• ศาลไม่รับคดีล้มล้าง ขาดหลักฐานชัดเจน จับตาคดีในมือ กกต.-ปปช.
    .
    ที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีมติยกคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคเพื่อไทย (ผู้ถูกร้องที่ 2) ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อพิจารณารับหรือไม่รับคำร้องนี้ไว้วินิจฉัย
    .
    สำหรับคำร้องที่นายธีรยุทธยื่นมี 6 ประเด็น ประกอบด้วย ประเด็นที่ 1 นายทักษิณสั่งการรัฐบาลผ่านกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ให้เอื้อประโยชน์แก่นายทักษิณ ให้พักอาศัยอยู่ห้องพัก ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ในระหว่างรับโทษจำคุก เพื่อให้ไม่ต้องรับโทษในเรือนจำทั้งที่ไม่พบว่ามีอาการป่วยขั้นวิกฤต
    .
    ประเด็นที่ 2 นายทักษิณสั่งการรัฐบาลให้เอื้อประโยชน์แก่อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชา ให้มีการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลเพื่อแบ่งผลประโยชน์ก๊าซธรรมชาติและทรัพยากรใต้ทะเลในเขตอธิปไตยทางทะเลของประเทศไทยให้แก่ประเทศกัมพูชา
    .
    ประเด็นที่ 3 นายทักษิณสั่งการให้พรรคเพื่อไทยร่วมมือเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคประชาชน ซึ่งเป็นพรรคที่ก่อตั้งโดยกลุ่มการเมืองของพรรคก้าวไกลเดิม ที่ต้องคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญว่ามีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
    .
    ประเด็นที่ 4 นายทักษิณสั่งการแทนพรรคเพื่อไทย โดยเจรจากับแกนนำของพรรคการเมืองอื่นที่ร่วมรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมตรี เพื่อหารือการเสนอชื่อบุคคลผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่บ้านพักส่วนตัวของนายทักษิณ
    .
    ประเด็นที่ 5 นายทักษิณสั่งการให้พรรคเพื่อไทยมีมติขับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล
    .
    ประเด็นที่ 6 นายทักษิณสั่งการให้พรรคเพื่อไทยนำนโยบายของนายทักษิณที่แสดงวิสัยทัศน์ไว้ไปดำเนินการให้เป็นนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา
    .
    ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีนี้แม้ผู้ร้องจะใช้สิทธิยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดแล้วและอัยการสูงสุดไม่ดำเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ อันทำให้ผู้ร้องมีสิทธิยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ก็ตาม แต่การพิจารณาว่า บุคคลใดจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง จะต้องปรากฏข้อเท็จจริงชัดเจนเพียงพอที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งหมาย และความประสงค์ระดับที่วิญญูชนคาดเห็นได้ว่าน่าจะทำให้เกิดผลเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยการกระทำนั้นจะต้องกำลังดำเนินอยู่และไม่ห่างไกลเกินกว่าเหตุ
    .
    ข้อกล่าวอ้างในประเด็นที่ 1 และประเด็นที่ 3 ถึงประเด็นที่ 6 ยังไม่มีน้ำหนักพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าการกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองน่าจะทำให้เกิดผลเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ดังนั้น กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ ไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัยในประเด็นที่ 1 และประเด็นที่ 3 ถึงประเด็นที่ 6
    .
    สำหรับประเด็นที่ 2 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก (7 ต่อ 2) มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย
    .
    ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก จำนวน 7 คน คือ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ นายปัญญา อุดชาชน นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม นายวิรุฬห์ แสงเทียน นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ นายอุดม รัฐอมฤต และนายสุเมธ รอยกุลเจริญ เห็นว่า ยังไม่มีน้ำหนักพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าการกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองน่าจะทำให้เกิดผลเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง
    .
    ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย จำนวน 2 คน คือ นายจิรนิติ หะวานนท์ และนายนภดล เทพพิทักษ์ เห็นว่า มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าการกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองน่าจะทำให้เกิดผล เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาวินิจฉัยได้
    .
    ด้านดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย อดีตส.ว. แสดงความคิดเห็นว่าแม้ศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ์ สุวรรณเกษรที่ขอให้สั่งหยุดการกระทำของคุณทักษิณและ พท.ทั้ง 6 ประเด็น เพราะข้อเท็จจริงยังไม่เพียงพอที่จะชี้ว่าเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองฯแต่ข้อเท็จจริงทั้ง 6 ประเด็นก็ยังมีผู้ยื่นคำร้องต่อ ปปช.และ กกต.กล่าวหานายทักษิณ พรรคเพื่อไทยและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องร่วมทำผิดตามกฎหมายอื่นที่มีโทษรุนแรงทั้งต่อบุคคลและพรรคการเมือง ที่อยู่ระหว่างการเสนอเรื่องไปสิ้นสุดการพิจารณาที่ศาลยุติธรรมหรือ ศาลรัฐธรรมนูญได้อีกเป็นหลายกรณี ประชาชนพลเมืองดีของไทยจึงยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องติดตามกันต่อไป
    ..............
    Sondhi X
    ศาลไม่รับคดีล้มล้าง ขาดหลักฐานชัดเจน จับตาคดีในมือ กกต.-ปปช. . ที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีมติยกคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคเพื่อไทย (ผู้ถูกร้องที่ 2) ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อพิจารณารับหรือไม่รับคำร้องนี้ไว้วินิจฉัย . สำหรับคำร้องที่นายธีรยุทธยื่นมี 6 ประเด็น ประกอบด้วย ประเด็นที่ 1 นายทักษิณสั่งการรัฐบาลผ่านกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ให้เอื้อประโยชน์แก่นายทักษิณ ให้พักอาศัยอยู่ห้องพัก ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ในระหว่างรับโทษจำคุก เพื่อให้ไม่ต้องรับโทษในเรือนจำทั้งที่ไม่พบว่ามีอาการป่วยขั้นวิกฤต . ประเด็นที่ 2 นายทักษิณสั่งการรัฐบาลให้เอื้อประโยชน์แก่อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชา ให้มีการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลเพื่อแบ่งผลประโยชน์ก๊าซธรรมชาติและทรัพยากรใต้ทะเลในเขตอธิปไตยทางทะเลของประเทศไทยให้แก่ประเทศกัมพูชา . ประเด็นที่ 3 นายทักษิณสั่งการให้พรรคเพื่อไทยร่วมมือเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคประชาชน ซึ่งเป็นพรรคที่ก่อตั้งโดยกลุ่มการเมืองของพรรคก้าวไกลเดิม ที่ต้องคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญว่ามีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข . ประเด็นที่ 4 นายทักษิณสั่งการแทนพรรคเพื่อไทย โดยเจรจากับแกนนำของพรรคการเมืองอื่นที่ร่วมรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมตรี เพื่อหารือการเสนอชื่อบุคคลผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่บ้านพักส่วนตัวของนายทักษิณ . ประเด็นที่ 5 นายทักษิณสั่งการให้พรรคเพื่อไทยมีมติขับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล . ประเด็นที่ 6 นายทักษิณสั่งการให้พรรคเพื่อไทยนำนโยบายของนายทักษิณที่แสดงวิสัยทัศน์ไว้ไปดำเนินการให้เป็นนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา . ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีนี้แม้ผู้ร้องจะใช้สิทธิยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดแล้วและอัยการสูงสุดไม่ดำเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ อันทำให้ผู้ร้องมีสิทธิยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ก็ตาม แต่การพิจารณาว่า บุคคลใดจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง จะต้องปรากฏข้อเท็จจริงชัดเจนเพียงพอที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งหมาย และความประสงค์ระดับที่วิญญูชนคาดเห็นได้ว่าน่าจะทำให้เกิดผลเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยการกระทำนั้นจะต้องกำลังดำเนินอยู่และไม่ห่างไกลเกินกว่าเหตุ . ข้อกล่าวอ้างในประเด็นที่ 1 และประเด็นที่ 3 ถึงประเด็นที่ 6 ยังไม่มีน้ำหนักพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าการกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองน่าจะทำให้เกิดผลเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ดังนั้น กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ ไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัยในประเด็นที่ 1 และประเด็นที่ 3 ถึงประเด็นที่ 6 . สำหรับประเด็นที่ 2 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก (7 ต่อ 2) มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย . ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก จำนวน 7 คน คือ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ นายปัญญา อุดชาชน นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม นายวิรุฬห์ แสงเทียน นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ นายอุดม รัฐอมฤต และนายสุเมธ รอยกุลเจริญ เห็นว่า ยังไม่มีน้ำหนักพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าการกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองน่าจะทำให้เกิดผลเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง . ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย จำนวน 2 คน คือ นายจิรนิติ หะวานนท์ และนายนภดล เทพพิทักษ์ เห็นว่า มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าการกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองน่าจะทำให้เกิดผล เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาวินิจฉัยได้ . ด้านดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย อดีตส.ว. แสดงความคิดเห็นว่าแม้ศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ์ สุวรรณเกษรที่ขอให้สั่งหยุดการกระทำของคุณทักษิณและ พท.ทั้ง 6 ประเด็น เพราะข้อเท็จจริงยังไม่เพียงพอที่จะชี้ว่าเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองฯแต่ข้อเท็จจริงทั้ง 6 ประเด็นก็ยังมีผู้ยื่นคำร้องต่อ ปปช.และ กกต.กล่าวหานายทักษิณ พรรคเพื่อไทยและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องร่วมทำผิดตามกฎหมายอื่นที่มีโทษรุนแรงทั้งต่อบุคคลและพรรคการเมือง ที่อยู่ระหว่างการเสนอเรื่องไปสิ้นสุดการพิจารณาที่ศาลยุติธรรมหรือ ศาลรัฐธรรมนูญได้อีกเป็นหลายกรณี ประชาชนพลเมืองดีของไทยจึงยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องติดตามกันต่อไป .............. Sondhi X
    Sad
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 รีวิว
  • บึ้มขวางกวนอิมเทพา ทำลายพหุวัฒนธรรม

    6 โมงเช้า วันที่ 20 พ.ย. คนร้ายลอบวางระเบิดใส่แคมป์คนงานก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม บ้านปากบางสะกอม หมู่ 1 ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ต่อมาเวลา 10.30 น และ 10.40 น. เกิดระเบิดลูกที่ 3 และลูกที่4 บริเวณเส้นทางเข้าที่เกิดเหตุห่างจากที่เกิดเหตุจุดแรกประมาณ 400 เมตร แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ระหว่างเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบจดหมายพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์เป็นภาษาไทยและเมียนมา ระบุว่า "ถ้าใครที่ทำงานในโครงการนี้ที่นี่และในสามจังหวัดชายแดนใต้ เราขอเตือนจงหยุด ไม่งั้นเราจะไม่รับรองชีวิตของท่าน"

    พ.อ.ปองพล สุทธิเบญจกุล รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. แถลงว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุพยายามทำลายรูปเคารพทางศาสนา ซึ่งเป็นการทำลายสัญลักษณ์ของความเป็นพหุวัฒนธรรม พยายามสร้างสังคมเชิงเดี่ยวที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและหลักของศาสนาอันดีงาม เชื่อว่าพยายามหยิบความขัดแย้งทางศาสนามาเป็นปัญหาขัดแย้งในพื้นที่ แต่ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลสะบ้าย้อย แกนนำคัดค้านนิคมอุตสาหกรรมจะนะ กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส อ้างว่าไม่ใช่การวางระเบิดแบบปกติ ที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่พยายามคัดค้านการก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม เพราะมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของนิคมฯ แต่ก็แผ่วลง และเห็นว่าเป็นสิทธิ์ของนายทุน กระทั่งเริ่มลงเสาขนาดใหญ่ในพื้นที่

    เป็นที่น่าสังเกตว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ และครอบครัว ได้จัดพิธีพุทธาภิเษกเจดีย์สัมฤทธิ์ผลคุ้มลูกกันภัย ณ สถานที่ก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม เมื่อวันที่ 14 พ.ย. หรือ 6 วันก่อนเกิดเหตุ โดยมี พล.อ.มณี จันทร์ทิพย์ ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ที่ปรึกษา กอ.รมน.ภาค 4 และนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย และได้เชิญพระธรรมกิตติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาส แสดงธรรมเทศนา โดยยืนยันว่าจะเป็นแลนด์มาร์คใหม่ในจังหวัดพื้นที่ภาคใต้ เพราะบรรยากาศโดยรอบสวยงามตามธรรมชาติ หาดสวย ทะเลน้ำใส มีเสน่ห์เฉพาะตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ

    สำหรับโครงการก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม เกิดขึ้นเมื่อปี 2565 โดยบริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ได้ซื้อที่ดิน 65 ไร่ เพื่อก่อสร้าง เช่นเดียวกับเจ้าแม่กวนอิมในต่างประเทศ แต่ต่อมาคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลานำชาวมุสลิมกว่า 4,000 คน ละหมาดฮายัตเพื่อคัดค้านการก่อสร้าง อ้างว่ามีโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะอยู่เบื้องหลัง และอ้างว่าล้อมรอบด้วยชุมชนชาวมุสลิม ทั้งที่ความจริงที่ดินอยู่ห่างไกลจากชุมชนมาก ส่วนใหญ่เป็นรีสอร์ต สวนยางพารา และสวนมะพร้าวเท่านั้น

