• ต้มข้ามศตวรรษ – ป้ายปลอม
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 2 “ป้ายปลอม”
    ตอน 1

    ต้นปี ค.ศ.1918 นาย Edgar Sisson ผู้แทนของคณะกรรมาธิการ ด้านข้อมูลสาธารณะ (US Committee on Public Information ของอเมริกา) มาสำรวจและตรวจสอบหลักฐานที่เมือง Petrograd เนื่องจากมีข่าวว่าพวก Bolsheviks ซึ่งบุคคลหลายกลุ่มในอเมริกากำลังสนับสนุนนั้น เป็นพวกเยอรมัน ซึ่งถ้าเป็นเรื่องจริง ก็น่าจะมีผลกระทบกับความสัมพันธ์ ระหว่างอเมริกากับอังกฤษอย่างยิ่ง

    หลังจากสำรวจเสร็จ นาย Edgar Sission ก็หอบเอาเอกสารของรัสเซียมัดใหญ่ ซึ่งอ้างว่ามีข้อพิสูจน์ว่า Trotsky และ Lenin และพวกปฏิวัติ Bolsheviks ทั้งก๊วนเป็นสายลับของรัฐบาลเยอรมัน เอกสารเหล่านั้น ต่อมาเรียกว่า “Sission Documents”

    Sission Documents ถูกขนขึ้นเรือมาอย่างเร่งรีบและปิดลับ เพื่อนำส่งไปที่กรุงวอซิงตัน ให้คณะกรรมการ National Board for Historical Service ทำการพิสูจน์ว่าเอกสารทั้งมัดใหญ่นั่น เป็นของแท้ หรือเป็นของปลอม ถูกแต่งมาต้มกันหรือเปล่า

    นักประวัติศาสตร์ชื่อดัง 2 คน J. Franklin Jameson และ Samuel N. Harper ถูกเรียกมาทำหน้าที่ตรวจสอบ หลังจากตรวจสอบเรียบร้อย เขาแบ่งเอกสารออกเป็น 3 กลุ่ม
    เกี่ยวกับเอกสารกลุ่ม 1 นักประวัติศาสตร์ทั้ง 2 สรุปว่า

    “เราได้ตรวจสอบด้วยความระมัดระวังในทุกด้าน ตามที่นักเรียนประวัติศาสตร์จะรู้จักและใช้เป็นแนวทาง จากการตรวจสอบหลักฐานดังกล่าว เราไม่มีความลังเลที่จะประกาศว่า เราไม่มีเหตุผลที่จะตั้งข้อสงสัย ถึงความเป็นของแท้ของเอกสาร 53 ชิ้นนี้” แปลว่า พวกเขามีความเห็นว่า เอกสาร 52 ชิ้นนั้น เป็นของแท้ แต่นักวิชาการ ต้องพูดให้เข้าใจยากไว้ก่อน
    สำหรับเอกสารกลุ่ม 2 นักประวัติศาสตร์ทั้ง 2 มั่นใจน้อยลง แต่ก็ไม่ใช้คำว่า เป็นเอกสารปลอม พวกเขาให้ความเห็นว่า น่าจะเป็นสำเนาของเอกสารต้นฉบับ

    ส่วน เอกสารกลุ่ม 3 พวกเขาไม่มีความมั่นใจเลย ในความจริงแท้ของเอกสาร แต่ก็ยังไม่อยากที่จะเรียกว่าเป็นเอกสารปลอม ขอดูต่อไป (เผื่อจะมีอะไรมาทำให้ชัดขึ้นว่า แท้หรือปลอม ทำนองนั้น)

    Sission Documents ถูกนำไปพิมพ์โดย Committee on Public Information ซึ่งประธานคือ George Creel ซึ่งปรากฏภายหลังว่า เป็นคนหนึ่งที่สนับสนุนขบวนการ Bolsheviks

    เมื่อเอกสารออกไปสู่สาธารณะ บรรดาสื่ออเมริกันส่วนใหญ่มีความเห็นว่าเป็นเอกสารจริง เว้นแต่ New York Evening Post ซึ่งขณะนั้นเป็นเจ้าของโดย Thomas W. Lamont หุ้นส่วนของกลุ่ม Morgan หนังสือพิมพ์ Evening Post ถึงกับท้าทายความเป็นของแท้ของเอกสาร

    ต่อมาภายหลัง Sission Documents มีการตรวจสอบใหม่ และผลปรากฏว่าเอกสารเกือบทั้งหมด เป็นของปลอม ! ข้อผิดพลาดที่ปรากฏในเอกสารส่วนใหญ่ เป็นเรื่องของความไม่สอดคล้องในการสะกดชื่อ วันที่อ้าง ตราประทับ ฯลฯ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่ระมัดระวังของผู้ทำเอกสาร หรือใช้มืออ่อนหัดในตลาดการปลอมเอกสารมาดำเนินการ

    แต่ Sission Documents นี้ ก็ถูกนำมาใช้อ้างในงานค้นคว้าศึกษา เกี่ยวกับการปฏิวัติรัสเซียของพวก Bolsheviks มากมาย และโดยทั่วไปแม้จะเป็นเอกสารปลอม แต่เหตุการณ์ที่อ้างไว้ในเอกสาร ส่วนใหญ่เป็นเหตการณ์จริง

    ที่น่าสนใจคือ เอกสารทั้งหมดถูกส่งไปให้ Edgar Sisson โดย Alexander Gumberg (หรือที่รู้จักกันในชื่อ Berg ซึ่งชื่อจริงคือ Michael Gruzenberg) ซึ่งตัวแทนของ Bolsheviks ในสแกนดิเนเวีย และต่อมาเป็นที่ปรึกษาพิเศษของ Chase National Bank ของตระกูล Rockefeller และนาย Floyd Odium ของ Atlas Corporation

    นี่มันซ้อนกันหลายชั้นจนน่างง และตัวละครชักทยอยโผล่หัวมากขึ้น แต่อย่าเพิ่งงงนะครับ นี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง ยังไม่ถึงตอนมันยกร่องเลย

    ส่วนพวก Bolsheviks เอง ไม่ยอมรับเอกสารเหล่านี้ รวมทั้ง John Reed คอลัมนิสต์ชื่อดัง ซึ่งกินเงินเดือนจากนิตยสาร Metropolitan ซึ่งเป็นของ J.P. Morgan ก็ไม่ยอมรับเช่นเดียวกัน

    ทั้งหมดนี้อาจเป็นแผนการของ Gumberg ที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของ Sission โดยการจัดการปลอมเอกสารขึ้นมา หรืออาจจะเป็นความคิดของ Gumberg หรือ Creel ที่ทำขึ้น เหมือนเป็นเครื่องหมายปลอม บอกเส้นทาง..ให้คนที่คิดติดตามเรื่อง เลี้ยวผิด และหลงทาง ก็เป็นได้
    Sission Documents ถูกเอามาใช้เป็นข้อพิสูจน์ว่า เยอรมันกับพวก Bolsheviks เกี่ยวข้องกัน หรือร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด และถูกเอามาใช้เป็นข้อพิสูจน์ว่า มันเป็นการร่วมมือระหว่างพวกยิวกับพวก Bolsheviks แต่ที่สำคัญ เอกสารนี้ ได้ถูกใช้เป็นม่านควัน เอามาบังสายตาชาวบ้านทั่วไป ให้พร่ามัว มองไม่เห็นความจริง หรือเข้าใจความจริง ไขว้เขวไปอีกด้วย ทำให้เกิดสับสนจนเบื่อ แล้วเลิกติดตาม

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    26 เม.ย. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – ป้ายปลอม นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 2 “ป้ายปลอม” ตอน 1 ต้นปี ค.ศ.1918 นาย Edgar Sisson ผู้แทนของคณะกรรมาธิการ ด้านข้อมูลสาธารณะ (US Committee on Public Information ของอเมริกา) มาสำรวจและตรวจสอบหลักฐานที่เมือง Petrograd เนื่องจากมีข่าวว่าพวก Bolsheviks ซึ่งบุคคลหลายกลุ่มในอเมริกากำลังสนับสนุนนั้น เป็นพวกเยอรมัน ซึ่งถ้าเป็นเรื่องจริง ก็น่าจะมีผลกระทบกับความสัมพันธ์ ระหว่างอเมริกากับอังกฤษอย่างยิ่ง หลังจากสำรวจเสร็จ นาย Edgar Sission ก็หอบเอาเอกสารของรัสเซียมัดใหญ่ ซึ่งอ้างว่ามีข้อพิสูจน์ว่า Trotsky และ Lenin และพวกปฏิวัติ Bolsheviks ทั้งก๊วนเป็นสายลับของรัฐบาลเยอรมัน เอกสารเหล่านั้น ต่อมาเรียกว่า “Sission Documents” Sission Documents ถูกขนขึ้นเรือมาอย่างเร่งรีบและปิดลับ เพื่อนำส่งไปที่กรุงวอซิงตัน ให้คณะกรรมการ National Board for Historical Service ทำการพิสูจน์ว่าเอกสารทั้งมัดใหญ่นั่น เป็นของแท้ หรือเป็นของปลอม ถูกแต่งมาต้มกันหรือเปล่า นักประวัติศาสตร์ชื่อดัง 2 คน J. Franklin Jameson และ Samuel N. Harper ถูกเรียกมาทำหน้าที่ตรวจสอบ หลังจากตรวจสอบเรียบร้อย เขาแบ่งเอกสารออกเป็น 3 กลุ่ม เกี่ยวกับเอกสารกลุ่ม 1 นักประวัติศาสตร์ทั้ง 2 สรุปว่า “เราได้ตรวจสอบด้วยความระมัดระวังในทุกด้าน ตามที่นักเรียนประวัติศาสตร์จะรู้จักและใช้เป็นแนวทาง จากการตรวจสอบหลักฐานดังกล่าว เราไม่มีความลังเลที่จะประกาศว่า เราไม่มีเหตุผลที่จะตั้งข้อสงสัย ถึงความเป็นของแท้ของเอกสาร 53 ชิ้นนี้” แปลว่า พวกเขามีความเห็นว่า เอกสาร 52 ชิ้นนั้น เป็นของแท้ แต่นักวิชาการ ต้องพูดให้เข้าใจยากไว้ก่อน สำหรับเอกสารกลุ่ม 2 นักประวัติศาสตร์ทั้ง 2 มั่นใจน้อยลง แต่ก็ไม่ใช้คำว่า เป็นเอกสารปลอม พวกเขาให้ความเห็นว่า น่าจะเป็นสำเนาของเอกสารต้นฉบับ ส่วน เอกสารกลุ่ม 3 พวกเขาไม่มีความมั่นใจเลย ในความจริงแท้ของเอกสาร แต่ก็ยังไม่อยากที่จะเรียกว่าเป็นเอกสารปลอม ขอดูต่อไป (เผื่อจะมีอะไรมาทำให้ชัดขึ้นว่า แท้หรือปลอม ทำนองนั้น) Sission Documents ถูกนำไปพิมพ์โดย Committee on Public Information ซึ่งประธานคือ George Creel ซึ่งปรากฏภายหลังว่า เป็นคนหนึ่งที่สนับสนุนขบวนการ Bolsheviks เมื่อเอกสารออกไปสู่สาธารณะ บรรดาสื่ออเมริกันส่วนใหญ่มีความเห็นว่าเป็นเอกสารจริง เว้นแต่ New York Evening Post ซึ่งขณะนั้นเป็นเจ้าของโดย Thomas W. Lamont หุ้นส่วนของกลุ่ม Morgan หนังสือพิมพ์ Evening Post ถึงกับท้าทายความเป็นของแท้ของเอกสาร ต่อมาภายหลัง Sission Documents มีการตรวจสอบใหม่ และผลปรากฏว่าเอกสารเกือบทั้งหมด เป็นของปลอม ! ข้อผิดพลาดที่ปรากฏในเอกสารส่วนใหญ่ เป็นเรื่องของความไม่สอดคล้องในการสะกดชื่อ วันที่อ้าง ตราประทับ ฯลฯ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่ระมัดระวังของผู้ทำเอกสาร หรือใช้มืออ่อนหัดในตลาดการปลอมเอกสารมาดำเนินการ แต่ Sission Documents นี้ ก็ถูกนำมาใช้อ้างในงานค้นคว้าศึกษา เกี่ยวกับการปฏิวัติรัสเซียของพวก Bolsheviks มากมาย และโดยทั่วไปแม้จะเป็นเอกสารปลอม แต่เหตุการณ์ที่อ้างไว้ในเอกสาร ส่วนใหญ่เป็นเหตการณ์จริง ที่น่าสนใจคือ เอกสารทั้งหมดถูกส่งไปให้ Edgar Sisson โดย Alexander Gumberg (หรือที่รู้จักกันในชื่อ Berg ซึ่งชื่อจริงคือ Michael Gruzenberg) ซึ่งตัวแทนของ Bolsheviks ในสแกนดิเนเวีย และต่อมาเป็นที่ปรึกษาพิเศษของ Chase National Bank ของตระกูล Rockefeller และนาย Floyd Odium ของ Atlas Corporation นี่มันซ้อนกันหลายชั้นจนน่างง และตัวละครชักทยอยโผล่หัวมากขึ้น แต่อย่าเพิ่งงงนะครับ นี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง ยังไม่ถึงตอนมันยกร่องเลย ส่วนพวก Bolsheviks เอง ไม่ยอมรับเอกสารเหล่านี้ รวมทั้ง John Reed คอลัมนิสต์ชื่อดัง ซึ่งกินเงินเดือนจากนิตยสาร Metropolitan ซึ่งเป็นของ J.P. Morgan ก็ไม่ยอมรับเช่นเดียวกัน ทั้งหมดนี้อาจเป็นแผนการของ Gumberg ที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของ Sission โดยการจัดการปลอมเอกสารขึ้นมา หรืออาจจะเป็นความคิดของ Gumberg หรือ Creel ที่ทำขึ้น เหมือนเป็นเครื่องหมายปลอม บอกเส้นทาง..ให้คนที่คิดติดตามเรื่อง เลี้ยวผิด และหลงทาง ก็เป็นได้ Sission Documents ถูกเอามาใช้เป็นข้อพิสูจน์ว่า เยอรมันกับพวก Bolsheviks เกี่ยวข้องกัน หรือร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด และถูกเอามาใช้เป็นข้อพิสูจน์ว่า มันเป็นการร่วมมือระหว่างพวกยิวกับพวก Bolsheviks แต่ที่สำคัญ เอกสารนี้ ได้ถูกใช้เป็นม่านควัน เอามาบังสายตาชาวบ้านทั่วไป ให้พร่ามัว มองไม่เห็นความจริง หรือเข้าใจความจริง ไขว้เขวไปอีกด้วย ทำให้เกิดสับสนจนเบื่อ แล้วเลิกติดตาม สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 26 เม.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้มข้ามศตวรรษ – สร้างฉากปฏิวัติ 6
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ”

    ตอน 6

    เดือนเมษายน ค.ศ.1917 Vladimir Lenin และพวกอีก 32 คน ซึ่งส่วนมากเป็นพวก Bolsheviks เดินทางจากสวิสเซอร์แลนด์ ข้ามเยอรมัน ผ่านสวีเดน เพื่อไปเข้าเมือง Petrograd ของรัสเซีย พวกเขากำลังไปร่วมกับ Leon Trotsky เพื่อ “ทำปฏิวัติ” ให้สมบูรณ์ การผ่านด่านเยอรมันเรียบร้อยดี มีการอำนวยความสะดวก และจ่ายเงินไว้แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายเสนาธิการ ของรัฐบาลเยอรมัน

    การผ่านเข้ารัสเซียของ Lenin เป็นส่วนหนึ่งของแผนการณ์ ที่ได้รับการเห็นชอบโดยกองบัญชาการสูงสุดของเยอรมัน ซึ่งไม่ได้ผ่านการรับรู้จากไกเซอร์ จักรพรรดิของเยอรมัน ผู้ซึ่งมีความใกล้ชิด สนิทสนมกับ ซาร์แห่งรัสเซีย

    ดูเหมือนมันจะเป็นแผนของเยอรมัน ที่ต้องการให้กองทัพรัสเซียแตกแยก รวมตัวกันไม่ได้ และขจัดให้รัสเซียออกไปจากสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นความพยายามของรัฐบาลเยอรมัน ที่จะตัดกำลังคู่ต่อสู้คือ ฝ่ายสัมพันธมิตร เยอรมันคิดเองทำเอง หรือมีใครช่วยหรือชักใย

    นอกจากไกเซอร์จะไม่รู้แล้ว ตัวเสนาธิการกองทัพเยอรมัน Major General Hoffman ก็ไม่รู้เรื่องด้วย เขาเขียนไว้ในบันทึกว่า “เราไม่รู้เรื่อง และทำให้เราไม่สามารถเห็นผลกระทบ ที่จะเกิดขึ้นอย่างใหญ่หลวงต่อมนุษยชาติ จากการเดินทางเข้าไปในรัสเซียของพวก Bolsheviks”

    ฝ่ายเยอรมัน ผู้ที่ให้ความเห็นชอบให้ Lenin เดินทางผ่านเยอรมันไปรัสเซีย คือ ตัวนายกรัฐมนตรี Theobold von Bethmann-Hollweg เอง ซึ่งมาจากตระกูลใหญ่เจ้าของธนาคาร Bethmann Frankfurt ที่ร่ำรวยมากในช่วงศตวรรษที่ 19 นาย Bethmann-Hollweg ได้ รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีในปี ค.ศ. 1909 แต่ในเดือน พ.ย. 1913 เขาเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรก ที่ถูกรัฐสภาของเยอรมันลงมติไม่ไว้วางใจ

    นาย Bethmann-Hollweg นี่ เป็นคนที่พูดจา ชนิดต้องใช้มะกอกเกิน 3 ตะกร้า ถึงจะจับให้มั่นได้ ปี ค.ศ. 1917 เขาไม่ได้เสียงสนับสนุนจากรัฐสภา และยื่นใบลาออก แต่ก่อนลาออก เขาทิ้งทวน โดยการให้ความเห็นชอบไว้เรียบร้อยแล้ว ให้นักปฏิวัติ กลุ่ม Bolsheviks เดินทางผ่านเยอรมัน เข้าไปยังรัสเซีย โดยเขาสั่งตรงไปยังรัฐมนตรีต่างประเทศ Unthur Zimmermann ลูกกระเป๋งที่เป็นผู้รับผิดชอบดูแลงานประจำของรัฐมนตรี ทั้งในเบอร์ลินและงานที่ส่งจากกรุงโคเปนเฮเกน มายังเยอรมันในช่วงเดือน เม.ย.1917
    ไกเซอร์ไม่รู้เรื่องขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อปฏิวัติในรัสเซียเลย จนกระทั่ง Lenin ไปถึงรัสเซียแล้ว แสดงว่าถูกกันท่าโดยพวกรัฐบาล ซึ่งคงกลัวเสียแผน หากกษัตริย์ของ 2 ประเทศ จะจับมือช่วยกันเอง
    ขณะที่ Lenin เอง ก็ไม่รู้แน่ว่าใครเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือเขา เขารู้แต่เพียงว่า รัฐบาลเยอรมันให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุน แต่จากการตรวจสอบเอกสาร ซึ่งปรากฏในภายหลัง จึงได้เห็นเส้นทางเดินของ “ความช่วยเหลือ” ให้แก่ Lenin

    จากเบอร์ลิน Zimmermann และ Bethmann-Hollweg ติดต่อกับรัฐมนตรีเยอรมันที่โคเปน เฮเกนชื่อ Brockdorff-Rantzau ซึ่งติดต่ออีกทอดไปถึงนาย Alexander Israel Helphand (หรือที่รู้จักกันในนาม Parvus) ซึ่งอยู่ที่โคเปนเฮเกน

    จริงๆแล้ว ทางเยอรมันเตรียมแผนนี้ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1915 แล้ว

    ในวันที่ 14 สิงหาคม 1915 Brockdorff-Rantzau เขียนจดหมายถึงรัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมัน ที่เบอร์ลิน เกี่ยวกับการสนทนาของเขากับ Helphand (Parvus) และแนะนำให้เยอรมันใช้ Helphand “…..ซึ่งเป็นคนที่มีเครือข่ายอำนาจ ที่ล้ำลึกอย่างนึกไม่ถึง ที่เราควรจะจ้างเขาไว้ตลอดช่วงที่มีสงคราม……ขณะเดียวกัน เราก็ต้องระวังความเสี่ยงในการจะใช้เครือข่ายอำนาจที่อยู่ข้างหลัง Helphand เช่นเดียวกัน…..”

