• รายงานล่าสุดจาก CSO Online ระบุว่า การเมืองกำลังส่งผลกระทบต่อกระบวนการอนุมัติใบรับรองความปลอดภัยทางไซเบอร์ในสหรัฐฯ ซึ่งอาจทำให้บริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของอเมริกาสูญเสียความน่าเชื่อถือในระดับสากล

    ✅ รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเชื่อมโยงใบรับรองความปลอดภัยกับจุดยืนทางการเมือง
    - คำสั่งของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเซ็นเซอร์ข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้งปี 2020 และ COVID-19 จะถูกเพิกถอนใบรับรองความปลอดภัย
    - Chris Krebs อดีตหัวหน้า CISA ถูกเพิกถอนใบรับรอง และบริษัท SentinelOne ที่เขาเกี่ยวข้องก็ได้รับผลกระทบ

    ✅ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยกังวลว่าการเมืองจะทำให้ข้อมูลภัยคุกคามขาดความน่าเชื่อถือ
    - CISOs อาจต้องพิจารณาว่าข้อมูลจากบริษัทอเมริกัน ได้รับอิทธิพลจากรัฐบาลหรือไม่
    - มีความกังวลว่าบริษัทอาจถูกกดดันให้ ละเว้นข้อมูลเกี่ยวกับภัยคุกคามจากบางประเทศ

    ✅ บริษัทด้านความปลอดภัยจากประเทศอื่นอาจได้รับประโยชน์จากสถานการณ์นี้
    - บริษัทจาก แคนาดา, ออสเตรเลีย, อิสราเอล, อินเดีย, เยอรมนี และญี่ปุ่น อาจได้รับความไว้วางใจมากขึ้น
    - CISOs อาจต้องพิจารณา เปลี่ยนไปใช้บริการจากบริษัทที่ไม่ได้รับอิทธิพลทางการเมือง

    ✅ การเพิกถอนใบรับรองของ SentinelOne อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้น
    - หากรัฐบาลสหรัฐฯ ใช้มาตรการนี้กับบริษัทอื่น อาจทำให้ อุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์ของอเมริกาสูญเสียความน่าเชื่อถือ

    https://www.csoonline.com/article/3965056/will-politicization-of-security-clearances-make-us-cybersecurity-firms-radioactive.html
    รายงานล่าสุดจาก CSO Online ระบุว่า การเมืองกำลังส่งผลกระทบต่อกระบวนการอนุมัติใบรับรองความปลอดภัยทางไซเบอร์ในสหรัฐฯ ซึ่งอาจทำให้บริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของอเมริกาสูญเสียความน่าเชื่อถือในระดับสากล ✅ รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเชื่อมโยงใบรับรองความปลอดภัยกับจุดยืนทางการเมือง - คำสั่งของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเซ็นเซอร์ข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้งปี 2020 และ COVID-19 จะถูกเพิกถอนใบรับรองความปลอดภัย - Chris Krebs อดีตหัวหน้า CISA ถูกเพิกถอนใบรับรอง และบริษัท SentinelOne ที่เขาเกี่ยวข้องก็ได้รับผลกระทบ ✅ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยกังวลว่าการเมืองจะทำให้ข้อมูลภัยคุกคามขาดความน่าเชื่อถือ - CISOs อาจต้องพิจารณาว่าข้อมูลจากบริษัทอเมริกัน ได้รับอิทธิพลจากรัฐบาลหรือไม่ - มีความกังวลว่าบริษัทอาจถูกกดดันให้ ละเว้นข้อมูลเกี่ยวกับภัยคุกคามจากบางประเทศ ✅ บริษัทด้านความปลอดภัยจากประเทศอื่นอาจได้รับประโยชน์จากสถานการณ์นี้ - บริษัทจาก แคนาดา, ออสเตรเลีย, อิสราเอล, อินเดีย, เยอรมนี และญี่ปุ่น อาจได้รับความไว้วางใจมากขึ้น - CISOs อาจต้องพิจารณา เปลี่ยนไปใช้บริการจากบริษัทที่ไม่ได้รับอิทธิพลทางการเมือง ✅ การเพิกถอนใบรับรองของ SentinelOne อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้น - หากรัฐบาลสหรัฐฯ ใช้มาตรการนี้กับบริษัทอื่น อาจทำให้ อุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์ของอเมริกาสูญเสียความน่าเชื่อถือ https://www.csoonline.com/article/3965056/will-politicization-of-security-clearances-make-us-cybersecurity-firms-radioactive.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Will politicization of security clearances make US cybersecurity firms radioactive?
    Following Trump's executive order to strip SentinelOne of its security clearances, many wonder if CISOs will soon put American security firms in the same bad light as Russia’s Kaspersky and China’s Nuctech.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานล่าสุดจาก CSO Online ระบุว่า Shadow AI หรือการใช้ AI โดยไม่ได้รับอนุญาตในองค์กร กำลังเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยข้อมูลอย่างมาก โดยมีการเปิดเผยว่า ปริมาณข้อมูลที่ถูกส่งไปยังแอปพลิเคชัน AI เพิ่มขึ้นถึง 30 เท่าในปีที่ผ่านมา ซึ่งนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลที่สำคัญ เช่น ซอร์สโค้ด, ข้อมูลทางกฎหมาย และข้อมูลลูกค้า

    ✅ Shadow AI กำลังเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยข้อมูลในองค์กร
    - พนักงานใช้ บัญชี AI ส่วนตัว เพื่อประมวลผลข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
    - ข้อมูลที่ถูกส่งไปยังแอป AI เช่น ChatGPT, Gemini และ Claude เพิ่มขึ้นจาก 250MB เป็น 7.7GB ต่อเดือน

    ✅ 8.5% ของคำสั่งที่ส่งไปยัง AI มีข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
    - ข้อมูลที่รั่วไหลรวมถึง ข้อมูลลูกค้า, ข้อมูลทางกฎหมาย และข้อมูลด้านความปลอดภัย
    - ข้อมูลลูกค้าคิดเป็น เกือบครึ่งหนึ่งของข้อมูลที่รั่วไหล

    ✅ องค์กรส่วนใหญ่ไม่มีนโยบายควบคุมการใช้ AI อย่างชัดเจน
    - 90% ขององค์กรมี แอปพลิเคชัน AI ที่ได้รับอนุญาต แต่ยังคงมีการใช้ AI ที่ไม่ได้รับการควบคุม
    - 72% ของการใช้ AI ในองค์กรเป็น Shadow IT ซึ่งไม่ได้รับการตรวจสอบจากฝ่ายความปลอดภัย

    ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการใช้ AI โดยไม่มีการควบคุมอาจนำไปสู่การละเมิดกฎระเบียบ
    - ข้อมูลที่รั่วไหลอาจถูกนำไปใช้ในการฝึกโมเดล AI หรือถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์
    - การใช้ AI โดยไม่มีการตรวจสอบอาจทำให้เกิด ข้อผิดพลาดด้านข้อมูลและลดความน่าเชื่อถือขององค์กร

    https://www.csoonline.com/article/3964282/cisos-no-closer-to-containing-shadow-ais-skyrocketing-data-risks.html
    รายงานล่าสุดจาก CSO Online ระบุว่า Shadow AI หรือการใช้ AI โดยไม่ได้รับอนุญาตในองค์กร กำลังเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยข้อมูลอย่างมาก โดยมีการเปิดเผยว่า ปริมาณข้อมูลที่ถูกส่งไปยังแอปพลิเคชัน AI เพิ่มขึ้นถึง 30 เท่าในปีที่ผ่านมา ซึ่งนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลที่สำคัญ เช่น ซอร์สโค้ด, ข้อมูลทางกฎหมาย และข้อมูลลูกค้า ✅ Shadow AI กำลังเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยข้อมูลในองค์กร - พนักงานใช้ บัญชี AI ส่วนตัว เพื่อประมวลผลข้อมูลที่ละเอียดอ่อน - ข้อมูลที่ถูกส่งไปยังแอป AI เช่น ChatGPT, Gemini และ Claude เพิ่มขึ้นจาก 250MB เป็น 7.7GB ต่อเดือน ✅ 8.5% ของคำสั่งที่ส่งไปยัง AI มีข้อมูลที่ละเอียดอ่อน - ข้อมูลที่รั่วไหลรวมถึง ข้อมูลลูกค้า, ข้อมูลทางกฎหมาย และข้อมูลด้านความปลอดภัย - ข้อมูลลูกค้าคิดเป็น เกือบครึ่งหนึ่งของข้อมูลที่รั่วไหล ✅ องค์กรส่วนใหญ่ไม่มีนโยบายควบคุมการใช้ AI อย่างชัดเจน - 90% ขององค์กรมี แอปพลิเคชัน AI ที่ได้รับอนุญาต แต่ยังคงมีการใช้ AI ที่ไม่ได้รับการควบคุม - 72% ของการใช้ AI ในองค์กรเป็น Shadow IT ซึ่งไม่ได้รับการตรวจสอบจากฝ่ายความปลอดภัย ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการใช้ AI โดยไม่มีการควบคุมอาจนำไปสู่การละเมิดกฎระเบียบ - ข้อมูลที่รั่วไหลอาจถูกนำไปใช้ในการฝึกโมเดล AI หรือถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์ - การใช้ AI โดยไม่มีการตรวจสอบอาจทำให้เกิด ข้อผิดพลาดด้านข้อมูลและลดความน่าเชื่อถือขององค์กร https://www.csoonline.com/article/3964282/cisos-no-closer-to-containing-shadow-ais-skyrocketing-data-risks.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    CISOs no closer to containing shadow AI’s skyrocketing data risks
    A 30-fold increase in company data being exposed to shadow AI shows that offering users official AI tools doesn’t reduce the data leak and compliance risks of unsanctioned AI use.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้เรามาคุยกันถึงบทประพันธ์โบราณบทหนึ่งชื่อว่า ‘ฉางเหมินฟู่’ (长门赋) ซึ่งในละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> กล่าวถึงบ่อยครั้ง โดยหนึ่งในตัวละครเอกหยวนเซิ่นมักกล่าวอ้างอิงเพื่อเป็นคติสอนใจเกี่ยวกับความรักให้กับนางเอก

    ความมีอยู่ว่า...
    หยวนเซิ่นกล่าวอธิบาย “เรื่องเก็บหญิงงามในห้องทองคำกับบทกวีฉางเหมิน...วันนี้ห้องทองคำยังคงอยู่ ทว่าตำหนักฉางเหมินมิมีคนรักแล้ว เห็นได้ว่าสามีภรรยาในโลกหล้า เมื่อคราแรกพบต่างมีใจตรงกัน ยากจะพรากจากจึงมีบุพเพสันนิวาสนี้ แต่สุดท้ายเป็นเพียงรักที่จางหายรักสายเกินไป”
    - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> ตามซับไทย

    ‘ฉางเหมินฟู่’ เป็นบทประพันธ์ของซือหม่าเซียงหรู (779 – 117 ปีก่อนคริสตกาล) ศิลปินเอกในยุคสมัยองค์ฮั่นอู่ตี้แห่งราชวงศ์ฮั่น ที่เรียกเขาว่า ‘ศิลปิน’ เพราะเชี่ยวชาญทั้งด้านอักษรและการดนตรี เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยได้ยินชื่อของเขาจากเรื่องราวเกี่ยวกับเพลงพิณ “หงส์ตามหาคู่” และบทประพันธ์ ‘ซ่างหลินฟู่’ (Storyฯ เคยกล่าวถึงในหลายบทความแล้ว)

    Storyฯ ไม่อยากใช้คำว่า ‘บทกวี’ เพราะ ‘ฟู่’ เป็นวรรณกรรมซึ่งไม่มีรูปแบบตายตัวเหมือนโคลงกลอน ลักษณะเหมือนการเขียนเรื่องสั้น หากแต่ภาษาสวยงามผสมผสานคำคล้องจองลงไปเป็นช่วงๆ และซือหม่าเซียงหรูนี้เรียกได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญของบทประพันธ์ในรูปแบบ “ฟู่” นี้

    ‘ฉางเหมิน’ ในชื่อของบทประพันธ์นี้เป็นชื่อพระตำหนักของฮองเฮาเฉินอาเจียวในองค์ฮั่นอู่ตี้ (156-87 ปีก่อนคริสตกาล) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองฉางอัน โดยมีที่มาที่ไปสรุปเป็นเรื่องราวของฮองเฮาเฉินที่ไม่เป็นที่ทรงโปรดของฮั่นอู่ตี้ แต่องค์ฮั่นอู่ตี้ทรงจำใจอภิเษกด้วย เมื่ออำนาจทางการเมืองของพระนางอ่อนลงและทรงใช้เล่ห์กลให้ร้ายพระชายาและสนมรายอื่น ฮองเฮาเฉินก็ถูกกักบริเวณไว้ภายในพระตำหนักฉางเหมิน จึงทรงหาทางจ้างซือหม่าเซียงหรูแต่งบทประพันธ์นี้ขึ้น

    เนื้อหาของบทประพันธ์เป็นเรื่องราวความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวของฮองเฮาเฉินในพระตำหนักที่แสนจะเดียวดาย ทรงคอยชะเง้อหาแต่กลับเห็นพระสวามีมีความสุขกับสตรีอื่นทว่าไม่เคยย่างกรายมาเยี่ยมเยียนพระนาง ในยามที่ฝนตกฟ้าร้องก็ไร้ซึ่งผู้ใดเคียงข้าง ในพระตำหนักที่หรูหรากลับไร้ซึ่งเงาของคนรัก

    บทประพันธ์นี้ถูกองค์ฮองเฮาเฉินให้คนขับขานทั้งวัน แต่องค์ฮั่นอู่ตี้ก็ยังไม่เคยทรงเหลียวแลพระนางอีกเลย ด้วยเนื้อหาของบทประพันธ์ทำให้มันถูกเรียกขานว่าเป็นจดหมายรักฉบับแรกในประวัติศาสตร์จีน และในเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> นี้ มันถูกใช้เป็นตัวอย่างของความรักที่ไม่ได้รับรักตอบแทน

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    http://m.cyol.com/gb/articles/2022-08/04/content_449M3uWlp.html
    https://k.sina.cn/article_7069952700_1a566eabc00100yzo0.html
    https://baike.sogou.com/PicBooklet.v?imageGroupId=4666607&relateImageGroupIds=4666607&lemmaId=225502&category=#4666607_0
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://so.gushiwen.cn/shiwenv_5452fb360959.aspx
    https://baike.baidu.com/item/长门赋/3075468
    http://m.qulishi.com/news/201708/242962.html

    #ดาราจักรรักลำนำใจ #ฉางเหมินฟู่ #ซือหม่าเซียงหรู #เฉินอาเจียว #ฮ่านอู่ตี้



    วันนี้เรามาคุยกันถึงบทประพันธ์โบราณบทหนึ่งชื่อว่า ‘ฉางเหมินฟู่’ (长门赋) ซึ่งในละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> กล่าวถึงบ่อยครั้ง โดยหนึ่งในตัวละครเอกหยวนเซิ่นมักกล่าวอ้างอิงเพื่อเป็นคติสอนใจเกี่ยวกับความรักให้กับนางเอก ความมีอยู่ว่า... หยวนเซิ่นกล่าวอธิบาย “เรื่องเก็บหญิงงามในห้องทองคำกับบทกวีฉางเหมิน...วันนี้ห้องทองคำยังคงอยู่ ทว่าตำหนักฉางเหมินมิมีคนรักแล้ว เห็นได้ว่าสามีภรรยาในโลกหล้า เมื่อคราแรกพบต่างมีใจตรงกัน ยากจะพรากจากจึงมีบุพเพสันนิวาสนี้ แต่สุดท้ายเป็นเพียงรักที่จางหายรักสายเกินไป” - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> ตามซับไทย ‘ฉางเหมินฟู่’ เป็นบทประพันธ์ของซือหม่าเซียงหรู (779 – 117 ปีก่อนคริสตกาล) ศิลปินเอกในยุคสมัยองค์ฮั่นอู่ตี้แห่งราชวงศ์ฮั่น ที่เรียกเขาว่า ‘ศิลปิน’ เพราะเชี่ยวชาญทั้งด้านอักษรและการดนตรี เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยได้ยินชื่อของเขาจากเรื่องราวเกี่ยวกับเพลงพิณ “หงส์ตามหาคู่” และบทประพันธ์ ‘ซ่างหลินฟู่’ (Storyฯ เคยกล่าวถึงในหลายบทความแล้ว) Storyฯ ไม่อยากใช้คำว่า ‘บทกวี’ เพราะ ‘ฟู่’ เป็นวรรณกรรมซึ่งไม่มีรูปแบบตายตัวเหมือนโคลงกลอน ลักษณะเหมือนการเขียนเรื่องสั้น หากแต่ภาษาสวยงามผสมผสานคำคล้องจองลงไปเป็นช่วงๆ และซือหม่าเซียงหรูนี้เรียกได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญของบทประพันธ์ในรูปแบบ “ฟู่” นี้ ‘ฉางเหมิน’ ในชื่อของบทประพันธ์นี้เป็นชื่อพระตำหนักของฮองเฮาเฉินอาเจียวในองค์ฮั่นอู่ตี้ (156-87 ปีก่อนคริสตกาล) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองฉางอัน โดยมีที่มาที่ไปสรุปเป็นเรื่องราวของฮองเฮาเฉินที่ไม่เป็นที่ทรงโปรดของฮั่นอู่ตี้ แต่องค์ฮั่นอู่ตี้ทรงจำใจอภิเษกด้วย เมื่ออำนาจทางการเมืองของพระนางอ่อนลงและทรงใช้เล่ห์กลให้ร้ายพระชายาและสนมรายอื่น ฮองเฮาเฉินก็ถูกกักบริเวณไว้ภายในพระตำหนักฉางเหมิน จึงทรงหาทางจ้างซือหม่าเซียงหรูแต่งบทประพันธ์นี้ขึ้น เนื้อหาของบทประพันธ์เป็นเรื่องราวความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวของฮองเฮาเฉินในพระตำหนักที่แสนจะเดียวดาย ทรงคอยชะเง้อหาแต่กลับเห็นพระสวามีมีความสุขกับสตรีอื่นทว่าไม่เคยย่างกรายมาเยี่ยมเยียนพระนาง ในยามที่ฝนตกฟ้าร้องก็ไร้ซึ่งผู้ใดเคียงข้าง ในพระตำหนักที่หรูหรากลับไร้ซึ่งเงาของคนรัก บทประพันธ์นี้ถูกองค์ฮองเฮาเฉินให้คนขับขานทั้งวัน แต่องค์ฮั่นอู่ตี้ก็ยังไม่เคยทรงเหลียวแลพระนางอีกเลย ด้วยเนื้อหาของบทประพันธ์ทำให้มันถูกเรียกขานว่าเป็นจดหมายรักฉบับแรกในประวัติศาสตร์จีน และในเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> นี้ มันถูกใช้เป็นตัวอย่างของความรักที่ไม่ได้รับรักตอบแทน (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: http://m.cyol.com/gb/articles/2022-08/04/content_449M3uWlp.html https://k.sina.cn/article_7069952700_1a566eabc00100yzo0.html https://baike.sogou.com/PicBooklet.v?imageGroupId=4666607&relateImageGroupIds=4666607&lemmaId=225502&category=#4666607_0 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://so.gushiwen.cn/shiwenv_5452fb360959.aspx https://baike.baidu.com/item/长门赋/3075468 http://m.qulishi.com/news/201708/242962.html #ดาราจักรรักลำนำใจ #ฉางเหมินฟู่ #ซือหม่าเซียงหรู #เฉินอาเจียว #ฮ่านอู่ตี้ 
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • Xiaomi ได้จัดตั้ง แผนกแพลตฟอร์มชิป ใหม่ภายใต้ฝ่ายพัฒนาสมาร์ทโฟน โดยมี Qin Muyun อดีตผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ของ Qualcomm เป็นหัวหน้าทีม ซึ่งคาดว่าแผนกนี้จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนา ชิปเซ็ต "Xuanjie" ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Xiaomi

    ✅ Xiaomi ตั้งแผนกแพลตฟอร์มชิปใหม่เพื่อพัฒนาชิปเซ็ตของตนเอง
    - แผนกนี้อยู่ภายใต้ ฝ่ายพัฒนาสมาร์ทโฟน ของบริษัท
    - คาดว่า Xiaomi กำลังพัฒนา ชิปเซ็ต "Xuanjie" ซึ่งอาจเป็นชิปเซ็ตสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่

    ✅ Qin Muyun อดีตผู้บริหาร Qualcomm เป็นหัวหน้าทีม
    - Muyun เคยดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ของ Qualcomm
    - เขาจะรายงานตรงต่อ Lei Jun CEO ของ Xiaomi

    ✅ Xiaomi มีประสบการณ์ด้านการออกแบบชิปในหลายด้าน
    - บริษัทเคยพัฒนาชิปเซ็ต Pengpai/Surge S1 ในปี 2017
    - มีความเชี่ยวชาญด้าน การถ่ายภาพ, การชาร์จเร็ว, การจัดการพลังงาน, การสื่อสาร และการแสดงผล

    ✅ มีข่าวลือว่า Xiaomi อาจลดขนาดกระบวนการผลิตจาก 3nm เป็น 4nm
    - นักวิเคราะห์คาดว่า ชิปเซ็ตใหม่ของ Xiaomi อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Snapdragon 8 รุ่นแรก

    https://www.techpowerup.com/335567/xiaomi-reportedly-forms-new-in-house-chip-department-headed-by-former-qualcomm-marketing-director
    Xiaomi ได้จัดตั้ง แผนกแพลตฟอร์มชิป ใหม่ภายใต้ฝ่ายพัฒนาสมาร์ทโฟน โดยมี Qin Muyun อดีตผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ของ Qualcomm เป็นหัวหน้าทีม ซึ่งคาดว่าแผนกนี้จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนา ชิปเซ็ต "Xuanjie" ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Xiaomi ✅ Xiaomi ตั้งแผนกแพลตฟอร์มชิปใหม่เพื่อพัฒนาชิปเซ็ตของตนเอง - แผนกนี้อยู่ภายใต้ ฝ่ายพัฒนาสมาร์ทโฟน ของบริษัท - คาดว่า Xiaomi กำลังพัฒนา ชิปเซ็ต "Xuanjie" ซึ่งอาจเป็นชิปเซ็ตสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ✅ Qin Muyun อดีตผู้บริหาร Qualcomm เป็นหัวหน้าทีม - Muyun เคยดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ของ Qualcomm - เขาจะรายงานตรงต่อ Lei Jun CEO ของ Xiaomi ✅ Xiaomi มีประสบการณ์ด้านการออกแบบชิปในหลายด้าน - บริษัทเคยพัฒนาชิปเซ็ต Pengpai/Surge S1 ในปี 2017 - มีความเชี่ยวชาญด้าน การถ่ายภาพ, การชาร์จเร็ว, การจัดการพลังงาน, การสื่อสาร และการแสดงผล ✅ มีข่าวลือว่า Xiaomi อาจลดขนาดกระบวนการผลิตจาก 3nm เป็น 4nm - นักวิเคราะห์คาดว่า ชิปเซ็ตใหม่ของ Xiaomi อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Snapdragon 8 รุ่นแรก https://www.techpowerup.com/335567/xiaomi-reportedly-forms-new-in-house-chip-department-headed-by-former-qualcomm-marketing-director
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Xiaomi Reportedly Forms New In-house Chip Department; Headed by Former Qualcomm Marketing Director
    Last year, leakers posited that Xiaomi engineers were working on proprietary new-generation mobile chipset. The giant Chinese technology company has produced proprietary SoC designs in the past—most notably 2017's Pengpai/Surge S1 (blink, and you missed it)—but has largely relied on a wide swatch of...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • MITRE ได้รับการขยายสัญญาจาก CISA เพื่อดำเนินโครงการ Common Vulnerabilities and Exposures (CVE) ต่อไปอีก 11 เดือน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีความกังวลว่าโครงการอาจถูกยกเลิกเนื่องจากการตัดงบประมาณ

    ✅ CISA ขยายสัญญา MITRE เพื่อดำเนินโครงการ CVE ต่อไปอีก 11 เดือน
    - โครงการ CVE เป็นมาตรฐานสำคัญในการ ระบุช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
    - การขยายสัญญาช่วยให้มี การเปลี่ยนผ่านที่เป็นระบบ และลดผลกระทบต่อชุมชนความปลอดภัยไซเบอร์

    ✅ ความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของโครงการ CVE
    - นักวิชาการด้านความปลอดภัยบางคนกังวลว่า สหรัฐฯ อาจไม่ใช่พันธมิตรที่เชื่อถือได้ในการสนับสนุนโครงการนี้
    - มีการเสนอให้ตั้ง CVE Foundation เพื่อให้มีแหล่งเงินทุนที่หลากหลายจากผู้สนับสนุนทั่วโลก

    ✅ MITRE อาจต้องหาทางออกอื่นหากไม่มีการต่อสัญญาเพิ่มเติม
    - มีการตั้งคำถามว่า MITRE จะสามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ด้วยเงินทุนของตัวเองหรือไม่
    - อาจมีความเป็นไปได้ที่ สหภาพยุโรปจะเข้ามาสนับสนุนโครงการแทน

    ✅ ความสำคัญของโครงการ CVE ต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์
    - CVE เป็น ฐานข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถจัดการช่องโหว่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    - ใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับ ผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย เช่น Cyber Threat Intelligence และ Endpoint Detection

    https://www.zdnet.com/article/why-the-cve-database-for-tracking-security-flaws-nearly-went-dark-and-what-happens-next/
    MITRE ได้รับการขยายสัญญาจาก CISA เพื่อดำเนินโครงการ Common Vulnerabilities and Exposures (CVE) ต่อไปอีก 11 เดือน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีความกังวลว่าโครงการอาจถูกยกเลิกเนื่องจากการตัดงบประมาณ ✅ CISA ขยายสัญญา MITRE เพื่อดำเนินโครงการ CVE ต่อไปอีก 11 เดือน - โครงการ CVE เป็นมาตรฐานสำคัญในการ ระบุช่องโหว่ด้านความปลอดภัย - การขยายสัญญาช่วยให้มี การเปลี่ยนผ่านที่เป็นระบบ และลดผลกระทบต่อชุมชนความปลอดภัยไซเบอร์ ✅ ความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของโครงการ CVE - นักวิชาการด้านความปลอดภัยบางคนกังวลว่า สหรัฐฯ อาจไม่ใช่พันธมิตรที่เชื่อถือได้ในการสนับสนุนโครงการนี้ - มีการเสนอให้ตั้ง CVE Foundation เพื่อให้มีแหล่งเงินทุนที่หลากหลายจากผู้สนับสนุนทั่วโลก ✅ MITRE อาจต้องหาทางออกอื่นหากไม่มีการต่อสัญญาเพิ่มเติม - มีการตั้งคำถามว่า MITRE จะสามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ด้วยเงินทุนของตัวเองหรือไม่ - อาจมีความเป็นไปได้ที่ สหภาพยุโรปจะเข้ามาสนับสนุนโครงการแทน ✅ ความสำคัญของโครงการ CVE ต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์ - CVE เป็น ฐานข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถจัดการช่องโหว่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ - ใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับ ผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย เช่น Cyber Threat Intelligence และ Endpoint Detection https://www.zdnet.com/article/why-the-cve-database-for-tracking-security-flaws-nearly-went-dark-and-what-happens-next/
    WWW.ZDNET.COM
    Why the CVE database for tracking security flaws nearly went dark - and what happens next
    Expired US government funding nearly disrupted this global security system. How can we prevent this from happening again in 11 months?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • MITRE ได้รับการขยายสัญญาจาก CISA เพื่อดำเนินโครงการ Common Vulnerabilities and Exposures (CVE) ต่อไปอีก 11 เดือน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีความกังวลว่าโครงการอาจถูกยกเลิกเนื่องจากการตัดงบประมาณ

    ✅ CISA ขยายสัญญา MITRE เพื่อดำเนินโครงการ CVE ต่อไปอีก 11 เดือน
    - โครงการ CVE เป็นมาตรฐานสำคัญในการ ระบุช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
    - การขยายสัญญาช่วยให้มี การเปลี่ยนผ่านที่เป็นระบบ และลดผลกระทบต่อชุมชนความปลอดภัยไซเบอร์

    ✅ ความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของโครงการ CVE
    - นักวิชาการด้านความปลอดภัยบางคนกังวลว่า สหรัฐฯ อาจไม่ใช่พันธมิตรที่เชื่อถือได้ในการสนับสนุนโครงการนี้
    - มีการเสนอให้ตั้ง CVE Foundation เพื่อให้มีแหล่งเงินทุนที่หลากหลายจากผู้สนับสนุนทั่วโลก

    ✅ MITRE อาจต้องหาทางออกอื่นหากไม่มีการต่อสัญญาเพิ่มเติม
    - มีการตั้งคำถามว่า MITRE จะสามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ด้วยเงินทุนของตัวเองหรือไม่
    - อาจมีความเป็นไปได้ที่ สหภาพยุโรปจะเข้ามาสนับสนุนโครงการแทน

    ✅ ความสำคัญของโครงการ CVE ต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์
    - CVE เป็น ฐานข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถจัดการช่องโหว่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    - ใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับ ผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย เช่น Cyber Threat Intelligence และ Endpoint Detection

    https://www.csoonline.com/article/3964168/mitre-funding-still-in-up-in-the-air-say-experts.html
    MITRE ได้รับการขยายสัญญาจาก CISA เพื่อดำเนินโครงการ Common Vulnerabilities and Exposures (CVE) ต่อไปอีก 11 เดือน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีความกังวลว่าโครงการอาจถูกยกเลิกเนื่องจากการตัดงบประมาณ ✅ CISA ขยายสัญญา MITRE เพื่อดำเนินโครงการ CVE ต่อไปอีก 11 เดือน - โครงการ CVE เป็นมาตรฐานสำคัญในการ ระบุช่องโหว่ด้านความปลอดภัย - การขยายสัญญาช่วยให้มี การเปลี่ยนผ่านที่เป็นระบบ และลดผลกระทบต่อชุมชนความปลอดภัยไซเบอร์ ✅ ความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของโครงการ CVE - นักวิชาการด้านความปลอดภัยบางคนกังวลว่า สหรัฐฯ อาจไม่ใช่พันธมิตรที่เชื่อถือได้ในการสนับสนุนโครงการนี้ - มีการเสนอให้ตั้ง CVE Foundation เพื่อให้มีแหล่งเงินทุนที่หลากหลายจากผู้สนับสนุนทั่วโลก ✅ MITRE อาจต้องหาทางออกอื่นหากไม่มีการต่อสัญญาเพิ่มเติม - มีการตั้งคำถามว่า MITRE จะสามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ด้วยเงินทุนของตัวเองหรือไม่ - อาจมีความเป็นไปได้ที่ สหภาพยุโรปจะเข้ามาสนับสนุนโครงการแทน ✅ ความสำคัญของโครงการ CVE ต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์ - CVE เป็น ฐานข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถจัดการช่องโหว่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ - ใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับ ผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย เช่น Cyber Threat Intelligence และ Endpoint Detection https://www.csoonline.com/article/3964168/mitre-funding-still-in-up-in-the-air-say-experts.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    MITRE funding still in up in the air, say experts
    The US is “not a reliable partner” in supporting the CVE database, says one analyst; CVE board members establish the CVE Foundation in response.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้เผยแพร่ Ads Safety Report ล่าสุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมาตรการบังคับใช้กฎระเบียบด้านโฆษณาในปี 2024 โดยบริษัทสามารถ บล็อกหรือถอดถอนโฆษณาที่ละเมิดกฎกว่า 5.1 พันล้านรายการ และ ระงับบัญชีโฆษณาที่เป็นการฉ้อโกงกว่า 39.2 ล้านบัญชี

    ✅ Google บล็อกโฆษณาที่ละเมิดกฎกว่า 5.1 พันล้านรายการ
    - โฆษณาที่ถูกบล็อกละเมิดนโยบายเกี่ยวกับ การใช้เครือข่ายโฆษณาในทางที่ผิด, โฆษณาส่วนบุคคล, ข้อกำหนดทางกฎหมาย และการแสดงข้อมูลที่ผิด
    - Google ใช้ AI และโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับและบังคับใช้กฎ

    ✅ ระงับบัญชีโฆษณาที่เป็นการฉ้อโกงกว่า 39.2 ล้านบัญชี
    - ส่วนใหญ่ถูกระงับก่อนที่จะสามารถเผยแพร่โฆษณาได้
    - Google ใช้ Advertiser Identity Verification เพื่อป้องกันไม่ให้บัญชีที่ถูกระงับกลับมาใช้งานอีก

    ✅ แนวโน้มของการฉ้อโกงโฆษณาในปี 2024
    - พบว่า การปลอมแปลงบุคคลสาธารณะ เป็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น
    - นักต้มตุ๋นใช้ AI-generated imagery และเสียง เพื่อแอบอ้างเป็นคนดังและโปรโมตการหลอกลวง

    ✅ มาตรการเพิ่มเติมของ Google
    - อัปเดต นโยบายการแสดงข้อมูลที่ผิด และจัดตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญกว่า 100 คน เพื่อวิเคราะห์และป้องกันการฉ้อโกง
    - ระงับบัญชีโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงบุคคลสาธารณะกว่า 700,000 บัญชี ส่งผลให้รายงานการฉ้อโกงลดลง 90%

    ✅ จำกัดโฆษณาที่อาจมีความอ่อนไหวทางกฎหมายและวัฒนธรรม
    - Google จำกัดการเข้าถึงโฆษณากว่า 9.1 พันล้านรายการ ที่อาจไม่เหมาะสมในบางพื้นที่ เช่น เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่และการพนัน

    https://www.neowin.net/news/google-stopped-51-billion-rogue-ads-from-reaching-users-fired-millions-of-bad-accounts/
    Google ได้เผยแพร่ Ads Safety Report ล่าสุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมาตรการบังคับใช้กฎระเบียบด้านโฆษณาในปี 2024 โดยบริษัทสามารถ บล็อกหรือถอดถอนโฆษณาที่ละเมิดกฎกว่า 5.1 พันล้านรายการ และ ระงับบัญชีโฆษณาที่เป็นการฉ้อโกงกว่า 39.2 ล้านบัญชี ✅ Google บล็อกโฆษณาที่ละเมิดกฎกว่า 5.1 พันล้านรายการ - โฆษณาที่ถูกบล็อกละเมิดนโยบายเกี่ยวกับ การใช้เครือข่ายโฆษณาในทางที่ผิด, โฆษณาส่วนบุคคล, ข้อกำหนดทางกฎหมาย และการแสดงข้อมูลที่ผิด - Google ใช้ AI และโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับและบังคับใช้กฎ ✅ ระงับบัญชีโฆษณาที่เป็นการฉ้อโกงกว่า 39.2 ล้านบัญชี - ส่วนใหญ่ถูกระงับก่อนที่จะสามารถเผยแพร่โฆษณาได้ - Google ใช้ Advertiser Identity Verification เพื่อป้องกันไม่ให้บัญชีที่ถูกระงับกลับมาใช้งานอีก ✅ แนวโน้มของการฉ้อโกงโฆษณาในปี 2024 - พบว่า การปลอมแปลงบุคคลสาธารณะ เป็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น - นักต้มตุ๋นใช้ AI-generated imagery และเสียง เพื่อแอบอ้างเป็นคนดังและโปรโมตการหลอกลวง ✅ มาตรการเพิ่มเติมของ Google - อัปเดต นโยบายการแสดงข้อมูลที่ผิด และจัดตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญกว่า 100 คน เพื่อวิเคราะห์และป้องกันการฉ้อโกง - ระงับบัญชีโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงบุคคลสาธารณะกว่า 700,000 บัญชี ส่งผลให้รายงานการฉ้อโกงลดลง 90% ✅ จำกัดโฆษณาที่อาจมีความอ่อนไหวทางกฎหมายและวัฒนธรรม - Google จำกัดการเข้าถึงโฆษณากว่า 9.1 พันล้านรายการ ที่อาจไม่เหมาะสมในบางพื้นที่ เช่น เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่และการพนัน https://www.neowin.net/news/google-stopped-51-billion-rogue-ads-from-reaching-users-fired-millions-of-bad-accounts/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google stopped 5.1 billion rogue ads from reaching users, fired millions of bad accounts
    The search giant suspended millions of ad accounts and took action against billions of bad advertisements before they were served to users.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 0 รีวิว
  • นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทวิทยา และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้ออกมาโพสต์ข้อความแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์การลาออกของแพทย์ในประเทศไทย โดยระบุว่าระบบสาธารณสุขไทยกำลังเผชิญปัญหาหนัก และบุคลากรทางการแพทย์ทุกระดับ ตั้งแต่แพทย์ พยาบาล เภสัชกร เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ไปจนถึงเจ้าหน้าที่เวรเปล กำลังแบกรับภาระงานที่เพิ่มขึ้นโดยไม่ได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอ

    วันนี้ (16 เม.ย.) นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทวิทยา และสมาชิกวุฒิสภาออกมาโพสต์ข้อความแสดงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาแพทย์ลาออก ชี้ระบบสาธารณสุขไทยกำลังมีปัญหา บุคลากรทางการแพทย์ทุกระดับกำลังเผชิญภาระงานที่หนักขึ้นโดยไม่ได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอ โดยเฉพาะแพทย์กำลังลาออกเนื่องจากปัญหาเรื่องการเงิน ระบบที่ไม่เห็นคุณค่า ภาระงานที่มากเกินไป และนโยบายที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง หากไม่เร่งแก้ไข ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์จะรุนแรงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อการรักษาผู้ป่วยในที่สุด ผู้โพสต์ในฐานะแพทย์และวุฒิสมาชิกยืนยันที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาเหล่านี้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000035970

    #MGROnline #แพทย์ #สมาชิกวุฒิสภา
    นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทวิทยา และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้ออกมาโพสต์ข้อความแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์การลาออกของแพทย์ในประเทศไทย โดยระบุว่าระบบสาธารณสุขไทยกำลังเผชิญปัญหาหนัก และบุคลากรทางการแพทย์ทุกระดับ ตั้งแต่แพทย์ พยาบาล เภสัชกร เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ไปจนถึงเจ้าหน้าที่เวรเปล กำลังแบกรับภาระงานที่เพิ่มขึ้นโดยไม่ได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอ • วันนี้ (16 เม.ย.) นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทวิทยา และสมาชิกวุฒิสภาออกมาโพสต์ข้อความแสดงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาแพทย์ลาออก ชี้ระบบสาธารณสุขไทยกำลังมีปัญหา บุคลากรทางการแพทย์ทุกระดับกำลังเผชิญภาระงานที่หนักขึ้นโดยไม่ได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอ โดยเฉพาะแพทย์กำลังลาออกเนื่องจากปัญหาเรื่องการเงิน ระบบที่ไม่เห็นคุณค่า ภาระงานที่มากเกินไป และนโยบายที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง หากไม่เร่งแก้ไข ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์จะรุนแรงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อการรักษาผู้ป่วยในที่สุด ผู้โพสต์ในฐานะแพทย์และวุฒิสมาชิกยืนยันที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000035970 • #MGROnline #แพทย์ #สมาชิกวุฒิสภา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักต้มตุ๋นกำลังใช้ AI-generated voices เพื่อแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ IRS และผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี เพื่อหลอกลวงประชาชนในช่วง Tax Day โดย Microsoft ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับ การโจมตีแบบ vishing (voice phishing) ที่กำลังเพิ่มขึ้น

    ✅ นักต้มตุ๋นใช้ AI-generated voices เพื่อแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ IRS
    - ใช้ deepfake voice เพื่อทำให้เสียงดูน่าเชื่อถือ
    - หลอกให้เหยื่อเปิดเผย ข้อมูลทางการเงินและเอกสารภาษี

    ✅ Microsoft เตือนเกี่ยวกับการโจมตีแบบ vishing
    - แนะนำให้ใช้ multi-factor authentication เพื่อป้องกันบัญชีออนไลน์
    - ควรตรวจสอบ URL อย่างละเอียด เพื่อหลีกเลี่ยงเว็บไซต์ปลอม

    ✅ IRS ไม่ติดต่อประชาชนผ่านอีเมลหรือโซเชียลมีเดีย
    - หากได้รับข้อความจาก IRS ผ่านช่องทางเหล่านี้ ควรสงสัยว่าเป็นการหลอกลวง
    - IRS จะติดต่อผ่าน จดหมายหรือโทรศัพท์ที่สามารถตรวจสอบได้

    ✅ นักต้มตุ๋นใช้เทคนิคใหม่เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
    - ใช้ AI-generated emails, voice calls และวิดีโอ deepfake
    - สามารถ ปรับแต่งผลการค้นหา เพื่อให้เว็บไซต์ปลอมดูเหมือนเป็นของจริง

    ✅ กลุ่มเป้าหมายหลักของการโจมตี
    - วิศวกร, ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT และที่ปรึกษา เป็นกลุ่มที่ถูกโจมตีมากที่สุด
    - ใช้ QR codes และบริการฝากไฟล์ เช่น Dropbox เพื่อหลอกลวงเหยื่อ

    https://www.techradar.com/pro/security/scammers-are-using-ai-generated-voices-to-impersonate-irs-tax-officials
    นักต้มตุ๋นกำลังใช้ AI-generated voices เพื่อแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ IRS และผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี เพื่อหลอกลวงประชาชนในช่วง Tax Day โดย Microsoft ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับ การโจมตีแบบ vishing (voice phishing) ที่กำลังเพิ่มขึ้น ✅ นักต้มตุ๋นใช้ AI-generated voices เพื่อแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ IRS - ใช้ deepfake voice เพื่อทำให้เสียงดูน่าเชื่อถือ - หลอกให้เหยื่อเปิดเผย ข้อมูลทางการเงินและเอกสารภาษี ✅ Microsoft เตือนเกี่ยวกับการโจมตีแบบ vishing - แนะนำให้ใช้ multi-factor authentication เพื่อป้องกันบัญชีออนไลน์ - ควรตรวจสอบ URL อย่างละเอียด เพื่อหลีกเลี่ยงเว็บไซต์ปลอม ✅ IRS ไม่ติดต่อประชาชนผ่านอีเมลหรือโซเชียลมีเดีย - หากได้รับข้อความจาก IRS ผ่านช่องทางเหล่านี้ ควรสงสัยว่าเป็นการหลอกลวง - IRS จะติดต่อผ่าน จดหมายหรือโทรศัพท์ที่สามารถตรวจสอบได้ ✅ นักต้มตุ๋นใช้เทคนิคใหม่เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ - ใช้ AI-generated emails, voice calls และวิดีโอ deepfake - สามารถ ปรับแต่งผลการค้นหา เพื่อให้เว็บไซต์ปลอมดูเหมือนเป็นของจริง ✅ กลุ่มเป้าหมายหลักของการโจมตี - วิศวกร, ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT และที่ปรึกษา เป็นกลุ่มที่ถูกโจมตีมากที่สุด - ใช้ QR codes และบริการฝากไฟล์ เช่น Dropbox เพื่อหลอกลวงเหยื่อ https://www.techradar.com/pro/security/scammers-are-using-ai-generated-voices-to-impersonate-irs-tax-officials
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • MITRE กำลังจะ ยุติโครงการ Common Vulnerabilities and Exposures (CVE) หลังจาก กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ (DHS) ไม่ต่อสัญญา ซึ่งส่งผลกระทบต่อการติดตามช่องโหว่ด้านความปลอดภัยทั่วโลก

    ✅ MITRE จะหยุดดำเนินโครงการ CVE ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2025
    - DHS ไม่ต่อสัญญา หลังจากให้ทุนสนับสนุนโครงการมานานกว่า 25 ปี
    - CVE เป็นฐานข้อมูลช่องโหว่ที่สำคัญสำหรับ การจัดการความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั่วโลก

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์
    - CVE เป็น รากฐานของระบบติดตามช่องโหว่ ที่ใช้โดยองค์กรทั่วโลก
    - การยุติโครงการอาจทำให้ การระบุและจัดการช่องโหว่เป็นไปอย่างล่าช้า

    ✅ ความพยายามในการรักษาโครงการ
    - MITRE ยืนยันว่าจะพยายาม รักษา CVE เป็นแหล่งข้อมูลสาธารณะ
    - ข้อมูล CVE ที่มีอยู่จะยังคงสามารถเข้าถึงได้ผ่าน GitHub

    ✅ ความกังวลจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย
    - นักวิจัยจาก Rand Corporation และ Bitsight ระบุว่าการยุติโครงการเป็น "โศกนาฏกรรม"
    - อาจทำให้ การติดตามช่องโหว่ใหม่และการจัดลำดับความสำคัญของแพตช์มีความยุ่งยากขึ้น

    https://www.csoonline.com/article/3963190/cve-program-faces-swift-end-after-dhs-fails-to-renew-contract-leaving-security-flaw-tracking-in-limbo.html
    MITRE กำลังจะ ยุติโครงการ Common Vulnerabilities and Exposures (CVE) หลังจาก กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ (DHS) ไม่ต่อสัญญา ซึ่งส่งผลกระทบต่อการติดตามช่องโหว่ด้านความปลอดภัยทั่วโลก ✅ MITRE จะหยุดดำเนินโครงการ CVE ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2025 - DHS ไม่ต่อสัญญา หลังจากให้ทุนสนับสนุนโครงการมานานกว่า 25 ปี - CVE เป็นฐานข้อมูลช่องโหว่ที่สำคัญสำหรับ การจัดการความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั่วโลก ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์ - CVE เป็น รากฐานของระบบติดตามช่องโหว่ ที่ใช้โดยองค์กรทั่วโลก - การยุติโครงการอาจทำให้ การระบุและจัดการช่องโหว่เป็นไปอย่างล่าช้า ✅ ความพยายามในการรักษาโครงการ - MITRE ยืนยันว่าจะพยายาม รักษา CVE เป็นแหล่งข้อมูลสาธารณะ - ข้อมูล CVE ที่มีอยู่จะยังคงสามารถเข้าถึงได้ผ่าน GitHub ✅ ความกังวลจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย - นักวิจัยจาก Rand Corporation และ Bitsight ระบุว่าการยุติโครงการเป็น "โศกนาฏกรรม" - อาจทำให้ การติดตามช่องโหว่ใหม่และการจัดลำดับความสำคัญของแพตช์มีความยุ่งยากขึ้น https://www.csoonline.com/article/3963190/cve-program-faces-swift-end-after-dhs-fails-to-renew-contract-leaving-security-flaw-tracking-in-limbo.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    CVE program faces swift end after DHS fails to renew contract, leaving security flaw tracking in limbo
    MITRE’s 25-year-old Common Vulnerabilities and Exposures (CVE) program will end April 16 after DHS did not renew its funding contract for reasons unspecified. Experts say ending the program, which served as the crux for most cybersecurity defense programs, is a tragedy.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท Laboratory Services Cooperative (LSC) ซึ่งเป็นหนึ่งในห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์รายใหญ่ของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่าเกิดเหตุ ข้อมูลรั่วไหล ส่งผลกระทบต่อข้อมูลส่วนตัวของ 1.6 ล้านคน โดยข้อมูลที่ถูกขโมยอาจรวมถึง ข้อมูลทางการแพทย์, ข้อมูลการชำระเงิน และข้อมูลระบุตัวตน

    ✅ LSC ตรวจพบกิจกรรมต้องสงสัยในระบบเมื่อเดือนตุลาคม 2024
    - บริษัทแจ้งตำรวจและนำผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์เข้ามาตรวจสอบ
    - การสอบสวนเสร็จสิ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 และพบว่าข้อมูลบางส่วนอาจได้รับผลกระทบ

    ✅ ข้อมูลที่ถูกขโมยมีหลายประเภท
    - ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล
    - ข้อมูลทางการแพทย์ เช่น วันที่รับบริการ, การวินิจฉัยโรค, ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
    - ข้อมูลประกันสุขภาพ เช่น ชื่อแผนประกัน, หมายเลขสมาชิก
    - ข้อมูลการชำระเงิน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร, รายละเอียดบัตรเครดิต

    ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ
    - ผู้ที่เข้ารับการตรวจผ่าน Planned Parenthood ซึ่งใช้บริการของ LSC อาจได้รับผลกระทบ
    - ข้อมูลของพนักงาน LSC และบุคคลในครอบครัวของพนักงานอาจถูกขโมยด้วย

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ข้อมูลยังไม่ถูกเผยแพร่บน Dark Web
    - ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าข้อมูลที่ถูกขโมยถูกนำไปขายหรือเผยแพร่
    - แต่ผู้ใช้ควรเฝ้าระวังการโจรกรรมข้อมูลส่วนตัว

    ℹ️ ความเสี่ยงด้านการเงินและการฉ้อโกง
    - ข้อมูลการชำระเงินที่ถูกขโมยอาจถูกนำไปใช้ในการฉ้อโกง
    - ผู้ใช้ควรตรวจสอบบัญชีธนาคารและบัตรเครดิตอย่างสม่ำเสมอ

    ℹ️ แนวโน้มของภัยคุกคามไซเบอร์ในอุตสาหกรรมสุขภาพ
    - การโจมตีทางไซเบอร์ต่อองค์กรด้านสุขภาพมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
    - บริษัทต่างๆ ต้องลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลมากขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/security/top-us-lab-testing-firm-hit-with-major-data-leak-exposes-health-info-on-1-6-million-users
    บริษัท Laboratory Services Cooperative (LSC) ซึ่งเป็นหนึ่งในห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์รายใหญ่ของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่าเกิดเหตุ ข้อมูลรั่วไหล ส่งผลกระทบต่อข้อมูลส่วนตัวของ 1.6 ล้านคน โดยข้อมูลที่ถูกขโมยอาจรวมถึง ข้อมูลทางการแพทย์, ข้อมูลการชำระเงิน และข้อมูลระบุตัวตน ✅ LSC ตรวจพบกิจกรรมต้องสงสัยในระบบเมื่อเดือนตุลาคม 2024 - บริษัทแจ้งตำรวจและนำผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์เข้ามาตรวจสอบ - การสอบสวนเสร็จสิ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 และพบว่าข้อมูลบางส่วนอาจได้รับผลกระทบ ✅ ข้อมูลที่ถูกขโมยมีหลายประเภท - ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล - ข้อมูลทางการแพทย์ เช่น วันที่รับบริการ, การวินิจฉัยโรค, ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ - ข้อมูลประกันสุขภาพ เช่น ชื่อแผนประกัน, หมายเลขสมาชิก - ข้อมูลการชำระเงิน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร, รายละเอียดบัตรเครดิต ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ - ผู้ที่เข้ารับการตรวจผ่าน Planned Parenthood ซึ่งใช้บริการของ LSC อาจได้รับผลกระทบ - ข้อมูลของพนักงาน LSC และบุคคลในครอบครัวของพนักงานอาจถูกขโมยด้วย ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ข้อมูลยังไม่ถูกเผยแพร่บน Dark Web - ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าข้อมูลที่ถูกขโมยถูกนำไปขายหรือเผยแพร่ - แต่ผู้ใช้ควรเฝ้าระวังการโจรกรรมข้อมูลส่วนตัว ℹ️ ความเสี่ยงด้านการเงินและการฉ้อโกง - ข้อมูลการชำระเงินที่ถูกขโมยอาจถูกนำไปใช้ในการฉ้อโกง - ผู้ใช้ควรตรวจสอบบัญชีธนาคารและบัตรเครดิตอย่างสม่ำเสมอ ℹ️ แนวโน้มของภัยคุกคามไซเบอร์ในอุตสาหกรรมสุขภาพ - การโจมตีทางไซเบอร์ต่อองค์กรด้านสุขภาพมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น - บริษัทต่างๆ ต้องลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลมากขึ้น https://www.techradar.com/pro/security/top-us-lab-testing-firm-hit-with-major-data-leak-exposes-health-info-on-1-6-million-users
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 193 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ Syntis Bio ได้พัฒนาเม็ดยาลดน้ำหนักที่สามารถเลียนแบบผลของการผ่าตัดลดกระเพาะอาหาร (gastric bypass) โดยไม่ต้องพึ่งพาการผ่าตัดจริง ยานี้มีศักยภาพในการช่วยลดความหิว คงมวลกล้ามเนื้อ และส่งเสริมการลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน

    ✅ SYNT-101: เม็ดยาที่เลียนแบบผลของการผ่าตัดลดกระเพาะอาหาร
    - ยาทำงานโดยเคลือบลำไส้เล็กชั่วคราว ช่วยเปลี่ยนเส้นทางดูดซึมสารอาหาร
    - เคลือบนี้ช่วยกระตุ้นฮอร์โมนความอิ่ม (GLP-1) ตามธรรมชาติของร่างกาย
    - ยานี้ต่างจากยา GLP-1 แบบฉีด เช่น Ozempic และ Wegovy ที่อาจมีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน

    ✅ ผลการทดลองเบื้องต้น
    - การทดลองในสัตว์แสดงให้เห็นว่า สามารถลดน้ำหนัก 1% ต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 6 สัปดาห์
    - การทดลองในมนุษย์ระยะเริ่มต้น ผู้เข้าร่วม 9 คน ไม่พบผลข้างเคียงร้ายแรง
    - ตรวจเลือดพบการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่สนับสนุนการลดน้ำหนัก

    ✅ เทคโนโลยีเบื้องหลัง
    - พัฒนาโดยนักวิจัยจาก MIT ซึ่งร่วมก่อตั้ง Syntis Bio
    - ใช้สารเคมีที่มีปฏิสัมพันธ์กับเอนไซม์ในลำไส้เล็กเพื่อสร้างสารเคลือบที่ปลอดภัย

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ข้อกังวลเรื่องผลข้างเคียง
    - แม้ทดลองแรกจะไม่พบผลข้างเคียง แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอาจมีอาการท้องอืดหรือปวดท้อง
    - ต้องมีการทดลองทางคลินิกขนาดใหญ่เพิ่มเติม

    ℹ️ เปรียบเทียบกับยา GLP-1 ในตลาดปัจจุบัน
    - ยา GLP-1 มีข้อดีในประสิทธิภาพ แต่มีราคาสูง และอาจทำให้สูญเสียมวลกล้ามเนื้อ
    - SYNT-101 อาจเป็นตัวเลือกใหม่ที่ปลอดภัยขึ้น แต่ต้องรอผลการทดลองระยะยาว

    ℹ️ แนวโน้มการนำไปใช้จริง
    - Syntis Bio เตรียมยื่นขออนุญาตทดลองทางคลินิกจาก FDA
    - หากผ่านการรับรอง อาจเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการรักษาโรคอ้วน

    https://www.techspot.com/news/107527-biotech-firm-creates-weight-loss-pill-mimics-effects.html
    บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ Syntis Bio ได้พัฒนาเม็ดยาลดน้ำหนักที่สามารถเลียนแบบผลของการผ่าตัดลดกระเพาะอาหาร (gastric bypass) โดยไม่ต้องพึ่งพาการผ่าตัดจริง ยานี้มีศักยภาพในการช่วยลดความหิว คงมวลกล้ามเนื้อ และส่งเสริมการลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน ✅ SYNT-101: เม็ดยาที่เลียนแบบผลของการผ่าตัดลดกระเพาะอาหาร - ยาทำงานโดยเคลือบลำไส้เล็กชั่วคราว ช่วยเปลี่ยนเส้นทางดูดซึมสารอาหาร - เคลือบนี้ช่วยกระตุ้นฮอร์โมนความอิ่ม (GLP-1) ตามธรรมชาติของร่างกาย - ยานี้ต่างจากยา GLP-1 แบบฉีด เช่น Ozempic และ Wegovy ที่อาจมีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ✅ ผลการทดลองเบื้องต้น - การทดลองในสัตว์แสดงให้เห็นว่า สามารถลดน้ำหนัก 1% ต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 6 สัปดาห์ - การทดลองในมนุษย์ระยะเริ่มต้น ผู้เข้าร่วม 9 คน ไม่พบผลข้างเคียงร้ายแรง - ตรวจเลือดพบการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่สนับสนุนการลดน้ำหนัก ✅ เทคโนโลยีเบื้องหลัง - พัฒนาโดยนักวิจัยจาก MIT ซึ่งร่วมก่อตั้ง Syntis Bio - ใช้สารเคมีที่มีปฏิสัมพันธ์กับเอนไซม์ในลำไส้เล็กเพื่อสร้างสารเคลือบที่ปลอดภัย ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ข้อกังวลเรื่องผลข้างเคียง - แม้ทดลองแรกจะไม่พบผลข้างเคียง แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอาจมีอาการท้องอืดหรือปวดท้อง - ต้องมีการทดลองทางคลินิกขนาดใหญ่เพิ่มเติม ℹ️ เปรียบเทียบกับยา GLP-1 ในตลาดปัจจุบัน - ยา GLP-1 มีข้อดีในประสิทธิภาพ แต่มีราคาสูง และอาจทำให้สูญเสียมวลกล้ามเนื้อ - SYNT-101 อาจเป็นตัวเลือกใหม่ที่ปลอดภัยขึ้น แต่ต้องรอผลการทดลองระยะยาว ℹ️ แนวโน้มการนำไปใช้จริง - Syntis Bio เตรียมยื่นขออนุญาตทดลองทางคลินิกจาก FDA - หากผ่านการรับรอง อาจเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการรักษาโรคอ้วน https://www.techspot.com/news/107527-biotech-firm-creates-weight-loss-pill-mimics-effects.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Biotech firm creates weight loss pill that mimics the effects of gastric bypass surgery
    SYNT-101 offers a novel approach to weight loss by temporarily altering nutrient absorption in the small intestine. Unlike GLP-1 drugs, which are administered via injection and often...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดตัวอย่างเป็นทางการหนังสือ Fail Fast, Succeed More ล้มให้เร็ว สำเร็จให้สุด

    “เคล็ดลับสู่ความสำเร็จแบบก้าวกระโดด ด้วยการเรียนรู้จากความล้มเหลว
    เพราะความล้มเหลวคือจิ๊กซอร์หนึ่งของความสำเร็จ”

    ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล บรรณาธิการ Green Innovation & SD Manager Online กรรมการสถาบันป๋วย อึ๊งภากรณ์ (ท่านที่ 2 จากซ้าย) อาจารย์ทวีภูมิ วิบรรณ์ ผู้ก่อตั้ง ProActive Forum (ท่านที่ 1 จากซ้าย) พ.ต.ท. ดร.คมกริช ศิลาทอง นักวิเทศสัมพันธ์ชำนาญการ สำนักประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน (ท่านที่ 1 จากขวา) ดร.ศรินนา แก้วสีเคน กรรมการเดชฤทธิ์ กรุ๊ป, 10X Consulting และผู้ก่อตั้งกิจการเพื่อสังคมสานฝันปันใจให้น้อง (ท่านที่ 2 จากขวา) คุณจารุวรรณ เวชตระกูล บรรณาธิการบริหาร สำนักพิมพ์วิช (ท่านที่ 3 จากขวา) คุณศิริรัตน์ ไชยาริพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายจัดจำหน่าย บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) (ท่านที่ 4 จากขวา) ร่วมเป็นเกียรติในงานเปิดตัวผลงานหนังสือล่าสุดของ ศาสตราจารย์พิศิษฐ์ ดร.วสิษฐ์พรหมบุตร (ท่านที่ 3 จากซ้าย) ที่ปรึกษา โค้ช วิทยากร และนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์การพัฒนาการจัดการองค์กร จากแบรนด์ 10X Consulting (www.10-xconsulting.com) ซึ่งมีผลงานการให้คำปรึกษาแนะนำเพื่อพัฒนาศักยภาพทั้งในระดับบุคคล ทีม และองค์กรชั้นนำกว่า 500 องค์กร ใน 21 อุตสาหกรรม ครอบคลุมกลุ่มบริษัท บริษัทมหาชน บริษัทจำกัดในอุตสาหกรรมผลิต พลังงาน การสื่อสาร - โทรคมนาคม เทคโนโลยีดิจิทัล ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ การบริการ/มหาวิทยาลัย/สถาบันการศึกษา/ รัฐวิสาหกิจ 10 อันดับแรกที่ส่งรายได้สูงสุด/หน่วยงานภาครัฐระดับกระทรวง และส่วนราชการในสังกัดทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น/สถาบันอิสระ/องค์กรไม่แสวงหากำไร/โครงการพระราชดำริ และเป็นที่ปรึกษา พี่เลี้ยง และโค้ชส่วนตัวแก่ผู้บริหาร และผู้นำมากกว่า 10,000 คน

    ในยุคที่สังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และผู้คนก็กระหายความสำเร็จ และมุ่งหวังความเจริญเติบโต การเรียนรู้จากการล้ม และการฝึกกระบวนการในการสร้างความสำเร็จจึงเป็นเรื่องจำเป็นและทั้งหมดนี้ต้องเป็นไปอย่างรวดเร็ว รอช้าไม่ได้

    ปัจจุบันนี้ องค์กร หน่วยงาน ทีมต่างๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวบุคคล ล้วนเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งการแข่งขันที่ดุเดือด เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การยึดติดกับวิธีการเดิมๆ หรือกลัวความล้มเหลว อาจทำให้ตัวคุณ ทีม หน่วยงาน และองค์กรตกขบวนได้

    หนังสือ "Fall Fast, Succeed More ล้มให้เร็ว สำเร็จให้สุด" ได้รับแรงบันดาลใจจากการได้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับ ผู้นำทีม ผู้จัดการหน่วยงาน ผู้บริหารองค์กร ผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ ผู้ก่อตั้งองค์กรทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งบุคคล ที่รัก และชื่นชอบการพัฒนาตนเอง นับหมื่นคนที่มอบโอกาสและความไว้วางใจให้มีส่วนร่วมสร้างสรรค์ผลงาน ทำให้เห็นถึงความสำคัญของการทดลองสิ่งใหม่ๆ การเรียนรู้จากความล้มเหลว และการปรับตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้เกิดการพัฒนาสร้างการเติบโตนับ 10 เท่า (10X) และการปรับปรุง - พัฒนาอย่างต่อเนื่อง

    หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้นำทีม ผู้จัดการ ผู้บริหาร เจ้าของธุรกิจ และผู้ก่อตั้ง ที่ต้องการพัฒนา ทีมงาน หน่วยงาน และองค์กร ควบคู่กับการพัฒนาตนเอง ให้เป็นผู้สร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยผู้อ่านจะได้เรียนรู้กลยุทธ์และเทคนิคในการ "ล้มให้เร็ว" และ "สำเร็จให้สุด" ภายในเล่ม ผู้อ่านจะได้พบกับ

    1. เครื่องมือและเทคนิค ที่จะช่วยให้คุณ "ล้ม" อุปสรรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความกลัวความล้มเหลว การขาดความคิดสร้างสรรค์ หรือวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่เอื้อต่อต่อการเปลี่ยนแปลง
    2. กลยุทธ์ในการ "เร่ง" สู่ความสำเร็จในแบบ 10X ด้วยการปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง และการพัฒนาศักยภาพของบุคคล ทีม หน่วยงาน และองค์กร

    ด้วยเนื้อหาที่เข้มขันแต่เข้าใจง่าย ผู้อ่านจะได้เรียนรู้วิธีคิดและวิธีปฏิบัติแบบใหม่ๆ ที่จะช่วย "ปลดล็อก" ศักยภาพที่ซ่อนอยู่ภายในตัวคุณและองค์กร ไม่ว่าคุณจะกำลังเผชิญกับความท้าทายใดในชีวิต และธุรกิจการงาน

    หากคุณพร้อมที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ และพุ่งทะยานสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ด้วยการถอดแบบความสำเร็จแบบ "Fall Fast, Succeed More ล้มให้เร็ว สำเร็จให้สุด" ราคา 299 บาท มีจำหน่ายที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน นี้เป็นต้นไป หรือสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ที่ www.wishbookmaker.com สั่งซื้อจำนวนมากติดต่อที่ 02 – 418 - 2885

    ชมบรรยากาศการเปิดตัวหนังสือได้ที่ #FailFastSucceedMore

    #ล้มให้เร็วสำเร็จให้สุด
    #เพราะความล้มเหลวคือจิ๊กซอร์หนึ่งของความสำเร็จ
    #เผยเทคนิคล้มอย่างไรให้สำเร็จได้อย่างสุดๆ
    เปิดตัวอย่างเป็นทางการหนังสือ Fail Fast, Succeed More ล้มให้เร็ว สำเร็จให้สุด “เคล็ดลับสู่ความสำเร็จแบบก้าวกระโดด ด้วยการเรียนรู้จากความล้มเหลว เพราะความล้มเหลวคือจิ๊กซอร์หนึ่งของความสำเร็จ” ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล บรรณาธิการ Green Innovation & SD Manager Online กรรมการสถาบันป๋วย อึ๊งภากรณ์ (ท่านที่ 2 จากซ้าย) อาจารย์ทวีภูมิ วิบรรณ์ ผู้ก่อตั้ง ProActive Forum (ท่านที่ 1 จากซ้าย) พ.ต.ท. ดร.คมกริช ศิลาทอง นักวิเทศสัมพันธ์ชำนาญการ สำนักประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน (ท่านที่ 1 จากขวา) ดร.ศรินนา แก้วสีเคน กรรมการเดชฤทธิ์ กรุ๊ป, 10X Consulting และผู้ก่อตั้งกิจการเพื่อสังคมสานฝันปันใจให้น้อง (ท่านที่ 2 จากขวา) คุณจารุวรรณ เวชตระกูล บรรณาธิการบริหาร สำนักพิมพ์วิช (ท่านที่ 3 จากขวา) คุณศิริรัตน์ ไชยาริพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายจัดจำหน่าย บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) (ท่านที่ 4 จากขวา) ร่วมเป็นเกียรติในงานเปิดตัวผลงานหนังสือล่าสุดของ ศาสตราจารย์พิศิษฐ์ ดร.วสิษฐ์พรหมบุตร (ท่านที่ 3 จากซ้าย) ที่ปรึกษา โค้ช วิทยากร และนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์การพัฒนาการจัดการองค์กร จากแบรนด์ 10X Consulting (www.10-xconsulting.com) ซึ่งมีผลงานการให้คำปรึกษาแนะนำเพื่อพัฒนาศักยภาพทั้งในระดับบุคคล ทีม และองค์กรชั้นนำกว่า 500 องค์กร ใน 21 อุตสาหกรรม ครอบคลุมกลุ่มบริษัท บริษัทมหาชน บริษัทจำกัดในอุตสาหกรรมผลิต พลังงาน การสื่อสาร - โทรคมนาคม เทคโนโลยีดิจิทัล ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ การบริการ/มหาวิทยาลัย/สถาบันการศึกษา/ รัฐวิสาหกิจ 10 อันดับแรกที่ส่งรายได้สูงสุด/หน่วยงานภาครัฐระดับกระทรวง และส่วนราชการในสังกัดทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น/สถาบันอิสระ/องค์กรไม่แสวงหากำไร/โครงการพระราชดำริ และเป็นที่ปรึกษา พี่เลี้ยง และโค้ชส่วนตัวแก่ผู้บริหาร และผู้นำมากกว่า 10,000 คน ในยุคที่สังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และผู้คนก็กระหายความสำเร็จ และมุ่งหวังความเจริญเติบโต การเรียนรู้จากการล้ม และการฝึกกระบวนการในการสร้างความสำเร็จจึงเป็นเรื่องจำเป็นและทั้งหมดนี้ต้องเป็นไปอย่างรวดเร็ว รอช้าไม่ได้ ปัจจุบันนี้ องค์กร หน่วยงาน ทีมต่างๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวบุคคล ล้วนเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งการแข่งขันที่ดุเดือด เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การยึดติดกับวิธีการเดิมๆ หรือกลัวความล้มเหลว อาจทำให้ตัวคุณ ทีม หน่วยงาน และองค์กรตกขบวนได้ หนังสือ "Fall Fast, Succeed More ล้มให้เร็ว สำเร็จให้สุด" ได้รับแรงบันดาลใจจากการได้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับ ผู้นำทีม ผู้จัดการหน่วยงาน ผู้บริหารองค์กร ผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ ผู้ก่อตั้งองค์กรทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งบุคคล ที่รัก และชื่นชอบการพัฒนาตนเอง นับหมื่นคนที่มอบโอกาสและความไว้วางใจให้มีส่วนร่วมสร้างสรรค์ผลงาน ทำให้เห็นถึงความสำคัญของการทดลองสิ่งใหม่ๆ การเรียนรู้จากความล้มเหลว และการปรับตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้เกิดการพัฒนาสร้างการเติบโตนับ 10 เท่า (10X) และการปรับปรุง - พัฒนาอย่างต่อเนื่อง หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้นำทีม ผู้จัดการ ผู้บริหาร เจ้าของธุรกิจ และผู้ก่อตั้ง ที่ต้องการพัฒนา ทีมงาน หน่วยงาน และองค์กร ควบคู่กับการพัฒนาตนเอง ให้เป็นผู้สร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยผู้อ่านจะได้เรียนรู้กลยุทธ์และเทคนิคในการ "ล้มให้เร็ว" และ "สำเร็จให้สุด" ภายในเล่ม ผู้อ่านจะได้พบกับ 1. เครื่องมือและเทคนิค ที่จะช่วยให้คุณ "ล้ม" อุปสรรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความกลัวความล้มเหลว การขาดความคิดสร้างสรรค์ หรือวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่เอื้อต่อต่อการเปลี่ยนแปลง 2. กลยุทธ์ในการ "เร่ง" สู่ความสำเร็จในแบบ 10X ด้วยการปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง และการพัฒนาศักยภาพของบุคคล ทีม หน่วยงาน และองค์กร ด้วยเนื้อหาที่เข้มขันแต่เข้าใจง่าย ผู้อ่านจะได้เรียนรู้วิธีคิดและวิธีปฏิบัติแบบใหม่ๆ ที่จะช่วย "ปลดล็อก" ศักยภาพที่ซ่อนอยู่ภายในตัวคุณและองค์กร ไม่ว่าคุณจะกำลังเผชิญกับความท้าทายใดในชีวิต และธุรกิจการงาน หากคุณพร้อมที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ และพุ่งทะยานสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ด้วยการถอดแบบความสำเร็จแบบ "Fall Fast, Succeed More ล้มให้เร็ว สำเร็จให้สุด" ราคา 299 บาท มีจำหน่ายที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน นี้เป็นต้นไป หรือสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ที่ www.wishbookmaker.com สั่งซื้อจำนวนมากติดต่อที่ 02 – 418 - 2885 ชมบรรยากาศการเปิดตัวหนังสือได้ที่ #FailFastSucceedMore #ล้มให้เร็วสำเร็จให้สุด #เพราะความล้มเหลวคือจิ๊กซอร์หนึ่งของความสำเร็จ #เผยเทคนิคล้มอย่างไรให้สำเร็จได้อย่างสุดๆ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sensata Technologies ได้รายงานเหตุการณ์แรนซัมแวร์ที่เข้ารหัสอุปกรณ์บางส่วนในเครือข่ายของบริษัท การโจมตีนี้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน เช่น การจัดส่ง การรับสินค้า การผลิต และการสนับสนุนอื่นๆ บริษัทได้ดำเนินการตอบสนองทันทีโดยปิดเครือข่ายบางส่วน นำผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

    Sensata ยังระบุว่ามีการสูญเสียไฟล์บางส่วน แต่ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับไฟล์เหล่านั้น ขณะนี้บริษัทกำลังตรวจสอบไฟล์ที่ได้รับผลกระทบและจะดำเนินการเพิ่มเติมตามความเหมาะสม

    แม้ว่าบริษัทจะคาดการณ์ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาสที่สองของปี 2025 แต่ก็ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบทั้งหมดได้

    ✅ เหตุการณ์แรนซัมแวร์ที่ Sensata Technologies
    - Sensata ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ที่เข้ารหัสอุปกรณ์บางส่วนในเครือข่าย
    - ส่งผลกระทบต่อการจัดส่ง การรับสินค้า การผลิต และการสนับสนุนอื่นๆ

    ✅ การตอบสนองของบริษัท
    - ปิดเครือข่ายบางส่วนและนำผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วย
    - แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเริ่มการตรวจสอบ

    ✅ การสูญเสียไฟล์และการตรวจสอบ
    - บริษัทสูญเสียไฟล์บางส่วนและกำลังตรวจสอบไฟล์ที่ได้รับผลกระทบ
    - จะดำเนินการเพิ่มเติมตามความเหมาะสม

    ✅ ผลกระทบต่อผลประกอบการ
    - Sensata คาดว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาสที่สองของปี 2025

    ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์
    - การโจมตีแรนซัมแวร์อาจทำให้ข้อมูลสำคัญของบริษัทตกอยู่ในความเสี่ยง
    - การสูญเสียไฟล์อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานในระยะยาว

    ℹ️ ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า
    - เหตุการณ์นี้อาจลดความเชื่อมั่นของลูกค้าและคู่ค้าในระบบความปลอดภัยของบริษัท
    - การจัดการเหตุการณ์อย่างโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่น

    https://www.techradar.com/pro/security/top-us-sensor-maker-sensata-hit-by-worrying-ransomware-attack
    Sensata Technologies ได้รายงานเหตุการณ์แรนซัมแวร์ที่เข้ารหัสอุปกรณ์บางส่วนในเครือข่ายของบริษัท การโจมตีนี้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน เช่น การจัดส่ง การรับสินค้า การผลิต และการสนับสนุนอื่นๆ บริษัทได้ดำเนินการตอบสนองทันทีโดยปิดเครือข่ายบางส่วน นำผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง Sensata ยังระบุว่ามีการสูญเสียไฟล์บางส่วน แต่ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับไฟล์เหล่านั้น ขณะนี้บริษัทกำลังตรวจสอบไฟล์ที่ได้รับผลกระทบและจะดำเนินการเพิ่มเติมตามความเหมาะสม แม้ว่าบริษัทจะคาดการณ์ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาสที่สองของปี 2025 แต่ก็ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบทั้งหมดได้ ✅ เหตุการณ์แรนซัมแวร์ที่ Sensata Technologies - Sensata ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ที่เข้ารหัสอุปกรณ์บางส่วนในเครือข่าย - ส่งผลกระทบต่อการจัดส่ง การรับสินค้า การผลิต และการสนับสนุนอื่นๆ ✅ การตอบสนองของบริษัท - ปิดเครือข่ายบางส่วนและนำผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วย - แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเริ่มการตรวจสอบ ✅ การสูญเสียไฟล์และการตรวจสอบ - บริษัทสูญเสียไฟล์บางส่วนและกำลังตรวจสอบไฟล์ที่ได้รับผลกระทบ - จะดำเนินการเพิ่มเติมตามความเหมาะสม ✅ ผลกระทบต่อผลประกอบการ - Sensata คาดว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาสที่สองของปี 2025 ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์ - การโจมตีแรนซัมแวร์อาจทำให้ข้อมูลสำคัญของบริษัทตกอยู่ในความเสี่ยง - การสูญเสียไฟล์อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานในระยะยาว ℹ️ ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า - เหตุการณ์นี้อาจลดความเชื่อมั่นของลูกค้าและคู่ค้าในระบบความปลอดภัยของบริษัท - การจัดการเหตุการณ์อย่างโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่น https://www.techradar.com/pro/security/top-us-sensor-maker-sensata-hit-by-worrying-ransomware-attack
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • การโจมตีแบบ Quishing เกิดขึ้นเมื่ออาชญากรไซเบอร์สร้าง QR Code ปลอมและนำไปติดทับ QR Code จริงในสถานที่ที่มีการชำระเงินแบบไร้สัมผัส เช่น ที่จอดรถและเมนูร้านอาหาร เมื่อผู้ใช้สแกน QR Code ปลอมนี้ พวกเขาจะถูกนำไปยังเว็บไซต์ที่ควบคุมโดยอาชญากร ซึ่งอาจขโมยข้อมูลการเงินหรือปล่อยมัลแวร์เข้าสู่อุปกรณ์ของผู้ใช้

    ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์แนะนำให้ผู้ใช้ระมัดระวังและตรวจสอบ QR Code ก่อนสแกน รวมถึงหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลการเงินกับเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ

    ✅ การโจมตีแบบ Quishing คืออะไร
    - การฟิชชิงผ่าน QR Code ที่อาชญากรสร้าง QR Code ปลอม
    - มักเกิดในสถานที่ที่มีการชำระเงินแบบไร้สัมผัส เช่น ที่จอดรถและร้านอาหาร

    ✅ ผลกระทบของการโจมตี
    - ผู้ใช้ถูกนำไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ควบคุมโดยอาชญากร
    - ข้อมูลการเงินอาจถูกขโมย หรืออุปกรณ์อาจติดมัลแวร์

    ✅ จำนวนเหตุการณ์ที่เพิ่มขึ้น
    - มีรายงานเหตุการณ์มากกว่า 1,300 ครั้งในปี 2024
    - เพิ่มขึ้นอย่างมากจากปี 2019 ที่มีเพียง 100 ครั้ง

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อผู้ใช้
    - QR Code ปลอมมักดูเหมือนจริง ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ
    - การโจมตีอาจเกิดขึ้นซ้ำๆ โดยใช้จำนวนเงินเล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจพบ

    ℹ️ คำแนะนำเพื่อความปลอดภัย
    - ตรวจสอบ QR Code ก่อนสแกน และหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลการเงินกับเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
    - ใช้ความระมัดระวังและสังเกตความผิดปกติใน QR Code

    https://www.techradar.com/pro/security/mass-quishing-attacks-linked-to-organized-crime-gangs-across-the-uk
    การโจมตีแบบ Quishing เกิดขึ้นเมื่ออาชญากรไซเบอร์สร้าง QR Code ปลอมและนำไปติดทับ QR Code จริงในสถานที่ที่มีการชำระเงินแบบไร้สัมผัส เช่น ที่จอดรถและเมนูร้านอาหาร เมื่อผู้ใช้สแกน QR Code ปลอมนี้ พวกเขาจะถูกนำไปยังเว็บไซต์ที่ควบคุมโดยอาชญากร ซึ่งอาจขโมยข้อมูลการเงินหรือปล่อยมัลแวร์เข้าสู่อุปกรณ์ของผู้ใช้ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์แนะนำให้ผู้ใช้ระมัดระวังและตรวจสอบ QR Code ก่อนสแกน รวมถึงหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลการเงินกับเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ ✅ การโจมตีแบบ Quishing คืออะไร - การฟิชชิงผ่าน QR Code ที่อาชญากรสร้าง QR Code ปลอม - มักเกิดในสถานที่ที่มีการชำระเงินแบบไร้สัมผัส เช่น ที่จอดรถและร้านอาหาร ✅ ผลกระทบของการโจมตี - ผู้ใช้ถูกนำไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ควบคุมโดยอาชญากร - ข้อมูลการเงินอาจถูกขโมย หรืออุปกรณ์อาจติดมัลแวร์ ✅ จำนวนเหตุการณ์ที่เพิ่มขึ้น - มีรายงานเหตุการณ์มากกว่า 1,300 ครั้งในปี 2024 - เพิ่มขึ้นอย่างมากจากปี 2019 ที่มีเพียง 100 ครั้ง ℹ️ ความเสี่ยงต่อผู้ใช้ - QR Code ปลอมมักดูเหมือนจริง ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ - การโจมตีอาจเกิดขึ้นซ้ำๆ โดยใช้จำนวนเงินเล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจพบ ℹ️ คำแนะนำเพื่อความปลอดภัย - ตรวจสอบ QR Code ก่อนสแกน และหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลการเงินกับเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ - ใช้ความระมัดระวังและสังเกตความผิดปกติใน QR Code https://www.techradar.com/pro/security/mass-quishing-attacks-linked-to-organized-crime-gangs-across-the-uk
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • John Tucker ผู้ก่อตั้งบริษัท Secure Annex ได้ค้นพบส่วนขยาย Chrome ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงขณะช่วยลูกค้าตรวจสอบความปลอดภัย โดยพบว่ามีส่วนขยายที่ไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store และสามารถดาวน์โหลดได้เฉพาะผ่าน URL โดยตรง ซึ่งเป็นวิธีที่มักใช้โดยผู้ไม่หวังดีเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ

    ส่วนขยายเหล่านี้ขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น แท็บเบราว์เซอร์ คุกกี้ และ API การจัดการ ซึ่งเป็นระดับการเข้าถึงที่สูงผิดปกติ นอกจากนี้ โค้ดของส่วนขยายยังถูกเข้ารหัสอย่างหนักเพื่อป้องกันการตรวจสอบ

    แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าส่วนขยายเหล่านี้ขโมยข้อมูล แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่อาจถูกใช้ในทางที่ผิด Tucker แนะนำให้ผู้ใช้ลบส่วนขยายเหล่านี้ทันที

    ✅ การค้นพบเครือข่ายส่วนขยาย Chrome ที่เสี่ยง
    - John Tucker ค้นพบส่วนขยาย Chrome ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงจำนวน 35 รายการ
    - ส่วนขยายบางตัวไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store และต้องดาวน์โหลดผ่าน URL โดยตรง

    ✅ สิทธิ์การเข้าถึงที่ผิดปกติ
    - ส่วนขยายเหล่านี้ขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น แท็บเบราว์เซอร์และคุกกี้
    - โค้ดของส่วนขยายถูกเข้ารหัสอย่างหนักเพื่อป้องกันการตรวจสอบ

    ✅ คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
    - Tucker แนะนำให้ลบส่วนขยายเหล่านี้ทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

    ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    - ส่วนขยายที่ไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store อาจถูกใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ
    - การขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอาจนำไปสู่การละเมิดความเป็นส่วนตัว

    ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้
    - ผู้ใช้ที่ติดตั้งส่วนขยายเหล่านี้อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์
    - การเข้ารหัสโค้ดทำให้ยากต่อการตรวจสอบและแก้ไขปัญหา

    https://www.techspot.com/news/107515-researcher-uncovers-network-risky-chrome-extensions-over-4.html
    John Tucker ผู้ก่อตั้งบริษัท Secure Annex ได้ค้นพบส่วนขยาย Chrome ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงขณะช่วยลูกค้าตรวจสอบความปลอดภัย โดยพบว่ามีส่วนขยายที่ไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store และสามารถดาวน์โหลดได้เฉพาะผ่าน URL โดยตรง ซึ่งเป็นวิธีที่มักใช้โดยผู้ไม่หวังดีเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ ส่วนขยายเหล่านี้ขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น แท็บเบราว์เซอร์ คุกกี้ และ API การจัดการ ซึ่งเป็นระดับการเข้าถึงที่สูงผิดปกติ นอกจากนี้ โค้ดของส่วนขยายยังถูกเข้ารหัสอย่างหนักเพื่อป้องกันการตรวจสอบ แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าส่วนขยายเหล่านี้ขโมยข้อมูล แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่อาจถูกใช้ในทางที่ผิด Tucker แนะนำให้ผู้ใช้ลบส่วนขยายเหล่านี้ทันที ✅ การค้นพบเครือข่ายส่วนขยาย Chrome ที่เสี่ยง - John Tucker ค้นพบส่วนขยาย Chrome ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงจำนวน 35 รายการ - ส่วนขยายบางตัวไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store และต้องดาวน์โหลดผ่าน URL โดยตรง ✅ สิทธิ์การเข้าถึงที่ผิดปกติ - ส่วนขยายเหล่านี้ขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น แท็บเบราว์เซอร์และคุกกี้ - โค้ดของส่วนขยายถูกเข้ารหัสอย่างหนักเพื่อป้องกันการตรวจสอบ ✅ คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ - Tucker แนะนำให้ลบส่วนขยายเหล่านี้ทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย - ส่วนขยายที่ไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store อาจถูกใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ - การขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอาจนำไปสู่การละเมิดความเป็นส่วนตัว ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้ - ผู้ใช้ที่ติดตั้งส่วนขยายเหล่านี้อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ - การเข้ารหัสโค้ดทำให้ยากต่อการตรวจสอบและแก้ไขปัญหา https://www.techspot.com/news/107515-researcher-uncovers-network-risky-chrome-extensions-over-4.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Researcher uncovers network of risky Chrome extensions with over 4 million installs
    John Tucker, founder of browser security firm Secure Annex, discovered the suspicious extensions while assisting a client who had installed one or more for security monitoring. The...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลทรัมป์ได้เสนอร่างงบประมาณปี 2026 ที่มีการลดงบประมาณของ NASA ลงถึง 20% หรือประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อโครงการวิทยาศาสตร์และความเป็นผู้นำด้านอวกาศของสหรัฐฯ

    ✅ การลดงบประมาณของ NASA:
    - งบประมาณของ NASA จะลดลงจาก 25 พันล้านดอลลาร์เหลือ 20 พันล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะในส่วนของ Science Mission Directorate
    - การลดงบประมาณนี้จะส่งผลให้โครงการวิทยาศาสตร์ เช่น Astrophysics, Planetary Science และ Earth Science ถูกลดงบประมาณลงถึง 50%

    ✅ โครงการที่อาจถูกยกเลิก:
    - Nancy Grace Roman Space Telescope ซึ่งเป็นกล้องโทรทรรศน์ที่มีศักยภาพเทียบเท่ากับ Hubble และ James Webb อาจถูกยกเลิก
    - โครงการสำคัญอื่น ๆ เช่น Mars Sample Return และ DAVINCI Mission to Venus ก็อาจได้รับผลกระทบ

    ✅ ผลกระทบต่อศูนย์ NASA:
    - การลดงบประมาณอาจนำไปสู่การปิดศูนย์ Goddard Space Flight Center ในรัฐแมริแลนด์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพนักงานกว่า 10,000 คน

    ✅ การตอบสนองของนักวิจารณ์:
    - นักวิจารณ์และผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายวิทยาศาสตร์เรียกการลดงบประมาณนี้ว่าเป็น "เหตุการณ์ระดับการสูญพันธุ์" สำหรับโครงการวิทยาศาสตร์ของ NASA

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ℹ️ การรักษาความเป็นผู้นำด้านอวกาศ:
    - สหรัฐฯ ควรพิจารณาเพิ่มงบประมาณเพื่อรักษาความเป็นผู้นำด้านอวกาศและสนับสนุนการค้นพบทางวิทยาศาสตร์

    ℹ️ การสนับสนุนโครงการวิทยาศาสตร์:
    - ควรมีการสนับสนุนโครงการวิทยาศาสตร์ที่สำคัญเพื่อส่งเสริมการค้นพบใหม่ ๆ และการพัฒนาทางเทคโนโลยี

    ℹ️ การสื่อสารกับสาธารณะ:
    - NASA ควรสื่อสารกับสาธารณะเกี่ยวกับความสำคัญของโครงการวิทยาศาสตร์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการลดงบประมาณ

    https://www.neowin.net/news/trump-white-houses-proposed-huge-nasa-budget-cut-could-decimate-american-space-leadership/
    รัฐบาลทรัมป์ได้เสนอร่างงบประมาณปี 2026 ที่มีการลดงบประมาณของ NASA ลงถึง 20% หรือประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อโครงการวิทยาศาสตร์และความเป็นผู้นำด้านอวกาศของสหรัฐฯ ✅ การลดงบประมาณของ NASA: - งบประมาณของ NASA จะลดลงจาก 25 พันล้านดอลลาร์เหลือ 20 พันล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะในส่วนของ Science Mission Directorate - การลดงบประมาณนี้จะส่งผลให้โครงการวิทยาศาสตร์ เช่น Astrophysics, Planetary Science และ Earth Science ถูกลดงบประมาณลงถึง 50% ✅ โครงการที่อาจถูกยกเลิก: - Nancy Grace Roman Space Telescope ซึ่งเป็นกล้องโทรทรรศน์ที่มีศักยภาพเทียบเท่ากับ Hubble และ James Webb อาจถูกยกเลิก - โครงการสำคัญอื่น ๆ เช่น Mars Sample Return และ DAVINCI Mission to Venus ก็อาจได้รับผลกระทบ ✅ ผลกระทบต่อศูนย์ NASA: - การลดงบประมาณอาจนำไปสู่การปิดศูนย์ Goddard Space Flight Center ในรัฐแมริแลนด์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพนักงานกว่า 10,000 คน ✅ การตอบสนองของนักวิจารณ์: - นักวิจารณ์และผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายวิทยาศาสตร์เรียกการลดงบประมาณนี้ว่าเป็น "เหตุการณ์ระดับการสูญพันธุ์" สำหรับโครงการวิทยาศาสตร์ของ NASA == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ℹ️ การรักษาความเป็นผู้นำด้านอวกาศ: - สหรัฐฯ ควรพิจารณาเพิ่มงบประมาณเพื่อรักษาความเป็นผู้นำด้านอวกาศและสนับสนุนการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ ℹ️ การสนับสนุนโครงการวิทยาศาสตร์: - ควรมีการสนับสนุนโครงการวิทยาศาสตร์ที่สำคัญเพื่อส่งเสริมการค้นพบใหม่ ๆ และการพัฒนาทางเทคโนโลยี ℹ️ การสื่อสารกับสาธารณะ: - NASA ควรสื่อสารกับสาธารณะเกี่ยวกับความสำคัญของโครงการวิทยาศาสตร์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการลดงบประมาณ https://www.neowin.net/news/trump-white-houses-proposed-huge-nasa-budget-cut-could-decimate-american-space-leadership/
    WWW.NEOWIN.NET
    Trump White House's proposed huge NASA budget cut could "decimate American space leadership"
    A massive cut to the budget spending for NASA science research has been proposed by The White House that "could decimate American leadership in space".
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • Oracle ได้ยืนยันว่ามีการละเมิดข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์ที่ล้าสมัย แต่ยืนยันว่าแพลตฟอร์มหลักอย่าง Oracle Cloud Infrastructure (OCI) ไม่ได้รับผลกระทบ โดยเหตุการณ์นี้ยังคงสร้างความสงสัยในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย

    ✅ การละเมิดข้อมูล:
    - Oracle ยืนยันว่าการละเมิดข้อมูลเกิดขึ้นในเซิร์ฟเวอร์ที่ล้าสมัยสองเครื่อง ซึ่งไม่ได้เชื่อมโยงกับ OCI หรือระบบคลาวด์ของลูกค้า
    - ไม่มีข้อมูลลูกค้าถูกเข้าถึงหรือขโมย และไม่มีบริการ OCI ถูกขัดจังหวะ

    ✅ การตอบสนองของ Oracle:
    - Oracle ได้ส่งอีเมลถึงลูกค้าเพื่อชี้แจงว่าไม่มีการละเมิดในแพลตฟอร์ม OCI
    - ข้อมูลที่ถูกขโมยประกอบด้วยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์ ซึ่งอาจถูกใช้ในการโจมตีแบบเจาะจง

    ✅ การสืบสวน:
    - FBI และ CrowdStrike กำลังสืบสวนเหตุการณ์นี้ โดย Oracle ระบุว่าข้อมูลที่ถูกขโมยมาจากระบบ Oracle Classic ที่เลิกใช้งานตั้งแต่ปี 2017

    ✅ ความสงสัยในคำชี้แจง:
    - ผู้เชี่ยวชาญบางคนตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับคำชี้แจงของ Oracle โดยชี้ว่าข้อมูลบางส่วนที่ถูกขโมยดูเหมือนจะเป็นข้อมูลล่าสุด

    https://www.csoonline.com/article/3959636/oracle-admits-breach-of-obsolete-servers-denies-main-cloud-platform-affected.html
    Oracle ได้ยืนยันว่ามีการละเมิดข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์ที่ล้าสมัย แต่ยืนยันว่าแพลตฟอร์มหลักอย่าง Oracle Cloud Infrastructure (OCI) ไม่ได้รับผลกระทบ โดยเหตุการณ์นี้ยังคงสร้างความสงสัยในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย ✅ การละเมิดข้อมูล: - Oracle ยืนยันว่าการละเมิดข้อมูลเกิดขึ้นในเซิร์ฟเวอร์ที่ล้าสมัยสองเครื่อง ซึ่งไม่ได้เชื่อมโยงกับ OCI หรือระบบคลาวด์ของลูกค้า - ไม่มีข้อมูลลูกค้าถูกเข้าถึงหรือขโมย และไม่มีบริการ OCI ถูกขัดจังหวะ ✅ การตอบสนองของ Oracle: - Oracle ได้ส่งอีเมลถึงลูกค้าเพื่อชี้แจงว่าไม่มีการละเมิดในแพลตฟอร์ม OCI - ข้อมูลที่ถูกขโมยประกอบด้วยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์ ซึ่งอาจถูกใช้ในการโจมตีแบบเจาะจง ✅ การสืบสวน: - FBI และ CrowdStrike กำลังสืบสวนเหตุการณ์นี้ โดย Oracle ระบุว่าข้อมูลที่ถูกขโมยมาจากระบบ Oracle Classic ที่เลิกใช้งานตั้งแต่ปี 2017 ✅ ความสงสัยในคำชี้แจง: - ผู้เชี่ยวชาญบางคนตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับคำชี้แจงของ Oracle โดยชี้ว่าข้อมูลบางส่วนที่ถูกขโมยดูเหมือนจะเป็นข้อมูลล่าสุด https://www.csoonline.com/article/3959636/oracle-admits-breach-of-obsolete-servers-denies-main-cloud-platform-affected.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Oracle admits breach of ‘obsolete servers,’ denies main cloud platform affected
    “No OCI customer environment has been penetrated,” the company insisted, but the hacker says otherwise.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • OpenAI กำลังเผชิญกับข้อวิจารณ์เกี่ยวกับการลดระยะเวลาการทดสอบความปลอดภัยของโมเดล AI รุ่นใหม่ ซึ่งอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในระยะยาว

    ✅ การลดระยะเวลาการทดสอบ:
    - OpenAI เคยใช้เวลามากกว่า 6 เดือนในการทดสอบ GPT-4 แต่สำหรับ GPT-4 Omni ใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์เพื่อให้ทันกำหนดการเปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2024
    - การลดระยะเวลาการทดสอบเกิดจากการแข่งขันในตลาด AI ที่มีความเร่งรีบในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์

    ✅ ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น:
    - การลดการทดสอบอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหา เช่น การสร้างข้อมูลที่ผิดพลาดหรือความเสียหายจากผลลัพธ์ของโมเดล
    - ผู้เชี่ยวชาญบางคนเรียกการลดระยะเวลานี้ว่า "ประมาท" และ "สูตรสำหรับหายนะ"

    ✅ การปรับปรุงกระบวนการทดสอบ:
    - OpenAI อ้างว่าใช้ AI ในกระบวนการทดสอบเพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพ
    - มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการความปลอดภัยและความมั่นคงให้มีอำนาจในการชะลอการเปิดตัวโมเดล

    https://www.csoonline.com/article/3960456/openai-slammed-for-putting-speed-over-safety.html
    OpenAI กำลังเผชิญกับข้อวิจารณ์เกี่ยวกับการลดระยะเวลาการทดสอบความปลอดภัยของโมเดล AI รุ่นใหม่ ซึ่งอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในระยะยาว ✅ การลดระยะเวลาการทดสอบ: - OpenAI เคยใช้เวลามากกว่า 6 เดือนในการทดสอบ GPT-4 แต่สำหรับ GPT-4 Omni ใช้เวลาเพียง 1 สัปดาห์เพื่อให้ทันกำหนดการเปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2024 - การลดระยะเวลาการทดสอบเกิดจากการแข่งขันในตลาด AI ที่มีความเร่งรีบในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ✅ ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น: - การลดการทดสอบอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหา เช่น การสร้างข้อมูลที่ผิดพลาดหรือความเสียหายจากผลลัพธ์ของโมเดล - ผู้เชี่ยวชาญบางคนเรียกการลดระยะเวลานี้ว่า "ประมาท" และ "สูตรสำหรับหายนะ" ✅ การปรับปรุงกระบวนการทดสอบ: - OpenAI อ้างว่าใช้ AI ในกระบวนการทดสอบเพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพ - มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการความปลอดภัยและความมั่นคงให้มีอำนาจในการชะลอการเปิดตัวโมเดล https://www.csoonline.com/article/3960456/openai-slammed-for-putting-speed-over-safety.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    OpenAI slammed for putting speed over safety
    Testers allege newer models are being pushed for launch with much-reduced testing time.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อสีพุฒ วัดมะเดื่อทอง ปัตตานี
    เหรียญรุ่น2 หลวงพ่อสีพุฒ - พระครูมานิตสมณคุณ วัดมะเดื่อทอง อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี //พระดีพิธีใหญ่ รุ่นแรกราคาไปหลายแสนแล้วครับ # พระเก่า พศ.ลึก พระหายาก สร้างจำนวนไม่มากครับ พระมีประสบการณ์สูง //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ >> พระแท้ ดูง่าย @"รับประกันพระแท้ตลอดชีพ"

    ** พุทธคุณสูงด้าน แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด มีประสบการณ์มากมาย มหาเมตตา โชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา ผู้ใช้วัตถุมงคลของท่านต่างประสบความสำเร็จในธุรกิจ เจริญรุ่งเรืองในที่การงาน การค้าขาย ให้โชคลาภ มหาเมตตา มีแต่คนเอ็นดู เงินทองไหลมาเทมา ดีนักแล >>

    ** พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดย อาจารย์นองวัดทรายขาว พ่อท่านทองวัดสำเภาเชย พ่อท่านเขียววัดห้วยเงาะ พ่อท่านทองวัดป่ากอ พ่อท่านแดง วัดศรีมหาโพธิ์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเกจิอาจารย์ผู้เข้มขลังวิทยาคม ทั้งสิ้น >> เหรียญรุ่นแรกของท่าน มีค่านิยมสูงมาก จัดเป็นอีกเหรียญที่หายากเหรียญหนึ่งของภาคใต้ ถูกกล่าวขานถึงในด้านความศักดิ์สิทธิ์ตลอดมาด้วยประสบการณ์แห่งพุทธานุภาพ

    ** หลวงพ่อสีพุฒ ท่านเป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่เเดงวัดศรีมหาโพธิ์ ที่สร้างหลวงปู่ทวดรุ่น 5 แชะอันลือลั่น เป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่หวาน วัดสะบ้าย้อยเเละเป็นพระอาจารย์ของพ่อท่านนุ่ม วัดมะเดื่อทอง หลวงปู่ทวดสีพุฒเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงอภิญญาสมถะ เป็นศิษย์สำนักพุทธาคมเขาอ้อ มีความเชี่ยวชาญชำนาญพุทธเวทย์มหามนต์ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อสีพุฒ วัดมะเดื่อทอง ปัตตานี เหรียญรุ่น2 หลวงพ่อสีพุฒ - พระครูมานิตสมณคุณ วัดมะเดื่อทอง อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี //พระดีพิธีใหญ่ รุ่นแรกราคาไปหลายแสนแล้วครับ # พระเก่า พศ.ลึก พระหายาก สร้างจำนวนไม่มากครับ พระมีประสบการณ์สูง //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ >> พระแท้ ดูง่าย @"รับประกันพระแท้ตลอดชีพ" ** พุทธคุณสูงด้าน แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด มีประสบการณ์มากมาย มหาเมตตา โชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา ผู้ใช้วัตถุมงคลของท่านต่างประสบความสำเร็จในธุรกิจ เจริญรุ่งเรืองในที่การงาน การค้าขาย ให้โชคลาภ มหาเมตตา มีแต่คนเอ็นดู เงินทองไหลมาเทมา ดีนักแล >> ** พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดย อาจารย์นองวัดทรายขาว พ่อท่านทองวัดสำเภาเชย พ่อท่านเขียววัดห้วยเงาะ พ่อท่านทองวัดป่ากอ พ่อท่านแดง วัดศรีมหาโพธิ์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเกจิอาจารย์ผู้เข้มขลังวิทยาคม ทั้งสิ้น >> เหรียญรุ่นแรกของท่าน มีค่านิยมสูงมาก จัดเป็นอีกเหรียญที่หายากเหรียญหนึ่งของภาคใต้ ถูกกล่าวขานถึงในด้านความศักดิ์สิทธิ์ตลอดมาด้วยประสบการณ์แห่งพุทธานุภาพ ** หลวงพ่อสีพุฒ ท่านเป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่เเดงวัดศรีมหาโพธิ์ ที่สร้างหลวงปู่ทวดรุ่น 5 แชะอันลือลั่น เป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่หวาน วัดสะบ้าย้อยเเละเป็นพระอาจารย์ของพ่อท่านนุ่ม วัดมะเดื่อทอง หลวงปู่ทวดสีพุฒเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงอภิญญาสมถะ เป็นศิษย์สำนักพุทธาคมเขาอ้อ มีความเชี่ยวชาญชำนาญพุทธเวทย์มหามนต์ >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel CEO Lip-Bu Tan กำลังเผชิญกับข้อกังวลเกี่ยวกับการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีจีนกว่า 600 แห่ง ซึ่งบางแห่งมีความเชื่อมโยงกับกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิป เช่น SMIC ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปชั้นนำของจีน

    ✅ การลงทุนในบริษัทจีน:
    - Lip-Bu Tan มีการลงทุนในบริษัทจีนกว่า 600 แห่งผ่านบริษัท Walden International และบริษัทในฮ่องกง เช่น Sakarya Limited และ Seine Limited
    - บริษัทที่ลงทุนบางแห่งมีความเชื่อมโยงกับ PLA และรัฐบาลจีน เช่น Dapu Technologies และ HAI Robotics

    ✅ ความกังวลด้านความมั่นคง:
    - การลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ PLA และการผลิตชิปสำหรับกองทัพรัสเซียสร้างความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของสหรัฐฯ
    - การถือหุ้นใน SMIC ซึ่งเป็นคู่แข่งของ Intel ในการผลิตชิป อาจสร้างความขัดแย้งในบทบาทของ Tan

    ✅ การตอบสนองของ Intel:
    - Intel ระบุว่า Tan ได้กรอกแบบฟอร์มการเปิดเผยข้อมูลตามข้อกำหนดของ SEC แต่ไม่ได้ให้ความคิดเห็นโดยตรงเกี่ยวกับการลงทุน

    ✅ ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ:
    - ผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่าประสบการณ์ของ Tan ในการลงทุนในจีนเป็นข้อได้เปรียบ ในขณะที่บางคนมองว่าเป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงของ Intel

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ⚠️ ความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์:
    - การลงทุนในบริษัทที่มีความเชื่อมโยงกับ PLA อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Intel ในสายตาสาธารณชน

    ⚠️ การตรวจสอบความโปร่งใส:
    - Intel ควรเพิ่มความโปร่งใสในการจัดการข้อกังวลเกี่ยวกับการลงทุนของ CEO เพื่อรักษาความเชื่อมั่นจากนักลงทุน

    ⚠️ การพิจารณาด้านจริยธรรม:
    - การลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิปสำหรับกองทัพรัสเซียอาจสร้างคำถามด้านจริยธรรมที่ Intel ต้องพิจารณา

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-ceo-lip-bu-tan-has-invested-in-600-chinese-firms-some-linked-to-the-chinese-military
    Intel CEO Lip-Bu Tan กำลังเผชิญกับข้อกังวลเกี่ยวกับการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีจีนกว่า 600 แห่ง ซึ่งบางแห่งมีความเชื่อมโยงกับกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิป เช่น SMIC ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปชั้นนำของจีน ✅ การลงทุนในบริษัทจีน: - Lip-Bu Tan มีการลงทุนในบริษัทจีนกว่า 600 แห่งผ่านบริษัท Walden International และบริษัทในฮ่องกง เช่น Sakarya Limited และ Seine Limited - บริษัทที่ลงทุนบางแห่งมีความเชื่อมโยงกับ PLA และรัฐบาลจีน เช่น Dapu Technologies และ HAI Robotics ✅ ความกังวลด้านความมั่นคง: - การลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ PLA และการผลิตชิปสำหรับกองทัพรัสเซียสร้างความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของสหรัฐฯ - การถือหุ้นใน SMIC ซึ่งเป็นคู่แข่งของ Intel ในการผลิตชิป อาจสร้างความขัดแย้งในบทบาทของ Tan ✅ การตอบสนองของ Intel: - Intel ระบุว่า Tan ได้กรอกแบบฟอร์มการเปิดเผยข้อมูลตามข้อกำหนดของ SEC แต่ไม่ได้ให้ความคิดเห็นโดยตรงเกี่ยวกับการลงทุน ✅ ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: - ผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่าประสบการณ์ของ Tan ในการลงทุนในจีนเป็นข้อได้เปรียบ ในขณะที่บางคนมองว่าเป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงของ Intel == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ⚠️ ความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์: - การลงทุนในบริษัทที่มีความเชื่อมโยงกับ PLA อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Intel ในสายตาสาธารณชน ⚠️ การตรวจสอบความโปร่งใส: - Intel ควรเพิ่มความโปร่งใสในการจัดการข้อกังวลเกี่ยวกับการลงทุนของ CEO เพื่อรักษาความเชื่อมั่นจากนักลงทุน ⚠️ การพิจารณาด้านจริยธรรม: - การลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิปสำหรับกองทัพรัสเซียอาจสร้างคำถามด้านจริยธรรมที่ Intel ต้องพิจารณา https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-ceo-lip-bu-tan-has-invested-in-600-chinese-firms-some-linked-to-the-chinese-military
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Intel CEO Lip-Bu Tan has invested in 600 Chinese firms, some linked to the Chinese military
    Some believe it makes Lip-Bu Tan an experienced investor, others think it is unacceptable for an Intel CEO.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มแฮกเกอร์ Shuckworm ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับหน่วยงานความมั่นคงของรัสเซีย (FSB) ได้กลับมาโจมตีอีกครั้ง โดยใช้มัลแวร์ GammaSteel เวอร์ชันใหม่ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เป้าหมายของการโจมตีครั้งนี้คือภารกิจทางทหารของประเทศตะวันตกในยูเครน

    ✅ ลักษณะการโจมตี:
    - การโจมตีเริ่มต้นด้วยไฟล์ลิงก์ (.lnk) ที่ถูกเปิดจากอุปกรณ์ภายนอก
    - ไฟล์ดังกล่าวเรียกใช้สคริปต์ที่ซับซ้อนและมัลแวร์ GammaSteel ผ่าน PowerShell

    ✅ ความสามารถของมัลแวร์ GammaSteel:
    - มัลแวร์สามารถขโมยไฟล์ที่มีนามสกุลเฉพาะ เช่น .doc, .xls, .pdf จากโฟลเดอร์ Desktop, Download และ Documents
    - ใช้ PowerShell web requests และ fallback ผ่าน Tor proxy เพื่อส่งข้อมูลออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ควบคุม

    ✅ การปรับปรุงมัลแวร์:
    - GammaSteel เวอร์ชันใหม่มีการเพิ่มการเข้ารหัสและการใช้บริการเว็บที่ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อลดความเสี่ยงในการถูกตรวจจับ

    ✅ เป้าหมายของการโจมตี:
    - เป้าหมายรวมถึงการขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น แผนการปฏิบัติการทางทหารและรายงานการบาดเจ็บ

    ✅ การตอบสนองของผู้เชี่ยวชาญ:
    - นักวิจัยจาก Symantec พบว่าการโจมตีครั้งนี้มีความซับซ้อนมากขึ้น แม้ Shuckworm จะมีทักษะที่ด้อยกว่ากลุ่มแฮกเกอร์รัสเซียอื่น ๆ

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ⚠️ ความเสี่ยงจากอุปกรณ์ภายนอก:
    - องค์กรควรเพิ่มมาตรการป้องกันการโจมตีผ่านอุปกรณ์ภายนอก เช่น USB

    ⚠️ การป้องกันมัลแวร์:
    - การใช้เครื่องมือวิเคราะห์พฤติกรรมมัลแวร์และการตรวจสอบเครือข่ายสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้

    ⚠️ การฝึกอบรมพนักงาน:
    - พนักงานควรได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการระบุไฟล์ที่น่าสงสัยและการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์

    https://www.csoonline.com/article/3959665/russian-shuckworm-apt-is-back-with-updated-gammasteel-malware.html
    กลุ่มแฮกเกอร์ Shuckworm ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับหน่วยงานความมั่นคงของรัสเซีย (FSB) ได้กลับมาโจมตีอีกครั้ง โดยใช้มัลแวร์ GammaSteel เวอร์ชันใหม่ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เป้าหมายของการโจมตีครั้งนี้คือภารกิจทางทหารของประเทศตะวันตกในยูเครน ✅ ลักษณะการโจมตี: - การโจมตีเริ่มต้นด้วยไฟล์ลิงก์ (.lnk) ที่ถูกเปิดจากอุปกรณ์ภายนอก - ไฟล์ดังกล่าวเรียกใช้สคริปต์ที่ซับซ้อนและมัลแวร์ GammaSteel ผ่าน PowerShell ✅ ความสามารถของมัลแวร์ GammaSteel: - มัลแวร์สามารถขโมยไฟล์ที่มีนามสกุลเฉพาะ เช่น .doc, .xls, .pdf จากโฟลเดอร์ Desktop, Download และ Documents - ใช้ PowerShell web requests และ fallback ผ่าน Tor proxy เพื่อส่งข้อมูลออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ควบคุม ✅ การปรับปรุงมัลแวร์: - GammaSteel เวอร์ชันใหม่มีการเพิ่มการเข้ารหัสและการใช้บริการเว็บที่ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อลดความเสี่ยงในการถูกตรวจจับ ✅ เป้าหมายของการโจมตี: - เป้าหมายรวมถึงการขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น แผนการปฏิบัติการทางทหารและรายงานการบาดเจ็บ ✅ การตอบสนองของผู้เชี่ยวชาญ: - นักวิจัยจาก Symantec พบว่าการโจมตีครั้งนี้มีความซับซ้อนมากขึ้น แม้ Shuckworm จะมีทักษะที่ด้อยกว่ากลุ่มแฮกเกอร์รัสเซียอื่น ๆ == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ⚠️ ความเสี่ยงจากอุปกรณ์ภายนอก: - องค์กรควรเพิ่มมาตรการป้องกันการโจมตีผ่านอุปกรณ์ภายนอก เช่น USB ⚠️ การป้องกันมัลแวร์: - การใช้เครื่องมือวิเคราะห์พฤติกรรมมัลแวร์และการตรวจสอบเครือข่ายสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้ ⚠️ การฝึกอบรมพนักงาน: - พนักงานควรได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการระบุไฟล์ที่น่าสงสัยและการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ https://www.csoonline.com/article/3959665/russian-shuckworm-apt-is-back-with-updated-gammasteel-malware.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Russian Shuckworm APT is back with updated GammaSteel malware
    The attack targeted the military mission of a Western country in Ukraine, with the goal of deploying a PowerShell-based version of the GammaSteel infostealer.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • การโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ที่ชื่อว่า Codefinger ได้สร้างความตื่นตระหนกในวงการความปลอดภัยไซเบอร์ โดยเป็นการโจมตีที่มุ่งเป้าไปที่การจัดการคีย์ในระบบคลาวด์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการใหม่ของแรนซัมแวร์

    ✅ ลักษณะการโจมตี:
    - Codefinger โจมตีโดยการขโมยคีย์สำหรับจัดการข้อมูลใน Amazon S3 และใช้คีย์เหล่านั้นเข้ารหัสข้อมูลใน S3 buckets
    - การโจมตีนี้ไม่ได้ใช้มัลแวร์ แต่ใช้ช่องโหว่จากการจัดการคีย์ที่ไม่ปลอดภัย

    ✅ ความเสี่ยงจากการสำรองข้อมูล:
    - การสำรองข้อมูลแบบดั้งเดิมไม่สามารถป้องกันการโจมตีนี้ได้ หากข้อมูลสำรองถูกเข้ารหัสพร้อมกับข้อมูลต้นฉบับ

    ✅ ความรับผิดชอบร่วมในระบบคลาวด์:
    - การโจมตีนี้แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงในโมเดลความรับผิดชอบร่วม (Shared Responsibility Model) ซึ่งผู้ใช้งานต้องรับผิดชอบในการจัดการคีย์เอง

    ✅ การจัดการคีย์ที่ปลอดภัย:
    - การจัดเก็บคีย์ในที่ปลอดภัย เช่น Secrets Management Tools และการเปลี่ยนคีย์เป็นระยะ (Secrets Cycling) สามารถลดความเสี่ยงได้

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ⚠️ การจัดการคีย์ที่ไม่ปลอดภัย:
    - องค์กรควรตรวจสอบและจัดการคีย์อย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

    ⚠️ การพึ่งพาการสำรองข้อมูล:
    - การสำรองข้อมูลเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ องค์กรควรใช้กลยุทธ์การป้องกันที่หลากหลาย เช่น การตั้งค่าการเข้าถึงข้อมูลให้ปลอดภัย

    ⚠️ การลงทุนในความปลอดภัยไซเบอร์:
    - องค์กรควรเพิ่มการลงทุนในระบบความปลอดภัยไซเบอร์และหาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อช่วยปิดช่องโหว่

    https://www.csoonline.com/article/3958179/why-codefinger-represents-a-new-stage-in-the-evolution-of-ransomware.html
    การโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ที่ชื่อว่า Codefinger ได้สร้างความตื่นตระหนกในวงการความปลอดภัยไซเบอร์ โดยเป็นการโจมตีที่มุ่งเป้าไปที่การจัดการคีย์ในระบบคลาวด์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการใหม่ของแรนซัมแวร์ ✅ ลักษณะการโจมตี: - Codefinger โจมตีโดยการขโมยคีย์สำหรับจัดการข้อมูลใน Amazon S3 และใช้คีย์เหล่านั้นเข้ารหัสข้อมูลใน S3 buckets - การโจมตีนี้ไม่ได้ใช้มัลแวร์ แต่ใช้ช่องโหว่จากการจัดการคีย์ที่ไม่ปลอดภัย ✅ ความเสี่ยงจากการสำรองข้อมูล: - การสำรองข้อมูลแบบดั้งเดิมไม่สามารถป้องกันการโจมตีนี้ได้ หากข้อมูลสำรองถูกเข้ารหัสพร้อมกับข้อมูลต้นฉบับ ✅ ความรับผิดชอบร่วมในระบบคลาวด์: - การโจมตีนี้แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงในโมเดลความรับผิดชอบร่วม (Shared Responsibility Model) ซึ่งผู้ใช้งานต้องรับผิดชอบในการจัดการคีย์เอง ✅ การจัดการคีย์ที่ปลอดภัย: - การจัดเก็บคีย์ในที่ปลอดภัย เช่น Secrets Management Tools และการเปลี่ยนคีย์เป็นระยะ (Secrets Cycling) สามารถลดความเสี่ยงได้ == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ⚠️ การจัดการคีย์ที่ไม่ปลอดภัย: - องค์กรควรตรวจสอบและจัดการคีย์อย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ⚠️ การพึ่งพาการสำรองข้อมูล: - การสำรองข้อมูลเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ องค์กรควรใช้กลยุทธ์การป้องกันที่หลากหลาย เช่น การตั้งค่าการเข้าถึงข้อมูลให้ปลอดภัย ⚠️ การลงทุนในความปลอดภัยไซเบอร์: - องค์กรควรเพิ่มการลงทุนในระบบความปลอดภัยไซเบอร์และหาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อช่วยปิดช่องโหว่ https://www.csoonline.com/article/3958179/why-codefinger-represents-a-new-stage-in-the-evolution-of-ransomware.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Why Codefinger represents a new stage in the evolution of ransomware
    Forget typical ransomware! Codefinger hijacked cloud keys directly, exposing backup flaws and shared responsibility risks. Time to rethink defense.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งพิเศษเพิกถอนสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลลับของ Chris Krebs อดีตผู้อำนวยการ CISA และบริษัท SentinelOne ซึ่งเป็นการกระทำที่สร้างความกังวลในวงการความปลอดภัยไซเบอร์

    ✅ การเพิกถอนสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลลับ:
    - คำสั่งพิเศษนี้เพิกถอนสิทธิ์ของ Chris Krebs และพนักงาน SentinelOne ที่เกี่ยวข้องกับเขา
    - การเพิกถอนสิทธิ์ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับบริษัทความปลอดภัยไซเบอร์โดยตรง

    ✅ ผลกระทบต่อ SentinelOne:
    - SentinelOne อาจเผชิญกับความท้าทายในการให้บริการแก่รัฐบาล เนื่องจากการเพิกถอนสิทธิ์อาจทำให้สัญญาที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลลับเป็นโมฆะ
    - บริษัทระบุว่ามีพนักงานน้อยกว่า 10 คนที่ได้รับผลกระทบ และไม่คาดว่าจะกระทบต่อธุรกิจโดยรวม

    ✅ การตอบสนองของผู้เชี่ยวชาญ:
    - ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายความมั่นคงวิจารณ์ว่าการเพิกถอนสิทธิ์โดยคำสั่งพิเศษนี้ขัดต่อกระบวนการที่ควรมี เช่น การตรวจสอบความปลอดภัยและการให้เหตุผล

    ✅ ความสัมพันธ์กับเหตุการณ์ในอดีต:
    - Chris Krebs ถูกไล่ออกจากตำแหน่งในปี 2020 หลังจากยืนยันว่าการเลือกตั้งในปีนั้นเป็นการเลือกตั้งที่ปลอดภัยที่สุดในประวัติศาสตร์

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ⚠️ ความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาล:
    - การใช้คำสั่งพิเศษในลักษณะนี้อาจสร้างความกังวลเกี่ยวกับการใช้อำนาจในทางที่ไม่เหมาะสม

    ⚠️ ผลกระทบต่อวงการความปลอดภัยไซเบอร์:
    - การเพิกถอนสิทธิ์ของ SentinelOne อาจสร้างบรรยากาศที่ไม่มั่นคงในวงการความปลอดภัยไซเบอร์ โดยเฉพาะบริษัทที่ทำงานร่วมกับรัฐบาล

    https://www.csoonline.com/article/3958808/trump-revokes-security-clearances-for-chris-krebs-sentinelone-in-problematic-precedent-for-security-vendors.html
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งพิเศษเพิกถอนสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลลับของ Chris Krebs อดีตผู้อำนวยการ CISA และบริษัท SentinelOne ซึ่งเป็นการกระทำที่สร้างความกังวลในวงการความปลอดภัยไซเบอร์ ✅ การเพิกถอนสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลลับ: - คำสั่งพิเศษนี้เพิกถอนสิทธิ์ของ Chris Krebs และพนักงาน SentinelOne ที่เกี่ยวข้องกับเขา - การเพิกถอนสิทธิ์ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับบริษัทความปลอดภัยไซเบอร์โดยตรง ✅ ผลกระทบต่อ SentinelOne: - SentinelOne อาจเผชิญกับความท้าทายในการให้บริการแก่รัฐบาล เนื่องจากการเพิกถอนสิทธิ์อาจทำให้สัญญาที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลลับเป็นโมฆะ - บริษัทระบุว่ามีพนักงานน้อยกว่า 10 คนที่ได้รับผลกระทบ และไม่คาดว่าจะกระทบต่อธุรกิจโดยรวม ✅ การตอบสนองของผู้เชี่ยวชาญ: - ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายความมั่นคงวิจารณ์ว่าการเพิกถอนสิทธิ์โดยคำสั่งพิเศษนี้ขัดต่อกระบวนการที่ควรมี เช่น การตรวจสอบความปลอดภัยและการให้เหตุผล ✅ ความสัมพันธ์กับเหตุการณ์ในอดีต: - Chris Krebs ถูกไล่ออกจากตำแหน่งในปี 2020 หลังจากยืนยันว่าการเลือกตั้งในปีนั้นเป็นการเลือกตั้งที่ปลอดภัยที่สุดในประวัติศาสตร์ == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ⚠️ ความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาล: - การใช้คำสั่งพิเศษในลักษณะนี้อาจสร้างความกังวลเกี่ยวกับการใช้อำนาจในทางที่ไม่เหมาะสม ⚠️ ผลกระทบต่อวงการความปลอดภัยไซเบอร์: - การเพิกถอนสิทธิ์ของ SentinelOne อาจสร้างบรรยากาศที่ไม่มั่นคงในวงการความปลอดภัยไซเบอร์ โดยเฉพาะบริษัทที่ทำงานร่วมกับรัฐบาล https://www.csoonline.com/article/3958808/trump-revokes-security-clearances-for-chris-krebs-sentinelone-in-problematic-precedent-for-security-vendors.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Trump revokes security clearances for Chris Krebs, SentinelOne in problematic precedent for security vendors
    US President Donald Trump issued an executive order revoking the security clearance of Krebs and cybersecurity giant SentinelOne as retribution for the former CISA director’s defense of the 2020 election. The move holds significant implications for SentinelOne going forward.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความเชี่ยวชาญของคุณคืออะไร?

    ผมและทีม 10X Consulting และ Life Alignmentor 2 แบรนด์ ในเครือเดชฤทธิ์ กรุ๊ป มักจะได้รับคำถามทำนองนี้เมื่อเรานำเสนอว่าเราคือที่ปรึกษากลยุทธ์พัฒนาการจัดการองค์กร หรือ Management Development & Strategy Consultant

    ในทุกๆที่ซึ่ง 10X Consulting และ Life Alignmentor ได้รับความไว้วางใจเกือบ 100% ของผู้รับบริการจากเรามักบอกต่อ และเมื่อถามว่าอะไรคือสิ่งที่เราโดดเด่น พอประมวลเป็นภาพรวมๆได้ว่า ...

    เรามีสิ่งที่ผู้รับบริการชื่นชอบคือการนำพา และพา(จับมือ)ทำ กระทั่งสะเด็ดน้ำ - คนเกิดความเข้าใจร่วม ซึ่งผมมักพูดเป็นประจำว่าจากประสบการณ์กว่า 30 ปี ด้านนี้ คน ทีม และองค์กรจะพัฒนาเมื่อเกิดการประชุมพร้อมของ 3 อย่าง นี้ ... "คิดได้ ทำเป็น เห็นผล"

    และที่สำคัญควรอย่างยิ่งที่จะเชื่อมโยงเข้าถึง "โลกด้านใน"

    เพราะ ...

    -เป็นการมุ่งเป้าเพื่อความยั่งยืนในการเปลี่ยนแปลง
    -มิติภายในเป็นตัวกำหนดพฤติกรรม
    -การเรียนรู้มิติภายในทำให้เข้าใจพฤติกรรมของผู้อื่นได้ง่ายยิ่งขึ้น
    และนำไปสู่การรับมือที่สอดคล้องกัน
    -เป็นการมุ่งเป้าเพื่อให้ผู้เรียนเห็นความเชื่อมโยงและมีมุมมองที่กว้างไกลกว่าที่เป็นอยู่
    -มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ต้องการค้นหาการอยู่ร่วมกันด้วยสัมพันธภาพที่ดี
    -ทำให้ค้นพบศักยภาพในตนเอง และช่วยขยายศักยภาพและความสามารถ
    -ช่วยกระตุ้นการตื่นรู้ภายในตัว

    ซึ่งส่งผลให้ ...
    -เกิดพลังงานที่ขับเคลื่อนให้เราข้ามพ้นจุดที่ติดขัดภายในตนเอง
    -เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง
    -มีการส่งต่อพลังงานดีๆต่อไป
    -เกิดคุณภาพใหม่ ในการใช้ชีวิต
    -ความสัมพันธ์ต่อตนเอง และต่อผู้อื่นดีขึ้น

    การพัฒนาคน พัฒนาทีม พัฒนาองค์กร มีหลากหลายรูปแบบ จะใช้อะไร และใช้แบบไหนก็ขึ้นอยู่กับจริต ของคน ผู้นำ ผู้บริหาร ผู้ประกอบการ ผู้ก่อตั้ง ฯลฯ

    หากมองลุแก่น ไม่ว่าจะเป็นใครก็น่าจะต้องการให้วันนี้ดีกว่าเมื่อวาน และพรุ่งนี้ดีกว่าวันนี้

    มิติการพัฒนาจากโลกด้านในเป้นเรื่องใกล้ตัวเหมือนเส้นผมบังภูเขา ในหนังสือผลงานล่าสุดที่เพิ่งออก FAIL FAST, SUCCEED MORE "ล้มให้เร็วสำเร็จให้สุด" จึงเขียนคำอุทิศ แด่ผู้ที่สร้างโลกด้านใน

    ผู้สนใจมาติดตามอ่านต่อได้วันพรุ่งนี้ ส่งท้ายก่อนวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์กันครับ

    WWW.10-XCONSULTING.COM

    ชมบรรยากาศการเปิดตัวหนังสือได้ที่ #FailFastSucceedMore
    #ล้มให้เร็วสำเร็จให้สุด
    #เพราะความล้มเหลวคือจิ๊กซอร์หนึ่งของความสำเร็จ
    #เผยเทคนิคล้มอย่างไรให้สำเร็จได้อย่างสุดๆ
    ความเชี่ยวชาญของคุณคืออะไร? ผมและทีม 10X Consulting และ Life Alignmentor 2 แบรนด์ ในเครือเดชฤทธิ์ กรุ๊ป มักจะได้รับคำถามทำนองนี้เมื่อเรานำเสนอว่าเราคือที่ปรึกษากลยุทธ์พัฒนาการจัดการองค์กร หรือ Management Development & Strategy Consultant ในทุกๆที่ซึ่ง 10X Consulting และ Life Alignmentor ได้รับความไว้วางใจเกือบ 100% ของผู้รับบริการจากเรามักบอกต่อ และเมื่อถามว่าอะไรคือสิ่งที่เราโดดเด่น พอประมวลเป็นภาพรวมๆได้ว่า ... เรามีสิ่งที่ผู้รับบริการชื่นชอบคือการนำพา และพา(จับมือ)ทำ กระทั่งสะเด็ดน้ำ - คนเกิดความเข้าใจร่วม ซึ่งผมมักพูดเป็นประจำว่าจากประสบการณ์กว่า 30 ปี ด้านนี้ คน ทีม และองค์กรจะพัฒนาเมื่อเกิดการประชุมพร้อมของ 3 อย่าง นี้ ... "คิดได้ ทำเป็น เห็นผล" และที่สำคัญควรอย่างยิ่งที่จะเชื่อมโยงเข้าถึง "โลกด้านใน" เพราะ ... -เป็นการมุ่งเป้าเพื่อความยั่งยืนในการเปลี่ยนแปลง -มิติภายในเป็นตัวกำหนดพฤติกรรม -การเรียนรู้มิติภายในทำให้เข้าใจพฤติกรรมของผู้อื่นได้ง่ายยิ่งขึ้น และนำไปสู่การรับมือที่สอดคล้องกัน -เป็นการมุ่งเป้าเพื่อให้ผู้เรียนเห็นความเชื่อมโยงและมีมุมมองที่กว้างไกลกว่าที่เป็นอยู่ -มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ต้องการค้นหาการอยู่ร่วมกันด้วยสัมพันธภาพที่ดี -ทำให้ค้นพบศักยภาพในตนเอง และช่วยขยายศักยภาพและความสามารถ -ช่วยกระตุ้นการตื่นรู้ภายในตัว ซึ่งส่งผลให้ ... -เกิดพลังงานที่ขับเคลื่อนให้เราข้ามพ้นจุดที่ติดขัดภายในตนเอง -เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง -มีการส่งต่อพลังงานดีๆต่อไป -เกิดคุณภาพใหม่ ในการใช้ชีวิต -ความสัมพันธ์ต่อตนเอง และต่อผู้อื่นดีขึ้น การพัฒนาคน พัฒนาทีม พัฒนาองค์กร มีหลากหลายรูปแบบ จะใช้อะไร และใช้แบบไหนก็ขึ้นอยู่กับจริต ของคน ผู้นำ ผู้บริหาร ผู้ประกอบการ ผู้ก่อตั้ง ฯลฯ หากมองลุแก่น ไม่ว่าจะเป็นใครก็น่าจะต้องการให้วันนี้ดีกว่าเมื่อวาน และพรุ่งนี้ดีกว่าวันนี้ มิติการพัฒนาจากโลกด้านในเป้นเรื่องใกล้ตัวเหมือนเส้นผมบังภูเขา ในหนังสือผลงานล่าสุดที่เพิ่งออก FAIL FAST, SUCCEED MORE "ล้มให้เร็วสำเร็จให้สุด" จึงเขียนคำอุทิศ แด่ผู้ที่สร้างโลกด้านใน ผู้สนใจมาติดตามอ่านต่อได้วันพรุ่งนี้ ส่งท้ายก่อนวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์กันครับ WWW.10-XCONSULTING.COM ชมบรรยากาศการเปิดตัวหนังสือได้ที่ #FailFastSucceedMore #ล้มให้เร็วสำเร็จให้สุด #เพราะความล้มเหลวคือจิ๊กซอร์หนึ่งของความสำเร็จ #เผยเทคนิคล้มอย่างไรให้สำเร็จได้อย่างสุดๆ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts