• ทหารยูเครนกำลังเปิดกว้างสละดินแดนและยอมรับข้อตกลงหยุดยิงหนึ่งๆ มากขึ้น ท่ามกลางขวัญกำลังใจที่อ่อนแอลงและถูกกดดันจากกองกำลังรัสเซียหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ตามรายงานของอีโคโนมิสต์ สื่อมวลชนอังกฤษ อ้างอิงแหล่งข่าวจากยูเครน
    .
    รายงานข่าวนี้มีออกมา ในขณะที่กองกำลังรัสเซียรุกคืบภูมิภาคดอนบาส ในอัตราที่รวดเร็วอย่างที่ไม่พบเห็นมาก่อน นับตั้งแต่วันแรกๆ ของความขัดแย้ง โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงานว่าสามารถปลดปล่อยถิ่นพักอาศัยได้หลายสิบแห่ง ทั้งในแคว้นโดเนตสก์ ที่รัสเซียกล่าวอ้างผนวกเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน และแคว้นคาร์คิฟของยูเครน
    .
    อีโคโนมิสต์ ระบุว่า "ปัญหาต่างๆ ของกองทัพยูเครนกำลังถูกซ้ำเติมจากประเด็นขาดแคลนกำลังพลที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ ความพยายามผลักดันเกณฑ์ทหารทำได้เพียงแค่ 2 ใน 3 ของเป้าหมาย และเจ้าหน้าที่ยูเครนรายหนึ่ง บอกว่าสถานการณ์อาจกลายเป็นเรื่องแก้ไข้ไม่ได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า" พร้อมอ้างเจ้าหน้าที่ยูเครนอีกคน ระบุว่าพวกที่ถูกบังคับเข้าเกณฑ์ทหารนั้น จำนวนมากสุขภาพไม่แข็งแรงและไม่มีแรงจูงใจ
    .
    ท่ามกลางสถานการณ์ในสมรภูมิรบที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ ประกอบกับประเด็นนี้ ที่ซ้ำเติมปัญหาการหมุนเวียนกำลังพล มีรายงานว่ามันกำลังส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของทหารยูเครน โดยอีโคโนมิสต์อ้างอิงคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ยูเครนรายหนึ่งระบุ มีทหารในจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ ที่มีความตั้งใจสู้รบจนถึงฉากจบ และส่งเสียงคัดค้านเบาลงต่อแนวคิดยอมสละดินแดน
    .
    ในช่วงปลายเดือนตุลาคม อเล็กเซย์ กอนชาเรนโก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยูเครน ซึ่งเคยถูกพบว่ามีความผิดในรัสเซีย โทษฐานเผยแพร่ข่าวกรองและมีความเชื่อมโยงอย่างกว้างขวางกับการจัดทำ "บัญชีต้องฆ่า" บนเว็บไซต์ Mirotvorets กล่าวอ้างว่า เคียฟ กำลังหาทางเกณฑ์ทหารเพิ่มเติม 160,000 ราย ในช่วง 3 เดือนหลังจากนั้น ท่ามกลางความสูญเสียและการละทิ้งหน้าที่หนีทัพในจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
    .
    ไม่นานหลังจากนั้น สื่อมวลชนยูเครนรายงานว่ามีหารยูเครนมากกว่า 100,000 นาย ที่หนีทัพหรือละทิ้งหน้าที่ ณ ฐานที่มั่น โดยไม่ได้รับอนุญาต นับตั้งแต่สถานการณ์ความขัดแย้งลุกลามบานปลายในปี 2022
    .
    ทั้งนี้ เว็บไซต์ Mirotvorets ที่มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลยูเครน ได้มีการเผยแพร่ประวัติของบุคคลสาธารณะ และพลเมืองทั่วไปที่พวกเขามองว่ากลายมาเป็นศัตรูของยูเครน กำหนดให้บุคคลเหล่านี้ถูกต้องกำจัดทิ้ง นอกจากนี้ ยังเป็นที่ทราบกันว่าเว็บไซต์แห่งนี้จะเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของบรรดาบุคคลที่ตกเป้าหมายทุกๆ อย่างที่พวกเขาได้มา ซึ่งในเวลาต่อมาพบว่าบุคคลที่ถูกขึ้นบัญชีดำบางส่วนต้องมาจบชีวิตลงจากการถูกฆาตกรรม
    .
    ในฤดูใบไม้ผลิปีนี้ ท่ามกลางความสูญเสียอย่างหนักในสมรภูมิรบ ยูเครนปรับลดอายุปรับลดอายุขั้นต่ำสำหรับการเข้ารับการเกณฑ์ทหารจาก 27 ปี เป็นอายุ 25 ปี และเพิ่มโทษสำหรับพวกหลบหนีการเกณฑ์ทหาร ทั้งนี้กฎระเบียบด้านการเกณฑ์ทหารที่ถูกกระชับให้มีความเข้มงวดขึ้น บังคับให้ชายฉกรรจ์ไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล แต่บ่อยครั้งผลลัพธ์ก็คือพวกเขาเหล่านั้นถูกบังคับให้เข้ารับราชการทหารในทันที และส่งไปยังแนวหน้า
    .
    หลายวิดีโอที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์พบเห็นพวกเจ้าหน้าที่เกณฑ์ทหาร กำลังพยายามบีบบังคับพวกผู้ชายในที่สาธารณะ จนบ่อยครั้งนำมาซึ่งการเผชิญหน้ารุนแรง ขณะที่ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรายหนึ่งของยูเครน เตือนเกี่ยวกับการลงมือปราบปรามอย่างถูกต้องตามกฎหมายบนสื่อสังคมออนไลน์ จัดการกับคนที่หาทางช่วยเหลือผู้อื่นหลบหลีกเจ้าหน้าที่เกณฑ์ทหาร
    .
    ข่าวคราวเกี่ยวกับการยอมสละดินแดนของทหารยูเครน มีขึ้นในขณะที่รัสเซียเคยบอกว่าพวกเขาเปิดกว้างสำหรับการเจรจาสันติภาพ และปัจจุบันก็ยังคงเน้นย้ำเช่นนั้น
    .
    อย่างไรก็ตาม ด้วย ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เคยระบุว่า "ยูเครนต้องยอมรับความเป็นจริงในภาคสนาม" พร้อมปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะยอมละทิ้งแคว้นโดเนตสก์, ลูฮันสก์, เคียร์ซอนและซาโปริซเซีย เช่นเดียวกับแคว้นไครเมีย ดังนั้นข้อตกลงสันติภาพใดๆ อาจจำเป็นต้องรวมถึงการที่ยูเครนยอมสละดินแดน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000113532
    ..............
    Sondhi X
    ทหารยูเครนกำลังเปิดกว้างสละดินแดนและยอมรับข้อตกลงหยุดยิงหนึ่งๆ มากขึ้น ท่ามกลางขวัญกำลังใจที่อ่อนแอลงและถูกกดดันจากกองกำลังรัสเซียหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ตามรายงานของอีโคโนมิสต์ สื่อมวลชนอังกฤษ อ้างอิงแหล่งข่าวจากยูเครน . รายงานข่าวนี้มีออกมา ในขณะที่กองกำลังรัสเซียรุกคืบภูมิภาคดอนบาส ในอัตราที่รวดเร็วอย่างที่ไม่พบเห็นมาก่อน นับตั้งแต่วันแรกๆ ของความขัดแย้ง โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงานว่าสามารถปลดปล่อยถิ่นพักอาศัยได้หลายสิบแห่ง ทั้งในแคว้นโดเนตสก์ ที่รัสเซียกล่าวอ้างผนวกเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน และแคว้นคาร์คิฟของยูเครน . อีโคโนมิสต์ ระบุว่า "ปัญหาต่างๆ ของกองทัพยูเครนกำลังถูกซ้ำเติมจากประเด็นขาดแคลนกำลังพลที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ ความพยายามผลักดันเกณฑ์ทหารทำได้เพียงแค่ 2 ใน 3 ของเป้าหมาย และเจ้าหน้าที่ยูเครนรายหนึ่ง บอกว่าสถานการณ์อาจกลายเป็นเรื่องแก้ไข้ไม่ได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า" พร้อมอ้างเจ้าหน้าที่ยูเครนอีกคน ระบุว่าพวกที่ถูกบังคับเข้าเกณฑ์ทหารนั้น จำนวนมากสุขภาพไม่แข็งแรงและไม่มีแรงจูงใจ . ท่ามกลางสถานการณ์ในสมรภูมิรบที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ ประกอบกับประเด็นนี้ ที่ซ้ำเติมปัญหาการหมุนเวียนกำลังพล มีรายงานว่ามันกำลังส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของทหารยูเครน โดยอีโคโนมิสต์อ้างอิงคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ยูเครนรายหนึ่งระบุ มีทหารในจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ ที่มีความตั้งใจสู้รบจนถึงฉากจบ และส่งเสียงคัดค้านเบาลงต่อแนวคิดยอมสละดินแดน . ในช่วงปลายเดือนตุลาคม อเล็กเซย์ กอนชาเรนโก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยูเครน ซึ่งเคยถูกพบว่ามีความผิดในรัสเซีย โทษฐานเผยแพร่ข่าวกรองและมีความเชื่อมโยงอย่างกว้างขวางกับการจัดทำ "บัญชีต้องฆ่า" บนเว็บไซต์ Mirotvorets กล่าวอ้างว่า เคียฟ กำลังหาทางเกณฑ์ทหารเพิ่มเติม 160,000 ราย ในช่วง 3 เดือนหลังจากนั้น ท่ามกลางความสูญเสียและการละทิ้งหน้าที่หนีทัพในจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ . ไม่นานหลังจากนั้น สื่อมวลชนยูเครนรายงานว่ามีหารยูเครนมากกว่า 100,000 นาย ที่หนีทัพหรือละทิ้งหน้าที่ ณ ฐานที่มั่น โดยไม่ได้รับอนุญาต นับตั้งแต่สถานการณ์ความขัดแย้งลุกลามบานปลายในปี 2022 . ทั้งนี้ เว็บไซต์ Mirotvorets ที่มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลยูเครน ได้มีการเผยแพร่ประวัติของบุคคลสาธารณะ และพลเมืองทั่วไปที่พวกเขามองว่ากลายมาเป็นศัตรูของยูเครน กำหนดให้บุคคลเหล่านี้ถูกต้องกำจัดทิ้ง นอกจากนี้ ยังเป็นที่ทราบกันว่าเว็บไซต์แห่งนี้จะเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของบรรดาบุคคลที่ตกเป้าหมายทุกๆ อย่างที่พวกเขาได้มา ซึ่งในเวลาต่อมาพบว่าบุคคลที่ถูกขึ้นบัญชีดำบางส่วนต้องมาจบชีวิตลงจากการถูกฆาตกรรม . ในฤดูใบไม้ผลิปีนี้ ท่ามกลางความสูญเสียอย่างหนักในสมรภูมิรบ ยูเครนปรับลดอายุปรับลดอายุขั้นต่ำสำหรับการเข้ารับการเกณฑ์ทหารจาก 27 ปี เป็นอายุ 25 ปี และเพิ่มโทษสำหรับพวกหลบหนีการเกณฑ์ทหาร ทั้งนี้กฎระเบียบด้านการเกณฑ์ทหารที่ถูกกระชับให้มีความเข้มงวดขึ้น บังคับให้ชายฉกรรจ์ไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล แต่บ่อยครั้งผลลัพธ์ก็คือพวกเขาเหล่านั้นถูกบังคับให้เข้ารับราชการทหารในทันที และส่งไปยังแนวหน้า . หลายวิดีโอที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์พบเห็นพวกเจ้าหน้าที่เกณฑ์ทหาร กำลังพยายามบีบบังคับพวกผู้ชายในที่สาธารณะ จนบ่อยครั้งนำมาซึ่งการเผชิญหน้ารุนแรง ขณะที่ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรายหนึ่งของยูเครน เตือนเกี่ยวกับการลงมือปราบปรามอย่างถูกต้องตามกฎหมายบนสื่อสังคมออนไลน์ จัดการกับคนที่หาทางช่วยเหลือผู้อื่นหลบหลีกเจ้าหน้าที่เกณฑ์ทหาร . ข่าวคราวเกี่ยวกับการยอมสละดินแดนของทหารยูเครน มีขึ้นในขณะที่รัสเซียเคยบอกว่าพวกเขาเปิดกว้างสำหรับการเจรจาสันติภาพ และปัจจุบันก็ยังคงเน้นย้ำเช่นนั้น . อย่างไรก็ตาม ด้วย ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เคยระบุว่า "ยูเครนต้องยอมรับความเป็นจริงในภาคสนาม" พร้อมปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะยอมละทิ้งแคว้นโดเนตสก์, ลูฮันสก์, เคียร์ซอนและซาโปริซเซีย เช่นเดียวกับแคว้นไครเมีย ดังนั้นข้อตกลงสันติภาพใดๆ อาจจำเป็นต้องรวมถึงการที่ยูเครนยอมสละดินแดน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000113532 .............. Sondhi X
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไมค์ วอลซ์ บุคคลซึ่งว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เลือกให้เป็นที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของเขา เผยยุทธศาสตร์ของคณะบริหารชุดที่กำลังจะเข้ามารับตำแหน่ง ในการจัดการกับการสู้รบขัดแย้งยูเครน ระบุทีมทรัมป์จะเริ่มต้นดำเนินการเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากัน ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับมอบงานในวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้า
    .
    วอลซ์ ซึ่งปัจจุบันยังมีตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯจากรัฐฟลอริดา ให้สัมภาษณ์ โทรทัศน์ ฟ็อกซ์ นิวส์ เมื่อวันอาทิตย์ (24 พ.ย.) ว่า เรื่องที่มีลำดับความสำคัญสูงเรื่องหนึ่งคือการจัดให้มีการพูดจากันระหว่างรัสเซียกับยูเครน ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะนำทั้งสองฝ่ายเข้ามาร่วมกันเจรจาเพื่อทำข้อตกลงหยุดยิงหรือข้อตกลงสันติภาพ
    .
    “เราจำเป็นต้องหารือกันในเรื่องว่าใครจะเข้ามานั่งในโต๊ะเจรจานี้บ้าง มันจะเป็นการทำข้อตกลง (สันติภาพ) กัน หรือเป็นการตกลงหยุดยิงกัน จะใช้วิธีการยังไงในการทำให้ทั้งสองฝ่ายเข้าสู่โต๊ะเจรจา และจากนั้นก็คือขอบเขตของการทำความตกลงกันครั้งนี้” เขากล่าว
    .
    วอลซ์ยังย้ำถึงความสำคัญของการให้พวกพันธมิตรของอเมริกาในยุโรปเข้ามีส่วนในกระบวนการนี้ “พันธมิตรและหุ้นส่วนของเราทั้งหมดจำเป็นต้องมาแบกรับภารกิจนี้” เขาย้ำ และสำทับว่า การแก้ไขการสู้รบขัดแย้งครั้งนี้ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ
    .
    ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ย้ำให้สัญญาว่า จะทำให้การสู้รบขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนยุติลงโดยรวดเร็ว และแสดงความกังวลที่สถานการณ์ลุกลาม ทว่าไม่ได้ให้รายละเอียดแผนการที่เขาจะดำเนินการ
    .
    การแสดงความคิดเห็นของ วอลซ์ ครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่กำลังพุ่งสูงขึ้น หลังจากสหรัฐฯอนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธยุทธวิธีพิสัยไกล อย่างระบบ อะแทคซิมส์ (ATACMS) โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนหมีขาว และมอสโกตอบโต้ด้วยการยิงระบบขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยปานกลางระบบใหม่ที่ใช้ชื่อว่า “โอเรซนิก” โจมตีใส่ยูเครนในสัปดาห์ที่แล้ว
    .
    วอลซ์ตั้งข้อสังเกตว่า การตัดสินใจเมื่อเร็วๆ นี้ของสหรัฐฯ ซึ่งกระทำโดยคณะบริหารประธานาธิบดีโจ ไบเดน นำไปสู่การสู้รบอย่างดุเดือดรุนแรงขึ้น พร้อมกับพูดถึง สถานการณ์แนวหน้ายูเครนเวลานี้ว่า พวกที่อยู่ที่นั่นเหมือนตกอยู่ใน “เครื่องบดเนื้ออย่างแท้จริง”
    .
    วอลซ์ เป็นนายทหารปฏิบัติการพิเศษหน่วย “กรีน แบเรต์” ของสหรัฐฯที่เกษียณจากกองทัพขณะมียศพันเอก ก่อนหันมาเล่นการเมือง และได้ชื่อว่ามีแนวทางต่างประเทศสายเหยี่ยว เขาแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์รัสเซียมาโดยตลอด ทว่าขณะเดียวกันก็คัดค้านการเพิ่มความช่วยเหลือให้ยูเครนเช่นเดียวกับทรัมป์
    .
    ว่าที่ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯผู้นี้ แสดงความมั่นใจว่า คณะบริหารของทรัมป์จะทำให้การสู้รบขัดแย้งในยูเครนยุติลงอย่างรวดเร็วและอย่างมีความรับผิดชอบ พร้อมกันนั้นก็สำทับว่า อเมริกาต้องฟื้นฟูยกระดับการป้องปรามและสันติภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้บานปลายขยายตัวในภายหลัง แทนที่จะเพียงแค่แสดงปฏิกิริยาโต้ตอบกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วเท่านั้น
    .
    อย่างไรก็ดี ถึงแม้ทรัมป์แสดงความมุ่งมั่นที่จะยุติการสู้รบในยูเครน แต่ยังมีความเคลือบแคลงทั้งในอเมริกาและรัสเซีย ตัวอย่างเช่น วุฒิสมาชิกไมค์ ราวส์ สังกัดพรรครีพับลิกันจากรัฐเซาท์ดาโคตา ซึ่งออกมาตั้งคำถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการเจรจาโดยตรงระหว่างมอสโกกับเคียฟ
    .
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน ก็คัดค้านตลอดมาต่อข้อเสนอให้ยูเครนยอมยกดินแดนให้รัสเซีย ถึงแม้เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว เขาได้ยอมรับกับฟ็อกซ์ นิวส์ว่า ยูเครนคงแพ้สงคราม ถ้าวอชิงตันยุติการสนับสนุน
    .
    นอกจากเรื่องยูเครนแล้ว วอลซ์ยังเปิดเผยในการพูดกับฟ็อกซ์ นิวส์คราวนี้ว่า เขาได้มีการหารือกับ เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของไบเดน และเตือนอริต่างชาติว่า อย่าคิดฉวยโอกาสระหว่างการถ่ายโอนอำนาจในสหรัฐฯ พร้อมย้ำว่า ทีมถ่ายโอนอำนาจของทรัมป์และของไบเดนขณะนี้มีการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด
    .
    วอลซ์ยังยกย่องความเข้มแข็งและความพยายามของอิสราเอลในการทำสงครามกับกลุ่มฮามาสที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในกาซาไปอย่างน้อยเกือบๆ 45,000 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และประกาศว่า ถึงเวลาแล้วที่จะร่างแผนการซึ่งไม่เพียงป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยวันที่ 7 ต.ค.ปีที่แล้วที่ฮามาสบุกเข้าไปโจมตีอิสราเอลและจุดชนวนสงครามในกาซา แต่ต้องนำเสถียรภาพมาสู่ตะวันออกกลางอย่างแท้จริง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000113496
    ..............
    Sondhi X
    ไมค์ วอลซ์ บุคคลซึ่งว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เลือกให้เป็นที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของเขา เผยยุทธศาสตร์ของคณะบริหารชุดที่กำลังจะเข้ามารับตำแหน่ง ในการจัดการกับการสู้รบขัดแย้งยูเครน ระบุทีมทรัมป์จะเริ่มต้นดำเนินการเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากัน ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับมอบงานในวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้า . วอลซ์ ซึ่งปัจจุบันยังมีตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯจากรัฐฟลอริดา ให้สัมภาษณ์ โทรทัศน์ ฟ็อกซ์ นิวส์ เมื่อวันอาทิตย์ (24 พ.ย.) ว่า เรื่องที่มีลำดับความสำคัญสูงเรื่องหนึ่งคือการจัดให้มีการพูดจากันระหว่างรัสเซียกับยูเครน ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะนำทั้งสองฝ่ายเข้ามาร่วมกันเจรจาเพื่อทำข้อตกลงหยุดยิงหรือข้อตกลงสันติภาพ . “เราจำเป็นต้องหารือกันในเรื่องว่าใครจะเข้ามานั่งในโต๊ะเจรจานี้บ้าง มันจะเป็นการทำข้อตกลง (สันติภาพ) กัน หรือเป็นการตกลงหยุดยิงกัน จะใช้วิธีการยังไงในการทำให้ทั้งสองฝ่ายเข้าสู่โต๊ะเจรจา และจากนั้นก็คือขอบเขตของการทำความตกลงกันครั้งนี้” เขากล่าว . วอลซ์ยังย้ำถึงความสำคัญของการให้พวกพันธมิตรของอเมริกาในยุโรปเข้ามีส่วนในกระบวนการนี้ “พันธมิตรและหุ้นส่วนของเราทั้งหมดจำเป็นต้องมาแบกรับภารกิจนี้” เขาย้ำ และสำทับว่า การแก้ไขการสู้รบขัดแย้งครั้งนี้ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ . ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ย้ำให้สัญญาว่า จะทำให้การสู้รบขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนยุติลงโดยรวดเร็ว และแสดงความกังวลที่สถานการณ์ลุกลาม ทว่าไม่ได้ให้รายละเอียดแผนการที่เขาจะดำเนินการ . การแสดงความคิดเห็นของ วอลซ์ ครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่กำลังพุ่งสูงขึ้น หลังจากสหรัฐฯอนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธยุทธวิธีพิสัยไกล อย่างระบบ อะแทคซิมส์ (ATACMS) โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนหมีขาว และมอสโกตอบโต้ด้วยการยิงระบบขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยปานกลางระบบใหม่ที่ใช้ชื่อว่า “โอเรซนิก” โจมตีใส่ยูเครนในสัปดาห์ที่แล้ว . วอลซ์ตั้งข้อสังเกตว่า การตัดสินใจเมื่อเร็วๆ นี้ของสหรัฐฯ ซึ่งกระทำโดยคณะบริหารประธานาธิบดีโจ ไบเดน นำไปสู่การสู้รบอย่างดุเดือดรุนแรงขึ้น พร้อมกับพูดถึง สถานการณ์แนวหน้ายูเครนเวลานี้ว่า พวกที่อยู่ที่นั่นเหมือนตกอยู่ใน “เครื่องบดเนื้ออย่างแท้จริง” . วอลซ์ เป็นนายทหารปฏิบัติการพิเศษหน่วย “กรีน แบเรต์” ของสหรัฐฯที่เกษียณจากกองทัพขณะมียศพันเอก ก่อนหันมาเล่นการเมือง และได้ชื่อว่ามีแนวทางต่างประเทศสายเหยี่ยว เขาแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์รัสเซียมาโดยตลอด ทว่าขณะเดียวกันก็คัดค้านการเพิ่มความช่วยเหลือให้ยูเครนเช่นเดียวกับทรัมป์ . ว่าที่ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯผู้นี้ แสดงความมั่นใจว่า คณะบริหารของทรัมป์จะทำให้การสู้รบขัดแย้งในยูเครนยุติลงอย่างรวดเร็วและอย่างมีความรับผิดชอบ พร้อมกันนั้นก็สำทับว่า อเมริกาต้องฟื้นฟูยกระดับการป้องปรามและสันติภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้บานปลายขยายตัวในภายหลัง แทนที่จะเพียงแค่แสดงปฏิกิริยาโต้ตอบกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วเท่านั้น . อย่างไรก็ดี ถึงแม้ทรัมป์แสดงความมุ่งมั่นที่จะยุติการสู้รบในยูเครน แต่ยังมีความเคลือบแคลงทั้งในอเมริกาและรัสเซีย ตัวอย่างเช่น วุฒิสมาชิกไมค์ ราวส์ สังกัดพรรครีพับลิกันจากรัฐเซาท์ดาโคตา ซึ่งออกมาตั้งคำถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการเจรจาโดยตรงระหว่างมอสโกกับเคียฟ . ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน ก็คัดค้านตลอดมาต่อข้อเสนอให้ยูเครนยอมยกดินแดนให้รัสเซีย ถึงแม้เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว เขาได้ยอมรับกับฟ็อกซ์ นิวส์ว่า ยูเครนคงแพ้สงคราม ถ้าวอชิงตันยุติการสนับสนุน . นอกจากเรื่องยูเครนแล้ว วอลซ์ยังเปิดเผยในการพูดกับฟ็อกซ์ นิวส์คราวนี้ว่า เขาได้มีการหารือกับ เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของไบเดน และเตือนอริต่างชาติว่า อย่าคิดฉวยโอกาสระหว่างการถ่ายโอนอำนาจในสหรัฐฯ พร้อมย้ำว่า ทีมถ่ายโอนอำนาจของทรัมป์และของไบเดนขณะนี้มีการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด . วอลซ์ยังยกย่องความเข้มแข็งและความพยายามของอิสราเอลในการทำสงครามกับกลุ่มฮามาสที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในกาซาไปอย่างน้อยเกือบๆ 45,000 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และประกาศว่า ถึงเวลาแล้วที่จะร่างแผนการซึ่งไม่เพียงป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยวันที่ 7 ต.ค.ปีที่แล้วที่ฮามาสบุกเข้าไปโจมตีอิสราเอลและจุดชนวนสงครามในกาซา แต่ต้องนำเสถียรภาพมาสู่ตะวันออกกลางอย่างแท้จริง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000113496 .............. Sondhi X
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯจะปรับยุทธศาสตร์ป้องปรามทางนิวเคลียร์ของตนเอง เพื่อรับมือกับความเป็นไปได้ของภัยคุกคามต่างๆนานาจากรัสเซียและจีน อ้างอิงรายงานฉบับหนึ่งของเพนตากอน
    .
    ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในวันพฤหัสบดีที่แล้ว(21พ.ย.) กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯะบุว่า "พวกศัตรูที่ทัดเทียมทางนิวเคลียร์หลายชาติ ท้าทายความมั่นคงของสหรัฐฯ พันธมิตรและคู่หู" พร้อมระบุประเทศเหล่านี้กำลังยกระดับคลังแสงให้เติบโตขึ้นเรื่อยๆและกำลังปรับปรุงให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น
    .
    ริชาร์ด จอห์นสัน รองผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหม ชี้เป้าที่ไปรัสเซียและจีน พร้อมเน้นว่าบางทีสหรัฐฯอาจจำเป็นต้องปรับแก้ Nuclear Posture Review ปี 2022 เพื่อธำรงไว้ซึ่งการป้องปรามทางนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตามเขาเน้นว่าความพยายามปรับปรุงทางนิวเคลียร์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น อาจจะไม่เพียงพอ
    .
    จอห์นสัน กล่าวถึงความกังวลเหล่านี้ โดยชี้ว่า "เพนตากอนได้ใช้ก้าวย่างต่างๆนานา ในการยกระดับความสามารถในภาคสนามในการเสริมการป้องปรามและความยืดหยุ่นทางนิวเคลียร์" ซึ่งองค์ประกอบหลักของมาตรการนี้ก็คือ การประจำการระเบิดแรงโน้มถ่วง B61-13 เพิ่มความพร้อมของอาวุธนิวเคลียร์และยกระดับแสนยานุภาพของกองเรือดำน้ำชั้นโอไฮโอ
    .
    ก่อนหน้านี้เพนตากอนแถลงประจำการระเบิด B61 รุ่นใหม่เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และบอกว่ามันจะเข้ามาแทนที่เวอร์ชันเก่าบางรุ่น และมอบทางเลือกต่างๆเพิ่มเติมแก่สหรัฐฯในการจัดการกับเป้าหมายทางทหารในพื้นที่ขนาดใหญ่และยากลำบากกว่าเดิม อย่างไรก็ตามวอชิงตันเน้นย้ำว่าการประจำการ B61-13 ไม่ใช่การตอบสนองต่อสถานการณ์ใดๆในปัจจุบัน และจะไม่เป็นการเพิ่มสต๊อกนิวเคลียร์ในภาพรวม
    .
    เรือดำน้ำชั้นโอไฮโอ คือองค์ประกอบหลักของ "สามเหล่านิวเคลียร์(nuclear triad)" ของสหรัฐฯ และออกแบบมาเฉพาะเจาะจงสำหรับป้องปรามทางนิวเคลียร์ ทั้งนี้เรือดำน้ำชั้นโอไฮโอ สามารถติดขีปนาวุธไทรแดนท์ ที่มีพิสัยทำการสูงสุด 12,000 กิโลเมตร
    .
    ความเห็นของ จอห์นสัน มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ออกคำสั่งให้ปรับแก้หลักการนิวเคลียร์ของประเทศเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน เอกสารที่มีการปรับแก้นั้นกำหนดให้ "การรุกรานเล่นงานสหพันธรัฐรัสเซียและ/หรือชาติพันธมิตร โดยรัฐหนึ่งที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง แต่ดำเนินการภายใต้การมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนจากประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ จะถูกมองในฐานะเป็นการโจมตีร่วม"
    .
    ปูติน อนุมัติการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในวันที่ 19 พฤศจิกายน หลังจากสหรัฐฯและบรรดาพันธมิตรตะวันตกหลายชาติของอเมริกา ไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่จัดหาให้ โจมตีลึกเข้ามาในดินแดนรัสเซีย แม้มอสโกเคยเตือนว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้ความขัดแย้งลุกลามบานปลาย และผลก็คือเป็นการลากนาโตเข้าร่วมความขัดแย้งโดยตรง
    .
    ก่อนหน้านี้ในสัปดาห์ที่แล้วเช่นกัน รัสเซียปฏิบัติการโจมตียูเครน ด้วยการใช้ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกพิสัยปานกลางล่าสุด Oreshnik พร้อมระบุมันเป็นการตอบโต้การโจมตีข้ามชายแดนของเคียฟ ที่ใช้ระบบ ATACMS และ HIMARS ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ เช่นเดียวกับขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ ที่ผลิตโดยสหราชอาณาจักร
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000113055
    ..............
    Sondhi X
    สหรัฐฯจะปรับยุทธศาสตร์ป้องปรามทางนิวเคลียร์ของตนเอง เพื่อรับมือกับความเป็นไปได้ของภัยคุกคามต่างๆนานาจากรัสเซียและจีน อ้างอิงรายงานฉบับหนึ่งของเพนตากอน . ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในวันพฤหัสบดีที่แล้ว(21พ.ย.) กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯะบุว่า "พวกศัตรูที่ทัดเทียมทางนิวเคลียร์หลายชาติ ท้าทายความมั่นคงของสหรัฐฯ พันธมิตรและคู่หู" พร้อมระบุประเทศเหล่านี้กำลังยกระดับคลังแสงให้เติบโตขึ้นเรื่อยๆและกำลังปรับปรุงให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น . ริชาร์ด จอห์นสัน รองผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหม ชี้เป้าที่ไปรัสเซียและจีน พร้อมเน้นว่าบางทีสหรัฐฯอาจจำเป็นต้องปรับแก้ Nuclear Posture Review ปี 2022 เพื่อธำรงไว้ซึ่งการป้องปรามทางนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตามเขาเน้นว่าความพยายามปรับปรุงทางนิวเคลียร์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น อาจจะไม่เพียงพอ . จอห์นสัน กล่าวถึงความกังวลเหล่านี้ โดยชี้ว่า "เพนตากอนได้ใช้ก้าวย่างต่างๆนานา ในการยกระดับความสามารถในภาคสนามในการเสริมการป้องปรามและความยืดหยุ่นทางนิวเคลียร์" ซึ่งองค์ประกอบหลักของมาตรการนี้ก็คือ การประจำการระเบิดแรงโน้มถ่วง B61-13 เพิ่มความพร้อมของอาวุธนิวเคลียร์และยกระดับแสนยานุภาพของกองเรือดำน้ำชั้นโอไฮโอ . ก่อนหน้านี้เพนตากอนแถลงประจำการระเบิด B61 รุ่นใหม่เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และบอกว่ามันจะเข้ามาแทนที่เวอร์ชันเก่าบางรุ่น และมอบทางเลือกต่างๆเพิ่มเติมแก่สหรัฐฯในการจัดการกับเป้าหมายทางทหารในพื้นที่ขนาดใหญ่และยากลำบากกว่าเดิม อย่างไรก็ตามวอชิงตันเน้นย้ำว่าการประจำการ B61-13 ไม่ใช่การตอบสนองต่อสถานการณ์ใดๆในปัจจุบัน และจะไม่เป็นการเพิ่มสต๊อกนิวเคลียร์ในภาพรวม . เรือดำน้ำชั้นโอไฮโอ คือองค์ประกอบหลักของ "สามเหล่านิวเคลียร์(nuclear triad)" ของสหรัฐฯ และออกแบบมาเฉพาะเจาะจงสำหรับป้องปรามทางนิวเคลียร์ ทั้งนี้เรือดำน้ำชั้นโอไฮโอ สามารถติดขีปนาวุธไทรแดนท์ ที่มีพิสัยทำการสูงสุด 12,000 กิโลเมตร . ความเห็นของ จอห์นสัน มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ออกคำสั่งให้ปรับแก้หลักการนิวเคลียร์ของประเทศเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน เอกสารที่มีการปรับแก้นั้นกำหนดให้ "การรุกรานเล่นงานสหพันธรัฐรัสเซียและ/หรือชาติพันธมิตร โดยรัฐหนึ่งที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง แต่ดำเนินการภายใต้การมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนจากประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ จะถูกมองในฐานะเป็นการโจมตีร่วม" . ปูติน อนุมัติการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในวันที่ 19 พฤศจิกายน หลังจากสหรัฐฯและบรรดาพันธมิตรตะวันตกหลายชาติของอเมริกา ไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่จัดหาให้ โจมตีลึกเข้ามาในดินแดนรัสเซีย แม้มอสโกเคยเตือนว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้ความขัดแย้งลุกลามบานปลาย และผลก็คือเป็นการลากนาโตเข้าร่วมความขัดแย้งโดยตรง . ก่อนหน้านี้ในสัปดาห์ที่แล้วเช่นกัน รัสเซียปฏิบัติการโจมตียูเครน ด้วยการใช้ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกพิสัยปานกลางล่าสุด Oreshnik พร้อมระบุมันเป็นการตอบโต้การโจมตีข้ามชายแดนของเคียฟ ที่ใช้ระบบ ATACMS และ HIMARS ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ เช่นเดียวกับขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ ที่ผลิตโดยสหราชอาณาจักร . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000113055 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 555 มุมมอง 0 รีวิว
  • Financial Times รายงานว่า ทางการยูเครนสามารถระดมชาวยูเครนได้อีก เพียง 3.7 ล้านคน หรืออาจจะน้อยกว่านั้น
    “เคียฟหวังที่จะชะลอการรุกคืบของกองทัพรัสเซียและยึดความคิดริเริ่มได้ทันเวลาที่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนมั่นใจว่าความสำเร็จของกองทัพยูเครนจะสามารถโน้มน้าวให้ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่สนับสนุนพวกเขาได้

    ท่ามกลางการขาดแคลนบุคลากรในกองทัพ เคียฟมีแผนจะระดมกำลังเพิ่มเติม แต่ความพยายามที่จะเพิ่มจำนวนทหารใหม่สร้างความวิตกกังวลและหวาดกลัว ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าปัจจุบันการรับราชการทหาร "ไม่มีกำหนดระยะเวลาแน่นอน" และสิ่งที่แน่นอนคือ "ความตาย"

    ตามข้อมูลที่รวบรวมได้ ขณะนี้จำนวนพลเมืองชายยูเครนอายุระหว่าง 25 ถึง 60 ปี มีทั้งหมดอยู่ที่ 11.1 ล้านคน โดยที่ในจำนวนนี้แบ่งเป็น:
    - 1.1 ล้านคน ประจำการในกองทัพยูเครนแล้ว
    - 2.9 ล้านคน อยู่ในดินแดนที่รัสเซียรวมทั้งดินแดนาที่รัสเซียยึดครองได้
    - 1.3 ล้านคน อพยพอยู่ต่างประเทศ
    - 1.5 ล้านคน ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ด้วยเหตุผลต่างๆ
    - 600,000 คน ได้รับการยกเว้นหรือเลื่อนการรับราชการ

    จากตัวเลขด้านบนจำนวน 7.4 ล้านคน "ไม่สามารถเข้ารับราชการทหารได้"
    ทำให้เหลือจำนวนผู้มีสิทธิเรียกระดมพลอีก 3.7 ล้านคน
    แต่ 2.8 ล้านคนในจำนวนนี้ เป็นผู้ประกอบการอิสระและเป็นผู้เสียภาษีที่จดทะเบียนแล้ว และอีก 900,000 คนไม่ได้ลงทะเบียนในทะเบียนใดๆเลย

    จากจำนวนที่เหลือนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่ยูเครนจะสามารถเรียกระดมพลได้หมดทุกคน

    ในขณะที่จากรายงานจำนวนของทหารที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บในแนวหน้าแต่ละวันมีจำนวนหลายร้อยนาย บางวันอาจสูงนับพันราย ทำให้ยูเครนมาถึงช่วงสุดท้ายของการป้องกันดินแดนของตนเองแล้ว หากไม่รีบเข้าสู่กระบวนการเจรจาทางการทูต
    Financial Times รายงานว่า ทางการยูเครนสามารถระดมชาวยูเครนได้อีก เพียง 3.7 ล้านคน หรืออาจจะน้อยกว่านั้น “เคียฟหวังที่จะชะลอการรุกคืบของกองทัพรัสเซียและยึดความคิดริเริ่มได้ทันเวลาที่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนมั่นใจว่าความสำเร็จของกองทัพยูเครนจะสามารถโน้มน้าวให้ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่สนับสนุนพวกเขาได้ ท่ามกลางการขาดแคลนบุคลากรในกองทัพ เคียฟมีแผนจะระดมกำลังเพิ่มเติม แต่ความพยายามที่จะเพิ่มจำนวนทหารใหม่สร้างความวิตกกังวลและหวาดกลัว ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าปัจจุบันการรับราชการทหาร "ไม่มีกำหนดระยะเวลาแน่นอน" และสิ่งที่แน่นอนคือ "ความตาย" ตามข้อมูลที่รวบรวมได้ ขณะนี้จำนวนพลเมืองชายยูเครนอายุระหว่าง 25 ถึง 60 ปี มีทั้งหมดอยู่ที่ 11.1 ล้านคน โดยที่ในจำนวนนี้แบ่งเป็น: - 1.1 ล้านคน ประจำการในกองทัพยูเครนแล้ว - 2.9 ล้านคน อยู่ในดินแดนที่รัสเซียรวมทั้งดินแดนาที่รัสเซียยึดครองได้ - 1.3 ล้านคน อพยพอยู่ต่างประเทศ - 1.5 ล้านคน ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ด้วยเหตุผลต่างๆ - 600,000 คน ได้รับการยกเว้นหรือเลื่อนการรับราชการ จากตัวเลขด้านบนจำนวน 7.4 ล้านคน "ไม่สามารถเข้ารับราชการทหารได้" ทำให้เหลือจำนวนผู้มีสิทธิเรียกระดมพลอีก 3.7 ล้านคน แต่ 2.8 ล้านคนในจำนวนนี้ เป็นผู้ประกอบการอิสระและเป็นผู้เสียภาษีที่จดทะเบียนแล้ว และอีก 900,000 คนไม่ได้ลงทะเบียนในทะเบียนใดๆเลย จากจำนวนที่เหลือนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่ยูเครนจะสามารถเรียกระดมพลได้หมดทุกคน ในขณะที่จากรายงานจำนวนของทหารที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บในแนวหน้าแต่ละวันมีจำนวนหลายร้อยนาย บางวันอาจสูงนับพันราย ทำให้ยูเครนมาถึงช่วงสุดท้ายของการป้องกันดินแดนของตนเองแล้ว หากไม่รีบเข้าสู่กระบวนการเจรจาทางการทูต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • หม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ 2 ตัวในเมืองเคียฟ เกิดการระเบิด เนื่องจากรับภาระ(load) มากเกินไปจากมาตรการฉุกเฉินด้านพลังงาน ทำให้เกิดไฟฟ้าดับซ้ำเติมพลเมืองเพิ่มขึ้นไปอีก ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็น
    หม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ 2 ตัวในเมืองเคียฟ เกิดการระเบิด เนื่องจากรับภาระ(load) มากเกินไปจากมาตรการฉุกเฉินด้านพลังงาน ทำให้เกิดไฟฟ้าดับซ้ำเติมพลเมืองเพิ่มขึ้นไปอีก ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 319 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • 🧵การที่รัสเซียใช้ขีปนาวุธโอเรชนิก เป็นคำเตือนร้ายแรงต่อนาโต้ท่ามกลางอันตรายของสงครามโลก – นักวิเคราะห์

    การโจมตีฐานทัพของยูเครนโดยใช้ขีปนาวุธพิสัยกลางความเร็วเหนือเสียงโอเรชนิกรุ่นใหม่เป็น “คำเตือนร้ายแรงต่อนาโต้ฅ,” โรบินสัน ฟารินาซโซ, อดีตเจ้าหน้าที่บราซิล, กล่าวกับสปุตนิก

    🗨️เขาย้ำว่าประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯได้ข้าม “เส้นแดง” ด้วยการอนุญาตให้ระบอบเคียฟโจมตีรัสเซียด้วยอาวุธพิสัยไกลของอเมริกา “มอสโกตระหนักดีว่าการโจมตีประเภทนี้ซึ่งยากในทางเทคนิคนั้น สามารถดำเนินการได้ก็ต่อเมื่อได้รับการสนับสนุนจากนาโต้เท่านั้น, ในกรณีนี้คือสหรัฐฯ,” เขากล่าว
    .
    นักวิเคราะห์คนอื่นๆเห็นด้วย:
    .
    🔸วอชิงตันกำลัง “กระตุ้นให้เกิดการยกระดับความรุนแรงที่เปลี่ยนแปลงธรรมชาติของความขัดแย้งไปอย่างสิ้นเชิง,” ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์การทหาร ริคาร์โด คาบรัล เน้นย้ำ

    🔸การที่สหรัฐฯอนุญาตให้เคียฟใช้อาวุธพิสัยไกลเป็น “การรุกทางจิตวิทยาอย่างต่อเนื่อง” เพื่อทดสอบความอดทนของมอสโกว, นักวิเคราะห์ชาวเวเนซุเอลา วลาดิมีร์ อาเดรียนซา กล่าว, และเสริมว่าขั้นตอนอันตรายของความขัดแย้งมีต้นตอมาจาก “ความกระหายอย่างแรงกล้าของกองทัพ, การเงิน และเทคโนโลยีของสหรัฐฯ”
    .
    🔸มอสโกมีสิทธิทุกประการที่จะปกป้องตัวเองจาก “การกระทำอันชั่วร้ายและเป็นอาชญากรรม” ของนาโต้, อุมแบร์โต โมราเลส ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยอิสระแห่งปวยบลา ประเทศเม็กซิโก กล่าว

    🔸ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ได้ส่งสารอย่างชัดเจนว่า เหตุการณ์ปัจจุบันในเวทีระหว่างประเทศแสดงให้เห็นถึง "พฤติกรรมการฆ่าตัวตายและไม่รับผิดชอบของชาติตะวันตก ซึ่งคุกคามการทำลายล้างอย่างสิ้นเชิง," นักรัฐศาสตร์ชาวเลบานอน ฮัสซัน ฮมาเดห์ เน้นย้ำ, และเสริมว่า "โลกต้องลุกขึ้นต่อต้านคนชั่วร้ายเหล่านี้ที่มุ่งมั่นที่จะทำลายโลก และการตอบสนองต้องเหมาะสมกับการกระทำของพวกเขา"
    .
    🔸การที่วอชิงตันอนุมัติให้เคียฟใช้ขีปนาวุธที่ผลิตในสหรัฐฯนั้น มีจุดประสงค์เพื่อบีบบังคับให้รัฐบาลในอนาคตของโดนัลด์ ทรัมป์ ต้อง “ดำเนินการท่ามกลางความวุ่นวายทางภูมิรัฐศาสตร์,” ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเวเนซุเอลา วิลเมอร์ เดปาบลอส กล่าว

    🔸เมื่อเหลือเวลาอีกไม่ถึงสองเดือนก่อนการถ่ายโอนอำนาจ, ไบเดนกำลังพยายามทำให้ยากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับประธานาธิบดีคนต่อไปในการแก้ไขวิกฤตยูเครน, นักวิทยาศาสตร์การเมืองชาวอิหร่าน Emad Abshenas เชื่อเช่นนั้น

    🔸คำสั่งของปูตินในการใช้ขีปนาวุธ Oreshnik ถือเป็น "คำเตือนสำหรับประเทศสมาชิก NATO ท่ามกลางภัยคุกคามจากสงครามโลกที่เพิ่มมากขึ้น," ผู้เชี่ยวชาญชาวจีน Sima Pingbang อธิบาย และกล่าวต่อไปว่าระบอบการปกครองเคียฟได้กลายมาเป็น "อุปสรรคต่อสันติภาพ" และ "Biden และ Zelensky ไม่สามารถยอมรับชัยชนะของมอสโกได้"
    .
    🧵RUSSIA’S USE OF ORESHNIK MISSILE IS A GRAVE WARNING TO NATO AMID DANGER OF A WORLD WAR – analysts

    Russia’s strike on a Ukrainian defense facility using its new Oreshnik hypersonic medium-range ballistic missile is a “a serious warning to NATO,” Robinson Farinazzo, a retired Brazilian officer, told Sputnik.

    🗨️He underscored that US President Joe Biden crossed "a red line" by authorizing the Kiev regime to strike Russia with long-range American weapons. "Moscow is perfectly aware that this type of attack, technically difficult, can only be carried out with the support of NATO, in this case the US," he said.
    .
    OTHER ANALYSTS AGREE:
    .
    🔸Washington is “provoking an escalation that completely changes the nature of the conflict,” military history expert Ricardo Cabral emphasized.

    🔸The US allowing Kiev to use long-range weapons is "a continued psychological offensive" to test Moscow's tolerance, Venezuelan analyst Vladimir Adrianza noted, adding that the dangerous stage of the conflict stems from the “voracious appetite of the US military, financial and technological complex.”
    .
    🔸Moscow has every right to defend itself against NATO's “sinister and criminal actions," noted Humberto Morales, professor at the Autonomous University of Puebla, Mexico.

    🔸President Vladimir Putin has clearly conveyed the message that current events on the international arena demonstrate the “suicidal and irresponsible behavior by the West which threatens total destruction,” Lebanese political scientist Hassan Hmadeh underscored, adding, "The world must stand up to these evil people who are determined to destroy the planet, and the response must be commensurate with their actions."
    .
    🔸Washington's approval for Kiev to use US-made missiles is intended to force Donald Trump’s future administration to “operate in geopolitical chaos,” Venezuelan international relations expert Wilmer Depablos said.

    🔸With less than two months to go before the transfer of power, Biden is trying to make it as difficult as possible for the next president to resolve the Ukraine crisis, Iranian political scientist Emad Abshenas believes.

    🔸Putin's order to use the Oreshnik missile is “a warning to NATO countries amid the growing threat of a world war,” Chinese pundit Sima Pingbang explained, going on to say that the Kiev regime has become “an obstacle to peace” and that “Biden and Zelensky are unable to accept Moscow's victory."
    .
    8:59 PM · Nov 22, 2024 · 9,427 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1859959796624982449
    🧵การที่รัสเซียใช้ขีปนาวุธโอเรชนิก เป็นคำเตือนร้ายแรงต่อนาโต้ท่ามกลางอันตรายของสงครามโลก – นักวิเคราะห์ การโจมตีฐานทัพของยูเครนโดยใช้ขีปนาวุธพิสัยกลางความเร็วเหนือเสียงโอเรชนิกรุ่นใหม่เป็น “คำเตือนร้ายแรงต่อนาโต้ฅ,” โรบินสัน ฟารินาซโซ, อดีตเจ้าหน้าที่บราซิล, กล่าวกับสปุตนิก 🗨️เขาย้ำว่าประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯได้ข้าม “เส้นแดง” ด้วยการอนุญาตให้ระบอบเคียฟโจมตีรัสเซียด้วยอาวุธพิสัยไกลของอเมริกา “มอสโกตระหนักดีว่าการโจมตีประเภทนี้ซึ่งยากในทางเทคนิคนั้น สามารถดำเนินการได้ก็ต่อเมื่อได้รับการสนับสนุนจากนาโต้เท่านั้น, ในกรณีนี้คือสหรัฐฯ,” เขากล่าว . นักวิเคราะห์คนอื่นๆเห็นด้วย: . 🔸วอชิงตันกำลัง “กระตุ้นให้เกิดการยกระดับความรุนแรงที่เปลี่ยนแปลงธรรมชาติของความขัดแย้งไปอย่างสิ้นเชิง,” ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์การทหาร ริคาร์โด คาบรัล เน้นย้ำ 🔸การที่สหรัฐฯอนุญาตให้เคียฟใช้อาวุธพิสัยไกลเป็น “การรุกทางจิตวิทยาอย่างต่อเนื่อง” เพื่อทดสอบความอดทนของมอสโกว, นักวิเคราะห์ชาวเวเนซุเอลา วลาดิมีร์ อาเดรียนซา กล่าว, และเสริมว่าขั้นตอนอันตรายของความขัดแย้งมีต้นตอมาจาก “ความกระหายอย่างแรงกล้าของกองทัพ, การเงิน และเทคโนโลยีของสหรัฐฯ” . 🔸มอสโกมีสิทธิทุกประการที่จะปกป้องตัวเองจาก “การกระทำอันชั่วร้ายและเป็นอาชญากรรม” ของนาโต้, อุมแบร์โต โมราเลส ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยอิสระแห่งปวยบลา ประเทศเม็กซิโก กล่าว 🔸ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ได้ส่งสารอย่างชัดเจนว่า เหตุการณ์ปัจจุบันในเวทีระหว่างประเทศแสดงให้เห็นถึง "พฤติกรรมการฆ่าตัวตายและไม่รับผิดชอบของชาติตะวันตก ซึ่งคุกคามการทำลายล้างอย่างสิ้นเชิง," นักรัฐศาสตร์ชาวเลบานอน ฮัสซัน ฮมาเดห์ เน้นย้ำ, และเสริมว่า "โลกต้องลุกขึ้นต่อต้านคนชั่วร้ายเหล่านี้ที่มุ่งมั่นที่จะทำลายโลก และการตอบสนองต้องเหมาะสมกับการกระทำของพวกเขา" . 🔸การที่วอชิงตันอนุมัติให้เคียฟใช้ขีปนาวุธที่ผลิตในสหรัฐฯนั้น มีจุดประสงค์เพื่อบีบบังคับให้รัฐบาลในอนาคตของโดนัลด์ ทรัมป์ ต้อง “ดำเนินการท่ามกลางความวุ่นวายทางภูมิรัฐศาสตร์,” ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเวเนซุเอลา วิลเมอร์ เดปาบลอส กล่าว 🔸เมื่อเหลือเวลาอีกไม่ถึงสองเดือนก่อนการถ่ายโอนอำนาจ, ไบเดนกำลังพยายามทำให้ยากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับประธานาธิบดีคนต่อไปในการแก้ไขวิกฤตยูเครน, นักวิทยาศาสตร์การเมืองชาวอิหร่าน Emad Abshenas เชื่อเช่นนั้น 🔸คำสั่งของปูตินในการใช้ขีปนาวุธ Oreshnik ถือเป็น "คำเตือนสำหรับประเทศสมาชิก NATO ท่ามกลางภัยคุกคามจากสงครามโลกที่เพิ่มมากขึ้น," ผู้เชี่ยวชาญชาวจีน Sima Pingbang อธิบาย และกล่าวต่อไปว่าระบอบการปกครองเคียฟได้กลายมาเป็น "อุปสรรคต่อสันติภาพ" และ "Biden และ Zelensky ไม่สามารถยอมรับชัยชนะของมอสโกได้" . 🧵RUSSIA’S USE OF ORESHNIK MISSILE IS A GRAVE WARNING TO NATO AMID DANGER OF A WORLD WAR – analysts Russia’s strike on a Ukrainian defense facility using its new Oreshnik hypersonic medium-range ballistic missile is a “a serious warning to NATO,” Robinson Farinazzo, a retired Brazilian officer, told Sputnik. 🗨️He underscored that US President Joe Biden crossed "a red line" by authorizing the Kiev regime to strike Russia with long-range American weapons. "Moscow is perfectly aware that this type of attack, technically difficult, can only be carried out with the support of NATO, in this case the US," he said. . OTHER ANALYSTS AGREE: . 🔸Washington is “provoking an escalation that completely changes the nature of the conflict,” military history expert Ricardo Cabral emphasized. 🔸The US allowing Kiev to use long-range weapons is "a continued psychological offensive" to test Moscow's tolerance, Venezuelan analyst Vladimir Adrianza noted, adding that the dangerous stage of the conflict stems from the “voracious appetite of the US military, financial and technological complex.” . 🔸Moscow has every right to defend itself against NATO's “sinister and criminal actions," noted Humberto Morales, professor at the Autonomous University of Puebla, Mexico. 🔸President Vladimir Putin has clearly conveyed the message that current events on the international arena demonstrate the “suicidal and irresponsible behavior by the West which threatens total destruction,” Lebanese political scientist Hassan Hmadeh underscored, adding, "The world must stand up to these evil people who are determined to destroy the planet, and the response must be commensurate with their actions." . 🔸Washington's approval for Kiev to use US-made missiles is intended to force Donald Trump’s future administration to “operate in geopolitical chaos,” Venezuelan international relations expert Wilmer Depablos said. 🔸With less than two months to go before the transfer of power, Biden is trying to make it as difficult as possible for the next president to resolve the Ukraine crisis, Iranian political scientist Emad Abshenas believes. 🔸Putin's order to use the Oreshnik missile is “a warning to NATO countries amid the growing threat of a world war,” Chinese pundit Sima Pingbang explained, going on to say that the Kiev regime has become “an obstacle to peace” and that “Biden and Zelensky are unable to accept Moscow's victory." . 8:59 PM · Nov 22, 2024 · 9,427 Views https://x.com/SputnikInt/status/1859959796624982449
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 585 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียแจ้งสหรัฐฯสั้นๆ ก่อนยิงขีปนาวุธพิสัยกลางใส่ยูเครน – เผ่นต๊ะก่อน

    รัสเซียแจ้งสหรัฐฯสั้นๆ ก่อนยิงขีปนาวุธพิสัยกลางใส่ยูเครน, ซาบรินา ซิงห์, โฆษกเผ่นต๊ะก่อน กล่าว

    “สหรัฐฯได้รับแจ้งล่วงหน้าสั้นๆก่อนการยิง ผ่านช่องทางลดความเสี่ยงจากนิวเคลียร์,”
    ซิงห์ กล่าวกับผู้สื่อข่าว

    🤣สหรัฐฯไม่ได้ต้องการทำสงครามกับรัสเซีย แต่จะยังคงส่งอาวุธให้กับยูเครนต่อไป, โฆษกเผ่นต๊ะก่อน กล่าว🤣

    ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน, ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน กล่าวว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธพิสัยไกลแบบไม่ใช่นิวเคลียร์, โจมตีบริษัทผลิตอาวุธของยูเครนในเมืองดนีโปรเปตรอฟสค์ เพื่อตอบโต้ที่เคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯและสหราชอาณาจักรโจมตีดินแดนของรัสเซีย
    .
    RUSSIA NOTIFIED US BRIEFLY BEFORE BALLISTIC MISSILE LAUNCH AGAINST UKRAINE – PENTAGON

    Russia notified the United States briefly before launching an intermediate-range ballistic missile against Ukraine, Pentagon spokesperson Sabrina Singh said.

    "The United States was pre-notified briefly before the launch through nuclear risk reduction channels," Singh told reporters.

    The US is not seeking war with Russia but will continue to send weapons to Ukraine, the Pentagon spokesperson claimed.

    Earlier in the day, President Vladimir Putin said that Russia fired a non-nuclear hypersonic version of a ballistic missile, striking a Ukrainian arms manufacturer in the city of Dnepropetrovsk in response to Kiev's use of US and UK longer-range weapons to strike Russian territory.
    .
    Last edited 3:51 AM · Nov 22, 2024 · 9,081 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1859701249878200550
    รัสเซียแจ้งสหรัฐฯสั้นๆ ก่อนยิงขีปนาวุธพิสัยกลางใส่ยูเครน – เผ่นต๊ะก่อน รัสเซียแจ้งสหรัฐฯสั้นๆ ก่อนยิงขีปนาวุธพิสัยกลางใส่ยูเครน, ซาบรินา ซิงห์, โฆษกเผ่นต๊ะก่อน กล่าว “สหรัฐฯได้รับแจ้งล่วงหน้าสั้นๆก่อนการยิง ผ่านช่องทางลดความเสี่ยงจากนิวเคลียร์,” ซิงห์ กล่าวกับผู้สื่อข่าว 🤣สหรัฐฯไม่ได้ต้องการทำสงครามกับรัสเซีย แต่จะยังคงส่งอาวุธให้กับยูเครนต่อไป, โฆษกเผ่นต๊ะก่อน กล่าว🤣 ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน, ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน กล่าวว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธพิสัยไกลแบบไม่ใช่นิวเคลียร์, โจมตีบริษัทผลิตอาวุธของยูเครนในเมืองดนีโปรเปตรอฟสค์ เพื่อตอบโต้ที่เคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯและสหราชอาณาจักรโจมตีดินแดนของรัสเซีย . RUSSIA NOTIFIED US BRIEFLY BEFORE BALLISTIC MISSILE LAUNCH AGAINST UKRAINE – PENTAGON Russia notified the United States briefly before launching an intermediate-range ballistic missile against Ukraine, Pentagon spokesperson Sabrina Singh said. "The United States was pre-notified briefly before the launch through nuclear risk reduction channels," Singh told reporters. The US is not seeking war with Russia but will continue to send weapons to Ukraine, the Pentagon spokesperson claimed. Earlier in the day, President Vladimir Putin said that Russia fired a non-nuclear hypersonic version of a ballistic missile, striking a Ukrainian arms manufacturer in the city of Dnepropetrovsk in response to Kiev's use of US and UK longer-range weapons to strike Russian territory. . Last edited 3:51 AM · Nov 22, 2024 · 9,081 Views https://x.com/SputnikInt/status/1859701249878200550
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1068 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • เสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นทั่วกรุงเคียฟ
    เสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นทั่วกรุงเคียฟ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 756 มุมมอง 8 0 รีวิว
  • DTEK (ДТЕК) หน่วยงานจัดการด้านพลังงานของยูเครน ออกประกาศใช้มาตรการฉุกเฉินอีกครั้งในวันนี้ หลังเพิ่งมีการโจมตีจากรัสเซียไปเมื่อช่วงเช้ามืด

    ภูมิภาคที่ถูกกำหนดให้ใช้มาตรการฉุกเฉินด้านพลังงานได้แก่ เมืองเคียฟ ภูมิภาคเคียฟ ภูมิภาคโอเดสซา ภูมิภาคดนีโปรเปตรอฟสค์ ภูมิภาคโดเนตสค์:

    จะมีการจำกัดช่วงเวลาการใช้ไฟฟ้าในแต่ละวัน และอาจมีไฟดับกระทันหัน ขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ และปฏิบัติตามคำแนะนำตามมาตรการที่กำหนดไว้

    DTEK (ДТЕК) หน่วยงานจัดการด้านพลังงานของยูเครน ออกประกาศใช้มาตรการฉุกเฉินอีกครั้งในวันนี้ หลังเพิ่งมีการโจมตีจากรัสเซียไปเมื่อช่วงเช้ามืด ภูมิภาคที่ถูกกำหนดให้ใช้มาตรการฉุกเฉินด้านพลังงานได้แก่ เมืองเคียฟ ภูมิภาคเคียฟ ภูมิภาคโอเดสซา ภูมิภาคดนีโปรเปตรอฟสค์ ภูมิภาคโดเนตสค์: จะมีการจำกัดช่วงเวลาการใช้ไฟฟ้าในแต่ละวัน และอาจมีไฟดับกระทันหัน ขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ และปฏิบัติตามคำแนะนำตามมาตรการที่กำหนดไว้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯที่อนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของอเมริกา โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆภายในรัสเซีย คือ "ความผิดพลาดครั้งใหญ่" ที่อาจลากโลกเข้าสู่ขอบเหวแห่ง "สงครามใหญ่" จากความเห็นของประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี
    .
    การที่สหรัฐฯไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลทรงอานุภาพ ATACMS โจมตีรัสเซีย ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายครั้งใหญ่ของอเมริกา มันโหมกระพือปฏิกิริยาเดือดดาลมาจากมอสโก ซึ่งเมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) ได้ขยายขอบเขตกรอบการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ในความเคลื่อนไหวที่เป็นส่งสัญญาณเตือนอย่างชัดเจนไปยังเคียฟและตะวันตก
    .
    "ก้าวย่างนี้ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่ใช่แค่ทำให้ความขัดแย้งลุกลาม แต่มันจะนำมาซึ่งปฏิกิริยาตอบโต้หนักหน่วงขึ้นจากรัสเซีย และบางทีมันอาจนำพาภูมิภาคและโลกใบนี้ เข้าสู่สงครามใหญ่ครั้งใหม่" ประธานาธิบดีตุรกีกล่าวกับพวกผู้สื่อข่าว บนเที่ยวบินที่กำลังบินกลับจากไปร่วมประชุมซัมมิตจี20 ในรีโอเดอจาเนโร
    .
    "การตัดสินใจของสหรัฐฯ อาจตีความได้ว่าเป็นความเคลื่อนไหวเติมเชื้อไฟสงคราม เพื่อรับประกันว่ามันจะไม่มีวันยุติและแม้กระทั่งลุกลามหนักหน่วงขึ้น" เขากล่าว ชี้ถึงกฤษฎีกาฉบับหนึ่งที่ลงนามโดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) ที่อนุญาตให้มอสโกปลดปล่อยการตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ในกรณีที่ถูกโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ แม้กระทั่งหากมันเป็นเพียงแค่การโจมตีด้วยอาวุธทั่วไป
    .
    "ความผิดพลาดเล็กน้อยเป็นพื้นฐานของความผิดพลาดครั้งใหญ่ มันจะเหมือนกับการโยนดินปืนเข้าใส่เปลวไฟ ดังนั้นผมจึงขอแนะนำให้ทุกคนจงระมัดระวัง" เขากล่าว
    .
    ตุรกี ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับทั้งยูเครนและรัสเซีย ได้จัดหาโดรนมอบแก่เคียฟ แต่ขณะเดียวกันก็ปลีกตัวเองออกจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกที่กำหนดเล่นงานมอสโก
    .
    ความเคลื่อนไหวของปูติน ในการปรับเปลี่ยนนโยบายทางนิวเคลียร์ของรัสเซีย เรียกเสียงประณามอย่างทันควันจากสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร ว่าไร้ความรับผิดชอบ ขณะที่ แอร์โดอัน แนะนำว่านาโต ควรพินิจพิเคราะห์ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัสเซีย
    .
    "พวกเจ้าหน้าที่นาโตควรจับตามองและทบทวนพิจารณาก้าวย่างนี้ของรัสเซีย" เขาบอกระหว่างแถลงข่าวในเมืองริโอเมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) "ในแนวทางเดียวกัน ในฐานะประเทศหนึ่งๆของนาโต เราควรใช้ก้าวย่างต่างๆเช่นกันในการปกป้องตัวเราเอง ยูเครนคือประเทศเพื่อนบ้านของเรา รัสเซียคือประเทศเพื่อนบ้านของเรา เราจำเป็นต้องสงวนไว้ซึ่งความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างเรากับพวกเขาเช่นกัน" เขากล่าว พร้อมแสดงความหวังว่าจะบรรลุข้อตกลงสันติภาพอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
    .
    ประธานาธิบดีรัสเซียใช้วาทกรรมนิวเคลียร์มาตลอดความขัดแย้ง แต่เริ่มก้าวร้าวยิ่งขึ้นนับตั้งแต่ปีที่แล้ว ในนั้นรวมถึงการถอนตัวจากสนธิสัญญาห้ามทดสอบนิวเคลียร์ฉบับหนึ่ง และข้อตกลงลดอาวุธฉบับสำคัญฉบับหนึ่งที่ทำร่วมกับสหรัฐฯ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111857
    ..............
    Sondhi X
    ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯที่อนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของอเมริกา โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆภายในรัสเซีย คือ "ความผิดพลาดครั้งใหญ่" ที่อาจลากโลกเข้าสู่ขอบเหวแห่ง "สงครามใหญ่" จากความเห็นของประธานาธิบดี เรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี . การที่สหรัฐฯไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลทรงอานุภาพ ATACMS โจมตีรัสเซีย ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายครั้งใหญ่ของอเมริกา มันโหมกระพือปฏิกิริยาเดือดดาลมาจากมอสโก ซึ่งเมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) ได้ขยายขอบเขตกรอบการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ในความเคลื่อนไหวที่เป็นส่งสัญญาณเตือนอย่างชัดเจนไปยังเคียฟและตะวันตก . "ก้าวย่างนี้ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่ใช่แค่ทำให้ความขัดแย้งลุกลาม แต่มันจะนำมาซึ่งปฏิกิริยาตอบโต้หนักหน่วงขึ้นจากรัสเซีย และบางทีมันอาจนำพาภูมิภาคและโลกใบนี้ เข้าสู่สงครามใหญ่ครั้งใหม่" ประธานาธิบดีตุรกีกล่าวกับพวกผู้สื่อข่าว บนเที่ยวบินที่กำลังบินกลับจากไปร่วมประชุมซัมมิตจี20 ในรีโอเดอจาเนโร . "การตัดสินใจของสหรัฐฯ อาจตีความได้ว่าเป็นความเคลื่อนไหวเติมเชื้อไฟสงคราม เพื่อรับประกันว่ามันจะไม่มีวันยุติและแม้กระทั่งลุกลามหนักหน่วงขึ้น" เขากล่าว ชี้ถึงกฤษฎีกาฉบับหนึ่งที่ลงนามโดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) ที่อนุญาตให้มอสโกปลดปล่อยการตอบโต้ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ในกรณีที่ถูกโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ แม้กระทั่งหากมันเป็นเพียงแค่การโจมตีด้วยอาวุธทั่วไป . "ความผิดพลาดเล็กน้อยเป็นพื้นฐานของความผิดพลาดครั้งใหญ่ มันจะเหมือนกับการโยนดินปืนเข้าใส่เปลวไฟ ดังนั้นผมจึงขอแนะนำให้ทุกคนจงระมัดระวัง" เขากล่าว . ตุรกี ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับทั้งยูเครนและรัสเซีย ได้จัดหาโดรนมอบแก่เคียฟ แต่ขณะเดียวกันก็ปลีกตัวเองออกจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตกที่กำหนดเล่นงานมอสโก . ความเคลื่อนไหวของปูติน ในการปรับเปลี่ยนนโยบายทางนิวเคลียร์ของรัสเซีย เรียกเสียงประณามอย่างทันควันจากสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร ว่าไร้ความรับผิดชอบ ขณะที่ แอร์โดอัน แนะนำว่านาโต ควรพินิจพิเคราะห์ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัสเซีย . "พวกเจ้าหน้าที่นาโตควรจับตามองและทบทวนพิจารณาก้าวย่างนี้ของรัสเซีย" เขาบอกระหว่างแถลงข่าวในเมืองริโอเมื่อวันอังคาร(19พ.ย.) "ในแนวทางเดียวกัน ในฐานะประเทศหนึ่งๆของนาโต เราควรใช้ก้าวย่างต่างๆเช่นกันในการปกป้องตัวเราเอง ยูเครนคือประเทศเพื่อนบ้านของเรา รัสเซียคือประเทศเพื่อนบ้านของเรา เราจำเป็นต้องสงวนไว้ซึ่งความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างเรากับพวกเขาเช่นกัน" เขากล่าว พร้อมแสดงความหวังว่าจะบรรลุข้อตกลงสันติภาพอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ . ประธานาธิบดีรัสเซียใช้วาทกรรมนิวเคลียร์มาตลอดความขัดแย้ง แต่เริ่มก้าวร้าวยิ่งขึ้นนับตั้งแต่ปีที่แล้ว ในนั้นรวมถึงการถอนตัวจากสนธิสัญญาห้ามทดสอบนิวเคลียร์ฉบับหนึ่ง และข้อตกลงลดอาวุธฉบับสำคัญฉบับหนึ่งที่ทำร่วมกับสหรัฐฯ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111857 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1102 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเครนยิงขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ ที่จัดหาให้โดยสหราชอาณาจักร เข้าใส่รัสเซียเป็นครั้งแรก ตามรายงานของสื่อมวลชนสหราชอาณาจักร หลังได้รับไฟเขียวจากลอนดอน
    .
    หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส รายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ตะวันตกที่ไม่เปิดเผยตัวตน ระบุว่าขีปนาวธหลายลูกถูกยิงเข้าใส่เป้าหมายทางทหารของรัสเซียอย่างน้อย 1 เป้าหมาย พร้อมรายงานต่อว่าแหล่งข่าวยืนยัน ปฏิบัติการดังกล่าวถือเป็นการใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลสตอร์ม ชาโดว์ เป็นครั้งแรก
    .
    ส่วนหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน รายงานว่าสหราชอาณจักรให้ไฟเขียวยูเครนใช้ขีปนาวุธในรัสเซีย ตอบโต้ความเคลื่อนไหวของมอสโก ที่ประจำการทหารเกาหลีเหนือตามแนวชายแดน
    .
    เหล่าบล็อกเกอร์ทหารรัสเซียฝักใฝ่เครมลิน เขียนว่าขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ นับสิบลูกถูกยิงเข้าใส่เป้าหมายหนึ่งในแคว้นคูร์สก์ ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดน ซึ่งถูกกองกำลังเคียฟยึดครองบางส่วน
    .
    ขณะที่สื่อมวลชนยูเครนโพสต์ภาพคลิปวิดีโอภาพถ่ายทางอากาศจากโดรน เป็นภาพการระเบิดป็นชุดๆ ณ จุดๆ หนึ่งที่เชื่อว่าน่าจะเป็นคฤหาสถ์หลังหนึ่งในพื้นที่ห่างไกล ที่พวกชาวบ้านเรียกว่าเขต "มารีโน" พร้อมระบุว่าการโจมตีน่าจะเล็งเป้าเล่นงานศูนย์บัญชาการทหารที่อยู่ใต้ดิน
    .
    ทั้งมอสโก และเคียฟ ต่างยังไม่ออกมายืนยันอย่างเป็นการโจมตีด้วยขีปนาวุธ หรือการใช้สตอร์ม ชาโดว์
    .
    รายงานข่าวนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ วอชิงตันเปิดเผยว่าพวกเขาอนญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของพวกเขา ATACMS โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆ ภายในรัสเซีย ตามคำร้องขอที่มีมาอย่างยาวนานของเคียฟ
    .
    ในวันอังคาร (19 พ.ย.) รัสเซียระบุว่าขีปนาวุธดังกล่าวถูกใช้เล่นงานที่ตั้งทางทหารแห่งหนึ่งของพวกเขาในแคว้นบรีอันสค์ ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดน
    .
    ทั้งนี้ รายงานข่าวเกี่ยวกับการโจมตีล่าสุด มีขึ้นในขณะที่มอสโกกำลังหาทางแก้แค้นยูเครน สำหรับการยิงขีปนาวุธพิสัยไกลที่จัดหาให้โดยสหรัฐฯ เข้าใส่ดินแดนของรัสเซียเป็นครั้งแรก และคำกล่าวหาจากเครมลิน ที่ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กำลังหาทางลากยาวสงคราม
    .
    รัสเซียยกระดับการโจมตีนองเลือดด้วยขีปนาวุธในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เล็งเป้าเล่นงานพื้นที่ที่อยู่อาศัยต่างๆ และเครือข่ายพลังงานของยูเครน กระตุ้นให้ระบบเตือนภัยทางอากาศทั่วประเทศดังระงมในทุกวัน
    .
    สหรัฐฯ เปิดเผยในตอนเช้าวันพุธ (20 พ.ย.) ว่ากำลังปิดสถานทูตในกรุงเคียฟ หลังได้รับข้อมูลอย่างเจาะจงเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการโจมตีทางอากาศ จากนั้นแคนาดา กรีซ ฮังการี อิตาลี และสเปนก็ทำตาม
    .
    อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็นวันเดียวกัน ทางสถานทูตสหรัฐฯ เผยว่าจะกลับมาเปิดให้บริการในวันพฤหัสบดี (21 พ.ย.) ภายใต้ปฏิบัติการที่เปลี่ยนไปเป็นการชั่วคราว สืบเนื่องจากคำเตือนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการโจมตีทางอากาศ
    .
    เสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังระงมทั่วกรุงเคียฟในวันพุธ (20 พ.ย.) และเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าเศษซากของโดรนโจมตีที่ถูกยิงสกัด ได้ก่อความเสียหายเล็กน้อย
    .
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวปราศรัยในช่วงค่ำ เตือนว่าข้อความแห่งความตื่นตระหนกที่โพสต์ซ้ำๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ รังแต่จะช่วยสร้างขวัญกำลังใจแก่รัสเซีย
    .
    คำเตือนนี้มีขึ้นในขณะที่ความกังวลกำลังแผ่ลามในกรุงเคียฟ ท่ามกลางสงครามที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 3 ปี เนื่องจากชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังนำมาซึ่งความไม่แน่นอนรอบใหม่ เกี่ยวกับแรงสนับสนุนของวอชิงตันที่จะมอบแก่เคียฟในอนาคต
    .
    ว่าที่ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันรายนี้ วิพากษ์วิจารณ์แรงสนับสนุนที่สหรัฐฯ มอบให้แก่เคียฟ และอ้างว่าเขาจะเป็นคนกลางในข้อตกลงหยุดยิงภายในไม่กี่ชั่วโมง ความเห็นที่กระพือความกังวลในเคียฟและยุโรป เกี่ยวกับศักยภาพของยูเครนในการยืนหยัดรับมือการโจมตีของรัสเซีย โดยปราศจากแรงสนับสนุนของอเมริกา
    .
    ในวันพุธ (20 พ.ย.) รัสเซียกล่าวหา ไบเดน ลากยาวสงคราม ด้วยการยกระดับป้อนอาวุธแก่ยูเครน ในช่วงสัปดาห์ท้ายๆ ของการดำรงตำแหน่ง "ถ้าคุณมองดูทิศทางของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่กำลังพ้นจากตำแหน่ง พวกเขามุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในการเดินหน้าสงครามในยูเครน และทำทุกอย่างเท่าที่พวกเขาทำได้ เพื่อให้เป็นเช่นนั้น" ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของวังเครมลินกล่าว
    .
    ความคิดเห็นของ เปสคอฟ เป็นการตอบโต้สหรัฐฯ ที่บอกว่าพวกเขาจะจัดหาทุ่นระเบิดต่อต้านกำลังพลแก่ยูเครนเร็วๆ นี้ การตัดสินใจดังกล่าวกระตุ้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากองค์กรการกุศลต่างๆ เกี่ยวกับความเสี่ยงระยะยาวที่จะเกิดกับพลเมือง แต่ เซเลนสกี เน้นว่าทุ่นระเบิดมีความสำคัญยิ่งที่จะหยุดการจู่โจมของรัสเซีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111854
    ..............
    Sondhi X
    ยูเครนยิงขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ ที่จัดหาให้โดยสหราชอาณาจักร เข้าใส่รัสเซียเป็นครั้งแรก ตามรายงานของสื่อมวลชนสหราชอาณาจักร หลังได้รับไฟเขียวจากลอนดอน . หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส รายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ตะวันตกที่ไม่เปิดเผยตัวตน ระบุว่าขีปนาวธหลายลูกถูกยิงเข้าใส่เป้าหมายทางทหารของรัสเซียอย่างน้อย 1 เป้าหมาย พร้อมรายงานต่อว่าแหล่งข่าวยืนยัน ปฏิบัติการดังกล่าวถือเป็นการใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลสตอร์ม ชาโดว์ เป็นครั้งแรก . ส่วนหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน รายงานว่าสหราชอาณจักรให้ไฟเขียวยูเครนใช้ขีปนาวุธในรัสเซีย ตอบโต้ความเคลื่อนไหวของมอสโก ที่ประจำการทหารเกาหลีเหนือตามแนวชายแดน . เหล่าบล็อกเกอร์ทหารรัสเซียฝักใฝ่เครมลิน เขียนว่าขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ นับสิบลูกถูกยิงเข้าใส่เป้าหมายหนึ่งในแคว้นคูร์สก์ ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดน ซึ่งถูกกองกำลังเคียฟยึดครองบางส่วน . ขณะที่สื่อมวลชนยูเครนโพสต์ภาพคลิปวิดีโอภาพถ่ายทางอากาศจากโดรน เป็นภาพการระเบิดป็นชุดๆ ณ จุดๆ หนึ่งที่เชื่อว่าน่าจะเป็นคฤหาสถ์หลังหนึ่งในพื้นที่ห่างไกล ที่พวกชาวบ้านเรียกว่าเขต "มารีโน" พร้อมระบุว่าการโจมตีน่าจะเล็งเป้าเล่นงานศูนย์บัญชาการทหารที่อยู่ใต้ดิน . ทั้งมอสโก และเคียฟ ต่างยังไม่ออกมายืนยันอย่างเป็นการโจมตีด้วยขีปนาวุธ หรือการใช้สตอร์ม ชาโดว์ . รายงานข่าวนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ วอชิงตันเปิดเผยว่าพวกเขาอนญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของพวกเขา ATACMS โจมตีเป้าหมายทางทหารต่างๆ ภายในรัสเซีย ตามคำร้องขอที่มีมาอย่างยาวนานของเคียฟ . ในวันอังคาร (19 พ.ย.) รัสเซียระบุว่าขีปนาวุธดังกล่าวถูกใช้เล่นงานที่ตั้งทางทหารแห่งหนึ่งของพวกเขาในแคว้นบรีอันสค์ ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดน . ทั้งนี้ รายงานข่าวเกี่ยวกับการโจมตีล่าสุด มีขึ้นในขณะที่มอสโกกำลังหาทางแก้แค้นยูเครน สำหรับการยิงขีปนาวุธพิสัยไกลที่จัดหาให้โดยสหรัฐฯ เข้าใส่ดินแดนของรัสเซียเป็นครั้งแรก และคำกล่าวหาจากเครมลิน ที่ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กำลังหาทางลากยาวสงคราม . รัสเซียยกระดับการโจมตีนองเลือดด้วยขีปนาวุธในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เล็งเป้าเล่นงานพื้นที่ที่อยู่อาศัยต่างๆ และเครือข่ายพลังงานของยูเครน กระตุ้นให้ระบบเตือนภัยทางอากาศทั่วประเทศดังระงมในทุกวัน . สหรัฐฯ เปิดเผยในตอนเช้าวันพุธ (20 พ.ย.) ว่ากำลังปิดสถานทูตในกรุงเคียฟ หลังได้รับข้อมูลอย่างเจาะจงเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการโจมตีทางอากาศ จากนั้นแคนาดา กรีซ ฮังการี อิตาลี และสเปนก็ทำตาม . อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็นวันเดียวกัน ทางสถานทูตสหรัฐฯ เผยว่าจะกลับมาเปิดให้บริการในวันพฤหัสบดี (21 พ.ย.) ภายใต้ปฏิบัติการที่เปลี่ยนไปเป็นการชั่วคราว สืบเนื่องจากคำเตือนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการโจมตีทางอากาศ . เสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังระงมทั่วกรุงเคียฟในวันพุธ (20 พ.ย.) และเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าเศษซากของโดรนโจมตีที่ถูกยิงสกัด ได้ก่อความเสียหายเล็กน้อย . ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวปราศรัยในช่วงค่ำ เตือนว่าข้อความแห่งความตื่นตระหนกที่โพสต์ซ้ำๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ รังแต่จะช่วยสร้างขวัญกำลังใจแก่รัสเซีย . คำเตือนนี้มีขึ้นในขณะที่ความกังวลกำลังแผ่ลามในกรุงเคียฟ ท่ามกลางสงครามที่ยืดเยื้อมานานเกือบ 3 ปี เนื่องจากชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังนำมาซึ่งความไม่แน่นอนรอบใหม่ เกี่ยวกับแรงสนับสนุนของวอชิงตันที่จะมอบแก่เคียฟในอนาคต . ว่าที่ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันรายนี้ วิพากษ์วิจารณ์แรงสนับสนุนที่สหรัฐฯ มอบให้แก่เคียฟ และอ้างว่าเขาจะเป็นคนกลางในข้อตกลงหยุดยิงภายในไม่กี่ชั่วโมง ความเห็นที่กระพือความกังวลในเคียฟและยุโรป เกี่ยวกับศักยภาพของยูเครนในการยืนหยัดรับมือการโจมตีของรัสเซีย โดยปราศจากแรงสนับสนุนของอเมริกา . ในวันพุธ (20 พ.ย.) รัสเซียกล่าวหา ไบเดน ลากยาวสงคราม ด้วยการยกระดับป้อนอาวุธแก่ยูเครน ในช่วงสัปดาห์ท้ายๆ ของการดำรงตำแหน่ง "ถ้าคุณมองดูทิศทางของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่กำลังพ้นจากตำแหน่ง พวกเขามุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในการเดินหน้าสงครามในยูเครน และทำทุกอย่างเท่าที่พวกเขาทำได้ เพื่อให้เป็นเช่นนั้น" ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของวังเครมลินกล่าว . ความคิดเห็นของ เปสคอฟ เป็นการตอบโต้สหรัฐฯ ที่บอกว่าพวกเขาจะจัดหาทุ่นระเบิดต่อต้านกำลังพลแก่ยูเครนเร็วๆ นี้ การตัดสินใจดังกล่าวกระตุ้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากองค์กรการกุศลต่างๆ เกี่ยวกับความเสี่ยงระยะยาวที่จะเกิดกับพลเมือง แต่ เซเลนสกี เน้นว่าทุ่นระเบิดมีความสำคัญยิ่งที่จะหยุดการจู่โจมของรัสเซีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111854 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1167 มุมมอง 0 รีวิว
  • มอสโกกร้าวเอาคืนยูเครน รวมถึงนาโตที่จัดส่งขีปนาวุธพิสัยไกลให้เคียฟโจมตีดินแดนรัสเซีย พร้อมกันนี้ยังกล่าวหาอเมริกาต้องการยื้อสงครามด้วยการเร่งส่งอาวุธให้ยูเครนก่อนทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง ขณะที่ในวันพุธ (20 พ.ย.) กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สั่งปิดสถานทูตในเคียฟและเตือนพลเมืองอเมริกันในยูเครนเตรียมพร้อมหาที่หลบภัยรวมถึงเสบียงและของใช้จำเป็นโดยด่วน หลังได้รับข้อมูลว่า อาจมีการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่
    .
    กองทัพยูเครนแถลงว่า ได้โจมตีคลังอาวุธของรัสเซียห่างจากชายแดนราว 110 กม. เมื่อเช้าวันอังคาร (19) ซึ่งทำให้เกิดระเบิดตามมา แต่ไม่ได้ระบุว่า ใช้อาวุธชนิดใด กระนั้น แหล่งข่าวในรัฐบาลยูเครนและเจ้าหน้าที่อเมริกันคนหนึ่งยืนยันว่า อาวุธที่ใช้โจมตีคือ อะแทคซิมส์ (ATACMS ย่อมาจาก MGM-140 Army Tactical Missile System ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีกองทัพบกแบบ เอ็มจีเอ็ม-140) ซึ่งเป็นขีปนาวุธยุทธวิธีที่ยิงได้ไกลประมาณ 300 กิโลเมตร ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพิ่งอนุมัติให้ยูเครนใช้ในการโจมตีดินแดนรัสเซียได้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
    .
    ด้านรัสเซียระบุว่า ยิงขีปนาวุธอะแทคซิมส์จำนวน 5 จาก 6 ลูกตก ในพื้นที่ทางทหารในแคว้นบรีแยนสก์ของตน และซากจรวดทำให้เกิดไฟไหม้แต่ดับได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่มีผู้เสียชีวิตและไม่มีความเสียหายใดๆ
    .
    การโจมตีคราวนี้เกิดขึ้นขณะสงครามยูเครนดำเนินมาครบ 1,000 วัน โดยที่ยูเครนเสียดินแดนประมาณ 1 ใน 5 ให้รัสเซีย และท่ามกลางความสงสัยเกี่ยวกับความช่วยเหลือของตะวันตกที่จะให้แก่ยูเครนในอนาคต หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้นปีหน้า
    .
    เหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์ (18) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ลงนามกฤษฎีกาแก้ไขหลักนิยมนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นการขยายขอบเขตเงื่อนไขที่มอสโกจะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดยนอกจากในกรณีถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ตามที่กล่าวไว้ในหลักนิยมนิวเคลียร์ฉบับเดิมแล้ว ต่อจากนี้ไปรัสเซียจะสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ด้วย ในกรณีถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธตามแบบแผน โดรน หรือเครื่องบินอื่นๆ ของประเทศที่ไม่ได้ครอบครองนิวเคลียร์แต่ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจนิวเคลียร์
    .
    นอกจากนั้น การรุกรานรัสเซียโดยประเทศที่เป็นสมาชิกแนวร่วมหรือกลุ่มพันธมิตรแห่งใดแห่งหนึ่ง จะถือว่าแนวร่วมหรือกลุ่มพันธมิตรแห่งนั้นมีส่วนร่วมในการรุกรานด้วย
    .
    เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวระหว่างร่วมประชุมสุดยอดกลุ่มจี20 ที่บราซิลเมื่อวันอังคาร (19) ว่า การโจมตีของยูเครนด้วยจรวดอะแทคซิมส์ของอเมริกา เป็นเครื่องฟ้องว่า ตะวันตกต้องการให้ความขัดแย้งลุกลาม และถือเป็นเฟสใหม่ของสงครามที่ฝ่ายตะวันตกกระทำต่อรัสเซีย
    .
    ขณะที่ เซียร์เก นาริชกิน ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซีย ให้สัมภาษณ์ที่มีการเผยแพร่เมื่อวันพุธ (20) ว่า รัสเซียจะแก้แค้นชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่จัดหาขีปนาวุธให้ยูเครนใช้โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย และสำทับว่า การแก้ไขหลักนิยมนิวเคลียร์ของปูตินหมายความว่า ศัตรูไม่มีทางเอาชนะรัสเซียในสนามรบได้
    .
    วันเดียวกันนั้น ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ออกมาแถลงกล่าวหาอเมริกาพยายามทำทุกทางเพื่อยื้อสงครามในยูเครน ซึ่งรวมถึงการรีบเร่งจัดส่งอาวุธให้เคียฟก่อนที่ทรัมป์จะกลับเข้าสู่ทำเนียบขาว โดยที่ผ่านมา ว่าที่ผู้นำคนใหม่ของอเมริกาผู้นี้วิจารณ์การสนับสนุนยูเครนของคณะบริหารไบเดน และประกาศว่า จะผลักดันให้มีข้อตกลงหยุดยิงภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังเข้ารับตำแหน่ง
    .
    นอกจากนั้น เมื่อคืนวันอังคาร เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คนหนึ่งเปิดเผยว่า เร็วๆ นี้อเมริกาจะจัดส่งกับระเบิดสังหารบุคคลไปให้ยูเครน โดยขอให้เคียฟใช้อาวุธนี้เฉพาะในบริเวณที่ไม่มีผู้อยู่อาศัยและในดินแดนของตนเองเพื่อลดความเสี่ยงต่อพลเรือน
    .
    ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อวันพุธกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ออกคำสั่งปิดสถานเอกอัครราชทูตอเมริกันในกรุงเคียฟ โดยกล่าวว่าเนื่องจากได้รับข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ พร้อมเตือนพลเมืองอเมริกันในยูเครนให้เตรียมพร้อมหาที่หลบภัยโดยด่วน รวมทั้งสำรองน้ำ อาหาร และสิ่งจำเป็นอื่นๆ เช่น ยา เผื่อไว้สำหรับกรณีที่ระบบไฟฟ้าและน้ำประปายูเครนเสียหายจากการโจมตีของรัสเซีย
    .
    ทางด้าน อันดริว โควาเลนโก ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการเผยแพร่ข้อมูลเท็จของสภาความมั่นคงแห่งยูเครน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการประกาศของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ว่า รัสเซียพร้อมโจมตีทางอากาศเพิ่มขึ้น และสำทับว่า รัสเซียตุนขีปนาวุธสำหรับโจมตียูเครนมานานหลายเดือน ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธเคเอช-101 และคาลิบร์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111834
    ..............
    Sondhi X
    มอสโกกร้าวเอาคืนยูเครน รวมถึงนาโตที่จัดส่งขีปนาวุธพิสัยไกลให้เคียฟโจมตีดินแดนรัสเซีย พร้อมกันนี้ยังกล่าวหาอเมริกาต้องการยื้อสงครามด้วยการเร่งส่งอาวุธให้ยูเครนก่อนทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง ขณะที่ในวันพุธ (20 พ.ย.) กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สั่งปิดสถานทูตในเคียฟและเตือนพลเมืองอเมริกันในยูเครนเตรียมพร้อมหาที่หลบภัยรวมถึงเสบียงและของใช้จำเป็นโดยด่วน หลังได้รับข้อมูลว่า อาจมีการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ . กองทัพยูเครนแถลงว่า ได้โจมตีคลังอาวุธของรัสเซียห่างจากชายแดนราว 110 กม. เมื่อเช้าวันอังคาร (19) ซึ่งทำให้เกิดระเบิดตามมา แต่ไม่ได้ระบุว่า ใช้อาวุธชนิดใด กระนั้น แหล่งข่าวในรัฐบาลยูเครนและเจ้าหน้าที่อเมริกันคนหนึ่งยืนยันว่า อาวุธที่ใช้โจมตีคือ อะแทคซิมส์ (ATACMS ย่อมาจาก MGM-140 Army Tactical Missile System ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีกองทัพบกแบบ เอ็มจีเอ็ม-140) ซึ่งเป็นขีปนาวุธยุทธวิธีที่ยิงได้ไกลประมาณ 300 กิโลเมตร ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพิ่งอนุมัติให้ยูเครนใช้ในการโจมตีดินแดนรัสเซียได้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา . ด้านรัสเซียระบุว่า ยิงขีปนาวุธอะแทคซิมส์จำนวน 5 จาก 6 ลูกตก ในพื้นที่ทางทหารในแคว้นบรีแยนสก์ของตน และซากจรวดทำให้เกิดไฟไหม้แต่ดับได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่มีผู้เสียชีวิตและไม่มีความเสียหายใดๆ . การโจมตีคราวนี้เกิดขึ้นขณะสงครามยูเครนดำเนินมาครบ 1,000 วัน โดยที่ยูเครนเสียดินแดนประมาณ 1 ใน 5 ให้รัสเซีย และท่ามกลางความสงสัยเกี่ยวกับความช่วยเหลือของตะวันตกที่จะให้แก่ยูเครนในอนาคต หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้นปีหน้า . เหตุการณ์นี้ยังเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันจันทร์ (18) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ลงนามกฤษฎีกาแก้ไขหลักนิยมนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นการขยายขอบเขตเงื่อนไขที่มอสโกจะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดยนอกจากในกรณีถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ตามที่กล่าวไว้ในหลักนิยมนิวเคลียร์ฉบับเดิมแล้ว ต่อจากนี้ไปรัสเซียจะสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ด้วย ในกรณีถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธตามแบบแผน โดรน หรือเครื่องบินอื่นๆ ของประเทศที่ไม่ได้ครอบครองนิวเคลียร์แต่ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจนิวเคลียร์ . นอกจากนั้น การรุกรานรัสเซียโดยประเทศที่เป็นสมาชิกแนวร่วมหรือกลุ่มพันธมิตรแห่งใดแห่งหนึ่ง จะถือว่าแนวร่วมหรือกลุ่มพันธมิตรแห่งนั้นมีส่วนร่วมในการรุกรานด้วย . เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวระหว่างร่วมประชุมสุดยอดกลุ่มจี20 ที่บราซิลเมื่อวันอังคาร (19) ว่า การโจมตีของยูเครนด้วยจรวดอะแทคซิมส์ของอเมริกา เป็นเครื่องฟ้องว่า ตะวันตกต้องการให้ความขัดแย้งลุกลาม และถือเป็นเฟสใหม่ของสงครามที่ฝ่ายตะวันตกกระทำต่อรัสเซีย . ขณะที่ เซียร์เก นาริชกิน ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซีย ให้สัมภาษณ์ที่มีการเผยแพร่เมื่อวันพุธ (20) ว่า รัสเซียจะแก้แค้นชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่จัดหาขีปนาวุธให้ยูเครนใช้โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย และสำทับว่า การแก้ไขหลักนิยมนิวเคลียร์ของปูตินหมายความว่า ศัตรูไม่มีทางเอาชนะรัสเซียในสนามรบได้ . วันเดียวกันนั้น ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ออกมาแถลงกล่าวหาอเมริกาพยายามทำทุกทางเพื่อยื้อสงครามในยูเครน ซึ่งรวมถึงการรีบเร่งจัดส่งอาวุธให้เคียฟก่อนที่ทรัมป์จะกลับเข้าสู่ทำเนียบขาว โดยที่ผ่านมา ว่าที่ผู้นำคนใหม่ของอเมริกาผู้นี้วิจารณ์การสนับสนุนยูเครนของคณะบริหารไบเดน และประกาศว่า จะผลักดันให้มีข้อตกลงหยุดยิงภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังเข้ารับตำแหน่ง . นอกจากนั้น เมื่อคืนวันอังคาร เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คนหนึ่งเปิดเผยว่า เร็วๆ นี้อเมริกาจะจัดส่งกับระเบิดสังหารบุคคลไปให้ยูเครน โดยขอให้เคียฟใช้อาวุธนี้เฉพาะในบริเวณที่ไม่มีผู้อยู่อาศัยและในดินแดนของตนเองเพื่อลดความเสี่ยงต่อพลเรือน . ในอีกด้านหนึ่ง เมื่อวันพุธกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ออกคำสั่งปิดสถานเอกอัครราชทูตอเมริกันในกรุงเคียฟ โดยกล่าวว่าเนื่องจากได้รับข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ พร้อมเตือนพลเมืองอเมริกันในยูเครนให้เตรียมพร้อมหาที่หลบภัยโดยด่วน รวมทั้งสำรองน้ำ อาหาร และสิ่งจำเป็นอื่นๆ เช่น ยา เผื่อไว้สำหรับกรณีที่ระบบไฟฟ้าและน้ำประปายูเครนเสียหายจากการโจมตีของรัสเซีย . ทางด้าน อันดริว โควาเลนโก ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการเผยแพร่ข้อมูลเท็จของสภาความมั่นคงแห่งยูเครน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการประกาศของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ว่า รัสเซียพร้อมโจมตีทางอากาศเพิ่มขึ้น และสำทับว่า รัสเซียตุนขีปนาวุธสำหรับโจมตียูเครนมานานหลายเดือน ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธเคเอช-101 และคาลิบร์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111834 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1175 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองกำลังรัสเซียกำลังเตรียมขีปนาวุธข้ามทวีป RS-26 ในการโจมตีกรุงเคียฟที่อาจเกิดขึ้น
    .
    BREAKING:

    Russian forces are preparing to launch the RS-26 intercontinental ballistic missile in a possible attack on Kiev.
    .
    2:31 AM · Nov 21, 2024 · 303.3K Views
    https://x.com/GlobeEyeNews/status/1859318580862488750
    กองกำลังรัสเซียกำลังเตรียมขีปนาวุธข้ามทวีป RS-26 ในการโจมตีกรุงเคียฟที่อาจเกิดขึ้น . BREAKING: Russian forces are preparing to launch the RS-26 intercontinental ballistic missile in a possible attack on Kiev. . 2:31 AM · Nov 21, 2024 · 303.3K Views https://x.com/GlobeEyeNews/status/1859318580862488750
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ ถอนคำคัดค้านการใช้ขีปนาวุธ Storm Shadow ของอังกฤษเพื่อโจมตีรัสเซียแล้ว

    The Times สื่อของอังกฤษรายงานว่า จุดยืนของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ Keir Starmer เกี่ยวกับการใช้ขีปนาวุธ Storm Shadow ได้เปลี่ยนไปในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

    ย้อนกลับไปช่วงเดือนกันยายน Starmer ยืนกรานไม่ให้เคียฟใช้ขีปนาวุธดังกล่าวเพื่อโจมตีรัสเซีย

    อย่างไรก็ตามคำพูดของ Starmer เริ่มเปลี่ยนแปลงไปเกี่ยวกับการใช้ขีปนาวุธเพื่อโจมตีรัสเซีย หลังจากสหรัฐฯ ถอนคำคัดค้านการโจมตีด้วยขีปนาวุธ Storm Shadow แหล่งข่าวกล่าว
    สหรัฐฯ ถอนคำคัดค้านการใช้ขีปนาวุธ Storm Shadow ของอังกฤษเพื่อโจมตีรัสเซียแล้ว The Times สื่อของอังกฤษรายงานว่า จุดยืนของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ Keir Starmer เกี่ยวกับการใช้ขีปนาวุธ Storm Shadow ได้เปลี่ยนไปในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ย้อนกลับไปช่วงเดือนกันยายน Starmer ยืนกรานไม่ให้เคียฟใช้ขีปนาวุธดังกล่าวเพื่อโจมตีรัสเซีย อย่างไรก็ตามคำพูดของ Starmer เริ่มเปลี่ยนแปลงไปเกี่ยวกับการใช้ขีปนาวุธเพื่อโจมตีรัสเซีย หลังจากสหรัฐฯ ถอนคำคัดค้านการโจมตีด้วยขีปนาวุธ Storm Shadow แหล่งข่าวกล่าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานทูตสหรัฐฯในเคียฟ, ยูเครน, ปิดทำการเนื่องจากคาดว่าจะมีการโจมตีทางอากาศ

    สถานทูตระบุว่า, ได้รับ "ข้อมูลเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับการโจมตีทางอากาศครั้งสำคัญที่อาจเกิดขึ้นในวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน"

    (🤣เ ผ่ น ต๊ ะ ก่ อ น อี ก เ ช่ น เ ค ย🤣
    .
    US EMBASSY IN KIEV, UKRAINE, CLOSED IN ANTICIPATION OF AIR ATTACK

    According to the embassy, it has received "specific information of a potential significant air attack on November 20."
    .
    4:36 PM · Nov 20, 2024 · 4,661 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1859169057418658236
    สถานทูตสหรัฐฯในเคียฟ, ยูเครน, ปิดทำการเนื่องจากคาดว่าจะมีการโจมตีทางอากาศ สถานทูตระบุว่า, ได้รับ "ข้อมูลเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับการโจมตีทางอากาศครั้งสำคัญที่อาจเกิดขึ้นในวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน" (🤣เ ผ่ น ต๊ ะ ก่ อ น อี ก เ ช่ น เ ค ย🤣 . US EMBASSY IN KIEV, UKRAINE, CLOSED IN ANTICIPATION OF AIR ATTACK According to the embassy, it has received "specific information of a potential significant air attack on November 20." . 4:36 PM · Nov 20, 2024 · 4,661 Views https://x.com/SputnikInt/status/1859169057418658236
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานจากสื่อของยูเครนว่า รัสเซียอาจจะกำลังเตรียมพร้อมในการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป RS-26 Rubezh (ซึ่งปลดประจำการไปแล้ว) ด้วย "หัวรบแบบธรรมดา" เพื่อโจมตีดินแดนยูเครนโดยตรง

    ขีปนาวุธข้ามทวีป RS-26 เป็นขีปนาวุธที่รวดเร็วและทรงพลัง มีน้ำหนักหัวรบ 1.2 ตัน มีฐานยิงอยู่ที่เมืองคาปุสติน (เมืองอัสตราคาน) Kapustin (Astrakhan) ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย
    มีรายละเอียดดังนี้:
    - พิสัยการยิงสูงสุด 6,000 กม.
    - ความแม่นยำ 150 ม. จากเป้าหมาย
    - น้ำหนักขีปนาวุธเริ่มต้นที่ 50 ตัน
    - น้ำหนักหัวรบ 1.2 ตัน

    วันนี้หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ส่งข้อความแจ้งเตือนไปยังอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และโปแลนด์ ถึงการโจมตีทางอากาศที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเคียฟ

    สถานทูตสหรัฐอเมริกา สเปน กรีซ และอิตาลีในกรุงเคียฟหยุดงานกระทันหัน เนื่องจากอาจเกิดการโจมตีครั้งใหญ่ในยูเครน
    มีรายงานจากสื่อของยูเครนว่า รัสเซียอาจจะกำลังเตรียมพร้อมในการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป RS-26 Rubezh (ซึ่งปลดประจำการไปแล้ว) ด้วย "หัวรบแบบธรรมดา" เพื่อโจมตีดินแดนยูเครนโดยตรง ขีปนาวุธข้ามทวีป RS-26 เป็นขีปนาวุธที่รวดเร็วและทรงพลัง มีน้ำหนักหัวรบ 1.2 ตัน มีฐานยิงอยู่ที่เมืองคาปุสติน (เมืองอัสตราคาน) Kapustin (Astrakhan) ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย มีรายละเอียดดังนี้: - พิสัยการยิงสูงสุด 6,000 กม. - ความแม่นยำ 150 ม. จากเป้าหมาย - น้ำหนักขีปนาวุธเริ่มต้นที่ 50 ตัน - น้ำหนักหัวรบ 1.2 ตัน วันนี้หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ส่งข้อความแจ้งเตือนไปยังอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และโปแลนด์ ถึงการโจมตีทางอากาศที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเคียฟ สถานทูตสหรัฐอเมริกา สเปน กรีซ และอิตาลีในกรุงเคียฟหยุดงานกระทันหัน เนื่องจากอาจเกิดการโจมตีครั้งใหญ่ในยูเครน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลักคำสอนนิวเคลียร์ใหม่ของรัสเซียหมายความว่า ขีปนาวุธของนาโต้ที่ยิงใส่ประเทศของเราอาจถือได้ว่าเป็นการโจมตีรัสเซียโดยกลุ่มประเทศสมาชิก รัสเซียอาจตอบโต้ด้วยอาวุธทำลายล้างสูงต่อเคียฟและสถานที่สำคัญของนาโต้, ไม่ว่าจะตั้งอยู่ที่ใดก็ตาม นั่นหมายถึงสงครามโลกครั้งที่ ๓

    Dmitry Medvedev
    .
    Russia's new nuclear doctrine means NATO missiles fired against our country could be deemed an attack by the bloc on Russia. Russia could retaliate with WMD against Kiev and key NATO facilities, wherever they're located. That means World War III.
    .
    5:22 PM · Nov 19, 2024 · 5.6M Views
    https://x.com/MedvedevRussiaE/status/1858818104370884949
    หลักคำสอนนิวเคลียร์ใหม่ของรัสเซียหมายความว่า ขีปนาวุธของนาโต้ที่ยิงใส่ประเทศของเราอาจถือได้ว่าเป็นการโจมตีรัสเซียโดยกลุ่มประเทศสมาชิก รัสเซียอาจตอบโต้ด้วยอาวุธทำลายล้างสูงต่อเคียฟและสถานที่สำคัญของนาโต้, ไม่ว่าจะตั้งอยู่ที่ใดก็ตาม นั่นหมายถึงสงครามโลกครั้งที่ ๓ Dmitry Medvedev . Russia's new nuclear doctrine means NATO missiles fired against our country could be deemed an attack by the bloc on Russia. Russia could retaliate with WMD against Kiev and key NATO facilities, wherever they're located. That means World War III. . 5:22 PM · Nov 19, 2024 · 5.6M Views https://x.com/MedvedevRussiaE/status/1858818104370884949
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเครนมีขีปนาวุธ ATACMS เหลืออยู่เท่าไหร่ หลังจากใช้ไปแล้ว 6 ลูกเมื่อวานนี้

    เคียฟและวอชิงตันไม่เคยยืนยันจำนวนขีปนาวุธ ATACMS อย่างเป็นทางการ มีการส่งมอบที่ทราบเพียง 2 ครั้งเท่านั้น ครั้งหนึ่งในช่วงปลายปี 2023 แต่เป็นรุ่นเก่าระยะสูงสุดเพียง 160 กม. หรือ 100 ไมล์ และอีกครั้งซึ่งส่งมอบอย่างลับๆในเดือนมีนาคมปี 2024 นี้(แต่ข่าวเพิ่งมาเปิดเผยทีหลัง) ซึ่งเป็นรุ่นใหม่กว่ามีพิสัยสูงสุด 300 กม. หรือ 190 ไมล์ นอกจากนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่ายูเครนได้ใช้ไปแล้วกี่ครั้ง

    ตามข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการ ขณะนี้ยูเครนเหลือขีปนาวุธ ATACMS ไม่เกิน 50 ลูกเท่านั้น และไม่ยืนยันว่าที่เหลืออยู่เป็นรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่!!

    - ยูเครนได้รับขีปนาวุธ ATACMS เท่าไหร่:
    ตามรายงานของสื่อ แพ็คเกจความช่วยเหลือช่วงต้นปีของสหรัฐ คือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ มูลค่า 300 ล้านดอลลาร์ เมื่อพิจารณาราคาของขีปนาวุธ ATACMS จะอยู่ที่ 1 ล้านดอลลาร์ต่อหนึ่งลูก อ้างอิงตามสัญญาที่ทำขึ้นระหว่างสหรัฐอเมริกากับ Lockheed Martin จึงมีการคาดเดาว่ายูเครนได้รับขีปนาวุธ ATACMS รุ่นใหม่เพียง 2-3 โหล( 24-36 ลูก)

    เนื่องจากความช่วยเหลือในครั้งนั้น ยังมีอย่างอื่นซึ่งประกอบไปด้วยขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน Stinger จรวดสำหรับ HIMARS ตลอดจนกระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 มม. และ 105 มม. และรายงานยังระบุว่ารวมถึงระบบต่อต้านรถถัง 84 ระบบ อาวุธขนาดเล็ก และชิ้นส่วนอะไหล่สำหรับอุปกรณ์และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ

    - ยูเครนใช้ขีปนาวุธ ATACMS ไปแล้วกี่ลูก:
    หลังจากได้รับ ATACMS รุ่นระยะ 300 กม. ในเดือนมีนาคม 2024 นี่เป็นบันทึกที่ "ยังไม่ได้รับการยืนยัน" อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการโจมตีที่เก็บรวบรวมไว้

    ➡️เดือนเมษายน มีการอ้างว่าใช้ขีปนาวุธ ATACMS โจมตีในไครเมีย
    ➡️เดือนพฤษภาคม มีการอ้างว่าใช้ขีปนาวุธ ATACMS โจมตีฐานทัพอากาศเบลเบกในไครเมีย
    ➡️ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม มีการอ้างว่าใช้ขีปนาวุธ ATACMS โจมตีใกล้กับเมืองลูฮันสค์
    ➡️ช่วงปลายเดือนมิถุนายน มีการอ้างว่าใช้ขีปนาวุธ ATACMS เพื่อโจมตีระบบต่อต้านขีปนาวุธ S-500 ของรัสเซีย
    ➡️เดือนกรกฎาคม มีการอ้างว่าใช้ขีปนาวุธ ATACMS โจมตีฐานทัพอากาศ Saki ในไครเมีย
    ➡️อีกครั้งในเดือนกรกฎาคม มีการอ้างว่าใช้ขีปนาวุธ ATACMS สี่ลูก โจมตีระบบต่อต้านขีปนาวุธ S-300 ใกล้กับเมือง Mariupol
    ➡️ในช่วงต้นเดือนตุลาคม มีการอ้างว่าใช้ขีปนาวุธ ATACMS โจมตีสถานีเรดาร์ "Nebo-M" ของรัสเซีย
    ➡️ขอเน้นย้ำว่า การใช้ขีปนาวุธ ATACMS ในการโจมตีบางกรณียังไม่ได้รับการยืนยัน และบางกรณีอาจเป็นรุ่นเก่าที่จัดหาในปี 2023 นอกจากนี้ ยูเครนยังมีแนวโน้มที่จะยิง ATACMS ในระยะที่เป้าหมายห่างไปเพียง 20 กิโลเมตร (12 ไมล์) จากแนวหน้าเพื่อให้ปลอดภัยจากการโจมตีของรัสเซียด้วย
    ➡️จนถึงปัจจุบัน การโจมตีครั้งเดียวที่ทราบโดยใช้ ATACMS ที่มีพิสัยไกลกว่าคือการโจมตีเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่สนามบิน Dzhankoi ในไครเมีย แม้ว่าในทางเทคนิคแล้วอยู่ในระยะการโจมตีของ ATACMS รุ่นเก่า แต่หากต้องการหวังผลอย่างมีประสิทธิภาพ อาจต้องใช้รุ่นใหม่ที่มีพิสัยไกลกว่า
    ยูเครนมีขีปนาวุธ ATACMS เหลืออยู่เท่าไหร่ หลังจากใช้ไปแล้ว 6 ลูกเมื่อวานนี้ เคียฟและวอชิงตันไม่เคยยืนยันจำนวนขีปนาวุธ ATACMS อย่างเป็นทางการ มีการส่งมอบที่ทราบเพียง 2 ครั้งเท่านั้น ครั้งหนึ่งในช่วงปลายปี 2023 แต่เป็นรุ่นเก่าระยะสูงสุดเพียง 160 กม. หรือ 100 ไมล์ และอีกครั้งซึ่งส่งมอบอย่างลับๆในเดือนมีนาคมปี 2024 นี้(แต่ข่าวเพิ่งมาเปิดเผยทีหลัง) ซึ่งเป็นรุ่นใหม่กว่ามีพิสัยสูงสุด 300 กม. หรือ 190 ไมล์ นอกจากนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่ายูเครนได้ใช้ไปแล้วกี่ครั้ง ตามข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการ ขณะนี้ยูเครนเหลือขีปนาวุธ ATACMS ไม่เกิน 50 ลูกเท่านั้น และไม่ยืนยันว่าที่เหลืออยู่เป็นรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่!! - ยูเครนได้รับขีปนาวุธ ATACMS เท่าไหร่: ตามรายงานของสื่อ แพ็คเกจความช่วยเหลือช่วงต้นปีของสหรัฐ คือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ มูลค่า 300 ล้านดอลลาร์ เมื่อพิจารณาราคาของขีปนาวุธ ATACMS จะอยู่ที่ 1 ล้านดอลลาร์ต่อหนึ่งลูก อ้างอิงตามสัญญาที่ทำขึ้นระหว่างสหรัฐอเมริกากับ Lockheed Martin จึงมีการคาดเดาว่ายูเครนได้รับขีปนาวุธ ATACMS รุ่นใหม่เพียง 2-3 โหล( 24-36 ลูก) เนื่องจากความช่วยเหลือในครั้งนั้น ยังมีอย่างอื่นซึ่งประกอบไปด้วยขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน Stinger จรวดสำหรับ HIMARS ตลอดจนกระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 มม. และ 105 มม. และรายงานยังระบุว่ารวมถึงระบบต่อต้านรถถัง 84 ระบบ อาวุธขนาดเล็ก และชิ้นส่วนอะไหล่สำหรับอุปกรณ์และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ - ยูเครนใช้ขีปนาวุธ ATACMS ไปแล้วกี่ลูก: หลังจากได้รับ ATACMS รุ่นระยะ 300 กม. ในเดือนมีนาคม 2024 นี่เป็นบันทึกที่ "ยังไม่ได้รับการยืนยัน" อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการโจมตีที่เก็บรวบรวมไว้ ➡️เดือนเมษายน มีการอ้างว่าใช้ขีปนาวุธ ATACMS โจมตีในไครเมีย ➡️เดือนพฤษภาคม มีการอ้างว่าใช้ขีปนาวุธ ATACMS โจมตีฐานทัพอากาศเบลเบกในไครเมีย ➡️ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม มีการอ้างว่าใช้ขีปนาวุธ ATACMS โจมตีใกล้กับเมืองลูฮันสค์ ➡️ช่วงปลายเดือนมิถุนายน มีการอ้างว่าใช้ขีปนาวุธ ATACMS เพื่อโจมตีระบบต่อต้านขีปนาวุธ S-500 ของรัสเซีย ➡️เดือนกรกฎาคม มีการอ้างว่าใช้ขีปนาวุธ ATACMS โจมตีฐานทัพอากาศ Saki ในไครเมีย ➡️อีกครั้งในเดือนกรกฎาคม มีการอ้างว่าใช้ขีปนาวุธ ATACMS สี่ลูก โจมตีระบบต่อต้านขีปนาวุธ S-300 ใกล้กับเมือง Mariupol ➡️ในช่วงต้นเดือนตุลาคม มีการอ้างว่าใช้ขีปนาวุธ ATACMS โจมตีสถานีเรดาร์ "Nebo-M" ของรัสเซีย ➡️ขอเน้นย้ำว่า การใช้ขีปนาวุธ ATACMS ในการโจมตีบางกรณียังไม่ได้รับการยืนยัน และบางกรณีอาจเป็นรุ่นเก่าที่จัดหาในปี 2023 นอกจากนี้ ยูเครนยังมีแนวโน้มที่จะยิง ATACMS ในระยะที่เป้าหมายห่างไปเพียง 20 กิโลเมตร (12 ไมล์) จากแนวหน้าเพื่อให้ปลอดภัยจากการโจมตีของรัสเซียด้วย ➡️จนถึงปัจจุบัน การโจมตีครั้งเดียวที่ทราบโดยใช้ ATACMS ที่มีพิสัยไกลกว่าคือการโจมตีเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่สนามบิน Dzhankoi ในไครเมีย แม้ว่าในทางเทคนิคแล้วอยู่ในระยะการโจมตีของ ATACMS รุ่นเก่า แต่หากต้องการหวังผลอย่างมีประสิทธิภาพ อาจต้องใช้รุ่นใหม่ที่มีพิสัยไกลกว่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานทูตสหรัฐฯในกรุงเคียฟปิดทำการทันทีในวันนี้ หลังได้รับข้อมูลข่าวกรองเกี่ยวกับการเตือนการโจมตีทางอากาศที่ใกล้จะเกิดขึ้น

    บางส่วนในคำประกาศ สถานทูตสหรัฐได้รับข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงในการโจมตีทางอากาศที่อาจเกิดขึ้นในวันที่ 20 พฤศจิกายน เพื่อความปลอดภัย วันนี้สถานทูตจะปิดทำการ และขอให้เจ้าหน้าที่หลบอยู่ในสถานที่ปลอดภัย และสำหรับพลเมืองสหรัฐ ขอให้เตรียมพร้อหลบภัยทันที หากมีการแจ้งเตือนภัยทางอากาศ

    การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สหรัฐฯเตรียมแพ็คเกจความช่วยเหลืออาวุธรอบใหม่แก่ยูเครนมูลค่า 275 ล้านดอลลาร์ ขณะที่รัสเซียอนุมัติเงื่อนไขหลักการใช้นิวเคลียร์ให้กว้างขึ้น และยูเครนโจมตีดินแดนรัสเซียด้วยขีปนาวุธ ATACMS
    สถานทูตสหรัฐฯในกรุงเคียฟปิดทำการทันทีในวันนี้ หลังได้รับข้อมูลข่าวกรองเกี่ยวกับการเตือนการโจมตีทางอากาศที่ใกล้จะเกิดขึ้น บางส่วนในคำประกาศ สถานทูตสหรัฐได้รับข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงในการโจมตีทางอากาศที่อาจเกิดขึ้นในวันที่ 20 พฤศจิกายน เพื่อความปลอดภัย วันนี้สถานทูตจะปิดทำการ และขอให้เจ้าหน้าที่หลบอยู่ในสถานที่ปลอดภัย และสำหรับพลเมืองสหรัฐ ขอให้เตรียมพร้อหลบภัยทันที หากมีการแจ้งเตือนภัยทางอากาศ การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สหรัฐฯเตรียมแพ็คเกจความช่วยเหลืออาวุธรอบใหม่แก่ยูเครนมูลค่า 275 ล้านดอลลาร์ ขณะที่รัสเซียอนุมัติเงื่อนไขหลักการใช้นิวเคลียร์ให้กว้างขึ้น และยูเครนโจมตีดินแดนรัสเซียด้วยขีปนาวุธ ATACMS
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปูตินลงนาม ประกาศหลักการใช้อาวุธนิวเคลียร์ฉบับแก้ไขปรับปรุงใหม่ ซึ่งขยายเงื่อนไขที่รัสเซียจะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ให้กว้างขวางกว่าเดิม โดยครอบคลุมกรณีแดนหมีขาวถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธซึ่งมีมหาอำนาจนิวเคลียร์ให้การสนับสนุนด้วย ถือว่าเป็นการตอบโต้โดยตรงต่อการที่อเมริกาอนุญาตเคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยทำการไกลๆ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ขณะเดียวกัน เซเลนสกี้ประกาศในวันเดียวกัน ซึ่งเป็นวันครบรอบมอสโกเปิดฉากรุกรานครบ 1,000 วัน โวลั่นยูเครนจะไม่ยอมจำนน
    .
    ยูเครนเริ่มต้นวันอังคาร (19 ) วันครบรอบ 1,000 วันที่ถูกรัสเซียรุกรานด้วยข่าวการโจมตีของมอสโกในเมืองซูมี ทางตะวันออกของประเทศ เมื่อคืนวันจันทร์ (18 พ.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน รวมถึงเด็ก
    .
    เคียฟระบุว่า ตลอดคืนวันจันทร์ รัสเซียได้ส่งโดรน 87 ลำโจมตีทั่วยูเครน แต่ถูกยิงตก 51 ลำ นอกจากนั้นในวันจันทร์รัสเซียยังยิงขีปนาวุธโจมตีโอเดสซา เมืองท่าสำคัญทางภาคใต้ของประเทศ ซึ่งได้รับการประกาศรับรองจากยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน และบาดเจ็บ 55 คน
    .
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ เผยแพร่ภาพเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากซากอาคารที่พักอาศัยในเมืองซูมี ที่ถูกโจมตี และเรียกร้องพันธมิตรบีบให้เครมลินทำข้อตกลงสันติภาพ
    .
    กระทรวงการต่างประเทศยูเครนแถลงในทิศทางเดียวกันด้วยการเรียกร้องบรรดาพันธมิตรเร่งให้การสนับสนุนทางทหารเพื่อยุติสงครามนี้ลงไปอย่าง “ยั่งยืน” และย้ำว่า เคียฟจะไม่ยอมจำนนต่อผู้รุกราน แต่กองทัพรัสเซียต้องถูกลงโทษที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
    .
    ทว่า ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียงเครมลิน ประกาศกร้าวเหมือนกันว่า ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียต่อเคียฟจะต้องดำเนินต่อไปจนเสร็จสมบูรณ์
    .
    ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ลงนามประกาศใช้กฤษฎีกาซึ่งเป็นการขยายขอบเขตเงื่อนไขที่มอสโกจะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดยนอกจากในกรณีถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ตามที่กล่าวไว้ในหลักนิยมนิวเคลียร์ฉบับเดิมแล้ว ต่อจากนี้ไปรัสเซียจะสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ด้วย ในกรณีถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธตามแบบแผน โดรน หรือเครื่องบินอื่นๆ ของประเทศที่ไม่ได้ครอบครองนิวเคลียร์แต่ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจนิวเคลียร์
    .
    นอกจากนั้นการรุกรานรัสเซียโดยประเทศที่เป็นสมาชิกแนวร่วมหรือกลุ่มพันธมิตรแห่งใดแห่งหนึ่ง จะถือว่า แนวร่วมหรือกลุ่มพันะมิตรแห่งนั้นมีส่วนร่วมในการรุกรานด้วย
    .
    เครมลินระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้มีความจำเป็นเพื่อทำให้หลักนิยมนิวเคลียร์ของรัสเซียสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
    .
    ความเคลื่อนไหวนี้ มอสโกมุ่งที่จะเตือนตะวันตกและยูเครนอย่างชัดเจน หลังจากมีรายงานว่าคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้อนุญาตให้เคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยทำการไกลๆ ที่อเมริกาจัดหาให้เข้าโจมตีเป้าหมายทางทหารภายในรัสเซีย
    .
    ขณะเดียวกัน เมื่อวันอังคาร โจเซฟ บอร์เรลล์ ประธานด้านนโยบายการต่างประเทศของสหภาพยุโรป ที่กำลังจะหมดวาระดำรงตำแหน่ง ได้ออกมาเรียกร้องให้ชาติสมาชิกอียูปรับแนวทางให้สอดคล้องกับวอชิงตันในการอนุญาตให้เคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลๆที่ยุโรปจัดส่งให้ ในการโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
    .
    เปสคอฟวิจารณ์ว่า คณะบริหารของไบเดนที่กำลังจะหมดวาระต้องการยั่วยุให้ความขัดแย้งในยูเครนบานปลายขยายตัวออกไป และกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังออกแถลงการณ์ย้ำว่า การที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยทำการไกลๆ โจมตีดินแดนรัสเซีย จะถือว่าอเมริกาและรัฐบริวารเป็นปฏิปักษ์ต่อรัสเซีย
    .
    เกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบ มีรายงานว่ากองทหารยูเครนในทุกแนวรบขณะนี้อยู่ในสภาพที่ไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองที่ถูกโจมตีอย่างหนักอย่าง คูเปียนสก์ และโปครอฟสก์ ซึ่งต่างอยู่ในแคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครนทั้งคู่ นอกจากนั้น กองกำลังยูเครนยังประสบความเพลี่ยงพล้ำในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย ที่พวกเขายกำลังบุกเข้าไปเมื่อหลายเดือนก่อน โดยที่มีรายงานระบุด้วยว่า มอสโกกำลังระดมทหารราว 50,000 นายเพื่อขับไล่ทหารยูเครนออกจากแคว้นดังกล่าว
    .
    ในวันอังคาร ยูเครนกล่าวหากองกำลังรัสเซียใช้สารเคมีต้องห้าม และเรียกร้องพันธมิตรตอบสนองต่อรายงานขององค์การห้ามอาวุธเคมี (โอพีซีดับเบิลยู) ที่ระบุว่า พบแก๊สควบคุมจลาจลที่ถูกแบนในตัวอย่างดินบริเวณแนวรบในยูเครน
    .
    กระทรวงการต่างประเทศยูเครนแถลงว่า การที่รัสเซียใช้สารเคมีต้องห้ามในสนามรบตอกย้ำว่า รัสเซียเพิกเฉยต่อกฎหมายระหว่างประเทศ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111416
    ..............
    Sondhi X
    ปูตินลงนาม ประกาศหลักการใช้อาวุธนิวเคลียร์ฉบับแก้ไขปรับปรุงใหม่ ซึ่งขยายเงื่อนไขที่รัสเซียจะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ให้กว้างขวางกว่าเดิม โดยครอบคลุมกรณีแดนหมีขาวถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธซึ่งมีมหาอำนาจนิวเคลียร์ให้การสนับสนุนด้วย ถือว่าเป็นการตอบโต้โดยตรงต่อการที่อเมริกาอนุญาตเคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยทำการไกลๆ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ขณะเดียวกัน เซเลนสกี้ประกาศในวันเดียวกัน ซึ่งเป็นวันครบรอบมอสโกเปิดฉากรุกรานครบ 1,000 วัน โวลั่นยูเครนจะไม่ยอมจำนน . ยูเครนเริ่มต้นวันอังคาร (19 ) วันครบรอบ 1,000 วันที่ถูกรัสเซียรุกรานด้วยข่าวการโจมตีของมอสโกในเมืองซูมี ทางตะวันออกของประเทศ เมื่อคืนวันจันทร์ (18 พ.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน รวมถึงเด็ก . เคียฟระบุว่า ตลอดคืนวันจันทร์ รัสเซียได้ส่งโดรน 87 ลำโจมตีทั่วยูเครน แต่ถูกยิงตก 51 ลำ นอกจากนั้นในวันจันทร์รัสเซียยังยิงขีปนาวุธโจมตีโอเดสซา เมืองท่าสำคัญทางภาคใต้ของประเทศ ซึ่งได้รับการประกาศรับรองจากยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน และบาดเจ็บ 55 คน . ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ เผยแพร่ภาพเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากซากอาคารที่พักอาศัยในเมืองซูมี ที่ถูกโจมตี และเรียกร้องพันธมิตรบีบให้เครมลินทำข้อตกลงสันติภาพ . กระทรวงการต่างประเทศยูเครนแถลงในทิศทางเดียวกันด้วยการเรียกร้องบรรดาพันธมิตรเร่งให้การสนับสนุนทางทหารเพื่อยุติสงครามนี้ลงไปอย่าง “ยั่งยืน” และย้ำว่า เคียฟจะไม่ยอมจำนนต่อผู้รุกราน แต่กองทัพรัสเซียต้องถูกลงโทษที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ . ทว่า ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียงเครมลิน ประกาศกร้าวเหมือนกันว่า ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียต่อเคียฟจะต้องดำเนินต่อไปจนเสร็จสมบูรณ์ . ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ลงนามประกาศใช้กฤษฎีกาซึ่งเป็นการขยายขอบเขตเงื่อนไขที่มอสโกจะพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดยนอกจากในกรณีถูกโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ตามที่กล่าวไว้ในหลักนิยมนิวเคลียร์ฉบับเดิมแล้ว ต่อจากนี้ไปรัสเซียจะสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ด้วย ในกรณีถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธตามแบบแผน โดรน หรือเครื่องบินอื่นๆ ของประเทศที่ไม่ได้ครอบครองนิวเคลียร์แต่ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจนิวเคลียร์ . นอกจากนั้นการรุกรานรัสเซียโดยประเทศที่เป็นสมาชิกแนวร่วมหรือกลุ่มพันธมิตรแห่งใดแห่งหนึ่ง จะถือว่า แนวร่วมหรือกลุ่มพันะมิตรแห่งนั้นมีส่วนร่วมในการรุกรานด้วย . เครมลินระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้มีความจำเป็นเพื่อทำให้หลักนิยมนิวเคลียร์ของรัสเซียสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน . ความเคลื่อนไหวนี้ มอสโกมุ่งที่จะเตือนตะวันตกและยูเครนอย่างชัดเจน หลังจากมีรายงานว่าคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้อนุญาตให้เคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยทำการไกลๆ ที่อเมริกาจัดหาให้เข้าโจมตีเป้าหมายทางทหารภายในรัสเซีย . ขณะเดียวกัน เมื่อวันอังคาร โจเซฟ บอร์เรลล์ ประธานด้านนโยบายการต่างประเทศของสหภาพยุโรป ที่กำลังจะหมดวาระดำรงตำแหน่ง ได้ออกมาเรียกร้องให้ชาติสมาชิกอียูปรับแนวทางให้สอดคล้องกับวอชิงตันในการอนุญาตให้เคียฟใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลๆที่ยุโรปจัดส่งให้ ในการโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย . เปสคอฟวิจารณ์ว่า คณะบริหารของไบเดนที่กำลังจะหมดวาระต้องการยั่วยุให้ความขัดแย้งในยูเครนบานปลายขยายตัวออกไป และกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังออกแถลงการณ์ย้ำว่า การที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยทำการไกลๆ โจมตีดินแดนรัสเซีย จะถือว่าอเมริกาและรัฐบริวารเป็นปฏิปักษ์ต่อรัสเซีย . เกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบ มีรายงานว่ากองทหารยูเครนในทุกแนวรบขณะนี้อยู่ในสภาพที่ไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองที่ถูกโจมตีอย่างหนักอย่าง คูเปียนสก์ และโปครอฟสก์ ซึ่งต่างอยู่ในแคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครนทั้งคู่ นอกจากนั้น กองกำลังยูเครนยังประสบความเพลี่ยงพล้ำในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย ที่พวกเขายกำลังบุกเข้าไปเมื่อหลายเดือนก่อน โดยที่มีรายงานระบุด้วยว่า มอสโกกำลังระดมทหารราว 50,000 นายเพื่อขับไล่ทหารยูเครนออกจากแคว้นดังกล่าว . ในวันอังคาร ยูเครนกล่าวหากองกำลังรัสเซียใช้สารเคมีต้องห้าม และเรียกร้องพันธมิตรตอบสนองต่อรายงานขององค์การห้ามอาวุธเคมี (โอพีซีดับเบิลยู) ที่ระบุว่า พบแก๊สควบคุมจลาจลที่ถูกแบนในตัวอย่างดินบริเวณแนวรบในยูเครน . กระทรวงการต่างประเทศยูเครนแถลงว่า การที่รัสเซียใช้สารเคมีต้องห้ามในสนามรบตอกย้ำว่า รัสเซียเพิกเฉยต่อกฎหมายระหว่างประเทศ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111416 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1142 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซียใช้เวลานานขึ้นเนื่องจากเริ่มโจมตีระบอบเคียฟ แต่ตอนนี้ยังคงดำเนินต่อไปโดยขัดแย้งกับการมีส่วนร่วมของนาโต้, ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน กล่าว:
    .
    Russia’s special military operation is taking longer because it was launched against the Kiev regime but now continues as a conflict with NATO’s participation, Kremlin Spokesman Dmitry Peskov said:
    https://tass.com/politics/1874661
    .
    9:26 PM · Nov 19, 2024 · 4,729 Views
    https://x.com/tassagency_en/status/1858879544695902646
    ปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซียใช้เวลานานขึ้นเนื่องจากเริ่มโจมตีระบอบเคียฟ แต่ตอนนี้ยังคงดำเนินต่อไปโดยขัดแย้งกับการมีส่วนร่วมของนาโต้, ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน กล่าว: . Russia’s special military operation is taking longer because it was launched against the Kiev regime but now continues as a conflict with NATO’s participation, Kremlin Spokesman Dmitry Peskov said: https://tass.com/politics/1874661 . 9:26 PM · Nov 19, 2024 · 4,729 Views https://x.com/tassagency_en/status/1858879544695902646
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฝรั่งเศสยังคงเปิดกว้างให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธของฝรั่งเศสโจมตีเป้าหมายในรัสเซีย

    ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ปารีสยังคงเปิดกว้างให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของฝรั่งเศสโจมตีฐานทัพในรัสเซีย หลังจากมีรายงานว่าสหรัฐอนุญาตให้เคียฟใช้ขีปนาวุธที่สหรัฐฯ จัดหาให้เพื่อจุดประสงค์เดียวกัน

    บาร์โรต์ เน้นย้ำว่าประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ได้เคยเสนอเรื่องนี้ไปแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึงความต้องการของปารีสต่อกรณีดังกล่าว

    "เรากล่าวอย่างเปิดเผยว่านี่เป็นทางเลือกที่เราจะพิจารณาหากจะอนุญาตให้โจมตีเป้าหมายจากที่รัสเซียกำลังรุกรานดินแดนยูเครนอยู่ในขณะนี้" บาร์โรต์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงบรัสเซลส์

    ทางด้านประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง กล่าวระหว่างการประชุม G20 ที่บราซิล ว่ามีความยินดีต่อการอนุมัติของไบเดนให้เคียฟใช้ขีปนาวุธ ATACMS ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ โจมตีในดินแดนของรัสเซีย

    ประธานาธิบดีมาครงกล่าวสนับสนุนว่า การตัดสินใจของวอชิงตันเกิดจากการตัดสินใจยกระดับของรัสเซียในการเรียกทหารเกาหลีเหนือเข้ามาร่วมต่อสู้
    ฝรั่งเศสยังคงเปิดกว้างให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธของฝรั่งเศสโจมตีเป้าหมายในรัสเซีย ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ปารีสยังคงเปิดกว้างให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของฝรั่งเศสโจมตีฐานทัพในรัสเซีย หลังจากมีรายงานว่าสหรัฐอนุญาตให้เคียฟใช้ขีปนาวุธที่สหรัฐฯ จัดหาให้เพื่อจุดประสงค์เดียวกัน บาร์โรต์ เน้นย้ำว่าประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ได้เคยเสนอเรื่องนี้ไปแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึงความต้องการของปารีสต่อกรณีดังกล่าว "เรากล่าวอย่างเปิดเผยว่านี่เป็นทางเลือกที่เราจะพิจารณาหากจะอนุญาตให้โจมตีเป้าหมายจากที่รัสเซียกำลังรุกรานดินแดนยูเครนอยู่ในขณะนี้" บาร์โรต์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงบรัสเซลส์ ทางด้านประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง กล่าวระหว่างการประชุม G20 ที่บราซิล ว่ามีความยินดีต่อการอนุมัติของไบเดนให้เคียฟใช้ขีปนาวุธ ATACMS ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ โจมตีในดินแดนของรัสเซีย ประธานาธิบดีมาครงกล่าวสนับสนุนว่า การตัดสินใจของวอชิงตันเกิดจากการตัดสินใจยกระดับของรัสเซียในการเรียกทหารเกาหลีเหนือเข้ามาร่วมต่อสู้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทีมบริหารของไบเดน กดดันให้เคียฟเร่งมือระดมพลเข้าสู่แนวหน้าให้มากขึ้นกว่าเดิม

    เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่า “รัฐบาลยูเครนจำเป็นต้องดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อเสริมตำแหน่งของพวกเขาในสนามรบด้วยการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปอีก เนื่องจากจำนวนทหารมีความสำคัญมากกว่าอาวุธที่เคียฟมีอยู่ตอนนี้”

    ในความหมายของเจค ขณะนี้ยูเครนมีอาวุธมากมาย แต่ขาดกำลังพลในการใช้
    ทีมบริหารของไบเดน กดดันให้เคียฟเร่งมือระดมพลเข้าสู่แนวหน้าให้มากขึ้นกว่าเดิม เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่า “รัฐบาลยูเครนจำเป็นต้องดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อเสริมตำแหน่งของพวกเขาในสนามรบด้วยการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปอีก เนื่องจากจำนวนทหารมีความสำคัญมากกว่าอาวุธที่เคียฟมีอยู่ตอนนี้” ในความหมายของเจค ขณะนี้ยูเครนมีอาวุธมากมาย แต่ขาดกำลังพลในการใช้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • เคียฟวันนี้ ยังคงอยู่ในโหมดการใช้มาตรการฉุกเฉินด้านพลังงานไฟฟ้า
    เคียฟวันนี้ ยังคงอยู่ในโหมดการใช้มาตรการฉุกเฉินด้านพลังงานไฟฟ้า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาด่าทอ "พวกงี่เง่ากระหายสงคราม" หลังมีรายงานข่าวว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ทิ้งทวนก่อนพ้นตำแหน่ง ให้ไฟเขียวยูเครน ใช้อาวุธพิสัยไกลที่อเมริกาจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
    .
    ทรัมป์ จูเนียร์ ซึ่งหาเสียงเคียงข้างผู้เป็นพ่อ ระหว่างศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 และกำลังช่วยพ่อเลือกตัวเลือกคณะรัฐมนตรี โพสต์แสดงความคิดเห็นอย่างดุเดือดบนสื่อสังคมออนไลน์
    .
    "ดูเหมือนอุตสาหกรรมทางทหารต้องการทำให้แน่ใจว่า พวกเขากำลังจะได้สงครามโลกครั้งที่ 3 ก่อนที่พ่อของผมจะมีโอกาสสร้างสันติภาพและปกป้องชีวิต" เขาโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ในวันอาทิตย์(17พ.ย.) "ตั้งใจกันจริงกับเงินล้านล้านดอลลาร์ ชีวิตบัดซบ!! พวกงี่เง่า!"
    .
    ก่อนหน้านี้รัฐบาลไบเดน เคยกำหนดข้อจำกัดการใช้ขีปนาวุธ ATACMS โดยยูเครน อ้างความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ว่าจะถูกรัสเซียแก้แค้น อย่างไรก็ตามล่าสุดสำนักข่าวหลายแห่งรายงานตรงกันว่า ทำเนียบขาวกลับลำนโยบายดังกล่าวแล้ว แม้ทั้งทำเนียบขาวและเพนตากอน ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
    .
    รายงานเกี่ยวกับการตัดสินใจดังกล่าวถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นความพยายามสุดท้ายในการเพิ่มแสนยานุภาพแก่กองทัพยูเครน ก่อนทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม
    .
    ระหว่างการหาเสียงเลือกั้ง ทรัมป์ ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความจำเป็นที่ต้องมอบความช่วยเหลือแบบไม่มีเงื่อนไขแก่เคียฟ และประกาศคลี่คลายความขัดแย้งด้วยหนทางด้านการทูต ทั้งนี้การที่ทรัมป์ใกล้กลับสู่ทำเนียบขาวทุกขณะ ได้ก่อความกังวลแก่ทั้งพรรคเดโมแครต พวกเจ้าหน้าที่ยูเครนและอียู ที่วิตกว่ารัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯจะทอดทิ้งยูเครน
    .
    มอสโกเน้นย้ำมาตลอดว่าการที่ตะวันตกไฟเขียวยูเครนใช้อาวุธของพวกเขาโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย จะเป็นการส่งสัญญาณของการเข้ามาเกี่ยวข้องโดยตรงของนาโตในความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เตือนว่า "รัสเซียจะตัดสินใจอย่างเหมาะสมในการตอบโต้ภัยคุกคามดังกล่าว"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111070
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายคนโตของ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาด่าทอ "พวกงี่เง่ากระหายสงคราม" หลังมีรายงานข่าวว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ทิ้งทวนก่อนพ้นตำแหน่ง ให้ไฟเขียวยูเครน ใช้อาวุธพิสัยไกลที่อเมริกาจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย . ทรัมป์ จูเนียร์ ซึ่งหาเสียงเคียงข้างผู้เป็นพ่อ ระหว่างศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 และกำลังช่วยพ่อเลือกตัวเลือกคณะรัฐมนตรี โพสต์แสดงความคิดเห็นอย่างดุเดือดบนสื่อสังคมออนไลน์ . "ดูเหมือนอุตสาหกรรมทางทหารต้องการทำให้แน่ใจว่า พวกเขากำลังจะได้สงครามโลกครั้งที่ 3 ก่อนที่พ่อของผมจะมีโอกาสสร้างสันติภาพและปกป้องชีวิต" เขาโพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ในวันอาทิตย์(17พ.ย.) "ตั้งใจกันจริงกับเงินล้านล้านดอลลาร์ ชีวิตบัดซบ!! พวกงี่เง่า!" . ก่อนหน้านี้รัฐบาลไบเดน เคยกำหนดข้อจำกัดการใช้ขีปนาวุธ ATACMS โดยยูเครน อ้างความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ว่าจะถูกรัสเซียแก้แค้น อย่างไรก็ตามล่าสุดสำนักข่าวหลายแห่งรายงานตรงกันว่า ทำเนียบขาวกลับลำนโยบายดังกล่าวแล้ว แม้ทั้งทำเนียบขาวและเพนตากอน ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ . รายงานเกี่ยวกับการตัดสินใจดังกล่าวถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นความพยายามสุดท้ายในการเพิ่มแสนยานุภาพแก่กองทัพยูเครน ก่อนทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม . ระหว่างการหาเสียงเลือกั้ง ทรัมป์ ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความจำเป็นที่ต้องมอบความช่วยเหลือแบบไม่มีเงื่อนไขแก่เคียฟ และประกาศคลี่คลายความขัดแย้งด้วยหนทางด้านการทูต ทั้งนี้การที่ทรัมป์ใกล้กลับสู่ทำเนียบขาวทุกขณะ ได้ก่อความกังวลแก่ทั้งพรรคเดโมแครต พวกเจ้าหน้าที่ยูเครนและอียู ที่วิตกว่ารัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯจะทอดทิ้งยูเครน . มอสโกเน้นย้ำมาตลอดว่าการที่ตะวันตกไฟเขียวยูเครนใช้อาวุธของพวกเขาโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย จะเป็นการส่งสัญญาณของการเข้ามาเกี่ยวข้องโดยตรงของนาโตในความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เตือนว่า "รัสเซียจะตัดสินใจอย่างเหมาะสมในการตอบโต้ภัยคุกคามดังกล่าว" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000111070 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    9
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 887 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts