• ความฝันดลให้สร้าง พลับพลาศักดิ์สิทธิ์ พระเครื่องนางพญา อันโด่งดังเกิดขึ้น ณ วัดแห่งนี้ วัดนางพญา ถูกสร้างถึงสมัยสุโขทัย และอีกมุมหนึ่งของวัดด้านนอกมีพระอุโบสถสีขาวแดง ที่มีสมเด็จนางพญาเรือนแก้ว เป็นพระประธาน ที่นี่คือพลับพลาหทัยนเรศวร์ 5 พระองค์ พลับพลาแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นพระวิสุทธิกษัตริย์ สมเด็จพระมหาธรรมราชา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และพระสุพรรณกัลยา มีเรื่องเล่าว่าผู้ที่มาสร้าง คุณเกรียงไกร กิตติธเนศวร ฝันว่าตนเองได้มาสถานที่แห่งหนึ่งข้างวัดใหญ่ ปกคลุมด้วยสีดำ โดยไม่รู้ว่าสถานที่แห่งนั้นคืออะไร เขาจึงต้องเดินทางมาพิษณุโลกเพื่อพิสูจน์ และได้พบว่าข้างวัดใหญ่นั้น คือ " วัดนางพญา "และสิ่งที่ปกคลุมด้วยสีดำในความฝัน คือ ศาลเก่าของสมเด็จพระมหาธรรมราชาและพระวิสุทธิกษัตรีย์ พระราชบิดาและพระราชมารดาของพระองค์ดำ ศาลนั้นดูเก่า ทรุดโทรม ควรได้รับการปรับปรุง...ในขณะเดียวกัน ก่อนการมาของคุณเกรียงไกร 3 วัน เจ้าอาวาสวัดนางพญา ได้เกิดนิมิตความฝันเช่นกัน มีทหารโบราณมาบอกว่า จะมีผู้ชายเดินทางมาที่วัดแห่งนี้ ให้ดูแลต้อนรับเขาอย่างดี ...ในที่สุด คุณเกรียงไกรและเจ้าอาวาสก็ได้พบกัน เมื่อนิมิตมาบรรจบกัน จึงเกิดเป็น โครงการที่จะสร้างศาลใหม่ที่มีขนาดใหญ่ และ นำครอบครัวของพระองค์ให้กลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้ง ราวกับว่าได้ถูกลิขิตไว้แล้วจากนิมิตจนเป็นพลับพลาอันศักดิ์สิทธิ์ ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้คนไทยได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของครอบครัวกษัตริย์ไทยที่กอบกู้อิสรภาพช้างเรื่องเยอะ# วัดพิษณุโลก # วัดนางพญา #พลับพลาหทัยนเรศวร์5พระองค์ # จอมใจอโยธยา # ช้างเรื่องเยอะ # เที่ยวไทย #เทรนวันนี้ #ลุงช้างหญ่าย
    ความฝันดลให้สร้าง พลับพลาศักดิ์สิทธิ์ พระเครื่องนางพญา อันโด่งดังเกิดขึ้น ณ วัดแห่งนี้ วัดนางพญา ถูกสร้างถึงสมัยสุโขทัย และอีกมุมหนึ่งของวัดด้านนอกมีพระอุโบสถสีขาวแดง ที่มีสมเด็จนางพญาเรือนแก้ว เป็นพระประธาน ที่นี่คือพลับพลาหทัยนเรศวร์ 5 พระองค์ พลับพลาแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นพระวิสุทธิกษัตริย์ สมเด็จพระมหาธรรมราชา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และพระสุพรรณกัลยา มีเรื่องเล่าว่าผู้ที่มาสร้าง คุณเกรียงไกร กิตติธเนศวร ฝันว่าตนเองได้มาสถานที่แห่งหนึ่งข้างวัดใหญ่ ปกคลุมด้วยสีดำ โดยไม่รู้ว่าสถานที่แห่งนั้นคืออะไร เขาจึงต้องเดินทางมาพิษณุโลกเพื่อพิสูจน์ และได้พบว่าข้างวัดใหญ่นั้น คือ " วัดนางพญา "และสิ่งที่ปกคลุมด้วยสีดำในความฝัน คือ ศาลเก่าของสมเด็จพระมหาธรรมราชาและพระวิสุทธิกษัตรีย์ พระราชบิดาและพระราชมารดาของพระองค์ดำ ศาลนั้นดูเก่า ทรุดโทรม ควรได้รับการปรับปรุง...ในขณะเดียวกัน ก่อนการมาของคุณเกรียงไกร 3 วัน เจ้าอาวาสวัดนางพญา ได้เกิดนิมิตความฝันเช่นกัน มีทหารโบราณมาบอกว่า จะมีผู้ชายเดินทางมาที่วัดแห่งนี้ ให้ดูแลต้อนรับเขาอย่างดี ...ในที่สุด คุณเกรียงไกรและเจ้าอาวาสก็ได้พบกัน เมื่อนิมิตมาบรรจบกัน จึงเกิดเป็น โครงการที่จะสร้างศาลใหม่ที่มีขนาดใหญ่ และ นำครอบครัวของพระองค์ให้กลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้ง ราวกับว่าได้ถูกลิขิตไว้แล้วจากนิมิตจนเป็นพลับพลาอันศักดิ์สิทธิ์ ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้คนไทยได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของครอบครัวกษัตริย์ไทยที่กอบกู้อิสรภาพช้างเรื่องเยอะ# วัดพิษณุโลก # วัดนางพญา #พลับพลาหทัยนเรศวร์5พระองค์ # จอมใจอโยธยา # ช้างเรื่องเยอะ # เที่ยวไทย #เทรนวันนี้ #ลุงช้างหญ่าย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวม ร้านอาหาร(เด็ด)ในเชียงใหม่

    (สำหรับ พาเพื่อนๆ..ไปเลี้ยงรับรอง)-ฉันไม่กินเนื้อสัตว์
    แต่เพื่อนๆต่างชาติชอบบิน มาเยี่ยม จึงต้องมีข้อมูลแน่นๆ
    ให้คนขับรถ พาพวกเขาไปเลี้ยงรับรอง-ฉันไม่ค่อยไป..จะอ๊วก
    หรือ ใครอยากกินอะไร? ฉันสั่งให้เด็กขี่รถเครื่อง หิ้วปิ่นโต
    ออกไปซื้อ(ตามเวลา)แล้วมาจัดใส่จาน ขาม พร้อมเสริฟที่บ้าน

    ตลาดประตูเชียงใหม่ (03.00-11.00 และ 15.00-24.00)
    -โจ๊กนายโอ๋(03.00-09.00น.)-สภากาแฟ ป้าเล็ก ขายขนมปัง ไข่ลวก ชา-กาแฟโบราณ -อาหารเหนือ ร้านป้าน้อย
    ยำหนัง น้ำพริกขนุน *น้ำพริกคั่วโฮะ* น้ำพริกมะเขือยาว -ร้านหมูปิ้งใบเฟิร์น หมูทอดขั้นเทพ ไม้ละ12* ลาบ -ร้านใบตองอาหารเหนือ น้ำพริกหนุ่ม* -ร้านหน่อยข้าวเหนียว
    -ร้านน้ำผลไม้ปั่นSMOOTHiES -ร้านไส้อั่วช่อเอื้อง+น้ำพริกตาแดง -ร้านป้าคำ แค๊บหมู หมูกระจก สามชั้นกรอบ น้ำพริกหนุ่ม -ขนมไทยนิตยา *ขนมถ้วยใบเตย* เปียกปูนใบเตย

    -กาดนัดจีนยูนนาน / กาดบ้านฮ่อ (ศุกร์ 05.00-12.00น.)
    ถนนช้างม่อย -เจริญประเทศ ซอย 1
    เดินซื้อ เดินกิน อาหารยูนนาน เช่น *ข้าวปุกงา(ขี้ม่อน)15.-,
    *เต้าหู้ยี๊ยูนนาน อร่อยมาก เนื้อครีม หอมพริก+เครื่องเทศ
    *รากชูดอง หวาน-เปรี้ยว-เค็ม *ผักกาดดอง *ถั่วเน่าคั่ว
    *ข้าวโพดทอด*ถั่วเน่า*เต้าหู้ทอด นิ่ม เด้ง *เต้าหู้ถั่วชิกพี*

    -จ่าเหลาหมูทอด(ลำพูน)อนุสาวรีย์จามเทวี

    - ร้านโกเหน่ง ปาท่องโก๋+สังขยา ตลาดต้นลำไย
    (เป็น ปาท่องโก๋ รูปมังกร40 ช้าง20ก๊อตซิลล่า20

    -The LADER Cafe & Bar อาหารเช้าเมดิเตอร์เรเนียน
    สั่ง Lader Classic เลือก Sourdough/ White bread ได้
    ที่นี่มีเนย Echire Salted Butter ไซส์เล็ก 30 กรัม เพิ่ม 75.-
    เลือก ผักร๊อคเก็ต/ มะเขือเทศ/ Mixed และ Scrambled Eggs +Cheese ตัดเลี่ยนด้วย Strawberry +มะเดื่อ /มะม่วง เนื้อสัตว์นิยมสั่งเบคอนหนาๆ กินคู่กับ เม็ด Caperหอมๆ (ชุดใหญ่)นี้ราคารวม 450 บาท
    ร้านนี้ สั่ง(ชุดเล็ก) Prosciutto Salad 265 บาท


    -ADIRAK PIZZA เป็นพิซซ่าแป้งหมัก Sourdough
    วัตถุดิบต่างๆ Home Made เช่น Sauce,
    Mossarella Cheese, Burrata Cheese
    *แนะนำ Pasta-Pesto Pizza 365บาท แป้งเหนียวหนึบ
    แบบขนมปัง ชีสรสเข้มข้น ครบทุกรส หวานจากBalsemic เปรี้ยว..นิดๆจาก Rocotta Cheese เข้ากับความหวานจาก
    มะเขือเทศตากแห้ง เป็นรสนัวๆเข้าถึงกลิ่นหอมจากเพสโต้

    -ร้านเค็กเปี่ยมสุข แนะนำ *พายมะพร้าว 125 บาท/ชิ้น
    อร่อยที่สุดในโลก



    -ร้านลาบพันแหวน ลาบหมู-ไก่ ไส้อั่ว แคปหมู ไข่เจียว
    น้ำพริกหนุ่ม หมูแดดเดียว อ่องปู โคตรอร่อย

    -ลาบดีขม ข่วงสิงห์(คนยอง) ต้องไปเช้าๆ สาย(หมด)
    ที่แย่งกันซื้อ คือ จิ้นส้มหมก (ต้องสั่งจองล่วงหน้า)
    มาเมืองเหนือต้องไม่พลาด มากินลาบที่ร้านนี้ ไม่ผิดหวัง

    -ร้านก่องข้าวเมือง
    ไก่นึ่งสมุนไพร และไส้อั่ว(ต้องจองล่วงหน้า 2วัน)
    แกงเห็ดถอบ 250 ปูอ่อง 100 จิ้นส้มหมก 50
    ตำกะท้อนน้ำปู๋ (แซ่บ)80 น้ำพริกก่องข้าวเมือง150

    -THE JOURSEY (หลัง ม.ช.)นมไขมันสูง
    ไอติม 60-100 บาท
    โยเกิร์ตบิสคอฟ 70 บาท

    -หมี่เกี๊ยว เตี๊ยว ป๊อก ป๊อก (STAR AVENUE-5 หางดง)
    โทร 097 956 9542

    -ป้าหลง ก๋วยเตี๋ยวเนื้อไส้ รถเข็นตรงข้ามรพ.เชียงใหม่-ราม
    หยุดอาทิตย์ 8.30-14.30น. เด็ดที่เอ็นตุ๋นชิ้นใหญ่ๆ ไส้เปื่อย

    -มาม่าฟ้าธานี แซ่บ..สุดๆ (บ่าย3-ตีหนึ่ง)

    -ติ๋มสุกี้-จานร้อน(วัดเกตุ) กระเพรา ผัดน้ำมันหอย ผัดฉ่า เตี๋ยวคั่วไก่

    -คั่วไก่นิมมานกะทะร้อน 80.-
    ข้าวผัดเดอเมือง160.- ข้าวเงี๊ยว 60.-

    -ข้าวซอยแม่มณี(สาขาแรก)แม่ริม ปิดวันพระ
    MICHELIN 2020 2021 2022 2023 2024
    เส้นหนา หนึบ กะทิข้น+หอมเครื่องแกง เค็ม เผ็ด
    ข้าวซอยแม่มณี(สาขา2)ริมซุปเปอร์เลยข่วงสิงห์

    - ข้าวซอยลำดวนฟ้าฮ่าม หมู ไก่ เนื้อ 55.-

    -Khao SO-i หัวถนนฟ้าฮ่าม-ด้านซุปเปอร์
    ช้าวซอยฟิวชั่นสไตล์ญี่ปุ่น เส้นสด ปรุงสด จานต่อจาน
    เน้นคุณภาพวัตถุดิบ เนื้อวากิว ไก่ ไข่กุ้งล๊อบสเตอร์
    (599 บาท)อร่อยมาก-ไม่เผ็ด

    -ร้านข้าวซอยแม่สาย(ป้านะ) ซ.ราชพฤกษ์ ถ.ห้วยแก้ว
    MICHELIN PLATE 2021 2022 ข้าวซอยหมู เนื้อ และน่องไก่
    รสชาติน้ำแกงเครื่องเทศแบบเข้มข้น เผ็ดอร่อย กะทิไม่มัน

    -ข้าวซอยลุงประกิตกาดก้อม(NetFlix)
    น้ำรสเข้มข้น(มาก)เผ็ดกว่าทุกร้าน เส้นแข็งกรุบกรอบ
    มีข้าวมันไก่ด้วย

    -ข้าวซอยน้องฟลุ๊ค+ไส้อั่วดำรงค์ นิมมาน-17
    แปลก เพราะ เป็นข้าวซอย(ผัดแห้ง)ไส้อั่ว เส้นจะมีรสเข้มข้น

    -ขนมจีนสันป่าข่อย ตลาดทองคำ ขายเย็น-ดึก
    MICHELIN 2020 2021 2022 2023 2024
    มิชลิน 5 ปีซ้อน แต่ขายในราคาถูก 30บาท
    จุดเด่นที่น้ำพริกแกงรสกลมกล่อม เน้นเผ็ด-เผ็ดมาก
    น้ำเงี้ยว น้ำยากะทิ(ใส่ไข่) แกงเขียวหวานไก่
    แกงเผ็ดหมู-เนื้อ และ ข้าวซอยไก่ (หยุดวันอาทิตย์)

    -สุกี้ช้างเผือก คิวยาวเป็นพิเศษ (17.00-00.00น.)
    ***จองคิวล่วงหน้า ผ่านแอ๊ปฯ QueQ ได้นะ***
    เด็ดสุด ตือ สุกี้แห้งเนื้อ55.-ผัดจนมีกลิ่นกระทะติดมาด้วย แต่
    ผักยังคงความกรอบอร่อยอยู่ ซึ่งเป็นเสน่ห์ของสุกี้ช้างเผือก
    หมู 55.-ทะเล65.- และมังสวิรัติก็มี เด็ดที่น้ำจิ้มที่เข้ากันดี
    -บัวลอย(ซ้วง)

    -คุ้มขันโตก +การแสดง หัวละ 699.-
    -อ๋องทิพย์รส เตี๋ยวลูกชิ้นปลาหัวนม 45.-
    -ร้านจ๊ะเอ๋ เลือดหมูจิงจูฉ่าย ตรงข้ามเชียงอินน์


    -เฮือนใจ๋ยอง อาหารเหนือแต๊ๆ กินในเฮือน
    ปูอ่อง70.- ข้าวเหนียวดำ ส้าผักกาดน้อย60.-จิ้นส้มหมกธรรมดา60.- แกงตูนปลาช่อน120.- น้ำพริกหนุ่ท+หมูทอด120.-ตำบ่าหนุน60.-ไส้อั่ว70.-

    -ครัวหลองข้าว MICHELIN 2022
    ลาบหมูคั่ว90.- แกงผักบุ้งใส่ปลา90.- ยำเชียงดากรอบ90.- แกงผักปลังใส่จิ้นส้ม90.- แกงฮังเล100.-จิ้นส้มหมก50.-
    จิ้นแดงทอด90.-ตำส้มโอน้ำปู๋70.-

    -นายข้าวนึ่ง รสแบบบ้านๆแทร่
    เชียงดาไข่มดแดง80.-คั่วไก่สูตรพะเยา70.-จิ้นส้มหมก40.-
    คั่วเห็ดถอบใส่ใบมะขาม90.-จอผักกาด70.-

    -โอ รสเด็ด(ฟ้าฮ่าม)เปิด 7โมงเช้า ขายข้าวแกง พะแนงเนื้อ30.- หมูอบ30.- แกงเนื้อ30.- เขียวหวานไก่20.- แกงไก่หน่อไม้20.- ผัดพริกแกงปลาดุก30.- ต้มข่าไก่20.- ไข่พะโล้30.-
    -จิวเยาวราช ซี่โครงทอดกระเทียม 120.-ทอดมันปลากราย100.- *กุยช่ายขาวผัดเต้าหู้*
    -ก๋วยเตี๋ยวตำลึง นิมมาน ซอย 1
    -ไก่ทอดเที่ยงคืน เปิดเย็นๆ-รุ่งสาง ถนนกำแพงดิน
    ไก่ทอด หมูสามชั้น ข้าวเหนียว ไข่ต้ม ++น้ำพริกหนุ่ม
    ของสดใหม่ ทอดใหม่..ตลอด
    -MERRY BON BON บิงซู(เกาหลี)ปุยเมฆ*แสนอร่อย
    -รังนก(17.00-22.30)ตรงข้ามเภสัช ธ.กรุงเทพ(สวนดอก)
    -ศ.ศรีราชาข้าวต้มปลา(16.30-)กะหล่ำผัดน้ำปลา70.- ปีกไก่ทอดน้ำปลา80.- ไข่เจียวหอยนางรม80.- ข้าวต้มหอยนางรม100.-

    -Nymph(11.00-14.00และ 17.00-20.00)ปิดอังคาร
    Smoked Duck & Orange Salad 260.- Mushroom Truffle Sauce Pasta 230.- Spicy Mentaiko with Scallop 445.-

    -ร้านข้าวต้มย้ง ถนนสุเทพ ใกล้วัดสวนดอก

    -เล็ก เกี๊ยวกุ้งสด ถ.ทิพยเนตร ใกล้คู ประตูสวนปรุง
    เกี๊ยวกุ้งน้ำหมูสับ 70.-บะหมี่เกี๊ยวกุ้งแห้งหมูแดง 80.-

    -โรตีMICHELIN-ป้าเด ท่าแพซอย4(หน้าบ้านฉัน)
    โรตีกรอบนอก-นุ่มในใช้น้ำมันมะพร้าว มีทั้ง โรตีใส่ไข่ ใส่นม มะดะบะ
    วิธีสั่ง เขียนออเด้อร์ในกระดาษ แล้วแปะไว้ ป้าเด..จะทำเรียงตามออเด้อร์

    -โรตีบรอดเวย์ แบบธรรมดา10.- แบบหมักเนยเล็ก30.-
    -KALM Tea House

    -Khao Fang นิ่มซิตี้ ใกล้ Robinson Airport Plaza
    Hong Kong Toast with Grilled Corn & Caramel 109.- Black Sesami Bualoy & Ginger Ale 80.-

    -เนื้อกระทะมุสลิม ถ.เจริญเมืองติดปั๊มเชลล์

    -ครัวป้าอ้อย(เจ๊ไฝ แห่ง เชียงใหม่)MICHELIN
    ปูนิ่มทอดกระเทียม ข้าวหมูกรอบทอดกระเทียม ขนมปังหน้าหมู ข้าวทะเลผัดผงกะหรี่

    -ก๊วยจั๊บช้างม่อยตัดใหม่ MICHELIN 3 ปีซ้อน 9.30-15.00น.
    ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่อง "ก๋วยจั๊บไส้อั่ว" เสิร์ฟในน้ำซุปถึงรสพริกไทยอันเป็นเอกลักษณ์ ใส่หมูกรอบและตับหมู และยังมีอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดคือปอเปี๊ยะสด โรยหน้าด้วยไข่เจียวหั่นบาง ๆ ราดซอสหอมกรุ่น

    -น.ก๋วยจั๊บ ประตูท่าแพ 8โมงเช้า(ช้า..หมด)
    มี2อย่าง หมูกรอบล้วน, หมูกรอบเครื่องใน

    -ก๊วยจั๊บรินลองกอย (หลัง ม.ช.)เปิด 6โมงเช้า-สายๆ
    ชามใหญ่ หน้าตาดี กรอบหอม+อร่อยสุด 40 บาท


    -ลาบบังเก้อร์ จานละ 10บาท(รวด) อาหารเหนือ

    -บะหมี่ซุปกระดูกรสเด็ด(เฮียดาว)9.00-18.00น.
    ติดตลาดแม่เหี๊ยะ มีต้มเลือดหมูจิงจูฉ่าย หมูบะช่อ ข้าวต้มปลา บะหมี่เกี๊ยว+ก๋วยเตี๋ยว ข้าวหมูแดง หมูกรอบ *ข้าวผัดพริกเกลือ*

    -ร้านผัดไทยไออุ่น ต.หนองควาย อ.หางดง
    ผัดไทย-ผัดซีอิ๊ว-ข้าวผัด(กุ้ง,หมู,ไก่)
    เด็ดที่น้ำซอสปรุงรสผัดไทย น้ำพริกเผา-พริกแห้ง
    สีเข้ม เทคนิคการตอกไข่ใส่เป็นแผ่นคล้ายผัดไทยห่อไข่
    ผัดไทย 50 บาท ผัดซีอิ๊ว 40 บาท ข้าวผัด 55 บาท

    - อันดา SEAFOODทะเลเผา329+หมูกระทะ199 บุปเฟ่ต์
    (17.00-23.00น.)มีของหวาน ไอติม ด้วย

    -ร้านเชฟนนท์ ข้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ
    สวนอาหารตามสั่ง จัดเต็มทุกเมนู( 10.00-17.00น.)
    ข้าวผัดแหนม 65 ปู กุ้ง 75 บาท ไข่เจียวปู 150
    ต้มยำกุ้ง 180 ข้าวหมูผัดน้ำมันหอย 65
    ทะเลคั่วพริกเกลือ 150

    -ก๋วยเตี๋ยวเครื่องล้น ธนาโอชา ถนนราชวงศ์ ช้างม่อย
    MICHELIN 2020 2021 2022 (7โมงเช้า-5โมงเย็น)
    ก๋วยเตี๋ยวแคะ เย็นตาโฟ เกี้ยมอี๋ ก๋วยเตี๋ยวหลอด
    ลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปลา ลวกจิ้ม บ๊ะจ่าง ลูกชิ้นเกี๊ยวปลา
    ปลาเส้นฮื่อก๊วย เต้่าหู้ยัดไส้ลูกชิ้นหมูสับ ลูกชิ้นแคะ
    เลือดหมู ปลาหมึกกรอบ เกี๊ยวทอด ป่อเปียะปู
    ป่อเปี๊ยะสด เกี๊ยวหมูน้ำ เกี๊ยวปลาน้ำ เกี๊ยวกุ้งน้ำ
    ข้าวหมูกรอบ
    -ข้าวเกรียบปากหม้อสาคูไส้หมู ลุงขจรวัดเกต

    -ป้าใจ๋ ไส้กรอกข้าว (3ลูก10)วันจันทร์แบบเปรี้ยว
    -ไส้กรอกมนต์สิทธิ์ (8ลูก20)แจ่งขะต๊า
    -ไส้กรอกแม่อุดม (ริมปิง)
    -ร้านน้ำปั่น Joost สดชื่นราคาดี
    -I think scape สาขา นิมมาน AVOCADO SMOOTHiES
    -ถั่วลายเสือซ่อนลาย
    -Craft COLA 65.- ที่ร้าน Helo COLA หอมกลิ่นเครื่องเทศ
    อบเชย กระวาน กานพลู เม็ดผักชี ลูกจัน ขิง ผสมกับ ผิวส้ม เลม่อน +น้ำตาลธรรมชาติ
    Coffee Indian-Gooseberry COLA 90.-

    ก่อนนอน..ฉันมักจะพาเพื่อนๆ ไปเดินเล่น ที่ กาดหน้ามอ
    เดินชมตลาด เพื่อย่อยอาหาร และ ในกาดมีของกินอีกเยอะ
    แต่...เด็ดที่สุด คือ ไอติม SOFT SERVE รสช๊อคโกแล๊ต
    กินไอติมเสร็จ..ส่งเพื่อนๆ เข้าบ้านนอน

    ส่วนฉัน เดินไปนอน คอนโด(ส่วนตัว)ใกล้ๆบ้าน.
    รวม ร้านอาหาร(เด็ด)ในเชียงใหม่ (สำหรับ พาเพื่อนๆ..ไปเลี้ยงรับรอง)-ฉันไม่กินเนื้อสัตว์ แต่เพื่อนๆต่างชาติชอบบิน มาเยี่ยม จึงต้องมีข้อมูลแน่นๆ ให้คนขับรถ พาพวกเขาไปเลี้ยงรับรอง-ฉันไม่ค่อยไป..จะอ๊วก หรือ ใครอยากกินอะไร? ฉันสั่งให้เด็กขี่รถเครื่อง หิ้วปิ่นโต ออกไปซื้อ(ตามเวลา)แล้วมาจัดใส่จาน ขาม พร้อมเสริฟที่บ้าน ตลาดประตูเชียงใหม่ (03.00-11.00 และ 15.00-24.00) -โจ๊กนายโอ๋(03.00-09.00น.)-สภากาแฟ ป้าเล็ก ขายขนมปัง ไข่ลวก ชา-กาแฟโบราณ -อาหารเหนือ ร้านป้าน้อย ยำหนัง น้ำพริกขนุน *น้ำพริกคั่วโฮะ* น้ำพริกมะเขือยาว -ร้านหมูปิ้งใบเฟิร์น หมูทอดขั้นเทพ ไม้ละ12* ลาบ -ร้านใบตองอาหารเหนือ น้ำพริกหนุ่ม* -ร้านหน่อยข้าวเหนียว -ร้านน้ำผลไม้ปั่นSMOOTHiES -ร้านไส้อั่วช่อเอื้อง+น้ำพริกตาแดง -ร้านป้าคำ แค๊บหมู หมูกระจก สามชั้นกรอบ น้ำพริกหนุ่ม -ขนมไทยนิตยา *ขนมถ้วยใบเตย* เปียกปูนใบเตย -กาดนัดจีนยูนนาน / กาดบ้านฮ่อ (ศุกร์ 05.00-12.00น.) ถนนช้างม่อย -เจริญประเทศ ซอย 1 เดินซื้อ เดินกิน อาหารยูนนาน เช่น *ข้าวปุกงา(ขี้ม่อน)15.-, *เต้าหู้ยี๊ยูนนาน อร่อยมาก เนื้อครีม หอมพริก+เครื่องเทศ *รากชูดอง หวาน-เปรี้ยว-เค็ม *ผักกาดดอง *ถั่วเน่าคั่ว *ข้าวโพดทอด*ถั่วเน่า*เต้าหู้ทอด นิ่ม เด้ง *เต้าหู้ถั่วชิกพี* -จ่าเหลาหมูทอด(ลำพูน)อนุสาวรีย์จามเทวี - ร้านโกเหน่ง ปาท่องโก๋+สังขยา ตลาดต้นลำไย (เป็น ปาท่องโก๋ รูปมังกร40 ช้าง20ก๊อตซิลล่า20 -The LADER Cafe & Bar อาหารเช้าเมดิเตอร์เรเนียน สั่ง Lader Classic เลือก Sourdough/ White bread ได้ ที่นี่มีเนย Echire Salted Butter ไซส์เล็ก 30 กรัม เพิ่ม 75.- เลือก ผักร๊อคเก็ต/ มะเขือเทศ/ Mixed และ Scrambled Eggs +Cheese ตัดเลี่ยนด้วย Strawberry +มะเดื่อ /มะม่วง เนื้อสัตว์นิยมสั่งเบคอนหนาๆ กินคู่กับ เม็ด Caperหอมๆ (ชุดใหญ่)นี้ราคารวม 450 บาท ร้านนี้ สั่ง(ชุดเล็ก) Prosciutto Salad 265 บาท -ADIRAK PIZZA เป็นพิซซ่าแป้งหมัก Sourdough วัตถุดิบต่างๆ Home Made เช่น Sauce, Mossarella Cheese, Burrata Cheese *แนะนำ Pasta-Pesto Pizza 365บาท แป้งเหนียวหนึบ แบบขนมปัง ชีสรสเข้มข้น ครบทุกรส หวานจากBalsemic เปรี้ยว..นิดๆจาก Rocotta Cheese เข้ากับความหวานจาก มะเขือเทศตากแห้ง เป็นรสนัวๆเข้าถึงกลิ่นหอมจากเพสโต้ -ร้านเค็กเปี่ยมสุข แนะนำ *พายมะพร้าว 125 บาท/ชิ้น อร่อยที่สุดในโลก -ร้านลาบพันแหวน ลาบหมู-ไก่ ไส้อั่ว แคปหมู ไข่เจียว น้ำพริกหนุ่ม หมูแดดเดียว อ่องปู โคตรอร่อย -ลาบดีขม ข่วงสิงห์(คนยอง) ต้องไปเช้าๆ สาย(หมด) ที่แย่งกันซื้อ คือ จิ้นส้มหมก (ต้องสั่งจองล่วงหน้า) มาเมืองเหนือต้องไม่พลาด มากินลาบที่ร้านนี้ ไม่ผิดหวัง -ร้านก่องข้าวเมือง ไก่นึ่งสมุนไพร และไส้อั่ว(ต้องจองล่วงหน้า 2วัน) แกงเห็ดถอบ 250 ปูอ่อง 100 จิ้นส้มหมก 50 ตำกะท้อนน้ำปู๋ (แซ่บ)80 น้ำพริกก่องข้าวเมือง150 -THE JOURSEY (หลัง ม.ช.)นมไขมันสูง ไอติม 60-100 บาท โยเกิร์ตบิสคอฟ 70 บาท -หมี่เกี๊ยว เตี๊ยว ป๊อก ป๊อก (STAR AVENUE-5 หางดง) โทร 097 956 9542 -ป้าหลง ก๋วยเตี๋ยวเนื้อไส้ รถเข็นตรงข้ามรพ.เชียงใหม่-ราม หยุดอาทิตย์ 8.30-14.30น. เด็ดที่เอ็นตุ๋นชิ้นใหญ่ๆ ไส้เปื่อย -มาม่าฟ้าธานี แซ่บ..สุดๆ (บ่าย3-ตีหนึ่ง) -ติ๋มสุกี้-จานร้อน(วัดเกตุ) กระเพรา ผัดน้ำมันหอย ผัดฉ่า เตี๋ยวคั่วไก่ -คั่วไก่นิมมานกะทะร้อน 80.- ข้าวผัดเดอเมือง160.- ข้าวเงี๊ยว 60.- -ข้าวซอยแม่มณี(สาขาแรก)แม่ริม ปิดวันพระ MICHELIN 2020 2021 2022 2023 2024 เส้นหนา หนึบ กะทิข้น+หอมเครื่องแกง เค็ม เผ็ด ข้าวซอยแม่มณี(สาขา2)ริมซุปเปอร์เลยข่วงสิงห์ - ข้าวซอยลำดวนฟ้าฮ่าม หมู ไก่ เนื้อ 55.- -Khao SO-i หัวถนนฟ้าฮ่าม-ด้านซุปเปอร์ ช้าวซอยฟิวชั่นสไตล์ญี่ปุ่น เส้นสด ปรุงสด จานต่อจาน เน้นคุณภาพวัตถุดิบ เนื้อวากิว ไก่ ไข่กุ้งล๊อบสเตอร์ (599 บาท)อร่อยมาก-ไม่เผ็ด -ร้านข้าวซอยแม่สาย(ป้านะ) ซ.ราชพฤกษ์ ถ.ห้วยแก้ว MICHELIN PLATE 2021 2022 ข้าวซอยหมู เนื้อ และน่องไก่ รสชาติน้ำแกงเครื่องเทศแบบเข้มข้น เผ็ดอร่อย กะทิไม่มัน -ข้าวซอยลุงประกิตกาดก้อม(NetFlix) น้ำรสเข้มข้น(มาก)เผ็ดกว่าทุกร้าน เส้นแข็งกรุบกรอบ มีข้าวมันไก่ด้วย -ข้าวซอยน้องฟลุ๊ค+ไส้อั่วดำรงค์ นิมมาน-17 แปลก เพราะ เป็นข้าวซอย(ผัดแห้ง)ไส้อั่ว เส้นจะมีรสเข้มข้น -ขนมจีนสันป่าข่อย ตลาดทองคำ ขายเย็น-ดึก MICHELIN 2020 2021 2022 2023 2024 มิชลิน 5 ปีซ้อน แต่ขายในราคาถูก 30บาท จุดเด่นที่น้ำพริกแกงรสกลมกล่อม เน้นเผ็ด-เผ็ดมาก น้ำเงี้ยว น้ำยากะทิ(ใส่ไข่) แกงเขียวหวานไก่ แกงเผ็ดหมู-เนื้อ และ ข้าวซอยไก่ (หยุดวันอาทิตย์) -สุกี้ช้างเผือก คิวยาวเป็นพิเศษ (17.00-00.00น.) ***จองคิวล่วงหน้า ผ่านแอ๊ปฯ QueQ ได้นะ*** เด็ดสุด ตือ สุกี้แห้งเนื้อ55.-ผัดจนมีกลิ่นกระทะติดมาด้วย แต่ ผักยังคงความกรอบอร่อยอยู่ ซึ่งเป็นเสน่ห์ของสุกี้ช้างเผือก หมู 55.-ทะเล65.- และมังสวิรัติก็มี เด็ดที่น้ำจิ้มที่เข้ากันดี -บัวลอย(ซ้วง) -คุ้มขันโตก +การแสดง หัวละ 699.- -อ๋องทิพย์รส เตี๋ยวลูกชิ้นปลาหัวนม 45.- -ร้านจ๊ะเอ๋ เลือดหมูจิงจูฉ่าย ตรงข้ามเชียงอินน์ -เฮือนใจ๋ยอง อาหารเหนือแต๊ๆ กินในเฮือน ปูอ่อง70.- ข้าวเหนียวดำ ส้าผักกาดน้อย60.-จิ้นส้มหมกธรรมดา60.- แกงตูนปลาช่อน120.- น้ำพริกหนุ่ท+หมูทอด120.-ตำบ่าหนุน60.-ไส้อั่ว70.- -ครัวหลองข้าว MICHELIN 2022 ลาบหมูคั่ว90.- แกงผักบุ้งใส่ปลา90.- ยำเชียงดากรอบ90.- แกงผักปลังใส่จิ้นส้ม90.- แกงฮังเล100.-จิ้นส้มหมก50.- จิ้นแดงทอด90.-ตำส้มโอน้ำปู๋70.- -นายข้าวนึ่ง รสแบบบ้านๆแทร่ เชียงดาไข่มดแดง80.-คั่วไก่สูตรพะเยา70.-จิ้นส้มหมก40.- คั่วเห็ดถอบใส่ใบมะขาม90.-จอผักกาด70.- -โอ รสเด็ด(ฟ้าฮ่าม)เปิด 7โมงเช้า ขายข้าวแกง พะแนงเนื้อ30.- หมูอบ30.- แกงเนื้อ30.- เขียวหวานไก่20.- แกงไก่หน่อไม้20.- ผัดพริกแกงปลาดุก30.- ต้มข่าไก่20.- ไข่พะโล้30.- -จิวเยาวราช ซี่โครงทอดกระเทียม 120.-ทอดมันปลากราย100.- *กุยช่ายขาวผัดเต้าหู้* -ก๋วยเตี๋ยวตำลึง นิมมาน ซอย 1 -ไก่ทอดเที่ยงคืน เปิดเย็นๆ-รุ่งสาง ถนนกำแพงดิน ไก่ทอด หมูสามชั้น ข้าวเหนียว ไข่ต้ม ++น้ำพริกหนุ่ม ของสดใหม่ ทอดใหม่..ตลอด -MERRY BON BON บิงซู(เกาหลี)ปุยเมฆ*แสนอร่อย -รังนก(17.00-22.30)ตรงข้ามเภสัช ธ.กรุงเทพ(สวนดอก) -ศ.ศรีราชาข้าวต้มปลา(16.30-)กะหล่ำผัดน้ำปลา70.- ปีกไก่ทอดน้ำปลา80.- ไข่เจียวหอยนางรม80.- ข้าวต้มหอยนางรม100.- -Nymph(11.00-14.00และ 17.00-20.00)ปิดอังคาร Smoked Duck & Orange Salad 260.- Mushroom Truffle Sauce Pasta 230.- Spicy Mentaiko with Scallop 445.- -ร้านข้าวต้มย้ง ถนนสุเทพ ใกล้วัดสวนดอก -เล็ก เกี๊ยวกุ้งสด ถ.ทิพยเนตร ใกล้คู ประตูสวนปรุง เกี๊ยวกุ้งน้ำหมูสับ 70.-บะหมี่เกี๊ยวกุ้งแห้งหมูแดง 80.- -โรตีMICHELIN-ป้าเด ท่าแพซอย4(หน้าบ้านฉัน) โรตีกรอบนอก-นุ่มในใช้น้ำมันมะพร้าว มีทั้ง โรตีใส่ไข่ ใส่นม มะดะบะ วิธีสั่ง เขียนออเด้อร์ในกระดาษ แล้วแปะไว้ ป้าเด..จะทำเรียงตามออเด้อร์ -โรตีบรอดเวย์ แบบธรรมดา10.- แบบหมักเนยเล็ก30.- -KALM Tea House -Khao Fang นิ่มซิตี้ ใกล้ Robinson Airport Plaza Hong Kong Toast with Grilled Corn & Caramel 109.- Black Sesami Bualoy & Ginger Ale 80.- -เนื้อกระทะมุสลิม ถ.เจริญเมืองติดปั๊มเชลล์ -ครัวป้าอ้อย(เจ๊ไฝ แห่ง เชียงใหม่)MICHELIN ปูนิ่มทอดกระเทียม ข้าวหมูกรอบทอดกระเทียม ขนมปังหน้าหมู ข้าวทะเลผัดผงกะหรี่ -ก๊วยจั๊บช้างม่อยตัดใหม่ MICHELIN 3 ปีซ้อน 9.30-15.00น. ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่อง "ก๋วยจั๊บไส้อั่ว" เสิร์ฟในน้ำซุปถึงรสพริกไทยอันเป็นเอกลักษณ์ ใส่หมูกรอบและตับหมู และยังมีอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดคือปอเปี๊ยะสด โรยหน้าด้วยไข่เจียวหั่นบาง ๆ ราดซอสหอมกรุ่น -น.ก๋วยจั๊บ ประตูท่าแพ 8โมงเช้า(ช้า..หมด) มี2อย่าง หมูกรอบล้วน, หมูกรอบเครื่องใน -ก๊วยจั๊บรินลองกอย (หลัง ม.ช.)เปิด 6โมงเช้า-สายๆ ชามใหญ่ หน้าตาดี กรอบหอม+อร่อยสุด 40 บาท -ลาบบังเก้อร์ จานละ 10บาท(รวด) อาหารเหนือ -บะหมี่ซุปกระดูกรสเด็ด(เฮียดาว)9.00-18.00น. ติดตลาดแม่เหี๊ยะ มีต้มเลือดหมูจิงจูฉ่าย หมูบะช่อ ข้าวต้มปลา บะหมี่เกี๊ยว+ก๋วยเตี๋ยว ข้าวหมูแดง หมูกรอบ *ข้าวผัดพริกเกลือ* -ร้านผัดไทยไออุ่น ต.หนองควาย อ.หางดง ผัดไทย-ผัดซีอิ๊ว-ข้าวผัด(กุ้ง,หมู,ไก่) เด็ดที่น้ำซอสปรุงรสผัดไทย น้ำพริกเผา-พริกแห้ง สีเข้ม เทคนิคการตอกไข่ใส่เป็นแผ่นคล้ายผัดไทยห่อไข่ ผัดไทย 50 บาท ผัดซีอิ๊ว 40 บาท ข้าวผัด 55 บาท - อันดา SEAFOODทะเลเผา329+หมูกระทะ199 บุปเฟ่ต์ (17.00-23.00น.)มีของหวาน ไอติม ด้วย -ร้านเชฟนนท์ ข้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ สวนอาหารตามสั่ง จัดเต็มทุกเมนู( 10.00-17.00น.) ข้าวผัดแหนม 65 ปู กุ้ง 75 บาท ไข่เจียวปู 150 ต้มยำกุ้ง 180 ข้าวหมูผัดน้ำมันหอย 65 ทะเลคั่วพริกเกลือ 150 -ก๋วยเตี๋ยวเครื่องล้น ธนาโอชา ถนนราชวงศ์ ช้างม่อย MICHELIN 2020 2021 2022 (7โมงเช้า-5โมงเย็น) ก๋วยเตี๋ยวแคะ เย็นตาโฟ เกี้ยมอี๋ ก๋วยเตี๋ยวหลอด ลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปลา ลวกจิ้ม บ๊ะจ่าง ลูกชิ้นเกี๊ยวปลา ปลาเส้นฮื่อก๊วย เต้่าหู้ยัดไส้ลูกชิ้นหมูสับ ลูกชิ้นแคะ เลือดหมู ปลาหมึกกรอบ เกี๊ยวทอด ป่อเปียะปู ป่อเปี๊ยะสด เกี๊ยวหมูน้ำ เกี๊ยวปลาน้ำ เกี๊ยวกุ้งน้ำ ข้าวหมูกรอบ -ข้าวเกรียบปากหม้อสาคูไส้หมู ลุงขจรวัดเกต -ป้าใจ๋ ไส้กรอกข้าว (3ลูก10)วันจันทร์แบบเปรี้ยว -ไส้กรอกมนต์สิทธิ์ (8ลูก20)แจ่งขะต๊า -ไส้กรอกแม่อุดม (ริมปิง) -ร้านน้ำปั่น Joost สดชื่นราคาดี -I think scape สาขา นิมมาน AVOCADO SMOOTHiES -ถั่วลายเสือซ่อนลาย -Craft COLA 65.- ที่ร้าน Helo COLA หอมกลิ่นเครื่องเทศ อบเชย กระวาน กานพลู เม็ดผักชี ลูกจัน ขิง ผสมกับ ผิวส้ม เลม่อน +น้ำตาลธรรมชาติ Coffee Indian-Gooseberry COLA 90.- ก่อนนอน..ฉันมักจะพาเพื่อนๆ ไปเดินเล่น ที่ กาดหน้ามอ เดินชมตลาด เพื่อย่อยอาหาร และ ในกาดมีของกินอีกเยอะ แต่...เด็ดที่สุด คือ ไอติม SOFT SERVE รสช๊อคโกแล๊ต กินไอติมเสร็จ..ส่งเพื่อนๆ เข้าบ้านนอน ส่วนฉัน เดินไปนอน คอนโด(ส่วนตัว)ใกล้ๆบ้าน.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 459 มุมมอง 0 รีวิว
  • #พระกรุ# ทำไมค่านิยม ไม่เหมือนเก่าก่อน...ต้องเรียนแบบนี้ พระกรุหลักๆ ที่นิยม ราคาไม่ได้ลง และเพิ่มด้วย..เช่น พระรอด นางพญา ขุนแผน หรืออื่นๆ ...หนึ่งเหตุผลหลักคือ ต้องยอมรับว่า ในยุคนี้ กลุ่มคนรุ่นใหม่ มีส่วนสำคัญในการจับเคลื้อนวงการพระ....และคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยเล่น พระกรุ ...ไม่เป็น...! เนื่องจากความรู้ วิธีดู ของคุณรุ่นเก่า มีการถ่ายทอดส่งต่อเรื่องพระกรุกันน้อยมาก .พอเล่นไมาเป็น ก็ไม่ก็ล้าซื้อ ของหมุนเวียนก็ไม่มี..ราคาจึงลดหายตามไปด้วย .ในกรุที่ไม่ใช่พระหลักยอดนิยม...ก่อนอื่นต้องบอกว่า เมืองไทย มีพระกรุ หลายร้อย หลายพันกรุุ...แตต่มียอดนิยมเพียงไม่มาก...แต่ถ้ามองในแง่ เล่นและศึกษา โบราณวัตถุ..ก็น่าสนใจไม่น้อย... #ในภาพเเป็นพระว่านจำปาศักดิ์ สปป.ลาว ..อายุหลายร้อยปี แกร่งเป็นไม้ไปแล้ว...พูดถึงว่านจำปาศักดิ์นิดนึง ยุคสงครามอินโดจีน ปี พศ.2485 ทหารไทย นำพระชนิดนี้ติดตัวไปรบกันมาก..ประสบการณ์มากมาย...ดังนั้น เกจิดังในยุคหลังปี 2485 หลายท่าน ทำพระผง พระเนื้อดิน ก็จะเอาพระว่านจำปาศักดิ์ ตำผสมใส่ลงไปด้วย.
    #พระกรุ# ทำไมค่านิยม ไม่เหมือนเก่าก่อน...ต้องเรียนแบบนี้ พระกรุหลักๆ ที่นิยม ราคาไม่ได้ลง และเพิ่มด้วย..เช่น พระรอด นางพญา ขุนแผน หรืออื่นๆ ...หนึ่งเหตุผลหลักคือ ต้องยอมรับว่า ในยุคนี้ กลุ่มคนรุ่นใหม่ มีส่วนสำคัญในการจับเคลื้อนวงการพระ....และคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยเล่น พระกรุ ...ไม่เป็น...! เนื่องจากความรู้ วิธีดู ของคุณรุ่นเก่า มีการถ่ายทอดส่งต่อเรื่องพระกรุกันน้อยมาก .พอเล่นไมาเป็น ก็ไม่ก็ล้าซื้อ ของหมุนเวียนก็ไม่มี..ราคาจึงลดหายตามไปด้วย .ในกรุที่ไม่ใช่พระหลักยอดนิยม...ก่อนอื่นต้องบอกว่า เมืองไทย มีพระกรุ หลายร้อย หลายพันกรุุ...แตต่มียอดนิยมเพียงไม่มาก...แต่ถ้ามองในแง่ เล่นและศึกษา โบราณวัตถุ..ก็น่าสนใจไม่น้อย... #ในภาพเเป็นพระว่านจำปาศักดิ์ สปป.ลาว ..อายุหลายร้อยปี แกร่งเป็นไม้ไปแล้ว...พูดถึงว่านจำปาศักดิ์นิดนึง ยุคสงครามอินโดจีน ปี พศ.2485 ทหารไทย นำพระชนิดนี้ติดตัวไปรบกันมาก..ประสบการณ์มากมาย...ดังนั้น เกจิดังในยุคหลังปี 2485 หลายท่าน ทำพระผง พระเนื้อดิน ก็จะเอาพระว่านจำปาศักดิ์ ตำผสมใส่ลงไปด้วย.
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • พบรอยพระพุทธบาท โบราณ ม.3 เกาะไม้ไผ่ ต.เกาะปันหยี อ.เมือง จ.พังงา
    พบรอยพระพุทธบาท โบราณ ม.3 เกาะไม้ไผ่ ต.เกาะปันหยี อ.เมือง จ.พังงา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยว #จีน #เฉิงตู #ภูเขาหิมะ ❄🔥
    โปรแกรมสงกรานต์ ปี 68 มาแล้ว 🎉😍

    🗓 จำนวนวัน 5 วัน 3 คืน
    ✈ VZ-ไทยเวียดเจ็ท แอร์
    🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐

    📍 ภูเขาหิมะวาอู (รวมกระเช้า 4 เที่ยว)
    📍 เมืองหย่าอัน
    📍 ภูเขาหิมะซีหลิง
    📍 ถนนโบราณจิ๋นหลี่
    📍 วัดต้าฉือ
    📍 ถนนคนเดินไท่กู๋หลี่
    📍 ชมแสงสีที่ห้างสรรพสินค้า SKP

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8
    LINE ID: @etravelway.fire
    https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    ☎️: 021166395

    #ทัวร์จีน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยว #จีน #เฉิงตู #ภูเขาหิมะ ❄🔥 โปรแกรมสงกรานต์ ปี 68 มาแล้ว 🎉😍 🗓 จำนวนวัน 5 วัน 3 คืน ✈ VZ-ไทยเวียดเจ็ท แอร์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 ภูเขาหิมะวาอู (รวมกระเช้า 4 เที่ยว) 📍 เมืองหย่าอัน 📍 ภูเขาหิมะซีหลิง 📍 ถนนโบราณจิ๋นหลี่ 📍 วัดต้าฉือ 📍 ถนนคนเดินไท่กู๋หลี่ 📍 ชมแสงสีที่ห้างสรรพสินค้า SKP รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์จีน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1002 มุมมอง 48 0 รีวิว
  • ทางผ่านแวะหน่อยแล้วกัน 😍 @Taman Sari (สวนน้ำของบรรดานางสนมขององค์สุลต่าน) มีคู่บ่าวสาวมาถ่ายพรีเวดดิ้งเยอะมาก และชื่นชมอีกอย่าง มีไกค์ชาวบ้านคอยแนะนำเยอะเลย ส่งเสริมให้ชาวบ้านและชุมชนรอบข้าง (ราคาคนท้องถิ่น 15,000 รูเปีย ประมาณ 40฿ ต่อคน)https://maps.app.goo.gl/3GmqVW2PBQhHV8qB9?g_st=com.google.maps.preview.copyTaman Sari หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Water Castle” เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองยอกยาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 โดย สุลต่านฮาเมงกูบูโวที่ 1 (Sultan Hamengkubuwono I) แห่งราชอาณาจักรยอกยาการ์ตา จุดประสงค์ดั้งเดิมของ Taman Sari คือการเป็นสถานที่พักผ่อนส่วนตัวของราชวงศ์และใช้สำหรับพิธีกรรมทางศาสนา การป้องกัน รวมถึงเป็นสวนน้ำเพื่อความเพลิดเพลิน  ประวัติที่สำคัญ: 1. การก่อสร้างTaman Sari ถูกสร้างขึ้นในปี 1758-1765 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมยุโรป ผสมผสานกับสไตล์ชวา มีสระน้ำ พื้นที่พักผ่อน และอาคารหลากหลายที่ออกแบบอย่างประณีต เช่น สระว่ายน้ำส่วนตัวของสุลต่าน และหอคอยชมวิว  2. หน้าที่การใช้งาน ใช้เป็น ที่พักผ่อนส่วนตัวของราชวงศ์ เป็น ป้อมปราการทางยุทธศาสตร์ ซึ่งมีอุโมงค์ใต้ดินและพื้นที่ลับเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน ใช้สำหรับ พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะพิธีทางน้ำที่เกี่ยวข้องกับสุลต่านและครอบครัว  3. สถานะในปัจจุบันTaman Sari ในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมของอินโดนีเซีย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมส่วนต่าง ๆ เช่น สระน้ำกลางแจ้งที่ยังคงสภาพดี และโครงสร้างบางส่วนที่ได้รับการบูรณะ  ด้วยความผสมผสานของวัฒนธรรมท้องถิ่นและตะวันตก Taman Sari จึงเป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงถึงประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมของอินโดนีเซียในยุคโบราณ.
    ทางผ่านแวะหน่อยแล้วกัน 😍 @Taman Sari (สวนน้ำของบรรดานางสนมขององค์สุลต่าน) มีคู่บ่าวสาวมาถ่ายพรีเวดดิ้งเยอะมาก และชื่นชมอีกอย่าง มีไกค์ชาวบ้านคอยแนะนำเยอะเลย ส่งเสริมให้ชาวบ้านและชุมชนรอบข้าง (ราคาคนท้องถิ่น 15,000 รูเปีย ประมาณ 40฿ ต่อคน)https://maps.app.goo.gl/3GmqVW2PBQhHV8qB9?g_st=com.google.maps.preview.copyTaman Sari หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Water Castle” เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองยอกยาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 โดย สุลต่านฮาเมงกูบูโวที่ 1 (Sultan Hamengkubuwono I) แห่งราชอาณาจักรยอกยาการ์ตา จุดประสงค์ดั้งเดิมของ Taman Sari คือการเป็นสถานที่พักผ่อนส่วนตัวของราชวงศ์และใช้สำหรับพิธีกรรมทางศาสนา การป้องกัน รวมถึงเป็นสวนน้ำเพื่อความเพลิดเพลิน  ประวัติที่สำคัญ: 1. การก่อสร้างTaman Sari ถูกสร้างขึ้นในปี 1758-1765 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมยุโรป ผสมผสานกับสไตล์ชวา มีสระน้ำ พื้นที่พักผ่อน และอาคารหลากหลายที่ออกแบบอย่างประณีต เช่น สระว่ายน้ำส่วนตัวของสุลต่าน และหอคอยชมวิว  2. หน้าที่การใช้งาน ใช้เป็น ที่พักผ่อนส่วนตัวของราชวงศ์ เป็น ป้อมปราการทางยุทธศาสตร์ ซึ่งมีอุโมงค์ใต้ดินและพื้นที่ลับเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน ใช้สำหรับ พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะพิธีทางน้ำที่เกี่ยวข้องกับสุลต่านและครอบครัว  3. สถานะในปัจจุบันTaman Sari ในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมของอินโดนีเซีย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมส่วนต่าง ๆ เช่น สระน้ำกลางแจ้งที่ยังคงสภาพดี และโครงสร้างบางส่วนที่ได้รับการบูรณะ  ด้วยความผสมผสานของวัฒนธรรมท้องถิ่นและตะวันตก Taman Sari จึงเป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงถึงประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมของอินโดนีเซียในยุคโบราณ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 473 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 401 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 396 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 391 มุมมอง 0 รีวิว
  • #นาฬิกาชีวิต จังหวะเวลาที่กำหนดสุขภาพ
    ทุกวัน..จะชอบเขียนเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ คือ ไม่กินเนื้อสัตว์ ละเว้นการเบียดเบียนตามหลักพุทธศาสนา คือ ถือศีลข้อที่๑(บริสุทธิ์) ทำให้เลือดในร่างกายไม่เป็นกรด ปัญหาเรื่องกระดูกพรุนไม่เกิด และมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ไม่ต้องเป็นภาระทางราชการ หรือ ต้องสูญเสียเงินทองมากมายเมื่อเข้าสู่วัยชรา.
    วันนี้..ที่บ้านมีพะโล้ฟองเต้าหู้ กับ ผักกาดจอ หม้อใหญ่ๆ เป็นอาหารหลัก ทำเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา คงกินได้หลายวัน
    วันนี้จึงไม่โม้เรื่องอาหาร เพราะเคยเขียนเผยแพร่แล้ว
    วันนี้พูดเรื่องสำคัญ..มากเท่ากับเรื่องอาหาร คือ
    วินัย ของ การทำงานในร่างกาย ปฏิบัติตัวอย่างไร ให้ ถูกที่ ถูกเวลา ตลอดเวลา ๒๔ชั่วโมง ก็ สำคัญมาก ซึ่งวันนี้ จะนำเสนอให้ทราบ ดังนี้
    เหตุผลตามธรรมชาติ
    #ทำไมต้องนอนสามทุ่มตื่นตีสาม?
    ต้องดื่มน้ำหลังตื่นนอน ขับถ่ายของเสีย กินอาหารให้ตรงเวลา
    #ทำไมเวลาเก้าโมงถึงสิบเอ็ดโมงเช้า(ห้ามนอน..เด็ดขาด)
    บ่ายโมงถึงบ่ายสามไม่ควรกินอาหาร
    #บ่ายสามถึงห้าโมงเย็นเป็นเวลาออกกำลังกาย
    --->สามทุ่ม(ต้อง)เข้านอน(ห่มผ้า)ให้อบอุ่น ไม่ควรอาบน้ำเย็น
    #สี่ทุ่มถึงตีสามคือเวลาของฮอร์โมนเมลาโทนิน(หลั่ง)
    --->ต้อง(ห่มผ้า)นอนหลับให้สนิท และ ปิดไฟให้มืด
    จึงจะมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง มีอายุขัยที่ยืนยาว 120 ปี
    #นาฬิกาชีวิต คือ การดูแลรักษาสุขภาพแบบธรรมชาติบำบัด ให้มีสุขภาพที่ดีอายุยืนนาน ตามศาสตร์การแพทย์จีน อายุรเวทของอินเดีย และอียิปต์โบราณได้ค้นพบ และบันทึกตรงกันว่า
    #อวัยวะในร่างกายมนุษย์ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ #อวัยวะตัน --->หัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ม้าม ตับ และไต #อวัยวะกลวง --->กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ และ ระบบความร้อนในร่างกาย
    ทั้งหมดรวมได้ 12 อวัยวะ ควบคุมการไหลเวียนด้วยพลังชีวิตที่เรียกว่า.. “ #ลมปราณ” หมุนเวียนเป็นวัฏจักรทุก 2 ชั่วโมง ตามลำดับ
    ดังนั้นใน 1วัน=12อวัยวะX2ชั่วโมง จึงเท่ากับ 24ชั่วโมง (พอดีเป๊ะ)
    นี่แหละ คือ วัฏจักรของการทำงาน(ตามปกติ)ของอวัยวะในร่างกายมนุษย์ ที่เรียกว่า #นาฬิกาชีวิต นั่นเอง ค่ะ
    #ตารางการเดินลมปราณในแต่ละวัน จึงเป็นการดูแลสุขภาพอย่างง่ายๆ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับ..”นาฬิกาชีวิต” ได้ดังนี้...
    เวลา 01.00-03.00น. ควรเป็นเวลาของ #ตับ มีหน้าที่เป็นโรงงานกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ดังนั้นในช่วงเวลานี้ร่างกาย #ควรนอนหลับให้สนิทเพื่อให้ตับได้ขจัดสารพิษออกจากร่างกายหากไม่หลับในช่วงนี้จะทำให้สะสมพิษทำให้เกิดอาการเพลีย เหนื่อยง่าย
    โรคต่างที่เกิดจากพิษสารเคมีสะสมจะทำให้ป่วยง่าย+เรื้อรัง-ตายอย่างเวทนาและทุกข์ทรมาน นะคะ(ขอ บอก)
    เวลา 03.00-05.00น. #ควรตื่นนอน ดื่มน้ำอุ่น ฝึกกำหนดลมหายใจเข้า-ออก..ลึกๆ ช้าๆ..สูดอากาศบริสุทธิ์ ออกกำลังกายยืดเส้น ยืดสาย ทำให้สุขภาพปอดและร่างกายโดยรวมจะดีไปด้วย
    #การดื่มน้ำอุ่นในช่วงนี้และการซิทอัป--->จะกระตุ้น(เร่ง)การทำงานของลำไส้ใหญ่ ซึ่งทำงานในช่วงต่อไป..
    เวลา 05.00-07.00น. เป็นช่วงเวลาของ #การทำงานลำไส้ใหญ่ บีบรัดตัวได้ดีที่สุด เป็นเวลาขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย การไม่ขับถ่ายในช่วงเวลานี้ทำให้ลำไส้ใหญ่ดูดซึมกลับไป สะสมสารพิษ สะสม ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน เวลา 05.45-06.00น.เป็นเวลาที่ดีที่สุด ของ #การฝึกสมาธิ เพราะในขณะที่ตื่นนอน ทำธุระส่วนตัว อาบน้ำ&แปรงฟัน..เสร็จ ปลอดโปร่ง..#โล่งทั้งกายและใจไม่มีเรื่องเครียด เรื่องงานมากวนใจ ฝึกนั่งสมาธิในช่วงนี้(ทุกวัน)สามารถเข้าถึงสมาธิได้สำเร็จ(ง่าย)มาก..ค่ะ
    เวลา 07.00-09.00น. คือช่วงเวลาของ #กระเพาะอาหาร ต้องกินอาหารเช้าเป็นมื้อหลักที่มีสารอาหารอย่างครบถ้วน หากไม่กินมื้อเช้า(มื้อสำคัญ)จะเป็นโรคกระเพาะอย่างรวดเร็ว และสะสมเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้ในระยะยาว
    เวลา 09.00-011.00น. เป็นเวลาของ #ม้าม ควบคุมเม็ดเลือดขาว กำจัดเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ ดังนั้นผู้ที่นอนในช่วงนี้จะส่งผลให้ม้ามอ่อนแอ มี #ภูมิคุ้มกันโรคต่ำ ติดเชื้อเป็นโรคต่างๆได้ง่าย
    เวลา 11.00-13.00น. ช่วงพักเที่ยง เป็นช่วงเวลาของ #หัวใจ ควรพักผ่อน..สบายๆ งดน้ำชา กาแฟ หลีกเลี่ยงความเครียดซึ่งทำให้หัวใจเต้นแรง ทำงานหนักเกิน ส่งผลให้หัวใจวายได้อย่างง่ายๆ ในช่วงเวลาเที่ยง จ๊ะ
    เวลา 13.00-15.00น. เป็นช่วงเวลาของ #ลำไส้เล็ก ในช่วงนี้ร่างกายส่งพลังงานทั้งหมดไปยังลำไส้เล็กเพื่อการดูดซึม #การกินอาหารในช่วงนี้จะไปขัดขวางโอกาสทองของระบบดูดซีมที่ต้องแบ่งพลังงานไปใช้ในการย่อยในกระเพาะอาหาร ช่วงนี้สมองในส่วนความจำจะทำงานได้ดีที่สุดในรอบวัน
    เวลา 15.00-17.00น. เวลาของ #กระเพาะปัสสาวะ และการขับเหงื่อ #จึงควรออกกำลังกายอย่างหนัก หรือ เหมาะกับการอบซาวน่าเพื่อให้เหงื่อออก สำหรับหนุ่มสาวที่ทำงานในช่วงนี้ ก็สามารถใช้ท่าการออกกำลังกายในสำนักงาน หรือเดินไป-มา ขึ้น-ลงบันได เพื่อส่งเสริมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะได้..เช่นกัน
    เวลา 17.00-19.00น. #ช่วงเวลาของไต มีหน้าที่รักษาสมดุลเกลือแร่ในร่างกาย โดยกำจัดส่วนเกินออกทางปัสสาวะและเหงื่อ #เวลาช่วงนี้จึงควรทำให้ร่างกายตื่นตัว ไม่ง่วง ไม่หลับ เป็นช่วงCool Down หรือผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ต่อจากการออกกำลังกายอย่างหนัก..ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
    เวลา 19.00-21.00น. ช่วงนี้เป็นเวลาที่ #เยื่อหุ้มหัวใจ..บางที่สุด จึงควรระวังอารมณ์ตื่นเต้น ดีใจ ตกใจ โกรธ เสียใจ การที่ทำให้ตื่นตัวมากๆส่งผลให้เยื่อหุ้มหัวใจฉีกขาดได้ง่าย ดังนั้นในช่วงเวลานี้จึงควรปิดโทรศัพท์ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ
    เวลา 21.00-23.00น. เป็นช่วงเวลาของ #ระบบความร้อนในร่างกาย ซึ่งตามธรรมชาติ..ในช่วงเวลานี้อากาศเริ่มเย็น ร่างกายคนเราต้องสร้างความร้อนขึ้น จึงไม่ควรอาบน้ำหรือดื่มน้ำเย็น และควรเข้านอนในช่วงเวลานี้ ควรดื่มน้ำอุ่น 1 แก้วก่อนนอนเพื่อส่งเสริมการทำงานของถุงน้ำดีในเวลาถัดไป.
    เวลา 23.00-01.00น. เวลาของ #ถุงน้ำดี ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่หลับ ร่างกายจะอยู่ในสภาพที่ขาดน้ำ อวัยวะต่างๆจะดึงน้ำจากถุงน้ำดี..แล้วนำไปใช้ หากน้ำในถุงน้ำดีข้นเกินไปอาจส่งผลให้อวัยวะต่างๆทำงานผิดปกติได้ #หากไม่นอนในช่วงนี้จะเกิดถุงไขมันใต้ตา และไขมันพอกตับ
    .
    .
    เจริญธรรม สำนึกดี
    Pachäree Wõng
    November21, 2024
    Sausalito, California.
    #นาฬิกาชีวิต จังหวะเวลาที่กำหนดสุขภาพ ทุกวัน..จะชอบเขียนเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ คือ ไม่กินเนื้อสัตว์ ละเว้นการเบียดเบียนตามหลักพุทธศาสนา คือ ถือศีลข้อที่๑(บริสุทธิ์) ทำให้เลือดในร่างกายไม่เป็นกรด ปัญหาเรื่องกระดูกพรุนไม่เกิด และมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ไม่ต้องเป็นภาระทางราชการ หรือ ต้องสูญเสียเงินทองมากมายเมื่อเข้าสู่วัยชรา. วันนี้..ที่บ้านมีพะโล้ฟองเต้าหู้ กับ ผักกาดจอ หม้อใหญ่ๆ เป็นอาหารหลัก ทำเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา คงกินได้หลายวัน วันนี้จึงไม่โม้เรื่องอาหาร เพราะเคยเขียนเผยแพร่แล้ว วันนี้พูดเรื่องสำคัญ..มากเท่ากับเรื่องอาหาร คือ วินัย ของ การทำงานในร่างกาย ปฏิบัติตัวอย่างไร ให้ ถูกที่ ถูกเวลา ตลอดเวลา ๒๔ชั่วโมง ก็ สำคัญมาก ซึ่งวันนี้ จะนำเสนอให้ทราบ ดังนี้ เหตุผลตามธรรมชาติ #ทำไมต้องนอนสามทุ่มตื่นตีสาม? ต้องดื่มน้ำหลังตื่นนอน ขับถ่ายของเสีย กินอาหารให้ตรงเวลา #ทำไมเวลาเก้าโมงถึงสิบเอ็ดโมงเช้า(ห้ามนอน..เด็ดขาด) บ่ายโมงถึงบ่ายสามไม่ควรกินอาหาร #บ่ายสามถึงห้าโมงเย็นเป็นเวลาออกกำลังกาย --->สามทุ่ม(ต้อง)เข้านอน(ห่มผ้า)ให้อบอุ่น ไม่ควรอาบน้ำเย็น #สี่ทุ่มถึงตีสามคือเวลาของฮอร์โมนเมลาโทนิน(หลั่ง) --->ต้อง(ห่มผ้า)นอนหลับให้สนิท และ ปิดไฟให้มืด จึงจะมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง มีอายุขัยที่ยืนยาว 120 ปี #นาฬิกาชีวิต คือ การดูแลรักษาสุขภาพแบบธรรมชาติบำบัด ให้มีสุขภาพที่ดีอายุยืนนาน ตามศาสตร์การแพทย์จีน อายุรเวทของอินเดีย และอียิปต์โบราณได้ค้นพบ และบันทึกตรงกันว่า #อวัยวะในร่างกายมนุษย์ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ #อวัยวะตัน --->หัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ม้าม ตับ และไต #อวัยวะกลวง --->กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ และ ระบบความร้อนในร่างกาย ทั้งหมดรวมได้ 12 อวัยวะ ควบคุมการไหลเวียนด้วยพลังชีวิตที่เรียกว่า.. “ #ลมปราณ” หมุนเวียนเป็นวัฏจักรทุก 2 ชั่วโมง ตามลำดับ ดังนั้นใน 1วัน=12อวัยวะX2ชั่วโมง จึงเท่ากับ 24ชั่วโมง (พอดีเป๊ะ) นี่แหละ คือ วัฏจักรของการทำงาน(ตามปกติ)ของอวัยวะในร่างกายมนุษย์ ที่เรียกว่า #นาฬิกาชีวิต นั่นเอง ค่ะ #ตารางการเดินลมปราณในแต่ละวัน จึงเป็นการดูแลสุขภาพอย่างง่ายๆ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับ..”นาฬิกาชีวิต” ได้ดังนี้... เวลา 01.00-03.00น. ควรเป็นเวลาของ #ตับ มีหน้าที่เป็นโรงงานกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ดังนั้นในช่วงเวลานี้ร่างกาย #ควรนอนหลับให้สนิทเพื่อให้ตับได้ขจัดสารพิษออกจากร่างกายหากไม่หลับในช่วงนี้จะทำให้สะสมพิษทำให้เกิดอาการเพลีย เหนื่อยง่าย โรคต่างที่เกิดจากพิษสารเคมีสะสมจะทำให้ป่วยง่าย+เรื้อรัง-ตายอย่างเวทนาและทุกข์ทรมาน นะคะ(ขอ บอก) เวลา 03.00-05.00น. #ควรตื่นนอน ดื่มน้ำอุ่น ฝึกกำหนดลมหายใจเข้า-ออก..ลึกๆ ช้าๆ..สูดอากาศบริสุทธิ์ ออกกำลังกายยืดเส้น ยืดสาย ทำให้สุขภาพปอดและร่างกายโดยรวมจะดีไปด้วย #การดื่มน้ำอุ่นในช่วงนี้และการซิทอัป--->จะกระตุ้น(เร่ง)การทำงานของลำไส้ใหญ่ ซึ่งทำงานในช่วงต่อไป.. เวลา 05.00-07.00น. เป็นช่วงเวลาของ #การทำงานลำไส้ใหญ่ บีบรัดตัวได้ดีที่สุด เป็นเวลาขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย การไม่ขับถ่ายในช่วงเวลานี้ทำให้ลำไส้ใหญ่ดูดซึมกลับไป สะสมสารพิษ สะสม ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน เวลา 05.45-06.00น.เป็นเวลาที่ดีที่สุด ของ #การฝึกสมาธิ เพราะในขณะที่ตื่นนอน ทำธุระส่วนตัว อาบน้ำ&แปรงฟัน..เสร็จ ปลอดโปร่ง..#โล่งทั้งกายและใจไม่มีเรื่องเครียด เรื่องงานมากวนใจ ฝึกนั่งสมาธิในช่วงนี้(ทุกวัน)สามารถเข้าถึงสมาธิได้สำเร็จ(ง่าย)มาก..ค่ะ เวลา 07.00-09.00น. คือช่วงเวลาของ #กระเพาะอาหาร ต้องกินอาหารเช้าเป็นมื้อหลักที่มีสารอาหารอย่างครบถ้วน หากไม่กินมื้อเช้า(มื้อสำคัญ)จะเป็นโรคกระเพาะอย่างรวดเร็ว และสะสมเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้ในระยะยาว เวลา 09.00-011.00น. เป็นเวลาของ #ม้าม ควบคุมเม็ดเลือดขาว กำจัดเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ ดังนั้นผู้ที่นอนในช่วงนี้จะส่งผลให้ม้ามอ่อนแอ มี #ภูมิคุ้มกันโรคต่ำ ติดเชื้อเป็นโรคต่างๆได้ง่าย เวลา 11.00-13.00น. ช่วงพักเที่ยง เป็นช่วงเวลาของ #หัวใจ ควรพักผ่อน..สบายๆ งดน้ำชา กาแฟ หลีกเลี่ยงความเครียดซึ่งทำให้หัวใจเต้นแรง ทำงานหนักเกิน ส่งผลให้หัวใจวายได้อย่างง่ายๆ ในช่วงเวลาเที่ยง จ๊ะ เวลา 13.00-15.00น. เป็นช่วงเวลาของ #ลำไส้เล็ก ในช่วงนี้ร่างกายส่งพลังงานทั้งหมดไปยังลำไส้เล็กเพื่อการดูดซึม #การกินอาหารในช่วงนี้จะไปขัดขวางโอกาสทองของระบบดูดซีมที่ต้องแบ่งพลังงานไปใช้ในการย่อยในกระเพาะอาหาร ช่วงนี้สมองในส่วนความจำจะทำงานได้ดีที่สุดในรอบวัน เวลา 15.00-17.00น. เวลาของ #กระเพาะปัสสาวะ และการขับเหงื่อ #จึงควรออกกำลังกายอย่างหนัก หรือ เหมาะกับการอบซาวน่าเพื่อให้เหงื่อออก สำหรับหนุ่มสาวที่ทำงานในช่วงนี้ ก็สามารถใช้ท่าการออกกำลังกายในสำนักงาน หรือเดินไป-มา ขึ้น-ลงบันได เพื่อส่งเสริมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะได้..เช่นกัน เวลา 17.00-19.00น. #ช่วงเวลาของไต มีหน้าที่รักษาสมดุลเกลือแร่ในร่างกาย โดยกำจัดส่วนเกินออกทางปัสสาวะและเหงื่อ #เวลาช่วงนี้จึงควรทำให้ร่างกายตื่นตัว ไม่ง่วง ไม่หลับ เป็นช่วงCool Down หรือผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ต่อจากการออกกำลังกายอย่างหนัก..ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เวลา 19.00-21.00น. ช่วงนี้เป็นเวลาที่ #เยื่อหุ้มหัวใจ..บางที่สุด จึงควรระวังอารมณ์ตื่นเต้น ดีใจ ตกใจ โกรธ เสียใจ การที่ทำให้ตื่นตัวมากๆส่งผลให้เยื่อหุ้มหัวใจฉีกขาดได้ง่าย ดังนั้นในช่วงเวลานี้จึงควรปิดโทรศัพท์ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ เวลา 21.00-23.00น. เป็นช่วงเวลาของ #ระบบความร้อนในร่างกาย ซึ่งตามธรรมชาติ..ในช่วงเวลานี้อากาศเริ่มเย็น ร่างกายคนเราต้องสร้างความร้อนขึ้น จึงไม่ควรอาบน้ำหรือดื่มน้ำเย็น และควรเข้านอนในช่วงเวลานี้ ควรดื่มน้ำอุ่น 1 แก้วก่อนนอนเพื่อส่งเสริมการทำงานของถุงน้ำดีในเวลาถัดไป. เวลา 23.00-01.00น. เวลาของ #ถุงน้ำดี ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่หลับ ร่างกายจะอยู่ในสภาพที่ขาดน้ำ อวัยวะต่างๆจะดึงน้ำจากถุงน้ำดี..แล้วนำไปใช้ หากน้ำในถุงน้ำดีข้นเกินไปอาจส่งผลให้อวัยวะต่างๆทำงานผิดปกติได้ #หากไม่นอนในช่วงนี้จะเกิดถุงไขมันใต้ตา และไขมันพอกตับ . . เจริญธรรม สำนึกดี Pachäree Wõng November21, 2024 Sausalito, California.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 795 มุมมอง 0 รีวิว
  • สภาพอากาศช่วงปลายฝน ต้นหนาว ที่ศรีราชา ในเดือน พ.ย. 67 มีอุณหภูมิเย็นเบาบาง ในช่วงดึกถึงช่วงเช้า มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน สลับกับฝนตกบางๆ และ มีตกหนักเป็นบางพื้นที่
    กาแฟ ชา ไข่ลวก ไฮ้ หมวย https://goo.gl/maps/rf3UG3QF3pHTPSAz8
    ร้าน เจ กาแฟโบราณ https://goo.gl/maps/H7rqh7TzoHMXZHeh9
    สั่งออนไลน์ ลิงค์อยู่ในช่องแสดงความคิดเห็น
    สภาพอากาศช่วงปลายฝน ต้นหนาว ที่ศรีราชา ในเดือน พ.ย. 67 มีอุณหภูมิเย็นเบาบาง ในช่วงดึกถึงช่วงเช้า มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน สลับกับฝนตกบางๆ และ มีตกหนักเป็นบางพื้นที่ กาแฟ ชา ไข่ลวก ไฮ้ หมวย https://goo.gl/maps/rf3UG3QF3pHTPSAz8 ร้าน เจ กาแฟโบราณ https://goo.gl/maps/H7rqh7TzoHMXZHeh9 สั่งออนไลน์ ลิงค์อยู่ในช่องแสดงความคิดเห็น
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยว #จอร์เจีย ต้อนรับ #ปีใหม่ 6วัน 4คืน🎉🔥
    ตะลุยหุบเขาคอเคซัส ดินแดนสองทวีป 😍

    🗓 จำนวนวัน 6 วัน 4 คืน
    ✈ G9-แอร์อาระเบีย
    🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐

    📍 ถนนคนเดินชาเดอนี่
    📍 อ่างเก็บน้ำชินวาลี
    📍 ป้อมอนานูรี
    📍 อนุสาวรีย์มิตรภาพ รัสเซีย - จอร์เจีย
    📍 นั่งรถ 4WD ชมโบสถ์เกอร์เกตี้
    📍 เมืองถ้ำโบราณอุพลิสชิเค
    📍 พิพิธภัณฑ์สตาลิน
    📍 สวนบอร์โจมี
    📍 มหาวิหารจวารี
    📍 อุทยานประวัติศาสตร์จอร์เจีย
    📍 ถนนคนเดิน Rustaveli Avenue
    📍 โบสถ์ทรินิตี้
    📍 สะพานแห่งสันติภาพ
    📍 นั่งกระเช้าชมป้อมนาริกาลา
    📍 อนุสาวรีย์พระแม่จอร์เจีย
    📍 โรงอาบน้ำโบราณ อะบาโนตูบานี
    📍 East Point Mall

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8
    LINE ID: @etravelway.fire
    https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    ☎️: 021166395

    #ทัวร์จอร์เจีย #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยว #จอร์เจีย ต้อนรับ #ปีใหม่ 6วัน 4คืน🎉🔥 ตะลุยหุบเขาคอเคซัส ดินแดนสองทวีป 😍 🗓 จำนวนวัน 6 วัน 4 คืน ✈ G9-แอร์อาระเบีย 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 ถนนคนเดินชาเดอนี่ 📍 อ่างเก็บน้ำชินวาลี 📍 ป้อมอนานูรี 📍 อนุสาวรีย์มิตรภาพ รัสเซีย - จอร์เจีย 📍 นั่งรถ 4WD ชมโบสถ์เกอร์เกตี้ 📍 เมืองถ้ำโบราณอุพลิสชิเค 📍 พิพิธภัณฑ์สตาลิน 📍 สวนบอร์โจมี 📍 มหาวิหารจวารี 📍 อุทยานประวัติศาสตร์จอร์เจีย 📍 ถนนคนเดิน Rustaveli Avenue 📍 โบสถ์ทรินิตี้ 📍 สะพานแห่งสันติภาพ 📍 นั่งกระเช้าชมป้อมนาริกาลา 📍 อนุสาวรีย์พระแม่จอร์เจีย 📍 โรงอาบน้ำโบราณ อะบาโนตูบานี 📍 East Point Mall รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์จอร์เจีย #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 798 มุมมอง 56 1 รีวิว
  • โอเลี้ยง เครื่องดื่มที่บ่งบอก ด้วยรสชาติ ความเข้มข้น ในแบบ แป๊ะหลู ศรีราชา สืบทอด จิตวิญญาณในการชง จากรุ่นสู่รุ่น
    กาแฟ ชา ไข่ลวก ไฮ้ หมวย https://goo.gl/maps/rf3UG3QF3pHTPSAz8
    ร้าน เจ กาแฟโบราณ https://goo.gl/maps/H7rqh7TzoHMXZHeh9
    สั่งออนไลน์ ลิงค์อยู่ในช่องแสดงความคิดเห็น
    โอเลี้ยง เครื่องดื่มที่บ่งบอก ด้วยรสชาติ ความเข้มข้น ในแบบ แป๊ะหลู ศรีราชา สืบทอด จิตวิญญาณในการชง จากรุ่นสู่รุ่น กาแฟ ชา ไข่ลวก ไฮ้ หมวย https://goo.gl/maps/rf3UG3QF3pHTPSAz8 ร้าน เจ กาแฟโบราณ https://goo.gl/maps/H7rqh7TzoHMXZHeh9 สั่งออนไลน์ ลิงค์อยู่ในช่องแสดงความคิดเห็น
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • วัดเชียงแสน อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ แหล่งโบราณเก่าแก่ก่อนประวัติศาสตร์ 3000 ปี
    วัดเชียงแสน อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ แหล่งโบราณเก่าแก่ก่อนประวัติศาสตร์ 3000 ปี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • นะ .. ไอ้เราก็ปลื้มกับความสามารถในการถ่ายทำซีรี่ย์โบราณต่างๆ ของจีนมานานจนมาเจอภาพนี้แหละ 🙄🙄😤😤
    นะ .. ไอ้เราก็ปลื้มกับความสามารถในการถ่ายทำซีรี่ย์โบราณต่างๆ ของจีนมานานจนมาเจอภาพนี้แหละ 🙄🙄😤😤
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • นะ .. ไอ้เราก็ปลื้มกับความสามารถในการถ่ายทำซีรี่ย์โบราณต่างๆ ของจีนมานานจนมาเจอภาพนี้แหละ 🙄🙄😤😤
    นะ .. ไอ้เราก็ปลื้มกับความสามารถในการถ่ายทำซีรี่ย์โบราณต่างๆ ของจีนมานานจนมาเจอภาพนี้แหละ 🙄🙄😤😤
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาหารไทยเฉิดฉาย มิชลินไกด์มาเลย์ฯ

    การประกาศรางวัลร้านอาหารมิชลินไกด์ กัวลาลัมเปอร์และปีนัง ปี 2025 (MICHELIN Guide Kuala Lumpur & Penang 2025) ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2567 มีร้านอาหารในกรุงกัวลาลัมเปอร์ และรัฐปีนังได้รับการคัดเลือก 143 แห่ง โดยมี 25 แห่ง ได้รับการคัดเลือกเป็นครั้งแรก พร้อมเปิดตัวร้านที่ได้รับรางวัล Green Star หรือรางวัลดาวมิชลินรักษ์โลกแห่งแรกในประเทศมาเลเซีย คือ ร้านเดวากาน (Dewakan) ที่นอกจากจะรักษารางวัลมิชลิน 2 ดาวด้วยเมนูอาหารที่โดดเด่นแล้ว ยังพยายามจัดหาวัตถุดิบในท้องถิ่นและใช้เป็นส่วนผสมให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเสริมรสชาติแบบดั้งเดิมของมาเลเซีย วัตถุดิบส่วนเกินยังนำไปหมักเป็นซอสโฮมเมดเพื่อลดขยะ ถือเป็นแรงบันดาลใจให้ร้านอาหารอื่นนำแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้

    ร้านใหม่ 2 แห่งได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว ได้แก่ ชิมบายเชฟหนุ่ม (Chim By Chef Noom) ร้านอาหารไทยร่วมสมัย สืบทอดอาหารไทยดั้งเดิม แต่มีการปรับเปลี่ยนเมนูที่สร้างสรรค์และการจัดจานอย่างมีสไตล์ อีกทั้งเชฟอัซมี อาหมัด กามาล ยังได้รับรางวัล Service Award อีกรางวัลหนึ่ง ส่วนอีกร้านหนึ่งคือ โมลินา (Molina) ที่มีเมนูสร้างสรรค์ที่ผสมผสานเทคนิคแบบฝรั่งเศส กลิ่นอายแบบนอร์ดิก และกลิ่นอายแบบเอเชียอย่างลงตัว โดยเชฟกีโยม เดอปูร์แตร์ ได้รับรางวัล Opening of the Year Award

    รางวัลบิบกรูมองด์ (Bib Gourmand) ร้านอาหารอร่อยและราคาสมเหตุสมผล มีร้านใหม่ 12 แห่ง ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ 5 แห่ง และปีนัง 7 แห่ง หนึ่งในนั้นคือร้าน BM Yam Rice ย่านบูกิตเมอร์ตาจัม ที่เลื่อนระดับขึ้นจาก MICHELIN Selected เมนูเด่นคือซุปหมูและเครื่องในหมูรสชาติเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมข้าวแยมไรซ์ (Yam Rice) เป็นหนึ่งในร้านอาหารราคาจับต้องได้ที่โดดเด่นที่สุดในมาเลเซีย ส่วนร้านอาหารหมวดหมู่ MICHELIN Selected มีร้านใหม่เพิ่มเติม 10 ร้าน รวมเป็น 80 ร้าน

    สำหรับร้านชิมบายเชฟหนุ่ม ตั้งอยู่ในอาคาร TSLAW Tower ย่านตุน ราซัก เอ็กซ์เชนจ์ (Tun Razak Exchange) เจ้าของร้านคือเชฟหนุ่ม ธนินธร จันทรวรรณ แห่งร้านชิมบายสยามวิสดอม (Chim by Siam Wisdom) ย่านสามเสน กรุงเทพฯ โดยใช้วัตถุดิบคุณภาพจากญี่ปุ่น ร่วมกับเครื่องเทศ ผลไม้ และผักในท้องถิ่น เมนูเด่นของร้านคือ The Lost Recipe ต้มยำสูตรโบราณกว่า 200 ปี ที่มีรสชาติกลมกล่อมลงตัว

    อนึ่ง ในภูมิภาคอาเซียนมีการจัดทำคู่มือมิชลินไกด์แล้ว 4 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์เริ่มจากฉบับปี 2016 ประเทศไทยเริ่มจากฉบับปี 2018 มาเลเซียและและเวียดนาม เริ่มจากฉบับปี 2023

    #Newskit #MICHELINGuideMY #ChimbyChefNoom
    อาหารไทยเฉิดฉาย มิชลินไกด์มาเลย์ฯ การประกาศรางวัลร้านอาหารมิชลินไกด์ กัวลาลัมเปอร์และปีนัง ปี 2025 (MICHELIN Guide Kuala Lumpur & Penang 2025) ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2567 มีร้านอาหารในกรุงกัวลาลัมเปอร์ และรัฐปีนังได้รับการคัดเลือก 143 แห่ง โดยมี 25 แห่ง ได้รับการคัดเลือกเป็นครั้งแรก พร้อมเปิดตัวร้านที่ได้รับรางวัล Green Star หรือรางวัลดาวมิชลินรักษ์โลกแห่งแรกในประเทศมาเลเซีย คือ ร้านเดวากาน (Dewakan) ที่นอกจากจะรักษารางวัลมิชลิน 2 ดาวด้วยเมนูอาหารที่โดดเด่นแล้ว ยังพยายามจัดหาวัตถุดิบในท้องถิ่นและใช้เป็นส่วนผสมให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเสริมรสชาติแบบดั้งเดิมของมาเลเซีย วัตถุดิบส่วนเกินยังนำไปหมักเป็นซอสโฮมเมดเพื่อลดขยะ ถือเป็นแรงบันดาลใจให้ร้านอาหารอื่นนำแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ ร้านใหม่ 2 แห่งได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว ได้แก่ ชิมบายเชฟหนุ่ม (Chim By Chef Noom) ร้านอาหารไทยร่วมสมัย สืบทอดอาหารไทยดั้งเดิม แต่มีการปรับเปลี่ยนเมนูที่สร้างสรรค์และการจัดจานอย่างมีสไตล์ อีกทั้งเชฟอัซมี อาหมัด กามาล ยังได้รับรางวัล Service Award อีกรางวัลหนึ่ง ส่วนอีกร้านหนึ่งคือ โมลินา (Molina) ที่มีเมนูสร้างสรรค์ที่ผสมผสานเทคนิคแบบฝรั่งเศส กลิ่นอายแบบนอร์ดิก และกลิ่นอายแบบเอเชียอย่างลงตัว โดยเชฟกีโยม เดอปูร์แตร์ ได้รับรางวัล Opening of the Year Award รางวัลบิบกรูมองด์ (Bib Gourmand) ร้านอาหารอร่อยและราคาสมเหตุสมผล มีร้านใหม่ 12 แห่ง ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ 5 แห่ง และปีนัง 7 แห่ง หนึ่งในนั้นคือร้าน BM Yam Rice ย่านบูกิตเมอร์ตาจัม ที่เลื่อนระดับขึ้นจาก MICHELIN Selected เมนูเด่นคือซุปหมูและเครื่องในหมูรสชาติเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมข้าวแยมไรซ์ (Yam Rice) เป็นหนึ่งในร้านอาหารราคาจับต้องได้ที่โดดเด่นที่สุดในมาเลเซีย ส่วนร้านอาหารหมวดหมู่ MICHELIN Selected มีร้านใหม่เพิ่มเติม 10 ร้าน รวมเป็น 80 ร้าน สำหรับร้านชิมบายเชฟหนุ่ม ตั้งอยู่ในอาคาร TSLAW Tower ย่านตุน ราซัก เอ็กซ์เชนจ์ (Tun Razak Exchange) เจ้าของร้านคือเชฟหนุ่ม ธนินธร จันทรวรรณ แห่งร้านชิมบายสยามวิสดอม (Chim by Siam Wisdom) ย่านสามเสน กรุงเทพฯ โดยใช้วัตถุดิบคุณภาพจากญี่ปุ่น ร่วมกับเครื่องเทศ ผลไม้ และผักในท้องถิ่น เมนูเด่นของร้านคือ The Lost Recipe ต้มยำสูตรโบราณกว่า 200 ปี ที่มีรสชาติกลมกล่อมลงตัว อนึ่ง ในภูมิภาคอาเซียนมีการจัดทำคู่มือมิชลินไกด์แล้ว 4 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์เริ่มจากฉบับปี 2016 ประเทศไทยเริ่มจากฉบับปี 2018 มาเลเซียและและเวียดนาม เริ่มจากฉบับปี 2023 #Newskit #MICHELINGuideMY #ChimbyChefNoom
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 736 มุมมอง 0 รีวิว
  • ย้อนไป ตอนปฏิวัติทางการเมืองของจีน..นายพล หยวนซื่อไข่ สู้ไม่ได้ ...ก็ระเห็ดไปอยู่เกาะไต้หวัน...และจุดเริ่มจากวันนั้น..ก็มีไต้หวันในวันนี้....แต่สิ่งสำคัญคือ โบราณวัตถุล้ำค่าของจีน...ที่ตกทอดมาหาลายราชวงศ์ ...ถูกนำไปด้วย...จำนวนมหาศาล....!!
    ...พิพิธภัณฑ์ที่ไต้หวัน..ก็คัดบางส่วน ออกมาจัดแสดงเรื่อยๆ ....และยังมีอีกมากมาย ที่สาธารณะชนยังไม่ได้พบเห็น.



    ย้อนไป ตอนปฏิวัติทางการเมืองของจีน..นายพล หยวนซื่อไข่ สู้ไม่ได้ ...ก็ระเห็ดไปอยู่เกาะไต้หวัน...และจุดเริ่มจากวันนั้น..ก็มีไต้หวันในวันนี้....แต่สิ่งสำคัญคือ โบราณวัตถุล้ำค่าของจีน...ที่ตกทอดมาหาลายราชวงศ์ ...ถูกนำไปด้วย...จำนวนมหาศาล....!! ...พิพิธภัณฑ์ที่ไต้หวัน..ก็คัดบางส่วน ออกมาจัดแสดงเรื่อยๆ ....และยังมีอีกมากมาย ที่สาธารณะชนยังไม่ได้พบเห็น.
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความอร่อยระดับตำนานที่อยู่คู่คนไทยเชื้อสายจีนมานานกว่า 40 ปี รื่นรสภัตตาคารเป็นอาหารจีนสไตล์แต้จิ๋วโบราณ ซึ่งปัจจุบันหาทานได้ยาก มีตั้งแต่เมนูแรกอย่าง แพะตุ๋นยาจีน กับหูฉลามน้ำแดง ผัดโหงวก้วย ข้าวผัดคะน้าปลาแห้ง เป็นต้น บอกเลยว่ารสชาติดีไม่เหมือนใคร ตอนนี้ทางร้านจัดเซตเดลิเวอรี่สำหรับครอบครัวไว้ด้วย ตามไปสั่งกันได้

    สั่งเดลิเวอรี่ 🛵 : LINE : @ruenros1976 / Line Man
    โทร : 06-44040-222, 09-7160-0004
    ร้านเปิดบริการ : 11.00-14.30 น. / 17.00-22.00 น.

    #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    ความอร่อยระดับตำนานที่อยู่คู่คนไทยเชื้อสายจีนมานานกว่า 40 ปี รื่นรสภัตตาคารเป็นอาหารจีนสไตล์แต้จิ๋วโบราณ ซึ่งปัจจุบันหาทานได้ยาก มีตั้งแต่เมนูแรกอย่าง แพะตุ๋นยาจีน กับหูฉลามน้ำแดง ผัดโหงวก้วย ข้าวผัดคะน้าปลาแห้ง เป็นต้น บอกเลยว่ารสชาติดีไม่เหมือนใคร ตอนนี้ทางร้านจัดเซตเดลิเวอรี่สำหรับครอบครัวไว้ด้วย ตามไปสั่งกันได้ สั่งเดลิเวอรี่ 🛵 : LINE : @ruenros1976 / Line Man โทร : 06-44040-222, 09-7160-0004 ร้านเปิดบริการ : 11.00-14.30 น. / 17.00-22.00 น. #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 297 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์เป็นตอนหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่ถูกทำเป็น 'วัฒนธรรมป๊อป' มากที่สุดตอนหนึ่ง มีทั้งนิยาย ภาพยนต์ และล่าสุดคือละครหรือซีรีส์

    อาจเป็นเพราะเรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์ให้อารมณ์หวาบหวิวจากการแอบลอบคบชู้กับพันบุตรศรีเทพ (ขุนวรวงศาธิราช) ทำให้มีการขยายความตอนนี้เป็นพิเศษ ทั้งๆ ประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้บอกอะไรมากนักเรื่องนี้เพียง

    ในเวลาต่อมาคอนเทนท์บันเทิงบางยุคเริ่มมีการใช้คำว่า 'แม่หยัว' เรียกท้าวศรีสุดาจันทร์ ทำให้คนเข้าใจผิดไม่น้อยว่า 'แม่หยัว' น่าจะหมายถึงอาการยั่วยวนเรื่องกามราคะ แต่ความจริง 'แม่หยัว' หมายถึง 'แม่อยู่หัว' ที่หมายถึงมเหสีของพระเจ้าแผ่นดิน

    คำว่าแม่อยู่หัวนั้นในบันทึกโบราณเรียกเพี้ยนเป็น แม่อยัว แม่หญัว แม่อยั่ว ฯลฯ แต่พอตอนนี้ของประวัติศาสตร์ถูกวัฒนธรรมป๊อปปั้นภาพลักษณ์ยั่วยวนของท้าวศรีสุดาจันทร์ขึ้นมา ทำให้คนเข้าใจคำว่า 'แม่หยัว' ผิดไป

    แต่นั้นมาคำว่า 'แม่หยัว' ก็กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์ เพียงแต่มันเกิดจากภาพจำผิดๆ ที่ 'นิยายอิงประวัติศาสตร์' สร้างขึ้นมา

    ย้ำอีกครั้งว่าเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์นั้นมีเนื้อหาไม่มากนักในทางประวัติศาสตร์ ดังนั้นถ้าจะทำเป็นคอนเทนต์บันเทิง จึงหลีกกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้อง "มโนเอาเอง" กันบ้าง เรื่องนี้เกิดขึ้นกับการสร้างคอนเทนต์บันเทิงกับบุคคลทางประวัติศาสตร์บางคนด้วย

    ที่เขียนมาทั้งหมดนี้เพื่อจะเท้าความ 'กรณีพิพาท' ระหว่างที่คนคิดว่าการทำละครอิงประวัติศาสตร์แบบเรื่อง 'แม่หยัว' ไม่เห็นจะต้องทำให้ตรงประวัติศาสตร์เป๊ะๆ กับฝ่ายที่ย้ำว่าไม่ควรที่จะมโนกันเกินไป

    ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าการทำ Historical fiction เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนถกเถียงกันมาโดยตลอดว่า มันมี "ความถูกต้องตามประวัติศาสตร์" (Historically Accurate) แค่ไหน? เพราะนิยายอิงประวัติศาสตร์จะต้องอาศัยการมโนในสัดส่วนที่มากพอสมควร เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ผู้เสพ

    ในกรณีของแม่หยัว อย่าไปถามเรื่อง "ความถูกต้องตามประวัติศาสตร์" เพราะเนื้อหาในประวัติศาสตร์มีนิดเดียว ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้จินตนาการได้มากมาย

    แต่การมโนก็ต้องดูสภาพแวดล้อมของทางประวัติศาสตร์ด้วย ไม่อย่างนั้นมันจะไม่เนียน เช่น ท้างศรีสุดาจันทร์เป็นเหตุการณ์สมัยอยุธยาตอนกลาง แต่ถ้าไปจับแม่อยู่หัวไปสวมมงกุฏสมัยละโว้มันก็หาได้เนียนไม่ เพราะเมื่อถึงยุค 'แม่หยัว' เขาเลิกใส่เครื่องหัวแบบนั้นกันแล้ว แล้วยังมีกฎมณเฑียรบาลที่ตราไว้ในสมัยอยุธยาตอนนั้นระบุการแต่งกายของแม่อยู่หัวเอาไว้แล้ว และยังมีภาพเขียนในสมุดภาพไตรภูมิสมัยอยุธยา (ที่ผมเชื่อว่าคัดมาจากต้นฉบับสมัยอยุธยาตอนต้น) ชี้ทางเอาไว้แล้วว่าสตรีชั้นสูงยุคนั้นแต่งตัวอย่างไร

    ความไม่เนียนแบบนี้เองที่จะทำให้ Historical fiction กลายเป็น Historical fantasy ซึ่งมีความเป็นประวัติศาสตร์อย่างเดียวคือฉากย้อนยุค ส่วนเรื่องอื่นๆ มโนตามใจฉัน

    แต่ในเมืองไทยเรื่องความเนียนไม่เนียนทางประวัติศาสตร์ยังไม่เรื่องใหญ่ระดับชาติ เพราะประวัติศาสร์บ้านเรากระท่อนกระแท่นและคนไทยแคร์ประวัติศาสตร์มากเท่ากับคนในประเทศเอเชียตะวันออก เช่น จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ประเทศพวกนี้นอกจากต้องทำละครให้เนียนแบบ Historically Accurate แล้ว ยังต้องทำให้ถูกต้องในแบบ Politically correct ด้วย

    ผมจะยกตัวอย่างการสังเกตส่วนตัวจากกรณีของเกาหลีใต้ที่สร้างซีรีส์ย้อนยุคอยู่บ่อยๆ และมักเกิดกรณี "ซีรีส์เรื่องนี้บิดเบือนประวัติศาสตร์"

    ตัวอย่างเช่นซีรีส์เรื่อง Queen Seondeok ในปี 2009 ซึ่งสร้างจากยุคที่บันทึกประวัติศาสตร์ไม่ละเอียดมากนัก แต่สามารถยืดออกได้มากถึง 62 ตอน ในแง่ของความถูกต้องทางประวัติศาสตร์มีน้อย แถมคอสตูมยังไม่ถูกต้อง เรื่องนี้ถูกตำหนิในเกาหลีว่า "มโนประวัติศาสตร์" มากเกินไป และยังอ้างบันทึกประวัติศาสตร์ที่ถูกกล่าวหาว่าถูกปลอมขึ้นมา

    Queen Seondeok ถูกผู้มีความรู้ทางประวัติศาสตร์ตำหนิอย่างมาก เพราะแม้ว่าบันทึกสมัยชิลลาจะมีไม่มาก แต่มันก็เป็นบันทึกที่เที่ยงแท้ในทางประวัติศาสร์ การจะบิดเบือนความสัมพันธ์ของ 'ตัวละคร' หรือพฤติกรรมที่ถูกบันทึกไว้จริงๆ จึงไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้น ความจริงแล้ว Queen Seondeok ควรจะเดินตามเส้นตรงของประวัติศาสตร์ เพราะโอกาสที่จะออกนอกประวัติศาสตร์มีแต่บทสนทนาเท่านั้น

    โปรดสังเกตว่าเรื่องนี้สร้างก่อนยุคโซเชียลจะแพร่หลาย

    พอโซเชียลมีเดียทรงพลังขึ้นมา การโจมตีซีรีส์อิงประวัติศาสตร์เริ่มจะสะเปะสะปะขึ้นทุกวัน เพราะแทนที่จะโจมตีความถูกต้อง กลับไปโจมตีเรื่องการเมือง

    ตัวอย่างเช่น Joseon Exorcist เมื่อปี 2021 ที่ฉายได้แค่ 2 ตอนก็แท้งซะก่อน เพราะถูกตำหนิว่าใช้ฉากประกอบที่อ้างว่าไม่ตรงกับความจริงทางประวัติศาสตร์ เช่น ใช้ อุปกรณ์ของจีนในเกาหลีโบราณ

    ในปี 2022 เกิดกรณี Under the Queen's Umbrella ถูกตำหนิว่า บิดเบือนประวัติศาสตร์ เพราะใช้ตัวอักษรจีนแบบตัวย่อ (ที่เพิ่งประดิษฐ์ขึ้นในยุคสมัยใหม่ ส่วนเกาหลีใช้อักษรจีนตัวเต็ม)

    ในปี 2024 มีกรณี Queen Woo ถูกตำหนิว่าเครื่องแต่งกายของตัวละครมีความเป็นจีนมากเกินไป ไม่น่าจะสอดคล้องกับคนเกาหลีในยุคโคกูรยอ (ทั้งที่โคกูรยอก็รับวัฒนธรรมจากจีน)

    กรณีเหล่านี้มีอะไรเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ 'กระแสต่อต้านจีน' ในเกาหลีใต้ ทั้งๆ ที่เกาหลีเป็นเขตอิทธิพลของวัฒนธรรมจีนมาแต่โบราณ แค่เรื่องนี้เป็น 'อคติ' ของผู้ชมเกาหลีใต้เองที่เกลียด เหยียด และกลัวจีนมากขึ้น

    แต่ในแง่เนื้อหาทางประวัติศาสตร์ กรณีพวกนี้เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ เกิดขึ้นในยุคโชซอน ซึ่งมีการบันทึกประวัติศาสตร์ทางการอย่างละเอียด กระทั่งบันทึกไว้ว่ากษัตริย์ตรัสถ้อยคำไว้อย่างไร

    ในยุคสมัยที่บันทึกละเอียดแบบนี้การมโนจึงทำไม่ได้ เพราะไม่มีพื้นที่ว่างให้จินตนาการได้อีก ตรงกันข้ามกับเรื่อง Queen Woo ซึ่งเกิดในยุคโคกูรยอ ซึ่งมีประวัติศาสตร์บันทึกกระท่อนกระแท่นเหมือนประวัติศาสตร์ไทย ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้มโนได้มากตามใจปรารถนา

    แต่ถึงจะมโนได้มาก แต่อารมณ์ชาตินิยมที่รุนแรงในเกาหลีใต้ไม่อนุญาตให้มโนได้ตามใจชอบอีก ไม่ใช่เพราะผู้สร้างบิดเบือนประวัติศาสตร์ แต่ทำงานออกมาไม่ถูกใจพวกชาตินิยมสุดโต่งต่างหาก

    ดังนั้น ในโลกของนิยายอิงประวัติศาสตร์ จึงไม่มีคำว่าถูกต้องเป๊ะๆ ยิ่งในปัจจุบันมีแต่คำว่า "ถูกใจคนดูหรือไม่" โดยที่ความถูกใจของคนดูไม่ใช่ถูกใจเพราะดาราแสดงดี หรือเครื่องแต่งกายสวย แต่ยังต้องคล้องจองกับ 'วาระทางการเมือง' ของคนดูด้วย

    ยกตัวอย่างจีน ซึ่งบางคนยังเชื่อว่าจีนทำซีรีส์พีเรียดมากมายเพราะอนุญาตให้มโนได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด

    สังคมจีนและสถาบันรัฐจีน (ที่ชาตินิยมขึ้นทุกวัน) ไม่ได้อนุญาตให้มโนประวัติศาสตร์ได้ สิ่งที่คนไทยเห็นว่าจีนจินตนาการประวัติศาสตร์นั้น คือ สิ่งที่เรียกว่า Historical fantasy คือใช้ฉากย้อนยุคที่กำกวม ใช้คอสตูมที่อาจจะอยู่ในยุคที่คาดเดาได้ แต่ไม่มีเหตุการณ์นั้นจริงๆ เช่นเรื่อง Nirvana In Fire เมื่อปี 2015 ที่ทำให้เชื่อว่าอยู่ในยุคหนานเป่ยเฉา แต่เอาจริงๆ มันไม่มีสถานการณ์จริงและตัวบุคคลจริงอยู่เลย

    หากมีซีรีส์ที่ทำเนื้อหาจริงๆ ทางประวัติศาสตร์ หากเลินเล่อเกินไปก็จะถูกโจมตีอย่างหนัก เช่น Legend of Miyue ที่อิงประวัติศาสตร์ยุคจ้านกั๋ว แต่ถูกวิจารณ์เรื่องข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ เรื่องนี้มีความเห็นที่น่าสนใจจาก หลีเสี่ยวเหว่ย บรรณาธิการบริหารของ "จงกั๋วชิงเหนียนหว่าง" (中国青年网) ของทางการจีน ตอนที่ซีรีส์เรื่องนี้ถูกตำหนิ เขากล่าวว่า

    "จักรพรรดินีองค์แรกของจีนในเรื่อง "Legend of Miyue" ซีรีส์ทางทีวีใช้ตัวละครและเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง แต่ไม่ได้ติดตามข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์พื้นฐาน และถึงกับแต่งเรื่องขึ้นมาด้วยซ้ำ ปรากฏการณ์นี้ช่างน่าเป็นห่วง ประการแรก มันจะนำพาผู้คนให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และก่อให้เกิดข่าวลือ ประการที่สอง นี่คือทิศทางที่ผิดปกติของการพัฒนาละครประวัติศาสตร์ ซึ่งจะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของละครประวัติศาสตร์ในที่สุด"

    ในเรื่องนี้ทางเกาหลีก็เห็นด้วยกับจีน

    จากกรณีของ Queen Seondeok อีจองโฮ ผู้สื่อข่าวของ "ยอนเซ ชุนชู" (연세춘추) สื่อของมหาวิทยาลัยยอนเซ ถึงกับบอกว่า "Queen Seondeok คือเรื่องโกหก" และได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งชี้แนะว่า"ตามที่ศาสตราจารย์ ชาฮเยวอน (ภาควิชาศิลปศาสตร์ ประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงของจีน) กล่าวไว้ ละครประวัติศาสตร์จีนมักจะมีความเที่ยงตรงต่อข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งแตกต่างจากละครประวัติศาสตร์เกาหลี ความจริงของละครประวัติศาสตร์เกาหลีคือความจริงทางประวัติศาสตร์ถูกละเลยเพื่อความบันเทิงและเรตติ้งผู้ชม เพื่อแก้ปัญหานี้ จำเป็นต้องมีการไตร่ตรองภายในอุตสาหกรรมการออกอากาศ"

    แม้ว่าประเทศไทยจะมีประวัติศาสตร์ที่เบาบางต่างจากจีนและเกาหลี แต่เราสามารถใช้มาตรฐานแบบนี้ได้เหมือนกัน สิ่งที่ต้องเป๊ะคือแกนหลักในประวัติศาสตร์ อย่าตีความมากเกินไปเพราะต้องเคารพ "ผู้ที่ตายไปแล้วซึ่งไม่มีโอกาสร้องอุทรณ์แก้ต่างให้ตัวเอง" ด้วย ส่วนสิ่งที่จินตนาการได้ก็ควรทำให้ตรงกับบริบทแวดล้อมของยุคนั้น

    หากทำเอาสนุกอย่างเดียว ก็ "จะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของละครประวัติศาสตร์ในที่สุด"

    บทความทัศนะโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better
    ภาพโปสเตอร์โปรโมทซีรีส์เรื่อง แม่หยัว และ Queen Seondeok

    ที่มา https://www.thebetter.co.th/news/world/23351?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR3w6ch-KVjjFiWzTmp8gh2-HSMqAh7UX0lxC3jm2_5RD0J97vIDxYCrljo_aem_wMoYw4S-NqnmnAfELQfeSA

    #Thaitimes
    เรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์เป็นตอนหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่ถูกทำเป็น 'วัฒนธรรมป๊อป' มากที่สุดตอนหนึ่ง มีทั้งนิยาย ภาพยนต์ และล่าสุดคือละครหรือซีรีส์ อาจเป็นเพราะเรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์ให้อารมณ์หวาบหวิวจากการแอบลอบคบชู้กับพันบุตรศรีเทพ (ขุนวรวงศาธิราช) ทำให้มีการขยายความตอนนี้เป็นพิเศษ ทั้งๆ ประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้บอกอะไรมากนักเรื่องนี้เพียง ในเวลาต่อมาคอนเทนท์บันเทิงบางยุคเริ่มมีการใช้คำว่า 'แม่หยัว' เรียกท้าวศรีสุดาจันทร์ ทำให้คนเข้าใจผิดไม่น้อยว่า 'แม่หยัว' น่าจะหมายถึงอาการยั่วยวนเรื่องกามราคะ แต่ความจริง 'แม่หยัว' หมายถึง 'แม่อยู่หัว' ที่หมายถึงมเหสีของพระเจ้าแผ่นดิน คำว่าแม่อยู่หัวนั้นในบันทึกโบราณเรียกเพี้ยนเป็น แม่อยัว แม่หญัว แม่อยั่ว ฯลฯ แต่พอตอนนี้ของประวัติศาสตร์ถูกวัฒนธรรมป๊อปปั้นภาพลักษณ์ยั่วยวนของท้าวศรีสุดาจันทร์ขึ้นมา ทำให้คนเข้าใจคำว่า 'แม่หยัว' ผิดไป แต่นั้นมาคำว่า 'แม่หยัว' ก็กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์ เพียงแต่มันเกิดจากภาพจำผิดๆ ที่ 'นิยายอิงประวัติศาสตร์' สร้างขึ้นมา ย้ำอีกครั้งว่าเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์นั้นมีเนื้อหาไม่มากนักในทางประวัติศาสตร์ ดังนั้นถ้าจะทำเป็นคอนเทนต์บันเทิง จึงหลีกกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้อง "มโนเอาเอง" กันบ้าง เรื่องนี้เกิดขึ้นกับการสร้างคอนเทนต์บันเทิงกับบุคคลทางประวัติศาสตร์บางคนด้วย ที่เขียนมาทั้งหมดนี้เพื่อจะเท้าความ 'กรณีพิพาท' ระหว่างที่คนคิดว่าการทำละครอิงประวัติศาสตร์แบบเรื่อง 'แม่หยัว' ไม่เห็นจะต้องทำให้ตรงประวัติศาสตร์เป๊ะๆ กับฝ่ายที่ย้ำว่าไม่ควรที่จะมโนกันเกินไป ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าการทำ Historical fiction เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนถกเถียงกันมาโดยตลอดว่า มันมี "ความถูกต้องตามประวัติศาสตร์" (Historically Accurate) แค่ไหน? เพราะนิยายอิงประวัติศาสตร์จะต้องอาศัยการมโนในสัดส่วนที่มากพอสมควร เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ผู้เสพ ในกรณีของแม่หยัว อย่าไปถามเรื่อง "ความถูกต้องตามประวัติศาสตร์" เพราะเนื้อหาในประวัติศาสตร์มีนิดเดียว ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้จินตนาการได้มากมาย แต่การมโนก็ต้องดูสภาพแวดล้อมของทางประวัติศาสตร์ด้วย ไม่อย่างนั้นมันจะไม่เนียน เช่น ท้างศรีสุดาจันทร์เป็นเหตุการณ์สมัยอยุธยาตอนกลาง แต่ถ้าไปจับแม่อยู่หัวไปสวมมงกุฏสมัยละโว้มันก็หาได้เนียนไม่ เพราะเมื่อถึงยุค 'แม่หยัว' เขาเลิกใส่เครื่องหัวแบบนั้นกันแล้ว แล้วยังมีกฎมณเฑียรบาลที่ตราไว้ในสมัยอยุธยาตอนนั้นระบุการแต่งกายของแม่อยู่หัวเอาไว้แล้ว และยังมีภาพเขียนในสมุดภาพไตรภูมิสมัยอยุธยา (ที่ผมเชื่อว่าคัดมาจากต้นฉบับสมัยอยุธยาตอนต้น) ชี้ทางเอาไว้แล้วว่าสตรีชั้นสูงยุคนั้นแต่งตัวอย่างไร ความไม่เนียนแบบนี้เองที่จะทำให้ Historical fiction กลายเป็น Historical fantasy ซึ่งมีความเป็นประวัติศาสตร์อย่างเดียวคือฉากย้อนยุค ส่วนเรื่องอื่นๆ มโนตามใจฉัน แต่ในเมืองไทยเรื่องความเนียนไม่เนียนทางประวัติศาสตร์ยังไม่เรื่องใหญ่ระดับชาติ เพราะประวัติศาสร์บ้านเรากระท่อนกระแท่นและคนไทยแคร์ประวัติศาสตร์มากเท่ากับคนในประเทศเอเชียตะวันออก เช่น จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ประเทศพวกนี้นอกจากต้องทำละครให้เนียนแบบ Historically Accurate แล้ว ยังต้องทำให้ถูกต้องในแบบ Politically correct ด้วย ผมจะยกตัวอย่างการสังเกตส่วนตัวจากกรณีของเกาหลีใต้ที่สร้างซีรีส์ย้อนยุคอยู่บ่อยๆ และมักเกิดกรณี "ซีรีส์เรื่องนี้บิดเบือนประวัติศาสตร์" ตัวอย่างเช่นซีรีส์เรื่อง Queen Seondeok ในปี 2009 ซึ่งสร้างจากยุคที่บันทึกประวัติศาสตร์ไม่ละเอียดมากนัก แต่สามารถยืดออกได้มากถึง 62 ตอน ในแง่ของความถูกต้องทางประวัติศาสตร์มีน้อย แถมคอสตูมยังไม่ถูกต้อง เรื่องนี้ถูกตำหนิในเกาหลีว่า "มโนประวัติศาสตร์" มากเกินไป และยังอ้างบันทึกประวัติศาสตร์ที่ถูกกล่าวหาว่าถูกปลอมขึ้นมา Queen Seondeok ถูกผู้มีความรู้ทางประวัติศาสตร์ตำหนิอย่างมาก เพราะแม้ว่าบันทึกสมัยชิลลาจะมีไม่มาก แต่มันก็เป็นบันทึกที่เที่ยงแท้ในทางประวัติศาสร์ การจะบิดเบือนความสัมพันธ์ของ 'ตัวละคร' หรือพฤติกรรมที่ถูกบันทึกไว้จริงๆ จึงไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้น ความจริงแล้ว Queen Seondeok ควรจะเดินตามเส้นตรงของประวัติศาสตร์ เพราะโอกาสที่จะออกนอกประวัติศาสตร์มีแต่บทสนทนาเท่านั้น โปรดสังเกตว่าเรื่องนี้สร้างก่อนยุคโซเชียลจะแพร่หลาย พอโซเชียลมีเดียทรงพลังขึ้นมา การโจมตีซีรีส์อิงประวัติศาสตร์เริ่มจะสะเปะสะปะขึ้นทุกวัน เพราะแทนที่จะโจมตีความถูกต้อง กลับไปโจมตีเรื่องการเมือง ตัวอย่างเช่น Joseon Exorcist เมื่อปี 2021 ที่ฉายได้แค่ 2 ตอนก็แท้งซะก่อน เพราะถูกตำหนิว่าใช้ฉากประกอบที่อ้างว่าไม่ตรงกับความจริงทางประวัติศาสตร์ เช่น ใช้ อุปกรณ์ของจีนในเกาหลีโบราณ ในปี 2022 เกิดกรณี Under the Queen's Umbrella ถูกตำหนิว่า บิดเบือนประวัติศาสตร์ เพราะใช้ตัวอักษรจีนแบบตัวย่อ (ที่เพิ่งประดิษฐ์ขึ้นในยุคสมัยใหม่ ส่วนเกาหลีใช้อักษรจีนตัวเต็ม) ในปี 2024 มีกรณี Queen Woo ถูกตำหนิว่าเครื่องแต่งกายของตัวละครมีความเป็นจีนมากเกินไป ไม่น่าจะสอดคล้องกับคนเกาหลีในยุคโคกูรยอ (ทั้งที่โคกูรยอก็รับวัฒนธรรมจากจีน) กรณีเหล่านี้มีอะไรเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ 'กระแสต่อต้านจีน' ในเกาหลีใต้ ทั้งๆ ที่เกาหลีเป็นเขตอิทธิพลของวัฒนธรรมจีนมาแต่โบราณ แค่เรื่องนี้เป็น 'อคติ' ของผู้ชมเกาหลีใต้เองที่เกลียด เหยียด และกลัวจีนมากขึ้น แต่ในแง่เนื้อหาทางประวัติศาสตร์ กรณีพวกนี้เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ เกิดขึ้นในยุคโชซอน ซึ่งมีการบันทึกประวัติศาสตร์ทางการอย่างละเอียด กระทั่งบันทึกไว้ว่ากษัตริย์ตรัสถ้อยคำไว้อย่างไร ในยุคสมัยที่บันทึกละเอียดแบบนี้การมโนจึงทำไม่ได้ เพราะไม่มีพื้นที่ว่างให้จินตนาการได้อีก ตรงกันข้ามกับเรื่อง Queen Woo ซึ่งเกิดในยุคโคกูรยอ ซึ่งมีประวัติศาสตร์บันทึกกระท่อนกระแท่นเหมือนประวัติศาสตร์ไทย ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้มโนได้มากตามใจปรารถนา แต่ถึงจะมโนได้มาก แต่อารมณ์ชาตินิยมที่รุนแรงในเกาหลีใต้ไม่อนุญาตให้มโนได้ตามใจชอบอีก ไม่ใช่เพราะผู้สร้างบิดเบือนประวัติศาสตร์ แต่ทำงานออกมาไม่ถูกใจพวกชาตินิยมสุดโต่งต่างหาก ดังนั้น ในโลกของนิยายอิงประวัติศาสตร์ จึงไม่มีคำว่าถูกต้องเป๊ะๆ ยิ่งในปัจจุบันมีแต่คำว่า "ถูกใจคนดูหรือไม่" โดยที่ความถูกใจของคนดูไม่ใช่ถูกใจเพราะดาราแสดงดี หรือเครื่องแต่งกายสวย แต่ยังต้องคล้องจองกับ 'วาระทางการเมือง' ของคนดูด้วย ยกตัวอย่างจีน ซึ่งบางคนยังเชื่อว่าจีนทำซีรีส์พีเรียดมากมายเพราะอนุญาตให้มโนได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด สังคมจีนและสถาบันรัฐจีน (ที่ชาตินิยมขึ้นทุกวัน) ไม่ได้อนุญาตให้มโนประวัติศาสตร์ได้ สิ่งที่คนไทยเห็นว่าจีนจินตนาการประวัติศาสตร์นั้น คือ สิ่งที่เรียกว่า Historical fantasy คือใช้ฉากย้อนยุคที่กำกวม ใช้คอสตูมที่อาจจะอยู่ในยุคที่คาดเดาได้ แต่ไม่มีเหตุการณ์นั้นจริงๆ เช่นเรื่อง Nirvana In Fire เมื่อปี 2015 ที่ทำให้เชื่อว่าอยู่ในยุคหนานเป่ยเฉา แต่เอาจริงๆ มันไม่มีสถานการณ์จริงและตัวบุคคลจริงอยู่เลย หากมีซีรีส์ที่ทำเนื้อหาจริงๆ ทางประวัติศาสตร์ หากเลินเล่อเกินไปก็จะถูกโจมตีอย่างหนัก เช่น Legend of Miyue ที่อิงประวัติศาสตร์ยุคจ้านกั๋ว แต่ถูกวิจารณ์เรื่องข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ เรื่องนี้มีความเห็นที่น่าสนใจจาก หลีเสี่ยวเหว่ย บรรณาธิการบริหารของ "จงกั๋วชิงเหนียนหว่าง" (中国青年网) ของทางการจีน ตอนที่ซีรีส์เรื่องนี้ถูกตำหนิ เขากล่าวว่า "จักรพรรดินีองค์แรกของจีนในเรื่อง "Legend of Miyue" ซีรีส์ทางทีวีใช้ตัวละครและเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง แต่ไม่ได้ติดตามข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์พื้นฐาน และถึงกับแต่งเรื่องขึ้นมาด้วยซ้ำ ปรากฏการณ์นี้ช่างน่าเป็นห่วง ประการแรก มันจะนำพาผู้คนให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และก่อให้เกิดข่าวลือ ประการที่สอง นี่คือทิศทางที่ผิดปกติของการพัฒนาละครประวัติศาสตร์ ซึ่งจะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของละครประวัติศาสตร์ในที่สุด" ในเรื่องนี้ทางเกาหลีก็เห็นด้วยกับจีน จากกรณีของ Queen Seondeok อีจองโฮ ผู้สื่อข่าวของ "ยอนเซ ชุนชู" (연세춘추) สื่อของมหาวิทยาลัยยอนเซ ถึงกับบอกว่า "Queen Seondeok คือเรื่องโกหก" และได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งชี้แนะว่า"ตามที่ศาสตราจารย์ ชาฮเยวอน (ภาควิชาศิลปศาสตร์ ประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงของจีน) กล่าวไว้ ละครประวัติศาสตร์จีนมักจะมีความเที่ยงตรงต่อข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งแตกต่างจากละครประวัติศาสตร์เกาหลี ความจริงของละครประวัติศาสตร์เกาหลีคือความจริงทางประวัติศาสตร์ถูกละเลยเพื่อความบันเทิงและเรตติ้งผู้ชม เพื่อแก้ปัญหานี้ จำเป็นต้องมีการไตร่ตรองภายในอุตสาหกรรมการออกอากาศ" แม้ว่าประเทศไทยจะมีประวัติศาสตร์ที่เบาบางต่างจากจีนและเกาหลี แต่เราสามารถใช้มาตรฐานแบบนี้ได้เหมือนกัน สิ่งที่ต้องเป๊ะคือแกนหลักในประวัติศาสตร์ อย่าตีความมากเกินไปเพราะต้องเคารพ "ผู้ที่ตายไปแล้วซึ่งไม่มีโอกาสร้องอุทรณ์แก้ต่างให้ตัวเอง" ด้วย ส่วนสิ่งที่จินตนาการได้ก็ควรทำให้ตรงกับบริบทแวดล้อมของยุคนั้น หากทำเอาสนุกอย่างเดียว ก็ "จะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของละครประวัติศาสตร์ในที่สุด" บทความทัศนะโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better ภาพโปสเตอร์โปรโมทซีรีส์เรื่อง แม่หยัว และ Queen Seondeok ที่มา https://www.thebetter.co.th/news/world/23351?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR3w6ch-KVjjFiWzTmp8gh2-HSMqAh7UX0lxC3jm2_5RD0J97vIDxYCrljo_aem_wMoYw4S-NqnmnAfELQfeSA #Thaitimes
    WWW.THEBETTER.CO.TH
    ความไม่เนียนของ'ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์' ต้องเป๊ะประวัติศาสตร์แค่ไหน?
    ความไม่เนียนของ'ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์' ต้องเป๊ะประวัติศาสตร์แค่ไหน?
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 761 มุมมอง 0 รีวิว
  • 15 พฤศจิกายน 2567 ตรงกับ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 หรือ "วันเพ็ญเดือนสิบสอง" วันลอยกระทง นะ
    กาแฟ ชา ไข่ลวก ไฮ้ หมวย https://goo.gl/maps/rf3UG3QF3pHTPSAz8
    ร้าน เจ กาแฟโบราณ https://goo.gl/maps/H7rqh7TzoHMXZHeh9
    สั่งออนไลน์ ลิงค์อยู่ในช่องแสดงความคิดเห็น
    15 พฤศจิกายน 2567 ตรงกับ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 หรือ "วันเพ็ญเดือนสิบสอง" วันลอยกระทง นะ กาแฟ ชา ไข่ลวก ไฮ้ หมวย https://goo.gl/maps/rf3UG3QF3pHTPSAz8 ร้าน เจ กาแฟโบราณ https://goo.gl/maps/H7rqh7TzoHMXZHeh9 สั่งออนไลน์ ลิงค์อยู่ในช่องแสดงความคิดเห็น
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม้ว่า ในเดือนพฤศจิกายน จะไม่มีวันหยุดพิเศษ แต่อยากให้คุณสุขใจในวันลอยกระทง นะ
    กาแฟ ชา ไข่ลวก ไฮ้ หมวย https://goo.gl/maps/rf3UG3QF3pHTPSAz8
    ร้าน เจ กาแฟโบราณ https://goo.gl/maps/H7rqh7TzoHMXZHeh9
    สั่งออนไลน์ ลิงค์อยู่ในช่องแสดงความคิดเห็น
    แม้ว่า ในเดือนพฤศจิกายน จะไม่มีวันหยุดพิเศษ แต่อยากให้คุณสุขใจในวันลอยกระทง นะ กาแฟ ชา ไข่ลวก ไฮ้ หมวย https://goo.gl/maps/rf3UG3QF3pHTPSAz8 ร้าน เจ กาแฟโบราณ https://goo.gl/maps/H7rqh7TzoHMXZHeh9 สั่งออนไลน์ ลิงค์อยู่ในช่องแสดงความคิดเห็น
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความลับใต้ดินของวาติกัน: อุโมงค์ยาว 1,500 ไมล์ของวาติกันไปยังเยรูซาเล็มและคลังทองคำลับที่ถูกโอนไปยังฟอร์ตนอกซ์! การเปิดเผยที่ทำลายประวัติศาสตร์! เปิดเผยความลับอันน่าตกตะลึงของวาติกัน: อุโมงค์ยาว 1,500 ไมล์ที่ซ่อนอยู่ซึ่งทอดยาวไปยังเยรูซาเล็มและเต็มไปด้วยทองคำที่ไม่อาจจินตนาการได้ นี่ไม่ใช่การสมคบคิด แต่เป็นความจริงอันน่าตกตะลึงที่เปิดเผยถึงอำนาจและความมั่งคั่งของวาติกัน ดำดิ่งสู่โลกแห่งเทคโนโลยีโบราณ สมบัติล้ำค่าที่ซ่อนอยู่ และการเปิดเผยที่ท้าทายประวัติศาสตร์ เตรียมตั้งคำถามกับทุกสิ่ง!
    https://amg-news.com/the-vaticans-underground-secrets-the-vaticans-1500-mile-tunnel-to-jerusalem-and-the-secret-gold-stash-transferred-to-fort-knox-a-revelation-that-shatters-history/
    ความลับใต้ดินของวาติกัน: อุโมงค์ยาว 1,500 ไมล์ของวาติกันไปยังเยรูซาเล็มและคลังทองคำลับที่ถูกโอนไปยังฟอร์ตนอกซ์! การเปิดเผยที่ทำลายประวัติศาสตร์! เปิดเผยความลับอันน่าตกตะลึงของวาติกัน: อุโมงค์ยาว 1,500 ไมล์ที่ซ่อนอยู่ซึ่งทอดยาวไปยังเยรูซาเล็มและเต็มไปด้วยทองคำที่ไม่อาจจินตนาการได้ นี่ไม่ใช่การสมคบคิด แต่เป็นความจริงอันน่าตกตะลึงที่เปิดเผยถึงอำนาจและความมั่งคั่งของวาติกัน ดำดิ่งสู่โลกแห่งเทคโนโลยีโบราณ สมบัติล้ำค่าที่ซ่อนอยู่ และการเปิดเผยที่ท้าทายประวัติศาสตร์ เตรียมตั้งคำถามกับทุกสิ่ง! https://amg-news.com/the-vaticans-underground-secrets-the-vaticans-1500-mile-tunnel-to-jerusalem-and-the-secret-gold-stash-transferred-to-fort-knox-a-revelation-that-shatters-history/
    AMG-NEWS.COM
    The Vatican’s Underground Secrets: The Vatican’s 1,500-Mile Tunnel to Jerusalem and the Secret Gold Stash Transferred to Fort Knox! A Revelation That Shatters History! - amg-news.com - American Media Group
    Uncover the Vatican's explosive secret: a hidden 1,500-mile tunnel stretching to Jerusalem, packed with unimaginable gold. This is no conspiracy—it’s a shocking truth that reveals the Vatican's grip on wealth and power. Dive deep into a world of ancient technology, hidden treasures, and a revelation that defies history. Prepare to question everything!
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 209 มุมมอง 0 รีวิว
  • #บาลีวันละคำ (4,534)

    สีสะ ศีรษะ สิระ เศียร

    อย่าเอาของสูงมาทำให้ใจเสื่อม

    (๑) “สีสะ”

    เขียนแบบบาลีเป็น “สีส” อ่านว่า สี-สะ รากศัพท์มาจาก -

    (1) สี (ธาตุ = อยู่, นอน) + ส ปัจจัย

    : สี + ส = สีส แปลตามศัพท์ว่า “อวัยวะเป็นที่อยู่ของเหาเป็นต้น” (คำแปลนี้เป็นอันแสดงความจริงว่า คนโบราณบนหัวต้องมีเหา คนสมัยใหม่ที่มีวิธีรักษาความสะอาดของหัวเป็นอย่างดีย่อมนึกไม่เห็นว่า “ศีรษะ” จะแปลอย่างนี้ได้อย่างไร)

    (2) สิ (ธาตุ = ผูก) + ส ปัจจัย, ทีฆะ อิ ที่ สิ เป็น อี (สิ > สี)

    : สิ + ส = สิส > สีส แปลตามศัพท์ว่า “อวัยวะเป็นที่ผูกผมโดยเกล้าเป็นมวย”

    “สีส” (นปุงสกลิงค์) ในภาษาบาลีใช้ในความหมายดังนี้ -

    (1) ศีรษะ (the head [of the body])
    (2) ส่วนสูงที่สุด, ยอด, ข้างหน้า (highest part, top, front)
    (3) ข้อสำคัญ (chief point)
    (4) ดอก, รวง (ของข้าวหรือพืช) (panicle, ear [of rice or crops])
    (5) หัว, หัวข้อ (เป็นข้อย่อยของเรื่อง) (head, heading [as subdivision of a subject])

    บาลี “สีส” สันสกฤตเป็น “ศีรฺษ”
    สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า -
    (สะกดตามต้นฉบับ)

    “ศีรฺษ : (คำนาม) ‘ศีร์ษะ,’ ศิรัส, เศียร, หัว; the head.”

    ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บไว้ทั้ง “สีสะ” ตามบาลี และ “ศีรษะ” ตามสันสกฤต บอกไว้ดังนี้ -

    (1) สีสะ ๒ : (คำนาม) ศีรษะ. (ป.; ส. ศีรฺษ).

    (2) ศีรษะ : (คำนาม) หัว (เป็นคำสุภาพที่ใช้แก่คน). (ส.; ป. สีส)

    โปรดสังเกตว่า -

    “สีส” บาลี สระ อี อยู่บน ส
    “ศีรฺษ” สันสกฤต สระ อี ก็อยู่บน ศ ไม่ได้อยู่บน ร
    ดังนั้น เมื่อเขียนในภาษาไทย จึงเป็น “ศีรษะ” - สระ อี อยู่บน ศ

    (๒) “สิระ”

    เขียนแบบบาลีเป็น “สิร” อ่านว่า สิ-ระ รากศัพท์มาจาก สิ (ธาตุ = คบหา, ผูก) + ร ปัจจัย

    : สิ + ร = สิร แปลตามศัพท์ว่า (1) “อวัยวะเป็นเครื่องคบหา” คือใช้ก้มยอมรับกัน (2) “อวัยวะอันคอเชื่อมไว้” (3) “ส่วนอันดอกไม้ติดอยู่”

    “สิร” (ปุงลิงค์) หมายถึง -

    (1) ศีรษะหรือหัว (head)
    (2) ยอดไม้, ปลาย (tip)

    บาลี “สิร” สันสกฤตเป็น “ศิรสฺ”
    สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอไว้ดังนี้ -
    (สะกดตามต้นฉบับ)

    “ศิรสฺ : (คำนาม) 'ศิรัส,' เศียร, ศิร์ษะ; ยอตไม้; อัครภาคหรือเสนามุข; อธิบดีหรือนายก; the head; the top of a tree; the van of an army; a chief.”

    “สิร” บาลี “ศิรสฺ” สันสกฤต ไทยเอามาใช้เป็น “เศียร”

    พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บไว้ทั้ง “สิระ” ตามบาลี “ศิระ” อิงสันสกฤต และ “เศียร” แบบไทย บอกไว้ดังนี้ -

    (1) สิร-, สิระ : (คำนาม) หัว, ยอด, ที่สุด. (ป.; ส. ศิรา).

    (2) ศิร-, ศิระ : (คำนาม) หัว, ยอด, ด้านหน้า. (ส. ศิรสฺ; ป. สิร).

    (3) เศียร : (คำนาม) หัว เช่น เศียรพระพุทธรูป ทศกัณฐ์มีสิบเศียรยี่สิบกร, ราชาศัพท์ใช้ว่า พระเศียร. (ส. ศิร; ป. สิร); เรียกไพ่ตอง ๓ ใบ พวกเดียวกัน แต่ไม่เหมือนกัน เช่น ๓ คน ๓ นก ๓ ตา ว่า ๑ เศียร.

    อภิปราย :

    บาลีวันละคำวันนี้ยกคำขึ้นตั้งว่า “สีสะ ศีรษะ สิระ เศียร” มีเจตนาจะบอกว่า -

    “สีสะ” ในบาลี เราเอามาใช้อิงสันสกฤตเป็น “ศีรษะ”
    “สิระ” ในบาลี เราเอามาใช้อิงสันสกฤตเป็น “เศียร”

    ..............

    ที่ยกคำนี้ขึ้นมาเขียน ได้แรงบันดาลใจจากภาพประกอบโพสต์ของญาติมิตรท่านหนึ่ง ข้อความในโพสต์ท่านเขียนไว้ว่า -

    ..............

    อยากให้แม่ค้าพินิจพิเคราะห์ให้ดี ก่อนที่จะนำสินค้าใด ๆ ก็ตามที่สื่อถึงพระศาสดา มาจัดจำหน่าย ไม่ว่าศาสดาของศาสนาไหนก็ตาม เช่นสินค้าชุดนี้ เป็นสินค้าที่สื่อถึงพระเศียรขององค์พระสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้า นำมาห้อยกระเป๋าหรือพวงกุญแจ ไม่เหมาะโดยประการทั้งปวง กรณีนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนยิ่ง

    ที่ผ่านมา พศ ทำได้เพียงขอความร่วมมือ

    ..............

    ผู้เขียนบาลีวันละคำเห็นด้วยอย่างยิ่งกับความที่ท่านเขียนไว้นั้น ขอเป็นสื่อสารถ่ายทอดอีกทางหนึ่ง

    ผู้เขียนบาลีวันละคำมีข้อสังเกตว่า ในเมืองไทยของเรานี้ ศาสนบุคคลและศาสนวัตถุในพระพุทธศาสนาเท่านั้นที่คนประเภทหนึ่งกล้านำมาเหยียบย่ำ เย้ยหยัน ล้อเล่น หรือปฏิบัติในลักษณะเช่นนี้

    ยังไม่เคยเห็นคนประเภทนี้นำศาสนบุคคลและศาสนวัตถุในศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลามมาเหยียบย่ำ เย้ยหยัน ล้อเล่น หรือปฏิบัติในลักษณะเช่นนี้เลย

    ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ควรศึกษาอย่างยิ่ง

    ..............

    ดูก่อนภราดา!

    เอาของสูงมาทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสม

    : ของยิ่งสูงมาก
    : ใจของผู้ทำก็ยิ่งต่ำมาก
    พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย
    #บาลีวันละคำ (4,534) สีสะ ศีรษะ สิระ เศียร อย่าเอาของสูงมาทำให้ใจเสื่อม (๑) “สีสะ” เขียนแบบบาลีเป็น “สีส” อ่านว่า สี-สะ รากศัพท์มาจาก - (1) สี (ธาตุ = อยู่, นอน) + ส ปัจจัย : สี + ส = สีส แปลตามศัพท์ว่า “อวัยวะเป็นที่อยู่ของเหาเป็นต้น” (คำแปลนี้เป็นอันแสดงความจริงว่า คนโบราณบนหัวต้องมีเหา คนสมัยใหม่ที่มีวิธีรักษาความสะอาดของหัวเป็นอย่างดีย่อมนึกไม่เห็นว่า “ศีรษะ” จะแปลอย่างนี้ได้อย่างไร) (2) สิ (ธาตุ = ผูก) + ส ปัจจัย, ทีฆะ อิ ที่ สิ เป็น อี (สิ > สี) : สิ + ส = สิส > สีส แปลตามศัพท์ว่า “อวัยวะเป็นที่ผูกผมโดยเกล้าเป็นมวย” “สีส” (นปุงสกลิงค์) ในภาษาบาลีใช้ในความหมายดังนี้ - (1) ศีรษะ (the head [of the body]) (2) ส่วนสูงที่สุด, ยอด, ข้างหน้า (highest part, top, front) (3) ข้อสำคัญ (chief point) (4) ดอก, รวง (ของข้าวหรือพืช) (panicle, ear [of rice or crops]) (5) หัว, หัวข้อ (เป็นข้อย่อยของเรื่อง) (head, heading [as subdivision of a subject]) บาลี “สีส” สันสกฤตเป็น “ศีรฺษ” สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า - (สะกดตามต้นฉบับ) “ศีรฺษ : (คำนาม) ‘ศีร์ษะ,’ ศิรัส, เศียร, หัว; the head.” ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บไว้ทั้ง “สีสะ” ตามบาลี และ “ศีรษะ” ตามสันสกฤต บอกไว้ดังนี้ - (1) สีสะ ๒ : (คำนาม) ศีรษะ. (ป.; ส. ศีรฺษ). (2) ศีรษะ : (คำนาม) หัว (เป็นคำสุภาพที่ใช้แก่คน). (ส.; ป. สีส) โปรดสังเกตว่า - “สีส” บาลี สระ อี อยู่บน ส “ศีรฺษ” สันสกฤต สระ อี ก็อยู่บน ศ ไม่ได้อยู่บน ร ดังนั้น เมื่อเขียนในภาษาไทย จึงเป็น “ศีรษะ” - สระ อี อยู่บน ศ (๒) “สิระ” เขียนแบบบาลีเป็น “สิร” อ่านว่า สิ-ระ รากศัพท์มาจาก สิ (ธาตุ = คบหา, ผูก) + ร ปัจจัย : สิ + ร = สิร แปลตามศัพท์ว่า (1) “อวัยวะเป็นเครื่องคบหา” คือใช้ก้มยอมรับกัน (2) “อวัยวะอันคอเชื่อมไว้” (3) “ส่วนอันดอกไม้ติดอยู่” “สิร” (ปุงลิงค์) หมายถึง - (1) ศีรษะหรือหัว (head) (2) ยอดไม้, ปลาย (tip) บาลี “สิร” สันสกฤตเป็น “ศิรสฺ” สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอไว้ดังนี้ - (สะกดตามต้นฉบับ) “ศิรสฺ : (คำนาม) 'ศิรัส,' เศียร, ศิร์ษะ; ยอตไม้; อัครภาคหรือเสนามุข; อธิบดีหรือนายก; the head; the top of a tree; the van of an army; a chief.” “สิร” บาลี “ศิรสฺ” สันสกฤต ไทยเอามาใช้เป็น “เศียร” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บไว้ทั้ง “สิระ” ตามบาลี “ศิระ” อิงสันสกฤต และ “เศียร” แบบไทย บอกไว้ดังนี้ - (1) สิร-, สิระ : (คำนาม) หัว, ยอด, ที่สุด. (ป.; ส. ศิรา). (2) ศิร-, ศิระ : (คำนาม) หัว, ยอด, ด้านหน้า. (ส. ศิรสฺ; ป. สิร). (3) เศียร : (คำนาม) หัว เช่น เศียรพระพุทธรูป ทศกัณฐ์มีสิบเศียรยี่สิบกร, ราชาศัพท์ใช้ว่า พระเศียร. (ส. ศิร; ป. สิร); เรียกไพ่ตอง ๓ ใบ พวกเดียวกัน แต่ไม่เหมือนกัน เช่น ๓ คน ๓ นก ๓ ตา ว่า ๑ เศียร. อภิปราย : บาลีวันละคำวันนี้ยกคำขึ้นตั้งว่า “สีสะ ศีรษะ สิระ เศียร” มีเจตนาจะบอกว่า - “สีสะ” ในบาลี เราเอามาใช้อิงสันสกฤตเป็น “ศีรษะ” “สิระ” ในบาลี เราเอามาใช้อิงสันสกฤตเป็น “เศียร” .............. ที่ยกคำนี้ขึ้นมาเขียน ได้แรงบันดาลใจจากภาพประกอบโพสต์ของญาติมิตรท่านหนึ่ง ข้อความในโพสต์ท่านเขียนไว้ว่า - .............. อยากให้แม่ค้าพินิจพิเคราะห์ให้ดี ก่อนที่จะนำสินค้าใด ๆ ก็ตามที่สื่อถึงพระศาสดา มาจัดจำหน่าย ไม่ว่าศาสดาของศาสนาไหนก็ตาม เช่นสินค้าชุดนี้ เป็นสินค้าที่สื่อถึงพระเศียรขององค์พระสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้า นำมาห้อยกระเป๋าหรือพวงกุญแจ ไม่เหมาะโดยประการทั้งปวง กรณีนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนยิ่ง ที่ผ่านมา พศ ทำได้เพียงขอความร่วมมือ .............. ผู้เขียนบาลีวันละคำเห็นด้วยอย่างยิ่งกับความที่ท่านเขียนไว้นั้น ขอเป็นสื่อสารถ่ายทอดอีกทางหนึ่ง ผู้เขียนบาลีวันละคำมีข้อสังเกตว่า ในเมืองไทยของเรานี้ ศาสนบุคคลและศาสนวัตถุในพระพุทธศาสนาเท่านั้นที่คนประเภทหนึ่งกล้านำมาเหยียบย่ำ เย้ยหยัน ล้อเล่น หรือปฏิบัติในลักษณะเช่นนี้ ยังไม่เคยเห็นคนประเภทนี้นำศาสนบุคคลและศาสนวัตถุในศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลามมาเหยียบย่ำ เย้ยหยัน ล้อเล่น หรือปฏิบัติในลักษณะเช่นนี้เลย ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ควรศึกษาอย่างยิ่ง .............. ดูก่อนภราดา! เอาของสูงมาทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสม : ของยิ่งสูงมาก : ใจของผู้ทำก็ยิ่งต่ำมาก พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • ราโชมอน: ความสัมพันธ์ของความจริงหรือการโกหกแบบโบราณ?
    ราโชมอน: ความสัมพันธ์ของความจริงหรือการโกหกแบบโบราณ?
    AKIRAKUROSAWA.INFO
    Rashomon: The Relativity of Truth, or Plain Old-Fashioned Lying?
    Discussion on the topic Rashomon: The Relativity of Truth, or Plain Old-Fashioned Lying? at the Akira Kurosawa community forums.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts