• ‘อัศวิน’ เข้าสภาแล้ว! ลั่นพร้อมเป็น สส.ทำงานให้ประชาชนทั่วประเทศ! เชื่อ "ผู้ว่าฯชัชชาติ" รับมือน้ำท่วมได้
    https://www.thai-tai.tv/news/21396/
    .
    #ไทยไท #อัศวินขวัญเมือง #รวมไทยสร้างชาติ #สส #สภาผู้แทนราษฎร #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    ‘อัศวิน’ เข้าสภาแล้ว! ลั่นพร้อมเป็น สส.ทำงานให้ประชาชนทั่วประเทศ! เชื่อ "ผู้ว่าฯชัชชาติ" รับมือน้ำท่วมได้ https://www.thai-tai.tv/news/21396/ . #ไทยไท #อัศวินขวัญเมือง #รวมไทยสร้างชาติ #สส #สภาผู้แทนราษฎร #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 Comments 0 Shares 26 Views 0 Reviews
  • ..จริงๆนายกฯหนู ยกเลิกผ่านมติ ครม.ของตนเองก็จบแล้ว,ทำได้ทันทีด้วย,หรือตัดสินใจด้วยตนเองคนเดียวก็ได้เพราะMOUนี้ผิดขั้นตอนไม่ชอบธรรมด้วยกฎหมายประชาธิปไตยไทยแต่ต้นแล้ว ไม่นำเข้าสภาฯใดๆเลยด้วยแต่แรก จึงด้วยสถานะนายกฯอำนาจเต็มสามารถโมฆะMOU43,44นี้ได้อย่างชอบธรรม.
    ..นายกฯไม่จำเป็นต้องนำเข้าคณะครม.ตนก็ได้,คนไทยจะเห็นความเด็ดขาดนายกฯหนูโน้น,เพราะกล้าเหยียบเขมรและฮุนเซนจริงแท้คนไทย,ก่อนมาเป็นนายกฯพรรคภูมิใจไทย พรรคภูมิใจไทยก็เป็นตัวตั้งตัวตีเสนอยกเลิกMOU43,44นะ,
    ..นายกฯรัฐบาลนี้ทำได้จะรอดพ้น(ประวัติศาสตร์จะมีข้อยกเว้นว่ารัฐบาลยุคนายกฯหนูไม่มีข้อหานี้ด้วย)จากข้อหากบฎ ม.119เจตนาทำให้เสียหาย สูญเสียดินแดนอธิปไตยชาติโดยกอดmou43,44tor46นี้ไว้โทษประหารชีวิตอย่างเดียวและ ม.157 ทันที ,ก้มหน้าไม่อายครอบครัวคนอีสานที่ตายเกือบยกครัว คนไทยชาวบ้านที่บริสุทธิ์มากมายต้องตายไป มันยิงโรงพยาบาลไทย มันระบุพิกัดชัดเจนกะระยะยิงตกชัดมีหลักฐานจากกูรูสายข่าวว่ามันล็อกเป้ายิง7/11ปั้มน้ำมันจริง,และอื่นๆด้วย,เงยหน้าไม่ละอายต่อทหารหาญที่สูญเสียชีวิตทั้งพิการและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก,อย่าทรยศหักหลังประชาชนนะ,
    ..นายกฯหนูและรัฐบาลชุดนี้4เดือนจะแตกต่างทันทีกับจุดยืนสมัยยุคอภิสิทธิ์ยุคลุงตู่ยึดอำนาจแท้ๆแต่ไม่ยอมยกเลิกMOU43,44กอดคาจนหมดอำนาจจากการยึดอำนาจและจนหมดอำนาจจากนั่งตำแหน่งนายกฯสมัยลุง,ละเว้นปฏิบัติหน้าที่จน อ.วีระ จะฟ้องแน่นอนแล้วที่ประกาศออกสื่อชัดเจนบวกหลักฐานบ้านหนองจานที่ยืนบนแผ่นดินไทยชัดเจนนั้นด้วยแต่สุมหัวเจตนาทำให้สูญเสียดินแดนไทยบอกว่าตรงจุด อ.วีระถูกจับเป็นดินแดนแผ่นดินเขมรนะ จนอยู่คุกเขมรสมบูรณ์เป็นความผิดในเจตนา ม.119แล้วด้วย ม.157ก็ด้วย,ไม่รวมตรึมทั้ง11จุดได้คืนจากเขมรด้วยที่บิ๊กกุ้งถีบ้ขมรออกจากพื้นที่ประเทศไทยจริง
    ..อย่าทรยศหักหลังเหมือนพรรคการเมืองในอดีตนะ กัญชาเสรีคือบทเรียน.
    ..ทำกัญชาเสรีจริงๆจะมีประโยชน์มากแต่หักหลังประชาชนปลูกผีบ้าอะไรคนละ6ต้น ต้องปลูกสกัดทำยาส่ง รพ.จริงเสรีด้วย.
    ..คนชาวบ้านไทบ้านจะมีตังใช้จ่ายจริง มุกกีดกันประชาชนตรึม วิจัยเอย โรงเรือนต้องมาตราฐานลงทุนเป็นหมื่นเป็นแสน แดกค่าใบอนุญาตอีก สาระพัดมุกเหี้ยๆต่อชาวบ้านมิให้มีโอกาสจริง เงื่อนไขกติกามากมายจนเป็นภาระ ต้องสไตล์ปลูกพืชผักสวนครัวโน้น อยากกินอยากปลูกตอนไหนก็ปลูก,ชุมชนควบคุมดูแลรักษาความสงบร่วมกัน บริหารจัดการผลิตผลการตลาดช่วยเหลือคนไทยจริงจังด้วย,มิใช่สร้างต้นทุนแพงๆสูงๆต้นทุนแก่ชาวบ้านคนปลูกจึงสร้างความลำบากและสร้างให้ยากชัดเจนไม่มีเจตนาดีจริงต่อการช่วยสร้างรายรับแก่ประชาชน สร้างฐานต้นทุนยารักษาโรคที่ราคาถูกบนแผ่นดินไทยด้วย,ต่างชาติล็อบบี้โคตรๆเพื่อทำลายนโยบายนี้เพราะกระทบบริษัทยาทั่วโลกจริง,กำจัดแมลงพืชผลทางการเกษตรก็ได้ด้วย ภัยร้ายแรงต่อบริษัทยารักษาคนและบริษัทยาฆ่าแมลงกำจัดแมลงโรคพืชและสัตว์เลี้ยง,หว่านตามป่าตามเขาปลายนาก็เกิดเติบโตใหญ่แล้ว สามารถผสมสินค้าอุปโภคบริโภคได้จริงกว่า50,000รายการสินค้า ใยกัญชากัญชงสร้างชุดเกราะได้ สร้างโครงโครงรถยนต์น้ำหนักเบาประหยัดพลังงานและแข็งแรงได้,พื้นที่ปลูกกัญชาต้องให้คนละ1ถึง2ไร่เลยไม่เกินนั้น,1ไร่กัญชา ,อีก1ไร่กัญชง,เพื่อสกัดยาฯสุขภาพรักษาโรคครอบจักรวาลต้นทุนต่ำได้จริง,ใยกัญชาใยกัญชงก็จะเพียงพอด้วย,ต่างชาติอิจฉาสุดๆในความเสรีเรา,คนไม่ดีโจมตีแค่โทษนิดเดียวก็เป็นธรรมดา,จากผิดพลาดกัญชาเสรี ยุคตนเป็นนายกฯ4เดือนสามารถปัดฝุ่นได้เลย,ตนเป็นนายกฯจริงแล้วด้วย,ทำสิ่งที่ถูกต้องค่าจริงก็จบดีแน่นอน,MOU43,44ตนเป็นนายกฯแล้วถือโอกาสทำคุณไถ่โทษต่อแผ่นดินไทยที่กระทำไปเสียจะคดีฮั่วสว.หรือเขากระโดง ก็ตาม ทำปัจจุบันนี้จริงจังมิใช่ผีบ้าปั่นคนละครึ่งหักเหความสนใจประชาชนไป,ตนต้องยกเลิกMOU43,44ทำจริงทำชัดเจนและรวดเร็วซึ่งสามารถจบเรื่องนี้ได้ไม่เกินวันศุกร์นี้มอบความสุขแก่คนไทยเลยคือยกเลิกMOU43,44พร้อมประกาศโดยเป็นทางการว่ารัฐบาลไทยรับรอง1:50,000เท่านั้นและเสาหมุดเขตแดนสยาม74เสาแค่นั้นที่เกิดก่อนMOUนี้อีกจะดำเนินการสร้างรั้วลวดหนามทันทีด้วยตลอดแนวพรมแดน74เสาเขตแดนแม้พื้นที่สันปันน้ำก็จะสร้างรั้วลวดหนามด้วย,พรรคภูมิใจไทยต้องทำสิ่งนี้ให้ชัดเจนก่อนภายในอาทิตย์คือ9,10,11,และวันศุกร์มอบความสุขแก่คนไทยทั้งประเทศขึ้นแถลงอย่างเป็นทางการทั่วประเทศว่า "ในนานนายฯคนที่32ปัจจุบันของประกาศยกเลิกMOU43และ44อย่างเป็นทางการฝ่ายเดียวที่สามารถกระทำได้ชอบธรรมต่อประเทศเขมรที่รุกรานหมายยึดดินแดนอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา ทั้งยกเลิกข้อตกลงหยุดยิงทั้ง13ข้อโดยทันทีด้วยซึ่งประเทศเขมรละเมิดมาโดยตลอด.,จึงให้เป็นทางการไว้และมีผลทันทีนับจากเวลานี้" นี้ต้องสร้างฟอร์มตนเองแบบนี้ ตนเป็นนายกฯจริงแล้ว แม้มีเวลาไม่กี่เดือนก็สามารถทำเรื่องนี้ทันทีได้,ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ คนไทยเลือกแน่นอน,แต่ถ้าแสวงหาทางชั่ว คนไทยดูออกทันทีนะ,ดับอนาถแน่นอน นายกฯคนที่33รออยู่ ยุบพรรคภูมิใจไทยมาเร็วกว่ากำหนดแน่นอนบวกพลังงานสาปแซงของคนไทยทั่วประเทศร่วมด้วยคนดับอนาถยิ่งกว่าเดิมอีก,ทางมี2ทงให้เลือกจะอยู่อย่างหมาขี้เรื้อนหรือสิงโตราชสีห์.นายกฯคนที่32เลือกได้ ราชัญกัญชาต่อยอดเพื่อปากท้องจริงแก่ประชาชนเลย ลุยเลยมาถูกทางแล้ว เป็นใหญ่แล้ว,บอกค่าจริง ใช้ให้ถูกก็จบ เหมือนรถยนต์ขับตำกำแพงก็สมควรตายนั้นล่ะ,เขาให้ถึงเป้าหมายที่ต้องการไปมันก็เกิดประโยชน์ นี้คือทองคำเขียวชัดเจน กว่าบ่อน้ำมันอีก บีบสกัดทำน้ำมันไบโอดีเซลก็ได้,บริษัทยาบิ๊กฟาร์มม่าอเมริกาฝรั่งต่างชาติหรือโรงงานใยกระดาษกลัวจะตายหรือโรงงานผลิตอะไรๆต่างๆก็ด้วย เพราะมันประยุกต์ใช้ทำโครงสร้างวัสดุใดๆผสมมวลมันใดๆให้โลหะวัสดุนั้นๆแข็งแกร่งขึ้นไปอีกลดวัตถุดิบหลักต้นทุนทำก็ได้ด้วย,แหล่งทำเงินภายใน4เดือนกันเลยต่อเกษตรกรไทย ,ธรรมนัสคุมเกษตรฯเหมาะอีก,ปลูกฝิ่นเสรีด้วยเลย555,สกัดทำยาพาราฯสมุนไพรไทยได้ ยาแก้ปวดอย่างดีควบคุมให้ดีหรือเสรีให้เหมาะสม ลดการนำเข้ายารักษาโรคภายในโรงพยาบาลไทยหลายล้านล้านบาทเลยนะ,ส่งออกประเทศทำสงครามโลกที่3ในอนาคตก็ได้ตลาดเม็ดเงินยาแก้ปวดข้มเข้นอย่างดีมหาศาลเม็ดเงินช่วยเกษตรกรไทยกว่า2-3ล้านล้านบาทหรือกว่า10ล้านล้านบาทสบาย ใช้ในทางที่ถูก ควบคุมให้โปร่งใสมิใช่เหี้ยแบบอดีตไปปลูกข้างๆบ้านเป็นหมื่นเป็นแสนหรือล้านไร่หวังเอาเข้ามาขายแดกในไทยแบบที่แฉๆในสภาก็เหี้ยเกินไป,แมร่งอเมริกายึดบ่อน้ำมันไทยทั่วประเทศก็ทำบ่อเงินบ่อทองนี้ให้เต็มที่แทนก็ได้แต่ต้องโปร่งใสจริงอย่าให้ต่างชาติมาแทรกแซงได้อีก,ฮับโรงพยาบาลโลกด้านสมุนไพรคู่AIการแพทย์ชีวภาพยุคใหม่กึ่งจักรกลก็ได้,ใครพิการจักรกลก็ช่วยได้,หรืออนาคตเทคโนโลยีสร้างมวลเนื้อใหม่ของต่างดาวถ่ายทอดมาคู่สมุนไพรดำเนินชีวิตรักษาสุขภาพก็โอเคได้หมด,บ่อน้ำมันอาจดับอนาคตแล้วเพราะใช้การขับเคลื่อนด้วยพลังงานสนามแม่เหล็กโลกหรือพลังงานฟรีเทสล่ากันแล้ว.

    .."พรรคภูมิใจไทยเห็นด้วยกับการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2543 และ 2544 ระหว่างไทยกับกัมพูชา"

    ภูมิใจไทยจี้ สภาถกญัตติยกเลิก MOU 43-44 ตั้ง กมธ. ก่อนเสนอรัฐบาลทำประชามติ
    โดย THE STANDARD TEAM
    05.08.2025

    วันนี้ (5 สิงหาคม) ที่พรรคภูมิใจไทย แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส. อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงกรณี สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส. กระบี่ พรรคภูมิใจไทย และคณะ ยื่นญัตติด่วน เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาดำเนินการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2543 และ 2544 ระหว่างไทยกับกัมพูชาว่า พรรคภูมิใจไทยเห็นด้วย และอยากให้สภานำญัตตินี้มาพิจารณา เพื่อให้เห็นถึงข้อดี-ข้อด้อย และข้อที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศในเอ็มโอยูดังกล่าว เพื่อที่ขั้นต่อไปเราอยากให้มีการทำประชามติรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ว่าการเซ็นเอ็มโอยูดังกล่าวมีประโยชน์หรือโทษอะไรบ้าง

    “แน่นอนว่าเราเห็นโทษของ MOU ดังกล่าวแน่นอน เพราะตลอด 10 กว่าวันที่ผ่านมา เราเห็นชัดว่าข้อผิดพลาดเป็นอย่างไร ส่งผลกระทบถึงประชาชนแค่ไหน จึงเสนอญัตตินี้เพื่ออยากให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) โดยใช้ระยะเวลาสั้นที่สุด เพื่อที่จะได้นำเสนอต่อรัฐบาลให้ทำประชามติโดยเร็ว” โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าว


    https://thestandard.co/thai-cambodia-mou-termination/




    ..จริงๆนายกฯหนู ยกเลิกผ่านมติ ครม.ของตนเองก็จบแล้ว,ทำได้ทันทีด้วย,หรือตัดสินใจด้วยตนเองคนเดียวก็ได้เพราะMOUนี้ผิดขั้นตอนไม่ชอบธรรมด้วยกฎหมายประชาธิปไตยไทยแต่ต้นแล้ว ไม่นำเข้าสภาฯใดๆเลยด้วยแต่แรก จึงด้วยสถานะนายกฯอำนาจเต็มสามารถโมฆะMOU43,44นี้ได้อย่างชอบธรรม. ..นายกฯไม่จำเป็นต้องนำเข้าคณะครม.ตนก็ได้,คนไทยจะเห็นความเด็ดขาดนายกฯหนูโน้น,เพราะกล้าเหยียบเขมรและฮุนเซนจริงแท้คนไทย,ก่อนมาเป็นนายกฯพรรคภูมิใจไทย พรรคภูมิใจไทยก็เป็นตัวตั้งตัวตีเสนอยกเลิกMOU43,44นะ, ..นายกฯรัฐบาลนี้ทำได้จะรอดพ้น(ประวัติศาสตร์จะมีข้อยกเว้นว่ารัฐบาลยุคนายกฯหนูไม่มีข้อหานี้ด้วย)จากข้อหากบฎ ม.119เจตนาทำให้เสียหาย สูญเสียดินแดนอธิปไตยชาติโดยกอดmou43,44tor46นี้ไว้โทษประหารชีวิตอย่างเดียวและ ม.157 ทันที ,ก้มหน้าไม่อายครอบครัวคนอีสานที่ตายเกือบยกครัว คนไทยชาวบ้านที่บริสุทธิ์มากมายต้องตายไป มันยิงโรงพยาบาลไทย มันระบุพิกัดชัดเจนกะระยะยิงตกชัดมีหลักฐานจากกูรูสายข่าวว่ามันล็อกเป้ายิง7/11ปั้มน้ำมันจริง,และอื่นๆด้วย,เงยหน้าไม่ละอายต่อทหารหาญที่สูญเสียชีวิตทั้งพิการและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก,อย่าทรยศหักหลังประชาชนนะ, ..นายกฯหนูและรัฐบาลชุดนี้4เดือนจะแตกต่างทันทีกับจุดยืนสมัยยุคอภิสิทธิ์ยุคลุงตู่ยึดอำนาจแท้ๆแต่ไม่ยอมยกเลิกMOU43,44กอดคาจนหมดอำนาจจากการยึดอำนาจและจนหมดอำนาจจากนั่งตำแหน่งนายกฯสมัยลุง,ละเว้นปฏิบัติหน้าที่จน อ.วีระ จะฟ้องแน่นอนแล้วที่ประกาศออกสื่อชัดเจนบวกหลักฐานบ้านหนองจานที่ยืนบนแผ่นดินไทยชัดเจนนั้นด้วยแต่สุมหัวเจตนาทำให้สูญเสียดินแดนไทยบอกว่าตรงจุด อ.วีระถูกจับเป็นดินแดนแผ่นดินเขมรนะ จนอยู่คุกเขมรสมบูรณ์เป็นความผิดในเจตนา ม.119แล้วด้วย ม.157ก็ด้วย,ไม่รวมตรึมทั้ง11จุดได้คืนจากเขมรด้วยที่บิ๊กกุ้งถีบ้ขมรออกจากพื้นที่ประเทศไทยจริง ..อย่าทรยศหักหลังเหมือนพรรคการเมืองในอดีตนะ กัญชาเสรีคือบทเรียน. ..ทำกัญชาเสรีจริงๆจะมีประโยชน์มากแต่หักหลังประชาชนปลูกผีบ้าอะไรคนละ6ต้น ต้องปลูกสกัดทำยาส่ง รพ.จริงเสรีด้วย. ..คนชาวบ้านไทบ้านจะมีตังใช้จ่ายจริง มุกกีดกันประชาชนตรึม วิจัยเอย โรงเรือนต้องมาตราฐานลงทุนเป็นหมื่นเป็นแสน แดกค่าใบอนุญาตอีก สาระพัดมุกเหี้ยๆต่อชาวบ้านมิให้มีโอกาสจริง เงื่อนไขกติกามากมายจนเป็นภาระ ต้องสไตล์ปลูกพืชผักสวนครัวโน้น อยากกินอยากปลูกตอนไหนก็ปลูก,ชุมชนควบคุมดูแลรักษาความสงบร่วมกัน บริหารจัดการผลิตผลการตลาดช่วยเหลือคนไทยจริงจังด้วย,มิใช่สร้างต้นทุนแพงๆสูงๆต้นทุนแก่ชาวบ้านคนปลูกจึงสร้างความลำบากและสร้างให้ยากชัดเจนไม่มีเจตนาดีจริงต่อการช่วยสร้างรายรับแก่ประชาชน สร้างฐานต้นทุนยารักษาโรคที่ราคาถูกบนแผ่นดินไทยด้วย,ต่างชาติล็อบบี้โคตรๆเพื่อทำลายนโยบายนี้เพราะกระทบบริษัทยาทั่วโลกจริง,กำจัดแมลงพืชผลทางการเกษตรก็ได้ด้วย ภัยร้ายแรงต่อบริษัทยารักษาคนและบริษัทยาฆ่าแมลงกำจัดแมลงโรคพืชและสัตว์เลี้ยง,หว่านตามป่าตามเขาปลายนาก็เกิดเติบโตใหญ่แล้ว สามารถผสมสินค้าอุปโภคบริโภคได้จริงกว่า50,000รายการสินค้า ใยกัญชากัญชงสร้างชุดเกราะได้ สร้างโครงโครงรถยนต์น้ำหนักเบาประหยัดพลังงานและแข็งแรงได้,พื้นที่ปลูกกัญชาต้องให้คนละ1ถึง2ไร่เลยไม่เกินนั้น,1ไร่กัญชา ,อีก1ไร่กัญชง,เพื่อสกัดยาฯสุขภาพรักษาโรคครอบจักรวาลต้นทุนต่ำได้จริง,ใยกัญชาใยกัญชงก็จะเพียงพอด้วย,ต่างชาติอิจฉาสุดๆในความเสรีเรา,คนไม่ดีโจมตีแค่โทษนิดเดียวก็เป็นธรรมดา,จากผิดพลาดกัญชาเสรี ยุคตนเป็นนายกฯ4เดือนสามารถปัดฝุ่นได้เลย,ตนเป็นนายกฯจริงแล้วด้วย,ทำสิ่งที่ถูกต้องค่าจริงก็จบดีแน่นอน,MOU43,44ตนเป็นนายกฯแล้วถือโอกาสทำคุณไถ่โทษต่อแผ่นดินไทยที่กระทำไปเสียจะคดีฮั่วสว.หรือเขากระโดง ก็ตาม ทำปัจจุบันนี้จริงจังมิใช่ผีบ้าปั่นคนละครึ่งหักเหความสนใจประชาชนไป,ตนต้องยกเลิกMOU43,44ทำจริงทำชัดเจนและรวดเร็วซึ่งสามารถจบเรื่องนี้ได้ไม่เกินวันศุกร์นี้มอบความสุขแก่คนไทยเลยคือยกเลิกMOU43,44พร้อมประกาศโดยเป็นทางการว่ารัฐบาลไทยรับรอง1:50,000เท่านั้นและเสาหมุดเขตแดนสยาม74เสาแค่นั้นที่เกิดก่อนMOUนี้อีกจะดำเนินการสร้างรั้วลวดหนามทันทีด้วยตลอดแนวพรมแดน74เสาเขตแดนแม้พื้นที่สันปันน้ำก็จะสร้างรั้วลวดหนามด้วย,พรรคภูมิใจไทยต้องทำสิ่งนี้ให้ชัดเจนก่อนภายในอาทิตย์คือ9,10,11,และวันศุกร์มอบความสุขแก่คนไทยทั้งประเทศขึ้นแถลงอย่างเป็นทางการทั่วประเทศว่า "ในนานนายฯคนที่32ปัจจุบันของประกาศยกเลิกMOU43และ44อย่างเป็นทางการฝ่ายเดียวที่สามารถกระทำได้ชอบธรรมต่อประเทศเขมรที่รุกรานหมายยึดดินแดนอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา ทั้งยกเลิกข้อตกลงหยุดยิงทั้ง13ข้อโดยทันทีด้วยซึ่งประเทศเขมรละเมิดมาโดยตลอด.,จึงให้เป็นทางการไว้และมีผลทันทีนับจากเวลานี้" นี้ต้องสร้างฟอร์มตนเองแบบนี้ ตนเป็นนายกฯจริงแล้ว แม้มีเวลาไม่กี่เดือนก็สามารถทำเรื่องนี้ทันทีได้,ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ คนไทยเลือกแน่นอน,แต่ถ้าแสวงหาทางชั่ว คนไทยดูออกทันทีนะ,ดับอนาถแน่นอน นายกฯคนที่33รออยู่ ยุบพรรคภูมิใจไทยมาเร็วกว่ากำหนดแน่นอนบวกพลังงานสาปแซงของคนไทยทั่วประเทศร่วมด้วยคนดับอนาถยิ่งกว่าเดิมอีก,ทางมี2ทงให้เลือกจะอยู่อย่างหมาขี้เรื้อนหรือสิงโตราชสีห์.นายกฯคนที่32เลือกได้ ราชัญกัญชาต่อยอดเพื่อปากท้องจริงแก่ประชาชนเลย ลุยเลยมาถูกทางแล้ว เป็นใหญ่แล้ว,บอกค่าจริง ใช้ให้ถูกก็จบ เหมือนรถยนต์ขับตำกำแพงก็สมควรตายนั้นล่ะ,เขาให้ถึงเป้าหมายที่ต้องการไปมันก็เกิดประโยชน์ นี้คือทองคำเขียวชัดเจน กว่าบ่อน้ำมันอีก บีบสกัดทำน้ำมันไบโอดีเซลก็ได้,บริษัทยาบิ๊กฟาร์มม่าอเมริกาฝรั่งต่างชาติหรือโรงงานใยกระดาษกลัวจะตายหรือโรงงานผลิตอะไรๆต่างๆก็ด้วย เพราะมันประยุกต์ใช้ทำโครงสร้างวัสดุใดๆผสมมวลมันใดๆให้โลหะวัสดุนั้นๆแข็งแกร่งขึ้นไปอีกลดวัตถุดิบหลักต้นทุนทำก็ได้ด้วย,แหล่งทำเงินภายใน4เดือนกันเลยต่อเกษตรกรไทย ,ธรรมนัสคุมเกษตรฯเหมาะอีก,ปลูกฝิ่นเสรีด้วยเลย555,สกัดทำยาพาราฯสมุนไพรไทยได้ ยาแก้ปวดอย่างดีควบคุมให้ดีหรือเสรีให้เหมาะสม ลดการนำเข้ายารักษาโรคภายในโรงพยาบาลไทยหลายล้านล้านบาทเลยนะ,ส่งออกประเทศทำสงครามโลกที่3ในอนาคตก็ได้ตลาดเม็ดเงินยาแก้ปวดข้มเข้นอย่างดีมหาศาลเม็ดเงินช่วยเกษตรกรไทยกว่า2-3ล้านล้านบาทหรือกว่า10ล้านล้านบาทสบาย ใช้ในทางที่ถูก ควบคุมให้โปร่งใสมิใช่เหี้ยแบบอดีตไปปลูกข้างๆบ้านเป็นหมื่นเป็นแสนหรือล้านไร่หวังเอาเข้ามาขายแดกในไทยแบบที่แฉๆในสภาก็เหี้ยเกินไป,แมร่งอเมริกายึดบ่อน้ำมันไทยทั่วประเทศก็ทำบ่อเงินบ่อทองนี้ให้เต็มที่แทนก็ได้แต่ต้องโปร่งใสจริงอย่าให้ต่างชาติมาแทรกแซงได้อีก,ฮับโรงพยาบาลโลกด้านสมุนไพรคู่AIการแพทย์ชีวภาพยุคใหม่กึ่งจักรกลก็ได้,ใครพิการจักรกลก็ช่วยได้,หรืออนาคตเทคโนโลยีสร้างมวลเนื้อใหม่ของต่างดาวถ่ายทอดมาคู่สมุนไพรดำเนินชีวิตรักษาสุขภาพก็โอเคได้หมด,บ่อน้ำมันอาจดับอนาคตแล้วเพราะใช้การขับเคลื่อนด้วยพลังงานสนามแม่เหล็กโลกหรือพลังงานฟรีเทสล่ากันแล้ว. .."พรรคภูมิใจไทยเห็นด้วยกับการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2543 และ 2544 ระหว่างไทยกับกัมพูชา" ภูมิใจไทยจี้ สภาถกญัตติยกเลิก MOU 43-44 ตั้ง กมธ. ก่อนเสนอรัฐบาลทำประชามติ โดย THE STANDARD TEAM 05.08.2025 วันนี้ (5 สิงหาคม) ที่พรรคภูมิใจไทย แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส. อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงกรณี สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส. กระบี่ พรรคภูมิใจไทย และคณะ ยื่นญัตติด่วน เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาดำเนินการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2543 และ 2544 ระหว่างไทยกับกัมพูชาว่า พรรคภูมิใจไทยเห็นด้วย และอยากให้สภานำญัตตินี้มาพิจารณา เพื่อให้เห็นถึงข้อดี-ข้อด้อย และข้อที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศในเอ็มโอยูดังกล่าว เพื่อที่ขั้นต่อไปเราอยากให้มีการทำประชามติรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ว่าการเซ็นเอ็มโอยูดังกล่าวมีประโยชน์หรือโทษอะไรบ้าง “แน่นอนว่าเราเห็นโทษของ MOU ดังกล่าวแน่นอน เพราะตลอด 10 กว่าวันที่ผ่านมา เราเห็นชัดว่าข้อผิดพลาดเป็นอย่างไร ส่งผลกระทบถึงประชาชนแค่ไหน จึงเสนอญัตตินี้เพื่ออยากให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) โดยใช้ระยะเวลาสั้นที่สุด เพื่อที่จะได้นำเสนอต่อรัฐบาลให้ทำประชามติโดยเร็ว” โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าว https://thestandard.co/thai-cambodia-mou-termination/
    THESTANDARD.CO
    ภูมิใจไทยจี้ สภาถกญัตติยกเลิก MOU 43-44 ตั้ง กมธ. ก่อนเสนอรัฐบาลทำประชามติ
    ที่ พรรคภูมิใจไทย แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส. อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงกรณี สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส. กระบี่ พรรคภูมิใจไทย และ...
    0 Comments 0 Shares 156 Views 0 Reviews
  • วันนี้ (7 ก.ย. 2568) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมด นายอนุทินเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หลังสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ตามรัฐธรรมนูญ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085512

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    วันนี้ (7 ก.ย. 2568) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมด นายอนุทินเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หลังสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ตามรัฐธรรมนูญ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000085512 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 567 Views 0 Reviews
  • ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ขณะที่นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ได้ 152 เสียง โดยพรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่โหวตให้นายชัยเกษม ยกเว้นงูเห่าที่ปรากฏตัวก่อนหน้านี้ แต่ที่เป็นไฮไลต์คือ นายเฉลิม อยู่บำรุง โหวตหนุนนายอนุทิน ขณะที่นายอนุทินงดออกเสียงโหวตให้ตัวเอง ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ส่วนใหญ่งดออกเสียงตามมติพรรค แต่บางส่วนใช้เอกสิทธิ์ สส. โหวตให้นายอนุทิน และที่เป็นไปตามคาดคือพรรคพลังประชารัฐ โหวตให้นายอนุทิน แต่มี 2 คน ที่โหวตให้นายชัยเกษม คือ นายปริญญา ฤกษ์หร่าย สส.กำแพงเพชร และ นายอนันต์ ผลอำนวย สส.กำแพงเพชร พรรคชาติไทยพัฒนา โหวตให้นายชัยเกษม ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติทั้งสองกลุ่ม รวมทั้งนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ โหวตให้นายอนุทิน

    -ไม่ตัดสินใจเพื่อความนิยม
    -หวั่น"อนุทิน"แทรกแซงคดี
    -ปูดเงินสะพัด 2 พันล้าน
    -ปลดล็อก"ทักษิณ"ห้ามบิน
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ขณะที่นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ได้ 152 เสียง โดยพรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่โหวตให้นายชัยเกษม ยกเว้นงูเห่าที่ปรากฏตัวก่อนหน้านี้ แต่ที่เป็นไฮไลต์คือ นายเฉลิม อยู่บำรุง โหวตหนุนนายอนุทิน ขณะที่นายอนุทินงดออกเสียงโหวตให้ตัวเอง ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ส่วนใหญ่งดออกเสียงตามมติพรรค แต่บางส่วนใช้เอกสิทธิ์ สส. โหวตให้นายอนุทิน และที่เป็นไปตามคาดคือพรรคพลังประชารัฐ โหวตให้นายอนุทิน แต่มี 2 คน ที่โหวตให้นายชัยเกษม คือ นายปริญญา ฤกษ์หร่าย สส.กำแพงเพชร และ นายอนันต์ ผลอำนวย สส.กำแพงเพชร พรรคชาติไทยพัฒนา โหวตให้นายชัยเกษม ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติทั้งสองกลุ่ม รวมทั้งนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ โหวตให้นายอนุทิน -ไม่ตัดสินใจเพื่อความนิยม -หวั่น"อนุทิน"แทรกแซงคดี -ปูดเงินสะพัด 2 พันล้าน -ปลดล็อก"ทักษิณ"ห้ามบิน
    Like
    Angry
    3
    0 Comments 1 Shares 465 Views 0 0 Reviews
  • นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีหนังสือด่วนที่สุดถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แจ้งเรื่องระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพิ่มเติม โดยบรรจุเรื่องด่วนที่ 8 พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพิ่มเติมในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 ปีที่ 3 ครั้งที่ 20 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 เป็นพิเศษ ในวันศุกร์ที่ 5 กันยายน 2568 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ที่ประชุมวิป 2 ฝ่าย ไม่สามารถตกลงกันได้

    -ไร้ปัญหาข้อกฎหมาย
    -ไม่มีคำตอบจาก"ภูมิธรรม"
    -ภาค 1 ซีลชายแดน 16 กม.
    -การเมืองเซกระทบเบิกงบ
    นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีหนังสือด่วนที่สุดถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แจ้งเรื่องระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพิ่มเติม โดยบรรจุเรื่องด่วนที่ 8 พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพิ่มเติมในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 ปีที่ 3 ครั้งที่ 20 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 เป็นพิเศษ ในวันศุกร์ที่ 5 กันยายน 2568 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ที่ประชุมวิป 2 ฝ่าย ไม่สามารถตกลงกันได้ -ไร้ปัญหาข้อกฎหมาย -ไม่มีคำตอบจาก"ภูมิธรรม" -ภาค 1 ซีลชายแดน 16 กม. -การเมืองเซกระทบเบิกงบ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 340 Views 0 0 Reviews
  • ปิดฉากศึกชิงเก้าอี้นายกฯ หลังยืดเยื้อมานาน สภาผู้แทนราษฎรนัดโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ คนที่ 32 วันที่ 5 ก.ย.เพื่อไทยศิโรราบถอยไปรับบทฝ่ายค้านร่วมพรรคประชาชน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000084504

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    ปิดฉากศึกชิงเก้าอี้นายกฯ หลังยืดเยื้อมานาน สภาผู้แทนราษฎรนัดโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ คนที่ 32 วันที่ 5 ก.ย.เพื่อไทยศิโรราบถอยไปรับบทฝ่ายค้านร่วมพรรคประชาชน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000084504 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 283 Views 0 Reviews
  • ปิดฉากศึกชิงเก้าอี้นายกฯ หลังยืดเยื้อมานาน สภาผู้แทนราษฎรนัดโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ คนที่ 32 วันที่ 5 ก.ย.เพื่อไทยศิโรราบถอยไปรับบทฝ่ายค้านร่วมพรรคประชาชน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000084501

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ปิดฉากศึกชิงเก้าอี้นายกฯ หลังยืดเยื้อมานาน สภาผู้แทนราษฎรนัดโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ คนที่ 32 วันที่ 5 ก.ย.เพื่อไทยศิโรราบถอยไปรับบทฝ่ายค้านร่วมพรรคประชาชน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000084501 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 578 Views 0 Reviews
  • อนุทินนายกฯ 4 เดือน นับถอยหลังเพื่อไทย

    การเมืองไทยหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ฐานฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ช่วงนี้จะได้เห็นการชิงไหวชิงพริบเพื่อช่วงชิงอำนาจ เมื่อวันที่ 3 ก.ย. พรรคประชาชน ที่มีเสียงในสภาฯ 143 เสียง มีมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 แต่มีเงื่อนไข 5 ข้อ คือ ต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน นับตั้งแต่วันแถลงนโยบาย การเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ใช้สภาร่างรัฐธรรมนูญมาจากการเลือกตั้ง ห้ามพรรคภูมิใจไทยตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก และพรรคประชาชนจะขอเป็นฝ่ายค้าน

    ขณะที่พรรคเพื่อไทย ของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ที่เหลืออยู่ เมื่อรู้ว่าพรรคประชาชนจับมือกับพรรคภูมิใจไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งสถานะตอนนี้เพียงปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ไม่ใช่รักษาการนายกรัฐมนตรี เพราะนายกรัฐมนตรีตัวจริงพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว ก็เปิดเผยว่ายื่นทูลเกล้าฯ ร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว โดยไม่ฟังเสียงกฤษฎีกาและบรรดานักกฎหมายที่ท้วงติงว่าทำไม่ได้ กระทั่งมีรายงานข่าวว่า สำนักองคมนตรี ส่งคืนร่างดังกล่าวไปแล้ว เพราะไม่เป็นไปตามระเบียบ รัฐบาลรักษาการไม่สามารถกราบบังคมทูลฯ ยุบสภาได้

    ด้านสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้บรรจุวาระเรื่องด่วน พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 5 ก.ย.ที่จะถึงนี้

    ก่อนหน้านี้มีความเปลี่ยนแปลงขั้วทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคกล้าธรรม ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประกาศสนับสนุนนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะถูกนายทักษิณตัดพ้อว่า ผิดที่ไว้ใจ แต่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่าไปคิดมาก เพราะเป็นการหาทางออกให้บ้านเมือง หรือจะเป็น สส.พรรคเพื่อไทยส่วนหนึ่งย้ายไปสนับสนุนนายอนุทิน ทำให้พรรคเพื่อไทยเลือดไหลออกไม่หยุด และมีผลไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า ที่มีชนักติดหลังเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

    ขณะที่พรรคประชาชน แม้จะอธิบายว่าการโหวตเลือกนายอนุทินเพื่อหาทางออกให้กับบ้านเมือง แต่ก็ถูกวิจารณ์จากกลุ่มนักเคลื่อนไหว เช่น นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน อดีตแกนนำม็อบราษฎร ผู้ต้องหาคดี 112 ที่หลบหนีไปต่างประเทศ เตือนว่าสุดท้ายพรรคภูมิใจไทยจะทรยศและใช้อำนาจทำร้ายพรรคประชาชน รวมทั้งทำร้ายขบวนการประชาธิปไตยทั้งองคาพยพ การสนับสนุนนายอนุทิน ทำให้การปฏิรูปการเมืองถดถอย และทรยศหักหลังการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในปี 2563 อย่างรุนแรง

    #Newskit
    อนุทินนายกฯ 4 เดือน นับถอยหลังเพื่อไทย การเมืองไทยหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ฐานฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ช่วงนี้จะได้เห็นการชิงไหวชิงพริบเพื่อช่วงชิงอำนาจ เมื่อวันที่ 3 ก.ย. พรรคประชาชน ที่มีเสียงในสภาฯ 143 เสียง มีมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 แต่มีเงื่อนไข 5 ข้อ คือ ต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน นับตั้งแต่วันแถลงนโยบาย การเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ใช้สภาร่างรัฐธรรมนูญมาจากการเลือกตั้ง ห้ามพรรคภูมิใจไทยตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก และพรรคประชาชนจะขอเป็นฝ่ายค้าน ขณะที่พรรคเพื่อไทย ของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ที่เหลืออยู่ เมื่อรู้ว่าพรรคประชาชนจับมือกับพรรคภูมิใจไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งสถานะตอนนี้เพียงปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ไม่ใช่รักษาการนายกรัฐมนตรี เพราะนายกรัฐมนตรีตัวจริงพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว ก็เปิดเผยว่ายื่นทูลเกล้าฯ ร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว โดยไม่ฟังเสียงกฤษฎีกาและบรรดานักกฎหมายที่ท้วงติงว่าทำไม่ได้ กระทั่งมีรายงานข่าวว่า สำนักองคมนตรี ส่งคืนร่างดังกล่าวไปแล้ว เพราะไม่เป็นไปตามระเบียบ รัฐบาลรักษาการไม่สามารถกราบบังคมทูลฯ ยุบสภาได้ ด้านสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้บรรจุวาระเรื่องด่วน พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 5 ก.ย.ที่จะถึงนี้ ก่อนหน้านี้มีความเปลี่ยนแปลงขั้วทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคกล้าธรรม ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประกาศสนับสนุนนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะถูกนายทักษิณตัดพ้อว่า ผิดที่ไว้ใจ แต่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่าไปคิดมาก เพราะเป็นการหาทางออกให้บ้านเมือง หรือจะเป็น สส.พรรคเพื่อไทยส่วนหนึ่งย้ายไปสนับสนุนนายอนุทิน ทำให้พรรคเพื่อไทยเลือดไหลออกไม่หยุด และมีผลไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า ที่มีชนักติดหลังเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่พรรคประชาชน แม้จะอธิบายว่าการโหวตเลือกนายอนุทินเพื่อหาทางออกให้กับบ้านเมือง แต่ก็ถูกวิจารณ์จากกลุ่มนักเคลื่อนไหว เช่น นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน อดีตแกนนำม็อบราษฎร ผู้ต้องหาคดี 112 ที่หลบหนีไปต่างประเทศ เตือนว่าสุดท้ายพรรคภูมิใจไทยจะทรยศและใช้อำนาจทำร้ายพรรคประชาชน รวมทั้งทำร้ายขบวนการประชาธิปไตยทั้งองคาพยพ การสนับสนุนนายอนุทิน ทำให้การปฏิรูปการเมืองถดถอย และทรยศหักหลังการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในปี 2563 อย่างรุนแรง #Newskit
    1 Comments 0 Shares 253 Views 0 Reviews
  • รับเงื่อนไข ปชน. 5 ข้อ 4 เดือน ยุบสภา : [THE MESSAGE]

    นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แถลงตั้งรัฐบาล ลงนามรับ 5 เงื่อนไขของพรรคประชาชน โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 146 คน ให้คำมั่นตลอด 4 เดือน ที่เข้าทำงานในฐานะรัฐบาล จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่ประชาชนร่วมตรวจสอบการทำงาน ส่วนการทูลเกล้าฯยุบสภา ทุกอย่างมีขั้นตอน สภายังไม่ยุบ ยังถือว่ามีสภา ยังไม่มีข้อมูลใดๆ ลงมาให้รับทราบว่าจะมีการยุบสภาหรือไม่ จะต้องตีความเป็นเรื่องของผู้ที่ยื่นจะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร ทั้งนี้ พรรคประชาชนให้ความเชื่อถือว่าพวกเราทุกคนในที่นี้จะทำตามเงื่อนไข เขาต้องมีการประเมิน ตัวเลข 4 เดือน ไม่ทำให้รู้สึกว่าเร็ว แต่เป็นตัวเลขที่พรรคประชาชน และพรรคที่มารวมกันทั้ง 146 เสียง ได้หารือกันแล้วคิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม
    รับเงื่อนไข ปชน. 5 ข้อ 4 เดือน ยุบสภา : [THE MESSAGE] นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แถลงตั้งรัฐบาล ลงนามรับ 5 เงื่อนไขของพรรคประชาชน โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 146 คน ให้คำมั่นตลอด 4 เดือน ที่เข้าทำงานในฐานะรัฐบาล จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่ประชาชนร่วมตรวจสอบการทำงาน ส่วนการทูลเกล้าฯยุบสภา ทุกอย่างมีขั้นตอน สภายังไม่ยุบ ยังถือว่ามีสภา ยังไม่มีข้อมูลใดๆ ลงมาให้รับทราบว่าจะมีการยุบสภาหรือไม่ จะต้องตีความเป็นเรื่องของผู้ที่ยื่นจะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร ทั้งนี้ พรรคประชาชนให้ความเชื่อถือว่าพวกเราทุกคนในที่นี้จะทำตามเงื่อนไข เขาต้องมีการประเมิน ตัวเลข 4 เดือน ไม่ทำให้รู้สึกว่าเร็ว แต่เป็นตัวเลขที่พรรคประชาชน และพรรคที่มารวมกันทั้ง 146 เสียง ได้หารือกันแล้วคิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 280 Views 0 0 Reviews
  • ความไม่โปร่งใส, ความกังวลด้านความปลอดภัย และข้อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบวัคซีน COVID-19

    ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์เกี่ยวกับวัคซีน COVID-19 ได้พัฒนาไปในทิศทางที่มีการตั้งคำถามและเรียกร้องความโปร่งใสมากขึ้นจากหลายฝ่าย **ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาเรียกร้องให้บริษัทผลิตยาขนาดใหญ่ เช่น Pfizer และ Moderna เปิดเผยข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับประสิทธิภาพของยา COVID-19 ทันที** โดยระบุว่าประชาชนสมควรได้รับเห็นหลักฐาน [1, 2] ทรัมป์ยังตั้งข้อสงสัยต่อโครงการ Operation Warp Speed ของตัวเอง โดยขอให้มีการตรวจสอบว่าโครงการเร่งพัฒนาวัคซีนนี้ "ยอดเยี่ยมจริงหรือไม่" หรือมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น [1, 4] ข้อเรียกร้องนี้เกิดขึ้นพร้อมกับข่าวที่ปรากฏในรายงานของคณะกรรมการตุลาการของสภาผู้แทนราษฎรเมื่อเดือนพฤษภาคม 2025 ที่ชี้ว่าอาจมีการชะลอการทดสอบวัคซีนโดยเจตนา ซึ่งอาจส่งผลต่อการประกาศความสำเร็จของวัคซีนหลังการเลือกตั้งปี 2020 [5, 6]

    **การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอีกประการคือบทบาทของ Robert F. Kennedy Jr. (RFK Jr.) ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเลขาธิการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ (HHS)** RFK Jr. ผู้ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ตั้งคำถามเรื่องวัคซีน ได้เริ่มทบทวนและยกเลิกการลงทุนในการพัฒนาวัคซีน mRNA 22 รายการ Choawalit Chotwattanaphong เขากล่าวว่า **วัคซีน mRNA มีประสิทธิภาพต่ำในการต่อสู้กับไวรัสที่ติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนเนื่องจากการกลายพันธุ์อย่างรวดเร็ว** ซึ่งทำให้วัคซีนไม่สามารถป้องกันได้เมื่อเกิดการกลายพันธุ์เพียงครั้งเดียว เช่นกรณีของเชื้อ Omicron Choawalit Chotwattanaphong เขายังชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงที่วัคซีนเหล่านี้อาจส่งเสริมการกลายพันธุ์และยืดเวลาการระบาดใหญ่ได้ Choawalit Chotwattanaphong

    ความกังวลด้านความปลอดภัยของวัคซีนเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมา **RFK Jr. อ้างว่าวัคซีน COVID-19 อาจนำไปสู่การเสียชีวิตในบางกรณี** โดยอ้างอิงข้อมูลการชันสูตรพลิกศพที่ระบุว่าวัคซีนเป็นสาเหตุการเสียชีวิต 73.9% ในกลุ่มผู้เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน Choawalit Chotwattanaphong เขายังวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงถึงการที่ไม่มี "คำเตือนกล่องดำ" (blackbox warning) เรื่องการเสียชีวิตในเอกสารกำกับวัคซีน แม้ว่ากฎหมายของ FDA จะกำหนดไว้ Choawalit Chotwattanaphong

    มีการเน้นย้ำถึง **การขาด Informed Consent (การยินยอมเข้ารับการรักษาโดยได้รับข้อมูลครบถ้วน) อย่างรุนแรง** ผู้ป่วยหลายราย รวมถึง Dr. Walscott แพทย์ที่ได้รับบาดเจ็บจากวัคซีนยืนยันว่าไม่ได้รับข้อมูลที่แท้จริงและโปร่งใส Choawalit Chotwattanaphong ตัวอย่างที่สะเทือนใจคือเรื่องราวของ Crystal Cordingley ที่เชื่อว่าลูกชายของเธอ Corbin เสียชีวิตจากวัคซีนไข้หวัดใหญ่ โดยพบความเสียหายในสมองที่คล้ายกับกรณี SIDS [9, 10] เธอถูกปฏิเสธข้อมูลและ Informed Consent และพบว่ากุมารแพทย์ได้ยื่นรายงาน VAERS โดยที่เธอไม่ทราบ [10] นอกจากนี้ ยังมีข้อกล่าวหาว่าหน่วยงานเช่น American College of Obstetricians and Gynecologists (ACOG) ถูกควบคุมโดย HHS เพื่อผลักดันวัคซีนในหญิงตั้งครรภ์ Choawalit Chotwattanaphong

    **ความเป็นพิษของ Spike Protein ก็เป็นประเด็นที่น่าจับตา** Dr. Robert Sullivan วิสัญญีแพทย์ผู้ได้รับผลกระทบ ได้เปิดเผยประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับการเกิดความดันโลหิตสูงในปอด (Pulmonary Hypertension) หลังฉีดวัคซีน mRNA COVID-19 และการสูญเสียความจุปอดไปครึ่งหนึ่ง [7, 8] เขากล่าวถึงงานวิจัยที่คาดการณ์ว่า Spike Protein สามารถทำลายหลอดเลือดในปอดและรกได้ [8] และ Dr. Ryan Cole พยาธิแพทย์ได้สังเกตเห็นว่าปัญหาลิ่มเลือดในผู้ป่วย "แย่ลงมาก" หลังจากการฉีดวัคซีนทางพันธุกรรม โดยมีรายงานการเสียชีวิตฉับพลันและโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยอายุน้อย [11] การบรรยายยังเสนอว่า **"Long COVID" อาจเป็นการวินิจฉัยที่คลาดเคลื่อน และอาการต่างๆ เช่น สมองล้าและปัญหาทางระบบประสาท อาจเกิดจาก Spike Protein ที่ผลิตโดยวัคซีน mRNA** [12] วัคซีน mRNA ที่ได้รับการดัดแปลงยังพบว่าสามารถคงอยู่ในร่างกายได้นานหลายเดือนและพบได้ในเนื้องอก ซึ่งอาจนำไปสู่โรคแพ้ภูมิตัวเอง [13]

    **ระบบการแพทย์และหน่วยงานสาธารณสุขเองก็ตกอยู่ภายใต้การวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก** ระบบ VAERS (Vaccine Adverse Event Reporting System) ไม่เป็นที่รู้จักหรือเข้าใจอย่างกว้างขวางในหมู่แพทย์ และมักไม่มีการปฏิบัติตามข้อกำหนดการรายงาน [8] นอกจากนี้ ยังไม่มีการศึกษาอย่างเป็นระบบเกี่ยวกับผลข้างเคียงจากวัคซีน และ "ต้นทุนที่ซ่อนอยู่ของการบาดเจ็บ" ก็ไม่ได้รับการศึกษาหรือสอนในโรงเรียนแพทย์ [7, 12] มีการกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ CDC ถึงกับทำลายหลักฐานที่เชื่อมโยงวัคซีน MMR กับออทิซึมในเด็กชายชาวแอฟริกัน-อเมริกัน [15, 16]

    สถานการณ์ล่าสุดนี้สะท้อนให้เห็นถึง **ความจำเป็นเร่งด่วนในการฟื้นฟูความรับผิดชอบ ความโปร่งใส และความไว้วางใจของประชาชนในหน่วยงานรัฐบาลและระบบการแพทย์** โดยการตัดสินใจทางการแพทย์ทั้งหมดต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของ Informed Consent ที่แท้จริง [17] มีการคาดการณ์เชิงสมมติฐานว่าหากไม่มีการบังคับใช้คำสั่งให้ฉีดวัคซีน การระบาดใหญ่อาจถูกควบคุมได้เร็วกว่าโดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มเสี่ยงสูงและให้ไวรัสแพร่กระจายในกลุ่มเสี่ยงต่ำ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ [6, 18]

    โดยสรุป สถานการณ์ปัจจุบันสะท้อนให้เห็นถึงการเรียกร้องที่เพิ่มขึ้นสำหรับการตรวจสอบข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์อย่างโปร่งใส การให้ความสำคัญกับ Informed Consent และการประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากวัคซีน COVID-19 อย่างละเอียดถี่ถ้วน.

    https://www.youtube.com/live/4-JxzRRgdy0
    https://youtu.be/-Y2d_4BSGP4

    https://www.facebook.com/share/16v8B1t4by/
    ✍️ความไม่โปร่งใส, ความกังวลด้านความปลอดภัย และข้อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบวัคซีน COVID-19 ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์เกี่ยวกับวัคซีน COVID-19 ได้พัฒนาไปในทิศทางที่มีการตั้งคำถามและเรียกร้องความโปร่งใสมากขึ้นจากหลายฝ่าย **ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาเรียกร้องให้บริษัทผลิตยาขนาดใหญ่ เช่น Pfizer และ Moderna เปิดเผยข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับประสิทธิภาพของยา COVID-19 ทันที** โดยระบุว่าประชาชนสมควรได้รับเห็นหลักฐาน [1, 2] ทรัมป์ยังตั้งข้อสงสัยต่อโครงการ Operation Warp Speed ของตัวเอง โดยขอให้มีการตรวจสอบว่าโครงการเร่งพัฒนาวัคซีนนี้ "ยอดเยี่ยมจริงหรือไม่" หรือมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น [1, 4] ข้อเรียกร้องนี้เกิดขึ้นพร้อมกับข่าวที่ปรากฏในรายงานของคณะกรรมการตุลาการของสภาผู้แทนราษฎรเมื่อเดือนพฤษภาคม 2025 ที่ชี้ว่าอาจมีการชะลอการทดสอบวัคซีนโดยเจตนา ซึ่งอาจส่งผลต่อการประกาศความสำเร็จของวัคซีนหลังการเลือกตั้งปี 2020 [5, 6] **การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอีกประการคือบทบาทของ Robert F. Kennedy Jr. (RFK Jr.) ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเลขาธิการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ (HHS)** RFK Jr. ผู้ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ตั้งคำถามเรื่องวัคซีน ได้เริ่มทบทวนและยกเลิกการลงทุนในการพัฒนาวัคซีน mRNA 22 รายการ [1] เขากล่าวว่า **วัคซีน mRNA มีประสิทธิภาพต่ำในการต่อสู้กับไวรัสที่ติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนเนื่องจากการกลายพันธุ์อย่างรวดเร็ว** ซึ่งทำให้วัคซีนไม่สามารถป้องกันได้เมื่อเกิดการกลายพันธุ์เพียงครั้งเดียว เช่นกรณีของเชื้อ Omicron [1] เขายังชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงที่วัคซีนเหล่านี้อาจส่งเสริมการกลายพันธุ์และยืดเวลาการระบาดใหญ่ได้ [1] ความกังวลด้านความปลอดภัยของวัคซีนเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมา **RFK Jr. อ้างว่าวัคซีน COVID-19 อาจนำไปสู่การเสียชีวิตในบางกรณี** โดยอ้างอิงข้อมูลการชันสูตรพลิกศพที่ระบุว่าวัคซีนเป็นสาเหตุการเสียชีวิต 73.9% ในกลุ่มผู้เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน [1] เขายังวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงถึงการที่ไม่มี "คำเตือนกล่องดำ" (blackbox warning) เรื่องการเสียชีวิตในเอกสารกำกับวัคซีน แม้ว่ากฎหมายของ FDA จะกำหนดไว้ [1] มีการเน้นย้ำถึง **การขาด Informed Consent (การยินยอมเข้ารับการรักษาโดยได้รับข้อมูลครบถ้วน) อย่างรุนแรง** ผู้ป่วยหลายราย รวมถึง Dr. Walscott แพทย์ที่ได้รับบาดเจ็บจากวัคซีนยืนยันว่าไม่ได้รับข้อมูลที่แท้จริงและโปร่งใส [1] ตัวอย่างที่สะเทือนใจคือเรื่องราวของ Crystal Cordingley ที่เชื่อว่าลูกชายของเธอ Corbin เสียชีวิตจากวัคซีนไข้หวัดใหญ่ โดยพบความเสียหายในสมองที่คล้ายกับกรณี SIDS [9, 10] เธอถูกปฏิเสธข้อมูลและ Informed Consent และพบว่ากุมารแพทย์ได้ยื่นรายงาน VAERS โดยที่เธอไม่ทราบ [10] นอกจากนี้ ยังมีข้อกล่าวหาว่าหน่วยงานเช่น American College of Obstetricians and Gynecologists (ACOG) ถูกควบคุมโดย HHS เพื่อผลักดันวัคซีนในหญิงตั้งครรภ์ [1] **ความเป็นพิษของ Spike Protein ก็เป็นประเด็นที่น่าจับตา** Dr. Robert Sullivan วิสัญญีแพทย์ผู้ได้รับผลกระทบ ได้เปิดเผยประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับการเกิดความดันโลหิตสูงในปอด (Pulmonary Hypertension) หลังฉีดวัคซีน mRNA COVID-19 และการสูญเสียความจุปอดไปครึ่งหนึ่ง [7, 8] เขากล่าวถึงงานวิจัยที่คาดการณ์ว่า Spike Protein สามารถทำลายหลอดเลือดในปอดและรกได้ [8] และ Dr. Ryan Cole พยาธิแพทย์ได้สังเกตเห็นว่าปัญหาลิ่มเลือดในผู้ป่วย "แย่ลงมาก" หลังจากการฉีดวัคซีนทางพันธุกรรม โดยมีรายงานการเสียชีวิตฉับพลันและโรคหลอดเลือดสมองในผู้ป่วยอายุน้อย [11] การบรรยายยังเสนอว่า **"Long COVID" อาจเป็นการวินิจฉัยที่คลาดเคลื่อน และอาการต่างๆ เช่น สมองล้าและปัญหาทางระบบประสาท อาจเกิดจาก Spike Protein ที่ผลิตโดยวัคซีน mRNA** [12] วัคซีน mRNA ที่ได้รับการดัดแปลงยังพบว่าสามารถคงอยู่ในร่างกายได้นานหลายเดือนและพบได้ในเนื้องอก ซึ่งอาจนำไปสู่โรคแพ้ภูมิตัวเอง [13] **ระบบการแพทย์และหน่วยงานสาธารณสุขเองก็ตกอยู่ภายใต้การวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก** ระบบ VAERS (Vaccine Adverse Event Reporting System) ไม่เป็นที่รู้จักหรือเข้าใจอย่างกว้างขวางในหมู่แพทย์ และมักไม่มีการปฏิบัติตามข้อกำหนดการรายงาน [8] นอกจากนี้ ยังไม่มีการศึกษาอย่างเป็นระบบเกี่ยวกับผลข้างเคียงจากวัคซีน และ "ต้นทุนที่ซ่อนอยู่ของการบาดเจ็บ" ก็ไม่ได้รับการศึกษาหรือสอนในโรงเรียนแพทย์ [7, 12] มีการกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ CDC ถึงกับทำลายหลักฐานที่เชื่อมโยงวัคซีน MMR กับออทิซึมในเด็กชายชาวแอฟริกัน-อเมริกัน [15, 16] สถานการณ์ล่าสุดนี้สะท้อนให้เห็นถึง **ความจำเป็นเร่งด่วนในการฟื้นฟูความรับผิดชอบ ความโปร่งใส และความไว้วางใจของประชาชนในหน่วยงานรัฐบาลและระบบการแพทย์** โดยการตัดสินใจทางการแพทย์ทั้งหมดต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของ Informed Consent ที่แท้จริง [17] มีการคาดการณ์เชิงสมมติฐานว่าหากไม่มีการบังคับใช้คำสั่งให้ฉีดวัคซีน การระบาดใหญ่อาจถูกควบคุมได้เร็วกว่าโดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มเสี่ยงสูงและให้ไวรัสแพร่กระจายในกลุ่มเสี่ยงต่ำ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ [6, 18] โดยสรุป สถานการณ์ปัจจุบันสะท้อนให้เห็นถึงการเรียกร้องที่เพิ่มขึ้นสำหรับการตรวจสอบข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์อย่างโปร่งใส การให้ความสำคัญกับ Informed Consent และการประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากวัคซีน COVID-19 อย่างละเอียดถี่ถ้วน. https://www.youtube.com/live/4-JxzRRgdy0 https://youtu.be/-Y2d_4BSGP4 https://www.facebook.com/share/16v8B1t4by/
    0 Comments 0 Shares 242 Views 0 Reviews
  • ตำรวจพุ่งชนไรเดอร์ อินโดนีเซียลุกเป็นไฟ

    รัฐบาลอินโดนีเซีย ภายใต้การนำของประธานาธิบดี ปราโบโว ซูเบียนโต ถูกประชาชนไม่ไว้วางใจอย่างหนัก โดยเชื่อว่ามีแนวโน้มจะรวมศูนย์อำนาจมากขึ้น ในยามที่ประชาชนยากลำบากจากเศรษฐกิจตกต่ำ ตั้งแต่การแสดงสัญลักษณ์ด้วยธงโจรสลัดจากอนิเมะเรื่องวันพีซ ในห้วงวันประกาศอิสรภาพครบรอบ 80 ปี กระทั่งต้องเผชิญกับการชุมนุมประท้วง ตั้งแต่กลุ่มนักศึกษาคัดค้านการขึ้นเงินเดือนและสวัสดิการของรัฐสภา โดยเฉพาะค่าที่พักสูงถึงเดือนละ 50 ล้านรูเปียห์ (เกือบ 100,000 บาท) และกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่เรียกร้องให้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ยุติการจ้างงานแบบภายนอก และตั้งคณะกรรมการป้องกันการเลิกจ้าง ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำแรงดันสูงสลายการชุมนุม

    จุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อวันที่ 28 ส.ค. รถหุ้มเกราะควบคุมฝูงชนบริม็อบ (Brimob) ของตำรวจอินโดนีเซีย พุ่งเข้าชนนายอัฟฟาน คูรเนียวัน อายุ 21 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน (Ojol) เสียชีวิตใจกลางกรุงจาการ์ตา ระหว่างที่มีผู้ชุมนุมประท้วง จุดชนวนให้ประชาชนโกรธแค้นมากขึ้น แม้ต้นสังกัดจะควบคุมตัวตำรวจ 7 นาย ที่อยู่ในรถหุ้มเกราะไปสอบสวน ถูกควบคุมตัวฐานละเมิดจริยธรรม 20 วัน รวมทั้งประธานาธิบดีปราโบโว ไปเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยตัวเอง แต่สถานการณ์ไม่ดีขึ้น

    ในกรุงจาการ์ตา อาคารรัฐสภา ที่ทำการตำรวจ รวมทั้งสถานีรถเมล์ด่วนพิเศษ ถูกผู้ชุมนุมเผาทำลาย อาคารรัฐสภาส่วนภูมิภาคและที่ทำการตำรวจในหลายเมืองก็ถูกผู้ชุมนุมเผา เช่น เมืองมากัสซาร์ อาคารสภาท้องถิ่นถูกวางเพลิง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย เมืองสุราบายา ที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นก็ถูกเผา เมืองบันดุง ปะทะกันรุนแรง และบ้านพักของสมาชิกสภาถูกเผา รวมทั้งเมืองอื่นๆ เช่น เมืองโซโล ยอร์คยาการ์ตา กูนิกัน เตกัล ปอนตินัค ฯลฯ มีการปล้นสะดมที่บ้านของ รมว.คลังอินโดนีเซีย และสมาชิกรัฐสภาหลายคน

    ที่สุดแล้วประธานาธิบดีปราโบโวแถลงว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นรัฐบาลและอยู่ในความสงบ สภาผู้แทนราษฎรเตรียมเพิกถอนสิทธิประโยชน์บางประการ รวมถึงลดเบี้ยเลี้ยง และระงับการดูงานต่างประเทศ หัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ จะลงโทษสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่กล่าวถ้อยคำไม่เหมาะสม ส่วนตำรวจที่ทำผิดพลาด พร้อมตรวจสอบอย่างรวดเร็ว โปร่งใส และเปิดเผยต่อสาธารณะ ยืนยันว่าเคารพเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่หากทำลายทรัพย์สินหรือปล้นสะดมถือว่าละเมิดกฎหมาย ตำรวจและกองทัพจะดำเนินการอย่างเข้มงวด พร้อมเชิญชวนผู้นำการชุมนุมรวมถึงนักศึกษาร่วมพูดคุยโดยตรง โดยรับรองว่าจะรับฟังข้อเสนอแนะและการวิพากษ์วิจารณ์เพื่อนำไปปฏิบัติต่อไป

    #Newskit
    ตำรวจพุ่งชนไรเดอร์ อินโดนีเซียลุกเป็นไฟ รัฐบาลอินโดนีเซีย ภายใต้การนำของประธานาธิบดี ปราโบโว ซูเบียนโต ถูกประชาชนไม่ไว้วางใจอย่างหนัก โดยเชื่อว่ามีแนวโน้มจะรวมศูนย์อำนาจมากขึ้น ในยามที่ประชาชนยากลำบากจากเศรษฐกิจตกต่ำ ตั้งแต่การแสดงสัญลักษณ์ด้วยธงโจรสลัดจากอนิเมะเรื่องวันพีซ ในห้วงวันประกาศอิสรภาพครบรอบ 80 ปี กระทั่งต้องเผชิญกับการชุมนุมประท้วง ตั้งแต่กลุ่มนักศึกษาคัดค้านการขึ้นเงินเดือนและสวัสดิการของรัฐสภา โดยเฉพาะค่าที่พักสูงถึงเดือนละ 50 ล้านรูเปียห์ (เกือบ 100,000 บาท) และกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่เรียกร้องให้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ยุติการจ้างงานแบบภายนอก และตั้งคณะกรรมการป้องกันการเลิกจ้าง ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำแรงดันสูงสลายการชุมนุม จุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อวันที่ 28 ส.ค. รถหุ้มเกราะควบคุมฝูงชนบริม็อบ (Brimob) ของตำรวจอินโดนีเซีย พุ่งเข้าชนนายอัฟฟาน คูรเนียวัน อายุ 21 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน (Ojol) เสียชีวิตใจกลางกรุงจาการ์ตา ระหว่างที่มีผู้ชุมนุมประท้วง จุดชนวนให้ประชาชนโกรธแค้นมากขึ้น แม้ต้นสังกัดจะควบคุมตัวตำรวจ 7 นาย ที่อยู่ในรถหุ้มเกราะไปสอบสวน ถูกควบคุมตัวฐานละเมิดจริยธรรม 20 วัน รวมทั้งประธานาธิบดีปราโบโว ไปเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยตัวเอง แต่สถานการณ์ไม่ดีขึ้น ในกรุงจาการ์ตา อาคารรัฐสภา ที่ทำการตำรวจ รวมทั้งสถานีรถเมล์ด่วนพิเศษ ถูกผู้ชุมนุมเผาทำลาย อาคารรัฐสภาส่วนภูมิภาคและที่ทำการตำรวจในหลายเมืองก็ถูกผู้ชุมนุมเผา เช่น เมืองมากัสซาร์ อาคารสภาท้องถิ่นถูกวางเพลิง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย เมืองสุราบายา ที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นก็ถูกเผา เมืองบันดุง ปะทะกันรุนแรง และบ้านพักของสมาชิกสภาถูกเผา รวมทั้งเมืองอื่นๆ เช่น เมืองโซโล ยอร์คยาการ์ตา กูนิกัน เตกัล ปอนตินัค ฯลฯ มีการปล้นสะดมที่บ้านของ รมว.คลังอินโดนีเซีย และสมาชิกรัฐสภาหลายคน ที่สุดแล้วประธานาธิบดีปราโบโวแถลงว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นรัฐบาลและอยู่ในความสงบ สภาผู้แทนราษฎรเตรียมเพิกถอนสิทธิประโยชน์บางประการ รวมถึงลดเบี้ยเลี้ยง และระงับการดูงานต่างประเทศ หัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ จะลงโทษสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่กล่าวถ้อยคำไม่เหมาะสม ส่วนตำรวจที่ทำผิดพลาด พร้อมตรวจสอบอย่างรวดเร็ว โปร่งใส และเปิดเผยต่อสาธารณะ ยืนยันว่าเคารพเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่หากทำลายทรัพย์สินหรือปล้นสะดมถือว่าละเมิดกฎหมาย ตำรวจและกองทัพจะดำเนินการอย่างเข้มงวด พร้อมเชิญชวนผู้นำการชุมนุมรวมถึงนักศึกษาร่วมพูดคุยโดยตรง โดยรับรองว่าจะรับฟังข้อเสนอแนะและการวิพากษ์วิจารณ์เพื่อนำไปปฏิบัติต่อไป #Newskit
    1 Comments 1 Shares 319 Views 0 Reviews
  • รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย นโยบายคุณหลอกดาวซ้ำสอง

    ท่ามกลางความไม่แน่นอนของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่กำลังจะตายแหล่ ไม่ตายแหล่ จากคดีคลิปเสียงอังเคิลในศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ชะตาในวันที่ 29 ส.ค.นี้ แม้รัฐบาลถูลู่ถูกังเปิดให้ลงทะเบียนผูกบัตร EMV (บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัตรพรีเพด) และบัตรแรบบิท (Rabbit) เพื่อรับสิทธิ์รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" โดยมีประชาชนให้ความสนใจลงทะเบียนมากกว่า 2 แสนคนในระยะเวลา 2 วัน แต่แล้วคนกรุงฯ ต้องฝันสลาย เมื่อนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ยอมรับแล้วว่าดำเนินโครงการไม่ทันวันที่ 1 ต.ค.นี้ ต้องจ่ายราคาเดิมไปก่อน

    สาเหตุหลักมาจากกฎหมาย 2 ฉบับที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ให้ดึงเงินสะสมและรายได้ชดเชย มาใช้กับโครงการนี้ และร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ที่แก้ไขโดยเปิดช่องให้กู้เงินจากกระทรวงการคลังได้ เพราะรายได้จาก รฟม. ต้องส่งเข้ากระทรวงการคลัง จะเปลี่ยนไปเข้ากองทุนตั๋วร่วมฯ ทำไม่ได้เพราะเป็นรัฐวิสาหกิจ ปรากฎว่าสภาผู้แทนราษฎร เจอปัญหาองค์ประชุมเพราะเสียงในสภาปริ่มน้ำบ่อยครั้ง แถมเมื่อรัฐบาลสอบถามกฤษฎีกาว่าจะเอางบกลางมาใช้หรือไม่ กฤษฎีกาก็ตอบว่าทำไม่ได้ เพราะไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน

    สิ่งเดียวที่ทำได้ของรัฐบาล คือถูฝ่ามือรอให้กฎหมายทั้งสองฉบับผ่านที่ประชุมสภาฯ ก่อน โดยใช้โฆษกพรรค สมาชิกพรรค และสื่อบางส่วนคอยตะล่อม โดยอ้างว่าทำเพื่อประชาชน หากผ่านด่านแรกไปได้ ส่งต่อด่านสองให้วุฒิสภา ซึ่งรู้กันอยู่ว่าเป็นขั้วการเมืองตรงข้ามพรรคเพื่อไทยคุมเสียงในสภาสูง แม้จะผ่านกฎหมายแล้ว ยังต้องออกกฎหมายลูกที่ต้องรับฟังความคิดเห็นอีก 15 วัน นายสุริยะจะเสนอคณะรัฐมนตรี ไม่ต้องจัดรับฟังความคิดเห็นเพื่อให้เร็วขึ้น อ้างว่านโยบายเป็นบวกกับประชาชน ตั้งเป้าว่าจะดำเนินโครงการได้ในช่วงกลางเดือน พ.ย.2568 ถึงกระนั้น จากคดีคลิปเสียงก็ยังไม่รู้ว่ารัฐบาลจะยังอยู่หรือไม่

    หากรัฐบาลแพทองธารต้องยุติลงและเปลี่ยนขั้วอำนาจรัฐบาล นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งเคลมว่าเป็นนโยบายพรรคเพื่อไทย สังคมจะเกิดความรู้สึกรอเก้อเหมือนถูกหลอก ไม่ต่างจากนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่มีผู้ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐมากถึง 36 ล้านคน แต่สุดท้ายได้แต่โอนเงินพร้อมเพย์แก่กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกลุ่มเปราะบาง ก่อนพับโครงการ โดยอ้างว่าต้องนำเงินไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อรับมือมาตรการภาษีขาเข้า (Tariff) จากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา

    #Newskit
    รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย นโยบายคุณหลอกดาวซ้ำสอง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่กำลังจะตายแหล่ ไม่ตายแหล่ จากคดีคลิปเสียงอังเคิลในศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ชะตาในวันที่ 29 ส.ค.นี้ แม้รัฐบาลถูลู่ถูกังเปิดให้ลงทะเบียนผูกบัตร EMV (บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัตรพรีเพด) และบัตรแรบบิท (Rabbit) เพื่อรับสิทธิ์รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" โดยมีประชาชนให้ความสนใจลงทะเบียนมากกว่า 2 แสนคนในระยะเวลา 2 วัน แต่แล้วคนกรุงฯ ต้องฝันสลาย เมื่อนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ยอมรับแล้วว่าดำเนินโครงการไม่ทันวันที่ 1 ต.ค.นี้ ต้องจ่ายราคาเดิมไปก่อน สาเหตุหลักมาจากกฎหมาย 2 ฉบับที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ให้ดึงเงินสะสมและรายได้ชดเชย มาใช้กับโครงการนี้ และร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ที่แก้ไขโดยเปิดช่องให้กู้เงินจากกระทรวงการคลังได้ เพราะรายได้จาก รฟม. ต้องส่งเข้ากระทรวงการคลัง จะเปลี่ยนไปเข้ากองทุนตั๋วร่วมฯ ทำไม่ได้เพราะเป็นรัฐวิสาหกิจ ปรากฎว่าสภาผู้แทนราษฎร เจอปัญหาองค์ประชุมเพราะเสียงในสภาปริ่มน้ำบ่อยครั้ง แถมเมื่อรัฐบาลสอบถามกฤษฎีกาว่าจะเอางบกลางมาใช้หรือไม่ กฤษฎีกาก็ตอบว่าทำไม่ได้ เพราะไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน สิ่งเดียวที่ทำได้ของรัฐบาล คือถูฝ่ามือรอให้กฎหมายทั้งสองฉบับผ่านที่ประชุมสภาฯ ก่อน โดยใช้โฆษกพรรค สมาชิกพรรค และสื่อบางส่วนคอยตะล่อม โดยอ้างว่าทำเพื่อประชาชน หากผ่านด่านแรกไปได้ ส่งต่อด่านสองให้วุฒิสภา ซึ่งรู้กันอยู่ว่าเป็นขั้วการเมืองตรงข้ามพรรคเพื่อไทยคุมเสียงในสภาสูง แม้จะผ่านกฎหมายแล้ว ยังต้องออกกฎหมายลูกที่ต้องรับฟังความคิดเห็นอีก 15 วัน นายสุริยะจะเสนอคณะรัฐมนตรี ไม่ต้องจัดรับฟังความคิดเห็นเพื่อให้เร็วขึ้น อ้างว่านโยบายเป็นบวกกับประชาชน ตั้งเป้าว่าจะดำเนินโครงการได้ในช่วงกลางเดือน พ.ย.2568 ถึงกระนั้น จากคดีคลิปเสียงก็ยังไม่รู้ว่ารัฐบาลจะยังอยู่หรือไม่ หากรัฐบาลแพทองธารต้องยุติลงและเปลี่ยนขั้วอำนาจรัฐบาล นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งเคลมว่าเป็นนโยบายพรรคเพื่อไทย สังคมจะเกิดความรู้สึกรอเก้อเหมือนถูกหลอก ไม่ต่างจากนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่มีผู้ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐมากถึง 36 ล้านคน แต่สุดท้ายได้แต่โอนเงินพร้อมเพย์แก่กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกลุ่มเปราะบาง ก่อนพับโครงการ โดยอ้างว่าต้องนำเงินไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อรับมือมาตรการภาษีขาเข้า (Tariff) จากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา #Newskit
    1 Comments 0 Shares 342 Views 0 Reviews
  • “ฝ่ายค้าน” แถลงเดือด! ซัดรัฐบาลขวางการพิจารณาญัตติ MOU 43-44 ปิดประชุมสภาฯ ดื้อๆ ทำลายความหวังประชาชน
    https://www.thai-tai.tv/news/21065/
    .
    #ฝ่ายค้าน #สภาผู้แทนราษฎร #ญัตติMOU #ข่าวการเมือง #การเมืองไทย #ไทยไทด้วย

    “ฝ่ายค้าน” แถลงเดือด! ซัดรัฐบาลขวางการพิจารณาญัตติ MOU 43-44 ปิดประชุมสภาฯ ดื้อๆ ทำลายความหวังประชาชน https://www.thai-tai.tv/news/21065/ . #ฝ่ายค้าน #สภาผู้แทนราษฎร #ญัตติMOU #ข่าวการเมือง #การเมืองไทย #ไทยไทด้วย
    0 Comments 0 Shares 148 Views 0 Reviews
  • ศูนย์อาหารใหม่รัฐสภา ราคาสูงเกิน-ผู้ค้าเดิมโวย

    เมื่อวันที่ 18 ส.ค. เป็นวันแรกที่ศูนย์อาหาร KINNIE Foodcourt เปิดให้บริการที่ชั้น B2 อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ถนนสามเสน เฉพาะวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 07.00-16.00 น. เปิดโอกาสให้ข้าราชการในวงงานรัฐสภา ผู้มาติดต่อ ผู้ช่วยหรือผู้ติดตามสมาชิกรัฐสภา ตลอดจนสื่อมวลชนและบุคคลทั่วไปเข้ามาใช้บริการ ทดแทนร้านค้าร้านอาหารเดิมที่ชั้น 1 ซึ่งได้ยกเลิกสัญญาเมื่อวันที่ 8 ก.ค. และให้ย้ายออกจากพื้นที่ไปเมื่อวันที่ 15 ส.ค. เพื่อใช้เป็นห้องรับรอง สส. และผู้มาเข้าพบ

    ปรากฎว่าผ่านไป 2-3 วัน มีเสียงวิจารณ์จากข้าราชการและแม่บ้าน รวมทั้งสื่อมวลชนว่าราคาอาหารสูงเกินไป ไม่เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน และค่าครองชีพที่สูงขึ้น ต้องเดินไปซื้อที่ฝั่งวุฒิสภาเพราะราคาถูกกว่า โดยราคาอาหารเริ่มต้นสูงถึง 40-50 บาท ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายธีระชัย แสนแก้ว ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ตั้งคำถามว่าบริษัทใดเข้ามาประมูล สภาฯ เรียกเก็บค่าเช่าสูงไปหรือไม่ หากเอาเปรียบผู้บริโภค ประธานสภาฯ ต้องจัดการ เพราะไม่ควรหากำไรเกินควร

    นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 19 ส.ค. มีการประชุมฝ่ายบริหารและผู้ขายได้ปรับราคาลงแล้ว เช่น ข้าวแกง 1 อย่าง 35 บาท, 2 อย่าง 45 บาท และ 3 อย่าง 55-60 บาท พร้อมย้ำว่าจะตรวจสอบให้เข้มงวด และหากยังมีปัญหาก็พร้อมให้ปรับลดเพิ่มอีก ขณะที่นายประเสริฐ บุญเรือง ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย และประธานกรรมาธิการกิจการสภาฯ เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าจะเชิญผู้บริหารเข้าหารือเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ราคาที่เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

    สำหรับบริษัท กินนี่ ฟู้ด แอนด์ มาร์เก็ต จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 24 ก.ค.2556 ทุนจดทะเบียน 8 ล้านบาท มีนายธเชษฐ์ เตียสกุล และนายภกร จิตรธนบรรจง เป็นกรรมการบริษัท ประกอบธุรกิจบริหารศูนย์อาหารตามอาคารสำนักงานทั่วกรุงเทพฯ อาทิ อาคารจามจุรีสแควร์ ออลซีซั่นเพลส เดอะไนน์ทาวเวอร์ กรมสรรพากร กรุงเทพประกันภัย เดอะสตรีทรัชดา เสริมมิตรทาวเวอร์ ฯลฯ ปัจจุบันมีประมาณ 10 แห่ง

    อีกด้านหนึ่ง กลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าสวัสดิการชั้น 1 เดิม นำโดย นายศุภโชค เวชราภรณ์ ยื่นหนังสือถึงประธานสภาฯ เพื่อขอความเป็นธรรม หลังถูกให้ออกจากพื้นที่อย่างไม่เป็นธรรม ทั้งที่นโยบายของผู้บริหารรุ่นเก่าสนับสนุนให้ข้าราชการชั้นผู้น้อยและญาติพี่น้องมีอาชีพเสริม แต่คณะกรรมการสวัสดิการสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบันกลับบ่ายเบี่ยง ก่อนมีหนังสือขับไล่ออกจากพื้นที่ พร้อมขอให้ช่วยแบ่งพื้นที่เพื่อให้ข้าราชการชั้นผู้น้อยมีทางเลือกซื้ออาหารในราคาย่อมเยา

    #Newskit
    ศูนย์อาหารใหม่รัฐสภา ราคาสูงเกิน-ผู้ค้าเดิมโวย เมื่อวันที่ 18 ส.ค. เป็นวันแรกที่ศูนย์อาหาร KINNIE Foodcourt เปิดให้บริการที่ชั้น B2 อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ถนนสามเสน เฉพาะวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 07.00-16.00 น. เปิดโอกาสให้ข้าราชการในวงงานรัฐสภา ผู้มาติดต่อ ผู้ช่วยหรือผู้ติดตามสมาชิกรัฐสภา ตลอดจนสื่อมวลชนและบุคคลทั่วไปเข้ามาใช้บริการ ทดแทนร้านค้าร้านอาหารเดิมที่ชั้น 1 ซึ่งได้ยกเลิกสัญญาเมื่อวันที่ 8 ก.ค. และให้ย้ายออกจากพื้นที่ไปเมื่อวันที่ 15 ส.ค. เพื่อใช้เป็นห้องรับรอง สส. และผู้มาเข้าพบ ปรากฎว่าผ่านไป 2-3 วัน มีเสียงวิจารณ์จากข้าราชการและแม่บ้าน รวมทั้งสื่อมวลชนว่าราคาอาหารสูงเกินไป ไม่เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน และค่าครองชีพที่สูงขึ้น ต้องเดินไปซื้อที่ฝั่งวุฒิสภาเพราะราคาถูกกว่า โดยราคาอาหารเริ่มต้นสูงถึง 40-50 บาท ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายธีระชัย แสนแก้ว ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ตั้งคำถามว่าบริษัทใดเข้ามาประมูล สภาฯ เรียกเก็บค่าเช่าสูงไปหรือไม่ หากเอาเปรียบผู้บริโภค ประธานสภาฯ ต้องจัดการ เพราะไม่ควรหากำไรเกินควร นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 19 ส.ค. มีการประชุมฝ่ายบริหารและผู้ขายได้ปรับราคาลงแล้ว เช่น ข้าวแกง 1 อย่าง 35 บาท, 2 อย่าง 45 บาท และ 3 อย่าง 55-60 บาท พร้อมย้ำว่าจะตรวจสอบให้เข้มงวด และหากยังมีปัญหาก็พร้อมให้ปรับลดเพิ่มอีก ขณะที่นายประเสริฐ บุญเรือง ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย และประธานกรรมาธิการกิจการสภาฯ เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าจะเชิญผู้บริหารเข้าหารือเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ราคาที่เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย สำหรับบริษัท กินนี่ ฟู้ด แอนด์ มาร์เก็ต จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 24 ก.ค.2556 ทุนจดทะเบียน 8 ล้านบาท มีนายธเชษฐ์ เตียสกุล และนายภกร จิตรธนบรรจง เป็นกรรมการบริษัท ประกอบธุรกิจบริหารศูนย์อาหารตามอาคารสำนักงานทั่วกรุงเทพฯ อาทิ อาคารจามจุรีสแควร์ ออลซีซั่นเพลส เดอะไนน์ทาวเวอร์ กรมสรรพากร กรุงเทพประกันภัย เดอะสตรีทรัชดา เสริมมิตรทาวเวอร์ ฯลฯ ปัจจุบันมีประมาณ 10 แห่ง อีกด้านหนึ่ง กลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าสวัสดิการชั้น 1 เดิม นำโดย นายศุภโชค เวชราภรณ์ ยื่นหนังสือถึงประธานสภาฯ เพื่อขอความเป็นธรรม หลังถูกให้ออกจากพื้นที่อย่างไม่เป็นธรรม ทั้งที่นโยบายของผู้บริหารรุ่นเก่าสนับสนุนให้ข้าราชการชั้นผู้น้อยและญาติพี่น้องมีอาชีพเสริม แต่คณะกรรมการสวัสดิการสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบันกลับบ่ายเบี่ยง ก่อนมีหนังสือขับไล่ออกจากพื้นที่ พร้อมขอให้ช่วยแบ่งพื้นที่เพื่อให้ข้าราชการชั้นผู้น้อยมีทางเลือกซื้ออาหารในราคาย่อมเยา #Newskit
    0 Comments 0 Shares 374 Views 0 Reviews
  • รางรถไฟ ECRL มาเลเซีย กับรถไฟไทยไม่เท่ากัน

    ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย (Dewan Rakyat) เมื่อวันที่ 18 ส.ค. นายแอนโทนี โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย ตอบคำถามนายอะห์หมัด ฟาดลี ชะอารี สส.อำเภอปาเซร์มัส รัฐกลันตัน ที่ถามถึงความตั้งใจของรัฐบาลกลางมาเลเซียในการขยายเส้นทางโครงการทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งตะวันออกมาเลเซีย (East Coast Rail Link) หรือ ECRL ไปยังเมืองรันเตาปันยัง (Rantau Panjang) พร้อมถามถึงการศึกษาทางเทคนิค และการประเมินความเสี่ยงต่อน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ นายโลคกล่าวว่า ยังไม่ได้ดำเนินการ เนื่องจากต้องศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายเส้นทางไปยังเมืองรันเตาปันยังก่อน

    แม้โครงการ ECRL อยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่ข้อเสนอขยายเส้นทางจากสถานีโกตาบารู (Kota Bharu) ไปยังเมืองรันเตาปันยัง เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ซึ่งต้องเจรจาเพิ่มเติมกับจีน รวมทั้งผู้รับเหมาหลักอย่างบริษัท ไชน่า คอมมูนิเคชัน คอนสตรัคชัน หรือ CCCC ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี แต่รับไว้จะนำเสนอต่อไป อย่างไรก็ตาม โครงการนี้มีต้นทุนก่อสร้างที่สูง เนื่องจากแนวเส้นทางรถไฟส่วนใหญ่สร้างขึ้นบนโครงสร้างยกระดับ เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาน้ำท่วมให้น้อยที่สุด แต่พื้นที่เมืองรันเตาปันยัง หากโครงการ ECRL จะเชื่อมต่อกับประเทศไทย กระทรวงคมนาคมมาเลเซียแจ้งว่า พบปัญหาทางเทคนิค

    เพราะรางรถไฟที่ใช้ในโครงการ ECRL (ขนาด 1.435 เมตร) ต่างจากการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. (ขนาด 1 เมตร) จึงยังไม่เข้ากัน จำเป็นต้องมีพื้นที่ลานขนถ่ายสินค้า และเพื่อให้บูรณาการร่วมกัน รางรถไฟของ ร.ฟ.ท. ต้องติดกับรางรถไฟ ECRL เพื่อให้สามารถขนถ่ายสินค้าได้ ขณะนี้กำลังจัดทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เกี่ยวกับการขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซียและไทยอย่างจริงจัง โดยข้อเสนอที่จะได้รับผลประโยชน์ระยะยาวที่ดีที่สุดแก่มาเลเซีย และกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนนั้น โครงการ ECRL จะต้องเชื่อมโยงกับประเทศไทย แทนที่จะสิ้นสุดที่เมืองรันเตาปันจังเท่านั้น

    โครงการ ECRL เชื่อมระหว่างสถานีโกตาบารู รัฐกลันตัน ผ่านเมืองกวนตัน (Kuantan) รัฐปะหัง ซึ่งมีท่าเรือตั้งอยู่ กับท่าเรือแคลง (Port Klang) รัฐสลังงอร์ ระยะทาง 665 กิโลเมตร ประกอบด้วยทางยกระดับยาว 154 กิโลเมตร อุโมงค์ 41 แห่ง และทางข้ามสัตว์ป่า 28 แห่ง มีแผนเปิดให้บริการระยะที่ 1 ระหว่างสถานีโกตาบารู รัฐกลันตัน ถึงสถานีกอมบัค (Gombak) คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.2569 เริ่มให้บริการในเดือน ม.ค.2570 ส่วนระยะที่ 2 ไปยังท่าเรือแคลง คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.2570 และเริ่มให้บริการเต็มรูปแบบในเดือน ม.ค.2571

    #Newskit
    รางรถไฟ ECRL มาเลเซีย กับรถไฟไทยไม่เท่ากัน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย (Dewan Rakyat) เมื่อวันที่ 18 ส.ค. นายแอนโทนี โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย ตอบคำถามนายอะห์หมัด ฟาดลี ชะอารี สส.อำเภอปาเซร์มัส รัฐกลันตัน ที่ถามถึงความตั้งใจของรัฐบาลกลางมาเลเซียในการขยายเส้นทางโครงการทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งตะวันออกมาเลเซีย (East Coast Rail Link) หรือ ECRL ไปยังเมืองรันเตาปันยัง (Rantau Panjang) พร้อมถามถึงการศึกษาทางเทคนิค และการประเมินความเสี่ยงต่อน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ นายโลคกล่าวว่า ยังไม่ได้ดำเนินการ เนื่องจากต้องศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายเส้นทางไปยังเมืองรันเตาปันยังก่อน แม้โครงการ ECRL อยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่ข้อเสนอขยายเส้นทางจากสถานีโกตาบารู (Kota Bharu) ไปยังเมืองรันเตาปันยัง เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ซึ่งต้องเจรจาเพิ่มเติมกับจีน รวมทั้งผู้รับเหมาหลักอย่างบริษัท ไชน่า คอมมูนิเคชัน คอนสตรัคชัน หรือ CCCC ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี แต่รับไว้จะนำเสนอต่อไป อย่างไรก็ตาม โครงการนี้มีต้นทุนก่อสร้างที่สูง เนื่องจากแนวเส้นทางรถไฟส่วนใหญ่สร้างขึ้นบนโครงสร้างยกระดับ เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาน้ำท่วมให้น้อยที่สุด แต่พื้นที่เมืองรันเตาปันยัง หากโครงการ ECRL จะเชื่อมต่อกับประเทศไทย กระทรวงคมนาคมมาเลเซียแจ้งว่า พบปัญหาทางเทคนิค เพราะรางรถไฟที่ใช้ในโครงการ ECRL (ขนาด 1.435 เมตร) ต่างจากการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. (ขนาด 1 เมตร) จึงยังไม่เข้ากัน จำเป็นต้องมีพื้นที่ลานขนถ่ายสินค้า และเพื่อให้บูรณาการร่วมกัน รางรถไฟของ ร.ฟ.ท. ต้องติดกับรางรถไฟ ECRL เพื่อให้สามารถขนถ่ายสินค้าได้ ขณะนี้กำลังจัดทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เกี่ยวกับการขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซียและไทยอย่างจริงจัง โดยข้อเสนอที่จะได้รับผลประโยชน์ระยะยาวที่ดีที่สุดแก่มาเลเซีย และกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนนั้น โครงการ ECRL จะต้องเชื่อมโยงกับประเทศไทย แทนที่จะสิ้นสุดที่เมืองรันเตาปันจังเท่านั้น โครงการ ECRL เชื่อมระหว่างสถานีโกตาบารู รัฐกลันตัน ผ่านเมืองกวนตัน (Kuantan) รัฐปะหัง ซึ่งมีท่าเรือตั้งอยู่ กับท่าเรือแคลง (Port Klang) รัฐสลังงอร์ ระยะทาง 665 กิโลเมตร ประกอบด้วยทางยกระดับยาว 154 กิโลเมตร อุโมงค์ 41 แห่ง และทางข้ามสัตว์ป่า 28 แห่ง มีแผนเปิดให้บริการระยะที่ 1 ระหว่างสถานีโกตาบารู รัฐกลันตัน ถึงสถานีกอมบัค (Gombak) คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.2569 เริ่มให้บริการในเดือน ม.ค.2570 ส่วนระยะที่ 2 ไปยังท่าเรือแคลง คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.2570 และเริ่มให้บริการเต็มรูปแบบในเดือน ม.ค.2571 #Newskit
    0 Comments 0 Shares 294 Views 0 Reviews
  • ผ่านฉลุย! สภาฯ เห็นชอบ พ.ร.บ.งบฯ 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้าน...มติ 257ต่อ 230
    https://www.thai-tai.tv/news/20959/
    .
    #งบประมาณ69 #พรกงบประมาณ #สภาผู้แทนราษฎร #พิชัยชุณหวชิร #รัฐบาล #ไทยไท
    ผ่านฉลุย! สภาฯ เห็นชอบ พ.ร.บ.งบฯ 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้าน...มติ 257ต่อ 230 https://www.thai-tai.tv/news/20959/ . #งบประมาณ69 #พรกงบประมาณ #สภาผู้แทนราษฎร #พิชัยชุณหวชิร #รัฐบาล #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • 14 สิงหาคม 2568
    สำนักข่าว #TheCambodiaDaily – ឌឹ ខេមបូឌា ដេលី ของกัมพูชารายงานว่า ร่างกฎหมาย "การเพิกถอนสัญชาติกัมพูชา" ได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการสามัญของสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568 หลังจากผ่านการเห็นชอบจากทั้งสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม และ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ตามลำดับ

    ร่างกฎหมายนี้ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายสัญชาติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 33 ซึ่งเป็นไปตามความต้องการของสมเด็จฮุน เซน ว่าชาวเขมรที่กำลังสมรู้ร่วมคิดกับประเทศไทยเพื่อรวมกำลังเพื่อโจมตีกัมพูชา จะถือเป็นการก่อกบฏ และจะถูกเพิกถอนสัญชาติตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่ฉบับนี้อีกด้วย
    14 สิงหาคม 2568 สำนักข่าว #TheCambodiaDaily – ឌឹ ខេមបូឌា ដេលី ของกัมพูชารายงานว่า ร่างกฎหมาย "การเพิกถอนสัญชาติกัมพูชา" ได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการสามัญของสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568 หลังจากผ่านการเห็นชอบจากทั้งสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม และ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ตามลำดับ ร่างกฎหมายนี้ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายสัญชาติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 33 ซึ่งเป็นไปตามความต้องการของสมเด็จฮุน เซน ว่าชาวเขมรที่กำลังสมรู้ร่วมคิดกับประเทศไทยเพื่อรวมกำลังเพื่อโจมตีกัมพูชา จะถือเป็นการก่อกบฏ และจะถูกเพิกถอนสัญชาติตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่ฉบับนี้อีกด้วย
    0 Comments 0 Shares 310 Views 0 Reviews
  • ยอดผู้ติดเชื้อเอชไอวีมาเลย์ฯ 64% จากโฮโม-ไบเซ็กชวล

    อีกหนึ่งความท้าทายด้านสาธารณสุขของประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 6 ส.ค. นายดซุลเกฟลี อาหมัด รมว.สาธารณสุขมาเลเซีย ตอบคำถามสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย กรณีที่นายตัน ก๊ก ไว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมืองเชรัส รัฐสลังงอร์ ถามถึงสถานการณ์การติดเชื้อเอชไอวีในประเทศมาเลเซีย ระบุว่า ในปี 2567 ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 96% เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ โดยเกิดขึ้นจากพฤติกรรมรักร่วมเพศแบบไบเซ็กชวล (ชายก็ได้ หญิงก็ได้) 64% และแบบโฮโมเซ็กชวล (ชายกับชาย หรือหญิงกับหญิง) 32%

    โดยมีรายงานผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่รวม 3,185 ราย คิดเป็น 9.4 ราย ต่อประชากร 100,000 คน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเพศชาย คิดเป็น 90% ส่วนอีก 10% อยู่ในกลุ่มเพศหญิง ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากทศวรรษ 1990 ซึ่งผู้ติดเชื้อเพศหญิงคิดเป็นเพียง 1% ของผู้ป่วย และเพศชายคิดเป็น 99% เกี่ยวข้องกับช่วงอายุระหว่าง 20 ถึง 39 ปี การติดเชื้อรายใหม่ในมาเลเซียโดยทั่วไปลดลง 50% ระหว่างปี พ.ศ. 2543-2552 กระทั่งตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 ถึงปัจจุบัน ลดลงเพียง 27% เท่านั้น

    ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ก.พ. นายดซุลเกฟลี กล่าวว่า การติดเชื้อเอชไอวีมากกว่า 60% เมื่อปีที่แล้วติดต่อผ่านเพศสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันและไบเซ็กชวล ปัจจัยสำคัญคือการไม่ใช้ถุงยางอนามัยสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงสูง อีกทั้งความท้าทายของผู้ติดเชื้อรายใหม่ซับซ้อนมากขึ้น จากการใช้ยาเสพติดและสารผิดกฎหมายเพิ่มขึ้น นำไปสู่พฤติกรรมทางเพศที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ

    ดร.โมฮัมหมัด มูจาฮีด ฮัสซัน อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมศาสตร์และการพัฒนา คณะนิเวศวิทยามนุษย์ มหาวิทยาลัยปุตรา มาเลเซีย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเบอร์นามาเมื่อเดือน ก.ค.ว่า ปัจจัยสำคัญมาจากวิถีชีวิตที่เสรี แรงกดดันทางสังคม การมีเซ็กซ์ก่อนแต่งงานกลายเป็นเรื่องปกติ การมีเซ็กซ์กับเพศเดียวกันโดยไม่ป้องกัน อีกทั้งเกิดจากความอยากรู้และขาดการศึกษาสุขภาพทางเพศ บางคนยังใช้แอปพลิเคชันหาคู่ นำไปสู่การมีเซ็กซ์แบบไม่ผูกมัด โดยไม่ได้ป้องกันอย่างเหมาะสม และยังได้รับสื่อลามกและเนื้อหาทางเพศที่ไม่ผ่านการกรองมากขึ้น โดยเฉพาะบนโซเชียลมีเดีย

    ส่วนการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับเอชไอวียังคงใช้วิธีการแบบเดิมๆ ทำให้กลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงรู้สึกแปลกแยก กังวลว่าจะถูกตัดสินหรือยอมรับจากเพื่อนหรืออาจารย์ จึงแนะนำให้ใช้กลยุทธ์ที่ตรงเป้าหมายมากขึ้น เป็นมิตรกับเยาวชน ปราศจากการตีตรา โดยให้การศึกษาเรื่องเพศศึกษาแบบครอบคลุมและไม่ตัดสิน การเข้าถึงถุงยางอนามัย การให้คำปรึกษา และการตรวจหาเชื้อเอชไอวีแบบสมัครใจและเป็นความลับ

    #Newskit

    (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะตีพิมพ์ลงใน Facebook และ Instagram วันจันทร์ที่ 11 ส.ค. 2568)
    ยอดผู้ติดเชื้อเอชไอวีมาเลย์ฯ 64% จากโฮโม-ไบเซ็กชวล อีกหนึ่งความท้าทายด้านสาธารณสุขของประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 6 ส.ค. นายดซุลเกฟลี อาหมัด รมว.สาธารณสุขมาเลเซีย ตอบคำถามสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย กรณีที่นายตัน ก๊ก ไว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมืองเชรัส รัฐสลังงอร์ ถามถึงสถานการณ์การติดเชื้อเอชไอวีในประเทศมาเลเซีย ระบุว่า ในปี 2567 ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 96% เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์ โดยเกิดขึ้นจากพฤติกรรมรักร่วมเพศแบบไบเซ็กชวล (ชายก็ได้ หญิงก็ได้) 64% และแบบโฮโมเซ็กชวล (ชายกับชาย หรือหญิงกับหญิง) 32% โดยมีรายงานผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่รวม 3,185 ราย คิดเป็น 9.4 ราย ต่อประชากร 100,000 คน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเพศชาย คิดเป็น 90% ส่วนอีก 10% อยู่ในกลุ่มเพศหญิง ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงจากทศวรรษ 1990 ซึ่งผู้ติดเชื้อเพศหญิงคิดเป็นเพียง 1% ของผู้ป่วย และเพศชายคิดเป็น 99% เกี่ยวข้องกับช่วงอายุระหว่าง 20 ถึง 39 ปี การติดเชื้อรายใหม่ในมาเลเซียโดยทั่วไปลดลง 50% ระหว่างปี พ.ศ. 2543-2552 กระทั่งตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 ถึงปัจจุบัน ลดลงเพียง 27% เท่านั้น ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ก.พ. นายดซุลเกฟลี กล่าวว่า การติดเชื้อเอชไอวีมากกว่า 60% เมื่อปีที่แล้วติดต่อผ่านเพศสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันและไบเซ็กชวล ปัจจัยสำคัญคือการไม่ใช้ถุงยางอนามัยสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงสูง อีกทั้งความท้าทายของผู้ติดเชื้อรายใหม่ซับซ้อนมากขึ้น จากการใช้ยาเสพติดและสารผิดกฎหมายเพิ่มขึ้น นำไปสู่พฤติกรรมทางเพศที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ดร.โมฮัมหมัด มูจาฮีด ฮัสซัน อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมศาสตร์และการพัฒนา คณะนิเวศวิทยามนุษย์ มหาวิทยาลัยปุตรา มาเลเซีย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเบอร์นามาเมื่อเดือน ก.ค.ว่า ปัจจัยสำคัญมาจากวิถีชีวิตที่เสรี แรงกดดันทางสังคม การมีเซ็กซ์ก่อนแต่งงานกลายเป็นเรื่องปกติ การมีเซ็กซ์กับเพศเดียวกันโดยไม่ป้องกัน อีกทั้งเกิดจากความอยากรู้และขาดการศึกษาสุขภาพทางเพศ บางคนยังใช้แอปพลิเคชันหาคู่ นำไปสู่การมีเซ็กซ์แบบไม่ผูกมัด โดยไม่ได้ป้องกันอย่างเหมาะสม และยังได้รับสื่อลามกและเนื้อหาทางเพศที่ไม่ผ่านการกรองมากขึ้น โดยเฉพาะบนโซเชียลมีเดีย ส่วนการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับเอชไอวียังคงใช้วิธีการแบบเดิมๆ ทำให้กลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงรู้สึกแปลกแยก กังวลว่าจะถูกตัดสินหรือยอมรับจากเพื่อนหรืออาจารย์ จึงแนะนำให้ใช้กลยุทธ์ที่ตรงเป้าหมายมากขึ้น เป็นมิตรกับเยาวชน ปราศจากการตีตรา โดยให้การศึกษาเรื่องเพศศึกษาแบบครอบคลุมและไม่ตัดสิน การเข้าถึงถุงยางอนามัย การให้คำปรึกษา และการตรวจหาเชื้อเอชไอวีแบบสมัครใจและเป็นความลับ #Newskit (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะตีพิมพ์ลงใน Facebook และ Instagram วันจันทร์ที่ 11 ส.ค. 2568)
    0 Comments 0 Shares 399 Views 0 Reviews
  • สภาล่ม! องค์ประชุมไม่ครบ "พ.ร.บ.ขนส่งทางราง" แท้งกลางคัน...หลัง ส.ส. หายตัวช่วงเย็น
    https://www.thai-tai.tv/news/20796/
    .
    #องค์ประชุมล่ม #สภาผู้แทนราษฎร #พรบการขนส่งทางราง #การเมือง #วิโรจน์ลักขณาอดิศร #วิสุทธิ์ไชยณรุณ #ไทยไท
    สภาล่ม! องค์ประชุมไม่ครบ "พ.ร.บ.ขนส่งทางราง" แท้งกลางคัน...หลัง ส.ส. หายตัวช่วงเย็น https://www.thai-tai.tv/news/20796/ . #องค์ประชุมล่ม #สภาผู้แทนราษฎร #พรบการขนส่งทางราง #การเมือง #วิโรจน์ลักขณาอดิศร #วิสุทธิ์ไชยณรุณ #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 162 Views 0 Reviews
  • กรณีพิพาทอัมบาลัต อันวาร์เอาตัวเองให้รอดก่อน

    อาเซียนการละครของ อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เพื่อนรักของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ผู้อื้อฉาวจากคดีทุจริต แสดงบทบาทไกล่เกลี่ยข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยกับกัมพูชาได้อย่างสมบทบาท แต่อีกด้านหนึ่ง กลับมีท่าทีแข็งกร้าวต่อกรณีพิพาทแหล่งพลังงานอัมบาลัต (Ambalat) ในเขตน่านน้ำสุลาเวสี ระหว่างรัฐซาบาห์ กับจังหวัดกาลิมันตันอุตาราของอินโดนีเซีย ว่า "จะปกป้องทุกตารางนิ้วของซาบาห์"

    อันวาร์กล่าวปราศรัยภายในงานเปิดตัววันเกษตรกรแห่งชาติ ที่เมืองโคตาคินาบาลู เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ว่า สิทธิของรัฐซาบาห์จะได้รับการคุ้มครองในการเจรจา พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาเพิกเฉยต่ออำนาจอธิปไตยของรัฐเหนือภูมิภาค ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรน้ำมันในทะเลสุลาเวสี และกล่าวว่า ข้อตกลงใดๆ จะต้องเกี่ยวข้องกับทั้งรัฐบาลของรัฐซาบาห์และสภานิติบัญญัติของรัฐ ยืนยันว่าอินโดนีเซียเป็นพันธมิตร ซึ่งจะเจรจากันอย่างเหมาะสมโดยไม่ยอมแพ้ เกิดขึ้นในการประชุม ไม่ใช่แค่การพูดคุยลับๆ

    แหล่งพลังงานอัมบาลัต ตั้งอยู่ในทะเลสุลาเวสี ห่างจากเมืองตารากันไปทางตะวันออก 80 กิโลเมตร มีความลึกของน้ำทะเล 2,000 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 4,735 ตารางกิโลเมตร ทั้งสองประเทศต่างอ้างสิทธิ์มานาน เนื่องจากมีน้ำมันและก๊าซ ความขัดแย้งเริ่มตั้งแต่ต้นปี 2543 ทั้งสองประเทศออกสัมปทานสำรวจพลังงานทับซ้อนกัน คือ อินโดนีเซียให้สัมปทานกับบริษัทอีเอ็นไอ (ENI) และยูโนแคล (Unocal) ส่วนประเทศมาเลเซีย มีปิโตรนาส (Petronas) ออกสัมปทานให้กับเชลล์ (Shell)

    ก่อนหน้านี้ นายบาห์ลิล ลาฮาดาเลีย รมว.พลังงานและทรัพยากรแร่ของอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียและมาเลเซียยังคงสำรวจความเป็นไปได้ในการพัฒนาแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอัมบาลัตร่วมกัน แต่ยังไม่มีข้อสรุปเพราะอยู่ระหว่างการพิจารณา ประเด็นหนึ่งที่หารือกันคือ ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันบริหารจัดการพื้นที่เขตอัมบาลัตตะวันออกเพื่อประโยชน์ร่วมกันได้อย่างไร หากบรรลุข้อตกลงก็จะมีความร่วมมือผ่านบริษัทน้ำมัน อย่างเปอร์ตามีนาและปิโตรนาส

    ล่าสุด นายโมฮัมหมัด ฮาซัน รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย กล่าวในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรของมาเลเซีย เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ว่า มาเลเซียและอินโดนีเซียยังคงศึกษาความเป็นไปได้ของข้อตกลงการพัฒนาร่วม (JDA) เพื่อแก้ไขข้อพิพาทเขตแดนทางทะเลในทะเลสุลาเวสี แต้ยังอยู่ระหว่างการหารือเบื้องต้น ซึ่งรัฐบาลกลางยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลท้องถิ่นรัฐซาบาห์ในการเจรจาที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดเขตแดนทางทะเลระหว่างมาเลเซียและอินโดนีเซีย

    #Newskit
    กรณีพิพาทอัมบาลัต อันวาร์เอาตัวเองให้รอดก่อน อาเซียนการละครของ อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เพื่อนรักของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ผู้อื้อฉาวจากคดีทุจริต แสดงบทบาทไกล่เกลี่ยข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยกับกัมพูชาได้อย่างสมบทบาท แต่อีกด้านหนึ่ง กลับมีท่าทีแข็งกร้าวต่อกรณีพิพาทแหล่งพลังงานอัมบาลัต (Ambalat) ในเขตน่านน้ำสุลาเวสี ระหว่างรัฐซาบาห์ กับจังหวัดกาลิมันตันอุตาราของอินโดนีเซีย ว่า "จะปกป้องทุกตารางนิ้วของซาบาห์" อันวาร์กล่าวปราศรัยภายในงานเปิดตัววันเกษตรกรแห่งชาติ ที่เมืองโคตาคินาบาลู เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ว่า สิทธิของรัฐซาบาห์จะได้รับการคุ้มครองในการเจรจา พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาเพิกเฉยต่ออำนาจอธิปไตยของรัฐเหนือภูมิภาค ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรน้ำมันในทะเลสุลาเวสี และกล่าวว่า ข้อตกลงใดๆ จะต้องเกี่ยวข้องกับทั้งรัฐบาลของรัฐซาบาห์และสภานิติบัญญัติของรัฐ ยืนยันว่าอินโดนีเซียเป็นพันธมิตร ซึ่งจะเจรจากันอย่างเหมาะสมโดยไม่ยอมแพ้ เกิดขึ้นในการประชุม ไม่ใช่แค่การพูดคุยลับๆ แหล่งพลังงานอัมบาลัต ตั้งอยู่ในทะเลสุลาเวสี ห่างจากเมืองตารากันไปทางตะวันออก 80 กิโลเมตร มีความลึกของน้ำทะเล 2,000 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 4,735 ตารางกิโลเมตร ทั้งสองประเทศต่างอ้างสิทธิ์มานาน เนื่องจากมีน้ำมันและก๊าซ ความขัดแย้งเริ่มตั้งแต่ต้นปี 2543 ทั้งสองประเทศออกสัมปทานสำรวจพลังงานทับซ้อนกัน คือ อินโดนีเซียให้สัมปทานกับบริษัทอีเอ็นไอ (ENI) และยูโนแคล (Unocal) ส่วนประเทศมาเลเซีย มีปิโตรนาส (Petronas) ออกสัมปทานให้กับเชลล์ (Shell) ก่อนหน้านี้ นายบาห์ลิล ลาฮาดาเลีย รมว.พลังงานและทรัพยากรแร่ของอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียและมาเลเซียยังคงสำรวจความเป็นไปได้ในการพัฒนาแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอัมบาลัตร่วมกัน แต่ยังไม่มีข้อสรุปเพราะอยู่ระหว่างการพิจารณา ประเด็นหนึ่งที่หารือกันคือ ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันบริหารจัดการพื้นที่เขตอัมบาลัตตะวันออกเพื่อประโยชน์ร่วมกันได้อย่างไร หากบรรลุข้อตกลงก็จะมีความร่วมมือผ่านบริษัทน้ำมัน อย่างเปอร์ตามีนาและปิโตรนาส ล่าสุด นายโมฮัมหมัด ฮาซัน รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย กล่าวในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรของมาเลเซีย เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ว่า มาเลเซียและอินโดนีเซียยังคงศึกษาความเป็นไปได้ของข้อตกลงการพัฒนาร่วม (JDA) เพื่อแก้ไขข้อพิพาทเขตแดนทางทะเลในทะเลสุลาเวสี แต้ยังอยู่ระหว่างการหารือเบื้องต้น ซึ่งรัฐบาลกลางยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลท้องถิ่นรัฐซาบาห์ในการเจรจาที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดเขตแดนทางทะเลระหว่างมาเลเซียและอินโดนีเซีย #Newskit
    Love
    1
    0 Comments 1 Shares 497 Views 0 Reviews
  • “พีระพันธุ์” เคลียร์ปมซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาด ยันรัฐบาลปัจจุบันกำลังแก้ปัญหา จ่อชะลอเซ็นสัญญา-ลดราคา
    https://www.thai-tai.tv/news/20677/
    .
    #ไทยไทด้วย #พีระพันธุ์สาลีรัฐวิภาค #กระทรวงพลังงาน #ค่าไฟ #พลังงานสะอาด #โรงไฟฟ้าชุมชน #PDP #สภาผู้แทนราษฎร #แก้ปัญหาประชาชน #ตรวจสอบ
    “พีระพันธุ์” เคลียร์ปมซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาด ยันรัฐบาลปัจจุบันกำลังแก้ปัญหา จ่อชะลอเซ็นสัญญา-ลดราคา https://www.thai-tai.tv/news/20677/ . #ไทยไทด้วย #พีระพันธุ์สาลีรัฐวิภาค #กระทรวงพลังงาน #ค่าไฟ #พลังงานสะอาด #โรงไฟฟ้าชุมชน #PDP #สภาผู้แทนราษฎร #แก้ปัญหาประชาชน #ตรวจสอบ
    0 Comments 0 Shares 247 Views 0 Reviews
  • “พิชัย” แจงสภาฯ ดีลภาษีสหรัฐฯ ยันได้ตัวเลขใกล้เคียงอาเซียน ชี้วิน-วินโซลูชั่น ชดเชยด้วยพลังงาน-สินค้าเกษตร
    https://www.thai-tai.tv/news/20673/
    .
    #ไทยไทด้วย #ภาษีสหรัฐ #พิชัยชุณหวชิร #กระทรวงการคลัง #การค้าระหว่างประเทศ #สภาผู้แทนราษฎร #เศรษฐกิจไทย #ข้าวโพด #พลังงาน #วินวินโซลูชั่น
    “พิชัย” แจงสภาฯ ดีลภาษีสหรัฐฯ ยันได้ตัวเลขใกล้เคียงอาเซียน ชี้วิน-วินโซลูชั่น ชดเชยด้วยพลังงาน-สินค้าเกษตร https://www.thai-tai.tv/news/20673/ . #ไทยไทด้วย #ภาษีสหรัฐ #พิชัยชุณหวชิร #กระทรวงการคลัง #การค้าระหว่างประเทศ #สภาผู้แทนราษฎร #เศรษฐกิจไทย #ข้าวโพด #พลังงาน #วินวินโซลูชั่น
    0 Comments 0 Shares 309 Views 0 Reviews
  • 22 กรกฏาคม 2568- รายงานจากเพจ ThePublisher ระบุว่า 144-88” รหัสล้างบางนักการเมือง!คำนูณ ชี้โทษร้ายแรงอาจล้มทั้ง ครม.ถึงขั้นปลัดกระทรวงนั่งแทนนายกฯ22 กรกฎาคม 2568 — นายคำนูณ สิทธิสมาน อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กวิเคราะห์เจาะลึกกรณีการร้องเรียนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ซึ่งขณะนี้กลายเป็นประเด็นร้อนในทางการเมือง โดยเรียกคดีนี้ว่า “144-88 รหัสล้างบางนักการเมือง” พร้อมเตือนว่าโทษของความผิดร้ายแรงถึงขั้น “สิ้นสุดสมาชิกภาพ” ของ ส.ส. และ “พ้นตำแหน่งทั้งคณะ” สำหรับคณะรัฐมนตรี รวมถึงอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่ “ปลัดกระทรวง” ต้องมานั่งแทนนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 168 วรรคสอง ซึ่งไม่เคยถูกใช้มาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย—————จุดเริ่มต้น: ศาลรับเรื่องไต่สวนรองประธานสภานายคำนูณระบุว่า เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องที่กล่าวหารองประธานสภาผู้แทนราษฎรว่ากระทำผิดตามมาตรา 144 วรรคสอง (มีส่วนในการใช้งบประมาณรายจ่าย) โดยคำร้องดังกล่าวมาจาก ส.ส.พรรคประชาชนที่เข้าชื่อกันยื่นตรงต่อศาล ซึ่งต้องมีคำวินิจฉัยภายใน 15 วัน กระบวนการไต่สวนจึงเดินหน้าอย่างเร่งด่วน————-ตีความ “144” กับ “88” — จุดเปลี่ยนทางนิติรัฐนายคำนูณอธิบายว่ามาตรา 144 แห่งรัฐธรรมนูญปี 2560 มี 2 ฐานความผิดหลัก ได้แก่ 1. วรรคหนึ่ง – ห้าม ส.ส. แปรญัตติลดหรือตัดทอนรายจ่ายที่เป็นเงินส่งใช้ต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยเงินกู้ และเงินที่กำหนดให้จ่ายตามกฎหมาย 2. วรรคสอง – ห้ามไม่ให้ผู้ดำรงตำแหน่งในรัฐสภามีส่วนร่วมโดยตรงหรืออ้อมกับการใช้งบประมาณโดยมีช่องทางร้องเรียน 2 ทาง ได้แก่ • ส.ส. หรือ ส.ว. เข้าชื่อยื่นตรงต่อศาล (ยื่นได้เฉพาะวรรคสอง) • แจ้งผ่าน ป.ป.ช. ตามวรรคสี่ ซึ่งนายคำนูณย้ำว่า “ประชาชนทั่วไป” ก็สามารถกระทำได้ภายใต้บทบัญญัติมาตรา 88 ของ พ.ร.ป. ป.ป.ช. ปี 2561คีย์เวิร์ดสำคัญในมาตรา 88 คือ “เมื่อความปรากฏต่อ ป.ป.ช.” ซึ่งนายคำนูณชี้ว่า เปิดทางให้กรณีที่ประชาชนร้องเรียนใด ๆ หาก ป.ป.ช. รับรู้และเห็นว่ามีมูล ก็ถือว่าเข้าหลักเกณฑ์ทันทีโดยไม่ต้องผูกกับช่วงเวลาของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ————-โทษร้ายแรง—กระทบทั้งสภาและรัฐบาลขณะที่มาตรา 144 วรรคสาม ยังกำหนดเรียกเงินคืนบวกดอกเบี้ย กำหนดอายุความ 20 ปีด้วยสำหรับฐานความผิดมีโทษร้ายแรง : • สมาชิกภาพ ส.ส./ส.ว. สิ้นสุดทันที • เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง • ครม.พ้นตำแหน่งทั้งคณะ เว้นผู้ที่พิสูจน์ได้ว่าไม่อยู่ในที่ประชุม • ผู้กระทำผิดต้องใช้เงินคืนพร้อมดอกเบี้ย โดยมีอายุความ 20 ปี • และอาจมีความผิดทางอาญาตามมาอีกด้วย—————อาจได้เห็น ปลัดกระทรวงทำหน้าที่แทนนายกฯหากคณะรัฐมนตรีพ้นตำแหน่งเพราะคดีนี้ มาตรา 168 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญกำหนดว่า “จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปมิได้” ส่งผลให้เกิดสุญญากาศทางอำนาจ ซึ่งนายคำนูณชี้ว่าอาจนำไปสู่กรณีที่ “ปลัดกระทรวงแต่ละกระทรวงทำหน้าที่แทน รัฐมนตรีเจ้ากระทรวง” และ “ประชุมคัดเลือกปลัดกระทรวงผู้หนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ” ตามกลไกในรัฐธรรมนูญ — ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน——————— ต้องจับตาศาลรัฐธรรมนูญนายคำนูณปิดท้ายว่า “จะมากจะน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ” พร้อมระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงเรื่องเฉพาะรายบุคคล แต่เป็น “รหัสล้างบางนักการเมือง” ที่อาจเปลี่ยนโฉมการเมืองไทยทั้งระบบ“บทเพลง 144 เริ่มบรรเลงแล้ว แม้นช่วงโหมโรงนี้ท่วงทำนองจะเริ่มต้นแบบเนิบ ๆ แต่ความความดุดันกระแทกกระทั้น และเหนือความคาดหมายยากคาดเดา กำลังจะตามมา…” — คำนูณ สิทธิสมาน#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #พิเชษฐ์เชื้อเมืองพาน
    22 กรกฏาคม 2568- รายงานจากเพจ ThePublisher ระบุว่า 144-88” รหัสล้างบางนักการเมือง!คำนูณ ชี้โทษร้ายแรงอาจล้มทั้ง ครม.ถึงขั้นปลัดกระทรวงนั่งแทนนายกฯ22 กรกฎาคม 2568 — นายคำนูณ สิทธิสมาน อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กวิเคราะห์เจาะลึกกรณีการร้องเรียนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ซึ่งขณะนี้กลายเป็นประเด็นร้อนในทางการเมือง โดยเรียกคดีนี้ว่า “144-88 รหัสล้างบางนักการเมือง” พร้อมเตือนว่าโทษของความผิดร้ายแรงถึงขั้น “สิ้นสุดสมาชิกภาพ” ของ ส.ส. และ “พ้นตำแหน่งทั้งคณะ” สำหรับคณะรัฐมนตรี รวมถึงอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่ “ปลัดกระทรวง” ต้องมานั่งแทนนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 168 วรรคสอง ซึ่งไม่เคยถูกใช้มาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย—————จุดเริ่มต้น: ศาลรับเรื่องไต่สวนรองประธานสภานายคำนูณระบุว่า เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องที่กล่าวหารองประธานสภาผู้แทนราษฎรว่ากระทำผิดตามมาตรา 144 วรรคสอง (มีส่วนในการใช้งบประมาณรายจ่าย) โดยคำร้องดังกล่าวมาจาก ส.ส.พรรคประชาชนที่เข้าชื่อกันยื่นตรงต่อศาล ซึ่งต้องมีคำวินิจฉัยภายใน 15 วัน กระบวนการไต่สวนจึงเดินหน้าอย่างเร่งด่วน————-ตีความ “144” กับ “88” — จุดเปลี่ยนทางนิติรัฐนายคำนูณอธิบายว่ามาตรา 144 แห่งรัฐธรรมนูญปี 2560 มี 2 ฐานความผิดหลัก ได้แก่ 1. วรรคหนึ่ง – ห้าม ส.ส. แปรญัตติลดหรือตัดทอนรายจ่ายที่เป็นเงินส่งใช้ต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยเงินกู้ และเงินที่กำหนดให้จ่ายตามกฎหมาย 2. วรรคสอง – ห้ามไม่ให้ผู้ดำรงตำแหน่งในรัฐสภามีส่วนร่วมโดยตรงหรืออ้อมกับการใช้งบประมาณโดยมีช่องทางร้องเรียน 2 ทาง ได้แก่ • ส.ส. หรือ ส.ว. เข้าชื่อยื่นตรงต่อศาล (ยื่นได้เฉพาะวรรคสอง) • แจ้งผ่าน ป.ป.ช. ตามวรรคสี่ ซึ่งนายคำนูณย้ำว่า “ประชาชนทั่วไป” ก็สามารถกระทำได้ภายใต้บทบัญญัติมาตรา 88 ของ พ.ร.ป. ป.ป.ช. ปี 2561คีย์เวิร์ดสำคัญในมาตรา 88 คือ “เมื่อความปรากฏต่อ ป.ป.ช.” ซึ่งนายคำนูณชี้ว่า เปิดทางให้กรณีที่ประชาชนร้องเรียนใด ๆ หาก ป.ป.ช. รับรู้และเห็นว่ามีมูล ก็ถือว่าเข้าหลักเกณฑ์ทันทีโดยไม่ต้องผูกกับช่วงเวลาของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ————-โทษร้ายแรง—กระทบทั้งสภาและรัฐบาลขณะที่มาตรา 144 วรรคสาม ยังกำหนดเรียกเงินคืนบวกดอกเบี้ย กำหนดอายุความ 20 ปีด้วยสำหรับฐานความผิดมีโทษร้ายแรง : • สมาชิกภาพ ส.ส./ส.ว. สิ้นสุดทันที • เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง • ครม.พ้นตำแหน่งทั้งคณะ เว้นผู้ที่พิสูจน์ได้ว่าไม่อยู่ในที่ประชุม • ผู้กระทำผิดต้องใช้เงินคืนพร้อมดอกเบี้ย โดยมีอายุความ 20 ปี • และอาจมีความผิดทางอาญาตามมาอีกด้วย—————อาจได้เห็น ปลัดกระทรวงทำหน้าที่แทนนายกฯหากคณะรัฐมนตรีพ้นตำแหน่งเพราะคดีนี้ มาตรา 168 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญกำหนดว่า “จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปมิได้” ส่งผลให้เกิดสุญญากาศทางอำนาจ ซึ่งนายคำนูณชี้ว่าอาจนำไปสู่กรณีที่ “ปลัดกระทรวงแต่ละกระทรวงทำหน้าที่แทน รัฐมนตรีเจ้ากระทรวง” และ “ประชุมคัดเลือกปลัดกระทรวงผู้หนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ” ตามกลไกในรัฐธรรมนูญ — ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน——————— ต้องจับตาศาลรัฐธรรมนูญนายคำนูณปิดท้ายว่า “จะมากจะน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ” พร้อมระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงเรื่องเฉพาะรายบุคคล แต่เป็น “รหัสล้างบางนักการเมือง” ที่อาจเปลี่ยนโฉมการเมืองไทยทั้งระบบ“บทเพลง 144 เริ่มบรรเลงแล้ว แม้นช่วงโหมโรงนี้ท่วงทำนองจะเริ่มต้นแบบเนิบ ๆ แต่ความความดุดันกระแทกกระทั้น และเหนือความคาดหมายยากคาดเดา กำลังจะตามมา…” — คำนูณ สิทธิสมาน#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #พิเชษฐ์เชื้อเมืองพาน
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 436 Views 0 Reviews
  • ข่าวดี⭐️⭐️
    HHS และกระทรวงการต่างประเทศ: สหรัฐอเมริกาปฏิเสธการแก้ไขกฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ

    วอชิงตัน—18 กรกฎาคม 2568—
    วันนี้ นายโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์แห่งสหรัฐอเมริกา และ นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ร่วมว่าสหรัฐอเมริกาไม่ยอมรับการแก้ไขข้อบังคับด้านสุขภาพระหว่างประเทศ (IHR) ปี 2567 ขององค์การอนามัยโลก (WHO) อย่างเป็นทางการกฎหมายสุขภาพระหว่างประเทศฉบับแก้ไขนี้จะทำให้ WHO สามารถสั่งปิดประเทศทั่วโลก จำกัดการเดินทาง หรือมาตรการอื่นใดที่ WHO เห็นสมควร เพื่อรับมือกับ “ความเสี่ยงด้านสาธารณสุขที่อาจเกิดขึ้น” ที่คลุมเครือ กฎระเบียบเหล่านี้จะมีผลผูกพันหากไม่ได้รับการปฏิเสธภายในวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 โดยไม่คำนึงถึงการถอนตัวของสหรัฐอเมริกาจาก WHO-
    “การแก้ไขเพิ่มเติมกฎอนามัยระหว่างประเทศที่เสนอขึ้นนี้เปิดโอกาสให้เกิดการจัดการเรื่องเล่า การโฆษณาชวนเชื่อ และการเซ็นเซอร์แบบที่เราพบเห็นในช่วงการระบาดของโควิด-19” รัฐมนตรีเคนเนดีกล่าว

    “สหรัฐอเมริกาสามารถร่วมมือกับประเทศอื่นๆ โดยไม่กระทบต่อเสรีภาพพลเมืองของเรา โดยไม่บ่อนทำลายรัฐธรรมนูญของเรา และโดยไม่สูญเสียอำนาจอธิปไตยอันล้ำค่าของอเมริกาไป”
    รัฐมนตรีเคนเนดียังเผยแพร่วิดีโอ ด้วยอธิบายการกระทำดังกล่าวให้ชาวอเมริกันทราบ“
    คำศัพท์ที่ใช้ตลอดทั้งฉบับแก้ไขเพิ่มเติมกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. 2567 นั้นคลุมเครือและกว้างเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อการตอบสนองระหว่างประเทศที่ประสานงานโดยองค์การอนามัยโลก ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ประเด็นทางการเมือง เช่น ความสามัคคี มากกว่าการดำเนินการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ” รัฐมนตรีรูบิโอกล่าว

    “หน่วยงานของเราได้ดำเนินการอย่างชัดเจนมาโดยตลอดและจะยังคงดำเนินการต่อไป นั่นคือ เราจะให้ความสำคัญกับชาวอเมริกันเป็นอันดับแรกในทุกการกระทำของเรา และเราจะไม่ยอมให้มีนโยบายระหว่างประเทศที่ละเมิดสิทธิในการพูด ความเป็นส่วนตัว หรือเสรีภาพส่วนบุคคลของชาวอเมริกัน”เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2567 สมัชชาอนามัยโลก (WHA) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดของ WHO ได้นำข้อบังคับสุขภาพระหว่างประเทศฉบับแก้ไขมาใช้โดยผ่านกระบวนการเร่งรีบ ขาดการอภิปรายและการรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณะอย่างเพียงพอคำชื่นชมต่อการกระทำในวันนี้จากสมาชิกรัฐสภา:การระบาดใหญ่ของโควิด-19 เผยให้เห็นว่าความไร้ประสิทธิภาพและการคอร์รัปชันขององค์การอนามัยโลก
    เรียกร้องให้มีการปฏิรูปอย่างครอบคลุม แทนที่จะจัดการกับนโยบายสาธารณสุขที่ย่ำแย่ในช่วงโควิด องค์การอนามัยโลกกลับต้องการให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎระเบียบสุขภาพระหว่างประเทศและสนธิสัญญาโรคระบาดเพื่อประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขในประเทศสมาชิก ซึ่งอาจรวมถึงการตอบสนองที่เข้มงวดแต่ล้มเหลว เช่น การปิดธุรกิจและโรงเรียน และคำสั่งให้ฉีดวัคซีน ตั้งแต่ปี 2565 ผมได้นำร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการไม่เตรียมความพร้อมรับมือโรคระบาดขององค์การอนามัยโลกโดยปราศจากการอนุมัติจากวุฒิสภาซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านร่างไปเมื่อปีที่แล้ว สหรัฐอเมริกาจะไม่อนุญาตให้องค์การอนามัยโลกใช้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขเพื่อทำลายล้างประเทศชาติ ผมสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อการตัดสินใจของรัฐบาลทรัมป์ที่จะปฏิเสธการแก้ไขเพิ่มเติมของกฎหมายอนามัยระหว่างประเทศ (IHR)”
    วุฒิสมาชิกรอน จอห์นสันกล่าว

    “นโยบายสาธารณสุขของอเมริกาเป็นของชาวอเมริกัน และไม่ควรถูกกำหนดโดยนักโลกาภิวัตน์ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งในองค์การอนามัยโลกหรือสหประชาชาติ WHO ได้แสดงให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าว่า WHO ไม่สามารถไว้วางใจได้ และผมรู้สึกขอบคุณที่รัฐบาลทรัมป์ยังคงยืนหยัดอย่างเข้มแข็งเพื่อปกป้องอธิปไตยของอเมริกา” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทอม ทิฟฟานี กล่าว

    “สหรัฐอเมริกาต้องไม่สละอำนาจอธิปไตยของเราให้แก่องค์กรหรือหน่วยงานระหว่างประเทศใดๆ ทั้งสิ้น ผมขอชื่นชมรัฐมนตรีเคนเนดีและรัฐมนตรีรูบิโอที่ปฏิเสธการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับสุขภาพระหว่างประเทศ (IHR) ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ไม่รอบคอบ ผมสนับสนุนให้สหรัฐฯ ถอนตัวจาก WHO และตัดงบประมาณองค์กรที่กระหายอำนาจของตนมานานแล้ว กฎหมายของผม HR 401 ซึ่งนำเสนอครั้งแรกในรัฐสภาชุดที่ 117 ถือเป็นการกระทำเช่นนั้น ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมพันธกิจของอเมริกาต้องมาก่อนและเสรีภาพด้านการดูแลสุขภาพ WHO ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ได้สูญเสียความน่าเชื่อถือที่อาจเกิดขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด-19 และเราต้องมั่นใจว่าจะไม่มีรัฐบาลชุดใดในอนาคตที่จะมอบความชอบธรรมหรืออำนาจใดๆ ให้แก่พวกเขาเหนือสุขภาพของชาวอเมริกัน” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชิป รอยกล่าว

    “รัฐมนตรีเคนเนดีและประธานาธิบดีทรัมป์ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญกับอเมริกาเป็นอันดับแรก WHO เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ปราศจากความรับผิดชอบ ซึ่งมอบสิทธิเสรีภาพด้านการดูแลสุขภาพของประชาชนให้กับข้าราชการที่ทุจริต ผมรู้สึกขอบคุณรัฐมนตรีเคนเนดีที่ยืนหยัดอย่างมั่นคงต่อข้อตกลงโรคระบาดของ WHO ซึ่งจะปกป้องเสรีภาพด้านสุขภาพและความเป็นส่วนตัวของชาวอเมริกัน เรามาทำให้อเมริกายิ่งใหญ่และมีสุขภาพดีอีกครั้งกันเถอะ” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแอนดี บิ๊กส์ กล่าว

    การประกาศในวันนี้ถือเป็นการดำเนินการล่าสุดของรัฐมนตรีเคนเนดีและ HHS ในการให้ WHOรับผิดชอบ

    HHS & State Department: The United States Rejects Amendments to International Health Regulations

    WASHINGTON—JULY 18, 2025—U.S. Health and Human Services Secretary Robert F. Kennedy, Jr. and Secretary of State Marco Rubio today issued a Joint Statement of formal rejection by the United States of the 2024 International Heath Regulations (IHR) Amendments by the World Health Organization (WHO).The amended IHR would give the WHO the ability to order global lockdowns, travel restrictions, or any other measures it sees fit to respond to nebulous “potential public health risks.” These regulations are set to become binding if not rejected by July 19, 2025, regardless of the United States’ withdrawal from the WHO.“The proposed amendments to the International Health Regulations open the door to the kind of narrative management, propaganda, and censorship that we saw during the COVID pandemic,” Secretary Kennedy said. “The United States can cooperate with other nations without jeopardizing our civil liberties, without undermining our Constitution, and without ceding away America’s treasured sovereignty.”Secretary Kennedy also released a video explaining the action to the American people.“Terminology throughout the amendments to the 2024 International Health Regulations is vague and broad, risking WHO-coordinated international responses that focus on political issues like solidarity, rather than rapid and effective actions,” Secretary Rubio said. “Our Agencies have been and will continue to be clear: we will put Americans first in all our actions and we will not tolerate international policies that infringe on Americans’ speech, privacy, or personal liberties.”On June 1, 2024, the World Health Assembly (WHA), the highest decision-making body of the WHO, adopted a revised version of the International Health Regulations through a rushed process lacking sufficient debate and public input.Praise for today’s action from members of Congress:“The COVID-19 pandemic exposed how the incompetency and corruption at the WHO demands comprehensive reforms. Instead of addressing its disastrous public health policies during COVID, the WHO wants International Health Regulation amendments and a pandemic treaty to declare public health emergencies in member states, which could include failed draconian responses like business and school closures and vaccine mandates. Since 2022, I have led the No WHO Pandemic Preparedness Treaty Without Senate Approval Act, which the House passed last year. The United States will not allow the WHO to use public health emergencies to devastate our nation. I fully support the Trump administration’s decision to reject the IHR amendments,” said Senator Ron Johnson.“America’s public health policy belongs to the American people and should never be dictated by unelected globalists at the WHO or the UN. Time and time again, the WHO has demonstrated it cannot be trusted, and I am grateful that the Trump administration is standing strong to protect American sovereignty,” said Congressman Tom Tiffany.“The United States must never cede our sovereignty to any international entity or organization. I applaud Secretary Kennedy and Secretary Rubio for rejecting the World Health Organization’s (WHO) ill-advised International Health Regulations (IHR) amendments. I have long supported the U.S. withdrawing from the WHO and defunding their power-hungry organization. My legislation, H.R. 401, first introduced in the 117th Congress, does just that while advancing the mission statements of America First and Healthcare Freedom. The WHO, a widely discredited international organization, lost any potential credibility during the COVID-19 pandemic, and we must ensure no future administration grants them any legitimacy or further power over the health of Americans," said Congressman Chip Roy.“Secretary Kennedy and President Trump have proven their commitment to putting America First. WHO is an unaccountable international organization that hands individuals’ healthcare freedoms to corrupt bureaucrats. I’m thankful for Secretary Kennedy’s firm stance against WHO’s Pandemic Agreement that will protect Americans’ health freedom and privacy. Let’s Make America Great and Healthy Again,” said Congressman Andy Biggs.Today’s announcement is the latest action by Secretary Kennedy and HHS to hold the WHO accountable.
    https://www.hhs.gov/press-room/state-department-hhs-rejects-amendments-to-international-health-regulations.html
    July 18, 2025
    ☘️🌿 ข่าวดี⭐️⭐️ HHS และกระทรวงการต่างประเทศ: สหรัฐอเมริกาปฏิเสธการแก้ไขกฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ วอชิงตัน—18 กรกฎาคม 2568— วันนี้ นายโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์แห่งสหรัฐอเมริกา และ นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ร่วมว่าสหรัฐอเมริกาไม่ยอมรับการแก้ไขข้อบังคับด้านสุขภาพระหว่างประเทศ (IHR) ปี 2567 ขององค์การอนามัยโลก (WHO) อย่างเป็นทางการกฎหมายสุขภาพระหว่างประเทศฉบับแก้ไขนี้จะทำให้ WHO สามารถสั่งปิดประเทศทั่วโลก จำกัดการเดินทาง หรือมาตรการอื่นใดที่ WHO เห็นสมควร เพื่อรับมือกับ “ความเสี่ยงด้านสาธารณสุขที่อาจเกิดขึ้น” ที่คลุมเครือ กฎระเบียบเหล่านี้จะมีผลผูกพันหากไม่ได้รับการปฏิเสธภายในวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 โดยไม่คำนึงถึงการถอนตัวของสหรัฐอเมริกาจาก WHO- “การแก้ไขเพิ่มเติมกฎอนามัยระหว่างประเทศที่เสนอขึ้นนี้เปิดโอกาสให้เกิดการจัดการเรื่องเล่า การโฆษณาชวนเชื่อ และการเซ็นเซอร์แบบที่เราพบเห็นในช่วงการระบาดของโควิด-19” รัฐมนตรีเคนเนดีกล่าว “สหรัฐอเมริกาสามารถร่วมมือกับประเทศอื่นๆ โดยไม่กระทบต่อเสรีภาพพลเมืองของเรา โดยไม่บ่อนทำลายรัฐธรรมนูญของเรา และโดยไม่สูญเสียอำนาจอธิปไตยอันล้ำค่าของอเมริกาไป” รัฐมนตรีเคนเนดียังเผยแพร่วิดีโอ ด้วยอธิบายการกระทำดังกล่าวให้ชาวอเมริกันทราบ“ คำศัพท์ที่ใช้ตลอดทั้งฉบับแก้ไขเพิ่มเติมกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. 2567 นั้นคลุมเครือและกว้างเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อการตอบสนองระหว่างประเทศที่ประสานงานโดยองค์การอนามัยโลก ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ประเด็นทางการเมือง เช่น ความสามัคคี มากกว่าการดำเนินการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ” รัฐมนตรีรูบิโอกล่าว “หน่วยงานของเราได้ดำเนินการอย่างชัดเจนมาโดยตลอดและจะยังคงดำเนินการต่อไป นั่นคือ เราจะให้ความสำคัญกับชาวอเมริกันเป็นอันดับแรกในทุกการกระทำของเรา และเราจะไม่ยอมให้มีนโยบายระหว่างประเทศที่ละเมิดสิทธิในการพูด ความเป็นส่วนตัว หรือเสรีภาพส่วนบุคคลของชาวอเมริกัน”เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2567 สมัชชาอนามัยโลก (WHA) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดของ WHO ได้นำข้อบังคับสุขภาพระหว่างประเทศฉบับแก้ไขมาใช้โดยผ่านกระบวนการเร่งรีบ ขาดการอภิปรายและการรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณะอย่างเพียงพอคำชื่นชมต่อการกระทำในวันนี้จากสมาชิกรัฐสภา:การระบาดใหญ่ของโควิด-19 เผยให้เห็นว่าความไร้ประสิทธิภาพและการคอร์รัปชันขององค์การอนามัยโลก เรียกร้องให้มีการปฏิรูปอย่างครอบคลุม แทนที่จะจัดการกับนโยบายสาธารณสุขที่ย่ำแย่ในช่วงโควิด องค์การอนามัยโลกกลับต้องการให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎระเบียบสุขภาพระหว่างประเทศและสนธิสัญญาโรคระบาดเพื่อประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขในประเทศสมาชิก ซึ่งอาจรวมถึงการตอบสนองที่เข้มงวดแต่ล้มเหลว เช่น การปิดธุรกิจและโรงเรียน และคำสั่งให้ฉีดวัคซีน ตั้งแต่ปี 2565 ผมได้นำร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการไม่เตรียมความพร้อมรับมือโรคระบาดขององค์การอนามัยโลกโดยปราศจากการอนุมัติจากวุฒิสภาซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านร่างไปเมื่อปีที่แล้ว สหรัฐอเมริกาจะไม่อนุญาตให้องค์การอนามัยโลกใช้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขเพื่อทำลายล้างประเทศชาติ ผมสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อการตัดสินใจของรัฐบาลทรัมป์ที่จะปฏิเสธการแก้ไขเพิ่มเติมของกฎหมายอนามัยระหว่างประเทศ (IHR)” วุฒิสมาชิกรอน จอห์นสันกล่าว “นโยบายสาธารณสุขของอเมริกาเป็นของชาวอเมริกัน และไม่ควรถูกกำหนดโดยนักโลกาภิวัตน์ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งในองค์การอนามัยโลกหรือสหประชาชาติ WHO ได้แสดงให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าว่า WHO ไม่สามารถไว้วางใจได้ และผมรู้สึกขอบคุณที่รัฐบาลทรัมป์ยังคงยืนหยัดอย่างเข้มแข็งเพื่อปกป้องอธิปไตยของอเมริกา” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทอม ทิฟฟานี กล่าว “สหรัฐอเมริกาต้องไม่สละอำนาจอธิปไตยของเราให้แก่องค์กรหรือหน่วยงานระหว่างประเทศใดๆ ทั้งสิ้น ผมขอชื่นชมรัฐมนตรีเคนเนดีและรัฐมนตรีรูบิโอที่ปฏิเสธการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับสุขภาพระหว่างประเทศ (IHR) ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ไม่รอบคอบ ผมสนับสนุนให้สหรัฐฯ ถอนตัวจาก WHO และตัดงบประมาณองค์กรที่กระหายอำนาจของตนมานานแล้ว กฎหมายของผม HR 401 ซึ่งนำเสนอครั้งแรกในรัฐสภาชุดที่ 117 ถือเป็นการกระทำเช่นนั้น ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมพันธกิจของอเมริกาต้องมาก่อนและเสรีภาพด้านการดูแลสุขภาพ WHO ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ได้สูญเสียความน่าเชื่อถือที่อาจเกิดขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด-19 และเราต้องมั่นใจว่าจะไม่มีรัฐบาลชุดใดในอนาคตที่จะมอบความชอบธรรมหรืออำนาจใดๆ ให้แก่พวกเขาเหนือสุขภาพของชาวอเมริกัน” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชิป รอยกล่าว “รัฐมนตรีเคนเนดีและประธานาธิบดีทรัมป์ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญกับอเมริกาเป็นอันดับแรก WHO เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ปราศจากความรับผิดชอบ ซึ่งมอบสิทธิเสรีภาพด้านการดูแลสุขภาพของประชาชนให้กับข้าราชการที่ทุจริต ผมรู้สึกขอบคุณรัฐมนตรีเคนเนดีที่ยืนหยัดอย่างมั่นคงต่อข้อตกลงโรคระบาดของ WHO ซึ่งจะปกป้องเสรีภาพด้านสุขภาพและความเป็นส่วนตัวของชาวอเมริกัน เรามาทำให้อเมริกายิ่งใหญ่และมีสุขภาพดีอีกครั้งกันเถอะ” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแอนดี บิ๊กส์ กล่าว การประกาศในวันนี้ถือเป็นการดำเนินการล่าสุดของรัฐมนตรีเคนเนดีและ HHS ในการให้ WHOรับผิดชอบ HHS & State Department: The United States Rejects Amendments to International Health Regulations WASHINGTON—JULY 18, 2025—U.S. Health and Human Services Secretary Robert F. Kennedy, Jr. and Secretary of State Marco Rubio today issued a Joint Statement of formal rejection by the United States of the 2024 International Heath Regulations (IHR) Amendments by the World Health Organization (WHO).The amended IHR would give the WHO the ability to order global lockdowns, travel restrictions, or any other measures it sees fit to respond to nebulous “potential public health risks.” These regulations are set to become binding if not rejected by July 19, 2025, regardless of the United States’ withdrawal from the WHO.“The proposed amendments to the International Health Regulations open the door to the kind of narrative management, propaganda, and censorship that we saw during the COVID pandemic,” Secretary Kennedy said. “The United States can cooperate with other nations without jeopardizing our civil liberties, without undermining our Constitution, and without ceding away America’s treasured sovereignty.”Secretary Kennedy also released a video explaining the action to the American people.“Terminology throughout the amendments to the 2024 International Health Regulations is vague and broad, risking WHO-coordinated international responses that focus on political issues like solidarity, rather than rapid and effective actions,” Secretary Rubio said. “Our Agencies have been and will continue to be clear: we will put Americans first in all our actions and we will not tolerate international policies that infringe on Americans’ speech, privacy, or personal liberties.”On June 1, 2024, the World Health Assembly (WHA), the highest decision-making body of the WHO, adopted a revised version of the International Health Regulations through a rushed process lacking sufficient debate and public input.Praise for today’s action from members of Congress:“The COVID-19 pandemic exposed how the incompetency and corruption at the WHO demands comprehensive reforms. Instead of addressing its disastrous public health policies during COVID, the WHO wants International Health Regulation amendments and a pandemic treaty to declare public health emergencies in member states, which could include failed draconian responses like business and school closures and vaccine mandates. Since 2022, I have led the No WHO Pandemic Preparedness Treaty Without Senate Approval Act, which the House passed last year. The United States will not allow the WHO to use public health emergencies to devastate our nation. I fully support the Trump administration’s decision to reject the IHR amendments,” said Senator Ron Johnson.“America’s public health policy belongs to the American people and should never be dictated by unelected globalists at the WHO or the UN. Time and time again, the WHO has demonstrated it cannot be trusted, and I am grateful that the Trump administration is standing strong to protect American sovereignty,” said Congressman Tom Tiffany.“The United States must never cede our sovereignty to any international entity or organization. I applaud Secretary Kennedy and Secretary Rubio for rejecting the World Health Organization’s (WHO) ill-advised International Health Regulations (IHR) amendments. I have long supported the U.S. withdrawing from the WHO and defunding their power-hungry organization. My legislation, H.R. 401, first introduced in the 117th Congress, does just that while advancing the mission statements of America First and Healthcare Freedom. The WHO, a widely discredited international organization, lost any potential credibility during the COVID-19 pandemic, and we must ensure no future administration grants them any legitimacy or further power over the health of Americans," said Congressman Chip Roy.“Secretary Kennedy and President Trump have proven their commitment to putting America First. WHO is an unaccountable international organization that hands individuals’ healthcare freedoms to corrupt bureaucrats. I’m thankful for Secretary Kennedy’s firm stance against WHO’s Pandemic Agreement that will protect Americans’ health freedom and privacy. Let’s Make America Great and Healthy Again,” said Congressman Andy Biggs.Today’s announcement is the latest action by Secretary Kennedy and HHS to hold the WHO accountable. https://www.hhs.gov/press-room/state-department-hhs-rejects-amendments-to-international-health-regulations.html July 18, 2025
    0 Comments 0 Shares 818 Views 0 Reviews
  • ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง! 'พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน' ถูกสอบปมงบประมาณปี 69 สั่งแจงภายใน 5 วัน ไม่อนุญาตขยายเวลา
    https://www.thai-tai.tv/news/20363/
    .
    #ศาลรัฐธรรมนูญ #พิเชษฐ์เชื้อเมืองพาน #งบประมาณ2569 #สภาผู้แทนราษฎร #การเมืองไทย #ข่าวการเมือง #รัฐธรรมนูญมาตรา144
    ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง! 'พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน' ถูกสอบปมงบประมาณปี 69 สั่งแจงภายใน 5 วัน ไม่อนุญาตขยายเวลา https://www.thai-tai.tv/news/20363/ . #ศาลรัฐธรรมนูญ #พิเชษฐ์เชื้อเมืองพาน #งบประมาณ2569 #สภาผู้แทนราษฎร #การเมืองไทย #ข่าวการเมือง #รัฐธรรมนูญมาตรา144
    0 Comments 0 Shares 242 Views 0 Reviews
More Results