    Helphand (Parvus) แท้จริงแล้วเป็นใคร และเครือข่ายอำนาจของเขา คือพวกไหน ความคิดของ Brockdorff-Rantzau ที่จะใช้การปฏิวัติรัสเซีย เพื่อประโยชน์ของเยอรมัน ก็ดูเหมือนจะไม่ต่างกับความคิดของคนบางกลุ่มในอเมริกา ที่พยายามจะเอาเรื่องการปฏิวัติรายการเดียวกันนั้น มาใช้เพื่อผลประโยชน์ของพวกเขา ทั้งภายในและต่างประเทศ ไปด้วยพร้อมกัน

    วันที่ 16 เมษายน 1917 รถไฟขบวนที่ขนคนจำนวน 32 คน รวมทั้ง Lenin และเมีย ก็เริ่มเคลื่อนออกจากสถานีใหญ่ก ลางเมือง Bern ของสวิสเซอร์แลนด์ เพื่อมุ่งหน้าไป Stockholm เมื่อ ถึงด่านเข้าเขตแดนรัสเซีย มีเพียง 2 คน ที่ถูกปฏิเสธการเข้า ที่เหลือผ่านเข้าไปได้หมด หลายเดือนต่อมา 2 คนนั้นก็ตามเข้าไป พร้อมกับพวก Mensheviks อีก 200 คน
    (หมายเหตุ: เพื่อความเข้าใจของผู้ติดตามเรื่อง รัสเซียมีพรรคสังคมนิยมเรียกว่า Russian Social-Democratic Party ซึ่งเป็นพวกนิยมแนวความคิดแบบ Marxist ในการประชุมพรรคประมาณปี ค.ศ.1903 สมาชิกได้แตกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเรียกกลุ่มตัวเองว่า Bolsheviks มี Lenin เป็น หัวหน้า สมาชิกส่วนใหญ่ เป็นพวกอีลิตและชนชั้นกลาง อีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่า ควรมีชนชั้นแรงงานเข้ามาร่วมด้วย เพื่อให้ฐานเสียงใหญ่ขึ้น เรียกกลุ่มตัวเองว่า Mensheviks มี Martov เป็นหัวหน้า ส่วนนาย Trotsky นั้น สังกัดกลุ่ม Mensheviks และเปลี่ยนมาอยู่กลุ่ม Bolsheviks เอาในปี ค.ศ.1917 นั่นเอง )

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    25 เม.ย. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – สร้างฉากปฏิวัติ 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ” ตอน 6 เดือนเมษายน ค.ศ.1917 Vladimir Lenin และพวกอีก 32 คน ซึ่งส่วนมากเป็นพวก Bolsheviks เดินทางจากสวิสเซอร์แลนด์ ข้ามเยอรมัน ผ่านสวีเดน เพื่อไปเข้าเมือง Petrograd ของรัสเซีย พวกเขากำลังไปร่วมกับ Leon Trotsky เพื่อ “ทำปฏิวัติ” ให้สมบูรณ์ การผ่านด่านเยอรมันเรียบร้อยดี มีการอำนวยความสะดวก และจ่ายเงินไว้แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายเสนาธิการ ของรัฐบาลเยอรมัน การผ่านเข้ารัสเซียของ Lenin เป็นส่วนหนึ่งของแผนการณ์ ที่ได้รับการเห็นชอบโดยกองบัญชาการสูงสุดของเยอรมัน ซึ่งไม่ได้ผ่านการรับรู้จากไกเซอร์ จักรพรรดิของเยอรมัน ผู้ซึ่งมีความใกล้ชิด สนิทสนมกับ ซาร์แห่งรัสเซีย ดูเหมือนมันจะเป็นแผนของเยอรมัน ที่ต้องการให้กองทัพรัสเซียแตกแยก รวมตัวกันไม่ได้ และขจัดให้รัสเซียออกไปจากสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นความพยายามของรัฐบาลเยอรมัน ที่จะตัดกำลังคู่ต่อสู้คือ ฝ่ายสัมพันธมิตร เยอรมันคิดเองทำเอง หรือมีใครช่วยหรือชักใย นอกจากไกเซอร์จะไม่รู้แล้ว ตัวเสนาธิการกองทัพเยอรมัน Major General Hoffman ก็ไม่รู้เรื่องด้วย เขาเขียนไว้ในบันทึกว่า “เราไม่รู้เรื่อง และทำให้เราไม่สามารถเห็นผลกระทบ ที่จะเกิดขึ้นอย่างใหญ่หลวงต่อมนุษยชาติ จากการเดินทางเข้าไปในรัสเซียของพวก Bolsheviks” ฝ่ายเยอรมัน ผู้ที่ให้ความเห็นชอบให้ Lenin เดินทางผ่านเยอรมันไปรัสเซีย คือ ตัวนายกรัฐมนตรี Theobold von Bethmann-Hollweg เอง ซึ่งมาจากตระกูลใหญ่เจ้าของธนาคาร Bethmann Frankfurt ที่ร่ำรวยมากในช่วงศตวรรษที่ 19 นาย Bethmann-Hollweg ได้ รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีในปี ค.ศ. 1909 แต่ในเดือน พ.ย. 1913 เขาเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรก ที่ถูกรัฐสภาของเยอรมันลงมติไม่ไว้วางใจ นาย Bethmann-Hollweg นี่ เป็นคนที่พูดจา ชนิดต้องใช้มะกอกเกิน 3 ตะกร้า ถึงจะจับให้มั่นได้ ปี ค.ศ. 1917 เขาไม่ได้เสียงสนับสนุนจากรัฐสภา และยื่นใบลาออก แต่ก่อนลาออก เขาทิ้งทวน โดยการให้ความเห็นชอบไว้เรียบร้อยแล้ว ให้นักปฏิวัติ กลุ่ม Bolsheviks เดินทางผ่านเยอรมัน เข้าไปยังรัสเซีย โดยเขาสั่งตรงไปยังรัฐมนตรีต่างประเทศ Unthur Zimmermann ลูกกระเป๋งที่เป็นผู้รับผิดชอบดูแลงานประจำของรัฐมนตรี ทั้งในเบอร์ลินและงานที่ส่งจากกรุงโคเปนเฮเกน มายังเยอรมันในช่วงเดือน เม.ย.1917 ไกเซอร์ไม่รู้เรื่องขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อปฏิวัติในรัสเซียเลย จนกระทั่ง Lenin ไปถึงรัสเซียแล้ว แสดงว่าถูกกันท่าโดยพวกรัฐบาล ซึ่งคงกลัวเสียแผน หากกษัตริย์ของ 2 ประเทศ จะจับมือช่วยกันเอง ขณะที่ Lenin เอง ก็ไม่รู้แน่ว่าใครเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือเขา เขารู้แต่เพียงว่า รัฐบาลเยอรมันให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุน แต่จากการตรวจสอบเอกสาร ซึ่งปรากฏในภายหลัง จึงได้เห็นเส้นทางเดินของ “ความช่วยเหลือ” ให้แก่ Lenin จากเบอร์ลิน Zimmermann และ Bethmann-Hollweg ติดต่อกับรัฐมนตรีเยอรมันที่โคเปน เฮเกนชื่อ Brockdorff-Rantzau ซึ่งติดต่ออีกทอดไปถึงนาย Alexander Israel Helphand (หรือที่รู้จักกันในนาม Parvus) ซึ่งอยู่ที่โคเปนเฮเกน จริงๆแล้ว ทางเยอรมันเตรียมแผนนี้ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1915 แล้ว ในวันที่ 14 สิงหาคม 1915 Brockdorff-Rantzau เขียนจดหมายถึงรัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมัน ที่เบอร์ลิน เกี่ยวกับการสนทนาของเขากับ Helphand (Parvus) และแนะนำให้เยอรมันใช้ Helphand “…..ซึ่งเป็นคนที่มีเครือข่ายอำนาจ ที่ล้ำลึกอย่างนึกไม่ถึง ที่เราควรจะจ้างเขาไว้ตลอดช่วงที่มีสงคราม……ขณะเดียวกัน เราก็ต้องระวังความเสี่ยงในการจะใช้เครือข่ายอำนาจที่อยู่ข้างหลัง Helphand เช่นเดียวกัน…..” Helphand (Parvus) แท้จริงแล้วเป็นใคร และเครือข่ายอำนาจของเขา คือพวกไหน ความคิดของ Brockdorff-Rantzau ที่จะใช้การปฏิวัติรัสเซีย เพื่อประโยชน์ของเยอรมัน ก็ดูเหมือนจะไม่ต่างกับความคิดของคนบางกลุ่มในอเมริกา ที่พยายามจะเอาเรื่องการปฏิวัติรายการเดียวกันนั้น มาใช้เพื่อผลประโยชน์ของพวกเขา ทั้งภายในและต่างประเทศ ไปด้วยพร้อมกัน วันที่ 16 เมษายน 1917 รถไฟขบวนที่ขนคนจำนวน 32 คน รวมทั้ง Lenin และเมีย ก็เริ่มเคลื่อนออกจากสถานีใหญ่ก ลางเมือง Bern ของสวิสเซอร์แลนด์ เพื่อมุ่งหน้าไป Stockholm เมื่อ ถึงด่านเข้าเขตแดนรัสเซีย มีเพียง 2 คน ที่ถูกปฏิเสธการเข้า ที่เหลือผ่านเข้าไปได้หมด หลายเดือนต่อมา 2 คนนั้นก็ตามเข้าไป พร้อมกับพวก Mensheviks อีก 200 คน (หมายเหตุ: เพื่อความเข้าใจของผู้ติดตามเรื่อง รัสเซียมีพรรคสังคมนิยมเรียกว่า Russian Social-Democratic Party ซึ่งเป็นพวกนิยมแนวความคิดแบบ Marxist ในการประชุมพรรคประมาณปี ค.ศ.1903 สมาชิกได้แตกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเรียกกลุ่มตัวเองว่า Bolsheviks มี Lenin เป็น หัวหน้า สมาชิกส่วนใหญ่ เป็นพวกอีลิตและชนชั้นกลาง อีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่า ควรมีชนชั้นแรงงานเข้ามาร่วมด้วย เพื่อให้ฐานเสียงใหญ่ขึ้น เรียกกลุ่มตัวเองว่า Mensheviks มี Martov เป็นหัวหน้า ส่วนนาย Trotsky นั้น สังกัดกลุ่ม Mensheviks และเปลี่ยนมาอยู่กลุ่ม Bolsheviks เอาในปี ค.ศ.1917 นั่นเอง ) สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 25 เม.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • "พี่มาก พระโขนงปะ"
    พี่มาร์ค say "มันลำบากเหลือเกินนะ อีนาคเอย วันไหนทางการไม่ส่งเสบียงมา ก็ต้องขุดหัวเผือก หัวกรอย กินกันตาย"

    วลีเด็ด เคดิต หนังค่าย GTH

    ต้องมาปะ
    "พี่มาก พระโขนงปะ" พี่มาร์ค say "มันลำบากเหลือเกินนะ อีนาคเอย วันไหนทางการไม่ส่งเสบียงมา ก็ต้องขุดหัวเผือก หัวกรอย กินกันตาย" วลีเด็ด เคดิต หนังค่าย GTH ต้องมาปะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AI Superintelligence” กับเสียงเตือนจากคนดัง: เมื่อเทคโนโลยีอาจล้ำเส้นมนุษย์

    เสียงเตือนจากนักวิทยาศาสตร์และคนดังทั่วโลกกำลังดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ AI กำลังพัฒนาไปสู่ระดับ “Superintelligence” — ปัญญาประดิษฐ์ที่อาจฉลาดกว่ามนุษย์ในทุกด้าน และนั่นอาจไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป

    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นภาพที่สร้างจาก AI หรือการพูดคุยกับแชตบอต แต่เบื้องหลังความสะดวกนั้นคือความกังวลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อบริษัทใหญ่อย่าง OpenAI และ xAI กำลังพัฒนา “Superintelligence” — AI ที่สามารถคิด วิเคราะห์ และเรียนรู้ได้เหนือกว่ามนุษย์

    กลุ่มนักวิทยาศาสตร์และคนดัง เช่น Richard Branson, Steve Wozniak, Prince Harry, Meghan Markle, Joseph Gordon-Levitt และ will.i.am ได้ร่วมลงชื่อในแถลงการณ์ “Statement on Superintelligence” เพื่อเรียกร้องให้หยุดการพัฒนา AI ประเภทนี้ชั่วคราว จนกว่าจะมี “ฉันทามติทางวิทยาศาสตร์” ว่าจะสามารถควบคุมได้อย่างปลอดภัย และมี “การยอมรับจากสาธารณชน” อย่างชัดเจน

    Superintelligent AI ไม่เหมือนกับ AI ที่เราใช้กันในปัจจุบัน เพราะมันไม่ต้องพึ่งพามนุษย์ในการสั่งงานอีกต่อไป มันสามารถเรียนรู้และพัฒนาตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง และอาจมีเป้าหมายที่มันจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้สำเร็จ — โดยไม่สนใจผลกระทบต่อมนุษย์

    ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นมีตั้งแต่การแย่งงาน การควบคุมสังคมผ่านเทคโนโลยี ไปจนถึงการสูญพันธุ์ของมนุษย์ ฟังดูเหมือนนิยายไซไฟ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าเรากำลังเดินเข้าสู่ “พื้นที่ที่ไม่เคยมีใครสำรวจมาก่อน” และควรเตรียมรับมือกับผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุด

    AI Superintelligence คืออะไร
    ปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถคิด วิเคราะห์ และเรียนรู้ได้เหนือกว่ามนุษย์
    ไม่ต้องพึ่งพาการสั่งงานจากมนุษย์อีกต่อไป
    สามารถพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีข้อจำกัด

    แถลงการณ์ Statement on Superintelligence
    เรียกร้องให้หยุดการพัฒนา AI ประเภทนี้ชั่วคราว
    ต้องมีฉันทามติทางวิทยาศาสตร์ว่าปลอดภัย
    ต้องได้รับการยอมรับจากสาธารณชนก่อนเปิดใช้งาน

    ผู้ร่วมลงชื่อในแถลงการณ์
    Richard Branson, Steve Wozniak, Prince Harry, Meghan Markle
    Joseph Gordon-Levitt, will.i.am, Yoshua Bengio, Stuart Russell

    ความเสี่ยงจาก AI Superintelligence
    อาจถูกควบคุมโดยผู้ไม่หวังดี
    มีโอกาส “หลุดจากการควบคุม” ของมนุษย์
    อาจใช้ทรัพยากรทางปัญญาเพื่อบรรลุเป้าหมายโดยไม่สนใจผลกระทบ

    ผลกระทบต่อมนุษย์
    การแย่งงานในหลายอุตสาหกรรม
    การเฝ้าระวังและควบคุมสังคมผ่านเทคโนโลยี
    ความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของมนุษย์

    https://www.slashgear.com/2010667/superintelligence-ban-ai-experts-public-figures/
    🧠 “AI Superintelligence” กับเสียงเตือนจากคนดัง: เมื่อเทคโนโลยีอาจล้ำเส้นมนุษย์ เสียงเตือนจากนักวิทยาศาสตร์และคนดังทั่วโลกกำลังดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ AI กำลังพัฒนาไปสู่ระดับ “Superintelligence” — ปัญญาประดิษฐ์ที่อาจฉลาดกว่ามนุษย์ในทุกด้าน และนั่นอาจไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นภาพที่สร้างจาก AI หรือการพูดคุยกับแชตบอต แต่เบื้องหลังความสะดวกนั้นคือความกังวลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อบริษัทใหญ่อย่าง OpenAI และ xAI กำลังพัฒนา “Superintelligence” — AI ที่สามารถคิด วิเคราะห์ และเรียนรู้ได้เหนือกว่ามนุษย์ กลุ่มนักวิทยาศาสตร์และคนดัง เช่น Richard Branson, Steve Wozniak, Prince Harry, Meghan Markle, Joseph Gordon-Levitt และ will.i.am ได้ร่วมลงชื่อในแถลงการณ์ “Statement on Superintelligence” เพื่อเรียกร้องให้หยุดการพัฒนา AI ประเภทนี้ชั่วคราว จนกว่าจะมี “ฉันทามติทางวิทยาศาสตร์” ว่าจะสามารถควบคุมได้อย่างปลอดภัย และมี “การยอมรับจากสาธารณชน” อย่างชัดเจน Superintelligent AI ไม่เหมือนกับ AI ที่เราใช้กันในปัจจุบัน เพราะมันไม่ต้องพึ่งพามนุษย์ในการสั่งงานอีกต่อไป มันสามารถเรียนรู้และพัฒนาตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง และอาจมีเป้าหมายที่มันจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้สำเร็จ — โดยไม่สนใจผลกระทบต่อมนุษย์ ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นมีตั้งแต่การแย่งงาน การควบคุมสังคมผ่านเทคโนโลยี ไปจนถึงการสูญพันธุ์ของมนุษย์ ฟังดูเหมือนนิยายไซไฟ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าเรากำลังเดินเข้าสู่ “พื้นที่ที่ไม่เคยมีใครสำรวจมาก่อน” และควรเตรียมรับมือกับผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุด ✅ AI Superintelligence คืออะไร ➡️ ปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถคิด วิเคราะห์ และเรียนรู้ได้เหนือกว่ามนุษย์ ➡️ ไม่ต้องพึ่งพาการสั่งงานจากมนุษย์อีกต่อไป ➡️ สามารถพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีข้อจำกัด ✅ แถลงการณ์ Statement on Superintelligence ➡️ เรียกร้องให้หยุดการพัฒนา AI ประเภทนี้ชั่วคราว ➡️ ต้องมีฉันทามติทางวิทยาศาสตร์ว่าปลอดภัย ➡️ ต้องได้รับการยอมรับจากสาธารณชนก่อนเปิดใช้งาน ✅ ผู้ร่วมลงชื่อในแถลงการณ์ ➡️ Richard Branson, Steve Wozniak, Prince Harry, Meghan Markle ➡️ Joseph Gordon-Levitt, will.i.am, Yoshua Bengio, Stuart Russell ‼️ ความเสี่ยงจาก AI Superintelligence ⛔ อาจถูกควบคุมโดยผู้ไม่หวังดี ⛔ มีโอกาส “หลุดจากการควบคุม” ของมนุษย์ ⛔ อาจใช้ทรัพยากรทางปัญญาเพื่อบรรลุเป้าหมายโดยไม่สนใจผลกระทบ ‼️ ผลกระทบต่อมนุษย์ ⛔ การแย่งงานในหลายอุตสาหกรรม ⛔ การเฝ้าระวังและควบคุมสังคมผ่านเทคโนโลยี ⛔ ความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของมนุษย์ https://www.slashgear.com/2010667/superintelligence-ban-ai-experts-public-figures/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    AI Experts & Celebrities Are Sounding The Alarm Bell - They Want A 'Superintelligence' Ban - SlashGear
    Figures like Steve Wozniak and Richard Branson, and will.i.am have signed the Statement on Superintelligence, urging a pause on AI superintelligence research.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • Atlas: เบราว์เซอร์ใหม่จาก OpenAI ที่อาจเปลี่ยนโลกออนไลน์...แต่ไม่ใช่ในทางที่ดี

    ลองจินตนาการว่าเบราว์เซอร์ที่คุณใช้ทุกวันไม่ได้พาคุณไปยังเว็บไซต์ต่างๆ แต่กลับสร้างเนื้อหาขึ้นมาเอง แล้วแสดงผลในรูปแบบที่ “เหมือน” เว็บเพจ — นั่นคือสิ่งที่ Atlas จาก OpenAI กำลังทำอยู่

    Atlas ไม่ใช่แค่เบราว์เซอร์ธรรมดา มันคือเครื่องมือที่ใช้ AI สร้างคำตอบแทนการค้นหาข้อมูลจากเว็บจริงๆ และนั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของ “การต่อต้านเว็บ” อย่างแท้จริง

    มีคนลองใช้ Atlas แล้วพิมพ์คำว่า “Taylor Swift showgirl” หวังว่าจะได้ลิงก์ไปดูวิดีโอหรือเพลย์ลิสต์ แต่สิ่งที่ได้กลับเป็นข้อความที่ดูเหมือนเด็กรีบทำรายงานส่งครู — ไม่มีลิงก์ไปยังเว็บไซต์จริง ไม่มีข้อมูลใหม่ และไม่มีทางรู้เลยว่า Taylor Swift มีเว็บไซต์ของตัวเอง

    มันเหมือนคุณพิมพ์ในช่องค้นหา แต่จริงๆ แล้วคุณกำลังพิมพ์ในช่อง prompt ที่ให้ AI สร้างคำตอบขึ้นมาเอง

    นอกจากนี้ Atlas ยังบังคับให้คุณพิมพ์คำสั่งเหมือนยุค DOS แทนที่จะคลิกง่ายๆ แบบที่เราเคยชิน เช่น ถ้าคุณอยากหาไฟล์ Google Docs ที่เคยเปิด ก็ต้องพิมพ์ว่า “search web history for a doc about atlas core design” แทนที่จะพิมพ์แค่ “atlas design” แล้วคลิกจากรายการที่แสดง

    และที่น่ากลัวที่สุดคือ Atlas ทำให้คุณกลายเป็น “ตัวแทน” ของ AI โดยที่คุณไม่รู้ตัว มันขอให้คุณเปิดใช้ฟีเจอร์ “memories” เพื่อเก็บข้อมูลทุกอย่างที่คุณทำ แล้วใช้ข้อมูลนั้นฝึกโมเดลของมัน — ตั้งแต่ไฟล์ลับใน Google Docs ไปจนถึงคอมเมนต์ที่คุณพิมพ์ใน Facebook แต่ยังไม่ได้กดส่ง

    สรุปเนื้อหาสำคัญและคำเตือน

    Atlas คือเบราว์เซอร์ใหม่จาก OpenAI
    ใช้ AI สร้างเนื้อหาแทนการแสดงผลจากเว็บไซต์จริง
    แสดงผลในรูปแบบที่คล้ายเว็บเพจ ทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิด
    ไม่มีลิงก์ไปยังเว็บไซต์ต้นทาง เช่น เว็บไซต์ของศิลปินหรือแบรนด์
    ข้อมูลที่แสดงอาจล้าหลังหลายสัปดาห์ เพราะไม่อัปเดตแบบเรียลไทม์

    ประสบการณ์ผู้ใช้ถูกเปลี่ยนให้คล้ายการพิมพ์คำสั่ง
    ต้องพิมพ์คำสั่งแบบ command-line แทนการคลิก
    ลดความสะดวกในการใช้งาน และเพิ่มโอกาสเกิดข้อผิดพลาด
    ขัดกับแนวคิดของเว็บที่เน้นการเข้าถึงง่ายและคลิกได้

    Atlas ส่งเสริมให้ผู้ใช้เปิดฟีเจอร์ “memories”
    เก็บข้อมูลการใช้งานทั้งหมดของผู้ใช้
    ใช้ข้อมูลเหล่านั้นฝึกโมเดล AI โดยไม่ขอความยินยอมอย่างชัดเจน
    เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวที่เบราว์เซอร์ทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้

    ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว
    AI สามารถเห็นไฟล์ลับ ข้อความที่ยังไม่ได้ส่ง และพฤติกรรมการใช้งาน
    สร้างโปรไฟล์การใช้งานที่ละเอียดเกินกว่าที่เบราว์เซอร์ทั่วไปเคยทำได้
    ผู้ใช้กลายเป็น “ตัวแทน” ที่เปิดประตูให้ AI เข้าถึงข้อมูลที่ไม่ควรเข้าถึง

    ความเสี่ยงด้านความถูกต้องของข้อมูล
    ข้อมูลที่แสดงอาจเป็นการ “แต่งขึ้น” โดยไม่มีแหล่งอ้างอิง
    ไม่มีการอัปเดตแบบเรียลไทม์เหมือนเครื่องมือค้นหาทั่วไป
    อาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าเป็นข้อมูลจริงจากเว็บ

    ความเสี่ยงด้านสุขภาพจิตและการพึ่งพา AI
    มีรายงานว่าผู้ใช้บางคนเกิดภาวะพึ่งพาอารมณ์กับ AI
    มีกรณีที่ AI แนะนำพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้
    ควรมีคำเตือนชัดเจนก่อนติดตั้งหรือใช้งาน Atlas

    https://www.anildash.com//2025/10/22/atlas-anti-web-browser/
    🧠 Atlas: เบราว์เซอร์ใหม่จาก OpenAI ที่อาจเปลี่ยนโลกออนไลน์...แต่ไม่ใช่ในทางที่ดี ลองจินตนาการว่าเบราว์เซอร์ที่คุณใช้ทุกวันไม่ได้พาคุณไปยังเว็บไซต์ต่างๆ แต่กลับสร้างเนื้อหาขึ้นมาเอง แล้วแสดงผลในรูปแบบที่ “เหมือน” เว็บเพจ — นั่นคือสิ่งที่ Atlas จาก OpenAI กำลังทำอยู่ Atlas ไม่ใช่แค่เบราว์เซอร์ธรรมดา มันคือเครื่องมือที่ใช้ AI สร้างคำตอบแทนการค้นหาข้อมูลจากเว็บจริงๆ และนั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของ “การต่อต้านเว็บ” อย่างแท้จริง มีคนลองใช้ Atlas แล้วพิมพ์คำว่า “Taylor Swift showgirl” หวังว่าจะได้ลิงก์ไปดูวิดีโอหรือเพลย์ลิสต์ แต่สิ่งที่ได้กลับเป็นข้อความที่ดูเหมือนเด็กรีบทำรายงานส่งครู — ไม่มีลิงก์ไปยังเว็บไซต์จริง ไม่มีข้อมูลใหม่ และไม่มีทางรู้เลยว่า Taylor Swift มีเว็บไซต์ของตัวเอง มันเหมือนคุณพิมพ์ในช่องค้นหา แต่จริงๆ แล้วคุณกำลังพิมพ์ในช่อง prompt ที่ให้ AI สร้างคำตอบขึ้นมาเอง นอกจากนี้ Atlas ยังบังคับให้คุณพิมพ์คำสั่งเหมือนยุค DOS แทนที่จะคลิกง่ายๆ แบบที่เราเคยชิน เช่น ถ้าคุณอยากหาไฟล์ Google Docs ที่เคยเปิด ก็ต้องพิมพ์ว่า “search web history for a doc about atlas core design” แทนที่จะพิมพ์แค่ “atlas design” แล้วคลิกจากรายการที่แสดง และที่น่ากลัวที่สุดคือ Atlas ทำให้คุณกลายเป็น “ตัวแทน” ของ AI โดยที่คุณไม่รู้ตัว มันขอให้คุณเปิดใช้ฟีเจอร์ “memories” เพื่อเก็บข้อมูลทุกอย่างที่คุณทำ แล้วใช้ข้อมูลนั้นฝึกโมเดลของมัน — ตั้งแต่ไฟล์ลับใน Google Docs ไปจนถึงคอมเมนต์ที่คุณพิมพ์ใน Facebook แต่ยังไม่ได้กดส่ง 📌 สรุปเนื้อหาสำคัญและคำเตือน ✅ Atlas คือเบราว์เซอร์ใหม่จาก OpenAI ➡️ ใช้ AI สร้างเนื้อหาแทนการแสดงผลจากเว็บไซต์จริง ➡️ แสดงผลในรูปแบบที่คล้ายเว็บเพจ ทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิด ➡️ ไม่มีลิงก์ไปยังเว็บไซต์ต้นทาง เช่น เว็บไซต์ของศิลปินหรือแบรนด์ ➡️ ข้อมูลที่แสดงอาจล้าหลังหลายสัปดาห์ เพราะไม่อัปเดตแบบเรียลไทม์ ✅ ประสบการณ์ผู้ใช้ถูกเปลี่ยนให้คล้ายการพิมพ์คำสั่ง ➡️ ต้องพิมพ์คำสั่งแบบ command-line แทนการคลิก ➡️ ลดความสะดวกในการใช้งาน และเพิ่มโอกาสเกิดข้อผิดพลาด ➡️ ขัดกับแนวคิดของเว็บที่เน้นการเข้าถึงง่ายและคลิกได้ ✅ Atlas ส่งเสริมให้ผู้ใช้เปิดฟีเจอร์ “memories” ➡️ เก็บข้อมูลการใช้งานทั้งหมดของผู้ใช้ ➡️ ใช้ข้อมูลเหล่านั้นฝึกโมเดล AI โดยไม่ขอความยินยอมอย่างชัดเจน ➡️ เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวที่เบราว์เซอร์ทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้ ‼️ ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว ⛔ AI สามารถเห็นไฟล์ลับ ข้อความที่ยังไม่ได้ส่ง และพฤติกรรมการใช้งาน ⛔ สร้างโปรไฟล์การใช้งานที่ละเอียดเกินกว่าที่เบราว์เซอร์ทั่วไปเคยทำได้ ⛔ ผู้ใช้กลายเป็น “ตัวแทน” ที่เปิดประตูให้ AI เข้าถึงข้อมูลที่ไม่ควรเข้าถึง ‼️ ความเสี่ยงด้านความถูกต้องของข้อมูล ⛔ ข้อมูลที่แสดงอาจเป็นการ “แต่งขึ้น” โดยไม่มีแหล่งอ้างอิง ⛔ ไม่มีการอัปเดตแบบเรียลไทม์เหมือนเครื่องมือค้นหาทั่วไป ⛔ อาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าเป็นข้อมูลจริงจากเว็บ ‼️ ความเสี่ยงด้านสุขภาพจิตและการพึ่งพา AI ⛔ มีรายงานว่าผู้ใช้บางคนเกิดภาวะพึ่งพาอารมณ์กับ AI ⛔ มีกรณีที่ AI แนะนำพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ ⛔ ควรมีคำเตือนชัดเจนก่อนติดตั้งหรือใช้งาน Atlas https://www.anildash.com//2025/10/22/atlas-anti-web-browser/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกย้อนแย้งซื้อเวลา หลิ่วตาปราบสแกมเมอร์ : [NEWS UPDATE]
    นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง แนวทางการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ การค้ามนุษย์และการฟอกเงิน เพื่อให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีพิจารณาแก้ปัญหาเร่งด่วนในวาระแห่งชาติ เป็นเรื่องร้ายแรง สร้างความเสียหายทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 2 ล้านล้านบาท เปิดข้อผิดพลาดรัฐบาลตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต หยุดส่งน้ำมัน แต่ไม่ขยายผลต่อเนื่อง ไม่จัดการไทยเทาจริงจังทำแค่ย้ายตำรวจ บทบาทนายกรัฐมนตรีย้อนแย้ง บอกไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพกวาดล้างสแกมเมอร์ ขณะที่สหรัฐฯ อายัดคริปโต 500,000 ล้านบาท ไทยอยู่ติดกัมพูชาแต่ทำอะไรไม่ได้ ต้องรอประเทศอื่นจัดการ เป็นความอับอายของเกียรติภูมิชาติที่ไม่สามารถเป็นผู้นำจัดการเรื่องนี้ได้ รัฐบาลซื้อเวลาไร้ความคืบหน้า หวั่นไทยเป็นสวรรค์การฟอกเงิน นึกไม่ออกถ้าไม่ได้ประโยชน์จากแก๊งสแกมเมอร์ ทำไมไม่ดำเนินการ แนะ ดึงนานาประเทศร่วมปฏิบัติการจริงจัง ไม่ใช่แค่เดินไปคุย



    สส.มีประวัติทั้งสภา

    7 บริษัท เลื่อนแจงเงินเทา

    มาเลย์ปราบแก๊งคอลครั้งใหญ่

    พร้อมเลือกตั้งควบประชามติ
    นายกย้อนแย้งซื้อเวลา หลิ่วตาปราบสแกมเมอร์ : [NEWS UPDATE] นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง แนวทางการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ การค้ามนุษย์และการฟอกเงิน เพื่อให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีพิจารณาแก้ปัญหาเร่งด่วนในวาระแห่งชาติ เป็นเรื่องร้ายแรง สร้างความเสียหายทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 2 ล้านล้านบาท เปิดข้อผิดพลาดรัฐบาลตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต หยุดส่งน้ำมัน แต่ไม่ขยายผลต่อเนื่อง ไม่จัดการไทยเทาจริงจังทำแค่ย้ายตำรวจ บทบาทนายกรัฐมนตรีย้อนแย้ง บอกไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพกวาดล้างสแกมเมอร์ ขณะที่สหรัฐฯ อายัดคริปโต 500,000 ล้านบาท ไทยอยู่ติดกัมพูชาแต่ทำอะไรไม่ได้ ต้องรอประเทศอื่นจัดการ เป็นความอับอายของเกียรติภูมิชาติที่ไม่สามารถเป็นผู้นำจัดการเรื่องนี้ได้ รัฐบาลซื้อเวลาไร้ความคืบหน้า หวั่นไทยเป็นสวรรค์การฟอกเงิน นึกไม่ออกถ้าไม่ได้ประโยชน์จากแก๊งสแกมเมอร์ ทำไมไม่ดำเนินการ แนะ ดึงนานาประเทศร่วมปฏิบัติการจริงจัง ไม่ใช่แค่เดินไปคุย สส.มีประวัติทั้งสภา 7 บริษัท เลื่อนแจงเงินเทา มาเลย์ปราบแก๊งคอลครั้งใหญ่ พร้อมเลือกตั้งควบประชามติ
    Haha
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ธรรมนัสฟาด โตไวเลยถูกแกล้ง "มันก็มีประวัติกันทั้งสภา..!!" (30/10/68)
    .
    #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #ธรรมนัส #การเมืองไทย #สภาไทย #รัฐบาลไทย #ข่าวร้อน #newsupdate #ข่าวtiktok
    ธรรมนัสฟาด โตไวเลยถูกแกล้ง "มันก็มีประวัติกันทั้งสภา..!!" (30/10/68) . #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #ธรรมนัส #การเมืองไทย #สภาไทย #รัฐบาลไทย #ข่าวร้อน #newsupdate #ข่าวtiktok
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • กลิ่นไอของสิ่งที่ผ่านมา..ในแต่ะช่วงใครมัน ในความทรงจำดีๆของแต่ละคน.

    เรา..ประเทศไทยสบายมากที่จะดำรงผสมผสานความล้ำสมัยใดๆเข้ากับเราคนไทยได้อย่างลงตัว,ไม่สุดโด่งแบบเผด็จการคอมมิวนิสต์ ไม่อิสระจ๋าแบบประชาธิปไตยจอมปลอมของฝรั่งแต่ไส้ในอุบาทก์ชาติชั่วสุดๆเผด็จการโคตรๆไม่ต่างจากคอมมิวนิสต์ซึ่งทั้งสองอย่างอีลิทมันเองละคือเจ้าของหมด,ดูยุคโควิด19ฉีดตายได้เลยฝรั่งจ๋าบังคับฉีดคนภายในประเทศมันสุดๆเช่นกัน.

    ..อนาคตประเทศไทยเราจะล้ำทั้งทางจิตใจอันดีงามผู้นำทางพลังจิตพลังใจที่ดีงามจริงคู่ขนานAIได้อย่างลงตัวล้ำๆทางเทคโนโลยีนั้นเอง,แต่ต้องกวาดล้างและกำจัดทำความสะอาดบ้านเมืองเราเองจริงๆจังๆก่อน.

    ..ยิ้มสยามทั่วไทยเรา อันน่ารักๆจากใจทุกๆคนไทยจะกลับมาอีกบนฐานะที่ดีร่ำรวยมั่งคงกันทุกๆคน.

    https://vm.tiktok.com/ZSHcdQG4NQcDo-jo9du/

    กลิ่นไอของสิ่งที่ผ่านมา..ในแต่ะช่วงใครมัน ในความทรงจำดีๆของแต่ละคน. เรา..ประเทศไทยสบายมากที่จะดำรงผสมผสานความล้ำสมัยใดๆเข้ากับเราคนไทยได้อย่างลงตัว,ไม่สุดโด่งแบบเผด็จการคอมมิวนิสต์ ไม่อิสระจ๋าแบบประชาธิปไตยจอมปลอมของฝรั่งแต่ไส้ในอุบาทก์ชาติชั่วสุดๆเผด็จการโคตรๆไม่ต่างจากคอมมิวนิสต์ซึ่งทั้งสองอย่างอีลิทมันเองละคือเจ้าของหมด,ดูยุคโควิด19ฉีดตายได้เลยฝรั่งจ๋าบังคับฉีดคนภายในประเทศมันสุดๆเช่นกัน. ..อนาคตประเทศไทยเราจะล้ำทั้งทางจิตใจอันดีงามผู้นำทางพลังจิตพลังใจที่ดีงามจริงคู่ขนานAIได้อย่างลงตัวล้ำๆทางเทคโนโลยีนั้นเอง,แต่ต้องกวาดล้างและกำจัดทำความสะอาดบ้านเมืองเราเองจริงๆจังๆก่อน. ..ยิ้มสยามทั่วไทยเรา อันน่ารักๆจากใจทุกๆคนไทยจะกลับมาอีกบนฐานะที่ดีร่ำรวยมั่งคงกันทุกๆคน. https://vm.tiktok.com/ZSHcdQG4NQcDo-jo9du/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • พนันไม่เกี่ยวสแกมเมอร์ นักการเมืองทุกคนมีอดีต : [THE MESSAGE]
    ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม(กธ.) เผยกรณีมีการเชื่อมโยงนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรค กธ. เกี่ยวข้องกับเส้นเงินแก๊งสแกมเมอร์ เขาชี้แจงตัวเองแล้ว ขอให้ลองไปฟัง เป็นคดีเก่าที่ผ่านกระบวนการยุติธรรม เราไปพูดมากก็ไม่ดี วันนี้สังคมไทยมองทุกอย่างเป็นสแกมเมอร์ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีเขาพยายามแยกแยะและชี้แจงว่า เรื่องแก๊งสแกมเมอร์เป็นความผิดประเภทหนึ่ง พนันออนไลน์เป็นอีกเรื่องหนึ่ง การค้ามนุษย์ก็อีกประเภทหนึ่ง ต้องแยกกัน อะไรที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ต้องให้ความเป็นธรรมเขา อย่าเหมารวม ถ้าตรวจสอบทั้งหมด 400 กว่าชีวิตในสภา ทุกคนมีประวัติและอดีต จะให้เราซัดกันหรือ ตนเองมองว่ามันไม่ดี ส่วนการไปชี้แจงคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ วันนี้มีประชุมตั้งแต่เช้า บ่ายก็ติดภารกิจสำคัญ ไม่มีเวลา เหลือเวลาไม่กี่เดือนก็จะยุบสภาแล้ว พยายามทำอะไรที่เกิดประโยชน์กับประชาชน
    พนันไม่เกี่ยวสแกมเมอร์ นักการเมืองทุกคนมีอดีต : [THE MESSAGE] ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม(กธ.) เผยกรณีมีการเชื่อมโยงนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรค กธ. เกี่ยวข้องกับเส้นเงินแก๊งสแกมเมอร์ เขาชี้แจงตัวเองแล้ว ขอให้ลองไปฟัง เป็นคดีเก่าที่ผ่านกระบวนการยุติธรรม เราไปพูดมากก็ไม่ดี วันนี้สังคมไทยมองทุกอย่างเป็นสแกมเมอร์ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีเขาพยายามแยกแยะและชี้แจงว่า เรื่องแก๊งสแกมเมอร์เป็นความผิดประเภทหนึ่ง พนันออนไลน์เป็นอีกเรื่องหนึ่ง การค้ามนุษย์ก็อีกประเภทหนึ่ง ต้องแยกกัน อะไรที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ต้องให้ความเป็นธรรมเขา อย่าเหมารวม ถ้าตรวจสอบทั้งหมด 400 กว่าชีวิตในสภา ทุกคนมีประวัติและอดีต จะให้เราซัดกันหรือ ตนเองมองว่ามันไม่ดี ส่วนการไปชี้แจงคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ วันนี้มีประชุมตั้งแต่เช้า บ่ายก็ติดภารกิจสำคัญ ไม่มีเวลา เหลือเวลาไม่กี่เดือนก็จะยุบสภาแล้ว พยายามทำอะไรที่เกิดประโยชน์กับประชาชน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ปราบใดที่กองทัพไทยยังไม่ปลดปล่อยคนไทยจะระบบปกครองฝรั่ง ประเทศไทยเราจะพังพินาศบนความเป็นทาสฝรั่งตลอดไป ถูกปล้นชิงตลอดเวลาแบบบ่อน้ำมันบ่อทองคำหรือแบบแร่เอิร์ธที่เป็นข่าวอยู่ในปัจจุบัน,ค่าจริงจะปรากฎชัดแบบเวลาปัจจุบันนี้,ยุคอดีตคือบ่อน้ำมัน ยุคปัจจุบันก็แร่เอิร์ธ จากที่หลบซ่อนตัวตนมานาน จะออกมาเปืดเผยตัวตนแต่ละครั้งต้องเป็นของคุ้มค่าต่อมัน แบบยุคบ่อน้ำมันในอดีต,
    ..กองทัพไทยจะนำพาคนไทยทางดีงามหรือชั่วเลว มันคือการเปลี่ยนแปลงตอนนี้เท่านั้น, อนาคตลูกหลานเรามิอาจอยู่ในมือนักการเมืองชั่วเลวแบบในปัจจุบันได้หรือระบบปกครองที่ล่มสลายนี้หรือล้มเหลวโคตรๆ.
    ..เรา..เป็นผู้นำตัวเราเองทั้งทางจิตวิญญาณและล้ำทางวัตถุยุคสมัยสไตล์เราได้ อย่าปล่อยต่างชาติใดๆมากดขี่เราประเทศไทยอีกเลย.,จงนำพาประชาชนออกสู่แสงสว่างทั้งประเทศเถิด.

    https://vm.tiktok.com/ZSHcd9rhgSVap-VGcRK/

    ปราบใดที่กองทัพไทยยังไม่ปลดปล่อยคนไทยจะระบบปกครองฝรั่ง ประเทศไทยเราจะพังพินาศบนความเป็นทาสฝรั่งตลอดไป ถูกปล้นชิงตลอดเวลาแบบบ่อน้ำมันบ่อทองคำหรือแบบแร่เอิร์ธที่เป็นข่าวอยู่ในปัจจุบัน,ค่าจริงจะปรากฎชัดแบบเวลาปัจจุบันนี้,ยุคอดีตคือบ่อน้ำมัน ยุคปัจจุบันก็แร่เอิร์ธ จากที่หลบซ่อนตัวตนมานาน จะออกมาเปืดเผยตัวตนแต่ละครั้งต้องเป็นของคุ้มค่าต่อมัน แบบยุคบ่อน้ำมันในอดีต, ..กองทัพไทยจะนำพาคนไทยทางดีงามหรือชั่วเลว มันคือการเปลี่ยนแปลงตอนนี้เท่านั้น, อนาคตลูกหลานเรามิอาจอยู่ในมือนักการเมืองชั่วเลวแบบในปัจจุบันได้หรือระบบปกครองที่ล่มสลายนี้หรือล้มเหลวโคตรๆ. ..เรา..เป็นผู้นำตัวเราเองทั้งทางจิตวิญญาณและล้ำทางวัตถุยุคสมัยสไตล์เราได้ อย่าปล่อยต่างชาติใดๆมากดขี่เราประเทศไทยอีกเลย.,จงนำพาประชาชนออกสู่แสงสว่างทั้งประเทศเถิด. https://vm.tiktok.com/ZSHcd9rhgSVap-VGcRK/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลกรรมจากการที่นังไอซ์ จ้องโจมตีทั้งกัน และกองทัพ เรื่องบริจาค นอกจากกรรมจะย้อนเข้าตัวมัน และพรรคมันเองแล้ว แก๊ง 3 กีบ อย่างทนายอานนท์ ก็พลอยซวยไปด้วย ไม่กล้าโพสขอรับบริจาค จากเดิมที่เคยโพสขอรัวๆ ต้องจำใจใช้เงินเท่าทีพอจะขอจากวงใน ขอรายตัว

    คิงส์จะช่วยทวนให้พวกเราจำว่า ก่อนเข้าคุกมันก็ขอบริจาคจัดเลี้ยงส่ง เข้าคุกไปก็ขอบริจาคตลอด เอาไปซื้ออาหารพิเศษแดรก อาหารเรือนจำฟรีไม่แดรก แถมยักยอกเงินในบัญชีตัวเองแล้วปั้นเรื่องว่าโดนแฮ็ก แฮ็กพ่อมึง มิจไหนจะลงแอพฯแล้วสแกนใบหน้าของมึงได้ แล้วก็ขอบริจาคใหม่เรื่อยๆ มีอ้างว่าเงินใกล้หมด อยู่ได้อีก 4 เดือน แต่เงินในบัญชีเหลือเกือบ 4 แสน ทนายเชี้ยอย่างมึงอย่าออกมาเลย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ผลกรรมจากการที่นังไอซ์ จ้องโจมตีทั้งกัน และกองทัพ เรื่องบริจาค นอกจากกรรมจะย้อนเข้าตัวมัน และพรรคมันเองแล้ว แก๊ง 3 กีบ อย่างทนายอานนท์ ก็พลอยซวยไปด้วย ไม่กล้าโพสขอรับบริจาค จากเดิมที่เคยโพสขอรัวๆ ต้องจำใจใช้เงินเท่าทีพอจะขอจากวงใน ขอรายตัว คิงส์จะช่วยทวนให้พวกเราจำว่า ก่อนเข้าคุกมันก็ขอบริจาคจัดเลี้ยงส่ง เข้าคุกไปก็ขอบริจาคตลอด เอาไปซื้ออาหารพิเศษแดรก อาหารเรือนจำฟรีไม่แดรก แถมยักยอกเงินในบัญชีตัวเองแล้วปั้นเรื่องว่าโดนแฮ็ก แฮ็กพ่อมึง มิจไหนจะลงแอพฯแล้วสแกนใบหน้าของมึงได้ แล้วก็ขอบริจาคใหม่เรื่อยๆ มีอ้างว่าเงินใกล้หมด อยู่ได้อีก 4 เดือน แต่เงินในบัญชีเหลือเกือบ 4 แสน ทนายเชี้ยอย่างมึงอย่าออกมาเลย #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • "โจรปราบโจร" วาทะเดือด "รังสิมันต์" อัด "ธรรมนัส" ปม ช. กรรมการบริหารพรรค มั่นใจ "ธรรมนัส-ชาดา" รู้ดีว่า "ชนนพัฒฐ์" คือใคร
    https://www.thai-tai.tv/news/22113/
    .
    #ไทยไท #รังสิมันต์โรม #ธรรมนัส #ชนนพัฒฐ์ #เว็บพนัน #สแกมเมอร์ #โจรจะอุ้มโจร
    "โจรปราบโจร" วาทะเดือด "รังสิมันต์" อัด "ธรรมนัส" ปม ช. กรรมการบริหารพรรค มั่นใจ "ธรรมนัส-ชาดา" รู้ดีว่า "ชนนพัฒฐ์" คือใคร https://www.thai-tai.tv/news/22113/ . #ไทยไท #รังสิมันต์โรม #ธรรมนัส #ชนนพัฒฐ์ #เว็บพนัน #สแกมเมอร์ #โจรจะอุ้มโจร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อเจ้าหญิงอัจฉริยะเลิกทวงความยุติธรรมให้ชาวบ้าน กันมาจูบปากสงบศึกบิ๊กโจร มันก็ต้องออกตัวปกป้อง เบี่ยงเบนช่วยกันเป็นธรรมดา
    #คิงส์โพธิ์แดง
    เมื่อเจ้าหญิงอัจฉริยะเลิกทวงความยุติธรรมให้ชาวบ้าน กันมาจูบปากสงบศึกบิ๊กโจร มันก็ต้องออกตัวปกป้อง เบี่ยงเบนช่วยกันเป็นธรรมดา #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • Rüdesheim River Cruise Port หนึ่งในท่าเรือสำราญ “ที่สวยและโรแมนติกที่สุด” บนแม่น้ำไรน์ของเยอรมนี ที่นี่มักเป็นจุดแวะหลักของ เรือล่องแม่น้ำยุโรปและได้เก็บครบทุกไฮไลท์

    ⭐️ Drosselgasse ถนนเดรอสเซลกัสเซอ
    ถนนเล็กๆ ความยาวเพียง 144 เมตร ถนนสายนี้เคยเป็นเส้นทางขนถังไวน์จากริมแม่น้ำขึ้นเขา ปัจจุบันกลายเป็นย่านท่องเที่ยวสำคัญและศูนย์รวมวัฒนธรรมไวน์ของเมือง

    ⭐️ Niederwalddenkmal อนุสรณ์สถานเนียเดอร์วัลด์
    สร้างขึ้นระหว่างปี 1871–1883 หลังการรวมชาติของเยอรมนีโดย Otto von Bismarck จุดชมวิวแม่น้ำไรน์ที่งดงาม พร้อมอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่เพื่อรำลึกถึงการรวมชาติของเยอรมนี

    ⭐️ Siegfried’s Mechanical Music Cabinet พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโบราณ
    เพื่ออนุรักษ์และจัดแสดงเครื่องดนตรีอัตโนมัติจากยุค 18–20 จัดเป็นพิพิธภัณฑ์หนึ่งเดียวในยุโรปที่รวบรวมเครื่องดนตรีอัตโนมัติกว่า 350 ชิ้น ตั้งอยู่ในปราสาทโบราณณ Brömserhof

    ⭐️ St. Jakobus Church โบสถ์เซนต์จาคอบัส
    เคยได้รับความเสียหาย จากการทิ้งระเบิดในปี 1944 ปัจจุบันยังใช้ประกอบพิธีทางศาสนาอย่างต่อเนื่อง โบสถ์ประจำเมือง ที่เรียบง่ายแต่สง่างาม สะท้อนศิลปะเยอรมันแบบโรมันและบาโรคมีหอระฆังสูง

    สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที!
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696

    #RüdesheimRiverCruisePort #RhineRiver #Germany #Drosselgasse #Niederwalddenkmal #SiegfriedMechanicalMusicCabinet #StJakobusChurch #port #cruisedomain
    Rüdesheim River Cruise Port หนึ่งในท่าเรือสำราญ “ที่สวยและโรแมนติกที่สุด” บนแม่น้ำไรน์ของเยอรมนี ที่นี่มักเป็นจุดแวะหลักของ เรือล่องแม่น้ำยุโรปและได้เก็บครบทุกไฮไลท์ 🍷🏰 ⭐️ Drosselgasse ➖ ถนนเดรอสเซลกัสเซอ ถนนเล็กๆ ความยาวเพียง 144 เมตร ถนนสายนี้เคยเป็นเส้นทางขนถังไวน์จากริมแม่น้ำขึ้นเขา ปัจจุบันกลายเป็นย่านท่องเที่ยวสำคัญและศูนย์รวมวัฒนธรรมไวน์ของเมือง ⭐️ Niederwalddenkmal ➖ อนุสรณ์สถานเนียเดอร์วัลด์ สร้างขึ้นระหว่างปี 1871–1883 หลังการรวมชาติของเยอรมนีโดย Otto von Bismarck จุดชมวิวแม่น้ำไรน์ที่งดงาม พร้อมอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่เพื่อรำลึกถึงการรวมชาติของเยอรมนี ⭐️ Siegfried’s Mechanical Music Cabinet ➖ พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโบราณ เพื่ออนุรักษ์และจัดแสดงเครื่องดนตรีอัตโนมัติจากยุค 18–20 จัดเป็นพิพิธภัณฑ์หนึ่งเดียวในยุโรปที่รวบรวมเครื่องดนตรีอัตโนมัติกว่า 350 ชิ้น ตั้งอยู่ในปราสาทโบราณณ Brömserhof ⭐️ St. Jakobus Church ➖ โบสถ์เซนต์จาคอบัส เคยได้รับความเสียหาย จากการทิ้งระเบิดในปี 1944 ปัจจุบันยังใช้ประกอบพิธีทางศาสนาอย่างต่อเนื่อง โบสถ์ประจำเมือง ที่เรียบง่ายแต่สง่างาม สะท้อนศิลปะเยอรมันแบบโรมันและบาโรคมีหอระฆังสูง 📩 สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที! https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #RüdesheimRiverCruisePort #RhineRiver #Germany #Drosselgasse #Niederwalddenkmal #SiegfriedMechanicalMusicCabinet #StJakobusChurch #port #cruisedomain
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใครช่วยมันสร้าง
    วาทกรรมว่ะ
    สั่งวันนี้ต้องเสร็จเมื่อวาน
    บิน 6 ชั่วโมงทำงาน 7 ชั่วโมง การรถไฟรุกที่ชาวบ้าน ไทยรุกล้ำกัมพูชา
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ใครช่วยมันสร้าง วาทกรรมว่ะ สั่งวันนี้ต้องเสร็จเมื่อวาน บิน 6 ชั่วโมงทำงาน 7 ชั่วโมง การรถไฟรุกที่ชาวบ้าน ไทยรุกล้ำกัมพูชา #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • สรุปแบบง่ายๆประชาชนต้องการเงินสด,รัฐจ่ายเงินสดก็จบ,ไม่ต้องไปให้คนละครึ่งเขาก็ได้,จริงๆรัฐรู้อยู่แก่ใจว่าประชาชนต้องการเงินสด,สามารถรับเป็นเงินสดกดที่ธนาคารได้ก็จบ,ถ้าไม่ต้องการเงินสดก็ใข้เงื่อนไขเดิม,สละสิทธิ์ขอรับเป็นเงินสดสิ,ยุ่งยากให้ประชาชนเขาเอาเงินเข้าไปอีกด้วย,ประชาชนบางคนต้องการสิทธิ์เพียงแค่นั้น,บางคนตังไม่มีจะเอาเข้าด้วยมั้ยในยามวิกฤติขนาดนี้,ลักษณะแบบฉันไม่ต้องการเสีย200เพื่อรับสินค้าของเจ้าสัว400บาท,อยากเอาไปซื้อผักกับคนข้างบ้านแทนก็ได้ ซื้อปูปลาข้างบ้านก็ได้ เงินสด180-190บาท เขาก็พอใจ ร้านค้าก็พอได้นิดหน่อยแค่นั้นจะคิดอะไรมากมาย,มันผิดตั้งแต่แรก แจกเงินสดก็จบยุคลุง,ตังจริงๆมันไหลไปหาเจ้าสัวทั้งทางตรงและทางอ้อม,แน่จริงต้องระบุชัดเจนไปเลยว่า ใช้ได้และใข้สิทธิ์ได้เฉพาะร้านค้ากองทุนประจำหมู่บ้านใครมันเท่านั้นหรือหมู่บ้านที่มีร้านค้ากองทุนหมู่บ้าน จะช่วยกระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดร้านค้าชุมชนหมู่บ้านพึ่งพาตนเองได้,ต่อยอดเป็นตลาดชุมชนที่เข้มแข็งระดับตำบล อำเภอ จังหวัดได้,อัดเงินลงโครงการประยุกต์สาระพัดได้สบาย,เรามีผู้นำในอดีตที่กาก สนับสนุนกลุ่มทุนมากกว่ากลุ่มประชาชนคนไทยตน.

    https://youtube.com/watch?v=wDWHBDnIzfw&si=wbd9Ep5SAbtuIhAW
    สรุปแบบง่ายๆประชาชนต้องการเงินสด,รัฐจ่ายเงินสดก็จบ,ไม่ต้องไปให้คนละครึ่งเขาก็ได้,จริงๆรัฐรู้อยู่แก่ใจว่าประชาชนต้องการเงินสด,สามารถรับเป็นเงินสดกดที่ธนาคารได้ก็จบ,ถ้าไม่ต้องการเงินสดก็ใข้เงื่อนไขเดิม,สละสิทธิ์ขอรับเป็นเงินสดสิ,ยุ่งยากให้ประชาชนเขาเอาเงินเข้าไปอีกด้วย,ประชาชนบางคนต้องการสิทธิ์เพียงแค่นั้น,บางคนตังไม่มีจะเอาเข้าด้วยมั้ยในยามวิกฤติขนาดนี้,ลักษณะแบบฉันไม่ต้องการเสีย200เพื่อรับสินค้าของเจ้าสัว400บาท,อยากเอาไปซื้อผักกับคนข้างบ้านแทนก็ได้ ซื้อปูปลาข้างบ้านก็ได้ เงินสด180-190บาท เขาก็พอใจ ร้านค้าก็พอได้นิดหน่อยแค่นั้นจะคิดอะไรมากมาย,มันผิดตั้งแต่แรก แจกเงินสดก็จบยุคลุง,ตังจริงๆมันไหลไปหาเจ้าสัวทั้งทางตรงและทางอ้อม,แน่จริงต้องระบุชัดเจนไปเลยว่า ใช้ได้และใข้สิทธิ์ได้เฉพาะร้านค้ากองทุนประจำหมู่บ้านใครมันเท่านั้นหรือหมู่บ้านที่มีร้านค้ากองทุนหมู่บ้าน จะช่วยกระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดร้านค้าชุมชนหมู่บ้านพึ่งพาตนเองได้,ต่อยอดเป็นตลาดชุมชนที่เข้มแข็งระดับตำบล อำเภอ จังหวัดได้,อัดเงินลงโครงการประยุกต์สาระพัดได้สบาย,เรามีผู้นำในอดีตที่กาก สนับสนุนกลุ่มทุนมากกว่ากลุ่มประชาชนคนไทยตน. https://youtube.com/watch?v=wDWHBDnIzfw&si=wbd9Ep5SAbtuIhAW
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ดักจับหนูในครัวได้ 1ตัว ลูกหนูตัวเล็กๆ คิดจะเอาไปปล่อยไกลๆบ้านแต่ในความคิด คิดว่าปล่อยไปแล้วมันจะต้องมีชีวิตรอดต่อไป ต้องเลือกที่ปล่อยที่ไม่ลำบากคนอื่นด้วย นั้นคือปัญหาในเวลานี้ ความรู้สึกไม่ดี
    วันนี้ดักจับหนูในครัวได้ 1ตัว ลูกหนูตัวเล็กๆ คิดจะเอาไปปล่อยไกลๆบ้านแต่ในความคิด คิดว่าปล่อยไปแล้วมันจะต้องมีชีวิตรอดต่อไป ต้องเลือกที่ปล่อยที่ไม่ลำบากคนอื่นด้วย นั้นคือปัญหาในเวลานี้ ความรู้สึกไม่ดี😔
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • มันเดอะแก๊งเดียวกันหมด,ทุกๆตัวในนักการเมืองนี้,มันจึงเขียนกฎหมายมาจนเปลี่ยนนายกฯมานั่งเล่นๆกันจนว่าเล่นตั้งแต่นายกฯไม่ซื่อสัตย์คนแรก คนสองทหารคือฝ่ายตรงข้ามเรา คนต่อมาเดอะแก๊งชูสามนิ้วยกมือให้มาแก้ม.112แทนตนมานั่งนายกฯเองแบบเสียงข้างน้อยหรือหนักกว่านายกฯรักษาการอุ๊งอิ๊งอีกเจตนาพูดหลุดชัดเจน คนไทยไปล้ำแผ่นดินเขมรตรงส่วนไหนบ้าง มันป่าเถื่อนทัั้งวางกับระเบิด ปล้นชิงเรียกค่าไถคนไทย 100%ไม่มีใครไปล้ำแดนมันแน่นอน,ต่างจากทหารเขมรมันเจตนาล้ำตามคำสั่งฮุนเซน ใช้ครอบครัวทหารล้ำเนียนๆมาตลอด เพื่อยึดพื้นที่สร้างแนวเขตใหม่ กะชิงทรัพยากรมีค่าจากพื้นที่ไทยที่ชิงมาได้ทั้งบนบกและลากลงทะเล,อย่าลืมว่าพรบ.ชุมนุมในที่สาธารณะก็เกิดจากยุคลุงยึดอำนาจปิดปากประชาชนชัดเจน แก้ม.190สำเร็จด้วย.,รธน.60นี้จึงเป็นภัยมากหากพูดกันจริง,ทำทีห้ามคนอื่นยึดอำนาจต่อโทษประหารมันเขียนปิดทางคนดีอื่นๆด้วยดักไว้,แต่ถ้ายึดแล้วฉีกทิ้งมันก็ทำอะไรไม่ได้ ผู้ชนะเขียนกฎใหม่ได้หมด,
    ..เรา..ประชาชนจึงคาดหวังกับทหารกองทัพไทยเราใหม่สูงมากกว่ายุคคนบูรพาพยัคฆ์ผีบ้าไม่ถีบเขมรเหมือนบิ๊กกุ้งถีบออกไปอย่างชัดเจน,ผบ.สสและผบ.ทบ.เราต้องเด็ดขาดเสียทีกับนักการเมืองชั่วเลวเหล่านี้,ลุกลามพากันเลวชั่วจนถึงระดับท้องถิ่นไปหมด,แม้มีเลือกตั้งสมัยหน้าคนไทยที่ยากจนตามความจำเป็นในการใช้ตังของระบบทาสตังฝ่ายมือวางไว้จะไร้ปัญญาหนีออกจากระบบมันได้,ยิ่งเงินเถื่อนกว่าล้านล้านบาทมันพร้อมลงทุนซื้อคนนักการเมืองทุกๆระดับได้ ตั้งแต่ระดับชาติถึงผญบ.ก็ว่า มันทำแล้วด้วยในปัจจุบันที่ผ่านๆมา นักการเมืองท้องถิ่น อบต.อบจ.ส.อบต. ส.อบจ. ผญบ. ผู้ว่า นายอำเภอ ข้าราชการท้องถิ่นแต่ละที่มันสร้างเดอะแก๊งมันไว้หมด ควบคุมโดยหัวหน้าแก๊งลูกน้องมันอีก เมื่อคนมันวางไว้พร้อม ที่ๆผ่านมามันทดลองทดสอบระบบมันแล้ว กทม.พื้นที่มากมายจึงทดสอบที่หัวละ1,000-5,000บาทกันไปแล้ว,ขยายมาต่างจังหวัดแล้วด้วย,มีการเลือกตัังใหม่ มันจัดเต็มที่แน่นอน,ที่เหลือมันจะให้ใครรับบทเป็นนายกฯคนต่อไปแค่นั้น,เพราะสุดท้ายใครจะมาเป็นนายกฯคนไทย มันอยากได้อะไรมันจะสั่งให้ทำได้ทันทีนั้นเอง,แบบสั่งยกบ่อน้ำมันบนแผ่นดินไทยให้มันครอบครองหมด,ล่าสุดสั่งให้ยกแร่เอิร์ธให้มันอีกด้วย อาจกว่าแสนล้านตัน มิใช่พันล้านตันหรือหมื่นล้านตันหรอก คือเราน้อยกว่าจีนไม่เท่าไรเองแค่นั้น,พม่า ไทย มีมากสุด และไทยง่ายปลอดภัยกว่าพม่า เขมรจีนยึดแร่เอิร์ธแล้ว.

    ..สรุปหนทางออกที่ดีคือกองทัพไทยต้องปกป้องอธิปไตยแผ่นดินไทยเราให้เด็ดขาดชัดเจน จะให้นักการเมืองชั่วเลวเจ้าสัวชั่วเลวคนข้าราชการชั่วเลวนี้มาทำลายชาติไทยเราไม่ได้,ต้องฉีกกฎคนชั่วเลวที่สร้างขึ้นทั้งหมดทันที,ยึดอำนาจมันคือคำตอบสุดท้าย.,ส่วนพิธีกรรมในชาติบ้านเมืองขณะนี้ สามารถทำแทนมันคนชั่วเลวนี้ได้หมดล่ะและดีกว่าด้วยอย่างสมพระเกียรติอีก,อย่าปล่อยผ่านเหมือนยุคอุ๊งอิ๊งอีกเลย,มันลุกลามจนชาติเสียหายประชาชนตายอีกจากสงครามเขมรยิงใส่เราก่อนเลยนะ,ทรัมป์มันอ้างสันติภาพบังหน้า ก็สะดวกที่เราจัดการให้จบจากภายในประเทศไทยเราเลย,จากนั้นยิ่งง่ายในการต่อยอดจัดการภายนอกประเทศ ,เช่นกรณีเขมรเราสามารถต่อยอดแบบสันติภาพคว่ำบาตรเขมรทั้งหมดต่อยอดได้,สันติภาพแบบคว่ำบาตรสงบสุขชาติใครชาติมันอยู่ใครอยู่มันก็ไม่ผิด,ปิดด่านถาวรตลอดแนวทั้งทางบกทางอากาศทางทะเลจริง,ตัดน้ำตัดไฟตัดเน็ต ห้ามดาวเทียมstarlinkข้ามวงโคจรต่ำผ่านเขตไทยห้ามอำนวยปล่อยสัญญาณให้เน็ตเขมร ,เรา..สามารถกำจัดภัยคุกคามได้เด็ดขาดด้วยผ่านสันติภาพนี้ล่ะ,แบบไม่รบด้วย ก็ให้สันติไง.
    มันเดอะแก๊งเดียวกันหมด,ทุกๆตัวในนักการเมืองนี้,มันจึงเขียนกฎหมายมาจนเปลี่ยนนายกฯมานั่งเล่นๆกันจนว่าเล่นตั้งแต่นายกฯไม่ซื่อสัตย์คนแรก คนสองทหารคือฝ่ายตรงข้ามเรา คนต่อมาเดอะแก๊งชูสามนิ้วยกมือให้มาแก้ม.112แทนตนมานั่งนายกฯเองแบบเสียงข้างน้อยหรือหนักกว่านายกฯรักษาการอุ๊งอิ๊งอีกเจตนาพูดหลุดชัดเจน คนไทยไปล้ำแผ่นดินเขมรตรงส่วนไหนบ้าง มันป่าเถื่อนทัั้งวางกับระเบิด ปล้นชิงเรียกค่าไถคนไทย 100%ไม่มีใครไปล้ำแดนมันแน่นอน,ต่างจากทหารเขมรมันเจตนาล้ำตามคำสั่งฮุนเซน ใช้ครอบครัวทหารล้ำเนียนๆมาตลอด เพื่อยึดพื้นที่สร้างแนวเขตใหม่ กะชิงทรัพยากรมีค่าจากพื้นที่ไทยที่ชิงมาได้ทั้งบนบกและลากลงทะเล,อย่าลืมว่าพรบ.ชุมนุมในที่สาธารณะก็เกิดจากยุคลุงยึดอำนาจปิดปากประชาชนชัดเจน แก้ม.190สำเร็จด้วย.,รธน.60นี้จึงเป็นภัยมากหากพูดกันจริง,ทำทีห้ามคนอื่นยึดอำนาจต่อโทษประหารมันเขียนปิดทางคนดีอื่นๆด้วยดักไว้,แต่ถ้ายึดแล้วฉีกทิ้งมันก็ทำอะไรไม่ได้ ผู้ชนะเขียนกฎใหม่ได้หมด, ..เรา..ประชาชนจึงคาดหวังกับทหารกองทัพไทยเราใหม่สูงมากกว่ายุคคนบูรพาพยัคฆ์ผีบ้าไม่ถีบเขมรเหมือนบิ๊กกุ้งถีบออกไปอย่างชัดเจน,ผบ.สสและผบ.ทบ.เราต้องเด็ดขาดเสียทีกับนักการเมืองชั่วเลวเหล่านี้,ลุกลามพากันเลวชั่วจนถึงระดับท้องถิ่นไปหมด,แม้มีเลือกตั้งสมัยหน้าคนไทยที่ยากจนตามความจำเป็นในการใช้ตังของระบบทาสตังฝ่ายมือวางไว้จะไร้ปัญญาหนีออกจากระบบมันได้,ยิ่งเงินเถื่อนกว่าล้านล้านบาทมันพร้อมลงทุนซื้อคนนักการเมืองทุกๆระดับได้ ตั้งแต่ระดับชาติถึงผญบ.ก็ว่า มันทำแล้วด้วยในปัจจุบันที่ผ่านๆมา นักการเมืองท้องถิ่น อบต.อบจ.ส.อบต. ส.อบจ. ผญบ. ผู้ว่า นายอำเภอ ข้าราชการท้องถิ่นแต่ละที่มันสร้างเดอะแก๊งมันไว้หมด ควบคุมโดยหัวหน้าแก๊งลูกน้องมันอีก เมื่อคนมันวางไว้พร้อม ที่ๆผ่านมามันทดลองทดสอบระบบมันแล้ว กทม.พื้นที่มากมายจึงทดสอบที่หัวละ1,000-5,000บาทกันไปแล้ว,ขยายมาต่างจังหวัดแล้วด้วย,มีการเลือกตัังใหม่ มันจัดเต็มที่แน่นอน,ที่เหลือมันจะให้ใครรับบทเป็นนายกฯคนต่อไปแค่นั้น,เพราะสุดท้ายใครจะมาเป็นนายกฯคนไทย มันอยากได้อะไรมันจะสั่งให้ทำได้ทันทีนั้นเอง,แบบสั่งยกบ่อน้ำมันบนแผ่นดินไทยให้มันครอบครองหมด,ล่าสุดสั่งให้ยกแร่เอิร์ธให้มันอีกด้วย อาจกว่าแสนล้านตัน มิใช่พันล้านตันหรือหมื่นล้านตันหรอก คือเราน้อยกว่าจีนไม่เท่าไรเองแค่นั้น,พม่า ไทย มีมากสุด และไทยง่ายปลอดภัยกว่าพม่า เขมรจีนยึดแร่เอิร์ธแล้ว. ..สรุปหนทางออกที่ดีคือกองทัพไทยต้องปกป้องอธิปไตยแผ่นดินไทยเราให้เด็ดขาดชัดเจน จะให้นักการเมืองชั่วเลวเจ้าสัวชั่วเลวคนข้าราชการชั่วเลวนี้มาทำลายชาติไทยเราไม่ได้,ต้องฉีกกฎคนชั่วเลวที่สร้างขึ้นทั้งหมดทันที,ยึดอำนาจมันคือคำตอบสุดท้าย.,ส่วนพิธีกรรมในชาติบ้านเมืองขณะนี้ สามารถทำแทนมันคนชั่วเลวนี้ได้หมดล่ะและดีกว่าด้วยอย่างสมพระเกียรติอีก,อย่าปล่อยผ่านเหมือนยุคอุ๊งอิ๊งอีกเลย,มันลุกลามจนชาติเสียหายประชาชนตายอีกจากสงครามเขมรยิงใส่เราก่อนเลยนะ,ทรัมป์มันอ้างสันติภาพบังหน้า ก็สะดวกที่เราจัดการให้จบจากภายในประเทศไทยเราเลย,จากนั้นยิ่งง่ายในการต่อยอดจัดการภายนอกประเทศ ,เช่นกรณีเขมรเราสามารถต่อยอดแบบสันติภาพคว่ำบาตรเขมรทั้งหมดต่อยอดได้,สันติภาพแบบคว่ำบาตรสงบสุขชาติใครชาติมันอยู่ใครอยู่มันก็ไม่ผิด,ปิดด่านถาวรตลอดแนวทั้งทางบกทางอากาศทางทะเลจริง,ตัดน้ำตัดไฟตัดเน็ต ห้ามดาวเทียมstarlinkข้ามวงโคจรต่ำผ่านเขตไทยห้ามอำนวยปล่อยสัญญาณให้เน็ตเขมร ,เรา..สามารถกำจัดภัยคุกคามได้เด็ดขาดด้วยผ่านสันติภาพนี้ล่ะ,แบบไม่รบด้วย ก็ให้สันติไง.
    เบื้องหลังนายกฯขอโทษคนไทย ก็เพราะมือขวาครูใหญ่ สั่งนายกฯปากไวให้แก้ปัญหาด้วยตัวเอง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • แก้ง่ายมาก,กองทัพไทยและทหารไทยเรายึดอำนาจก็จบเลย,ประชาชนทั้งประเทศยืนอยู่เคียงข้างทหารไทยเราเสมอ,บิ๊กกุ้งเป็นนายกฯพระราชทานเลย,บิ๊กปูออกหน้าลงมือยึดอำนาจ,ผบ.สส.สนับสนุนทีมคณะองค์รวม,ฉีกทิ้งกฎหมายรธน.60ขายชาตินี้,เราเก็บส่วนดีๆในฉบับรธน.ในอดีตมาผสมผสานเขียนใหม่ให้ดีได้ บวกคิดค้นสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ร่วมด้วย,อดีตใดๆจะโมฆะทันที,ทหารไทยจึงคือทางออก,อธิปไตยไทยคืออธิปไตยไทย ชาติมัน มันยังรัก ,เรา..ชาติไทยเรา เราต้องรักและรักษาร่วมกันไว้ด้วย,บ้านมันมันยังปกป้องของมัน,บ้านเรา เราก็ต้องมีสิทธิปกป้องบ้านเรา,รั้วเขตแดนมี พื้นที่ภายในบ้านเราคือของบ้านเรามี คนต่างบ้านจะมายึดเอาฝันไปเลย,ปล้นชิงยิ่งต้องจับกุมมาลงโทษ.

    ..ทหารไทยเราและกองทัพไทยเรา อย่าคิดมากอะไรเลย ยึดอำนาจแมร่งมันเลย ทำจริงๆให้ดูด้วย ฉีกทิ้งรธน.60ผีบ้านี้เลย,มันขายชาติชัดเจน หลักฐานชัดเจน มันผ่านกันเสือกยกแผ่นดินไทยทั้งประเทศไทยก็ทำได้เลยนะ.รธน.นี้ไม่ดีแค่ตัวเดียวก็ต้องเขียนใหม่ ยิ่งเรื่องแผ่นดินไทยอธิปไตยอีก ,มันไม่โปร่งใส่ตั้งแต่ลงประชามติแล้วปกปิดไม่เปิดเผยสิ่งที่ซ่อนด้วยเพราะมันมีอำนาจในมือควบคุมหมดในสมัยของมัน มันจึงเกิดรธน.60นี้ได้,แค่หลอกโชว์ว่ามีดีส่วนเพื่อใช้กำจัดศัตรูมันเท่านั้น.


    https://youtube.com/watch?v=zJ8jwheYdbc&si=2o_HrxVS0vsf1FpV
    แก้ง่ายมาก,กองทัพไทยและทหารไทยเรายึดอำนาจก็จบเลย,ประชาชนทั้งประเทศยืนอยู่เคียงข้างทหารไทยเราเสมอ,บิ๊กกุ้งเป็นนายกฯพระราชทานเลย,บิ๊กปูออกหน้าลงมือยึดอำนาจ,ผบ.สส.สนับสนุนทีมคณะองค์รวม,ฉีกทิ้งกฎหมายรธน.60ขายชาตินี้,เราเก็บส่วนดีๆในฉบับรธน.ในอดีตมาผสมผสานเขียนใหม่ให้ดีได้ บวกคิดค้นสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ร่วมด้วย,อดีตใดๆจะโมฆะทันที,ทหารไทยจึงคือทางออก,อธิปไตยไทยคืออธิปไตยไทย ชาติมัน มันยังรัก ,เรา..ชาติไทยเรา เราต้องรักและรักษาร่วมกันไว้ด้วย,บ้านมันมันยังปกป้องของมัน,บ้านเรา เราก็ต้องมีสิทธิปกป้องบ้านเรา,รั้วเขตแดนมี พื้นที่ภายในบ้านเราคือของบ้านเรามี คนต่างบ้านจะมายึดเอาฝันไปเลย,ปล้นชิงยิ่งต้องจับกุมมาลงโทษ. ..ทหารไทยเราและกองทัพไทยเรา อย่าคิดมากอะไรเลย ยึดอำนาจแมร่งมันเลย ทำจริงๆให้ดูด้วย ฉีกทิ้งรธน.60ผีบ้านี้เลย,มันขายชาติชัดเจน หลักฐานชัดเจน มันผ่านกันเสือกยกแผ่นดินไทยทั้งประเทศไทยก็ทำได้เลยนะ.รธน.นี้ไม่ดีแค่ตัวเดียวก็ต้องเขียนใหม่ ยิ่งเรื่องแผ่นดินไทยอธิปไตยอีก ,มันไม่โปร่งใส่ตั้งแต่ลงประชามติแล้วปกปิดไม่เปิดเผยสิ่งที่ซ่อนด้วยเพราะมันมีอำนาจในมือควบคุมหมดในสมัยของมัน มันจึงเกิดรธน.60นี้ได้,แค่หลอกโชว์ว่ามีดีส่วนเพื่อใช้กำจัดศัตรูมันเท่านั้น. https://youtube.com/watch?v=zJ8jwheYdbc&si=2o_HrxVS0vsf1FpV
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้มข้ามศตวรรษ – สร้างฉากปฏิวัติ 4 – 5
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ”

    ตอน 4

    หลังจากนายTrotsky ออกเดินทางจากนครนิวยอร์คได้ไม่นาน เมื่อเรือ S S Kristainiafjord มาถึงเมือง Halifax ประเทศแคนาดา ในวันที่ 3 เมษายน 1917 Trotsky ก็ถูกทางการแคนาดานำตัวขึ้นจากเรือ คราวนี้เขาถูกตั้งข้อหาว่า เป็นนักโทษสงครามชาวเยอรมัน และถูกคุมตัวไว้ที่เมือง Amherst ที่ ค่ายกักกันนักโทษเยอรมัน ไม่ใช่อยู่คุกแบบชั้นหนี่งอีกแล้ว ส่วนเมียของ Trotsky และลูก อีก 2 คน รวมทั้งพรรคพวกอีก 5 คน ซึ่งอ้างตัวเองว่าเป็นคนรัสเซีย ก็ถูกส่งไปอยู่ที่ค่ายกักกันนี้ด้วย

    เจ้าหน้าที่แคนาดาได้บันทึกราย ละเอียดเกี่ยวกับ Trotsky ไว้ในแบบฟอร์ม LB-1V หมายเลข 1098 ว่า “อายุ 37 ปี ลี้ภัยการเมือง อาชีพสื่อ เกิดที่เมือง Gromskty, Chuson รัสเซีย สัญชาติรัสเซีย” และTrotsky ได้เขียนชื่อเต็มของตัวเองในแบบฟอร์ม ว่า Leon Bromstein Trotsky

    Trotsky และคณะ ถูกให้นำตัวขึ้นจากเรือ S S Kristainiafjord โดยคำสั่งทางโทรเลขลงวันที่ 29 มี ค 1917 ส่งมาจากกองทัพเรือของอังกฤษ ทีลอนดอน มาที่ด่าน Halifax ในโทรเลขระบุว่า

    “ให้นำขึ้นจากเรือและคุมตัวไว้ เพื่อรอคำสั่ง เนื่องจากพวกสังคมนิยมกลุ่มนี้ กำลังเดินทางเพื่อไปทำการปฏิวัติรัฐบาลรัสเซียชุดปัจจุบัน โดย Trotsky รับเงินจำนวน 1 หมื่นเหรียญ มาจากพวกสังคมนิยมเยอรมัน”

    หลังจากรับโทรเลขของกองทัพเรือ กัปตัน O M Makins ก็แจ้งกลับไปทาง Halifax เมื่อวันที่ 1 เม.ย 1917 ว่า ได้ตรวจดูผู้โดยสารชาวรัสเซียที่มากับเรือ S S Kristainiafjord แล้ว พบว่ามี 6 คน ที่บอกว่าตนเองเป็นพวกสังคมนิยม และกัปตันเตรียมที่จะเชิญคนพวกนี้ขึ้นไปจากเรือ พร้อมด้วยเมียนาย Trotsky และลูก 2 คน เมื่อถึงเมือง Halifax

    วันที่ 7 เม.ย. 1917 เจ้าหน้าที่เมือง Ottawa บันทึกเกี่ยวกับเรื่องการกักตัวพวกสังคมนิยมชาวรัสเซียว่า ” เราได้รับโทรเลขยาวเหยียด จากกงสุลรัสเซียประจำ Montreal ประท้วง การกักตัวบุคคลดังกล่าว เนื่องจากบุคคลดังกล่าว ถือพาสปอร์ตที่ออกโดยกงสุลใหญ่รัสเซียประจำเมืองนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา และเราจะต้องปล่อยตัวพวกเขา เมื่อมีข้อพิสูจน์ว่า พวกเขาไม่ได้เป็นชาวเยอรมัน แต่เป็นพวกสัมพันธมิตร ”

    (หมายเหตุ: ในช่วงเริ่มต้นของสงครามโลกครั้ง ที่ 1 รัสเซีย อยู่ฝ่ายเดียวกับอังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี ฯลฯ ที่เรียกกันว่า ฝ่าย “สัมพันธมิตร” เพื่อรบ กับอีกฝ่าย ที่นำโดย เยอรมันและ ออสเตรีย ฮังการี ฯลฯ )

    ข้อมูลชักเริ่มไปคนละทาง
    นอกจากนี้ ยังมีโทรเลขจากทนายความในนิวยอร์ค ชื่อ N. Aleinikoff แจ้งไปยัง R.M. Coulter นายด่านที่เมือง Ottawa “ชาวรัสเซียลี้ภัยทางการเมือง ถูกกักตัวที่ Halifax และอยู่ค่ายกักกัน Amherst โปรดตรวจสอบสาเหตุของการกักตัว และแจ้งรายชื่อมาด้วย เชื่อว่าในฐานะเป็นผู้รักเสรีภาพ คุณคงจะดูแลพวกเขาอย่างดี”

    วันที่ 11 เม.ย. R.M. Coulter โทรเลขกลับไปหานาย Aleinikoff ว่า “ได้รับโทรเลขแล้ว จะเขียนกลับไปหาบ่ายนี้ คุณคงได้รับพรุ่งนี้เย็น”

    จดหมายของ R.M. Coulter ถึง Aleinikoff มีข้อความน่าสนใจ “……พวกเขาต้องสงสัยว่า โฆษณาชวนเชื่อให้คัดค้านรัฐบาลรัสเซียปัจจุบัน และถูกสงสัยว่า เป็นสายลับของเยอรมัน แต่พวกเขาคงไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกอ้าง พวกเขาไม่ได้ถูกกักตัวโดยแคนาดา แต่เป็นคำสั่งมาจากนายใหญ่ที่อังกฤษ และเราจะดูแลเขาอย่างดี….”

    Aleinikoff ติดต่อกับ Coulter อีกหลายครั้ง เพื่อบอกว่าตนเองสนิทสนมกับ Trotsky เป็นอย่างดี และการที่กลุ่มของ Trotsky แสดงอาการที่ดูเหมือนไม่เป็นมิตรกับรัสเซีย ก็เพราะไม่พอใจการกระทำของรัสเซียสมัยซาร์ ต่อพวกยิว แต่ขณะนี้พวกเขาก็ดูจะไม่มีปฏิกริยารุนแรงต่อผู้บริหารปัจจุบันของรัสเซีย(หมายถึงกลุ่ม Kerensky) จึงขอให้ Coulter ช่วยหาทางติดต่อพูดกับนายใหญ่ต ่อไปด้วย ในที่สุด R.M. Coulter ก็ส่งจดหมายทั้งหมดของ Aleinikoff ไปให้นายใหญ่ของตน คือ Major General Willoughby Gwatkin ที่แคนาดา ให้พิจารณา

    วันที่ 21 เม.ย. Gwatkin แจ้ง Coulter ว่า “เพื่อนของเรา พวกสังคมนิยมชาวรัสเซีย จะได้รับการปล่อยตัว และจะมีการจัดการให้พวกเขาเดินทางไปยุโรป ผู้ที่อนุมัติการปล่อยตัวกลุ่ม Trotsky คือนายใหญ่ที่ลอนดอน หวังว่าข่าวนี้คงเป็นที่พอใจกับทางนิวยอร์คอย่างยิ่ง”

    นาย Trotsky นี่ นอกจากน่าสงสัยว่า มีปลอกคอแล้ว เขาคงมีเส้นใหญ่อีกด้วย Coulter และ Gwatkin ถึงออกแรงเต็มที่ เพื่อให้ปล่อยตัว

    พวกเขาเกี่ยว หรือพัวพัน กันอย่างไร ?!!

    จากเอกสารที่ทางแคนาดา เปิดเผยภายหลังระบุว่า Coulter เป็นแพทย์ชาวไอริช จบแพทย์จากสก๊อตแลนด์ ส่วน Major General Willoughby Gwatkin เป็นทหารอังกฤษ ถูกส่งให้มาประจำอยู่ที่แคนาดา ตั้งแต่ ค.ศ.1905 ถึง 1918 ดูแล้วยังไม่เห็นความเชื่อมโยง ความเกี่ยว ความพัน ที่จะต้องให้ทั้ง 2 คน ช่วยกันออกแรง ให้มีการปล่อยตัวกลุ่มนายTrotsky

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ”

    ตอน 5
    เรื่องการปล่อยตัวนาย Trotsky มันน่าสงสัย แต่ไม่มีฝ่ายใดออกมาชี้แจง ผ่านไปปีกว่า มีคนขี้สงสัย ออกมาเขียนทวง

    ในปี ค.ศ.1918 Colonel John Bayne Maclean นักธุรกิจชาวแคนาดา เจ้าของโรงพิมพ์ใหญ่ และมีความคุ้นเคยอย่างดี กับพวกข่าวกรองของแคนาดา ทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาเขียนบทความเมื่อปี ค.ศ.1918 ลงในนิตยสารของเขาเอง เรื่อง “Why did We let Trotsky Go?” ทำไมเราถึงปล่อยตัว Trotsky?

    ใครคือ Trotsky ? Maclean บอกว่า Trotsky ไม่ใช่คนรัสเซีย แต่เป็นคนเยอรมัน เขาพูดภาษาเยอรมันได้ดีกว่าภาษารัสเซียเสียอีก เขาอยู่ในกลุ่ม “Black Bond” ของเยอรมัน แต่ภายหลังเล่นละครว่า ถูกไล่ออกมาจากเบอร์ลินในปี ค.ศ.1914 แล้วมาโผล่อยู่ที่อเมริกา เพื่อรวบรวมพรรคพวกที่อเมริกาและแคนาดา จากกลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นรัสเซีย แต่ความจริง คนพวกนั้นเป็นเยอรมันกับออสเตรีย เพื่อไปทำการปฏิวัติที่รัสเซีย

    นาย Maclean บรรยายต่อไปว่า: ทางการอังกฤษ รู้จากพรรคพวกที่เป็นคนรัสเซียว่า ทั้ง Kerensky, Lenin และหัวหน้าย่อยๆลงมา ต่างได้รับค่าจ้างจากเยอรมันทั้งนั้น ตั้งแต่ปี ค.ศ.1915 และมารู้ข้อมูลเพิ่มเติมในปี ค.ศ.1916 ว่า Trotsky หลบมาอาศัยอยู่ที่นิวยอร์ค จากนั้น กลุ่ม Bomb Squad ของอเมริกา ก็ตามต่อ ต้นปี ค.ศ. 1916 มีรายงานหลุดมาว่า มีเจ้าหน้าที่เยอรมันคนหนึ่ง กำลังนั่งเรือเพื่อมานิวยอร์ค ฝ่ายข่าวกรองอังกฤษประกบติดคนเยอรมันดังกล่าว ซึ่งถูกกักตัวไว้ที่ Halifax ภายหลังมีการขอโทษที่กักตัวไว้ และในที่สุดก็ปล่อยตัวไป ฝ่ายข่าวกรองไม่ยอมปล่อยมือ ทำการแกะรอยตามต่อ ไปพบตัวอยู่ในสำนักพิมพ์เก่าๆ แถวนิวยอร์คใช้ชื่อว่า Trotsky และรู้ว่าชื่อจริงคือ Braustein และเป็นคนเยอรมัน ไม่ใช่คนรัสเซีย

    Maclean บอกว่า เงินลึกลับ 1 หมื่นเหรียญ มาจากพวกเยอรมันในนิวยอร์ค และการปล่อยตัว Trotsky มาจากคำขอร้องของ Kerensky ซึ่งพวกอังกฤษเข้าใจว่า การปฏิวัติของ Kerensky จะทำให้รัสเซียยังอยู่ในกลุ่มสัมพันธมิตร และร่วมกันต่อสู้เยอรมัน แต่หลังจากมีการปล่อยตัว Trotsky ไปแล้วหลายเดือน ทหารแคนาดาที่ประจำการอยู่ที่รัสเซียและสามารถพูดภาษารัสเซียได้ รายงานไปทางลอนดอนและวอชิงตันว่า Kerensky เองก็เป็นคนเยอรมัน !
    ข่าวของนาย Maclean นี่ สงสัยต้องกรองแยะหน่อย

    ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวลือมาจากวงในระดับสูง ว่า Trotsky ได้ รับการปล่อยตัวจากคำร้องขอ ของสถานฑูตอังกฤษในวอชิงตัน ซึ่งถูกขอร้องโดยกระทรวงต่างประเทศอเมริกัน ซึ่งทำการแทนใครบางคน…อีกต่อหนึ่ง ฝ่ายแคนาดาถูกสั่งให้แจ้งแก่สื่อว่า การปล่อยตัว Trotsky เป็นไปตามคำสั่งของกระทรวงต่างประเทศของอเมริกา

    ข่าวนี้จริงหรือเปล่ายังไม่รู้ แต่น่าสนใจกว่าข่าวของนาย Maclean

    ข้อมูลเกี่ยวกับนาย Trotsky เท่าที่มีจนถึงตอนนี้ มาจากหลายฝ่ายและดูสับสน แต่ก็พอจับความได้ว่า นาย Trotsky กำลังเดินทางจากนิวยอร์คไป Petrograd (คือเมือง St Petersberg ในปัจจุบัน) ด้วยพาสปอร์ตของอเมริกา ที่มีการอ้างว่า ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ของอเมริกาเป็นคนจัดการให้ โดยมีการพูดกันว่า นาย Trotsky จะไปทำการปฏิวัติรัสเซีย ให้สมบูรณ์ (ปฏิวัติรอบ 2 ?) ส่วนรัฐบาลอังกฤษ มีส่วนสำคัญในการปล่อยตัว Trotsky จากแคนาดา ในเดือน เม.ย. 1917 ด้วยเหตุผลใดยังไม่รู้

    ส่วนนาย Cranes คงเป็นผู้มีบทบาทสำคัญคนหนึ่ง เกี่ยวกับการปฏิวัติในรัสเซีย ด้านหนึ่ง คงเชื่อมกับ Lincoln Steffens และอีกด้านอาจจะเชื่อมกับ Trotsky ขณะที่ Cranes ไม่มีตำแหน่งทางการเมือง แต่ลูกชายของ Cranes เป็นผู้ช่วย ของรัฐมนตรีต่างประเทศ Robert Lansing ที่ได้รับการไว้วางใจอย่างยิ่ง และ Cranes คนพ่อ ได้รับการรายงานเกี่ยวกับปฏิวัติบอลเซวิกอย่างละเอียดจากทางการ นอกจากนี้ Cranes น่าจะมีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลอเมริกัน หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล

    ความน่าสนใจ ไม่ใช่แค่การเชื่อมโยง ของบุคคลด้านอเมริกา กับTrotsky นักปฏิวัติรัสเซียเท่านั้น แต่การที่ Trotsky บอกว่า รัฐบาลเฉพาะกาล Provisional ของ Kerensky คงเป็นรัฐบาลเฉพาะกาลชั่วคราว และเหมือนจะมีการปฏิวัติซ้ำตามมานั้น ตกลงมันเป็นเรื่องรู้กันอยู่ มวยล้มต้มคนดู ตั้งแต่ต้นอย่างนั้นหรือ

    แต่ประเด็นสำคัญ ที่ต้องตามดูอย่างยิ่งคือ ตกลง Trotsky ทำการปฏิวัติรัสเซียให้ใคร มันเป็นการปฏิวัติ ตามอุดมการณ์ของตัวเขาเอง หรือเขาเป็นเพียง “ผู้รับจ้าง” ให้ทำการปฏิวัติ และถ้าเป็น “ผู้รับจ้าง” ใครเป็นผู้จ้างเขา และผู้จ้าง Trotsky ทำไปเพื่ออะไร หรือ Trotsky เล่นบท 2 หน้า

    มีรายงานวันที่ 20 มีนาคม 1918 จากมอสโคว์ จากข่าวของ นสพ รัสเซีย Russkoe Slovo ว่า ได้มีการสัมภาษณ์ Trotsky ซึ่งพูดชัดเจนว่า การเป็นพันธมิตรกับอเมริกาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ โซเวียตไม่มีทางเป็นมิตรกับพวกทุนนิยมอย่างอเมริกา มันเป็นการทรยศต่ออุดมการณ์ และเป็นไปไม่ได้ ที่อเมริกาจะมาสร้างสัมพันธ์กับเรา ยังไงก็เป็นไปไม่ได้ ที่เราจะคบค้ากับประเทศที่เป็นสังคมนายทุน

    ในขณะเดียวกัน ก็มีรายงานมาจากทางมอสโคว์เช่นเดียวกัน เป็นโทรเลขลงวันที่ 17 มีนาคม 1918 จากฑูต Francis ของอเมริกา ที่ประจำอยู่ที่รัสเซีย แจ้งไปทางกระทรวงต่างประเทศอเมริกาว่า “Trotsky ขอให้ทางเราส่งเจ้าหน้าที่อเมริกันมา 5 คน เพื่อมาช่วยสำรวจกองทัพ รวมทั้งส่งคนและสิ่งของมาเพื่อจัดการเรื่องทางรถไฟ”

    โทรเลขดังกล่าวของฑูต Francis ดูเป็นการขัดและสวนทางกับการให้สัมภาษณ์ของ Trotsky ต้องมีฝ่ายหนึ่งที่พูดไม่จริง

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    24 เม.ย. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – สร้างฉากปฏิวัติ 4 – 5 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ” ตอน 4 หลังจากนายTrotsky ออกเดินทางจากนครนิวยอร์คได้ไม่นาน เมื่อเรือ S S Kristainiafjord มาถึงเมือง Halifax ประเทศแคนาดา ในวันที่ 3 เมษายน 1917 Trotsky ก็ถูกทางการแคนาดานำตัวขึ้นจากเรือ คราวนี้เขาถูกตั้งข้อหาว่า เป็นนักโทษสงครามชาวเยอรมัน และถูกคุมตัวไว้ที่เมือง Amherst ที่ ค่ายกักกันนักโทษเยอรมัน ไม่ใช่อยู่คุกแบบชั้นหนี่งอีกแล้ว ส่วนเมียของ Trotsky และลูก อีก 2 คน รวมทั้งพรรคพวกอีก 5 คน ซึ่งอ้างตัวเองว่าเป็นคนรัสเซีย ก็ถูกส่งไปอยู่ที่ค่ายกักกันนี้ด้วย เจ้าหน้าที่แคนาดาได้บันทึกราย ละเอียดเกี่ยวกับ Trotsky ไว้ในแบบฟอร์ม LB-1V หมายเลข 1098 ว่า “อายุ 37 ปี ลี้ภัยการเมือง อาชีพสื่อ เกิดที่เมือง Gromskty, Chuson รัสเซีย สัญชาติรัสเซีย” และTrotsky ได้เขียนชื่อเต็มของตัวเองในแบบฟอร์ม ว่า Leon Bromstein Trotsky Trotsky และคณะ ถูกให้นำตัวขึ้นจากเรือ S S Kristainiafjord โดยคำสั่งทางโทรเลขลงวันที่ 29 มี ค 1917 ส่งมาจากกองทัพเรือของอังกฤษ ทีลอนดอน มาที่ด่าน Halifax ในโทรเลขระบุว่า “ให้นำขึ้นจากเรือและคุมตัวไว้ เพื่อรอคำสั่ง เนื่องจากพวกสังคมนิยมกลุ่มนี้ กำลังเดินทางเพื่อไปทำการปฏิวัติรัฐบาลรัสเซียชุดปัจจุบัน โดย Trotsky รับเงินจำนวน 1 หมื่นเหรียญ มาจากพวกสังคมนิยมเยอรมัน” หลังจากรับโทรเลขของกองทัพเรือ กัปตัน O M Makins ก็แจ้งกลับไปทาง Halifax เมื่อวันที่ 1 เม.ย 1917 ว่า ได้ตรวจดูผู้โดยสารชาวรัสเซียที่มากับเรือ S S Kristainiafjord แล้ว พบว่ามี 6 คน ที่บอกว่าตนเองเป็นพวกสังคมนิยม และกัปตันเตรียมที่จะเชิญคนพวกนี้ขึ้นไปจากเรือ พร้อมด้วยเมียนาย Trotsky และลูก 2 คน เมื่อถึงเมือง Halifax วันที่ 7 เม.ย. 1917 เจ้าหน้าที่เมือง Ottawa บันทึกเกี่ยวกับเรื่องการกักตัวพวกสังคมนิยมชาวรัสเซียว่า ” เราได้รับโทรเลขยาวเหยียด จากกงสุลรัสเซียประจำ Montreal ประท้วง การกักตัวบุคคลดังกล่าว เนื่องจากบุคคลดังกล่าว ถือพาสปอร์ตที่ออกโดยกงสุลใหญ่รัสเซียประจำเมืองนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา และเราจะต้องปล่อยตัวพวกเขา เมื่อมีข้อพิสูจน์ว่า พวกเขาไม่ได้เป็นชาวเยอรมัน แต่เป็นพวกสัมพันธมิตร ” (หมายเหตุ: ในช่วงเริ่มต้นของสงครามโลกครั้ง ที่ 1 รัสเซีย อยู่ฝ่ายเดียวกับอังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี ฯลฯ ที่เรียกกันว่า ฝ่าย “สัมพันธมิตร” เพื่อรบ กับอีกฝ่าย ที่นำโดย เยอรมันและ ออสเตรีย ฮังการี ฯลฯ ) ข้อมูลชักเริ่มไปคนละทาง นอกจากนี้ ยังมีโทรเลขจากทนายความในนิวยอร์ค ชื่อ N. Aleinikoff แจ้งไปยัง R.M. Coulter นายด่านที่เมือง Ottawa “ชาวรัสเซียลี้ภัยทางการเมือง ถูกกักตัวที่ Halifax และอยู่ค่ายกักกัน Amherst โปรดตรวจสอบสาเหตุของการกักตัว และแจ้งรายชื่อมาด้วย เชื่อว่าในฐานะเป็นผู้รักเสรีภาพ คุณคงจะดูแลพวกเขาอย่างดี” วันที่ 11 เม.ย. R.M. Coulter โทรเลขกลับไปหานาย Aleinikoff ว่า “ได้รับโทรเลขแล้ว จะเขียนกลับไปหาบ่ายนี้ คุณคงได้รับพรุ่งนี้เย็น” จดหมายของ R.M. Coulter ถึง Aleinikoff มีข้อความน่าสนใจ “……พวกเขาต้องสงสัยว่า โฆษณาชวนเชื่อให้คัดค้านรัฐบาลรัสเซียปัจจุบัน และถูกสงสัยว่า เป็นสายลับของเยอรมัน แต่พวกเขาคงไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกอ้าง พวกเขาไม่ได้ถูกกักตัวโดยแคนาดา แต่เป็นคำสั่งมาจากนายใหญ่ที่อังกฤษ และเราจะดูแลเขาอย่างดี….” Aleinikoff ติดต่อกับ Coulter อีกหลายครั้ง เพื่อบอกว่าตนเองสนิทสนมกับ Trotsky เป็นอย่างดี และการที่กลุ่มของ Trotsky แสดงอาการที่ดูเหมือนไม่เป็นมิตรกับรัสเซีย ก็เพราะไม่พอใจการกระทำของรัสเซียสมัยซาร์ ต่อพวกยิว แต่ขณะนี้พวกเขาก็ดูจะไม่มีปฏิกริยารุนแรงต่อผู้บริหารปัจจุบันของรัสเซีย(หมายถึงกลุ่ม Kerensky) จึงขอให้ Coulter ช่วยหาทางติดต่อพูดกับนายใหญ่ต ่อไปด้วย ในที่สุด R.M. Coulter ก็ส่งจดหมายทั้งหมดของ Aleinikoff ไปให้นายใหญ่ของตน คือ Major General Willoughby Gwatkin ที่แคนาดา ให้พิจารณา วันที่ 21 เม.ย. Gwatkin แจ้ง Coulter ว่า “เพื่อนของเรา พวกสังคมนิยมชาวรัสเซีย จะได้รับการปล่อยตัว และจะมีการจัดการให้พวกเขาเดินทางไปยุโรป ผู้ที่อนุมัติการปล่อยตัวกลุ่ม Trotsky คือนายใหญ่ที่ลอนดอน หวังว่าข่าวนี้คงเป็นที่พอใจกับทางนิวยอร์คอย่างยิ่ง” นาย Trotsky นี่ นอกจากน่าสงสัยว่า มีปลอกคอแล้ว เขาคงมีเส้นใหญ่อีกด้วย Coulter และ Gwatkin ถึงออกแรงเต็มที่ เพื่อให้ปล่อยตัว พวกเขาเกี่ยว หรือพัวพัน กันอย่างไร ?!! จากเอกสารที่ทางแคนาดา เปิดเผยภายหลังระบุว่า Coulter เป็นแพทย์ชาวไอริช จบแพทย์จากสก๊อตแลนด์ ส่วน Major General Willoughby Gwatkin เป็นทหารอังกฤษ ถูกส่งให้มาประจำอยู่ที่แคนาดา ตั้งแต่ ค.ศ.1905 ถึง 1918 ดูแล้วยังไม่เห็นความเชื่อมโยง ความเกี่ยว ความพัน ที่จะต้องให้ทั้ง 2 คน ช่วยกันออกแรง ให้มีการปล่อยตัวกลุ่มนายTrotsky นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ” ตอน 5 เรื่องการปล่อยตัวนาย Trotsky มันน่าสงสัย แต่ไม่มีฝ่ายใดออกมาชี้แจง ผ่านไปปีกว่า มีคนขี้สงสัย ออกมาเขียนทวง ในปี ค.ศ.1918 Colonel John Bayne Maclean นักธุรกิจชาวแคนาดา เจ้าของโรงพิมพ์ใหญ่ และมีความคุ้นเคยอย่างดี กับพวกข่าวกรองของแคนาดา ทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาเขียนบทความเมื่อปี ค.ศ.1918 ลงในนิตยสารของเขาเอง เรื่อง “Why did We let Trotsky Go?” ทำไมเราถึงปล่อยตัว Trotsky? ใครคือ Trotsky ? Maclean บอกว่า Trotsky ไม่ใช่คนรัสเซีย แต่เป็นคนเยอรมัน เขาพูดภาษาเยอรมันได้ดีกว่าภาษารัสเซียเสียอีก เขาอยู่ในกลุ่ม “Black Bond” ของเยอรมัน แต่ภายหลังเล่นละครว่า ถูกไล่ออกมาจากเบอร์ลินในปี ค.ศ.1914 แล้วมาโผล่อยู่ที่อเมริกา เพื่อรวบรวมพรรคพวกที่อเมริกาและแคนาดา จากกลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นรัสเซีย แต่ความจริง คนพวกนั้นเป็นเยอรมันกับออสเตรีย เพื่อไปทำการปฏิวัติที่รัสเซีย นาย Maclean บรรยายต่อไปว่า: ทางการอังกฤษ รู้จากพรรคพวกที่เป็นคนรัสเซียว่า ทั้ง Kerensky, Lenin และหัวหน้าย่อยๆลงมา ต่างได้รับค่าจ้างจากเยอรมันทั้งนั้น ตั้งแต่ปี ค.ศ.1915 และมารู้ข้อมูลเพิ่มเติมในปี ค.ศ.1916 ว่า Trotsky หลบมาอาศัยอยู่ที่นิวยอร์ค จากนั้น กลุ่ม Bomb Squad ของอเมริกา ก็ตามต่อ ต้นปี ค.ศ. 1916 มีรายงานหลุดมาว่า มีเจ้าหน้าที่เยอรมันคนหนึ่ง กำลังนั่งเรือเพื่อมานิวยอร์ค ฝ่ายข่าวกรองอังกฤษประกบติดคนเยอรมันดังกล่าว ซึ่งถูกกักตัวไว้ที่ Halifax ภายหลังมีการขอโทษที่กักตัวไว้ และในที่สุดก็ปล่อยตัวไป ฝ่ายข่าวกรองไม่ยอมปล่อยมือ ทำการแกะรอยตามต่อ ไปพบตัวอยู่ในสำนักพิมพ์เก่าๆ แถวนิวยอร์คใช้ชื่อว่า Trotsky และรู้ว่าชื่อจริงคือ Braustein และเป็นคนเยอรมัน ไม่ใช่คนรัสเซีย Maclean บอกว่า เงินลึกลับ 1 หมื่นเหรียญ มาจากพวกเยอรมันในนิวยอร์ค และการปล่อยตัว Trotsky มาจากคำขอร้องของ Kerensky ซึ่งพวกอังกฤษเข้าใจว่า การปฏิวัติของ Kerensky จะทำให้รัสเซียยังอยู่ในกลุ่มสัมพันธมิตร และร่วมกันต่อสู้เยอรมัน แต่หลังจากมีการปล่อยตัว Trotsky ไปแล้วหลายเดือน ทหารแคนาดาที่ประจำการอยู่ที่รัสเซียและสามารถพูดภาษารัสเซียได้ รายงานไปทางลอนดอนและวอชิงตันว่า Kerensky เองก็เป็นคนเยอรมัน ! ข่าวของนาย Maclean นี่ สงสัยต้องกรองแยะหน่อย ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวลือมาจากวงในระดับสูง ว่า Trotsky ได้ รับการปล่อยตัวจากคำร้องขอ ของสถานฑูตอังกฤษในวอชิงตัน ซึ่งถูกขอร้องโดยกระทรวงต่างประเทศอเมริกัน ซึ่งทำการแทนใครบางคน…อีกต่อหนึ่ง ฝ่ายแคนาดาถูกสั่งให้แจ้งแก่สื่อว่า การปล่อยตัว Trotsky เป็นไปตามคำสั่งของกระทรวงต่างประเทศของอเมริกา ข่าวนี้จริงหรือเปล่ายังไม่รู้ แต่น่าสนใจกว่าข่าวของนาย Maclean ข้อมูลเกี่ยวกับนาย Trotsky เท่าที่มีจนถึงตอนนี้ มาจากหลายฝ่ายและดูสับสน แต่ก็พอจับความได้ว่า นาย Trotsky กำลังเดินทางจากนิวยอร์คไป Petrograd (คือเมือง St Petersberg ในปัจจุบัน) ด้วยพาสปอร์ตของอเมริกา ที่มีการอ้างว่า ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ของอเมริกาเป็นคนจัดการให้ โดยมีการพูดกันว่า นาย Trotsky จะไปทำการปฏิวัติรัสเซีย ให้สมบูรณ์ (ปฏิวัติรอบ 2 ?) ส่วนรัฐบาลอังกฤษ มีส่วนสำคัญในการปล่อยตัว Trotsky จากแคนาดา ในเดือน เม.ย. 1917 ด้วยเหตุผลใดยังไม่รู้ ส่วนนาย Cranes คงเป็นผู้มีบทบาทสำคัญคนหนึ่ง เกี่ยวกับการปฏิวัติในรัสเซีย ด้านหนึ่ง คงเชื่อมกับ Lincoln Steffens และอีกด้านอาจจะเชื่อมกับ Trotsky ขณะที่ Cranes ไม่มีตำแหน่งทางการเมือง แต่ลูกชายของ Cranes เป็นผู้ช่วย ของรัฐมนตรีต่างประเทศ Robert Lansing ที่ได้รับการไว้วางใจอย่างยิ่ง และ Cranes คนพ่อ ได้รับการรายงานเกี่ยวกับปฏิวัติบอลเซวิกอย่างละเอียดจากทางการ นอกจากนี้ Cranes น่าจะมีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลอเมริกัน หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล ความน่าสนใจ ไม่ใช่แค่การเชื่อมโยง ของบุคคลด้านอเมริกา กับTrotsky นักปฏิวัติรัสเซียเท่านั้น แต่การที่ Trotsky บอกว่า รัฐบาลเฉพาะกาล Provisional ของ Kerensky คงเป็นรัฐบาลเฉพาะกาลชั่วคราว และเหมือนจะมีการปฏิวัติซ้ำตามมานั้น ตกลงมันเป็นเรื่องรู้กันอยู่ มวยล้มต้มคนดู ตั้งแต่ต้นอย่างนั้นหรือ แต่ประเด็นสำคัญ ที่ต้องตามดูอย่างยิ่งคือ ตกลง Trotsky ทำการปฏิวัติรัสเซียให้ใคร มันเป็นการปฏิวัติ ตามอุดมการณ์ของตัวเขาเอง หรือเขาเป็นเพียง “ผู้รับจ้าง” ให้ทำการปฏิวัติ และถ้าเป็น “ผู้รับจ้าง” ใครเป็นผู้จ้างเขา และผู้จ้าง Trotsky ทำไปเพื่ออะไร หรือ Trotsky เล่นบท 2 หน้า มีรายงานวันที่ 20 มีนาคม 1918 จากมอสโคว์ จากข่าวของ นสพ รัสเซีย Russkoe Slovo ว่า ได้มีการสัมภาษณ์ Trotsky ซึ่งพูดชัดเจนว่า การเป็นพันธมิตรกับอเมริกาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ โซเวียตไม่มีทางเป็นมิตรกับพวกทุนนิยมอย่างอเมริกา มันเป็นการทรยศต่ออุดมการณ์ และเป็นไปไม่ได้ ที่อเมริกาจะมาสร้างสัมพันธ์กับเรา ยังไงก็เป็นไปไม่ได้ ที่เราจะคบค้ากับประเทศที่เป็นสังคมนายทุน ในขณะเดียวกัน ก็มีรายงานมาจากทางมอสโคว์เช่นเดียวกัน เป็นโทรเลขลงวันที่ 17 มีนาคม 1918 จากฑูต Francis ของอเมริกา ที่ประจำอยู่ที่รัสเซีย แจ้งไปทางกระทรวงต่างประเทศอเมริกาว่า “Trotsky ขอให้ทางเราส่งเจ้าหน้าที่อเมริกันมา 5 คน เพื่อมาช่วยสำรวจกองทัพ รวมทั้งส่งคนและสิ่งของมาเพื่อจัดการเรื่องทางรถไฟ” โทรเลขดังกล่าวของฑูต Francis ดูเป็นการขัดและสวนทางกับการให้สัมภาษณ์ของ Trotsky ต้องมีฝ่ายหนึ่งที่พูดไม่จริง สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 24 เม.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้มข้ามศตวรรษ – สร้างฉากปฏิวัติ 1 – 3
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ”

    ตอน 1

    เดือนกันยายน ปี ค.ศ. 1916 ประมาณ 1 ปี ก่อนการปฏิวัติอันโด่งดังของรัสเซีย Russian Revolution หรือ Bolshevik Revolution นาย Leon Trotsky ซึ่งตามประวัติศาสตร์ระบุว่า เขาเป็นหนึ่งในหัวหน้าคณะปฏิวัติ กำลังถูกไล่ให้ออกจากประเทศฝรั่งเศส สาเหตุจากบทความที่เขาเขียนลงใน Nashe Slovo หนังสือพิมพ์ภาษารัสเซีย ที่ออกจำหน่ายในฝรั่งเศส มันคงเร้าใจมากขนาดฝรั่งเศส ซึ่งคุ้นเคยกับการปฏิวัติโหดมาแล้ว ยังรับไม่ไหว ตำรวจฝรั่งเศสจึงจัดการส่งตัวนาย Trotsky ออกนอกประเทศ ไปทางเขตแดนด้านประเทศสเปน

    ไม่กี่วัน นายTrotsky ก็มาถึงเมืองมาดริด และถูกตำรวจที่เมืองมาดริด จับใส่ห้องขัง มันเป็นห้องขังประเภทชั้นพิเศษ first class cell ซึ่งต้องมีการจ่ายเงินค่าความพิเศษ ไม่เหมือนห้องขังทั่วไป แต่เหมือนโรงแรมมากกว่า นาย Trotsky นี่น่าจะเป็นผู้ต้องขัง ชนิดมีปลอกคอ จากนั้นก็มีการส่งตัวเขาต่อมายังเมืองบาร์เซโลนา เพื่อมาลงเรือเดินสมุทรของ Spanish Transatlantic Company ชื่อ Monserrat

    Trosky และครอบครัวนั่งเรือ Monserrat ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก มาขึ้นบกที่เมืองนิวยอร์ค เมื่อ วันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 1917

    จากหนังสือชีวประวัติ ที่ Trosky เขียนเอง ชื่อ My Life คนมีปลอกคอ เล่าว่า ” อาชีพเดียวที่ผมทำ ตอนอยู่ที่นิวยอร์คคือ เป็นนักปฏิวัติเพื่อสังคมนิยม นอกเหนือจากการเขียนบทความเป็นครั้งคราว ลงในหนังสือพิมพ์ Novy Mir ของพวกสังคมนิยม ”

    แต่ระหว่างที่อยู่นิวยอร์ค เมืองของนายทุน Trosky นักสังคมนิยมและครอบครัว พักอยู่ในอพาร์ตเมนท์ ที่มีตู้เย็นและโทรศัพท์ ซึ่งถือว่าเป็นของหรูหรา ฟุ่มเฟือยอย่างมากในสมัยเมื่อ 100 ปีก่อน นอกจากนั้นครอบครัว Trotsky ยังเดินทาง ไปมาในเมืองนิวยอร์ค ด้วยรถยนต์ ที่มีคนขับรถประจำ

    นี่ใช่เรื่องของ Leon Trostky ซึ่งมีชื่อปรากฎในประวัติศาสตร์ว่า เป็นนักปฏิวัติสังคมนิยมคนดัง ของรัสเซีย แน่หรือ

    Trotsky เขียนเล่าถึงชีวิตเขาที่นิวยอร์ค ในชีวประวัติของเขาต่อไปว่า ” ระหว่างอยู่นิวยอร์ค ช่วงปี 1916 ถึง 1917 ผมมีรายได้เพียง 310 เหรียญ ซึ่งผมได้แจกเงินดังกล่าวทั้งหมดให้แก่คนรัสเซีย 5 คน ที่อยู่นิวยอร์ค เพื่อเป็นค่าเดินทางกลับบ้าน”

    ขณะเดียวกัน อพาร์ตเมนท์ที่เขาอยู่ ก็มีการจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า 3 เดือน เขาต้องเลี้ยงดูเมีย 1 และลูกอีก 2 เขามีรถยนต์ใช้และมีคนขับรถประจำ นี่คือวิถีชีวิตของนักปฏิวัติเพื่อสังคมนิยม ที่อ้างว่าดำรงชีพ ด้วยการเขียนบทความลงหนังหนังสือพิมพ์เป็นครั้งคราว

    เรื่องราวของเขา คงไม่ตรงไปตรงมา อย่างที่เราเคยเข้าใจกัน หรือว่าพวกนักปฏิวัติ นักปฏิรูป เขาเป็นกันอย่างนี้ทั้งนั้น

    นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเงินสดจำนวน 1 หมื่นเหรียญ ที่นาย Trotsky พกติดตัวและถูกเจ้าหน้าที่ค้นพบ ระหว่างที่เขาถูกเจ้าหน้าที่แคนาดาจับ ในเดือนเมษายน 1917 ที่เมือง Halifax เมื่อ 100 ปีก่อน เงิน 1 หมื่นเหรียญ นี่เป็นเงินจำนวนไม่เล็กน้อยนะครับ นักปฏิวัติเพื่อสังคมนิยม เอาเงินจำนวนนี้มาจากไหนกัน
    มีข่าวลือว่า เงิน 1 หมื่นเหรียญนั้น มาจากเยอรมัน ข่าวนี้มาจากฝ่ายข่าวกรองของอังกฤษ ซึ่งรายงานว่า นาย Gregory Weinstein ซึ่งต่อมา เป็นสมาชิกที่โด่งดังของ Soviet Bureau ประจำนครนิวยอร์ค เป็นคนรับเงินมา และนำมาส่งให้นาย Trotsky ที่นิวยอร์ค เงินจำนวนนี้มาจากเยอรมัน โดยการฟอกผ่าน Volks-zeitung น.ส.พ. รายวันของเยอรมัน ที่รัฐบาลเยอรมันสนับสนุนอยู่

    ขณะที่มีข่าวว่า Trotsky ได้รับเงินอุดหนุนจากเยอรมัน Trotsky กลับเคลี่อนไหวอยู่ในอเมริกา ก่อนที่เขาจะเดินทางออกจากนิวยอร์ค ไปรัสเซีย….เพื่อไปทำการปฏิวัติ !

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ”

    ตอน 2

    วันที่ 5 มีนาคม 1917 หนังสือพิมพ์อเมริกัน พากันพาดหัวข่าวตัวโต ถึงความเป็นไปได้ ที่อเมริกาจะเข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร เพื่อทำสงครามกับเยอรมัน คืนวันนั้นเอง Trotsky ก็ไปร่วมการชุมนุมของกลุ่มชาวสังคมนิยมในนิวยอร์คด้วย เขาพูดปลุกระดมให้ชาวสังคมนิยมในอเมริกา จัดการให้มีการนัดหยุดงาน และต่อต้านการเกณท์ทหาร หากอเมริกาจะเข้าร่วมทำสงครามต่อสู้กับเยอรมัน (ท่านผู้อ่านนิทาน คงพอจำกันได้ว่า ขณะที่ฝ่ายสัมพันธมิตร ที่นำโดยอังกฤษ ประกาศสงครามกับฝ่ายเยอรมัน ในปี 1914 นั้น อเมริกายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมสงครามด้วย และมีสถานะเป็นประเทศเป็นกลางอยู่หลายปี)

    หลังจากนั้นประมาณสัปดาห์กว่า ในวันที่ 16 มีนาคม 1917 ก็เกิดเหตุการณ์ใหญ่ในรัสเซีย ซาร์นิโคลัส ที่ 2 ถูกปฏิวัติให้ลงจากบัลลังก์ โดยกลุ่มนักปฏิวัติ ที่นำโดยนาย Aleksandre Kerensky หนังสือพิมพ์ Novy Mir ได้มาขอสัมภาษณ์ Leon Trotsky ซึ่งให้ความเห็นไว้เหมือนคนรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าว่า

    “คณะผู้บริหาร ที่ตั้งขึ้นมาทำหน้าที่แทนพวกซาร์ ที่ถูกปฏิวัติไปนั้น ไม่ได้เป็นตัวแทนของกลุ่มผลประโยชน์ หรือทำตามวัตถุประสงค์ ของพวกที่ต้องการปฏิวัติ คณะผู้บริหารนี้คงอยู่ไม่นานหรอก อีกหน่อยก็คงลาออกไป เพื่อให้กลุ่มคนที่สามารถจะนำพารัสเซียไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย มาทำหน้าที่ต่อไป…”

    กลุ่มคนที่สามารถนำพารัสเซียไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย ในความหมายของ Trotsky คือ พวก Bolsheviks และ Menshevik ซึ่งกำลังลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ และกำลังรีบเร่งเดินทางกลับรัส เซีย ส่วนคณะผู้บริหารนั้น หมายถึง รัฐบาลเฉพาะกาล Provisional Government ของกลุ่มนาย Aleksandr Kerensky ที่ทำการปฏิวัติในวันที่ 16 มีนาคม คศ 1917
    แล้วนาย Trotsky ก็ออกเดินทางจากนครนิวยอร์ค เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 1917 ด้วยเรือเดินสมุทรชื่อ S S Kristainiafjord เขาผ่านด่านตรวจ ขึ้นเรือดังกล่าวด้วยพาสปอร์ตของอเมริกา เขาเดินทางพร้อมพรรคพวกอีกหลายคน เพื่อจะไปทำการปฏิวัติ นอกจากนี้ ยังมีนักการเงินจากวอลสตรีท คอมมิวนิสต์สัญชาติอเมริกัน และบุคคลน่าสนใจอีกหลายคน ร่วมเดินทางไปกับนาย Trotsky ด้วย

    นาย Trotsky เอาพาสปอร์ตของอเมริกามาจากไหน

    นาย Jennings C. Wise เขียนไว้ในหนังสือเรื่อง “Woodlow Wilson : Disciple Revolution” ว่า นักประวัติศาสตร์จะต้องไม่ลืมว่า ประธานาธิบดีของอเมริกา นาย Woodlow Wilson เป็นนางฟ้า ที่มาเศกให้นาย Leon Trotsky เดินทางเข้ารัสเซียได้สำเร็จ ด้วยพาสปอร์ตของอเมริกา แม้ว่าจะมีการพยายามขัดขวางโดยตำรวจอังกฤษก็ตาม”

    คงเกินกว่าที่เราจะคาดคิดว่า ประธานาธิบดี Wilson เป็นนางฟ้ามาเศกให้นาย Trotsky ได้ถือพาสปอร์ตที่ออกโดยอเมริกา เพื่อเดินทางกลับไปรัสเซีย และไปดำเนินการปฏิวัติต่อให้สำเร็จ (ตามเป้าหมาย!?) และเป็นพาสปอร์ตของอเมริกา ที่สามารถผ่านเข้าออกได้ทุกด่านของอเมริกา รวมทั้งมีวีซ่าอนุญาตให้เข้าประเทศอังกฤษอีกด้วย

    นางฟ้าทำได้ทุกอย่างจริงๆ ตั้งแต่สมัยนั้น จนถึงเดี๋ยวนี่ แต่ควรจะเรียกว่าเป็นนางฟ้า หรือไม่ อ่านนิทานต่อไปเรื่อยๆ คนอ่านนิทาน คงนึกออกว่าควรจะเรียกว่าอะไร

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ”

    ตอน 3

    ส่วนผสมของผู้โดยสาร ที่เดินทางไปในเรือ S S Kristainiafjord ได้ถูกบันทึกไว้โดยนาย Lincoln Steffens คอมมิวนิสต์ชาวอเมริกัน ดังนี้:

    “…รายชื่อผู้โดยสารยาวเหยียด และดูลึกลับน่าสนใจ แน่นอน Trotsky แสดงตัวเป็นหัวหน้ากลุ่มนักปฏิวัติ มีนักปฎิวัติชาวญี่ปุ่น นอนเคบินเดียวกับผม มีชาวดัชท์หลายคนที่รีบร้อนกลับเมืองชะวา พวกนี้ดูจะเป็นกลุ่มเดียวที่ไม่เกี่ยวโยงกับใคร ที่เหลือดูเหมือนจะเป็นผู้ที่เกี่ยวโยงกับสงครามโลกที่กำลังเกิดขึ้น นอกจากนี้ มีพวกนักการเงินวอลสตรีท 2 คน มุ่งหน้าไปเยอรมัน.. ”
    นาย Steffens เองนั้น โดยสารไปในเรือเดินสมุทร โดยคำเชิญของ นาย Charles R Crane เจ้าของกระเป๋าทุนใบใหญ่ที่สนับสนุน ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ในการสมัครเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี

    นาย Crane นั้น เป็นรองประธานบริษัท Crane Company ซึ่งภายหลัง เป็นคนไปตั้งบริษัท Westinghouse สาขารัสเซีย หลังการปฏิวัติของรัสเซียรอบที่กลุ่ม Bolsheviks เป็นผู้ปฎิบัติการสำเร็จเรียบร้อย นาย Crane ยังเป็นหนึ่งในกรรมาธิการ Root Mission ที่ประธานาธิบดี Wilson ส่งไปสำรวจรัสเซียทุกตารางนิ้ว หลังการปฏิวัติอีกด้วย

    นาย Crane เดินทางไปรัสเซียในระหว่างช่วงปี ค.ศ.1890 ถึง 1930 ประมาณ 23 ครั้ง ลูกชายของเขา Richard Crane เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างเทศ ที่ได้รับความไว้วางใจอย่างมาก ของนาย Robert Lansing รัฐมนตรีต่างเทศของอเมริกาขณะนั้น

    นาย William Dodd อดีตทูตอเมริกันประจำเยอรมัน พูดถึงนาย Crane ว่า เป็นผู้มีส่วนอย่างมาก ที่ทำให้การปฏิวัติในรัสเซียเมื่อเดือนมีนาคม โดยกลุ่มของ Aleksandr Kerensky กลายเป็นการปฏิวัติชั่วคราว ที่นำร่อง เปิดทางให้กับการปฏิวัติของจริง ที่เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ในปีเดียวกัน

    นาย Steffens ได้บันทึกการสนทนา ที่เขาได้ยินระหว่างการเดินทางในเรือเดินสมุทรไว้ว่า “…. ดูเหมือนทุกคนจะเห็นพ้องกันว่า การปฏิวัติที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม (โดย Aleksandr Kerensky) เป็นเพียงขั้นตอนแรกเท่านั้นเอง มันจะต้องมีตอนต่อไป Crane และพวกรัสเซียหัวก้าวหน้าที่อยู่ในเรือ คิดว่าพวกที่กำลังเดินทางจะไปเมือง Petrograd (ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นเมือง St Petersberg ) เพื่อไปทำการปฏิวัติซ้ำ…”

    เมื่อนาย Crane กลับมาอเมริกาในเดือนธันวาคม 1917 หลังจากการปฏิวัติบอลเชวิก Bolsheviks Revolution (หรือการปฏิวัติซ้ำ นั่นแหละ) สำเร็จเรียบร้อยแล้ว นาย Crane ก็ได้รับโทรเลข ลงวันที่ 11 ธันวาคม 1917 จากกระทรวงต่างประเทศ รายงานความคืบหน้าโดย นาย Maddin Summers กงสุลอเมริกันประจำกรุงมอสโคว์ พร้อมจดหมายปะหน้าจากนาย Summers ว่า

    ” กระผม ขออนุญาตนำเสนอรายงานที่แนบมา นี้ และสำเนาอีกหนึ่งฉบับ โดยขอให้กระทรวงฯ ได้โปรดนำส่งให้ นาย Charles Crane เพื่อทราบความคืบหน้าด้วย หวังว่าทางกระทรวงคงไม่ขัดข้อง ที่จะให้นาย Crane ได้เห็นรายงาน….”

    สำหรับท่านผู้อ่านนิทานเรื่องจริง เรื่องเหยื่อ คงพอจำชื่อนี้ได้ เขาคือ นาย Crane คนเดียวกันกับ เจ้าของรายงาน King Crane Report ที่ไปเดินสำรวจตะวันออกกลาง เพื่อทำประชามติว่า ชาวอาหรับต้องการจะอยู่ในความปกครอง ของใคร หลังจากถูกอังกฤษหลอก โดยให้สายลับ ที่เรารู้จักกันในนาม Lawrence of Arabia เป็นผู้นำชาวอาหรับ ไปรบกับตุรกี และยึดหลายเมืองในตะวันออกกลางได้
    และเป็นนาย Crane คนเดียวกัน ที่สามารถจับมือให้กษัตริย์ซาอุดิอารเบีย ตัดสินใจเปิดประตูเมืองครั้งแรก และให้สัมปทานน้ำมันแก่อเมริกา เริ่มศักราช Petro Dollar ร่วมกันรวย ช่วยกันปั่น มาจนถึงทุกวันนี้

    พอเห็นเค้าแล้วนะครับ ว่านิทานเรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    23 เม.ย. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – สร้างฉากปฏิวัติ 1 – 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ” ตอน 1 เดือนกันยายน ปี ค.ศ. 1916 ประมาณ 1 ปี ก่อนการปฏิวัติอันโด่งดังของรัสเซีย Russian Revolution หรือ Bolshevik Revolution นาย Leon Trotsky ซึ่งตามประวัติศาสตร์ระบุว่า เขาเป็นหนึ่งในหัวหน้าคณะปฏิวัติ กำลังถูกไล่ให้ออกจากประเทศฝรั่งเศส สาเหตุจากบทความที่เขาเขียนลงใน Nashe Slovo หนังสือพิมพ์ภาษารัสเซีย ที่ออกจำหน่ายในฝรั่งเศส มันคงเร้าใจมากขนาดฝรั่งเศส ซึ่งคุ้นเคยกับการปฏิวัติโหดมาแล้ว ยังรับไม่ไหว ตำรวจฝรั่งเศสจึงจัดการส่งตัวนาย Trotsky ออกนอกประเทศ ไปทางเขตแดนด้านประเทศสเปน ไม่กี่วัน นายTrotsky ก็มาถึงเมืองมาดริด และถูกตำรวจที่เมืองมาดริด จับใส่ห้องขัง มันเป็นห้องขังประเภทชั้นพิเศษ first class cell ซึ่งต้องมีการจ่ายเงินค่าความพิเศษ ไม่เหมือนห้องขังทั่วไป แต่เหมือนโรงแรมมากกว่า นาย Trotsky นี่น่าจะเป็นผู้ต้องขัง ชนิดมีปลอกคอ จากนั้นก็มีการส่งตัวเขาต่อมายังเมืองบาร์เซโลนา เพื่อมาลงเรือเดินสมุทรของ Spanish Transatlantic Company ชื่อ Monserrat Trosky และครอบครัวนั่งเรือ Monserrat ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก มาขึ้นบกที่เมืองนิวยอร์ค เมื่อ วันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 1917 จากหนังสือชีวประวัติ ที่ Trosky เขียนเอง ชื่อ My Life คนมีปลอกคอ เล่าว่า ” อาชีพเดียวที่ผมทำ ตอนอยู่ที่นิวยอร์คคือ เป็นนักปฏิวัติเพื่อสังคมนิยม นอกเหนือจากการเขียนบทความเป็นครั้งคราว ลงในหนังสือพิมพ์ Novy Mir ของพวกสังคมนิยม ” แต่ระหว่างที่อยู่นิวยอร์ค เมืองของนายทุน Trosky นักสังคมนิยมและครอบครัว พักอยู่ในอพาร์ตเมนท์ ที่มีตู้เย็นและโทรศัพท์ ซึ่งถือว่าเป็นของหรูหรา ฟุ่มเฟือยอย่างมากในสมัยเมื่อ 100 ปีก่อน นอกจากนั้นครอบครัว Trotsky ยังเดินทาง ไปมาในเมืองนิวยอร์ค ด้วยรถยนต์ ที่มีคนขับรถประจำ นี่ใช่เรื่องของ Leon Trostky ซึ่งมีชื่อปรากฎในประวัติศาสตร์ว่า เป็นนักปฏิวัติสังคมนิยมคนดัง ของรัสเซีย แน่หรือ Trotsky เขียนเล่าถึงชีวิตเขาที่นิวยอร์ค ในชีวประวัติของเขาต่อไปว่า ” ระหว่างอยู่นิวยอร์ค ช่วงปี 1916 ถึง 1917 ผมมีรายได้เพียง 310 เหรียญ ซึ่งผมได้แจกเงินดังกล่าวทั้งหมดให้แก่คนรัสเซีย 5 คน ที่อยู่นิวยอร์ค เพื่อเป็นค่าเดินทางกลับบ้าน” ขณะเดียวกัน อพาร์ตเมนท์ที่เขาอยู่ ก็มีการจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า 3 เดือน เขาต้องเลี้ยงดูเมีย 1 และลูกอีก 2 เขามีรถยนต์ใช้และมีคนขับรถประจำ นี่คือวิถีชีวิตของนักปฏิวัติเพื่อสังคมนิยม ที่อ้างว่าดำรงชีพ ด้วยการเขียนบทความลงหนังหนังสือพิมพ์เป็นครั้งคราว เรื่องราวของเขา คงไม่ตรงไปตรงมา อย่างที่เราเคยเข้าใจกัน หรือว่าพวกนักปฏิวัติ นักปฏิรูป เขาเป็นกันอย่างนี้ทั้งนั้น นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเงินสดจำนวน 1 หมื่นเหรียญ ที่นาย Trotsky พกติดตัวและถูกเจ้าหน้าที่ค้นพบ ระหว่างที่เขาถูกเจ้าหน้าที่แคนาดาจับ ในเดือนเมษายน 1917 ที่เมือง Halifax เมื่อ 100 ปีก่อน เงิน 1 หมื่นเหรียญ นี่เป็นเงินจำนวนไม่เล็กน้อยนะครับ นักปฏิวัติเพื่อสังคมนิยม เอาเงินจำนวนนี้มาจากไหนกัน มีข่าวลือว่า เงิน 1 หมื่นเหรียญนั้น มาจากเยอรมัน ข่าวนี้มาจากฝ่ายข่าวกรองของอังกฤษ ซึ่งรายงานว่า นาย Gregory Weinstein ซึ่งต่อมา เป็นสมาชิกที่โด่งดังของ Soviet Bureau ประจำนครนิวยอร์ค เป็นคนรับเงินมา และนำมาส่งให้นาย Trotsky ที่นิวยอร์ค เงินจำนวนนี้มาจากเยอรมัน โดยการฟอกผ่าน Volks-zeitung น.ส.พ. รายวันของเยอรมัน ที่รัฐบาลเยอรมันสนับสนุนอยู่ ขณะที่มีข่าวว่า Trotsky ได้รับเงินอุดหนุนจากเยอรมัน Trotsky กลับเคลี่อนไหวอยู่ในอเมริกา ก่อนที่เขาจะเดินทางออกจากนิวยอร์ค ไปรัสเซีย….เพื่อไปทำการปฏิวัติ ! นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ” ตอน 2 วันที่ 5 มีนาคม 1917 หนังสือพิมพ์อเมริกัน พากันพาดหัวข่าวตัวโต ถึงความเป็นไปได้ ที่อเมริกาจะเข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร เพื่อทำสงครามกับเยอรมัน คืนวันนั้นเอง Trotsky ก็ไปร่วมการชุมนุมของกลุ่มชาวสังคมนิยมในนิวยอร์คด้วย เขาพูดปลุกระดมให้ชาวสังคมนิยมในอเมริกา จัดการให้มีการนัดหยุดงาน และต่อต้านการเกณท์ทหาร หากอเมริกาจะเข้าร่วมทำสงครามต่อสู้กับเยอรมัน (ท่านผู้อ่านนิทาน คงพอจำกันได้ว่า ขณะที่ฝ่ายสัมพันธมิตร ที่นำโดยอังกฤษ ประกาศสงครามกับฝ่ายเยอรมัน ในปี 1914 นั้น อเมริกายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมสงครามด้วย และมีสถานะเป็นประเทศเป็นกลางอยู่หลายปี) หลังจากนั้นประมาณสัปดาห์กว่า ในวันที่ 16 มีนาคม 1917 ก็เกิดเหตุการณ์ใหญ่ในรัสเซีย ซาร์นิโคลัส ที่ 2 ถูกปฏิวัติให้ลงจากบัลลังก์ โดยกลุ่มนักปฏิวัติ ที่นำโดยนาย Aleksandre Kerensky หนังสือพิมพ์ Novy Mir ได้มาขอสัมภาษณ์ Leon Trotsky ซึ่งให้ความเห็นไว้เหมือนคนรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าว่า “คณะผู้บริหาร ที่ตั้งขึ้นมาทำหน้าที่แทนพวกซาร์ ที่ถูกปฏิวัติไปนั้น ไม่ได้เป็นตัวแทนของกลุ่มผลประโยชน์ หรือทำตามวัตถุประสงค์ ของพวกที่ต้องการปฏิวัติ คณะผู้บริหารนี้คงอยู่ไม่นานหรอก อีกหน่อยก็คงลาออกไป เพื่อให้กลุ่มคนที่สามารถจะนำพารัสเซียไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย มาทำหน้าที่ต่อไป…” กลุ่มคนที่สามารถนำพารัสเซียไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย ในความหมายของ Trotsky คือ พวก Bolsheviks และ Menshevik ซึ่งกำลังลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ และกำลังรีบเร่งเดินทางกลับรัส เซีย ส่วนคณะผู้บริหารนั้น หมายถึง รัฐบาลเฉพาะกาล Provisional Government ของกลุ่มนาย Aleksandr Kerensky ที่ทำการปฏิวัติในวันที่ 16 มีนาคม คศ 1917 แล้วนาย Trotsky ก็ออกเดินทางจากนครนิวยอร์ค เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 1917 ด้วยเรือเดินสมุทรชื่อ S S Kristainiafjord เขาผ่านด่านตรวจ ขึ้นเรือดังกล่าวด้วยพาสปอร์ตของอเมริกา เขาเดินทางพร้อมพรรคพวกอีกหลายคน เพื่อจะไปทำการปฏิวัติ นอกจากนี้ ยังมีนักการเงินจากวอลสตรีท คอมมิวนิสต์สัญชาติอเมริกัน และบุคคลน่าสนใจอีกหลายคน ร่วมเดินทางไปกับนาย Trotsky ด้วย นาย Trotsky เอาพาสปอร์ตของอเมริกามาจากไหน นาย Jennings C. Wise เขียนไว้ในหนังสือเรื่อง “Woodlow Wilson : Disciple Revolution” ว่า นักประวัติศาสตร์จะต้องไม่ลืมว่า ประธานาธิบดีของอเมริกา นาย Woodlow Wilson เป็นนางฟ้า ที่มาเศกให้นาย Leon Trotsky เดินทางเข้ารัสเซียได้สำเร็จ ด้วยพาสปอร์ตของอเมริกา แม้ว่าจะมีการพยายามขัดขวางโดยตำรวจอังกฤษก็ตาม” คงเกินกว่าที่เราจะคาดคิดว่า ประธานาธิบดี Wilson เป็นนางฟ้ามาเศกให้นาย Trotsky ได้ถือพาสปอร์ตที่ออกโดยอเมริกา เพื่อเดินทางกลับไปรัสเซีย และไปดำเนินการปฏิวัติต่อให้สำเร็จ (ตามเป้าหมาย!?) และเป็นพาสปอร์ตของอเมริกา ที่สามารถผ่านเข้าออกได้ทุกด่านของอเมริกา รวมทั้งมีวีซ่าอนุญาตให้เข้าประเทศอังกฤษอีกด้วย นางฟ้าทำได้ทุกอย่างจริงๆ ตั้งแต่สมัยนั้น จนถึงเดี๋ยวนี่ แต่ควรจะเรียกว่าเป็นนางฟ้า หรือไม่ อ่านนิทานต่อไปเรื่อยๆ คนอ่านนิทาน คงนึกออกว่าควรจะเรียกว่าอะไร นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ” ตอน 3 ส่วนผสมของผู้โดยสาร ที่เดินทางไปในเรือ S S Kristainiafjord ได้ถูกบันทึกไว้โดยนาย Lincoln Steffens คอมมิวนิสต์ชาวอเมริกัน ดังนี้: “…รายชื่อผู้โดยสารยาวเหยียด และดูลึกลับน่าสนใจ แน่นอน Trotsky แสดงตัวเป็นหัวหน้ากลุ่มนักปฏิวัติ มีนักปฎิวัติชาวญี่ปุ่น นอนเคบินเดียวกับผม มีชาวดัชท์หลายคนที่รีบร้อนกลับเมืองชะวา พวกนี้ดูจะเป็นกลุ่มเดียวที่ไม่เกี่ยวโยงกับใคร ที่เหลือดูเหมือนจะเป็นผู้ที่เกี่ยวโยงกับสงครามโลกที่กำลังเกิดขึ้น นอกจากนี้ มีพวกนักการเงินวอลสตรีท 2 คน มุ่งหน้าไปเยอรมัน.. ” นาย Steffens เองนั้น โดยสารไปในเรือเดินสมุทร โดยคำเชิญของ นาย Charles R Crane เจ้าของกระเป๋าทุนใบใหญ่ที่สนับสนุน ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ในการสมัครเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี นาย Crane นั้น เป็นรองประธานบริษัท Crane Company ซึ่งภายหลัง เป็นคนไปตั้งบริษัท Westinghouse สาขารัสเซีย หลังการปฏิวัติของรัสเซียรอบที่กลุ่ม Bolsheviks เป็นผู้ปฎิบัติการสำเร็จเรียบร้อย นาย Crane ยังเป็นหนึ่งในกรรมาธิการ Root Mission ที่ประธานาธิบดี Wilson ส่งไปสำรวจรัสเซียทุกตารางนิ้ว หลังการปฏิวัติอีกด้วย นาย Crane เดินทางไปรัสเซียในระหว่างช่วงปี ค.ศ.1890 ถึง 1930 ประมาณ 23 ครั้ง ลูกชายของเขา Richard Crane เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างเทศ ที่ได้รับความไว้วางใจอย่างมาก ของนาย Robert Lansing รัฐมนตรีต่างเทศของอเมริกาขณะนั้น นาย William Dodd อดีตทูตอเมริกันประจำเยอรมัน พูดถึงนาย Crane ว่า เป็นผู้มีส่วนอย่างมาก ที่ทำให้การปฏิวัติในรัสเซียเมื่อเดือนมีนาคม โดยกลุ่มของ Aleksandr Kerensky กลายเป็นการปฏิวัติชั่วคราว ที่นำร่อง เปิดทางให้กับการปฏิวัติของจริง ที่เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ในปีเดียวกัน นาย Steffens ได้บันทึกการสนทนา ที่เขาได้ยินระหว่างการเดินทางในเรือเดินสมุทรไว้ว่า “…. ดูเหมือนทุกคนจะเห็นพ้องกันว่า การปฏิวัติที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม (โดย Aleksandr Kerensky) เป็นเพียงขั้นตอนแรกเท่านั้นเอง มันจะต้องมีตอนต่อไป Crane และพวกรัสเซียหัวก้าวหน้าที่อยู่ในเรือ คิดว่าพวกที่กำลังเดินทางจะไปเมือง Petrograd (ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นเมือง St Petersberg ) เพื่อไปทำการปฏิวัติซ้ำ…” เมื่อนาย Crane กลับมาอเมริกาในเดือนธันวาคม 1917 หลังจากการปฏิวัติบอลเชวิก Bolsheviks Revolution (หรือการปฏิวัติซ้ำ นั่นแหละ) สำเร็จเรียบร้อยแล้ว นาย Crane ก็ได้รับโทรเลข ลงวันที่ 11 ธันวาคม 1917 จากกระทรวงต่างประเทศ รายงานความคืบหน้าโดย นาย Maddin Summers กงสุลอเมริกันประจำกรุงมอสโคว์ พร้อมจดหมายปะหน้าจากนาย Summers ว่า ” กระผม ขออนุญาตนำเสนอรายงานที่แนบมา นี้ และสำเนาอีกหนึ่งฉบับ โดยขอให้กระทรวงฯ ได้โปรดนำส่งให้ นาย Charles Crane เพื่อทราบความคืบหน้าด้วย หวังว่าทางกระทรวงคงไม่ขัดข้อง ที่จะให้นาย Crane ได้เห็นรายงาน….” สำหรับท่านผู้อ่านนิทานเรื่องจริง เรื่องเหยื่อ คงพอจำชื่อนี้ได้ เขาคือ นาย Crane คนเดียวกันกับ เจ้าของรายงาน King Crane Report ที่ไปเดินสำรวจตะวันออกกลาง เพื่อทำประชามติว่า ชาวอาหรับต้องการจะอยู่ในความปกครอง ของใคร หลังจากถูกอังกฤษหลอก โดยให้สายลับ ที่เรารู้จักกันในนาม Lawrence of Arabia เป็นผู้นำชาวอาหรับ ไปรบกับตุรกี และยึดหลายเมืองในตะวันออกกลางได้ และเป็นนาย Crane คนเดียวกัน ที่สามารถจับมือให้กษัตริย์ซาอุดิอารเบีย ตัดสินใจเปิดประตูเมืองครั้งแรก และให้สัมปทานน้ำมันแก่อเมริกา เริ่มศักราช Petro Dollar ร่วมกันรวย ช่วยกันปั่น มาจนถึงทุกวันนี้ พอเห็นเค้าแล้วนะครับ ว่านิทานเรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 23 เม.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปลี่ยนงาน "ซอย" ที่น่าเบื่อ ให้เป็นงาน "สร้างสรรค์" ในพริบตา!
    เหนื่อยไหมกับการนั่งซอยขิงทีละเส้น? เสียเวลา เสียพลังงาน แถมขนาดก็ไม่สม่ำเสมอ? ถึงเวลาให้ เครื่องหั่นมันฝรั่งรุ่น YPS-J310-606-Z-S เป็นสุดยอดผู้ช่วยมือโปรในครัวคุณ!

    ไม่ใช่แค่มันฝรั่ง... แต่คือ "เทพแห่งการซอยขิง" ตัวจริง!
    เครื่องนี้ถูกออกแบบมาเพื่อ โรงงาน, ภัตตาคาร, และร้านอาหารขนาดกลาง-ใหญ่ ที่เน้นเรื่องคุณภาพและความรวดเร็ว!

    พลังผลิตระดับอุตสาหกรรม: เร็ว แรง ทันใจ! ด้วยกำลังผลิตสูงถึง 100-300 กิโลกรัมต่อชั่วโมง (KG/H) เทียบเท่าแรงงานคนหลายสิบคน!

    มอเตอร์แรงเต็มที่: ใช้มอเตอร์ขนาด 1 แรงม้า ใช้ไฟบ้าน 220V ทำงานต่อเนื่องได้สบาย ไม่มีสะดุด

    สเตนเลสแท้ : ตัวเครื่องทำจากสเตนเลสสตีลคุณภาพสูง ทนทานต่อการกัดกร่อน ทำความสะอาดง่าย ถูกสุขอนามัยมาตรฐานโรงงานอาหาร

    ปรับได้ 3 สไตล์: เครื่องเดียวจบ ครบทุกเมนู! สามารถเปลี่ยนใบมีดเพื่อหั่นได้ทั้ง แผ่น, แท่ง, และเส้น ขนาดสม่ำเสมอ!

    ขนาดและน้ำหนัก: ขนาด 468 x 572 x 690 มม. และน้ำหนัก 43 กก.

    หยุดเสียเวลาซอย! เปลี่ยนมา "ลงทุน" กับความเร็วและคุณภาพในครัวคุณ!

    สนใจดูสินค้าจริงและสอบถามเพิ่มเติม:
    ย. ย่งฮะเฮง (Y. Yonghahheng)

    ที่ตั้ง: 1970-1972 ถ.บรรทัดทอง (ถ.พระราม 6) แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
    แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7
    เวลาทำการ:
    จันทร์-ศุกร์ (8.00-17.00 น.)
    เสาร์ (8.00-16.00 น.)
    ช่องทางติดต่อ:
    โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ สายด่วน 081-3189098
    แชท Inbox: m.me/yonghahheng
    LINE: @yonghahheng (มี @) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    อีเมล: sales@yoryonghahheng.com หรือ yonghahheng@gmail.com

    #เครื่องหั่นขิง #เครื่องซอยขิง #เครื่องหั่นผัก #เครื่องสไลด์ผัก #เครื่องครัวอุตสาหกรรม #เครื่องครัวร้านอาหาร #อุปกรณ์ร้านอาหาร #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #ขิงซอย #ขิง #โรงงานอาหาร #โรงงานแปรรูป #ร้านอาหาร #ภัตตาคาร #โรงแรม #ครัวมืออาชีพ #ประหยัดเวลา #เพิ่มประสิทธิภาพ #สเตนเลสสตีล
    📢💥 เปลี่ยนงาน "ซอย" ที่น่าเบื่อ ให้เป็นงาน "สร้างสรรค์" ในพริบตา! 💥📢 เหนื่อยไหมกับการนั่งซอยขิงทีละเส้น? 😭 เสียเวลา เสียพลังงาน แถมขนาดก็ไม่สม่ำเสมอ? ถึงเวลาให้ เครื่องหั่นมันฝรั่งรุ่น YPS-J310-606-Z-S เป็นสุดยอดผู้ช่วยมือโปรในครัวคุณ! 🧑‍🍳🔪 🌶️✨ ไม่ใช่แค่มันฝรั่ง... แต่คือ "เทพแห่งการซอยขิง" ตัวจริง! ✨🌶️ เครื่องนี้ถูกออกแบบมาเพื่อ โรงงาน, ภัตตาคาร, และร้านอาหารขนาดกลาง-ใหญ่ ที่เน้นเรื่องคุณภาพและความรวดเร็ว! ⚡ พลังผลิตระดับอุตสาหกรรม: เร็ว แรง ทันใจ! ด้วยกำลังผลิตสูงถึง 100-300 กิโลกรัมต่อชั่วโมง (KG/H) เทียบเท่าแรงงานคนหลายสิบคน! ⚙️ มอเตอร์แรงเต็มที่: ใช้มอเตอร์ขนาด 1 แรงม้า ใช้ไฟบ้าน 220V ทำงานต่อเนื่องได้สบาย ไม่มีสะดุด ✨ สเตนเลสแท้ 💯: ตัวเครื่องทำจากสเตนเลสสตีลคุณภาพสูง ทนทานต่อการกัดกร่อน ทำความสะอาดง่าย ถูกสุขอนามัยมาตรฐานโรงงานอาหาร 📏 ปรับได้ 3 สไตล์: เครื่องเดียวจบ ครบทุกเมนู! สามารถเปลี่ยนใบมีดเพื่อหั่นได้ทั้ง แผ่น, แท่ง, และเส้น ขนาดสม่ำเสมอ! 📐 ขนาดและน้ำหนัก: ขนาด 468 x 572 x 690 มม. และน้ำหนัก 43 กก. 👉 หยุดเสียเวลาซอย! เปลี่ยนมา "ลงทุน" กับความเร็วและคุณภาพในครัวคุณ! 📍 สนใจดูสินค้าจริงและสอบถามเพิ่มเติม: ย. ย่งฮะเฮง (Y. Yonghahheng) ที่ตั้ง: 1970-1972 ถ.บรรทัดทอง (ถ.พระราม 6) แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ (8.00-17.00 น.) เสาร์ (8.00-16.00 น.) ช่องทางติดต่อ: 📞 โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ สายด่วน 081-3189098 💬 แชท Inbox: m.me/yonghahheng 📲 LINE: @yonghahheng (มี @) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9 🌐 เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com 📧 อีเมล: sales@yoryonghahheng.com หรือ yonghahheng@gmail.com #เครื่องหั่นขิง #เครื่องซอยขิง #เครื่องหั่นผัก #เครื่องสไลด์ผัก #เครื่องครัวอุตสาหกรรม #เครื่องครัวร้านอาหาร #อุปกรณ์ร้านอาหาร #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #ขิงซอย #ขิง #โรงงานอาหาร #โรงงานแปรรูป #ร้านอาหาร #ภัตตาคาร #โรงแรม #ครัวมืออาชีพ #ประหยัดเวลา #เพิ่มประสิทธิภาพ #สเตนเลสสตีล
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 555,พวกนี้จริงๆนะ, มันพูดภาษาผสมเกิน!!!, กัน จอมพลัง ยังงง.,ภาษาไทยเราดีๆเอามาผสมจนวิบัติ,ใช้นิดๆหน่อยๆก็พอ.

    https://youtube.com/shorts/3ytie33tbAA?si=HiyWYL0B3nZvcHY4
    555,พวกนี้จริงๆนะ, มันพูดภาษาผสมเกิน!!!, กัน จอมพลัง ยังงง.,ภาษาไทยเราดีๆเอามาผสมจนวิบัติ,ใช้นิดๆหน่อยๆก็พอ. https://youtube.com/shorts/3ytie33tbAA?si=HiyWYL0B3nZvcHY4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • สร้างมาตรฐานแคปหมู! ด้วยพลัง 1.5 แรงม้า!
    ถึงเวลาเลิกเหนื่อยกับการหั่นหนังหมูแบบเดิม ๆ แล้วหันมาใช้เครื่องจักรคุณภาพ! "เครื่องหั่นอาหารแท่งคู่ เบอร์ 3" (FOOD CUTTER) คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้แคปหมูและหมูกระจกของคุณ กรอบ ฟู เท่ากันทุกชิ้น!

    เครื่องนี้ไม่ได้มีดีแค่หั่นได้ แต่มาพร้อมสเปคที่รองรับงานหนัก!

    สเปคเครื่องหั่นเบอร์ 3 ที่มืออาชีพวางใจ:
    รุ่น: YDS-3TF98-3-T-S
    มอเตอร์: 1.5 แรงม้า (พลังแรง ตัดขาดได้ต่อเนื่อง)
    กำลังการผลิต: 200-300 กก./ชม. (รับออร์เดอร์เยอะแค่ไหนก็เอาอยู่)
    กระแสไฟฟ้า: ใช้ไฟบ้าน 220 โวลต์
    วัสดุ: ตัวเครื่องและใบมีดทำจาก สแตนเลส คุณภาพสูง
    ขนาดเครื่อง: 38.5 x 68 x 81 ซม.
    น้ำหนัก 65 กิโลกรัม

    คุณสมบัติเด่น: มีการ์ดกั้นป้องกัน (Safety) และมีล้อเลื่อนสำหรับเคลื่อนย้าย

    เครื่องนี้สำหรับผู้ผลิตแคปหมูโดยเฉพาะ: เน้นการหั่น หนังหมู/เนื้อสัตว์สด (รวมถึงต้มสุก) เท่านั้น! ห้าม! ใช้กับวัตถุดิบที่แช่แข็ง มีกระดูก หรือพืชผักอื่น ๆ

    ลงทุนเพื่อประสิทธิภาพ! ให้ทุกชิ้นส่วนของแคปหมู/หมูกระจกของคุณได้ขนาดมาตรฐาน สร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ได้ทันที!

    สั่งซื้อหรือสนใจดูสินค้าจริง ติดต่อ:
    ย.ย่งฮะเฮง (Yor Yong Hah Heng)
    ที่ตั้ง: 1970-1972 ถ.บรรทัดทอง (ถ.พระราม 6) กรุงเทพฯ 10330
    แผนที่: https://maps.app.goo.gl/3sE9Xc1YBrZKEFWLA
    เวลาทำการ: จันทร์ - ศุกร์: 8.30-17.00 น. เสาร์: 9.00-16.00 น.
    ช่องทางการติดต่อ: โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    แชท Messenger: m.me/yonghahheng
    LINE: @yonghahheng (มี @) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9

    www.yoryonghahheng.com

    #แคปหมู #หมูกระจก #เครื่องหั่น #เครื่องหั่นหนังหมู #FoodCutter #เครื่องหั่นเบอร์3 #มอเตอร์1จุด5แรงม้า #สแตนเลส304 #กำลังการผลิตสูง #ทำแคปหมูขาย #โรงงานขนาดเล็ก #ธุรกิจอาหาร #แปรรูปเนื้อสัตว์ #SME #สร้างอาชีพ #ลงทุนธุรกิจ #ลดต้นทุนแรงงาน #วัตถุดิบหนังหมู #หนังหมู #เครื่องครัวเชิงพาณิชย์ #ยงฮะเฮง #YoryongHahHeng #เครื่องจักร #หั่นเนื้อสด #หมูทอด #แคปหมูติดมัน #แคปหมูไร้มัน #220V #มาตรฐานGMP #เลือกคุณภาพ
    🐷✂️ สร้างมาตรฐานแคปหมู! ด้วยพลัง 1.5 แรงม้า! ✂️🐷 ถึงเวลาเลิกเหนื่อยกับการหั่นหนังหมูแบบเดิม ๆ แล้วหันมาใช้เครื่องจักรคุณภาพ! "เครื่องหั่นอาหารแท่งคู่ เบอร์ 3" (FOOD CUTTER) คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้แคปหมูและหมูกระจกของคุณ กรอบ ฟู เท่ากันทุกชิ้น! เครื่องนี้ไม่ได้มีดีแค่หั่นได้ แต่มาพร้อมสเปคที่รองรับงานหนัก! ✨ สเปคเครื่องหั่นเบอร์ 3 ที่มืออาชีพวางใจ: รุ่น: YDS-3TF98-3-T-S มอเตอร์: 1.5 แรงม้า (พลังแรง ตัดขาดได้ต่อเนื่อง) กำลังการผลิต: 200-300 กก./ชม. (รับออร์เดอร์เยอะแค่ไหนก็เอาอยู่) กระแสไฟฟ้า: ใช้ไฟบ้าน 220 โวลต์ วัสดุ: ตัวเครื่องและใบมีดทำจาก สแตนเลส คุณภาพสูง ขนาดเครื่อง: 38.5 x 68 x 81 ซม. น้ำหนัก 65 กิโลกรัม คุณสมบัติเด่น: มีการ์ดกั้นป้องกัน (Safety) และมีล้อเลื่อนสำหรับเคลื่อนย้าย ⚠️ เครื่องนี้สำหรับผู้ผลิตแคปหมูโดยเฉพาะ: เน้นการหั่น หนังหมู/เนื้อสัตว์สด (รวมถึงต้มสุก) เท่านั้น! ห้าม! ใช้กับวัตถุดิบที่แช่แข็ง มีกระดูก หรือพืชผักอื่น ๆ ลงทุนเพื่อประสิทธิภาพ! ให้ทุกชิ้นส่วนของแคปหมู/หมูกระจกของคุณได้ขนาดมาตรฐาน สร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ได้ทันที! 📍 สั่งซื้อหรือสนใจดูสินค้าจริง ติดต่อ: ย.ย่งฮะเฮง (Yor Yong Hah Heng) ที่ตั้ง: 1970-1972 ถ.บรรทัดทอง (ถ.พระราม 6) กรุงเทพฯ 10330 แผนที่: https://maps.app.goo.gl/3sE9Xc1YBrZKEFWLA เวลาทำการ: จันทร์ - ศุกร์: 8.30-17.00 น. เสาร์: 9.00-16.00 น. ช่องทางการติดต่อ: โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 แชท Messenger: m.me/yonghahheng LINE: @yonghahheng (มี @) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9 www.yoryonghahheng.com #แคปหมู #หมูกระจก #เครื่องหั่น #เครื่องหั่นหนังหมู #FoodCutter #เครื่องหั่นเบอร์3 #มอเตอร์1จุด5แรงม้า #สแตนเลส304 #กำลังการผลิตสูง #ทำแคปหมูขาย #โรงงานขนาดเล็ก #ธุรกิจอาหาร #แปรรูปเนื้อสัตว์ #SME #สร้างอาชีพ #ลงทุนธุรกิจ #ลดต้นทุนแรงงาน #วัตถุดิบหนังหมู #หนังหมู #เครื่องครัวเชิงพาณิชย์ #ยงฮะเฮง #YoryongHahHeng #เครื่องจักร #หั่นเนื้อสด #หมูทอด #แคปหมูติดมัน #แคปหมูไร้มัน #220V #มาตรฐานGMP #เลือกคุณภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวข้อข่าว: “แฮกพลัง RTX 4090 โน้ตบุ๊กด้วยชุนต์ม็อด ดันทะลุขีดจำกัด แซงหน้า RTX 5090!”

    วันนี้มีเรื่องเล่าจากโลกของเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ ที่ไม่ยอมให้ข้อจำกัดของฮาร์ดแวร์มาขวางความแรง! ผู้ใช้ Reddit นามว่า “u/thatavidreadertrue” ได้ทำการ “ชุนต์ม็อด” กับโน้ตบุ๊ก ASUS ROG Zephyrus M16 ที่ใช้ GPU RTX 4090 เพื่อปลดล็อกพลังที่ซ่อนอยู่ และผลลัพธ์คือ…แรงทะลุเพดาน แซง RTX 5090 ไปแบบไม่เกรงใจ!

    ชุนต์ม็อดคือการปรับแต่งวงจรไฟฟ้า โดยการเพิ่มตัวต้านทานขนาดเล็ก (1 mΩ) เข้าไปคู่ขนานกับตัวเดิม (5 mΩ) ทำให้ GPU เข้าใจผิดว่าตัวเองใช้ไฟน้อยลง ทั้งที่จริงแล้วมันดูดไฟถึง 240W จากเดิมที่จำกัดไว้แค่ 150W! ผลคือ GPU สามารถเร่งความเร็วได้มากขึ้นโดยไม่ถูกจำกัดจากเฟิร์มแวร์

    แม้จะไม่มีการทดสอบเกมจริง แต่ผล Benchmark ก็ชัดเจนว่า RTX 4090 ที่ผ่านการม็อดสามารถแซง RTX 5090 ได้ในหลายการทดสอบ เช่น Solar Bay Extreme ที่ได้คะแนนสูงกว่าถึง 7.6% และเหนือกว่า RTX 4090 รุ่นเดิมถึง 35.5%

    เพื่อรับมือกับความร้อนที่เพิ่มขึ้น เจ้าของเครื่องได้เปลี่ยนวัสดุระบายความร้อนเป็น PTM7950 และ Upsiren UX Pro Ultra พร้อมกับ undervolt GPU ให้ใช้ไฟต่ำลงเพื่อความปลอดภัย

    ที่น่าสนใจคือ โน้ตบุ๊กเครื่องนี้ซื้อจากตลาดมือสองในราคาแค่ $1600! เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้ ถือว่าเป็น “ดีลเทพ” สำหรับสายโมดิฟาย

    การม็อดชุนต์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ GPU
    ลดค่าความต้านทานจาก 5 mΩ เหลือ 0.83 mΩ
    GPU เข้าใจผิดว่าตัวเองใช้ไฟน้อยลง ทำให้เร่งความเร็วได้มากขึ้น
    จาก 150W TGP กลายเป็นการใช้ไฟจริงถึง 240W

    ผล Benchmark แสดงให้เห็นถึงความแรงที่เพิ่มขึ้น
    Solar Bay Extreme สูงกว่า RTX 5090 ถึง 7.6%
    สูงกว่า RTX 4090 รุ่นเดิมถึง 35.5%
    คะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นเกือบ 20% เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม

    การจัดการความร้อนหลังม็อด
    ใช้ PTM7950 และ Upsiren UX Pro Ultra แทนของเดิม
    GPU อยู่ที่ 80–84°C โดยไม่ throttle
    CPU ร้อนถึง 90°C แต่ยังควบคุมได้

    การ undervolt เพื่อความปลอดภัย
    จำกัดแรงดันไฟฟ้าไว้ที่ 800mV ขณะเล่นเกม
    ลดความเสี่ยงจากการเร่งความเร็วเกินขีดจำกัด

    ความคุ้มค่าด้านราคา
    ซื้อเครื่องมือสองในราคา $1600
    หลังม็อดแล้วแรงกว่า RTX 5090 ที่ราคาสูงกว่า

    การม็อดชุนต์มีความเสี่ยงสูง
    อาจทำให้เครื่องเสียหายถาวร หากทำไม่ถูกต้อง
    อุปกรณ์ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้ไฟเกินขีดจำกัด

    ความร้อนที่เพิ่มขึ้นต้องจัดการอย่างเหมาะสม
    หากระบายความร้อนไม่ดี อาจเกิดการ throttle หรือ shutdown
    อุณหภูมิ CPU ที่สูงอาจส่งผลต่ออายุการใช้งาน

    การ undervolt ต้องทำอย่างระมัดระวัง
    หากตั้งค่าผิด อาจทำให้ระบบไม่เสถียรหรือค้าง

    https://www.tomshardware.com/laptops/gaming-laptops/rtx-4090-laptop-gpu-gets-20-percent-performance-boost-after-shunt-mod-consuming-up-to-240w-reduced-resistance-means-it-also-beats-the-mobile-rtx-5090-on-average
    🛠️ หัวข้อข่าว: “แฮกพลัง RTX 4090 โน้ตบุ๊กด้วยชุนต์ม็อด ดันทะลุขีดจำกัด แซงหน้า RTX 5090!” วันนี้มีเรื่องเล่าจากโลกของเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ ที่ไม่ยอมให้ข้อจำกัดของฮาร์ดแวร์มาขวางความแรง! ผู้ใช้ Reddit นามว่า “u/thatavidreadertrue” ได้ทำการ “ชุนต์ม็อด” กับโน้ตบุ๊ก ASUS ROG Zephyrus M16 ที่ใช้ GPU RTX 4090 เพื่อปลดล็อกพลังที่ซ่อนอยู่ และผลลัพธ์คือ…แรงทะลุเพดาน แซง RTX 5090 ไปแบบไม่เกรงใจ! ชุนต์ม็อดคือการปรับแต่งวงจรไฟฟ้า โดยการเพิ่มตัวต้านทานขนาดเล็ก (1 mΩ) เข้าไปคู่ขนานกับตัวเดิม (5 mΩ) ทำให้ GPU เข้าใจผิดว่าตัวเองใช้ไฟน้อยลง ทั้งที่จริงแล้วมันดูดไฟถึง 240W จากเดิมที่จำกัดไว้แค่ 150W! ผลคือ GPU สามารถเร่งความเร็วได้มากขึ้นโดยไม่ถูกจำกัดจากเฟิร์มแวร์ แม้จะไม่มีการทดสอบเกมจริง แต่ผล Benchmark ก็ชัดเจนว่า RTX 4090 ที่ผ่านการม็อดสามารถแซง RTX 5090 ได้ในหลายการทดสอบ เช่น Solar Bay Extreme ที่ได้คะแนนสูงกว่าถึง 7.6% และเหนือกว่า RTX 4090 รุ่นเดิมถึง 35.5% เพื่อรับมือกับความร้อนที่เพิ่มขึ้น เจ้าของเครื่องได้เปลี่ยนวัสดุระบายความร้อนเป็น PTM7950 และ Upsiren UX Pro Ultra พร้อมกับ undervolt GPU ให้ใช้ไฟต่ำลงเพื่อความปลอดภัย ที่น่าสนใจคือ โน้ตบุ๊กเครื่องนี้ซื้อจากตลาดมือสองในราคาแค่ $1600! เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้ ถือว่าเป็น “ดีลเทพ” สำหรับสายโมดิฟาย ✅ การม็อดชุนต์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ GPU ➡️ ลดค่าความต้านทานจาก 5 mΩ เหลือ 0.83 mΩ ➡️ GPU เข้าใจผิดว่าตัวเองใช้ไฟน้อยลง ทำให้เร่งความเร็วได้มากขึ้น ➡️ จาก 150W TGP กลายเป็นการใช้ไฟจริงถึง 240W ✅ ผล Benchmark แสดงให้เห็นถึงความแรงที่เพิ่มขึ้น ➡️ Solar Bay Extreme สูงกว่า RTX 5090 ถึง 7.6% ➡️ สูงกว่า RTX 4090 รุ่นเดิมถึง 35.5% ➡️ คะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นเกือบ 20% เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม ✅ การจัดการความร้อนหลังม็อด ➡️ ใช้ PTM7950 และ Upsiren UX Pro Ultra แทนของเดิม ➡️ GPU อยู่ที่ 80–84°C โดยไม่ throttle ➡️ CPU ร้อนถึง 90°C แต่ยังควบคุมได้ ✅ การ undervolt เพื่อความปลอดภัย ➡️ จำกัดแรงดันไฟฟ้าไว้ที่ 800mV ขณะเล่นเกม ➡️ ลดความเสี่ยงจากการเร่งความเร็วเกินขีดจำกัด ✅ ความคุ้มค่าด้านราคา ➡️ ซื้อเครื่องมือสองในราคา $1600 ➡️ หลังม็อดแล้วแรงกว่า RTX 5090 ที่ราคาสูงกว่า ‼️ การม็อดชุนต์มีความเสี่ยงสูง ⛔ อาจทำให้เครื่องเสียหายถาวร หากทำไม่ถูกต้อง ⛔ อุปกรณ์ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้ไฟเกินขีดจำกัด ‼️ ความร้อนที่เพิ่มขึ้นต้องจัดการอย่างเหมาะสม ⛔ หากระบายความร้อนไม่ดี อาจเกิดการ throttle หรือ shutdown ⛔ อุณหภูมิ CPU ที่สูงอาจส่งผลต่ออายุการใช้งาน ‼️ การ undervolt ต้องทำอย่างระมัดระวัง ⛔ หากตั้งค่าผิด อาจทำให้ระบบไม่เสถียรหรือค้าง https://www.tomshardware.com/laptops/gaming-laptops/rtx-4090-laptop-gpu-gets-20-percent-performance-boost-after-shunt-mod-consuming-up-to-240w-reduced-resistance-means-it-also-beats-the-mobile-rtx-5090-on-average
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts