• ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยาจ่าอ้วน #อ่อนนุช #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #พาชิม #อร่อย #หิว #พิกัดของอร่อย #อร่อยบอกต่อ #อาหาร #food #eat #delicious #noodles #thaifood #thailand #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยาจ่าอ้วน #อ่อนนุช #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #พาชิม #อร่อย #หิว #พิกัดของอร่อย #อร่อยบอกต่อ #อาหาร #food #eat #delicious #noodles #thaifood #thailand #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 3 0 รีวิว
  • Turtle X ธนาซิตี้ คีรีสยายปีกสะดวกซื้อ

    เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา สำหรับเทอร์เทิล เอ็กซ์ (Turtle X) ร้านสะดวกซื้อแบบสแตนด์อะโลนแห่งแรก นอกสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส บนพื้นที่ 300 ตารางเมตร ภายในโครงการธนาซิตี้ บางนา-ตราด กม.14 จ.สมุทรปราการ ภายใต้การบริหารงานโดย บริษัท ซุปเปอร์ เทอร์เทิล จำกัด (มหำชน) หรือ TURTLE ผู้ให้บริการค้าปลีกในระบบขนส่งมวลชนของกลุ่มบริษัทบีทีเอส (BTS Group) ที่มีนายคีรี กาญจนพาสน์ เป็นเจ้าของ

    นับตั้งแต่ร้านสะดวกซื้อเทอร์เทิล (Turtle) เปิดสาขาแรกที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เซนต์หลุยส์ เมื่อเดือน ธ.ค. 2564 ก่อนขยายไปยังสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-อ่อนนุช และสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน 22 แห่ง กระทั่งเปิดให้บริการร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก เทอร์เทิล อี (Turtle e) บนสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง 3 แห่ง ได้แก่ สถานีลาดพร้าว สถานีบางกะปิ และสถานีสวนหลวง ร.9 เมื่อเดือน ส.ค. 2567 และเปิดร้านเทอร์เทิล เอ็กซ์ นอกสถานีที่อาคารยูนิคอร์น พญาไท

    ถึงกระนั้น ร้านเทอร์เทิล เอ็กซ์ ธนาซิตี้ ถือเป็นสาขาแรกที่เปิดแบบสแตนด์อะโลน เจาะกลุ่มลูกค้าผู้อยู่อาศัยในโครงการธนาซิตี้ เช่น คอนโดมิเนียมนูเวล 6 อาคาร กว่า 900 ยูนิต สนามกอล์ฟธนาซิตี้ คันทรี่ คลับ โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ และสถานีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ ที่มีพนักงานกว่า 200 ชีวิต จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ตั้งแต่อาหาร เครื่องดื่ม เบเกอรี่ ของใช้ส่วนตัว และของใช้ภายในบ้าน เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และเร็วๆ นี้จะมีร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญชื่อดัง อ๊อตเทริ (Otteri) เปิดให้บริการที่ด้านข้างของร้านอีกด้วย

    ร้านเทอร์เทิล ได้ร่วมกับ แรบบิท รีวอร์ดส (Rabbit Rewards) ออกโปรแกรมสมาชิกเทอร์เทิล คลับ (Turtle Club) โดยมีสิทธิประโยชน์ ได้แก่ สินค้าราคาพิเศษเฉพาะสมาชิก (Member Price) ทุกการใช้จ่าย 20 บาท รับ 1 พอยท์ สามารถสะสมพอยท์ร่วมกับการใช้บัตรแรบบิท (Rabbit Card) โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส หรือใช้จ่ายผ่านบัตรแรบบิทที่ร้านค้า เพื่อนำมาแลกส่วนลด แลกดีล และส่วนลดพิเศษที่ร้านเทอร์เทิล แลกเที่ยวเดินทางฟรี หรือแลกดีลบนแอปพลิเคชัน Rabbit Rewards เป็นต้น

    สิ่งที่ร้านเทอร์เทิลสร้างความแตกต่างจากร้านสะดวกซื้อทั่วไปคือ สินค้าในกลุ่มเครื่องดื่มชงสด เบเกอรี่ และอาหารพร้อมทาน เจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม ราคาจะสูงกว่าร้านสะดวกซื้อทั่วไปเล็กน้อย รวมทั้งยังมีสินค้าประเภทไลฟ์สไตล์วางจำหน่ายอีกด้วย น่าสนใจว่าร้านเทอร์เทิล เอ็กซ์ สแตนด์อะโลนแบบนี้จะขยายไปยังทำเลใดต่อไป โดยเฉพาะโครงการอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มนายคีรี กาญจนพาสน์

    #Newskit
    Turtle X ธนาซิตี้ คีรีสยายปีกสะดวกซื้อ เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา สำหรับเทอร์เทิล เอ็กซ์ (Turtle X) ร้านสะดวกซื้อแบบสแตนด์อะโลนแห่งแรก นอกสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส บนพื้นที่ 300 ตารางเมตร ภายในโครงการธนาซิตี้ บางนา-ตราด กม.14 จ.สมุทรปราการ ภายใต้การบริหารงานโดย บริษัท ซุปเปอร์ เทอร์เทิล จำกัด (มหำชน) หรือ TURTLE ผู้ให้บริการค้าปลีกในระบบขนส่งมวลชนของกลุ่มบริษัทบีทีเอส (BTS Group) ที่มีนายคีรี กาญจนพาสน์ เป็นเจ้าของ นับตั้งแต่ร้านสะดวกซื้อเทอร์เทิล (Turtle) เปิดสาขาแรกที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เซนต์หลุยส์ เมื่อเดือน ธ.ค. 2564 ก่อนขยายไปยังสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-อ่อนนุช และสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน 22 แห่ง กระทั่งเปิดให้บริการร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก เทอร์เทิล อี (Turtle e) บนสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง 3 แห่ง ได้แก่ สถานีลาดพร้าว สถานีบางกะปิ และสถานีสวนหลวง ร.9 เมื่อเดือน ส.ค. 2567 และเปิดร้านเทอร์เทิล เอ็กซ์ นอกสถานีที่อาคารยูนิคอร์น พญาไท ถึงกระนั้น ร้านเทอร์เทิล เอ็กซ์ ธนาซิตี้ ถือเป็นสาขาแรกที่เปิดแบบสแตนด์อะโลน เจาะกลุ่มลูกค้าผู้อยู่อาศัยในโครงการธนาซิตี้ เช่น คอนโดมิเนียมนูเวล 6 อาคาร กว่า 900 ยูนิต สนามกอล์ฟธนาซิตี้ คันทรี่ คลับ โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ และสถานีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ ที่มีพนักงานกว่า 200 ชีวิต จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ตั้งแต่อาหาร เครื่องดื่ม เบเกอรี่ ของใช้ส่วนตัว และของใช้ภายในบ้าน เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และเร็วๆ นี้จะมีร้านเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญชื่อดัง อ๊อตเทริ (Otteri) เปิดให้บริการที่ด้านข้างของร้านอีกด้วย ร้านเทอร์เทิล ได้ร่วมกับ แรบบิท รีวอร์ดส (Rabbit Rewards) ออกโปรแกรมสมาชิกเทอร์เทิล คลับ (Turtle Club) โดยมีสิทธิประโยชน์ ได้แก่ สินค้าราคาพิเศษเฉพาะสมาชิก (Member Price) ทุกการใช้จ่าย 20 บาท รับ 1 พอยท์ สามารถสะสมพอยท์ร่วมกับการใช้บัตรแรบบิท (Rabbit Card) โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส หรือใช้จ่ายผ่านบัตรแรบบิทที่ร้านค้า เพื่อนำมาแลกส่วนลด แลกดีล และส่วนลดพิเศษที่ร้านเทอร์เทิล แลกเที่ยวเดินทางฟรี หรือแลกดีลบนแอปพลิเคชัน Rabbit Rewards เป็นต้น สิ่งที่ร้านเทอร์เทิลสร้างความแตกต่างจากร้านสะดวกซื้อทั่วไปคือ สินค้าในกลุ่มเครื่องดื่มชงสด เบเกอรี่ และอาหารพร้อมทาน เจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม ราคาจะสูงกว่าร้านสะดวกซื้อทั่วไปเล็กน้อย รวมทั้งยังมีสินค้าประเภทไลฟ์สไตล์วางจำหน่ายอีกด้วย น่าสนใจว่าร้านเทอร์เทิล เอ็กซ์ สแตนด์อะโลนแบบนี้จะขยายไปยังทำเลใดต่อไป โดยเฉพาะโครงการอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มนายคีรี กาญจนพาสน์ #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 933 มุมมอง 0 รีวิว
  • 25 ปี "โคบอลต์-60" รั่วไหล สมุทรปราการผวา รังสีที่คร่าชีวิต 3 ศพ เจ็บ 7 ราย หายนะร้านรับซื้อของเก่า

    📅 วันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 เป็นวันที่สร้างความตื่นตระหนก ให้กับประเทศไทย เมื่อเกิดอุบัติเหตุรังสีรั่วไหล จากสารโคบอลต์-60 ที่สมุทรปราการ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีก 7 ราย หลายคนได้รับผลกระทบ จากรังสีแกมมาที่ร้ายแรงที่สุด ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศ

    แม้เหตุการณ์นี้จะผ่านมา 25 ปี แต่ยังเป็นบทเรียนสำคัญ เกี่ยวกับความปลอดภัยในการจัดเก็บ และกำจัดสารกัมมันตรังสี 🛑

    🔥 จุดเริ่มต้นของหายนะ สารรังสีหลุดจากการควบคุม
    เหตุการณ์เริ่มต้นจากการที่ บริษัทกมลสุโกศล อิเล็คทริค จำกัด ได้รับซื้อเครื่องฉายรังสี "โคบอลต์-60" ที่หมดอายุ จากโรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อปี 2537 โดยเก็บไว้ที่โกดังของบริษัท

    ต่อมาในปี 2542 บริษัทได้เคลื่อนย้ายเครื่องฉายรังสี ไปยังลานจอดรถร้าง ย่านซอยอ่อนนุช กรุงเทพฯ โดยไม่มีมาตรการ รักษาความปลอดภัยอย่างเพียงพอ 😱

    นี่กลายเป็นช่องโหว่สำคัญ ที่ทำให้มีคนลักลอบ นำเครื่องฉายรังสีไปขายเป็นเศษเหล็ก โดยไม่รู้ว่าภายในนั้นมี "โคบอลต์-60" ซึ่งเป็นสารกัมมันตรังสี ที่สามารถปล่อยรังสีแกมมา ในระดับอันตราย 🚨

    🚨 เส้นทางของสารกัมมันตรังสี จากซาเล้งสู่ร้านรับซื้อของเก่า
    🛒 24 มกราคม 2543 นายจิตรเสน จันทร์สาขา ซึ่งมีอาชีพเก็บของเก่า ได้รับซื้อเศษเหล็กปริศนา มาจากกลุ่มที่ลักลอบนำไปขาย

    📍 1 กุมภาพันธ์ 2543 นายจิตรเสนนำชิ้นส่วนโลหะ ไปขายให้ ร้านรับซื้อของเก่า "สมจิตร" ในซอยวัดมหาวงษ์ ตำบลสำโรง อำเภอพระประแดง สมุทรปราการ

    🔧 ขณะที่พยายามตัดแยกชิ้นส่วน ลูกจ้าง 2 คนของร้านรับซื้อของเก่า ใช้เครื่องตัดเหล็กแบบแก๊ส ผ่าออก พบแท่งโลหะ 2 ชิ้น และมีควันสีเหลือง ที่มีกลิ่นเหม็นออกมา โดยไม่รู้เลยว่านั่นคือ สารกัมมันตรังสี ที่เป็นอันตรายถึงชีวิต! ☢️

    ☢️ ผลกระทบจากรังสี โรครังสีเฉียบพลัน
    🔬 15-17 กุมภาพันธ์ 2543 ผู้ที่สัมผัสรังสีเริ่มมีอาการรุนแรง เช่น
    ✅ อ่อนเพลีย
    ✅ มือบวมพอง
    ✅ แผลไหม้พุพอง
    ✅ เม็ดเลือดขาวต่ำ
    ✅ ผมร่วง

    18 กุมภาพันธ์ 2543 เมื่อแพทย์พบว่า ผู้ป่วยทั้งหมดมีอาการคล้ายกัน จึงสันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากการได้รับรังสีรุนแรง และแจ้งไปยัง สำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ (พปส.)

    🏥 การเสียชีวิตจากรังสีแกมมา
    📅 9 มีนาคม 2543 นายนิพนธ์ พันธุ์ขันธ์ ลูกจ้างร้านรับซื้อของเก่า เสียชีวิตเป็นรายแรก จากการติดเชื้อในกระแสเลือด เนื่องจากเม็ดเลือดขาว ถูกทำลายจากรังสี

    📅 18 มีนาคม 2543 นายสุดใจ ใจเร็ว ลูกจ้างอีกคน เสียชีวิตจากภาวะเดียวกัน

    📅 24 มีนาคม 2543 สามีของนางสมจิตร เจ้าของร้านรับซื้อของเก่า เสียชีวิตเป็นรายที่ 3

    📌 แม้นายจิตรเสน จะรอดชีวิตมาได้ แต่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในไอซียู และถูกตัดนิ้วมือ ที่ได้รับรังสีสูง

    นอกจากนี้ หญิงตั้งครรภ์รายหนึ่งที่ได้รับรังสี ต้องทำแท้ง เนื่องจากความเสี่ยงที่รังสี จะส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์

    ⚖️ คดีความ
    ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ได้รวมตัวกันฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย จากรัฐและเอกชน

    📌 คดีศาลปกครอง ศาลสูงสุดพิพากษา ให้สำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ (พปส.) จ่ายค่าสินไหมทดแทน 5.2 ล้านบาท

    📌 คดีศาลแพ่ง ศาลฎีกาพิพากษาให้ บริษัทกมลสุโกศล อิเล็คทริค จำกัด จ่ายค่าเสียหาย 529,276 บาท

    แต่ท้ายที่สุด บริษัทไม่ได้รับผิดชอบต่อประชาชน ตามที่กล่าวอ้าง

    ❗ บทเรียนจากโศกนาฏกรรม
    🔹 การขาดมาตรการจัดเก็บที่ปลอดภัย ทำให้สารกัมมันตรังสี รั่วไหลออกจากการควบคุม

    🔹 การขาดความรู้ของประชาชน ทำให้มีคนสัมผัสสารรังสีโดยไม่รู้ตัว

    🔹 ความล่าช้าในการจัดการของรัฐ ทำให้เกิดผลกระทบรุนแรง

    แม้ว่าประเทศไทยจะมี สำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ เป็นหน่วยงานกำกับดูแล แต่การขาดการบังคับใช้กฎหมาย อย่างเคร่งครัด ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น

    📌 เหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้นอีก
    25 ปีผ่านไป เหตุการณ์ โคบอลต์-60 รั่วไหล ยังคงเป็นบทเรียนสำคัญ ที่แสดงให้เห็นว่า ความประมาท และการละเลยมาตรฐานความปลอดภัย ด้านกัมมันตรังสี อาจนำไปสู่หายนะร้ายแรง

    📢 มาตรการป้องกันที่ควรมี
    ✅ การจัดเก็บสารกัมมันตรังสี ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
    ✅ การตรวจสอบของหน่วยงานรัฐ ที่เคร่งครัด
    ✅ การให้ความรู้เกี่ยวกับ อันตรายของสารรังสีแก่ประชาชน
    ✅ การจัดการกากกัมมันตรังสีที่ถูกต้อง

    หากไม่มีการปฏิบัติตามมาตรการเหล่านี้ อุบัติเหตุจากรังสี อาจเกิดขึ้นซ้ำได้ทุกเมื่อ ☢️

    📢 คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
    1. โคบอลต์-60 คืออะไร?
    โคบอลต์-60 เป็นสารกัมมันตรังสี ที่ใช้ในทางการแพทย์ และอุตสาหกรรม แต่สามารถปล่อยรังสีแกมมา ที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์

    2. รังสีแกมมา ทำอันตรายต่อร่างกายอย่างไร?
    รังสีแกมมา สามารถทำลายเซลล์ในร่างกาย ส่งผลให้เกิดมะเร็ง ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ ผิวหนังไหม้ และอวัยวะล้มเหลว

    3. เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบ ต่อกฎหมายไทยอย่างไร?
    เหตุการณ์นี้ นำไปสู่การปรับปรุง มาตรการควบคุมสารกัมมันตรังสี ให้เข้มงวดมากขึ้น แต่ยังมีข้อบกพร่อง ในการบังคับใช้

    4. ประเทศไทยมีมาตรการป้องกัน อุบัติเหตุรังสีหรือไม่?
    มีสำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ (พปส.) กำกับดูแล แต่การบังคับใช้กฎหมาย ยังขาดความเข้มงวด

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 181220 ก.พ. 2568

    #️⃣ #โคบอลต์60 #สมุทรปราการ #รังสีรั่วไหล #ภัยรังสี #ความปลอดภัย #พลังงานปรมาณู #อันตรายจากรังสี #รังสีแกมมา #ข่าวดัง #บทเรียนจากอดีต 🚨
    25 ปี "โคบอลต์-60" รั่วไหล สมุทรปราการผวา รังสีที่คร่าชีวิต 3 ศพ เจ็บ 7 ราย หายนะร้านรับซื้อของเก่า 📅 วันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 เป็นวันที่สร้างความตื่นตระหนก ให้กับประเทศไทย เมื่อเกิดอุบัติเหตุรังสีรั่วไหล จากสารโคบอลต์-60 ที่สมุทรปราการ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีก 7 ราย หลายคนได้รับผลกระทบ จากรังสีแกมมาที่ร้ายแรงที่สุด ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศ แม้เหตุการณ์นี้จะผ่านมา 25 ปี แต่ยังเป็นบทเรียนสำคัญ เกี่ยวกับความปลอดภัยในการจัดเก็บ และกำจัดสารกัมมันตรังสี 🛑 🔥 จุดเริ่มต้นของหายนะ สารรังสีหลุดจากการควบคุม เหตุการณ์เริ่มต้นจากการที่ บริษัทกมลสุโกศล อิเล็คทริค จำกัด ได้รับซื้อเครื่องฉายรังสี "โคบอลต์-60" ที่หมดอายุ จากโรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อปี 2537 โดยเก็บไว้ที่โกดังของบริษัท ต่อมาในปี 2542 บริษัทได้เคลื่อนย้ายเครื่องฉายรังสี ไปยังลานจอดรถร้าง ย่านซอยอ่อนนุช กรุงเทพฯ โดยไม่มีมาตรการ รักษาความปลอดภัยอย่างเพียงพอ 😱 นี่กลายเป็นช่องโหว่สำคัญ ที่ทำให้มีคนลักลอบ นำเครื่องฉายรังสีไปขายเป็นเศษเหล็ก โดยไม่รู้ว่าภายในนั้นมี "โคบอลต์-60" ซึ่งเป็นสารกัมมันตรังสี ที่สามารถปล่อยรังสีแกมมา ในระดับอันตราย 🚨 🚨 เส้นทางของสารกัมมันตรังสี จากซาเล้งสู่ร้านรับซื้อของเก่า 🛒 24 มกราคม 2543 นายจิตรเสน จันทร์สาขา ซึ่งมีอาชีพเก็บของเก่า ได้รับซื้อเศษเหล็กปริศนา มาจากกลุ่มที่ลักลอบนำไปขาย 📍 1 กุมภาพันธ์ 2543 นายจิตรเสนนำชิ้นส่วนโลหะ ไปขายให้ ร้านรับซื้อของเก่า "สมจิตร" ในซอยวัดมหาวงษ์ ตำบลสำโรง อำเภอพระประแดง สมุทรปราการ 🔧 ขณะที่พยายามตัดแยกชิ้นส่วน ลูกจ้าง 2 คนของร้านรับซื้อของเก่า ใช้เครื่องตัดเหล็กแบบแก๊ส ผ่าออก พบแท่งโลหะ 2 ชิ้น และมีควันสีเหลือง ที่มีกลิ่นเหม็นออกมา โดยไม่รู้เลยว่านั่นคือ สารกัมมันตรังสี ที่เป็นอันตรายถึงชีวิต! ☢️ ☢️ ผลกระทบจากรังสี โรครังสีเฉียบพลัน 🔬 15-17 กุมภาพันธ์ 2543 ผู้ที่สัมผัสรังสีเริ่มมีอาการรุนแรง เช่น ✅ อ่อนเพลีย ✅ มือบวมพอง ✅ แผลไหม้พุพอง ✅ เม็ดเลือดขาวต่ำ ✅ ผมร่วง 18 กุมภาพันธ์ 2543 เมื่อแพทย์พบว่า ผู้ป่วยทั้งหมดมีอาการคล้ายกัน จึงสันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากการได้รับรังสีรุนแรง และแจ้งไปยัง สำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ (พปส.) 🏥 การเสียชีวิตจากรังสีแกมมา 📅 9 มีนาคม 2543 นายนิพนธ์ พันธุ์ขันธ์ ลูกจ้างร้านรับซื้อของเก่า เสียชีวิตเป็นรายแรก จากการติดเชื้อในกระแสเลือด เนื่องจากเม็ดเลือดขาว ถูกทำลายจากรังสี 📅 18 มีนาคม 2543 นายสุดใจ ใจเร็ว ลูกจ้างอีกคน เสียชีวิตจากภาวะเดียวกัน 📅 24 มีนาคม 2543 สามีของนางสมจิตร เจ้าของร้านรับซื้อของเก่า เสียชีวิตเป็นรายที่ 3 📌 แม้นายจิตรเสน จะรอดชีวิตมาได้ แต่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในไอซียู และถูกตัดนิ้วมือ ที่ได้รับรังสีสูง นอกจากนี้ หญิงตั้งครรภ์รายหนึ่งที่ได้รับรังสี ต้องทำแท้ง เนื่องจากความเสี่ยงที่รังสี จะส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ ⚖️ คดีความ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ได้รวมตัวกันฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย จากรัฐและเอกชน 📌 คดีศาลปกครอง ศาลสูงสุดพิพากษา ให้สำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ (พปส.) จ่ายค่าสินไหมทดแทน 5.2 ล้านบาท 📌 คดีศาลแพ่ง ศาลฎีกาพิพากษาให้ บริษัทกมลสุโกศล อิเล็คทริค จำกัด จ่ายค่าเสียหาย 529,276 บาท แต่ท้ายที่สุด บริษัทไม่ได้รับผิดชอบต่อประชาชน ตามที่กล่าวอ้าง ❗ บทเรียนจากโศกนาฏกรรม 🔹 การขาดมาตรการจัดเก็บที่ปลอดภัย ทำให้สารกัมมันตรังสี รั่วไหลออกจากการควบคุม 🔹 การขาดความรู้ของประชาชน ทำให้มีคนสัมผัสสารรังสีโดยไม่รู้ตัว 🔹 ความล่าช้าในการจัดการของรัฐ ทำให้เกิดผลกระทบรุนแรง แม้ว่าประเทศไทยจะมี สำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ เป็นหน่วยงานกำกับดูแล แต่การขาดการบังคับใช้กฎหมาย อย่างเคร่งครัด ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น 📌 เหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้นอีก 25 ปีผ่านไป เหตุการณ์ โคบอลต์-60 รั่วไหล ยังคงเป็นบทเรียนสำคัญ ที่แสดงให้เห็นว่า ความประมาท และการละเลยมาตรฐานความปลอดภัย ด้านกัมมันตรังสี อาจนำไปสู่หายนะร้ายแรง 📢 มาตรการป้องกันที่ควรมี ✅ การจัดเก็บสารกัมมันตรังสี ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ✅ การตรวจสอบของหน่วยงานรัฐ ที่เคร่งครัด ✅ การให้ความรู้เกี่ยวกับ อันตรายของสารรังสีแก่ประชาชน ✅ การจัดการกากกัมมันตรังสีที่ถูกต้อง หากไม่มีการปฏิบัติตามมาตรการเหล่านี้ อุบัติเหตุจากรังสี อาจเกิดขึ้นซ้ำได้ทุกเมื่อ ☢️ 📢 คำถามที่พบบ่อย (FAQs) 1. โคบอลต์-60 คืออะไร? โคบอลต์-60 เป็นสารกัมมันตรังสี ที่ใช้ในทางการแพทย์ และอุตสาหกรรม แต่สามารถปล่อยรังสีแกมมา ที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ 2. รังสีแกมมา ทำอันตรายต่อร่างกายอย่างไร? รังสีแกมมา สามารถทำลายเซลล์ในร่างกาย ส่งผลให้เกิดมะเร็ง ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ ผิวหนังไหม้ และอวัยวะล้มเหลว 3. เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบ ต่อกฎหมายไทยอย่างไร? เหตุการณ์นี้ นำไปสู่การปรับปรุง มาตรการควบคุมสารกัมมันตรังสี ให้เข้มงวดมากขึ้น แต่ยังมีข้อบกพร่อง ในการบังคับใช้ 4. ประเทศไทยมีมาตรการป้องกัน อุบัติเหตุรังสีหรือไม่? มีสำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ (พปส.) กำกับดูแล แต่การบังคับใช้กฎหมาย ยังขาดความเข้มงวด ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 181220 ก.พ. 2568 #️⃣ #โคบอลต์60 #สมุทรปราการ #รังสีรั่วไหล #ภัยรังสี #ความปลอดภัย #พลังงานปรมาณู #อันตรายจากรังสี #รังสีแกมมา #ข่าวดัง #บทเรียนจากอดีต 🚨
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1217 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สั่งยุติเรื่องสอบสวนวินัยร้ายแรงข้าราชการบางคน ปมทุจริตจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย 7 โครงการ ระบุไม่มีหลักฐานบ่งชี้ อดีต ผอ.สำนักวัฒนธรรมฯ ทำผิดขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง แต่ยังต้องสอบสวนต่อ 11 คน
    .
    วันนี้ (27 ม.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีคำสั่งยุติเรื่อง กรณีการดำเนินการของคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงของข้าราชการกรุงเทพมหานคร ในการดำเนินโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกายสำหรับศูนย์นันทนาการฯ และศูนย์กีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว (สวท.) จำนวน 7 โครงการ ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีราคาสูงเกินจากราคาตลาด ตามคำสั่ง กทม. ที่ 2364/2567 ลงวันที่ 1 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา
    .
    เนื่องจากในชั้นสอบสวนไม่ปรากฎพยานหลักฐานใดบ่งชี้ว่า นายสมบูรณ์ หอมนาน อดีตผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว (ปัจจุบันย้ายไปเป็นหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสิ่งแวดล้อม) และข้าราชการรวม 19 ราย ได้กระทำการหรือสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชา กระทำผิดขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง ทั้ง 7 โครงการ พฤติการณ์เป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ตามสมควรแก่กรณีแล้ว จึงไม่ได้กระทำผิดวินัยในเรื่องที่ถูกกล่าวหา เห็นควรยุติเรื่อง
    .
    จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 และมาตรา 52 (1) แห่ง พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานครและบุคลากรกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2554 ประกอบกับ มาตรา 93 วรรคสอง พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ข้อ 63(1) และข้อ 72 ของกฎ ก.ก.ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2565 จึงให้ยุติ ตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. 2568 เป็นต้นไป ขณะเดียวกัน ยังมีคำสั่งกรุงเทพมหานคร เรื่อง พบข้อบกพร่องของข้าราชการอีก 10 ราย ซึ่งเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง มีโทษลดเงินเดือน 2% ระยะเวลา 1 เดือน อย่างไรก็ตาม ยังพบว่ามีข้าราชการ กทม. ต้องสอบสวนต่อ 11 คน
    .
    สำหรับการร้องเรียนการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายของศูนย์กีฬา กทม. จำนวน 7 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย 21 รายการ สำหรับศูนย์กีฬาอ่อนนุช 15.69 ล้านบาท 2. โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย สำหรับศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา 12.11 ล้านบาท 3. โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย สำหรับศูนย์กีฬามิตรไมตรี 11.01 ล้านบาท
    .
    4. โครงการประกวดราคาซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย 11 รายการ ของศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ วงเงินงบประมาณ 4.99 ล้านบาท 5. โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย สำหรับศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ 4.99 ล้านบาท 6. โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย สำหรับศูนย์นันทนาการ สังกัดส่วนนันทนาการ 17.9 ล้านบาท และ 7. โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย สำหรับศูนย์นันทนาการวัดดอกไม้ 11.52 ล้านบาท
    .
    โดยได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับข้าราชการที่เกี่ยวข้อง 25 ราย และขยายผลข้าราชการที่เกี่ยวข้องอีก 4 ราย รวม 29 ราย เมื่อผลการสอบสวนพบว่ามีมูล จึงรวบรวมข้อมูลส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตามกฎหมาย ขณะที่ปลัดกรุงเทพมหานคร มีคำสั่งย้ายผู้บริหารที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการจัดซื้อ ทั้ง 7 โครงการไปปฏิบัติหน้าที่ประจำสำนักงานปลัด กทม. พร้อมทั้งเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัยอย่างร้ายแรง กระทั่งการสอบสวนแล้วเสร็จ จึงสรุปสำนวนรายงานต่อผู้ว่าฯ กทม. เรียบร้อยแล้ว ในที่สุดนายชัชชาติมีคำสั่งยุติเรื่องและคำสั่งพบข้อบกพร่องดังกล่าว ซึ่งหลังสอบสวนพบว่ายังมีข้าราชการที่ต้องสอบสวนต่อ 11 คน ส่วนที่เหลือให้ยุติเรื่อง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008519
    .........
    Sondhi X
    ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สั่งยุติเรื่องสอบสวนวินัยร้ายแรงข้าราชการบางคน ปมทุจริตจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย 7 โครงการ ระบุไม่มีหลักฐานบ่งชี้ อดีต ผอ.สำนักวัฒนธรรมฯ ทำผิดขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง แต่ยังต้องสอบสวนต่อ 11 คน . วันนี้ (27 ม.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีคำสั่งยุติเรื่อง กรณีการดำเนินการของคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงของข้าราชการกรุงเทพมหานคร ในการดำเนินโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกายสำหรับศูนย์นันทนาการฯ และศูนย์กีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว (สวท.) จำนวน 7 โครงการ ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีราคาสูงเกินจากราคาตลาด ตามคำสั่ง กทม. ที่ 2364/2567 ลงวันที่ 1 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา . เนื่องจากในชั้นสอบสวนไม่ปรากฎพยานหลักฐานใดบ่งชี้ว่า นายสมบูรณ์ หอมนาน อดีตผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว (ปัจจุบันย้ายไปเป็นหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสิ่งแวดล้อม) และข้าราชการรวม 19 ราย ได้กระทำการหรือสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชา กระทำผิดขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง ทั้ง 7 โครงการ พฤติการณ์เป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ตามสมควรแก่กรณีแล้ว จึงไม่ได้กระทำผิดวินัยในเรื่องที่ถูกกล่าวหา เห็นควรยุติเรื่อง . จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 และมาตรา 52 (1) แห่ง พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานครและบุคลากรกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2554 ประกอบกับ มาตรา 93 วรรคสอง พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ข้อ 63(1) และข้อ 72 ของกฎ ก.ก.ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2565 จึงให้ยุติ ตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. 2568 เป็นต้นไป ขณะเดียวกัน ยังมีคำสั่งกรุงเทพมหานคร เรื่อง พบข้อบกพร่องของข้าราชการอีก 10 ราย ซึ่งเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง มีโทษลดเงินเดือน 2% ระยะเวลา 1 เดือน อย่างไรก็ตาม ยังพบว่ามีข้าราชการ กทม. ต้องสอบสวนต่อ 11 คน . สำหรับการร้องเรียนการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายของศูนย์กีฬา กทม. จำนวน 7 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย 21 รายการ สำหรับศูนย์กีฬาอ่อนนุช 15.69 ล้านบาท 2. โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย สำหรับศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา 12.11 ล้านบาท 3. โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย สำหรับศูนย์กีฬามิตรไมตรี 11.01 ล้านบาท . 4. โครงการประกวดราคาซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย 11 รายการ ของศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ วงเงินงบประมาณ 4.99 ล้านบาท 5. โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย สำหรับศูนย์กีฬาวารีภิรมย์ 4.99 ล้านบาท 6. โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย สำหรับศูนย์นันทนาการ สังกัดส่วนนันทนาการ 17.9 ล้านบาท และ 7. โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์เสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย สำหรับศูนย์นันทนาการวัดดอกไม้ 11.52 ล้านบาท . โดยได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับข้าราชการที่เกี่ยวข้อง 25 ราย และขยายผลข้าราชการที่เกี่ยวข้องอีก 4 ราย รวม 29 ราย เมื่อผลการสอบสวนพบว่ามีมูล จึงรวบรวมข้อมูลส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการตามกฎหมาย ขณะที่ปลัดกรุงเทพมหานคร มีคำสั่งย้ายผู้บริหารที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการจัดซื้อ ทั้ง 7 โครงการไปปฏิบัติหน้าที่ประจำสำนักงานปลัด กทม. พร้อมทั้งเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัยอย่างร้ายแรง กระทั่งการสอบสวนแล้วเสร็จ จึงสรุปสำนวนรายงานต่อผู้ว่าฯ กทม. เรียบร้อยแล้ว ในที่สุดนายชัชชาติมีคำสั่งยุติเรื่องและคำสั่งพบข้อบกพร่องดังกล่าว ซึ่งหลังสอบสวนพบว่ายังมีข้าราชการที่ต้องสอบสวนต่อ 11 คน ส่วนที่เหลือให้ยุติเรื่อง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008519 ......... Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    Angry
    16
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1611 มุมมอง 1 รีวิว
  • ต้องการขายดาวน์ Aspire อ่อนนุชสเตชั่น ชั้น 24ห้องสตูดิโอ 27 ตรม.ราคาสุดคุ้มค่ะ
    ต้องการขายดาวน์ Aspire อ่อนนุชสเตชั่น ชั้น 24ห้องสตูดิโอ 27 ตรม.ราคาสุดคุ้มค่ะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/Rl16KG0lMH4
    AH 4675 มูซา ขออยากมองเห็นพระผู้อภิบาลของเขา
    โดย อาจารย์อับดุลลาตีฟ ตำราเรียง
    14.9.67 @ มัสยิดอัลอะฮัด ซ.อ่อนนุช 66 แยก 25 เขตสวนหลวง กทม.
    .....................................................................
    😍เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน📕
    ติดตามงานของ Alhamdulillah GROUP ได้ที่
    🌐 website http://www.alhamdtv.com​​
    ▶️ Youtube : https://www.youtube.com/user/AlhamdTV
    🎧 Podcast : https://alhamdtv.podbean.com/
    🔵 Facebook : https://www.facebook.com/alhamtv/​​
    ติดต่อ และร่วมสนับสนุนกลุ่ม "อัลฮัมดุลิลลาฮฺ" ได้ที่
    ธนาคารกสิกรไทย
    บัญชี นายกิระเดช ชวานนท์
    A/C No. 013-3-47916-3 หรือ
    พร้อมเพย์ 0864018121
    ❤ เรียนให้พี่น้องทราบว่า ทุกคลิปที่เผยแพร่ผ่าน Facebook หรือ Youtube : Alhamdulillah Group ทางทีมงาน"ฮาลาล" ให้พี่น้องในการนำไปเผยแพร่ต่อได้โดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตมาทางทีมงานครับ
    (ยกเว้นผู้ที่นำไปตัดต่อบิดเบือนเนื้อหา หรือ เพื่อนำไปทำให้เกิดความเข้าใจที่ผิดต่อความรู้ในอิสลาม และสร้างความแตกแยกในสังคม ทางทีมงานฯ ขอที่จะ "ไม่ฮาลาล" ให้ครับ)
    จึงแจ้งมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน และขอเชิญชวนพี่น้องมาร่วมกันสร้างสรรค์สังคม ทำหน้าที่ "เป็นสะพานของงานดะอฺวะฮฺ" ด้วยกันครับ
    ญะซากุมุลลอฮุค็อยรอน
    #alhamdulillahGROUP #อัลฮัมดุลิ้ลลาฮฺกรุ๊ป #สะพานของงานดะอฺวะฮฺ
    https://youtu.be/Rl16KG0lMH4 AH 4675 มูซา ขออยากมองเห็นพระผู้อภิบาลของเขา โดย อาจารย์อับดุลลาตีฟ ตำราเรียง 14.9.67 @ มัสยิดอัลอะฮัด ซ.อ่อนนุช 66 แยก 25 เขตสวนหลวง กทม. ..................................................................... 😍เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน📕 ติดตามงานของ Alhamdulillah GROUP ได้ที่ 🌐 website http://www.alhamdtv.com​​ ▶️ Youtube : https://www.youtube.com/user/AlhamdTV 🎧 Podcast : https://alhamdtv.podbean.com/ 🔵 Facebook : https://www.facebook.com/alhamtv/​​ ติดต่อ และร่วมสนับสนุนกลุ่ม "อัลฮัมดุลิลลาฮฺ" ได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย บัญชี นายกิระเดช ชวานนท์ A/C No. 013-3-47916-3 หรือ พร้อมเพย์ 0864018121 ❤ เรียนให้พี่น้องทราบว่า ทุกคลิปที่เผยแพร่ผ่าน Facebook หรือ Youtube : Alhamdulillah Group ทางทีมงาน"ฮาลาล" ให้พี่น้องในการนำไปเผยแพร่ต่อได้โดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตมาทางทีมงานครับ (ยกเว้นผู้ที่นำไปตัดต่อบิดเบือนเนื้อหา หรือ เพื่อนำไปทำให้เกิดความเข้าใจที่ผิดต่อความรู้ในอิสลาม และสร้างความแตกแยกในสังคม ทางทีมงานฯ ขอที่จะ "ไม่ฮาลาล" ให้ครับ) จึงแจ้งมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน และขอเชิญชวนพี่น้องมาร่วมกันสร้างสรรค์สังคม ทำหน้าที่ "เป็นสะพานของงานดะอฺวะฮฺ" ด้วยกันครับ ญะซากุมุลลอฮุค็อยรอน #alhamdulillahGROUP #อัลฮัมดุลิ้ลลาฮฺกรุ๊ป #สะพานของงานดะอฺวะฮฺ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 766 มุมมอง 0 รีวิว
  • PITI Sukhumvit 101 : ปีติ สุขุมวิท 101

    **จุดเด่น **

    -โครงการ PITISukhumvit101 พรีเมียมคอนโด High Rise สูง 19 ชั้น มีห้องทั้งหมด168 ยูนิต และมีอาคารฟิตเนสคลับอีก 1 อาคาร ความสูง 2 ชั้น โครงการออกแบบใต้คอนเซ็ปต์ Private Living at your Service เน้นความเป้นส่วนตัวให้ลูกบ้าน
    -อยู่ในทำเลที่มีความครบครัน ใกล้ Lifestyle Stores โรงพยาบาล และ โรงเรียนนานาชาติ อย่าง Berkley International School , St. Andrews International School และ Bangkok Pattana School นอกนั้นความอุดมสมบูรณ์หลักๆจะเกาะอยู่บนถนนสุขุมวิท อาทิเช่นธนาคาร, ปั๊มน้ำมัน, ร้านค้า ร้านอาหาร, โชว์รูมรถ รวมไปถึง Community Mall และออฟฟิศสำนักงานต่างๆ
    -ดีไซน์โดดเด่นทันสมัยที่มาพร้อมระบบควบคุมอัจฉริยะ Home Automation System
    โดยในแต่ละชั้นถูกออกแบบให้มีห้องพัก อาศัยเพียงฝั่งเดียว และมีเพียงชั้นละ 4-13 ยูนิตเท่านั้น
    -บริเวณ Active Pavillion ถูกออกแบบให้แยกตัวออกมาจากอาคารที่อยู่อาศัย เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงรบกวนและมอบความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย
    -บนชั้นสูงสุดคุณจะได้พบกับสวนขนาดใหญ่ ที่เรียงรายไปด้วยจุดพักผ่อนใต้ร่มไม้ ให้คุณเต็มอิ่มกับบรรยากาศและความสงบเงียบของธรรมชาติ

    **สิ่งอำนวยความสะดวก**

    -Active Pavilion
    -Fitness
    -Boxing Camp
    -TRX Zone
    -Exclusive Lobby
    -24 hr. Reception
    -24 hrs. Concierge service
    -Waiting Lounge
    -Mailbox
    -Automated Parking
    -EV Charger
    -Co-Hobby Space
    -Sharing Space
    -Meeting Lounge
    -Individual Space
    -Locker for Hobby Equipments
    -Sky Infinity Edge Pool
    -Jacuzzi
    -Kid Pool
    -Sunken Viewpoint
    -Steam Room
    -Sunset Deck
    -เข้า-ออกระบบ RFID + Bluetooth
    -Keycard Access
    -CCTV
    -เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.

    **สถานที่ใกล้เคียง**

    -The Phyll สุขุมวิท 54 : 1.5 กม.
    -One อุดมสุข : 1.9 กม.
    -Century Movie Plaza : 2.0 กม.
    -Lotus’s อ่อนนุช : 2.1 กม.
    -Bangkok Mall : 2.2 กม.
    -Gateway เอกมัย : 4.0 กม.
    -Major Cineplex สุขุมวิท : 4.5 กม.
    -Central บางนา : 5.5 กม.
    -Anglo-Singapore International School : 1.1 กม.
    -Well International School : 2.0 กม.
    -Berkley International School : 3.0 กม.
    -Modern Montessori International : 3.6 กม.
    -St. Andrews International School : 5.4 กม.
    -Bangkok Pattana School : 6.2 กม.
    -International Community School (ICS) : 7.3 กม.
    -RAS Raffles American School : 8.2 กม.
    -Thai-Singapore International : 9.0 กม.
    -รพ.กล้วยน้ำไทย 2 : 2.0 กม.
    -รพ.สุขุมวิท : 4.6 กม.
    -รพ.ไทยนครินทร์ : 5.6 กม.
    -Camillian Hospital : 6.8 กม.

    -------------------------------------------
    สนใจสอบถามข้อมูลที่
    โทร.081-822-6553
    รับซื้อ ฝากขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์
    ทุกชนิด “ฟรี” ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้
    พร้อมทั้งทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ
    จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน

    PITI Sukhumvit 101 : ปีติ สุขุมวิท 101 **จุดเด่น ** -โครงการ PITISukhumvit101 พรีเมียมคอนโด High Rise สูง 19 ชั้น มีห้องทั้งหมด168 ยูนิต และมีอาคารฟิตเนสคลับอีก 1 อาคาร ความสูง 2 ชั้น โครงการออกแบบใต้คอนเซ็ปต์ Private Living at your Service เน้นความเป้นส่วนตัวให้ลูกบ้าน -อยู่ในทำเลที่มีความครบครัน ใกล้ Lifestyle Stores โรงพยาบาล และ โรงเรียนนานาชาติ อย่าง Berkley International School , St. Andrews International School และ Bangkok Pattana School นอกนั้นความอุดมสมบูรณ์หลักๆจะเกาะอยู่บนถนนสุขุมวิท อาทิเช่นธนาคาร, ปั๊มน้ำมัน, ร้านค้า ร้านอาหาร, โชว์รูมรถ รวมไปถึง Community Mall และออฟฟิศสำนักงานต่างๆ -ดีไซน์โดดเด่นทันสมัยที่มาพร้อมระบบควบคุมอัจฉริยะ Home Automation System โดยในแต่ละชั้นถูกออกแบบให้มีห้องพัก อาศัยเพียงฝั่งเดียว และมีเพียงชั้นละ 4-13 ยูนิตเท่านั้น -บริเวณ Active Pavillion ถูกออกแบบให้แยกตัวออกมาจากอาคารที่อยู่อาศัย เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงรบกวนและมอบความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย -บนชั้นสูงสุดคุณจะได้พบกับสวนขนาดใหญ่ ที่เรียงรายไปด้วยจุดพักผ่อนใต้ร่มไม้ ให้คุณเต็มอิ่มกับบรรยากาศและความสงบเงียบของธรรมชาติ **สิ่งอำนวยความสะดวก** -Active Pavilion -Fitness -Boxing Camp -TRX Zone -Exclusive Lobby -24 hr. Reception -24 hrs. Concierge service -Waiting Lounge -Mailbox -Automated Parking -EV Charger -Co-Hobby Space -Sharing Space -Meeting Lounge -Individual Space -Locker for Hobby Equipments -Sky Infinity Edge Pool -Jacuzzi -Kid Pool -Sunken Viewpoint -Steam Room -Sunset Deck -เข้า-ออกระบบ RFID + Bluetooth -Keycard Access -CCTV -เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. **สถานที่ใกล้เคียง** -The Phyll สุขุมวิท 54 : 1.5 กม. -One อุดมสุข : 1.9 กม. -Century Movie Plaza : 2.0 กม. -Lotus’s อ่อนนุช : 2.1 กม. -Bangkok Mall : 2.2 กม. -Gateway เอกมัย : 4.0 กม. -Major Cineplex สุขุมวิท : 4.5 กม. -Central บางนา : 5.5 กม. -Anglo-Singapore International School : 1.1 กม. -Well International School : 2.0 กม. -Berkley International School : 3.0 กม. -Modern Montessori International : 3.6 กม. -St. Andrews International School : 5.4 กม. -Bangkok Pattana School : 6.2 กม. -International Community School (ICS) : 7.3 กม. -RAS Raffles American School : 8.2 กม. -Thai-Singapore International : 9.0 กม. -รพ.กล้วยน้ำไทย 2 : 2.0 กม. -รพ.สุขุมวิท : 4.6 กม. -รพ.ไทยนครินทร์ : 5.6 กม. -Camillian Hospital : 6.8 กม. ------------------------------------------- สนใจสอบถามข้อมูลที่ โทร.081-822-6553 รับซื้อ ฝากขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์ ทุกชนิด “ฟรี” ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้ พร้อมทั้งทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1075 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/6Y4l7wxW_NA
    AH 4659 บทลงโทษต่อกลุ่มชนของฟิรฺเอาน์
    โดย อาจารย์อับดุลลาตีฟ ตำราเรียง
    07.9.67 @ มัสยิดอัลอะฮัด ซ.อ่อนนุช 66 แยก 25 เขตสวนหลวง กทม.
    .......................................................................
    😍เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน📕
    ติดตามงานของ Alhamdulillah GROUP ได้ที่
    🌐 website http://www.alhamdtv.com​​
    ▶️ Youtube : https://www.youtube.com/user/AlhamdTV
    🎧 Podcast : https://alhamdtv.podbean.com/
    🔵 Facebook : https://www.facebook.com/alhamtv/​​
    ติดต่อ และร่วมสนับสนุนกลุ่ม "อัลฮัมดุลิลลาฮฺ" ได้ที่
    ธนาคารกสิกรไทย
    บัญชี นายกิระเดช ชวานนท์
    A/C No. 013-3-47916-3 หรือ
    พร้อมเพย์ 0864018121
    ❤ เรียนให้พี่น้องทราบว่า ทุกคลิปที่เผยแพร่ผ่าน Facebook หรือ Youtube : Alhamdulillah Group ทางทีมงาน"ฮาลาล" ให้พี่น้องในการนำไปเผยแพร่ต่อได้โดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตมาทางทีมงานครับ
    (ยกเว้นผู้ที่นำไปตัดต่อบิดเบือนเนื้อหา หรือ เพื่อนำไปทำให้เกิดความเข้าใจที่ผิดต่อความรู้ในอิสลาม และสร้างความแตกแยกในสังคม ทางทีมงานฯ ขอที่จะ "ไม่ฮาลาล" ให้ครับ)
    จึงแจ้งมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน และขอเชิญชวนพี่น้องมาร่วมกันสร้างสรรค์สังคม ทำหน้าที่ "เป็นสะพานของงานดะอฺวะฮฺ" ด้วยกันครับ
    ญะซากุมุลลอฮุค็อยรอน
    #alhamdulillahGROUP #อัลฮัมดุลิ้ลลาฮฺกรุ๊ป #สะพานของงานดะอฺวะฮฺ
    https://youtu.be/6Y4l7wxW_NA AH 4659 บทลงโทษต่อกลุ่มชนของฟิรฺเอาน์ โดย อาจารย์อับดุลลาตีฟ ตำราเรียง 07.9.67 @ มัสยิดอัลอะฮัด ซ.อ่อนนุช 66 แยก 25 เขตสวนหลวง กทม. ....................................................................... 😍เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน📕 ติดตามงานของ Alhamdulillah GROUP ได้ที่ 🌐 website http://www.alhamdtv.com​​ ▶️ Youtube : https://www.youtube.com/user/AlhamdTV 🎧 Podcast : https://alhamdtv.podbean.com/ 🔵 Facebook : https://www.facebook.com/alhamtv/​​ ติดต่อ และร่วมสนับสนุนกลุ่ม "อัลฮัมดุลิลลาฮฺ" ได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย บัญชี นายกิระเดช ชวานนท์ A/C No. 013-3-47916-3 หรือ พร้อมเพย์ 0864018121 ❤ เรียนให้พี่น้องทราบว่า ทุกคลิปที่เผยแพร่ผ่าน Facebook หรือ Youtube : Alhamdulillah Group ทางทีมงาน"ฮาลาล" ให้พี่น้องในการนำไปเผยแพร่ต่อได้โดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตมาทางทีมงานครับ (ยกเว้นผู้ที่นำไปตัดต่อบิดเบือนเนื้อหา หรือ เพื่อนำไปทำให้เกิดความเข้าใจที่ผิดต่อความรู้ในอิสลาม และสร้างความแตกแยกในสังคม ทางทีมงานฯ ขอที่จะ "ไม่ฮาลาล" ให้ครับ) จึงแจ้งมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน และขอเชิญชวนพี่น้องมาร่วมกันสร้างสรรค์สังคม ทำหน้าที่ "เป็นสะพานของงานดะอฺวะฮฺ" ด้วยกันครับ ญะซากุมุลลอฮุค็อยรอน #alhamdulillahGROUP #อัลฮัมดุลิ้ลลาฮฺกรุ๊ป #สะพานของงานดะอฺวะฮฺ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 582 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/gUPzS8u5PZQ
    AH 4650 เมาลิดนบี ตามที่เขากล่าวอ้าง โดย อาจารย์บาซิ้ล เฟ็นดี้
    6.9.67 @ มัสยิดอัลอะฮัด ซ.อ่อนนุช 66 แยก 25 เขตสวนหลวง กทม.
    https://youtu.be/gUPzS8u5PZQ AH 4650 เมาลิดนบี ตามที่เขากล่าวอ้าง โดย อาจารย์บาซิ้ล เฟ็นดี้ 6.9.67 @ มัสยิดอัลอะฮัด ซ.อ่อนนุช 66 แยก 25 เขตสวนหลวง กทม.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 342 มุมมอง 0 รีวิว
  • สูตรยาดองมรณะ ผิดที่ผสมเมทานอล

    คลัสเตอร์ยาดอง ที่ชาวบ้านในพื้นที่เขตคลองสามวา และเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ซื้อยาดองตามร้านริมทางดื่ม กระทั่งหลายคนมีอาการเลือดเป็นกรดอย่างรุนแรง มีอาการเหนื่อยหอบง่าย ซึม อ่อนเพลีย ตาพร่ามัว วิงเวียนศีรษะและอาเจียน เข้ารักษาตัวที่โรงพยาลนพรัตนราชธานี และโรงพยาบาลใกล้เคียง ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่แล้ว (22 ส.ค.) ยังคงดำเนินการสืบหาความจริงต่อไป

    ตำรวจชุดคลี่คลายคดี ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ร่วมตรวจสอบร้านยาดองในเขตพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 (บก.น.3) จำนวน 17 ร้าน และในซอยอ่อนนุช 77 อีก 1 ร้าน พร้อมตรวจยึดยาดองจากทุกร้านไปตรวจสอบ ทุกร้านให้การว่ารับมาจาก "เจ๊ปู" ลูกสาวป๋าเหน่ที่เสียชีวิตไปแล้ว

    ต่อมาตำรวจเชิญตัว น.ส.ภัสส์รศา อารีจิตสุขศิริ หรือเจ๊ปู อายุ 49 ปี ผู้ผสมยาดองมาสอบปากคำ เจ๊ปูให้การว่า รับสุราขาวมาจากนายสุรศักดิ์ อินสาม หรือเอส อายุ 46 ปี และนายสุรชัย อินสาม หรืออาร์ท อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นพี่น้องกัน ส่วนวัตถุดิบที่ใส่ลงไปในเหล้าเป็นสิ่งของธรรมชาติ เป็นสูตรเก่าแก่ของบิดา

    จากนั้นชุดคลี่คลายคดีเดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งในซอยกาญจนาภิเษก 25 แยก 1-3 แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ พบทั้งคู่พร้อมของกลางเมทานอล และอุปกรณ์การผลิตสุราเถื่อนจำนวนมาก ทั้งสองอ้างว่าผสมน้ำเปล่าเพื่อเจือจางให้เหลือ 35 ดีกรี ใส่แกลลอนนำไปส่งให้กับเจ๊ปู จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางชัน

    จากการสอบปากคำ ทั้งสองรับสารภาพกับตำรวจว่าทำมาประมาณปีกว่า โดยหาข้อมูลผสมเหล้าเถื่อนจากอินเทอร์เน็ต ก่อนส่งขายไปตามซุ้มยาดองต่างๆ โดยเมทานอลรับมาจากโรงงานย่านลาดกระบัง เอามาผสมกับน้ำเปล่าเพื่อให้ไม่เกิน 35-40 ดีกรี จากนั้นบรรจุใส่แกลลอนเพื่อนำไปขายต่อ ซึ่งแต่ละร้านก็จะนำไปผสมยาดองอีกที

    ที่ สน.มีนบุรี เมื่อวันที่ 26 ส.ค. เจ๊ปูชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งน้ำตาว่า ครอบครัวทำยาดองขายมากว่า 30 ปี ตั้งแต่รุ่นพ่อไม่เคยมีปัญหา ที่ผ่านมาไม่เคยรับสุราขาวจากเจ้าอื่น เพราะรับจากเจ้าประจำที่พ่อสั่งตลอด แต่เมื่อ 1 ปีที่แล้ว นายสุรศักดิ์และนายสุรชัย สองพี่น้องซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของแฟนบอกว่า งานน้อยลง อยากหารายได้ มีสูตรเหล้าขาวที่ไปเรียนทำมาอยากให้ช่วยซื้อ

    เจ๊ปูจึงให้ลองทำว่าผ่านหรือไม่ เมื่อชิมแล้วพบว่าดีกรีได้ รสชาติคล้ายเจ้าเก่า จึงช่วยสั่งด้วยความสงสาร ซื้อมา 25 ลิตร 900 บาท เท่ากันกับเจ้าเก่า ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ทำเองชิมเองตลอดก็ไม่เคยมีปัญหา

    แต่ช่วงหลังลูกค้าตำหนิว่าเหล้าจืด ไม่แรง และมีรสชาติซ่าๆ ตนสอบถามนายสุรศักดิ์และนายสุรชัยว่าทำไมรสชาติมันเปลี่ยน และถามว่าเปลี่ยนวัตถุดิบหรือไม่ ก็ไม่ตอบ บอกแค่ว่าจะปรับปรุง และเมื่อตนทำแล้วชิมพบว่ารสชาติจางลง คิดว่าไม่เป็นอะไร เพราะพ่อสอนมาว่า ยาดองนั้นต้องมีกลิ่นยาจีนนำกลิ่นสุราอยู่แล้ว

    ส่วนล็อตล่าสุดที่ทำมานั้น มีอาการท้องเสียเล็กน้อยมา 3 วัน แต่เมื่อทราบว่ามีผู้เสียชีวิตก็ตกใจมาก รู้สึกผิดและเสียใจ ไม่ได้อยากจะทำให้ใครตาย ตนก็อยากเยียวยาผู้เสียหาย เพราะหนึ่งในผู้เสียชีวิตก็เป็นเพื่อนของตน อยากไปเยี่ยมทุกคนที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ก็ไม่กล้ากลัวว่าทุกคนจะไม่เข้าใจ ยืนยันไม่ได้ตั้งใจทำให้ใครเสียชีวิต

    สำหรับสูตรการทำยาดองของเจ๊ปู ใช้หม้อเบอร์ 32 ใส่น้ำ ต้มยาจีนหม้อละ 2 ห่อ กานพลู 1 ห่อ และชะเอม 5-6 ก้าน ต้มครั้งแรก 40 นาที จากนั้นจะใส่ดอกคำฝอยและกระชายอย่างละ 4 ขีด ต้มต่ออีก 40 นาที แล้วใส่มะตูมครึ่งกิโลกรัม ต้มอีก 40 นาที ใส่น้ำตาลทราย 2.5 กิโลกรัม คนให้ละลาย แล้วผสมเหล้าขาว เทใส่โอ่ง หมักไว้ 1-2 คืน แล้วนำมาแบ่งใส่แกลลอน

    โดย 1 โอ่ง แบ่งได้ 23-24 แกลลอน ส่งขายตามซุ้มยาดอง แกลลอนละ 400 บาท ซุ้มละ 10 แกลลอน มีโปรโมชันซื้อ 10 แถม 1 แกลลอน ในใจอยากทำธุรกิจนี้ต่อเพราะเป็นความฝันของพ่อที่เสียชีวิตไป อยากจะทำให้ถูกต้อง จดทะเบียนตามกฎหมาย

    ตำรวจ สน.บางชัน นำตัวนายสุรศักดิ์ และนายสุรชัย สองพี่น้องผลิตสุราเถื่อนไปฝากขังที่ศาลอาญามีนบุรี ในข้อหาร่วมกันผลิตสุราโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีไว้เพื่อขายซึ่งสุราที่ผลิตขึ้นโดยฝ่าฝน ตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ส่วน สน.มีนบุรี ดำเนินคดีกับ น.ส.ภัสส์รศา ฐานผลิตและจำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต และกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

    สำหรับสารเมทานอล เป็นสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ เช่น สารทำละลาย สารป้องกันความเย็น สารสกัด สารเชื้อเพลิง มีคุณสมบัติเป็นของเหลว ใส ไม่มีสี มีกลิ่นแอลกอฮอล์ คล้ายผลไม้ ระเหยง่าย และติดไฟง่าย สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ 3 ทาง ได้แก่ ทางหายใจ ทางผิวหนัง และทางเดินอาหาร เกิดความเป็นพิษเริ่มจากผิวหนังอักเสบเป็นผื่นแดงหรือเป็นสะเก็ด เกิดการระคายเคืองผิวหนังและเยื่อบุอ่อน ระคายเคืองตา มีผลต่อระบบประสาท ทำให้เกิดอาการคล้ายเมาสุรา ทำลายตับ ไต และอวัยวะอื่นๆ ถ้าสัมผัสสารนี้ปริมาณมาก อาจทำให้ตาบอดถาวร หมดสติ และเสียชีวิตได้ แต่ไม่เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์

    ส่วนสถานการณ์ล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้ป่วยจำแนกกลุ่มอาการรุนแรง (สีแดง) 12 ราย กลุ่มอาการสีเหลือง 3 ราย และกลุ่มอาการสีเขียว 9 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุระหว่าง 22 ถึง 69 ปี อาการเจ็บป่วยโดยส่วนใหญ่พบภาวะเลือดเป็นกรด หายใจเหนื่อย ภาวะไตวาย ตาพร่ามัว ชัก หมดสติ ส่วน 7 รายไม่มีอาการใดๆ

    นพ.ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ผู้ป่วยจากการดื่มสุราเถื่อนในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มีประมาณ 50-100 ราย แต่ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง เนื่องจากเป็นสารเมทานอลที่เกิดจากการกลั่นสุรา แต่ในครั้งนี้พบว่าสารเมทานอลที่พบในสุราเถื่อน เป็นลักษณะที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม และมีปริมาณสูงถึง 100,000 ppm ทั้งที่มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกำหนดไว้ว่า ปริมาณเมทานอลในสุราทุกประเภท จะต้องไม่มีอยู่เลย

    #Newskit #ยาดอง #เมทานอล
    สูตรยาดองมรณะ ผิดที่ผสมเมทานอล คลัสเตอร์ยาดอง ที่ชาวบ้านในพื้นที่เขตคลองสามวา และเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ซื้อยาดองตามร้านริมทางดื่ม กระทั่งหลายคนมีอาการเลือดเป็นกรดอย่างรุนแรง มีอาการเหนื่อยหอบง่าย ซึม อ่อนเพลีย ตาพร่ามัว วิงเวียนศีรษะและอาเจียน เข้ารักษาตัวที่โรงพยาลนพรัตนราชธานี และโรงพยาบาลใกล้เคียง ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่แล้ว (22 ส.ค.) ยังคงดำเนินการสืบหาความจริงต่อไป ตำรวจชุดคลี่คลายคดี ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ร่วมตรวจสอบร้านยาดองในเขตพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 (บก.น.3) จำนวน 17 ร้าน และในซอยอ่อนนุช 77 อีก 1 ร้าน พร้อมตรวจยึดยาดองจากทุกร้านไปตรวจสอบ ทุกร้านให้การว่ารับมาจาก "เจ๊ปู" ลูกสาวป๋าเหน่ที่เสียชีวิตไปแล้ว ต่อมาตำรวจเชิญตัว น.ส.ภัสส์รศา อารีจิตสุขศิริ หรือเจ๊ปู อายุ 49 ปี ผู้ผสมยาดองมาสอบปากคำ เจ๊ปูให้การว่า รับสุราขาวมาจากนายสุรศักดิ์ อินสาม หรือเอส อายุ 46 ปี และนายสุรชัย อินสาม หรืออาร์ท อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นพี่น้องกัน ส่วนวัตถุดิบที่ใส่ลงไปในเหล้าเป็นสิ่งของธรรมชาติ เป็นสูตรเก่าแก่ของบิดา จากนั้นชุดคลี่คลายคดีเดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งในซอยกาญจนาภิเษก 25 แยก 1-3 แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ พบทั้งคู่พร้อมของกลางเมทานอล และอุปกรณ์การผลิตสุราเถื่อนจำนวนมาก ทั้งสองอ้างว่าผสมน้ำเปล่าเพื่อเจือจางให้เหลือ 35 ดีกรี ใส่แกลลอนนำไปส่งให้กับเจ๊ปู จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางชัน จากการสอบปากคำ ทั้งสองรับสารภาพกับตำรวจว่าทำมาประมาณปีกว่า โดยหาข้อมูลผสมเหล้าเถื่อนจากอินเทอร์เน็ต ก่อนส่งขายไปตามซุ้มยาดองต่างๆ โดยเมทานอลรับมาจากโรงงานย่านลาดกระบัง เอามาผสมกับน้ำเปล่าเพื่อให้ไม่เกิน 35-40 ดีกรี จากนั้นบรรจุใส่แกลลอนเพื่อนำไปขายต่อ ซึ่งแต่ละร้านก็จะนำไปผสมยาดองอีกที ที่ สน.มีนบุรี เมื่อวันที่ 26 ส.ค. เจ๊ปูชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งน้ำตาว่า ครอบครัวทำยาดองขายมากว่า 30 ปี ตั้งแต่รุ่นพ่อไม่เคยมีปัญหา ที่ผ่านมาไม่เคยรับสุราขาวจากเจ้าอื่น เพราะรับจากเจ้าประจำที่พ่อสั่งตลอด แต่เมื่อ 1 ปีที่แล้ว นายสุรศักดิ์และนายสุรชัย สองพี่น้องซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของแฟนบอกว่า งานน้อยลง อยากหารายได้ มีสูตรเหล้าขาวที่ไปเรียนทำมาอยากให้ช่วยซื้อ เจ๊ปูจึงให้ลองทำว่าผ่านหรือไม่ เมื่อชิมแล้วพบว่าดีกรีได้ รสชาติคล้ายเจ้าเก่า จึงช่วยสั่งด้วยความสงสาร ซื้อมา 25 ลิตร 900 บาท เท่ากันกับเจ้าเก่า ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ทำเองชิมเองตลอดก็ไม่เคยมีปัญหา แต่ช่วงหลังลูกค้าตำหนิว่าเหล้าจืด ไม่แรง และมีรสชาติซ่าๆ ตนสอบถามนายสุรศักดิ์และนายสุรชัยว่าทำไมรสชาติมันเปลี่ยน และถามว่าเปลี่ยนวัตถุดิบหรือไม่ ก็ไม่ตอบ บอกแค่ว่าจะปรับปรุง และเมื่อตนทำแล้วชิมพบว่ารสชาติจางลง คิดว่าไม่เป็นอะไร เพราะพ่อสอนมาว่า ยาดองนั้นต้องมีกลิ่นยาจีนนำกลิ่นสุราอยู่แล้ว ส่วนล็อตล่าสุดที่ทำมานั้น มีอาการท้องเสียเล็กน้อยมา 3 วัน แต่เมื่อทราบว่ามีผู้เสียชีวิตก็ตกใจมาก รู้สึกผิดและเสียใจ ไม่ได้อยากจะทำให้ใครตาย ตนก็อยากเยียวยาผู้เสียหาย เพราะหนึ่งในผู้เสียชีวิตก็เป็นเพื่อนของตน อยากไปเยี่ยมทุกคนที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ก็ไม่กล้ากลัวว่าทุกคนจะไม่เข้าใจ ยืนยันไม่ได้ตั้งใจทำให้ใครเสียชีวิต สำหรับสูตรการทำยาดองของเจ๊ปู ใช้หม้อเบอร์ 32 ใส่น้ำ ต้มยาจีนหม้อละ 2 ห่อ กานพลู 1 ห่อ และชะเอม 5-6 ก้าน ต้มครั้งแรก 40 นาที จากนั้นจะใส่ดอกคำฝอยและกระชายอย่างละ 4 ขีด ต้มต่ออีก 40 นาที แล้วใส่มะตูมครึ่งกิโลกรัม ต้มอีก 40 นาที ใส่น้ำตาลทราย 2.5 กิโลกรัม คนให้ละลาย แล้วผสมเหล้าขาว เทใส่โอ่ง หมักไว้ 1-2 คืน แล้วนำมาแบ่งใส่แกลลอน โดย 1 โอ่ง แบ่งได้ 23-24 แกลลอน ส่งขายตามซุ้มยาดอง แกลลอนละ 400 บาท ซุ้มละ 10 แกลลอน มีโปรโมชันซื้อ 10 แถม 1 แกลลอน ในใจอยากทำธุรกิจนี้ต่อเพราะเป็นความฝันของพ่อที่เสียชีวิตไป อยากจะทำให้ถูกต้อง จดทะเบียนตามกฎหมาย ตำรวจ สน.บางชัน นำตัวนายสุรศักดิ์ และนายสุรชัย สองพี่น้องผลิตสุราเถื่อนไปฝากขังที่ศาลอาญามีนบุรี ในข้อหาร่วมกันผลิตสุราโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีไว้เพื่อขายซึ่งสุราที่ผลิตขึ้นโดยฝ่าฝน ตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ส่วน สน.มีนบุรี ดำเนินคดีกับ น.ส.ภัสส์รศา ฐานผลิตและจำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต และกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย สำหรับสารเมทานอล เป็นสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ เช่น สารทำละลาย สารป้องกันความเย็น สารสกัด สารเชื้อเพลิง มีคุณสมบัติเป็นของเหลว ใส ไม่มีสี มีกลิ่นแอลกอฮอล์ คล้ายผลไม้ ระเหยง่าย และติดไฟง่าย สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ 3 ทาง ได้แก่ ทางหายใจ ทางผิวหนัง และทางเดินอาหาร เกิดความเป็นพิษเริ่มจากผิวหนังอักเสบเป็นผื่นแดงหรือเป็นสะเก็ด เกิดการระคายเคืองผิวหนังและเยื่อบุอ่อน ระคายเคืองตา มีผลต่อระบบประสาท ทำให้เกิดอาการคล้ายเมาสุรา ทำลายตับ ไต และอวัยวะอื่นๆ ถ้าสัมผัสสารนี้ปริมาณมาก อาจทำให้ตาบอดถาวร หมดสติ และเสียชีวิตได้ แต่ไม่เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ ส่วนสถานการณ์ล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้ป่วยจำแนกกลุ่มอาการรุนแรง (สีแดง) 12 ราย กลุ่มอาการสีเหลือง 3 ราย และกลุ่มอาการสีเขียว 9 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุระหว่าง 22 ถึง 69 ปี อาการเจ็บป่วยโดยส่วนใหญ่พบภาวะเลือดเป็นกรด หายใจเหนื่อย ภาวะไตวาย ตาพร่ามัว ชัก หมดสติ ส่วน 7 รายไม่มีอาการใดๆ นพ.ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ผู้ป่วยจากการดื่มสุราเถื่อนในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มีประมาณ 50-100 ราย แต่ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง เนื่องจากเป็นสารเมทานอลที่เกิดจากการกลั่นสุรา แต่ในครั้งนี้พบว่าสารเมทานอลที่พบในสุราเถื่อน เป็นลักษณะที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม และมีปริมาณสูงถึง 100,000 ppm ทั้งที่มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมกำหนดไว้ว่า ปริมาณเมทานอลในสุราทุกประเภท จะต้องไม่มีอยู่เลย #Newskit #ยาดอง #เมทานอล
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1657 มุมมอง 0 รีวิว