• #เล่าเรื่อง# #วัดวรเชษฐ นอกเกาะ ...ประสบการณ์ตรงของผู้เขียนเอง...เริ่มจาก 10 ปีก่อน ผู้เขียนได้อ่านหนังสือ ของ ริชชี่ และบทความของ ดร .พระมหาสิงทน...ว่า ที่นี่คือที่ บรรจุพระบรมอัฐิ ของพระนเรศวรจริง...จึงเดินทางไป..ครั้งแรก มุ่งหน้าไปกุฏิพระมหาสิงทนก่อน ไปสนทนากับท่าน...ท่านเล่าว่า ผู้มีญาณ ไม่ใช่แค่คนไทย มาจากหลายประเทศเลย ..มาพิสูจน์ และนืนยันว่า จริง ..ดังที่กล่าว...ครั้งแรกผู้เขียนก็สักการะปกติ ได้แต่เอา 2 มือ สัมผัสองค์พระปรางค์ในภาพ แล้วตั้งจิตว่า ถ้าข้าพเจ้าเคยเป็นบริวารของท่าน ช่วยสื่อสารให้ข้าพเจ้ารับทราบมีด้วย...พอเอามือออก..ลมพัดแรงซะงั้น...ซึ่งก่อนหน้านี้เงียบสงบ..เป็นสักประมาณครึ่งนาที..แล้วก็สงบ...ก็ไม่ได้คิดอะไร....ครั้งที่ 2 มาหา พระมหาอีก ท่านแนะนำว่า ใบเสมาหน้าวิหารนะ มีพลัง ไปขอเอาสิ....พอลงจากกุฏิ..กำลังจะเดินขึ้นพระปรางค์ ก่อนเดินเข้า ยกมือไหว้..บอกท่านครับ ลูกมาแล้วครับ...ลมจากสงบ..พัดแรงขึ้นมาแบบคราวที่แล้วเลย...แล้วขนเราก็ลุกแบบไม่มีสาเหตุ...สักไม่เกินครึ่งนาที ลมก็สงบ...ก็เดินไปขึ้นพระปรางค์ในภาพแบบเดิม ก็สักการะปกติ ...ลงมา ไปหน้าพระวิหารร้าง..ที่ พระมหาบอก...ให้ไปขอพลัง....เราก็จุดธูป เอาพวงมาลัยวาง ...และเอามือ 2 มือ จับที่ใบเสมาหินทรายนั้น...แล้วตั้งจิตว่า ขอให้มือคู่นี้ ทำอะไรก็สำเร็จ ถ้าไม่ผิดศีลธรรม...สิ่งที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น....ไฟดูด...!! ..ชักมือกลับอย่างเร็ว...ตั้งสติได้ เอ ไฟมันรั่วตรงไหน ก้มเงยหายสายไฟ...จนทั่ว...ไม่มี....แล้วเมื่อครู่คืออ่ะไร? ...ข้ามไปครั้งต่อมาเลย ผู้เขียนมีนิสัยที่ดี หรือแย่ ก็ไม่ทราบ แต่ชอบชาเล้นจ์แทบทุกอย่างในชีวิต...อยุธยาผีดุเหรอ..มาๆ อยากรู้...ไปกลางคืนเลย..ไปนั่งสมาธิในวิหารร้างมืดๆ.ผี.มาสิ อยากเจอ...อ้อ สักพักภรรยา เลื่อนรถเอาไฟหน้าส่องมา บอกกลัวงู.เราก็บอกไม่เป็นไรหรอกนั่งรอในรถนั่นแหละ...ผ่านไปสัก 30 นาที ก็เข้าสมาธิไม่ได้ เนื่องจากเสียงเครื่องยนต์..ทำให้ไม่สงบ...ภรรยาจึงเดินมาบอก กลับเถอะ ...กลัวงูกัด...เราก็ไปก็ไป ..และผู้เขียนก็แวะเวียนไปตลอด ..และคำบอกกล่าวก่อนเข้าก็ทำแบบเดิม ลมก็มาแบบเดิม แปลกดีไหม?..ท่านผู้อ่านสนใจ เชิญครับ วัดวรเชษฐมีในเกาะ กับนอกเกาะ ..ที่เขียนคือ นอกเกาะครับ.
    #เล่าเรื่อง# #วัดวรเชษฐ นอกเกาะ ...ประสบการณ์ตรงของผู้เขียนเอง...เริ่มจาก 10 ปีก่อน ผู้เขียนได้อ่านหนังสือ ของ ริชชี่ และบทความของ ดร .พระมหาสิงทน...ว่า ที่นี่คือที่ บรรจุพระบรมอัฐิ ของพระนเรศวรจริง...จึงเดินทางไป..ครั้งแรก มุ่งหน้าไปกุฏิพระมหาสิงทนก่อน ไปสนทนากับท่าน...ท่านเล่าว่า ผู้มีญาณ ไม่ใช่แค่คนไทย มาจากหลายประเทศเลย ..มาพิสูจน์ และนืนยันว่า จริง ..ดังที่กล่าว...ครั้งแรกผู้เขียนก็สักการะปกติ ได้แต่เอา 2 มือ สัมผัสองค์พระปรางค์ในภาพ แล้วตั้งจิตว่า ถ้าข้าพเจ้าเคยเป็นบริวารของท่าน ช่วยสื่อสารให้ข้าพเจ้ารับทราบมีด้วย...พอเอามือออก..ลมพัดแรงซะงั้น...ซึ่งก่อนหน้านี้เงียบสงบ..เป็นสักประมาณครึ่งนาที..แล้วก็สงบ...ก็ไม่ได้คิดอะไร....ครั้งที่ 2 มาหา พระมหาอีก ท่านแนะนำว่า ใบเสมาหน้าวิหารนะ มีพลัง ไปขอเอาสิ....พอลงจากกุฏิ..กำลังจะเดินขึ้นพระปรางค์ ก่อนเดินเข้า ยกมือไหว้..บอกท่านครับ ลูกมาแล้วครับ...ลมจากสงบ..พัดแรงขึ้นมาแบบคราวที่แล้วเลย...แล้วขนเราก็ลุกแบบไม่มีสาเหตุ...สักไม่เกินครึ่งนาที ลมก็สงบ...ก็เดินไปขึ้นพระปรางค์ในภาพแบบเดิม ก็สักการะปกติ ...ลงมา ไปหน้าพระวิหารร้าง..ที่ พระมหาบอก...ให้ไปขอพลัง....เราก็จุดธูป เอาพวงมาลัยวาง ...และเอามือ 2 มือ จับที่ใบเสมาหินทรายนั้น...แล้วตั้งจิตว่า ขอให้มือคู่นี้ ทำอะไรก็สำเร็จ ถ้าไม่ผิดศีลธรรม...สิ่งที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น....ไฟดูด...!! ..ชักมือกลับอย่างเร็ว...ตั้งสติได้ เอ ไฟมันรั่วตรงไหน ก้มเงยหายสายไฟ...จนทั่ว...ไม่มี....แล้วเมื่อครู่คืออ่ะไร? ...ข้ามไปครั้งต่อมาเลย ผู้เขียนมีนิสัยที่ดี หรือแย่ ก็ไม่ทราบ แต่ชอบชาเล้นจ์แทบทุกอย่างในชีวิต...อยุธยาผีดุเหรอ..มาๆ อยากรู้...ไปกลางคืนเลย..ไปนั่งสมาธิในวิหารร้างมืดๆ.ผี.มาสิ อยากเจอ...อ้อ สักพักภรรยา เลื่อนรถเอาไฟหน้าส่องมา บอกกลัวงู.เราก็บอกไม่เป็นไรหรอกนั่งรอในรถนั่นแหละ...ผ่านไปสัก 30 นาที ก็เข้าสมาธิไม่ได้ เนื่องจากเสียงเครื่องยนต์..ทำให้ไม่สงบ...ภรรยาจึงเดินมาบอก กลับเถอะ ...กลัวงูกัด...เราก็ไปก็ไป ..และผู้เขียนก็แวะเวียนไปตลอด ..และคำบอกกล่าวก่อนเข้าก็ทำแบบเดิม ลมก็มาแบบเดิม แปลกดีไหม?..ท่านผู้อ่านสนใจ เชิญครับ วัดวรเชษฐมีในเกาะ กับนอกเกาะ ..ที่เขียนคือ นอกเกาะครับ.
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เล่าเรื่อง# #วัดวรเชษฐ นอกเกาะ ...ประสบการณ์ตรงของผู้เขียนเอง...เริ่มจาก 10 ปีก่อน ผู้เขียนได้อ่านหนังสือ ของ ริชชี่ และบทความของ ดร .พระมหาสิงทน...ว่า ที่นี่คือที่ บรรจุพระบรมอัฐิ ของพระนเรศวรจริง...จึงเดินทางไป..ครั้งแรก มุ่งหน้าไปกุฏิพระมหาสิงทนก่อน ไปสนทนากับท่าน...ท่านเล่าว่า ผู้มีญาณ ไม่ใช่แค่คนไทย มาจากหลายประเทศเลย ..มาพิสูจน์ และนืนยันว่า จริง ..ดังที่กล่าว...ครั้งแรกผู้เขียนก็สักการะปกติ ได้แต่เอา 2 มือ สัมผัสองค์พระปรางค์ในภาพ แล้วตั้งจิตว่า ถ้าข้าพเจ้าเคยเป็นบริวารของท่าน ช่วยสื่อสารให้ข้าพเจ้ารับทราบมีด้วย...พอเอามือออก..ลมพัดแรงซะงั้น...ซึ่งก่อนหน้านี้เงียบสงบ..เป็นสักประมาณครึ่งนาที..แล้วก็สงบ...ก็ไม่ได้คิดอะไร....ครั้งที่ 2 มาหา พระมหาอีก ท่านแนะนำว่า ใบเสมาหน้าวิหารนะ มีพลัง ไปขอเอาสิ....พอลงจากกุฏิ..กำลังจะเดินขึ้นพระปรางค์ ก่อนเดินเข้า ยกมือไหว้..บอกท่านครับ ลูกมาแล้วครับ...ลมจากสงบ..พัดแรงขึ้นมาแบบคราวที่แล้วเลย...แล้วขนเราก็ลุกแบบไม่มีสาเหตุ...สักไม่เกินครึ่งนาที ลมก็สงบ...ก็เดินไปขึ้นพระปรางค์ในภาพแบบเดิม ก็สักการะปกติ ...ลงมา ไปหน้าพระวิหารร้าง..ที่ พระมหาบอก...ให้ไปขอพลัง....เราก็จุดธูป เอาพวงมาลัยวาง ...และเอามือ 2 มือ จับที่ใบเสมาหินทรายนั้น...แล้วตั้งจิตว่า ขอให้มือคู่นี้ ทำอะไรก็สำเร็จ ถ้าไม่ผิดศีลธรรม...สิ่งที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น....ไฟดูด...!! ..ชักมือกลับอย่างเร็ว...ตั้งสติได้ เอ ไฟมันรั่วตรงไหน ก้มเงยหายสายไฟ...จนทั่ว...ไม่มี....แล้วเมื่อครู่คืออ่ะไร? ...ข้ามไปครั้งต่อมาเลย ผู้เขียนมีนิสัยที่ดี หรือแย่ ก็ไม่ทราบ แต่ชอบชาเล้นจ์แทบทุกอย่างในชีวิต...อยุธยาผีดุเหรอ..มาๆ อยากรู้...ไปกลางคืนเลย..ไปนั่งสมาธิในวิหารร้างมืดๆ.ผี.มาสิ อยากเจอ...อ้อ สักพักภรรยา เลื่อนรถเอาไฟหน้าส่องมา บอกกลัวงู.เราก็บอกไม่เป็นไรหรอกนั่งรอในรถนั่นแหละ...ผ่านไปสัก 30 นาที ก็เข้าสมาธิไม่ได้ เนื่องจากเสียงเครื่องยนต์..ทำให้ไม่สงบ...ภรรยาจึงเดินมาบอก กลับเถอะ ...กลัวงูกัด...เราก็ไปก็ไป ..และผู้เขียนก็แวะเวียนไปตลอด ..และคำบอกกล่าวก่อนเข้าก็ทำแบบเดิม ลมก็มาแบบเดิม แปลกดีไหม?..ท่านผู้อ่านสนใจ เชิญครับ วัดวรเชษฐมีในเกาะ กับนอกเกาะ ..ที่เขียนคือ นอกเกาะครับ.
    #เล่าเรื่อง# #วัดวรเชษฐ นอกเกาะ ...ประสบการณ์ตรงของผู้เขียนเอง...เริ่มจาก 10 ปีก่อน ผู้เขียนได้อ่านหนังสือ ของ ริชชี่ และบทความของ ดร .พระมหาสิงทน...ว่า ที่นี่คือที่ บรรจุพระบรมอัฐิ ของพระนเรศวรจริง...จึงเดินทางไป..ครั้งแรก มุ่งหน้าไปกุฏิพระมหาสิงทนก่อน ไปสนทนากับท่าน...ท่านเล่าว่า ผู้มีญาณ ไม่ใช่แค่คนไทย มาจากหลายประเทศเลย ..มาพิสูจน์ และนืนยันว่า จริง ..ดังที่กล่าว...ครั้งแรกผู้เขียนก็สักการะปกติ ได้แต่เอา 2 มือ สัมผัสองค์พระปรางค์ในภาพ แล้วตั้งจิตว่า ถ้าข้าพเจ้าเคยเป็นบริวารของท่าน ช่วยสื่อสารให้ข้าพเจ้ารับทราบมีด้วย...พอเอามือออก..ลมพัดแรงซะงั้น...ซึ่งก่อนหน้านี้เงียบสงบ..เป็นสักประมาณครึ่งนาที..แล้วก็สงบ...ก็ไม่ได้คิดอะไร....ครั้งที่ 2 มาหา พระมหาอีก ท่านแนะนำว่า ใบเสมาหน้าวิหารนะ มีพลัง ไปขอเอาสิ....พอลงจากกุฏิ..กำลังจะเดินขึ้นพระปรางค์ ก่อนเดินเข้า ยกมือไหว้..บอกท่านครับ ลูกมาแล้วครับ...ลมจากสงบ..พัดแรงขึ้นมาแบบคราวที่แล้วเลย...แล้วขนเราก็ลุกแบบไม่มีสาเหตุ...สักไม่เกินครึ่งนาที ลมก็สงบ...ก็เดินไปขึ้นพระปรางค์ในภาพแบบเดิม ก็สักการะปกติ ...ลงมา ไปหน้าพระวิหารร้าง..ที่ พระมหาบอก...ให้ไปขอพลัง....เราก็จุดธูป เอาพวงมาลัยวาง ...และเอามือ 2 มือ จับที่ใบเสมาหินทรายนั้น...แล้วตั้งจิตว่า ขอให้มือคู่นี้ ทำอะไรก็สำเร็จ ถ้าไม่ผิดศีลธรรม...สิ่งที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น....ไฟดูด...!! ..ชักมือกลับอย่างเร็ว...ตั้งสติได้ เอ ไฟมันรั่วตรงไหน ก้มเงยหายสายไฟ...จนทั่ว...ไม่มี....แล้วเมื่อครู่คืออ่ะไร? ...ข้ามไปครั้งต่อมาเลย ผู้เขียนมีนิสัยที่ดี หรือแย่ ก็ไม่ทราบ แต่ชอบชาเล้นจ์แทบทุกอย่างในชีวิต...อยุธยาผีดุเหรอ..มาๆ อยากรู้...ไปกลางคืนเลย..ไปนั่งสมาธิในวิหารร้างมืดๆ.ผี.มาสิ อยากเจอ...อ้อ สักพักภรรยา เลื่อนรถเอาไฟหน้าส่องมา บอกกลัวงู.เราก็บอกไม่เป็นไรหรอกนั่งรอในรถนั่นแหละ...ผ่านไปสัก 30 นาที ก็เข้าสมาธิไม่ได้ เนื่องจากเสียงเครื่องยนต์..ทำให้ไม่สงบ...ภรรยาจึงเดินมาบอก กลับเถอะ ...กลัวงูกัด...เราก็ไปก็ไป ..และผู้เขียนก็แวะเวียนไปตลอด ..และคำบอกกล่าวก่อนเข้าก็ทำแบบเดิม ลมก็มาแบบเดิม แปลกดีไหม?..ท่านผู้อ่านสนใจ เชิญครับ วัดวรเชษฐมีในเกาะ กับนอกเกาะ ..ที่เขียนคือ นอกเกาะครับ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทนายตั้ม หลังหัก พี่สาวเมีย เผยความลับเกลี้ยง
    ทนายตั้ม โจ๊ก กลุ่ม 999 แก๊งสีเทาธุรกิจเว็บพนัน และคดีคริปโตฯ 39ล้าน กําลังเป็นคดีสําคัญที่สุดในบรรดาคดีฉ้อโกงที่ทนายตั้มตกเป็นผู้ต้องหา นอกจากเป็นคดีที่ลากคอสองสมุนของทนายตั้มคือนุกับสาให้ตกเป็นผู้ต้องหาด้วยแล้วมันยังส่อเขาจะลุกลามบานปลาย นําทางกองปราบปรามให้เจาะลึกเข้าไปในองค์กรซ่อนเงื่อนของทนายตั้ม
    อย่างตอนนี้ดาว พี่สาวของเดือนเมีย ทนายตั้มก็เปิดปากให้การที่เป็นประโยชน์อย่างมากหลังจากถูกกองปราบเชิญตัวมาสอบเค้น ดาวยอมชี้เบาะแสที่ซ่อนกระเป๋าสีชมพูซึ่งเป็นหนึ่งในกระเป๋าหลายๆใบที่ใช้ขนเงินกองใหญ่หลายสิบล้านที่ถอนมาจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ซึ่งที่ซ่อนก็ดันเป็นบ้านเก่าของทนายตั้มเองที่ย่านพุทธมณฑลยิ่งมัดตัวทนายตั้มอีกเปราะเพราะกระเป๋าสีชมพูแป๊ดขนาดนั้น จําได้ง่าย
    ดาว พี่เมียของทนายตั้ม ยังถูกตรวจสอบบัญชีธนาคารพบว่าที่ผ่านมามีเงินหมุนเวียนเข้ามาถึงห้าสิบล้านบาททั้งที่สถานะจริงจริงของ ดาวคือ คนใช้ เป็นแค่คนเลี้ยงลูกให้กับน้องสาวคือเดือน เมียของทนายตั้ม ไม่มีศักยภาพที่จะทํารายได้มหาศาลขนาดนั้นด้วยตัวเอง เท่ากับว่าบัญชีธนาคารของเดือนถูกใครบางคนเอามาใช้เป็นบัญชีม้า สําหรับพักเงินสกปรก อย่างเป็นล่ําเป็นสัน
    สาวบ้านๆอย่างดาวไม่เก๋าพอที่จะกล้าโกหกพนักงานสอบสวนกองปราบ จึงเปิดปากซัดทอด ซึ่งช่วยให้ดาวมีโอกาสจะได้รับการกันตัวเป็นพยาน
    เมื่อกองปราบสืบประวัติของนุ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีโกง 39ล้านก็พบว่ามีสายสัมพันธ์โยงใยไปถึงเจ้าพ่อเว็บพนันคนดังที่ชื่อ ทท ซึ่ง ทท เป็นคนที่ชอบทะเบียนรถที่มีแต่เลข9 เช่นเดียวกับ นุ สา และ ตั้ม แสดงความเป็นแก๊งเดียวกันผ่านทะเบียนรถ
    ย้อนไปถึงข้อมูลลับของจอมแฉ อย่างในชูวิทย์กมลวิศิษฏ์ ที่โพสต์ไว้เมื่อปี2566 ก็ระบุว่า ทนายตั้มทําธุรกิจเว็บพนันเฮงเกม โดยร่วมกับ อู๋เจ้าหน้าที่ dsiตัวเตี้ยๆและมีเทพจอเป็นแบ็คอีกที ณ เวลานั้นยังเป็น รอง ผบ ตร บิ๊กโจ๊กตกเป็นผู้ต้องหาคดีรับสวยและฟอกเงินเว็บพนันมินนี่และบีเอ็นเคมาสเตอร์ ใกล้จะโดนสํานักงานตํารวจแห่งชาติจัดการทางวินัยร้ายแรงระดับไล่ออกไปเลยทีเดียว
    สรุปว่า จริงๆแล้ว ทนายตั้ม ไม่ได้เพิ่งรวยจากเงินที่ฉ้อโกงพี่อ้อยมาอย่างเดียว แต่มีรายได้จากทางอื่นอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งไม่น่าจะใช่รายได้จากสิทราลอว์เฟิม เพราะตั้งแต่เปิดบริษัทมาจนบัดนี้ผลดําเนินการยังติดลบขาดทุนอยู่เลย
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ทนายตั้ม หลังหัก พี่สาวเมีย เผยความลับเกลี้ยง ทนายตั้ม โจ๊ก กลุ่ม 999 แก๊งสีเทาธุรกิจเว็บพนัน และคดีคริปโตฯ 39ล้าน กําลังเป็นคดีสําคัญที่สุดในบรรดาคดีฉ้อโกงที่ทนายตั้มตกเป็นผู้ต้องหา นอกจากเป็นคดีที่ลากคอสองสมุนของทนายตั้มคือนุกับสาให้ตกเป็นผู้ต้องหาด้วยแล้วมันยังส่อเขาจะลุกลามบานปลาย นําทางกองปราบปรามให้เจาะลึกเข้าไปในองค์กรซ่อนเงื่อนของทนายตั้ม อย่างตอนนี้ดาว พี่สาวของเดือนเมีย ทนายตั้มก็เปิดปากให้การที่เป็นประโยชน์อย่างมากหลังจากถูกกองปราบเชิญตัวมาสอบเค้น ดาวยอมชี้เบาะแสที่ซ่อนกระเป๋าสีชมพูซึ่งเป็นหนึ่งในกระเป๋าหลายๆใบที่ใช้ขนเงินกองใหญ่หลายสิบล้านที่ถอนมาจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว ซึ่งที่ซ่อนก็ดันเป็นบ้านเก่าของทนายตั้มเองที่ย่านพุทธมณฑลยิ่งมัดตัวทนายตั้มอีกเปราะเพราะกระเป๋าสีชมพูแป๊ดขนาดนั้น จําได้ง่าย ดาว พี่เมียของทนายตั้ม ยังถูกตรวจสอบบัญชีธนาคารพบว่าที่ผ่านมามีเงินหมุนเวียนเข้ามาถึงห้าสิบล้านบาททั้งที่สถานะจริงจริงของ ดาวคือ คนใช้ เป็นแค่คนเลี้ยงลูกให้กับน้องสาวคือเดือน เมียของทนายตั้ม ไม่มีศักยภาพที่จะทํารายได้มหาศาลขนาดนั้นด้วยตัวเอง เท่ากับว่าบัญชีธนาคารของเดือนถูกใครบางคนเอามาใช้เป็นบัญชีม้า สําหรับพักเงินสกปรก อย่างเป็นล่ําเป็นสัน สาวบ้านๆอย่างดาวไม่เก๋าพอที่จะกล้าโกหกพนักงานสอบสวนกองปราบ จึงเปิดปากซัดทอด ซึ่งช่วยให้ดาวมีโอกาสจะได้รับการกันตัวเป็นพยาน เมื่อกองปราบสืบประวัติของนุ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีโกง 39ล้านก็พบว่ามีสายสัมพันธ์โยงใยไปถึงเจ้าพ่อเว็บพนันคนดังที่ชื่อ ทท ซึ่ง ทท เป็นคนที่ชอบทะเบียนรถที่มีแต่เลข9 เช่นเดียวกับ นุ สา และ ตั้ม แสดงความเป็นแก๊งเดียวกันผ่านทะเบียนรถ ย้อนไปถึงข้อมูลลับของจอมแฉ อย่างในชูวิทย์กมลวิศิษฏ์ ที่โพสต์ไว้เมื่อปี2566 ก็ระบุว่า ทนายตั้มทําธุรกิจเว็บพนันเฮงเกม โดยร่วมกับ อู๋เจ้าหน้าที่ dsiตัวเตี้ยๆและมีเทพจอเป็นแบ็คอีกที ณ เวลานั้นยังเป็น รอง ผบ ตร บิ๊กโจ๊กตกเป็นผู้ต้องหาคดีรับสวยและฟอกเงินเว็บพนันมินนี่และบีเอ็นเคมาสเตอร์ ใกล้จะโดนสํานักงานตํารวจแห่งชาติจัดการทางวินัยร้ายแรงระดับไล่ออกไปเลยทีเดียว สรุปว่า จริงๆแล้ว ทนายตั้ม ไม่ได้เพิ่งรวยจากเงินที่ฉ้อโกงพี่อ้อยมาอย่างเดียว แต่มีรายได้จากทางอื่นอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งไม่น่าจะใช่รายได้จากสิทราลอว์เฟิม เพราะตั้งแต่เปิดบริษัทมาจนบัดนี้ผลดําเนินการยังติดลบขาดทุนอยู่เลย ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,577
    วันพุธ: ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (13 November 2024)

    Photo Album 1/2
    ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    01. วัดโคกกุง อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    02. วัดจันทรสโมสร เขตดุสิต กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    03. วัดไชยาประดิษฐ์ อ.สระใคร จ.หนองคาย
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    04. วัดดอยแยง อ.เมือง จ.น่าน
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    05. วัดเถรพลาย อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.68)
    06. วัดท่าการ้อง อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.68)
    07. วัดท่าข้ามสุด อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.68)
    08. วัดทุ่งเรไร อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    09. วัดทุ่งอ้อ(หลวง) อ.หางดง จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    10. วัดธรรมิกาวาส อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 91 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,577 วันพุธ: ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (13 November 2024) Photo Album 1/2 ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 01. วัดโคกกุง อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) 02. วัดจันทรสโมสร เขตดุสิต กรุงเทพฯ (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) 03. วัดไชยาประดิษฐ์ อ.สระใคร จ.หนองคาย (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) 04. วัดดอยแยง อ.เมือง จ.น่าน (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) 05. วัดเถรพลาย อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.68) 06. วัดท่าการ้อง อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.68) 07. วัดท่าข้ามสุด อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.68) 08. วัดทุ่งเรไร อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) 09. วัดทุ่งอ้อ(หลวง) อ.หางดง จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) 10. วัดธรรมิกาวาส อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 91 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,577
    วันพุธ: ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (13 November 2024)

    Photo Album 1/2
    ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    01. วัดโคกกุง อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    02. วัดจันทรสโมสร เขตดุสิต กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    03. วัดไชยาประดิษฐ์ อ.สระใคร จ.หนองคาย
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    04. วัดดอยแยง อ.เมือง จ.น่าน
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    05. วัดเถรพลาย อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.68)
    06. วัดท่าการ้อง อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.68)
    07. วัดท่าข้ามสุด อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.68)
    08. วัดทุ่งเรไร อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    09. วัดทุ่งอ้อ(หลวง) อ.หางดง จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    10. วัดธรรมิกาวาส อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
    (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 91 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,577 วันพุธ: ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (13 November 2024) Photo Album 1/2 ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 01. วัดโคกกุง อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) 02. วัดจันทรสโมสร เขตดุสิต กรุงเทพฯ (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) 03. วัดไชยาประดิษฐ์ อ.สระใคร จ.หนองคาย (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) 04. วัดดอยแยง อ.เมือง จ.น่าน (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) 05. วัดเถรพลาย อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.68) 06. วัดท่าการ้อง อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.68) 07. วัดท่าข้ามสุด อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.68) 08. วัดทุ่งเรไร อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) 09. วัดทุ่งอ้อ(หลวง) อ.หางดง จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) 10. วัดธรรมิกาวาส อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท (ทอดกฐินสามัคคี 15 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 91 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์เป็นตอนหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่ถูกทำเป็น 'วัฒนธรรมป๊อป' มากที่สุดตอนหนึ่ง มีทั้งนิยาย ภาพยนต์ และล่าสุดคือละครหรือซีรีส์

    อาจเป็นเพราะเรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์ให้อารมณ์หวาบหวิวจากการแอบลอบคบชู้กับพันบุตรศรีเทพ (ขุนวรวงศาธิราช) ทำให้มีการขยายความตอนนี้เป็นพิเศษ ทั้งๆ ประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้บอกอะไรมากนักเรื่องนี้เพียง

    ในเวลาต่อมาคอนเทนท์บันเทิงบางยุคเริ่มมีการใช้คำว่า 'แม่หยัว' เรียกท้าวศรีสุดาจันทร์ ทำให้คนเข้าใจผิดไม่น้อยว่า 'แม่หยัว' น่าจะหมายถึงอาการยั่วยวนเรื่องกามราคะ แต่ความจริง 'แม่หยัว' หมายถึง 'แม่อยู่หัว' ที่หมายถึงมเหสีของพระเจ้าแผ่นดิน

    คำว่าแม่อยู่หัวนั้นในบันทึกโบราณเรียกเพี้ยนเป็น แม่อยัว แม่หญัว แม่อยั่ว ฯลฯ แต่พอตอนนี้ของประวัติศาสตร์ถูกวัฒนธรรมป๊อปปั้นภาพลักษณ์ยั่วยวนของท้าวศรีสุดาจันทร์ขึ้นมา ทำให้คนเข้าใจคำว่า 'แม่หยัว' ผิดไป

    แต่นั้นมาคำว่า 'แม่หยัว' ก็กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์ เพียงแต่มันเกิดจากภาพจำผิดๆ ที่ 'นิยายอิงประวัติศาสตร์' สร้างขึ้นมา

    ย้ำอีกครั้งว่าเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์นั้นมีเนื้อหาไม่มากนักในทางประวัติศาสตร์ ดังนั้นถ้าจะทำเป็นคอนเทนต์บันเทิง จึงหลีกกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้อง "มโนเอาเอง" กันบ้าง เรื่องนี้เกิดขึ้นกับการสร้างคอนเทนต์บันเทิงกับบุคคลทางประวัติศาสตร์บางคนด้วย

    ที่เขียนมาทั้งหมดนี้เพื่อจะเท้าความ 'กรณีพิพาท' ระหว่างที่คนคิดว่าการทำละครอิงประวัติศาสตร์แบบเรื่อง 'แม่หยัว' ไม่เห็นจะต้องทำให้ตรงประวัติศาสตร์เป๊ะๆ กับฝ่ายที่ย้ำว่าไม่ควรที่จะมโนกันเกินไป

    ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าการทำ Historical fiction เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนถกเถียงกันมาโดยตลอดว่า มันมี "ความถูกต้องตามประวัติศาสตร์" (Historically Accurate) แค่ไหน? เพราะนิยายอิงประวัติศาสตร์จะต้องอาศัยการมโนในสัดส่วนที่มากพอสมควร เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ผู้เสพ

    ในกรณีของแม่หยัว อย่าไปถามเรื่อง "ความถูกต้องตามประวัติศาสตร์" เพราะเนื้อหาในประวัติศาสตร์มีนิดเดียว ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้จินตนาการได้มากมาย

    แต่การมโนก็ต้องดูสภาพแวดล้อมของทางประวัติศาสตร์ด้วย ไม่อย่างนั้นมันจะไม่เนียน เช่น ท้างศรีสุดาจันทร์เป็นเหตุการณ์สมัยอยุธยาตอนกลาง แต่ถ้าไปจับแม่อยู่หัวไปสวมมงกุฏสมัยละโว้มันก็หาได้เนียนไม่ เพราะเมื่อถึงยุค 'แม่หยัว' เขาเลิกใส่เครื่องหัวแบบนั้นกันแล้ว แล้วยังมีกฎมณเฑียรบาลที่ตราไว้ในสมัยอยุธยาตอนนั้นระบุการแต่งกายของแม่อยู่หัวเอาไว้แล้ว และยังมีภาพเขียนในสมุดภาพไตรภูมิสมัยอยุธยา (ที่ผมเชื่อว่าคัดมาจากต้นฉบับสมัยอยุธยาตอนต้น) ชี้ทางเอาไว้แล้วว่าสตรีชั้นสูงยุคนั้นแต่งตัวอย่างไร

    ความไม่เนียนแบบนี้เองที่จะทำให้ Historical fiction กลายเป็น Historical fantasy ซึ่งมีความเป็นประวัติศาสตร์อย่างเดียวคือฉากย้อนยุค ส่วนเรื่องอื่นๆ มโนตามใจฉัน

    แต่ในเมืองไทยเรื่องความเนียนไม่เนียนทางประวัติศาสตร์ยังไม่เรื่องใหญ่ระดับชาติ เพราะประวัติศาสร์บ้านเรากระท่อนกระแท่นและคนไทยแคร์ประวัติศาสตร์มากเท่ากับคนในประเทศเอเชียตะวันออก เช่น จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ประเทศพวกนี้นอกจากต้องทำละครให้เนียนแบบ Historically Accurate แล้ว ยังต้องทำให้ถูกต้องในแบบ Politically correct ด้วย

    ผมจะยกตัวอย่างการสังเกตส่วนตัวจากกรณีของเกาหลีใต้ที่สร้างซีรีส์ย้อนยุคอยู่บ่อยๆ และมักเกิดกรณี "ซีรีส์เรื่องนี้บิดเบือนประวัติศาสตร์"

    ตัวอย่างเช่นซีรีส์เรื่อง Queen Seondeok ในปี 2009 ซึ่งสร้างจากยุคที่บันทึกประวัติศาสตร์ไม่ละเอียดมากนัก แต่สามารถยืดออกได้มากถึง 62 ตอน ในแง่ของความถูกต้องทางประวัติศาสตร์มีน้อย แถมคอสตูมยังไม่ถูกต้อง เรื่องนี้ถูกตำหนิในเกาหลีว่า "มโนประวัติศาสตร์" มากเกินไป และยังอ้างบันทึกประวัติศาสตร์ที่ถูกกล่าวหาว่าถูกปลอมขึ้นมา

    Queen Seondeok ถูกผู้มีความรู้ทางประวัติศาสตร์ตำหนิอย่างมาก เพราะแม้ว่าบันทึกสมัยชิลลาจะมีไม่มาก แต่มันก็เป็นบันทึกที่เที่ยงแท้ในทางประวัติศาสร์ การจะบิดเบือนความสัมพันธ์ของ 'ตัวละคร' หรือพฤติกรรมที่ถูกบันทึกไว้จริงๆ จึงไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้น ความจริงแล้ว Queen Seondeok ควรจะเดินตามเส้นตรงของประวัติศาสตร์ เพราะโอกาสที่จะออกนอกประวัติศาสตร์มีแต่บทสนทนาเท่านั้น

    โปรดสังเกตว่าเรื่องนี้สร้างก่อนยุคโซเชียลจะแพร่หลาย

    พอโซเชียลมีเดียทรงพลังขึ้นมา การโจมตีซีรีส์อิงประวัติศาสตร์เริ่มจะสะเปะสะปะขึ้นทุกวัน เพราะแทนที่จะโจมตีความถูกต้อง กลับไปโจมตีเรื่องการเมือง

    ตัวอย่างเช่น Joseon Exorcist เมื่อปี 2021 ที่ฉายได้แค่ 2 ตอนก็แท้งซะก่อน เพราะถูกตำหนิว่าใช้ฉากประกอบที่อ้างว่าไม่ตรงกับความจริงทางประวัติศาสตร์ เช่น ใช้ อุปกรณ์ของจีนในเกาหลีโบราณ

    ในปี 2022 เกิดกรณี Under the Queen's Umbrella ถูกตำหนิว่า บิดเบือนประวัติศาสตร์ เพราะใช้ตัวอักษรจีนแบบตัวย่อ (ที่เพิ่งประดิษฐ์ขึ้นในยุคสมัยใหม่ ส่วนเกาหลีใช้อักษรจีนตัวเต็ม)

    ในปี 2024 มีกรณี Queen Woo ถูกตำหนิว่าเครื่องแต่งกายของตัวละครมีความเป็นจีนมากเกินไป ไม่น่าจะสอดคล้องกับคนเกาหลีในยุคโคกูรยอ (ทั้งที่โคกูรยอก็รับวัฒนธรรมจากจีน)

    กรณีเหล่านี้มีอะไรเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ 'กระแสต่อต้านจีน' ในเกาหลีใต้ ทั้งๆ ที่เกาหลีเป็นเขตอิทธิพลของวัฒนธรรมจีนมาแต่โบราณ แค่เรื่องนี้เป็น 'อคติ' ของผู้ชมเกาหลีใต้เองที่เกลียด เหยียด และกลัวจีนมากขึ้น

    แต่ในแง่เนื้อหาทางประวัติศาสตร์ กรณีพวกนี้เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ เกิดขึ้นในยุคโชซอน ซึ่งมีการบันทึกประวัติศาสตร์ทางการอย่างละเอียด กระทั่งบันทึกไว้ว่ากษัตริย์ตรัสถ้อยคำไว้อย่างไร

    ในยุคสมัยที่บันทึกละเอียดแบบนี้การมโนจึงทำไม่ได้ เพราะไม่มีพื้นที่ว่างให้จินตนาการได้อีก ตรงกันข้ามกับเรื่อง Queen Woo ซึ่งเกิดในยุคโคกูรยอ ซึ่งมีประวัติศาสตร์บันทึกกระท่อนกระแท่นเหมือนประวัติศาสตร์ไทย ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้มโนได้มากตามใจปรารถนา

    แต่ถึงจะมโนได้มาก แต่อารมณ์ชาตินิยมที่รุนแรงในเกาหลีใต้ไม่อนุญาตให้มโนได้ตามใจชอบอีก ไม่ใช่เพราะผู้สร้างบิดเบือนประวัติศาสตร์ แต่ทำงานออกมาไม่ถูกใจพวกชาตินิยมสุดโต่งต่างหาก

    ดังนั้น ในโลกของนิยายอิงประวัติศาสตร์ จึงไม่มีคำว่าถูกต้องเป๊ะๆ ยิ่งในปัจจุบันมีแต่คำว่า "ถูกใจคนดูหรือไม่" โดยที่ความถูกใจของคนดูไม่ใช่ถูกใจเพราะดาราแสดงดี หรือเครื่องแต่งกายสวย แต่ยังต้องคล้องจองกับ 'วาระทางการเมือง' ของคนดูด้วย

    ยกตัวอย่างจีน ซึ่งบางคนยังเชื่อว่าจีนทำซีรีส์พีเรียดมากมายเพราะอนุญาตให้มโนได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด

    สังคมจีนและสถาบันรัฐจีน (ที่ชาตินิยมขึ้นทุกวัน) ไม่ได้อนุญาตให้มโนประวัติศาสตร์ได้ สิ่งที่คนไทยเห็นว่าจีนจินตนาการประวัติศาสตร์นั้น คือ สิ่งที่เรียกว่า Historical fantasy คือใช้ฉากย้อนยุคที่กำกวม ใช้คอสตูมที่อาจจะอยู่ในยุคที่คาดเดาได้ แต่ไม่มีเหตุการณ์นั้นจริงๆ เช่นเรื่อง Nirvana In Fire เมื่อปี 2015 ที่ทำให้เชื่อว่าอยู่ในยุคหนานเป่ยเฉา แต่เอาจริงๆ มันไม่มีสถานการณ์จริงและตัวบุคคลจริงอยู่เลย

    หากมีซีรีส์ที่ทำเนื้อหาจริงๆ ทางประวัติศาสตร์ หากเลินเล่อเกินไปก็จะถูกโจมตีอย่างหนัก เช่น Legend of Miyue ที่อิงประวัติศาสตร์ยุคจ้านกั๋ว แต่ถูกวิจารณ์เรื่องข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ เรื่องนี้มีความเห็นที่น่าสนใจจาก หลีเสี่ยวเหว่ย บรรณาธิการบริหารของ "จงกั๋วชิงเหนียนหว่าง" (中国青年网) ของทางการจีน ตอนที่ซีรีส์เรื่องนี้ถูกตำหนิ เขากล่าวว่า

    "จักรพรรดินีองค์แรกของจีนในเรื่อง "Legend of Miyue" ซีรีส์ทางทีวีใช้ตัวละครและเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง แต่ไม่ได้ติดตามข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์พื้นฐาน และถึงกับแต่งเรื่องขึ้นมาด้วยซ้ำ ปรากฏการณ์นี้ช่างน่าเป็นห่วง ประการแรก มันจะนำพาผู้คนให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และก่อให้เกิดข่าวลือ ประการที่สอง นี่คือทิศทางที่ผิดปกติของการพัฒนาละครประวัติศาสตร์ ซึ่งจะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของละครประวัติศาสตร์ในที่สุด"

    ในเรื่องนี้ทางเกาหลีก็เห็นด้วยกับจีน

    จากกรณีของ Queen Seondeok อีจองโฮ ผู้สื่อข่าวของ "ยอนเซ ชุนชู" (연세춘추) สื่อของมหาวิทยาลัยยอนเซ ถึงกับบอกว่า "Queen Seondeok คือเรื่องโกหก" และได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งชี้แนะว่า"ตามที่ศาสตราจารย์ ชาฮเยวอน (ภาควิชาศิลปศาสตร์ ประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงของจีน) กล่าวไว้ ละครประวัติศาสตร์จีนมักจะมีความเที่ยงตรงต่อข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งแตกต่างจากละครประวัติศาสตร์เกาหลี ความจริงของละครประวัติศาสตร์เกาหลีคือความจริงทางประวัติศาสตร์ถูกละเลยเพื่อความบันเทิงและเรตติ้งผู้ชม เพื่อแก้ปัญหานี้ จำเป็นต้องมีการไตร่ตรองภายในอุตสาหกรรมการออกอากาศ"

    แม้ว่าประเทศไทยจะมีประวัติศาสตร์ที่เบาบางต่างจากจีนและเกาหลี แต่เราสามารถใช้มาตรฐานแบบนี้ได้เหมือนกัน สิ่งที่ต้องเป๊ะคือแกนหลักในประวัติศาสตร์ อย่าตีความมากเกินไปเพราะต้องเคารพ "ผู้ที่ตายไปแล้วซึ่งไม่มีโอกาสร้องอุทรณ์แก้ต่างให้ตัวเอง" ด้วย ส่วนสิ่งที่จินตนาการได้ก็ควรทำให้ตรงกับบริบทแวดล้อมของยุคนั้น

    หากทำเอาสนุกอย่างเดียว ก็ "จะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของละครประวัติศาสตร์ในที่สุด"

    บทความทัศนะโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better
    ภาพโปสเตอร์โปรโมทซีรีส์เรื่อง แม่หยัว และ Queen Seondeok

    ที่มา https://www.thebetter.co.th/news/world/23351?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR3w6ch-KVjjFiWzTmp8gh2-HSMqAh7UX0lxC3jm2_5RD0J97vIDxYCrljo_aem_wMoYw4S-NqnmnAfELQfeSA

    #Thaitimes
    เรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์เป็นตอนหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่ถูกทำเป็น 'วัฒนธรรมป๊อป' มากที่สุดตอนหนึ่ง มีทั้งนิยาย ภาพยนต์ และล่าสุดคือละครหรือซีรีส์ อาจเป็นเพราะเรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์ให้อารมณ์หวาบหวิวจากการแอบลอบคบชู้กับพันบุตรศรีเทพ (ขุนวรวงศาธิราช) ทำให้มีการขยายความตอนนี้เป็นพิเศษ ทั้งๆ ประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้บอกอะไรมากนักเรื่องนี้เพียง ในเวลาต่อมาคอนเทนท์บันเทิงบางยุคเริ่มมีการใช้คำว่า 'แม่หยัว' เรียกท้าวศรีสุดาจันทร์ ทำให้คนเข้าใจผิดไม่น้อยว่า 'แม่หยัว' น่าจะหมายถึงอาการยั่วยวนเรื่องกามราคะ แต่ความจริง 'แม่หยัว' หมายถึง 'แม่อยู่หัว' ที่หมายถึงมเหสีของพระเจ้าแผ่นดิน คำว่าแม่อยู่หัวนั้นในบันทึกโบราณเรียกเพี้ยนเป็น แม่อยัว แม่หญัว แม่อยั่ว ฯลฯ แต่พอตอนนี้ของประวัติศาสตร์ถูกวัฒนธรรมป๊อปปั้นภาพลักษณ์ยั่วยวนของท้าวศรีสุดาจันทร์ขึ้นมา ทำให้คนเข้าใจคำว่า 'แม่หยัว' ผิดไป แต่นั้นมาคำว่า 'แม่หยัว' ก็กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์ เพียงแต่มันเกิดจากภาพจำผิดๆ ที่ 'นิยายอิงประวัติศาสตร์' สร้างขึ้นมา ย้ำอีกครั้งว่าเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์นั้นมีเนื้อหาไม่มากนักในทางประวัติศาสตร์ ดังนั้นถ้าจะทำเป็นคอนเทนต์บันเทิง จึงหลีกกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้อง "มโนเอาเอง" กันบ้าง เรื่องนี้เกิดขึ้นกับการสร้างคอนเทนต์บันเทิงกับบุคคลทางประวัติศาสตร์บางคนด้วย ที่เขียนมาทั้งหมดนี้เพื่อจะเท้าความ 'กรณีพิพาท' ระหว่างที่คนคิดว่าการทำละครอิงประวัติศาสตร์แบบเรื่อง 'แม่หยัว' ไม่เห็นจะต้องทำให้ตรงประวัติศาสตร์เป๊ะๆ กับฝ่ายที่ย้ำว่าไม่ควรที่จะมโนกันเกินไป ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าการทำ Historical fiction เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนถกเถียงกันมาโดยตลอดว่า มันมี "ความถูกต้องตามประวัติศาสตร์" (Historically Accurate) แค่ไหน? เพราะนิยายอิงประวัติศาสตร์จะต้องอาศัยการมโนในสัดส่วนที่มากพอสมควร เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ผู้เสพ ในกรณีของแม่หยัว อย่าไปถามเรื่อง "ความถูกต้องตามประวัติศาสตร์" เพราะเนื้อหาในประวัติศาสตร์มีนิดเดียว ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้จินตนาการได้มากมาย แต่การมโนก็ต้องดูสภาพแวดล้อมของทางประวัติศาสตร์ด้วย ไม่อย่างนั้นมันจะไม่เนียน เช่น ท้างศรีสุดาจันทร์เป็นเหตุการณ์สมัยอยุธยาตอนกลาง แต่ถ้าไปจับแม่อยู่หัวไปสวมมงกุฏสมัยละโว้มันก็หาได้เนียนไม่ เพราะเมื่อถึงยุค 'แม่หยัว' เขาเลิกใส่เครื่องหัวแบบนั้นกันแล้ว แล้วยังมีกฎมณเฑียรบาลที่ตราไว้ในสมัยอยุธยาตอนนั้นระบุการแต่งกายของแม่อยู่หัวเอาไว้แล้ว และยังมีภาพเขียนในสมุดภาพไตรภูมิสมัยอยุธยา (ที่ผมเชื่อว่าคัดมาจากต้นฉบับสมัยอยุธยาตอนต้น) ชี้ทางเอาไว้แล้วว่าสตรีชั้นสูงยุคนั้นแต่งตัวอย่างไร ความไม่เนียนแบบนี้เองที่จะทำให้ Historical fiction กลายเป็น Historical fantasy ซึ่งมีความเป็นประวัติศาสตร์อย่างเดียวคือฉากย้อนยุค ส่วนเรื่องอื่นๆ มโนตามใจฉัน แต่ในเมืองไทยเรื่องความเนียนไม่เนียนทางประวัติศาสตร์ยังไม่เรื่องใหญ่ระดับชาติ เพราะประวัติศาสร์บ้านเรากระท่อนกระแท่นและคนไทยแคร์ประวัติศาสตร์มากเท่ากับคนในประเทศเอเชียตะวันออก เช่น จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ประเทศพวกนี้นอกจากต้องทำละครให้เนียนแบบ Historically Accurate แล้ว ยังต้องทำให้ถูกต้องในแบบ Politically correct ด้วย ผมจะยกตัวอย่างการสังเกตส่วนตัวจากกรณีของเกาหลีใต้ที่สร้างซีรีส์ย้อนยุคอยู่บ่อยๆ และมักเกิดกรณี "ซีรีส์เรื่องนี้บิดเบือนประวัติศาสตร์" ตัวอย่างเช่นซีรีส์เรื่อง Queen Seondeok ในปี 2009 ซึ่งสร้างจากยุคที่บันทึกประวัติศาสตร์ไม่ละเอียดมากนัก แต่สามารถยืดออกได้มากถึง 62 ตอน ในแง่ของความถูกต้องทางประวัติศาสตร์มีน้อย แถมคอสตูมยังไม่ถูกต้อง เรื่องนี้ถูกตำหนิในเกาหลีว่า "มโนประวัติศาสตร์" มากเกินไป และยังอ้างบันทึกประวัติศาสตร์ที่ถูกกล่าวหาว่าถูกปลอมขึ้นมา Queen Seondeok ถูกผู้มีความรู้ทางประวัติศาสตร์ตำหนิอย่างมาก เพราะแม้ว่าบันทึกสมัยชิลลาจะมีไม่มาก แต่มันก็เป็นบันทึกที่เที่ยงแท้ในทางประวัติศาสร์ การจะบิดเบือนความสัมพันธ์ของ 'ตัวละคร' หรือพฤติกรรมที่ถูกบันทึกไว้จริงๆ จึงไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้น ความจริงแล้ว Queen Seondeok ควรจะเดินตามเส้นตรงของประวัติศาสตร์ เพราะโอกาสที่จะออกนอกประวัติศาสตร์มีแต่บทสนทนาเท่านั้น โปรดสังเกตว่าเรื่องนี้สร้างก่อนยุคโซเชียลจะแพร่หลาย พอโซเชียลมีเดียทรงพลังขึ้นมา การโจมตีซีรีส์อิงประวัติศาสตร์เริ่มจะสะเปะสะปะขึ้นทุกวัน เพราะแทนที่จะโจมตีความถูกต้อง กลับไปโจมตีเรื่องการเมือง ตัวอย่างเช่น Joseon Exorcist เมื่อปี 2021 ที่ฉายได้แค่ 2 ตอนก็แท้งซะก่อน เพราะถูกตำหนิว่าใช้ฉากประกอบที่อ้างว่าไม่ตรงกับความจริงทางประวัติศาสตร์ เช่น ใช้ อุปกรณ์ของจีนในเกาหลีโบราณ ในปี 2022 เกิดกรณี Under the Queen's Umbrella ถูกตำหนิว่า บิดเบือนประวัติศาสตร์ เพราะใช้ตัวอักษรจีนแบบตัวย่อ (ที่เพิ่งประดิษฐ์ขึ้นในยุคสมัยใหม่ ส่วนเกาหลีใช้อักษรจีนตัวเต็ม) ในปี 2024 มีกรณี Queen Woo ถูกตำหนิว่าเครื่องแต่งกายของตัวละครมีความเป็นจีนมากเกินไป ไม่น่าจะสอดคล้องกับคนเกาหลีในยุคโคกูรยอ (ทั้งที่โคกูรยอก็รับวัฒนธรรมจากจีน) กรณีเหล่านี้มีอะไรเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ 'กระแสต่อต้านจีน' ในเกาหลีใต้ ทั้งๆ ที่เกาหลีเป็นเขตอิทธิพลของวัฒนธรรมจีนมาแต่โบราณ แค่เรื่องนี้เป็น 'อคติ' ของผู้ชมเกาหลีใต้เองที่เกลียด เหยียด และกลัวจีนมากขึ้น แต่ในแง่เนื้อหาทางประวัติศาสตร์ กรณีพวกนี้เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ เกิดขึ้นในยุคโชซอน ซึ่งมีการบันทึกประวัติศาสตร์ทางการอย่างละเอียด กระทั่งบันทึกไว้ว่ากษัตริย์ตรัสถ้อยคำไว้อย่างไร ในยุคสมัยที่บันทึกละเอียดแบบนี้การมโนจึงทำไม่ได้ เพราะไม่มีพื้นที่ว่างให้จินตนาการได้อีก ตรงกันข้ามกับเรื่อง Queen Woo ซึ่งเกิดในยุคโคกูรยอ ซึ่งมีประวัติศาสตร์บันทึกกระท่อนกระแท่นเหมือนประวัติศาสตร์ไทย ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้มโนได้มากตามใจปรารถนา แต่ถึงจะมโนได้มาก แต่อารมณ์ชาตินิยมที่รุนแรงในเกาหลีใต้ไม่อนุญาตให้มโนได้ตามใจชอบอีก ไม่ใช่เพราะผู้สร้างบิดเบือนประวัติศาสตร์ แต่ทำงานออกมาไม่ถูกใจพวกชาตินิยมสุดโต่งต่างหาก ดังนั้น ในโลกของนิยายอิงประวัติศาสตร์ จึงไม่มีคำว่าถูกต้องเป๊ะๆ ยิ่งในปัจจุบันมีแต่คำว่า "ถูกใจคนดูหรือไม่" โดยที่ความถูกใจของคนดูไม่ใช่ถูกใจเพราะดาราแสดงดี หรือเครื่องแต่งกายสวย แต่ยังต้องคล้องจองกับ 'วาระทางการเมือง' ของคนดูด้วย ยกตัวอย่างจีน ซึ่งบางคนยังเชื่อว่าจีนทำซีรีส์พีเรียดมากมายเพราะอนุญาตให้มโนได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด สังคมจีนและสถาบันรัฐจีน (ที่ชาตินิยมขึ้นทุกวัน) ไม่ได้อนุญาตให้มโนประวัติศาสตร์ได้ สิ่งที่คนไทยเห็นว่าจีนจินตนาการประวัติศาสตร์นั้น คือ สิ่งที่เรียกว่า Historical fantasy คือใช้ฉากย้อนยุคที่กำกวม ใช้คอสตูมที่อาจจะอยู่ในยุคที่คาดเดาได้ แต่ไม่มีเหตุการณ์นั้นจริงๆ เช่นเรื่อง Nirvana In Fire เมื่อปี 2015 ที่ทำให้เชื่อว่าอยู่ในยุคหนานเป่ยเฉา แต่เอาจริงๆ มันไม่มีสถานการณ์จริงและตัวบุคคลจริงอยู่เลย หากมีซีรีส์ที่ทำเนื้อหาจริงๆ ทางประวัติศาสตร์ หากเลินเล่อเกินไปก็จะถูกโจมตีอย่างหนัก เช่น Legend of Miyue ที่อิงประวัติศาสตร์ยุคจ้านกั๋ว แต่ถูกวิจารณ์เรื่องข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ เรื่องนี้มีความเห็นที่น่าสนใจจาก หลีเสี่ยวเหว่ย บรรณาธิการบริหารของ "จงกั๋วชิงเหนียนหว่าง" (中国青年网) ของทางการจีน ตอนที่ซีรีส์เรื่องนี้ถูกตำหนิ เขากล่าวว่า "จักรพรรดินีองค์แรกของจีนในเรื่อง "Legend of Miyue" ซีรีส์ทางทีวีใช้ตัวละครและเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง แต่ไม่ได้ติดตามข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์พื้นฐาน และถึงกับแต่งเรื่องขึ้นมาด้วยซ้ำ ปรากฏการณ์นี้ช่างน่าเป็นห่วง ประการแรก มันจะนำพาผู้คนให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และก่อให้เกิดข่าวลือ ประการที่สอง นี่คือทิศทางที่ผิดปกติของการพัฒนาละครประวัติศาสตร์ ซึ่งจะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของละครประวัติศาสตร์ในที่สุด" ในเรื่องนี้ทางเกาหลีก็เห็นด้วยกับจีน จากกรณีของ Queen Seondeok อีจองโฮ ผู้สื่อข่าวของ "ยอนเซ ชุนชู" (연세춘추) สื่อของมหาวิทยาลัยยอนเซ ถึงกับบอกว่า "Queen Seondeok คือเรื่องโกหก" และได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งชี้แนะว่า"ตามที่ศาสตราจารย์ ชาฮเยวอน (ภาควิชาศิลปศาสตร์ ประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงของจีน) กล่าวไว้ ละครประวัติศาสตร์จีนมักจะมีความเที่ยงตรงต่อข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งแตกต่างจากละครประวัติศาสตร์เกาหลี ความจริงของละครประวัติศาสตร์เกาหลีคือความจริงทางประวัติศาสตร์ถูกละเลยเพื่อความบันเทิงและเรตติ้งผู้ชม เพื่อแก้ปัญหานี้ จำเป็นต้องมีการไตร่ตรองภายในอุตสาหกรรมการออกอากาศ" แม้ว่าประเทศไทยจะมีประวัติศาสตร์ที่เบาบางต่างจากจีนและเกาหลี แต่เราสามารถใช้มาตรฐานแบบนี้ได้เหมือนกัน สิ่งที่ต้องเป๊ะคือแกนหลักในประวัติศาสตร์ อย่าตีความมากเกินไปเพราะต้องเคารพ "ผู้ที่ตายไปแล้วซึ่งไม่มีโอกาสร้องอุทรณ์แก้ต่างให้ตัวเอง" ด้วย ส่วนสิ่งที่จินตนาการได้ก็ควรทำให้ตรงกับบริบทแวดล้อมของยุคนั้น หากทำเอาสนุกอย่างเดียว ก็ "จะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของละครประวัติศาสตร์ในที่สุด" บทความทัศนะโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better ภาพโปสเตอร์โปรโมทซีรีส์เรื่อง แม่หยัว และ Queen Seondeok ที่มา https://www.thebetter.co.th/news/world/23351?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR3w6ch-KVjjFiWzTmp8gh2-HSMqAh7UX0lxC3jm2_5RD0J97vIDxYCrljo_aem_wMoYw4S-NqnmnAfELQfeSA #Thaitimes
    WWW.THEBETTER.CO.TH
    ความไม่เนียนของ'ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์' ต้องเป๊ะประวัติศาสตร์แค่ไหน?
    ความไม่เนียนของ'ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์' ต้องเป๊ะประวัติศาสตร์แค่ไหน?
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 578 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,573
    วันเสาร์: ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (9 November 2024)

    Photo Album Set 2/3
    ทอดกฐินสามัคคี 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท
    11. สำนักสงฆ์ป่าแดงเจริญธรรม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    12. สำนักสงฆ์ศรีสมนึกบำรุงธรรม อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    13. วัดกุฎีกรุ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    14. วัดขาชันโลง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    15. วัดเขาพรหมสวรรค์ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    16. วัดจันทร์ประดิษฐาราม เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    17. วัดชัยมงคล อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    18. วัดชุมนุมศรัทธา อ.บางเลน จ.นครปฐม
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    19. วัดโชติการาม อ.เมือง จ.นนทบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    20. วัดดอนขนาก อ.เมือง จ.นครปฐม
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 95 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,573 วันเสาร์: ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (9 November 2024) Photo Album Set 2/3 ทอดกฐินสามัคคี 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท 11. สำนักสงฆ์ป่าแดงเจริญธรรม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 12. สำนักสงฆ์ศรีสมนึกบำรุงธรรม อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 13. วัดกุฎีกรุ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 14. วัดขาชันโลง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 15. วัดเขาพรหมสวรรค์ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 16. วัดจันทร์ประดิษฐาราม เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 17. วัดชัยมงคล อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 18. วัดชุมนุมศรัทธา อ.บางเลน จ.นครปฐม (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 19. วัดโชติการาม อ.เมือง จ.นนทบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 20. วัดดอนขนาก อ.เมือง จ.นครปฐม (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 95 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 161 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,573
    วันเสาร์: ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (9 November 2024)

    Photo Album Set 2/3
    ทอดกฐินสามัคคี 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท
    11. สำนักสงฆ์ป่าแดงเจริญธรรม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    12. สำนักสงฆ์ศรีสมนึกบำรุงธรรม อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    13. วัดกุฎีกรุ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    14. วัดขาชันโลง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    15. วัดเขาพรหมสวรรค์ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    16. วัดจันทร์ประดิษฐาราม เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    17. วัดชัยมงคล อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    18. วัดชุมนุมศรัทธา อ.บางเลน จ.นครปฐม
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    19. วัดโชติการาม อ.เมือง จ.นนทบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    20. วัดดอนขนาก อ.เมือง จ.นครปฐม
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 95 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,573 วันเสาร์: ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (9 November 2024) Photo Album Set 2/3 ทอดกฐินสามัคคี 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท 11. สำนักสงฆ์ป่าแดงเจริญธรรม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 12. สำนักสงฆ์ศรีสมนึกบำรุงธรรม อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 13. วัดกุฎีกรุ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 14. วัดขาชันโลง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 15. วัดเขาพรหมสวรรค์ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 16. วัดจันทร์ประดิษฐาราม เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 17. วัดชัยมงคล อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 18. วัดชุมนุมศรัทธา อ.บางเลน จ.นครปฐม (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 19. วัดโชติการาม อ.เมือง จ.นนทบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 20. วัดดอนขนาก อ.เมือง จ.นครปฐม (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 95 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • วัดราชบูรณะ ยามค่ำคืน..อยุธยาบ้านฉัน
    วัดราชบูรณะ ยามค่ำคืน..อยุธยาบ้านฉัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,570
    วันพุธ: ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (6 November 2024)

    Photo Album Set 1/2
    ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    01. วัดภูมิขนุน อ.สังขะ จ.สุรินทร์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    02. วัดมงคลนิมิตร อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    03. วัดรังสิต อ.เมือง จ.ปทุมธานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    04. วัดร่ำเปิง (ตโปทาราม) อ.เมือง จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    05. วัดไร่รถ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    06. วัดลาดชะโด อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    07. วัดลำป่าสักมูล อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    08. วัดเลิศดุสิตาราม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    09. วัดวังกุ่ม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    10. วัดศรีนวรัฐ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 98 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,570 วันพุธ: ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (6 November 2024) Photo Album Set 1/2 ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 01. วัดภูมิขนุน อ.สังขะ จ.สุรินทร์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 02. วัดมงคลนิมิตร อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 03. วัดรังสิต อ.เมือง จ.ปทุมธานี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 04. วัดร่ำเปิง (ตโปทาราม) อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 05. วัดไร่รถ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 06. วัดลาดชะโด อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 07. วัดลำป่าสักมูล อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 08. วัดเลิศดุสิตาราม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 09. วัดวังกุ่ม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 10. วัดศรีนวรัฐ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 98 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,570
    วันพุธ: ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (6 November 2024)

    Photo Album Set 1/2
    ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    01. วัดภูมิขนุน อ.สังขะ จ.สุรินทร์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    02. วัดมงคลนิมิตร อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    03. วัดรังสิต อ.เมือง จ.ปทุมธานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    04. วัดร่ำเปิง (ตโปทาราม) อ.เมือง จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    05. วัดไร่รถ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    06. วัดลาดชะโด อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    07. วัดลำป่าสักมูล อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    08. วัดเลิศดุสิตาราม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    09. วัดวังกุ่ม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    10. วัดศรีนวรัฐ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 98 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,570 วันพุธ: ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (6 November 2024) Photo Album Set 1/2 ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 01. วัดภูมิขนุน อ.สังขะ จ.สุรินทร์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 02. วัดมงคลนิมิตร อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 03. วัดรังสิต อ.เมือง จ.ปทุมธานี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 04. วัดร่ำเปิง (ตโปทาราม) อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 05. วัดไร่รถ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 06. วัดลาดชะโด อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 07. วัดลำป่าสักมูล อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 08. วัดเลิศดุสิตาราม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 09. วัดวังกุ่ม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 10. วัดศรีนวรัฐ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 98 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,570
    วันพุธ: ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (6 November 2024)

    Photo Album Set 2/2
    ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    11. วัดศรีบุญเรือง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    12. วัดสมสะอาด อ.ธาตุพนม จ.นครพนม
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    13. วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    14. วัดสระมรกต อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    15. วัดสำโรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    16. วัดสิงห์ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    17. วัดสุนีย์ศรัทธาธรรม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    18. วัดเสลา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    19. วัดแสงมณี อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    20. วัดหนองพงษ์ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 98 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,570 วันพุธ: ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (6 November 2024) Photo Album Set 2/2 ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 11. วัดศรีบุญเรือง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 12. วัดสมสะอาด อ.ธาตุพนม จ.นครพนม (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 13. วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 14. วัดสระมรกต อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 15. วัดสำโรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 16. วัดสิงห์ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 17. วัดสุนีย์ศรัทธาธรรม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 18. วัดเสลา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 19. วัดแสงมณี อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 20. วัดหนองพงษ์ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 98 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,570
    วันพุธ: ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (6 November 2024)

    Photo Album Set 2/2
    ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    11. วัดศรีบุญเรือง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    12. วัดสมสะอาด อ.ธาตุพนม จ.นครพนม
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    13. วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    14. วัดสระมรกต อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    15. วัดสำโรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    16. วัดสิงห์ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    17. วัดสุนีย์ศรัทธาธรรม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    18. วัดเสลา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    19. วัดแสงมณี อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    20. วัดหนองพงษ์ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 98 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,570 วันพุธ: ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (6 November 2024) Photo Album Set 2/2 ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 11. วัดศรีบุญเรือง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 12. วัดสมสะอาด อ.ธาตุพนม จ.นครพนม (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 13. วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 14. วัดสระมรกต อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 15. วัดสำโรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 16. วัดสิงห์ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 17. วัดสุนีย์ศรัทธาธรรม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 18. วัดเสลา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 19. วัดแสงมณี อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 20. วัดหนองพงษ์ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 98 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • แถลงการณ์วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    ฉบับที่ 001/2567
    เรื่อง ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เตรียมรับมือฝีดาษลิง

    ​จากสถานการณ์โรคระบาดฝีดาษลิงในต่างประเทศซึ่งมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยองค์การอนามัยโลก เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ซึ่งในเวลาต่อมาอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ว่าได้พบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงคนแรกในประเทศไทยแล้ว โดยผู้ติดเชื้อดังกล่าวได้เดินทางมาจากประเทศแถบทวีปแอฟริกา ข่าวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนคนไทยโดยทั่วไป เกิดความสับสนในข่าวสารและแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต จึงเห็นสมควรให้ชี้แจงกับประชาชน ให้ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เตรียมรับมือฝีดาษลิง ดังต่อไปนี้

    ​​ประการแรก ตามรายงานในต่างประเทศซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Lancet ฉบับเผยแพร่เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 พบว่ามีผู้ป่วยส่วนใหญ่กักตัวที่บ้าน มีเพียงไม่เกินร้อยละ 13 ที่ต้องอยู่ในโรงพยาบาลเพราะต้องการแยกตัว หรือมีอาการรุนแรง โดยมีอัตราการตายน้อยกว่าร้อยละ 0.1 แต่สำหรับประเทศไทย ปรากฏเป็นข้อมูลที่เคยแถลงข่าวโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 รายงานว่า ประเทศไทยเคยมีผู้ป่วยฝีดาษลิงอยู่แล้วตั้งแต่กรกฏาคม 2565 ถึง 2 มิถุนายน 2567 จำนวน 794 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากฝีดาษลิง 11 ราย คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยในประเทศไทยอยู่เพียงร้อยละ 1.38 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเสียชีวิตในระดับต่ำ

    ประการที่สอง สำหรับกรณีการกลายพันธุ์เป็นชนิด เคลด วันบี (Clade Ib ) เกิดขึ้นประมาณ กันยายน 2566 ซึ่งมีอัตราการแพร่กระจายและความรุนแรงมากขึ้น ทำให้อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยเท่าที่มีข้อมูลในประเทศแถบแอฟริกาพบว่า ผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้ใหญ่มีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 4 ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ว่ามีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงชนิด เคลด วันบี แล้ว 1 ราย ซึ่งเดินทางมาจากประเทศหนึ่งในแถบแอฟริกา ดังนั้นกรมควบคุมโรคควรมีมาตรการในการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด
    ​​
    ทั้งนี้ผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงจะมีระยะเวลาฟักตัวภายใน 21 วัน และสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่เริ่มมีอาการก่อนจะมีผื่นขึ้น กล่าวคือ มีไข้พบได้ร้อยละ 62 ปวดกล้ามเนื้อพบได้ร้อยละ 31 ปวดหัวพบได้ร้อยละ 27 ต่อมน้ำเหลืองโตพบได้ร้อยละ 56 เซื่องซึมพบได้ร้อยละ 41 หลังจากนั้นจะมีโอกาสผื่นขึ้นต่อมาร้อยละ 95 ทั้งนี้อาจเกิดตุ่มในปาก อวัยวะเพศชายและหญิง ช่องคลอด หรือรูทวารหนักได้ด้วย ผู้ป่วยจะถูกแยกกักกันนานประมาณ 21 วัน หรือจนพ้นระยะเวลาแพร่เชื้อคือ ทุกรอยโรคหายไป ตกสะเก็ดและสะเก็ดหลุดจนมีผิวหนังปกติ โดยหลังจากหายป่วยแล้วควรงดการมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะใช้ถุงยางอนามัยหรือไม่ก็ตามเป็นเวลาหนึ่งเดือน
    ​​
    อย่างไรก็ตามผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงส่วนใหญ่สามารถหายเองได้โดยรักษาตามอาการ เพราะยังไม่พบยาต้านไวรัสชนิดนี้ โดยแม้แต่ยา Tecovirimat ที่องค์การอนามัยโลกประกาศใช้รักษาฝีดาษลิงชนิดเคลด วันบี ก็ยังไม่ได้ผลในการรักษาแต่ประการใด เพราะตามประกาศของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 พบรายงานการวิจัยในมนุษย์ว่ายา Tecovirimat ไม่ได้ลดระยะผื่นของฝีดาษลิงในผู้ติดเชื้อทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ประเทศคองโก รวมทั้งมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ร้อยละ 1.7 ไม่ว่าจะใช้ยา Tecovirimat หรือไม่ใช้ก็ตาม
    ​​
    ประการที่สาม กลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงหากติดเชื้อ ได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี สตรีมีครรภ์ ผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Eczema) ตุ่มพุพอง ตกสะเก็ด คัน แสบ สะเก็ดเงิน โดยจากข้อมูลในทวีปแอฟริกา พบว่ากลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงมีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 10 กลุ่มเหล่านี้จะต้องมีความระมัดระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง เลือด หนอง สิ่งคัดหลั่งของผู้ป่วยหรือผู้ต้องสงสัยติดเชื้อฝีดาษลิง รวมถึงควรล้างมือเป็นประจำและไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น

    ประการที่สี่ สำหรับผู้มีอาชีพหรือผู้รับบริการที่ต้องมีการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง ควรต้องสอบถามผู้ที่จะมาสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง ว่ามีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่หรือไม่ เช่น ปวดตามร่างกายแบบลักษณะมีไข้ หรือมีไข้ ปวดหัว ต่อมน้ำเหลืองโต เซื่องซึม มีตุ่มหรือผื่นตามร่างกาย หากมีอาการดังกล่าวควรแนะนำให้ไปพบแพทย์

    ประการที่ห้า อาการที่เสี่ยงเสียชีวิตหลังจากติดเชื้อแล้ว ได้แก่ มีตุ่มแผลบริเวณเยื่อบุตา ผื่นตุ่มที่แพร่กระจายทั่วตัว หรือผื่นขึ้นแบบกระจุกตัว (Cluster) มีตกเลือดในบริเวณผื่นตุ่ม อาการไข้และอาการทางร่างกายที่หนักขึ้น รวมทั้งหายใจเหนื่อย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
    ​​
    ประการที่หก ที่ผ่านมายังไม่มีวัคซีนสำหรับการป้องกันการติดเชื้อโรคฝีดาษลิงโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามวันที่ 24 กรกฏาคม 2565 สหภาพยุโรปได้อนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ (JYNNEOS) เพื่อประยุกต์ใช้ในการป้องกันโรคฝีดาษลิง

    ทั้งนี้ผลสำรวจงานวิจัยในวารสาร New England ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 รายงานว่าทหารอเมริกันผู้เคยได้รับวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษชนิดเดียวกันกับที่ประเทศไทยเคยใช้ในอดีต หรือวัคซีน ACAM2000 หรือวัคซีน JYNNEOS ในปัจจุบัน ในระหว่างปี 2545 ถึง 2560 จำนวน 2.6 ล้านคนพบว่ามีโอกาสติดเชื้อฝีดาษทุกชนิดลดลง
    ​​
    สำหรับประเทศไทยผู้ที่เกิดก่อนปี 2523 หรืออายุตั้งแต่ 44 ปีขึ้นไป น่าจะได้รับการปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษไข้ทรพิษ (Smallpox) โดยทั่วไปแล้ว โดยสามารถสังเกตแผลเป็นที่บริเวณหัวไหล่ของผู้ที่เคยได้รับการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ซึ่งทำให้ช่วยลดอัตราการติดเชื้อและความรุนแรงของโรคฝีดาษลิงได้ และกลุ่มคนเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนแล้ว

    สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีอายุน้อยกว่า 44 ปี หรือไม่เคยปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ยังไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนในขณะนี้ เพราะยังสามารถใช้มาตราการป้องกันด้วยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับผู้ติดเชื้อหรือผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อฝีดาษลิง

    ​​เพราะตามข้อมูลของบริษัทผู้ผลิตวัคซีน JYNNEOS รายงานว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงต่อหัวใจในอัตรา 8 ต่อ10,000 ราย ซึ่งน้อยกว่าการฉีดวัควัคซีนจริงปรากฏตามรายงานในวารสาร Vaccine ฉบับเผยแพร่ออนไลน์เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 ซึ่งรายงานว่าการฉีดวัคซีน JYNNEOS อย่างน้อย 1 เข็ม มีโอกาสได้รับผลข้างเคียงต่อหัวใจในอัตรา 3.1 ต่อ 1,000 โดส อีกทั้งยังไม่เคยมีการวิจัยผลข้างเคียงการฉีดวัคซีนชนิดนี้สำหรับประชากรไทยมาก่อนด้วย

    ดังนั้นผู้ที่สมควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษลิง จึงควรเป็นกลุ่มประชากรที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น ได้แก่ ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงและบุคลากรสาธารณสุขที่มีความเสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงมากที่สุด รวมทั้งผู้มีอาชีพที่ต้องมีการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนังกับผู้อื่น

    ประการที่เจ็ด สำหรับผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงแล้ว ให้กักตัวเองและรักษาตามอาการ ทั้งนี้ในกรรมวิธีของการแพทย์แผนไทยในการรักษาโรคระบาดที่มีผื่นหรือตุ่มตามผิวหนังนั้น มีหลักฐานปรากฏชัดเจนและได้ถูกรับรองตามกฏหมายในฐานะเป็นตำรับยาและตำรายาแผนไทยของชาติในการรับมือกับโรคระบาด ได้แก่
    ​​
    พระคัมภีร์ตักกะศิลาตามตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งสืบทอดภูมิปัญญามาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยมีขั้นตอนการรักษา 3 ขั้นตอน คือ ตำรับยาเพื่อขั้นตอนการกระทุ้งพิษไข้ด้วยยาห้าราก ตำรับยาเพื่อขั้นตอนการแปรไข้ภายในและรักษาผิวภายนอก และตำรับยาเพื่อขั้นตอนการครอบไข้ ซึ่งมีตำรับยาใน 3 ขั้นตอนนี้ รวม 7 ขนาน
    ​​
    นอกจากนี้ยังมีตำรับยาขาว ซึ่งเป็นยาขนานเดียวตามตำรายาของศิลาจารึกวัดเชตุพนวิมลมังคราราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ว่ามีสรรพคุณรักษาโรคระบาดได้หลายชนิด อีกทั้งยังมีตำรับยาหลายขนานสำหรับรักษาโรคฝีดาษโดยเฉพาะ ตามคัมภีร์แพทย์แผนไทยโบราณ เล่ม 3 ของขุนโสภิตบรรณลักษณ์ (อำพัน กิตติขจร)

    สำหรับการแพทย์แผนจีนมีหลักการรักษาโรคตามภาวะร่างกายโดยมีพื้นฐานการขับพิษ-ขับร้อน การปรับความร้อนระดับเลือด การขับความชื้น การปรับสมดุลของม้าม กระเพาะอาหาร การบำรุงเลือดและพลัง เพื่อขับพิษและเสริมพลังพื้นฐานในการต่อสู้กับโรคฝีดาษลิง
    ​​
    สำหรับงานวิจัยเภสัชสมุนไพรปรากฏในวารสาร Frontiers in cellular and infection Microbiology เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 ซึ่งวิเคราะห์ด้วยกระบวนการทางโมเลกุล พบว่า ขมิ้นชันมีปฏิกริยาต่อต้านไวรัสฝีดาษลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีกลไกการขัดขวางยับยั้งไวรัส ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญที่ควรนำมาศึกษาและวิจัยการใช้ขมิ้นชันในผู้ป่วยโรคฝีดาษของมนุษย์ต่อไป เพราะเป็นสมุนไพรที่มีราคาถูก เข้าถึงได้ทั่วไป คนไทยสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ซึ่งมีรายงานก่อนหน้านี้ว่าขมิ้นชันมีประสิทธิภาพในการยับยั้งกลไกในหลายขั้นตอนของไวรัสอีกหลายชนิด
    ​​
    นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรเดี่ยวที่มีศักยภาพในการต้านไวรัสหลายชนิด เช่น ฟ้าทะลายโจร มะขามป้อม เสลดพังพอนตัวเมีย กัญชา กัญชง ฯลฯ ซึ่งจะต้องมีการวิจัยเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงว่าจะมีศักยภาพและสามารถนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงต่อไปได้หรือไม่
    ​​
    อย่างไรก็ตามผู้ป่วยฝีดาษลิงที่เลือกกักตัวเองอยู่ที่บ้าน สามารถขอรับคำปรึกษาและรับตำรับยากับคลินิกการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ การแพทย์แผนจีน ทั่วประเทศ รวมถึงสหคลินิการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-791-6000 ต่อ 4406 หรือ 089-770-5862 อย่างไรก็ตามจะต้องมีการเก็บข้อมูลติดตามผลและทำการศึกษาวิจัยผลการรักษาภายหลังต่อไป
    ​​
    จากข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่าประชาชนไทยต้องตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก แต่ให้มีความตระหนักในการป้องกันและระวังตัว และเตรียมความพร้อมในการวางแผนและกำหนดมาตรการอย่างรอบด้าน รวมทั้งประเทศไทยมีบุคลากรที่มีความรู้และภูมิปัญญาที่จะสามารถรับมือกับโรคฝีดาษลิงได้อย่างแน่นอน

    ด้วยความปรารถนาดี
    วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    23 สิงหาคม 2567

    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/pfbid0v8ELDqDcnAZ2MgmuoGJU9Faxw4irDyQS7guRbaDmfwTqhy4QJCrTF8j4YHLVjGexl/?
    วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027
    แถลงการณ์วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ฉบับที่ 001/2567 เรื่อง ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เตรียมรับมือฝีดาษลิง ​จากสถานการณ์โรคระบาดฝีดาษลิงในต่างประเทศซึ่งมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยองค์การอนามัยโลก เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ซึ่งในเวลาต่อมาอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ว่าได้พบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงคนแรกในประเทศไทยแล้ว โดยผู้ติดเชื้อดังกล่าวได้เดินทางมาจากประเทศแถบทวีปแอฟริกา ข่าวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนคนไทยโดยทั่วไป เกิดความสับสนในข่าวสารและแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต จึงเห็นสมควรให้ชี้แจงกับประชาชน ให้ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เตรียมรับมือฝีดาษลิง ดังต่อไปนี้ ​​ประการแรก ตามรายงานในต่างประเทศซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Lancet ฉบับเผยแพร่เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 พบว่ามีผู้ป่วยส่วนใหญ่กักตัวที่บ้าน มีเพียงไม่เกินร้อยละ 13 ที่ต้องอยู่ในโรงพยาบาลเพราะต้องการแยกตัว หรือมีอาการรุนแรง โดยมีอัตราการตายน้อยกว่าร้อยละ 0.1 แต่สำหรับประเทศไทย ปรากฏเป็นข้อมูลที่เคยแถลงข่าวโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 รายงานว่า ประเทศไทยเคยมีผู้ป่วยฝีดาษลิงอยู่แล้วตั้งแต่กรกฏาคม 2565 ถึง 2 มิถุนายน 2567 จำนวน 794 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากฝีดาษลิง 11 ราย คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยในประเทศไทยอยู่เพียงร้อยละ 1.38 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเสียชีวิตในระดับต่ำ ประการที่สอง สำหรับกรณีการกลายพันธุ์เป็นชนิด เคลด วันบี (Clade Ib ) เกิดขึ้นประมาณ กันยายน 2566 ซึ่งมีอัตราการแพร่กระจายและความรุนแรงมากขึ้น ทำให้อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยเท่าที่มีข้อมูลในประเทศแถบแอฟริกาพบว่า ผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้ใหญ่มีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 4 ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ว่ามีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงชนิด เคลด วันบี แล้ว 1 ราย ซึ่งเดินทางมาจากประเทศหนึ่งในแถบแอฟริกา ดังนั้นกรมควบคุมโรคควรมีมาตรการในการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด ​​ ทั้งนี้ผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงจะมีระยะเวลาฟักตัวภายใน 21 วัน และสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่เริ่มมีอาการก่อนจะมีผื่นขึ้น กล่าวคือ มีไข้พบได้ร้อยละ 62 ปวดกล้ามเนื้อพบได้ร้อยละ 31 ปวดหัวพบได้ร้อยละ 27 ต่อมน้ำเหลืองโตพบได้ร้อยละ 56 เซื่องซึมพบได้ร้อยละ 41 หลังจากนั้นจะมีโอกาสผื่นขึ้นต่อมาร้อยละ 95 ทั้งนี้อาจเกิดตุ่มในปาก อวัยวะเพศชายและหญิง ช่องคลอด หรือรูทวารหนักได้ด้วย ผู้ป่วยจะถูกแยกกักกันนานประมาณ 21 วัน หรือจนพ้นระยะเวลาแพร่เชื้อคือ ทุกรอยโรคหายไป ตกสะเก็ดและสะเก็ดหลุดจนมีผิวหนังปกติ โดยหลังจากหายป่วยแล้วควรงดการมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะใช้ถุงยางอนามัยหรือไม่ก็ตามเป็นเวลาหนึ่งเดือน ​​ อย่างไรก็ตามผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงส่วนใหญ่สามารถหายเองได้โดยรักษาตามอาการ เพราะยังไม่พบยาต้านไวรัสชนิดนี้ โดยแม้แต่ยา Tecovirimat ที่องค์การอนามัยโลกประกาศใช้รักษาฝีดาษลิงชนิดเคลด วันบี ก็ยังไม่ได้ผลในการรักษาแต่ประการใด เพราะตามประกาศของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 พบรายงานการวิจัยในมนุษย์ว่ายา Tecovirimat ไม่ได้ลดระยะผื่นของฝีดาษลิงในผู้ติดเชื้อทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ประเทศคองโก รวมทั้งมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ร้อยละ 1.7 ไม่ว่าจะใช้ยา Tecovirimat หรือไม่ใช้ก็ตาม ​​ ประการที่สาม กลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงหากติดเชื้อ ได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี สตรีมีครรภ์ ผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Eczema) ตุ่มพุพอง ตกสะเก็ด คัน แสบ สะเก็ดเงิน โดยจากข้อมูลในทวีปแอฟริกา พบว่ากลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงมีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 10 กลุ่มเหล่านี้จะต้องมีความระมัดระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง เลือด หนอง สิ่งคัดหลั่งของผู้ป่วยหรือผู้ต้องสงสัยติดเชื้อฝีดาษลิง รวมถึงควรล้างมือเป็นประจำและไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น ประการที่สี่ สำหรับผู้มีอาชีพหรือผู้รับบริการที่ต้องมีการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง ควรต้องสอบถามผู้ที่จะมาสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง ว่ามีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่หรือไม่ เช่น ปวดตามร่างกายแบบลักษณะมีไข้ หรือมีไข้ ปวดหัว ต่อมน้ำเหลืองโต เซื่องซึม มีตุ่มหรือผื่นตามร่างกาย หากมีอาการดังกล่าวควรแนะนำให้ไปพบแพทย์ ประการที่ห้า อาการที่เสี่ยงเสียชีวิตหลังจากติดเชื้อแล้ว ได้แก่ มีตุ่มแผลบริเวณเยื่อบุตา ผื่นตุ่มที่แพร่กระจายทั่วตัว หรือผื่นขึ้นแบบกระจุกตัว (Cluster) มีตกเลือดในบริเวณผื่นตุ่ม อาการไข้และอาการทางร่างกายที่หนักขึ้น รวมทั้งหายใจเหนื่อย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ​​ ประการที่หก ที่ผ่านมายังไม่มีวัคซีนสำหรับการป้องกันการติดเชื้อโรคฝีดาษลิงโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามวันที่ 24 กรกฏาคม 2565 สหภาพยุโรปได้อนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ (JYNNEOS) เพื่อประยุกต์ใช้ในการป้องกันโรคฝีดาษลิง ทั้งนี้ผลสำรวจงานวิจัยในวารสาร New England ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 รายงานว่าทหารอเมริกันผู้เคยได้รับวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษชนิดเดียวกันกับที่ประเทศไทยเคยใช้ในอดีต หรือวัคซีน ACAM2000 หรือวัคซีน JYNNEOS ในปัจจุบัน ในระหว่างปี 2545 ถึง 2560 จำนวน 2.6 ล้านคนพบว่ามีโอกาสติดเชื้อฝีดาษทุกชนิดลดลง ​​ สำหรับประเทศไทยผู้ที่เกิดก่อนปี 2523 หรืออายุตั้งแต่ 44 ปีขึ้นไป น่าจะได้รับการปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษไข้ทรพิษ (Smallpox) โดยทั่วไปแล้ว โดยสามารถสังเกตแผลเป็นที่บริเวณหัวไหล่ของผู้ที่เคยได้รับการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ซึ่งทำให้ช่วยลดอัตราการติดเชื้อและความรุนแรงของโรคฝีดาษลิงได้ และกลุ่มคนเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนแล้ว สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีอายุน้อยกว่า 44 ปี หรือไม่เคยปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ยังไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนในขณะนี้ เพราะยังสามารถใช้มาตราการป้องกันด้วยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับผู้ติดเชื้อหรือผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อฝีดาษลิง ​​เพราะตามข้อมูลของบริษัทผู้ผลิตวัคซีน JYNNEOS รายงานว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงต่อหัวใจในอัตรา 8 ต่อ10,000 ราย ซึ่งน้อยกว่าการฉีดวัควัคซีนจริงปรากฏตามรายงานในวารสาร Vaccine ฉบับเผยแพร่ออนไลน์เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 ซึ่งรายงานว่าการฉีดวัคซีน JYNNEOS อย่างน้อย 1 เข็ม มีโอกาสได้รับผลข้างเคียงต่อหัวใจในอัตรา 3.1 ต่อ 1,000 โดส อีกทั้งยังไม่เคยมีการวิจัยผลข้างเคียงการฉีดวัคซีนชนิดนี้สำหรับประชากรไทยมาก่อนด้วย ดังนั้นผู้ที่สมควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษลิง จึงควรเป็นกลุ่มประชากรที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น ได้แก่ ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงและบุคลากรสาธารณสุขที่มีความเสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงมากที่สุด รวมทั้งผู้มีอาชีพที่ต้องมีการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนังกับผู้อื่น ประการที่เจ็ด สำหรับผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงแล้ว ให้กักตัวเองและรักษาตามอาการ ทั้งนี้ในกรรมวิธีของการแพทย์แผนไทยในการรักษาโรคระบาดที่มีผื่นหรือตุ่มตามผิวหนังนั้น มีหลักฐานปรากฏชัดเจนและได้ถูกรับรองตามกฏหมายในฐานะเป็นตำรับยาและตำรายาแผนไทยของชาติในการรับมือกับโรคระบาด ได้แก่ ​​ พระคัมภีร์ตักกะศิลาตามตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งสืบทอดภูมิปัญญามาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยมีขั้นตอนการรักษา 3 ขั้นตอน คือ ตำรับยาเพื่อขั้นตอนการกระทุ้งพิษไข้ด้วยยาห้าราก ตำรับยาเพื่อขั้นตอนการแปรไข้ภายในและรักษาผิวภายนอก และตำรับยาเพื่อขั้นตอนการครอบไข้ ซึ่งมีตำรับยาใน 3 ขั้นตอนนี้ รวม 7 ขนาน ​​ นอกจากนี้ยังมีตำรับยาขาว ซึ่งเป็นยาขนานเดียวตามตำรายาของศิลาจารึกวัดเชตุพนวิมลมังคราราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ว่ามีสรรพคุณรักษาโรคระบาดได้หลายชนิด อีกทั้งยังมีตำรับยาหลายขนานสำหรับรักษาโรคฝีดาษโดยเฉพาะ ตามคัมภีร์แพทย์แผนไทยโบราณ เล่ม 3 ของขุนโสภิตบรรณลักษณ์ (อำพัน กิตติขจร) สำหรับการแพทย์แผนจีนมีหลักการรักษาโรคตามภาวะร่างกายโดยมีพื้นฐานการขับพิษ-ขับร้อน การปรับความร้อนระดับเลือด การขับความชื้น การปรับสมดุลของม้าม กระเพาะอาหาร การบำรุงเลือดและพลัง เพื่อขับพิษและเสริมพลังพื้นฐานในการต่อสู้กับโรคฝีดาษลิง ​​ สำหรับงานวิจัยเภสัชสมุนไพรปรากฏในวารสาร Frontiers in cellular and infection Microbiology เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 ซึ่งวิเคราะห์ด้วยกระบวนการทางโมเลกุล พบว่า ขมิ้นชันมีปฏิกริยาต่อต้านไวรัสฝีดาษลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีกลไกการขัดขวางยับยั้งไวรัส ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญที่ควรนำมาศึกษาและวิจัยการใช้ขมิ้นชันในผู้ป่วยโรคฝีดาษของมนุษย์ต่อไป เพราะเป็นสมุนไพรที่มีราคาถูก เข้าถึงได้ทั่วไป คนไทยสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ซึ่งมีรายงานก่อนหน้านี้ว่าขมิ้นชันมีประสิทธิภาพในการยับยั้งกลไกในหลายขั้นตอนของไวรัสอีกหลายชนิด ​​ นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรเดี่ยวที่มีศักยภาพในการต้านไวรัสหลายชนิด เช่น ฟ้าทะลายโจร มะขามป้อม เสลดพังพอนตัวเมีย กัญชา กัญชง ฯลฯ ซึ่งจะต้องมีการวิจัยเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงว่าจะมีศักยภาพและสามารถนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงต่อไปได้หรือไม่ ​​ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยฝีดาษลิงที่เลือกกักตัวเองอยู่ที่บ้าน สามารถขอรับคำปรึกษาและรับตำรับยากับคลินิกการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ การแพทย์แผนจีน ทั่วประเทศ รวมถึงสหคลินิการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-791-6000 ต่อ 4406 หรือ 089-770-5862 อย่างไรก็ตามจะต้องมีการเก็บข้อมูลติดตามผลและทำการศึกษาวิจัยผลการรักษาภายหลังต่อไป ​​ จากข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่าประชาชนไทยต้องตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก แต่ให้มีความตระหนักในการป้องกันและระวังตัว และเตรียมความพร้อมในการวางแผนและกำหนดมาตรการอย่างรอบด้าน รวมทั้งประเทศไทยมีบุคลากรที่มีความรู้และภูมิปัญญาที่จะสามารถรับมือกับโรคฝีดาษลิงได้อย่างแน่นอน ด้วยความปรารถนาดี วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 23 สิงหาคม 2567 https://www.facebook.com/100044511276276/posts/pfbid0v8ELDqDcnAZ2MgmuoGJU9Faxw4irDyQS7guRbaDmfwTqhy4QJCrTF8j4YHLVjGexl/? วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 470 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,569
    วันอังคาร: ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (5 November 2024)

    Photo Album Set 1/2
    ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    01. วัดถ้ำหมีนอน อ.แกลง จ.ระยอง
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    02. วัดทดราษฎร์เจริญมณีฤทธิ์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    03. วัดทรายแดงวนาราม อ.เมือง จ.ระนอง
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    04. วัดทับกระดาษ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    05. วัดท่าฟืน อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    06. วัดทำเลไทย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    07. วัดนาคหงษา อ.ผาขาว จ.เลย
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    08. วัดบางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    09. วัดบ้านน้ำมุด อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    10. วัดบ้านไผ่ อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 99 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,569 วันอังคาร: ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (5 November 2024) Photo Album Set 1/2 ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 01. วัดถ้ำหมีนอน อ.แกลง จ.ระยอง (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 02. วัดทดราษฎร์เจริญมณีฤทธิ์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 03. วัดทรายแดงวนาราม อ.เมือง จ.ระนอง (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 04. วัดทับกระดาษ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 05. วัดท่าฟืน อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 06. วัดทำเลไทย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 07. วัดนาคหงษา อ.ผาขาว จ.เลย (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 08. วัดบางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 09. วัดบ้านน้ำมุด อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 10. วัดบ้านไผ่ อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 99 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,569
    วันอังคาร: ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (5 November 2024)

    Photo Album Set 1/2
    ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    01. วัดถ้ำหมีนอน อ.แกลง จ.ระยอง
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    02. วัดทดราษฎร์เจริญมณีฤทธิ์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    03. วัดทรายแดงวนาราม อ.เมือง จ.ระนอง
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    04. วัดทับกระดาษ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    05. วัดท่าฟืน อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    06. วัดทำเลไทย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    07. วัดนาคหงษา อ.ผาขาว จ.เลย
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    08. วัดบางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    09. วัดบ้านน้ำมุด อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    10. วัดบ้านไผ่ อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 99 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,569 วันอังคาร: ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (5 November 2024) Photo Album Set 1/2 ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 01. วัดถ้ำหมีนอน อ.แกลง จ.ระยอง (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 02. วัดทดราษฎร์เจริญมณีฤทธิ์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 03. วัดทรายแดงวนาราม อ.เมือง จ.ระนอง (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 04. วัดทับกระดาษ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 05. วัดท่าฟืน อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 06. วัดทำเลไทย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 07. วัดนาคหงษา อ.ผาขาว จ.เลย (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 08. วัดบางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 09. วัดบ้านน้ำมุด อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 10. วัดบ้านไผ่ อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 99 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,568
    วันจันทร์: ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (4 November 2024)

    Photo Album Set 2/2
    ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    11. วัดคุณแม่จันทร์ เขตประเวศ กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    12. วัดโคกเจริญ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    13. วัดจันทร์ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    14. วัดช่องลม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    15. วัดดงชะพลู อ.เมือง จ.พิจิตร
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    16. วัดดอนตรอ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    17. วัดดอนปริง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    18. วัดดอนมะปราง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    19. วัดดอนหญ้านาง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    20. วัดตะโกโคก อ.คง จ.นครราชสีมา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 100 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,568 วันจันทร์: ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (4 November 2024) Photo Album Set 2/2 ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 11. วัดคุณแม่จันทร์ เขตประเวศ กรุงเทพฯ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 12. วัดโคกเจริญ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 13. วัดจันทร์ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 14. วัดช่องลม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 15. วัดดงชะพลู อ.เมือง จ.พิจิตร (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 16. วัดดอนตรอ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 17. วัดดอนปริง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 18. วัดดอนมะปราง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 19. วัดดอนหญ้านาง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 20. วัดตะโกโคก อ.คง จ.นครราชสีมา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 100 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,568
    วันจันทร์: ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (4 November 2024)

    Photo Album Set 2/2
    ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    11. วัดคุณแม่จันทร์ เขตประเวศ กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    12. วัดโคกเจริญ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    13. วัดจันทร์ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    14. วัดช่องลม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    15. วัดดงชะพลู อ.เมือง จ.พิจิตร
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    16. วัดดอนตรอ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    17. วัดดอนปริง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    18. วัดดอนมะปราง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    19. วัดดอนหญ้านาง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    20. วัดตะโกโคก อ.คง จ.นครราชสีมา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 100 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,568 วันจันทร์: ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (4 November 2024) Photo Album Set 2/2 ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 11. วัดคุณแม่จันทร์ เขตประเวศ กรุงเทพฯ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 12. วัดโคกเจริญ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 13. วัดจันทร์ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 14. วัดช่องลม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 15. วัดดงชะพลู อ.เมือง จ.พิจิตร (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 16. วัดดอนตรอ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 17. วัดดอนปริง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 18. วัดดอนมะปราง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 19. วัดดอนหญ้านาง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 20. วัดตะโกโคก อ.คง จ.นครราชสีมา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 100 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • แบบนี้ คือ เก๊ แกล้งเก่า....คนเข้าใจศิลปะยุคสมัย จะทราบโดยทันที...พยายามล้อเชียงแสน แต่เอา 3 ขาของ กำแพงเพชร อยุธยา มาปน ....
    แบบนี้ คือ เก๊ แกล้งเก่า....คนเข้าใจศิลปะยุคสมัย จะทราบโดยทันที...พยายามล้อเชียงแสน แต่เอา 3 ขาของ กำแพงเพชร อยุธยา มาปน ....
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์ไทยอมรินทร์ ผ้าไหมพื้นเรียบ
    พระภูษาผ้าไหมยกดอก ลายเครือเถาราชพฤกษ์พิกุลใหญ่ ถมเกสรทองเชิงกนก
    ลายเครือเถา เป็นลายพื้นฐานอีกแบบหนึ่งที่สำคัญของลายไทย นอกเหนือจากลายกระจัง ลายกระหนก ลายประจำยาม ลายประเภทนี้จะเขียนในลักษณะคดโค้งหลายแนว แตะหรือสอดสลับกัน คล้ายการเกี่ยวพันของเถาวัลย์ โดยมีกระหนกออกจากกาบหุ้มเถาไว้ลายเครือเถาแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ ๓ ประเภทคือ ลายเครือเถาหางโต ลายเครือเถาใบเทศ
    ลายเครือเถาเปลว สามารถพบเห็นลายเครือเถา บริเวณหน้าบัน บานประตู หน้าต่าง หรือตู้ลายรดน้ำ หรือประดับมุก รวมถึง ลายในผ้าทอ และลายปักไหม
    วัดราชบพิธฯ พบงานวิจิตรศิลปกรรมกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์ ประดับตกแต่งในสถาปัตยกรรม อาทิ พระมหาเจดีย์ เจดีย์ทรงระฆัง ถ่ายแบบมาจากเจดีย์ทรงระฆังอยุธยาตอนกลาง จัดเป็นทรงระฆังแบบอยุธยาแท้ที่มีลักษณะเฉพาะ คือการใช้ “มาลัยเครือเถา” กระเบื้องเบญจรงค์ลายดอกไม้ในกรอบสี่เหลี่ยมจัตุรัส ประดับส่วนฐานพระเจดีย์เต็มพื้นที่โดยรอบ องค์พระมหาเจดีย์ทั้งหมดตั้งแต่ฐานไพทีไปจนกระทั่งถึงยอด ประดับด้วย กระเบื้องเคลือบ ทั้งองค์ เป็นกระเบื้องแบบเบญจรงค์ แต่ละส่วนตกแต่งด้วยลวดลายหลายประเภท โดยรวมเรียก ลายแผลง หรือ ‘ลายแผง’ เป็นลวดลายในกรอบสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน สี่เหลี่ยมจัตุรัส เช่น ลายกลีบบัว ลายเทพพนม ลายดอกไม้-ใบไม้ทั้งแบบไทยประเพณี แบบตะวันตก และแบบผสมผสานกัน
    กล่าวคือ โดยรอบตั้งแต่ฐานถึงชั้นประทักษิณ เป็นลายดอกไม้ประเภท ลายก้านแย่ง (ลายดอกไม้-ใบไม้) พื้นสีเหลืองทอง ลวดลายในชุดแบบเบญจรงค์ ส่วนองค์ระฆังและส่วนยอดประดับ กระเบื้องเคลือบสีเหลือง ไม่ประดับลวดลาย ถือเป็นพัฒนาการอย่างใหม่ของงานช่างในการสร้างเจดีย์ เพราะสมัยก่อนใช้การ ‘ลงรักปิดทอง’ หรือทาสี ‘น้ำปูน’ ที่เป็นสีขาวเท่านั้น จนมาถึงรัชกาลที่ ๕ จึงเปลี่ยนมาเป็นกระเบื้องเคลือบ ซึ่งมั่นคงแข็งแรงและงดงามยิ่ง
    -----
    HER ROYAL ATTIRE IN THAI AMARIN
    WITH LAMPHUN BROCADE SILK RATCHAPHRUEK PIKUN WITH GOLD-THREAD
    .
    The vine pattern is another important basic type of Thai pattern. In addition to the Krajang pattern, Kranok pattern, Prachayam pattern, this type of pattern is written in many curved lines. Tapping or inserting alternately similar to the intertwining of vines The vine pattern is divided into 3 main types: the large-tailed vine pattern, the Indian leaf vine pattern, and the flame vine pattern. The vine pattern can be found on the pediment, door panels, windows, or cabinets in gold leaf or decorated with pearls, as well as patterns in woven fabrics and silk embroidery.
    .
    Wat Ratchabophit found exquisite works of art of Benjarong glazed tiles as architectural decorations, such as the Great Stupa, a bell-shaped stupa copied from the bell-shaped stupa of the central Ayutthaya period. It is considered a bell-shaped Ayutthaya style with a unique characteristic, which is the use of “Malai Kreua Thao”, Benjarong tiles with floral patterns in a square frame, decorating the base of the stupa covering the entire area around it. The entire Great Stupa, from the base to the top, is decorated with glazed tiles throughout the entire body, which are Benjarong tiles. Each part is decorated with various types of patterns, collectively called “Lai Plaeng” or “Lai Phaeng”, which are patterns in a diamond-shaped, square frame, such as lotus petal patterns, thep Phanom pattern, and flower-leaf patterns in both traditional Thai, Western, and mixed styles.
    .
    All around from the base to the circumambulation tier is a floral pattern of the Kan Yaeng pattern (flower and leaf pattern) on a golden yellow background, in the Benjarong style. The bell-shaped body and the top are decorated with yellow glazed tiles, not decorated with patterns. This is considered a new development in the craftsmanship in building a pagoda, because in the past they used only 'lacquer and gold leaf' or white 'lime water' paint. Until the reign of King Rama V, it was changed to glazed tiles. which is stable, strong and extremely beautiful.
    _________________________________
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์ไทยอมรินทร์ ผ้าไหมพื้นเรียบ พระภูษาผ้าไหมยกดอก ลายเครือเถาราชพฤกษ์พิกุลใหญ่ ถมเกสรทองเชิงกนก ลายเครือเถา เป็นลายพื้นฐานอีกแบบหนึ่งที่สำคัญของลายไทย นอกเหนือจากลายกระจัง ลายกระหนก ลายประจำยาม ลายประเภทนี้จะเขียนในลักษณะคดโค้งหลายแนว แตะหรือสอดสลับกัน คล้ายการเกี่ยวพันของเถาวัลย์ โดยมีกระหนกออกจากกาบหุ้มเถาไว้ลายเครือเถาแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ ๓ ประเภทคือ ลายเครือเถาหางโต ลายเครือเถาใบเทศ ลายเครือเถาเปลว สามารถพบเห็นลายเครือเถา บริเวณหน้าบัน บานประตู หน้าต่าง หรือตู้ลายรดน้ำ หรือประดับมุก รวมถึง ลายในผ้าทอ และลายปักไหม วัดราชบพิธฯ พบงานวิจิตรศิลปกรรมกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์ ประดับตกแต่งในสถาปัตยกรรม อาทิ พระมหาเจดีย์ เจดีย์ทรงระฆัง ถ่ายแบบมาจากเจดีย์ทรงระฆังอยุธยาตอนกลาง จัดเป็นทรงระฆังแบบอยุธยาแท้ที่มีลักษณะเฉพาะ คือการใช้ “มาลัยเครือเถา” กระเบื้องเบญจรงค์ลายดอกไม้ในกรอบสี่เหลี่ยมจัตุรัส ประดับส่วนฐานพระเจดีย์เต็มพื้นที่โดยรอบ องค์พระมหาเจดีย์ทั้งหมดตั้งแต่ฐานไพทีไปจนกระทั่งถึงยอด ประดับด้วย กระเบื้องเคลือบ ทั้งองค์ เป็นกระเบื้องแบบเบญจรงค์ แต่ละส่วนตกแต่งด้วยลวดลายหลายประเภท โดยรวมเรียก ลายแผลง หรือ ‘ลายแผง’ เป็นลวดลายในกรอบสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน สี่เหลี่ยมจัตุรัส เช่น ลายกลีบบัว ลายเทพพนม ลายดอกไม้-ใบไม้ทั้งแบบไทยประเพณี แบบตะวันตก และแบบผสมผสานกัน กล่าวคือ โดยรอบตั้งแต่ฐานถึงชั้นประทักษิณ เป็นลายดอกไม้ประเภท ลายก้านแย่ง (ลายดอกไม้-ใบไม้) พื้นสีเหลืองทอง ลวดลายในชุดแบบเบญจรงค์ ส่วนองค์ระฆังและส่วนยอดประดับ กระเบื้องเคลือบสีเหลือง ไม่ประดับลวดลาย ถือเป็นพัฒนาการอย่างใหม่ของงานช่างในการสร้างเจดีย์ เพราะสมัยก่อนใช้การ ‘ลงรักปิดทอง’ หรือทาสี ‘น้ำปูน’ ที่เป็นสีขาวเท่านั้น จนมาถึงรัชกาลที่ ๕ จึงเปลี่ยนมาเป็นกระเบื้องเคลือบ ซึ่งมั่นคงแข็งแรงและงดงามยิ่ง ----- HER ROYAL ATTIRE IN THAI AMARIN WITH LAMPHUN BROCADE SILK RATCHAPHRUEK PIKUN WITH GOLD-THREAD . The vine pattern is another important basic type of Thai pattern. In addition to the Krajang pattern, Kranok pattern, Prachayam pattern, this type of pattern is written in many curved lines. Tapping or inserting alternately similar to the intertwining of vines The vine pattern is divided into 3 main types: the large-tailed vine pattern, the Indian leaf vine pattern, and the flame vine pattern. The vine pattern can be found on the pediment, door panels, windows, or cabinets in gold leaf or decorated with pearls, as well as patterns in woven fabrics and silk embroidery. . Wat Ratchabophit found exquisite works of art of Benjarong glazed tiles as architectural decorations, such as the Great Stupa, a bell-shaped stupa copied from the bell-shaped stupa of the central Ayutthaya period. It is considered a bell-shaped Ayutthaya style with a unique characteristic, which is the use of “Malai Kreua Thao”, Benjarong tiles with floral patterns in a square frame, decorating the base of the stupa covering the entire area around it. The entire Great Stupa, from the base to the top, is decorated with glazed tiles throughout the entire body, which are Benjarong tiles. Each part is decorated with various types of patterns, collectively called “Lai Plaeng” or “Lai Phaeng”, which are patterns in a diamond-shaped, square frame, such as lotus petal patterns, thep Phanom pattern, and flower-leaf patterns in both traditional Thai, Western, and mixed styles. . All around from the base to the circumambulation tier is a floral pattern of the Kan Yaeng pattern (flower and leaf pattern) on a golden yellow background, in the Benjarong style. The bell-shaped body and the top are decorated with yellow glazed tiles, not decorated with patterns. This is considered a new development in the craftsmanship in building a pagoda, because in the past they used only 'lacquer and gold leaf' or white 'lime water' paint. Until the reign of King Rama V, it was changed to glazed tiles. which is stable, strong and extremely beautiful. _________________________________ #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    Love
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 342 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิวสวย TikTok@bas_gowentgo #gowentgotravel #ท่องเที่ยว #อยุธยา #ไทย #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    วิวสวย TikTok@bas_gowentgo #gowentgotravel #ท่องเที่ยว #อยุธยา #ไทย #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 311 มุมมอง 57 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,565
    วันศุกร์: ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (1 November 2024)

    Photo Album Set 2/2
    ทอดกฐินพระราชทาน 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    11. วัดบัวงาม อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี
    (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67)
    12. วัดพระศรีมหาธาตุ เขตบางเขน กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67)
    13. วัดวชิราลงกรณวราราม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
    (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67)
    14. วัดวังรีบุญเลิศ อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช
    (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67)
    15. วัดเสนาสนาราม อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67)
    16. วัดเสาธงทอง อ.เมือง จ.ลพบุรี
    (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67)
    17. วัดหนองแวง อ.เมือง จ.ขอนแก่น
    (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67)
    18. วัดกษัตราธิราช อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    19. วัดชลธาราสิงเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    20. วัดธรรมิการาม อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 103 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,565 วันศุกร์: ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (1 November 2024) Photo Album Set 2/2 ทอดกฐินพระราชทาน 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 11. วัดบัวงาม อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67) 12. วัดพระศรีมหาธาตุ เขตบางเขน กรุงเทพฯ (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67) 13. วัดวชิราลงกรณวราราม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67) 14. วัดวังรีบุญเลิศ อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67) 15. วัดเสนาสนาราม อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67) 16. วัดเสาธงทอง อ.เมือง จ.ลพบุรี (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67) 17. วัดหนองแวง อ.เมือง จ.ขอนแก่น (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67) 18. วัดกษัตราธิราช อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) 19. วัดชลธาราสิงเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) 20. วัดธรรมิการาม อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 103 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,565
    วันศุกร์: ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (1 November 2024)

    Photo Album Set 2/2
    ทอดกฐินพระราชทาน 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    11. วัดบัวงาม อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี
    (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67)
    12. วัดพระศรีมหาธาตุ เขตบางเขน กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67)
    13. วัดวชิราลงกรณวราราม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
    (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67)
    14. วัดวังรีบุญเลิศ อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช
    (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67)
    15. วัดเสนาสนาราม อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67)
    16. วัดเสาธงทอง อ.เมือง จ.ลพบุรี
    (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67)
    17. วัดหนองแวง อ.เมือง จ.ขอนแก่น
    (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67)
    18. วัดกษัตราธิราช อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    19. วัดชลธาราสิงเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    20. วัดธรรมิการาม อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์
    (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 103 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,565 วันศุกร์: ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (1 November 2024) Photo Album Set 2/2 ทอดกฐินพระราชทาน 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 11. วัดบัวงาม อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67) 12. วัดพระศรีมหาธาตุ เขตบางเขน กรุงเทพฯ (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67) 13. วัดวชิราลงกรณวราราม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67) 14. วัดวังรีบุญเลิศ อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67) 15. วัดเสนาสนาราม อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67) 16. วัดเสาธงทอง อ.เมือง จ.ลพบุรี (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67) 17. วัดหนองแวง อ.เมือง จ.ขอนแก่น (ทอดกฐินพระราชทาน 9 พ.ย.67) 18. วัดกษัตราธิราช อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) 19. วัดชลธาราสิงเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) 20. วัดธรรมิการาม อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ (ทอดกฐินพระราชทาน 10 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 103 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⚜️ #อดีตชาติหลวงพ่อฤาษี 13 ชาติ..⚜️

    🔱#ที่เกิดตั้งแต่สมัยโยนกนคร #จนถึงรัตนโกสินทร์🔱

    ลงมาเกิดเพื่อรวมไทยให้เป็นปึกแผ่น และเพื่อช่วยเหลือคนไทย และช่วยให้พระพุทธศาสนามีอายุครบ 5000 ปี

    ✴️ #วาระที่ 1 เกิดเป็นพระเจ้ามังราย รัชกาลที่ 2 แห่งโยนกนคร เป็นลูกชายพระเจ้าอชุตราช ในชาตินั้นท่านเป็นผู้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่ดอยตุง โดยการนำมาของพระมหากัสสปะพร้อมด้วยพระอรหันต์ 500 องค์

    ✴️ #วาระที่ 2 เกิดสมัยโยนก เป็นเณรน้อยอายุ 7 ปีทรงฌานสมาบัติ แต่ได้ถูกขอมดำกระทำย่ำยี เวลานั้นขอมดำมายึดเมืองโยนกนครได้แล้ว แล้วทำการกดขี่ข่มเหงรังแกคนไทย
    เณรจึงเข้าฌานสมาบัติ ตั้งจิตอธิษฐานว่า เกิดคราวหน้าขอให้ได้เกิดมาเป็นคนไทย และได้ช่วยคนไทยทุกแง่ทุกมุม
    มิไม่ใช่เฉพาะการรบ การเศรษฐกิจ การปกครอง แม้แต่การรบทุกอย่างให้ครบถ้วน ให้คนไทยพ้นจากความเป็นทาส "พอตั้งจิตอธิษฐานก็ไม่ถอนจากฌานสมาบัติ ก็นั่งทรงฌานอย่างนั้นจนตาย แล้วไปเกิดเป็นพรหม ชั้นที่ 11

    ✴️ #การเกิดครั้งที่3 หลังจากตายจากเณรน้อย ไปเป็นพรหมชั้นที่11ได้เพียง1ปีเศษ ก็ลงมาเกิดเป็น "พระเจ้าพรหม มหาราช" เป็นโอรสของพระเจ้าพังคราช รัชกาลที่ 37 ในสมัยโยนกนคร มีพี่ชายชื่อทุกภิขะ( บริเวณพระธาตุจอมกิตติ ดอยตุง เป็นเขตเมืองโยนกนคร) เกิดพร้อมสหชาติที่เป็นพรหม เทวดา ลงมาเกิดพร้อมกัน 250 คน ทั้ง 250 คน เกิดเป็นผู้ชายทั้งหมด พรหมอีกองค์นึงเกิดเป็นช้างประกายแก้ว ช้างคู่บารมีพระเจ้าพรหม ลงมาเกิดเพื่อกู้ชาติให้พ้นความเป็นทาสจากขอมดำ และทำสำเร็จด้วย ทุกวันนี้วันอาสาฬหบูชาที่วัดท่าซุงก็มีการแห่ชัยชนะพระเจ้าพรหมทุกๆปี

    ✴️ #การเกิดในวาระที่4 หลังจากที่ตายจากการเป็นพระเจ้าพรหมสมัยโยนก แล้วเข้าฌาณตาย กลับไปเป็นพรหม เวลาผ่านไปอีก 800 ปีลงมาเกิดเป็นพระร่วงโรจนฤทธิ์ ตอนเด็กมีนามว่าอรุณกุมาร เป็นผู้ที่มีฤทธิ์มาก มีวิชาอาคม มีวาจาสิทธิ์ สามารถเสกขอมให้เป็นหินได้ และขยายอาณาเขตของประเทศไทย (ตอนนั้นยังไม่เป็นเทศไทย )กว้างใหญ่ไพศาล ยึดมอญ พม่าขอมไว้ได้หมด อาณาจักรยาวเหยียด เวลานั้นคือก่อนเมืองสุโขทัย 700 ปีเศษ ก่อนหน้าพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ 700ประมาณปีเศษ

    ✴️ #วาระที่5 เกิดเป็น"พ่อขุนศรีเมืองมาน"( เป็นพ่อของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ แห่งอณาจักรสุโขทัย) ตายจากพระร่วงโรจนฤทธิ์ก็เข้าฌานตาย กลับไปเป็นพรหมเช่นเดิม กลับมาเกิดวาระที่5 เป็นพ่อขุนศรีเมืองมาน มีสหชาติเกิดมาด้วยคือ พ่อขุนน้าวนําถมลงมาช่วยกู้ชาติไทยจากขอมดำ ขยายอาณาเขตประเทศไทยไปถึงสิงคโปร์ มีภรรยาชื่อพรรณวดีศรีโสภาศ เป็นเมียเอก และมีเมียราษฏร์อีก 29 คน พอเมียเอกตาย ก็บวชไม่สึกอีกเลย เข้าฌานตายแล้วไปเกิดเป็นพรหมตามเดิม

    ✴️ #วาระที่6 "ขุนหลวงพระงั่ว" รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงศรีอยุธยา ต่อมาคนไทยเกิดแบ่งเป็น 2 พวก จึงต้องลงมาเกิดเพื่อรวมไทยให้เป็น1เดียว ลงมาเกิดในราชวงศ์อู่ทอง เป็น"ขุนหลวงพระงั่ว" มาปลุกจิตสำนึกคนไทยให้รู้จักบาปบุญคุณโทษ จึงนิมนต์พระสงฆ์มาร่าง"ไตรภูมิพระร่วง
    ไตรภูมิพระร่วง พระร่วงไม่ได้ทำ
    ท่านเป็นเพียงแต่ศาสนูปถัมภ์
    ไตรภูมิพระร่วง เป็นการร่วมมือกันระหว่างสุโขทัยและกรุงศรี
    และยังได้ร่วมกันสร้างพระพุทธชินราชพระพุทธชินสีห์ และพระศรีศากยมุนีขึ้นมาเป็นมิ่งขวัญของเมืองไทย เป็นการแสดงสัญลักษณ์ว่าประเทศไทยจะทรงตัวได้ด้วยเหตุ 3 อย่างด้วยกัน
    คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
    พระพุทธชินราช หมายถึง พระมหากษัตริย์ พระพุทธชินสีห์ หมายถึง พระศาสนา พระศากยมุนี หมายถึง ชาติ
    การสร้างครั้งนี้ก็เป็นหน้าที่ของท้าวโกสีย์สักกะเทวราชให้พระวิษณุกรรมมาช่วย ขุนหลวงพระงั่วได้มารวมสุโขทัยกับอยุธยาเป็นประเทศเดียวกัน

    ✴️ #เกิดวาระที่7 ต่อมาลงมาเกิดในสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงศรีฯ ครั้งนี้เป็นลูกชาวบ้าน แต่เป็นลูกมหาเศรษฐี มีแม่ชื่อปิ่นทอง พ่อชื่อกองแก้ว ท่านเองเป็นลูกชายชื่ออำไพ ลงมาช่วยคน ให้เงินให้ทอง ให้ที่ทำกิน ช่วยการเกษตร ช่วยทุกสิ่งทุกอย่าง ให้การศึกษา จนคนไทยเป็นปึกแผ่นแน่นหนาพอ ประชาชนมีความสุข และท่านก็ตายไปเกิดเป็นพรหมตามเดิม

    ✴️ #วาระที่ 8 เกิดมาในตระกูลของแม่ทัพสมเด็จพระพันวสา คือสมเด็จพระอินทราธิราช มีนามว่า "ขุนไกร" (#ขุนแผน) เป็นอันว่าชาตินี้ขุนแผนต้องรวบรวมไทยอาศัยที่มีวิชาการมาก เป็นนักรบเก่ง
    ล่องหนหายตัวได้ สะเดาะกลอนได้
    ทำหุ่นพยนต์ได้ ทำอะไรได้แปลกๆ
    การยกทัพไปก็ไม่ต้องใช้กำลังคนมาก
    ก็สามารถจะสู้ข้าศึกได้

    ✴️ #วาระที่ 9 เกิดมาเป็นลูกกษัตริย์ มีนามว่าพระบรมไตรโลกนาถ เมื่อพระบรมไตรโลกนาสวรรนคตก็ไปเป็นพรหมตามเดิมไม่ช้าไม่นานก็ต้องเสด็จลงมาเกิดอีก

    ✴️ #วาระที่10 เกิดสมัยพระนารายณ์ ท่านลงมาเกิดเป็น"ขุนเหล็ก"
    หรือพระยาโกษาเหล็ก เกิดควบคู่กับสมเด็จพระนารายณ์มหาราช รุ่นราวคราวเดียวกัน เป็นเพื่อนเล่นกัน ขุนเหล็กมีน้องชายชื่อว่าขุนปาน หรือพระยาโกษาปาน ทั้งสองพระองค์ เป็นที่ไว้วางใจของสมเด็จพระนารายณ์มาก
    #บั้นปลายชีวิตลากิจราชการไปจำศีลเจริญภาวนาวิปัสสนาญาณ ให้ทาน ตายจากเจ้าพระยาโกษาเหล็ก ก็เข้าฌานกลับไปเป็นพรหมตามเดิม
    (#ท่านไม่ได้ตายตามประวัติศาสตร์เขียนไว้หรอกนะ)

    ✴️ #วาระที่11 ลงมาเกิดมาเป็นขุนดาบคู่ใจของพระเจ้าตากสินมหาราช คือพระยาศรีสิทธิสงคราม อยู่ในกองทัพหลวงประจำองค์พระเจ้าตากสินมหาราชสมัยกรุงธนบุรี ก่อนกรุงศรีจะแตก เป็นกำนันจัน ชื่อว่า #จันหนวดเขี้ยว เป็นที่รักของประชาชน ต่อมาค่ายบางระจันแตก
    ✴️ #นายจันหนวดเขี้ยวไม่ได้ตายไปตามประวัติศาสตร์ที่เขียน
    นายจันหนวดเขี้ยวจึงมารวมกำลังกับพระเจ้าตากสินกู้ชาติ ต่อมาพระเจ้าตากสินจึงเปลี่ยนชื่อให้จากกำนันจัน มาเป็นพระยาศรีสิทธิสงคราม ประจำกองทัพหลวง (ด้วง- นายจันหนวดเขี้ยว- พระยาศรีสิทธิสงคราม -เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก-และ #สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก

    ✴️ #วาระที่12 มาเกิดเป็น รัชกาลที่ 5 แห่ง กรุงรัตนโกสินทร์

    ✴️ #วาระที่13 ชาติสุดท้ายเกิดมาเป็น
    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

    🖋️📚หนังสือเรื่องจริงอิงนิทานพิเศษ
    ⚜️พระราชพรหมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)​⚜️
    🖋️📚คัดลอกแบ่งปันเป็นธรรมทานโดย
    🧘จิตหนึ่งประภัสสร สุดยอดคือพระนิพพาน
    ⚜️ #อดีตชาติหลวงพ่อฤาษี 13 ชาติ..⚜️ 🔱#ที่เกิดตั้งแต่สมัยโยนกนคร #จนถึงรัตนโกสินทร์🔱 ลงมาเกิดเพื่อรวมไทยให้เป็นปึกแผ่น และเพื่อช่วยเหลือคนไทย และช่วยให้พระพุทธศาสนามีอายุครบ 5000 ปี ✴️ #วาระที่ 1 เกิดเป็นพระเจ้ามังราย รัชกาลที่ 2 แห่งโยนกนคร เป็นลูกชายพระเจ้าอชุตราช ในชาตินั้นท่านเป็นผู้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่ดอยตุง โดยการนำมาของพระมหากัสสปะพร้อมด้วยพระอรหันต์ 500 องค์ ✴️ #วาระที่ 2 เกิดสมัยโยนก เป็นเณรน้อยอายุ 7 ปีทรงฌานสมาบัติ แต่ได้ถูกขอมดำกระทำย่ำยี เวลานั้นขอมดำมายึดเมืองโยนกนครได้แล้ว แล้วทำการกดขี่ข่มเหงรังแกคนไทย เณรจึงเข้าฌานสมาบัติ ตั้งจิตอธิษฐานว่า เกิดคราวหน้าขอให้ได้เกิดมาเป็นคนไทย และได้ช่วยคนไทยทุกแง่ทุกมุม มิไม่ใช่เฉพาะการรบ การเศรษฐกิจ การปกครอง แม้แต่การรบทุกอย่างให้ครบถ้วน ให้คนไทยพ้นจากความเป็นทาส "พอตั้งจิตอธิษฐานก็ไม่ถอนจากฌานสมาบัติ ก็นั่งทรงฌานอย่างนั้นจนตาย แล้วไปเกิดเป็นพรหม ชั้นที่ 11 ✴️ #การเกิดครั้งที่3 หลังจากตายจากเณรน้อย ไปเป็นพรหมชั้นที่11ได้เพียง1ปีเศษ ก็ลงมาเกิดเป็น "พระเจ้าพรหม มหาราช" เป็นโอรสของพระเจ้าพังคราช รัชกาลที่ 37 ในสมัยโยนกนคร มีพี่ชายชื่อทุกภิขะ( บริเวณพระธาตุจอมกิตติ ดอยตุง เป็นเขตเมืองโยนกนคร) เกิดพร้อมสหชาติที่เป็นพรหม เทวดา ลงมาเกิดพร้อมกัน 250 คน ทั้ง 250 คน เกิดเป็นผู้ชายทั้งหมด พรหมอีกองค์นึงเกิดเป็นช้างประกายแก้ว ช้างคู่บารมีพระเจ้าพรหม ลงมาเกิดเพื่อกู้ชาติให้พ้นความเป็นทาสจากขอมดำ และทำสำเร็จด้วย ทุกวันนี้วันอาสาฬหบูชาที่วัดท่าซุงก็มีการแห่ชัยชนะพระเจ้าพรหมทุกๆปี ✴️ #การเกิดในวาระที่4 หลังจากที่ตายจากการเป็นพระเจ้าพรหมสมัยโยนก แล้วเข้าฌาณตาย กลับไปเป็นพรหม เวลาผ่านไปอีก 800 ปีลงมาเกิดเป็นพระร่วงโรจนฤทธิ์ ตอนเด็กมีนามว่าอรุณกุมาร เป็นผู้ที่มีฤทธิ์มาก มีวิชาอาคม มีวาจาสิทธิ์ สามารถเสกขอมให้เป็นหินได้ และขยายอาณาเขตของประเทศไทย (ตอนนั้นยังไม่เป็นเทศไทย )กว้างใหญ่ไพศาล ยึดมอญ พม่าขอมไว้ได้หมด อาณาจักรยาวเหยียด เวลานั้นคือก่อนเมืองสุโขทัย 700 ปีเศษ ก่อนหน้าพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ 700ประมาณปีเศษ ✴️ #วาระที่5 เกิดเป็น"พ่อขุนศรีเมืองมาน"( เป็นพ่อของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ แห่งอณาจักรสุโขทัย) ตายจากพระร่วงโรจนฤทธิ์ก็เข้าฌานตาย กลับไปเป็นพรหมเช่นเดิม กลับมาเกิดวาระที่5 เป็นพ่อขุนศรีเมืองมาน มีสหชาติเกิดมาด้วยคือ พ่อขุนน้าวนําถมลงมาช่วยกู้ชาติไทยจากขอมดำ ขยายอาณาเขตประเทศไทยไปถึงสิงคโปร์ มีภรรยาชื่อพรรณวดีศรีโสภาศ เป็นเมียเอก และมีเมียราษฏร์อีก 29 คน พอเมียเอกตาย ก็บวชไม่สึกอีกเลย เข้าฌานตายแล้วไปเกิดเป็นพรหมตามเดิม ✴️ #วาระที่6 "ขุนหลวงพระงั่ว" รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงศรีอยุธยา ต่อมาคนไทยเกิดแบ่งเป็น 2 พวก จึงต้องลงมาเกิดเพื่อรวมไทยให้เป็น1เดียว ลงมาเกิดในราชวงศ์อู่ทอง เป็น"ขุนหลวงพระงั่ว" มาปลุกจิตสำนึกคนไทยให้รู้จักบาปบุญคุณโทษ จึงนิมนต์พระสงฆ์มาร่าง"ไตรภูมิพระร่วง ไตรภูมิพระร่วง พระร่วงไม่ได้ทำ ท่านเป็นเพียงแต่ศาสนูปถัมภ์ ไตรภูมิพระร่วง เป็นการร่วมมือกันระหว่างสุโขทัยและกรุงศรี และยังได้ร่วมกันสร้างพระพุทธชินราชพระพุทธชินสีห์ และพระศรีศากยมุนีขึ้นมาเป็นมิ่งขวัญของเมืองไทย เป็นการแสดงสัญลักษณ์ว่าประเทศไทยจะทรงตัวได้ด้วยเหตุ 3 อย่างด้วยกัน คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พระพุทธชินราช หมายถึง พระมหากษัตริย์ พระพุทธชินสีห์ หมายถึง พระศาสนา พระศากยมุนี หมายถึง ชาติ การสร้างครั้งนี้ก็เป็นหน้าที่ของท้าวโกสีย์สักกะเทวราชให้พระวิษณุกรรมมาช่วย ขุนหลวงพระงั่วได้มารวมสุโขทัยกับอยุธยาเป็นประเทศเดียวกัน ✴️ #เกิดวาระที่7 ต่อมาลงมาเกิดในสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงศรีฯ ครั้งนี้เป็นลูกชาวบ้าน แต่เป็นลูกมหาเศรษฐี มีแม่ชื่อปิ่นทอง พ่อชื่อกองแก้ว ท่านเองเป็นลูกชายชื่ออำไพ ลงมาช่วยคน ให้เงินให้ทอง ให้ที่ทำกิน ช่วยการเกษตร ช่วยทุกสิ่งทุกอย่าง ให้การศึกษา จนคนไทยเป็นปึกแผ่นแน่นหนาพอ ประชาชนมีความสุข และท่านก็ตายไปเกิดเป็นพรหมตามเดิม ✴️ #วาระที่ 8 เกิดมาในตระกูลของแม่ทัพสมเด็จพระพันวสา คือสมเด็จพระอินทราธิราช มีนามว่า "ขุนไกร" (#ขุนแผน) เป็นอันว่าชาตินี้ขุนแผนต้องรวบรวมไทยอาศัยที่มีวิชาการมาก เป็นนักรบเก่ง ล่องหนหายตัวได้ สะเดาะกลอนได้ ทำหุ่นพยนต์ได้ ทำอะไรได้แปลกๆ การยกทัพไปก็ไม่ต้องใช้กำลังคนมาก ก็สามารถจะสู้ข้าศึกได้ ✴️ #วาระที่ 9 เกิดมาเป็นลูกกษัตริย์ มีนามว่าพระบรมไตรโลกนาถ เมื่อพระบรมไตรโลกนาสวรรนคตก็ไปเป็นพรหมตามเดิมไม่ช้าไม่นานก็ต้องเสด็จลงมาเกิดอีก ✴️ #วาระที่10 เกิดสมัยพระนารายณ์ ท่านลงมาเกิดเป็น"ขุนเหล็ก" หรือพระยาโกษาเหล็ก เกิดควบคู่กับสมเด็จพระนารายณ์มหาราช รุ่นราวคราวเดียวกัน เป็นเพื่อนเล่นกัน ขุนเหล็กมีน้องชายชื่อว่าขุนปาน หรือพระยาโกษาปาน ทั้งสองพระองค์ เป็นที่ไว้วางใจของสมเด็จพระนารายณ์มาก #บั้นปลายชีวิตลากิจราชการไปจำศีลเจริญภาวนาวิปัสสนาญาณ ให้ทาน ตายจากเจ้าพระยาโกษาเหล็ก ก็เข้าฌานกลับไปเป็นพรหมตามเดิม (#ท่านไม่ได้ตายตามประวัติศาสตร์เขียนไว้หรอกนะ) ✴️ #วาระที่11 ลงมาเกิดมาเป็นขุนดาบคู่ใจของพระเจ้าตากสินมหาราช คือพระยาศรีสิทธิสงคราม อยู่ในกองทัพหลวงประจำองค์พระเจ้าตากสินมหาราชสมัยกรุงธนบุรี ก่อนกรุงศรีจะแตก เป็นกำนันจัน ชื่อว่า #จันหนวดเขี้ยว เป็นที่รักของประชาชน ต่อมาค่ายบางระจันแตก ✴️ #นายจันหนวดเขี้ยวไม่ได้ตายไปตามประวัติศาสตร์ที่เขียน นายจันหนวดเขี้ยวจึงมารวมกำลังกับพระเจ้าตากสินกู้ชาติ ต่อมาพระเจ้าตากสินจึงเปลี่ยนชื่อให้จากกำนันจัน มาเป็นพระยาศรีสิทธิสงคราม ประจำกองทัพหลวง (ด้วง- นายจันหนวดเขี้ยว- พระยาศรีสิทธิสงคราม -เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก-และ #สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ✴️ #วาระที่12 มาเกิดเป็น รัชกาลที่ 5 แห่ง กรุงรัตนโกสินทร์ ✴️ #วาระที่13 ชาติสุดท้ายเกิดมาเป็น หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง 🖋️📚หนังสือเรื่องจริงอิงนิทานพิเศษ ⚜️พระราชพรหมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)​⚜️ 🖋️📚คัดลอกแบ่งปันเป็นธรรมทานโดย 🧘จิตหนึ่งประภัสสร สุดยอดคือพระนิพพาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 433 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,562
    วันอังคาร: แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง
    วันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๗ (29 October 2024)

    Photo Album Set 2/2
    ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    11. วัดลาดทราย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
    (ทอดกฐินสามัคคี 03 พ.ย.67)
    12. วัดศรีมงคล อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา
    (ทอดกฐินสามัคคี 03 พ.ย.67)
    13. วัดศรีทอง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์
    (ทอดกฐินสามัคคี 03 พ.ย.67)
    14. วัดศรีนวล เขตหนองแขม กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินสามัคคี 03 พ.ย.67)
    15. วัดศรีรัตนาราม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 03 พ.ย.67)
    16. วัดศิริอุปถัมภ์ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย
    (ทอดกฐินสามัคคี 03 พ.ย.67)
    17. วัดสว่างภพ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 03 พ.ย.67)
    18. วัดสัจจธรรมอุเทนถวาย อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 03 พ.ย.67)
    19. วัดหนองคูพัฒนา อ.สังขะ จ.สุรินทร์
    (ทอดกฐินสามัคคี 03 พ.ย.67)
    20. วัดหนองนกไข่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
    (ทอดกฐินสามัคคี 03 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 106 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,562 วันอังคาร: แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง วันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๗ (29 October 2024) Photo Album Set 2/2 ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 11. วัดลาดทราย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา (ทอดกฐินสามัคคี 03 พ.ย.67) 12. วัดศรีมงคล อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา (ทอดกฐินสามัคคี 03 พ.ย.67) 13. วัดศรีทอง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ (ทอดกฐินสามัคคี 03 พ.ย.67) 14. วัดศรีนวล เขตหนองแขม กรุงเทพฯ (ทอดกฐินสามัคคี 03 พ.ย.67) 15. วัดศรีรัตนาราม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 03 พ.ย.67) 16. วัดศิริอุปถัมภ์ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย (ทอดกฐินสามัคคี 03 พ.ย.67) 17. วัดสว่างภพ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี (ทอดกฐินสามัคคี 03 พ.ย.67) 18. วัดสัจจธรรมอุเทนถวาย อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 03 พ.ย.67) 19. วัดหนองคูพัฒนา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ (ทอดกฐินสามัคคี 03 พ.ย.67) 20. วัดหนองนกไข่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร (ทอดกฐินสามัคคี 03 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 106 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts