โดรนจิ๋วเลียนแบบค้างคาว อาจเป็นฮีโร่ในภารกิจช่วยชีวิตกลางพายุและความมืด
ในห้องทดลองที่ดูเหมือนฉากฮาโลวีน—มีหมอก ไฟสลัว และค้างคาวปลอม—นักวิจัยจาก Worcester Polytechnic Institute (WPI) กำลังพัฒนาโดรนขนาดเล็กที่อาจเปลี่ยนโลกของการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในสถานการณ์สุดขั้ว เช่น พายุกลางคืน ควันไฟ หรือหิมะตกหนัก
แรงบันดาลใจของพวกเขาคือ “ค้างคาว” สัตว์ที่สามารถบินในความมืดโดยใช้การสะท้อนเสียงหรือ echolocation นักวิจัยนำหลักการนี้มาสร้างโดรนที่ใช้เซนเซอร์อัลตราโซนิกคล้ายกับที่ใช้ในก๊อกน้ำอัตโนมัติ เพื่อส่งคลื่นเสียงและวิเคราะห์เสียงสะท้อนในการหลบหลีกสิ่งกีดขวาง
โดรนจิ๋วนี้มีขนาดเท่าฝ่ามือ ใช้วัสดุราคาถูก และสามารถบินในที่มืดได้โดยไม่ต้องพึ่งแสงหรือกล้อง ทำให้เหมาะกับภารกิจช่วยชีวิตในสถานการณ์ที่โดรนทั่วไปใช้งานไม่ได้ เช่น ไฟไหม้กลางคืน หรือพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้า
นอกจากนั้น นักวิจัยยังใช้ AI เพื่อช่วยให้โดรนสามารถกรองเสียงรบกวนจากใบพัด และเรียนรู้การตีความเสียงสะท้อนอย่างแม่นยำมากขึ้น แม้ยังไม่สามารถเทียบชั้นกับค้างคาวที่สามารถตรวจจับเส้นผมมนุษย์จากระยะหลายเมตรได้ แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญ
ในอนาคต โดรนเหล่านี้อาจทำงานเป็น “ฝูงอัตโนมัติ” ที่สามารถตัดสินใจเองว่าจะค้นหาตรงไหน โดยใช้ข้อมูลจากกรณีผู้สูญหายในอดีตมาสร้างแบบจำลองพฤติกรรมของผู้ประสบภัย
โดรนจิ๋วเลียนแบบค้างคาวใช้ echolocation เพื่อบินในความมืด
ใช้เซนเซอร์อัลตราโซนิกในการตรวจจับสิ่งกีดขวาง
ไม่ต้องพึ่งกล้องหรือแสงไฟในการทำงาน
เหมาะกับภารกิจช่วยชีวิตในพื้นที่มืดหรือมีควัน
โดรนมีขนาดเล็ก ราคาถูก และประหยัดพลังงาน
ใช้วัสดุระดับงานอดิเรกในการประกอบ
สามารถบินในห้องที่มีหมอกและแสงน้อยได้อย่างแม่นยำ
ใช้ AI เพื่อปรับปรุงการรับเสียงและการตัดสินใจ
ลดเสียงรบกวนจากใบพัดด้วยเปลือกพิมพ์ 3D
สอนให้โดรนแยกแยะเสียงสะท้อนที่สำคัญ
นักวิจัยพัฒนาโมเดลการค้นหาจากข้อมูลผู้สูญหาย
ใช้ข้อมูลพฤติกรรมของผู้หลงทางในป่าเพื่อกำหนดเส้นทางค้นหา
โดรนสามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ในการค้นหาแบบอัตโนมัติ
โดรนทั่วไปยังมีข้อจำกัดในการใช้งานในสถานการณ์สุดขั้ว
ขนาดใหญ่ เทอะทะ และไม่สามารถบินในที่มืดหรือมีควันได้
ต้องพึ่งพาการควบคุมจากมนุษย์และแสงไฟในการนำทาง
การพัฒนาโดรนให้เทียบเท่าค้างคาวยังต้องใช้เวลา
ค้างคาวสามารถกรองเสียงสะท้อนเฉพาะที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ
ความสามารถในการตรวจจับของโดรนยังห่างไกลจากธรรมชาติ
https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/31/how-tiny-drones-inspired-by-bats-could-save-lives-in-dark-and-stormy-conditions
ในห้องทดลองที่ดูเหมือนฉากฮาโลวีน—มีหมอก ไฟสลัว และค้างคาวปลอม—นักวิจัยจาก Worcester Polytechnic Institute (WPI) กำลังพัฒนาโดรนขนาดเล็กที่อาจเปลี่ยนโลกของการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในสถานการณ์สุดขั้ว เช่น พายุกลางคืน ควันไฟ หรือหิมะตกหนัก
แรงบันดาลใจของพวกเขาคือ “ค้างคาว” สัตว์ที่สามารถบินในความมืดโดยใช้การสะท้อนเสียงหรือ echolocation นักวิจัยนำหลักการนี้มาสร้างโดรนที่ใช้เซนเซอร์อัลตราโซนิกคล้ายกับที่ใช้ในก๊อกน้ำอัตโนมัติ เพื่อส่งคลื่นเสียงและวิเคราะห์เสียงสะท้อนในการหลบหลีกสิ่งกีดขวาง
โดรนจิ๋วนี้มีขนาดเท่าฝ่ามือ ใช้วัสดุราคาถูก และสามารถบินในที่มืดได้โดยไม่ต้องพึ่งแสงหรือกล้อง ทำให้เหมาะกับภารกิจช่วยชีวิตในสถานการณ์ที่โดรนทั่วไปใช้งานไม่ได้ เช่น ไฟไหม้กลางคืน หรือพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้า
นอกจากนั้น นักวิจัยยังใช้ AI เพื่อช่วยให้โดรนสามารถกรองเสียงรบกวนจากใบพัด และเรียนรู้การตีความเสียงสะท้อนอย่างแม่นยำมากขึ้น แม้ยังไม่สามารถเทียบชั้นกับค้างคาวที่สามารถตรวจจับเส้นผมมนุษย์จากระยะหลายเมตรได้ แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญ
ในอนาคต โดรนเหล่านี้อาจทำงานเป็น “ฝูงอัตโนมัติ” ที่สามารถตัดสินใจเองว่าจะค้นหาตรงไหน โดยใช้ข้อมูลจากกรณีผู้สูญหายในอดีตมาสร้างแบบจำลองพฤติกรรมของผู้ประสบภัย
โดรนจิ๋วเลียนแบบค้างคาวใช้ echolocation เพื่อบินในความมืด
ใช้เซนเซอร์อัลตราโซนิกในการตรวจจับสิ่งกีดขวาง
ไม่ต้องพึ่งกล้องหรือแสงไฟในการทำงาน
เหมาะกับภารกิจช่วยชีวิตในพื้นที่มืดหรือมีควัน
โดรนมีขนาดเล็ก ราคาถูก และประหยัดพลังงาน
ใช้วัสดุระดับงานอดิเรกในการประกอบ
สามารถบินในห้องที่มีหมอกและแสงน้อยได้อย่างแม่นยำ
ใช้ AI เพื่อปรับปรุงการรับเสียงและการตัดสินใจ
ลดเสียงรบกวนจากใบพัดด้วยเปลือกพิมพ์ 3D
สอนให้โดรนแยกแยะเสียงสะท้อนที่สำคัญ
นักวิจัยพัฒนาโมเดลการค้นหาจากข้อมูลผู้สูญหาย
ใช้ข้อมูลพฤติกรรมของผู้หลงทางในป่าเพื่อกำหนดเส้นทางค้นหา
โดรนสามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ในการค้นหาแบบอัตโนมัติ
โดรนทั่วไปยังมีข้อจำกัดในการใช้งานในสถานการณ์สุดขั้ว
ขนาดใหญ่ เทอะทะ และไม่สามารถบินในที่มืดหรือมีควันได้
ต้องพึ่งพาการควบคุมจากมนุษย์และแสงไฟในการนำทาง
การพัฒนาโดรนให้เทียบเท่าค้างคาวยังต้องใช้เวลา
ค้างคาวสามารถกรองเสียงสะท้อนเฉพาะที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ
ความสามารถในการตรวจจับของโดรนยังห่างไกลจากธรรมชาติ
https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/31/how-tiny-drones-inspired-by-bats-could-save-lives-in-dark-and-stormy-conditions
🦇 โดรนจิ๋วเลียนแบบค้างคาว อาจเป็นฮีโร่ในภารกิจช่วยชีวิตกลางพายุและความมืด
ในห้องทดลองที่ดูเหมือนฉากฮาโลวีน—มีหมอก ไฟสลัว และค้างคาวปลอม—นักวิจัยจาก Worcester Polytechnic Institute (WPI) กำลังพัฒนาโดรนขนาดเล็กที่อาจเปลี่ยนโลกของการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในสถานการณ์สุดขั้ว เช่น พายุกลางคืน ควันไฟ หรือหิมะตกหนัก
แรงบันดาลใจของพวกเขาคือ “ค้างคาว” สัตว์ที่สามารถบินในความมืดโดยใช้การสะท้อนเสียงหรือ echolocation นักวิจัยนำหลักการนี้มาสร้างโดรนที่ใช้เซนเซอร์อัลตราโซนิกคล้ายกับที่ใช้ในก๊อกน้ำอัตโนมัติ เพื่อส่งคลื่นเสียงและวิเคราะห์เสียงสะท้อนในการหลบหลีกสิ่งกีดขวาง
โดรนจิ๋วนี้มีขนาดเท่าฝ่ามือ ใช้วัสดุราคาถูก และสามารถบินในที่มืดได้โดยไม่ต้องพึ่งแสงหรือกล้อง ทำให้เหมาะกับภารกิจช่วยชีวิตในสถานการณ์ที่โดรนทั่วไปใช้งานไม่ได้ เช่น ไฟไหม้กลางคืน หรือพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้า
นอกจากนั้น นักวิจัยยังใช้ AI เพื่อช่วยให้โดรนสามารถกรองเสียงรบกวนจากใบพัด และเรียนรู้การตีความเสียงสะท้อนอย่างแม่นยำมากขึ้น แม้ยังไม่สามารถเทียบชั้นกับค้างคาวที่สามารถตรวจจับเส้นผมมนุษย์จากระยะหลายเมตรได้ แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญ
ในอนาคต โดรนเหล่านี้อาจทำงานเป็น “ฝูงอัตโนมัติ” ที่สามารถตัดสินใจเองว่าจะค้นหาตรงไหน โดยใช้ข้อมูลจากกรณีผู้สูญหายในอดีตมาสร้างแบบจำลองพฤติกรรมของผู้ประสบภัย
✅ โดรนจิ๋วเลียนแบบค้างคาวใช้ echolocation เพื่อบินในความมืด
➡️ ใช้เซนเซอร์อัลตราโซนิกในการตรวจจับสิ่งกีดขวาง
➡️ ไม่ต้องพึ่งกล้องหรือแสงไฟในการทำงาน
➡️ เหมาะกับภารกิจช่วยชีวิตในพื้นที่มืดหรือมีควัน
✅ โดรนมีขนาดเล็ก ราคาถูก และประหยัดพลังงาน
➡️ ใช้วัสดุระดับงานอดิเรกในการประกอบ
➡️ สามารถบินในห้องที่มีหมอกและแสงน้อยได้อย่างแม่นยำ
✅ ใช้ AI เพื่อปรับปรุงการรับเสียงและการตัดสินใจ
➡️ ลดเสียงรบกวนจากใบพัดด้วยเปลือกพิมพ์ 3D
➡️ สอนให้โดรนแยกแยะเสียงสะท้อนที่สำคัญ
✅ นักวิจัยพัฒนาโมเดลการค้นหาจากข้อมูลผู้สูญหาย
➡️ ใช้ข้อมูลพฤติกรรมของผู้หลงทางในป่าเพื่อกำหนดเส้นทางค้นหา
➡️ โดรนสามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ในการค้นหาแบบอัตโนมัติ
‼️ โดรนทั่วไปยังมีข้อจำกัดในการใช้งานในสถานการณ์สุดขั้ว
⛔ ขนาดใหญ่ เทอะทะ และไม่สามารถบินในที่มืดหรือมีควันได้
⛔ ต้องพึ่งพาการควบคุมจากมนุษย์และแสงไฟในการนำทาง
‼️ การพัฒนาโดรนให้เทียบเท่าค้างคาวยังต้องใช้เวลา
⛔ ค้างคาวสามารถกรองเสียงสะท้อนเฉพาะที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ
⛔ ความสามารถในการตรวจจับของโดรนยังห่างไกลจากธรรมชาติ
https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/31/how-tiny-drones-inspired-by-bats-could-save-lives-in-dark-and-stormy-conditions
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
42 มุมมอง
0 รีวิว