คนกรุงฯ รอลุ้น นั่งรถไฟคิฮะติดแอร์
เฟซบุ๊ก "ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย" ได้เผยแพร่ภาพประชาสัมพันธ์ "รฟท. ยกระดับการเดินทางชานเมือง เตรียมเปิดให้บริการขบวน KIHA 40/48 ปรับอากาศ เสริมความสะดวก ปลอดภัย เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ -ปริมณฑล อย่างไร้รอยต่อ" โดยระบุว่า ขบวนรถไฟญี่ปุ่น KIHA 40 และ KIHA 48 รถดีเซลรางปรับอากาศ ดำเนินการทดสอบและปรับปรุง พร้อมให้บริการปลายปีนี้ พร้อมระบุคุณสมบัติ อาทิ เบาะนั่งสบาย มีทั้งแบบนั่งยาวและนั่งขวาง ห้องน้ำสะอาดตามมาตรฐาน ตู้โดยสารปรับอากาศ เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงเทพ-ปริมณฑล รวดเร็วไร้รอยต่อ ตอบโจทย์การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่ประหยัด สะดวก และมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง
สำหรับขบวนรถคิฮะ 40 จำนวน 9 คัน และคิฮะ 48 จำนวน 11 คัน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้รับมอบจากบริษัท JR EAST ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเคยประจำการที่ศูนย์ Minami Akita เมื่อปี 2520 เพื่อใช้งานในสาย Gono และ สาย Oga ก่อนถูกปลดระวางในเดือน มี.ค. 2564 โดยมีการส่งมอบเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2567 และได้ออกเดินทางสู่ประเทศไทยโดยขนส่งทางเรือเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2567 ก่อนนำรถต้นแบบปรับขนาดเพลาล้อจาก 1.067 เมตร เป็น 1 เมตร ให้เข้ากับมาตรฐานรางรถไฟของประเทศไทย จากนั้นปรับปรุงสภาพตามมาตรฐานของการรถไฟฯ โดยเดินรถด้วยความเร็วสูงสุด 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เมื่อเร็วๆ นี้ได้นำขบวนรถดีเซลรางปรับอากาศรุ่นคิฮะ 40 และคิฮะ 48 ที่ผ่านการปรับปรุงเรียบร้อยแล้วมาทดสอบ จำนวน 2 คัน เส้นทางมักกะสัน-หัวหมาก เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากนี้จะปรับปรุงสีภายนอกและห้องสุขาเพิ่มเติม ก่อนที่จะนำออกให้บริการแก่ประชาชนในช่วงปลายปี 2568 จำนวน 6 คัน และจะทยอยปรับปรุงจนครบทั้ง 20 คันต่อไป รฟท. มีแผนจะนำขบวนรถคิฮะ 40 และคิฮะ 48 มาให้บริการในเส้นทางชานเมือง (FEEDER) ไปยังปลายทางสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา สถานีอยุธยา และสถานีนครปฐม เพื่อเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อาทิ รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ เป็นต้น
เหตุที่ไม่สามารถนำขบวนรถคิฮะมาให้บริการในต่างจังหวัด มีการพูดกันในกลุ่มคนรักรถไฟว่า เนื่องจากเป็นรถได้รับบริจาคจากญี่ปุ่น ซึ่งเลิกผลิตไปแล้ว ไม่มีอะไหล่ จำเป็นต้องได้รับการดูแลและซ่อมบำรุงจากโรงงานรถไฟมักกะสันอย่างใกล้ชิด อาจต้องรอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติสั่งซื้อรถดีเซลรางปรับอากาศ พร้อมอะไหล่ จำนวน 184 คัน วงเงินรวมทั้งสิ้น 24,150 ล้านบาท หรือรอปรับโฉมรถโดยสารชั้น 3 จากระบบพัดลมเป็นปรับอากาศ จำนวน 40 คันในปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 295.60 ล้านบาท
#Newskit
เฟซบุ๊ก "ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย" ได้เผยแพร่ภาพประชาสัมพันธ์ "รฟท. ยกระดับการเดินทางชานเมือง เตรียมเปิดให้บริการขบวน KIHA 40/48 ปรับอากาศ เสริมความสะดวก ปลอดภัย เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ -ปริมณฑล อย่างไร้รอยต่อ" โดยระบุว่า ขบวนรถไฟญี่ปุ่น KIHA 40 และ KIHA 48 รถดีเซลรางปรับอากาศ ดำเนินการทดสอบและปรับปรุง พร้อมให้บริการปลายปีนี้ พร้อมระบุคุณสมบัติ อาทิ เบาะนั่งสบาย มีทั้งแบบนั่งยาวและนั่งขวาง ห้องน้ำสะอาดตามมาตรฐาน ตู้โดยสารปรับอากาศ เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงเทพ-ปริมณฑล รวดเร็วไร้รอยต่อ ตอบโจทย์การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่ประหยัด สะดวก และมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง
สำหรับขบวนรถคิฮะ 40 จำนวน 9 คัน และคิฮะ 48 จำนวน 11 คัน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้รับมอบจากบริษัท JR EAST ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเคยประจำการที่ศูนย์ Minami Akita เมื่อปี 2520 เพื่อใช้งานในสาย Gono และ สาย Oga ก่อนถูกปลดระวางในเดือน มี.ค. 2564 โดยมีการส่งมอบเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2567 และได้ออกเดินทางสู่ประเทศไทยโดยขนส่งทางเรือเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2567 ก่อนนำรถต้นแบบปรับขนาดเพลาล้อจาก 1.067 เมตร เป็น 1 เมตร ให้เข้ากับมาตรฐานรางรถไฟของประเทศไทย จากนั้นปรับปรุงสภาพตามมาตรฐานของการรถไฟฯ โดยเดินรถด้วยความเร็วสูงสุด 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เมื่อเร็วๆ นี้ได้นำขบวนรถดีเซลรางปรับอากาศรุ่นคิฮะ 40 และคิฮะ 48 ที่ผ่านการปรับปรุงเรียบร้อยแล้วมาทดสอบ จำนวน 2 คัน เส้นทางมักกะสัน-หัวหมาก เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากนี้จะปรับปรุงสีภายนอกและห้องสุขาเพิ่มเติม ก่อนที่จะนำออกให้บริการแก่ประชาชนในช่วงปลายปี 2568 จำนวน 6 คัน และจะทยอยปรับปรุงจนครบทั้ง 20 คันต่อไป รฟท. มีแผนจะนำขบวนรถคิฮะ 40 และคิฮะ 48 มาให้บริการในเส้นทางชานเมือง (FEEDER) ไปยังปลายทางสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา สถานีอยุธยา และสถานีนครปฐม เพื่อเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อาทิ รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ เป็นต้น
เหตุที่ไม่สามารถนำขบวนรถคิฮะมาให้บริการในต่างจังหวัด มีการพูดกันในกลุ่มคนรักรถไฟว่า เนื่องจากเป็นรถได้รับบริจาคจากญี่ปุ่น ซึ่งเลิกผลิตไปแล้ว ไม่มีอะไหล่ จำเป็นต้องได้รับการดูแลและซ่อมบำรุงจากโรงงานรถไฟมักกะสันอย่างใกล้ชิด อาจต้องรอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติสั่งซื้อรถดีเซลรางปรับอากาศ พร้อมอะไหล่ จำนวน 184 คัน วงเงินรวมทั้งสิ้น 24,150 ล้านบาท หรือรอปรับโฉมรถโดยสารชั้น 3 จากระบบพัดลมเป็นปรับอากาศ จำนวน 40 คันในปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 295.60 ล้านบาท
#Newskit
คนกรุงฯ รอลุ้น นั่งรถไฟคิฮะติดแอร์
เฟซบุ๊ก "ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย" ได้เผยแพร่ภาพประชาสัมพันธ์ "รฟท. ยกระดับการเดินทางชานเมือง เตรียมเปิดให้บริการขบวน KIHA 40/48 ปรับอากาศ เสริมความสะดวก ปลอดภัย เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ -ปริมณฑล อย่างไร้รอยต่อ" โดยระบุว่า ขบวนรถไฟญี่ปุ่น KIHA 40 และ KIHA 48 รถดีเซลรางปรับอากาศ ดำเนินการทดสอบและปรับปรุง พร้อมให้บริการปลายปีนี้ พร้อมระบุคุณสมบัติ อาทิ เบาะนั่งสบาย มีทั้งแบบนั่งยาวและนั่งขวาง ห้องน้ำสะอาดตามมาตรฐาน ตู้โดยสารปรับอากาศ เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงเทพ-ปริมณฑล รวดเร็วไร้รอยต่อ ตอบโจทย์การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่ประหยัด สะดวก และมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง
สำหรับขบวนรถคิฮะ 40 จำนวน 9 คัน และคิฮะ 48 จำนวน 11 คัน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้รับมอบจากบริษัท JR EAST ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเคยประจำการที่ศูนย์ Minami Akita เมื่อปี 2520 เพื่อใช้งานในสาย Gono และ สาย Oga ก่อนถูกปลดระวางในเดือน มี.ค. 2564 โดยมีการส่งมอบเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2567 และได้ออกเดินทางสู่ประเทศไทยโดยขนส่งทางเรือเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2567 ก่อนนำรถต้นแบบปรับขนาดเพลาล้อจาก 1.067 เมตร เป็น 1 เมตร ให้เข้ากับมาตรฐานรางรถไฟของประเทศไทย จากนั้นปรับปรุงสภาพตามมาตรฐานของการรถไฟฯ โดยเดินรถด้วยความเร็วสูงสุด 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เมื่อเร็วๆ นี้ได้นำขบวนรถดีเซลรางปรับอากาศรุ่นคิฮะ 40 และคิฮะ 48 ที่ผ่านการปรับปรุงเรียบร้อยแล้วมาทดสอบ จำนวน 2 คัน เส้นทางมักกะสัน-หัวหมาก เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากนี้จะปรับปรุงสีภายนอกและห้องสุขาเพิ่มเติม ก่อนที่จะนำออกให้บริการแก่ประชาชนในช่วงปลายปี 2568 จำนวน 6 คัน และจะทยอยปรับปรุงจนครบทั้ง 20 คันต่อไป รฟท. มีแผนจะนำขบวนรถคิฮะ 40 และคิฮะ 48 มาให้บริการในเส้นทางชานเมือง (FEEDER) ไปยังปลายทางสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา สถานีอยุธยา และสถานีนครปฐม เพื่อเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อาทิ รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ เป็นต้น
เหตุที่ไม่สามารถนำขบวนรถคิฮะมาให้บริการในต่างจังหวัด มีการพูดกันในกลุ่มคนรักรถไฟว่า เนื่องจากเป็นรถได้รับบริจาคจากญี่ปุ่น ซึ่งเลิกผลิตไปแล้ว ไม่มีอะไหล่ จำเป็นต้องได้รับการดูแลและซ่อมบำรุงจากโรงงานรถไฟมักกะสันอย่างใกล้ชิด อาจต้องรอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติสั่งซื้อรถดีเซลรางปรับอากาศ พร้อมอะไหล่ จำนวน 184 คัน วงเงินรวมทั้งสิ้น 24,150 ล้านบาท หรือรอปรับโฉมรถโดยสารชั้น 3 จากระบบพัดลมเป็นปรับอากาศ จำนวน 40 คันในปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 295.60 ล้านบาท
#Newskit
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
17 มุมมอง
0 รีวิว