• จิรวัฒน์ (จิ) 📲 0️⃣9️⃣0️⃣-9️⃣6️⃣4️⃣-1️⃣9️⃣9️⃣6️⃣
    ไอดีไลน์ : 0️⃣9️⃣0️⃣9️⃣6️⃣4️⃣1️⃣9️⃣9️⃣6️⃣

    Commuter 3.0 ปี 2015 ไมล์ 251,457 km
    เครื่องยนต์ดีเซล,เกียร์,ช่วงล่าง สมบูรณ์ รถขับดีมาก
    ภายในสวย ใช้ต่อได้เลย เอกสารครบพร้อมโอน

    -จัดไฟแนนซ์ได้เต็ม, ฟรีดาวน์
    -ซื้อสดไม่มี Vat7%
    -กล้องมองหลังขณะถอย
    -เครื่องดีเซล

    ขาย 479,000 บาท
    Commuter จัดไฟแนนซ์ 479,000 บาท
    4ปี 13561 บาท
    5ปี 11532 บาท
    6ปี 10739 บาท
    7ปี 9732 บาท
    จิรวัฒน์ (จิ) 📲 0️⃣9️⃣0️⃣-9️⃣6️⃣4️⃣-1️⃣9️⃣9️⃣6️⃣ ไอดีไลน์ : 0️⃣9️⃣0️⃣9️⃣6️⃣4️⃣1️⃣9️⃣9️⃣6️⃣ Commuter 3.0 ปี 2015 ไมล์ 251,457 km เครื่องยนต์ดีเซล,เกียร์,ช่วงล่าง สมบูรณ์ รถขับดีมาก ภายในสวย ใช้ต่อได้เลย เอกสารครบพร้อมโอน -จัดไฟแนนซ์ได้เต็ม, ฟรีดาวน์ -ซื้อสดไม่มี Vat7% -กล้องมองหลังขณะถอย -เครื่องดีเซล ขาย 479,000 บาท Commuter จัดไฟแนนซ์ 479,000 บาท 4ปี 13561 บาท 5ปี 11532 บาท 6ปี 10739 บาท 7ปี 9732 บาท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความไม่สงบชายแดนใต้ ปัญหาที่คอยตบหน้ารัฐบาลไม่มีวันจบ
    นับจากเหตุการณ์ปล้นปืนในปี 2547อันเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นเหตุการณ์ความไม่สงบ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จวบจนวันนี้เป็นเวลากว่า 20ปี ที่ผ่านมา ที่รัฐบาลไทยภายใต้การบริหารของรัฐบาล 10 ชุด นายกรัฐมนตรี 8 คนไม่สามารถแก้ไขปัญหาความรุนแรงได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
    ตัวเลขของผู้เสียชีวิต มีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งไทยพุทธ และมุสลิมเสียชีวิตมากกว่าเจ็ดพันคน บาดเจ็บและพิการทุพพลภาพมากกว่า2พัน คนใช้งบประมาณในการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องรวมกันแล้วมากกว่า 3.13แสนล้านบาท
    ล่าสุดหลังผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่ไปได้สัปดาห์เดียว 14 มกราคม 68โจรใต้ได้ก่อเหตุวางระเบิดและยิงซ้ําเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นครูโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนเสียชีวิตอีก 2 นายที่จังหวัดนราธิวาส สิ่งที่สร้างความสะเทือนใจจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็คือผู้เสียชีวิตทั้ง2 นายเป็นพ่อลูกทําหน้าที่ครูโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนในพื้นที่บ้านไอกึนเนาะ จังหวัดนราธิวาส โดยผู้เป็นพ่อคือพันตํารวจโทสุวิทย์ ช่วยเทวฤทธิ์อายุ 56 ปีเป็นครูใหญ่ของโรงเรียน ส่วนลูกชายคือดาบตํารวจโดมช่วยเทวฤทธิ์ อายุ 35ปี เป็นครูอาสาโรงเรียนเดียวกัน
    ครูสุวิทย์เคยเปิดใจให้สัมภาษณ์ว่าผมตั้งใจไว้ตั้งแต่เด็กสักวันจะเป็นครูอยากช่วยเหลือเด็กในพื้นที่ที่ทุรกันดารจึงเข้ามาเป็นครู โดยได้สิทธิสอบบรรจุ ครูคุรุทายาทเมื่อได้จึงเลือกที่จะทํางานในพื้นที่ของจังหวัดนราธิวาสที่ใครๆก็ไม่อยากมาแต่ผมกลับมองว่าเป็นโอกาสดี
    ที่จะได้ทํางานสนองงานพระราชดําริทุกพระองค์ได้อย่างเต็มที่ การสูญเสียวีรบุรุษครูตํารวจตระเวนชายแดนครั้งนี้ไม่ต่างอะไรกับการเย้ยหยันตบหน้ารัฐบาลไทยว่ารัฐไทยหมดน้ํายาแพ้พ่ายโจรก่อการร้ายชายแดนใต้ตลอดกาล งส์โพธิ์ดำขอไว้อาลัยแก่ครูผู้เสียสละจากเหตุการณ์ความไม่สงบในชายแดนใต้ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ความไม่สงบชายแดนใต้ ปัญหาที่คอยตบหน้ารัฐบาลไม่มีวันจบ นับจากเหตุการณ์ปล้นปืนในปี 2547อันเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นเหตุการณ์ความไม่สงบ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จวบจนวันนี้เป็นเวลากว่า 20ปี ที่ผ่านมา ที่รัฐบาลไทยภายใต้การบริหารของรัฐบาล 10 ชุด นายกรัฐมนตรี 8 คนไม่สามารถแก้ไขปัญหาความรุนแรงได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ตัวเลขของผู้เสียชีวิต มีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งไทยพุทธ และมุสลิมเสียชีวิตมากกว่าเจ็ดพันคน บาดเจ็บและพิการทุพพลภาพมากกว่า2พัน คนใช้งบประมาณในการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องรวมกันแล้วมากกว่า 3.13แสนล้านบาท ล่าสุดหลังผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่ไปได้สัปดาห์เดียว 14 มกราคม 68โจรใต้ได้ก่อเหตุวางระเบิดและยิงซ้ําเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นครูโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนเสียชีวิตอีก 2 นายที่จังหวัดนราธิวาส สิ่งที่สร้างความสะเทือนใจจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็คือผู้เสียชีวิตทั้ง2 นายเป็นพ่อลูกทําหน้าที่ครูโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนในพื้นที่บ้านไอกึนเนาะ จังหวัดนราธิวาส โดยผู้เป็นพ่อคือพันตํารวจโทสุวิทย์ ช่วยเทวฤทธิ์อายุ 56 ปีเป็นครูใหญ่ของโรงเรียน ส่วนลูกชายคือดาบตํารวจโดมช่วยเทวฤทธิ์ อายุ 35ปี เป็นครูอาสาโรงเรียนเดียวกัน ครูสุวิทย์เคยเปิดใจให้สัมภาษณ์ว่าผมตั้งใจไว้ตั้งแต่เด็กสักวันจะเป็นครูอยากช่วยเหลือเด็กในพื้นที่ที่ทุรกันดารจึงเข้ามาเป็นครู โดยได้สิทธิสอบบรรจุ ครูคุรุทายาทเมื่อได้จึงเลือกที่จะทํางานในพื้นที่ของจังหวัดนราธิวาสที่ใครๆก็ไม่อยากมาแต่ผมกลับมองว่าเป็นโอกาสดี ที่จะได้ทํางานสนองงานพระราชดําริทุกพระองค์ได้อย่างเต็มที่ การสูญเสียวีรบุรุษครูตํารวจตระเวนชายแดนครั้งนี้ไม่ต่างอะไรกับการเย้ยหยันตบหน้ารัฐบาลไทยว่ารัฐไทยหมดน้ํายาแพ้พ่ายโจรก่อการร้ายชายแดนใต้ตลอดกาล งส์โพธิ์ดำขอไว้อาลัยแก่ครูผู้เสียสละจากเหตุการณ์ความไม่สงบในชายแดนใต้ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 354 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัทไทยเพิ่งชนะประมูลผลิตไฟจากโซลาร์ฟาร์มที่อินเดียราคา 1.09 บาทตลอด25ปี แต่นายกฯจะให้กกพ.รับซื้อราคา 2.17 บาทตลอด 25 ปี!!??

    ข่าวจากฐานเศรษฐกิจว่าบริษัทGPSC ของไทยคว้าโซลาร์ฯ ในอินเดียกำลังผลิต 421 เมกฯเพิ่มไฟฟ้าสีเขียว ดันกำลังการผลิตในประเทศอินเดียพุ่งสูงกว่า 5,000 เมกะวัตต์ ในราคา2.70 รูปี (0.03ดอลลาร์สหรัฐ) เทียบเป็นเงินไทย 1.09 บาท/หน่วย เป็นเวลา 25ปี

    ตามเงื่อนไขการประมูล ซึ่งจะมีการลงนามซื้อขายไฟฟ้า หรือ PPA ที่มีอายุสัญญารับซื้อเป็นเวลา 25 ปี แผนการดำเนินโครงการต้องให้แล้วเสร็จภายใน 18 เดือน โดยคาดว่าจะผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 750 ล้านหน่วยต่อปี สามารถจ่ายไฟฟ้าครอบคลุมภาคครัวเรือน ประมาณ 5 แสนครัวเรือนด้วยพลังงานสะอาด และยังมีส่วนสำคัญต่อการลดการปล่อย CO2 สู่ชั้นบรรยากาศเทียบเท่า 698,250 ตันต่อปี

    อินเดียประมูลซื้อขายไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ลดลงตลอดอย่างน่าทึ่ง เมื่อเดือนสิงหาคม 2567 อินเดียประมูลซื้อไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ได้ในราคา 1.44 บาท/หน่วย พร้อมแบตเตอรี่

    แต่ประเทศไทยโดย คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)ภายใต้นโยบายของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)ที่มีนายกรัฐมนตรี
    แพทองธารเป็นประธาน ประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากแสงแดดในราคา 2.17 บาท/หน่วยโดยไม่มีแบตเตอรี่ เป็นเวลา25ปี และให้เวลาเข้าสู่ระบบได้ตั้งแต่ 2-5 ปี (2570-2573) ตามแผนพัฒนาพลังงาน(PDP) 2018

    ต้องถามว่ากกพ.ประกาศทำตามมติ กพช. ที่ให้ล็อคทั้งชื่อบริษัท และ ราคา โดยไม่ใช่การประมูล เรียกว่าเหมือนการประกวดนางงามบริษัทที่ใช้ดุลยพินิจเป็นหลัก บริษัทที่ผ่านเข้ารอบดูเพียงคุณสมบัติ แต่ไม่ให้มีการประมูลราคาที่บริษัทจะขายในราคาต่ำที่สุดซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนผู้ใช้ไฟอย่างแท้จริง

    ที่น่าสนใจคือ บริษัทGPSC ที่ชนะการประมูลผลิตโซลาร์ฟาร์มที่อินเดียในราคา 1.09 บาท ก็อยู่ในลิสต์รายชื่อบริษัทอันดับที่5 เสนอขายไฟฟ้า 118 เมกกะวัตต์ ที่กกพ.จะประกาศให้เป็นผู้มาทำสัญญาขายไฟในราคา 2.17 บาทโดยไม่มีแบตเตอรี่ (การมีแบตเตอรี่จะทำให้สามารถจ่ายไฟได้ทั้งกลางวันและกลางคืน)

    ส่วนการไฟฟ้าฝ่ายผลิต(กฟผ.) เสนอว่าสามารถผลิตได้ในราคา 1.50 บาท/หน่วย แต่ กกพ. ไม่ให้มาแข่งกับเอกชน ซึ่งที่จริงไม่ใช่การแข่งด้วยซ้ำ
    เพราะกพช. กำหนดราคาตายตัวไว้เลยที่2.17 บาท/หน่วย แสดงว่าจงใจให้บริษัทเอกชนได้กำไรเห็นๆ ไปยาวๆ 25ปี และไม่ต้องการให้กฟผ.ผลิตทั้งที่ทำได้ถูกกว่า เเละกฟผ.มีหน้าที่ผลิตไฟฟ้าโดยตรง แต่กำลังจะทำให้ กฟผ.กลายเป็น กฟซ.
    หรือการไฟฟ้าฝ่ายซื้อ(ไฟแพง)จากเอกชนมาขายประชาชนเป็นหลัก

    ราคาพลังงานไฟฟ้าไม่มีทางถูกในระบบผูกขาดกินรวบของระบอบธุรกิจการเมือง

    ค่าไฟถูกจะเป็นเพียงกลยุทธ์ประชานิยมเพื่อหวังสร้างคะแนนเสียงชั่วครั้งชั่วคราวของรัฐบาลและพรรคการเมืองเท่านั้น

    ถ้าจะทำให้ค่าไฟราคาถูกอย่างเป็นธรรมได้ ต้องปรับโครงสร้างพลังงานให้โปร่งใส มีธรรมาภิบาล และไม่ผูกขาดเท่านั้น ที่ประชาชนจะได้ค่าไฟที่เป็นธรรมอย่างถาวร

    ประชาชนควรตั้งคำถามว่ารัฐบาลไทยโง่กว่ารัฐบาลประเทศอื่น หรือจงใจคอร์รัปชันเชิงนโยบายผ่องถ่ายกำไรมหาศาลให้กลุ่มธุรกิจเอกชนกันแน่??!!

    รสนา โตสิตระกูล
    10 มกราคม 2568
    บริษัทไทยเพิ่งชนะประมูลผลิตไฟจากโซลาร์ฟาร์มที่อินเดียราคา 1.09 บาทตลอด25ปี แต่นายกฯจะให้กกพ.รับซื้อราคา 2.17 บาทตลอด 25 ปี!!?? ข่าวจากฐานเศรษฐกิจว่าบริษัทGPSC ของไทยคว้าโซลาร์ฯ ในอินเดียกำลังผลิต 421 เมกฯเพิ่มไฟฟ้าสีเขียว ดันกำลังการผลิตในประเทศอินเดียพุ่งสูงกว่า 5,000 เมกะวัตต์ ในราคา2.70 รูปี (0.03ดอลลาร์สหรัฐ) เทียบเป็นเงินไทย 1.09 บาท/หน่วย เป็นเวลา 25ปี ตามเงื่อนไขการประมูล ซึ่งจะมีการลงนามซื้อขายไฟฟ้า หรือ PPA ที่มีอายุสัญญารับซื้อเป็นเวลา 25 ปี แผนการดำเนินโครงการต้องให้แล้วเสร็จภายใน 18 เดือน โดยคาดว่าจะผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 750 ล้านหน่วยต่อปี สามารถจ่ายไฟฟ้าครอบคลุมภาคครัวเรือน ประมาณ 5 แสนครัวเรือนด้วยพลังงานสะอาด และยังมีส่วนสำคัญต่อการลดการปล่อย CO2 สู่ชั้นบรรยากาศเทียบเท่า 698,250 ตันต่อปี อินเดียประมูลซื้อขายไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ลดลงตลอดอย่างน่าทึ่ง เมื่อเดือนสิงหาคม 2567 อินเดียประมูลซื้อไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ได้ในราคา 1.44 บาท/หน่วย พร้อมแบตเตอรี่ แต่ประเทศไทยโดย คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)ภายใต้นโยบายของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)ที่มีนายกรัฐมนตรี แพทองธารเป็นประธาน ประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากแสงแดดในราคา 2.17 บาท/หน่วยโดยไม่มีแบตเตอรี่ เป็นเวลา25ปี และให้เวลาเข้าสู่ระบบได้ตั้งแต่ 2-5 ปี (2570-2573) ตามแผนพัฒนาพลังงาน(PDP) 2018 ต้องถามว่ากกพ.ประกาศทำตามมติ กพช. ที่ให้ล็อคทั้งชื่อบริษัท และ ราคา โดยไม่ใช่การประมูล เรียกว่าเหมือนการประกวดนางงามบริษัทที่ใช้ดุลยพินิจเป็นหลัก บริษัทที่ผ่านเข้ารอบดูเพียงคุณสมบัติ แต่ไม่ให้มีการประมูลราคาที่บริษัทจะขายในราคาต่ำที่สุดซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนผู้ใช้ไฟอย่างแท้จริง ที่น่าสนใจคือ บริษัทGPSC ที่ชนะการประมูลผลิตโซลาร์ฟาร์มที่อินเดียในราคา 1.09 บาท ก็อยู่ในลิสต์รายชื่อบริษัทอันดับที่5 เสนอขายไฟฟ้า 118 เมกกะวัตต์ ที่กกพ.จะประกาศให้เป็นผู้มาทำสัญญาขายไฟในราคา 2.17 บาทโดยไม่มีแบตเตอรี่ (การมีแบตเตอรี่จะทำให้สามารถจ่ายไฟได้ทั้งกลางวันและกลางคืน) ส่วนการไฟฟ้าฝ่ายผลิต(กฟผ.) เสนอว่าสามารถผลิตได้ในราคา 1.50 บาท/หน่วย แต่ กกพ. ไม่ให้มาแข่งกับเอกชน ซึ่งที่จริงไม่ใช่การแข่งด้วยซ้ำ เพราะกพช. กำหนดราคาตายตัวไว้เลยที่2.17 บาท/หน่วย แสดงว่าจงใจให้บริษัทเอกชนได้กำไรเห็นๆ ไปยาวๆ 25ปี และไม่ต้องการให้กฟผ.ผลิตทั้งที่ทำได้ถูกกว่า เเละกฟผ.มีหน้าที่ผลิตไฟฟ้าโดยตรง แต่กำลังจะทำให้ กฟผ.กลายเป็น กฟซ. หรือการไฟฟ้าฝ่ายซื้อ(ไฟแพง)จากเอกชนมาขายประชาชนเป็นหลัก ราคาพลังงานไฟฟ้าไม่มีทางถูกในระบบผูกขาดกินรวบของระบอบธุรกิจการเมือง ค่าไฟถูกจะเป็นเพียงกลยุทธ์ประชานิยมเพื่อหวังสร้างคะแนนเสียงชั่วครั้งชั่วคราวของรัฐบาลและพรรคการเมืองเท่านั้น ถ้าจะทำให้ค่าไฟราคาถูกอย่างเป็นธรรมได้ ต้องปรับโครงสร้างพลังงานให้โปร่งใส มีธรรมาภิบาล และไม่ผูกขาดเท่านั้น ที่ประชาชนจะได้ค่าไฟที่เป็นธรรมอย่างถาวร ประชาชนควรตั้งคำถามว่ารัฐบาลไทยโง่กว่ารัฐบาลประเทศอื่น หรือจงใจคอร์รัปชันเชิงนโยบายผ่องถ่ายกำไรมหาศาลให้กลุ่มธุรกิจเอกชนกันแน่??!! รสนา โตสิตระกูล 10 มกราคม 2568
    Like
    6
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 605 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย สกัดจับหนุ่มจีน วัย 25ปีลักลอบเข้าเมืองข้ามแม่น้ำโขงเข้าหนองคายปลายทางเชียงใหม่ พร้อมจับผู้นำพาเข้าประเทศ หนุ่มจีนอ้างมีคนติดต่อมาทำงานที่เชียงใหม่ มีรายได้ดีถึง 2 ล้านบาทภายใน 7 วัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000000691

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย สกัดจับหนุ่มจีน วัย 25ปีลักลอบเข้าเมืองข้ามแม่น้ำโขงเข้าหนองคายปลายทางเชียงใหม่ พร้อมจับผู้นำพาเข้าประเทศ หนุ่มจีนอ้างมีคนติดต่อมาทำงานที่เชียงใหม่ มีรายได้ดีถึง 2 ล้านบาทภายใน 7 วัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000000691 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1433 มุมมอง 0 รีวิว
  • ครื่องทำน้ำอุ่น Toshiba the-45wth(w)#เครื่องทำน้ำอุ่น #toshiba #รับประกัน #5ปี #ร้อนไว #เครื่องทำน้ำอุ่น Toshiba the-45wth(w)พิกัด📍Shopee:https://s.shopee.co.th/1qL2dzsU9Q LAZADA:https://s.lazada.co.th/s.IpJi1 .
    ครื่องทำน้ำอุ่น Toshiba the-45wth(w)#เครื่องทำน้ำอุ่น #toshiba #รับประกัน #5ปี #ร้อนไว #เครื่องทำน้ำอุ่น Toshiba the-45wth(w)พิกัด📍Shopee:https://s.shopee.co.th/1qL2dzsU9Q LAZADA:https://s.lazada.co.th/s.IpJi1 .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 582 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • เสียงสัมภาษณ์เกษตรกรผู้ใช้จริงปลูกทุเรียน5ปีต้นเล็ก ‼️แคระเกร็น‼️ ไม่โต‼️ไม่แตกราก‼️ไม่แตกยอด‼️ไม่แตกใบ‼️ ใบเหลือง ‼️ใบตก‼️ใช้สยามเห็นผลจริงเห็นผลเร็ว
    #ธรณีสยาม #นารายณ์พลิกแผ่นดิน #นารายณ์พริกแผ่นดินบิ๊กแจ๊สจัดให้ #ดินเน่าดินเสีย #สารปรับสภาพดิน #ราดเน่าโคตรเน่า #เชื้อรา #ทุเรียน #เกษตร #ชาวสวนทุเรียน
    เสียงสัมภาษณ์เกษตรกรผู้ใช้จริงปลูกทุเรียน5ปีต้นเล็ก ‼️แคระเกร็น‼️ ไม่โต‼️ไม่แตกราก‼️ไม่แตกยอด‼️ไม่แตกใบ‼️ ใบเหลือง ‼️ใบตก‼️ใช้สยามเห็นผลจริงเห็นผลเร็ว #ธรณีสยาม #นารายณ์พลิกแผ่นดิน #นารายณ์พริกแผ่นดินบิ๊กแจ๊สจัดให้ #ดินเน่าดินเสีย #สารปรับสภาพดิน #ราดเน่าโคตรเน่า #เชื้อรา #ทุเรียน #เกษตร #ชาวสวนทุเรียน
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 556 มุมมอง 67 0 รีวิว
  • ...ฉันเกิดในรัชกาลที่ ๙...เกิดมาระหว่างทางสองทางที่เห็นทั้งความเจริญและความยากลำบาก ต้องพลัดพรากจากพ่อและแม่ทั้งๆที่ฉันยังไม่อดนมเลย พี่สาวที่เป็นเหมือนแม่คนที่สองเธอเล่าให้ฟังว่าบางครั้งแม่ต้องขึ้นเหนือเดินทางไปค้าขายสินค้าครอบครัวเราเป็นคนค้าขายทิ้งให้ฉันอยู่กับพี่สาวฉันจะไม่ดื่มนมสัตว์พี่สาวชงนมให้ฉันๆจะอ๊วกตลอดพี่ต้องขอลูกค้าที่มีลูกอ่อนที่มาซื้อของที่ร้านขอนมให้น้องกินหน่อย ฉันจึงมีแม่นมหลายคนมากช่วยให้นมในช่วงที่แม่ไม่อยู่บ้านบางครั้ง15วัน.บางครั้งเป็นเดือนๆแต่พี่จะบอกว่าฉันเลี้ยงง่ายไม่เคยร้องไห้หิวนมเลยพี่สงสารครั้งหนึ่งเธอให้ฉันดื่มนมเธอแต่มันไม่มีน้ำนมเพราะเธอเพิ่งแรกสาวอายุ15ปียังไม่มีแฟนเลย เล่าไปก็ขำเอ็นดูความเป็นเด็กคิดดีแต่ไม่เข้าใจ😊ฉันผูกพันกับเธอมากรักพี่สาวคนนี้ที่สุดเลยแล้ววันหนึ่งเธอก็จากไปไม่มีวันกลับมาอีกเลย💔หัวใจสลายอีกแล้ว ความรักนี่มันเจ็บจริงๆนะ🖤#15102567"13:00น.
    ...ฉันเกิดในรัชกาลที่ ๙...เกิดมาระหว่างทางสองทางที่เห็นทั้งความเจริญและความยากลำบาก ต้องพลัดพรากจากพ่อและแม่ทั้งๆที่ฉันยังไม่อดนมเลย พี่สาวที่เป็นเหมือนแม่คนที่สองเธอเล่าให้ฟังว่าบางครั้งแม่ต้องขึ้นเหนือเดินทางไปค้าขายสินค้าครอบครัวเราเป็นคนค้าขายทิ้งให้ฉันอยู่กับพี่สาวฉันจะไม่ดื่มนมสัตว์พี่สาวชงนมให้ฉันๆจะอ๊วกตลอดพี่ต้องขอลูกค้าที่มีลูกอ่อนที่มาซื้อของที่ร้านขอนมให้น้องกินหน่อย ฉันจึงมีแม่นมหลายคนมากช่วยให้นมในช่วงที่แม่ไม่อยู่บ้านบางครั้ง15วัน.บางครั้งเป็นเดือนๆแต่พี่จะบอกว่าฉันเลี้ยงง่ายไม่เคยร้องไห้หิวนมเลยพี่สงสารครั้งหนึ่งเธอให้ฉันดื่มนมเธอแต่มันไม่มีน้ำนมเพราะเธอเพิ่งแรกสาวอายุ15ปียังไม่มีแฟนเลย เล่าไปก็ขำเอ็นดูความเป็นเด็กคิดดีแต่ไม่เข้าใจ😊ฉันผูกพันกับเธอมากรักพี่สาวคนนี้ที่สุดเลยแล้ววันหนึ่งเธอก็จากไปไม่มีวันกลับมาอีกเลย💔หัวใจสลายอีกแล้ว ความรักนี่มันเจ็บจริงๆนะ🖤#15102567"13:00น.
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • เด็กทำได้มากกว่าที่เราคิด //ลองสอนเด็กๆสานหวายเทียมเมื่อ5ปีที่แล้วครับ
    เด็กทำได้มากกว่าที่เราคิด //ลองสอนเด็กๆสานหวายเทียมเมื่อ5ปีที่แล้วครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว

  • 28 กันยายน 2567-ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์ในเฟซบุ๊ก 'Sonthi Kotchawat เตือนภัยพิบัติน้ำท่วมจะรุนแรงในปี2573 โดยระบุว่า

    “ปี2573ภัยพิบัติน้ำท่วมจะรุนแรง

    1.NASA ทำนายว่าตั้งแต่บัดนี้จนถึงปี 2030 หรือ พ.ศ.2573 พื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วมเนื่อง จากมรสุมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะเกิดบ่อยขึ้น และรุนแรงขึ้นโดยเฉพาะในพื้นที่เดิมที่เคยเกิดขึ้น และคาดการณ์ว่าประชาชนประมาณครึ่งหนึ่งของโลก ที่อยู่ริมชายฝั่งทะเลและริมแหล่งน้ำจะประสบปัญหาเรื่องน้ำท่วม,พายุและสึนามิ อย่างรุนแรงในปี2573

    2. ดังนั้นพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมดินถล่ม ของประเทศไทยในปีนี้อาจจะเกิดซ้ำอีกครั้งอย่างรุนแรงในปี 2573 เช่นกัน ประเทศ ไทยตามการคาดการณ์จะเกิดซ้ำทุก2 ถึง 5ปีตามรูปแรก ระวังตัวด้วย!”

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/DVTtmuMHnATU7PSe/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    28 กันยายน 2567-ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์ในเฟซบุ๊ก 'Sonthi Kotchawat เตือนภัยพิบัติน้ำท่วมจะรุนแรงในปี2573 โดยระบุว่า “ปี2573ภัยพิบัติน้ำท่วมจะรุนแรง 1.NASA ทำนายว่าตั้งแต่บัดนี้จนถึงปี 2030 หรือ พ.ศ.2573 พื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วมเนื่อง จากมรสุมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะเกิดบ่อยขึ้น และรุนแรงขึ้นโดยเฉพาะในพื้นที่เดิมที่เคยเกิดขึ้น และคาดการณ์ว่าประชาชนประมาณครึ่งหนึ่งของโลก ที่อยู่ริมชายฝั่งทะเลและริมแหล่งน้ำจะประสบปัญหาเรื่องน้ำท่วม,พายุและสึนามิ อย่างรุนแรงในปี2573 2. ดังนั้นพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมดินถล่ม ของประเทศไทยในปีนี้อาจจะเกิดซ้ำอีกครั้งอย่างรุนแรงในปี 2573 เช่นกัน ประเทศ ไทยตามการคาดการณ์จะเกิดซ้ำทุก2 ถึง 5ปีตามรูปแรก ระวังตัวด้วย!” ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/DVTtmuMHnATU7PSe/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    Yay
    5
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 2018 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..คนไทยเราทุกๆคน อย่าประมาทว่าอาจไม่จริง วัคซีนไม่ใช่สาเหตุโรควูบหรอก อย่าประมาทขนาดนั้น,แม้1เข็ม ก็สามารถแข้งขาเดินผิดปกติได้ ,เคยเจอคนรู้จักแล้วถามเขามาแล้ว ปกติก่อนฉีดวัคซีนโควิดก็ไม่เป็นอะไร หลังฉีดแค่1เข็ม เดินผิดปกติไม่เหมือนเดิมเลยเห็นคนขาเป๋เดินอย่างไรก็ใกล้เต็มร้อยขนาดนั้นล่ะ,เจอของแท้อาจแสดงอาการเร็ว มีขนาด10%20%50%70%&100%บีบเลือดออกมาเป็นลิ่มเลือดแบบต่างประเทศทันทีเลยก็มี.
    ..วัคซีนอันตรายมาก
    ..มันกำลังออกฤทธิ์แล้ว 1เข็มภายใน3-7ปีหรือ10ปีทำลายภูมิฯไปเรื่อยๆ,2เข็มออกฤทธิ์ภายใน5ปี ,3เข็มขึ้นไปออกฤทธิ์เร็วขึ้นแล้วแต่ยี่ห้อด้วยอีก ภายใน3-4ปีอักเสบแน่นอน บางร้ายไม่ถึง1-2ปี มะเร็งโทเบอร์สาระพัดส่วนของร่างกายปรากฎขึ้น เหล้า บุหรี่ สิ่งเสพติดของมึนเมาไม่เคยแตะ.
    ..โรควูบแค่พื้นฐานที่ใครที่ฉีดๆมาต้องเจอกันทุกๆคนก็ว่า,ร้ายแรงช่วยไม่ทันก็คร่าชีวิตคนๆนั้นทันทีได้เช่นกัน
    ..เราคนไทยถูกหลอกลวงให้ไปฉีดผ่านสื่อหลักที่เชียร์จนแห่ฉีดกว่า60ล้านคนไทยจริงทั่วประเทศ,คนปกครองผู้มีอำนาจปกครองประเทศไทยเรามันไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนคนไทยเลย.,น่าผิดหวังมั้ยล่ะ.
    ..ทำงานปกติเพื่อต่อสู้กับชีวิตในสังคมทั้งเพื่อที่ตนรักรออยู่ข้างหลัง ต้องจากไปขณะทำงาน ครอบครัวเขาสูญเสียคนที่เป็นที่รักของเขาไป ไม่เจอกับตัวไม่รู้สึกเหมือนเขาหรอกที่ต้องสูญเสียคนอันเป็นที่รักต้องพรากจากกันตลอดกาล.
    ..คนไทยเราทุกๆคน อย่าประมาทว่าอาจไม่จริง วัคซีนไม่ใช่สาเหตุโรควูบหรอก อย่าประมาทขนาดนั้น,แม้1เข็ม ก็สามารถแข้งขาเดินผิดปกติได้ ,เคยเจอคนรู้จักแล้วถามเขามาแล้ว ปกติก่อนฉีดวัคซีนโควิดก็ไม่เป็นอะไร หลังฉีดแค่1เข็ม เดินผิดปกติไม่เหมือนเดิมเลยเห็นคนขาเป๋เดินอย่างไรก็ใกล้เต็มร้อยขนาดนั้นล่ะ,เจอของแท้อาจแสดงอาการเร็ว มีขนาด10%20%50%70%&100%บีบเลือดออกมาเป็นลิ่มเลือดแบบต่างประเทศทันทีเลยก็มี. ..วัคซีนอันตรายมาก ..มันกำลังออกฤทธิ์แล้ว 1เข็มภายใน3-7ปีหรือ10ปีทำลายภูมิฯไปเรื่อยๆ,2เข็มออกฤทธิ์ภายใน5ปี ,3เข็มขึ้นไปออกฤทธิ์เร็วขึ้นแล้วแต่ยี่ห้อด้วยอีก ภายใน3-4ปีอักเสบแน่นอน บางร้ายไม่ถึง1-2ปี มะเร็งโทเบอร์สาระพัดส่วนของร่างกายปรากฎขึ้น เหล้า บุหรี่ สิ่งเสพติดของมึนเมาไม่เคยแตะ. ..โรควูบแค่พื้นฐานที่ใครที่ฉีดๆมาต้องเจอกันทุกๆคนก็ว่า,ร้ายแรงช่วยไม่ทันก็คร่าชีวิตคนๆนั้นทันทีได้เช่นกัน ..เราคนไทยถูกหลอกลวงให้ไปฉีดผ่านสื่อหลักที่เชียร์จนแห่ฉีดกว่า60ล้านคนไทยจริงทั่วประเทศ,คนปกครองผู้มีอำนาจปกครองประเทศไทยเรามันไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนคนไทยเลย.,น่าผิดหวังมั้ยล่ะ. ..ทำงานปกติเพื่อต่อสู้กับชีวิตในสังคมทั้งเพื่อที่ตนรักรออยู่ข้างหลัง ต้องจากไปขณะทำงาน ครอบครัวเขาสูญเสียคนที่เป็นที่รักของเขาไป ไม่เจอกับตัวไม่รู้สึกเหมือนเขาหรอกที่ต้องสูญเสียคนอันเป็นที่รักต้องพรากจากกันตลอดกาล.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 52 0 รีวิว
  • สิ้นแล้ว ! เพลิน พรหมแดน ศิลปินแห่งชาติ ปี2555 อดีตนักร้องลูกทุ่งยอดนิยมสมญานาม“ราชาเพลงพูด” สิริอายุ 85ปี

    3 สิงหาคม 2567- นายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) แจ้งข่าวว่า ได้รับการประสานงานจากคุณชัยธนา พรมธนารัช เลขานุการของนายสมส่วน พรหมสว่าง (เพลิน พรหมแดน) ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทย ลูกทุ่ง) พุทธศักราช 2555 ว่า เพลิน พรหมแดน ถึงแก่กรรม ด้วยอาการหัวใจล้มเหลว ณ โรงพยาบาลศิริราช เวลาประมาณ 11.10 น. โดยเลขานุการของครูเพลิน พรมแดน แจ้งว่า ครูเป็นลมล้มเมื่อช่วง 11.00 น. ที่ผ่านมาของวันนี้ แล้วรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลศิริราช เข้าห้องฉุกเฉิน ปั๊มหัวใจยื้อชีวิต จนกระทั่งเสียชีวิต ขณะนี้กำลังรอผลการวินิจฉัยถึงการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการของโรงพยาบาลศิริราช และกำลังวางแผนในการนำร่างกลับไปบำเพ็ญกุศลซึ่งยังไม่ได้กำหนดว่าเป็นที่ไหนอย่างไร

    สำหรับศิลปินแห่งชาติที่เสียชีวิตจะได้รับสวัสดิการช่วยเหลือจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ตามกฎกระทรวงกําหนดสาขา คุณสมบัติ หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือก และประโยชน์ตอบแทนของศิลปินแห่งชาติ พ.ศ. 2555 ดังนี้ เงินช่วยเหลือเมื่อเสียชีวิต จำนวน 20,000 บาท ค่าเครื่องเคารพศพ จำนวน 3,000 บาท เงินค่าจัดพิมพ์หนังสือเผยแพร่ผลงาน จำนวน 150,000 บาท

    ประวัติจากวิกิพีเดียระบุว่า สมส่วน พรหมสว่าง หรือ เพลิน พรหมแดน เป็นนักร้องเพลงลูกทุ่งชาวไทย
    เกิดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2482 ที่บ้านกิโลสอง อำเภออรัญประเทศ จังหวัดปราจีนบุรี (ปัจจุบันแยกออกมาเป็นจังหวัดสระแก้ว ) มีผลงานบันทึกแผ่นเสียงเป็นที่รู้จักในเพลง "ชมทุ่ง", "บุญพี่ที่น้องรัก", "คนเดินดิน", "คนไม่มีดาว", "อย่าลืมเมืองไทย", "ข่าวสดๆ", "อาตี๋สักมังกร", "ให้พี่รวยเสียก่อน" ซึ่งส่วนมากเป็นเพลงพูด จึงได้รับสมญานาม ราชาเพลงพูด และได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยลูกทุ่ง) ประจำปี พ.ศ. 2555

    คลิปเพลงชมทุ่ง https://youtu.be/4O93FAGU6cQ?si=KJ0LagZkagCWA5da

    #Thaitimes

    สิ้นแล้ว ! เพลิน พรหมแดน ศิลปินแห่งชาติ ปี2555 อดีตนักร้องลูกทุ่งยอดนิยมสมญานาม“ราชาเพลงพูด” สิริอายุ 85ปี 3 สิงหาคม 2567- นายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) แจ้งข่าวว่า ได้รับการประสานงานจากคุณชัยธนา พรมธนารัช เลขานุการของนายสมส่วน พรหมสว่าง (เพลิน พรหมแดน) ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทย ลูกทุ่ง) พุทธศักราช 2555 ว่า เพลิน พรหมแดน ถึงแก่กรรม ด้วยอาการหัวใจล้มเหลว ณ โรงพยาบาลศิริราช เวลาประมาณ 11.10 น. โดยเลขานุการของครูเพลิน พรมแดน แจ้งว่า ครูเป็นลมล้มเมื่อช่วง 11.00 น. ที่ผ่านมาของวันนี้ แล้วรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลศิริราช เข้าห้องฉุกเฉิน ปั๊มหัวใจยื้อชีวิต จนกระทั่งเสียชีวิต ขณะนี้กำลังรอผลการวินิจฉัยถึงการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการของโรงพยาบาลศิริราช และกำลังวางแผนในการนำร่างกลับไปบำเพ็ญกุศลซึ่งยังไม่ได้กำหนดว่าเป็นที่ไหนอย่างไร สำหรับศิลปินแห่งชาติที่เสียชีวิตจะได้รับสวัสดิการช่วยเหลือจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ตามกฎกระทรวงกําหนดสาขา คุณสมบัติ หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือก และประโยชน์ตอบแทนของศิลปินแห่งชาติ พ.ศ. 2555 ดังนี้ เงินช่วยเหลือเมื่อเสียชีวิต จำนวน 20,000 บาท ค่าเครื่องเคารพศพ จำนวน 3,000 บาท เงินค่าจัดพิมพ์หนังสือเผยแพร่ผลงาน จำนวน 150,000 บาท ประวัติจากวิกิพีเดียระบุว่า สมส่วน พรหมสว่าง หรือ เพลิน พรหมแดน เป็นนักร้องเพลงลูกทุ่งชาวไทย เกิดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2482 ที่บ้านกิโลสอง อำเภออรัญประเทศ จังหวัดปราจีนบุรี (ปัจจุบันแยกออกมาเป็นจังหวัดสระแก้ว ) มีผลงานบันทึกแผ่นเสียงเป็นที่รู้จักในเพลง "ชมทุ่ง", "บุญพี่ที่น้องรัก", "คนเดินดิน", "คนไม่มีดาว", "อย่าลืมเมืองไทย", "ข่าวสดๆ", "อาตี๋สักมังกร", "ให้พี่รวยเสียก่อน" ซึ่งส่วนมากเป็นเพลงพูด จึงได้รับสมญานาม ราชาเพลงพูด และได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยลูกทุ่ง) ประจำปี พ.ศ. 2555 คลิปเพลงชมทุ่ง https://youtu.be/4O93FAGU6cQ?si=KJ0LagZkagCWA5da #Thaitimes
    Sad
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 823 มุมมอง 0 รีวิว
  • โจ ไบเดน ถอนตัวชิงตำแหน่งประธานาธิบดี

    21 กรกฎาคม 2567-ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ถอนตัวจากการแข่งขันชิงตำแหน่งทำเนียบขาวในปี 2024 เมื่อวันอาทิตย์ที่21 ก.ค.ที่ผ่านมา ยุติการเสนอตัวรับสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่สอง หลังจากหายนะจากการดีเบตกับโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความเหมาะสมของไบเดนที่จะเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งที่เหลือเวลาเพียงสี่เดือนก่อนเลือกตั้ง 5 พฤศจิกายน 2024 และเกิดเหตุการณ์ลอบสังหารทรัมป์ที่เป็นผลดีต่อทรัมป์ได้คะแนนนิยม ที่การโจมตีแบบสายฟ้าแลบในช่วงปลายฤดูกาลซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์อเมริกา

    การตัดสินใจครั้งนี้ของไบเดนเกิดขึ้นหลังจากมีแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นมากจากพันธมิตรพรรคเดโมแครต หลังจากการดีเบตที่หายนะกับทรัมป์เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ซึ่งประธานาธิบดีวัย 81 ปีรายนี้พ่ายแพ้ยับเยิน คำพูดที่ไร้สาระ และล้มเหลวพูดผิดๆถูกๆเกี่ยวกับของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์

    ไบเดนสนับสนุนรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสให้ชิงตำแหน่งกับทรัมป์ และสนับสนุนให้พรรคของเขารวมตัวอยู่ข้างหลังเธอ ไบเดนจะดำรงตำแหน่งที่เหลืออยู่ซึ่งจะสิ้นสุดในเวลาเที่ยงของวันที่ 20 มกราคม 2025ปีหน้า

    “ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งในชีวิตของผมที่ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของคุณ และแม้ว่าผมจะตั้งใจที่จะลงการเลือกตั้งใหม่ แต่ผมเชื่อว่ามันจะเป็นไปประโยชน์สูงสุดต่อพรรคและประเทศของผม ที่ผมจะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานาธิบดีเพียงอย่างเดียวในช่วงเวลาที่เหลือ” ไบเดนเขียน ในจดหมายที่โพสต์ไปยังบัญชี X ของเขา

    ที่มา : https://apnews.com/article/ddffde72838370032bdcff946cfc2ce6

    #Thaitimes
    โจ ไบเดน ถอนตัวชิงตำแหน่งประธานาธิบดี 21 กรกฎาคม 2567-ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ถอนตัวจากการแข่งขันชิงตำแหน่งทำเนียบขาวในปี 2024 เมื่อวันอาทิตย์ที่21 ก.ค.ที่ผ่านมา ยุติการเสนอตัวรับสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่สอง หลังจากหายนะจากการดีเบตกับโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความเหมาะสมของไบเดนที่จะเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งที่เหลือเวลาเพียงสี่เดือนก่อนเลือกตั้ง 5 พฤศจิกายน 2024 และเกิดเหตุการณ์ลอบสังหารทรัมป์ที่เป็นผลดีต่อทรัมป์ได้คะแนนนิยม ที่การโจมตีแบบสายฟ้าแลบในช่วงปลายฤดูกาลซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์อเมริกา การตัดสินใจครั้งนี้ของไบเดนเกิดขึ้นหลังจากมีแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นมากจากพันธมิตรพรรคเดโมแครต หลังจากการดีเบตที่หายนะกับทรัมป์เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ซึ่งประธานาธิบดีวัย 81 ปีรายนี้พ่ายแพ้ยับเยิน คำพูดที่ไร้สาระ และล้มเหลวพูดผิดๆถูกๆเกี่ยวกับของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ไบเดนสนับสนุนรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสให้ชิงตำแหน่งกับทรัมป์ และสนับสนุนให้พรรคของเขารวมตัวอยู่ข้างหลังเธอ ไบเดนจะดำรงตำแหน่งที่เหลืออยู่ซึ่งจะสิ้นสุดในเวลาเที่ยงของวันที่ 20 มกราคม 2025ปีหน้า “ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งในชีวิตของผมที่ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของคุณ และแม้ว่าผมจะตั้งใจที่จะลงการเลือกตั้งใหม่ แต่ผมเชื่อว่ามันจะเป็นไปประโยชน์สูงสุดต่อพรรคและประเทศของผม ที่ผมจะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานาธิบดีเพียงอย่างเดียวในช่วงเวลาที่เหลือ” ไบเดนเขียน ในจดหมายที่โพสต์ไปยังบัญชี X ของเขา ที่มา : https://apnews.com/article/ddffde72838370032bdcff946cfc2ce6 #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 625 มุมมอง 0 รีวิว