• แอปพลิเคชันสำหรับ **การติดต่อสื่อสารโดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต (เน็ต)** ส่วนใหญ่ใช้เทคโนโลยี **Bluetooth, ระบบ Mesh Network (เครือข่ายใยแมงมุม) หรือสัญญาณวิทยุ** แทนการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตปกติ นี่คือตัวเลือกที่น่าสนใจ:

    ### 1. **Bridgefy (บลูทูธ + Mesh Network)**
    - **วิธีทำงาน**: เชื่อมต่อผ่าน **บลูทูธ** ในระยะใกล้ (~100 เมตร) หรือส่งต่อข้อความแบบ **Mesh Network** ในพื้นที่กว้าง (เช่น ในคอนเสิร์ตหรือชุมชน) โดยไม่ใช้เน็ต
    - **เหมาะกับ**: พื้นที่คนเยอะ, งานกิจกรรมกลางแจ้ง, ภัยพิบัติที่สัญญาณขาด
    - **ระบบ**: iOS/Android
    - **ข้อควรรู้**: ต้องมีคนใช้แอปในบริเวณนั้นเพื่อส่งต่อข้อความ

    ### 2. **FireChat (Mesh Network)**
    - **วิธีทำงาน**: สร้างเครือข่ายเฉพาะกิจผ่าน **บลูทูธ/Wi-Fi Direct** โดยอุปกรณ์รอบตัวช่วยส่งข้อความแบบลูกโซ่
    - **เหมาะกับ**: เหตุการณ์ฉุกเฉิน, พื้นที่ห่างไกล
    - **ระบบ**: iOS/Android

    ### 3. **Briar (บลูทูธ/Wi-Fi Direct + Tor)**
    - **วิธีทำงาน**: เน้น **ความเป็นส่วนตัวสูง** เชื่อมต่อผ่านบลูทูธ/Wi-Fi Direct หรือใช้ Tor เมื่อมีเน็ต
    - **เหมาะกับ**: ผู้ต้องการความปลอดภัย, นักกิจกรรม
    - **ระบบ**: Android เท่านั้น

    ### 4. **Walkie-Talkie แบบดิจิทัล**
    - **เช่น Zello**: ทำงานผ่าน **สัญญาณมือถือพื้นฐาน (2G/3G/4G)** แบบไม่กินเน็ต (ใช้เครือข่ายเสียงปกติ) แต่ต้องมีสัญญาณโทรศัพท์
    - **เหมาะกับ**: สถานที่สัญญาณอ่อน แต่ยังพอโทรออกได้

    ### 5. **แอป SMS/ข้อความธรรมดา**
    - **เช่น Google Messages, Signal**: ส่ง **SMS แบบไม่ใช้เน็ต** ได้ (เฉพาะข้อความล้วน) แต่ต้องมีสัญญาณเครือข่ายมือถือ

    ---

    ### สถานการณ์ที่แนะนำให้ใช้:
    - **ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต แต่มีคนจำนวนมากในพื้นที่**: Bridgefy, FireChat
    - **เน้นความเป็นส่วนตัว/ความปลอดภัย**: Briar
    - **มีสัญญาณโทรศัพท์พื้นฐาน (แต่ไม่มีเน็ต)**: Zello หรือ SMS
    - **การสื่อสารระยะใกล้สุด**: เชื่อมต่อบลูทูธแบบ **Device to Device** (เช่น แชร์ไฟล์ผ่าน ShareIt โดยไม่ใช้เน็ต)

    > ⚠️ **ข้อจำกัด**: แอปเหล่านี้มักมี **ระยะส่งสัญญาณสั้น** (100 เมตร) และต้องการ **ผู้ใช้จำนวนมากในพื้นที่** เพื่อขยายเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพ

    เลือกใช้ตามสภาพแวดล้อมและอุปกรณ์ของคุณนะครับ! 😊
    แอปพลิเคชันสำหรับ **การติดต่อสื่อสารโดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต (เน็ต)** ส่วนใหญ่ใช้เทคโนโลยี **Bluetooth, ระบบ Mesh Network (เครือข่ายใยแมงมุม) หรือสัญญาณวิทยุ** แทนการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตปกติ นี่คือตัวเลือกที่น่าสนใจ: ### 1. **Bridgefy (บลูทูธ + Mesh Network)** - **วิธีทำงาน**: เชื่อมต่อผ่าน **บลูทูธ** ในระยะใกล้ (~100 เมตร) หรือส่งต่อข้อความแบบ **Mesh Network** ในพื้นที่กว้าง (เช่น ในคอนเสิร์ตหรือชุมชน) โดยไม่ใช้เน็ต - **เหมาะกับ**: พื้นที่คนเยอะ, งานกิจกรรมกลางแจ้ง, ภัยพิบัติที่สัญญาณขาด - **ระบบ**: iOS/Android - **ข้อควรรู้**: ต้องมีคนใช้แอปในบริเวณนั้นเพื่อส่งต่อข้อความ ### 2. **FireChat (Mesh Network)** - **วิธีทำงาน**: สร้างเครือข่ายเฉพาะกิจผ่าน **บลูทูธ/Wi-Fi Direct** โดยอุปกรณ์รอบตัวช่วยส่งข้อความแบบลูกโซ่ - **เหมาะกับ**: เหตุการณ์ฉุกเฉิน, พื้นที่ห่างไกล - **ระบบ**: iOS/Android ### 3. **Briar (บลูทูธ/Wi-Fi Direct + Tor)** - **วิธีทำงาน**: เน้น **ความเป็นส่วนตัวสูง** เชื่อมต่อผ่านบลูทูธ/Wi-Fi Direct หรือใช้ Tor เมื่อมีเน็ต - **เหมาะกับ**: ผู้ต้องการความปลอดภัย, นักกิจกรรม - **ระบบ**: Android เท่านั้น ### 4. **Walkie-Talkie แบบดิจิทัล** - **เช่น Zello**: ทำงานผ่าน **สัญญาณมือถือพื้นฐาน (2G/3G/4G)** แบบไม่กินเน็ต (ใช้เครือข่ายเสียงปกติ) แต่ต้องมีสัญญาณโทรศัพท์ - **เหมาะกับ**: สถานที่สัญญาณอ่อน แต่ยังพอโทรออกได้ ### 5. **แอป SMS/ข้อความธรรมดา** - **เช่น Google Messages, Signal**: ส่ง **SMS แบบไม่ใช้เน็ต** ได้ (เฉพาะข้อความล้วน) แต่ต้องมีสัญญาณเครือข่ายมือถือ --- ### สถานการณ์ที่แนะนำให้ใช้: - **ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต แต่มีคนจำนวนมากในพื้นที่**: Bridgefy, FireChat - **เน้นความเป็นส่วนตัว/ความปลอดภัย**: Briar - **มีสัญญาณโทรศัพท์พื้นฐาน (แต่ไม่มีเน็ต)**: Zello หรือ SMS - **การสื่อสารระยะใกล้สุด**: เชื่อมต่อบลูทูธแบบ **Device to Device** (เช่น แชร์ไฟล์ผ่าน ShareIt โดยไม่ใช้เน็ต) > ⚠️ **ข้อจำกัด**: แอปเหล่านี้มักมี **ระยะส่งสัญญาณสั้น** (100 เมตร) และต้องการ **ผู้ใช้จำนวนมากในพื้นที่** เพื่อขยายเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพ เลือกใช้ตามสภาพแวดล้อมและอุปกรณ์ของคุณนะครับ! 😊
    0 Comments 0 Shares 41 Views 0 Reviews
  • สหรัฐ-อังกฤษผวา ปูตินจ่อเอาคืนปฏิบัติการใยแมงมุม : คนเคาะข่าว 05-06-68
    อุษณีย์ เอกอุษณีย์ / อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร
    #คนเคาะข่าว #ปูติน #ใยแมงมุม #ปฏิบัติการลับ #สหรัฐอังกฤษ #ข่าวต่างประเทศ #Geopolitics #วิเคราะห์ความมั่นคง #สงครามไซเบอร์ #สุดาทิพย์จารุจินดา #อุษณีย์เอกอุษณีย์ #การเมืองโลก #รัสเซีย #thaitimes #ข่าวกรอง #ความมั่นคงระหว่างประเทศ
    สหรัฐ-อังกฤษผวา ปูตินจ่อเอาคืนปฏิบัติการใยแมงมุม : คนเคาะข่าว 05-06-68 อุษณีย์ เอกอุษณีย์ / อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร #คนเคาะข่าว #ปูติน #ใยแมงมุม #ปฏิบัติการลับ #สหรัฐอังกฤษ #ข่าวต่างประเทศ #Geopolitics #วิเคราะห์ความมั่นคง #สงครามไซเบอร์ #สุดาทิพย์จารุจินดา #อุษณีย์เอกอุษณีย์ #การเมืองโลก #รัสเซีย #thaitimes #ข่าวกรอง #ความมั่นคงระหว่างประเทศ
    Like
    Yay
    6
    0 Comments 1 Shares 227 Views 7 0 Reviews
  • ถอดสลัก...ปรับชีวิต...
    ปลด...พลังลบ ปล่อย..พลังบวก

    หลังจากผ่านการประกอบพิธีการส่งเทพเจ้าเสด็จสู่สรวงสวรรค์ 神上天 (ซิ้งเจี่ยที) แล้ว อีกหนึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีโบราณของชนชาวเชื้อสายจีนที่ปัจจุบันไม่ใคร่ได้พบเห็นกันโดยทั่วไปและไม่เป็นที่นิยมเหมือนกับขนบธรรมเนียมประเพณีอื่นๆในช่วงเทศกาลตรุษจีนคือ การประกอบพิธี"破舊入新"(ผั๊วกู่หยิบซิง) ที่เป็นส่วนหนึ่งของขนบธรรมเนียมประเพณีในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้เหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะขาดการสืบสานถ่ายทอดบอกกล่าวกันอย่างต่อเนื่องจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง เป็นผลให้สิ่งดีๆที่เป็นประโยชน์ของคนรุ่นก่อนๆได้ถูกปล่อยปละละเลยให้จืดจางหายไป ดังนั้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีโบราณให้ดำรงคงอยู่ไว้ต่อไป จึงใคร่ขอขยายไขความและรายละเอียดขั้นตอนของการประกอบพิธี"破舊入新"(ผั๊วกู่หยิบซิง) ดังนี้

    คำว่า "破舊入新"(ผั๊วกู่หยิบซิง) หมายถึง การละทิ้งพฤติกรรมหรือสิ่งของเก่าหรือเครื่องใช้ประจำที่มีความผูกพันหรือประพฤติเป็นประจำออกไป แล้วนำพฤติกรรมหรือสิ่งของใหม่มาปรับใช้ทดแทน เปรียบเสมือนเป็นการประกอบพิธีสะเดาะเคราะห์เพื่อสลัดเคราะห์ร้ายภัยเวรอย่างหนึ่งที่กำลังประสบพบอยู่ทิ้งออกไป โดยแบ่งเป็น 4 ลำดับขั้นตอนดังนี้

    1. การชำระองค์เทพเจ้า ประกอบด้วย

    - ถังน้ำใบใหม่ 1 ใบ
    - น้ำพุทธมนต์ หรือน้ำสะอาด
    - ผ้าขนหนูผืนเล็กผืนใหม่ 1 ผืน
    - ดอกไม้สด 7 สี 7 ชนิด

    โดยนำถังน้ำใบใหม่ใส่น้ำพุทธมนต์หรือน้ำสะอาดหรือใส่ทั้ง 2 อย่าง (ใส่น้ำสะอาดก่อนแล้วค่อยตามด้วยน้ำพุทธมนต์) ตามด้วยดอกไม้สด 7 สี 7 ชนิด จากนั้นนำผ้าขนหนูผืนเล็กผืนใหม่มาชำระองค์เทพเจ้าให้ทั่วจนสะอาด

    2. การทำความสะอาดบ้าน

    หลังจากเสร็จสิ้นจากการชำระองค์เทพเจ้าแล้ว ลำดับต่อไปคือการทำความสะอาดบ้านโดยรอบไม่ว่าจะเก็บกวาดหยากไย่ใยแมงมุม ซักล้างผ้าม่าน ผ้าปูเตียง ปลอกหมอน ปัดกวาดมุ้งลวด เป็นต้น เช็ดถูทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอกบ้าน แม้แต่การตัดต้นไม้ ตัดหญ้า เก็บทิ้งขยะ เพื่อให้บ้านดูสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย

    3. การทิ้งของเก่าเพื่อรับสิ่งใหม่

    ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเดิมๆที่ไม่ดีออกไป เช่น งดสูบบุหรี่ งดดื่มเหล้า ละเลิกเล่นพนัน ฯลฯ อีกทั้งปรับเปลี่ยนของใช้ประจำที่ผูกพันไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ฯลฯ โดยใช้วิธีการเผาทำลาย(ไม่ควรบริจาคให้แก่ใครเพราะจะเป็นการเพิ่มเคราะห์ของเราไปเป็นเคราะห์ของบุคคลอื่น) หรือแม้แต่ประตูบ้านที่เก่าหรือเสีย ก็อาจจะปรับเปลี่ยนติดตั้งประตูใหม่เพื่อใช้ทดแทนได้เช่นกัน

    4. การอบบ้าน ประกอบด้วย

    - ธูปหอม 1 ห่อ
    - กระถางหรือภาชนะใส่ธูป 5 ใบ
    แบ่งตำแหน่งพื้นที่ตัวอาคารบ้านออกเป็น 5 ตำแหน่ง ดังนี้
    - ตำแหน่งที่ 1 ตำแหน่งศูนย์กลางบ้าน
    - ตำแหน่งที่ 2 ตำแหน่งมุมซ้ายด้านหน้าตัวบ้าน
    - ตำแหน่งที่ 3 ตำแหน่งมุมขวาด้านหน้าตัวบ้าน
    - ตำแหน่งที่ 4 ตำแหน่งมุมซ้ายด้านหลังตัวบ้าน
    - ตำแหน่งที่ 5 ตำแหน่งมุมขวาด้านหลังตัวบ้าน

    เมื่อได้ตำแหน่งทั้ง 5 แล้วให้นำธูปหอมแบ่งออกเป็น 5 กำ จุดให้ติดไฟจนเกิดควันแล้วปักที่กระถางหรือภาชนะใส่ธูปที่ตั้งตาม 5 ตำแหน่งจนครบ อบบ้านด้วยการปิดทั้งประตูและหน้าต่างโดยรอบใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วยาม หรือ 2 ชั่วโมง โดยสมาชิกครอบครัวและสัตว์เลี้ยงในบ้านควรออกนอกตัวบ้านที่กำลังอบอยู่(เฝ้าระวังฟืนไฟก่อนจะเกิดเหตุเพลิงไหม้)

    หลังจากครบระยะเวลาตามที่กำหนดแล้วให้เปิดประตูตัวบ้านเพื่อเดินเข้าบ้าน พร้อมเปล่งเสียงคำพูดที่มงคล ตังอย่างเช่น ขอให้มั่งคั่งร่ำรวย ด้วยทรัพย์สินศฤงคาร ทรัพย์สินรายล้อม เงินทองเพชรพลอยหยกเต็มบ้าน ค้าขายได้กำไร เหลือกินเหลือใช้ ทุกๆอย่างราบรื่นสำเร็จสมปราถนา โชคดีมีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ พูนสุข อายุยืนยาวตลอดไป เป็นต้น จากนั้นเปิดหน้าต่างทุกบานที่ปิดออก เพื่อให้กระแส"氣"(ขี่) ที่ดีมีมงคลไหลหมุนเวียนตลอดทั่วตัวบ้าน

    ทั้ง 4 ขั้นตอนสามารถดำเนินการได้ในช่วงระหว่างหลังวันส่งองค์เทพเจ้าเสด็จสู่สรวงสวรรค์ 神上天 (ซิ้งเจี่ยที) จนถึงก่อนวันตรุษจีน โดยใช้วัน"除日"(ตื้อยิ๊ก) หรือ"破日"(ผั่วยิ๊ก) หรือ "天赦日"(เทียนเซี๊ยยิ๊ก) ก็ได้เช่นกัน ซึ่งใน ปีพ.ศ.2568 นี้ มีฤกษ์งามยามเหมาะกับการประกอบพิธี"破舊入新"(ผั๊วกู่หยิบซิง) คือ วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ.2568) นี้ ตั้งแต่เวลา 07:00 เป็นต้นไป

    หวังเป็นอย่างยิ่งว่าขนบธรรมเนียมประเพณีโบราณที่ดีมีประโยชน์ดั่งเช่น การทิ้งของเก่าเพื่อรับสิ่งใหม่อย่าง"破舊入新"(ผั๊วกู่หยิบซิง) จะได้รับการอนุรักษ์สืบสาน บอกกล่าว และถ่ายทอดกันอย่างต่อเนื่องจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งให้ดำรงคงอยู่ถาวรสืบไป
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ถอดสลัก...ปรับชีวิต... ปลด...พลังลบ ปล่อย..พลังบวก หลังจากผ่านการประกอบพิธีการส่งเทพเจ้าเสด็จสู่สรวงสวรรค์ 神上天 (ซิ้งเจี่ยที) แล้ว อีกหนึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีโบราณของชนชาวเชื้อสายจีนที่ปัจจุบันไม่ใคร่ได้พบเห็นกันโดยทั่วไปและไม่เป็นที่นิยมเหมือนกับขนบธรรมเนียมประเพณีอื่นๆในช่วงเทศกาลตรุษจีนคือ การประกอบพิธี"破舊入新"(ผั๊วกู่หยิบซิง) ที่เป็นส่วนหนึ่งของขนบธรรมเนียมประเพณีในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้เหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะขาดการสืบสานถ่ายทอดบอกกล่าวกันอย่างต่อเนื่องจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง เป็นผลให้สิ่งดีๆที่เป็นประโยชน์ของคนรุ่นก่อนๆได้ถูกปล่อยปละละเลยให้จืดจางหายไป ดังนั้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีโบราณให้ดำรงคงอยู่ไว้ต่อไป จึงใคร่ขอขยายไขความและรายละเอียดขั้นตอนของการประกอบพิธี"破舊入新"(ผั๊วกู่หยิบซิง) ดังนี้ คำว่า "破舊入新"(ผั๊วกู่หยิบซิง) หมายถึง การละทิ้งพฤติกรรมหรือสิ่งของเก่าหรือเครื่องใช้ประจำที่มีความผูกพันหรือประพฤติเป็นประจำออกไป แล้วนำพฤติกรรมหรือสิ่งของใหม่มาปรับใช้ทดแทน เปรียบเสมือนเป็นการประกอบพิธีสะเดาะเคราะห์เพื่อสลัดเคราะห์ร้ายภัยเวรอย่างหนึ่งที่กำลังประสบพบอยู่ทิ้งออกไป โดยแบ่งเป็น 4 ลำดับขั้นตอนดังนี้ 1. การชำระองค์เทพเจ้า ประกอบด้วย - ถังน้ำใบใหม่ 1 ใบ - น้ำพุทธมนต์ หรือน้ำสะอาด - ผ้าขนหนูผืนเล็กผืนใหม่ 1 ผืน - ดอกไม้สด 7 สี 7 ชนิด โดยนำถังน้ำใบใหม่ใส่น้ำพุทธมนต์หรือน้ำสะอาดหรือใส่ทั้ง 2 อย่าง (ใส่น้ำสะอาดก่อนแล้วค่อยตามด้วยน้ำพุทธมนต์) ตามด้วยดอกไม้สด 7 สี 7 ชนิด จากนั้นนำผ้าขนหนูผืนเล็กผืนใหม่มาชำระองค์เทพเจ้าให้ทั่วจนสะอาด 2. การทำความสะอาดบ้าน หลังจากเสร็จสิ้นจากการชำระองค์เทพเจ้าแล้ว ลำดับต่อไปคือการทำความสะอาดบ้านโดยรอบไม่ว่าจะเก็บกวาดหยากไย่ใยแมงมุม ซักล้างผ้าม่าน ผ้าปูเตียง ปลอกหมอน ปัดกวาดมุ้งลวด เป็นต้น เช็ดถูทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอกบ้าน แม้แต่การตัดต้นไม้ ตัดหญ้า เก็บทิ้งขยะ เพื่อให้บ้านดูสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย 3. การทิ้งของเก่าเพื่อรับสิ่งใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเดิมๆที่ไม่ดีออกไป เช่น งดสูบบุหรี่ งดดื่มเหล้า ละเลิกเล่นพนัน ฯลฯ อีกทั้งปรับเปลี่ยนของใช้ประจำที่ผูกพันไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ฯลฯ โดยใช้วิธีการเผาทำลาย(ไม่ควรบริจาคให้แก่ใครเพราะจะเป็นการเพิ่มเคราะห์ของเราไปเป็นเคราะห์ของบุคคลอื่น) หรือแม้แต่ประตูบ้านที่เก่าหรือเสีย ก็อาจจะปรับเปลี่ยนติดตั้งประตูใหม่เพื่อใช้ทดแทนได้เช่นกัน 4. การอบบ้าน ประกอบด้วย - ธูปหอม 1 ห่อ - กระถางหรือภาชนะใส่ธูป 5 ใบ แบ่งตำแหน่งพื้นที่ตัวอาคารบ้านออกเป็น 5 ตำแหน่ง ดังนี้ - ตำแหน่งที่ 1 ตำแหน่งศูนย์กลางบ้าน - ตำแหน่งที่ 2 ตำแหน่งมุมซ้ายด้านหน้าตัวบ้าน - ตำแหน่งที่ 3 ตำแหน่งมุมขวาด้านหน้าตัวบ้าน - ตำแหน่งที่ 4 ตำแหน่งมุมซ้ายด้านหลังตัวบ้าน - ตำแหน่งที่ 5 ตำแหน่งมุมขวาด้านหลังตัวบ้าน เมื่อได้ตำแหน่งทั้ง 5 แล้วให้นำธูปหอมแบ่งออกเป็น 5 กำ จุดให้ติดไฟจนเกิดควันแล้วปักที่กระถางหรือภาชนะใส่ธูปที่ตั้งตาม 5 ตำแหน่งจนครบ อบบ้านด้วยการปิดทั้งประตูและหน้าต่างโดยรอบใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วยาม หรือ 2 ชั่วโมง โดยสมาชิกครอบครัวและสัตว์เลี้ยงในบ้านควรออกนอกตัวบ้านที่กำลังอบอยู่(เฝ้าระวังฟืนไฟก่อนจะเกิดเหตุเพลิงไหม้) หลังจากครบระยะเวลาตามที่กำหนดแล้วให้เปิดประตูตัวบ้านเพื่อเดินเข้าบ้าน พร้อมเปล่งเสียงคำพูดที่มงคล ตังอย่างเช่น ขอให้มั่งคั่งร่ำรวย ด้วยทรัพย์สินศฤงคาร ทรัพย์สินรายล้อม เงินทองเพชรพลอยหยกเต็มบ้าน ค้าขายได้กำไร เหลือกินเหลือใช้ ทุกๆอย่างราบรื่นสำเร็จสมปราถนา โชคดีมีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ พูนสุข อายุยืนยาวตลอดไป เป็นต้น จากนั้นเปิดหน้าต่างทุกบานที่ปิดออก เพื่อให้กระแส"氣"(ขี่) ที่ดีมีมงคลไหลหมุนเวียนตลอดทั่วตัวบ้าน ทั้ง 4 ขั้นตอนสามารถดำเนินการได้ในช่วงระหว่างหลังวันส่งองค์เทพเจ้าเสด็จสู่สรวงสวรรค์ 神上天 (ซิ้งเจี่ยที) จนถึงก่อนวันตรุษจีน โดยใช้วัน"除日"(ตื้อยิ๊ก) หรือ"破日"(ผั่วยิ๊ก) หรือ "天赦日"(เทียนเซี๊ยยิ๊ก) ก็ได้เช่นกัน ซึ่งใน ปีพ.ศ.2568 นี้ มีฤกษ์งามยามเหมาะกับการประกอบพิธี"破舊入新"(ผั๊วกู่หยิบซิง) คือ วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ.2568) นี้ ตั้งแต่เวลา 07:00 เป็นต้นไป หวังเป็นอย่างยิ่งว่าขนบธรรมเนียมประเพณีโบราณที่ดีมีประโยชน์ดั่งเช่น การทิ้งของเก่าเพื่อรับสิ่งใหม่อย่าง"破舊入新"(ผั๊วกู่หยิบซิง) จะได้รับการอนุรักษ์สืบสาน บอกกล่าว และถ่ายทอดกันอย่างต่อเนื่องจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งให้ดำรงคงอยู่ถาวรสืบไป ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 Comments 0 Shares 1009 Views 0 Reviews
  • การบ้านการเมือง.……ที่รุ่นย่ายายของน้องฟ้าต้องส่งเสียงมั่ง!!!

    พ้นวันโกหกแห่งโลกไปได้ ค่อยโล่งใจหน่อย เพราะจะได้กลับมาอ่านข่าวอย่างมนุษย์มะนากะเขาได้บ้าง...
    โดยเฉพาะประเด็นฮ็อทฮิตของวีรกรรมอาจารย์ล้มล้างที่ได้รับทุนมหิดลไปเพื่อกลับมา”สนองคุณ”ให้กับประเทศที่ครอบครัวโคตรเง่าได้เข้ามาพึ่งในพระบารมี พระบรมโพธิสมภาร...จนรอดพ้นไปจากความอดอยากและแร้นแค้นในดินแดนไกลโพ้น
    การที่จะเป็นคนสอนหนังสือ...โดยใช้วิชาการที่ตั้งอยู่บนรากฐานของความชิงชัง…… เอาสิ่งที่ตั้งอยู่มาวิจารณ์ว่าควรจะเป็นอย่างนั้นมีข้อเสียอย่างนี้...ไม่ต้องไปเรียนถึงเมืองนอกเมืองนาเลย ไปถามลูกอีช่างติที่ไหนก็ได้...

    ทุกประเทศมีปัญหาในการปกครองแทบทั้งสิ้น มากน้อยมีระดับต่างกัน
    ประชาชนถูกปิดหูปิดตา หรือ ถูกกั๊กข้อมูล แม้แต่ในประเทศที่ว่ากันว่ามีประชาธิปไตยสูงสุด....สหรัฐอเมริกา!!
    เอาง่ายๆ...คดีลอบสังหารประธานาธิบดีเคนเนดี้ (1963) ที่ถูกถูไถให้จบลงด้วย“แพะ” สองคน แถมด้วยน้องชาย โรเบิร์ต เคนเนดี้ ที่ต้องมาตายไปตามกัน
    ข้อมูลหลักฐาน ที่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ประธานาธิบดีก็ยังไม่มีใครกล้าแตะต้อง เอกสารยังผนึกแน่นเป็นความลับมานานกว่าห้าสิบปี
    ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นฝีมือของซีไอเอ...
    แต่...ไม่ล้วงลึก
    หลายคนที่พยายามจะล้วง...หากแต่ข้อมูลที่ได้นั้น ช่างสับสน และเป็นการให้ข้อมูลแบบวนในอ่าง รวมถึงรายชื่อผู้เกี่ยวข้องแต่ละคน ผสมกับเส้นสายสัมพันธ์ทางการการเมืองที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นที่มีมากมาย......ต่อให้เทวดามาช่วยสางก็ยังหาทางออกและสาวถึงต้นตอไม่ได้
    เริ่มจาก

    David Rockefeller อภิมหาเศรษฐีที่ควบคุม Council on Foreign Relations หรือ CFR หรือ องค์กรความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ทีการทำงานเป็นเงาซ้อนชั้นบนของหน่วยงานซีไอเอ และเป็นผู้ก่อตั้ง
    ตึก World Trade รวมทั้งเป็นผู้ช่วยกำหนดนโยบายของ New World Order

    Allen Dulles (ผู้อำนวยการซีไอเอที่เคนเนดี้ให้ลงจากตำแหน่ง),

    John Foster Dulles (พี่ชายของ Allen Dulles ที่มีตำแหน่งเป็นรมต. ต่างประเทศ และเป็นเขยในตระกูลร๊อคกี้เฟลเล่อร์ โดยการแต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องของเดวิด),

    Prescott Bush (บิดาของ George H.W. Bush) ที่มีกลุ่มหัวกระโหลกกระดูกไขว้จาก Yale ร่วมประสานงาน

    Clarence Douglas Dillon รัฐมนตรีคลัง (ลูกอภิมหาเศรษฐี และเป็นอดีตทูตอเมริกาประจำฝรั่งเศส ที่สนับสนุนเหล่ากบฏอัลจีเรียในการโค่นปธน. เดอ โกลด์)

    และยังมีอีกมากมายที่อยู่ในขบวนการต่อต้าน ปธน. เคนเนดี้ ที่มีอยู่หลายกลุ่ม เช่น กลุ่มนายทุนน้ำมันเท็กซัส, กลุ่มหนุนหลังคิวบา และยังมีผู้เกี่ยวข้องอีกนับร้อย
    ถ้าไม่ใช่”ขบวนการที่ใหญ่จริง” ใหญ่จนเหนืออำนาจรัฐไม่มีทางสาวได้
    นั้นหมายถึง...อเมริกาหาใด้มีเอกเทศในทางปกครองแบบประชาธิปไตยอย่างที่หน้าฉากได้วาดไว้ไม่....!!

    ข่าวดีคือ...จากนี้ไปเราจะได้รู้อะไรเพิ่มขึ้นเรื่อยไปเพราะทรัมป์ได้ลงนาม(2018) ในการที่จะเปิดเผยเอกสารลับทั้งหลายให้ปรากฏตามชาวโลก……มาช้าดีกว่าไม่มา...
    และเหล่านักเขียนก็คงไม่ต้องยั้งมือ หรือ อ้อมแอ้มกันอีกแล้วเพราะกุญแจดอกที่ใหญ่ที่สุด ได้เพิ่งสิ้นชีพไปเมื่อ 2017...David Rockefeller
    ที่มีอายุสิริรวม 101 ปี
    ประชาชนอเมริกันจะได้รู้เสียทีว่า...กลไกของบ้านเมืองตัวเองนั้น มันเป็นสายใยแมงมุม ที่ประธานาธิบดีเป็นเพียงหุ่นเชิดให้ทำงานไปตามระบบทุน...ถ้าไม่อยู่ในอาณัติหรือหัวแข็งเกินไปคุมไม่อยู่...ก็ต้องเก็บกวาดให้พ้นเส้นทาง

    หรือฝรั่งเศส...ที่เสื้อกั๊กเหลืองออกมาอาละวาด จนกลายพันธ์ุไปเป็นก่อวินาศกรรมอาทิตย์ละวันนั้น เพราะเริ่มจากประธานาธิบดีมาครงได้ออกตัวชัดเจนว่ารับใช้กลุ่มทุน และมีข้อตุกติกกับการทำไซด์ไลน์ในธุรกิจบางประการผ่านทางองครักษ์ส่วนตัว นาย อเล็กซองดร์ เบอนัลลา
    ที่ฝ่ายค้านในรัฐบาลพยายามจี้คดีเพื่อค้นหาความกระจ่าง แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากพรรค En Marche ของมาครง เช่น ขอเอกสารการจ้าง
    เอกสารเกี่ยวกับนายเบอนัลลา และ ประวัติ...รวมทั้งอื่นๆ
    แต่.……ทุกอย่างเงียบ...
    ประธานาธิบดีไม่มีคำตอบให้ แถมยังปากดี..บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น
    ไม่ว่าจะเป็น การลากผู้ประท้วงออกมาซ้อม,พกปืนโดยไม่มีใบอนุญาต,
    มีพาสปอร์ตระดับทูตมากกว่าหนึ่งเล่ม และได้รับสินบนมาจากมหาเศรษฐีรัสเซีย นั้น.....เป็นเรื่องจิ๊บจ้อยเหมือนกับคลื่นในถ้วยชาเท่านั้นเอง

    ทีนี้มาดูว่า ประชาชนจะรู้สึกยังไง หรือจริงๆแล้วเขาอยู่ในการปกครองแบบไหน ทุกคนออกจะสับสน ทั้งๆที่เลือกนายมาครงมานี้ เขาเป็นตัวเลือกที่น่าจะมีตำหนิน้อยสุด (ความจริงแล้ว คือ รู้จักเบื้องหลังน้อยสุด)
    ตัวเก็งที่มาแรงแต่ทีแรกนั้นคือ ฟรังซัวส์ ฟียง (François Fillon)
    ที่เป็นคนเก่งมีประวัติการทำงานมาอย่างโชกโชน แต่โดนขุดคุ้ยในเรื่องการรับสินบน และเมียตัวเองมีชื่อในสภารับเดือนมานานถึงสิบห้าปี เป็นเงินนับล้าน
    เท่านั้นไม่พอยังมีชื่อลูกสาวทั้งสองมารับเงินเดือนในฐานะผู้ช่วยงานอีก
    งานนี้ เรียกได้ว่า แหกโค้ง พลิกคว่ำไปมาช่วงสุดท้าย
    เลยเหลือตัวเลือกเพียง มาครงและ มารีน เลอ เปน ผู้นำพรรคขวาจัดแต่ไม่ค่อยปราชญ์เปรื่องนัก อีกทั้งบิดาของเธอ Jean-Marie Le Pen คือหนึ่งในกบฏอัลจีเรียที่ต่อต้านปธน. เดอ โกลล์ (ตั้งแต่ยังดำรงยศนายพล)
    ลูกสาวเลยยังเป็นที่กังขาของประชาชน...

    หรือบรูไน...ที่กำลังจะประกาศเป็นกฏหมายที่ถือชัดเจนตามหลักของอิสลาม เรื่องผิดลูกผิดเมียผิดผัวของชาวบ้าน, เป็นเพศที่ผิดไปจากการกำเนิด ที่มีโทษรุนแรงถึงปาหินประหารชีวิต
    ที่ดูเหมือนเหล่า HRW จะออกมาต่อต้านแบบอ่อยๆ ไม่มีการกำหนดการของ sanctions หรือ boycotts ใดๆให้รำคาญใจพระราชาธิบดี เพราะสินค้าขาออกของประเทศมีอยู่เพียงสองอย่าง คือ น้ำมันกับก๊าซ ที่ทำให้ประชากรห้าแสนของพระองค์มีรายได้ต่อคน/ต่อปี $82,000 ...น้ำไฟฟรี สวัสดีการทุกอย่างฟรี

    ก็มีที่ส่งเสียงหน่อยก็คือ นาย จอร์จ คลูนี่ ที่ได้ชัดชวนให้เหล่าเซเลป
    เลิกใช้บริการโรงแรมห้าดาวต่างๆที่เจ้าของคือพระราชาธิบดีแห่งบรูไน
    ซึ่ง....เชื่อว่า...ท่านคงไม่สน โนแคร์ กับเศรษฐีดาราพวกนั้นเท่าไหร่นัก เรื่องของบ้านเมือง พระบัญญัติตามศาสนาที่พระองค์จะต้องดำรงไว้

    สรุปว่า....การเมืองบ้านใครบ้านมัน อย่าเห็นว่าสวนบ้านอื่นนั้นเขียวกว่าของเรา อย่าทำตัวเป็นกบเลือกนาย
    ที่สำคัญ...อย่าด่าบ้านเมืองตัวเองให้คนอื่นฟัง หรือ สาระแนคิดแก้ไขนั่นนี่ หากยังไม่มีผลงานที่สร้างบารมีมากพอ
    แล้วพอถูกจี้...ถูกกระแสตีกลับ กลับหน้าด้านบอกว่า……ไม่ได้พูดถึงเมืองไทย...

    อ้าว...เรียกอาจารย์ล้มล้างอย่างเดียวคงไม่โก้แล้วละ ต้องเรียกว่า
    แถมให้อีกด้วย...ว่า...หน้าตัวเม.……เอ๊ยยยย....หน้าอิสตรี!!!

    Wiwanda W. Vichit
    การบ้านการเมือง.……ที่รุ่นย่ายายของน้องฟ้าต้องส่งเสียงมั่ง!!! พ้นวันโกหกแห่งโลกไปได้ ค่อยโล่งใจหน่อย เพราะจะได้กลับมาอ่านข่าวอย่างมนุษย์มะนากะเขาได้บ้าง... โดยเฉพาะประเด็นฮ็อทฮิตของวีรกรรมอาจารย์ล้มล้างที่ได้รับทุนมหิดลไปเพื่อกลับมา”สนองคุณ”ให้กับประเทศที่ครอบครัวโคตรเง่าได้เข้ามาพึ่งในพระบารมี พระบรมโพธิสมภาร...จนรอดพ้นไปจากความอดอยากและแร้นแค้นในดินแดนไกลโพ้น การที่จะเป็นคนสอนหนังสือ...โดยใช้วิชาการที่ตั้งอยู่บนรากฐานของความชิงชัง…… เอาสิ่งที่ตั้งอยู่มาวิจารณ์ว่าควรจะเป็นอย่างนั้นมีข้อเสียอย่างนี้...ไม่ต้องไปเรียนถึงเมืองนอกเมืองนาเลย ไปถามลูกอีช่างติที่ไหนก็ได้... ทุกประเทศมีปัญหาในการปกครองแทบทั้งสิ้น มากน้อยมีระดับต่างกัน ประชาชนถูกปิดหูปิดตา หรือ ถูกกั๊กข้อมูล แม้แต่ในประเทศที่ว่ากันว่ามีประชาธิปไตยสูงสุด....สหรัฐอเมริกา!! เอาง่ายๆ...คดีลอบสังหารประธานาธิบดีเคนเนดี้ (1963) ที่ถูกถูไถให้จบลงด้วย“แพะ” สองคน แถมด้วยน้องชาย โรเบิร์ต เคนเนดี้ ที่ต้องมาตายไปตามกัน ข้อมูลหลักฐาน ที่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ประธานาธิบดีก็ยังไม่มีใครกล้าแตะต้อง เอกสารยังผนึกแน่นเป็นความลับมานานกว่าห้าสิบปี ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นฝีมือของซีไอเอ... แต่...ไม่ล้วงลึก หลายคนที่พยายามจะล้วง...หากแต่ข้อมูลที่ได้นั้น ช่างสับสน และเป็นการให้ข้อมูลแบบวนในอ่าง รวมถึงรายชื่อผู้เกี่ยวข้องแต่ละคน ผสมกับเส้นสายสัมพันธ์ทางการการเมืองที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นที่มีมากมาย......ต่อให้เทวดามาช่วยสางก็ยังหาทางออกและสาวถึงต้นตอไม่ได้ เริ่มจาก David Rockefeller อภิมหาเศรษฐีที่ควบคุม Council on Foreign Relations หรือ CFR หรือ องค์กรความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ทีการทำงานเป็นเงาซ้อนชั้นบนของหน่วยงานซีไอเอ และเป็นผู้ก่อตั้ง ตึก World Trade รวมทั้งเป็นผู้ช่วยกำหนดนโยบายของ New World Order Allen Dulles (ผู้อำนวยการซีไอเอที่เคนเนดี้ให้ลงจากตำแหน่ง), John Foster Dulles (พี่ชายของ Allen Dulles ที่มีตำแหน่งเป็นรมต. ต่างประเทศ และเป็นเขยในตระกูลร๊อคกี้เฟลเล่อร์ โดยการแต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องของเดวิด), Prescott Bush (บิดาของ George H.W. Bush) ที่มีกลุ่มหัวกระโหลกกระดูกไขว้จาก Yale ร่วมประสานงาน Clarence Douglas Dillon รัฐมนตรีคลัง (ลูกอภิมหาเศรษฐี และเป็นอดีตทูตอเมริกาประจำฝรั่งเศส ที่สนับสนุนเหล่ากบฏอัลจีเรียในการโค่นปธน. เดอ โกลด์) และยังมีอีกมากมายที่อยู่ในขบวนการต่อต้าน ปธน. เคนเนดี้ ที่มีอยู่หลายกลุ่ม เช่น กลุ่มนายทุนน้ำมันเท็กซัส, กลุ่มหนุนหลังคิวบา และยังมีผู้เกี่ยวข้องอีกนับร้อย ถ้าไม่ใช่”ขบวนการที่ใหญ่จริง” ใหญ่จนเหนืออำนาจรัฐไม่มีทางสาวได้ นั้นหมายถึง...อเมริกาหาใด้มีเอกเทศในทางปกครองแบบประชาธิปไตยอย่างที่หน้าฉากได้วาดไว้ไม่....!! ข่าวดีคือ...จากนี้ไปเราจะได้รู้อะไรเพิ่มขึ้นเรื่อยไปเพราะทรัมป์ได้ลงนาม(2018) ในการที่จะเปิดเผยเอกสารลับทั้งหลายให้ปรากฏตามชาวโลก……มาช้าดีกว่าไม่มา... และเหล่านักเขียนก็คงไม่ต้องยั้งมือ หรือ อ้อมแอ้มกันอีกแล้วเพราะกุญแจดอกที่ใหญ่ที่สุด ได้เพิ่งสิ้นชีพไปเมื่อ 2017...David Rockefeller ที่มีอายุสิริรวม 101 ปี ประชาชนอเมริกันจะได้รู้เสียทีว่า...กลไกของบ้านเมืองตัวเองนั้น มันเป็นสายใยแมงมุม ที่ประธานาธิบดีเป็นเพียงหุ่นเชิดให้ทำงานไปตามระบบทุน...ถ้าไม่อยู่ในอาณัติหรือหัวแข็งเกินไปคุมไม่อยู่...ก็ต้องเก็บกวาดให้พ้นเส้นทาง หรือฝรั่งเศส...ที่เสื้อกั๊กเหลืองออกมาอาละวาด จนกลายพันธ์ุไปเป็นก่อวินาศกรรมอาทิตย์ละวันนั้น เพราะเริ่มจากประธานาธิบดีมาครงได้ออกตัวชัดเจนว่ารับใช้กลุ่มทุน และมีข้อตุกติกกับการทำไซด์ไลน์ในธุรกิจบางประการผ่านทางองครักษ์ส่วนตัว นาย อเล็กซองดร์ เบอนัลลา ที่ฝ่ายค้านในรัฐบาลพยายามจี้คดีเพื่อค้นหาความกระจ่าง แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากพรรค En Marche ของมาครง เช่น ขอเอกสารการจ้าง เอกสารเกี่ยวกับนายเบอนัลลา และ ประวัติ...รวมทั้งอื่นๆ แต่.……ทุกอย่างเงียบ... ประธานาธิบดีไม่มีคำตอบให้ แถมยังปากดี..บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ว่าจะเป็น การลากผู้ประท้วงออกมาซ้อม,พกปืนโดยไม่มีใบอนุญาต, มีพาสปอร์ตระดับทูตมากกว่าหนึ่งเล่ม และได้รับสินบนมาจากมหาเศรษฐีรัสเซีย นั้น.....เป็นเรื่องจิ๊บจ้อยเหมือนกับคลื่นในถ้วยชาเท่านั้นเอง ทีนี้มาดูว่า ประชาชนจะรู้สึกยังไง หรือจริงๆแล้วเขาอยู่ในการปกครองแบบไหน ทุกคนออกจะสับสน ทั้งๆที่เลือกนายมาครงมานี้ เขาเป็นตัวเลือกที่น่าจะมีตำหนิน้อยสุด (ความจริงแล้ว คือ รู้จักเบื้องหลังน้อยสุด) ตัวเก็งที่มาแรงแต่ทีแรกนั้นคือ ฟรังซัวส์ ฟียง (François Fillon) ที่เป็นคนเก่งมีประวัติการทำงานมาอย่างโชกโชน แต่โดนขุดคุ้ยในเรื่องการรับสินบน และเมียตัวเองมีชื่อในสภารับเดือนมานานถึงสิบห้าปี เป็นเงินนับล้าน เท่านั้นไม่พอยังมีชื่อลูกสาวทั้งสองมารับเงินเดือนในฐานะผู้ช่วยงานอีก งานนี้ เรียกได้ว่า แหกโค้ง พลิกคว่ำไปมาช่วงสุดท้าย เลยเหลือตัวเลือกเพียง มาครงและ มารีน เลอ เปน ผู้นำพรรคขวาจัดแต่ไม่ค่อยปราชญ์เปรื่องนัก อีกทั้งบิดาของเธอ Jean-Marie Le Pen คือหนึ่งในกบฏอัลจีเรียที่ต่อต้านปธน. เดอ โกลล์ (ตั้งแต่ยังดำรงยศนายพล) ลูกสาวเลยยังเป็นที่กังขาของประชาชน... หรือบรูไน...ที่กำลังจะประกาศเป็นกฏหมายที่ถือชัดเจนตามหลักของอิสลาม เรื่องผิดลูกผิดเมียผิดผัวของชาวบ้าน, เป็นเพศที่ผิดไปจากการกำเนิด ที่มีโทษรุนแรงถึงปาหินประหารชีวิต ที่ดูเหมือนเหล่า HRW จะออกมาต่อต้านแบบอ่อยๆ ไม่มีการกำหนดการของ sanctions หรือ boycotts ใดๆให้รำคาญใจพระราชาธิบดี เพราะสินค้าขาออกของประเทศมีอยู่เพียงสองอย่าง คือ น้ำมันกับก๊าซ ที่ทำให้ประชากรห้าแสนของพระองค์มีรายได้ต่อคน/ต่อปี $82,000 ...น้ำไฟฟรี สวัสดีการทุกอย่างฟรี ก็มีที่ส่งเสียงหน่อยก็คือ นาย จอร์จ คลูนี่ ที่ได้ชัดชวนให้เหล่าเซเลป เลิกใช้บริการโรงแรมห้าดาวต่างๆที่เจ้าของคือพระราชาธิบดีแห่งบรูไน ซึ่ง....เชื่อว่า...ท่านคงไม่สน โนแคร์ กับเศรษฐีดาราพวกนั้นเท่าไหร่นัก เรื่องของบ้านเมือง พระบัญญัติตามศาสนาที่พระองค์จะต้องดำรงไว้ สรุปว่า....การเมืองบ้านใครบ้านมัน อย่าเห็นว่าสวนบ้านอื่นนั้นเขียวกว่าของเรา อย่าทำตัวเป็นกบเลือกนาย ที่สำคัญ...อย่าด่าบ้านเมืองตัวเองให้คนอื่นฟัง หรือ สาระแนคิดแก้ไขนั่นนี่ หากยังไม่มีผลงานที่สร้างบารมีมากพอ แล้วพอถูกจี้...ถูกกระแสตีกลับ กลับหน้าด้านบอกว่า……ไม่ได้พูดถึงเมืองไทย... อ้าว...เรียกอาจารย์ล้มล้างอย่างเดียวคงไม่โก้แล้วละ ต้องเรียกว่า แถมให้อีกด้วย...ว่า...หน้าตัวเม.……เอ๊ยยยย....หน้าอิสตรี!!! Wiwanda W. Vichit
    0 Comments 0 Shares 1010 Views 0 Reviews