• ผมเขียนคำว่า จุดคุ้มทุนบ่อยๆ ขยายความแบบเข้าใจง่ายๆ คือ คุณต้องประมาณสิ่งนี้ก่อนการลงทุน..ยกตัวอย่าง สมมุติ อพาร์ทเมนต์ก็ได้ จะมีกี่ห้องก็ตามแต่ คุณเอารายได้ ที่หักค่าใช้จ่ายต่างๆแล้ว..เหลือเดือนเท่าไร ปีเท่าไร ..สมมุติ เหลือปีละ 3 แสน..ตามที่เขายึดถือกันในธุรกิจประเภทนี้คือ 9-10 ปี ...ฉะนั้น มูลค่าการลงทุน ก็ไม่ควรเกิน 30 ล้าน......เอาแบบถูกอีกอย่าง เจียนเจ้าใจง่ายๆ เช่น เครื่องชั่งน้ำหนักหนอดเหรียญที่ละบาท..ราคา 1 หมื่น...คิดง่ายๆ คือ ต้องมีคนใช้ 1 หมื่นครั้ง คุณถึงจะได้ทุนคืน..นี่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายประจำ คือค่าเข่าที่วาง ค่าไฟ หรือค่าใช้จ่ายผันแปร กรณีตู้เสีย และพ้นระยะรับประกันไปแล้ว ไม่รับว่า อาจมีมือดีมาทุบทำลายอีก...ทีนี้ ก็เป็นดุลพินิจของคุณแล้ว...ว่า น่าทำ หรือควรทำ..ไหม...อีกตัวอย่าง หลานสาว มาปรึกษาเปิดร้านกาแฟในปั๊ม ผมถามทำเล มูลค่าการลงทุน จุดคุ้มเป็นไง....รายจ่ายประจำเท่าไร..มีเงินสำรองแค่ไหน กรณีที่มันขายไม่ได้ในช่วงแรก..และอื่นๆ ...มีคำตอบกลับมา แค่เรื่อง ทำเลที่ตั้งกับเงินลงทุน 3.5 แสน..ผมบอกไปเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ก่อนบวกลบคูณหารแบบที่ไม่คิดเข้าข้างตนเองแล้วค่อยทำ....สรุปหายไป...แล้วก็ทำ...ลงทุน 3 แสนห้า...ขายได้วันละไม่กี่ร้อย ค่าเช่า ค่าลูกน้องยังไม่พอเลย..ดันทุรังไปได้ 4 เดือน cash flow ไม่มี..ตุย..3 แสนละลายเล่น...
    ผมเขียนคำว่า จุดคุ้มทุนบ่อยๆ ขยายความแบบเข้าใจง่ายๆ คือ คุณต้องประมาณสิ่งนี้ก่อนการลงทุน..ยกตัวอย่าง สมมุติ อพาร์ทเมนต์ก็ได้ จะมีกี่ห้องก็ตามแต่ คุณเอารายได้ ที่หักค่าใช้จ่ายต่างๆแล้ว..เหลือเดือนเท่าไร ปีเท่าไร ..สมมุติ เหลือปีละ 3 แสน..ตามที่เขายึดถือกันในธุรกิจประเภทนี้คือ 9-10 ปี ...ฉะนั้น มูลค่าการลงทุน ก็ไม่ควรเกิน 30 ล้าน......เอาแบบถูกอีกอย่าง เจียนเจ้าใจง่ายๆ เช่น เครื่องชั่งน้ำหนักหนอดเหรียญที่ละบาท..ราคา 1 หมื่น...คิดง่ายๆ คือ ต้องมีคนใช้ 1 หมื่นครั้ง คุณถึงจะได้ทุนคืน..นี่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายประจำ คือค่าเข่าที่วาง ค่าไฟ หรือค่าใช้จ่ายผันแปร กรณีตู้เสีย และพ้นระยะรับประกันไปแล้ว ไม่รับว่า อาจมีมือดีมาทุบทำลายอีก...ทีนี้ ก็เป็นดุลพินิจของคุณแล้ว...ว่า น่าทำ หรือควรทำ..ไหม...อีกตัวอย่าง หลานสาว มาปรึกษาเปิดร้านกาแฟในปั๊ม ผมถามทำเล มูลค่าการลงทุน จุดคุ้มเป็นไง....รายจ่ายประจำเท่าไร..มีเงินสำรองแค่ไหน กรณีที่มันขายไม่ได้ในช่วงแรก..และอื่นๆ ...มีคำตอบกลับมา แค่เรื่อง ทำเลที่ตั้งกับเงินลงทุน 3.5 แสน..ผมบอกไปเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ก่อนบวกลบคูณหารแบบที่ไม่คิดเข้าข้างตนเองแล้วค่อยทำ....สรุปหายไป...แล้วก็ทำ...ลงทุน 3 แสนห้า...ขายได้วันละไม่กี่ร้อย ค่าเช่า ค่าลูกน้องยังไม่พอเลย..ดันทุรังไปได้ 4 เดือน cash flow ไม่มี..ตุย..3 แสนละลายเล่น...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เรื่องหลวงพ่อฤาษีขึ้นไปบนนิพพาน #ฟังพระพุทธองค์ทรงสอนบารมี๑๐ทัศ..." วันนี้ต้องสอนบรรดาท่านพุทธบริษัท เรียกว่าเอากันเฉือนขั้นสุดท้ายเลย เรียกว่าทิ้งทวนหรือทิ้งไพ่ใบสุดท้าย และพุ่งทวนเล่มใหญ่ท้ายสุดที่มีอยู่..🌸นั่นคือคำแนะนำขององค์สมเด็จพระบรมครู ที่เรียกว่า.. บารมี ๑๐ ทัศ* วันนั้นสอนบารมี ๑๐ ทัศ แก่บรรดาท่านพุทธบริษัท ท่านทั้งหลายจะมีความเข้าใจหรือไม่เข้าใจเพียงใด อาตมาก็ไม่ทราบ เพราะสอนไม่ค่อยตรงเป้าหมาย..🌸 เมื่อสอนเสร็จ เวลาผ่านไปก็ดับไฟ สั่งให้บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายพากันเจริญพระกรรมฐาน ทรงสติสัมปชัญญะ คือว่า.. ตั้งกายให้ตรง ดำรงสติให้มั่น กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก ใช้คำภาวนา หรือพิจารณาตามอัธยาศัย เพราะการภาวนาก็ดี พิจารณาก็ดี นี่ อาตมาไม่ขัดใจใคร ใครเคยทำแบบไหนคล่องมาแล้ว ให้ทำอย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง เพราะอะไร..🌼 เพราะว่า.. การภาวนาหรือพิจารณาที่ทำมาแล้ว ถ้าไม่ผิดก็ไม่ควรจะเปลี่ยน เพราะแบบปฏิบัติมีมากด้วยกัน ไม่จำเป็นว่าจะต้องทำอย่างนั้นทำอย่างนี้ จึงจะถูก ทำอย่างไรก็ตาม ถ้าปรารภจิตเป็นสมาธิระงับจากนิวรณ์ หรือปรารภจิตเป็นปฏิปักษ์กับขันธ์ ๕ ใช้ได้หมด ถ้าตรงกับแนวคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระบรมสุคตแล้ว อาตมาไม่ปฏิเสธการปฏิบัติของบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน..* เมื่อบรรดาท่านพุทธบริษัทเริ่มปฏิบัติ อาตมาก็คิดในใจว่า.. ร่างกายไม่ดีแบบนี้ เราจะทนมันอยู่ทำไม ไปเสียจากร่างกายดีกว่า ปล่อยให้มันนั่งอยู่ตรงนี้ พอสัญญาณบอกเวลาปรากฏเราจึงจะกลับมา.* ฉะนั้น จึงไปได้เสียจากกาย ไปไหว้พระ จะไปแบบไหนอันนี้บรรดาท่านพุทธบริษัท อาตมาไม่บอก บอกไม่ได้.. ไปอย่างไร ไปโดยวิธีไหน อยากรู้ก็ปฏิบัติกันเอาเอง.🌼 แต่ความจริงมันก็ไม่ใช่ของดีเด่นอะไรนัก การไปได้ มาได้ ถ้าใจเหลิงเกินไปก็ลงนรกได้ ไม่ใช่ของพิเศษ เมื่อออกไปแล้วก็พบองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์* นี่ขวางกับชาวบ้านเขาแล้ว เขาบอกว่า.. พระพุทธเจ้านิพพานไปแล้ว จะพบได้ยังไง นั่นมันเรื่องของเขา บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย นี่มันเรื่องของอาตมา อาตมาพบกันได้ก็แล้วกัน.🌸 เมื่อพบแล้ว ก็เข้าไปนมัสการองค์สมเด็จพระประทีปแก้ว พอเงยหน้าขึ้นมา..🌸 พระองค์ก็ทรงตรัสถามว่า : " สัมพเกษี วันนี้เธอสอนบารมี ๑๐ ทัศใช่ไหม.?"🌸 ก็กราบทูลพระองค์ท่านว่า : " ใช่พระพุทธเจ้าข้า "🌸 พระองค์จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสถามว่า : " สัมพเกษี บารมีแปลว่าอะไร.? ”* ตอนนี้ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ขอได้โปรดทราบว่า.. ถ้าอาตมาสอนถูก พระองค์จะไม่ตรัสแบบนั้น อาตมารู้ทันรู้เท่าเข้าใจทันทีว่า.. การสอนวันนี้ผิดพุทธพจน์บทพระบาลี..🌼 นี่แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท การสอนนี้ ไม่ใช่ว่ามันจะถูกเสมอไป มันก็ผิดได้เหมือนกัน เมื่อองค์สมเด็จพระจอมไตร มีพระพุทธฎีกาตรัสถามแบบนั้น อาตมาก็ทราบ..🌼 จึงได้กราบทูลพระพุทธองค์ว่า : " ข้าพระพุทธเจ้าไม่แน่ใจนัก พระพุทธเจ้าข้า แต่ที่เรียนกันมา ครูสอนว่า บารมี แปลว่า เต็ม "🌼 พระพุทธองค์ จึงตรัสถามว่า : " อะไรมันเต็ม และมันเต็มแบบไหน สมมุติว่า เธอจะปฏิบัติในทานบารมี.. ทำยังไง ทานบารมีมันถึงจะเต็ม ถ้าหากว่า จะนำของมาให้เต็มโลก เธอจะไปขนมาจากไหน.. ถ้าเราไม่นำของมาให้ ทำยังไงทานบารมีมันจึงจะเต็ม "🌼 แบบนี้มันก็อยู่ด้วยกันทั้งนั้นแหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท ถ้าคนอย่างอาตมา ถ้าหากว่า ท่านที่เป็นนักปราชญ์ ดีกว่าอาตมาก็ไม่เป็นไร ท่านไปได้ เพราะท่านมีความเข้าใจ ท่านมีความฉลาด อาตมาบอกแล้วนี่ ว่า.. อาตมามีความรู้ไม่เท่าหางอึ่ง คือยาวไม่เท่าหางอึ่ง หรือไม่แค่หางอึ่ง เพราะความโง่มันมาก..🌼 เมื่อองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคตรัสแบบนั้น..🌼 ก็ทูลถามพระองค์ว่า : " ข้าพระพุทธเจ้า ไม่เข้าใจในบารมีพระพุทธเจ้าข้า "🌺 พระองค์จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสว่า : " สัมพเกษี เธอเข้าใจ ไม่ใช่ไม่เข้าใจ แต่ว่าเธอดีแต่เฉพาะบริโภคเองเท่านั้น แต่การที่จะแบ่งปันให้บุคคลอื่นน่ะ เธอไม่มีความฉลาด การที่เธอตั้งกำลังใจในบารมี ๑๐ ทัศ เป็น ๓๐ ทัศ ด้วยกัน ๓ ชั้น เธอทำได้ แต่ว่าวันนี้ เธอสอนท่านบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย เธอทำไม่ถูก เธอจงมีความเข้าใจเสียใหม่ว่า.. คำว่า บารมี มันแปลว่า เต็ม แต่อะไรมันเต็ม ตถาคตจะบอกให้ว่า.. บารมีนี่ควรจะแปลว่า "กำลังใจเต็ม "* นี่แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท จำไว้ให้ดีว่า.. คำว่า บารมี ก็คือกำลังใจ ทำกำลังใจให้เต็ม..🌺 ตอนนี้ซิ ชักจะฉลาดขึ้นมาทันที มานึกในใจว่า เรานี่มันแสนจะโง่เสียมาก🌺 กำลังใจเต็ม ตอนไหน บรรดาท่านพุทธบริษัท ท่านก็ทรงให้ทวนเรื่องบารมี ๑๐ ทัศ ว่ามีอะไรบ้าง อาตมาก็ถวายคำตอบแก่พระองค์ว่า..๑. ทานบารมี๒. ศีลบารมี๓. เนกขัมมบารมี๔. ปัญญาบารมี๕. วิริยบารมี๖. ขันติบารมี๗. สัจจบารมี๘. อธิษฐานบารมี๙. เมตตาบารมี๑๐. อุเบกขาบารมี* องค์สมเด็จพระชินสีห์ จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสว่า : " สัมพเกษีถูกแล้ว บารมีทั้งหมดนี้ใช้กำลังใจ สร้างกำลังใจให้มันทรงอยู่ในใจทั้งหมด ให้มันเต็มครบถ้วนบริบูรณ์ ไม่มีอะไรบกพร่องคือ..๑. จิตของเรา พร้อมที่จะให้ทานเป็นปกติ.๒. จิตพร้อมในการทรงศีล..🌻 นี่ซิ บรรดาท่านพุทธบริษัท พร้อมในการทรงศีลเป็นปกติ ไม่ใช่ปล่อยให้ศีลมันหล่นหายไป..๓. จิตพร้อมในการทรง เนกขัมมะ เป็นปกติ..🌻 เนกขัมมะ ก็แปลว่า การถือบวช บวชผมยาว บวชผมสั้น บวชโกนหัว ไม่โกนหัวได้ทั้งนั้น..๔. จิตพร้อมที่จะใช้ ปัญญา เป็นเครื่องประหัตประหารอุปาทานให้พินาศไป..๕. วิริยะ มีความเพียรทุกขณะ ควบคุมใจไว้เสมอ..๖. ขันติ มีทั้งอดทั้งทน อดกลั้นต่อสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์..๗. สัจจะ ทรงตัวไว้ตลอดเวลาว่า เราจะจริงทุกอย่าง ไม่มีอะไรในคำว่าไม่จริงสำหรับเรา ในด้านของการทำความดี..๘. อธิษฐานบารมี ตั้งใจไว้ให้ตรงโดยเฉพาะพระนิพพาน๙. เมตตาบารมี สร้างอารมณ์ความดี ไม่เป็นศัตรูกับใคร มีความรักตน เสมอด้วยบุคคลอื่น๑๐. อุเบกขาบารมี วางเฉยเข้าไว้ ในเมื่อร่างกายมันไม่ทรงตัว อย่างที่เธอเป็นในวันนี้..💎 อุเบกขาบารมี ตัวนี้ พระองค์ทรงตรัสว่า : ตรงกับภาษาไทยที่ใช้กันเป็นปกติว่า " ช่างมัน " ขันติบารมีนี่ก็เหมือนกัน ใช้คำว่า " ช่างมัน " ตรงตัวดี..* นี่แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท ทั้งหลายโดยถ้วนหน้า วันนี้ยังไม่สอนอะไรบรรดาท่านพุทธบริษัท เรามาคุยกันในคำว่า " บารมี " เสียก่อน เพื่อที่จะให้บรรดาพระโยคาวจรทั้งหลาย ได้ทราบชัดว่า.. บารมีที่องค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคย์ ให้เราสร้างให้มันเต็มนั้น ก็คือ สร้างกำลังใจ ปลูกฝังกำลังใจ ให้มันเต็มครบถ้วนบริบูรณ์สมบูรณ์.. 💎 ไม่ใช่ว่า เราจะมานั่งคิด จะมานอนคิด เราจะมาทรงจิตว่า เอ๊..! บารมีของเรามันไม่มีนี่ ชาติก่อนบารมีของเรามันไม่พอ บารมีของเรายังไม่เต็ม เราจะเป็นพระโสดาบัน สกิทาคา อนาคา อรหันต์ ยังไงได้..* ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย มีความเข้าใจตามนี้ พอยังจะรู้รึยังว่า.. เราจะสามารถะสร้างบารมีได้ ด้วยอาศัยกำลังใจ 💎 ความดีของบรรดาท่านพุทธบริษัท มีกำลังใจอย่างเดียวเท่านั้น ที่เราจะสามารถทำมันให้ดีหรือไม่ดี อันนี้ก็ตรงกับพระบาลีที่องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสไว้ในเรื่อง พระจักขุบาล ว่า.." มโนปุพพังคมา ธัมมา มโนเสฏฐา มโนมยา "" ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นหัวหน้า มีใจประเสริฐสุด สำเร็จด้วยใจ " 💎 นี่ความจริง เรื่องนี้ก็เรียนกันมาแล้วท่านบรรดาพุทธบริษัท แต่เวลาปฏิบัติจริง ๆ ทำไมมันถึงลืมก็ไม่ทราบ..💎 เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย หวังว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน คงจะเข้าใจคำว่า บารมี แล้วอย่าลืม บารมี แปลว่าเต็ม แต่ส่วนที่เราจะทำให้เต็มนั้นก็คือ กำลังใจ ให้กำลังใจมันพร้อม พร้อมที่จะทรงความดีในด้านบารมีไว้..💎 ถ้ากำลังใจของเราพร้อมทรงบารมีทั้ง ๑๐ ประการ ครบถ้วนเพียงใด บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ความเป็นพระอริยเจ้าเป็นของง่าย..* ที่นำบารมีทั้ง ๑๐ ประการ มากล่าวในตอนนี้ ก็เพราะว่า.. ในตอนต้น พูดเรื่องพระโสดาบันเข้าไว้ เห็นว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายอาจจะคิดว่า.. แหม.. มันยากเกินไป ถ้ากำลังใจในการสร้างตนเป็นพระโสดาบัน มันยังครบถ้วนไม่ได้ ก็หันมาจัดการกับบารมีทั้ง ๑๐ ประการ ให้มันครบถ้วนบริบูรณ์..* ทาน การให้ เป็นการตัดความโลภ.* ศีล เราก็ตัดความโกรธ* เนกขัมมะ ตัดอารมณ์ของกามคุณ* ปัญญา ตัดความโง่* วิริยะ ตัดความขี้เกียจ* ขันติ ตัดความไม่รู้จักการอดทน* สัจจะ ตัดความไม่จริงใจ มีอารมณ์ใจกลับกลอก* อธิษฐาน ทรงกำลังไว้ให้สมบูรณ์บริบูรณ์* เมตตา สร้างความเยือกเย็นของจิตใจ* อุเบกขา วางเฉยเข้าไว้ในเรื่องของกาย เราไม่ปรารภ🌺 เท่านี้แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท ถ้ากำลังใจของบรรดาท่านพุทธบริษัทสมบูรณ์เพียงใด คำว่า.. พระโสดาบัน นั้น บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย จะรู้สึกว่าง่ายเกินไปสำหรับบรรดาท่านพุทธบริษัท..🌼 ทำไมจึงว่าอย่างนั้น.. ก็เพราะว่า คนที่มีบารมีเต็มครบถ้วนบริบูรณ์ มีกำลังใจเต็มทุกอย่างใน ๑๐ ประการนี้ องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เรียกว่า "พระโสดาบัน" แล้ว ท่านเรียกว่าอะไร.. ท่านเรียกว่า "พระขีณาสพ" แปลว่า ผู้มีอาสวะอันสิ้นไปแล้ว หรือเรียกว่า "พระอรหัตผล" เป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนาอันดับสูงสุด เข้าถึงซึ่งพระนิพพานได้..🌸 เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย วันนี้ก็ขอยุติไว้แต่เพียงเท่านี้..🌷 ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล จงมีแด่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนทุกท่าน สวัสดี..."( จากหนังสือ *บารมี ๑๐* โดย พระราชพรหมยานฯ หน้าที่ ๘-๑๖ ของวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี) #ที่มานิพพานังปรมังสุขัง.
    #เรื่องหลวงพ่อฤาษีขึ้นไปบนนิพพาน #ฟังพระพุทธองค์ทรงสอนบารมี๑๐ทัศ..." วันนี้ต้องสอนบรรดาท่านพุทธบริษัท เรียกว่าเอากันเฉือนขั้นสุดท้ายเลย เรียกว่าทิ้งทวนหรือทิ้งไพ่ใบสุดท้าย และพุ่งทวนเล่มใหญ่ท้ายสุดที่มีอยู่..🌸นั่นคือคำแนะนำขององค์สมเด็จพระบรมครู ที่เรียกว่า.. บารมี ๑๐ ทัศ* วันนั้นสอนบารมี ๑๐ ทัศ แก่บรรดาท่านพุทธบริษัท ท่านทั้งหลายจะมีความเข้าใจหรือไม่เข้าใจเพียงใด อาตมาก็ไม่ทราบ เพราะสอนไม่ค่อยตรงเป้าหมาย..🌸 เมื่อสอนเสร็จ เวลาผ่านไปก็ดับไฟ สั่งให้บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายพากันเจริญพระกรรมฐาน ทรงสติสัมปชัญญะ คือว่า.. ตั้งกายให้ตรง ดำรงสติให้มั่น กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก ใช้คำภาวนา หรือพิจารณาตามอัธยาศัย เพราะการภาวนาก็ดี พิจารณาก็ดี นี่ อาตมาไม่ขัดใจใคร ใครเคยทำแบบไหนคล่องมาแล้ว ให้ทำอย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง เพราะอะไร..🌼 เพราะว่า.. การภาวนาหรือพิจารณาที่ทำมาแล้ว ถ้าไม่ผิดก็ไม่ควรจะเปลี่ยน เพราะแบบปฏิบัติมีมากด้วยกัน ไม่จำเป็นว่าจะต้องทำอย่างนั้นทำอย่างนี้ จึงจะถูก ทำอย่างไรก็ตาม ถ้าปรารภจิตเป็นสมาธิระงับจากนิวรณ์ หรือปรารภจิตเป็นปฏิปักษ์กับขันธ์ ๕ ใช้ได้หมด ถ้าตรงกับแนวคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระบรมสุคตแล้ว อาตมาไม่ปฏิเสธการปฏิบัติของบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน..* เมื่อบรรดาท่านพุทธบริษัทเริ่มปฏิบัติ อาตมาก็คิดในใจว่า.. ร่างกายไม่ดีแบบนี้ เราจะทนมันอยู่ทำไม ไปเสียจากร่างกายดีกว่า ปล่อยให้มันนั่งอยู่ตรงนี้ พอสัญญาณบอกเวลาปรากฏเราจึงจะกลับมา.* ฉะนั้น จึงไปได้เสียจากกาย ไปไหว้พระ จะไปแบบไหนอันนี้บรรดาท่านพุทธบริษัท อาตมาไม่บอก บอกไม่ได้.. ไปอย่างไร ไปโดยวิธีไหน อยากรู้ก็ปฏิบัติกันเอาเอง.🌼 แต่ความจริงมันก็ไม่ใช่ของดีเด่นอะไรนัก การไปได้ มาได้ ถ้าใจเหลิงเกินไปก็ลงนรกได้ ไม่ใช่ของพิเศษ เมื่อออกไปแล้วก็พบองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์* นี่ขวางกับชาวบ้านเขาแล้ว เขาบอกว่า.. พระพุทธเจ้านิพพานไปแล้ว จะพบได้ยังไง นั่นมันเรื่องของเขา บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย นี่มันเรื่องของอาตมา อาตมาพบกันได้ก็แล้วกัน.🌸 เมื่อพบแล้ว ก็เข้าไปนมัสการองค์สมเด็จพระประทีปแก้ว พอเงยหน้าขึ้นมา..🌸 พระองค์ก็ทรงตรัสถามว่า : " สัมพเกษี วันนี้เธอสอนบารมี ๑๐ ทัศใช่ไหม.?"🌸 ก็กราบทูลพระองค์ท่านว่า : " ใช่พระพุทธเจ้าข้า "🌸 พระองค์จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสถามว่า : " สัมพเกษี บารมีแปลว่าอะไร.? ”* ตอนนี้ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ขอได้โปรดทราบว่า.. ถ้าอาตมาสอนถูก พระองค์จะไม่ตรัสแบบนั้น อาตมารู้ทันรู้เท่าเข้าใจทันทีว่า.. การสอนวันนี้ผิดพุทธพจน์บทพระบาลี..🌼 นี่แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท การสอนนี้ ไม่ใช่ว่ามันจะถูกเสมอไป มันก็ผิดได้เหมือนกัน เมื่อองค์สมเด็จพระจอมไตร มีพระพุทธฎีกาตรัสถามแบบนั้น อาตมาก็ทราบ..🌼 จึงได้กราบทูลพระพุทธองค์ว่า : " ข้าพระพุทธเจ้าไม่แน่ใจนัก พระพุทธเจ้าข้า แต่ที่เรียนกันมา ครูสอนว่า บารมี แปลว่า เต็ม "🌼 พระพุทธองค์ จึงตรัสถามว่า : " อะไรมันเต็ม และมันเต็มแบบไหน สมมุติว่า เธอจะปฏิบัติในทานบารมี.. ทำยังไง ทานบารมีมันถึงจะเต็ม ถ้าหากว่า จะนำของมาให้เต็มโลก เธอจะไปขนมาจากไหน.. ถ้าเราไม่นำของมาให้ ทำยังไงทานบารมีมันจึงจะเต็ม "🌼 แบบนี้มันก็อยู่ด้วยกันทั้งนั้นแหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท ถ้าคนอย่างอาตมา ถ้าหากว่า ท่านที่เป็นนักปราชญ์ ดีกว่าอาตมาก็ไม่เป็นไร ท่านไปได้ เพราะท่านมีความเข้าใจ ท่านมีความฉลาด อาตมาบอกแล้วนี่ ว่า.. อาตมามีความรู้ไม่เท่าหางอึ่ง คือยาวไม่เท่าหางอึ่ง หรือไม่แค่หางอึ่ง เพราะความโง่มันมาก..🌼 เมื่อองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคตรัสแบบนั้น..🌼 ก็ทูลถามพระองค์ว่า : " ข้าพระพุทธเจ้า ไม่เข้าใจในบารมีพระพุทธเจ้าข้า "🌺 พระองค์จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสว่า : " สัมพเกษี เธอเข้าใจ ไม่ใช่ไม่เข้าใจ แต่ว่าเธอดีแต่เฉพาะบริโภคเองเท่านั้น แต่การที่จะแบ่งปันให้บุคคลอื่นน่ะ เธอไม่มีความฉลาด การที่เธอตั้งกำลังใจในบารมี ๑๐ ทัศ เป็น ๓๐ ทัศ ด้วยกัน ๓ ชั้น เธอทำได้ แต่ว่าวันนี้ เธอสอนท่านบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย เธอทำไม่ถูก เธอจงมีความเข้าใจเสียใหม่ว่า.. คำว่า บารมี มันแปลว่า เต็ม แต่อะไรมันเต็ม ตถาคตจะบอกให้ว่า.. บารมีนี่ควรจะแปลว่า "กำลังใจเต็ม "* นี่แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท จำไว้ให้ดีว่า.. คำว่า บารมี ก็คือกำลังใจ ทำกำลังใจให้เต็ม..🌺 ตอนนี้ซิ ชักจะฉลาดขึ้นมาทันที มานึกในใจว่า เรานี่มันแสนจะโง่เสียมาก🌺 กำลังใจเต็ม ตอนไหน บรรดาท่านพุทธบริษัท ท่านก็ทรงให้ทวนเรื่องบารมี ๑๐ ทัศ ว่ามีอะไรบ้าง อาตมาก็ถวายคำตอบแก่พระองค์ว่า..๑. ทานบารมี๒. ศีลบารมี๓. เนกขัมมบารมี๔. ปัญญาบารมี๕. วิริยบารมี๖. ขันติบารมี๗. สัจจบารมี๘. อธิษฐานบารมี๙. เมตตาบารมี๑๐. อุเบกขาบารมี* องค์สมเด็จพระชินสีห์ จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสว่า : " สัมพเกษีถูกแล้ว บารมีทั้งหมดนี้ใช้กำลังใจ สร้างกำลังใจให้มันทรงอยู่ในใจทั้งหมด ให้มันเต็มครบถ้วนบริบูรณ์ ไม่มีอะไรบกพร่องคือ..๑. จิตของเรา พร้อมที่จะให้ทานเป็นปกติ.๒. จิตพร้อมในการทรงศีล..🌻 นี่ซิ บรรดาท่านพุทธบริษัท พร้อมในการทรงศีลเป็นปกติ ไม่ใช่ปล่อยให้ศีลมันหล่นหายไป..๓. จิตพร้อมในการทรง เนกขัมมะ เป็นปกติ..🌻 เนกขัมมะ ก็แปลว่า การถือบวช บวชผมยาว บวชผมสั้น บวชโกนหัว ไม่โกนหัวได้ทั้งนั้น..๔. จิตพร้อมที่จะใช้ ปัญญา เป็นเครื่องประหัตประหารอุปาทานให้พินาศไป..๕. วิริยะ มีความเพียรทุกขณะ ควบคุมใจไว้เสมอ..๖. ขันติ มีทั้งอดทั้งทน อดกลั้นต่อสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์..๗. สัจจะ ทรงตัวไว้ตลอดเวลาว่า เราจะจริงทุกอย่าง ไม่มีอะไรในคำว่าไม่จริงสำหรับเรา ในด้านของการทำความดี..๘. อธิษฐานบารมี ตั้งใจไว้ให้ตรงโดยเฉพาะพระนิพพาน๙. เมตตาบารมี สร้างอารมณ์ความดี ไม่เป็นศัตรูกับใคร มีความรักตน เสมอด้วยบุคคลอื่น๑๐. อุเบกขาบารมี วางเฉยเข้าไว้ ในเมื่อร่างกายมันไม่ทรงตัว อย่างที่เธอเป็นในวันนี้..💎 อุเบกขาบารมี ตัวนี้ พระองค์ทรงตรัสว่า : ตรงกับภาษาไทยที่ใช้กันเป็นปกติว่า " ช่างมัน " ขันติบารมีนี่ก็เหมือนกัน ใช้คำว่า " ช่างมัน " ตรงตัวดี..* นี่แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท ทั้งหลายโดยถ้วนหน้า วันนี้ยังไม่สอนอะไรบรรดาท่านพุทธบริษัท เรามาคุยกันในคำว่า " บารมี " เสียก่อน เพื่อที่จะให้บรรดาพระโยคาวจรทั้งหลาย ได้ทราบชัดว่า.. บารมีที่องค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคย์ ให้เราสร้างให้มันเต็มนั้น ก็คือ สร้างกำลังใจ ปลูกฝังกำลังใจ ให้มันเต็มครบถ้วนบริบูรณ์สมบูรณ์.. 💎 ไม่ใช่ว่า เราจะมานั่งคิด จะมานอนคิด เราจะมาทรงจิตว่า เอ๊..! บารมีของเรามันไม่มีนี่ ชาติก่อนบารมีของเรามันไม่พอ บารมีของเรายังไม่เต็ม เราจะเป็นพระโสดาบัน สกิทาคา อนาคา อรหันต์ ยังไงได้..* ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย มีความเข้าใจตามนี้ พอยังจะรู้รึยังว่า.. เราจะสามารถะสร้างบารมีได้ ด้วยอาศัยกำลังใจ 💎 ความดีของบรรดาท่านพุทธบริษัท มีกำลังใจอย่างเดียวเท่านั้น ที่เราจะสามารถทำมันให้ดีหรือไม่ดี อันนี้ก็ตรงกับพระบาลีที่องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสไว้ในเรื่อง พระจักขุบาล ว่า.." มโนปุพพังคมา ธัมมา มโนเสฏฐา มโนมยา "" ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นหัวหน้า มีใจประเสริฐสุด สำเร็จด้วยใจ " 💎 นี่ความจริง เรื่องนี้ก็เรียนกันมาแล้วท่านบรรดาพุทธบริษัท แต่เวลาปฏิบัติจริง ๆ ทำไมมันถึงลืมก็ไม่ทราบ..💎 เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย หวังว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน คงจะเข้าใจคำว่า บารมี แล้วอย่าลืม บารมี แปลว่าเต็ม แต่ส่วนที่เราจะทำให้เต็มนั้นก็คือ กำลังใจ ให้กำลังใจมันพร้อม พร้อมที่จะทรงความดีในด้านบารมีไว้..💎 ถ้ากำลังใจของเราพร้อมทรงบารมีทั้ง ๑๐ ประการ ครบถ้วนเพียงใด บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ความเป็นพระอริยเจ้าเป็นของง่าย..* ที่นำบารมีทั้ง ๑๐ ประการ มากล่าวในตอนนี้ ก็เพราะว่า.. ในตอนต้น พูดเรื่องพระโสดาบันเข้าไว้ เห็นว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายอาจจะคิดว่า.. แหม.. มันยากเกินไป ถ้ากำลังใจในการสร้างตนเป็นพระโสดาบัน มันยังครบถ้วนไม่ได้ ก็หันมาจัดการกับบารมีทั้ง ๑๐ ประการ ให้มันครบถ้วนบริบูรณ์..* ทาน การให้ เป็นการตัดความโลภ.* ศีล เราก็ตัดความโกรธ* เนกขัมมะ ตัดอารมณ์ของกามคุณ* ปัญญา ตัดความโง่* วิริยะ ตัดความขี้เกียจ* ขันติ ตัดความไม่รู้จักการอดทน* สัจจะ ตัดความไม่จริงใจ มีอารมณ์ใจกลับกลอก* อธิษฐาน ทรงกำลังไว้ให้สมบูรณ์บริบูรณ์* เมตตา สร้างความเยือกเย็นของจิตใจ* อุเบกขา วางเฉยเข้าไว้ในเรื่องของกาย เราไม่ปรารภ🌺 เท่านี้แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท ถ้ากำลังใจของบรรดาท่านพุทธบริษัทสมบูรณ์เพียงใด คำว่า.. พระโสดาบัน นั้น บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย จะรู้สึกว่าง่ายเกินไปสำหรับบรรดาท่านพุทธบริษัท..🌼 ทำไมจึงว่าอย่างนั้น.. ก็เพราะว่า คนที่มีบารมีเต็มครบถ้วนบริบูรณ์ มีกำลังใจเต็มทุกอย่างใน ๑๐ ประการนี้ องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เรียกว่า "พระโสดาบัน" แล้ว ท่านเรียกว่าอะไร.. ท่านเรียกว่า "พระขีณาสพ" แปลว่า ผู้มีอาสวะอันสิ้นไปแล้ว หรือเรียกว่า "พระอรหัตผล" เป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนาอันดับสูงสุด เข้าถึงซึ่งพระนิพพานได้..🌸 เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย วันนี้ก็ขอยุติไว้แต่เพียงเท่านี้..🌷 ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล จงมีแด่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนทุกท่าน สวัสดี..."( จากหนังสือ *บารมี ๑๐* โดย พระราชพรหมยานฯ หน้าที่ ๘-๑๖ ของวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี) #ที่มานิพพานังปรมังสุขัง.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 578 มุมมอง 0 รีวิว
  • #โพสนี้อยากให้ใจเย็นๆแล้วทบทวนกัน
    ถ้าป้าไม่ใช้จังหวะช่วงท้ายๆเข้ามาแสดงบทบาทเหมือนเป็นเจ้าของสาวอุนจินั้น คงไม่พังแบบนี้
    - เพราะป้าไปเชื่อมจิตให้คนในกลุ่ม ชังสุดหล่อ ฝังหัวเรื่องนาซีซีส
    ..ถ้าวันนั้น ป้าไม่เริ่มทำแบบนั้น ถึงสุดหล่อกับสาวอุนจิจะเลิกกัน มันจะไม่มีอะไรกระทบกระทั่งกันเลยกับแฟนคลับทั้งสองฝ่าย แต่ป้าเลือกใช้สูตรการแบ่งแยกและปกครอง หาพวกสร้างกลุ่มและสะกดจิตให้ชังฝ่ายหนึ่งและปกป้องอีกฝ่ายหนึ่ง
    - ป้าสร้างสตอรี่ แบบผิดๆถูกๆ เชื่อมจิตให้แฟนคลับสาวอุนจิเชื่อ
    ..ถ้าวันนั้น ป้าไม่คิดสร้างวาทะกรรม เรื่องแม่ เรื่องพี่ชาย เรื่องกันจอมพลัง ฯลฯ สร้างเรื่องสตอรี่เวอร์วังให้สาวอุนจิ ก็คงไม่มีใครมาจับโป๊ะได้แบบนี้ ทำให้แฟนคลับฝั่งสุดหล่อก็ขำ เยาะเย้ย ฝั่งแฟนคลับสาวอุนจิ ก็หัวเสีย ต้องเป็นวิวาทะกันในโซเชียล ฝีมือป้าทั้งนั้น
    - ถ้าป้าไม่ปากเก่ง พยายามยั่วยุพี่คิงส์ ทั้งๆที่พี่คิงส์ก็หยุดแล้วจะไปทำเรื่องอื่นแล้ว ป้าก็ยังมาท้าทายถึงเพจ ถ้าป้าไม่ทำแบบนั้นพี่ก็ไม่ต้องมานั่งเสียเวลามาตอบโต้แบบที่ผ่านมา
    - ป้าไปเอาสาวอุนจิ มาแถลงฟ๊องคนไทย
    อันนี้ ก็ได้ข้อมูลจากฝั่งป้าเอง ว่าป้าเป็นคนรบเร้าให้สาวอุนจิฟ๊องคนไทย
    ซึ่ง เอาจริงๆ ก็ไม่ได้เป็นผลดีกับทางสาวอุนจิเลย มีแต่เสียกับเสีย
    โดยใช้วาทะกรรมว่า ปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิง
    ซึ่ง ผู้หญิงที่ว่า น่าจะเป็นตัวป้าเอง
    เพราะทุกอย่างเริ่มที่ป้า
    เพราะถ้าป้าไม่มาสร้างเรื่องปั่นป่วนจนสร้างความชิงชัง
    และส่งผลประทบทางจิตใจของสุดหล่อ
    จนทำให้สุดหล่อต้องออกมาพูดหลายๆอย่างแบบโต้รุ่ง
    เพื่อชี้แจงความจริงที่ป้าบิดเบือนสร้างความเสียหาย
    จนทำให้คนไทยหลายคน รวมถึงพี่คิงส์ต้องออกมา
    เพื่อปกป้องสุดหล่อ ที่ถูกอธรรม
    เค้าว่าการฟ๊องคนไทยครั้งนี้ คนที่ได้กับได้คือป้า
    ป้า เอาคืนคนที่ว่าตัวเอง โดยยืมมือสาวอุนจิ
    ป้า เอาคืนคนที่ว่าตัวเอง โดยไม่ต้องใช้เงินตัวเอง
    ป้า ได้ผลประโยชน์จากสาวอุนจิในเรื่องการจัดแถลงข่าว
    พวกนี้ ล้วนแล้วเป็นข้อมูลที่เปิดเผยจากฝั่งสาวอุนจิทั้งนั้นนะครับ
    อย่ามาทำเป็นถามหาหลักฐานอะไร ไปหาที่ฝั่งเดียวกันเอาครับ
    และที่สำคัญ ป้ารักสาวอุนจิยังไงไม่รู้
    ป้าให้สาวอุนจิมีkadeeกับคนไทย แปลว่าสาวอุนจิต้องบินลงมาขึ้นศาn
    แล้วถ้าอีกฝ่ายเค้าสู้ ก็จะมีฟ๊องกลับ หรือตั้งเรื่องใหม่
    สมมุติง่ายๆนะครับ มีอีก 20 kadee หรือมากกว่านั้น
    แล้วฟ๊อกคนละจังหวัด สาวอุนจิต้องบินมาไทยอีกกี่รอบ
    ต้องชีวิตต้องวุ่นวายอยู่กับเรื่อง Kadee เนี่ยแหละครับ
    ที่พี่คิงส์งง ป้ารักของป้ายังไงฟร๊ะ
    - ป้า พาแฟนคลับสาวอุนจิ แบ่งแยกกันเป็นฝักเป็นฝ่าย โดยป้าจะถีบทิ้งทุกคนที่ไม่อยู่ในอาณัติป้า มันไม่ผิดเลย ที่เทพที่เคยเชียร์เห็นบทบาทป้าแล้วเบื่อหน่าย ทนไม่ไหวต้องกลับมาพาคนที่รักสาวอุนจิพากันไปในทางที่ถูกที่ควร
    เอาจริงๆ ถ้าไม่มีป้า ป่านนี้ แฟนคลับแต่ละฝ่าย ก็แยกย้ายกันเชียร์
    อย่าลืมว่า สิ่งที่ป้าบอกว่า สาวอุนจิพูดแบบนั้นแบบนี้ คนไทยฟังไม่ออก
    หรือคนไทยพูดแบบไหน สาวอุนจิก็ฟังไม่ออกเช่นกัน
    แต่ป้า คือเครื่องปั่นชั้นดี ที่ไปเล่าแบบไหนไม่รู้
    รู้แต่ว่า สุดท้ายเหมือนป้าจะคุมได้หมด
    คุมได้ทั้งฝั่งสาวอุนจิ คุมได้ทั้งแฟนคลับสาวอุนจิ
    และสร้างภาพว่าตนเองเป็นผู้มีอำนาจที่แท้จริง
    แม้กระทั่ง คำตักเตือนของแฟนคลับรุ่นแรก
    ก็ไม่ยอมรับฟัง แถมแบ่งฝักแบ่งฝ่าย
    ว่าคนที่เป็นแฟนคลับตัวจริงต้องสายป้าเท่านั้น
    เอาจริงๆแล้ว เรื่องการชอบดารา ชอบนักร้อง
    มันมีทุกวงการ แต่ไม่เห็นจะมีปัญหาเฮี้ยอะไรเลย
    เค้าแยกกันเลิกกัน ก็จบ แต่คนที่มันไม่จบ
    ก็เพราะมีคนแบบป้านี่แหละ
    พาแฟนคลับสายตัวเอง ไม่ถล่มคนนั้นคนนี้
    สร้างสัตรูไว้รอบด้าน แม้กระทั่ง บอสณวัฒน์
    คนที่ไม่ควรไปแตะ ก็ไปไฝ้กับเค้า
    ก้องห้วยไร่งี้ ไม่ควรไปยุ่ง ปากก้องไม่ธรรมดา
    ก็ยังไปไฝ้กับเค้า
    แต่ละคนที่เอ่ย มีฐานแฟนคลับหลายล้านคน
    แต่อ้างว่า ทำเพื่อสาวอุนจิ โคตะระย้อนแย้ง
    อยากช่วยสาวต่างด้าว ให้มีที่ยืนในประเทศไทย
    ด้วยการไปไฝ้กับคนไทยที่มีแฟนคลับหลายล้านคน
    มันต้องใช้ซ้งทรีนคิดแน่ๆ ใช้สมองคิดไม่ทำแบบนี้
    มันต้องทำให้คนไทยรักนางดิ ไม่ใช่ทำให้คนอื่นชิงชังแบบนี้
    แค่นึกเล่นๆนะ ถ้าไม่มีป้า เข้ามาวุ่นวายกับเรื่องนี้ตั้งแต่แรก
    แฟนคลับทั้งสองฝ่าย คงแยกย้ายกัน
    ไปมีความสุขกับสุดหล่อ หรือสาวอุนจิที่ตัวเองรัก
    ไม่ต้องมานั่งเสียเวลา วิวาทะกันเหมือนทุกวันนี้จริงๆ
    อย่างที่มีคนพูดไว้ ทุกอย่างจะพังเพราะป้าจริงๆ
    และสาวอุนจิก็พังเพราะป้าเช่นกัน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    #โพสนี้อยากให้ใจเย็นๆแล้วทบทวนกัน ถ้าป้าไม่ใช้จังหวะช่วงท้ายๆเข้ามาแสดงบทบาทเหมือนเป็นเจ้าของสาวอุนจินั้น คงไม่พังแบบนี้ - เพราะป้าไปเชื่อมจิตให้คนในกลุ่ม ชังสุดหล่อ ฝังหัวเรื่องนาซีซีส ..ถ้าวันนั้น ป้าไม่เริ่มทำแบบนั้น ถึงสุดหล่อกับสาวอุนจิจะเลิกกัน มันจะไม่มีอะไรกระทบกระทั่งกันเลยกับแฟนคลับทั้งสองฝ่าย แต่ป้าเลือกใช้สูตรการแบ่งแยกและปกครอง หาพวกสร้างกลุ่มและสะกดจิตให้ชังฝ่ายหนึ่งและปกป้องอีกฝ่ายหนึ่ง - ป้าสร้างสตอรี่ แบบผิดๆถูกๆ เชื่อมจิตให้แฟนคลับสาวอุนจิเชื่อ ..ถ้าวันนั้น ป้าไม่คิดสร้างวาทะกรรม เรื่องแม่ เรื่องพี่ชาย เรื่องกันจอมพลัง ฯลฯ สร้างเรื่องสตอรี่เวอร์วังให้สาวอุนจิ ก็คงไม่มีใครมาจับโป๊ะได้แบบนี้ ทำให้แฟนคลับฝั่งสุดหล่อก็ขำ เยาะเย้ย ฝั่งแฟนคลับสาวอุนจิ ก็หัวเสีย ต้องเป็นวิวาทะกันในโซเชียล ฝีมือป้าทั้งนั้น - ถ้าป้าไม่ปากเก่ง พยายามยั่วยุพี่คิงส์ ทั้งๆที่พี่คิงส์ก็หยุดแล้วจะไปทำเรื่องอื่นแล้ว ป้าก็ยังมาท้าทายถึงเพจ ถ้าป้าไม่ทำแบบนั้นพี่ก็ไม่ต้องมานั่งเสียเวลามาตอบโต้แบบที่ผ่านมา - ป้าไปเอาสาวอุนจิ มาแถลงฟ๊องคนไทย อันนี้ ก็ได้ข้อมูลจากฝั่งป้าเอง ว่าป้าเป็นคนรบเร้าให้สาวอุนจิฟ๊องคนไทย ซึ่ง เอาจริงๆ ก็ไม่ได้เป็นผลดีกับทางสาวอุนจิเลย มีแต่เสียกับเสีย โดยใช้วาทะกรรมว่า ปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิง ซึ่ง ผู้หญิงที่ว่า น่าจะเป็นตัวป้าเอง เพราะทุกอย่างเริ่มที่ป้า เพราะถ้าป้าไม่มาสร้างเรื่องปั่นป่วนจนสร้างความชิงชัง และส่งผลประทบทางจิตใจของสุดหล่อ จนทำให้สุดหล่อต้องออกมาพูดหลายๆอย่างแบบโต้รุ่ง เพื่อชี้แจงความจริงที่ป้าบิดเบือนสร้างความเสียหาย จนทำให้คนไทยหลายคน รวมถึงพี่คิงส์ต้องออกมา เพื่อปกป้องสุดหล่อ ที่ถูกอธรรม เค้าว่าการฟ๊องคนไทยครั้งนี้ คนที่ได้กับได้คือป้า ป้า เอาคืนคนที่ว่าตัวเอง โดยยืมมือสาวอุนจิ ป้า เอาคืนคนที่ว่าตัวเอง โดยไม่ต้องใช้เงินตัวเอง ป้า ได้ผลประโยชน์จากสาวอุนจิในเรื่องการจัดแถลงข่าว พวกนี้ ล้วนแล้วเป็นข้อมูลที่เปิดเผยจากฝั่งสาวอุนจิทั้งนั้นนะครับ อย่ามาทำเป็นถามหาหลักฐานอะไร ไปหาที่ฝั่งเดียวกันเอาครับ และที่สำคัญ ป้ารักสาวอุนจิยังไงไม่รู้ ป้าให้สาวอุนจิมีkadeeกับคนไทย แปลว่าสาวอุนจิต้องบินลงมาขึ้นศาn แล้วถ้าอีกฝ่ายเค้าสู้ ก็จะมีฟ๊องกลับ หรือตั้งเรื่องใหม่ สมมุติง่ายๆนะครับ มีอีก 20 kadee หรือมากกว่านั้น แล้วฟ๊อกคนละจังหวัด สาวอุนจิต้องบินมาไทยอีกกี่รอบ ต้องชีวิตต้องวุ่นวายอยู่กับเรื่อง Kadee เนี่ยแหละครับ ที่พี่คิงส์งง ป้ารักของป้ายังไงฟร๊ะ - ป้า พาแฟนคลับสาวอุนจิ แบ่งแยกกันเป็นฝักเป็นฝ่าย โดยป้าจะถีบทิ้งทุกคนที่ไม่อยู่ในอาณัติป้า มันไม่ผิดเลย ที่เทพที่เคยเชียร์เห็นบทบาทป้าแล้วเบื่อหน่าย ทนไม่ไหวต้องกลับมาพาคนที่รักสาวอุนจิพากันไปในทางที่ถูกที่ควร เอาจริงๆ ถ้าไม่มีป้า ป่านนี้ แฟนคลับแต่ละฝ่าย ก็แยกย้ายกันเชียร์ อย่าลืมว่า สิ่งที่ป้าบอกว่า สาวอุนจิพูดแบบนั้นแบบนี้ คนไทยฟังไม่ออก หรือคนไทยพูดแบบไหน สาวอุนจิก็ฟังไม่ออกเช่นกัน แต่ป้า คือเครื่องปั่นชั้นดี ที่ไปเล่าแบบไหนไม่รู้ รู้แต่ว่า สุดท้ายเหมือนป้าจะคุมได้หมด คุมได้ทั้งฝั่งสาวอุนจิ คุมได้ทั้งแฟนคลับสาวอุนจิ และสร้างภาพว่าตนเองเป็นผู้มีอำนาจที่แท้จริง แม้กระทั่ง คำตักเตือนของแฟนคลับรุ่นแรก ก็ไม่ยอมรับฟัง แถมแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ว่าคนที่เป็นแฟนคลับตัวจริงต้องสายป้าเท่านั้น เอาจริงๆแล้ว เรื่องการชอบดารา ชอบนักร้อง มันมีทุกวงการ แต่ไม่เห็นจะมีปัญหาเฮี้ยอะไรเลย เค้าแยกกันเลิกกัน ก็จบ แต่คนที่มันไม่จบ ก็เพราะมีคนแบบป้านี่แหละ พาแฟนคลับสายตัวเอง ไม่ถล่มคนนั้นคนนี้ สร้างสัตรูไว้รอบด้าน แม้กระทั่ง บอสณวัฒน์ คนที่ไม่ควรไปแตะ ก็ไปไฝ้กับเค้า ก้องห้วยไร่งี้ ไม่ควรไปยุ่ง ปากก้องไม่ธรรมดา ก็ยังไปไฝ้กับเค้า แต่ละคนที่เอ่ย มีฐานแฟนคลับหลายล้านคน แต่อ้างว่า ทำเพื่อสาวอุนจิ โคตะระย้อนแย้ง อยากช่วยสาวต่างด้าว ให้มีที่ยืนในประเทศไทย ด้วยการไปไฝ้กับคนไทยที่มีแฟนคลับหลายล้านคน มันต้องใช้ซ้งทรีนคิดแน่ๆ ใช้สมองคิดไม่ทำแบบนี้ มันต้องทำให้คนไทยรักนางดิ ไม่ใช่ทำให้คนอื่นชิงชังแบบนี้ แค่นึกเล่นๆนะ ถ้าไม่มีป้า เข้ามาวุ่นวายกับเรื่องนี้ตั้งแต่แรก แฟนคลับทั้งสองฝ่าย คงแยกย้ายกัน ไปมีความสุขกับสุดหล่อ หรือสาวอุนจิที่ตัวเองรัก ไม่ต้องมานั่งเสียเวลา วิวาทะกันเหมือนทุกวันนี้จริงๆ อย่างที่มีคนพูดไว้ ทุกอย่างจะพังเพราะป้าจริงๆ และสาวอุนจิก็พังเพราะป้าเช่นกัน #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 523 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีมานานแล้ว สารพัดเกจิ...สารพัดผู้สร้าง ทั้งช่างทอง เซียนเบอร์ต้นๆของสายเอง (ไม่ได้ระบุสายไหน)..ทำเองก็มีให้เห็น..พระคนพวกนี้ รู้จุดที่ใช้ดู หรือที่คนเรียกว่า จุดจ่ายตังค์...เป็นการลงทุนที่ คุ้มแสนคุ้ม...เอาง่ายๆ รูปหล่อทองค์เล็กๆ หลวงพ่อคูณ หลวงพ่อเกษม ทองประมาณ 1 กรัม หรืออาจไม่ถึงด้วย..ขายกัน 8-9000 ...ถ้าเป็นพรระมีราคาขึ้นมาหาน่อย...ยกตัวอย่าง เต่าปู่หลิว..สมมุติทอง 1 บาท....ราคาต้อง Start กันที่ 3 แสนขึ้นไป จนทะลุล้าน..ในรุ่น รวยไม่หยุดทองคำ...!! ...หรือกริ่งชินบัญชรปู่ทิม อันนั้น ทองคำ ว่ากันหลายล้านเลย....ต้นทุนแกะบล๊อก แก้งานไปมา....ให้อย่างแพงเลย..ไม่น่าเกิน 2หมื่น...ค่าทองก็ตามน้ำหนัก...อย่าโลภ อย่ารีบ กักของให้เป็น ทยอยออก..ให้เนียนๆ...
    มีมานานแล้ว สารพัดเกจิ...สารพัดผู้สร้าง ทั้งช่างทอง เซียนเบอร์ต้นๆของสายเอง (ไม่ได้ระบุสายไหน)..ทำเองก็มีให้เห็น..พระคนพวกนี้ รู้จุดที่ใช้ดู หรือที่คนเรียกว่า จุดจ่ายตังค์...เป็นการลงทุนที่ คุ้มแสนคุ้ม...เอาง่ายๆ รูปหล่อทองค์เล็กๆ หลวงพ่อคูณ หลวงพ่อเกษม ทองประมาณ 1 กรัม หรืออาจไม่ถึงด้วย..ขายกัน 8-9000 ...ถ้าเป็นพรระมีราคาขึ้นมาหาน่อย...ยกตัวอย่าง เต่าปู่หลิว..สมมุติทอง 1 บาท....ราคาต้อง Start กันที่ 3 แสนขึ้นไป จนทะลุล้าน..ในรุ่น รวยไม่หยุดทองคำ...!! ...หรือกริ่งชินบัญชรปู่ทิม อันนั้น ทองคำ ว่ากันหลายล้านเลย....ต้นทุนแกะบล๊อก แก้งานไปมา....ให้อย่างแพงเลย..ไม่น่าเกิน 2หมื่น...ค่าทองก็ตามน้ำหนัก...อย่าโลภ อย่ารีบ กักของให้เป็น ทยอยออก..ให้เนียนๆ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าคุณมี "หลักคิด" ที่สมเหตุสมผล...ไม่ว่าดารามาชวนคุณลงทุน หรือ สมมุติสงฆ์มาสอนคุณทำธุรกิจ...ครูมาสอนวิธีจัดการแผนการเงิน.. หรืออะไรก็ตาม.คุณจะแยกแยะได้..ว่า ควรเชื่อไหม.จำไว้ว่า อย่าให้สถานะเขามาเป็นตัวชี้นำในเรื่องที่เขา อาจไม่รู้จริง..
    ถ้าคุณมี "หลักคิด" ที่สมเหตุสมผล...ไม่ว่าดารามาชวนคุณลงทุน หรือ สมมุติสงฆ์มาสอนคุณทำธุรกิจ...ครูมาสอนวิธีจัดการแผนการเงิน.. หรืออะไรก็ตาม.คุณจะแยกแยะได้..ว่า ควรเชื่อไหม.จำไว้ว่า อย่าให้สถานะเขามาเป็นตัวชี้นำในเรื่องที่เขา อาจไม่รู้จริง..
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อ ป.ป.ช ฟ้าเปลี่ยนสี
    .
    ไม่เกินธันวาคมนี้ ก็จะมีเลือกตั้ง กรรมการ ป.ป.ช. ใหม่ ขณะนี้ ป.ป.ช. มีความจำเป็นต้องการคนเข้ามาเป็นกรรมการอย่างน้อย 7 คน ใน 10 คน ทำไมต้องเยอะขนาดนั้น ? เหตุผลเพราะว่าการพิจารณาข้าราชการตำแหน่งระดับสูง ระดับพลตำรวจเอกนั้น ต้องใช้กรรมการ ป.ป.ช. ประมาณ 7 คน แล้วคนที่จะเข้ามาใหม่ก็จะได้รับการเลือกเป็นกรรมการ ป.ป.ช.ในเดือนธันวาคมนี้ 2 คน มีอยู่คนหนึ่ง คือท่านประภาศ คงเอียด อดีตข้าราชการกระทรวงการคลัง และท่านประภาศนั้นกำลังรอโปรดเกล้าฯ อยู่
    .
    ป.ป.ช. นั้น ฟ้าเปลี่ยนสีแล้ว คนที่เข้ามาใหม่ คือท่านภัทรศักดิ์ วรรณแสง อดีตรองประธานศาลฎีกา และกรรมการ ป.ป.ช. ที่เข้ามาใหม่ทุกคนรับรู้ถึงความเน่าเฟะของ ป.ป.ช. ในอดีต ยุคที่ พล.ต.อ.วัชรพล เป็นประธาน ป.ป.ช. คุณนิวัติไชย เป็นเลขาธิการ ป.ป.ช.
    .
    แล้วท่านผู้ชมไม่คิดหรือว่าคนที่เข้ามาใหม่ ท่านประธาน ป.ป.ช. แล้วคนที่เพิ่งได้รับเลือกแล้วเข้ามา เขาไม่ต้องการจะล้างภาพพจน์เลวๆ ของ ป.ป.ช. ออกหรือ? เขาต้องการเช็ด ทำความสะอาด ป.ป.ช.
    .
    และท่านเลขาฯ ป.ป.ช. คนใหม่ ท่านเป็นคนลูกหม้อของ ป.ป.ช. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. คนไหนส่วนไหน ที่เป็นคณะอนุกรรมการคอยพิจารณาเรื่องของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ แล้วก็เก็บเรื่องเอาไว้ ช่วยเหลือเอาไว้ ผมถามว่าท่านเลขาฯ ป.ป.ช. คนใหม่ ท่านจะไม่รู้หรือว่าเป็นใครบ้าง ท่านรู้ ท่านรู้หมด ผมถึงกล้าพูดว่านี่คือฟ้าเปลี่ยนสี
    .
    เมื่อฟ้าเปลี่ยนสีแล้ว ไม่เกิน 2 ปี (2568-2569) เราจะเริ่มเห็นคดีที่สุรเชชษฐ์ หักพาล จะต้องถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ที่กระทำความผิดขึ้นมา อย่างน้อยที่สุดก็คือการแจ้งทรัพย์สินอันเป็นเท็จ จากการให้เช่าพระจากเฮียอั๊ง โดยอ้างว่าเฮียอั๊งให้สุรเชชษฐ์ ไปหาท่านผู้ว่าฯ ที่เกษียณแล้ว อายุ 90 ปี ท่านไปแจ้งความที่ สน.ตลิ่งชัน ว่าท่านไม่เคยรู้เรื่องเลย ท่านไม่เคยรู้จักสุรเชชษฐ์ หักพาล แล้วเฮียอั๊ง ก็ไม่ได้สนิท มาขอเช่าพระองค์หนึ่งมูลค่าหมื่นกว่าบาท แล้ว ป.ป.ช. ก็เข้าไปสอบท่านแล้วด้วย ท่านก็ให้การเป็นไปตามที่ผมพูด ตอนนี้รออย่างเดียว
    .
    คุณสุรเชชษฐ์ ครับ 2568-2569 ไม่เกินสองปีนี้ ชีวิตคุณจะเปลี่ยนแปลงไปเยอะเลย เพราะว่าถ้ามีการเอาเรื่องแจ้งทรัพย์สินอันเป็นเท็จขึ้นมา เพราะว่าได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ใน ป.ป.ช. ปิดบังข้อเท็จจริงและไม่ยอมพิจารณา ถ้าพิจารณาแล้วมีความผิด เขาชี้มูลความผิดเลย เมื่อเขาชี้มูลความผิดปัง เผอิญท่านไม่ได้เป็นตำรวจแล้ว เพราะท่านถูกให้ออก ไม่เป็นไร แต่สมมุติมองในมุมกลับ ถ้าท่านยังเป็นรอง ผบ.ตร. อยู่ ถ้าถูกชี้มูลความผิด ต้องให้ออกจากราชการเช่นกัน แล้วกระบวนการก็คือว่า เมื่อชี้มูลความผิดแล้ว ก็ส่งไปอัยการ อัยการพิจารณาแล้ว มีข้อมูลข้อเท็จจริง หลักฐานที่ฟ้องได้ ก็จะฟ้อง ถ้าอัยการถูกวิ่งเต้น จะโดยใครก็ตาม ไม่ยอมฟ้อง เรื่องก็กลับไปที่ ป.ป.ช. ป.ป.ช. ก็จำเป็นต้องฟ้องเอง
    .
    นี่คือภาพรวมทั้งหมดที่ผมตีแผ่ให้ดู ว่าชีวิตคุณจากนี้ไป ไม่ใช่สนุกสนาน คุณฟ้องผม 4-5 คดี เดี๋ยววันหน้าวันหลังผมจะเอาคดีที่คุณฟ้องผมมาว่ามีอะไรบ้าง แล้วคุณจงใจไปฟ้องผมที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะคุณรู้จักกับผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่นั่นหรือเปล่า ไม่เป็นไรครับ หนังเรื่องนี้ยังต้องดูกันอีกยาวนาน แต่อันหนึ่งที่แน่นอน ผมไม่ยอมแพ้คุณหรอก
    เมื่อ ป.ป.ช ฟ้าเปลี่ยนสี . ไม่เกินธันวาคมนี้ ก็จะมีเลือกตั้ง กรรมการ ป.ป.ช. ใหม่ ขณะนี้ ป.ป.ช. มีความจำเป็นต้องการคนเข้ามาเป็นกรรมการอย่างน้อย 7 คน ใน 10 คน ทำไมต้องเยอะขนาดนั้น ? เหตุผลเพราะว่าการพิจารณาข้าราชการตำแหน่งระดับสูง ระดับพลตำรวจเอกนั้น ต้องใช้กรรมการ ป.ป.ช. ประมาณ 7 คน แล้วคนที่จะเข้ามาใหม่ก็จะได้รับการเลือกเป็นกรรมการ ป.ป.ช.ในเดือนธันวาคมนี้ 2 คน มีอยู่คนหนึ่ง คือท่านประภาศ คงเอียด อดีตข้าราชการกระทรวงการคลัง และท่านประภาศนั้นกำลังรอโปรดเกล้าฯ อยู่ . ป.ป.ช. นั้น ฟ้าเปลี่ยนสีแล้ว คนที่เข้ามาใหม่ คือท่านภัทรศักดิ์ วรรณแสง อดีตรองประธานศาลฎีกา และกรรมการ ป.ป.ช. ที่เข้ามาใหม่ทุกคนรับรู้ถึงความเน่าเฟะของ ป.ป.ช. ในอดีต ยุคที่ พล.ต.อ.วัชรพล เป็นประธาน ป.ป.ช. คุณนิวัติไชย เป็นเลขาธิการ ป.ป.ช. . แล้วท่านผู้ชมไม่คิดหรือว่าคนที่เข้ามาใหม่ ท่านประธาน ป.ป.ช. แล้วคนที่เพิ่งได้รับเลือกแล้วเข้ามา เขาไม่ต้องการจะล้างภาพพจน์เลวๆ ของ ป.ป.ช. ออกหรือ? เขาต้องการเช็ด ทำความสะอาด ป.ป.ช. . และท่านเลขาฯ ป.ป.ช. คนใหม่ ท่านเป็นคนลูกหม้อของ ป.ป.ช. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. คนไหนส่วนไหน ที่เป็นคณะอนุกรรมการคอยพิจารณาเรื่องของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ แล้วก็เก็บเรื่องเอาไว้ ช่วยเหลือเอาไว้ ผมถามว่าท่านเลขาฯ ป.ป.ช. คนใหม่ ท่านจะไม่รู้หรือว่าเป็นใครบ้าง ท่านรู้ ท่านรู้หมด ผมถึงกล้าพูดว่านี่คือฟ้าเปลี่ยนสี . เมื่อฟ้าเปลี่ยนสีแล้ว ไม่เกิน 2 ปี (2568-2569) เราจะเริ่มเห็นคดีที่สุรเชชษฐ์ หักพาล จะต้องถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ที่กระทำความผิดขึ้นมา อย่างน้อยที่สุดก็คือการแจ้งทรัพย์สินอันเป็นเท็จ จากการให้เช่าพระจากเฮียอั๊ง โดยอ้างว่าเฮียอั๊งให้สุรเชชษฐ์ ไปหาท่านผู้ว่าฯ ที่เกษียณแล้ว อายุ 90 ปี ท่านไปแจ้งความที่ สน.ตลิ่งชัน ว่าท่านไม่เคยรู้เรื่องเลย ท่านไม่เคยรู้จักสุรเชชษฐ์ หักพาล แล้วเฮียอั๊ง ก็ไม่ได้สนิท มาขอเช่าพระองค์หนึ่งมูลค่าหมื่นกว่าบาท แล้ว ป.ป.ช. ก็เข้าไปสอบท่านแล้วด้วย ท่านก็ให้การเป็นไปตามที่ผมพูด ตอนนี้รออย่างเดียว . คุณสุรเชชษฐ์ ครับ 2568-2569 ไม่เกินสองปีนี้ ชีวิตคุณจะเปลี่ยนแปลงไปเยอะเลย เพราะว่าถ้ามีการเอาเรื่องแจ้งทรัพย์สินอันเป็นเท็จขึ้นมา เพราะว่าได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ใน ป.ป.ช. ปิดบังข้อเท็จจริงและไม่ยอมพิจารณา ถ้าพิจารณาแล้วมีความผิด เขาชี้มูลความผิดเลย เมื่อเขาชี้มูลความผิดปัง เผอิญท่านไม่ได้เป็นตำรวจแล้ว เพราะท่านถูกให้ออก ไม่เป็นไร แต่สมมุติมองในมุมกลับ ถ้าท่านยังเป็นรอง ผบ.ตร. อยู่ ถ้าถูกชี้มูลความผิด ต้องให้ออกจากราชการเช่นกัน แล้วกระบวนการก็คือว่า เมื่อชี้มูลความผิดแล้ว ก็ส่งไปอัยการ อัยการพิจารณาแล้ว มีข้อมูลข้อเท็จจริง หลักฐานที่ฟ้องได้ ก็จะฟ้อง ถ้าอัยการถูกวิ่งเต้น จะโดยใครก็ตาม ไม่ยอมฟ้อง เรื่องก็กลับไปที่ ป.ป.ช. ป.ป.ช. ก็จำเป็นต้องฟ้องเอง . นี่คือภาพรวมทั้งหมดที่ผมตีแผ่ให้ดู ว่าชีวิตคุณจากนี้ไป ไม่ใช่สนุกสนาน คุณฟ้องผม 4-5 คดี เดี๋ยววันหน้าวันหลังผมจะเอาคดีที่คุณฟ้องผมมาว่ามีอะไรบ้าง แล้วคุณจงใจไปฟ้องผมที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะคุณรู้จักกับผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่นั่นหรือเปล่า ไม่เป็นไรครับ หนังเรื่องนี้ยังต้องดูกันอีกยาวนาน แต่อันหนึ่งที่แน่นอน ผมไม่ยอมแพ้คุณหรอก
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 729 มุมมอง 0 รีวิว
  • 1_2_3_4 ทุกคนนับเป็น ..แต่หลายคนไม่เข้าใจ..เรียงลำดับอะะไรก่อนหลังยังไม่เป็น..สมมุติ คุณอยากได้รถ 1 คัน ไปดู ไปต่อราคา อะไรเรียบร้อย ..สุดท้ายคำตอบคือ ขอคิดดูก่อน ปรึกษาพ่อแม่เมีย วงศาคณาญาติ ก่อน หรือ ใครซื้อ ใครค้ำ มีเงินดาวน์เท่าไร....คือ บางคนยังไม่รู้เลย.สวัสดีวันลอยกระทง..
    1_2_3_4 ทุกคนนับเป็น ..แต่หลายคนไม่เข้าใจ..เรียงลำดับอะะไรก่อนหลังยังไม่เป็น..สมมุติ คุณอยากได้รถ 1 คัน ไปดู ไปต่อราคา อะไรเรียบร้อย ..สุดท้ายคำตอบคือ ขอคิดดูก่อน ปรึกษาพ่อแม่เมีย วงศาคณาญาติ ก่อน หรือ ใครซื้อ ใครค้ำ มีเงินดาวน์เท่าไร....คือ บางคนยังไม่รู้เลย.สวัสดีวันลอยกระทง..
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • เห็นโพสแบบนี้ ต่อเนื่องมาตลอด ..วันนี้ก็เห็น...และ คน 90 กว่า % เห็นด้วย กับสิ่งนี้...จริงค่ะ ใช่ค่ะ เห็นด้วยครับ...และอื่นๆ...
    🪵 มาดูความจริงกัน.
    ...เศรษฐีที่มีทรัพย์สิน ระดับแสนล้านของไทย...เขากก็มีหนี้สินระดับแสนล้านควบคู่ไปด้วย......
    ...อธิบายง่ายๆ....เขามองจุดคุ้มทุนในเรื่องดอกเบี้ย ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการทั้งหมด...คือ ถ้ามัน cover และมีกำไร ก็น่าลงทุน....
    ...แต่จะไม่ลงทุนด้วยเงินสด หรือเงินตัวเอง ...จะมีบริษัทลูกเกิดขึ้นใหม่....และกู้ โดยมีหลักทรัพย์ของธุรกิจนี้น...เป็นสิ่งค้ำประกัน.....
    ...เพื่ออะไร....สมมุติ มันผิดพลาดพลั้งไป....สถาบันการเงินก็ยึดสิ่งค้ำประกันไป...เขาจะเสียหายไม่มาก...ความเป็นเศรษฐีแสนล้านของเขา..ก็ยังคงอยู่.....
    ...ถ้ามีแสนล้าน และไม่่อยากเป็นหนี้ ลงทุน 7 หมื่นล้าน มี cash flow. สัก 3 หมื่นล้าน..ถามว่า ถ้า cash flow ขาดสภาพคล่อง..ไปยังไงต่อ.
    🌳 ขอไม่สรุปละกัน ท่านเชื่อแบบไหน? ก็ตามสะดวก.
    เห็นโพสแบบนี้ ต่อเนื่องมาตลอด ..วันนี้ก็เห็น...และ คน 90 กว่า % เห็นด้วย กับสิ่งนี้...จริงค่ะ ใช่ค่ะ เห็นด้วยครับ...และอื่นๆ... 🪵 มาดูความจริงกัน. ...เศรษฐีที่มีทรัพย์สิน ระดับแสนล้านของไทย...เขากก็มีหนี้สินระดับแสนล้านควบคู่ไปด้วย...... ...อธิบายง่ายๆ....เขามองจุดคุ้มทุนในเรื่องดอกเบี้ย ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการทั้งหมด...คือ ถ้ามัน cover และมีกำไร ก็น่าลงทุน.... ...แต่จะไม่ลงทุนด้วยเงินสด หรือเงินตัวเอง ...จะมีบริษัทลูกเกิดขึ้นใหม่....และกู้ โดยมีหลักทรัพย์ของธุรกิจนี้น...เป็นสิ่งค้ำประกัน..... ...เพื่ออะไร....สมมุติ มันผิดพลาดพลั้งไป....สถาบันการเงินก็ยึดสิ่งค้ำประกันไป...เขาจะเสียหายไม่มาก...ความเป็นเศรษฐีแสนล้านของเขา..ก็ยังคงอยู่..... ...ถ้ามีแสนล้าน และไม่่อยากเป็นหนี้ ลงทุน 7 หมื่นล้าน มี cash flow. สัก 3 หมื่นล้าน..ถามว่า ถ้า cash flow ขาดสภาพคล่อง..ไปยังไงต่อ. 🌳 ขอไม่สรุปละกัน ท่านเชื่อแบบไหน? ก็ตามสะดวก.
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพนี้ ทุกคน จะบอกว่า ซ้ายนั่งเฉยๆ ยอมรับ ชาตากรรม...ขวา พยายามหาทางเพื่อให้รอดพ้น.......
    ..แนวคิดผม...จะบอกว่า คนซ้ายอาจจะนั่งรอคนขวาทำสำเร็จ...แล้วค่อย เจาะทะลุมา...ก็เป็นได้......🙂
    ..ผมไม่ได้เลอะเทอะ..ถ้าคุณดูพิชัยสงคราม ...สมมุติมีกองทัพ 2 กองทัพรบกันอยู่.คุณเป็นทัพที่ 3..มันไม่ได้มีแต่วิธีที่ต้องเลือกข้าง...มันยังมีวิธี รอ...เก็บเกี่ยวตอนที่ ฝ่ายที่ชนะมา อ่อนล้าไปแล้ว อีกด้วย.
    #แค่อยากให้คิดนอกกรอบ
    ภาพนี้ ทุกคน จะบอกว่า ซ้ายนั่งเฉยๆ ยอมรับ ชาตากรรม...ขวา พยายามหาทางเพื่อให้รอดพ้น....... ..แนวคิดผม...จะบอกว่า คนซ้ายอาจจะนั่งรอคนขวาทำสำเร็จ...แล้วค่อย เจาะทะลุมา...ก็เป็นได้......🙂 ..ผมไม่ได้เลอะเทอะ..ถ้าคุณดูพิชัยสงคราม ...สมมุติมีกองทัพ 2 กองทัพรบกันอยู่.คุณเป็นทัพที่ 3..มันไม่ได้มีแต่วิธีที่ต้องเลือกข้าง...มันยังมีวิธี รอ...เก็บเกี่ยวตอนที่ ฝ่ายที่ชนะมา อ่อนล้าไปแล้ว อีกด้วย. #แค่อยากให้คิดนอกกรอบ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชีวิตคือสมมุติ TikTok@yuija6055 #ซีรีส์ #wetv #จางอวิ๋นหลงzhangyunlong #ซุนอี๋sunyi #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    ชีวิตคือสมมุติ TikTok@yuija6055 #ซีรีส์ #wetv #จางอวิ๋นหลงzhangyunlong #ซุนอี๋sunyi #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 789 มุมมอง 90 0 รีวิว
  • ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นเจ้าของธุรกิจได้...❤️ เห็นคนระดับล่าง กู้หนี้ยืมสิน มาลงทุน เปิดร้าน โน่นนี่นั่น...ก็ว่าไป....แต่สิ่งนี้ ที่เห็นเป็นประจำ และ จุดจบเหมือนกันหมด...
    คือ พอเป็นเจ้าของธุรกิจแล้ว...อยากเปิดร้าน ปิดร้าน เปิดสาย เปิดบ่าย ...ธุระโน่นนี่ ตามสะดวก ...พูดจาปราศัยก็ไม่ได้เรื่อง คำขอบคุณ มารยาทง่ายๆ บางคนยังพูดไม่เป็น.....ความยะโส ของการเป็นเจ้าของเข้าสิงร่าง ...
    ...ลูกค้าเขาให้โอกาสคุณไม่กี่ครั้งหรอก...สมมุติมายังไม่เปิด หรือพูดจาแย่ๆ หรืออื่นๆ...บ่อยไปเข้า
    ...สุดท้าย เขาก็ไม่มา .... สุดท้าย เจ๊ง...
    💩 ส่วนตัวเห็นแบบนี้มา ไม่รู้กี่ร้อย กี่พันร้านแล้ว........
    #ถ้าคุณทิ้งวินัยเมื่อใด #ตอนนั้นคือคุณกำลังจะทิ้งความสำเร็จไปด้วย...
    ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นเจ้าของธุรกิจได้...❤️ เห็นคนระดับล่าง กู้หนี้ยืมสิน มาลงทุน เปิดร้าน โน่นนี่นั่น...ก็ว่าไป....แต่สิ่งนี้ ที่เห็นเป็นประจำ และ จุดจบเหมือนกันหมด... คือ พอเป็นเจ้าของธุรกิจแล้ว...อยากเปิดร้าน ปิดร้าน เปิดสาย เปิดบ่าย ...ธุระโน่นนี่ ตามสะดวก ...พูดจาปราศัยก็ไม่ได้เรื่อง คำขอบคุณ มารยาทง่ายๆ บางคนยังพูดไม่เป็น.....ความยะโส ของการเป็นเจ้าของเข้าสิงร่าง ... ...ลูกค้าเขาให้โอกาสคุณไม่กี่ครั้งหรอก...สมมุติมายังไม่เปิด หรือพูดจาแย่ๆ หรืออื่นๆ...บ่อยไปเข้า ...สุดท้าย เขาก็ไม่มา .... สุดท้าย เจ๊ง... 💩 ส่วนตัวเห็นแบบนี้มา ไม่รู้กี่ร้อย กี่พันร้านแล้ว........ #ถ้าคุณทิ้งวินัยเมื่อใด #ตอนนั้นคือคุณกำลังจะทิ้งความสำเร็จไปด้วย...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิกอดชูวิทย์แนบแน่นสะท้านโลกธรรม
    .
    ผมดีใจที่สุดเมื่อวานนี้ 7 พฤศจิกายนซึ่งเป็นวันเกิดผม คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แจ้งมาว่า เขาจะมาพบผมสิบโมงครึ่งที่บ้านพระอาทิตย์ ผมไปนั่งรอที่ขั้นบันได พอรถเขามาถึงปั๊บ เขาเปิดประตูรถ ผมไปรับเขา ผมเห็นสภาพเขาเดินไม่ค่อยได้ ผมกลั้นน้ำตาไว้ วันนี้เขาอ่อนแอมาก เขาไม่ใช่สิงห์ผงาดในอดีตที่ออกมาแล้วยกมือชี้เรื่องโน้นเรื่องนี้ ผมดูสภาพเขาอายุหกสิบกว่ากับสภาพผมซึ่งเต็ม 77 กำลังจะเริ่ม 78 ปีวันนี้แล้ว เขาอ่อนแอมาก เขาบอกว่าในตับเขามีมะเร็งยาวถึง 5 เซนติเมตร ซึ่งมันผ่าไม่ได้แล้วและทานอะไรไม่ได้เลย
    .
    ผมบอกเขาว่า ชูวิทย์คุณอยู่เฉยๆก่อน ขอผมกอดคุณที ผมก็กอดเขา เขาก็กอดผมและสะอื้น ผมน้ำตาปริ่ม ผมบอกชูวิทย์ นิ่งๆนะ หายใจเข้าลึกๆ อย่าไปสนใจเสียงข้างนอก กำหนดจิตให้สงบ ไม่รู้สึกอะไร เดี๋ยวผมจะถ่ายพลังที่มีอยู่ในตัวของผมเอาไปให้คุณเพื่อรักษาตัว แล้วผมก็ภาวนาในใจและกอดเขาแน่นเลย เขาก็กอดผมแน่นเช่นกัน ผมภาวนาจนกระทั่งถึงจุดหนึ่งผมคิดว่าพอแล้ว พอผมพูดจบ ชูวิทย์สะอื้นแล้วบอกว่า พี่สนธิ ขอบคุณมาก ขอบคุณในน้ำใจพี่ สภาพเขาเดินยังแทบจะเดินไม่ได้ ต้องใช้ไม้เท้า ต้องประคองแขนทั้งสองข้าง ขากลับเขายืนยันจะเดิน ผมบอกไม่ได้ ชูวิทย์ คุณนั่งรถเข็น เดี๋ยวผมเข็นให้
    .
    ผมบอกว่า ชูวิทย์วันนี้เราไม่พูดเรื่องเก่ากันแล้วนะ เพราะคุณกับผมสวมหมวกคนละใบ อาจจะมีการปะทะกันในหลักการ แต่ผมไม่ได้โกรธคุณ และคุณก็ไม่ได้โกรธผม
    .
    นี่คือความสัมพันธ์ระหว่างผม สนธิ ลิ้มทองกุล กับคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เหตุการณ์ที่พัฒนามาจากวันนั้นถึงวันนี้ น่าจะเป็นบทเรียนในชีวิตให้กับพวกเราหลายๆ คนที่ยังคงฝังตัวเองและจมลึกอยู่ท่ามกลางความแค้น ความแค้นไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้นเลย มีแต่แผดเผาจิตใจของเรา
    .
    สำหรับผมแล้ว เรื่องเล็กมาก เพราะผมถือว่าเป็นเรื่องสมมุติ และเป็นเรื่องที่มันควรจะจบด้วยการให้อภัยและลืมมันไปซะ ชีวิตเรามันสั้น เหลือเวลาของชีวิต รักษาความเป็นมิตรภาพ สัมพันธภาพอันดี
    .
    ผมคิดว่าคุณชูวิทย์ ในช่วงสุดท้ายของชีวิต ถ้าจะเป็นช่วงสุดท้าย เขาคงอยากจะมีเพื่อนดีๆ หรือพี่ดีๆ อย่างผมที่เขาแวะมาคุยด้วยได้ มองตาแล้วเขาสบายใจ นั่นล่ะครับ ประสบการณ์ที่ผมเจอคุณชูวิทย์ สิบโมงครึ่ง ที่บ้านพระอาทิตย์
    .
    จุดจบของความสัมพันธ์ก็คือความเข้าใจกัน และความจริงใจให้กันด้วยความเต็มใจทั้งสองฝ่าย

    ที่มา คุยทุกเรื่องกับสนธิ

    #Thaitimes
    สนธิกอดชูวิทย์แนบแน่นสะท้านโลกธรรม . ผมดีใจที่สุดเมื่อวานนี้ 7 พฤศจิกายนซึ่งเป็นวันเกิดผม คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แจ้งมาว่า เขาจะมาพบผมสิบโมงครึ่งที่บ้านพระอาทิตย์ ผมไปนั่งรอที่ขั้นบันได พอรถเขามาถึงปั๊บ เขาเปิดประตูรถ ผมไปรับเขา ผมเห็นสภาพเขาเดินไม่ค่อยได้ ผมกลั้นน้ำตาไว้ วันนี้เขาอ่อนแอมาก เขาไม่ใช่สิงห์ผงาดในอดีตที่ออกมาแล้วยกมือชี้เรื่องโน้นเรื่องนี้ ผมดูสภาพเขาอายุหกสิบกว่ากับสภาพผมซึ่งเต็ม 77 กำลังจะเริ่ม 78 ปีวันนี้แล้ว เขาอ่อนแอมาก เขาบอกว่าในตับเขามีมะเร็งยาวถึง 5 เซนติเมตร ซึ่งมันผ่าไม่ได้แล้วและทานอะไรไม่ได้เลย . ผมบอกเขาว่า ชูวิทย์คุณอยู่เฉยๆก่อน ขอผมกอดคุณที ผมก็กอดเขา เขาก็กอดผมและสะอื้น ผมน้ำตาปริ่ม ผมบอกชูวิทย์ นิ่งๆนะ หายใจเข้าลึกๆ อย่าไปสนใจเสียงข้างนอก กำหนดจิตให้สงบ ไม่รู้สึกอะไร เดี๋ยวผมจะถ่ายพลังที่มีอยู่ในตัวของผมเอาไปให้คุณเพื่อรักษาตัว แล้วผมก็ภาวนาในใจและกอดเขาแน่นเลย เขาก็กอดผมแน่นเช่นกัน ผมภาวนาจนกระทั่งถึงจุดหนึ่งผมคิดว่าพอแล้ว พอผมพูดจบ ชูวิทย์สะอื้นแล้วบอกว่า พี่สนธิ ขอบคุณมาก ขอบคุณในน้ำใจพี่ สภาพเขาเดินยังแทบจะเดินไม่ได้ ต้องใช้ไม้เท้า ต้องประคองแขนทั้งสองข้าง ขากลับเขายืนยันจะเดิน ผมบอกไม่ได้ ชูวิทย์ คุณนั่งรถเข็น เดี๋ยวผมเข็นให้ . ผมบอกว่า ชูวิทย์วันนี้เราไม่พูดเรื่องเก่ากันแล้วนะ เพราะคุณกับผมสวมหมวกคนละใบ อาจจะมีการปะทะกันในหลักการ แต่ผมไม่ได้โกรธคุณ และคุณก็ไม่ได้โกรธผม . นี่คือความสัมพันธ์ระหว่างผม สนธิ ลิ้มทองกุล กับคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เหตุการณ์ที่พัฒนามาจากวันนั้นถึงวันนี้ น่าจะเป็นบทเรียนในชีวิตให้กับพวกเราหลายๆ คนที่ยังคงฝังตัวเองและจมลึกอยู่ท่ามกลางความแค้น ความแค้นไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้นเลย มีแต่แผดเผาจิตใจของเรา . สำหรับผมแล้ว เรื่องเล็กมาก เพราะผมถือว่าเป็นเรื่องสมมุติ และเป็นเรื่องที่มันควรจะจบด้วยการให้อภัยและลืมมันไปซะ ชีวิตเรามันสั้น เหลือเวลาของชีวิต รักษาความเป็นมิตรภาพ สัมพันธภาพอันดี . ผมคิดว่าคุณชูวิทย์ ในช่วงสุดท้ายของชีวิต ถ้าจะเป็นช่วงสุดท้าย เขาคงอยากจะมีเพื่อนดีๆ หรือพี่ดีๆ อย่างผมที่เขาแวะมาคุยด้วยได้ มองตาแล้วเขาสบายใจ นั่นล่ะครับ ประสบการณ์ที่ผมเจอคุณชูวิทย์ สิบโมงครึ่ง ที่บ้านพระอาทิตย์ . จุดจบของความสัมพันธ์ก็คือความเข้าใจกัน และความจริงใจให้กันด้วยความเต็มใจทั้งสองฝ่าย ที่มา คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 475 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีคนชอบใช้วาทะ คำนี้ เซียนที่ประกาศรับซื้อ...เขาไม่ซื้อหรอกกก.....
    🪵 มาดูความจริงกัน...
    มี 2 เรื่อง
    1. ซื้อจริง (ต้องดูเป็นคนไป) แต่ไม่ใช่ราคาที่เขาประกาศแน่ เพราะเขาเอาไปทำกำไร...และพระเก่า ที่หา ข้อติ ไม่ได้เลย...มันไม่มีหรอก (นอกจากพระสร้างใหม่) ....คือ ติเพื่อต่อ....ที่ว่าเขาไม่ซื้อ คงไม่ใช่ ถ้าเป็นแบบที่เขาเอาไปทำต่อได้..มีเหตุผลอะไรที่เขาจะไม่ซื้อ....
    2. วาระซ่อนเร้น ...คือ เอามาประกาศรับซื้อเพื่อโชว์ว่า มีแบบนี้นะ... และบอกชัดเจนว่า องคนี้ไม่ขาย....แต่คนในวงการจะทราบ...ว่า คำนี้ หมายถึง ไม่ขายถ้าไม่ได้ราคาตามเป้า.... คือ ต้องการคนมาจีบ..ไม่วางขาย ไม่เปิดขาย ทั้ง off online ...แปลง่ายๆ คือ แพงนะ....สมมุติพระ 3 แสน เขาเปิด 5 แสน..คุณสู้ก็เอาไป...
    หรืออีกนัยยะนึงคือ "ปั่น" ของที่ตนเองและพวกพ้องมีในมือ
    🦚🦚🦚
    มีคนชอบใช้วาทะ คำนี้ เซียนที่ประกาศรับซื้อ...เขาไม่ซื้อหรอกกก..... 🪵 มาดูความจริงกัน... มี 2 เรื่อง 1. ซื้อจริง (ต้องดูเป็นคนไป) แต่ไม่ใช่ราคาที่เขาประกาศแน่ เพราะเขาเอาไปทำกำไร...และพระเก่า ที่หา ข้อติ ไม่ได้เลย...มันไม่มีหรอก (นอกจากพระสร้างใหม่) ....คือ ติเพื่อต่อ....ที่ว่าเขาไม่ซื้อ คงไม่ใช่ ถ้าเป็นแบบที่เขาเอาไปทำต่อได้..มีเหตุผลอะไรที่เขาจะไม่ซื้อ.... 2. วาระซ่อนเร้น ...คือ เอามาประกาศรับซื้อเพื่อโชว์ว่า มีแบบนี้นะ... และบอกชัดเจนว่า องคนี้ไม่ขาย....แต่คนในวงการจะทราบ...ว่า คำนี้ หมายถึง ไม่ขายถ้าไม่ได้ราคาตามเป้า.... คือ ต้องการคนมาจีบ..ไม่วางขาย ไม่เปิดขาย ทั้ง off online ...แปลง่ายๆ คือ แพงนะ....สมมุติพระ 3 แสน เขาเปิด 5 แสน..คุณสู้ก็เอาไป... หรืออีกนัยยะนึงคือ "ปั่น" ของที่ตนเองและพวกพ้องมีในมือ 🦚🦚🦚
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงนี้ ทั้งสมมุติสงฆ์ ทั้งฆราวาส...ออกมาอ้างอิง คำสอนของพระพุทธเจ้า กันเป็นแถว...
    ...ส่วนตัวเคารพนับถือพระพุทธเจ้าแน่นอน...
    แต่ ....หลักคิดส่วนตัว....บางอย่าง...ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้าจริงไหม? .....มาดูความเป็นจริงกัน....พระไตรปิฎก ถูกสังคายนา 9-10 ครั้ง....ซึ่งในแต่ละครั้ง..มีเรื่อง อำนาจ ชนชั้น และสิ่งแวดล้อมอื่นมาเจอปน..เช่น ความเห็น มุมมอง ทัศนคติ ไม่นับถึงการตีความที่อาจไม่ถูกต้อง ของคณะผู้สังคายนา....เราจะรู้ได้อย่างไร...ว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าจริง.....พระพุทธศาสนา หายไปจากอินเดีย จนต้องไปเอาบันทึกเก่าจากจีน มาคัดลอก...และสังคายนาขึ้นมาใหม่... (จีนเป็นชาติเดียวในโลก ที่คงความเป็นชาติ และมีบันทึกสืบต่อกันมาหลายพันปี อารยธรรมที่ร่วมยุคกัน เช่น กรีก โรมัน ไอยคุปต์ ล้วนเปลี่ยนแปลงไปแล้ว) .....
    ...ฉะนั้น (ส่วนตัวผู้เขียน) ไม่ต้องถกเถียงกัน...เอาความคิดเราเข้าไปประมวลผลดู ..ถ้าสิ่งนั้น ดำเนินไปควบคู่กับชีวิตเราได้...แบบไม่ลำบาก ...ก็เลือกเอาสิ่งนี้น...
    ....ชีวิตคนหนึ่งคน...ไม่ใช่มีแค่ปลายทาง..เท่านั้น.ว่าจะไปไหน...ระหว่างทางก็สำคัญ........
    #เชื่อในกรรมทั้งดีและชั่วให้ผลแน่นอน#
    ช่วงนี้ ทั้งสมมุติสงฆ์ ทั้งฆราวาส...ออกมาอ้างอิง คำสอนของพระพุทธเจ้า กันเป็นแถว... ...ส่วนตัวเคารพนับถือพระพุทธเจ้าแน่นอน... แต่ ....หลักคิดส่วนตัว....บางอย่าง...ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้าจริงไหม? .....มาดูความเป็นจริงกัน....พระไตรปิฎก ถูกสังคายนา 9-10 ครั้ง....ซึ่งในแต่ละครั้ง..มีเรื่อง อำนาจ ชนชั้น และสิ่งแวดล้อมอื่นมาเจอปน..เช่น ความเห็น มุมมอง ทัศนคติ ไม่นับถึงการตีความที่อาจไม่ถูกต้อง ของคณะผู้สังคายนา....เราจะรู้ได้อย่างไร...ว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าจริง.....พระพุทธศาสนา หายไปจากอินเดีย จนต้องไปเอาบันทึกเก่าจากจีน มาคัดลอก...และสังคายนาขึ้นมาใหม่... (จีนเป็นชาติเดียวในโลก ที่คงความเป็นชาติ และมีบันทึกสืบต่อกันมาหลายพันปี อารยธรรมที่ร่วมยุคกัน เช่น กรีก โรมัน ไอยคุปต์ ล้วนเปลี่ยนแปลงไปแล้ว) ..... ...ฉะนั้น (ส่วนตัวผู้เขียน) ไม่ต้องถกเถียงกัน...เอาความคิดเราเข้าไปประมวลผลดู ..ถ้าสิ่งนั้น ดำเนินไปควบคู่กับชีวิตเราได้...แบบไม่ลำบาก ...ก็เลือกเอาสิ่งนี้น... ....ชีวิตคนหนึ่งคน...ไม่ใช่มีแค่ปลายทาง..เท่านั้น.ว่าจะไปไหน...ระหว่างทางก็สำคัญ........ #เชื่อในกรรมทั้งดีและชั่วให้ผลแน่นอน#
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💛😼💛😼TikTok@yuija6055 #เป็นทาสก็ยอม #เหนื่อยนักก็พักหน่อย #ชีวิตคือสมมุติ #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    💛😼💛😼TikTok@yuija6055 #เป็นทาสก็ยอม #เหนื่อยนักก็พักหน่อย #ชีวิตคือสมมุติ #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 360 มุมมอง 204 0 รีวิว
  • 🌻☕️🍉🍿🍺🌸🍎😄 #ชีวิตคือสมมุติ #เหนื่อยนักก็พักหน่อย #ว่างว่างก็แวะมา
    🌻☕️🍉🍿🍺🌸🍎😄 #ชีวิตคือสมมุติ #เหนื่อยนักก็พักหน่อย #ว่างว่างก็แวะมา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 170 0 รีวิว
  • บางคนบอกเลข 0 ไม่ดี...ถ้ามีคนยื่น แบงค์ 20 กับ แบงค์ 1000 คุณหยิบแบงค์ไหน (ก่อน)...บางคนว่า เลข 4 ไม่ดี เลข 1 ดี..สมมุติ คนโอนให้คุณ 1000 กับ 4000 แบบไหนดีกว่า..
    ...เลขทุกเลข มีความหมาย มีพลังงานดี และไม่ดี ผสมกัน ...อยู่ที่เราเลือกใช้...ให้เหมาะกับตัวเรา..
    บางคนบอกเลข 0 ไม่ดี...ถ้ามีคนยื่น แบงค์ 20 กับ แบงค์ 1000 คุณหยิบแบงค์ไหน (ก่อน)...บางคนว่า เลข 4 ไม่ดี เลข 1 ดี..สมมุติ คนโอนให้คุณ 1000 กับ 4000 แบบไหนดีกว่า.. ...เลขทุกเลข มีความหมาย มีพลังงานดี และไม่ดี ผสมกัน ...อยู่ที่เราเลือกใช้...ให้เหมาะกับตัวเรา..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิกอดชูวิทย์แนบแน่นสะท้านโลกธรรม
    .
    ผมดีใจที่สุดเมื่อวานนี้ 7 พฤศจิกายนซึ่งเป็นวันเกิดผม คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แจ้งมาว่า เขาจะมาพบผมสิบโมงครึ่งที่บ้านพระอาทิตย์ ผมไปนั่งรอที่ขั้นบันได พอรถเขามาถึงปั๊บ เขาเปิดประตูรถ ผมไปรับเขา ผมเห็นสภาพเขาเดินไม่ค่อยได้ ผมกลั้นน้ำตาไว้ วันนี้เขาอ่อนแอมาก เขาไม่ใช่สิงห์ผงาดในอดีตที่ออกมาแล้วยกมือชี้เรื่องโน้นเรื่องนี้ ผมดูสภาพเขาอายุหกสิบกว่ากับสภาพผมซึ่งเต็ม 77 กำลังจะเริ่ม 78 ปีวันนี้แล้ว เขาอ่อนแอมาก เขาบอกว่าในตับเขามีมะเร็งยาวถึง 5 เซนติเมตร ซึ่งมันผ่าไม่ได้แล้วและทานอะไรไม่ได้เลย
    .
    ผมบอกเขาว่า ชูวิทย์คุณอยู่เฉยๆก่อน ขอผมกอดคุณที ผมก็กอดเขา เขาก็กอดผมและสะอื้น ผมน้ำตาปริ่ม ผมบอกชูวิทย์ นิ่งๆนะ หายใจเข้าลึกๆ อย่าไปสนใจเสียงข้างนอก กำหนดจิตให้สงบ ไม่รู้สึกอะไร เดี๋ยวผมจะถ่ายพลังที่มีอยู่ในตัวของผมเอาไปให้คุณเพื่อรักษาตัว แล้วผมก็ภาวนาในใจและกอดเขาแน่นเลย เขาก็กอดผมแน่นเช่นกัน ผมภาวนาจนกระทั่งถึงจุดหนึ่งผมคิดว่าพอแล้ว พอผมพูดจบ ชูวิทย์สะอื้นแล้วบอกว่า พี่สนธิ ขอบคุณมาก ขอบคุณในน้ำใจพี่ สภาพเขาเดินยังแทบจะเดินไม่ได้ ต้องใช้ไม้เท้า ต้องประคองแขนทั้งสองข้าง ขากลับเขายืนยันจะเดิน ผมบอกไม่ได้ ชูวิทย์ คุณนั่งรถเข็น เดี๋ยวผมเข็นให้
    .
    ผมบอกว่า ชูวิทย์วันนี้เราไม่พูดเรื่องเก่ากันแล้วนะ เพราะคุณกับผมสวมหมวกคนละใบ อาจจะมีการปะทะกันในหลักการ แต่ผมไม่ได้โกรธคุณ และคุณก็ไม่ได้โกรธผม
    .
    นี่คือความสัมพันธ์ระหว่างผม สนธิ ลิ้มทองกุล กับคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เหตุการณ์ที่พัฒนามาจากวันนั้นถึงวันนี้ น่าจะเป็นบทเรียนในชีวิตให้กับพวกเราหลายๆ คนที่ยังคงฝังตัวเองและจมลึกอยู่ท่ามกลางความแค้น ความแค้นไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้นเลย มีแต่แผดเผาจิตใจของเรา
    .
    สำหรับผมแล้ว เรื่องเล็กมาก เพราะผมถือว่าเป็นเรื่องสมมุติ และเป็นเรื่องที่มันควรจะจบด้วยการให้อภัยและลืมมันไปซะ ชีวิตเรามันสั้น เหลือเวลาของชีวิต รักษาความเป็นมิตรภาพ สัมพันธภาพอันดี
    .
    ผมคิดว่าคุณชูวิทย์ ในช่วงสุดท้ายของชีวิต ถ้าจะเป็นช่วงสุดท้าย เขาคงอยากจะมีเพื่อนดีๆ หรือพี่ดีๆ อย่างผมที่เขาแวะมาคุยด้วยได้ มองตาแล้วเขาสบายใจ นั่นล่ะครับ ประสบการณ์ที่ผมเจอคุณชูวิทย์ สิบโมงครึ่ง ที่บ้านพระอาทิตย์
    .
    จุดจบของความสัมพันธ์ก็คือความเข้าใจกัน และความจริงใจให้กันด้วยความเต็มใจทั้งสองฝ่าย
    สนธิกอดชูวิทย์แนบแน่นสะท้านโลกธรรม . ผมดีใจที่สุดเมื่อวานนี้ 7 พฤศจิกายนซึ่งเป็นวันเกิดผม คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แจ้งมาว่า เขาจะมาพบผมสิบโมงครึ่งที่บ้านพระอาทิตย์ ผมไปนั่งรอที่ขั้นบันได พอรถเขามาถึงปั๊บ เขาเปิดประตูรถ ผมไปรับเขา ผมเห็นสภาพเขาเดินไม่ค่อยได้ ผมกลั้นน้ำตาไว้ วันนี้เขาอ่อนแอมาก เขาไม่ใช่สิงห์ผงาดในอดีตที่ออกมาแล้วยกมือชี้เรื่องโน้นเรื่องนี้ ผมดูสภาพเขาอายุหกสิบกว่ากับสภาพผมซึ่งเต็ม 77 กำลังจะเริ่ม 78 ปีวันนี้แล้ว เขาอ่อนแอมาก เขาบอกว่าในตับเขามีมะเร็งยาวถึง 5 เซนติเมตร ซึ่งมันผ่าไม่ได้แล้วและทานอะไรไม่ได้เลย . ผมบอกเขาว่า ชูวิทย์คุณอยู่เฉยๆก่อน ขอผมกอดคุณที ผมก็กอดเขา เขาก็กอดผมและสะอื้น ผมน้ำตาปริ่ม ผมบอกชูวิทย์ นิ่งๆนะ หายใจเข้าลึกๆ อย่าไปสนใจเสียงข้างนอก กำหนดจิตให้สงบ ไม่รู้สึกอะไร เดี๋ยวผมจะถ่ายพลังที่มีอยู่ในตัวของผมเอาไปให้คุณเพื่อรักษาตัว แล้วผมก็ภาวนาในใจและกอดเขาแน่นเลย เขาก็กอดผมแน่นเช่นกัน ผมภาวนาจนกระทั่งถึงจุดหนึ่งผมคิดว่าพอแล้ว พอผมพูดจบ ชูวิทย์สะอื้นแล้วบอกว่า พี่สนธิ ขอบคุณมาก ขอบคุณในน้ำใจพี่ สภาพเขาเดินยังแทบจะเดินไม่ได้ ต้องใช้ไม้เท้า ต้องประคองแขนทั้งสองข้าง ขากลับเขายืนยันจะเดิน ผมบอกไม่ได้ ชูวิทย์ คุณนั่งรถเข็น เดี๋ยวผมเข็นให้ . ผมบอกว่า ชูวิทย์วันนี้เราไม่พูดเรื่องเก่ากันแล้วนะ เพราะคุณกับผมสวมหมวกคนละใบ อาจจะมีการปะทะกันในหลักการ แต่ผมไม่ได้โกรธคุณ และคุณก็ไม่ได้โกรธผม . นี่คือความสัมพันธ์ระหว่างผม สนธิ ลิ้มทองกุล กับคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เหตุการณ์ที่พัฒนามาจากวันนั้นถึงวันนี้ น่าจะเป็นบทเรียนในชีวิตให้กับพวกเราหลายๆ คนที่ยังคงฝังตัวเองและจมลึกอยู่ท่ามกลางความแค้น ความแค้นไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้นเลย มีแต่แผดเผาจิตใจของเรา . สำหรับผมแล้ว เรื่องเล็กมาก เพราะผมถือว่าเป็นเรื่องสมมุติ และเป็นเรื่องที่มันควรจะจบด้วยการให้อภัยและลืมมันไปซะ ชีวิตเรามันสั้น เหลือเวลาของชีวิต รักษาความเป็นมิตรภาพ สัมพันธภาพอันดี . ผมคิดว่าคุณชูวิทย์ ในช่วงสุดท้ายของชีวิต ถ้าจะเป็นช่วงสุดท้าย เขาคงอยากจะมีเพื่อนดีๆ หรือพี่ดีๆ อย่างผมที่เขาแวะมาคุยด้วยได้ มองตาแล้วเขาสบายใจ นั่นล่ะครับ ประสบการณ์ที่ผมเจอคุณชูวิทย์ สิบโมงครึ่ง ที่บ้านพระอาทิตย์ . จุดจบของความสัมพันธ์ก็คือความเข้าใจกัน และความจริงใจให้กันด้วยความเต็มใจทั้งสองฝ่าย
    Like
    Love
    11
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 685 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่ก็ โกง อีกรูปแบบ ...รับเงินโอน ส่งของจริง ส่งสลิปให้ลูกค้า....แต่.....มันยกเลิก...ก่อนถึงรอบของออกจากที่ทำการ......สมมุติรอบของออก บ่าย 3 มันก็ยกเลิกก่อนหน้านั้น เอาของกลับ...เงินได้ ของอยู่..ครบ
    นี่ก็ โกง อีกรูปแบบ ...รับเงินโอน ส่งของจริง ส่งสลิปให้ลูกค้า....แต่.....มันยกเลิก...ก่อนถึงรอบของออกจากที่ทำการ......สมมุติรอบของออก บ่าย 3 มันก็ยกเลิกก่อนหน้านั้น เอาของกลับ...เงินได้ ของอยู่..ครบ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่ก็ โกง อีกรูปแบบ ...รับเงินโอน ส่งของจริง ส่งสบิปให้ลูกค้า....แต่.....มันยกเลิก...ก่อนถึงรอบของออกจากที่ทำการ......สมมุติรอบของออก บ่าย 3 มันก็ยกเลิกก่อนหน้านั้น เอาของกลับ...เงินได้ ของอยู่..
    นี่ก็ โกง อีกรูปแบบ ...รับเงินโอน ส่งของจริง ส่งสบิปให้ลูกค้า....แต่.....มันยกเลิก...ก่อนถึงรอบของออกจากที่ทำการ......สมมุติรอบของออก บ่าย 3 มันก็ยกเลิกก่อนหน้านั้น เอาของกลับ...เงินได้ ของอยู่..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชีวิตคือสมมุติ @TikTok@yuija6055 #ซีรีส์ #wetv #จางอวิ๋นหลงzhangyunlong #ซุนอี๋sunyi #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    ชีวิตคือสมมุติ @TikTok@yuija6055 #ซีรีส์ #wetv #จางอวิ๋นหลงzhangyunlong #ซุนอี๋sunyi #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 614 มุมมอง 277 0 รีวิว
  • ชีวิตคือสมมุติ TikTok@yuija6055 #ซีรีส์ #wetv #จางอวิ๋นหลงzhangyunlong #ซุนอี๋sunyi #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    ชีวิตคือสมมุติ TikTok@yuija6055 #ซีรีส์ #wetv #จางอวิ๋นหลงzhangyunlong #ซุนอี๋sunyi #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 609 มุมมอง 124 0 รีวิว
  • อยู่เพื่อเรียนรู้ อยู่เพื่อยอมรับมันTikTok@suthioquslh #yayatiktok #ชีวิตคือสมมุติ #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    อยู่เพื่อเรียนรู้ อยู่เพื่อยอมรับมันTikTok@suthioquslh #yayatiktok #ชีวิตคือสมมุติ #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 298 มุมมอง 77 0 รีวิว
  • ชีวิตคือสมมุติ TikTok@yuija6055 #ซีรีส์ #จางอวิ๋นหลงzhangyunlong #wetv #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    ชีวิตคือสมมุติ TikTok@yuija6055 #ซีรีส์ #จางอวิ๋นหลงzhangyunlong #wetv #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 426 มุมมอง 75 0 รีวิว
  • ชึวิตคือสมมุติ TikTok@yuija6055 #ซีรีส์ #wetv #จางอวิ๋นหลงzhangyunlong #หูอีเทียนhuyitian #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    ชึวิตคือสมมุติ TikTok@yuija6055 #ซีรีส์ #wetv #จางอวิ๋นหลงzhangyunlong #หูอีเทียนhuyitian #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 390 มุมมอง 112 0 รีวิว
Pages Boosts