• Google ได้เปิดซอร์สโค้ดของ PebbleOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการของนาฬิกาอัจฉริยะ Pebble ให้สามารถดาวน์โหลดได้ภายใต้ใบอนุญาตโอเพ่นซอร์ส การตัดสินใจนี้เป็นการสนับสนุนกลุ่มอาสาสมัครที่ยังคงดูแลและพัฒนาฟังก์ชันการทำงานของอุปกรณ์ Pebble แม้ว่าการสนับสนุนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของ Pebble จะถูกยกเลิกไปแล้วถึงแปดปี

    Pebble เริ่มต้นในปี 2012 ด้วยการระดมทุนผ่าน Kickstarter ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยขายนาฬิกาอัจฉริยะได้มากกว่าสองล้านเรือนในช่วงสี่ปี ก่อนที่จะถูกซื้อกิจการโดย Fitbit และในที่สุดก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตโฟลิโอทรัพย์สินทางปัญญาของ Google

    แม้ว่า Pebble จะหยุดการสนับสนุนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ไปแล้ว แต่ยังคงมีแฟนๆ ที่ภักดีและกลุ่มอาสาสมัครจากโครงการ Rebble ที่ทำงานอย่างหนักเพื่อฟื้นฟูฟังก์ชันการทำงานของ Pebble ผ่านบริการเว็บภายนอก การเปิดซอร์สโค้ดของ PebbleOS จะช่วยให้กลุ่มอาสาสมัครเหล่านี้สามารถพัฒนาฟังก์ชันการทำงานของ Pebble ได้มากขึ้น

    อย่างไรก็ตาม โค้ดที่เปิดเผยยังขาดส่วนประกอบสำคัญบางอย่าง เช่น การสนับสนุนชิปเซ็ตและฟังก์ชันการทำงานของ Bluetooth เนื่องจากโค้ดเหล่านี้เป็นโค้ดที่มีลิขสิทธิ์และไม่สามารถเผยแพร่บน GitHub ได้ แม้จะมีข้อจำกัดเหล่านี้ ฟังก์ชันหลักของนาฬิกาอัจฉริยะ เช่น การแจ้งเตือน การควบคุมสื่อ การติดตามการออกกำลังกาย และการสนับสนุนแอปพลิเคชันที่กำหนดเอง ยังคงสามารถใช้งานได้

    Eric Migicovsky ผู้ก่อตั้ง Pebble ได้ยืนยันความสนใจในการกลับเข้าสู่ตลาดนาฬิกาอัจฉริยะอีกครั้ง โดยมีแผนที่จะพัฒนา PebbleOS เวอร์ชันที่ทันสมัยและออกแบบนาฬิกา Pebble รุ่นใหม่ แม้ว่าตลาดนาฬิกาอัจฉริยะจะเปลี่ยนแปลงไปมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่ยังคงต้องรอดูว่าผู้บริโภคจะยอมแลกนาฬิกา Android รุ่นปัจจุบันกับอุปกรณ์ Pebble ที่ปรับปรุงใหม่หรือไม่

    https://www.techspot.com/news/106536-google-open-sources-pebble-smartwatch-software-framework.html
    Google ได้เปิดซอร์สโค้ดของ PebbleOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการของนาฬิกาอัจฉริยะ Pebble ให้สามารถดาวน์โหลดได้ภายใต้ใบอนุญาตโอเพ่นซอร์ส การตัดสินใจนี้เป็นการสนับสนุนกลุ่มอาสาสมัครที่ยังคงดูแลและพัฒนาฟังก์ชันการทำงานของอุปกรณ์ Pebble แม้ว่าการสนับสนุนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของ Pebble จะถูกยกเลิกไปแล้วถึงแปดปี Pebble เริ่มต้นในปี 2012 ด้วยการระดมทุนผ่าน Kickstarter ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยขายนาฬิกาอัจฉริยะได้มากกว่าสองล้านเรือนในช่วงสี่ปี ก่อนที่จะถูกซื้อกิจการโดย Fitbit และในที่สุดก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตโฟลิโอทรัพย์สินทางปัญญาของ Google แม้ว่า Pebble จะหยุดการสนับสนุนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ไปแล้ว แต่ยังคงมีแฟนๆ ที่ภักดีและกลุ่มอาสาสมัครจากโครงการ Rebble ที่ทำงานอย่างหนักเพื่อฟื้นฟูฟังก์ชันการทำงานของ Pebble ผ่านบริการเว็บภายนอก การเปิดซอร์สโค้ดของ PebbleOS จะช่วยให้กลุ่มอาสาสมัครเหล่านี้สามารถพัฒนาฟังก์ชันการทำงานของ Pebble ได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม โค้ดที่เปิดเผยยังขาดส่วนประกอบสำคัญบางอย่าง เช่น การสนับสนุนชิปเซ็ตและฟังก์ชันการทำงานของ Bluetooth เนื่องจากโค้ดเหล่านี้เป็นโค้ดที่มีลิขสิทธิ์และไม่สามารถเผยแพร่บน GitHub ได้ แม้จะมีข้อจำกัดเหล่านี้ ฟังก์ชันหลักของนาฬิกาอัจฉริยะ เช่น การแจ้งเตือน การควบคุมสื่อ การติดตามการออกกำลังกาย และการสนับสนุนแอปพลิเคชันที่กำหนดเอง ยังคงสามารถใช้งานได้ Eric Migicovsky ผู้ก่อตั้ง Pebble ได้ยืนยันความสนใจในการกลับเข้าสู่ตลาดนาฬิกาอัจฉริยะอีกครั้ง โดยมีแผนที่จะพัฒนา PebbleOS เวอร์ชันที่ทันสมัยและออกแบบนาฬิกา Pebble รุ่นใหม่ แม้ว่าตลาดนาฬิกาอัจฉริยะจะเปลี่ยนแปลงไปมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่ยังคงต้องรอดูว่าผู้บริโภคจะยอมแลกนาฬิกา Android รุ่นปัจจุบันกับอุปกรณ์ Pebble ที่ปรับปรุงใหม่หรือไม่ https://www.techspot.com/news/106536-google-open-sources-pebble-smartwatch-software-framework.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google open-sources Pebble smartwatch software framework
    Google has announced that PebbleOS is now available for download under an open-source license, signaling its support for volunteers who continue to maintain Pebble devices. In a...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • งานเลี้ยงขอบคุณผู้หาความจริงที่มีหนึ่งเดียว
    เดินสุดซอยแรกเข้าสู่ซอยที่ 2 กับดีเอสไอ
    .
    เมื่อวานซืนนี้ (22ม.ค.68 )ผมจัดงานเลี้ยงอาหารกลางวันที่บ้านพระอาทิตย์ เพื่อขอบคุณอาสาสมัครที่ร่วมช่วยเหลือจำลองเหตุการณ์ในการตกเรือสปีดโบ๊ตเสียชีวิตของน้องแตงโม-ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ คนที่เข้ามาร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน มี อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, คุณหมอธวัชชัย กาญจนรินทร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมอุบัติเหตุ , คุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล พามิสแกรนด์ที่ร่วมพิสูจน์ความจริงมาในการแสดงเป็นน้องแตงโมที่ตกน้ำ ประกอบด้วย น้องปอย มิสแกรนด์นครพนม น้องเฟ-ริน มิสแกรนด์นครสวรรค์ น้องบาร์บี้ มิสแกรนด์เชียงใหม่ น้องนิวหยก มิสแกรนด์ชุมพร น้องหนูวรรณ มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา นอกจากนี้ ยังมีครูลิต้า ครูว่ายน้ำสอนนางเงือก มาด้วย
    .
    ส่วนคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ มาไม่ได้ เนื่องจากเข้ารับการผ่าตัดนิ่ว ยังไม่พอ ยังต้องถ่อสังขารออกจากโรงพยาบาลไปศาลอาญา เพื่อให้ไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล
    .
    เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ช่วงบ่ายๆอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ได้เปิดเผยหนังสือที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อนุมัติสืบสวนคดีการเสียชีวิตของน้องแตงโม ภัทรธิดา ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ โดยส่งต่อผู้เชี่ยวชาญด้านคดีพิเศษรับผิดชอบดำเนินการ พร้อมหลักฐานเอกสารคำร้อง 55 แผ่น โดยท่านอธิบดีมอบหมาย พ.ต.ต.ณัฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ และแจ้งให้ผู้รับเรื่องร้องทุกข์ทราบต่อไป
    .
    ท่านผู้ชมครับ การเดินทางเพื่อหาความจริงที่มีหนึ่งเดียวของคดีน้องแตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ก็ได้เดินทางมาถึงอย่างน้อยที่สุด ซอยแรก มาถึงสุดซอยแล้ว เรากำลังเดินเข้าซอยที่ 2 อยู่ ทั้งหมดนี้ไม่ได้มีเรื่องราวส่วนตัวกับใครเลยแม้แต่นิดเดียว
    .
    มีคนพูดว่าทำไมเราต้องไปยุ่งเรื่องนี้ คนที่พูดเรื่องนี้น่าจะเป็นคนที่ไร้เดียงสา เพราะปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นก็เพราะว่าตำรวจ อัยการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอาจจะมีส่วนรับรู้หรือรับเห็น หรือจงใจทำให้เกิดช่องโหว่นี้ขึ้นมา ที่สำคัญคือเขาได้ปิดกั้นความเห็นและข้อมูลที่แตกต่างไม่ให้นำเสนอ เมื่อกระบวนการขึ้นสู่ศาล ศาลก็ไม่มีทางเลือก ก็ต้องพิจารณาเฉพาะหลักฐานที่ตำรวจและอัยการส่งมา ตรงนี้เป็นจุดอ่อนของกระบวนการยุติธรรมของไทยมาก
    .
    ตรงนี้ล่ะครับท่านผู้ชม เราไม่ได้เข้าข้างน้องแตงโม และเราไม่ได้เข้าข้างตำรวจหรือว่าคุณแม่ หรือทนายความของน้องแตงโม แต่เรายืนอยู่บนความจริงมีหนึ่งเดียว นี่คือหลักการในชีวิตของผม ซึ่งถ่ายทอดต่อไป และเป็นหลักการของอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และเผอิญมันก็ไปตรงกับหลักการของคุณหมอธวัชชัย แล้วก็มีส่วนในการที่คุณอัจฉริยะ เป็นคนเปิดประเด็นขึ้นมา
    .
    บ้านพระอาทิตย์ สนธิ ลิ้มทองกุล ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ไม่ได้สนใจข้อมูลอันนี้จะไปกระเทือนใครบ้าง ถ้าข้อมูลอันนี้ออกมาแล้วพิสูจน์อย่างชัดเจนว่า เรื่องนี้จะหยุดแค่นี้ไม่ได้ ก็ต้องเดินหน้าต่อไป
    .
    แล้วเราก็มีที่พึ่งที่เดียว คือ ดีเอสไอ ถ้าคดีมีมูล สิ่งที่เราพิสูจน์แล้วดีเอสไอเชื่อว่าเป็นอย่างนั้นจริง เขาก็ต้องเอาเรื่องทั้งหมดที่สืบสวนสอบสวนมาแล้ว มีบทสรุปเข้าคณะกรรมการชุดใหญ่ทั้งหมด 21 คน ท่านนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นประธาน เมื่อตกลงแล้วข้อมูลที่ทำขึ้นมาจากการสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอนั้น เขาคิดว่าน่าจะรับเป็นคดีพิเศษได้หรือเปล่า ถ้าเขารับเป็นคดีพิเศษ กระบวนการทั้งหมดก็จะเริ่มต้นจากหนึ่งใหม่
    .
    ถ้ารับเป็นคดีพิเศษ เขาก็ต้องถามว่า ผู้ใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ มีตำรวจยศอะไรบ้างที่เกี่ยวข้อง ต้องเรียกมาสอบทีละคนๆๆ ผมถึงบอกว่า เราเพิ่งผ่านซอยแรกไปแล้ว ตอนนี้เรากำลังเริ่มเดินเข้าซอยที่สอง แต่อย่างน้อย ปรัชญาของความจริงมีหนึ่งเดียวของเรานั้น ก็ได้รับการยืนยันว่าทุกคนกำลังเดินหน้าเข้าไปหาความจริงที่มีหนึ่งเดียว
    งานเลี้ยงขอบคุณผู้หาความจริงที่มีหนึ่งเดียว เดินสุดซอยแรกเข้าสู่ซอยที่ 2 กับดีเอสไอ . เมื่อวานซืนนี้ (22ม.ค.68 )ผมจัดงานเลี้ยงอาหารกลางวันที่บ้านพระอาทิตย์ เพื่อขอบคุณอาสาสมัครที่ร่วมช่วยเหลือจำลองเหตุการณ์ในการตกเรือสปีดโบ๊ตเสียชีวิตของน้องแตงโม-ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ คนที่เข้ามาร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน มี อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, คุณหมอธวัชชัย กาญจนรินทร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมอุบัติเหตุ , คุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล พามิสแกรนด์ที่ร่วมพิสูจน์ความจริงมาในการแสดงเป็นน้องแตงโมที่ตกน้ำ ประกอบด้วย น้องปอย มิสแกรนด์นครพนม น้องเฟ-ริน มิสแกรนด์นครสวรรค์ น้องบาร์บี้ มิสแกรนด์เชียงใหม่ น้องนิวหยก มิสแกรนด์ชุมพร น้องหนูวรรณ มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา นอกจากนี้ ยังมีครูลิต้า ครูว่ายน้ำสอนนางเงือก มาด้วย . ส่วนคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ มาไม่ได้ เนื่องจากเข้ารับการผ่าตัดนิ่ว ยังไม่พอ ยังต้องถ่อสังขารออกจากโรงพยาบาลไปศาลอาญา เพื่อให้ไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล . เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ช่วงบ่ายๆอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ได้เปิดเผยหนังสือที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อนุมัติสืบสวนคดีการเสียชีวิตของน้องแตงโม ภัทรธิดา ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ โดยส่งต่อผู้เชี่ยวชาญด้านคดีพิเศษรับผิดชอบดำเนินการ พร้อมหลักฐานเอกสารคำร้อง 55 แผ่น โดยท่านอธิบดีมอบหมาย พ.ต.ต.ณัฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ และแจ้งให้ผู้รับเรื่องร้องทุกข์ทราบต่อไป . ท่านผู้ชมครับ การเดินทางเพื่อหาความจริงที่มีหนึ่งเดียวของคดีน้องแตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ก็ได้เดินทางมาถึงอย่างน้อยที่สุด ซอยแรก มาถึงสุดซอยแล้ว เรากำลังเดินเข้าซอยที่ 2 อยู่ ทั้งหมดนี้ไม่ได้มีเรื่องราวส่วนตัวกับใครเลยแม้แต่นิดเดียว . มีคนพูดว่าทำไมเราต้องไปยุ่งเรื่องนี้ คนที่พูดเรื่องนี้น่าจะเป็นคนที่ไร้เดียงสา เพราะปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นก็เพราะว่าตำรวจ อัยการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอาจจะมีส่วนรับรู้หรือรับเห็น หรือจงใจทำให้เกิดช่องโหว่นี้ขึ้นมา ที่สำคัญคือเขาได้ปิดกั้นความเห็นและข้อมูลที่แตกต่างไม่ให้นำเสนอ เมื่อกระบวนการขึ้นสู่ศาล ศาลก็ไม่มีทางเลือก ก็ต้องพิจารณาเฉพาะหลักฐานที่ตำรวจและอัยการส่งมา ตรงนี้เป็นจุดอ่อนของกระบวนการยุติธรรมของไทยมาก . ตรงนี้ล่ะครับท่านผู้ชม เราไม่ได้เข้าข้างน้องแตงโม และเราไม่ได้เข้าข้างตำรวจหรือว่าคุณแม่ หรือทนายความของน้องแตงโม แต่เรายืนอยู่บนความจริงมีหนึ่งเดียว นี่คือหลักการในชีวิตของผม ซึ่งถ่ายทอดต่อไป และเป็นหลักการของอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และเผอิญมันก็ไปตรงกับหลักการของคุณหมอธวัชชัย แล้วก็มีส่วนในการที่คุณอัจฉริยะ เป็นคนเปิดประเด็นขึ้นมา . บ้านพระอาทิตย์ สนธิ ลิ้มทองกุล ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ไม่ได้สนใจข้อมูลอันนี้จะไปกระเทือนใครบ้าง ถ้าข้อมูลอันนี้ออกมาแล้วพิสูจน์อย่างชัดเจนว่า เรื่องนี้จะหยุดแค่นี้ไม่ได้ ก็ต้องเดินหน้าต่อไป . แล้วเราก็มีที่พึ่งที่เดียว คือ ดีเอสไอ ถ้าคดีมีมูล สิ่งที่เราพิสูจน์แล้วดีเอสไอเชื่อว่าเป็นอย่างนั้นจริง เขาก็ต้องเอาเรื่องทั้งหมดที่สืบสวนสอบสวนมาแล้ว มีบทสรุปเข้าคณะกรรมการชุดใหญ่ทั้งหมด 21 คน ท่านนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นประธาน เมื่อตกลงแล้วข้อมูลที่ทำขึ้นมาจากการสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอนั้น เขาคิดว่าน่าจะรับเป็นคดีพิเศษได้หรือเปล่า ถ้าเขารับเป็นคดีพิเศษ กระบวนการทั้งหมดก็จะเริ่มต้นจากหนึ่งใหม่ . ถ้ารับเป็นคดีพิเศษ เขาก็ต้องถามว่า ผู้ใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ มีตำรวจยศอะไรบ้างที่เกี่ยวข้อง ต้องเรียกมาสอบทีละคนๆๆ ผมถึงบอกว่า เราเพิ่งผ่านซอยแรกไปแล้ว ตอนนี้เรากำลังเริ่มเดินเข้าซอยที่สอง แต่อย่างน้อย ปรัชญาของความจริงมีหนึ่งเดียวของเรานั้น ก็ได้รับการยืนยันว่าทุกคนกำลังเดินหน้าเข้าไปหาความจริงที่มีหนึ่งเดียว
    Like
    Love
    21
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1137 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อช่วงสายวันที่ 22 ม.ค. 68 “สนธิ ลิ้มทองกุล” ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ผู้จัดการ ได้จัดงานเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อขอบคุณอาสาสมัครที่มาร่วมจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของ “แตงโม นิดา พัชระวีรพงษ์”เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา ณ บ้านพระอาทิตย์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000006866

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เมื่อช่วงสายวันที่ 22 ม.ค. 68 “สนธิ ลิ้มทองกุล” ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ผู้จัดการ ได้จัดงานเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อขอบคุณอาสาสมัครที่มาร่วมจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของ “แตงโม นิดา พัชระวีรพงษ์”เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา ณ บ้านพระอาทิตย์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000006866 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 743 มุมมอง 1 รีวิว
  • บรรยากาศงานเลี้ยงขอบคุณ #อาสาสมัคร จำลองการ #ตกน้ำ #แตงโม #บ้านพระอาทิตย์ #สนธิลิ้มทองกุล #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ #มิสแกรนด์
    https://m.facebook.com/watch/?v=9719980928012489
    บรรยากาศงานเลี้ยงขอบคุณ #อาสาสมัคร จำลองการ #ตกน้ำ #แตงโม #บ้านพระอาทิตย์ #สนธิลิ้มทองกุล #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ #มิสแกรนด์ https://m.facebook.com/watch/?v=9719980928012489
    M.FACEBOOK.COM
    Live บ้านพระอาทิตย์ | LIVE : บรรยากาศการเลี้ยงขอบคุณอาสาสมัครมิสแกรนด์ ที่มาจำลองสถานการณ์การเสียชีวิตของ “แตงโม” และ ให้สัมภาษณ์ ที่บ้านพระอาทิตย์ | By คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    LIVE : บรรยากาศการเลี้ยงขอบคุณอาสาสมัครมิสแกรนด์ ที่มาจำลองสถานการณ์การเสียชีวิตของ “แตงโม” และ ให้สัมภาษณ์ ที่บ้านพระอาทิตย์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระบวนการบิดเบี้ยวของระบบสุขภาพ
    ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต

    ⭐️⭐️⭐️
    (ตอนที่ 1)
    ความยั่งยืนของระบบสุขภาพนั้นประกอบไปด้วยความตระหนักของประชาชนในการดูแลตัวเองด้วยข้อมูลที่ถูกต้องและเพาะบ่ม ตั้งแต่ในครอบครัวในโรงเรียนตั้งแต่อนุบาลต่อเนื่องไปทั้งชีวิต
    การละทิ้งการรักษาตัวเองจะก่อให้เกิดโรคทางสุขภาพมากมายทำให้คนไทย เปราะบางและพร้อมที่จะเกิดโรคต่างๆในระดับความรุนแรงมากกว่าปกติและแม้เมื่อกระทบกับโรคติดเชื้อกลับถึงกับเสียชีวิต อย่างง่ายดาย
    การโหมประโคม การรักษาฟรีได้ทุกโรคโดยไม่บอกความจริงถึงงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด และเพิ่มสิทธิประโยชน์โดยที่ประชาชนไม่ทราบว่าการรักษานั้นไม่ได้ถึงขีดสุดตามที่ควรจะเป็น
    และแม้ว่าจะสามารถรักษาโรคบางอย่างได้ดีเช่นหลอดเลือดหัวใจตันหรือภาวะไตวายซึ่งมีการต่อสู้กันอย่างเนิ่นนานให้เป็นการฟอกเลือดแทนการล้างไตในช่องท้องซึ่งประชาชนและครอบครัวยังไม่พร้อมก่อให้เกิดการติดเชื้อและเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว
    แต่จำนวนผู้ป่วยเหล่านี้ปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณจนแพทย์พยาบาลและบุคลากรผู้เชี่ยวชาญรับมือไม่ไหว อย่างเช่นประเทศเกาหลีใต้ซึ่งมีการหยุดงานประท้วงของแพทย์ นักศึกษาแพทย์จนกระทั่งถึงลาออก ทั้งนี้เนื่องจากไม่เข้าใจว่าการให้บุคลากรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเหล่านี้ยังอยู่ในระบบได้เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ไม่ใช่เร่งผลิตแพทย์เอาแต่ปริมาณจำนวนและในที่สุดแล้วมีปัญหาเรื่องคุณภาพและผลกระทบก็คือตกอยู่ที่ประชาชนคนป่วยและขาดความเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขรวมถึงการฟ้องร้องอย่างรุนแรง

    ประเด็นที่เกี่ยวโยงกัน คือการหาประโยชน์จากระบบสุขภาพกลายเป็นห่วงโซ่ธุรกิจข้ามชาติ ทั้งนี้
    ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีอิทธิพลของบริษัทยา วัคซีนและเครื่องมือแพทย์ต่างๆ โยงไปถึง หน่วยงานหลักของรัฐบาลในแต่ละประเทศ และจนกระทั่งองค์กรหลัก ของโลก และในประเทศตะวันตก ซึ่งระบบสาธารณสุขของไทยยึดถือตามเอาอย่างโดยไม่ผิดเพี้ยน

    การปล่อยออกตลาด ของวัคซีนโควิดในสภาวะฉุกเฉิน แต่กระนั้นก็ต้องมีการศึกษาความปลอดภัยในมนุษย์เป็นขั้นตอนที่หนึ่ง

    ครอบครัวของเด็กหญิงอายุ 12 ปีที่เป็นอาสาสมัครเข้ารับวัคซีนไฟเซอร์ในการศึกษาในมนุษย์ระยะที่หนึ่งในเรื่องความปลอดภัย ปรากฏว่าหลังเข็มที่หนึ่งมีแต่ไข้เจ็บแขนและหายไป แต่หลังเข็มที่สองเกิดอาการมหาศาลตามต่อ 20 ถึง 30 อาการ ต้องเข้าโรงพยาบาล
    อาสาสมัครเหล่านี้นำไปรายงานใน วารสารนิวอิงแลนด์ วันที่ 27 พฤษภาคม 2021 และสรุปว่าอาสาสมัครที่ได้รับวัคซีนต่างมีอาการเล็กน้อยไม่รุนแรงและกล่าวถึงเด็กหญิงคนนี้ว่าอาการไม่น่าวิตกอะไรและเป็นเพียงปวดท้องเนื่องจากความเครียดทางอารมณ์
    หลังจากนั้นอีกไม่นานข้อมูลเหล่านี้ถูกนำไปใช้ในเรื่องความปลอดภัยของวัคซีนและนำไปสู่การศึกษาในมนุษย์อย่างรวดเร็วจนกระทั่งมีการใช้จริงในกลางปี 2021

    วิดีโอนี้เป็นการบันทึกคำให้การของมารดาของเด็กหญิงที่ได้รับผลกระทบและขณะนี้ ยังต้องนั่งรถเข็นและใส่สายยางให้อาหาร เป็นคำให้การและหลักฐานต่อวุฒิสมาชิกและยังมีผู้ป่วยอีกหลายรายที่ได้รับผลกระทบ
    เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตีพิมพ์ในวารสาร ชั้นหนึ่งอันดับโลกมึความบิดเบี้ยว และในบทความตีพิมพ์นี้ นายแพทย์ที่เป็นชื่อแรกคือคนที่รับผิดชอบและดูแลผู้ป่วยรายนี้ด้วยซ้ำ

    กรุณาดูวิดีโอชิ้นนี้ ทั้งนี้เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดไม่ได้มีการตัดต่อใดๆ

    https://youtu.be/L2GKPYzL_JQ?si=VKECXgj_GwGoqKzL

    ยาที่ถูกแสนถูกหมดสิทธิบัตรแล้วและถูกห้ามใช้อย่างรุนแรงจากองค์กรสากลต่างๆ รวมทั้งในประเทศไทย
    ในที่สุด FDA สหรัฐ แพ้คดี ต้องถอนข้อความในการห้ามใช้ ยาฆ่าพยาธิ ไอเวอร์เมคติน ในการป้องกัน และรักษาโควิด และที่มีการดูถูกถากถาง และส่งผลให้แพทย์ถูกลงโทษ

    อีกตัวอย่างที่น่ากลัวคือ การถ่ายทอดผ่านรกของวัคซีน COVID-19 mRNA
    หลักฐานจากการวิเคราะห์รก มารดา และเลือดจากสายสะดือหลังการฉีดวัคซีน

    https://www.ajog.org/article/S0002-9378(24)00063-2/fulltext?fbclid=IwAR213l0Ygqu3FCbE-9iXZ6eZUDjwBk6JnfHex9JA1W2CQKokz62WLOj7tpI

    ประเด็นที่ร้ายแรงต่อตามมาก็คือ ผลผลิตของนวัตกรรมซึ่งสามารถเกิดขึ้น อย่างมหัศจรรย์ แบบผิดธรรมชาติ จากวัคซีนโควิด
    นวัตกรรมนี้สามารถสร้างความเสียหายโดยผ่านกลไกหลายระบบ แบบที่พบเห็นกันทั่วไปจากกลไกทางด้านภูมิคุ้มกัน

    แต่ที่พิเศษไปกว่านั้น คือความสามารถที่จะฝังตัวอยู่ในร่างกายมนุษย์ไปนานเป็นปี และสั่งให้ร่างกายมนุษย์สร้างโปรตีนหนาม เป็นเป้าล่อให้กระบวนการภูมิคุ้มกันของมนุษย์เข้ามาทำลาย ซึ่งก็หมายความว่าทำร้ายตัวเอง

    นอกจากนั้นโปรตีนหนามนี้ เข้าไปสอดแทรกในเนื้อเยื่อที่ลึกลงไป ก่อให้เกิดการอักเสบมีรูพรุนเหมือนฟองน้ำ และต่อมา ชิ้นของเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายจะค่อยๆ ทะลักออกมาทางผิวเซลล์ที่ถูกทำลาย

    และในกรณีของหลอดเลือดจะทะลักออกมาในกระแสเลือดโดยโปรตีนนี้ จะเหนี่ยวนำ ให้เกิดโปรตีนบิดเกลียว misfolded protein ลักษณะเป็นอมิลอยด์ ซึ่งไม่สามารถย่อยได้ด้วยเอนไซม์ และค่อยๆ สะสมขึ้นทีละน้อย ลักษณะอาจเป็นก้อนหรือเป็นแท่งหล่อ พบ ขณะมีชีวิตและเมื่อตายแล้ว และไม่จำเป็นต้องเกิดทุกคน
    กลไกจากนวัตกรรมนี้ จนได้ผลิตผล ขั้นสูงสุดดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผิดธรรมชาติ และ “ถ้าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียยอมรับว่าเกิดขึ้นได้นั้น” หมายความว่าแพลตฟอร์มของนวัตกรรมนี้ที่จะนำมาใช้สำหรับโรคอื่นทุกชนิดที่จะเปลี่ยนรูปแบบทุกอย่างในโลกนี้ ต้องถูกระงับ
    เป็นคำอธิบายชัดเจนในการต่อต้าน

    ทั้งนี้ ได้สรุปเหตุผลและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดจากนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของประเทศเยอรมันและเจ้าหน้าที่ในสหรัฐ
    กลุ่มของนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำไม่สามารถนำลงไปตีพิมพ์ในวารสารได้ เพราะได้รับการต่อต้านตั้งแต่ พบหลักฐานใน 15 รายแรกและได้แจ้งให้สมาคม ราชวิทยาลัยของประเทศให้จับตาและทำการศึกษาอย่างจริงจังแต่ได้รับการปฏิเสธโดยสิ้นเชิง

    ดังนั้น เป็นการเสนองานทางวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดในที่ประชุมนานาชาติ จากการชันสูตรศพและวิเคราะห์เนื้อเยื่อทางกล้องจุลทรรศน์และทางฟิสิกส์จากศพ 100 ราย และจากชิ้นเนื้อจากผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ 20 ราย
    และข้อมูล ที่สำคัญที่มอบให้สื่อ ยังเป็นรายงานจากเจ้าหน้าที่ที่อยู่ใน cath lab ที่ไม่ระบุชื่อ anonymous whistle blower ที่โรงพยาบาลในสหรัฐที่ทำการฉีดสีและดูด ลาก ตัด ก้อนที่ปะปนกับลิ่มเลือดตามปกติออกมา ซึ่งได้ทำการรายงานโรงพยาบาลทันทีแต่ได้รับคำสั่งห้ามพูดเด็ดขาดไม่เช่นนั้นจะถูกไล่ออก เลยได้ทำการติดต่อโรงพยาบาลหลายแห่งในสหรัฐซึ่งก็พบปรากฏการณ์เช่นนี้และทุกแห่งถูกสั่งห้ามพูด

    ทั้งนี้จะมีโรงพยาบาลหลักในสหรัฐซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการมีส่วนได้ส่วนเสียเหล่านี้
    และสนับสนุนนวัตกรรมนี้ทำการปิดกั้นผลกระทบ เหล่านี้ อย่างสิ้นเชิง

    ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข
    มหาวิทยาลัยรังสิต
    https://www.facebook.com/share/p/156oKE5AFU/

    https://www.facebook.com/share/1C1p7pDaYb/

    ⭐️⭐️⭐️
    (ตอนที่ 2)

    ปรากฏการณ์ที่กระทบมนุษย์นั้นเริ่มเห็นหนาตาขึ้น จนปิดไม่มิดและประชาชนได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า
    สำหรับคนที่ยังไม่เกิดอาการและไม่เห็นความสำคัญ ของข้อมูลเหล่านี้ต้องไม่ลืมว่าต้องรอถึงอย่างน้อย 10 ปีจึงจะแน่ใจว่าอยู่รอดปลอดภัย

    วัคซีน นวัตกรรมอำมหิตนี้ 1- มันไม่ได้อยู่ที่ต้นแขนเท่านั้น 2- มันเลื้อยเข้ากระแสเลือด 3- มันซึมเข้าไปในเซลล์ทุกแห่งในเนื้อเยื่อและทุกอวัยวะ 4- มันบังคับให้เราสร้างโปรตีนหนามในเซลล์
    5- โปรตีนหนามเป็นพิษต่อเซลล์ 6-โปรตีนหนามยังเป็นเป้าล่อให้ร่างกายพยายามทำลายเลยเกิดการอักเสบในร่างกาย 7- สิ่งที่หลุดรั่วออกมาจากผนังเซลล์และเนื้อเยื่อมีปฏิกิริยาเหนียวนำทำให้เกิดโปรตีนชนิดใหม่เป็นอมิลอยด์โปรตีนเข้าไปในหลอดเลือด 8- มันยังมีสิ่งแปลกปลอมเพราะกระบวนการผลิตมีดีเอ็นเอปนเปื้อนและยังมียีนส์ที่ทำให้มันเข้าไปเสียบในโครโมโซมของมนุษย์
    9-คุณสมบัติของอนุภาคนาโนไขมันที่มีขยะอยู่มากและพร้อมที่จะเข้าไปเสียบในโครโมโซมของมนุษย์โดยเฉพาะที่พิสูจน์แล้วคือโครโมโซมที่เก้าและสิบสอง และ 10- สิ่งที่ควรทำและต้องทำคือต้องหยุดการฉีดมันเข้าร่างกายมนุษย์

    สมควรแล้วหรือไม่ที่มีเทคโนโลยีนี้นำมาใช้ในโรคชนิดต่างๆที่ทยอยกันออกมา
    สมควรหรือไม่ที่ต้องออกมารับผิดชอบเยียวยาผู้ที่เสียชีวิตและพิการตลอดชีวิต

    หยุด “มัน” เดี๋ยวนี้และเปิดโปงผู้ได้รับผลประโยชน์จาก “มัน”
    ขั้นตอนที่จะสู้คือการพัฒนาการตรวจจากเลือดเพื่อดูปริมาณของสารผิดปกตินี้ และใช้ยาถอนพิษซึ่งขณะนี้มีหลายตำรับด้วยกันโดยที่ต้องประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัย
    (ไทยรัฐ สุขภาพหรรษา หมอดื้อ นวตกรรมอำมหิต ตอนหนึ่งและสอง)

    ประเด็นของ ขององค์การอนามัยโลก และยึดโยงลงเกี่ยวข้องกับประเทศไทยในเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วลากมาปัจจุบันและที่คนไทยจะเจออะไรในอนาคต
    Tucker Carlson น่าจะเป็นคนเดียวที่หยิบยก และคนเริ่มหันมาสนใจหลาย ล้านคนแล้ว
    https://youtu.be/4MIESbBnA2k?si=JV-UPUa9oHZkP25Y
    โดยที่ องค์การจะทำการควบคุมทุกอย่าง ในการตัดสินภาวะฉุกเฉินและสามารถกำหนดให้ประเทศภาคีต้องปฏิบัติตามทั้งในด้านยาผลิตภัณฑ์ ชนิดของวัคซีน และทั้งหลายทั้งปวงโดยเคร่งครัด บิดพริ้ว ไม่ได้
    ไม่สามารถคิดเองทำเองได้โดยเด็ดขาด และสามารถปิดกั้นข้อมูลที่ไม่สอดคล้องได้อย่างสมบูรณ์ทั้งโลกเป็น เรียลไทม์
    ไทยก็เป็นประเทศหนึ่งในภาคีเครือข่าย เนื้อหา บทกำหนดใหม่นั้น มีการตกแต่งต่อเติม อ่านแล้ว งงงวย สรุปคือ ถ้ายอมตามก็เป็นไปตามนั้น และองค์กรถ้าทำผิดพลาดจะไม่ต้องรับผิดชอบ ซึ่งฟังดูคุ้นๆ ให้ประเทศรับผิดชอบกันเอง

    ควรหรือไม่ควรที่จะมีการถามจุดยืนของประเทศไทย หรือจะทำอย่างที่ทำมาตลอด ฝรั่งว่าดี ถึงจะทำ ถ้ามีคำแนะนำอะไร ของฝรั่งถือว่าดีที่สุด สมาคมราชวิทยาลัยต่างประเทศ ว่าอย่างไรต้องทำตาม ไม่มีใครเคยฉุกคิดว่า ข้อมูลที่ปรากฏผลที่ประมวลมีการตั้งใจที่จะตัดข้อมูลบางส่วนทิ้งที่ทำให้สถิติออกมา ดูดีหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตรวจสอบไม่ได้

    การอ่านวารสารในปัจจุบัน โดยเฉพาะในส่วนที่ผลออกมาดีอย่างผิดธรรมชาติ หรือเลวอย่างไม่น่าเป็นไปได้ จำเป็นต้องหาข้อมูลรอบด้าน totality of evidence สิ่งที่เห็นรอบตัว
    ยกตัวอย่างเช่น ประเทศไทย โดยทางการ แถลงทุกสื่อเมื่อไม่นานมานี้ ประกาศว่า
    มีคนได้รับผลกระทบของวัคซีนโควิดอย่างรุนแรงทั้งประเทศ และเสียชีวิตมี จำนวนห้ารายเท่านั้น
    ดังนั้นอัตราส่วนคือหนึ่งต่อ 1,000,000 คน
    และข้อร้องเรียนอื่นๆนั้น เมื่อพิจารณา อย่างถี่ถ้วนแล้วว่าพบว่าไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน

    รายงานในวารสารโดยจากคณะกรรมการพิจารณาผลข้างเคียงของวัคซีนในประเทศไทย บอกว่าวัคซีนปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ มีผลข้างเคียง“น้อยมาก” และ“ไม่รุนแรง”
    ในขณะที่สถาบันในประเทศไทยที่ไม่มีอคติทับซ้อนกลับรายงาน ตรงข้าม

    ประชาชนพยายามที่จะบอกว่าได้มีคำร้องไปแล้วครอบครัวมีคนตายไปแล้วแต่ไม่เข้าเกณฑ์ถูกปัดตกมากมาย หรือที่มีการชดเชย โดย สปสช ไปแล้วก็จะมีการสรุปว่าเป็นตัวเลขที่บรรเทาความเดือดร้อน เท่านั้น ยัง ไม่ได้ พิสูจน์ เกี่ยวข้องกับวัคซีน

    เนื้อหาทางด้านล่างนี้เป็นคำบรรยายตามสูตรของกระทรวงสาธารณสุข อ่านแล้วพิจารณาให้ดี

    ……กองระบาด กรมการแพทย์ไม่ได้มีการปิดบังข้อมูลอะไรเลยเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีนมีการตรวจสอบถูกต้องตามระบบของ WHO

    สปสช จ่ายเงินเยียวยา โดยไม่ได้ใช้ฐานข้อมูลและผลสรุปของกองระบาดซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบผลข้างเคียงที่มีความถูกต้องกว่า
    เนื่องจากตอนนั้น รัฐบาลมีความกังวลว่าคนจะไม่ไปฉีดวัคซีน จึงยอมจ่ายค่าเยียวยา ซึ่งหลายๆครั้งไม่มีการตรวจสอบที่ถูกต้องครับ เพื่อให้การเยียวยาเบื้องต้นไปก่อน

    สรุปว่าเมื่อ ทางการ จะทำการอ้างอะไร จะเป็นไปตามเบื้องบนองค์กรสั่ง ใช้กรรมการที่ไม่ได้ประกาศชื่อว่ามีใครบ้าง และถ้าความเป็นจริงปรากฏตรงข้ามดังที่เห็นในปัจจุบัน จะต้องรับผิดชอบ ความผิดในการปกปิดบิดเบือนข้อมูลหรือไม่ และจะถูกลงโทษประการใดหรือไม่?

    ทำให้คนไทยต้องมองดูรอบตัว และถ้ายังคงเป็นเช่นนี้อยู่คนไทยมีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องให้เปิดเผยความเป็นจริงทุกอย่างและได้รับการเยียวยาที่ถูกต้องใช่หรือไม่

    องค์การอนามัยโลก (WHO) สามารถจะทำการควบคุมทุกอย่าง ในการตัดสินภาวะฉุกเฉิน และสามารถกำหนดให้ประเทศภาคี “ต้อง” ปฏิบัติตามทั้ง ในด้านยา ผลิตภัณฑ์ ชนิดของวัคซีน และทั้งหลายทั้งปวงโดยเคร่งครัด บิดพริ้ว ไม่ได้ ก็ด้วยข้อตกลงระหว่างประเทศกฎอนามัยระหว่างประเทศ (International Health Regulations หรือ IHR)
    ยิ่งกว่านั้น “ภาวะฉุกเฉิน” นอกจากหมายถึงโรคระบาด WHO ยังสามารถประกาศภาวะอะไรตามแต่ ผอ.WHO จะตัดสินตามใจชอบ เช่น มีการโหมโรงจาก บิลล์ เกตส์ องค์การโลกอื่นๆ รวมถึง World Economic Forum (WEF) ว่า public health emergency (PHE) จะกลายเป็นผู้กำหนดและบริหารระเบียบโลก (New World Order, NWO)

    ทั้งร่าง IHR และ PHE ใหม่กำลังจะประชุมตัวแทนประเทศสมาชิกลงนามรับในเดือน พฤษภาคม 2567 ที่จะมาถึง รัฐบาลไทยจะต้องปฏิเสธทั้ง สอง ฉบับเด็ดขาด หากแม้นรับเพียงอันหนึ่งอันใดก็ตาม ตามที่ผู้เชี่ยวชาญได้เตือนไว้ จะหมายถึงการเสียอธิปไตยของประเทศให้แก่ WHO ที่ไม่อาจบิดพริ้วได้

    ฟังคลิปสั้นที่แนบโดยทนายสวิส Phillip Kruse บรรยายถึงอันตราย WHO ถอดความจากงานสัมมนา International COVID Summit ครั้งที่ 5 ด้านล่าง
    https://rumble.com/v4finab-excerpts-from-the-international-covid-summit-5.html?utm_source=substack&utm_medium=email

    สิ่งที่เห็นด้วยตาของทุกคนเป็นความจริงหนึ่งเดียว

    https://www.facebook.com/share/1C1p7pDaYb/
    https://www.facebook.com/share/p/156oKE5AFU/

    ขอขอบคุณ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต
    🙏🙏🙏
    กระบวนการบิดเบี้ยวของระบบสุขภาพ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ⭐️⭐️⭐️ (ตอนที่ 1) ความยั่งยืนของระบบสุขภาพนั้นประกอบไปด้วยความตระหนักของประชาชนในการดูแลตัวเองด้วยข้อมูลที่ถูกต้องและเพาะบ่ม ตั้งแต่ในครอบครัวในโรงเรียนตั้งแต่อนุบาลต่อเนื่องไปทั้งชีวิต การละทิ้งการรักษาตัวเองจะก่อให้เกิดโรคทางสุขภาพมากมายทำให้คนไทย เปราะบางและพร้อมที่จะเกิดโรคต่างๆในระดับความรุนแรงมากกว่าปกติและแม้เมื่อกระทบกับโรคติดเชื้อกลับถึงกับเสียชีวิต อย่างง่ายดาย การโหมประโคม การรักษาฟรีได้ทุกโรคโดยไม่บอกความจริงถึงงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด และเพิ่มสิทธิประโยชน์โดยที่ประชาชนไม่ทราบว่าการรักษานั้นไม่ได้ถึงขีดสุดตามที่ควรจะเป็น และแม้ว่าจะสามารถรักษาโรคบางอย่างได้ดีเช่นหลอดเลือดหัวใจตันหรือภาวะไตวายซึ่งมีการต่อสู้กันอย่างเนิ่นนานให้เป็นการฟอกเลือดแทนการล้างไตในช่องท้องซึ่งประชาชนและครอบครัวยังไม่พร้อมก่อให้เกิดการติดเชื้อและเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว แต่จำนวนผู้ป่วยเหล่านี้ปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณจนแพทย์พยาบาลและบุคลากรผู้เชี่ยวชาญรับมือไม่ไหว อย่างเช่นประเทศเกาหลีใต้ซึ่งมีการหยุดงานประท้วงของแพทย์ นักศึกษาแพทย์จนกระทั่งถึงลาออก ทั้งนี้เนื่องจากไม่เข้าใจว่าการให้บุคลากรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเหล่านี้ยังอยู่ในระบบได้เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ไม่ใช่เร่งผลิตแพทย์เอาแต่ปริมาณจำนวนและในที่สุดแล้วมีปัญหาเรื่องคุณภาพและผลกระทบก็คือตกอยู่ที่ประชาชนคนป่วยและขาดความเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขรวมถึงการฟ้องร้องอย่างรุนแรง ประเด็นที่เกี่ยวโยงกัน คือการหาประโยชน์จากระบบสุขภาพกลายเป็นห่วงโซ่ธุรกิจข้ามชาติ ทั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีอิทธิพลของบริษัทยา วัคซีนและเครื่องมือแพทย์ต่างๆ โยงไปถึง หน่วยงานหลักของรัฐบาลในแต่ละประเทศ และจนกระทั่งองค์กรหลัก ของโลก และในประเทศตะวันตก ซึ่งระบบสาธารณสุขของไทยยึดถือตามเอาอย่างโดยไม่ผิดเพี้ยน การปล่อยออกตลาด ของวัคซีนโควิดในสภาวะฉุกเฉิน แต่กระนั้นก็ต้องมีการศึกษาความปลอดภัยในมนุษย์เป็นขั้นตอนที่หนึ่ง ครอบครัวของเด็กหญิงอายุ 12 ปีที่เป็นอาสาสมัครเข้ารับวัคซีนไฟเซอร์ในการศึกษาในมนุษย์ระยะที่หนึ่งในเรื่องความปลอดภัย ปรากฏว่าหลังเข็มที่หนึ่งมีแต่ไข้เจ็บแขนและหายไป แต่หลังเข็มที่สองเกิดอาการมหาศาลตามต่อ 20 ถึง 30 อาการ ต้องเข้าโรงพยาบาล อาสาสมัครเหล่านี้นำไปรายงานใน วารสารนิวอิงแลนด์ วันที่ 27 พฤษภาคม 2021 และสรุปว่าอาสาสมัครที่ได้รับวัคซีนต่างมีอาการเล็กน้อยไม่รุนแรงและกล่าวถึงเด็กหญิงคนนี้ว่าอาการไม่น่าวิตกอะไรและเป็นเพียงปวดท้องเนื่องจากความเครียดทางอารมณ์ หลังจากนั้นอีกไม่นานข้อมูลเหล่านี้ถูกนำไปใช้ในเรื่องความปลอดภัยของวัคซีนและนำไปสู่การศึกษาในมนุษย์อย่างรวดเร็วจนกระทั่งมีการใช้จริงในกลางปี 2021 วิดีโอนี้เป็นการบันทึกคำให้การของมารดาของเด็กหญิงที่ได้รับผลกระทบและขณะนี้ ยังต้องนั่งรถเข็นและใส่สายยางให้อาหาร เป็นคำให้การและหลักฐานต่อวุฒิสมาชิกและยังมีผู้ป่วยอีกหลายรายที่ได้รับผลกระทบ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการตีพิมพ์ในวารสาร ชั้นหนึ่งอันดับโลกมึความบิดเบี้ยว และในบทความตีพิมพ์นี้ นายแพทย์ที่เป็นชื่อแรกคือคนที่รับผิดชอบและดูแลผู้ป่วยรายนี้ด้วยซ้ำ กรุณาดูวิดีโอชิ้นนี้ ทั้งนี้เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดไม่ได้มีการตัดต่อใดๆ https://youtu.be/L2GKPYzL_JQ?si=VKECXgj_GwGoqKzL ยาที่ถูกแสนถูกหมดสิทธิบัตรแล้วและถูกห้ามใช้อย่างรุนแรงจากองค์กรสากลต่างๆ รวมทั้งในประเทศไทย ในที่สุด FDA สหรัฐ แพ้คดี ต้องถอนข้อความในการห้ามใช้ ยาฆ่าพยาธิ ไอเวอร์เมคติน ในการป้องกัน และรักษาโควิด และที่มีการดูถูกถากถาง และส่งผลให้แพทย์ถูกลงโทษ อีกตัวอย่างที่น่ากลัวคือ การถ่ายทอดผ่านรกของวัคซีน COVID-19 mRNA หลักฐานจากการวิเคราะห์รก มารดา และเลือดจากสายสะดือหลังการฉีดวัคซีน https://www.ajog.org/article/S0002-9378(24)00063-2/fulltext?fbclid=IwAR213l0Ygqu3FCbE-9iXZ6eZUDjwBk6JnfHex9JA1W2CQKokz62WLOj7tpI ประเด็นที่ร้ายแรงต่อตามมาก็คือ ผลผลิตของนวัตกรรมซึ่งสามารถเกิดขึ้น อย่างมหัศจรรย์ แบบผิดธรรมชาติ จากวัคซีนโควิด นวัตกรรมนี้สามารถสร้างความเสียหายโดยผ่านกลไกหลายระบบ แบบที่พบเห็นกันทั่วไปจากกลไกทางด้านภูมิคุ้มกัน แต่ที่พิเศษไปกว่านั้น คือความสามารถที่จะฝังตัวอยู่ในร่างกายมนุษย์ไปนานเป็นปี และสั่งให้ร่างกายมนุษย์สร้างโปรตีนหนาม เป็นเป้าล่อให้กระบวนการภูมิคุ้มกันของมนุษย์เข้ามาทำลาย ซึ่งก็หมายความว่าทำร้ายตัวเอง นอกจากนั้นโปรตีนหนามนี้ เข้าไปสอดแทรกในเนื้อเยื่อที่ลึกลงไป ก่อให้เกิดการอักเสบมีรูพรุนเหมือนฟองน้ำ และต่อมา ชิ้นของเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายจะค่อยๆ ทะลักออกมาทางผิวเซลล์ที่ถูกทำลาย และในกรณีของหลอดเลือดจะทะลักออกมาในกระแสเลือดโดยโปรตีนนี้ จะเหนี่ยวนำ ให้เกิดโปรตีนบิดเกลียว misfolded protein ลักษณะเป็นอมิลอยด์ ซึ่งไม่สามารถย่อยได้ด้วยเอนไซม์ และค่อยๆ สะสมขึ้นทีละน้อย ลักษณะอาจเป็นก้อนหรือเป็นแท่งหล่อ พบ ขณะมีชีวิตและเมื่อตายแล้ว และไม่จำเป็นต้องเกิดทุกคน กลไกจากนวัตกรรมนี้ จนได้ผลิตผล ขั้นสูงสุดดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผิดธรรมชาติ และ “ถ้าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียยอมรับว่าเกิดขึ้นได้นั้น” หมายความว่าแพลตฟอร์มของนวัตกรรมนี้ที่จะนำมาใช้สำหรับโรคอื่นทุกชนิดที่จะเปลี่ยนรูปแบบทุกอย่างในโลกนี้ ต้องถูกระงับ เป็นคำอธิบายชัดเจนในการต่อต้าน ทั้งนี้ ได้สรุปเหตุผลและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดจากนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของประเทศเยอรมันและเจ้าหน้าที่ในสหรัฐ กลุ่มของนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำไม่สามารถนำลงไปตีพิมพ์ในวารสารได้ เพราะได้รับการต่อต้านตั้งแต่ พบหลักฐานใน 15 รายแรกและได้แจ้งให้สมาคม ราชวิทยาลัยของประเทศให้จับตาและทำการศึกษาอย่างจริงจังแต่ได้รับการปฏิเสธโดยสิ้นเชิง ดังนั้น เป็นการเสนองานทางวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดในที่ประชุมนานาชาติ จากการชันสูตรศพและวิเคราะห์เนื้อเยื่อทางกล้องจุลทรรศน์และทางฟิสิกส์จากศพ 100 ราย และจากชิ้นเนื้อจากผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ 20 ราย และข้อมูล ที่สำคัญที่มอบให้สื่อ ยังเป็นรายงานจากเจ้าหน้าที่ที่อยู่ใน cath lab ที่ไม่ระบุชื่อ anonymous whistle blower ที่โรงพยาบาลในสหรัฐที่ทำการฉีดสีและดูด ลาก ตัด ก้อนที่ปะปนกับลิ่มเลือดตามปกติออกมา ซึ่งได้ทำการรายงานโรงพยาบาลทันทีแต่ได้รับคำสั่งห้ามพูดเด็ดขาดไม่เช่นนั้นจะถูกไล่ออก เลยได้ทำการติดต่อโรงพยาบาลหลายแห่งในสหรัฐซึ่งก็พบปรากฏการณ์เช่นนี้และทุกแห่งถูกสั่งห้ามพูด ทั้งนี้จะมีโรงพยาบาลหลักในสหรัฐซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการมีส่วนได้ส่วนเสียเหล่านี้ และสนับสนุนนวัตกรรมนี้ทำการปิดกั้นผลกระทบ เหล่านี้ อย่างสิ้นเชิง ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข มหาวิทยาลัยรังสิต https://www.facebook.com/share/p/156oKE5AFU/ https://www.facebook.com/share/1C1p7pDaYb/ ⭐️⭐️⭐️ (ตอนที่ 2) ปรากฏการณ์ที่กระทบมนุษย์นั้นเริ่มเห็นหนาตาขึ้น จนปิดไม่มิดและประชาชนได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า สำหรับคนที่ยังไม่เกิดอาการและไม่เห็นความสำคัญ ของข้อมูลเหล่านี้ต้องไม่ลืมว่าต้องรอถึงอย่างน้อย 10 ปีจึงจะแน่ใจว่าอยู่รอดปลอดภัย วัคซีน นวัตกรรมอำมหิตนี้ 1- มันไม่ได้อยู่ที่ต้นแขนเท่านั้น 2- มันเลื้อยเข้ากระแสเลือด 3- มันซึมเข้าไปในเซลล์ทุกแห่งในเนื้อเยื่อและทุกอวัยวะ 4- มันบังคับให้เราสร้างโปรตีนหนามในเซลล์ 5- โปรตีนหนามเป็นพิษต่อเซลล์ 6-โปรตีนหนามยังเป็นเป้าล่อให้ร่างกายพยายามทำลายเลยเกิดการอักเสบในร่างกาย 7- สิ่งที่หลุดรั่วออกมาจากผนังเซลล์และเนื้อเยื่อมีปฏิกิริยาเหนียวนำทำให้เกิดโปรตีนชนิดใหม่เป็นอมิลอยด์โปรตีนเข้าไปในหลอดเลือด 8- มันยังมีสิ่งแปลกปลอมเพราะกระบวนการผลิตมีดีเอ็นเอปนเปื้อนและยังมียีนส์ที่ทำให้มันเข้าไปเสียบในโครโมโซมของมนุษย์ 9-คุณสมบัติของอนุภาคนาโนไขมันที่มีขยะอยู่มากและพร้อมที่จะเข้าไปเสียบในโครโมโซมของมนุษย์โดยเฉพาะที่พิสูจน์แล้วคือโครโมโซมที่เก้าและสิบสอง และ 10- สิ่งที่ควรทำและต้องทำคือต้องหยุดการฉีดมันเข้าร่างกายมนุษย์ สมควรแล้วหรือไม่ที่มีเทคโนโลยีนี้นำมาใช้ในโรคชนิดต่างๆที่ทยอยกันออกมา สมควรหรือไม่ที่ต้องออกมารับผิดชอบเยียวยาผู้ที่เสียชีวิตและพิการตลอดชีวิต หยุด “มัน” เดี๋ยวนี้และเปิดโปงผู้ได้รับผลประโยชน์จาก “มัน” ขั้นตอนที่จะสู้คือการพัฒนาการตรวจจากเลือดเพื่อดูปริมาณของสารผิดปกตินี้ และใช้ยาถอนพิษซึ่งขณะนี้มีหลายตำรับด้วยกันโดยที่ต้องประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัย (ไทยรัฐ สุขภาพหรรษา หมอดื้อ นวตกรรมอำมหิต ตอนหนึ่งและสอง) ประเด็นของ ขององค์การอนามัยโลก และยึดโยงลงเกี่ยวข้องกับประเทศไทยในเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วลากมาปัจจุบันและที่คนไทยจะเจออะไรในอนาคต Tucker Carlson น่าจะเป็นคนเดียวที่หยิบยก และคนเริ่มหันมาสนใจหลาย ล้านคนแล้ว https://youtu.be/4MIESbBnA2k?si=JV-UPUa9oHZkP25Y โดยที่ องค์การจะทำการควบคุมทุกอย่าง ในการตัดสินภาวะฉุกเฉินและสามารถกำหนดให้ประเทศภาคีต้องปฏิบัติตามทั้งในด้านยาผลิตภัณฑ์ ชนิดของวัคซีน และทั้งหลายทั้งปวงโดยเคร่งครัด บิดพริ้ว ไม่ได้ ไม่สามารถคิดเองทำเองได้โดยเด็ดขาด และสามารถปิดกั้นข้อมูลที่ไม่สอดคล้องได้อย่างสมบูรณ์ทั้งโลกเป็น เรียลไทม์ ไทยก็เป็นประเทศหนึ่งในภาคีเครือข่าย เนื้อหา บทกำหนดใหม่นั้น มีการตกแต่งต่อเติม อ่านแล้ว งงงวย สรุปคือ ถ้ายอมตามก็เป็นไปตามนั้น และองค์กรถ้าทำผิดพลาดจะไม่ต้องรับผิดชอบ ซึ่งฟังดูคุ้นๆ ให้ประเทศรับผิดชอบกันเอง ควรหรือไม่ควรที่จะมีการถามจุดยืนของประเทศไทย หรือจะทำอย่างที่ทำมาตลอด ฝรั่งว่าดี ถึงจะทำ ถ้ามีคำแนะนำอะไร ของฝรั่งถือว่าดีที่สุด สมาคมราชวิทยาลัยต่างประเทศ ว่าอย่างไรต้องทำตาม ไม่มีใครเคยฉุกคิดว่า ข้อมูลที่ปรากฏผลที่ประมวลมีการตั้งใจที่จะตัดข้อมูลบางส่วนทิ้งที่ทำให้สถิติออกมา ดูดีหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตรวจสอบไม่ได้ การอ่านวารสารในปัจจุบัน โดยเฉพาะในส่วนที่ผลออกมาดีอย่างผิดธรรมชาติ หรือเลวอย่างไม่น่าเป็นไปได้ จำเป็นต้องหาข้อมูลรอบด้าน totality of evidence สิ่งที่เห็นรอบตัว ยกตัวอย่างเช่น ประเทศไทย โดยทางการ แถลงทุกสื่อเมื่อไม่นานมานี้ ประกาศว่า มีคนได้รับผลกระทบของวัคซีนโควิดอย่างรุนแรงทั้งประเทศ และเสียชีวิตมี จำนวนห้ารายเท่านั้น ดังนั้นอัตราส่วนคือหนึ่งต่อ 1,000,000 คน และข้อร้องเรียนอื่นๆนั้น เมื่อพิจารณา อย่างถี่ถ้วนแล้วว่าพบว่าไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน รายงานในวารสารโดยจากคณะกรรมการพิจารณาผลข้างเคียงของวัคซีนในประเทศไทย บอกว่าวัคซีนปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ มีผลข้างเคียง“น้อยมาก” และ“ไม่รุนแรง” ในขณะที่สถาบันในประเทศไทยที่ไม่มีอคติทับซ้อนกลับรายงาน ตรงข้าม ประชาชนพยายามที่จะบอกว่าได้มีคำร้องไปแล้วครอบครัวมีคนตายไปแล้วแต่ไม่เข้าเกณฑ์ถูกปัดตกมากมาย หรือที่มีการชดเชย โดย สปสช ไปแล้วก็จะมีการสรุปว่าเป็นตัวเลขที่บรรเทาความเดือดร้อน เท่านั้น ยัง ไม่ได้ พิสูจน์ เกี่ยวข้องกับวัคซีน เนื้อหาทางด้านล่างนี้เป็นคำบรรยายตามสูตรของกระทรวงสาธารณสุข อ่านแล้วพิจารณาให้ดี ……กองระบาด กรมการแพทย์ไม่ได้มีการปิดบังข้อมูลอะไรเลยเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีนมีการตรวจสอบถูกต้องตามระบบของ WHO สปสช จ่ายเงินเยียวยา โดยไม่ได้ใช้ฐานข้อมูลและผลสรุปของกองระบาดซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบผลข้างเคียงที่มีความถูกต้องกว่า เนื่องจากตอนนั้น รัฐบาลมีความกังวลว่าคนจะไม่ไปฉีดวัคซีน จึงยอมจ่ายค่าเยียวยา ซึ่งหลายๆครั้งไม่มีการตรวจสอบที่ถูกต้องครับ เพื่อให้การเยียวยาเบื้องต้นไปก่อน สรุปว่าเมื่อ ทางการ จะทำการอ้างอะไร จะเป็นไปตามเบื้องบนองค์กรสั่ง ใช้กรรมการที่ไม่ได้ประกาศชื่อว่ามีใครบ้าง และถ้าความเป็นจริงปรากฏตรงข้ามดังที่เห็นในปัจจุบัน จะต้องรับผิดชอบ ความผิดในการปกปิดบิดเบือนข้อมูลหรือไม่ และจะถูกลงโทษประการใดหรือไม่? ทำให้คนไทยต้องมองดูรอบตัว และถ้ายังคงเป็นเช่นนี้อยู่คนไทยมีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องให้เปิดเผยความเป็นจริงทุกอย่างและได้รับการเยียวยาที่ถูกต้องใช่หรือไม่ องค์การอนามัยโลก (WHO) สามารถจะทำการควบคุมทุกอย่าง ในการตัดสินภาวะฉุกเฉิน และสามารถกำหนดให้ประเทศภาคี “ต้อง” ปฏิบัติตามทั้ง ในด้านยา ผลิตภัณฑ์ ชนิดของวัคซีน และทั้งหลายทั้งปวงโดยเคร่งครัด บิดพริ้ว ไม่ได้ ก็ด้วยข้อตกลงระหว่างประเทศกฎอนามัยระหว่างประเทศ (International Health Regulations หรือ IHR) ยิ่งกว่านั้น “ภาวะฉุกเฉิน” นอกจากหมายถึงโรคระบาด WHO ยังสามารถประกาศภาวะอะไรตามแต่ ผอ.WHO จะตัดสินตามใจชอบ เช่น มีการโหมโรงจาก บิลล์ เกตส์ องค์การโลกอื่นๆ รวมถึง World Economic Forum (WEF) ว่า public health emergency (PHE) จะกลายเป็นผู้กำหนดและบริหารระเบียบโลก (New World Order, NWO) ทั้งร่าง IHR และ PHE ใหม่กำลังจะประชุมตัวแทนประเทศสมาชิกลงนามรับในเดือน พฤษภาคม 2567 ที่จะมาถึง รัฐบาลไทยจะต้องปฏิเสธทั้ง สอง ฉบับเด็ดขาด หากแม้นรับเพียงอันหนึ่งอันใดก็ตาม ตามที่ผู้เชี่ยวชาญได้เตือนไว้ จะหมายถึงการเสียอธิปไตยของประเทศให้แก่ WHO ที่ไม่อาจบิดพริ้วได้ ฟังคลิปสั้นที่แนบโดยทนายสวิส Phillip Kruse บรรยายถึงอันตราย WHO ถอดความจากงานสัมมนา International COVID Summit ครั้งที่ 5 ด้านล่าง https://rumble.com/v4finab-excerpts-from-the-international-covid-summit-5.html?utm_source=substack&utm_medium=email สิ่งที่เห็นด้วยตาของทุกคนเป็นความจริงหนึ่งเดียว https://www.facebook.com/share/1C1p7pDaYb/ https://www.facebook.com/share/p/156oKE5AFU/ ขอขอบคุณ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 🙏🙏🙏
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 482 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกิดเหตุคนขับเก๋งไล่ชนไรเดอร์ ร่างอัดกระแทกเสากล้องวงจรปิดเสียชีวิต ย่านสุขุมวิท หลังเกิดเฉี่ยวชนแล้วมีปากเสียงกัน

    วันนี้ (21 ม.ค.) ร.ต.อ.จรินทร์ รัตนสุวรรณชัย รอง สว.(สอบสวน) สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุ รถเฉี่ยวชนมีผู้เสียชีวิตบริเวณ สุขุมวิท 10 แขวงเขตคลองเตย กรุงเทพฯ จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

    ที่เกิดเหตุอยู่บนฟุตปาธริมถนนสุขุมวิท ระหว่างซอย 8 กับซอย 10 พบร่างคนขับไรเดอร์ สวมเสื้อแขนยาวสีชมพู และกางเกงยีนส์ถูกชน ร่างกระแทกเสากล้องวงจรปิดได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่จึงเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่ไม่เป็นผลเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อผู้ตายคือ นายฤทธิศักดิ์ ประคุปตานนท์ อายุ 48 ปี ใกล้กับบริเวณที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ไฟฟ้าสีดำ ทะเบียน 7ขฌ906 กรุงเทพมหานคร สภาพพังเสียหาย

    จากการสอบสวน นายกิตติภูมิ อายุ 48 ปี ไรเดอร์ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า เห็นไรเดอร์และรถเก๋งคู่กรณี จอดอยู่เลนขวามีปากเสียงกันอยู่ คาดว่าน่าจะมีปัญหาการเฉี่ยวชนกันเกิดขึ้น ขณะนั้นรถเก๋งดังกล่าว ได้พยายามหลบหนี โดยไรเดอร์ได้ยืนขวางรถไว้ แต่รถเก๋งคันดังกล่าวพยายามจะขับหนี ตัวไรเดอร์จึงได้ทุบรถ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000006496

    #MGROnline #ไรเดอร์ #ขับเก๋งไล่ชน
    เกิดเหตุคนขับเก๋งไล่ชนไรเดอร์ ร่างอัดกระแทกเสากล้องวงจรปิดเสียชีวิต ย่านสุขุมวิท หลังเกิดเฉี่ยวชนแล้วมีปากเสียงกัน • วันนี้ (21 ม.ค.) ร.ต.อ.จรินทร์ รัตนสุวรรณชัย รอง สว.(สอบสวน) สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุ รถเฉี่ยวชนมีผู้เสียชีวิตบริเวณ สุขุมวิท 10 แขวงเขตคลองเตย กรุงเทพฯ จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง • ที่เกิดเหตุอยู่บนฟุตปาธริมถนนสุขุมวิท ระหว่างซอย 8 กับซอย 10 พบร่างคนขับไรเดอร์ สวมเสื้อแขนยาวสีชมพู และกางเกงยีนส์ถูกชน ร่างกระแทกเสากล้องวงจรปิดได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่จึงเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่ไม่เป็นผลเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อผู้ตายคือ นายฤทธิศักดิ์ ประคุปตานนท์ อายุ 48 ปี ใกล้กับบริเวณที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ไฟฟ้าสีดำ ทะเบียน 7ขฌ906 กรุงเทพมหานคร สภาพพังเสียหาย • จากการสอบสวน นายกิตติภูมิ อายุ 48 ปี ไรเดอร์ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า เห็นไรเดอร์และรถเก๋งคู่กรณี จอดอยู่เลนขวามีปากเสียงกันอยู่ คาดว่าน่าจะมีปัญหาการเฉี่ยวชนกันเกิดขึ้น ขณะนั้นรถเก๋งดังกล่าว ได้พยายามหลบหนี โดยไรเดอร์ได้ยืนขวางรถไว้ แต่รถเก๋งคันดังกล่าวพยายามจะขับหนี ตัวไรเดอร์จึงได้ทุบรถ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000006496 • #MGROnline #ไรเดอร์ #ขับเก๋งไล่ชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ปานเทพ” เผย “สนธิ” เตรียมเลี้ยงมื้อเที่ยงขอบคุณทีมงานร่วมจำลองเหตุการณ์ “แตงโม” ที่บ้านพระอาทิตย์ พรุ่งนี้ (22 ม.ค.) ส่วน “อัจฉริยะ” ป่วยนิ่วถุงน้ำดี ต้องผ่าตัดด่วน ต้องประเมินอาการไปขึ้นศาลพรุ่งนี้ได้หรือไม่

    วันนี้(21 ม.ค.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” แจ้งสื่อมวลชนให้ทราบ 3 เรือง ดังนี้

    “เรื่องที่ 1 คุณสนธิ ลิ้มทองกุล เจ้าสำนักแห่งบ้านพระอาทิตย์ มีกำหนดการเลี้ยงรับประทานอาหารและขอบคุณอาสาสมัครที่มาจำลองสถานการณ์การเสียชีวิตของน้องแตงโม เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา โดยได้เชิญ บอสณวัฒน์ อิสรไกรศีล, น้องนิวหยก มิสแกรนด์ชุมพร, น้องหนูวรรณ มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา, น้องฟริน มิสแกรนด์นครสวรรค์, น้องปอย มิสแกรนด์นครพนม, น้องฟ้าบาร์บี้ มิสแกรนด์เชียงใหม่ ,ครูลิต้า ครูสนอนว่ายน้ำนางเงือก, พ.อ. นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์, คุณเอกราช นามโภคิน, คุณอัจริยะ เรืองรัตนพงศ์, รวมถึงพี่แบร์ คุณอาท และ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000006362

    #MGROnline #ปานเทพ #สนธิ #จำลองเหตุการณ์ #แตงโม
    “ปานเทพ” เผย “สนธิ” เตรียมเลี้ยงมื้อเที่ยงขอบคุณทีมงานร่วมจำลองเหตุการณ์ “แตงโม” ที่บ้านพระอาทิตย์ พรุ่งนี้ (22 ม.ค.) ส่วน “อัจฉริยะ” ป่วยนิ่วถุงน้ำดี ต้องผ่าตัดด่วน ต้องประเมินอาการไปขึ้นศาลพรุ่งนี้ได้หรือไม่ • วันนี้(21 ม.ค.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” แจ้งสื่อมวลชนให้ทราบ 3 เรือง ดังนี้ • “เรื่องที่ 1 คุณสนธิ ลิ้มทองกุล เจ้าสำนักแห่งบ้านพระอาทิตย์ มีกำหนดการเลี้ยงรับประทานอาหารและขอบคุณอาสาสมัครที่มาจำลองสถานการณ์การเสียชีวิตของน้องแตงโม เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา โดยได้เชิญ บอสณวัฒน์ อิสรไกรศีล, น้องนิวหยก มิสแกรนด์ชุมพร, น้องหนูวรรณ มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา, น้องฟริน มิสแกรนด์นครสวรรค์, น้องปอย มิสแกรนด์นครพนม, น้องฟ้าบาร์บี้ มิสแกรนด์เชียงใหม่ ,ครูลิต้า ครูสนอนว่ายน้ำนางเงือก, พ.อ. นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์, คุณเอกราช นามโภคิน, คุณอัจริยะ เรืองรัตนพงศ์, รวมถึงพี่แบร์ คุณอาท และ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000006362 • #MGROnline #ปานเทพ #สนธิ #จำลองเหตุการณ์ #แตงโม
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • คลิปเต็มจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือ รวมอาสาสมัครทุกคน
    ปอย มิสแกรนด์นครพนม
    นิวหยก มิสแกรนด์ขุมพร
    เฟริน มิสแกรรด์ นครสวรรค์
    หนูวรรณ มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา
    ฟ้า บาร์บี้ มิสแกรนด์เขียงใหม่
    ครูลิต้า ครูสอนว่ายน้ำนางเงือก
    และนพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์

    #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #จำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือ #จำลองเหตุการณ์ #ตกเรือ
    คลิปเต็มจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือ รวมอาสาสมัครทุกคน ปอย มิสแกรนด์นครพนม นิวหยก มิสแกรนด์ขุมพร เฟริน มิสแกรรด์ นครสวรรค์ หนูวรรณ มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา ฟ้า บาร์บี้ มิสแกรนด์เขียงใหม่ ครูลิต้า ครูสอนว่ายน้ำนางเงือก และนพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #จำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือ #จำลองเหตุการณ์ #ตกเรือ
    Like
    Love
    39
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3097 มุมมอง 178 0 รีวิว
  • "ปานเทพ" โต้ "ปอ-แซน" มีพิรุธ ย้ำจำลอง "แตงโม" ตกเรือ ค้นหา "ประเด็นแห่งคดี"
    .
    ปานเทพโต้ปอ-แซนแถลงข่าว กล่าวหาว่าจำลองแตงโม ภัทรธิดา นักแสดงสาวตกจากเรือไม่ตรงกัน ย้ำค้นหาประเด็นแห่งคดี นิติวิทยาศาสตร์ระบุแล้วว่าไม่มีดีเอ็นเอ และรู้อยู่แล้วว่าคนบนเรือจะต้องมีพิรุธ ร้อนตัว ถามถ้าแตงโมจับเรือ 10 วิ. จริงตามที่แถลง ทำไมไม่ช่วยเพื่อน
    .
    วันนี้ (16 ม.ค.) ที่โรงแรมริเวอร์ไลน์ เพลส โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ จ.นนทบุรี นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ตอบโต้นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ และนายวิศาพัช มโนมันรัตน์ หรือแซน ที่แถลงข่าวการทดสอบเหตุการณ์จำลองการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม นักแสดงสาว ที่กล่าวหาว่าเป็นการจำลองไม่ตรงกัน 100% ว่า ที่การทดลองไม่ตกตรงนั้น ไม่ตกตรงนี้ เพราะไม่ใช่ประเด็นแห่งคดี ประเด็นคือคำให้การของแซน วิศาพัช ที่ให้การว่าแตงโมตกทางซ้ายมือของกาบท้ายเรือ และคนบนเรือทั้งหมดในการออกรายการโหนกระแส กล่าวว่าไม่เห็นการตกเรือและไม่เห็นอะไรเลย ตกแล้วหายไปเลย จึงเห็นว่าการพูดในครั้งนั้นเป็นประเด็นแห่งคดี
    .
    อีกทั้งในทางนิติวิทยาศาสตร์ตรวจแล้วพบว่า ไม่มีลายนิ้วมือและดีเอ็นเอของมนุษย์บนเครื่องยนต์ เพราะฉะนั้นที่บอกว่าเกาะท้ายเรือ กาบเรือนั้นไม่มี ส่วนบนเบาะเรือด้านท้ายสุดไม่มีดีเอ็นเอของแตงโม แม้กระทั่งแซน วิศาพัชก็ไม่มี เรื่องนี้จึงมีพิรุธตั้งแต่หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พอทดสอบตามคำให้การว่าแซน วิศาพัช เห็นคนเดียว จึงทดสอบตามนั้น เพราะเป็นประเด็นแห่งคดีที่อยู่ในสำนวนในชั้นศาล ซึ่งเราต้องยึดประเด็นนี้ คือตกทางซ้ายมือของกาบท้ายเรือ แม้จะมีการท้วงแต่ก็ได้พยายามทดลอง
    .
    ขณะเดียวกันได้ตั้งข้อสังเกตว่า ที่แซน วิศาพัช อ้างว่าจำชุดไม่ได้ เพราะเมื่อ 2-3 วันก่อนออกรายการหนึ่งว่าตัวเองถอดคอนแทคเลนส์ ถอดแว่นตา ตาเจ็บ มองไม่เห็นอะไรเลย จากเดิมที่บอกว่าเห็นอยู่คนเดียว คำแถลงหรือคำให้การไม่ย้อนแย้งหรือ เพราะอ้างว่าเล่นโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเล็กกว่าการมองเห็นคน ทำให้เราเห็นพิรุธจากสิ่งที่พูดออกมา และที่อาสาสมัครสวมเสื้อชูชีพ เพราะการทดสอบที่ผ่านมา ตำรวจและสื่อมวลชนก็สวมเสื้อชูชีพเช่นกัน ทำไมถึงตำหนิการทำงานของภาคประชาชน และมีอาสาสมัคร 3 คน ตัดสินใจไม่สวมเสื้อชูชีพให้ดู จะได้หมดข้ออ้าง และเป็นที่ชัดเจนว่าตำแหน่งดังกล่าวไม่เหมาะกับการปัสสาวะเพราะจะเปียกไปถึงเอว ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าเปิดของสงวนต่อหน้าผู้ชายที่นั่งอยู่เฉียงๆ และเป็นผู้ที่มีชื่อเสียง ส่วนการตกด้านซ้ายหรือหงายหลัง ไม่ว่าตกไปทางไหนก็พิสูจน์ชัดว่าไม่โดนใบพัดเรือ
    .
    ส่วนที่นายตนุภัทรและแซน วิศาพัช แถลงข่าวในวันนี้ นายปานเทพเห็นว่ามีพิรุธอย่างมาก เพราะ 3 ปีที่แล้ว ปอ ตนุภัทร อ้างว่าขับเรือไม่เห็นอะไรเลย บัดนี้จะเห็นทุกอย่าง เกาะอยู่ที่เครื่องยนต์ รอ 10 วินาที เห็นไปหมด มันต่างจากคำให้การต่อศาล และสำนวนคดีที่แจ้งกับตำรวจหรือไม่ ถ้าคุณรู้ว่ามีการเกาะอยู่ 10 วินาทีจริง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ทำไมไม่ช่วยคุณแตงโม 10 วินาที ไม่เห็นหรือว่ามีคนตกน้ำแล้วช่วยไว้ได้ทัน แต่ 3 ปีที่แล้วให้การว่าตกน้ำแล้วหายไปเลย ไม่รู้อยู่ที่ไหน มืดมาก บัดนี้บอกว่าเห็น 10 วินาทีแต่ไม่ช่วยเพื่อน เราเห็นว่ามีพิรุธและเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และเราคิดไว้ล่วงหน้าแล้วว่าสิ่งที่ทำจะต้องมีคนดิ้น แต่ถ้าดิ้นเป็น ออกอาการสมเหตุสมผล สังคมก็เชื่อ แต่ทุกคนรู้ทันกันหมดว่าผิดปกติ ถ้ายอกว่าเป็นเท็จก็ต้องมีข้อเท็จจริงอย่างอื่นที่ไม่ใช่แบบนี้ ถ้าจะแสดงออกตามอำเภอใจเพื่อเป็นเหตุอ้าง ต้องทำเอง แต่บัดนี้ยังไม่เห็น และบาดแผลทางขวาของแตงโมเกิดขึ้นไม่ได้ และศาลอาญายกฟ้อง 21 ตำรวจที่ฟ้องนายอัจฉริย เรืองรัตนพงษ์ ว่า ต้นขาขวาเป็นแผลเดี่ยว ลึก เรียบ เป็นไปไม่ได้ที่เกิดจากใบพัดเรือในการตกด้านซ้าย ทุกอย่างขัดแย้งหมด
    .
    "จะพูดอะไรก็พูดได้ แต่ประชาชนเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นผมจึงเห็นว่าคำแถลงของคุณปอ (นายตนุภัทร) ซึ่งหายไปหลายปี แล้วคุณก็ยุติไปแล้วในคดีกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย คงจะรับรู้แล้วใช่ไหมว่าเรื่องของผลทางกฎหมายและการตัดสินก็เรื่องหนึ่ง แต่ผลแห่งกรรมมันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และสิ่งที่คุณพูดวันนี้ไม่สามารถมีคำอธิยายอย่างสมเหตุสมผลได้ในประเด็นแห่งคดี เราต้องไม่ตกในมายาคติที่เขาจะชวนไปตกหัวเรือ กระโดดตีลังกาด้านซ้าย ด้านขวา เอาประเด็นแห่งคดี และที่เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้อย่างไร"
    .
    นายปานเทพ กล่าวว่า ที่อ้างว่าต้องขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่ คนเหล่านี้ต่างหาก ที่เป็นอาสาสมัครที่ต้องขออนุญาต เพราะเขาเป็นคนเสียสละ ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณแม่เลย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณแม่ และเมื่อคนบนเรือขัดแย้งก็เป็นพยานหลักฐานเช่นเดียวกัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004962
    .........
    Sondhi X
    "ปานเทพ" โต้ "ปอ-แซน" มีพิรุธ ย้ำจำลอง "แตงโม" ตกเรือ ค้นหา "ประเด็นแห่งคดี" . ปานเทพโต้ปอ-แซนแถลงข่าว กล่าวหาว่าจำลองแตงโม ภัทรธิดา นักแสดงสาวตกจากเรือไม่ตรงกัน ย้ำค้นหาประเด็นแห่งคดี นิติวิทยาศาสตร์ระบุแล้วว่าไม่มีดีเอ็นเอ และรู้อยู่แล้วว่าคนบนเรือจะต้องมีพิรุธ ร้อนตัว ถามถ้าแตงโมจับเรือ 10 วิ. จริงตามที่แถลง ทำไมไม่ช่วยเพื่อน . วันนี้ (16 ม.ค.) ที่โรงแรมริเวอร์ไลน์ เพลส โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ จ.นนทบุรี นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ตอบโต้นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ และนายวิศาพัช มโนมันรัตน์ หรือแซน ที่แถลงข่าวการทดสอบเหตุการณ์จำลองการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม นักแสดงสาว ที่กล่าวหาว่าเป็นการจำลองไม่ตรงกัน 100% ว่า ที่การทดลองไม่ตกตรงนั้น ไม่ตกตรงนี้ เพราะไม่ใช่ประเด็นแห่งคดี ประเด็นคือคำให้การของแซน วิศาพัช ที่ให้การว่าแตงโมตกทางซ้ายมือของกาบท้ายเรือ และคนบนเรือทั้งหมดในการออกรายการโหนกระแส กล่าวว่าไม่เห็นการตกเรือและไม่เห็นอะไรเลย ตกแล้วหายไปเลย จึงเห็นว่าการพูดในครั้งนั้นเป็นประเด็นแห่งคดี . อีกทั้งในทางนิติวิทยาศาสตร์ตรวจแล้วพบว่า ไม่มีลายนิ้วมือและดีเอ็นเอของมนุษย์บนเครื่องยนต์ เพราะฉะนั้นที่บอกว่าเกาะท้ายเรือ กาบเรือนั้นไม่มี ส่วนบนเบาะเรือด้านท้ายสุดไม่มีดีเอ็นเอของแตงโม แม้กระทั่งแซน วิศาพัชก็ไม่มี เรื่องนี้จึงมีพิรุธตั้งแต่หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พอทดสอบตามคำให้การว่าแซน วิศาพัช เห็นคนเดียว จึงทดสอบตามนั้น เพราะเป็นประเด็นแห่งคดีที่อยู่ในสำนวนในชั้นศาล ซึ่งเราต้องยึดประเด็นนี้ คือตกทางซ้ายมือของกาบท้ายเรือ แม้จะมีการท้วงแต่ก็ได้พยายามทดลอง . ขณะเดียวกันได้ตั้งข้อสังเกตว่า ที่แซน วิศาพัช อ้างว่าจำชุดไม่ได้ เพราะเมื่อ 2-3 วันก่อนออกรายการหนึ่งว่าตัวเองถอดคอนแทคเลนส์ ถอดแว่นตา ตาเจ็บ มองไม่เห็นอะไรเลย จากเดิมที่บอกว่าเห็นอยู่คนเดียว คำแถลงหรือคำให้การไม่ย้อนแย้งหรือ เพราะอ้างว่าเล่นโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเล็กกว่าการมองเห็นคน ทำให้เราเห็นพิรุธจากสิ่งที่พูดออกมา และที่อาสาสมัครสวมเสื้อชูชีพ เพราะการทดสอบที่ผ่านมา ตำรวจและสื่อมวลชนก็สวมเสื้อชูชีพเช่นกัน ทำไมถึงตำหนิการทำงานของภาคประชาชน และมีอาสาสมัคร 3 คน ตัดสินใจไม่สวมเสื้อชูชีพให้ดู จะได้หมดข้ออ้าง และเป็นที่ชัดเจนว่าตำแหน่งดังกล่าวไม่เหมาะกับการปัสสาวะเพราะจะเปียกไปถึงเอว ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าเปิดของสงวนต่อหน้าผู้ชายที่นั่งอยู่เฉียงๆ และเป็นผู้ที่มีชื่อเสียง ส่วนการตกด้านซ้ายหรือหงายหลัง ไม่ว่าตกไปทางไหนก็พิสูจน์ชัดว่าไม่โดนใบพัดเรือ . ส่วนที่นายตนุภัทรและแซน วิศาพัช แถลงข่าวในวันนี้ นายปานเทพเห็นว่ามีพิรุธอย่างมาก เพราะ 3 ปีที่แล้ว ปอ ตนุภัทร อ้างว่าขับเรือไม่เห็นอะไรเลย บัดนี้จะเห็นทุกอย่าง เกาะอยู่ที่เครื่องยนต์ รอ 10 วินาที เห็นไปหมด มันต่างจากคำให้การต่อศาล และสำนวนคดีที่แจ้งกับตำรวจหรือไม่ ถ้าคุณรู้ว่ามีการเกาะอยู่ 10 วินาทีจริง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ทำไมไม่ช่วยคุณแตงโม 10 วินาที ไม่เห็นหรือว่ามีคนตกน้ำแล้วช่วยไว้ได้ทัน แต่ 3 ปีที่แล้วให้การว่าตกน้ำแล้วหายไปเลย ไม่รู้อยู่ที่ไหน มืดมาก บัดนี้บอกว่าเห็น 10 วินาทีแต่ไม่ช่วยเพื่อน เราเห็นว่ามีพิรุธและเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และเราคิดไว้ล่วงหน้าแล้วว่าสิ่งที่ทำจะต้องมีคนดิ้น แต่ถ้าดิ้นเป็น ออกอาการสมเหตุสมผล สังคมก็เชื่อ แต่ทุกคนรู้ทันกันหมดว่าผิดปกติ ถ้ายอกว่าเป็นเท็จก็ต้องมีข้อเท็จจริงอย่างอื่นที่ไม่ใช่แบบนี้ ถ้าจะแสดงออกตามอำเภอใจเพื่อเป็นเหตุอ้าง ต้องทำเอง แต่บัดนี้ยังไม่เห็น และบาดแผลทางขวาของแตงโมเกิดขึ้นไม่ได้ และศาลอาญายกฟ้อง 21 ตำรวจที่ฟ้องนายอัจฉริย เรืองรัตนพงษ์ ว่า ต้นขาขวาเป็นแผลเดี่ยว ลึก เรียบ เป็นไปไม่ได้ที่เกิดจากใบพัดเรือในการตกด้านซ้าย ทุกอย่างขัดแย้งหมด . "จะพูดอะไรก็พูดได้ แต่ประชาชนเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นผมจึงเห็นว่าคำแถลงของคุณปอ (นายตนุภัทร) ซึ่งหายไปหลายปี แล้วคุณก็ยุติไปแล้วในคดีกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย คงจะรับรู้แล้วใช่ไหมว่าเรื่องของผลทางกฎหมายและการตัดสินก็เรื่องหนึ่ง แต่ผลแห่งกรรมมันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และสิ่งที่คุณพูดวันนี้ไม่สามารถมีคำอธิยายอย่างสมเหตุสมผลได้ในประเด็นแห่งคดี เราต้องไม่ตกในมายาคติที่เขาจะชวนไปตกหัวเรือ กระโดดตีลังกาด้านซ้าย ด้านขวา เอาประเด็นแห่งคดี และที่เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้อย่างไร" . นายปานเทพ กล่าวว่า ที่อ้างว่าต้องขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่ คนเหล่านี้ต่างหาก ที่เป็นอาสาสมัครที่ต้องขออนุญาต เพราะเขาเป็นคนเสียสละ ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณแม่เลย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณแม่ และเมื่อคนบนเรือขัดแย้งก็เป็นพยานหลักฐานเช่นเดียวกัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004962 ......... Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    27
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1602 มุมมอง 0 รีวิว
  • เริ่มจำลองเหตุการณ์แตงโม ก่อนเรือแล่น อาสาสมัครลองนั่งท้ายเรือ ก่อนประสานเสียง ไม่ขอฉี่ท้ายเรือแน่นอน ขนาดเรือจอดยังโคลงเคลง ชุดเป็นอุปสรรค พอทดสอบตอนเรือแล่น ยิ่งทุลักทุเล จับขาสองมือยังแทบไม่ไหว จะเอามือไหนไปถอดชุด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    เริ่มจำลองเหตุการณ์แตงโม ก่อนเรือแล่น อาสาสมัครลองนั่งท้ายเรือ ก่อนประสานเสียง ไม่ขอฉี่ท้ายเรือแน่นอน ขนาดเรือจอดยังโคลงเคลง ชุดเป็นอุปสรรค พอทดสอบตอนเรือแล่น ยิ่งทุลักทุเล จับขาสองมือยังแทบไม่ไหว จะเอามือไหนไปถอดชุด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • วลีจีน วิญญาณผู้กล้าหวนคืนมาตุภูมิ

    สวัสดีค่ะ Storyฯ เคยเขียนหลายบทความถึง ‘วลีเด็ด’ จากบทกวีจีนโบราณและวรรณกรรมจีนโบราณที่ถูกนำมาใช้ในหลายซีรีส์และนวนิยายจีน แต่จริงๆ แล้วก็มี ‘วลีเด็ด’ จากยุคปัจจุบันที่เคยถูกยกไปใช้ในซีรีส์หรือนิยายจีนโบราณด้วยเหมือนกัน

    วันนี้เรามาคุยกันถึงตัวอย่างหนึ่งจากซีรีส์ <ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก> เพื่อนเพจที่ได้ดูอาจพอจำได้ว่าในระหว่างการเดินทางของคณะฑูตแคว้นอู๋ไปยังแคว้นอันเพื่อช่วยกษัตริย์แคว้นอู๋นั้น พวกเขาพบซากศพและป้ายห้อยคอประจำตัวของเหล่าทหารจากหน่วยหกวิถีที่พลีชีพก่อนหน้านี้ในศึกที่แคว้นอู๋พ่ายแพ้ และได้จัดพิธีเผาศพให้กับพวกเขา (รูปประกอบ1) ในฉากนี้ หลี่อ๋องเซ่นสุราและกล่าวออกมาประโยคหนึ่งว่า “ดวงวิญญาณจงกลับมา อย่าได้โศกเศร้าไปชั่วนิรันดร์” (หมายเหตุ คำแปลตามซับไทย)

    ประโยคดังกล่าว ต้นฉบับภาษาจีนคือ ‘魂兮归来 维莫永伤 (หุนซีกุยหลาย เหวยม่อหย่งซัง)’ เป็นประโยคที่มาจากสุทรพจน์เมื่อปี 2021 เพื่อสดุดีทหารอาสาสมัครจีน โดยวรรคแรกถูกยกมาจากบทประพันธ์โบราณ

    ‘ดวงวิญญาณจงกลับมา’ วรรคนี้มาจากบทประพันธ์ที่มีชื่อว่า ‘เรียกดวงวิญญาณ’ (招魂 /จาวหุน) บ้างว่าเป็นผลงานของชวีหยวน ขุนนางและกวีแคว้นฉู่ในสมัยจ้านกั๋วหรือยุครณรัฐที่เพื่อนเพจอาจเคยได้ยินชื่อจากตำนานบ๊ะจ่าง บ้างว่าเป็นผลงานของซ่งอวี้ ขุนนางจากแคว้นฉู่เช่นกัน

    บทประพันธ์ ‘เรียกดวงวิญญาณ’ เป็นบทประพันธ์ที่ยาวมาก ลักษณะคล้ายเล่านิทาน ใจความของบทประพันธ์เป็นการเรียกและหว่านล้อมดวงวิญญาณให้กลับมาบ้าน อย่าได้ไปหยุดรั้งอยู่ในดินแดน ณ ทิศต่างๆ โดยบรรยายถึงภยันตรายและความยากลำบากในดินแดนนั้นๆ ที่อาจทำให้ดวงวิญญาณอาจดับสูญได้ และกล่าวถึงความคิดถึงของคนที่บ้านที่รอคอยให้ดวงวิญญาณนั้นหวนคืนมา ซึ่งสะท้อนถึงธรรมเนียมโบราณที่ต้องทำพิธีเรียกดวงวิญญาณของผู้ที่ตายในต่างแดนให้กลับบ้าน

    ว่ากันว่าบทประพันธ์ ‘เรียกดวงวิญญาณ’ นี้มีที่มาจากเรื่องราวของกษัตริย์ฉู่หวยหวางที่เสียท่าให้กับกุศโลบายของแคว้นฉิน ถูกจับเป็นตัวประกันหลังพ่ายศึกและพลีชีพที่นั่น ต่อมาสามปีให้หลังเมื่อสองแคว้นสงบศึกกันแล้วจึงมีการจัดพิธีศพให้แต่กษัตริย์ฉู่หวยหวาง และแม้ว่ากษัตริย์ฉู่หวยหวางจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าบริหารราชการแผ่นดินผิดพลาด แต่ในช่วงที่ถูกจับเป็นตัวประกันนั้นได้แสดงถึงความกล้าหาญยอมหักไม่ยอมงอ บทกวีนี้จึงถูกประพันธ์ขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงจิตวิญญาณอันหาญกล้าของผู้ที่พลีชีพในต่างแดนเพื่อแผ่นดินเกิด

    และวลี ‘ดวงวิญญาณจงกลับมา’ ได้ถูกนำมาใช้ในสุนทรพจน์สดุดีทหารจีนในงานพิธีฝังศพทหารอาสาสมัครจีนชุดที่ 8 จำนวน 109 นายที่พลีชีพในสงครามเกาหลีเมื่อกว่า 70 ปีที่แล้วและเพิ่งได้รับการส่งคืนจากเกาหลีใต้ในเดือนกันยายน 2021 มันเป็นสุนทรพจน์ของนายซุนส้าวเฉิงในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงการทหารผ่านศึก (Ministry of Veteran Affairs) ในสมัยนั้น โดยประโยคเต็ม ‘ดวงวิญญาณจงกลับมา อย่าได้โศกเศร้าไปชั่วนิรันดร์’ นี้คือประโยคจบของสุนทรพจน์ (รูปประกอบ2)

    บทสุนทรพจน์ดังกล่าวยาวและใช้ทักษะภาษาชั้นสูงถ้อยคำงดงาม ใจความโดยสรุปคือยกย่องเหล่าทหารอาสาสมัครที่ออกไปร่วบรบเพื่อเสถียรภาพของสาธารณรัฐจีนที่เพิ่งถูกก่อตั้งขึ้นใหม่ สดุดีความกล้าหาญของพวกเขาที่ต้องเผชิญหน้าคู่ต่อสู้ที่มีอาวุธสงครามที่ร้ายกาจ สุดท้ายพลีชีพอยู่ต่างแดนไม่มีโอกาสได้กลับบ้านเกิดจวบจนวันนี้ ขอให้เหล่าดวงวิญญาณกลับมาสู่อ้อมกอดอันอบอุ่นของประชาชนที่รักเขาและยังไม่ลืมความเสียสละของพวกเขา ได้กลับมาเห็นความเจริญเข้มแข็งของประเทศที่เขาพลีกายปกปักษ์รักษา ขอเหล่าวิญญาณผู้กล้าจงกลับคืนสู่มาตุภูมิ กลับมาสู่ความสงบ ไม่ต้องเจ็บช้ำหรือโศกเศร้าอีกต่อไป

    สุนทรพจน์นี้ได้รับการยกย่องด้วยภาษาที่งดงามและความหมายลึกซึ้งกินใจ ไม่เพียงสดุดีความกล้าหาญ แต่ยังกระตุ้นอารมณ์รักและเคารพในผู้ฟังอีกด้วย และประโยคนี้เป็นคำพูดในยุคจีนปัจจุบันที่สะท้อนวัฒนธรรมที่สั่งสมผ่านกาลเวลาจากวลีจีนโบราณ กลายมาเป็นอีกประโยคหนึ่งที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์จีน

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://www.sohu.com/a/584621129_114988
    http://www.81.cn/tp_207717/10086482.html
    https://mgronline.com/china/detail/9670000114488
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    http://m.shangshiwen.com/71990.html
    https://www.gushiwen.cn/mingju_991.aspx
    https://baike.baidu.com/item/招魂/8176058
    http://www.81.cn/tp_207717/10086482.html

    #ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก #เรียกดวงวิญญาณ #ชวีหยวน #ทหารอาสาสมัครจีน #สาระจีน
    วลีจีน วิญญาณผู้กล้าหวนคืนมาตุภูมิ สวัสดีค่ะ Storyฯ เคยเขียนหลายบทความถึง ‘วลีเด็ด’ จากบทกวีจีนโบราณและวรรณกรรมจีนโบราณที่ถูกนำมาใช้ในหลายซีรีส์และนวนิยายจีน แต่จริงๆ แล้วก็มี ‘วลีเด็ด’ จากยุคปัจจุบันที่เคยถูกยกไปใช้ในซีรีส์หรือนิยายจีนโบราณด้วยเหมือนกัน วันนี้เรามาคุยกันถึงตัวอย่างหนึ่งจากซีรีส์ <ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก> เพื่อนเพจที่ได้ดูอาจพอจำได้ว่าในระหว่างการเดินทางของคณะฑูตแคว้นอู๋ไปยังแคว้นอันเพื่อช่วยกษัตริย์แคว้นอู๋นั้น พวกเขาพบซากศพและป้ายห้อยคอประจำตัวของเหล่าทหารจากหน่วยหกวิถีที่พลีชีพก่อนหน้านี้ในศึกที่แคว้นอู๋พ่ายแพ้ และได้จัดพิธีเผาศพให้กับพวกเขา (รูปประกอบ1) ในฉากนี้ หลี่อ๋องเซ่นสุราและกล่าวออกมาประโยคหนึ่งว่า “ดวงวิญญาณจงกลับมา อย่าได้โศกเศร้าไปชั่วนิรันดร์” (หมายเหตุ คำแปลตามซับไทย) ประโยคดังกล่าว ต้นฉบับภาษาจีนคือ ‘魂兮归来 维莫永伤 (หุนซีกุยหลาย เหวยม่อหย่งซัง)’ เป็นประโยคที่มาจากสุทรพจน์เมื่อปี 2021 เพื่อสดุดีทหารอาสาสมัครจีน โดยวรรคแรกถูกยกมาจากบทประพันธ์โบราณ ‘ดวงวิญญาณจงกลับมา’ วรรคนี้มาจากบทประพันธ์ที่มีชื่อว่า ‘เรียกดวงวิญญาณ’ (招魂 /จาวหุน) บ้างว่าเป็นผลงานของชวีหยวน ขุนนางและกวีแคว้นฉู่ในสมัยจ้านกั๋วหรือยุครณรัฐที่เพื่อนเพจอาจเคยได้ยินชื่อจากตำนานบ๊ะจ่าง บ้างว่าเป็นผลงานของซ่งอวี้ ขุนนางจากแคว้นฉู่เช่นกัน บทประพันธ์ ‘เรียกดวงวิญญาณ’ เป็นบทประพันธ์ที่ยาวมาก ลักษณะคล้ายเล่านิทาน ใจความของบทประพันธ์เป็นการเรียกและหว่านล้อมดวงวิญญาณให้กลับมาบ้าน อย่าได้ไปหยุดรั้งอยู่ในดินแดน ณ ทิศต่างๆ โดยบรรยายถึงภยันตรายและความยากลำบากในดินแดนนั้นๆ ที่อาจทำให้ดวงวิญญาณอาจดับสูญได้ และกล่าวถึงความคิดถึงของคนที่บ้านที่รอคอยให้ดวงวิญญาณนั้นหวนคืนมา ซึ่งสะท้อนถึงธรรมเนียมโบราณที่ต้องทำพิธีเรียกดวงวิญญาณของผู้ที่ตายในต่างแดนให้กลับบ้าน ว่ากันว่าบทประพันธ์ ‘เรียกดวงวิญญาณ’ นี้มีที่มาจากเรื่องราวของกษัตริย์ฉู่หวยหวางที่เสียท่าให้กับกุศโลบายของแคว้นฉิน ถูกจับเป็นตัวประกันหลังพ่ายศึกและพลีชีพที่นั่น ต่อมาสามปีให้หลังเมื่อสองแคว้นสงบศึกกันแล้วจึงมีการจัดพิธีศพให้แต่กษัตริย์ฉู่หวยหวาง และแม้ว่ากษัตริย์ฉู่หวยหวางจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าบริหารราชการแผ่นดินผิดพลาด แต่ในช่วงที่ถูกจับเป็นตัวประกันนั้นได้แสดงถึงความกล้าหาญยอมหักไม่ยอมงอ บทกวีนี้จึงถูกประพันธ์ขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงจิตวิญญาณอันหาญกล้าของผู้ที่พลีชีพในต่างแดนเพื่อแผ่นดินเกิด และวลี ‘ดวงวิญญาณจงกลับมา’ ได้ถูกนำมาใช้ในสุนทรพจน์สดุดีทหารจีนในงานพิธีฝังศพทหารอาสาสมัครจีนชุดที่ 8 จำนวน 109 นายที่พลีชีพในสงครามเกาหลีเมื่อกว่า 70 ปีที่แล้วและเพิ่งได้รับการส่งคืนจากเกาหลีใต้ในเดือนกันยายน 2021 มันเป็นสุนทรพจน์ของนายซุนส้าวเฉิงในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงการทหารผ่านศึก (Ministry of Veteran Affairs) ในสมัยนั้น โดยประโยคเต็ม ‘ดวงวิญญาณจงกลับมา อย่าได้โศกเศร้าไปชั่วนิรันดร์’ นี้คือประโยคจบของสุนทรพจน์ (รูปประกอบ2) บทสุนทรพจน์ดังกล่าวยาวและใช้ทักษะภาษาชั้นสูงถ้อยคำงดงาม ใจความโดยสรุปคือยกย่องเหล่าทหารอาสาสมัครที่ออกไปร่วบรบเพื่อเสถียรภาพของสาธารณรัฐจีนที่เพิ่งถูกก่อตั้งขึ้นใหม่ สดุดีความกล้าหาญของพวกเขาที่ต้องเผชิญหน้าคู่ต่อสู้ที่มีอาวุธสงครามที่ร้ายกาจ สุดท้ายพลีชีพอยู่ต่างแดนไม่มีโอกาสได้กลับบ้านเกิดจวบจนวันนี้ ขอให้เหล่าดวงวิญญาณกลับมาสู่อ้อมกอดอันอบอุ่นของประชาชนที่รักเขาและยังไม่ลืมความเสียสละของพวกเขา ได้กลับมาเห็นความเจริญเข้มแข็งของประเทศที่เขาพลีกายปกปักษ์รักษา ขอเหล่าวิญญาณผู้กล้าจงกลับคืนสู่มาตุภูมิ กลับมาสู่ความสงบ ไม่ต้องเจ็บช้ำหรือโศกเศร้าอีกต่อไป สุนทรพจน์นี้ได้รับการยกย่องด้วยภาษาที่งดงามและความหมายลึกซึ้งกินใจ ไม่เพียงสดุดีความกล้าหาญ แต่ยังกระตุ้นอารมณ์รักและเคารพในผู้ฟังอีกด้วย และประโยคนี้เป็นคำพูดในยุคจีนปัจจุบันที่สะท้อนวัฒนธรรมที่สั่งสมผ่านกาลเวลาจากวลีจีนโบราณ กลายมาเป็นอีกประโยคหนึ่งที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์จีน (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.sohu.com/a/584621129_114988 http://www.81.cn/tp_207717/10086482.html https://mgronline.com/china/detail/9670000114488 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: http://m.shangshiwen.com/71990.html https://www.gushiwen.cn/mingju_991.aspx https://baike.baidu.com/item/招魂/8176058 http://www.81.cn/tp_207717/10086482.html #ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก #เรียกดวงวิญญาณ #ชวีหยวน #ทหารอาสาสมัครจีน #สาระจีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 540 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิดีโอที่บันทึกโดยกลุ่มคนอาสาสมัครที่พยายามเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนบ้านในลอสแองเจลิสให้ได้มากที่สุด

    น่าเสียดายที่ไฟป่าไม่อาจดับลงได้ เนื่องจากที่ผ่้านมาทางการโดยทีมบริหารจากพรรคเดโมแครตไม่ได้ให้ความสำคัญกับการทำอ่างเก็บน้ำมากนัก
    วิดีโอที่บันทึกโดยกลุ่มคนอาสาสมัครที่พยายามเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนบ้านในลอสแองเจลิสให้ได้มากที่สุด น่าเสียดายที่ไฟป่าไม่อาจดับลงได้ เนื่องจากที่ผ่้านมาทางการโดยทีมบริหารจากพรรคเดโมแครตไม่ได้ให้ความสำคัญกับการทำอ่างเก็บน้ำมากนัก
    Sad
    Like
    Love
    11
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 619 มุมมอง 34 1 รีวิว
  • “อาจารย์ปานเทพ-อัจฉริยะ” เตรียมจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของ “แตงโม นิดา” 16 ม.ค. นี้ ย้ำมาตรการความปลอดภัยสูงสุด ยันอาสาสมัครครบแล้ว ส่วนใหญ่เป็นมิสแกรนด์ฯ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000002986

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “อาจารย์ปานเทพ-อัจฉริยะ” เตรียมจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของ “แตงโม นิดา” 16 ม.ค. นี้ ย้ำมาตรการความปลอดภัยสูงสุด ยันอาสาสมัครครบแล้ว ส่วนใหญ่เป็นมิสแกรนด์ฯ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000002986 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    34
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1624 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดหน้า สาวผู้กล้า รับบทแตงโม
    เปิดภาพสาวสวยอาสาสมัครสวมบท "แตงโม" จำลองเหตุการณ์ตกเรือ ดีกรีไม่ธรรมดา
    #News1 #Newsstory #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ #คดีแตงโม #มิสแกรนด์ไทยแลนด์ #จำลองเหตุการณ์ตกเรือ #แตงโมภัทรธิดา
    เปิดหน้า สาวผู้กล้า รับบทแตงโม เปิดภาพสาวสวยอาสาสมัครสวมบท "แตงโม" จำลองเหตุการณ์ตกเรือ ดีกรีไม่ธรรมดา #News1 #Newsstory #ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ #คดีแตงโม #มิสแกรนด์ไทยแลนด์ #จำลองเหตุการณ์ตกเรือ #แตงโมภัทรธิดา
    Like
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1132 มุมมอง 39 2 รีวิว
  • เปิดภาพสาวสวยอาสาสมัครสวมบท "แตงโม" จำลองเหตุการณ์ตกเรือ ดีกรีไม่ธรรมดา
    เปิดภาพสาวสวยอาสาสมัครสวมบท "แตงโม" จำลองเหตุการณ์ตกเรือ ดีกรีไม่ธรรมดา
    Like
    Love
    31
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1528 มุมมอง 113 0 รีวิว
  • ก็เพราะมีทนายเด...รัฐฉาน อย่างเมิงไง เป็นทนายที่ช่วยจำเลย ไม่ทำหน้าที่ทวงคืนความยุติธรรม ผู้คนที่รักความยุติธรรมจึงต้องออกมาร่วมกันปกป้อง แม้ DSI ไม่ได้รับอาสาสมัคร แต่ DSI ก็จะไปร่วมสังเกตุการณ์ แต่มึงก็ยังโพสเฟซ ดิสเครดิตเหล่าคนทวงคืนความยุติธรรม เอาไว้ปีนี้เมิงติดครุก จะดูว่ามีใครออกมาเรียกร้องให้เมิงไหม หรือเค้าจะฉลองกันทั้งประเทศ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ก็เพราะมีทนายเด...รัฐฉาน อย่างเมิงไง เป็นทนายที่ช่วยจำเลย ไม่ทำหน้าที่ทวงคืนความยุติธรรม ผู้คนที่รักความยุติธรรมจึงต้องออกมาร่วมกันปกป้อง แม้ DSI ไม่ได้รับอาสาสมัคร แต่ DSI ก็จะไปร่วมสังเกตุการณ์ แต่มึงก็ยังโพสเฟซ ดิสเครดิตเหล่าคนทวงคืนความยุติธรรม เอาไว้ปีนี้เมิงติดครุก จะดูว่ามีใครออกมาเรียกร้องให้เมิงไหม หรือเค้าจะฉลองกันทั้งประเทศ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” โพสต์อินสตาแกรมเชิญชวน ผู้เข้าประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2025 ที่มีรูปร่างคล้าย “แตงโม-แซน” เป็นอาสาสมัครจำลองเหตุการณ์อดีตดาราสาวตกเรือ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000001483

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” โพสต์อินสตาแกรมเชิญชวน ผู้เข้าประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2025 ที่มีรูปร่างคล้าย “แตงโม-แซน” เป็นอาสาสมัครจำลองเหตุการณ์อดีตดาราสาวตกเรือ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000001483 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    12
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1069 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ปานเทพ" พร้อมด้วย "อัจฉริยะ" ชี้แจงกรณีเปิดรับอาสาสมัคร คล้าย "แตงโม-แซน" เพื่อจำลองความน่าจะเป็น ของคดีแตงโม จำลองเหตุการณ์16 ม.ค. นี้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000001411

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ปานเทพ" พร้อมด้วย "อัจฉริยะ" ชี้แจงกรณีเปิดรับอาสาสมัคร คล้าย "แตงโม-แซน" เพื่อจำลองความน่าจะเป็น ของคดีแตงโม จำลองเหตุการณ์16 ม.ค. นี้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000001411 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    13
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1006 มุมมอง 0 รีวิว
  • MGR Online-เปิดคุณสมบัติอาสาสมัครคนคล้าย "แตงโม-แซน" ทดสอบเหตุการณ์ตกเรือ แม่น้ำเจ้าพระยา อ.ปานเทพ เผย น้ำหนักและความสูงต้องใกล้เคียงกัน ที่สำคัญมีความกล้า ว่ายน้ำแข็ง นัดหมายทดสอบ 16 ม.ค.

    วันนี้ (6 ม.ค.) ที่บ้านพระอาทิตย์ อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า จากกรณีได้ติดตามการทดสอบ หรือจำลองเหตุการณ์ตกน้ำของ "แตงโม" ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีพงษ์ จากสื่อมวลชนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เรามีความเห็นว่าไม่เหมือนกับสภาพข้อเท็จจริง ดังนี้ 1. ผู้ตกเรือจะต้องมีลักษณะเพศตรงกัน 2. ผู้ตกเรือจะต้องมีน้ำหนักและความสูงเท่ากัน 3. ชุดแต่งกายจะต้องเหมือน หรือคล้ายกันมาก 4. ความเร็วเรือจะต้องมีความสอดรับกับสภาพข้อเท็จจริง

    จึงตัดสินใจทดสอบเหตุการณ์ที่มีความใกล้เคียงที่สุด โดยเปิดรับอาสาสมัครคนที่มีความคล้าย "แตงโม" นิดา และ "แซน" วิศาพัช มโนมัยรัตน์ เป้าหมายคือ น้ำหนัก ความสูง เครื่องแต่งกาย ต้องใกล้เคียงกัน หากมีหน้าใกล้เคียงกันด้วยจะดีมาก สำหรับอาสาสมัครคนคล้าย แตงโม ต้องมีความสูง 167-168 ซม. น้ำหนัก 50 กก. ส่วนอาสาสมัครคนคล้าย แซน ต้องมีความสูง 165-170 ซม. น้ำหนัก 45-52 กก. เพื่อใกล้เคียงกับสภาพความเป็นจริงมากที่สุด

    นอกจากนี้ คุณสมบัติของผู้สมัครต้องมีความกล้า ว่ายน้ำแข็ง เนื่องจากมีการทดสอบการตกน้ำจริง มีคนดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด ขณะนี้มีผู้สมัครเข้ามาแล้วและยังเปิดรับสมัครอยู่ "ใครก็ตามที่อยากทำให้ความจริงปรากฏขึ้น เชิญร่วมกับเราในการทำคดีประวัติศาสตร์" ผู้สนใจติดต่อเข้ามาที่แฟนเพจปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม หรือส่งไปรษณีย์มาที่บ้านพระอาทิตย์

    เบื้องต้นนัดหมายสื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์ทดสอบครั้งนี้ ในวันที่ 16 ม.ค. ที่ท่าเรือพิบูลย์สงคราม 1 จ.นนทบุรี จะได้เห็นการทดสอบความเร็ว บริเวณจุดเกิดเหตุ และเรื่องอื่นๆ

    #MGROnline #ปานเทพ #แตงโม #แตงโมภัทรธิดา
    MGR Online-เปิดคุณสมบัติอาสาสมัครคนคล้าย "แตงโม-แซน" ทดสอบเหตุการณ์ตกเรือ แม่น้ำเจ้าพระยา อ.ปานเทพ เผย น้ำหนักและความสูงต้องใกล้เคียงกัน ที่สำคัญมีความกล้า ว่ายน้ำแข็ง นัดหมายทดสอบ 16 ม.ค. • วันนี้ (6 ม.ค.) ที่บ้านพระอาทิตย์ อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า จากกรณีได้ติดตามการทดสอบ หรือจำลองเหตุการณ์ตกน้ำของ "แตงโม" ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีพงษ์ จากสื่อมวลชนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เรามีความเห็นว่าไม่เหมือนกับสภาพข้อเท็จจริง ดังนี้ 1. ผู้ตกเรือจะต้องมีลักษณะเพศตรงกัน 2. ผู้ตกเรือจะต้องมีน้ำหนักและความสูงเท่ากัน 3. ชุดแต่งกายจะต้องเหมือน หรือคล้ายกันมาก 4. ความเร็วเรือจะต้องมีความสอดรับกับสภาพข้อเท็จจริง • จึงตัดสินใจทดสอบเหตุการณ์ที่มีความใกล้เคียงที่สุด โดยเปิดรับอาสาสมัครคนที่มีความคล้าย "แตงโม" นิดา และ "แซน" วิศาพัช มโนมัยรัตน์ เป้าหมายคือ น้ำหนัก ความสูง เครื่องแต่งกาย ต้องใกล้เคียงกัน หากมีหน้าใกล้เคียงกันด้วยจะดีมาก สำหรับอาสาสมัครคนคล้าย แตงโม ต้องมีความสูง 167-168 ซม. น้ำหนัก 50 กก. ส่วนอาสาสมัครคนคล้าย แซน ต้องมีความสูง 165-170 ซม. น้ำหนัก 45-52 กก. เพื่อใกล้เคียงกับสภาพความเป็นจริงมากที่สุด • นอกจากนี้ คุณสมบัติของผู้สมัครต้องมีความกล้า ว่ายน้ำแข็ง เนื่องจากมีการทดสอบการตกน้ำจริง มีคนดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด ขณะนี้มีผู้สมัครเข้ามาแล้วและยังเปิดรับสมัครอยู่ "ใครก็ตามที่อยากทำให้ความจริงปรากฏขึ้น เชิญร่วมกับเราในการทำคดีประวัติศาสตร์" ผู้สนใจติดต่อเข้ามาที่แฟนเพจปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม หรือส่งไปรษณีย์มาที่บ้านพระอาทิตย์ • เบื้องต้นนัดหมายสื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์ทดสอบครั้งนี้ ในวันที่ 16 ม.ค. ที่ท่าเรือพิบูลย์สงคราม 1 จ.นนทบุรี จะได้เห็นการทดสอบความเร็ว บริเวณจุดเกิดเหตุ และเรื่องอื่นๆ • #MGROnline #ปานเทพ #แตงโม #แตงโมภัทรธิดา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 349 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีอาสาสมัครเข้ามาแล้ว อ.ปานเทพยังเปิดรับคนคล้ายแตงโม-แซน (06/01/67) #news1 #คดีแตงโม #อ.ปานเทพ
    มีอาสาสมัครเข้ามาแล้ว อ.ปานเทพยังเปิดรับคนคล้ายแตงโม-แซน (06/01/67) #news1 #คดีแตงโม #อ.ปานเทพ
    Like
    Love
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1123 มุมมอง 82 1 รีวิว
  • เปิดรับอาสาสมัคร คนเหมือน “แตงโม” และ “แซน”ด่วน !!!

    เนื่องด้วยทางกระทรวงยุติธรรม ได้ทำหนังสือตอบคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567 กรณีคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ที่ได้ทำหนังสือมาว่าพบพยานหลักฐานใหม่อันเป็นพยานหลักฐานสำคัญในคดีการเสียชีวิตของนางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโมนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ส่งเรื่องนี้ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการแล้ว

    ทั้งนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีนัดหมายกับคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม 2568 เพื่อทดสอบจำลองสถานการณ์ในวันเกิดเหตุ โดยมีสื่อมวลชนจำนวนมากจะมาร่วมเป็นสักขีพยานการจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย

    โดยการทดสอบจำลองสถานการณ์จำเป็นต้องมีอาสาสมัครที่มีความใกล้เคียงกับคุณแตงโม และคุณแซนในวันเกิดเหตุ ทั้ง “รูปร่างลักษณะ” และ “ชุดแต่งกาย” แต่จะต้องมีความพร้อมของร่างกายที่แข็งแรงและว่ายน้ำได้ดีด้วย เพราะต้องทดลองการนั่งท้ายเรือ และการตกน้ำที่กาบเรือด้านซ้ายด้วย

    จึงขอเปิดรับอาสาสมัคร เพื่อคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมในการร่วมกันหาความจริงในคดีการเสียชีวิตของคุณแตงโม ดังต่อไปนี้

    1.ผู้หญิงคล้ายแตงโม ความสูงระหว่าง 165-170 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 45-52 กิโลกรัม ว่ายน้ำได้แข็งแรง

    2.ผู้ที่มีความคล้ายแซน ผู้หญิง/ผู้ชายที่แปลงเพศเป็นหญิงแล้ว ความสูงระหว่าง 165-170 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 45-52 กิโลกรัม ว่ายน้ำได้แข็งแรง

    ใครสนใจเข้าร่วมการเป็นอาสาสมัครครั้งนี้ สามารถส่งรูปถ่าย ชื่อ และเบอร์โทรในข้อความแฟนเพจนี้ หรือส่งไปรษณีย์หรือฝากไว้ที่ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ บ้านพระอาทิตย์ ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพ 10200

    หรือติดต่อชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โทร 093-1532423

    จึงเรียนมาเพื่อทราบ กดไลค์ และช่วยกันแชร์หาคนเหมือนแตงโมและแซนด้วยครับ

    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    5 มกราคม 2568

    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1129018321925200&id=100044511276276
    เปิดรับอาสาสมัคร คนเหมือน “แตงโม” และ “แซน”ด่วน !!! เนื่องด้วยทางกระทรวงยุติธรรม ได้ทำหนังสือตอบคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567 กรณีคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ที่ได้ทำหนังสือมาว่าพบพยานหลักฐานใหม่อันเป็นพยานหลักฐานสำคัญในคดีการเสียชีวิตของนางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโมนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ส่งเรื่องนี้ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการแล้ว ทั้งนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีนัดหมายกับคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม 2568 เพื่อทดสอบจำลองสถานการณ์ในวันเกิดเหตุ โดยมีสื่อมวลชนจำนวนมากจะมาร่วมเป็นสักขีพยานการจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย โดยการทดสอบจำลองสถานการณ์จำเป็นต้องมีอาสาสมัครที่มีความใกล้เคียงกับคุณแตงโม และคุณแซนในวันเกิดเหตุ ทั้ง “รูปร่างลักษณะ” และ “ชุดแต่งกาย” แต่จะต้องมีความพร้อมของร่างกายที่แข็งแรงและว่ายน้ำได้ดีด้วย เพราะต้องทดลองการนั่งท้ายเรือ และการตกน้ำที่กาบเรือด้านซ้ายด้วย จึงขอเปิดรับอาสาสมัคร เพื่อคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมในการร่วมกันหาความจริงในคดีการเสียชีวิตของคุณแตงโม ดังต่อไปนี้ 1.ผู้หญิงคล้ายแตงโม ความสูงระหว่าง 165-170 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 45-52 กิโลกรัม ว่ายน้ำได้แข็งแรง 2.ผู้ที่มีความคล้ายแซน ผู้หญิง/ผู้ชายที่แปลงเพศเป็นหญิงแล้ว ความสูงระหว่าง 165-170 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 45-52 กิโลกรัม ว่ายน้ำได้แข็งแรง ใครสนใจเข้าร่วมการเป็นอาสาสมัครครั้งนี้ สามารถส่งรูปถ่าย ชื่อ และเบอร์โทรในข้อความแฟนเพจนี้ หรือส่งไปรษณีย์หรือฝากไว้ที่ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ บ้านพระอาทิตย์ ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพ 10200 หรือติดต่อชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โทร 093-1532423 จึงเรียนมาเพื่อทราบ กดไลค์ และช่วยกันแชร์หาคนเหมือนแตงโมและแซนด้วยครับ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 5 มกราคม 2568 https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1129018321925200&id=100044511276276
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 381 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ปานเทพ" นัดแถลงพรุ่งนี้ รายละเอียดรับอาสาสมัครคนเหมือน "แตงโม-แซน" จำลองเหตุการณ์คดี "แตงโม" ตกเรือ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000001177

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ปานเทพ" นัดแถลงพรุ่งนี้ รายละเอียดรับอาสาสมัครคนเหมือน "แตงโม-แซน" จำลองเหตุการณ์คดี "แตงโม" ตกเรือ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000001177 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    19
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1218 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน! เปิดรับอาสาสมัคร คนเหมือนแตงโม-แซน (05/01/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #รื้อคดีแตงโม #ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว #จำลองเหตุการณ์คดีแตงโม
    ด่วน! เปิดรับอาสาสมัคร คนเหมือนแตงโม-แซน (05/01/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #รื้อคดีแตงโม #ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว #จำลองเหตุการณ์คดีแตงโม
    Like
    Love
    20
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1573 มุมมอง 69 1 รีวิว
  • เปิดรับอาสาสมัคร คนรูปร่างและการแต่งกายเหมือน “แตงโม” และ “แซน” ด่วน พร้อมคุณสมบัติต้องร่างกายแข็งแรงและว่ายน้ำเป็น เพื่อจำลองเหตุการณ์ตกเรือ วันที่ 16 ม.ค.นี้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000001129

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เปิดรับอาสาสมัคร คนรูปร่างและการแต่งกายเหมือน “แตงโม” และ “แซน” ด่วน พร้อมคุณสมบัติต้องร่างกายแข็งแรงและว่ายน้ำเป็น เพื่อจำลองเหตุการณ์ตกเรือ วันที่ 16 ม.ค.นี้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000001129 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1224 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประกาศจาก อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    เปิดรับอาสาสมัคร คนเหมือน “แตงโม” และ “แซน”ด่วน !!!

    เนื่องด้วยทางกระทรวงยุติธรรม ได้ทำหนังสือตอบคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567 กรณีคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ที่ได้ทำหนังสือมาว่าพบพยานหลักฐานใหม่อันเป็นพยานหลักฐานสำคัญในคดีการเสียชีวิตของนางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโมนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ส่งเรื่องนี้ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการแล้ว

    ทั้งนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีนัดหมายกับคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม 2568 เพื่อทดสอบจำลองสถานการณ์ในวันเกิดเหตุ โดยมีสื่อมวลชนจำนวนมากจะมาร่วมเป็นสักขีพยานการจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย

    โดยการทดสอบจำลองสถานการณ์จำเป็นต้องมีอาสาสมัครที่มีความใกล้เคียงกับคุณแตงโม และคุณแซนในวันเกิดเหตุ ทั้ง “รูปร่างลักษณะ” และ “ชุดแต่งกาย” แต่จะต้องมีความพร้อมของร่างกายที่แข็งแรงและว่ายน้ำได้ดีด้วย เพราะต้องทดลองการนั่งท้ายเรือ และการตกน้ำที่กาบเรือด้านซ้ายด้วย

    จึงขอเปิดรับอาสาสมัคร เพื่อคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมในการร่วมกันหาความจริงในคดีการเสียชีวิตของคุณแตงโม ดังต่อไปนี้

    1.ผู้หญิงคล้ายแตงโม ความสูงระหว่าง 165-170 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 45-52 กิโลกรัม ว่ายน้ำได้แข็งแรง

    2.ผู้ที่มีความคล้ายแซน ผู้หญิง/ผู้ชายที่แปลงเพศเป็นหญิงแล้ว ความสูงระหว่าง 165-170 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 45-52 กิโลกรัม ว่ายน้ำได้แข็งแรง

    ใครสนใจเข้าร่วมการเป็นอาสาสมัครครั้งนี้ สามารถส่งรูปถ่าย ชื่อ และเบอร์โทรในข้อความแฟนเพจนี้ หรือส่งไปรษณีย์หรือฝากไว้ที่ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ บ้านพระอาทิตย์ ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพ 10200

    หรือติดต่อชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โทร 093-1532423

    จึงเรียนมาเพื่อทราบ กดไลค์ และช่วยกันแชร์หาคนเหมือนแตงโมและแซนด้วยครับ

    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    5 มกราคม 2568

    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1129018321925200&id=100044511276276
    ประกาศจาก อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เปิดรับอาสาสมัคร คนเหมือน “แตงโม” และ “แซน”ด่วน !!! เนื่องด้วยทางกระทรวงยุติธรรม ได้ทำหนังสือตอบคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567 กรณีคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ที่ได้ทำหนังสือมาว่าพบพยานหลักฐานใหม่อันเป็นพยานหลักฐานสำคัญในคดีการเสียชีวิตของนางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโมนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ส่งเรื่องนี้ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการแล้ว ทั้งนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีนัดหมายกับคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม 2568 เพื่อทดสอบจำลองสถานการณ์ในวันเกิดเหตุ โดยมีสื่อมวลชนจำนวนมากจะมาร่วมเป็นสักขีพยานการจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย โดยการทดสอบจำลองสถานการณ์จำเป็นต้องมีอาสาสมัครที่มีความใกล้เคียงกับคุณแตงโม และคุณแซนในวันเกิดเหตุ ทั้ง “รูปร่างลักษณะ” และ “ชุดแต่งกาย” แต่จะต้องมีความพร้อมของร่างกายที่แข็งแรงและว่ายน้ำได้ดีด้วย เพราะต้องทดลองการนั่งท้ายเรือ และการตกน้ำที่กาบเรือด้านซ้ายด้วย จึงขอเปิดรับอาสาสมัคร เพื่อคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมในการร่วมกันหาความจริงในคดีการเสียชีวิตของคุณแตงโม ดังต่อไปนี้ 1.ผู้หญิงคล้ายแตงโม ความสูงระหว่าง 165-170 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 45-52 กิโลกรัม ว่ายน้ำได้แข็งแรง 2.ผู้ที่มีความคล้ายแซน ผู้หญิง/ผู้ชายที่แปลงเพศเป็นหญิงแล้ว ความสูงระหว่าง 165-170 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 45-52 กิโลกรัม ว่ายน้ำได้แข็งแรง ใครสนใจเข้าร่วมการเป็นอาสาสมัครครั้งนี้ สามารถส่งรูปถ่าย ชื่อ และเบอร์โทรในข้อความแฟนเพจนี้ หรือส่งไปรษณีย์หรือฝากไว้ที่ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ บ้านพระอาทิตย์ ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพ 10200 หรือติดต่อชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โทร 093-1532423 จึงเรียนมาเพื่อทราบ กดไลค์ และช่วยกันแชร์หาคนเหมือนแตงโมและแซนด้วยครับ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 5 มกราคม 2568 https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1129018321925200&id=100044511276276
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 416 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts