• ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

    เดือนนี้ โชคดีสำหรับการคิดริเริ่มธุรกิจ การค้าขายใหม่ๆจะมีการติดต่อเพิ่มยอดขายจำหน่ายมากขึ้น การตกลงเจรจาต้องใช้ความอดทนอดกลั้นระวังคำพูดคำจา เพราะเอกสารสัญญาจะผิดพลาด จนถูกทักท้วงให้เกิดขัดแย้ง ควรมีสัจจะยึดมั่นในคำพูดยึดมั่นในสัญญาเพื่อรักษาเครดิตไว้ต่อยอดในภายภาคหน้าจะมีประโยชน์มากกว่า งานการศึกษา วิชาการ งานสวยงาม งานคิดสร้างสรรค์ จะสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่ยอมรับจนได้รับปรับเลื่อนตำแหน่งขั้น เรื่องของหัวใจหากปากมากขาดการจัดการบริหารเสน่ห์ที่ลงตัวจะเกิดเรื่องชู้สาวให้ปวดหัว จะเดินทางๆอากาศต้องระวังพายุฟ้าฝนควรตรวจสอบสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาก่อนการเดินทาง

    เสริมความมงคล : ตั้งพัดลมทรงสูง
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เดือนนี้ โชคดีสำหรับการคิดริเริ่มธุรกิจ การค้าขายใหม่ๆจะมีการติดต่อเพิ่มยอดขายจำหน่ายมากขึ้น การตกลงเจรจาต้องใช้ความอดทนอดกลั้นระวังคำพูดคำจา เพราะเอกสารสัญญาจะผิดพลาด จนถูกทักท้วงให้เกิดขัดแย้ง ควรมีสัจจะยึดมั่นในคำพูดยึดมั่นในสัญญาเพื่อรักษาเครดิตไว้ต่อยอดในภายภาคหน้าจะมีประโยชน์มากกว่า งานการศึกษา วิชาการ งานสวยงาม งานคิดสร้างสรรค์ จะสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่ยอมรับจนได้รับปรับเลื่อนตำแหน่งขั้น เรื่องของหัวใจหากปากมากขาดการจัดการบริหารเสน่ห์ที่ลงตัวจะเกิดเรื่องชู้สาวให้ปวดหัว จะเดินทางๆอากาศต้องระวังพายุฟ้าฝนควรตรวจสอบสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาก่อนการเดินทาง เสริมความมงคล : ตั้งพัดลมทรงสูง ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เรื่องลับของสายลับ
    ตอนที่ 2 CIA ในคราบอาจารย์มหาวิทยาลัย
    โดย #อัษฎางค์ยมนาค

    ความเป็นไปได้ที่ มหาวิทยาลัย หรือบุคคลภายในมหาวิทยาลัยอาจมีความเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับ CIA ในบางกรณี โดยเฉพาะหากมีการทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์บางอย่าง แต่ในกรณีส่วนใหญ่ การดำเนินการของ CIA มักจะมีการปกปิดอย่างดีเพื่อให้ไม่มีการเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างมหาวิทยาลัยกับปฏิบัติการของ CIA เนื่องจากความเสี่ยงทางการเมืองและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    ปัจจัยที่ทำให้เป็นไปได้ว่าอาจมีคนในมหาวิทยาลัยรู้เห็นกับ CIA

    1. ในบางประเทศ หน่วยข่าวกรองท้องถิ่นหรือรัฐบาลเองอาจมีความร่วมมือกับ CIA และส่งเสริมการแฝงตัวในมหาวิทยาลัยหรือองค์กรวิชาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง การแทรกซึม หรือการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรในท้องถิ่น

    2. มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจมีการร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองหรือวิชาการ เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงนโยบาย หรือการวิจัยในด้านที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศต้นทางของ CIA

    3. ในบางกรณีอาจมีบุคคลภายในมหาวิทยาลัยที่เป็น “สายของ CIA” หรือได้รับการสนับสนุนให้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของ CIA ในการเข้ามาทำงานในมหาวิทยาลัย เช่น การสนับสนุนในการปลอมเอกสาร รับรองความถูกต้องของประวัติ หรือการแนะนำงานวิจัยที่เอื้อต่อภารกิจข่าวกรอง

    4. สร้าง “cover story” ที่น่าเชื่อถือ การมีบุคคลภายในมหาวิทยาลัยที่รู้เห็นสามารถช่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ CIA ในการสร้างประวัติที่น่าเชื่อถือ เช่น การรับรองผลงานทางวิชาการ หรือสนับสนุนการวิจัยเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานภายใต้บทบาทนักวิชาการได้โดยไม่ต้องสงสัย

    ทำไมมหาวิทยาลัยหรือบุคคลบางคนอาจร่วมมือกับ CIA:

    • ผลประโยชน์ส่วนตัว: อาจมีการเสนอผลประโยชน์ทางการเงินหรือทางวิชาการให้แก่บุคคลที่ช่วยเหลือ CIA

    • ความร่วมมือระหว่างประเทศ: รัฐบาลหรือหน่วยงานข่าวกรองท้องถิ่นอาจมีข้อตกลงในการแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือทำงานร่วมกับ CIA เพื่อผลประโยชน์ทางความมั่นคง

    • การสร้างชื่อเสียง: มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจยินดีต้อนรับบุคคลจากต่างประเทศหรือองค์กรที่มีชื่อเสียงเข้ามาเป็นอาจารย์หรือนักวิจัย เพื่อเพิ่มชื่อเสียงของสถาบัน

    ข้อสังเกต:

    แม้ว่าการแทรกซึมของ CIA ในมหาวิทยาลัยอาจเกิดขึ้นได้ แต่การเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้อย่างตรงไปตรงมาเป็นเรื่องยาก เพราะจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการเมืองและอาจสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยและประเทศที่เกี่ยวข้อง

    ดังนั้น ในกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า CIA อาจส่งเจ้าหน้าที่มาในบทบาทนักวิชาการและมีการรู้เห็นจากคนภายในมหาวิทยาลัยนั้น เป็นไปได้ แต่ส่วนใหญ่กระบวนการเหล่านี้จะถูกปกปิดอย่างรัดกุมเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเชื่อมโยงโดยตรง

    ปฏิบัติการที่ CIA ส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวในบทบาทต่างๆ เช่น นักวิชาการ โดยมักมีจุดประสงค์หลักที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในต่างประเทศ

    การแสวงหาพันธมิตร เช่น ใช้โอกาสในการสร้างเครือข่ายกับบุคคลที่มีอำนาจในประเทศนั้นๆ เช่น เจ้าหน้าที่รัฐบาล นักวิชาการชั้นนำ หรือผู้นำองค์กรต่างๆ นักวิชาการที่แฝงตัวอาจมีหน้าที่เผยแพร่แนวคิดหรือข้อมูลที่สนับสนุนนโยบายของสหรัฐฯ

    เจ้าหน้าที่ CIA ที่มีบทบาทในวงการสื่อหรือนักวิชาการอาจทำหน้าที่ควบคุมหรือชี้นำการอภิปรายเรื่องบางประเด็น เพื่อส่งผลต่อความเห็นของประชาชนในประเทศนั้นๆ ในลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ

    ที่สำคัญ ที่พบบ่อยและชัดเจนที่สุดคือ การแทรกแซงหรือสร้างอิทธิพลในเหตุการณ์ทางการเมือง โดย CIA อาจแฝงตัวเพื่อสนับสนุนหรือขัดขวางการเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศเป้าหมาย ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง การสร้างความไม่สงบ หรือการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลที่เป็นมิตรกับสหรัฐฯ

    โปรดติดตามตอนต่อไป
    #TheNewGeopoliticaalArena #ThaiGeopoliticalSheft

    ตอนที่ 1: https://www.facebook.com/share/p/TDwfDjQV53w8dia3/?mibextid=WC7FNe
    ที่มา https://www.facebook.com/100070260068883/posts/606278728390791/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v
    #เรื่องลับของสายลับ ตอนที่ 2 CIA ในคราบอาจารย์มหาวิทยาลัย โดย #อัษฎางค์ยมนาค ความเป็นไปได้ที่ มหาวิทยาลัย หรือบุคคลภายในมหาวิทยาลัยอาจมีความเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับ CIA ในบางกรณี โดยเฉพาะหากมีการทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์บางอย่าง แต่ในกรณีส่วนใหญ่ การดำเนินการของ CIA มักจะมีการปกปิดอย่างดีเพื่อให้ไม่มีการเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างมหาวิทยาลัยกับปฏิบัติการของ CIA เนื่องจากความเสี่ยงทางการเมืองและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ปัจจัยที่ทำให้เป็นไปได้ว่าอาจมีคนในมหาวิทยาลัยรู้เห็นกับ CIA 1. ในบางประเทศ หน่วยข่าวกรองท้องถิ่นหรือรัฐบาลเองอาจมีความร่วมมือกับ CIA และส่งเสริมการแฝงตัวในมหาวิทยาลัยหรือองค์กรวิชาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง การแทรกซึม หรือการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรในท้องถิ่น 2. มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจมีการร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองหรือวิชาการ เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงนโยบาย หรือการวิจัยในด้านที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศต้นทางของ CIA 3. ในบางกรณีอาจมีบุคคลภายในมหาวิทยาลัยที่เป็น “สายของ CIA” หรือได้รับการสนับสนุนให้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของ CIA ในการเข้ามาทำงานในมหาวิทยาลัย เช่น การสนับสนุนในการปลอมเอกสาร รับรองความถูกต้องของประวัติ หรือการแนะนำงานวิจัยที่เอื้อต่อภารกิจข่าวกรอง 4. สร้าง “cover story” ที่น่าเชื่อถือ การมีบุคคลภายในมหาวิทยาลัยที่รู้เห็นสามารถช่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ CIA ในการสร้างประวัติที่น่าเชื่อถือ เช่น การรับรองผลงานทางวิชาการ หรือสนับสนุนการวิจัยเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานภายใต้บทบาทนักวิชาการได้โดยไม่ต้องสงสัย ทำไมมหาวิทยาลัยหรือบุคคลบางคนอาจร่วมมือกับ CIA: • ผลประโยชน์ส่วนตัว: อาจมีการเสนอผลประโยชน์ทางการเงินหรือทางวิชาการให้แก่บุคคลที่ช่วยเหลือ CIA • ความร่วมมือระหว่างประเทศ: รัฐบาลหรือหน่วยงานข่าวกรองท้องถิ่นอาจมีข้อตกลงในการแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือทำงานร่วมกับ CIA เพื่อผลประโยชน์ทางความมั่นคง • การสร้างชื่อเสียง: มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจยินดีต้อนรับบุคคลจากต่างประเทศหรือองค์กรที่มีชื่อเสียงเข้ามาเป็นอาจารย์หรือนักวิจัย เพื่อเพิ่มชื่อเสียงของสถาบัน ข้อสังเกต: แม้ว่าการแทรกซึมของ CIA ในมหาวิทยาลัยอาจเกิดขึ้นได้ แต่การเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้อย่างตรงไปตรงมาเป็นเรื่องยาก เพราะจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการเมืองและอาจสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยและประเทศที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ในกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า CIA อาจส่งเจ้าหน้าที่มาในบทบาทนักวิชาการและมีการรู้เห็นจากคนภายในมหาวิทยาลัยนั้น เป็นไปได้ แต่ส่วนใหญ่กระบวนการเหล่านี้จะถูกปกปิดอย่างรัดกุมเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเชื่อมโยงโดยตรง ปฏิบัติการที่ CIA ส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวในบทบาทต่างๆ เช่น นักวิชาการ โดยมักมีจุดประสงค์หลักที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในต่างประเทศ การแสวงหาพันธมิตร เช่น ใช้โอกาสในการสร้างเครือข่ายกับบุคคลที่มีอำนาจในประเทศนั้นๆ เช่น เจ้าหน้าที่รัฐบาล นักวิชาการชั้นนำ หรือผู้นำองค์กรต่างๆ นักวิชาการที่แฝงตัวอาจมีหน้าที่เผยแพร่แนวคิดหรือข้อมูลที่สนับสนุนนโยบายของสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่ CIA ที่มีบทบาทในวงการสื่อหรือนักวิชาการอาจทำหน้าที่ควบคุมหรือชี้นำการอภิปรายเรื่องบางประเด็น เพื่อส่งผลต่อความเห็นของประชาชนในประเทศนั้นๆ ในลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ ที่สำคัญ ที่พบบ่อยและชัดเจนที่สุดคือ การแทรกแซงหรือสร้างอิทธิพลในเหตุการณ์ทางการเมือง โดย CIA อาจแฝงตัวเพื่อสนับสนุนหรือขัดขวางการเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศเป้าหมาย ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง การสร้างความไม่สงบ หรือการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลที่เป็นมิตรกับสหรัฐฯ โปรดติดตามตอนต่อไป #TheNewGeopoliticaalArena #ThaiGeopoliticalSheft ตอนที่ 1: https://www.facebook.com/share/p/TDwfDjQV53w8dia3/?mibextid=WC7FNe ที่มา https://www.facebook.com/100070260068883/posts/606278728390791/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 312 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไมหมูเด้ง ถึงฮีลใจคนไทย

    ท่ามกลางบ้านเมืองที่ไม่แน่นอน เศรษฐกิจซบเซาและสังคมตกต่ำ คนไทยต่างพยายามหาสารพัดวิธีเพื่อผ่อนคลายจากความตึงเครียดและเสียสุขภาพจิต ตั้งแต่เพลงและท่าเต้นไวรัล คอนเทนต์จาก OTT รวมไปถึงคอนเทนต์ฮีลใจ ซึ่งปีที่ผ่านมาคลิปท่องเที่ยวของสองหนุ่มเกาหลี พี่จอง-คัลเลน แห่งช่อง Cullen HateBerry ได้รับความนิยมอย่างมาก

    ปี 2567 สังคมฮีลใจอยู่ 3 อย่าง เริ่มจากสารวัตรแจ๊ะ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ ที่มีวีดีโอคลิปผลงานจับกุมในเพจ "สืบนครบาล" ด้วยคาแรกเตอร์สวมหมวกไหมพรม ใส่แว่นตา ปิดแมสก์ กางเกงยีนส์ทรงกระบอกขาดๆ ทับด้วยเสื้อแจ็กเก็ต ปฎิบัติหน้าที่ด้วยความขึงขังดุดัน แต่จิตใจภายในอ่อนโยน ทำฮีลใจสังคมในยามที่วงการสีกากีเกิดวิกฤตศรัทธา

    ตามมาด้วย หมีเนย มาสคอตประจำร้านขนมหวานบัตเตอร์แบร์ (Butterbear) ที่ดึงความสนใจทั้งชาวไทย รวมทั้งนักท่องเที่ยวจีน ด้วยคาแรกเตอร์ที่เต้นตามเพลงต่างๆ ด้วยความน่ารักจริตแบบสาวน้อยวัยใส นอกจากจะสร้างชื่อเสียงแบบร้านแทบแตกแล้ว ยังได้เป็นพรีเซ็นเตอร์โปรโมตการท่องเที่ยว โดยเน้นไปที่ตลาดนักท่องเที่ยวจีนอีกด้วย

    แต่ที่โด่งดังระดับโลกคือ หมูเด้ง ฮิปโปแคระเพศเมียแห่งสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี เกิดจากพ่อโทนี่และแม่โจวน่าเมื่อวันที่ 10 ก.ค.2567 ด้วยความที่พี่เลี้ยงอย่าง เบนซ์ อรรถพล หนุนดี มักจะถ่ายวีดีโอคลิปลงในเพจ "ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง" ทำให้โด่งดังระดับโลก ผู้คนเข้าชมสวนสัตว์นับแสนคน มีสินค้าลิขสิทธิ์นับร้อยรายการ นำรายได้ช่วยเหลือสวัสดิภาพสัตว์

    มีโพสต์ที่น่าสนใจจากเพจ American Heart Association - Pennsylvania ที่สหรัฐอเมริกา ระบุถึง 5 เหตุผลว่าทำไมหมูเด้งถึงเป็นแบบอย่างด้านสุขภาพ ได้แก่

    1. หมูเด้งกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ได้แก่ หญ้า ผลไม้ และใบไม้ เมื่อเทียบกับมนุษย์แล้ว การได้เพิ่มอาหารประเภทผัก ผลไม้ลงในจาน ทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น

    2. หมูเด้งรู้จักออกกำลังกาย เพราะทั้งวิ่ง กระโดด และว่ายน้ำ ซึ่งการเคลื่อนไหวที่มากขึ้น ทำให้หัวใจและหลอดเลือดดีขึ้น

    3. หมูเด้งไม่เก็บซ่อนความรู้สึก มักจะแสดงอาการให้เราได้เห็น ไม่ว่าจะมีความสุข เคือง หิว ง่วงนอน หรือโกรธจัด ซึ่งการแสดงอารมณ์ออกมาตรงๆ ถือเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพจิต

    4. หมูเด้งชอบนอนหลับ ซึ่งโดยธรรมชาติฮิปโปแคระต้องการการนอนหลับมากกว่ามนุษย์เล็กน้อย แต่การนอนหลับในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายของเราฟื้นตัวได้

    5. หมูเด้งช่วยลดความเครียดของคนเราได้ เพราะการใช้เวลาอยู่กับสัตว์ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดความเครียดได้ ดังนั้นการชมวีดีโอคลิปตลกๆ ของหมูเด้งจึงยังคงมีอยู่ต่อไป

    #Newskit
    ทำไมหมูเด้ง ถึงฮีลใจคนไทย ท่ามกลางบ้านเมืองที่ไม่แน่นอน เศรษฐกิจซบเซาและสังคมตกต่ำ คนไทยต่างพยายามหาสารพัดวิธีเพื่อผ่อนคลายจากความตึงเครียดและเสียสุขภาพจิต ตั้งแต่เพลงและท่าเต้นไวรัล คอนเทนต์จาก OTT รวมไปถึงคอนเทนต์ฮีลใจ ซึ่งปีที่ผ่านมาคลิปท่องเที่ยวของสองหนุ่มเกาหลี พี่จอง-คัลเลน แห่งช่อง Cullen HateBerry ได้รับความนิยมอย่างมาก ปี 2567 สังคมฮีลใจอยู่ 3 อย่าง เริ่มจากสารวัตรแจ๊ะ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ ที่มีวีดีโอคลิปผลงานจับกุมในเพจ "สืบนครบาล" ด้วยคาแรกเตอร์สวมหมวกไหมพรม ใส่แว่นตา ปิดแมสก์ กางเกงยีนส์ทรงกระบอกขาดๆ ทับด้วยเสื้อแจ็กเก็ต ปฎิบัติหน้าที่ด้วยความขึงขังดุดัน แต่จิตใจภายในอ่อนโยน ทำฮีลใจสังคมในยามที่วงการสีกากีเกิดวิกฤตศรัทธา ตามมาด้วย หมีเนย มาสคอตประจำร้านขนมหวานบัตเตอร์แบร์ (Butterbear) ที่ดึงความสนใจทั้งชาวไทย รวมทั้งนักท่องเที่ยวจีน ด้วยคาแรกเตอร์ที่เต้นตามเพลงต่างๆ ด้วยความน่ารักจริตแบบสาวน้อยวัยใส นอกจากจะสร้างชื่อเสียงแบบร้านแทบแตกแล้ว ยังได้เป็นพรีเซ็นเตอร์โปรโมตการท่องเที่ยว โดยเน้นไปที่ตลาดนักท่องเที่ยวจีนอีกด้วย แต่ที่โด่งดังระดับโลกคือ หมูเด้ง ฮิปโปแคระเพศเมียแห่งสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี เกิดจากพ่อโทนี่และแม่โจวน่าเมื่อวันที่ 10 ก.ค.2567 ด้วยความที่พี่เลี้ยงอย่าง เบนซ์ อรรถพล หนุนดี มักจะถ่ายวีดีโอคลิปลงในเพจ "ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง" ทำให้โด่งดังระดับโลก ผู้คนเข้าชมสวนสัตว์นับแสนคน มีสินค้าลิขสิทธิ์นับร้อยรายการ นำรายได้ช่วยเหลือสวัสดิภาพสัตว์ มีโพสต์ที่น่าสนใจจากเพจ American Heart Association - Pennsylvania ที่สหรัฐอเมริกา ระบุถึง 5 เหตุผลว่าทำไมหมูเด้งถึงเป็นแบบอย่างด้านสุขภาพ ได้แก่ 1. หมูเด้งกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ได้แก่ หญ้า ผลไม้ และใบไม้ เมื่อเทียบกับมนุษย์แล้ว การได้เพิ่มอาหารประเภทผัก ผลไม้ลงในจาน ทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น 2. หมูเด้งรู้จักออกกำลังกาย เพราะทั้งวิ่ง กระโดด และว่ายน้ำ ซึ่งการเคลื่อนไหวที่มากขึ้น ทำให้หัวใจและหลอดเลือดดีขึ้น 3. หมูเด้งไม่เก็บซ่อนความรู้สึก มักจะแสดงอาการให้เราได้เห็น ไม่ว่าจะมีความสุข เคือง หิว ง่วงนอน หรือโกรธจัด ซึ่งการแสดงอารมณ์ออกมาตรงๆ ถือเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพจิต 4. หมูเด้งชอบนอนหลับ ซึ่งโดยธรรมชาติฮิปโปแคระต้องการการนอนหลับมากกว่ามนุษย์เล็กน้อย แต่การนอนหลับในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายของเราฟื้นตัวได้ 5. หมูเด้งช่วยลดความเครียดของคนเราได้ เพราะการใช้เวลาอยู่กับสัตว์ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดความเครียดได้ ดังนั้นการชมวีดีโอคลิปตลกๆ ของหมูเด้งจึงยังคงมีอยู่ต่อไป #Newskit
    Like
    5
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 596 มุมมอง 0 รีวิว
  • หน้าที่หลักของบุตรหลานที่พึงควรกระทำต่อบุพการีบุพการี หรือบิดามารดา เป็นผู้มีพระคุณที่ยิ่งใหญ่ต่อบุตรหลาน ทั้งในด้านการให้กำเนิด การเลี้ยงดู และการอบรมสั่งสอน เพื่อให้บุตรหลานเติบโตเป็นผู้ที่สามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุขและมีคุณค่า ดังนั้น หน้าที่หลักของบุตรหลานที่ควรกระทำต่อบุพการีมีดังนี้1. ความกตัญญูกตเวทีความกตัญญูคือการระลึกถึงพระคุณของบิดามารดา และความกตเวทีคือการตอบแทนพระคุณอย่างเหมาะสม บุตรหลานควรแสดงความเคารพ นอบน้อม และแสดงความรักต่อบุพการีในทุกโอกาส ไม่ว่าจะด้วยการพูดจา การกระทำ หรือการดูแลเอาใจใส่2. การดูแลในยามเจ็บป่วยหรือแก่ชราในยามที่บุพการีเจ็บป่วยหรือเข้าสู่วัยชรา บุตรหลานมีหน้าที่ดูแลทั้งร่างกายและจิตใจ เช่น การพาไปพบแพทย์ การจัดหาสิ่งของที่จำเป็น การอยู่เป็นเพื่อนพูดคุย และให้ความอบอุ่นทางใจ3. การเชื่อฟังคำสอนการเชื่อฟังคำสอนของบุพการีเป็นสิ่งสำคัญ เพราะคำสอนของบุพการีมักมาจากประสบการณ์และความปรารถนาดีที่มีต่อบุตรหลาน การเชื่อฟังนี้รวมถึงการปฏิบัติตนให้เป็นคนดี ไม่ทำให้บุพการีเสียใจหรือผิดหวัง4. การตอบแทนพระคุณการตอบแทนพระคุณอาจทำได้หลายรูปแบบ เช่น การช่วยเหลือทางการเงินเมื่อบุพการีต้องการ การสร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้กับครอบครัว หรือการดูแลบุพการีเมื่อท่านไม่สามารถดูแลตนเองได้5. การรักษามรดกทางจิตวิญญาณและวัฒนธรรมของครอบครัวบุตรหลานควรรักษาและสืบทอดคุณธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมที่ดีงามของครอบครัว เช่น การเคารพผู้ใหญ่ การทำบุญอุทิศให้บุพการีที่ล่วงลับ และการแสดงความภักดีต่อครอบครัวสรุปหน้าที่ของบุตรหลานที่มีต่อบุพการีไม่เพียงแต่เป็นความรับผิดชอบในทางสังคมเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงความรัก ความเคารพ และความกตัญญู ซึ่งเป็นคุณธรรมสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว และสร้างสังคมที่อบอุ่นและมั่นคงในที่สุด
    หน้าที่หลักของบุตรหลานที่พึงควรกระทำต่อบุพการีบุพการี หรือบิดามารดา เป็นผู้มีพระคุณที่ยิ่งใหญ่ต่อบุตรหลาน ทั้งในด้านการให้กำเนิด การเลี้ยงดู และการอบรมสั่งสอน เพื่อให้บุตรหลานเติบโตเป็นผู้ที่สามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุขและมีคุณค่า ดังนั้น หน้าที่หลักของบุตรหลานที่ควรกระทำต่อบุพการีมีดังนี้1. ความกตัญญูกตเวทีความกตัญญูคือการระลึกถึงพระคุณของบิดามารดา และความกตเวทีคือการตอบแทนพระคุณอย่างเหมาะสม บุตรหลานควรแสดงความเคารพ นอบน้อม และแสดงความรักต่อบุพการีในทุกโอกาส ไม่ว่าจะด้วยการพูดจา การกระทำ หรือการดูแลเอาใจใส่2. การดูแลในยามเจ็บป่วยหรือแก่ชราในยามที่บุพการีเจ็บป่วยหรือเข้าสู่วัยชรา บุตรหลานมีหน้าที่ดูแลทั้งร่างกายและจิตใจ เช่น การพาไปพบแพทย์ การจัดหาสิ่งของที่จำเป็น การอยู่เป็นเพื่อนพูดคุย และให้ความอบอุ่นทางใจ3. การเชื่อฟังคำสอนการเชื่อฟังคำสอนของบุพการีเป็นสิ่งสำคัญ เพราะคำสอนของบุพการีมักมาจากประสบการณ์และความปรารถนาดีที่มีต่อบุตรหลาน การเชื่อฟังนี้รวมถึงการปฏิบัติตนให้เป็นคนดี ไม่ทำให้บุพการีเสียใจหรือผิดหวัง4. การตอบแทนพระคุณการตอบแทนพระคุณอาจทำได้หลายรูปแบบ เช่น การช่วยเหลือทางการเงินเมื่อบุพการีต้องการ การสร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้กับครอบครัว หรือการดูแลบุพการีเมื่อท่านไม่สามารถดูแลตนเองได้5. การรักษามรดกทางจิตวิญญาณและวัฒนธรรมของครอบครัวบุตรหลานควรรักษาและสืบทอดคุณธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมที่ดีงามของครอบครัว เช่น การเคารพผู้ใหญ่ การทำบุญอุทิศให้บุพการีที่ล่วงลับ และการแสดงความภักดีต่อครอบครัวสรุปหน้าที่ของบุตรหลานที่มีต่อบุพการีไม่เพียงแต่เป็นความรับผิดชอบในทางสังคมเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงความรัก ความเคารพ และความกตัญญู ซึ่งเป็นคุณธรรมสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว และสร้างสังคมที่อบอุ่นและมั่นคงในที่สุด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ประชาชนเฝ้ารอวันดับ
    เดชา หรือทะนายจุ๊กกรู้ ที่มีลีลาซ้ำซาก
    ด้วยการทำตัวเหมือนเรือขวางคลอง
    ทุกครั้ง ที่มีผู้กระทำ กับผู้ถูกกระทำ
    เด จะไปอยู่กับฝ่ายคนผิดเสมอ จนเป็นที่ชินตาของผู้คน
    เมื่อได้แสงแบบไม่กลัวโดนทัวร์ สร้างชื่อเสียงโดยไม่สนใจว่า
    คนจะรู้จักตัวเอง ในสภาพไหน ได้อยู่ในสื่อนั่นคือความสำเร็จของเด
    แต่พอมีทีท่าว่า ผู้กระทำหรือจำเเลย น่าจะไปไม่รอด
    ก็จะสร้างสถานการณ์ว่าตัวเองขอถอนตัว
    และเชื่อว่า คนไทยขี้ลืม เดี๋ยวสร้างภาพชุบตัวใหม่
    คนก็ลืม เอาไว้ไปอยู่ฝั่งคนในประแสบ้าง เดี๋ยวคนก็ยกยอเหมือนเดิม
    พี่เด สุมาเต๊อะ "ไอ่ฉัด" เล่นกับความรู้สึกของประชาชนมาตลอด
    เรื่องสาวเกา โดนปั่นว่าจะได้เป็นทนายฝั่งเกา ก็พร่ามในคลิป
    ว่าด่าาเยอะๆ ทนายทั่วประเทศจะได้มีงานทำ
    อ้างทนายแปดหมื่นคนทั่วประเทศจะร่วมวงกับตัวเองเพื่อจัดการคนไทยด้วยกัน
    แต่กระแสตีกลับ เพราะทนายและสภาไม่เล่นด้วย พร้อมออกมาตำหนิการกระทำ จนนายเดชาต้องกลับลำ อ้างว่าไม่ได้พูด แต่ดิจิตอลฟรุ๊ตปริ๊น ก็หาได้ง่ายว่าเป็นคำพูดของเดชาล้วนๆ
    และล่าสุด ด้วยความสนิทกับว่าที่นช ตั้ม และมีความเป็นไปได้สูง
    ที่ต้องมีความรู้จักกับโจ๊ก สุรเชษฐ์ ไม่มากก็น้อย
    ส่วนจะได้ความสนิท เป็นใบเทาเป็นปึกๆด้วยรึเปล่านั้น
    เราไม่อาจระบุได้ แต่เดชา ก็ออกตัวเต็มที่ รับข้อมูลจากตั้ม
    ก็รีบมาพ่น และเชื่อว่าตั้มบริสุทธิ์ โดยไม่ได้หาข้อมูลจากผสห.เลย
    จึงถูกตำหนิ จากผู้สื่อข่าวระดับตำนาน สนธิ ลิ้มทองกุล
    ในเวอร์ชั่นแรก เดชายังดูอ่อนน้อม บอกว่าไม่มีปัญหากับสนธิ
    และจะได้แรงกดดัน หรือแรงอัดฉีดจากตั้มหรือโจ๊กหรือไม่อย่างไร
    ก็ไม่ทราบได้ มีการเปลี่ยนท่าที ที่แข็งกร้าวขึ้นเรื่อยๆ
    ท้าทาย สนธิ อย่างน่าแปลกใจกับสายตาของประชาชน
    ซึ่งล่าสุด ออกมาโพส ว่าใครมีข้อมูลสนธิ (ลักษณะที่จะเอาความได้)
    ให้ส่งมาที่ตน นั่นคือากรชักธงรบบ อย่างเต็มรูปแบบ
    ทั้งๆที่ ทั้งพี่โจ๊ก และน้องรักอย่างตั้ม ต่างก็ผ่านการเปิดเผยความจริง
    ให้กับสังคม จนมีจุดจบอย่างทุกวันนี้ แต่เดชา กลับมีความฮึกเหิมจนเกินตัว
    ซึ่งยุคนี้ เป็นยุคล้างบางคนซั่ว บางที เดชา อาจมีปัญหาทางสายตา
    มองเสือเป็นแค่แมว อยู่ดีไม่ว่าดี แกว่งซ้งทรีน หาเสี้ยนได้ดีจริงๆ
    ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ประชาชนเฝ้ารอวันดับ เดชา หรือทะนายจุ๊กกรู้ ที่มีลีลาซ้ำซาก ด้วยการทำตัวเหมือนเรือขวางคลอง ทุกครั้ง ที่มีผู้กระทำ กับผู้ถูกกระทำ เด จะไปอยู่กับฝ่ายคนผิดเสมอ จนเป็นที่ชินตาของผู้คน เมื่อได้แสงแบบไม่กลัวโดนทัวร์ สร้างชื่อเสียงโดยไม่สนใจว่า คนจะรู้จักตัวเอง ในสภาพไหน ได้อยู่ในสื่อนั่นคือความสำเร็จของเด แต่พอมีทีท่าว่า ผู้กระทำหรือจำเเลย น่าจะไปไม่รอด ก็จะสร้างสถานการณ์ว่าตัวเองขอถอนตัว และเชื่อว่า คนไทยขี้ลืม เดี๋ยวสร้างภาพชุบตัวใหม่ คนก็ลืม เอาไว้ไปอยู่ฝั่งคนในประแสบ้าง เดี๋ยวคนก็ยกยอเหมือนเดิม พี่เด สุมาเต๊อะ "ไอ่ฉัด" เล่นกับความรู้สึกของประชาชนมาตลอด เรื่องสาวเกา โดนปั่นว่าจะได้เป็นทนายฝั่งเกา ก็พร่ามในคลิป ว่าด่าาเยอะๆ ทนายทั่วประเทศจะได้มีงานทำ อ้างทนายแปดหมื่นคนทั่วประเทศจะร่วมวงกับตัวเองเพื่อจัดการคนไทยด้วยกัน แต่กระแสตีกลับ เพราะทนายและสภาไม่เล่นด้วย พร้อมออกมาตำหนิการกระทำ จนนายเดชาต้องกลับลำ อ้างว่าไม่ได้พูด แต่ดิจิตอลฟรุ๊ตปริ๊น ก็หาได้ง่ายว่าเป็นคำพูดของเดชาล้วนๆ และล่าสุด ด้วยความสนิทกับว่าที่นช ตั้ม และมีความเป็นไปได้สูง ที่ต้องมีความรู้จักกับโจ๊ก สุรเชษฐ์ ไม่มากก็น้อย ส่วนจะได้ความสนิท เป็นใบเทาเป็นปึกๆด้วยรึเปล่านั้น เราไม่อาจระบุได้ แต่เดชา ก็ออกตัวเต็มที่ รับข้อมูลจากตั้ม ก็รีบมาพ่น และเชื่อว่าตั้มบริสุทธิ์ โดยไม่ได้หาข้อมูลจากผสห.เลย จึงถูกตำหนิ จากผู้สื่อข่าวระดับตำนาน สนธิ ลิ้มทองกุล ในเวอร์ชั่นแรก เดชายังดูอ่อนน้อม บอกว่าไม่มีปัญหากับสนธิ และจะได้แรงกดดัน หรือแรงอัดฉีดจากตั้มหรือโจ๊กหรือไม่อย่างไร ก็ไม่ทราบได้ มีการเปลี่ยนท่าที ที่แข็งกร้าวขึ้นเรื่อยๆ ท้าทาย สนธิ อย่างน่าแปลกใจกับสายตาของประชาชน ซึ่งล่าสุด ออกมาโพส ว่าใครมีข้อมูลสนธิ (ลักษณะที่จะเอาความได้) ให้ส่งมาที่ตน นั่นคือากรชักธงรบบ อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งๆที่ ทั้งพี่โจ๊ก และน้องรักอย่างตั้ม ต่างก็ผ่านการเปิดเผยความจริง ให้กับสังคม จนมีจุดจบอย่างทุกวันนี้ แต่เดชา กลับมีความฮึกเหิมจนเกินตัว ซึ่งยุคนี้ เป็นยุคล้างบางคนซั่ว บางที เดชา อาจมีปัญหาทางสายตา มองเสือเป็นแค่แมว อยู่ดีไม่ว่าดี แกว่งซ้งทรีน หาเสี้ยนได้ดีจริงๆ ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 584 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผมมีเรื่องจะแถลงให้กับท่านผู้ชมและคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด ทราบอย่างเป็นทางการ
    .
    ข้อแรก ผมไม่ใช่อีแอบ ผมทำอะไรเปิดเผย ตรงไปตรงมา คุณหาเรื่องผมก่อนนะ นายษิทรา ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ผมบอกคุณ ถ้าคุณมีเรื่องกับผม สนธิ ลิ้มทองกุลเดินสุดซอย เหมือนที่ผมเคยเดินสุดซอยกับ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ไม่ถอยเลยแม้ก้าวเดียว
    .
    อาทิตย์หน้า ผมร่างเรื่องร้องเรียนแล้ว ผมจะร้องเรียนไปสภาทนายความ เรื่องการผิดจริยธรรมของคุณในหลายๆกรณี ผมกำลังท้าทายสภาทนายความชุดนี้ ว่าจะกล้าพอที่จะขจัดทนายที่ไม่มีจริยธรรม สร้างชื่อเสียง ดึงเอาชื่อเสียงให้ประชาชนกลับมาเชื่อทนายความได้อีกหรือไม่
    .
    ผมเป็นคนที่มั่นคง ผมไม่หลบหลีก หลีกเลี่ยง เมื่อผมร่างคำร้องเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมจะลงชื่อ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แล้วผมจะไปยื่นด้วยตัวเองเลย ให้รู้ว่าผมไม่ใช่อีแอบ และผมไม่ต้องไปโทรขู่ใครเหมือนอย่างคนบางคนเที่ยวข่มขู่พยานของคุณอ้อย ว่าเขามีลูกเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนอนุบาลใช่ไหม 2 คน เป็นลักษณะคนที่ชั่วช้ามาก
    .
    เรื่องนี้ผมไปสุดซอยแน่นอน ให้คุณรับทราบไว้ด้วย คุณษิทรา และยังไม่จบ คุณษิทรา อีกอาทิตย์หนึ่ง ผมจะเร่งทำเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการเสียภาษีของคุณ ของครอบครัวคุณ ของพี่ภรรยาคุณ และก็ตรวจสอบการใช้เงินซื้อบ้านที่คุณอยู่วันนี้ ที่บางกอกบูเลอวาร์ด ว่า 46 ล้านบาทนั้น ซื้อใส่ชื่อภรรยาคุณ เอาเงินจากไหนซื้อ สรรพากรต้องตรวจสอบให้ได้ว่าเอาเงินจากไหน ถ้าเป็นเงินตัวเอง เงินก้อนนั้นเสียภาษีหรือเปล่า เงิน 71 ล้านบาท ที่คุณบอกว่าคุณอ้อยเขาให้ด้วยเสน่หา สรรพากรดูเสียหน่อยว่าเสน่หาหรือเปล่า ผมไม่ได้เก่งเรื่องภาษี แต่ผมรู้อยู่ว่า อะไรที่เป็นรายได้ต้องเสียภาษีหมด
    .
    71 ล้าน ผู้เชี่ยวชาญทางภาษีบอกชัดเจนว่าต้องเสียภาษีถึง 35% ท่านอธิบดีกรมสรรพากรครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ท่านอย่านั่งเฉย เป็นที่สนใจของประชาชนมาก แล้วยังมีเงินทองอีกเยอะในอดีตที่คุณเคยได้มา ถ้าผมค้นเจอหลักฐาน มีคนกล่าวหาคุณ ผมจะร้องเรียนเพิ่มเติม คุณชอบใช่ไหมที่จะทะเลาะกับผม ผมจะเดินให้สุดซอย อย่าลืมนะครับ อาทิตย์หน้าสภาทนายความ อีกอาทิตย์หนึ่งจะพยายามทำเรื่องให้เสร็จแล้วไปยื่นที่กรมสรรพากร และทั้งสองเรื่องจะไปยื่นด้วยตัวเองครับ

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/1942qfmeuV/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    ผมมีเรื่องจะแถลงให้กับท่านผู้ชมและคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด ทราบอย่างเป็นทางการ . ข้อแรก ผมไม่ใช่อีแอบ ผมทำอะไรเปิดเผย ตรงไปตรงมา คุณหาเรื่องผมก่อนนะ นายษิทรา ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ผมบอกคุณ ถ้าคุณมีเรื่องกับผม สนธิ ลิ้มทองกุลเดินสุดซอย เหมือนที่ผมเคยเดินสุดซอยกับ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ไม่ถอยเลยแม้ก้าวเดียว . อาทิตย์หน้า ผมร่างเรื่องร้องเรียนแล้ว ผมจะร้องเรียนไปสภาทนายความ เรื่องการผิดจริยธรรมของคุณในหลายๆกรณี ผมกำลังท้าทายสภาทนายความชุดนี้ ว่าจะกล้าพอที่จะขจัดทนายที่ไม่มีจริยธรรม สร้างชื่อเสียง ดึงเอาชื่อเสียงให้ประชาชนกลับมาเชื่อทนายความได้อีกหรือไม่ . ผมเป็นคนที่มั่นคง ผมไม่หลบหลีก หลีกเลี่ยง เมื่อผมร่างคำร้องเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมจะลงชื่อ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แล้วผมจะไปยื่นด้วยตัวเองเลย ให้รู้ว่าผมไม่ใช่อีแอบ และผมไม่ต้องไปโทรขู่ใครเหมือนอย่างคนบางคนเที่ยวข่มขู่พยานของคุณอ้อย ว่าเขามีลูกเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนอนุบาลใช่ไหม 2 คน เป็นลักษณะคนที่ชั่วช้ามาก . เรื่องนี้ผมไปสุดซอยแน่นอน ให้คุณรับทราบไว้ด้วย คุณษิทรา และยังไม่จบ คุณษิทรา อีกอาทิตย์หนึ่ง ผมจะเร่งทำเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการเสียภาษีของคุณ ของครอบครัวคุณ ของพี่ภรรยาคุณ และก็ตรวจสอบการใช้เงินซื้อบ้านที่คุณอยู่วันนี้ ที่บางกอกบูเลอวาร์ด ว่า 46 ล้านบาทนั้น ซื้อใส่ชื่อภรรยาคุณ เอาเงินจากไหนซื้อ สรรพากรต้องตรวจสอบให้ได้ว่าเอาเงินจากไหน ถ้าเป็นเงินตัวเอง เงินก้อนนั้นเสียภาษีหรือเปล่า เงิน 71 ล้านบาท ที่คุณบอกว่าคุณอ้อยเขาให้ด้วยเสน่หา สรรพากรดูเสียหน่อยว่าเสน่หาหรือเปล่า ผมไม่ได้เก่งเรื่องภาษี แต่ผมรู้อยู่ว่า อะไรที่เป็นรายได้ต้องเสียภาษีหมด . 71 ล้าน ผู้เชี่ยวชาญทางภาษีบอกชัดเจนว่าต้องเสียภาษีถึง 35% ท่านอธิบดีกรมสรรพากรครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ท่านอย่านั่งเฉย เป็นที่สนใจของประชาชนมาก แล้วยังมีเงินทองอีกเยอะในอดีตที่คุณเคยได้มา ถ้าผมค้นเจอหลักฐาน มีคนกล่าวหาคุณ ผมจะร้องเรียนเพิ่มเติม คุณชอบใช่ไหมที่จะทะเลาะกับผม ผมจะเดินให้สุดซอย อย่าลืมนะครับ อาทิตย์หน้าสภาทนายความ อีกอาทิตย์หนึ่งจะพยายามทำเรื่องให้เสร็จแล้วไปยื่นที่กรมสรรพากร และทั้งสองเรื่องจะไปยื่นด้วยตัวเองครับ ที่มา https://www.facebook.com/share/p/1942qfmeuV/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 754 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผมมีเรื่องจะแถลงให้กับท่านผู้ชมและคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด ทราบอย่างเป็นทางการ
    .
    ข้อแรก ผมไม่ใช่อีแอบ ผมทำอะไรเปิดเผย ตรงไปตรงมา คุณหาเรื่องผมก่อนนะ นายษิทรา ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ผมบอกคุณ ถ้าคุณมีเรื่องกับผม สนธิ ลิ้มทองกุลเดินสุดซอย เหมือนที่ผมเคยเดินสุดซอยกับ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ไม่ถอยเลยแม้ก้าวเดียว
    .
    อาทิตย์หน้า ผมร่างเรื่องร้องเรียนแล้ว ผมจะร้องเรียนไปสภาทนายความ เรื่องการผิดจริยธรรมของคุณในหลายๆกรณี ผมกำลังท้าทายสภาทนายความชุดนี้ ว่าจะกล้าพอที่จะขจัดทนายที่ไม่มีจริยธรรม สร้างชื่อเสียง ดึงเอาชื่อเสียงให้ประชาชนกลับมาเชื่อทนายความได้อีกหรือไม่
    .
    ผมเป็นคนที่มั่นคง ผมไม่หลบหลีก หลีกเลี่ยง เมื่อผมร่างคำร้องเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมจะลงชื่อ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แล้วผมจะไปยื่นด้วยตัวเองเลย ให้รู้ว่าผมไม่ใช่อีแอบ และผมไม่ต้องไปโทรขู่ใครเหมือนอย่างคนบางคนเที่ยวข่มขู่พยานของคุณอ้อย ว่าเขามีลูกเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนอนุบาลใช่ไหม 2 คน เป็นลักษณะคนที่ชั่วช้ามาก
    .
    เรื่องนี้ผมไปสุดซอยแน่นอน ให้คุณรับทราบไว้ด้วย คุณษิทรา และยังไม่จบ คุณษิทรา อีกอาทิตย์หนึ่ง ผมจะเร่งทำเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการเสียภาษีของคุณ ของครอบครัวคุณ ของพี่ภรรยาคุณ และก็ตรวจสอบการใช้เงินซื้อบ้านที่คุณอยู่วันนี้ ที่บางกอกบูเลอวาร์ด ว่า 46 ล้านบาทนั้น ซื้อใส่ชื่อภรรยาคุณ เอาเงินจากไหนซื้อ สรรพากรต้องตรวจสอบให้ได้ว่าเอาเงินจากไหน ถ้าเป็นเงินตัวเอง เงินก้อนนั้นเสียภาษีหรือเปล่า เงิน 71 ล้านบาท ที่คุณบอกว่าคุณอ้อยเขาให้ด้วยเสน่หา สรรพากรดูเสียหน่อยว่าเสน่หาหรือเปล่า ผมไม่ได้เก่งเรื่องภาษี แต่ผมรู้อยู่ว่า อะไรที่เป็นรายได้ต้องเสียภาษีหมด
    .
    71 ล้าน ผู้เชี่ยวชาญทางภาษีบอกชัดเจนว่าต้องเสียภาษีถึง 35% ท่านอธิบดีกรมสรรพากรครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ท่านอย่านั่งเฉย เป็นที่สนใจของประชาชนมาก แล้วยังมีเงินทองอีกเยอะในอดีตที่คุณเคยได้มา ถ้าผมค้นเจอหลักฐาน มีคนกล่าวหาคุณ ผมจะร้องเรียนเพิ่มเติม คุณชอบใช่ไหมที่จะทะเลาะกับผม ผมจะเดินให้สุดซอย อย่าลืมนะครับ อาทิตย์หน้าสภาทนายความ อีกอาทิตย์หนึ่งจะพยายามทำเรื่องให้เสร็จแล้วไปยื่นที่กรมสรรพากร และทั้งสองเรื่องจะไปยื่นด้วยตัวเองครับ
    ผมมีเรื่องจะแถลงให้กับท่านผู้ชมและคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด ทราบอย่างเป็นทางการ . ข้อแรก ผมไม่ใช่อีแอบ ผมทำอะไรเปิดเผย ตรงไปตรงมา คุณหาเรื่องผมก่อนนะ นายษิทรา ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ผมบอกคุณ ถ้าคุณมีเรื่องกับผม สนธิ ลิ้มทองกุลเดินสุดซอย เหมือนที่ผมเคยเดินสุดซอยกับ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ไม่ถอยเลยแม้ก้าวเดียว . อาทิตย์หน้า ผมร่างเรื่องร้องเรียนแล้ว ผมจะร้องเรียนไปสภาทนายความ เรื่องการผิดจริยธรรมของคุณในหลายๆกรณี ผมกำลังท้าทายสภาทนายความชุดนี้ ว่าจะกล้าพอที่จะขจัดทนายที่ไม่มีจริยธรรม สร้างชื่อเสียง ดึงเอาชื่อเสียงให้ประชาชนกลับมาเชื่อทนายความได้อีกหรือไม่ . ผมเป็นคนที่มั่นคง ผมไม่หลบหลีก หลีกเลี่ยง เมื่อผมร่างคำร้องเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมจะลงชื่อ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แล้วผมจะไปยื่นด้วยตัวเองเลย ให้รู้ว่าผมไม่ใช่อีแอบ และผมไม่ต้องไปโทรขู่ใครเหมือนอย่างคนบางคนเที่ยวข่มขู่พยานของคุณอ้อย ว่าเขามีลูกเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนอนุบาลใช่ไหม 2 คน เป็นลักษณะคนที่ชั่วช้ามาก . เรื่องนี้ผมไปสุดซอยแน่นอน ให้คุณรับทราบไว้ด้วย คุณษิทรา และยังไม่จบ คุณษิทรา อีกอาทิตย์หนึ่ง ผมจะเร่งทำเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการเสียภาษีของคุณ ของครอบครัวคุณ ของพี่ภรรยาคุณ และก็ตรวจสอบการใช้เงินซื้อบ้านที่คุณอยู่วันนี้ ที่บางกอกบูเลอวาร์ด ว่า 46 ล้านบาทนั้น ซื้อใส่ชื่อภรรยาคุณ เอาเงินจากไหนซื้อ สรรพากรต้องตรวจสอบให้ได้ว่าเอาเงินจากไหน ถ้าเป็นเงินตัวเอง เงินก้อนนั้นเสียภาษีหรือเปล่า เงิน 71 ล้านบาท ที่คุณบอกว่าคุณอ้อยเขาให้ด้วยเสน่หา สรรพากรดูเสียหน่อยว่าเสน่หาหรือเปล่า ผมไม่ได้เก่งเรื่องภาษี แต่ผมรู้อยู่ว่า อะไรที่เป็นรายได้ต้องเสียภาษีหมด . 71 ล้าน ผู้เชี่ยวชาญทางภาษีบอกชัดเจนว่าต้องเสียภาษีถึง 35% ท่านอธิบดีกรมสรรพากรครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ท่านอย่านั่งเฉย เป็นที่สนใจของประชาชนมาก แล้วยังมีเงินทองอีกเยอะในอดีตที่คุณเคยได้มา ถ้าผมค้นเจอหลักฐาน มีคนกล่าวหาคุณ ผมจะร้องเรียนเพิ่มเติม คุณชอบใช่ไหมที่จะทะเลาะกับผม ผมจะเดินให้สุดซอย อย่าลืมนะครับ อาทิตย์หน้าสภาทนายความ อีกอาทิตย์หนึ่งจะพยายามทำเรื่องให้เสร็จแล้วไปยื่นที่กรมสรรพากร และทั้งสองเรื่องจะไปยื่นด้วยตัวเองครับ
    Like
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 936 มุมมอง 0 รีวิว
  • OKJ ลากแมลงเม่าไปเชือด / สุนันท์ ศรีจันทรา

    หุ้นบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ OKJ เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้เพียง 2 วัน เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ได้สนั่นหวั่นไหว เพราะราคาทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง จนถูกตั้งคำถามว่า มีใครอยู่เบื้องหลัง ลากนักลงทุนรายย่อยขึ้นไปเชือดหรือไม่

    OKJ นำหุ้นจำนวน 159 ล้านหุ้น หรือสัดส่วนประมาณ 26% ของทุนจดทะเบียน เสนอขายนักลงทุนทั่วไปเป็นครั้งแรกในราคาหุ้นละ 6.70 บาท โดย บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด บริษัทลูกของ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ถือหุ้นในสัดส่วน 20% ของทุนจดทะเบียน

    โอ้กะจู๋ หรือ OKJ สร้างชื่อเสียงจากร้านอาหารพักปลอดสารเพื่อสุขภาพ จนเติบโตเป็นที่นิยมและขยายสาขาต่อเนื่อง หุ้นที่นำมาเสนอขายนักลงทุน จึงได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันที่จองล้นโควตาจัดสรร

    เป็นที่คาดหมายก่อนหน้าแล้วว่า การซื้อขายหุ้น OKJ จะมีความคึกคัก และเมื่อได้ฤกษ์ประเดิมเคาะซื้อขายวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ราคาหุ้นเคลื่อนไหวร้อนแรงตามคาด โดยเปิดการซื้อขายที่ราคา 10.10 บาท และถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 12.50 บาท ก่อนปิดที่ 12.40 บาท สูงกว่าราคาจอง 5.70 บาท หรือสูงกว่าจอง 85% มูลค่าซื้อขาย 4,678.91 ล้านบาท

    การซื้อขายวันที่สอง หรือวันที่ 7 ตุลาคม OKJ ยังร้อนไม่หยุด เปิดซื้อขายที่ราคา 12.80 บาท ก่อนถูกลากขึ้นไปสูงสุด 14.60 บาท แต่ถูกเทขาย จนร่วงลงมาปิดที่ 12.90 บาท เพิ่มขึ้น 50 สตางค์หรือเพิ่มขึ้น 4.03% มูลค่าซื้อขายยังหนาแน่น 1,829.41 ล้านบาท

    หุ้น OKJ ที่พุ่งทะยาน ถูกวิจารณ์จากนักวิเคราะห์หลักทรัพย์และนักลงทุนว่า ราคาร้อนเกินเหตุ และเป็นราคาที่ล้ำหน้าปัจจัยพื้นฐานไปมาก จนมีเสียงเตือนให้ระมัดระวังการตามแห่เก็งกำไร เพราะอาจมีคนที่อยู่เบื้องหลังการลากราคาหุ้น

    ค่าพี/อีเรโช OKJ จากระดับ 24 เท่า ช่วงที่เสนอขายหุ้นในราคา 6.70บาท ล่าสุดพุ่งขึ้นไปเป็น 46 เท่าแล้ว ซึ่งเมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มอาหารด้วยกัน ถือว่า เป็นหุ้นกลุ่มอาหารที่มีค่า พี/อี เรโช สูงกว่าหุ้นกลุ่มอาหารอื่นๆ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับหุ้น บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M ซึ่งราคาปิดล่าสุดที่ 30.25 บาท มีค่า พี/อี เรโช 16 เท่า

    หุ้นน้องใหม่ที่เคยสร้างสถิติความร้อนแรงสุดขีดคือ หุ้นบริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI จากราคาจอง 4.95 บาท และนับจากประเดิมเข้าซื้อขายในตลาด MAI วันที่ 14 ธันวาคม 2566 ราคาพุ่งไม่หยุด แม้จะถูกมาตรการกำกับการซื้อขายหลายครั้ง โดยราคาถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 65.50 บาท ก่อนจะปรับฐานสู่พื้นฐานที่เป็นจริง ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมราคาปิดที่ 14.50 บาท

    นักลงทุนขาใหญ่ที่ลากหุ้น MGI ขึ้นไป ขายหุ้นทำกำไร เผ่นหนีออกไปแล้ว ปล่อยให้แมลงเม่าที่ตามแห่เก็งกำไร ติดค้างอยู่บนยอดดอย ขาดทุนกันป่นปี้

    เช่นเดียวกับ OKJ ซึ่งอาจมีนักลงทุนขาใหญ่ อยู่เบื้องหลังความร้อนแรงของราคา และ "ขาใหญ่" อาจทิ้งหุ้นไปแล้ว เมื่อราคาหุ้นพุ่งเกิน 100% เหนือราคาจอง

    หุ้นน้องใหม่ ส่วนใหญ่จะมีเจ้ามือหรือนักลงทุนขาใหญ่ อยู่เบื้องหลังการสร้างราคา โดยอาจมีข้อตกลงกับผู้ถือหุ้นใหญ่ในการทำราคา แลกกับการจัดสรรหุ้นต้นทุนต่ำ จึงปรากฏรายชื่อบรรดานักลงทุนขาใหญ่หรือเซียนหุ้นได้รับการจัดสรรหุ้นใหม่จำนวนมาก

    และการซื้อขายหุ้นใหม่ในวันแรก ๆ ดูเหมือนว่าตลาดหลักทรัพย์จะปล่อยผี ปล่อยให้ทำราคากันได้เต็มที่ บางครั้งปล่อยให้ลากราคาสูงกว่าจองเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ปิดตลาดกลับถูกทุบลงต่ำกว่าราคาจองอย่างน่าประหลาดใจ จนนักลงทุนรายย่อยตายกันเป็นเบือ

    เช่นเดียวกับ OKJ ซึ่งเป็นหุ้นชื่อเสียงดี แต่พฤติกรรมราคาใน 2 วันแรกที่เข้าซื้อขาย ดูไม่ดีเท่าไหร่นัก และน่าจะมีแมลงเม่าจำนวนไม่น้อยต้องเซ่นสังเวยในกองไฟ

    แต่ตลาดหลักทรัพย์ไม่เคยจับ ฆาตกรที่ลากหุ้นใหม่ขึ้นไปเชือดในวันแรกๆที่เข้าซื้อขายได้สักราย

    ที่มา : https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000095940

    #Thaitimes
    OKJ ลากแมลงเม่าไปเชือด / สุนันท์ ศรีจันทรา หุ้นบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ OKJ เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้เพียง 2 วัน เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ได้สนั่นหวั่นไหว เพราะราคาทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง จนถูกตั้งคำถามว่า มีใครอยู่เบื้องหลัง ลากนักลงทุนรายย่อยขึ้นไปเชือดหรือไม่ OKJ นำหุ้นจำนวน 159 ล้านหุ้น หรือสัดส่วนประมาณ 26% ของทุนจดทะเบียน เสนอขายนักลงทุนทั่วไปเป็นครั้งแรกในราคาหุ้นละ 6.70 บาท โดย บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด บริษัทลูกของ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ถือหุ้นในสัดส่วน 20% ของทุนจดทะเบียน โอ้กะจู๋ หรือ OKJ สร้างชื่อเสียงจากร้านอาหารพักปลอดสารเพื่อสุขภาพ จนเติบโตเป็นที่นิยมและขยายสาขาต่อเนื่อง หุ้นที่นำมาเสนอขายนักลงทุน จึงได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันที่จองล้นโควตาจัดสรร เป็นที่คาดหมายก่อนหน้าแล้วว่า การซื้อขายหุ้น OKJ จะมีความคึกคัก และเมื่อได้ฤกษ์ประเดิมเคาะซื้อขายวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ราคาหุ้นเคลื่อนไหวร้อนแรงตามคาด โดยเปิดการซื้อขายที่ราคา 10.10 บาท และถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 12.50 บาท ก่อนปิดที่ 12.40 บาท สูงกว่าราคาจอง 5.70 บาท หรือสูงกว่าจอง 85% มูลค่าซื้อขาย 4,678.91 ล้านบาท การซื้อขายวันที่สอง หรือวันที่ 7 ตุลาคม OKJ ยังร้อนไม่หยุด เปิดซื้อขายที่ราคา 12.80 บาท ก่อนถูกลากขึ้นไปสูงสุด 14.60 บาท แต่ถูกเทขาย จนร่วงลงมาปิดที่ 12.90 บาท เพิ่มขึ้น 50 สตางค์หรือเพิ่มขึ้น 4.03% มูลค่าซื้อขายยังหนาแน่น 1,829.41 ล้านบาท หุ้น OKJ ที่พุ่งทะยาน ถูกวิจารณ์จากนักวิเคราะห์หลักทรัพย์และนักลงทุนว่า ราคาร้อนเกินเหตุ และเป็นราคาที่ล้ำหน้าปัจจัยพื้นฐานไปมาก จนมีเสียงเตือนให้ระมัดระวังการตามแห่เก็งกำไร เพราะอาจมีคนที่อยู่เบื้องหลังการลากราคาหุ้น ค่าพี/อีเรโช OKJ จากระดับ 24 เท่า ช่วงที่เสนอขายหุ้นในราคา 6.70บาท ล่าสุดพุ่งขึ้นไปเป็น 46 เท่าแล้ว ซึ่งเมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มอาหารด้วยกัน ถือว่า เป็นหุ้นกลุ่มอาหารที่มีค่า พี/อี เรโช สูงกว่าหุ้นกลุ่มอาหารอื่นๆ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับหุ้น บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M ซึ่งราคาปิดล่าสุดที่ 30.25 บาท มีค่า พี/อี เรโช 16 เท่า หุ้นน้องใหม่ที่เคยสร้างสถิติความร้อนแรงสุดขีดคือ หุ้นบริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI จากราคาจอง 4.95 บาท และนับจากประเดิมเข้าซื้อขายในตลาด MAI วันที่ 14 ธันวาคม 2566 ราคาพุ่งไม่หยุด แม้จะถูกมาตรการกำกับการซื้อขายหลายครั้ง โดยราคาถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 65.50 บาท ก่อนจะปรับฐานสู่พื้นฐานที่เป็นจริง ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมราคาปิดที่ 14.50 บาท นักลงทุนขาใหญ่ที่ลากหุ้น MGI ขึ้นไป ขายหุ้นทำกำไร เผ่นหนีออกไปแล้ว ปล่อยให้แมลงเม่าที่ตามแห่เก็งกำไร ติดค้างอยู่บนยอดดอย ขาดทุนกันป่นปี้ เช่นเดียวกับ OKJ ซึ่งอาจมีนักลงทุนขาใหญ่ อยู่เบื้องหลังความร้อนแรงของราคา และ "ขาใหญ่" อาจทิ้งหุ้นไปแล้ว เมื่อราคาหุ้นพุ่งเกิน 100% เหนือราคาจอง หุ้นน้องใหม่ ส่วนใหญ่จะมีเจ้ามือหรือนักลงทุนขาใหญ่ อยู่เบื้องหลังการสร้างราคา โดยอาจมีข้อตกลงกับผู้ถือหุ้นใหญ่ในการทำราคา แลกกับการจัดสรรหุ้นต้นทุนต่ำ จึงปรากฏรายชื่อบรรดานักลงทุนขาใหญ่หรือเซียนหุ้นได้รับการจัดสรรหุ้นใหม่จำนวนมาก และการซื้อขายหุ้นใหม่ในวันแรก ๆ ดูเหมือนว่าตลาดหลักทรัพย์จะปล่อยผี ปล่อยให้ทำราคากันได้เต็มที่ บางครั้งปล่อยให้ลากราคาสูงกว่าจองเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ปิดตลาดกลับถูกทุบลงต่ำกว่าราคาจองอย่างน่าประหลาดใจ จนนักลงทุนรายย่อยตายกันเป็นเบือ เช่นเดียวกับ OKJ ซึ่งเป็นหุ้นชื่อเสียงดี แต่พฤติกรรมราคาใน 2 วันแรกที่เข้าซื้อขาย ดูไม่ดีเท่าไหร่นัก และน่าจะมีแมลงเม่าจำนวนไม่น้อยต้องเซ่นสังเวยในกองไฟ แต่ตลาดหลักทรัพย์ไม่เคยจับ ฆาตกรที่ลากหุ้นใหม่ขึ้นไปเชือดในวันแรกๆที่เข้าซื้อขายได้สักราย ที่มา : https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000095940 #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 939 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้อยู่เบื้องหลังหมูเด้งดัง! องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดพิธีมอบรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลที่มีผลงานดีเด่น สร้างชื่อเสียง และทำคุณประโยชน์ให้กับหน่วยงาน ให้แก่ Admin เพจขาหมูแอนด์เดอะแก๊งค์ และ Admin เพจ EDU zoo say

    นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เผยว่า ได้จัดพิธีมอบรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลที่มีผลงานดีเด่น สร้างชื่อเสียง และทำคุณประโยชน์ให้กับหน่วยงาน ได้แก่ ( Admin เพจขาหมูแอนด์เดอะแก๊ง) นายอรรถพล หนุนดี พนักงานบำรุงและจัดการสวนสัตว์ ๓ งานบำรุงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ฝ่ายบำรุงสัตว์ สังกัดสวนสัตว์เปิดเขาเขียว และ (Admin เพจ EDU zoo say) นางสาวอารีรัตน์ ทับทิม เจ้าหน้าที่สื่อการศึกษา ๓ งานสื่อการเรียนรู้ ฝ่ายการศึกษา ในฐานะที่ได้สร้างผลงานอันเป็นประโยชน์ต่อองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย อย่างโดดเด่นตลอดปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการส่งเสิรมกำลังใจในการทำงาน สร้างแรงบันดาลใจให้บุคลากร ได้เห็นถึงความสำคัญของการทำงานเพื่อส่วนรวม สร้างค่านิยมและวัฒธรรมองค์กร Zoogether ไปด้วยกัน ไปได้ไกล ไปกับเรา

    ในการนี้ ได้รับเกียรติจาก รศ.เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เป็นประธานมอบรางวัลในพิธีฯ พร้อมด้วย นายภัทระ คำพิทักษ์ กรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย นายชวลิต ชูขจร ที่ปรึกษาคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย รวมถึงคณะผู้บริหารองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยร่วมเป็นเกียรติในพิธีด้วย

    ที่มา : NBT Connext

    #Thaitimes
    ผู้อยู่เบื้องหลังหมูเด้งดัง! องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดพิธีมอบรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลที่มีผลงานดีเด่น สร้างชื่อเสียง และทำคุณประโยชน์ให้กับหน่วยงาน ให้แก่ Admin เพจขาหมูแอนด์เดอะแก๊งค์ และ Admin เพจ EDU zoo say นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เผยว่า ได้จัดพิธีมอบรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลที่มีผลงานดีเด่น สร้างชื่อเสียง และทำคุณประโยชน์ให้กับหน่วยงาน ได้แก่ ( Admin เพจขาหมูแอนด์เดอะแก๊ง) นายอรรถพล หนุนดี พนักงานบำรุงและจัดการสวนสัตว์ ๓ งานบำรุงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ฝ่ายบำรุงสัตว์ สังกัดสวนสัตว์เปิดเขาเขียว และ (Admin เพจ EDU zoo say) นางสาวอารีรัตน์ ทับทิม เจ้าหน้าที่สื่อการศึกษา ๓ งานสื่อการเรียนรู้ ฝ่ายการศึกษา ในฐานะที่ได้สร้างผลงานอันเป็นประโยชน์ต่อองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย อย่างโดดเด่นตลอดปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการส่งเสิรมกำลังใจในการทำงาน สร้างแรงบันดาลใจให้บุคลากร ได้เห็นถึงความสำคัญของการทำงานเพื่อส่วนรวม สร้างค่านิยมและวัฒธรรมองค์กร Zoogether ไปด้วยกัน ไปได้ไกล ไปกับเรา ในการนี้ ได้รับเกียรติจาก รศ.เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เป็นประธานมอบรางวัลในพิธีฯ พร้อมด้วย นายภัทระ คำพิทักษ์ กรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย นายชวลิต ชูขจร ที่ปรึกษาคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย รวมถึงคณะผู้บริหารองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยร่วมเป็นเกียรติในพิธีด้วย ที่มา : NBT Connext #Thaitimes
    Like
    Love
    18
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1523 มุมมอง 0 รีวิว
  • Creative Valuation เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่รวบรวมงานศิลปะคุณภาพสูง ทั้งภาพสต็อก ภาพวาดสีน้ำ และกราฟิกดีไซน์ที่สร้างสรรค์โดยศิลปินจากทั่วทุกมุมโลก โดยเน้นความเป็นเอกลักษณ์และความละเอียดในการสร้างสรรค์ผลงาน การซื้อขายบนแพลตฟอร์มนี้ไม่เพียงแต่ช่วยสนับสนุนศิลปินอิสระ แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อได้รับผลงานที่ไม่ซ้ำใคร เพื่อใช้ในโครงการต่าง ๆ เช่น การออกแบบเว็บไซต์ โฆษณา หรือสื่อสิ่งพิมพ์

    จุดเด่นของ Creative Valuation

    1. ศิลปะที่ไม่เหมือนใคร: แพลตฟอร์มนี้นำเสนอผลงานที่มีความเป็นเอกลักษณ์เกิดจากศิลปินมืออาชีพที่สร้างสรรค์ด้วยมือ ทำให้ผลงานแต่ละชิ้นมีความเป็นธรรมชาติและมีอารมณ์ที่จับต้องได้
    2. คุณภาพสูง: ทุกชิ้นงานบนเว็บไซต์ได้รับการตรวจสอบเพื่อคุณภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นภาพสต็อกหรือภาพวาดสีน้ำ ล้วนผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน
    3. ใช้งานได้หลากหลาย: ผู้ซื้อสามารถใช้ผลงานจาก Creative Valuation ในหลากหลายบริบท ไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบดิจิทัล สื่อสิ่งพิมพ์ การโฆษณา หรือการนำเสนอ
    4. สนับสนุนศิลปินอิสระ: ทุกการซื้อขายบนเว็บไซต์นี้ ช่วยสนับสนุนศิลปินอิสระ ให้พวกเขาสามารถสร้างสรรค์ผลงานต่อไปได้ นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสให้ศิลปินสามารถแสดงผลงานและขายได้โดยตรง

    วิธีการใช้งาน Creative Valuation

    1. เลือกประเภทของงานศิลปะ: ไม่ว่าคุณจะมองหาภาพสต็อกเพื่อใช้ในการออกแบบเว็บไซต์ หรือภาพวาดสีน้ำที่สวยงามเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับงานพิมพ์ คุณสามารถค้นหางานศิลปะที่เหมาะสมได้จากหมวดหมู่ที่จัดไว้อย่างชัดเจน
    2. สั่งซื้อและดาวน์โหลด: หลังจากเลือกผลงานที่ต้องการแล้ว การสั่งซื้อเป็นเรื่องง่าย คุณสามารถชำระเงินและดาวน์โหลดไฟล์ได้ทันที ซึ่งช่วยให้คุณได้รับผลงานพร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
    3. ร่วมเป็นศิลปิน: หากคุณเป็นศิลปินและต้องการมีช่องทางในการเผยแพร่และขายผลงานของคุณ Creative Valuation ยังเปิดโอกาสให้คุณเข้าร่วมและนำเสนอผลงานของคุณบนแพลตฟอร์ม

    แนวทางการส่งเสริมเว็บไซต์ Creative Valuation

    1. สร้างความสัมพันธ์กับชุมชนศิลปิน: การโปรโมต Creative Valuation สามารถเริ่มต้นจากการสร้างเครือข่ายกับศิลปินอิสระผ่านโซเชียลมีเดีย การเชิญชวนให้ศิลปินแชร์ประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ และการเผยแพร่ผลงานที่พวกเขาได้ขายผ่านแพลตฟอร์มนี้ เป็นอีกวิธีหนึ่งในการสร้างความน่าสนใจและความเชื่อมั่น
    2. แคมเปญการตลาดออนไลน์: การใช้โฆษณาผ่านแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook และ Instagram ช่วยเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการงานศิลปะคุณภาพสูง นอกจากนี้ ยังสามารถจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย เช่น ส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนในครั้งแรก
    3. การโปรโมตผ่านผู้ทรงอิทธิพล: การร่วมงานกับ influencers ในวงการศิลปะหรือกราฟิกดีไซน์ สามารถช่วยให้ Creative Valuation ได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น
    4. รีวิวและบทความในบล็อก: การเขียนบทความรีวิวเกี่ยวกับการใช้เว็บไซต์ Creative Valuation รวมถึงการแนะนำผลงานเด่นๆ บนบล็อกหรือเว็บไซต์เกี่ยวกับการออกแบบและศิลปะ จะช่วยให้เว็บเป็นที่รู้จักและสร้างความเชื่อถือให้กับผู้ที่กำลังมองหาแหล่งซื้อขายงานศิลปะออนไลน์

    ประโยชน์สำหรับผู้ซื้อ

    • ความเป็นเอกลักษณ์: ผลงานบน Creative Valuation มีความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้คุณสามารถใช้ภาพและกราฟิกที่แตกต่างจากแหล่งอื่น ๆ
    • ใช้งานง่าย: เว็บไซต์ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและสะดวกในการค้นหา คุณสามารถหาและดาวน์โหลดงานศิลปะได้อย่างรวดเร็ว
    • ราคาสมเหตุสมผล: Creative Valuation นำเสนอผลงานในราคาที่เข้าถึงได้ ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงงานศิลปะคุณภาพสูงได้ง่ายๆ

    ประโยชน์สำหรับศิลปิน

    • แพลตฟอร์มที่เปิดโอกาส: ศิลปินสามารถใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อเผยแพร่ผลงานของตน และได้รับรายได้จากการขายผลงาน
    • สร้างชื่อเสียง: การที่ผลงานของคุณถูกนำไปใช้ในหลากหลายโครงการจะช่วยให้คุณได้รับการยอมรับและสร้างชื่อเสียงในวงการ
    • ไม่มีค่าใช้จ่ายในการลงผลงาน: Creative Valuation ให้ศิลปินสามารถลงผลงานได้ฟรี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายล่วงหน้า

    สรุป
    Creative Valuation เป็นแหล่งรวมงานศิลปะคุณภาพที่เหมาะสำหรับทั้งผู้ที่ต้องการซื้อภาพสต็อกหรือภาพวาดสีน้ำ และศิลปินที่ต้องการแสดงผลงานของตนให้เป็นที่รู้จัก การโปรโมตเว็บไซต์นี้ควรเน้นที่ความเป็นเอกลักษณ์ของผลงาน คุณภาพสูง และโอกาสในการสนับสนุนศิลปินอิสระเพื่อให้ชุมชนศิลปะเติบโตไปด้วยกัน

    เยี่ยมชม Creative Valuation เพื่อค้นพบและเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์ศิลปะใหม่ๆ ที่นี่ https://creativevaluation.com
    Creative Valuation เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่รวบรวมงานศิลปะคุณภาพสูง ทั้งภาพสต็อก ภาพวาดสีน้ำ และกราฟิกดีไซน์ที่สร้างสรรค์โดยศิลปินจากทั่วทุกมุมโลก โดยเน้นความเป็นเอกลักษณ์และความละเอียดในการสร้างสรรค์ผลงาน การซื้อขายบนแพลตฟอร์มนี้ไม่เพียงแต่ช่วยสนับสนุนศิลปินอิสระ แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อได้รับผลงานที่ไม่ซ้ำใคร เพื่อใช้ในโครงการต่าง ๆ เช่น การออกแบบเว็บไซต์ โฆษณา หรือสื่อสิ่งพิมพ์ จุดเด่นของ Creative Valuation 1. ศิลปะที่ไม่เหมือนใคร: แพลตฟอร์มนี้นำเสนอผลงานที่มีความเป็นเอกลักษณ์เกิดจากศิลปินมืออาชีพที่สร้างสรรค์ด้วยมือ ทำให้ผลงานแต่ละชิ้นมีความเป็นธรรมชาติและมีอารมณ์ที่จับต้องได้ 2. คุณภาพสูง: ทุกชิ้นงานบนเว็บไซต์ได้รับการตรวจสอบเพื่อคุณภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นภาพสต็อกหรือภาพวาดสีน้ำ ล้วนผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน 3. ใช้งานได้หลากหลาย: ผู้ซื้อสามารถใช้ผลงานจาก Creative Valuation ในหลากหลายบริบท ไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบดิจิทัล สื่อสิ่งพิมพ์ การโฆษณา หรือการนำเสนอ 4. สนับสนุนศิลปินอิสระ: ทุกการซื้อขายบนเว็บไซต์นี้ ช่วยสนับสนุนศิลปินอิสระ ให้พวกเขาสามารถสร้างสรรค์ผลงานต่อไปได้ นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสให้ศิลปินสามารถแสดงผลงานและขายได้โดยตรง วิธีการใช้งาน Creative Valuation 1. เลือกประเภทของงานศิลปะ: ไม่ว่าคุณจะมองหาภาพสต็อกเพื่อใช้ในการออกแบบเว็บไซต์ หรือภาพวาดสีน้ำที่สวยงามเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับงานพิมพ์ คุณสามารถค้นหางานศิลปะที่เหมาะสมได้จากหมวดหมู่ที่จัดไว้อย่างชัดเจน 2. สั่งซื้อและดาวน์โหลด: หลังจากเลือกผลงานที่ต้องการแล้ว การสั่งซื้อเป็นเรื่องง่าย คุณสามารถชำระเงินและดาวน์โหลดไฟล์ได้ทันที ซึ่งช่วยให้คุณได้รับผลงานพร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็ว 3. ร่วมเป็นศิลปิน: หากคุณเป็นศิลปินและต้องการมีช่องทางในการเผยแพร่และขายผลงานของคุณ Creative Valuation ยังเปิดโอกาสให้คุณเข้าร่วมและนำเสนอผลงานของคุณบนแพลตฟอร์ม แนวทางการส่งเสริมเว็บไซต์ Creative Valuation 1. สร้างความสัมพันธ์กับชุมชนศิลปิน: การโปรโมต Creative Valuation สามารถเริ่มต้นจากการสร้างเครือข่ายกับศิลปินอิสระผ่านโซเชียลมีเดีย การเชิญชวนให้ศิลปินแชร์ประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ และการเผยแพร่ผลงานที่พวกเขาได้ขายผ่านแพลตฟอร์มนี้ เป็นอีกวิธีหนึ่งในการสร้างความน่าสนใจและความเชื่อมั่น 2. แคมเปญการตลาดออนไลน์: การใช้โฆษณาผ่านแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook และ Instagram ช่วยเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการงานศิลปะคุณภาพสูง นอกจากนี้ ยังสามารถจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย เช่น ส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนในครั้งแรก 3. การโปรโมตผ่านผู้ทรงอิทธิพล: การร่วมงานกับ influencers ในวงการศิลปะหรือกราฟิกดีไซน์ สามารถช่วยให้ Creative Valuation ได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น 4. รีวิวและบทความในบล็อก: การเขียนบทความรีวิวเกี่ยวกับการใช้เว็บไซต์ Creative Valuation รวมถึงการแนะนำผลงานเด่นๆ บนบล็อกหรือเว็บไซต์เกี่ยวกับการออกแบบและศิลปะ จะช่วยให้เว็บเป็นที่รู้จักและสร้างความเชื่อถือให้กับผู้ที่กำลังมองหาแหล่งซื้อขายงานศิลปะออนไลน์ ประโยชน์สำหรับผู้ซื้อ • ความเป็นเอกลักษณ์: ผลงานบน Creative Valuation มีความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้คุณสามารถใช้ภาพและกราฟิกที่แตกต่างจากแหล่งอื่น ๆ • ใช้งานง่าย: เว็บไซต์ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและสะดวกในการค้นหา คุณสามารถหาและดาวน์โหลดงานศิลปะได้อย่างรวดเร็ว • ราคาสมเหตุสมผล: Creative Valuation นำเสนอผลงานในราคาที่เข้าถึงได้ ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงงานศิลปะคุณภาพสูงได้ง่ายๆ ประโยชน์สำหรับศิลปิน • แพลตฟอร์มที่เปิดโอกาส: ศิลปินสามารถใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อเผยแพร่ผลงานของตน และได้รับรายได้จากการขายผลงาน • สร้างชื่อเสียง: การที่ผลงานของคุณถูกนำไปใช้ในหลากหลายโครงการจะช่วยให้คุณได้รับการยอมรับและสร้างชื่อเสียงในวงการ • ไม่มีค่าใช้จ่ายในการลงผลงาน: Creative Valuation ให้ศิลปินสามารถลงผลงานได้ฟรี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายล่วงหน้า สรุป Creative Valuation เป็นแหล่งรวมงานศิลปะคุณภาพที่เหมาะสำหรับทั้งผู้ที่ต้องการซื้อภาพสต็อกหรือภาพวาดสีน้ำ และศิลปินที่ต้องการแสดงผลงานของตนให้เป็นที่รู้จัก การโปรโมตเว็บไซต์นี้ควรเน้นที่ความเป็นเอกลักษณ์ของผลงาน คุณภาพสูง และโอกาสในการสนับสนุนศิลปินอิสระเพื่อให้ชุมชนศิลปะเติบโตไปด้วยกัน เยี่ยมชม Creative Valuation เพื่อค้นพบและเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์ศิลปะใหม่ๆ ที่นี่ https://creativevaluation.com
    CREATIVEVALUATION.COM
    Human Artistry : Handcrafted Imagery , Authentic Watercolor creations & Stock Photos .
    Discover a curated collection of genuine human-made art. Explore handcrafted imagery, authentic watercolor paintings, and unique photography-every piece created by talented artists, not AI. Perfect for those who value true artistic craftsmanship.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 532 มุมมอง 0 รีวิว
  • 😊สำคัญมากนะหากสกัดออกมาแล้ว.. แต่ใช้เวลาสกัด​3 สัปดาห์... หลายวิธี หลายขั้นตอน... แต่ก็ต้องทำ.. บอกให้ปลูกมาห้าปีละในไทย หาสนใจกันไม่..ไปสนใจอะไรไม่รู้เลอะเทอะ..ไม่เชี่ยวชาญกันเลย ถามตัวต่อตัว อึ้งกันหมด แต่ทำไมต่อหน้าสื่อทำเก่งกันจัง..น่าเสียดายหากสนับสนุนคนไทยคงมีงานทำเยอะแยะแล้ว..สร้างชื่อเสียงให้ประเทศได้มากมายอีก,.ไม่สนใจกันเอง

    It is very old very popular herbal medication and very effective

    It’s super herb

    Cure for Cancer and Malaria

    Good for food poisoning

    Can cure Covid easy
    😊สำคัญมากนะหากสกัดออกมาแล้ว.. แต่ใช้เวลาสกัด​3 สัปดาห์... หลายวิธี หลายขั้นตอน... แต่ก็ต้องทำ.. บอกให้ปลูกมาห้าปีละในไทย หาสนใจกันไม่..ไปสนใจอะไรไม่รู้เลอะเทอะ..ไม่เชี่ยวชาญกันเลย ถามตัวต่อตัว อึ้งกันหมด แต่ทำไมต่อหน้าสื่อทำเก่งกันจัง..น่าเสียดายหากสนับสนุนคนไทยคงมีงานทำเยอะแยะแล้ว..สร้างชื่อเสียงให้ประเทศได้มากมายอีก,.ไม่สนใจกันเอง It is very old very popular herbal medication and very effective It’s super herb Cure for Cancer and Malaria Good for food poisoning Can cure Covid easy
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 338 มุมมอง 0 รีวิว
  • Pavel Durov ผู้ก่อตั้ง Telegram ถูกตำรวจฝรั่งเศสจับกุมทันที อ้างหมายจับที่ออกโดย OFMIN หน่วยงานต่อต้านความรุนแรงต่อผู้เยาว์ของฝรั่งเศส หลังจาก Pavel Durov เพิ่งเดินทางมาถึงสนามบิน Le Bourget ด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และขณะนี้ต้องเผชิญโทษจำคุก 20 ปี

    25 สิงหาคม 2567-รายงานข่าวต่างประเทศระบุว่า นาย พาเวล ดูรอฟ Pavel Durov ซีอีโอวัย 39 ปีของ Telegram แอปพลิเคชันส่งข้อความยอดนิยมระดับโลก ถูกตำรวจฝรั่งเศสจับกุมตัวที่สนามบิน Le Bourget ทางตอนเหนือของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ถูกจับกุมเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. (เวลาท้องถิ่น) หลังเดินทางมาถึงด้วยเครื่องบินส่วนตัว สร้างความตกตะลึงให้กับวงการโซเชียลมีเดียทั่วโลก

    ทางการฝรั่งเศสระบุว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามหมายจับที่ออกโดย OFMIN หน่วยงานต่อต้านความรุนแรงต่อผู้เยาว์ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ประสานงานในการสอบสวนเบื้องต้นเกี่ยวกับข้อหาร้ายแรงหลายประการ เช่น การฉ้อโกง การค้ายาเสพติด การกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ อาชญากรรมองค์กร และการสนับสนุนการก่อการร้าย โดยมีสาเหตุหลักมาจากการที่ Pavel Durov ‘ไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อป้องกันการใช้ Telegram ในทางที่ผิดกฎหมายมา

    แต่กระแสข่าวอีกด้านระบุสาเหตุเพราะว่า บรรดาแฮกเกอร์ต่อต้านอิสราเอลที่ขโมยข้อมูลสำคัญของประเทศอิสราเอลจำนวนหลายกิกะไบต์ได้เผยแพร่ข้อมูลลับดังกล่าวบน TELEGRAM และTelegram ปฏิเสธคำขอของอิสราเอลในการเซ็นเซอร์ข้อมูลดังกล่าว

    Telegram เป็นแอปพลิเคชันส่งข้อความที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วโลก โดยเฉพาะในรัสเซีย Telegram ที่เข้ารหัสซึ่งมีผู้ใช้เกือบหนึ่งพันล้านคนมีอิทธิพลอย่างมากในรัสเซีย ยูเครน และสาธารณรัฐในอดีตสหภาพโซเวียต โดยจัดอยู่ในอันดับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลักหนึ่งรองจาก Facebook, YouTube, WhatsApp, Instagram, TikTok และ WeChat

    ดูรอฟซึ่งเกิดในรัสเซียก่อตั้ง Telegram ร่วมกับพี่ชายของเขาในปี 2013 เขาออกจากรัสเซียในปี 2014 หลังจากปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของรัฐบาลในการปิดชุมชนฝ่ายค้านบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย VKontakte ของเขาซึ่งเขาขายไป

    หลังจากที่รัสเซียเปิดฉากการรุกรานยูเครนในปี 2022 Telegram ก็กลายเป็นแหล่งหลักของเนื้อหาที่ไม่ได้ผ่านการกรอง – และบางครั้งมีเนื้อหาที่รุนแรงและทำให้เข้าใจผิด – จากทั้งสองฝ่ายเกี่ยวกับสงครามและการเมืองที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง

    รัสเซียเริ่มบล็อก Telegram ในปี 2018 หลังจากที่แอปปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการให้หน่วยงานความมั่นคงของรัฐเข้าถึงข้อความที่เข้ารหัสของผู้ใช้
    การกระทำดังกล่าวขัดขวางบริการของบุคคลที่สามจำนวนมาก แต่มีผลเพียงเล็กน้อยต่อความพร้อมใช้งานของ Telegram ในประเทศ อย่างไรก็ตาม คำสั่งห้ามดังกล่าวได้จุดชนวนให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ในมอสโกวและการวิพากษ์วิจารณ์จากองค์กรนอกภาครัฐ

    แพลตฟอร์มนี้ได้กลายเป็นสิ่งที่นักวิเคราะห์บางคนเรียกว่า “สนามรบเสมือนจริง” สำหรับสงคราม ซึ่งใช้โดยประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนและเจ้าหน้าที่ของเขา รวมถึงรัฐบาลรัสเซียเป็นอย่างมาก Telegram ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้หลบเลี่ยงการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ ได้กลายเป็นสถานที่ไม่กี่แห่งที่ชาวรัสเซียสามารถเข้าถึงข่าวสารอิสระเกี่ยวกับสงครามได้ หลังจากที่เครมลินเพิ่มมาตรการควบคุมสื่ออิสระหลังจากรัสเซียรุกรานยูเครน

    “ผมขอเป็นอิสระดีกว่าต้องรับคำสั่งจากใครก็ตาม” ดูรอฟบอกกับทักเกอร์ คาร์ลสัน นักข่าวชาวอเมริกันในเดือนเมษายนเกี่ยวกับการออกจากรัสเซียของเขาและการค้นหาบ้านให้กับบริษัทของเขา ซึ่งรวมถึงช่วงเวลาในเบอร์ลิน ลอนดอน สิงคโปร์ และซานฟรานซิสโก

    พาเวล ดูรอฟ Pavel Durov ผู้ก่อตั้ง Telegram เมื่อปี 2013 จัดเป็นมหาเศรษฐีที่มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกว่า 9 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3 แสนล้านบาท) ปัจจุบันอาศัยอยู่ในดูไบและถือสัญชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และฝรั่งเศส เขาเคยสร้างชื่อเสียงจากการก่อตั้งเครือข่ายสังคมออนไลน์ VKontakte ในรัสเซียเมื่อปี 2006 ก่อนที่จะหนีออกจากประเทศและขายหุ้นทั้งหมด หลังถูกกดดันจากรัฐบาลให้ปิดกั้นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลบนแพลตฟอร์ม

    กรณีจับกุมดูรอฟ สถานทูตรัสเซียในฝรั่งเศสได้ดำเนินการ ‘ทันที’ เพื่อขอคำชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ แม้ว่าตัวแทนของดูรอฟจะไม่ได้ยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือตามรายงานของสำนักข่าว TASS ของรัสเซีย ขณะที่คาดว่าดูรอฟจะถูกนำตัวขึ้นศาลในวันที่25 สิงหาคม

    Telegram ไม่ได้ตอบกลับคำขอแสดงความคิดเห็นของสื่อในทันที ขณะที่กระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศสและตำรวจไม่มีการแถลงและแสดงความคิดเห็นใดๆ

    เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตระหนกให้กับวงการเทคโนโลยีและผู้ใช้งาน Telegram ทั่วโลก โดยหลายฝ่ายจับตามองว่าการจับกุมครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่ออนาคตของแอปพลิเคชันยอดนิยมอย่างไร และจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายการกำกับดูแลเนื้อหาบนแพลตฟอร์มหรือไม่

    #Thaitimes
    Pavel Durov ผู้ก่อตั้ง Telegram ถูกตำรวจฝรั่งเศสจับกุมทันที อ้างหมายจับที่ออกโดย OFMIN หน่วยงานต่อต้านความรุนแรงต่อผู้เยาว์ของฝรั่งเศส หลังจาก Pavel Durov เพิ่งเดินทางมาถึงสนามบิน Le Bourget ด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และขณะนี้ต้องเผชิญโทษจำคุก 20 ปี 25 สิงหาคม 2567-รายงานข่าวต่างประเทศระบุว่า นาย พาเวล ดูรอฟ Pavel Durov ซีอีโอวัย 39 ปีของ Telegram แอปพลิเคชันส่งข้อความยอดนิยมระดับโลก ถูกตำรวจฝรั่งเศสจับกุมตัวที่สนามบิน Le Bourget ทางตอนเหนือของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ถูกจับกุมเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. (เวลาท้องถิ่น) หลังเดินทางมาถึงด้วยเครื่องบินส่วนตัว สร้างความตกตะลึงให้กับวงการโซเชียลมีเดียทั่วโลก ทางการฝรั่งเศสระบุว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามหมายจับที่ออกโดย OFMIN หน่วยงานต่อต้านความรุนแรงต่อผู้เยาว์ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ประสานงานในการสอบสวนเบื้องต้นเกี่ยวกับข้อหาร้ายแรงหลายประการ เช่น การฉ้อโกง การค้ายาเสพติด การกลั่นแกล้งทางไซเบอร์ อาชญากรรมองค์กร และการสนับสนุนการก่อการร้าย โดยมีสาเหตุหลักมาจากการที่ Pavel Durov ‘ไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อป้องกันการใช้ Telegram ในทางที่ผิดกฎหมายมา แต่กระแสข่าวอีกด้านระบุสาเหตุเพราะว่า บรรดาแฮกเกอร์ต่อต้านอิสราเอลที่ขโมยข้อมูลสำคัญของประเทศอิสราเอลจำนวนหลายกิกะไบต์ได้เผยแพร่ข้อมูลลับดังกล่าวบน TELEGRAM และTelegram ปฏิเสธคำขอของอิสราเอลในการเซ็นเซอร์ข้อมูลดังกล่าว Telegram เป็นแอปพลิเคชันส่งข้อความที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วโลก โดยเฉพาะในรัสเซีย Telegram ที่เข้ารหัสซึ่งมีผู้ใช้เกือบหนึ่งพันล้านคนมีอิทธิพลอย่างมากในรัสเซีย ยูเครน และสาธารณรัฐในอดีตสหภาพโซเวียต โดยจัดอยู่ในอันดับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลักหนึ่งรองจาก Facebook, YouTube, WhatsApp, Instagram, TikTok และ WeChat ดูรอฟซึ่งเกิดในรัสเซียก่อตั้ง Telegram ร่วมกับพี่ชายของเขาในปี 2013 เขาออกจากรัสเซียในปี 2014 หลังจากปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของรัฐบาลในการปิดชุมชนฝ่ายค้านบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย VKontakte ของเขาซึ่งเขาขายไป หลังจากที่รัสเซียเปิดฉากการรุกรานยูเครนในปี 2022 Telegram ก็กลายเป็นแหล่งหลักของเนื้อหาที่ไม่ได้ผ่านการกรอง – และบางครั้งมีเนื้อหาที่รุนแรงและทำให้เข้าใจผิด – จากทั้งสองฝ่ายเกี่ยวกับสงครามและการเมืองที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง รัสเซียเริ่มบล็อก Telegram ในปี 2018 หลังจากที่แอปปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการให้หน่วยงานความมั่นคงของรัฐเข้าถึงข้อความที่เข้ารหัสของผู้ใช้ การกระทำดังกล่าวขัดขวางบริการของบุคคลที่สามจำนวนมาก แต่มีผลเพียงเล็กน้อยต่อความพร้อมใช้งานของ Telegram ในประเทศ อย่างไรก็ตาม คำสั่งห้ามดังกล่าวได้จุดชนวนให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ในมอสโกวและการวิพากษ์วิจารณ์จากองค์กรนอกภาครัฐ แพลตฟอร์มนี้ได้กลายเป็นสิ่งที่นักวิเคราะห์บางคนเรียกว่า “สนามรบเสมือนจริง” สำหรับสงคราม ซึ่งใช้โดยประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนและเจ้าหน้าที่ของเขา รวมถึงรัฐบาลรัสเซียเป็นอย่างมาก Telegram ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้หลบเลี่ยงการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ ได้กลายเป็นสถานที่ไม่กี่แห่งที่ชาวรัสเซียสามารถเข้าถึงข่าวสารอิสระเกี่ยวกับสงครามได้ หลังจากที่เครมลินเพิ่มมาตรการควบคุมสื่ออิสระหลังจากรัสเซียรุกรานยูเครน “ผมขอเป็นอิสระดีกว่าต้องรับคำสั่งจากใครก็ตาม” ดูรอฟบอกกับทักเกอร์ คาร์ลสัน นักข่าวชาวอเมริกันในเดือนเมษายนเกี่ยวกับการออกจากรัสเซียของเขาและการค้นหาบ้านให้กับบริษัทของเขา ซึ่งรวมถึงช่วงเวลาในเบอร์ลิน ลอนดอน สิงคโปร์ และซานฟรานซิสโก พาเวล ดูรอฟ Pavel Durov ผู้ก่อตั้ง Telegram เมื่อปี 2013 จัดเป็นมหาเศรษฐีที่มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกว่า 9 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3 แสนล้านบาท) ปัจจุบันอาศัยอยู่ในดูไบและถือสัญชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และฝรั่งเศส เขาเคยสร้างชื่อเสียงจากการก่อตั้งเครือข่ายสังคมออนไลน์ VKontakte ในรัสเซียเมื่อปี 2006 ก่อนที่จะหนีออกจากประเทศและขายหุ้นทั้งหมด หลังถูกกดดันจากรัฐบาลให้ปิดกั้นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลบนแพลตฟอร์ม กรณีจับกุมดูรอฟ สถานทูตรัสเซียในฝรั่งเศสได้ดำเนินการ ‘ทันที’ เพื่อขอคำชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ แม้ว่าตัวแทนของดูรอฟจะไม่ได้ยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือตามรายงานของสำนักข่าว TASS ของรัสเซีย ขณะที่คาดว่าดูรอฟจะถูกนำตัวขึ้นศาลในวันที่25 สิงหาคม Telegram ไม่ได้ตอบกลับคำขอแสดงความคิดเห็นของสื่อในทันที ขณะที่กระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศสและตำรวจไม่มีการแถลงและแสดงความคิดเห็นใดๆ เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตระหนกให้กับวงการเทคโนโลยีและผู้ใช้งาน Telegram ทั่วโลก โดยหลายฝ่ายจับตามองว่าการจับกุมครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่ออนาคตของแอปพลิเคชันยอดนิยมอย่างไร และจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายการกำกับดูแลเนื้อหาบนแพลตฟอร์มหรือไม่ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 826 มุมมอง 0 รีวิว
  • เห็นสามกีบอกหักพรรคโดนยุบโพสกันหลายตัวละ
    #คือช่วยพี่คิงส์หน่อยซิ
    ชี้ให้ดูหน่อยว่าคนรุ่นใหม่ของพวกมัน
    ที่ว่า พยายามสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย
    มันคือตัวไหน ผลงานอะไร
    ช่วยหน่อย กีบก็ได้ด้อมก็ได้
    เผื่อกรูตกข่าว ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #รุ่นใหม่แบบไหนก่อน
    เห็นสามกีบอกหักพรรคโดนยุบโพสกันหลายตัวละ #คือช่วยพี่คิงส์หน่อยซิ ชี้ให้ดูหน่อยว่าคนรุ่นใหม่ของพวกมัน ที่ว่า พยายามสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย มันคือตัวไหน ผลงานอะไร ช่วยหน่อย กีบก็ได้ด้อมก็ได้ เผื่อกรูตกข่าว ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #รุ่นใหม่แบบไหนก่อน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 427 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนง.ตำรวจแห่งชาติพิจารณาเลื่อนชั้นยศ ส.ต.ท.กุลวุฒิ วิทิตศานต์ที่สร้างชื่อเสียงประเทศไทย เป็นนักกีฬาแบตมินตันเหรียญเงินโอลิมปิก ปารีส 2024

    6 สิงหาคม 2567- สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.ได้มอบหมายสำนักงานกำลังพล ตรวจสอบการดูแลสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้กับ ส.ต.ท.กุลวุฒิ วิทิตศานต์ และนักกีฬาตำรวจทุกคนที่เป็นตัวแทนทีมชาติไทยเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และสร้างความสุขให้กับคนไทยทุกคน

    พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้พิจารณาเลื่อนยศ ส.ต.ท.กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ฝอ.บก.ป. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีหลักเกณฑ์การพิจารณาเลื่อนชั้นยศสำหรับนักกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ ซึ่งตามหลักเกณฑ์จะแบ่งเป็นเหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง ว่าได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาอยู่ และคาด 1-2 วันนี้จะทราบผล

    สำหรับ ส.ต.ท.กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ยังร่วมโครงการหนุมานแบดมินตันของตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ซึ่งทางผู้บัญชาการได้มอบหมายให้ทำหน้าที่สอนและฝึกซ้อมร่วมกับบุตรหลานของข้าราชการตำรวจในสังกัด เพื่อให้เด็กๆ ได้ออกกำลังกาย และสนับสนุนผลักดันให้เข้าร่วมรายการแข่งขันแบดมินตันในประเทศด้วย

    ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้บังคับบัญชา เปิดเผยว่า ในเมื่อวิวเป็นนักกีฬาแบดมินตัน ฝีมือดี และตัวเขาเองก็ชื่นชอบในการเล่นกีฬาแบดมินตันอย่างมาก เราเลยใช้ความสามารถในสิ่งที่เขาถนัด มาช่วยสนับสนุนการออกกำลังกายทั้งของข้าราชการตำรวจและบุตรหลานตำรวจในสังกัดสอบสวนกลาง ผ่านโครงการ Hanuman sport club ซึ่งจะเปิดโอกาสให้บุตรหลานของตำรวจสอบสวนกลาง CIB ได้เล่นกีฬาตามที่ถนัด และวิวเองก็ได้ร่วมเป็นโค้ช คอยฝึกสอน บอกเทคนิคให้กับเด็กๆ บุตรหลานของตำรวจในสังกัดด้วย

    ภาพเก่าเมื่อปีที่แล้ว ส.ต.ท.กุลวุฒิ ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ผู้บังคับบัญชา หลังจากเป็น แชมป์แบดมินตันชายเดี่ยวในการแข่งขันแบดมินตัน รายการ ชิงแชมป์โลก 2023 "TotalEnergies BWF World Championships 2023" ที่ประเทศเดนมาร์ก เมื่อวันที่ 27 ส.ค.2566

    #Thaitimes
    สนง.ตำรวจแห่งชาติพิจารณาเลื่อนชั้นยศ ส.ต.ท.กุลวุฒิ วิทิตศานต์ที่สร้างชื่อเสียงประเทศไทย เป็นนักกีฬาแบตมินตันเหรียญเงินโอลิมปิก ปารีส 2024 6 สิงหาคม 2567- สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.ได้มอบหมายสำนักงานกำลังพล ตรวจสอบการดูแลสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้กับ ส.ต.ท.กุลวุฒิ วิทิตศานต์ และนักกีฬาตำรวจทุกคนที่เป็นตัวแทนทีมชาติไทยเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และสร้างความสุขให้กับคนไทยทุกคน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้พิจารณาเลื่อนยศ ส.ต.ท.กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ฝอ.บก.ป. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีหลักเกณฑ์การพิจารณาเลื่อนชั้นยศสำหรับนักกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ ซึ่งตามหลักเกณฑ์จะแบ่งเป็นเหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง ว่าได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาอยู่ และคาด 1-2 วันนี้จะทราบผล สำหรับ ส.ต.ท.กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ยังร่วมโครงการหนุมานแบดมินตันของตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ซึ่งทางผู้บัญชาการได้มอบหมายให้ทำหน้าที่สอนและฝึกซ้อมร่วมกับบุตรหลานของข้าราชการตำรวจในสังกัด เพื่อให้เด็กๆ ได้ออกกำลังกาย และสนับสนุนผลักดันให้เข้าร่วมรายการแข่งขันแบดมินตันในประเทศด้วย ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้บังคับบัญชา เปิดเผยว่า ในเมื่อวิวเป็นนักกีฬาแบดมินตัน ฝีมือดี และตัวเขาเองก็ชื่นชอบในการเล่นกีฬาแบดมินตันอย่างมาก เราเลยใช้ความสามารถในสิ่งที่เขาถนัด มาช่วยสนับสนุนการออกกำลังกายทั้งของข้าราชการตำรวจและบุตรหลานตำรวจในสังกัดสอบสวนกลาง ผ่านโครงการ Hanuman sport club ซึ่งจะเปิดโอกาสให้บุตรหลานของตำรวจสอบสวนกลาง CIB ได้เล่นกีฬาตามที่ถนัด และวิวเองก็ได้ร่วมเป็นโค้ช คอยฝึกสอน บอกเทคนิคให้กับเด็กๆ บุตรหลานของตำรวจในสังกัดด้วย ภาพเก่าเมื่อปีที่แล้ว ส.ต.ท.กุลวุฒิ ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ผู้บังคับบัญชา หลังจากเป็น แชมป์แบดมินตันชายเดี่ยวในการแข่งขันแบดมินตัน รายการ ชิงแชมป์โลก 2023 "TotalEnergies BWF World Championships 2023" ที่ประเทศเดนมาร์ก เมื่อวันที่ 27 ส.ค.2566 #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 607 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ มุ่งสู่ปารีสเหมือนกัน นักกีฬาไปสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติ นักล้มล้างไปหลบซ่อนความผิด
    #7ดอกจิก
    #สร้างชื่อเสียง
    #มุ่งหน้าสู่ปารีส
    #ปารีส
    ♣ มุ่งสู่ปารีสเหมือนกัน นักกีฬาไปสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติ นักล้มล้างไปหลบซ่อนความผิด #7ดอกจิก #สร้างชื่อเสียง #มุ่งหน้าสู่ปารีส #ปารีส
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 326 มุมมอง 0 รีวิว