    #Newskit #เจ้าแม่กวนอิม #เทพา
    บึ้มขวางกวนอิมเทพา ทำลายพหุวัฒนธรรม 6 โมงเช้า วันที่ 20 พ.ย. คนร้ายลอบวางระเบิดใส่แคมป์คนงานก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม บ้านปากบางสะกอม หมู่ 1 ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ต่อมาเวลา 10.30 น และ 10.40 น. เกิดระเบิดลูกที่ 3 และลูกที่4 บริเวณเส้นทางเข้าที่เกิดเหตุห่างจากที่เกิดเหตุจุดแรกประมาณ 400 เมตร แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ระหว่างเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบจดหมายพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์เป็นภาษาไทยและเมียนมา ระบุว่า "ถ้าใครที่ทำงานในโครงการนี้ที่นี่และในสามจังหวัดชายแดนใต้ เราขอเตือนจงหยุด ไม่งั้นเราจะไม่รับรองชีวิตของท่าน" พ.อ.ปองพล สุทธิเบญจกุล รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. แถลงว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุพยายามทำลายรูปเคารพทางศาสนา ซึ่งเป็นการทำลายสัญลักษณ์ของความเป็นพหุวัฒนธรรม พยายามสร้างสังคมเชิงเดี่ยวที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและหลักของศาสนาอันดีงาม เชื่อว่าพยายามหยิบความขัดแย้งทางศาสนามาเป็นปัญหาขัดแย้งในพื้นที่ แต่ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลสะบ้าย้อย แกนนำคัดค้านนิคมอุตสาหกรรมจะนะ กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส อ้างว่าไม่ใช่การวางระเบิดแบบปกติ ที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่พยายามคัดค้านการก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม เพราะมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของนิคมฯ แต่ก็แผ่วลง และเห็นว่าเป็นสิทธิ์ของนายทุน กระทั่งเริ่มลงเสาขนาดใหญ่ในพื้นที่ เป็นที่น่าสังเกตว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ และครอบครัว ได้จัดพิธีพุทธาภิเษกเจดีย์สัมฤทธิ์ผลคุ้มลูกกันภัย ณ สถานที่ก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม เมื่อวันที่ 14 พ.ย. หรือ 6 วันก่อนเกิดเหตุ โดยมี พล.อ.มณี จันทร์ทิพย์ ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ที่ปรึกษา กอ.รมน.ภาค 4 และนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย และได้เชิญพระธรรมกิตติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาส แสดงธรรมเทศนา โดยยืนยันว่าจะเป็นแลนด์มาร์คใหม่ในจังหวัดพื้นที่ภาคใต้ เพราะบรรยากาศโดยรอบสวยงามตามธรรมชาติ หาดสวย ทะเลน้ำใส มีเสน่ห์เฉพาะตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ สำหรับโครงการก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม เกิดขึ้นเมื่อปี 2565 โดยบริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ได้ซื้อที่ดิน 65 ไร่ เพื่อก่อสร้าง เช่นเดียวกับเจ้าแม่กวนอิมในต่างประเทศ แต่ต่อมาคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลานำชาวมุสลิมกว่า 4,000 คน ละหมาดฮายัตเพื่อคัดค้านการก่อสร้าง อ้างว่ามีโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะอยู่เบื้องหลัง และอ้างว่าล้อมรอบด้วยชุมชนชาวมุสลิม ทั้งที่ความจริงที่ดินอยู่ห่างไกลจากชุมชนมาก ส่วนใหญ่เป็นรีสอร์ต สวนยางพารา และสวนมะพร้าวเท่านั้น #Newskit #เจ้าแม่กวนอิม #เทพา
    Like
    Sad
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 350 มุมมอง 0 รีวิว
  • องค์การสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ UNRWA แถลงว่า ขบวนคอนวอยรถบรรทุกบรรเทาทุกข์ขนอาหารจำนวน 109 คันของ UN โดนปล้นสะดมอย่างป่าเถื่อน โดยกลุ่มกองกำลังปิดหน้า คนขับรถบรรทุกโดนปืนจ่อทางใต้ของกาซา ขณะที่กาตาร์ประกาศ สำนักงานฮามาสในโดฮาปิดแค่ชั่วคราวส่วนตัวแทนเจรจาฮามาสถูกสั่งออกนอกประเทศ
    .
    บีบีซีของอังกฤษรายงานวันอังคาร(19 พ.ย)ว่า ขบวนคอนวอยบรรเทาทุกข์ร่วม 109 คันขององค์การสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ UNRWA และโครงการอาหารโลกของสหประชาชาติถูกปล้นสะดมวันเสาร์(16) ด้วยความป่าเถื่อน
    .
    และพบว่ารถบรรทุก 97 คันจากทั้งหมดสูญหายและคนขับถูกใช้ปืนจ่อสั่งให้นำสิ่งของบรรเทาทุกข์ลงมาหลังข้ามจุดข้ามแดน เคเรม ชาลอม (Kerem Shalom) ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอลเข้าสู่ทางใต้ของเขตฉวนกาซา
    .
    อ้างอิงการรายงานจากรอยเตอร์ ลุยส์ เวตริดจ์ ( Louise Wateridge )เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินระดับสูงของ UNRWA เปิดเผยว่า ขบวนคอนวอบขนอาหารบรรเทาทุกข์ถูกสั่งโดยอิสราเอลให้ออกเดินทางในช่วงเวลาการแจ้งอย่างกระชั้นชิดเดินทางผ่านเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยจากจุดข้ามแดน เคเรม ชาลอม
    .
    การปล้นสะดมสิ่งของบรรเทาทุกข์สหประชาชาติล่าสุดนี้ถือเป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา
    .
    เวตริดจ์กล่าวยืนยันว่า รถบรรทุก 98 คันจากทั้งหมด 109 คันถูกบุกค้นและมีเจ้าหน้าที่ขนส่งให้สหประชาชาติบางส่วนได้รับบาดเจ็บระหว่างเหตุที่เกิด โดยที่ไม่ได้เอ่ยชื่อระบุไปถึงคนร้ายที่บุกโจมตีคอนวอยขนส่งอาหาร UN เข้ากาซา
    .
    บีบีซีรายงานว่า ฟิลิปป์ ลาซซารินี ( Philippe Lazzarini )ผู้อำนวยการใหญ่ UNRWA ไม่ได้กล่าวไปถึงคนร้ายที่ก่อเหตุเช่นกัน แต่ยอมรับว่าสภาพแวดล้อมที่ไร้การควบคุมอย่างเป็นระบบในเขตฉนวนกาซานี้ทำให้เป็นการยากที่ทางหน่วยจะออกปฎิบัติการช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ที่ติดอยู่ระหว่างสงครามได้
    .
    และหากปราศจากการเข้าแทรกแซงทันที เชื่อว่าวิกฤตขาดอาหารร้ายแรงจะเลวร้ายลงสำหรับชาวปาเลสไตน์ร่วม 2 ล้านคนที่พึ่งพาความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมอ้างอิงจาก UNRWA
    .
    กระทรวงมหาดไทยกาซาแถลงว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงกาซาที่เกี่ยวข้องกับฮามาสได้สังหารสมาชิกแก๊งไปไม่ต่ำกว่า 20 คนในการขโมยรถบรรทุกเพื่อการบรรเทาทุกข์ในปฎิบัติการในความร่วมมือกับคณะกรรมการชนเผ่า
    .
    ทั้งนี้สัปดาห์ที่แล้ว องค์กร NGO จำนวน 29 แห่งเปิดเผยในรายงานว่า การปล้นสะดมขบวนคอนวอยบรรเทาทุกข์นั้นเป็นผลที่ตามมาจากการที่อิสราเอลตั้งเป้าโจมตีกองกำลังตำรวจที่ยังเหลืออยู่ในกาซา
    .
    ขณะเดียวกันกาตาร์ซึ่งได้ประกาศถอนตัวจากการเป็นประเทศตัวกลางไกล่เกลี่ยเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาส เอเอฟพีรายงานว่า โดฮาแถลงวันอังคาร(19)กล่าวว่า การปิดสำนักงานฮามาสนี้เป็นการปิดแค่ชั่วคราว
    .
    มาเจด อัล-อันซารี (Majed Al-Ansari) โฆษกกระทรวงต่างประเทศกาตาร์ กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “บรรดาผู้นำของฮามาสที่อยู่ในทีมเจรจาปัจจุบันไม่ได้อยู่ในกรุงโดฮา”
    .
    และเสริมต่อว่า “การตัดสินใจ..ในการปิดสำนักงาน(ฮามาส)อย่างถาวรจะเป็นสิ่งที่พวกคุณจะได้ยินโดยตรงจากพวกเรา”
    .
    อย่างไรก็ตาม แกนนำระดับสูงของฮามาสได้ให้สัมภาษณ์เอเอฟพีวันจันทร์(18)ว่า “ไม่มีใครขอให้พวกเราเดินทางออกไป”
    .
    พร้อมกันนั้นยังได้โต้รายงานที่อ้างว่าบรรดาสมาชิกได้โยกย้ายไปอยู่ในตุรกีแทน โดยกล่าวว่า “บรรดาผู้นำจากระดับที่แตกต่างในหน่วยการเมืองของฮามาสต่างเดินทางเข้าตุรกีเป็นระยะๆ”
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111413
    ..............
    Sondhi X
    องค์การสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ UNRWA แถลงว่า ขบวนคอนวอยรถบรรทุกบรรเทาทุกข์ขนอาหารจำนวน 109 คันของ UN โดนปล้นสะดมอย่างป่าเถื่อน โดยกลุ่มกองกำลังปิดหน้า คนขับรถบรรทุกโดนปืนจ่อทางใต้ของกาซา ขณะที่กาตาร์ประกาศ สำนักงานฮามาสในโดฮาปิดแค่ชั่วคราวส่วนตัวแทนเจรจาฮามาสถูกสั่งออกนอกประเทศ . บีบีซีของอังกฤษรายงานวันอังคาร(19 พ.ย)ว่า ขบวนคอนวอยบรรเทาทุกข์ร่วม 109 คันขององค์การสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ UNRWA และโครงการอาหารโลกของสหประชาชาติถูกปล้นสะดมวันเสาร์(16) ด้วยความป่าเถื่อน . และพบว่ารถบรรทุก 97 คันจากทั้งหมดสูญหายและคนขับถูกใช้ปืนจ่อสั่งให้นำสิ่งของบรรเทาทุกข์ลงมาหลังข้ามจุดข้ามแดน เคเรม ชาลอม (Kerem Shalom) ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอลเข้าสู่ทางใต้ของเขตฉวนกาซา . อ้างอิงการรายงานจากรอยเตอร์ ลุยส์ เวตริดจ์ ( Louise Wateridge )เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินระดับสูงของ UNRWA เปิดเผยว่า ขบวนคอนวอบขนอาหารบรรเทาทุกข์ถูกสั่งโดยอิสราเอลให้ออกเดินทางในช่วงเวลาการแจ้งอย่างกระชั้นชิดเดินทางผ่านเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยจากจุดข้ามแดน เคเรม ชาลอม . การปล้นสะดมสิ่งของบรรเทาทุกข์สหประชาชาติล่าสุดนี้ถือเป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา . เวตริดจ์กล่าวยืนยันว่า รถบรรทุก 98 คันจากทั้งหมด 109 คันถูกบุกค้นและมีเจ้าหน้าที่ขนส่งให้สหประชาชาติบางส่วนได้รับบาดเจ็บระหว่างเหตุที่เกิด โดยที่ไม่ได้เอ่ยชื่อระบุไปถึงคนร้ายที่บุกโจมตีคอนวอยขนส่งอาหาร UN เข้ากาซา . บีบีซีรายงานว่า ฟิลิปป์ ลาซซารินี ( Philippe Lazzarini )ผู้อำนวยการใหญ่ UNRWA ไม่ได้กล่าวไปถึงคนร้ายที่ก่อเหตุเช่นกัน แต่ยอมรับว่าสภาพแวดล้อมที่ไร้การควบคุมอย่างเป็นระบบในเขตฉนวนกาซานี้ทำให้เป็นการยากที่ทางหน่วยจะออกปฎิบัติการช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ที่ติดอยู่ระหว่างสงครามได้ . และหากปราศจากการเข้าแทรกแซงทันที เชื่อว่าวิกฤตขาดอาหารร้ายแรงจะเลวร้ายลงสำหรับชาวปาเลสไตน์ร่วม 2 ล้านคนที่พึ่งพาความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมอ้างอิงจาก UNRWA . กระทรวงมหาดไทยกาซาแถลงว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงกาซาที่เกี่ยวข้องกับฮามาสได้สังหารสมาชิกแก๊งไปไม่ต่ำกว่า 20 คนในการขโมยรถบรรทุกเพื่อการบรรเทาทุกข์ในปฎิบัติการในความร่วมมือกับคณะกรรมการชนเผ่า . ทั้งนี้สัปดาห์ที่แล้ว องค์กร NGO จำนวน 29 แห่งเปิดเผยในรายงานว่า การปล้นสะดมขบวนคอนวอยบรรเทาทุกข์นั้นเป็นผลที่ตามมาจากการที่อิสราเอลตั้งเป้าโจมตีกองกำลังตำรวจที่ยังเหลืออยู่ในกาซา . ขณะเดียวกันกาตาร์ซึ่งได้ประกาศถอนตัวจากการเป็นประเทศตัวกลางไกล่เกลี่ยเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาส เอเอฟพีรายงานว่า โดฮาแถลงวันอังคาร(19)กล่าวว่า การปิดสำนักงานฮามาสนี้เป็นการปิดแค่ชั่วคราว . มาเจด อัล-อันซารี (Majed Al-Ansari) โฆษกกระทรวงต่างประเทศกาตาร์ กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “บรรดาผู้นำของฮามาสที่อยู่ในทีมเจรจาปัจจุบันไม่ได้อยู่ในกรุงโดฮา” . และเสริมต่อว่า “การตัดสินใจ..ในการปิดสำนักงาน(ฮามาส)อย่างถาวรจะเป็นสิ่งที่พวกคุณจะได้ยินโดยตรงจากพวกเรา” . อย่างไรก็ตาม แกนนำระดับสูงของฮามาสได้ให้สัมภาษณ์เอเอฟพีวันจันทร์(18)ว่า “ไม่มีใครขอให้พวกเราเดินทางออกไป” . พร้อมกันนั้นยังได้โต้รายงานที่อ้างว่าบรรดาสมาชิกได้โยกย้ายไปอยู่ในตุรกีแทน โดยกล่าวว่า “บรรดาผู้นำจากระดับที่แตกต่างในหน่วยการเมืองของฮามาสต่างเดินทางเข้าตุรกีเป็นระยะๆ” . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111413 .............. Sondhi X
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 575 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ในทบิลิซี เมืองหลวงของประเทศจอร์เจีย ขณะเจ้าหน้าที่เข้ารื้อถอนเต็นท์ของผู้มาชุมนุมคัดค้านผลการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน

    เหตุการณ์เกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่มหาวิทยาลัยทบิลิซี ซึ่งเป็นแหล่งรวมอาจารย์และแกนนำที่ฝักใฝ่ตะวันตก และไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง
    .
    ทางด้านประธานาธิบดีแห่งจอร์เจีย หรือที่รู้จักในนามตัวแทนต่างชาติ ซึ่งมีสัญชาติฝรั่งเศส ได้เรียกร้องประชาชนให้ออกมาชุมนุมเพื่อกดดันรัฐบาลจัดการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง

    เธอยังประกาศอีกว่า จะยื่นฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 19 พฤศจิกายน นี้ เพื่อล้มผลการเลือกตั้งครั้ล่าสุด โดยกล่าวหาว่ามีการโกงการเลือกตั้ง
    ภาพการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ในทบิลิซี เมืองหลวงของประเทศจอร์เจีย ขณะเจ้าหน้าที่เข้ารื้อถอนเต็นท์ของผู้มาชุมนุมคัดค้านผลการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน เหตุการณ์เกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่มหาวิทยาลัยทบิลิซี ซึ่งเป็นแหล่งรวมอาจารย์และแกนนำที่ฝักใฝ่ตะวันตก และไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง . ทางด้านประธานาธิบดีแห่งจอร์เจีย หรือที่รู้จักในนามตัวแทนต่างชาติ ซึ่งมีสัญชาติฝรั่งเศส ได้เรียกร้องประชาชนให้ออกมาชุมนุมเพื่อกดดันรัฐบาลจัดการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง เธอยังประกาศอีกว่า จะยื่นฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 19 พฤศจิกายน นี้ เพื่อล้มผลการเลือกตั้งครั้ล่าสุด โดยกล่าวหาว่ามีการโกงการเลือกตั้ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • จะได้จบกันไปไม่ต้องมาทวงบุญคุณกันอีก! “ไพเจน” ยอมหลีกทางไม่ลงสมัครนายก อบจ.สงขลาสมัยที่ 2

    จากกรณีที่นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ประกาศแล้วว่าจะไม่ให้นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา ลงสมัครชิงเก้าอี้นายก อบจ.อีกสมัยแน่นอน เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาในการเลือกตั้งท้องถิ่นอีกนั้น

    รายงานข่าวแจ้งว่า นายไพเจน มากสุวรรณ์ ได้ยอมรับที่จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลาครั้งที่ 2 แม้ว่าจะได้จัดทีม “รวมพลังร่วมสร้างสุข” ที่มีว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) สงขลาร่วมทีมแล้ว 27 คน โดยนายไพเจนให้เหตุผลว่า ได้มีการเจรจากับนายเดชอิศม์ ภายใต้เงื่อนไข 3 ข้อ และเพื่อเป็นการทดแทนบุญคุณผู้มีพระคุณทั้งสองคนคือนายเดชอิศม์ และนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ว่าที่ผู้สมัคร นายก อบจ.สงขลา ซึ่งได้ชักชวนเข้าสู่วงการการเมือง รวมทั้งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ให้การสนับสนุน

    “จะได้จบกันไป ไม่ต้องมาทวงบุญคุณกันอีกต่อไป และแม้ว่า ผมจะไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา แต่จะไม่ทิ้งพื้นที่ จะยังคงอยู่กับประชาชชนต่อไป ยังคงหาช่องทางประสานช่วยเหลือประชาชนต่อไปโดยเฉพาะภาคการเกษตร”

    ด้านนายอริย์ธัช ทองเพชร ประธานสภา อบจ.สงขลา แกนนำทีม ”รวมพลังร่วมสร้างสุข”กล่าวว่า ลูกทีมทั้ง 27 คนจะต้องเดินลงสนามเลือกตั้งต่อไม่ว่าจะเกิดอะไรในอนาคตเพื่อรักษาศักดิ์ศรี ทั้งนี้ มีประชาชนจำนวนไม่น้อยเสียดายที่นายไพเจนจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา
    จะได้จบกันไปไม่ต้องมาทวงบุญคุณกันอีก! “ไพเจน” ยอมหลีกทางไม่ลงสมัครนายก อบจ.สงขลาสมัยที่ 2 จากกรณีที่นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ประกาศแล้วว่าจะไม่ให้นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา ลงสมัครชิงเก้าอี้นายก อบจ.อีกสมัยแน่นอน เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาในการเลือกตั้งท้องถิ่นอีกนั้น รายงานข่าวแจ้งว่า นายไพเจน มากสุวรรณ์ ได้ยอมรับที่จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลาครั้งที่ 2 แม้ว่าจะได้จัดทีม “รวมพลังร่วมสร้างสุข” ที่มีว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) สงขลาร่วมทีมแล้ว 27 คน โดยนายไพเจนให้เหตุผลว่า ได้มีการเจรจากับนายเดชอิศม์ ภายใต้เงื่อนไข 3 ข้อ และเพื่อเป็นการทดแทนบุญคุณผู้มีพระคุณทั้งสองคนคือนายเดชอิศม์ และนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ว่าที่ผู้สมัคร นายก อบจ.สงขลา ซึ่งได้ชักชวนเข้าสู่วงการการเมือง รวมทั้งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ให้การสนับสนุน “จะได้จบกันไป ไม่ต้องมาทวงบุญคุณกันอีกต่อไป และแม้ว่า ผมจะไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา แต่จะไม่ทิ้งพื้นที่ จะยังคงอยู่กับประชาชชนต่อไป ยังคงหาช่องทางประสานช่วยเหลือประชาชนต่อไปโดยเฉพาะภาคการเกษตร” ด้านนายอริย์ธัช ทองเพชร ประธานสภา อบจ.สงขลา แกนนำทีม ”รวมพลังร่วมสร้างสุข”กล่าวว่า ลูกทีมทั้ง 27 คนจะต้องเดินลงสนามเลือกตั้งต่อไม่ว่าจะเกิดอะไรในอนาคตเพื่อรักษาศักดิ์ศรี ทั้งนี้ มีประชาชนจำนวนไม่น้อยเสียดายที่นายไพเจนจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทักษิณ-ธนาธร โต้เดือด อย่ารื้อโครงสร้าง ม.112 สวนกลับไม่เคยพูด-ตั้งแง่ร่วมรัฐบาล
    .
    ทักษิณให้สัมภาษณ์พาดพิงธนาธร เคยคุยเรื่องมาตรา 112 ว่าตัวเองก็โดน ขอให้ช่วยทำงานให้บ้านเมือง อย่าพยายามไปรื้อโครงสร้างให้มากเกินไป ด้านธนาธรโต้ไม่เคยคุยเรื่องนี้กับทักษิณ และไม่ใช่เงื่อนไขร่วมรัฐบาล ทักษิณก็รู้ดี เหน็บแทนที่จะร่วมแก้ปัญหา กลับเลือกเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา
    .
    วันนี้ (15 พ.ย.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก ตอบโต้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์พาดพิงเรื่องแก้ไขมาตรา 112 ว่า นายทักษิณรู้ดีที่สุด ว่าเหตุผลที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยไม่ได้ร่วมรัฐบาลกัน ไม่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 สิ่งที่นายทักษิณกล่าว อาจทำให้คนทั่วเข้าใจไปได้ว่า ตนเคยคุยกับคุณทักษิณเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 หรือมีความคิดรุนแรงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งในความเป็นจริงเราไม่ได้พูดคุยตกลงอะไรกันเรื่องนี้เลย การพูดคลุมเครือยังเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งต่อพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชน เพื่อพยายามสร้างความเข้าใจในหมู่ประชาชนว่าเหตุที่ดีลร่วมรัฐบาลล่ม เป็นเพราะพรรคก้าวไกลไม่ยอมลดราวาศอกเรื่อง 112
    .
    "มาตรา 112 ไม่ใช่เงื่อนไขการร่วมรัฐบาล ไม่ใช่ว่าพรรคก้าวไกลเสนอให้การแก้ไขมาตรา 112 เป็นเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล และเมื่อถูกทักท้วงจากพรรคเพื่อไทยและพรรคอื่นแล้วก็ไม่ยอมถอย มาตรา 112 ไม่เคยอยู่ในเงื่อนไขตั้งแต่แรกต่างหาก ไม่มีอยู่ในเอ็มโอยูร่วมรัฐบาลที่เซ็นร่วมกันและเป็นที่รับรู้ต่อสาธารณะ คุณทักษิณรู้ดีที่สุด ไม่ใช่แกนนำพรรคก้าวไกลมุทะลุ ไม่มีวุฒิภาวะ แต่มีเหตุผลอื่นที่จะไม่ร่วมกัน แล้วใช้มาตรา 112 เป็นข้ออ้างต่างหาก ในทางกลับกัน คุณทักษิณเอง น่าจะเป็นคนที่เข้าใจปัญหาโครงสร้างดีที่สุด แทนที่จะร่วมแก้ปัญหา กลับเลือกเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา" นายธนาธร กล่าว
    .
    นายธนาธร กล่าวว่า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ไม่เคยโฆษณาหรือใช้เรื่องมาตรา 112 เป็นประเด็นหลักในการรณรงค์เพื่อคะแนนนิยมในการเลือกตั้ง ซึ่งจะตอบหรือพูดเรื่องมาตรา 112 เมื่อถูกสื่อมวลชนหรือประชาชนถามเท่านั้น ตนทราบดีว่าการแก้ไขปัญหาโครงสร้างที่สั่งสมมาหลายสิบปีของประเทศไม่ใช่สิ่งที่ลัดขั้นตอนได้ แต่ต้องทำงานความคิดอย่างหนักและต่อเนื่อง เพื่อให้สังคมเห็นชอบร่วมกัน และแก้ปัญหาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตนเห็นว่าถ้าไม่แก้ปัญหาโครงสร้าง ก็ปะผุประเทศไทยกันต่อไป ประเทศจะเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน มีแต่การให้คนในสังคมมีวุฒิภาวะพอ กล้ายอมรับปัญหา เผชิญหน้า และค่อยๆ พูดคุยหาทางออกร่วมกัน
    .
    ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 พ.ย. นายทักษิณให้สัมภาษณ์ระหว่างช่วยหาเสียงตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ว่า คดีมาตรา 112 เป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลให้สัตยาบันไว้ว่า จะเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ จะไม่แตะเรื่อง 112 แต่จริงๆ แล้วปัญหาอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมาย ตนก็เป็นเหยื่อรายหนึ่ง ในการบังคับใช้กฎหมาย มาตรา 112 คนที่รับคดีครั้งแรกบอกว่าเดี๋ยวจะหาว่าไม่จงรักภักดี ฟ้องไปก่อน ทั้งที่หลักฐานไม่มี คนที่สองไม่ฟ้องเดี๋ยวโดนอีก ก็ฟ้อง โดยที่ไม่ได้ดูความถูกต้องของพยานหลักฐาน จึงทำให้การจงรักภักดีและรักสถาบันฯ ไม่ถูกต้อง การจงรักภักดีที่ถูกต้อง คือการรักษากฎหมายที่เป็นธรรม เป็นสิ่งที่ต้องแก้ไข แต่ก็ไม่ง่ายในการแก้ซึ่งต้องใช้เวลา
    .
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ในแต่ละเหตุการณ์มีบริบทเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ทั้งเหตุการณ์รัฐประหารปี 2549, 2557 จนถึงพรรคการเมืองโดนยุบเพราะมีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 นายทักษิณ กล่าวว่า จริงๆ แล้วตนเคยคุยกับนายธนาธร ว่าตนก็โดน 3 พรรค ต้องไปอยู่ต่างประเทศ 17 ปี ดังนั้นขอให้ช่วยทำงานให้บ้านเมือง อย่าพยายามไปรื้อโครงสร้างให้มากเกินไป ถ้าแก้ปัญหาด้วยหลักการ และเอาบ้านเมืองให้อยู่ได้จะดีที่สุด อย่าไปคิดถึงสิ่งที่มีอยู่ สิ่งที่คนไทยเคารพนับถือ ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญของสถาบันฯ เราต้องจรรโลงอย่างเดียว ตนไม่ได้บอกว่านายธนาธรหรือพรรคก้าวไกลไม่จงรักภักดี แต่ต้องยึดหลักให้ถูกต้อง อย่าไปมุ่งหาเสียง บางทีจุดที่โฆษณามันอันตรายกว่าความตั้งใจที่จะทำ
    ..............
    Sondhi X
    ทักษิณ-ธนาธร โต้เดือด อย่ารื้อโครงสร้าง ม.112 สวนกลับไม่เคยพูด-ตั้งแง่ร่วมรัฐบาล . ทักษิณให้สัมภาษณ์พาดพิงธนาธร เคยคุยเรื่องมาตรา 112 ว่าตัวเองก็โดน ขอให้ช่วยทำงานให้บ้านเมือง อย่าพยายามไปรื้อโครงสร้างให้มากเกินไป ด้านธนาธรโต้ไม่เคยคุยเรื่องนี้กับทักษิณ และไม่ใช่เงื่อนไขร่วมรัฐบาล ทักษิณก็รู้ดี เหน็บแทนที่จะร่วมแก้ปัญหา กลับเลือกเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา . วันนี้ (15 พ.ย.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก ตอบโต้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์พาดพิงเรื่องแก้ไขมาตรา 112 ว่า นายทักษิณรู้ดีที่สุด ว่าเหตุผลที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยไม่ได้ร่วมรัฐบาลกัน ไม่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 สิ่งที่นายทักษิณกล่าว อาจทำให้คนทั่วเข้าใจไปได้ว่า ตนเคยคุยกับคุณทักษิณเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 หรือมีความคิดรุนแรงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งในความเป็นจริงเราไม่ได้พูดคุยตกลงอะไรกันเรื่องนี้เลย การพูดคลุมเครือยังเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งต่อพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชน เพื่อพยายามสร้างความเข้าใจในหมู่ประชาชนว่าเหตุที่ดีลร่วมรัฐบาลล่ม เป็นเพราะพรรคก้าวไกลไม่ยอมลดราวาศอกเรื่อง 112 . "มาตรา 112 ไม่ใช่เงื่อนไขการร่วมรัฐบาล ไม่ใช่ว่าพรรคก้าวไกลเสนอให้การแก้ไขมาตรา 112 เป็นเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล และเมื่อถูกทักท้วงจากพรรคเพื่อไทยและพรรคอื่นแล้วก็ไม่ยอมถอย มาตรา 112 ไม่เคยอยู่ในเงื่อนไขตั้งแต่แรกต่างหาก ไม่มีอยู่ในเอ็มโอยูร่วมรัฐบาลที่เซ็นร่วมกันและเป็นที่รับรู้ต่อสาธารณะ คุณทักษิณรู้ดีที่สุด ไม่ใช่แกนนำพรรคก้าวไกลมุทะลุ ไม่มีวุฒิภาวะ แต่มีเหตุผลอื่นที่จะไม่ร่วมกัน แล้วใช้มาตรา 112 เป็นข้ออ้างต่างหาก ในทางกลับกัน คุณทักษิณเอง น่าจะเป็นคนที่เข้าใจปัญหาโครงสร้างดีที่สุด แทนที่จะร่วมแก้ปัญหา กลับเลือกเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา" นายธนาธร กล่าว . นายธนาธร กล่าวว่า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ไม่เคยโฆษณาหรือใช้เรื่องมาตรา 112 เป็นประเด็นหลักในการรณรงค์เพื่อคะแนนนิยมในการเลือกตั้ง ซึ่งจะตอบหรือพูดเรื่องมาตรา 112 เมื่อถูกสื่อมวลชนหรือประชาชนถามเท่านั้น ตนทราบดีว่าการแก้ไขปัญหาโครงสร้างที่สั่งสมมาหลายสิบปีของประเทศไม่ใช่สิ่งที่ลัดขั้นตอนได้ แต่ต้องทำงานความคิดอย่างหนักและต่อเนื่อง เพื่อให้สังคมเห็นชอบร่วมกัน และแก้ปัญหาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตนเห็นว่าถ้าไม่แก้ปัญหาโครงสร้าง ก็ปะผุประเทศไทยกันต่อไป ประเทศจะเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน มีแต่การให้คนในสังคมมีวุฒิภาวะพอ กล้ายอมรับปัญหา เผชิญหน้า และค่อยๆ พูดคุยหาทางออกร่วมกัน . ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 พ.ย. นายทักษิณให้สัมภาษณ์ระหว่างช่วยหาเสียงตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ว่า คดีมาตรา 112 เป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลให้สัตยาบันไว้ว่า จะเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ จะไม่แตะเรื่อง 112 แต่จริงๆ แล้วปัญหาอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมาย ตนก็เป็นเหยื่อรายหนึ่ง ในการบังคับใช้กฎหมาย มาตรา 112 คนที่รับคดีครั้งแรกบอกว่าเดี๋ยวจะหาว่าไม่จงรักภักดี ฟ้องไปก่อน ทั้งที่หลักฐานไม่มี คนที่สองไม่ฟ้องเดี๋ยวโดนอีก ก็ฟ้อง โดยที่ไม่ได้ดูความถูกต้องของพยานหลักฐาน จึงทำให้การจงรักภักดีและรักสถาบันฯ ไม่ถูกต้อง การจงรักภักดีที่ถูกต้อง คือการรักษากฎหมายที่เป็นธรรม เป็นสิ่งที่ต้องแก้ไข แต่ก็ไม่ง่ายในการแก้ซึ่งต้องใช้เวลา . ผู้สื่อข่าวถามว่า ในแต่ละเหตุการณ์มีบริบทเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ทั้งเหตุการณ์รัฐประหารปี 2549, 2557 จนถึงพรรคการเมืองโดนยุบเพราะมีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 นายทักษิณ กล่าวว่า จริงๆ แล้วตนเคยคุยกับนายธนาธร ว่าตนก็โดน 3 พรรค ต้องไปอยู่ต่างประเทศ 17 ปี ดังนั้นขอให้ช่วยทำงานให้บ้านเมือง อย่าพยายามไปรื้อโครงสร้างให้มากเกินไป ถ้าแก้ปัญหาด้วยหลักการ และเอาบ้านเมืองให้อยู่ได้จะดีที่สุด อย่าไปคิดถึงสิ่งที่มีอยู่ สิ่งที่คนไทยเคารพนับถือ ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญของสถาบันฯ เราต้องจรรโลงอย่างเดียว ตนไม่ได้บอกว่านายธนาธรหรือพรรคก้าวไกลไม่จงรักภักดี แต่ต้องยึดหลักให้ถูกต้อง อย่าไปมุ่งหาเสียง บางทีจุดที่โฆษณามันอันตรายกว่าความตั้งใจที่จะทำ .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 909 มุมมอง 0 รีวิว
  • อำนาจภายใต้การเมืองสีน้ำเงิน
    โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ https://www.facebook.com/surawich.verawan

    การที่อธิบดีกรมที่ดินที่อยู่ภายใต้พรรคภูมิใจไทย ทำหนังสือถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า “คณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินการรถไฟฯ บริเวณแยกเขากระโดงเนื่องจาก รฟท. ไม่มีหลักฐานเป็นที่ข้อยุติว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของ รฟท.จึงเห็นควรยุติเรื่องในกรณีนี้”

    กำลังท้าทายกับกระแสสังคมและกระบวนการยุติธรรมที่เป็นบรรทัดฐานของประเทศ เข้าใจครับว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวแต่งตั้งขึ้นตามคำสั่งของศาลปกครองในคดีที่การรถไฟฯ ฟ้องกรมที่ดิน แต่นัยของคำสั่งนั้นหากอ่านคำพิพากษาของศาลปกครองแล้ว จะพบว่า ศาลต้องการให้ตั้งกรรมการขึ้นมาเพื่อเพิกถอนสิทธิการถือครองที่ดินตามคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ผู้ถือครองที่ดินเขากระโดงจำนวน 37 แปลงฟ้องการรถไฟฯ (คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 8027/2561 และ 842-876/260 ) แต่คำพิพากษาศาลฎีกาชี้ชัดว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯ ซึ่งศาลปกครองหมายรวมถึงแปลงอื่นที่อยู่นอกเหนือแปลงที่นำขึ้นสู่ศาลฎีกาด้วย

    แต่กรมที่ดินซึ่งตั้งกรรมการขึ้นตามคำสั่งศาลปกครองกลับมีมติว่า การรถไฟฯ ไม่มีหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดินเขากระโดงทั้งที่ศาลฎีกาชี้แล้วว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯแม้ว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บอกว่า ไม่ได้สั่งการอะไรกรมที่ดิน แต่คำถามว่า มีใครบ้างที่จะเชื่อ

    อนุทินอ้างว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวที่ตั้งขึ้นตามคำสั่งของศาลปกครองตั้งขึ้นมาก่อนที่พรรคภูมิใจไทยและตัวเองจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย แต่จุดหมายสำคัญก็คือ กรรมการชุดนี้สามารถมีมติได้ในวันที่พรรคภูมิใจไทยมีอำนาจในกระทรวงมหาดไทย และอนุทินมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีและเมื่อไม่นานมานี้อธิบดีกรมที่ดินคนหนึ่งก็ได้ชิงลาออกไป ซึ่งกล่าวขานกันว่า เพราะปมที่ดินเขากระโดงนั่นเอง

    เป็นที่รู้กันว่า ในจำนวนที่ดิน 800 กว่าแปลงในพื้นที่เขากระโดงนั้น ผู้ถือครองรายใหญ่ก็คือ ตระกูลชิดชอบ ไปถามพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ก็รู้เรื่องนี้ดีเพราะเคยอภิปรายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ในสภาฯ เพียงแต่วันนี้ พ.ต.อ.ทวีอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกับพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น แน่นอนถึงตอนนี้พ.ต.อ.ทวีก็ต้องการรักษาสายสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ต่างกับที่เคยหวงแหนสมบัติของชาติในขณะที่เป็นฝ่ายค้าน

    และเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าคนที่อยู่เบื้องหลังพรรคภูมิใจไทยก็คือนายเนวิน ชิดชอบ ที่เป็นเจ้าของพรรคตัวจริงในทางพฤตินัย จะเห็นได้ว่าในงานวันเกิดของนายเนวินนั้นข้าราชการระดับสูงที่อยู่ภายใต้กระทรวงที่พรรคภูมิใจไทยกำกับนั้นจะต้องเข้าไปร่วมงานถึงบุรีรัมย์เพื่อแสดงตัวให้เห็น เพราะเขารู้ว่าใครคือ คนที่ให้คุณให้โทษได้ และในหมู่ข้าราชการก็รู้กันว่า การโยกย้ายตำแหน่งต่างๆ ในกระทรวงของพรรคภูมิใจไทยนั้นคนที่มีบทบาทสำคัญคือใคร

    ก็ต้องรอดูต่อไปว่า ระหว่างอำนาจทางการเมืองกับความยุติธรรมทางกฎหมายที่เป็นขื่อแปของบ้านเมืองอย่างไหนจะศักดิ์สิทธิ์กว่ากัน คำสั่งของกรมที่ดินจะใหญ่กว่าคำพิพากษาของศาลฎีกาไหม

    แต่ต้องยอมรับนะครับว่า การเล่นการเมืองอยู่หลังม่านของคนคนหนึ่งวันนี้นั้นทำให้กระบวนการตรวจสอบคนที่อยู่ในอำนาจทางการเมืองไม่สามารถทำได้ เพราะไม่ได้มีตำแหน่งใดในรัฐบาล หรือแม้แต่เป็นผู้บริหารพรรค เพียงแต่เป็นสมาชิกของพรรคที่สามารถเตะตูดหัวหน้าพรรคได้เท่านั้น ทำให้กลายเป็นช่องโหว่ที่ทำให้ผู้มีอิทธิพลทางการเมืองใช้เป็นเครื่องมือในการเล่นการเมืองอยู่หลังฉาก แต่มีอำนาจสั่งการทุกกระทรวงที่อยู่ภายใต้อำนาจของพรรคที่ข้าราชการทุกคนต้องเกรงใจและหวั่นกลัว

    มาที่เรื่อง สว.นอกจากในวันนี้พรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคอันดับสองในสภาผู้แทนราษฎร แต่เป็นที่รู้กันว่า สว.กว่า 150 คนนั้นอยู่ภายใต้การกำกับของใครที่เรียกว่ากันว่า สว.สีน้ำเงินนั่นเอง แล้วอำนาจที่สำคัญของ สว.ก็คือ การแต่งตั้งองค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ฯลฯ ซึ่งทำให้หากใครจะขึ้นสู่ตำแหน่งดังกล่าวก็จะต้องวิ่งเข้าหาเจ้าของ สว.เพื่อให้ สว.ยกมือให้ หากผ่านการคัดเลือกของคณะกรรมการสรรหาเข้าสู่วุฒิสภามา

    ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าตระหนกและเป็นอันตรายมากหากอำนาจการแต่งตั้งองค์กรอิสระอยู่ในอำนาจของใครบางคนหรือคนเพียงคนเดียวในทางพฤตินัย

    และหากมีการประชุมรัฐสภาคือประชุมร่วมระหว่าง สส. และ สว.เสียงของพรรคภูมิใจไทยและ สว.จะรวมกันเป็นเสียงข้างมากในรัฐสภา และการดำเนินการใดที่จะต้องผ่านรัฐสภาเช่น การแก้รัฐธรรมนูญก็จะตกอยู่ภายใต้การกำกับของเจ้าของสว.ที่จะต้องการให้เป็นไปในทิศทางไหนก็ได้

    วันนี้พรรคภูมิใจไทยแม้ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอันดับสอง แต่ก็มีอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาลไปแล้ว แม้ว่า เราจะเห็นอนุทินนอบน้อมต่ออุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพร้อมจะยืนเป็นวอลเปเปอร์หรือพี่เลี้ยงของอุ๊งอิ๊งค์ตลอดเวลาก็ตาม พรรคภูมิใจไทยจึงขบเหลี่ยมอยู่กับพรรคเพื่อไทยหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกัญชา เรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ รวมถึงการทำประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ เพราะรู้ว่าอย่างไรเสียพรรคเพื่อไทยก็ไม่สามารถสลัดพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาลได้

    แล้วคอยดูว่า กรณีที่ดินเขากระโดง แม้ว่านายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม จากพรรคเพื่อไทยซึ่งกำกับดูแลการรถไฟแห่งประเทศไทยจะแสดงให้เห็นว่า ไม่อาจยอมรับคำสั่งของคณะกรรมการของกรมที่ดินในกรณีที่ดินเขากระโดงได้ แต่ก็ต้องดูว่า สุดท้ายแล้วเป็นเพียงการแสดงออกไปตามบทบาทที่ตัวเองเล่นอยู่ แต่จะรุกไล่เอาจริงเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศจนสุดทางไหม หรือเป็นเพียงการแสดงอำนาจออกมาให้เห็นเพียงเพื่อคะคานแลกเปลี่ยนต่อรองผลประโยชน์กันทางการเมืองเท่านั้นเอง

    อิทธิพลของคนโตแห่งบุรีรัมย์ยังสะท้อนอยู่ในองค์กรอิสระอย่าง กกต. เห็นไหมว่า เมื่อไม่นานอยู่ดีๆ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ก็ออกมาบอกว่า กรณีของพรรคภูมิใจไทยที่ถูกร้องเรียนในลักษณะความผิดที่คล้ายคลึงกับพรรคก้าวไกลที่ถูกศาลวินิจฉัยยุบพรรคนั้น ไม่ได้เป็นความผิดแห่งการยุบพรรคการเมืองเลยไม่เป็นเหตุแห่งการยุบพรรคการเมือง ทั้งที่บอกว่ายังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้นยังไม่มีบทสรุปออกมา จึงไม่ใช่เรื่องที่เลขาธิการ กกต.จะออกมาแถลงชี้นำหรือออกมาแถลงแม้หลายคนจะตั้งคำถามว่า การสอบสวนกรณีดังกล่าวของพรรคภูมิใจไทยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นจะใช้เวลานานมากก็ตาม

    วันนี้เราคงเห็นแล้วว่า สำหรับนักการเมืองแล้วระหว่างผลประโยชน์ของประเทศชาติกับผลประโยชน์ของตัวเองนั้นอย่างไหนสำคัญกว่าในบทบาทของคนที่เข้ามาเล่นการเมือง จะมีคนกี่คนที่เข้ามาเล่นการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของชาติอย่างแท้จริง และมีกฎเกณฑ์กติกาไหนที่จะตรวจสอบนักการเมืองที่มุ่งแต่จะแสวงหาผลประโยชน์เพื่อส่วนตัวและพวกพ้องได้อย่างแท้จริง

    วันนี้เราคงเข้าใจแล้วว่า ทำไมพรรคภูมิใจไทยพรรคสีน้ำเงินจึงเล่นการเมืองเพื่อเป็นรัฐบาลเท่านั้น


    ที่มา https://mgronline.com/daily/detail/9670000109483

    #Thaitimes
    อำนาจภายใต้การเมืองสีน้ำเงิน โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ https://www.facebook.com/surawich.verawan การที่อธิบดีกรมที่ดินที่อยู่ภายใต้พรรคภูมิใจไทย ทำหนังสือถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า “คณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินการรถไฟฯ บริเวณแยกเขากระโดงเนื่องจาก รฟท. ไม่มีหลักฐานเป็นที่ข้อยุติว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของ รฟท.จึงเห็นควรยุติเรื่องในกรณีนี้” กำลังท้าทายกับกระแสสังคมและกระบวนการยุติธรรมที่เป็นบรรทัดฐานของประเทศ เข้าใจครับว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวแต่งตั้งขึ้นตามคำสั่งของศาลปกครองในคดีที่การรถไฟฯ ฟ้องกรมที่ดิน แต่นัยของคำสั่งนั้นหากอ่านคำพิพากษาของศาลปกครองแล้ว จะพบว่า ศาลต้องการให้ตั้งกรรมการขึ้นมาเพื่อเพิกถอนสิทธิการถือครองที่ดินตามคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ผู้ถือครองที่ดินเขากระโดงจำนวน 37 แปลงฟ้องการรถไฟฯ (คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 8027/2561 และ 842-876/260 ) แต่คำพิพากษาศาลฎีกาชี้ชัดว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯ ซึ่งศาลปกครองหมายรวมถึงแปลงอื่นที่อยู่นอกเหนือแปลงที่นำขึ้นสู่ศาลฎีกาด้วย แต่กรมที่ดินซึ่งตั้งกรรมการขึ้นตามคำสั่งศาลปกครองกลับมีมติว่า การรถไฟฯ ไม่มีหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดินเขากระโดงทั้งที่ศาลฎีกาชี้แล้วว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯแม้ว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บอกว่า ไม่ได้สั่งการอะไรกรมที่ดิน แต่คำถามว่า มีใครบ้างที่จะเชื่อ อนุทินอ้างว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวที่ตั้งขึ้นตามคำสั่งของศาลปกครองตั้งขึ้นมาก่อนที่พรรคภูมิใจไทยและตัวเองจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย แต่จุดหมายสำคัญก็คือ กรรมการชุดนี้สามารถมีมติได้ในวันที่พรรคภูมิใจไทยมีอำนาจในกระทรวงมหาดไทย และอนุทินมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีและเมื่อไม่นานมานี้อธิบดีกรมที่ดินคนหนึ่งก็ได้ชิงลาออกไป ซึ่งกล่าวขานกันว่า เพราะปมที่ดินเขากระโดงนั่นเอง เป็นที่รู้กันว่า ในจำนวนที่ดิน 800 กว่าแปลงในพื้นที่เขากระโดงนั้น ผู้ถือครองรายใหญ่ก็คือ ตระกูลชิดชอบ ไปถามพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ก็รู้เรื่องนี้ดีเพราะเคยอภิปรายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ในสภาฯ เพียงแต่วันนี้ พ.ต.อ.ทวีอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกับพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น แน่นอนถึงตอนนี้พ.ต.อ.ทวีก็ต้องการรักษาสายสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ต่างกับที่เคยหวงแหนสมบัติของชาติในขณะที่เป็นฝ่ายค้าน และเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าคนที่อยู่เบื้องหลังพรรคภูมิใจไทยก็คือนายเนวิน ชิดชอบ ที่เป็นเจ้าของพรรคตัวจริงในทางพฤตินัย จะเห็นได้ว่าในงานวันเกิดของนายเนวินนั้นข้าราชการระดับสูงที่อยู่ภายใต้กระทรวงที่พรรคภูมิใจไทยกำกับนั้นจะต้องเข้าไปร่วมงานถึงบุรีรัมย์เพื่อแสดงตัวให้เห็น เพราะเขารู้ว่าใครคือ คนที่ให้คุณให้โทษได้ และในหมู่ข้าราชการก็รู้กันว่า การโยกย้ายตำแหน่งต่างๆ ในกระทรวงของพรรคภูมิใจไทยนั้นคนที่มีบทบาทสำคัญคือใคร ก็ต้องรอดูต่อไปว่า ระหว่างอำนาจทางการเมืองกับความยุติธรรมทางกฎหมายที่เป็นขื่อแปของบ้านเมืองอย่างไหนจะศักดิ์สิทธิ์กว่ากัน คำสั่งของกรมที่ดินจะใหญ่กว่าคำพิพากษาของศาลฎีกาไหม แต่ต้องยอมรับนะครับว่า การเล่นการเมืองอยู่หลังม่านของคนคนหนึ่งวันนี้นั้นทำให้กระบวนการตรวจสอบคนที่อยู่ในอำนาจทางการเมืองไม่สามารถทำได้ เพราะไม่ได้มีตำแหน่งใดในรัฐบาล หรือแม้แต่เป็นผู้บริหารพรรค เพียงแต่เป็นสมาชิกของพรรคที่สามารถเตะตูดหัวหน้าพรรคได้เท่านั้น ทำให้กลายเป็นช่องโหว่ที่ทำให้ผู้มีอิทธิพลทางการเมืองใช้เป็นเครื่องมือในการเล่นการเมืองอยู่หลังฉาก แต่มีอำนาจสั่งการทุกกระทรวงที่อยู่ภายใต้อำนาจของพรรคที่ข้าราชการทุกคนต้องเกรงใจและหวั่นกลัว มาที่เรื่อง สว.นอกจากในวันนี้พรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคอันดับสองในสภาผู้แทนราษฎร แต่เป็นที่รู้กันว่า สว.กว่า 150 คนนั้นอยู่ภายใต้การกำกับของใครที่เรียกว่ากันว่า สว.สีน้ำเงินนั่นเอง แล้วอำนาจที่สำคัญของ สว.ก็คือ การแต่งตั้งองค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ฯลฯ ซึ่งทำให้หากใครจะขึ้นสู่ตำแหน่งดังกล่าวก็จะต้องวิ่งเข้าหาเจ้าของ สว.เพื่อให้ สว.ยกมือให้ หากผ่านการคัดเลือกของคณะกรรมการสรรหาเข้าสู่วุฒิสภามา ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าตระหนกและเป็นอันตรายมากหากอำนาจการแต่งตั้งองค์กรอิสระอยู่ในอำนาจของใครบางคนหรือคนเพียงคนเดียวในทางพฤตินัย และหากมีการประชุมรัฐสภาคือประชุมร่วมระหว่าง สส. และ สว.เสียงของพรรคภูมิใจไทยและ สว.จะรวมกันเป็นเสียงข้างมากในรัฐสภา และการดำเนินการใดที่จะต้องผ่านรัฐสภาเช่น การแก้รัฐธรรมนูญก็จะตกอยู่ภายใต้การกำกับของเจ้าของสว.ที่จะต้องการให้เป็นไปในทิศทางไหนก็ได้ วันนี้พรรคภูมิใจไทยแม้ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอันดับสอง แต่ก็มีอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาลไปแล้ว แม้ว่า เราจะเห็นอนุทินนอบน้อมต่ออุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพร้อมจะยืนเป็นวอลเปเปอร์หรือพี่เลี้ยงของอุ๊งอิ๊งค์ตลอดเวลาก็ตาม พรรคภูมิใจไทยจึงขบเหลี่ยมอยู่กับพรรคเพื่อไทยหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกัญชา เรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ รวมถึงการทำประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ เพราะรู้ว่าอย่างไรเสียพรรคเพื่อไทยก็ไม่สามารถสลัดพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาลได้ แล้วคอยดูว่า กรณีที่ดินเขากระโดง แม้ว่านายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม จากพรรคเพื่อไทยซึ่งกำกับดูแลการรถไฟแห่งประเทศไทยจะแสดงให้เห็นว่า ไม่อาจยอมรับคำสั่งของคณะกรรมการของกรมที่ดินในกรณีที่ดินเขากระโดงได้ แต่ก็ต้องดูว่า สุดท้ายแล้วเป็นเพียงการแสดงออกไปตามบทบาทที่ตัวเองเล่นอยู่ แต่จะรุกไล่เอาจริงเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศจนสุดทางไหม หรือเป็นเพียงการแสดงอำนาจออกมาให้เห็นเพียงเพื่อคะคานแลกเปลี่ยนต่อรองผลประโยชน์กันทางการเมืองเท่านั้นเอง อิทธิพลของคนโตแห่งบุรีรัมย์ยังสะท้อนอยู่ในองค์กรอิสระอย่าง กกต. เห็นไหมว่า เมื่อไม่นานอยู่ดีๆ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ก็ออกมาบอกว่า กรณีของพรรคภูมิใจไทยที่ถูกร้องเรียนในลักษณะความผิดที่คล้ายคลึงกับพรรคก้าวไกลที่ถูกศาลวินิจฉัยยุบพรรคนั้น ไม่ได้เป็นความผิดแห่งการยุบพรรคการเมืองเลยไม่เป็นเหตุแห่งการยุบพรรคการเมือง ทั้งที่บอกว่ายังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้นยังไม่มีบทสรุปออกมา จึงไม่ใช่เรื่องที่เลขาธิการ กกต.จะออกมาแถลงชี้นำหรือออกมาแถลงแม้หลายคนจะตั้งคำถามว่า การสอบสวนกรณีดังกล่าวของพรรคภูมิใจไทยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นจะใช้เวลานานมากก็ตาม วันนี้เราคงเห็นแล้วว่า สำหรับนักการเมืองแล้วระหว่างผลประโยชน์ของประเทศชาติกับผลประโยชน์ของตัวเองนั้นอย่างไหนสำคัญกว่าในบทบาทของคนที่เข้ามาเล่นการเมือง จะมีคนกี่คนที่เข้ามาเล่นการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของชาติอย่างแท้จริง และมีกฎเกณฑ์กติกาไหนที่จะตรวจสอบนักการเมืองที่มุ่งแต่จะแสวงหาผลประโยชน์เพื่อส่วนตัวและพวกพ้องได้อย่างแท้จริง วันนี้เราคงเข้าใจแล้วว่า ทำไมพรรคภูมิใจไทยพรรคสีน้ำเงินจึงเล่นการเมืองเพื่อเป็นรัฐบาลเท่านั้น ที่มา https://mgronline.com/daily/detail/9670000109483 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    อำนาจภายใต้การเมืองสีน้ำเงิน
    การที่อธิบดีกรมที่ดินที่อยู่ภายใต้พรรคภูมิใจไทย ทำหนังสือถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า “คณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินการรถไฟฯ บริเวณแยกเขากระโดงเนื่องจาก รฟท. ไม่มีหลักฐานเป็
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 591 มุมมอง 0 รีวิว
  • การประท้วงไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งที่พรรครัฐบาลเป็นฝ่ายชนะในจอร์เจียยังคงดำเนินต่อไป ครั้งนี้แกนนำเปลี่ยนกลยุทธโดยใช้ผู้หญิงมานำการชุมนุม และพยายามบุกเข้าไปในที่ตั้งของอาคารคณะกรรมการการเลือกตั้งกลางของจอร์เจีย

    เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการผลักดันพวกเธอออกจากสถานที่ราชการ
    การประท้วงไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งที่พรรครัฐบาลเป็นฝ่ายชนะในจอร์เจียยังคงดำเนินต่อไป ครั้งนี้แกนนำเปลี่ยนกลยุทธโดยใช้ผู้หญิงมานำการชุมนุม และพยายามบุกเข้าไปในที่ตั้งของอาคารคณะกรรมการการเลือกตั้งกลางของจอร์เจีย เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการผลักดันพวกเธอออกจากสถานที่ราชการ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 880 มุมมอง 29 0 รีวิว
  • ไบเดนเตรียมเปิดห้องทำงานรูปไข่ต้อนรับทรัมป์ และยืนยันจะไปร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ต้นปีหน้า ซึ่งเป็นสองสิ่งที่ทรัมป์ไม่ยอมทำเมื่อ 4 ปีที่แล้วด้วยข้ออ้างว่า ตนถูกปล้นชัยชนะ และขณะที่ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่เริ่มจัดตั้งคณะบริหาร ทางด้านเดโมแครตกลับไล่หาแพะรับผิดชอบความพ่ายแพ้ของแฮร์ริส โดยเพโลซี อดีตประธานสภาล่างชี้ว่า ถ้าไบเดนถอนตัวเร็วขึ้น เหตุการณ์อาจไม่เป็นแบบนี้
    .
    โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ไม่เคยยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 สามารถกลับสู่ทำเนียบขาวอีกสมัยหลังคว้าชัยขาดลอยในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมา
    .
    ทำเนียบขาวแถลงเมื่อวันเสาร์ (9 พ.ย.) ว่าไบเดนจะพบทรัมป์ในห้องทำงานรูปไข่ในวันพุธ (13 พ.ย.) ซึ่งการพบกันระหว่างประธานาธิบดีที่กำลังจะหมดวาระกับว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาช้านาน แต่เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ทรัมป์ไม่ได้เชิญโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน เยี่ยมเยียนทำเนียบขาว แต่กลับอ้างโดยไม่มีหลักฐานว่า ตนเองถูกโกงเลือกตั้งและนำไปสู่การก่อม็อบบุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2021
    .
    นอกจากนั้นทรัมป์ยังแหกธรรมเนียมปฏิบัติด้วยการไม่ไปร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของไบเดนในวันที่ 20 ม.ค.ปีเดียวกัน แต่ทำเนียบขาวยืนยันว่า ไบเดนจะไปร่วมพิธีดังกล่าวของทรัมป์ต้นปีหน้า
    .
    นอกจากนี้ ช่วงต้นปีหน้าไบเดนจะกลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกคนที่ต้องถ่ายโอนอำนาจคืนให้ประธานาธิบดีคนก่อนตนเอง โดยครั้งล่าสุดที่เกิดเหตุการณ์นี้คือตอนที่ประธานาธิบดีเบนจามิน แฮร์ริสัน ส่งคืนทำเนียบขาวให้โกรเวอร์ คลีฟแลนด์ ในช่วงศตวรรษที่ 19
    .
    ทรัมป์ อดีตพิธีกรเรียลลิตี้โชว์วัย 78 ปี กวาดชัยชนะท่วมท้นกว่าครั้งที่แล้ว แม้ถูกตัดสินกระทำผิดคดีอาญา ถูกดำเนินการสอบสวนเพื่อถอดถอนถึง 2 ครั้งตอนที่เป็นประธานาธิบดี และถูกอดีตหัวหน้าคณะทำงานตีตราว่า เป็นเผด็จการฟาสซิสต์ก็ตาม
    .
    ทั้งนี้ เอ็กซิตโพลล์พบว่า สิ่งที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกังวลมากที่สุดคือปัญหาเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในยุคไบเดนภายหลังอเมริกาเพิ่งผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19
    .
    ไบเดน วัย 81 ปี ที่ถอนตัวจากศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนกรกฎาคมท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอายุ สุขภาพ และความเฉียบคมทางความคิดนั้น โทรแสดงความยินดีกับทรัมป์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (6 พ.ย.)
    .
    สมาชิกพรรคเดโมแครตหลายคนมองหาผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อความพ่ายแพ้ของรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ที่รับไม้ต่อเป็นตัวแทนพรรคก่อนถึงกำหนดเลือกตั้งเพียง 100 วัน
    .
    แนนซี เพโลซี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์นิวยอร์ก ไทมส์ว่า ไบเดนถอนตัวช้าเกินไป แถมประกาศรับรองแฮร์ริสทันที ทำให้เกือบเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการหยั่งเสียงรอบไพรมารีที่อาจทำให้พรรคมีแคนดิเดตให้เลือกมากขึ้น
    .
    เพโลซีที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า มีบทบาทสำคัญในการกล่อมให้ไบเดนยอมถอนตัว ตั้งข้อสังเกตว่า การทบทวนผลการเลือกตั้งควรมุ่งที่จุดแข็งของแฮร์ริสที่สามารถกระตุ้นความหวังของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและทำให้แคมเปญหาเสียงมีชีวิตชีวาขึ้นมาอย่างมาก
    .
    ขณะที่เดโมแครตกำลังหาแพะรับบาป ทรัมป์ได้เริ่มฟอร์มคณะบริหารสมัยที่ 2 ด้วยการแต่งตั้งซูซี ไวลส์ ผู้จัดการแคมเปญหาเสียง เป็นหัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาว ถือเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้ และเป็นการแต่งตั้งสมาชิกคณะบริหารคนแรกของทรัมป์
    .
    ตัวเก็งคนอื่นๆ ในคณะบริหารทรัมป์ 2 ยังสะท้อนการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น หนึ่งในนั้นคือ โรเบิร์ต เคนเนดี้ จูเนียร์ แกนนำการต่อต้านวัคซีนที่ทรัมป์ประกาศว่า จะได้รับบทบาทสำคัญด้านสุขอนามัย
    .
    อีกคนคือ อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเบอร์หนึ่งของโลก ที่อาจรับหน้าที่ตรวจสอบและปรับปรุงประสิทธิภาพของรัฐบาล หลังจากนายใหญ่สเปซเอ็กซ์, เทสลา และเอ็กซ์ ที่มีอุดมการณ์การเมืองปีกขวาผู้นี้ ให้การสนับสนุนทรัมป์สุดตัว
    .
    นอกจากนั้นยังคาดว่า ทรัมป์จะยกเลิกนโยบายสำคัญของไบเดนหลายอย่าง โดยว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 47 ผู้นี้เตรียมกลับสู่ทำเนียบขาวในฐานะผู้ปฏิเสธแนวคิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แถมประกาศเพิ่มการขุดเจาะน้ำมัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108252
    ..............
    Sondhi X
    ไบเดนเตรียมเปิดห้องทำงานรูปไข่ต้อนรับทรัมป์ และยืนยันจะไปร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ต้นปีหน้า ซึ่งเป็นสองสิ่งที่ทรัมป์ไม่ยอมทำเมื่อ 4 ปีที่แล้วด้วยข้ออ้างว่า ตนถูกปล้นชัยชนะ และขณะที่ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่เริ่มจัดตั้งคณะบริหาร ทางด้านเดโมแครตกลับไล่หาแพะรับผิดชอบความพ่ายแพ้ของแฮร์ริส โดยเพโลซี อดีตประธานสภาล่างชี้ว่า ถ้าไบเดนถอนตัวเร็วขึ้น เหตุการณ์อาจไม่เป็นแบบนี้ . โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ไม่เคยยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 สามารถกลับสู่ทำเนียบขาวอีกสมัยหลังคว้าชัยขาดลอยในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมา . ทำเนียบขาวแถลงเมื่อวันเสาร์ (9 พ.ย.) ว่าไบเดนจะพบทรัมป์ในห้องทำงานรูปไข่ในวันพุธ (13 พ.ย.) ซึ่งการพบกันระหว่างประธานาธิบดีที่กำลังจะหมดวาระกับว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาช้านาน แต่เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ทรัมป์ไม่ได้เชิญโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน เยี่ยมเยียนทำเนียบขาว แต่กลับอ้างโดยไม่มีหลักฐานว่า ตนเองถูกโกงเลือกตั้งและนำไปสู่การก่อม็อบบุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2021 . นอกจากนั้นทรัมป์ยังแหกธรรมเนียมปฏิบัติด้วยการไม่ไปร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของไบเดนในวันที่ 20 ม.ค.ปีเดียวกัน แต่ทำเนียบขาวยืนยันว่า ไบเดนจะไปร่วมพิธีดังกล่าวของทรัมป์ต้นปีหน้า . นอกจากนี้ ช่วงต้นปีหน้าไบเดนจะกลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกคนที่ต้องถ่ายโอนอำนาจคืนให้ประธานาธิบดีคนก่อนตนเอง โดยครั้งล่าสุดที่เกิดเหตุการณ์นี้คือตอนที่ประธานาธิบดีเบนจามิน แฮร์ริสัน ส่งคืนทำเนียบขาวให้โกรเวอร์ คลีฟแลนด์ ในช่วงศตวรรษที่ 19 . ทรัมป์ อดีตพิธีกรเรียลลิตี้โชว์วัย 78 ปี กวาดชัยชนะท่วมท้นกว่าครั้งที่แล้ว แม้ถูกตัดสินกระทำผิดคดีอาญา ถูกดำเนินการสอบสวนเพื่อถอดถอนถึง 2 ครั้งตอนที่เป็นประธานาธิบดี และถูกอดีตหัวหน้าคณะทำงานตีตราว่า เป็นเผด็จการฟาสซิสต์ก็ตาม . ทั้งนี้ เอ็กซิตโพลล์พบว่า สิ่งที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกังวลมากที่สุดคือปัญหาเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในยุคไบเดนภายหลังอเมริกาเพิ่งผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 . ไบเดน วัย 81 ปี ที่ถอนตัวจากศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนกรกฎาคมท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอายุ สุขภาพ และความเฉียบคมทางความคิดนั้น โทรแสดงความยินดีกับทรัมป์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (6 พ.ย.) . สมาชิกพรรคเดโมแครตหลายคนมองหาผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อความพ่ายแพ้ของรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ที่รับไม้ต่อเป็นตัวแทนพรรคก่อนถึงกำหนดเลือกตั้งเพียง 100 วัน . แนนซี เพโลซี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์นิวยอร์ก ไทมส์ว่า ไบเดนถอนตัวช้าเกินไป แถมประกาศรับรองแฮร์ริสทันที ทำให้เกือบเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการหยั่งเสียงรอบไพรมารีที่อาจทำให้พรรคมีแคนดิเดตให้เลือกมากขึ้น . เพโลซีที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า มีบทบาทสำคัญในการกล่อมให้ไบเดนยอมถอนตัว ตั้งข้อสังเกตว่า การทบทวนผลการเลือกตั้งควรมุ่งที่จุดแข็งของแฮร์ริสที่สามารถกระตุ้นความหวังของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและทำให้แคมเปญหาเสียงมีชีวิตชีวาขึ้นมาอย่างมาก . ขณะที่เดโมแครตกำลังหาแพะรับบาป ทรัมป์ได้เริ่มฟอร์มคณะบริหารสมัยที่ 2 ด้วยการแต่งตั้งซูซี ไวลส์ ผู้จัดการแคมเปญหาเสียง เป็นหัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาว ถือเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้ และเป็นการแต่งตั้งสมาชิกคณะบริหารคนแรกของทรัมป์ . ตัวเก็งคนอื่นๆ ในคณะบริหารทรัมป์ 2 ยังสะท้อนการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น หนึ่งในนั้นคือ โรเบิร์ต เคนเนดี้ จูเนียร์ แกนนำการต่อต้านวัคซีนที่ทรัมป์ประกาศว่า จะได้รับบทบาทสำคัญด้านสุขอนามัย . อีกคนคือ อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเบอร์หนึ่งของโลก ที่อาจรับหน้าที่ตรวจสอบและปรับปรุงประสิทธิภาพของรัฐบาล หลังจากนายใหญ่สเปซเอ็กซ์, เทสลา และเอ็กซ์ ที่มีอุดมการณ์การเมืองปีกขวาผู้นี้ ให้การสนับสนุนทรัมป์สุดตัว . นอกจากนั้นยังคาดว่า ทรัมป์จะยกเลิกนโยบายสำคัญของไบเดนหลายอย่าง โดยว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 47 ผู้นี้เตรียมกลับสู่ทำเนียบขาวในฐานะผู้ปฏิเสธแนวคิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แถมประกาศเพิ่มการขุดเจาะน้ำมัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108252 .............. Sondhi X
    Love
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 758 มุมมอง 0 รีวิว
  • แกนนำไทยภักดี ง้างปาก “ภูมิธรรม” ทำไมจึงยอมให้กัมพูชากำหนดพื้นทางทะเล ด้วยการเล็งมาที่ยอดเขาสูงสุดของเกาะกูด? ยกคำพูด “ทักษิณ” สวน “นายกฯ อิ๊งค์” mou44 ยกเลิกไม่ได้ก็ไม่จริง ดักยังดื้อจะเป็นพรรคเพื่อเขมรแทนเพื่อไทย

    วันนี้ (10 พ.ย.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า #ภูมิธรรมไปเกาะกูดไม่มีอะไรใหม่

    คุณภูมิธรรม มาลงพื้นที่เกาะกูด เพื่อมายืนยันว่า เกาะกูดเป็นของไทย เกาะกูดมีธรรมชาติที่สวยงาม พร้อมกับมาเยี่ยมกำลังพลที่ดูแลพื้นที่

    ผมยังยืนยันนะครับว่า วันนี้ประชาชนไทย หรือแม้แต่ประชาชนเกาะกูด ไม่ได้กังวลใจว่า เกาะกูดไม่ได้เป็นของไทย ย้ำนะครับว่า ไม่ได้กังวลใจว่า เกาะกูดไม่ได้เป็นของไทย เพราะเกาะกูดเป็นของไทยวันยังค่ำ

    ในเมื่อเกาะกูดเป็นของไทย พื้นที่ทางทะเลโดยรอบเกาะกูด 200 ไมล์ทะเล (370 กม.) ทั้งน้ำทะล กุ้งหอยปูปลา ผิวดินใต้ทะเล รวมทั้งพื้นดินใต้ผิวดินใต้ทะเล แหล่งพลังงาน ต้องเป็นของไทยด้วย ไม่ใช่เป็นของไทยแค่ตัวเกาะ

    สิ่งที่คนไทยกังวลใจกันมากๆ ก็คือ เมื่อเกาะกูดเป็นของไทย ไทยเราไปยอมรับเส้นอาณาเขตทางทะเล (ไหล่ทวีป) ของกัมพูชา ที่เล็งผ่านยอดเขาที่สูงสุดของเกาะกูด ออกไปอ่าวไทย ได้อย่างไร มันจึงเกิดพื้นที่ทับซ้อนมหาศาล

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/politics/detail/9670000108138

    #MGROnline #เกาะกูด #ภูมิธรรมไปเกาะกูดไม่มีอะไรใหม่
    แกนนำไทยภักดี ง้างปาก “ภูมิธรรม” ทำไมจึงยอมให้กัมพูชากำหนดพื้นทางทะเล ด้วยการเล็งมาที่ยอดเขาสูงสุดของเกาะกูด? ยกคำพูด “ทักษิณ” สวน “นายกฯ อิ๊งค์” mou44 ยกเลิกไม่ได้ก็ไม่จริง ดักยังดื้อจะเป็นพรรคเพื่อเขมรแทนเพื่อไทย • วันนี้ (10 พ.ย.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า #ภูมิธรรมไปเกาะกูดไม่มีอะไรใหม่ • คุณภูมิธรรม มาลงพื้นที่เกาะกูด เพื่อมายืนยันว่า เกาะกูดเป็นของไทย เกาะกูดมีธรรมชาติที่สวยงาม พร้อมกับมาเยี่ยมกำลังพลที่ดูแลพื้นที่ • ผมยังยืนยันนะครับว่า วันนี้ประชาชนไทย หรือแม้แต่ประชาชนเกาะกูด ไม่ได้กังวลใจว่า เกาะกูดไม่ได้เป็นของไทย ย้ำนะครับว่า ไม่ได้กังวลใจว่า เกาะกูดไม่ได้เป็นของไทย เพราะเกาะกูดเป็นของไทยวันยังค่ำ • ในเมื่อเกาะกูดเป็นของไทย พื้นที่ทางทะเลโดยรอบเกาะกูด 200 ไมล์ทะเล (370 กม.) ทั้งน้ำทะล กุ้งหอยปูปลา ผิวดินใต้ทะเล รวมทั้งพื้นดินใต้ผิวดินใต้ทะเล แหล่งพลังงาน ต้องเป็นของไทยด้วย ไม่ใช่เป็นของไทยแค่ตัวเกาะ • สิ่งที่คนไทยกังวลใจกันมากๆ ก็คือ เมื่อเกาะกูดเป็นของไทย ไทยเราไปยอมรับเส้นอาณาเขตทางทะเล (ไหล่ทวีป) ของกัมพูชา ที่เล็งผ่านยอดเขาที่สูงสุดของเกาะกูด ออกไปอ่าวไทย ได้อย่างไร มันจึงเกิดพื้นที่ทับซ้อนมหาศาล • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9670000108138 • #MGROnline #เกาะกูด #ภูมิธรรมไปเกาะกูดไม่มีอะไรใหม่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 258 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'อุดรธานี' จ่อไฟลุก 'พิธา' พร้อมชน 'ทักษิณ' ชิงดำเก้าอี้นายกอบจ.โค้งสุดท้าย
    .
    ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันหย่อนบัตรเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ถือว่ามีความเข้มข้นและดุเดือดอย่างยิ่ง ภายหลังรุ่นใหญ่พรรคเพื่อไทยและรุ่นใหม่พรรคประชาชนเตรียมวัดพลังกันครั้งสำคัญ โดยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า เตรียมลงพื้นที่ระหว่างวันที่ 13-14 พฤศจิกายน เพื่อช่วยนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยหาเสียงพร้อมกับพบปะประชาชนในหลายอำเภอ
    .
    ขณะที่ พรรคประชาชน 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะบินกลับมาจากสหรัฐอเมริกา มาลงพื้นที่ช่วยนายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครของพรรคหาเสียงระหว่างวันที่ 15-17 พฤศจิกายน หลังจากก่อนหน้านี้มีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค, น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรค, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า มาร่วมขบวนหาเสียงด้วย เพื่อหวังว่าจังหวัดอุดรธานีจะเป็นจังหวัดแรกที่จะสามารถปักธงส้มในพื้นที่สีแดงให้ได้เป็นครั้งแรก
    .
    ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงรอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย เชื่อว่า ผลงานของนายทักษิณในอดีต ยังอยู่ในใจพี่น้องประชาชน การเดินทางไปแต่ละที่ประชาชนยังพูดถึงความสำเร็จของท่านในอดีตอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการเดินทางไปจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดอื่นๆของนายทักษิณ ถือเป็นเรื่องปกติเพราะท่านเป็นคนไทยคนหนึ่งจะเดินทางไปไหนก็ได้
    ..............
    Sondhi X
    'อุดรธานี' จ่อไฟลุก 'พิธา' พร้อมชน 'ทักษิณ' ชิงดำเก้าอี้นายกอบจ.โค้งสุดท้าย . ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันหย่อนบัตรเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ถือว่ามีความเข้มข้นและดุเดือดอย่างยิ่ง ภายหลังรุ่นใหญ่พรรคเพื่อไทยและรุ่นใหม่พรรคประชาชนเตรียมวัดพลังกันครั้งสำคัญ โดยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า เตรียมลงพื้นที่ระหว่างวันที่ 13-14 พฤศจิกายน เพื่อช่วยนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยหาเสียงพร้อมกับพบปะประชาชนในหลายอำเภอ . ขณะที่ พรรคประชาชน 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะบินกลับมาจากสหรัฐอเมริกา มาลงพื้นที่ช่วยนายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครของพรรคหาเสียงระหว่างวันที่ 15-17 พฤศจิกายน หลังจากก่อนหน้านี้มีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค, น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรค, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า มาร่วมขบวนหาเสียงด้วย เพื่อหวังว่าจังหวัดอุดรธานีจะเป็นจังหวัดแรกที่จะสามารถปักธงส้มในพื้นที่สีแดงให้ได้เป็นครั้งแรก . ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงรอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย เชื่อว่า ผลงานของนายทักษิณในอดีต ยังอยู่ในใจพี่น้องประชาชน การเดินทางไปแต่ละที่ประชาชนยังพูดถึงความสำเร็จของท่านในอดีตอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการเดินทางไปจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดอื่นๆของนายทักษิณ ถือเป็นเรื่องปกติเพราะท่านเป็นคนไทยคนหนึ่งจะเดินทางไปไหนก็ได้ .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 773 มุมมอง 0 รีวิว
  • 7พฤศจิกายน2567-ภารกิจ คปท. ติดตามกรณี MOU44 / นักโทษชั้น14 / เลือกบอร์ดแบงก์ชาติ : คนเคาะข่าว 07-11-67
    : พิชิต ชัยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.)
    : กิตติชัย ไพโรจน์ไชยกุล ดำเนินรายการ

    https://youtu.be/SCEB9pIUElw?si=oiToNRkJTCXpFXWX

    #Thaitimes
    7พฤศจิกายน2567-ภารกิจ คปท. ติดตามกรณี MOU44 / นักโทษชั้น14 / เลือกบอร์ดแบงก์ชาติ : คนเคาะข่าว 07-11-67 : พิชิต ชัยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) : กิตติชัย ไพโรจน์ไชยกุล ดำเนินรายการ https://youtu.be/SCEB9pIUElw?si=oiToNRkJTCXpFXWX #Thaitimes
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 650 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภารกิจ คปท. ติดตามกรณี MOU44 / นักโทษชั้น14 / เลือกบอร์ดแบงก์ชาติ : คนเคาะข่าว 07-11-67
    : พิชิต ชัยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.)
    : กิตติชัย ไพโรจน์ไชยกุล ดำเนินรายการ
    ภารกิจ คปท. ติดตามกรณี MOU44 / นักโทษชั้น14 / เลือกบอร์ดแบงก์ชาติ : คนเคาะข่าว 07-11-67 : พิชิต ชัยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) : กิตติชัย ไพโรจน์ไชยกุล ดำเนินรายการ
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 303 มุมมอง 99 0 รีวิว
  • คนไทยจะมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีทุกคน

    หากเราไม่มีนักการเมืองเลวอย่างนักโทษชายทักสิน ผู้ครอบครอง เป็นเจ้าของนางยกหญิงและพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาลในปัจจุบันนี้

    คนไทยจะมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีทุกคน หากเราไม่มีนักการเมืองเลวอย่างนักโทษชายทักสิน ผู้ครอบครอง เป็นเจ้าของนางยกหญิงและพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาลในปัจจุบันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • #4
    โดนซะมั่ง!!
    ภาพการประท้วงครั้งใหญเพื่อต่อต้านทรัมป์ กำลังเกิดขึ้นในชิคาโก อิลลินอยส์ หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับชัยชนะ

    การชุมนุมครั้งนี้มีแกนนำจากองค์กร Chicago Alliance Against Racist and Political Repression กำลังเดินขบวนไปตามถนนดีร์บอร์นในชิคาโก โดยมีป้ายผ้าที่เรียกร้องให้ "ยุติยุคสมัยของทรัมป์" และ "หยุดการกดขี่คนผิวขาว"
    #4 โดนซะมั่ง!! ภาพการประท้วงครั้งใหญเพื่อต่อต้านทรัมป์ กำลังเกิดขึ้นในชิคาโก อิลลินอยส์ หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับชัยชนะ การชุมนุมครั้งนี้มีแกนนำจากองค์กร Chicago Alliance Against Racist and Political Repression กำลังเดินขบวนไปตามถนนดีร์บอร์นในชิคาโก โดยมีป้ายผ้าที่เรียกร้องให้ "ยุติยุคสมัยของทรัมป์" และ "หยุดการกดขี่คนผิวขาว"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • #3
    โดนซะมั่ง!!
    ภาพการประท้วงครั้งใหญเพื่อต่อต้านทรัมป์ กำลังเกิดขึ้นในชิคาโก อิลลินอยส์ หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับชัยชนะ

    การชุมนุมครั้งนี้มีแกนนำจากองค์กร Chicago Alliance Against Racist and Political Repression กำลังเดินขบวนไปตามถนนดีร์บอร์นในชิคาโก โดยมีป้ายผ้าที่เรียกร้องให้ "ยุติยุคสมัยของทรัมป์" และ "หยุดการกดขี่คนผิวขาว"
    #3 โดนซะมั่ง!! ภาพการประท้วงครั้งใหญเพื่อต่อต้านทรัมป์ กำลังเกิดขึ้นในชิคาโก อิลลินอยส์ หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับชัยชนะ การชุมนุมครั้งนี้มีแกนนำจากองค์กร Chicago Alliance Against Racist and Political Repression กำลังเดินขบวนไปตามถนนดีร์บอร์นในชิคาโก โดยมีป้ายผ้าที่เรียกร้องให้ "ยุติยุคสมัยของทรัมป์" และ "หยุดการกดขี่คนผิวขาว"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 22 0 รีวิว
  • #2
    โดนซะมั่ง!!
    ภาพการประท้วงครั้งใหญเพื่อต่อต้านทรัมป์ กำลังเกิดขึ้นในชิคาโก อิลลินอยส์ หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับชัยชนะ

    การชุมนุมครั้งนี้มีแกนนำจากองค์กร Chicago Alliance Against Racist and Political Repression กำลังเดินขบวนไปตามถนนดีร์บอร์นในชิคาโก โดยมีป้ายผ้าที่เรียกร้องให้ "ยุติยุคสมัยของทรัมป์" และ "หยุดการกดขี่คนผิวขาว"
    #2 โดนซะมั่ง!! ภาพการประท้วงครั้งใหญเพื่อต่อต้านทรัมป์ กำลังเกิดขึ้นในชิคาโก อิลลินอยส์ หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับชัยชนะ การชุมนุมครั้งนี้มีแกนนำจากองค์กร Chicago Alliance Against Racist and Political Repression กำลังเดินขบวนไปตามถนนดีร์บอร์นในชิคาโก โดยมีป้ายผ้าที่เรียกร้องให้ "ยุติยุคสมัยของทรัมป์" และ "หยุดการกดขี่คนผิวขาว"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 21 0 รีวิว
  • #1
    โดนซะมั่ง!!
    ภาพการประท้วงครั้งใหญเพื่อต่อต้านทรัมป์ กำลังเกิดขึ้นในชิคาโก อิลลินอยส์ หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับชัยชนะ

    การชุมนุมครั้งนี้มีแกนนำจากองค์กร Chicago Alliance Against Racist and Political Repression กำลังเดินขบวนไปตามถนนดีร์บอร์นในชิคาโก โดยมีป้ายผ้าที่เรียกร้องให้ "ยุติยุคสมัยของทรัมป์" และ "หยุดการกดขี่คนผิวขาว"
    #1 โดนซะมั่ง!! ภาพการประท้วงครั้งใหญเพื่อต่อต้านทรัมป์ กำลังเกิดขึ้นในชิคาโก อิลลินอยส์ หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ได้รับชัยชนะ การชุมนุมครั้งนี้มีแกนนำจากองค์กร Chicago Alliance Against Racist and Political Repression กำลังเดินขบวนไปตามถนนดีร์บอร์นในชิคาโก โดยมีป้ายผ้าที่เรียกร้องให้ "ยุติยุคสมัยของทรัมป์" และ "หยุดการกดขี่คนผิวขาว"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 20 0 รีวิว
  • ..เบื่อหน่ายการปกครองที่ทำประชาชนยากจนจริงๆ,บ่อน้ำมันเต็มประเทศ บ่อทองคำเต็มแผ่นดินไทย แต่ปกครองให้คนไทยอยากจน เยาวชนยากจน,สมควรจบสิ่งนี้จริงๆ.
    ..พันธมิตรคืนชีพเถอะ สงครามครัังสุดท้ายยึดอำนาจด้วยภาคมหาประชาชนจริงๆเถอะ อย่าเสียของแบบสมัยก่อนเลย,จนถูกดำเนินคดีติดคุกเปล่าๆ,ทางวังก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย,ลุงประยุทธยึดอำนาจ เป็นองคมนตรีโน้น,แต่พันธมิตรติดคุก ชั่งบัดสบจริงๆ,บ่อน้ำมันก็เอาคืนทั้งประเทศไม่ได้ ยึดอำนาจเสียของ, สถาบันไม่เกี่ยว ประชาชนต้องแก้ด้วยประชาชนจริงๆจังๆได้แล้ว,ตอนนี้ก็มองเห็นแค่พันธมิตรนี้ล่ะ,พอต่อกรกับความบัดสบในสมัยนี้ได้,ลุงนำ แกนนำรุ่นลูกบุกรุ่นหลานสนับสนุนทัพ,ชนะยึดทรัพยากรวัตถุดิบแผ่นดินไทยเราเป็นของกลางของแผ่นดินไทยจริงทัังหมด,ผลักดันต่างด้าวต่างชาติออกไปก่อนป้องกันมือที่สามสร้างโกลาหล,ถ้ายังปกครองเหี้ยๆแบบนี้ เคสแบบนี้จะเกิดกับทุกๆคนไทยไม่จบสิ้น,มันคือความจริงของสังคมประเทศไทยเราอันบัดสบจริงๆ.
    ..เบื่อหน่ายการปกครองที่ทำประชาชนยากจนจริงๆ,บ่อน้ำมันเต็มประเทศ บ่อทองคำเต็มแผ่นดินไทย แต่ปกครองให้คนไทยอยากจน เยาวชนยากจน,สมควรจบสิ่งนี้จริงๆ. ..พันธมิตรคืนชีพเถอะ สงครามครัังสุดท้ายยึดอำนาจด้วยภาคมหาประชาชนจริงๆเถอะ อย่าเสียของแบบสมัยก่อนเลย,จนถูกดำเนินคดีติดคุกเปล่าๆ,ทางวังก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย,ลุงประยุทธยึดอำนาจ เป็นองคมนตรีโน้น,แต่พันธมิตรติดคุก ชั่งบัดสบจริงๆ,บ่อน้ำมันก็เอาคืนทั้งประเทศไม่ได้ ยึดอำนาจเสียของ, สถาบันไม่เกี่ยว ประชาชนต้องแก้ด้วยประชาชนจริงๆจังๆได้แล้ว,ตอนนี้ก็มองเห็นแค่พันธมิตรนี้ล่ะ,พอต่อกรกับความบัดสบในสมัยนี้ได้,ลุงนำ แกนนำรุ่นลูกบุกรุ่นหลานสนับสนุนทัพ,ชนะยึดทรัพยากรวัตถุดิบแผ่นดินไทยเราเป็นของกลางของแผ่นดินไทยจริงทัังหมด,ผลักดันต่างด้าวต่างชาติออกไปก่อนป้องกันมือที่สามสร้างโกลาหล,ถ้ายังปกครองเหี้ยๆแบบนี้ เคสแบบนี้จะเกิดกับทุกๆคนไทยไม่จบสิ้น,มันคือความจริงของสังคมประเทศไทยเราอันบัดสบจริงๆ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • ปฏิญญา BRICS นับหนึ่งระเบียบโลกหลายขั้ว
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างวันที่ 22-24 ตุลาคม ที่ผ่านมา ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย มีการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม BRICS ขึ้น โดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เป็นเจ้าภาพ กลุ่ม BRICS กำลังสร้างระเบียบโลกใหม่ขึ้นอีกระบบหนึ่งที่มีขั้วอำนาจหลายขั้ว ที่นำโดย 5 ประเทศก่อตั้ง คือ จีน รัสเซีย แอฟริกาใต้ บราซิล และ อินเดีย กับสมาชิกถาวรอีก 4 ประเทศ คือ อิหร่าน อียิปต์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ เอธิโอเปีย ได้จับมือรวมกลุ่มกับประเทศซีกโลกใต้ ที่เขาเรียกว่า Global South ที่เป็นประเทศพันธมิตรหุ้นส่วนอีก 13 ประเทศ มีแอลจีเรีย เบราลุส โบลิเวีย คิวบา อินโดนีเซีย คาซัคสถาน มาเลเซีย ไนจีเรีย ตุรกี ยูกันดา อุซเบกินสถาน เวียดนาม และ ประเทศไทย
    .
    ด้วยเหตุนี้ นักประวัติศาสตร์และสังคมวิทยาชาวฝรั่งเศส นายเอ็มมานูเอล ทอดด์ ได้เรียกการประชุมสุดยอด BRICS ครั้งที่ 16 นี้ว่าเป็นชัยชนะของรัสเซีย และเป็นความพ่ายแพ้ย่อยยับของตะวันตก ซึ่งขณะนี้ก็ยังดื้อด้าน ไม่ยอมรับ และแสดงอำนาจบาตรใหญ่ คว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ของประเทศที่แสดงความปรารถนาจะใกล้ชิดกับรัสเซีย
    .
    ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน พูดถึงระเบียบโลกใหม่ที่BRICS สร้างเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มความร่วมมือที่หลากหลายในหลายมิติ ไม่ใช่การแสวงหาประโยชน์หรือบูรณาการเฉพาะทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ ให้ความสำคัญ Global South โลกใต้ที่เป็นประเทศตลาดเกิดใหม่ เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมกัน,BRICS Peaceใช้กลไกสันติภาพยุติสงครามความขัดแย้ง,นวัตกรรมของBRICS Innovationเพื่ออนาคตเปิดพรมแดนใหม่ๆเพื่อมนุษยชาติ,Green BRICS ซึ่งจีนเป็นเจ้าโลกเทคโนโลยีสีเขียวและรถไฟฟ้าตอบโจทย์แก้โลกร้อน Climate Change และประเด็น Justices&Humanity BRICSที่ผู้นำจีนเสนอควรต้องให้แต้มต่อประเทศยากจนถึงจะเป็นธรรม
    .
    การประชุมสุดยอดของผู้นำ BRICS ปิดฉากลงด้วยการรับรองปฏิญญาคาซาน 2024 ซึ่งเป็นคำประกาศแถลงการณ์ร่วมของสมาชิก BRICS โดยมีแผนที่จะยื่นเอกสารดังกล่าวต่อสหประชาชาติด้วย เนื้อหาระบุไว้4หัวข้อหลัก
    .
    หนึ่ง-ความจำเป็นในการปฏิรูปสถาบันระดับโลกเช่นองค์การการค้าโลก คัดค้านมาตรการฝ่ายเดียวที่เลือกปฏิบัติและการคุ้มครองทางการค้า รวมทั้งเสนอให้คณะมนตรีความมั่นคงฯ ให้เป็นตัวแทนประเทศทั่วโลกมากขึ้น
    .
    สอง-โครงการของ BRICS ริเริ่มใหม่ (BRICS Initiative) ด้านศักยภาพเทคโนโลยีสารสนเทศดิจิทัลและเปลี่ยนแปลงเพิ่มบทบาทธนาคารพัฒนาแห่งใหม่ (NDB)ของBRICS แทนธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟที่ล้มเหลวต่อการพัฒนาประเทศ Global South รวมถึงการทำแพลตฟอร์มใหม่ๆพัฒนาเศรษฐกิจ ระบบชำระเงินระหว่างประเทศ BRICS ClearแทนระบบSWIFTของตะวันตก และร่วมมือการพัฒนายารักษาโรครวมทั้งวัคซีนและโครงการ เวชศาสตร์นิวเคลียร์
    .
    สาม-การขยายความร่วมมือของ BRICS โดยการใช้สกุลเงินท้องถิ่นประจำชาติในการทำธุรกรรมระหว่างสมาชิก BRICS+ และพันธมิตรทางการค้า ดำเนินยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
    .
    สี่-วิกฤตการณ์โลกที่ BRICS ต่อต้าน ประณามการใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เลือกปฏิบัติ คัดค้านการนำอาวุธไปใช้ในอวกาศ และสนับสนุนการเสริมสร้างระบอบการไม่แพร่ขยายอาวุธ รวมถึงปฏิบัติตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ สนับสนุนการเข้าเป็นสมาชิกอย่างเต็มตัวของปาเลสไตน์ในสหประชาชาติและข้อเสนอในการไกล่เกลี่ยยุติความขัดแย้งโดยผ่านการเจรจาเท่านั้น
    .
    ทั้งหมดนี้ จีน รัสเซีย ในฐานะแกนนำมหาอำนาจขั้วโลกใหม่ จะเป็นผู้นำวางกฎระเบียบโลกใหม่ และได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงยุทธศาสตร์เชิงภูมิเศรษฐศาสตร์และภูมิรัฐศาสตร์ แสดงให้เห็นถึงสภาพการขับเคี่ยวกันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่จะทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างเศรษฐกิจกลุ่ม Global North และ Global South สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการนับหนึ่งที่กำลังจะสั่นสะเทือนอนาคตของระเบียบโลกเก่า
    ปฏิญญา BRICS นับหนึ่งระเบียบโลกหลายขั้ว . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างวันที่ 22-24 ตุลาคม ที่ผ่านมา ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย มีการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม BRICS ขึ้น โดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เป็นเจ้าภาพ กลุ่ม BRICS กำลังสร้างระเบียบโลกใหม่ขึ้นอีกระบบหนึ่งที่มีขั้วอำนาจหลายขั้ว ที่นำโดย 5 ประเทศก่อตั้ง คือ จีน รัสเซีย แอฟริกาใต้ บราซิล และ อินเดีย กับสมาชิกถาวรอีก 4 ประเทศ คือ อิหร่าน อียิปต์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ เอธิโอเปีย ได้จับมือรวมกลุ่มกับประเทศซีกโลกใต้ ที่เขาเรียกว่า Global South ที่เป็นประเทศพันธมิตรหุ้นส่วนอีก 13 ประเทศ มีแอลจีเรีย เบราลุส โบลิเวีย คิวบา อินโดนีเซีย คาซัคสถาน มาเลเซีย ไนจีเรีย ตุรกี ยูกันดา อุซเบกินสถาน เวียดนาม และ ประเทศไทย . ด้วยเหตุนี้ นักประวัติศาสตร์และสังคมวิทยาชาวฝรั่งเศส นายเอ็มมานูเอล ทอดด์ ได้เรียกการประชุมสุดยอด BRICS ครั้งที่ 16 นี้ว่าเป็นชัยชนะของรัสเซีย และเป็นความพ่ายแพ้ย่อยยับของตะวันตก ซึ่งขณะนี้ก็ยังดื้อด้าน ไม่ยอมรับ และแสดงอำนาจบาตรใหญ่ คว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ของประเทศที่แสดงความปรารถนาจะใกล้ชิดกับรัสเซีย . ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน พูดถึงระเบียบโลกใหม่ที่BRICS สร้างเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มความร่วมมือที่หลากหลายในหลายมิติ ไม่ใช่การแสวงหาประโยชน์หรือบูรณาการเฉพาะทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ ให้ความสำคัญ Global South โลกใต้ที่เป็นประเทศตลาดเกิดใหม่ เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมกัน,BRICS Peaceใช้กลไกสันติภาพยุติสงครามความขัดแย้ง,นวัตกรรมของBRICS Innovationเพื่ออนาคตเปิดพรมแดนใหม่ๆเพื่อมนุษยชาติ,Green BRICS ซึ่งจีนเป็นเจ้าโลกเทคโนโลยีสีเขียวและรถไฟฟ้าตอบโจทย์แก้โลกร้อน Climate Change และประเด็น Justices&Humanity BRICSที่ผู้นำจีนเสนอควรต้องให้แต้มต่อประเทศยากจนถึงจะเป็นธรรม . การประชุมสุดยอดของผู้นำ BRICS ปิดฉากลงด้วยการรับรองปฏิญญาคาซาน 2024 ซึ่งเป็นคำประกาศแถลงการณ์ร่วมของสมาชิก BRICS โดยมีแผนที่จะยื่นเอกสารดังกล่าวต่อสหประชาชาติด้วย เนื้อหาระบุไว้4หัวข้อหลัก . หนึ่ง-ความจำเป็นในการปฏิรูปสถาบันระดับโลกเช่นองค์การการค้าโลก คัดค้านมาตรการฝ่ายเดียวที่เลือกปฏิบัติและการคุ้มครองทางการค้า รวมทั้งเสนอให้คณะมนตรีความมั่นคงฯ ให้เป็นตัวแทนประเทศทั่วโลกมากขึ้น . สอง-โครงการของ BRICS ริเริ่มใหม่ (BRICS Initiative) ด้านศักยภาพเทคโนโลยีสารสนเทศดิจิทัลและเปลี่ยนแปลงเพิ่มบทบาทธนาคารพัฒนาแห่งใหม่ (NDB)ของBRICS แทนธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟที่ล้มเหลวต่อการพัฒนาประเทศ Global South รวมถึงการทำแพลตฟอร์มใหม่ๆพัฒนาเศรษฐกิจ ระบบชำระเงินระหว่างประเทศ BRICS ClearแทนระบบSWIFTของตะวันตก และร่วมมือการพัฒนายารักษาโรครวมทั้งวัคซีนและโครงการ เวชศาสตร์นิวเคลียร์ . สาม-การขยายความร่วมมือของ BRICS โดยการใช้สกุลเงินท้องถิ่นประจำชาติในการทำธุรกรรมระหว่างสมาชิก BRICS+ และพันธมิตรทางการค้า ดำเนินยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ . สี่-วิกฤตการณ์โลกที่ BRICS ต่อต้าน ประณามการใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เลือกปฏิบัติ คัดค้านการนำอาวุธไปใช้ในอวกาศ และสนับสนุนการเสริมสร้างระบอบการไม่แพร่ขยายอาวุธ รวมถึงปฏิบัติตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ สนับสนุนการเข้าเป็นสมาชิกอย่างเต็มตัวของปาเลสไตน์ในสหประชาชาติและข้อเสนอในการไกล่เกลี่ยยุติความขัดแย้งโดยผ่านการเจรจาเท่านั้น . ทั้งหมดนี้ จีน รัสเซีย ในฐานะแกนนำมหาอำนาจขั้วโลกใหม่ จะเป็นผู้นำวางกฎระเบียบโลกใหม่ และได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงยุทธศาสตร์เชิงภูมิเศรษฐศาสตร์และภูมิรัฐศาสตร์ แสดงให้เห็นถึงสภาพการขับเคี่ยวกันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่จะทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างเศรษฐกิจกลุ่ม Global North และ Global South สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการนับหนึ่งที่กำลังจะสั่นสะเทือนอนาคตของระเบียบโลกเก่า
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 652 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันที่สองของการชุมนุมประท้วงผลการเลือกตั้งในจอร์เจียยังเหงาหงอย

    แม้จะมีแรงสนับสนุนอย่างเปิดเผยจากยุโรป อมเริกา หรือแม้แต่ฝ่ายประธานาธิบดีจอร์เจีย แต่ก็ยังไม่สามารถระตุ้นให้ประชาชนชาวจอร์เจียออกมาร่วมชุมนุมกันได้ตามที่คาดหวัง

    มีรายงานว่า จำนวนผู้มาชุมนุมวันที่สองมีเพียงหลักร้อยเท่านั้น ไม่ได้แตกต่างจากวันแรกเท่าไหร่

    หลังจากทราบผลการเลือกตั้ง แกนนำกลุ่มต่อต้านพรรครัฐบาลของจอร์เจียที่ชนะการเลือกตั้ง รีบประกาศจัดการชุมนุมเพื่อคัดค้านผลการเลือกตั้งทันที โดยคาดหวังว่าความผิดหวังของประชาชนส่วนหนึ่งจะสามารถผลักดันให้เกิดการชุมนุมครั้งใหญ่ได้เหมือนที่ผ่านมา
    วันที่สองของการชุมนุมประท้วงผลการเลือกตั้งในจอร์เจียยังเหงาหงอย แม้จะมีแรงสนับสนุนอย่างเปิดเผยจากยุโรป อมเริกา หรือแม้แต่ฝ่ายประธานาธิบดีจอร์เจีย แต่ก็ยังไม่สามารถระตุ้นให้ประชาชนชาวจอร์เจียออกมาร่วมชุมนุมกันได้ตามที่คาดหวัง มีรายงานว่า จำนวนผู้มาชุมนุมวันที่สองมีเพียงหลักร้อยเท่านั้น ไม่ได้แตกต่างจากวันแรกเท่าไหร่ หลังจากทราบผลการเลือกตั้ง แกนนำกลุ่มต่อต้านพรรครัฐบาลของจอร์เจียที่ชนะการเลือกตั้ง รีบประกาศจัดการชุมนุมเพื่อคัดค้านผลการเลือกตั้งทันที โดยคาดหวังว่าความผิดหวังของประชาชนส่วนหนึ่งจะสามารถผลักดันให้เกิดการชุมนุมครั้งใหญ่ได้เหมือนที่ผ่านมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 33 0 รีวิว
  • แผนปูตินย้อนศร NATO เกาหลีเหนือช่วยรบ
    .
    ครั้งแรกในรอบ 70 ปี ที่เกาหลีเหนือ-จีน จับมือกับรัสเซีย ฟัดยูเครน โดยมีข้อกล่าวหาว่าเกาหลีเหนือส่งทหารไปช่วยรัสเซียรบกับยูเครนจำนวนหนึ่ง ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แล้วนัยของมันจะหมายถึงสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือเปล่า
    .
    ถ้าเราย้อนหลังไป 4 เดือนที่แล้ว มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมาประธานาธิบดีปูติน เพิ่งเดินทางไปเยือนเกาหลีเหนือ ได้พบกับนายคิม จอง-อึน และทั้งคู่ได้ร่วมลงนามในสนธิสัญญาหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบครอบคลุมทุกอย่าง
    .
    สนธิสัญญานี้มีข้อความระบุ จะให้การช่วยเหลือด้านการป้องกันซึ่งกันและกัน หากประเทศใดประเทศหนึ่งถูกโจมตี ซึ่งเป็นแบบเดียวกับมาตรา 5 ของสนธิสัญญานาโต นั่นเอง ซึ่งจะพูดได้ว่าปูตินย้อนศรนาโต ก็ได้
    .
    ทีนี้ เรามาดูเหตุผลว่าทำไมเกาหลีเหนือช่วยรัสเซีย ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีใต้ ระบุว่า สงครามในยูเครนเปิดโอกาสให้กองทัพเกาหลีเหนือได้ทดสอบความพร้อมรบ รวมทั้งได้ประสบการณ์ในการใช้อาวุธแบบใหม่ และสงครามแบบใหม่ เช่น การใช้โดรน และผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าหากมีสงครามบนคาบสมุทรเกาหลี ขีปนาวุธฮวาซอง 11GA จะเป็นหนึ่งในอาวุธหลักที่ใช้มากที่สุด เกาหลีเหนือจึงใช้สนามรบที่ยูเครน เพื่อรวบรวมข้อมูลสำปรับปรุงประสิทธิภาพขีปนาวุธ และช้อมูลนี้เขาสามารถใช้ ขาย ขีปนาวุธ รุ่นนี้ออกไปในต่างประเทศด้วย
    .
    ความเคลื่อนไหวของจีน รัสเซีย และชาติตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม QUAD หรือ G7 ได้แสดงให้เห็นถึงการแบ่งแยกขั้ว/ข้างอย่างชัดเจน เหมือนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีกลุ่มพันธมิตรและกลุ่มอักษะ
    .
    สงครามรัสเซีย-ยูเครนเป็นเพียงแค่แนวรบหนึ่งที่เพิ่มความซับซ้อนหลังจากเกาหลีเหนือเข้ามาร่วมด้วย แต่มันยังมีสงครามตะวันออกกลางที่ขยายตัวจากสงครามตัวแทนของอิสราเอลกับฮามาส เป็นสงครามตัวจริงแล้ว ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มพันธมิตรแห่งการต่อต้านที่มีอิหร่านเป็นแกนนำ นี่เรายังไม่รวมความขัดแย้งเรื่องเกาะไต้หวัน ทะเลจีนใต้ ในพื้นที่อื่นๆ อีกหลายจุดทั่วโลก
    .
    ผมอยากจะบอกให้ท่านผู้ชมได้รับทราบว่า ให้เตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับสงครามครั้งใหญ่ได้แล้ว เพราะผมคิดว่ามันน่าจะเกิดขึ้นได้อย่างมากที่สุด แต่ก็อาจจะยังไม่เกิดตามที่ผมคาดคิด เพราะว่าจากการวิเคราะห์ส่วนตัวของผมแล้ว ยุโรปไม่พร้อมจะเข้าร่วมสงคราม
    .
    จึงเป็นไปได้ว่าการที่เกาหลีเหนือเข้ามาช่วยรัสเซียครั้งนี้ น่าจะเป็นแผนของประธานาธิบดีปูติน ที่จะโยนหินถามทาง แล้วดูปฏิกิริยาของยุโรป ยุโรปก็น่าจะรู้ว่าเป็นการโยนหินถามทาง แต่ถ้ายุโรปไม่ตัดสินใจอะไรเด็ดขาด ยังถกเถียงกันอยู่ว่าจะส่งทหารเข้ามาหรือไม่ แล้วก็ถอยในที่สุดนั้น นั่นคือการถือไพ่ที่รัสเซียถือเหนือกว่าทางยุโรปมากมายมหาศาลครับ
    แผนปูตินย้อนศร NATO เกาหลีเหนือช่วยรบ . ครั้งแรกในรอบ 70 ปี ที่เกาหลีเหนือ-จีน จับมือกับรัสเซีย ฟัดยูเครน โดยมีข้อกล่าวหาว่าเกาหลีเหนือส่งทหารไปช่วยรัสเซียรบกับยูเครนจำนวนหนึ่ง ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แล้วนัยของมันจะหมายถึงสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือเปล่า . ถ้าเราย้อนหลังไป 4 เดือนที่แล้ว มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมาประธานาธิบดีปูติน เพิ่งเดินทางไปเยือนเกาหลีเหนือ ได้พบกับนายคิม จอง-อึน และทั้งคู่ได้ร่วมลงนามในสนธิสัญญาหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบครอบคลุมทุกอย่าง . สนธิสัญญานี้มีข้อความระบุ จะให้การช่วยเหลือด้านการป้องกันซึ่งกันและกัน หากประเทศใดประเทศหนึ่งถูกโจมตี ซึ่งเป็นแบบเดียวกับมาตรา 5 ของสนธิสัญญานาโต นั่นเอง ซึ่งจะพูดได้ว่าปูตินย้อนศรนาโต ก็ได้ . ทีนี้ เรามาดูเหตุผลว่าทำไมเกาหลีเหนือช่วยรัสเซีย ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีใต้ ระบุว่า สงครามในยูเครนเปิดโอกาสให้กองทัพเกาหลีเหนือได้ทดสอบความพร้อมรบ รวมทั้งได้ประสบการณ์ในการใช้อาวุธแบบใหม่ และสงครามแบบใหม่ เช่น การใช้โดรน และผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าหากมีสงครามบนคาบสมุทรเกาหลี ขีปนาวุธฮวาซอง 11GA จะเป็นหนึ่งในอาวุธหลักที่ใช้มากที่สุด เกาหลีเหนือจึงใช้สนามรบที่ยูเครน เพื่อรวบรวมข้อมูลสำปรับปรุงประสิทธิภาพขีปนาวุธ และช้อมูลนี้เขาสามารถใช้ ขาย ขีปนาวุธ รุ่นนี้ออกไปในต่างประเทศด้วย . ความเคลื่อนไหวของจีน รัสเซีย และชาติตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม QUAD หรือ G7 ได้แสดงให้เห็นถึงการแบ่งแยกขั้ว/ข้างอย่างชัดเจน เหมือนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีกลุ่มพันธมิตรและกลุ่มอักษะ . สงครามรัสเซีย-ยูเครนเป็นเพียงแค่แนวรบหนึ่งที่เพิ่มความซับซ้อนหลังจากเกาหลีเหนือเข้ามาร่วมด้วย แต่มันยังมีสงครามตะวันออกกลางที่ขยายตัวจากสงครามตัวแทนของอิสราเอลกับฮามาส เป็นสงครามตัวจริงแล้ว ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มพันธมิตรแห่งการต่อต้านที่มีอิหร่านเป็นแกนนำ นี่เรายังไม่รวมความขัดแย้งเรื่องเกาะไต้หวัน ทะเลจีนใต้ ในพื้นที่อื่นๆ อีกหลายจุดทั่วโลก . ผมอยากจะบอกให้ท่านผู้ชมได้รับทราบว่า ให้เตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับสงครามครั้งใหญ่ได้แล้ว เพราะผมคิดว่ามันน่าจะเกิดขึ้นได้อย่างมากที่สุด แต่ก็อาจจะยังไม่เกิดตามที่ผมคาดคิด เพราะว่าจากการวิเคราะห์ส่วนตัวของผมแล้ว ยุโรปไม่พร้อมจะเข้าร่วมสงคราม . จึงเป็นไปได้ว่าการที่เกาหลีเหนือเข้ามาช่วยรัสเซียครั้งนี้ น่าจะเป็นแผนของประธานาธิบดีปูติน ที่จะโยนหินถามทาง แล้วดูปฏิกิริยาของยุโรป ยุโรปก็น่าจะรู้ว่าเป็นการโยนหินถามทาง แต่ถ้ายุโรปไม่ตัดสินใจอะไรเด็ดขาด ยังถกเถียงกันอยู่ว่าจะส่งทหารเข้ามาหรือไม่ แล้วก็ถอยในที่สุดนั้น นั่นคือการถือไพ่ที่รัสเซียถือเหนือกว่าทางยุโรปมากมายมหาศาลครับ
    Like
    Love
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 965 มุมมอง 1 รีวิว
  • พรรคพม่าเฟล หลังถูกปิดประตูใส่กลอนนิรโทษ112 ให้ตัวเองและแกนนำพรรค แต่อ้างจะช่วยผู้ถูกดำเนินคดี112 ทั้งๆ ที่มีแค่ 300 กว่าคดี
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    พรรคพม่าเฟล หลังถูกปิดประตูใส่กลอนนิรโทษ112 ให้ตัวเองและแกนนำพรรค แต่อ้างจะช่วยผู้ถูกดำเนินคดี112 ทั้งๆ ที่มีแค่ 300 กว่าคดี #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    Like
    Yay
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 393 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่อยากพูดถึงคนเนรคุณแผ่นดิน แต่ก็จำเป็นต้องพูด เพราะจิตใจของมันไม่ใช่คน มันเป็นสัตว์นรก มีแต่ความโลภ พยาบาท และมีอวิชชาผูกไว้จนดิ้นไม่หลุด
    เมื่อมีอำนาจเป็นเจ้าของพรรคแกนนำรัฐบาล จึงเป็นอันตรายกับประเทศอย่างยิ่ง
    ไม่อยากพูดถึงคนเนรคุณแผ่นดิน แต่ก็จำเป็นต้องพูด เพราะจิตใจของมันไม่ใช่คน มันเป็นสัตว์นรก มีแต่ความโลภ พยาบาท และมีอวิชชาผูกไว้จนดิ้นไม่หลุด เมื่อมีอำนาจเป็นเจ้าของพรรคแกนนำรัฐบาล จึงเป็นอันตรายกับประเทศอย่างยิ่ง
    มโนกรรมคนเหนือกฏหมายอย่างนักโทษชายทักษิณ
    ผู้ยึดมั่นในฉันทะ ราคะ นันทิ และตัณหา
    ด้วยมีมิจฉาทิฏฐิ มีจิตพยาบาท และมีความโลภในอุปกรณ์แห่งทรัพย์ของชาติและประชาชน ั้ั้ั้ั้ั้ั้ั้ั้
    นั้นเป็นกรรมหนักมาก

    เขากำลังเร็งกรรมไปนรกเร็วขึ้นทุกวินาที
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลรัฐธรรมนูญมีหนังสือแจ้งอัยการสูงสุด ขอทราบการดำเนินการ-รวบรวมหลักฐาน ตามคำร้อง "ธีรยุทธ " ปม "ทักษิณ-เพื่อไทย" ล้มล้างการปกครองฯ ภายใน 15 วัน

    22 ตุลาคม .2567- ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดีที่สำคัญและเป็นที่น่าสนใจ หนึ่งในนั้นเป็นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 (เรื่องพิจารณาที่ 36/2567)

    นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธธรรมนูญ วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูกร้องที่ 3) และพรรคเพื่อไทย (ผู้ถูกร้องที่ 2) ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 6 ประเด็น ดังนี้

    ประเด็นที่ 1 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการรัฐบาลผ่านกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ให้เอื้อประโยชน์แก่ผู้ถูกร้องที่ 1 ให้พักอาศัยอยู่ห้องพัก ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ในระหว่างรับโทษจำคุก เพื่อให้ไม่ต้องรับโทษในเรือนจำ ทั้งที่ไม่พบว่ามีอาการป่วยขั้นวิกฤต

    ประเด็นที่ 2 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการรัฐบาลให้เอื้อประโยชน์แก่อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชา ให้มีการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลเพื่อแบ่งผลประโยชน์ก๊าซธรรมชาติและทรัพยากรใต้ทะเลในเขตอธิปไตยทางทะเลของประเทศไทยให้แก่ประเทศกัมพูชา

    ประเด็นที่ 3 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 ร่วมมือเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคประชาชน ซึ่งเป็นพรรคที่ก่อตั้งโดยกลุ่มการเมืองของพรรคก้าวไกลเดิมที่ต้องคำวินิจฉัยศาลรัฐธธธรรมนูญว่ามีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

    ประเด็นที่ 4 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการแทนผู้ถูกร้องที่ 2 โดยเจรจากับแกนนำของพรรคการเมืองอื่นที่ร่วมรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมตรี เพื่อหารือการเสนอชื่อบุคคลผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่บ้านพักส่วนตัวของผู้ถูกร้องที่ 1

    ประเด็นที่ 5 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 มีมติขับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล

    ประเด็นที่ 6 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 นำนโยบายของผู้ถูกร้องที่ 1 ที่แสดงวิสัยทัศน์ไว้ไปดำเนินการให้เป็นนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา

    ผู้ร้องยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 24 ก.ย.2567 ขอให้อัยการสูงสุดร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการกระทำ แต่อัยการสูงสุดมิได้ดำเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสาม ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญญเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 1 เลิกกระทำการดังกล่าวและให้ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกยินยอมให้ผู้ถูกร้องที่ 1 ใช้เป็นเครื่องมือกระทำการดังกล่าว

    ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แก่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ ในชั้นนี้ ให้มีหนังสือแจ้งอัยการสูงสุดเพื่อขอทราบว่าได้ดำเนินการตามคำร้องของผู้ร้องไปแล้วอย่างไร และรวบรวมพยานหลักฐานได้เพียงใด โดยให้จัดส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/AQ6ESAWFP4idRqEr/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    ศาลรัฐธรรมนูญมีหนังสือแจ้งอัยการสูงสุด ขอทราบการดำเนินการ-รวบรวมหลักฐาน ตามคำร้อง "ธีรยุทธ " ปม "ทักษิณ-เพื่อไทย" ล้มล้างการปกครองฯ ภายใน 15 วัน 22 ตุลาคม .2567- ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดีที่สำคัญและเป็นที่น่าสนใจ หนึ่งในนั้นเป็นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 (เรื่องพิจารณาที่ 36/2567) นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธธรรมนูญ วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูกร้องที่ 3) และพรรคเพื่อไทย (ผู้ถูกร้องที่ 2) ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 6 ประเด็น ดังนี้ ประเด็นที่ 1 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการรัฐบาลผ่านกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ให้เอื้อประโยชน์แก่ผู้ถูกร้องที่ 1 ให้พักอาศัยอยู่ห้องพัก ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ในระหว่างรับโทษจำคุก เพื่อให้ไม่ต้องรับโทษในเรือนจำ ทั้งที่ไม่พบว่ามีอาการป่วยขั้นวิกฤต ประเด็นที่ 2 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการรัฐบาลให้เอื้อประโยชน์แก่อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชา ให้มีการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลเพื่อแบ่งผลประโยชน์ก๊าซธรรมชาติและทรัพยากรใต้ทะเลในเขตอธิปไตยทางทะเลของประเทศไทยให้แก่ประเทศกัมพูชา ประเด็นที่ 3 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 ร่วมมือเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคประชาชน ซึ่งเป็นพรรคที่ก่อตั้งโดยกลุ่มการเมืองของพรรคก้าวไกลเดิมที่ต้องคำวินิจฉัยศาลรัฐธธธรรมนูญว่ามีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประเด็นที่ 4 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการแทนผู้ถูกร้องที่ 2 โดยเจรจากับแกนนำของพรรคการเมืองอื่นที่ร่วมรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมตรี เพื่อหารือการเสนอชื่อบุคคลผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่บ้านพักส่วนตัวของผู้ถูกร้องที่ 1 ประเด็นที่ 5 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 มีมติขับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ประเด็นที่ 6 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 นำนโยบายของผู้ถูกร้องที่ 1 ที่แสดงวิสัยทัศน์ไว้ไปดำเนินการให้เป็นนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา ผู้ร้องยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 24 ก.ย.2567 ขอให้อัยการสูงสุดร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการกระทำ แต่อัยการสูงสุดมิได้ดำเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสาม ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญญเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 1 เลิกกระทำการดังกล่าวและให้ผู้ถูกร้องที่ 2 เลิกยินยอมให้ผู้ถูกร้องที่ 1 ใช้เป็นเครื่องมือกระทำการดังกล่าว ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แก่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ ในชั้นนี้ ให้มีหนังสือแจ้งอัยการสูงสุดเพื่อขอทราบว่าได้ดำเนินการตามคำร้องของผู้ร้องไปแล้วอย่างไร และรวบรวมพยานหลักฐานได้เพียงใด โดยให้จัดส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ที่มา https://www.facebook.com/share/p/AQ6ESAWFP4idRqEr/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 466 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts