• “โค้ช vs เมนเทอร์ สำหรับผู้นำไซเบอร์”

    Renee Guttmann อดีต CISO ของ Fortune 50 บริษัทใหญ่ เช่น Time Warner และ Coca-Cola เล่าว่าในช่วงต้นอาชีพเธอไม่มีเมนเทอร์คอยแนะนำ ทำให้ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง แต่เมื่อได้เป็นผู้บริหาร เธอพบว่าการมีโค้ชช่วยเสริมทักษะ เช่น การสื่อสารกับผู้บริหารระดับสูง และ การสร้างความมั่นใจในการนำเสนอข่าวร้าย เป็นสิ่งสำคัญมาก

    “บทบาทของเมนเทอร์”
    เมนเทอร์มักเป็นความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง เน้นการแชร์ประสบการณ์จริง เช่น การจัดการพนักงานที่ทำงานสองที่โดยไม่บอก หรือการสร้างภาพลักษณ์ที่เหมาะสมต่อผู้บริหาร เมนเทอร์ช่วยให้ผู้ที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นหรือกลางอาชีพเข้าใจวิธีแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในองค์กร และช่วยให้พัฒนาทักษะการบริหารทีมได้เร็วขึ้น

    “บทบาทของโค้ช”
    โค้ชมักเข้ามาเสริมทักษะเฉพาะ เช่น การพูดในที่สาธารณะ การจัดการความเครียด หรือการสร้างความมั่นใจ โค้ชอาจใช้วิธี role-playing หรือแม้แต่แนะนำให้เรียนการแสดงเพื่อฝึกการสื่อสารที่มีพลัง สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้นำไซเบอร์สามารถสื่อสารกับบอร์ดและผู้บริหารระดับสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    “การหาคู่โค้ชและเมนเทอร์”
    ผู้ที่สนใจสามารถหาคู่โค้ชหรือเมนเทอร์ได้จาก งาน networking, LinkedIn, โปรแกรมฝึกอบรมขององค์กรใหญ่ เช่น Deloitte หรือ IANS รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมเฉพาะด้าน เช่น Healthcare หรือ Energy การมีทั้งโค้ชและเมนเทอร์ในช่วงต่าง ๆ ของอาชีพจะช่วยให้ผู้นำไซเบอร์พัฒนาได้ครบทุกมิติ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เมนเทอร์ (Mentor)
    เน้นแชร์ประสบการณ์จริงและการแก้ปัญหาในองค์กร
    เหมาะกับผู้เริ่มต้นหรือกลางอาชีพ

    โค้ช (Coach)
    เน้นเสริมทักษะเฉพาะ เช่น การสื่อสารและความมั่นใจ
    เหมาะกับผู้บริหารหรือผู้ที่ต้องการพัฒนาภาพลักษณ์

    การหาคู่โค้ชและเมนเทอร์
    ใช้ networking, LinkedIn, หรือโปรแกรมฝึกอบรมจากองค์กรใหญ่
    อุตสาหกรรมเฉพาะด้านก็มีโปรแกรมสนับสนุน

    คำเตือนสำหรับผู้นำไซเบอร์
    อย่ามองว่าการขอความช่วยเหลือเป็นความอ่อนแอ
    หากไม่มีเมนเทอร์หรือโค้ช อาจพลาดโอกาสพัฒนาทักษะสำคัญ
    การพึ่งพาแต่ประสบการณ์ตัวเองอาจทำให้เติบโตช้ากว่าที่ควร

    https://www.csoonline.com/article/4099036/coach-or-mentor-what-you-need-depends-on-where-you-are-as-a-cyber-leader.html
    👩‍💼 “โค้ช vs เมนเทอร์ สำหรับผู้นำไซเบอร์” Renee Guttmann อดีต CISO ของ Fortune 50 บริษัทใหญ่ เช่น Time Warner และ Coca-Cola เล่าว่าในช่วงต้นอาชีพเธอไม่มีเมนเทอร์คอยแนะนำ ทำให้ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง แต่เมื่อได้เป็นผู้บริหาร เธอพบว่าการมีโค้ชช่วยเสริมทักษะ เช่น การสื่อสารกับผู้บริหารระดับสูง และ การสร้างความมั่นใจในการนำเสนอข่าวร้าย เป็นสิ่งสำคัญมาก 📚 “บทบาทของเมนเทอร์” เมนเทอร์มักเป็นความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง เน้นการแชร์ประสบการณ์จริง เช่น การจัดการพนักงานที่ทำงานสองที่โดยไม่บอก หรือการสร้างภาพลักษณ์ที่เหมาะสมต่อผู้บริหาร เมนเทอร์ช่วยให้ผู้ที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นหรือกลางอาชีพเข้าใจวิธีแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในองค์กร และช่วยให้พัฒนาทักษะการบริหารทีมได้เร็วขึ้น 🎭 “บทบาทของโค้ช” โค้ชมักเข้ามาเสริมทักษะเฉพาะ เช่น การพูดในที่สาธารณะ การจัดการความเครียด หรือการสร้างความมั่นใจ โค้ชอาจใช้วิธี role-playing หรือแม้แต่แนะนำให้เรียนการแสดงเพื่อฝึกการสื่อสารที่มีพลัง สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้นำไซเบอร์สามารถสื่อสารกับบอร์ดและผู้บริหารระดับสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🌐 “การหาคู่โค้ชและเมนเทอร์” ผู้ที่สนใจสามารถหาคู่โค้ชหรือเมนเทอร์ได้จาก งาน networking, LinkedIn, โปรแกรมฝึกอบรมขององค์กรใหญ่ เช่น Deloitte หรือ IANS รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมเฉพาะด้าน เช่น Healthcare หรือ Energy การมีทั้งโค้ชและเมนเทอร์ในช่วงต่าง ๆ ของอาชีพจะช่วยให้ผู้นำไซเบอร์พัฒนาได้ครบทุกมิติ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เมนเทอร์ (Mentor) ➡️ เน้นแชร์ประสบการณ์จริงและการแก้ปัญหาในองค์กร ➡️ เหมาะกับผู้เริ่มต้นหรือกลางอาชีพ ✅ โค้ช (Coach) ➡️ เน้นเสริมทักษะเฉพาะ เช่น การสื่อสารและความมั่นใจ ➡️ เหมาะกับผู้บริหารหรือผู้ที่ต้องการพัฒนาภาพลักษณ์ ✅ การหาคู่โค้ชและเมนเทอร์ ➡️ ใช้ networking, LinkedIn, หรือโปรแกรมฝึกอบรมจากองค์กรใหญ่ ➡️ อุตสาหกรรมเฉพาะด้านก็มีโปรแกรมสนับสนุน ‼️ คำเตือนสำหรับผู้นำไซเบอร์ ⛔ อย่ามองว่าการขอความช่วยเหลือเป็นความอ่อนแอ ⛔ หากไม่มีเมนเทอร์หรือโค้ช อาจพลาดโอกาสพัฒนาทักษะสำคัญ ⛔ การพึ่งพาแต่ประสบการณ์ตัวเองอาจทำให้เติบโตช้ากว่าที่ควร https://www.csoonline.com/article/4099036/coach-or-mentor-what-you-need-depends-on-where-you-are-as-a-cyber-leader.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Coach or mentor: What you need depends on where you are as a cyber leader
    What a cybersecurity leader or aspiring one may need can vary depending on their experience, their focus whether technical or business and other factors.
    0 Comments 0 Shares 26 Views 0 Reviews
  • Andrej Karpathy เตือน: การบ้านยุค AI ตรวจจับไม่ได้

    Andrej Karpathy อดีตหัวหน้าทีม AI ของ Tesla และ OpenAI ได้โพสต์บน X ถึงผลกระทบของ AI ต่อการศึกษา โดยเขาย้ำว่า “คุณไม่มีวันตรวจจับได้ว่าการบ้านใช้ AI ทำหรือไม่” เครื่องมือที่อ้างว่าเป็นตัวตรวจจับ AI ล้วนสามารถถูกหลอกได้ และในหลักการแล้ว doomed to fail ทำให้ครูและโรงเรียนต้องปรับวิธีการประเมินใหม่

    การปรับรูปแบบการเรียนการสอน
    Karpathy เสนอว่า การบ้านที่ทำที่บ้านควรถือว่าใช้ AI เป็นส่วนหนึ่งเสมอ ดังนั้นการประเมินผลควรย้ายเข้าสู่การทำงานในห้องเรียนที่ครูสามารถควบคุมและสังเกตได้โดยตรง นักเรียนยังคงมีแรงจูงใจที่จะเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เพราะรู้ว่าการสอบจริงจะไม่สามารถใช้ AI ได้

    บทเรียนจากเครื่องคิดเลข
    เขาเปรียบเทียบ AI กับเครื่องคิดเลขในอดีต โรงเรียนยังคงสอนการคำนวณพื้นฐานแม้เครื่องคิดเลขจะมีอยู่ทั่วไป เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจหลักการและสามารถตรวจสอบผลลัพธ์ได้เอง เช่นเดียวกับ AI ที่แม้จะทรงพลัง แต่ก็ผิดพลาดได้ง่าย การมีทักษะตรวจสอบและเข้าใจสิ่งที่ AI สร้างขึ้นจึงสำคัญมาก

    เป้าหมายการศึกษาในยุค AI
    Karpathy สรุปว่าเป้าหมายไม่ใช่การห้ามใช้ AI แต่คือการทำให้นักเรียน “มีความสามารถใช้ AI ได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ก็สามารถอยู่รอดได้โดยไม่ต้องพึ่งมัน” ซึ่งหมายถึงการออกแบบการเรียนการสอนใหม่ให้สมดุลระหว่างการใช้เครื่องมือและการสร้างทักษะพื้นฐาน

    สรุปสาระสำคัญ

    AI เปลี่ยนวิธีการบ้านและการสอบ
    การบ้านที่ทำที่บ้านควรถือว่าใช้ AI เสมอ

    แนวทางใหม่ในการประเมินผล
    ย้ายการสอบและการบ้านเข้าสู่ห้องเรียนที่ครูควบคุมได้

    บทเรียนจากเครื่องคิดเลข
    ต้องสอนพื้นฐานเพื่อให้ผู้เรียนตรวจสอบผลลัพธ์ได้เอง

    เป้าหมายการศึกษา
    นักเรียนต้องใช้ AI ได้คล่อง แต่ยังอยู่รอดได้หากไม่มีมัน

    คำเตือนจาก Karpathy
    เครื่องมือตรวจจับ AI ล้วนล้มเหลวและไม่ควรพึ่งพา

    ความเสี่ยงต่อการเรียนรู้
    หากพึ่ง AI อย่างเดียว นักเรียนอาจขาดทักษะพื้นฐานที่จำเป็น

    https://x.com/karpathy/status/1993010584175141038
    🏫 Andrej Karpathy เตือน: การบ้านยุค AI ตรวจจับไม่ได้ Andrej Karpathy อดีตหัวหน้าทีม AI ของ Tesla และ OpenAI ได้โพสต์บน X ถึงผลกระทบของ AI ต่อการศึกษา โดยเขาย้ำว่า “คุณไม่มีวันตรวจจับได้ว่าการบ้านใช้ AI ทำหรือไม่” เครื่องมือที่อ้างว่าเป็นตัวตรวจจับ AI ล้วนสามารถถูกหลอกได้ และในหลักการแล้ว doomed to fail ทำให้ครูและโรงเรียนต้องปรับวิธีการประเมินใหม่ 📚 การปรับรูปแบบการเรียนการสอน Karpathy เสนอว่า การบ้านที่ทำที่บ้านควรถือว่าใช้ AI เป็นส่วนหนึ่งเสมอ ดังนั้นการประเมินผลควรย้ายเข้าสู่การทำงานในห้องเรียนที่ครูสามารถควบคุมและสังเกตได้โดยตรง นักเรียนยังคงมีแรงจูงใจที่จะเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เพราะรู้ว่าการสอบจริงจะไม่สามารถใช้ AI ได้ 🔢 บทเรียนจากเครื่องคิดเลข เขาเปรียบเทียบ AI กับเครื่องคิดเลขในอดีต โรงเรียนยังคงสอนการคำนวณพื้นฐานแม้เครื่องคิดเลขจะมีอยู่ทั่วไป เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจหลักการและสามารถตรวจสอบผลลัพธ์ได้เอง เช่นเดียวกับ AI ที่แม้จะทรงพลัง แต่ก็ผิดพลาดได้ง่าย การมีทักษะตรวจสอบและเข้าใจสิ่งที่ AI สร้างขึ้นจึงสำคัญมาก 🎓 เป้าหมายการศึกษาในยุค AI Karpathy สรุปว่าเป้าหมายไม่ใช่การห้ามใช้ AI แต่คือการทำให้นักเรียน “มีความสามารถใช้ AI ได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ก็สามารถอยู่รอดได้โดยไม่ต้องพึ่งมัน” ซึ่งหมายถึงการออกแบบการเรียนการสอนใหม่ให้สมดุลระหว่างการใช้เครื่องมือและการสร้างทักษะพื้นฐาน 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ AI เปลี่ยนวิธีการบ้านและการสอบ ➡️ การบ้านที่ทำที่บ้านควรถือว่าใช้ AI เสมอ ✅ แนวทางใหม่ในการประเมินผล ➡️ ย้ายการสอบและการบ้านเข้าสู่ห้องเรียนที่ครูควบคุมได้ ✅ บทเรียนจากเครื่องคิดเลข ➡️ ต้องสอนพื้นฐานเพื่อให้ผู้เรียนตรวจสอบผลลัพธ์ได้เอง ✅ เป้าหมายการศึกษา ➡️ นักเรียนต้องใช้ AI ได้คล่อง แต่ยังอยู่รอดได้หากไม่มีมัน ‼️ คำเตือนจาก Karpathy ⛔ เครื่องมือตรวจจับ AI ล้วนล้มเหลวและไม่ควรพึ่งพา ‼️ ความเสี่ยงต่อการเรียนรู้ ⛔ หากพึ่ง AI อย่างเดียว นักเรียนอาจขาดทักษะพื้นฐานที่จำเป็น https://x.com/karpathy/status/1993010584175141038
    0 Comments 0 Shares 151 Views 0 Reviews
  • “Selective Agency – ทำไมเราถึงไม่พยายามจริงในบางเรื่องของชีวิต”

    บทความเริ่มจากประสบการณ์ส่วนตัวของ Cate Hall ที่เผชิญกับการถูกสตอล์กออนไลน์อย่างรุนแรง เธอเลือกที่จะ “นิ่งเฉย” อยู่หลายปี แม้จะมีความสามารถและทรัพยากรในการแก้ปัญหา แต่กลับไม่ลงมือจริงจัง จนกระทั่งสามีเข้ามาช่วยติดต่อ FBI และตำรวจต่างประเทศ ทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง เหตุการณ์นี้ทำให้เธอตระหนักว่า ที่ผ่านมาเธอไม่ได้ “Actually Trying” หรือพยายามจริง ๆ

    Cate อธิบายว่า คนเรามักจะมี Selective Agency คือมีความสามารถสูงในบางด้าน เช่น การทำงานหรือการสร้างนวัตกรรม แต่กลับใช้วิธีแก้ปัญหาแบบเดิม ๆ ที่ไม่ก้าวหน้าในอีกด้านหนึ่ง เช่น ความสัมพันธ์หรือสุขภาพจิต เรามักจะติดอยู่กับแนวทางที่เคยใช้เมื่อยังไม่โตเต็มที่ และไม่กลับมาทบทวนใหม่เมื่อเรามีศักยภาพมากขึ้น

    เธอยกตัวอย่างว่า หลายคนที่เป็นนักนวัตกรรมเก่ง ๆ สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ระดับโลก แต่กลับบ่นว่า “ไม่มีคนดี ๆ ในแอปหาคู่” หรือคนที่เคยลองบำบัดเมื่ออายุ 20 แล้วไม่เวิร์ก ก็ยอมรับว่า “ฉันเป็นคนวิตกกังวลตลอดไป” โดยไม่กลับมาลองวิธีใหม่ ๆ ทั้งที่ในงาน พวกเขาใช้ความพยายามและความคิดสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง

    แนวคิดนี้เชื่อมโยงกับ Alexander Technique เรื่อง “Faulty sensory appreciation” ที่บอกว่า สิ่งที่เรารู้สึกว่า “ถูกต้อง” อาจเป็นเพียงความเคยชินที่ผิด เช่น การเกร็งร่างกายจนรู้สึกเหมือนยืนตัวตรง ทั้งที่จริง ๆ ไม่ใช่ เช่นเดียวกัน ความพยายามที่ใช้แรงใจมาก ๆ อาจทำให้เราหลงคิดว่าเรากำลัง “พยายามจริง” ทั้งที่จริงแล้วเรายังไม่ได้ใช้ทรัพยากรและความคิดสร้างสรรค์ที่มีอยู่เต็มที่

    สรุปสาระสำคัญ
    แนวคิด Selective Agency
    คนเรามีความสามารถสูงในบางด้าน แต่ไม่ใช้ศักยภาพเต็มที่ในอีกด้าน
    มักติดอยู่กับวิธีแก้ปัญหาเดิม ๆ ที่เคยใช้เมื่อยังไม่โตเต็มที่

    ตัวอย่างจากชีวิตจริง
    Cate Hall ถูกสตอล์กออนไลน์ แต่เลือกนิ่งเฉยหลายปี
    สามีเข้ามาช่วยติดต่อ FBI และตำรวจ ทำให้สถานการณ์คลี่คลาย

    การเปรียบเทียบกับชีวิตคนทั่วไป
    นักนวัตกรรมเก่ง ๆ แต่ไม่พยายามจริงในความสัมพันธ์
    คนที่เคยลองบำบัดแล้วไม่เวิร์ก ก็ยอมรับปัญหาเป็นนิสัยถาวร

    คำเตือนและข้อคิด
    ความรู้สึกว่า “พยายามแล้ว” อาจเป็นเพียงการใช้แรงใจ ไม่ใช่การใช้ทรัพยากรจริง
    การไม่กลับมาทบทวนวิธีแก้ปัญหาใหม่ อาจทำให้เราติดอยู่กับปัญหาเดิมไปตลอด

    https://usefulfictions.substack.com/p/maybe-youre-not-actually-trying
    📰 “Selective Agency – ทำไมเราถึงไม่พยายามจริงในบางเรื่องของชีวิต” บทความเริ่มจากประสบการณ์ส่วนตัวของ Cate Hall ที่เผชิญกับการถูกสตอล์กออนไลน์อย่างรุนแรง เธอเลือกที่จะ “นิ่งเฉย” อยู่หลายปี แม้จะมีความสามารถและทรัพยากรในการแก้ปัญหา แต่กลับไม่ลงมือจริงจัง จนกระทั่งสามีเข้ามาช่วยติดต่อ FBI และตำรวจต่างประเทศ ทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง เหตุการณ์นี้ทำให้เธอตระหนักว่า ที่ผ่านมาเธอไม่ได้ “Actually Trying” หรือพยายามจริง ๆ Cate อธิบายว่า คนเรามักจะมี Selective Agency คือมีความสามารถสูงในบางด้าน เช่น การทำงานหรือการสร้างนวัตกรรม แต่กลับใช้วิธีแก้ปัญหาแบบเดิม ๆ ที่ไม่ก้าวหน้าในอีกด้านหนึ่ง เช่น ความสัมพันธ์หรือสุขภาพจิต เรามักจะติดอยู่กับแนวทางที่เคยใช้เมื่อยังไม่โตเต็มที่ และไม่กลับมาทบทวนใหม่เมื่อเรามีศักยภาพมากขึ้น เธอยกตัวอย่างว่า หลายคนที่เป็นนักนวัตกรรมเก่ง ๆ สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ระดับโลก แต่กลับบ่นว่า “ไม่มีคนดี ๆ ในแอปหาคู่” หรือคนที่เคยลองบำบัดเมื่ออายุ 20 แล้วไม่เวิร์ก ก็ยอมรับว่า “ฉันเป็นคนวิตกกังวลตลอดไป” โดยไม่กลับมาลองวิธีใหม่ ๆ ทั้งที่ในงาน พวกเขาใช้ความพยายามและความคิดสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง แนวคิดนี้เชื่อมโยงกับ Alexander Technique เรื่อง “Faulty sensory appreciation” ที่บอกว่า สิ่งที่เรารู้สึกว่า “ถูกต้อง” อาจเป็นเพียงความเคยชินที่ผิด เช่น การเกร็งร่างกายจนรู้สึกเหมือนยืนตัวตรง ทั้งที่จริง ๆ ไม่ใช่ เช่นเดียวกัน ความพยายามที่ใช้แรงใจมาก ๆ อาจทำให้เราหลงคิดว่าเรากำลัง “พยายามจริง” ทั้งที่จริงแล้วเรายังไม่ได้ใช้ทรัพยากรและความคิดสร้างสรรค์ที่มีอยู่เต็มที่ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ แนวคิด Selective Agency ➡️ คนเรามีความสามารถสูงในบางด้าน แต่ไม่ใช้ศักยภาพเต็มที่ในอีกด้าน ➡️ มักติดอยู่กับวิธีแก้ปัญหาเดิม ๆ ที่เคยใช้เมื่อยังไม่โตเต็มที่ ✅ ตัวอย่างจากชีวิตจริง ➡️ Cate Hall ถูกสตอล์กออนไลน์ แต่เลือกนิ่งเฉยหลายปี ➡️ สามีเข้ามาช่วยติดต่อ FBI และตำรวจ ทำให้สถานการณ์คลี่คลาย ✅ การเปรียบเทียบกับชีวิตคนทั่วไป ➡️ นักนวัตกรรมเก่ง ๆ แต่ไม่พยายามจริงในความสัมพันธ์ ➡️ คนที่เคยลองบำบัดแล้วไม่เวิร์ก ก็ยอมรับปัญหาเป็นนิสัยถาวร ‼️ คำเตือนและข้อคิด ⛔ ความรู้สึกว่า “พยายามแล้ว” อาจเป็นเพียงการใช้แรงใจ ไม่ใช่การใช้ทรัพยากรจริง ⛔ การไม่กลับมาทบทวนวิธีแก้ปัญหาใหม่ อาจทำให้เราติดอยู่กับปัญหาเดิมไปตลอด https://usefulfictions.substack.com/p/maybe-youre-not-actually-trying
    0 Comments 0 Shares 275 Views 0 Reviews
  • ข่าวเทคโนโลยี: วิธีฟรีๆ เคลียร์พื้นที่ Gmail โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม

    หลายคนอาจเคยเจอข้อความเตือนว่า “Gmail storage is full” ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยเมื่อพื้นที่ฟรี 15GB ของ Google ถูกใช้งานครบ ทั้งจากอีเมล ไฟล์แนบ และ Google Drive แต่มีวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาได้โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม

    🛠 วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น
    หนึ่งในทางออกคือ สร้างบัญชี Gmail ใหม่ แล้วนำอีเมลเก่าทั้งหมดไปนำเข้า (Import) ผ่านการตั้งค่า POP3 ซึ่งช่วยให้คุณยังเข้าถึงข้อมูลเดิมได้โดยไม่ต้องลบอะไรออกทันที หากไม่อยากยุ่งยากก็สามารถใช้บัญชีใหม่แทนไปเลย

    จัดการอีเมลขยะและการสมัครรับข่าวสาร
    อีกวิธีคือการ ยกเลิกการสมัครรับอีเมล (Unsubscribe) ที่ไม่จำเป็น ซึ่งช่วยลดการสะสมของข้อความที่กินพื้นที่ แต่ต้องระวังเพราะบางปุ่ม Unsubscribe อาจเป็นลิงก์หลอกลวงจากสแปมเมอร์

    ทางเลือกการจัดเก็บข้อมูล
    หากพื้นที่เต็มเพราะไฟล์หรือรูปภาพ การใช้บริการอื่นๆ เช่น iCloud, OneDrive, Box หรือแม้แต่ฮาร์ดดิสก์ภายนอกก็เป็นทางเลือกที่ดี และยังสามารถเลือกแพ็กเกจ Google One ที่เริ่มต้น 30GB ไปจนถึง 2TB ได้หากต้องการอัปเกรดในอนาคต

    🗑 เคล็ดลับเล็กๆ
    อย่าลืมว่า การลบอีเมลไม่เท่ากับการเคลียร์พื้นที่ทันที เพราะ Gmail จะเก็บไว้ในถังขยะอีก 30 วัน ดังนั้นควรเข้าไปล้างถังขยะด้วย

    วิธีฟรีในการแก้ปัญหา Gmail เต็ม
    สร้างบัญชีใหม่แล้วนำเข้าอีเมลเก่า
    ใช้บัญชีใหม่แทนหากไม่อยากจัดการ

    การจัดการอีเมลขยะและการสมัครรับข่าวสาร
    กด Unsubscribe เพื่อลดข้อความที่ไม่จำเป็น
    ใช้เครื่องมือช่วย เช่น Leave Me Alone, Clean Email

    ทางเลือกการจัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติม
    ใช้บริการคลาวด์อื่น เช่น iCloud, OneDrive
    ลงทุนในฮาร์ดดิสก์ภายนอกเพื่อเก็บไฟล์สำคัญ

    เคล็ดลับการเคลียร์พื้นที่ Gmail
    ล้างถังขยะหลังจากลบอีเมล
    ตรวจสอบไฟล์แนบขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่

    https://www.slashgear.com/2013474/free-easy-way-to-free-up-gmail-storage/
    📧 ข่าวเทคโนโลยี: วิธีฟรีๆ เคลียร์พื้นที่ Gmail โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม หลายคนอาจเคยเจอข้อความเตือนว่า “Gmail storage is full” ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยเมื่อพื้นที่ฟรี 15GB ของ Google ถูกใช้งานครบ ทั้งจากอีเมล ไฟล์แนบ และ Google Drive แต่มีวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาได้โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม 🛠 วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น หนึ่งในทางออกคือ สร้างบัญชี Gmail ใหม่ แล้วนำอีเมลเก่าทั้งหมดไปนำเข้า (Import) ผ่านการตั้งค่า POP3 ซึ่งช่วยให้คุณยังเข้าถึงข้อมูลเดิมได้โดยไม่ต้องลบอะไรออกทันที หากไม่อยากยุ่งยากก็สามารถใช้บัญชีใหม่แทนไปเลย 🚫 จัดการอีเมลขยะและการสมัครรับข่าวสาร อีกวิธีคือการ ยกเลิกการสมัครรับอีเมล (Unsubscribe) ที่ไม่จำเป็น ซึ่งช่วยลดการสะสมของข้อความที่กินพื้นที่ แต่ต้องระวังเพราะบางปุ่ม Unsubscribe อาจเป็นลิงก์หลอกลวงจากสแปมเมอร์ 💾 ทางเลือกการจัดเก็บข้อมูล หากพื้นที่เต็มเพราะไฟล์หรือรูปภาพ การใช้บริการอื่นๆ เช่น iCloud, OneDrive, Box หรือแม้แต่ฮาร์ดดิสก์ภายนอกก็เป็นทางเลือกที่ดี และยังสามารถเลือกแพ็กเกจ Google One ที่เริ่มต้น 30GB ไปจนถึง 2TB ได้หากต้องการอัปเกรดในอนาคต 🗑 เคล็ดลับเล็กๆ อย่าลืมว่า การลบอีเมลไม่เท่ากับการเคลียร์พื้นที่ทันที เพราะ Gmail จะเก็บไว้ในถังขยะอีก 30 วัน ดังนั้นควรเข้าไปล้างถังขยะด้วย ✅ วิธีฟรีในการแก้ปัญหา Gmail เต็ม ➡️ สร้างบัญชีใหม่แล้วนำเข้าอีเมลเก่า ➡️ ใช้บัญชีใหม่แทนหากไม่อยากจัดการ ✅ การจัดการอีเมลขยะและการสมัครรับข่าวสาร ➡️ กด Unsubscribe เพื่อลดข้อความที่ไม่จำเป็น ➡️ ใช้เครื่องมือช่วย เช่น Leave Me Alone, Clean Email ✅ ทางเลือกการจัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ➡️ ใช้บริการคลาวด์อื่น เช่น iCloud, OneDrive ➡️ ลงทุนในฮาร์ดดิสก์ภายนอกเพื่อเก็บไฟล์สำคัญ ✅ เคล็ดลับการเคลียร์พื้นที่ Gmail ➡️ ล้างถังขยะหลังจากลบอีเมล ➡️ ตรวจสอบไฟล์แนบขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่ https://www.slashgear.com/2013474/free-easy-way-to-free-up-gmail-storage/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Gmail Storage Full, But Don't Want To Pay? Try This Instead - SlashGear
    If your Gmail account is reaching its storage limit, there is a free way you can go about clearing up space without losing anything. Here's something to try.
    0 Comments 0 Shares 284 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลกลินุกซ์: “ภาพหายไปไหน?” กับ Fedora 43

    เหมือนเรื่องสืบสวนของ Agatha Christie—ผู้เขียนบทความพบว่าอัปเกรดเป็น Fedora 43 แล้วภาพตัวอย่าง (thumbnail) ใน Nautilus หายไปเฉย ๆ แม้แต่ไฟล์ .png และ .jpeg ก็ไม่แสดง ทั้งที่ไฟล์วิดีโอและ PDF ยังโชว์ได้ตามปกติ

    เขาเริ่มสืบจากการล้างแคช thumbnail และรีสตาร์ท Nautilus แต่ไม่ช่วยอะไร จึงตรวจสอบว่า thumbnailer ที่ติดตั้งอยู่มีอะไรบ้าง ปรากฏว่าไม่มีตัวไหนรองรับภาพเลย! แม้จะติดตั้ง gdk-pixbuf2 แล้วก็ยังไม่มี thumbnailer สำหรับภาพ

    คำตอบอยู่ที่ GNOME 49 และ Fedora 43 เปลี่ยนไปใช้ “glycin” ซึ่งเป็นระบบโหลดภาพใหม่ที่เขียนด้วย Rust และปลอดภัยกว่า แต่ไม่ได้ติดตั้ง glycin-thumbnailer มาให้โดยอัตโนมัติ

    วิธีแก้คือรันคำสั่งนี้ในเทอร์มินัล:
    sudo dnf install glycin-thumbnailer

    หลังจากนั้น thumbnails ก็กลับมาแสดงครบทุกไฟล์ แม้แต่ WebP และ AVIF

    หากต้องการให้ RAW image แสดง thumbnail ด้วย ต้องติดตั้ง libopenraw เพิ่ม

    ปัญหา thumbnail หายหลังอัปเกรด Fedora
    Nautilus ไม่แสดงภาพตัวอย่างสำหรับไฟล์ภาพทุกชนิด
    วิดีโอ, PDF, EPUB ยังแสดงได้ตามปกติ

    การตรวจสอบ thumbnailer
    ใช้คำสั่ง ls /usr/share/thumbnailers/ พบว่าไม่มี thumbnailer สำหรับภาพ
    gdk-pixbuf2 ติดตั้งอยู่แต่ไม่มี thumbnailer

    Fedora 43 เปลี่ยนระบบโหลดภาพ
    ใช้ glycin แทน pixbuf
    glycin เป็นระบบใหม่ที่เขียนด้วย Rust และปลอดภัย

    วิธีแก้ปัญหา
    ติดตั้ง glycin-thumbnailer ด้วยคำสั่ง sudo dnf install glycin-thumbnailer
    thumbnails กลับมาแสดงครบทุกไฟล์

    การแสดง thumbnail สำหรับ RAW image
    ต้องติดตั้ง libopenraw เพิ่ม

    คำเตือนในการแก้ไข
    การล้างแคช thumbnail อาจทำให้ภาพตัวอย่างทั้งหมดหาย
    การติดตั้ง gdk-pixbuf2 ใหม่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา
    Fedora ไม่ติดตั้ง glycin-thumbnailer มาให้โดยอัตโนมัติ

    https://itsfoss.com/image-thumbnails-missing-gnome/
    🧩 เรื่องเล่าจากโลกลินุกซ์: “ภาพหายไปไหน?” กับ Fedora 43 🎩 เหมือนเรื่องสืบสวนของ Agatha Christie—ผู้เขียนบทความพบว่าอัปเกรดเป็น Fedora 43 แล้วภาพตัวอย่าง (thumbnail) ใน Nautilus หายไปเฉย ๆ แม้แต่ไฟล์ .png และ .jpeg ก็ไม่แสดง ทั้งที่ไฟล์วิดีโอและ PDF ยังโชว์ได้ตามปกติ 🕵️‍♂️ เขาเริ่มสืบจากการล้างแคช thumbnail และรีสตาร์ท Nautilus แต่ไม่ช่วยอะไร จึงตรวจสอบว่า thumbnailer ที่ติดตั้งอยู่มีอะไรบ้าง ปรากฏว่าไม่มีตัวไหนรองรับภาพเลย! แม้จะติดตั้ง gdk-pixbuf2 แล้วก็ยังไม่มี thumbnailer สำหรับภาพ 🔍 คำตอบอยู่ที่ GNOME 49 และ Fedora 43 เปลี่ยนไปใช้ “glycin” ซึ่งเป็นระบบโหลดภาพใหม่ที่เขียนด้วย Rust และปลอดภัยกว่า แต่ไม่ได้ติดตั้ง glycin-thumbnailer มาให้โดยอัตโนมัติ 💡 วิธีแก้คือรันคำสั่งนี้ในเทอร์มินัล: sudo dnf install glycin-thumbnailer หลังจากนั้น thumbnails ก็กลับมาแสดงครบทุกไฟล์ แม้แต่ WebP และ AVIF 📸 หากต้องการให้ RAW image แสดง thumbnail ด้วย ต้องติดตั้ง libopenraw เพิ่ม ✅ ปัญหา thumbnail หายหลังอัปเกรด Fedora ➡️ Nautilus ไม่แสดงภาพตัวอย่างสำหรับไฟล์ภาพทุกชนิด ➡️ วิดีโอ, PDF, EPUB ยังแสดงได้ตามปกติ ✅ การตรวจสอบ thumbnailer ➡️ ใช้คำสั่ง ls /usr/share/thumbnailers/ พบว่าไม่มี thumbnailer สำหรับภาพ ➡️ gdk-pixbuf2 ติดตั้งอยู่แต่ไม่มี thumbnailer ✅ Fedora 43 เปลี่ยนระบบโหลดภาพ ➡️ ใช้ glycin แทน pixbuf ➡️ glycin เป็นระบบใหม่ที่เขียนด้วย Rust และปลอดภัย ✅ วิธีแก้ปัญหา ➡️ ติดตั้ง glycin-thumbnailer ด้วยคำสั่ง sudo dnf install glycin-thumbnailer ➡️ thumbnails กลับมาแสดงครบทุกไฟล์ ✅ การแสดง thumbnail สำหรับ RAW image ➡️ ต้องติดตั้ง libopenraw เพิ่ม ‼️ คำเตือนในการแก้ไข ⛔ การล้างแคช thumbnail อาจทำให้ภาพตัวอย่างทั้งหมดหาย ⛔ การติดตั้ง gdk-pixbuf2 ใหม่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา ⛔ Fedora ไม่ติดตั้ง glycin-thumbnailer มาให้โดยอัตโนมัติ https://itsfoss.com/image-thumbnails-missing-gnome/
    ITSFOSS.COM
    Fixing Image Thumbnails Not Showing Up in GNOME Files on Fedora Linux
    Tiny problem but not good for the image of Fedora Linux, pun intended.
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 Reviews
  • FreeBSD ทำให้การโฮสต์เองกลับมาสนุกอีกครั้ง: เมื่อเทคโนโลยีไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้

    ผู้เขียนบล็อกเล่าถึงความรู้สึก “ติดกับดัก” จากวิธีใช้เทคโนโลยีแบบเดิม ๆ ที่ไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป จนกระทั่งได้ลองใช้ระบบปฏิบัติการในตระกูล BSD โดยเฉพาะ FreeBSD ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ที่ทำให้การโฮสต์เองกลับมาสนุกอีกครั้ง

    แม้จะเคยใช้ OpenBSD มาก่อนในงานที่เฉพาะเจาะจง เช่น การตั้งค่าเราเตอร์หรือ VM แบบเดี่ยว แต่เมื่อถึงเวลาต้องการระบบที่รองรับหลาย workload พร้อมกัน FreeBSD กลับตอบโจทย์ได้ดีกว่า

    FreeBSD เหมาะกับการโฮสต์หลาย workload พร้อมกัน
    ใช้ BastilleBSD สำหรับ jails และ vm-bhyve สำหรับ VM
    ระบบมีความยืดหยุ่นและปรับแต่งได้ตามต้องการ

    ความเรียบง่ายและเอกสารดีคือจุดแข็งของ BSD
    คำสั่งส่วนใหญ่สามารถรันผ่าน SSH ได้ทันที
    หากค้นหาข้อมูลออนไลน์ ก็มักจะเจอ man page ที่ตรงกับ CLI

    ความเข้ากันได้ระยะยาวคือข้อได้เปรียบ
    วิธีแก้ปัญหาจากปี 2008 ยังใช้ได้ในปี 2025
    ระบบไม่รู้สึกเก่า แม้จะมีอายุยาวนาน

    ชุมชน BSD เป็นมิตรและช่วยเหลือดี
    ได้รับคำแนะนำจากผู้ใช้ใน Fediverse
    คำถามที่ชัดเจนมักได้รับคำตอบที่มีคุณภาพ

    การเรียนรู้แบบลงมือทำคือหัวใจของการใช้งาน FreeBSD
    ไม่ต้องรู้ทุกอย่างก่อนเริ่ม
    ความสนุกเกิดจากการลองผิดลองถูกและค้นพบสิ่งใหม่

    การเข้าใจ release cycle ของ FreeBSD อาจสับสน
    ไม่เกี่ยวข้องกับระบบ pkg และ ports โดยตรง
    ต้องศึกษาจากแหล่งข้อมูลเฉพาะเพื่อเข้าใจโครงสร้าง

    การตั้งค่าระบบอาจไม่เป็นไปตามแนวทางทั่วไป
    ผู้ใช้ต้องปรับแต่งเองตามความต้องการ
    อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการระบบ “พร้อมใช้” ทันที

    การโฮสต์เองไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค — มันคือการสร้างพื้นที่ที่สะท้อนตัวตนของเรา และ FreeBSD ก็อาจเป็นเครื่องมือที่ทำให้การเดินทางนั้นกลับมาน่าตื่นเต้นอีกครั้ง

    https://jsteuernagel.de/posts/using-freebsd-to-make-self-hosting-fun-again/
    🖥️ FreeBSD ทำให้การโฮสต์เองกลับมาสนุกอีกครั้ง: เมื่อเทคโนโลยีไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ ผู้เขียนบล็อกเล่าถึงความรู้สึก “ติดกับดัก” จากวิธีใช้เทคโนโลยีแบบเดิม ๆ ที่ไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป จนกระทั่งได้ลองใช้ระบบปฏิบัติการในตระกูล BSD โดยเฉพาะ FreeBSD ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ที่ทำให้การโฮสต์เองกลับมาสนุกอีกครั้ง แม้จะเคยใช้ OpenBSD มาก่อนในงานที่เฉพาะเจาะจง เช่น การตั้งค่าเราเตอร์หรือ VM แบบเดี่ยว แต่เมื่อถึงเวลาต้องการระบบที่รองรับหลาย workload พร้อมกัน FreeBSD กลับตอบโจทย์ได้ดีกว่า ✅ FreeBSD เหมาะกับการโฮสต์หลาย workload พร้อมกัน ➡️ ใช้ BastilleBSD สำหรับ jails และ vm-bhyve สำหรับ VM ➡️ ระบบมีความยืดหยุ่นและปรับแต่งได้ตามต้องการ ✅ ความเรียบง่ายและเอกสารดีคือจุดแข็งของ BSD ➡️ คำสั่งส่วนใหญ่สามารถรันผ่าน SSH ได้ทันที ➡️ หากค้นหาข้อมูลออนไลน์ ก็มักจะเจอ man page ที่ตรงกับ CLI ✅ ความเข้ากันได้ระยะยาวคือข้อได้เปรียบ ➡️ วิธีแก้ปัญหาจากปี 2008 ยังใช้ได้ในปี 2025 ➡️ ระบบไม่รู้สึกเก่า แม้จะมีอายุยาวนาน ✅ ชุมชน BSD เป็นมิตรและช่วยเหลือดี ➡️ ได้รับคำแนะนำจากผู้ใช้ใน Fediverse ➡️ คำถามที่ชัดเจนมักได้รับคำตอบที่มีคุณภาพ ✅ การเรียนรู้แบบลงมือทำคือหัวใจของการใช้งาน FreeBSD ➡️ ไม่ต้องรู้ทุกอย่างก่อนเริ่ม ➡️ ความสนุกเกิดจากการลองผิดลองถูกและค้นพบสิ่งใหม่ ‼️ การเข้าใจ release cycle ของ FreeBSD อาจสับสน ⛔ ไม่เกี่ยวข้องกับระบบ pkg และ ports โดยตรง ⛔ ต้องศึกษาจากแหล่งข้อมูลเฉพาะเพื่อเข้าใจโครงสร้าง ‼️ การตั้งค่าระบบอาจไม่เป็นไปตามแนวทางทั่วไป ⛔ ผู้ใช้ต้องปรับแต่งเองตามความต้องการ ⛔ อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการระบบ “พร้อมใช้” ทันที การโฮสต์เองไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค — มันคือการสร้างพื้นที่ที่สะท้อนตัวตนของเรา และ FreeBSD ก็อาจเป็นเครื่องมือที่ทำให้การเดินทางนั้นกลับมาน่าตื่นเต้นอีกครั้ง 🧩💡 https://jsteuernagel.de/posts/using-freebsd-to-make-self-hosting-fun-again/
    0 Comments 0 Shares 195 Views 0 Reviews
  • “SD Card ไม่อ่านบน Android? วิธีแก้แบบง่าย ๆ ที่คุณทำได้เอง พร้อมทางเลือกซ่อมระบบแบบไม่ล้างข้อมูล”

    หลายคนใช้ SD Card เพื่อเก็บภาพ วิดีโอ และไฟล์สำคัญในมือถือ Android แต่เมื่อวันหนึ่งมือถือกลับไม่สามารถอ่านการ์ดได้ ความเครียดก็มาเยือนทันที บทความนี้จึงรวบรวมวิธีแก้ปัญหา “Android ไม่อ่าน SD Card” ทั้งแบบพื้นฐานและแบบใช้เครื่องมือซ่อมระบบ โดยไม่ต้องล้างข้อมูลหรือฟอร์แมตการ์ดให้เสี่ยงสูญเสียไฟล์

    สาเหตุที่มือถือไม่อ่าน SD Card มีหลายอย่าง เช่น การ์ดมีฝุ่นหรือเสียหายทางกายภาพ, การใส่การ์ดไม่แน่น, ฟอร์แมตไม่รองรับ, หรือการถอดการ์ดแบบไม่ปลอดภัย รวมถึงแอปบางตัวที่อาจทำให้การ์ดเสียหายได้

    วิธีแก้เบื้องต้น ได้แก่:
    รีสตาร์ทเครื่องเพื่อเคลียร์ข้อผิดพลาดชั่วคราว
    ถอดการ์ดแล้วใส่ใหม่ให้แน่น
    ทดสอบการ์ดกับอุปกรณ์อื่นเพื่อดูว่าเป็นปัญหาที่การ์ดหรือมือถือ
    ล้างหน้าสัมผัสของการ์ดเบา ๆ เพื่อให้เชื่อมต่อได้ดีขึ้น

    หากวิธีพื้นฐานไม่ช่วย แนะนำให้ใช้เครื่องมือซ่อมระบบ Android เช่น Dr.Fone – System Repair (Android) ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้มากกว่า 150 รูปแบบ เช่น ค้างโลโก้, boot loop, แอปเด้ง โดยใช้ “Standard Mode” ที่ไม่ลบข้อมูล และสามารถดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์ที่ถูกต้องให้อัตโนมัติ

    Dr.Fone รองรับมือถือ Android ตั้งแต่เวอร์ชัน 2.1 ขึ้นไป รวมถึงรุ่นใหม่ ๆ ของ Samsung และแบรนด์อื่น ๆ ทั้งแบบปลดล็อกและจากผู้ให้บริการ เช่น AT&T, Verizon, Vodafone

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    สาเหตุที่ Android ไม่อ่าน SD Card ได้แก่ ฝุ่น, ใส่ไม่แน่น, ฟอร์แมตไม่รองรับ, การ์ดเสีย
    การถอดการ์ดแบบไม่ปลอดภัยหรือแอปบางตัวอาจทำให้การ์ดเสียหาย
    วิธีแก้เบื้องต้น ได้แก่ รีสตาร์ท, ถอดใส่ใหม่, ทดสอบกับอุปกรณ์อื่น, ล้างหน้าสัมผัส
    Dr.Fone – System Repair (Android) เป็นเครื่องมือซ่อมระบบที่ไม่ลบข้อมูล
    รองรับ Android OS ตั้งแต่ 2.1 ขึ้นไป และมือถือกว่า 1,000 รุ่น
    ใช้ “Standard Mode” เพื่อรักษาข้อมูลไว้
    ดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์ให้อัตโนมัติ ไม่ต้องหาไฟล์เอง
    แก้ปัญหาอื่น ๆ ได้ เช่น boot loop, แอปเด้ง, Google Play ใช้งานไม่ได้

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    SD Card ที่ฟอร์แมตเป็น exFAT หรือ NTFS อาจไม่รองรับบนมือถือบางรุ่น
    การ์ดปลอมที่มีความจุไม่ตรงจริงอาจทำให้ระบบไม่สามารถอ่านได้
    การใช้แอปจัดการไฟล์ที่ไม่ปลอดภัยอาจทำให้การ์ดเสียหาย
    การ์ดบางรุ่นต้องการพลังงานคงที่ หากแบตเตอรี่เสื่อมอาจทำให้ไม่อ่าน
    การใช้ Recovery Software เช่น Recoverit หรือ EaseUS ช่วยกู้ข้อมูลจากการ์ดที่เสียได้

    https://hackread.com/android-not-reading-sd-card-heres-how-to-fix-it/
    📱 “SD Card ไม่อ่านบน Android? วิธีแก้แบบง่าย ๆ ที่คุณทำได้เอง พร้อมทางเลือกซ่อมระบบแบบไม่ล้างข้อมูล” หลายคนใช้ SD Card เพื่อเก็บภาพ วิดีโอ และไฟล์สำคัญในมือถือ Android แต่เมื่อวันหนึ่งมือถือกลับไม่สามารถอ่านการ์ดได้ ความเครียดก็มาเยือนทันที บทความนี้จึงรวบรวมวิธีแก้ปัญหา “Android ไม่อ่าน SD Card” ทั้งแบบพื้นฐานและแบบใช้เครื่องมือซ่อมระบบ โดยไม่ต้องล้างข้อมูลหรือฟอร์แมตการ์ดให้เสี่ยงสูญเสียไฟล์ สาเหตุที่มือถือไม่อ่าน SD Card มีหลายอย่าง เช่น การ์ดมีฝุ่นหรือเสียหายทางกายภาพ, การใส่การ์ดไม่แน่น, ฟอร์แมตไม่รองรับ, หรือการถอดการ์ดแบบไม่ปลอดภัย รวมถึงแอปบางตัวที่อาจทำให้การ์ดเสียหายได้ วิธีแก้เบื้องต้น ได้แก่: 🔰 รีสตาร์ทเครื่องเพื่อเคลียร์ข้อผิดพลาดชั่วคราว 🔰 ถอดการ์ดแล้วใส่ใหม่ให้แน่น 🔰 ทดสอบการ์ดกับอุปกรณ์อื่นเพื่อดูว่าเป็นปัญหาที่การ์ดหรือมือถือ 🔰 ล้างหน้าสัมผัสของการ์ดเบา ๆ เพื่อให้เชื่อมต่อได้ดีขึ้น หากวิธีพื้นฐานไม่ช่วย แนะนำให้ใช้เครื่องมือซ่อมระบบ Android เช่น Dr.Fone – System Repair (Android) ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้มากกว่า 150 รูปแบบ เช่น ค้างโลโก้, boot loop, แอปเด้ง โดยใช้ “Standard Mode” ที่ไม่ลบข้อมูล และสามารถดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์ที่ถูกต้องให้อัตโนมัติ Dr.Fone รองรับมือถือ Android ตั้งแต่เวอร์ชัน 2.1 ขึ้นไป รวมถึงรุ่นใหม่ ๆ ของ Samsung และแบรนด์อื่น ๆ ทั้งแบบปลดล็อกและจากผู้ให้บริการ เช่น AT&T, Verizon, Vodafone ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ สาเหตุที่ Android ไม่อ่าน SD Card ได้แก่ ฝุ่น, ใส่ไม่แน่น, ฟอร์แมตไม่รองรับ, การ์ดเสีย ➡️ การถอดการ์ดแบบไม่ปลอดภัยหรือแอปบางตัวอาจทำให้การ์ดเสียหาย ➡️ วิธีแก้เบื้องต้น ได้แก่ รีสตาร์ท, ถอดใส่ใหม่, ทดสอบกับอุปกรณ์อื่น, ล้างหน้าสัมผัส ➡️ Dr.Fone – System Repair (Android) เป็นเครื่องมือซ่อมระบบที่ไม่ลบข้อมูล ➡️ รองรับ Android OS ตั้งแต่ 2.1 ขึ้นไป และมือถือกว่า 1,000 รุ่น ➡️ ใช้ “Standard Mode” เพื่อรักษาข้อมูลไว้ ➡️ ดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์ให้อัตโนมัติ ไม่ต้องหาไฟล์เอง ➡️ แก้ปัญหาอื่น ๆ ได้ เช่น boot loop, แอปเด้ง, Google Play ใช้งานไม่ได้ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ SD Card ที่ฟอร์แมตเป็น exFAT หรือ NTFS อาจไม่รองรับบนมือถือบางรุ่น ➡️ การ์ดปลอมที่มีความจุไม่ตรงจริงอาจทำให้ระบบไม่สามารถอ่านได้ ➡️ การใช้แอปจัดการไฟล์ที่ไม่ปลอดภัยอาจทำให้การ์ดเสียหาย ➡️ การ์ดบางรุ่นต้องการพลังงานคงที่ หากแบตเตอรี่เสื่อมอาจทำให้ไม่อ่าน ➡️ การใช้ Recovery Software เช่น Recoverit หรือ EaseUS ช่วยกู้ข้อมูลจากการ์ดที่เสียได้ https://hackread.com/android-not-reading-sd-card-heres-how-to-fix-it/
    HACKREAD.COM
    Android Not Reading SD Card? Here’s How to Fix it
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 347 Views 0 Reviews
  • “อัปเดต iPhone ไม่ผ่าน? วิธีแก้แบบไม่เสียข้อมูล พร้อมเทคนิคป้องกันล่วงหน้า”

    หลายคนเคยเจอเหตุการณ์กดอัปเดต iOS แล้วเครื่องค้างขึ้นข้อความ “Update Failed” หรือ “Unable to Install Update” ซึ่งสร้างความหงุดหงิดไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อกลัวว่าจะสูญเสียภาพถ่าย แชต หรือข้อมูลงานสำคัญ บทความนี้จึงรวบรวมวิธีแก้ปัญหา “iPhone Software Update Failed” แบบไม่ต้องล้างเครื่อง พร้อมคำแนะนำป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ

    สาเหตุหลักของการอัปเดตไม่ผ่านมักมาจากพื้นที่เก็บข้อมูลไม่พอ, อินเทอร์เน็ตไม่เสถียร, แบตเตอรี่ต่ำ, ไฟล์เฟิร์มแวร์เสีย, เครื่องเจลเบรก หรือแม้แต่ปัญหาฮาร์ดแวร์บางกรณี เช่น หน่วยความจำเสียหาย

    ก่อนเริ่มแก้ไข ควรสำรองข้อมูลผ่าน iCloud หรือ Finder/iTunes เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหายหากต้องใช้วิธีที่เสี่ยง เช่น Recovery Mode

    วิธีแก้เบื้องต้น ได้แก่:
    รีสตาร์ทหรือ Force Restart เครื่อง
    ลบไฟล์อัปเดตที่เสียจาก Settings > General > iPhone Storage
    รีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่าย
    เชื่อมต่อกับ Mac หรือ PC แล้วอัปเดตผ่าน Finder หรือ iTunes โดยไม่ล้างข้อมูล

    หากยังไม่สำเร็จ สามารถใช้เครื่องมือซ่อมระบบ iOS เช่น Wondershare Dr.Fone – System Repair ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้กว่า 150 รูปแบบ เช่น ค้างโลโก้ Apple, หน้าจอขาว, boot loop โดยใช้ “Standard Mode” ที่ไม่ลบข้อมูล

    นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำป้องกันล่วงหน้า เช่น:
    เคลียร์พื้นที่ให้ว่าง 5–6 GB ก่อนอัปเดต
    หลีกเลี่ยง Wi-Fi ที่ไม่เสถียร
    ชาร์จแบตให้เกิน 50%
    หลีกเลี่ยงการเจลเบรก
    ล้างแคชและลบแอปที่ไม่จำเป็น

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ปัญหา “iPhone Software Update Failed” เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น พื้นที่ไม่พอ, อินเทอร์เน็ตไม่เสถียร, แบตต่ำ
    ข้อความที่พบบ่อย ได้แก่ “Update Failed”, “Unable to Install Update”, “Error 4013/4014”
    การสำรองข้อมูลก่อนแก้ไขเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการสูญหาย
    วิธีแก้เบื้องต้น ได้แก่ รีสตาร์ท, ลบไฟล์อัปเดต, รีเซ็ตเครือข่าย
    การอัปเดตผ่าน Finder/iTunes ช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาบนเครื่อง
    Wondershare Dr.Fone – System Repair สามารถแก้ปัญหาโดยไม่ลบข้อมูล
    รองรับ iOS 26 และ iPhone 17 series
    ใช้ “Standard Mode” เพื่อรักษาข้อมูลไว้
    สามารถดาวน์เกรด iOS, เข้า/ออก Recovery/DFU Mode และแก้ปัญหา iTunes ได้

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    การอัปเดตผ่านคอมพิวเตอร์มักเสถียรกว่า OTA เพราะไม่ขึ้นกับ Wi-Fi
    iOS ต้องใช้พื้นที่มากกว่าขนาดไฟล์อัปเดตจริงเพื่อการแตกไฟล์และตรวจสอบ
    Recovery Mode สามารถใช้ “Update” แทน “Restore” เพื่อรักษาข้อมูล
    เครื่องมืออย่าง iToolab FixGo ก็สามารถแก้ปัญหาได้โดยไม่ลบข้อมูล
    การใช้ VPN หรือ DNS ที่บล็อกเซิร์ฟเวอร์ของ Apple อาจทำให้การอัปเดตล้มเหลว

    https://hackread.com/iphone-software-update-failed-fix-without-data-loss/
    📱 “อัปเดต iPhone ไม่ผ่าน? วิธีแก้แบบไม่เสียข้อมูล พร้อมเทคนิคป้องกันล่วงหน้า” หลายคนเคยเจอเหตุการณ์กดอัปเดต iOS แล้วเครื่องค้างขึ้นข้อความ “Update Failed” หรือ “Unable to Install Update” ซึ่งสร้างความหงุดหงิดไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อกลัวว่าจะสูญเสียภาพถ่าย แชต หรือข้อมูลงานสำคัญ บทความนี้จึงรวบรวมวิธีแก้ปัญหา “iPhone Software Update Failed” แบบไม่ต้องล้างเครื่อง พร้อมคำแนะนำป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ สาเหตุหลักของการอัปเดตไม่ผ่านมักมาจากพื้นที่เก็บข้อมูลไม่พอ, อินเทอร์เน็ตไม่เสถียร, แบตเตอรี่ต่ำ, ไฟล์เฟิร์มแวร์เสีย, เครื่องเจลเบรก หรือแม้แต่ปัญหาฮาร์ดแวร์บางกรณี เช่น หน่วยความจำเสียหาย ก่อนเริ่มแก้ไข ควรสำรองข้อมูลผ่าน iCloud หรือ Finder/iTunes เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหายหากต้องใช้วิธีที่เสี่ยง เช่น Recovery Mode วิธีแก้เบื้องต้น ได้แก่: 🔰 รีสตาร์ทหรือ Force Restart เครื่อง 🔰 ลบไฟล์อัปเดตที่เสียจาก Settings > General > iPhone Storage 🔰 รีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่าย 🔰 เชื่อมต่อกับ Mac หรือ PC แล้วอัปเดตผ่าน Finder หรือ iTunes โดยไม่ล้างข้อมูล หากยังไม่สำเร็จ สามารถใช้เครื่องมือซ่อมระบบ iOS เช่น Wondershare Dr.Fone – System Repair ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้กว่า 150 รูปแบบ เช่น ค้างโลโก้ Apple, หน้าจอขาว, boot loop โดยใช้ “Standard Mode” ที่ไม่ลบข้อมูล นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำป้องกันล่วงหน้า เช่น: 🔰 เคลียร์พื้นที่ให้ว่าง 5–6 GB ก่อนอัปเดต 🔰 หลีกเลี่ยง Wi-Fi ที่ไม่เสถียร 🔰 ชาร์จแบตให้เกิน 50% 🔰 หลีกเลี่ยงการเจลเบรก 🔰 ล้างแคชและลบแอปที่ไม่จำเป็น ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ปัญหา “iPhone Software Update Failed” เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น พื้นที่ไม่พอ, อินเทอร์เน็ตไม่เสถียร, แบตต่ำ ➡️ ข้อความที่พบบ่อย ได้แก่ “Update Failed”, “Unable to Install Update”, “Error 4013/4014” ➡️ การสำรองข้อมูลก่อนแก้ไขเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการสูญหาย ➡️ วิธีแก้เบื้องต้น ได้แก่ รีสตาร์ท, ลบไฟล์อัปเดต, รีเซ็ตเครือข่าย ➡️ การอัปเดตผ่าน Finder/iTunes ช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาบนเครื่อง ➡️ Wondershare Dr.Fone – System Repair สามารถแก้ปัญหาโดยไม่ลบข้อมูล ➡️ รองรับ iOS 26 และ iPhone 17 series ➡️ ใช้ “Standard Mode” เพื่อรักษาข้อมูลไว้ ➡️ สามารถดาวน์เกรด iOS, เข้า/ออก Recovery/DFU Mode และแก้ปัญหา iTunes ได้ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ การอัปเดตผ่านคอมพิวเตอร์มักเสถียรกว่า OTA เพราะไม่ขึ้นกับ Wi-Fi ➡️ iOS ต้องใช้พื้นที่มากกว่าขนาดไฟล์อัปเดตจริงเพื่อการแตกไฟล์และตรวจสอบ ➡️ Recovery Mode สามารถใช้ “Update” แทน “Restore” เพื่อรักษาข้อมูล ➡️ เครื่องมืออย่าง iToolab FixGo ก็สามารถแก้ปัญหาได้โดยไม่ลบข้อมูล ➡️ การใช้ VPN หรือ DNS ที่บล็อกเซิร์ฟเวอร์ของ Apple อาจทำให้การอัปเดตล้มเหลว https://hackread.com/iphone-software-update-failed-fix-without-data-loss/
    HACKREAD.COM
    iPhone Software Update Failed? Here’s How to Fix It Without Data Loss
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 362 Views 0 Reviews

  • ..ประเทศโยนหินถามทางด้วยภาษีปี70 จะใช้บังคับกับประชาชนที่ต้องยื่นแบบภาษีทุกๆคน มีเชื่อมโยงสุขภาพด้วยคือใช้ NIT บังหน้านั้นเอง กลัวประชาชนต่อต้านอย่างหนักเหมือน14ตุลาบ้าคลั่งได้ซึ่งต่างจากเม็กซิโกสิ้นเชิง ,ใจคนไทยเด็ดขาดกว่ามาก เช่นนั้นจะไม่ปรากฎการมีอยู่แบบทหารผีแห่งสยามเรา.,deep stateโลกกำลังบีบชาวโลกในแต่ละประเทศให้ทำตามระเบียบมัน รัฐสอดแนมสอดรู้สอดเห็นทุกๆคนในประเทศมัน,ส่องหมดหรือทั้งหมดต้องถูกมันส่องและส่องตลอดเวลาด้วย,อาจหนักกว่าสไตล์เกาหลีเหนือแคปหน้าจอมือถือประชาชนทุกๆ3-5นาทีโน้น,ไอ้นี้ควอนตัมอาจบันทึกทุกๆกิจกรรมธุรกรรมซึ่งสามารถตรวจสอบเรียลไทม์และตรวจสอบย้อนหลังทั้งหมดตั้งแต่ต้นก็ยังได้จนถึงปัจจุบัน.,มันจะกำจัดมนุษย์ลงเพื่อให้เหลือน้อยที่สุดนั้นเอง.,ยุคแห่งAIปกครองมนุษย์แทนคนก็ได้,มันจึงพยายามให้ขี้ข้าสมุนลูกน้องมันเอาaiเข้าไปใช้แทนคน ทดแทนคนจริงในบริษัทแล้ว ธนาคารบางเนมจ้างพนักงานออกแล้ว ถีบออกก่อนกำหนด เพื่อเอาAIมาใช้แทนคนจริงจังแล้วนั้นเองในการตอบสนองนายใหญ่deep stateมัน.,ผู้นำจึงสำคัญมากในยุคเปลี่ยนแปลงนี้ เลือกเล่นๆแบบนายกฯคลิปหลุดอีกไม่ได้ สงครามโลก สงครามใช้AIมาควบคุมทดแทนคนจริงอีก.

    ............................................................................

    เม็กซิโกออกคําสั่งให้ Bill Gates’ Biometric Digital ID พร้อมข้อมูล Iris และลายนิ้วมือสําหรับประชากรทั้งหมด

    5 สิงหาคม 2568

    เม็กซิโกได้บังคับใช้บัตรประจําตัวดิจิทัลไบโอเมตริกซ์อย่างเป็นทางการสําหรับพลเมืองทุกคน ซึ่งจะทําให้ระบบที่ Bill Gates และ World Economic Forum (WEF) ผลักดันมายาวนาน สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นข้อเสนอเพิ่มเติมโดยชนชั้นสูงระดับโลกในปัจจุบันคือกฎหมายของรัฐบาลกลาง ขณะนี้ชาวเม็กซิกันทุกคนจําเป็นต้องส่งข้อมูลใบหน้า ลายนิ้วมือ และม่านตาของตนไปยังแพลตฟอร์มข้อมูลประจําตัวดิจิทัลแบบรวมศูนย์ ไม่ว่าพวกเขาจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม

    การเปลี่ยนแปลง ลงนามในกฎหมาย ตามพระราชกฤษฎีกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ให้เปลี่ยน CURP ที่เป็นทางเลือกก่อนหน้านี้ (Clave Única de Registro de Población) ให้เป็นเอกสารไบโอเมตริกซ์ภาคบังคับที่เชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มข้อมูลประจําตัวดิจิทัลแบบรวมศูนย์

    CURP ใหม่จะรวมภาพถ่ายใบหน้า ลายนิ้วมือ และข้อมูลม่านตาที่ฝังอยู่ในรหัส QR และจําเป็นสําหรับการเข้าถึงทุกสิ่งตั้งแต่บริการสาธารณะและการศึกษา ไปจนถึงการธนาคารและการจ้างงาน กฎหมายกําหนดให้มีการบูรณาการทั่วทั้งระบบภาครัฐและเอกชนภายในปี 2569 และการเปิดตัวจะเริ่มต้นด้วยการรวบรวมข้อมูลไบโอเมตริกซ์จํานวนมาก—รวมถึง Children—เริ่มปีนี้

    การยกเครื่องใหม่สะท้อนให้เห็นถึงพิมพ์เขียวของ WEF สําหรับโครงสร้างพื้นฐาน ID ดิจิทัลทั่วโลก เป็นเวลาหลายปีที่ฟอรัมได้ส่งเสริมระบบข้อมูลประจําตัวดิจิทัลให้เป็นเครื่องมือสําคัญ สําหรับผู้ที่มีความประสงค์ที่จะมีส่วนร่วมในสังคมต่อไป, โต้แย้งพวกเขามีความจําเป็นสําหรับการเข้าถึงบริการทางการเงิน, การดูแลสุขภาพ, การเดินทาง, และสิทธิพลเมือง

    ในเอกสารและแผง WEF รหัสดิจิทัลมักถูกวางกรอบว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาการรวมทางสังคม แต่ผู้สนับสนุนความเป็นส่วนตัวเตือนว่าระบบเหล่านี้ปูทางสําหรับการเฝ้าระวังประชากรและการควบคุมแบบรวมศูนย์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

    ประธานาธิบดีคลอเดีย ชีนบัม แห่งเม็กซิโกได้แสดงการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในเวทีระหว่างประเทศก่อนหน้านี้ และเจ้าหน้าที่หลายคนที่เกี่ยวข้องกับภาคเทคโนโลยีและการกํากับดูแลของเม็กซิโกก็มีความเชื่อมโยงกับโครงการริเริ่มของ WEF Digital Transformation Agency—ตอนนี้ดูแลการดําเนินการยกเครื่อง CURP—ได้นําภาษาและลําดับความสําคัญที่คล้ายกันมาใช้กับโปรแกรมการกํากับดูแลดิจิทัลของ WEF

    บิล เกตส์เป็นผู้เสนอกฎหมายเม็กซิโกคนสําคัญ ผู้ให้ทุนหลักและผู้สนับสนุนระบบอัตลักษณ์ไบโอเมตริกซ์ ในประเทศกําลังพัฒนาผ่านทางมูลนิธิ Bill & Melinda Gates และ Gavi, Vaccine Alliance— ซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่ของ WEF มูลนิธิของเขายังสนับสนุน Modular Open Source Identity Platform (MOSIP) ซึ่งเป็นกรอบการทํางานโอเพ่นซอร์สสําหรับรหัสไบโอเมตริกซ์ที่กําลังถูกนํามาใช้ในบางส่วนของแอฟริกาและเอเชีย


    องค์กรความเป็นส่วนตัวในเม็กซิโกส่งเสียงเตือน กฎหมายใหม่ไม่ได้กําหนดให้เจ้าหน้าที่ต้องแจ้งให้ประชาชนทราบเมื่อมีการเข้าถึงข้อมูลไบโอเมตริกซ์ของตน และไม่ได้รวมบทลงโทษที่ชัดเจนสําหรับการใช้ในทางที่ผิดหรือการละเมิด กลุ่มสิทธิพลเมืองเตือนว่าระบบอาจถูกนําไปใช้ประโยชน์โดยหน่วยข่าวกรอง เจ้าหน้าที่ทุจริต หรือแม้แต่รัฐบาลต่างประเทศ เนื่องจากกฎหมายอนุญาตให้มีข้อตกลงการแบ่งปันข้อมูลที่อาจเกิดขึ้น— รวมถึงกับหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐอเมริกา

    ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า รัฐบาลจะสร้างแพลตฟอร์ม Unified Identity เพื่อรวมโปรไฟล์ไบโอเมตริกซ์ของ Citizens’ ไว้ในฐานข้อมูลต่างๆ รวมถึง National Registry of Missing and Unlocated Persons และ National Forensic Data Bank

    เจ้าหน้าที่กล่าวว่าระบบจะปรับปรุงความปลอดภัยสาธารณะและช่วยแก้ปัญหาการสูญหาย แต่นักวิจารณ์แย้งว่าโครงสร้างพื้นฐานกําลังถูกจัดเตรียมไว้สําหรับรัฐสอดแนมที่อาจกัดกร่อนเสรีภาพของพลเมืองภายใต้หน้ากากของความทันสมัย

    นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวิถีดิจิทัลของเม็กซิโก แม้ว่าเป้าหมายที่ระบุไว้คือประสิทธิภาพการบริหารและความมั่นคงของชาติ แต่ความกังวลที่ลึกซึ้งกว่านั้นก็คือ ประเทศกําลังกลายเป็นประเทศล่าสุดที่ยอมจํานนต่อกลไกการควบคุมดิจิทัลระดับโลกที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้มีบทบาทข้ามชาติชั้นยอด



    ..ประเทศโยนหินถามทางด้วยภาษีปี70 จะใช้บังคับกับประชาชนที่ต้องยื่นแบบภาษีทุกๆคน มีเชื่อมโยงสุขภาพด้วยคือใช้ NIT บังหน้านั้นเอง กลัวประชาชนต่อต้านอย่างหนักเหมือน14ตุลาบ้าคลั่งได้ซึ่งต่างจากเม็กซิโกสิ้นเชิง ,ใจคนไทยเด็ดขาดกว่ามาก เช่นนั้นจะไม่ปรากฎการมีอยู่แบบทหารผีแห่งสยามเรา.,deep stateโลกกำลังบีบชาวโลกในแต่ละประเทศให้ทำตามระเบียบมัน รัฐสอดแนมสอดรู้สอดเห็นทุกๆคนในประเทศมัน,ส่องหมดหรือทั้งหมดต้องถูกมันส่องและส่องตลอดเวลาด้วย,อาจหนักกว่าสไตล์เกาหลีเหนือแคปหน้าจอมือถือประชาชนทุกๆ3-5นาทีโน้น,ไอ้นี้ควอนตัมอาจบันทึกทุกๆกิจกรรมธุรกรรมซึ่งสามารถตรวจสอบเรียลไทม์และตรวจสอบย้อนหลังทั้งหมดตั้งแต่ต้นก็ยังได้จนถึงปัจจุบัน.,มันจะกำจัดมนุษย์ลงเพื่อให้เหลือน้อยที่สุดนั้นเอง.,ยุคแห่งAIปกครองมนุษย์แทนคนก็ได้,มันจึงพยายามให้ขี้ข้าสมุนลูกน้องมันเอาaiเข้าไปใช้แทนคน ทดแทนคนจริงในบริษัทแล้ว ธนาคารบางเนมจ้างพนักงานออกแล้ว ถีบออกก่อนกำหนด เพื่อเอาAIมาใช้แทนคนจริงจังแล้วนั้นเองในการตอบสนองนายใหญ่deep stateมัน.,ผู้นำจึงสำคัญมากในยุคเปลี่ยนแปลงนี้ เลือกเล่นๆแบบนายกฯคลิปหลุดอีกไม่ได้ สงครามโลก สงครามใช้AIมาควบคุมทดแทนคนจริงอีก. ............................................................................ เม็กซิโกออกคําสั่งให้ Bill Gates’ Biometric Digital ID พร้อมข้อมูล Iris และลายนิ้วมือสําหรับประชากรทั้งหมด 5 สิงหาคม 2568 เม็กซิโกได้บังคับใช้บัตรประจําตัวดิจิทัลไบโอเมตริกซ์อย่างเป็นทางการสําหรับพลเมืองทุกคน ซึ่งจะทําให้ระบบที่ Bill Gates และ World Economic Forum (WEF) ผลักดันมายาวนาน สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นข้อเสนอเพิ่มเติมโดยชนชั้นสูงระดับโลกในปัจจุบันคือกฎหมายของรัฐบาลกลาง ขณะนี้ชาวเม็กซิกันทุกคนจําเป็นต้องส่งข้อมูลใบหน้า ลายนิ้วมือ และม่านตาของตนไปยังแพลตฟอร์มข้อมูลประจําตัวดิจิทัลแบบรวมศูนย์ ไม่ว่าพวกเขาจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม การเปลี่ยนแปลง ลงนามในกฎหมาย ตามพระราชกฤษฎีกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ให้เปลี่ยน CURP ที่เป็นทางเลือกก่อนหน้านี้ (Clave Única de Registro de Población) ให้เป็นเอกสารไบโอเมตริกซ์ภาคบังคับที่เชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มข้อมูลประจําตัวดิจิทัลแบบรวมศูนย์ CURP ใหม่จะรวมภาพถ่ายใบหน้า ลายนิ้วมือ และข้อมูลม่านตาที่ฝังอยู่ในรหัส QR และจําเป็นสําหรับการเข้าถึงทุกสิ่งตั้งแต่บริการสาธารณะและการศึกษา ไปจนถึงการธนาคารและการจ้างงาน กฎหมายกําหนดให้มีการบูรณาการทั่วทั้งระบบภาครัฐและเอกชนภายในปี 2569 และการเปิดตัวจะเริ่มต้นด้วยการรวบรวมข้อมูลไบโอเมตริกซ์จํานวนมาก—รวมถึง Children—เริ่มปีนี้ การยกเครื่องใหม่สะท้อนให้เห็นถึงพิมพ์เขียวของ WEF สําหรับโครงสร้างพื้นฐาน ID ดิจิทัลทั่วโลก เป็นเวลาหลายปีที่ฟอรัมได้ส่งเสริมระบบข้อมูลประจําตัวดิจิทัลให้เป็นเครื่องมือสําคัญ สําหรับผู้ที่มีความประสงค์ที่จะมีส่วนร่วมในสังคมต่อไป, โต้แย้งพวกเขามีความจําเป็นสําหรับการเข้าถึงบริการทางการเงิน, การดูแลสุขภาพ, การเดินทาง, และสิทธิพลเมือง ในเอกสารและแผง WEF รหัสดิจิทัลมักถูกวางกรอบว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาการรวมทางสังคม แต่ผู้สนับสนุนความเป็นส่วนตัวเตือนว่าระบบเหล่านี้ปูทางสําหรับการเฝ้าระวังประชากรและการควบคุมแบบรวมศูนย์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ประธานาธิบดีคลอเดีย ชีนบัม แห่งเม็กซิโกได้แสดงการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในเวทีระหว่างประเทศก่อนหน้านี้ และเจ้าหน้าที่หลายคนที่เกี่ยวข้องกับภาคเทคโนโลยีและการกํากับดูแลของเม็กซิโกก็มีความเชื่อมโยงกับโครงการริเริ่มของ WEF Digital Transformation Agency—ตอนนี้ดูแลการดําเนินการยกเครื่อง CURP—ได้นําภาษาและลําดับความสําคัญที่คล้ายกันมาใช้กับโปรแกรมการกํากับดูแลดิจิทัลของ WEF บิล เกตส์เป็นผู้เสนอกฎหมายเม็กซิโกคนสําคัญ ผู้ให้ทุนหลักและผู้สนับสนุนระบบอัตลักษณ์ไบโอเมตริกซ์ ในประเทศกําลังพัฒนาผ่านทางมูลนิธิ Bill & Melinda Gates และ Gavi, Vaccine Alliance— ซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่ของ WEF มูลนิธิของเขายังสนับสนุน Modular Open Source Identity Platform (MOSIP) ซึ่งเป็นกรอบการทํางานโอเพ่นซอร์สสําหรับรหัสไบโอเมตริกซ์ที่กําลังถูกนํามาใช้ในบางส่วนของแอฟริกาและเอเชีย องค์กรความเป็นส่วนตัวในเม็กซิโกส่งเสียงเตือน กฎหมายใหม่ไม่ได้กําหนดให้เจ้าหน้าที่ต้องแจ้งให้ประชาชนทราบเมื่อมีการเข้าถึงข้อมูลไบโอเมตริกซ์ของตน และไม่ได้รวมบทลงโทษที่ชัดเจนสําหรับการใช้ในทางที่ผิดหรือการละเมิด กลุ่มสิทธิพลเมืองเตือนว่าระบบอาจถูกนําไปใช้ประโยชน์โดยหน่วยข่าวกรอง เจ้าหน้าที่ทุจริต หรือแม้แต่รัฐบาลต่างประเทศ เนื่องจากกฎหมายอนุญาตให้มีข้อตกลงการแบ่งปันข้อมูลที่อาจเกิดขึ้น— รวมถึงกับหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐอเมริกา ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า รัฐบาลจะสร้างแพลตฟอร์ม Unified Identity เพื่อรวมโปรไฟล์ไบโอเมตริกซ์ของ Citizens’ ไว้ในฐานข้อมูลต่างๆ รวมถึง National Registry of Missing and Unlocated Persons และ National Forensic Data Bank เจ้าหน้าที่กล่าวว่าระบบจะปรับปรุงความปลอดภัยสาธารณะและช่วยแก้ปัญหาการสูญหาย แต่นักวิจารณ์แย้งว่าโครงสร้างพื้นฐานกําลังถูกจัดเตรียมไว้สําหรับรัฐสอดแนมที่อาจกัดกร่อนเสรีภาพของพลเมืองภายใต้หน้ากากของความทันสมัย นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวิถีดิจิทัลของเม็กซิโก แม้ว่าเป้าหมายที่ระบุไว้คือประสิทธิภาพการบริหารและความมั่นคงของชาติ แต่ความกังวลที่ลึกซึ้งกว่านั้นก็คือ ประเทศกําลังกลายเป็นประเทศล่าสุดที่ยอมจํานนต่อกลไกการควบคุมดิจิทัลระดับโลกที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้มีบทบาทข้ามชาติชั้นยอด
    0 Comments 0 Shares 796 Views 0 Reviews
  • เมื่อคำสั่งเดียวใน Terminal เปลี่ยน Mac ให้กลายเป็นเครื่องมือของแฮกเกอร์

    ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม 2025 ผู้ใช้ macOS ทั่วโลกที่กำลังค้นหาวิธีแก้ปัญหาเล็ก ๆ เช่น “flush DNS cache” กลับถูกนำไปยังเว็บไซต์ช่วยเหลือปลอมที่ดูน่าเชื่อถืออย่าง mac-safer.com และ rescue-mac.com ซึ่งปรากฏในผลการค้นหาผ่านโฆษณา Google

    เว็บไซต์เหล่านี้แนะนำให้ผู้ใช้คัดลอกคำสั่งเพียงบรรทัดเดียวไปวางใน Terminal เพื่อ “แก้ปัญหา” แต่แท้จริงแล้ว คำสั่งนั้นคือกับดักที่ดาวน์โหลดมัลแวร์ SHAMOS ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ของ AMOS infostealer ที่พัฒนาโดยกลุ่ม COOKIE SPIDER

    SHAMOS ไม่เพียงแค่ขโมยรหัสผ่านจาก Keychain หรือข้อมูลจาก Apple Notes และเบราว์เซอร์เท่านั้น แต่มันยังสามารถดึงข้อมูลจากกระเป๋าเงินคริปโต สร้างไฟล์ ZIP เพื่อส่งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์ และติดตั้งโมดูลเพิ่มเติม เช่น แอป Ledger Live ปลอม และบอตเน็ต

    แคมเปญนี้ยังใช้ GitHub ปลอม เช่น repo ของ iTerm2 เพื่อหลอกให้ผู้ใช้รันคำสั่งที่ดูเหมือนเป็นการติดตั้งซอฟต์แวร์จริง แต่กลับเป็นการติดตั้งมัลแวร์โดยตรง

    สิ่งที่ทำให้การโจมตีนี้ได้ผลคือความเรียบง่ายและการใช้เทคนิค “ClickFix” ที่หลอกให้ผู้ใช้คิดว่ากำลังแก้ปัญหา แต่จริง ๆ แล้วกำลังเปิดประตูให้แฮกเกอร์เข้ามาในระบบ

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    กลุ่ม COOKIE SPIDER ใช้มัลแวร์ SHAMOS ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ของ AMOS infostealer
    แคมเปญใช้ malvertising ผ่าน Google Ads เพื่อหลอกผู้ใช้ macOS
    เว็บไซต์ปลอม เช่น mac-safer.com และ rescue-mac.com ถูกใช้เป็นกับดัก
    คำสั่ง Terminal เพียงบรรทัดเดียวสามารถติดตั้งมัลแวร์โดยข้าม Gatekeeper
    SHAMOS ขโมยข้อมูลจาก Keychain, Apple Notes, เบราว์เซอร์ และกระเป๋าเงินคริปโต
    มัลแวร์บันทึกข้อมูลในไฟล์ ZIP และส่งออกผ่าน curl
    มีการติดตั้ง LaunchDaemons เพื่อให้มัลแวร์ทำงานทุกครั้งที่เปิดเครื่อง
    SHAMOS สามารถดาวน์โหลด payload เพิ่มเติม เช่น แอปปลอมและบอตเน็ต
    GitHub ปลอมถูกใช้เป็นช่องทางเสริมในการหลอกให้ติดตั้งมัลแวร์
    แคมเปญนี้โจมตีผู้ใช้ในกว่า 9 ประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และอังกฤษ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    เทคนิค “ClickFix” ถูกใช้ในหลายแคมเปญมัลแวร์ รวมถึงใน TikTok และ Google Meet ปลอม
    คำสั่งแบบ one-liner เช่น curl | bash เป็นช่องโหว่ที่นิยมในมัลแวร์ยุคใหม่
    Gatekeeper ของ macOS สามารถถูกข้ามได้ด้วยการลบ quarantine flag ผ่าน xattr
    การใช้ Base64 encoding ช่วยซ่อน URL ของมัลแวร์จากสายตาผู้ใช้
    การปลอมตัวเป็นร้านค้าอิเล็กทรอนิกส์ในโปรไฟล์โฆษณา Google เพิ่มความน่าเชื่อถือ

    https://hackread.com/cookie-spider-malvertising-new-shamos-macos-malware/
    🎙️ เมื่อคำสั่งเดียวใน Terminal เปลี่ยน Mac ให้กลายเป็นเครื่องมือของแฮกเกอร์ ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม 2025 ผู้ใช้ macOS ทั่วโลกที่กำลังค้นหาวิธีแก้ปัญหาเล็ก ๆ เช่น “flush DNS cache” กลับถูกนำไปยังเว็บไซต์ช่วยเหลือปลอมที่ดูน่าเชื่อถืออย่าง mac-safer.com และ rescue-mac.com ซึ่งปรากฏในผลการค้นหาผ่านโฆษณา Google เว็บไซต์เหล่านี้แนะนำให้ผู้ใช้คัดลอกคำสั่งเพียงบรรทัดเดียวไปวางใน Terminal เพื่อ “แก้ปัญหา” แต่แท้จริงแล้ว คำสั่งนั้นคือกับดักที่ดาวน์โหลดมัลแวร์ SHAMOS ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ของ AMOS infostealer ที่พัฒนาโดยกลุ่ม COOKIE SPIDER SHAMOS ไม่เพียงแค่ขโมยรหัสผ่านจาก Keychain หรือข้อมูลจาก Apple Notes และเบราว์เซอร์เท่านั้น แต่มันยังสามารถดึงข้อมูลจากกระเป๋าเงินคริปโต สร้างไฟล์ ZIP เพื่อส่งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์ และติดตั้งโมดูลเพิ่มเติม เช่น แอป Ledger Live ปลอม และบอตเน็ต แคมเปญนี้ยังใช้ GitHub ปลอม เช่น repo ของ iTerm2 เพื่อหลอกให้ผู้ใช้รันคำสั่งที่ดูเหมือนเป็นการติดตั้งซอฟต์แวร์จริง แต่กลับเป็นการติดตั้งมัลแวร์โดยตรง สิ่งที่ทำให้การโจมตีนี้ได้ผลคือความเรียบง่ายและการใช้เทคนิค “ClickFix” ที่หลอกให้ผู้ใช้คิดว่ากำลังแก้ปัญหา แต่จริง ๆ แล้วกำลังเปิดประตูให้แฮกเกอร์เข้ามาในระบบ 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ กลุ่ม COOKIE SPIDER ใช้มัลแวร์ SHAMOS ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ของ AMOS infostealer ➡️ แคมเปญใช้ malvertising ผ่าน Google Ads เพื่อหลอกผู้ใช้ macOS ➡️ เว็บไซต์ปลอม เช่น mac-safer.com และ rescue-mac.com ถูกใช้เป็นกับดัก ➡️ คำสั่ง Terminal เพียงบรรทัดเดียวสามารถติดตั้งมัลแวร์โดยข้าม Gatekeeper ➡️ SHAMOS ขโมยข้อมูลจาก Keychain, Apple Notes, เบราว์เซอร์ และกระเป๋าเงินคริปโต ➡️ มัลแวร์บันทึกข้อมูลในไฟล์ ZIP และส่งออกผ่าน curl ➡️ มีการติดตั้ง LaunchDaemons เพื่อให้มัลแวร์ทำงานทุกครั้งที่เปิดเครื่อง ➡️ SHAMOS สามารถดาวน์โหลด payload เพิ่มเติม เช่น แอปปลอมและบอตเน็ต ➡️ GitHub ปลอมถูกใช้เป็นช่องทางเสริมในการหลอกให้ติดตั้งมัลแวร์ ➡️ แคมเปญนี้โจมตีผู้ใช้ในกว่า 9 ประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และอังกฤษ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ เทคนิค “ClickFix” ถูกใช้ในหลายแคมเปญมัลแวร์ รวมถึงใน TikTok และ Google Meet ปลอม ➡️ คำสั่งแบบ one-liner เช่น curl | bash เป็นช่องโหว่ที่นิยมในมัลแวร์ยุคใหม่ ➡️ Gatekeeper ของ macOS สามารถถูกข้ามได้ด้วยการลบ quarantine flag ผ่าน xattr ➡️ การใช้ Base64 encoding ช่วยซ่อน URL ของมัลแวร์จากสายตาผู้ใช้ ➡️ การปลอมตัวเป็นร้านค้าอิเล็กทรอนิกส์ในโปรไฟล์โฆษณา Google เพิ่มความน่าเชื่อถือ https://hackread.com/cookie-spider-malvertising-new-shamos-macos-malware/
    HACKREAD.COM
    COOKIE SPIDER’s Malvertising Drops New SHAMOS macOS Malware
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 312 Views 0 Reviews
  • ทำไมเกมบน MacBook ถึงเบลอ? เรื่องเล่าจากรอยบากที่หลายคนมองข้าม

    ถ้าคุณเคยเล่นเกมบน MacBook Pro หรือ Air แล้วรู้สึกว่าภาพมันเบลอ ๆ แปลก ๆ โดยเฉพาะเวลาเล่นเต็มจอ…คุณไม่ได้คิดไปเองครับ! ปัญหานี้เกิดจาก “รอยบาก” ที่อยู่ด้านบนของหน้าจอ ซึ่งส่งผลต่อการแสดงผลของเกมโดยตรง

    เมื่อเกมเปิดแบบเต็มจอ macOS จะส่งข้อมูลความละเอียดหน้าจอให้เกมเลือกใช้ แต่ปัญหาคือมันส่ง “สองชุด” — หนึ่งคือความละเอียดเต็มหน้าจอ (รวมรอยบาก) และอีกชุดคือพื้นที่ที่เกมสามารถวาดภาพได้จริง (ใต้เมนูบาร์) ซึ่งเล็กกว่าประมาณ 74 พิกเซลในแนวตั้ง

    เกมส่วนใหญ่จะเลือกใช้ความละเอียดแรกที่อยู่บนสุดของลิสต์ ซึ่งทำให้ภาพถูกบีบลงในพื้นที่ที่เล็กกว่า ส่งผลให้ภาพเบลอและผิดสัดส่วน โดยเฉพาะในเกมที่ใช้ AppKit หรือ Catalyst API

    ตัวอย่างเช่น Shadow of the Tomb Raider ที่ใช้ความละเอียด 3456 x 2234 (รวมรอยบาก) แต่พื้นที่วาดจริงคือ 3456 x 2160 เท่านั้น ทำให้ภาพถูกบีบลงและเบลออย่างเห็นได้ชัด

    นักพัฒนาอย่าง Colin Cornaby ได้เสนอวิธีแก้ชั่วคราว เช่น เลือกความละเอียดแบบ 16:10 หรือใช้โค้ดกรอง resolution ที่เหมาะสมจาก safe area แต่เขาย้ำว่าสุดท้ายแล้ว Apple ต้องเป็นคนแก้ไข API และอัปเดตคู่มือสำหรับนักพัฒนา

    สาเหตุของภาพเบลอบน MacBook ที่มีรอยบาก
    macOS ส่งความละเอียดหน้าจอแบบรวมรอยบากให้เกม
    เกมเลือกใช้ความละเอียดเต็มหน้าจอแทนพื้นที่วาดจริง
    ส่งผลให้ภาพถูกบีบในแนวตั้งและเบลอ

    พื้นที่หน้าจอบน MacBook ถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน
    full bounds: พื้นที่ทั้งหมดรวมรอยบากและเมนู
    safe area: พื้นที่ใต้รอยบาก
    full screen app area: พื้นที่ใต้เมนูบาร์ที่เกมสามารถวาดภาพได้

    เกมที่ได้รับผลกระทบ
    Shadow of the Tomb Raider, No Man’s Sky, Riven, Stray
    เกมเหล่านี้ใช้ความละเอียดผิด ทำให้ภาพเบลอ

    เกมที่แสดงผลได้ถูกต้อง
    Cyberpunk 2077 ใช้ความละเอียด 1728×1080 ซึ่งเป็น 16:10
    World of Warcraft ใช้ API เก่า ที่สามารถวาดภาพในพื้นที่รอยบากได้

    วิธีแก้ปัญหาชั่วคราวสำหรับผู้เล่น
    เลือกความละเอียดแบบ 16:10 ในการตั้งค่าเกม
    หลีกเลี่ยงการเล่นแบบเต็มจอบนหน้าจอ MacBook ที่มีรอยบาก

    ข้อเสนอจากนักพัฒนา
    Apple ควรอัปเดต Human Interface Guidelines (HIG)
    เพิ่มตัวอย่างการเลือก resolution ใน Game Porting Toolkit
    ปรับปรุง CGDisplayMode API ให้กรอง resolution ได้
    สร้าง API ใหม่สำหรับเกมโดยเฉพาะ

    https://www.colincornaby.me/2025/08/your-mac-game-is-probably-rendering-blurry/
    🧩 ทำไมเกมบน MacBook ถึงเบลอ? เรื่องเล่าจากรอยบากที่หลายคนมองข้าม ถ้าคุณเคยเล่นเกมบน MacBook Pro หรือ Air แล้วรู้สึกว่าภาพมันเบลอ ๆ แปลก ๆ โดยเฉพาะเวลาเล่นเต็มจอ…คุณไม่ได้คิดไปเองครับ! ปัญหานี้เกิดจาก “รอยบาก” ที่อยู่ด้านบนของหน้าจอ ซึ่งส่งผลต่อการแสดงผลของเกมโดยตรง เมื่อเกมเปิดแบบเต็มจอ macOS จะส่งข้อมูลความละเอียดหน้าจอให้เกมเลือกใช้ แต่ปัญหาคือมันส่ง “สองชุด” — หนึ่งคือความละเอียดเต็มหน้าจอ (รวมรอยบาก) และอีกชุดคือพื้นที่ที่เกมสามารถวาดภาพได้จริง (ใต้เมนูบาร์) ซึ่งเล็กกว่าประมาณ 74 พิกเซลในแนวตั้ง เกมส่วนใหญ่จะเลือกใช้ความละเอียดแรกที่อยู่บนสุดของลิสต์ ซึ่งทำให้ภาพถูกบีบลงในพื้นที่ที่เล็กกว่า ส่งผลให้ภาพเบลอและผิดสัดส่วน โดยเฉพาะในเกมที่ใช้ AppKit หรือ Catalyst API ตัวอย่างเช่น Shadow of the Tomb Raider ที่ใช้ความละเอียด 3456 x 2234 (รวมรอยบาก) แต่พื้นที่วาดจริงคือ 3456 x 2160 เท่านั้น ทำให้ภาพถูกบีบลงและเบลออย่างเห็นได้ชัด นักพัฒนาอย่าง Colin Cornaby ได้เสนอวิธีแก้ชั่วคราว เช่น เลือกความละเอียดแบบ 16:10 หรือใช้โค้ดกรอง resolution ที่เหมาะสมจาก safe area แต่เขาย้ำว่าสุดท้ายแล้ว Apple ต้องเป็นคนแก้ไข API และอัปเดตคู่มือสำหรับนักพัฒนา ✅ สาเหตุของภาพเบลอบน MacBook ที่มีรอยบาก ➡️ macOS ส่งความละเอียดหน้าจอแบบรวมรอยบากให้เกม ➡️ เกมเลือกใช้ความละเอียดเต็มหน้าจอแทนพื้นที่วาดจริง ➡️ ส่งผลให้ภาพถูกบีบในแนวตั้งและเบลอ ✅ พื้นที่หน้าจอบน MacBook ถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน ➡️ full bounds: พื้นที่ทั้งหมดรวมรอยบากและเมนู ➡️ safe area: พื้นที่ใต้รอยบาก ➡️ full screen app area: พื้นที่ใต้เมนูบาร์ที่เกมสามารถวาดภาพได้ ✅ เกมที่ได้รับผลกระทบ ➡️ Shadow of the Tomb Raider, No Man’s Sky, Riven, Stray ➡️ เกมเหล่านี้ใช้ความละเอียดผิด ทำให้ภาพเบลอ ✅ เกมที่แสดงผลได้ถูกต้อง ➡️ Cyberpunk 2077 ใช้ความละเอียด 1728×1080 ซึ่งเป็น 16:10 ➡️ World of Warcraft ใช้ API เก่า ที่สามารถวาดภาพในพื้นที่รอยบากได้ ✅ วิธีแก้ปัญหาชั่วคราวสำหรับผู้เล่น ➡️ เลือกความละเอียดแบบ 16:10 ในการตั้งค่าเกม ➡️ หลีกเลี่ยงการเล่นแบบเต็มจอบนหน้าจอ MacBook ที่มีรอยบาก ✅ ข้อเสนอจากนักพัฒนา ➡️ Apple ควรอัปเดต Human Interface Guidelines (HIG) ➡️ เพิ่มตัวอย่างการเลือก resolution ใน Game Porting Toolkit ➡️ ปรับปรุง CGDisplayMode API ให้กรอง resolution ได้ ➡️ สร้าง API ใหม่สำหรับเกมโดยเฉพาะ https://www.colincornaby.me/2025/08/your-mac-game-is-probably-rendering-blurry/
    WWW.COLINCORNABY.ME
    Your Mac Game Is Probably Rendering Blurry
    ProblemSolutionAffected GamesWhat Apple could do Problem I’ve submitted the issue described in this post to Apple as FB13375033. This issue has been open since September of 2023. If you game …
    0 Comments 0 Shares 371 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากระดับนาโน: เมื่อความสุ่มกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดของการผลิตชิป

    ในเดือนกรกฎาคม 2025 บริษัท Fractilia ผู้นำด้านการวัดความแปรปรวนแบบสุ่ม (stochastics metrology) ได้เผยแพร่เอกสารวิชาการที่ชี้ให้เห็นว่า “ความแปรปรวนแบบสุ่ม” ในกระบวนการสร้างลวดลายบนชิป (โดยเฉพาะในเทคโนโลยี EUV และ High-NA EUV) กำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดที่ทำให้การผลิตชิประดับ 2nm และต่ำกว่านั้นไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมาย

    แม้ในห้องวิจัยจะสามารถสร้างลวดลายขนาดเล็กถึง 12nm ได้ แต่เมื่อเข้าสู่การผลิตจริง กลับเกิดข้อผิดพลาดแบบสุ่ม เช่น ความหยาบของขอบลวดลาย (LER), ความแปรปรวนของขนาด (LCDU), และการเชื่อมหรือขาดของเส้นลวดลาย ซึ่งไม่สามารถควบคุมได้ด้วยวิธีเดิม

    Fractilia เรียกช่องว่างนี้ว่า “Stochastics Gap” ซึ่งเป็นช่องว่างระหว่างสิ่งที่สามารถทำได้ในห้องวิจัย กับสิ่งที่สามารถผลิตได้จริงในโรงงาน โดยเสนอแนวทางใหม่ในการวัดและควบคุมความสุ่มด้วยเทคนิคเชิงสถิติและการออกแบบที่ตระหนักถึงความสุ่มตั้งแต่ต้น

    Fractilia เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์สูญเงินหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปีจากความแปรปรวนแบบสุ่ม
    ความแปรปรวนนี้เกิดจากพฤติกรรมของโมเลกุล, แหล่งกำเนิดแสง, และอะตอมในกระบวนการสร้างลวดลาย
    ส่งผลให้ yield ต่ำ, ผลิตล่าช้า, และประสิทธิภาพชิปลดลง

    “Stochastics Gap” คือช่องว่างระหว่างสิ่งที่สามารถพิมพ์ในห้องวิจัย กับสิ่งที่ผลิตได้จริงในโรงงาน
    แม้จะพิมพ์ลวดลายขนาด 12nm ได้ใน R&D แต่ในโรงงานกลับติดที่ 16–18nm
    ช่องว่างนี้ส่งผลต่อจำนวน die ต่อ wafer และรายได้ที่หายไป

    Fractilia เสนอวิธีแก้ปัญหาด้วยการวัดความสุ่มอย่างแม่นยำและออกแบบกระบวนการที่รองรับความสุ่ม
    ใช้เทคโนโลยี FILM™ และ FAME™ เพื่อวัดความแปรปรวนแบบสุ่มในระดับนาโน
    เสนอการออกแบบที่ตระหนักถึงความสุ่ม เช่น OPC แบบ local-aware และการเลือกวัสดุที่ลด noise

    ความแปรปรวนแบบสุ่มไม่สามารถแก้ด้วยการควบคุมแบบเดิม
    ไม่ใช่ปัญหาเครื่องมือหรือการปรับพารามิเตอร์
    ต้องใช้การวิเคราะห์เชิงความน่าจะเป็นแทนการเฉลี่ยแบบเดิม

    การวัดความสุ่มอย่างแม่นยำช่วยให้ทีมออกแบบ, วิศวกร, และซัพพลายเออร์สื่อสารกันได้ดีขึ้น
    สร้าง “ภาษากลาง” ในการวิเคราะห์ yield และ defect
    ช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและแม่นยำขึ้น

    หากไม่แก้ปัญหา Stochastics Gap จะทำให้การผลิตชิประดับ 2nm และต่ำกว่าติดขัด
    Yield ต่ำลง, ต้องใช้ mask หลายรอบ, และออกแบบชิปแบบประนีประนอม
    สูญเสียรายได้จาก die ที่ผลิตได้น้อยลงต่อ wafer

    โรงงานส่วนใหญ่ยังไม่มีเครื่องมือวัดความสุ่มอย่างแม่นยำในสายการผลิตจริง
    แม้จะรู้ว่าปัญหามีอยู่ แต่ขาดเทคโนโลยีในการวัดและควบคุม
    ทำให้ไม่สามารถปรับปรุงกระบวนการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    การใช้ EUV และ High-NA EUV ทำให้ความสุ่มมีผลมากขึ้นในงบประมาณข้อผิดพลาด
    ความสามารถในการพิมพ์ลวดลายเล็กลง แต่ความสุ่มกลับเพิ่มขึ้น
    ทำให้ข้อผิดพลาดแบบสุ่มกลายเป็นปัจจัยหลักที่จำกัด yield

    การไม่ตระหนักถึงความสุ่มตั้งแต่การออกแบบอาจทำให้ชิปไม่สามารถผลิตได้จริง
    ออกแบบลวดลายที่สวยงามใน CAD แต่ไม่สามารถพิมพ์ได้ในโรงงาน
    ต้องกลับไปแก้แบบใหม่ เสียเวลาและต้นทุน

    https://www.techradar.com/pro/the-semiconductor-industry-is-losing-billions-of-dollars-annually-because-of-this-little-obscure-quirk
    ⚠️ เรื่องเล่าจากระดับนาโน: เมื่อความสุ่มกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดของการผลิตชิป ในเดือนกรกฎาคม 2025 บริษัท Fractilia ผู้นำด้านการวัดความแปรปรวนแบบสุ่ม (stochastics metrology) ได้เผยแพร่เอกสารวิชาการที่ชี้ให้เห็นว่า “ความแปรปรวนแบบสุ่ม” ในกระบวนการสร้างลวดลายบนชิป (โดยเฉพาะในเทคโนโลยี EUV และ High-NA EUV) กำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดที่ทำให้การผลิตชิประดับ 2nm และต่ำกว่านั้นไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมาย แม้ในห้องวิจัยจะสามารถสร้างลวดลายขนาดเล็กถึง 12nm ได้ แต่เมื่อเข้าสู่การผลิตจริง กลับเกิดข้อผิดพลาดแบบสุ่ม เช่น ความหยาบของขอบลวดลาย (LER), ความแปรปรวนของขนาด (LCDU), และการเชื่อมหรือขาดของเส้นลวดลาย ซึ่งไม่สามารถควบคุมได้ด้วยวิธีเดิม Fractilia เรียกช่องว่างนี้ว่า “Stochastics Gap” ซึ่งเป็นช่องว่างระหว่างสิ่งที่สามารถทำได้ในห้องวิจัย กับสิ่งที่สามารถผลิตได้จริงในโรงงาน โดยเสนอแนวทางใหม่ในการวัดและควบคุมความสุ่มด้วยเทคนิคเชิงสถิติและการออกแบบที่ตระหนักถึงความสุ่มตั้งแต่ต้น ✅ Fractilia เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์สูญเงินหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปีจากความแปรปรวนแบบสุ่ม ➡️ ความแปรปรวนนี้เกิดจากพฤติกรรมของโมเลกุล, แหล่งกำเนิดแสง, และอะตอมในกระบวนการสร้างลวดลาย ➡️ ส่งผลให้ yield ต่ำ, ผลิตล่าช้า, และประสิทธิภาพชิปลดลง ✅ “Stochastics Gap” คือช่องว่างระหว่างสิ่งที่สามารถพิมพ์ในห้องวิจัย กับสิ่งที่ผลิตได้จริงในโรงงาน ➡️ แม้จะพิมพ์ลวดลายขนาด 12nm ได้ใน R&D แต่ในโรงงานกลับติดที่ 16–18nm ➡️ ช่องว่างนี้ส่งผลต่อจำนวน die ต่อ wafer และรายได้ที่หายไป ✅ Fractilia เสนอวิธีแก้ปัญหาด้วยการวัดความสุ่มอย่างแม่นยำและออกแบบกระบวนการที่รองรับความสุ่ม ➡️ ใช้เทคโนโลยี FILM™ และ FAME™ เพื่อวัดความแปรปรวนแบบสุ่มในระดับนาโน ➡️ เสนอการออกแบบที่ตระหนักถึงความสุ่ม เช่น OPC แบบ local-aware และการเลือกวัสดุที่ลด noise ✅ ความแปรปรวนแบบสุ่มไม่สามารถแก้ด้วยการควบคุมแบบเดิม ➡️ ไม่ใช่ปัญหาเครื่องมือหรือการปรับพารามิเตอร์ ➡️ ต้องใช้การวิเคราะห์เชิงความน่าจะเป็นแทนการเฉลี่ยแบบเดิม ✅ การวัดความสุ่มอย่างแม่นยำช่วยให้ทีมออกแบบ, วิศวกร, และซัพพลายเออร์สื่อสารกันได้ดีขึ้น ➡️ สร้าง “ภาษากลาง” ในการวิเคราะห์ yield และ defect ➡️ ช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและแม่นยำขึ้น ‼️ หากไม่แก้ปัญหา Stochastics Gap จะทำให้การผลิตชิประดับ 2nm และต่ำกว่าติดขัด ⛔ Yield ต่ำลง, ต้องใช้ mask หลายรอบ, และออกแบบชิปแบบประนีประนอม ⛔ สูญเสียรายได้จาก die ที่ผลิตได้น้อยลงต่อ wafer ‼️ โรงงานส่วนใหญ่ยังไม่มีเครื่องมือวัดความสุ่มอย่างแม่นยำในสายการผลิตจริง ⛔ แม้จะรู้ว่าปัญหามีอยู่ แต่ขาดเทคโนโลยีในการวัดและควบคุม ⛔ ทำให้ไม่สามารถปรับปรุงกระบวนการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ‼️ การใช้ EUV และ High-NA EUV ทำให้ความสุ่มมีผลมากขึ้นในงบประมาณข้อผิดพลาด ⛔ ความสามารถในการพิมพ์ลวดลายเล็กลง แต่ความสุ่มกลับเพิ่มขึ้น ⛔ ทำให้ข้อผิดพลาดแบบสุ่มกลายเป็นปัจจัยหลักที่จำกัด yield ‼️ การไม่ตระหนักถึงความสุ่มตั้งแต่การออกแบบอาจทำให้ชิปไม่สามารถผลิตได้จริง ⛔ ออกแบบลวดลายที่สวยงามใน CAD แต่ไม่สามารถพิมพ์ได้ในโรงงาน ⛔ ต้องกลับไปแก้แบบใหม่ เสียเวลาและต้นทุน https://www.techradar.com/pro/the-semiconductor-industry-is-losing-billions-of-dollars-annually-because-of-this-little-obscure-quirk
    WWW.TECHRADAR.COM
    Tiny random manufacturing defects now costing chipmakers billions
    Randomness at the nanoscale is limiting semiconductor yields
    0 Comments 0 Shares 340 Views 0 Reviews
  • ลองนึกภาพดูว่าในศูนย์ข้อมูลหนึ่ง มีงานมากมายที่ IT ต้องจัดการทุกวัน เช่น แก้ไข network, config storage, เช็ก log, ปรับโหลด cloud — ทั้งหมดนี้ใช้เวลาและต้องการผู้เชี่ยวชาญหลายคน

    แต่ HPE กำลังจะเปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นให้กลายเป็น “การสนทนากับ agent” — คุณแค่ถามในสไตล์แชต แล้ว AI จะประมวลผลข้อมูล, หา insight, เสนอทางแก้ หรือ บางทียังทำแทนให้เองเลยด้วยซ้ำ (แต่ยังให้คุณกดยืนยันก่อนเสมอ)

    หัวใจอยู่ที่ GreenLake Intelligence ซึ่งมี multi-agent system ที่ทำหน้าที่เฉพาะ เช่น จัดการ storage, monitor network, สร้าง dashboard, หรือคุยกับระบบ cloud อื่นได้ — และมี “GreenLake Copilot” เป็นอินเทอร์เฟซแบบแชต ช่วยให้คนไอทีใช้งานง่ายแบบไม่ต้องพิมพ์โค้ด

    นอกจากนี้ HPE ยังพัฒนา hardware และ software เสริมชุดใหญ่ เช่น AI Factory รุ่นใหม่ที่ใช้ Nvidia Blackwell GPU, ระบบ CloudOps, และหน่วยเก็บข้อมูล Alletra X10000 ที่รองรับการวิเคราะห์ context ระดับระบบ (ผ่านโปรโตคอล MCP)

    HPE เปิดตัว GreenLake Intelligence พร้อมแนวคิด AgenticOps  
    • ใช้ AI agents ทำงานซ้ำซ้อนในระบบ IT แทนคนได้ (แต่มี human-in-the-loop)  
    • ครอบคลุมงาน config, observability, storage, network และ more

    GreenLake Copilot คืออินเทอร์เฟซแบบแชตที่ให้คุยกับ AI ได้ทันที  
    • ใช้ภาษาธรรมดาถามเรื่อง log, ปัญหา network, ความเสถียรระบบ ฯลฯ  
    • ทำงานร่วมกับ LLM และ ML ที่เทรนจากข้อมูลองค์กร

    ตัวอย่างการใช้งานที่น่าสนใจ:  
    • Aruba Central ใช้ GreenLake Copilot ในการจัดการเครือข่ายแบบ real-time  
    • สร้าง visual dashboard จาก log อัตโนมัติ  
    • เสนอวิธีแก้ปัญหาแบบทีละขั้น หรือลงมือทำแทนได้

    HPE เสริมด้วย CloudOps (รวม OpsRamp, Morpheus, Zerto)  
    • ใช้ GenAI ช่วยจัดการ observability, virtualization, และความปลอดภัยของ data

    เปิดตัว AI Factory Gen 2 ที่ใช้ Nvidia Blackwell RTX Pro 6000  
    • รองรับการประมวลผล AI model สำหรับองค์กรโดยเฉพาะ  
    • ใช้งานร่วมกับระบบของคู่แข่งได้ (เช่น OpsRamp ใช้กับ AI Factory ทุกแบรนด์)

    ระบบเก็บข้อมูล Alletra X10000 รองรับ MCP (Media Context Protocol)  
    • เชื่อมโยงกับ AI/LLM ได้โดยตรง  
    • ส่งข้อมูลระหว่าง server, storage, observability tools ได้รวดเร็ว

    ลุงจะตกงานแล้วววววว !!!

    https://www.techspot.com/news/108437-hpe-greenlake-intelligence-brings-agentic-ai-operations.html
    ลองนึกภาพดูว่าในศูนย์ข้อมูลหนึ่ง มีงานมากมายที่ IT ต้องจัดการทุกวัน เช่น แก้ไข network, config storage, เช็ก log, ปรับโหลด cloud — ทั้งหมดนี้ใช้เวลาและต้องการผู้เชี่ยวชาญหลายคน แต่ HPE กำลังจะเปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นให้กลายเป็น “การสนทนากับ agent” — คุณแค่ถามในสไตล์แชต แล้ว AI จะประมวลผลข้อมูล, หา insight, เสนอทางแก้ หรือ บางทียังทำแทนให้เองเลยด้วยซ้ำ (แต่ยังให้คุณกดยืนยันก่อนเสมอ) หัวใจอยู่ที่ GreenLake Intelligence ซึ่งมี multi-agent system ที่ทำหน้าที่เฉพาะ เช่น จัดการ storage, monitor network, สร้าง dashboard, หรือคุยกับระบบ cloud อื่นได้ — และมี “GreenLake Copilot” เป็นอินเทอร์เฟซแบบแชต ช่วยให้คนไอทีใช้งานง่ายแบบไม่ต้องพิมพ์โค้ด นอกจากนี้ HPE ยังพัฒนา hardware และ software เสริมชุดใหญ่ เช่น AI Factory รุ่นใหม่ที่ใช้ Nvidia Blackwell GPU, ระบบ CloudOps, และหน่วยเก็บข้อมูล Alletra X10000 ที่รองรับการวิเคราะห์ context ระดับระบบ (ผ่านโปรโตคอล MCP) ✅ HPE เปิดตัว GreenLake Intelligence พร้อมแนวคิด AgenticOps   • ใช้ AI agents ทำงานซ้ำซ้อนในระบบ IT แทนคนได้ (แต่มี human-in-the-loop)   • ครอบคลุมงาน config, observability, storage, network และ more ✅ GreenLake Copilot คืออินเทอร์เฟซแบบแชตที่ให้คุยกับ AI ได้ทันที   • ใช้ภาษาธรรมดาถามเรื่อง log, ปัญหา network, ความเสถียรระบบ ฯลฯ   • ทำงานร่วมกับ LLM และ ML ที่เทรนจากข้อมูลองค์กร ✅ ตัวอย่างการใช้งานที่น่าสนใจ:   • Aruba Central ใช้ GreenLake Copilot ในการจัดการเครือข่ายแบบ real-time   • สร้าง visual dashboard จาก log อัตโนมัติ   • เสนอวิธีแก้ปัญหาแบบทีละขั้น หรือลงมือทำแทนได้ ✅ HPE เสริมด้วย CloudOps (รวม OpsRamp, Morpheus, Zerto)   • ใช้ GenAI ช่วยจัดการ observability, virtualization, และความปลอดภัยของ data ✅ เปิดตัว AI Factory Gen 2 ที่ใช้ Nvidia Blackwell RTX Pro 6000   • รองรับการประมวลผล AI model สำหรับองค์กรโดยเฉพาะ   • ใช้งานร่วมกับระบบของคู่แข่งได้ (เช่น OpsRamp ใช้กับ AI Factory ทุกแบรนด์) ✅ ระบบเก็บข้อมูล Alletra X10000 รองรับ MCP (Media Context Protocol)   • เชื่อมโยงกับ AI/LLM ได้โดยตรง   • ส่งข้อมูลระหว่าง server, storage, observability tools ได้รวดเร็ว ลุงจะตกงานแล้วววววว !!! 😭😭 https://www.techspot.com/news/108437-hpe-greenlake-intelligence-brings-agentic-ai-operations.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    HPE's GreenLake intelligence brings agentic AI to IT operations
    In case you haven't heard, GenAI is old news. Now, it's all about agentic AI. At least, that certainly seems to be the theme based on the...
    0 Comments 0 Shares 435 Views 0 Reviews
  • 20 มิถุนายน 2568 กระทรวงมหาดไทยของมาเลเซีย (KDN) กำลังตรวจสอบข้อเสนอต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงตามชายแดน รวมถึงการก่อสร้างกำแพงตามแนวชายแดนมาเลเซีย-ไทยในรัฐกลันตัน ซึ่งถือเป็นพื้นที่เสี่ยงสูง

    ชัมซูล อานูอาร์ นาซาราห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยของมาเลเซีย กล่าวว่า ความปลอดภัยบริเวณชายแดนยังคงเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรกสำหรับรัฐบาล เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมักถูกใช้เป็นสถานที่ลักลอบขนสินค้า โดยเฉพาะยาเสพติด และอาจก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อความปลอดภัยในวงกว้างได้ หากไม่ได้รับการตรวจสอบ

    “เราให้ความสำคัญอย่างเต็มที่กับการควบคุมชายแดน หากไม่มีการรักษาความปลอดภัยชายแดน ไม่เพียงแต่การลักลอบขนยาเสพติดจะเกิดขึ้นเท่านั้น แต่ยังอาจเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงอื่นๆ ขึ้นได้อีกด้วย” เขากล่าวในการแถลงข่าวหลังจากเข้าร่วมโครงการกับสำนักงานปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติและสมาคมต่อต้านยาเสพติดแห่งมาเลเซียที่นี่เมื่อคืนวันพฤหัสบดี

    เขากล่าวอีกว่ากระทรวงร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง เช่น ตำรวจ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายชายแดนอื่นๆ กำลังวิเคราะห์ข่าวกรองที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อระบุสถานที่ที่ต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์เฝ้าระวังหรือโครงสร้างด้านความปลอดภัย

    “เรากำลังพิจารณาข้อเสนอทั้งหมด รวมถึงการก่อสร้างกำแพง การติดตั้งกล้องวงจรปิด และโซลูชั่นเทคโนโลยีอื่นๆ ทั้งหมดนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา และจะดำเนินการตามความต้องการและท้องถิ่น”

    ชัมซูล อานูอาร์ กล่าวเสริมว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยชายแดนไม่ได้จำกัดอยู่แค่สถานที่ใดสถานที่หนึ่งเท่านั้น แต่ได้นำไปปฏิบัติอย่างครอบคลุมทั่วประเทศโดยพิจารณาจากระดับภัยคุกคามและความเสี่ยง

    “สิ่งสำคัญคือการทำให้แน่ใจว่าพรมแดนประเทศของเราปลอดภัยอย่างแท้จริง มีการตรวจสอบอย่างดี และไม่ละเมิดได้ง่าย” เขากล่าว

    เมื่อแสดงความเห็นว่ามาเลเซียจะทำตามตัวอย่างของไทยโดยการติดตั้งกล้องวงจรปิดตามแนวชายแดนหรือไม่ ชัมซูล อานูอาร์กล่าวว่าข้อเสนอทั้งหมดนี้กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาอย่างจริงจังโดยรัฐบาล

    เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ดาทุก โมฮัมหมัด ยูซอฟ มามัต ผู้บัญชาการตำรวจกลันตัน รายงานว่า การสร้างกำแพงหรือรั้วถาวรตามแนวชายแดนกลันตัน-ไทยจะเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ได้ผลที่สุดในการต่อสู้กับการลักลอบขนของผิดกฎหมายในรัฐนี้

    เขากล่าวว่าแนวชายแดนระยะทาง 45 กิโลเมตรยังคงมีความเสี่ยงสูง ทำให้การบังคับใช้กฎหมายอย่างครอบคลุมทำได้ยาก

    ที่มา : klsescreener
    https://www.klsescreener.com/v2/news/view/1542845/home-ministry-reviews-proposal-to-build-wall-along-kelantan-thailand-border
    20 มิถุนายน 2568 กระทรวงมหาดไทยของมาเลเซีย (KDN) กำลังตรวจสอบข้อเสนอต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงตามชายแดน รวมถึงการก่อสร้างกำแพงตามแนวชายแดนมาเลเซีย-ไทยในรัฐกลันตัน ซึ่งถือเป็นพื้นที่เสี่ยงสูง ชัมซูล อานูอาร์ นาซาราห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยของมาเลเซีย กล่าวว่า ความปลอดภัยบริเวณชายแดนยังคงเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรกสำหรับรัฐบาล เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมักถูกใช้เป็นสถานที่ลักลอบขนสินค้า โดยเฉพาะยาเสพติด และอาจก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อความปลอดภัยในวงกว้างได้ หากไม่ได้รับการตรวจสอบ “เราให้ความสำคัญอย่างเต็มที่กับการควบคุมชายแดน หากไม่มีการรักษาความปลอดภัยชายแดน ไม่เพียงแต่การลักลอบขนยาเสพติดจะเกิดขึ้นเท่านั้น แต่ยังอาจเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงอื่นๆ ขึ้นได้อีกด้วย” เขากล่าวในการแถลงข่าวหลังจากเข้าร่วมโครงการกับสำนักงานปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติและสมาคมต่อต้านยาเสพติดแห่งมาเลเซียที่นี่เมื่อคืนวันพฤหัสบดี เขากล่าวอีกว่ากระทรวงร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง เช่น ตำรวจ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายชายแดนอื่นๆ กำลังวิเคราะห์ข่าวกรองที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อระบุสถานที่ที่ต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์เฝ้าระวังหรือโครงสร้างด้านความปลอดภัย “เรากำลังพิจารณาข้อเสนอทั้งหมด รวมถึงการก่อสร้างกำแพง การติดตั้งกล้องวงจรปิด และโซลูชั่นเทคโนโลยีอื่นๆ ทั้งหมดนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา และจะดำเนินการตามความต้องการและท้องถิ่น” ชัมซูล อานูอาร์ กล่าวเสริมว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยชายแดนไม่ได้จำกัดอยู่แค่สถานที่ใดสถานที่หนึ่งเท่านั้น แต่ได้นำไปปฏิบัติอย่างครอบคลุมทั่วประเทศโดยพิจารณาจากระดับภัยคุกคามและความเสี่ยง “สิ่งสำคัญคือการทำให้แน่ใจว่าพรมแดนประเทศของเราปลอดภัยอย่างแท้จริง มีการตรวจสอบอย่างดี และไม่ละเมิดได้ง่าย” เขากล่าว เมื่อแสดงความเห็นว่ามาเลเซียจะทำตามตัวอย่างของไทยโดยการติดตั้งกล้องวงจรปิดตามแนวชายแดนหรือไม่ ชัมซูล อานูอาร์กล่าวว่าข้อเสนอทั้งหมดนี้กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาอย่างจริงจังโดยรัฐบาล เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ดาทุก โมฮัมหมัด ยูซอฟ มามัต ผู้บัญชาการตำรวจกลันตัน รายงานว่า การสร้างกำแพงหรือรั้วถาวรตามแนวชายแดนกลันตัน-ไทยจะเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ได้ผลที่สุดในการต่อสู้กับการลักลอบขนของผิดกฎหมายในรัฐนี้ เขากล่าวว่าแนวชายแดนระยะทาง 45 กิโลเมตรยังคงมีความเสี่ยงสูง ทำให้การบังคับใช้กฎหมายอย่างครอบคลุมทำได้ยาก ที่มา : klsescreener https://www.klsescreener.com/v2/news/view/1542845/home-ministry-reviews-proposal-to-build-wall-along-kelantan-thailand-border
    WWW.KLSESCREENER.COM
    Home Ministry reviews proposal to build wall along Kelantan-Thailand border
    The Home Ministry (KDN) is reviewing various proposals to strengthen border security, including the construction of a wall along the Malaysia-Thailand border in Kelantan, which is deemed a high-risk area. Deputy Home Minister Datuk Seri Dr Shamsul Anuar Nasarah said border safety remains a top priority for the government, as such areas were frequently used for smuggling activities, particularly drugs, and might pose wider security threats if left unchecked.
    0 Comments 0 Shares 599 Views 0 Reviews
  • ปัญหาความเข้ากันได้ของ RTX 50 Series กับเมนบอร์ด EVGA
    ผู้ใช้เมนบอร์ด EVGA Z690 กำลังเผชิญกับ ปัญหาการบูตเครื่องเมื่อใช้กับการ์ดจอ RTX 50 Series โดยพบว่า SMBUS pins บนเมนบอร์ดทำให้เกิดความขัดแย้งกับ GPU ของ Nvidia

    EVGA ถอนตัวจากตลาด GPU ในปี 2022 และลดขนาดธุรกิจลงอย่างมาก ส่งผลให้ การสนับสนุนซอฟต์แวร์ลดลง และอาจเป็น สาเหตุของปัญหาความเข้ากันได้กับการ์ดจอรุ่นใหม่

    ข้อมูลจากข่าว
    - ผู้ใช้เมนบอร์ด EVGA Z690 พบปัญหาบูตเครื่องเมื่อใช้กับ RTX 50 Series
    - SMBUS pins บนเมนบอร์ดทำให้เกิดความขัดแย้งกับ GPU ของ Nvidia
    - EVGA ถอนตัวจากตลาด GPU ในปี 2022 และลดขนาดธุรกิจลง
    - ผู้ใช้บางรายแก้ปัญหาโดยใช้เทป Kapton ปิด SMBUS pins บน PCIe connector ของ GPU
    - เมนบอร์ด EVGA รุ่นอื่น ๆ เช่น Z790 ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้

    วิธีแก้ปัญหาที่ผู้ใช้ค้นพบ
    ผู้ใช้บางราย ใช้เทป Kapton กว้าง 2 มม. ปิด SMBUS pins (pins 5 และ 6) บน PCIe connector ของ GPU เพื่อ หยุดสัญญาณ SMBUS ไม่ให้ส่งไปยังการ์ดจอ

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การใช้เทป Kapton ต้องทำอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อการเชื่อมต่ออื่น ๆ
    - EVGA ยังไม่มีการประกาศแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นทางการ
    - การแก้ไขด้วยเทปเป็นเพียงวิธีชั่วคราว และอาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดในระยะยาว
    - ต้องติดตามว่า Nvidia หรือ EVGA จะออกอัปเดต BIOS เพื่อแก้ไขปัญหานี้หรือไม่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/evga-motherboard-owners-furious-over-modern-gpu-issues-diy-users-resort-to-taping-over-pins-to-fix-rtx-50-series-problem-on-z690-boards
    🔧 ปัญหาความเข้ากันได้ของ RTX 50 Series กับเมนบอร์ด EVGA ผู้ใช้เมนบอร์ด EVGA Z690 กำลังเผชิญกับ ปัญหาการบูตเครื่องเมื่อใช้กับการ์ดจอ RTX 50 Series โดยพบว่า SMBUS pins บนเมนบอร์ดทำให้เกิดความขัดแย้งกับ GPU ของ Nvidia EVGA ถอนตัวจากตลาด GPU ในปี 2022 และลดขนาดธุรกิจลงอย่างมาก ส่งผลให้ การสนับสนุนซอฟต์แวร์ลดลง และอาจเป็น สาเหตุของปัญหาความเข้ากันได้กับการ์ดจอรุ่นใหม่ ✅ ข้อมูลจากข่าว - ผู้ใช้เมนบอร์ด EVGA Z690 พบปัญหาบูตเครื่องเมื่อใช้กับ RTX 50 Series - SMBUS pins บนเมนบอร์ดทำให้เกิดความขัดแย้งกับ GPU ของ Nvidia - EVGA ถอนตัวจากตลาด GPU ในปี 2022 และลดขนาดธุรกิจลง - ผู้ใช้บางรายแก้ปัญหาโดยใช้เทป Kapton ปิด SMBUS pins บน PCIe connector ของ GPU - เมนบอร์ด EVGA รุ่นอื่น ๆ เช่น Z790 ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ 🔥 วิธีแก้ปัญหาที่ผู้ใช้ค้นพบ ผู้ใช้บางราย ใช้เทป Kapton กว้าง 2 มม. ปิด SMBUS pins (pins 5 และ 6) บน PCIe connector ของ GPU เพื่อ หยุดสัญญาณ SMBUS ไม่ให้ส่งไปยังการ์ดจอ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การใช้เทป Kapton ต้องทำอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อการเชื่อมต่ออื่น ๆ - EVGA ยังไม่มีการประกาศแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นทางการ - การแก้ไขด้วยเทปเป็นเพียงวิธีชั่วคราว และอาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดในระยะยาว - ต้องติดตามว่า Nvidia หรือ EVGA จะออกอัปเดต BIOS เพื่อแก้ไขปัญหานี้หรือไม่ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/evga-motherboard-owners-furious-over-modern-gpu-issues-diy-users-resort-to-taping-over-pins-to-fix-rtx-50-series-problem-on-z690-boards
    0 Comments 0 Shares 332 Views 0 Reviews
  • ทรัมป์คุย “รีเซ็ตความสัมพันธ์จีน-อเมริกาใหม่หมด” หลังจากทั้งสองประเทศตกลงพักสงครามการค้า 90 วัน ด้วยการลดอัตราภาษีศุลกากรลงมา 115% อย่างไรก็ดี พวกนักวิเคราะห์มองว่า ข้อตกลงที่เจนีวาคราวนี้ถือเป็นชัยชนะสำหรับปักกิ่งในการยึดมั่นหลักการความเท่าเทียมและการเคารพกันและกัน ถึงแม้บางคนตั้งข้อสังเกตว่า ความสำเร็จนี้ไม่ได้สะท้อนวิธีแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง และไม่ได้รับประกันว่า ปักกิ่งและวอชิงตันจะไม่ขัดแย้งรุนแรงกันอีกในอนาคต
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000044806

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ทรัมป์คุย “รีเซ็ตความสัมพันธ์จีน-อเมริกาใหม่หมด” หลังจากทั้งสองประเทศตกลงพักสงครามการค้า 90 วัน ด้วยการลดอัตราภาษีศุลกากรลงมา 115% อย่างไรก็ดี พวกนักวิเคราะห์มองว่า ข้อตกลงที่เจนีวาคราวนี้ถือเป็นชัยชนะสำหรับปักกิ่งในการยึดมั่นหลักการความเท่าเทียมและการเคารพกันและกัน ถึงแม้บางคนตั้งข้อสังเกตว่า ความสำเร็จนี้ไม่ได้สะท้อนวิธีแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง และไม่ได้รับประกันว่า ปักกิ่งและวอชิงตันจะไม่ขัดแย้งรุนแรงกันอีกในอนาคต . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000044806 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 1614 Views 0 Reviews
  • Aurora Innovation บริษัทเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับจาก Pittsburgh ได้เริ่มต้นการใช้งานรถบรรทุกไร้คนขับบนทางหลวง I-45 ระหว่างเมืองดัลลัสและฮูสตันในรัฐเท็กซัส โดยการเปิดตัวนี้ถือเป็นหนึ่งในครั้งแรกที่รถบรรทุกไร้คนขับถูกนำมาใช้งานจริงบนถนนสาธารณะ Aurora วางแผนที่จะเริ่มต้นด้วยรถบรรทุกไร้คนขับเพียงคันเดียว และจะขยายการดำเนินงานในอนาคต

    รัฐเท็กซัสได้รับการยอมรับว่าเป็นพื้นที่ทดลองสำหรับเทคโนโลยีนี้ เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งที่กว้างขวาง กฎหมายที่เอื้อต่อธุรกิจ และสภาพอากาศที่คาดการณ์ได้ง่าย การใช้งานรถบรรทุกไร้คนขับถูกมองว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการขนส่งที่เผชิญกับความท้าทาย เช่น การขาดแคลนแรงงานและต้นทุนการดำเนินงานที่สูง

    อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ขับขี่รถบรรทุกแบบดั้งเดิมแสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของรถไร้คนขับบนทางหลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่มีการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยในระดับรัฐบาลกลาง

    การเปิดตัวรถบรรทุกไร้คนขับ
    - Aurora เริ่มต้นการใช้งานรถบรรทุกไร้คนขับบนทางหลวง I-45 ในรัฐเท็กซัส
    - การเปิดตัวนี้ถือเป็นครั้งแรกที่รถบรรทุกไร้คนขับถูกนำมาใช้งานจริงบนถนนสาธารณะ

    ความสำคัญของรัฐเท็กซัส
    - รัฐเท็กซัสเป็นพื้นที่ทดลองสำหรับเทคโนโลยีนี้ เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการขนส่ง
    - รถบรรทุกไร้คนขับช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน

    การสนับสนุนจากบริษัทอื่น
    - Volvo และ Daimler กำลังพัฒนารถบรรทุกไร้คนขับเช่นกัน โดยมีเป้าหมายการใช้งานเชิงพาณิชย์ในปี 2027

    https://www.techspot.com/news/107687-texas-highways-welcome-first-wave-self-driving-freight.html
    Aurora Innovation บริษัทเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับจาก Pittsburgh ได้เริ่มต้นการใช้งานรถบรรทุกไร้คนขับบนทางหลวง I-45 ระหว่างเมืองดัลลัสและฮูสตันในรัฐเท็กซัส โดยการเปิดตัวนี้ถือเป็นหนึ่งในครั้งแรกที่รถบรรทุกไร้คนขับถูกนำมาใช้งานจริงบนถนนสาธารณะ Aurora วางแผนที่จะเริ่มต้นด้วยรถบรรทุกไร้คนขับเพียงคันเดียว และจะขยายการดำเนินงานในอนาคต รัฐเท็กซัสได้รับการยอมรับว่าเป็นพื้นที่ทดลองสำหรับเทคโนโลยีนี้ เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งที่กว้างขวาง กฎหมายที่เอื้อต่อธุรกิจ และสภาพอากาศที่คาดการณ์ได้ง่าย การใช้งานรถบรรทุกไร้คนขับถูกมองว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการขนส่งที่เผชิญกับความท้าทาย เช่น การขาดแคลนแรงงานและต้นทุนการดำเนินงานที่สูง อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ขับขี่รถบรรทุกแบบดั้งเดิมแสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของรถไร้คนขับบนทางหลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่มีการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยในระดับรัฐบาลกลาง ✅ การเปิดตัวรถบรรทุกไร้คนขับ - Aurora เริ่มต้นการใช้งานรถบรรทุกไร้คนขับบนทางหลวง I-45 ในรัฐเท็กซัส - การเปิดตัวนี้ถือเป็นครั้งแรกที่รถบรรทุกไร้คนขับถูกนำมาใช้งานจริงบนถนนสาธารณะ ✅ ความสำคัญของรัฐเท็กซัส - รัฐเท็กซัสเป็นพื้นที่ทดลองสำหรับเทคโนโลยีนี้ เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการขนส่ง - รถบรรทุกไร้คนขับช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ✅ การสนับสนุนจากบริษัทอื่น - Volvo และ Daimler กำลังพัฒนารถบรรทุกไร้คนขับเช่นกัน โดยมีเป้าหมายการใช้งานเชิงพาณิชย์ในปี 2027 https://www.techspot.com/news/107687-texas-highways-welcome-first-wave-self-driving-freight.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Texas highways welcome first wave of self-driving freight trucks
    According to Axios, the company plans to start with a single autonomous truck and gradually expand its operations. The rollout marks one of the first real-world deployments...
    0 Comments 0 Shares 404 Views 0 Reviews
  • ข่าวจาก Igor's Lab ได้เปิดเผยปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับการ์ดจอ Nvidia RTX 5000 โดยมีจุดที่ร้อนสูงในบริเวณ PCB ซึ่งส่งผลต่อความทนทานในระยะยาว โดยสาเหตุเกิดจากการออกแบบ VRM ที่บีบอัดพื้นที่ทำงานร่วมกัน จึงทำให้เกิดความร้อนสะสมในบริเวณเล็ก ๆ และอาจทำให้การ์ดเสียหายจากการใช้งานหนัก

    ในข่าวยังระบุว่า อุณหภูมิที่สูงที่สุดในเขต VRM บางจุดอาจเกินค่าที่กำหนดไว้ในคู่มือ Thermal Design Guide ของ Nvidia และทาง Igor ได้เสนอวิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้นโดยการเพิ่ม thermal putty และแผ่นรองหลังที่หนาขึ้น ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิในพื้นที่ร้อนลงได้อย่างเห็นผล แต่ปัญหาดังกล่าวยังคงมีข้อกังวลเกี่ยวกับอายุการใช้งานของการ์ด

    การ์ดจอ Nvidia RTX 5000 มีจุดที่ร้อนสูงในพื้นที่ PCB ซึ่งส่งผลต่อความทนทานในระยะยาว

    ปัญหาเกิดจากการจัดวาง VRM และ power components ที่บีบอัดให้ทำงานร่วมกันในพื้นที่เล็ก

    อุณหภูมิในเขต VRM อาจเกิน glass-transition temperature ของ PCB resin

    Igor Wallossek เสนอวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น เช่น ใช้ thermal putty และเพิ่มแผ่นรองหลังเพื่อช่วยลดความร้อน

    https://www.techspot.com/news/107652-nvidia-rtx-5000-cards-show-pcb-hotspots-threaten.html
    ข่าวจาก Igor's Lab ได้เปิดเผยปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับการ์ดจอ Nvidia RTX 5000 โดยมีจุดที่ร้อนสูงในบริเวณ PCB ซึ่งส่งผลต่อความทนทานในระยะยาว โดยสาเหตุเกิดจากการออกแบบ VRM ที่บีบอัดพื้นที่ทำงานร่วมกัน จึงทำให้เกิดความร้อนสะสมในบริเวณเล็ก ๆ และอาจทำให้การ์ดเสียหายจากการใช้งานหนัก ในข่าวยังระบุว่า อุณหภูมิที่สูงที่สุดในเขต VRM บางจุดอาจเกินค่าที่กำหนดไว้ในคู่มือ Thermal Design Guide ของ Nvidia และทาง Igor ได้เสนอวิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้นโดยการเพิ่ม thermal putty และแผ่นรองหลังที่หนาขึ้น ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิในพื้นที่ร้อนลงได้อย่างเห็นผล แต่ปัญหาดังกล่าวยังคงมีข้อกังวลเกี่ยวกับอายุการใช้งานของการ์ด ✅ การ์ดจอ Nvidia RTX 5000 มีจุดที่ร้อนสูงในพื้นที่ PCB ซึ่งส่งผลต่อความทนทานในระยะยาว ✅ ปัญหาเกิดจากการจัดวาง VRM และ power components ที่บีบอัดให้ทำงานร่วมกันในพื้นที่เล็ก ✅ อุณหภูมิในเขต VRM อาจเกิน glass-transition temperature ของ PCB resin ✅ Igor Wallossek เสนอวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น เช่น ใช้ thermal putty และเพิ่มแผ่นรองหลังเพื่อช่วยลดความร้อน https://www.techspot.com/news/107652-nvidia-rtx-5000-cards-show-pcb-hotspots-threaten.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Nvidia RTX 5000 cards show PCB hotspots that threaten longevity, says Igor's Lab
    During a sustained "torture loop" on a PNY RTX 5070 OC and Palit RTX 5080 Gaming Pro OC, Wallossek recorded temperature spikes in the power delivery areas...
    0 Comments 0 Shares 425 Views 0 Reviews
  • มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศกล่าวว่า สหรัฐอาจจะ "ถอนตัว" และก้าวเดินต่อไป หากการเจรจาสันติภาพยูเครนไม่มีความคืบหน้าภายในไม่กี่วันนี้

    รูบิโอ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สหรัฐไม่มีวิธีแก้ปัญหาด้วยกำลังทหาร และเป็นเรื่องของยุโรปในการตัดสินใจ รวมทั้งการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่างๆ ที่ส่วนใหญ่ออกมาจากทางยุโรป ซึ่งสหรัฐไม่สามารถยกเลิกได้ ทำให้สหภาพยุโรปจำเป็นต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการเจรจาหลังจากนี้

    ทางด้าน มาร์การิตา ซิโมนยา บรรณาธิการบริหารของสำนักข่าว RTของรัสเซีย กล่าวแสดงความเห็นจากคำพูดของรูบิโอว่า หากสหรัฐ "ก้าวเดินต่อไป" (move on) บางทีรัสเซียอาจจะ "ก้าวเดินต่อไป" จนถึง Pokrovsk (โปครอฟสค์) ด้วยเช่นกัน
    มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศกล่าวว่า สหรัฐอาจจะ "ถอนตัว" และก้าวเดินต่อไป หากการเจรจาสันติภาพยูเครนไม่มีความคืบหน้าภายในไม่กี่วันนี้ รูบิโอ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สหรัฐไม่มีวิธีแก้ปัญหาด้วยกำลังทหาร และเป็นเรื่องของยุโรปในการตัดสินใจ รวมทั้งการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่างๆ ที่ส่วนใหญ่ออกมาจากทางยุโรป ซึ่งสหรัฐไม่สามารถยกเลิกได้ ทำให้สหภาพยุโรปจำเป็นต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการเจรจาหลังจากนี้ ทางด้าน มาร์การิตา ซิโมนยา บรรณาธิการบริหารของสำนักข่าว RTของรัสเซีย กล่าวแสดงความเห็นจากคำพูดของรูบิโอว่า หากสหรัฐ "ก้าวเดินต่อไป" (move on) บางทีรัสเซียอาจจะ "ก้าวเดินต่อไป" จนถึง Pokrovsk (โปครอฟสค์) ด้วยเช่นกัน 😂
    0 Comments 0 Shares 639 Views 11 0 Reviews
  • ร้านค้าต้องระวังแล้ว หลังพบว่า ChatGPT สามารถปลอมสลิปโอนเงินของธนาคารได้แบบเนียนๆ ชี้ จะดูแค่สลิปไม่ได้ ต้องรอดูเงินเข้าด้วย

    หลังการเกิดของ ”ChatGPT“ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้กับใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยสร้างเนื้อหาประเภทต่างๆ ได้ เช่น บทความ, เรื่องราว, คำบรรยาย, และเนื้อหาสำหรับโซเชียลมีเดีย

    สามารถใช้เป็นเครื่องมือช่วยในการเรียนรู้และทำความเข้าใจในหัวข้อต่างๆ

    ช่วยตอบคำถามและให้คำอธิบายในหัวข้อที่ซับซ้อน

    โดย ChatGPT สามารถนำมาใช้ตอบคำถามได้ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยลดภาระงานของฝ่ายซัพพอร์ต และช่วยให้ได้รับคำตอบที่รวดเร็วขึ้น

    สามารถสร้าง Chatbot อัจฉริยะ โดยปรับแต่งบทสนทนาให้ตรงกับเอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น ตอบแนวทางการใช้งานสินค้า แนะนำวิธีแก้ปัญหา และอัปเกรดเป็นระบบที่เข้าใจหลายภาษาได้

    แต่ล่าสุด วันนี้ ( 27 มี.ค.) เพจ “Kafaak” ออกมาโพสต์ข้อความเตือนในความสามารถอันสุดแสนอันตรายของ “Chat GPT” เมื่อมันสามารถปลอมสลิปโอนเงินของธนาคารได้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000029036

    #MGROnline #ChatGPT
    ร้านค้าต้องระวังแล้ว หลังพบว่า ChatGPT สามารถปลอมสลิปโอนเงินของธนาคารได้แบบเนียนๆ ชี้ จะดูแค่สลิปไม่ได้ ต้องรอดูเงินเข้าด้วย • หลังการเกิดของ ”ChatGPT“ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้กับใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยสร้างเนื้อหาประเภทต่างๆ ได้ เช่น บทความ, เรื่องราว, คำบรรยาย, และเนื้อหาสำหรับโซเชียลมีเดีย • สามารถใช้เป็นเครื่องมือช่วยในการเรียนรู้และทำความเข้าใจในหัวข้อต่างๆ • ช่วยตอบคำถามและให้คำอธิบายในหัวข้อที่ซับซ้อน • โดย ChatGPT สามารถนำมาใช้ตอบคำถามได้ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยลดภาระงานของฝ่ายซัพพอร์ต และช่วยให้ได้รับคำตอบที่รวดเร็วขึ้น • สามารถสร้าง Chatbot อัจฉริยะ โดยปรับแต่งบทสนทนาให้ตรงกับเอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น ตอบแนวทางการใช้งานสินค้า แนะนำวิธีแก้ปัญหา และอัปเกรดเป็นระบบที่เข้าใจหลายภาษาได้ • แต่ล่าสุด วันนี้ ( 27 มี.ค.) เพจ “Kafaak” ออกมาโพสต์ข้อความเตือนในความสามารถอันสุดแสนอันตรายของ “Chat GPT” เมื่อมันสามารถปลอมสลิปโอนเงินของธนาคารได้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000029036 • #MGROnline #ChatGPT
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 457 Views 0 Reviews
  • รายงานล่าสุดชี้ให้เห็นถึงความท้าทายในการพัฒนา AI แบบ AGI โดยเน้นว่าการเพิ่มพลังประมวลผลเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แม้บริษัทใหญ่ลงทุนมหาศาลในเทคโนโลยีนี้ ผลลัพธ์ที่ได้กลับลดลง นอกจากนี้ นักวิจัยยังสนับสนุนให้เน้นความปลอดภัยและวิธีการพัฒนาที่คุ้มค่า เช่น การลดพลังงานหรือปรับกระบวนการทำงานของ AI ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ความท้าทายในการพัฒนา AGI:
    - แม้มีการลงทุนมากกว่า 56 พันล้านดอลลาร์ ใน AI เช่น การฝึกโมเดลขนาดใหญ่ แต่ผลลัพธ์ในด้านประสิทธิภาพเริ่มลดลง เช่น โมเดลล่าสุดของ OpenAI ที่แสดงการปรับปรุงเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า.

    ปัญหาด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน:
    - เนื่องจากโมเดล AI ต้องใช้พลังงานอย่างมหาศาล บริษัทต่าง ๆ เช่น Microsoft, Google และ Amazon จึงเริ่มหันไปใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อรองรับศูนย์ข้อมูล.

    แนวทางใหม่เพื่อการพัฒนา AI:
    - มีการสำรวจวิธีการที่ไม่เน้นเพิ่มพลังประมวลผล เช่น การใช้ "Test-time Compute" ซึ่งโมเดล AI จะ "คิด" นานขึ้นก่อนให้คำตอบ วิธีนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยไม่ต้องขยายระบบอย่างมหาศาล แต่ยังไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่สมบูรณ์.

    มุมมองด้านความปลอดภัยและจริยธรรม:
    - 82% ของนักวิจัย เชื่อว่าหาก AGI พัฒนาโดยบริษัทเอกชน ควรอยู่ภายใต้การควบคุมสาธารณะเพื่อลดความเสี่ยงและปัญหาด้านจริยธรรม.

    https://www.techspot.com/news/107256-most-ai-researchers-doubt-scaling-current-systems-alone.html
    รายงานล่าสุดชี้ให้เห็นถึงความท้าทายในการพัฒนา AI แบบ AGI โดยเน้นว่าการเพิ่มพลังประมวลผลเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แม้บริษัทใหญ่ลงทุนมหาศาลในเทคโนโลยีนี้ ผลลัพธ์ที่ได้กลับลดลง นอกจากนี้ นักวิจัยยังสนับสนุนให้เน้นความปลอดภัยและวิธีการพัฒนาที่คุ้มค่า เช่น การลดพลังงานหรือปรับกระบวนการทำงานของ AI ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ความท้าทายในการพัฒนา AGI: - แม้มีการลงทุนมากกว่า 56 พันล้านดอลลาร์ ใน AI เช่น การฝึกโมเดลขนาดใหญ่ แต่ผลลัพธ์ในด้านประสิทธิภาพเริ่มลดลง เช่น โมเดลล่าสุดของ OpenAI ที่แสดงการปรับปรุงเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า. ปัญหาด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน: - เนื่องจากโมเดล AI ต้องใช้พลังงานอย่างมหาศาล บริษัทต่าง ๆ เช่น Microsoft, Google และ Amazon จึงเริ่มหันไปใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อรองรับศูนย์ข้อมูล. แนวทางใหม่เพื่อการพัฒนา AI: - มีการสำรวจวิธีการที่ไม่เน้นเพิ่มพลังประมวลผล เช่น การใช้ "Test-time Compute" ซึ่งโมเดล AI จะ "คิด" นานขึ้นก่อนให้คำตอบ วิธีนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยไม่ต้องขยายระบบอย่างมหาศาล แต่ยังไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่สมบูรณ์. มุมมองด้านความปลอดภัยและจริยธรรม: - 82% ของนักวิจัย เชื่อว่าหาก AGI พัฒนาโดยบริษัทเอกชน ควรอยู่ภายใต้การควบคุมสาธารณะเพื่อลดความเสี่ยงและปัญหาด้านจริยธรรม. https://www.techspot.com/news/107256-most-ai-researchers-doubt-scaling-current-systems-alone.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Most AI experts say chasing AGI with more compute is a losing strategy
    A recent survey of 475 AI researchers reveals that 76% believe adding more computing power and data to current AI models is "unlikely" or "very unlikely" to...
    0 Comments 0 Shares 358 Views 0 Reviews
  • การ์ดจอ NVIDIA RTX 5090 ที่เพิ่งเปิดตัวกำลังเผชิญปัญหาเกี่ยวกับความร้อนในขั้วต่อไฟฟ้า 16-pin อย่างรุนแรง Andreas Schilling ผู้เชี่ยวชาญด้านฮาร์ดแวร์จากเว็บไซต์ Hardware Luxx ได้รายงานผ่านภาพถ่ายจากกล้องถ่ายความร้อนว่า ขั้วต่อไฟฟ้าของ RTX 5090 สามารถร้อนสูงถึง 150 องศาเซลเซียส

    == สาเหตุและผลกระทบ ==
    - ความเสียหายจากความร้อน: แม้ว่าขั้วต่อไฟฟ้าจะไม่ถึงจุดหลอมเหลวของวัสดุที่ใช้ (Nylon 66 และ LCP) ซึ่งอยู่ที่ 255-335 องศาเซลเซียส แต่นี่เป็นจุดอ่อนสำคัญที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัยและอายุการใช้งานของอุปกรณ์
    - การเชื่อมต่อที่ไม่ทนทาน: Corsair ผู้ผลิตชิ้นส่วน PC ระบุว่าขั้วต่อ 16-pin มีวงจรการเชื่อมต่อ/ถอดที่รองรับได้เพียง 30 ครั้ง แต่ในกรณีนี้ ขั้วต่อถูกใช้งานเกินหลายร้อยครั้งแล้ว ทำให้เกิดความไม่เสถียร
    - ความไม่ไว้วางใจในตัวเลือกนี้: Schilling แสดงความคิดเห็นอย่างหนักแน่นว่า การออกแบบขั้วต่อ 12V-2x6 "จะเป็นจุดอ่อนสำคัญตลอดการใช้งานของการ์ดจอรุ่นนี้"

    การ์ดจอที่ทดสอบคือ Inno3D RTX 5090 Frostbite ซึ่งใช้น้ำเป็นตัวระบายความร้อน และแหล่งจ่ายไฟคือ be quiet! Dark Power 13 ที่รองรับพลังงาน 600W ในระหว่างการทดสอบ แม้ตัว GPU จะเย็นแต่ขั้วต่อไฟฟ้ากลับมีอุณหภูมิสูงจนกังวล

    แนวทางที่ควรคำนึง
    - การปรับปรุงการออกแบบขั้วต่อไฟฟ้า: NVIDIA อาจต้องหาวิธีแก้ปัญหาขั้วต่อไฟฟ้าในรุ่นนี้หรือในรุ่นต่อไป เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความเชื่อมั่นของผู้ใช้งาน
    - คำแนะนำแก่ผู้ใช้: ผู้ใช้งาน RTX 5090 ควรตรวจสอบความร้อนของขั้วต่อไฟฟ้า และหลีกเลี่ยงการใช้งานที่มีโหลดสูงในระยะเวลานาน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/power-supplies/nvidia-rtx-5090s-16-pin-power-connector-hits-150c-in-reviewers-thermal-camera-shots
    การ์ดจอ NVIDIA RTX 5090 ที่เพิ่งเปิดตัวกำลังเผชิญปัญหาเกี่ยวกับความร้อนในขั้วต่อไฟฟ้า 16-pin อย่างรุนแรง Andreas Schilling ผู้เชี่ยวชาญด้านฮาร์ดแวร์จากเว็บไซต์ Hardware Luxx ได้รายงานผ่านภาพถ่ายจากกล้องถ่ายความร้อนว่า ขั้วต่อไฟฟ้าของ RTX 5090 สามารถร้อนสูงถึง 150 องศาเซลเซียส == สาเหตุและผลกระทบ == - ความเสียหายจากความร้อน: แม้ว่าขั้วต่อไฟฟ้าจะไม่ถึงจุดหลอมเหลวของวัสดุที่ใช้ (Nylon 66 และ LCP) ซึ่งอยู่ที่ 255-335 องศาเซลเซียส แต่นี่เป็นจุดอ่อนสำคัญที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัยและอายุการใช้งานของอุปกรณ์ - การเชื่อมต่อที่ไม่ทนทาน: Corsair ผู้ผลิตชิ้นส่วน PC ระบุว่าขั้วต่อ 16-pin มีวงจรการเชื่อมต่อ/ถอดที่รองรับได้เพียง 30 ครั้ง แต่ในกรณีนี้ ขั้วต่อถูกใช้งานเกินหลายร้อยครั้งแล้ว ทำให้เกิดความไม่เสถียร - ความไม่ไว้วางใจในตัวเลือกนี้: Schilling แสดงความคิดเห็นอย่างหนักแน่นว่า การออกแบบขั้วต่อ 12V-2x6 "จะเป็นจุดอ่อนสำคัญตลอดการใช้งานของการ์ดจอรุ่นนี้" การ์ดจอที่ทดสอบคือ Inno3D RTX 5090 Frostbite ซึ่งใช้น้ำเป็นตัวระบายความร้อน และแหล่งจ่ายไฟคือ be quiet! Dark Power 13 ที่รองรับพลังงาน 600W ในระหว่างการทดสอบ แม้ตัว GPU จะเย็นแต่ขั้วต่อไฟฟ้ากลับมีอุณหภูมิสูงจนกังวล แนวทางที่ควรคำนึง - การปรับปรุงการออกแบบขั้วต่อไฟฟ้า: NVIDIA อาจต้องหาวิธีแก้ปัญหาขั้วต่อไฟฟ้าในรุ่นนี้หรือในรุ่นต่อไป เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความเชื่อมั่นของผู้ใช้งาน - คำแนะนำแก่ผู้ใช้: ผู้ใช้งาน RTX 5090 ควรตรวจสอบความร้อนของขั้วต่อไฟฟ้า และหลีกเลี่ยงการใช้งานที่มีโหลดสูงในระยะเวลานาน https://www.tomshardware.com/pc-components/power-supplies/nvidia-rtx-5090s-16-pin-power-connector-hits-150c-in-reviewers-thermal-camera-shots
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Nvidia RTX 5090's 16-pin power connector hits 150C in reviewer's thermal camera shots
    Andreas Schilling of Germany's Hardware Luxx says the power connector issue will 'forever remain a weak point of this generation.'
    0 Comments 0 Shares 435 Views 0 Reviews
  • #SAVEช้างทั่วประเทศไทย❤""บอกตามตรงนะเรื่องจะฉีดวัคซีนคุมกำเนิดช้างเป็นอะไรที่สะเทือนใจฉันอย่างมากๆ#มันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาเลยผลาญงบไปเปล่าๆและเป็นอันตรายต่อช้างมาก"ประกอบกับการศึกษาวิจัยก็ยังไม่มีเลยช้างเอเซียกับช้างแอฟริกามันคนละสายพันธุ์จะเอามาใช้แบบเดียวกันมันไม่ได้#งบประมาณค่าวัคซีนเข็มละ1หมื่นบาทและค่าคอลล่า(ปอกคอ)ที่จะใส่ช้างที่ฉีดใช้งบประมาณมหาศาล เอามาทำแนวกันช้าง ทำบ่อน้ำ ปลูกพืชอาหาร และขอคืนพื้นที่สปก.ที่นำไปใช้ผิดประเภทเช่นรีสอร์ท,โรงแรม,บ้านตากอากาศหรูๆ#ขอคืนบ้านให้ช้างเถอะอย่าเบียดเบียนสัตว์ป่าเลยมันคือบ้านของเขานะใครก็ได้ที่เสียงดังช่วยส่งเสียงหน่อย"เวลานี้ประชาชนธรรมดาพูดอะไรไปเขาไม่ได้ยินกันหรอกเห็นไหม#ปชช.บอกไม่เอากาสิโนคอมแพ็คฯบ้าๆอะไรไม่ฟังจะมีบ่อนพนันออนไลน์เสรีต่อไปไม่ย้ายจากเมียวดีมาไทยรึ?โคตรเศร้าใจเลยประเทศไทยที่สวยงามกำลังจะหายไปจากพื้นที่โลกแล้วใช่ไหม๊??#ขอถามสักคำที่เรามีแผ่นดินอยู่ทุกวันนี้ไม่เพราะบรรพบุรุษช้างหรือที่เป็นช้างศึกให้พระมหากษัตริย์รบกู้บ้านกู้เมืองให้มีที่อยู่ที่กินกันถึงทุกวันนี้จะทำกับลูกหลานเขาแบบนี้หรือ"คน"#โคตรเจ็บที่
    #SAVEช้างทั่วประเทศไทย❤🐘❤""บอกตามตรงนะเรื่องจะฉีดวัคซีนคุมกำเนิดช้างเป็นอะไรที่สะเทือนใจฉันอย่างมากๆ#มันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาเลยผลาญงบไปเปล่าๆและเป็นอันตรายต่อช้างมาก"ประกอบกับการศึกษาวิจัยก็ยังไม่มีเลยช้างเอเซียกับช้างแอฟริกามันคนละสายพันธุ์จะเอามาใช้แบบเดียวกันมันไม่ได้#งบประมาณค่าวัคซีนเข็มละ1หมื่นบาทและค่าคอลล่า(ปอกคอ)ที่จะใส่ช้างที่ฉีดใช้งบประมาณมหาศาล เอามาทำแนวกันช้าง ทำบ่อน้ำ ปลูกพืชอาหาร และขอคืนพื้นที่สปก.ที่นำไปใช้ผิดประเภทเช่นรีสอร์ท,โรงแรม,บ้านตากอากาศหรูๆ#ขอคืนบ้านให้ช้างเถอะอย่าเบียดเบียนสัตว์ป่าเลยมันคือบ้านของเขานะใครก็ได้ที่เสียงดังช่วยส่งเสียงหน่อย"เวลานี้ประชาชนธรรมดาพูดอะไรไปเขาไม่ได้ยินกันหรอกเห็นไหม#ปชช.บอกไม่เอากาสิโนคอมแพ็คฯบ้าๆอะไรไม่ฟังจะมีบ่อนพนันออนไลน์เสรีต่อไปไม่ย้ายจากเมียวดีมาไทยรึ?โคตรเศร้าใจเลยประเทศไทยที่สวยงามกำลังจะหายไปจากพื้นที่โลกแล้วใช่ไหม๊??😔#ขอถามสักคำที่เรามีแผ่นดินอยู่ทุกวันนี้ไม่เพราะบรรพบุรุษช้างหรือที่เป็นช้างศึกให้พระมหากษัตริย์รบกู้บ้านกู้เมืองให้มีที่อยู่ที่กินกันถึงทุกวันนี้จะทำกับลูกหลานเขาแบบนี้หรือ"คน"#โคตรเจ็บที่💔
    Like
    Sad
    3
    1 Comments 1 Shares 963 Views 12 0 Reviews
  • การตัดงบ USAID ส่งผลกระทบถึงสื่อทั่วโลก นักข่าวหลายพันชีวิต รวมทั้งสื่อหลายร้อยแห่งอาจต้องปิดตัวลง!

    องค์กรนักข่าวไร้พรมแดน (RSF) เปิดเผยว่า การตัดเงินช่วยเหลือนี้ จะกระทบกับวงการสื่อ และนักข่าวหลายพันคน เพราะที่ผ่านมา USAID เป็นผู้ให้ทุนสนับสนุนนักข่าวกว่า 6,200 คน สื่อที่ไม่ใช่ของรัฐอีก 707 แห่ง และองค์กรพัฒนาเอกชนที่เน้นด้านสื่อ 279 แห่ง ในกว่า 30 ประเทศ (ข้อมูลปี 2023)

    สื่อในยูเครน อิหร่าน เบลารุส ระส่ำหนัก หลังโดนตัดเงินทุน!
    RSF เน้นย้ำว่า สื่ออิสระเหล่านี้ทำงานอย่างเสรีมีอิสระของเนื้อหา นอกจากนี้ USAID ยังเป็นผู้บริจาคหลักให้กับสื่ออิสระในยูเครน ซึ่งสื่อ 9 ใน 10 แห่งต้องพึ่งพาเงินอุดหนุนจากองค์การนี้ โดยตอนนี้ สื่อของยูเครนหลายแห่งได้ประกาศระงับกิจกรรมและกำลังมองหาวิธีแก้ปัญหาอื่นๆ แล้ว

    ขณะเดียวกัน สื่อในประเทศอื่นๆ อย่างเบลารุส หรืออิหร่าน ก็ประกาศถึงการได้รับผลกระทบ และหยุดกิจกรรมบางส่วนไปแล้วเช่นกัน

    RSF ยังกล่าวอีกว่า สื่อเหล่านี้ เป็นนักข่าวอิสระโดยแท้จริง ที่ทำงานด้วยความมุ่งมั่นในการตรวจสอบความโปร่งใสของการเลือกตั้งในประเทศต่างๆ รวมไปถึงประเด็นเรื่องเสรีภาพ และการตรวจสอบรัฐบาลในหลายประเทศที่ยังคงมีความเป็นเผด็จการ ซึ่งเชื่อว่า การลดเงิน จะส่งผลต่อเสรีภาพสื่อ และการส่งเสริมประชาธิปไตยทั่วโลก
    การตัดงบ USAID ส่งผลกระทบถึงสื่อทั่วโลก นักข่าวหลายพันชีวิต รวมทั้งสื่อหลายร้อยแห่งอาจต้องปิดตัวลง! องค์กรนักข่าวไร้พรมแดน (RSF) เปิดเผยว่า การตัดเงินช่วยเหลือนี้ จะกระทบกับวงการสื่อ และนักข่าวหลายพันคน เพราะที่ผ่านมา USAID เป็นผู้ให้ทุนสนับสนุนนักข่าวกว่า 6,200 คน สื่อที่ไม่ใช่ของรัฐอีก 707 แห่ง และองค์กรพัฒนาเอกชนที่เน้นด้านสื่อ 279 แห่ง ในกว่า 30 ประเทศ (ข้อมูลปี 2023) สื่อในยูเครน อิหร่าน เบลารุส ระส่ำหนัก หลังโดนตัดเงินทุน! RSF เน้นย้ำว่า สื่ออิสระเหล่านี้ทำงานอย่างเสรีมีอิสระของเนื้อหา นอกจากนี้ USAID ยังเป็นผู้บริจาคหลักให้กับสื่ออิสระในยูเครน ซึ่งสื่อ 9 ใน 10 แห่งต้องพึ่งพาเงินอุดหนุนจากองค์การนี้ โดยตอนนี้ สื่อของยูเครนหลายแห่งได้ประกาศระงับกิจกรรมและกำลังมองหาวิธีแก้ปัญหาอื่นๆ แล้ว ขณะเดียวกัน สื่อในประเทศอื่นๆ อย่างเบลารุส หรืออิหร่าน ก็ประกาศถึงการได้รับผลกระทบ และหยุดกิจกรรมบางส่วนไปแล้วเช่นกัน RSF ยังกล่าวอีกว่า สื่อเหล่านี้ เป็นนักข่าวอิสระโดยแท้จริง ที่ทำงานด้วยความมุ่งมั่นในการตรวจสอบความโปร่งใสของการเลือกตั้งในประเทศต่างๆ รวมไปถึงประเด็นเรื่องเสรีภาพ และการตรวจสอบรัฐบาลในหลายประเทศที่ยังคงมีความเป็นเผด็จการ ซึ่งเชื่อว่า การลดเงิน จะส่งผลต่อเสรีภาพสื่อ และการส่งเสริมประชาธิปไตยทั่วโลก
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 572 Views 0 Reviews
  • จับขังคอกหุ้นตัวป่วน..Delta “โดย สุนันท์ ศรีจันทรา
    ”นักลงทุนพากันเทขายหุ้น DELTA เพราะคาดว่า จะได้รับผลกระทบโดยตรงจาก GLOBAL MINIMUMTAX และต้องจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ทำให้ผลกำไรสุทธิลดลง

    DELTA เป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้น มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหรือมาร์เก็ตแคป 1.78 ล้านล้านบาท คำนวณจ่ากราคาปิดเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2568 โดยลดลงจากจุดปิดวันก่อนหน้าหรือวันที่ 30 ธันวาคม ที่มีมาร์เก็ตแคป 1.90 ล้านบาท

    เมื่อเทียบกับมูลค่าหลักทรัพย์ตลาดรวมจำนวน 17.24 ล้านบาท มาร์เก็ตแคป DELTA จะมีสัดส่วน 9.68% ของมาร์เก็ตแคปรวมของตลาด และมีน้ำหนักในการคำนวณดัชนีฯ 134 จุด

    การขึ้นลงของหุ้น DELTA ทุก 1 บาท จะมีผลต่อการขึ้นลงของดัชนีประมาณ 1 จุด

    ดัชนี ฯ ที่ดิ่งลงกว่า 20 จุด ในการเปิดซื้อขายประเดิมวันแรกของศักราชใหม่ปี 2568

    หุ้น DELTA จึงเป็นตัวการสำคัญ และทำให้ภาพตลาดหุ้นโดยรวมดูเหมือนเกิดความผันผวนรุนแรง ทั้งที่หุ้นส่วนใหญ่ไม่ได้ปรับตัวลง

    หลายปีแล้วที่หุ้น DELTA เป็นตัวการสำคัญที่บิดเบือนภาพการลงทุนในตลาดหุ้น เพราะบางครั้ง ภาพการลงทุนโดยรวมซบเซา แต่หุ้น DELTA ที่ขึ้นแรงเพียงตัวเดียว สามารถดึงดัชนี ฯ ให้เป็นสีเขียวหรือเป็นบวกได้ ทั้งที่หุ้นส่วนใหญ่ในกระดานซื้อขายแดงฉาน

    เมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมาก็เช่นเดียวกัน หุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น แต่หุ้น DELTA เพียงตัวเดียว ทำให้ดัชนี ฯ แดงแป๊ด

    ปัญหาราคาหุ้น DELTA ที่เคลื่อนไหวขึ้นลงอย่างร้อนแรง ตลาดหลักทรัพย์ระบุว่า เป็นผลจากฟรีโฟลท หรือสัดส่วนของผู้ถือหุ้นรายย่อยต่ำ เมื่อมีแรงซื้อแรงขายเข้ามามาก จึงทำให้ราคาปรับตัวขึ้นหรือลงสูง ซึ่งผู้ถือหุ้นรายย่อยของ DELTA มีจำนวน 22,655 ราย สัดส่วนการถือหุ้นรวม 23.08% ของทุนจดทะเบียน ณ วันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น 8 มีนาคม 2567

    ฟรีโฟลทของ DELTA ไม่ต่ำเสียทีเดียว และไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ที่กำหนดว่า บริษัทจดทะเบียน จะต้องมีผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่ต่ำกว่า150 คน หรือมีสัดส่วนการถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 15% ของทุนจดทะเบียน

    อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ถือหุ้นรายย่อยของ DELTA อาจเปลี่ยนแปลง หรือมีจำนวนลดลง เพราะราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาตลอด อาจทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยเทขายหุ้นออกทำกำไร ซึ่งจะต้องรอดูตัวเลขฟรีโฟลท DELTA ล่าสุด หลังปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเดือนมีนาคมนี้

    ค่า พี/อี เรโช DELTA ยังคงสูงปริ๊ดคือประมาณ 82 เท่า ราคาหลักทรัพย์ต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชีอยู่ที่ 23 เท่า ซึ่งถือส่าสูงมาก และแม้ตลาดหลักทรัพย์จะเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังการซื้อขายและใช้มาตรการกำกับการซื้อขายหลายครั้งแล้ว

    แต่ไม่อาจสยบ DELTA ได้

    จะถอด DELTA ออกจากการคำนวณดัชนี ฯ ก็ไม่ได้ เพราะ DELTA ไม่ได้ทำผิดหลักเกณฑ์ใด ถ้ายก DELTA ออกจากการคำนวณดัชนีฯจะกลายเป็นการเลือกปฏิบัติ

    สิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์ทำอยู่คือ การออกดัชนี ฯ ใหม่ SET50 FF โดยเป็นดัชนีที่คำนวณจากหุ้นขนาดใหญ่ 50 บริษัทที่มีฟรีโฟลทสูง เพื่อสะท้อนภาพตลาดหุ้นที่ไม่ถูกบิดเบือนจาก DELTA และใช้อ้างอิงผลตอบแทนของนักลงทุนสถาบันหรือกองทุนทั้งในแบะต่างประเทศ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567

    แต่ SET50FF ก็ไม่เป็นที่นิยม และไม่รู้ว่า นักลงทุนสถาบันหรือกองทุนต่างๆ นำไปใช้อ้างอิงผลตอบแทนเพียงใด

    เพราะนักลงทุนทั่วโลก ชินกับการอ้างอิงหรือติดตาม SET หรือดัชนีราคาหุ้น ตลาดหลักทรัพย์มาเกือบ 50 ปี

    ความพยายามทำให้นักลงทุนทั้งโลกหันมาอ้างอิง SET50FF อาจต้องล้มเหลว เช่นเดียวกับดัชนี ฯ อีกหลายตัวที่ตลาดหลักทรัพย์สร้างขึ้น แต่แทบไม่มีนักลงทุนใส่ใจ

    DELTA ยังคงทำหน้าที่ เป็นหุ้นตัวป่วนอยู่ต่อไป แต่ยังไม่มีมาตรการที่เด็ดขาดในการสยบหุ้นขนาดยักษ์ตัวนี้

    ฝ่ายบริหารตลาดหลักทรัพย์คงจนปัญญาแล้ว ใครมีทางออกดี ๆ แก้ปัญหาตลาดหุ้นถูกบิดเบือนจากหุ้น DELTA เพียงตัวเดียวได้

    ช่วยสงเคราะห์ แนะนำวิธีแก้ปัญหา DELTA ให้ตลาดหลักทรัพย์ทีเถอะ“
    จับขังคอกหุ้นตัวป่วน..Delta “โดย สุนันท์ ศรีจันทรา ”นักลงทุนพากันเทขายหุ้น DELTA เพราะคาดว่า จะได้รับผลกระทบโดยตรงจาก GLOBAL MINIMUMTAX และต้องจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ทำให้ผลกำไรสุทธิลดลง DELTA เป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้น มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหรือมาร์เก็ตแคป 1.78 ล้านล้านบาท คำนวณจ่ากราคาปิดเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2568 โดยลดลงจากจุดปิดวันก่อนหน้าหรือวันที่ 30 ธันวาคม ที่มีมาร์เก็ตแคป 1.90 ล้านบาท เมื่อเทียบกับมูลค่าหลักทรัพย์ตลาดรวมจำนวน 17.24 ล้านบาท มาร์เก็ตแคป DELTA จะมีสัดส่วน 9.68% ของมาร์เก็ตแคปรวมของตลาด และมีน้ำหนักในการคำนวณดัชนีฯ 134 จุด การขึ้นลงของหุ้น DELTA ทุก 1 บาท จะมีผลต่อการขึ้นลงของดัชนีประมาณ 1 จุด ดัชนี ฯ ที่ดิ่งลงกว่า 20 จุด ในการเปิดซื้อขายประเดิมวันแรกของศักราชใหม่ปี 2568 หุ้น DELTA จึงเป็นตัวการสำคัญ และทำให้ภาพตลาดหุ้นโดยรวมดูเหมือนเกิดความผันผวนรุนแรง ทั้งที่หุ้นส่วนใหญ่ไม่ได้ปรับตัวลง หลายปีแล้วที่หุ้น DELTA เป็นตัวการสำคัญที่บิดเบือนภาพการลงทุนในตลาดหุ้น เพราะบางครั้ง ภาพการลงทุนโดยรวมซบเซา แต่หุ้น DELTA ที่ขึ้นแรงเพียงตัวเดียว สามารถดึงดัชนี ฯ ให้เป็นสีเขียวหรือเป็นบวกได้ ทั้งที่หุ้นส่วนใหญ่ในกระดานซื้อขายแดงฉาน เมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมาก็เช่นเดียวกัน หุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น แต่หุ้น DELTA เพียงตัวเดียว ทำให้ดัชนี ฯ แดงแป๊ด ปัญหาราคาหุ้น DELTA ที่เคลื่อนไหวขึ้นลงอย่างร้อนแรง ตลาดหลักทรัพย์ระบุว่า เป็นผลจากฟรีโฟลท หรือสัดส่วนของผู้ถือหุ้นรายย่อยต่ำ เมื่อมีแรงซื้อแรงขายเข้ามามาก จึงทำให้ราคาปรับตัวขึ้นหรือลงสูง ซึ่งผู้ถือหุ้นรายย่อยของ DELTA มีจำนวน 22,655 ราย สัดส่วนการถือหุ้นรวม 23.08% ของทุนจดทะเบียน ณ วันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น 8 มีนาคม 2567 ฟรีโฟลทของ DELTA ไม่ต่ำเสียทีเดียว และไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ที่กำหนดว่า บริษัทจดทะเบียน จะต้องมีผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่ต่ำกว่า150 คน หรือมีสัดส่วนการถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 15% ของทุนจดทะเบียน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ถือหุ้นรายย่อยของ DELTA อาจเปลี่ยนแปลง หรือมีจำนวนลดลง เพราะราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาตลอด อาจทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยเทขายหุ้นออกทำกำไร ซึ่งจะต้องรอดูตัวเลขฟรีโฟลท DELTA ล่าสุด หลังปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเดือนมีนาคมนี้ ค่า พี/อี เรโช DELTA ยังคงสูงปริ๊ดคือประมาณ 82 เท่า ราคาหลักทรัพย์ต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชีอยู่ที่ 23 เท่า ซึ่งถือส่าสูงมาก และแม้ตลาดหลักทรัพย์จะเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังการซื้อขายและใช้มาตรการกำกับการซื้อขายหลายครั้งแล้ว แต่ไม่อาจสยบ DELTA ได้ จะถอด DELTA ออกจากการคำนวณดัชนี ฯ ก็ไม่ได้ เพราะ DELTA ไม่ได้ทำผิดหลักเกณฑ์ใด ถ้ายก DELTA ออกจากการคำนวณดัชนีฯจะกลายเป็นการเลือกปฏิบัติ สิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์ทำอยู่คือ การออกดัชนี ฯ ใหม่ SET50 FF โดยเป็นดัชนีที่คำนวณจากหุ้นขนาดใหญ่ 50 บริษัทที่มีฟรีโฟลทสูง เพื่อสะท้อนภาพตลาดหุ้นที่ไม่ถูกบิดเบือนจาก DELTA และใช้อ้างอิงผลตอบแทนของนักลงทุนสถาบันหรือกองทุนทั้งในแบะต่างประเทศ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 แต่ SET50FF ก็ไม่เป็นที่นิยม และไม่รู้ว่า นักลงทุนสถาบันหรือกองทุนต่างๆ นำไปใช้อ้างอิงผลตอบแทนเพียงใด เพราะนักลงทุนทั่วโลก ชินกับการอ้างอิงหรือติดตาม SET หรือดัชนีราคาหุ้น ตลาดหลักทรัพย์มาเกือบ 50 ปี ความพยายามทำให้นักลงทุนทั้งโลกหันมาอ้างอิง SET50FF อาจต้องล้มเหลว เช่นเดียวกับดัชนี ฯ อีกหลายตัวที่ตลาดหลักทรัพย์สร้างขึ้น แต่แทบไม่มีนักลงทุนใส่ใจ DELTA ยังคงทำหน้าที่ เป็นหุ้นตัวป่วนอยู่ต่อไป แต่ยังไม่มีมาตรการที่เด็ดขาดในการสยบหุ้นขนาดยักษ์ตัวนี้ ฝ่ายบริหารตลาดหลักทรัพย์คงจนปัญญาแล้ว ใครมีทางออกดี ๆ แก้ปัญหาตลาดหุ้นถูกบิดเบือนจากหุ้น DELTA เพียงตัวเดียวได้ ช่วยสงเคราะห์ แนะนำวิธีแก้ปัญหา DELTA ให้ตลาดหลักทรัพย์ทีเถอะ“
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 587 Views 0 Reviews
More Results