• นี้ต้องอย่างนี้,เรา..ภาคประชาชนต้องร่วมกันแบบนี้,แต่จะดีมาหากร่วมกันยกเลิก พรบ.ห้ามชุมนุมในที่สาธารณะด้วย เพราะออกในยุคลุงเป็นรัฐบาลด้วย ยึดอำนาจมาด้วย 11จุดก็เสียให้เขมรด้วย มารู้ความจริงก็ตอนแม่ทัพภาคที่2บุกยึดคืนได้แล้ว,กฎหมายมากมาย พรบ.มากมายต้องฉีกทิ้งกันเป็นอันมาก,มันขัดขวางประชาชนพัฒนาตนเองสู่เจตนำนงเสรีทางดีเป็นอันมาก.

    ..เบื้องต้นนี้ คณะรวมพลังแผ่นดินไทย ทำตามกำลังตนถูกทางแล้ว ไม่มีภาพนักการเมืองแอบแฝงยิ่งดี เหมือนใครบ้างคนเข้ามาในคณะรวมพลังฯหมายเชิดชูลุงกลับมานั้นเอง,ยุคลุงยุคทหารแท้ๆเสือกไม่ยกเลิกmou43,44มันบอกนัยยะเปิดเผยชัดเจนแล้ว,ส่วนรัฐบาลในปัจจุบันก็แค่รับไม้ต่อสลับมุกเปลี่ยนมือนี้ล่ะ,เพื่อไทย คนของตนแบบลุงตู่ก็ขึ้นมาเหมือนเดิม,คณะรวมพลังแผ่นดินฯน่าจะเห็นชัดบริบทนี้,ต้องรวมพลังฯจริงๆเอาให้สุดซอยด้วย อย่าพลาดแบบกปปส.พลาดแบบอาสนธิ ต้องทำการเปลี่ยนแปลงโดยภาคประชาชนจริงให้ได้,คนในคณะรวมพลังแผ่นดินฯแน่นอนต่างมีอดีตที่ผิดพลาดกันหมด,แต่สงครามครั้งนี้อดีตได้ทิ้งไปแล้ว ยิ่งมุ่งทำเพื่อชาติคือประชาชนเราจริงๆร่วม สามารถเป็นคณะบริหารประเทศฉุกเฉินชั่วคราวของภาคประชาชนระดับประเทศแห่งชาติ ร่วมกับกองทัพไทยเรา รีเซ็ตประเทศไทยใหม่ กวาดล้างภัยภายในประเทศไทยเราจริงๆและภัยภายนอกแบบเขมร แบบมาเลย์ภาคใต้เรา แบบciaของอเมริกาชั่วมุ่งแต่ผลประโยชน์มันสูงสุด กำจัดเผาทิ้งพรบ.และกฎหมายทุกๆฉบับที่ขายชาติอย่างจริงจังด้วย กดขี่ความคิดอิสระสร้างสรรค์ของประชาชนพัฒนานวัตกรรมใหม่พัฒนาชาติให้ล้ำสมัยไม่แพ้ชาติใดในโลก,ตลอดคนไทยต้องพ้นสถานะยากจนจริงๆกันเสียที,ปล่อยให้ต่างชาติมาปล้นทรัพยากรมีค่ามากมายเราง่ายดายสะดวกสบายเกินไปจนคนไทยยากจนเป็นอันมากเมื่อศักยภาพเราสุดยอดขนาดนั้น ตีมูลค่าทรัพยากรมีค่าเราอาจกว่า100,000ล้านล้านบาท มิใช่ 4-5หมื่นล้านล้านบาทหรอก,แค่ขุดคลองคอดกระ ทำรั้วลวดหนามกั้นไทยกับมาเลย์ชัดเจน ciaอเมริกาก็ปั่นป่วนภาคใต้เรากับมาเลย์ลูกน้องอเมริกาซาอุฯก็ไม่ง่ายแล้ว, คลองคอดกระ ทางแลนด์บริดจ์ พื้นที่ภาคใต้เกือบทั้งหมด สามารถเป็นฮับสำนักใหญ่ของแต่ละชาติมาค้าขายทำตลาดระดับโลกฮับของโลกสบายมาก ไม่ใช้ทรัพยากรไทยก็ตีมูลค่ารายได้กว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปี ได้สบาย,อนาคตคนไทยระดับจิตใจดีจะแยกแยะดีชั่วและกระบวนการโปร่งใส สามารถปกป้องคุ้มครองทั้งคนไทยเราและคู่ค้าให้ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเขา นักท่องเที่ยวนักธุรกิจย่อมชื่นชอบประเทศไทยเพิ่มคน ,คือเม็ดเงินมหาศาลหลากหลายช่องทางเข้าประเทศไทยเราแน่นอน,เราจะจัดสรรเม็ดเงินนี้ให้คนไทยเราร่ำรวยจริงแค่ไหนแค่นั้นล่ะ,แต่หากยังมีวิถีปกครองกากๆแบบนี้ต่อไปตลอดไป ก็ฝันเลยว่าประชาชนคนไทยจะพ้นสถานะความยากจน มีแต่เอารัดเอาเปรียบรีดไถประชาชนคนไทยตนผ่านกฎหมายเลวชั่วสาระพัด ดูแหล่งปิโตรเลียมชัดเจน ถ้าประเทศไทยนำโดยภาคประชาชนคนไทยทำเอง มิใช่ผีบ้าพวกรัฐบาลห่าเหวในอดีตนั้นทำ ไปยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาติ รัฐบาลกบฎทรยศประชาชนตนเสียเอง สภาพคนไทยปัจจุบันก็ไม่เป็นแบบนี้ และล่าสุดดูเขมรนี้ล่ะ ฝีมือนักการเมืองและทหารทรยศไส้ศึกชัดเจนบนแผ่นดินไทยเรา,เช่นนั้นจะไม่เป็นแบบนี้เลย,อนาคตรีดภาษีจากประชาชนอีก ทั้งที่ระบบยังกากอยู่แฮกข้อมูลเป็นว่าเล่น ดูดตังคนไทยสนุกมือบัญชี จะไว้วางใจว่าจะแก้ไขความยากจนของคนไทยได้อย่างไร,ทั้งที่จริงๆเงินเถื่อนเงินนอกระบบเงินฟอกเงินเทาตรึมในวงจรอุบาทก์นี้ทั่วไทย ยังจัดการไม่ได้ ยาบ้ายังไร้ปัญญาจัดการจริงเลย,ภาษีที่รีดไถประชาชนจริงๆและปีละกว่าแสนล้านบาทคือภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีน้ำมันต่างหาก,ประเทศไทยแค่ยึดบ่อน้ำมันคืนก็ร่ำรวยแล้ว พลังงานสะอาดอื่นๆอีกต่อยอดได้สบาย,ภาษีบุคคลและนิติบุคคลกิจการบริษัทต่างๆแค่4-5พันล้านบาท มากสุดมนุษย์เงินเดือนแค่7-8พันล้านถั่วเฉลี่ย5-10ปีที่ผ่านๆมาอาจไม่ถึงด้วยซ้ำ,มุกภาษีNITนี้คือมุกนักการเมืองชั่วๆเลวๆจะควบคุมคนไทยนี้ล่ะ เชื่อมสุขภาพอีก ใครยังไม่ฉีดวัคซีน มันจะได้รู้และบังคับควบคุมได้โดยสร้างเงื่อนไขว่า หากไม่ฉีดจะตัดสวัสดิการทั้งหมดของรัฐที่ให้ไป,คือมันจะหามุกมาเรื่อยๆล่ะ คณะรวมพลังแผ่นดินไทยเราจึงต้องสามัคคีกันทำให้สุดซอยเพื่อเรา..ประชาชนคนไทยเราสู่ยุคใหม่จริงๆ.


    https://youtube.com/live/qyP5nsDRofk?si=IZhFf7d3BcxF7KUq
    นี้ต้องอย่างนี้,เรา..ภาคประชาชนต้องร่วมกันแบบนี้,แต่จะดีมาหากร่วมกันยกเลิก พรบ.ห้ามชุมนุมในที่สาธารณะด้วย เพราะออกในยุคลุงเป็นรัฐบาลด้วย ยึดอำนาจมาด้วย 11จุดก็เสียให้เขมรด้วย มารู้ความจริงก็ตอนแม่ทัพภาคที่2บุกยึดคืนได้แล้ว,กฎหมายมากมาย พรบ.มากมายต้องฉีกทิ้งกันเป็นอันมาก,มันขัดขวางประชาชนพัฒนาตนเองสู่เจตนำนงเสรีทางดีเป็นอันมาก. ..เบื้องต้นนี้ คณะรวมพลังแผ่นดินไทย ทำตามกำลังตนถูกทางแล้ว ไม่มีภาพนักการเมืองแอบแฝงยิ่งดี เหมือนใครบ้างคนเข้ามาในคณะรวมพลังฯหมายเชิดชูลุงกลับมานั้นเอง,ยุคลุงยุคทหารแท้ๆเสือกไม่ยกเลิกmou43,44มันบอกนัยยะเปิดเผยชัดเจนแล้ว,ส่วนรัฐบาลในปัจจุบันก็แค่รับไม้ต่อสลับมุกเปลี่ยนมือนี้ล่ะ,เพื่อไทย คนของตนแบบลุงตู่ก็ขึ้นมาเหมือนเดิม,คณะรวมพลังแผ่นดินฯน่าจะเห็นชัดบริบทนี้,ต้องรวมพลังฯจริงๆเอาให้สุดซอยด้วย อย่าพลาดแบบกปปส.พลาดแบบอาสนธิ ต้องทำการเปลี่ยนแปลงโดยภาคประชาชนจริงให้ได้,คนในคณะรวมพลังแผ่นดินฯแน่นอนต่างมีอดีตที่ผิดพลาดกันหมด,แต่สงครามครั้งนี้อดีตได้ทิ้งไปแล้ว ยิ่งมุ่งทำเพื่อชาติคือประชาชนเราจริงๆร่วม สามารถเป็นคณะบริหารประเทศฉุกเฉินชั่วคราวของภาคประชาชนระดับประเทศแห่งชาติ ร่วมกับกองทัพไทยเรา รีเซ็ตประเทศไทยใหม่ กวาดล้างภัยภายในประเทศไทยเราจริงๆและภัยภายนอกแบบเขมร แบบมาเลย์ภาคใต้เรา แบบciaของอเมริกาชั่วมุ่งแต่ผลประโยชน์มันสูงสุด กำจัดเผาทิ้งพรบ.และกฎหมายทุกๆฉบับที่ขายชาติอย่างจริงจังด้วย กดขี่ความคิดอิสระสร้างสรรค์ของประชาชนพัฒนานวัตกรรมใหม่พัฒนาชาติให้ล้ำสมัยไม่แพ้ชาติใดในโลก,ตลอดคนไทยต้องพ้นสถานะยากจนจริงๆกันเสียที,ปล่อยให้ต่างชาติมาปล้นทรัพยากรมีค่ามากมายเราง่ายดายสะดวกสบายเกินไปจนคนไทยยากจนเป็นอันมากเมื่อศักยภาพเราสุดยอดขนาดนั้น ตีมูลค่าทรัพยากรมีค่าเราอาจกว่า100,000ล้านล้านบาท มิใช่ 4-5หมื่นล้านล้านบาทหรอก,แค่ขุดคลองคอดกระ ทำรั้วลวดหนามกั้นไทยกับมาเลย์ชัดเจน ciaอเมริกาก็ปั่นป่วนภาคใต้เรากับมาเลย์ลูกน้องอเมริกาซาอุฯก็ไม่ง่ายแล้ว, คลองคอดกระ ทางแลนด์บริดจ์ พื้นที่ภาคใต้เกือบทั้งหมด สามารถเป็นฮับสำนักใหญ่ของแต่ละชาติมาค้าขายทำตลาดระดับโลกฮับของโลกสบายมาก ไม่ใช้ทรัพยากรไทยก็ตีมูลค่ารายได้กว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปี ได้สบาย,อนาคตคนไทยระดับจิตใจดีจะแยกแยะดีชั่วและกระบวนการโปร่งใส สามารถปกป้องคุ้มครองทั้งคนไทยเราและคู่ค้าให้ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเขา นักท่องเที่ยวนักธุรกิจย่อมชื่นชอบประเทศไทยเพิ่มคน ,คือเม็ดเงินมหาศาลหลากหลายช่องทางเข้าประเทศไทยเราแน่นอน,เราจะจัดสรรเม็ดเงินนี้ให้คนไทยเราร่ำรวยจริงแค่ไหนแค่นั้นล่ะ,แต่หากยังมีวิถีปกครองกากๆแบบนี้ต่อไปตลอดไป ก็ฝันเลยว่าประชาชนคนไทยจะพ้นสถานะความยากจน มีแต่เอารัดเอาเปรียบรีดไถประชาชนคนไทยตนผ่านกฎหมายเลวชั่วสาระพัด ดูแหล่งปิโตรเลียมชัดเจน ถ้าประเทศไทยนำโดยภาคประชาชนคนไทยทำเอง มิใช่ผีบ้าพวกรัฐบาลห่าเหวในอดีตนั้นทำ ไปยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาติ รัฐบาลกบฎทรยศประชาชนตนเสียเอง สภาพคนไทยปัจจุบันก็ไม่เป็นแบบนี้ และล่าสุดดูเขมรนี้ล่ะ ฝีมือนักการเมืองและทหารทรยศไส้ศึกชัดเจนบนแผ่นดินไทยเรา,เช่นนั้นจะไม่เป็นแบบนี้เลย,อนาคตรีดภาษีจากประชาชนอีก ทั้งที่ระบบยังกากอยู่แฮกข้อมูลเป็นว่าเล่น ดูดตังคนไทยสนุกมือบัญชี จะไว้วางใจว่าจะแก้ไขความยากจนของคนไทยได้อย่างไร,ทั้งที่จริงๆเงินเถื่อนเงินนอกระบบเงินฟอกเงินเทาตรึมในวงจรอุบาทก์นี้ทั่วไทย ยังจัดการไม่ได้ ยาบ้ายังไร้ปัญญาจัดการจริงเลย,ภาษีที่รีดไถประชาชนจริงๆและปีละกว่าแสนล้านบาทคือภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีน้ำมันต่างหาก,ประเทศไทยแค่ยึดบ่อน้ำมันคืนก็ร่ำรวยแล้ว พลังงานสะอาดอื่นๆอีกต่อยอดได้สบาย,ภาษีบุคคลและนิติบุคคลกิจการบริษัทต่างๆแค่4-5พันล้านบาท มากสุดมนุษย์เงินเดือนแค่7-8พันล้านถั่วเฉลี่ย5-10ปีที่ผ่านๆมาอาจไม่ถึงด้วยซ้ำ,มุกภาษีNITนี้คือมุกนักการเมืองชั่วๆเลวๆจะควบคุมคนไทยนี้ล่ะ เชื่อมสุขภาพอีก ใครยังไม่ฉีดวัคซีน มันจะได้รู้และบังคับควบคุมได้โดยสร้างเงื่อนไขว่า หากไม่ฉีดจะตัดสวัสดิการทั้งหมดของรัฐที่ให้ไป,คือมันจะหามุกมาเรื่อยๆล่ะ คณะรวมพลังแผ่นดินไทยเราจึงต้องสามัคคีกันทำให้สุดซอยเพื่อเรา..ประชาชนคนไทยเราสู่ยุคใหม่จริงๆ. https://youtube.com/live/qyP5nsDRofk?si=IZhFf7d3BcxF7KUq
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปีกเดียวเปลี่ยนโลก – เมื่อไฮโดรเจนกลายเป็นเชื้อเพลิงแห่งอนาคต

    ในเดือนสิงหาคม 2025 บริษัทเทคโนโลยีจากฝรั่งเศส SHZ Advanced Technologies ประกาศความร่วมมือกับ JetZero สตาร์ตอัปด้านอากาศยานจากแคลิฟอร์เนีย เพื่อพัฒนาเครื่องบินพลังงานไฮโดรเจนแบบ “blended wing-body” หรือ “ปีกผสมลำตัว” ซึ่งมีดีไซน์คล้ายตัว V ที่ทั้งลำตัวและปีกทำหน้าที่ร่วมกันในการสร้างแรงยก

    เป้าหมายของโครงการคือการลดการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ โดยใช้ไฮโดรเจนเหลวเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งมีพลังงานต่อมวลสูงแต่ต้องเก็บในอุณหภูมิ -253°C และใช้พื้นที่มากกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไป

    SHZ พัฒนาเทคโนโลยีถังเก็บไฮโดรเจนที่ไม่ใช้รูปทรงกระบอกแบบเดิม ทำให้สามารถฝังเข้าไปในโครงสร้างของเครื่องบิน Z4 ได้โดยไม่เสียพื้นที่ผู้โดยสาร JetZero ระบุว่าเครื่องบินต้นแบบขนาด 250 ที่นั่งจะพร้อมบินในปี 2027 ภายใต้การสนับสนุนจาก NASA

    แม้ว่า Airbus จะชะลอแผนการผลิตเครื่องบินไฮโดรเจน และ Boeing ยังไม่มั่นใจในความคุ้มค่าทางพาณิชย์ แต่ JetZero และ SHZ ยังคงเดินหน้าด้วยความเชื่อมั่นว่า “ดีไซน์ใหม่ + เชื้อเพลิงใหม่” คือคำตอบของการบินแห่งอนาคต

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    SHZ Advanced Technologies จากฝรั่งเศสร่วมมือกับ JetZero เพื่อพัฒนาเครื่องบินพลังงานไฮโดรเจน
    เครื่องบินใช้ดีไซน์ blended wing-body ที่ลดแรงเสียดทานและเพิ่มประสิทธิภาพ
    โครงการอยู่ภายใต้การสนับสนุนจาก NASA เพื่อออกแบบระบบจัดเก็บและจ่ายไฮโดรเจนเหลว
    ไฮโดรเจนมีพลังงานต่อมวลสูง แต่ต้องเก็บในอุณหภูมิ -253°C และใช้พื้นที่มาก
    SHZ พัฒนาถังเก็บไฮโดรเจนแบบใหม่ที่ไม่ใช้รูปทรงกระบอก
    เครื่องบินรุ่น Z4 จะมีที่นั่ง 250 ที่นั่ง และต้นแบบจะพร้อมบินในปี 2027
    JetZero ได้รับการสนับสนุนจาก United Airlines และมีเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนครึ่งหนึ่ง
    Airbus ชะลอแผนเครื่องบินไฮโดรเจน และยกเลิกเป้าหมายปี 2035
    Boeing ยังไม่มั่นใจในความคุ้มค่าทางพาณิชย์ของการบินด้วยไฮโดรเจน
    ดีไซน์ blended wing-body เคยใช้ใน B-2 bomber และโครงการ X-48 ของ NASA

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    EasyJet เป็นสายการบินยุโรปรายแรกที่ร่วมมือกับ JetZero เพื่อหาแนวทางลดคาร์บอน
    การบินด้วยไฮโดรเจนสามารถลดการปล่อย CO₂ ได้ถึง 100% หากใช้ไฮโดรเจนสีเขียว
    เทคโนโลยีถังเก็บไฮโดรเจนแบบแบนช่วยลดน้ำหนักและเพิ่มพื้นที่ใช้งาน
    การออกแบบ blended wing-body ยังช่วยลดเสียงรบกวนและเพิ่มความเสถียรในการบิน
    NASA มีแผนสนับสนุนการบินพลังงานสะอาดผ่านโครงการ Sustainable Flight National Partnership
    ตลาดเครื่องบินพลังงานไฮโดรเจนคาดว่าจะมีมูลค่ามากกว่า $100 พันล้านภายในปี 2040

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/20/french-firm-teams-up-with-jetzero-on-hydrogen-powered-flight
    ✈️ ปีกเดียวเปลี่ยนโลก – เมื่อไฮโดรเจนกลายเป็นเชื้อเพลิงแห่งอนาคต ในเดือนสิงหาคม 2025 บริษัทเทคโนโลยีจากฝรั่งเศส SHZ Advanced Technologies ประกาศความร่วมมือกับ JetZero สตาร์ตอัปด้านอากาศยานจากแคลิฟอร์เนีย เพื่อพัฒนาเครื่องบินพลังงานไฮโดรเจนแบบ “blended wing-body” หรือ “ปีกผสมลำตัว” ซึ่งมีดีไซน์คล้ายตัว V ที่ทั้งลำตัวและปีกทำหน้าที่ร่วมกันในการสร้างแรงยก เป้าหมายของโครงการคือการลดการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ โดยใช้ไฮโดรเจนเหลวเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งมีพลังงานต่อมวลสูงแต่ต้องเก็บในอุณหภูมิ -253°C และใช้พื้นที่มากกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไป SHZ พัฒนาเทคโนโลยีถังเก็บไฮโดรเจนที่ไม่ใช้รูปทรงกระบอกแบบเดิม ทำให้สามารถฝังเข้าไปในโครงสร้างของเครื่องบิน Z4 ได้โดยไม่เสียพื้นที่ผู้โดยสาร JetZero ระบุว่าเครื่องบินต้นแบบขนาด 250 ที่นั่งจะพร้อมบินในปี 2027 ภายใต้การสนับสนุนจาก NASA แม้ว่า Airbus จะชะลอแผนการผลิตเครื่องบินไฮโดรเจน และ Boeing ยังไม่มั่นใจในความคุ้มค่าทางพาณิชย์ แต่ JetZero และ SHZ ยังคงเดินหน้าด้วยความเชื่อมั่นว่า “ดีไซน์ใหม่ + เชื้อเพลิงใหม่” คือคำตอบของการบินแห่งอนาคต 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ SHZ Advanced Technologies จากฝรั่งเศสร่วมมือกับ JetZero เพื่อพัฒนาเครื่องบินพลังงานไฮโดรเจน ➡️ เครื่องบินใช้ดีไซน์ blended wing-body ที่ลดแรงเสียดทานและเพิ่มประสิทธิภาพ ➡️ โครงการอยู่ภายใต้การสนับสนุนจาก NASA เพื่อออกแบบระบบจัดเก็บและจ่ายไฮโดรเจนเหลว ➡️ ไฮโดรเจนมีพลังงานต่อมวลสูง แต่ต้องเก็บในอุณหภูมิ -253°C และใช้พื้นที่มาก ➡️ SHZ พัฒนาถังเก็บไฮโดรเจนแบบใหม่ที่ไม่ใช้รูปทรงกระบอก ➡️ เครื่องบินรุ่น Z4 จะมีที่นั่ง 250 ที่นั่ง และต้นแบบจะพร้อมบินในปี 2027 ➡️ JetZero ได้รับการสนับสนุนจาก United Airlines และมีเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนครึ่งหนึ่ง ➡️ Airbus ชะลอแผนเครื่องบินไฮโดรเจน และยกเลิกเป้าหมายปี 2035 ➡️ Boeing ยังไม่มั่นใจในความคุ้มค่าทางพาณิชย์ของการบินด้วยไฮโดรเจน ➡️ ดีไซน์ blended wing-body เคยใช้ใน B-2 bomber และโครงการ X-48 ของ NASA ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ EasyJet เป็นสายการบินยุโรปรายแรกที่ร่วมมือกับ JetZero เพื่อหาแนวทางลดคาร์บอน ➡️ การบินด้วยไฮโดรเจนสามารถลดการปล่อย CO₂ ได้ถึง 100% หากใช้ไฮโดรเจนสีเขียว ➡️ เทคโนโลยีถังเก็บไฮโดรเจนแบบแบนช่วยลดน้ำหนักและเพิ่มพื้นที่ใช้งาน ➡️ การออกแบบ blended wing-body ยังช่วยลดเสียงรบกวนและเพิ่มความเสถียรในการบิน ➡️ NASA มีแผนสนับสนุนการบินพลังงานสะอาดผ่านโครงการ Sustainable Flight National Partnership ➡️ ตลาดเครื่องบินพลังงานไฮโดรเจนคาดว่าจะมีมูลค่ามากกว่า $100 พันล้านภายในปี 2040 https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/20/french-firm-teams-up-with-jetzero-on-hydrogen-powered-flight
    WWW.THESTAR.COM.MY
    French firm teams up with JetZero on hydrogen-powered flight
    PARIS (Reuters) -A French technology startup unveiled plans on Wednesday to work with clean-aircraft venture JetZero to explore a potential hydrogen-powered variant of its futuristic all-wing design.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากนำเข้า สู่ผลิตเอง: สหรัฐฯ เริ่มผลิตเวเฟอร์ซิลิกอนในประเทศ

    ในอดีต สหรัฐฯ ต้องพึ่งพาการนำเข้าแผ่นเวเฟอร์ซิลิกอนจากบริษัทในญี่ปุ่นและไต้หวัน เช่น Shin-Etsu และ Sumco เพื่อใช้เป็นฐานในการผลิตชิป แต่ในปี 2025 GlobalWafers ได้เปิดโรงงานแห่งใหม่ในเมือง Sherman รัฐเท็กซัส ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการผลิตเวเฟอร์ซิลิกอนขนาด 300 มม. ภายในประเทศ

    โรงงานนี้มีมูลค่าการลงทุนกว่า $3.5 พันล้าน และได้รับการสนับสนุนจาก CHIPS Act รวมถึงเงินลงทุนจาก Apple และ TSMC โดยมีเป้าหมายผลิตเวเฟอร์เดือนละ 300,000 แผ่นในเฟสแรก

    การผลิตในประเทศจะช่วยลดเวลาการขนส่ง เพิ่มความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน และลดต้นทุนการผลิตให้กับบริษัทผู้ผลิตชิปในสหรัฐฯ เช่น Texas Instruments, NVIDIA และ Samsung ที่มีโรงงานในเท็กซัส

    นอกจากนี้ GlobalWafers ยังมีแผนผลิตเวเฟอร์ชนิดพิเศษ เช่น SOI (Silicon-on-Insulator) สำหรับงานด้านอวกาศและกลาโหม และ SiC (Silicon Carbide) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานพลังงานสะอาด

    การเปิดโรงงานนี้ยังสร้างงานกว่า 2,500 ตำแหน่ง และเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงเชิงยุทธศาสตร์จากการพึ่งพาเอเชีย สู่การสร้างอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งในฝั่งตะวันตก

    ความสำเร็จของ GlobalWafers ในสหรัฐฯ
    เป็นบริษัทแรกที่ผลิตเวเฟอร์ซิลิกอนขนาด 300 มม. ภายในสหรัฐฯ
    โรงงานตั้งอยู่ในเมือง Sherman รัฐเท็กซัส มูลค่าการลงทุน $3.5 พันล้าน
    ได้รับการสนับสนุนจาก CHIPS Act และเงินลงทุนจาก Apple และ TSMC
    ผลิตเวเฟอร์เดือนละ 300,000 แผ่นในเฟสแรก
    ลดการพึ่งพาการนำเข้าจากญี่ปุ่นและไต้หวัน
    ช่วยเสริมความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมชิป
    สร้างงานกว่า 2,500 ตำแหน่งในเท็กซัสและมิสซูรี

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    GlobalWafers เป็นหนึ่งใน 5 ผู้นำตลาดเวเฟอร์โลก ร่วมกับ Shin-Etsu และ Sumco
    มีโรงงานในยุโรป เอเชีย และสหรัฐฯ ทำให้ลดต้นทุนขนส่งได้ถึง 5%
    เวเฟอร์ SOI ใช้ในงานอวกาศ กลาโหม และ HPC ด้วยคุณสมบัติกันรังสี
    เวเฟอร์ SiC ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าและระบบพลังงานสะอาด
    ตลาดเวเฟอร์คาดว่าจะเติบโต 5.5% ต่อปีในด้านพื้นที่ และ 2% ในด้านราคา
    GlobalWafers มีข้อตกลงระยะยาวกับลูกค้าเพื่อรักษาเสถียรภาพรายได้

    https://wccftech.com/u-s-chip-industry-reaches-another-milestone-as-globalwafers-becomes-the-first-firm-to-produce-silicon-wafers-domestically/
    🏭 จากนำเข้า สู่ผลิตเอง: สหรัฐฯ เริ่มผลิตเวเฟอร์ซิลิกอนในประเทศ ในอดีต สหรัฐฯ ต้องพึ่งพาการนำเข้าแผ่นเวเฟอร์ซิลิกอนจากบริษัทในญี่ปุ่นและไต้หวัน เช่น Shin-Etsu และ Sumco เพื่อใช้เป็นฐานในการผลิตชิป แต่ในปี 2025 GlobalWafers ได้เปิดโรงงานแห่งใหม่ในเมือง Sherman รัฐเท็กซัส ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการผลิตเวเฟอร์ซิลิกอนขนาด 300 มม. ภายในประเทศ โรงงานนี้มีมูลค่าการลงทุนกว่า $3.5 พันล้าน และได้รับการสนับสนุนจาก CHIPS Act รวมถึงเงินลงทุนจาก Apple และ TSMC โดยมีเป้าหมายผลิตเวเฟอร์เดือนละ 300,000 แผ่นในเฟสแรก การผลิตในประเทศจะช่วยลดเวลาการขนส่ง เพิ่มความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน และลดต้นทุนการผลิตให้กับบริษัทผู้ผลิตชิปในสหรัฐฯ เช่น Texas Instruments, NVIDIA และ Samsung ที่มีโรงงานในเท็กซัส นอกจากนี้ GlobalWafers ยังมีแผนผลิตเวเฟอร์ชนิดพิเศษ เช่น SOI (Silicon-on-Insulator) สำหรับงานด้านอวกาศและกลาโหม และ SiC (Silicon Carbide) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานพลังงานสะอาด การเปิดโรงงานนี้ยังสร้างงานกว่า 2,500 ตำแหน่ง และเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงเชิงยุทธศาสตร์จากการพึ่งพาเอเชีย สู่การสร้างอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งในฝั่งตะวันตก ✅ ความสำเร็จของ GlobalWafers ในสหรัฐฯ ➡️ เป็นบริษัทแรกที่ผลิตเวเฟอร์ซิลิกอนขนาด 300 มม. ภายในสหรัฐฯ ➡️ โรงงานตั้งอยู่ในเมือง Sherman รัฐเท็กซัส มูลค่าการลงทุน $3.5 พันล้าน ➡️ ได้รับการสนับสนุนจาก CHIPS Act และเงินลงทุนจาก Apple และ TSMC ➡️ ผลิตเวเฟอร์เดือนละ 300,000 แผ่นในเฟสแรก ➡️ ลดการพึ่งพาการนำเข้าจากญี่ปุ่นและไต้หวัน ➡️ ช่วยเสริมความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมชิป ➡️ สร้างงานกว่า 2,500 ตำแหน่งในเท็กซัสและมิสซูรี ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ GlobalWafers เป็นหนึ่งใน 5 ผู้นำตลาดเวเฟอร์โลก ร่วมกับ Shin-Etsu และ Sumco ➡️ มีโรงงานในยุโรป เอเชีย และสหรัฐฯ ทำให้ลดต้นทุนขนส่งได้ถึง 5% ➡️ เวเฟอร์ SOI ใช้ในงานอวกาศ กลาโหม และ HPC ด้วยคุณสมบัติกันรังสี ➡️ เวเฟอร์ SiC ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าและระบบพลังงานสะอาด ➡️ ตลาดเวเฟอร์คาดว่าจะเติบโต 5.5% ต่อปีในด้านพื้นที่ และ 2% ในด้านราคา ➡️ GlobalWafers มีข้อตกลงระยะยาวกับลูกค้าเพื่อรักษาเสถียรภาพรายได้ https://wccftech.com/u-s-chip-industry-reaches-another-milestone-as-globalwafers-becomes-the-first-firm-to-produce-silicon-wafers-domestically/
    WCCFTECH.COM
    U.S. Chip Industry Reaches Another Massive Milestone as GlobalWafers Becomes the First Firm to Produce Silicon Wafers Domestically, Backed By Investments from Apple & TSMC
    America's chip industry is heading towards complete self-reliance, as GlobalWafers has announced plans to develop silicon wafers in Texas.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 161 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลเร่งเครื่อง! เตรียมออก “พ.ร.บ.โซลาร์เซลล์” ฉบับใหม่...ลดขั้นตอนขออนุญาต...มุ่งสนับสนุนประชาชนผลิตไฟฟ้าใช้เอง
    https://www.thai-tai.tv/news/20962/
    .
    #พ.ร.บ.โซลาร์เซลล์ #โซลาร์เซลล์ #พลังงานสะอาด #ค่าไฟฟ้า #ข่าวรัฐบาล #ไทยไท


    รัฐบาลเร่งเครื่อง! เตรียมออก “พ.ร.บ.โซลาร์เซลล์” ฉบับใหม่...ลดขั้นตอนขออนุญาต...มุ่งสนับสนุนประชาชนผลิตไฟฟ้าใช้เอง https://www.thai-tai.tv/news/20962/ . #พ.ร.บ.โซลาร์เซลล์ #โซลาร์เซลล์ #พลังงานสะอาด #ค่าไฟฟ้า #ข่าวรัฐบาล #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⚡️ เมื่อ AI กลายเป็นตัวดูดพลังงาน: จีนพร้อม แต่สหรัฐฯ ยังติดหล่ม

    ลองจินตนาการว่าโลกกำลังเข้าสู่ยุคที่ AI ไม่ใช่แค่ซอฟต์แวร์อัจฉริยะ แต่เป็นเครื่องจักรที่กินไฟมหาศาลเหมือนสัตว์ประหลาดในโรงงานไฟฟ้า และในสงครามเทคโนโลยีนี้ จีนดูเหมือนจะเตรียมตัวมาดีกว่าสหรัฐฯ หลายช่วงตัว

    จีนลงทุนมหาศาลในพลังงานสะอาด ทั้งพลังน้ำ พลังงานนิวเคลียร์ และโซลาร์ฟาร์มขนาดยักษ์ ทำให้มีพลังงานสำรองถึง 80–100% พร้อมรองรับการสร้างศูนย์ข้อมูล AI ใหม่ได้ทันที ในขณะที่สหรัฐฯ กลับต้องเผชิญกับปัญหาโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้าที่ไม่ทันความต้องการ จนบริษัทเทคโนโลยีต้องสร้างโรงไฟฟ้าเอง หรือหันไปพัฒนานิวเคลียร์ขนาดเล็ก

    แม้จีนจะมีข้อครหาว่าใช้โรงไฟฟ้าถ่านหิน แต่ก็มีแผนรองรับด้วยการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน และสามารถเปิดโรงไฟฟ้าสำรองได้ทันทีหากจำเป็น ขณะที่สหรัฐฯ ยังต้องเผชิญกับความล่าช้าในการอนุมัติโครงการใหม่ และความไม่แน่นอนของระบบสายส่ง

    ที่น่าสนใจคือ แม้จีนจะมีพลังงานเหลือเฟือ แต่ศูนย์ข้อมูลหลายแห่งกลับยังไม่ได้ใช้งานเต็มที่ จึงกำลังพัฒนาเครือข่ายซื้อขายพลังงานสำรองระหว่างกัน ส่วนสหรัฐฯ หากไม่เร่งแก้ปัญหา อาจเสียเปรียบในสงคราม AI แม้จะมีฮาร์ดแวร์ที่ดีกว่า เพราะ “ไม่มีไฟ ก็ไม่มี AI”

    จีนเตรียมพร้อมด้านพลังงานเพื่อรองรับ AI
    มีพลังงานสำรอง 80–100% รองรับการสร้างศูนย์ข้อมูลใหม่
    ลงทุนในพลังงานสะอาด เช่น พลังน้ำ นิวเคลียร์ และโซลาร์
    วางแผนพลังงานล่วงหน้าเพื่อรองรับความต้องการในอนาคต
    สามารถเปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินสำรองได้ทันทีหากจำเป็น
    พัฒนาเครือข่ายซื้อขายพลังงานสำรองระหว่างศูนย์ข้อมูล

    สหรัฐฯ เผชิญปัญหาโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้า
    ศูนย์ข้อมูล AI ทำให้ระบบไฟฟ้าสหรัฐฯ ตึงเครียด
    บริษัทเทคโนโลยีต้องสร้างโรงไฟฟ้าเอง เช่น Elon Musk
    ลงทุนในนิวเคลียร์ขนาดเล็กเพื่อรองรับความต้องการ
    ความล่าช้าในการอนุมัติโครงการใหม่เป็นอุปสรรคใหญ่
    ระบบสายส่งยังไม่พร้อมรองรับการขยายตัวของ AI

    ผลกระทบต่อการแข่งขันด้าน AI
    จีนสามารถใช้พลังงานมหาศาลเพื่อเร่งการประมวลผล AI
    สหรัฐฯ แม้มีฮาร์ดแวร์ที่ดีกว่า แต่ขาดพลังงานอาจเสียเปรียบ
    Huawei CloudMatrix ใช้พลังงานมหาศาลเพื่อเอาชนะ Nvidia GB200

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ai-experts-warn-that-china-is-miles-ahead-of-the-us-in-electricity-generation-lack-of-supply-and-infrastructure-threatens-the-uss-long-term-ai-plans
    ⚡️ เมื่อ AI กลายเป็นตัวดูดพลังงาน: จีนพร้อม แต่สหรัฐฯ ยังติดหล่ม ลองจินตนาการว่าโลกกำลังเข้าสู่ยุคที่ AI ไม่ใช่แค่ซอฟต์แวร์อัจฉริยะ แต่เป็นเครื่องจักรที่กินไฟมหาศาลเหมือนสัตว์ประหลาดในโรงงานไฟฟ้า และในสงครามเทคโนโลยีนี้ จีนดูเหมือนจะเตรียมตัวมาดีกว่าสหรัฐฯ หลายช่วงตัว จีนลงทุนมหาศาลในพลังงานสะอาด ทั้งพลังน้ำ พลังงานนิวเคลียร์ และโซลาร์ฟาร์มขนาดยักษ์ ทำให้มีพลังงานสำรองถึง 80–100% พร้อมรองรับการสร้างศูนย์ข้อมูล AI ใหม่ได้ทันที ในขณะที่สหรัฐฯ กลับต้องเผชิญกับปัญหาโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้าที่ไม่ทันความต้องการ จนบริษัทเทคโนโลยีต้องสร้างโรงไฟฟ้าเอง หรือหันไปพัฒนานิวเคลียร์ขนาดเล็ก แม้จีนจะมีข้อครหาว่าใช้โรงไฟฟ้าถ่านหิน แต่ก็มีแผนรองรับด้วยการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน และสามารถเปิดโรงไฟฟ้าสำรองได้ทันทีหากจำเป็น ขณะที่สหรัฐฯ ยังต้องเผชิญกับความล่าช้าในการอนุมัติโครงการใหม่ และความไม่แน่นอนของระบบสายส่ง ที่น่าสนใจคือ แม้จีนจะมีพลังงานเหลือเฟือ แต่ศูนย์ข้อมูลหลายแห่งกลับยังไม่ได้ใช้งานเต็มที่ จึงกำลังพัฒนาเครือข่ายซื้อขายพลังงานสำรองระหว่างกัน ส่วนสหรัฐฯ หากไม่เร่งแก้ปัญหา อาจเสียเปรียบในสงคราม AI แม้จะมีฮาร์ดแวร์ที่ดีกว่า เพราะ “ไม่มีไฟ ก็ไม่มี AI” ✅ จีนเตรียมพร้อมด้านพลังงานเพื่อรองรับ AI ➡️ มีพลังงานสำรอง 80–100% รองรับการสร้างศูนย์ข้อมูลใหม่ ➡️ ลงทุนในพลังงานสะอาด เช่น พลังน้ำ นิวเคลียร์ และโซลาร์ ➡️ วางแผนพลังงานล่วงหน้าเพื่อรองรับความต้องการในอนาคต ➡️ สามารถเปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินสำรองได้ทันทีหากจำเป็น ➡️ พัฒนาเครือข่ายซื้อขายพลังงานสำรองระหว่างศูนย์ข้อมูล ✅ สหรัฐฯ เผชิญปัญหาโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้า ➡️ ศูนย์ข้อมูล AI ทำให้ระบบไฟฟ้าสหรัฐฯ ตึงเครียด ➡️ บริษัทเทคโนโลยีต้องสร้างโรงไฟฟ้าเอง เช่น Elon Musk ➡️ ลงทุนในนิวเคลียร์ขนาดเล็กเพื่อรองรับความต้องการ ➡️ ความล่าช้าในการอนุมัติโครงการใหม่เป็นอุปสรรคใหญ่ ➡️ ระบบสายส่งยังไม่พร้อมรองรับการขยายตัวของ AI ✅ ผลกระทบต่อการแข่งขันด้าน AI ➡️ จีนสามารถใช้พลังงานมหาศาลเพื่อเร่งการประมวลผล AI ➡️ สหรัฐฯ แม้มีฮาร์ดแวร์ที่ดีกว่า แต่ขาดพลังงานอาจเสียเปรียบ ➡️ Huawei CloudMatrix ใช้พลังงานมหาศาลเพื่อเอาชนะ Nvidia GB200 https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ai-experts-warn-that-china-is-miles-ahead-of-the-us-in-electricity-generation-lack-of-supply-and-infrastructure-threatens-the-uss-long-term-ai-plans
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อหาอาชญากรสงครามกับไทย ,ถ้าเป็นยุคนี้คือมองว่าทหารไทยคือฝ่ายตรงข้าเรา,อังเคิลต้องการอะไรเดี๋ยวจัดให้,มันชัดเจนมากๆ,หากกระบวนการยุติธรรมเราไม่ลงโทษเด็ดขาดได้,ฝันไปเลยว่าจะยึดทรัพย์สินตระกูลฮุนในไทยได้,จริงอายัดทันทีตั้งแต่เปิดไทยก่อนแล้วโน้น,ใบการศึกษาผีบ้าอะไรที่มาเรียนในไทย นับรองในไทย เรียกคืนและยกเลิกทั้งหมดด้วย,กับอาชญากรสงครามกับไทยคงเป็นแค่วลีคำกระดาษไร้ค่า ไม่สามารถเล่นงานจริงจังอะไรกับฮุนเซยฮุนมาเนตได้หรือละครปาหี่แหกตาช่วยเหลือแรงงานให้มันแค่นั้นล่ะหรือลดกระแสสังหารฮุนเซนฮุนมาเนตลง.นอกจากได้นายกฯได้รัฐบาลชึดใหม่จริงๆแบบจากคณะรวมพลังแผ่นดินไทยนำโดยพันธมิตรเสื้อเหลืองแกนนำแบบอาสนธิหรือทีมงานคณะรวมแผ่นดินไทย ยกมือให้ใครมาขึ้นบริหารบ้านเมืองช่วยคร่าวฉุกเฉินให้ทันกาลก่อนก็ว่า เพราะความรักชาติและพร้อมทำสงครามกับกบฎคนทรยศประจำประเทศไทย คณะนี้ยืนหนึ่ง เพราะมาจากใจคนรักประเทศไทยทั้งหมดมิมีสีเสื้อใดๆแบบในอดีตมาเกี่ยวข้อง ใจสีแดงเพียงชาติตนเองเท่านั้นร่วมกันและพร้อมกำจัดภัยคุกคามอธิปไตยชาติไทยตนทั้งภายในคือไส้ศึกและภายนอกคือเขมรและฝรั่งต่างชาติที่เปิดเผยหน้าชกชัดเจนอยากได้บ่อน้ำมันในอ่าวไทยเรา ตลอดพื้นที่ดินแดนอีสานใต้ถึงอ่าวไทยที่มีแร่มีค่ามากมายที่พวกมันอยากได้ทองคำเพชรพลอยแร่เอิร์ดแร่พลังงานสะอาดต่างๆเป็นต้น.,ตลอดอเมริกาเองนำโดยทรัมป์ชัดเจนว่าอยากได้พังงายึดฮับการค้าไทยระดับโลกในอนาคตด้วย,เทียบช่องแคบมะละกากระจอกทันทีนั้นเองอาจคลองคอดกระขุดออกและแลนด์บริดจ์เติมเต็มข้อผิดพลาดอื่นๆ,blackrockอเมริกาต้องการยืนหนึ่งในเอเชียคือยึดไทยยึดทั้งเอเชียและทวีปแอฟริกาด้านการค้าการตลาดโคตรเม็ดเงินมหาศาลด้วย,ไทยและรอบๆไทยคือศูนย์กลางวัตถุดิบโลกด้วย,ไทยจึงคือจุดยุทธศาสตร์โลกที่แท้จริง,ที่อื่นๆกากหมด.,เช่นคลองปานามานั้น.
    ..เปลี่ยนรัฐบาลทั้งชุด พักงานระบบนักการเมืองสัก10-20ปี,ต่างชาติจะแทรกแซงอะไรๆลำบากมากในไทยเราทันที.

    https://youtube.com/shorts/WD8my-iKjOw?si=cRheukR9piNuQtEC
    ข้อหาอาชญากรสงครามกับไทย ,ถ้าเป็นยุคนี้คือมองว่าทหารไทยคือฝ่ายตรงข้าเรา,อังเคิลต้องการอะไรเดี๋ยวจัดให้,มันชัดเจนมากๆ,หากกระบวนการยุติธรรมเราไม่ลงโทษเด็ดขาดได้,ฝันไปเลยว่าจะยึดทรัพย์สินตระกูลฮุนในไทยได้,จริงอายัดทันทีตั้งแต่เปิดไทยก่อนแล้วโน้น,ใบการศึกษาผีบ้าอะไรที่มาเรียนในไทย นับรองในไทย เรียกคืนและยกเลิกทั้งหมดด้วย,กับอาชญากรสงครามกับไทยคงเป็นแค่วลีคำกระดาษไร้ค่า ไม่สามารถเล่นงานจริงจังอะไรกับฮุนเซยฮุนมาเนตได้หรือละครปาหี่แหกตาช่วยเหลือแรงงานให้มันแค่นั้นล่ะหรือลดกระแสสังหารฮุนเซนฮุนมาเนตลง.นอกจากได้นายกฯได้รัฐบาลชึดใหม่จริงๆแบบจากคณะรวมพลังแผ่นดินไทยนำโดยพันธมิตรเสื้อเหลืองแกนนำแบบอาสนธิหรือทีมงานคณะรวมแผ่นดินไทย ยกมือให้ใครมาขึ้นบริหารบ้านเมืองช่วยคร่าวฉุกเฉินให้ทันกาลก่อนก็ว่า เพราะความรักชาติและพร้อมทำสงครามกับกบฎคนทรยศประจำประเทศไทย คณะนี้ยืนหนึ่ง เพราะมาจากใจคนรักประเทศไทยทั้งหมดมิมีสีเสื้อใดๆแบบในอดีตมาเกี่ยวข้อง ใจสีแดงเพียงชาติตนเองเท่านั้นร่วมกันและพร้อมกำจัดภัยคุกคามอธิปไตยชาติไทยตนทั้งภายในคือไส้ศึกและภายนอกคือเขมรและฝรั่งต่างชาติที่เปิดเผยหน้าชกชัดเจนอยากได้บ่อน้ำมันในอ่าวไทยเรา ตลอดพื้นที่ดินแดนอีสานใต้ถึงอ่าวไทยที่มีแร่มีค่ามากมายที่พวกมันอยากได้ทองคำเพชรพลอยแร่เอิร์ดแร่พลังงานสะอาดต่างๆเป็นต้น.,ตลอดอเมริกาเองนำโดยทรัมป์ชัดเจนว่าอยากได้พังงายึดฮับการค้าไทยระดับโลกในอนาคตด้วย,เทียบช่องแคบมะละกากระจอกทันทีนั้นเองอาจคลองคอดกระขุดออกและแลนด์บริดจ์เติมเต็มข้อผิดพลาดอื่นๆ,blackrockอเมริกาต้องการยืนหนึ่งในเอเชียคือยึดไทยยึดทั้งเอเชียและทวีปแอฟริกาด้านการค้าการตลาดโคตรเม็ดเงินมหาศาลด้วย,ไทยและรอบๆไทยคือศูนย์กลางวัตถุดิบโลกด้วย,ไทยจึงคือจุดยุทธศาสตร์โลกที่แท้จริง,ที่อื่นๆกากหมด.,เช่นคลองปานามานั้น. ..เปลี่ยนรัฐบาลทั้งชุด พักงานระบบนักการเมืองสัก10-20ปี,ต่างชาติจะแทรกแซงอะไรๆลำบากมากในไทยเราทันที. https://youtube.com/shorts/WD8my-iKjOw?si=cRheukR9piNuQtEC
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากบทความ: เมื่อ “Abundance” ปะทะ “Anti-Monopoly” ในสนามนโยบายที่อยู่อาศัย

    ในช่วงหลังการเลือกตั้งปี 2024 แนวคิด “Abundance” หรือ “ความมั่งคั่งเข้าถึงได้” กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง โดยเสนอให้ลดข้อจำกัดด้านกฎหมายและขั้นตอนราชการ เพื่อเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ที่อยู่อาศัย พลังงาน และการขนส่ง

    แต่ฝ่าย “Anti-Monopoly” หรือ “ต่อต้านการผูกขาด” กลับมองว่าแนวคิดนี้อาจเปิดช่องให้บริษัทขนาดใหญ่เข้ามาครอบครองตลาด โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีหลักฐานว่าบริษัทลงทุนขนาดใหญ่กำลังซื้อบ้านเดี่ยวจำนวนมาก ทำให้ราคาบ้านและค่าเช่าพุ่งสูงขึ้น

    บทความหลายชิ้นชี้ว่า การแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยไม่ควรเลือกข้างระหว่าง “สร้างเยอะ” กับ “ควบคุมตลาด” แต่ควรใช้ทั้งสองแนวทางร่วมกัน เพื่อให้เกิดทั้งปริมาณและความเป็นธรรม

    แนวคิด Abundance เน้นลดข้อจำกัดเพื่อเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐาน
    เช่น ลดขั้นตอนการขออนุญาตก่อสร้าง
    ส่งเสริมการลงทุนในที่อยู่อาศัย พลังงานสะอาด และระบบขนส่ง

    ฝ่าย Anti-Monopoly เตือนว่าการลดข้อจำกัดอาจเปิดช่องให้เกิดการผูกขาด
    โดยเฉพาะในตลาดที่อยู่อาศัยที่บริษัทใหญ่เริ่มครอบครอง
    ส่งผลให้ราคาบ้านและค่าเช่าสูงขึ้น

    นักวิจารณ์เสนอว่าไม่ควรเลือกข้าง แต่ควรใช้ทั้งสองแนวทางร่วมกัน
    สร้างที่อยู่อาศัยให้มากขึ้น
    พร้อมควบคุมไม่ให้ตลาดถูกครอบงำโดยกลุ่มทุน

    มีหลักฐานว่าบริษัทลงทุนขนาดใหญ่ถือครองบ้านเดี่ยวจำนวนมากในบางพื้นที่
    เกิดการรวมศูนย์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์
    ทำให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงบ้านได้ยากขึ้น

    แนวคิด Abundance ยังเสนอให้ลดภาระต่อระบบนวัตกรรม เช่น R&D และการพัฒนาเทคโนโลยี
    เพื่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เข้าถึงได้ง่าย
    ลดต้นทุนการใช้ชีวิตในระยะยาว

    การลดข้อจำกัดโดยไม่ควบคุมอาจนำไปสู่การผูกขาดในตลาดที่อยู่อาศัย
    บริษัทใหญ่สามารถซื้อบ้านจำนวนมากและควบคุมราคา
    ทำให้ประชาชนทั่วไปเสียโอกาสในการเป็นเจ้าของบ้าน

    การเน้น “สร้างเยอะ” โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพและการกระจายอาจสร้างปัญหาใหม่
    ที่อยู่อาศัยอาจไม่ตอบโจทย์ผู้มีรายได้น้อย
    เกิดการกระจุกตัวของโครงสร้างพื้นฐานในบางพื้นที่

    การพึ่งพาภาคเอกชนมากเกินไปอาจทำให้รัฐสูญเสียบทบาทในการกำกับดูแล
    รัฐอาจไม่สามารถควบคุมราคาหรือคุณภาพได้
    ประชาชนอาจกลายเป็นผู้บริโภคที่ไม่มีอำนาจต่อรอง

    การมองข้ามบทบาทของนโยบายต่อต้านการผูกขาดอาจทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำระยะยาว
    ตลาดที่ไม่มีการแข่งขันจะไม่เกิดนวัตกรรม
    ผู้บริโภคต้องจ่ายแพงขึ้นโดยไม่มีทางเลือก

    https://www.derekthompson.org/p/the-anti-abundance-critique-on-housing
    🎙️ เรื่องเล่าจากบทความ: เมื่อ “Abundance” ปะทะ “Anti-Monopoly” ในสนามนโยบายที่อยู่อาศัย ในช่วงหลังการเลือกตั้งปี 2024 แนวคิด “Abundance” หรือ “ความมั่งคั่งเข้าถึงได้” กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง โดยเสนอให้ลดข้อจำกัดด้านกฎหมายและขั้นตอนราชการ เพื่อเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ที่อยู่อาศัย พลังงาน และการขนส่ง แต่ฝ่าย “Anti-Monopoly” หรือ “ต่อต้านการผูกขาด” กลับมองว่าแนวคิดนี้อาจเปิดช่องให้บริษัทขนาดใหญ่เข้ามาครอบครองตลาด โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีหลักฐานว่าบริษัทลงทุนขนาดใหญ่กำลังซื้อบ้านเดี่ยวจำนวนมาก ทำให้ราคาบ้านและค่าเช่าพุ่งสูงขึ้น บทความหลายชิ้นชี้ว่า การแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยไม่ควรเลือกข้างระหว่าง “สร้างเยอะ” กับ “ควบคุมตลาด” แต่ควรใช้ทั้งสองแนวทางร่วมกัน เพื่อให้เกิดทั้งปริมาณและความเป็นธรรม ✅ แนวคิด Abundance เน้นลดข้อจำกัดเพื่อเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ➡️ เช่น ลดขั้นตอนการขออนุญาตก่อสร้าง ➡️ ส่งเสริมการลงทุนในที่อยู่อาศัย พลังงานสะอาด และระบบขนส่ง ✅ ฝ่าย Anti-Monopoly เตือนว่าการลดข้อจำกัดอาจเปิดช่องให้เกิดการผูกขาด ➡️ โดยเฉพาะในตลาดที่อยู่อาศัยที่บริษัทใหญ่เริ่มครอบครอง ➡️ ส่งผลให้ราคาบ้านและค่าเช่าสูงขึ้น ✅ นักวิจารณ์เสนอว่าไม่ควรเลือกข้าง แต่ควรใช้ทั้งสองแนวทางร่วมกัน ➡️ สร้างที่อยู่อาศัยให้มากขึ้น ➡️ พร้อมควบคุมไม่ให้ตลาดถูกครอบงำโดยกลุ่มทุน ✅ มีหลักฐานว่าบริษัทลงทุนขนาดใหญ่ถือครองบ้านเดี่ยวจำนวนมากในบางพื้นที่ ➡️ เกิดการรวมศูนย์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ➡️ ทำให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงบ้านได้ยากขึ้น ✅ แนวคิด Abundance ยังเสนอให้ลดภาระต่อระบบนวัตกรรม เช่น R&D และการพัฒนาเทคโนโลยี ➡️ เพื่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เข้าถึงได้ง่าย ➡️ ลดต้นทุนการใช้ชีวิตในระยะยาว ‼️ การลดข้อจำกัดโดยไม่ควบคุมอาจนำไปสู่การผูกขาดในตลาดที่อยู่อาศัย ⛔ บริษัทใหญ่สามารถซื้อบ้านจำนวนมากและควบคุมราคา ⛔ ทำให้ประชาชนทั่วไปเสียโอกาสในการเป็นเจ้าของบ้าน ‼️ การเน้น “สร้างเยอะ” โดยไม่คำนึงถึงคุณภาพและการกระจายอาจสร้างปัญหาใหม่ ⛔ ที่อยู่อาศัยอาจไม่ตอบโจทย์ผู้มีรายได้น้อย ⛔ เกิดการกระจุกตัวของโครงสร้างพื้นฐานในบางพื้นที่ ‼️ การพึ่งพาภาคเอกชนมากเกินไปอาจทำให้รัฐสูญเสียบทบาทในการกำกับดูแล ⛔ รัฐอาจไม่สามารถควบคุมราคาหรือคุณภาพได้ ⛔ ประชาชนอาจกลายเป็นผู้บริโภคที่ไม่มีอำนาจต่อรอง ‼️ การมองข้ามบทบาทของนโยบายต่อต้านการผูกขาดอาจทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำระยะยาว ⛔ ตลาดที่ไม่มีการแข่งขันจะไม่เกิดนวัตกรรม ⛔ ผู้บริโภคต้องจ่ายแพงขึ้นโดยไม่มีทางเลือก https://www.derekthompson.org/p/the-anti-abundance-critique-on-housing
    WWW.DEREKTHOMPSON.ORG
    The Anti-Abundance Critique on Housing Is Dead Wrong
    Antitrust critics say that homebuilding monopolies are the real culprit of America’s housing woes. I looked into some of their claims. They don’t hold up.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 รีวิว
  • “พีระพันธุ์” เคลียร์ปมซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาด ยันรัฐบาลปัจจุบันกำลังแก้ปัญหา จ่อชะลอเซ็นสัญญา-ลดราคา
    https://www.thai-tai.tv/news/20677/
    .
    #ไทยไทด้วย #พีระพันธุ์สาลีรัฐวิภาค #กระทรวงพลังงาน #ค่าไฟ #พลังงานสะอาด #โรงไฟฟ้าชุมชน #PDP #สภาผู้แทนราษฎร #แก้ปัญหาประชาชน #ตรวจสอบ
    “พีระพันธุ์” เคลียร์ปมซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาด ยันรัฐบาลปัจจุบันกำลังแก้ปัญหา จ่อชะลอเซ็นสัญญา-ลดราคา https://www.thai-tai.tv/news/20677/ . #ไทยไทด้วย #พีระพันธุ์สาลีรัฐวิภาค #กระทรวงพลังงาน #ค่าไฟ #พลังงานสะอาด #โรงไฟฟ้าชุมชน #PDP #สภาผู้แทนราษฎร #แก้ปัญหาประชาชน #ตรวจสอบ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากอวกาศ: เมื่อแสงอาทิตย์ถูก “ขาย” หลังพระอาทิตย์ตก

    Reflect Orbital วางแผนส่งดาวเทียม 57 ดวงขึ้นสู่วงโคจรต่ำ (600 กม.) โดยแต่ละดวงจะกางแผ่นฟิล์ม Mylar ขนาด 33x33 ฟุต ซึ่งมีน้ำหนักเบา ทนทาน และสะท้อนแสงได้ดี จุดประสงค์คือสะท้อนแสงอาทิตย์ไปยังฟาร์มโซลาร์หรือพื้นที่ที่ต้องการแสงสว่างในเวลากลางคืน

    ผู้ใช้งานสามารถระบุพิกัดเป้าหมายผ่านเว็บไซต์ และระบบจะปรับทิศทางของกระจกให้สะท้อนแสงไปยังจุดนั้นโดยอัตโนมัติ โดยใช้ระบบควบคุมทิศทางขั้นสูง เช่น reaction wheels เพื่อให้แสงตกกระทบอย่างแม่นยำ

    แม้แนวคิดนี้จะน่าตื่นเต้น แต่ก็เผชิญกับความท้าทายทางวิศวกรรม เช่น การปรับตำแหน่งให้ตรงกับการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์และการหมุนของโลก รวมถึงผลกระทบจากเมฆและการกระเจิงของแสงในชั้นบรรยากาศ

    Reflect Orbital พัฒนาเครือข่ายดาวเทียมพร้อมกระจก Mylar เพื่อสะท้อนแสงอาทิตย์กลับมายังโลกในเวลากลางคืน
    ดาวเทียมแต่ละดวงมีน้ำหนักประมาณ 35 ปอนด์ ทำให้ต้นทุนการส่งต่ำ
    กระจก Mylar ขนาด 33x33 ฟุต มีคุณสมบัติสะท้อนแสงสูงและน้ำหนักเบา

    ระบบสามารถปรับทิศทางแสงได้ตามพิกัดที่ผู้ใช้ระบุผ่านเว็บไซต์
    ใช้ระบบควบคุมทิศทางขั้นสูงเพื่อติดตามดวงอาทิตย์และเป้าหมายบนโลก
    แสงจะตกกระทบเฉพาะพื้นที่เป้าหมายในแนวแคบ ลดผลกระทบต่อพื้นที่โดยรอบ

    มีการทดสอบเบื้องต้นด้วยบอลลูนและกระจกขนาดเล็ก
    ผลการทดลองสามารถผลิตพลังงานได้ถึง 500 วัตต์ต่อตารางเมตร
    ประมาณครึ่งหนึ่งของความสว่างจากดวงอาทิตย์จริง

    บริษัทวางแผนปฏิบัติตามกฎการกำจัดขยะอวกาศอย่างเคร่งครัด
    ดาวเทียมต้องถูกนำออกจากวงโคจรภายใน 25 ปีหลังสิ้นสุดภารกิจ
    ลดความเสี่ยงในการเพิ่มขยะอวกาศในระยะยาว

    โครงการได้รับความสนใจจากนักลงทุนและผู้ใช้งานทั่วโลก
    มีผู้ลงทะเบียน “ขอแสง” ผ่านเว็บไซต์แล้วหลายหมื่นราย
    เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาแหล่งพลังงานสะอาดแบบต่อเนื่อง

    การสะท้อนแสงจากอวกาศอาจเพิ่มปัญหา “มลภาวะทางแสง” ในเวลากลางคืน
    ส่งผลกระทบต่อการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์
    อาจรบกวนพฤติกรรมของสัตว์กลางคืนและวงจรชีวภาพของมนุษย์

    ความแม่นยำในการเล็งแสงต้องใช้เทคโนโลยีควบคุมระดับสูง
    การเบี่ยงเบนเล็กน้อยอาจทำให้แสงไม่ตกตรงเป้าหมาย
    เมฆและชั้นบรรยากาศอาจลดประสิทธิภาพของแสงสะท้อน

    การเพิ่มจำนวนดาวเทียมอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อขยะอวกาศ
    หากไม่มีการกำจัดอย่างเหมาะสม อาจรบกวนดาวเทียมอื่น
    ต้องมีระบบติดตามและควบคุมการเคลื่อนที่อย่างเข้มงวด

    ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมยังอยู่ระหว่างการประเมิน
    อาจส่งผลต่อระบบนิเวศที่พึ่งพาวงจรแสงธรรมชาติ
    ต้องมีการร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมก่อนการใช้งานเต็มรูปแบบ

    https://www.techspot.com/news/108849-startup-aims-beam-sunlight-space-using-mirrors.html
    ☀️ เรื่องเล่าจากอวกาศ: เมื่อแสงอาทิตย์ถูก “ขาย” หลังพระอาทิตย์ตก Reflect Orbital วางแผนส่งดาวเทียม 57 ดวงขึ้นสู่วงโคจรต่ำ (600 กม.) โดยแต่ละดวงจะกางแผ่นฟิล์ม Mylar ขนาด 33x33 ฟุต ซึ่งมีน้ำหนักเบา ทนทาน และสะท้อนแสงได้ดี จุดประสงค์คือสะท้อนแสงอาทิตย์ไปยังฟาร์มโซลาร์หรือพื้นที่ที่ต้องการแสงสว่างในเวลากลางคืน ผู้ใช้งานสามารถระบุพิกัดเป้าหมายผ่านเว็บไซต์ และระบบจะปรับทิศทางของกระจกให้สะท้อนแสงไปยังจุดนั้นโดยอัตโนมัติ โดยใช้ระบบควบคุมทิศทางขั้นสูง เช่น reaction wheels เพื่อให้แสงตกกระทบอย่างแม่นยำ แม้แนวคิดนี้จะน่าตื่นเต้น แต่ก็เผชิญกับความท้าทายทางวิศวกรรม เช่น การปรับตำแหน่งให้ตรงกับการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์และการหมุนของโลก รวมถึงผลกระทบจากเมฆและการกระเจิงของแสงในชั้นบรรยากาศ ✅ Reflect Orbital พัฒนาเครือข่ายดาวเทียมพร้อมกระจก Mylar เพื่อสะท้อนแสงอาทิตย์กลับมายังโลกในเวลากลางคืน ➡️ ดาวเทียมแต่ละดวงมีน้ำหนักประมาณ 35 ปอนด์ ทำให้ต้นทุนการส่งต่ำ ➡️ กระจก Mylar ขนาด 33x33 ฟุต มีคุณสมบัติสะท้อนแสงสูงและน้ำหนักเบา ✅ ระบบสามารถปรับทิศทางแสงได้ตามพิกัดที่ผู้ใช้ระบุผ่านเว็บไซต์ ➡️ ใช้ระบบควบคุมทิศทางขั้นสูงเพื่อติดตามดวงอาทิตย์และเป้าหมายบนโลก ➡️ แสงจะตกกระทบเฉพาะพื้นที่เป้าหมายในแนวแคบ ลดผลกระทบต่อพื้นที่โดยรอบ ✅ มีการทดสอบเบื้องต้นด้วยบอลลูนและกระจกขนาดเล็ก ➡️ ผลการทดลองสามารถผลิตพลังงานได้ถึง 500 วัตต์ต่อตารางเมตร ➡️ ประมาณครึ่งหนึ่งของความสว่างจากดวงอาทิตย์จริง ✅ บริษัทวางแผนปฏิบัติตามกฎการกำจัดขยะอวกาศอย่างเคร่งครัด ➡️ ดาวเทียมต้องถูกนำออกจากวงโคจรภายใน 25 ปีหลังสิ้นสุดภารกิจ ➡️ ลดความเสี่ยงในการเพิ่มขยะอวกาศในระยะยาว ✅ โครงการได้รับความสนใจจากนักลงทุนและผู้ใช้งานทั่วโลก ➡️ มีผู้ลงทะเบียน “ขอแสง” ผ่านเว็บไซต์แล้วหลายหมื่นราย ➡️ เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาแหล่งพลังงานสะอาดแบบต่อเนื่อง ‼️ การสะท้อนแสงจากอวกาศอาจเพิ่มปัญหา “มลภาวะทางแสง” ในเวลากลางคืน ⛔ ส่งผลกระทบต่อการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ ⛔ อาจรบกวนพฤติกรรมของสัตว์กลางคืนและวงจรชีวภาพของมนุษย์ ‼️ ความแม่นยำในการเล็งแสงต้องใช้เทคโนโลยีควบคุมระดับสูง ⛔ การเบี่ยงเบนเล็กน้อยอาจทำให้แสงไม่ตกตรงเป้าหมาย ⛔ เมฆและชั้นบรรยากาศอาจลดประสิทธิภาพของแสงสะท้อน ‼️ การเพิ่มจำนวนดาวเทียมอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อขยะอวกาศ ⛔ หากไม่มีการกำจัดอย่างเหมาะสม อาจรบกวนดาวเทียมอื่น ⛔ ต้องมีระบบติดตามและควบคุมการเคลื่อนที่อย่างเข้มงวด ‼️ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมยังอยู่ระหว่างการประเมิน ⛔ อาจส่งผลต่อระบบนิเวศที่พึ่งพาวงจรแสงธรรมชาติ ⛔ ต้องมีการร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมก่อนการใช้งานเต็มรูปแบบ https://www.techspot.com/news/108849-startup-aims-beam-sunlight-space-using-mirrors.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Startup aims to beam sunlight from space using mirrors
    At the heart of Reflect Orbital's project are its Mylar mirrors. Each satellite will unfurl a 33-by-33-foot sheet of lightweight polyester film known for its durability and...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 246 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนและสเมริกามองประเทศไทยในบริบททางยุทธศาสตร์และผลประโยชน์ที่แตกต่างกัน แต่ทั้งสองประเทศต่างให้ความสำคัญกับบทบาทของไทยในภูมิภาค ดังนี้

    ### มุมมองของจีนต่อไทย:
    1. **หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เชิงภูมิภาค**
    - จีนมองไทยเป็น "ศูนย์กลางเชื่อมโยงอาเซียน-จีน" ภายใต้ความริเริ่ม Belt and Road (BRI) โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงและระเบียงเศรษฐกิจอีสานตะวันออก (EEC)
    - ให้ความสำคัญกับไทยในฐานะคู่ค้าอันดับ 1 ในอาเซียน (มูลค่าการค้า 1.35 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023)

    2. **ความร่วมมือด้านความมั่นคง**
    - ส่งเสริมการฝึกทหารร่วมและความร่วมมือด้านอาชญากรรมข้ามชาติ
    - เน้นการแก้ไขปัญหาภาคใต้ของไทยโดยไม่แทรกแซงกิจการภายใน

    3. **มิติทางวัฒนธรรม**
    - ใช้ "อำนาจอ่อน" ผ่านสถาบันขงจื่อและการท่องเที่ยว (นักท่องเที่ยวจีนมาไทยกว่า 5 ล้านคน/ปีก่อนโควิด)

    ### มุมมองของสหรัฐอเมริกาต่อไทย:
    1. **พันธมิตรด้านความมั่นคงแบบดั้งเดิม**
    - เน้นบทบาทไทยในสนธิสัญญาป้องกันร่วมกันอาเซียน-สหรัฐฯ (ADMM-Plus) และการฝึก Cobra Gold
    - ยังคงสถานะ "พันธมิตรนอกนาโต้" (Major Non-NATO Ally) แม้มีความกังวลหลังรัฐประการ 2557

    2. **เกมภูมิรัฐศาสตร์**
    - มองไทยเป็นจุดสมดุลสำคัญต่อการขยายอิทธิพลจีนในลุ่มแม่น้ำโขง
    - สนับสนุนความเข้มแข็งของอาเซียนผ่านโครงการ Mekong-US Partnership

    3. **ประเด็นค่านิยม**
    - กดดันไทยเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง
    - ใช้กลไกตรวจสอบการค้า (เช่น รายงาน TIP Report) เป็นเครื่องมือทางการทูต

    ### จุดร่วมของทั้งสองมหาอำนาจ:
    - เห็นไทยเป็น "ประตูสู่อาเซียน" ด้วยศักยภาพทางโลจิสติกส์และฐานการผลิต
    - ต่างแข่งขันลงทุนใน EEC โดยจีนเน้นอุตสาหกรรม (เช่น ยานยนต์ EV) สหรัฐฯ เน้นดิจิทัลและพลังงานสะอาด
    - ให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางอาหารของไทยในห่วงโซ่อุปทานโลก

    ### ยุทธศาสตร์ "สมดุลอำนาจ" ของไทย:
    ไทยดำเนินนโยบาย "ไม้สามเส้า" อย่างชาญฉลาด โดย:
    1. รักษาความสัมพันธ์ทางทหารกับสหรัฐฯ
    2. ผลักดันความร่วมมือเศรษฐกิจกับจีน
    3. ยึดอาเซียนเป็นศูนย์กลาง

    ข้อมูลล่าสุดปี 2024 แสดงให้เห็นว่าไทยสามารถรักษาสัดส่วนการค้ากับทั้งสองมหาอำนาจได้ใกล้เคียงกัน (การค้าไทย-จีน 18% ของทั้งหมด ไทย-สหรัฐฯ 11%) สะท้อนความสำเร็จของยุทธศาสตร์นี้ภายใต้บริบทความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจที่ทวีความรุนแรงขึ้น
    จีนและสเมริกามองประเทศไทยในบริบททางยุทธศาสตร์และผลประโยชน์ที่แตกต่างกัน แต่ทั้งสองประเทศต่างให้ความสำคัญกับบทบาทของไทยในภูมิภาค ดังนี้ ### มุมมองของจีนต่อไทย: 1. **หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เชิงภูมิภาค** - จีนมองไทยเป็น "ศูนย์กลางเชื่อมโยงอาเซียน-จีน" ภายใต้ความริเริ่ม Belt and Road (BRI) โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงและระเบียงเศรษฐกิจอีสานตะวันออก (EEC) - ให้ความสำคัญกับไทยในฐานะคู่ค้าอันดับ 1 ในอาเซียน (มูลค่าการค้า 1.35 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023) 2. **ความร่วมมือด้านความมั่นคง** - ส่งเสริมการฝึกทหารร่วมและความร่วมมือด้านอาชญากรรมข้ามชาติ - เน้นการแก้ไขปัญหาภาคใต้ของไทยโดยไม่แทรกแซงกิจการภายใน 3. **มิติทางวัฒนธรรม** - ใช้ "อำนาจอ่อน" ผ่านสถาบันขงจื่อและการท่องเที่ยว (นักท่องเที่ยวจีนมาไทยกว่า 5 ล้านคน/ปีก่อนโควิด) ### มุมมองของสหรัฐอเมริกาต่อไทย: 1. **พันธมิตรด้านความมั่นคงแบบดั้งเดิม** - เน้นบทบาทไทยในสนธิสัญญาป้องกันร่วมกันอาเซียน-สหรัฐฯ (ADMM-Plus) และการฝึก Cobra Gold - ยังคงสถานะ "พันธมิตรนอกนาโต้" (Major Non-NATO Ally) แม้มีความกังวลหลังรัฐประการ 2557 2. **เกมภูมิรัฐศาสตร์** - มองไทยเป็นจุดสมดุลสำคัญต่อการขยายอิทธิพลจีนในลุ่มแม่น้ำโขง - สนับสนุนความเข้มแข็งของอาเซียนผ่านโครงการ Mekong-US Partnership 3. **ประเด็นค่านิยม** - กดดันไทยเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง - ใช้กลไกตรวจสอบการค้า (เช่น รายงาน TIP Report) เป็นเครื่องมือทางการทูต ### จุดร่วมของทั้งสองมหาอำนาจ: - เห็นไทยเป็น "ประตูสู่อาเซียน" ด้วยศักยภาพทางโลจิสติกส์และฐานการผลิต - ต่างแข่งขันลงทุนใน EEC โดยจีนเน้นอุตสาหกรรม (เช่น ยานยนต์ EV) สหรัฐฯ เน้นดิจิทัลและพลังงานสะอาด - ให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางอาหารของไทยในห่วงโซ่อุปทานโลก ### ยุทธศาสตร์ "สมดุลอำนาจ" ของไทย: ไทยดำเนินนโยบาย "ไม้สามเส้า" อย่างชาญฉลาด โดย: 1. รักษาความสัมพันธ์ทางทหารกับสหรัฐฯ 2. ผลักดันความร่วมมือเศรษฐกิจกับจีน 3. ยึดอาเซียนเป็นศูนย์กลาง ข้อมูลล่าสุดปี 2024 แสดงให้เห็นว่าไทยสามารถรักษาสัดส่วนการค้ากับทั้งสองมหาอำนาจได้ใกล้เคียงกัน (การค้าไทย-จีน 18% ของทั้งหมด ไทย-สหรัฐฯ 11%) สะท้อนความสำเร็จของยุทธศาสตร์นี้ภายใต้บริบทความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจที่ทวีความรุนแรงขึ้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 528 มุมมอง 0 รีวิว
  • MSC World Asia เรือสำราญระดับ World-class ลำใหม่ล่าสุดจาก MSC Cruises
    เตรียมเปิดให้บริการเที่ยวแรกในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนวันที่ 11 ธันวาคม 2568

    เรือรุ่นที่ 3 ในซีรีส์ “World-class” ต่อจาก MSC World Europa และ MSC World America ใช้พลังงานสะอาด LNG (Liquefied Natural Gas) ลดการปล่อยคาร์บอน พร้อมโครงสร้างรูปตัว “Y” ลานโปรเมอนาดกลางแจ้งขนาดใหญ่ด้านท้ายเรือ ตกแต่งด้วยแรงบันดาลใจจากศิลปะและวัฒนธรรมเอเชีย ทั้งโทนสี ลวดลาย และการจัดวางพื้นที่

    MSC จะไม่ใช่แค่เรือสำราญ แต่เป็น “ประสบการณ์เอเชียบนเรือยุโรป” ที่สะดวกสบายและล้ำสมัย
    ผสมผสาน มรดกวัฒนธรรมโลกเข้ากับเทคโนโลยีเดินเรือระดับสูง สำหรับผู้โดยสารยุคใหม่ที่ต้องการความแปลกใหม่และคุณภาพแบบพรีเมียม

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    http://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 02-1169696

    #เรือMSCCruises #MSCWorldAsia #Worldclass #Mediterranean #MSC #แพ็คเกจล่องเรือ #cruisedomain #News #ข่าวเรือสำราญ #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    🚢 MSC World Asia เรือสำราญระดับ World-class ลำใหม่ล่าสุดจาก MSC Cruises เตรียมเปิดให้บริการเที่ยวแรกในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนวันที่ 11 ธันวาคม 2568 🌏 เรือรุ่นที่ 3 ในซีรีส์ “World-class” ต่อจาก MSC World Europa และ MSC World America ใช้พลังงานสะอาด LNG (Liquefied Natural Gas) ลดการปล่อยคาร์บอน พร้อมโครงสร้างรูปตัว “Y” ลานโปรเมอนาดกลางแจ้งขนาดใหญ่ด้านท้ายเรือ ตกแต่งด้วยแรงบันดาลใจจากศิลปะและวัฒนธรรมเอเชีย ทั้งโทนสี ลวดลาย และการจัดวางพื้นที่ MSC จะไม่ใช่แค่เรือสำราญ แต่เป็น “ประสบการณ์เอเชียบนเรือยุโรป” ที่สะดวกสบายและล้ำสมัย ผสมผสาน มรดกวัฒนธรรมโลกเข้ากับเทคโนโลยีเดินเรือระดับสูง สำหรับผู้โดยสารยุคใหม่ที่ต้องการความแปลกใหม่และคุณภาพแบบพรีเมียม ✅ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด http://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 02-1169696 #เรือMSCCruises #MSCWorldAsia #Worldclass #Mediterranean #MSC #แพ็คเกจล่องเรือ #cruisedomain #News #ข่าวเรือสำราญ #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 512 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แพลตฟอร์ม AI ต่าง ๆ เช่น ChatGPT, Sora, xAI ฯลฯ ได้กระตุ้นให้บริษัทเทคโนโลยีทั่วสหรัฐฯ แห่กันสร้างดาต้าเซ็นเตอร์แบบเร่งด่วน → โดยเฉพาะในพื้นที่ “Data Center Alley” รัฐ Virginia ที่กลายเป็นศูนย์กลางของโลกในการประมวลผล AI

    ปัญหาคือ...ดาต้าเซ็นเตอร์เหล่านี้ใช้พลังงานมหาศาล → ส่งผลให้ความต้องการไฟฟ้าในโซนตะวันออกของสหรัฐฯ ภายใต้การดูแลของ PJM เพิ่มขึ้นเร็วมาก → ราคาพลังงานใน Pennsylvania พุ่งขึ้นกว่า 800% จากการประมูลสิทธิกำลังผลิต → และอาจมี blackout ในหน้าร้อนปี 2025

    ผู้ว่าการรัฐ Josh Shapiro ออกมาเรียกร้องว่า → ถ้า PJM ไม่เร่งอนุมัติโรงไฟฟ้าใหม่ หรือขยายกริดให้ไวขึ้น → รัฐอาจต้อง “ถอนตัว” แล้วสร้างระบบพลังงานแยกของตัวเอง

    PJM Interconnection คือองค์กรจัดการกริดพลังงานครอบคลุม 13 รัฐ รวมถึง Pennsylvania  
    • เป็นผู้ดูแลการซื้อขายพลังงานระดับ wholesale  
    • ต้องรับแรงกดดันจากดาต้าเซ็นเตอร์ AI ทั่วภูมิภาค

    การเปิดตัว ChatGPT และดาต้าเซ็นเตอร์ AI ตั้งแต่ปี 2023 ทำให้ความต้องการไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  
    • Elon Musk ถึงขั้นต้องส่งโรงไฟฟ้าทั้งชุดไปยังสหรัฐฯ เพื่อรองรับโครงการ Colossus ของ xAI

    PJM เคยชะลอการเชื่อมต่อโรงไฟฟ้าใหม่ในปี 2022 เพราะมีโครงการพลังงานสะอาดเข้ามามากเกินไป → ตรวจสอบไม่ทัน

    PJM ประเมินว่า ภายในปี 2030 จะต้องเพิ่มกำลังผลิตอีก 32 GW  
    • ในจำนวนนี้กว่า 30 GW จะถูกใช้กับดาต้าเซ็นเตอร์ AI ใหม่ทั้งหมด

    เพื่อเร่งแก้ปัญหา รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งให้โรงไฟฟ้าเก่าที่กำลังจะปิดกลับมาเปิดใช้งานหน้าร้อนนี้แทนการปิดตามแผน

    ผู้ว่าการรัฐ Pennsylvania เรียกร้องว่า “PJM ต้องเร็วขึ้น–โปร่งใสขึ้น–และลดต้นทุนพลังงานให้ประชาชน”

    PJM ได้อนุมัติโครงการโรงไฟฟ้าใหม่กว่า 50 แห่งแล้ว → แต่ส่วนใหญ่จะออนไลน์จริงในช่วงต้นทศวรรษ 2030

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ai-is-eating-up-pennsylvanias-power-governor-threatens-to-pull-state-from-the-grid-new-plants-arent-being-built-fast-enough-to-keep-up-with-demand
    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แพลตฟอร์ม AI ต่าง ๆ เช่น ChatGPT, Sora, xAI ฯลฯ ได้กระตุ้นให้บริษัทเทคโนโลยีทั่วสหรัฐฯ แห่กันสร้างดาต้าเซ็นเตอร์แบบเร่งด่วน → โดยเฉพาะในพื้นที่ “Data Center Alley” รัฐ Virginia ที่กลายเป็นศูนย์กลางของโลกในการประมวลผล AI ปัญหาคือ...ดาต้าเซ็นเตอร์เหล่านี้ใช้พลังงานมหาศาล → ส่งผลให้ความต้องการไฟฟ้าในโซนตะวันออกของสหรัฐฯ ภายใต้การดูแลของ PJM เพิ่มขึ้นเร็วมาก → ราคาพลังงานใน Pennsylvania พุ่งขึ้นกว่า 800% จากการประมูลสิทธิกำลังผลิต → และอาจมี blackout ในหน้าร้อนปี 2025 ผู้ว่าการรัฐ Josh Shapiro ออกมาเรียกร้องว่า → ถ้า PJM ไม่เร่งอนุมัติโรงไฟฟ้าใหม่ หรือขยายกริดให้ไวขึ้น → รัฐอาจต้อง “ถอนตัว” แล้วสร้างระบบพลังงานแยกของตัวเอง ✅ PJM Interconnection คือองค์กรจัดการกริดพลังงานครอบคลุม 13 รัฐ รวมถึง Pennsylvania   • เป็นผู้ดูแลการซื้อขายพลังงานระดับ wholesale   • ต้องรับแรงกดดันจากดาต้าเซ็นเตอร์ AI ทั่วภูมิภาค ✅ การเปิดตัว ChatGPT และดาต้าเซ็นเตอร์ AI ตั้งแต่ปี 2023 ทำให้ความต้องการไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว   • Elon Musk ถึงขั้นต้องส่งโรงไฟฟ้าทั้งชุดไปยังสหรัฐฯ เพื่อรองรับโครงการ Colossus ของ xAI ✅ PJM เคยชะลอการเชื่อมต่อโรงไฟฟ้าใหม่ในปี 2022 เพราะมีโครงการพลังงานสะอาดเข้ามามากเกินไป → ตรวจสอบไม่ทัน ✅ PJM ประเมินว่า ภายในปี 2030 จะต้องเพิ่มกำลังผลิตอีก 32 GW   • ในจำนวนนี้กว่า 30 GW จะถูกใช้กับดาต้าเซ็นเตอร์ AI ใหม่ทั้งหมด ✅ เพื่อเร่งแก้ปัญหา รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งให้โรงไฟฟ้าเก่าที่กำลังจะปิดกลับมาเปิดใช้งานหน้าร้อนนี้แทนการปิดตามแผน ✅ ผู้ว่าการรัฐ Pennsylvania เรียกร้องว่า “PJM ต้องเร็วขึ้น–โปร่งใสขึ้น–และลดต้นทุนพลังงานให้ประชาชน” ✅ PJM ได้อนุมัติโครงการโรงไฟฟ้าใหม่กว่า 50 แห่งแล้ว → แต่ส่วนใหญ่จะออนไลน์จริงในช่วงต้นทศวรรษ 2030 https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ai-is-eating-up-pennsylvanias-power-governor-threatens-to-pull-state-from-the-grid-new-plants-arent-being-built-fast-enough-to-keep-up-with-demand
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 322 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 "โดนัลด์ ทรัมป์" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวโจมตีพลังงานลมระหว่างการปราศรัย โดยระบุว่ากังหันลม “ทำลายทุ่งหญ้าและหุบเขาในอเมริกา ฆ่านก และไร้ประโยชน์” พร้อมพาดพิงถึงจีนว่า “ตนไม่เคยเห็นฟาร์มกังหันลมในประเทศจีนเลยสักแห่ง”

    คำพูดดังกล่าวสร้างเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ โดยชาวเน็ตจีนจำนวนมากพากันโพสต์ภาพฟาร์มพลังงานลมของจีนจากทั่วประเทศลงในโซเชียลมีเดียเพื่อโต้กลับคำพูดของทรัมป์ พร้อมย้ำว่าจีนไม่เพียงมีฟาร์มพลังงานลม แต่ยังเป็นผู้นำระดับโลกในด้านการพัฒนาและใช้พลังงานสะอาด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000063441

    #MGROnline #กังหันลม
    วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 "โดนัลด์ ทรัมป์" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวโจมตีพลังงานลมระหว่างการปราศรัย โดยระบุว่ากังหันลม “ทำลายทุ่งหญ้าและหุบเขาในอเมริกา ฆ่านก และไร้ประโยชน์” พร้อมพาดพิงถึงจีนว่า “ตนไม่เคยเห็นฟาร์มกังหันลมในประเทศจีนเลยสักแห่ง” • คำพูดดังกล่าวสร้างเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ โดยชาวเน็ตจีนจำนวนมากพากันโพสต์ภาพฟาร์มพลังงานลมของจีนจากทั่วประเทศลงในโซเชียลมีเดียเพื่อโต้กลับคำพูดของทรัมป์ พร้อมย้ำว่าจีนไม่เพียงมีฟาร์มพลังงานลม แต่ยังเป็นผู้นำระดับโลกในด้านการพัฒนาและใช้พลังงานสะอาด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000063441 • #MGROnline #กังหันลม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลายคนอาจคิดว่าชิป AI หรือคลาวด์คือปัญหาใหญ่ของยุคนี้ — แต่จริง ๆ แล้วศูนย์ข้อมูล AI ทั้งหลายมีอีกสิ่งที่ “กินไม่อั้น” ยิ่งกว่า…นั่นคือ “ไฟฟ้า”

    Meta หนึ่งในบริษัทที่ลงทุนใน AI หนักมาก (ตั้งเป้าใช้ $65 พันล้านในด้านนี้) เริ่มเผชิญ “คอขวดด้านพลังงาน” อย่างหนัก เลยต้องเดินเกมสองด้าน:

    1️⃣ หันไปซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาด จากบริษัท Invenergy ทั้งแสงอาทิตย์และลม รวมกัน 1,800 เมกะวัตต์ (MW)

    2️⃣ ขุดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เก่าในรัฐอิลลินอยส์กลับมาใช้งานอีกครั้ง เป็นเวลานาน 20 ปี!

    3️⃣ ยังไม่พอ Meta ยังประกาศหา “พันธมิตรด้านพลังงานนิวเคลียร์ใหม่” ในสหรัฐอีกด้วย เพราะวางแผนจะสร้างไฟนิวเคลียร์ใหม่ให้ได้ 1–4 กิกะวัตต์ (GW) ภายในต้นทศวรรษ 2030

    แม้พลังงานหมุนเวียนจะสะอาดและดีต่อสิ่งแวดล้อม แต่ก็ไม่สามารถให้พลังงานได้ “แน่นอนทุกวินาที” เหมือนนิวเคลียร์ ทำให้ในระยะยาว Meta และบริษัทเทคอื่น ๆ ต้องพึ่งไฟแบบ “เสถียรคงที่” มากขึ้น

    Meta เซ็นสัญญากับ Invenergy เพื่อซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพิ่ม 791 MW  
    • ครอบคลุมพลังงานแสงอาทิตย์และลม  
    • เพิ่มจากข้อตกลงเดิมปีที่แล้วอีก 760 MW → รวมกลายเป็น 1,800 MW

    พลังงานหมุนเวียนมาจากโครงการในรัฐ Ohio, Arkansas, Texas  
    • ใช้ป้อนศูนย์ข้อมูลของ Meta ในพื้นที่นั้น ๆ

    Meta ประกาศแผนหาโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์เพิ่มอีก 1–4 GW ภายในต้นปี 2030  
    • เปิด RFP หาผู้พัฒนาใหม่จากสหรัฐฯ ตั้งแต่ปีที่แล้ว

    ร่วมกับบริษัท Constellation เพื่อฟื้นฟูโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในรัฐ Illinois  
    • โรงงานนี้หยุดทำงานไปตั้งแต่ปี 2017 จากปัญหาขาดทุน  
    • Meta จะใช้พลังงานจากโรงงานนี้อีกอย่างน้อย 20 ปี

    ความต้องการไฟฟ้าจาก AI Data Center กลายเป็นแรงผลักดันให้ Big Tech หันมาลงทุนโครงสร้างพื้นฐานพลังงานโดยตรง

    https://www.neowin.net/news/meta-is-now-using-every-possible-source-to-power-its-data-centers/
    หลายคนอาจคิดว่าชิป AI หรือคลาวด์คือปัญหาใหญ่ของยุคนี้ — แต่จริง ๆ แล้วศูนย์ข้อมูล AI ทั้งหลายมีอีกสิ่งที่ “กินไม่อั้น” ยิ่งกว่า…นั่นคือ “ไฟฟ้า” Meta หนึ่งในบริษัทที่ลงทุนใน AI หนักมาก (ตั้งเป้าใช้ $65 พันล้านในด้านนี้) เริ่มเผชิญ “คอขวดด้านพลังงาน” อย่างหนัก เลยต้องเดินเกมสองด้าน: 1️⃣ หันไปซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาด จากบริษัท Invenergy ทั้งแสงอาทิตย์และลม รวมกัน 1,800 เมกะวัตต์ (MW) 2️⃣ ขุดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เก่าในรัฐอิลลินอยส์กลับมาใช้งานอีกครั้ง เป็นเวลานาน 20 ปี! 3️⃣ ยังไม่พอ Meta ยังประกาศหา “พันธมิตรด้านพลังงานนิวเคลียร์ใหม่” ในสหรัฐอีกด้วย เพราะวางแผนจะสร้างไฟนิวเคลียร์ใหม่ให้ได้ 1–4 กิกะวัตต์ (GW) ภายในต้นทศวรรษ 2030 แม้พลังงานหมุนเวียนจะสะอาดและดีต่อสิ่งแวดล้อม แต่ก็ไม่สามารถให้พลังงานได้ “แน่นอนทุกวินาที” เหมือนนิวเคลียร์ ทำให้ในระยะยาว Meta และบริษัทเทคอื่น ๆ ต้องพึ่งไฟแบบ “เสถียรคงที่” มากขึ้น ✅ Meta เซ็นสัญญากับ Invenergy เพื่อซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพิ่ม 791 MW   • ครอบคลุมพลังงานแสงอาทิตย์และลม   • เพิ่มจากข้อตกลงเดิมปีที่แล้วอีก 760 MW → รวมกลายเป็น 1,800 MW ✅ พลังงานหมุนเวียนมาจากโครงการในรัฐ Ohio, Arkansas, Texas   • ใช้ป้อนศูนย์ข้อมูลของ Meta ในพื้นที่นั้น ๆ ✅ Meta ประกาศแผนหาโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์เพิ่มอีก 1–4 GW ภายในต้นปี 2030   • เปิด RFP หาผู้พัฒนาใหม่จากสหรัฐฯ ตั้งแต่ปีที่แล้ว ✅ ร่วมกับบริษัท Constellation เพื่อฟื้นฟูโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในรัฐ Illinois   • โรงงานนี้หยุดทำงานไปตั้งแต่ปี 2017 จากปัญหาขาดทุน   • Meta จะใช้พลังงานจากโรงงานนี้อีกอย่างน้อย 20 ปี ✅ ความต้องการไฟฟ้าจาก AI Data Center กลายเป็นแรงผลักดันให้ Big Tech หันมาลงทุนโครงสร้างพื้นฐานพลังงานโดยตรง https://www.neowin.net/news/meta-is-now-using-every-possible-source-to-power-its-data-centers/
    WWW.NEOWIN.NET
    Meta is now using every possible source to power its data centers
    After investing in nuclear power plants, Meta is now turning to renewable energy to power its data centers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • JetZero ลงทุน 4.7 พันล้านดอลลาร์ สร้างโรงงานผลิตเครื่องบินใน North Carolina
    JetZero สตาร์ทอัพด้านการบินของสหรัฐฯ ประกาศลงทุน 4.7 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้าง โรงงานผลิตเครื่องบินและสำนักงานใหญ่ในรัฐ North Carolina โดยได้รับ การสนับสนุนจาก United Airlines และ Alaska Airlines

    JetZero จะ ผลิตเครื่องบิน Z4 แบบ Blended Wing Body ซึ่งเป็น เครื่องบินโดยสารขนาด 250 ที่นั่งที่มีประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงสูง

    ข้อมูลจากข่าว
    - JetZero ลงทุน 4.7 พันล้านดอลลาร์ในโรงงานผลิตเครื่องบินที่ Greensboro, North Carolina
    - ได้รับเงินสนับสนุนจาก United Airlines และ Alaska Airlines
    - รัฐ North Carolina ให้เงินจูงใจด้านภาษีมูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ หากบริษัทสร้างงานกว่า 14,000 ตำแหน่งระหว่างปี 2027-2036
    - โครงการนี้ได้รับเงินสนับสนุนเพิ่มเติม 450 ล้านดอลลาร์สำหรับการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของสนามบิน
    - JetZero มีคำสั่งซื้อแบบมีเงื่อนไขสำหรับเครื่องบิน Z4 จำนวน 100 ลำจาก United Airlines และตัวเลือกสำหรับอีก 100 ลำ

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบิน
    JetZero เป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่พยายามพัฒนาเครื่องบินที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยลง เพื่อช่วยให้ สายการบินบรรลุเป้าหมาย Net Zero

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - อุตสาหกรรมการบินมีต้นทุนสูง และสตาร์ทอัพหลายรายประสบปัญหาทางการเงินในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
    - การสรรหาพนักงานที่มีประสบการณ์ด้านการบินในภูมิภาคนี้อาจเป็นความท้าทาย
    - ต้องติดตามว่า JetZero จะสามารถผลิตเครื่องบิน Z4 ได้ตามแผนหรือไม่
    - การแข่งขันในตลาดเครื่องบินพลังงานสะอาดกำลังรุนแรงขึ้น โดยมีบริษัทอื่น ๆ เช่น Boom Supersonic ที่เปิดโรงงานในพื้นที่เดียวกัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/13/aircraft-startup-jetzero-to-invest-47-billion-over-a-decade-in-north-carolina-hq
    ✈️ JetZero ลงทุน 4.7 พันล้านดอลลาร์ สร้างโรงงานผลิตเครื่องบินใน North Carolina JetZero สตาร์ทอัพด้านการบินของสหรัฐฯ ประกาศลงทุน 4.7 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้าง โรงงานผลิตเครื่องบินและสำนักงานใหญ่ในรัฐ North Carolina โดยได้รับ การสนับสนุนจาก United Airlines และ Alaska Airlines JetZero จะ ผลิตเครื่องบิน Z4 แบบ Blended Wing Body ซึ่งเป็น เครื่องบินโดยสารขนาด 250 ที่นั่งที่มีประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงสูง ✅ ข้อมูลจากข่าว - JetZero ลงทุน 4.7 พันล้านดอลลาร์ในโรงงานผลิตเครื่องบินที่ Greensboro, North Carolina - ได้รับเงินสนับสนุนจาก United Airlines และ Alaska Airlines - รัฐ North Carolina ให้เงินจูงใจด้านภาษีมูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ หากบริษัทสร้างงานกว่า 14,000 ตำแหน่งระหว่างปี 2027-2036 - โครงการนี้ได้รับเงินสนับสนุนเพิ่มเติม 450 ล้านดอลลาร์สำหรับการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของสนามบิน - JetZero มีคำสั่งซื้อแบบมีเงื่อนไขสำหรับเครื่องบิน Z4 จำนวน 100 ลำจาก United Airlines และตัวเลือกสำหรับอีก 100 ลำ 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบิน JetZero เป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่พยายามพัฒนาเครื่องบินที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยลง เพื่อช่วยให้ สายการบินบรรลุเป้าหมาย Net Zero ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - อุตสาหกรรมการบินมีต้นทุนสูง และสตาร์ทอัพหลายรายประสบปัญหาทางการเงินในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา - การสรรหาพนักงานที่มีประสบการณ์ด้านการบินในภูมิภาคนี้อาจเป็นความท้าทาย - ต้องติดตามว่า JetZero จะสามารถผลิตเครื่องบิน Z4 ได้ตามแผนหรือไม่ - การแข่งขันในตลาดเครื่องบินพลังงานสะอาดกำลังรุนแรงขึ้น โดยมีบริษัทอื่น ๆ เช่น Boom Supersonic ที่เปิดโรงงานในพื้นที่เดียวกัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/13/aircraft-startup-jetzero-to-invest-47-billion-over-a-decade-in-north-carolina-hq
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Aircraft startup JetZero to invest $4.7 billion over a decade in North Carolina HQ
    (Reuters) -U.S. aircraft startup JetZero, which has secured investments from United Airlines and Alaska Airlines, will invest $4.7 billion over a decade on a production facility and headquarters in North Carolina, the state said on Thursday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เสนอร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณขนาดใหญ่ที่เรียกว่า"One Big Beautiful Bill" ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของวาระที่สองของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ร่างกฎหมายยาว 1,116 หน้านี้มีเนื้อหาครอบคลุมหลายด้าน ตั้งแต่การลดภาษี การปรับโครงสร้างสวัสดิการสังคม ไปจนถึงการเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคงสาระสำคัญของร่างกฎหมายนโยบายด้านภาษีแกนหลักของร่างกฎหมายคือการขยายระยะเวลาTax Cuts and Jobs Act (TCJA) ปี 2017 ให้มีผลถาวร ซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่ง นอกจากนี้ยังรวมถึงการยกเลิกภาษีเงินทิปสำหรับพนักงานในอุตสาหกรรมบริการและพนักงานความงาม รวมทั้งการยกเลิกภาษีค่าตอบแทนล่วงเวลา ซึ่งทั้งสองมาตรการนี้จะมีผลชั่วคราวจนถึงสิ้นปี 2028ร่างกฎหมายยังรวมถึงการเพิ่มการหักลดหย่อนภาษีState and Local Tax Deduction (SALT)จาก 10,000 ดอลลาร์ (330,000 บาท) เป็น 40,000 ดอลลาร์ (1.32 ล้านบาท) ต่อครัวเรือนสำหรับรายได้ถึง 500,000 ดอลลาร์ (16.5 ล้านบาท) การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลจากแรงกดดันจากสมาชิกรีพับลิกันในรัฐที่มีภาษีรัฐและท้องถิ่นสูง เช่น นิวยอร์ก และแคลิฟอร์เนีย ซึ่งประชาชนในรัฐเหล่านี้ต้องจ่ายภาษีรัฐและภาษีทรัพย์สินจำนวนมากมาตรการภาษีอื่นๆ ได้แก่ การยกเลิกภาษี 200 ดอลลาร์ (6,600 บาท) สำหรับเครื่องเก็บเสียงปืน การเพิ่มเครดิตภาษีเด็กจาก 2,000 ดอลลาร์เป็น 2,500 ดอลลาร์ (82,500 บาท) และการอนุญาตให้หักลดหย่อนดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์สูงสุด 10,000 ดอลลาร์สำหรับรถที่ประกอบในสหรัฐฯโครงการ "Trump Accounts"ร่างกฎหมายสร้างบัญชีออมทรัพย์สำหรับเด็ก 1,000 ดอลลาร์ (33,000บาท) ที่เรียกว่า"Trump Accounts" (เดิมชื่อ "MAGA Accounts") รัฐบาลกลางจะสมทบ 1,000 ดอลลาร์ให้เด็กที่เกิดระหว่างปี 2024-2028 พ่อแม่สามารถสมทบเพิ่มได้ปีละ 5,000 ดอลลาร์ (165,000 บาท) เงินในบัญชีสามารถใช้สำหรับการศึกษาต่อ การฝึกอาชีพ และการซื้อบ้านหลังแรกเมื่อบุตรอายุครบ 18 ปีการปฏิรูป Medicaid และ SNAPร่างกฎหมายเสนอการปฏิรูป Medicaid ของรัฐบาลไบเดนอย่างถอนรากถอนโคน โดยกำหนดให้ผู้ใหญ่ที่สุขภาพดีอายุ 18-65 ปีที่ไม่มีบุตรต่ำกว่า 7 ปีต้องทำงานเพื่อได้รับสวัสดิการ นอกจากนี้ยังห้ามใช้ Medicaid สำหรับการรักษาเปลี่ยนเพศและตัดงบประมาณสำหรับรัฐที่ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพผิดกฎหมายการปฏิรูปSupplemental Nutrition Assistance Program (SNAP) จะขยายเงื่อนไขการทำงานให้ครอบคลุมผู้ใหญ่อายุ 18-64 ปี และเปลี่ยนการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายระหว่างรัฐบาลกลางกับรัฐต่างๆ โดยในปัจจุบันรัฐบาลกลางรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 100% และค่าดำเนินการ 50% แต่ร่างกฎหมายใหม่จะให้รัฐต่างๆ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 5% และค่าดำเนินการ 75% โปรแกรมนี้ให้ความช่วยเหลือคนอเมริกันกว่า 42 ล้านคนงบประมาณด้านความมั่นคงร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณ 4.65 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.53 ล้านล้านบาท) สำหรับกำแพงชายแดน 4.1 พันล้านดอลลาร์ (135,000 ล้านบาท) สำหรับการจ้างเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ (66,000 ล้านบาท) สำหรับเงินรางวัลจูงใจให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเข้ามาทำงานใหม่และคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปการยุติโครงการพลังงานสะอาดร่างกฎหมายจะยุติเครดิตภาษีสำหรับพลังงานสะอาดหลายรายการ โดยกำหนดให้โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ต้องเริ่มก่อสร้างภายใน 60 วันหลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้และเปิดให้บริการภายในสิ้นปี 2028 ยกเว้นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีเวลาถึงสิ้นปี 2028โอกาสการผ่านกฎหมายและขั้นตอนที่เหลือร่างกฎหมายผ่านคณะกรรมการงบประมาณสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อย 17-16 เสียงในการประชุมวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จากนั้นได้ผ่านการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเกินมาเพียงหนึ่งเสียงหลังจากการประชุมตลอดคืนขั้นตอนต่อไปคือการส่งไปยังคณะกรรมการกฎระเบียบสภาผู้แทนราษฎรในช่วงกลางสัปดาห์เพื่อกำหนดเงื่อนไขการอภิปรายและพิจารณาการแก้ไข ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สภาผู้แทนราษฎร หากผ่านสภาผู้แทนราษฎร จะส่งต่อไปยังวุฒิสภา ซึ่งอาจพบกับความท้าทายเพิ่มเติมเนื่องจากสมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันหลายคนต้องการการแก้ไขเพิ่มเติมร่างกฎหมายนี้การที่ผ่านด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อยในสภาผู้แทนราษฎรแสดงให้เห็นถึงความแตกแยกภายในพรรครีพับลิกัน ทำให้การผ่านในวุฒิสภาอาจมีความท้าทายมากกว่าผู้ได้รับประโยชน์และผู้เสียประโยชน์ผู้ได้รับประโยชน์บริษัทผู้รับเหมาด้านการป้องกันประเทศจะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มงบประมาณอย่างมีนัยสำคัญ RTX Corp (NYSE:RTX) และ Lockheed Martin Corp (NYSE:LMT) ถือเป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรง รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการภาครัฐ เช่น Palantir Technologies (NASDAQ:PLTR) และ Booz Allen Hamilton (NYSE:BAH)ผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่งจะได้รับประโยชน์จากการขยายเวลา TCJA และการเพิ่ม SALT deduction ขีดจำกัด พนักงานในอุตสาหกรรมบริการจะได้รับประโยชน์จากการยกเลิกภาษีเงินทิปและค่าล่วงเวลาผู้เสียประโยชน์บริษัทประกันสุขภาพที่ให้บริการ Medicaid จะเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างมาก UnitedHealth Group (NYSE:UNH), Centene Corp (NYSE:CNC) และ Elevance Health (NYSE:ELV) อาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของจำนวนผู้เอาประกันและความท้าทายในการกำหนดราคาเบี้ยประกันคนอเมริกันรายได้น้อยกว่า 42 ล้านคนที่พึ่งพา SNAP จะได้รับผลกระทบจากการเพิ่มเงื่อนไขการทำงานและการโยกภาระไปยังรัฐต่างๆอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดจะได้รับผลกระทบอย่างมาก หุ้นพลังงานสะอาด ได้แก่ Enphase Energy (NASDAQ:ENPH), First Solar (NASDAQ:FSLR) และ Sunrun (NASDAQ:RUN) ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในวันจันทร์หลังจากข่าวออกมาปฏิกิริยาของตลาดและนักลงทุนความกังวลในตลาดพันธบัตรตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ มูลค่า 28 ล้านล้านดอลลาร์ (924 ล้านล้านบาท) แสดงสัญญาณความไม่สบายใจอย่างชัดเจน พันธบัตรอายุ 30 ปีได้เพิ่มขึ้นประมาณ 0.11% นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 พ.ค. และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2023ด้านนักเศรษฐศาสตร์หัวหน้าของ FWDBONDS ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้ "ดูเหมือนจะทำลายงบประมาณในระยะใกล้เมื่อพิจารณาจากการใช้จ่าย" อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นเนื่องจากคาดการณ์ว่าจะมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติมเพื่อหาเงินทุนสำหรับการขาดดุลงบประมาณความต้องการอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นในการประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปี มูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (528,000 ล้านบาท) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นักลงทุนเรียกร้องอัตราผลตอบแทนสูงกว่า 5% เปรียบเทียบกับ 4.6% ที่เคยเป็นบรรทัดฐานในการประมูลก่อนหน้านี้ สะท้อนความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อความเสี่ยงการลงทุนในหนี้รัฐบาลสหรัฐฯความกลัว "Bond Vigilantes"นักลงทุนแสดงความกังวลต่อการเกิดขึ้นของ "Bond Vigilantes" หรือนักลงทุนที่บังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายโดยการขายหรือขู่ว่าจะขายหนี้ของรัฐบาล ปรากฏการณ์นี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสามารถสร้างความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นได้ผลกระทบที่คาดการณ์หากตลาดไม่พอใจหากตลาดพันธบัตรยังคงแสดงความไม่พอใจต่อร่างกฎหมายนี้ อาจส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยทั่วไปในระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจำนองที่อยู่อาศัยจะปรับตัวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจึงหมายถึงต้นทุนการกู้เงินที่สูงขึ้นสำหรับผู้บริโภคทั่วไปนอกจากนี้ การลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ โดย Moody's เมื่อเร็วๆ นี้ ประกอบกับความกังวลเรื่องการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลกระทบแบบต่อเนื่องไปยังรัฐและท้องถิ่น ดังเช่นกรณีรัฐแมริแลนด์ที่ถูก Moody's ลดอันดับเครดิต Aaa ส่งผลให้ต้นทุนการกู้เงินสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน อาคารโรงเรียน และสาธารณูปโภคของรัฐและท้องถิ่นเพิ่มสูงขึ้นท้ายที่สุด ร่างกฎหมาย "One Big Beautiful Bill" ของทรัมป์จึงเป็นการทดสอบที่สำคัญต่อความสามารถในการสร้างสมดุลระหว่างนโยบายการคลังที่ต้องการและความยั่งยืนทางการเงินในระยะยาว ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีต่อๆ ไป. . https://www.cbsnews.com/news/whats-in-trumps-one-big-beautiful-bill-medicaid-taxes/#
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เสนอร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณขนาดใหญ่ที่เรียกว่า"One Big Beautiful Bill" ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของวาระที่สองของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ร่างกฎหมายยาว 1,116 หน้านี้มีเนื้อหาครอบคลุมหลายด้าน ตั้งแต่การลดภาษี การปรับโครงสร้างสวัสดิการสังคม ไปจนถึงการเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคงสาระสำคัญของร่างกฎหมายนโยบายด้านภาษีแกนหลักของร่างกฎหมายคือการขยายระยะเวลาTax Cuts and Jobs Act (TCJA) ปี 2017 ให้มีผลถาวร ซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่ง นอกจากนี้ยังรวมถึงการยกเลิกภาษีเงินทิปสำหรับพนักงานในอุตสาหกรรมบริการและพนักงานความงาม รวมทั้งการยกเลิกภาษีค่าตอบแทนล่วงเวลา ซึ่งทั้งสองมาตรการนี้จะมีผลชั่วคราวจนถึงสิ้นปี 2028ร่างกฎหมายยังรวมถึงการเพิ่มการหักลดหย่อนภาษีState and Local Tax Deduction (SALT)จาก 10,000 ดอลลาร์ (330,000 บาท) เป็น 40,000 ดอลลาร์ (1.32 ล้านบาท) ต่อครัวเรือนสำหรับรายได้ถึง 500,000 ดอลลาร์ (16.5 ล้านบาท) การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลจากแรงกดดันจากสมาชิกรีพับลิกันในรัฐที่มีภาษีรัฐและท้องถิ่นสูง เช่น นิวยอร์ก และแคลิฟอร์เนีย ซึ่งประชาชนในรัฐเหล่านี้ต้องจ่ายภาษีรัฐและภาษีทรัพย์สินจำนวนมากมาตรการภาษีอื่นๆ ได้แก่ การยกเลิกภาษี 200 ดอลลาร์ (6,600 บาท) สำหรับเครื่องเก็บเสียงปืน การเพิ่มเครดิตภาษีเด็กจาก 2,000 ดอลลาร์เป็น 2,500 ดอลลาร์ (82,500 บาท) และการอนุญาตให้หักลดหย่อนดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์สูงสุด 10,000 ดอลลาร์สำหรับรถที่ประกอบในสหรัฐฯโครงการ "Trump Accounts"ร่างกฎหมายสร้างบัญชีออมทรัพย์สำหรับเด็ก 1,000 ดอลลาร์ (33,000บาท) ที่เรียกว่า"Trump Accounts" (เดิมชื่อ "MAGA Accounts") รัฐบาลกลางจะสมทบ 1,000 ดอลลาร์ให้เด็กที่เกิดระหว่างปี 2024-2028 พ่อแม่สามารถสมทบเพิ่มได้ปีละ 5,000 ดอลลาร์ (165,000 บาท) เงินในบัญชีสามารถใช้สำหรับการศึกษาต่อ การฝึกอาชีพ และการซื้อบ้านหลังแรกเมื่อบุตรอายุครบ 18 ปีการปฏิรูป Medicaid และ SNAPร่างกฎหมายเสนอการปฏิรูป Medicaid ของรัฐบาลไบเดนอย่างถอนรากถอนโคน โดยกำหนดให้ผู้ใหญ่ที่สุขภาพดีอายุ 18-65 ปีที่ไม่มีบุตรต่ำกว่า 7 ปีต้องทำงานเพื่อได้รับสวัสดิการ นอกจากนี้ยังห้ามใช้ Medicaid สำหรับการรักษาเปลี่ยนเพศและตัดงบประมาณสำหรับรัฐที่ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพผิดกฎหมายการปฏิรูปSupplemental Nutrition Assistance Program (SNAP) จะขยายเงื่อนไขการทำงานให้ครอบคลุมผู้ใหญ่อายุ 18-64 ปี และเปลี่ยนการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายระหว่างรัฐบาลกลางกับรัฐต่างๆ โดยในปัจจุบันรัฐบาลกลางรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 100% และค่าดำเนินการ 50% แต่ร่างกฎหมายใหม่จะให้รัฐต่างๆ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 5% และค่าดำเนินการ 75% โปรแกรมนี้ให้ความช่วยเหลือคนอเมริกันกว่า 42 ล้านคนงบประมาณด้านความมั่นคงร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณ 4.65 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.53 ล้านล้านบาท) สำหรับกำแพงชายแดน 4.1 พันล้านดอลลาร์ (135,000 ล้านบาท) สำหรับการจ้างเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ (66,000 ล้านบาท) สำหรับเงินรางวัลจูงใจให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเข้ามาทำงานใหม่และคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปการยุติโครงการพลังงานสะอาดร่างกฎหมายจะยุติเครดิตภาษีสำหรับพลังงานสะอาดหลายรายการ โดยกำหนดให้โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ต้องเริ่มก่อสร้างภายใน 60 วันหลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้และเปิดให้บริการภายในสิ้นปี 2028 ยกเว้นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีเวลาถึงสิ้นปี 2028โอกาสการผ่านกฎหมายและขั้นตอนที่เหลือร่างกฎหมายผ่านคณะกรรมการงบประมาณสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อย 17-16 เสียงในการประชุมวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จากนั้นได้ผ่านการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเกินมาเพียงหนึ่งเสียงหลังจากการประชุมตลอดคืนขั้นตอนต่อไปคือการส่งไปยังคณะกรรมการกฎระเบียบสภาผู้แทนราษฎรในช่วงกลางสัปดาห์เพื่อกำหนดเงื่อนไขการอภิปรายและพิจารณาการแก้ไข ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สภาผู้แทนราษฎร หากผ่านสภาผู้แทนราษฎร จะส่งต่อไปยังวุฒิสภา ซึ่งอาจพบกับความท้าทายเพิ่มเติมเนื่องจากสมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันหลายคนต้องการการแก้ไขเพิ่มเติมร่างกฎหมายนี้การที่ผ่านด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อยในสภาผู้แทนราษฎรแสดงให้เห็นถึงความแตกแยกภายในพรรครีพับลิกัน ทำให้การผ่านในวุฒิสภาอาจมีความท้าทายมากกว่าผู้ได้รับประโยชน์และผู้เสียประโยชน์ผู้ได้รับประโยชน์บริษัทผู้รับเหมาด้านการป้องกันประเทศจะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มงบประมาณอย่างมีนัยสำคัญ RTX Corp (NYSE:RTX) และ Lockheed Martin Corp (NYSE:LMT) ถือเป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรง รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการภาครัฐ เช่น Palantir Technologies (NASDAQ:PLTR) และ Booz Allen Hamilton (NYSE:BAH)ผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่งจะได้รับประโยชน์จากการขยายเวลา TCJA และการเพิ่ม SALT deduction ขีดจำกัด พนักงานในอุตสาหกรรมบริการจะได้รับประโยชน์จากการยกเลิกภาษีเงินทิปและค่าล่วงเวลาผู้เสียประโยชน์บริษัทประกันสุขภาพที่ให้บริการ Medicaid จะเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างมาก UnitedHealth Group (NYSE:UNH), Centene Corp (NYSE:CNC) และ Elevance Health (NYSE:ELV) อาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของจำนวนผู้เอาประกันและความท้าทายในการกำหนดราคาเบี้ยประกันคนอเมริกันรายได้น้อยกว่า 42 ล้านคนที่พึ่งพา SNAP จะได้รับผลกระทบจากการเพิ่มเงื่อนไขการทำงานและการโยกภาระไปยังรัฐต่างๆอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดจะได้รับผลกระทบอย่างมาก หุ้นพลังงานสะอาด ได้แก่ Enphase Energy (NASDAQ:ENPH), First Solar (NASDAQ:FSLR) และ Sunrun (NASDAQ:RUN) ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในวันจันทร์หลังจากข่าวออกมาปฏิกิริยาของตลาดและนักลงทุนความกังวลในตลาดพันธบัตรตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ มูลค่า 28 ล้านล้านดอลลาร์ (924 ล้านล้านบาท) แสดงสัญญาณความไม่สบายใจอย่างชัดเจน พันธบัตรอายุ 30 ปีได้เพิ่มขึ้นประมาณ 0.11% นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 พ.ค. และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2023ด้านนักเศรษฐศาสตร์หัวหน้าของ FWDBONDS ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้ "ดูเหมือนจะทำลายงบประมาณในระยะใกล้เมื่อพิจารณาจากการใช้จ่าย" อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นเนื่องจากคาดการณ์ว่าจะมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติมเพื่อหาเงินทุนสำหรับการขาดดุลงบประมาณความต้องการอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นในการประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปี มูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (528,000 ล้านบาท) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นักลงทุนเรียกร้องอัตราผลตอบแทนสูงกว่า 5% เปรียบเทียบกับ 4.6% ที่เคยเป็นบรรทัดฐานในการประมูลก่อนหน้านี้ สะท้อนความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อความเสี่ยงการลงทุนในหนี้รัฐบาลสหรัฐฯความกลัว "Bond Vigilantes"นักลงทุนแสดงความกังวลต่อการเกิดขึ้นของ "Bond Vigilantes" หรือนักลงทุนที่บังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายโดยการขายหรือขู่ว่าจะขายหนี้ของรัฐบาล ปรากฏการณ์นี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสามารถสร้างความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นได้ผลกระทบที่คาดการณ์หากตลาดไม่พอใจหากตลาดพันธบัตรยังคงแสดงความไม่พอใจต่อร่างกฎหมายนี้ อาจส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยทั่วไปในระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจำนองที่อยู่อาศัยจะปรับตัวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจึงหมายถึงต้นทุนการกู้เงินที่สูงขึ้นสำหรับผู้บริโภคทั่วไปนอกจากนี้ การลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ โดย Moody's เมื่อเร็วๆ นี้ ประกอบกับความกังวลเรื่องการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลกระทบแบบต่อเนื่องไปยังรัฐและท้องถิ่น ดังเช่นกรณีรัฐแมริแลนด์ที่ถูก Moody's ลดอันดับเครดิต Aaa ส่งผลให้ต้นทุนการกู้เงินสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน อาคารโรงเรียน และสาธารณูปโภคของรัฐและท้องถิ่นเพิ่มสูงขึ้นท้ายที่สุด ร่างกฎหมาย "One Big Beautiful Bill" ของทรัมป์จึงเป็นการทดสอบที่สำคัญต่อความสามารถในการสร้างสมดุลระหว่างนโยบายการคลังที่ต้องการและความยั่งยืนทางการเงินในระยะยาว ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีต่อๆ ไป. . https://www.cbsnews.com/news/whats-in-trumps-one-big-beautiful-bill-medicaid-taxes/#
    WWW.CBSNEWS.COM
    What's in Trump's House-passed "one big, beautiful bill"
    Republicans made a number of last-minute changes to the legislation that passed in the lower chamber early Thursday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 927 มุมมอง 0 รีวิว
  • 20-05-68/01 : หมี CNN / หมีกุ๊กกู EP15

    ไอ้สัส! วอชิงตันขี้แตก S-500 ฉบับเตหะราน มีอะไรที่กูทำไม่ได้บ้าง อิหร่านโชว์พาวเดอร์เค็ก สุดจริง เต็มจริง อิหร่านยังมี แล้วจีนจะเหลือเหรอ? หมายังรู้ S-500 ทำลายทุกขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิคบนโลกได้หมด แปลว่าอะไร? "นุ๊กมรึงตายตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มใช้ไงล่ะ" ยังไม่นับดาวเทียมพ่วงเลเซอร์ ที่พร้อมยิงถล่มดาวเทียมนำร่อง GPS มรึงทั้งอวกาศ STAR WARS ของจริง ขั้วใหม่ไปถึงแล้ว แต่มรึงยังคลำหาทางบินออกนอกโลกยังยากเลย NASA แค่ตัวตลกโลก ควายยังอาย หมายังเอือม อิหร่าน มาพร้อมเต็มสูบ ใครอยากวัดก็เข้ามา กำลังร้อนวิชา ของเค้าแรงจริง!

    อีแขกภาระตะกรี๊ด? อะไรน่ะ บราห์มอสเทพกู ยังสู้ ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิคอีปากีไม่ได้ หันไปดู MADE IN CHINA นี่หว่า นี่มันน้องๆ ตงเฟิงเชียวน่ะมรึง มาได้ไงฟ่ะ? ถึงบางอ้อ..อีแขกพลาด หมากตานี้ จีนรวบทั้งกระดาน แผนรั่ว จะเปิดศึกแคช์เมียร์ ที่อีแขกเตรียมชงเปิดฉากรอ มาปลาตายน้ำตื้น หารู้ไม่ จีน-ปากี เค้ารอดักทางมรึงนานแล้ว นี่มันกับดักนี่หว่า? อีแขกเสียหมา อีเศษฝรั่งเสียมวย จีน-ปากี แจ้งเกิดเต็มเวทีโลก ขวัญกำลังใจอีปากีมาเต็ม ได้เวลาปล่อยตัวอิมราน ข่านยังล่ะ? จีนใช้อีปากี ทดสอบอาวุธจีน ในสมรภูมิจริง เพื่อเตือนสติอีแขก มรึงอย่าสำคัญตัวเองสูงส่งเกินไป หากกูเอาจริง นิวเดลี มุมไบ กูยึดได้ภายใน 48 ชั่วโมง อยากหมากว่านี้มั้ยล่ะ?

    ทรงมันมาแล้ว! กระแส "กลับคุก" คุกแน่ คุกส่องหล้า ปั่นเพื่อบีบให้มรึงจ่ายไงล่ะ จ่ายคือจบ แล้วไสหัวไปซะ หากช้า ศรีธนญชัยอาจเปลี่ยนใจ แล้วมรึงจะไม่ได้ออกไปอีกตลอดชีวิต เพราะจะกลายเป็นศพในคุกไงล่ะ คนจะฆ่ามรึงมีเป็นล้าน แค่ปล่อยให้โดนกระตืบคาคุก 10 นาทีก็ขึ้นเงินได้แล้ว อะไรที่เกิดในคุก ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีใครรับผิดชอบ คนคุก มันก็อยู่ในคุก ทำผิดอีก จะส่งมันไปไหนได้อีกล่ะ? เข้าคุก คือตายนั่นเอง อีเมียกระบังลม ดิ้นเฮือกสุดท้าย จะเอาลูกสาวร่านเผ่นออกไปให้ได้ อีตัวพ่อเหลี่ยมชาติหมา มันคือเป้าหมายหลัก หากคิดจะเอาตัวรอด อีเมีย อีลูก ต้องเผ่นได้แล้วเวลานี้ ทางที่ดีที่สุด คือยอม หมอบ มอบ แค่นั้่นคือรอดตายในแผ่นดินนี้ แต่จะไปตายห่าที่ไหนก็เชิญ

    อีลูกสาวร่านจะดันให้ได้ แต่ครม. และพรรคร่วมเบรคตัวโก่ง เงิน 10000 เฟส3 ยังไม่คลอดซักกะที เพราะ GDP ติดลบ แถมถูกสว.จ้องเชือดรายตัว รายพรรค ไหนจะภาคประชาชนยื่นฟ้องเป็นหางว่าว วิบากกรรมนี้ หนียังไงก็ไม่พ้น ลูกน้องหักหลัง คนใกล้ตัวชิ่งหนีหมดแล้ว มีเงินแต่ไม่ได้ใช้ ใครมันจะโง่อยู่? วงในศาลไคฟง ส่งสัญญาน ไม่มีประกันตัวน่ะจ๊ะ งานนี้ คดีไหนก็ตาม เชือดอย่างเดียว ยาแรงเท่านั้น ใบสั่งตรงจากเบื้องบน "หากศาลยังพึ่งพาไม่ได้" กฎหมายก็ไม่ต้องมีมันแล้ว ชั้น 14 คือตราบาป ที่จะต้องทำให้กฎหมายกลับคืนความศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง อีเหลี่ยมดิ้นยาก จ่ายอย่างเดียว หากอยากจะรอด ช่องหมาลอดยังเปิดอยู่ แค่มรึงจ่ายก็จบ

    สัญญานเข้ม ทั้งตราเมืองธม ทั้งศรีสะเกษ ไม่ต้องสั่ง กูทำเอง? หน้าที่มีอยู่แล้ว อีขะแมร์ไม่กล้าดอก หากไทยเอาจริง เพราะอีฮุนเซน มันใกล้จะเสื่อมหนักเข้าทุกวัน ทหารอีขะแมร์ก็รู้ หากเปิดแลก ขนมกรุบสิจ๊ะ ทหารหน่วยเสื้อดำ มาเพื่อฆ่าอย่างเดียว งานถนัด ฝึกมาทั้งชีวิต เพื่อมาไล่ฆ่าเหี้ยผู้รุกรานเนี่ยแหละ ทหารเค้านับ 1 แล้วน่ะ ถึง 10 เมื่อไหร่ กูยิง และกวาดไปพร้อมกันให้หมดเลย ไอ้อีใครขายชาติตัวไหน จะถูกเรียกเช็คบิลหมด อย่ามาล้อเล่นกับดินแดน เพราะพ่ออยู่หัวจะไม่ยอมให้เสียดินแดนไปมากกว่านี้อีกแล้ว ตรงกันข้าม อะไรที่พ่ออยู่หัวร.5 ทรงเสียพระทัยไป จะเรียกคืนดินแดนเก่าทั้งหมดกลับมาในไม่ช้านี้ มั่นใจ ทำได้แน่ สวรรค์เปิดทาง

    ผวาอาเพช! สวรรค์เตือนมรึงแล้วน่ะ ทั้งไอ้เหลี่ยมชาติหมา และอีฮุนเซนชาติชั่ว มรึงไม่แตกต่างจากพญาละแวกดอกน่ะ ครั้นนึงเป็นแค่ที่รองตรีนอโยธยา ตะบัดสัตย์ คิดคดทรยศ เหมือนกันทั้งคู่ เทวดาสาปส่ง ชาวอีขะแมร์ แห่ผวา แตกตื่นกันใหญ่ สัญญานผลัดใบ อีฮุนเซนกำลังจะถูกสวรรค์ลงโทษ เพราะกว่าจะได้บังลังก์ตัวนี้มา มันเที่ยวไล่ฆ่าคนมานับล้าน เฉกเช่นเดียวกับอีเหลี่ยมชั่ว ศีลเสมอกัน เหี้ยเสมอตัว อีขะแมร์ยุคไร้อีฮันเซน บ้านเมืองจะระส่ำระสาย ผู้คนแย่งชิง จะเอาตัวรอด สุดท้ายหนีไม่พ้นพึ่งใบบุญไทย เชิญบรรพกษัตริย์กลับมาเพื่อปกครอง และอยู่ภายใต้อาณัติอโยธยาศรีรามเทพนครดั่งเดิม สวรรค์เขียนบทมาเยี่ยงนี้

    ปล.กุนซือทั่วโลก ต่างมอง "เปิดเกมส์ยื้อสงครามกับจีน รัสเซีย มีแต่แพ้กับแพ้" เงินเอาจากไหน อาหารเอาจากใคร อาวุธใครผลิต ต้นทุนใครสูงกว่า โลจิสติคใครครอบครอง เสบียง กำลังพล ใครพร้อมกว่า พันธมิตร ใครมากกว่า ความชอบธรรม ใครดีกว่า เวทีโลก ใครเป็นที่ประจักษ์กว่า สงครามเกิด ทั้งโลกจะยืนอยู่ข้างผู้ชนะเท่านั้น และแน่นอนว่า เค้าได้เลือก "จีน รัสเซีย อิหร่าน ไปเรียบร้อยแล้ว" ไม่ว่า อีหน้าโง่ยุโรป จะเปิดศึกกับรัสเซียยังไง ก็รอวันแพ้ยับได้เลย อเมริกาถังแตก จะเล่นสงครามการค้าสู้ไม่ได้ ยิ่งเล่นสงครามในสมรภูมิรบยิ่งแพ้หนัก แค่เยเมน ทะเลแดงยังไม่มีปัญญาผ่าน แล้วมรึงยังจะหน้าด้านไปบุกเกาะสแปรดลี่ย์อีกเหรอ? ตงเฟงจ่อหัว ไม่มีรอดซักราย ส่งเรือรบไปกี่ลำ จมตามจำนวนหัวยิงนั่นแหละ เมื่อทรงมันมาทางเดียวกันหมด ไม่มีใครอยากรบกับรัสเซีย จีน ซึ่งหน้า คงมีแต่อียิวเสี้ยน ที่อยากจะตายคาตรีนอิหร่านขั้นสูงสุด ถึงได้พยายามยั่วยุ สุดติ่งกระดิ่งเหี้ย แต่จะพยายามอย่างไร แผนการรวบแดร๊กแหล่งแก็สนอกชายฝั่งฉนวนกาซ่าก็ไร้ผล เพราะเค้ารู้แล้วว่า มรึงต้องการอะไรแท้จริงกันแน่?

    ปล.2 ชั้นไม่ลับ ดีลผีอีโมแห้ว ดีลชั้น 14 วงแตก ดีลหนีขะแมร์ยกเลิก ดีลปิดจ็อบเงิน 10000 ไม่มา ดีลเคลียร์ DSI ไม่จบ ดีลสว.ฮั้ว ไม่เลิก ดีลยกดินแดน ไม่มีทาง ดีลกวาดล้างบางคอรัปชั่นทั่วไทย ไฟเขียว ดีลตึกสตง.ไม่ช่วย ดีลเลือกตั้งใหม่ไม่มา ดีลยุบพรรคไม่รามือ ดีลศาลไคฟง ไม่ปล่อย ดีลสร้างถนน ไม่จบ ทุกเรื่องราว มีใบสั่ง เรื่องถึงเกิด ใครสั่งขุด ใครสั่งรื้อ ใครสั่งลุย คำถามคือ "ต้องใช้เวลานานแค่ไหน กว่าทุกคดีจะมาบรรจบกันที่ คุก" ศรีธนญชัยเล่นไปทีละตา เดินไปทีละก้าว หากจีน รัสเซีย อิหร่านเปิด ทุกคดีจะเร็วฟ้าผ่าอย่างที่คาดไม่ถึง มันคือการประกาศไปในตัว ว่าอโยธยาเลือกฝ่ายแล้วไงล่ะ? อย่าลืมว่า 93 ปี เหี้ย C และขี้ข้ายิวเหี้ยฝังตัวอยู่ในไทยมานาน เส้นสาย ลูกหม้อ มีกระจายไปทั่วทุกชนชั้น ทุกหน่วยงาน การจะล้างผป่าช้าได้จริงและสำเร็จ มันต้องจัดการปัจจัยหลักให้หมดก่อน ทั้งท่อน้ำเลี้ยง หัวเหี้ยที่ตั้งขึ้นมา รวมถึงความผิดที่สะสมกันมายาวนาน ข้าราชการไทย อยู่ได้เพราะเงินส่วย ใช้จ่ายเกินตัว หนี้สินเกินกำลัง ปัญหาใหญ่แท้จริง ในการจะปราบคอรัปชั่นได้ นั่นคือ "การล้างหนี้ก่อน" จะทำให้เงินนอกระบบเป็นโมฆะให้หมด จะทำให้หนี้ท่วมหัว กลายเป็นหนี้ที่เรียกคืนได้จริง ทุกอย่างต้องชัดเจน โปร่งใส ศาลไคฟงจะนำ การคลังจะตาม การต่างประเทศถึงจะเดินหน้าต่อได้ เด็กใคร สายใคร ต่อไป จะถูก SET 0 ใหม่หมด ทั้งองค์กร กจิกาใหม่จะมาเพื่อเลี่ยงการคอรัปชั่นระยะยาวอีก ทั้งหมดมาจากการเปลี่ยนรธน.ใหม่นั่นเอง วังมา คือจบ

    หมี CNN(กระแสพลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียนมาเต็ม แต่แนวโน้ม โลกยุคใหม่ พลังงานนิวเคลียร์คือคำตอบระยะสั้น ถูก แรง เร็ว และตอบสนองทันการ ทั่วโลกเริ่มโครงการโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์กันหมดแล้ว ทั้งเอเซีย อาเซียน แอฟริกา ตะวันออกกลาง ชาติลาติน แม้แต่ยุโรปฝั่งตะวันออก เพราะเพื่อลดการใช้น้ำมัน ที่ทำลาย มลพิษในอากาศ โลกร้อน แอฟเฟคที่ตามมา ไทยเราเองก็จะผลิตพลังงานสะอาดควบคู่ไป ยามเมื่อเกิดวิกฤตพลังงาน เราจะมีสแปร์สำรองไว้ก่อนเสมอ แสงแดด น้ำ คือสิ่งที่มีรอบตัวเรา น้ำท่วมบ่อยชิมิ? ใช้ประโยชน์จากแรงดันน้ำได้เลย ทุกอย่างทำได้จริง หากมรึงเลิกแดร๊กจริงจัง จะเอาเหี้ยอะไรได้หมด เชื่อกู?)
    20 พฤษภาคม 68
    12.18 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    20-05-68/01 : หมี CNN / หมีกุ๊กกู EP15 ไอ้สัส! วอชิงตันขี้แตก S-500 ฉบับเตหะราน มีอะไรที่กูทำไม่ได้บ้าง อิหร่านโชว์พาวเดอร์เค็ก สุดจริง เต็มจริง อิหร่านยังมี แล้วจีนจะเหลือเหรอ? หมายังรู้ S-500 ทำลายทุกขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิคบนโลกได้หมด แปลว่าอะไร? "นุ๊กมรึงตายตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มใช้ไงล่ะ" ยังไม่นับดาวเทียมพ่วงเลเซอร์ ที่พร้อมยิงถล่มดาวเทียมนำร่อง GPS มรึงทั้งอวกาศ STAR WARS ของจริง ขั้วใหม่ไปถึงแล้ว แต่มรึงยังคลำหาทางบินออกนอกโลกยังยากเลย NASA แค่ตัวตลกโลก ควายยังอาย หมายังเอือม อิหร่าน มาพร้อมเต็มสูบ ใครอยากวัดก็เข้ามา กำลังร้อนวิชา ของเค้าแรงจริง! อีแขกภาระตะกรี๊ด? อะไรน่ะ บราห์มอสเทพกู ยังสู้ ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิคอีปากีไม่ได้ หันไปดู MADE IN CHINA นี่หว่า นี่มันน้องๆ ตงเฟิงเชียวน่ะมรึง มาได้ไงฟ่ะ? ถึงบางอ้อ..อีแขกพลาด หมากตานี้ จีนรวบทั้งกระดาน แผนรั่ว จะเปิดศึกแคช์เมียร์ ที่อีแขกเตรียมชงเปิดฉากรอ มาปลาตายน้ำตื้น หารู้ไม่ จีน-ปากี เค้ารอดักทางมรึงนานแล้ว นี่มันกับดักนี่หว่า? อีแขกเสียหมา อีเศษฝรั่งเสียมวย จีน-ปากี แจ้งเกิดเต็มเวทีโลก ขวัญกำลังใจอีปากีมาเต็ม ได้เวลาปล่อยตัวอิมราน ข่านยังล่ะ? จีนใช้อีปากี ทดสอบอาวุธจีน ในสมรภูมิจริง เพื่อเตือนสติอีแขก มรึงอย่าสำคัญตัวเองสูงส่งเกินไป หากกูเอาจริง นิวเดลี มุมไบ กูยึดได้ภายใน 48 ชั่วโมง อยากหมากว่านี้มั้ยล่ะ? ทรงมันมาแล้ว! กระแส "กลับคุก" คุกแน่ คุกส่องหล้า ปั่นเพื่อบีบให้มรึงจ่ายไงล่ะ จ่ายคือจบ แล้วไสหัวไปซะ หากช้า ศรีธนญชัยอาจเปลี่ยนใจ แล้วมรึงจะไม่ได้ออกไปอีกตลอดชีวิต เพราะจะกลายเป็นศพในคุกไงล่ะ คนจะฆ่ามรึงมีเป็นล้าน แค่ปล่อยให้โดนกระตืบคาคุก 10 นาทีก็ขึ้นเงินได้แล้ว อะไรที่เกิดในคุก ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีใครรับผิดชอบ คนคุก มันก็อยู่ในคุก ทำผิดอีก จะส่งมันไปไหนได้อีกล่ะ? เข้าคุก คือตายนั่นเอง อีเมียกระบังลม ดิ้นเฮือกสุดท้าย จะเอาลูกสาวร่านเผ่นออกไปให้ได้ อีตัวพ่อเหลี่ยมชาติหมา มันคือเป้าหมายหลัก หากคิดจะเอาตัวรอด อีเมีย อีลูก ต้องเผ่นได้แล้วเวลานี้ ทางที่ดีที่สุด คือยอม หมอบ มอบ แค่นั้่นคือรอดตายในแผ่นดินนี้ แต่จะไปตายห่าที่ไหนก็เชิญ อีลูกสาวร่านจะดันให้ได้ แต่ครม. และพรรคร่วมเบรคตัวโก่ง เงิน 10000 เฟส3 ยังไม่คลอดซักกะที เพราะ GDP ติดลบ แถมถูกสว.จ้องเชือดรายตัว รายพรรค ไหนจะภาคประชาชนยื่นฟ้องเป็นหางว่าว วิบากกรรมนี้ หนียังไงก็ไม่พ้น ลูกน้องหักหลัง คนใกล้ตัวชิ่งหนีหมดแล้ว มีเงินแต่ไม่ได้ใช้ ใครมันจะโง่อยู่? วงในศาลไคฟง ส่งสัญญาน ไม่มีประกันตัวน่ะจ๊ะ งานนี้ คดีไหนก็ตาม เชือดอย่างเดียว ยาแรงเท่านั้น ใบสั่งตรงจากเบื้องบน "หากศาลยังพึ่งพาไม่ได้" กฎหมายก็ไม่ต้องมีมันแล้ว ชั้น 14 คือตราบาป ที่จะต้องทำให้กฎหมายกลับคืนความศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง อีเหลี่ยมดิ้นยาก จ่ายอย่างเดียว หากอยากจะรอด ช่องหมาลอดยังเปิดอยู่ แค่มรึงจ่ายก็จบ สัญญานเข้ม ทั้งตราเมืองธม ทั้งศรีสะเกษ ไม่ต้องสั่ง กูทำเอง? หน้าที่มีอยู่แล้ว อีขะแมร์ไม่กล้าดอก หากไทยเอาจริง เพราะอีฮุนเซน มันใกล้จะเสื่อมหนักเข้าทุกวัน ทหารอีขะแมร์ก็รู้ หากเปิดแลก ขนมกรุบสิจ๊ะ ทหารหน่วยเสื้อดำ มาเพื่อฆ่าอย่างเดียว งานถนัด ฝึกมาทั้งชีวิต เพื่อมาไล่ฆ่าเหี้ยผู้รุกรานเนี่ยแหละ ทหารเค้านับ 1 แล้วน่ะ ถึง 10 เมื่อไหร่ กูยิง และกวาดไปพร้อมกันให้หมดเลย ไอ้อีใครขายชาติตัวไหน จะถูกเรียกเช็คบิลหมด อย่ามาล้อเล่นกับดินแดน เพราะพ่ออยู่หัวจะไม่ยอมให้เสียดินแดนไปมากกว่านี้อีกแล้ว ตรงกันข้าม อะไรที่พ่ออยู่หัวร.5 ทรงเสียพระทัยไป จะเรียกคืนดินแดนเก่าทั้งหมดกลับมาในไม่ช้านี้ มั่นใจ ทำได้แน่ สวรรค์เปิดทาง ผวาอาเพช! สวรรค์เตือนมรึงแล้วน่ะ ทั้งไอ้เหลี่ยมชาติหมา และอีฮุนเซนชาติชั่ว มรึงไม่แตกต่างจากพญาละแวกดอกน่ะ ครั้นนึงเป็นแค่ที่รองตรีนอโยธยา ตะบัดสัตย์ คิดคดทรยศ เหมือนกันทั้งคู่ เทวดาสาปส่ง ชาวอีขะแมร์ แห่ผวา แตกตื่นกันใหญ่ สัญญานผลัดใบ อีฮุนเซนกำลังจะถูกสวรรค์ลงโทษ เพราะกว่าจะได้บังลังก์ตัวนี้มา มันเที่ยวไล่ฆ่าคนมานับล้าน เฉกเช่นเดียวกับอีเหลี่ยมชั่ว ศีลเสมอกัน เหี้ยเสมอตัว อีขะแมร์ยุคไร้อีฮันเซน บ้านเมืองจะระส่ำระสาย ผู้คนแย่งชิง จะเอาตัวรอด สุดท้ายหนีไม่พ้นพึ่งใบบุญไทย เชิญบรรพกษัตริย์กลับมาเพื่อปกครอง และอยู่ภายใต้อาณัติอโยธยาศรีรามเทพนครดั่งเดิม สวรรค์เขียนบทมาเยี่ยงนี้ ปล.กุนซือทั่วโลก ต่างมอง "เปิดเกมส์ยื้อสงครามกับจีน รัสเซีย มีแต่แพ้กับแพ้" เงินเอาจากไหน อาหารเอาจากใคร อาวุธใครผลิต ต้นทุนใครสูงกว่า โลจิสติคใครครอบครอง เสบียง กำลังพล ใครพร้อมกว่า พันธมิตร ใครมากกว่า ความชอบธรรม ใครดีกว่า เวทีโลก ใครเป็นที่ประจักษ์กว่า สงครามเกิด ทั้งโลกจะยืนอยู่ข้างผู้ชนะเท่านั้น และแน่นอนว่า เค้าได้เลือก "จีน รัสเซีย อิหร่าน ไปเรียบร้อยแล้ว" ไม่ว่า อีหน้าโง่ยุโรป จะเปิดศึกกับรัสเซียยังไง ก็รอวันแพ้ยับได้เลย อเมริกาถังแตก จะเล่นสงครามการค้าสู้ไม่ได้ ยิ่งเล่นสงครามในสมรภูมิรบยิ่งแพ้หนัก แค่เยเมน ทะเลแดงยังไม่มีปัญญาผ่าน แล้วมรึงยังจะหน้าด้านไปบุกเกาะสแปรดลี่ย์อีกเหรอ? ตงเฟงจ่อหัว ไม่มีรอดซักราย ส่งเรือรบไปกี่ลำ จมตามจำนวนหัวยิงนั่นแหละ เมื่อทรงมันมาทางเดียวกันหมด ไม่มีใครอยากรบกับรัสเซีย จีน ซึ่งหน้า คงมีแต่อียิวเสี้ยน ที่อยากจะตายคาตรีนอิหร่านขั้นสูงสุด ถึงได้พยายามยั่วยุ สุดติ่งกระดิ่งเหี้ย แต่จะพยายามอย่างไร แผนการรวบแดร๊กแหล่งแก็สนอกชายฝั่งฉนวนกาซ่าก็ไร้ผล เพราะเค้ารู้แล้วว่า มรึงต้องการอะไรแท้จริงกันแน่? ปล.2 ชั้นไม่ลับ ดีลผีอีโมแห้ว ดีลชั้น 14 วงแตก ดีลหนีขะแมร์ยกเลิก ดีลปิดจ็อบเงิน 10000 ไม่มา ดีลเคลียร์ DSI ไม่จบ ดีลสว.ฮั้ว ไม่เลิก ดีลยกดินแดน ไม่มีทาง ดีลกวาดล้างบางคอรัปชั่นทั่วไทย ไฟเขียว ดีลตึกสตง.ไม่ช่วย ดีลเลือกตั้งใหม่ไม่มา ดีลยุบพรรคไม่รามือ ดีลศาลไคฟง ไม่ปล่อย ดีลสร้างถนน ไม่จบ ทุกเรื่องราว มีใบสั่ง เรื่องถึงเกิด ใครสั่งขุด ใครสั่งรื้อ ใครสั่งลุย คำถามคือ "ต้องใช้เวลานานแค่ไหน กว่าทุกคดีจะมาบรรจบกันที่ คุก" ศรีธนญชัยเล่นไปทีละตา เดินไปทีละก้าว หากจีน รัสเซีย อิหร่านเปิด ทุกคดีจะเร็วฟ้าผ่าอย่างที่คาดไม่ถึง มันคือการประกาศไปในตัว ว่าอโยธยาเลือกฝ่ายแล้วไงล่ะ? อย่าลืมว่า 93 ปี เหี้ย C และขี้ข้ายิวเหี้ยฝังตัวอยู่ในไทยมานาน เส้นสาย ลูกหม้อ มีกระจายไปทั่วทุกชนชั้น ทุกหน่วยงาน การจะล้างผป่าช้าได้จริงและสำเร็จ มันต้องจัดการปัจจัยหลักให้หมดก่อน ทั้งท่อน้ำเลี้ยง หัวเหี้ยที่ตั้งขึ้นมา รวมถึงความผิดที่สะสมกันมายาวนาน ข้าราชการไทย อยู่ได้เพราะเงินส่วย ใช้จ่ายเกินตัว หนี้สินเกินกำลัง ปัญหาใหญ่แท้จริง ในการจะปราบคอรัปชั่นได้ นั่นคือ "การล้างหนี้ก่อน" จะทำให้เงินนอกระบบเป็นโมฆะให้หมด จะทำให้หนี้ท่วมหัว กลายเป็นหนี้ที่เรียกคืนได้จริง ทุกอย่างต้องชัดเจน โปร่งใส ศาลไคฟงจะนำ การคลังจะตาม การต่างประเทศถึงจะเดินหน้าต่อได้ เด็กใคร สายใคร ต่อไป จะถูก SET 0 ใหม่หมด ทั้งองค์กร กจิกาใหม่จะมาเพื่อเลี่ยงการคอรัปชั่นระยะยาวอีก ทั้งหมดมาจากการเปลี่ยนรธน.ใหม่นั่นเอง วังมา คือจบ หมี CNN(กระแสพลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียนมาเต็ม แต่แนวโน้ม โลกยุคใหม่ พลังงานนิวเคลียร์คือคำตอบระยะสั้น ถูก แรง เร็ว และตอบสนองทันการ ทั่วโลกเริ่มโครงการโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์กันหมดแล้ว ทั้งเอเซีย อาเซียน แอฟริกา ตะวันออกกลาง ชาติลาติน แม้แต่ยุโรปฝั่งตะวันออก เพราะเพื่อลดการใช้น้ำมัน ที่ทำลาย มลพิษในอากาศ โลกร้อน แอฟเฟคที่ตามมา ไทยเราเองก็จะผลิตพลังงานสะอาดควบคู่ไป ยามเมื่อเกิดวิกฤตพลังงาน เราจะมีสแปร์สำรองไว้ก่อนเสมอ แสงแดด น้ำ คือสิ่งที่มีรอบตัวเรา น้ำท่วมบ่อยชิมิ? ใช้ประโยชน์จากแรงดันน้ำได้เลย ทุกอย่างทำได้จริง หากมรึงเลิกแดร๊กจริงจัง จะเอาเหี้ยอะไรได้หมด เชื่อกู?) 20 พฤษภาคม 68 12.18 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1056 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความก้าวหน้าครั้งสำคัญของพลังงานฟิวชัน: NIF สร้างสถิติใหม่ 8.6 เมกะจูล

    ศูนย์ National Ignition Facility (NIF) ประสบความสำเร็จในการสร้างพลังงานฟิวชันสูงสุดถึง 8.6 เมกะจูล ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากกว่า สองเท่าจากสถิติเดิม ที่เคยทำได้ในปี 2022 นี่ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนา พลังงานสะอาดที่อาจเป็นแหล่งพลังงานหลักในอนาคต

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความก้าวหน้าของ NIF
    NIF ใช้เทคนิค Inertial Confinement Fusion (ICF) เพื่อสร้างพลังงานฟิวชัน
    - โดยใช้ 192 เลเซอร์พลังงานสูงยิงไปที่เม็ดเชื้อเพลิงขนาดเล็ก

    การทดลองล่าสุดสร้างพลังงานได้ถึง 8.6 เมกะจูล ซึ่งมากกว่าสถิติเดิมที่ 3.15 เมกะจูลในปี 2022
    - แสดงให้เห็นว่า การพัฒนาเทคโนโลยีฟิวชันกำลังเดินหน้าอย่างรวดเร็ว

    แม้ว่าพลังงานที่ผลิตได้ยังไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ แต่เป็นหลักฐานว่าฟิวชันสามารถเกิดขึ้นได้ในห้องทดลอง
    - เป็น ก้าวสำคัญในการพัฒนาแหล่งพลังงานสะอาดที่ไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

    NIF ใช้เม็ดเชื้อเพลิงที่ประกอบด้วยดิวเทอเรียมและทริเทียม ซึ่งถูกบีบอัดจนเกิดปฏิกิริยาฟิวชัน
    - ทำให้ เกิดพลังงานมหาศาลจากการรวมตัวของอะตอม

    การทดลองนี้ช่วยสนับสนุนโครงการ Stockpile Stewardship Program ของสหรัฐฯ
    - ซึ่งเป็น โครงการที่ช่วยรักษาความมั่นคงด้านนิวเคลียร์โดยไม่ต้องทำการทดลองใต้ดิน

    https://www.techspot.com/news/107971-fusion-breakthrough-nif-achieves-86-megajoules-shattering-previous.html
    ความก้าวหน้าครั้งสำคัญของพลังงานฟิวชัน: NIF สร้างสถิติใหม่ 8.6 เมกะจูล ศูนย์ National Ignition Facility (NIF) ประสบความสำเร็จในการสร้างพลังงานฟิวชันสูงสุดถึง 8.6 เมกะจูล ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากกว่า สองเท่าจากสถิติเดิม ที่เคยทำได้ในปี 2022 นี่ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนา พลังงานสะอาดที่อาจเป็นแหล่งพลังงานหลักในอนาคต 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความก้าวหน้าของ NIF ✅ NIF ใช้เทคนิค Inertial Confinement Fusion (ICF) เพื่อสร้างพลังงานฟิวชัน - โดยใช้ 192 เลเซอร์พลังงานสูงยิงไปที่เม็ดเชื้อเพลิงขนาดเล็ก ✅ การทดลองล่าสุดสร้างพลังงานได้ถึง 8.6 เมกะจูล ซึ่งมากกว่าสถิติเดิมที่ 3.15 เมกะจูลในปี 2022 - แสดงให้เห็นว่า การพัฒนาเทคโนโลยีฟิวชันกำลังเดินหน้าอย่างรวดเร็ว ✅ แม้ว่าพลังงานที่ผลิตได้ยังไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ แต่เป็นหลักฐานว่าฟิวชันสามารถเกิดขึ้นได้ในห้องทดลอง - เป็น ก้าวสำคัญในการพัฒนาแหล่งพลังงานสะอาดที่ไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ✅ NIF ใช้เม็ดเชื้อเพลิงที่ประกอบด้วยดิวเทอเรียมและทริเทียม ซึ่งถูกบีบอัดจนเกิดปฏิกิริยาฟิวชัน - ทำให้ เกิดพลังงานมหาศาลจากการรวมตัวของอะตอม ✅ การทดลองนี้ช่วยสนับสนุนโครงการ Stockpile Stewardship Program ของสหรัฐฯ - ซึ่งเป็น โครงการที่ช่วยรักษาความมั่นคงด้านนิวเคลียร์โดยไม่ต้องทำการทดลองใต้ดิน https://www.techspot.com/news/107971-fusion-breakthrough-nif-achieves-86-megajoules-shattering-previous.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Fusion breakthrough: NIF achieves 8.6 megajoules, shattering previous record
    The National Ignition Facility (NIF), based at the US Department of Energy's Lawrence Livermore National Laboratory, has steadily increased the amount of energy produced in its fusion...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุทธศาสตร์โลก (Global Strategy) เป็นแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนและการดำเนินการในระดับโลกเพื่อตอบสนองความท้าทายและโอกาสในบริบทระหว่างประเทศ ซึ่งอาจครอบคลุมหลายด้าน เช่น เศรษฐกิจ การเมือง ความมั่นคง สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี

    ### **ประเด็นสำคัญในยุทธศาสตร์โลกปัจจุบัน**
    1. **การแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ**
    - **สหรัฐอเมริกา vs จีน**: การแข่งขันทางเศรษฐกิจ การค้า เทคโนโลยี (เช่น สงครามชิป) และอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์
    - **บทบาทของรัสเซีย**: สงครามยูเครนและผลกระทบต่อความมั่นคงพลังงานและอาหารโลก
    - **EU และกลุ่มประเทศอื่นๆ**: แสวงหาความเป็นเอกภาพหรือความเป็นกลางในความขัดแย้ง

    2. **เศรษฐกิจและการค้าโลก**
    - **ห่วงโซ่อุปทานใหม่**: การลดการพึ่งพาจีน (Friend-shoring, Reshoring)
    - **การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและ AI**
    - **ความตกลงการค้าใหม่**: เช่น CPTPP, RCEP

    3. **ความมั่นคงและความขัดแย้ง**
    - **สงครามในตะวันออกกลาง** (อิสราเอล-ปาเลสไตน์, ความตึงเครียดกับอิหร่าน)
    - **ความขัดแย้งในทะเลจีนใต้และไต้หวัน**
    - **การขยายตัวของ NATO และความสัมพันธ์กับรัสเซีย**

    4. **สิ่งแวดล้อมและพลังงาน**
    - **การเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด** (Net Zero, Renewable Energy)
    - **ผลกระทบจาก Climate Change** และนโยบายลดคาร์บอน
    - **ความมั่นคงด้านพลังงาน** (การพึ่งพาน้ำมันและก๊าซจากตะวันออกกลางและรัสเซีย)

    5. **เทคโนโลยีและไซเบอร์**
    - **การแข่งขันด้าน AI, ควอนตัมคอมพิวติ้ง, อวกาศ**
    - **สงครามไซเบอร์และความปลอดภัยข้อมูล**
    - **กฎระเบียบเทคโนโลยีระหว่างประเทศ** (เช่น GDPR, การควบคุม AI)

    6. **การทูตและองค์กรระหว่างประเทศ**
    - **บทบาทของ UN, WTO, IMF** ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและเศรษฐกิจ
    - **กลุ่มประเทศ BRICS+** ที่ขยายตัวเพื่อท้าทายระบบโลกเดิม
    - **Soft Power และการทูตวัฒนธรรม**

    ### **ยุทธศาสตร์ของประเทศต่างๆ**
    - **สหรัฐอเมริกา**: มุ่งรักษา hegemony ผ่านการเสริมกำลัง NATO, สนับสนุนไต้หวัน, และลงทุนในเทคโนโลยี
    - **จีน**: Belt and Road Initiative (BRI), การขยายอิทธิพลใน Global South
    - **ยุโรป**: ลดการพึ่งพาพลังงานรัสเซีย, ส่งเสริม Green Deal
    - **รัสเซีย**: หาพันธมิตรใหม่ (จีน, อิหร่าน) หลังถูกโดดเดี่ยวจากตะวันตก
    - **กลุ่ม Global South (อินเดีย, บราซิล, แอฟริกาใต้)**: แสวงหาความเป็นกลางหรือประโยชน์จากหลายฝ่าย

    ### **แนวโน้มในอนาคต**
    - **โลกหลายขั้วอำนาจ (Multipolar World)** แทนระบบที่นำโดยสหรัฐเพียงอย่างเดียว
    - **ความไม่แน่นอนจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและเทคโนโลยี**
    - **ความเสี่ยงจากความขัดแย้งใหม่ๆ** (เช่น AI Warfare, การแย่งชิงทรัพยากร)

    ยุทธศาสตร์โลกในยุคนี้จึงต้องคำนึงถึง **ความร่วมมือระหว่างประเทศ** แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับ **การแข่งขันและการเผชิญหน้า** ในหลายด้านด้วย
    ยุทธศาสตร์โลก (Global Strategy) เป็นแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนและการดำเนินการในระดับโลกเพื่อตอบสนองความท้าทายและโอกาสในบริบทระหว่างประเทศ ซึ่งอาจครอบคลุมหลายด้าน เช่น เศรษฐกิจ การเมือง ความมั่นคง สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี ### **ประเด็นสำคัญในยุทธศาสตร์โลกปัจจุบัน** 1. **การแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ** - **สหรัฐอเมริกา vs จีน**: การแข่งขันทางเศรษฐกิจ การค้า เทคโนโลยี (เช่น สงครามชิป) และอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์ - **บทบาทของรัสเซีย**: สงครามยูเครนและผลกระทบต่อความมั่นคงพลังงานและอาหารโลก - **EU และกลุ่มประเทศอื่นๆ**: แสวงหาความเป็นเอกภาพหรือความเป็นกลางในความขัดแย้ง 2. **เศรษฐกิจและการค้าโลก** - **ห่วงโซ่อุปทานใหม่**: การลดการพึ่งพาจีน (Friend-shoring, Reshoring) - **การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและ AI** - **ความตกลงการค้าใหม่**: เช่น CPTPP, RCEP 3. **ความมั่นคงและความขัดแย้ง** - **สงครามในตะวันออกกลาง** (อิสราเอล-ปาเลสไตน์, ความตึงเครียดกับอิหร่าน) - **ความขัดแย้งในทะเลจีนใต้และไต้หวัน** - **การขยายตัวของ NATO และความสัมพันธ์กับรัสเซีย** 4. **สิ่งแวดล้อมและพลังงาน** - **การเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด** (Net Zero, Renewable Energy) - **ผลกระทบจาก Climate Change** และนโยบายลดคาร์บอน - **ความมั่นคงด้านพลังงาน** (การพึ่งพาน้ำมันและก๊าซจากตะวันออกกลางและรัสเซีย) 5. **เทคโนโลยีและไซเบอร์** - **การแข่งขันด้าน AI, ควอนตัมคอมพิวติ้ง, อวกาศ** - **สงครามไซเบอร์และความปลอดภัยข้อมูล** - **กฎระเบียบเทคโนโลยีระหว่างประเทศ** (เช่น GDPR, การควบคุม AI) 6. **การทูตและองค์กรระหว่างประเทศ** - **บทบาทของ UN, WTO, IMF** ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและเศรษฐกิจ - **กลุ่มประเทศ BRICS+** ที่ขยายตัวเพื่อท้าทายระบบโลกเดิม - **Soft Power และการทูตวัฒนธรรม** ### **ยุทธศาสตร์ของประเทศต่างๆ** - **สหรัฐอเมริกา**: มุ่งรักษา hegemony ผ่านการเสริมกำลัง NATO, สนับสนุนไต้หวัน, และลงทุนในเทคโนโลยี - **จีน**: Belt and Road Initiative (BRI), การขยายอิทธิพลใน Global South - **ยุโรป**: ลดการพึ่งพาพลังงานรัสเซีย, ส่งเสริม Green Deal - **รัสเซีย**: หาพันธมิตรใหม่ (จีน, อิหร่าน) หลังถูกโดดเดี่ยวจากตะวันตก - **กลุ่ม Global South (อินเดีย, บราซิล, แอฟริกาใต้)**: แสวงหาความเป็นกลางหรือประโยชน์จากหลายฝ่าย ### **แนวโน้มในอนาคต** - **โลกหลายขั้วอำนาจ (Multipolar World)** แทนระบบที่นำโดยสหรัฐเพียงอย่างเดียว - **ความไม่แน่นอนจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและเทคโนโลยี** - **ความเสี่ยงจากความขัดแย้งใหม่ๆ** (เช่น AI Warfare, การแย่งชิงทรัพยากร) ยุทธศาสตร์โลกในยุคนี้จึงต้องคำนึงถึง **ความร่วมมือระหว่างประเทศ** แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับ **การแข่งขันและการเผชิญหน้า** ในหลายด้านด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 691 มุมมอง 0 รีวิว
  • 12 พฤษภาคม 2568- รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์ประเด็นสำคัญว่า ”กำไรของ GULF ต้นทุนของประชาชน?
    โควตา 12 โครงการที่ได้จากรัฐ...อาจจะกลายเป็นภาระค่าไฟที่เราทุกคนต้องจ่ายแพงเกินจริงยาว 25 ปี?
    ________________________________________
    5,395 ล้านบาท — คือกำไรสุทธิของ GULF ในไตรมาสแรกของปี 2568
    เพิ่มขึ้น 54.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
    ตัวเลขที่นักลงทุนอาจปรบมือให้
    แต่ประชาชนควรถาม…
    กำไรที่ได้? คือรายจ่ายของใคร?
    ________________________________________
    สัญญาใหม่ที่มาจากโควตาเก่า?
    เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 GULF เพิ่งเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับ กฟผ.
    รวม 12 โครงการพลังงานแสงอาทิตย์+ระบบกักเก็บพลังงาน (BESS)
    กำลังการผลิตรวม 649.31 เมกะวัตต์
    ภายใต้สัญญารับซื้อไฟฟ้ายาว 25 ปี
    แต่เบื้องหลังสัญญานี้คือ “โควตา” เดิมที่ได้โดยไม่ต้องประมูลใหม่
    ย้อนกลับไปเมื่อเมษายน 2566
    กกพ. เปิดโครงการพลังงานหมุนเวียนรอบแรก 4,852.26 เมกะวัตต์
    และผลที่ออกมาคือ:
    GULF ได้ไปถึง 1,891.89 เมกะวัตต์ (เกือบ 39%) — มากที่สุดในประเทศ
    GUNKUL ตามมาอีก 832.4 MW (17%)
    รวมสองกลุ่มนี้ถือครองโควตาเกิน 56% ของทั้งโครงการ
    ________________________________________
    โควตาเปิดแข่ง...แต่กระจุกในมือทุนใหญ่?
    รัฐใช้คำว่า “เปิดแข่งขัน” แต่ผลลัพธ์กลับเป็นภาพซ้ำซากของการ “กระจุกตัว”
    ทุนใหญ่ได้โควตาหลายรูปแบบ ทั้งโซลาร์พื้นดิน, โซลาร์+BESS, และพลังงานลม
    ขณะที่ทุนกลาง–เล็กได้แค่ 2–4%
    ประชาชนแทบไม่มีที่ยืน
    ชื่อใหม่ของ “พลังงานหมุนเวียน” จึงเหมือนหมุนวนอยู่ในมือคนเดิม
    ________________________________________
    ต้นทุนไฟฟ้า...ใครกำหนด?
    สัญญา 12 โครงการที่เพิ่งเซ็นนั้น
    กำหนดอัตรารับซื้อไว้ที่ 2.8331 บาทต่อหน่วย (กรณีมีระบบกักเก็บ)
    ล็อกราคานี้ไว้ยาว 25 ปี
    แม้ในอนาคตเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์จะถูกลงกว่านี้มาก
    สภาองค์กรของผู้บริโภค ประเมินว่า
    เพียงโครงการกลุ่มนี้ อาจทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟสูงถึง
    65,000 ล้านบาท ตลอดอายุสัญญา
    ทั้งที่ต้นทุนจริงในตลาดโลกต่ำกว่านั้นมาก
    ________________________________________
    สิ่งที่ต้องถามไม่ใช่แค่ “กำไร GULF มาจากไหน?”
    แต่คือ... “ต้นทุนที่ประชาชนจ่าย มันยุติธรรมหรือไม่?”
    ถ้ารัฐเปิดประมูลแบบโปร่งใส
    ปล่อยให้แข่งกันที่ราคาต่ำสุด
    ไม่ใช่แจกโควตาแบบลับ ๆ หรือให้เฉพาะกลุ่ม
    ค่าไฟอาจถูกกว่านี้หลายหมื่นล้านบาท
    ________________________________________
    เราไม่ได้ค้านพลังงานสะอาด...และไม่ได้อิจฉาผลกำไรของเอกชน
    แต่เราทวงถาม... พลังงานที่โปร่งใสและเป็นธรรม
    เพราะ “หมุนเวียน” ไม่ควรแปลว่า “หมุนจากกระเป๋าประชนชนไปเข้ากระเป๋าทุน”
    และ “อนาคตพลังงาน” ไม่ควรล็อกไว้ในสัญญาที่ประชาชนหมดสิทธิเลือก“
    12 พฤษภาคม 2568- รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์ประเด็นสำคัญว่า ”กำไรของ GULF ต้นทุนของประชาชน? โควตา 12 โครงการที่ได้จากรัฐ...อาจจะกลายเป็นภาระค่าไฟที่เราทุกคนต้องจ่ายแพงเกินจริงยาว 25 ปี? ________________________________________ 5,395 ล้านบาท — คือกำไรสุทธิของ GULF ในไตรมาสแรกของปี 2568 เพิ่มขึ้น 54.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตัวเลขที่นักลงทุนอาจปรบมือให้ แต่ประชาชนควรถาม… กำไรที่ได้? คือรายจ่ายของใคร? ________________________________________ สัญญาใหม่ที่มาจากโควตาเก่า? เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 GULF เพิ่งเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับ กฟผ. รวม 12 โครงการพลังงานแสงอาทิตย์+ระบบกักเก็บพลังงาน (BESS) กำลังการผลิตรวม 649.31 เมกะวัตต์ ภายใต้สัญญารับซื้อไฟฟ้ายาว 25 ปี แต่เบื้องหลังสัญญานี้คือ “โควตา” เดิมที่ได้โดยไม่ต้องประมูลใหม่ ย้อนกลับไปเมื่อเมษายน 2566 กกพ. เปิดโครงการพลังงานหมุนเวียนรอบแรก 4,852.26 เมกะวัตต์ และผลที่ออกมาคือ: GULF ได้ไปถึง 1,891.89 เมกะวัตต์ (เกือบ 39%) — มากที่สุดในประเทศ GUNKUL ตามมาอีก 832.4 MW (17%) รวมสองกลุ่มนี้ถือครองโควตาเกิน 56% ของทั้งโครงการ ________________________________________ โควตาเปิดแข่ง...แต่กระจุกในมือทุนใหญ่? รัฐใช้คำว่า “เปิดแข่งขัน” แต่ผลลัพธ์กลับเป็นภาพซ้ำซากของการ “กระจุกตัว” ทุนใหญ่ได้โควตาหลายรูปแบบ ทั้งโซลาร์พื้นดิน, โซลาร์+BESS, และพลังงานลม ขณะที่ทุนกลาง–เล็กได้แค่ 2–4% ประชาชนแทบไม่มีที่ยืน ชื่อใหม่ของ “พลังงานหมุนเวียน” จึงเหมือนหมุนวนอยู่ในมือคนเดิม ________________________________________ ต้นทุนไฟฟ้า...ใครกำหนด? สัญญา 12 โครงการที่เพิ่งเซ็นนั้น กำหนดอัตรารับซื้อไว้ที่ 2.8331 บาทต่อหน่วย (กรณีมีระบบกักเก็บ) ล็อกราคานี้ไว้ยาว 25 ปี แม้ในอนาคตเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์จะถูกลงกว่านี้มาก สภาองค์กรของผู้บริโภค ประเมินว่า เพียงโครงการกลุ่มนี้ อาจทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟสูงถึง 65,000 ล้านบาท ตลอดอายุสัญญา ทั้งที่ต้นทุนจริงในตลาดโลกต่ำกว่านั้นมาก ________________________________________ สิ่งที่ต้องถามไม่ใช่แค่ “กำไร GULF มาจากไหน?” แต่คือ... “ต้นทุนที่ประชาชนจ่าย มันยุติธรรมหรือไม่?” ถ้ารัฐเปิดประมูลแบบโปร่งใส ปล่อยให้แข่งกันที่ราคาต่ำสุด ไม่ใช่แจกโควตาแบบลับ ๆ หรือให้เฉพาะกลุ่ม ค่าไฟอาจถูกกว่านี้หลายหมื่นล้านบาท ________________________________________ เราไม่ได้ค้านพลังงานสะอาด...และไม่ได้อิจฉาผลกำไรของเอกชน แต่เราทวงถาม... พลังงานที่โปร่งใสและเป็นธรรม เพราะ “หมุนเวียน” ไม่ควรแปลว่า “หมุนจากกระเป๋าประชนชนไปเข้ากระเป๋าทุน” และ “อนาคตพลังงาน” ไม่ควรล็อกไว้ในสัญญาที่ประชาชนหมดสิทธิเลือก“
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานจากเพจเฟซบุ๊กBlognone ระบุว่า อุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ของสหรัฐฯ เตือนว่าการที่รัฐบาล Trump ปราบปรามพลังงานหมุนเวียนอย่างเข้มงวด กำลังขัดขวางการเติบโตของกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ และทำให้สหรัฐฯ เสี่ยงเสียตำแหน่งผู้นำ AI ระดับโลกให้กับจีนได้
    .
    จีนออกมาตรการเชิงรุกในการส่งเสริม และปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้ทันสมัย และการจ่ายพลังงานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งตรงข้ามกับสหรัฐฯ ที่ระงับการพัฒนาพลังงานสะอาดบนที่ดินของรัฐบาลกลาง หยุดการปล่อยเงินกู้สำหรับพลังงานสะอาด และยกเลิกโครงการสำคัญ เช่น โครงการพลังงานลมของ Equinor มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ฯ
    .
    ดาต้าเซ็นเตอร์จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าที่มั่นคงและมีราคาย่อมเยา ซึ่งพลังงานหมุนเวียนช่วยตอบโจทย์ได้ดี ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากสหรัฐฯ เข้าถึงแหล่งพลังงานหมุนเวียนได้น้อยลง ดาต้าเซ็นเตอร์อาจเผชิญกับปัญหาขาดแคลนพลังงาน ต้นทุนที่สูงขึ้น ความล่าช้าในการก่อสร้าง และต้องหันมาพึ่งพลังงานฟอสซิลมากขึ้น
    .
    แม้โครงการพลังงานก๊าซบางแห่งถูกเร่งดำเนินการ แต่ก็มีต้นทุนสูง และใช้เวลานานกว่าจะสร้างเสร็จ เช่นเดียวกับบิ๊กเทคฯ อย่าง Amazon, Google, และ Equinix ที่เจอปัญหาในการรักษาเป้าหมายด้านความยั่งยืน และควบคุมต้นทุนจากความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น
    .
    ตอนนี้ในรัฐเท็กซัส ซึ่งตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหรัฐฯ กำลังพิจารณาร่างกฎหมายที่อาจเพิ่มข้อจำกัดต่อโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และลม ซึ่งจะยิ่งทำให้การขยายโครงสร้างพื้นฐานของดาต้าเซ็นเตอร์ยากขึ้น
    .
    https://www.ft.com/content/6821ec83-3a33-4a20-a3c6-152135c8ad57
    รายงานจากเพจเฟซบุ๊กBlognone ระบุว่า อุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ของสหรัฐฯ เตือนว่าการที่รัฐบาล Trump ปราบปรามพลังงานหมุนเวียนอย่างเข้มงวด กำลังขัดขวางการเติบโตของกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ และทำให้สหรัฐฯ เสี่ยงเสียตำแหน่งผู้นำ AI ระดับโลกให้กับจีนได้ . จีนออกมาตรการเชิงรุกในการส่งเสริม และปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้ทันสมัย และการจ่ายพลังงานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งตรงข้ามกับสหรัฐฯ ที่ระงับการพัฒนาพลังงานสะอาดบนที่ดินของรัฐบาลกลาง หยุดการปล่อยเงินกู้สำหรับพลังงานสะอาด และยกเลิกโครงการสำคัญ เช่น โครงการพลังงานลมของ Equinor มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ฯ . ดาต้าเซ็นเตอร์จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าที่มั่นคงและมีราคาย่อมเยา ซึ่งพลังงานหมุนเวียนช่วยตอบโจทย์ได้ดี ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากสหรัฐฯ เข้าถึงแหล่งพลังงานหมุนเวียนได้น้อยลง ดาต้าเซ็นเตอร์อาจเผชิญกับปัญหาขาดแคลนพลังงาน ต้นทุนที่สูงขึ้น ความล่าช้าในการก่อสร้าง และต้องหันมาพึ่งพลังงานฟอสซิลมากขึ้น . แม้โครงการพลังงานก๊าซบางแห่งถูกเร่งดำเนินการ แต่ก็มีต้นทุนสูง และใช้เวลานานกว่าจะสร้างเสร็จ เช่นเดียวกับบิ๊กเทคฯ อย่าง Amazon, Google, และ Equinix ที่เจอปัญหาในการรักษาเป้าหมายด้านความยั่งยืน และควบคุมต้นทุนจากความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น . ตอนนี้ในรัฐเท็กซัส ซึ่งตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหรัฐฯ กำลังพิจารณาร่างกฎหมายที่อาจเพิ่มข้อจำกัดต่อโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และลม ซึ่งจะยิ่งทำให้การขยายโครงสร้างพื้นฐานของดาต้าเซ็นเตอร์ยากขึ้น . https://www.ft.com/content/6821ec83-3a33-4a20-a3c6-152135c8ad57
    WWW.FT.COM
    Donald Trump’s attack on green energy could hurt US in AI race, data centres warn
    Industry needs renewables to meet surging power demand from artificial intelligence
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 386 มุมมอง 0 รีวิว
  • Tesla กำลังเร่งผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Semi ที่ล่าช้ามานาน โดยมีแผนจ้างพนักงานเพิ่มกว่า 1,000 คน ในรัฐเนวาดา เพื่อรองรับการผลิตที่โรงงาน Gigafactory ในเมือง Sparks โดย Tesla ได้ประกาศผ่านวิดีโอบน YouTube ว่าการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่นนี้จะเริ่มขึ้นภายในสิ้นปี 2025 และโรงงานจะมีความสามารถในการผลิตสูงสุดถึง 50,000 คันต่อปี

    การผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Semi ถือเป็นก้าวสำคัญของ Tesla ในการเข้าสู่ตลาดรถบรรทุกพลังงานสะอาด ซึ่งมีการแข่งขันสูงจากผู้ผลิตรายอื่น เช่น Nikola และ Volvo

    การจ้างงานเพิ่มในเนวาดา
    - Tesla จะจ้างพนักงานเพิ่มกว่า 1,000 คน
    - รองรับการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Semi ที่โรงงาน Gigafactory

    กำหนดการผลิต
    - การผลิตจะเริ่มขึ้นภายในสิ้นปี 2025
    - โรงงานมีความสามารถในการผลิตสูงสุดถึง 50,000 คันต่อปี

    ความสำคัญของ Tesla Semi
    - เป็นก้าวสำคัญในการเข้าสู่ตลาดรถบรรทุกพลังงานสะอาด
    - แข่งขันกับผู้ผลิตรายอื่น เช่น Nikola และ Volvo

    การประกาศผ่านวิดีโอ YouTube
    - Tesla ใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคและนักลงทุน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/30/tesla-hiring-over-1000-workers-to-ramp-up-semi-truck-production-business-insider-reports
    Tesla กำลังเร่งผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Semi ที่ล่าช้ามานาน โดยมีแผนจ้างพนักงานเพิ่มกว่า 1,000 คน ในรัฐเนวาดา เพื่อรองรับการผลิตที่โรงงาน Gigafactory ในเมือง Sparks โดย Tesla ได้ประกาศผ่านวิดีโอบน YouTube ว่าการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่นนี้จะเริ่มขึ้นภายในสิ้นปี 2025 และโรงงานจะมีความสามารถในการผลิตสูงสุดถึง 50,000 คันต่อปี การผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Semi ถือเป็นก้าวสำคัญของ Tesla ในการเข้าสู่ตลาดรถบรรทุกพลังงานสะอาด ซึ่งมีการแข่งขันสูงจากผู้ผลิตรายอื่น เช่น Nikola และ Volvo ✅ การจ้างงานเพิ่มในเนวาดา - Tesla จะจ้างพนักงานเพิ่มกว่า 1,000 คน - รองรับการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Semi ที่โรงงาน Gigafactory ✅ กำหนดการผลิต - การผลิตจะเริ่มขึ้นภายในสิ้นปี 2025 - โรงงานมีความสามารถในการผลิตสูงสุดถึง 50,000 คันต่อปี ✅ ความสำคัญของ Tesla Semi - เป็นก้าวสำคัญในการเข้าสู่ตลาดรถบรรทุกพลังงานสะอาด - แข่งขันกับผู้ผลิตรายอื่น เช่น Nikola และ Volvo ✅ การประกาศผ่านวิดีโอ YouTube - Tesla ใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคและนักลงทุน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/30/tesla-hiring-over-1000-workers-to-ramp-up-semi-truck-production-business-insider-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Tesla hiring over 1,000 workers to ramp up Semi truck production, Business Insider reports
    (Reuters) -Tesla is hiring more than a thousand new workers in Nevada as the electric vehicle maker looks to ramp up mass production of its much-delayed Semi trucks, Business Insider reported on Tuesday, citing people familiar with the matter.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 292 มุมมอง 0 รีวิว
  • การสร้างสมดุลของจักรวาลมนุษย์ชาติ (Human Universe) เป็นแนวคิดที่ซับซ้อน ครอบคลุมทั้งมิติทางสังคม สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และจิตวิญญาณ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและความปรองดองร่วมกัน ต่อไปนี้คือแนวทางหลักที่อาจนำไปสู่การสร้างสมดุลดังกล่าว:

    ### 1. **สมดุลทางสิ่งแวดล้อม**
    - **เปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด**: ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล หันไปใช้พลังงานหมุนเวียน (เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ลม) และส่งเสริมเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ
    - **ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)**: ลดการผลิตของเสียโดยออกแบบระบบการใช้วัสดุใหม่ (Reuse-Recycle) และส่งเสริมการบริโภคอย่างรับผิดชอบ
    - **ปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ**: ฟื้นฟูระบบนิเวศ สร้างพื้นที่อนุรักษ์ และควบคุมการตัดไม้ทำลายป่า

    ### 2. **สมดุลทางสังคม**
    - **ลดความเหลื่อมล้ำ**: สร้างระบบสวัสดิการที่ทั่วถึง สนับสนุนการศึกษาและสุขภาพฟรีหรือราคาเข้าถึงได้ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ห่างไกล
    - **ส่งเสริมความเท่าเทียม**: ขจัดการเลือกปฏิบัติทางเพศ เชื้อชาติ ศาสนา และสถานะทางสังคม
    - **สร้างชุมชนเข้มแข็ง**: สนับสนุนการมีส่วนร่วมของท้องถิ่นในการตัดสินใจ และส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน

    ### 3. **สมดุลทางเศรษฐกิจ**
    - **เศรษฐกิจแบบกระจายศูนย์**: ลดการผูกขาดโดยบริษัทขนาดใหญ่ สนับสนุนธุรกิจท้องถิ่นและสตาร์ทอัพ
    - **วัดความเจริญด้วยดัชนีใหม่**: ไม่ใช้เพียง GDP แต่รวมถึงความสุขมวลรวม (Gross National Happiness) หรือดัชนีความยั่งยืน
    - **ภาษีโปรเกรสซีฟ**: เก็บภาษีจากกลุ่มรายได้สูงและบริษัทข้ามชาติเพื่อกระจายความมั่งคั่ง

    ### 4. **สมดุลทางเทคโนโลยี**
    - **จริยธรรมเทคโนโลยี**: ควบคุมการใช้ AI และข้อมูลส่วนตัวเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิ
    - **เทคโนโลยีเพื่อสังคม**: พัฒนานวัตกรรมที่แก้ปัญหาสังคม เช่น เทคโนโลยีช่วยเกษตรกรหรือระบบสุขภาพดิจิทัล
    - **ลดช่องว่างดิจิทัล**: ให้ทุกคนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและความรู้ดิจิทัล

    ### 5. **สมดุลทางวัฒนธรรมและจิตวิญญาณ**
    - **เคารพความหลากหลาย**: ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น
    - **สร้างจิตสำนึกใหม่**: ปลูกฝังค่านิยมเช่นความพอเพียง (ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง) และความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ
    - **ส่งเสริมสติและสุขภาพจิต**: บูรณาการ mindfulness ในการศึกษาและการทำงาน

    ### 6. **สมดุลทางการเมืองและการปกครอง**
    - **ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม**: เปิดช่องทางให้ประชาชนมีส่วนร่วมนโยบายผ่าน Digital Platform
    - **ความร่วมมือระดับโลก**: เสริมสร้างองค์กรระหว่างประเทศเพื่อแก้ปัญหาร่วม เช่น ภาวะโลกร้อนหรือการค้ามนุษย์
    - **ต่อต้านการทุจริต**: สร้างระบบตรวจสอบที่โปร่งใส และส่งเสริมหลักนิติธรรม

    ### 7. **การศึกษาเพื่อการเปลี่ยนแปลง**
    - **เรียนรู้นอกกรอบ**: สอนทักษะศตวรรษที่ 21 เช่น การคิดวิเคราะห์ ความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) และทักษะการอยู่ร่วมกัน
    - **การศึกษาเชิงบูรณาการ**: ผสมผสานความรู้ทางวิทยาศาสตร์กับศิลปะและมนุษยศาสตร์

    ### บทสรุป
    สมดุลของจักรวาลมนุษย์ชาติไม่ใช่สถานะที่ตายตัว แต่เป็นกระบวนการต่อเนื่องที่ต้องอาศัยการปรับตัว ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และการมองมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ ไม่ใช่ผู้ครอบครอง การสร้างสมดุลนี้ต้องเริ่มจาก "การเปลี่ยนแปลงภายใน" ของแต่ละคน สู่การขับเคลื่อนนโยบายระดับโลก พร้อมกันนั้น ต้องไม่ลืมว่าความหลากหลายทางความคิดและวัฒนธรรมคือพลังขับเคลื่อน ไม่ใช่สิ่งต้องกำจัด!
    การสร้างสมดุลของจักรวาลมนุษย์ชาติ (Human Universe) เป็นแนวคิดที่ซับซ้อน ครอบคลุมทั้งมิติทางสังคม สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และจิตวิญญาณ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและความปรองดองร่วมกัน ต่อไปนี้คือแนวทางหลักที่อาจนำไปสู่การสร้างสมดุลดังกล่าว: ### 1. **สมดุลทางสิ่งแวดล้อม** - **เปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด**: ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล หันไปใช้พลังงานหมุนเวียน (เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ลม) และส่งเสริมเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ - **ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)**: ลดการผลิตของเสียโดยออกแบบระบบการใช้วัสดุใหม่ (Reuse-Recycle) และส่งเสริมการบริโภคอย่างรับผิดชอบ - **ปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ**: ฟื้นฟูระบบนิเวศ สร้างพื้นที่อนุรักษ์ และควบคุมการตัดไม้ทำลายป่า ### 2. **สมดุลทางสังคม** - **ลดความเหลื่อมล้ำ**: สร้างระบบสวัสดิการที่ทั่วถึง สนับสนุนการศึกษาและสุขภาพฟรีหรือราคาเข้าถึงได้ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ห่างไกล - **ส่งเสริมความเท่าเทียม**: ขจัดการเลือกปฏิบัติทางเพศ เชื้อชาติ ศาสนา และสถานะทางสังคม - **สร้างชุมชนเข้มแข็ง**: สนับสนุนการมีส่วนร่วมของท้องถิ่นในการตัดสินใจ และส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน ### 3. **สมดุลทางเศรษฐกิจ** - **เศรษฐกิจแบบกระจายศูนย์**: ลดการผูกขาดโดยบริษัทขนาดใหญ่ สนับสนุนธุรกิจท้องถิ่นและสตาร์ทอัพ - **วัดความเจริญด้วยดัชนีใหม่**: ไม่ใช้เพียง GDP แต่รวมถึงความสุขมวลรวม (Gross National Happiness) หรือดัชนีความยั่งยืน - **ภาษีโปรเกรสซีฟ**: เก็บภาษีจากกลุ่มรายได้สูงและบริษัทข้ามชาติเพื่อกระจายความมั่งคั่ง ### 4. **สมดุลทางเทคโนโลยี** - **จริยธรรมเทคโนโลยี**: ควบคุมการใช้ AI และข้อมูลส่วนตัวเพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิ - **เทคโนโลยีเพื่อสังคม**: พัฒนานวัตกรรมที่แก้ปัญหาสังคม เช่น เทคโนโลยีช่วยเกษตรกรหรือระบบสุขภาพดิจิทัล - **ลดช่องว่างดิจิทัล**: ให้ทุกคนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและความรู้ดิจิทัล ### 5. **สมดุลทางวัฒนธรรมและจิตวิญญาณ** - **เคารพความหลากหลาย**: ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น - **สร้างจิตสำนึกใหม่**: ปลูกฝังค่านิยมเช่นความพอเพียง (ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง) และความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ - **ส่งเสริมสติและสุขภาพจิต**: บูรณาการ mindfulness ในการศึกษาและการทำงาน ### 6. **สมดุลทางการเมืองและการปกครอง** - **ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม**: เปิดช่องทางให้ประชาชนมีส่วนร่วมนโยบายผ่าน Digital Platform - **ความร่วมมือระดับโลก**: เสริมสร้างองค์กรระหว่างประเทศเพื่อแก้ปัญหาร่วม เช่น ภาวะโลกร้อนหรือการค้ามนุษย์ - **ต่อต้านการทุจริต**: สร้างระบบตรวจสอบที่โปร่งใส และส่งเสริมหลักนิติธรรม ### 7. **การศึกษาเพื่อการเปลี่ยนแปลง** - **เรียนรู้นอกกรอบ**: สอนทักษะศตวรรษที่ 21 เช่น การคิดวิเคราะห์ ความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) และทักษะการอยู่ร่วมกัน - **การศึกษาเชิงบูรณาการ**: ผสมผสานความรู้ทางวิทยาศาสตร์กับศิลปะและมนุษยศาสตร์ ### บทสรุป สมดุลของจักรวาลมนุษย์ชาติไม่ใช่สถานะที่ตายตัว แต่เป็นกระบวนการต่อเนื่องที่ต้องอาศัยการปรับตัว ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และการมองมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ ไม่ใช่ผู้ครอบครอง การสร้างสมดุลนี้ต้องเริ่มจาก "การเปลี่ยนแปลงภายใน" ของแต่ละคน สู่การขับเคลื่อนนโยบายระดับโลก พร้อมกันนั้น ต้องไม่ลืมว่าความหลากหลายทางความคิดและวัฒนธรรมคือพลังขับเคลื่อน ไม่ใช่สิ่งต้องกำจัด!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 812 มุมมอง 0 รีวิว
  • Keppel บริษัทด้านการจัดการสินทรัพย์จากสิงคโปร์ ประกาศว่าได้รับเงินลงทุนกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนักลงทุนสถาบันทั่วโลกสำหรับกองทุนหลักของบริษัท ซึ่งรวมถึง Keppel Data Centre Fund III, Keppel Education Asset Fund II และกลยุทธ์การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน

    Christina Tan ซึ่งเป็น CEO ของฝ่ายบริหารกองทุนและ CIO ของ Keppel ระบุว่าการได้รับเงินลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับสินทรัพย์ทางเลือกที่สอดคล้องกับแนวโน้มระดับมหภาค เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน, การขยายตัวของเมือง และ ปัญญาประดิษฐ์ (AI)

    Keppel ได้รับเงินลงทุนกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
    - เงินลงทุนนี้มาจากนักลงทุนสถาบัน เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ
    - เงินทุนจะถูกนำไปใช้ในกองทุนที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ข้อมูล, การศึกษา และการพัฒนาเมือง

    Keppel มุ่งเป้าไปที่การบริหารสินทรัพย์มูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ภายในปี 2026
    - บริษัทตั้งเป้าขยายสินทรัพย์ภายใต้การบริหารให้ถึง 200 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ภายในปี 2030

    การลงทุนสะท้อนถึงแนวโน้มระดับมหภาคที่สำคัญ
    - นักลงทุนให้ความสนใจในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับ AI, พลังงานสะอาด และ การพัฒนาเมือง

    Keppel ไม่เปิดเผยรายชื่อนักลงทุนที่เข้าร่วมการลงทุนครั้งนี้
    - แม้ว่าจะมีการกล่าวถึงกองทุนบำเหน็จบำนาญและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/21/singapore039s-keppel-gets-15-billion-in-capital-commitments-for-its-funds
    Keppel บริษัทด้านการจัดการสินทรัพย์จากสิงคโปร์ ประกาศว่าได้รับเงินลงทุนกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนักลงทุนสถาบันทั่วโลกสำหรับกองทุนหลักของบริษัท ซึ่งรวมถึง Keppel Data Centre Fund III, Keppel Education Asset Fund II และกลยุทธ์การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน Christina Tan ซึ่งเป็น CEO ของฝ่ายบริหารกองทุนและ CIO ของ Keppel ระบุว่าการได้รับเงินลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับสินทรัพย์ทางเลือกที่สอดคล้องกับแนวโน้มระดับมหภาค เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน, การขยายตัวของเมือง และ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ✅ Keppel ได้รับเงินลงทุนกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ - เงินลงทุนนี้มาจากนักลงทุนสถาบัน เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ - เงินทุนจะถูกนำไปใช้ในกองทุนที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ข้อมูล, การศึกษา และการพัฒนาเมือง ✅ Keppel มุ่งเป้าไปที่การบริหารสินทรัพย์มูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ภายในปี 2026 - บริษัทตั้งเป้าขยายสินทรัพย์ภายใต้การบริหารให้ถึง 200 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ภายในปี 2030 ✅ การลงทุนสะท้อนถึงแนวโน้มระดับมหภาคที่สำคัญ - นักลงทุนให้ความสนใจในสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับ AI, พลังงานสะอาด และ การพัฒนาเมือง ✅ Keppel ไม่เปิดเผยรายชื่อนักลงทุนที่เข้าร่วมการลงทุนครั้งนี้ - แม้ว่าจะมีการกล่าวถึงกองทุนบำเหน็จบำนาญและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/21/singapore039s-keppel-gets-15-billion-in-capital-commitments-for-its-funds
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Singapore's Keppel gets $1.5 billion in capital commitments for its funds
    SINGAPORE (Reuters) - Keppel, a Singapore-based manager and operator of assets such as data centres, said on Monday that it has secured close to S$2.0 billion ($1.53 billion) of capital commitments from global institutional investors for its flagship funds.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 444 มุมมอง 0 รีวิว
  • Elon Musk ได้ประกาศว่าเขามีแผนที่จะเดินทางไปเยือนอินเดียในปลายปีนี้ หลังจากที่ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรี Narendra Modi เกี่ยวกับความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม การประกาศนี้เกิดขึ้นผ่านโพสต์บนแพลตฟอร์ม X ของ Musk ซึ่งแสดงถึงความสนใจในการสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับอินเดียในด้านเทคโนโลยี

    Elon Musk มีแผนที่จะเยือนอินเดียในปลายปีนี้
    - Musk ประกาศผ่านโพสต์บนแพลตฟอร์ม X ว่าเขารอคอยที่จะเดินทางไปอินเดีย
    - การเยือนนี้เกิดขึ้นหลังจากการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี Modi

    การพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม
    - Modi กล่าวถึงการพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือในด้านเทคโนโลยี แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม

    การเยือนอินเดียของ Musk อาจช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ในด้านเทคโนโลยี
    - การเยือนนี้อาจเป็นโอกาสในการสร้างความร่วมมือในด้าน AI, พลังงานสะอาด และการพัฒนาเทคโนโลยี

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/19/musk-says-he-will-visit-india-after-talk-with-modi
    Elon Musk ได้ประกาศว่าเขามีแผนที่จะเดินทางไปเยือนอินเดียในปลายปีนี้ หลังจากที่ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรี Narendra Modi เกี่ยวกับความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม การประกาศนี้เกิดขึ้นผ่านโพสต์บนแพลตฟอร์ม X ของ Musk ซึ่งแสดงถึงความสนใจในการสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับอินเดียในด้านเทคโนโลยี ✅ Elon Musk มีแผนที่จะเยือนอินเดียในปลายปีนี้ - Musk ประกาศผ่านโพสต์บนแพลตฟอร์ม X ว่าเขารอคอยที่จะเดินทางไปอินเดีย - การเยือนนี้เกิดขึ้นหลังจากการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี Modi ✅ การพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม - Modi กล่าวถึงการพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือในด้านเทคโนโลยี แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม ✅ การเยือนอินเดียของ Musk อาจช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ในด้านเทคโนโลยี - การเยือนนี้อาจเป็นโอกาสในการสร้างความร่วมมือในด้าน AI, พลังงานสะอาด และการพัฒนาเทคโนโลยี https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/19/musk-says-he-will-visit-india-after-talk-with-modi
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Musk says he will visit India after talk with Modi
    (Reuters) -Elon Musk said on Saturday he was planning to visit India later in the year, a day after Indian Prime Minister Narendra Modi said he had discussed technology with the billionaire entrepreneur.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts