• เรื่องเล่าจากบัตรเครดิตที่พูดได้: เมื่อ Alibaba เปลี่ยนเครื่องบันทึกเสียงให้กลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะ

    ในงานครบรอบ 10 ปีของ DingTalk เมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2025 Alibaba เปิดตัว DingTalk A1 ซึ่งเป็นเครื่องบันทึกเสียงขนาดเท่าบัตรเครดิตที่อัดแน่นด้วยความสามารถด้าน AI โดยใช้โมเดลจาก Tongyi AI Lab ที่เทรนด้วยเสียงกว่า 100 ล้านชั่วโมง ทำให้สามารถเข้าใจได้มากกว่า 100 ภาษาและ 30 สำเนียงจีน รวมถึงศัพท์เฉพาะจากกว่า 200 อุตสาหกรรม

    A1 ไม่ได้แค่บันทึกเสียง แต่สามารถสรุปประชุม, แปลภาษาแบบเรียลไทม์, วิเคราะห์เนื้อหา และสร้างเอกสารในรูปแบบต่าง ๆ เช่น minutes, to-do list หรือแม้แต่ mindmap โดยไม่ต้องพึ่งมนุษย์เลยแม้แต่นิดเดียว

    เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง Plaud Note Pro (US$179) และ Mobvoi TicNote (US$159.99) แล้ว DingTalk A1 มีราคาถูกกว่าอย่างเห็นได้ชัดที่ 499–799 หยวน (US$69.98–111.8) และยังมีฟีเจอร์ที่โดดเด่น เช่น OLED สี, USB-C, การเชื่อมต่อกับแอป DingTalk โดยตรง และการรองรับโมเดล AI ชั้นนำจากจีน เช่น Qwen3-235B, DeepSeek-V3

    ตลาด AI hardware ในจีนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 1.1 ล้านล้านหยวนในปีนี้ และเพิ่มเป็น 2.5 ล้านล้านภายในปี 2030 ซึ่งเป็นผลจากนโยบายสนับสนุนของรัฐบาล, การพึ่งพาเทคโนโลยีภายในประเทศ และการนำ AI ไปใช้ในอุตสาหกรรมแบบกว้างขวาง

    การเปิดตัว DingTalk A1
    เปิดตัวในงานครบรอบ 10 ปีของ DingTalk
    ขนาดเท่าบัตรเครดิต หนาเพียง 3.8 มม. น้ำหนัก ~40 กรัม
    มี OLED สี, USB-C, รองรับการสรุป, แปล, วิเคราะห์, สร้าง mindmap

    ความสามารถด้าน AI
    เทรนด้วยเสียงกว่า 100 ล้านชั่วโมงจาก Tongyi AI Lab
    รองรับมากกว่า 100 ภาษา, 30 สำเนียงจีน, และศัพท์เฉพาะจาก 200 อุตสาหกรรม
    ใช้โมเดล AI ชั้นนำ เช่น Qwen, DeepSeek, QwQ-plus

    การเปรียบเทียบกับคู่แข่ง
    Plaud Note Pro ราคา US$179, ใช้ GPT-4.1, Claude 4, Gemini 2.5
    TicNote ราคา US$159.99, ใช้ DeepSeek-V3, Kimi-k2, รองรับ mindmap และ insight
    DingTalk A1 ถูกกว่า, เชื่อมกับแอป DingTalk โดยตรง, ไม่ต้องติดตั้งแยก

    แนวโน้มตลาด AI hardware ในจีน
    มูลค่าตลาดปี 2025 อยู่ที่ 1.1 ล้านล้านหยวน
    คาดว่าจะเพิ่มเป็น 2.5 ล้านล้านหยวนภายในปี 2030
    การเติบโตมาจากนโยบายรัฐ, การพึ่งพาเทคโนโลยีในประเทศ, และการนำ AI ไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/04/chinas-latest-ai-gadget-is-a-credit-card-sized-recorder-from-alibabas-dingtalk
    🎙️ เรื่องเล่าจากบัตรเครดิตที่พูดได้: เมื่อ Alibaba เปลี่ยนเครื่องบันทึกเสียงให้กลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะ ในงานครบรอบ 10 ปีของ DingTalk เมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2025 Alibaba เปิดตัว DingTalk A1 ซึ่งเป็นเครื่องบันทึกเสียงขนาดเท่าบัตรเครดิตที่อัดแน่นด้วยความสามารถด้าน AI โดยใช้โมเดลจาก Tongyi AI Lab ที่เทรนด้วยเสียงกว่า 100 ล้านชั่วโมง ทำให้สามารถเข้าใจได้มากกว่า 100 ภาษาและ 30 สำเนียงจีน รวมถึงศัพท์เฉพาะจากกว่า 200 อุตสาหกรรม A1 ไม่ได้แค่บันทึกเสียง แต่สามารถสรุปประชุม, แปลภาษาแบบเรียลไทม์, วิเคราะห์เนื้อหา และสร้างเอกสารในรูปแบบต่าง ๆ เช่น minutes, to-do list หรือแม้แต่ mindmap โดยไม่ต้องพึ่งมนุษย์เลยแม้แต่นิดเดียว เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง Plaud Note Pro (US$179) และ Mobvoi TicNote (US$159.99) แล้ว DingTalk A1 มีราคาถูกกว่าอย่างเห็นได้ชัดที่ 499–799 หยวน (US$69.98–111.8) และยังมีฟีเจอร์ที่โดดเด่น เช่น OLED สี, USB-C, การเชื่อมต่อกับแอป DingTalk โดยตรง และการรองรับโมเดล AI ชั้นนำจากจีน เช่น Qwen3-235B, DeepSeek-V3 ตลาด AI hardware ในจีนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 1.1 ล้านล้านหยวนในปีนี้ และเพิ่มเป็น 2.5 ล้านล้านภายในปี 2030 ซึ่งเป็นผลจากนโยบายสนับสนุนของรัฐบาล, การพึ่งพาเทคโนโลยีภายในประเทศ และการนำ AI ไปใช้ในอุตสาหกรรมแบบกว้างขวาง ✅ การเปิดตัว DingTalk A1 ➡️ เปิดตัวในงานครบรอบ 10 ปีของ DingTalk ➡️ ขนาดเท่าบัตรเครดิต หนาเพียง 3.8 มม. น้ำหนัก ~40 กรัม ➡️ มี OLED สี, USB-C, รองรับการสรุป, แปล, วิเคราะห์, สร้าง mindmap ✅ ความสามารถด้าน AI ➡️ เทรนด้วยเสียงกว่า 100 ล้านชั่วโมงจาก Tongyi AI Lab ➡️ รองรับมากกว่า 100 ภาษา, 30 สำเนียงจีน, และศัพท์เฉพาะจาก 200 อุตสาหกรรม ➡️ ใช้โมเดล AI ชั้นนำ เช่น Qwen, DeepSeek, QwQ-plus ✅ การเปรียบเทียบกับคู่แข่ง ➡️ Plaud Note Pro ราคา US$179, ใช้ GPT-4.1, Claude 4, Gemini 2.5 ➡️ TicNote ราคา US$159.99, ใช้ DeepSeek-V3, Kimi-k2, รองรับ mindmap และ insight ➡️ DingTalk A1 ถูกกว่า, เชื่อมกับแอป DingTalk โดยตรง, ไม่ต้องติดตั้งแยก ✅ แนวโน้มตลาด AI hardware ในจีน ➡️ มูลค่าตลาดปี 2025 อยู่ที่ 1.1 ล้านล้านหยวน ➡️ คาดว่าจะเพิ่มเป็น 2.5 ล้านล้านหยวนภายในปี 2030 ➡️ การเติบโตมาจากนโยบายรัฐ, การพึ่งพาเทคโนโลยีในประเทศ, และการนำ AI ไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/04/chinas-latest-ai-gadget-is-a-credit-card-sized-recorder-from-alibabas-dingtalk
    WWW.THESTAR.COM.MY
    China’s latest AI gadget is a credit card-sized recorder from Alibaba’s DingTalk
    Transcription capability developed with Alibaba's Tongyi AI lab, using over 100 million hours of audio content for training.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากคูปองพลังประมวลผล: เมื่อรัฐบาลจีนแจกเครดิตให้บริษัทเล็ก ๆ ใช้ GPU ระดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์

    ในปี 2025 รัฐบาลจีนเริ่มขยายโครงการ “คูปองพลังประมวลผล” ไปยังหลายเมืองทั่วประเทศ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู เซินเจิ้น หนิงโป และซานตง โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (SMEs) เข้าถึงการฝึกโมเดล AI ได้ในราคาที่ถูกลงอย่างมาก

    ตัวอย่างเช่น เซี่ยงไฮ้จัดสรรงบประมาณกว่า 600 ล้านหยวน (~84 ล้านดอลลาร์) เพื่อสนับสนุนค่าเช่า GPU สูงสุดถึง 80% สำหรับการฝึกโมเดล AI และยังมีอีก 100 ล้านหยวนสำหรับการฝึก LLM โดยเฉพาะ ส่วนเฉิงตูซึ่งเป็นเมืองนำร่องตั้งแต่ปี 2023 ก็ขยายโครงการไปยังสถาบันวิจัยด้วยงบอีก 100 ล้านหยวน

    คูปองเหล่านี้สามารถนำไปใช้กับศูนย์ข้อมูลระดับชาติหรือท้องถิ่นที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตะวันตกของจีนตามยุทธศาสตร์ “Eastern Data, Western Computing” ที่ใช้ไฟฟ้าราคาถูกในตะวันตกเพื่อรองรับความต้องการจากเมืองชายฝั่ง

    โครงการนี้เกิดจากนโยบาย “Implementation Opinions on Promoting the High-Quality Development of the Data Labeling Industry” ที่ประกาศในเดือนธันวาคม 2024 โดยมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุน R&D ของบริษัทเล็ก และเพิ่มการใช้ประโยชน์จากศูนย์ข้อมูลที่ยังว่างอยู่มากถึง 70–80%

    โครงการคูปองพลังประมวลผลของจีน
    แจกคูปองให้ SMEs ใช้ GPU สำหรับฝึกโมเดล AI ในราคาถูก
    ครอบคลุมเมืองใหญ่ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู เซินเจิ้น หนิงโป ซานตง
    เซี่ยงไฮ้ให้ส่วนลดสูงสุด 80% และมีงบเฉพาะสำหรับ LLM training

    เป้าหมายของโครงการ
    ลดต้นทุน R&D สำหรับบริษัทขนาดเล็ก
    เพิ่มการใช้ประโยชน์จากศูนย์ข้อมูลที่ยังว่างอยู่
    สนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรม AI ภายในประเทศ

    โครงสร้างพื้นฐานที่รองรับ
    ใช้ศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ตะวันตกของจีนตามยุทธศาสตร์ “Eastern Data, Western Computing”
    ศูนย์ข้อมูลบางแห่งมีการใช้งานเพียง 20–30% ก่อนโครงการนี้
    มีแผนสร้างเครือข่าย unified compute ระดับประเทศเพื่อกระจายโหลด

    การขยายตัวของโครงการ
    เฉิงตูขยายคูปองไปยังสถาบันวิจัยด้วยงบ 100 ล้านหยวน
    ซานตงจัดสรรงบเบื้องต้น 30 ล้านหยวน และเตรียมเพิ่มอีก 1 พันล้านหยวน
    ปักกิ่งเริ่มเปิดรับสมัครผู้ขอรับคูปองแล้ว

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/china-subsidizes-ai-computing-for-small-domestic-companies-computing-power-vouchers-spread-across-multiple-chinese-cities
    🎙️ เรื่องเล่าจากคูปองพลังประมวลผล: เมื่อรัฐบาลจีนแจกเครดิตให้บริษัทเล็ก ๆ ใช้ GPU ระดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ในปี 2025 รัฐบาลจีนเริ่มขยายโครงการ “คูปองพลังประมวลผล” ไปยังหลายเมืองทั่วประเทศ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู เซินเจิ้น หนิงโป และซานตง โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (SMEs) เข้าถึงการฝึกโมเดล AI ได้ในราคาที่ถูกลงอย่างมาก ตัวอย่างเช่น เซี่ยงไฮ้จัดสรรงบประมาณกว่า 600 ล้านหยวน (~84 ล้านดอลลาร์) เพื่อสนับสนุนค่าเช่า GPU สูงสุดถึง 80% สำหรับการฝึกโมเดล AI และยังมีอีก 100 ล้านหยวนสำหรับการฝึก LLM โดยเฉพาะ ส่วนเฉิงตูซึ่งเป็นเมืองนำร่องตั้งแต่ปี 2023 ก็ขยายโครงการไปยังสถาบันวิจัยด้วยงบอีก 100 ล้านหยวน คูปองเหล่านี้สามารถนำไปใช้กับศูนย์ข้อมูลระดับชาติหรือท้องถิ่นที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตะวันตกของจีนตามยุทธศาสตร์ “Eastern Data, Western Computing” ที่ใช้ไฟฟ้าราคาถูกในตะวันตกเพื่อรองรับความต้องการจากเมืองชายฝั่ง โครงการนี้เกิดจากนโยบาย “Implementation Opinions on Promoting the High-Quality Development of the Data Labeling Industry” ที่ประกาศในเดือนธันวาคม 2024 โดยมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุน R&D ของบริษัทเล็ก และเพิ่มการใช้ประโยชน์จากศูนย์ข้อมูลที่ยังว่างอยู่มากถึง 70–80% ✅ โครงการคูปองพลังประมวลผลของจีน ➡️ แจกคูปองให้ SMEs ใช้ GPU สำหรับฝึกโมเดล AI ในราคาถูก ➡️ ครอบคลุมเมืองใหญ่ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู เซินเจิ้น หนิงโป ซานตง ➡️ เซี่ยงไฮ้ให้ส่วนลดสูงสุด 80% และมีงบเฉพาะสำหรับ LLM training ✅ เป้าหมายของโครงการ ➡️ ลดต้นทุน R&D สำหรับบริษัทขนาดเล็ก ➡️ เพิ่มการใช้ประโยชน์จากศูนย์ข้อมูลที่ยังว่างอยู่ ➡️ สนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรม AI ภายในประเทศ ✅ โครงสร้างพื้นฐานที่รองรับ ➡️ ใช้ศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ตะวันตกของจีนตามยุทธศาสตร์ “Eastern Data, Western Computing” ➡️ ศูนย์ข้อมูลบางแห่งมีการใช้งานเพียง 20–30% ก่อนโครงการนี้ ➡️ มีแผนสร้างเครือข่าย unified compute ระดับประเทศเพื่อกระจายโหลด ✅ การขยายตัวของโครงการ ➡️ เฉิงตูขยายคูปองไปยังสถาบันวิจัยด้วยงบ 100 ล้านหยวน ➡️ ซานตงจัดสรรงบเบื้องต้น 30 ล้านหยวน และเตรียมเพิ่มอีก 1 พันล้านหยวน ➡️ ปักกิ่งเริ่มเปิดรับสมัครผู้ขอรับคูปองแล้ว https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/china-subsidizes-ai-computing-for-small-domestic-companies-computing-power-vouchers-spread-across-multiple-chinese-cities
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • มทภ.2 ย้ำรั้วลวดหนามคืออาณาเขตไทย จะอยู่ชั่วกัลปาวสาน ปราสาทตาเมือนธมปิดแล้วปิดเลย เขมรอยากขึ้นมาต้องใช้วีซ่า-พาสปอร์ต เรื่องในอดีตไม่ขอวิจารณ์ อาจเป็นช่วงความสัมพันธ์ที่ดีหยวนๆ กัน พร้อมเผย 2 วิธีทวงคืนปราสาทพระวิหาร ย้ำยึดภูมะเขือเพราะอยู่ในอธิปไตยไทย แม้มีผู้ใหญ่ถามรุกแผ่นดินเขาหรือไม่

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000083965

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    มทภ.2 ย้ำรั้วลวดหนามคืออาณาเขตไทย จะอยู่ชั่วกัลปาวสาน ปราสาทตาเมือนธมปิดแล้วปิดเลย เขมรอยากขึ้นมาต้องใช้วีซ่า-พาสปอร์ต เรื่องในอดีตไม่ขอวิจารณ์ อาจเป็นช่วงความสัมพันธ์ที่ดีหยวนๆ กัน พร้อมเผย 2 วิธีทวงคืนปราสาทพระวิหาร ย้ำยึดภูมะเขือเพราะอยู่ในอธิปไตยไทย แม้มีผู้ใหญ่ถามรุกแผ่นดินเขาหรือไม่ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000083965 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 330 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากมือถือสู่มอเตอร์ – Xiaomi กับภารกิจเปลี่ยนโลกยานยนต์

    ถ้าคุณรู้จัก Xiaomi จากมือถือราคาดีฟีเจอร์ครบ คุณอาจไม่ทันรู้ว่าแบรนด์นี้กำลังกลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และไม่ใช่แค่ “ลองทำดู” แต่เป็นการลงทุนเต็มตัวกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์

    Xiaomi เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก SU7 ในเดือนธันวาคม 2023 และตามด้วย YU7 SUV ในกลางปี 2025 ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ยอดจองกว่า 240,000 คันภายใน 18 ชั่วโมง ด้วยดีไซน์ที่หลายคนเปรียบเทียบว่า “เหมือน Porsche แต่ราคาพอ ๆ กับ Toyota Camry”

    ยอดขายพุ่งทะลุ 157,000 คันในครึ่งปีแรกของ 2025 และรายได้จากธุรกิจ EV ก็แตะ 20.6 พันล้านหยวนในไตรมาสเดียว แม้จะยังขาดทุนอยู่ แต่ก็ใกล้จุดคุ้มทุนแล้ว

    Xiaomi ไม่หยุดแค่ในจีน พวกเขาวางแผนบุกตลาดยุโรปในปี 2027 โดยเริ่มจากการทดสอบ SU7 Ultra บนสนาม Nürburgring ที่เยอรมนี ซึ่งทำสถิติเร็วที่สุดในกลุ่มรถ EV ผลิตจำนวนมาก

    แต่เส้นทางนี้ไม่ง่ายนัก เพราะในสหรัฐฯ Xiaomi ถูกกีดกันด้วยภาษีนำเข้า 100% จากนโยบายสงครามการค้าของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้ตลาดใหญ่นี้ยังเข้าไม่ถึง

    แม้จะมีอุปสรรค แต่ Xiaomi ก็ได้รับคำชมจากนักวิเคราะห์ว่า “แซงหน้า Tesla ในหลายด้าน” โดยเฉพาะเรื่องดีไซน์และราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Xiaomi เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น SU7 ในเดือนธันวาคม 2023
    ตามด้วยรุ่น YU7 SUV ในเดือนมิถุนายน 2025 ยอดจอง 240,000 คันใน 18 ชั่วโมง
    ราคาของ YU7 อยู่ที่ประมาณ 253,500 หยวน (US$35,360)
    Xiaomi วางแผนเข้าสู่ตลาดยุโรปในปี 2027
    SU7 Ultra ทำสถิติเร็วที่สุดในสนาม Nürburgring สำหรับรถ EV ผลิตจำนวนมาก
    Xiaomi ส่งมอบรถ EV ได้กว่า 157,000 คันในครึ่งปีแรกของ 2025
    รายได้จากธุรกิจ EV ในไตรมาส 2 อยู่ที่ 20.6 พันล้านหยวน
    บริษัทตั้งเป้าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ 5 อันดับแรกของโลก
    Xiaomi ยังไม่สามารถเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ เพราะภาษีนำเข้า 100%
    นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley ระบุว่า Xiaomi แซง Tesla ในหลายด้าน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    SU7 ได้รับคำชมว่า “เหมือน Porsche Taycan” แต่ราคาถูกกว่าหลายเท่า
    Xiaomi ใช้ประสบการณ์จากธุรกิจมือถือและ IoT มาปรับใช้ในรถยนต์
    การออกแบบรถเน้น software-defined vehicle (SDV) ที่คล้ายสมาร์ตโฟนมากกว่ารถยนต์ดั้งเดิม
    Xiaomi มีแผนเปิดโรงงาน EV แห่งที่สองเพื่อเพิ่มกำลังผลิต
    ตลาดยุโรปมีภาษีนำเข้าต่ำกว่าสหรัฐฯ และเปิดรับแบรนด์จีนมากขึ้น


    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/22/chinas-xiaomi-is-betting-big-on-electric-cars
    🎙️ จากมือถือสู่มอเตอร์ – Xiaomi กับภารกิจเปลี่ยนโลกยานยนต์ ถ้าคุณรู้จัก Xiaomi จากมือถือราคาดีฟีเจอร์ครบ คุณอาจไม่ทันรู้ว่าแบรนด์นี้กำลังกลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และไม่ใช่แค่ “ลองทำดู” แต่เป็นการลงทุนเต็มตัวกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ Xiaomi เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก SU7 ในเดือนธันวาคม 2023 และตามด้วย YU7 SUV ในกลางปี 2025 ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ยอดจองกว่า 240,000 คันภายใน 18 ชั่วโมง ด้วยดีไซน์ที่หลายคนเปรียบเทียบว่า “เหมือน Porsche แต่ราคาพอ ๆ กับ Toyota Camry” ยอดขายพุ่งทะลุ 157,000 คันในครึ่งปีแรกของ 2025 และรายได้จากธุรกิจ EV ก็แตะ 20.6 พันล้านหยวนในไตรมาสเดียว แม้จะยังขาดทุนอยู่ แต่ก็ใกล้จุดคุ้มทุนแล้ว Xiaomi ไม่หยุดแค่ในจีน พวกเขาวางแผนบุกตลาดยุโรปในปี 2027 โดยเริ่มจากการทดสอบ SU7 Ultra บนสนาม Nürburgring ที่เยอรมนี ซึ่งทำสถิติเร็วที่สุดในกลุ่มรถ EV ผลิตจำนวนมาก แต่เส้นทางนี้ไม่ง่ายนัก เพราะในสหรัฐฯ Xiaomi ถูกกีดกันด้วยภาษีนำเข้า 100% จากนโยบายสงครามการค้าของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้ตลาดใหญ่นี้ยังเข้าไม่ถึง แม้จะมีอุปสรรค แต่ Xiaomi ก็ได้รับคำชมจากนักวิเคราะห์ว่า “แซงหน้า Tesla ในหลายด้าน” โดยเฉพาะเรื่องดีไซน์และราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Xiaomi เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น SU7 ในเดือนธันวาคม 2023 ➡️ ตามด้วยรุ่น YU7 SUV ในเดือนมิถุนายน 2025 ยอดจอง 240,000 คันใน 18 ชั่วโมง ➡️ ราคาของ YU7 อยู่ที่ประมาณ 253,500 หยวน (US$35,360) ➡️ Xiaomi วางแผนเข้าสู่ตลาดยุโรปในปี 2027 ➡️ SU7 Ultra ทำสถิติเร็วที่สุดในสนาม Nürburgring สำหรับรถ EV ผลิตจำนวนมาก ➡️ Xiaomi ส่งมอบรถ EV ได้กว่า 157,000 คันในครึ่งปีแรกของ 2025 ➡️ รายได้จากธุรกิจ EV ในไตรมาส 2 อยู่ที่ 20.6 พันล้านหยวน ➡️ บริษัทตั้งเป้าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ 5 อันดับแรกของโลก ➡️ Xiaomi ยังไม่สามารถเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ เพราะภาษีนำเข้า 100% ➡️ นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley ระบุว่า Xiaomi แซง Tesla ในหลายด้าน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ SU7 ได้รับคำชมว่า “เหมือน Porsche Taycan” แต่ราคาถูกกว่าหลายเท่า ➡️ Xiaomi ใช้ประสบการณ์จากธุรกิจมือถือและ IoT มาปรับใช้ในรถยนต์ ➡️ การออกแบบรถเน้น software-defined vehicle (SDV) ที่คล้ายสมาร์ตโฟนมากกว่ารถยนต์ดั้งเดิม ➡️ Xiaomi มีแผนเปิดโรงงาน EV แห่งที่สองเพื่อเพิ่มกำลังผลิต ➡️ ตลาดยุโรปมีภาษีนำเข้าต่ำกว่าสหรัฐฯ และเปิดรับแบรนด์จีนมากขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/22/chinas-xiaomi-is-betting-big-on-electric-cars
    WWW.THESTAR.COM.MY
    China's Xiaomi is betting big on electric cars
    Xiaomi may not be a household name in the US, but in China its products are everywhere. Already one of the world's top mobile phone manufacturers, the technology company also makes everything from toothbrushes to watches – even mattresses. Now it's betting big on electric vehicles, having already succeeded where even Apple failed.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 258 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2553
    เหรียญหลวงพ่อทวด พิมพ์กลีบบัว (นิยม ปลุกเสกพิธีเลือนสมณศักดิ์ 49/53 ) วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2553 // พระดีพิธีใหญ่ วัตถุมงคลรุ่นนี้ได้รับความนิยมในกลุ่มนักสะสมพระเครื่อง เนื่องจากเป็นการสร้างโดยวัดช้างให้ โดยมี พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ พ่อท่านพล วัดนาประดู่ พ่อท่านหยวน วัดช้างให้ ร่วมเป็นประธาน ณ อุโบสถวัดช้างให้ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ แคล้วคลาดคงกระพันเป็นเลิศ เมตตามหานิยม โชคลาภ มหาอุตม์ !!! เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก.กันเสนียดจัญไร เป็นมหามงคลและสุดยอดนิรันตราย >>

    เหรียญหลวงพ่อทวด พิมพ์กลีบบัว (นิยม ปลุกเสกพิธีเลือนสมณศักดิ์ 49/53 ) วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2553 โดยมี พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ พ่อท่านพล วัดนาประดู่ พ่อท่านหยวน วัดช้างให้ ร่วมเป็นประธาน กำหนดพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดช้างให้ "หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด" ต่างทราบดีว่าท่านเป็นพระอริยสงฆ์ แห่งแคว้นแดนใต้ของสยามประเทศ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ปาฏิหาริย์มากมาย เป็นที่ศรัทธาของสาธุชนทั่วประเทศ รวมถึงชาวต่างชาติ ผู้ที่มีโอกาสได้ไปทางภาคใต้ต่างมุ่งหน้าสู่วัดช้างให้ เพื่อกราบสักการบูชาพระสถูปเจดีย์ที่บรรจุอัฐิ "สมเด็จหลวงพ่อทวด" ให้เป็นมงคลต่อชีวิตและครอบครัว >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2553 เหรียญหลวงพ่อทวด พิมพ์กลีบบัว (นิยม ปลุกเสกพิธีเลือนสมณศักดิ์ 49/53 ) วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2553 // พระดีพิธีใหญ่ วัตถุมงคลรุ่นนี้ได้รับความนิยมในกลุ่มนักสะสมพระเครื่อง เนื่องจากเป็นการสร้างโดยวัดช้างให้ โดยมี พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ พ่อท่านพล วัดนาประดู่ พ่อท่านหยวน วัดช้างให้ ร่วมเป็นประธาน ณ อุโบสถวัดช้างให้ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ แคล้วคลาดคงกระพันเป็นเลิศ เมตตามหานิยม โชคลาภ มหาอุตม์ !!! เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก.กันเสนียดจัญไร เป็นมหามงคลและสุดยอดนิรันตราย >> เหรียญหลวงพ่อทวด พิมพ์กลีบบัว (นิยม ปลุกเสกพิธีเลือนสมณศักดิ์ 49/53 ) วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2553 โดยมี พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ พ่อท่านพล วัดนาประดู่ พ่อท่านหยวน วัดช้างให้ ร่วมเป็นประธาน กำหนดพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดช้างให้ "หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด" ต่างทราบดีว่าท่านเป็นพระอริยสงฆ์ แห่งแคว้นแดนใต้ของสยามประเทศ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ปาฏิหาริย์มากมาย เป็นที่ศรัทธาของสาธุชนทั่วประเทศ รวมถึงชาวต่างชาติ ผู้ที่มีโอกาสได้ไปทางภาคใต้ต่างมุ่งหน้าสู่วัดช้างให้ เพื่อกราบสักการบูชาพระสถูปเจดีย์ที่บรรจุอัฐิ "สมเด็จหลวงพ่อทวด" ให้เป็นมงคลต่อชีวิตและครอบครัว >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุนหมิง ต้าหลี่ แชงกรีล่า ลี่เจียง สวยครบ 4 เมืองในทริปเดียว 6 วัน 5 คืน
    เดินทางกับ KY-คุนหมิงแอร์ไลน์
    22-27 ส.ค. 68
    ลดทันที 6,000 เหลือเพียง 19,999.- รวมทุกอย่างไม่ต้องจ่ายเพิ่มหน้างาน

    คุนหมิง - เขาซีซาน - ตำหนักทอง - สวนน้ำตกคุนหมิง
    ต้าหลี่ - เจดีย์สามองค์ - เมืองโบราณต้าหลี่
    วัดเจ้าแม่กวนอิมแปลงกาย - แชงกรีล่า - โค้งแรกแม่น้ำแยงซีเกียง
    เมืองเก่าจงเตี้ยน - วัดลามะซงจ้านหลิน - ช่องแคบเสือกระโจน
    ลี่เจียง - สระมังกรดำ - เมืองโบราณลี่เจียง
    อุทยานมังกรหยก - กระเช้าขึ้นภูเขาหิมะ - โชว์จางอี้โหม่ว
    อุทยานน้ำหยก - ทะเลสาบไป๋สุยเหอ
    รถไฟความเร็วสูง - วัดหยวนทง - ประตูม้าทองไก่หยก

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/ed4ced

    ดูทัวร์จีนทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/30a85f

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #ทัวร์จีน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #คุนหมิง #ต้าหลี่ #แชงกรีล่า #ลี่เจียง #ทัวร์จีน #เที่ยวจีน #โปรโมชั่นทัวร์ #KYคุนหมิงแอร์ไลน์ #ลดราคาทัวร์ #ChinaTrip #ทัวร์ราคาพิเศษ #เที่ยวครบ4เมือง #เที่ยวต่างประเทศ
    🌏 คุนหมิง ต้าหลี่ แชงกรีล่า ลี่เจียง สวยครบ 4 เมืองในทริปเดียว 6 วัน 5 คืน ✈️ เดินทางกับ KY-คุนหมิงแอร์ไลน์ 📅 22-27 ส.ค. 68 🔥 ลดทันที 6,000🔥 เหลือเพียง 19,999.- รวมทุกอย่างไม่ต้องจ่ายเพิ่มหน้างาน 🏯 คุนหมิง - เขาซีซาน - ตำหนักทอง - สวนน้ำตกคุนหมิง 🏯 ต้าหลี่ - เจดีย์สามองค์ - เมืองโบราณต้าหลี่ 🙏 วัดเจ้าแม่กวนอิมแปลงกาย - แชงกรีล่า - โค้งแรกแม่น้ำแยงซีเกียง 🏔️ เมืองเก่าจงเตี้ยน - วัดลามะซงจ้านหลิน - ช่องแคบเสือกระโจน 🏯 ลี่เจียง - สระมังกรดำ - เมืองโบราณลี่เจียง 🚠 อุทยานมังกรหยก - กระเช้าขึ้นภูเขาหิมะ - โชว์จางอี้โหม่ว 💧 อุทยานน้ำหยก - ทะเลสาบไป๋สุยเหอ 🚄 รถไฟความเร็วสูง - วัดหยวนทง - ประตูม้าทองไก่หยก ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/ed4ced ดูทัวร์จีนทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/30a85f LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์จีน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #คุนหมิง #ต้าหลี่ #แชงกรีล่า #ลี่เจียง #ทัวร์จีน #เที่ยวจีน #โปรโมชั่นทัวร์ #KYคุนหมิงแอร์ไลน์ #ลดราคาทัวร์ #ChinaTrip #ทัวร์ราคาพิเศษ #เที่ยวครบ4เมือง #เที่ยวต่างประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 338 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากอนาคตวันนี้: ร้านขายหุ่นยนต์แห่งแรกของจีนเปิดตัวแล้วในปักกิ่ง

    ในวันที่ 8 สิงหาคม 2025 ก่อนงาน World Robot Conference จะเปิดฉาก จีนได้เปิดตัว “Robot Mall” ร้านขายหุ่นยนต์แบบครบวงจรแห่งแรกของประเทศ ณ เขตเศรษฐกิจเทคโนโลยีปักกิ่ง (Beijing E-Town) โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันการพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จากงานวิจัยสู่การใช้งานจริง

    ร้านนี้ถูกออกแบบให้เป็น “4S store” สำหรับหุ่นยนต์ ซึ่งหมายถึง Sales (ขาย), Service (บริการ), Spare parts (อะไหล่), และ Survey (เก็บข้อมูลผู้ใช้) โดยมีหุ่นยนต์กว่า 50 แบบจาก 40 บริษัททั่วประเทศ ตั้งแต่หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร หุ่นยนต์เล่นหมากรุก ไปจนถึงหุ่นยนต์ที่จำลองบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น ไอน์สไตน์ นิวตัน และหลี่ไป๋

    แม้จะมีการโชว์ความสามารถที่น่าทึ่ง เช่น หุ่นยนต์ชงกาแฟหรือเต้นรำ แต่ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น หุ่นยนต์แยกขยะที่ยังต้องให้พนักงานช่วยรีเซ็ตเมื่อทำงานผิดพลาด

    การเปิดร้านนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ของจีน โดยมีแผนจะอัปเกรดเป็นเวอร์ชัน 2.0 ในเดือนพฤศจิกายน พร้อมเพิ่มหุ่นยนต์ประเภทใหม่และสถานการณ์ใช้งานจริงที่หลากหลายยิ่งขึ้น

    จีนเปิดตัว Robot Mall ร้านขายหุ่นยนต์แบบ 4S แห่งแรกในปักกิ่ง
    ครอบคลุมการขาย บริการ อะไหล่ และเก็บข้อมูลผู้ใช้

    ตั้งอยู่ในเขต Beijing E-Town ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ของจีน
    ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 40 นาที

    มีหุ่นยนต์กว่า 50 แบบจาก 40 บริษัททั่วประเทศ
    รวมถึงหุ่นยนต์ทางการแพทย์ อุตสาหกรรม และหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์

    หุ่นยนต์สามารถทำงานหลากหลาย เช่น เสิร์ฟอาหาร เล่นหมากรุก เต้นรำ และชงกาแฟ
    มีการจำลองบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์เพื่อการศึกษาและความบันเทิง

    Robot Mall เปิดตัวก่อนงาน World Robot Conference 2025
    งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8–12 สิงหาคม ณ ปักกิ่ง

    มีแผนเปิดเวอร์ชัน 2.0 ในเดือนพฤศจิกายน 2025
    จะเพิ่มสถานการณ์ใช้งานจริงและหุ่นยนต์ประเภทใหม่

    ตลาดหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ทั่วโลกคาดว่าจะทะลุ 1 ล้านล้านหยวนภายใน 3 ปี
    ขยายจากภาคอุตสาหกรรมไปสู่บริการและการใช้งานในบ้าน

    เขต Yizhuang มีบริษัทด้านหุ่นยนต์กว่า 300 แห่ง
    คิดเป็น 50% ของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในปักกิ่ง

    จีนมีแผน 5 ปีเพื่อเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมหุ่นยนต์ระดับโลกภายในปี 2025
    มุ่งเพิ่มความหนาแน่นของหุ่นยนต์ในภาคการผลิต

    งาน World Robot Conference เป็นเวทีระดับโลกด้าน AI และหุ่นยนต์
    มีผู้เข้าร่วมกว่า 1.3 ล้านคน และจัดประกวดหุ่นยนต์ระดับนานาชาติ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/08/shopping-for-a-robot-china039s-new-robot-store-in-photos
    🤖🏬 เรื่องเล่าจากอนาคตวันนี้: ร้านขายหุ่นยนต์แห่งแรกของจีนเปิดตัวแล้วในปักกิ่ง ในวันที่ 8 สิงหาคม 2025 ก่อนงาน World Robot Conference จะเปิดฉาก จีนได้เปิดตัว “Robot Mall” ร้านขายหุ่นยนต์แบบครบวงจรแห่งแรกของประเทศ ณ เขตเศรษฐกิจเทคโนโลยีปักกิ่ง (Beijing E-Town) โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันการพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จากงานวิจัยสู่การใช้งานจริง ร้านนี้ถูกออกแบบให้เป็น “4S store” สำหรับหุ่นยนต์ ซึ่งหมายถึง Sales (ขาย), Service (บริการ), Spare parts (อะไหล่), และ Survey (เก็บข้อมูลผู้ใช้) โดยมีหุ่นยนต์กว่า 50 แบบจาก 40 บริษัททั่วประเทศ ตั้งแต่หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร หุ่นยนต์เล่นหมากรุก ไปจนถึงหุ่นยนต์ที่จำลองบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น ไอน์สไตน์ นิวตัน และหลี่ไป๋ แม้จะมีการโชว์ความสามารถที่น่าทึ่ง เช่น หุ่นยนต์ชงกาแฟหรือเต้นรำ แต่ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น หุ่นยนต์แยกขยะที่ยังต้องให้พนักงานช่วยรีเซ็ตเมื่อทำงานผิดพลาด การเปิดร้านนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ของจีน โดยมีแผนจะอัปเกรดเป็นเวอร์ชัน 2.0 ในเดือนพฤศจิกายน พร้อมเพิ่มหุ่นยนต์ประเภทใหม่และสถานการณ์ใช้งานจริงที่หลากหลายยิ่งขึ้น ✅ จีนเปิดตัว Robot Mall ร้านขายหุ่นยนต์แบบ 4S แห่งแรกในปักกิ่ง ➡️ ครอบคลุมการขาย บริการ อะไหล่ และเก็บข้อมูลผู้ใช้ ✅ ตั้งอยู่ในเขต Beijing E-Town ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ของจีน ➡️ ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 40 นาที ✅ มีหุ่นยนต์กว่า 50 แบบจาก 40 บริษัททั่วประเทศ ➡️ รวมถึงหุ่นยนต์ทางการแพทย์ อุตสาหกรรม และหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ ✅ หุ่นยนต์สามารถทำงานหลากหลาย เช่น เสิร์ฟอาหาร เล่นหมากรุก เต้นรำ และชงกาแฟ ➡️ มีการจำลองบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์เพื่อการศึกษาและความบันเทิง ✅ Robot Mall เปิดตัวก่อนงาน World Robot Conference 2025 ➡️ งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8–12 สิงหาคม ณ ปักกิ่ง ✅ มีแผนเปิดเวอร์ชัน 2.0 ในเดือนพฤศจิกายน 2025 ➡️ จะเพิ่มสถานการณ์ใช้งานจริงและหุ่นยนต์ประเภทใหม่ ✅ ตลาดหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ทั่วโลกคาดว่าจะทะลุ 1 ล้านล้านหยวนภายใน 3 ปี ➡️ ขยายจากภาคอุตสาหกรรมไปสู่บริการและการใช้งานในบ้าน ✅ เขต Yizhuang มีบริษัทด้านหุ่นยนต์กว่า 300 แห่ง ➡️ คิดเป็น 50% ของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในปักกิ่ง ✅ จีนมีแผน 5 ปีเพื่อเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมหุ่นยนต์ระดับโลกภายในปี 2025 ➡️ มุ่งเพิ่มความหนาแน่นของหุ่นยนต์ในภาคการผลิต ✅ งาน World Robot Conference เป็นเวทีระดับโลกด้าน AI และหุ่นยนต์ ➡️ มีผู้เข้าร่วมกว่า 1.3 ล้านคน และจัดประกวดหุ่นยนต์ระดับนานาชาติ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/08/shopping-for-a-robot-china039s-new-robot-store-in-photos
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Shopping for a robot? China's new robot store in photos
    A high-tech district in the Chinese capital is opening an all-service robot store on Friday to push a national drive to develop humanoid robots.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 348 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนบุกอินโดฯ-มาเลย์ฯ-ไทย ดันธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น

    เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) และธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ประกาศแต่งตั้งธนาคารตัวแทนในการให้บริการธุรกรรม (Appointed Cross Currency Dealer หรือ ACCD) เพิ่มเติม 18 แห่ง เพื่อดำเนินงานกรอบการทำธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency Transaction Framework หรือ LCTF) ระหว่างสามประเทศ โดยเครือข่าย ACCD ที่ขยายใหญ่ขึ้นจะช่วยเสริมสร้างการเข้าถึงลูกค้า เพิ่มการเข้าถึงตลาดสกุลเงินท้องถิ่น และเพิ่มตัวเลือกในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย

    เป็นที่น่าสังเกตว่า ธนาคารที่ได้รับอนุญาตใหม่ในครั้งนี้ พบว่ามีกลุ่มธนาคารแห่งประเทศจีน (BOC) ได้รับอนุญาต ACCD ใน 3 ประเทศ ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศจีน (มาเลเซีย) เบอร์ฮาด, ธนาคารแห่งประเทศจีน (ฮ่องกง) จำกัด สาขาจาการ์ตา และธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีงานบริการธุรกรรมเงินสกุลหยวนหลากหลายรูปแบบ เท่ากับเพิ่มโอกาสให้นักลงทุนจีนที่ลงทุนใน 3 ประเทศ สามารถทำธุรกรรมระหว่างกันด้วยสกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งข้อดีก็คือ หากผู้นำเข้าสินค้าเลือกชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินท้องถิ่น จะมีต้นทุนที่ถูกกว่า แต่หากผู้ส่งออกสินค้าเลือกรับชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินท้องถิ่น จะได้รับเงินมากกว่า เมื่อเทียบกับใช้สกุลเงินหลักอย่างดอลลาร์สหรัฐฯ (USD)

    ปัจจุบันมีธนาคารพาณิชย์ของไทยที่เข้าร่วม ACCD สกุลเงินริงกิตและเงินบาท (MYR-THB) ทั้งหมด 10 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ไทย ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ฯ (HSBC) สาขากรุงเทพ ธนาคารยูโอบี และล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) ส่วนธนาคารของมาเลเซียมีทั้งหมด 14 แห่ง ขณะที่ธนาคารของอินโดนีเซียที่เข้าร่วม ACCD สกุลเงินรูเปียห์และเงินบาท (IDR-THB) มีทั้งหมด 14 แห่ง

    ก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงเทพ เปิดให้บริการการค้าระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินริงกิตมาเลเซีย (MYR) สำหรับลูกค้านิติบุคคล ร่วมกับบางกอก แบงก์ เบอร์ฮาด (Bangkok Bank Berhad) กรุงกัวลาลัมเปอร์ และสาขารวม 5 แห่งในมาเลเซีย เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการไทยที่มีคู่ค้าในมาเลเซีย ประกอบด้วย บริการด้านการค้าสกุลเงินมาเลเซียริงกิต บริการด้านสินเชื่อเพื่อการค้า บริการโอนเงินและรับเงินโอนระหว่างประเทศ บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ บริการให้ทำสัญญาซื้อ/ขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า และบริการเปิดบัญชีเงินฝากสกุลเงินมาเลเซียริงกิต เป็นต้น

    #Newskit
    จีนบุกอินโดฯ-มาเลย์ฯ-ไทย ดันธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) และธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ประกาศแต่งตั้งธนาคารตัวแทนในการให้บริการธุรกรรม (Appointed Cross Currency Dealer หรือ ACCD) เพิ่มเติม 18 แห่ง เพื่อดำเนินงานกรอบการทำธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency Transaction Framework หรือ LCTF) ระหว่างสามประเทศ โดยเครือข่าย ACCD ที่ขยายใหญ่ขึ้นจะช่วยเสริมสร้างการเข้าถึงลูกค้า เพิ่มการเข้าถึงตลาดสกุลเงินท้องถิ่น และเพิ่มตัวเลือกในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย เป็นที่น่าสังเกตว่า ธนาคารที่ได้รับอนุญาตใหม่ในครั้งนี้ พบว่ามีกลุ่มธนาคารแห่งประเทศจีน (BOC) ได้รับอนุญาต ACCD ใน 3 ประเทศ ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศจีน (มาเลเซีย) เบอร์ฮาด, ธนาคารแห่งประเทศจีน (ฮ่องกง) จำกัด สาขาจาการ์ตา และธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีงานบริการธุรกรรมเงินสกุลหยวนหลากหลายรูปแบบ เท่ากับเพิ่มโอกาสให้นักลงทุนจีนที่ลงทุนใน 3 ประเทศ สามารถทำธุรกรรมระหว่างกันด้วยสกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งข้อดีก็คือ หากผู้นำเข้าสินค้าเลือกชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินท้องถิ่น จะมีต้นทุนที่ถูกกว่า แต่หากผู้ส่งออกสินค้าเลือกรับชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินท้องถิ่น จะได้รับเงินมากกว่า เมื่อเทียบกับใช้สกุลเงินหลักอย่างดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) ปัจจุบันมีธนาคารพาณิชย์ของไทยที่เข้าร่วม ACCD สกุลเงินริงกิตและเงินบาท (MYR-THB) ทั้งหมด 10 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ไทย ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ฯ (HSBC) สาขากรุงเทพ ธนาคารยูโอบี และล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) ส่วนธนาคารของมาเลเซียมีทั้งหมด 14 แห่ง ขณะที่ธนาคารของอินโดนีเซียที่เข้าร่วม ACCD สกุลเงินรูเปียห์และเงินบาท (IDR-THB) มีทั้งหมด 14 แห่ง ก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงเทพ เปิดให้บริการการค้าระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินริงกิตมาเลเซีย (MYR) สำหรับลูกค้านิติบุคคล ร่วมกับบางกอก แบงก์ เบอร์ฮาด (Bangkok Bank Berhad) กรุงกัวลาลัมเปอร์ และสาขารวม 5 แห่งในมาเลเซีย เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการไทยที่มีคู่ค้าในมาเลเซีย ประกอบด้วย บริการด้านการค้าสกุลเงินมาเลเซียริงกิต บริการด้านสินเชื่อเพื่อการค้า บริการโอนเงินและรับเงินโอนระหว่างประเทศ บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ บริการให้ทำสัญญาซื้อ/ขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า และบริการเปิดบัญชีเงินฝากสกุลเงินมาเลเซียริงกิต เป็นต้น #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 476 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกชิป: เมื่ออดีตพนักงาน Huawei ถูกตัดสินจำคุกจากคดีลับเทคโนโลยี

    ในโลกของเซมิคอนดักเตอร์ที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด คดีล่าสุดจากประเทศจีนได้สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ เมื่อศาลในเซี่ยงไฮ้ตัดสินจำคุกอดีตพนักงาน Huawei จำนวน 14 คน จากข้อหาขโมยข้อมูลลับด้านเทคโนโลยีชิปไปใช้ในการก่อตั้งบริษัทใหม่ชื่อ Zunpai Communication Technology

    Zhang Kun อดีตนักวิจัยจาก HiSilicon ซึ่งเป็นหน่วยงานพัฒนาชิปของ Huawei ได้ลาออกในปี 2019 และก่อตั้ง Zunpai ในปี 2021 โดยดึงอดีตเพื่อนร่วมงานมาร่วมทีม พร้อมเสนอเงินเดือนสูงและหุ้นในบริษัท แต่สิ่งที่ตามมาคือข้อกล่าวหาว่า พวกเขาได้คัดลอกข้อมูลลับก่อนลาออก และนำไปใช้ในการพัฒนาชิป Wi-Fi ของ Zunpai

    ในเดือนธันวาคม 2023 ตำรวจเซี่ยงไฮ้ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยทั้ง 14 คน และอายัดทรัพย์สินของ Zunpai มูลค่า 95 ล้านหยวน โดยพบว่าเทคโนโลยีที่ใช้ใน Zunpai มีความคล้ายคลึงกับของ Huawei ถึง 90% แม้คำตัดสินจะยังไม่เผยแพร่สู่สาธารณะ แต่มีรายงานว่าผู้ต้องหาอาจถูกจำคุกสูงสุด 6 ปี พร้อมโทษปรับ

    คดีนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของจีนในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมชิปที่ถือเป็นหัวใจของเศรษฐกิจดิจิทัล และยังเป็นการเตือนว่า “การลอกเลียนเทคโนโลยี” ไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป

    ศาลเซี่ยงไฮ้ตัดสินจำคุกอดีตพนักงาน Huawei 14 คน
    จากข้อหาขโมยข้อมูลลับด้านเทคโนโลยีชิป

    ผู้ต้องหาก่อตั้งบริษัท Zunpai เพื่อพัฒนาชิป Wi-Fi
    โดยใช้ข้อมูลจาก HiSilicon ซึ่งเป็นหน่วยงานของ Huawei

    ตำรวจพบว่าเทคโนโลยีของ Zunpai คล้ายกับของ Huawei ถึง 90%
    และอายัดทรัพย์สินมูลค่า 95 ล้านหยวน

    คำตัดสินยังไม่เผยแพร่ แต่มีรายงานว่าผู้ต้องหาอาจถูกจำคุกสูงสุด 6 ปี
    พร้อมโทษปรับทางการเงิน

    Huawei ยังไม่ออกความเห็นอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับคดีนี้
    แต่ได้ดำเนินการทางกฎหมายตั้งแต่ปี 2023

    จีนมีแนวโน้มเพิ่มความเข้มงวดในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา
    มีผู้ถูกดำเนินคดีด้าน IP มากกว่า 21,000 คนในปี 2024

    HiSilicon เป็นหน่วยงานพัฒนาชิปของ Huawei ที่มีบทบาทสำคัญ
    โดยเฉพาะในด้านการพัฒนา AI และการสื่อสาร

    การลอกเลียนเทคโนโลยีชิปส่งผลต่อการแข่งขันในระดับโลก
    และอาจกระทบต่อความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยี

    การตั้งบริษัทใหม่โดยอดีตพนักงานเป็นเรื่องปกติในวงการเทคโนโลยี
    แต่ต้องไม่ละเมิดข้อมูลลับของบริษัทเดิม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/14-ex-huawei-employees-handed-down-prison-sentences-in-china-accused-face-up-to-six-years-for-taking-chip-related-business-secrets-with-them-to-form-startup-zunpai
    🔐⚖️ เรื่องเล่าจากโลกชิป: เมื่ออดีตพนักงาน Huawei ถูกตัดสินจำคุกจากคดีลับเทคโนโลยี ในโลกของเซมิคอนดักเตอร์ที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด คดีล่าสุดจากประเทศจีนได้สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ เมื่อศาลในเซี่ยงไฮ้ตัดสินจำคุกอดีตพนักงาน Huawei จำนวน 14 คน จากข้อหาขโมยข้อมูลลับด้านเทคโนโลยีชิปไปใช้ในการก่อตั้งบริษัทใหม่ชื่อ Zunpai Communication Technology Zhang Kun อดีตนักวิจัยจาก HiSilicon ซึ่งเป็นหน่วยงานพัฒนาชิปของ Huawei ได้ลาออกในปี 2019 และก่อตั้ง Zunpai ในปี 2021 โดยดึงอดีตเพื่อนร่วมงานมาร่วมทีม พร้อมเสนอเงินเดือนสูงและหุ้นในบริษัท แต่สิ่งที่ตามมาคือข้อกล่าวหาว่า พวกเขาได้คัดลอกข้อมูลลับก่อนลาออก และนำไปใช้ในการพัฒนาชิป Wi-Fi ของ Zunpai ในเดือนธันวาคม 2023 ตำรวจเซี่ยงไฮ้ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยทั้ง 14 คน และอายัดทรัพย์สินของ Zunpai มูลค่า 95 ล้านหยวน โดยพบว่าเทคโนโลยีที่ใช้ใน Zunpai มีความคล้ายคลึงกับของ Huawei ถึง 90% แม้คำตัดสินจะยังไม่เผยแพร่สู่สาธารณะ แต่มีรายงานว่าผู้ต้องหาอาจถูกจำคุกสูงสุด 6 ปี พร้อมโทษปรับ คดีนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของจีนในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมชิปที่ถือเป็นหัวใจของเศรษฐกิจดิจิทัล และยังเป็นการเตือนว่า “การลอกเลียนเทคโนโลยี” ไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป ✅ ศาลเซี่ยงไฮ้ตัดสินจำคุกอดีตพนักงาน Huawei 14 คน ➡️ จากข้อหาขโมยข้อมูลลับด้านเทคโนโลยีชิป ✅ ผู้ต้องหาก่อตั้งบริษัท Zunpai เพื่อพัฒนาชิป Wi-Fi ➡️ โดยใช้ข้อมูลจาก HiSilicon ซึ่งเป็นหน่วยงานของ Huawei ✅ ตำรวจพบว่าเทคโนโลยีของ Zunpai คล้ายกับของ Huawei ถึง 90% ➡️ และอายัดทรัพย์สินมูลค่า 95 ล้านหยวน ✅ คำตัดสินยังไม่เผยแพร่ แต่มีรายงานว่าผู้ต้องหาอาจถูกจำคุกสูงสุด 6 ปี ➡️ พร้อมโทษปรับทางการเงิน ✅ Huawei ยังไม่ออกความเห็นอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับคดีนี้ ➡️ แต่ได้ดำเนินการทางกฎหมายตั้งแต่ปี 2023 ✅ จีนมีแนวโน้มเพิ่มความเข้มงวดในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา ➡️ มีผู้ถูกดำเนินคดีด้าน IP มากกว่า 21,000 คนในปี 2024 ✅ HiSilicon เป็นหน่วยงานพัฒนาชิปของ Huawei ที่มีบทบาทสำคัญ ➡️ โดยเฉพาะในด้านการพัฒนา AI และการสื่อสาร ✅ การลอกเลียนเทคโนโลยีชิปส่งผลต่อการแข่งขันในระดับโลก ➡️ และอาจกระทบต่อความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยี ✅ การตั้งบริษัทใหม่โดยอดีตพนักงานเป็นเรื่องปกติในวงการเทคโนโลยี ➡️ แต่ต้องไม่ละเมิดข้อมูลลับของบริษัทเดิม https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/14-ex-huawei-employees-handed-down-prison-sentences-in-china-accused-face-up-to-six-years-for-taking-chip-related-business-secrets-with-them-to-form-startup-zunpai
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าไม่พูดถึงความรักก็จะดูตกเทรนด์ วันนี้เลยขอพูดถึงวลีคลาสสิคที่โด่งดังจากปากของเทพธิดาไหมแดงลี้มกโช้ว

    ความมีอยู่ว่า
    ... ทันใดนั้น ในอัคคีเพลิงบังเกิดเสียงเพลงอันเกรี้ยวกราดโหยหวนดังออกมาว่า
    “ถามไถ่ทั่วโลกหล้า อันว่ารักเป็นฉันใด
    จึงมอบให้แก่กันและกันด้วยชีวิต
    วิหคคู่เคียงจากดินอุดรฟ้าทักษิณ...” ...

    - จากเรื่อง <เอี้ยก้วยเจ้าอินทรี> ผู้แต่ง กิมย้ง แปลและเรียบเรียงโดย น.นพรัตน์
    (หมายเหตุ ชื่อหนังสือตามฉบับแปลอย่างเป็นทางการ)

    มีคนวิเคราะห์ไปแล้วมากมายถึงบทกวีนี้และเรื่องราวความรักของตัวละครต่างๆ ของกิมย้ง Storyฯ จะไม่กล่าวซ้ำ แต่ Storyฯ เชื่อว่าคงมีลูกเพจไม่น้อยที่ไม่รู้ว่า แท้จริงแล้วเรื่องราวเบื้องหลังของบทกวีนี้ ไม่ใช่เรื่องราวความรักของคน

    บทกวีนี้ปรากฎในยุคสมัยราชวงศ์จินโดยอัจฉริยะกวีและนักประวัติศาสตร์หยวนฮ่าวเวิ่น (ปีค.ศ. 1190-1297) ว่ากันว่า หยวนฮ่าวเวิ่นเมื่อครั้งยังอายุเพียง 16 ปี ได้เดินทางไปกับเพื่อนร่วมชั้นเพื่อไปสอบ ระหว่างทางพบนายพรานคนหนึ่งกำลังรำพึงรำพันกับซากศพห่านป่าคู่หนึ่ง พรานเล่าให้ฟังว่าห่านป่าคู่นี้ ตัวหนึ่งโดนดักจับตาย อีกตัวหนึ่งบินหลุดรอดไปได้ แต่มันไม่หนีไป กลับบินวนส่งเสียงร้องไห้โหยหวน สุดท้ายพุ่งตัวดิ่งลงมาชนพื้นตายอยู่ข้างๆ คู่ของมัน

    หยวนฮ่าวเวิ่นรู้สึกโดนใจกับเรื่องราวของห่านป่าคู่นี้ จึงซื้อมันแล้วนำไปฝังไว้ด้วยกันที่ริมน้ำและตั้งชื่อหลุมฝังศพนั้นว่า “เนินห่านป่า” (เยี่ยนชิว หรือ 雁丘) เกิดเป็นแรงบันดาลใจให้นักเรียนกลุ่มนี้ต่างแต่งบทกลอนขึ้นมา โดยหยวนฮ่าวเวินแต่งกลอนเนินห่านป่าบทนี้ขึ้น ต่อมามีการปรับปรุงเพิ่มเติมและเอาไปรวมอยู่ในชุดกลอน “ลูบคลำปลาน้อย” (ม้ออวี๋เอ่อร์ หรือ 摸鱼儿) ที่มีทั้งหมดหนึ่งร้อยสิบหกอักษร โดยเรียกกลอนวรรคนี้ว่า “ลูบคลำปลาน้อย: บทกวีเนินห่านป่า” (摸鱼儿.雁丘词)

    เข้าใจที่มาและเรื่องราวเบื้องหลังแล้ว ลองอ่านบทกวีเต็มๆ อีกทีนะคะว่า เห็นเงาร่างของห่านฟ้าคู่นี้ในบทกวีกันบ้างไหม

    “ถามไถ่ทั่วโลกหล้า อันว่ารักเป็นฉันใด จึงมอบให้แก่กันด้วยชีวิต วิหคคู่เคียงจากดินอุดรฟ้าทักษิณ เทียบปีกบินโผผินกี่ฤดูกาล ร่วมหรรษาเริงรื่น ขื่นขมยามพลัดพรากหาย กอปรด้วยบุตรธิดางมงาย ท่านพึงหมายจำนรรจา ชั้นเฆฆาสูงหมื่นลี้ ทัศนีย์พันภูพาไศล เงาเดียวดายดำรงอยู่ได้อย่างไร”

    Credit รูปภาพจาก: https://board.postjung.com/796272
    Credit เนื้อหารวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com
    https://zhidao.baidu.com/question/621016209188011772.html
    https://m.sohu.com/a/434620154_99929216/?pvid=000115_3w_a

    #กิมย้ง #เอี้ยก้วยเจ้าอินทรี #บทกวีจีนโบราณ StoryfromStory
    ถ้าไม่พูดถึงความรักก็จะดูตกเทรนด์ วันนี้เลยขอพูดถึงวลีคลาสสิคที่โด่งดังจากปากของเทพธิดาไหมแดงลี้มกโช้ว ความมีอยู่ว่า ... ทันใดนั้น ในอัคคีเพลิงบังเกิดเสียงเพลงอันเกรี้ยวกราดโหยหวนดังออกมาว่า “ถามไถ่ทั่วโลกหล้า อันว่ารักเป็นฉันใด จึงมอบให้แก่กันและกันด้วยชีวิต วิหคคู่เคียงจากดินอุดรฟ้าทักษิณ...” ... - จากเรื่อง <เอี้ยก้วยเจ้าอินทรี> ผู้แต่ง กิมย้ง แปลและเรียบเรียงโดย น.นพรัตน์ (หมายเหตุ ชื่อหนังสือตามฉบับแปลอย่างเป็นทางการ) มีคนวิเคราะห์ไปแล้วมากมายถึงบทกวีนี้และเรื่องราวความรักของตัวละครต่างๆ ของกิมย้ง Storyฯ จะไม่กล่าวซ้ำ แต่ Storyฯ เชื่อว่าคงมีลูกเพจไม่น้อยที่ไม่รู้ว่า แท้จริงแล้วเรื่องราวเบื้องหลังของบทกวีนี้ ไม่ใช่เรื่องราวความรักของคน บทกวีนี้ปรากฎในยุคสมัยราชวงศ์จินโดยอัจฉริยะกวีและนักประวัติศาสตร์หยวนฮ่าวเวิ่น (ปีค.ศ. 1190-1297) ว่ากันว่า หยวนฮ่าวเวิ่นเมื่อครั้งยังอายุเพียง 16 ปี ได้เดินทางไปกับเพื่อนร่วมชั้นเพื่อไปสอบ ระหว่างทางพบนายพรานคนหนึ่งกำลังรำพึงรำพันกับซากศพห่านป่าคู่หนึ่ง พรานเล่าให้ฟังว่าห่านป่าคู่นี้ ตัวหนึ่งโดนดักจับตาย อีกตัวหนึ่งบินหลุดรอดไปได้ แต่มันไม่หนีไป กลับบินวนส่งเสียงร้องไห้โหยหวน สุดท้ายพุ่งตัวดิ่งลงมาชนพื้นตายอยู่ข้างๆ คู่ของมัน หยวนฮ่าวเวิ่นรู้สึกโดนใจกับเรื่องราวของห่านป่าคู่นี้ จึงซื้อมันแล้วนำไปฝังไว้ด้วยกันที่ริมน้ำและตั้งชื่อหลุมฝังศพนั้นว่า “เนินห่านป่า” (เยี่ยนชิว หรือ 雁丘) เกิดเป็นแรงบันดาลใจให้นักเรียนกลุ่มนี้ต่างแต่งบทกลอนขึ้นมา โดยหยวนฮ่าวเวินแต่งกลอนเนินห่านป่าบทนี้ขึ้น ต่อมามีการปรับปรุงเพิ่มเติมและเอาไปรวมอยู่ในชุดกลอน “ลูบคลำปลาน้อย” (ม้ออวี๋เอ่อร์ หรือ 摸鱼儿) ที่มีทั้งหมดหนึ่งร้อยสิบหกอักษร โดยเรียกกลอนวรรคนี้ว่า “ลูบคลำปลาน้อย: บทกวีเนินห่านป่า” (摸鱼儿.雁丘词) เข้าใจที่มาและเรื่องราวเบื้องหลังแล้ว ลองอ่านบทกวีเต็มๆ อีกทีนะคะว่า เห็นเงาร่างของห่านฟ้าคู่นี้ในบทกวีกันบ้างไหม “ถามไถ่ทั่วโลกหล้า อันว่ารักเป็นฉันใด จึงมอบให้แก่กันด้วยชีวิต วิหคคู่เคียงจากดินอุดรฟ้าทักษิณ เทียบปีกบินโผผินกี่ฤดูกาล ร่วมหรรษาเริงรื่น ขื่นขมยามพลัดพรากหาย กอปรด้วยบุตรธิดางมงาย ท่านพึงหมายจำนรรจา ชั้นเฆฆาสูงหมื่นลี้ ทัศนีย์พันภูพาไศล เงาเดียวดายดำรงอยู่ได้อย่างไร” Credit รูปภาพจาก: https://board.postjung.com/796272 Credit เนื้อหารวบรวมจาก: https://baike.baidu.com https://zhidao.baidu.com/question/621016209188011772.html https://m.sohu.com/a/434620154_99929216/?pvid=000115_3w_a #กิมย้ง #เอี้ยก้วยเจ้าอินทรี #บทกวีจีนโบราณ StoryfromStory
    BOARD.POSTJUNG.COM
    ลี้ม๊กโช้ว เทพธิดาไหมแดง
    ลี้ม๊กโช้ว เทพธิดาไหมแดง ลี้มกโช้ว เป็นตัวละครใน นิยายกำลังภายในของกิมย้ง เรื่องมังกรหยก ลี้มกโช้ว เป็นศิษย์สำนักสุสานโบราณ รุ่นที่ 3 ฉายา เทพธิดาไหมแดง ..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 341 มุมมอง 0 รีวิว
  • รถไฟเวียงจันทน์-คุนหมิง เพิ่มเป็น 2 ขบวนต่อวัน

    ความนิยมในการเดินทางด้วยรถไฟอีเอ็มยู (EMU) ระหว่างนครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว กับนครคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีนเริ่มมีมากขึ้น นับตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 13 เม.ย. 2566 เป็นต้นมา ล่าสุด บริษัท รถไฟลาว-จีน จำกัด หรือ LCR เปิดให้บริการเพิ่มอีก 1 ขบวน เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา รวมเป็น 2 ขบวนต่อวัน ได้แก่

    เที่ยวไป

    • ขบวน D88 ออกจากเวียงจันทน์ 08.00 น. (เวลาลาว) ถึงคุนหมิงใต้ 18.34 น. (เวลาจีน)

    • ขบวน D84 (ใหม่) ออกจากเวียงจันทน์ 11.25 น. (เวลาลาว) ถึงคุนหมิงใต้ 21.44 น. ถึงคุนหมิง 22.08 น. (เวลาจีน)

    เที่ยวกลับ

    • ขบวน D87 ออกจากคุนหมินใต้ 08.08 น. (เวลาจีน) ถึงเวียงจันทน์ 16.44 น. (เวลาลาว)

    • ขบวน D83 (ใหม่) ออกจากคุนหมิง 10.55 น. ออกจากคุนหมิงใต้ 11.20 น. (เวลาจีน) ถึงเวียงจันทน์ 19.59 น. (เวลาลาว)

    รถไฟขบวนดังกล่าวใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง ต้องเข้าด่านตรวจคนเข้าเมืองฝั่งลาวที่สถานีบ่อเต็น และฝั่งจีนที่สถานีโม่ฮาน เวลาจริงอาจล่าช้าเนื่องจากสภาพอากาศ รอสับหลีกขบวนรถ หรือเหตุสุดวิสัยต่างๆ แนะนำให้ตรวจสอบประกาศก่อนเดินทางได้ที่ที่เฟซบุ๊ก Laos - China Railway Company Limited

    สำรองที่นั่งล่วงหน้า 15 วัน ได้ที่แอปพลิเคชัน LCR Ticket (คนไทยใช้เบอร์มือถือไทยสมัครได้ และชำระเงินผ่านบัตรเครดิต VISA ที่ออกในประเทศไทยได้) หรือสำรองที่นั่งด้วยตัวเองที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว ศูนย์การค้าเวียงจันทน์เซ็นเตอร์ สถานีรถไฟเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) และสถานีรถไฟนครหลวงเวียงจันทน์

    คำแนะนำในการเดินทาง ตลอดเส้นทางไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือ มีสัญญาณเฉพาะช่วงที่ผ่านสถานีรถไฟ การซื้ออาหารและเครื่องดื่มบนขบวนรถ ช่วงที่อยู่ในประเทศลาวรับเป็นเงินกีบ ส่วนช่วงที่อยู่ในประเทศจีนรับเป็นเงินหยวน กระบอกน้ำร้อนสามารถเติมน้ำร้อนได้ฟรีบนขบวนรถ ส่วนสถานีบ่อเต็นมีร้านค้าปลอดภาษีและมินิมาร์ทให้บริการ คิดเป็นสกุลเงินหยวน รับชำระผ่าน WexinPay

    นับตั้งแต่เปิดให้บริการ 2 ปี รถไฟข้ามแดนมีผู้โดยสารกว่า 530,000 คน (ณ เดือน มิ.ย.2568) จาก 112 ประเทศและภูมิภาค นักท่องเที่ยวบริเวณชายแดนลาว–จีนมีมากกว่า 37,500 คน (ณ เดือน เม.ย.2568) การเดินทางจากเวียงจันทน์ไปคุนหมิงจากเดิมหลายวัน เหลือเพียง 9 ชั่วโมง 26 นาที ผ่านเมืองสำคัญ ได้แก่ นครหลวงเวียงจันทน์ หลวงพระบาง สิบสองปันนา และนครคุนหมิง

    ส่วนผู้โดยสารที่เดินทางภายในประเทศลาว นับตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2564 มีผู้โดยสารสะสม 9,650,000 คน ล่าสุดมีขบวนรถไฟ EMU ให้บริการแล้ว 5 คัน

    #Newskit
    รถไฟเวียงจันทน์-คุนหมิง เพิ่มเป็น 2 ขบวนต่อวัน ความนิยมในการเดินทางด้วยรถไฟอีเอ็มยู (EMU) ระหว่างนครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว กับนครคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีนเริ่มมีมากขึ้น นับตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 13 เม.ย. 2566 เป็นต้นมา ล่าสุด บริษัท รถไฟลาว-จีน จำกัด หรือ LCR เปิดให้บริการเพิ่มอีก 1 ขบวน เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา รวมเป็น 2 ขบวนต่อวัน ได้แก่ เที่ยวไป • ขบวน D88 ออกจากเวียงจันทน์ 08.00 น. (เวลาลาว) ถึงคุนหมิงใต้ 18.34 น. (เวลาจีน) • ขบวน D84 (ใหม่) ออกจากเวียงจันทน์ 11.25 น. (เวลาลาว) ถึงคุนหมิงใต้ 21.44 น. ถึงคุนหมิง 22.08 น. (เวลาจีน) เที่ยวกลับ • ขบวน D87 ออกจากคุนหมินใต้ 08.08 น. (เวลาจีน) ถึงเวียงจันทน์ 16.44 น. (เวลาลาว) • ขบวน D83 (ใหม่) ออกจากคุนหมิง 10.55 น. ออกจากคุนหมิงใต้ 11.20 น. (เวลาจีน) ถึงเวียงจันทน์ 19.59 น. (เวลาลาว) รถไฟขบวนดังกล่าวใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง ต้องเข้าด่านตรวจคนเข้าเมืองฝั่งลาวที่สถานีบ่อเต็น และฝั่งจีนที่สถานีโม่ฮาน เวลาจริงอาจล่าช้าเนื่องจากสภาพอากาศ รอสับหลีกขบวนรถ หรือเหตุสุดวิสัยต่างๆ แนะนำให้ตรวจสอบประกาศก่อนเดินทางได้ที่ที่เฟซบุ๊ก Laos - China Railway Company Limited สำรองที่นั่งล่วงหน้า 15 วัน ได้ที่แอปพลิเคชัน LCR Ticket (คนไทยใช้เบอร์มือถือไทยสมัครได้ และชำระเงินผ่านบัตรเครดิต VISA ที่ออกในประเทศไทยได้) หรือสำรองที่นั่งด้วยตัวเองที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว ศูนย์การค้าเวียงจันทน์เซ็นเตอร์ สถานีรถไฟเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) และสถานีรถไฟนครหลวงเวียงจันทน์ คำแนะนำในการเดินทาง ตลอดเส้นทางไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือ มีสัญญาณเฉพาะช่วงที่ผ่านสถานีรถไฟ การซื้ออาหารและเครื่องดื่มบนขบวนรถ ช่วงที่อยู่ในประเทศลาวรับเป็นเงินกีบ ส่วนช่วงที่อยู่ในประเทศจีนรับเป็นเงินหยวน กระบอกน้ำร้อนสามารถเติมน้ำร้อนได้ฟรีบนขบวนรถ ส่วนสถานีบ่อเต็นมีร้านค้าปลอดภาษีและมินิมาร์ทให้บริการ คิดเป็นสกุลเงินหยวน รับชำระผ่าน WexinPay นับตั้งแต่เปิดให้บริการ 2 ปี รถไฟข้ามแดนมีผู้โดยสารกว่า 530,000 คน (ณ เดือน มิ.ย.2568) จาก 112 ประเทศและภูมิภาค นักท่องเที่ยวบริเวณชายแดนลาว–จีนมีมากกว่า 37,500 คน (ณ เดือน เม.ย.2568) การเดินทางจากเวียงจันทน์ไปคุนหมิงจากเดิมหลายวัน เหลือเพียง 9 ชั่วโมง 26 นาที ผ่านเมืองสำคัญ ได้แก่ นครหลวงเวียงจันทน์ หลวงพระบาง สิบสองปันนา และนครคุนหมิง ส่วนผู้โดยสารที่เดินทางภายในประเทศลาว นับตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2564 มีผู้โดยสารสะสม 9,650,000 คน ล่าสุดมีขบวนรถไฟ EMU ให้บริการแล้ว 5 คัน #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 434 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..น่าอนาถสถานะสัมมาอาชีพของคนไทยเราที่ตกเป็นเหยื่อเจ้าสัวนายทุนผู้ละโมบโลภผลประโยชน์ต่อผู้ต่อสู้ต่อผู้บุกเบิกในแบบคนบ้านๆประชาชนคนไทยน้อยต้นทุนน้อยเงินลงทุนสนับสนุนเพื่อแสวงหาความอยู่รอดหรืออิสระทางการดำเนินชีวิตบนสังคมชุมชนไทยเราและชุมชนโลกเราจริง.
    ..ประชาชนคนไทยเราไม่สมควรเป็นผู้ร้องขอ,แต่เป็นผู้ได้รับโอกาสจริงเมื่อแจ้งความประสงค์มา.
    ..ธนาคารกลางของภาคประชาชนไทยเราจึงสมควรถือกำเนิดขึ้นจริงอย่างจริงจัง,แยกออกต่างหากชัดเจนจากธนาคารกลางของเอกชนที่กำกับดูแลเอกชน ปกป้องผลประโยชน์กำไรของธนาคารเอกชนโดยมาก เอื้อทำให้ธนาคารเอกชนมีผลประกอบการกำไรผิดปกติในขณะที่ภาคกิจการธุรกิจอื่นต่างล้มหายตายจากในวิกฤติเศรษฐกิจปัจจุบัน ซึ่งสะท้อนพิสูจน์ชัดเจนว่าธนาคารกลางกำลังทำเพื่อใคร อ้างประชาชนบังหน้าโดยความจริงคือกำไรของธนาคารเพิ่มขึ้นจากเงื่อนไขกติกากฎระเบียบที่ตนควบคุมประกาศใช้เพื่อเอื้ออำนวยรายได้สาระพัพทางแก่ธนาคารเอกชน ง่ายๆเช่น ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้นิดหน่อยตามข่าวปลายปีหรือต้นปีนี้ สะท้อนถึงกำไรรายได้ผลประกอบการธนาคารอย่างมีนัยยะชัดเจนทันที ข้อมูลบริษัทในตลาดหุ้นโชว์ผลประกอบการชัดเจนเป็นหลักฐานว่าเขียวเกือบทุกๆแบงค์ในกระดานก็ว่า,สวนทางกับภาคอุตสาหกรรมอื่นอย่างมีนัยยะผิดปกติชัดเจน,และธนาคารกลางแห่งประเทศไทยจริงๆต้องถูกสั่งการโดยรัฐบาลได้ควบคุมได้ทางตรงสั่งดำเนินนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้ให้เป็นไปทิศทางเดียวกันกับประชาชนของประเทศ เจริญก็เจริญด้วยกัน พังพินาศก็พังด้วยกัน,รัฐบาลสั่งคุ้มครองทางเงินควบคุมทางการเงินได้ทั้งประเทศ,กำหนดมูลค่าเงินและทิศทางการเงินได้จริง,จะมามุกอ้างบริหารงานอิสระตัดตอนมิให้รัฐบาลมาสร้างความเสียหายทางระบบเงินของประเทศไม่ได้ จะอ้างแบบนั้นไม่ได้ ส่วนรัฐบาลใดชั่วเลวนั่นอีกปัญหาหนึ่งคนละส่วนละประเด็นมิติของปัญหาใหญ่,เช่นรัฐบาลสามารถประกาศหยุดลอยตัวอัตราแลกเปลี่ยนได้,คงที่ที่1฿:25$ก็ได้หรือ1฿:35$เป็นอัตราคงที่ก็ได้,หรือกำหนดคงที่เทียบอัตราทองคำพื้นฐานได้ที่ไม่ปั่นราคาทองคำแบบปัจจุบัน,ไม่ต้องมาพยุงอัตราแลกเปลี่ยนใดๆอีก,ล็อกการปั่นราคาเก็งกำไรก็ได้ในสายตาพวกเล่นกำไรค่าเงินนั้นๆ1บาทล็อกเงินหยวนที่1หยวนก็ได้คือ1:1 , 1บาทต่อ1หยวนเลย,1บาทต่อ1เหรียญดอลล่าร์จะเป็นอะไรเพราะเหี้ยเงินกระดาษไร้ทองคำค้ำประกันเงินดอลล่าร์อะไรเลยแค่เครดิตชื่อว่าประเทศอเมริกานำหน้าเท่านั้น,เสือกพิมพ์ตัวเองเสรีเป็นว่าตามใจตนใช้ไม่ได้ ตังQEคือหลักฐานชัดเจน,จดอลล่าร์ไร้ค่าเป็นเศษกระดาษในปัจจุบัน ผีบ้าอะไรชาติอื่นถ้าเป็นแบบนี้ค่าเงินถูกลดค่าแล้ว เงินดอลล่าร์จริงๆสมควรถูกลดค่าลดเครดิตไปนานแล้ว อาจ1บาทต่อ0.0001ดอลล่าร์โน้น.
    ..ธนาคารกลางถือกำเนิดจากแนวคิดตระกูลอีลิทdeep stateซาตานฝ่ายมืดก็ด้วย เพื่อควบคุมประเทศต่างๆทั่วโลกผ่านระบบตัง,มิให้อำนาจปกครองในแต่ละประเทศมาทำให้เครือข่ายสำนักงานมันขัดจังหวะสั่งการได้เพื่อดำเนินนโยบายใดๆของพวกมันประสานงานกันอย่างราบรื่น,จึงห้ามอำนาจฝ่ายการเมืองการปกครองใดๆย่อมาไทยคือห้ามมาแทรกแซงสำนักงานdeep stateกูนะจะเสียกระบวนควบคุมมนุษย์ในแต่ละประเทศนั้นๆผ่านกลไกระบบตังกูที่ควบคุมครอบงำไว้,และหน้าที่ของทุกๆธนาคารทั่วโลกทำกำไรให้มากๆจากนั้นส่งส่วยส่งตังโอนมาให้สำนักงานdeep stateโลกสากลทันทีที่ต่างประเทศ,ยิ่งตอนนี้ตังขาดมือพวกมรึงธนาคารกลางและลูกน้องธนาคารทั้งหมดต้องทำยอดทำตังส่งตังมาให้กูมากๆมันว่า,กล่องดวงใจมันคือธนาคารกลางในไทยหรือธนาคารกลางทั่วโลกก็ว่า,
    ..เมื่อเรามีนายกฯดีๆเข้ามาจึงต้องเด็ดขาดทิังธนาคารกลางของdeep stateไป ตั้งธนาคารกลางของคนไทยจริงของภาคมหาประชาชนคนไทยจริงขึ้นมาแทนเพื่อส่งเสริมสนับสนุนทุนสัมมาอาชีพคนไทยทุกๆคนเป็นตัวเชื่อมเงินทุนจริง มิใช่เหี้ยมาออกรายการขอทานแบบนี้,เหยียบหยามประชาชนประชาชนคนไทยเราชัดเจน,และจริงๆคนไทยเราทุกๆคนร่ำรวยมาก มีปัจจัยซื้อหาวัตถุดิบสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อคนไทยเราและชาวโลกได้สบาย รวมกลุ่มระดมทุนก็ได้อีก,เพราะเฉลี่ยคนไทยเราทุกๆคน มีมูลค่ากว่า400-1,000ล้านบาทต่อคนในบัญชีทางการเงินได้สบายๆเมื่อประเมินมูลค่าทรัพยากรมีค่ามากมายเต็มแผ่นดินไทย,ไม่นับรวมผลงานสร้างสรรคสร้างรายได้ต่อยอดนวัตกรรมและฝีมือด้านอื่นสาระพัดตรึมอีก,อาจรวมกันจริงๆขั้นต่ำกว่า2,000ล้านบาทต่อคนไทยสบายๆ,
    ..เราสามารถสร้างฮับเงินทุนสัมมาอาชีพเพื่อการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเริ่มกิจการแต่ละคนของคนไทยเราทุกๆคนได้,ที่ไม่สร้างทำเพราะต้องการไม่ให้คนไทยพึ่งพาตนเองได้ต้องไปพึ่งพาพวกมัน ไปขอตังมาลงทุนกิจการจากพวกมันหรือยึดกิจการมรึงเสียเลยขาดตัวก็ว่า,แล้วเหยียบไว้แบบพลังงานเทสล่า พลังงานไฮโดรเจนใช้แค่พลังงานน้ำก็ขับขี่รถยนต์ไปมาได้ พลังงานแม่เหล็กที่บินขึ้นลงทางแนวดิ่งสบายและไร้ขีดจำกัด,ทั้งโลกสร้างพลังงานฟรีได้แต่มันปกปิดไว้ อยากทำขายให้คนเอาตังจึงเป็นที่มาของdeep stateในมุมมองที่ไปที่มาอีกแง่หนึ่งของมันก็ว่า,คนร่ำรวยเกือบทั้งหมดบนโลกล้วนขี้ข้าdeep stateเข้ารีตกับลัทธิตาเดียว ตังมากมายมันจะโอนมาเต็มบัญชีเลยล่ะ และต้องทำตามคำสั่งตลอดเวลาด้วย,ธนาคารกลางเราก็ไม่เว้น,มีธนาคารกลางตั้งนานทำไมประชาชนยังยากจนมากมาย บัตรคนจนเพิ่มขึ้น อยู่แต่ธนาคารเอกชนทำไมกำไรกันสบายดี,ร่ำรวยรายได้กันจริงๆ,แก๊งดูดตังมันไม่สามารถดูดตังประชาชนได้หรอกถ้าธนาคารไม่อำนวยสร้าง จะมีข้อมูลจนดูดตังได้โน้น,ดูดได้จริง,ก่อนโอนออกนอกประเทศธนาคารต้องตรวจสอบก่อนด้วยมีหลักฐานบัญชีปลายทางบัญชีต้นทางหมด ใครอยู่ที่ไหน หน้าตาเป็นแบบใดดึงออกมาดูได้หมด,ตลอดสามารถระบุชัดเจนเงื่อนไขการมีบัญชีธนาคารก็ได้ ว่า1บัตรประชาชนคนไทย สามารถมีได้แค่1บัญชีธนาคารได้แค่นั้นมีแค่1เบอร์มือถือด้วย,จะตัดตอนเปิดบัญชีหลายบัญชีทันที,ตัดตอนเบอร์มิจฉาชีพด้วยสแกนตรวจจับพบตัวในไทยได้ง่าย ตัดตอนมีซิมหลายเบอร์นั้นเอง,ฟอกเงินก็ตรวจสอบง่าย ใครมีตังมากน้อยจะกลัวอะไร มี10ล้ายล้านบาทในบัญชีเดียวจะกลัวอะไร กลัวหนีภาษีไม่ได้ฟอกเงินสลับเปลี่ยนบัญชีไม่ได้,คือเริ่มต้นทำก็ไม่สุจริตซื่อสัตย์นั้นเอง,กสทช.ก็อัพเรเวลระบบเสีย ผูกระบบโชว์ชื่อนามสกุลคนโทรเข้าเครื่องปลายทางอัตโนมัติด้วยแม้เครื่องปลายทางไม่ได้บันทึกชื่อสกุลนั่นไว้ในเครื่องเข้า,ใครโทรมานะบบตรวจจับโชว์ชื่อสกุลทันที นี้อะไรแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาก็ไม่รู้ ใครโทรมาก็โชว์ผีบ้าแต่เบอร์แต่ตัวเลข,ซื้อซิมก็ใช้บัตรประชาชนชื่อนามสกุลจริงซื้อ,กสทช.ต้องอัพระบบใหม่หมด,มือถือต้องเปลี่ยนให้รองรับก็ต้องเปลี่ยน,แจกแลกฟรีก็ได้เพื่อมือถือเครื่องนั้นรันกับระบบได้ ทำโปรแกรมได้ดั่งที่ว่า,ใช้ซิมกดฉนวนระเบิดภาคใต้ก็จะจบไปซิมห่าเหวอะไรเลอะเทอะล้นตลาดหมด,
    ..จึงต้องมีธนาคารกลางของภาคประชาชนจริงๆมิใช่ของธนาคารเอกชน มิใช่ของdeep state,
    ..ธนาคารภาคประชาชนจะเป็นอนาคตที่สดใสทันทีแิดตั้งแต่ต้นก่ประชาชน,มิใช่สดใสแก่ธนาคารเอกชนนายทุนสมคบคิดกับธนาคารเอกชนนั้นๆมันก็ช่วยเหลือเจ้าสัวอาเสี่ยอาเหี้ยมันกันเองนั้นล่ะเป็นหลัก ประชาชนทั่วไปเข้าไปใช้บริการก็แค่พบหมาตายเท่านั้นไร้ค่าไร้ความหมายราคาแก่พวกๆมัน,อ้างประชาชนรับใบอนุญาตประกอบการหาแดกแค่นั้นล่ะ,ประชาชนคือเหยื่อให้มัน,หนีัคือสิ่งที่มันมอบให้.จากนั้นความโกลาหลดิ้นรนบ้าคลั่งขาดสติจะตามมา,แล้วก็ไม่นาน สส.สว.ข้าราชการทั้งระบบมันจะซื้อด้วยเงินในระบบมันสิ้น,ขาดตังลงแดงขาดใจทันทีก็ว่า.ครอบครัวทั้งหมดพังพินาศทันทีเมื่อขาดตัง,สามีภรรยาทะเลาะกันสิ้น,ญาติพี่น้องทะเลาะกันก็เพราะมันคือตัง,ค่าใช้จ่ายสาระพัดต้องกำจัดปัญหาด้วยตังนั้นเอง,เด็กๆไปโรงเรียนต้องใช้ตัง,ค่ารักษายามเจ็บไข้ได้ป่วยต้องใช้ตัง,นี้คือผลของการที่ให้มีธนาคารกลางของdeep stateในประเทศไทยเรา,แต่ไม่มีธนาคารกลางจริงๆของภาคประชาชนไทยตนเอง,เราปกครองจากการเขียนแม่พิมพ์จากการเขียนแบบแปลงที่ผิดพลาดตั้งแต่ต้น,จึงต้องฉีกทิ้งมันทั้งหมดทันที,แล้วทำการเขียนใหม่ให้เป็นคุณแก่ภาคประชาชนเราจริงๆ.


    ..https://youtube.com/watch?v=M2USTwH-07k&si=40fTL6CmVqQ2GYHm
    ..น่าอนาถสถานะสัมมาอาชีพของคนไทยเราที่ตกเป็นเหยื่อเจ้าสัวนายทุนผู้ละโมบโลภผลประโยชน์ต่อผู้ต่อสู้ต่อผู้บุกเบิกในแบบคนบ้านๆประชาชนคนไทยน้อยต้นทุนน้อยเงินลงทุนสนับสนุนเพื่อแสวงหาความอยู่รอดหรืออิสระทางการดำเนินชีวิตบนสังคมชุมชนไทยเราและชุมชนโลกเราจริง. ..ประชาชนคนไทยเราไม่สมควรเป็นผู้ร้องขอ,แต่เป็นผู้ได้รับโอกาสจริงเมื่อแจ้งความประสงค์มา. ..ธนาคารกลางของภาคประชาชนไทยเราจึงสมควรถือกำเนิดขึ้นจริงอย่างจริงจัง,แยกออกต่างหากชัดเจนจากธนาคารกลางของเอกชนที่กำกับดูแลเอกชน ปกป้องผลประโยชน์กำไรของธนาคารเอกชนโดยมาก เอื้อทำให้ธนาคารเอกชนมีผลประกอบการกำไรผิดปกติในขณะที่ภาคกิจการธุรกิจอื่นต่างล้มหายตายจากในวิกฤติเศรษฐกิจปัจจุบัน ซึ่งสะท้อนพิสูจน์ชัดเจนว่าธนาคารกลางกำลังทำเพื่อใคร อ้างประชาชนบังหน้าโดยความจริงคือกำไรของธนาคารเพิ่มขึ้นจากเงื่อนไขกติกากฎระเบียบที่ตนควบคุมประกาศใช้เพื่อเอื้ออำนวยรายได้สาระพัพทางแก่ธนาคารเอกชน ง่ายๆเช่น ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้นิดหน่อยตามข่าวปลายปีหรือต้นปีนี้ สะท้อนถึงกำไรรายได้ผลประกอบการธนาคารอย่างมีนัยยะชัดเจนทันที ข้อมูลบริษัทในตลาดหุ้นโชว์ผลประกอบการชัดเจนเป็นหลักฐานว่าเขียวเกือบทุกๆแบงค์ในกระดานก็ว่า,สวนทางกับภาคอุตสาหกรรมอื่นอย่างมีนัยยะผิดปกติชัดเจน,และธนาคารกลางแห่งประเทศไทยจริงๆต้องถูกสั่งการโดยรัฐบาลได้ควบคุมได้ทางตรงสั่งดำเนินนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้ให้เป็นไปทิศทางเดียวกันกับประชาชนของประเทศ เจริญก็เจริญด้วยกัน พังพินาศก็พังด้วยกัน,รัฐบาลสั่งคุ้มครองทางเงินควบคุมทางการเงินได้ทั้งประเทศ,กำหนดมูลค่าเงินและทิศทางการเงินได้จริง,จะมามุกอ้างบริหารงานอิสระตัดตอนมิให้รัฐบาลมาสร้างความเสียหายทางระบบเงินของประเทศไม่ได้ จะอ้างแบบนั้นไม่ได้ ส่วนรัฐบาลใดชั่วเลวนั่นอีกปัญหาหนึ่งคนละส่วนละประเด็นมิติของปัญหาใหญ่,เช่นรัฐบาลสามารถประกาศหยุดลอยตัวอัตราแลกเปลี่ยนได้,คงที่ที่1฿:25$ก็ได้หรือ1฿:35$เป็นอัตราคงที่ก็ได้,หรือกำหนดคงที่เทียบอัตราทองคำพื้นฐานได้ที่ไม่ปั่นราคาทองคำแบบปัจจุบัน,ไม่ต้องมาพยุงอัตราแลกเปลี่ยนใดๆอีก,ล็อกการปั่นราคาเก็งกำไรก็ได้ในสายตาพวกเล่นกำไรค่าเงินนั้นๆ1บาทล็อกเงินหยวนที่1หยวนก็ได้คือ1:1 , 1บาทต่อ1หยวนเลย,1บาทต่อ1เหรียญดอลล่าร์จะเป็นอะไรเพราะเหี้ยเงินกระดาษไร้ทองคำค้ำประกันเงินดอลล่าร์อะไรเลยแค่เครดิตชื่อว่าประเทศอเมริกานำหน้าเท่านั้น,เสือกพิมพ์ตัวเองเสรีเป็นว่าตามใจตนใช้ไม่ได้ ตังQEคือหลักฐานชัดเจน,จดอลล่าร์ไร้ค่าเป็นเศษกระดาษในปัจจุบัน ผีบ้าอะไรชาติอื่นถ้าเป็นแบบนี้ค่าเงินถูกลดค่าแล้ว เงินดอลล่าร์จริงๆสมควรถูกลดค่าลดเครดิตไปนานแล้ว อาจ1บาทต่อ0.0001ดอลล่าร์โน้น. ..ธนาคารกลางถือกำเนิดจากแนวคิดตระกูลอีลิทdeep stateซาตานฝ่ายมืดก็ด้วย เพื่อควบคุมประเทศต่างๆทั่วโลกผ่านระบบตัง,มิให้อำนาจปกครองในแต่ละประเทศมาทำให้เครือข่ายสำนักงานมันขัดจังหวะสั่งการได้เพื่อดำเนินนโยบายใดๆของพวกมันประสานงานกันอย่างราบรื่น,จึงห้ามอำนาจฝ่ายการเมืองการปกครองใดๆย่อมาไทยคือห้ามมาแทรกแซงสำนักงานdeep stateกูนะจะเสียกระบวนควบคุมมนุษย์ในแต่ละประเทศนั้นๆผ่านกลไกระบบตังกูที่ควบคุมครอบงำไว้,และหน้าที่ของทุกๆธนาคารทั่วโลกทำกำไรให้มากๆจากนั้นส่งส่วยส่งตังโอนมาให้สำนักงานdeep stateโลกสากลทันทีที่ต่างประเทศ,ยิ่งตอนนี้ตังขาดมือพวกมรึงธนาคารกลางและลูกน้องธนาคารทั้งหมดต้องทำยอดทำตังส่งตังมาให้กูมากๆมันว่า,กล่องดวงใจมันคือธนาคารกลางในไทยหรือธนาคารกลางทั่วโลกก็ว่า, ..เมื่อเรามีนายกฯดีๆเข้ามาจึงต้องเด็ดขาดทิังธนาคารกลางของdeep stateไป ตั้งธนาคารกลางของคนไทยจริงของภาคมหาประชาชนคนไทยจริงขึ้นมาแทนเพื่อส่งเสริมสนับสนุนทุนสัมมาอาชีพคนไทยทุกๆคนเป็นตัวเชื่อมเงินทุนจริง มิใช่เหี้ยมาออกรายการขอทานแบบนี้,เหยียบหยามประชาชนประชาชนคนไทยเราชัดเจน,และจริงๆคนไทยเราทุกๆคนร่ำรวยมาก มีปัจจัยซื้อหาวัตถุดิบสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อคนไทยเราและชาวโลกได้สบาย รวมกลุ่มระดมทุนก็ได้อีก,เพราะเฉลี่ยคนไทยเราทุกๆคน มีมูลค่ากว่า400-1,000ล้านบาทต่อคนในบัญชีทางการเงินได้สบายๆเมื่อประเมินมูลค่าทรัพยากรมีค่ามากมายเต็มแผ่นดินไทย,ไม่นับรวมผลงานสร้างสรรคสร้างรายได้ต่อยอดนวัตกรรมและฝีมือด้านอื่นสาระพัดตรึมอีก,อาจรวมกันจริงๆขั้นต่ำกว่า2,000ล้านบาทต่อคนไทยสบายๆ, ..เราสามารถสร้างฮับเงินทุนสัมมาอาชีพเพื่อการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเริ่มกิจการแต่ละคนของคนไทยเราทุกๆคนได้,ที่ไม่สร้างทำเพราะต้องการไม่ให้คนไทยพึ่งพาตนเองได้ต้องไปพึ่งพาพวกมัน ไปขอตังมาลงทุนกิจการจากพวกมันหรือยึดกิจการมรึงเสียเลยขาดตัวก็ว่า,แล้วเหยียบไว้แบบพลังงานเทสล่า พลังงานไฮโดรเจนใช้แค่พลังงานน้ำก็ขับขี่รถยนต์ไปมาได้ พลังงานแม่เหล็กที่บินขึ้นลงทางแนวดิ่งสบายและไร้ขีดจำกัด,ทั้งโลกสร้างพลังงานฟรีได้แต่มันปกปิดไว้ อยากทำขายให้คนเอาตังจึงเป็นที่มาของdeep stateในมุมมองที่ไปที่มาอีกแง่หนึ่งของมันก็ว่า,คนร่ำรวยเกือบทั้งหมดบนโลกล้วนขี้ข้าdeep stateเข้ารีตกับลัทธิตาเดียว ตังมากมายมันจะโอนมาเต็มบัญชีเลยล่ะ และต้องทำตามคำสั่งตลอดเวลาด้วย,ธนาคารกลางเราก็ไม่เว้น,มีธนาคารกลางตั้งนานทำไมประชาชนยังยากจนมากมาย บัตรคนจนเพิ่มขึ้น อยู่แต่ธนาคารเอกชนทำไมกำไรกันสบายดี,ร่ำรวยรายได้กันจริงๆ,แก๊งดูดตังมันไม่สามารถดูดตังประชาชนได้หรอกถ้าธนาคารไม่อำนวยสร้าง จะมีข้อมูลจนดูดตังได้โน้น,ดูดได้จริง,ก่อนโอนออกนอกประเทศธนาคารต้องตรวจสอบก่อนด้วยมีหลักฐานบัญชีปลายทางบัญชีต้นทางหมด ใครอยู่ที่ไหน หน้าตาเป็นแบบใดดึงออกมาดูได้หมด,ตลอดสามารถระบุชัดเจนเงื่อนไขการมีบัญชีธนาคารก็ได้ ว่า1บัตรประชาชนคนไทย สามารถมีได้แค่1บัญชีธนาคารได้แค่นั้นมีแค่1เบอร์มือถือด้วย,จะตัดตอนเปิดบัญชีหลายบัญชีทันที,ตัดตอนเบอร์มิจฉาชีพด้วยสแกนตรวจจับพบตัวในไทยได้ง่าย ตัดตอนมีซิมหลายเบอร์นั้นเอง,ฟอกเงินก็ตรวจสอบง่าย ใครมีตังมากน้อยจะกลัวอะไร มี10ล้ายล้านบาทในบัญชีเดียวจะกลัวอะไร กลัวหนีภาษีไม่ได้ฟอกเงินสลับเปลี่ยนบัญชีไม่ได้,คือเริ่มต้นทำก็ไม่สุจริตซื่อสัตย์นั้นเอง,กสทช.ก็อัพเรเวลระบบเสีย ผูกระบบโชว์ชื่อนามสกุลคนโทรเข้าเครื่องปลายทางอัตโนมัติด้วยแม้เครื่องปลายทางไม่ได้บันทึกชื่อสกุลนั่นไว้ในเครื่องเข้า,ใครโทรมานะบบตรวจจับโชว์ชื่อสกุลทันที นี้อะไรแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาก็ไม่รู้ ใครโทรมาก็โชว์ผีบ้าแต่เบอร์แต่ตัวเลข,ซื้อซิมก็ใช้บัตรประชาชนชื่อนามสกุลจริงซื้อ,กสทช.ต้องอัพระบบใหม่หมด,มือถือต้องเปลี่ยนให้รองรับก็ต้องเปลี่ยน,แจกแลกฟรีก็ได้เพื่อมือถือเครื่องนั้นรันกับระบบได้ ทำโปรแกรมได้ดั่งที่ว่า,ใช้ซิมกดฉนวนระเบิดภาคใต้ก็จะจบไปซิมห่าเหวอะไรเลอะเทอะล้นตลาดหมด, ..จึงต้องมีธนาคารกลางของภาคประชาชนจริงๆมิใช่ของธนาคารเอกชน มิใช่ของdeep state, ..ธนาคารภาคประชาชนจะเป็นอนาคตที่สดใสทันทีแิดตั้งแต่ต้นก่ประชาชน,มิใช่สดใสแก่ธนาคารเอกชนนายทุนสมคบคิดกับธนาคารเอกชนนั้นๆมันก็ช่วยเหลือเจ้าสัวอาเสี่ยอาเหี้ยมันกันเองนั้นล่ะเป็นหลัก ประชาชนทั่วไปเข้าไปใช้บริการก็แค่พบหมาตายเท่านั้นไร้ค่าไร้ความหมายราคาแก่พวกๆมัน,อ้างประชาชนรับใบอนุญาตประกอบการหาแดกแค่นั้นล่ะ,ประชาชนคือเหยื่อให้มัน,หนีัคือสิ่งที่มันมอบให้.จากนั้นความโกลาหลดิ้นรนบ้าคลั่งขาดสติจะตามมา,แล้วก็ไม่นาน สส.สว.ข้าราชการทั้งระบบมันจะซื้อด้วยเงินในระบบมันสิ้น,ขาดตังลงแดงขาดใจทันทีก็ว่า.ครอบครัวทั้งหมดพังพินาศทันทีเมื่อขาดตัง,สามีภรรยาทะเลาะกันสิ้น,ญาติพี่น้องทะเลาะกันก็เพราะมันคือตัง,ค่าใช้จ่ายสาระพัดต้องกำจัดปัญหาด้วยตังนั้นเอง,เด็กๆไปโรงเรียนต้องใช้ตัง,ค่ารักษายามเจ็บไข้ได้ป่วยต้องใช้ตัง,นี้คือผลของการที่ให้มีธนาคารกลางของdeep stateในประเทศไทยเรา,แต่ไม่มีธนาคารกลางจริงๆของภาคประชาชนไทยตนเอง,เราปกครองจากการเขียนแม่พิมพ์จากการเขียนแบบแปลงที่ผิดพลาดตั้งแต่ต้น,จึงต้องฉีกทิ้งมันทั้งหมดทันที,แล้วทำการเขียนใหม่ให้เป็นคุณแก่ภาคประชาชนเราจริงๆ. ..https://youtube.com/watch?v=M2USTwH-07k&si=40fTL6CmVqQ2GYHm
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 571 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทัวร์ไต้หวัน HIGHLIGHT!… ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา
    5 วัน 3 คืน ฟินจัดเต็มทั้งไหว้พระ เที่ยวธรรมชาติ ช้อปปิ้งเพลิน!

    เดินทาง:
    30 ก.ค. - 3 ส.ค. 2568
    13 - 17 ส.ค. 2568

    สายการบิน: VietJet Air (VZ)
    ราคาเพียง 11,999.-

    โปรแกรมสุดปัง:
    ขอพรเสริมเฮงที่วัดหลงซาน / วัดเหวิ่นหวู่ / วัดพระถีงซัมจั๋ง
    ล่องเรือชมวิวสุดชิวที่ทะเลสาบสุริยันจันทรา
    เที่ยวหมู่บ้านโบราณจีวเฟิน
    ถ่ายรูปชิคๆ ที่ท่าเรือเจิ้งปิน
    แวะชมอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค / อุทยานเหย๋หลิว
    ช้อปปิ้งมันส์ที่ซีเหมินติง / กลอเรียเอาท์เล็ต / ดิวตี้ฟรี
    เดินชิลไถจงไนท์มาร์เก็ต / เถาหยวนไนท์มาร์เก็ต

    รีบจองด่วน ที่นั่งมีจำนวนจำกัด!

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/ea2fe8

    ดูทัวร์ไต้หวันทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/b999ee

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #ทัวร์ไต้หวัน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ไต้หวันฟินเวอร์ #ล่องเรือสุริยันจันทรา #เที่ยวไต้หวัน #ทัวร์ไต้หวันราคาดี #ไต้หวันVZ #จีวเฟิน #ซีเหมินติง #ตลาดกลางคืนไต้หวัน #ทัวร์ไฟไหม้ #เที่ยวไต้หวันต้องไป
    🇹🇼 ทัวร์ไต้หวัน HIGHLIGHT!… ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา 🛶✨ 5 วัน 3 คืน ฟินจัดเต็มทั้งไหว้พระ เที่ยวธรรมชาติ ช้อปปิ้งเพลิน! 📅 เดินทาง: 30 ก.ค. - 3 ส.ค. 2568 13 - 17 ส.ค. 2568 ✈️ สายการบิน: VietJet Air (VZ) 💰 ราคาเพียง 11,999.- 📍 โปรแกรมสุดปัง: 🙏 ขอพรเสริมเฮงที่วัดหลงซาน / วัดเหวิ่นหวู่ / วัดพระถีงซัมจั๋ง 🚢 ล่องเรือชมวิวสุดชิวที่ทะเลสาบสุริยันจันทรา 🎎 เที่ยวหมู่บ้านโบราณจีวเฟิน 🚢 ถ่ายรูปชิคๆ ที่ท่าเรือเจิ้งปิน 📸 แวะชมอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค / อุทยานเหย๋หลิว 🛍️ ช้อปปิ้งมันส์ที่ซีเหมินติง / กลอเรียเอาท์เล็ต / ดิวตี้ฟรี 🌃 เดินชิลไถจงไนท์มาร์เก็ต / เถาหยวนไนท์มาร์เก็ต 🔥 รีบจองด่วน ที่นั่งมีจำนวนจำกัด! ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/ea2fe8 ดูทัวร์ไต้หวันทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/b999ee LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์ไต้หวัน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ไต้หวันฟินเวอร์ #ล่องเรือสุริยันจันทรา #เที่ยวไต้หวัน #ทัวร์ไต้หวันราคาดี #ไต้หวันVZ #จีวเฟิน #ซีเหมินติง #ตลาดกลางคืนไต้หวัน #ทัวร์ไฟไหม้ #เที่ยวไต้หวันต้องไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 518 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เบื่อพวกสมุนขี้ข้าซาตานdeep stateปั่นบิตคอยน์จริง btcนี้สมควรไปวัดจริงๆได้แล้วปั่นราคาจนเกินเวลาแล้ว ขุดเหมืองเปลืองพลังงานไฟฟ้าด้วย,ผีบ้าขุดเหมืองทางอิเล็กทรอนิกส์ พวกนี้สิ้นคิดสุดๆ อยากทำให้โลกเสมือนจริงมีมูลค่าอ้างขุดเหมืองทองคำผ่านวงจรไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ต้นทุนสูงพะนะ พวกสิ้นเปลืองไฟฟ้าชาวบ้านชาวเมืองชาวโลกเขาชัดเจน,สื่อช่องฝ่ายมืดเต็มโลกในแต่ละประเทศปั่นกระแสหลอกลวงล่อลวงคนไปทางที่ผิด,เหมืองทองคำแท้จับต้องได้จริงต่างหากคือของจริง,สมมุติโลกไม่มีไฟฟ้าใช้โทรศัพท์มือถือใช้ไม่ได้ดาวเทียมตกร่วงเป็นว่าเล่น เน็ตดาวเทียมดับอนาถไร้ส่งคลื่นมือถือ เสาส่งพังทั่วโลกเพราะภัยพิบัติธรรมชาติ พวกมรึงจะสแกนแลกทองคำbtcเสมือนจริงแบบไหนแดกแลกอาหารซื้อจริงแบบไหน,ชาวบ้านมีทองคำจริงเต็มมือ สามารถแลกจ่ายกันกลางป่ากลางดงเมืองดงธรรมชาติได้หมด สภาพคล่องจริงต่างกันชัดเจน,ดูน้ำท่วมพายุถล่มจีนปีทีแล้วล่าสุดระบบโทรศัพท์พังทัังมลฑล รอสแกนจ่ายตังผ่านมือถือยืนยันตัวตนหามีตังเงินสดๆจ่ายเพิ่มสภาพคล่องจริงไม่ได้เลย,ซวยคือไม่มีอาหารแดกแม้มีตังเต็มมือถือ,btcบิตคอยน์ก็อันเดียวกัน คริปโคฯนี้ไร้ทองคำจริงค้ำประกันแบบบาทคอยน์อินทนนท์เราด้วยเลย,บิตคอยน์จึงมหากาฬแห่งคริปโตฯที่โคตรล่อลวงหลอกลวงประชาชนสุดๆ,ทรัมป์บัดสบ ตัวพ่อdeep stateอเมริกาสมควรจัดการจริงด้วย.
    ..บิตคอยน์จริงๆbricsสมควรลงนามตกลงชัดเจนร่วมกันว่า ในนามสามชิกbricsทุกๆประเทศจะร่วมกันแบนบิตคอยน์หรือไม่เป็นที่ยอมรับแลกเปลี่ยนในสมาชิกbricsใครมีครอบครองในประเทศไม่สามารถเข้าร่วมbricsได้และร่วมกันกำจัดbtcนี้ออกจากระบบไป,btcคือตัวฟอกเงินตัวพ่อ ตัวค้ามนุษย์ด้วย,อนาถในนักวิชาการวิเคราะห์ตลาดเงินตลาดทุนจริงๆบัดสบมากๆตามตูดฝ่ายมืดฝ่ายไม่ดีเพียงโลภตังเท่านั้น.,จริงๆธปท.แบงค์ชาติเราสมควรลงดาบเด็ดขาด จับกุมผู้ครอบครองคริปโตโทเคนลักษณะนี้ชัดเจนอย่างเป็นทางการได้แล้ว ,บิ้กดาต้าในมือมีตรึมเห็นทุกๆการเคลื่อนไหวในโลกเสมือนจริงหมดล่ะ,ไม่มีทองคำห่าอะไรจริงค้ำประกันด้วย,แต่ธปท.กลับตาบอดไม่กำจัดออกไปจริงจัง,นี้คือระบบตังชัดเจน,ถ้าประเทศไทยเข้าร่วมbricsคริปโตโทเคนที่ไร้ทองคำค้ำประกันทั้งหมดต้องดับไปทันที,ไทยมีตังดิจิดัลเดียวคือบาทคอยน์ก็พอแล้ว,อนาคตใช้bricsสกุลเงินดิจิดัลbricsอีกอาจเป็น1brics:1฿ไทยก็ว่า,1brics:1หยวนจีนก็ด้วย ก็คือ1บาท:1หยวนจีนนั้นเอง,สมาชิกbricsจะใช้สกุลเงินกลางมาตราฐานกลุ่มใช้แลกเปลี่ยนกันจริงในอนาคต,ทุกๆสกุลเงินสมาชิกbricsเอาตังของตนไปตีค่าใหม่,คือbricsตั้งค่าใหม่รับรองใหม่ เช่น4บาทไทยปัจจุบันแลกได้1brics,จากนั้นจะเป็นมูลค่าใหม่ที่1บาทbrics,จีนก็1หยวนแลกได้1bricsตีมูลค่าใหม่เป็น1หยวนbrics,เมื่อทุกๆประเทศเอาตังทั้งประเทศใครมันตีมูลค่าใหม่เสร็จ,กลุ่มสมาชิกbricsจะทำการซื้อขายได้เสรีที่1:1ทันที,นักท่องเที่ยวไทยไปจีนก็จะจ่ายตังไทย1บาทเสมือน1หยวนได้ทันที,นักท่องเที่ยวจีนมาไทยก็จ่ายตังที่1หยวนกับ1บาทไทยได้ทันทีเช่นกัน ต่างฝ่ายยังคงอัตลักษณ์ของตนเองไว้แต่มูลค่าตังตีมูลค่าใหม่แล้วให้มีค่าเท่ากันทุกๆประเทศสมาชิกbricsนั้นเอง,ซึ่งดำเนินการโดยผู้นำผู้ปกครองประเทศนั้นๆแล้วโดยใช้ทองคำค้ำประกันค่าเงินตนเองไว้ในอัตราที่สร้างความแข็งแกร่งในสมาชิกbricsร่วมกัน,
    ..จึงต้องทำลายคริปโตเถื่อนทั้งหมดทิ้งไป,หมดเวลาเล่นแล้วก็ว่า,bricsต้องตั้งค่ามาตราฐานสากลนี้เป็นเงื่อนไขให้ชัดเจน,จีนมีbtcก็ต้องทำลายกำจัดจริงด้วย,รัสเชียมีก็ต้องทำลายกำจัดด้วย,คือคริปโตโทเคนใดๆที่ไม่ใช่บาทคอยน์ หยวนคอยน์ เป็นต้นของชาติสมาชิกของสกุลหลักชาติสมาชิกนั้นๆต้องห้ามปรากฎทุกๆกรณีในประเทศสมาชิก,ตัดตอนสร้างความโกลาหลวุ่นวายเสียสมดุลของระบบตังนั้นเอง.

    https://youtube.com/watch?v=bb_Ky9ejyoc&si=B5SEbHPqKcxQffzz
    ..เบื่อพวกสมุนขี้ข้าซาตานdeep stateปั่นบิตคอยน์จริง btcนี้สมควรไปวัดจริงๆได้แล้วปั่นราคาจนเกินเวลาแล้ว ขุดเหมืองเปลืองพลังงานไฟฟ้าด้วย,ผีบ้าขุดเหมืองทางอิเล็กทรอนิกส์ พวกนี้สิ้นคิดสุดๆ อยากทำให้โลกเสมือนจริงมีมูลค่าอ้างขุดเหมืองทองคำผ่านวงจรไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ต้นทุนสูงพะนะ พวกสิ้นเปลืองไฟฟ้าชาวบ้านชาวเมืองชาวโลกเขาชัดเจน,สื่อช่องฝ่ายมืดเต็มโลกในแต่ละประเทศปั่นกระแสหลอกลวงล่อลวงคนไปทางที่ผิด,เหมืองทองคำแท้จับต้องได้จริงต่างหากคือของจริง,สมมุติโลกไม่มีไฟฟ้าใช้โทรศัพท์มือถือใช้ไม่ได้ดาวเทียมตกร่วงเป็นว่าเล่น เน็ตดาวเทียมดับอนาถไร้ส่งคลื่นมือถือ เสาส่งพังทั่วโลกเพราะภัยพิบัติธรรมชาติ พวกมรึงจะสแกนแลกทองคำbtcเสมือนจริงแบบไหนแดกแลกอาหารซื้อจริงแบบไหน,ชาวบ้านมีทองคำจริงเต็มมือ สามารถแลกจ่ายกันกลางป่ากลางดงเมืองดงธรรมชาติได้หมด สภาพคล่องจริงต่างกันชัดเจน,ดูน้ำท่วมพายุถล่มจีนปีทีแล้วล่าสุดระบบโทรศัพท์พังทัังมลฑล รอสแกนจ่ายตังผ่านมือถือยืนยันตัวตนหามีตังเงินสดๆจ่ายเพิ่มสภาพคล่องจริงไม่ได้เลย,ซวยคือไม่มีอาหารแดกแม้มีตังเต็มมือถือ,btcบิตคอยน์ก็อันเดียวกัน คริปโคฯนี้ไร้ทองคำจริงค้ำประกันแบบบาทคอยน์อินทนนท์เราด้วยเลย,บิตคอยน์จึงมหากาฬแห่งคริปโตฯที่โคตรล่อลวงหลอกลวงประชาชนสุดๆ,ทรัมป์บัดสบ ตัวพ่อdeep stateอเมริกาสมควรจัดการจริงด้วย. ..บิตคอยน์จริงๆbricsสมควรลงนามตกลงชัดเจนร่วมกันว่า ในนามสามชิกbricsทุกๆประเทศจะร่วมกันแบนบิตคอยน์หรือไม่เป็นที่ยอมรับแลกเปลี่ยนในสมาชิกbricsใครมีครอบครองในประเทศไม่สามารถเข้าร่วมbricsได้และร่วมกันกำจัดbtcนี้ออกจากระบบไป,btcคือตัวฟอกเงินตัวพ่อ ตัวค้ามนุษย์ด้วย,อนาถในนักวิชาการวิเคราะห์ตลาดเงินตลาดทุนจริงๆบัดสบมากๆตามตูดฝ่ายมืดฝ่ายไม่ดีเพียงโลภตังเท่านั้น.,จริงๆธปท.แบงค์ชาติเราสมควรลงดาบเด็ดขาด จับกุมผู้ครอบครองคริปโตโทเคนลักษณะนี้ชัดเจนอย่างเป็นทางการได้แล้ว ,บิ้กดาต้าในมือมีตรึมเห็นทุกๆการเคลื่อนไหวในโลกเสมือนจริงหมดล่ะ,ไม่มีทองคำห่าอะไรจริงค้ำประกันด้วย,แต่ธปท.กลับตาบอดไม่กำจัดออกไปจริงจัง,นี้คือระบบตังชัดเจน,ถ้าประเทศไทยเข้าร่วมbricsคริปโตโทเคนที่ไร้ทองคำค้ำประกันทั้งหมดต้องดับไปทันที,ไทยมีตังดิจิดัลเดียวคือบาทคอยน์ก็พอแล้ว,อนาคตใช้bricsสกุลเงินดิจิดัลbricsอีกอาจเป็น1brics:1฿ไทยก็ว่า,1brics:1หยวนจีนก็ด้วย ก็คือ1บาท:1หยวนจีนนั้นเอง,สมาชิกbricsจะใช้สกุลเงินกลางมาตราฐานกลุ่มใช้แลกเปลี่ยนกันจริงในอนาคต,ทุกๆสกุลเงินสมาชิกbricsเอาตังของตนไปตีค่าใหม่,คือbricsตั้งค่าใหม่รับรองใหม่ เช่น4บาทไทยปัจจุบันแลกได้1brics,จากนั้นจะเป็นมูลค่าใหม่ที่1บาทbrics,จีนก็1หยวนแลกได้1bricsตีมูลค่าใหม่เป็น1หยวนbrics,เมื่อทุกๆประเทศเอาตังทั้งประเทศใครมันตีมูลค่าใหม่เสร็จ,กลุ่มสมาชิกbricsจะทำการซื้อขายได้เสรีที่1:1ทันที,นักท่องเที่ยวไทยไปจีนก็จะจ่ายตังไทย1บาทเสมือน1หยวนได้ทันที,นักท่องเที่ยวจีนมาไทยก็จ่ายตังที่1หยวนกับ1บาทไทยได้ทันทีเช่นกัน ต่างฝ่ายยังคงอัตลักษณ์ของตนเองไว้แต่มูลค่าตังตีมูลค่าใหม่แล้วให้มีค่าเท่ากันทุกๆประเทศสมาชิกbricsนั้นเอง,ซึ่งดำเนินการโดยผู้นำผู้ปกครองประเทศนั้นๆแล้วโดยใช้ทองคำค้ำประกันค่าเงินตนเองไว้ในอัตราที่สร้างความแข็งแกร่งในสมาชิกbricsร่วมกัน, ..จึงต้องทำลายคริปโตเถื่อนทั้งหมดทิ้งไป,หมดเวลาเล่นแล้วก็ว่า,bricsต้องตั้งค่ามาตราฐานสากลนี้เป็นเงื่อนไขให้ชัดเจน,จีนมีbtcก็ต้องทำลายกำจัดจริงด้วย,รัสเชียมีก็ต้องทำลายกำจัดด้วย,คือคริปโตโทเคนใดๆที่ไม่ใช่บาทคอยน์ หยวนคอยน์ เป็นต้นของชาติสมาชิกของสกุลหลักชาติสมาชิกนั้นๆต้องห้ามปรากฎทุกๆกรณีในประเทศสมาชิก,ตัดตอนสร้างความโกลาหลวุ่นวายเสียสมดุลของระบบตังนั้นเอง. https://youtube.com/watch?v=bb_Ky9ejyoc&si=B5SEbHPqKcxQffzz
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 525 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพเหตุการณ์ระเบิดครั้งใหญ่วันนี้ เวลาประมาณ 5:04 น. ที่โรงงานแบตเตอรี่ซานหยวน เอนเนอร์จี เทคโนโลยี (San Yuan Energy Technology) ในเขตเสี่ยวกัง (Xiaogang District) เมืองเกาสง (Kaohsiung) ของไต้หวัน

    โรงงานแห่งนี้ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะ "โรงงานซูเปอร์แบตเตอรี่" ผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน โดยส่วนใหญ่ใช้สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าและอากาศยาน

    ทางการไต้หวันออกประกาศคำแนะนำให้ประชาชนอพยพออกนอกพื้นที่ หรือให้อยู่ในบ้านโดยปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด เนื่องจากปริมาณฝุ่น PM2.5 ที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งปริมาณไฮโดรเจนฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นสารระคายเคืองที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ผิวหนัง และดวงตา

    มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 16 ราย แบ่งเป็นคนงานของโรงงาน 12 ราย และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 4 ราย

    สาเหตุของการระเบิดยังอยู่ระหว่างการสอบสวน โดยมีการคาดเดาที่ยังไม่ได้รับการยืนยันบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น X ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจเป็นการก่อวินาศกรรม แม้ว่าจะยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการสนับสนุนข้อกล่าวอ้างนี้

    โรงงานแห่งนี้ซึ่งดำเนินการโดย San Yuan Energy Technology (หรือที่รู้จักกันในชื่อ Molicel ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Taiwan Cement Corporation) เป็นผู้ผลิตรายสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
    ภาพเหตุการณ์ระเบิดครั้งใหญ่วันนี้ เวลาประมาณ 5:04 น. ที่โรงงานแบตเตอรี่ซานหยวน เอนเนอร์จี เทคโนโลยี (San Yuan Energy Technology) ในเขตเสี่ยวกัง (Xiaogang District) เมืองเกาสง (Kaohsiung) ของไต้หวัน โรงงานแห่งนี้ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะ "โรงงานซูเปอร์แบตเตอรี่" ผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน โดยส่วนใหญ่ใช้สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าและอากาศยาน ทางการไต้หวันออกประกาศคำแนะนำให้ประชาชนอพยพออกนอกพื้นที่ หรือให้อยู่ในบ้านโดยปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด เนื่องจากปริมาณฝุ่น PM2.5 ที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งปริมาณไฮโดรเจนฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นสารระคายเคืองที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ผิวหนัง และดวงตา มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 16 ราย แบ่งเป็นคนงานของโรงงาน 12 ราย และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 4 ราย สาเหตุของการระเบิดยังอยู่ระหว่างการสอบสวน โดยมีการคาดเดาที่ยังไม่ได้รับการยืนยันบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น X ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจเป็นการก่อวินาศกรรม แม้ว่าจะยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการสนับสนุนข้อกล่าวอ้างนี้ โรงงานแห่งนี้ซึ่งดำเนินการโดย San Yuan Energy Technology (หรือที่รู้จักกันในชื่อ Molicel ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Taiwan Cement Corporation) เป็นผู้ผลิตรายสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 418 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ยังคงมีเรื่องมาคุยกันจากละคร <สามีข้าเป็นฮีโร่> ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว สืบเนื่องจากเคยมีเพื่อนเพจอยากให้พูดคุยเกี่ยวกับอาคารบ้านเรือนจีนโบราณ และในละครเรื่องนี้นางเอกพยายามเผาห้องของพระเอกที่อยู่ติดกันซึ่งเรียกว่า “เอ่อร์ฝาง” (耳房) เนื้อหาตอนนี้ในหนังสือเรื่องนี้ไม่มี เราลองทำความเข้าใจเกี่ยวกับเอ่อร์ฝางและเรือนจีนโบราณจากนิยายเรื่องอื่นกัน

    ความมีอยู่ว่า
    ... จิ้งหยวนแม้เป็นเรือนในชั้นรอง แต่ขนาดไม่ใหญ่ อาคารหลักที่เขาทั้งสองพักอาศัยเป็นอาคารสามห้อง ซ้ายขวามีเรือนห้อย (เอ่อร์ฝาง) ถัดไปเบื้องหน้าด้านซ้ายขวาเป็นอาคารตะวันตกและตะวันออก ห้องในอาคารหลักนี้ ประกอบด้วยห้องโถงรับรองตรงกลาง ห้องฟากตะวันตกเป็นห้องหนังสือ ส่วนห้องฟากตะวันออกเป็นห้องนอน มีตีผนังทะลุไปยังเรือนห้อยที่ติดกันกั้นไว้ด้วยผนังฉาก จัดเป็นห้องชำระ...
    - จากเรื่อง <เกิดใหม่อีกที ไม่ขอมีสามีสกุลหลี่> ผู้แต่ง ฉางโกวลั่วเยวี่ย
    (หมายเหตุ ชื่อหนังสือตามฉบับแปลอย่างเป็นทางการ แต่บทความ Storyฯ แปลเองจ้า)

    บทบรรยายข้างต้นเป็นการกล่าวถึงลักษณะเรือนซื่อเหอเยวี่ยน หรือเรือนสี่ประสานอันเป็นรูปทรงทั่วไปของเรือนจีนโบราณ (หาอ่านเพิ่มเติมได้ตามลิ้งค์ข้างล่าง)

    เอ่อร์ฝาง หรือเรือนห้อย (ดูภาพที่วงไว้ในแผนผังรูปอาคาร และรูปที่เอามาจากในละคร) วิธีจำง่ายๆ คือ “เอ่อร์” แปลว่าหู ก็นึกภาพว่าอาคารหลักมีหูสองข้างเป็นเรือนห้อยนี่แล่ะ เอกลักษณ์ของมันคือมันต้องเป็นห้องที่มีขนาดเล็กและหลังคาเตี้ยกว่าอาคารหลัก

    แล้วมันมีไว้เพื่อ? ในองค์ประกอบของเรือนสี่ประสานนั้น ใครอยู่ห้องไหนจะมีลำดับความสำคัญ เช่นเจ้าบ้านจะอยู่ในอาคารหลัก ในอาคารหลักแบ่งให้ผู้อาวุโสพำนักในห้องฝั่งตะวันออก อาวุโสรองลงมาก็อยู่ห้องฝั่งตะวันตก เป็นต้น และสำหรับคฤหาสน์ของคหบดีหรือข้าราชการที่มีฐานะ จะประกอบด้วยหมู่เรือนสี่ประสานหลายชั้น ลูกแต่ละคนก็มีเรือนส่วนตัวแยกเป็นของตนเอง

    เนื่องจากเอ่อร์ฝางเป็นเพียงห้องที่ห้อยติดกับอาคารหลัก จึงใช้เป็นห้องนอนสำหรับผู้ที่ด้อยศักดิ์ของครอบครัว หรืออนุ สำหรับบ้านที่ไม่ได้มีหลายหมู่เรือน หรือไว้ใช้อเนกประสงค์สำหรับบ้านที่ใหญ่และมีหมู่เรือนหลายชั้น (อย่างเช่นตัวอย่างตามบทความจากนิยายข้างต้น)

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.sohu.com/a/450812871_100288750
    https://aichineseschool.wordpress.com/tag/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99/
    Credit เนื้อหารวบรวมจาก:
    http://m.52shijing.com/lsjm/81120.html
    https://zh.m.wikipedia.org/wiki/%E8%80%B3%E6%88%BF

    เนื้อหาเกี่ยวกับลักษณะเรือนสี่ประสาน อ่านเพิ่มเติม (ภาษาไทย) ได้ที่ https://aichineseschool.wordpress.com/tag/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99/

    #สามีข้าคือฮีโร่ #เกิดใหม่อีกทีไม่ขอมีสามีสกุลหลี่ #บ้านจีนโบราณ #เรือนสี่ประสาน #ซื่อเหอย่วน #เรือนห้อย #เอ่อร์ฝาง #StoryfromStory
    วันนี้ยังคงมีเรื่องมาคุยกันจากละคร <สามีข้าเป็นฮีโร่> ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว สืบเนื่องจากเคยมีเพื่อนเพจอยากให้พูดคุยเกี่ยวกับอาคารบ้านเรือนจีนโบราณ และในละครเรื่องนี้นางเอกพยายามเผาห้องของพระเอกที่อยู่ติดกันซึ่งเรียกว่า “เอ่อร์ฝาง” (耳房) เนื้อหาตอนนี้ในหนังสือเรื่องนี้ไม่มี เราลองทำความเข้าใจเกี่ยวกับเอ่อร์ฝางและเรือนจีนโบราณจากนิยายเรื่องอื่นกัน ความมีอยู่ว่า ... จิ้งหยวนแม้เป็นเรือนในชั้นรอง แต่ขนาดไม่ใหญ่ อาคารหลักที่เขาทั้งสองพักอาศัยเป็นอาคารสามห้อง ซ้ายขวามีเรือนห้อย (เอ่อร์ฝาง) ถัดไปเบื้องหน้าด้านซ้ายขวาเป็นอาคารตะวันตกและตะวันออก ห้องในอาคารหลักนี้ ประกอบด้วยห้องโถงรับรองตรงกลาง ห้องฟากตะวันตกเป็นห้องหนังสือ ส่วนห้องฟากตะวันออกเป็นห้องนอน มีตีผนังทะลุไปยังเรือนห้อยที่ติดกันกั้นไว้ด้วยผนังฉาก จัดเป็นห้องชำระ... - จากเรื่อง <เกิดใหม่อีกที ไม่ขอมีสามีสกุลหลี่> ผู้แต่ง ฉางโกวลั่วเยวี่ย (หมายเหตุ ชื่อหนังสือตามฉบับแปลอย่างเป็นทางการ แต่บทความ Storyฯ แปลเองจ้า) บทบรรยายข้างต้นเป็นการกล่าวถึงลักษณะเรือนซื่อเหอเยวี่ยน หรือเรือนสี่ประสานอันเป็นรูปทรงทั่วไปของเรือนจีนโบราณ (หาอ่านเพิ่มเติมได้ตามลิ้งค์ข้างล่าง) เอ่อร์ฝาง หรือเรือนห้อย (ดูภาพที่วงไว้ในแผนผังรูปอาคาร และรูปที่เอามาจากในละคร) วิธีจำง่ายๆ คือ “เอ่อร์” แปลว่าหู ก็นึกภาพว่าอาคารหลักมีหูสองข้างเป็นเรือนห้อยนี่แล่ะ เอกลักษณ์ของมันคือมันต้องเป็นห้องที่มีขนาดเล็กและหลังคาเตี้ยกว่าอาคารหลัก แล้วมันมีไว้เพื่อ? ในองค์ประกอบของเรือนสี่ประสานนั้น ใครอยู่ห้องไหนจะมีลำดับความสำคัญ เช่นเจ้าบ้านจะอยู่ในอาคารหลัก ในอาคารหลักแบ่งให้ผู้อาวุโสพำนักในห้องฝั่งตะวันออก อาวุโสรองลงมาก็อยู่ห้องฝั่งตะวันตก เป็นต้น และสำหรับคฤหาสน์ของคหบดีหรือข้าราชการที่มีฐานะ จะประกอบด้วยหมู่เรือนสี่ประสานหลายชั้น ลูกแต่ละคนก็มีเรือนส่วนตัวแยกเป็นของตนเอง เนื่องจากเอ่อร์ฝางเป็นเพียงห้องที่ห้อยติดกับอาคารหลัก จึงใช้เป็นห้องนอนสำหรับผู้ที่ด้อยศักดิ์ของครอบครัว หรืออนุ สำหรับบ้านที่ไม่ได้มีหลายหมู่เรือน หรือไว้ใช้อเนกประสงค์สำหรับบ้านที่ใหญ่และมีหมู่เรือนหลายชั้น (อย่างเช่นตัวอย่างตามบทความจากนิยายข้างต้น) (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ) Credit รูปภาพจาก: https://www.sohu.com/a/450812871_100288750 https://aichineseschool.wordpress.com/tag/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99/ Credit เนื้อหารวบรวมจาก: http://m.52shijing.com/lsjm/81120.html https://zh.m.wikipedia.org/wiki/%E8%80%B3%E6%88%BF เนื้อหาเกี่ยวกับลักษณะเรือนสี่ประสาน อ่านเพิ่มเติม (ภาษาไทย) ได้ที่ https://aichineseschool.wordpress.com/tag/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99/ #สามีข้าคือฮีโร่ #เกิดใหม่อีกทีไม่ขอมีสามีสกุลหลี่ #บ้านจีนโบราณ #เรือนสี่ประสาน #ซื่อเหอย่วน #เรือนห้อย #เอ่อร์ฝาง #StoryfromStory
    WWW.SOHU.COM
    《赘婿》首播:剧情搞笑,宋轶获赞,郭麒麟槽点较为集中_宁毅
    而郭麒麟从脸上讲就有点不合适,大家可以看一下这个镜头他和张若昀的对比,年龄和气质的差异一下子就能看出来,而且郭麒麟看起来特别的黑。 大家其实对郭麒麟这个演员没有什么意见,甚至也承认郭麒麟在平常生活中…
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 510 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..อนาคตประเทศไทยจะเป็นที่พึ่งของใครหลายคน ที่ไม่ใช่คนไทย มีบัตรประชาชนคนไทย เขาทั้งหลายมากมายหนีทุกข์มาพึ่งประเทศไทยที่สงบสุข ,จริงๆคนไทยเราใจดีมาก เป็นที่พึ่งคนต่างถิ่นใดๆได้,อันตรายคือบางคนที่มาพึ่งพิงนั้นเป็นคนไม่ดี ทำลายทำร้ายคนให้พึ่งพิงอาศัย เนรคุณทรยศอกตัญญูก็ว่า,เหมือนเขมรในปัจจุบันที่ผู้นำเขมรเองแสดงความอกตัญญูเนรคุณทรยศแผ่นดินไทยที่ตนเองเคยหนีตายมาพึ่งพาอาศัยอยู่กิน.

    ..เด็กๆผู้บริสุทธิ์มากมายตลอดผู้ปกครองพ่อแม่เขา มีทุกข์เป็นอันมากปกติอยู่แล้วในการดำรงชีพ ยิ่งเป็นคนไม่มีสัญชาติไทยอีกหรือตกหล่นประการใดก็ตามน่าเห็นใจมากที่สมควรได้รับการช่วยเหลือบนแผ่นดินไทยเรา,นี้ไง คนไทยเราต้องพ้นยากจนทุกๆคนทั้งหมดทันทีบนกลไกการปกครองที่ทำให้คนไทยมั่นคงในความยากจนนี้ต้องฉีกทิ้งกฎหมายผีบ้าต่างๆมากมายจริงที่ปล้นชิงแย่งชิงความร่ำรวยมั่งคั่งของคนไทยไปซึ่งส่วนใหญ่ถ่ายโอนไปสู่ชนชั้นนักการเมืองที่อยู่วงกลไกอำนาจรัฐทั้งสิ้นจะเจ้าสัวจะข้าราชการก็ตามมีหมดจนร่ำรวยผิดปกติจากการโกงกินทั้งเงินหลวงทั้งนอกเงินหลวงต่างๆที่ไม่สุจริตจนได้มาซึ่งทรัพย์สินมากมายมหาศาลอันผิดปกติพึ่งบุคคลควรมีได้,อำนาจรัฐจึงคือกลไกปัญหาหลักสำคัญที่สุดที่จะนำพาประชาชนทั้งประเทศร่ำรวยหรือยากจนดักดานจริงๆ,และเราสามารถยื่นโอกาสอันดีงามมากมายแก่คนที่เข้ามาบนแผ่นดินไทยให้เขามีชีวิตที่ดีงามผาสุขได้ เติบโตสร้างโลกให้สวยงามดีงามร่วมกันต่อไปได้,และอนาคตคนดีๆเหล่านี้ทำไมเราต้องปฏิเสธการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข เกลียดชังเขาด้วย ตราบใดเป็นคนดีขึ้นชื่อว่าดีแน่นอน,และทุกๆคนหมายทำสิ่งดีๆทั้งสิ้น,เราจึงต้องกำจัดคนชั่วเลวมิให้รังแกคนดีๆ จนเป็นคนไม่ดีนั้นเอง,,เพราะเมื่อเขาเติบโตล้วนสามารถเลือกภูมิประเทศที่ต้องการอยู่อาศัยได้,จริงๆเจตจำนงเสรีมนุษย์สมควรเลือกประเทศที่ตนต้องการอยู่อาศัยได้อิสระเสรีในกรณีคนดีปกติที่มิใช่คนชั่วเลวหมายทำร้ายทำลายร่างกายหรือฆ่าสังหารมนุษย์ด้วยกัน,พร้อมเงินสัมมาชีวิตตนติดตัว เช่นคนไทยอยากย้ายไปอยู่จีน ด้วยบัตรสูติบัตรตนที่เกิดมาสามารถเบิกตังองค์กรสากลโลกที่มีตังประจำสูติบัตรตั้งค่าไว้ เช่นสูติบัตรใบเกิดทุกๆคนบนโลกตีมูลค่าเป็นตังได้ที่คนละ100,000,000เหรียญดอลล่าร์ตลอดชีพ,นับตามอายุเฉลี่ยที่ใช้ไปและเหลืออยู่ มนุษย์อายุเฉลี่ย100ปี,ก็ตกปีละ1ล้านเหรียญต่อปีต่อคน,คนไทยที่ย้ายภูมิประเทศไปอยู่จีนเม็ดเงินนี้ก็ย้ายไปด้วยและแปลงค่าเป็นสกุลหยวนทันทีด้วย,คือ1ดอลล่าร์เท่ากับ7หยวนก็7ล้านหยวนต่อปี,คนไทยคนนั้นต้องบริหารตังภายใน1ปีใช้ตามนั้นเอง ส่วนจะสร้างเม็ดเงินเพิ่มขึ้นก็ความสามารถใครมัน,ทุกๆชีวิตมนุษย์เราบนโลกจะถูกตีมูลค่าชีวิตใหม่ให้เหมาะสมตามรูปแบบการดำรงชีวิตของโลกนั้นๆแบบเรา ในที่นี้ใช้ตังเป็นกลไกขับเคลื่อนวิถีชีวิต,เราก็ต้องทำลักษณะนี้,อยู่ไปได้แค่5ปีขอย้ายกลับมาเป็นสัญชาติไทยแบบหลังเรียนจบที่จีน,ตัง1ล้านดอลล่าร์นั้นก็ย้ายตามสถานะชีวิตเรามาด้วยแปลงเป็นเงินไทยคือ1ดอลล่าร์เท่ากับ33บาท นั่นคือ33ล้านบาทต่อปีที่มีตังในบัญชีเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเบื้องต้นในประเทศไทยให้สุขภาพร่างกายในเนื้อกายมนุษย์โลกนี้ปกติดีก่อนตายจากไป,ตายไปก็เป็นสถานะ0บาททันทีก็ว่า,โลกเราสมควรรีเซ็ตครั้งใหม่ครั้งใหญ่จริงๆตีมูลค่าใหม่,เด็กๆมากมายตามพ่อแม่หนีภัยมาพึ่งพาแผ่นดินไทยนี้และมิใช่เข้ามาเพื่อฆ่าล้างทำร้ายทำลายชีวิตคนไทยแต่อย่างใดหรือมาเอารัดเอาเปรียบเหยียบย่ำคนไทยแต่อย่างใด แค่ต้องการมีชีวิตที่ปกติดีเท่านั้น ในคนสำนึกดีปกติพึ่งเป็น,โลกจึงสมควรถูกตั้งค่าใหม่จริงๆ ,deep stateไซออนิสต์ก็จะถูกรีเซ็ตลบทิ้งด้วยทันทีเช่นกันในระบบใหม่ เพราะทุกๆชีวิตมนุษย์เราจะมีเจตจำนงเสรีเขียนเป็นโค้ตสัมมาชีวิตใครมันไว้,เอเลี่ยนแรปทีเลี่ยนใส่ชุดมนุษย์ปลอมเป็นมนุษย์สร้างโคลนขึ้นมาก็ตามจะคัดกรองแยกย่อยออกได้หมดมีแต่ค่าจริงเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่,และนั้นจะหมายความรวมถึง มนุษย์เราจะเคลื่อนย้ายสถานที่อยู่ตนเองได้อิสระเสรีตามเจตจำนงเจตนาตนมุ่งปราถนาไว้และอาจค้นหาตนเองตามระดับจิตระดับใจใครมันเองด้วยคือยกจิตยกใจตนเองเสรีไร้ใครขัดขวางบนโลกนี้อีกต่อไปเหมือนยุคเก่าอดีตหรือแบบปัจจุบันนี้,ใครมุ่งสิ่งใดก็อิสระที่จะทำตราบใดไม่ก้าวล่วงชีวิตคนอื่นมนุษย์คนอื่น ไม่ทำร้ายทำลายกัน ไม่ลักขโมยของกัน ไม่ฆ่ากัน,หรือผิดไปจากอารยะธรรมธรรมจักรวาลพื้นฐานที่ดีงามของการเป็นไปด้วยสัมมาชีวิตสัมมาอาชีพใครมัน.

    ..ประเทศไทยเรา จึงสมควรพร้อมเราคนดีที่บริสุทธิ์เหล่านี้ในการช่วยเหลือคนเหล่านั้นเบื้องต้นจนกว่าเขาจะพ้นภัยในเวลาที่สมควร.

    ..การมีตังติดตัวตั้งแต่เกิดจึงสำคัญมาก,จริงๆมีอยู่แล้วแต่ฝ่ายมืดเอาไปทำแดกเอง.

    ..เราจึงต้องล้างระบบใหม่,ที่สะดวกที่สุดคือระบบควอนตัมตังดิจิดัลจริงๆนั้นล่ะ,จึงจะสามารถอัพเรเวลได้ดี,การทุจริตโกงกินแบบเดิมๆจะเหลือศูนย์เพราะรู้กระแสการไหลของตังไปมาย้อนหลังได้หมด เข้าใครออกใครผ่านมากี่คน ทุกๆธุรกรรมควอนตัมมันบันทึกรายละเอียดหมด,ซึ่งมีทองคำค้ำประกันยิ่งดี ต่างจากบิตคอนย์BTCไม่มีทองคำค้ำประกันเลย ไร้เสถียรภาพมั่นคงอะไรอีลิทจึงสร้างมันขึ้นมาปั่นไซออนิสต์จึงสร้างมันมาเพื่อฟอกตังทั่วโลก,ฝ่ายมืดหมายใช่btcควบคุมตังยุคใหม่นั้นเอง,แต่คงไปไม่รอดเพราะไร้ทองคำค้ำประกันและการปั่นราคานี้คือครั้งสุดท้ายก็ได้ก่อนดับอนาถในวงการคริปโตฯสกุลbtcและตัวอื่นๆที่ไม่มีทองคำค้ำประกัน ต่างจากบาทคอยน์อินทนนท์เรามีทองคำค้ำประกันนะ,ไม่ใช่ผีบ้าแบบตังดิจิดัลแจก10,000บาทผีบ้านั้นกูรูแฉเสียไส้แตกหมดเปลือกก็ว่าเอาคริปโตโทเคนโนเนมมาขายให้ไทยแลกเป็นบาทที่มีทองคำค้ำประกัน,กินส่วนต่างโกงค่าแลกเปลี่ยนอีก,ไม่ซื่อสัตย์ชัดเจน,

    ..ใบเกิดเราสูติบัตรเราจึงสมควรตีมูลค่ากันใหม่ ชาวโลกสมควรมีตังในบัญชีตังดิจิดัลทุกๆคนที่100ล้านเหรียญตลอดชีพในเบื้องต้น,จริงๆฝ่ายแสงที่เขามโนไว้ว่ามีทรัพย์สินเงินทองเพชรนิลจินดาแร่ธาตุของมีค่ามากมายสาระพัดที่ยึดมาจากฝ่ายมืดได้ตีมูลค่าโดยประมาณไว้นั้นคือ 1×10⁸⁰⁰ขั้นต่ำ,หรือ1×10¹⁰⁰⁰ ขั้นกลางๆที่ฝ่ายมืดปล้นชิงแอบซ่อนคือชาวโลก8,000ล้านคน หักแรปทีเลี่ยนใส่ชุดคนออก หักโคลนสร้างนอมินีแทนคนจริงๆหักหุ่นยนต์แปลงเป็นคน,หักปีศาจมารซาตานอสูรแปลงเป็นคนอาจเหลือจริงแค่3,000-4,000ล้านคน,ตุยตายจากวัคซีนโควิดmRNAอีกในอนาคต แก่เฒ่าชราตายก่อนเตียงmedbedsจะมาอีก สรุปอาจเหลือมนุษย์ผิวโลกจริงๆแค่1,500-2,000ล้านคนว่าเหลือมากที่สุดแล้วนะ,ไทยอาจเหลือแค่5-10ล้านคนในอนาคตอันใกล้ ข้างบ้านป่วยสะสม โรคสะสมตรึม ตลอดจัดงานศพติดๆกันก็ว่าแล้ว.,กรณีใช้ตังดิจิดัลแจกจ่ายจึงสะดวกรวดเร็วจริง,แต่ต้องฝ่ายดีฝ่ายแสงปกครองนะแบบสภากาแล็กติกจักรวาลช่วยควบคุมระบบก็ว่า.,เฉลี่ยต่อคนชาวโลก อาจมากกว่า1,000ล้านเหรียญต่อคนต่อตลอดชีพได้สบายๆมาก,ตังทั้งโลกที่ฝ่ายแสงยึดทรัพย์มาจากฝ่ายมืดใช้ไปอีกเป็นแสนๆปีก็ยังใช้ไม่หมด,แต่ถ้าเบื้องต้นที่คนละ100ล้านเหรียญต่อคนต่อตลอดชีพถึงว่าทดลองเบิกจ่ายไปก่อนสามารถวิจัยประเมินผลติดตามค่าลยค่าบวกได้,ซึ่งอนาคตbricsอาจให้ประเทศสมาขิกใช้สกุลเงินbricsดิจิดัลนำร่องและใช้ในอัตรา1ต่อ1(1:1) 1บาทไทยต่อ1หยวนจีน นั้นเอง,ทำเป็นมาตรฐานสากล,จากนั้นตัง100ล้านเหรียญนี้ต่อคนต่อตลอดชีพจะตีมูลค่าที่100ล้านบาทเสมอกันกับ100ล้านหยวนนั้นเอง,
    ..บางคนอาจว่าคนไทยเราได้น้อยเมื่อเทียบทรัพยากรมีค่ามากมายของชาติไทยเราจริงที่เฉลี่ยต่อคนอาจมากถึง400ถึง800ล้านบาทต่อคนต่อตลอดชีพ,แต่นี้คือค่าประเมินเบื้องต้นจากมากกว่าคนละ1,000ล้านเหรียญที่ตีค่าไว้,ซึ่งอนาคตเมื่อชาวโลกเราอัพเรเวลสู่มิติ5Dเบื้องต้นหรือบรรลุธรรมจักรวาล ตังอาจไร้ค่าทันทีก็ว่า,สภาวะจิตวิญญาณใครมันสุดยอดแล้วนั้นเอง.

    ..เวลามนุษย์โลกชาวโลกคนใดจะย้ายไปอยู่ประเทศไหนๆสถานะการเงินจะย้ายไปทันทีด้วย,ประเทศนั้นๆจะมีตังบริหารจัดการชาติทันทีเพื่อช่วยดูแลชีวิตมนุษย์ทันนั้นๆรับเพิ่มทันทีที่1ล้านเหรียญต่อปีเช่นกัน,แยกต่างหากจากตังส่วนตัวของบุคคลนั้นๆที่ย้ายไปอยู่เพื่อแบ่งเบาภาวะทรัพยากรที่ประเทศนั้นๆเตรียมพร้อมรองรับในการใช้ชีวิตของมนุษย์โลกเราคนนั้นก็ว่า, ตัวอย่างคือ ประเทศไทยเรามีประชากร66ล้านคนก็66ล้านเหรียญในบัญชีตังดิจิดัลต่อคนต่อปีในการใช้จ่ายในชีวิต ส่วนรัฐบาลก็จะได้ทันทีแยกต่างหากเป็นสาธารณะแก่รัฐนั้นๆที่66ล้านเหรียญต่อคนต่อปีเช่นกัน,มีคนชาวโลกจากประเทศอื่นย้ายเข้ามาอยู่อาศันบนแผ่นดินไทยสัก20ล้านคนก็รับเพิ่มอีก20ล้านเหรียญให้แก่รัฐประเทศนั้นๆ,ปีต่อไปมีคนย้ายออกจากประเทศไทยที่50ล้านคน ,ผลคือ50ล้านเหรียญนี้จะย้ายตามคนนั้นๆไปจ่ายให้รัฐบาลประเทศอื่นนั้นๆเป็นสาธารณะให้รัฐบาลนั้นบริหารจัดการก็ว่าแทนที่เดิม,นี้ตังติดบุคคลช่วยลดภาระการไปอยู่บ้านเมืองอื่นที่ต้องการ,เด็กๆหรือบุคคลใดๆเข้ามาประเทศไทยเราแบบลักษณะคลิปนี้ เราสามารถดูแลชีวิตเขาได้เต็มที่ ตลอดเขาเองก็มีตังติดตัวมหาศาลไม่น้อย,เราจึงสามารถจรรโลงสร้างสรรค์โลกให้สวยงามดีงามสงบสุขสันติร่วมกันของทุกๆคนชาวโลกได้.
    ..
    ..https://youtube.com/shorts/Fv4asOidqg4?si=mwct5bmVmjBY47QJ
    ..อนาคตประเทศไทยจะเป็นที่พึ่งของใครหลายคน ที่ไม่ใช่คนไทย มีบัตรประชาชนคนไทย เขาทั้งหลายมากมายหนีทุกข์มาพึ่งประเทศไทยที่สงบสุข ,จริงๆคนไทยเราใจดีมาก เป็นที่พึ่งคนต่างถิ่นใดๆได้,อันตรายคือบางคนที่มาพึ่งพิงนั้นเป็นคนไม่ดี ทำลายทำร้ายคนให้พึ่งพิงอาศัย เนรคุณทรยศอกตัญญูก็ว่า,เหมือนเขมรในปัจจุบันที่ผู้นำเขมรเองแสดงความอกตัญญูเนรคุณทรยศแผ่นดินไทยที่ตนเองเคยหนีตายมาพึ่งพาอาศัยอยู่กิน. ..เด็กๆผู้บริสุทธิ์มากมายตลอดผู้ปกครองพ่อแม่เขา มีทุกข์เป็นอันมากปกติอยู่แล้วในการดำรงชีพ ยิ่งเป็นคนไม่มีสัญชาติไทยอีกหรือตกหล่นประการใดก็ตามน่าเห็นใจมากที่สมควรได้รับการช่วยเหลือบนแผ่นดินไทยเรา,นี้ไง คนไทยเราต้องพ้นยากจนทุกๆคนทั้งหมดทันทีบนกลไกการปกครองที่ทำให้คนไทยมั่นคงในความยากจนนี้ต้องฉีกทิ้งกฎหมายผีบ้าต่างๆมากมายจริงที่ปล้นชิงแย่งชิงความร่ำรวยมั่งคั่งของคนไทยไปซึ่งส่วนใหญ่ถ่ายโอนไปสู่ชนชั้นนักการเมืองที่อยู่วงกลไกอำนาจรัฐทั้งสิ้นจะเจ้าสัวจะข้าราชการก็ตามมีหมดจนร่ำรวยผิดปกติจากการโกงกินทั้งเงินหลวงทั้งนอกเงินหลวงต่างๆที่ไม่สุจริตจนได้มาซึ่งทรัพย์สินมากมายมหาศาลอันผิดปกติพึ่งบุคคลควรมีได้,อำนาจรัฐจึงคือกลไกปัญหาหลักสำคัญที่สุดที่จะนำพาประชาชนทั้งประเทศร่ำรวยหรือยากจนดักดานจริงๆ,และเราสามารถยื่นโอกาสอันดีงามมากมายแก่คนที่เข้ามาบนแผ่นดินไทยให้เขามีชีวิตที่ดีงามผาสุขได้ เติบโตสร้างโลกให้สวยงามดีงามร่วมกันต่อไปได้,และอนาคตคนดีๆเหล่านี้ทำไมเราต้องปฏิเสธการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข เกลียดชังเขาด้วย ตราบใดเป็นคนดีขึ้นชื่อว่าดีแน่นอน,และทุกๆคนหมายทำสิ่งดีๆทั้งสิ้น,เราจึงต้องกำจัดคนชั่วเลวมิให้รังแกคนดีๆ จนเป็นคนไม่ดีนั้นเอง,,เพราะเมื่อเขาเติบโตล้วนสามารถเลือกภูมิประเทศที่ต้องการอยู่อาศัยได้,จริงๆเจตจำนงเสรีมนุษย์สมควรเลือกประเทศที่ตนต้องการอยู่อาศัยได้อิสระเสรีในกรณีคนดีปกติที่มิใช่คนชั่วเลวหมายทำร้ายทำลายร่างกายหรือฆ่าสังหารมนุษย์ด้วยกัน,พร้อมเงินสัมมาชีวิตตนติดตัว เช่นคนไทยอยากย้ายไปอยู่จีน ด้วยบัตรสูติบัตรตนที่เกิดมาสามารถเบิกตังองค์กรสากลโลกที่มีตังประจำสูติบัตรตั้งค่าไว้ เช่นสูติบัตรใบเกิดทุกๆคนบนโลกตีมูลค่าเป็นตังได้ที่คนละ100,000,000เหรียญดอลล่าร์ตลอดชีพ,นับตามอายุเฉลี่ยที่ใช้ไปและเหลืออยู่ มนุษย์อายุเฉลี่ย100ปี,ก็ตกปีละ1ล้านเหรียญต่อปีต่อคน,คนไทยที่ย้ายภูมิประเทศไปอยู่จีนเม็ดเงินนี้ก็ย้ายไปด้วยและแปลงค่าเป็นสกุลหยวนทันทีด้วย,คือ1ดอลล่าร์เท่ากับ7หยวนก็7ล้านหยวนต่อปี,คนไทยคนนั้นต้องบริหารตังภายใน1ปีใช้ตามนั้นเอง ส่วนจะสร้างเม็ดเงินเพิ่มขึ้นก็ความสามารถใครมัน,ทุกๆชีวิตมนุษย์เราบนโลกจะถูกตีมูลค่าชีวิตใหม่ให้เหมาะสมตามรูปแบบการดำรงชีวิตของโลกนั้นๆแบบเรา ในที่นี้ใช้ตังเป็นกลไกขับเคลื่อนวิถีชีวิต,เราก็ต้องทำลักษณะนี้,อยู่ไปได้แค่5ปีขอย้ายกลับมาเป็นสัญชาติไทยแบบหลังเรียนจบที่จีน,ตัง1ล้านดอลล่าร์นั้นก็ย้ายตามสถานะชีวิตเรามาด้วยแปลงเป็นเงินไทยคือ1ดอลล่าร์เท่ากับ33บาท นั่นคือ33ล้านบาทต่อปีที่มีตังในบัญชีเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเบื้องต้นในประเทศไทยให้สุขภาพร่างกายในเนื้อกายมนุษย์โลกนี้ปกติดีก่อนตายจากไป,ตายไปก็เป็นสถานะ0บาททันทีก็ว่า,โลกเราสมควรรีเซ็ตครั้งใหม่ครั้งใหญ่จริงๆตีมูลค่าใหม่,เด็กๆมากมายตามพ่อแม่หนีภัยมาพึ่งพาแผ่นดินไทยนี้และมิใช่เข้ามาเพื่อฆ่าล้างทำร้ายทำลายชีวิตคนไทยแต่อย่างใดหรือมาเอารัดเอาเปรียบเหยียบย่ำคนไทยแต่อย่างใด แค่ต้องการมีชีวิตที่ปกติดีเท่านั้น ในคนสำนึกดีปกติพึ่งเป็น,โลกจึงสมควรถูกตั้งค่าใหม่จริงๆ ,deep stateไซออนิสต์ก็จะถูกรีเซ็ตลบทิ้งด้วยทันทีเช่นกันในระบบใหม่ เพราะทุกๆชีวิตมนุษย์เราจะมีเจตจำนงเสรีเขียนเป็นโค้ตสัมมาชีวิตใครมันไว้,เอเลี่ยนแรปทีเลี่ยนใส่ชุดมนุษย์ปลอมเป็นมนุษย์สร้างโคลนขึ้นมาก็ตามจะคัดกรองแยกย่อยออกได้หมดมีแต่ค่าจริงเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่,และนั้นจะหมายความรวมถึง มนุษย์เราจะเคลื่อนย้ายสถานที่อยู่ตนเองได้อิสระเสรีตามเจตจำนงเจตนาตนมุ่งปราถนาไว้และอาจค้นหาตนเองตามระดับจิตระดับใจใครมันเองด้วยคือยกจิตยกใจตนเองเสรีไร้ใครขัดขวางบนโลกนี้อีกต่อไปเหมือนยุคเก่าอดีตหรือแบบปัจจุบันนี้,ใครมุ่งสิ่งใดก็อิสระที่จะทำตราบใดไม่ก้าวล่วงชีวิตคนอื่นมนุษย์คนอื่น ไม่ทำร้ายทำลายกัน ไม่ลักขโมยของกัน ไม่ฆ่ากัน,หรือผิดไปจากอารยะธรรมธรรมจักรวาลพื้นฐานที่ดีงามของการเป็นไปด้วยสัมมาชีวิตสัมมาอาชีพใครมัน. ..ประเทศไทยเรา จึงสมควรพร้อมเราคนดีที่บริสุทธิ์เหล่านี้ในการช่วยเหลือคนเหล่านั้นเบื้องต้นจนกว่าเขาจะพ้นภัยในเวลาที่สมควร. ..การมีตังติดตัวตั้งแต่เกิดจึงสำคัญมาก,จริงๆมีอยู่แล้วแต่ฝ่ายมืดเอาไปทำแดกเอง. ..เราจึงต้องล้างระบบใหม่,ที่สะดวกที่สุดคือระบบควอนตัมตังดิจิดัลจริงๆนั้นล่ะ,จึงจะสามารถอัพเรเวลได้ดี,การทุจริตโกงกินแบบเดิมๆจะเหลือศูนย์เพราะรู้กระแสการไหลของตังไปมาย้อนหลังได้หมด เข้าใครออกใครผ่านมากี่คน ทุกๆธุรกรรมควอนตัมมันบันทึกรายละเอียดหมด,ซึ่งมีทองคำค้ำประกันยิ่งดี ต่างจากบิตคอนย์BTCไม่มีทองคำค้ำประกันเลย ไร้เสถียรภาพมั่นคงอะไรอีลิทจึงสร้างมันขึ้นมาปั่นไซออนิสต์จึงสร้างมันมาเพื่อฟอกตังทั่วโลก,ฝ่ายมืดหมายใช่btcควบคุมตังยุคใหม่นั้นเอง,แต่คงไปไม่รอดเพราะไร้ทองคำค้ำประกันและการปั่นราคานี้คือครั้งสุดท้ายก็ได้ก่อนดับอนาถในวงการคริปโตฯสกุลbtcและตัวอื่นๆที่ไม่มีทองคำค้ำประกัน ต่างจากบาทคอยน์อินทนนท์เรามีทองคำค้ำประกันนะ,ไม่ใช่ผีบ้าแบบตังดิจิดัลแจก10,000บาทผีบ้านั้นกูรูแฉเสียไส้แตกหมดเปลือกก็ว่าเอาคริปโตโทเคนโนเนมมาขายให้ไทยแลกเป็นบาทที่มีทองคำค้ำประกัน,กินส่วนต่างโกงค่าแลกเปลี่ยนอีก,ไม่ซื่อสัตย์ชัดเจน, ..ใบเกิดเราสูติบัตรเราจึงสมควรตีมูลค่ากันใหม่ ชาวโลกสมควรมีตังในบัญชีตังดิจิดัลทุกๆคนที่100ล้านเหรียญตลอดชีพในเบื้องต้น,จริงๆฝ่ายแสงที่เขามโนไว้ว่ามีทรัพย์สินเงินทองเพชรนิลจินดาแร่ธาตุของมีค่ามากมายสาระพัดที่ยึดมาจากฝ่ายมืดได้ตีมูลค่าโดยประมาณไว้นั้นคือ 1×10⁸⁰⁰ขั้นต่ำ,หรือ1×10¹⁰⁰⁰ ขั้นกลางๆที่ฝ่ายมืดปล้นชิงแอบซ่อนคือชาวโลก8,000ล้านคน หักแรปทีเลี่ยนใส่ชุดคนออก หักโคลนสร้างนอมินีแทนคนจริงๆหักหุ่นยนต์แปลงเป็นคน,หักปีศาจมารซาตานอสูรแปลงเป็นคนอาจเหลือจริงแค่3,000-4,000ล้านคน,ตุยตายจากวัคซีนโควิดmRNAอีกในอนาคต แก่เฒ่าชราตายก่อนเตียงmedbedsจะมาอีก สรุปอาจเหลือมนุษย์ผิวโลกจริงๆแค่1,500-2,000ล้านคนว่าเหลือมากที่สุดแล้วนะ,ไทยอาจเหลือแค่5-10ล้านคนในอนาคตอันใกล้ ข้างบ้านป่วยสะสม โรคสะสมตรึม ตลอดจัดงานศพติดๆกันก็ว่าแล้ว.,กรณีใช้ตังดิจิดัลแจกจ่ายจึงสะดวกรวดเร็วจริง,แต่ต้องฝ่ายดีฝ่ายแสงปกครองนะแบบสภากาแล็กติกจักรวาลช่วยควบคุมระบบก็ว่า.,เฉลี่ยต่อคนชาวโลก อาจมากกว่า1,000ล้านเหรียญต่อคนต่อตลอดชีพได้สบายๆมาก,ตังทั้งโลกที่ฝ่ายแสงยึดทรัพย์มาจากฝ่ายมืดใช้ไปอีกเป็นแสนๆปีก็ยังใช้ไม่หมด,แต่ถ้าเบื้องต้นที่คนละ100ล้านเหรียญต่อคนต่อตลอดชีพถึงว่าทดลองเบิกจ่ายไปก่อนสามารถวิจัยประเมินผลติดตามค่าลยค่าบวกได้,ซึ่งอนาคตbricsอาจให้ประเทศสมาขิกใช้สกุลเงินbricsดิจิดัลนำร่องและใช้ในอัตรา1ต่อ1(1:1) 1บาทไทยต่อ1หยวนจีน นั้นเอง,ทำเป็นมาตรฐานสากล,จากนั้นตัง100ล้านเหรียญนี้ต่อคนต่อตลอดชีพจะตีมูลค่าที่100ล้านบาทเสมอกันกับ100ล้านหยวนนั้นเอง, ..บางคนอาจว่าคนไทยเราได้น้อยเมื่อเทียบทรัพยากรมีค่ามากมายของชาติไทยเราจริงที่เฉลี่ยต่อคนอาจมากถึง400ถึง800ล้านบาทต่อคนต่อตลอดชีพ,แต่นี้คือค่าประเมินเบื้องต้นจากมากกว่าคนละ1,000ล้านเหรียญที่ตีค่าไว้,ซึ่งอนาคตเมื่อชาวโลกเราอัพเรเวลสู่มิติ5Dเบื้องต้นหรือบรรลุธรรมจักรวาล ตังอาจไร้ค่าทันทีก็ว่า,สภาวะจิตวิญญาณใครมันสุดยอดแล้วนั้นเอง. ..เวลามนุษย์โลกชาวโลกคนใดจะย้ายไปอยู่ประเทศไหนๆสถานะการเงินจะย้ายไปทันทีด้วย,ประเทศนั้นๆจะมีตังบริหารจัดการชาติทันทีเพื่อช่วยดูแลชีวิตมนุษย์ทันนั้นๆรับเพิ่มทันทีที่1ล้านเหรียญต่อปีเช่นกัน,แยกต่างหากจากตังส่วนตัวของบุคคลนั้นๆที่ย้ายไปอยู่เพื่อแบ่งเบาภาวะทรัพยากรที่ประเทศนั้นๆเตรียมพร้อมรองรับในการใช้ชีวิตของมนุษย์โลกเราคนนั้นก็ว่า, ตัวอย่างคือ ประเทศไทยเรามีประชากร66ล้านคนก็66ล้านเหรียญในบัญชีตังดิจิดัลต่อคนต่อปีในการใช้จ่ายในชีวิต ส่วนรัฐบาลก็จะได้ทันทีแยกต่างหากเป็นสาธารณะแก่รัฐนั้นๆที่66ล้านเหรียญต่อคนต่อปีเช่นกัน,มีคนชาวโลกจากประเทศอื่นย้ายเข้ามาอยู่อาศันบนแผ่นดินไทยสัก20ล้านคนก็รับเพิ่มอีก20ล้านเหรียญให้แก่รัฐประเทศนั้นๆ,ปีต่อไปมีคนย้ายออกจากประเทศไทยที่50ล้านคน ,ผลคือ50ล้านเหรียญนี้จะย้ายตามคนนั้นๆไปจ่ายให้รัฐบาลประเทศอื่นนั้นๆเป็นสาธารณะให้รัฐบาลนั้นบริหารจัดการก็ว่าแทนที่เดิม,นี้ตังติดบุคคลช่วยลดภาระการไปอยู่บ้านเมืองอื่นที่ต้องการ,เด็กๆหรือบุคคลใดๆเข้ามาประเทศไทยเราแบบลักษณะคลิปนี้ เราสามารถดูแลชีวิตเขาได้เต็มที่ ตลอดเขาเองก็มีตังติดตัวมหาศาลไม่น้อย,เราจึงสามารถจรรโลงสร้างสรรค์โลกให้สวยงามดีงามสงบสุขสันติร่วมกันของทุกๆคนชาวโลกได้. .. ..https://youtube.com/shorts/Fv4asOidqg4?si=mwct5bmVmjBY47QJ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 638 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนกำลังสร้างเมืองแห่ง AI กลางทะเลทรายตะวันตก — โครงการนี้ถูกพัฒนาในเมืองอี้อู (Yiwu) โดยมีแผนจะวางระบบดาต้าเซ็นเตอร์ 36 แห่ง เชื่อมต่อกันผ่านโครงข่ายความเร็วสูง → ที่เด็ดคือจำนวนชิป H100/H200 ที่จะใช้งานรวมกันเกิน 115,000 ตัว! → เทียบเท่ากับกริดของบริษัทคลาวด์ขนาดใหญ่ระดับโลกในบางประเทศเลยทีเดียว

    แต่ปัญหาใหญ่อยู่ที่ข้อจำกัดของสหรัฐฯ ที่ห้ามส่งออก NVIDIA รุ่นสูง (H100/H200) ไปยังจีน → แล้ว “จีนจะหาชิปจากไหน?” Bloomberg รายงานว่ามีช่องทางหลายรูปแบบ ทั้ง:
    - การขนย้ายผ่านประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น มาเลเซีย–สิงคโปร์
    - การใช้ชิป H20 ที่ยังไม่ถูกควบคุมแบบเข้มข้น
    - และการใช้ loophole ด้านเทรดเพื่อเข้าสู่ระบบภายใน → แสดงให้เห็นว่า มาตรการคุมส่งออกยังไม่สามารถปิดทุกช่องทางได้ 100%

    บริษัทคลื่นลูกใหม่เช่น Zhipu AI และ DeepSeek เริ่มใช้คลัสเตอร์ระดับ Sovereign AI — ที่รัฐบาลสนับสนุนให้สร้าง AI ด้วยทรัพยากรภายในประเทศ → ซึ่งถ้าโครงการนี้เดินหน้าได้จริง = จีนจะมี compute power ที่ใกล้เคียงกับสหรัฐฯ โดยไม่ต้องพึ่งบริษัทตะวันตกเลย

    จีนกำลังสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ขนาด hyperscale ที่ Yiwu → ครอบคลุม 36 ดาต้าเซ็นเตอร์
    • มีแผนใช้ NVIDIA H100 / H200 รวมกว่า 115,000 ตัว  
    • เป็นหนึ่งในโครงการใหญ่ที่สุดที่เคยสร้างในจีนด้าน AI

    แม้ถูกสหรัฐฯ จำกัดการเข้าถึง H-series → ยังมีการขนย้ายผ่านช่องทางระดับ SEA (เช่น สิงคโปร์–มาเลเซีย)

    จีนยังมีคลัง H20 ที่บริษัท Big Tech ภายในประเทศใช้งานอยู่แล้ว → อาจใช้ทดแทนการขาด H100 ได้ระดับหนึ่ง

    ดาต้าเซ็นเตอร์จีนเติบโตอย่างรวดเร็ว → คาดว่ามูลค่าตลาดจะอยู่ที่ 300 พันล้านหยวนภายในปีนี้

    โครงการยังไม่ได้รับการยืนยันจากฝ่ายสหรัฐฯ → อาจอยู่ในระยะลับหรือวางแผนต้นแบบ

    จีนยังไม่หันไปใช้ชิป Huawei หรือทางเลือกในประเทศสำหรับระบบ hyperscale → แสดงถึงการพึ่ง NVIDIA เป็นหลัก

    https://wccftech.com/chinese-ai-firms-plans-massive-domestic-data-center-with-100000-nvidia-ai-chips/
    จีนกำลังสร้างเมืองแห่ง AI กลางทะเลทรายตะวันตก — โครงการนี้ถูกพัฒนาในเมืองอี้อู (Yiwu) โดยมีแผนจะวางระบบดาต้าเซ็นเตอร์ 36 แห่ง เชื่อมต่อกันผ่านโครงข่ายความเร็วสูง → ที่เด็ดคือจำนวนชิป H100/H200 ที่จะใช้งานรวมกันเกิน 115,000 ตัว! → เทียบเท่ากับกริดของบริษัทคลาวด์ขนาดใหญ่ระดับโลกในบางประเทศเลยทีเดียว แต่ปัญหาใหญ่อยู่ที่ข้อจำกัดของสหรัฐฯ ที่ห้ามส่งออก NVIDIA รุ่นสูง (H100/H200) ไปยังจีน → แล้ว “จีนจะหาชิปจากไหน?” Bloomberg รายงานว่ามีช่องทางหลายรูปแบบ ทั้ง: - การขนย้ายผ่านประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น มาเลเซีย–สิงคโปร์ - การใช้ชิป H20 ที่ยังไม่ถูกควบคุมแบบเข้มข้น - และการใช้ loophole ด้านเทรดเพื่อเข้าสู่ระบบภายใน → แสดงให้เห็นว่า มาตรการคุมส่งออกยังไม่สามารถปิดทุกช่องทางได้ 100% บริษัทคลื่นลูกใหม่เช่น Zhipu AI และ DeepSeek เริ่มใช้คลัสเตอร์ระดับ Sovereign AI — ที่รัฐบาลสนับสนุนให้สร้าง AI ด้วยทรัพยากรภายในประเทศ → ซึ่งถ้าโครงการนี้เดินหน้าได้จริง = จีนจะมี compute power ที่ใกล้เคียงกับสหรัฐฯ โดยไม่ต้องพึ่งบริษัทตะวันตกเลย ✅ จีนกำลังสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ขนาด hyperscale ที่ Yiwu → ครอบคลุม 36 ดาต้าเซ็นเตอร์ • มีแผนใช้ NVIDIA H100 / H200 รวมกว่า 115,000 ตัว   • เป็นหนึ่งในโครงการใหญ่ที่สุดที่เคยสร้างในจีนด้าน AI ✅ แม้ถูกสหรัฐฯ จำกัดการเข้าถึง H-series → ยังมีการขนย้ายผ่านช่องทางระดับ SEA (เช่น สิงคโปร์–มาเลเซีย) ✅ จีนยังมีคลัง H20 ที่บริษัท Big Tech ภายในประเทศใช้งานอยู่แล้ว → อาจใช้ทดแทนการขาด H100 ได้ระดับหนึ่ง ✅ ดาต้าเซ็นเตอร์จีนเติบโตอย่างรวดเร็ว → คาดว่ามูลค่าตลาดจะอยู่ที่ 300 พันล้านหยวนภายในปีนี้ ✅ โครงการยังไม่ได้รับการยืนยันจากฝ่ายสหรัฐฯ → อาจอยู่ในระยะลับหรือวางแผนต้นแบบ ✅ จีนยังไม่หันไปใช้ชิป Huawei หรือทางเลือกในประเทศสำหรับระบบ hyperscale → แสดงถึงการพึ่ง NVIDIA เป็นหลัก https://wccftech.com/chinese-ai-firms-plans-massive-domestic-data-center-with-100000-nvidia-ai-chips/
    WCCFTECH.COM
    Chinese AI Firms Plan Massive Domestic Data Centers With 100,000+ NVIDIA AI Chips — But Where Will the Chips Come From?
    It is reported that China's AI companies have put up a big ambition of installing a "hyperscale" level facility in the nation.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวหน้าฝ่ายวางแผนของรัฐบาลจีนเผย เศรษฐกิจจีนจะมีมูลค่าเกิน 140 ล้านล้านหยวน (19.5 ล้านล้านดอลลาร์) หรือประมาณ 636 ล้านล้านบาทในปีนี้ ขณะที่ผู้กำหนดนโยบายของจีนเตรียมแผนขับเคลื่อนประเทศหลังจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปีปัจจุบันสิ้นสุดลงในช่วงปลายปี 2025

    จีนซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกกำลังเผชิญกับสงครามการค้าที่ยืดเยื้อกับสหรัฐฯ รวมไปถึงแรงกดดันจากภาวะเงินฝืดที่ยังแก้ไม่ตก

    “เมื่อมองย้อนกลับไปที่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 14 ความท้าทายที่เราเผชิญนั้นรุนแรงกว่าที่คาดไว้ แต่ความสำเร็จก็เกินความคาดหมาย” เจิ้ง ซานเจี๋ย (Zheng Shanjie) ประธานคณะกรรมการปฏิรูปและการพัฒนาแห่งชาติจีน ระบุในงานแถลงข่าว

    เจิ้ง ชี้ถึงความคืบหน้าที่เกิดขึ้นภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปี 2021–2025 ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญๆ เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจ นวัตกรรมเทคโนโลยี การปรับเปลี่ยนไปสู่ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000064644

    #Thaitimes #MGROnline #เศรษฐกิจจีน
    หัวหน้าฝ่ายวางแผนของรัฐบาลจีนเผย เศรษฐกิจจีนจะมีมูลค่าเกิน 140 ล้านล้านหยวน (19.5 ล้านล้านดอลลาร์) หรือประมาณ 636 ล้านล้านบาทในปีนี้ ขณะที่ผู้กำหนดนโยบายของจีนเตรียมแผนขับเคลื่อนประเทศหลังจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปีปัจจุบันสิ้นสุดลงในช่วงปลายปี 2025 • จีนซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกกำลังเผชิญกับสงครามการค้าที่ยืดเยื้อกับสหรัฐฯ รวมไปถึงแรงกดดันจากภาวะเงินฝืดที่ยังแก้ไม่ตก • “เมื่อมองย้อนกลับไปที่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 14 ความท้าทายที่เราเผชิญนั้นรุนแรงกว่าที่คาดไว้ แต่ความสำเร็จก็เกินความคาดหมาย” เจิ้ง ซานเจี๋ย (Zheng Shanjie) ประธานคณะกรรมการปฏิรูปและการพัฒนาแห่งชาติจีน ระบุในงานแถลงข่าว • เจิ้ง ชี้ถึงความคืบหน้าที่เกิดขึ้นภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปี 2021–2025 ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญๆ เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจ นวัตกรรมเทคโนโลยี การปรับเปลี่ยนไปสู่ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000064644 • #Thaitimes #MGROnline #เศรษฐกิจจีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 385 มุมมอง 0 รีวิว
  • วลีรักจาก <จันทราอัสดง>

    สวัสดีย้อนหลังวันวาเลนไทน์ วันนี้มาคุยเกี่ยวกับวลีบอกรักจากบทกวีจีนโบราณที่กล่าวถึงสองสัตว์ที่นับเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก

    วลีบอกรักนี้ เราเห็นในเรื่อง <จันทราอัสดง> ในฉากที่เยี่ยปิงส่างป่วยเพราะโดนปีศาจจับตัวไป พอฟื้นขึ้นมาเห็นองค์ชายเซียวหลิ่นเฝ้าอยู่ก็ร่ำไห้เอ่ยปากวลีสองวรรค หลังจากนั้นจึงได้หมั้นหมายกัน วลีที่ว่านี้คือ “หากได้เป็นดั่งปี่มู่ไม่เกรงกลัวตาย ยอมเป็นยวนยางไม่อิจฉาเซียน” (得成比目何辞死,愿作鸳鸯不羡仙) (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า)

    ‘ยวนยาง’ คือนกเป็ดน้ำแมนดารินที่เพื่อนเพจคงคุ้นเคยเพราะมีการกล่าวถึงในหลายนิยายซีรีส์และละครว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก ทั้งนี้ เพราะมันมักจะอยู่เป็นคู่ จึงถูกนำมาเปรียบเป็นคู่สามีภรรยาแต่โบราณโดยแรกปรากฏในบทประพันธ์ของซือหม่าเซียงหรู (กวีเอกสมัยราชวงศ์ฮั่น เจ้าของบทประพันธ์ซ่างหลินฟู่ที่ Storyฯ เคยเขียนถึง) ตอนจีบจั๋วเหวินจวิน (ย้อนอ่านเรื่องราวความรักของทั้งคู่ได้ในบทความเก่า https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid02KgmDKe2nCXSPkUDKWTYDNCXpfyP1PzzBqQCkdVtEw46Y7ZMkeZSwoVYxGFR9QHjhl)

    แล้ว ‘ปี่มู่’ ล่ะคืออะไร?

    ปี่มู่เป็นปลาในสายพันธ์ปลาลิ้นหมา (ดูรูปประกอบ 2) เอกลักษณ์ของมันคือ ตาทั้งคู่อยู่ใกล้กันบนตัวปลาด้านเดียวกัน ในสมัยจีนโบราณถูกใช้เปรียบเปรยถึงความรักอันล้ำลึกของคู่รักที่อยู่เคียงข้างกัน ไปไหนไปด้วยกัน

    “หากได้เป็นดั่งปี่มู่ไม่เกรงกลัวตาย ยอมเป็นยวนยางไม่อิจฉาเซียน” วลีนี้ความหมายก็คือยอมตายก็อยากอยู่ด้วยกัน ไม่ต้องมีความสุขพ้นทุกข์อย่างเซียนก็ได้

    เชื่อว่าเพื่อนเพจคงนึกว่ามันเป็นวลีที่มาจากกลอนรัก แต่จริงๆ แล้วหลายวลีรักจีนโบราณอันกินใจที่ Storyฯ เคยเขียนถึงนั้น ถ้าไม่ใช่บทกวีที่เกี่ยวกับการจากพราก ก็มาจากเรื่องราวอื่น วลีนี้ก็เช่นกัน ที่มาของมันคือบทกวีที่ชื่อว่า ‘ฉางอันกู่อี้’ (长安古意 แปลได้ประมาณว่า หวนรำลึกฉางอัน) ของหลูจ้าวหลิน กวีชื่อดังในสมัยองค์ถังไท่จงแห่งราชวงศ์ถัง ในสมัยถังตอนต้นนั้น เขาถูกยกย่องเป็นหนึ่งในสี่ยอดกวีแห่งยุค เป็นบทกวีในสไตล์โบราณที่ Storyฯ ขอเรียกว่ากลอนเจ็ด กล่าวคือในหนึ่งวรรคมีเจ็ดอักษร บทกวีนี้มีทั้งสิ้น 34 ประโยค รวม 68 วรรค เรียกได้ว่าเป็นบทกวีที่ยาวมากและเป็นถูกยกย่องให้เป็นต้นแบบของงานประพันธ์แห่งยุคสมัยนั้น

    หลูจ้าวหลินถูกเติ้งหวางหลี่หยวนอวี้รับเป็นคนสนิท เป็นขุนนางผู้ดูแลจวนอ๋อง ต่อมาติดตามเติ้งหวางออกจากเมืองฉางอัน และเมื่อเลิกทำงานกับเติ้งหวางแล้วก็ปักหลักอยู่ลั่วหยาง บทกวีนี้หลูจ้าวหลินแต่งขึ้นในช่วงเวลาที่ลั่วหยางนั่นเอง ต่อมาเขาถูกจับกุมขังด้วยบทกวีนี้ เพราะถูกเข้าใจว่าเขียนตำหนิหนึ่งในผู้มีอำนาจทางการเมืองในสมัยนั้น สุดท้ายแม้จะรอดชีวิตพ้นคุกมาได้ แต่ก็ป่วยจนสุดท้ายต้องจบชีวิตตนเอง

    เนื้อหาของ ‘ฉางอันกู่อี้’ กล่าวถึงความเรืองรองแห่งนครฉางอัน ความเจริญรุ่งเรืองถูกสะท้อนออกมาด้วยคำบรรยายความโอ่อ่าของอาคารบ้านเรือน ความตระการตาของนางรำที่เริงระบำดุจบุปผาและผีเสื้อที่ละลานตา บรรยากาศยามค่ำคืนอันคึกคักโดยมีหอนางโลมเป็นฉากหลัก สอดแทรกด้วยอารมณ์ที่ถูกเร้าขึ้นด้วยคำบรรยายแสงสีเสียง สื่อออกมาเป็นความรู้สึกต่างๆ ที่ยากจะอดกลั้นภายใต้บรรยากาศนี้ อย่างเช่นความรักความลุ่มหลง บทกวีเล่าถึงการมีชีวิตอยู่ในด้านมืดอย่างเช่นนางคณิกานางรำและคนที่มีอาชีพกลางคืน การแสดงอำนาจของชนชั้นสูง การแก่งแย่งชิงดีและการเกิดดับของอำนาจ สุดท้ายจบลงด้วยการบรรยายถึงบรรยากาศเงียบเหงาภายในเรือนเดี่ยว มีเพียงกลีบดอกไม้ที่ปลิวผ่านตามสายลมยามที่กุ้ยฮวา (หอมหมื่นลี้) บาน เป็นสไตล์การเขียนที่นิยมในสมัยนั้นคือจบลงด้วยวรรคที่ขัดแย้งกับเนื้อหาก่อนหน้าเพื่อให้ความรู้สึกที่แตกต่าง สร้างสมดุลให้แก่บทกวี

    วรรค “หากได้เป็นดั่งปี่มู่ไม่เกรงกลัวตาย ยอมเป็นยวนยางไม่อิจฉาเซียน” นี้ปรากฏในท่อนแรกๆ ที่กล่าวถึงความตระการตาของนางรำผู้เลอโฉม ชวนให้พร่ำเพ้อถึงความรักที่ไม่อาจเป็นไปได้ จะเห็นได้ว่า แม้วลีนี้จะกลายมาเป็นหนึ่งในวลีรักที่โด่งดังผ่านยุคสมัย แต่ต้นตอของมันจริงแล้วเป็นบทกวีที่บรรยายถึงชีวิตในนครฉางอัน สะท้อนถึงสุขและทุกข์ของความทรงจำในด้านต่างๆ ที่กวีมีต่อนครฉางอันอันเรืองรอง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://new.qq.com/rain/a/20230511A04T9O00
    https://so.gushiwen.cn/shiwenv_ac6684b5da86.aspx
    https://baike.baidu.com/item/长安古意/4804
    https://www.baike.com/wikiid/422703280303982502
    http://m.qulishi.com/article/202106/521082.html
    https://www.621seo.cn/a/83.html

    #จันทราอัสดง #ยวนยาง #ปี่มู่ #กวีถัง #ฉางอัน #หลูจ้าวหลิน
    วลีรักจาก <จันทราอัสดง> สวัสดีย้อนหลังวันวาเลนไทน์ วันนี้มาคุยเกี่ยวกับวลีบอกรักจากบทกวีจีนโบราณที่กล่าวถึงสองสัตว์ที่นับเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก วลีบอกรักนี้ เราเห็นในเรื่อง <จันทราอัสดง> ในฉากที่เยี่ยปิงส่างป่วยเพราะโดนปีศาจจับตัวไป พอฟื้นขึ้นมาเห็นองค์ชายเซียวหลิ่นเฝ้าอยู่ก็ร่ำไห้เอ่ยปากวลีสองวรรค หลังจากนั้นจึงได้หมั้นหมายกัน วลีที่ว่านี้คือ “หากได้เป็นดั่งปี่มู่ไม่เกรงกลัวตาย ยอมเป็นยวนยางไม่อิจฉาเซียน” (得成比目何辞死,愿作鸳鸯不羡仙) (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า) ‘ยวนยาง’ คือนกเป็ดน้ำแมนดารินที่เพื่อนเพจคงคุ้นเคยเพราะมีการกล่าวถึงในหลายนิยายซีรีส์และละครว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก ทั้งนี้ เพราะมันมักจะอยู่เป็นคู่ จึงถูกนำมาเปรียบเป็นคู่สามีภรรยาแต่โบราณโดยแรกปรากฏในบทประพันธ์ของซือหม่าเซียงหรู (กวีเอกสมัยราชวงศ์ฮั่น เจ้าของบทประพันธ์ซ่างหลินฟู่ที่ Storyฯ เคยเขียนถึง) ตอนจีบจั๋วเหวินจวิน (ย้อนอ่านเรื่องราวความรักของทั้งคู่ได้ในบทความเก่า https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid02KgmDKe2nCXSPkUDKWTYDNCXpfyP1PzzBqQCkdVtEw46Y7ZMkeZSwoVYxGFR9QHjhl) แล้ว ‘ปี่มู่’ ล่ะคืออะไร? ปี่มู่เป็นปลาในสายพันธ์ปลาลิ้นหมา (ดูรูปประกอบ 2) เอกลักษณ์ของมันคือ ตาทั้งคู่อยู่ใกล้กันบนตัวปลาด้านเดียวกัน ในสมัยจีนโบราณถูกใช้เปรียบเปรยถึงความรักอันล้ำลึกของคู่รักที่อยู่เคียงข้างกัน ไปไหนไปด้วยกัน “หากได้เป็นดั่งปี่มู่ไม่เกรงกลัวตาย ยอมเป็นยวนยางไม่อิจฉาเซียน” วลีนี้ความหมายก็คือยอมตายก็อยากอยู่ด้วยกัน ไม่ต้องมีความสุขพ้นทุกข์อย่างเซียนก็ได้ เชื่อว่าเพื่อนเพจคงนึกว่ามันเป็นวลีที่มาจากกลอนรัก แต่จริงๆ แล้วหลายวลีรักจีนโบราณอันกินใจที่ Storyฯ เคยเขียนถึงนั้น ถ้าไม่ใช่บทกวีที่เกี่ยวกับการจากพราก ก็มาจากเรื่องราวอื่น วลีนี้ก็เช่นกัน ที่มาของมันคือบทกวีที่ชื่อว่า ‘ฉางอันกู่อี้’ (长安古意 แปลได้ประมาณว่า หวนรำลึกฉางอัน) ของหลูจ้าวหลิน กวีชื่อดังในสมัยองค์ถังไท่จงแห่งราชวงศ์ถัง ในสมัยถังตอนต้นนั้น เขาถูกยกย่องเป็นหนึ่งในสี่ยอดกวีแห่งยุค เป็นบทกวีในสไตล์โบราณที่ Storyฯ ขอเรียกว่ากลอนเจ็ด กล่าวคือในหนึ่งวรรคมีเจ็ดอักษร บทกวีนี้มีทั้งสิ้น 34 ประโยค รวม 68 วรรค เรียกได้ว่าเป็นบทกวีที่ยาวมากและเป็นถูกยกย่องให้เป็นต้นแบบของงานประพันธ์แห่งยุคสมัยนั้น หลูจ้าวหลินถูกเติ้งหวางหลี่หยวนอวี้รับเป็นคนสนิท เป็นขุนนางผู้ดูแลจวนอ๋อง ต่อมาติดตามเติ้งหวางออกจากเมืองฉางอัน และเมื่อเลิกทำงานกับเติ้งหวางแล้วก็ปักหลักอยู่ลั่วหยาง บทกวีนี้หลูจ้าวหลินแต่งขึ้นในช่วงเวลาที่ลั่วหยางนั่นเอง ต่อมาเขาถูกจับกุมขังด้วยบทกวีนี้ เพราะถูกเข้าใจว่าเขียนตำหนิหนึ่งในผู้มีอำนาจทางการเมืองในสมัยนั้น สุดท้ายแม้จะรอดชีวิตพ้นคุกมาได้ แต่ก็ป่วยจนสุดท้ายต้องจบชีวิตตนเอง เนื้อหาของ ‘ฉางอันกู่อี้’ กล่าวถึงความเรืองรองแห่งนครฉางอัน ความเจริญรุ่งเรืองถูกสะท้อนออกมาด้วยคำบรรยายความโอ่อ่าของอาคารบ้านเรือน ความตระการตาของนางรำที่เริงระบำดุจบุปผาและผีเสื้อที่ละลานตา บรรยากาศยามค่ำคืนอันคึกคักโดยมีหอนางโลมเป็นฉากหลัก สอดแทรกด้วยอารมณ์ที่ถูกเร้าขึ้นด้วยคำบรรยายแสงสีเสียง สื่อออกมาเป็นความรู้สึกต่างๆ ที่ยากจะอดกลั้นภายใต้บรรยากาศนี้ อย่างเช่นความรักความลุ่มหลง บทกวีเล่าถึงการมีชีวิตอยู่ในด้านมืดอย่างเช่นนางคณิกานางรำและคนที่มีอาชีพกลางคืน การแสดงอำนาจของชนชั้นสูง การแก่งแย่งชิงดีและการเกิดดับของอำนาจ สุดท้ายจบลงด้วยการบรรยายถึงบรรยากาศเงียบเหงาภายในเรือนเดี่ยว มีเพียงกลีบดอกไม้ที่ปลิวผ่านตามสายลมยามที่กุ้ยฮวา (หอมหมื่นลี้) บาน เป็นสไตล์การเขียนที่นิยมในสมัยนั้นคือจบลงด้วยวรรคที่ขัดแย้งกับเนื้อหาก่อนหน้าเพื่อให้ความรู้สึกที่แตกต่าง สร้างสมดุลให้แก่บทกวี วรรค “หากได้เป็นดั่งปี่มู่ไม่เกรงกลัวตาย ยอมเป็นยวนยางไม่อิจฉาเซียน” นี้ปรากฏในท่อนแรกๆ ที่กล่าวถึงความตระการตาของนางรำผู้เลอโฉม ชวนให้พร่ำเพ้อถึงความรักที่ไม่อาจเป็นไปได้ จะเห็นได้ว่า แม้วลีนี้จะกลายมาเป็นหนึ่งในวลีรักที่โด่งดังผ่านยุคสมัย แต่ต้นตอของมันจริงแล้วเป็นบทกวีที่บรรยายถึงชีวิตในนครฉางอัน สะท้อนถึงสุขและทุกข์ของความทรงจำในด้านต่างๆ ที่กวีมีต่อนครฉางอันอันเรืองรอง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจาก: https://new.qq.com/rain/a/20230511A04T9O00 https://so.gushiwen.cn/shiwenv_ac6684b5da86.aspx https://baike.baidu.com/item/长安古意/4804 https://www.baike.com/wikiid/422703280303982502 http://m.qulishi.com/article/202106/521082.html https://www.621seo.cn/a/83.html #จันทราอัสดง #ยวนยาง #ปี่มู่ #กวีถัง #ฉางอัน #หลูจ้าวหลิน
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 706 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก่อนหน้านี้ เรามักนึกถึง Alibaba, Huawei, Tencent ว่าเป็น “ยักษ์ใหญ่จีนในจีน” แต่วันนี้พวกเขามีเป้าหมายชัดเจนว่าจะขยายตัวสู่ตลาดโลก โดยเฉพาะในช่วงที่เทรนด์ AI Infrastructure กำลังระเบิด → ทุกประเทศต่างแย่งกันสร้างศูนย์ข้อมูล รัน LLMs และติดอาวุธให้ธุรกิจด้วย AI

    จากรายงานของ Taiwan Economic Daily ระบุว่า:
    - Alibaba Cloud ลงทุนกว่า ¥400 ล้านหยวนเพื่อขยายฐาน AI ทั่วโลก
    - Huawei เริ่มปักหมุด Ascend Chips ในมาเลเซีย
    - Tencent ก็เตรียมเปิดศูนย์ข้อมูลในต่างประเทศเพิ่มเติม

    แม้จะสู้ Big Tech อย่าง AWS, Azure, Google Cloud ในเรื่อง CapEx ยังไม่ได้ แต่ ฝั่งจีนชูจุดขายด้าน “นวัตกรรมวิศวกรรม” และราคาย่อมเยา แถมมีโมเดล AI ที่เริ่มตีตื้น LLM ฝั่งตะวันตก เช่น Qwen2.5-Max, DeepSeek R1/R2

    โดยเฉพาะในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง ซึ่งยังเปิดกว้าง และไม่ยึดติดกับเทคโนโลยีจากฝั่งสหรัฐฯ → กลายเป็นสนามประลองใหม่ของ CSP จีนและอเมริกา

    Alibaba Cloud ลงทุนกว่า 400 ล้านหยวน (ราว 2 พันล้านบาท) ขยายบริการ AI Infrastructure สู่ต่างประเทศ  
    • เปิดศูนย์ข้อมูลในกว่า 29 ภูมิภาคนอกจีน  
    • เจาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง อย่างมาเลเซีย ไทย ฯลฯ

    Huawei ส่งชิป AI “Ascend” ลงพื้นที่ เช่นในมาเลเซีย เพื่อทดแทน GPU จากตะวันตก  
    • ใช้เป็นทางเลือกในการฝึกและรัน LLM แบบ sovereign AI

    Tencent และ Alibaba มี LLM รุ่นล่าสุดที่แข่งขันกับ GPT–Claude ได้ในบาง benchmark
    • เช่น Qwen2.5-Max, DeepSeek R1/R2  
    • แม้จะใช้ฮาร์ดแวร์ที่ “ด้อยกว่า” แต่ยังสร้างผลงานเทียบเคียงกันได้

    วิศวกรรม + ราคา ถูกชูเป็นข้อได้เปรียบเพื่อเจาะตลาดต่างประเทศ  
    • ไม่เน้น CapEx หนักแบบ AWS แต่ใช้ “โซลูชันเฉพาะกลุ่ม”

    ตลาดเป้าหมายหลักคือ: เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, อ่าวเปอร์เซีย, ประเทศกำลังพัฒนา

    https://wccftech.com/china-big-tech-csp-are-accelerating-their-overseas-expansion/
    ก่อนหน้านี้ เรามักนึกถึง Alibaba, Huawei, Tencent ว่าเป็น “ยักษ์ใหญ่จีนในจีน” แต่วันนี้พวกเขามีเป้าหมายชัดเจนว่าจะขยายตัวสู่ตลาดโลก โดยเฉพาะในช่วงที่เทรนด์ AI Infrastructure กำลังระเบิด → ทุกประเทศต่างแย่งกันสร้างศูนย์ข้อมูล รัน LLMs และติดอาวุธให้ธุรกิจด้วย AI 📌 จากรายงานของ Taiwan Economic Daily ระบุว่า: - Alibaba Cloud ลงทุนกว่า ¥400 ล้านหยวนเพื่อขยายฐาน AI ทั่วโลก - Huawei เริ่มปักหมุด Ascend Chips ในมาเลเซีย - Tencent ก็เตรียมเปิดศูนย์ข้อมูลในต่างประเทศเพิ่มเติม แม้จะสู้ Big Tech อย่าง AWS, Azure, Google Cloud ในเรื่อง CapEx ยังไม่ได้ แต่ ฝั่งจีนชูจุดขายด้าน “นวัตกรรมวิศวกรรม” และราคาย่อมเยา แถมมีโมเดล AI ที่เริ่มตีตื้น LLM ฝั่งตะวันตก เช่น Qwen2.5-Max, DeepSeek R1/R2 📍 โดยเฉพาะในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง ซึ่งยังเปิดกว้าง และไม่ยึดติดกับเทคโนโลยีจากฝั่งสหรัฐฯ → กลายเป็นสนามประลองใหม่ของ CSP จีนและอเมริกา ✅ Alibaba Cloud ลงทุนกว่า 400 ล้านหยวน (ราว 2 พันล้านบาท) ขยายบริการ AI Infrastructure สู่ต่างประเทศ   • เปิดศูนย์ข้อมูลในกว่า 29 ภูมิภาคนอกจีน   • เจาะตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง อย่างมาเลเซีย ไทย ฯลฯ ✅ Huawei ส่งชิป AI “Ascend” ลงพื้นที่ เช่นในมาเลเซีย เพื่อทดแทน GPU จากตะวันตก   • ใช้เป็นทางเลือกในการฝึกและรัน LLM แบบ sovereign AI ✅ Tencent และ Alibaba มี LLM รุ่นล่าสุดที่แข่งขันกับ GPT–Claude ได้ในบาง benchmark • เช่น Qwen2.5-Max, DeepSeek R1/R2   • แม้จะใช้ฮาร์ดแวร์ที่ “ด้อยกว่า” แต่ยังสร้างผลงานเทียบเคียงกันได้ ✅ วิศวกรรม + ราคา ถูกชูเป็นข้อได้เปรียบเพื่อเจาะตลาดต่างประเทศ   • ไม่เน้น CapEx หนักแบบ AWS แต่ใช้ “โซลูชันเฉพาะกลุ่ม” ✅ ตลาดเป้าหมายหลักคือ: เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, อ่าวเปอร์เซีย, ประเทศกำลังพัฒนา https://wccftech.com/china-big-tech-csp-are-accelerating-their-overseas-expansion/
    WCCFTECH.COM
    China's "Big Tech" CSPs Are Accelerating Their Overseas Expansion; Alibaba, Huawei & Tencent To Spend Billions On Global AI Infrastructure
    Major Chinese CSPs are now pushing towards making moves in the global AI markets, as Huawei, Tencent, and others allocate massive capital.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 349 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้คุยกันเรื่องสำนวนจีน พร้อมกับลงรูปรวมฮิตนางร้าย/นางรองในหลายละครจีนที่มีฝีไม้ลายมือประทับใจ Storyฯ เพราะเราจะคุยกันเรื่องวลีที่บรรยายถึงความอกหักรักคุด เป็นวลียอดนิยมในนิยายจีนที่อาจไม่มีการแปลตรงตัวออกมาเป็นบทพูดในละครนัก

    “ลั่วฮวาโหย่วอี้ หลิวสุ่ยอู๋ฉิง / 落花有意 流水无情” เพื่อนเพจแฟนนิยายจีนอาจเคยอ่านคำแปลหลากหลาย แต่ Storyฯ ขอแปลและเรียบเรียงเองว่า “บุปผาโปรยร่วงด้วยมีใจ สายนทีไหลผ่านไร้ไมตรี” วลีนี้มีความหมายว่าหลงรักเขาข้างเดียว ทอดสะพานให้ก็แล้ว ทำทุกสิ่งอย่างเพื่อเขาก็แล้ว แต่เขายังไม่เหลียวแลไม่เห็นคุณค่า

    เป็นประโยคที่นิยมใช้ในนิยายจีนมากมาย เพียงหลับตาก็เห็นภาพทิวทัศน์ แต่เพื่อนเพจรู้หรือไม่ว่า จริงๆ แล้วมันเป็นเพียงวรรคย่อของบทประพันธ์โดยกวีเอกสมัยราชวงศ์หมิงนามว่าเฝิงเมิ่งหลง (ค.ศ. 1574-1646) โดยมีวรรคเต็มแปลได้ว่า “บุปผาโปรยร่วงด้วยมีใจติดตามวารี สายนทีไหลผ่านไร้ไมตรีเมินรักบุษบา” (落花有意随流水,流水无情恋落花)

    ด้วยคำบรรยายกล่าวถึงดอกไม้พยายามเข้าหาสายน้ำ ฟังดูได้อารมณ์ฝ่ายหญิงอกหักจากการหลงรักชายฝ่ายเดียว แล้วถ้าเป็นฝ่ายชายหลงรักฝ่ายหญิงแต่ข้างเดียวล่ะ? จริงๆ แล้วใช้วลีนี้ก็ไม่ผิดและใช้กันค่อนข้างแพร่หลาย แต่แฟนนิยายจีนทั้งหลายทราบหรือไม่ว่ายังมีอีกวลีที่มีใจความคล้ายคลึงแต่ฟังดู “แมน” มากกว่า?

    เป็นวลีจากบทกวีจากสมัยราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271-1368) โดยกวีเอกเกาหมิง ใจความว่า “อั๋วเปิ่นเจียงซินเซี่ยงหมิงเยวี่ย ไน่เหอหมิงเยวี่ยเจ้าโกวฉวี / 我本将心向明月,奈何明月照沟渠" แปลได้ว่า “เดิมข้าฝากใจใฝ่จันทรา แต่จนใจจันทิราทอแสงส่องคูน้ำ” ความเดิมหมายถึงความรักความใส่ใจของพ่อแม่ที่มีต่อลูกแต่ลูกไม่ใยดี แต่กาลเวลาผ่านไปวลีนี้กลับถูกนำมาใช้ในบทประพันธ์หลากหลายจนกลายเป็นคำบรรยายถึงชายที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อหญิงที่ตนรัก แต่หญิงกลับเพิกเฉยไม่ใส่ใจ

    แต่ไม่ว่าจะเป็นวลีใด Storyฯ รู้สึกว่า บทกวีจีนโบราณมีความโรแมนติกเพราะมักอาศัยคำบรรยายถึงทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงามมาเปรียบเปรย ทีแรกที่อ่านถึงสองวลีนี้ ก็นึกถึงบทกลอนของบ้านเราที่ว่า “รักเขาข้างเดียวเหมือนเกลียวเชือก ต้องนอนกลิ้งนอนเกลือกจนเหงือกแห้ง...” แต่ก็รู้สึกว่าเปรียบเทียบกันตรงๆ ไม่ได้เพราะมันคนละอรรถรสกันเลย เพื่อนเพจว่าไหม?

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://kknews.cc/culture/5ab4ezk.html
    http://en.linkeddb.com/movie/59f3095d198c38001385e9ef/
    https://dramapearls.com/2019/03/23/princess-agents-chinese-drama-review-episode-guide/
    https://dramapanda.com/2016/12/character-posters-for-three-lives-three.html
    Credit ข้อมูลจาก:
    https://zhidao.baidu.com/question/539564315.html
    https://www.guwenxuexi.com/classical/21912.html
    https://www.163.com/dy/article/EEQV7LO70544511W.html
    วันนี้คุยกันเรื่องสำนวนจีน พร้อมกับลงรูปรวมฮิตนางร้าย/นางรองในหลายละครจีนที่มีฝีไม้ลายมือประทับใจ Storyฯ เพราะเราจะคุยกันเรื่องวลีที่บรรยายถึงความอกหักรักคุด เป็นวลียอดนิยมในนิยายจีนที่อาจไม่มีการแปลตรงตัวออกมาเป็นบทพูดในละครนัก “ลั่วฮวาโหย่วอี้ หลิวสุ่ยอู๋ฉิง / 落花有意 流水无情” เพื่อนเพจแฟนนิยายจีนอาจเคยอ่านคำแปลหลากหลาย แต่ Storyฯ ขอแปลและเรียบเรียงเองว่า “บุปผาโปรยร่วงด้วยมีใจ สายนทีไหลผ่านไร้ไมตรี” วลีนี้มีความหมายว่าหลงรักเขาข้างเดียว ทอดสะพานให้ก็แล้ว ทำทุกสิ่งอย่างเพื่อเขาก็แล้ว แต่เขายังไม่เหลียวแลไม่เห็นคุณค่า เป็นประโยคที่นิยมใช้ในนิยายจีนมากมาย เพียงหลับตาก็เห็นภาพทิวทัศน์ แต่เพื่อนเพจรู้หรือไม่ว่า จริงๆ แล้วมันเป็นเพียงวรรคย่อของบทประพันธ์โดยกวีเอกสมัยราชวงศ์หมิงนามว่าเฝิงเมิ่งหลง (ค.ศ. 1574-1646) โดยมีวรรคเต็มแปลได้ว่า “บุปผาโปรยร่วงด้วยมีใจติดตามวารี สายนทีไหลผ่านไร้ไมตรีเมินรักบุษบา” (落花有意随流水,流水无情恋落花) ด้วยคำบรรยายกล่าวถึงดอกไม้พยายามเข้าหาสายน้ำ ฟังดูได้อารมณ์ฝ่ายหญิงอกหักจากการหลงรักชายฝ่ายเดียว แล้วถ้าเป็นฝ่ายชายหลงรักฝ่ายหญิงแต่ข้างเดียวล่ะ? จริงๆ แล้วใช้วลีนี้ก็ไม่ผิดและใช้กันค่อนข้างแพร่หลาย แต่แฟนนิยายจีนทั้งหลายทราบหรือไม่ว่ายังมีอีกวลีที่มีใจความคล้ายคลึงแต่ฟังดู “แมน” มากกว่า? เป็นวลีจากบทกวีจากสมัยราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271-1368) โดยกวีเอกเกาหมิง ใจความว่า “อั๋วเปิ่นเจียงซินเซี่ยงหมิงเยวี่ย ไน่เหอหมิงเยวี่ยเจ้าโกวฉวี / 我本将心向明月,奈何明月照沟渠" แปลได้ว่า “เดิมข้าฝากใจใฝ่จันทรา แต่จนใจจันทิราทอแสงส่องคูน้ำ” ความเดิมหมายถึงความรักความใส่ใจของพ่อแม่ที่มีต่อลูกแต่ลูกไม่ใยดี แต่กาลเวลาผ่านไปวลีนี้กลับถูกนำมาใช้ในบทประพันธ์หลากหลายจนกลายเป็นคำบรรยายถึงชายที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อหญิงที่ตนรัก แต่หญิงกลับเพิกเฉยไม่ใส่ใจ แต่ไม่ว่าจะเป็นวลีใด Storyฯ รู้สึกว่า บทกวีจีนโบราณมีความโรแมนติกเพราะมักอาศัยคำบรรยายถึงทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงามมาเปรียบเปรย ทีแรกที่อ่านถึงสองวลีนี้ ก็นึกถึงบทกลอนของบ้านเราที่ว่า “รักเขาข้างเดียวเหมือนเกลียวเชือก ต้องนอนกลิ้งนอนเกลือกจนเหงือกแห้ง...” แต่ก็รู้สึกว่าเปรียบเทียบกันตรงๆ ไม่ได้เพราะมันคนละอรรถรสกันเลย เพื่อนเพจว่าไหม? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ) Credit รูปภาพจาก: https://kknews.cc/culture/5ab4ezk.html http://en.linkeddb.com/movie/59f3095d198c38001385e9ef/ https://dramapearls.com/2019/03/23/princess-agents-chinese-drama-review-episode-guide/ https://dramapanda.com/2016/12/character-posters-for-three-lives-three.html Credit ข้อมูลจาก: https://zhidao.baidu.com/question/539564315.html https://www.guwenxuexi.com/classical/21912.html https://www.163.com/dy/article/EEQV7LO70544511W.html
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 584 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฟนคลับละครจีนย้อนยุคกำลังภายในจะเห็นว่ามียาผงชนิดหนึ่งที่ตัวละครส่วนใหญ่มีพกติดตัวไว้โรยแผล เพื่อนเพจสงสัยกันบ้างหรือไม่ มันคือยาอะไร? ทำไมมีแผลอะไรก็เอาออกมาโรย? ไม่แน่ใจว่านิยายจีนฉบับแปลไทยมีชื่อเรียกยานี้หรือไม่ แต่ฉบับภาษาจีนจะเรียกยานี้ว่า จินชวงเย่า (金疮药)

    ความมีอยู่ว่า
    ... “ท่านหัวหน้ากองเฉิง ท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่?” จินเซี่ยถาม
    “ไม่เป็นไร ได้ยินมาว่าท่านมือปราบหยวนได้รับบาดเจ็บ นี้คือยาจินชวงเย่าที่ในวังทำขึ้นเพื่อหน่วยองครักษ์โดยเฉพาะ ดีกว่าข้างนอก ทาแล้วแผลจะสมานได้สมบูรณ์” เฉิงฝูกล่าวพลางวางขวดยาไว้บนโต๊ะ....

    - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร>

    จินชวงเย่าเป็นผงยาที่ใช้สำหรับบาดแผล มีสรรพคุณห้ามเลือด แก้อักเสบและสมานแผล สูตรยาอาจมีส่วนผสมแตกต่างกันไป แต่เรียกโดยรวมว่าจินชวงเย่า และจินชวงเย่าที่มีชื่อที่สุดในสมัยราชวงศ์ชิง เพราะว่ากันว่าระงับเลือดได้ชะงัดทันใจที่สุด มีชื่อเรียกว่า “เตาเจียนเย่า” (刀尖药)

    จินชวงเย่ามีตัวยาที่สำคัญมากคือ “หลงกู่” (龙骨 แปลว่ากระดูกมังกร) แต่มันไม่ใช่กระดูกของมังกรจริงๆ “หลงกู่” เป็นการเรียกรวมซากกระดูกโบราณที่ขุดพบ เช่นกระดองเต่า กระดูกวัว เป็นต้น (ดูภาพประกอบขวาล่าง) ว่ากันว่า ตอนที่ค้นพบซากกระดูกโบราณเหล่านี้ คนที่ค้นพบพยายามใช้มีดขูดลวดลายบนกระดูกออกด้วยความสงสัย แต่โดนมีดบาดมือ แต่ผงที่ขูดออกจากซากกระดูกกลับทำให้เลือดหยุดไหลได้ทันที จึงเอากระดูกเหล่านี้ไปขายให้ร้านยา จึงเป็นที่มาของการค้นพบว่าผงของหลงกู่บดละเอียดคือตัวยาสำคัญที่มีสรรพคุณห้ามเลือดและลดการอักเสบของจินชวงเย่านั่นเอง

    ประวัติของจินชวงเย่ามีมานานตั้งแต่เมื่อใด Storyฯ ก็หาข้อมูลไม่พบ แต่ที่แน่ๆ คือมีบันทึกถึงจินชวงเย่าไว้ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่ง (ค.ศ. 960–1279) และใช้กันอย่างแพร่หลายในสมัยราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1636-1912) สาเหตุที่ใช้กันมากในสมัยราชวงศ์ชิงนั้น เป็นเพราะในสมัยชิงต้องมีการโกนหัวจึงมักมีบาดแผลจากมีดโกน จินชวงเย่าจึงกลายเป็นยาสามัญประจำบ้าน

    และในยุคสมัยราชวงศ์ชิงนั้นเองที่จินชวงเย่าสาบสูญไป เหตุเพราะมีขุนนางชั้นผู้ใหญ่ผู้ดูแลงานอักษรนามว่า หวางอี้หรง สังเกตเห็นว่าเทียบยาของตนนั้นมียาหลงกู่ แต่เขาไม่รู้จักมัน จึงเรียกเอามาดู และสังเกตเห็นว่าลวดลายบนหลงกู่ที่แท้เป็นอักขระโบราณ แม้เขาอ่านไม่ออกแต่เชื่อว่ามันเป็นโบราณวัตถุอันทรงคุณค่า จึงออกกว้านซื้อเพื่อเก็บรักษาและใช้ศึกษาประวัติศาสตร์ ต่อมาในราชสำนักมีการทำอย่างนี้อย่างเป็นทางการ หลงกู่จึงมีราคาสูงมากและขาดตลาดไป ไม่สามารถนำมาใช้ทำจินชวงเย่าอีกต่อไป และด้วยตอนนั้นมีวิวัฒนาการด้านการแพทย์มากขึ้น จึงมีการคิดค้นตัวยาอื่นๆ มาทดแทน จึงเลิกใช้ผงยาจินชวงเย่าที่มีแก่นยามาจากหลงกู่จนมันสาบสูญไป (Storyฯ สงสัยว่าแล้วใช้กระดูกทั่วไปแทนไม่ได้หรืออย่างไร แต่หาคำตอบไม่ได้)

    ปัจจุบันมีการยืนยันแล้วว่าอักขระบนหลงกู่ ก็คืออักษรโบราณสมัยราชวงศ์ซาง (ประมาณปี1200–1050 ก่อนคริสตกาล) กระดูกเหล่านี้ถูกใช้บันทึกพิธีกรรมทางศาสนาที่สำคัญในยุคสมัยนั้น รวมถึงผลของพิธีทำนายต่างๆ และเหตุการณ์ทางด้านดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ ฝรั่งเรียกกระดูกเหล่านี้ว่า Oracle Bones

    ที่บ้าน Storyฯ มีผงยาห้ามเลือดของจีน แต่ไม่รู้ชื่อและส่วนผสม แต่หน้าตาให้ความรู้สึกเหมือนจินชวงเย่ามาก เวลาดูหนังจีนมักมโนว่ามันคือยาเดียวกัน แต่วันนี้รู้แล้วว่ามันคงทำมาจากส่วนผสมอื่น เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายๆ คนคงมียาที่ว่านี้ที่บ้านเหมือนกัน ใครมีข้อมูลว่ามันคืออะไรก็มาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    http://siaoyin.com/Info/8157030203451210773
    https://www.sohu.com/a/458843590_120172967
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.youtube.com/watch?v=U5NtRnOis9Y
    https://www.163.com/dy/article/G6S7ODGT05439D1U.html
    https://www.bilibili.com/read/cv10911896
    https://www.nms.ac.uk/explore-our-collections/stories/world-cultures/oracle-bones/

    #ยอดองครักษ์เสื้อแพร #ยาจีนโบราณ #ยาห้ามเลือดจีน #วัฒนธรรมจีนโบราณ #หลงกู่ #ราชวงศ์ชิง #จินเซี่ย #ใต้เท้าลู่ #จินชวงเย่า
    แฟนคลับละครจีนย้อนยุคกำลังภายในจะเห็นว่ามียาผงชนิดหนึ่งที่ตัวละครส่วนใหญ่มีพกติดตัวไว้โรยแผล เพื่อนเพจสงสัยกันบ้างหรือไม่ มันคือยาอะไร? ทำไมมีแผลอะไรก็เอาออกมาโรย? ไม่แน่ใจว่านิยายจีนฉบับแปลไทยมีชื่อเรียกยานี้หรือไม่ แต่ฉบับภาษาจีนจะเรียกยานี้ว่า จินชวงเย่า (金疮药) ความมีอยู่ว่า ... “ท่านหัวหน้ากองเฉิง ท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่?” จินเซี่ยถาม “ไม่เป็นไร ได้ยินมาว่าท่านมือปราบหยวนได้รับบาดเจ็บ นี้คือยาจินชวงเย่าที่ในวังทำขึ้นเพื่อหน่วยองครักษ์โดยเฉพาะ ดีกว่าข้างนอก ทาแล้วแผลจะสมานได้สมบูรณ์” เฉิงฝูกล่าวพลางวางขวดยาไว้บนโต๊ะ.... - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร> จินชวงเย่าเป็นผงยาที่ใช้สำหรับบาดแผล มีสรรพคุณห้ามเลือด แก้อักเสบและสมานแผล สูตรยาอาจมีส่วนผสมแตกต่างกันไป แต่เรียกโดยรวมว่าจินชวงเย่า และจินชวงเย่าที่มีชื่อที่สุดในสมัยราชวงศ์ชิง เพราะว่ากันว่าระงับเลือดได้ชะงัดทันใจที่สุด มีชื่อเรียกว่า “เตาเจียนเย่า” (刀尖药) จินชวงเย่ามีตัวยาที่สำคัญมากคือ “หลงกู่” (龙骨 แปลว่ากระดูกมังกร) แต่มันไม่ใช่กระดูกของมังกรจริงๆ “หลงกู่” เป็นการเรียกรวมซากกระดูกโบราณที่ขุดพบ เช่นกระดองเต่า กระดูกวัว เป็นต้น (ดูภาพประกอบขวาล่าง) ว่ากันว่า ตอนที่ค้นพบซากกระดูกโบราณเหล่านี้ คนที่ค้นพบพยายามใช้มีดขูดลวดลายบนกระดูกออกด้วยความสงสัย แต่โดนมีดบาดมือ แต่ผงที่ขูดออกจากซากกระดูกกลับทำให้เลือดหยุดไหลได้ทันที จึงเอากระดูกเหล่านี้ไปขายให้ร้านยา จึงเป็นที่มาของการค้นพบว่าผงของหลงกู่บดละเอียดคือตัวยาสำคัญที่มีสรรพคุณห้ามเลือดและลดการอักเสบของจินชวงเย่านั่นเอง ประวัติของจินชวงเย่ามีมานานตั้งแต่เมื่อใด Storyฯ ก็หาข้อมูลไม่พบ แต่ที่แน่ๆ คือมีบันทึกถึงจินชวงเย่าไว้ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่ง (ค.ศ. 960–1279) และใช้กันอย่างแพร่หลายในสมัยราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1636-1912) สาเหตุที่ใช้กันมากในสมัยราชวงศ์ชิงนั้น เป็นเพราะในสมัยชิงต้องมีการโกนหัวจึงมักมีบาดแผลจากมีดโกน จินชวงเย่าจึงกลายเป็นยาสามัญประจำบ้าน และในยุคสมัยราชวงศ์ชิงนั้นเองที่จินชวงเย่าสาบสูญไป เหตุเพราะมีขุนนางชั้นผู้ใหญ่ผู้ดูแลงานอักษรนามว่า หวางอี้หรง สังเกตเห็นว่าเทียบยาของตนนั้นมียาหลงกู่ แต่เขาไม่รู้จักมัน จึงเรียกเอามาดู และสังเกตเห็นว่าลวดลายบนหลงกู่ที่แท้เป็นอักขระโบราณ แม้เขาอ่านไม่ออกแต่เชื่อว่ามันเป็นโบราณวัตถุอันทรงคุณค่า จึงออกกว้านซื้อเพื่อเก็บรักษาและใช้ศึกษาประวัติศาสตร์ ต่อมาในราชสำนักมีการทำอย่างนี้อย่างเป็นทางการ หลงกู่จึงมีราคาสูงมากและขาดตลาดไป ไม่สามารถนำมาใช้ทำจินชวงเย่าอีกต่อไป และด้วยตอนนั้นมีวิวัฒนาการด้านการแพทย์มากขึ้น จึงมีการคิดค้นตัวยาอื่นๆ มาทดแทน จึงเลิกใช้ผงยาจินชวงเย่าที่มีแก่นยามาจากหลงกู่จนมันสาบสูญไป (Storyฯ สงสัยว่าแล้วใช้กระดูกทั่วไปแทนไม่ได้หรืออย่างไร แต่หาคำตอบไม่ได้) ปัจจุบันมีการยืนยันแล้วว่าอักขระบนหลงกู่ ก็คืออักษรโบราณสมัยราชวงศ์ซาง (ประมาณปี1200–1050 ก่อนคริสตกาล) กระดูกเหล่านี้ถูกใช้บันทึกพิธีกรรมทางศาสนาที่สำคัญในยุคสมัยนั้น รวมถึงผลของพิธีทำนายต่างๆ และเหตุการณ์ทางด้านดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ ฝรั่งเรียกกระดูกเหล่านี้ว่า Oracle Bones ที่บ้าน Storyฯ มีผงยาห้ามเลือดของจีน แต่ไม่รู้ชื่อและส่วนผสม แต่หน้าตาให้ความรู้สึกเหมือนจินชวงเย่ามาก เวลาดูหนังจีนมักมโนว่ามันคือยาเดียวกัน แต่วันนี้รู้แล้วว่ามันคงทำมาจากส่วนผสมอื่น เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายๆ คนคงมียาที่ว่านี้ที่บ้านเหมือนกัน ใครมีข้อมูลว่ามันคืออะไรก็มาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: http://siaoyin.com/Info/8157030203451210773 https://www.sohu.com/a/458843590_120172967 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.youtube.com/watch?v=U5NtRnOis9Y https://www.163.com/dy/article/G6S7ODGT05439D1U.html https://www.bilibili.com/read/cv10911896 https://www.nms.ac.uk/explore-our-collections/stories/world-cultures/oracle-bones/ #ยอดองครักษ์เสื้อแพร #ยาจีนโบราณ #ยาห้ามเลือดจีน #วัฒนธรรมจีนโบราณ #หลงกู่ #ราชวงศ์ชิง #จินเซี่ย #ใต้เท้าลู่ #จินชวงเย่า
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 691 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิวัฒนาการของเงินหยวน
    จาก RMB สู่ CNY และ CNH
    วิวัฒนาการของเงินหยวน จาก RMB สู่ CNY และ CNH
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่องนี้เขียนไว้แล้วก่อนหน้านี้แต่ยังไม่ได้อัพขึ้นเฟซ เลยเห็นว่ามีในเพจอื่นมีคนเพิ่งเขียนถึงไปวันนี้ แต่อ่านดูแล้วไม่ขัดแต่ก็ไม่ตรงกันเสียหมด เลยคิดว่ายังคงลงเพจตามเดิมเพื่อเป็นความรู้เพิ่มเติมให้เพื่อนเพจ เพียงแต่เลื่อนกำหนดมาอัพขึ้นเพจเร็วขึ้น

    เพื่อนเพจที่ได้ดูซีรีส์จีนเรื่อง <ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม> นี้จะทราบว่าในภาคอดีตนั้น นางเอกเป็นลูกศิษย์ของพระเอก Storyฯ เห็นพิธีกราบอาจารย์ของนางเอกก็เกิดความ ‘เอ๊ะ’ ทันที

    Storyฯ เคยเห็นแต่ศิษย์ยกน้ำชาโขกศีรษะคำนับอาจารย์ แต่ในละครนางเอกถือถาดเข้ามามอบให้อาจารย์ หน้าตาสิ่งของบนถาดคือตามรูป (ขวากลาง) จึงเกิดความสงสัย... ถาดนี้คือ? ในหนังสือนิยายไม่มีพูดถึงรายละเอียดของฉากนี้ Storyฯ เลยไปทำการบ้านมา

    จีนโบราณมีธรรมเนียมการมอบของให้อาจารย์เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์เรียกว่า ‘ลิ่วหลี่ซู่ซิว’ (六礼束脩 ซึ่งลิ่วหลี่แปลว่าหกพิธีการ ส่วนซู่ซิ่วหมายถึงเนื้อตากแห้งมัดเป็นพวงใช้แทนค่าเล่าเรียน ซึ่งจะเล่าต่อด้านล่าง)

    ลิ่วหลี่ซู่ซิวประกอบด้วยของหกอย่าง (ดูรูปประกอบขวาล่าง) ดังนี้
    1. ผักขึ้นฉ่าย – ภาษาจีนออกเสียงว่า ‘ฉินช่าย’ ซึ่งคำว่า ‘ฉิน’ พ้องเสียงกับคำว่าขยัน/ตั้งใจ หมายความว่า ลูกศิษย์จะขยันตั้งใจเรียน
    2. เมล็ดบัว - ซึ่งที่มาคือไส้เมล็ดบัวมีรสขม คำว่าไส้กับคำว่าใจคืออักษรเดียวกัน และ ‘ขมใจ’ ในภาษาจีนแปลได้ว่า เอาใจใส่/ตั้งใจ แม้จะยากลำบาก หมายความว่า ลูกศิษย์ทราบถึงความใส่ใจและความเพียรของอาจารย์ที่จะสั่งสอน
    3. ถั่วแดง - ซึ่งคำว่าแดงในภาษาจีนอ่านว่า ‘หง’ เป็นคำพ้องเสียงมาจากวลีที่ว่า หงอวิ้นเกาเจ้า (鸿运高照 แปลว่าโชคดีมาเยือน รุ่งเรืองเฉิดฉาย) เป็นการอวยพรให้ลูกศิษย์ประสบความสำเร็จ
    4. พุทราจีน - ภาษาจีนออกเสียงว่า ‘หงเจ่า’ ซึ่งคำว่า ‘เจ่า’ พ้องเสียงกับคำว่าเช้า/เร็ว ความหมายในที่นี้คือให้ลูกศิษย์สำเร็จวิชาอย่างรวดเร็ว (早早高中)
    5. ลำไย – ภาษาจีนเรียกว่า ‘หลงเหยี่ยน’ หรือชื่อเก่ากว่านั้นคือ ‘กุ้ยหยวน’ และ ‘หยวน’ แปลว่ากลมหรือบริบูรณ์ หมายถึงให้ลูกศิษย์มีครบบริบูรณ์ทั้งผลงานและคุณธรรม (功德圆满)
    6. เนื้อหมูตากแห้ง – (อยากจะเรียกว่า ‘แดดเดียว’ แต่เดี๋ยวจะนึกถึงอาหารบ้านเรา) การให้เนื้อตากแห้งมีที่มาจากคำเล่าขานว่า ขงจื้อเคยกล่าวว่าหากใครนำเนื้อตากแห้งมามอบให้ เขาจะไม่ปฏิเสธการรับคนผู้นั้นเป็นศิษย์ ดังนั้นการมอบเนื้อตากแห้งจึงเป็นการแสดงถึงความตั้งใจและความเคารพของลูกศิษย์ เป็นของขวัญ ‘แรกพบ’ ที่มอบให้อาจารย์ และต่อมากลายเป็นสัญลักษณ์ของค่าเล่าเรียน

    แต่ภาพในละครไม่เหมือนเป๊ะกับข้อมูลข้างต้น? (ดูรูปขวากลาง) Storyฯ เลยต้องไปทำการบ้านเพิ่ม

    เลยพบว่าเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับขงจื้อนั้น มีการวิเคราะห์กันแพร่หลายว่า ขงจื้อหมายความเรื่องเนื้อตากแห้งอย่างนั้นจริงหรือไม่? เพราะจีนโบราณประโยคสั้นอักษรน้อย อาจตีความได้หลากหลาย จึงมีอีกการวิเคราะห์ว่า เนื่องด้วยขงจื้อไม่เคยแบ่งแยกฐานะและชนชั้น ดังนั้นความหมายจริงๆ ของขงจื้อคือว่า ใครก็ตามที่มากราบขอเป็นศิษย์ย่อมรับไว้ Storyฯ เลยไม่แน่ใจว่าเพราะอย่างนี้หรือไม่ ถาดไหว้อาจารย์ในละครจึงขาดรายการนี้ไป

    และถ้าเพื่อนเพจสังเกตดีๆ จะเห็นว่าในละครไม่มีถั่วแดง แต่เป็นลูกเกาลัด Storyฯ ลองไปหาข้อมูลดู ไม่ปรากฎว่า ‘ลิ่วหลี่ซู่ซิว’ ให้ใช้เกาลัดแทนถั่วแดง แต่คำว่าลูกเกาลัดหรือ ‘ลี่’ นั้นภาษาจีนพ้องเสียงกับคำที่แปลว่าตั้งขึ้น ในหลายโอกาสใช้แทนความหมายว่าสร้างรากฐานได้มั่นคง Storyฯ เลยสันนิษฐานว่าในละครคงมีความหมายนี้

    หากใครมีข้อมูลเพิ่มเติมมาเล่าสู่กันฟังเพิ่มเติมได้นะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://www.163.com/dy/article/GIB87TR80524M8IF.html
    https://k.sina.cn/article_6897601262_19b210aee00100omuu.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.douban.com/group/topic/169323296/
    https://m.sohu.com/n/468143035/
    https://k.sina.cn/article_6897601262_19b210aee00100omuu.html
    https://wenda.huabaike.com/hywd/34686.html

    #ทุกชาติภพกระดูกงดงาม #สืออี๋ #ธรรมเนียมจีนโบราณ #ประเพณีจีน #กราบอาจารย์ #ลิ่วหลี่ซู่ซิว #ความหมายผักคึ่นฉ่าย #ความหมายถั่วแดง #ความหมายเมล็ดบัว #ความหมายพุทราจีน #ความหมายลำไย #ฉินช่าย #หงโต้ว #เหลียนจื่อ #กุ้ยหยวน #หงเจ่า
    เรื่องนี้เขียนไว้แล้วก่อนหน้านี้แต่ยังไม่ได้อัพขึ้นเฟซ เลยเห็นว่ามีในเพจอื่นมีคนเพิ่งเขียนถึงไปวันนี้ แต่อ่านดูแล้วไม่ขัดแต่ก็ไม่ตรงกันเสียหมด เลยคิดว่ายังคงลงเพจตามเดิมเพื่อเป็นความรู้เพิ่มเติมให้เพื่อนเพจ เพียงแต่เลื่อนกำหนดมาอัพขึ้นเพจเร็วขึ้น เพื่อนเพจที่ได้ดูซีรีส์จีนเรื่อง <ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม> นี้จะทราบว่าในภาคอดีตนั้น นางเอกเป็นลูกศิษย์ของพระเอก Storyฯ เห็นพิธีกราบอาจารย์ของนางเอกก็เกิดความ ‘เอ๊ะ’ ทันที Storyฯ เคยเห็นแต่ศิษย์ยกน้ำชาโขกศีรษะคำนับอาจารย์ แต่ในละครนางเอกถือถาดเข้ามามอบให้อาจารย์ หน้าตาสิ่งของบนถาดคือตามรูป (ขวากลาง) จึงเกิดความสงสัย... ถาดนี้คือ? ในหนังสือนิยายไม่มีพูดถึงรายละเอียดของฉากนี้ Storyฯ เลยไปทำการบ้านมา จีนโบราณมีธรรมเนียมการมอบของให้อาจารย์เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์เรียกว่า ‘ลิ่วหลี่ซู่ซิว’ (六礼束脩 ซึ่งลิ่วหลี่แปลว่าหกพิธีการ ส่วนซู่ซิ่วหมายถึงเนื้อตากแห้งมัดเป็นพวงใช้แทนค่าเล่าเรียน ซึ่งจะเล่าต่อด้านล่าง) ลิ่วหลี่ซู่ซิวประกอบด้วยของหกอย่าง (ดูรูปประกอบขวาล่าง) ดังนี้ 1. ผักขึ้นฉ่าย – ภาษาจีนออกเสียงว่า ‘ฉินช่าย’ ซึ่งคำว่า ‘ฉิน’ พ้องเสียงกับคำว่าขยัน/ตั้งใจ หมายความว่า ลูกศิษย์จะขยันตั้งใจเรียน 2. เมล็ดบัว - ซึ่งที่มาคือไส้เมล็ดบัวมีรสขม คำว่าไส้กับคำว่าใจคืออักษรเดียวกัน และ ‘ขมใจ’ ในภาษาจีนแปลได้ว่า เอาใจใส่/ตั้งใจ แม้จะยากลำบาก หมายความว่า ลูกศิษย์ทราบถึงความใส่ใจและความเพียรของอาจารย์ที่จะสั่งสอน 3. ถั่วแดง - ซึ่งคำว่าแดงในภาษาจีนอ่านว่า ‘หง’ เป็นคำพ้องเสียงมาจากวลีที่ว่า หงอวิ้นเกาเจ้า (鸿运高照 แปลว่าโชคดีมาเยือน รุ่งเรืองเฉิดฉาย) เป็นการอวยพรให้ลูกศิษย์ประสบความสำเร็จ 4. พุทราจีน - ภาษาจีนออกเสียงว่า ‘หงเจ่า’ ซึ่งคำว่า ‘เจ่า’ พ้องเสียงกับคำว่าเช้า/เร็ว ความหมายในที่นี้คือให้ลูกศิษย์สำเร็จวิชาอย่างรวดเร็ว (早早高中) 5. ลำไย – ภาษาจีนเรียกว่า ‘หลงเหยี่ยน’ หรือชื่อเก่ากว่านั้นคือ ‘กุ้ยหยวน’ และ ‘หยวน’ แปลว่ากลมหรือบริบูรณ์ หมายถึงให้ลูกศิษย์มีครบบริบูรณ์ทั้งผลงานและคุณธรรม (功德圆满) 6. เนื้อหมูตากแห้ง – (อยากจะเรียกว่า ‘แดดเดียว’ แต่เดี๋ยวจะนึกถึงอาหารบ้านเรา) การให้เนื้อตากแห้งมีที่มาจากคำเล่าขานว่า ขงจื้อเคยกล่าวว่าหากใครนำเนื้อตากแห้งมามอบให้ เขาจะไม่ปฏิเสธการรับคนผู้นั้นเป็นศิษย์ ดังนั้นการมอบเนื้อตากแห้งจึงเป็นการแสดงถึงความตั้งใจและความเคารพของลูกศิษย์ เป็นของขวัญ ‘แรกพบ’ ที่มอบให้อาจารย์ และต่อมากลายเป็นสัญลักษณ์ของค่าเล่าเรียน แต่ภาพในละครไม่เหมือนเป๊ะกับข้อมูลข้างต้น? (ดูรูปขวากลาง) Storyฯ เลยต้องไปทำการบ้านเพิ่ม เลยพบว่าเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับขงจื้อนั้น มีการวิเคราะห์กันแพร่หลายว่า ขงจื้อหมายความเรื่องเนื้อตากแห้งอย่างนั้นจริงหรือไม่? เพราะจีนโบราณประโยคสั้นอักษรน้อย อาจตีความได้หลากหลาย จึงมีอีกการวิเคราะห์ว่า เนื่องด้วยขงจื้อไม่เคยแบ่งแยกฐานะและชนชั้น ดังนั้นความหมายจริงๆ ของขงจื้อคือว่า ใครก็ตามที่มากราบขอเป็นศิษย์ย่อมรับไว้ Storyฯ เลยไม่แน่ใจว่าเพราะอย่างนี้หรือไม่ ถาดไหว้อาจารย์ในละครจึงขาดรายการนี้ไป และถ้าเพื่อนเพจสังเกตดีๆ จะเห็นว่าในละครไม่มีถั่วแดง แต่เป็นลูกเกาลัด Storyฯ ลองไปหาข้อมูลดู ไม่ปรากฎว่า ‘ลิ่วหลี่ซู่ซิว’ ให้ใช้เกาลัดแทนถั่วแดง แต่คำว่าลูกเกาลัดหรือ ‘ลี่’ นั้นภาษาจีนพ้องเสียงกับคำที่แปลว่าตั้งขึ้น ในหลายโอกาสใช้แทนความหมายว่าสร้างรากฐานได้มั่นคง Storyฯ เลยสันนิษฐานว่าในละครคงมีความหมายนี้ หากใครมีข้อมูลเพิ่มเติมมาเล่าสู่กันฟังเพิ่มเติมได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.163.com/dy/article/GIB87TR80524M8IF.html https://k.sina.cn/article_6897601262_19b210aee00100omuu.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.douban.com/group/topic/169323296/ https://m.sohu.com/n/468143035/ https://k.sina.cn/article_6897601262_19b210aee00100omuu.html https://wenda.huabaike.com/hywd/34686.html #ทุกชาติภพกระดูกงดงาม #สืออี๋ #ธรรมเนียมจีนโบราณ #ประเพณีจีน #กราบอาจารย์ #ลิ่วหลี่ซู่ซิว #ความหมายผักคึ่นฉ่าย #ความหมายถั่วแดง #ความหมายเมล็ดบัว #ความหมายพุทราจีน #ความหมายลำไย #ฉินช่าย #หงโต้ว #เหลียนจื่อ #กุ้ยหยวน #หงเจ่า
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 721 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts