• HughesNet สูญเสียลูกค้าให้ Starlink จนเสี่ยงล้มละลาย

    Starlink กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้ใช้งานในสหรัฐฯ กว่า 2 ล้านรายในปี 2025 และทั่วโลกมากกว่า 6 ล้านราย ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นจาก 4.6 ล้านรายในปี 2024 ซึ่งสะท้อนถึงความนิยมของเครือข่ายดาวเทียมวงโคจรต่ำที่ให้ความเร็วสูงและความหน่วงต่ำ เหมาะกับผู้ใช้งานในพื้นที่ชนบทที่เคยพึ่งพา HughesNet

    HughesNet ซึ่งเป็นหนึ่งในคู่แข่งหลัก ไม่สามารถตามทันความต้องการของตลาดได้ ทั้งในด้านความเร็ว ความเสถียร และข้อจำกัดของดาวเทียมที่มีอยู่ เช่น ปัญหาสัญญาณขาดหายเมื่อฝนตกหนัก และ การจำกัดปริมาณข้อมูลรายเดือน ที่ทำให้ผู้ใช้ไม่พอใจ แม้จะมีการลงทุนในดาวเทียมใหม่อย่าง Jupiter 3 เพื่อเพิ่มความเร็ว แต่ก็ยังไม่สามารถแข่งขันกับเครือข่ายที่หนาแน่นและทันสมัยของ Starlink ได้

    แทนที่จะสู้ตรง ๆ HughesNet และบริษัทแม่ EchoStar เลือกทำข้อตกลงกับ SpaceX โดยเปิด โปรแกรมแนะนำลูกค้าไปใช้ Starlink เพื่อรักษารายได้บางส่วน แม้จะเป็นการยอมรับการสูญเสียลูกค้า แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้รายได้หายไปทั้งหมด อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่ากลยุทธ์นี้อาจไม่เพียงพอ และ HughesNet อาจต้องถอนตัวจากตลาดผู้บริโภคในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเติบโตของ Starlink
    ผู้ใช้ในสหรัฐฯ กว่า 2 ล้านรายในปี 2025
    ผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่า 6 ล้านราย

    ปัญหาของ HughesNet
    ความเร็วและความเสถียรต่ำกว่า Starlink
    สัญญาณขาดหายเมื่อฝนตกหนัก
    การจำกัดปริมาณข้อมูลรายเดือน

    การลงทุนและกลยุทธ์ใหม่
    เปิดตัวดาวเทียม Jupiter 3 เพื่อเพิ่มความเร็ว
    ทำข้อตกลงกับ SpaceX เปิดโปรแกรมแนะนำลูกค้าไปใช้ Starlink

    คำเตือนและความเสี่ยง
    HughesNet อาจต้องยื่นล้มละลายหากสูญเสียลูกค้าเพิ่มขึ้น
    การพึ่งพาโปรแกรมแนะนำลูกค้าอาจไม่ยั่งยืน
    ตลาดผู้บริโภคอาจถูกครอบครองโดย Starlink อย่างสมบูรณ์

    https://www.slashgear.com/2030563/hughesnet-satellite-internet-provider-struggling-after-starlink-steals-customers/
    🚀 HughesNet สูญเสียลูกค้าให้ Starlink จนเสี่ยงล้มละลาย Starlink กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้ใช้งานในสหรัฐฯ กว่า 2 ล้านรายในปี 2025 และทั่วโลกมากกว่า 6 ล้านราย ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นจาก 4.6 ล้านรายในปี 2024 ซึ่งสะท้อนถึงความนิยมของเครือข่ายดาวเทียมวงโคจรต่ำที่ให้ความเร็วสูงและความหน่วงต่ำ เหมาะกับผู้ใช้งานในพื้นที่ชนบทที่เคยพึ่งพา HughesNet HughesNet ซึ่งเป็นหนึ่งในคู่แข่งหลัก ไม่สามารถตามทันความต้องการของตลาดได้ ทั้งในด้านความเร็ว ความเสถียร และข้อจำกัดของดาวเทียมที่มีอยู่ เช่น ปัญหาสัญญาณขาดหายเมื่อฝนตกหนัก และ การจำกัดปริมาณข้อมูลรายเดือน ที่ทำให้ผู้ใช้ไม่พอใจ แม้จะมีการลงทุนในดาวเทียมใหม่อย่าง Jupiter 3 เพื่อเพิ่มความเร็ว แต่ก็ยังไม่สามารถแข่งขันกับเครือข่ายที่หนาแน่นและทันสมัยของ Starlink ได้ แทนที่จะสู้ตรง ๆ HughesNet และบริษัทแม่ EchoStar เลือกทำข้อตกลงกับ SpaceX โดยเปิด โปรแกรมแนะนำลูกค้าไปใช้ Starlink เพื่อรักษารายได้บางส่วน แม้จะเป็นการยอมรับการสูญเสียลูกค้า แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้รายได้หายไปทั้งหมด อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่ากลยุทธ์นี้อาจไม่เพียงพอ และ HughesNet อาจต้องถอนตัวจากตลาดผู้บริโภคในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเติบโตของ Starlink ➡️ ผู้ใช้ในสหรัฐฯ กว่า 2 ล้านรายในปี 2025 ➡️ ผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่า 6 ล้านราย ✅ ปัญหาของ HughesNet ➡️ ความเร็วและความเสถียรต่ำกว่า Starlink ➡️ สัญญาณขาดหายเมื่อฝนตกหนัก ➡️ การจำกัดปริมาณข้อมูลรายเดือน ✅ การลงทุนและกลยุทธ์ใหม่ ➡️ เปิดตัวดาวเทียม Jupiter 3 เพื่อเพิ่มความเร็ว ➡️ ทำข้อตกลงกับ SpaceX เปิดโปรแกรมแนะนำลูกค้าไปใช้ Starlink ‼️ คำเตือนและความเสี่ยง ⛔ HughesNet อาจต้องยื่นล้มละลายหากสูญเสียลูกค้าเพิ่มขึ้น ⛔ การพึ่งพาโปรแกรมแนะนำลูกค้าอาจไม่ยั่งยืน ⛔ ตลาดผู้บริโภคอาจถูกครอบครองโดย Starlink อย่างสมบูรณ์ https://www.slashgear.com/2030563/hughesnet-satellite-internet-provider-struggling-after-starlink-steals-customers/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    This Major Internet Provider Is Struggling Because Starlink Stole Its Customers - SlashGear
    Starlink's rise to stardom (no pun intended) has had a major impact on HughesNet, which has been one of the best and only Starlink alternatives out there.
    0 Comments 0 Shares 1 Views 0 Reviews
  • Mastodon เปลี่ยนผ่านสู่โครงสร้างใหม่ หลังผู้ก่อตั้งก้าวลงจากตำแหน่ง

    Mastodon ซึ่งเป็นเครือข่ายสังคมแบบกระจายศูนย์ (decentralized) ที่สร้างขึ้นบนโปรโตคอล ActivityPub ได้รับความนิยมในฐานะทางเลือกที่ไม่ขึ้นกับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี จุดเด่นคือผู้ใช้สามารถเลือกหรือสร้างเซิร์ฟเวอร์ของตนเองได้ ทำให้ไม่มีองค์กรใดควบคุมข้อมูลหรือเนื้อหาของผู้ใช้โดยตรง

    หลังจากเกือบสิบปีในการนำพาโครงการนี้ Eugen Rochko ประกาศก้าวลงจากตำแหน่ง CEO และโอนทรัพย์สินทั้งหมดให้กับองค์กรไม่แสวงหากำไร เขาอธิบายว่าการเป็นผู้นำแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์นั้นเต็มไปด้วยความเครียด ทั้งจากการถูกจับตามอง การเปรียบเทียบกับมหาเศรษฐีเทคโนโลยี และแรงกดดันจากชุมชน จนไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพและชีวิตส่วนตัวอีกต่อไป

    เพื่อให้ Mastodon เดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง ได้มีการจัดตั้งองค์กรไม่แสวงหากำไรในเบลเยียม (AISBL) เพื่อแทนที่โครงสร้างเดิมในเยอรมนีที่สูญเสียสถานะไม่แสวงหากำไรไปก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกัน องค์กร 501(c)(3) ในสหรัฐฯ ถือครองทรัพย์สินและเครื่องหมายการค้าชั่วคราวจนกว่าโครงสร้างใหม่จะเสร็จสมบูรณ์

    คณะกรรมการใหม่ประกอบด้วยบุคคลสำคัญ เช่น Biz Stone ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter, Karien Bezuidenhout และ Esra’a Al Shafei พร้อมด้วยทีมผู้บริหารใหม่ เช่น Felix Hlatky ในตำแหน่ง Executive Director และ Renaud Chaput ในตำแหน่ง Technical Director นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนด้านเงินทุนจากบุคคลและองค์กรต่าง ๆ รวมกว่า €2.5 ล้าน เพื่อเสริมความมั่นคงทางการเงินของโครงการ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้นำ
    Eugen Rochko ก้าวลงจากตำแหน่ง CEO หลังนำโครงการมากว่า 10 ปี
    ส่งต่อทรัพย์สินและเครื่องหมายการค้าให้แก่องค์กรไม่แสวงหากำไร

    เหตุผลในการก้าวลง
    ความเครียดจากการเป็นผู้นำแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์
    การถูกจับตามองและแรงกดดันจากชุมชน

    โครงสร้างใหม่ของ Mastodon
    จัดตั้งองค์กรไม่แสวงหากำไรในเบลเยียม (AISBL)
    องค์กร 501(c)(3) ในสหรัฐฯ ถือครองทรัพย์สินชั่วคราว

    ทีมบริหารและคณะกรรมการใหม่
    Felix Hlatky เป็น Executive Director
    Biz Stone และบุคคลสำคัญร่วมเป็นกรรมการ
    สนับสนุนเงินทุนรวมกว่า €2.5 ล้าน

    คำเตือนและความท้าทาย
    การเปลี่ยนผ่านอาจสร้างความไม่แน่นอนในระยะสั้น
    ความคาดหวังจากชุมชนยังคงสูง อาจกดดันทีมใหม่
    ต้องรักษาความเป็นอิสระและคุณค่าของแพลตฟอร์มท่ามกลางการแข่งขันกับ Big Tech

    https://itsfoss.com/news/mastodon-ceo-steps-down/
    🌐 Mastodon เปลี่ยนผ่านสู่โครงสร้างใหม่ หลังผู้ก่อตั้งก้าวลงจากตำแหน่ง Mastodon ซึ่งเป็นเครือข่ายสังคมแบบกระจายศูนย์ (decentralized) ที่สร้างขึ้นบนโปรโตคอล ActivityPub ได้รับความนิยมในฐานะทางเลือกที่ไม่ขึ้นกับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี จุดเด่นคือผู้ใช้สามารถเลือกหรือสร้างเซิร์ฟเวอร์ของตนเองได้ ทำให้ไม่มีองค์กรใดควบคุมข้อมูลหรือเนื้อหาของผู้ใช้โดยตรง หลังจากเกือบสิบปีในการนำพาโครงการนี้ Eugen Rochko ประกาศก้าวลงจากตำแหน่ง CEO และโอนทรัพย์สินทั้งหมดให้กับองค์กรไม่แสวงหากำไร เขาอธิบายว่าการเป็นผู้นำแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์นั้นเต็มไปด้วยความเครียด ทั้งจากการถูกจับตามอง การเปรียบเทียบกับมหาเศรษฐีเทคโนโลยี และแรงกดดันจากชุมชน จนไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพและชีวิตส่วนตัวอีกต่อไป เพื่อให้ Mastodon เดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง ได้มีการจัดตั้งองค์กรไม่แสวงหากำไรในเบลเยียม (AISBL) เพื่อแทนที่โครงสร้างเดิมในเยอรมนีที่สูญเสียสถานะไม่แสวงหากำไรไปก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกัน องค์กร 501(c)(3) ในสหรัฐฯ ถือครองทรัพย์สินและเครื่องหมายการค้าชั่วคราวจนกว่าโครงสร้างใหม่จะเสร็จสมบูรณ์ คณะกรรมการใหม่ประกอบด้วยบุคคลสำคัญ เช่น Biz Stone ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter, Karien Bezuidenhout และ Esra’a Al Shafei พร้อมด้วยทีมผู้บริหารใหม่ เช่น Felix Hlatky ในตำแหน่ง Executive Director และ Renaud Chaput ในตำแหน่ง Technical Director นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนด้านเงินทุนจากบุคคลและองค์กรต่าง ๆ รวมกว่า €2.5 ล้าน เพื่อเสริมความมั่นคงทางการเงินของโครงการ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้นำ ➡️ Eugen Rochko ก้าวลงจากตำแหน่ง CEO หลังนำโครงการมากว่า 10 ปี ➡️ ส่งต่อทรัพย์สินและเครื่องหมายการค้าให้แก่องค์กรไม่แสวงหากำไร ✅ เหตุผลในการก้าวลง ➡️ ความเครียดจากการเป็นผู้นำแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ ➡️ การถูกจับตามองและแรงกดดันจากชุมชน ✅ โครงสร้างใหม่ของ Mastodon ➡️ จัดตั้งองค์กรไม่แสวงหากำไรในเบลเยียม (AISBL) ➡️ องค์กร 501(c)(3) ในสหรัฐฯ ถือครองทรัพย์สินชั่วคราว ✅ ทีมบริหารและคณะกรรมการใหม่ ➡️ Felix Hlatky เป็น Executive Director ➡️ Biz Stone และบุคคลสำคัญร่วมเป็นกรรมการ ➡️ สนับสนุนเงินทุนรวมกว่า €2.5 ล้าน ‼️ คำเตือนและความท้าทาย ⛔ การเปลี่ยนผ่านอาจสร้างความไม่แน่นอนในระยะสั้น ⛔ ความคาดหวังจากชุมชนยังคงสูง อาจกดดันทีมใหม่ ⛔ ต้องรักษาความเป็นอิสระและคุณค่าของแพลตฟอร์มท่ามกลางการแข่งขันกับ Big Tech https://itsfoss.com/news/mastodon-ceo-steps-down/
    ITSFOSS.COM
    After Nearly 10 Years of Building Mastodon, Eugen Rochko Steps Into Advisory Role
    Mastodon's creator steps back from CEO role, transfers assets to non-profit organization.
    0 Comments 0 Shares 2 Views 0 Reviews
  • ข่าวใหญ่: Work IQ ยกระดับ Copilot ให้ฉลาดขึ้น

    Microsoft เปิดตัว Work IQ ซึ่งเป็นชั้นเชิงปัญญาใหม่ที่ช่วยให้ Copilot เข้าใจบริบทการทำงานของผู้ใช้ได้ลึกขึ้น เช่น อีเมล เอกสาร การประชุม และรูปแบบการทำงานร่วมกัน ฟีเจอร์นี้ทำให้ Copilot สามารถ คาดการณ์ขั้นตอนถัดไป และแนะนำตัวแทน (agent) ที่เหมาะสมในการทำงานแทนผู้ใช้ได้

    Agent Mode ในแอป Office
    Microsoft เปิดตัว Agent Mode ที่ให้ผู้ใช้เลือกโมเดล reasoning จาก OpenAI หรือ Anthropic เพื่อทำงานในแอปต่าง ๆ เช่น
    Excel: ใช้โมเดล reasoning เพื่อจัดการการคำนวณซับซ้อน
    Word / PowerPoint: สร้างเอกสารและงานนำเสนอคุณภาพสูง (PowerPoint รองรับในโปรแกรม Frontier)
    Outlook: รองรับคำสั่งเสียงและ quick actions เช่น “summarize and reply” โดยเวอร์ชันใหม่ในปี 2026 จะเข้าใจเนื้อหาในกล่องจดหมายและปฏิทิน

    Sora 2 และการสร้างวิดีโอ
    Microsoft ยังผสาน Sora 2 ซึ่งเป็นโมเดลสร้างวิดีโอรุ่นใหม่เข้ากับ Copilot เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอสำหรับการตลาดหรือโซเชียลมีเดียได้โดยตรงผ่านฟีเจอร์ Create ถือเป็นการขยาย Copilot จากงานเอกสารไปสู่สื่อมัลติมีเดีย

    Microsoft Agent 365 และความปลอดภัย
    ด้วยการคาดการณ์ว่าองค์กรจะใช้ AI agents กว่า 1.3 พันล้านตัวภายในปี 2028 Microsoft จึงเปิดตัว Microsoft Agent 365 สำหรับการจัดการและรักษาความปลอดภัยของ AI agents โดยรวม Defender, Entra และ Purview เพื่อป้องกันไม่ให้ AI agents กลายเป็น “shadow IT” ภายในองค์กร

    สรุปสาระสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    เปิดตัว Work IQ เพื่อให้ Copilot เข้าใจบริบทการทำงานและคาดการณ์ขั้นตอนถัดไป
    Agent Mode รองรับโมเดล reasoning จาก OpenAI และ Anthropic ใน Excel, Word, PowerPoint, Outlook
    ผสาน Sora 2 สำหรับการสร้างวิดีโอในงานการตลาดและโซเชียลมีเดีย
    เปิดตัว Microsoft Agent 365 สำหรับการจัดการและรักษาความปลอดภัย AI agents
    เปิดแพ็กเกจ Microsoft 365 Copilot Business ราคา 21 USD/ผู้ใช้/เดือน สำหรับ SME

    คำเตือนจากข่าว
    การใช้ AI agents จำนวนมากอาจสร้างความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและการจัดการ
    หากไม่มีการควบคุม อาจเกิด “shadow IT” ที่องค์กรไม่สามารถตรวจสอบได้
    การพึ่งพาโมเดลจากหลายค่ายอาจทำให้เกิดความซับซ้อนในการบูรณาการและการดูแล

    https://securityonline.info/copilot-gets-brains-microsoft-unveils-work-iq-agent-mode-integration-with-gpt-5-and-anthropic/
    🧠 ข่าวใหญ่: Work IQ ยกระดับ Copilot ให้ฉลาดขึ้น Microsoft เปิดตัว Work IQ ซึ่งเป็นชั้นเชิงปัญญาใหม่ที่ช่วยให้ Copilot เข้าใจบริบทการทำงานของผู้ใช้ได้ลึกขึ้น เช่น อีเมล เอกสาร การประชุม และรูปแบบการทำงานร่วมกัน ฟีเจอร์นี้ทำให้ Copilot สามารถ คาดการณ์ขั้นตอนถัดไป และแนะนำตัวแทน (agent) ที่เหมาะสมในการทำงานแทนผู้ใช้ได้ 📊 Agent Mode ในแอป Office Microsoft เปิดตัว Agent Mode ที่ให้ผู้ใช้เลือกโมเดล reasoning จาก OpenAI หรือ Anthropic เพื่อทำงานในแอปต่าง ๆ เช่น 🎗️ Excel: ใช้โมเดล reasoning เพื่อจัดการการคำนวณซับซ้อน 🎗️ Word / PowerPoint: สร้างเอกสารและงานนำเสนอคุณภาพสูง (PowerPoint รองรับในโปรแกรม Frontier) 🎗️ Outlook: รองรับคำสั่งเสียงและ quick actions เช่น “summarize and reply” โดยเวอร์ชันใหม่ในปี 2026 จะเข้าใจเนื้อหาในกล่องจดหมายและปฏิทิน 🎥 Sora 2 และการสร้างวิดีโอ Microsoft ยังผสาน Sora 2 ซึ่งเป็นโมเดลสร้างวิดีโอรุ่นใหม่เข้ากับ Copilot เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอสำหรับการตลาดหรือโซเชียลมีเดียได้โดยตรงผ่านฟีเจอร์ Create ถือเป็นการขยาย Copilot จากงานเอกสารไปสู่สื่อมัลติมีเดีย 🛡️ Microsoft Agent 365 และความปลอดภัย ด้วยการคาดการณ์ว่าองค์กรจะใช้ AI agents กว่า 1.3 พันล้านตัวภายในปี 2028 Microsoft จึงเปิดตัว Microsoft Agent 365 สำหรับการจัดการและรักษาความปลอดภัยของ AI agents โดยรวม Defender, Entra และ Purview เพื่อป้องกันไม่ให้ AI agents กลายเป็น “shadow IT” ภายในองค์กร 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ เปิดตัว Work IQ เพื่อให้ Copilot เข้าใจบริบทการทำงานและคาดการณ์ขั้นตอนถัดไป ➡️ Agent Mode รองรับโมเดล reasoning จาก OpenAI และ Anthropic ใน Excel, Word, PowerPoint, Outlook ➡️ ผสาน Sora 2 สำหรับการสร้างวิดีโอในงานการตลาดและโซเชียลมีเดีย ➡️ เปิดตัว Microsoft Agent 365 สำหรับการจัดการและรักษาความปลอดภัย AI agents ➡️ เปิดแพ็กเกจ Microsoft 365 Copilot Business ราคา 21 USD/ผู้ใช้/เดือน สำหรับ SME ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ การใช้ AI agents จำนวนมากอาจสร้างความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและการจัดการ ⛔ หากไม่มีการควบคุม อาจเกิด “shadow IT” ที่องค์กรไม่สามารถตรวจสอบได้ ⛔ การพึ่งพาโมเดลจากหลายค่ายอาจทำให้เกิดความซับซ้อนในการบูรณาการและการดูแล https://securityonline.info/copilot-gets-brains-microsoft-unveils-work-iq-agent-mode-integration-with-gpt-5-and-anthropic/
    SECURITYONLINE.INFO
    Copilot Gets Brains: Microsoft Unveils 'Work IQ' & Agent Mode Integration with GPT-5 and Anthropic
    Microsoft unveiled Work IQ for Copilot, a cognitive upgrade for proactive assistance. New Agent Mode integrates GPT-5, Sora 2, and Anthropic models across M365 apps.
    0 Comments 0 Shares 3 Views 0 Reviews
  • MCP API ใน Comet Browser สั่นคลอนความเชื่อมั่น

    นักวิจัยจาก SquareX พบว่า Comet Browser มีการฝัง MCP API (chrome.perplexity.mcp.addStdioServer) ที่เปิดโอกาสให้ส่วนขยายฝังตัวสามารถรันคำสั่งบนเครื่องผู้ใช้ได้โดยตรง โดยไม่ต้องขออนุญาตหรือยืนยันจากผู้ใช้ ซึ่งต่างจากเบราว์เซอร์ทั่วไปที่ต้องใช้ Native Messaging API และการอนุญาตจากผู้ใช้เสมอ

    ความเสี่ยงที่เกิดขึ้น
    แม้ยังไม่มีหลักฐานว่า Perplexity.ai ใช้ API นี้ในทางที่ผิด แต่หากเกิดการโจมตี เช่น XSS, Phishing หรือ Insider Threat ก็สามารถทำให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมเครื่องผู้ใช้ได้ทันที SquareX สาธิตการโจมตีโดยใช้ Extension Stomping เพื่อปลอมตัวเป็น Analytics Extension และรันมัลแวร์ WannaCry ผ่าน API นี้ได้สำเร็จ

    ปัญหาการซ่อนส่วนขยาย
    สิ่งที่น่ากังวลคือ Comet Browser ได้ซ่อนส่วนขยายที่เกี่ยวข้องกับ Agentic และ Analytics จากแดชบอร์ด ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถปิดหรือควบคุมได้เลย ส่งผลให้เกิด “Hidden IT” ที่ทั้งผู้ใช้และทีมรักษาความปลอดภัยไม่มีทางตรวจสอบหรือจัดการได้

    แนวโน้มและคำแนะนำ
    SquareX เตือนว่าหากไม่มีการกำหนดมาตรฐานและการตรวจสอบจากบุคคลที่สาม เบราว์เซอร์ AI อื่น ๆ อาจเร่งพัฒนาฟีเจอร์ที่คล้ายกันโดยไม่สนใจความปลอดภัย ผู้ใช้ควรเรียกร้องให้มีการเปิดเผย API ทั้งหมด และให้สิทธิ์ในการปิดส่วนขยายที่ฝังมา เพื่อป้องกันการละเมิดความเชื่อมั่นในอนาคต

    สรุปสาระสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    Comet Browser มี MCP API ที่ให้ส่วนขยายฝังตัวรันคำสั่งบนเครื่องผู้ใช้ได้
    SquareX สาธิตการโจมตีด้วย Extension Stomping และรัน WannaCry ผ่าน API นี้
    ส่วนขยาย Agentic และ Analytics ถูกซ่อนจากแดชบอร์ด ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถควบคุมได้
    SquareX เรียกร้องให้มีการเปิดเผย API และตรวจสอบโดยบุคคลที่สาม

    คำเตือนจากข่าว
    หาก Perplexity.ai ถูกโจมตี ผู้ใช้ Comet Browser ทุกคนอาจถูกควบคุมเครื่องได้ทันที
    การซ่อนส่วนขยายทำให้ผู้ใช้และทีมรักษาความปลอดภัยไม่สามารถจัดการความเสี่ยงได้
    แนวโน้มที่เบราว์เซอร์ AI อื่น ๆ อาจเลียนแบบโดยไม่สนใจความปลอดภัย

    https://securityonline.info/obscure-mcp-api-in-comet-browser-breaches-user-trust-enabling-full-device-control-via-ai-browsers/
    🌐 MCP API ใน Comet Browser สั่นคลอนความเชื่อมั่น นักวิจัยจาก SquareX พบว่า Comet Browser มีการฝัง MCP API (chrome.perplexity.mcp.addStdioServer) ที่เปิดโอกาสให้ส่วนขยายฝังตัวสามารถรันคำสั่งบนเครื่องผู้ใช้ได้โดยตรง โดยไม่ต้องขออนุญาตหรือยืนยันจากผู้ใช้ ซึ่งต่างจากเบราว์เซอร์ทั่วไปที่ต้องใช้ Native Messaging API และการอนุญาตจากผู้ใช้เสมอ ⚠️ ความเสี่ยงที่เกิดขึ้น แม้ยังไม่มีหลักฐานว่า Perplexity.ai ใช้ API นี้ในทางที่ผิด แต่หากเกิดการโจมตี เช่น XSS, Phishing หรือ Insider Threat ก็สามารถทำให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมเครื่องผู้ใช้ได้ทันที SquareX สาธิตการโจมตีโดยใช้ Extension Stomping เพื่อปลอมตัวเป็น Analytics Extension และรันมัลแวร์ WannaCry ผ่าน API นี้ได้สำเร็จ 🔒 ปัญหาการซ่อนส่วนขยาย สิ่งที่น่ากังวลคือ Comet Browser ได้ซ่อนส่วนขยายที่เกี่ยวข้องกับ Agentic และ Analytics จากแดชบอร์ด ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถปิดหรือควบคุมได้เลย ส่งผลให้เกิด “Hidden IT” ที่ทั้งผู้ใช้และทีมรักษาความปลอดภัยไม่มีทางตรวจสอบหรือจัดการได้ 🔮 แนวโน้มและคำแนะนำ SquareX เตือนว่าหากไม่มีการกำหนดมาตรฐานและการตรวจสอบจากบุคคลที่สาม เบราว์เซอร์ AI อื่น ๆ อาจเร่งพัฒนาฟีเจอร์ที่คล้ายกันโดยไม่สนใจความปลอดภัย ผู้ใช้ควรเรียกร้องให้มีการเปิดเผย API ทั้งหมด และให้สิทธิ์ในการปิดส่วนขยายที่ฝังมา เพื่อป้องกันการละเมิดความเชื่อมั่นในอนาคต 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ Comet Browser มี MCP API ที่ให้ส่วนขยายฝังตัวรันคำสั่งบนเครื่องผู้ใช้ได้ ➡️ SquareX สาธิตการโจมตีด้วย Extension Stomping และรัน WannaCry ผ่าน API นี้ ➡️ ส่วนขยาย Agentic และ Analytics ถูกซ่อนจากแดชบอร์ด ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถควบคุมได้ ➡️ SquareX เรียกร้องให้มีการเปิดเผย API และตรวจสอบโดยบุคคลที่สาม ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ หาก Perplexity.ai ถูกโจมตี ผู้ใช้ Comet Browser ทุกคนอาจถูกควบคุมเครื่องได้ทันที ⛔ การซ่อนส่วนขยายทำให้ผู้ใช้และทีมรักษาความปลอดภัยไม่สามารถจัดการความเสี่ยงได้ ⛔ แนวโน้มที่เบราว์เซอร์ AI อื่น ๆ อาจเลียนแบบโดยไม่สนใจความปลอดภัย https://securityonline.info/obscure-mcp-api-in-comet-browser-breaches-user-trust-enabling-full-device-control-via-ai-browsers/
    0 Comments 0 Shares 3 Views 0 Reviews
  • ขยับหมาก ตอนที่ 2

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ขยับหมาก”
    ตอน 2
    อังกฤษไม่มีวันทำใจได้ที่เห็นรัส เซียยังคงอยู่ได้ และยังอยู่ดี ทฤษฏีครูMac เกี่ยวกับ Eurasia มันยังหลอนอยู่ ผมไม่เล่าซ้ำแล้ว หาอ่านเอาแล้วกัน อยู่ในนิทานสาระพัดเรื่อง
    รายงานการวิเคราะห์ของ Chatham House เรื่อง Russia Challenge รัสเซียกำเริบ ที่เพิ่งออกมานี่ แทบจะเดาได้ว่า เขียนว่าอะไร มันเหมือนกับเขียนวิเคราะห์จิตใต้สำนึกของอังกฤษมากกว่าการเขียนวิเคราะห์รัสเซีย
    ถังขยะ Chatham House บรรยายสรุปว่า
    ” บทวิเคราะห์เรื่อง Russia Challenge นี้ ทำขึ้นจากการเฝ้ามองพฤติกรรมของรัสเซียตั้งแต่หลังสงครามเย็นจนถึงปี ค.ศ.2003 ซึ่งประเทศต่างๆคิดว่า รัสเซียใหม่อาจเข้ามาอยู่ในระบบของยุโรปได้ ในฐานะตัวเแสดงที่สร้างสรร และไม่เป็นอันตราย แต่หลังจากนั้น ความเห็นดังกล่าวค่อยๆเปลี่ยนไป และในที่สุดก็มีความเห็นพ้อง สรุปกันว่า จากพฤติกรรมต่างๆของรัสเซียเอง ทำให้เห็นว่า รัสเซียไม่เหมาะที่จะเป็นหุ้นส่วนและมิตรด้วยเลย partner and ally ความแตกต่างของรัสเซียมีมากเกินกว่าที่จะสามารถมีผลประโยชน์ร่วมกัน… ”
    เขียนแบบนี้ แถวบ้านผมเขาแปลสั้นๆ ว่า “กูไม่คบมึง กูไม่ชอบมึง”
    “ความแตกต่างที่พวกตะวันตก “ทน” รัสเซียไม่ได้ที่สำคัญ คือ :
    1. นโยบาย ” new model Russia” ของปูติน เป็นนโยบายที่ตั้งใจเป็นอิสระ ที่จะไม่เข้ากับใคร และไม่ขึ้นกับใคร
    2. ปูตินไม่เปิดทางเลือกให้กับผู้อื่น หรือเปิดอย่างแคบมาก
    3. ปูติน ใช้พรรคพวกในการควบคุม ทั้งด้านเศรษฐกิจ และความมั่นคง ทำให้ใครแทรกยาก
    4. รัสเซีย ยากจน และเศรษฐกิจกำลังถดถอย แต่ยังดันเพิ่มงบประมาณด้านกำลังอาวุธ
    5. การคว่ำบาตรรัสเซีย จากเรื่องยูเครน ไม่เพียงพอให้รัสเซียถอยจากยูเครน ตรงกันข้าม กลับเป็นทางออกให้รัสเซียนำมาอ้างว่า เรื่องคว่ำบาตร เป็นต้นเหตุของความล้มเหลวทางเศรษฐกิจของรัสเซีย แต่เรื่องคว่ำบาตรก็ยังเลิกไม่ได้ และการเผชิญหน้าก็ยังมีอยู่ต่อไป
    6. เทคนิคที่รัสเซียใช้คือ สร้างความไม่เป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน การขู่ว่าจะตัดการส่งพลังงาน การทำสงครามไซเบอร์ในรูปแบบต่างๆ และที่รัสเซียใช้บ่อยที่สุดคือ ทำให้ข้อขัดแย้งยืดเยื้อ เป็นปัญหาอยู่ตลอดเวลา หรือแช่แข็งไว้ เพื่อหวังผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
    7. รัสเซียพยายามอย่างยิ่งยวด ที่จะสร้างให้ตัวเอง “เท่าเทียม” กับอเมริกา และทำทุกอย่างเพื่อให้ถึงเป้าหมายนั้น โดยไม่คำนึงว่า จะสร้างผลกระทบกับใคร อย่างไรบ้าง …”
    ตกลงเรื่องต่างๆ ที่อังกฤษบอกว่า “ทน” รัสเซียไม่ได้นี่ แปลง่ายๆว่า เพราะ “สั่ง” รัสเซียไม่ได้ และเป็นเรื่องที่พวกตะวันตกยัง แก้ลำรัสเซียไม่ได้ จึง”ทน” รัสเซียไม่ได้ใช่ไหม สำหรับผม หัวข้อทนไม่ได้ นี่น่าจะถือเป็นคำชมนะ น่าจะทำให้รัสเซียชอบใจ เหมือนได้ยินคำสารภาพ ของฝ่ายที่กำลังเสียแต้ม ฮา
    “ข้อเสนอแนะ ของถังขยะ :
    แม้ว่าพวกตะวันตกจะประเมินรัสเซียในบางเรื่องต่างกันบ้าง แต่ทั้งหมดเห็นพ้องกันว่า รัสเซียไม่มีทางมาเป็นส่วนหนึ่งยุโรป ตามกฏเกณท์ กติกาที่ยุโรปใช้อยู่ ยกเว้นแต่ รัสเซียจะมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางของประเทศ ตั้งแต่พื้นฐาน และการเปลี่ยนแปลงต้องมาจากภายในรัสเซียเอง ดังนั้น พวกตะวันตกจะต้องร่วมมือกันคิดอย่างจริงจัง ถึงยุทธศาสตร์ที่จะใช้กับรัสเซีย ซึ่งจะต้องใช้มุมมองเดียวกันทั้งทรานสแอตแลนติกและยุโรป โดยเฉพาะ ต้องมองรัสเซียจากพฤติกรรมของรัส เซียเอง ไม่ใช่มองแบบง่ายๆ หรือจากการเล่ากันต่อๆมา policy must be based on the evidence of Russia’s behaviour, not on convenience or fashionable narratives…
    การร่วมมือของพวกตะวันตก อย่างเข้มงวดจริงจัง เป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้เกิดผลสำเร็จ ผู้ที่จะเป็นตัวหลัก ในการทำงาน จะต้องมีแนวทางเดียวกัน และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด……”
    โอ้โห อันนี้ มันฟ้องตัวเองว่า ไม่มีเอกภาพเท่าไหร่ในพวกตะวันตก แถมแดกใครครับ ที่มองรัสเซียแบบง่าย สงสัยจะเป็นฝรั่งเศส ลุงโอลอง เพื่อนผมมังนะ เห็นแอบไปจี๋จ๋ากับคุณน้องปูตินบ่อยๆ
    เป้าหมายทางยุทธศาสตร์สำหรับตะวันตก ที่ถังขยะเสนอ :
    “1. ยับยั้งการรุกรานของรัสเซียกับประเทศเพื่อนบ้านในยุโรป แต่อย่าทำ โดยไม่มีทางออกเผื่อไว้ หากสถานการณ์เปลี่ยน เช่น ปูตินร่วงไป หรืออาจมีหัวหน้าคนใหม่ของรัสเซียที่อยากคบกับตะวันตกก็ได้ ถ้าเศรษฐกิจของรัสเซียไปไม่รอด และการคบกับจีนอาจมีต้นทุนสูงเกินไป ถ้าจีนโตขึ้นเรื่อยๆ รัสเซียอาจอยากกลับมาอยู่กับยุโรปอีกก็เป็นได้”
    …. แปลว่า มีแผนจะจัดการเอาคุณพี่ปูตินของผมเก็บลงกล่อง.. ขณะเดียวกันก็เสี้ยมเรื่องอาเฮียเสียหน่อย…..
    “2. ต้องเสริมสร้างเกียรติภูมิของยุโรป ด้านการรักษาความมั่นคงใหม่ โดยเฉพาะแต่ละประเทศต้องดูแลรักษาเขตแดนของตัวเองได้ และตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของประเทศตัวเองได้ ”
    ….. แปลว่า ยุโรปอ่อนระทวย ดูแลตัวเองไม่ได้ แหม ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯนี่เก่งนะ เรือดำน้ำรัสเซียโผล่ใกล้บ้านหลายที ทำอะไรเขาไม่ได้ เลยแต่ด่าคนอื่นแทน….
    “3. ต้องพยายามหาทางที่จะสื่อสารกับคนรัสเซียว่า ในระยะไกล การอยู่ร่วมกับยุโรปเป็นผลดีกับรัสเซียมากกว่า”
    …. มาแล้ว โรงงานฟอกย้อม….
    “4. หาทางที่จะหารือกับจีน และประเทศที่เป็นอดีตรัฐของรัสเซีย ให้พิจารณานโยบายของรัสเซีย ว่าจะเป็นปัญหาต่อไปอย่างไร บางประเทศมีปัญหาในการมองรัสเซียด้านเดียว”
    ….. อันนี้ เป็นรายการ เสี้ยม…..
    “5. ให้เตรียมพร้อม สำหรับความวุ่นวาย และโอกาสที่จะเกิดขึ้น จากการเปลี่ยนตัวผู้นำของรัสเซีย”
    …..ข้อนี้น่าสนใจมาก …. คิดจะทำอะไรหรือครับ ..
    “6. ต้องพยายามแย่งรัสเซีย และชาวรัสเซียมาจากปูติน สิ่งที่พวกตะวันตกกำลังทำอยู่โดยการไม่สนใจ ไม่ยุ่งกับรัสเซีย กลายเป็นการส่งเสริมให้รัสเซียตกอยู่ในมือปูตินหนักขึ้น”
    …..สร้างกระบวนการแย่งประชาชน แผนมาตรฐาน ใช้มันทุกที่….
    นโยบาย ที่ถังขยะเสนอว่า ต้องทำอย่างเฉพาะเจาะจง :
    “1. สร้างยูเครนให้เข้มแข็ง ดูแลตัวเองได้ ถ้าเอายูเครนไม่อยู่ ยุโรปตะวันออกเซหมด และเพิ่มความผยองให้กับรัสเซีย ทำให้โอกาสที่จะ “เปลี่ยน” รัสเซียริบหรี่ลงไปด้วย”
    “2. ประเทศที่เป็นอียูตะวันออก ต้องปรับปรุงให้เป็นเครื่องมือสำคัญของอียู และต้องพร้อมที่จะมีการปฏิรูปทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจอย่างจริงจัง”
    “3. การคว่ำบาตรรัสเซียจะมีผลต่อเมื่อคว่ำ “นาน “และ “แรง” การคว่ำบาตรจากกรณียูเครน ปลดให้ง่ายๆไม่ได้ และการจะยกเลิกการคว่ำบาตรโดยเอาไปโยงกับการทำ Minsk Accord เป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่าที่สุด”
    “4. พวกตะวันตก ต้องไม่กลับไปทำการค้ากับรัสเซียอย่างเดิม do business as usual จนกว่าเรื่องยูเครนจะจบ ด้วยการที่รัสเซียยอมทำตามภาระ ความรับผิดชอบ ตามกฏหมายสากล international legal obligations”
    “5. นโยบายด้านพลังงานของอียู ต้องมีเป้าหมายที่จะตัดอำนาจการต่อรองของรัสเซีย ออกไปจากตลาดพลังงาน ไม่ใช่แค่ตัดการส่งพลังงานให้ยุโรป ดังนั้นการยกเลิกโครงการ South Stream pipeline เป็นเรื่องต้องทำ และแผนการที่รัสเสียกำลังสร้าง “energy island” ในยุโรป ต้องไม่ให้สำเร็จ”
    …. มาแล้ว เรื่องกรีซ/ตุรกี…..
    “6. พวกตะวันตก ต้องลงทุนในการใช้สื่อเป็นยุทธศาสตร์ตอบโต้กับการอวดอ้างที่ผิดๆของเครมลิน ต้องทำทั้งระดับประเทศ ผ่านอียูและนาโต้ ร่วมมือกัน ต้องสร้างช่องทางที่จะเข้าถึงชาวรัสเซียทั่วไป โดยผ่านการศึกษา และสัมพันธ์ด้านบุคคลอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน”
    …..โรงงานฟอกย้อม เตรียมหาสีได้แล้ว……
    “7. นาโต้ ต้องสร้างผลงานว่า สามารถยับยั้งการรุกรานได้ โดยเฉพาะต้องแสดงให้เห็นว่า การจำกัดรุกราน ที่ยังคลุมเคลือ หรือมาหลายรูปแบบ เป็นเรื่องที่นาโต้จัดการได้อย่างไม่มีปัญหา”
    …….อายแทน นาโต้จัง อย่าด่าตรงนักซิพี่….
    “8. นาโต้ ต้องซ่อมชื่อเสียงที่เคยมีว่า สามารถยับยั้งการรุกราน ที่มาในรูปแบบธรรมดา ให้ได้อย่างเร่งด่วน ไม่เช่นนั้นจะทำให้รัสเซียฉวยโอกาส สร้าง และซ้อมเป้ามากขึ้น”
    ….. แสดงว่า นาโต้ ลุ้นไม่ขึ้นแล้ว….
    “9. แต่ละประเทศในอียู อียูเอง รวมทั้งกองกำลังเสริมจากภายนอก External Action Service จำเป็นที่จะต้องกลับมาวิเคราะห์ และทำความเข้าใจ กับความเป็นไปของรัสเซีย และประเทศเพื่อนบ้านเสียใหม่ ความเข้าใจที่ถูกต้อง จะช่วยนำมาใช้เป็นข้อมูลให้การวางนโยบาย”
    ……นโยบาย 9 ข้อ นี่ ผมชอบจัง เหมือนคำสารภาพอีกแล้ว คุณพี่ปูติน อ่านแล้วก็คงหัวร่อในคอ นี่เจาะจงไปที่อียู โดยเฉพาะอียูตะวันออก กับนาโต้ ล้วนๆ ให้เห็นว่า “ถ้า” รบกัน อียูกับนาโต้ ไม่มีทางต้านรัสเซียอยู่หรอก การบ้านเพียบเลย จะทำทันไหมครับ…
    ” …การดำเนินการตามเป้าหมายดังกล่าวข้างต้น จะทำให้พวกตะวันตก เตรียมตัวในการรับมือ กับสัมพันธภาพกับรัสเซีย ที่นับวันมีแต่จะเลวลง และใครที่คิดว่าคุยกับปูตินก็ยังดีกว่า เพราะผู้นำรัสเซียคนใหม่อาจแย่กว่า นั้น คิดแบบนั้น มีแต่จะนำแต่ความล้มเหลวมาให้ตัว ไม่ว่าผู้นำรัสเซียคนใหม่จะเป็นใคร ปูตินจะอยู่ต่อไปอีก หรือ “ไปก่อนเวลา” prematurely replaced มันก็สร้างความกระทบกระเทือนไปทั่วทั้งนั้นแหละ
    18 เดือนที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นข้อสรุปว่า การมองรัสเซียในแง่ดี ไม่ใช่ยุทธศาสตร์ที่ถูกต้อง…”
    จบได้แรงนะ น่าสงสัยว่า ไม่ใช่แค่ อียู นาโต้ ที่ต้องปรับปรุง ผู้รับตัวจริง ที่การวิเคราะห์นี้ ต้องการจะส่งไปถึง น่าจะเป็น พณฯใบตองแห้งของอเมริกา เสียมากกว่า ที่มีแนวคิดว่า รัสเซียอยู่ไกลบ้านอเมริกา เกิดอะไรขึ้นมา นาโต้และยุโรป รับไปก่อน แถม พณฯใบตองแห้ง ยังเปลี่ยนนโยบาย โยกกำลัง จากแอตแลนติก ไปเพิ่มให้ทางแปซิฟิกมากกว่า เพราะตอนนั้นเริ่มปอดแหกอาเฮีย และแม้อเมริกาจะใช้วิธีการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างเต็มพิกัดแล้ว แต่ในสายตาของอังกฤษ การดำเนินการของอเมริกาต่อรัสเซีย โดยเฉพาะการประเมินปูตินเบาไปนั้น น่าจะไม่พอรับมือรัสเซีย ยังไม่ถึงใจอังกฤษ ที่มองเห็นและประทับตราให้รัสเซียเป็นศัตรูถาวร
    แล้วจริงๆ อเมริกามีแผนอะไรเตรียมไว้ให้รัสเซียอีกหรือไม่ หรือประเมินคุณพี่ปูตินของผมเบาเท่าปุยนุ่น
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    16 ก.ค. 2558
    ขยับหมาก ตอนที่ 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ขยับหมาก” ตอน 2 อังกฤษไม่มีวันทำใจได้ที่เห็นรัส เซียยังคงอยู่ได้ และยังอยู่ดี ทฤษฏีครูMac เกี่ยวกับ Eurasia มันยังหลอนอยู่ ผมไม่เล่าซ้ำแล้ว หาอ่านเอาแล้วกัน อยู่ในนิทานสาระพัดเรื่อง รายงานการวิเคราะห์ของ Chatham House เรื่อง Russia Challenge รัสเซียกำเริบ ที่เพิ่งออกมานี่ แทบจะเดาได้ว่า เขียนว่าอะไร มันเหมือนกับเขียนวิเคราะห์จิตใต้สำนึกของอังกฤษมากกว่าการเขียนวิเคราะห์รัสเซีย ถังขยะ Chatham House บรรยายสรุปว่า ” บทวิเคราะห์เรื่อง Russia Challenge นี้ ทำขึ้นจากการเฝ้ามองพฤติกรรมของรัสเซียตั้งแต่หลังสงครามเย็นจนถึงปี ค.ศ.2003 ซึ่งประเทศต่างๆคิดว่า รัสเซียใหม่อาจเข้ามาอยู่ในระบบของยุโรปได้ ในฐานะตัวเแสดงที่สร้างสรร และไม่เป็นอันตราย แต่หลังจากนั้น ความเห็นดังกล่าวค่อยๆเปลี่ยนไป และในที่สุดก็มีความเห็นพ้อง สรุปกันว่า จากพฤติกรรมต่างๆของรัสเซียเอง ทำให้เห็นว่า รัสเซียไม่เหมาะที่จะเป็นหุ้นส่วนและมิตรด้วยเลย partner and ally ความแตกต่างของรัสเซียมีมากเกินกว่าที่จะสามารถมีผลประโยชน์ร่วมกัน… ” เขียนแบบนี้ แถวบ้านผมเขาแปลสั้นๆ ว่า “กูไม่คบมึง กูไม่ชอบมึง” “ความแตกต่างที่พวกตะวันตก “ทน” รัสเซียไม่ได้ที่สำคัญ คือ : 1. นโยบาย ” new model Russia” ของปูติน เป็นนโยบายที่ตั้งใจเป็นอิสระ ที่จะไม่เข้ากับใคร และไม่ขึ้นกับใคร 2. ปูตินไม่เปิดทางเลือกให้กับผู้อื่น หรือเปิดอย่างแคบมาก 3. ปูติน ใช้พรรคพวกในการควบคุม ทั้งด้านเศรษฐกิจ และความมั่นคง ทำให้ใครแทรกยาก 4. รัสเซีย ยากจน และเศรษฐกิจกำลังถดถอย แต่ยังดันเพิ่มงบประมาณด้านกำลังอาวุธ 5. การคว่ำบาตรรัสเซีย จากเรื่องยูเครน ไม่เพียงพอให้รัสเซียถอยจากยูเครน ตรงกันข้าม กลับเป็นทางออกให้รัสเซียนำมาอ้างว่า เรื่องคว่ำบาตร เป็นต้นเหตุของความล้มเหลวทางเศรษฐกิจของรัสเซีย แต่เรื่องคว่ำบาตรก็ยังเลิกไม่ได้ และการเผชิญหน้าก็ยังมีอยู่ต่อไป 6. เทคนิคที่รัสเซียใช้คือ สร้างความไม่เป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน การขู่ว่าจะตัดการส่งพลังงาน การทำสงครามไซเบอร์ในรูปแบบต่างๆ และที่รัสเซียใช้บ่อยที่สุดคือ ทำให้ข้อขัดแย้งยืดเยื้อ เป็นปัญหาอยู่ตลอดเวลา หรือแช่แข็งไว้ เพื่อหวังผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต 7. รัสเซียพยายามอย่างยิ่งยวด ที่จะสร้างให้ตัวเอง “เท่าเทียม” กับอเมริกา และทำทุกอย่างเพื่อให้ถึงเป้าหมายนั้น โดยไม่คำนึงว่า จะสร้างผลกระทบกับใคร อย่างไรบ้าง …” ตกลงเรื่องต่างๆ ที่อังกฤษบอกว่า “ทน” รัสเซียไม่ได้นี่ แปลง่ายๆว่า เพราะ “สั่ง” รัสเซียไม่ได้ และเป็นเรื่องที่พวกตะวันตกยัง แก้ลำรัสเซียไม่ได้ จึง”ทน” รัสเซียไม่ได้ใช่ไหม สำหรับผม หัวข้อทนไม่ได้ นี่น่าจะถือเป็นคำชมนะ น่าจะทำให้รัสเซียชอบใจ เหมือนได้ยินคำสารภาพ ของฝ่ายที่กำลังเสียแต้ม ฮา “ข้อเสนอแนะ ของถังขยะ : แม้ว่าพวกตะวันตกจะประเมินรัสเซียในบางเรื่องต่างกันบ้าง แต่ทั้งหมดเห็นพ้องกันว่า รัสเซียไม่มีทางมาเป็นส่วนหนึ่งยุโรป ตามกฏเกณท์ กติกาที่ยุโรปใช้อยู่ ยกเว้นแต่ รัสเซียจะมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางของประเทศ ตั้งแต่พื้นฐาน และการเปลี่ยนแปลงต้องมาจากภายในรัสเซียเอง ดังนั้น พวกตะวันตกจะต้องร่วมมือกันคิดอย่างจริงจัง ถึงยุทธศาสตร์ที่จะใช้กับรัสเซีย ซึ่งจะต้องใช้มุมมองเดียวกันทั้งทรานสแอตแลนติกและยุโรป โดยเฉพาะ ต้องมองรัสเซียจากพฤติกรรมของรัส เซียเอง ไม่ใช่มองแบบง่ายๆ หรือจากการเล่ากันต่อๆมา policy must be based on the evidence of Russia’s behaviour, not on convenience or fashionable narratives… การร่วมมือของพวกตะวันตก อย่างเข้มงวดจริงจัง เป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้เกิดผลสำเร็จ ผู้ที่จะเป็นตัวหลัก ในการทำงาน จะต้องมีแนวทางเดียวกัน และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด……” โอ้โห อันนี้ มันฟ้องตัวเองว่า ไม่มีเอกภาพเท่าไหร่ในพวกตะวันตก แถมแดกใครครับ ที่มองรัสเซียแบบง่าย สงสัยจะเป็นฝรั่งเศส ลุงโอลอง เพื่อนผมมังนะ เห็นแอบไปจี๋จ๋ากับคุณน้องปูตินบ่อยๆ เป้าหมายทางยุทธศาสตร์สำหรับตะวันตก ที่ถังขยะเสนอ : “1. ยับยั้งการรุกรานของรัสเซียกับประเทศเพื่อนบ้านในยุโรป แต่อย่าทำ โดยไม่มีทางออกเผื่อไว้ หากสถานการณ์เปลี่ยน เช่น ปูตินร่วงไป หรืออาจมีหัวหน้าคนใหม่ของรัสเซียที่อยากคบกับตะวันตกก็ได้ ถ้าเศรษฐกิจของรัสเซียไปไม่รอด และการคบกับจีนอาจมีต้นทุนสูงเกินไป ถ้าจีนโตขึ้นเรื่อยๆ รัสเซียอาจอยากกลับมาอยู่กับยุโรปอีกก็เป็นได้” …. แปลว่า มีแผนจะจัดการเอาคุณพี่ปูตินของผมเก็บลงกล่อง.. ขณะเดียวกันก็เสี้ยมเรื่องอาเฮียเสียหน่อย….. “2. ต้องเสริมสร้างเกียรติภูมิของยุโรป ด้านการรักษาความมั่นคงใหม่ โดยเฉพาะแต่ละประเทศต้องดูแลรักษาเขตแดนของตัวเองได้ และตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของประเทศตัวเองได้ ” ….. แปลว่า ยุโรปอ่อนระทวย ดูแลตัวเองไม่ได้ แหม ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯนี่เก่งนะ เรือดำน้ำรัสเซียโผล่ใกล้บ้านหลายที ทำอะไรเขาไม่ได้ เลยแต่ด่าคนอื่นแทน…. “3. ต้องพยายามหาทางที่จะสื่อสารกับคนรัสเซียว่า ในระยะไกล การอยู่ร่วมกับยุโรปเป็นผลดีกับรัสเซียมากกว่า” …. มาแล้ว โรงงานฟอกย้อม…. “4. หาทางที่จะหารือกับจีน และประเทศที่เป็นอดีตรัฐของรัสเซีย ให้พิจารณานโยบายของรัสเซีย ว่าจะเป็นปัญหาต่อไปอย่างไร บางประเทศมีปัญหาในการมองรัสเซียด้านเดียว” ….. อันนี้ เป็นรายการ เสี้ยม….. “5. ให้เตรียมพร้อม สำหรับความวุ่นวาย และโอกาสที่จะเกิดขึ้น จากการเปลี่ยนตัวผู้นำของรัสเซีย” …..ข้อนี้น่าสนใจมาก …. คิดจะทำอะไรหรือครับ .. “6. ต้องพยายามแย่งรัสเซีย และชาวรัสเซียมาจากปูติน สิ่งที่พวกตะวันตกกำลังทำอยู่โดยการไม่สนใจ ไม่ยุ่งกับรัสเซีย กลายเป็นการส่งเสริมให้รัสเซียตกอยู่ในมือปูตินหนักขึ้น” …..สร้างกระบวนการแย่งประชาชน แผนมาตรฐาน ใช้มันทุกที่…. นโยบาย ที่ถังขยะเสนอว่า ต้องทำอย่างเฉพาะเจาะจง : “1. สร้างยูเครนให้เข้มแข็ง ดูแลตัวเองได้ ถ้าเอายูเครนไม่อยู่ ยุโรปตะวันออกเซหมด และเพิ่มความผยองให้กับรัสเซีย ทำให้โอกาสที่จะ “เปลี่ยน” รัสเซียริบหรี่ลงไปด้วย” “2. ประเทศที่เป็นอียูตะวันออก ต้องปรับปรุงให้เป็นเครื่องมือสำคัญของอียู และต้องพร้อมที่จะมีการปฏิรูปทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจอย่างจริงจัง” “3. การคว่ำบาตรรัสเซียจะมีผลต่อเมื่อคว่ำ “นาน “และ “แรง” การคว่ำบาตรจากกรณียูเครน ปลดให้ง่ายๆไม่ได้ และการจะยกเลิกการคว่ำบาตรโดยเอาไปโยงกับการทำ Minsk Accord เป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่าที่สุด” “4. พวกตะวันตก ต้องไม่กลับไปทำการค้ากับรัสเซียอย่างเดิม do business as usual จนกว่าเรื่องยูเครนจะจบ ด้วยการที่รัสเซียยอมทำตามภาระ ความรับผิดชอบ ตามกฏหมายสากล international legal obligations” “5. นโยบายด้านพลังงานของอียู ต้องมีเป้าหมายที่จะตัดอำนาจการต่อรองของรัสเซีย ออกไปจากตลาดพลังงาน ไม่ใช่แค่ตัดการส่งพลังงานให้ยุโรป ดังนั้นการยกเลิกโครงการ South Stream pipeline เป็นเรื่องต้องทำ และแผนการที่รัสเสียกำลังสร้าง “energy island” ในยุโรป ต้องไม่ให้สำเร็จ” …. มาแล้ว เรื่องกรีซ/ตุรกี….. “6. พวกตะวันตก ต้องลงทุนในการใช้สื่อเป็นยุทธศาสตร์ตอบโต้กับการอวดอ้างที่ผิดๆของเครมลิน ต้องทำทั้งระดับประเทศ ผ่านอียูและนาโต้ ร่วมมือกัน ต้องสร้างช่องทางที่จะเข้าถึงชาวรัสเซียทั่วไป โดยผ่านการศึกษา และสัมพันธ์ด้านบุคคลอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน” …..โรงงานฟอกย้อม เตรียมหาสีได้แล้ว…… “7. นาโต้ ต้องสร้างผลงานว่า สามารถยับยั้งการรุกรานได้ โดยเฉพาะต้องแสดงให้เห็นว่า การจำกัดรุกราน ที่ยังคลุมเคลือ หรือมาหลายรูปแบบ เป็นเรื่องที่นาโต้จัดการได้อย่างไม่มีปัญหา” …….อายแทน นาโต้จัง อย่าด่าตรงนักซิพี่…. “8. นาโต้ ต้องซ่อมชื่อเสียงที่เคยมีว่า สามารถยับยั้งการรุกราน ที่มาในรูปแบบธรรมดา ให้ได้อย่างเร่งด่วน ไม่เช่นนั้นจะทำให้รัสเซียฉวยโอกาส สร้าง และซ้อมเป้ามากขึ้น” ….. แสดงว่า นาโต้ ลุ้นไม่ขึ้นแล้ว…. “9. แต่ละประเทศในอียู อียูเอง รวมทั้งกองกำลังเสริมจากภายนอก External Action Service จำเป็นที่จะต้องกลับมาวิเคราะห์ และทำความเข้าใจ กับความเป็นไปของรัสเซีย และประเทศเพื่อนบ้านเสียใหม่ ความเข้าใจที่ถูกต้อง จะช่วยนำมาใช้เป็นข้อมูลให้การวางนโยบาย” ……นโยบาย 9 ข้อ นี่ ผมชอบจัง เหมือนคำสารภาพอีกแล้ว คุณพี่ปูติน อ่านแล้วก็คงหัวร่อในคอ นี่เจาะจงไปที่อียู โดยเฉพาะอียูตะวันออก กับนาโต้ ล้วนๆ ให้เห็นว่า “ถ้า” รบกัน อียูกับนาโต้ ไม่มีทางต้านรัสเซียอยู่หรอก การบ้านเพียบเลย จะทำทันไหมครับ… ” …การดำเนินการตามเป้าหมายดังกล่าวข้างต้น จะทำให้พวกตะวันตก เตรียมตัวในการรับมือ กับสัมพันธภาพกับรัสเซีย ที่นับวันมีแต่จะเลวลง และใครที่คิดว่าคุยกับปูตินก็ยังดีกว่า เพราะผู้นำรัสเซียคนใหม่อาจแย่กว่า นั้น คิดแบบนั้น มีแต่จะนำแต่ความล้มเหลวมาให้ตัว ไม่ว่าผู้นำรัสเซียคนใหม่จะเป็นใคร ปูตินจะอยู่ต่อไปอีก หรือ “ไปก่อนเวลา” prematurely replaced มันก็สร้างความกระทบกระเทือนไปทั่วทั้งนั้นแหละ 18 เดือนที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นข้อสรุปว่า การมองรัสเซียในแง่ดี ไม่ใช่ยุทธศาสตร์ที่ถูกต้อง…” จบได้แรงนะ น่าสงสัยว่า ไม่ใช่แค่ อียู นาโต้ ที่ต้องปรับปรุง ผู้รับตัวจริง ที่การวิเคราะห์นี้ ต้องการจะส่งไปถึง น่าจะเป็น พณฯใบตองแห้งของอเมริกา เสียมากกว่า ที่มีแนวคิดว่า รัสเซียอยู่ไกลบ้านอเมริกา เกิดอะไรขึ้นมา นาโต้และยุโรป รับไปก่อน แถม พณฯใบตองแห้ง ยังเปลี่ยนนโยบาย โยกกำลัง จากแอตแลนติก ไปเพิ่มให้ทางแปซิฟิกมากกว่า เพราะตอนนั้นเริ่มปอดแหกอาเฮีย และแม้อเมริกาจะใช้วิธีการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างเต็มพิกัดแล้ว แต่ในสายตาของอังกฤษ การดำเนินการของอเมริกาต่อรัสเซีย โดยเฉพาะการประเมินปูตินเบาไปนั้น น่าจะไม่พอรับมือรัสเซีย ยังไม่ถึงใจอังกฤษ ที่มองเห็นและประทับตราให้รัสเซียเป็นศัตรูถาวร แล้วจริงๆ อเมริกามีแผนอะไรเตรียมไว้ให้รัสเซียอีกหรือไม่ หรือประเมินคุณพี่ปูตินของผมเบาเท่าปุยนุ่น สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 16 ก.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 84 Views 0 Reviews
  • ขยับหมาก ตอนที่ 1

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ขยับหมาก”
    ตอน 1
    เดือนกรกฏา ผ่านไปแค่ครึ่งเดือน เหตุการณ์ต่างๆทยอยกันมาเหมือน น้ำหลาก ทั้งๆที่ฝนแล้ง ผมตามอ่าน ตามขุด จนมึนหัวไปหมดยังไม่ทันการ เหตุการณ์พลิกผันสาระพัด แถมมีทั้งแผนล่อแผนลวง ข้อมูลบางแหล่งที่เคยเชื่อได้ ก็ชักจะต้องชั่งหลายหนว่าให้น้ำ หนักเก๊หรือเปล่า ผมไม่ได้รู้ไปหมด มีผิดพลาดได้ ผิดก็ขออภัย ท้วงมาแล้วกันครับ แล้วก็ช่วยกันหาที่ถูก เอามาแลกเปลี่ยนความคิดกัน หรือถ้า ผมเจอข้อมูลใหม่ ที่ทันสมัย หักล้าง น่าเชื่อถือ หรือลึกกว่าที่เคยขุดได้มา ผมก็จะมาขยายต่อ การศึกษา ค้นหา เรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด
    ดูซิ อย่างเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ที่เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 13 มิย เพิ่งออกข่าวว่า ตกลงเขายังไม่ตกลงกัน ยืดแล้วยืดอีก เหมือนหนังสติ๊กหมดอายุ จนนักข่าวที่ไปนั่งรอทำข่าว หน้าเหี่ยวเหงื่อตกกันหมด เขาบอกว่ายุโรปปีนี้ร้อนอร่อย เบียร์ยังอุ่นเลย นั่งรอการแถลงข่าวมาตั้งกะหัวค่ำ เปรี้ยวปากกันเป็นแถว พอตกดึก 2 ยามกว่าบ้านเรา CNN ก็ออกข่าว โดยโฆษกรูปหล่อประจำทำเนียบขาว ออกมาแถลงข่าวว่า ยัง…ยังไม่มีข้อตกลง นักข่าวถามว่า แล้วจะมีเมื่อไหร่ 1 วัน 2 วัน 2 อาทิตย์ รูปหล่อบอก เราไม่ได้เน้นเรื่องกำหนดเวลา เราต้องการให้ เป็นการตกลงที่ไม่มีปัญหา ไม่สร้างปัญหามากกว่า นักข่าวถามอีกว่า แล้วมีปัญหาอะไร ปัญหามาจากฝ่ายไหน …. ถามมากจัง ใครจะไปตอบได้ รูปหล่อชักเลิกลั่ก ….. ว่าแล้ว CNN ก็ตัดข่าวไปเรื่องสำคัญกว่า เกี่ยวกับเรื่องไอ้พวกค้ายา 46 คนแทน โอ้ย… ฮาจริง
    แต่แล้ววันรุ่งขึ้น คือวันอังคารที่ 14 มิย ผมเปิดทีวี ตอนบ่ายแก่ๆ เย็นอ่อนๆ ประมาณ 4โมงเย็น ก็เห็น CNN ขึ้นหัวข่าวไว้แล้วว่า อิหร่านตกลงได้แล้ว อ้าว เมื่อคืนยังบอกไม่รู้เลยไอ้เบื้อก ผู้ประกาศทำเสียงตื่นเต้น จนผมไม่กล้านอนดูอย่างเคย หลังจากนั้น ก็มีการไปสัมภาษณ์ผู้ชำนาญการต่างๆ ซึ่งสรุปว่า ตกลงกันได้เสียที เสียเวลารอมานาน แต่ไม่มีใครเห็นด้วยเท่าไหร่ว่า เป็นข้อตกลงที่ดี และไม่มีใครเชื่อขี้หน้าอิหร่านว่าจะทำตามที่ตกลงได้ สัมภาษณ์วน พูดซ้ำ จนค่ำ พณฯ ใบตองแห้ง ถึงได้ออกมาทำหน้าเครียดตาแข็ง แถลงเอง
    “….เราตกลงกับอิหร่านแล้ว ใครว่าไม่สมควร เราว่าสมควร เราต้องแสดงให้เห็นว่า เรา ที่เป็นชาติที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่สุด ไม่จำเป็นต้องจัดการกับปัญหาด้วยการใช้กำลังเสมอไป เราใช้วิธีทางการทูตได้ … การที่เราทำเช่นนี้ ทำให้อิหร่านหมดทางที่จะผลิตนิวเคลียร์ไป 15 ปี อิหร่านเป็นประเทศที่ความสำคัญที่สุด ต่อผลประโยชน์ของอเมริกา……”
    หลังจากนั้น ผมก็ต้องขออนุญาตพณฯท่าน ปิดเสียง ขืนฟังต่อ เปลืองยาแย่ ฝ่ายอิหร่าน ก็มีการแถลงข่าวที่กรุงเตหะรานว่า ข้อตกลงบรรลุถึงวัตถุประสงค์ reached all objectives ส่วนอิสราเอล ออกมาบอกว่า เป็นการตกลงที่เลวร้ายที่สุดในโลก
    อืม… ปาหี่นี้ เขาเล่นกันได้น่าตื่นเต้น...สมจริงกันดี คงเข้าใจนะครับว่า มันมีความหมายว่าอย่างไร ก็แค่ไม่มีใครอยากออกมาโดนประทับหน้า ว่าเป็นคนทำให้งานล่ม
    เอาเป็นว่า เขาว่า เขาตกลงกันได้แล้ว แต่มีขั้นตอนการทำงานอีกมากมายที่ต้องไปทำต่อจะทำได้แค่ไหน อย่างไร นานเท่าไหน ก็ดูกันต่อไป อย่างน้อยรัฐสภาอเมริกัน ก็มีเวลาประมาญ 60 วัน ในการตรวจสอบข้อตกลง ก่อนที่จะไปลงความเห็นในรัฐสภา ระหว่างนี้ จะเติมสี ตีไข่ยังก็ได้ ต้ัง 60 วัน
    เรามาดูภาพใหญ่ ทำความเข้าใจภาพรวมให้มากที่สุดกันดีกว่า ขืนตามข่าวทุกวันที่เขาเอามาเล่นหลอกเรา มึนหัวตายทั้งคนเขียนคนอ่าน ก่อนจะเดินหน้าเล่าเรื่อง เพื่อให้เห็นภาพใหญ่ ขอถอยหลังทบทวนของเก่ากันหน่อย
    คงจำกันได้ เมื่อเดือนมีนาคม ถังขยะความคิดหมายเลขหนึ่ง ของบ้านไอ้นักล่าใบตองแห้ง Council on Foreign Relations หรือ CFR ผู้กำกับรัฐบาลอเมริกัน ได้ออกแผนสอยมังกร Grand Strategy สำหรับสยบจีน ที่แสดงถึงความกร่าง ดูถูก ปรามาส และประมาทใส่จีน มาให้เราฮือฮาไปแล้ว แต่ไอ้นักล่าใบตองแห้งคงจะเห็นว่า ชาวโลกคงตกใจไม่พอ หรือยังไม่แน่ใจกับความยิ่งใหญ่ อย่างชนิดไม่มีผู้ใด บังอาจจะกล้าทาบรัศมีของอเมริกา มันเป็นความต้ังใจของอเมริกา ที่จะใหญ่อย่างนี้แต่ผู้เดียวตลอดกาลนาน อย่างที่อังกฤษ ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย เคยคิดมาเป็นศตวรรษ แต่บัดนี้ ความคิดนั้นกลายเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว ชาวเกาะใหญ่ทำได้เพียงแค่ “นึกถึง” ความคิดนั้น อย่างขมขื่นอยู่ในอกฟีบและซีด แหม แดกซะยาวเลยนะลุง กว่าจะเลี้ยวกลับไปเข้าเรื่อง
    อเมริกาด่าจีนแค่นั้น เกรงจะไม่พอให้โลกตื่นเต้น อเมริกาเพิ่มแรงอัด เอาญี่ปุ่น มาอาบน้ำแต่งตัว เตรียมพร้อมที่จะไปแบกถาดรับใช้อเมริกา ถึงขนาดเตรียมการที่จะแก้การตีความกฏหมายรัฐธรรมนูญของประเทศ ที่กำหนดให้ญี่ปุ่นมีกองกำลัง เพียงเพื่อดูแลป้องกันตัวเองเท่า นั้น Self Defence Force (SDF) มาถึงวันนี้ แม้การขอให้สภาอนุมัติ ยอมให้ตีความใหม่ ให้กองกำลังญี่ปุ่น SDF แบกถาดไปได้ทั่วโลก ยังไม่สำเร็จ แต่ญี่ปุ่นก็เดินหน้าไปไกล โดยไม่รอสภา ก็นายท่านสั่งมา…
    SDF ของญี่ปุ่น เพิ่งไปทำการฝึกร่วมที่แดนจิ้งโจ้กับพวกจิงโจ้ และลูกพี่ใหญ่จากค่ายใบตองแห้ง แต่ฝึกเสร็จแล้วดูเหมือน จะแบกถาดหายวับไปกับตา ไม่รู้ไปซ่อนอยู่ตามเกาะไหนในมหาสมุทรแปซิฟิก กองทัพหายตัว แต่ตัวนายอาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หลานรักของอดีตหัวหน้าใหญ่ยากูซ่า ก็ออกมาประกาศอย่างเข้มแข็งว่า ญี่ปุ่นพร้อมรบจีน นับว่าฝึกแบกถาดได้รวดเร็ว มีอนาคต แต่อนาคตไปทางไหน ก็อดใจรอดูกันหน่อย ส่วนนายกจิ้งโจ้ก็ออกมาบอกว่า กำลังรักกันจังกับคนแบกถาด และว่ามีเพื่อนซี้แถบเอเซียแยะ ไล่ชื่อให้นักข่าวฟัง โปรดจำกันไว้ด้วยว่า ไม่มีชื่อแดนสยามของสมันน้อย ว่าเป็นเพื่อน แต่มีชื่อเวียตนาม จำไว้นะ จำไว้ให้ดี
    อ้าว แล้วนี่จะปล่อยให้อเมริกา ทำตัวเป็นฝรั่งออกแขก เต้นอยู่หน้าโรงลิเกเจ้าเดียวได้ยังไง ว่าแล้วคู่หู หรือลูกพี่ ก็ต้องรีบแต่งตัว มาโชว์ลีลาด้วย กลัวไม่ได้ส่วนแบ่ง
    Chatham House หรือชื่อเต็มว่า The Royal Institute of International Affairs ถังขยะความคิด ฝาแฝดผู้พี่ ของ CFR ก็เพิ่งออกรายงานล่าสุด เมื่อเดือนมิถุนายนนี้ ตั้งชื่อรายงานได้สยองไม่แพ้แฝด น้อง “The Russian Challenge” รัสเซียกำเริบ (แปลภาษาลุงนิทาน) เรียกว่าแฝดแต่ละฝา ต่างออกมาประกบ คู่รัก กันคนละราย รายการแบ่งข้าง ศึกชิงแชมป์คราวนี้ คงมันยกร่อง สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 โปรดหลบไปห่างๆ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    15 ก.ค. 2558
    ขยับหมาก ตอนที่ 1 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ขยับหมาก” ตอน 1 เดือนกรกฏา ผ่านไปแค่ครึ่งเดือน เหตุการณ์ต่างๆทยอยกันมาเหมือน น้ำหลาก ทั้งๆที่ฝนแล้ง ผมตามอ่าน ตามขุด จนมึนหัวไปหมดยังไม่ทันการ เหตุการณ์พลิกผันสาระพัด แถมมีทั้งแผนล่อแผนลวง ข้อมูลบางแหล่งที่เคยเชื่อได้ ก็ชักจะต้องชั่งหลายหนว่าให้น้ำ หนักเก๊หรือเปล่า ผมไม่ได้รู้ไปหมด มีผิดพลาดได้ ผิดก็ขออภัย ท้วงมาแล้วกันครับ แล้วก็ช่วยกันหาที่ถูก เอามาแลกเปลี่ยนความคิดกัน หรือถ้า ผมเจอข้อมูลใหม่ ที่ทันสมัย หักล้าง น่าเชื่อถือ หรือลึกกว่าที่เคยขุดได้มา ผมก็จะมาขยายต่อ การศึกษา ค้นหา เรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด ดูซิ อย่างเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ที่เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 13 มิย เพิ่งออกข่าวว่า ตกลงเขายังไม่ตกลงกัน ยืดแล้วยืดอีก เหมือนหนังสติ๊กหมดอายุ จนนักข่าวที่ไปนั่งรอทำข่าว หน้าเหี่ยวเหงื่อตกกันหมด เขาบอกว่ายุโรปปีนี้ร้อนอร่อย เบียร์ยังอุ่นเลย นั่งรอการแถลงข่าวมาตั้งกะหัวค่ำ เปรี้ยวปากกันเป็นแถว พอตกดึก 2 ยามกว่าบ้านเรา CNN ก็ออกข่าว โดยโฆษกรูปหล่อประจำทำเนียบขาว ออกมาแถลงข่าวว่า ยัง…ยังไม่มีข้อตกลง นักข่าวถามว่า แล้วจะมีเมื่อไหร่ 1 วัน 2 วัน 2 อาทิตย์ รูปหล่อบอก เราไม่ได้เน้นเรื่องกำหนดเวลา เราต้องการให้ เป็นการตกลงที่ไม่มีปัญหา ไม่สร้างปัญหามากกว่า นักข่าวถามอีกว่า แล้วมีปัญหาอะไร ปัญหามาจากฝ่ายไหน …. ถามมากจัง ใครจะไปตอบได้ รูปหล่อชักเลิกลั่ก ….. ว่าแล้ว CNN ก็ตัดข่าวไปเรื่องสำคัญกว่า เกี่ยวกับเรื่องไอ้พวกค้ายา 46 คนแทน โอ้ย… ฮาจริง แต่แล้ววันรุ่งขึ้น คือวันอังคารที่ 14 มิย ผมเปิดทีวี ตอนบ่ายแก่ๆ เย็นอ่อนๆ ประมาณ 4โมงเย็น ก็เห็น CNN ขึ้นหัวข่าวไว้แล้วว่า อิหร่านตกลงได้แล้ว อ้าว เมื่อคืนยังบอกไม่รู้เลยไอ้เบื้อก ผู้ประกาศทำเสียงตื่นเต้น จนผมไม่กล้านอนดูอย่างเคย หลังจากนั้น ก็มีการไปสัมภาษณ์ผู้ชำนาญการต่างๆ ซึ่งสรุปว่า ตกลงกันได้เสียที เสียเวลารอมานาน แต่ไม่มีใครเห็นด้วยเท่าไหร่ว่า เป็นข้อตกลงที่ดี และไม่มีใครเชื่อขี้หน้าอิหร่านว่าจะทำตามที่ตกลงได้ สัมภาษณ์วน พูดซ้ำ จนค่ำ พณฯ ใบตองแห้ง ถึงได้ออกมาทำหน้าเครียดตาแข็ง แถลงเอง “….เราตกลงกับอิหร่านแล้ว ใครว่าไม่สมควร เราว่าสมควร เราต้องแสดงให้เห็นว่า เรา ที่เป็นชาติที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่สุด ไม่จำเป็นต้องจัดการกับปัญหาด้วยการใช้กำลังเสมอไป เราใช้วิธีทางการทูตได้ … การที่เราทำเช่นนี้ ทำให้อิหร่านหมดทางที่จะผลิตนิวเคลียร์ไป 15 ปี อิหร่านเป็นประเทศที่ความสำคัญที่สุด ต่อผลประโยชน์ของอเมริกา……” หลังจากนั้น ผมก็ต้องขออนุญาตพณฯท่าน ปิดเสียง ขืนฟังต่อ เปลืองยาแย่ ฝ่ายอิหร่าน ก็มีการแถลงข่าวที่กรุงเตหะรานว่า ข้อตกลงบรรลุถึงวัตถุประสงค์ reached all objectives ส่วนอิสราเอล ออกมาบอกว่า เป็นการตกลงที่เลวร้ายที่สุดในโลก อืม… ปาหี่นี้ เขาเล่นกันได้น่าตื่นเต้น...สมจริงกันดี คงเข้าใจนะครับว่า มันมีความหมายว่าอย่างไร ก็แค่ไม่มีใครอยากออกมาโดนประทับหน้า ว่าเป็นคนทำให้งานล่ม เอาเป็นว่า เขาว่า เขาตกลงกันได้แล้ว แต่มีขั้นตอนการทำงานอีกมากมายที่ต้องไปทำต่อจะทำได้แค่ไหน อย่างไร นานเท่าไหน ก็ดูกันต่อไป อย่างน้อยรัฐสภาอเมริกัน ก็มีเวลาประมาญ 60 วัน ในการตรวจสอบข้อตกลง ก่อนที่จะไปลงความเห็นในรัฐสภา ระหว่างนี้ จะเติมสี ตีไข่ยังก็ได้ ต้ัง 60 วัน เรามาดูภาพใหญ่ ทำความเข้าใจภาพรวมให้มากที่สุดกันดีกว่า ขืนตามข่าวทุกวันที่เขาเอามาเล่นหลอกเรา มึนหัวตายทั้งคนเขียนคนอ่าน ก่อนจะเดินหน้าเล่าเรื่อง เพื่อให้เห็นภาพใหญ่ ขอถอยหลังทบทวนของเก่ากันหน่อย คงจำกันได้ เมื่อเดือนมีนาคม ถังขยะความคิดหมายเลขหนึ่ง ของบ้านไอ้นักล่าใบตองแห้ง Council on Foreign Relations หรือ CFR ผู้กำกับรัฐบาลอเมริกัน ได้ออกแผนสอยมังกร Grand Strategy สำหรับสยบจีน ที่แสดงถึงความกร่าง ดูถูก ปรามาส และประมาทใส่จีน มาให้เราฮือฮาไปแล้ว แต่ไอ้นักล่าใบตองแห้งคงจะเห็นว่า ชาวโลกคงตกใจไม่พอ หรือยังไม่แน่ใจกับความยิ่งใหญ่ อย่างชนิดไม่มีผู้ใด บังอาจจะกล้าทาบรัศมีของอเมริกา มันเป็นความต้ังใจของอเมริกา ที่จะใหญ่อย่างนี้แต่ผู้เดียวตลอดกาลนาน อย่างที่อังกฤษ ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย เคยคิดมาเป็นศตวรรษ แต่บัดนี้ ความคิดนั้นกลายเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว ชาวเกาะใหญ่ทำได้เพียงแค่ “นึกถึง” ความคิดนั้น อย่างขมขื่นอยู่ในอกฟีบและซีด แหม แดกซะยาวเลยนะลุง กว่าจะเลี้ยวกลับไปเข้าเรื่อง อเมริกาด่าจีนแค่นั้น เกรงจะไม่พอให้โลกตื่นเต้น อเมริกาเพิ่มแรงอัด เอาญี่ปุ่น มาอาบน้ำแต่งตัว เตรียมพร้อมที่จะไปแบกถาดรับใช้อเมริกา ถึงขนาดเตรียมการที่จะแก้การตีความกฏหมายรัฐธรรมนูญของประเทศ ที่กำหนดให้ญี่ปุ่นมีกองกำลัง เพียงเพื่อดูแลป้องกันตัวเองเท่า นั้น Self Defence Force (SDF) มาถึงวันนี้ แม้การขอให้สภาอนุมัติ ยอมให้ตีความใหม่ ให้กองกำลังญี่ปุ่น SDF แบกถาดไปได้ทั่วโลก ยังไม่สำเร็จ แต่ญี่ปุ่นก็เดินหน้าไปไกล โดยไม่รอสภา ก็นายท่านสั่งมา… SDF ของญี่ปุ่น เพิ่งไปทำการฝึกร่วมที่แดนจิ้งโจ้กับพวกจิงโจ้ และลูกพี่ใหญ่จากค่ายใบตองแห้ง แต่ฝึกเสร็จแล้วดูเหมือน จะแบกถาดหายวับไปกับตา ไม่รู้ไปซ่อนอยู่ตามเกาะไหนในมหาสมุทรแปซิฟิก กองทัพหายตัว แต่ตัวนายอาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หลานรักของอดีตหัวหน้าใหญ่ยากูซ่า ก็ออกมาประกาศอย่างเข้มแข็งว่า ญี่ปุ่นพร้อมรบจีน นับว่าฝึกแบกถาดได้รวดเร็ว มีอนาคต แต่อนาคตไปทางไหน ก็อดใจรอดูกันหน่อย ส่วนนายกจิ้งโจ้ก็ออกมาบอกว่า กำลังรักกันจังกับคนแบกถาด และว่ามีเพื่อนซี้แถบเอเซียแยะ ไล่ชื่อให้นักข่าวฟัง โปรดจำกันไว้ด้วยว่า ไม่มีชื่อแดนสยามของสมันน้อย ว่าเป็นเพื่อน แต่มีชื่อเวียตนาม จำไว้นะ จำไว้ให้ดี อ้าว แล้วนี่จะปล่อยให้อเมริกา ทำตัวเป็นฝรั่งออกแขก เต้นอยู่หน้าโรงลิเกเจ้าเดียวได้ยังไง ว่าแล้วคู่หู หรือลูกพี่ ก็ต้องรีบแต่งตัว มาโชว์ลีลาด้วย กลัวไม่ได้ส่วนแบ่ง Chatham House หรือชื่อเต็มว่า The Royal Institute of International Affairs ถังขยะความคิด ฝาแฝดผู้พี่ ของ CFR ก็เพิ่งออกรายงานล่าสุด เมื่อเดือนมิถุนายนนี้ ตั้งชื่อรายงานได้สยองไม่แพ้แฝด น้อง “The Russian Challenge” รัสเซียกำเริบ (แปลภาษาลุงนิทาน) เรียกว่าแฝดแต่ละฝา ต่างออกมาประกบ คู่รัก กันคนละราย รายการแบ่งข้าง ศึกชิงแชมป์คราวนี้ คงมันยกร่อง สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 โปรดหลบไปห่างๆ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 15 ก.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 66 Views 0 Reviews
  • ‘ทองคำ’ รักษาเทรนด์ขาขึ้น? 19/11/68 #กะเทาะหุ้น #ราคาทองคำ #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย
    ‘ทองคำ’ รักษาเทรนด์ขาขึ้น? 19/11/68 #กะเทาะหุ้น #ราคาทองคำ #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 0 Reviews
  • พระบูชาแม่นางกวัก จีวรดอก ยุครัตนโกสินทร์
    พระบูชาแม่นางกวัก จีวรดอก ยุครัตนโกสินทร์ หล่อดินไทย คมชัด สวยสง่า คลาสสิคมาก (พระสูง 8.5 นิ้ว กว้าง 4.5 นิ้ว ) เนื้อทองเหลืองรมมันปูผิวกลับดำ เก่าดีมีอายุ ผิวหิ้ง แท้ดูง่ายครับ // พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณช่วยกวักเรียกทรัพย์ และดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาซื้อของในร้าน เมตตามหานิยม ใช้แล้วจะมีโชคมีลาภ ร่ำรวยเงินทอง ช่วยกวักเงินกวักทอง ช่วยทำให้ค้าขายดี ทำให้มีกำไร มีโชคลาภ ให้ร่ำรวย มีลูกค้า หญิงเห็นหญิงรัก ชายเห็นชายรัก **

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระบูชาแม่นางกวัก จีวรดอก ยุครัตนโกสินทร์ พระบูชาแม่นางกวัก จีวรดอก ยุครัตนโกสินทร์ หล่อดินไทย คมชัด สวยสง่า คลาสสิคมาก (พระสูง 8.5 นิ้ว กว้าง 4.5 นิ้ว ) เนื้อทองเหลืองรมมันปูผิวกลับดำ เก่าดีมีอายุ ผิวหิ้ง แท้ดูง่ายครับ // พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณช่วยกวักเรียกทรัพย์ และดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาซื้อของในร้าน เมตตามหานิยม ใช้แล้วจะมีโชคมีลาภ ร่ำรวยเงินทอง ช่วยกวักเงินกวักทอง ช่วยทำให้ค้าขายดี ทำให้มีกำไร มีโชคลาภ ให้ร่ำรวย มีลูกค้า หญิงเห็นหญิงรัก ชายเห็นชายรัก ** ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 33 Views 0 Reviews
  • เทพไท ซัดเพื่อไทย "ปลุกผีทักษิณ" โยงคดีความยุติธรรมเป็นประเด็นการเมือง หลังคะแนนนิยมพรรคตกต่ำ ชี้ "ลูกไม้เก่าๆ" ที่ใช้มาตลอดเพื่อรักษามวลชนเสื้อแดง
    https://www.thai-tai.tv/news/22446/
    .
    #ไทยไท #เทพไทเสนพงศ์ #เพื่อไทย #ขายทักษิณ #คะแนนสงสาร #อุทธรณ์คดี112

    เทพไท ซัดเพื่อไทย "ปลุกผีทักษิณ" โยงคดีความยุติธรรมเป็นประเด็นการเมือง หลังคะแนนนิยมพรรคตกต่ำ ชี้ "ลูกไม้เก่าๆ" ที่ใช้มาตลอดเพื่อรักษามวลชนเสื้อแดง https://www.thai-tai.tv/news/22446/ . #ไทยไท #เทพไทเสนพงศ์ #เพื่อไทย #ขายทักษิณ #คะแนนสงสาร #อุทธรณ์คดี112
    0 Comments 0 Shares 23 Views 0 Reviews
  • บทความกฎหมาย EP.28
    เรื่อง การชดใช้ค่าเสียหาย: หลักกฎหมายสู่การเยียวยาที่เป็นธรรม

    การชดใช้ค่าเสียหายคือหัวใจสำคัญของระบบกฎหมายที่มุ่งธำรงไว้ซึ่งความเป็นธรรมและแก้ไขเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำอันมิชอบ ไม่ว่าจะเป็นการละเมิดสิทธิ หน้าที่ หรือการผิดสัญญาที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น การชดใช้ค่าเสียหายจึงเป็นกลไกในการฟื้นฟูสภาพความเสียหายให้กลับคืนสู่สถานะเดิมหรือใกล้เคียงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยมักจะแสดงออกในรูปของการชำระเงินทดแทน หรือการกระทำอื่นใดที่เป็นการเยียวยาความสูญเสียนั้น ในทางกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หลักการชดใช้ค่าเสียหายถูกกำหนดไว้เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่กรณีที่ได้รับความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายทางกายภาพ ทรัพย์สิน ชื่อเสียง หรือแม้กระทั่งความเสียหายทางจิตใจ ซึ่งความเสียหายเหล่านี้ต้องสามารถคำนวณและประเมินค่าได้ การพิจารณาประเภทและขอบเขตของค่าเสียหายนั้นขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงของแต่ละกรณีอย่างละเอียดรอบคอบ รวมถึงเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายได้รับการเยียวยาอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม การละเมิดซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งหนี้ประเภทหนึ่ง หมายถึงการที่บุคคลใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย เป็นเหตุให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิต ร่างกาย อนามัย เสรีภาพ ทรัพย์สิน หรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใด ค่าเสียหายอันเกิดจากการละเมิดอาจรวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ค่าขาดไร้ประโยชน์ ค่าเสียหายทางจิตใจ หรือแม้กระทั่งค่าปลงศพและค่าอุปการะเลี้ยงดูในกรณีที่ถึงแก่ความตาย ส่วนการผิดสัญญาเป็นกรณีที่คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ระบุไว้ในสัญญา ก่อให้เกิดความเสียหายแก่อีกฝ่ายหนึ่ง การชดใช้ค่าเสียหายจากการผิดสัญญามักมุ่งเน้นไปที่การชดเชยเพื่อให้ผู้เสียหายอยู่ในฐานะเสมือนว่าสัญญานั้นได้มีการปฏิบัติตามอย่างสมบูรณ์ ซึ่งอาจรวมถึงค่าเสียหายโดยตรงที่เกิดขึ้นจากการผิดสัญญา และค่าเสียหายที่คาดการณ์ได้ว่าจะเกิดขึ้นจากการผิดสัญญานั้นด้วย นอกจากนี้ กฎหมายยังให้ความสำคัญกับการพิสูจน์ความเสียหายและมูลค่าของความเสียหาย เพื่อให้การชดใช้เป็นไปอย่างสมเหตุสมผลและไม่เกินกว่าความเป็นจริง ผู้เสียหายมีภาระในการนำสืบให้ศาลเห็นว่าตนได้รับความเสียหายจริงและมูลค่าของความเสียหายนั้นเป็นเท่าใด ซึ่งต้องอาศัยพยานหลักฐานที่น่าเชื่อถือประกอบการพิจารณา กระบวนการทางกฎหมายจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการไกล่เกลี่ยและตัดสินข้อพิพาท เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับการเยียวยาอย่างถูกต้องตามครรลองของกฎหมาย

    ดังนั้น การชดใช้ค่าเสียหายจึงไม่ใช่เพียงแค่การจ่ายเงิน แต่เป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบทางกฎหมายและการคืนความเป็นธรรมให้แก่สังคม กฎหมายได้วางหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนเพื่อประเมินและกำหนดค่าเสียหายให้สอดคล้องกับสภาพความจริงและความรุนแรงของความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับการเยียวยาอย่างเต็มที่และสมเหตุสมผล ขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างบรรทัดฐานให้ผู้กระทำความผิดตระหนักถึงผลของการกระทำและป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นว่านั้นขึ้นอีก การทำความเข้าใจหลักการและประเภทของการชดใช้ค่าเสียหายจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่สำหรับนักกฎหมายเท่านั้น แต่รวมถึงประชาชนทั่วไปด้วย เพื่อที่จะสามารถปกป้องสิทธิของตนเองและเรียกร้องความเป็นธรรมได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายเมื่อเกิดความเสียหายขึ้น การเยียวยาด้วยการชดใช้ค่าเสียหายจึงเป็นกลไกที่จำเป็นในการสร้างสมดุลและธำรงไว้ซึ่งความสงบสุขในสังคม.
    บทความกฎหมาย EP.28 เรื่อง การชดใช้ค่าเสียหาย: หลักกฎหมายสู่การเยียวยาที่เป็นธรรม การชดใช้ค่าเสียหายคือหัวใจสำคัญของระบบกฎหมายที่มุ่งธำรงไว้ซึ่งความเป็นธรรมและแก้ไขเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำอันมิชอบ ไม่ว่าจะเป็นการละเมิดสิทธิ หน้าที่ หรือการผิดสัญญาที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น การชดใช้ค่าเสียหายจึงเป็นกลไกในการฟื้นฟูสภาพความเสียหายให้กลับคืนสู่สถานะเดิมหรือใกล้เคียงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยมักจะแสดงออกในรูปของการชำระเงินทดแทน หรือการกระทำอื่นใดที่เป็นการเยียวยาความสูญเสียนั้น ในทางกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หลักการชดใช้ค่าเสียหายถูกกำหนดไว้เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่กรณีที่ได้รับความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายทางกายภาพ ทรัพย์สิน ชื่อเสียง หรือแม้กระทั่งความเสียหายทางจิตใจ ซึ่งความเสียหายเหล่านี้ต้องสามารถคำนวณและประเมินค่าได้ การพิจารณาประเภทและขอบเขตของค่าเสียหายนั้นขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงของแต่ละกรณีอย่างละเอียดรอบคอบ รวมถึงเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายได้รับการเยียวยาอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม การละเมิดซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งหนี้ประเภทหนึ่ง หมายถึงการที่บุคคลใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย เป็นเหตุให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิต ร่างกาย อนามัย เสรีภาพ ทรัพย์สิน หรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใด ค่าเสียหายอันเกิดจากการละเมิดอาจรวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ค่าขาดไร้ประโยชน์ ค่าเสียหายทางจิตใจ หรือแม้กระทั่งค่าปลงศพและค่าอุปการะเลี้ยงดูในกรณีที่ถึงแก่ความตาย ส่วนการผิดสัญญาเป็นกรณีที่คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ระบุไว้ในสัญญา ก่อให้เกิดความเสียหายแก่อีกฝ่ายหนึ่ง การชดใช้ค่าเสียหายจากการผิดสัญญามักมุ่งเน้นไปที่การชดเชยเพื่อให้ผู้เสียหายอยู่ในฐานะเสมือนว่าสัญญานั้นได้มีการปฏิบัติตามอย่างสมบูรณ์ ซึ่งอาจรวมถึงค่าเสียหายโดยตรงที่เกิดขึ้นจากการผิดสัญญา และค่าเสียหายที่คาดการณ์ได้ว่าจะเกิดขึ้นจากการผิดสัญญานั้นด้วย นอกจากนี้ กฎหมายยังให้ความสำคัญกับการพิสูจน์ความเสียหายและมูลค่าของความเสียหาย เพื่อให้การชดใช้เป็นไปอย่างสมเหตุสมผลและไม่เกินกว่าความเป็นจริง ผู้เสียหายมีภาระในการนำสืบให้ศาลเห็นว่าตนได้รับความเสียหายจริงและมูลค่าของความเสียหายนั้นเป็นเท่าใด ซึ่งต้องอาศัยพยานหลักฐานที่น่าเชื่อถือประกอบการพิจารณา กระบวนการทางกฎหมายจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการไกล่เกลี่ยและตัดสินข้อพิพาท เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับการเยียวยาอย่างถูกต้องตามครรลองของกฎหมาย ดังนั้น การชดใช้ค่าเสียหายจึงไม่ใช่เพียงแค่การจ่ายเงิน แต่เป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบทางกฎหมายและการคืนความเป็นธรรมให้แก่สังคม กฎหมายได้วางหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนเพื่อประเมินและกำหนดค่าเสียหายให้สอดคล้องกับสภาพความจริงและความรุนแรงของความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับการเยียวยาอย่างเต็มที่และสมเหตุสมผล ขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างบรรทัดฐานให้ผู้กระทำความผิดตระหนักถึงผลของการกระทำและป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นว่านั้นขึ้นอีก การทำความเข้าใจหลักการและประเภทของการชดใช้ค่าเสียหายจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่สำหรับนักกฎหมายเท่านั้น แต่รวมถึงประชาชนทั่วไปด้วย เพื่อที่จะสามารถปกป้องสิทธิของตนเองและเรียกร้องความเป็นธรรมได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายเมื่อเกิดความเสียหายขึ้น การเยียวยาด้วยการชดใช้ค่าเสียหายจึงเป็นกลไกที่จำเป็นในการสร้างสมดุลและธำรงไว้ซึ่งความสงบสุขในสังคม.
    0 Comments 0 Shares 58 Views 0 Reviews
  • “การจากไปของ Rebecca Heineman – ผู้บุกเบิกวงการเกมและนักเคลื่อนไหวเพื่อความหลากหลาย”

    Rebecca Heineman เสียชีวิตหลังจากถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งชนิดรุนแรงเมื่อเดือนที่ผ่านมา เธอเป็นที่รู้จักในฐานะ แชมป์ Space Invaders คนแรกของสหรัฐฯ ในปี 1980 และต่อมาได้กลายเป็นหนึ่งในนักพัฒนาเกมที่ทรงอิทธิพลที่สุด โดยมีเครดิตในเกมกว่า 67 เรื่อง รวมถึงการร่วมก่อตั้งบริษัท Interplay ซึ่งสร้างเกมระดับตำนานอย่าง Wasteland, Fallout และ Baldur’s Gate

    นอกจากผลงานด้านการพัฒนาเกมแล้ว Heineman ยังเป็นผู้บุกเบิกด้านการเขียนโปรแกรมและการพอร์ตเกม เช่น Wolfenstein 3D และ Doom ไปยัง Macintosh รวมถึงการทำงานในโครงการที่ท้าทายอย่างการพัฒนาเวอร์ชัน 3DO ของ Doom ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ ซึ่งกลายเป็นเรื่องเล่าขานในวงการเกม

    เธอเป็นที่เคารพในฐานะ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิ LGBTQ+ โดยออกมาเปิดเผยตัวตนในช่วงปี 2000 และได้รับรางวัล Gayming Icon Award ปี 2025 จากการสนับสนุนความหลากหลายและการเข้าถึงในวงการเทคโนโลยี เธอแต่งงานกับ Jennell Jaquays นักออกแบบเกมชื่อดังที่เสียชีวิตในปี 2024 การจากไปของ Heineman จึงเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของชุมชนเกมและผู้สนับสนุนความหลากหลายทางเพศ

    แม้เธอจะจากไป แต่ผลงานและการอุทิศตนเพื่อวงการเกมและสิทธิมนุษยชนยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักพัฒนาและผู้เล่นรุ่นใหม่ทั่วโลก

    สรุปสาระสำคัญ
    Rebecca Heineman เสียชีวิตในวัย 62 ปี
    หลังถูกวินิจฉัยมะเร็งชนิดรุนแรง

    แชมป์ Space Invaders คนแรกของสหรัฐฯ (1980)
    จุดเริ่มต้นสู่การเป็นนักพัฒนาเกมระดับตำนาน

    ร่วมก่อตั้ง Interplay
    บริษัทผู้สร้างเกมดังอย่าง Wasteland, Fallout, Baldur’s Gate

    ผลงานด้านการพอร์ตเกม
    เช่น Wolfenstein 3D และ Doom บน Macintosh

    ได้รับรางวัล Gayming Icon Award ปี 2025
    ยกย่องบทบาทด้าน LGBTQ+ และการสนับสนุนความหลากหลาย

    การจากไปกระทบต่อชุมชนเกมและผู้สนับสนุนสิทธิ LGBTQ+
    สูญเสียบุคคลสำคัญที่เป็นแรงบันดาลใจ

    โรคมะเร็งที่ตรวจพบอย่างกะทันหัน
    ทำให้สุขภาพทรุดเร็วและไม่สามารถรักษาได้ทัน

    https://www.pcgamer.com/gaming-industry/legendary-game-designer-programmer-space-invaders-champion-and-lgbtq-trailblazer-rebecca-heineman-has-died/
    📰 “การจากไปของ Rebecca Heineman – ผู้บุกเบิกวงการเกมและนักเคลื่อนไหวเพื่อความหลากหลาย” Rebecca Heineman เสียชีวิตหลังจากถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งชนิดรุนแรงเมื่อเดือนที่ผ่านมา เธอเป็นที่รู้จักในฐานะ แชมป์ Space Invaders คนแรกของสหรัฐฯ ในปี 1980 และต่อมาได้กลายเป็นหนึ่งในนักพัฒนาเกมที่ทรงอิทธิพลที่สุด โดยมีเครดิตในเกมกว่า 67 เรื่อง รวมถึงการร่วมก่อตั้งบริษัท Interplay ซึ่งสร้างเกมระดับตำนานอย่าง Wasteland, Fallout และ Baldur’s Gate นอกจากผลงานด้านการพัฒนาเกมแล้ว Heineman ยังเป็นผู้บุกเบิกด้านการเขียนโปรแกรมและการพอร์ตเกม เช่น Wolfenstein 3D และ Doom ไปยัง Macintosh รวมถึงการทำงานในโครงการที่ท้าทายอย่างการพัฒนาเวอร์ชัน 3DO ของ Doom ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ ซึ่งกลายเป็นเรื่องเล่าขานในวงการเกม เธอเป็นที่เคารพในฐานะ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิ LGBTQ+ โดยออกมาเปิดเผยตัวตนในช่วงปี 2000 และได้รับรางวัล Gayming Icon Award ปี 2025 จากการสนับสนุนความหลากหลายและการเข้าถึงในวงการเทคโนโลยี เธอแต่งงานกับ Jennell Jaquays นักออกแบบเกมชื่อดังที่เสียชีวิตในปี 2024 การจากไปของ Heineman จึงเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของชุมชนเกมและผู้สนับสนุนความหลากหลายทางเพศ แม้เธอจะจากไป แต่ผลงานและการอุทิศตนเพื่อวงการเกมและสิทธิมนุษยชนยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักพัฒนาและผู้เล่นรุ่นใหม่ทั่วโลก 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Rebecca Heineman เสียชีวิตในวัย 62 ปี ➡️ หลังถูกวินิจฉัยมะเร็งชนิดรุนแรง ✅ แชมป์ Space Invaders คนแรกของสหรัฐฯ (1980) ➡️ จุดเริ่มต้นสู่การเป็นนักพัฒนาเกมระดับตำนาน ✅ ร่วมก่อตั้ง Interplay ➡️ บริษัทผู้สร้างเกมดังอย่าง Wasteland, Fallout, Baldur’s Gate ✅ ผลงานด้านการพอร์ตเกม ➡️ เช่น Wolfenstein 3D และ Doom บน Macintosh ✅ ได้รับรางวัล Gayming Icon Award ปี 2025 ➡️ ยกย่องบทบาทด้าน LGBTQ+ และการสนับสนุนความหลากหลาย ‼️ การจากไปกระทบต่อชุมชนเกมและผู้สนับสนุนสิทธิ LGBTQ+ ⛔ สูญเสียบุคคลสำคัญที่เป็นแรงบันดาลใจ ‼️ โรคมะเร็งที่ตรวจพบอย่างกะทันหัน ⛔ ทำให้สุขภาพทรุดเร็วและไม่สามารถรักษาได้ทัน https://www.pcgamer.com/gaming-industry/legendary-game-designer-programmer-space-invaders-champion-and-lgbtq-trailblazer-rebecca-heineman-has-died/
    0 Comments 0 Shares 53 Views 0 Reviews
  • “Cloudflare Global Network Outage – การหยุดชะงักครั้งใหญ่ที่ถูกแก้ไขแล้ว”

    เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 Cloudflare รายงานว่าเครือข่ายทั่วโลกของตนประสบปัญหาการทำงานผิดปกติ ส่งผลให้บริการหลายส่วน เช่น Access, Bot Management, CDN/Cache, Dashboard, Firewall, Network, WARP และ Workers ได้รับผลกระทบ ผู้ใช้งานบางส่วนพบความล่าช้าในการเชื่อมต่อ รวมถึงไม่สามารถเข้าสู่ระบบ Dashboard ได้ตามปกติ

    ทีมวิศวกรของ Cloudflareได้ทำการตรวจสอบและแก้ไขอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงแรกมีการปิดการเข้าถึง WARP ใน London เพื่อควบคุมสถานการณ์ ก่อนจะค่อย ๆ ฟื้นฟูบริการต่าง ๆ ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ การอัปเดตสถานะระบุว่า Bot Scores และการทำงานของระบบยังคงได้รับผลกระทบเป็นระยะ แต่ภายหลังสามารถแก้ไขได้จนกลับสู่ระดับปกติ

    ในช่วงการฟื้นฟู Cloudflare ยืนยันว่าได้ใช้มาตรการหลายอย่างเพื่อเร่งการแก้ไขและลดผลกระทบต่อผู้ใช้งานทั่วโลก โดยมีการปรับปรุงระบบ Access และ WARP ให้กลับมาทำงานได้ รวมถึงการปรับเปลี่ยนการตั้งค่าบางส่วนเพื่อให้ Dashboard และบริการอื่น ๆ ฟื้นตัวเร็วขึ้น

    ล่าสุด Cloudflare ประกาศว่า เหตุขัดข้องได้รับการแก้ไขแล้ว และบริการทั้งหมดกลับมาทำงานตามปกติ พร้อมย้ำว่าจะมีการทำ Post-incident Investigation เพื่อเปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกของสาเหตุและแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำในอนาคต

    สรุปสาระสำคัญ
    เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025
    กระทบหลายบริการของ Cloudflare เช่น Access, WARP, Dashboard, Firewall

    การแก้ไขเบื้องต้น
    ปิดการเข้าถึง WARP ใน London และปรับปรุงระบบ Access

    การฟื้นฟูบริการ
    Dashboard และ Bot Scores ค่อย ๆ กลับสู่ระดับปกติ

    สถานะล่าสุด
    Cloudflare ยืนยันว่าเหตุการณ์ได้รับการแก้ไขแล้ว

    ผลกระทบต่อผู้ใช้งานทั่วโลก
    ผู้ใช้บางรายไม่สามารถเข้าสู่ระบบ Dashboard และพบความล่าช้าในการเชื่อมต่อ

    ความเสี่ยงจากการหยุดชะงักของเครือข่าย
    อาจกระทบธุรกิจที่พึ่งพา Cloudflare ในการรักษาความปลอดภัยและการเชื่อมต่อเว็บไซต์

    https://www.cloudflarestatus.com/incidents/8gmgl950y3h7
    📰 “Cloudflare Global Network Outage – การหยุดชะงักครั้งใหญ่ที่ถูกแก้ไขแล้ว” เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 Cloudflare รายงานว่าเครือข่ายทั่วโลกของตนประสบปัญหาการทำงานผิดปกติ ส่งผลให้บริการหลายส่วน เช่น Access, Bot Management, CDN/Cache, Dashboard, Firewall, Network, WARP และ Workers ได้รับผลกระทบ ผู้ใช้งานบางส่วนพบความล่าช้าในการเชื่อมต่อ รวมถึงไม่สามารถเข้าสู่ระบบ Dashboard ได้ตามปกติ ทีมวิศวกรของ Cloudflareได้ทำการตรวจสอบและแก้ไขอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงแรกมีการปิดการเข้าถึง WARP ใน London เพื่อควบคุมสถานการณ์ ก่อนจะค่อย ๆ ฟื้นฟูบริการต่าง ๆ ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ การอัปเดตสถานะระบุว่า Bot Scores และการทำงานของระบบยังคงได้รับผลกระทบเป็นระยะ แต่ภายหลังสามารถแก้ไขได้จนกลับสู่ระดับปกติ ในช่วงการฟื้นฟู Cloudflare ยืนยันว่าได้ใช้มาตรการหลายอย่างเพื่อเร่งการแก้ไขและลดผลกระทบต่อผู้ใช้งานทั่วโลก โดยมีการปรับปรุงระบบ Access และ WARP ให้กลับมาทำงานได้ รวมถึงการปรับเปลี่ยนการตั้งค่าบางส่วนเพื่อให้ Dashboard และบริการอื่น ๆ ฟื้นตัวเร็วขึ้น ล่าสุด Cloudflare ประกาศว่า เหตุขัดข้องได้รับการแก้ไขแล้ว และบริการทั้งหมดกลับมาทำงานตามปกติ พร้อมย้ำว่าจะมีการทำ Post-incident Investigation เพื่อเปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกของสาเหตุและแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำในอนาคต 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 ➡️ กระทบหลายบริการของ Cloudflare เช่น Access, WARP, Dashboard, Firewall ✅ การแก้ไขเบื้องต้น ➡️ ปิดการเข้าถึง WARP ใน London และปรับปรุงระบบ Access ✅ การฟื้นฟูบริการ ➡️ Dashboard และ Bot Scores ค่อย ๆ กลับสู่ระดับปกติ ✅ สถานะล่าสุด ➡️ Cloudflare ยืนยันว่าเหตุการณ์ได้รับการแก้ไขแล้ว ‼️ ผลกระทบต่อผู้ใช้งานทั่วโลก ⛔ ผู้ใช้บางรายไม่สามารถเข้าสู่ระบบ Dashboard และพบความล่าช้าในการเชื่อมต่อ ‼️ ความเสี่ยงจากการหยุดชะงักของเครือข่าย ⛔ อาจกระทบธุรกิจที่พึ่งพา Cloudflare ในการรักษาความปลอดภัยและการเชื่อมต่อเว็บไซต์ https://www.cloudflarestatus.com/incidents/8gmgl950y3h7
    WWW.CLOUDFLARESTATUS.COM
    Cloudflare Global Network experiencing issues
    Cloudflare's Status Page - Cloudflare Global Network experiencing issues.
    0 Comments 0 Shares 43 Views 0 Reviews
  • Debian Libre Live Images: ทางเลือกใหม่เพื่อเสรีภาพซอฟต์แวร์

    Debian Project ได้ประกาศเปิดตัว Debian Libre Live Images ซึ่งเป็น ISO ที่สามารถรันและติดตั้ง Debian ได้โดยไม่ต้องพึ่งพา non-free blobs หรือ proprietary firmware จุดประสงค์คือเพื่อมอบทางเลือกให้กับผู้ใช้ที่ยึดมั่นในหลักการ Software Freedom โดยไม่ต้องยอมรับข้อตกลงการใช้งานของซอฟต์แวร์ที่ไม่เป็นอิสระ

    ความแตกต่างจาก Debian ปกติ
    ตั้งแต่ปี 2022 Debian เริ่มรวม non-free firmware ไว้ใน ISO หลักเพื่อให้รองรับฮาร์ดแวร์ได้กว้างขึ้น แต่สำหรับผู้ใช้ที่ไม่ต้องการ proprietary firmware ก็ยังมีทางเลือกใหม่คือ Debian Libre Live Images ซึ่ง ไม่มีการติดตั้งกราฟิก UI ล่วงหน้า แต่มี Debian Installer มาให้เพื่อความสะดวกในการติดตั้ง

    การรองรับและข้อจำกัด
    Debian Libre Live Images ปัจจุบันรองรับเฉพาะ Intel/AMD 64-bit (amd64) และยังไม่รองรับสถาปัตยกรรมอื่น จุดเด่นคือผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องข้อจำกัดทางกฎหมายจากการใช้ non-free blobs และสามารถควบคุมการใช้งานฮาร์ดแวร์ได้อย่างเต็มที่

    ความหมายต่อชุมชนโอเพนซอร์ส
    การเปิดตัวนี้ถือเป็นการตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้ที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ Free Software Foundation (FSF) และเป็นการย้ำว่า Debian ยังคงรักษาสมดุลระหว่างการรองรับฮาร์ดแวร์กับการเคารพเสรีภาพของผู้ใช้ เป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะใช้ Debian แบบ “ครบเครื่อง” หรือแบบ “Libre”

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปิดตัว
    Debian Libre Live Images เปิดตัวเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการระบบปลอด non-free software
    ใช้ Debian Installer ติดตั้งได้ง่าย

    ความแตกต่างจาก Debian ปกติ
    ไม่มี proprietary firmware รวมอยู่ใน ISO
    ไม่ติดตั้ง graphical environment ล่วงหน้า

    การรองรับ
    รองรับเฉพาะ Intel/AMD 64-bit (amd64)
    ยังไม่รองรับสถาปัตยกรรมอื่น

    คำเตือน
    อาจไม่รองรับฮาร์ดแวร์บางรุ่นที่ต้องใช้ proprietary firmware
    ผู้ใช้ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งค่าด้วยตนเองมากขึ้น
    ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น อาจมีข้อจำกัดด้าน usability

    https://9to5linux.com/debian-libre-live-images-released-for-software-freedom-lovers
    🖥️ Debian Libre Live Images: ทางเลือกใหม่เพื่อเสรีภาพซอฟต์แวร์ Debian Project ได้ประกาศเปิดตัว Debian Libre Live Images ซึ่งเป็น ISO ที่สามารถรันและติดตั้ง Debian ได้โดยไม่ต้องพึ่งพา non-free blobs หรือ proprietary firmware จุดประสงค์คือเพื่อมอบทางเลือกให้กับผู้ใช้ที่ยึดมั่นในหลักการ Software Freedom โดยไม่ต้องยอมรับข้อตกลงการใช้งานของซอฟต์แวร์ที่ไม่เป็นอิสระ ⚙️ ความแตกต่างจาก Debian ปกติ ตั้งแต่ปี 2022 Debian เริ่มรวม non-free firmware ไว้ใน ISO หลักเพื่อให้รองรับฮาร์ดแวร์ได้กว้างขึ้น แต่สำหรับผู้ใช้ที่ไม่ต้องการ proprietary firmware ก็ยังมีทางเลือกใหม่คือ Debian Libre Live Images ซึ่ง ไม่มีการติดตั้งกราฟิก UI ล่วงหน้า แต่มี Debian Installer มาให้เพื่อความสะดวกในการติดตั้ง 🌐 การรองรับและข้อจำกัด Debian Libre Live Images ปัจจุบันรองรับเฉพาะ Intel/AMD 64-bit (amd64) และยังไม่รองรับสถาปัตยกรรมอื่น จุดเด่นคือผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องข้อจำกัดทางกฎหมายจากการใช้ non-free blobs และสามารถควบคุมการใช้งานฮาร์ดแวร์ได้อย่างเต็มที่ 🔮 ความหมายต่อชุมชนโอเพนซอร์ส การเปิดตัวนี้ถือเป็นการตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้ที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ Free Software Foundation (FSF) และเป็นการย้ำว่า Debian ยังคงรักษาสมดุลระหว่างการรองรับฮาร์ดแวร์กับการเคารพเสรีภาพของผู้ใช้ เป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะใช้ Debian แบบ “ครบเครื่อง” หรือแบบ “Libre” 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปิดตัว ➡️ Debian Libre Live Images เปิดตัวเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการระบบปลอด non-free software ➡️ ใช้ Debian Installer ติดตั้งได้ง่าย ✅ ความแตกต่างจาก Debian ปกติ ➡️ ไม่มี proprietary firmware รวมอยู่ใน ISO ➡️ ไม่ติดตั้ง graphical environment ล่วงหน้า ✅ การรองรับ ➡️ รองรับเฉพาะ Intel/AMD 64-bit (amd64) ➡️ ยังไม่รองรับสถาปัตยกรรมอื่น ‼️ คำเตือน ⛔ อาจไม่รองรับฮาร์ดแวร์บางรุ่นที่ต้องใช้ proprietary firmware ⛔ ผู้ใช้ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งค่าด้วยตนเองมากขึ้น ⛔ ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น อาจมีข้อจำกัดด้าน usability https://9to5linux.com/debian-libre-live-images-released-for-software-freedom-lovers
    9TO5LINUX.COM
    Debian Libre Live Images Released for Software Freedom Lovers - 9to5Linux
    The Debian Libre Live Images project allows you to run and install the Debian GNU/Linux operating system without non-free software.
    0 Comments 0 Shares 59 Views 0 Reviews
  • RustDesk เพิ่มฟีเจอร์ Multi-Scaled Display บน Wayland

    RustDesk ซึ่งเป็นโครงการ remote desktop แบบโอเพนซอร์ส ได้ประกาศอัปเดตสำคัญใน nightly build ล่าสุด โดยเพิ่มการรองรับ multi-scaled display สำหรับผู้ใช้ Linux ที่ใช้ Wayland โดยเฉพาะบน KDE และ GNOME ฟีเจอร์นี้ช่วยแก้ปัญหาที่ผู้ใช้หลายจอที่มีความละเอียดและการปรับสเกลต่างกันมักเจอ เช่น pointer ไม่ตรงตำแหน่งที่คลิกจริง

    ปัญหาที่ถูกแก้ไข
    ก่อนหน้านี้ หากผู้ใช้มีจอ 4K ที่ปรับสเกล 200% และจอ Full HD ที่ปรับสเกล 100% การใช้งาน remote desktop มักจะเกิดปัญหา pointer misalignment ทำให้การทำงานแทบเป็นไปไม่ได้ การอัปเดตครั้งนี้ทำให้ RustDesk กลายเป็น remote desktop ตัวแรกที่รองรับ multi-scaled display บน Wayland ซึ่งคู่แข่งเชิงพาณิชย์อย่าง TeamViewer และ AnyDesk ยังไม่สามารถแก้ไขได้เต็มที่

    ความสำคัญต่อผู้ใช้ Linux
    การแก้ไขนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับผู้ใช้ Linux ที่ทำงานกับหลายจอ เพราะ Wayland เองยังมีความท้าทายในการจัดการ multi-monitor ที่ซับซ้อน RustDesk จึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเสถียรและความปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อมันเป็นโอเพนซอร์สและรองรับหลายแพลตฟอร์มทั้ง Windows, macOS, Android และ iOS

    อนาคตของ RustDesk
    ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ใน nightly build และจะถูกปล่อยในเวอร์ชัน stable หลังจากผ่านการทดสอบแล้ว หาก RustDeskสามารถรักษาความเร็วและความเสถียรได้ ก็อาจกลายเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งของโซลูชันเชิงพาณิชย์ และเป็นตัวเลือกหลักสำหรับองค์กรที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายด้าน remote desktop

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่
    รองรับ multi-scaled display บน Wayland (KDE, GNOME)
    แก้ปัญหา pointer misalignment บนหลายจอ

    ความแตกต่างจากคู่แข่ง
    RustDesk เป็น remote desktop ตัวแรกที่รองรับฟีเจอร์นี้บน Wayland
    TeamViewer และ AnyDesk ยังไม่แก้ไขได้เต็มที่

    ความสำคัญต่อผู้ใช้
    ช่วยให้การทำงานบนหลายจอเสถียรขึ้น
    รองรับ cross-platform และเป็นโอเพนซอร์ส

    คำเตือน
    ฟีเจอร์ยังอยู่ใน nightly build อาจมีบั๊กหรือไม่เสถียร
    ต้องรอการปล่อยใน stable version เพื่อใช้งานจริงในองค์กร
    ผู้ใช้ควรทดสอบก่อนนำไปใช้ในงานสำคัญ

    https://itsfoss.com/news/rustdesk-multi-scaled-display-support/
    🖥️ RustDesk เพิ่มฟีเจอร์ Multi-Scaled Display บน Wayland RustDesk ซึ่งเป็นโครงการ remote desktop แบบโอเพนซอร์ส ได้ประกาศอัปเดตสำคัญใน nightly build ล่าสุด โดยเพิ่มการรองรับ multi-scaled display สำหรับผู้ใช้ Linux ที่ใช้ Wayland โดยเฉพาะบน KDE และ GNOME ฟีเจอร์นี้ช่วยแก้ปัญหาที่ผู้ใช้หลายจอที่มีความละเอียดและการปรับสเกลต่างกันมักเจอ เช่น pointer ไม่ตรงตำแหน่งที่คลิกจริง ⚙️ ปัญหาที่ถูกแก้ไข ก่อนหน้านี้ หากผู้ใช้มีจอ 4K ที่ปรับสเกล 200% และจอ Full HD ที่ปรับสเกล 100% การใช้งาน remote desktop มักจะเกิดปัญหา pointer misalignment ทำให้การทำงานแทบเป็นไปไม่ได้ การอัปเดตครั้งนี้ทำให้ RustDesk กลายเป็น remote desktop ตัวแรกที่รองรับ multi-scaled display บน Wayland ซึ่งคู่แข่งเชิงพาณิชย์อย่าง TeamViewer และ AnyDesk ยังไม่สามารถแก้ไขได้เต็มที่ 🌐 ความสำคัญต่อผู้ใช้ Linux การแก้ไขนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับผู้ใช้ Linux ที่ทำงานกับหลายจอ เพราะ Wayland เองยังมีความท้าทายในการจัดการ multi-monitor ที่ซับซ้อน RustDesk จึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเสถียรและความปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อมันเป็นโอเพนซอร์สและรองรับหลายแพลตฟอร์มทั้ง Windows, macOS, Android และ iOS 🔮 อนาคตของ RustDesk ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ใน nightly build และจะถูกปล่อยในเวอร์ชัน stable หลังจากผ่านการทดสอบแล้ว หาก RustDeskสามารถรักษาความเร็วและความเสถียรได้ ก็อาจกลายเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งของโซลูชันเชิงพาณิชย์ และเป็นตัวเลือกหลักสำหรับองค์กรที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายด้าน remote desktop 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ ➡️ รองรับ multi-scaled display บน Wayland (KDE, GNOME) ➡️ แก้ปัญหา pointer misalignment บนหลายจอ ✅ ความแตกต่างจากคู่แข่ง ➡️ RustDesk เป็น remote desktop ตัวแรกที่รองรับฟีเจอร์นี้บน Wayland ➡️ TeamViewer และ AnyDesk ยังไม่แก้ไขได้เต็มที่ ✅ ความสำคัญต่อผู้ใช้ ➡️ ช่วยให้การทำงานบนหลายจอเสถียรขึ้น ➡️ รองรับ cross-platform และเป็นโอเพนซอร์ส ‼️ คำเตือน ⛔ ฟีเจอร์ยังอยู่ใน nightly build อาจมีบั๊กหรือไม่เสถียร ⛔ ต้องรอการปล่อยใน stable version เพื่อใช้งานจริงในองค์กร ⛔ ผู้ใช้ควรทดสอบก่อนนำไปใช้ในงานสำคัญ https://itsfoss.com/news/rustdesk-multi-scaled-display-support/
    ITSFOSS.COM
    RustDesk Pulls Ahead of TeamViewer, AnyDesk with Wayland Multi-Scaled Display Support
    New nightly build brings support for monitors with different scaling factors.
    0 Comments 0 Shares 47 Views 0 Reviews
  • Microsoft Azure ป้องกันการโจมตี DDoS 15.72 Tbps จากบอทเน็ต Aisuru

    เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2025 Microsoft Azure ต้องเผชิญกับการโจมตี Distributed Denial-of-Service (DDoS) ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์คลาวด์ โดยมีปริมาณทราฟฟิกสูงถึง 15.72 Tbps และ 3.64 พันล้านแพ็กเก็ตต่อวินาที การโจมตีครั้งนี้พุ่งเป้าไปที่เซิร์ฟเวอร์ในออสเตรเลีย แต่ระบบป้องกันของ Azure สามารถตรวจจับและกรองทราฟฟิกได้ทันที ทำให้บริการลูกค้าไม่หยุดชะงัก

    บอทเน็ตที่อยู่เบื้องหลังคือ Aisuru ซึ่งถูกจัดว่าเป็นภัยระดับ “Turbo Mirai-class” โดยบริษัท Netscout เนื่องจากสามารถสร้างการโจมตีขนาดหลายเทราไบต์ต่อวินาทีได้ Aisuru ถูกพบครั้งแรกในปี 2024 และแพร่กระจายไปยัง อุปกรณ์ IoT กว่า 700,000 เครื่อง เช่น เราเตอร์และกล้องวงจรปิด

    นอกจากโจมตี Azure แล้ว Aisuru ยังถูกเชื่อมโยงกับการโจมตี 22.2 Tbps ต่อ Cloudflare ในเดือนกันยายน 2025 และการโจมตี 6.3 Tbps ต่อบล็อก KrebsOnSecurity ของนักข่าว Brian Krebs ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เหตุการณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงและความถี่ที่เพิ่มขึ้นของการโจมตี DDoS ขนาดใหญ่

    สิ่งที่น่ากังวลคือ Aisuru ไม่ได้ทำเงินจากการโจมตีเพียงอย่างเดียว แต่ยังใช้ อุปกรณ์ที่ติดเชื้อเป็น residential proxies ให้เช่าแก่ผู้ใช้รายอื่นเพื่อซ่อนกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย เช่น การเก็บข้อมูลจำนวนมากเพื่อใช้ในโครงการ AI และการทำ content scraping ซึ่งกำลังเป็นปัญหาใหญ่จน Reddit ต้องฟ้องผู้ให้บริการ proxy บางรายในเดือนตุลาคม 2025

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Microsoft Azure หยุดการโจมตี DDoS 15.72 Tbps ได้สำเร็จ
    ระบบป้องกันสามารถกรองทราฟฟิกและรักษาบริการลูกค้าให้ทำงานต่อเนื่อง

    บอทเน็ต Aisuru อยู่เบื้องหลังการโจมตี
    ติดเชื้ออุปกรณ์ IoT กว่า 700,000 เครื่อง เช่น เราเตอร์และกล้องวงจรปิด

    Aisuru เคยโจมตี Cloudflare และ KrebsOnSecurity
    ขนาดใหญ่ถึง 22.2 Tbps และ 6.3 Tbps ตามลำดับ

    บอทเน็ตสร้างรายได้จากการให้เช่า residential proxies
    ใช้ซ่อนกิจกรรมผิดกฎหมาย เช่น การเก็บข้อมูลเพื่อโครงการ AI

    อุปกรณ์ IoT ที่ไม่ปลอดภัยคือช่องทางหลักของการโจมตี
    ผู้ใช้ควรอัปเดตเฟิร์มแวร์และตั้งค่าความปลอดภัยให้รัดกุม

    การโจมตี DDoS ขนาดใหญ่กำลังเพิ่มขึ้นทั้งความถี่และความรุนแรง
    อาจทำให้โครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเสี่ยงต่อการหยุดชะงัก

    https://hackread.com/microsoft-azure-blocks-tbps-ddos-attack-botnet/
    🌐 Microsoft Azure ป้องกันการโจมตี DDoS 15.72 Tbps จากบอทเน็ต Aisuru เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2025 Microsoft Azure ต้องเผชิญกับการโจมตี Distributed Denial-of-Service (DDoS) ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์คลาวด์ โดยมีปริมาณทราฟฟิกสูงถึง 15.72 Tbps และ 3.64 พันล้านแพ็กเก็ตต่อวินาที การโจมตีครั้งนี้พุ่งเป้าไปที่เซิร์ฟเวอร์ในออสเตรเลีย แต่ระบบป้องกันของ Azure สามารถตรวจจับและกรองทราฟฟิกได้ทันที ทำให้บริการลูกค้าไม่หยุดชะงัก บอทเน็ตที่อยู่เบื้องหลังคือ Aisuru ซึ่งถูกจัดว่าเป็นภัยระดับ “Turbo Mirai-class” โดยบริษัท Netscout เนื่องจากสามารถสร้างการโจมตีขนาดหลายเทราไบต์ต่อวินาทีได้ Aisuru ถูกพบครั้งแรกในปี 2024 และแพร่กระจายไปยัง อุปกรณ์ IoT กว่า 700,000 เครื่อง เช่น เราเตอร์และกล้องวงจรปิด นอกจากโจมตี Azure แล้ว Aisuru ยังถูกเชื่อมโยงกับการโจมตี 22.2 Tbps ต่อ Cloudflare ในเดือนกันยายน 2025 และการโจมตี 6.3 Tbps ต่อบล็อก KrebsOnSecurity ของนักข่าว Brian Krebs ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เหตุการณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงและความถี่ที่เพิ่มขึ้นของการโจมตี DDoS ขนาดใหญ่ สิ่งที่น่ากังวลคือ Aisuru ไม่ได้ทำเงินจากการโจมตีเพียงอย่างเดียว แต่ยังใช้ อุปกรณ์ที่ติดเชื้อเป็น residential proxies ให้เช่าแก่ผู้ใช้รายอื่นเพื่อซ่อนกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย เช่น การเก็บข้อมูลจำนวนมากเพื่อใช้ในโครงการ AI และการทำ content scraping ซึ่งกำลังเป็นปัญหาใหญ่จน Reddit ต้องฟ้องผู้ให้บริการ proxy บางรายในเดือนตุลาคม 2025 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Microsoft Azure หยุดการโจมตี DDoS 15.72 Tbps ได้สำเร็จ ➡️ ระบบป้องกันสามารถกรองทราฟฟิกและรักษาบริการลูกค้าให้ทำงานต่อเนื่อง ✅ บอทเน็ต Aisuru อยู่เบื้องหลังการโจมตี ➡️ ติดเชื้ออุปกรณ์ IoT กว่า 700,000 เครื่อง เช่น เราเตอร์และกล้องวงจรปิด ✅ Aisuru เคยโจมตี Cloudflare และ KrebsOnSecurity ➡️ ขนาดใหญ่ถึง 22.2 Tbps และ 6.3 Tbps ตามลำดับ ✅ บอทเน็ตสร้างรายได้จากการให้เช่า residential proxies ➡️ ใช้ซ่อนกิจกรรมผิดกฎหมาย เช่น การเก็บข้อมูลเพื่อโครงการ AI ‼️ อุปกรณ์ IoT ที่ไม่ปลอดภัยคือช่องทางหลักของการโจมตี ⛔ ผู้ใช้ควรอัปเดตเฟิร์มแวร์และตั้งค่าความปลอดภัยให้รัดกุม ‼️ การโจมตี DDoS ขนาดใหญ่กำลังเพิ่มขึ้นทั้งความถี่และความรุนแรง ⛔ อาจทำให้โครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเสี่ยงต่อการหยุดชะงัก https://hackread.com/microsoft-azure-blocks-tbps-ddos-attack-botnet/
    HACKREAD.COM
    Microsoft Azure Blocks 15.72 Tbps Aisuru Botnet DDoS Attack
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 99 Views 0 Reviews
  • โปรโมชัน “Free Internet Forever” ของ Charter Communications

    Charter Communications Inc. ซึ่งเป็นบริษัทเบื้องหลังบริการ Spectrum ได้สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัวโปรโมชันที่ไม่เหมือนใคร ลูกค้าที่สมัคร 4 สายมือถือ ในราคา US$120 ต่อเดือน จะได้รับ อินเทอร์เน็ตบ้านฟรีตลอดชีพ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องย้ายสายจากผู้ให้บริการคู่แข่ง และหากยกเลิกสายมือถือก็จะเสียสิทธิ์อินเทอร์เน็ตฟรีทันที

    โปรโมชันนี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างผู้ให้บริการเคเบิลและผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายแบบดั้งเดิม Charter ใช้เครือข่ายของ Verizon ในการให้บริการมือถือ และพยายามดึงลูกค้ากลับมาหลังจากสูญเสียผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบ้านไปยังบริการ Fiber และ 5G Home Internet ของคู่แข่ง

    นอกจากอินเทอร์เน็ตฟรี Charter ยังเสริมความน่าสนใจด้วยการ รวมบริการสตรีมมิงฟรี และเสนอ บริการมือถือฟรี 1 ปี ให้กับลูกค้าอินเทอร์เน็ตเดิม เพื่อสร้างความคุ้มค่าและรักษาฐานลูกค้า ขณะที่คู่แข่งอย่าง Comcast ก็ใช้กลยุทธ์คล้ายกันในการรวมบริการเพื่อดึงดูดผู้ใช้

    แม้โปรโมชันนี้จะดูน่าสนใจ แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น ความเร็วอินเทอร์เน็ตถูกจำกัด และเหมาะกับลูกค้าที่พร้อมจะเปลี่ยนมาใช้บริการมือถือของ Charter ทั้ง 4 สายในคราวเดียว ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่ไม่ใช่ทุกครัวเรือนจะทำได้ง่าย ๆ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Charter เปิดโปรโมชัน Free Internet Forever
    สมัคร 4 สายมือถือในราคา US$120/เดือน ได้อินเทอร์เน็ตบ้านฟรีตลอดชีพ

    ใช้เครือข่าย Verizon ในการให้บริการมือถือ
    เป็นการผนึกกำลังเพื่อแข่งขันกับผู้ให้บริการ Fiber และ 5G Home Internet

    เสริมด้วยบริการสตรีมมิงและมือถือฟรี 1 ปี
    เพื่อรักษาฐานลูกค้าและเพิ่มความคุ้มค่า

    Comcast ใช้กลยุทธ์คล้ายกัน
    รวมบริการเพื่อดึงดูดลูกค้าในตลาดที่แข่งขันสูง

    อินเทอร์เน็ตฟรีมีข้อจำกัดด้านความเร็ว
    ไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วสูงสุด

    ต้องสมัครครบ 4 สายมือถือจากคู่แข่ง
    อาจไม่สะดวกสำหรับครัวเรือนที่ไม่ต้องการหลายสาย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/18/free-internet-forever-us-company039s-pitch-to-win-mobile-customers
    📡 โปรโมชัน “Free Internet Forever” ของ Charter Communications Charter Communications Inc. ซึ่งเป็นบริษัทเบื้องหลังบริการ Spectrum ได้สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัวโปรโมชันที่ไม่เหมือนใคร ลูกค้าที่สมัคร 4 สายมือถือ ในราคา US$120 ต่อเดือน จะได้รับ อินเทอร์เน็ตบ้านฟรีตลอดชีพ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องย้ายสายจากผู้ให้บริการคู่แข่ง และหากยกเลิกสายมือถือก็จะเสียสิทธิ์อินเทอร์เน็ตฟรีทันที โปรโมชันนี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างผู้ให้บริการเคเบิลและผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายแบบดั้งเดิม Charter ใช้เครือข่ายของ Verizon ในการให้บริการมือถือ และพยายามดึงลูกค้ากลับมาหลังจากสูญเสียผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบ้านไปยังบริการ Fiber และ 5G Home Internet ของคู่แข่ง นอกจากอินเทอร์เน็ตฟรี Charter ยังเสริมความน่าสนใจด้วยการ รวมบริการสตรีมมิงฟรี และเสนอ บริการมือถือฟรี 1 ปี ให้กับลูกค้าอินเทอร์เน็ตเดิม เพื่อสร้างความคุ้มค่าและรักษาฐานลูกค้า ขณะที่คู่แข่งอย่าง Comcast ก็ใช้กลยุทธ์คล้ายกันในการรวมบริการเพื่อดึงดูดผู้ใช้ แม้โปรโมชันนี้จะดูน่าสนใจ แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น ความเร็วอินเทอร์เน็ตถูกจำกัด และเหมาะกับลูกค้าที่พร้อมจะเปลี่ยนมาใช้บริการมือถือของ Charter ทั้ง 4 สายในคราวเดียว ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่ไม่ใช่ทุกครัวเรือนจะทำได้ง่าย ๆ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Charter เปิดโปรโมชัน Free Internet Forever ➡️ สมัคร 4 สายมือถือในราคา US$120/เดือน ได้อินเทอร์เน็ตบ้านฟรีตลอดชีพ ✅ ใช้เครือข่าย Verizon ในการให้บริการมือถือ ➡️ เป็นการผนึกกำลังเพื่อแข่งขันกับผู้ให้บริการ Fiber และ 5G Home Internet ✅ เสริมด้วยบริการสตรีมมิงและมือถือฟรี 1 ปี ➡️ เพื่อรักษาฐานลูกค้าและเพิ่มความคุ้มค่า ✅ Comcast ใช้กลยุทธ์คล้ายกัน ➡️ รวมบริการเพื่อดึงดูดลูกค้าในตลาดที่แข่งขันสูง ‼️ อินเทอร์เน็ตฟรีมีข้อจำกัดด้านความเร็ว ⛔ ไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วสูงสุด ‼️ ต้องสมัครครบ 4 สายมือถือจากคู่แข่ง ⛔ อาจไม่สะดวกสำหรับครัวเรือนที่ไม่ต้องการหลายสาย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/18/free-internet-forever-us-company039s-pitch-to-win-mobile-customers
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Free Internet forever: US company's pitch to win mobile customers
    Charter Communications Inc, the company behind the Spectrum cable service, is making an unusual offer to attract new mobile-phone customers: Sign up for four wireless lines and get free home internet service for life.
    0 Comments 0 Shares 91 Views 0 Reviews
  • ตำนานชิป i386 กับชื่อย่อ “PG” ของ Pat Gelsinger

    Pat Gelsinger เล่าเหตุการณ์ย้อนกลับไปเมื่อเขายังเป็นวิศวกรหนุ่มวัย 25 ปีที่ Intel ในช่วงออกแบบชิป i386 ซึ่งเป็นหนึ่งในชิปที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์ ขณะตรวจสอบแผนผังชิปขนาดใหญ่ Andy Grove CEO ของ Intel สังเกตเห็นตัวอักษร “PG” ที่ถูกสลักไว้บนซิลิคอน และถามขึ้นมาว่า “นี่คืออะไร?”

    แทนที่จะยอมรับตรง ๆ ว่าเป็นชื่อย่อของตัวเอง Gelsinger ตอบด้วยคำอธิบายเชิงเทคนิคที่ฟังดูซับซ้อนเกี่ยวกับ “substrate tap configuration experiments” แม้จะเป็นคำพูดที่เขายอมรับภายหลังว่าเป็น “เรื่องไร้สาระ” แต่ Grove กลับเชื่อและตอบเพียงสั้น ๆ ว่า “โอเค” ทำให้ชื่อย่อของเขายังคงอยู่บนชิป i386 ทุกตัวที่ผลิตออกมา

    ต่อมา Gelsinger ยังได้ใส่ชื่อย่อ “PG” ลงบนชิป i486 ร่วมกับชื่อย่อ “JR” ของ John H. Crawford เพื่อนร่วมทีม ซึ่งสะท้อนถึงวัฒนธรรมการทำงานของทีมออกแบบในยุคนั้นที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และความกล้าในการท้าทายกฎเกณฑ์

    เรื่องราวนี้ไม่เพียงแต่เป็นเกร็ดเล็ก ๆ ที่น่าสนใจในประวัติศาสตร์ของ Intel แต่ยังสะท้อนถึงบุคลิกของ Gelsinger ที่กล้าคิด กล้าทำ และใช้ความเฉลียวฉลาดในการรักษาสัญลักษณ์เล็ก ๆ ของตัวเองไว้บนหนึ่งในชิปที่เปลี่ยนโลกคอมพิวเตอร์ไปตลอดกาล

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Pat Gelsinger ใส่ชื่อย่อ “PG” บนชิป i386
    เกิดขึ้นในช่วงตรวจสอบการออกแบบซิลิคอน

    Andy Grove สังเกตเห็นและถามถึงชื่อย่อ
    Gelsinger ตอบด้วยคำอธิบายเชิงเทคนิคที่ฟังดูสมจริง

    ชื่อย่อ “PG” ถูกสลักบนชิป i386 ทุกตัว
    และยังปรากฏบนชิป i486 ร่วมกับ “JR” ของ John H. Crawford

    สะท้อนวัฒนธรรมการทำงานของทีมออกแบบ Intel ยุคนั้น
    เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และความกล้าในการท้าทายกฎ

    ปกติ Intel ไม่อนุญาตให้ใส่ชื่อย่อบนซิลิคอน
    การกระทำนี้ถือเป็นการฝ่าฝืนธรรมเนียมของบริษัท

    การบลัฟของ Gelsinger อาจเสี่ยงต่อการถูกตำหนิ
    แต่โชคดีที่ Grove ยอมรับคำอธิบายโดยไม่เอาเรื่อง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/gelsingers-i386-initials-gambit-ex-intel-ceo-explains-how-he-bluffed-andy-grove-to-keep-his-mark-on-the-legendary-chips-silicon
    🖥️ ตำนานชิป i386 กับชื่อย่อ “PG” ของ Pat Gelsinger Pat Gelsinger เล่าเหตุการณ์ย้อนกลับไปเมื่อเขายังเป็นวิศวกรหนุ่มวัย 25 ปีที่ Intel ในช่วงออกแบบชิป i386 ซึ่งเป็นหนึ่งในชิปที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์ ขณะตรวจสอบแผนผังชิปขนาดใหญ่ Andy Grove CEO ของ Intel สังเกตเห็นตัวอักษร “PG” ที่ถูกสลักไว้บนซิลิคอน และถามขึ้นมาว่า “นี่คืออะไร?” แทนที่จะยอมรับตรง ๆ ว่าเป็นชื่อย่อของตัวเอง Gelsinger ตอบด้วยคำอธิบายเชิงเทคนิคที่ฟังดูซับซ้อนเกี่ยวกับ “substrate tap configuration experiments” แม้จะเป็นคำพูดที่เขายอมรับภายหลังว่าเป็น “เรื่องไร้สาระ” แต่ Grove กลับเชื่อและตอบเพียงสั้น ๆ ว่า “โอเค” ทำให้ชื่อย่อของเขายังคงอยู่บนชิป i386 ทุกตัวที่ผลิตออกมา ต่อมา Gelsinger ยังได้ใส่ชื่อย่อ “PG” ลงบนชิป i486 ร่วมกับชื่อย่อ “JR” ของ John H. Crawford เพื่อนร่วมทีม ซึ่งสะท้อนถึงวัฒนธรรมการทำงานของทีมออกแบบในยุคนั้นที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และความกล้าในการท้าทายกฎเกณฑ์ เรื่องราวนี้ไม่เพียงแต่เป็นเกร็ดเล็ก ๆ ที่น่าสนใจในประวัติศาสตร์ของ Intel แต่ยังสะท้อนถึงบุคลิกของ Gelsinger ที่กล้าคิด กล้าทำ และใช้ความเฉลียวฉลาดในการรักษาสัญลักษณ์เล็ก ๆ ของตัวเองไว้บนหนึ่งในชิปที่เปลี่ยนโลกคอมพิวเตอร์ไปตลอดกาล 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Pat Gelsinger ใส่ชื่อย่อ “PG” บนชิป i386 ➡️ เกิดขึ้นในช่วงตรวจสอบการออกแบบซิลิคอน ✅ Andy Grove สังเกตเห็นและถามถึงชื่อย่อ ➡️ Gelsinger ตอบด้วยคำอธิบายเชิงเทคนิคที่ฟังดูสมจริง ✅ ชื่อย่อ “PG” ถูกสลักบนชิป i386 ทุกตัว ➡️ และยังปรากฏบนชิป i486 ร่วมกับ “JR” ของ John H. Crawford ✅ สะท้อนวัฒนธรรมการทำงานของทีมออกแบบ Intel ยุคนั้น ➡️ เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และความกล้าในการท้าทายกฎ ‼️ ปกติ Intel ไม่อนุญาตให้ใส่ชื่อย่อบนซิลิคอน ⛔ การกระทำนี้ถือเป็นการฝ่าฝืนธรรมเนียมของบริษัท ‼️ การบลัฟของ Gelsinger อาจเสี่ยงต่อการถูกตำหนิ ⛔ แต่โชคดีที่ Grove ยอมรับคำอธิบายโดยไม่เอาเรื่อง https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/gelsingers-i386-initials-gambit-ex-intel-ceo-explains-how-he-bluffed-andy-grove-to-keep-his-mark-on-the-legendary-chips-silicon
    0 Comments 0 Shares 85 Views 0 Reviews
  • ข่าวใหญ่: Cloudflare ล่มทั่วโลก กระทบหลายบริการออนไลน์

    ในช่วงค่ำวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 มีรายงานว่า Cloudflare ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตระดับโลกประสบปัญหาขัดข้องครั้งใหญ่ ส่งผลให้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันจำนวนมากไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ทั้งแพลตฟอร์มใหญ่ ๆ อย่าง X (Twitter เดิม), Canva, Gemini, Perplexity รวมถึงเว็บไซต์ติดตามสถานะการล่มอย่าง Downdetector ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ทำให้ผู้ใช้งานทั่วโลกต่างพากันรายงานปัญหาในเวลาใกล้เคียงกัน

    Cloudflare ยืนยันว่ากำลังตรวจสอบสาเหตุและเร่งแก้ไข โดยเบื้องต้นพบว่าเกิด HTTP 500 errors และระบบ Dashboard รวมถึง API ของ Cloudflare เองก็ไม่สามารถใช้งานได้ ปัญหานี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ Cloudflare ที่เป็นเสมือน “โครงสร้างพื้นฐานหลัก” ของอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ เพราะเว็บไซต์จำนวนมหาศาลพึ่งพาบริการของบริษัทนี้ในการป้องกัน DDoS, การจัดการทราฟฟิก และการกระจายคอนเทนต์

    ผลกระทบครั้งนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่โซเชียลมีเดีย แต่ยังลามไปถึง บริการธุรกิจออนไลน์และเว็บส่วนตัว ที่ใช้ระบบของ Cloudflare ทำให้ผู้ใช้งานจำนวนมากไม่สามารถเข้าสู่ระบบหรือทำธุรกรรมได้ตามปกติ นักวิเคราะห์บางรายชี้ว่าปัญหานี้อาจเกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาระบบที่ทำให้เกิดความผิดพลาดในโครงสร้างเครือข่าย แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ

    สิ่งที่น่าสนใจคือ เหตุการณ์นี้ตอกย้ำความเสี่ยงของการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานจากผู้ให้บริการรายใหญ่เพียงไม่กี่เจ้า เมื่อเกิดการล่มเพียงครั้งเดียวสามารถสร้างผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปทั่วโลก คล้ายกับเหตุการณ์ AWS ล่มในอดีตที่ทำให้หลายบริการหยุดชะงักไปหลายชั่วโมง
    ====================
    update 22:30

    สาเหตุเบื้องต้นที่ Cloudflare เปิดเผยคือ การพุ่งขึ้นผิดปกติของทราฟฟิก (unusual traffic spike) ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 11:20 UTC ทำให้บางส่วนของเครือข่ายไม่สามารถจัดการทราฟฟิกได้ และส่งผลให้เกิด HTTP 500 errors ในหลายบริการ ขณะนี้ทีมงานกำลังเร่งแก้ไขและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

    สิ่งที่น่าสนใจคือผลกระทบครั้งนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่โซเชียลมีเดีย แต่ยังลามไปถึง ธุรกิจและบริการสาธารณะ เช่น ระบบตรวจสอบบุคคลเข้าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ (PADS) ที่ไม่สามารถใช้งานได้ รวมถึงศูนย์เด็กเล็กที่ต้องกลับไปใช้วิธีบันทึกข้อมูลด้วยมือแทนการใช้แอปพลิเคชันออนไลน์

    นักวิเคราะห์บางรายตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์นี้อาจเกี่ยวข้องกับการโจมตี DDoS ขนาดใหญ่ เนื่องจาก Cloudflare เคยถูกโจมตีด้วยทราฟฟิกมหาศาลมาก่อน แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากบริษัท

    ====================
    สรุปประเด็นสำคัญ
    Cloudflare ยืนยันการล่มทั่วโลก
    ส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์และแอปพลิเคชันจำนวนมาก เช่น X, Canva, Gemini, Perplexity

    เกิด HTTP 500 errors และ Dashboard ใช้งานไม่ได้
    ผู้ดูแลเว็บไซต์ไม่สามารถเข้าถึงระบบเพื่อแก้ไขหรือจัดการบริการได้

    Downdetector และบริการติดตามสถานะก็ล่มไปด้วย
    ผู้ใช้งานไม่สามารถตรวจสอบสถานะการล่มได้ตามปกติ

    ผลกระทบต่อธุรกิจและผู้ใช้งานทั่วโลก
    ทั้งเว็บไซต์ใหญ่และบล็อกส่วนตัวที่ใช้ Cloudflare ต่างหยุดชะงัก

    ความเสี่ยงจากการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานรายใหญ่เพียงเจ้าเดียว
    หากเกิดการล่มจะกระทบเป็นวงกว้างทั่วโลกทันที

    ความไม่แน่นอนของสาเหตุที่แท้จริง
    อาจเกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาระบบ แต่ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัด

    https://www.tomshardware.com/news/live/cloudflare-outage-under-investigation-as-twitter-downdetector-go-down-company-confirms-global-network-issue-clone
    🌐 ข่าวใหญ่: Cloudflare ล่มทั่วโลก กระทบหลายบริการออนไลน์ ในช่วงค่ำวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 มีรายงานว่า Cloudflare ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตระดับโลกประสบปัญหาขัดข้องครั้งใหญ่ ส่งผลให้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันจำนวนมากไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ทั้งแพลตฟอร์มใหญ่ ๆ อย่าง X (Twitter เดิม), Canva, Gemini, Perplexity รวมถึงเว็บไซต์ติดตามสถานะการล่มอย่าง Downdetector ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ทำให้ผู้ใช้งานทั่วโลกต่างพากันรายงานปัญหาในเวลาใกล้เคียงกัน Cloudflare ยืนยันว่ากำลังตรวจสอบสาเหตุและเร่งแก้ไข โดยเบื้องต้นพบว่าเกิด HTTP 500 errors และระบบ Dashboard รวมถึง API ของ Cloudflare เองก็ไม่สามารถใช้งานได้ ปัญหานี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ Cloudflare ที่เป็นเสมือน “โครงสร้างพื้นฐานหลัก” ของอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ เพราะเว็บไซต์จำนวนมหาศาลพึ่งพาบริการของบริษัทนี้ในการป้องกัน DDoS, การจัดการทราฟฟิก และการกระจายคอนเทนต์ ผลกระทบครั้งนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่โซเชียลมีเดีย แต่ยังลามไปถึง บริการธุรกิจออนไลน์และเว็บส่วนตัว ที่ใช้ระบบของ Cloudflare ทำให้ผู้ใช้งานจำนวนมากไม่สามารถเข้าสู่ระบบหรือทำธุรกรรมได้ตามปกติ นักวิเคราะห์บางรายชี้ว่าปัญหานี้อาจเกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาระบบที่ทำให้เกิดความผิดพลาดในโครงสร้างเครือข่าย แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ สิ่งที่น่าสนใจคือ เหตุการณ์นี้ตอกย้ำความเสี่ยงของการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานจากผู้ให้บริการรายใหญ่เพียงไม่กี่เจ้า เมื่อเกิดการล่มเพียงครั้งเดียวสามารถสร้างผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปทั่วโลก คล้ายกับเหตุการณ์ AWS ล่มในอดีตที่ทำให้หลายบริการหยุดชะงักไปหลายชั่วโมง ==================== ‼️‼️‼️‼️ update 22:30 ‼️‼️‼️‼️ สาเหตุเบื้องต้นที่ Cloudflare เปิดเผยคือ การพุ่งขึ้นผิดปกติของทราฟฟิก (unusual traffic spike) ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 11:20 UTC ทำให้บางส่วนของเครือข่ายไม่สามารถจัดการทราฟฟิกได้ และส่งผลให้เกิด HTTP 500 errors ในหลายบริการ ขณะนี้ทีมงานกำลังเร่งแก้ไขและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สิ่งที่น่าสนใจคือผลกระทบครั้งนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่โซเชียลมีเดีย แต่ยังลามไปถึง ธุรกิจและบริการสาธารณะ เช่น ระบบตรวจสอบบุคคลเข้าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ (PADS) ที่ไม่สามารถใช้งานได้ รวมถึงศูนย์เด็กเล็กที่ต้องกลับไปใช้วิธีบันทึกข้อมูลด้วยมือแทนการใช้แอปพลิเคชันออนไลน์ นักวิเคราะห์บางรายตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์นี้อาจเกี่ยวข้องกับการโจมตี DDoS ขนาดใหญ่ เนื่องจาก Cloudflare เคยถูกโจมตีด้วยทราฟฟิกมหาศาลมาก่อน แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากบริษัท ==================== 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Cloudflare ยืนยันการล่มทั่วโลก ➡️ ส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์และแอปพลิเคชันจำนวนมาก เช่น X, Canva, Gemini, Perplexity ✅ เกิด HTTP 500 errors และ Dashboard ใช้งานไม่ได้ ➡️ ผู้ดูแลเว็บไซต์ไม่สามารถเข้าถึงระบบเพื่อแก้ไขหรือจัดการบริการได้ ✅ Downdetector และบริการติดตามสถานะก็ล่มไปด้วย ➡️ ผู้ใช้งานไม่สามารถตรวจสอบสถานะการล่มได้ตามปกติ ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจและผู้ใช้งานทั่วโลก ➡️ ทั้งเว็บไซต์ใหญ่และบล็อกส่วนตัวที่ใช้ Cloudflare ต่างหยุดชะงัก ‼️ ความเสี่ยงจากการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานรายใหญ่เพียงเจ้าเดียว ⛔ หากเกิดการล่มจะกระทบเป็นวงกว้างทั่วโลกทันที ‼️ ความไม่แน่นอนของสาเหตุที่แท้จริง ⛔ อาจเกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาระบบ แต่ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัด https://www.tomshardware.com/news/live/cloudflare-outage-under-investigation-as-twitter-downdetector-go-down-company-confirms-global-network-issue-clone
    0 Comments 0 Shares 265 Views 0 Reviews
  • I Will Walk Away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ตอนที่ 5 – 6

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง”
    ตอน 5
    เป็นไปได้หรือว่า อเมริกาแสนจะชาญฉลาดกำโลกอยู่ในมือจนกระดิกไม่ออกมาตั้ง 70 ปี จะมาเสียทีให้กับอิหร่าน คงมีคนคิดกัน ตกลงอิหร่านต้มอเมริกา หรืออเมริกาต้มอิหร่านกันแน่ ก่อนจะลงความเห็น ลองฟังความเห็นอีกสักชิ้น เอามาจากบทความที่ลงในวารสาร Foreign Affairs วารสารที่ออกเป็นประจำของ CFR เมื่อปี ค.ศ.2012 ก่อนที่อเมริกาคิดจะเจรจากับอิหร่านไม่นาน
    คงมีคนสงสัย ทำไมลุงนิทานอ้างแต่ CFR ก็เขาเป็นผู้กำกับรัฐบาลอเมริกา ผมไม่ตามผู้กำกับ ผมก็ไม่รู้ว่าดาราคนไหน เล่นบทอะไร แล้วเล่นได้สมบทบาทแค่ไหน
    บทความนี้ชื่อ ” Time to Attack Iran” โดย Matthew Kroenig
    นายโคร เขาบอกว่า บรรดานักคิด และผู้วางนโยบายของอเมริกา ต่างโต้เถียงกันว่า อเมริกาควรจะจัดการเรื่องอิหร่านอย่างไรดี
    ความเห็นหนึ่ง บอกว่า เราควรบุกอิหร่าน และทำลายอุปกรณ์ทั้งปวงที่อิหร่านใช้ในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ให้เหี้ยนเลย
    ฝ่ายไม่เห็นด้วยกับการบุก บอกว่า การใช้กำลังทหารกับอิหร่านเป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่า และจะไม่เข้าท่าหนักขึ้น ถ้าเราไปเจออาวุธนิวเคลียร์ของ จริงของอิหร่าน นอกจากนี้ การบุกอิหร่าน โอกาสไม่สำเร็จมีสูง และถึงจะทำสำเร็จ มันอาจจะเป็นการจุดไม้ขีด ให้เรื่องบานปลาย กลายเป็นสงคราม และอาจสร้างวิกฤติทางเศรษฐกืจ ให้กับอเมริกา และอาจลามไปทั้งโลกด้วยก็ได้
    นอกจากนี้ ยังมีฝ่ายที่แนะนำให้อเมริกาใช้วิธีการที่ไม่ใช่ทางทหาร เช่นใช้การเจรจาทางการทูต การคว่ำบาตร หรือการปฏิบัติการณ์ลับ เพราะการใช้กำลังทางทหารเต็มรูปแบบ มีค่าใช้จ่ายและต้นทุนด้านต่างๆสูง จนใจไม่ถึงที่จะควักกระเป๋าให้ (ตอนนั้น)
    ยังมีพวกนักวิเคราะห์ ที่บอกว่า พวกไม่เห็นด้วยกับการบุกอิหร่าน มองไม่เห็นอันตรายที่แท้จริง ที่อาจเกิดขึ้นกับผลประโยชน์ของอเมริกา ที่อยู่ในและนอกตะวันออกกลาง จากการปล่อยให้อิหร่านที่มีนิวเคลียร์ ลอยนวลอยู่ตามสบาย มันเป็นการคุกคามผลประโยชน์ของอเมริกาโดยตรง
    ส่วนนายโครเอง มีชื่อเสียงว่า สนับสนุนการบุกอิหร่าน เขาบอกว่า โดยการใช้กำลังทหาร และใช้อาวุธที่มีประสิทธิภาพสูง ล๊อคเป้าจ่อไปที่โครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน แค่นั้นเรื่องก็จบ อเมริกาและตะวันออกกลาง ก็จะได้อยู่อย่างสงบจากเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่านเสียที
    โลกฝ่ายตะวันตก หรือฝ่ายอเมริกานั่นแหละ พยายามกดดันที่โครงการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่านมานานแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จ ขนาดปล่อยไวรัส Stuxnet เข้าไปในระบบของอิหร่าน ไม่นาน อิหร่านก็แก้ไขฟื้นขึ้นมาใหม่ Institute of Science and International Security บอกว่า นอกจากอิหร่านฟื้นเร็วแล้ว ระยะเวลาการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่ละครั้งยังเร็วขึ้นอีกด้วย น่าจะใช้เวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น และอิหร่านมีแผนที่จะย้ายโครงการผลิตนิวเคลียร์นี้ ไปไว้ในสถานที่ ที่ยากแก่เข้าถึง ทำให้โอกาสที่จะการใช้กำลังทหารแคบลงไปอีก ขณะเดียวกัน หลายประเทศในภูมิภาคเริ่มสงสัยในสมรรถภาพ ของอเมริกาว่า อเมริกาทำอะไรอยู่ ปล่อยอิหร่านผลิตนิวเคลียร์ยังกับผลิตของเล่น
    อเมริกาไม่ได้อยู่เฉย อเมริกาคิด แต่ยังคิดไม่ตก อเมริกาคิดจะใช้ cold war model เหมือนตอนสงครามเย็นปิดล้อมสหภาพโซเวียต แต่สภาพประเทศในตะวันออกกลาง ต่างกับประเทศในยุโรป อย่างหน้ามือกับหลังมือเลย อย่าว่าจะไปปิดล้อมใครเลย แค่พร้อมพอที่จะป้องกันตัวเองยัง ทำไม่ได้ เพราะฉนั้น ถ้าคิดจะปิดล้อมอิหร่าน ต้องใช้งบบาน เพราะโดยสภาพภูมิประเทศ และทำเลที่ตั้งของอิหร่าน อเมริกาต้องส่งทั้ง กองทัพเรือ กองทัพบก รวมทั้งอาจจะต้องจัดส่งนิวเคลียร์ ไปให้ทั้งตะวันออกกลาง คอยจ่อคอหอยอิหร่าน แล้วทั้งหมด ไม่ใช่ไปอยู่วันสองวัน แล้วกลับบ้านนอน แต่ต้องอยู่ถาวรเป็นหลาย 10 ปี ไม่คุ้มค่าน้ำมันที่ไปต้มพวกเสี่ยปั้มมา ไหนจะลาดตระเวน ไหนจะป้องกัน ไหนจะตามเฝ้าอิหร่าน ไหนจะตรวจสอบอิหร่าน ฯลฯ
    พอเห็นแล้วนะครับ ว่า อเมริการู้ว่า อิหร่านกำลังทำอะไร คิดอะไร และอเมริกาน่าจะทำอะไร ปัญหาอยู่ที่ว่า แล้วทำไมอเมริกาถึงเลือกทำ อย่างที่กำลังโดนพวกตัวเองด่า และถ้า วันที่ 7 กรกฎาคมนี้ ยังเจรจากันไม่เสร็จ อเมริกาจะทำอย่างไรต่อไป และผลมันจะเป็นอย่างไร
    ###############
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง”

    ตอน 6 (จบ)
    ก่อนไปถึงอเมริกา ขอย้อนกลับมาที่อิหร่าน ที่เขี้ยวลากดินหน่อย สมันน้อยแดนสยามจะได้เข้าใจว่า การจะออกจากคอกนั้นทำได้ ถ้าใช้สติปัญญา มีความตั้งใจทำจริง มีความอดทน ยอมลำบาก ไม่เห็นแก่ตัว และที่สำคัญต้องสามัคคี พร้อมใจกันทั้งชาติ
    อิหร่านโดนนักล่า ทั้งที่มาจากเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย จนถึงนักล่าใบตองแห้ง ร่วมมือกัน แย่งชิงกัน เพื่อหลอกเอาทรัพยากรมีค่ามหา ศาลของอิหร่าน ด้วยการต้มเปื่อย ยุแยง แทรกแซง ปั่นหัว ฟอกย้อม ชาวอิหร่านทุกระดับ จนอิหร่านเสียทรัพยากร เสียพลเมือง เสียผู้นำประเทศ อย่างน่าเสียดายไปมากมาย ตั้งแต่ปี 1900 ต้นๆ โดนต้มมา 100 กว่าปี ไม่คิดปีนขึ้นมาจากหม้อ ก็.. คงต้องปล่อยไปตามกรรม
    แต่อิหร่าน ฮึดสู้ แม้จะถูกคว่ำบาตรอย่างหนักหนาสา หัส การฮึดสู้ อาจมีความลำบากยากเข็ญ ต่อการดำรงชีวิตประจำวัน และการทำธุกิจ ฯลฯ แต่ เพื่อรักษาประเทศ มีชาวอิหร่านที่คิดทำ และอดทน พวกเขาจะทำสำเร็จหรือไม่ ต้องดูกันต่อไป แต่ถ้าไม่ฮึดสู้ ก็มีแต่ถูกเขาจูงกลับเข้าคอก แล้วปอกลอกเอาสมบัติของประเทศไป….. เหมือนเดิม
    อิหร่านเชื่อว่า ทางออกจากกำมือของตะวันตกมีทางเดียวคือ ต้องพึ่งตัวเองให้ได้ อิหร่านวางยุทธศาสตร์ สร้างชาติใหม่ที่พึ่งตัวเองได้ หนึ่งในกระบวนการสร้างชาติคือ การหาพลังงานใช้ในประเทศด้วยวิธีอื่นด้วย ไม่ใช่จากการขุดน้ำมันมาใช้อย่างเดียว น้ำมันของประเทศเอาไว้ขายเป็นรายได้ อิหร่านจึงคิดพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ คิดได้ 1 ก็ไป ถึง 2 แล้วก็เลยไปถึงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ อิหร่านบอก ไม่ใช่มีไว้เพื่อเป็นการรุกราน แต่ไว้ใช้เป็นการป้องกันตัว และเป็นเครื่องต่อรอง ประเทศที่มองการณ์ไกล ไม่อยากถูกครอบงำชักจูง อยู่ในกำมือผู้อื่นตลอดกาล ก็ย่อมคิดอย่างนี้
    เมื่อแรกๆ ไม่มีใครเชื่อว่า อิหร่านจะพัฒนาได้ แต่จากการเมืองของอิหร่านเอง ทำให้คนใน เอาความมาบอกคนนอก แล้วอเมริกาก็เลยรู้ แต่รู้ช้าไปนิด เมื่ออิหร่านเดินหน้าไปไกลพอสมควร อเมริกาคิดหนัก อย่างที่นายโคร เอามาเขียนนั่นแหละ่
    อเมริกาคิดว่า ยังไม่ใช่เวลาทำสงครามกับอิหร่าน อเมริกาเพิ่งขูดเนื้ออิรัคเสร็จ จะมาขูดเนื้ออิหร่านต่อ เหนื่อยตายชัก ทหารก็ยังไม่ฟื้นตัว ส่วนการปิดล้อม ก็ค่าใช้จ่ายสูงสะบั้น อเมริกาจึงใช้วิธีทางการเมือง แยงให้ตะวันออกกลางวุ่นวาย บวกกับ การคว่ำบาตร น่าจะทำให้อิหร่าน เหนื่อยและสยบ แต่อเมริกา คงลืมคิดไป โลกตอนนี้ กับโลก เมื่อ 50 ปีก่อน ต่างกันแยะ
    และยิ่งต่างกันแยะมากขึ้น ตั้งแต่ปี ค.ศ.2000 เป็นต้นมา โลกไม่ได้มีขั้วเดียว ที่มีอเมริกาและพวก เป็นผู้อำนวยการใหญ่ของโลกเท่านั้น จากการบีบคั้น แสดงอำนาจ เอาเปรียบ และความไม่เป็นธรรมของอเมริกาเอง จึงค่อยๆมีแยกตัว และจับมือ สร้างกลุ่มใหม่กันขึ้น มาถึงวันนี้ ขั้วอำนาจดูเหมือนจะเริ่มแบ่งชัดขึ้น ระหว่างแองโกลอเมริกัน บวกยุโรป และสมุนค่ายหนึ่ง และ มี รัสเซีย จีน กับพวกอยู่อีกค่ายหนึ่ง
    ดอลล่าร์กำลังถูกท้าทาย เหมือนที่เงินปอนด์เคยถูกชิงตำแหน่ง จากผลของสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 โลกก็แบ่งเป็น 2 ค่าย นี่เรากำลังเดินเข้าไปสู่วัฏฏะ เดิมอีกหรือ โดยมีเรื่องของอิหร่าน เป็นตัวแปร หรือเป็นชนวน…
    อิหร่านยอมที่จะเจรจากับอเมริกา เรื่องลดการพัฒนานิวเคลียร์ เพราะเป็นการเจรจาที่อิหร่าน มีแต่ได้ กับเสมอตัว อิหร่านต้องการให้ฝ่ายตะวันตก ปลดการคว่ำบาตรทั้งหมด ที่เกี่ยวกับอิหร่าน ถ้าได้ตามต้องการ อิหร่านจะกลายเป็นเสี่ยใหญ่แห่ง ตะวันออกกลาง เขาว่าเป็นเงินมากมาย ประเมินกันไม่ถูก เพราะอิหร่านอุบเงียบ แถมใช้ตัวแทน ทำหลายซับหลายซ้อน ขณะเดียวกัน ในระหว่างเจรจา อิหร่านก็เดินหน้าโครงการต่อ แถมโยกย้าย แยกแยะ จนยากแก่การติดตาม ถ้าการเจรจาไม่สำเร็จ อิหร่านก็กลับมาอยู่สภาพ เดินหน้าพัฒนาต่ออย่างที่ทำอยู่ ชีวิตก็เหมือนเดิม เคยลำบากมาแล้ว ก็ลำบากต่ออีกนิด แต่เมื่อมีนิวเคลียร์ครบ เสียงของอิหร่านที่จะเจรจา หรือ พูดอะไรต่อไป ก็คงต่างไปบ้าง อเมริกาก็คิดเองแล้วกัน จะเป็นเสียงอย่างไหน อเมริกาก็เคยใช้มาสาระพัดเสียงแล้วนี่
    วันที่ 7 กรกฎาคมนี้ ถ้า ฝ่าย P5+1 ตกลงกับอิหร่านได้ครบถ้วน ตามความต้องการของทั้ง 2 ฝ่าย บทที่แสดงหน้าจอ ก็คงชนิดได้ตุ๊กตาทอง มีการจับมือ เอาบุญเอาคุญ ตามธรรมเนียม และมันคงเป็นแค่ “การซื้อเวลา” เมื่อไหร่ที่อิหร่านพร้อม เราคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในตะวันออกกลางอย่างเห็นชัด เสี่ยปั้มทั้งหลาย ก็เฝ้าปั้มไว้ให้ดีก็แล้วกัน
    สำหรับอเมริกา อเมริกายอมเล่นบทคว่ำบาตร เพราะอเมริกา “ยังไม่พร้อม” เล่นบทอื่น ไม่ใช่อเมริกา ประเมินผิด ไอ้ถังขยะต่างๆ ที่ออกมาทำเสียงเขียว มันเป็นการเล่นละคร กันทั้งนั้น ต่างก็รู้คิวกัน เจรจาให้ยาว ทำเป็นตกลง ให้อิหร่านถลาเข้ามา แล้วก็ตวัดกลับ เพราะอเมริกา ไม่มีทางยกเลิกการคว่ำบาตร อิหร่านอย่างจริงจัง แม้จะทำเป็นตกลง ท้ายที่สุดอิหร่านก็จะได้แต่กินแห้ว อเมริกาแค่ซื้อเวลา รอให้มีความพร้อมทางฝั่งของตนเองมากที่สุด
    อเมริกา โดยไอ้ถังขยะ CFR (อีกแล้ว) ลงทุนติวเข้มให้แก่ อิสราเอล และซาอุดิ 2 มิตรชิดใกล้ของอเมริกาในตะวันออกกลาง เกี่ยวกับเรื่องอิหร่าน ตั้งแต่ปีที่แล้ว ล่าสุด ประชุมติวกัน เมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้เอง ข่าวหลุดมาจาก นาย Anwar Eshski อดีตนายพล และทูตซาอุดิ ประจำอเมริกา อีกฝ่ายคือ นาย Dore Gold อดีตทูตอิสราเอล ประจำสหประชาชาติ มีการประชุมเช่นนี้ มาแล้ว 5 ครั้ง ตั้งแต่ปี ค.ศ.2014 อเมริกา ไม่ได้หลุดคิวเลย
    นอกจากนี้ เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่าน เช่นเดียวกัน อเมริกายังส่งนาย John Brennan ผอ CIA บินตรงไปสรุปข้อมูลลับเกี่ยวกับอิหร่าน ให้กับหน่วยงานข่าวกรองของอิสราเอล Mossad
    แปลว่า อเมริกาน่าจะคิดขยับหมากแล้ว เรื่องการเจรจาก็ปล่อยไป เจรจาสำเร็จ หรือไม่สำเร็จ สำหรับอเมริกา ไม่มีอะไรต่างกัน เพราะอเมริกาน่าจะมีโผอยู่ในใจแล้ว เรื่องนิวเคลียร์อิหร่าน เป็นเหมือนหนังฮอลลีวู้ดสร้าง ซี่รี่ส์ยาว ให้เราดูติดต่อกันมา 2 ปี เท่านั้นเอง
    อเมริกาไม่มีวันจะปล่อยมือที่บีบคออิหร่าน แม้อเมริกาจะนับรัสเซีย เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งตลอดกาล และนับจีนเป็นคู่แข่งหมายเลขหนี่ง ซี่งแข่งมากๆ ก็จะถูกเปลี่ยนสถานะเป็นศัตรูไปด้วย แต่กรณีของรัสเซีย เป็นเรื่องของ “ความอยากได้ ” ทรัพยากรของรัสเซีย บวกกับความแหยงสภาพการฟื้นคืนชีพอย่างรวดเร็วของรัสเซีย อเมริกาไม่มีผลประโยชน์โดยตรง มากมายในภูมิภาคของรัสเซีย มันเป็นเรื่องของยุทธศาสตร์และภูมิศาสตร์การเมืองมากกว่า กรณีของจีน ก็ใกล้เคียงกับกรณีรัสเซีย แต่หนักไปในแง่ที่อเมริกาถือว่า แปซิฟิกและเอเซีย เป็นเหมือนบ้านที่ 2 ของอเมริกา มีแต่เด็กๆ ในความปกครองทั้งนั้น เพราะฉะนั้น แค่คิดว่าจีนจะมาใหญ่กว่า หรือแค่เป็นคู่แข็ง อเมริกาก็ทนไม่ได้อยู่แล้ว
    แต่กรณีอิหร่าน ขณะที่อเมริกาอยากได้ ทรัพยากรของอิหร่าน แต่อิหร่านวันนี้ เป็นอิหร่านที่มีพิษ และอเมริกายังคิดเซรุ่มกันพิษรอบใหม่ของอิหร่านยังไม่ได้ ถ้าอเมริกาขยับผิด ผลประโยชน์มหาศาลของอเมริกา ในตะวันออกกลางจะฉิบหายเกลี้ยงไปด้วย ไม่ใช่แค่ไม่ได้สมบัติของอิหร่านอย่างเดียว เรื่องอิหร่าน เป็นเรื่องกระทบตรงกับผลประโยชน์ของอเมริกา เป็นเรื่องที่อเมริการู้อยู่แก่ใจ กำลังทำใจ และกำลังหาทางขจัดปัญหาแบบเบ็ดเสร็จ เมื่ออเมริกาพร้อม โลกคงสะเทือน
    แต่การขยับหมากของอเมริกา ไล่มาตั้งแต่ ยูเครน ตะวันออกกลาง มาถึงหมากญี่ปุ่น (จะสำเร็จหรือไม่ ไม่รู้ แต่ผมว่า ร่อแร่ แก้รัฐธรรมนูญเพื่อไปแบกถาดให้เขานี่ คนญี่ปุ่นน่าจะคิดออกนะ ว่าถูกเขาหลอกใช้ขนาดไหน) เหมือนความพร้อมของอเมริกา จะใกล้เข้ามาทุกที จะพร้อมลุยอิหร่านประเทศเล็กแต่มีพิษ หรือแค่พร้อมตั้งรับ เพราะรู้ว่า พิษคงจะเริ่มออกฤทธิ์อีกไม่ช้า และแพร่กระจายไปหลายทิศ ในอีกไม่นาน ก็ต้องดูกันต่อไป
    กลับมาที่อิหร่านอีกที ถ้า วันที่ 7 กรกฏาคมนี่ อิหร่านต้องฟังเพลง I will walk away … อิหร่านจะเดินหมากอย่างไรต่อ จะหงิมๆ เก็บของ กลับบ้านไหม อิหร่านก็คงทำอย่างนั้น แต่กลับบ้านไปทำอะไร ผมไม่รู้ด้วย แต่ผมตั้งใจว่า ถ้าต้องฟัง พณฯใบตองแห้งครวญเพลง หลังจากวันที่ 7 กรกฏาคม ผมคง ตั้งสติให้นิ่ง ตามข่าวถี่หน่อย กินให้อร่อย นอนให้อิ่ม เก็บสะสมไว้ยามจำเป็นครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    7 ก.ค. 2558
    I Will Walk Away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ตอนที่ 5 – 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง” ตอน 5 เป็นไปได้หรือว่า อเมริกาแสนจะชาญฉลาดกำโลกอยู่ในมือจนกระดิกไม่ออกมาตั้ง 70 ปี จะมาเสียทีให้กับอิหร่าน คงมีคนคิดกัน ตกลงอิหร่านต้มอเมริกา หรืออเมริกาต้มอิหร่านกันแน่ ก่อนจะลงความเห็น ลองฟังความเห็นอีกสักชิ้น เอามาจากบทความที่ลงในวารสาร Foreign Affairs วารสารที่ออกเป็นประจำของ CFR เมื่อปี ค.ศ.2012 ก่อนที่อเมริกาคิดจะเจรจากับอิหร่านไม่นาน คงมีคนสงสัย ทำไมลุงนิทานอ้างแต่ CFR ก็เขาเป็นผู้กำกับรัฐบาลอเมริกา ผมไม่ตามผู้กำกับ ผมก็ไม่รู้ว่าดาราคนไหน เล่นบทอะไร แล้วเล่นได้สมบทบาทแค่ไหน บทความนี้ชื่อ ” Time to Attack Iran” โดย Matthew Kroenig นายโคร เขาบอกว่า บรรดานักคิด และผู้วางนโยบายของอเมริกา ต่างโต้เถียงกันว่า อเมริกาควรจะจัดการเรื่องอิหร่านอย่างไรดี ความเห็นหนึ่ง บอกว่า เราควรบุกอิหร่าน และทำลายอุปกรณ์ทั้งปวงที่อิหร่านใช้ในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ให้เหี้ยนเลย ฝ่ายไม่เห็นด้วยกับการบุก บอกว่า การใช้กำลังทหารกับอิหร่านเป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่า และจะไม่เข้าท่าหนักขึ้น ถ้าเราไปเจออาวุธนิวเคลียร์ของ จริงของอิหร่าน นอกจากนี้ การบุกอิหร่าน โอกาสไม่สำเร็จมีสูง และถึงจะทำสำเร็จ มันอาจจะเป็นการจุดไม้ขีด ให้เรื่องบานปลาย กลายเป็นสงคราม และอาจสร้างวิกฤติทางเศรษฐกืจ ให้กับอเมริกา และอาจลามไปทั้งโลกด้วยก็ได้ นอกจากนี้ ยังมีฝ่ายที่แนะนำให้อเมริกาใช้วิธีการที่ไม่ใช่ทางทหาร เช่นใช้การเจรจาทางการทูต การคว่ำบาตร หรือการปฏิบัติการณ์ลับ เพราะการใช้กำลังทางทหารเต็มรูปแบบ มีค่าใช้จ่ายและต้นทุนด้านต่างๆสูง จนใจไม่ถึงที่จะควักกระเป๋าให้ (ตอนนั้น) ยังมีพวกนักวิเคราะห์ ที่บอกว่า พวกไม่เห็นด้วยกับการบุกอิหร่าน มองไม่เห็นอันตรายที่แท้จริง ที่อาจเกิดขึ้นกับผลประโยชน์ของอเมริกา ที่อยู่ในและนอกตะวันออกกลาง จากการปล่อยให้อิหร่านที่มีนิวเคลียร์ ลอยนวลอยู่ตามสบาย มันเป็นการคุกคามผลประโยชน์ของอเมริกาโดยตรง ส่วนนายโครเอง มีชื่อเสียงว่า สนับสนุนการบุกอิหร่าน เขาบอกว่า โดยการใช้กำลังทหาร และใช้อาวุธที่มีประสิทธิภาพสูง ล๊อคเป้าจ่อไปที่โครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน แค่นั้นเรื่องก็จบ อเมริกาและตะวันออกกลาง ก็จะได้อยู่อย่างสงบจากเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่านเสียที โลกฝ่ายตะวันตก หรือฝ่ายอเมริกานั่นแหละ พยายามกดดันที่โครงการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่านมานานแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จ ขนาดปล่อยไวรัส Stuxnet เข้าไปในระบบของอิหร่าน ไม่นาน อิหร่านก็แก้ไขฟื้นขึ้นมาใหม่ Institute of Science and International Security บอกว่า นอกจากอิหร่านฟื้นเร็วแล้ว ระยะเวลาการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่ละครั้งยังเร็วขึ้นอีกด้วย น่าจะใช้เวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น และอิหร่านมีแผนที่จะย้ายโครงการผลิตนิวเคลียร์นี้ ไปไว้ในสถานที่ ที่ยากแก่เข้าถึง ทำให้โอกาสที่จะการใช้กำลังทหารแคบลงไปอีก ขณะเดียวกัน หลายประเทศในภูมิภาคเริ่มสงสัยในสมรรถภาพ ของอเมริกาว่า อเมริกาทำอะไรอยู่ ปล่อยอิหร่านผลิตนิวเคลียร์ยังกับผลิตของเล่น อเมริกาไม่ได้อยู่เฉย อเมริกาคิด แต่ยังคิดไม่ตก อเมริกาคิดจะใช้ cold war model เหมือนตอนสงครามเย็นปิดล้อมสหภาพโซเวียต แต่สภาพประเทศในตะวันออกกลาง ต่างกับประเทศในยุโรป อย่างหน้ามือกับหลังมือเลย อย่าว่าจะไปปิดล้อมใครเลย แค่พร้อมพอที่จะป้องกันตัวเองยัง ทำไม่ได้ เพราะฉนั้น ถ้าคิดจะปิดล้อมอิหร่าน ต้องใช้งบบาน เพราะโดยสภาพภูมิประเทศ และทำเลที่ตั้งของอิหร่าน อเมริกาต้องส่งทั้ง กองทัพเรือ กองทัพบก รวมทั้งอาจจะต้องจัดส่งนิวเคลียร์ ไปให้ทั้งตะวันออกกลาง คอยจ่อคอหอยอิหร่าน แล้วทั้งหมด ไม่ใช่ไปอยู่วันสองวัน แล้วกลับบ้านนอน แต่ต้องอยู่ถาวรเป็นหลาย 10 ปี ไม่คุ้มค่าน้ำมันที่ไปต้มพวกเสี่ยปั้มมา ไหนจะลาดตระเวน ไหนจะป้องกัน ไหนจะตามเฝ้าอิหร่าน ไหนจะตรวจสอบอิหร่าน ฯลฯ พอเห็นแล้วนะครับ ว่า อเมริการู้ว่า อิหร่านกำลังทำอะไร คิดอะไร และอเมริกาน่าจะทำอะไร ปัญหาอยู่ที่ว่า แล้วทำไมอเมริกาถึงเลือกทำ อย่างที่กำลังโดนพวกตัวเองด่า และถ้า วันที่ 7 กรกฎาคมนี้ ยังเจรจากันไม่เสร็จ อเมริกาจะทำอย่างไรต่อไป และผลมันจะเป็นอย่างไร ############### นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง” ตอน 6 (จบ) ก่อนไปถึงอเมริกา ขอย้อนกลับมาที่อิหร่าน ที่เขี้ยวลากดินหน่อย สมันน้อยแดนสยามจะได้เข้าใจว่า การจะออกจากคอกนั้นทำได้ ถ้าใช้สติปัญญา มีความตั้งใจทำจริง มีความอดทน ยอมลำบาก ไม่เห็นแก่ตัว และที่สำคัญต้องสามัคคี พร้อมใจกันทั้งชาติ อิหร่านโดนนักล่า ทั้งที่มาจากเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย จนถึงนักล่าใบตองแห้ง ร่วมมือกัน แย่งชิงกัน เพื่อหลอกเอาทรัพยากรมีค่ามหา ศาลของอิหร่าน ด้วยการต้มเปื่อย ยุแยง แทรกแซง ปั่นหัว ฟอกย้อม ชาวอิหร่านทุกระดับ จนอิหร่านเสียทรัพยากร เสียพลเมือง เสียผู้นำประเทศ อย่างน่าเสียดายไปมากมาย ตั้งแต่ปี 1900 ต้นๆ โดนต้มมา 100 กว่าปี ไม่คิดปีนขึ้นมาจากหม้อ ก็.. คงต้องปล่อยไปตามกรรม แต่อิหร่าน ฮึดสู้ แม้จะถูกคว่ำบาตรอย่างหนักหนาสา หัส การฮึดสู้ อาจมีความลำบากยากเข็ญ ต่อการดำรงชีวิตประจำวัน และการทำธุกิจ ฯลฯ แต่ เพื่อรักษาประเทศ มีชาวอิหร่านที่คิดทำ และอดทน พวกเขาจะทำสำเร็จหรือไม่ ต้องดูกันต่อไป แต่ถ้าไม่ฮึดสู้ ก็มีแต่ถูกเขาจูงกลับเข้าคอก แล้วปอกลอกเอาสมบัติของประเทศไป….. เหมือนเดิม อิหร่านเชื่อว่า ทางออกจากกำมือของตะวันตกมีทางเดียวคือ ต้องพึ่งตัวเองให้ได้ อิหร่านวางยุทธศาสตร์ สร้างชาติใหม่ที่พึ่งตัวเองได้ หนึ่งในกระบวนการสร้างชาติคือ การหาพลังงานใช้ในประเทศด้วยวิธีอื่นด้วย ไม่ใช่จากการขุดน้ำมันมาใช้อย่างเดียว น้ำมันของประเทศเอาไว้ขายเป็นรายได้ อิหร่านจึงคิดพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ คิดได้ 1 ก็ไป ถึง 2 แล้วก็เลยไปถึงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ อิหร่านบอก ไม่ใช่มีไว้เพื่อเป็นการรุกราน แต่ไว้ใช้เป็นการป้องกันตัว และเป็นเครื่องต่อรอง ประเทศที่มองการณ์ไกล ไม่อยากถูกครอบงำชักจูง อยู่ในกำมือผู้อื่นตลอดกาล ก็ย่อมคิดอย่างนี้ เมื่อแรกๆ ไม่มีใครเชื่อว่า อิหร่านจะพัฒนาได้ แต่จากการเมืองของอิหร่านเอง ทำให้คนใน เอาความมาบอกคนนอก แล้วอเมริกาก็เลยรู้ แต่รู้ช้าไปนิด เมื่ออิหร่านเดินหน้าไปไกลพอสมควร อเมริกาคิดหนัก อย่างที่นายโคร เอามาเขียนนั่นแหละ่ อเมริกาคิดว่า ยังไม่ใช่เวลาทำสงครามกับอิหร่าน อเมริกาเพิ่งขูดเนื้ออิรัคเสร็จ จะมาขูดเนื้ออิหร่านต่อ เหนื่อยตายชัก ทหารก็ยังไม่ฟื้นตัว ส่วนการปิดล้อม ก็ค่าใช้จ่ายสูงสะบั้น อเมริกาจึงใช้วิธีทางการเมือง แยงให้ตะวันออกกลางวุ่นวาย บวกกับ การคว่ำบาตร น่าจะทำให้อิหร่าน เหนื่อยและสยบ แต่อเมริกา คงลืมคิดไป โลกตอนนี้ กับโลก เมื่อ 50 ปีก่อน ต่างกันแยะ และยิ่งต่างกันแยะมากขึ้น ตั้งแต่ปี ค.ศ.2000 เป็นต้นมา โลกไม่ได้มีขั้วเดียว ที่มีอเมริกาและพวก เป็นผู้อำนวยการใหญ่ของโลกเท่านั้น จากการบีบคั้น แสดงอำนาจ เอาเปรียบ และความไม่เป็นธรรมของอเมริกาเอง จึงค่อยๆมีแยกตัว และจับมือ สร้างกลุ่มใหม่กันขึ้น มาถึงวันนี้ ขั้วอำนาจดูเหมือนจะเริ่มแบ่งชัดขึ้น ระหว่างแองโกลอเมริกัน บวกยุโรป และสมุนค่ายหนึ่ง และ มี รัสเซีย จีน กับพวกอยู่อีกค่ายหนึ่ง ดอลล่าร์กำลังถูกท้าทาย เหมือนที่เงินปอนด์เคยถูกชิงตำแหน่ง จากผลของสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 โลกก็แบ่งเป็น 2 ค่าย นี่เรากำลังเดินเข้าไปสู่วัฏฏะ เดิมอีกหรือ โดยมีเรื่องของอิหร่าน เป็นตัวแปร หรือเป็นชนวน… อิหร่านยอมที่จะเจรจากับอเมริกา เรื่องลดการพัฒนานิวเคลียร์ เพราะเป็นการเจรจาที่อิหร่าน มีแต่ได้ กับเสมอตัว อิหร่านต้องการให้ฝ่ายตะวันตก ปลดการคว่ำบาตรทั้งหมด ที่เกี่ยวกับอิหร่าน ถ้าได้ตามต้องการ อิหร่านจะกลายเป็นเสี่ยใหญ่แห่ง ตะวันออกกลาง เขาว่าเป็นเงินมากมาย ประเมินกันไม่ถูก เพราะอิหร่านอุบเงียบ แถมใช้ตัวแทน ทำหลายซับหลายซ้อน ขณะเดียวกัน ในระหว่างเจรจา อิหร่านก็เดินหน้าโครงการต่อ แถมโยกย้าย แยกแยะ จนยากแก่การติดตาม ถ้าการเจรจาไม่สำเร็จ อิหร่านก็กลับมาอยู่สภาพ เดินหน้าพัฒนาต่ออย่างที่ทำอยู่ ชีวิตก็เหมือนเดิม เคยลำบากมาแล้ว ก็ลำบากต่ออีกนิด แต่เมื่อมีนิวเคลียร์ครบ เสียงของอิหร่านที่จะเจรจา หรือ พูดอะไรต่อไป ก็คงต่างไปบ้าง อเมริกาก็คิดเองแล้วกัน จะเป็นเสียงอย่างไหน อเมริกาก็เคยใช้มาสาระพัดเสียงแล้วนี่ วันที่ 7 กรกฎาคมนี้ ถ้า ฝ่าย P5+1 ตกลงกับอิหร่านได้ครบถ้วน ตามความต้องการของทั้ง 2 ฝ่าย บทที่แสดงหน้าจอ ก็คงชนิดได้ตุ๊กตาทอง มีการจับมือ เอาบุญเอาคุญ ตามธรรมเนียม และมันคงเป็นแค่ “การซื้อเวลา” เมื่อไหร่ที่อิหร่านพร้อม เราคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในตะวันออกกลางอย่างเห็นชัด เสี่ยปั้มทั้งหลาย ก็เฝ้าปั้มไว้ให้ดีก็แล้วกัน สำหรับอเมริกา อเมริกายอมเล่นบทคว่ำบาตร เพราะอเมริกา “ยังไม่พร้อม” เล่นบทอื่น ไม่ใช่อเมริกา ประเมินผิด ไอ้ถังขยะต่างๆ ที่ออกมาทำเสียงเขียว มันเป็นการเล่นละคร กันทั้งนั้น ต่างก็รู้คิวกัน เจรจาให้ยาว ทำเป็นตกลง ให้อิหร่านถลาเข้ามา แล้วก็ตวัดกลับ เพราะอเมริกา ไม่มีทางยกเลิกการคว่ำบาตร อิหร่านอย่างจริงจัง แม้จะทำเป็นตกลง ท้ายที่สุดอิหร่านก็จะได้แต่กินแห้ว อเมริกาแค่ซื้อเวลา รอให้มีความพร้อมทางฝั่งของตนเองมากที่สุด อเมริกา โดยไอ้ถังขยะ CFR (อีกแล้ว) ลงทุนติวเข้มให้แก่ อิสราเอล และซาอุดิ 2 มิตรชิดใกล้ของอเมริกาในตะวันออกกลาง เกี่ยวกับเรื่องอิหร่าน ตั้งแต่ปีที่แล้ว ล่าสุด ประชุมติวกัน เมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้เอง ข่าวหลุดมาจาก นาย Anwar Eshski อดีตนายพล และทูตซาอุดิ ประจำอเมริกา อีกฝ่ายคือ นาย Dore Gold อดีตทูตอิสราเอล ประจำสหประชาชาติ มีการประชุมเช่นนี้ มาแล้ว 5 ครั้ง ตั้งแต่ปี ค.ศ.2014 อเมริกา ไม่ได้หลุดคิวเลย นอกจากนี้ เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่าน เช่นเดียวกัน อเมริกายังส่งนาย John Brennan ผอ CIA บินตรงไปสรุปข้อมูลลับเกี่ยวกับอิหร่าน ให้กับหน่วยงานข่าวกรองของอิสราเอล Mossad แปลว่า อเมริกาน่าจะคิดขยับหมากแล้ว เรื่องการเจรจาก็ปล่อยไป เจรจาสำเร็จ หรือไม่สำเร็จ สำหรับอเมริกา ไม่มีอะไรต่างกัน เพราะอเมริกาน่าจะมีโผอยู่ในใจแล้ว เรื่องนิวเคลียร์อิหร่าน เป็นเหมือนหนังฮอลลีวู้ดสร้าง ซี่รี่ส์ยาว ให้เราดูติดต่อกันมา 2 ปี เท่านั้นเอง อเมริกาไม่มีวันจะปล่อยมือที่บีบคออิหร่าน แม้อเมริกาจะนับรัสเซีย เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งตลอดกาล และนับจีนเป็นคู่แข่งหมายเลขหนี่ง ซี่งแข่งมากๆ ก็จะถูกเปลี่ยนสถานะเป็นศัตรูไปด้วย แต่กรณีของรัสเซีย เป็นเรื่องของ “ความอยากได้ ” ทรัพยากรของรัสเซีย บวกกับความแหยงสภาพการฟื้นคืนชีพอย่างรวดเร็วของรัสเซีย อเมริกาไม่มีผลประโยชน์โดยตรง มากมายในภูมิภาคของรัสเซีย มันเป็นเรื่องของยุทธศาสตร์และภูมิศาสตร์การเมืองมากกว่า กรณีของจีน ก็ใกล้เคียงกับกรณีรัสเซีย แต่หนักไปในแง่ที่อเมริกาถือว่า แปซิฟิกและเอเซีย เป็นเหมือนบ้านที่ 2 ของอเมริกา มีแต่เด็กๆ ในความปกครองทั้งนั้น เพราะฉะนั้น แค่คิดว่าจีนจะมาใหญ่กว่า หรือแค่เป็นคู่แข็ง อเมริกาก็ทนไม่ได้อยู่แล้ว แต่กรณีอิหร่าน ขณะที่อเมริกาอยากได้ ทรัพยากรของอิหร่าน แต่อิหร่านวันนี้ เป็นอิหร่านที่มีพิษ และอเมริกายังคิดเซรุ่มกันพิษรอบใหม่ของอิหร่านยังไม่ได้ ถ้าอเมริกาขยับผิด ผลประโยชน์มหาศาลของอเมริกา ในตะวันออกกลางจะฉิบหายเกลี้ยงไปด้วย ไม่ใช่แค่ไม่ได้สมบัติของอิหร่านอย่างเดียว เรื่องอิหร่าน เป็นเรื่องกระทบตรงกับผลประโยชน์ของอเมริกา เป็นเรื่องที่อเมริการู้อยู่แก่ใจ กำลังทำใจ และกำลังหาทางขจัดปัญหาแบบเบ็ดเสร็จ เมื่ออเมริกาพร้อม โลกคงสะเทือน แต่การขยับหมากของอเมริกา ไล่มาตั้งแต่ ยูเครน ตะวันออกกลาง มาถึงหมากญี่ปุ่น (จะสำเร็จหรือไม่ ไม่รู้ แต่ผมว่า ร่อแร่ แก้รัฐธรรมนูญเพื่อไปแบกถาดให้เขานี่ คนญี่ปุ่นน่าจะคิดออกนะ ว่าถูกเขาหลอกใช้ขนาดไหน) เหมือนความพร้อมของอเมริกา จะใกล้เข้ามาทุกที จะพร้อมลุยอิหร่านประเทศเล็กแต่มีพิษ หรือแค่พร้อมตั้งรับ เพราะรู้ว่า พิษคงจะเริ่มออกฤทธิ์อีกไม่ช้า และแพร่กระจายไปหลายทิศ ในอีกไม่นาน ก็ต้องดูกันต่อไป กลับมาที่อิหร่านอีกที ถ้า วันที่ 7 กรกฏาคมนี่ อิหร่านต้องฟังเพลง I will walk away … อิหร่านจะเดินหมากอย่างไรต่อ จะหงิมๆ เก็บของ กลับบ้านไหม อิหร่านก็คงทำอย่างนั้น แต่กลับบ้านไปทำอะไร ผมไม่รู้ด้วย แต่ผมตั้งใจว่า ถ้าต้องฟัง พณฯใบตองแห้งครวญเพลง หลังจากวันที่ 7 กรกฏาคม ผมคง ตั้งสติให้นิ่ง ตามข่าวถี่หน่อย กินให้อร่อย นอนให้อิ่ม เก็บสะสมไว้ยามจำเป็นครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 7 ก.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 172 Views 0 Reviews
  • I Will Walk Away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ตอนที่ 1 – 2

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ”
    ตอน 1
    เดือนกรกฏา มาถึงแล้ว ถึงไม่เรียกก็มา ไม่อยากให้มา ก็มาถึงอยู่ดี
    สำหรับผู้ที่สนใจติดตามชะตาโลก เดือนนี้ไม่ติดตามไม่ได้เพราะเป็นเดือนที่จะมีการตัดสินใจ สำคัญหลายเรื่อง แต่ละเรื่องจะกระทบเฉพาะถิ่นของที่ผู้ตัดสินใจหรืออาจจะกระเทือนไปไกลค่อนโลกก็เป็นได้
    สำหรับชาวกรีก จะตัดสินใจตัดโซ่ แหกคอก หรือตายซากคาคอก วันที่ 5 กค นี่คงรู้กัน แต่คงยังไม่จบกัน หนังมาเป็นตอน เล่นยาวเป็นซีซั่น ซีซั่นนี้ จะจบแบบไหนต้องลุ้นกันหน่อย อย่าให้หนังขาด หรือเลิกเล่นกันหมดก็แล้วกัน
    ส่วนชาวอิหร่าน วันที่ 7 กค. นี้ การเจรจาที่ยืดเยื้อมาเกือบ 2 ปี ของ Iran Nuclear Deal ที่เลื่อนวันเส้นตายมาจาก 30 มิย. มาเป็น 7 กค. จะเจรจาจบไหม หรือจะเลื่อนเส้นให้ตายช้าต่อไปอีก อิหร่านพร้อมจะยกเลิกการพัฒนานิวเคลียร์ เพื่อแลกกับการยกเลิกการคว่ำบาตรของอเมริกากับพวกหรือไม่ อเมริกาพร้อมจะยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่านแน่จริงหรือไม่
    เรื่องอิหร่านเป็นเรื่องใหญ่ ผลกระทบอาจไปไกล และแรง
    นอกจากเรื่องใหญ่ๆ 2 เรื่อง ยังมีเรื่องนิดเรื่องหน่อย ที่จะทยอยเกิดขึ้น เดือนนี้คงได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นเป็นระลอก เป็นเหตุการณ์ ที่อาจจะมีผลกระทบกับความเป็นไปในโลก เปลี่ยนแปลง จนเราตามกันแทบไม่ทัน หรือตามทันรู้ แต่ไม่เข้าใจเหตุ
    เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเส้นตาย ว่าการเจรจากับอิหร่านเรื่องพัฒนา นิวเคลียร์ ต้องตกลงกันให้เสร็จสิ้น ปรากฏว่า ตกไม่ลง ค้างเติ่ง ต้องเลื่อนเวลา แต่ที่น่าสนใจ นายโอบามา ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ ให้เริ่มและลุ้น การเจรจานี้มาตลอดเวลา ดันทำหน้าเฉย ให้สัมภาษณ์สื่อ แถมส่งเสียงเหมือนขู่….
    ” I will walk away” … ขึ้นต้น ยังกะเพลงรักหักอก ตอนพระเอกกำลังจะทิ้งนางเอก จะแค่หันหลังเดินออกประตูไป หรือจะถึงขนาดมีการตบตีส่งท้าย
    …. ถ้าอิหร่านไม่เจรจาตามกรอบ ที่ตกลง ที่เมืองโลซานน์ เมื่อเดือน เมษายน ถ้าพวกเขาทำไม่ได้ มันจะเป็นปัญหา เพราะผมบอกตั้งแต่เริ่มเจรจาแล้วว่า ผมจะเลิกเจรจา ถ้ามันกลายเป็นข้อตกลงที่ห่วย …
    I have said from the start I will walk away from negotiations if, in fact, it’s a bad deal…”
    ข่าวบอกว่า คำขู่ฟ่อ ของพณฯใบตองแห้ง เป็นการตอบโต้ คำคัดค้านของท่านผู้นำสูงสุดของอิหร่าน Ayatollah Ali Khamenei ที่ไม่เห็นด้วยกับกระบวนการตรวจสอบการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน ที่จะปฏิบัติเสมือนเป็นการรุกล้ำอิหร่าน
    แต่ พณฯใบตองแห้งยืนยัน
    “…จากพฤติกรรมที่ผ่านมาของอิหร่าน ไอ้ที่จะมีแค่คำแถลงของอิหร่าน และมีคนมาเดินไป เดินมา ตรวจสอบแบบนานๆทีมา อย่างนั้น คงไม่ได้ … มันต้องมีกระบวนการที่เข้มงวด เอาจริงเอาจัง มาทำการตรวจสอบอย่างพิสูจน์ได้ และผมคิดว่า นั่นจะเป็นการทดสอบว่า เราตกลงกันได้จริงหรือไม่
    ..Given past behavior on the part of Iran, that simply can’t be a declaration by Iran and a few inspectors wandering around every once in a while … that’s going to have to be serious, rigorous verification mechanism. And that, I think, is going to be the test as to whether we get a deal or not…. ”
    พณฯใบตองแห้งเล่นอิหร่านแรงนะ แล้วแบบนี้ มันคุยกันรู้เรื่องจริงหรือ ผมรู้สึกหวั่นใจแทนจัง
    ฝ่ายอิหร่านบอก เราเดินตามกรอบของโลซานน์นะ ไม่ได้ใช้กรอบอื่นเลย เราว่า อเมริกาต่างหากที่ต้องการเปลี่ยนกรอบ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน Mohammad Javad Zarif บินกลับมาเวียนนา หลังจากบินกลับไปที่เตหะรานเพื่อไปหารือบางประเด็น เขาบอกว่า .. ผมไม่ได้ไปขอรับคำสั่งในการตกลงจากประมุขประเทศ ผมได้รับอนุญาตเต็มใบในการเจรจาอยู่แล้ว ผมกลับมาเวียนนาเพื่อมาเจรจาขั้นสุดท้าย ซึ่งเราน่าจะทำสำเร็จ
    นาย Zarif ไม่ได้กลับมาคนเดียว เขามาพร้อมกับ Ali Akbar Salehi หัวหน้าใหญ่ขององค์การ Atomic Energy ของอิหร่าน Salehi ซึ่งเพิ่งฟื้นตัวจากการผ่าตัด .,,แปลว่าอิหร่านเอาจริงกับการเจรจาใช่ไหม ไม่งั้นไม่หอบเอาคนป่วยมาด้วยหรอก นาย Zarif บอกกับนักข่าว
    ข่าวบอกว่า คณะเจรจาโดยเฉพาะอเมริกา ต้องการให้การเจรจาเสร็จต้นเดือนนี้ เพื่อส่งเรื่องให้ฝ่ายรัฐสภาพิจาร ณา ให้เสร็จภายในเวลา 30 วัน ถ้าส่งช้ากว่านั้น สภาปิดไปแล้ว ฝ่ายรัฐสภาจะมีเวลาพิจารณา เพิ่มขึ้นเป็น 60 วัน แถมมีเวลาในการหว่านล้อมเสียง ฝ่ายที่เห็นต่างกันอีกด้วย... นี่ ก็เหมือนอเมริกาเอาจริงนะ ถูกใจ ก็ให้สภาผ่าน ไม่ถูกใจ สภาก็ไม่ผ่านให้….เล่นไม่ยาก
    ###############
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง”

    ตอน 2
    ในการประชุมที่โลซานน์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ระหว่างอิหร่าน กับ กลุ่มที่เรียกว่า P5+1 (อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน + เยอรมัน) เป็นการกำหนด
    ” กรอบ การดำเนินการ” สำหรับทั้งด้านอเมริกา และอิหร่าน
    การดำเนินการที่สำคัญ ประการหนึ่งคือ กระบวนการยกเลิก sanction การคว่ำบาตรอิหร่าน คว่ำมานานหลายสิบปี จนนึกวิธีหงายไม่ออกว่าจะต้องทำยังไงบ้าง แสดงว่าคนช่วยคว่ำคงแยะ และการคว่ำคงมีสาระพัดวิธี
    คุยกันเรื่องนี้ ตั้งแต่โลซานน์มาถึงเวียนนาว่า จะต้องมีการประกาศ (Declaration) เมื่อตกลงกันได้แล้ว โดยไม่มีการลงนามพันธสัญญา หลังจากนั้น ทุกฝ่ายก็จะให้ UN Security Council (UNSC) เป็นผู้ประทับตรารับรองการประกาศ และก็ออกมติที่จะทำให้การคว่ำบาตร ไม่มีผลใช้บังคับอีกต่อไป ส่วนถ้อยคำของตัวมตินี่ ยังเจรจากันอยู่
    และเป็นเรื่องที่เสียวไสว่า กว่าจะเจรจาจบ คนเจรจาคงหืดขึ้นคอ หรือเจรจาไม่จบ เพราะพระเอกเล่นร้องเพลงลา... ล่วงหน้า
    ทุกฝ่าย ยกเว้นรัฐบาลของพณฯใบตองแห้ง ต้องการให้ส่งเรื่องไปที่ UNSC เร็วที่สุด แตอเมริกายังสงวนท่าที ไม่มีคำตอบให้
    ผู้เจรจาฝ่ายอิหร่านบอกอย่างชัดเจนระหว่างการเจราว่า อิหร่าน จะเริ่มดำเนินการตามข้อตกลงเกี่ยว กับนิวเคลียร์ทันที รื้อถอนเครื่องแยก รื้อถอนเครื่องปฏิกรณ์ ทำลายสต๊อกแร่ยูเรเนียม รื้อมันหมดทุกอย่าง ฯลฯ ทันที และให้ไอ้เอกับอีเอ IAEA มาตรวจสอบทันที ว่าอิหร่านปฏิบัติตามรายการถูกต้องครบถ้วนหรือไม่
    แต่ทั้งหมดข้างต้น ต้องทำควบคู่ไปกับขบวนการยกเลิก การคว่ำบาตร โดยอเมริกาและอียู จะต้องลงมือไปพร้อมกันว่า ได้จัดการหงายบาตรของใคร ที่ไหน อย่างไรแล้ว และ ต้องให้ UNSC ประทับตรารับรองการกระทำด้วย มันถึงจะเป็นธรรม จะให้ด้านหนึ่งทุบทิ้ง แต่อีกด้านยืนอมยิ้มกอดอกเฉยได้ไง
    ที่บรรยายมาทั้งหมดเข้างต้น เป็นเรื่องที่ได้ “ตกลงกันไปแล้ว” ที่โลซานน์ ระหว่างนาย Zarif รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านกับคุณสาวน้อย Federica Mogherini ผู้แทนของอียู….
    แต่แล้วก็ข่าวรั่วเกี่ยวกับเรื่องกรอบ สวย ไม่สวยขนาดไหน ใครต้องการให้ชัดเจนอย่างไร อย่างที่เล่าข้างต้น สื่อเข้ามาช่วยปั่น แถมเพิ่มสีให้น่าตื่นเต้น อันที่จริงไม่ต้องเพิ่มก็น่าตื่นเต้นอยู่แล้ว ถ้าคิดให้ลึกๆ ยิ่งคิด โต๊ะเจรจาก็ยิ่งสั่น โดยเฉพาะมีความเห็นแย้งจากมุมมอง ด้านกองทัพ possible military dimensions (PMD) ที่สะท้อนกลับ …. แล้วนี่จะพิสูจน์อย่างไร หากตกลงกันเรียบร้อยว่า ให้อิหร่านพัฒนาอะไรได้บ้าง สิ่งที่อิหร่าน “จะไปพัฒนาต่อ” มันจะกลายเป็นอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่ เขาว่าไม่ต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ใหญ่ ก็พอนึกออกว่า มันเป็นเรื่องที่พิสูจน์ยาก กว่าจะพิสูจน์ได้ โน่นแนะ ดอกเห็ดงอกขึ้นมาแล้ว ทำนองนั้น…. เฮ้ย… แบบนี้ก็ต้องรีบขยายเวลาเจรจาสินะ ให้จบแบบนี้ไม่ได้…
    อ้อพอเข้าใจแล้ว
    แต่ข่าวได้ฟุ้งกระจายเรียบร้อย ไปทั่วสถานที่เจรจา Palais Coburg เวียนนา ว่า ขณะนี้ พณฯใบตองแห้ง ชักลังเลที่จะยกเลิกการคว่ำบาตร…..สงสัยสถานการณ์เปลี่ยน แผนเจรจาเลยอาจต้องเปลี่ยน ตอนนี้คนที่หน้าเครียด เดินเข้าไปจับเข่าคุยทีละข้าง กับเจ้าของเข่าที่ละคน คือ นายKerry รัฐมนตรีต่างประเทศ ที่ไร้เสน่ห์ในการเจรจาอย่างที่สุดนั่นเอง แล้วมันจะคุยสำเร็จละหรือ
    อย่าลืมว่า ใน P5+1 มีรัสเซียกับจีน ที่รู้ๆ กันอยู่ว่า จับมือจับไม้เห็นใจอิหร่านมานานแล้ว และนอกจากจับมือแล้ว ดูเหมือนจะส่งหีบห่อไปช่วยเหลืออิหร่านสาระพัด แถมเมื่อเร็วๆนี้ ยังมีข่าวว่า จะรับอิหร่านเป็นสมาชิกก่อต้ัง ไอ้อิบ AIIB สถาบันการเงินที่กำลังหอมกรุ่น
    ยังไม่ถึงวันเส้นตาย ก็ต้องดื้นกันตายไปก่อน แล้วพณฯ ใบตองแห้ง ก็รีบหยิบบท ….I will walk away ออกมาครวญไปพลางๆ ระหว่างนี้ คุณไร้เสน่ห์ Kerry ก็สั่งเด็กๆ ให้ช่วยกันหาเหตุ ช่วยกันโหมหน่อย…. อิหร่านต่างหาก ที่ ทำท่าจะเบี้ยว เข้า
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    5 ก.ค. 2558
    I Will Walk Away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ตอนที่ 1 – 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ” ตอน 1 เดือนกรกฏา มาถึงแล้ว ถึงไม่เรียกก็มา ไม่อยากให้มา ก็มาถึงอยู่ดี สำหรับผู้ที่สนใจติดตามชะตาโลก เดือนนี้ไม่ติดตามไม่ได้เพราะเป็นเดือนที่จะมีการตัดสินใจ สำคัญหลายเรื่อง แต่ละเรื่องจะกระทบเฉพาะถิ่นของที่ผู้ตัดสินใจหรืออาจจะกระเทือนไปไกลค่อนโลกก็เป็นได้ สำหรับชาวกรีก จะตัดสินใจตัดโซ่ แหกคอก หรือตายซากคาคอก วันที่ 5 กค นี่คงรู้กัน แต่คงยังไม่จบกัน หนังมาเป็นตอน เล่นยาวเป็นซีซั่น ซีซั่นนี้ จะจบแบบไหนต้องลุ้นกันหน่อย อย่าให้หนังขาด หรือเลิกเล่นกันหมดก็แล้วกัน ส่วนชาวอิหร่าน วันที่ 7 กค. นี้ การเจรจาที่ยืดเยื้อมาเกือบ 2 ปี ของ Iran Nuclear Deal ที่เลื่อนวันเส้นตายมาจาก 30 มิย. มาเป็น 7 กค. จะเจรจาจบไหม หรือจะเลื่อนเส้นให้ตายช้าต่อไปอีก อิหร่านพร้อมจะยกเลิกการพัฒนานิวเคลียร์ เพื่อแลกกับการยกเลิกการคว่ำบาตรของอเมริกากับพวกหรือไม่ อเมริกาพร้อมจะยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่านแน่จริงหรือไม่ เรื่องอิหร่านเป็นเรื่องใหญ่ ผลกระทบอาจไปไกล และแรง นอกจากเรื่องใหญ่ๆ 2 เรื่อง ยังมีเรื่องนิดเรื่องหน่อย ที่จะทยอยเกิดขึ้น เดือนนี้คงได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นเป็นระลอก เป็นเหตุการณ์ ที่อาจจะมีผลกระทบกับความเป็นไปในโลก เปลี่ยนแปลง จนเราตามกันแทบไม่ทัน หรือตามทันรู้ แต่ไม่เข้าใจเหตุ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเส้นตาย ว่าการเจรจากับอิหร่านเรื่องพัฒนา นิวเคลียร์ ต้องตกลงกันให้เสร็จสิ้น ปรากฏว่า ตกไม่ลง ค้างเติ่ง ต้องเลื่อนเวลา แต่ที่น่าสนใจ นายโอบามา ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ ให้เริ่มและลุ้น การเจรจานี้มาตลอดเวลา ดันทำหน้าเฉย ให้สัมภาษณ์สื่อ แถมส่งเสียงเหมือนขู่…. ” I will walk away” … ขึ้นต้น ยังกะเพลงรักหักอก ตอนพระเอกกำลังจะทิ้งนางเอก จะแค่หันหลังเดินออกประตูไป หรือจะถึงขนาดมีการตบตีส่งท้าย …. ถ้าอิหร่านไม่เจรจาตามกรอบ ที่ตกลง ที่เมืองโลซานน์ เมื่อเดือน เมษายน ถ้าพวกเขาทำไม่ได้ มันจะเป็นปัญหา เพราะผมบอกตั้งแต่เริ่มเจรจาแล้วว่า ผมจะเลิกเจรจา ถ้ามันกลายเป็นข้อตกลงที่ห่วย … I have said from the start I will walk away from negotiations if, in fact, it’s a bad deal…” ข่าวบอกว่า คำขู่ฟ่อ ของพณฯใบตองแห้ง เป็นการตอบโต้ คำคัดค้านของท่านผู้นำสูงสุดของอิหร่าน Ayatollah Ali Khamenei ที่ไม่เห็นด้วยกับกระบวนการตรวจสอบการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน ที่จะปฏิบัติเสมือนเป็นการรุกล้ำอิหร่าน แต่ พณฯใบตองแห้งยืนยัน “…จากพฤติกรรมที่ผ่านมาของอิหร่าน ไอ้ที่จะมีแค่คำแถลงของอิหร่าน และมีคนมาเดินไป เดินมา ตรวจสอบแบบนานๆทีมา อย่างนั้น คงไม่ได้ … มันต้องมีกระบวนการที่เข้มงวด เอาจริงเอาจัง มาทำการตรวจสอบอย่างพิสูจน์ได้ และผมคิดว่า นั่นจะเป็นการทดสอบว่า เราตกลงกันได้จริงหรือไม่ ..Given past behavior on the part of Iran, that simply can’t be a declaration by Iran and a few inspectors wandering around every once in a while … that’s going to have to be serious, rigorous verification mechanism. And that, I think, is going to be the test as to whether we get a deal or not…. ” พณฯใบตองแห้งเล่นอิหร่านแรงนะ แล้วแบบนี้ มันคุยกันรู้เรื่องจริงหรือ ผมรู้สึกหวั่นใจแทนจัง ฝ่ายอิหร่านบอก เราเดินตามกรอบของโลซานน์นะ ไม่ได้ใช้กรอบอื่นเลย เราว่า อเมริกาต่างหากที่ต้องการเปลี่ยนกรอบ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน Mohammad Javad Zarif บินกลับมาเวียนนา หลังจากบินกลับไปที่เตหะรานเพื่อไปหารือบางประเด็น เขาบอกว่า .. ผมไม่ได้ไปขอรับคำสั่งในการตกลงจากประมุขประเทศ ผมได้รับอนุญาตเต็มใบในการเจรจาอยู่แล้ว ผมกลับมาเวียนนาเพื่อมาเจรจาขั้นสุดท้าย ซึ่งเราน่าจะทำสำเร็จ นาย Zarif ไม่ได้กลับมาคนเดียว เขามาพร้อมกับ Ali Akbar Salehi หัวหน้าใหญ่ขององค์การ Atomic Energy ของอิหร่าน Salehi ซึ่งเพิ่งฟื้นตัวจากการผ่าตัด .,,แปลว่าอิหร่านเอาจริงกับการเจรจาใช่ไหม ไม่งั้นไม่หอบเอาคนป่วยมาด้วยหรอก นาย Zarif บอกกับนักข่าว ข่าวบอกว่า คณะเจรจาโดยเฉพาะอเมริกา ต้องการให้การเจรจาเสร็จต้นเดือนนี้ เพื่อส่งเรื่องให้ฝ่ายรัฐสภาพิจาร ณา ให้เสร็จภายในเวลา 30 วัน ถ้าส่งช้ากว่านั้น สภาปิดไปแล้ว ฝ่ายรัฐสภาจะมีเวลาพิจารณา เพิ่มขึ้นเป็น 60 วัน แถมมีเวลาในการหว่านล้อมเสียง ฝ่ายที่เห็นต่างกันอีกด้วย... นี่ ก็เหมือนอเมริกาเอาจริงนะ ถูกใจ ก็ให้สภาผ่าน ไม่ถูกใจ สภาก็ไม่ผ่านให้….เล่นไม่ยาก ############### นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง” ตอน 2 ในการประชุมที่โลซานน์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ระหว่างอิหร่าน กับ กลุ่มที่เรียกว่า P5+1 (อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน + เยอรมัน) เป็นการกำหนด ” กรอบ การดำเนินการ” สำหรับทั้งด้านอเมริกา และอิหร่าน การดำเนินการที่สำคัญ ประการหนึ่งคือ กระบวนการยกเลิก sanction การคว่ำบาตรอิหร่าน คว่ำมานานหลายสิบปี จนนึกวิธีหงายไม่ออกว่าจะต้องทำยังไงบ้าง แสดงว่าคนช่วยคว่ำคงแยะ และการคว่ำคงมีสาระพัดวิธี คุยกันเรื่องนี้ ตั้งแต่โลซานน์มาถึงเวียนนาว่า จะต้องมีการประกาศ (Declaration) เมื่อตกลงกันได้แล้ว โดยไม่มีการลงนามพันธสัญญา หลังจากนั้น ทุกฝ่ายก็จะให้ UN Security Council (UNSC) เป็นผู้ประทับตรารับรองการประกาศ และก็ออกมติที่จะทำให้การคว่ำบาตร ไม่มีผลใช้บังคับอีกต่อไป ส่วนถ้อยคำของตัวมตินี่ ยังเจรจากันอยู่ และเป็นเรื่องที่เสียวไสว่า กว่าจะเจรจาจบ คนเจรจาคงหืดขึ้นคอ หรือเจรจาไม่จบ เพราะพระเอกเล่นร้องเพลงลา... ล่วงหน้า ทุกฝ่าย ยกเว้นรัฐบาลของพณฯใบตองแห้ง ต้องการให้ส่งเรื่องไปที่ UNSC เร็วที่สุด แตอเมริกายังสงวนท่าที ไม่มีคำตอบให้ ผู้เจรจาฝ่ายอิหร่านบอกอย่างชัดเจนระหว่างการเจราว่า อิหร่าน จะเริ่มดำเนินการตามข้อตกลงเกี่ยว กับนิวเคลียร์ทันที รื้อถอนเครื่องแยก รื้อถอนเครื่องปฏิกรณ์ ทำลายสต๊อกแร่ยูเรเนียม รื้อมันหมดทุกอย่าง ฯลฯ ทันที และให้ไอ้เอกับอีเอ IAEA มาตรวจสอบทันที ว่าอิหร่านปฏิบัติตามรายการถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ แต่ทั้งหมดข้างต้น ต้องทำควบคู่ไปกับขบวนการยกเลิก การคว่ำบาตร โดยอเมริกาและอียู จะต้องลงมือไปพร้อมกันว่า ได้จัดการหงายบาตรของใคร ที่ไหน อย่างไรแล้ว และ ต้องให้ UNSC ประทับตรารับรองการกระทำด้วย มันถึงจะเป็นธรรม จะให้ด้านหนึ่งทุบทิ้ง แต่อีกด้านยืนอมยิ้มกอดอกเฉยได้ไง ที่บรรยายมาทั้งหมดเข้างต้น เป็นเรื่องที่ได้ “ตกลงกันไปแล้ว” ที่โลซานน์ ระหว่างนาย Zarif รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านกับคุณสาวน้อย Federica Mogherini ผู้แทนของอียู…. แต่แล้วก็ข่าวรั่วเกี่ยวกับเรื่องกรอบ สวย ไม่สวยขนาดไหน ใครต้องการให้ชัดเจนอย่างไร อย่างที่เล่าข้างต้น สื่อเข้ามาช่วยปั่น แถมเพิ่มสีให้น่าตื่นเต้น อันที่จริงไม่ต้องเพิ่มก็น่าตื่นเต้นอยู่แล้ว ถ้าคิดให้ลึกๆ ยิ่งคิด โต๊ะเจรจาก็ยิ่งสั่น โดยเฉพาะมีความเห็นแย้งจากมุมมอง ด้านกองทัพ possible military dimensions (PMD) ที่สะท้อนกลับ …. แล้วนี่จะพิสูจน์อย่างไร หากตกลงกันเรียบร้อยว่า ให้อิหร่านพัฒนาอะไรได้บ้าง สิ่งที่อิหร่าน “จะไปพัฒนาต่อ” มันจะกลายเป็นอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่ เขาว่าไม่ต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ใหญ่ ก็พอนึกออกว่า มันเป็นเรื่องที่พิสูจน์ยาก กว่าจะพิสูจน์ได้ โน่นแนะ ดอกเห็ดงอกขึ้นมาแล้ว ทำนองนั้น…. เฮ้ย… แบบนี้ก็ต้องรีบขยายเวลาเจรจาสินะ ให้จบแบบนี้ไม่ได้… อ้อพอเข้าใจแล้ว แต่ข่าวได้ฟุ้งกระจายเรียบร้อย ไปทั่วสถานที่เจรจา Palais Coburg เวียนนา ว่า ขณะนี้ พณฯใบตองแห้ง ชักลังเลที่จะยกเลิกการคว่ำบาตร…..สงสัยสถานการณ์เปลี่ยน แผนเจรจาเลยอาจต้องเปลี่ยน ตอนนี้คนที่หน้าเครียด เดินเข้าไปจับเข่าคุยทีละข้าง กับเจ้าของเข่าที่ละคน คือ นายKerry รัฐมนตรีต่างประเทศ ที่ไร้เสน่ห์ในการเจรจาอย่างที่สุดนั่นเอง แล้วมันจะคุยสำเร็จละหรือ อย่าลืมว่า ใน P5+1 มีรัสเซียกับจีน ที่รู้ๆ กันอยู่ว่า จับมือจับไม้เห็นใจอิหร่านมานานแล้ว และนอกจากจับมือแล้ว ดูเหมือนจะส่งหีบห่อไปช่วยเหลืออิหร่านสาระพัด แถมเมื่อเร็วๆนี้ ยังมีข่าวว่า จะรับอิหร่านเป็นสมาชิกก่อต้ัง ไอ้อิบ AIIB สถาบันการเงินที่กำลังหอมกรุ่น ยังไม่ถึงวันเส้นตาย ก็ต้องดื้นกันตายไปก่อน แล้วพณฯ ใบตองแห้ง ก็รีบหยิบบท ….I will walk away ออกมาครวญไปพลางๆ ระหว่างนี้ คุณไร้เสน่ห์ Kerry ก็สั่งเด็กๆ ให้ช่วยกันหาเหตุ ช่วยกันโหมหน่อย…. อิหร่านต่างหาก ที่ ทำท่าจะเบี้ยว เข้า สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 5 ก.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 140 Views 0 Reviews
  • เห็นโจ๊กกับสันธนะ
    ในเรื่องใหญ่รายวัน
    พวกกันหัวเราะกันรักกัน
    ภาพทนายเด-รัฐฉาน กับทนายตั้ม ลอยมาเลย
    #7ดอกจิก
    เห็นโจ๊กกับสันธนะ ในเรื่องใหญ่รายวัน พวกกันหัวเราะกันรักกัน ภาพทนายเด-รัฐฉาน กับทนายตั้ม ลอยมาเลย #7ดอกจิก
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 52 Views 0 Reviews
  • พระนางตรา หลวงพ่อชู วัดมุมป้อม จ.นครศรีธรรมราช ปี2500
    พระนางตรา หลวงพ่อชู วัดมุมป้อม จ.นครศรีธรรมราช ปี2500 // พระดีพิธีใหญ่ มีประสบการณ์สูงมาก โดยเฉพาะด้านแคล้วคลาดคงกระพันสูงมากเป็นที่เลื่องลือ พ่อท่านคล้าย อ.ชุม ไชยคีรี และเกจิสายเขาอ้อหลายรูปร่วมปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ // รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ เมตตามหานิยมและแคล้วคลาด คงกระพันเป็นเลิศ ปกปักรักษา ป้องกันภยันตรายทั้งปวง โดยเฉพาะในด้านค้าขาย แคล้วคลาด คงกระพันเป็นเลิศ ด้านมหาอำนาจ มหาอุตม์ โชคลาภเงินทอง วาสนา หนุนดวง **

    ** พ่อท่านชู ท่านได้สร้างพระนางตรา และพระท่าเรือเอาไว้ในช่วงปี พ.ศ.2500 ในวาระงานทอดกฐินสร้างไว้สำหรับแจกคนมาทำบุญ. พ่อท่านคล้ายมาเป็นประธานในพิธี, มีหลวงพ่อบุญรอด วัดประดู่และเกจิสายเขาอ้อหลายรูปมาร่วมพุทธาภิเษกด้วย โดยหลวงพ่อชูเป็นผู้หามวลสารและผงวิเศษจากทั่วประเทศทั้งหมด มวลสารพระกรุเก่านางตราท่าเรือ ผงเก่าศักดิ์สิทธิ์ทั่วภาคใต้มาใช้ในการจัดสร้างพระชุดนี้ นอกจากนั้นพ่อท่านคล้ายได้ปลุกเสกน้ำมันไว้ให้จำนวน ๕ ตุ่มอีก เพื่อใช้เป็นส่วนผสมในการจัดสร้างชุดนี้อีกด้วย หลังจากจัดสร้างเสร็จแล้ว ได้ทำการพุทธาภิเษกในพระอุโบสถวัดมุมป้อม ๓ วัน ๓ คืน **

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระนางตรา หลวงพ่อชู วัดมุมป้อม จ.นครศรีธรรมราช ปี2500 พระนางตรา หลวงพ่อชู วัดมุมป้อม จ.นครศรีธรรมราช ปี2500 // พระดีพิธีใหญ่ มีประสบการณ์สูงมาก โดยเฉพาะด้านแคล้วคลาดคงกระพันสูงมากเป็นที่เลื่องลือ พ่อท่านคล้าย อ.ชุม ไชยคีรี และเกจิสายเขาอ้อหลายรูปร่วมปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ // รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ เมตตามหานิยมและแคล้วคลาด คงกระพันเป็นเลิศ ปกปักรักษา ป้องกันภยันตรายทั้งปวง โดยเฉพาะในด้านค้าขาย แคล้วคลาด คงกระพันเป็นเลิศ ด้านมหาอำนาจ มหาอุตม์ โชคลาภเงินทอง วาสนา หนุนดวง ** ** พ่อท่านชู ท่านได้สร้างพระนางตรา และพระท่าเรือเอาไว้ในช่วงปี พ.ศ.2500 ในวาระงานทอดกฐินสร้างไว้สำหรับแจกคนมาทำบุญ. พ่อท่านคล้ายมาเป็นประธานในพิธี, มีหลวงพ่อบุญรอด วัดประดู่และเกจิสายเขาอ้อหลายรูปมาร่วมพุทธาภิเษกด้วย โดยหลวงพ่อชูเป็นผู้หามวลสารและผงวิเศษจากทั่วประเทศทั้งหมด มวลสารพระกรุเก่านางตราท่าเรือ ผงเก่าศักดิ์สิทธิ์ทั่วภาคใต้มาใช้ในการจัดสร้างพระชุดนี้ นอกจากนั้นพ่อท่านคล้ายได้ปลุกเสกน้ำมันไว้ให้จำนวน ๕ ตุ่มอีก เพื่อใช้เป็นส่วนผสมในการจัดสร้างชุดนี้อีกด้วย หลังจากจัดสร้างเสร็จแล้ว ได้ทำการพุทธาภิเษกในพระอุโบสถวัดมุมป้อม ๓ วัน ๓ คืน ** ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 65 Views 0 Reviews
  • ครม.อนุมัติแมวไทย” เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ประเภทสัตว์เลี้ยง เพื่ออนุรักษ์รักษาสิทธิ์เพิ่มมูลค่าศก. , ครม.เห็นชอบตามมติ กอช. ให้แมวไทยเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ หลังมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์และพันธุกรรมชี้ถึงความโดดเด่นของสายพันธุ์

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110190

    #แมวไทย #เอกลักษณ์ประจำชาติ #กระทรวงวัฒนธรรม #นโยบายรัฐบาล #เศรษฐกิจสร้างสรรค์ #News1live #News1
    ครม.อนุมัติแมวไทย” เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ประเภทสัตว์เลี้ยง เพื่ออนุรักษ์รักษาสิทธิ์เพิ่มมูลค่าศก. , ครม.เห็นชอบตามมติ กอช. ให้แมวไทยเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ หลังมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์และพันธุกรรมชี้ถึงความโดดเด่นของสายพันธุ์ • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110190 • #แมวไทย #เอกลักษณ์ประจำชาติ #กระทรวงวัฒนธรรม #นโยบายรัฐบาล #เศรษฐกิจสร้างสรรค์ #News1live #News1
    Like
    Haha
    Yay
    6
    1 Comments 0 Shares 182 Views 0 Reviews
  • ป้องกันเหตุซ้ำรอย "ชั้น 14" รมว.ยุติธรรม ออกคำสั่งปรับปรุงกฎเกณฑ์การส่งตัวผู้ต้องขังรักษานอกเรือนจำ ย้ำชัด "ใบส่งตัวล่วงหน้าทำไม่ได้" สั่งทบทวนระเบียบใหม่ ต้อง "ตรวจประเมินโดยแพทย์เท่านั้น" ไม่ใช่พยาบาล
    https://www.thai-tai.tv/news/22436/
    .
    #ไทยไท #กระทรวงยุติธรรม #ผู้ต้องขังนอกเรือนจำ #ชั้น14 #ทบทวนระเบียบ #พล.ต.ท.รุทธพล

    ป้องกันเหตุซ้ำรอย "ชั้น 14" รมว.ยุติธรรม ออกคำสั่งปรับปรุงกฎเกณฑ์การส่งตัวผู้ต้องขังรักษานอกเรือนจำ ย้ำชัด "ใบส่งตัวล่วงหน้าทำไม่ได้" สั่งทบทวนระเบียบใหม่ ต้อง "ตรวจประเมินโดยแพทย์เท่านั้น" ไม่ใช่พยาบาล https://www.thai-tai.tv/news/22436/ . #ไทยไท #กระทรวงยุติธรรม #ผู้ต้องขังนอกเรือนจำ #ชั้น14 #ทบทวนระเบียบ #พล.ต.ท.รุทธพล
    0 Comments 0 Shares 50 Views 0 Reviews
  • บทความกฎหมาย EP.27

    อาชญากรรมที่เรียกว่า "ฉ้อโกง" นั้น มิได้เป็นเพียงการสูญเสียทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นในสังคม และสร้างบาดแผลทางกฎหมายที่ลึกซึ้ง คำว่า "ฉ้อโกง" ในทางกฎหมายอาญาของไทยนั้น ครอบคลุมการกระทำที่ผู้กระทำมีเจตนาทุจริต โดยใช้อุบายหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และการหลอกลวงนั้นเป็นเหตุให้ผู้ถูกหลอกลวงหลงเชื่อและยอมส่งมอบ ทรัพย์สินให้แก่ผู้กระทำความผิดหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงได้รับผลกระทบทางทรัพย์สินที่เป็นโทษแก่ตนเองหรือผู้อื่น อันเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ซึ่งเป็นฐานความผิดหลักสำหรับคดีฉ้อโกงธรรมดา โทษทางกฎหมายสำหรับความผิดฐานฉ้อโกงนั้น กำหนดไว้ชัดเจนว่าผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม ความซับซ้อนของคดีฉ้อโกงมักปรากฏเมื่อเข้าข่ายความผิดที่หนักขึ้น เช่น การฉ้อโกงประชาชนตามมาตรา 343 ซึ่งเป็นการหลอกลวงประชาชนตั้งแต่สิบคนขึ้นไป หรือเป็นการหลอกลวงผ่านระบบคอมพิวเตอร์และสื่อสังคมออนไลน์ในลักษณะที่เป็นการเผยแพร่ข้อมูลอย่างกว้างขวาง โดยมีเจตนาให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดและมอบทรัพย์สินให้ ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนนี้มีโทษรุนแรงกว่า คือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเมื่อการกระทำความผิดนั้นเกิดขึ้นในรูปแบบที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น มีการจัดตั้งเป็นองค์กรอาชญากรรม หรือมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการหลอกลวงเป็นวงกว้าง เช่น คดี Call Center หรือ Romance Scam จะมีการใช้กฎหมายเฉพาะเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มโทษ เช่น พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งมุ่งเน้นการลงโทษผู้กระทำความผิดที่ใช้เครื่องมือดิจิทัลในการก่ออาชญากรรมอย่างหนักหน่วงขึ้น เพื่อเป็นการป้องปราม การดำเนินการทางกฎหมายในคดีฉ้อโกงจึงต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ทั้งพยานหลักฐานทางเอกสาร พยานบุคคล และพยานหลักฐานทางดิจิทัล เพื่อพิสูจน์ "เจตนาทุจริต" ของผู้ต้องหา ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดของความผิดฐานนี้ การรับรู้และเข้าใจถึงขอบเขตของกฎหมายเหล่านี้จึงเป็นเกราะป้องกันชั้นดีสำหรับประชาชน และเป็นเครื่องมืออันทรงพลังสำหรับเจ้าหน้าที่ในการยุติภัยอาชญากรรมทางการเงิน

    การดำเนินคดีฉ้อโกงตามกฎหมายนั้น เริ่มต้นจากการที่ผู้เสียหายจะต้องเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งการแจ้งความนี้จะต้องกระทำภายในอายุความที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคดีฉ้อโกงธรรมดาซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้นั้น อายุความคือสามเดือนนับแต่วันที่ผู้เสียหายรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด หากพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องจะสิ้นสุดลงทันที แต่สำหรับความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนนั้น ถือเป็นความผิดอาญาแผ่นดินที่ไม่อาจยอมความได้ และมีอายุความที่ยาวนานกว่าคือสิบปีนับแต่วันกระทำความผิด การแยกแยะประเภทของความผิดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาผลประโยชน์ของผู้เสียหาย เมื่อมีการแจ้งความแล้ว พนักงานสอบสวนจะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน และหากพยานหลักฐานเพียงพอ ก็จะส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อศาล การพิจารณาคดีในศาลจะเน้นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำ "การหลอกลวง" จริง และการหลอกลวงนั้นได้ทำให้ผู้เสียหาย "หลงเชื่อ" จนนำมาซึ่งการ "ส่งมอบทรัพย์สิน" หรือ "การได้รับผลกระทบทางทรัพย์สิน" อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ประชาชนควรตระหนักคือ ในหลายกรณีที่ผู้เสียหายต้องการทรัพย์สินคืน การฟ้องคดีอาญาเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากคดีอาญามุ่งเน้นที่การลงโทษผู้กระทำความผิดทางกายภาพ (จำคุก) และทางการเงิน (ปรับ) เท่านั้น ดังนั้นผู้เสียหายจึงต้องใช้สิทธิทางแพ่งควบคู่กันไป โดยอาจยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้กระทำความผิดชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา หรือแยกไปฟ้องเป็นคดีแพ่งต่างหากเพื่อเรียกทรัพย์สินหรือค่าเสียหายคืน การดำเนินการทางแพ่งนี้อาจเกี่ยวข้องกับการขอให้ศาลมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการบังคับคดี การติดตามทรัพย์สินที่ถูกฉ้อโกงคืนมานั้น มักเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการโอนย้ายทรัพย์สินไปยังบุคคลอื่นหรือต่างประเทศอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการมีที่ปรึกษาทางกฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินคดีทั้งอาญาและแพ่งจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ผู้เสียหายสามารถเข้าถึงความยุติธรรมและได้รับความเสียหายชดเชยอย่างเต็มที่ภายใต้กรอบของกฎหมาย

    ท้ายที่สุดแล้ว ภัยฉ้อโกงที่แฝงตัวอยู่ในโลกปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบดั้งเดิมหรือรูปแบบดิจิทัลก็ตาม เป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับระบบกฎหมายไทยในการปรับตัวและตอบสนองต่อกลโกงที่พัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง การป้องกันที่ดีที่สุดมิใช่เพียงการจับกุมและลงโทษผู้กระทำความผิดเท่านั้น แต่คือการสร้างภูมิคุ้มกันทางกฎหมายให้กับประชาชน การตระหนักว่ากฎหมายฉ้อโกงมิใช่แค่เรื่องของ "การหลอกลวง" แต่คือเรื่องของ "เจตนาทุจริต" ที่มุ่งหมายเอาเปรียบผู้อื่นอย่างไม่ชอบธรรม และการเข้าใจถึงสิทธิและอายุความในการดำเนินคดี เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องยึดถือไว้เสมอ หากคุณตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกง สิ่งสำคัญที่สุดคือการรวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวง การโอนเงิน หรือการติดต่อสื่อสาร และรีบดำเนินการทางกฎหมายทันที อย่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยจนพ้นอายุความ การใช้สิทธิเรียกร้องความยุติธรรมตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างถูกต้องและรวดเร็ว จะเป็นหนทางเดียวที่จะนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการลงโทษและเปิดโอกาสในการเรียกทรัพย์สินคืนมา ซึ่งเป็นการยืนยันหลักการที่ว่า ไม่มีอาชญากรรมทางเศรษฐกิจใดที่จะอยู่เหนือกฎหมายได้ ความเชี่ยวชาญในการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดและเด็ดขาดเท่านั้น จึงจะสามารถยุติวงจรของการฉ้อโกงและฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยและความเชื่อมั่นในสังคมให้กลับคืนมาได้อีกครั้ง
    บทความกฎหมาย EP.27 อาชญากรรมที่เรียกว่า "ฉ้อโกง" นั้น มิได้เป็นเพียงการสูญเสียทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นในสังคม และสร้างบาดแผลทางกฎหมายที่ลึกซึ้ง คำว่า "ฉ้อโกง" ในทางกฎหมายอาญาของไทยนั้น ครอบคลุมการกระทำที่ผู้กระทำมีเจตนาทุจริต โดยใช้อุบายหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และการหลอกลวงนั้นเป็นเหตุให้ผู้ถูกหลอกลวงหลงเชื่อและยอมส่งมอบ ทรัพย์สินให้แก่ผู้กระทำความผิดหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงได้รับผลกระทบทางทรัพย์สินที่เป็นโทษแก่ตนเองหรือผู้อื่น อันเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ซึ่งเป็นฐานความผิดหลักสำหรับคดีฉ้อโกงธรรมดา โทษทางกฎหมายสำหรับความผิดฐานฉ้อโกงนั้น กำหนดไว้ชัดเจนว่าผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม ความซับซ้อนของคดีฉ้อโกงมักปรากฏเมื่อเข้าข่ายความผิดที่หนักขึ้น เช่น การฉ้อโกงประชาชนตามมาตรา 343 ซึ่งเป็นการหลอกลวงประชาชนตั้งแต่สิบคนขึ้นไป หรือเป็นการหลอกลวงผ่านระบบคอมพิวเตอร์และสื่อสังคมออนไลน์ในลักษณะที่เป็นการเผยแพร่ข้อมูลอย่างกว้างขวาง โดยมีเจตนาให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิดและมอบทรัพย์สินให้ ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนนี้มีโทษรุนแรงกว่า คือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเมื่อการกระทำความผิดนั้นเกิดขึ้นในรูปแบบที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น มีการจัดตั้งเป็นองค์กรอาชญากรรม หรือมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการหลอกลวงเป็นวงกว้าง เช่น คดี Call Center หรือ Romance Scam จะมีการใช้กฎหมายเฉพาะเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มโทษ เช่น พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งมุ่งเน้นการลงโทษผู้กระทำความผิดที่ใช้เครื่องมือดิจิทัลในการก่ออาชญากรรมอย่างหนักหน่วงขึ้น เพื่อเป็นการป้องปราม การดำเนินการทางกฎหมายในคดีฉ้อโกงจึงต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ทั้งพยานหลักฐานทางเอกสาร พยานบุคคล และพยานหลักฐานทางดิจิทัล เพื่อพิสูจน์ "เจตนาทุจริต" ของผู้ต้องหา ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดของความผิดฐานนี้ การรับรู้และเข้าใจถึงขอบเขตของกฎหมายเหล่านี้จึงเป็นเกราะป้องกันชั้นดีสำหรับประชาชน และเป็นเครื่องมืออันทรงพลังสำหรับเจ้าหน้าที่ในการยุติภัยอาชญากรรมทางการเงิน การดำเนินคดีฉ้อโกงตามกฎหมายนั้น เริ่มต้นจากการที่ผู้เสียหายจะต้องเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งการแจ้งความนี้จะต้องกระทำภายในอายุความที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคดีฉ้อโกงธรรมดาซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้นั้น อายุความคือสามเดือนนับแต่วันที่ผู้เสียหายรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด หากพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องจะสิ้นสุดลงทันที แต่สำหรับความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนนั้น ถือเป็นความผิดอาญาแผ่นดินที่ไม่อาจยอมความได้ และมีอายุความที่ยาวนานกว่าคือสิบปีนับแต่วันกระทำความผิด การแยกแยะประเภทของความผิดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาผลประโยชน์ของผู้เสียหาย เมื่อมีการแจ้งความแล้ว พนักงานสอบสวนจะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน และหากพยานหลักฐานเพียงพอ ก็จะส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อศาล การพิจารณาคดีในศาลจะเน้นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำ "การหลอกลวง" จริง และการหลอกลวงนั้นได้ทำให้ผู้เสียหาย "หลงเชื่อ" จนนำมาซึ่งการ "ส่งมอบทรัพย์สิน" หรือ "การได้รับผลกระทบทางทรัพย์สิน" อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ประชาชนควรตระหนักคือ ในหลายกรณีที่ผู้เสียหายต้องการทรัพย์สินคืน การฟ้องคดีอาญาเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากคดีอาญามุ่งเน้นที่การลงโทษผู้กระทำความผิดทางกายภาพ (จำคุก) และทางการเงิน (ปรับ) เท่านั้น ดังนั้นผู้เสียหายจึงต้องใช้สิทธิทางแพ่งควบคู่กันไป โดยอาจยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้กระทำความผิดชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา หรือแยกไปฟ้องเป็นคดีแพ่งต่างหากเพื่อเรียกทรัพย์สินหรือค่าเสียหายคืน การดำเนินการทางแพ่งนี้อาจเกี่ยวข้องกับการขอให้ศาลมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการบังคับคดี การติดตามทรัพย์สินที่ถูกฉ้อโกงคืนมานั้น มักเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการโอนย้ายทรัพย์สินไปยังบุคคลอื่นหรือต่างประเทศอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการมีที่ปรึกษาทางกฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินคดีทั้งอาญาและแพ่งจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ผู้เสียหายสามารถเข้าถึงความยุติธรรมและได้รับความเสียหายชดเชยอย่างเต็มที่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ท้ายที่สุดแล้ว ภัยฉ้อโกงที่แฝงตัวอยู่ในโลกปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบดั้งเดิมหรือรูปแบบดิจิทัลก็ตาม เป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับระบบกฎหมายไทยในการปรับตัวและตอบสนองต่อกลโกงที่พัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง การป้องกันที่ดีที่สุดมิใช่เพียงการจับกุมและลงโทษผู้กระทำความผิดเท่านั้น แต่คือการสร้างภูมิคุ้มกันทางกฎหมายให้กับประชาชน การตระหนักว่ากฎหมายฉ้อโกงมิใช่แค่เรื่องของ "การหลอกลวง" แต่คือเรื่องของ "เจตนาทุจริต" ที่มุ่งหมายเอาเปรียบผู้อื่นอย่างไม่ชอบธรรม และการเข้าใจถึงสิทธิและอายุความในการดำเนินคดี เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องยึดถือไว้เสมอ หากคุณตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกง สิ่งสำคัญที่สุดคือการรวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวง การโอนเงิน หรือการติดต่อสื่อสาร และรีบดำเนินการทางกฎหมายทันที อย่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยจนพ้นอายุความ การใช้สิทธิเรียกร้องความยุติธรรมตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างถูกต้องและรวดเร็ว จะเป็นหนทางเดียวที่จะนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการลงโทษและเปิดโอกาสในการเรียกทรัพย์สินคืนมา ซึ่งเป็นการยืนยันหลักการที่ว่า ไม่มีอาชญากรรมทางเศรษฐกิจใดที่จะอยู่เหนือกฎหมายได้ ความเชี่ยวชาญในการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดและเด็ดขาดเท่านั้น จึงจะสามารถยุติวงจรของการฉ้อโกงและฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยและความเชื่อมั่นในสังคมให้กลับคืนมาได้อีกครั้ง
    0 Comments 0 Shares 144 Views 0 Reviews
More Results