• เส้นทางสายไหม สายธารประวัติศาสตร์
    **หลานโจว – จางเย่ – ตุนหวง – อูลู่มู่ฉี**
    8 วัน 6 คืน สัมผัสอารยธรรมโลกตะวันออก

    เดินทาง
    • 9-16 ส.ค. 68
    • 6-13 ก.ย. 68
    • 13-20 ก.ย. 68

    โดยสายการบิน China Southern Airlines (CZ)
    ราคาเริ่มต้น คุ้มค่ากับประสบการณ์สุดยิ่งใหญ่

    ไฮไลท์พิเศษ
    เจียยี่กวน – ปราการสุดท้ายของกำแพงเมืองจีน
    ถ้ำม่อเกา – พุทธศิลป์โบราณ มรดกโลกอันล้ำค่า
    ขี่อูฐกลางทะเลทรายที่ “เนินทรายครวญคลื่น” และ “บ่อน้ำวงพระจันทร์”
    เขาสายรุ้งจางเย่ – ความงามจากธรรมชาติรังสรรค์
    สำรวจดินแดนเหอซี อารยธรรมเส้นทางสายไหม
    ธรรมชาติแกรนด์วิว สุดตื่นตาตื่นใจ
    แสงเทียนสะท้อนศิลป์ พุทธศาสนาอันตราตรึงใจ

    ทริปนี้ไม่ใช่แค่เที่ยว แต่คือการเดินทางผ่านหน้าประวัติศาสตร์!

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e9dcbd

    ดูทัวร์จีนทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/30a85f

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #ทัวร์จีน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #เส้นทางสายไหม #ถ้ำม่อเกา #เนินทรายครวญคลื่น #บ่อน้ำพระจันทร์ #เขาสายรุ้งจางเย่ #อูลู่มู่ฉี #ตุนหวง #ChinaSouthern #SilkRoadAdventure #เที่ยวจีนแบบมีคลาส
    🌏 เส้นทางสายไหม สายธารประวัติศาสตร์ 🇨🇳 **หลานโจว – จางเย่ – ตุนหวง – อูลู่มู่ฉี** 8 วัน 6 คืน สัมผัสอารยธรรมโลกตะวันออก 📆 เดินทาง • 9-16 ส.ค. 68 • 6-13 ก.ย. 68 • 13-20 ก.ย. 68 ✈️ โดยสายการบิน China Southern Airlines (CZ) 💰 ราคาเริ่มต้น คุ้มค่ากับประสบการณ์สุดยิ่งใหญ่ 🌟 ไฮไลท์พิเศษ 🏯 เจียยี่กวน – ปราการสุดท้ายของกำแพงเมืองจีน 🧱 ถ้ำม่อเกา – พุทธศิลป์โบราณ มรดกโลกอันล้ำค่า 🐪 ขี่อูฐกลางทะเลทรายที่ “เนินทรายครวญคลื่น” และ “บ่อน้ำวงพระจันทร์” 🎨 เขาสายรุ้งจางเย่ – ความงามจากธรรมชาติรังสรรค์ 🏜️ สำรวจดินแดนเหอซี อารยธรรมเส้นทางสายไหม 🏞️ ธรรมชาติแกรนด์วิว สุดตื่นตาตื่นใจ 🕯️ แสงเทียนสะท้อนศิลป์ พุทธศาสนาอันตราตรึงใจ ทริปนี้ไม่ใช่แค่เที่ยว แต่คือการเดินทางผ่านหน้าประวัติศาสตร์! ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e9dcbd ดูทัวร์จีนทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/30a85f LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์จีน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #เส้นทางสายไหม #ถ้ำม่อเกา #เนินทรายครวญคลื่น #บ่อน้ำพระจันทร์ #เขาสายรุ้งจางเย่ #อูลู่มู่ฉี #ตุนหวง #ChinaSouthern #SilkRoadAdventure #เที่ยวจีนแบบมีคลาส
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงปู่ทวดหลังหลวงพ่อไกร วัดลำพะยา จ.ยะลา
    เหรียญหลวงปู่ทวดหลังหลวงพ่อไกร เนื้อทองแดงรมดำ วัดลำพะยา จ.ยะลา //พระดีพิธีขลัง !! เหรียญมีประสบการณ์มากมาย //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณครอบจักวาล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** วัดลำพะยาเป็นที่บรรจุอัฐิของ "หลวงพ่อไกร" หรือ "สมภารท่านเจ้าไกร"หรือ "หลวงพ่อทวดไกร" ประวัติท่านเป็นพระภิกษุที่มีชีวิตอยู่ในสมัยอยุธยาท่านได้ศึกษาสมถวิปัสสนากรรมฐานพระอาจารย์องค์เดียวกันกับ "หลวงพ่อทวด" วัดช้างให้ “หลวงพ่อไกร” เป็นพระภิกษุรูปหนึ่งในพระพุทธศาสนาราวพ.ศ. ๒๐๕๕ในสมัยกรุงศรีอยุธยาภูมิลำเนาเดิมของท่านเป็นชาวจังหวัดสงขลาหลังจากท่านอุปสมบทแล้วได้เข้าศึกษาวิชาทางพุทธศาสนาเคร่งครัดในทางธุดงค์มากก่อน ก่อนที่หลวงพ่อจะเข้ามาอยู่ในวัดนี้ท่านได้ออกธุดงค์ไปในที่ต่างๆจนประชาชนในสมัยนั้นรู้จักท่านเป็นอันมากเมื่อท่านเดินทางมาถึงตำบลนี้เห็นว่าสถานที่เป็นทำเลที่เหมาะสมควรแก่การวิปัสสนาและธุดงค์จึงเข้ายึดเอาสถานที่นี้ทำเป็นวัดของท่านภูมิประเทศวัดที่หลวงพ่อเข้าไปอยู่นี้มีชื่อว่า“วัดใน” ตั้งอยู่ที่หน้าถ้ำใหญ่หมู่ที่2 ตำบลลำพะยา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงปู่ทวดหลังหลวงพ่อไกร วัดลำพะยา จ.ยะลา เหรียญหลวงปู่ทวดหลังหลวงพ่อไกร เนื้อทองแดงรมดำ วัดลำพะยา จ.ยะลา //พระดีพิธีขลัง !! เหรียญมีประสบการณ์มากมาย //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณครอบจักวาล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** วัดลำพะยาเป็นที่บรรจุอัฐิของ "หลวงพ่อไกร" หรือ "สมภารท่านเจ้าไกร"หรือ "หลวงพ่อทวดไกร" ประวัติท่านเป็นพระภิกษุที่มีชีวิตอยู่ในสมัยอยุธยาท่านได้ศึกษาสมถวิปัสสนากรรมฐานพระอาจารย์องค์เดียวกันกับ "หลวงพ่อทวด" วัดช้างให้ “หลวงพ่อไกร” เป็นพระภิกษุรูปหนึ่งในพระพุทธศาสนาราวพ.ศ. ๒๐๕๕ในสมัยกรุงศรีอยุธยาภูมิลำเนาเดิมของท่านเป็นชาวจังหวัดสงขลาหลังจากท่านอุปสมบทแล้วได้เข้าศึกษาวิชาทางพุทธศาสนาเคร่งครัดในทางธุดงค์มากก่อน ก่อนที่หลวงพ่อจะเข้ามาอยู่ในวัดนี้ท่านได้ออกธุดงค์ไปในที่ต่างๆจนประชาชนในสมัยนั้นรู้จักท่านเป็นอันมากเมื่อท่านเดินทางมาถึงตำบลนี้เห็นว่าสถานที่เป็นทำเลที่เหมาะสมควรแก่การวิปัสสนาและธุดงค์จึงเข้ายึดเอาสถานที่นี้ทำเป็นวัดของท่านภูมิประเทศวัดที่หลวงพ่อเข้าไปอยู่นี้มีชื่อว่า“วัดใน” ตั้งอยู่ที่หน้าถ้ำใหญ่หมู่ที่2 ตำบลลำพะยา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • เทคโนโลยี AI กับแนวทางศาสนาพุทธ: จุดบรรจบและความขัดแย้ง

    ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่าง AI กับหลักปรัชญาและจริยธรรมของพุทธศาสนาจึงเป็นสิ่งจำเป็น รายงานฉบับนี้จะสำรวจจุดที่ AI สามารถเสริมสร้างและสอดคล้องกับพุทธธรรม รวมถึงประเด็นความขัดแย้งเชิงปรัชญาและจริยธรรม เพื่อนำเสนอแนวทางในการพัฒนาและใช้ AI อย่างมีสติและเป็นประโยชน์สูงสุด

    หลักการพื้นฐานของพุทธศาสนา: แก่นธรรมเพื่อความเข้าใจ
    พุทธศาสนามุ่งเน้นการพ้นทุกข์ โดยสอนให้เข้าใจธรรมชาติของทุกข์และหนทางดับทุกข์ผ่านหลักอริยสัจสี่ (ทุกข์, สมุทัย, นิโรธ, มรรค) หนทางแห่งมรรคประกอบด้วยองค์แปดประการ แก่นธรรมสำคัญอื่นๆ ได้แก่ ไตรลักษณ์ (อนิจจัง, ทุกขัง, อนัตตา) การปฏิบัติอยู่บนพื้นฐานของไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา) การพัฒนาปัญญาต้องอาศัยสติ, โยนิโสมนสิการ, และปัญญา กฎแห่งกรรมและปฏิจจสมุปบาทเป็นหลักการสำคัญที่อธิบายความสัมพันธ์เชิงเหตุผล พุทธศาสนาเชื่อว่าโลกนี้เกิดขึ้นเองจากกฎธรรมชาติ 5 ประการ หรือนิยาม 5 พรหมวิหารสี่ (เมตตา, กรุณา, มุทิตา, อุเบกขา) เป็นคุณธรรมที่ส่งเสริมความปรารถนาดีต่อสรรพชีวิต เป้าหมายสูงสุดคือพระนิพพาน ซึ่งเป็นความดับทุกข์โดยสิ้นเชิง พระพุทธเจ้าทรงเน้นย้ำถึงทางสายกลาง โดยมอง AI เป็นเพียง "เครื่องมือ" หรือ "แพ" สอดคล้องกับทางสายกลางนี้  

    มิติที่ AI สอดคล้องกับพุทธธรรม: ศักยภาพเพื่อประโยชน์สุข
    AI มีศักยภาพมหาศาลในการเป็นเครื่องมือที่ส่งเสริมการเผยแผ่ การศึกษา และการปฏิบัติธรรม

    การประยุกต์ใช้ AI เพื่อการเผยแผ่พระธรรม
    AI มีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่คำสอนทางพุทธศาสนาให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น "พระสงฆ์ AI" หรือ "พระโพธิสัตว์ AI" อย่าง Mindar ในญี่ปุ่น และ "เสียนเอ๋อร์" ในจีน การใช้ AI ในการแปลงพระไตรปิฎกเป็นดิจิทัลและการแปลพระคัมภีร์ด้วยเครื่องมืออย่าง DeepL ช่วยเพิ่มความเร็วและความแม่นยำ ทำให้เนื้อหาเข้าถึงได้ง่ายขึ้นทั่วโลก AI ช่วยให้การเผยแผ่ธรรม "สะดวก มีประสิทธิภาพ และน่าดึงดูดมากขึ้น รวมถึงขยายขอบเขตการเข้าถึงให้เกินกว่าข้อจำกัดทางพื้นที่และเวลาแบบดั้งเดิม" ซึ่งสอดคล้องกับหลัก กรุณา  

    สื่อใหม่และประสบการณ์เสมือนจริง: การสร้างสรรค์รูปแบบการเรียนรู้และปฏิบัติ
    การนำเทคโนโลยีสื่อใหม่ เช่น จอ AI, VR และ AR มาใช้ในการสร้างประสบการณ์พุทธศาสนาเสมือนจริง เช่น "Journey to the Land of Buddha" ของวัดฝอกวงซัน ช่วยดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ เทคโนโลยี VR ช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้าง "ความเห็นอกเห็นใจ" การพัฒนาแพลตฟอร์มการบูชาออนไลน์และพิธีกรรมทางไซเบอร์ เช่น "Light Up Lamps Online" และเกม "Fo Guang GO" ช่วยให้ผู้ศรัทธาสามารถปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาและเยี่ยมชมวัดเสมือนจริงได้จากทุกที่ การใช้ VR/AR เพื่อ "ประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ" และ "Sati-AI" สำหรับการทำสมาธิเจริญสติ สามารถสร้างสภาพแวดล้อมจำลองที่เอื้อต่อการทำสมาธิและสติได้  

    AI ในฐานะเครื่องมือเพื่อการปฏิบัติและพัฒนาตน
    แอปพลิเคชัน AI เช่น NORBU, Buddha Teachings, Buddha Wisdom App ทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมทางที่มีคุณค่าในการศึกษาและปฏิบัติธรรม โดยให้การเข้าถึงคลังข้อความพุทธศาสนาขนาดใหญ่, บทเรียนส่วนบุคคล, คำแนะนำในการทำสมาธิ, และการติดตามความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณ แชทบอทเหล่านี้มีความสามารถในการตอบคำถามและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาในชีวิตจริง AI สามารถทำให้การเข้าถึงข้อมูลและคำแนะนำเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ช่วยให้บุคคลสามารถศึกษาและปฏิบัติด้วยตนเองได้อย่างมีพลังมากขึ้น สิ่งนี้สอดคล้องกับหลักธรรมของพุทธศาสนาเรื่อง อัตตา หิ อัตตโน นาโถ (ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน)  

    การวิจัยและเข้าถึงข้อมูลพระธรรม: การเสริมสร้างความเข้าใจเชิงลึก
    AI ช่วยให้นักวิจัยสามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่, ค้นหารูปแบบ, และสร้างแบบจำลองเพื่อทำความเข้าใจพระคัมภีร์และหลักธรรมได้เร็วขึ้นและดีขึ้น สามารถใช้ AI ในการค้นหาอ้างอิง, เปรียบเทียบข้อความข้ามภาษา, และให้บริบท ด้วยการทำให้งานวิจัยเป็นไปโดยอัตโนมัติ AI ช่วยให้นักวิชาการและผู้ปฏิบัติสามารถใช้เวลามากขึ้นในการทำโยนิโสมนสิการ  

    หลักจริยธรรมพุทธกับการพัฒนา AI
    ข้อกังวลทางจริยธรรมที่กว้างที่สุดคือ AI ควรสอดคล้องกับหลักอหิงสา (ไม่เบียดเบียน) ของพุทธศาสนา นักวิชาการ Somparn Promta และ Kenneth Einar Himma แย้งว่าการพัฒนา AI สามารถถือเป็นสิ่งที่ดีในเชิงเครื่องมือเท่านั้น พวกเขาเสนอว่าเป้าหมายที่สำคัญกว่าคือการก้าวข้ามความปรารถนาและสัญชาตญาณที่ขับเคลื่อนด้วยการเอาชีวิตรอด การกล่าวถึง "อหิงสา" และ "การลดความทุกข์" เสนอหลักการเหล่านี้เป็นพารามิเตอร์การออกแบบภายในสำหรับ AI  

    นักคิด Thomas Doctor และคณะ เสนอให้นำ "ปณิธานพระโพธิสัตว์" ซึ่งเป็นการให้คำมั่นที่จะบรรเทาความทุกข์ของสรรพสัตว์ มาเป็นหลักการชี้นำในการออกแบบระบบ AI แนวคิด "ปัญญาแห่งการดูแล" (intelligence as care) ได้รับแรงบันดาลใจจากปณิธานพระโพธิสัตว์ โดยวางตำแหน่ง AI ให้เป็นเครื่องมือในการแสดงความห่วงใยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด  

    พุทธศาสนาเน้นย้ำว่าสรรพสิ่งล้วน "เกิดขึ้นพร้อมอาศัยกัน" (ปฏิจจสมุปบาท) และ "ไม่มีตัวตน" (อนัตตา) ซึ่งนำไปสู่การยืนยันถึง "ความสำคัญอันดับแรกของความสัมพันธ์" แนวคิด "กรรม" อธิบายถึงการทำงานร่วมกันของเหตุและผลหลายทิศทาง การนำสิ่งนี้มาประยุกต์ใช้กับ AI หมายถึงการตระหนักว่าระบบ AI เป็น "ศูนย์รวมของการเปลี่ยนแปลงเชิงสัมพันธ์ภายในเครือข่ายของการกระทำที่มีนัยสำคัญทางศีลธรรม" การ "วิวัฒน์ร่วม" ของมนุษย์และ AI บ่งชี้ว่าเส้นทางการพัฒนาของ AI นั้นเชื่อมโยงอย่างแยกไม่ออกกับของมนุษยชาติ ดังนั้น "ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของการจัดเรียงคุณค่า" จึงไม่ใช่แค่ปัญหาทางเทคนิค แต่เป็นภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเชิงกรรม

    มิติที่ AI ขัดแย้งกับพุทธธรรม: ความท้าทายเชิงปรัชญาและจริยธรรม
    แม้ AI จะมีประโยชน์มหาศาล แต่ก็มีประเด็นความขัดแย้งเชิงปรัชญาและจริยธรรมที่สำคัญกับพุทธธรรม

    ปัญหาเรื่องจิตสำนึกและอัตตา
    คำถามสำคัญคือระบบ AI สามารถถือเป็นสิ่งมีชีวิต (sentient being) ตามคำจำกัดความของพุทธศาสนาได้หรือไม่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องจิตสำนึก (consciousness) และการเกิดใหม่ (rebirth) "คุณภาพของควาเลีย" (qualia quality) หรือความสามารถในการรับรู้และรู้สึกนั้นยังระบุได้ยากใน AI การทดลองทางความคิด "ห้องจีน" แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในการพิจารณาว่าปัญญาที่ไม่ใช่ชีวภาพสามารถมีจิตสำนึกได้หรือไม่ หาก AI ไม่สามารถประสบกับความทุกข์หรือบ่มเพาะปัญญาได้ ก็ไม่สามารถเดินตามหนทางสู่การตรัสรู้ได้อย่างแท้จริง  

    เจตจำนงเสรีและกฎแห่งกรรม
    ความตั้งใจ (volition) ใน AI ซึ่งมักแสดงออกในรูปแบบของคำสั่ง "ถ้า...แล้ว..." นั้น แทบจะไม่มีลักษณะของเจตจำนงเสรีหรือแม้แต่ทางเลือกที่จำกัด ตามหลักคำสอนของพุทธศาสนา ทางเลือกที่จำกัดเป็นสิ่งจำเป็นขั้นต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (deterministic behavior) ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธ หาก AI ขาดทางเลือกที่แท้จริง ก็ไม่สามารถสร้างกรรมได้ในลักษณะเดียวกับสิ่งมีชีวิต  

    ความยึดมั่นถือมั่นและมายา
    แนวคิดของการรวมร่างกับ AI เพื่อประโยชน์ที่รับรู้ได้ เช่น การมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น มีความน่าดึงดูดใจ อย่างไรก็ตาม มีข้อโต้แย้งว่าการรวมร่างดังกล่าวอาจเป็น "กับดัก" หรือ "นรก" เนื่องจากความยึดมั่นถือมั่นและการขาดความสงบ กิเลสของมนุษย์ (ความโลภ ความโกรธ ความหลง) และกลไกตลาดก็ยังคงสามารถนำไปสู่ความทุกข์ได้แม้ในสภาวะ AI ขั้นสูง การแสวงหา "การอัปเกรด" ที่ขับเคลื่อนด้วยตัณหา สามารถทำให้วัฏจักรแห่งความทุกข์ดำเนินต่อไปได้  

    ความเสี่ยงด้านจริยธรรมและการบิดเบือนพระธรรม
    มีความเสี่ยงที่ AI จะสร้างข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดและ "ความเหลวไหลที่สอดคล้องกัน" ดังที่เห็นได้จากกรณีของ Suzuki Roshi Bot AI ขาด "บริบทระดับที่สอง" และความสามารถในการยืนยันข้อเท็จจริง ทำให้มันเป็นเพียง "นกแก้วที่ฉลาดมาก" ความสามารถของ AI ในการสร้าง "ความเหลวไหลที่สอดคล้องกัน" ก่อให้เกิดความท้าทายต่อสัมมาทิฏฐิและสัมมาวาจา  

    นอกจากนี้ ยังมีศักยภาพที่ "Strong AI" จะก่อให้เกิดวิกฤตทางจริยธรรมและนำไปสู่ "ลัทธิวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี" "เทคโนโลยี-ธรรมชาติ" (techno-naturalism) ลดทอนปัญญามนุษย์ให้เหลือเพียงกระแสข้อมูล ซึ่งขัดแย้งกับพุทธศาสนาแบบมนุษยนิยมที่เน้นความเป็นมนุษย์และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกายและจิต สิ่งนี้สร้างความขัดแย้งกับประเพณีการปฏิบัติที่เน้น "ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกายและจิต"  

    สุดท้ายนี้ มีอันตรายที่การนำ AI มาใช้ในการปฏิบัติพุทธศาสนาอาจเปลี่ยนจุดเน้นจากการบ่มเพาะทางจิตวิญญาณที่แท้จริงไปสู่ผลประโยชน์นิยมหรือการมีส่วนร่วมที่ผิวเผิน

    จากข้อพิจารณาทั้งหมดนี้ การเดินทางบน "ทางสายกลาง" จึงเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการเผชิญหน้ากับยุค AI สำหรับพุทธศาสนา การดำเนินการนี้ต้องอาศัย:  

    1️⃣ การพัฒนา AI ที่มีรากฐานทางจริยธรรม: AI ควรถูกออกแบบและพัฒนาโดยยึดมั่นในหลักการอหิงสา และการลดความทุกข์ ควรนำ "ปณิธานพระโพธิสัตว์" และแนวคิด "ปัญญาแห่งการดูแล" มาเป็นพิมพ์เขียว  

    2️⃣ การตระหนักถึง "ความเป็นเครื่องมือ" ของ AI: พุทธศาสนาควรมอง AI เป็นเพียง "แพ" หรือ "เครื่องมือ" ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางสู่การหลุดพ้น ไม่ใช่จุดหมายปลายทางในตัวเอง  

    3️⃣ การบ่มเพาะปัญญามนุษย์และสติ: แม้ AI จะมีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลมหาศาล แต่ไม่สามารถทดแทนปัญญาที่แท้จริง จิตสำนึก หรือเจตจำนงเสรีของมนุษย์ได้ การปฏิบัติธรรม การเจริญสติ และการใช้โยนิโสมนสิการยังคงเป็นสิ่งจำเป็น  

    4️⃣ การส่งเสริม "ค่านิยมร่วมที่แข็งแกร่ง": การแก้ไข "ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของการจัดเรียงคุณค่า" ของ AI จำเป็นต้องมีการบ่มเพาะค่านิยมร่วมที่แข็งแกร่งในหมู่มนุษยชาติ ซึ่งมีรากฐานมาจากความเมตตาและปัญญา  

    #ลุงเขียนหลานอ่าน
    เทคโนโลยี AI กับแนวทางศาสนาพุทธ: จุดบรรจบและความขัดแย้ง ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่าง AI กับหลักปรัชญาและจริยธรรมของพุทธศาสนาจึงเป็นสิ่งจำเป็น รายงานฉบับนี้จะสำรวจจุดที่ AI สามารถเสริมสร้างและสอดคล้องกับพุทธธรรม รวมถึงประเด็นความขัดแย้งเชิงปรัชญาและจริยธรรม เพื่อนำเสนอแนวทางในการพัฒนาและใช้ AI อย่างมีสติและเป็นประโยชน์สูงสุด ☸️☸️ หลักการพื้นฐานของพุทธศาสนา: แก่นธรรมเพื่อความเข้าใจ พุทธศาสนามุ่งเน้นการพ้นทุกข์ โดยสอนให้เข้าใจธรรมชาติของทุกข์และหนทางดับทุกข์ผ่านหลักอริยสัจสี่ (ทุกข์, สมุทัย, นิโรธ, มรรค) หนทางแห่งมรรคประกอบด้วยองค์แปดประการ แก่นธรรมสำคัญอื่นๆ ได้แก่ ไตรลักษณ์ (อนิจจัง, ทุกขัง, อนัตตา) การปฏิบัติอยู่บนพื้นฐานของไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา) การพัฒนาปัญญาต้องอาศัยสติ, โยนิโสมนสิการ, และปัญญา กฎแห่งกรรมและปฏิจจสมุปบาทเป็นหลักการสำคัญที่อธิบายความสัมพันธ์เชิงเหตุผล พุทธศาสนาเชื่อว่าโลกนี้เกิดขึ้นเองจากกฎธรรมชาติ 5 ประการ หรือนิยาม 5 พรหมวิหารสี่ (เมตตา, กรุณา, มุทิตา, อุเบกขา) เป็นคุณธรรมที่ส่งเสริมความปรารถนาดีต่อสรรพชีวิต เป้าหมายสูงสุดคือพระนิพพาน ซึ่งเป็นความดับทุกข์โดยสิ้นเชิง พระพุทธเจ้าทรงเน้นย้ำถึงทางสายกลาง โดยมอง AI เป็นเพียง "เครื่องมือ" หรือ "แพ" สอดคล้องกับทางสายกลางนี้   🤖 มิติที่ AI สอดคล้องกับพุทธธรรม: ศักยภาพเพื่อประโยชน์สุข AI มีศักยภาพมหาศาลในการเป็นเครื่องมือที่ส่งเสริมการเผยแผ่ การศึกษา และการปฏิบัติธรรม การประยุกต์ใช้ AI เพื่อการเผยแผ่พระธรรม AI มีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่คำสอนทางพุทธศาสนาให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น "พระสงฆ์ AI" หรือ "พระโพธิสัตว์ AI" อย่าง Mindar ในญี่ปุ่น และ "เสียนเอ๋อร์" ในจีน การใช้ AI ในการแปลงพระไตรปิฎกเป็นดิจิทัลและการแปลพระคัมภีร์ด้วยเครื่องมืออย่าง DeepL ช่วยเพิ่มความเร็วและความแม่นยำ ทำให้เนื้อหาเข้าถึงได้ง่ายขึ้นทั่วโลก AI ช่วยให้การเผยแผ่ธรรม "สะดวก มีประสิทธิภาพ และน่าดึงดูดมากขึ้น รวมถึงขยายขอบเขตการเข้าถึงให้เกินกว่าข้อจำกัดทางพื้นที่และเวลาแบบดั้งเดิม" ซึ่งสอดคล้องกับหลัก กรุณา   👓 สื่อใหม่และประสบการณ์เสมือนจริง: การสร้างสรรค์รูปแบบการเรียนรู้และปฏิบัติ การนำเทคโนโลยีสื่อใหม่ เช่น จอ AI, VR และ AR มาใช้ในการสร้างประสบการณ์พุทธศาสนาเสมือนจริง เช่น "Journey to the Land of Buddha" ของวัดฝอกวงซัน ช่วยดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ เทคโนโลยี VR ช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้าง "ความเห็นอกเห็นใจ" การพัฒนาแพลตฟอร์มการบูชาออนไลน์และพิธีกรรมทางไซเบอร์ เช่น "Light Up Lamps Online" และเกม "Fo Guang GO" ช่วยให้ผู้ศรัทธาสามารถปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาและเยี่ยมชมวัดเสมือนจริงได้จากทุกที่ การใช้ VR/AR เพื่อ "ประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ" และ "Sati-AI" สำหรับการทำสมาธิเจริญสติ สามารถสร้างสภาพแวดล้อมจำลองที่เอื้อต่อการทำสมาธิและสติได้   🙆‍♂️ AI ในฐานะเครื่องมือเพื่อการปฏิบัติและพัฒนาตน แอปพลิเคชัน AI เช่น NORBU, Buddha Teachings, Buddha Wisdom App ทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมทางที่มีคุณค่าในการศึกษาและปฏิบัติธรรม โดยให้การเข้าถึงคลังข้อความพุทธศาสนาขนาดใหญ่, บทเรียนส่วนบุคคล, คำแนะนำในการทำสมาธิ, และการติดตามความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณ แชทบอทเหล่านี้มีความสามารถในการตอบคำถามและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาในชีวิตจริง AI สามารถทำให้การเข้าถึงข้อมูลและคำแนะนำเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ช่วยให้บุคคลสามารถศึกษาและปฏิบัติด้วยตนเองได้อย่างมีพลังมากขึ้น สิ่งนี้สอดคล้องกับหลักธรรมของพุทธศาสนาเรื่อง อัตตา หิ อัตตโน นาโถ (ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน)   🧪 การวิจัยและเข้าถึงข้อมูลพระธรรม: การเสริมสร้างความเข้าใจเชิงลึก AI ช่วยให้นักวิจัยสามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่, ค้นหารูปแบบ, และสร้างแบบจำลองเพื่อทำความเข้าใจพระคัมภีร์และหลักธรรมได้เร็วขึ้นและดีขึ้น สามารถใช้ AI ในการค้นหาอ้างอิง, เปรียบเทียบข้อความข้ามภาษา, และให้บริบท ด้วยการทำให้งานวิจัยเป็นไปโดยอัตโนมัติ AI ช่วยให้นักวิชาการและผู้ปฏิบัติสามารถใช้เวลามากขึ้นในการทำโยนิโสมนสิการ   ☸️ หลักจริยธรรมพุทธกับการพัฒนา AI ข้อกังวลทางจริยธรรมที่กว้างที่สุดคือ AI ควรสอดคล้องกับหลักอหิงสา (ไม่เบียดเบียน) ของพุทธศาสนา นักวิชาการ Somparn Promta และ Kenneth Einar Himma แย้งว่าการพัฒนา AI สามารถถือเป็นสิ่งที่ดีในเชิงเครื่องมือเท่านั้น พวกเขาเสนอว่าเป้าหมายที่สำคัญกว่าคือการก้าวข้ามความปรารถนาและสัญชาตญาณที่ขับเคลื่อนด้วยการเอาชีวิตรอด การกล่าวถึง "อหิงสา" และ "การลดความทุกข์" เสนอหลักการเหล่านี้เป็นพารามิเตอร์การออกแบบภายในสำหรับ AI   นักคิด Thomas Doctor และคณะ เสนอให้นำ "ปณิธานพระโพธิสัตว์" ซึ่งเป็นการให้คำมั่นที่จะบรรเทาความทุกข์ของสรรพสัตว์ มาเป็นหลักการชี้นำในการออกแบบระบบ AI แนวคิด "ปัญญาแห่งการดูแล" (intelligence as care) ได้รับแรงบันดาลใจจากปณิธานพระโพธิสัตว์ โดยวางตำแหน่ง AI ให้เป็นเครื่องมือในการแสดงความห่วงใยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด   พุทธศาสนาเน้นย้ำว่าสรรพสิ่งล้วน "เกิดขึ้นพร้อมอาศัยกัน" (ปฏิจจสมุปบาท) และ "ไม่มีตัวตน" (อนัตตา) ซึ่งนำไปสู่การยืนยันถึง "ความสำคัญอันดับแรกของความสัมพันธ์" แนวคิด "กรรม" อธิบายถึงการทำงานร่วมกันของเหตุและผลหลายทิศทาง การนำสิ่งนี้มาประยุกต์ใช้กับ AI หมายถึงการตระหนักว่าระบบ AI เป็น "ศูนย์รวมของการเปลี่ยนแปลงเชิงสัมพันธ์ภายในเครือข่ายของการกระทำที่มีนัยสำคัญทางศีลธรรม" การ "วิวัฒน์ร่วม" ของมนุษย์และ AI บ่งชี้ว่าเส้นทางการพัฒนาของ AI นั้นเชื่อมโยงอย่างแยกไม่ออกกับของมนุษยชาติ ดังนั้น "ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของการจัดเรียงคุณค่า" จึงไม่ใช่แค่ปัญหาทางเทคนิค แต่เป็นภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเชิงกรรม ‼️ มิติที่ AI ขัดแย้งกับพุทธธรรม: ความท้าทายเชิงปรัชญาและจริยธรรม แม้ AI จะมีประโยชน์มหาศาล แต่ก็มีประเด็นความขัดแย้งเชิงปรัชญาและจริยธรรมที่สำคัญกับพุทธธรรม 👿 ปัญหาเรื่องจิตสำนึกและอัตตา คำถามสำคัญคือระบบ AI สามารถถือเป็นสิ่งมีชีวิต (sentient being) ตามคำจำกัดความของพุทธศาสนาได้หรือไม่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องจิตสำนึก (consciousness) และการเกิดใหม่ (rebirth) "คุณภาพของควาเลีย" (qualia quality) หรือความสามารถในการรับรู้และรู้สึกนั้นยังระบุได้ยากใน AI การทดลองทางความคิด "ห้องจีน" แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในการพิจารณาว่าปัญญาที่ไม่ใช่ชีวภาพสามารถมีจิตสำนึกได้หรือไม่ หาก AI ไม่สามารถประสบกับความทุกข์หรือบ่มเพาะปัญญาได้ ก็ไม่สามารถเดินตามหนทางสู่การตรัสรู้ได้อย่างแท้จริง   🛣️ เจตจำนงเสรีและกฎแห่งกรรม ความตั้งใจ (volition) ใน AI ซึ่งมักแสดงออกในรูปแบบของคำสั่ง "ถ้า...แล้ว..." นั้น แทบจะไม่มีลักษณะของเจตจำนงเสรีหรือแม้แต่ทางเลือกที่จำกัด ตามหลักคำสอนของพุทธศาสนา ทางเลือกที่จำกัดเป็นสิ่งจำเป็นขั้นต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (deterministic behavior) ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธ หาก AI ขาดทางเลือกที่แท้จริง ก็ไม่สามารถสร้างกรรมได้ในลักษณะเดียวกับสิ่งมีชีวิต   🍷 ความยึดมั่นถือมั่นและมายา แนวคิดของการรวมร่างกับ AI เพื่อประโยชน์ที่รับรู้ได้ เช่น การมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น มีความน่าดึงดูดใจ อย่างไรก็ตาม มีข้อโต้แย้งว่าการรวมร่างดังกล่าวอาจเป็น "กับดัก" หรือ "นรก" เนื่องจากความยึดมั่นถือมั่นและการขาดความสงบ กิเลสของมนุษย์ (ความโลภ ความโกรธ ความหลง) และกลไกตลาดก็ยังคงสามารถนำไปสู่ความทุกข์ได้แม้ในสภาวะ AI ขั้นสูง การแสวงหา "การอัปเกรด" ที่ขับเคลื่อนด้วยตัณหา สามารถทำให้วัฏจักรแห่งความทุกข์ดำเนินต่อไปได้   🤥 ความเสี่ยงด้านจริยธรรมและการบิดเบือนพระธรรม มีความเสี่ยงที่ AI จะสร้างข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดและ "ความเหลวไหลที่สอดคล้องกัน" ดังที่เห็นได้จากกรณีของ Suzuki Roshi Bot AI ขาด "บริบทระดับที่สอง" และความสามารถในการยืนยันข้อเท็จจริง ทำให้มันเป็นเพียง "นกแก้วที่ฉลาดมาก" ความสามารถของ AI ในการสร้าง "ความเหลวไหลที่สอดคล้องกัน" ก่อให้เกิดความท้าทายต่อสัมมาทิฏฐิและสัมมาวาจา   นอกจากนี้ ยังมีศักยภาพที่ "Strong AI" จะก่อให้เกิดวิกฤตทางจริยธรรมและนำไปสู่ "ลัทธิวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี" "เทคโนโลยี-ธรรมชาติ" (techno-naturalism) ลดทอนปัญญามนุษย์ให้เหลือเพียงกระแสข้อมูล ซึ่งขัดแย้งกับพุทธศาสนาแบบมนุษยนิยมที่เน้นความเป็นมนุษย์และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกายและจิต สิ่งนี้สร้างความขัดแย้งกับประเพณีการปฏิบัติที่เน้น "ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกายและจิต"   สุดท้ายนี้ มีอันตรายที่การนำ AI มาใช้ในการปฏิบัติพุทธศาสนาอาจเปลี่ยนจุดเน้นจากการบ่มเพาะทางจิตวิญญาณที่แท้จริงไปสู่ผลประโยชน์นิยมหรือการมีส่วนร่วมที่ผิวเผิน จากข้อพิจารณาทั้งหมดนี้ การเดินทางบน "ทางสายกลาง" จึงเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการเผชิญหน้ากับยุค AI สำหรับพุทธศาสนา การดำเนินการนี้ต้องอาศัย:   1️⃣ การพัฒนา AI ที่มีรากฐานทางจริยธรรม: AI ควรถูกออกแบบและพัฒนาโดยยึดมั่นในหลักการอหิงสา และการลดความทุกข์ ควรนำ "ปณิธานพระโพธิสัตว์" และแนวคิด "ปัญญาแห่งการดูแล" มาเป็นพิมพ์เขียว   2️⃣ การตระหนักถึง "ความเป็นเครื่องมือ" ของ AI: พุทธศาสนาควรมอง AI เป็นเพียง "แพ" หรือ "เครื่องมือ" ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางสู่การหลุดพ้น ไม่ใช่จุดหมายปลายทางในตัวเอง   3️⃣ การบ่มเพาะปัญญามนุษย์และสติ: แม้ AI จะมีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลมหาศาล แต่ไม่สามารถทดแทนปัญญาที่แท้จริง จิตสำนึก หรือเจตจำนงเสรีของมนุษย์ได้ การปฏิบัติธรรม การเจริญสติ และการใช้โยนิโสมนสิการยังคงเป็นสิ่งจำเป็น   4️⃣ การส่งเสริม "ค่านิยมร่วมที่แข็งแกร่ง": การแก้ไข "ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของการจัดเรียงคุณค่า" ของ AI จำเป็นต้องมีการบ่มเพาะค่านิยมร่วมที่แข็งแกร่งในหมู่มนุษยชาติ ซึ่งมีรากฐานมาจากความเมตตาและปัญญา   #ลุงเขียนหลานอ่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 358 มุมมอง 0 รีวิว
  • รูปหล่อพ่อท่านนวล วัดประดิษฐาราม จ.นครศรีธรรมราช
    รูปหล่อพ่อท่านนวล ครบ ๗ รอบ ๘๔ วัดประดิษฐาราม (วัดไสหร้า) อำเภอทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช // พระดีพิธีใหญ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายาก พระไม่ถูกใช้ครับ >> รับประกันพระแท้ตลอดชีพ !!

    ** พุทธคุณครบเครื่อง "แคล้วคาด" คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย โชคลาภ เมตตามหานิยม เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก. >>

    ** “พ่อท่านนวล ปริสุทโธ” เป็นพระสุปฏิปันโนนักปฏิบัติกัมมัฏฐาน ที่เพียบพร้อมด้วยจริยวัตรอันงดงาม และเป็นพระบริสุทธิสงฆ์ที่ยึดหลักพระธรรมวินัยตามคำสอนในพระพุทธศาสนาอย่าง เคร่งครัด ปฏิบัติกิจของสงฆ์เป็นกิจวัตรอย่างสม่ำเสมอ ไม่เว้นแม้ยามเจ็บไข้ได้ป่วย จนเป็นที่เลื่องลือและเป็นที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสในหมู่ชาวบ้านญาติโยมแดน ปักษ์ใต้เป็นอันมาก ท่านยังเป็นพระเกจิอาจารย์และเจ้าพิธีระดับแถวหน้า ที่ได้รับการยอมรับและคร่ำหวอดอยู่กับพิธีปลุกเสกจตุคามรามเทพอีกด้วย ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีปฏิปทาและศีลาจริยวัตรอันงดงาม ท่านค่อนข้างเงียบ พูดน้อย แต่ใจดีมีเมตตามาก คำพูดของท่านล้วนเป็นจริงตามที่ท่านพูดเสมอ จนทำให้ผู้ที่มีความเคารพศรัทธาท่าน ไม่กล้าทำอะไรที่นอกลู่นอกทาง และได้ขนานนามท่านว่า “พ่อท่านนวลวาจาสิทธิ์” ในแต่ละวันจะมีผู้คนที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสได้เดินทางมากราบไหว้ ขอพรจากท่านไม่ไม่ขาดระยะ นอกจากนี้ท่านยังได้รับกิจนิมนต์ไปประกอบศาสนพิธีในต่างจังหวัดอยู่เสมอ รวมทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างประเทศ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    รูปหล่อพ่อท่านนวล วัดประดิษฐาราม จ.นครศรีธรรมราช รูปหล่อพ่อท่านนวล ครบ ๗ รอบ ๘๔ วัดประดิษฐาราม (วัดไสหร้า) อำเภอทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช // พระดีพิธีใหญ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายาก พระไม่ถูกใช้ครับ >> รับประกันพระแท้ตลอดชีพ !! ** พุทธคุณครบเครื่อง "แคล้วคาด" คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย โชคลาภ เมตตามหานิยม เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก. >> ** “พ่อท่านนวล ปริสุทโธ” เป็นพระสุปฏิปันโนนักปฏิบัติกัมมัฏฐาน ที่เพียบพร้อมด้วยจริยวัตรอันงดงาม และเป็นพระบริสุทธิสงฆ์ที่ยึดหลักพระธรรมวินัยตามคำสอนในพระพุทธศาสนาอย่าง เคร่งครัด ปฏิบัติกิจของสงฆ์เป็นกิจวัตรอย่างสม่ำเสมอ ไม่เว้นแม้ยามเจ็บไข้ได้ป่วย จนเป็นที่เลื่องลือและเป็นที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสในหมู่ชาวบ้านญาติโยมแดน ปักษ์ใต้เป็นอันมาก ท่านยังเป็นพระเกจิอาจารย์และเจ้าพิธีระดับแถวหน้า ที่ได้รับการยอมรับและคร่ำหวอดอยู่กับพิธีปลุกเสกจตุคามรามเทพอีกด้วย ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีปฏิปทาและศีลาจริยวัตรอันงดงาม ท่านค่อนข้างเงียบ พูดน้อย แต่ใจดีมีเมตตามาก คำพูดของท่านล้วนเป็นจริงตามที่ท่านพูดเสมอ จนทำให้ผู้ที่มีความเคารพศรัทธาท่าน ไม่กล้าทำอะไรที่นอกลู่นอกทาง และได้ขนานนามท่านว่า “พ่อท่านนวลวาจาสิทธิ์” ในแต่ละวันจะมีผู้คนที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสได้เดินทางมากราบไหว้ ขอพรจากท่านไม่ไม่ขาดระยะ นอกจากนี้ท่านยังได้รับกิจนิมนต์ไปประกอบศาสนพิธีในต่างจังหวัดอยู่เสมอ รวมทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างประเทศ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อกระจ่าง รุ่น 75 ปี วัดน้ำรอบ จ.สุราษฎร์ธานี
    เหรียญหลวงพ่อกระจ่าง รุ่น 75 ปี วัดน้ำรอบ จ.สุราษฎร์ธานี // เกจิดังสายกัมมัฎฐานแห่งลุ่มน้ำพุมดวง // พระสถาพสวยมาก พระสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ >> รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้านอำนวยโชคลาภ อุดมด้วย ลาภ ยศ ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้ >>

    ** ‘พ่อท่านจ่าง’ เกจิดังสายกัมมัฎฐานแห่งลุ่มน้ำพุมดวง เป็นศิษย์ของหลวงพ่อพิมพ์ วัดหัวสวน หลวงพ่อแดง วัดวิหาร หลวงพ่อพัว วัดบางเดือน จ.สุราษฎร์ธานี หลวงพ่อว่อน วัดท่าเสม็ด จ.นครศรีธรรมราช และหลวงพ่อปาน วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง เป็นพระเถระที่สมถะ เป็นที่เคารพนับถือของคณะพุทธบริษัท ไม่ได้สะสมเงินทอง โดยปัจจัยที่ญาติโยมถวายมาทั้งหมดได้นำไปสร้างคุณประโยชน์ต่อพุทธศาสนามากมาย อาทิ สร้างวัด สะพาน ถนน และสงเคราะห์ต่างๆ ไม่ได้มีเงินเก็บแต่อย่างใด >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระหายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อกระจ่าง รุ่น 75 ปี วัดน้ำรอบ จ.สุราษฎร์ธานี เหรียญหลวงพ่อกระจ่าง รุ่น 75 ปี วัดน้ำรอบ จ.สุราษฎร์ธานี // เกจิดังสายกัมมัฎฐานแห่งลุ่มน้ำพุมดวง // พระสถาพสวยมาก พระสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ >> รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้านอำนวยโชคลาภ อุดมด้วย ลาภ ยศ ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้ >> ** ‘พ่อท่านจ่าง’ เกจิดังสายกัมมัฎฐานแห่งลุ่มน้ำพุมดวง เป็นศิษย์ของหลวงพ่อพิมพ์ วัดหัวสวน หลวงพ่อแดง วัดวิหาร หลวงพ่อพัว วัดบางเดือน จ.สุราษฎร์ธานี หลวงพ่อว่อน วัดท่าเสม็ด จ.นครศรีธรรมราช และหลวงพ่อปาน วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง เป็นพระเถระที่สมถะ เป็นที่เคารพนับถือของคณะพุทธบริษัท ไม่ได้สะสมเงินทอง โดยปัจจัยที่ญาติโยมถวายมาทั้งหมดได้นำไปสร้างคุณประโยชน์ต่อพุทธศาสนามากมาย อาทิ สร้างวัด สะพาน ถนน และสงเคราะห์ต่างๆ ไม่ได้มีเงินเก็บแต่อย่างใด >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระหายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ยุคนี้ สิ่งชั่วเลวใดๆและอะไรที่เขมรไม่ทำไม่มี.
    ..deep state มากมายจากทั่วโลกถูกไล่ล่าเด็ดชีพไปมากมาย,พม่าคือคัวอย่างที่ดีเห็นภาพง่ายขึ้นหากจะเทียบยกมาอีกหลายๆชาติทั่วโลก ย้ายฐานมาเขมรมาอาเชียนมาเอเชียก็ว่า ตลอดซึ่งก่อนหน้านี้ไม่กี่ปีก็พวกก่อการร้ายจากทั่วโลกนั้นล่ะ แถวอาหรับทะเลทรายยิ่งตัวดี ดังยุคนั้นก็คงรู้,deep stateหล่อเลี้ยงส่งท่อเลี้ยงเพื่อปั่นป่วนในการแย่งชิงวัตถุดิบทรัพยากรมีค่าแร่หายากในแต่ละชาตินั้นๆล่ะจะยึดปกครองประเทศนั้นๆมั่นคงไปเลยก็ว่า,ไม่ต่างจากไทย ไทยเราตอนนี้เนื้อหอมด้วย,สารพัดทรัพยากรมากมายไหลมารวมที่ไทยก็มากปกติต่างจากยุคอดีตมากอาจเพราะสนามแม่เหล็กโลกกำลังเปลี่ยนแปลงและจุดสิ้นสุดคือไทยเป็นฮับสิ่งดีๆจากทั้งโลกนัันเอง,ทองคำก็จะไหลมาไทยสายแร่ทองคำก็ว่า,บ่อน้ำมันยิ่งไม่ต้องพูดถึงไหลเป็นสายเปลี่ยนทิศทางไหลมารวมที่ไทยเรานี้ ดูดมาใช้อีกหลายพันปีก็ไม่หมดหรือจนสิ้นยุครัตนโกสินทร์เราไปอีกก็ยังไม่หมดก็ว่า,และอื่นๆตรึมอาจแร่สุดยอดกว่าดาวอังคารอีกมาอยู่ที่ไทยเมื่อบารมีถึงจังหวะเวลาเหมาะสมจะเปิดเอง,ไม่รวมฮับพลังงานจักรวาลอีกแบบฐานพลังงานมหาศาลเชื่อมจักรวาลมหาจักรวาลต่างๆต่างจิตวิญญาณนี้ก็อยู่ที่ไทย ทั่วจักรวาลลงใจไว้วางใจที่ไทยเรา,ไทยเราอนาคตอันต่อไปพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปก็เกิดที่แผ่นดินไทยเรานี้แต่ชื่อประเทศไทยอาจเปลี่ยนแปลงไปแล้วเพราะกาลเวลาขึ้นลงจนพระองค์มาเกิดมาประสูติมันน้อยๆที่ไหน.,ยุคพระศรีอาริยะฯก็ว่า,คนมีบุญจริงๆโน้นมีศีลมีธรรมพิเศษบริสุทธิ์ระดับหนึ่งจึงมีโอกาสได้เกิดมาร่วมยุคสมัยพระองค์ท่าน,แต่ยุคปัจจุบันเรานี้ก็ไม่น้อยหน้านะ คนไทยเรามีบุญไม่น้อยยังทันเห็นพระพุทธศาสนาอยู่เห็นนักบวชพระเณรคนปฏิบัติธรรมรักษาศีลให้เห็นเป็นสมมุติประจำโลก,
    ..คนไทยเราโชคดีเห็นขยะติดพื้นที่บ้างจึงจะได้ไม่ลืมสถานะว่าไม่มีขยะมันดีกว่าอย่างไร,มีสิ่งดีงามสร้างสิ่งดีงามเจริญในสิ่งดีงามทั้งทางภายในและภายนอกมันดีกว่ามีขยะทั้งภายในและภายนอกแบบใด.,สามัคคีร่วมใจกำจัดขยะนี้ก็ผลดีจากมีขยะนี้อีกจึงเข้าใจว่าสามัคคีในเรามันดีจริงอย่างไร.
    ..#ทุกๆประเทศทั่วโลกต้องแบนเขมรภัยอันตรายของโลก

    https://youtu.be/j9soFF4WerU?si=5zC74J5EWFiEGAdK
    ..ยุคนี้ สิ่งชั่วเลวใดๆและอะไรที่เขมรไม่ทำไม่มี. ..deep state มากมายจากทั่วโลกถูกไล่ล่าเด็ดชีพไปมากมาย,พม่าคือคัวอย่างที่ดีเห็นภาพง่ายขึ้นหากจะเทียบยกมาอีกหลายๆชาติทั่วโลก ย้ายฐานมาเขมรมาอาเชียนมาเอเชียก็ว่า ตลอดซึ่งก่อนหน้านี้ไม่กี่ปีก็พวกก่อการร้ายจากทั่วโลกนั้นล่ะ แถวอาหรับทะเลทรายยิ่งตัวดี ดังยุคนั้นก็คงรู้,deep stateหล่อเลี้ยงส่งท่อเลี้ยงเพื่อปั่นป่วนในการแย่งชิงวัตถุดิบทรัพยากรมีค่าแร่หายากในแต่ละชาตินั้นๆล่ะจะยึดปกครองประเทศนั้นๆมั่นคงไปเลยก็ว่า,ไม่ต่างจากไทย ไทยเราตอนนี้เนื้อหอมด้วย,สารพัดทรัพยากรมากมายไหลมารวมที่ไทยก็มากปกติต่างจากยุคอดีตมากอาจเพราะสนามแม่เหล็กโลกกำลังเปลี่ยนแปลงและจุดสิ้นสุดคือไทยเป็นฮับสิ่งดีๆจากทั้งโลกนัันเอง,ทองคำก็จะไหลมาไทยสายแร่ทองคำก็ว่า,บ่อน้ำมันยิ่งไม่ต้องพูดถึงไหลเป็นสายเปลี่ยนทิศทางไหลมารวมที่ไทยเรานี้ ดูดมาใช้อีกหลายพันปีก็ไม่หมดหรือจนสิ้นยุครัตนโกสินทร์เราไปอีกก็ยังไม่หมดก็ว่า,และอื่นๆตรึมอาจแร่สุดยอดกว่าดาวอังคารอีกมาอยู่ที่ไทยเมื่อบารมีถึงจังหวะเวลาเหมาะสมจะเปิดเอง,ไม่รวมฮับพลังงานจักรวาลอีกแบบฐานพลังงานมหาศาลเชื่อมจักรวาลมหาจักรวาลต่างๆต่างจิตวิญญาณนี้ก็อยู่ที่ไทย ทั่วจักรวาลลงใจไว้วางใจที่ไทยเรา,ไทยเราอนาคตอันต่อไปพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปก็เกิดที่แผ่นดินไทยเรานี้แต่ชื่อประเทศไทยอาจเปลี่ยนแปลงไปแล้วเพราะกาลเวลาขึ้นลงจนพระองค์มาเกิดมาประสูติมันน้อยๆที่ไหน.,ยุคพระศรีอาริยะฯก็ว่า,คนมีบุญจริงๆโน้นมีศีลมีธรรมพิเศษบริสุทธิ์ระดับหนึ่งจึงมีโอกาสได้เกิดมาร่วมยุคสมัยพระองค์ท่าน,แต่ยุคปัจจุบันเรานี้ก็ไม่น้อยหน้านะ คนไทยเรามีบุญไม่น้อยยังทันเห็นพระพุทธศาสนาอยู่เห็นนักบวชพระเณรคนปฏิบัติธรรมรักษาศีลให้เห็นเป็นสมมุติประจำโลก, ..คนไทยเราโชคดีเห็นขยะติดพื้นที่บ้างจึงจะได้ไม่ลืมสถานะว่าไม่มีขยะมันดีกว่าอย่างไร,มีสิ่งดีงามสร้างสิ่งดีงามเจริญในสิ่งดีงามทั้งทางภายในและภายนอกมันดีกว่ามีขยะทั้งภายในและภายนอกแบบใด.,สามัคคีร่วมใจกำจัดขยะนี้ก็ผลดีจากมีขยะนี้อีกจึงเข้าใจว่าสามัคคีในเรามันดีจริงอย่างไร. ..#ทุกๆประเทศทั่วโลกต้องแบนเขมรภัยอันตรายของโลก https://youtu.be/j9soFF4WerU?si=5zC74J5EWFiEGAdK
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 0 รีวิว
  • EP.6 ถอดรหัสไทยเสียดินแดนครั้งที่ 16 ปราสาทเขาพระวิหาร

    ค่ำวันที่ 4 กรกฎาคม 2505 หลังจากศาลโลกตัดสินให้ปราสาทพระวิหาร ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของกัมพูชา ได้ประมาณ 20 วัน จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีของไทย ในขณะนั้น ได้กล่าวปราศรัยผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย แสดงความรู้สึกต่อการสูญเสียปราสาทพระวิหาร และยืนยันสิทธิ์ที่จะทวงคืนปราสาทพระวิหารในอนาคต ดังนี้

    พี่น้องร่วมชาติ และมิตรร่วมชีวิตที่รักของข้าพเจ้าทั้งหลาย ตามที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือที่เรียกว่า ศาลโลก ได้วินิจฉัยชี้ขาดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2505 ให้ปราสาทเขาพระวิหารตกเป็นของกัมพูชา และทางรัฐบาลได้ออกแถลงให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบเป็นลำดับนั้น

    รัฐบาลของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเฉพาะตัวของข้าพเจ้า ถือว่าเรื่องนี้มีความสำคัญยิ่ง เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผลได้ผลเสียของชาติ อันเป็นเรื่องของแผ่นดินไทย ซึ่งเป็นมรดกที่บรรพบุรุษของเราสู้มา อุตส่าห์ฝ่าคมอาวุธรักษาไว้ และตกทอดมาถึงรุ่นเรา

    เนื่องจากในคำปราศรัยนี้เป็นเรื่องที่สะเทือนใจพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าทราบดีว่า ในส่วนลึกและหัวใจแล้ว คนไทยผู้รักชาติทุกคน มีความเศร้าสลดและมีความข่มขืนใจเพียงใด แสดงออกถึงของประชาชนในการเดินขบวนทั่วประเทศ เพื่อคัดค้านคำพิพากษาของศาลโลกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นสิ่งที่เห็นกันอยู่อย่างชัดเจนแล้ว

    ทั้งนี้ มิใช่ว่าพวกเราจะนั่งนิ่งเฉยหรือท้อแท้ใจ ชาติไทยยอมท้อแท้ทอดอาลัยไม่ได้ เราเคยสูญเสียดินแดนแก่ประเทศมหาอำนาจที่ล่าอาณานิคมมาแล้วหลายครั้ง หากบรรพบุรุษของเรายอมท้อแท้ เราจะเอาแผ่นดินที่ไหนมาอยู่กันได้จนถึงทุกวันนี้ เราจะต้องหาวิธีการสู้ต่อไป

    สำหรับกรณีเขาพระวิหาร ซึ่งศาลโลกได้วินิจฉัยชี้ขาดไปแล้วนั้น ข้าพเจ้าขอทบทวนเข้าใจกับเพื่อนร่วมชาติทั้งหลาย ว่า รัฐบาลและประชาชนชาวไทย ไม่ได้เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลโลก ทั้งในข้อเท็จจริงกฎหมายระหว่างประเทศ และหลักความยุติธรรม

    เมื่อเป็นดังนี้ แม้นรัฐบาลและปวงชนชาวไทย จะได้มีความรู้สึกสลดใจและขมขื่นเพียงใด ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ก็ต้องปฏิบัติตามพันธกรณีในกฎบัตรสหประชาชาติ กล่าวคือ ต้องยอมให้กัมพูชามีอธิปไตยเหนือเขาพระวิหาร ตามพันธกรณีแห่งกฎบัตรสหประชาชาติ แต่รัฐบาลขอตั้งประท้วงและขอสงวนสิทธิ์อันชอบธรรมของประเทศไทยในเรื่องนี้ไว้ เพื่อสงวนสิทธิ์ที่จะดำเนินทางกฎหมายที่จำเป็น ซึ่งอาจจะมีขึ้นในภายภาคหน้า ให้กรรมสิทธิ์นี้กลับคืนมาในโอกาสอันสมควร

    พี่น้องทั้งหลายคงทราบดีว่า ชาติของเราต้องเสียศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิไป เนื่องจากเขาพระวิหาร อีกสิบปีอีกกี่ร้อยปี เราก็สามารถสร้างเกียรติภูมิคราวนี้กลับคืนมาได้ ข้าพเจ้าทราบว่า การสูญเสียปราสาทเขาพระวิหารครั้งนี้ เป็นการสูญเสียที่สะเทือนใจของคนไทยทั้งชาติ

    ฉะนั้น แม้นว่า กัมพูชาจะได้ปราสาทเขาพระวิหารนี้ไป ก็คงไปได้แค่ซากปรักหักพัง และแผ่นดินเฉพาะรองรับเขาพระวิหารเท่านั้น วิญญาณของปราสาทเขาพระวิหารยังคงอยู่กับคนไทยตลอดไป ประชาชนชาวไทยจะระลึกอยู่เสมอว่า ปราสาทเขาพระวิหารของไทยถูกปล้นเอาไป ด้วยอุปเล่ห์เพทุบาย คนที่ไม่มีเกียรติและไม่รับผิดชอบ ไม่รักความเป็นธรรม เมื่อประเทศไทยเราประพฤติปฏิบัติดีในสังคมโลก อันเป็นที่มีศีลธรรม มีสัตย์ ในวันหนึ่งข้างหน้าไม่ช้าก็เร็ว ปราสาทเขาพระวิหารจะต้องกลับมาสู่ดินแดนไทยอีกครั้งหนึ่ง

    เหตุการณ์เกี่ยวกับเขาพระวิหารครั้งนี้ สลักแน่นอยู่ในความทรงจำของคนไทยสืบไปชั่วลูกชั่วหลาน และเป็นรอยจารึกอยู่ในประวัติศาสตร์ของชาติไปตลอด เสมือนแผลที่อยู่ในใจของคนไทยทั้งชาติ แต่ข้าพเจ้าหวังอยู่เสมอว่า ในที่สุด ธรรมะย่อมชนะอธรรม การหัวเราะที่หลังย่อมดังกว่า และนานกว่า

    พี่น้องร่วมชาติทุกท่าน ได้โปรดวางใจรัฐบาลซึ่งข้าพเจ้าเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่นี้ จะสามารถนำชาติและพี่น้องชาวไทยที่รักก้าวสู่อนาคตอันสุกใสให้ได้ และข้าพเจ้ารับรองแก่ท่านทั้งหลายว่า เมื่อถึงคราวที่ชาติคับขันแล้ว ข้าพเจ้าจะกอดคอร่วมเป็นร่วมตายกับพี่น้องประชาชนชาวไทย เอาเลือดทาแผ่นดิน ไม่เสียดายชีวิตแม้แต่นิดเดียว แต่เราจะทำอย่างไรได้ ข้าพเจ้าเองมีความเจ็บช้ำน้ำใจไม่น้อยไปกว่าเพื่อร่วมชาติทั้งหลาย

    การที่ข้าพเจ้าต้องมากล่าวถึงเรื่องนี้ ข้าพเจ้าอยากจะกล่าวว่า การมาพูดกับท่านด้วยน้ำตา น้ำตาของข้าพเจ้า เป็นน้ำตาของลูกผู้ชาย ของเลือด ของความคับแค้น และการผูกใจเจ็บชั่วชีวิตชาตินี้และชาติหน้า ต่อดวงวิญญาณของบรรพบุรุษผู้กล้าหาญของชาวไทย

    ข้าพเจ้าขอกล่าวคำปฏิญาณด้วยสัตย์วาจาดังนี้ พี่น้องที่รักชาติทั้งหลาย น้ำตาไม่อาจทำให้เราฉลาดขึ้น แต่เราจะต้องได้อะไรคืนมา ในขั้นสุดท้ายชาติไทยจะต้องประสบกับชัยชนะเสมอ เราต้องกล้าสู้ เราต้องกล้ายิ้มรับภัยที่มาถึงตัวเรา ชาติไทยเป็นชาติที่เชื่อมั่นในบริวารพุทธศาสนา ตั้งตนอยู่ในความเป็นธรรมตลอดมา

    ข้าพเจ้าเชื่อมั่นเสมอว่า ชาติของเราจะไม่อับจนเป็นอันขาด เรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องหนึ่งในบรรดาเรื่องใหญ่ทั้งหลาย มีความสำคัญมากกว่านี้ ชาติที่รักของเรากำลังพัฒนาไปในสู่วิถีทางที่ดีขึ้น เหตุนี้ไม่ใช่เหตุผลความอับจนของเรา จงหวังและทำในเรื่องชาติที่สำคัญกว่านี้ ข้าพเจ้าเชื่อมั่นเหลือเกินว่า ชาติไทยของเรามีอนาคตแจ่มใสและรุ่งโรจน์อย่างแน่นอนและมั่นคงในอนาคตอันใกล้ นี้ เราจงมาช่วยกันสร้างชาติที่รักยิ่งของเราต่อไป

    พี่น้องชาวไทยที่รักทั้งหลาย วันนี้เป็นวันหนึ่งและเป็นในวันข้างหน้า เราจะต้องเอาปราสาทเขาพระวิหารกลับคืนมา ให้เป็นของชาติไทยให้จงได้ สวัสดี”

    https://youtube.com/shorts/Xdz0paAXVz4?si=k7SNESYjZJlELM04
    EP.6 ถอดรหัสไทยเสียดินแดนครั้งที่ 16 ปราสาทเขาพระวิหาร ค่ำวันที่ 4 กรกฎาคม 2505 หลังจากศาลโลกตัดสินให้ปราสาทพระวิหาร ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของกัมพูชา ได้ประมาณ 20 วัน จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีของไทย ในขณะนั้น ได้กล่าวปราศรัยผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย แสดงความรู้สึกต่อการสูญเสียปราสาทพระวิหาร และยืนยันสิทธิ์ที่จะทวงคืนปราสาทพระวิหารในอนาคต ดังนี้ พี่น้องร่วมชาติ และมิตรร่วมชีวิตที่รักของข้าพเจ้าทั้งหลาย ตามที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือที่เรียกว่า ศาลโลก ได้วินิจฉัยชี้ขาดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2505 ให้ปราสาทเขาพระวิหารตกเป็นของกัมพูชา และทางรัฐบาลได้ออกแถลงให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบเป็นลำดับนั้น รัฐบาลของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเฉพาะตัวของข้าพเจ้า ถือว่าเรื่องนี้มีความสำคัญยิ่ง เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผลได้ผลเสียของชาติ อันเป็นเรื่องของแผ่นดินไทย ซึ่งเป็นมรดกที่บรรพบุรุษของเราสู้มา อุตส่าห์ฝ่าคมอาวุธรักษาไว้ และตกทอดมาถึงรุ่นเรา เนื่องจากในคำปราศรัยนี้เป็นเรื่องที่สะเทือนใจพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าทราบดีว่า ในส่วนลึกและหัวใจแล้ว คนไทยผู้รักชาติทุกคน มีความเศร้าสลดและมีความข่มขืนใจเพียงใด แสดงออกถึงของประชาชนในการเดินขบวนทั่วประเทศ เพื่อคัดค้านคำพิพากษาของศาลโลกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นสิ่งที่เห็นกันอยู่อย่างชัดเจนแล้ว ทั้งนี้ มิใช่ว่าพวกเราจะนั่งนิ่งเฉยหรือท้อแท้ใจ ชาติไทยยอมท้อแท้ทอดอาลัยไม่ได้ เราเคยสูญเสียดินแดนแก่ประเทศมหาอำนาจที่ล่าอาณานิคมมาแล้วหลายครั้ง หากบรรพบุรุษของเรายอมท้อแท้ เราจะเอาแผ่นดินที่ไหนมาอยู่กันได้จนถึงทุกวันนี้ เราจะต้องหาวิธีการสู้ต่อไป สำหรับกรณีเขาพระวิหาร ซึ่งศาลโลกได้วินิจฉัยชี้ขาดไปแล้วนั้น ข้าพเจ้าขอทบทวนเข้าใจกับเพื่อนร่วมชาติทั้งหลาย ว่า รัฐบาลและประชาชนชาวไทย ไม่ได้เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลโลก ทั้งในข้อเท็จจริงกฎหมายระหว่างประเทศ และหลักความยุติธรรม เมื่อเป็นดังนี้ แม้นรัฐบาลและปวงชนชาวไทย จะได้มีความรู้สึกสลดใจและขมขื่นเพียงใด ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ก็ต้องปฏิบัติตามพันธกรณีในกฎบัตรสหประชาชาติ กล่าวคือ ต้องยอมให้กัมพูชามีอธิปไตยเหนือเขาพระวิหาร ตามพันธกรณีแห่งกฎบัตรสหประชาชาติ แต่รัฐบาลขอตั้งประท้วงและขอสงวนสิทธิ์อันชอบธรรมของประเทศไทยในเรื่องนี้ไว้ เพื่อสงวนสิทธิ์ที่จะดำเนินทางกฎหมายที่จำเป็น ซึ่งอาจจะมีขึ้นในภายภาคหน้า ให้กรรมสิทธิ์นี้กลับคืนมาในโอกาสอันสมควร พี่น้องทั้งหลายคงทราบดีว่า ชาติของเราต้องเสียศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิไป เนื่องจากเขาพระวิหาร อีกสิบปีอีกกี่ร้อยปี เราก็สามารถสร้างเกียรติภูมิคราวนี้กลับคืนมาได้ ข้าพเจ้าทราบว่า การสูญเสียปราสาทเขาพระวิหารครั้งนี้ เป็นการสูญเสียที่สะเทือนใจของคนไทยทั้งชาติ ฉะนั้น แม้นว่า กัมพูชาจะได้ปราสาทเขาพระวิหารนี้ไป ก็คงไปได้แค่ซากปรักหักพัง และแผ่นดินเฉพาะรองรับเขาพระวิหารเท่านั้น วิญญาณของปราสาทเขาพระวิหารยังคงอยู่กับคนไทยตลอดไป ประชาชนชาวไทยจะระลึกอยู่เสมอว่า ปราสาทเขาพระวิหารของไทยถูกปล้นเอาไป ด้วยอุปเล่ห์เพทุบาย คนที่ไม่มีเกียรติและไม่รับผิดชอบ ไม่รักความเป็นธรรม เมื่อประเทศไทยเราประพฤติปฏิบัติดีในสังคมโลก อันเป็นที่มีศีลธรรม มีสัตย์ ในวันหนึ่งข้างหน้าไม่ช้าก็เร็ว ปราสาทเขาพระวิหารจะต้องกลับมาสู่ดินแดนไทยอีกครั้งหนึ่ง เหตุการณ์เกี่ยวกับเขาพระวิหารครั้งนี้ สลักแน่นอยู่ในความทรงจำของคนไทยสืบไปชั่วลูกชั่วหลาน และเป็นรอยจารึกอยู่ในประวัติศาสตร์ของชาติไปตลอด เสมือนแผลที่อยู่ในใจของคนไทยทั้งชาติ แต่ข้าพเจ้าหวังอยู่เสมอว่า ในที่สุด ธรรมะย่อมชนะอธรรม การหัวเราะที่หลังย่อมดังกว่า และนานกว่า พี่น้องร่วมชาติทุกท่าน ได้โปรดวางใจรัฐบาลซึ่งข้าพเจ้าเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่นี้ จะสามารถนำชาติและพี่น้องชาวไทยที่รักก้าวสู่อนาคตอันสุกใสให้ได้ และข้าพเจ้ารับรองแก่ท่านทั้งหลายว่า เมื่อถึงคราวที่ชาติคับขันแล้ว ข้าพเจ้าจะกอดคอร่วมเป็นร่วมตายกับพี่น้องประชาชนชาวไทย เอาเลือดทาแผ่นดิน ไม่เสียดายชีวิตแม้แต่นิดเดียว แต่เราจะทำอย่างไรได้ ข้าพเจ้าเองมีความเจ็บช้ำน้ำใจไม่น้อยไปกว่าเพื่อร่วมชาติทั้งหลาย การที่ข้าพเจ้าต้องมากล่าวถึงเรื่องนี้ ข้าพเจ้าอยากจะกล่าวว่า การมาพูดกับท่านด้วยน้ำตา น้ำตาของข้าพเจ้า เป็นน้ำตาของลูกผู้ชาย ของเลือด ของความคับแค้น และการผูกใจเจ็บชั่วชีวิตชาตินี้และชาติหน้า ต่อดวงวิญญาณของบรรพบุรุษผู้กล้าหาญของชาวไทย ข้าพเจ้าขอกล่าวคำปฏิญาณด้วยสัตย์วาจาดังนี้ พี่น้องที่รักชาติทั้งหลาย น้ำตาไม่อาจทำให้เราฉลาดขึ้น แต่เราจะต้องได้อะไรคืนมา ในขั้นสุดท้ายชาติไทยจะต้องประสบกับชัยชนะเสมอ เราต้องกล้าสู้ เราต้องกล้ายิ้มรับภัยที่มาถึงตัวเรา ชาติไทยเป็นชาติที่เชื่อมั่นในบริวารพุทธศาสนา ตั้งตนอยู่ในความเป็นธรรมตลอดมา ข้าพเจ้าเชื่อมั่นเสมอว่า ชาติของเราจะไม่อับจนเป็นอันขาด เรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องหนึ่งในบรรดาเรื่องใหญ่ทั้งหลาย มีความสำคัญมากกว่านี้ ชาติที่รักของเรากำลังพัฒนาไปในสู่วิถีทางที่ดีขึ้น เหตุนี้ไม่ใช่เหตุผลความอับจนของเรา จงหวังและทำในเรื่องชาติที่สำคัญกว่านี้ ข้าพเจ้าเชื่อมั่นเหลือเกินว่า ชาติไทยของเรามีอนาคตแจ่มใสและรุ่งโรจน์อย่างแน่นอนและมั่นคงในอนาคตอันใกล้ นี้ เราจงมาช่วยกันสร้างชาติที่รักยิ่งของเราต่อไป พี่น้องชาวไทยที่รักทั้งหลาย วันนี้เป็นวันหนึ่งและเป็นในวันข้างหน้า เราจะต้องเอาปราสาทเขาพระวิหารกลับคืนมา ให้เป็นของชาติไทยให้จงได้ สวัสดี” https://youtube.com/shorts/Xdz0paAXVz4?si=k7SNESYjZJlELM04
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 317 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์" เป็นสถาบันหลักที่สำคัญของประเทศไทย. ชาติ หมายถึง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนไทย, ศาสนา หมายถึง สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทย, และพระมหากษัตริย์ หมายถึง ผู้ปกครองบ้านเมืองให้สงบสุข.
    ชาติ: ความรู้สึกรักชาติ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนไทย.
    ศาสนา: สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทย เช่น พระพุทธศาสนา ซึ่งมีหลักธรรมคำสอนที่ส่งเสริมคุณธรรมและศีลธรรม.
    พระมหากษัตริย์: ผู้ปกครองบ้านเมือง เป็นประมุขของชาติ.
    สถาบันทั้งสามนี้มีความสำคัญต่อประเทศไทยมาก เพราะเป็นสถาบันที่อยู่คู่สังคมไทยมาอย่างยาวนาน และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย. การมีสถาบันเหล่านี้ช่วยให้ประเทศชาติมีความมั่นคงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง.
    "ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์" เป็นสถาบันหลักที่สำคัญของประเทศไทย. ชาติ หมายถึง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนไทย, ศาสนา หมายถึง สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทย, และพระมหากษัตริย์ หมายถึง ผู้ปกครองบ้านเมืองให้สงบสุข. ชาติ: ความรู้สึกรักชาติ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนไทย. ศาสนา: สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทย เช่น พระพุทธศาสนา ซึ่งมีหลักธรรมคำสอนที่ส่งเสริมคุณธรรมและศีลธรรม. พระมหากษัตริย์: ผู้ปกครองบ้านเมือง เป็นประมุขของชาติ. สถาบันทั้งสามนี้มีความสำคัญต่อประเทศไทยมาก เพราะเป็นสถาบันที่อยู่คู่สังคมไทยมาอย่างยาวนาน และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย. การมีสถาบันเหล่านี้ช่วยให้ประเทศชาติมีความมั่นคงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..การปกครองที่เสื่อมทราม,วิถีปกครองที่ล้มเหลว,ประเทศไทยต้องล้างทั้งระบบระบอบอย่างจริงจัง,ระบบราชการมาตรฐานพังทั้งระบบเพราะหัวพัง ท้ายพังแน่นอน,บวกวิถีการเลือกตั้งในนามบริบทว่า สภา.สส.สว.นายกฯ.พรรคการเมืองทั้งหมดถือว่าพังและล้มเหลวเช่นกัน,ลามไปถึงข้อกฎหมายที่สภา.สส.สว.เขียนตีตราใช้บังคับด้วยล้วนโมฆะไปด้วย,ตลอดกฎหมายของกระทรวงทบวงกรมก็เผาทิ้งทั้งหมดโดยเฉพาะกฎหมายปิโตรเลียมเป็นตัวอย่างทีีดีที่สุดของวิถีกฎหมายที่เป็นภัยคุกคามเสียเองต่อความมั่นคงของประเทศไทยและภัยตรงต่อประชาชนทุกๆคนที่กฎหมายปิโตรเลียมตีตรามีผลบังคับใช้ออกมาถึงปัจจุบัน,มันคือความล้มเหลวของวิถีการปกครอง,หากทำสงครามเสมือนว่าประเทศไทยแพ้ตั้งแต่ยังไม่ออกรบ,หรือมันถูกออกแบบมาให้แพ้ตั้งแต่เริ่ม,เหมือนวิถีชีวิตคนไทยที่ถูกออกแบบมาให้แพ้ตั้งแต่ต้นจากระบบที่ออกแบบมิใช้คนไทยชนะใครคนใดชนะในหมากอิสระแห่งสัมมาชีวิต,ตย.ง่ายๆคืออิสระภาพทางการเงิน เรียน จบเรียนทำงาน มีเงินเดือนหรือมีอาชีพสาระพัด,สุดท้ายคนไทยทั้งคนราชการ คนงานเอกชนล้วนต่างตกเป็นทาสหนี้ของระบบทาสตังทั้งประเทศ หนี้เต็มคนไทย ตังติดลบ ดิ้นรนแทบตายไม่พอจ่ายบิลจ่ายค่าใช้จ่ายภาระต่างๆรอบตัวใครมัน,วังวนในกระแสทาสหนี้ทาสตัง ไร้อิสระภาพของชีวิตไม่สามารถหลุดพ้นทาสมนุษย์เงินเดือนทาสหนี้ได้,อเมริกาเอย ญี่ปุ่นเอยหนี้ล้นประเทศพร้อมล้มละลายได้ตลอดเวลาในเวลานี้,
    ..วิถีการปกครองไทยเรามีคนทรยศเป็นผู้นำผู้ปกครองนานพอแล้ว,เราสามารถพลิกฟื้นคืนสถานะอิสระภาพไทแท้แห่งจิตวิญญาณคุณค่าความเป็นมนุษย์ในเผ่าพันธุ์สไตล์ไทยเราได้,เพราะพื้นฐานเราแห่งรากเหง้าตั้งไว้ดีแล้วทั้งพ่อแม่ครูบาอาจารย์เราก็ร่วมวางรากฐานหลักชัยไว้ดีด้วยเช่นกัน นั้นคือเรามีพระมหากษัตริย์เราเองและมีพ่อแม่ครูบาอาจารย์ยังเต็มตรึมกระจายเกิดขึ้นรุ่นใหม่ตลอดเวลา,แค่จบผู้นำกากๆยุคนี้ไป อนาคตอาจสดใสแน่นอน.
    ..การล้างบางทั้งหมด ทางเดียวหนทางเดียวคือทหารพระราชาเรายึดอำนาจรัฐประหารและปฏิวัติการปกครองใหม่ทั้งหมด,ยุคอวกาศมาแน่นอน,ผู้ปกครองผู้นำยังกากๆมือไม่ถึง ไร้ฝีมืออยู่มันแย่แน่นอน,ต่างดาวจะนำยานบินลงมาจอดจริงไม่กี่ปีแล้ว,เราต้องเตรียมคนไทยเราพร้อมตอนรับและรับมือการถ่ายทอดเทคโนโลยีล้ำๆนี้ได้แล้ว,ประเทศไทยเราคือฮับศูนย์กลางของพลังงานจักรวาลในยุคสมัยหน้า,ใต้แผ่นดินไทยธรรมดาที่ไหน,เราจะมาติดพวกขี้กากขี้หมูขี้หมาขี้แมวนี้ไม่ได้,ข้าราชการเลวๆชั่วๆไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ต่อระบบดีงามต้องกวาดล้างและกำจัดมิให้มีชีวิตอย่างจริงจังยิ่งดี,อำนาจและตำแหน่งชี้เป็นชี้ตายในความยุติธรรมของประชาชนมากมายมหาศาลผลกระทบแต่ทำชั่วเลวเสียเอง,ไม่สมควรมีชีวิตอยู่เป็นคน.
    ..ทหารพระราชาคือหนทางเดียว ยึดอำนาจปฏิวัติทั้งหมด,อนาคตแห่งยุคใหม่มันชี้ชะตาจุดนี้แล้ว,ถ้าไม่ทำ ทาสและพังพินาศคือสิ้นชาติไทยสิ้นประเทศไทยแบบมีแต่ชื่อจะเป็นค่าจริงทันที.,นั้นคือเราแพ้ของจริง,มันชนะและทำลายสถาบันฯเราได้จริงแห่งธรรมจักรวาลเราลงได้ด้วย,สิ้นสถาบันกษัตริย์ฝันเลยว่าจะปฏิบัติสายพุทธะเราสะดวกสบายได้,หรือมันตัดตอนทำลายคนจิตวิญญาณแห่งธรรมจักรวาลเราด้วยทั้งหมด,กษัตริย์ค้ำจุนพุทธศาสนาและของคู่กันมาด้วย,ในยุคก่อนสิ้น5,000ปีพุทธกาลนี้,และมาแพ้ในยุครุ่นเรามันอนาถใจมาก,เมื่อเทียบยุคสุโขทัยต้นเรื่องมาก.


    .https://youtube.com/shorts/bMwV_iNOTbs?si=wKz0bC_aUZP33Vyx
    ..https://youtube.com/shorts/bMwV_iNOTbs?si=wKz0bC_aUZP33Vyx
    ..การปกครองที่เสื่อมทราม,วิถีปกครองที่ล้มเหลว,ประเทศไทยต้องล้างทั้งระบบระบอบอย่างจริงจัง,ระบบราชการมาตรฐานพังทั้งระบบเพราะหัวพัง ท้ายพังแน่นอน,บวกวิถีการเลือกตั้งในนามบริบทว่า สภา.สส.สว.นายกฯ.พรรคการเมืองทั้งหมดถือว่าพังและล้มเหลวเช่นกัน,ลามไปถึงข้อกฎหมายที่สภา.สส.สว.เขียนตีตราใช้บังคับด้วยล้วนโมฆะไปด้วย,ตลอดกฎหมายของกระทรวงทบวงกรมก็เผาทิ้งทั้งหมดโดยเฉพาะกฎหมายปิโตรเลียมเป็นตัวอย่างทีีดีที่สุดของวิถีกฎหมายที่เป็นภัยคุกคามเสียเองต่อความมั่นคงของประเทศไทยและภัยตรงต่อประชาชนทุกๆคนที่กฎหมายปิโตรเลียมตีตรามีผลบังคับใช้ออกมาถึงปัจจุบัน,มันคือความล้มเหลวของวิถีการปกครอง,หากทำสงครามเสมือนว่าประเทศไทยแพ้ตั้งแต่ยังไม่ออกรบ,หรือมันถูกออกแบบมาให้แพ้ตั้งแต่เริ่ม,เหมือนวิถีชีวิตคนไทยที่ถูกออกแบบมาให้แพ้ตั้งแต่ต้นจากระบบที่ออกแบบมิใช้คนไทยชนะใครคนใดชนะในหมากอิสระแห่งสัมมาชีวิต,ตย.ง่ายๆคืออิสระภาพทางการเงิน เรียน จบเรียนทำงาน มีเงินเดือนหรือมีอาชีพสาระพัด,สุดท้ายคนไทยทั้งคนราชการ คนงานเอกชนล้วนต่างตกเป็นทาสหนี้ของระบบทาสตังทั้งประเทศ หนี้เต็มคนไทย ตังติดลบ ดิ้นรนแทบตายไม่พอจ่ายบิลจ่ายค่าใช้จ่ายภาระต่างๆรอบตัวใครมัน,วังวนในกระแสทาสหนี้ทาสตัง ไร้อิสระภาพของชีวิตไม่สามารถหลุดพ้นทาสมนุษย์เงินเดือนทาสหนี้ได้,อเมริกาเอย ญี่ปุ่นเอยหนี้ล้นประเทศพร้อมล้มละลายได้ตลอดเวลาในเวลานี้, ..วิถีการปกครองไทยเรามีคนทรยศเป็นผู้นำผู้ปกครองนานพอแล้ว,เราสามารถพลิกฟื้นคืนสถานะอิสระภาพไทแท้แห่งจิตวิญญาณคุณค่าความเป็นมนุษย์ในเผ่าพันธุ์สไตล์ไทยเราได้,เพราะพื้นฐานเราแห่งรากเหง้าตั้งไว้ดีแล้วทั้งพ่อแม่ครูบาอาจารย์เราก็ร่วมวางรากฐานหลักชัยไว้ดีด้วยเช่นกัน นั้นคือเรามีพระมหากษัตริย์เราเองและมีพ่อแม่ครูบาอาจารย์ยังเต็มตรึมกระจายเกิดขึ้นรุ่นใหม่ตลอดเวลา,แค่จบผู้นำกากๆยุคนี้ไป อนาคตอาจสดใสแน่นอน. ..การล้างบางทั้งหมด ทางเดียวหนทางเดียวคือทหารพระราชาเรายึดอำนาจรัฐประหารและปฏิวัติการปกครองใหม่ทั้งหมด,ยุคอวกาศมาแน่นอน,ผู้ปกครองผู้นำยังกากๆมือไม่ถึง ไร้ฝีมืออยู่มันแย่แน่นอน,ต่างดาวจะนำยานบินลงมาจอดจริงไม่กี่ปีแล้ว,เราต้องเตรียมคนไทยเราพร้อมตอนรับและรับมือการถ่ายทอดเทคโนโลยีล้ำๆนี้ได้แล้ว,ประเทศไทยเราคือฮับศูนย์กลางของพลังงานจักรวาลในยุคสมัยหน้า,ใต้แผ่นดินไทยธรรมดาที่ไหน,เราจะมาติดพวกขี้กากขี้หมูขี้หมาขี้แมวนี้ไม่ได้,ข้าราชการเลวๆชั่วๆไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ต่อระบบดีงามต้องกวาดล้างและกำจัดมิให้มีชีวิตอย่างจริงจังยิ่งดี,อำนาจและตำแหน่งชี้เป็นชี้ตายในความยุติธรรมของประชาชนมากมายมหาศาลผลกระทบแต่ทำชั่วเลวเสียเอง,ไม่สมควรมีชีวิตอยู่เป็นคน. ..ทหารพระราชาคือหนทางเดียว ยึดอำนาจปฏิวัติทั้งหมด,อนาคตแห่งยุคใหม่มันชี้ชะตาจุดนี้แล้ว,ถ้าไม่ทำ ทาสและพังพินาศคือสิ้นชาติไทยสิ้นประเทศไทยแบบมีแต่ชื่อจะเป็นค่าจริงทันที.,นั้นคือเราแพ้ของจริง,มันชนะและทำลายสถาบันฯเราได้จริงแห่งธรรมจักรวาลเราลงได้ด้วย,สิ้นสถาบันกษัตริย์ฝันเลยว่าจะปฏิบัติสายพุทธะเราสะดวกสบายได้,หรือมันตัดตอนทำลายคนจิตวิญญาณแห่งธรรมจักรวาลเราด้วยทั้งหมด,กษัตริย์ค้ำจุนพุทธศาสนาและของคู่กันมาด้วย,ในยุคก่อนสิ้น5,000ปีพุทธกาลนี้,และมาแพ้ในยุครุ่นเรามันอนาถใจมาก,เมื่อเทียบยุคสุโขทัยต้นเรื่องมาก. .https://youtube.com/shorts/bMwV_iNOTbs?si=wKz0bC_aUZP33Vyx ..https://youtube.com/shorts/bMwV_iNOTbs?si=wKz0bC_aUZP33Vyx
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 350 มุมมอง 0 รีวิว
  • โคราช ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตภาวนา เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568

    วันนี้ (3 มิถุนายน 2568) ที่วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิต เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันสวดมนต์เจริญพระพุทธมนต์ และนั่งสมาธิเจริญจิตภาวนา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี รวมถึงส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และสร้างความสามัคคีสืบไป.
    โคราช ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตภาวนา เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ (3 มิถุนายน 2568) ที่วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิต เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันสวดมนต์เจริญพระพุทธมนต์ และนั่งสมาธิเจริญจิตภาวนา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี รวมถึงส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และสร้างความสามัคคีสืบไป.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • โคราช ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตภาวนา เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568

    วันนี้ (3 มิถุนายน 2568) ที่วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิต เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันสวดมนต์เจริญพระพุทธมนต์ และนั่งสมาธิเจริญจิตภาวนา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี รวมถึงส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และสร้างความสามัคคีสืบไป
    โคราช ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตภาวนา เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ (3 มิถุนายน 2568) ที่วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิต เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันสวดมนต์เจริญพระพุทธมนต์ และนั่งสมาธิเจริญจิตภาวนา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี รวมถึงส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และสร้างความสามัคคีสืบไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ๓ มิถุนายน ๒๕๖๘ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสถวายพระพร ความว่า“อภิลักขิตสมัยเฉลิมพระชนมพรรษาของ สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ ขอถวายพระพร ให้ทรงพระกำลังแกล้วกล้า ในอันที่พิทักษ์รักษาประเทศชาติ พระบวรพุทธศาสนา และสนองพระบรมราโชบายของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้พระราชสวามี ให้บรรลุผลสัมฤทธิ์โดยพร้อมพรั่ง สมดั่งพระราชปรารถนาทุกประการ สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงพิสูจน์พระองค์ให้เป็นที่ประจักษ์แก่พสกนิกรทั่วหน้า และมหาชนชาวโลก ว่าทรงมั่นคงในพระราชสัตยาธิษฐาน ในอันที่จะทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชจริยวัตร พระราชกรณียกิจ และพระราชปณิธานของสมเด็จบรมบพิตร สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยความจงรักภักดีต่อพระบรมราชจักรีวงศ์ จึงทรงดำรงพระองค์เป็นราชนารี ผู้มีพระราชอัธยาศัยประณีต ทรงเลือกเฟ้นคุณธรรมอันแยบคายหลายสถาน เป็นแรงบันดาลพระราชหฤทัย ให้ทรงสามารถรักษาพระกายสุจริต และพระวจีสุจริต พอประมาณเหมาะสม มิมากเกินไป มิน้อยเกินไป เป็นดุลยภาวะอันสงบ สุขุม สอดคล้องกับสถานการณ์ มิทรงไว้อย่างวางพระยศ แต่ก็สดใส สมสง่า ปรากฏเป็นความชื่นบานแก่ผู้ได้เฝ้าชมพระบารมี ในที่ทุกสถานและในกาลทุกเมื่อ การที่ทรงเพียรหมั่นขยัน รอบคอบ และจัดการพระราชกิจจานุกิจ ราชการในพระองค์ ตลอดจนราชการแผ่นดินโดยเรียบร้อยเช่นนี้ ช่วยเสริมส่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระราชสวามี ผู้ทรงดำรงพระราชสถานะพระประมุขของชาติ และอัครศาสนูปถัมภก ให้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ ได้อย่างราบรื่นบริบูรณ์ สมด้วยพระพุทธานุศาสนี ที่ว่าอุฏฺฐาตา กมฺมเธยฺเยสุ อปฺปมตฺโต วิจกฺขโณ สุสํวิหิตกมฺมนฺโต ส ราชวสตึ วเส.แปลความว่า “ผู้หมั่นในการงาน ไม่ประมาท เป็นผู้รอบคอบ จัดการงานเรียบร้อย. จึงควรอยู่ในราชการ.” ด้วยประการฉะนี้ ด้วยเดชะแห่งสัจจวาจา และอานุภาพคุณพระศรีรัตนตรัย พร้อมด้วยพระราชกุศลธรรมจริยาทุกสถาน โปรดอภิบาลรักษาสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ให้ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย เสด็จสถิตเป็นมิ่งขวัญอันมงคล ของมหาชนนิกรทั่วหน้า ตลอดกาลนาน เทอญ.”
    เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ๓ มิถุนายน ๒๕๖๘ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสถวายพระพร ความว่า“อภิลักขิตสมัยเฉลิมพระชนมพรรษาของ สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ ขอถวายพระพร ให้ทรงพระกำลังแกล้วกล้า ในอันที่พิทักษ์รักษาประเทศชาติ พระบวรพุทธศาสนา และสนองพระบรมราโชบายของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้พระราชสวามี ให้บรรลุผลสัมฤทธิ์โดยพร้อมพรั่ง สมดั่งพระราชปรารถนาทุกประการ สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงพิสูจน์พระองค์ให้เป็นที่ประจักษ์แก่พสกนิกรทั่วหน้า และมหาชนชาวโลก ว่าทรงมั่นคงในพระราชสัตยาธิษฐาน ในอันที่จะทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชจริยวัตร พระราชกรณียกิจ และพระราชปณิธานของสมเด็จบรมบพิตร สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยความจงรักภักดีต่อพระบรมราชจักรีวงศ์ จึงทรงดำรงพระองค์เป็นราชนารี ผู้มีพระราชอัธยาศัยประณีต ทรงเลือกเฟ้นคุณธรรมอันแยบคายหลายสถาน เป็นแรงบันดาลพระราชหฤทัย ให้ทรงสามารถรักษาพระกายสุจริต และพระวจีสุจริต พอประมาณเหมาะสม มิมากเกินไป มิน้อยเกินไป เป็นดุลยภาวะอันสงบ สุขุม สอดคล้องกับสถานการณ์ มิทรงไว้อย่างวางพระยศ แต่ก็สดใส สมสง่า ปรากฏเป็นความชื่นบานแก่ผู้ได้เฝ้าชมพระบารมี ในที่ทุกสถานและในกาลทุกเมื่อ การที่ทรงเพียรหมั่นขยัน รอบคอบ และจัดการพระราชกิจจานุกิจ ราชการในพระองค์ ตลอดจนราชการแผ่นดินโดยเรียบร้อยเช่นนี้ ช่วยเสริมส่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระราชสวามี ผู้ทรงดำรงพระราชสถานะพระประมุขของชาติ และอัครศาสนูปถัมภก ให้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ ได้อย่างราบรื่นบริบูรณ์ สมด้วยพระพุทธานุศาสนี ที่ว่าอุฏฺฐาตา กมฺมเธยฺเยสุ อปฺปมตฺโต วิจกฺขโณ สุสํวิหิตกมฺมนฺโต ส ราชวสตึ วเส.แปลความว่า “ผู้หมั่นในการงาน ไม่ประมาท เป็นผู้รอบคอบ จัดการงานเรียบร้อย. จึงควรอยู่ในราชการ.” ด้วยประการฉะนี้ ด้วยเดชะแห่งสัจจวาจา และอานุภาพคุณพระศรีรัตนตรัย พร้อมด้วยพระราชกุศลธรรมจริยาทุกสถาน โปรดอภิบาลรักษาสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ให้ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย เสด็จสถิตเป็นมิ่งขวัญอันมงคล ของมหาชนนิกรทั่วหน้า ตลอดกาลนาน เทอญ.”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญแจกทานหน้าเลื่อน หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2555
    เหรียญแจกทานหน้าเลื่อนสมณศักดิ์ เนื้อทองแดงรมดำ ( ตอกโค๊ตจม ๕๕ ) หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2555 //"เปิดของหายาก หนึ่งเดียวในเว็บ" !! พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกหลายวาระ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณครบเครื่อง "แคล้วคาดปลอดภัย มหาอุด" เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก.กันเสนียดจัญไร เป็นมหามงคลและสุดยอดนิรันตราย ประสบการณ์มากมาย >>


    ** พระดี พิธีใหญ๋ พิธีมหาพุทธาภิเษก วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.2555 ณ.อุโบสถวัดช้างให้

    วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง หลวงพ่อทวด รุ่นเสาร์ ๕ มหามงคล
    1.เพื่อน้อมรำลึกคุณูปการของอาจารย์ทิม
    2.จัดซื้อที่ดินขยายอาณาเขต วัดช้างให้
    3.บูรณปฏิสังขรณ์ซุ้มประตูรอบพระอุโบสถ วัดช้างให้
    4.สนับสนุนการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกนักธรรม แผนกบาลี ประจำจังหวัดปัตตานี
    5.ส่งเสริมศูนย์การศึกษาพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดช้างให้
    6.งานสาธารณประโยชน์ของทางราชการ และประชาชนทั่วไป

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญแจกทานหน้าเลื่อน หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2555 เหรียญแจกทานหน้าเลื่อนสมณศักดิ์ เนื้อทองแดงรมดำ ( ตอกโค๊ตจม ๕๕ ) หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2555 //"เปิดของหายาก หนึ่งเดียวในเว็บ" !! พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกหลายวาระ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณครบเครื่อง "แคล้วคาดปลอดภัย มหาอุด" เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก.กันเสนียดจัญไร เป็นมหามงคลและสุดยอดนิรันตราย ประสบการณ์มากมาย >> ** พระดี พิธีใหญ๋ พิธีมหาพุทธาภิเษก วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.2555 ณ.อุโบสถวัดช้างให้ วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง หลวงพ่อทวด รุ่นเสาร์ ๕ มหามงคล 1.เพื่อน้อมรำลึกคุณูปการของอาจารย์ทิม 2.จัดซื้อที่ดินขยายอาณาเขต วัดช้างให้ 3.บูรณปฏิสังขรณ์ซุ้มประตูรอบพระอุโบสถ วัดช้างให้ 4.สนับสนุนการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกนักธรรม แผนกบาลี ประจำจังหวัดปัตตานี 5.ส่งเสริมศูนย์การศึกษาพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดช้างให้ 6.งานสาธารณประโยชน์ของทางราชการ และประชาชนทั่วไป ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เอไออย่างไรก็สู้มนุษย์ผู้บรรลุธรรมจักรวาลไม่ได้หรอก,หรือระบบmatrixคือโลกที่ผู้คนลงมาทดสอบจิตวิญญาณใครมันเท่านั้นเพื่ออัพเกรดสู่การบรรลุธรรมออกไปอย่างเด็ดขาดจากระบบmatrix ,ไม่ย้อนกลับมาในระบบตลอดกาล,จะมาในมุกmatrixซ้อนmatrixก็ตาม,สรุปเรื่องthe matrixเป็นการนำเสนอเพื่อเตือนชาวโลกว่า หนทางออกจากmatrixโลกสมมุตินี้มีอยู่จริง,ส่วนตรรกะองค์รู้ต่างๆเลอะเทอะเป็นอจินไตยต่อผู้ดูมากเกินไปไม่มีประโยชน์จึงตัดทิ้ง,หมายบอกผ่านสื่อทางลัดว่า มีหนทางมีทางเลือก อนาคตมนุษย์จะสู่กับปัญญาประดิษฐ์นัันเองและมันจะควบคุมมนุษย์และหลายๆจักรวาลแต่สุดท้ายก็แพ้มนุษย์ในตอนสุดท้าย,หรือผู้ปลดปล่อยนั้นๆจะดึงเขาใครเขามันต่อไปเฉพาะใครมันไม่ได้อีกต่อไปเมื่อหนทางแห่งธรรมแห่งมรรคบรรลุเข้าถึงแห่งเขาเองในปัจเจกบุคคลคนนั้นๆทั่วโลก,มิใช่ไปอยู่ใต้ดินผีบ้าแบบในหนังหรอก,ผู้สร้างพยายามสื่อให้เข้าใจพื้นฐานปฐมบทต้นเรื่องต้นทางแค่นั้น,ใครอยากอิ่มก็กินเองทำเองใครมันหรือเลือกเอง,หนังเรื่องนีั หลายกูรูบอกว่าคนฝ่ายแสงดลใจดลจิตให้มันถูกสร้างขึ้นและฝ่ายแสงลงมาสร้างเองเพื่อชี้ทางให้คนชาวโลกสไตล์ทางกายหยาบวัตถุธาตุของยุคก็ว่า,แต่ทางคนไทยสายพุทธคงเข้าใจง่ายดายได้,แต่แบบพวกอื่นๆเช่นฝรั่งคนตะวันตกยากจะเข้าใจสายแบบพุทธทางจิตวิญญาณ,ไปทางเทคโนโลยีจึงสอนผ่านหนังตามยุควัตถุยุคเทคโนโลยีเขาด้วยก็ว่า,
    ..เสมือนหนังเรื่องนีับอกว่า ที่ช่วยได้ปลดปล่อยได้ก็ตามแต่ละยุคสมัยนั้นๆ ยังมีอีกมากมายที่ยังอยู่ในโลกสมมุติmatrixนั้นๆก็ว่า,ก็เหมือนสมมุติเหมือนโลกเหมือนจักรวาลเล็ก จักรวาลกลาง มหาจักรวาลนั้นล่ะ matrixสับเซ็ตmatrix,matrixซ้อนmatrixและซ้อนๆเข้าๆไปอีกในแต่ละจักรวาลต่างๆ สมมุติในตลอดทั่วอนันตจักรวาล,แต่ปัจจุบันนะกาลจะอยู่โลกmatrixไหนๆจักรวาลใดๆหากดีดบรรุธรรมตนเองได้หรืออรหันต์ก็หลุดออกขาดสิ้นในทุกๆจักรวาลหรือกลายเป็นผู้ปลดปล่อยคนต่อไปหากท่านเมตตาชี้ทางสั่งสอนบอกหนทางออกหรือให้ต้องลงมือทำก็ว่า.
    ..The matrixมีนัยยะมากมายจริงๆแต่แค่ขี้เล็บค่าจริงในองค์รู้ทางพุทธศาสนา,อย่าลืมว่าแม้ต่างดาวมากมายทั่วจักรวาล มิติสูงขนาดไหน เขารับรองว่ามนุษย์สมบัตินี้เป็นสถานะที่พร้อมในทุกๆประการจะออกจากmatrixแบบสิ้นเชิงหรือกลับมาเล่นวนซ้ำก็ได้เสมอหากสามารถเหนือระบบmatrixระดับดีก็อยู่ในโลกสมมุตินี้สะดวกสบายหน่อย,หากระดับไม่ดี จิตใจไม่แน่จริงอาจติดกับดักกระทั่งหลุดเรเวลเดิมที่ดีของตนได้ เช่นสายพุทธะคือนรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัจฉาน ,มนุษย์สมบัติอาจถูกระบบmatrixก่อกวนจนตกชั้นตกเรเวลได้,อนาถสุดคือนรกภูมิโน้น.
    ..ปัจจุบันนี้ เรื่องthe matrixอาจกำลังสื่อว่า อนาคตยุคrobotและAIมาแน่,และใครควบคุมมันนั้นสำคัญที่สุด,เราพร้อมรับมือมันในสงครามปลดปล่อยมนุษย์ชาตินี้พร้อมแค่ไหนพร้อมพอหรือยัง.,มีสักกี่คนที่พร้อมจะเป็นแบบนีโอบนโลกThe matrixหรือทาสระบบมันทั้งหมด.

    ..https://youtu.be/hu4rl3m8WFA?si=gM6WOdvHNLB7gJwg
    ..เอไออย่างไรก็สู้มนุษย์ผู้บรรลุธรรมจักรวาลไม่ได้หรอก,หรือระบบmatrixคือโลกที่ผู้คนลงมาทดสอบจิตวิญญาณใครมันเท่านั้นเพื่ออัพเกรดสู่การบรรลุธรรมออกไปอย่างเด็ดขาดจากระบบmatrix ,ไม่ย้อนกลับมาในระบบตลอดกาล,จะมาในมุกmatrixซ้อนmatrixก็ตาม,สรุปเรื่องthe matrixเป็นการนำเสนอเพื่อเตือนชาวโลกว่า หนทางออกจากmatrixโลกสมมุตินี้มีอยู่จริง,ส่วนตรรกะองค์รู้ต่างๆเลอะเทอะเป็นอจินไตยต่อผู้ดูมากเกินไปไม่มีประโยชน์จึงตัดทิ้ง,หมายบอกผ่านสื่อทางลัดว่า มีหนทางมีทางเลือก อนาคตมนุษย์จะสู่กับปัญญาประดิษฐ์นัันเองและมันจะควบคุมมนุษย์และหลายๆจักรวาลแต่สุดท้ายก็แพ้มนุษย์ในตอนสุดท้าย,หรือผู้ปลดปล่อยนั้นๆจะดึงเขาใครเขามันต่อไปเฉพาะใครมันไม่ได้อีกต่อไปเมื่อหนทางแห่งธรรมแห่งมรรคบรรลุเข้าถึงแห่งเขาเองในปัจเจกบุคคลคนนั้นๆทั่วโลก,มิใช่ไปอยู่ใต้ดินผีบ้าแบบในหนังหรอก,ผู้สร้างพยายามสื่อให้เข้าใจพื้นฐานปฐมบทต้นเรื่องต้นทางแค่นั้น,ใครอยากอิ่มก็กินเองทำเองใครมันหรือเลือกเอง,หนังเรื่องนีั หลายกูรูบอกว่าคนฝ่ายแสงดลใจดลจิตให้มันถูกสร้างขึ้นและฝ่ายแสงลงมาสร้างเองเพื่อชี้ทางให้คนชาวโลกสไตล์ทางกายหยาบวัตถุธาตุของยุคก็ว่า,แต่ทางคนไทยสายพุทธคงเข้าใจง่ายดายได้,แต่แบบพวกอื่นๆเช่นฝรั่งคนตะวันตกยากจะเข้าใจสายแบบพุทธทางจิตวิญญาณ,ไปทางเทคโนโลยีจึงสอนผ่านหนังตามยุควัตถุยุคเทคโนโลยีเขาด้วยก็ว่า, ..เสมือนหนังเรื่องนีับอกว่า ที่ช่วยได้ปลดปล่อยได้ก็ตามแต่ละยุคสมัยนั้นๆ ยังมีอีกมากมายที่ยังอยู่ในโลกสมมุติmatrixนั้นๆก็ว่า,ก็เหมือนสมมุติเหมือนโลกเหมือนจักรวาลเล็ก จักรวาลกลาง มหาจักรวาลนั้นล่ะ matrixสับเซ็ตmatrix,matrixซ้อนmatrixและซ้อนๆเข้าๆไปอีกในแต่ละจักรวาลต่างๆ สมมุติในตลอดทั่วอนันตจักรวาล,แต่ปัจจุบันนะกาลจะอยู่โลกmatrixไหนๆจักรวาลใดๆหากดีดบรรุธรรมตนเองได้หรืออรหันต์ก็หลุดออกขาดสิ้นในทุกๆจักรวาลหรือกลายเป็นผู้ปลดปล่อยคนต่อไปหากท่านเมตตาชี้ทางสั่งสอนบอกหนทางออกหรือให้ต้องลงมือทำก็ว่า. ..The matrixมีนัยยะมากมายจริงๆแต่แค่ขี้เล็บค่าจริงในองค์รู้ทางพุทธศาสนา,อย่าลืมว่าแม้ต่างดาวมากมายทั่วจักรวาล มิติสูงขนาดไหน เขารับรองว่ามนุษย์สมบัตินี้เป็นสถานะที่พร้อมในทุกๆประการจะออกจากmatrixแบบสิ้นเชิงหรือกลับมาเล่นวนซ้ำก็ได้เสมอหากสามารถเหนือระบบmatrixระดับดีก็อยู่ในโลกสมมุตินี้สะดวกสบายหน่อย,หากระดับไม่ดี จิตใจไม่แน่จริงอาจติดกับดักกระทั่งหลุดเรเวลเดิมที่ดีของตนได้ เช่นสายพุทธะคือนรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัจฉาน ,มนุษย์สมบัติอาจถูกระบบmatrixก่อกวนจนตกชั้นตกเรเวลได้,อนาถสุดคือนรกภูมิโน้น. ..ปัจจุบันนี้ เรื่องthe matrixอาจกำลังสื่อว่า อนาคตยุคrobotและAIมาแน่,และใครควบคุมมันนั้นสำคัญที่สุด,เราพร้อมรับมือมันในสงครามปลดปล่อยมนุษย์ชาตินี้พร้อมแค่ไหนพร้อมพอหรือยัง.,มีสักกี่คนที่พร้อมจะเป็นแบบนีโอบนโลกThe matrixหรือทาสระบบมันทั้งหมด. ..https://youtu.be/hu4rl3m8WFA?si=gM6WOdvHNLB7gJwg
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • ค่ำมาแล้ว ชีวิตก็ฝึกฝนจิตไป พุทโธ สวดมนต์ ภาวนาไป ห้ามหยุด ศรัทธาในพระพุทธศาสนา..ตั้งใจทำไป
    ค่ำมาแล้ว ชีวิตก็ฝึกฝนจิตไป พุทโธ สวดมนต์ ภาวนาไป ห้ามหยุด ศรัทธาในพระพุทธศาสนา..ตั้งใจทำไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระพุทธเจ้าสอนหลักธรรมว่าด้วยเหตุปัจจัย ซี่งเป็นเรื่องของความเป็นไปสืบต่อเนื่องกัน ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เมื่อเราพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ว่ามีเหตุปัจจัยอย่างไร เราก็ต้องสืบสาวย้อนหลังไปในอดีต นี่ก็แสดงชัดว่าคำสอนในพระพุทธศาสนาว่าด้วยเหตุปัจจัยนั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอดีตด้วย

    อีกด้านหนึ่ง พระพุทธเจ้าทรงสอนหลักธรรมเรื่องความไม่ประมาท ความไม่ประมาทนั้นเป็นเรื่องของการที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับอนาคต และความไม่ประมาทนี้เป็นหลักธรรมที่สำคัญมากในพระพุทธศาสนา
    พระพุทธเจ้าสอนหลักธรรมว่าด้วยเหตุปัจจัย ซี่งเป็นเรื่องของความเป็นไปสืบต่อเนื่องกัน ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เมื่อเราพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ว่ามีเหตุปัจจัยอย่างไร เราก็ต้องสืบสาวย้อนหลังไปในอดีต นี่ก็แสดงชัดว่าคำสอนในพระพุทธศาสนาว่าด้วยเหตุปัจจัยนั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอดีตด้วย อีกด้านหนึ่ง พระพุทธเจ้าทรงสอนหลักธรรมเรื่องความไม่ประมาท ความไม่ประมาทนั้นเป็นเรื่องของการที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับอนาคต และความไม่ประมาทนี้เป็นหลักธรรมที่สำคัญมากในพระพุทธศาสนา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประวัติที่มาของ "เส้นทางสายไหม" (Silk Road)

    เส้นทางสายไหมคือเครือข่ายเส้นทางการค้าที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ เชื่อมระหว่าง จีน กับ เอเชียกลาง ตะวันออกกลาง จนถึงยุโรป โดยเริ่มต้นราว ศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสต์ศักราช ในยุคราชวงศ์ฮั่น

    จุดประสงค์หลักคือการ แลกเปลี่ยนสินค้า เช่น
    * ผ้าไหมจีน (ที่เป็นที่มาของชื่อ “Silk Road”)
    * เครื่องเทศ
    * หยก
    * เครื่องปั้นดินเผา
    * ผลิตภัณฑ์จากตะวันตก เช่น ทองคำ แก้วไวน์ และอัญมณี

    นอกจากการค้า ยังเป็นเส้นทางของ
    * การแลกเปลี่ยน วัฒนธรรม
    * ศาสนา (เช่น พุทธศาสนาเผยแพร่สู่จีนจากอินเดียผ่านเส้นนี้)
    * เทคโนโลยี และแนวคิดต่างๆ

    เส้นทางนี้ไม่ใช่เพียงสายเดียว แต่เป็นเครือข่ายที่ผ่านเมืองสำคัญอย่าง
    * หลานโจว (จุดเริ่มต้นในจีน)
    * จางเย่ (จุดสำคัญของกองคาราวาน)
    * ตุนหวง (เมืองโอเอซิสริมทะเลทรายที่มีถ้ำโม่เกาคู่กับพระพุทธศาสนา)
    * ถูหลู่ฟาน และ อูรุมฉี (ใจกลางซินเจียงที่เชื่อมต่อเอเชียกลาง)

    ปัจจุบัน “เส้นทางสายไหม” กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งในโครงการ Belt and Road Initiative ของจีน ที่รื้อฟื้นการเชื่อมโยงเศรษฐกิจระดับภูมิภาค

    #เส้นทางสายไหม #ประวัติศาสตร์จีน #SilkRoad #วัฒนธรรมเอเชีย #เมืองโบราณจีน #BeltAndRoadInitiative


    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    🧭 ประวัติที่มาของ "เส้นทางสายไหม" (Silk Road) เส้นทางสายไหมคือเครือข่ายเส้นทางการค้าที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ เชื่อมระหว่าง จีน กับ เอเชียกลาง ตะวันออกกลาง จนถึงยุโรป โดยเริ่มต้นราว ศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสต์ศักราช ในยุคราชวงศ์ฮั่น 🌏 จุดประสงค์หลักคือการ แลกเปลี่ยนสินค้า เช่น * ผ้าไหมจีน (ที่เป็นที่มาของชื่อ “Silk Road”) * เครื่องเทศ * หยก * เครื่องปั้นดินเผา * ผลิตภัณฑ์จากตะวันตก เช่น ทองคำ แก้วไวน์ และอัญมณี 🕌 นอกจากการค้า ยังเป็นเส้นทางของ * การแลกเปลี่ยน วัฒนธรรม * ศาสนา (เช่น พุทธศาสนาเผยแพร่สู่จีนจากอินเดียผ่านเส้นนี้) * เทคโนโลยี และแนวคิดต่างๆ 🚶‍♂️ เส้นทางนี้ไม่ใช่เพียงสายเดียว แต่เป็นเครือข่ายที่ผ่านเมืองสำคัญอย่าง * หลานโจว (จุดเริ่มต้นในจีน) * จางเย่ (จุดสำคัญของกองคาราวาน) * ตุนหวง (เมืองโอเอซิสริมทะเลทรายที่มีถ้ำโม่เกาคู่กับพระพุทธศาสนา) * ถูหลู่ฟาน และ อูรุมฉี (ใจกลางซินเจียงที่เชื่อมต่อเอเชียกลาง) ✨ ปัจจุบัน “เส้นทางสายไหม” กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งในโครงการ Belt and Road Initiative ของจีน ที่รื้อฟื้นการเชื่อมโยงเศรษฐกิจระดับภูมิภาค #เส้นทางสายไหม #ประวัติศาสตร์จีน #SilkRoad #วัฒนธรรมเอเชีย #เมืองโบราณจีน #BeltAndRoadInitiative LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 403 มุมมอง 0 รีวิว
  • คาถาเบิกบุญ คืออะไร
    ในความเชื่อโบราณ คาถาเบิกบุญเป็นพระคาถาเรียกทรัพย์ เรียกบุญกุศลที่คุณได้สั่งสมเอาไว้ในอดีตให้มาส่งผลในปัจจุบัน หรือเรียกง่ายๆ ว่านำบุญเก่ามาใช้ในชาตินี้ ซึ่งถ้าคุณกำลังสงสัยว่าการนำบุญเก่ามาใช้นั้นทำได้จริงไหม ในทางพุทธศาสนาจะเชื่อกันว่าบุญกุศลที่เราทำไว้ไม่ว่าจะชาตินี้หรือชาติที่แล้วย่อมส่งผลแน่นอน แต่เวลาและวิธีการที่บุญจะส่งผลมาถึงคุณนั้นขึ้นอยู่กับหลายๆ สิ่ง ซึ่งการเมื่อคุณสวดคาถาสวดแล้วรวยทันตาเห็น บางครั้งอาจเห็นผลในทันที แต่ในบางครั้งอาจต้องรอโดยไม่มีกำหนด

    คาถาเบิกบุญ สวดยังไง
    ก่อนจะเริ่มสวด สิ่งแรกที่คุณควรจะทำคือการทำสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ หลังจากนั้นให้ท่องนะโม 3 จบ และต่อด้วยการสวดคาถาเบิกบุญ ดังนี้

    วิ สัตติ ตะถา คะโต วิ สัตติ

    อะวะ ธาระนะ วิ สัตติ ภิกขุ

    อาคะจัจฉามิ โหมิ กัตตะวา

    อภิสัมปาโย อาเนหิ ปะริ ตะระ

    อัมหะ ปัสสะ วะติ อะธิปัจจะ

    ปายะ จะ นิรัน ตะระ ฯ
    คาถาเบิกบุญ คืออะไร ในความเชื่อโบราณ คาถาเบิกบุญเป็นพระคาถาเรียกทรัพย์ เรียกบุญกุศลที่คุณได้สั่งสมเอาไว้ในอดีตให้มาส่งผลในปัจจุบัน หรือเรียกง่ายๆ ว่านำบุญเก่ามาใช้ในชาตินี้ ซึ่งถ้าคุณกำลังสงสัยว่าการนำบุญเก่ามาใช้นั้นทำได้จริงไหม ในทางพุทธศาสนาจะเชื่อกันว่าบุญกุศลที่เราทำไว้ไม่ว่าจะชาตินี้หรือชาติที่แล้วย่อมส่งผลแน่นอน แต่เวลาและวิธีการที่บุญจะส่งผลมาถึงคุณนั้นขึ้นอยู่กับหลายๆ สิ่ง ซึ่งการเมื่อคุณสวดคาถาสวดแล้วรวยทันตาเห็น บางครั้งอาจเห็นผลในทันที แต่ในบางครั้งอาจต้องรอโดยไม่มีกำหนด คาถาเบิกบุญ สวดยังไง ก่อนจะเริ่มสวด สิ่งแรกที่คุณควรจะทำคือการทำสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ หลังจากนั้นให้ท่องนะโม 3 จบ และต่อด้วยการสวดคาถาเบิกบุญ ดังนี้ วิ สัตติ ตะถา คะโต วิ สัตติ อะวะ ธาระนะ วิ สัตติ ภิกขุ อาคะจัจฉามิ โหมิ กัตตะวา อภิสัมปาโย อาเนหิ ปะริ ตะระ อัมหะ ปัสสะ วะติ อะธิปัจจะ ปายะ จะ นิรัน ตะระ ฯ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประกาศสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช
    เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จโดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส
    ด้วย ปรากฏว่าได้มีการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ โดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส
    สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จึงขอแจ้งให้ทราบดังนี้
    เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ไม่เคยมีพระดำรัสด้วยถ้อยคำในลักษณะบริภาษตามที่ปรากฏในสื่อ แต่โปรดมีรับสั่งกำชับเนือง ๆ ในเรื่องการบริจาคทาน การถวายจตุปัจจัยอันควรแก่สมณบริโภค และการปวารณาเป็นอุปัฏฐากพระภิกษุจำเพาะรายด้วยปัจจัยสี่ ให้กระทำตามหลักพระธรรมวินัย ด้วยการปวารณา และการมีไวยาวัจกร จึงขอสาธารณชนอย่าหลงเชื่อถ้อยคำอันถูกแต่งเติม และขออย่าได้ส่งต่อ อันเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกตำหนิโทษกันในหมู่พุทธบริษัท
    อนึ่ง เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดมีพระลิขิตที่ สร. ๑๕/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ประทานพระปรารภไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้กราบทูลเสนอหลักการและแนวนโยบายสำหรับการจัดการศาสนสมบัติวัด อย่างสมสมัยและสถานการณ์ ตามหลักพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์ เพื่อนำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณากำหนดนโยบายคณะสงฆ์ และวางมาตรการปฏิบัติ ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ดำเนินการสนองพระปรารภแล้ว และจะได้มอบถวายมหาเถรสมาคมพิจารณาโดยถี่ถ้วนต่อไป
    ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘
    https://web.facebook.com/share/p/1CLyNELDiP/
    ประกาศสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จโดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส ด้วย ปรากฏว่าได้มีการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ โดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จึงขอแจ้งให้ทราบดังนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ไม่เคยมีพระดำรัสด้วยถ้อยคำในลักษณะบริภาษตามที่ปรากฏในสื่อ แต่โปรดมีรับสั่งกำชับเนือง ๆ ในเรื่องการบริจาคทาน การถวายจตุปัจจัยอันควรแก่สมณบริโภค และการปวารณาเป็นอุปัฏฐากพระภิกษุจำเพาะรายด้วยปัจจัยสี่ ให้กระทำตามหลักพระธรรมวินัย ด้วยการปวารณา และการมีไวยาวัจกร จึงขอสาธารณชนอย่าหลงเชื่อถ้อยคำอันถูกแต่งเติม และขออย่าได้ส่งต่อ อันเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกตำหนิโทษกันในหมู่พุทธบริษัท อนึ่ง เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดมีพระลิขิตที่ สร. ๑๕/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ประทานพระปรารภไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้กราบทูลเสนอหลักการและแนวนโยบายสำหรับการจัดการศาสนสมบัติวัด อย่างสมสมัยและสถานการณ์ ตามหลักพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์ เพื่อนำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณากำหนดนโยบายคณะสงฆ์ และวางมาตรการปฏิบัติ ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ดำเนินการสนองพระปรารภแล้ว และจะได้มอบถวายมหาเถรสมาคมพิจารณาโดยถี่ถ้วนต่อไป ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ https://web.facebook.com/share/p/1CLyNELDiP/
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประกาศสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช
    เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จโดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส
    ด้วย ปรากฏว่าได้มีการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ โดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส
    สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จึงขอแจ้งให้ทราบดังนี้
    เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ไม่เคยมีพระดำรัสด้วยถ้อยคำในลักษณะบริภาษตามที่ปรากฏในสื่อ แต่โปรดมีรับสั่งกำชับเนือง ๆ ในเรื่องการบริจาคทาน การถวายจตุปัจจัยอันควรแก่สมณบริโภค และการปวารณาเป็นอุปัฏฐากพระภิกษุจำเพาะรายด้วยปัจจัยสี่ ให้กระทำตามหลักพระธรรมวินัย ด้วยการปวารณา และการมีไวยาวัจกร จึงขอสาธารณชนอย่าหลงเชื่อถ้อยคำอันถูกแต่งเติม และขออย่าได้ส่งต่อ อันเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกตำหนิโทษกันในหมู่พุทธบริษัท
    อนึ่ง เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดมีพระลิขิตที่ สร. ๑๕/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ประทานพระปรารภไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้กราบทูลเสนอหลักการและแนวนโยบายสำหรับการจัดการศาสนสมบัติวัด อย่างสมสมัยและสถานการณ์ ตามหลักพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์ เพื่อนำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณากำหนดนโยบายคณะสงฆ์ และวางมาตรการปฏิบัติ ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ดำเนินการสนองพระปรารภแล้ว และจะได้มอบถวายมหาเถรสมาคมพิจารณาโดยถี่ถ้วนต่อไป
    ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘
    https://web.facebook.com/share/p/1CLyNELDiP/
    ประกาศสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จโดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส ด้วย ปรากฏว่าได้มีการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ โดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จึงขอแจ้งให้ทราบดังนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ไม่เคยมีพระดำรัสด้วยถ้อยคำในลักษณะบริภาษตามที่ปรากฏในสื่อ แต่โปรดมีรับสั่งกำชับเนือง ๆ ในเรื่องการบริจาคทาน การถวายจตุปัจจัยอันควรแก่สมณบริโภค และการปวารณาเป็นอุปัฏฐากพระภิกษุจำเพาะรายด้วยปัจจัยสี่ ให้กระทำตามหลักพระธรรมวินัย ด้วยการปวารณา และการมีไวยาวัจกร จึงขอสาธารณชนอย่าหลงเชื่อถ้อยคำอันถูกแต่งเติม และขออย่าได้ส่งต่อ อันเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกตำหนิโทษกันในหมู่พุทธบริษัท อนึ่ง เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดมีพระลิขิตที่ สร. ๑๕/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ประทานพระปรารภไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้กราบทูลเสนอหลักการและแนวนโยบายสำหรับการจัดการศาสนสมบัติวัด อย่างสมสมัยและสถานการณ์ ตามหลักพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์ เพื่อนำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณากำหนดนโยบายคณะสงฆ์ และวางมาตรการปฏิบัติ ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ดำเนินการสนองพระปรารภแล้ว และจะได้มอบถวายมหาเถรสมาคมพิจารณาโดยถี่ถ้วนต่อไป ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ https://web.facebook.com/share/p/1CLyNELDiP/
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 209 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประกาศสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช
    เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จโดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส
    ด้วย ปรากฏว่าได้มีการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ โดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส
    สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จึงขอแจ้งให้ทราบดังนี้
    เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ไม่เคยมีพระดำรัสด้วยถ้อยคำในลักษณะบริภาษตามที่ปรากฏในสื่อ แต่โปรดมีรับสั่งกำชับเนือง ๆ ในเรื่องการบริจาคทาน การถวายจตุปัจจัยอันควรแก่สมณบริโภค และการปวารณาเป็นอุปัฏฐากพระภิกษุจำเพาะรายด้วยปัจจัยสี่ ให้กระทำตามหลักพระธรรมวินัย ด้วยการปวารณา และการมีไวยาวัจกร จึงขอสาธารณชนอย่าหลงเชื่อถ้อยคำอันถูกแต่งเติม และขออย่าได้ส่งต่อ อันเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกตำหนิโทษกันในหมู่พุทธบริษัท
    อนึ่ง เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดมีพระลิขิตที่ สร. ๑๕/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ประทานพระปรารภไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้กราบทูลเสนอหลักการและแนวนโยบายสำหรับการจัดการศาสนสมบัติวัด อย่างสมสมัยและสถานการณ์ ตามหลักพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์ เพื่อนำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณากำหนดนโยบายคณะสงฆ์ และวางมาตรการปฏิบัติ ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ดำเนินการสนองพระปรารภแล้ว และจะได้มอบถวายมหาเถรสมาคมพิจารณาโดยถี่ถ้วนต่อไป
    ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘
    https://web.facebook.com/share/p/1CLyNELDiP/
    ประกาศสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จโดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส ด้วย ปรากฏว่าได้มีการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ โดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จึงขอแจ้งให้ทราบดังนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ไม่เคยมีพระดำรัสด้วยถ้อยคำในลักษณะบริภาษตามที่ปรากฏในสื่อ แต่โปรดมีรับสั่งกำชับเนือง ๆ ในเรื่องการบริจาคทาน การถวายจตุปัจจัยอันควรแก่สมณบริโภค และการปวารณาเป็นอุปัฏฐากพระภิกษุจำเพาะรายด้วยปัจจัยสี่ ให้กระทำตามหลักพระธรรมวินัย ด้วยการปวารณา และการมีไวยาวัจกร จึงขอสาธารณชนอย่าหลงเชื่อถ้อยคำอันถูกแต่งเติม และขออย่าได้ส่งต่อ อันเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกตำหนิโทษกันในหมู่พุทธบริษัท อนึ่ง เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดมีพระลิขิตที่ สร. ๑๕/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ประทานพระปรารภไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้กราบทูลเสนอหลักการและแนวนโยบายสำหรับการจัดการศาสนสมบัติวัด อย่างสมสมัยและสถานการณ์ ตามหลักพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์ เพื่อนำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณากำหนดนโยบายคณะสงฆ์ และวางมาตรการปฏิบัติ ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ดำเนินการสนองพระปรารภแล้ว และจะได้มอบถวายมหาเถรสมาคมพิจารณาโดยถี่ถ้วนต่อไป ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ https://web.facebook.com/share/p/1CLyNELDiP/
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฉลองพระองค์ไทยอมรินทร์ ผ้าไหมพื้นเรียบปักลูกปัด
    พระภูษาผ้าไหมยกดอก ลายกลีบบงกช

    ภูฏานเป็นเพียงประเทศเดียวในโลกที่ยอมรับนับถือพุทธศาสนามหายานแบบตันตระ เป็นศาสนาประจำชาติอย่างเป็นทางการ นิกายตันตรยานหรือวัชรยานถือกำเนิดขึ้นในช่วงสุดท้ายของพัฒนาการอันยาวนานของพุทธศาสนา พุทธศาสนาตันตรายานสูญหายไปจากอินเดียซึ่งเป็นดินแดนต้นกำเนิดในช่วงที่พวกมุสลิมยกมารุกรานในต้นศตวรรษที่ ๑๓ และไปรุ่งเรืองอยู่ในทิเบต ลาดัคห์ สิกขิม มองโกเลีย ภาคเหนือของเนปาล ภูฏาน จีน และญี่ปุ่นแทน

    สิ่งที่ชาวภูฏานถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความมงคล ๘ ประการ ของชีวิตตามความเชื่อและความศรัทธา ซึ่งสิ่งเหล่านี้มักจะปรากฎเป็นรูปเคารพตามโบราณสถาน ตลอดจนในบ้านเรือน ของผู้นับถือพุทธศาสนามหายานแบบตันตระ หนึ่งสิ่งนั้นคือ ปัทมะ

    ปัทมะ หรือ ดอกบัว (Lotus หรือ meto pema) ดอกบัวมีความหมายเหมือนสังข์ขาว ดอกบัวถือเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า ดังพุทธวัจนะที่ว่า “ดอกบัวเกิดแต่โคลนตมในนน้ำ แต่ไม่เปียกน้ำ พระพุทธเจ้าก็เช่นกัน เกิดในโลก แต่ไม่เปรอะเปื้อนด้วยมลทินของโลกฉันนั้น”
    -------
    HER ROYAL ATTIRE IN THAI AMARIN
    EMBROIDERED BEADS LUMPHUN BROCADE SILK
    PETALS OF LOTUS MOTIF

    Bhutan is the only country in the world to accept Tantric Mahayana Buddhism as its official state religion. Tantric or Vajrayana Buddhism emerged at the end of a long development of Buddhism. Tantric Buddhism disappeared from its homeland of India during the Muslim invasions in the early 13th century and flourished instead in Tibet, Ladakh, Sikkim, Mongolia, northern Nepal, Bhutan, China and Japan.

    The Bhutanese believe in the Eight Auspicious Symbols of Life, which are often depicted in ancient monuments and in the homes of Tantric Mahayana Buddhists. One of these is the Padma.

    The Padma or Lotus (meto pema) is like a white conch shell. The lotus is considered to represent the Buddha, as the Buddha said: “A lotus flower is born from the mud in the water, but it is not wet with water. Similarly, the Buddha was born in the world, but it was not stained by the world’s impurities.”
    _________________________________
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    ฉลองพระองค์ไทยอมรินทร์ ผ้าไหมพื้นเรียบปักลูกปัด พระภูษาผ้าไหมยกดอก ลายกลีบบงกช ภูฏานเป็นเพียงประเทศเดียวในโลกที่ยอมรับนับถือพุทธศาสนามหายานแบบตันตระ เป็นศาสนาประจำชาติอย่างเป็นทางการ นิกายตันตรยานหรือวัชรยานถือกำเนิดขึ้นในช่วงสุดท้ายของพัฒนาการอันยาวนานของพุทธศาสนา พุทธศาสนาตันตรายานสูญหายไปจากอินเดียซึ่งเป็นดินแดนต้นกำเนิดในช่วงที่พวกมุสลิมยกมารุกรานในต้นศตวรรษที่ ๑๓ และไปรุ่งเรืองอยู่ในทิเบต ลาดัคห์ สิกขิม มองโกเลีย ภาคเหนือของเนปาล ภูฏาน จีน และญี่ปุ่นแทน สิ่งที่ชาวภูฏานถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความมงคล ๘ ประการ ของชีวิตตามความเชื่อและความศรัทธา ซึ่งสิ่งเหล่านี้มักจะปรากฎเป็นรูปเคารพตามโบราณสถาน ตลอดจนในบ้านเรือน ของผู้นับถือพุทธศาสนามหายานแบบตันตระ หนึ่งสิ่งนั้นคือ ปัทมะ ปัทมะ หรือ ดอกบัว (Lotus หรือ meto pema) ดอกบัวมีความหมายเหมือนสังข์ขาว ดอกบัวถือเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า ดังพุทธวัจนะที่ว่า “ดอกบัวเกิดแต่โคลนตมในนน้ำ แต่ไม่เปียกน้ำ พระพุทธเจ้าก็เช่นกัน เกิดในโลก แต่ไม่เปรอะเปื้อนด้วยมลทินของโลกฉันนั้น” ------- HER ROYAL ATTIRE IN THAI AMARIN EMBROIDERED BEADS LUMPHUN BROCADE SILK PETALS OF LOTUS MOTIF Bhutan is the only country in the world to accept Tantric Mahayana Buddhism as its official state religion. Tantric or Vajrayana Buddhism emerged at the end of a long development of Buddhism. Tantric Buddhism disappeared from its homeland of India during the Muslim invasions in the early 13th century and flourished instead in Tibet, Ladakh, Sikkim, Mongolia, northern Nepal, Bhutan, China and Japan. The Bhutanese believe in the Eight Auspicious Symbols of Life, which are often depicted in ancient monuments and in the homes of Tantric Mahayana Buddhists. One of these is the Padma. The Padma or Lotus (meto pema) is like a white conch shell. The lotus is considered to represent the Buddha, as the Buddha said: “A lotus flower is born from the mud in the water, but it is not wet with water. Similarly, the Buddha was born in the world, but it was not stained by the world’s impurities.” _________________________________ #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 607 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุปทาน ในพระพุทธศาสนา หมายถึง ความยึดมั่น เป็นอุปาทาน มี กามุปาทาน (ความติดข้อง) ๑ อัตตวาทุปาทาน (ความยึดถือว่าเป็นตัวตน) ๑ โดยสภาพธรรมของอุปาทาน ได้แก่ โลภะ และ ทิฏฐิ ทั้งโลภะและทิฏฐิ
    อุปทาน ในพระพุทธศาสนา หมายถึง ความยึดมั่น เป็นอุปาทาน มี กามุปาทาน (ความติดข้อง) ๑ อัตตวาทุปาทาน (ความยึดถือว่าเป็นตัวตน) ๑ โดยสภาพธรรมของอุปาทาน ได้แก่ โลภะ และ ทิฏฐิ ทั้งโลภะและทิฏฐิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ใช้หลักธรรมะ” สานต่อพลังธรรม รุ่น 3

    วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่ สถานปฏิบัติธรรมบ้านธรรมะชาติ อ.วังน้ำเขียว #นายวีระชาติ ทุ่งไผ่แหลม รองนายก อบจ.นครราชสีมา เป็นประธานเปิดการอบรมพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมเพื่อคุณภาพการปฏิบัติงานและคุณภาพชีวิตบุคลากรในสังกัด รุ่นที่ 3 เพื่อส่งเสริมและพัฒนาบุคลากร อบจ. นำหลักธรรมคำสอน ตามหลักพุทธศาสนาไปสู่การปฏิบัติตนที่ถูกต้อง สามารถปรับใช้ในการปฏิบัติงาน พัฒนาจิตใจด้านคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์

    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    “ใช้หลักธรรมะ” สานต่อพลังธรรม รุ่น 3 วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่ สถานปฏิบัติธรรมบ้านธรรมะชาติ อ.วังน้ำเขียว #นายวีระชาติ ทุ่งไผ่แหลม รองนายก อบจ.นครราชสีมา เป็นประธานเปิดการอบรมพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมเพื่อคุณภาพการปฏิบัติงานและคุณภาพชีวิตบุคลากรในสังกัด รุ่นที่ 3 เพื่อส่งเสริมและพัฒนาบุคลากร อบจ. นำหลักธรรมคำสอน ตามหลักพุทธศาสนาไปสู่การปฏิบัติตนที่ถูกต้อง สามารถปรับใช้ในการปฏิบัติงาน พัฒนาจิตใจด้านคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์ #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 337 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศีลธรรมต่ำทราม 'ทิดแย้ม' ผ้าเหลืองเสื่อม สั่นคลอนพุทธศาสนา : ถอนหมุดข่าว 19/05/68
    ศีลธรรมต่ำทราม 'ทิดแย้ม' ผ้าเหลืองเสื่อม สั่นคลอนพุทธศาสนา : ถอนหมุดข่าว 19/05/68
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 1 0 รีวิว
Pages Boosts