัย แต่ถ้าหากพื้นที่ด้านข้างถนนแคบหรือมีน้อยแถมมีสิ่งกีดขวางต่าง ๆ เช่น ต้นไม้ เสาไฟฟ้า เกาะกลางถนนหรือเป็นคลองส่งน้ำชลประทานหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นใด เราก็ยิ่งมีโอกาสได้รับอันตรายมากเท่านั้น แต่สำหรับสิ่งที่เราพูดถึงอยู่นี้เป็นอากาศยานหรือวัตถุที่มีขนาด มวล น้ำหนัก และความเร็วที่แตกต่างกันกับรถยนต์มาก ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจึงแตกต่างจากกรณีของรถยนต์อย่างสิ้นเชิง ในส่วนของพื้นที่ที่รองรับการออกนอกทางวิ่งของเครื่องบินเราเรียกว่าพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งหรือ Runway Strip ซึ่งจะมีขนาดที่แตกต่างกันตามประเภทของทางวิ่งที่รองรับอากาศยานรวมทั้งทางหยุด (Stop Way) (ถ้ามี) ทั้งนี้ยังรวมถึงอีกพื้นที่หนึ่งก็คือพื้นที่ปลอดภัยปลายทางวิ่ง (Runway End Safety Area: RESA) ที่เอาไว้สำหรับรองรับการวิ่งเลยปลายทางวิ่งออกไปและในกรณีที่เครื่องบินลงก่อนถึงจุดเริ่มต้นของหัวทางวิ่ง (Runway Threshold) ด้วยเช่นกัน (สามารถดาวน์โหลดข้อกำหนดสำนักงานการบินพลเรือน (กพท.) ฉบับที่ 37 ในเว็ปไซต์ กพท.หรือ ICAO Annex 14 Vol.1 ในเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเพื่อดูในรายละเอียดได้) พื้นที่เหล่านี้จะถูกออกแบบมาเพื่อให้เครื่องบินสามารถหยุดได้อย่างปลอดภัยในกรณีเกิด Runway excursion ขึ้น เราลองมาดูนิยามและมาตรฐานในข้อกำหนดของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ก่อนดีกว่า ความหมายของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งตามข้อกำหนด กพท. ฉบับที่ 37 (อ้างอิงจากมาตรฐานของ ICAO Annex 14 Vol.1 - Aerodrome Design and Operations) กำหนดไว้ว่า “พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway Strip) หมายความว่า พื้นที่ที่กําหนดไว้ซึ่งรวมถึงทางวิ่งและทางหยุด (ถ้ามี) ที่กําหนดไว้เพื่อ (1) ลดความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายแก่อากาศยานที่วิ่งออกนอกทางวิ่ง และ (2) ป้องกันอากาศยานที่บินอยู่เหนือพื้นที่ดังกล่าวระหว่างการปฏิบัติการวิ่งขึ้นหรือการบินลงของอากาศยาน 2. ขนาดของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง ข้อ 145 พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งต้องขยายต่อออกไปจากหัวทางวิ่งและยาวเลยปลายทางวิ่งหรือทางหยุดไม่น้อยกว่าระยะทาง ดังต่อไปนี้ (1) หกสิบ (60) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 2, 3 หรือ 4 (2) หกสิบ (60) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 1 และเป็นทางวิ่งแบบบินลงด้วยเครื่องวัดประกอบการบิน (3) สามสิบ (30) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 1 และเป็นทางวิ่งแบบบินลงโดยไม่ใช้เครื่องวัดประกอบการบิน ข้อ 146 พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งของทางวิ่งแบบพรีซิชั่น (Precision) และทางวิ่งแบบนอนพรีซิชั่น (Non-Precision) ต้องขยายไปทางด้านข้างแต่ละด้านของเส้นกึ่งกลางทางวิ่งและแนวเส้นกึ่งกลางทางวิ่งที่ต่อขยายออกไปตลอดความยาวของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งนั้นเป็นระยะทางอย่างน้อย ดังต่อไปนี้ (1) หนึ่งร้อยสี่สิบ (140) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 3 หรือ 4 (2) เจ็ดสิบ (70) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 1 หรือ 2 4. การปรับระดับพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง ข้อ 152 เพื่อประโยชน์ในการรองรับเครื่องบินที่จะใช้ทางวิ่ง ในกรณีที่เครื่องบินวิ่งออกนอกทางวิ่ง สนามบินต้องปรับระดับ (Graded portion) ส่วนของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งของทางวิ่งแบบบินลงด้วยเครื่องวัด ประกอบการบิน อย่างน้อยภายในระยะจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่งและแนวเส้นกึ่งกลางทางวิ่งที่ขยายออกไปดังต่อไปนี้ (1) หนึ่งร้อยห้า (105) เมตร สําหรับทางวิ่งแบบพรีซิชั่นที่มีรหัสตัวเลขเป็น 3 หรือ 4 ตามรูปที่ 9 (2) เจ็ดสิบห้า (75) เมตร สําหรับทางวิ่งแบบนอนพรีซิชั่นที่มีรหัสตัวเลขเป็น 3 หรือ 4 (3) สี่สิบ (40) เมตร สําหรับทางวิ่งแบบพรีซิชั่นและทางวิ่งแบบนอนพรีซิชั่นที่มีรหัสตัวเลขเป็น 1หรือ 2 ข้อ 161 หากมีความจำเป็นต้องมีการระบายน้ำที่เหมาะสม สนามบินอาจจัดให้มีรางระบายน้ำแบบเปิดโล่งบริเวณพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion) ที่อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งได้ แต่ต้องวางตําแหน่งของรางระบายน้ำให้อยู่ห่างจากทางวิ่งให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้” อันนี้คือข้อมูลที่อยู่ในข้อกำหนด กพท.ฉบับ37 สนามบินสุวรรณภูมิมีรหัสอ้างอิงของสนามบิน 4E (ตามข้อกำหนด กพท. ฉบับที่ 37 ส่วนที่ 4 รหัสอ้างอิงสนามบิน ข้อ 23, 24 และ25) คือมีความยาวของทางวิ่งเกิน 1800 เมตร และรองรับเครื่องบินที่มีระยะห่างระหว่างปลายปีก 65 เมตรขึ้นไปแต่ไม่ถึง 80 เมตร ดังนั้นพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งด้านข้างที่วัดออกจากจุดเส้นกึ่งกลางทางวิ่งจึงต้องมีขนาดอย่างน้อย 140 เมตรตลอดแนวความยาวของทางวิ่ง แต่ต้องไม่ลืมว่ามีการใช้คำว่า “อย่างน้อย” นั้น ถ้ามากกว่าก็จะยิ่งดี สำหรับสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งเป็นสนามบินหลักของบ้านเราที่มีภาพประกอบวาระการประชุมของ ICAO Asia and Pacific (ICAO APAC) ที่จะได้กล่าวต่อไป ได้มีการติดตั้งรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งตามความยาวของทางวิ่งฝั่งตะวันออกห่างจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่งที่ระยะ 120 เมตร (ข้อมูลจาก AIP Thailand) เพื่อวัตถุประสงค์ในการช่วยระบายน้ำสำหรับกรณีมีปริมาณน้ำฝนจำนวนมากอยู่บนทางวิ่งหรือพื้นที่โดยรอบ ตรงบริเวณที่เรียกว่าพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion of Runway Strip) หรือตั้งแต่ 105 เมตรจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่งเป็นต้นไป (ตามข้อกำหนด กพท. 4. การปรับระดับพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง ข้อ 152 วงเล็บ 1) ขณะที่มาตรฐานของ ICAO Annex 14 Vol.1 - Aerodrome Design and Operations, 9 edition July 2022 หน้า 3-13 ข้อ 3.4.16 บันทึก (Note) 1 ได้ระบุว่า รางระบายน้ำแบบเปิดโล่งสามารถที่จะติดตั้งได้ในกรณีที่มีความจำเป็นต่อการระบายน้ำฝนจำนวนมากแต่จะต้องพิจารณาติดตั้งให้ไกลที่สุดเท่าที่จะปฏิบัติได้บนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับหรือพื้นที่ “Non-graded portion” ของทางวิ่ง (Note 1. - Where deemed necessary for proper drainage, an open-air storm water conveyance may be allowed in the non-graded portion of a runway strip and would be placed as far as practicable from the runway.) ดังนั้นการมีรางระบายน้ำแบบเปิดโล่งของสนามบินนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการติดตั้งที่ไม่สอดคล้องหรือผิดจากมาตรฐานการก่อสร้างแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม จากรายงานการประชุมครั้งที่ 5 ของ ICAO APAC ของคณะทำงาน Aerodrome Design and Operations Task Force เมื่อวันที่ 30 ม.ค. – 2 ก.พ. 67 ที่จัดขึ้นที่จังหวัดเชียงรายโดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากประเทศภาคีสมาชิก 14 ประเทศและองค์กรทางการบินระหว่างประเทศอีก 3 หน่วยงานรวม 62 คน ( The Fifth Meeting of the Asia/Pacific Aerodrome Design and Operations Task Force: AP-ADO/TF/5: Chiang Rai) ในหัวข้อวาระประชุมที่ 4 เรื่อง “การวางแผน การออกแบบ และการก่อสร้างสนามบิน” (Planning, Design and Construction of Aerodromes) นั้น มีการหยิบยกประเด็นของรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งที่อยู่บนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (OPEN-AIR STORM WATER CONVEYANCE IN RUNWAY STRIP) ขึ้นมาใหม่ซึ่งนำเสนอโดย ICAO-The Cooperative Development of Operational Safety and Continuing Airworthiness Programme – South East Asia (COSCAP-SEA) โดยระบุว่าการมีอยู่ของรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งบนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion) ของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway Strip) อาจนำมาซึ่งอันตรายต่างๆโดยเฉพาะกับเครื่องบินที่ไถลออกนอกทางวิ่ง ยิ่งในช่วงที่สนามบินมีสภาพอากาศแปรปรวน ฝนตกและทางวิ่งเปียกลื่น การมีอยู่ของรางระบายน้ำนั้นอาจจะทำให้เหตุการณ์ลื่นไถลออกนอกทางวิ่ง(ที่ไปถึงบริเวณที่ติดตั้งรางระบายน้ำฯ) รุนแรงยิ่งขึ้น อันนี้เองอาจจะถือได้ว่าเป็นการเริ่มทบทวนมาตรฐานด้านกายภาพสนามบินของ ICAO ก็เป็นได้ และจากการนำเสนอข้อมูลในวาระนี้ก่อนที่จะสรุปอยู่ในรายงานในภาพรวมนั้นได้มีการนำรูปภาพตัวอย่างของกรณีการไถลออกนอกทางวิ่งในประเทศต่างๆ รวมทั้งตัวอย่างภาพของสนามบินสุวรรณภูมิที่มีเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งและหยุดอยู่ตรงหน้ารางระบายน้ำคอนกรีตเพียงไม่กี่เมตรมาแสดงด้วย มีข้อที่น่าสนใจและน่าสังเกตก็คือจากภาพที่มีการนำเสนอที่มีการไถลออกนอกทางวิ่งจากวาระการประชุมนี้รูปหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นที่สนามบินฮิโรชิมาประเทศญี่ปุ่นมีการไถลออกจากทางวิ่งไปจนเกือบถึงขอบของ Runway Strip ซึ่งไม่โครงสร้างหรือสิ่งปลูกสร้างใดหรือแม้แต่รางระบายน้ำคอนกรีตอยู่บนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion) นี้เลย จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากมีรางระบายน้ำอยู่บนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับนี้ซึ่งตามมาตรฐานของ ICAO สามารถอยู่ได้เราคงพอจะนึกภาพออก และเมื่อไปดูข้อมูลด้านกายภาพของสนามบินฮิโรชิมานี้ใน AIP Japan (Aeronautical Information Publication, Japan) พบว่าพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งหรือ Runway Strip ของสนามบินนี้อยู่ที่ 150 เมตรจากกึ่งกลางทางวิ่งซึ่งสูงกว่ามาตรฐานปัจจุบันซึ่งมีการก่อสร้างมานานแล้วนั่นหมายความว่าถ้าหากมีรางระบายน้ำหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นใดบนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งนี้แม้มาตรฐานสากลจะยอมให้อยู่ได้ อากาศยานอุบัติการณ์รุนแรงก็สามารถจะคาดการณ์ว่าเกิดขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่นกรณีที่เคยเกิดขึ้นกับสนามบินสมุยที่มีอาคาร Tower เก่าอยู่บน Runway Strip แล้วเครื่องไถลออกไปก็ก่อให้เกิดอุบัติเหตุมาแล้วเมื่อ 4 สิงหาคม 2552 หรือกรณีของสายการบิน One to Go ที่สนามบินภูเก็ตที่ผ่านมาหลายปีมาแล้วเช่นกันที่พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการรองรับอากาศยาน ในที่ประชุมคณะทำงาน Aerodrome Design and Operations Task Force - ICAO APAC ยังได้มีการกล่าวถึงข้อมูลสถิติการศึกษาการออกนอกทางวิ่งของอากาศยานในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ได้ทำไว้ โดยแสดงให้เห็นว่าในจำนวน 100 เปอร์เซ็นต์ของเหตุการณ์ออกนอกทางวิ่ง 90 เปอร์เซ็นต์เครื่องบินสามารถหยุดได้อย่างปลอดภัยบนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway strip) บนขอบเขตของพื้นที่ปรับระดับ (Graded portion) คืออยู่ในระยะ 105 เมตรจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่ง ส่วนที่เหลืออีก 10 เปอร์เซ็นต์จะเลย 105 เมตรออกไปถึงพื้นที่ที่ไม่ปรับระดับ (Non-graded portion) คือตั้งแต่ 105 เมตรขึ้นไปจนถึงขอบของ Runway strip ซึ่งจากสถิติข้อมูลการศึกษาอันนี้ในจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์นี้ในบางครั้งมีการไถลออกไปไกลถึง 152 เมตร และบางครั้งถึง 210 เมตรเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามมีตัวอย่างหนึ่งที่เครื่องบินไถลออกไปจากทางวิ่งไปถึง 219 เมตรที่ประเทศอินเดียเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2019 ก็มีมาแล้ว (มีภาพประกอบ) เนื้อหาข้อมูลใน Final Report ของที่ประชุมคณะทำงาน Aerodrome Design and Operations Task Force นี้ (ในหน้า 4-5) นี้ มีการระบุให้ข้อมูลว่ามีตัวอย่างของเอกสารคำแนะนำ (Advisory circular) AC150/5300-13B ของหน่วยงานการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (FAA) ว่าตำแหน่งของร่องน้ำหรือรางระบายน้ำหรือกำแพงป้องกันนั้นขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่แต่ละพื้นที่บริเวณนั้นแต่ไม่ว่ากรณีใดๆก็ตามจะไม่มีการตั้งอยู่บนขอบเขตของพื้นที่ปลอดภัยของทางวิ่งเลย โดยความกว้างของพื้นที่ปลอดภัยทางวิ่งของเขาจะอยู่ที่ 500 ฟุต หรือ152 เมตร “4.28 The WP/20 provided an example of the FAA advisory circular: AC150/5300-13B where it reads, “location of ditch, swale, or headwall depends on the site condition but in no case within the limits of runway safety area (RSA).” The width of the RSA, as specified in Appendix G of the AC is 500 feet (152m).” นอกจากนี้ผู้แทนของหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินพลเรือนของสาธารณรัฐเกาหลีได้ออกมาให้การสนับสนุนประเด็นหัวข้อนี้และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่ากฎระเบียบด้านการบินของเกาหลีใต้ในหัวข้อที่เกี่ยวกับมาตรฐานพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งของสนามบินนั้นออกข้อกำหนดไว้ว่าการก่อสร้างรางระบายน้ำแบบเปิดโล่งจะต้องก่อสร้างให้เลยจากพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-graded portion) ของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway strip) ออกไปเท่านั้นและยังเรียกร้องให้รัฐต่าง ๆ พัฒนาคู่มือนโนบายและวิธีปฏิบัติในการที่จะยอมรับกายภาพที่ไม่สอดคล้องตามมาตรฐานของตนบนพื้นฐานจากการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย “4.31 The Republic of Korea supported the Working Paper and shared that their regulations required open air drains to be constructed beyond the non-graded portion of the runway strips and expressed the need for States to develop Policy and Procedures for accepting non-compliances based on safety risk assessment”. สำหรับสนามบินหลักของบ้านเราที่มีรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งบนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway strip) ในส่วนที่เรียกว่าพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-graded portion) นี้นั้น ถ้าดูจากสถิติตามรายงานของที่ประชุมนี้แล้ว 90 เปอร์เซ็นของเครื่องบินที่ไถลออกนอกทางวิ่งจะออกไปไม่ถึงพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ หรือบริเวณที่มีรางระบายน้ำคอนกรีตฯนี้ ยกเว้นเพียง 10 เปอร์เซ็นเท่านั้น อย่างไรก็ดีจะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่รัฐหรือผู้ดำเนินการสนามบินจะนำเรื่องดังกล่าวมาทบทวนข้อมูลสถิติ จำนวนและชนิดของอากาศยานที่มาใช้บริการ โอกาสความเป็นไปได้ต่าง ๆ รวมทั้งทบทวนกฎระเบียบหรือทำการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอีกครั้งตามที่หน่วยงานการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (FAA) และหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินพลเรือนของสาธารณรัฐเกาหลีได้ได้นำเสนอมาในรายงาน เพื่อลดโอกาสความรุนแรงจากการเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ขึ้น ถ้าตัวเลขในปัจจุบันจำนวนเที่ยวบินของทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น จำนวนการไถลออกนอกทางวิ่งของทั้ง 90 เปอร์เซ็นและของ 10 เปอร์เซ็นก็น่าจะมากตาม คงไม่น่าจะมีใครอยากคิดว่าตนเองจะเป็นผู้ที่อยู่ใน 10 เปอร์เซ็นนั้นอย่างแน่นอน ทั้งนี้หากดูข้อมูลเหตุการณ์ของสายการบิน Asiana airlines ที่ออกนอกทางวิ่งสนามบินฮิโรชิมาของญี่ปุ่นที่มี Runway strip ที่ 150 เมตรจากกึ่งกลางทางวิ่งโดยไถลไปไกลจนเกือบถึงขอบ Runway strip โดยไม่มีรางระบายน้ำฯหรือสิ่งปลูกสร้างใดบนพื้นที่บริเวณนี้แม้แต่น้อยตามที่กล่าวไว้ข้างต้นกับในขณะที่เหตุการณ์ของสุวรรณภูมิที่เครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งจนไปเกือบถึงรางระบายน้ำแบบเปิดโล่ง แต่โชคดีที่คานยึดของฐานล้อเครื่องบินมีการครูดเป็นร่องลึกและเป็นทางยาวไปกับทางวิ่งประมาณเกือบ 400 เมตร (อ้างอิงข้อมูลจากรายงานฉบับสุดท้ายของสำนักงานคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยาน) ก่อนหยุดลง จึงเป็นเหตุการณ์ที่ยังไม่ได้ก่อให้เกิดอากาศยานอุบัติเหตุแต่อย่างใด แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปได้ทุกครั้ง หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงปรารถนาขึ้นเราต้องสูญเสียอะไรบ้างกับการไม่ได้ป้องกันกันแต่เนิ่น ๆ เป็นเรื่องที่ผู้ที่เกี่ยวข้องน่าจะนำไปพิจารณาทบทวนดูหรือไม่ โดยรวมแล้วการที่สนามบินมีรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่ง (Open-Air Storm Water Conveyance) อยู่บนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway Strip) ตรงบริเวณที่เรียกว่าพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ(Non-Graded Portion) สามารถทำได้หรือจัดให้มีอยู่ได้โดยไม่ได้ถือว่าเป็นการดำเนินการที่ผิดจากมาตรฐานแต่อย่างใดเพราะ ICAO Annex 14 Vol. 1 เปิดไว้ให้ทำได้เพียงแต่ขอให้พิจารณาติดตั้งให้ไกลที่สุดจากทางวิ่งซึ่งไม่ได้กำหนดว่าระยะเท่าไร ดังนั้นจึงอยู่ในดุลยพินิจของหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินหรือการดำเนินการของสนามบินในแต่ละประเทศที่จะพิจารณากันในมิติต่าง ๆ อย่างรอบคอบ จากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมานี้ซึ่งรวมถึงเนื้อหาในรายงานการประชุมของ ICAO ในครั้งนี้จะเห็นได้ว่า 1. ประเทศบางประเทศอย่างเช่นกรณีของสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐเกาหลีได้มีการพัฒนาให้มีกฎระเบียบหรือกฎหมายด้านความปลอดภัยทางการบินของตนเองที่สูงกว่ามาตรฐานของ ICAO โดยไม่ต้องมีข้อกำหนดด้านมาตรฐานที่ชัดเจนของ ICAO Annex ออกมาแต่อย่างใด 2. มาตรฐานที่ ICAO ออกมาในรูปแบบ Annex ต่าง ๆ ที่ออกมาเพื่อให้แต่ละประเทศนำไปออกเป็นกฎหมายหรือกฎระเบียบข้อบังคับของตนเองนั้นยังมีช่องว่าง (Gap) ส่วนที่จะต้องมีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงให้ดียิ่งขึ้นหรือปลอดภัยมากขึ้นอยู่เสมอ 3. กรณีที่มีเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งอีก โอกาสของ 10 เปอร์เซ็นต์ที่เครื่องบินจะวิ่งเลยไปถึงพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion) ยังมีอยู่หากยังไม่ได้ทำการประเมินความเสี่ยงและมีการกำหนดมาตรการลดความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยเฉพาะสนามบินที่รองรับแบบอากาศยาน (Aircraft Code) ชนิดใหญ่ ๆ ได้ 4. รายงานฉบับสุดท้ายการสอบสวนอากาศยานแบบ Airbus A330-321ที่ไถลออกนอกทางวิ่งที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อ 8 กันยายน 2556 มีการระบุถึงการครูดของคานยึดฐานล้อหลักด้านขวาประมาณ 365 เมตร และวิ่งพ้นขอบทางวิ่งไปบนพื้นดินที่เป็นพื้นที่ปลอดภัยของทางวิ่งระยะทางประมาณ ๑๐๐ เมตรจึงหยุดนิ่ง กรณีเช่นนี้ถ้าหากไม่มีการครูดกับทางวิ่งด้วยระยะทางและความลึกตามรายงานดังกล่าว โอกาสที่อากาศยานอาจจะไปถึงรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งก็เป็นได้เมื่อลองเปรียบเทียบกับกรณีของสายการบิน Asiana Airlines ที่สนามบินฮิโรชิมา อย่างไรก็ตามรายงานผลการสอบสวนฯควรมีข้อแนะนำโดยตรงไปยัง ICAO (Safety recommendations to ICAO) ด้วยหรือไม่ถึงความเป็นไปได้ของสภาวะอันตรายนี้เพื่อให้ ICAO มีการพิจารณาหรืออาจจะทบทวนมาตรฐานกายภาพของทางวิ่งที่ยอมให้มีรางระบายน้ำแบบเปิดโล่งบนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับนี้ ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลที่จะนำสรุปได้ว่าแต่ละประเทศที่มีลักษณะทางกายภาพทางวิ่งของสนามบินแบบนี้โดยเฉพาะประเทศเรานั้นจะดำเนินการไปในในทิศทางใด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะนำมาเสนออีกครั้งการจะทำให้สมดุลกันระหว่างการลงทุนรายจ่ายการป้องกันด้านความปลอดภัย (Protection) กับการสร้างรายได้การดำเนินงาน (Production) เมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้วผู้ที่เกี่ยวข้องจะเลือกวิธีแบบใด และแบบไหนจะยั่งยืนกว่ากัน ประชาชนผู้ใช้บริการสามารถมีส่วนร่วมได้หรือไม่ ข้อมูลทั้งหมดเป็นทัศนคติส่วนบุคคลที่อ้างอิงจากเอกสารและรายงานที่เปิดเผยในเวปไซต์หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ สามารถค้นหาและสืบค้นได้โดยทั่วไป อาจมีข้อมูลบางอย่างที่ไม่ได้กล่าวถึงและข้อมูลบางอย่างปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปแล้วตามช่วงเวลาที่เปลี่ยนไป ผู้อ่านโปรดใช้ดุลยพินิจและพิจารณาอีกครั้ง เอกสารอ้างอิง(สามารสืบค้นได้บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต): 1. ICAO Safety Report 2024Edition 2. ICAO Annex 14 - Aerodrome Design and Operations, 9 edition, July 2022 3. ข้อกำหนดสำนักงานการบินพลเรือนฉบับที่ 37 4. Aircraft Accident Investigation Report, Asiana Airlines INC. HL-7762, November 24,2016 - JTSB 5. www.telegraph.co.uk/travel/news/asiana-plane-skids-off-runway-in-japan-leaving-20-injured/ 6. รายงานฉบับสุดท้ายการสอบสวนอากาศยานแบบ Airbus A330-321 เครื่องหมายสัญชาติและทะเบียน HS-TEFฯ โดยคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักรปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยานประเทศไทย 7. Agenda Item 4: Planning, Design and Construction of Aerodromes/ “Open-Air Strom Water Conveyance in Runway Strip” - The Fifth Meeting of the Asia/Pacific Aerodrome Design and Operations Task Force (AP-ADO/TF/5) Chaing Rai, Thailand 30 January – 2 February 2024 8. Final Report: The Fifth Meeting of the Asia/Pacific Aerodrome Design and Operations Task Force (AP-ADO/TF/5) Chaing Rai, Thailand 30 January – 2 February 2024 9. AIP Japan HIROSHIMA, RJOA AD2-6 (13/9/18) 10. AIP Thailand, AD 2-VTBS-1-16, 28 NOV 24, VTBS AD2.12 RUNWAY PHYSICAL CHARACTERISTICS 11. https://en.wikipedia.org/wiki/Bangkok_Airways_Flight_266 12. https://www.theguardian.com/world/2009/aug/04/thailand-plane-crash 13. https://en.wikipedia.org/wiki/One-Two-Go_Airlines_Flight_269 14. https://www.aviation-accidents.net/jet-airways-boeing-b737-800-vt-jbg-flight-9w2374/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 474 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Oreshnik" อาจถูกใช้ในวันนี้หรือพรุ่งนี้

    ปธน.ปูติน กล่าวถึงปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนหลังการประชุม SEEC (Supreme Eurasian Economic Council) ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

    - เราไม่ตัดทิ้งการใช้คำว่า "Oreshnik" ในวันนี้หรือพรุ่งนี้ หากมีความจำเป็นดังกล่าว มันสำคัญมา มันเป็นสัญญาณสำหรับภูมิรัฐศาสตร์

    - ไบเดนเสนอให้ผมเลื่อนการเข้าร่วมนาโตของยูเครนออกไป 10-15 ปี แต่คุณจะเตรียมมันและยอมรับมัน

    - การสนับสนุนผู้เข้าร่วม SMO เป็นภารกิจหลัก

    - สำหรับผม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนชาวรัสเซีย

    - "ฉันเชื่อในพระเจ้า และพระเจ้าอยู่กับเรา" - คำตอบของปูตินต่อคำถามว่าเขาเชื่อหรือไม่ว่าความขัดแย้งกับยูเครนจะสิ้นสุดในปี 2025

    - เราไม่เคยมีความคิดหยุดส่งก๊าซให้ยุโรป ผมบอกมาเป็นพันครั้ง และขอพูดซ้ำอีกครั้งในวันนี้ โปแลนด์ต่างหากที่เป็นฝ่ายตัดก๊าซส่งไปยุโรป ที่ผ่านบนดินแดนพวกเขา (ท่อส่งยามาล / Yamal pipeline) ท่อส่งปกติดีทุกอย่าง มันยังทำงานได้ ไม่มีใครไปวางระเบิดมัน เพียงแค่กดปุ่ม ก๊าซก็จะไหลผ่านท่อส่งยามาล-ยุโรป
    "Oreshnik" อาจถูกใช้ในวันนี้หรือพรุ่งนี้ ปธน.ปูติน กล่าวถึงปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนหลังการประชุม SEEC (Supreme Eurasian Economic Council) ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก - เราไม่ตัดทิ้งการใช้คำว่า "Oreshnik" ในวันนี้หรือพรุ่งนี้ หากมีความจำเป็นดังกล่าว มันสำคัญมา มันเป็นสัญญาณสำหรับภูมิรัฐศาสตร์ - ไบเดนเสนอให้ผมเลื่อนการเข้าร่วมนาโตของยูเครนออกไป 10-15 ปี แต่คุณจะเตรียมมันและยอมรับมัน - การสนับสนุนผู้เข้าร่วม SMO เป็นภารกิจหลัก - สำหรับผม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนชาวรัสเซีย - "ฉันเชื่อในพระเจ้า และพระเจ้าอยู่กับเรา" - คำตอบของปูตินต่อคำถามว่าเขาเชื่อหรือไม่ว่าความขัดแย้งกับยูเครนจะสิ้นสุดในปี 2025 - เราไม่เคยมีความคิดหยุดส่งก๊าซให้ยุโรป ผมบอกมาเป็นพันครั้ง และขอพูดซ้ำอีกครั้งในวันนี้ โปแลนด์ต่างหากที่เป็นฝ่ายตัดก๊าซส่งไปยุโรป ที่ผ่านบนดินแดนพวกเขา (ท่อส่งยามาล / Yamal pipeline) ท่อส่งปกติดีทุกอย่าง มันยังทำงานได้ ไม่มีใครไปวางระเบิดมัน เพียงแค่กดปุ่ม ก๊าซก็จะไหลผ่านท่อส่งยามาล-ยุโรป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 302 มุมมอง 13 0 รีวิว
  • ## เงื่อนไข Easy E-Receipt ช๊อปสินค้าลดหย่อนภาษี ##
    ..
    ..
    โครงการนี้จะเริ่ม ซื้อสินค้าได้ตั้งแต่ วันที่ 16 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
    .
    โดยนำใบกำกับภาษีดังกล่าวไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีภาษี 2568
    .
    หักลดหย่อนตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท สำหรับ ร้านค้าทั่วไป อีก 20,000 บาท สำหรับ วิสาหกิจชุมชน ร้านโอท็อป
    ...
    ...
    1.ซื้อสินค้าหรือรับบริการจากร้านค้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยต้องมี E-TAX INVOICE แบบเต็มรูปเป็นหลักฐาน
    .
    2.ซื้อสินค้าหรือรับบริการจากร้านค้าที่ไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องเป็นค่าซื้อสินค้าหรือบริการดังต่อไปนี้ และ มี E-RECEIPT เป็นหลักฐาน
    .
    - ค่าซื้อหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร รวมถึงที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (E-BOOK)
    - ค่าซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับ กรมการพัฒนาชุมชนแล้ว
    - ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจชุมชนที่ได้จดทะเบียนต่อ กรมส่งเสริมการเกษตร
    - ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจเพื่อสังคมที่ได้จดทะเบียนต่อสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม
    ..
    ..
    e-Tax Invoice และ e-Receipt ต้องระบุชื่อ นามสกุล และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (เลขประจำตัวประชาชน) ของผู้ซื้อสินค้า หรือ ผู้รับบริการด้วย
    .
    https://shorturl.asia/gMs17
    ## เงื่อนไข Easy E-Receipt ช๊อปสินค้าลดหย่อนภาษี ## .. .. โครงการนี้จะเริ่ม ซื้อสินค้าได้ตั้งแต่ วันที่ 16 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 . โดยนำใบกำกับภาษีดังกล่าวไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีภาษี 2568 . หักลดหย่อนตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท สำหรับ ร้านค้าทั่วไป อีก 20,000 บาท สำหรับ วิสาหกิจชุมชน ร้านโอท็อป ... ... 1.ซื้อสินค้าหรือรับบริการจากร้านค้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยต้องมี E-TAX INVOICE แบบเต็มรูปเป็นหลักฐาน . 2.ซื้อสินค้าหรือรับบริการจากร้านค้าที่ไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องเป็นค่าซื้อสินค้าหรือบริการดังต่อไปนี้ และ มี E-RECEIPT เป็นหลักฐาน . - ค่าซื้อหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร รวมถึงที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (E-BOOK) - ค่าซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับ กรมการพัฒนาชุมชนแล้ว - ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจชุมชนที่ได้จดทะเบียนต่อ กรมส่งเสริมการเกษตร - ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจเพื่อสังคมที่ได้จดทะเบียนต่อสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม .. .. e-Tax Invoice และ e-Receipt ต้องระบุชื่อ นามสกุล และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (เลขประจำตัวประชาชน) ของผู้ซื้อสินค้า หรือ ผู้รับบริการด้วย . https://shorturl.asia/gMs17
    SHORTURL.ASIA
    เช็กเงื่อนไข Easy E-Receipt 2.0 ชอปสินค้าอะไรลดหย่อนภาษี 2568
    หลักเกณฑ์และเงื่อนไขมาตรการ "Easy E-Receipt 2.0" ซื้อสินค้าหรือค่าบริการสามารถนำมาลดหย่อนภาษี สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. - 28 ก.พ.2568
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## เมื่อทักษิณกลับมาใหญ่คับฟ้า จากความยินยอมของคนในประเทศนี้ ##
    ..
    ..
    บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ
    .
    https://shorturl.asia/1xlGS
    ## เมื่อทักษิณกลับมาใหญ่คับฟ้า จากความยินยอมของคนในประเทศนี้ ## .. .. บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ . https://shorturl.asia/1xlGS
    SHORTURL.ASIA
    เมื่อทักษิณกลับมาใหญ่คับฟ้า จากความยินยอมของคนในประเทศนี้
    วันนี้คนในสังคมเริ่มรับรู้กันแล้วว่า ประเทศของเรากำลังปกครองแบบธุรกิจครอบครัวหรือเป็นสมบัติของตระกูลชินวัตร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## ช๊อป ลดหย่อนภาษี มาแล้ว...!!! ##
    ..
    ..
    เห็นเงียบฉี่เลย นึกว่าจะไม่มีซะแล้ว...
    .
    https://shorturl.asia/fI8Y3
    .
    https://shorturl.asia/gMs17
    ## ช๊อป ลดหย่อนภาษี มาแล้ว...!!! ## .. .. เห็นเงียบฉี่เลย นึกว่าจะไม่มีซะแล้ว... . https://shorturl.asia/fI8Y3 . https://shorturl.asia/gMs17
    SHORTURL.ASIA
    ครม.อนุมัติ Easy e-Receipt ลดหย่อนภาษี 2568 สูงสุด 50,000 บาท
    ครม.ส่งท้ายปี ไฟเขียว Easy e-Receipt ลดหย่อนภาษีสูงสุด 50,000 บาท ใช้จ่ายร้านค้าทั่วไป-โอทอป เว้นซื้อสุรา ยาสูบ รถยนต์ ค่าน้ำ-ค่าไฟ ตั้งแต่ 16 ม.ค.-28 ก.พ.2568
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาจารย์ปานเทพ แถลงผลของการทวงถาม นายกรัฐมนตรี หลังครบ 15 วัน ให้เพิกถอน MOU2544 และ JC2544
    .
    เพื่อป้องกัน ประเทศไทย เสียเปรียบ เสียอำนาจอธิปไตย และ สิทธิอธิปไตย ด้านตะวันออกของอ่าวไทย
    .
    https://shorturl.asia/u64sR
    อาจารย์ปานเทพ แถลงผลของการทวงถาม นายกรัฐมนตรี หลังครบ 15 วัน ให้เพิกถอน MOU2544 และ JC2544 . เพื่อป้องกัน ประเทศไทย เสียเปรียบ เสียอำนาจอธิปไตย และ สิทธิอธิปไตย ด้านตะวันออกของอ่าวไทย . https://shorturl.asia/u64sR
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • Live.สด ลุงสนธิ และ อ.ปานเทพ ทวงถาม นายกรัฐมนตรี หลังครบ 15 วันให้เพิกถอน MOU2544 และ JC2544

    https://shorturl.asia/wzC9V
    Live.สด ลุงสนธิ และ อ.ปานเทพ ทวงถาม นายกรัฐมนตรี หลังครบ 15 วันให้เพิกถอน MOU2544 และ JC2544 https://shorturl.asia/wzC9V
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • 23/12/67


    ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ สำหรับผู้ป่วยความดันสูง เบาหวาน& โรคไตที่ต้องควบคุมเรื่อง sodium


    𝑵𝒊𝒛𝒆 𝑺𝒆𝒂𝒔𝒐𝒏𝒊𝒏𝒈𝒔 : เครื่องปรุงเพื่อสุขภาพ
    คัดสรรวัตถุดิบดีที่สุด สำหรับคุณและครอบครัว💙
    🍃 𝐴𝑙𝑙-𝑁𝑎𝑡𝑢𝑟𝑎𝑙

    ✅ ลดโซเดียม
    ❎ ไม่ใส่ผงชูรส
    ❎ ไม่ใส่สารกันเสีย
    ❎ ไม่เจือสีและไม่แต่งกลิ่นสังเคราะห์

    ช่องทางการจำหน่าย

    📌Shopee : https://shope.ee/2AltehUFGY
    📌Lazada : https://bit.ly/2xa6kiH
    📌Tiktok : https://shorturl.asia/2CZXD
    📌ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ Lotus , BigC , Tops , Makro
    📌ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
    cr:nize seasonings
    23/12/67 ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ สำหรับผู้ป่วยความดันสูง เบาหวาน& โรคไตที่ต้องควบคุมเรื่อง sodium 𝑵𝒊𝒛𝒆 𝑺𝒆𝒂𝒔𝒐𝒏𝒊𝒏𝒈𝒔 : เครื่องปรุงเพื่อสุขภาพ คัดสรรวัตถุดิบดีที่สุด สำหรับคุณและครอบครัว💙 🍃 𝐴𝑙𝑙-𝑁𝑎𝑡𝑢𝑟𝑎𝑙 ✅ ลดโซเดียม ❎ ไม่ใส่ผงชูรส ❎ ไม่ใส่สารกันเสีย ❎ ไม่เจือสีและไม่แต่งกลิ่นสังเคราะห์ ช่องทางการจำหน่าย 📌Shopee : https://shope.ee/2AltehUFGY 📌Lazada : https://bit.ly/2xa6kiH 📌Tiktok : https://shorturl.asia/2CZXD 📌ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ Lotus , BigC , Tops , Makro 📌ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ cr:nize seasonings
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇨🇳 ประธานาธิบดีจีน สีจิ้นผิง เข้าร่วมงานกาลาฉลองครบรอบ ๒๕ ปี การกลับคืนสู่มาตุภูมิของมาเก๊า ณ โดมกีฬาเอเชียนเกมส์มาเก๊า
    .
    JUST IN: 🇨🇳 Chinese President Xi Jinping attends a gala, marking the 25th anniversary of Macao's return to the motherland at the Macao East Asian Games Dome.
    .
    11:35 PM · Dec 19, 2024 · 81.8K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1869783512540438722
    🇨🇳 ประธานาธิบดีจีน สีจิ้นผิง เข้าร่วมงานกาลาฉลองครบรอบ ๒๕ ปี การกลับคืนสู่มาตุภูมิของมาเก๊า ณ โดมกีฬาเอเชียนเกมส์มาเก๊า . JUST IN: 🇨🇳 Chinese President Xi Jinping attends a gala, marking the 25th anniversary of Macao's return to the motherland at the Macao East Asian Games Dome. . 11:35 PM · Dec 19, 2024 · 81.8K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1869783512540438722
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 458 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • โนโรไวรัส มาถึงประเทศไทยแล้วนะครับ ดูแลตัวเองกันด้วย....
    .
    https://shorturl.asia/TS56b
    โนโรไวรัส มาถึงประเทศไทยแล้วนะครับ ดูแลตัวเองกันด้วย.... . https://shorturl.asia/TS56b
    SHORTURL.ASIA
    โนโรไวรัส เชื้อร้ายทำให้ท้องเสียเฉียบพลัน ! - รามา แชนแนล
    โนโรไวรัส ทำให้เกิดการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร ส่งผลให้มีอาการท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียนอย่างรุนแรง ถ้ามีภูมิต้านทานต่ำอาการอาจถึงแก่ชีวิตได้
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • จับฉลาก Asian Cup ไทยสบายมาก 10/12/67 # Asian Cup #ทีมชาติไทย #การแข่งขันฟุตบอล
    จับฉลาก Asian Cup ไทยสบายมาก 10/12/67 # Asian Cup #ทีมชาติไทย #การแข่งขันฟุตบอล
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 772 มุมมอง 26 0 รีวิว
  • เมื่อวันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม 2567 เวลา 17.00 น. สํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โพสต์ประกาศ แจ้งความคืบหน้ากรณีการช่วยเหลือผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนจากการจองตั๋วเครื่องบินผ่านแอปพลิเคชัน แอร์เอเชียมูฟ (AirAsia Move) โดยชำระเงินแล้ว แต่ระบบแจ้งว่าการจองไม่สำเร็จ และยังไม่ได้รับเงินคืนแม้เวลาจะผ่านไปหลายเดือนสคบ. ชี้แจงการดําเนินการกรณีผู้บริโภคร้องเรียนจองบัตรโดยสารเครื่องบิน ผ่าน แอปพลิเคชัน AirAsia Moveจากกรณีที่ผู้บริโภคได้จองบัตรโดยสารเครื่องบิน ผ่านแอปพลิเคชัน AirAsia Move ซึ่งผู้บริโภค ได้ชําระเงินแล้ว มีอีเมลมาแจ้งว่าไม่สามารถจองได้สําเร็จ โดยให้ติดต่อขอรับเงินคืน ซึ่งผ่านมาหลายเดือนแล้ว ผู้บริโภคยังไม่ได้เงินคืนสํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคขอชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าวต่อสาธารณะ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคและได้มีการตรวจสอบ ไปยังสายการบิน ไทยแอร์เอเชีย ซึ่งสายการบินแจ้งว่า บริษัท Move Travel Sdn Bhd จํากัด เป็นบริษัทที่ จดทะเบียนนิติบุคคลที่ประเทศมาเลเซีย และเป็นบริษัท ที่ดูแลเว็บไซต์ www.airasia.com แอปพลิเคชัน AirAsia Moveอีกทั้ง สํานักงานคณะกรรมการผู้บริโภค ได้ประสานขอข้อมูลและแนวทางการช่วยเหลือผู้บริโภคกับสํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ในฐานะที่กํากับดูแลสายการบิน ตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 ซึ่งได้รับแจ้งว่ากรณีจองบัตรโดยสารเครื่องบินผ่านแอปพลิเคชัน AirAsia Move นั้น ผู้ให้บริการมีสํานักงานอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย โดยสํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย จะรับไปดําเนินการโดยประสานผ่านผู้ให้บริการ สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย (ในประเทศไทย) เพื่อให้คืนเงินให้กับผู้บริโภคโดยเร็วทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นอีก สํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคและ สํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยจะบูรณาการการทํางานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกําหนด มาตรการในเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภคกรณีดังกล่าวต่อไปจากการตรวจสอบของ สคบ. พบว่า บริษัท Move Travel Sdn Bhd จำกัด ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.airasia.com และแอปพลิเคชัน AirAsia Move เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศมาเลเซียดังนั้น สคบ. จึงได้ประสานงานกับสํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เพื่อขอความช่วยเหลือในการติดต่อบริษัทดังกล่าว ซึ่งทาง สคบ. จะรับเรื่องไปดำเนินการโดยประสานผ่านสายการบินไทยแอร์เอเชียในประเทศไทย เพื่อเร่งรัดให้คืนเงินแก่ผู้บริโภคโดยเร็วที่สุดนอกจากนี้ สคบ. และสํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค และป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนี้
    เมื่อวันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม 2567 เวลา 17.00 น. สํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โพสต์ประกาศ แจ้งความคืบหน้ากรณีการช่วยเหลือผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนจากการจองตั๋วเครื่องบินผ่านแอปพลิเคชัน แอร์เอเชียมูฟ (AirAsia Move) โดยชำระเงินแล้ว แต่ระบบแจ้งว่าการจองไม่สำเร็จ และยังไม่ได้รับเงินคืนแม้เวลาจะผ่านไปหลายเดือนสคบ. ชี้แจงการดําเนินการกรณีผู้บริโภคร้องเรียนจองบัตรโดยสารเครื่องบิน ผ่าน แอปพลิเคชัน AirAsia Moveจากกรณีที่ผู้บริโภคได้จองบัตรโดยสารเครื่องบิน ผ่านแอปพลิเคชัน AirAsia Move ซึ่งผู้บริโภค ได้ชําระเงินแล้ว มีอีเมลมาแจ้งว่าไม่สามารถจองได้สําเร็จ โดยให้ติดต่อขอรับเงินคืน ซึ่งผ่านมาหลายเดือนแล้ว ผู้บริโภคยังไม่ได้เงินคืนสํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคขอชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าวต่อสาธารณะ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคและได้มีการตรวจสอบ ไปยังสายการบิน ไทยแอร์เอเชีย ซึ่งสายการบินแจ้งว่า บริษัท Move Travel Sdn Bhd จํากัด เป็นบริษัทที่ จดทะเบียนนิติบุคคลที่ประเทศมาเลเซีย และเป็นบริษัท ที่ดูแลเว็บไซต์ www.airasia.com แอปพลิเคชัน AirAsia Moveอีกทั้ง สํานักงานคณะกรรมการผู้บริโภค ได้ประสานขอข้อมูลและแนวทางการช่วยเหลือผู้บริโภคกับสํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ในฐานะที่กํากับดูแลสายการบิน ตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 ซึ่งได้รับแจ้งว่ากรณีจองบัตรโดยสารเครื่องบินผ่านแอปพลิเคชัน AirAsia Move นั้น ผู้ให้บริการมีสํานักงานอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย โดยสํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย จะรับไปดําเนินการโดยประสานผ่านผู้ให้บริการ สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย (ในประเทศไทย) เพื่อให้คืนเงินให้กับผู้บริโภคโดยเร็วทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นอีก สํานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคและ สํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยจะบูรณาการการทํางานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกําหนด มาตรการในเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภคกรณีดังกล่าวต่อไปจากการตรวจสอบของ สคบ. พบว่า บริษัท Move Travel Sdn Bhd จำกัด ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.airasia.com และแอปพลิเคชัน AirAsia Move เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศมาเลเซียดังนั้น สคบ. จึงได้ประสานงานกับสํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เพื่อขอความช่วยเหลือในการติดต่อบริษัทดังกล่าว ซึ่งทาง สคบ. จะรับเรื่องไปดำเนินการโดยประสานผ่านสายการบินไทยแอร์เอเชียในประเทศไทย เพื่อเร่งรัดให้คืนเงินแก่ผู้บริโภคโดยเร็วที่สุดนอกจากนี้ สคบ. และสํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค และป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนี้
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายการสินค้าจำหน่ายทั้งปลีก-ส่ง
    ร้านเฮียเมาเจ้พรตลาดปัฐวิกรณ์โครงการใหม่ระหว่างซอยนวมินทร์ 72-74
    โซนด้านหน้าติดถนนนวมินทร์ตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่
    โซนด้านหลังตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่
    โซนด้านหน้าศูนย์อาหารตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่
    โซนฝั่งโรงเรียนบดินทร์ตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่

    #เสื้อเชิ้ต
    #เสื้อเชิ้ต สีขาว
    #เสื้อเชิ้ตลาคอส
    #เสื้อขาว
    #เสื้อยืดพิมพ์ลายสีขาว
    #เสื้อยืดคอกลม
    #เสื้อยืดสีขาว
    #เสื้อยืด
    #เสือสำลี
    #เสื้อถัก
    #ชุดแซกถัก
    #เดรสยีนส์
    #เสื้อผ้าร่ม
    #เสื้อแฟชั่นผู้ญิง โอเวอร์ไซส์
    #เสื้อยืดกีฬา
    #เสื้อวอร์ม
    #เสื้อฮาวาย
    #กางเกงเวสปอยท์ขายาว
    #กางเกงเวสปอยท์ขาสั้น
    #กางเกงขายาวเวสปอยท์กระเป๋าข้าง
    #กางเกงขาสั้น
    #กางเกงกีฬาขาสั้น
    #กางเกงกีฬาขาสั้น
    #กางเกงทรงลุงขาสั้น
    #กางเกงขาสั้นกระเป๋าข้าง
    #กางเกงสแล็ค
    #กางเกงลูกฟูก
    #กางเกงสแล็คขาสั้น
    #กางเกงเอวยืดผู้หญิง
    #กางเกงยีนส์
    #กางเกงยีนส์ลีวาย
    #กางเกงกีฬา
    #กางเกงดิกกี้
    #ผ้าม่าน
    #ผ้าห่ม
    #พรมปูพื้น
    #เสื้อยีนส์
    #เสื้อเชิ้ดยีนส์
    #พรมเช็ดเท้า
    #เสื้อช่าง
    ร้านเฮียเมาเจ้พรตลาดปัฐวิกรณ์โครงการใหม่ระหว่างซอยนวมินทร์ 72-74
    โซนฝั่งโรงเรียนบดินทร์ตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่
    https://shop.line.me/@640eaiee
    LINE ID 0934962777
    Line Open Chat
    https://shorturl.asia/PwpIM

    โทรศัพท์ 0638814705
    0937199406
    0611076355
    #ร้านเฮียเมาเจ้พรตลาดปัฐวิกรณ์โครงการใหม #ร้านเฮียเมาเจ้พรสินค้ามือสอง


    รายการสินค้าจำหน่ายทั้งปลีก-ส่ง ร้านเฮียเมาเจ้พรตลาดปัฐวิกรณ์โครงการใหม่ระหว่างซอยนวมินทร์ 72-74 โซนด้านหน้าติดถนนนวมินทร์ตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่ โซนด้านหลังตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่ โซนด้านหน้าศูนย์อาหารตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่ โซนฝั่งโรงเรียนบดินทร์ตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่ #เสื้อเชิ้ต #เสื้อเชิ้ต สีขาว #เสื้อเชิ้ตลาคอส #เสื้อขาว #เสื้อยืดพิมพ์ลายสีขาว #เสื้อยืดคอกลม #เสื้อยืดสีขาว #เสื้อยืด #เสือสำลี #เสื้อถัก #ชุดแซกถัก #เดรสยีนส์ #เสื้อผ้าร่ม #เสื้อแฟชั่นผู้ญิง โอเวอร์ไซส์ #เสื้อยืดกีฬา #เสื้อวอร์ม #เสื้อฮาวาย #กางเกงเวสปอยท์ขายาว #กางเกงเวสปอยท์ขาสั้น #กางเกงขายาวเวสปอยท์กระเป๋าข้าง #กางเกงขาสั้น #กางเกงกีฬาขาสั้น #กางเกงกีฬาขาสั้น #กางเกงทรงลุงขาสั้น #กางเกงขาสั้นกระเป๋าข้าง #กางเกงสแล็ค #กางเกงลูกฟูก #กางเกงสแล็คขาสั้น #กางเกงเอวยืดผู้หญิง #กางเกงยีนส์ #กางเกงยีนส์ลีวาย #กางเกงกีฬา #กางเกงดิกกี้ #ผ้าม่าน #ผ้าห่ม #พรมปูพื้น #เสื้อยีนส์ #เสื้อเชิ้ดยีนส์ #พรมเช็ดเท้า #เสื้อช่าง ร้านเฮียเมาเจ้พรตลาดปัฐวิกรณ์โครงการใหม่ระหว่างซอยนวมินทร์ 72-74 โซนฝั่งโรงเรียนบดินทร์ตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่ https://shop.line.me/@640eaiee LINE ID 0934962777 Line Open Chat https://shorturl.asia/PwpIM โทรศัพท์ 0638814705 0937199406 0611076355 #ร้านเฮียเมาเจ้พรตลาดปัฐวิกรณ์โครงการใหม #ร้านเฮียเมาเจ้พรสินค้ามือสอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1120 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายการสินค้าจำหน่ายทั้งปลีก-ส่ง
    ร้านเฮียเมาเจ้พรตลาดปัฐวิกรณ์โครงการใหม่ระหว่างซอยนวมินทร์ 72-74
    โซนด้านหน้าติดถนนนวมินทร์ตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่
    โซนด้านหลังตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่
    โซนด้านหน้าศูนย์อาหารตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่
    โซนฝั่งโรงเรียนบดินทร์ตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่

    #เสื้อเชิ้ต
    #เสื้อเชิ้ต สีขาว
    #เสื้อเชิ้ตลาคอส
    #เสื้อขาว
    #เสื้อยืดพิมพ์ลายสีขาว
    #เสื้อยืดคอกลม
    #เสื้อยืดสีขาว
    #เสื้อยืด
    #เสือสำลี
    #เสื้อถัก
    #ชุดแซกถัก
    #เดรสยีนส์
    #เสื้อผ้าร่ม
    #เสื้อแฟชั่นผู้ญิง โอเวอร์ไซส์
    #เสื้อยืดกีฬา
    #เสื้อวอร์ม
    #เสื้อฮาวาย
    #กางเกงเวสปอยท์ขายาว
    #กางเกงเวสปอยท์ขาสั้น
    #กางเกงขายาวเวสปอยท์กระเป๋าข้าง
    #กางเกงขาสั้น
    #กางเกงกีฬาขาสั้น
    #กางเกงกีฬาขาสั้น
    #กางเกงทรงลุงขาสั้น
    #กางเกงขาสั้นกระเป๋าข้าง
    #กางเกงสแล็ค
    #กางเกงลูกฟูก
    #กางเกงสแล็คขาสั้น
    #กางเกงเอวยืดผู้หญิง
    #กางเกงยีนส์
    #กางเกงยีนส์ลีวาย
    #กางเกงกีฬา
    #กางเกงดิกกี้
    #ผ้าม่าน
    #ผ้าห่ม
    #พรมปูพื้น
    #เสื้อยีนส์
    #เสื้อเชิ้ดยีนส์
    #พรมเช็ดเท้า
    #เสื้อช่าง
    ร้านเฮียเมาเจ้พรตลาดปัฐวิกรณ์โครงการใหม่ระหว่างซอยนวมินทร์ 72-74
    โซนฝั่งโรงเรียนบดินทร์ตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่
    https://shop.line.me/@640eaiee
    LINE ID 0934962777
    Line Open Chat
    https://shorturl.asia/PwpIM

    โทรศัพท์ 0638814705
    0937199406
    0611076355
    #ร้านเฮียเมาเจ้พรตลาดปัฐวิกรณ์โครงการใหม #ร้านเฮียเมาเจ้พรสินค้ามือสอง


    รายการสินค้าจำหน่ายทั้งปลีก-ส่ง ร้านเฮียเมาเจ้พรตลาดปัฐวิกรณ์โครงการใหม่ระหว่างซอยนวมินทร์ 72-74 โซนด้านหน้าติดถนนนวมินทร์ตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่ โซนด้านหลังตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่ โซนด้านหน้าศูนย์อาหารตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่ โซนฝั่งโรงเรียนบดินทร์ตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่ #เสื้อเชิ้ต #เสื้อเชิ้ต สีขาว #เสื้อเชิ้ตลาคอส #เสื้อขาว #เสื้อยืดพิมพ์ลายสีขาว #เสื้อยืดคอกลม #เสื้อยืดสีขาว #เสื้อยืด #เสือสำลี #เสื้อถัก #ชุดแซกถัก #เดรสยีนส์ #เสื้อผ้าร่ม #เสื้อแฟชั่นผู้ญิง โอเวอร์ไซส์ #เสื้อยืดกีฬา #เสื้อวอร์ม #เสื้อฮาวาย #กางเกงเวสปอยท์ขายาว #กางเกงเวสปอยท์ขาสั้น #กางเกงขายาวเวสปอยท์กระเป๋าข้าง #กางเกงขาสั้น #กางเกงกีฬาขาสั้น #กางเกงกีฬาขาสั้น #กางเกงทรงลุงขาสั้น #กางเกงขาสั้นกระเป๋าข้าง #กางเกงสแล็ค #กางเกงลูกฟูก #กางเกงสแล็คขาสั้น #กางเกงเอวยืดผู้หญิง #กางเกงยีนส์ #กางเกงยีนส์ลีวาย #กางเกงกีฬา #กางเกงดิกกี้ #ผ้าม่าน #ผ้าห่ม #พรมปูพื้น #เสื้อยีนส์ #เสื้อเชิ้ดยีนส์ #พรมเช็ดเท้า #เสื้อช่าง ร้านเฮียเมาเจ้พรตลาดปัฐวิกรณ์โครงการใหม่ระหว่างซอยนวมินทร์ 72-74 โซนฝั่งโรงเรียนบดินทร์ตลาดปัฐวิกรณ์โรงการใหม่ https://shop.line.me/@640eaiee LINE ID 0934962777 Line Open Chat https://shorturl.asia/PwpIM โทรศัพท์ 0638814705 0937199406 0611076355 #ร้านเฮียเมาเจ้พรตลาดปัฐวิกรณ์โครงการใหม #ร้านเฮียเมาเจ้พรสินค้ามือสอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1059 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⚡รัสเซียอาจติดตั้งขีปนาวุธพิสัยกลาง, พิสัยใกล้ในเอเชีย หากขีปนาวุธของสหรัฐฯ ปรากฏขึ้นที่นั่น

    🗣"แน่นอนว่า, นี่เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ถูกกล่าวถึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า การปรากฏของระบบดังกล่าวของสหรัฐฯในภูมิภาคใดๆของโลก จะกำหนดขั้นตอนต่อไปของเรา, ซึ่งรวมถึงในด้านการจัดการตอบโต้ทางการทหารและทางเทคนิคทางการทหารด้วย," รองรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ รีอาบคอฟ กล่าว
    .
    ⚡RUSSIA MAY DEPLOY MEDIUM, SHORT-RANGE MISSILES IN ASIA IF US MISSILES APPEAR THERE

    🗣"Of course, this is one of the options that has also been repeatedly mentioned. The appearance of such US systems in any region of the world will determine our next steps, including in the field of organizing a military and military-technical response," Russian Deputy Foreign Minister Sergei Ryabkov stated.
    .
    8:34 PM · Nov 25, 2024 · 11.5K Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1861040830821048761
    ⚡รัสเซียอาจติดตั้งขีปนาวุธพิสัยกลาง, พิสัยใกล้ในเอเชีย หากขีปนาวุธของสหรัฐฯ ปรากฏขึ้นที่นั่น 🗣"แน่นอนว่า, นี่เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ถูกกล่าวถึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า การปรากฏของระบบดังกล่าวของสหรัฐฯในภูมิภาคใดๆของโลก จะกำหนดขั้นตอนต่อไปของเรา, ซึ่งรวมถึงในด้านการจัดการตอบโต้ทางการทหารและทางเทคนิคทางการทหารด้วย," รองรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ รีอาบคอฟ กล่าว . ⚡RUSSIA MAY DEPLOY MEDIUM, SHORT-RANGE MISSILES IN ASIA IF US MISSILES APPEAR THERE 🗣"Of course, this is one of the options that has also been repeatedly mentioned. The appearance of such US systems in any region of the world will determine our next steps, including in the field of organizing a military and military-technical response," Russian Deputy Foreign Minister Sergei Ryabkov stated. . 8:34 PM · Nov 25, 2024 · 11.5K Views https://x.com/SputnikInt/status/1861040830821048761
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇷🇺🇺🇸 รัสเซียกล่าวว่า สหรัฐฯกำลังใช้ไต้หวันเพื่อก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ร้ายแรงในเอเชีย

    "เราเห็นว่าวอชิงตัน, ละเมิดหลักการ 'จีนเดียว' ที่ยอมรับ, โดยกำลังเสริมสร้างการติดต่อทางการทหารและการเมืองกับไทเปภายใต้สโลแกนของการรักษา 'สถานะเดิม' และเพิ่มอุปทานอาวุธ

    เป้าหมายของการแทรกแซงกิจการของภูมิภาคนี้ของสหรัฐฯ ที่ชัดเจนเช่นนี้คือเพื่อยั่วยุสาธารณรัฐประชาชนจีน (PRC) และสร้างวิกฤตการณ์ในเอเชียเพื่อให้เป็นไปตามผลประโยชน์เห็นแก่ตัวของตนเอง"
    .
    JUST IN: 🇷🇺🇺🇸 Russia says the United States is using Taiwan to provoke a serious crisis in Asia.

    "We see that Washington, in violation of the 'one China' principle that it recognizes, is strengthening military-political contacts with Taipei under the slogan of maintaining the 'status quo', and increasing arms supplies.

    The goal of such obvious US interference in the region's affairs is to provoke the PRC (People's Republic of China) and generate a crisis in Asia to suit its own selfish interests."
    .
    2:37 PM · Nov 24, 2024 · 143.4K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1860588464095293576
    🇷🇺🇺🇸 รัสเซียกล่าวว่า สหรัฐฯกำลังใช้ไต้หวันเพื่อก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ร้ายแรงในเอเชีย "เราเห็นว่าวอชิงตัน, ละเมิดหลักการ 'จีนเดียว' ที่ยอมรับ, โดยกำลังเสริมสร้างการติดต่อทางการทหารและการเมืองกับไทเปภายใต้สโลแกนของการรักษา 'สถานะเดิม' และเพิ่มอุปทานอาวุธ เป้าหมายของการแทรกแซงกิจการของภูมิภาคนี้ของสหรัฐฯ ที่ชัดเจนเช่นนี้คือเพื่อยั่วยุสาธารณรัฐประชาชนจีน (PRC) และสร้างวิกฤตการณ์ในเอเชียเพื่อให้เป็นไปตามผลประโยชน์เห็นแก่ตัวของตนเอง" . JUST IN: 🇷🇺🇺🇸 Russia says the United States is using Taiwan to provoke a serious crisis in Asia. "We see that Washington, in violation of the 'one China' principle that it recognizes, is strengthening military-political contacts with Taipei under the slogan of maintaining the 'status quo', and increasing arms supplies. The goal of such obvious US interference in the region's affairs is to provoke the PRC (People's Republic of China) and generate a crisis in Asia to suit its own selfish interests." . 2:37 PM · Nov 24, 2024 · 143.4K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1860588464095293576
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 372 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💬สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรกำลังทำสงครามกับสหภาพยุโรปด้วยการคว่ำบาตรรัสเซีย – นักข่าวอิตาลี

    การคว่ำบาตรที่วอชิงตันกดดันให้ประเทศในยุโรปบังคับใช้กับรัสเซียนั้น แท้จริงแล้วกลับส่งผลเสียต่อสหภาพยุโรป (EU) มากกว่า, นักข่าวอิตาลี จอร์โจ เบียนคี กล่าวกับสปุตนิก

    🗨️“ผมรู้สึกว่า นี่คือสงครามของสหรัฐฯไม่ใช่แค่กับรัสเซียเท่านั้น, แต่ยังรวมถึงอิตาลี, เยอรมนี, และฝรั่งเศสด้วย เพราะมาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐฯบังคับให้ประเทศของเราใช้, ผมเรียกว่ามาตรการคว่ำบาตรอัตโนมัติ, มาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้มุ่งเป้ามาที่เราเองมากกว่ารัสเซีย,” เขากล่าว

    เบียนคีเชื่อว่า จริงๆแล้วสหรัฐฯและสหราชอาณาจักรได้รับประโยชน์จากการคว่ำบาตรเหล่านี้มากกว่าการทิ้งระเบิดเขตอุตสาหกรรมของยุโรปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

    🗨️“บริษัทขนาดใหญ่จะย้ายออกจากประเทศ [EU] ไป “บางบริษัทได้ย้ายไปยังเอเชียแล้ว, และตอนนี้พวกเขาจะย้ายไปอเมริกาเพราะมีเงื่อนไขทางธุรกิจที่เอื้ออำนวยมากกว่า,” นักข่าวกล่าวเสริม
    .
    💬US AND UK ARE WAGING WAR AGAINST EU WITH ANTI-RUSSIAN SANCTIONS – Italian journalist

    The sanctions that Washington is pressuring European countries to impose against Russia are actually hurting the European Union (EU) more, Italian journalist Giorgio Bianchi told Sputnik.

    🗨️“I have the impression that this is a US war not only against Russia, but also against Italy, Germany, and France. Because the sanctions that the US has forced our countries to apply, I call them auto-sanctions, these sanctions are directed more against us than against Russia,” he pointed out.

    Bianchi believes that the US and UK have actually benefited far more from these sanctions than from the bombing of Europe’s industrial districts during World War II.

    🗨️“Large companies will simply move out of [EU] countries. Some of them have already moved to Asia, and now they will move to America because of more favorable business conditions,” the journalist added.
    .
    4:14 PM · Nov 23, 2024 · 859 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1860250584944681019
    💬สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรกำลังทำสงครามกับสหภาพยุโรปด้วยการคว่ำบาตรรัสเซีย – นักข่าวอิตาลี การคว่ำบาตรที่วอชิงตันกดดันให้ประเทศในยุโรปบังคับใช้กับรัสเซียนั้น แท้จริงแล้วกลับส่งผลเสียต่อสหภาพยุโรป (EU) มากกว่า, นักข่าวอิตาลี จอร์โจ เบียนคี กล่าวกับสปุตนิก 🗨️“ผมรู้สึกว่า นี่คือสงครามของสหรัฐฯไม่ใช่แค่กับรัสเซียเท่านั้น, แต่ยังรวมถึงอิตาลี, เยอรมนี, และฝรั่งเศสด้วย เพราะมาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐฯบังคับให้ประเทศของเราใช้, ผมเรียกว่ามาตรการคว่ำบาตรอัตโนมัติ, มาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้มุ่งเป้ามาที่เราเองมากกว่ารัสเซีย,” เขากล่าว เบียนคีเชื่อว่า จริงๆแล้วสหรัฐฯและสหราชอาณาจักรได้รับประโยชน์จากการคว่ำบาตรเหล่านี้มากกว่าการทิ้งระเบิดเขตอุตสาหกรรมของยุโรปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง 🗨️“บริษัทขนาดใหญ่จะย้ายออกจากประเทศ [EU] ไป “บางบริษัทได้ย้ายไปยังเอเชียแล้ว, และตอนนี้พวกเขาจะย้ายไปอเมริกาเพราะมีเงื่อนไขทางธุรกิจที่เอื้ออำนวยมากกว่า,” นักข่าวกล่าวเสริม . 💬US AND UK ARE WAGING WAR AGAINST EU WITH ANTI-RUSSIAN SANCTIONS – Italian journalist The sanctions that Washington is pressuring European countries to impose against Russia are actually hurting the European Union (EU) more, Italian journalist Giorgio Bianchi told Sputnik. 🗨️“I have the impression that this is a US war not only against Russia, but also against Italy, Germany, and France. Because the sanctions that the US has forced our countries to apply, I call them auto-sanctions, these sanctions are directed more against us than against Russia,” he pointed out. Bianchi believes that the US and UK have actually benefited far more from these sanctions than from the bombing of Europe’s industrial districts during World War II. 🗨️“Large companies will simply move out of [EU] countries. Some of them have already moved to Asia, and now they will move to America because of more favorable business conditions,” the journalist added. . 4:14 PM · Nov 23, 2024 · 859 Views https://x.com/SputnikInt/status/1860250584944681019
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 322 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts