• ความไม่สงบชายแดนใต้ ปัญหาที่คอยตบหน้ารัฐบาลไม่มีวันจบ
    นับจากเหตุการณ์ปล้นปืนในปี 2547อันเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นเหตุการณ์ความไม่สงบ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จวบจนวันนี้เป็นเวลากว่า 20ปี ที่ผ่านมา ที่รัฐบาลไทยภายใต้การบริหารของรัฐบาล 10 ชุด นายกรัฐมนตรี 8 คนไม่สามารถแก้ไขปัญหาความรุนแรงได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
    ตัวเลขของผู้เสียชีวิต มีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งไทยพุทธ และมุสลิมเสียชีวิตมากกว่าเจ็ดพันคน บาดเจ็บและพิการทุพพลภาพมากกว่า2พัน คนใช้งบประมาณในการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องรวมกันแล้วมากกว่า 3.13แสนล้านบาท
    ล่าสุดหลังผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่ไปได้สัปดาห์เดียว 14 มกราคม 68โจรใต้ได้ก่อเหตุวางระเบิดและยิงซ้ําเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นครูโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนเสียชีวิตอีก 2 นายที่จังหวัดนราธิวาส สิ่งที่สร้างความสะเทือนใจจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็คือผู้เสียชีวิตทั้ง2 นายเป็นพ่อลูกทําหน้าที่ครูโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนในพื้นที่บ้านไอกึนเนาะ จังหวัดนราธิวาส โดยผู้เป็นพ่อคือพันตํารวจโทสุวิทย์ ช่วยเทวฤทธิ์อายุ 56 ปีเป็นครูใหญ่ของโรงเรียน ส่วนลูกชายคือดาบตํารวจโดมช่วยเทวฤทธิ์ อายุ 35ปี เป็นครูอาสาโรงเรียนเดียวกัน
    ครูสุวิทย์เคยเปิดใจให้สัมภาษณ์ว่าผมตั้งใจไว้ตั้งแต่เด็กสักวันจะเป็นครูอยากช่วยเหลือเด็กในพื้นที่ที่ทุรกันดารจึงเข้ามาเป็นครู โดยได้สิทธิสอบบรรจุ ครูคุรุทายาทเมื่อได้จึงเลือกที่จะทํางานในพื้นที่ของจังหวัดนราธิวาสที่ใครๆก็ไม่อยากมาแต่ผมกลับมองว่าเป็นโอกาสดี
    ที่จะได้ทํางานสนองงานพระราชดําริทุกพระองค์ได้อย่างเต็มที่ การสูญเสียวีรบุรุษครูตํารวจตระเวนชายแดนครั้งนี้ไม่ต่างอะไรกับการเย้ยหยันตบหน้ารัฐบาลไทยว่ารัฐไทยหมดน้ํายาแพ้พ่ายโจรก่อการร้ายชายแดนใต้ตลอดกาล งส์โพธิ์ดำขอไว้อาลัยแก่ครูผู้เสียสละจากเหตุการณ์ความไม่สงบในชายแดนใต้ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ความไม่สงบชายแดนใต้ ปัญหาที่คอยตบหน้ารัฐบาลไม่มีวันจบ นับจากเหตุการณ์ปล้นปืนในปี 2547อันเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นเหตุการณ์ความไม่สงบ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จวบจนวันนี้เป็นเวลากว่า 20ปี ที่ผ่านมา ที่รัฐบาลไทยภายใต้การบริหารของรัฐบาล 10 ชุด นายกรัฐมนตรี 8 คนไม่สามารถแก้ไขปัญหาความรุนแรงได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ตัวเลขของผู้เสียชีวิต มีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งไทยพุทธ และมุสลิมเสียชีวิตมากกว่าเจ็ดพันคน บาดเจ็บและพิการทุพพลภาพมากกว่า2พัน คนใช้งบประมาณในการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องรวมกันแล้วมากกว่า 3.13แสนล้านบาท ล่าสุดหลังผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่ไปได้สัปดาห์เดียว 14 มกราคม 68โจรใต้ได้ก่อเหตุวางระเบิดและยิงซ้ําเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นครูโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนเสียชีวิตอีก 2 นายที่จังหวัดนราธิวาส สิ่งที่สร้างความสะเทือนใจจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็คือผู้เสียชีวิตทั้ง2 นายเป็นพ่อลูกทําหน้าที่ครูโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนในพื้นที่บ้านไอกึนเนาะ จังหวัดนราธิวาส โดยผู้เป็นพ่อคือพันตํารวจโทสุวิทย์ ช่วยเทวฤทธิ์อายุ 56 ปีเป็นครูใหญ่ของโรงเรียน ส่วนลูกชายคือดาบตํารวจโดมช่วยเทวฤทธิ์ อายุ 35ปี เป็นครูอาสาโรงเรียนเดียวกัน ครูสุวิทย์เคยเปิดใจให้สัมภาษณ์ว่าผมตั้งใจไว้ตั้งแต่เด็กสักวันจะเป็นครูอยากช่วยเหลือเด็กในพื้นที่ที่ทุรกันดารจึงเข้ามาเป็นครู โดยได้สิทธิสอบบรรจุ ครูคุรุทายาทเมื่อได้จึงเลือกที่จะทํางานในพื้นที่ของจังหวัดนราธิวาสที่ใครๆก็ไม่อยากมาแต่ผมกลับมองว่าเป็นโอกาสดี ที่จะได้ทํางานสนองงานพระราชดําริทุกพระองค์ได้อย่างเต็มที่ การสูญเสียวีรบุรุษครูตํารวจตระเวนชายแดนครั้งนี้ไม่ต่างอะไรกับการเย้ยหยันตบหน้ารัฐบาลไทยว่ารัฐไทยหมดน้ํายาแพ้พ่ายโจรก่อการร้ายชายแดนใต้ตลอดกาล งส์โพธิ์ดำขอไว้อาลัยแก่ครูผู้เสียสละจากเหตุการณ์ความไม่สงบในชายแดนใต้ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานข่าวออนไลนี้ 7 HD เมื่อ 6 มกราคม 2568 ระบุว่าอดีตที่ปรึกษา WHO แฉภาครัฐปกปิดตัวเลขตาย-เจ็บ ช่วงเทศกาลต่ำกว่าความเป็นจริง 10 เท่า เผยรายงานจาก สธ. บาดเจ็บกว่า 3 หมื่น ตาย 537 แต่รัฐแถลงแค่หลักพันตายกว่า 436 ราย มอร์เตอร์ไซค์ยังคงครองแชมป์เจ็บตายสูงสุด ขณะเด็กอายุต่ำกว่า 20 ดื่มแล้วขับร่วม 4,000 คน

    พญ.ชไมพันธุ์ สันติกาญจน์ อดีตที่ปรึกษาด้านป้องกันการบาดเจ็บและภาวะพิการประจำองค์การอนามัยโลกภาคพื้นเอเชียอาคเนย์ (Regional advisor WHO SEARO, Ret. ) และหัวหน้าโครงการขับเคลื่อนไทยปลอดจากภัยจักรยานยนต์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)และ มูลนิธิสถาบันศึกษานโยบายสาธารณะ (Public Policy Studies Institute Foundation เปิดเผยถึงการแถลงตัวเลขการบาดเจ็บและเสียชีวิตในช่วงเทศกาลปีใหม่ 10 วันอันตราย โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ว่า

    เห็นตัวเลขที่ทางราชการแถลงแล้ว รู้สึกได้ถึงความไม่ตรงไปตรงมาของภาครัฐในการที่จะแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนเพื่อลดการบาดเจ็บและเสียชีวิตของคนไทย ตัวเลขที่แถลงสรุปว่าอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 10 วันของการรณรงค์ (27 ธันวาคม 2567 – 5 มกราคม 2568) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,467 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 2,376 คน ผู้เสียชีวิต รวม 436 คน ซึ่งห่างจากตัวเลขที่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข ของ กระทรวงสาธารณสุขถึง 10 เท่า

    อดีตที่ปรึกษาด้านป้องกันการบาดเจ็บและภาวะพิการประจำองค์การอนามัยโลก ให้ข้อมูลว่า ตัวเลขการบาดเจ็บและเสียชีวิต ที่รายงานโดยกระทรวงสาธารณสุข เมื่อเวลา 07.20 น. วันที่ 6 มกราคม 2568 สรุปตัวเลขการบาดเจ็บและเสียชีวิตในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ระหว่าง 27ธ.ค.2567 – 5 ม.ค. 2568 จากทั่วประเทศ ว่า มีผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 31,572 ราย เสียชีวิต 537 ราย ใช้บริการการแพทย์ฉุกเฉินหรือ 16,026 ราย ผู้บาดเจ็บเข้ารักษาตัวในรพ. 8,347 ราย

    “เฉพาะตัวเลขคนเสียชีวิตก็ต่างกันถึง 101 ราย คนร้อยกว่าคนตายแต่ไม่มีรายงานตัวเลข แปลว่าอะไร ยิ่งตัวเลขการบาดเจ็บต่างกันหลักหมื่น ดิฉันจากเมืองไทยไปกว่า 20 ปี แต่ระบบการรายงานตัวเลขยังเป็นแบบเดิม ตั้งเป้าโดยใช้จำนวนตายมาวัดในหลายจังหวัดมีประวัติการแอบซ่อนจำนวนเคสมาตั้งแต่สมัยการตั้งเป้าไข้เลือดออกกับสาธารณสุขจังหวัด ซึ่งโดยหลักการการตั้งเป้าต้องมีเป้า input (งบประมาน) และ output ผลงานประกอบคู่กันด้วยเพื่อดูว่าทำจริงหรือแค่ซ่อนเคส ทั้ง ๆ ที่มีการตั้งจุดตรวจหลักถึง 1,768 จุด จัดชุดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานมากถึง 50,114 คน แต่ตัวเลขที่รายงานกับตกหล่นมากขนาดนี้ ” พญ.ชไมพันธุ์ กล่าว และว่า สาเหตุการบาดเจ็บและเสียชีวิต มาจากการดื่มแล้วขับถึง 4,798 ราย ในจำนวนนี้มีเด็กที่อายุน้อยกว่า 20 ปี ดื่มแล้วขับถึง 4,080 ราย

    “ดิฉันรู้สึกผิดหวังที่รัฐบาลที่แล้วต่อมาจนถึงรัฐบาลนี้ รวมทั้งพรรคฝ่ายค้านบางพรรคการเมือง ที่พยายามส่งสัญญาณ ถึงประชาชนเรื่องการลดภาษีไวน์ หรือการเปิดให้ดื่มเหล้าโดยไม่คุมเวลา ขยายเปิดผับถึงตีสี่ ขนาดยังไม่เต็มระบบก็เริ่มส่งสัญญาณถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่ใช่แค่เรื่องอุบัติเหตุ แต่เวลานี้ ทั้งเจ้าหน้าที่ ทั้งบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีหน้าที่ต้องดูแลคนเจ็บคนตายพากันร้องระงมว่าปัญหาเหล้าพุ่งสูงมาก สูงขนาดที่คนติดเหล้ามาผ่าไส้ติ่งแต่กลับอาละวาดในห้องฉุกเฉิน หอผู้ป่วย จนหวาดกลัวไปกันหมดทั้งคนไข้ทั้งเจ้าหน้าที่ รปภ. เป็น 10 ยังเอาไม่อยู่”อดีตที่ปรึกษาด้านป้องกันการบาดเจ็บและภาวะพิการประจำองค์การอนามัยโลก บอก

    พญ.ชไมพันธุ์ กล่าวว่า มีตัวเลขเดียวที่รัฐบาลพูดความจริงกับประชาชน นั่นก็คือ ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ยังคงเป็นรถจักรยานยนต์หรือมอร์เตอร์ไซค์ เป็นสัดส่วนสูงถึง 84.3 % .ในบางจังหวัดที่มีตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตจากรถจักรยานยนต์ 20 นาทีต่อ1 คน หมายถึงมีการตายชั่วโมงละ 3 คนในช่วงเทศกาล

    ทั้งนี้ ตนมองว่า การส่งสัญญาณจากภาครัฐในหลาย ๆ เรื่องเป็นสิ่งที่น่ากังวล อย่างเช่น รัฐบาลที่แล้วส่งสัญญาณและส่งเสริมเรื่องขับรถเร็วโดยเพิ่มความเร็วบนถนนแค่สี่ท่อนไม่ใช่ทั่วประเทศแต่ประกาศให้คนรู้สึกเหมือนกับเพิ่มความเร็วแล้วทั่วประเทศเป็น 120 ซึ่งไม่ถูกต้อง การสื่อสารของรัฐบาลล้มเหลวในแง่ที่จะสร้างความเข้าใจและตระหนักรู้ให้กับประชาชนโดยสิ้นเชิง
    รายงานข่าวออนไลนี้ 7 HD เมื่อ 6 มกราคม 2568 ระบุว่าอดีตที่ปรึกษา WHO แฉภาครัฐปกปิดตัวเลขตาย-เจ็บ ช่วงเทศกาลต่ำกว่าความเป็นจริง 10 เท่า เผยรายงานจาก สธ. บาดเจ็บกว่า 3 หมื่น ตาย 537 แต่รัฐแถลงแค่หลักพันตายกว่า 436 ราย มอร์เตอร์ไซค์ยังคงครองแชมป์เจ็บตายสูงสุด ขณะเด็กอายุต่ำกว่า 20 ดื่มแล้วขับร่วม 4,000 คน พญ.ชไมพันธุ์ สันติกาญจน์ อดีตที่ปรึกษาด้านป้องกันการบาดเจ็บและภาวะพิการประจำองค์การอนามัยโลกภาคพื้นเอเชียอาคเนย์ (Regional advisor WHO SEARO, Ret. ) และหัวหน้าโครงการขับเคลื่อนไทยปลอดจากภัยจักรยานยนต์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)และ มูลนิธิสถาบันศึกษานโยบายสาธารณะ (Public Policy Studies Institute Foundation เปิดเผยถึงการแถลงตัวเลขการบาดเจ็บและเสียชีวิตในช่วงเทศกาลปีใหม่ 10 วันอันตราย โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ว่า เห็นตัวเลขที่ทางราชการแถลงแล้ว รู้สึกได้ถึงความไม่ตรงไปตรงมาของภาครัฐในการที่จะแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนเพื่อลดการบาดเจ็บและเสียชีวิตของคนไทย ตัวเลขที่แถลงสรุปว่าอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 10 วันของการรณรงค์ (27 ธันวาคม 2567 – 5 มกราคม 2568) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,467 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 2,376 คน ผู้เสียชีวิต รวม 436 คน ซึ่งห่างจากตัวเลขที่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข ของ กระทรวงสาธารณสุขถึง 10 เท่า อดีตที่ปรึกษาด้านป้องกันการบาดเจ็บและภาวะพิการประจำองค์การอนามัยโลก ให้ข้อมูลว่า ตัวเลขการบาดเจ็บและเสียชีวิต ที่รายงานโดยกระทรวงสาธารณสุข เมื่อเวลา 07.20 น. วันที่ 6 มกราคม 2568 สรุปตัวเลขการบาดเจ็บและเสียชีวิตในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ระหว่าง 27ธ.ค.2567 – 5 ม.ค. 2568 จากทั่วประเทศ ว่า มีผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 31,572 ราย เสียชีวิต 537 ราย ใช้บริการการแพทย์ฉุกเฉินหรือ 16,026 ราย ผู้บาดเจ็บเข้ารักษาตัวในรพ. 8,347 ราย “เฉพาะตัวเลขคนเสียชีวิตก็ต่างกันถึง 101 ราย คนร้อยกว่าคนตายแต่ไม่มีรายงานตัวเลข แปลว่าอะไร ยิ่งตัวเลขการบาดเจ็บต่างกันหลักหมื่น ดิฉันจากเมืองไทยไปกว่า 20 ปี แต่ระบบการรายงานตัวเลขยังเป็นแบบเดิม ตั้งเป้าโดยใช้จำนวนตายมาวัดในหลายจังหวัดมีประวัติการแอบซ่อนจำนวนเคสมาตั้งแต่สมัยการตั้งเป้าไข้เลือดออกกับสาธารณสุขจังหวัด ซึ่งโดยหลักการการตั้งเป้าต้องมีเป้า input (งบประมาน) และ output ผลงานประกอบคู่กันด้วยเพื่อดูว่าทำจริงหรือแค่ซ่อนเคส ทั้ง ๆ ที่มีการตั้งจุดตรวจหลักถึง 1,768 จุด จัดชุดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานมากถึง 50,114 คน แต่ตัวเลขที่รายงานกับตกหล่นมากขนาดนี้ ” พญ.ชไมพันธุ์ กล่าว และว่า สาเหตุการบาดเจ็บและเสียชีวิต มาจากการดื่มแล้วขับถึง 4,798 ราย ในจำนวนนี้มีเด็กที่อายุน้อยกว่า 20 ปี ดื่มแล้วขับถึง 4,080 ราย “ดิฉันรู้สึกผิดหวังที่รัฐบาลที่แล้วต่อมาจนถึงรัฐบาลนี้ รวมทั้งพรรคฝ่ายค้านบางพรรคการเมือง ที่พยายามส่งสัญญาณ ถึงประชาชนเรื่องการลดภาษีไวน์ หรือการเปิดให้ดื่มเหล้าโดยไม่คุมเวลา ขยายเปิดผับถึงตีสี่ ขนาดยังไม่เต็มระบบก็เริ่มส่งสัญญาณถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่ใช่แค่เรื่องอุบัติเหตุ แต่เวลานี้ ทั้งเจ้าหน้าที่ ทั้งบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีหน้าที่ต้องดูแลคนเจ็บคนตายพากันร้องระงมว่าปัญหาเหล้าพุ่งสูงมาก สูงขนาดที่คนติดเหล้ามาผ่าไส้ติ่งแต่กลับอาละวาดในห้องฉุกเฉิน หอผู้ป่วย จนหวาดกลัวไปกันหมดทั้งคนไข้ทั้งเจ้าหน้าที่ รปภ. เป็น 10 ยังเอาไม่อยู่”อดีตที่ปรึกษาด้านป้องกันการบาดเจ็บและภาวะพิการประจำองค์การอนามัยโลก บอก พญ.ชไมพันธุ์ กล่าวว่า มีตัวเลขเดียวที่รัฐบาลพูดความจริงกับประชาชน นั่นก็คือ ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ยังคงเป็นรถจักรยานยนต์หรือมอร์เตอร์ไซค์ เป็นสัดส่วนสูงถึง 84.3 % .ในบางจังหวัดที่มีตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตจากรถจักรยานยนต์ 20 นาทีต่อ1 คน หมายถึงมีการตายชั่วโมงละ 3 คนในช่วงเทศกาล ทั้งนี้ ตนมองว่า การส่งสัญญาณจากภาครัฐในหลาย ๆ เรื่องเป็นสิ่งที่น่ากังวล อย่างเช่น รัฐบาลที่แล้วส่งสัญญาณและส่งเสริมเรื่องขับรถเร็วโดยเพิ่มความเร็วบนถนนแค่สี่ท่อนไม่ใช่ทั่วประเทศแต่ประกาศให้คนรู้สึกเหมือนกับเพิ่มความเร็วแล้วทั่วประเทศเป็น 120 ซึ่งไม่ถูกต้อง การสื่อสารของรัฐบาลล้มเหลวในแง่ที่จะสร้างความเข้าใจและตระหนักรู้ให้กับประชาชนโดยสิ้นเชิง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในสังคมไทยสมัยนี้ ยังมีคนดีเหลืออยู่ ถึงแม้ว่าจะมีเหลืออยู่เพียงแค่หยิบมือเดียวก็ตามที แต่เพราะการทำความดีของเค้าเหล่านั้น มันก็ทำให้โลกนี้โดยเฉพาะสังคมไทยมันยังน่าอยู่มากขึ้น และยังมีความหวังและความสุขอยู่บ้าง สาธุ กับคนดีที่ยังมีชีวิตเหลืออยู่เพียงไม่กี่คนในสังคมไทย ความดีไม่เคยไปไหน ความดีจะคอยคุ้มครองคนดีอยู่เสมอๆ ขอขอบคุณคุณที่เป็นคนดี ขอบคุณครับ ที่ช่วยเหลือผู้พิการนะครับ ใช่ว่าเค้าอยากจะเกิดมาพิการ ผู้พิการน่าสงสาร พวกเค้าก็มีหัวใจเหมือนกัน แถมยังเป็นคนดีกว่าคนปกติทั่วไปเยอะมาก ไม่เหมือนกันกับคนปกติ ที่ทำตัวพิการดวงใจมืดบอด เห็นแล้วก็สาธุ ขอขอบคุณคุณที่ช่วยเหลือผู้พิการดวงตาบอด แต่ใจไม่บอดนะครับผม ผมขอให้คุณโชคดีและมีความสุขนะครับ
    ในสังคมไทยสมัยนี้ ยังมีคนดีเหลืออยู่ ถึงแม้ว่าจะมีเหลืออยู่เพียงแค่หยิบมือเดียวก็ตามที แต่เพราะการทำความดีของเค้าเหล่านั้น มันก็ทำให้โลกนี้โดยเฉพาะสังคมไทยมันยังน่าอยู่มากขึ้น และยังมีความหวังและความสุขอยู่บ้าง สาธุ กับคนดีที่ยังมีชีวิตเหลืออยู่เพียงไม่กี่คนในสังคมไทย ความดีไม่เคยไปไหน ความดีจะคอยคุ้มครองคนดีอยู่เสมอๆ ขอขอบคุณคุณที่เป็นคนดี ขอบคุณครับ ที่ช่วยเหลือผู้พิการนะครับ ใช่ว่าเค้าอยากจะเกิดมาพิการ ผู้พิการน่าสงสาร พวกเค้าก็มีหัวใจเหมือนกัน แถมยังเป็นคนดีกว่าคนปกติทั่วไปเยอะมาก ไม่เหมือนกันกับคนปกติ ที่ทำตัวพิการดวงใจมืดบอด เห็นแล้วก็สาธุ ขอขอบคุณคุณที่ช่วยเหลือผู้พิการดวงตาบอด แต่ใจไม่บอดนะครับผม ผมขอให้คุณโชคดีและมีความสุขนะครับ
    พนักงานร้านสุกี้ตี๋น้อย ดูแลลูกค้าตาบอด เห็นแล้วใจฟู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 84 0 รีวิว
  • จิ๋ม ล๊อค จู๋ เกิดขึ้นได้ในมนุษย์ (18+)

    ศัพท์ทางการแพทย์ เรียกว่า Vaginismus

    ปัญหา คือ หลังเสร็จกามกิจ ฝ่ายชายดึงจู๋(ไม่ออก) เกิดจาก จิ๋ม บีบ+รัด จู๋(อย่างรุนแรง) มีเกิดขึ้นจริง และแพทย์สามารถช่วยแก้ไขได้ คือ ไปถึงโรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด.

    สาเหตุ เกิดจาก #ภาวะความผิดปกติของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (Pelvic Floor Dysfunction) คือ ภาวะที่ผู้ป่วยไม่สามารถควบคุมการหดตัวหรือคลายตัวของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานได้ตามที่ต้องการ เกิดในสตรี ทำให้การทำงานของช่องคลอดขณะมีเพศสัมพันธ์เกิดความผิดปกติ จะทำให้ไม่สามารถคลายกล้ามเนื้อ ส่งผลให้เกิดการรัดองคชาติของฝ่ายชาย(ดึงไม่ออก)

    การแก้ไข แพทย์ใช้ยาคลายกล้ามเนื้อกับฝ่ายหญิง

    ***คำเตือน หากปล่อยไว้นาน จู๋ฝ่ายชายอาจพิการถาวร***

    -------------------------------
    ภาพแรก สอดใส่ไม่เข้า คงไม่มีปัญหาอะไรกับแพทย์และรพ.
    ภาพที่สอง เสร็จกิจแล้วดึงไม่ออก ต้องใช้ผ้าปูที่นอนห่อทั้งสองคน รีบนำส่ง รพ.ด่วน
    จิ๋ม ล๊อค จู๋ เกิดขึ้นได้ในมนุษย์ (18+) ศัพท์ทางการแพทย์ เรียกว่า Vaginismus ปัญหา คือ หลังเสร็จกามกิจ ฝ่ายชายดึงจู๋(ไม่ออก) เกิดจาก จิ๋ม บีบ+รัด จู๋(อย่างรุนแรง) มีเกิดขึ้นจริง และแพทย์สามารถช่วยแก้ไขได้ คือ ไปถึงโรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด. สาเหตุ เกิดจาก #ภาวะความผิดปกติของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (Pelvic Floor Dysfunction) คือ ภาวะที่ผู้ป่วยไม่สามารถควบคุมการหดตัวหรือคลายตัวของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานได้ตามที่ต้องการ เกิดในสตรี ทำให้การทำงานของช่องคลอดขณะมีเพศสัมพันธ์เกิดความผิดปกติ จะทำให้ไม่สามารถคลายกล้ามเนื้อ ส่งผลให้เกิดการรัดองคชาติของฝ่ายชาย(ดึงไม่ออก) การแก้ไข แพทย์ใช้ยาคลายกล้ามเนื้อกับฝ่ายหญิง ***คำเตือน หากปล่อยไว้นาน จู๋ฝ่ายชายอาจพิการถาวร*** ------------------------------- ภาพแรก สอดใส่ไม่เข้า คงไม่มีปัญหาอะไรกับแพทย์และรพ. ภาพที่สอง เสร็จกิจแล้วดึงไม่ออก ต้องใช้ผ้าปูที่นอนห่อทั้งสองคน รีบนำส่ง รพ.ด่วน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## อดีตรองประธาน Pfizer ออกโรงมาแฉ วัคซีน mRNA...!!! ##
    ..
    ..
    Michael Yeadon อดีตรองประธาน Pfizer เปิดเผยข้อมูล โดยอ้างว่าวัคซีนโควิดแบบ mRNA ถูกออกแบบมาโดยเจตนาเพื่อทำร้าย ทำให้ พิการ และ สังหาร ผู้คน โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการ ลดอัตราการเจริญพันธุ์ของมนุษย์
    .
    Michael Yeadon เคยเป็นนักวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และ รองประธานบริษัทผลิตยายักษ์ใหญ่ไฟเซอร์ (Pfizer Inc.)
    .
    เขายังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัทไบโอเทค ที่ประสบความสำเร็จอีกด้วย แต่เส้นทางอาชีพของเขากลับพลิกผันไปอย่างไม่คาดคิด โดยเขาได้เป็นแกนนำในการต่อต้านวัคซีนในช่วงโควิด และถูก Fact Check โจมตีบ่อยครั้ง...
    ...
    ...
    ก็ฟังหูไว้หูครับ อาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้...
    หากใครอ่านข้อมูลเรื่องพวกนี้มามากพอ ก็น่าจะตัดสินใจกันได้ไปนานแล้ว
    ...
    ...
    คลิป
    https://x.com/shadowofezra/status/1872665139213918651
    https://x.com/FreeThinkerFit/status/1654346036499062785
    ## อดีตรองประธาน Pfizer ออกโรงมาแฉ วัคซีน mRNA...!!! ## .. .. Michael Yeadon อดีตรองประธาน Pfizer เปิดเผยข้อมูล โดยอ้างว่าวัคซีนโควิดแบบ mRNA ถูกออกแบบมาโดยเจตนาเพื่อทำร้าย ทำให้ พิการ และ สังหาร ผู้คน โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการ ลดอัตราการเจริญพันธุ์ของมนุษย์ . Michael Yeadon เคยเป็นนักวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และ รองประธานบริษัทผลิตยายักษ์ใหญ่ไฟเซอร์ (Pfizer Inc.) . เขายังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัทไบโอเทค ที่ประสบความสำเร็จอีกด้วย แต่เส้นทางอาชีพของเขากลับพลิกผันไปอย่างไม่คาดคิด โดยเขาได้เป็นแกนนำในการต่อต้านวัคซีนในช่วงโควิด และถูก Fact Check โจมตีบ่อยครั้ง... ... ... ก็ฟังหูไว้หูครับ อาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้... หากใครอ่านข้อมูลเรื่องพวกนี้มามากพอ ก็น่าจะตัดสินใจกันได้ไปนานแล้ว ... ... คลิป https://x.com/shadowofezra/status/1872665139213918651 https://x.com/FreeThinkerFit/status/1654346036499062785
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความพิกลของสังคมตลาดล่าง กับสวนสัตว์มนุษย์
    การตุยของแบงก์เลสเตอร์ สะท้อนความพิกลพิการของสังคมไทยในหลายมิติเช่นเรื่องของคอนเทนต์ขยะ เอาใจตลาดล่างที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย มีดัชนีชี้วัดความสําเร็จเป็นยอดวิวยอดไลก์ที่คอนเทนต์กากกาก พวกนี้โกยรัวรัว
    คนสมัยนี้คิดแกล้งกันแรงแรง เหยียบย่ําความเป็นมนุษย์แทบไม่เหลือศักดิ์ศรีของคนโดนใจคนไทยเรียกเสียงฮาเป็นคลิปที่ได้ยอดวิวยอดไลก์สูง นี่แหละที่เป็นความประหลาดผิดเพี้ยนของสังคม เวลาแบงค์เลสเตอร์โดนแกล้งเพื่อทําเป็นคอนเทนต์ขยะ จะเห็นเลยว่าคนแกล้งจะหัวเราะสนุกสนานกันจริงจัง
    ส่งต่อความสนุกเกรดต่ําพวกนี้ไปสู่ผู้ชมในโลกโซเชียลเมื่อมีการขุดคลิปย้อนหลังมาดูกันจะเห็นเลยว่าคอนเทนต์ขยะแนวที่เรียกว่า ฮิวแมนซู อย่างที่แบงก์เลสเตอร์เป็นพระเอกนั้นมันดูน่าอนาถน่าสงสารจับใจ
    ความยากจนของแบงก์เลสเตอร์ทําให้เขาต้องตกเป็นเบี้ยล่างของคนมีเงิน ที่ไร้รสนิยมทั้งโขยง เอาเงินมาเป็นตัวล่อให้เขาต้องยอมทําเรื่องบ้าบ้าบอบอเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน
    จากเด็กกตัญญูขายพวงมาลัยเลี้ยงยาย แบงก์เลสเตอร์ประสบความสําเร็จในการสร้างตัวตนให้กลายเป็นแร็ปเปอร์ขายพวงมาลัยตั้งแต่ประมาณสี่ปีก่อน ทั้งที่มีความเอ๋อๆ อยู่บ้างแต่เขาก็มีความสามารถในการร้องเพลงแร็ปจนลูกค้ายอมควักเงินอุดหนุนพวงมาลัยเพราะประทับใจในความสามารถส่วนนี้
    แต่อาชีพขายพวงมาลัยก็คือขายพวงมาลัย แบงค์เลสเตอร์พยายามผลักดันตัวเองไปสู่ชีวิตอีกระดับที่ดีกว่าถึงขั้นได้ออกรายการตี 10 ให้พิธีกร ซักถามพูดคุยอย่างออกรสมาแล้วแต่เทปนั้นของตีสิบมีปัญหาอย่างแรงจนวิทวัสต้องสั่งลบทิ้งในเวลาต่อมา
    เหตุจากแบงก์เลสเตอร์โม้ออกทีวีเพลินเกินจริงไปเยอะ เช่นอ้างว่าได้เล่นหนังของพจน์อานนท์ รู้จักกับซุปตาร์ อย่างณเดชน์และญาญ่า อ้างว่าพี่เบิร์ดธงชัยชวนขึ้นเวทีคอนเสิร์ตตลอดจนจะได้ไปแสดงคอนเสิร์ตกับมิลลิแร็ปเปอร์หญิงดังถึงต่างประเทศ
    แบงก์เลสเตอร์ต้องร่วงลงมาที่เดิมเพราะมีปัญหาแยกไม่ออกระหว่างโลกความจริงกับจินตนาการส่วนตัว ก็มีผลให้แบงก์เลสเตอร์ต้องกลับมาหากินแถวตลาดล่างเหมือนเดิม จนมาถึงการจ้างซดเหล้าสามแบรนด์แบรนด์ละหนึ่งหมื่นบาท แล้วฤทธิ์เล่าปริมาณมากที่เข้าสู่ร่างกายในเวลาอันสั้นก็คร่าชีวิตเขาไปจบสิ้นชีวิตอินฟลูผู้น่าสงสารในวัยแค่ยี่สิบเอ็ดปี
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ความพิกลของสังคมตลาดล่าง กับสวนสัตว์มนุษย์ การตุยของแบงก์เลสเตอร์ สะท้อนความพิกลพิการของสังคมไทยในหลายมิติเช่นเรื่องของคอนเทนต์ขยะ เอาใจตลาดล่างที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย มีดัชนีชี้วัดความสําเร็จเป็นยอดวิวยอดไลก์ที่คอนเทนต์กากกาก พวกนี้โกยรัวรัว คนสมัยนี้คิดแกล้งกันแรงแรง เหยียบย่ําความเป็นมนุษย์แทบไม่เหลือศักดิ์ศรีของคนโดนใจคนไทยเรียกเสียงฮาเป็นคลิปที่ได้ยอดวิวยอดไลก์สูง นี่แหละที่เป็นความประหลาดผิดเพี้ยนของสังคม เวลาแบงค์เลสเตอร์โดนแกล้งเพื่อทําเป็นคอนเทนต์ขยะ จะเห็นเลยว่าคนแกล้งจะหัวเราะสนุกสนานกันจริงจัง ส่งต่อความสนุกเกรดต่ําพวกนี้ไปสู่ผู้ชมในโลกโซเชียลเมื่อมีการขุดคลิปย้อนหลังมาดูกันจะเห็นเลยว่าคอนเทนต์ขยะแนวที่เรียกว่า ฮิวแมนซู อย่างที่แบงก์เลสเตอร์เป็นพระเอกนั้นมันดูน่าอนาถน่าสงสารจับใจ ความยากจนของแบงก์เลสเตอร์ทําให้เขาต้องตกเป็นเบี้ยล่างของคนมีเงิน ที่ไร้รสนิยมทั้งโขยง เอาเงินมาเป็นตัวล่อให้เขาต้องยอมทําเรื่องบ้าบ้าบอบอเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน จากเด็กกตัญญูขายพวงมาลัยเลี้ยงยาย แบงก์เลสเตอร์ประสบความสําเร็จในการสร้างตัวตนให้กลายเป็นแร็ปเปอร์ขายพวงมาลัยตั้งแต่ประมาณสี่ปีก่อน ทั้งที่มีความเอ๋อๆ อยู่บ้างแต่เขาก็มีความสามารถในการร้องเพลงแร็ปจนลูกค้ายอมควักเงินอุดหนุนพวงมาลัยเพราะประทับใจในความสามารถส่วนนี้ แต่อาชีพขายพวงมาลัยก็คือขายพวงมาลัย แบงค์เลสเตอร์พยายามผลักดันตัวเองไปสู่ชีวิตอีกระดับที่ดีกว่าถึงขั้นได้ออกรายการตี 10 ให้พิธีกร ซักถามพูดคุยอย่างออกรสมาแล้วแต่เทปนั้นของตีสิบมีปัญหาอย่างแรงจนวิทวัสต้องสั่งลบทิ้งในเวลาต่อมา เหตุจากแบงก์เลสเตอร์โม้ออกทีวีเพลินเกินจริงไปเยอะ เช่นอ้างว่าได้เล่นหนังของพจน์อานนท์ รู้จักกับซุปตาร์ อย่างณเดชน์และญาญ่า อ้างว่าพี่เบิร์ดธงชัยชวนขึ้นเวทีคอนเสิร์ตตลอดจนจะได้ไปแสดงคอนเสิร์ตกับมิลลิแร็ปเปอร์หญิงดังถึงต่างประเทศ แบงก์เลสเตอร์ต้องร่วงลงมาที่เดิมเพราะมีปัญหาแยกไม่ออกระหว่างโลกความจริงกับจินตนาการส่วนตัว ก็มีผลให้แบงก์เลสเตอร์ต้องกลับมาหากินแถวตลาดล่างเหมือนเดิม จนมาถึงการจ้างซดเหล้าสามแบรนด์แบรนด์ละหนึ่งหมื่นบาท แล้วฤทธิ์เล่าปริมาณมากที่เข้าสู่ร่างกายในเวลาอันสั้นก็คร่าชีวิตเขาไปจบสิ้นชีวิตอินฟลูผู้น่าสงสารในวัยแค่ยี่สิบเอ็ดปี ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 357 มุมมอง 0 รีวิว
  • 23-12-67/01 : หมี CNN / หมีกุ๊กกู EP7 หนาวเนื้อ ห่มเนื้อ จึงหายหนาว!

    ไอ้สัส! เช้านี้ ล่อ 19 องศา กลางกรุง! ใครบ่นร้อน? เชิญมาอาบน้ำบ้านกูได้ เครื่องทำความร้อนเสีย กระต๊าก กระต๊าก! นี่มันน้ำจากขั้วโลกเหนือนี่หว่า? มันหนาวจัดสุดขีดตั้งแต่ ตี 1 ครึ่งแล้ว คารังอีไก่ หงส์จิกไก่ตายคารังไก่ หนาวยาว ตั้งแต่เปิดยันจบฤดูกาลแน่ มรึงจะเทพไปไหน? อีเรือจมแล้วจมอีก หลุดวงโคจรลุ้นแชมป์ไปเรียบร้อยแล้ว ปีนี้มันส์ ตัวละครใหม่เข้ามาท้าทาย ยิ่งเข้าใกล้ BOXING DAY มรึงเตรียมแหกตาดูจุใจกันไปเลย 3 นัดติด ขอบคุณเพื่อนท็อฟฟี่ ที่ช่วยเตะตัดขาพญาสิงห์ที่กำลังห้าวเป้ง ให้ได้รู้ตัว ปีนี้ เค้าจองถ้วยแชมป์ไว้ล่วงหน้าแล้ว FA จัดให้ พรีเมียร์ลีคการละคร แทงกันไปสิ เจ้ามือแดร๊กรวบ? หงส์เจอไก่ ไม่มีนัดไหนยิงต่ำกว่า 3 เม็ด แทงสูงเข้าวินทะลุเป้า มรึงยิงกันโหดไปป่ะ นัดเดียว 9 ลูก ไอ้สัด ไม่ใช่แชร์บอลน่ะมรึง?

    อีเด สายเหลือง ปากดีน่ะมรึง? มรึงระวังตัวเองให้ดีดีเหอะ ไปรับงานเค้ามา ออกตัวแรงมักจะตายตอนจบ ชี้นำสังคมเหรอ คนฟังมรึงมีแต่ควาย? เพราะไร้สมอง เด็กแถวบ้านยังอายแทน ควายได้อีก? ส่วนอีแม่ ไม่ต้องถาม นับแบงค์อย่างเดียว เวรกรรมมีจริง เลือดเป็นพิษ ผีอีโม ไม่ปล่อยมรึงลอยนวลดอก ตามกันไปเผาผีกันต่อชาติหน้า มหากาพย์แรงแค้น ชาตินี้กูตาย ชาติหน้ามรึงตาย อโหสิกรรม แล้วตัดกรรมซะ ภาวนาให้อีอัยกวยสูงไม่สุดไม่รื้อคดีใหม่ จะอ้างเหี้ยอะไรก็ช่าง หลักฐาน คาตา อะไรเป็นอะไร ควายยังรู้ จงแถ จงเหี้ยให้สุดซอย แล้วจบที่ขุมนรกซะน่ะมรึง? แสงคือความจริง แล้วเมื่อแสงทำงาน จะไม่มีไอ้อีหน้าไหน หยุดความจริงได้ นั่นแปลว่า มันไม่จบแค่รื้อคดีหรือไม่ แต่มันจะกลายเป็นวาระแห่งชาติ ส่งสัญญานเบื้องบน หากไม่อยากให้ขบวนการยุติธรรมต้องตายทั้งระบบ หยุดเลือดชั่วซะ ทุกความอัปรีย์ที่มรึงพบเห็นในวันนี้ มันจะมลายสลายไปทันที เมื่อฉีกรัฐธรรมนูญ แล้วทหารมาเดินพาเหรดลงถนน โดยส่งลูกหลานบางระจันรุ่นที่ 99 ออกมาขับเคลื่อน วิญญานผีอีโม รับรู้แล้วว่า ชาวอโยธยาจะไม่ทอดทิ้งเธอให้เดียวดาย U WILL NEVER WALK ALONE ใครเคยให้สัมภาษณ์อะไรเอาไว้ ระวังให้ดีดี เพราะให้การเท็จ มันจะย้อนศรมรึง มรึงจะแต่งเรื่องยังไงก็ช่าง มันจะจบที่ หลัง 20.36 น. พวกมรึงไม่ได้เห็นผีอีโมอีกแล้ว ปากคำมันจะฆ่ามรึงเอง!

    สิ่งที่รอคอยกำลังจะมา? ขั้วใหม่รออะไร? ฟองสบู่แตก ระบบการเงินโลกเก่าพังพินาศฉิบหาย เพราะอุ้มดอลล่าร์ จนตายห่าทั้งกะปิ? อีทรัมปป์เตรียมสั่งพิมพ์แบงค์มโหฬาร ชาวโลกถาม? ใครจะจ่าย? มีแต่เศษกระดาษ มีแต่ควายที่รับ? เอาไปเผาเหรอจ๊ะ? เชื่อเหอะว่า สิ่งที่อีทรัมปป์ต้องทำก่อน คือจัดการเรื่องภายในบ้าน ทั้งผู้อพยพ ทั้งปากท้อง ทั้งศัตรูการเมือง มรึงจะมีเวลาไปยุ่งกับรัสเซียน้อยลง และปล่อยให้ไอ้อีนาโต้ หมาหน้าโง่ ไปตายห่าแทน ปล่อย EU แบกดอลล่าร์ต่อ ควายกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว? ประชากรควายทั่วยุโรป มรึงรู้ตัวบ้างมั้ยว่า "หาเงินส่งให้อียิวมาเป็นศตวรรษ ผ่านผู้นำขี้ข้ายิวทุกยุคทุกสมัย" รัสเซียอ่านเกมส์ทะลุ ถึงได้กล้าเปิดหน้าแลก เกมส์นุ๊กต้องมา บุกยึดต้องมี ขยายพื้นที่เข้ายุโรปกลาง แต่จะไม่เร่งเดิน แต่จะให้ยุโรปเห็นสภาพความจริงเอง เมื่อรู้ตัวว่าเป็นควาย มันจะย้ายขั้วเองโดยอัตโนมัติ ที่มาว่าทำไมตอนนี้ ยุโรปเรียกร้องพลังงานรัสเซียคืน บีบผู้นำมรึงเองจนเก้าอี้หัก ด้านเอเซีย ก็ใช่ย่อย โกยสิจ๊ะ สงครามมา อะไรมีค่าที่สุด "เสบียง" ถึงได้เลือกทำสงครามใหญ่หน้าหนาวไงล่ะ เพราะรัสเซียมีอาหารตุนไว้เพี๊ยบ พลังงานล้นทะลัก แจกจ่ายสบายตรีน แต่ยุโรปไม่มี ยังต้องแบมือขอ ใครมองมุมไหน มรึงก็แพ้ตั้งแต่เริ่ม? ขนาดกลางบางกอก ยัง 19 องศาเช้านี้ ยุโรปไม่ต้องถาม หนาวตายห่าไปเท่าไหร่แล้ว? ฮีทเตอร์ไม่มา ค่าไฟไม่มี เพราะระบบพื้นฐานมันพังไปหมดแล้ว ยังจะมีหนาวตายอีกเยอะ รอดู?

    จะหมาไปถึงไหนกันจ๊ะ? เหี้ยมะกัน "หน้าแหกยับ" F-18 ชั้นสูง คุยไว้เยอะ ร่วงคาตา ฮูตีตบหน้าออกสื่อ "กูสอยเอง ดีออก" ตอแหลไม่เลิก เหี้ยมะกันอ้างยิงกันเอง ยังจะมีควายเชื่อมุย? ควายแล้ว ควายอีก ควายไม่ปรึกษาใคร โปรตะวันตก กลายร่างเป็นควายกันหมดโลกแล้วรึ? จนควายต้องออกมาเรียกร้อง โปรดเรียกกูใหม่ว่า "กระบือ" เพราะไอ้อีมนุษย์ควายมันเอาชื่อกูไปใช้หมดแล้ว เทคโนโลยีสู้เค้าไม่ได้ แผนการก็อ่อนหัด เก่งแต่จัดฉาก ตอแหลไปวันวัน สู้จริง อย่างหมา! อ้าว..เงียบกริบเชียวน่ะมรึง! ข่าวเยรูซาเล็มตามสื่อควายหายไปไหนกันหมด? อ๋อ..จุกอก โดนสอย กระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ จนลิ้นจุกปากอยู่ไงจ๊ะ? อีเนรคุณทันยา หายหัวเชียวมรึง? ปากเก่ง ปากดี อยู่ไหนจ๊ะ? หลังอีไก่งวงเข้าไปผลัดแผ่นดินใหม่ให้ซีเรีย ข่าวเงียบทันควัน เพราะโดนรมควันอยู่จ๊ะ ควันดินปืนฟุ้งกระจาย ไก่งวงทำงานเร็วเชียวน่ะมรึง หลังจ้องบ่อน้ำมันซีเรียมานาน กูมายึดคืน ให้กูซะดีดี ค่ายทหารมะกันเตรียมเผ่น งวดนี้ ของจริง F-16 กว่า 200 ลำ เตรียมดาหน้าถล่มม้วนเดียวจบ จะอยู่ให้โง่รึจ๊ะ? รู้แล้วชิมิ? ทำไมต้อง "ออตโตมาน" ทหารซีเรีย อิรัก เก็บแรงเอาไว้ หน้าที่มรึงคือ ที่ราบสูงโกลาน เป้าหมายชัด!

    สิ้นปีนี้มีอะไรรึจ๊ะ? โปรไฟไหม้มาเต็ม โปรล้างบางมาชัด! รัสเซียเก็บกวาดเคียฟ 3 ฮอ เก็บกวาดเยรูซาเล็ม ไก่งวงเก็บกวาดบ่อน้ำมันเคิร์ด ยุโรปเก็บกวาดผู้นำขี้ข้ายิว ขวาจัดแจ้งเกิด มาเต็มตรีน! ค่าไฟ ภาษี ค่าใช้จ่ายท่วมหัว รายการชักดาบมาทั่วยุโรป เศรษฐกิจพังยับ โรงงานปิด คนตกงาน สวัสดิการไม่มี คลังถังแตก ชีวิตดี๊ดี กับปชต.หอมหวน แดร๊กกันต่อสิจ๊ะ? เกมส์โลกไม่เขยิบ เกมส์ไทยจะแซงหน้าได้ไง? ทุกอย่างมันไปทิศทางเดียวกันหมด อาเซียนเลือกแล้ว แต่ขี้ข้าเหี้ยหาช่องลงบันไดอยู่ อีปินส์สิ้นชาติ อีขะแมร์สิ้นฤทธิ์ ไม่มีจีน มรึงก็ NOBODY ย้ำว่า อย่าห่วงอโยธยา เพราะไม่ว่าเหี้ยจะส่งเรือเหี้ยอะไรเข้ามา คือถูกล้อมหมด จีนเค้าปักหมุดรอไว้แล้ว รัสเซียเตรียมขนของหนักเข้ามาอ่าวไทย ไม่ได้ยิงใคร แค่ขู่ให้รู้ว่า กูพร้อมฆ่า หากมรึงต้องการ? เกาะคูริว ใกล้แค่นี้ สั่งแป๊บเดียวก็มาถึง? จบเรื่องอีว้าแดง เรื่องเกาะกูด แค่ละครปาหี่คั่นฉาก MOU44 เป็นแค่เรียกน้ำย่อย อำนาจอธิปไตยไทย อยู่ในมือพ่อหลวงท่าน ไม่เซ็นต์ ไม่อนุญาต ใครหน้าไหนก็เอาไปไม่ได้ อยากลองดี กองทัพไทยพร้อมเชือด มาสิ ไอ้สัส! กองทัพของวัง ไม่ใช่ของมรึง ดีออก? จะปีใหม่แล้ว คิดใหม่ ทำใหม่ เอาตัวให้รอดก่อนดีกว่าน่ะ?

    ปล.ที่มาว่าทำไม บรรดาอีพ่อมดยิวหาแดร๊ก เทหุ้น ขายหุ้นเกลื่อน ต่างพากันอุ้มเงินสดไว้ในมือ เพราะไม่มีความแน่นอนในสินทรัพย์ เงินในมือไปแปรรูปเป็นทองคำ อสังหาริมทรัพย์ และลงทุนในเอเซียดีกว่ายุโรป อเมริกา เพราะเข็มทิศโลกชี้ไปทางนี้อีก 100 ปี อีบุฟเฟ่ต์ หัวหมอ อียิวมันจมูกไว วอลล์สตรีทแค่ตลาดหลอกควาย ดูดเงินมรึงเอาไปปั่นไปกลับ หาแดร๊กมาเป็นศตวรรษ ภาคผลิตไม่มีจริง แค่ตัวกลางดักแดร๊กส่วนต่าง อเมริกามันไม่มีตัวตนนานแล้ว อยู่ได้เพราะควายมันเยอะ อยู่ได้เพราะเล่นแต่กฎหมา เจอของจริง โลกเอาจริง หมา..ไปไม่เป็น! อีโสมขาว เพิ่งจะสำนึก จะสิ้นปี ยอดนักท่องเที่ยวร่วงไม่ถึงเป้า สั่งสอนเป็นแค่ไก่อย่าริชูคอเป็นพญาหงส์(เกี่ยวมั้ยเนี่ย? อินเกิน) พอ BP แตกวง หมดสัญญา ไปฉายเดี่ยวกันหมด รายได้หดหายแบบหน้ามือเป้นหลังส้นตรีน เป็นไงล่ะ ไปทำกับเค้าไว้เยอะ ก่อน LS จะมา ศิลปินต่างชาติโดนกันไปเท่าไหร่แล้ว เวรกรรมมีจริง มรึงไม่ต้องดูไกล? อีขะแมร์โจมตีไทยรายวัน จัดฉากสนิทอีเหลี่ยม หวังเสี้ยมไทยแตก แล้วมรึงดู ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว จีนตบหน้าหงาย ขุดคลองฟูนันเตโช เมกะโปรเจคใหญ่ ที่หวังดูดเงินเข้าไม่ผ่านไทย เจ๊งไม่เป็นท่า นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "ไม่มีใครหนีกรรมพ้นดอก" ไม่ว่าจะเรื่องอะไร? กรรมมีวิธีของมันเอง กรรมมันจะตามล่าไม่สิ้นสุด ยิ่งหนี ยิ่งเจอ ทางเดียวที่จะต่อสู้กับกรรมได้ คือ "รับกรรม และชดใช้กรรมซะ" แล้วมันจะจากไปเอง?

    ปล.2 สุขภาพต้องดี จิตใจต้องแจ่มใส อะไรที่เป็นขยะในสมอง เอามันออกไปก่อนข้ามปี ปลงแล้วใจจะเบาลง ปลงแล้วสติจะกลับมา ไม่ทุกข์ ไม่ร้อน ไม่ยินดี ไม่ยินร้าย ใครเครียดอยู่ ไม่ว่าจะปัญหาเรื่องหนี้ ค่าใช้จ่าย ขอให้รู้ไว้ว่า มีคนที่ลำบากกว่ามรึงอีกเยอะ คนพิการ คนสู้ชีวิต หาเช้ากินค่ำ แค่เท้ายังเดินได้ กินอาหารรู้รสชาด มือ แขน ยังทำงานได้ดี สติยังมีอยู่ อัลไซเมอร์ยังไม่เรียกหา มรึงยังจะต้องการอะไรอีก? ทรัพย์สินแค่ของนอกกาย มีเท่าไหร่ มรึงก็ไม่ได้ครอบครองดอก แม้แต่ร่างกายมรึงเอง ยังต้องลาจากกัน หาเงินแต่พอดี อย่าหาเงินเพื่อทรมานตัวเอง ไม่ได้อยู่ที่มรึงหาได้ แต่อยู่ที่มรึงจ่ายต่างหาก หากคิดอะไรไม่ออก ให้ไปหาวัด? คิดเอาเอง เค้ามีแต่ปล่อยหมาเข้าวัด หมามันพูดไม่ได้ ต้องมีคนให้อาหารมัน มรึงยังพูดได้ ยังสื่อสารภาษาคนได้ ไม่มีอดตายดอกน่ะ คนอดตายมีแค่ ไม่ทำห่าอะไรเลยต่างหาก! กินแค่ 3 มื้อ พออิ่ม ยังต้องการอะไรอีก?

    หมี CNN(เปิดเช้าวันจันทร์ด้วยหงส์ แต่จบลงด้วยหมา หมายังดี มันยังซื่อสัตย์ แต่คนใจหมา แม้แต่แผ่นดินเกิด ยังเนรคุณได้ คนกับหมา คือเพื่อนกัน หมารู้คุณคน ก็ไม่ต่างอะไรกับคนรู้คุณนาย คำว่าสัตว์ประเสริฐ คือมีโอกาสมากกว่าเดรัจฉาน แต่ใจคนยากหยั่งถึง ใจเป็นบาป มรึงก็ไม่ต่างอะไรกับเดรัจฉาน สติถึงต้องมี แดร๊กเหล้าแล้วควบคุมตัวเองไม่ได้ ไปไล่ยิงคน แค่เด็กเช็คบิล มรึงไม่ต้องตอแหล ยิงซ้ำเนี่ย คือ "ชัด" โทสะมรึงชิมิ งั้นกฎหมายก็เด็ดขาดเช่นกัน ขาดสติ คือขาดความเป็นมนุษย์ มรึงไม่ใช่คน)
    23 ธันวาคม 67(ใกล้คริสต์มาสแล้ว เดี๋ยวเปิดเพลงให้ฟัง "ซาตานคลอส อิส คัมมิ้ง ฟัคกิ้งยิว")
    11.10 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    ชื่อเพจ ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ รออีก 60 วัน "แสงสว่าง สิริแสงสว่าง"
    https://www.facebook.com/profile.php?id=100015961291594
    23-12-67/01 : หมี CNN / หมีกุ๊กกู EP7 หนาวเนื้อ ห่มเนื้อ จึงหายหนาว! ไอ้สัส! เช้านี้ ล่อ 19 องศา กลางกรุง! ใครบ่นร้อน? เชิญมาอาบน้ำบ้านกูได้ เครื่องทำความร้อนเสีย กระต๊าก กระต๊าก! นี่มันน้ำจากขั้วโลกเหนือนี่หว่า? มันหนาวจัดสุดขีดตั้งแต่ ตี 1 ครึ่งแล้ว คารังอีไก่ หงส์จิกไก่ตายคารังไก่ หนาวยาว ตั้งแต่เปิดยันจบฤดูกาลแน่ มรึงจะเทพไปไหน? อีเรือจมแล้วจมอีก หลุดวงโคจรลุ้นแชมป์ไปเรียบร้อยแล้ว ปีนี้มันส์ ตัวละครใหม่เข้ามาท้าทาย ยิ่งเข้าใกล้ BOXING DAY มรึงเตรียมแหกตาดูจุใจกันไปเลย 3 นัดติด ขอบคุณเพื่อนท็อฟฟี่ ที่ช่วยเตะตัดขาพญาสิงห์ที่กำลังห้าวเป้ง ให้ได้รู้ตัว ปีนี้ เค้าจองถ้วยแชมป์ไว้ล่วงหน้าแล้ว FA จัดให้ พรีเมียร์ลีคการละคร แทงกันไปสิ เจ้ามือแดร๊กรวบ? หงส์เจอไก่ ไม่มีนัดไหนยิงต่ำกว่า 3 เม็ด แทงสูงเข้าวินทะลุเป้า มรึงยิงกันโหดไปป่ะ นัดเดียว 9 ลูก ไอ้สัด ไม่ใช่แชร์บอลน่ะมรึง? อีเด สายเหลือง ปากดีน่ะมรึง? มรึงระวังตัวเองให้ดีดีเหอะ ไปรับงานเค้ามา ออกตัวแรงมักจะตายตอนจบ ชี้นำสังคมเหรอ คนฟังมรึงมีแต่ควาย? เพราะไร้สมอง เด็กแถวบ้านยังอายแทน ควายได้อีก? ส่วนอีแม่ ไม่ต้องถาม นับแบงค์อย่างเดียว เวรกรรมมีจริง เลือดเป็นพิษ ผีอีโม ไม่ปล่อยมรึงลอยนวลดอก ตามกันไปเผาผีกันต่อชาติหน้า มหากาพย์แรงแค้น ชาตินี้กูตาย ชาติหน้ามรึงตาย อโหสิกรรม แล้วตัดกรรมซะ ภาวนาให้อีอัยกวยสูงไม่สุดไม่รื้อคดีใหม่ จะอ้างเหี้ยอะไรก็ช่าง หลักฐาน คาตา อะไรเป็นอะไร ควายยังรู้ จงแถ จงเหี้ยให้สุดซอย แล้วจบที่ขุมนรกซะน่ะมรึง? แสงคือความจริง แล้วเมื่อแสงทำงาน จะไม่มีไอ้อีหน้าไหน หยุดความจริงได้ นั่นแปลว่า มันไม่จบแค่รื้อคดีหรือไม่ แต่มันจะกลายเป็นวาระแห่งชาติ ส่งสัญญานเบื้องบน หากไม่อยากให้ขบวนการยุติธรรมต้องตายทั้งระบบ หยุดเลือดชั่วซะ ทุกความอัปรีย์ที่มรึงพบเห็นในวันนี้ มันจะมลายสลายไปทันที เมื่อฉีกรัฐธรรมนูญ แล้วทหารมาเดินพาเหรดลงถนน โดยส่งลูกหลานบางระจันรุ่นที่ 99 ออกมาขับเคลื่อน วิญญานผีอีโม รับรู้แล้วว่า ชาวอโยธยาจะไม่ทอดทิ้งเธอให้เดียวดาย U WILL NEVER WALK ALONE ใครเคยให้สัมภาษณ์อะไรเอาไว้ ระวังให้ดีดี เพราะให้การเท็จ มันจะย้อนศรมรึง มรึงจะแต่งเรื่องยังไงก็ช่าง มันจะจบที่ หลัง 20.36 น. พวกมรึงไม่ได้เห็นผีอีโมอีกแล้ว ปากคำมันจะฆ่ามรึงเอง! สิ่งที่รอคอยกำลังจะมา? ขั้วใหม่รออะไร? ฟองสบู่แตก ระบบการเงินโลกเก่าพังพินาศฉิบหาย เพราะอุ้มดอลล่าร์ จนตายห่าทั้งกะปิ? อีทรัมปป์เตรียมสั่งพิมพ์แบงค์มโหฬาร ชาวโลกถาม? ใครจะจ่าย? มีแต่เศษกระดาษ มีแต่ควายที่รับ? เอาไปเผาเหรอจ๊ะ? เชื่อเหอะว่า สิ่งที่อีทรัมปป์ต้องทำก่อน คือจัดการเรื่องภายในบ้าน ทั้งผู้อพยพ ทั้งปากท้อง ทั้งศัตรูการเมือง มรึงจะมีเวลาไปยุ่งกับรัสเซียน้อยลง และปล่อยให้ไอ้อีนาโต้ หมาหน้าโง่ ไปตายห่าแทน ปล่อย EU แบกดอลล่าร์ต่อ ควายกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว? ประชากรควายทั่วยุโรป มรึงรู้ตัวบ้างมั้ยว่า "หาเงินส่งให้อียิวมาเป็นศตวรรษ ผ่านผู้นำขี้ข้ายิวทุกยุคทุกสมัย" รัสเซียอ่านเกมส์ทะลุ ถึงได้กล้าเปิดหน้าแลก เกมส์นุ๊กต้องมา บุกยึดต้องมี ขยายพื้นที่เข้ายุโรปกลาง แต่จะไม่เร่งเดิน แต่จะให้ยุโรปเห็นสภาพความจริงเอง เมื่อรู้ตัวว่าเป็นควาย มันจะย้ายขั้วเองโดยอัตโนมัติ ที่มาว่าทำไมตอนนี้ ยุโรปเรียกร้องพลังงานรัสเซียคืน บีบผู้นำมรึงเองจนเก้าอี้หัก ด้านเอเซีย ก็ใช่ย่อย โกยสิจ๊ะ สงครามมา อะไรมีค่าที่สุด "เสบียง" ถึงได้เลือกทำสงครามใหญ่หน้าหนาวไงล่ะ เพราะรัสเซียมีอาหารตุนไว้เพี๊ยบ พลังงานล้นทะลัก แจกจ่ายสบายตรีน แต่ยุโรปไม่มี ยังต้องแบมือขอ ใครมองมุมไหน มรึงก็แพ้ตั้งแต่เริ่ม? ขนาดกลางบางกอก ยัง 19 องศาเช้านี้ ยุโรปไม่ต้องถาม หนาวตายห่าไปเท่าไหร่แล้ว? ฮีทเตอร์ไม่มา ค่าไฟไม่มี เพราะระบบพื้นฐานมันพังไปหมดแล้ว ยังจะมีหนาวตายอีกเยอะ รอดู? จะหมาไปถึงไหนกันจ๊ะ? เหี้ยมะกัน "หน้าแหกยับ" F-18 ชั้นสูง คุยไว้เยอะ ร่วงคาตา ฮูตีตบหน้าออกสื่อ "กูสอยเอง ดีออก" ตอแหลไม่เลิก เหี้ยมะกันอ้างยิงกันเอง ยังจะมีควายเชื่อมุย? ควายแล้ว ควายอีก ควายไม่ปรึกษาใคร โปรตะวันตก กลายร่างเป็นควายกันหมดโลกแล้วรึ? จนควายต้องออกมาเรียกร้อง โปรดเรียกกูใหม่ว่า "กระบือ" เพราะไอ้อีมนุษย์ควายมันเอาชื่อกูไปใช้หมดแล้ว เทคโนโลยีสู้เค้าไม่ได้ แผนการก็อ่อนหัด เก่งแต่จัดฉาก ตอแหลไปวันวัน สู้จริง อย่างหมา! อ้าว..เงียบกริบเชียวน่ะมรึง! ข่าวเยรูซาเล็มตามสื่อควายหายไปไหนกันหมด? อ๋อ..จุกอก โดนสอย กระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ จนลิ้นจุกปากอยู่ไงจ๊ะ? อีเนรคุณทันยา หายหัวเชียวมรึง? ปากเก่ง ปากดี อยู่ไหนจ๊ะ? หลังอีไก่งวงเข้าไปผลัดแผ่นดินใหม่ให้ซีเรีย ข่าวเงียบทันควัน เพราะโดนรมควันอยู่จ๊ะ ควันดินปืนฟุ้งกระจาย ไก่งวงทำงานเร็วเชียวน่ะมรึง หลังจ้องบ่อน้ำมันซีเรียมานาน กูมายึดคืน ให้กูซะดีดี ค่ายทหารมะกันเตรียมเผ่น งวดนี้ ของจริง F-16 กว่า 200 ลำ เตรียมดาหน้าถล่มม้วนเดียวจบ จะอยู่ให้โง่รึจ๊ะ? รู้แล้วชิมิ? ทำไมต้อง "ออตโตมาน" ทหารซีเรีย อิรัก เก็บแรงเอาไว้ หน้าที่มรึงคือ ที่ราบสูงโกลาน เป้าหมายชัด! สิ้นปีนี้มีอะไรรึจ๊ะ? โปรไฟไหม้มาเต็ม โปรล้างบางมาชัด! รัสเซียเก็บกวาดเคียฟ 3 ฮอ เก็บกวาดเยรูซาเล็ม ไก่งวงเก็บกวาดบ่อน้ำมันเคิร์ด ยุโรปเก็บกวาดผู้นำขี้ข้ายิว ขวาจัดแจ้งเกิด มาเต็มตรีน! ค่าไฟ ภาษี ค่าใช้จ่ายท่วมหัว รายการชักดาบมาทั่วยุโรป เศรษฐกิจพังยับ โรงงานปิด คนตกงาน สวัสดิการไม่มี คลังถังแตก ชีวิตดี๊ดี กับปชต.หอมหวน แดร๊กกันต่อสิจ๊ะ? เกมส์โลกไม่เขยิบ เกมส์ไทยจะแซงหน้าได้ไง? ทุกอย่างมันไปทิศทางเดียวกันหมด อาเซียนเลือกแล้ว แต่ขี้ข้าเหี้ยหาช่องลงบันไดอยู่ อีปินส์สิ้นชาติ อีขะแมร์สิ้นฤทธิ์ ไม่มีจีน มรึงก็ NOBODY ย้ำว่า อย่าห่วงอโยธยา เพราะไม่ว่าเหี้ยจะส่งเรือเหี้ยอะไรเข้ามา คือถูกล้อมหมด จีนเค้าปักหมุดรอไว้แล้ว รัสเซียเตรียมขนของหนักเข้ามาอ่าวไทย ไม่ได้ยิงใคร แค่ขู่ให้รู้ว่า กูพร้อมฆ่า หากมรึงต้องการ? เกาะคูริว ใกล้แค่นี้ สั่งแป๊บเดียวก็มาถึง? จบเรื่องอีว้าแดง เรื่องเกาะกูด แค่ละครปาหี่คั่นฉาก MOU44 เป็นแค่เรียกน้ำย่อย อำนาจอธิปไตยไทย อยู่ในมือพ่อหลวงท่าน ไม่เซ็นต์ ไม่อนุญาต ใครหน้าไหนก็เอาไปไม่ได้ อยากลองดี กองทัพไทยพร้อมเชือด มาสิ ไอ้สัส! กองทัพของวัง ไม่ใช่ของมรึง ดีออก? จะปีใหม่แล้ว คิดใหม่ ทำใหม่ เอาตัวให้รอดก่อนดีกว่าน่ะ? ปล.ที่มาว่าทำไม บรรดาอีพ่อมดยิวหาแดร๊ก เทหุ้น ขายหุ้นเกลื่อน ต่างพากันอุ้มเงินสดไว้ในมือ เพราะไม่มีความแน่นอนในสินทรัพย์ เงินในมือไปแปรรูปเป็นทองคำ อสังหาริมทรัพย์ และลงทุนในเอเซียดีกว่ายุโรป อเมริกา เพราะเข็มทิศโลกชี้ไปทางนี้อีก 100 ปี อีบุฟเฟ่ต์ หัวหมอ อียิวมันจมูกไว วอลล์สตรีทแค่ตลาดหลอกควาย ดูดเงินมรึงเอาไปปั่นไปกลับ หาแดร๊กมาเป็นศตวรรษ ภาคผลิตไม่มีจริง แค่ตัวกลางดักแดร๊กส่วนต่าง อเมริกามันไม่มีตัวตนนานแล้ว อยู่ได้เพราะควายมันเยอะ อยู่ได้เพราะเล่นแต่กฎหมา เจอของจริง โลกเอาจริง หมา..ไปไม่เป็น! อีโสมขาว เพิ่งจะสำนึก จะสิ้นปี ยอดนักท่องเที่ยวร่วงไม่ถึงเป้า สั่งสอนเป็นแค่ไก่อย่าริชูคอเป็นพญาหงส์(เกี่ยวมั้ยเนี่ย? อินเกิน) พอ BP แตกวง หมดสัญญา ไปฉายเดี่ยวกันหมด รายได้หดหายแบบหน้ามือเป้นหลังส้นตรีน เป็นไงล่ะ ไปทำกับเค้าไว้เยอะ ก่อน LS จะมา ศิลปินต่างชาติโดนกันไปเท่าไหร่แล้ว เวรกรรมมีจริง มรึงไม่ต้องดูไกล? อีขะแมร์โจมตีไทยรายวัน จัดฉากสนิทอีเหลี่ยม หวังเสี้ยมไทยแตก แล้วมรึงดู ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว จีนตบหน้าหงาย ขุดคลองฟูนันเตโช เมกะโปรเจคใหญ่ ที่หวังดูดเงินเข้าไม่ผ่านไทย เจ๊งไม่เป็นท่า นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "ไม่มีใครหนีกรรมพ้นดอก" ไม่ว่าจะเรื่องอะไร? กรรมมีวิธีของมันเอง กรรมมันจะตามล่าไม่สิ้นสุด ยิ่งหนี ยิ่งเจอ ทางเดียวที่จะต่อสู้กับกรรมได้ คือ "รับกรรม และชดใช้กรรมซะ" แล้วมันจะจากไปเอง? ปล.2 สุขภาพต้องดี จิตใจต้องแจ่มใส อะไรที่เป็นขยะในสมอง เอามันออกไปก่อนข้ามปี ปลงแล้วใจจะเบาลง ปลงแล้วสติจะกลับมา ไม่ทุกข์ ไม่ร้อน ไม่ยินดี ไม่ยินร้าย ใครเครียดอยู่ ไม่ว่าจะปัญหาเรื่องหนี้ ค่าใช้จ่าย ขอให้รู้ไว้ว่า มีคนที่ลำบากกว่ามรึงอีกเยอะ คนพิการ คนสู้ชีวิต หาเช้ากินค่ำ แค่เท้ายังเดินได้ กินอาหารรู้รสชาด มือ แขน ยังทำงานได้ดี สติยังมีอยู่ อัลไซเมอร์ยังไม่เรียกหา มรึงยังจะต้องการอะไรอีก? ทรัพย์สินแค่ของนอกกาย มีเท่าไหร่ มรึงก็ไม่ได้ครอบครองดอก แม้แต่ร่างกายมรึงเอง ยังต้องลาจากกัน หาเงินแต่พอดี อย่าหาเงินเพื่อทรมานตัวเอง ไม่ได้อยู่ที่มรึงหาได้ แต่อยู่ที่มรึงจ่ายต่างหาก หากคิดอะไรไม่ออก ให้ไปหาวัด? คิดเอาเอง เค้ามีแต่ปล่อยหมาเข้าวัด หมามันพูดไม่ได้ ต้องมีคนให้อาหารมัน มรึงยังพูดได้ ยังสื่อสารภาษาคนได้ ไม่มีอดตายดอกน่ะ คนอดตายมีแค่ ไม่ทำห่าอะไรเลยต่างหาก! กินแค่ 3 มื้อ พออิ่ม ยังต้องการอะไรอีก? หมี CNN(เปิดเช้าวันจันทร์ด้วยหงส์ แต่จบลงด้วยหมา หมายังดี มันยังซื่อสัตย์ แต่คนใจหมา แม้แต่แผ่นดินเกิด ยังเนรคุณได้ คนกับหมา คือเพื่อนกัน หมารู้คุณคน ก็ไม่ต่างอะไรกับคนรู้คุณนาย คำว่าสัตว์ประเสริฐ คือมีโอกาสมากกว่าเดรัจฉาน แต่ใจคนยากหยั่งถึง ใจเป็นบาป มรึงก็ไม่ต่างอะไรกับเดรัจฉาน สติถึงต้องมี แดร๊กเหล้าแล้วควบคุมตัวเองไม่ได้ ไปไล่ยิงคน แค่เด็กเช็คบิล มรึงไม่ต้องตอแหล ยิงซ้ำเนี่ย คือ "ชัด" โทสะมรึงชิมิ งั้นกฎหมายก็เด็ดขาดเช่นกัน ขาดสติ คือขาดความเป็นมนุษย์ มรึงไม่ใช่คน) 23 ธันวาคม 67(ใกล้คริสต์มาสแล้ว เดี๋ยวเปิดเพลงให้ฟัง "ซาตานคลอส อิส คัมมิ้ง ฟัคกิ้งยิว") 11.10 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** ชื่อเพจ ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ รออีก 60 วัน "แสงสว่าง สิริแสงสว่าง" https://www.facebook.com/profile.php?id=100015961291594
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 432 มุมมอง 0 รีวิว
  • การหย่าร้างในสมัยจีนโบราณ

    สวัสดีค่ะ ในเรื่อง <ทำนองรักกังวานแดนดิน> พูดถึงการหย่าร้างแบบสมัครใจทั้งสองฝ่ายหรือที่เรียกว่า ‘เหอหลี’ (和离) บ่อยครั้ง ชวนให้ Storyฯ คิดถึงนิยายและซีรีส์ไม่น้อยที่กล่าวถึงการเลิกรากันด้วยวิธีต่างๆ

    วันนี้เรามาคุยกันเรื่องการหย่าร้างหรือเลิกราของสามีภรรยาในจีนโบราณว่ามีกี่วิธี

    วิธีแรกคือบุรุษเป็นฝ่ายทิ้งสตรี หรือที่เรียกว่า ‘ซิว’ (休) หรือ ‘ชู’ (出) หรือ ‘ชวี่’ (去) โดยมีหลักการว่า ‘เจ็ดขับสามไม่ไป’ (七出,三不去) ซึ่งเป็นหลักการที่เริ่มขึ้นในสมัยราชวงศ์โจว (1046-256 ปีก่อนคริสตกาล) และพัฒนาขึ้นมาเป็นกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ผ่านหลายยุคหลายสมัย

    มีบทความภาษาไทยหลายบทความที่กล่าวถึงหลักการ ‘เจ็ดขับสามไม่ไป’ นี้โดยละเอียด เพื่อนเพจสามารถหาอ่านดูได้ Storyฯ ขอพูดแบบสรุปว่า หากภรรยาเข้าข่ายประการใดประการหนึ่งในเจ็ดประการนี้สามีและ/หรือพ่อแม่สามีสามารถขับภรรยาได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ไม่ต้องได้รับความเห็นชอบจากฝ่ายหญิง ขอเพียงสองฝ่ายรับทราบและมีพยานลงนามรับรู้ถือว่าจบ แต่หากฝ่ายชายทิ้งเมียโดยไม่เข้าข่ายเจ็ดข้อนี้ ก็จะมีบทลงโทษตามกฎหมาย อย่างในสมัยถังคือให้ไปเป็นแรงงานหนักหนึ่งปีครึ่ง และเจ็ดประการนี้คือ (1) ไม่เชื่อฟังพ่อแม่สามี (2) ไม่มีบุตรชาย (3) คบชู้สู่ชาย (4) หึงหวงสามี (5) มีโรคร้ายหรือพิการ (6) ปากไม่ดี และ (7) ลักขโมย

    และแม้ว่าภรรยาจะเข้าข่ายเจ็ดประการนี้ แต่หากมีความจำเป็นหนึ่งในสามลักษณะนี้ กฎหมายก็ห้ามไม่ให้บุรุษทิ้งเมีย กล่าวคือ (ก) ภรรยาเมื่อถูกทิ้งและขับออกจากเรือนของสามีแล้วจะไม่มีที่ไป เช่น ตอนแต่งงานพ่อแม่ของสตรียังมีชีวิตอยู่แต่ตอนนี้เสียไปแล้ว (ข) ได้เคยร่วมไว้ทุกข์ให้พ่อแม่สามีนานสามปีแล้ว ถือว่ามีความกตัญญูอย่างยิ่งยวดจนไม่อาจขับไล่ และ (ค) สามีแต่งภรรยามาตอนยากจน พอรวยแล้วจะทิ้งเมีย ทำไม่ได้ หากใครฝ่าฝืนก็มีบทลงโทษทางกฎหมายเช่นกัน อย่างในสมัยถังคือโบยหนึ่งร้อยครั้ง

    การเลิกราแบบที่สองคือ ‘อี้เจวี๋ย’ (义绝 /ตัดสัมพันธ์) หรือการบังคับหย่าโดยอำนาจศาลหรือที่ว่าการท้องถิ่น ปรากฏครั้งแรกในประมวลกฎหมายถัง ซึ่งถูกประกาศใช้ในยุคถังเกาจง (ฮ่องเต้องค์ที่สามแห่งราชวงศ์ถัง) เมื่อปีค.ศ. 653 เป็นกรณีที่ฝ่ายหญิงถูกสามีหรือคนในบ้านสามีกระทำรุนแรง เช่น ตบตีทำร้ายร่างกายฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด บังคับให้ภรรยาไปหลับนอนกับชายอื่น เอาเมียไปขาย หรือมีการประทุษร้ายรุนแรงต่อครอบครัวจนไม่อาจอยู่ร่วมกันได้แล้ว เช่น ฆ่าพ่อแม่ของอีกฝ่าย เป็นต้น เมื่อเกิดเหตุการณ์รุนแรงลักษณะนี้ ไม่ว่าฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงอาจฟ้องหย่าได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีกฎหมายนี้ แม้ว่าสตรีจะร้องทุกข์เพื่อขอหย่ายังมักถูกตัดสินให้รับโทษด้วยเพราะถูกมองว่าการร้องเรียนสามีหรือครอบครัวสามีเป็นการกระทำที่ไม่ถูกจรรยาของสตรี แต่เมื่อมีกฎหมายรองรับแล้ว การบังคับหย่าจึงเป็นเส้นทางสู่อิสรภาพของสตรีวิธีหนึ่ง และเป็นการตัดสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลอีกด้วย

    และการเลิกราแบบสุดท้ายคือการหย่าร้างแบบสมัครใจทั้งสองฝ่ายหรือที่เรียกว่า ‘เหอหลี’ (和离) ซึ่งว่ากันว่ามีปฏิบัติกันมาตั้งแต่ก่อนยุคสมัยราชวงศ์ฉิน แต่... มันไม่ได้เป็นกฎหมายบังคับใช้จวบจนสมัยถัง โดยประมวลกฎหมายแห่งถังบัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่า เมื่อสามีภรรยาไม่พอใจซึ่งกันและกันจนไม่สามารถอยู่ร่วมครองเรือนกันต่อไปได้แล้วนั้น ให้เลิกรากันได้โดยไม่ถือว่าขัดต่อกฎหมาย

    แม้ว่าบทกฎหมายดังกล่าวจะถูกใช้ต่อมาอีกหลายยุคสมัย แต่ไม่มีการอธิบายหลักการนี้เพิ่มเติม และในปัจจุบันยังมีบทความวิเคราะห์ที่ให้ความคิดเห็นแตกต่างกันไปเกี่ยวกับเลิกโดยสมัครใจนี้ในบริบทของสังคมจีนโบราณ ทั้งนี้ ในบริบทของสังคมจีนโบราณ การแต่งงานถูกมองว่าเป็นการเกี่ยวดองของสองตระกูลที่ได้รับการยินยอมจากพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายและไม่ใช่เรื่องของคนสองคนเท่านั้น อย่างที่กล่าวในตอนต้น การเลิกหรือขับเมียยังสามารถทำได้โดยพ่อแม่ของฝ่ายชาย และการถูกบังคับหย่าโดยคำสั่งของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นการกระทำที่ตัดสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูล จึงเป็นที่กังขาว่า การเลิกราโดยสมัครใจเป็นการตัดสินใจร่วมของคนสองคนเท่านั้นจริงหรือ

    จะเห็นได้ว่า นับแต่สมัยถังมามีบทกฎหมายที่คุ้มครองสตรีในการสมรสมากขึ้น แต่กระนั้น บุรุษก็ยังมีทางเลือกมากกว่าสตรี โดยอาจใช้ข้ออ้างของ ‘เจ็ดขับสามไม่ไป’ มาใช้เป็นเหตุผลในการทิ้งเมีย และหากบุรุษไม่ยินยอมเลิกรา สตรีก็หย่าขาดจากสามีไม่ได้ยกเว้นเกิดกรณีร้ายแรงพอที่จะฟ้องหย่าได้

    อย่างไรก็ดี ในยุคสมัยต่อๆ มามีการเพิ่มเติมข้ออนุโลมให้สตรีใช้เป็นเหตุผลการหย่าร้างได้อีกแต่ไม่มาก ตัวอย่างเช่น ในสมัยหมิงมีการกำหนดไว้ว่า หากสามีหายตัวไปไม่กลับบ้านนานเกินสามปี ภรรยาสามารถยกเลิกพันธะสมรสได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายโดยมีเอกสารราชการยืนยัน

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.manmankan.com/dy2013/202401/20764.shtml
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.chinacourt.org/article/detail/2022/11/id/7011234.shtml
    https://www.legal-theory.org/?mod=info&act=view&id=21560
    http://www.legaldaily.com.cn/fxjy/content/2021-05/12/content_8503165.html
    http://law.newdu.com/uploads/202401/31/201005130115.pdf
    https://bjgy.bjcourt.gov.cn/article/detail/2020/11/id/5563896.shtml

    #ทำนองรักกังวานแดนดิน #การหย่าร้าง #เหอหลี #สาระจีน
    การหย่าร้างในสมัยจีนโบราณ สวัสดีค่ะ ในเรื่อง <ทำนองรักกังวานแดนดิน> พูดถึงการหย่าร้างแบบสมัครใจทั้งสองฝ่ายหรือที่เรียกว่า ‘เหอหลี’ (和离) บ่อยครั้ง ชวนให้ Storyฯ คิดถึงนิยายและซีรีส์ไม่น้อยที่กล่าวถึงการเลิกรากันด้วยวิธีต่างๆ วันนี้เรามาคุยกันเรื่องการหย่าร้างหรือเลิกราของสามีภรรยาในจีนโบราณว่ามีกี่วิธี วิธีแรกคือบุรุษเป็นฝ่ายทิ้งสตรี หรือที่เรียกว่า ‘ซิว’ (休) หรือ ‘ชู’ (出) หรือ ‘ชวี่’ (去) โดยมีหลักการว่า ‘เจ็ดขับสามไม่ไป’ (七出,三不去) ซึ่งเป็นหลักการที่เริ่มขึ้นในสมัยราชวงศ์โจว (1046-256 ปีก่อนคริสตกาล) และพัฒนาขึ้นมาเป็นกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ผ่านหลายยุคหลายสมัย มีบทความภาษาไทยหลายบทความที่กล่าวถึงหลักการ ‘เจ็ดขับสามไม่ไป’ นี้โดยละเอียด เพื่อนเพจสามารถหาอ่านดูได้ Storyฯ ขอพูดแบบสรุปว่า หากภรรยาเข้าข่ายประการใดประการหนึ่งในเจ็ดประการนี้สามีและ/หรือพ่อแม่สามีสามารถขับภรรยาได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ไม่ต้องได้รับความเห็นชอบจากฝ่ายหญิง ขอเพียงสองฝ่ายรับทราบและมีพยานลงนามรับรู้ถือว่าจบ แต่หากฝ่ายชายทิ้งเมียโดยไม่เข้าข่ายเจ็ดข้อนี้ ก็จะมีบทลงโทษตามกฎหมาย อย่างในสมัยถังคือให้ไปเป็นแรงงานหนักหนึ่งปีครึ่ง และเจ็ดประการนี้คือ (1) ไม่เชื่อฟังพ่อแม่สามี (2) ไม่มีบุตรชาย (3) คบชู้สู่ชาย (4) หึงหวงสามี (5) มีโรคร้ายหรือพิการ (6) ปากไม่ดี และ (7) ลักขโมย และแม้ว่าภรรยาจะเข้าข่ายเจ็ดประการนี้ แต่หากมีความจำเป็นหนึ่งในสามลักษณะนี้ กฎหมายก็ห้ามไม่ให้บุรุษทิ้งเมีย กล่าวคือ (ก) ภรรยาเมื่อถูกทิ้งและขับออกจากเรือนของสามีแล้วจะไม่มีที่ไป เช่น ตอนแต่งงานพ่อแม่ของสตรียังมีชีวิตอยู่แต่ตอนนี้เสียไปแล้ว (ข) ได้เคยร่วมไว้ทุกข์ให้พ่อแม่สามีนานสามปีแล้ว ถือว่ามีความกตัญญูอย่างยิ่งยวดจนไม่อาจขับไล่ และ (ค) สามีแต่งภรรยามาตอนยากจน พอรวยแล้วจะทิ้งเมีย ทำไม่ได้ หากใครฝ่าฝืนก็มีบทลงโทษทางกฎหมายเช่นกัน อย่างในสมัยถังคือโบยหนึ่งร้อยครั้ง การเลิกราแบบที่สองคือ ‘อี้เจวี๋ย’ (义绝 /ตัดสัมพันธ์) หรือการบังคับหย่าโดยอำนาจศาลหรือที่ว่าการท้องถิ่น ปรากฏครั้งแรกในประมวลกฎหมายถัง ซึ่งถูกประกาศใช้ในยุคถังเกาจง (ฮ่องเต้องค์ที่สามแห่งราชวงศ์ถัง) เมื่อปีค.ศ. 653 เป็นกรณีที่ฝ่ายหญิงถูกสามีหรือคนในบ้านสามีกระทำรุนแรง เช่น ตบตีทำร้ายร่างกายฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด บังคับให้ภรรยาไปหลับนอนกับชายอื่น เอาเมียไปขาย หรือมีการประทุษร้ายรุนแรงต่อครอบครัวจนไม่อาจอยู่ร่วมกันได้แล้ว เช่น ฆ่าพ่อแม่ของอีกฝ่าย เป็นต้น เมื่อเกิดเหตุการณ์รุนแรงลักษณะนี้ ไม่ว่าฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงอาจฟ้องหย่าได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีกฎหมายนี้ แม้ว่าสตรีจะร้องทุกข์เพื่อขอหย่ายังมักถูกตัดสินให้รับโทษด้วยเพราะถูกมองว่าการร้องเรียนสามีหรือครอบครัวสามีเป็นการกระทำที่ไม่ถูกจรรยาของสตรี แต่เมื่อมีกฎหมายรองรับแล้ว การบังคับหย่าจึงเป็นเส้นทางสู่อิสรภาพของสตรีวิธีหนึ่ง และเป็นการตัดสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลอีกด้วย และการเลิกราแบบสุดท้ายคือการหย่าร้างแบบสมัครใจทั้งสองฝ่ายหรือที่เรียกว่า ‘เหอหลี’ (和离) ซึ่งว่ากันว่ามีปฏิบัติกันมาตั้งแต่ก่อนยุคสมัยราชวงศ์ฉิน แต่... มันไม่ได้เป็นกฎหมายบังคับใช้จวบจนสมัยถัง โดยประมวลกฎหมายแห่งถังบัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่า เมื่อสามีภรรยาไม่พอใจซึ่งกันและกันจนไม่สามารถอยู่ร่วมครองเรือนกันต่อไปได้แล้วนั้น ให้เลิกรากันได้โดยไม่ถือว่าขัดต่อกฎหมาย แม้ว่าบทกฎหมายดังกล่าวจะถูกใช้ต่อมาอีกหลายยุคสมัย แต่ไม่มีการอธิบายหลักการนี้เพิ่มเติม และในปัจจุบันยังมีบทความวิเคราะห์ที่ให้ความคิดเห็นแตกต่างกันไปเกี่ยวกับเลิกโดยสมัครใจนี้ในบริบทของสังคมจีนโบราณ ทั้งนี้ ในบริบทของสังคมจีนโบราณ การแต่งงานถูกมองว่าเป็นการเกี่ยวดองของสองตระกูลที่ได้รับการยินยอมจากพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายและไม่ใช่เรื่องของคนสองคนเท่านั้น อย่างที่กล่าวในตอนต้น การเลิกหรือขับเมียยังสามารถทำได้โดยพ่อแม่ของฝ่ายชาย และการถูกบังคับหย่าโดยคำสั่งของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นการกระทำที่ตัดสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูล จึงเป็นที่กังขาว่า การเลิกราโดยสมัครใจเป็นการตัดสินใจร่วมของคนสองคนเท่านั้นจริงหรือ จะเห็นได้ว่า นับแต่สมัยถังมามีบทกฎหมายที่คุ้มครองสตรีในการสมรสมากขึ้น แต่กระนั้น บุรุษก็ยังมีทางเลือกมากกว่าสตรี โดยอาจใช้ข้ออ้างของ ‘เจ็ดขับสามไม่ไป’ มาใช้เป็นเหตุผลในการทิ้งเมีย และหากบุรุษไม่ยินยอมเลิกรา สตรีก็หย่าขาดจากสามีไม่ได้ยกเว้นเกิดกรณีร้ายแรงพอที่จะฟ้องหย่าได้ อย่างไรก็ดี ในยุคสมัยต่อๆ มามีการเพิ่มเติมข้ออนุโลมให้สตรีใช้เป็นเหตุผลการหย่าร้างได้อีกแต่ไม่มาก ตัวอย่างเช่น ในสมัยหมิงมีการกำหนดไว้ว่า หากสามีหายตัวไปไม่กลับบ้านนานเกินสามปี ภรรยาสามารถยกเลิกพันธะสมรสได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายโดยมีเอกสารราชการยืนยัน (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.manmankan.com/dy2013/202401/20764.shtml Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.chinacourt.org/article/detail/2022/11/id/7011234.shtml https://www.legal-theory.org/?mod=info&act=view&id=21560 http://www.legaldaily.com.cn/fxjy/content/2021-05/12/content_8503165.html http://law.newdu.com/uploads/202401/31/201005130115.pdf https://bjgy.bjcourt.gov.cn/article/detail/2020/11/id/5563896.shtml #ทำนองรักกังวานแดนดิน #การหย่าร้าง #เหอหลี #สาระจีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 382 มุมมอง 0 รีวิว
  • #คนรุ่นใหม่ที่ไม่ทันระบอบทักษิณยุคแรกต้องอึ้ง
    ในวันที่น้องหลายคน เกิดไม่ทัน หรือโตไม่ทัน
    เวลาที่มีคนรุ่นก่อน เล่าว่าระบอบทักษิณมันยังงั้นอย่างงี้
    ก็จะมีกลุ่มอีกฝัง ใช้วาทะกรรมว่า ระบอบทักษิณ
    เป็นเพียงภาพวาดให้หวาด กลัว ตลอด ไม่มีอยู่จริง
    ............
    แต่วันนี้ คนไทยโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เริ่มอึ้งซ้ำๆ
    เมื่อทักษิณได้กลับมาบนแผ่นดินไทยอีกรอบ
    ไม่ว่าจะเป็นการที่รับโทษแบบเทวดา
    อ้าวป๋วย แต่ว่ายน้ำ ชกมวย เดินพบปะแฟนคลับ
    บินไปนั่นไปนี่ โดยไม่เกรงว่า คนที่ช่วยให้ออกมา
    โดยไม่ต้องเหยียบคูกแม้แต่วินาทีเดียว จะต้องได้
    รับผลอย่างไร
    ทั้งๆที่ อ้างว่าจะกลับมาเลี้ยงหลาน
    แต่ทำทุกอย่าง ให้ระบบนิติรัฐเหมือนต้องพิกลพิการ
    ถามคนไทยที่ไม่ใช่แฟนคลับเค้า ทุกคนซิ
    มีใคร เชื่อว่าโทนี่ ป๋วยสาหััส ขนาดเส้นเอนเปื่อยยุ่ย
    หรือตามรายละเอียดที่ระบุอ้างบ้าง
    ก็เห็นอยู่ตำตา ป๋วยตรงไหนฟร๊ะ ว่ายน้ำ ร้องเพลง
    ร่อนไปทัว
    มันบาดใจกับความไม่เท่าเทียม ความไม่ยุติธรรม
    ที่คนรุ่นก่อน เคยเจอมาก่อน
    ยกตัวอย่างกรณีภาคใต้ ก่อนยุคลุงตู่ คนใต้รู้ดี
    ถนนภาคใต้ กากสุดละ ท่านชวนหลีกภัย
    เคยประสานผ่านชัชชาติ ซึ่งขณะนั้นดูแลคมนาคม
    ให้ช่วยจัดงบในการทำถนนให้คนใต้ด้วย
    คุณรู้มั๊ย ทักษิณว่าไง จังหวัดไหน ภาคไหน
    ไม่เลือกผม ก็เอาไว้ทีหลังละกัน
    ประโยคนี้ ที่ออกจากปากนายกที่ชื่อทักษิณในขณะนั้น
    และได้เคยลั่นอีกครั้ง ในการให้สัมภาษณ์หน้าตาลอย
    ผ่านโทรทัศน์มาแล้วเช่นกัน
    รวมถึง สัมปทาน การแข่งขันในการประมูลงาน
    พรรคพวกของโทนี่ แม้กระทั่งบริษัทของโอ๊ค คือฮาวคัม
    ชนะมันแทบทุกหน่วยงาน บริษัทธรรมดา ไม่มีทางที่จะได้ลืมตาอ้าปาก
    มันยังมีอีกเยอะ ค่อยดูๆไป แล้วจะกระจ่าย
    ว่าระบอบทักษิณ คือแบบไหน รับรอง หนำ จนนั่งไม่ติดครับ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คนรุ่นใหม่ที่ไม่ทันระบอบทักษิณยุคแรกต้องอึ้ง ในวันที่น้องหลายคน เกิดไม่ทัน หรือโตไม่ทัน เวลาที่มีคนรุ่นก่อน เล่าว่าระบอบทักษิณมันยังงั้นอย่างงี้ ก็จะมีกลุ่มอีกฝัง ใช้วาทะกรรมว่า ระบอบทักษิณ เป็นเพียงภาพวาดให้หวาด กลัว ตลอด ไม่มีอยู่จริง ............ แต่วันนี้ คนไทยโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ เริ่มอึ้งซ้ำๆ เมื่อทักษิณได้กลับมาบนแผ่นดินไทยอีกรอบ ไม่ว่าจะเป็นการที่รับโทษแบบเทวดา อ้าวป๋วย แต่ว่ายน้ำ ชกมวย เดินพบปะแฟนคลับ บินไปนั่นไปนี่ โดยไม่เกรงว่า คนที่ช่วยให้ออกมา โดยไม่ต้องเหยียบคูกแม้แต่วินาทีเดียว จะต้องได้ รับผลอย่างไร ทั้งๆที่ อ้างว่าจะกลับมาเลี้ยงหลาน แต่ทำทุกอย่าง ให้ระบบนิติรัฐเหมือนต้องพิกลพิการ ถามคนไทยที่ไม่ใช่แฟนคลับเค้า ทุกคนซิ มีใคร เชื่อว่าโทนี่ ป๋วยสาหััส ขนาดเส้นเอนเปื่อยยุ่ย หรือตามรายละเอียดที่ระบุอ้างบ้าง ก็เห็นอยู่ตำตา ป๋วยตรงไหนฟร๊ะ ว่ายน้ำ ร้องเพลง ร่อนไปทัว มันบาดใจกับความไม่เท่าเทียม ความไม่ยุติธรรม ที่คนรุ่นก่อน เคยเจอมาก่อน ยกตัวอย่างกรณีภาคใต้ ก่อนยุคลุงตู่ คนใต้รู้ดี ถนนภาคใต้ กากสุดละ ท่านชวนหลีกภัย เคยประสานผ่านชัชชาติ ซึ่งขณะนั้นดูแลคมนาคม ให้ช่วยจัดงบในการทำถนนให้คนใต้ด้วย คุณรู้มั๊ย ทักษิณว่าไง จังหวัดไหน ภาคไหน ไม่เลือกผม ก็เอาไว้ทีหลังละกัน ประโยคนี้ ที่ออกจากปากนายกที่ชื่อทักษิณในขณะนั้น และได้เคยลั่นอีกครั้ง ในการให้สัมภาษณ์หน้าตาลอย ผ่านโทรทัศน์มาแล้วเช่นกัน รวมถึง สัมปทาน การแข่งขันในการประมูลงาน พรรคพวกของโทนี่ แม้กระทั่งบริษัทของโอ๊ค คือฮาวคัม ชนะมันแทบทุกหน่วยงาน บริษัทธรรมดา ไม่มีทางที่จะได้ลืมตาอ้าปาก มันยังมีอีกเยอะ ค่อยดูๆไป แล้วจะกระจ่าย ว่าระบอบทักษิณ คือแบบไหน รับรอง หนำ จนนั่งไม่ติดครับ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 354 มุมมอง 0 รีวิว
  • โกทรมีโอกาสรอด เพราะบทเรียนในอดีตเปิดช่องโหว่
    ถึงเวลาที่โกทร เจ้าพ่อปราจีนจะสิ้นอิสรภาพเข้าไปอยู่ในคู่กับมือปูน ติดตามทั้งหกเนื่องจากไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างสู้คดี กรณีคดีจ้างวานคิล ที่มีเจ้าพ่ออยู่เบื้องหลังคําสั่งคิล ย่อมผ่านการวางแผนมาเป็นอย่างดี ที่สําคัญหลังเหยื่อตุยคดีความจะเป็นไปในทิศทางไหนก็ต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือไว้แล้วจึงเชื่อกันว่า เมื่อคดีขึ้นสู่ศาล มีโอกาสที่โกธรจะหลุดจากคดีเนื่องจากมือปืนของโกธร 2 คนให้การสารภาพในลักษณะสมอ้างว่า
    ลงมือรัวคิลสอจอโต้งด้วยเรื่องส่วนตัวเหตุจากความบันดาลโทสะถูก สอจอโต้งตบหัวขณะที่มือปูนอีกสี่คนก็ให้การสอดรับไปในทางเดียวกัน โดยกันตัวโกธรไปจากฉากนองเลือ.ดอ้างว่าตอนเกิดเหตุโกธรเข้าไปนอนแล้วไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย แม้ในทางสืบสวนรูปคดีส่อเค้าว่าการสังหาน สจโต้งคือการวางแผน รวมค่ายอย่างแยบยลถึงขั้นลงทุนใช้บ้านตัวเองเป็นสถานที่ลงมือ
    แต่การพิสูจน์ในศาลเป็นอีกเรื่องหนึ่งการนําเสนอให้ศาลเชื่อในน้ำหนักของพยานหลักฐานในเมื่อพยานทุกคนในที่เกิดเหตุให้การไปในทางเดียวกัน ในลักษณะเตี๊ยมกันมาแล้วเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรที่จะสาวไปถึงคนบงการโดยเฉพาะสองมือปูนของโกธรพร้อมจะรับการติดคุกเองด้วยการยอมรับผิดเอง ไม่ยอมเปิดปากซัดทอดใครทั้งสิ้น
    ในอดีตก็เคยมีคดีดังซึ่งมือปูนยอมติดคุกเอง ไม่ยอมพาดพิงถึงผู้จ้างวานเป็นผลให้กฎหมายทําอะไรคนสั่งการไม่ได้ต่อให้รู้ทั้งรู้ก็ตาม ย้อนไปเมื่อปี2533 เคยเกิดคดีดังสนั่นเมือง
    เมื่อนายบุญสิทธิ์อายุ 47 ปีเจ้าของกิจการบางกอกแฮมตราหมูตัวเดียว ถูกมือปูนชุดยีนส์รัวคิลด้วยปูนจุดสามห้าเจ็ดแม็กนั่ม กระสุ.นเจาะเกราะ รถเปอโย ขณะเสี่ยบางกอกแฮมนั่งรถของทนายความประจําตัวออกจากบ้าน มือปูนสาดกระสูนจากกระจกหน้าต่างฝั่งซ้ายกระสูนเจาะร่างเสี่ยดัง
    ทั้งที่ปกติเสี่ยบุญสิทธิ์ระวังตัวมาตลอดเพราะรู้ว่าอริจ้องเอาชีวิต ถึงขั้นเตรียมกระเป๋าเจมส์บอนด์เสริมเหล็กไว้ป้องกันกระสูนปูนแต่วันนั้นไม่ทันยกกันเลยจบชีวิต
    หลังการลงมือตํารวจนครบาลรู้ในทันที สาเหตุเป็นเรื่องการคิลล้างแค้นอย่างแน่นอนเป็นผลต่อเนื่องมาจากคดียิ..งป๋าตงเจ็บ ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทฟลาวเวอร์เอ็กซ์เพรสส่งออกดอกไม้ประดิษฐ์คู่แข่งอีกธุรกิจของเสี่ยบุญสิทธิ์ จึงทำให้นายบุญสิทธิ์ใช้ปูนเป็นเครื่องมือกําจัดคู่แข่ง ส่งมือปูนสองคนใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ ปืนจุดสามห้าเจ็ดแม็กนั่มเป็นอาวุธถล่มยิ.งป๋าตง ใจกลางกรุงกระสุนเจาะขมับป๋าตงแม้ไม่ถึงตุย
    แต่ก็พิการตาบอดสนิททั้งสองข้างต้องอยู่ในโลกมืดไปชั่วชีวิตต่อมาตํารวจจับมือปูนและคนบงการได้ซึ่งก็คือน้องชายของนายบุญสิทธิ์ ซึ่งเป็นโปรโมเตอร์มวยชื่อดังรวมถึงตัวนายบุญสิทธิ์เองด้วย แต่มือปูนไม่ซัดทอดศาลก็เลยยกฟ้องในส่วนของคนจ้างวานจากปี 2530 มาถึงปี 2531 ดังนั้นเหตุการณ์ของโกทร ก็คงไม่แตกต่างกับเรื่องในอดีตอย่างแน่นอน
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ

    โกทรมีโอกาสรอด เพราะบทเรียนในอดีตเปิดช่องโหว่ ถึงเวลาที่โกทร เจ้าพ่อปราจีนจะสิ้นอิสรภาพเข้าไปอยู่ในคู่กับมือปูน ติดตามทั้งหกเนื่องจากไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างสู้คดี กรณีคดีจ้างวานคิล ที่มีเจ้าพ่ออยู่เบื้องหลังคําสั่งคิล ย่อมผ่านการวางแผนมาเป็นอย่างดี ที่สําคัญหลังเหยื่อตุยคดีความจะเป็นไปในทิศทางไหนก็ต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือไว้แล้วจึงเชื่อกันว่า เมื่อคดีขึ้นสู่ศาล มีโอกาสที่โกธรจะหลุดจากคดีเนื่องจากมือปืนของโกธร 2 คนให้การสารภาพในลักษณะสมอ้างว่า ลงมือรัวคิลสอจอโต้งด้วยเรื่องส่วนตัวเหตุจากความบันดาลโทสะถูก สอจอโต้งตบหัวขณะที่มือปูนอีกสี่คนก็ให้การสอดรับไปในทางเดียวกัน โดยกันตัวโกธรไปจากฉากนองเลือ.ดอ้างว่าตอนเกิดเหตุโกธรเข้าไปนอนแล้วไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย แม้ในทางสืบสวนรูปคดีส่อเค้าว่าการสังหาน สจโต้งคือการวางแผน รวมค่ายอย่างแยบยลถึงขั้นลงทุนใช้บ้านตัวเองเป็นสถานที่ลงมือ แต่การพิสูจน์ในศาลเป็นอีกเรื่องหนึ่งการนําเสนอให้ศาลเชื่อในน้ำหนักของพยานหลักฐานในเมื่อพยานทุกคนในที่เกิดเหตุให้การไปในทางเดียวกัน ในลักษณะเตี๊ยมกันมาแล้วเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรที่จะสาวไปถึงคนบงการโดยเฉพาะสองมือปูนของโกธรพร้อมจะรับการติดคุกเองด้วยการยอมรับผิดเอง ไม่ยอมเปิดปากซัดทอดใครทั้งสิ้น ในอดีตก็เคยมีคดีดังซึ่งมือปูนยอมติดคุกเอง ไม่ยอมพาดพิงถึงผู้จ้างวานเป็นผลให้กฎหมายทําอะไรคนสั่งการไม่ได้ต่อให้รู้ทั้งรู้ก็ตาม ย้อนไปเมื่อปี2533 เคยเกิดคดีดังสนั่นเมือง เมื่อนายบุญสิทธิ์อายุ 47 ปีเจ้าของกิจการบางกอกแฮมตราหมูตัวเดียว ถูกมือปูนชุดยีนส์รัวคิลด้วยปูนจุดสามห้าเจ็ดแม็กนั่ม กระสุ.นเจาะเกราะ รถเปอโย ขณะเสี่ยบางกอกแฮมนั่งรถของทนายความประจําตัวออกจากบ้าน มือปูนสาดกระสูนจากกระจกหน้าต่างฝั่งซ้ายกระสูนเจาะร่างเสี่ยดัง ทั้งที่ปกติเสี่ยบุญสิทธิ์ระวังตัวมาตลอดเพราะรู้ว่าอริจ้องเอาชีวิต ถึงขั้นเตรียมกระเป๋าเจมส์บอนด์เสริมเหล็กไว้ป้องกันกระสูนปูนแต่วันนั้นไม่ทันยกกันเลยจบชีวิต หลังการลงมือตํารวจนครบาลรู้ในทันที สาเหตุเป็นเรื่องการคิลล้างแค้นอย่างแน่นอนเป็นผลต่อเนื่องมาจากคดียิ..งป๋าตงเจ็บ ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทฟลาวเวอร์เอ็กซ์เพรสส่งออกดอกไม้ประดิษฐ์คู่แข่งอีกธุรกิจของเสี่ยบุญสิทธิ์ จึงทำให้นายบุญสิทธิ์ใช้ปูนเป็นเครื่องมือกําจัดคู่แข่ง ส่งมือปูนสองคนใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ ปืนจุดสามห้าเจ็ดแม็กนั่มเป็นอาวุธถล่มยิ.งป๋าตง ใจกลางกรุงกระสุนเจาะขมับป๋าตงแม้ไม่ถึงตุย แต่ก็พิการตาบอดสนิททั้งสองข้างต้องอยู่ในโลกมืดไปชั่วชีวิตต่อมาตํารวจจับมือปูนและคนบงการได้ซึ่งก็คือน้องชายของนายบุญสิทธิ์ ซึ่งเป็นโปรโมเตอร์มวยชื่อดังรวมถึงตัวนายบุญสิทธิ์เองด้วย แต่มือปูนไม่ซัดทอดศาลก็เลยยกฟ้องในส่วนของคนจ้างวานจากปี 2530 มาถึงปี 2531 ดังนั้นเหตุการณ์ของโกทร ก็คงไม่แตกต่างกับเรื่องในอดีตอย่างแน่นอน ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Sad
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 451 มุมมอง 0 รีวิว
  • 9/12/67

    หมากเม่า หรือ มะเม่า,ต้นเม่า,เม่า,หมากเม่าหลวง,มะเม่าหลวง,หมากเม้า,มัดเซ,เม่าเสี้ยน,มะเม่าขน,หมากเม่า,เม่าหลวง,มะเม่าไฟ (Antidesma Thwaitesianum)


    ประโยชน์การใช้สอย
    * ผลมะเม่าสุกจะมีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันมะเร็ง ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย และยังช่วยชะลอความแก่ชราได้อีกด้วย
    * รสฝาดของผลมะเม่าสุก จะมีสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยยับยั้งไม่ให้ผนังหลอดเลือดเสื่อมหรือเปราะง่าย
    * รสขมของมะเม่าจะมีสารแทนนิน (Tannin) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยทำให้เกล็ดเลือดจับตัวกันน้อยลง จึงมีส่วนช่วยป้องกันโรคหัวใจล้มเหลวได้
    * ทั้งห้าส่วนของมะเม่าใช้ต้มดื่มเป็นประจำเป็นยาอายุวัฒนะได้ (ผล, ราก, ต้น, ใบ, ดอก)
    * น้ำมะเม่าสกัดเข้มข้นใช้เป็นอาหารบำรุงสุขภาพได้ดีเหมือนน้ำลูกพรุนสกัดเข้มข้น มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ
    * ผลสุกช่วยบำรุงสายตา
    * ต้น, รากช่วยขับโลหิต
    * ผลสุกมะเม่ามีสรรพคุณช่วยฟอกโลหิต 
    * ผลสุกมีสรรพคุณทางยาช่วยขับเสมหะ
    * ผลมีสรรพคุณเป็นยาระบาย
    * ต้น, รากช่วยขับปัสสาวะ
    * ต้น, รากช่วยแก้มดลูกพิการ
    * ต้น, รากช่วยแก้มดลูกอักเสบช้ำบวม 
    * ต้น, รากช่วยแก้อาการตกขาวของสตรี
    * ต้น, รากช่วยขับน้ำคาวปลา 
    * ต้น, รากช่วยบำรุงไต 
    * ต้น, รากช่วยแก้เส้นเอ็นพิการ

    https://vt.tiktok.com/ZSjTpTSny/
    9/12/67 หมากเม่า หรือ มะเม่า,ต้นเม่า,เม่า,หมากเม่าหลวง,มะเม่าหลวง,หมากเม้า,มัดเซ,เม่าเสี้ยน,มะเม่าขน,หมากเม่า,เม่าหลวง,มะเม่าไฟ (Antidesma Thwaitesianum) ประโยชน์การใช้สอย * ผลมะเม่าสุกจะมีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันมะเร็ง ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย และยังช่วยชะลอความแก่ชราได้อีกด้วย * รสฝาดของผลมะเม่าสุก จะมีสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยยับยั้งไม่ให้ผนังหลอดเลือดเสื่อมหรือเปราะง่าย * รสขมของมะเม่าจะมีสารแทนนิน (Tannin) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยทำให้เกล็ดเลือดจับตัวกันน้อยลง จึงมีส่วนช่วยป้องกันโรคหัวใจล้มเหลวได้ * ทั้งห้าส่วนของมะเม่าใช้ต้มดื่มเป็นประจำเป็นยาอายุวัฒนะได้ (ผล, ราก, ต้น, ใบ, ดอก) * น้ำมะเม่าสกัดเข้มข้นใช้เป็นอาหารบำรุงสุขภาพได้ดีเหมือนน้ำลูกพรุนสกัดเข้มข้น มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ * ผลสุกช่วยบำรุงสายตา * ต้น, รากช่วยขับโลหิต * ผลสุกมะเม่ามีสรรพคุณช่วยฟอกโลหิต  * ผลสุกมีสรรพคุณทางยาช่วยขับเสมหะ * ผลมีสรรพคุณเป็นยาระบาย * ต้น, รากช่วยขับปัสสาวะ * ต้น, รากช่วยแก้มดลูกพิการ * ต้น, รากช่วยแก้มดลูกอักเสบช้ำบวม  * ต้น, รากช่วยแก้อาการตกขาวของสตรี * ต้น, รากช่วยขับน้ำคาวปลา  * ต้น, รากช่วยบำรุงไต  * ต้น, รากช่วยแก้เส้นเอ็นพิการ https://vt.tiktok.com/ZSjTpTSny/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลงพื้นที่ถิ่นทุรกันดาร 4 จังหวัด มอบรถเข็นวีลแชร์พร้อมค่าพาหนะแก่ผู้พิการด้อยโอกาสในส่วนภูมิภาค จังหวัดสระแก้ว อุตรดิตถ์ ชุมพร และนครศรีธรรมราช พร้อมมอบจักรยานให้แก่โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์
    .
    ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 7 ธันวาคม 2567 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ พร้อมด้วย นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ นำทีมลงพื้นที่มอบรถเข็นวีลแชร์พร้อมค่าพาหนะ คนละ 500 บาท แก่ผู้พิการด้อยโอกาสในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสระแก้ว อุตรดิตถ์ ชุมพร และนครศรีธรรมราช รวมจำนวน 400 คัน ใน โครงการ ป่อเต็กตึ๊ง สงเคราะห์สังคม รวมมูลค่าเป็นเงินทั้งสิ้น 1,160,000 บาท เพื่อบรรเทาความยากลำบากในการดำรงชีวิต และเพื่อให้ผู้พิการสามารถช่วยเหลือตนเองได้
    และในโอกาสเดียวกันนี้ ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ มูลนิธิฯ ยังได้มอบจักรยานใน “โครงการ จักรยานเพื่อน้องสัญจร” ให้กับโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ รวม 5 แห่ง รวมจักรยานจำนวน 100 คัน อุปกรณ์กีฬา จำนวน 5 ชุด หน้ากากอนามัย 2,500 ชิ้น พร้อมค่าพาหนะโรงเรียนละ 2,000 บาท คิดเป็นมูลค่า 165,950 บาท เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักเรียนที่ประสบปัญหาการเดินทางมาโรงเรียน แบ่งเบาภาระผู้ปกครอง เสริมสร้างให้นักเรียนได้ออกกำลังกาย เรียนรู้กฎจราจร การแบ่งปัน และการดูแลสาธารณสมบัติร่วมกัน รวมมูลค่าการดำเนินงานทั้งสองโครงการในครั้งนี้ทั้งสิ้น 1,325,950 บาท (หนึ่งล้านสามแสนสองหมื่นห้าพันเก้าร้อยห้าสิบบาทถ้วน) โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย มูลนิธิฯ / สมาคมจีนประจำจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี รวมทั้ง ประชาชน เยาวชน และผู้แทนจากสถาบันการศึกษา เป็นผู้รับมอบ
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 114 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และเฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    #แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418
    #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลงพื้นที่ถิ่นทุรกันดาร 4 จังหวัด มอบรถเข็นวีลแชร์พร้อมค่าพาหนะแก่ผู้พิการด้อยโอกาสในส่วนภูมิภาค จังหวัดสระแก้ว อุตรดิตถ์ ชุมพร และนครศรีธรรมราช พร้อมมอบจักรยานให้แก่โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ . ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 7 ธันวาคม 2567 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ พร้อมด้วย นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ นำทีมลงพื้นที่มอบรถเข็นวีลแชร์พร้อมค่าพาหนะ คนละ 500 บาท แก่ผู้พิการด้อยโอกาสในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสระแก้ว อุตรดิตถ์ ชุมพร และนครศรีธรรมราช รวมจำนวน 400 คัน ใน โครงการ ป่อเต็กตึ๊ง สงเคราะห์สังคม รวมมูลค่าเป็นเงินทั้งสิ้น 1,160,000 บาท เพื่อบรรเทาความยากลำบากในการดำรงชีวิต และเพื่อให้ผู้พิการสามารถช่วยเหลือตนเองได้ และในโอกาสเดียวกันนี้ ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ มูลนิธิฯ ยังได้มอบจักรยานใน “โครงการ จักรยานเพื่อน้องสัญจร” ให้กับโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ รวม 5 แห่ง รวมจักรยานจำนวน 100 คัน อุปกรณ์กีฬา จำนวน 5 ชุด หน้ากากอนามัย 2,500 ชิ้น พร้อมค่าพาหนะโรงเรียนละ 2,000 บาท คิดเป็นมูลค่า 165,950 บาท เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักเรียนที่ประสบปัญหาการเดินทางมาโรงเรียน แบ่งเบาภาระผู้ปกครอง เสริมสร้างให้นักเรียนได้ออกกำลังกาย เรียนรู้กฎจราจร การแบ่งปัน และการดูแลสาธารณสมบัติร่วมกัน รวมมูลค่าการดำเนินงานทั้งสองโครงการในครั้งนี้ทั้งสิ้น 1,325,950 บาท (หนึ่งล้านสามแสนสองหมื่นห้าพันเก้าร้อยห้าสิบบาทถ้วน) โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย มูลนิธิฯ / สมาคมจีนประจำจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี รวมทั้ง ประชาชน เยาวชน และผู้แทนจากสถาบันการศึกษา เป็นผู้รับมอบ . ตลอดระยะเวลากว่า 114 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และเฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” #แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 480 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุน คุก รอ อัยการศึกโสมขาวพิการ : [คุยผ่าโลก worldtalk]
    ยุน คุก รอ อัยการศึกโสมขาวพิการ : [คุยผ่าโลก worldtalk]
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 533 มุมมอง 11 0 รีวิว
  • ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ จากผู้พิการทางสายตา
    ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ จากผู้พิการทางสายตา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบ.ตร เตรียมปั้น ตำรวจอินฟลู มาต่อสู้คนเลว
    บิ๊กต่าย ผบ.ตร ได้รับเสียงสรรเสริญจากตํารวจทั้งประเทศ ในการแถลง สิบห้านโยบายหลักของสํานักงานตํารวจแห่งชาติโดยให้ตํารวจทั้งหมดปฏิบัติตามนโยบายอย่างเร่งด่วนประกอบด้วย
    ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ เปลี่ยนmindsetให้ตํารวจเป็นที่พึ่งของประชาชน ให้รางวัลแก่ตํารวจน้ําดี และลงโทษตํารวจเลว พัฒนางานสถานีตํารวจ แก้ไขปัญหางานสอบสวน ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่เป็นภัยคุกคามต่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมือง สร้างเสริมวินัยจราจร ทํางานเชิงรุกด้านการข่าว ประชาสัมพันธ์เชิงรุกสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรเป็นต้น
    ซึ่ง ข้อหนึ่งที่สร้างความฮือฮาก็คือให้ผู้บัญชาการหรือผู้บังคับการ จะต้องเป็น influencerด้วยตนเอง เพื่อเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ปัจจุบันต้องบอกว่าถึงเวลาแล้วจริงๆ ที่ตํารวจจะต้องเป็น influ เองสักทีเพราะที่ผ่านมา influ สายกฎหมายสายสังคม กลับมาก่อคดีอาญาต่างๆนานาเสียเอง อย่างทนายตั้มที่กลายร่างเป็นทนายต้ม สร้างภาพหลอกลวงสังคมปกปิดความสกปรกชั่วร้ายที่ซ่อนไว้อย่างแนบเนียน เอกสายไหม ต้องรอด โดนคดีปั่นข่าวเท็จดีไอคอน ด้วยวัตถุประสงค์ลึกลับอะไรสักอย่าง ฟิล์มรัฐภูมิ จ่อถูกดําเนินคดีข้อหาพยายามตบทรัพย์ดิไอคอน แกนนําต้านโกงอย่างเจ๊พัฒน์ กิจอนงค์ สุดท้ายมาโดนคดีตบทรัพย์เสียเอง
    ตัวอย่างเหล่านี้เป็นความพิกลพิการของสังคมไทย ลงภาพลักษณ์ของคนที่ไม่สะอาดจริงปล่อยให้มายึดหัวหาดเป็นอินฟลูเอนเซอร์เพราะฉะนั้นจึงเป็นโอกาสเหมาะสมที่องค์กรตํารวจยุคบิ๊กต่าย จะผลักดันคนดีคนเก่งในสํานักงานตํารวจแห่งชาติขึ้นมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์เอง เพื่อคานอํานาจอินฟลูปลอมๆ ทั้งหลาย
    อย่างน้อยตํารวจเก่าสองคนก็ผลักดันตัวเองสําเร็จจนผงาดเป็นอินฟลูชื่อดัง เวลาพูดถึงประเด็นปัญหาใดๆจะมีน้ําหนักน่าเชื่อถือ ซึ่งก็คือ อาเรย์วัด และผู้การแต้มหรือมือปราบหูดํา 2 คนนี้ให้ความจริงทุกเรื่องอย่างไม่ไว้หน้าใคร
    ในความเป็นอินฟลู ผู้การแต้ม มีจุดยืนชัดเจนไม่หิวแสงการจะไปออกรายการแต่ละทียังเลือกคนร่วมรายการเช่นไม่ยอมไปออกทีวี กับ นายสิธาเบี้ยบังเกิด อย่างเด็ดขาดจนเป็นที่รู้กันว่ารายการใดมีพู่กันแต้มต้องไม่มีทนายตั้ม ส่วนอาเรย์วัดเป็นอินฟูในสายเฮฮาบู๊ล้างผลาญ ต้องติดตามกันต่อไปว่าตํารวจในเครื่องแบบคนใดจะประสบความสําเร็จตามนโยบายนี้ของบิ๊กต่าย ติดตามข่าวซีพๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ผบ.ตร เตรียมปั้น ตำรวจอินฟลู มาต่อสู้คนเลว บิ๊กต่าย ผบ.ตร ได้รับเสียงสรรเสริญจากตํารวจทั้งประเทศ ในการแถลง สิบห้านโยบายหลักของสํานักงานตํารวจแห่งชาติโดยให้ตํารวจทั้งหมดปฏิบัติตามนโยบายอย่างเร่งด่วนประกอบด้วย ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ เปลี่ยนmindsetให้ตํารวจเป็นที่พึ่งของประชาชน ให้รางวัลแก่ตํารวจน้ําดี และลงโทษตํารวจเลว พัฒนางานสถานีตํารวจ แก้ไขปัญหางานสอบสวน ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่เป็นภัยคุกคามต่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมือง สร้างเสริมวินัยจราจร ทํางานเชิงรุกด้านการข่าว ประชาสัมพันธ์เชิงรุกสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรเป็นต้น ซึ่ง ข้อหนึ่งที่สร้างความฮือฮาก็คือให้ผู้บัญชาการหรือผู้บังคับการ จะต้องเป็น influencerด้วยตนเอง เพื่อเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ปัจจุบันต้องบอกว่าถึงเวลาแล้วจริงๆ ที่ตํารวจจะต้องเป็น influ เองสักทีเพราะที่ผ่านมา influ สายกฎหมายสายสังคม กลับมาก่อคดีอาญาต่างๆนานาเสียเอง อย่างทนายตั้มที่กลายร่างเป็นทนายต้ม สร้างภาพหลอกลวงสังคมปกปิดความสกปรกชั่วร้ายที่ซ่อนไว้อย่างแนบเนียน เอกสายไหม ต้องรอด โดนคดีปั่นข่าวเท็จดีไอคอน ด้วยวัตถุประสงค์ลึกลับอะไรสักอย่าง ฟิล์มรัฐภูมิ จ่อถูกดําเนินคดีข้อหาพยายามตบทรัพย์ดิไอคอน แกนนําต้านโกงอย่างเจ๊พัฒน์ กิจอนงค์ สุดท้ายมาโดนคดีตบทรัพย์เสียเอง ตัวอย่างเหล่านี้เป็นความพิกลพิการของสังคมไทย ลงภาพลักษณ์ของคนที่ไม่สะอาดจริงปล่อยให้มายึดหัวหาดเป็นอินฟลูเอนเซอร์เพราะฉะนั้นจึงเป็นโอกาสเหมาะสมที่องค์กรตํารวจยุคบิ๊กต่าย จะผลักดันคนดีคนเก่งในสํานักงานตํารวจแห่งชาติขึ้นมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์เอง เพื่อคานอํานาจอินฟลูปลอมๆ ทั้งหลาย อย่างน้อยตํารวจเก่าสองคนก็ผลักดันตัวเองสําเร็จจนผงาดเป็นอินฟลูชื่อดัง เวลาพูดถึงประเด็นปัญหาใดๆจะมีน้ําหนักน่าเชื่อถือ ซึ่งก็คือ อาเรย์วัด และผู้การแต้มหรือมือปราบหูดํา 2 คนนี้ให้ความจริงทุกเรื่องอย่างไม่ไว้หน้าใคร ในความเป็นอินฟลู ผู้การแต้ม มีจุดยืนชัดเจนไม่หิวแสงการจะไปออกรายการแต่ละทียังเลือกคนร่วมรายการเช่นไม่ยอมไปออกทีวี กับ นายสิธาเบี้ยบังเกิด อย่างเด็ดขาดจนเป็นที่รู้กันว่ารายการใดมีพู่กันแต้มต้องไม่มีทนายตั้ม ส่วนอาเรย์วัดเป็นอินฟูในสายเฮฮาบู๊ล้างผลาญ ต้องติดตามกันต่อไปว่าตํารวจในเครื่องแบบคนใดจะประสบความสําเร็จตามนโยบายนี้ของบิ๊กต่าย ติดตามข่าวซีพๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 654 มุมมอง 0 รีวิว
  • เด็กรายงานด็กบราซิลตายหลังฉีดวัคซีนศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิตรายงานในวารสารการแพทย์13 กุมภาพันธ์ 2024การยืนยันสาเหตุ ความเกี่ยวข้อง จากวัคซีน ประกอบด้วยการชันสูตรศพอย่างละเอียด ร่วมกับเงื่อนเวลาหลังฉีด ลักษณะ ผลกระทบที่มีลักษณะ เฉพาะตัวของวัคซีน ตามที่มีการรวบรวมรายงานไว้ (พร้อมทั้งมีการแจกแจงกลไกการเกิดแล้ว)และการแยกโรคอื่นออกไปในกรณีที่ยังไม่เสียชีวิตการพิสูจน์ในลักษณะเช่นนี้ ที่เราเคยทำมาต้องเสียค่าใช้จ่ายเกือบครึ่งล้านบาท ต่อคน และเมื่อเสียชีวิต การชันสูตรศพในลักษณะดังกล่าวต้องกระทำอย่างละเอียดอย่างเช่น รายงานในเด็กตายรายนี้ แต่ถ้าทำการวิเคราะห์เจาะลึกตามที่นักวิทยาศาสตร์เยอรมันรายงาน จะต้องเสียค่าใช้จ่ายมหาศาลมากกว่านี้และนี่เป็นสิ่งที่ทางการ นำมากล่าวเป็นข้ออ้างว่าไม่มีข้อพิสูจน์ อย่างอำมหิตจาก “คนปกติ” ที่ได้รับวัคซีนเพราะได้รับคำยืนยันว่าปลอดภัยและป้องกันโรคได้ กลับต้องเสียชีวิต พิการ มีผลกระทบตามติดมาหลังจากนั้นมากมาย ไม่นับคนเปราะบางซึ่งหวังว่าจะได้รับการปกป้องจากวัคซีนกลับเสียชีวิตเร็วขึ้นและมีคำอธิบายว่ามีโรคประจำตัวเปราะบางอยู่แล้วเพราะฉะนั้นเสียชีวิตไปก็เป็นข้ออธิบายได้!!!!1- หยุดฉีดโควิดวัคซีน ที่มีการโฆษณาชวนเชื่อให้ฉีดซ้ำ และในเด็กตั้งแต่หกเดือนขึ้นไป2- หยุดเทคโนโลยีนี้ ที่นำมาใช้กับวัคซีนชนิดอื่นทั้งหมด จนกว่าที่จะปรับปรุงอันตรายและพิสูจน์ว่าปลอดภัยจริง3- คนที่ได้รับผลกระทบต้องได้รับการเยียวยาและพร้อมกับลงโทษคนที่ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวพันและปฏิเสธความช่วยเหลือที่ ต้องให้แก่ครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้4-ไม่มีใครปลอดภัยจริงแม้ว่าขณะนี้ยังดูปกติ เพราะโรคต่างๆเกิดขึ้นได้แม้ฉีดไปแล้วเป็นปี ดังเช่น การตายกระทันหันเฉียบพลัน เส้นเลือดตัน แตก ในสมอง การปะทุของมะเร็งที่หายแล้วเป็น 10 ปี รวมทั้งมะเร็งที่เกิดขึ้นชนิดร้ายแรงในคนอายุน้อยและไม่มีประวัติครอบครัว โรคสมองอักเสบไขสันหลังอักเสบ สมองเสื่อม พากินสัน โรคลมชัก5-คนที่รอดชีวิตถึงขณะนี้ รักษาตัวให้ดีที่สุดโรคประจำตัวต้องคุมได้ 100% กินหรือเข้าใกล้การกินแบบมังสวิรัติ งดเนื้อสัตว์บก แป้งน้อย ขนมน้อยที่สุด ออกกำลังตากแดด ขิงข่าตะไคร้ขมิ้นชันกระชายขาวพริกไทยดำ กินเป็นยาถอนพิษ และรวมถึง กันชง และควบคุมด้วยกัญชาในปริมาณน้อยขึ้นอยู่กับกรณีเด็กบราซิลที่ตายจากหัวใจอักเสบในรายงานนี้โรคหัวใจอักเสบในวัยเด็กเป็นโรคที่ ”พบได้น้อย” ซึ่งมีสาเหตุหลายประการ คณะ ได้รายงานกรณีการเสียชีวิตของเด็กจากโรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบและกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังจากได้รับวัคซีน mRNA เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 เด็กชายอายุ 7 ขวบได้รับวัคซีน COVIDmRNA เข็มแรก และมีอาการข้ออักเสบและมีไข้ที่ไม่ตอบสนองต่อยาปฏิชีวนะการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเม็ดเลือดขาวสูง ระดับโปรตีนซีรีแอคทีฟสูง (C reactive protein) อาการเลวลงอย่างรวดเร็วและผู้ป่วยเสียชีวิต การชันสูตรศพ พบการสะสมของไฟบรินในเยื่อหุ้มหัวใจ และบริเวณที่มีเลือดออกในกล้ามเนื้อหัวใจ แต่ลิ้นหัวใจปกติ พบการอักเสบกล้ามเนื้อหัวใจกระจายทั่วไป ซึ่งประกอบด้วยลิมโฟไซต์ T CD8+ และฮิสทิโอไซต์ ปริมาณแอนติสเตรปโตไลซิน O (ASO) ไทเตอร์สูง ทำให้ต้องพิจารณาว่าการมีโรคข้ออักเสบ และระดับ ASO สูง และหัวใจอักเสบ เข้าเกณฑ์ การวินิจฉัย ของไข้รูมาติก (rheumatic fever) หรือไม่แต่ เด็กรายนี้ “ไม่พบลักษณะสำคัญ” ของไข้รูมาติค ที่เมื่อมีกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบแล้ว ตาม เกณฑ์การวินิจฉัย ควรจะต้องพบ ลิ้นหัวใจผิดปกติ และ Aschoff nodule ร้อยละ 90 ในกรณี ผู้เสียชีวิตรายนี้ ความสัมพันธ์ตามเวลาหลังฉีดวัคซีน mRNA ทำให้ ระบุการเป็นสาเหตุของหัวใจอักเสบ และต่อจากนี้ เมื่อเกิดมีหัวใจอักเสบเกิดขึ้น ต้องรวมวัคซีนเป็นหนึ่งในสาเหตุด้วยกลไก น่าจะอธิบาย แบบเดียวกันกับเอ็กโซโซมและอนุภาคนาโนไขมัน ซึ่งนำไปสู่พายุไซโตไคน์ (cytokine storm) ได้ จากที่มีรายงานพิสูจน์กลไกมาแล้วสาเหตุความ ผิดปกติและเสียชีวิต ต้อง คำนึงถึงวัคซีน COVID-19mRNA เสมอ ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุตรง หรือเป็น ปัจจัยสนับสนุน
    เด็กรายงานด็กบราซิลตายหลังฉีดวัคซีนศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิตรายงานในวารสารการแพทย์13 กุมภาพันธ์ 2024การยืนยันสาเหตุ ความเกี่ยวข้อง จากวัคซีน ประกอบด้วยการชันสูตรศพอย่างละเอียด ร่วมกับเงื่อนเวลาหลังฉีด ลักษณะ ผลกระทบที่มีลักษณะ เฉพาะตัวของวัคซีน ตามที่มีการรวบรวมรายงานไว้ (พร้อมทั้งมีการแจกแจงกลไกการเกิดแล้ว)และการแยกโรคอื่นออกไปในกรณีที่ยังไม่เสียชีวิตการพิสูจน์ในลักษณะเช่นนี้ ที่เราเคยทำมาต้องเสียค่าใช้จ่ายเกือบครึ่งล้านบาท ต่อคน และเมื่อเสียชีวิต การชันสูตรศพในลักษณะดังกล่าวต้องกระทำอย่างละเอียดอย่างเช่น รายงานในเด็กตายรายนี้ แต่ถ้าทำการวิเคราะห์เจาะลึกตามที่นักวิทยาศาสตร์เยอรมันรายงาน จะต้องเสียค่าใช้จ่ายมหาศาลมากกว่านี้และนี่เป็นสิ่งที่ทางการ นำมากล่าวเป็นข้ออ้างว่าไม่มีข้อพิสูจน์ อย่างอำมหิตจาก “คนปกติ” ที่ได้รับวัคซีนเพราะได้รับคำยืนยันว่าปลอดภัยและป้องกันโรคได้ กลับต้องเสียชีวิต พิการ มีผลกระทบตามติดมาหลังจากนั้นมากมาย ไม่นับคนเปราะบางซึ่งหวังว่าจะได้รับการปกป้องจากวัคซีนกลับเสียชีวิตเร็วขึ้นและมีคำอธิบายว่ามีโรคประจำตัวเปราะบางอยู่แล้วเพราะฉะนั้นเสียชีวิตไปก็เป็นข้ออธิบายได้!!!!1- หยุดฉีดโควิดวัคซีน ที่มีการโฆษณาชวนเชื่อให้ฉีดซ้ำ และในเด็กตั้งแต่หกเดือนขึ้นไป2- หยุดเทคโนโลยีนี้ ที่นำมาใช้กับวัคซีนชนิดอื่นทั้งหมด จนกว่าที่จะปรับปรุงอันตรายและพิสูจน์ว่าปลอดภัยจริง3- คนที่ได้รับผลกระทบต้องได้รับการเยียวยาและพร้อมกับลงโทษคนที่ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวพันและปฏิเสธความช่วยเหลือที่ ต้องให้แก่ครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้4-ไม่มีใครปลอดภัยจริงแม้ว่าขณะนี้ยังดูปกติ เพราะโรคต่างๆเกิดขึ้นได้แม้ฉีดไปแล้วเป็นปี ดังเช่น การตายกระทันหันเฉียบพลัน เส้นเลือดตัน แตก ในสมอง การปะทุของมะเร็งที่หายแล้วเป็น 10 ปี รวมทั้งมะเร็งที่เกิดขึ้นชนิดร้ายแรงในคนอายุน้อยและไม่มีประวัติครอบครัว โรคสมองอักเสบไขสันหลังอักเสบ สมองเสื่อม พากินสัน โรคลมชัก5-คนที่รอดชีวิตถึงขณะนี้ รักษาตัวให้ดีที่สุดโรคประจำตัวต้องคุมได้ 100% กินหรือเข้าใกล้การกินแบบมังสวิรัติ งดเนื้อสัตว์บก แป้งน้อย ขนมน้อยที่สุด ออกกำลังตากแดด ขิงข่าตะไคร้ขมิ้นชันกระชายขาวพริกไทยดำ กินเป็นยาถอนพิษ และรวมถึง กันชง และควบคุมด้วยกัญชาในปริมาณน้อยขึ้นอยู่กับกรณีเด็กบราซิลที่ตายจากหัวใจอักเสบในรายงานนี้โรคหัวใจอักเสบในวัยเด็กเป็นโรคที่ ”พบได้น้อย” ซึ่งมีสาเหตุหลายประการ คณะ ได้รายงานกรณีการเสียชีวิตของเด็กจากโรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบและกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังจากได้รับวัคซีน mRNA เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 เด็กชายอายุ 7 ขวบได้รับวัคซีน COVIDmRNA เข็มแรก และมีอาการข้ออักเสบและมีไข้ที่ไม่ตอบสนองต่อยาปฏิชีวนะการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเม็ดเลือดขาวสูง ระดับโปรตีนซีรีแอคทีฟสูง (C reactive protein) อาการเลวลงอย่างรวดเร็วและผู้ป่วยเสียชีวิต การชันสูตรศพ พบการสะสมของไฟบรินในเยื่อหุ้มหัวใจ และบริเวณที่มีเลือดออกในกล้ามเนื้อหัวใจ แต่ลิ้นหัวใจปกติ พบการอักเสบกล้ามเนื้อหัวใจกระจายทั่วไป ซึ่งประกอบด้วยลิมโฟไซต์ T CD8+ และฮิสทิโอไซต์ ปริมาณแอนติสเตรปโตไลซิน O (ASO) ไทเตอร์สูง ทำให้ต้องพิจารณาว่าการมีโรคข้ออักเสบ และระดับ ASO สูง และหัวใจอักเสบ เข้าเกณฑ์ การวินิจฉัย ของไข้รูมาติก (rheumatic fever) หรือไม่แต่ เด็กรายนี้ “ไม่พบลักษณะสำคัญ” ของไข้รูมาติค ที่เมื่อมีกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบแล้ว ตาม เกณฑ์การวินิจฉัย ควรจะต้องพบ ลิ้นหัวใจผิดปกติ และ Aschoff nodule ร้อยละ 90 ในกรณี ผู้เสียชีวิตรายนี้ ความสัมพันธ์ตามเวลาหลังฉีดวัคซีน mRNA ทำให้ ระบุการเป็นสาเหตุของหัวใจอักเสบ และต่อจากนี้ เมื่อเกิดมีหัวใจอักเสบเกิดขึ้น ต้องรวมวัคซีนเป็นหนึ่งในสาเหตุด้วยกลไก น่าจะอธิบาย แบบเดียวกันกับเอ็กโซโซมและอนุภาคนาโนไขมัน ซึ่งนำไปสู่พายุไซโตไคน์ (cytokine storm) ได้ จากที่มีรายงานพิสูจน์กลไกมาแล้วสาเหตุความ ผิดปกติและเสียชีวิต ต้อง คำนึงถึงวัคซีน COVID-19mRNA เสมอ ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุตรง หรือเป็น ปัจจัยสนับสนุน
    Like
    Sad
    6
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 788 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุณถูกหลอกมาตลอดเกี่ยวกับฟลูออไรด์หรือเปล่า?
    ไม่มีอะไรเทียบได้กับน้ำใสๆ เย็นๆ สักแก้วดับกระหายของคุณ แต่คราวหน้าที่คุณเปิดก๊อกน้ำ คุณอาจต้องการตั้งคำถามว่าจริงหรือไม่ น้ำนั้นเป็นพิษเกินกว่าจะดื่มได้ ถ้าน้ำของคุณมีฟลูออไรด์ผสมอยู่ คำตอบน่าจะเป็น "จริง" แม้ว่า "เจ้าหน้าที่" ด้านสุขภาพออกมาประกาศว่า "ปลอดภัย" และ "เป็นธรรมชาติ" ก็ไม่มีอะไรจะมากไปกว่าความจริงได้
    เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่เราได้รับคำโกหก คำโกหกที่นำไปสู่การเสียชีวิตของชาวอเมริกันหลายแสนคน และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงอีกหลายสิบล้านคน การโกหกนี้เรียกว่า "การผสมฟลูออไรด์" กระบวนการที่เราเชื่อว่าเป็นวิธีการที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการปกป้องฟันจากฟันผุ อันที่จริงแล้วเป็นการฉ้อโกง ในคำพูดของ Dr. Robert Carton อดีตนักวิทยาศาสตร์ของ EPA “ฟลูออไรด์เป็นกรณีที่ใหญ่ที่สุดของการฉ้อโกงทางวิทยาศาสตร์ของศตวรรษนี้ หรือไม่ก็ตลอดกาล”
    “กระบวนการปั่น” เริ่มต้นขึ้น
    ในปี ค.ศ. 1920 การผลิตอะลูมิเนียมซึ่งส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมกระป๋องที่กำลังเฟื่องฟู แต่ก็ยังเป็นผู้ผลิตขยะฟลูออไรด์ที่เป็นพิษรายใหญ่ ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่ใหญ่ที่สุดคือค่าใช้จ่ายในการกำจัดของเสียอันตรายอย่างปลอดภัยซึ่งแพงมาก อุตสาหกรรมนี้จึงได้ทำการตลาดและขายของเสียที่เป็นพิษ (โซเดียมฟลูออไรด์) เพื่อใช้ผลิตเป็นยาฆ่าแมลงและยาฆ่าหนู แต่ทว่าพวกเขาต้องการตลาดที่ใหญ่กว่านั้น... มนุษย์ไง อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็มีอุปสรรคอยู่เล็กน้อย
    ในวารสารสมาคมทันตกรรมอเมริกันวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1944 ADA เตือนว่า “โอกาสที่จะเกิดอันตราย (จากฟลูออไรด์) มีมากกว่าประโยชน์ในทางที่ดี” แต่ในปี 1947 Oscar R. Ewing (ซึ่งเป็นทนายความของ ALCOA มาเป็นเวลานาน) ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทำให้เขารับผิดชอบด้านบริการสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกา และแล้วภายใต้การนำของเขา แคมเปญ "น้ำผสมฟลูออไรด์" ระดับชาติจึงเริ่มต้นขึ้น
    นักยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์สำหรับแคมเปญ "น้ำผสมฟลูออไรด์" ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก Edwin L. Bernays หลานชายของ Sigmund Freud หรือที่รู้จักในชื่อ "เจ้าพ่อแห่งการปั่น" Bernays เป็นผู้บุกเบิกการประยุกต์ใช้ทฤษฎีของ Freud มาใช้กับการโฆษณาและ "ความจริงครึ่งเดียวของรัฐบาล"
    ในหนังสือ "โฆษณาชวนเชื่อ" ของเขา Bernays ได้อ้างว่าความคิดเห็นสาธารณะซึ่งใช้วิทยาศาสตร์บงการเป็นกุญแจสำคัญ เขากล่าวว่า "คนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งมีอิทธิพลควบคุมจิตใจของสาธารณชน" แคมเปญฟลูออไรด์ของรัฐบาลเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่ยั่งยืนที่สุดของเขา
    เทคนิคของเบอร์เนย์นั้นเรียบง่าย แสร้งทำเป็นว่ามีงานวิจัยที่น่าพอใจโดยใช้วลีเช่น "การศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็น ... " หรือ "การวิจัยพิสูจน์แล้ว ... " หรือ "ผู้วิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้พบ ... " (แต่ไม่เคยพูดอ้างอิงถึงสิ่งใดเลย) พูดให้นานพอและดังพอ แล้วในที่สุดผู้คนจะเชื่อมัน หากใครสงสัยหรือซักไซ้เรื่องโกหกนี้ ก็โจมตีหน้าที่การงานและ/หรือสติปัญญาของพวกเขา
    แล้ว "งานศึกษา" ล่ะ?
    ไม่มี "งานศึกษาทางวิทยาศาสตร์" ที่พิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์ปลอดภัยเลยหรือ? ในช่วงทศวรรษที่ 1940 นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า ผู้คนจะมีสุขภาพฟันโดยรวมที่ดีขึ้น (โดยส่วนใหญ่เป็นฟันผุน้อยกว่า) หากพวกเขาอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีฟลูออรีนในระดับที่สูงขึ้นตามธรรมชาติ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ได้เกิดคำถามเรื่อง “การศึกษาวิจัย” และมีความกังวลอย่างมากว่าข้อมูลส่วนใหญ่เป็นเพียงการประดิษฐ์ขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ที่มีความผูกพันกับบริษัทที่มีส่วนได้เสียในการขายฟลูออไรด์ การปั้นแต่งข้อมูลในการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกี่ยวข้องกับสุขภาพ มีบริษัทจำนวนหนึ่งที่จะได้รับผลประโยชน์จากสุขภาพที่ย่ำแย่ของสาธารณชน
    ตรงกันข้ามกับความเห็นส่วนใหญ่ ฟลูออไรด์กลับไม่ได้หยุดฟันผุเลย จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์เป็นพิษต่อระบบประสาทและทำให้เกิดความพิการแต่กำเนิด และโรคกระดูกพรุน ฟลูออไรด์ยังทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ระบบย่อยอาหารและระบบทางเดินหายใจ รวมถึงตับไตและสมอง และอาจนำไปสู่ความบกพร่องทางการเรียนรู้ ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีความบกพร่องในการอ่าน สมาธิสั้น และออทิสติก
    ในปี 2012 นักวิจัยของฮาร์วาร์ดรายงานว่าการศึกษา 26 จาก 27 ชิ้นที่พวกเขาทบทวนพบว่าไอคิวในวัยเด็กลดลงเมื่อความเข้มข้นของฟลูออไรด์เพิ่มขึ้น รายงานปี 2006 จากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติได้ทบทวนการศึกษาหลายร้อยชิ้นที่เชื่อมโยงน้ำดื่มที่มีฟลูออไรด์กับความเสียหายทางระบบประสาท ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ และ … ใช่แล้ว …. โรคมะเร็ง
    ในปี 1955 วารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์รายงานว่าจำนวนผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์เพิ่มขึ้น 400% ในช่วงหลายปีหลังจากที่น้ำในซานฟรานซิสโกเริ่มได้รับการผสมฟลูออไรด์ ต่อมาในปี 1977 สภาคองเกรสได้สั่งให้หน่วยงานบริการสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกาดำเนินการศึกษาในสัตว์เพื่อพิจารณาว่าฟลูออไรด์ทำให้เกิดมะเร็งหรือไม่ หลังจากวิเคราะห์ผลการศึกษาในหนูแล้ว พบว่าหนูที่ดื่มน้ำฟลูออไรด์มีเนื้องอกและมะเร็งเพิ่มขึ้นในเซลล์สความัสในช่องปาก ก่อตัวเป็นรูปแบบที่พบได้ยากของมะเร็งกระดูกที่เรียกว่า osteosarcoma และพบว่ามีเนื้องอกในเซลล์ต่อมไทรอยด์ฟอลลิคูลาร์เพิ่มขึ้น
    การค้นพบที่สำคัญที่สุดคือการเกิดขึ้นของมะเร็งตับรูปแบบที่หายากมาก มะเร็งตับในหนูเพศผู้และเพศเมียที่ได้รับฟลูออไรด์ นอกจากนี้ในปี 1977 ยังแสดงให้เห็นว่าฟลูออไรด์ทำให้เกิดการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งประมาณ 10,000 รายในการศึกษาทางระบาดวิทยาโดย Dr. Dean Burk อดีตหัวหน้าแผนกไซโตเคมี ที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และ Dr. John Yiamouyiannis แม้จะมีการค้นพบในปี 1977 แต่ก็ไม่ได้เต็มใจที่จะเปิดเผยจนกระทั่งปี 1989
    ในปี 2006 ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด นักวิจัยระบุถึงความเชื่อมโยงระหว่างฟลูออไรด์กับ osteosarcoma การศึกษานี้นำโดย Dr. Elise Bassin และตีพิมพ์ออนไลน์ใน Cancer Causes and Control (วารสารทางการของศูนย์ป้องกันมะเร็งฮาร์วาร์ด) พบว่ามีความเชื่อมโยงอย่างมากระหว่างน้ำดื่มที่มีฟลูออไรด์กับ osteocarcoma ซึ่งเป็นมะเร็งกระดูกที่หายากและมักเสียชีวิตในเด็กชาย การศึกษายืนยันโดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) และแผนกสุขภาพของรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งพบอัตราการเกิดมะเร็งกระดูกที่เพิ่มขึ้นในเด็กผู้ชายที่ดื่มน้ำประปาที่มีฟลูออไรด์ ผลการวิจัยยืนยันผลการศึกษาของรัฐบาลก่อนหน้าในปี 1990 ที่เกี่ยวข้องกับหนูที่ได้รับฟลูออไรด์
    แต่ยังมีอีก...
    เมื่อเข้าไปในร่างกายของคุณ ฟลูออไรด์จะทำลายเอนไซม์ของคุณด้วยการเปลี่ยนรูปร่าง ร่างกายของคุณต้องอาศัยเอ็นไซม์หลายพันชนิดเพื่อทำปฏิกิริยาของเซลล์จำนวนมาก ถ้าไม่มีเอ็นไซม์ เราทุกคนคงตายกันหมด เอ็นไซม์เป็นเหมือนกุญแจที่เข้ากับระบบล็อคภายในเซลล์ของคุณ อย่างไรก็ตาม เมื่อฟลูออไรด์ทำลายรูปร่างของ "กุญแจ" มันจะไม่เข้ากับตัวล็อคอีกต่อไป และร่างกายของคุณไม่รู้จักเอ็นไซม์อีกต่อไป เอนไซม์ที่เสียหายเหล่านี้สามารถนำไปสู่การสลายคอลลาเจน ความเสียหายของดีเอ็นเอ ความเสียหายของเนื้อเยื่อ และการกดภูมิคุ้มกัน
    ในช่วงต้นปี 2010 มีเรื่องราวสองเรื่องในอินเดียเปิดเผยว่าเด็ก ๆ ตาบอดและพิการบางส่วน อันเป็นผลมาจากการเติมฟลูออไรด์ลงในน้ำดื่มของพวกเขา และในหมู่บ้าน Gaudiyan ของอินเดีย ประชากรมากกว่าครึ่งมีความผิดปกติของกระดูก ทำให้มีความพิการทางร่างกาย เด็กเกิดมาปกติดี แต่หลังจากที่พวกเขาเริ่มดื่มน้ำที่มีฟลูออไรด์ พวกเขาก็เริ่มมีความพิการที่มือและเท้า
    เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2010 นิตยสาร Time ระบุว่าฟลูออไรด์เป็นหนึ่งใน "สารพิษในครัวเรือน 10 อันดับแรก" และอธิบายว่าฟลูออไรด์ "เป็นพิษต่อระบบประสาทและอาจเกิดเนื้องอกได้หากกลืนเข้าไป" มีการบอกความจริงนี้ในเกือบทุกประเทศในโลก (รวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย) มันผิดกฎหมายที่จะ "ให้ยาขนานใหญ่" กับประชากรทั้งหมดด้วยสารที่ทุกคนยอมรับว่าเป็นพิษ
    ด้วยความจริงที่ว่าฟลูออไรด์สามารถสะสมในร่างกายได้ จึงเป็นเหตุให้กฎหมายแห่งสหรัฐอเมริกาได้กำหนดให้กรมการแพทย์ทหารตั้งค่า "ระดับสารปนเปื้อนสูงสุด" (MCL) สำหรับปริมาณฟลูออไรด์ในแหล่งน้ำสาธารณะตามที่ EPA กำหนด มันทำให้ผมสับสนจากการที่ทันตแพทย์ที่ถูกล้างสมองหลายพันคนประกาศอย่างภาคภูมิใจว่าฟลูออไรด์เป็น "สารอาหารมหัศจรรย์" ที่ป้องกันฟันผุและส่งเสริมสุขภาพฟันและเหงือก ผมขอตั้งคำถามหน่อยนะ สารพิษสะสมและผลิตภัณฑ์จากขยะพิษจะเรียกว่า “สารอาหาร” ได้อย่างไร
    เป็นความโชคร้าย หากคุณต้องใช้ชีวิตในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย หรือแคนาดา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจในระดับสูง (มีความเป็นไปได้มากที่การผสมฟลูออไรด์ในน้ำจะเป็นเรื่องปกติ) หมายความว่ามีการตัดสินใจเกี่ยวกับสุขภาพของคุณโดยที่คุณไม่มีส่วนร่วมในกระบวนการนี้เลย
    จากเกือบ 320 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ประมาณ 72% บริโภคน้ำที่มีฟลูออไรด์อย่างสม่ำเสมอ และจากข้อมูลของ CDC รัฐทั้งหมด 50 รัฐ ได้ผสมฟลูออไรด์ลงในแหล่งน้ำ
    แล้วคุณจะทำอะไรได้บ้าง?
    การกรองแบบ Reverse Osmosis ถือว่ามีประสิทธิภาพในการกำจัดฟลูออไรด์ออกจากน้ำ เกลือฟลูออไรด์จะเข้าไปแทนที่ไอโอดีนซึ่งต่อมไทรอยด์จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน การเสริมไอโอดีนในอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญ การเสริมด้วยอัตราส่วนแมกนีเซียมต่อแคลเซียมสูงจะให้แร่ธาตุที่ช่วยขจัดฟลูออไรด์ นอกจากนี้ วิตามิน K2 ที่สกัดจากเอนไซม์ในถั่วเน่าญี่ปุ่น ยังช่วยป้องกันการกลายเป็นหินปูนฟลูออไรด์ในอวัยวะที่มีเนื้อเยื่ออ่อน เช่น หลอดเลือดแดงและสมอง
    ใช่แล้ว... อีกอย่างที่คุณทำได้คือหยุดใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ คุณเคยอ่านฉลากหรือไม่? ผมแนะนำให้คุณอ่านซะ ในปี 1997 องค์การอาหารและยาได้สั่งให้ผู้ผลิตยาสีฟันเพิ่มคำเตือนเกี่ยวกับพิษจากยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ทั้งหมดที่จำหน่ายในสหรัฐฯ คำเตือนดังกล่าวระบุว่าควรเก็บให้ห่างจากเด็ก ผมสงสัยว่าเพราะเหตุใดกัน อาจเป็นเพราะถ้าเด็กเล็กกินยาสีฟันทั้งหลอด ปริมาณเท่านี้อาจทำให้ถึงตายได้!
    บทสรุป
    ในช่วงต้นปี 2010 มีภูเขาไฟระเบิดขนาดใหญ่ในประเทศไอซ์แลนด์ สัตว์ในไอซ์แลนด์ตอนใต้มีความเสี่ยงที่จะเป็นพิษจากฟลูออไรด์ หากพวกมันสูดดมหรือกลืนกินเถ้าจากการปะทุ พิษจากฟลูออไรด์สามารถนำไปสู่การมีเลือดออกภายใน ความเสียหายของกระดูกในระยะยาว และการสูญเสียฟัน ตามข่าวบีบีซี (19 เมษายน 2010): "ฟลูออไรด์ในเถ้าสร้างกรดในกระเพาะของสัตว์ กัดกร่อนลำไส้และทำให้เลือดออก นอกจากนี้ยังจับกับแคลเซียมในกระแสเลือดและหลังจากได้รับสารหนักในช่วงเวลาหลายวันทำให้กระดูกเปราะบางแม้กระทั่งทำให้ฟันผุ" คนส่วนใหญ่ไม่เคย "เชื่อมโยงจุดต่างๆ" ระหว่างพิษอันน่าสลดใจของสัตว์เหล่านี้อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ทางธรรมชาติ กับพิษของมนุษย์จากการได้รับฟลูออไรด์มากเกินไปในแต่ละวัน
    มีงานศึกษาซึ่งทบทวนโดยคณะผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 500 ชิ้นที่บันทึกถึงผลข้างเคียงของฟลูออไรด์ตั้งแต่มะเร็งไปจนถึงความเสียหายต่อสมอง แต่ถึงกระนั้น เขตเทศบาลต่างๆ ทั่วสหรัฐอเมริกาก็ซื้อผลิตภัณฑ์นี้จริงๆ แล้วหยดลงในแหล่งน้ำสาธารณะ Dr. Charles G. Heyd อดีตประธานของ AMA กล่าวว่า "ผมรู้สึกตกใจที่ได้เห็นการใช้น้ำเป็นพาหนะส่งยา ฟลูออไรด์เป็นสารพิษกัดกร่อนซึ่งจะส่งผลร้ายแรงในระยะยาว ความพยายามใดๆ ที่จะใช้น้ำในลักษณะนี้เป็นสิ่งที่น่าประณาม"
    ระบบมันเสียหายไปแล้ว ระบบการดูแลสุขภาพของเรา อุตสาหกรรมยา รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแล สื่อของเรา และแม้แต่ภาคเทคโนโลยีล้วนได้รับความเสียหาย เรากำลังอยู่ในระหว่างสงครามข้อมูล โดยมีการปกปิดและการเซ็นเซอร์ในระดับสูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ชมตัวอย่างสารคดีชุดใหม่ของเรา: PROPAGANDA EXPOSED! ค้นพบความจริงที่ Big Pharma และ Mainstream Media ไม่ต้องการให้คุณเห็น ดูฟรี 100%… และอาจช่วยชีวิตคุณได้
    https://go.propaganda-exposed.com/?a_bid=f9f117e3...
    ผู้เขียน : Ty Bollinger
    ‼ รวมลิสต์รายชื่อยี่ห้อยาสีฟันที่ไม่มี ❌สารฟลูaaไรด์❌ โดยโค๊ชนาตาลี
    🦷 1. ยาสีฟัน Doctor V (แก้ไข ยี่ห้อนี้มี)
    🦷 2. ยาสีฟัน Grants Of Australia
    🦷 3. ยาสีฟัน Sparkle White (ทุกรุ่น)
    🦷 4. ยาสีฟันเอมไทย (AimThai)
    🦷 5. ยาสีฟันน้ำมันมะพร้าว (Tropicana)
    🦷 6. ยาสีฟันสมุนไพรโครงการหลวง เฮอร์เบิลทูธเพสท์
    🦷 7. ยาสีฟัน Curaprox (Enzycal Zero)
    🦷 8. ยาสีฟัน ยาสีฟันโคโค่เมท (Cocomate toothpaste)
    🦷 9. ยาสีฟันก๊กเลี้ยง (แก้ไข ยี่ห้อนี้มี สังเกตฝากล่องด้านใน)
    🦷 10. ยาสีเด็กฟันคินดี้ ออรัล เจล ออร์แกนิค (Kindee Oral Gel Organic ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 11. ยาสีฟันดอกบัวคู่ (แก้ไข สูตรดั้งเดิม,สูตรเซนซิที,สูตรเกลือสมุนไพร,สูตรเฟรชแอนด์คูล = ไม่มี สูตรเอเวอร์เฟรชและสูตรฟ้าทลายโจร = มี)
    🦷 12. ยาสีฟันสมุนไพรวาซ Wazz
    🦷 13. ยาสีฟันใจฟ้า
    🦷 14. ยาสีฟัน Dentiste (แค่บางรุ่น ควรอ่านฉลากก่อนซื้อ)
    🦷 15. ยาสีฟัน Thieves Young Living
    🦷 16. ยาสีฟัน Mama's Choice สูตรธรรมชาติ
    🦷 17. ยาสีฟันเพียวรีน (Pureen Maternity Toothpaste)
    🦷 18. ยาสีฟันเด็กเพียวรีน Pureen kids (ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 19. ยาสีฟันเด็กเอมไทย กรีน คิดส์ ออร์แกนิค (ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 20. ยาสีฟันเด็ก Mama's Choice (ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 21. ยาสีฟันเด็ก ดอกบัวคู่คิด (ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 22. ยาสีฟันเจสัน Jason Since 1956
    🦷 23. ยาสีฟันซองวิเศษนิยม (มีในร้านสะดวกซื้อ)
    🦷 24. ยาสีฟันสมุนไพรทิพย์นิยม
    🦷 25. ยาสีฟันวันเดอร์สไมล์ (Wonder Smile)
    🦷 26. ยาสีฟันเด็กฟันคินดี้ ออรัล เจล ออร์แกนิค (Kindee Oral Gel Organic ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 27. ยาสีฟันเทโซโร่ เฟรช
    🦷 28. ยาสีฟันไอวิศน์ (IVISN)
    🦷 29. ยาสีฟันนกไทย 5 ดาว 4A สูตรดั้งเดิม
    ขอเพิ่มเติม
    🦷 30.ยาสีฟันคอลบาเด้นท์ (Kolbadent)
    🦷 31. ยาสีฟันพาโรดอนแทกซ์ (Parodontax)
    🦷 32. ยาสีฟันเดนตาเมท (Denta mate)
    🦷 33. เกลือสีฟันทรีออร์คิดส์
    🦷 34. ยาสีฟัน Sante ของอ.สันติ มาะดี(หมอนอกกะลา)
    🦷 35. ยาสีฟันรุ่งอรุณ
    🦷 36. ยาสีฟันไบโอมิเนอรัลส์
    (ยี่ห้อนี้ต้องขอขอบคุณครับดร.(ผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง) ที่มาช่วยกิจกรรมกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ได้เคลื่อนไหวช่วยคนไทยในการจัดกิจกรรม แอดไลน์ด้วย QR Code ในภาพเมื่อท่านแจ้งแอดมินตอนสั่งซื้อว่ามาจากกลุ่ม คนไทยพิทักษ์สิทธิ์ กำไรจะถูกหักเข้ากองทุนสำหรับกิจกรรมกลุ่ม)
    เป็นต้น
    https://youtube.com/shorts/cj_brYDAlBM?si=waEMU4F2I0-CWcny
    ขอบคุณเจ้าของบทความต่างๆ
    คุณถูกหลอกมาตลอดเกี่ยวกับฟลูออไรด์หรือเปล่า? ไม่มีอะไรเทียบได้กับน้ำใสๆ เย็นๆ สักแก้วดับกระหายของคุณ แต่คราวหน้าที่คุณเปิดก๊อกน้ำ คุณอาจต้องการตั้งคำถามว่าจริงหรือไม่ น้ำนั้นเป็นพิษเกินกว่าจะดื่มได้ ถ้าน้ำของคุณมีฟลูออไรด์ผสมอยู่ คำตอบน่าจะเป็น "จริง" แม้ว่า "เจ้าหน้าที่" ด้านสุขภาพออกมาประกาศว่า "ปลอดภัย" และ "เป็นธรรมชาติ" ก็ไม่มีอะไรจะมากไปกว่าความจริงได้ เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่เราได้รับคำโกหก คำโกหกที่นำไปสู่การเสียชีวิตของชาวอเมริกันหลายแสนคน และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงอีกหลายสิบล้านคน การโกหกนี้เรียกว่า "การผสมฟลูออไรด์" กระบวนการที่เราเชื่อว่าเป็นวิธีการที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการปกป้องฟันจากฟันผุ อันที่จริงแล้วเป็นการฉ้อโกง ในคำพูดของ Dr. Robert Carton อดีตนักวิทยาศาสตร์ของ EPA “ฟลูออไรด์เป็นกรณีที่ใหญ่ที่สุดของการฉ้อโกงทางวิทยาศาสตร์ของศตวรรษนี้ หรือไม่ก็ตลอดกาล” “กระบวนการปั่น” เริ่มต้นขึ้น ในปี ค.ศ. 1920 การผลิตอะลูมิเนียมซึ่งส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมกระป๋องที่กำลังเฟื่องฟู แต่ก็ยังเป็นผู้ผลิตขยะฟลูออไรด์ที่เป็นพิษรายใหญ่ ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่ใหญ่ที่สุดคือค่าใช้จ่ายในการกำจัดของเสียอันตรายอย่างปลอดภัยซึ่งแพงมาก อุตสาหกรรมนี้จึงได้ทำการตลาดและขายของเสียที่เป็นพิษ (โซเดียมฟลูออไรด์) เพื่อใช้ผลิตเป็นยาฆ่าแมลงและยาฆ่าหนู แต่ทว่าพวกเขาต้องการตลาดที่ใหญ่กว่านั้น... มนุษย์ไง อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็มีอุปสรรคอยู่เล็กน้อย ในวารสารสมาคมทันตกรรมอเมริกันวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1944 ADA เตือนว่า “โอกาสที่จะเกิดอันตราย (จากฟลูออไรด์) มีมากกว่าประโยชน์ในทางที่ดี” แต่ในปี 1947 Oscar R. Ewing (ซึ่งเป็นทนายความของ ALCOA มาเป็นเวลานาน) ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทำให้เขารับผิดชอบด้านบริการสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกา และแล้วภายใต้การนำของเขา แคมเปญ "น้ำผสมฟลูออไรด์" ระดับชาติจึงเริ่มต้นขึ้น นักยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์สำหรับแคมเปญ "น้ำผสมฟลูออไรด์" ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก Edwin L. Bernays หลานชายของ Sigmund Freud หรือที่รู้จักในชื่อ "เจ้าพ่อแห่งการปั่น" Bernays เป็นผู้บุกเบิกการประยุกต์ใช้ทฤษฎีของ Freud มาใช้กับการโฆษณาและ "ความจริงครึ่งเดียวของรัฐบาล" ในหนังสือ "โฆษณาชวนเชื่อ" ของเขา Bernays ได้อ้างว่าความคิดเห็นสาธารณะซึ่งใช้วิทยาศาสตร์บงการเป็นกุญแจสำคัญ เขากล่าวว่า "คนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งมีอิทธิพลควบคุมจิตใจของสาธารณชน" แคมเปญฟลูออไรด์ของรัฐบาลเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่ยั่งยืนที่สุดของเขา เทคนิคของเบอร์เนย์นั้นเรียบง่าย แสร้งทำเป็นว่ามีงานวิจัยที่น่าพอใจโดยใช้วลีเช่น "การศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็น ... " หรือ "การวิจัยพิสูจน์แล้ว ... " หรือ "ผู้วิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้พบ ... " (แต่ไม่เคยพูดอ้างอิงถึงสิ่งใดเลย) พูดให้นานพอและดังพอ แล้วในที่สุดผู้คนจะเชื่อมัน หากใครสงสัยหรือซักไซ้เรื่องโกหกนี้ ก็โจมตีหน้าที่การงานและ/หรือสติปัญญาของพวกเขา แล้ว "งานศึกษา" ล่ะ? ไม่มี "งานศึกษาทางวิทยาศาสตร์" ที่พิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์ปลอดภัยเลยหรือ? ในช่วงทศวรรษที่ 1940 นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า ผู้คนจะมีสุขภาพฟันโดยรวมที่ดีขึ้น (โดยส่วนใหญ่เป็นฟันผุน้อยกว่า) หากพวกเขาอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีฟลูออรีนในระดับที่สูงขึ้นตามธรรมชาติ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ได้เกิดคำถามเรื่อง “การศึกษาวิจัย” และมีความกังวลอย่างมากว่าข้อมูลส่วนใหญ่เป็นเพียงการประดิษฐ์ขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ที่มีความผูกพันกับบริษัทที่มีส่วนได้เสียในการขายฟลูออไรด์ การปั้นแต่งข้อมูลในการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกี่ยวข้องกับสุขภาพ มีบริษัทจำนวนหนึ่งที่จะได้รับผลประโยชน์จากสุขภาพที่ย่ำแย่ของสาธารณชน ตรงกันข้ามกับความเห็นส่วนใหญ่ ฟลูออไรด์กลับไม่ได้หยุดฟันผุเลย จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์เป็นพิษต่อระบบประสาทและทำให้เกิดความพิการแต่กำเนิด และโรคกระดูกพรุน ฟลูออไรด์ยังทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ระบบย่อยอาหารและระบบทางเดินหายใจ รวมถึงตับไตและสมอง และอาจนำไปสู่ความบกพร่องทางการเรียนรู้ ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีความบกพร่องในการอ่าน สมาธิสั้น และออทิสติก ในปี 2012 นักวิจัยของฮาร์วาร์ดรายงานว่าการศึกษา 26 จาก 27 ชิ้นที่พวกเขาทบทวนพบว่าไอคิวในวัยเด็กลดลงเมื่อความเข้มข้นของฟลูออไรด์เพิ่มขึ้น รายงานปี 2006 จากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติได้ทบทวนการศึกษาหลายร้อยชิ้นที่เชื่อมโยงน้ำดื่มที่มีฟลูออไรด์กับความเสียหายทางระบบประสาท ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ และ … ใช่แล้ว …. โรคมะเร็ง ในปี 1955 วารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์รายงานว่าจำนวนผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์เพิ่มขึ้น 400% ในช่วงหลายปีหลังจากที่น้ำในซานฟรานซิสโกเริ่มได้รับการผสมฟลูออไรด์ ต่อมาในปี 1977 สภาคองเกรสได้สั่งให้หน่วยงานบริการสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกาดำเนินการศึกษาในสัตว์เพื่อพิจารณาว่าฟลูออไรด์ทำให้เกิดมะเร็งหรือไม่ หลังจากวิเคราะห์ผลการศึกษาในหนูแล้ว พบว่าหนูที่ดื่มน้ำฟลูออไรด์มีเนื้องอกและมะเร็งเพิ่มขึ้นในเซลล์สความัสในช่องปาก ก่อตัวเป็นรูปแบบที่พบได้ยากของมะเร็งกระดูกที่เรียกว่า osteosarcoma และพบว่ามีเนื้องอกในเซลล์ต่อมไทรอยด์ฟอลลิคูลาร์เพิ่มขึ้น การค้นพบที่สำคัญที่สุดคือการเกิดขึ้นของมะเร็งตับรูปแบบที่หายากมาก มะเร็งตับในหนูเพศผู้และเพศเมียที่ได้รับฟลูออไรด์ นอกจากนี้ในปี 1977 ยังแสดงให้เห็นว่าฟลูออไรด์ทำให้เกิดการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งประมาณ 10,000 รายในการศึกษาทางระบาดวิทยาโดย Dr. Dean Burk อดีตหัวหน้าแผนกไซโตเคมี ที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และ Dr. John Yiamouyiannis แม้จะมีการค้นพบในปี 1977 แต่ก็ไม่ได้เต็มใจที่จะเปิดเผยจนกระทั่งปี 1989 ในปี 2006 ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด นักวิจัยระบุถึงความเชื่อมโยงระหว่างฟลูออไรด์กับ osteosarcoma การศึกษานี้นำโดย Dr. Elise Bassin และตีพิมพ์ออนไลน์ใน Cancer Causes and Control (วารสารทางการของศูนย์ป้องกันมะเร็งฮาร์วาร์ด) พบว่ามีความเชื่อมโยงอย่างมากระหว่างน้ำดื่มที่มีฟลูออไรด์กับ osteocarcoma ซึ่งเป็นมะเร็งกระดูกที่หายากและมักเสียชีวิตในเด็กชาย การศึกษายืนยันโดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) และแผนกสุขภาพของรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งพบอัตราการเกิดมะเร็งกระดูกที่เพิ่มขึ้นในเด็กผู้ชายที่ดื่มน้ำประปาที่มีฟลูออไรด์ ผลการวิจัยยืนยันผลการศึกษาของรัฐบาลก่อนหน้าในปี 1990 ที่เกี่ยวข้องกับหนูที่ได้รับฟลูออไรด์ แต่ยังมีอีก... เมื่อเข้าไปในร่างกายของคุณ ฟลูออไรด์จะทำลายเอนไซม์ของคุณด้วยการเปลี่ยนรูปร่าง ร่างกายของคุณต้องอาศัยเอ็นไซม์หลายพันชนิดเพื่อทำปฏิกิริยาของเซลล์จำนวนมาก ถ้าไม่มีเอ็นไซม์ เราทุกคนคงตายกันหมด เอ็นไซม์เป็นเหมือนกุญแจที่เข้ากับระบบล็อคภายในเซลล์ของคุณ อย่างไรก็ตาม เมื่อฟลูออไรด์ทำลายรูปร่างของ "กุญแจ" มันจะไม่เข้ากับตัวล็อคอีกต่อไป และร่างกายของคุณไม่รู้จักเอ็นไซม์อีกต่อไป เอนไซม์ที่เสียหายเหล่านี้สามารถนำไปสู่การสลายคอลลาเจน ความเสียหายของดีเอ็นเอ ความเสียหายของเนื้อเยื่อ และการกดภูมิคุ้มกัน ในช่วงต้นปี 2010 มีเรื่องราวสองเรื่องในอินเดียเปิดเผยว่าเด็ก ๆ ตาบอดและพิการบางส่วน อันเป็นผลมาจากการเติมฟลูออไรด์ลงในน้ำดื่มของพวกเขา และในหมู่บ้าน Gaudiyan ของอินเดีย ประชากรมากกว่าครึ่งมีความผิดปกติของกระดูก ทำให้มีความพิการทางร่างกาย เด็กเกิดมาปกติดี แต่หลังจากที่พวกเขาเริ่มดื่มน้ำที่มีฟลูออไรด์ พวกเขาก็เริ่มมีความพิการที่มือและเท้า เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2010 นิตยสาร Time ระบุว่าฟลูออไรด์เป็นหนึ่งใน "สารพิษในครัวเรือน 10 อันดับแรก" และอธิบายว่าฟลูออไรด์ "เป็นพิษต่อระบบประสาทและอาจเกิดเนื้องอกได้หากกลืนเข้าไป" มีการบอกความจริงนี้ในเกือบทุกประเทศในโลก (รวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย) มันผิดกฎหมายที่จะ "ให้ยาขนานใหญ่" กับประชากรทั้งหมดด้วยสารที่ทุกคนยอมรับว่าเป็นพิษ ด้วยความจริงที่ว่าฟลูออไรด์สามารถสะสมในร่างกายได้ จึงเป็นเหตุให้กฎหมายแห่งสหรัฐอเมริกาได้กำหนดให้กรมการแพทย์ทหารตั้งค่า "ระดับสารปนเปื้อนสูงสุด" (MCL) สำหรับปริมาณฟลูออไรด์ในแหล่งน้ำสาธารณะตามที่ EPA กำหนด มันทำให้ผมสับสนจากการที่ทันตแพทย์ที่ถูกล้างสมองหลายพันคนประกาศอย่างภาคภูมิใจว่าฟลูออไรด์เป็น "สารอาหารมหัศจรรย์" ที่ป้องกันฟันผุและส่งเสริมสุขภาพฟันและเหงือก ผมขอตั้งคำถามหน่อยนะ สารพิษสะสมและผลิตภัณฑ์จากขยะพิษจะเรียกว่า “สารอาหาร” ได้อย่างไร เป็นความโชคร้าย หากคุณต้องใช้ชีวิตในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย หรือแคนาดา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจในระดับสูง (มีความเป็นไปได้มากที่การผสมฟลูออไรด์ในน้ำจะเป็นเรื่องปกติ) หมายความว่ามีการตัดสินใจเกี่ยวกับสุขภาพของคุณโดยที่คุณไม่มีส่วนร่วมในกระบวนการนี้เลย จากเกือบ 320 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ประมาณ 72% บริโภคน้ำที่มีฟลูออไรด์อย่างสม่ำเสมอ และจากข้อมูลของ CDC รัฐทั้งหมด 50 รัฐ ได้ผสมฟลูออไรด์ลงในแหล่งน้ำ แล้วคุณจะทำอะไรได้บ้าง? การกรองแบบ Reverse Osmosis ถือว่ามีประสิทธิภาพในการกำจัดฟลูออไรด์ออกจากน้ำ เกลือฟลูออไรด์จะเข้าไปแทนที่ไอโอดีนซึ่งต่อมไทรอยด์จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน การเสริมไอโอดีนในอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญ การเสริมด้วยอัตราส่วนแมกนีเซียมต่อแคลเซียมสูงจะให้แร่ธาตุที่ช่วยขจัดฟลูออไรด์ นอกจากนี้ วิตามิน K2 ที่สกัดจากเอนไซม์ในถั่วเน่าญี่ปุ่น ยังช่วยป้องกันการกลายเป็นหินปูนฟลูออไรด์ในอวัยวะที่มีเนื้อเยื่ออ่อน เช่น หลอดเลือดแดงและสมอง ใช่แล้ว... อีกอย่างที่คุณทำได้คือหยุดใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ คุณเคยอ่านฉลากหรือไม่? ผมแนะนำให้คุณอ่านซะ ในปี 1997 องค์การอาหารและยาได้สั่งให้ผู้ผลิตยาสีฟันเพิ่มคำเตือนเกี่ยวกับพิษจากยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ทั้งหมดที่จำหน่ายในสหรัฐฯ คำเตือนดังกล่าวระบุว่าควรเก็บให้ห่างจากเด็ก ผมสงสัยว่าเพราะเหตุใดกัน อาจเป็นเพราะถ้าเด็กเล็กกินยาสีฟันทั้งหลอด ปริมาณเท่านี้อาจทำให้ถึงตายได้! บทสรุป ในช่วงต้นปี 2010 มีภูเขาไฟระเบิดขนาดใหญ่ในประเทศไอซ์แลนด์ สัตว์ในไอซ์แลนด์ตอนใต้มีความเสี่ยงที่จะเป็นพิษจากฟลูออไรด์ หากพวกมันสูดดมหรือกลืนกินเถ้าจากการปะทุ พิษจากฟลูออไรด์สามารถนำไปสู่การมีเลือดออกภายใน ความเสียหายของกระดูกในระยะยาว และการสูญเสียฟัน ตามข่าวบีบีซี (19 เมษายน 2010): "ฟลูออไรด์ในเถ้าสร้างกรดในกระเพาะของสัตว์ กัดกร่อนลำไส้และทำให้เลือดออก นอกจากนี้ยังจับกับแคลเซียมในกระแสเลือดและหลังจากได้รับสารหนักในช่วงเวลาหลายวันทำให้กระดูกเปราะบางแม้กระทั่งทำให้ฟันผุ" คนส่วนใหญ่ไม่เคย "เชื่อมโยงจุดต่างๆ" ระหว่างพิษอันน่าสลดใจของสัตว์เหล่านี้อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ทางธรรมชาติ กับพิษของมนุษย์จากการได้รับฟลูออไรด์มากเกินไปในแต่ละวัน มีงานศึกษาซึ่งทบทวนโดยคณะผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 500 ชิ้นที่บันทึกถึงผลข้างเคียงของฟลูออไรด์ตั้งแต่มะเร็งไปจนถึงความเสียหายต่อสมอง แต่ถึงกระนั้น เขตเทศบาลต่างๆ ทั่วสหรัฐอเมริกาก็ซื้อผลิตภัณฑ์นี้จริงๆ แล้วหยดลงในแหล่งน้ำสาธารณะ Dr. Charles G. Heyd อดีตประธานของ AMA กล่าวว่า "ผมรู้สึกตกใจที่ได้เห็นการใช้น้ำเป็นพาหนะส่งยา ฟลูออไรด์เป็นสารพิษกัดกร่อนซึ่งจะส่งผลร้ายแรงในระยะยาว ความพยายามใดๆ ที่จะใช้น้ำในลักษณะนี้เป็นสิ่งที่น่าประณาม" ระบบมันเสียหายไปแล้ว ระบบการดูแลสุขภาพของเรา อุตสาหกรรมยา รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแล สื่อของเรา และแม้แต่ภาคเทคโนโลยีล้วนได้รับความเสียหาย เรากำลังอยู่ในระหว่างสงครามข้อมูล โดยมีการปกปิดและการเซ็นเซอร์ในระดับสูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ชมตัวอย่างสารคดีชุดใหม่ของเรา: PROPAGANDA EXPOSED! ค้นพบความจริงที่ Big Pharma และ Mainstream Media ไม่ต้องการให้คุณเห็น ดูฟรี 100%… และอาจช่วยชีวิตคุณได้ https://go.propaganda-exposed.com/?a_bid=f9f117e3... ผู้เขียน : Ty Bollinger ‼ รวมลิสต์รายชื่อยี่ห้อยาสีฟันที่ไม่มี ❌สารฟลูaaไรด์❌ โดยโค๊ชนาตาลี 🦷 1. ยาสีฟัน Doctor V (แก้ไข ยี่ห้อนี้มี) 🦷 2. ยาสีฟัน Grants Of Australia 🦷 3. ยาสีฟัน Sparkle White (ทุกรุ่น) 🦷 4. ยาสีฟันเอมไทย (AimThai) 🦷 5. ยาสีฟันน้ำมันมะพร้าว (Tropicana) 🦷 6. ยาสีฟันสมุนไพรโครงการหลวง เฮอร์เบิลทูธเพสท์ 🦷 7. ยาสีฟัน Curaprox (Enzycal Zero) 🦷 8. ยาสีฟัน ยาสีฟันโคโค่เมท (Cocomate toothpaste) 🦷 9. ยาสีฟันก๊กเลี้ยง (แก้ไข ยี่ห้อนี้มี สังเกตฝากล่องด้านใน) 🦷 10. ยาสีเด็กฟันคินดี้ ออรัล เจล ออร์แกนิค (Kindee Oral Gel Organic ของเด็ก) 👧🧒 🦷 11. ยาสีฟันดอกบัวคู่ (แก้ไข สูตรดั้งเดิม,สูตรเซนซิที,สูตรเกลือสมุนไพร,สูตรเฟรชแอนด์คูล = ไม่มี สูตรเอเวอร์เฟรชและสูตรฟ้าทลายโจร = มี) 🦷 12. ยาสีฟันสมุนไพรวาซ Wazz 🦷 13. ยาสีฟันใจฟ้า 🦷 14. ยาสีฟัน Dentiste (แค่บางรุ่น ควรอ่านฉลากก่อนซื้อ) 🦷 15. ยาสีฟัน Thieves Young Living 🦷 16. ยาสีฟัน Mama's Choice สูตรธรรมชาติ 🦷 17. ยาสีฟันเพียวรีน (Pureen Maternity Toothpaste) 🦷 18. ยาสีฟันเด็กเพียวรีน Pureen kids (ของเด็ก) 👧🧒 🦷 19. ยาสีฟันเด็กเอมไทย กรีน คิดส์ ออร์แกนิค (ของเด็ก) 👧🧒 🦷 20. ยาสีฟันเด็ก Mama's Choice (ของเด็ก) 👧🧒 🦷 21. ยาสีฟันเด็ก ดอกบัวคู่คิด (ของเด็ก) 👧🧒 🦷 22. ยาสีฟันเจสัน Jason Since 1956 🦷 23. ยาสีฟันซองวิเศษนิยม (มีในร้านสะดวกซื้อ) 🦷 24. ยาสีฟันสมุนไพรทิพย์นิยม 🦷 25. ยาสีฟันวันเดอร์สไมล์ (Wonder Smile) 🦷 26. ยาสีฟันเด็กฟันคินดี้ ออรัล เจล ออร์แกนิค (Kindee Oral Gel Organic ของเด็ก) 👧🧒 🦷 27. ยาสีฟันเทโซโร่ เฟรช 🦷 28. ยาสีฟันไอวิศน์ (IVISN) 🦷 29. ยาสีฟันนกไทย 5 ดาว 4A สูตรดั้งเดิม ขอเพิ่มเติม 🦷 30.ยาสีฟันคอลบาเด้นท์ (Kolbadent) 🦷 31. ยาสีฟันพาโรดอนแทกซ์ (Parodontax) 🦷 32. ยาสีฟันเดนตาเมท (Denta mate) 🦷 33. เกลือสีฟันทรีออร์คิดส์ 🦷 34. ยาสีฟัน Sante ของอ.สันติ มาะดี(หมอนอกกะลา) 🦷 35. ยาสีฟันรุ่งอรุณ 🦷 36. ยาสีฟันไบโอมิเนอรัลส์ (ยี่ห้อนี้ต้องขอขอบคุณครับดร.(ผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง) ที่มาช่วยกิจกรรมกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ได้เคลื่อนไหวช่วยคนไทยในการจัดกิจกรรม แอดไลน์ด้วย QR Code ในภาพเมื่อท่านแจ้งแอดมินตอนสั่งซื้อว่ามาจากกลุ่ม คนไทยพิทักษ์สิทธิ์ กำไรจะถูกหักเข้ากองทุนสำหรับกิจกรรมกลุ่ม) เป็นต้น https://youtube.com/shorts/cj_brYDAlBM?si=waEMU4F2I0-CWcny ขอบคุณเจ้าของบทความต่างๆ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1134 มุมมอง 0 รีวิว
  • 28-10-67/02 : หมี CNN / ความแตกต่างของ PROPAGANDA อียิว กับของโลกอาหรับ หรืออิหร่าน ฟังให้ชัด! โฆษณาชวนเชื่อ ข่าวปลอมอียิวคือ FAKE ทั้งหมด ปั่น ตอแหล เพื่อทำลายฝ่ายตรงกันข้าม หลอกควายไร้สติ หลอกคนไม่ได้ ขณะที่ PROPAGANDA อิหร่าน และโลกอาหรับ คือเอาของจริง FACT มาตีแผ่ขยายความเหี้ยจัญไรของอียิว อียิวทำจริง ใส่สีตีไข่ ให้รุนแรงเกินความน่าจะเป็น ตาย 10 บอก 100 ตาย 100 บอก 1000 เพื่ออะไร? เพื่อแนวร่วมทั้งโลกจะได้เข้าทอดกฐินลงแขกอียิวไงล่ะ ซึ่งก็ทำสำเร็จได้ดีเยี่ยม จนที่มาทั้งโลก แม้แต่อี WC UNSC ยังส่ายหัวรับไม่ไหว? แอฟริกามีกี่ประเทศ รับรองสมาชิกใหม่ปาเลสไตน์ อี UN กล้าขัดส้นตรีนมั้ยล่ะ? กาซ่าที่รายงานในสื่อจอแหล คืออียิวไล่ฆ่า แต่ในชีวิตจริง กองทัพอียิวถูกล้อมกลางดงตรีนฮามาส แต่สื่อไม่พูดไงล่ะ? หากมันฆ่าชาวกาซ่าได้จริง หมดจริง ป่านนี้ฮามาสแพ้ไปนานแล้ว แต่ทำไม ฮามาสยังดาหน้าไล่ฆ่าอียิวไม่หยุดหย่อน กองกำลังฮามาส เพิ่มขึ้น แนวร่วมมากขึ้น ดูเกมส์ให้ดูผลลัพธ์ ผลการรบ เพราะมันโกหกตอแหลไม่ได้ ใครรุกคืบ ใครถอย ใครตายเกลื่อน อาหรับเค้ารู้กันทั่ว ยกเว้นควายเท่านั้น? มรึงรบยังไงก็แพ้ เพราะฆ่าได้แต่เด็ก สตรี คนชรา คนพิการ คนท้อง ชาวบ้าน เพราะเข้าไม่ถึงฐานทัพบัญชาการ และคลังแสง ขณะที่ฮามาส เฮซบอเลาะห์ ฮูตี ซีเรีย เยเมน อิรัก เลบานอน ดาหน้าถล่มฐานทัพ ฐานบัญชาการ ศูนย์ควบคุม คลังแสง คลังอาวุธ สนามบิน ท่าเรือ ศูนย์สื่อสาร กองกำลังพลสำรอง แม้แต่ฐานลับใต้ดินก็ไม่เหลือ มรึงจะเหลือเหี้ยอะไรไปสู้เค้าได้อีก ทหารมรึงตายวันละ 1000 หากเทียบต่อประชากร เท่ากับ 1 ต่อ 3 เพราะทักษะทหารกว่าจะฝึกใช้เวลาเป็นปี มรึงเสียทหาร เท่ากับพลเรือน 3 คน ยิ่งมรึงกลายร่างเป็นหมาบ้ามากเท่าไหร่ ทั้งโลกยิ่งลงแขกมรึงหนักขึ้นกว่านี้ อิหร่านชนะมรึงไปเรียบร้อยแล้ว

    ‘Major massacre’: Scores killed as Israel attacks hospital, homes in Gaza “การสังหารหมู่ครั้งใหญ่“: ประชาชนจำนวนมากเสียชีวิตจากการโจมตีโรงพยาบาลและที่พักอาศัยในกาซา

    ------------------------------------------------------------------------—
    RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : “การสังหารหมู่ครั้งใหญ่“: ประชาชนจำนวนมากเสียชีวิตจากการโจมตีโรงพยาบาลและที่พักอาศัยในกาซา

    กองกำลังอิสราเอลโจมตีโรงพยาบาลที่เปิดทำการที่เดียวทางตอนเหนือของกาซา หลังวางระเบิดและทำให้มีเด็กในโรงพยาบาลเสียชีวิตตามรายงานจากแพทย์และสื่อ

    แหล่งข่าวทางการแพทย์ประกาศว่า มีชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 63 รายเสียชีวิตจากการโจมตีในช่วงเช้ามืดของอิสราเอลในกาซา

    การโจมตีโรงพยาบาล Kamal Adwan ที่ตั้งอยู่ในเมือง Beit Lahia ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัด Jabalia เกิดขึ้นในช่วงตี 2 ตามเวลาท้องถิ่นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังตัวแทนจาก WHO ออกจากโรงพยาบาล

    Dr. Munir al-Bursh ผู้อำนวยการกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ในกาซา ระบุว่า อิสราเอลเริ่มการโจมตีทางอากาศที่มีเป้าหมายเป็นโรงพยาบาลและสนามหญ้ารวมถึงเครื่องช่วยหายใจ

    กองทัพอิสราเอลโจมตีโรงพยาบาลใน 2 ชั่วโมงต่อมาซึ่งทำให้ผู้ป่วยทั้งหมดและประชาชนที่อยู่ในการดูแลเป็นพิเศษต้องรวมตัวกันที่สนามหญ้า พวกเขาจับวัยรุ่นชายในโรงพยาบาลและสอบถามข้อมูลจากพวกเขา

    ตามรายงานจากสำนักข่าว Al Jazeera กองกำลังอิสราเอลลักพาตัวอดีตนักเคลื่อนไหว Aboud Battah ที่เป็นเยาวชนและนักข่าวชาวปาเลสไตน์จากโรงพยาบาล

    Kamal Adwan เป็น 1 ใน 3 โรงพยาบาลทางตอนเหนือของกาซา ที่ถูกอิสราเอลปิดล้อมมาเป็นเวลา 3 สัปดาห์ พวกเขาไม่ได้รับการช่วยเหลือ ยา อาหาร และเชื้อเพลิงตั้งแต่ที่อิสราเอลปิดล้อมบริเวณดังกล่าว

    กองทัพอิสราเอลเริ่มปฏิบัติการทางตอนเหนือของกาซา ในวันที่ 5 ตุลาคมที่ได้รับการอธิบายจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนและผู้เชี่ยวชาญที่เป็นส่วนหนึ่งของการกวาดล้างชาวปาเลสไตน์

    อิสราเอลเริ่มปฏิบัติการหลังข้อเสนอในชื่อ “Generals’ Plan” ได้รับการเปิดเผยในประเทศซึ่งต้องการให้ไม่มีผู้อยู่อาศัยในบริเวณดังกล่าวเพื่ออิสราเอลจะสร้าง ”เขตทหารแบบปิด“

    ตามแผนการ ใครก็ตามที่เลือกจะอยู่ต่อถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Hamas และอาจถูกฆ่า UNRWA ประเมินว่า ประชาชนประมาณ 400,000 คนยังอยู่ในบริเวณทางตอนเหนือของกาซา รวมถึงกาซาซิตี้

    ที่อยู่อาศัยของประชาชนถูกวางระเบิดในเมือง Khan Yunis

    ในบริเวณตอนใต้ของกาซา การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลพุ่งเป้าไปที่ที่อยู่อาศัยในหมู่บ้าน al-Manara ของเมือง Khan Yunis ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 38 รายในวันศุกร์ที่ผ่านมา การโจมตีทางอากาศเกิดขึ้นพร้อมการโจมตีภาคพื้นดินจากกองกำลังอิสราเอลที่ได้รับการสนับสนุนจากทางอากาศและปืนใหญ่

    เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตในเมือง Khan Yunis ที่ประชาชนต่อแถวเพื่อรับขนมปังจากร้านเพียงแห่งเดียวที่ยังเปิดทำการ

    การโจมตีเกิดขึ้น 1 วันหลังรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ แอนโทนี บลิงเกนระบุว่า อิสราเอลบรรลุจุดประสงค์ของ “การทำลายกลุ่มฮามาสอย่างมีประสิทธิภาพ”

    บ้านเรือนได้รับความเสียหายในเมือง Jabalia

    มีชาวปาเลสไตน์มากกว่า 150 รายเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บใน “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ครั้งใหญ่” ในค่ายลี้ภัย Jabalia ทางตอนเหนือของกาซาหลังกองกำลังอิสราเอลระเบิดบ้าน 11 หลังในบริเวณ al-Hawaja เมื่อเย็นวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา มีประชาชนอย่างน้อย 18 รายเสียชีวิตจากการโจมตีโรงเรียน Nuseirat Martyrs ในค่ายลี้ภัย Nuseirat ทางตอนกลางของกาซา

    สำนักงานสื่อของรัฐบาลกาซาระบุว่า โรงเรียนประชากรพลัดถิ่นหลายหมื่นคน การโจมตีทำให้มีผู้พลัดถิ่นที่ตกเป็นเป้าหมายของกองกำลังอิสราเอลถึง 196 ราย

    Ismail Al-Thawabta ผู้อำนวยการสำนักงานสื่อของรัฐบาลกาซา ระบุว่า มีเด็ก 11 คนเสียชีวิตในเหตุระเบิดของชมรม al-Maghazi ในค่ายลี้ภัย Maghazi

    https://www.presstv.ir/Detail/2024/10/25/735942/Israeli-major-massacre-Gaza-Jabalia-

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    28-10-67/02 : หมี CNN / ความแตกต่างของ PROPAGANDA อียิว กับของโลกอาหรับ หรืออิหร่าน ฟังให้ชัด! โฆษณาชวนเชื่อ ข่าวปลอมอียิวคือ FAKE ทั้งหมด ปั่น ตอแหล เพื่อทำลายฝ่ายตรงกันข้าม หลอกควายไร้สติ หลอกคนไม่ได้ ขณะที่ PROPAGANDA อิหร่าน และโลกอาหรับ คือเอาของจริง FACT มาตีแผ่ขยายความเหี้ยจัญไรของอียิว อียิวทำจริง ใส่สีตีไข่ ให้รุนแรงเกินความน่าจะเป็น ตาย 10 บอก 100 ตาย 100 บอก 1000 เพื่ออะไร? เพื่อแนวร่วมทั้งโลกจะได้เข้าทอดกฐินลงแขกอียิวไงล่ะ ซึ่งก็ทำสำเร็จได้ดีเยี่ยม จนที่มาทั้งโลก แม้แต่อี WC UNSC ยังส่ายหัวรับไม่ไหว? แอฟริกามีกี่ประเทศ รับรองสมาชิกใหม่ปาเลสไตน์ อี UN กล้าขัดส้นตรีนมั้ยล่ะ? กาซ่าที่รายงานในสื่อจอแหล คืออียิวไล่ฆ่า แต่ในชีวิตจริง กองทัพอียิวถูกล้อมกลางดงตรีนฮามาส แต่สื่อไม่พูดไงล่ะ? หากมันฆ่าชาวกาซ่าได้จริง หมดจริง ป่านนี้ฮามาสแพ้ไปนานแล้ว แต่ทำไม ฮามาสยังดาหน้าไล่ฆ่าอียิวไม่หยุดหย่อน กองกำลังฮามาส เพิ่มขึ้น แนวร่วมมากขึ้น ดูเกมส์ให้ดูผลลัพธ์ ผลการรบ เพราะมันโกหกตอแหลไม่ได้ ใครรุกคืบ ใครถอย ใครตายเกลื่อน อาหรับเค้ารู้กันทั่ว ยกเว้นควายเท่านั้น? มรึงรบยังไงก็แพ้ เพราะฆ่าได้แต่เด็ก สตรี คนชรา คนพิการ คนท้อง ชาวบ้าน เพราะเข้าไม่ถึงฐานทัพบัญชาการ และคลังแสง ขณะที่ฮามาส เฮซบอเลาะห์ ฮูตี ซีเรีย เยเมน อิรัก เลบานอน ดาหน้าถล่มฐานทัพ ฐานบัญชาการ ศูนย์ควบคุม คลังแสง คลังอาวุธ สนามบิน ท่าเรือ ศูนย์สื่อสาร กองกำลังพลสำรอง แม้แต่ฐานลับใต้ดินก็ไม่เหลือ มรึงจะเหลือเหี้ยอะไรไปสู้เค้าได้อีก ทหารมรึงตายวันละ 1000 หากเทียบต่อประชากร เท่ากับ 1 ต่อ 3 เพราะทักษะทหารกว่าจะฝึกใช้เวลาเป็นปี มรึงเสียทหาร เท่ากับพลเรือน 3 คน ยิ่งมรึงกลายร่างเป็นหมาบ้ามากเท่าไหร่ ทั้งโลกยิ่งลงแขกมรึงหนักขึ้นกว่านี้ อิหร่านชนะมรึงไปเรียบร้อยแล้ว ‘Major massacre’: Scores killed as Israel attacks hospital, homes in Gaza “การสังหารหมู่ครั้งใหญ่“: ประชาชนจำนวนมากเสียชีวิตจากการโจมตีโรงพยาบาลและที่พักอาศัยในกาซา ------------------------------------------------------------------------— RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : “การสังหารหมู่ครั้งใหญ่“: ประชาชนจำนวนมากเสียชีวิตจากการโจมตีโรงพยาบาลและที่พักอาศัยในกาซา กองกำลังอิสราเอลโจมตีโรงพยาบาลที่เปิดทำการที่เดียวทางตอนเหนือของกาซา หลังวางระเบิดและทำให้มีเด็กในโรงพยาบาลเสียชีวิตตามรายงานจากแพทย์และสื่อ แหล่งข่าวทางการแพทย์ประกาศว่า มีชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 63 รายเสียชีวิตจากการโจมตีในช่วงเช้ามืดของอิสราเอลในกาซา การโจมตีโรงพยาบาล Kamal Adwan ที่ตั้งอยู่ในเมือง Beit Lahia ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัด Jabalia เกิดขึ้นในช่วงตี 2 ตามเวลาท้องถิ่นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังตัวแทนจาก WHO ออกจากโรงพยาบาล Dr. Munir al-Bursh ผู้อำนวยการกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ในกาซา ระบุว่า อิสราเอลเริ่มการโจมตีทางอากาศที่มีเป้าหมายเป็นโรงพยาบาลและสนามหญ้ารวมถึงเครื่องช่วยหายใจ กองทัพอิสราเอลโจมตีโรงพยาบาลใน 2 ชั่วโมงต่อมาซึ่งทำให้ผู้ป่วยทั้งหมดและประชาชนที่อยู่ในการดูแลเป็นพิเศษต้องรวมตัวกันที่สนามหญ้า พวกเขาจับวัยรุ่นชายในโรงพยาบาลและสอบถามข้อมูลจากพวกเขา ตามรายงานจากสำนักข่าว Al Jazeera กองกำลังอิสราเอลลักพาตัวอดีตนักเคลื่อนไหว Aboud Battah ที่เป็นเยาวชนและนักข่าวชาวปาเลสไตน์จากโรงพยาบาล Kamal Adwan เป็น 1 ใน 3 โรงพยาบาลทางตอนเหนือของกาซา ที่ถูกอิสราเอลปิดล้อมมาเป็นเวลา 3 สัปดาห์ พวกเขาไม่ได้รับการช่วยเหลือ ยา อาหาร และเชื้อเพลิงตั้งแต่ที่อิสราเอลปิดล้อมบริเวณดังกล่าว กองทัพอิสราเอลเริ่มปฏิบัติการทางตอนเหนือของกาซา ในวันที่ 5 ตุลาคมที่ได้รับการอธิบายจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนและผู้เชี่ยวชาญที่เป็นส่วนหนึ่งของการกวาดล้างชาวปาเลสไตน์ อิสราเอลเริ่มปฏิบัติการหลังข้อเสนอในชื่อ “Generals’ Plan” ได้รับการเปิดเผยในประเทศซึ่งต้องการให้ไม่มีผู้อยู่อาศัยในบริเวณดังกล่าวเพื่ออิสราเอลจะสร้าง ”เขตทหารแบบปิด“ ตามแผนการ ใครก็ตามที่เลือกจะอยู่ต่อถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Hamas และอาจถูกฆ่า UNRWA ประเมินว่า ประชาชนประมาณ 400,000 คนยังอยู่ในบริเวณทางตอนเหนือของกาซา รวมถึงกาซาซิตี้ ที่อยู่อาศัยของประชาชนถูกวางระเบิดในเมือง Khan Yunis ในบริเวณตอนใต้ของกาซา การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลพุ่งเป้าไปที่ที่อยู่อาศัยในหมู่บ้าน al-Manara ของเมือง Khan Yunis ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 38 รายในวันศุกร์ที่ผ่านมา การโจมตีทางอากาศเกิดขึ้นพร้อมการโจมตีภาคพื้นดินจากกองกำลังอิสราเอลที่ได้รับการสนับสนุนจากทางอากาศและปืนใหญ่ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตในเมือง Khan Yunis ที่ประชาชนต่อแถวเพื่อรับขนมปังจากร้านเพียงแห่งเดียวที่ยังเปิดทำการ การโจมตีเกิดขึ้น 1 วันหลังรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ แอนโทนี บลิงเกนระบุว่า อิสราเอลบรรลุจุดประสงค์ของ “การทำลายกลุ่มฮามาสอย่างมีประสิทธิภาพ” บ้านเรือนได้รับความเสียหายในเมือง Jabalia มีชาวปาเลสไตน์มากกว่า 150 รายเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บใน “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ครั้งใหญ่” ในค่ายลี้ภัย Jabalia ทางตอนเหนือของกาซาหลังกองกำลังอิสราเอลระเบิดบ้าน 11 หลังในบริเวณ al-Hawaja เมื่อเย็นวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา มีประชาชนอย่างน้อย 18 รายเสียชีวิตจากการโจมตีโรงเรียน Nuseirat Martyrs ในค่ายลี้ภัย Nuseirat ทางตอนกลางของกาซา สำนักงานสื่อของรัฐบาลกาซาระบุว่า โรงเรียนประชากรพลัดถิ่นหลายหมื่นคน การโจมตีทำให้มีผู้พลัดถิ่นที่ตกเป็นเป้าหมายของกองกำลังอิสราเอลถึง 196 ราย Ismail Al-Thawabta ผู้อำนวยการสำนักงานสื่อของรัฐบาลกาซา ระบุว่า มีเด็ก 11 คนเสียชีวิตในเหตุระเบิดของชมรม al-Maghazi ในค่ายลี้ภัย Maghazi https://www.presstv.ir/Detail/2024/10/25/735942/Israeli-major-massacre-Gaza-Jabalia- ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 434 มุมมอง 0 รีวิว
  • คดีตากใบ เกิดรุ่นพ่อ จ่ายรุ่นอา อวสานรุ่นลูก

    25 ต.ค. 2567 เป็นวันสุดท้ายที่คดีสลายการชุมนุมหน้าสถานีตำรวจภูธรตากใบ จังหวัดนราธิวาส หากไม่สามารถนำตัวจำเลยขึ้นสู่ศาลจังหวัดนราธิวาส จะหมดอายุความ 20 ปี ในคดีที่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 48 รายพร้อมญาติยื่นฟ้องด้วยเอง ศาลประทับรับฟ้องเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2567 และออกหมายจับผู้ต้องหา 7 คน พบว่าแต่ละคนหลบหนี โดยเฉพาะ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ยื่นใบลาออกจาก สส.ก่อนหน้านี้

    ส่วนข้อเสนอที่เรียกร้องให้รัฐบาลออก พ.ร.ก.ขยายอายุความ ในที่สุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวในนามรัฐบาล แสดงความเสียใจและให้คำตอบว่าทำไม่ได้ เพราะถามกฤษฎีกาแล้วไม่เข้าหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ

    ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2547 ชาวบ้านกว่า 2,000 คน รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวชาวมุสลิม 6 คน ที่ถูกควบคุมตัวโดยกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปล้นปืนและก่อความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสลายการชุมนุม ผู้ชุมนุมเสียชีวิตทันที 5 คน ที่เหลือนอนทับซ้อนกันในรถบรรทุกทหารไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ห่างออกไป 150 กิโลเมตร มีผู้ชุมนุมขาดอากาศหายใจ เสียชีวิต 78 คน บาดเจ็บและพิการอีกมาก

    นายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีขณะนั้น อ้างว่าเป็นไปตามหลักการ ไม่ถือว่าเจ้าหน้าที่กระทำเกินกว่าเหตุ และกล่าวว่า "ประชาชนไม่ควรตื่นตระหนกกับเหตุการณ์นี้ เพราะเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้น" ต่อมาสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นคณะกรรมการเยียวยาฯ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. จ่ายเงินเยียวยากว่า 641 ล้านบาท ผู้เสียชีวิตจ่ายรายละ 7.5 ล้านบาท ผู้บาดเจ็บ ผู้พิการได้รับลดหลั่นกันไป

    มีการวิเคราะห์กันว่า เหตุที่ปล่อยให้คดีหมดอายุความ เพราะผู้ต้องหาทั้ง 7 คนอายุมาก 74-75 ปี บางคนสุขภาพไม่ดี คาดว่าต่อสู้คดียาวนานอย่างน้อย 5-10 ปี ประการต่อมา หากคดีตากใบเดินหน้าต่อ จะมีผลไปถึงการจ่ายเงินเยียวยาสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่กำหนดเงื่อนไขว่าต้องผ่านมติคณะรัฐมนตรี และคดีต้องถึงที่สุดเท่านั้น อาจมีนักร้องไปยื่นสอยรัฐมนตรีบางคน เช่น พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรม หรือดำเนินคดีอาญา ครม.ยุคยิ่งลักษณ์

    นอกนั้นมองไปไกลว่า จำเลยอาจซัดทอดไปยังผู้บังคับบัญชาที่สูงกว่า ซึ่งนายทักษิณเคยย้าย พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ไปเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด แล้วให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แทน

    #Newskit #คดีตากใบ
    คดีตากใบ เกิดรุ่นพ่อ จ่ายรุ่นอา อวสานรุ่นลูก 25 ต.ค. 2567 เป็นวันสุดท้ายที่คดีสลายการชุมนุมหน้าสถานีตำรวจภูธรตากใบ จังหวัดนราธิวาส หากไม่สามารถนำตัวจำเลยขึ้นสู่ศาลจังหวัดนราธิวาส จะหมดอายุความ 20 ปี ในคดีที่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 48 รายพร้อมญาติยื่นฟ้องด้วยเอง ศาลประทับรับฟ้องเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2567 และออกหมายจับผู้ต้องหา 7 คน พบว่าแต่ละคนหลบหนี โดยเฉพาะ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ยื่นใบลาออกจาก สส.ก่อนหน้านี้ ส่วนข้อเสนอที่เรียกร้องให้รัฐบาลออก พ.ร.ก.ขยายอายุความ ในที่สุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวในนามรัฐบาล แสดงความเสียใจและให้คำตอบว่าทำไม่ได้ เพราะถามกฤษฎีกาแล้วไม่เข้าหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2547 ชาวบ้านกว่า 2,000 คน รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวชาวมุสลิม 6 คน ที่ถูกควบคุมตัวโดยกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปล้นปืนและก่อความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสลายการชุมนุม ผู้ชุมนุมเสียชีวิตทันที 5 คน ที่เหลือนอนทับซ้อนกันในรถบรรทุกทหารไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ห่างออกไป 150 กิโลเมตร มีผู้ชุมนุมขาดอากาศหายใจ เสียชีวิต 78 คน บาดเจ็บและพิการอีกมาก นายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีขณะนั้น อ้างว่าเป็นไปตามหลักการ ไม่ถือว่าเจ้าหน้าที่กระทำเกินกว่าเหตุ และกล่าวว่า "ประชาชนไม่ควรตื่นตระหนกกับเหตุการณ์นี้ เพราะเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้น" ต่อมาสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นคณะกรรมการเยียวยาฯ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. จ่ายเงินเยียวยากว่า 641 ล้านบาท ผู้เสียชีวิตจ่ายรายละ 7.5 ล้านบาท ผู้บาดเจ็บ ผู้พิการได้รับลดหลั่นกันไป มีการวิเคราะห์กันว่า เหตุที่ปล่อยให้คดีหมดอายุความ เพราะผู้ต้องหาทั้ง 7 คนอายุมาก 74-75 ปี บางคนสุขภาพไม่ดี คาดว่าต่อสู้คดียาวนานอย่างน้อย 5-10 ปี ประการต่อมา หากคดีตากใบเดินหน้าต่อ จะมีผลไปถึงการจ่ายเงินเยียวยาสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่กำหนดเงื่อนไขว่าต้องผ่านมติคณะรัฐมนตรี และคดีต้องถึงที่สุดเท่านั้น อาจมีนักร้องไปยื่นสอยรัฐมนตรีบางคน เช่น พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรม หรือดำเนินคดีอาญา ครม.ยุคยิ่งลักษณ์ นอกนั้นมองไปไกลว่า จำเลยอาจซัดทอดไปยังผู้บังคับบัญชาที่สูงกว่า ซึ่งนายทักษิณเคยย้าย พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ไปเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด แล้วให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แทน #Newskit #คดีตากใบ
    Like
    Haha
    Angry
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 857 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปรากฏการณ์มนุษย์กลายเป็นปีศาจ

    ปรากฏการณ์ดังกล่าวประกอบด้วยลักษณะสำคัญร่วมกัน 10 ประการ
    ที่ทำให้เปลี่ยนด้านสว่างของมนุษย์ที่ถือว่าเป็นสัตว์ประเสริฐและสมองถูกวิวัฒน์ จนกระทั่งคิดว่าปกครองพัฒนาชีวิต การเป็นอยู่สิ่งแวดล้อมให้ดีที่สุด เพื่อเอื้อประโยชน์ให้มนุษย์ด้วยกัน
    กลายเป็นด้านมืดที่สุด ที่กระทำทุกอย่างได้โดยไม่กระพริบตา

    ทั้งนี้รวมถึงการฆ่าฟัน การนำพาสิ่งอันตรายต่างๆ มาให้คน โดยจุดประสงค์แฝงเพื่อประโยชน์มหาศาลรวมทั้งการเกื้อกูลพวกเดียวกันโดย ให้อำนาจ เงิน อามิส สินจ้าง ทั้งนี้ล้างสมองตัวเองก่อนและล้างสมองแพร่ออกเป็นกลุ่มก้อน

    ปรากฏการณ์เกิดปีศาจร้าย ได้มีการรวบรวมและสรุปจากหมอผ่าตัดสมอง Itzhak Fried จาก University of California, Los Angeles ในปี 1997 โดยเรียกว่า Syndrome E และ E มาจาก Evil

    กลุ่มอาการทั้ง 10 ประกอบด้วย การแสดงออกซึ่งอธิบายได้ทางกลไกประสาทวิทยาศาสตร์ที่ส่งผลทางด้านอารมณ์และพฤติกรรม

    “การประพฤติบ่อย“ นำไปสู่

    “ความอยากทำอีก” โดยเริ่มมีการชำระล้างความชั่วที่ทำ ให้กลายเป็นสิ่งที่ดี

    “ การทำซ้ำๆที่ควบคุมไม่ได้” โดยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีผลกระทบต่อ อารมณ์และจิตใจ และความประพฤติปฏิบัติ ต่อมา แม้ว่าจะเกิดความเสียหายแม้กระทั่งต่อตนเองก็ตาม

    “ ไร้อารมณ์ความรู้สึก“ เมื่อกระทำชั่ว

    ” ความเร้าใจ” เมื่อกระทำได้สำเร็จ ตัวอย่าง ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์ ยิ่งตายมาก พิการ ทรมานมาก เท่าไหร่ ยิ่งเร้าใจมาก

    “ ยังดูเหมือนเป็นมนุษย์ปกติ” สมองยังคงทำงานได้ ความจำ การสื่อสาร ความสามารถในการแก้ปัญหา และอื่นๆ

    “ เกิดการเสพติด” เฉยชา ในความเลวร้าย ที่ตนตนเองทำ

    “ แบ่งส่วนกับครอบครัวตนเองได้” มีชีวิตสุขสบายปกติกับครอบครัวตนเอง ไม่มีใครสำเหนียก

    “ ถูกกระตุ้นได้ง่าย“ เมื่อมีเหตุการณ์ที่มีโอกาศทำ จะรีบนำพาไปสู่ความคิดและการกระทำที่ชั่วร้าย

    “ แพร่เชื้อเหมือนโรคระบาด” มนุษย์ที่กลายเป็นปีศาจมีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะเปลี่ยนผู้อื่นให้กลายเป็นพวกเดียวกันในความคิดและการปฏิบัติเหมือนกัน

    มนุษย์กลายเป็นปีศาจนั้นไม่ใช่ลักษณะเดียวกับ กลุ่มที่ มีจิตและความประพฤติผิดปกติต่อต้านสังคมตั้งแต่ต้น เปรียบเสมือนทหารนาซีที่ สามารถฆ่าได้เป็นล้าน และในปัจจุบันอิสราเอลที่ฆ่าได้เป็นหมื่นเป็นแสน โดยประกาศตั้งเป้าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เช่นเดียวกับที่เกิดในแอฟริกา

    ปรากฏการณ์ E ตั้งแต่ปี 1997 ทำให้มีการประชุมกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ทางด้านสมอง นักจิตวิทยาทางสังคม จิตแพทย์ กลุ่มต่อต้านผู้ก่อการร้าย นักเชี่ยวชาญสรีระวิทยาทางสมอง จนกระทั่งถึงกลุ่มทางกฎหมาย โดยมีการประชุมที่ปารีสสามครั้งระหว่าง 2015 ถึง 2017

    แกนกลางปัจจัยของปรากฏการณ์ E คือ
    ความเฉยชาไร้อารมณ์ ก่อน รวมทั้งในช่วงวางแผน จน ขณะก่อ ความชั่วร้าย และ แม้กระทั่งหลังจากนั้น แม้ถึงกับทำให้คร่าชีวิตคนด้วยกัน แต่ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวด รู้ร้อนรู้หนาว แต่กับครอบครัวยังเป็นปกติ

    เมื่อเป็นการล้างสมองอย่างสมบูรณ์แบบ ไร้ความเห็นใจ ไม่มีความเข้าอกเข้าใจ แต่สามารถแสร้งทำปกติได้อย่างแนบเนียน ตามสถานการณ์ได้อย่างนุ่มนวล

    ในขณะเดียวกันมีความรู้สึกเหมือนถูกบีบบังคับเมื่อเจอเหตุการณ์ที่ตนเองรู้สึกว่า “น่าทำ”

    ความเข้าอกเข้าใจนั้นเป็นลักษณะสำคัญในการเติบโตของมนุษย์แต่ละคนที่เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับคนอื่นโดยเกิดขึ้นในช่วงห้าขวบปีแรก และทำให้ตระหนักว่าการกระทำของตนเองนั้นเป็นสิ่งที่รับรู้จากคนอื่นด้วย

    ดังนั้น เป็นการสร้างความตระหนักที่ให้เรียนรู้ในสังคม แต่ทำให้มีการแบ่งแยกโดยการสร้างกลุ่มของตนเองและบูลลี่คนเคราะห์ร้าย

    และกลุ่มอาจสร้างค่านิยมให้แบ่งชนชั้น (selective empathy) ดูถูกคนไร้บ้าน คนข้างถนน คนที่ด้อยกว่า ในที่ทำงาน ในธุรกิจ เป็นการกัดกร่อน ความเข้าอกเข้าใจคนด้วยกัน (empathy erosion)
    และในที่สุดจุดประกายกำเนิดความโหดร้าย และเป็นด้านมืดของสังคม ที่เพาะบ่ม เหมือนกับการตีสองหน้า ช่วยพวกเดียวกันเอง ถีบหัวไสส่ง มนุษย์ที่ไม่ใช่พวกตัวเอง หรือด้อยกว่า

    การปรับเปลี่ยนจนเกิดความเป็นปึกแผ่นของกลุ่มและสังคม อาจมีประโยชน์ในการป้องกันศัตรูที่เข้ามารุกราน

    แต่แล้วที่เห็นในปัจจุบันคือการตีความ “ศัตรู” ให้อยู่ร่วมกันไม่ได้ประนีประนอมไม่ได้ใช้ประโยชน์พื้นแผ่นดินทรัพยากรรวมกันไม่ได้ และต้องหายไปจากพื้นโลกนี้

    วงจรสมองที่ประกอบขึ้นมาในการเป็นอารมณ์และความเข้าอกเข้าใจกันนั้น มีความซับซ้อนและประกอบด้วย

    สมองส่วน vmPFC หรือ ventromedial Prefrontal cortex OFC หรือ orbito Frontal cortex และ ส่วน ของ amygdala ในระบบ limbic

    ปรากฏการณ์ เฉยชาต่อความเข้าอกเข้าใจ
    จะมีการกระตุ้นผิดปกติของบริเวณสมองส่วนหน้าซึ่งจะยับยั้ง สมองส่วน amygdala และอธิบายได้จนกระทั่งถึงความคิดและการกระทำที่ออกมาเป็นย้ำคิดย้ำทำและอยากฆ่าทำร้าย ยาเสพติด cocaine ก่อให้เกิดลักษณะเช่นนี้ได้

    แต่ถึงแม้จะรู้ระบบวงจรเหล่านี้มานานแล้วก็ตาม แต่ไม่สามารถอธิบายได้อย่างสมบูรณ์ ถึงปรากฏการณ์ E ซึ่งทำให้มนุษย์กลายเป็นปีศาจได้อย่างหมดจด เพราะมนุษย์ปีศาจนั้น แยกตัวเองจากความรู้สึก จนเป็นความแตกหักของสมองและปัญญาอันประเสริฐ (cognitive fracture)
    ไม่เคยมีความรู้สึกผิดหรือเสียใจใดๆทั้งสิ้น และเกิดได้ทุกเชื้อชาติภาษา เช่นเขมรแดงทรมานและฆ่าทิ้ง

    ความเฉียบคมของสมองของมนุษย์ปีศาจเหล่านี้ยังคงอยู่

    สรรหาวิธีการทรมานที่ทำให้เจ็บปวดที่สุด หาวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุด ที่ทำให้เกิดการสังหารหมู่เป็นกลุ่มก้อน
    แม้กระทั่งมีการใช้ยา บ้า amphetamine ในกลุ่ม ISIS โดยทำให้มีการทำงานของระบบโดปามีน แปรปรวน ลดการทำงานของ serotonin ใน OFC นำไปสู่ พฤติกรรมต่อต้านสังคมฆ่าได้อย่างเฉยชา มีความก้าวร้าวและทำเป็นสันดาน ซึ่งเป็นการก่อการร้ายโดยใช้ยาเสพติดร่วมด้วย (pharmaco-terrorism)

    การกระทำชั่วร้ายของมนุษย์ปีศาจเหล่านี้ก่อให้เกิดอารมณ์ ปิติ ปลาบปลื้ม มีความสุขเป็นรางวัลให้ตัวเอง และต้องทำชั่วไปเพื่อความสุขของตนเอง แม้กระทั่งมีความอิ่มเอมเมื่อเห็นเหยื่อร้องขอชีวิต

    ในขณะเดียวกันต้องไม่ลืมว่า ปรากฏการณ์ปีศาจนี้ มนุษย์ที่กลายเป็นปีศาจไปแล้วนั้น จะมีความกระหายอย่างแรงกล้าที่จะทำให้คนรอบข้างเห็นดีเห็นงามไปกับการกระทำนั้น และกลายเป็นปีศาจด้วยกัน และปีศาจตัวหัวหน้าใหญ่ แม้เมื่อตายไปแล้วก็จะมีปีศาจตัวอื่นๆทยอยขึ้นมาแตกกิ่งก้านสาขาไปทั่ว

    ถึงตรงนี้ เราทุกคนต้องถามตัวเองว่า เราใช้ด้านมืด จนกลายเป็นปีศาจไปแล้วหรือไม่?

    รวบรวม เรียบเรียงจากบทความใน aeon ของ Naga Arikha associate fellow ของ Warburg Institute (London) และ honorary fellow of the Center for the Politics of Feelings, and a research associate at the Institut Jean Nicod of the Ecole Normale Supérieure (Paris) 30 กรกฎาคม 2018

    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    ปรากฏการณ์มนุษย์กลายเป็นปีศาจ ปรากฏการณ์ดังกล่าวประกอบด้วยลักษณะสำคัญร่วมกัน 10 ประการ ที่ทำให้เปลี่ยนด้านสว่างของมนุษย์ที่ถือว่าเป็นสัตว์ประเสริฐและสมองถูกวิวัฒน์ จนกระทั่งคิดว่าปกครองพัฒนาชีวิต การเป็นอยู่สิ่งแวดล้อมให้ดีที่สุด เพื่อเอื้อประโยชน์ให้มนุษย์ด้วยกัน กลายเป็นด้านมืดที่สุด ที่กระทำทุกอย่างได้โดยไม่กระพริบตา ทั้งนี้รวมถึงการฆ่าฟัน การนำพาสิ่งอันตรายต่างๆ มาให้คน โดยจุดประสงค์แฝงเพื่อประโยชน์มหาศาลรวมทั้งการเกื้อกูลพวกเดียวกันโดย ให้อำนาจ เงิน อามิส สินจ้าง ทั้งนี้ล้างสมองตัวเองก่อนและล้างสมองแพร่ออกเป็นกลุ่มก้อน ปรากฏการณ์เกิดปีศาจร้าย ได้มีการรวบรวมและสรุปจากหมอผ่าตัดสมอง Itzhak Fried จาก University of California, Los Angeles ในปี 1997 โดยเรียกว่า Syndrome E และ E มาจาก Evil กลุ่มอาการทั้ง 10 ประกอบด้วย การแสดงออกซึ่งอธิบายได้ทางกลไกประสาทวิทยาศาสตร์ที่ส่งผลทางด้านอารมณ์และพฤติกรรม “การประพฤติบ่อย“ นำไปสู่ “ความอยากทำอีก” โดยเริ่มมีการชำระล้างความชั่วที่ทำ ให้กลายเป็นสิ่งที่ดี “ การทำซ้ำๆที่ควบคุมไม่ได้” โดยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีผลกระทบต่อ อารมณ์และจิตใจ และความประพฤติปฏิบัติ ต่อมา แม้ว่าจะเกิดความเสียหายแม้กระทั่งต่อตนเองก็ตาม “ ไร้อารมณ์ความรู้สึก“ เมื่อกระทำชั่ว ” ความเร้าใจ” เมื่อกระทำได้สำเร็จ ตัวอย่าง ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์ ยิ่งตายมาก พิการ ทรมานมาก เท่าไหร่ ยิ่งเร้าใจมาก “ ยังดูเหมือนเป็นมนุษย์ปกติ” สมองยังคงทำงานได้ ความจำ การสื่อสาร ความสามารถในการแก้ปัญหา และอื่นๆ “ เกิดการเสพติด” เฉยชา ในความเลวร้าย ที่ตนตนเองทำ “ แบ่งส่วนกับครอบครัวตนเองได้” มีชีวิตสุขสบายปกติกับครอบครัวตนเอง ไม่มีใครสำเหนียก “ ถูกกระตุ้นได้ง่าย“ เมื่อมีเหตุการณ์ที่มีโอกาศทำ จะรีบนำพาไปสู่ความคิดและการกระทำที่ชั่วร้าย “ แพร่เชื้อเหมือนโรคระบาด” มนุษย์ที่กลายเป็นปีศาจมีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะเปลี่ยนผู้อื่นให้กลายเป็นพวกเดียวกันในความคิดและการปฏิบัติเหมือนกัน มนุษย์กลายเป็นปีศาจนั้นไม่ใช่ลักษณะเดียวกับ กลุ่มที่ มีจิตและความประพฤติผิดปกติต่อต้านสังคมตั้งแต่ต้น เปรียบเสมือนทหารนาซีที่ สามารถฆ่าได้เป็นล้าน และในปัจจุบันอิสราเอลที่ฆ่าได้เป็นหมื่นเป็นแสน โดยประกาศตั้งเป้าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เช่นเดียวกับที่เกิดในแอฟริกา ปรากฏการณ์ E ตั้งแต่ปี 1997 ทำให้มีการประชุมกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ทางด้านสมอง นักจิตวิทยาทางสังคม จิตแพทย์ กลุ่มต่อต้านผู้ก่อการร้าย นักเชี่ยวชาญสรีระวิทยาทางสมอง จนกระทั่งถึงกลุ่มทางกฎหมาย โดยมีการประชุมที่ปารีสสามครั้งระหว่าง 2015 ถึง 2017 แกนกลางปัจจัยของปรากฏการณ์ E คือ ความเฉยชาไร้อารมณ์ ก่อน รวมทั้งในช่วงวางแผน จน ขณะก่อ ความชั่วร้าย และ แม้กระทั่งหลังจากนั้น แม้ถึงกับทำให้คร่าชีวิตคนด้วยกัน แต่ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวด รู้ร้อนรู้หนาว แต่กับครอบครัวยังเป็นปกติ เมื่อเป็นการล้างสมองอย่างสมบูรณ์แบบ ไร้ความเห็นใจ ไม่มีความเข้าอกเข้าใจ แต่สามารถแสร้งทำปกติได้อย่างแนบเนียน ตามสถานการณ์ได้อย่างนุ่มนวล ในขณะเดียวกันมีความรู้สึกเหมือนถูกบีบบังคับเมื่อเจอเหตุการณ์ที่ตนเองรู้สึกว่า “น่าทำ” ความเข้าอกเข้าใจนั้นเป็นลักษณะสำคัญในการเติบโตของมนุษย์แต่ละคนที่เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับคนอื่นโดยเกิดขึ้นในช่วงห้าขวบปีแรก และทำให้ตระหนักว่าการกระทำของตนเองนั้นเป็นสิ่งที่รับรู้จากคนอื่นด้วย ดังนั้น เป็นการสร้างความตระหนักที่ให้เรียนรู้ในสังคม แต่ทำให้มีการแบ่งแยกโดยการสร้างกลุ่มของตนเองและบูลลี่คนเคราะห์ร้าย และกลุ่มอาจสร้างค่านิยมให้แบ่งชนชั้น (selective empathy) ดูถูกคนไร้บ้าน คนข้างถนน คนที่ด้อยกว่า ในที่ทำงาน ในธุรกิจ เป็นการกัดกร่อน ความเข้าอกเข้าใจคนด้วยกัน (empathy erosion) และในที่สุดจุดประกายกำเนิดความโหดร้าย และเป็นด้านมืดของสังคม ที่เพาะบ่ม เหมือนกับการตีสองหน้า ช่วยพวกเดียวกันเอง ถีบหัวไสส่ง มนุษย์ที่ไม่ใช่พวกตัวเอง หรือด้อยกว่า การปรับเปลี่ยนจนเกิดความเป็นปึกแผ่นของกลุ่มและสังคม อาจมีประโยชน์ในการป้องกันศัตรูที่เข้ามารุกราน แต่แล้วที่เห็นในปัจจุบันคือการตีความ “ศัตรู” ให้อยู่ร่วมกันไม่ได้ประนีประนอมไม่ได้ใช้ประโยชน์พื้นแผ่นดินทรัพยากรรวมกันไม่ได้ และต้องหายไปจากพื้นโลกนี้ วงจรสมองที่ประกอบขึ้นมาในการเป็นอารมณ์และความเข้าอกเข้าใจกันนั้น มีความซับซ้อนและประกอบด้วย สมองส่วน vmPFC หรือ ventromedial Prefrontal cortex OFC หรือ orbito Frontal cortex และ ส่วน ของ amygdala ในระบบ limbic ปรากฏการณ์ เฉยชาต่อความเข้าอกเข้าใจ จะมีการกระตุ้นผิดปกติของบริเวณสมองส่วนหน้าซึ่งจะยับยั้ง สมองส่วน amygdala และอธิบายได้จนกระทั่งถึงความคิดและการกระทำที่ออกมาเป็นย้ำคิดย้ำทำและอยากฆ่าทำร้าย ยาเสพติด cocaine ก่อให้เกิดลักษณะเช่นนี้ได้ แต่ถึงแม้จะรู้ระบบวงจรเหล่านี้มานานแล้วก็ตาม แต่ไม่สามารถอธิบายได้อย่างสมบูรณ์ ถึงปรากฏการณ์ E ซึ่งทำให้มนุษย์กลายเป็นปีศาจได้อย่างหมดจด เพราะมนุษย์ปีศาจนั้น แยกตัวเองจากความรู้สึก จนเป็นความแตกหักของสมองและปัญญาอันประเสริฐ (cognitive fracture) ไม่เคยมีความรู้สึกผิดหรือเสียใจใดๆทั้งสิ้น และเกิดได้ทุกเชื้อชาติภาษา เช่นเขมรแดงทรมานและฆ่าทิ้ง ความเฉียบคมของสมองของมนุษย์ปีศาจเหล่านี้ยังคงอยู่ สรรหาวิธีการทรมานที่ทำให้เจ็บปวดที่สุด หาวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุด ที่ทำให้เกิดการสังหารหมู่เป็นกลุ่มก้อน แม้กระทั่งมีการใช้ยา บ้า amphetamine ในกลุ่ม ISIS โดยทำให้มีการทำงานของระบบโดปามีน แปรปรวน ลดการทำงานของ serotonin ใน OFC นำไปสู่ พฤติกรรมต่อต้านสังคมฆ่าได้อย่างเฉยชา มีความก้าวร้าวและทำเป็นสันดาน ซึ่งเป็นการก่อการร้ายโดยใช้ยาเสพติดร่วมด้วย (pharmaco-terrorism) การกระทำชั่วร้ายของมนุษย์ปีศาจเหล่านี้ก่อให้เกิดอารมณ์ ปิติ ปลาบปลื้ม มีความสุขเป็นรางวัลให้ตัวเอง และต้องทำชั่วไปเพื่อความสุขของตนเอง แม้กระทั่งมีความอิ่มเอมเมื่อเห็นเหยื่อร้องขอชีวิต ในขณะเดียวกันต้องไม่ลืมว่า ปรากฏการณ์ปีศาจนี้ มนุษย์ที่กลายเป็นปีศาจไปแล้วนั้น จะมีความกระหายอย่างแรงกล้าที่จะทำให้คนรอบข้างเห็นดีเห็นงามไปกับการกระทำนั้น และกลายเป็นปีศาจด้วยกัน และปีศาจตัวหัวหน้าใหญ่ แม้เมื่อตายไปแล้วก็จะมีปีศาจตัวอื่นๆทยอยขึ้นมาแตกกิ่งก้านสาขาไปทั่ว ถึงตรงนี้ เราทุกคนต้องถามตัวเองว่า เราใช้ด้านมืด จนกลายเป็นปีศาจไปแล้วหรือไม่? รวบรวม เรียบเรียงจากบทความใน aeon ของ Naga Arikha associate fellow ของ Warburg Institute (London) และ honorary fellow of the Center for the Politics of Feelings, and a research associate at the Institut Jean Nicod of the Ecole Normale Supérieure (Paris) 30 กรกฎาคม 2018 ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    Like
    Yay
    Sad
    8
    1 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 727 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทุนฟื้นฟู อบจ.สระบุรี มอบกายอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้คนพิการและผู้มีภาวะพึ่งพิง 8 รายการกว่า 2.9 ล้านบาท สปสช.เขต 4 ร่วมส่งมอบหนุนเป็นตัวอย่างเพิ่มการเข้าถึงบริการ
    https://www.facebook.com/share/p/yKSxQToWEzCRsMQh/
    กองทุนฟื้นฟู อบจ.สระบุรี มอบกายอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้คนพิการและผู้มีภาวะพึ่งพิง 8 รายการกว่า 2.9 ล้านบาท สปสช.เขต 4 ร่วมส่งมอบหนุนเป็นตัวอย่างเพิ่มการเข้าถึงบริการ https://www.facebook.com/share/p/yKSxQToWEzCRsMQh/
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • อจ Yupin Deesomsak... ตามที่ “ ทางการสาธารณสุข อย สถาบันวัคซีน และอีกหลายสถาบัน ประกาศว่าวัคซีนมีความปลอดภัยสูงสุดทั้งประเทศไทยมีได้รับผลกระทบรุนแรงเพียงแค่ห้ารายจนกระทั่งถึงต้นปี 2567 และล่าสุดเชิญชวนฉีดวัคซีนต่อประกาศเดือนตุลาคม 2567 ไม่ใช่แต่กลุ่มเปราะบางสูงวัยมีโรคประจำตัวแต่รวมถึงเด็กอายุเกินหกเดือนด้วย “ (ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา) นั้น ตนเองเป็นกลุ่มเปราะบางสูงวัยมีโรคประจำตัวดังกล่าว จะไม่ไปฉีดวัคซีนโควิด ด้วยเหตุผลดังนี้
    1. บุคคล / หน่วยงาน ที่รณรงค์ให้กลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีน
    1.1 ไม่ได้บอกประโยชน์และโทษหรือผลข้างเคียงของวัคซีน
    1.2 ไม่ได้แสดงเจตจำนงค์จะรับผิดชอบด้วยคำพูดและลายลักษณ์อักษรว่าถ้าหลังฉีดวัคซีนเกิดการเจ็บป่วย พิการ เสียชีวิต บุคคล / หน่วยงาน ที่รณรงค์ให้กลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีนจะรับผิดชอบทำการรักษาให้ฟรีและเยียวยาชดเชยให้ กลัวว่าถ้าเกิดผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน
    1.3 ผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนไปเรียกร้องขอความเป็นธรรมตามสิทธิ์ จะถูกปฏิเสธการรักษาและเยียวยาชดเชยโดยกล่าวว่า เกิดขึ้นเพราะแก่และโรคประจำตัวซึ่งก็ไม่ควรรณรงค์ให้ไปฉีดวัคซีน
    1.4 หน่วยงานนี้ให้ไปหาหลักฐานข้อพิสูจน์ว่าการเจ็บป่วย พิการ เสียชีวิตนั้นเกิดจากวัคซีนโควิดจริงซึ่งเป็นเรื่องยากยิ่งสำหรับประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนสูงอายุ มีโรคประจำตัวและเกิดผลข้างเคียงของวัคซีนที่มีความทุกข์มากอยู่แล้วต้องดิ้นรนอย่างหนักในการ เดินทาง ค่าเดินทาง เสียเวลาและเสียเงินจำนวนมากมาจ่ายค่าการพิสูจน์ความจริงว่าผลข้างเคียงเกิดจากวัคซีนโควิด100% ค่าทนายความฯ เพื่อมาหักล้างว่าผลกระทบนั้นไม่ได้เกิดจากความแก่และโรคประจำตัว ราวกับโจทย์และจำเลยในศาล ทั้งที่การพิสูจน์นี้ควรเป็นหน้าที่รับผิดชอบของหน่วยงานนี้ที่มีหน้าที่ช่วยเหลือทำให้ประชาชนมีสุขภาพดี(สาธารณสุข)
    1.5 บอก“ วัคซีนมีความปลอดภัยสูงสุดทั้งประเทศไทยมีได้รับผลกระทบรุนแรงเพียงแค่ห้ารายจนกระทั่งถึงต้นปี 2567” ข้อความนี้เป็นความจริงเชิงประจักษ์หรือไม่ ถ้าไม่เป็นความจริงควรรับผิดชอบอย่างไรที่ทำให้ประชาชนหลงเชื่อผิด ทำให้ตัดสินใจไม่ถูกต้องตามความจริงที่ไปรับการฉีดวัคซีน
    1.4 ตามหลักความเชื่อ10ประการของพระพุทธองค์คือ “ อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา การถือสืบๆกันมา การเล่าลือ การอ้างตำราหรือคัมภีร์ ตรรก การอนุมาน การคิดตรองตามแนวเหตุผล เข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว มองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา” ให้สอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า สิ่งเหล่านั้นเป็นกุศลหรือไม่มีโทษ เมื่อนั้นพึงถือปฏิบัติคือเชื่อและทำตามไปฉีดวัคซีน ใช้หลักง่ายๆข้อหนึ่งคือผู้กล่าวนั้นต้องไม่มีผลประโยชน์ใดๆเกี่ยวกับวัคซีน

    2. มีข้อมูลทางวิชาการมากมายจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านที่กล่าวอย่างต่อเนื่องว่าผลข้างเคียงของmRNA วัคซีนนั้น “ ยิ่งฉีดทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอยิ่งขึ้น มีคนตายและพิการในประเทศไทยหลังจากฉีดรวมทั้งหลักฐานการชันสูตรในวารสารการแพทย์และวิทยาศาสตร์เกี่ยวพันกับกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเป็นหย่อมตายเฉียบพลัน สมองเสื่อม และมะเร็ง เป็นต้น” (ธีระวัฒน์ เหมะจะฑา) ... หน่วยงานนี้ควรศึกษาตรวจสอบผลกระทบของวัคซีนอย่างซื่อสัตย์จริงใจ ประเมินความปลอดภัยให้แน่ใจก่อนจึงรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนโควิดอีก ไม่ใช่กล่าวลอยๆว่าข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของวัคซีนดังกล่าวมาจากแหล่งที่เชื่อถือไม่ได้ เพราะถ้าข้อมูลเหล่านี้เชื่อถือไม่ได้จริงๆหน่วยงานควรดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กล่าวนั้นเพราะสร้างความเสียหาย จะได้มีการพิสูจน์ความจริง
    3. ประสบการณ์ตรงที่เป็นกลุ่มเปราะบางคือสูงอายุมีโรคประจำตัว ฉีดวัคซีนโควิดmRNA4เข็ม เพิ่งติดเชื้อโควิดครั้งแรกเมื่อ3เดือนก่อนเพราะรับเด็กทำงานบ้านมาใหม่ออกนอกบ้านไปรับเชื้อมาแพร่ต่อให้ พบว่าตนเองมีอาการน้อยมาก แค่ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอและไอเล้กน้อย กินฟ้าทะลายโจร5วันและยาฆ่าเชื้อ1ชุด อาการดีขึ้นจนหายเป็นปกติ ตนเองเป็นคนที่รักษาสุขภาพ (กินอาหารสุขภาพ ถ่ายอุจจาระทุกวัน ออกกำลังกายเดินทุกวันวันละ30นาที ตากแดด อยู่ในที่อากาศดี นอนหลับดีเพียงพอ ไม่เครียด ใช้ยาเมื่อจำเป็น ตรวจร่างกายประจำ ควบคุมน้ำตาล ไขมัน ความดันเลือด น้ำหนักและโรคประจำตัว) และรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล ไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย (เช่น กินอาหารสุกร้อน ล้างมือบ่อยๆ ใส่หน้ากาก ไม่ไปที่เสี่ยงคนแออัด ใช้ของใช้ส่วนตน เป็นต้น)ตลอดมา คิดว่า การป้องกันการติดเชื้อที่ดีที่สุดคือการดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรง ควบคุมโรคประจำตัวให้ดีทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันดีและรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล เพราะการกระทำดังกล่าวนี้มีแต่ผลดี นอกจากป้องกันโรคโควิดแล้วยังป้องกันโรคอื่นๆได้ด้วย ประหยัด ยั่งยืนและไม่เกิดผลกระทบใดๆต่อร่างกายและจิตใจตามมา
    อจ Yupin Deesomsak... ตามที่ “ ทางการสาธารณสุข อย สถาบันวัคซีน และอีกหลายสถาบัน ประกาศว่าวัคซีนมีความปลอดภัยสูงสุดทั้งประเทศไทยมีได้รับผลกระทบรุนแรงเพียงแค่ห้ารายจนกระทั่งถึงต้นปี 2567 และล่าสุดเชิญชวนฉีดวัคซีนต่อประกาศเดือนตุลาคม 2567 ไม่ใช่แต่กลุ่มเปราะบางสูงวัยมีโรคประจำตัวแต่รวมถึงเด็กอายุเกินหกเดือนด้วย “ (ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา) นั้น ตนเองเป็นกลุ่มเปราะบางสูงวัยมีโรคประจำตัวดังกล่าว จะไม่ไปฉีดวัคซีนโควิด ด้วยเหตุผลดังนี้ 1. บุคคล / หน่วยงาน ที่รณรงค์ให้กลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีน 1.1 ไม่ได้บอกประโยชน์และโทษหรือผลข้างเคียงของวัคซีน 1.2 ไม่ได้แสดงเจตจำนงค์จะรับผิดชอบด้วยคำพูดและลายลักษณ์อักษรว่าถ้าหลังฉีดวัคซีนเกิดการเจ็บป่วย พิการ เสียชีวิต บุคคล / หน่วยงาน ที่รณรงค์ให้กลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีนจะรับผิดชอบทำการรักษาให้ฟรีและเยียวยาชดเชยให้ กลัวว่าถ้าเกิดผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน 1.3 ผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนไปเรียกร้องขอความเป็นธรรมตามสิทธิ์ จะถูกปฏิเสธการรักษาและเยียวยาชดเชยโดยกล่าวว่า เกิดขึ้นเพราะแก่และโรคประจำตัวซึ่งก็ไม่ควรรณรงค์ให้ไปฉีดวัคซีน 1.4 หน่วยงานนี้ให้ไปหาหลักฐานข้อพิสูจน์ว่าการเจ็บป่วย พิการ เสียชีวิตนั้นเกิดจากวัคซีนโควิดจริงซึ่งเป็นเรื่องยากยิ่งสำหรับประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนสูงอายุ มีโรคประจำตัวและเกิดผลข้างเคียงของวัคซีนที่มีความทุกข์มากอยู่แล้วต้องดิ้นรนอย่างหนักในการ เดินทาง ค่าเดินทาง เสียเวลาและเสียเงินจำนวนมากมาจ่ายค่าการพิสูจน์ความจริงว่าผลข้างเคียงเกิดจากวัคซีนโควิด100% ค่าทนายความฯ เพื่อมาหักล้างว่าผลกระทบนั้นไม่ได้เกิดจากความแก่และโรคประจำตัว ราวกับโจทย์และจำเลยในศาล ทั้งที่การพิสูจน์นี้ควรเป็นหน้าที่รับผิดชอบของหน่วยงานนี้ที่มีหน้าที่ช่วยเหลือทำให้ประชาชนมีสุขภาพดี(สาธารณสุข) 1.5 บอก“ วัคซีนมีความปลอดภัยสูงสุดทั้งประเทศไทยมีได้รับผลกระทบรุนแรงเพียงแค่ห้ารายจนกระทั่งถึงต้นปี 2567” ข้อความนี้เป็นความจริงเชิงประจักษ์หรือไม่ ถ้าไม่เป็นความจริงควรรับผิดชอบอย่างไรที่ทำให้ประชาชนหลงเชื่อผิด ทำให้ตัดสินใจไม่ถูกต้องตามความจริงที่ไปรับการฉีดวัคซีน 1.4 ตามหลักความเชื่อ10ประการของพระพุทธองค์คือ “ อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา การถือสืบๆกันมา การเล่าลือ การอ้างตำราหรือคัมภีร์ ตรรก การอนุมาน การคิดตรองตามแนวเหตุผล เข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว มองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา” ให้สอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า สิ่งเหล่านั้นเป็นกุศลหรือไม่มีโทษ เมื่อนั้นพึงถือปฏิบัติคือเชื่อและทำตามไปฉีดวัคซีน ใช้หลักง่ายๆข้อหนึ่งคือผู้กล่าวนั้นต้องไม่มีผลประโยชน์ใดๆเกี่ยวกับวัคซีน 2. มีข้อมูลทางวิชาการมากมายจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านที่กล่าวอย่างต่อเนื่องว่าผลข้างเคียงของmRNA วัคซีนนั้น “ ยิ่งฉีดทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอยิ่งขึ้น มีคนตายและพิการในประเทศไทยหลังจากฉีดรวมทั้งหลักฐานการชันสูตรในวารสารการแพทย์และวิทยาศาสตร์เกี่ยวพันกับกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเป็นหย่อมตายเฉียบพลัน สมองเสื่อม และมะเร็ง เป็นต้น” (ธีระวัฒน์ เหมะจะฑา) ... หน่วยงานนี้ควรศึกษาตรวจสอบผลกระทบของวัคซีนอย่างซื่อสัตย์จริงใจ ประเมินความปลอดภัยให้แน่ใจก่อนจึงรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนโควิดอีก ไม่ใช่กล่าวลอยๆว่าข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของวัคซีนดังกล่าวมาจากแหล่งที่เชื่อถือไม่ได้ เพราะถ้าข้อมูลเหล่านี้เชื่อถือไม่ได้จริงๆหน่วยงานควรดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กล่าวนั้นเพราะสร้างความเสียหาย จะได้มีการพิสูจน์ความจริง 3. ประสบการณ์ตรงที่เป็นกลุ่มเปราะบางคือสูงอายุมีโรคประจำตัว ฉีดวัคซีนโควิดmRNA4เข็ม เพิ่งติดเชื้อโควิดครั้งแรกเมื่อ3เดือนก่อนเพราะรับเด็กทำงานบ้านมาใหม่ออกนอกบ้านไปรับเชื้อมาแพร่ต่อให้ พบว่าตนเองมีอาการน้อยมาก แค่ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอและไอเล้กน้อย กินฟ้าทะลายโจร5วันและยาฆ่าเชื้อ1ชุด อาการดีขึ้นจนหายเป็นปกติ ตนเองเป็นคนที่รักษาสุขภาพ (กินอาหารสุขภาพ ถ่ายอุจจาระทุกวัน ออกกำลังกายเดินทุกวันวันละ30นาที ตากแดด อยู่ในที่อากาศดี นอนหลับดีเพียงพอ ไม่เครียด ใช้ยาเมื่อจำเป็น ตรวจร่างกายประจำ ควบคุมน้ำตาล ไขมัน ความดันเลือด น้ำหนักและโรคประจำตัว) และรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล ไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย (เช่น กินอาหารสุกร้อน ล้างมือบ่อยๆ ใส่หน้ากาก ไม่ไปที่เสี่ยงคนแออัด ใช้ของใช้ส่วนตน เป็นต้น)ตลอดมา คิดว่า การป้องกันการติดเชื้อที่ดีที่สุดคือการดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรง ควบคุมโรคประจำตัวให้ดีทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันดีและรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล เพราะการกระทำดังกล่าวนี้มีแต่ผลดี นอกจากป้องกันโรคโควิดแล้วยังป้องกันโรคอื่นๆได้ด้วย ประหยัด ยั่งยืนและไม่เกิดผลกระทบใดๆต่อร่างกายและจิตใจตามมา
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 697 มุมมอง 0 รีวิว
  • วารสารถูกตั้งคำถามว่ามีความเที่ยงตรงหรือไม่?

    ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา วงการวิชาการ อาทิ แพทย์ วิทยาศาสตร์เป็นต้น จะให้ความเชื่อถือว่า บทความใดที่ตีพิมพ์ในวารสาร ที่เรียกว่า peer reviewed journal เป็นที่เชื่อถือได้
    เพราะมีคณะกรรมการที่อ่าน บทความ และพิจารณาหลักฐานที่มากระบวนการศึกษา และจะทำการให้ความเห็นว่า จะไม่รับ หรือรับ แต่มีเงื่อนไข ประเด็นต้องแก้ไขใหญ่ หรือเล็ก หรือต้องมีการทำการทดลองใหม่ในบางส่วนหรือไม่
    วารสารที่มีชื่อเหล่านี้จะถูกนำไปอ้างอิงในวงวิชาการต่างๆทำให้รับรู้กันทั่วไป

    ในการส่งบทความเพื่อ ไปตีพิมพ์ในวารสารนั้น
    ผู้วิจัยจะต้องประกาศว่ามีผลประโยชน์ใดหรือไม่อย่างไร กับ บริษัทผลิตภัณฑ์ ยา วัคซีน รวมทั้งได้ค่าตอบแทนในรูปลักษณะใด ไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษา รับเงิน หรือสิ่งตอบแทน รวมค่าเดินทางค่าที่พัก เวลาไปบรรยายในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆ และเชื่อมโยงมาถึงการใช้ผลิตภัณฑ์หรือวัคซีนเป็นต้น

    แต่กรรมการผู้พิจารณา กลับไม่ต้องมีการแจงรายละเอียดชัดเจน เหล่านี้อาจมีเพียงแต่ว่า มีประเด็นที่ขัดแย้ง กับผู้ส่งบทความหรือผู้ทำวิจัย หรือไม่ หรือทำวิจัยในเรื่องเดียวกัน ที่อาจจะเป็นการนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ส่วนตนได้

    บทความนี้ที่ตีพิมพ์ในวารสารสมาคมแพทย์อเมริกัน (journal of American Medical Association JAMA) วันที่ 10 ตุลาคม 2024 ได้รายงานถึงหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับกรรมการผู้พิจารณาบทความ (reviewers) ว่า แท้จริงแล้ว เกินครึ่งของบุคคลกรรมการเหล่านี้ ต่างได้รับเงินสนับสนุนในการศึกษาวิจัย หรือเงินสนับสนุนในด้านผลิตภัณฑ์เครื่องมือ ต่างๆ จากบริษัทที่ตรงมาเข้าบุคคลนั้น หรือที่เข้ามายังบุคคลนั้น และสถาบันที่บุคคลนั้นอยู่

    และเป็นประเด็นที่ตั้งคำถามถึง ความเที่ยงตรง integrity และ ความมีอิสระเที่ยงตรงในการตัดสิน ในการที่จะไม่รับ หรือรับตีพิมพ์บทความที่ส่งเข้ามา

    และหลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์ จากหลายสถาบัน ในต่างประเทศ รวมทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และอังกฤษ ต่างให้ข้อมูลที่ตนเองประสบและถ่ายทอดในสื่อต่างๆโดยเฉพาะที่ประสบในช่วงโควิด
    ที่เกี่ยวข้องกับการไม่ให้ลงตีพิมพ์ การใช้ยาบางตัว ที่มีการทดสอบแล้วว่าได้ผลทั้งๆที่ราคาถูก เข้าถึงได้ และจนกระทั่งถึงงานที่ตีพิมพ์ไปแล้วแต่บรรณาธิการถอดออก และ ที่สำคัญก็คือเรื่องผลกระทบของวัคซีนที่ ถึงชีวิตหรือพิการ
    วารสารที่ถูกเปิดเผยเรื่องเหล่านี้ ที่กรรมการพิจารณาบทความได้รับเงินสนับสนุน ต่างก็เป็นวารสารชั้นนำ เช่น British Medical journal Lancet New England journal เป็นต้น
    โดยมูลค่าของเงินสนับสนุนเหล่านี้มีจำนวนมากกว่า 1,000,000,000 เหรียญสหรัฐ

    สูตรสำเร็จ เช่น เมื่อมีการพูด ผลกระทบของวัคซีน จะมีกลุ่มที่ออกมาวิจารณ์ว่า ไม่ได้ลงตีพิมพ์ในวารสารชั้นดี หรือตีพิมพ์ไปแล้วแต่บรรณาธิการสั่งถอดออกแสดงว่า เชื่อถือไม่ได้

    แม้กระทั่ง บทความเรื่องโรคคล้ายวัวบ้าในมนุษย์หลังได้รับวัคซีนโควิดไปภายในช่วงสองสัปดาห์และเสียชีวิตภายในเวลาห้าเดือน จากคณะ ชองProf Luc Montagnier ซึ่งได้รับ รางวัล โนเบล จากการค้นพบไวรัสเอดส์ ถูกไม่รับพิจารณาในวารสาร จนกระทั่งตีพิมพ์ในวรสารในระดับรองลงมาและข้อมูลหลักฐานประกอบในบทความเป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่คงเลือกได้ว่าน่าตื่นเต้นและประทับใจในการค้นพบและเชื่อมโยงการเกิดโรคคล้ายวัวบ้าในมนุษย์กับวัคซีนได้อย่างชัดเจน

    https://jamanetwork.com/journals/jama/article-abstract/2824834?utm_source=substack&utm_medium=email

    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต

    เชื่อถือได้หรือ? “หมอธีระวัฒน์” เผยวารสารการแพทย์ชื่อดังปล่อย กก.พิจารณาบทความรับผลประโยชน์จากบริษัทยา https://mgronline.com/qol/detail/9670000100753





    Two years ago, we discussed the lack of evidence supporting the idea that peer review improves the quality of scientific research. 
    Peer review is meant to guarantee the publication of high-quality research and enhance the quality of published manuscripts. The process should involve independent experts evaluating and assessing research for its quality and reliability.
    However, a recent JAMA publication questions the integrity and independence of peer review. The research letter addresses the Payments by Drug and Medical Device Manufacturers to US Peer Reviewers of Major Medical Journals.
    The authors identified peer reviewers for The BMJ, JAMA, The Lancet, and The New England Journal of Medicine (NEJM) using each journal’s 2022 reviewer list. They then used a US Open payments database to identify whether reviewers had received industry payments.
    What did they find?
    Between 2020 and 2022, 1155/1962 peer reviewers (59%) received at least one industry payment. More than half (54%) accepted general payments, while 32% received research payments.
    Between 2020 and 2022, reviewers received over $1.2 billion in industry payments, including $1 billion to individuals or their institutions. Over the three years, the median general payment was $7,614.  
    What does this mean?
    Journals such as the BMJ pride themselves on their competing interest policy. Readers should know the author's competing interests if they publish an article. They ask reviewers to provide a fair, honest, and unbiased assessment of the manuscript's strengths and weaknesses. But how is that possible if you're on the payroll of pharma?
    Furthermore, no one can identify who is being paid as there is no central database like the US where you can look up who is paying who. The voluntary nature of the system means companies can often conceal payments. For example, the drug industry’s self-regulatory body reprimanded  Novo Nordisk for failing to disclose approximately 500 payments worth £7.8m to over 150 recipients between 2020 and 2022.
    This latest publication further enhances the status of peer review: it is broken.
    A system that dates back over 200 years persists because no one can be bothered to address its shortcomings, and too many journals make hefty profits out of its inadequacies to affect the status quo.
    THE JAMA authors consider that ‘additional research and transparency regarding industry payments in the peer review process are needed.” We think this will be another smokescreen to permit the current system to limp on. 
    Editorial peer reviews are largely untested; their effects are uncertain and tainted by industry influence. The system needs a radical overhaul which starts with abandoning the current journal system that sucks in vast amounts of cash and distorts the research agenda.
    The main reasons for the survival of a broken system are tied to the biomedical publication industry. For editors, peer review is a Kevlar shield, a sloping shoulders device - “it ain’t me guv” cop-out clause. For academic authors who have to climb the greasy pole, it’s a system that works both ways; for industry and all those who have to sell something, it’s a cheap advert chance. You only need to read our Antivirals series to understand how the system works and how the public was sold and continues to sell dummies. Rotten decision-makers only have to point to ghost-written trials in mega journals to justify their decisions.
    You only have to look at our recent Zum Zum posts to see the devastating effects of this broken system. Or look up the Comirnaty series, which was written without data published in journals—it was regulatory data, the closest we are ever going to get to reality.
    This post was written by two old geezers who have been peer-viewed and have peer-reviewed countless times.
    Consider becoming a paid subscriber to receive new posts and support our work.

    October 10, 2024
    Payments by Drug and Medical Device Manufacturers to US Peer Reviewers of Major Medical Journals
    David-Dan Nguyen, MDCM, MPH1,2; Anju Muramaya3,4; Anna-Lisa Nguyen, BHSc5; et al
    วารสารถูกตั้งคำถามว่ามีความเที่ยงตรงหรือไม่? ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา วงการวิชาการ อาทิ แพทย์ วิทยาศาสตร์เป็นต้น จะให้ความเชื่อถือว่า บทความใดที่ตีพิมพ์ในวารสาร ที่เรียกว่า peer reviewed journal เป็นที่เชื่อถือได้ เพราะมีคณะกรรมการที่อ่าน บทความ และพิจารณาหลักฐานที่มากระบวนการศึกษา และจะทำการให้ความเห็นว่า จะไม่รับ หรือรับ แต่มีเงื่อนไข ประเด็นต้องแก้ไขใหญ่ หรือเล็ก หรือต้องมีการทำการทดลองใหม่ในบางส่วนหรือไม่ วารสารที่มีชื่อเหล่านี้จะถูกนำไปอ้างอิงในวงวิชาการต่างๆทำให้รับรู้กันทั่วไป ในการส่งบทความเพื่อ ไปตีพิมพ์ในวารสารนั้น ผู้วิจัยจะต้องประกาศว่ามีผลประโยชน์ใดหรือไม่อย่างไร กับ บริษัทผลิตภัณฑ์ ยา วัคซีน รวมทั้งได้ค่าตอบแทนในรูปลักษณะใด ไม่ว่าจะเป็นที่ปรึกษา รับเงิน หรือสิ่งตอบแทน รวมค่าเดินทางค่าที่พัก เวลาไปบรรยายในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆ และเชื่อมโยงมาถึงการใช้ผลิตภัณฑ์หรือวัคซีนเป็นต้น แต่กรรมการผู้พิจารณา กลับไม่ต้องมีการแจงรายละเอียดชัดเจน เหล่านี้อาจมีเพียงแต่ว่า มีประเด็นที่ขัดแย้ง กับผู้ส่งบทความหรือผู้ทำวิจัย หรือไม่ หรือทำวิจัยในเรื่องเดียวกัน ที่อาจจะเป็นการนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ส่วนตนได้ บทความนี้ที่ตีพิมพ์ในวารสารสมาคมแพทย์อเมริกัน (journal of American Medical Association JAMA) วันที่ 10 ตุลาคม 2024 ได้รายงานถึงหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับกรรมการผู้พิจารณาบทความ (reviewers) ว่า แท้จริงแล้ว เกินครึ่งของบุคคลกรรมการเหล่านี้ ต่างได้รับเงินสนับสนุนในการศึกษาวิจัย หรือเงินสนับสนุนในด้านผลิตภัณฑ์เครื่องมือ ต่างๆ จากบริษัทที่ตรงมาเข้าบุคคลนั้น หรือที่เข้ามายังบุคคลนั้น และสถาบันที่บุคคลนั้นอยู่ และเป็นประเด็นที่ตั้งคำถามถึง ความเที่ยงตรง integrity และ ความมีอิสระเที่ยงตรงในการตัดสิน ในการที่จะไม่รับ หรือรับตีพิมพ์บทความที่ส่งเข้ามา และหลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์ จากหลายสถาบัน ในต่างประเทศ รวมทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และอังกฤษ ต่างให้ข้อมูลที่ตนเองประสบและถ่ายทอดในสื่อต่างๆโดยเฉพาะที่ประสบในช่วงโควิด ที่เกี่ยวข้องกับการไม่ให้ลงตีพิมพ์ การใช้ยาบางตัว ที่มีการทดสอบแล้วว่าได้ผลทั้งๆที่ราคาถูก เข้าถึงได้ และจนกระทั่งถึงงานที่ตีพิมพ์ไปแล้วแต่บรรณาธิการถอดออก และ ที่สำคัญก็คือเรื่องผลกระทบของวัคซีนที่ ถึงชีวิตหรือพิการ วารสารที่ถูกเปิดเผยเรื่องเหล่านี้ ที่กรรมการพิจารณาบทความได้รับเงินสนับสนุน ต่างก็เป็นวารสารชั้นนำ เช่น British Medical journal Lancet New England journal เป็นต้น โดยมูลค่าของเงินสนับสนุนเหล่านี้มีจำนวนมากกว่า 1,000,000,000 เหรียญสหรัฐ สูตรสำเร็จ เช่น เมื่อมีการพูด ผลกระทบของวัคซีน จะมีกลุ่มที่ออกมาวิจารณ์ว่า ไม่ได้ลงตีพิมพ์ในวารสารชั้นดี หรือตีพิมพ์ไปแล้วแต่บรรณาธิการสั่งถอดออกแสดงว่า เชื่อถือไม่ได้ แม้กระทั่ง บทความเรื่องโรคคล้ายวัวบ้าในมนุษย์หลังได้รับวัคซีนโควิดไปภายในช่วงสองสัปดาห์และเสียชีวิตภายในเวลาห้าเดือน จากคณะ ชองProf Luc Montagnier ซึ่งได้รับ รางวัล โนเบล จากการค้นพบไวรัสเอดส์ ถูกไม่รับพิจารณาในวารสาร จนกระทั่งตีพิมพ์ในวรสารในระดับรองลงมาและข้อมูลหลักฐานประกอบในบทความเป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่คงเลือกได้ว่าน่าตื่นเต้นและประทับใจในการค้นพบและเชื่อมโยงการเกิดโรคคล้ายวัวบ้าในมนุษย์กับวัคซีนได้อย่างชัดเจน https://jamanetwork.com/journals/jama/article-abstract/2824834?utm_source=substack&utm_medium=email ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เชื่อถือได้หรือ? “หมอธีระวัฒน์” เผยวารสารการแพทย์ชื่อดังปล่อย กก.พิจารณาบทความรับผลประโยชน์จากบริษัทยา https://mgronline.com/qol/detail/9670000100753 Two years ago, we discussed the lack of evidence supporting the idea that peer review improves the quality of scientific research.  Peer review is meant to guarantee the publication of high-quality research and enhance the quality of published manuscripts. The process should involve independent experts evaluating and assessing research for its quality and reliability. However, a recent JAMA publication questions the integrity and independence of peer review. The research letter addresses the Payments by Drug and Medical Device Manufacturers to US Peer Reviewers of Major Medical Journals. The authors identified peer reviewers for The BMJ, JAMA, The Lancet, and The New England Journal of Medicine (NEJM) using each journal’s 2022 reviewer list. They then used a US Open payments database to identify whether reviewers had received industry payments. What did they find? Between 2020 and 2022, 1155/1962 peer reviewers (59%) received at least one industry payment. More than half (54%) accepted general payments, while 32% received research payments. Between 2020 and 2022, reviewers received over $1.2 billion in industry payments, including $1 billion to individuals or their institutions. Over the three years, the median general payment was $7,614.   What does this mean? Journals such as the BMJ pride themselves on their competing interest policy. Readers should know the author's competing interests if they publish an article. They ask reviewers to provide a fair, honest, and unbiased assessment of the manuscript's strengths and weaknesses. But how is that possible if you're on the payroll of pharma? Furthermore, no one can identify who is being paid as there is no central database like the US where you can look up who is paying who. The voluntary nature of the system means companies can often conceal payments. For example, the drug industry’s self-regulatory body reprimanded  Novo Nordisk for failing to disclose approximately 500 payments worth £7.8m to over 150 recipients between 2020 and 2022. This latest publication further enhances the status of peer review: it is broken. A system that dates back over 200 years persists because no one can be bothered to address its shortcomings, and too many journals make hefty profits out of its inadequacies to affect the status quo. THE JAMA authors consider that ‘additional research and transparency regarding industry payments in the peer review process are needed.” We think this will be another smokescreen to permit the current system to limp on.  Editorial peer reviews are largely untested; their effects are uncertain and tainted by industry influence. The system needs a radical overhaul which starts with abandoning the current journal system that sucks in vast amounts of cash and distorts the research agenda. The main reasons for the survival of a broken system are tied to the biomedical publication industry. For editors, peer review is a Kevlar shield, a sloping shoulders device - “it ain’t me guv” cop-out clause. For academic authors who have to climb the greasy pole, it’s a system that works both ways; for industry and all those who have to sell something, it’s a cheap advert chance. You only need to read our Antivirals series to understand how the system works and how the public was sold and continues to sell dummies. Rotten decision-makers only have to point to ghost-written trials in mega journals to justify their decisions. You only have to look at our recent Zum Zum posts to see the devastating effects of this broken system. Or look up the Comirnaty series, which was written without data published in journals—it was regulatory data, the closest we are ever going to get to reality. This post was written by two old geezers who have been peer-viewed and have peer-reviewed countless times. Consider becoming a paid subscriber to receive new posts and support our work. October 10, 2024 Payments by Drug and Medical Device Manufacturers to US Peer Reviewers of Major Medical Journals David-Dan Nguyen, MDCM, MPH1,2; Anju Muramaya3,4; Anna-Lisa Nguyen, BHSc5; et al
    JAMANETWORK.COM
    Payments by Drug and Medical Device Manufacturers to US Peer Reviewers of Major Medical Journals
    This study characterizes payments by drug and medical device manufacturers to US peer reviewers of major medical journals.
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 832 มุมมอง 0 รีวิว
  • 21-10-67/01 : หมี CNN / MANIC MONDAY ไอ้สัส! กูเกลียดวันจันทร์ เพราะอาไยก็ม่ายยู้? อย่าเสียเวลา ซัดเลยดีก่า เรียงคิวเหี้ย !!!

    อียิวถอย! ชะงัก รัสเซียซ้อมรบอิหร่าน เตือน มรึงอย่าซ่าส์! อาหรับลงแขกยังไม่หนำใจอีกเหรอ? สื่อเหี้ยตี ยิวบุก ยิวถล่ม เหี้ยมะกันส่ง B2 ถล่มคลังแสงใต้ดินเยมน เอาเข้าไป ฝันกลางวันอีกแล้ว? ดูโลกความเป็นจริง เยรูซาเล็มเละ เทลอาวีฟป่าช้า ท่าเรือไฮฟาร้างสนิท ไม่มีเรือสินค้ามาเกือบ 5 เดือนแล้ว สนามบินเหลือแห่งเดียว สรุปใครบุกใครฟ่ะเนี่ย? ใครแพ้ยับฟ่ะ ฮามาสถล่ม เฮซบอเลาะห์ยิงไม่เลี้ยง ซีเรีย อิรัก ล่อที่ราบสูงโกลานยับ นี่มรึงอยู่โลกเดียวกับกูอ่ะเป่า? คบเหี้ย เสพเหี้ย มีแต่โลกมโน? สรุปยอดเหี้ยตายห่าคาแผ่นดินคานาอัน ทะลุ 70000 แล้ว ทั้งกองกำลัง และพลเรือน นี่คือตัวเลขจากโรงพยาบาล และสื่อข่าวตะวันออกกกลาง ไม่มีให้มรึงเห็นดอกในโลกตอแหล ขีปนาวุธลงหัว 300 ลูก ตายหลัก 10 หากไม่โง่เกินควาย มรึงก็น่าจะคิดออก เหล็กยังละลาย คนจะเหลือเหรอ? ใต้ดินเหรอ อุโมงค์เหรอ ไม่มีเหลือ ขีปนาวุธเจาะเกราะ ทะลวงชั้นใต้ดิน แบบเดียวกับที่รัสเซียใช้ในมารีโอโพล ไม่ต้องถาม ย่างสด กับฝังทั้งเป็น สภาพเดียวกันเป๊ะเด๊ะ? แล้วมรึงจะไปหาตัวเลขยอดผู้เสียชีวิตแท้จริงจากไหนกันล่ะ เช็คได้แค่ที่รพ. เท่านั้น กับตัวเลขทหารสูญหาย? สรุปคือเริ่มสงครามครูเสดยุคอวสาน สื่อเหี้ยตีชา่วปาเลสไตน์ตายห่าไปกว่า 30000 ส่วนใหญ่เป็นเด็ก สตรี คนชรา คนท้อง คนพิการ เพราะอียิวมันเก่งแต่ฆ่าผู้อ่อนแอ สู้กับทหาร แพ้ยับ ตายคาตรีนเค้าตลอด! แต่ตอนนี้ เวลานี้ ตัวเลขยอดทหารรับจ้าง ทหารอียิว ทหารนาโต้ และพลเรือนยิว ตายห่าทะลุ 70000 แล้ว ด้านยูเครนหนักกว่า เพราะเกือบทะลุ 1000000 แล้วจ๊ะ อยากรู้ความจริง ให้มรึงไปดูเกณฑ์ทหารรอบที่ 4 ไม่เหลือใครมา? ทั้งอียิว ยูเครน ชะตากรรมเดียวกันเป๊ะ แนวหลังไม่โผล่ กองหนุนไม่มา จะเอาเหี้ยอะไรไปต้านเค้าได้อีก ก็ลูกยาวลงทุกชั่วโมทง มาวันละ 300-400 ลูก มรึงจะเอาเวลาที่ไหนไปพักกันล่ะ? ไซเรนดัง 24 ชม. หลอนไปหมดทั้งเมืองแล้ว อยู่ใต้ดินแบบขวัญผวา นี่ไงสภาพ! ข้าววิกมาศรีธนญชัย 2024 : มันส์ไม่แพ้กัน แผนลากอีเหลี่ยมชาติชั่วเข้าคุก ยกเลิกนิรโทษกรรม ทูลความเท็จ ทำหลักฐานปลอม เอกสารรับรองจากแพทย์ปลอม VDO CLIP หลักฐานในมือเสรี มัดจนเหี้ยหัวขาด ชั้น 124 ดิ้นตายกันเป็นแถว อีสมาคมแพทย์ถูกชำแหละ อีรพ.ตำรวจ โดนเต็มตรีน อีกรมคุก ไม่รอด หัวหน้าติดคุกซะเอง นักโทษเลียปาก ถั่วดำมาเต็ม ตากูเอาคืนมรึงบ้าง เหี้ยดีนีก หาแดร๊กกับพวกกูมาช้านาน ได้เวลาพาขึ้นสวรรค์ชั้น 14 นักโทษแม้จะเหี้ย แต่ใครคิดร้ายต่อวัง มรึงตาย! จากปากนักโทษทุกแดน เพราะทุกปีได้รับอภัยโทษ ลดโทษ บุญคุณมี ถึงจะเป็นนักเลง โจร แต่รู้ดี ถึงคำว่า "กตัญญูแผ่นดินเกิด" สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ใครล่อเจ้า มรึงตายคาตรีนคุกชัวร์! อี 3 นิ้วครึ่ง ถึงอ่วมในคุกไงล่ะ ถูกกาหัว ไม่ถูกลงแขก ก็กระทืบรายวัน พรรคพวกบอกสภาพดูไม่จืด ออกสื่อดูดี หลังฉากอิ่มตรีนทุกมื้อ ในคุกเค้ามีวิธีจัดการแบบเนียน มรึงไม่ต้องกังวลว่ามันจะออกมาฟ้อง เพราะฟ้องเมื่อไหร่ กลับเข้าไปใหม่ โดนหนักกว่าเก่า นรกสำหรับไอ้พวกเนรคุณแผ่นดิน ขอบคุณทุกฝาตรีนคนคุก มรึงอาจจะผิด แต่ได้ชดใช้กรรมตามกฎหมายแล้ว แต่หากมรึงช่วยแผ่นดินลดเหี้ย ไอ้อีจัญไรทั้งหลายลงได้ นั่นคืออานิสงค์แห่งบุญน่ะจ๊ะ กูไม่ได้เสี้ยมน่ะ อย่ากล่าวหา ดีออก? ศาลมาแรง คนชงก็แรง คนตบก็แรง พิสูจน์ชัด กรมคุก อีกากี โรงพยาบาล หมอที่อนุมัติ ขัดคำสั่งศาลให้ความช่วยเหลือนักโทษ เกินขอบเขตอำนาจ ผลคือ ตายยกรัง นอกจากขัดคำสั่งศาล ยังทูลความเท็จ กระทงนี้ หนักกว่าอีก บทเพ่เขียวบู๊ทตรีนโตจะเล่นหนัก สวรรค์ยังไม่กล้าร้องขอความปราณีให้? หมอติดคุก สัสดีติดคุก อัยการก็คุก คนทูลเสนอขอก็คุก นี่มันเทศกาลคนคุกนี่หว่า จัดเมื่อไหร่ก็ไม่บอก? คดีเข้าสู่ชั้นศาลนานแล้ว ตัดสินไม่นาน เพราะพยานหลักฐาน พยานบุคคลมีเพี๊ยบ เปิดให้หนีอ่ะเป่า? แต่ต้องทิ้งทรัพย์สินทั้งหมดไว้ที่นี่น่ะ ไปได้แต่ตัว เพราะถูกอายัดทรัพย์สินไว้หมดแล้ว อายัดบัญชี ใครเอี่ยว ถูกล็อคบัญชีด้วย DSI กระโดดลงมาเล่นเอง ปปช.ก็ต้องตามงาน ทิ้งไม่ได้ แสงทำงาน เหี้ยผวาสัส! สัญญานเต็ม กลียุคใกล้อวสานแล้วจ๊ะ มาให้หมด ออกให้เกลี้ยง ล้างบางครั้งใหญ่ เชือดเหี้ยให้เหี้ยดู! กลับคืนสู่โลกความเป็นจริงอีกครั้ง : โลกดันหยวนเต็มพิกัด โลจิสติคออกผล ค้าขายจ่ายสกุลเงินท้องถิ่น ทวิภาคีระบาด คบกันเอง ซื้อขายกันเอง ไม่ผ่านเหี้ยอีกต่อไป โมเดล BRICS มาเต็ม หลังพลังงานโลกถีบตัวสูงขึ้นอีก โลกต้องการพลังงานมากกว่าเดิม 200% เพราะเข้าหนาวแล้ว ใครรวยเละกันล่ะ? รวยแล้ว ขยายพื้นที่เพิ่ม รวยแล้ว แบ่งปันให้เพื่อนพันธมิตร มันถึงมียอดเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะน้ำมัน แก็ส ยังต้องใช้ไปอีก 30 ปี เป็นอย่างน้อย จนพลังงานสะอาดสามารถเข้าถึงทุกบ้านได้จริง และผลิตได้มหาศาลเกินความจำเป็น นวตกรรมโลกเปลี่ยนไปเร็วมาก ตามไม่ทัน อาจตกขบวน!

    ปล.หลายคนถาม แล้วทำไม แสงไม่ทำงาน ศาลไม่ฟัน ให้มันรู้แล้วรู้รอดเลยล่ะ? รออะไรอยู่ มรึงฟัง? 1.รอความผิดสำเร็จ 2.รอใบเสร็จประจักษ์ชัด 3.รอเหี้ยออกลายให้สิ้น 4.รอควายตื่น 5.รอจังหวะและเวลาที่เหมาะสม เดินเร็วไปอาจพลาด เหี้ยรอด เดินช้าไป อาจแก้ไขไม่ทัน ทุกอย่างคือสมดุล พอดี และเวลาที่ใช่ 6.รอขั้วใหม่ล้างบางอิทธิพลขั้วเก่าให้ราบคาบก่อน จะได้ไม่มีฤทธิ์มาบ่อนทำลายใครได้อีก ดีออก? 7.ตำราพิชัยยุทธสอน จะฆ่าเชื้อร้าย มันต้องฆ่าที่ต้นตอ เมื่อเหี้ยมันล้างสมองควายต่อเนื่องกว่าครึ่งศตวรรษ มรึงคิดว่าจะเปลี่ยนความคิดควายได้ ต้องใช้เวลาแค่ไหน สิ่งที่ดีที่สุด เร็วที่สุด คือให้ควายเห็นกับตาด้วยตัวควายเอง นี่คือคีย์! 8.ราธิปไตยก้าวหน้าจะเกิดไม่ได้ หากปชต.ตอแหลไม่ล่มสลาย ให้ควายเห็นธาตูแท้ปชต.ควายก่อน ถึงจะเข้าใจว่าทำไม ต้องเปลี่ยน หากไม่เข้าใจก็เรื่องของมรึง ยังไงก็ต้องเปลี่ยน 9.การต่อสู้มันง่าย ฆ่าแกงมันง่าย และการสูญเสียตามมา ใครรับผิดชอบ สู้ด้วยสติ คือไม่ต้องให้ใครมาตาย ยกเว้น "เหี้ย" ชนะได้ด้วยความจริง ความชอบธรรม จะยั้งยืนกว่า ใช้อำนาจ ใช้กำลัง! หากมรึงสังเกตุ วิธีการที่รัสเซีย จีนใช้ตอนนี้ แบบเดียวกับที่โมเดลศรีธนญชัยฯ ใช้ คือกฎหมายเป็นตัวนำ ความจริงปรากฎชัด ความชอบธรรมจะตามมา เหี้ยไอ้อี แพ้ภัยตัวเอง ยิ่งดิ้น ยิ่งแหกกฎหมาย ทุกอย่างจึงกลับตาลปัตร เพราะกฎหมา ใช้ได้เฉพาะกับหมา กฎหมายใช้ได้เฉพาะกับคน นี่คือความแตกต่างของขั้วใหม่ และขั้วเก่า ยิ่งอียิวสู้กลับมากเท่าไหร่ จะยิ่งแพ้ราบคาบมากยิ่งขึ้น เพราะทุกอย่างมันถูกกำหนดมานานแล้ว แค่เดินไปตามวิถีแห่งกรรม เท่านั้นเอง อย่าอิน ยังไงก็ชนะ ยังไงก็มั่นคงชัวร์ ส่วนเรื่องอีขะแมร์ สื่อปั่นกันจัง กูบอกเลย สื่อเหี้ยทั้งนั้น ปั่นเข้าไปสิ เอาสั้นๆ ไทยจะกลืนขะแมร์เมื่อไหร่ก็ได้ มรึงยังจะมาถามเรื่องเกาะหมู เกาะหมาไม่เลิก นั่นแค่ละครปาหี่การเมือง เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น หากมรึงยังอ่านภาษาไทยไม่ออก กูจะพูดให้ฟังอีกครั้ง ในรัชสมัยพ่อหลวงร.10 ไทยจะไม่เสียดินแดนเพิ่ม แม้แต่ตารางมิลลิเมตร ตรงกันข้าม ไทยจะได้แผ่นดินผนวกเพิ่มขึ้น อะไรที่ไทยสูญเสียไปตั้งแต่สมัยพ่อร.5 จะได้คืนมาเกือบหมด ไม่ได้ไปปล้นเค้าน่ะ เค้ามาเอง สมัครใจเอง เพราะอยู่กับไทยแล้วสบาย รอด มั่นคง มั่งคั่ง ชัวร์ อะไรที่มรึงคิดว่าเป็นไปไม่ได้ มันจะเกิดขึ้น จนมรึงซ่อนความดีใจเอาไว้ไม่อยู่กันไปเลย? กูไม่ได้มโน ดูสิจ๊ะ เกิดอะไรขึ้นในอาเซียนตอนนี้ แล้วเรากำลังจะกลายเป็นฮับอาเซียน ใครอยากรอด ใครอยากเกิด ใครอยากมั่นคง มรึงต้องทำยังไง? ยังต้องให้กูบอกอีกมั้ย? ไม่ต้องเป็นหมอดู ใครก็มองออกว่า อยู่กันเองอดอยาก อยู่กับใคร อิ่มหมีพีมันส์สะแด่วแห้ว ใครจะไม่อยากรวมชาติกันล่ะ ไม่อยากบอกดอกว่า ไทยจะขยายใหญ่แค่ไหน จนต้องย้ายเมืองหลวง หรือมีเมืองหลวง 2 แห่ง หลังผนวก กูไบ้ไปเยอะป่ะเนี่ย? พอก่อน ยังไม่ใช่เวลาที่ดี ที่มรึงควรจะรู้? ตกผลึกจะเข้าใจในสิ่งที่กูพูด มโนคือคิดไปเอง แต่รู้ล่วงหน้าคือมีที่มาที่ไป เพราะมีเหตุ ผลถึงตามมา คำพยากรณ์จึงก่อเกิด ใน 10 ชาติอาเซียน ใครอ่อนแอ ก็ต้องไปรวมกับชาติหลัก มันเป็นวิบากกรรมของชาติแต่ละชาติไม่เหมือนกัน แท้จริงแล้ว 5 ชาติอาเซียน อดีตก็คือแผ่นดินอโยธยานั่นแหละ แค่เปลี่ยนชื่อ ถึงเวลาก็กลับแผ่นดินแม่ เอ๊ะ..คุ้นมั้ย เหมือนยูเครน เบลารุส เซอร์เบีย ฮังการี เชก โครเอเซีย สโลวาเนียจะได้กลับบ้าน นี่ใคร COPY ใครกันแน่เนี่ย?

    หมี CNN(ชนะ ชนะ ชนะ อยู่แล้ว ล้างบางเหี้ย มันชัวร์ ชดใช้กรรมมาแน่ จิตสงบ ทุกอย่างสดใส จิตวุ่นวาย ตาก็ไม่สว่าง มองอะไรให้ถึงแก่นแท้ แล้วจะไม่อินเหี้ยอะไรทั้งนั้น พ่อร.5 รักษาแผ่นดินหลักไว้ได้ พ่อร.7 ขอสงวนอำนาจไว้เพื่อประชาชนชาวไทย พ่อร.9 พระคุณท่วมหัว ไทยเจริญมั่นคง พ่อร.10 ประกาศแสนยานุภาพ ไทยเกรียงไกร พ่อร.11-13 ยุคแสงสีทองผ่องอำไพ ศรีวิไล TOP10 โลก มรึงจะยังไม่อใจเหี้ยอะไรอีก มองข้ามเหี้ยไปได้แล้ว เพราะมันไม่คู่ควรให้มรึงจดจำ ยังไงก็ตายโหง ตายห่าชัวร์ ไม่มีรอด)
    21 ตุลาคม 67
    11.11 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    21-10-67/01 : หมี CNN / MANIC MONDAY ไอ้สัส! กูเกลียดวันจันทร์ เพราะอาไยก็ม่ายยู้? อย่าเสียเวลา ซัดเลยดีก่า เรียงคิวเหี้ย !!! อียิวถอย! ชะงัก รัสเซียซ้อมรบอิหร่าน เตือน มรึงอย่าซ่าส์! อาหรับลงแขกยังไม่หนำใจอีกเหรอ? สื่อเหี้ยตี ยิวบุก ยิวถล่ม เหี้ยมะกันส่ง B2 ถล่มคลังแสงใต้ดินเยมน เอาเข้าไป ฝันกลางวันอีกแล้ว? ดูโลกความเป็นจริง เยรูซาเล็มเละ เทลอาวีฟป่าช้า ท่าเรือไฮฟาร้างสนิท ไม่มีเรือสินค้ามาเกือบ 5 เดือนแล้ว สนามบินเหลือแห่งเดียว สรุปใครบุกใครฟ่ะเนี่ย? ใครแพ้ยับฟ่ะ ฮามาสถล่ม เฮซบอเลาะห์ยิงไม่เลี้ยง ซีเรีย อิรัก ล่อที่ราบสูงโกลานยับ นี่มรึงอยู่โลกเดียวกับกูอ่ะเป่า? คบเหี้ย เสพเหี้ย มีแต่โลกมโน? สรุปยอดเหี้ยตายห่าคาแผ่นดินคานาอัน ทะลุ 70000 แล้ว ทั้งกองกำลัง และพลเรือน นี่คือตัวเลขจากโรงพยาบาล และสื่อข่าวตะวันออกกกลาง ไม่มีให้มรึงเห็นดอกในโลกตอแหล ขีปนาวุธลงหัว 300 ลูก ตายหลัก 10 หากไม่โง่เกินควาย มรึงก็น่าจะคิดออก เหล็กยังละลาย คนจะเหลือเหรอ? ใต้ดินเหรอ อุโมงค์เหรอ ไม่มีเหลือ ขีปนาวุธเจาะเกราะ ทะลวงชั้นใต้ดิน แบบเดียวกับที่รัสเซียใช้ในมารีโอโพล ไม่ต้องถาม ย่างสด กับฝังทั้งเป็น สภาพเดียวกันเป๊ะเด๊ะ? แล้วมรึงจะไปหาตัวเลขยอดผู้เสียชีวิตแท้จริงจากไหนกันล่ะ เช็คได้แค่ที่รพ. เท่านั้น กับตัวเลขทหารสูญหาย? สรุปคือเริ่มสงครามครูเสดยุคอวสาน สื่อเหี้ยตีชา่วปาเลสไตน์ตายห่าไปกว่า 30000 ส่วนใหญ่เป็นเด็ก สตรี คนชรา คนท้อง คนพิการ เพราะอียิวมันเก่งแต่ฆ่าผู้อ่อนแอ สู้กับทหาร แพ้ยับ ตายคาตรีนเค้าตลอด! แต่ตอนนี้ เวลานี้ ตัวเลขยอดทหารรับจ้าง ทหารอียิว ทหารนาโต้ และพลเรือนยิว ตายห่าทะลุ 70000 แล้ว ด้านยูเครนหนักกว่า เพราะเกือบทะลุ 1000000 แล้วจ๊ะ อยากรู้ความจริง ให้มรึงไปดูเกณฑ์ทหารรอบที่ 4 ไม่เหลือใครมา? ทั้งอียิว ยูเครน ชะตากรรมเดียวกันเป๊ะ แนวหลังไม่โผล่ กองหนุนไม่มา จะเอาเหี้ยอะไรไปต้านเค้าได้อีก ก็ลูกยาวลงทุกชั่วโมทง มาวันละ 300-400 ลูก มรึงจะเอาเวลาที่ไหนไปพักกันล่ะ? ไซเรนดัง 24 ชม. หลอนไปหมดทั้งเมืองแล้ว อยู่ใต้ดินแบบขวัญผวา นี่ไงสภาพ! ข้าววิกมาศรีธนญชัย 2024 : มันส์ไม่แพ้กัน แผนลากอีเหลี่ยมชาติชั่วเข้าคุก ยกเลิกนิรโทษกรรม ทูลความเท็จ ทำหลักฐานปลอม เอกสารรับรองจากแพทย์ปลอม VDO CLIP หลักฐานในมือเสรี มัดจนเหี้ยหัวขาด ชั้น 124 ดิ้นตายกันเป็นแถว อีสมาคมแพทย์ถูกชำแหละ อีรพ.ตำรวจ โดนเต็มตรีน อีกรมคุก ไม่รอด หัวหน้าติดคุกซะเอง นักโทษเลียปาก ถั่วดำมาเต็ม ตากูเอาคืนมรึงบ้าง เหี้ยดีนีก หาแดร๊กกับพวกกูมาช้านาน ได้เวลาพาขึ้นสวรรค์ชั้น 14 นักโทษแม้จะเหี้ย แต่ใครคิดร้ายต่อวัง มรึงตาย! จากปากนักโทษทุกแดน เพราะทุกปีได้รับอภัยโทษ ลดโทษ บุญคุณมี ถึงจะเป็นนักเลง โจร แต่รู้ดี ถึงคำว่า "กตัญญูแผ่นดินเกิด" สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ใครล่อเจ้า มรึงตายคาตรีนคุกชัวร์! อี 3 นิ้วครึ่ง ถึงอ่วมในคุกไงล่ะ ถูกกาหัว ไม่ถูกลงแขก ก็กระทืบรายวัน พรรคพวกบอกสภาพดูไม่จืด ออกสื่อดูดี หลังฉากอิ่มตรีนทุกมื้อ ในคุกเค้ามีวิธีจัดการแบบเนียน มรึงไม่ต้องกังวลว่ามันจะออกมาฟ้อง เพราะฟ้องเมื่อไหร่ กลับเข้าไปใหม่ โดนหนักกว่าเก่า นรกสำหรับไอ้พวกเนรคุณแผ่นดิน ขอบคุณทุกฝาตรีนคนคุก มรึงอาจจะผิด แต่ได้ชดใช้กรรมตามกฎหมายแล้ว แต่หากมรึงช่วยแผ่นดินลดเหี้ย ไอ้อีจัญไรทั้งหลายลงได้ นั่นคืออานิสงค์แห่งบุญน่ะจ๊ะ กูไม่ได้เสี้ยมน่ะ อย่ากล่าวหา ดีออก? ศาลมาแรง คนชงก็แรง คนตบก็แรง พิสูจน์ชัด กรมคุก อีกากี โรงพยาบาล หมอที่อนุมัติ ขัดคำสั่งศาลให้ความช่วยเหลือนักโทษ เกินขอบเขตอำนาจ ผลคือ ตายยกรัง นอกจากขัดคำสั่งศาล ยังทูลความเท็จ กระทงนี้ หนักกว่าอีก บทเพ่เขียวบู๊ทตรีนโตจะเล่นหนัก สวรรค์ยังไม่กล้าร้องขอความปราณีให้? หมอติดคุก สัสดีติดคุก อัยการก็คุก คนทูลเสนอขอก็คุก นี่มันเทศกาลคนคุกนี่หว่า จัดเมื่อไหร่ก็ไม่บอก? คดีเข้าสู่ชั้นศาลนานแล้ว ตัดสินไม่นาน เพราะพยานหลักฐาน พยานบุคคลมีเพี๊ยบ เปิดให้หนีอ่ะเป่า? แต่ต้องทิ้งทรัพย์สินทั้งหมดไว้ที่นี่น่ะ ไปได้แต่ตัว เพราะถูกอายัดทรัพย์สินไว้หมดแล้ว อายัดบัญชี ใครเอี่ยว ถูกล็อคบัญชีด้วย DSI กระโดดลงมาเล่นเอง ปปช.ก็ต้องตามงาน ทิ้งไม่ได้ แสงทำงาน เหี้ยผวาสัส! สัญญานเต็ม กลียุคใกล้อวสานแล้วจ๊ะ มาให้หมด ออกให้เกลี้ยง ล้างบางครั้งใหญ่ เชือดเหี้ยให้เหี้ยดู! กลับคืนสู่โลกความเป็นจริงอีกครั้ง : โลกดันหยวนเต็มพิกัด โลจิสติคออกผล ค้าขายจ่ายสกุลเงินท้องถิ่น ทวิภาคีระบาด คบกันเอง ซื้อขายกันเอง ไม่ผ่านเหี้ยอีกต่อไป โมเดล BRICS มาเต็ม หลังพลังงานโลกถีบตัวสูงขึ้นอีก โลกต้องการพลังงานมากกว่าเดิม 200% เพราะเข้าหนาวแล้ว ใครรวยเละกันล่ะ? รวยแล้ว ขยายพื้นที่เพิ่ม รวยแล้ว แบ่งปันให้เพื่อนพันธมิตร มันถึงมียอดเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะน้ำมัน แก็ส ยังต้องใช้ไปอีก 30 ปี เป็นอย่างน้อย จนพลังงานสะอาดสามารถเข้าถึงทุกบ้านได้จริง และผลิตได้มหาศาลเกินความจำเป็น นวตกรรมโลกเปลี่ยนไปเร็วมาก ตามไม่ทัน อาจตกขบวน! ปล.หลายคนถาม แล้วทำไม แสงไม่ทำงาน ศาลไม่ฟัน ให้มันรู้แล้วรู้รอดเลยล่ะ? รออะไรอยู่ มรึงฟัง? 1.รอความผิดสำเร็จ 2.รอใบเสร็จประจักษ์ชัด 3.รอเหี้ยออกลายให้สิ้น 4.รอควายตื่น 5.รอจังหวะและเวลาที่เหมาะสม เดินเร็วไปอาจพลาด เหี้ยรอด เดินช้าไป อาจแก้ไขไม่ทัน ทุกอย่างคือสมดุล พอดี และเวลาที่ใช่ 6.รอขั้วใหม่ล้างบางอิทธิพลขั้วเก่าให้ราบคาบก่อน จะได้ไม่มีฤทธิ์มาบ่อนทำลายใครได้อีก ดีออก? 7.ตำราพิชัยยุทธสอน จะฆ่าเชื้อร้าย มันต้องฆ่าที่ต้นตอ เมื่อเหี้ยมันล้างสมองควายต่อเนื่องกว่าครึ่งศตวรรษ มรึงคิดว่าจะเปลี่ยนความคิดควายได้ ต้องใช้เวลาแค่ไหน สิ่งที่ดีที่สุด เร็วที่สุด คือให้ควายเห็นกับตาด้วยตัวควายเอง นี่คือคีย์! 8.ราธิปไตยก้าวหน้าจะเกิดไม่ได้ หากปชต.ตอแหลไม่ล่มสลาย ให้ควายเห็นธาตูแท้ปชต.ควายก่อน ถึงจะเข้าใจว่าทำไม ต้องเปลี่ยน หากไม่เข้าใจก็เรื่องของมรึง ยังไงก็ต้องเปลี่ยน 9.การต่อสู้มันง่าย ฆ่าแกงมันง่าย และการสูญเสียตามมา ใครรับผิดชอบ สู้ด้วยสติ คือไม่ต้องให้ใครมาตาย ยกเว้น "เหี้ย" ชนะได้ด้วยความจริง ความชอบธรรม จะยั้งยืนกว่า ใช้อำนาจ ใช้กำลัง! หากมรึงสังเกตุ วิธีการที่รัสเซีย จีนใช้ตอนนี้ แบบเดียวกับที่โมเดลศรีธนญชัยฯ ใช้ คือกฎหมายเป็นตัวนำ ความจริงปรากฎชัด ความชอบธรรมจะตามมา เหี้ยไอ้อี แพ้ภัยตัวเอง ยิ่งดิ้น ยิ่งแหกกฎหมาย ทุกอย่างจึงกลับตาลปัตร เพราะกฎหมา ใช้ได้เฉพาะกับหมา กฎหมายใช้ได้เฉพาะกับคน นี่คือความแตกต่างของขั้วใหม่ และขั้วเก่า ยิ่งอียิวสู้กลับมากเท่าไหร่ จะยิ่งแพ้ราบคาบมากยิ่งขึ้น เพราะทุกอย่างมันถูกกำหนดมานานแล้ว แค่เดินไปตามวิถีแห่งกรรม เท่านั้นเอง อย่าอิน ยังไงก็ชนะ ยังไงก็มั่นคงชัวร์ ส่วนเรื่องอีขะแมร์ สื่อปั่นกันจัง กูบอกเลย สื่อเหี้ยทั้งนั้น ปั่นเข้าไปสิ เอาสั้นๆ ไทยจะกลืนขะแมร์เมื่อไหร่ก็ได้ มรึงยังจะมาถามเรื่องเกาะหมู เกาะหมาไม่เลิก นั่นแค่ละครปาหี่การเมือง เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น หากมรึงยังอ่านภาษาไทยไม่ออก กูจะพูดให้ฟังอีกครั้ง ในรัชสมัยพ่อหลวงร.10 ไทยจะไม่เสียดินแดนเพิ่ม แม้แต่ตารางมิลลิเมตร ตรงกันข้าม ไทยจะได้แผ่นดินผนวกเพิ่มขึ้น อะไรที่ไทยสูญเสียไปตั้งแต่สมัยพ่อร.5 จะได้คืนมาเกือบหมด ไม่ได้ไปปล้นเค้าน่ะ เค้ามาเอง สมัครใจเอง เพราะอยู่กับไทยแล้วสบาย รอด มั่นคง มั่งคั่ง ชัวร์ อะไรที่มรึงคิดว่าเป็นไปไม่ได้ มันจะเกิดขึ้น จนมรึงซ่อนความดีใจเอาไว้ไม่อยู่กันไปเลย? กูไม่ได้มโน ดูสิจ๊ะ เกิดอะไรขึ้นในอาเซียนตอนนี้ แล้วเรากำลังจะกลายเป็นฮับอาเซียน ใครอยากรอด ใครอยากเกิด ใครอยากมั่นคง มรึงต้องทำยังไง? ยังต้องให้กูบอกอีกมั้ย? ไม่ต้องเป็นหมอดู ใครก็มองออกว่า อยู่กันเองอดอยาก อยู่กับใคร อิ่มหมีพีมันส์สะแด่วแห้ว ใครจะไม่อยากรวมชาติกันล่ะ ไม่อยากบอกดอกว่า ไทยจะขยายใหญ่แค่ไหน จนต้องย้ายเมืองหลวง หรือมีเมืองหลวง 2 แห่ง หลังผนวก กูไบ้ไปเยอะป่ะเนี่ย? พอก่อน ยังไม่ใช่เวลาที่ดี ที่มรึงควรจะรู้? ตกผลึกจะเข้าใจในสิ่งที่กูพูด มโนคือคิดไปเอง แต่รู้ล่วงหน้าคือมีที่มาที่ไป เพราะมีเหตุ ผลถึงตามมา คำพยากรณ์จึงก่อเกิด ใน 10 ชาติอาเซียน ใครอ่อนแอ ก็ต้องไปรวมกับชาติหลัก มันเป็นวิบากกรรมของชาติแต่ละชาติไม่เหมือนกัน แท้จริงแล้ว 5 ชาติอาเซียน อดีตก็คือแผ่นดินอโยธยานั่นแหละ แค่เปลี่ยนชื่อ ถึงเวลาก็กลับแผ่นดินแม่ เอ๊ะ..คุ้นมั้ย เหมือนยูเครน เบลารุส เซอร์เบีย ฮังการี เชก โครเอเซีย สโลวาเนียจะได้กลับบ้าน นี่ใคร COPY ใครกันแน่เนี่ย? หมี CNN(ชนะ ชนะ ชนะ อยู่แล้ว ล้างบางเหี้ย มันชัวร์ ชดใช้กรรมมาแน่ จิตสงบ ทุกอย่างสดใส จิตวุ่นวาย ตาก็ไม่สว่าง มองอะไรให้ถึงแก่นแท้ แล้วจะไม่อินเหี้ยอะไรทั้งนั้น พ่อร.5 รักษาแผ่นดินหลักไว้ได้ พ่อร.7 ขอสงวนอำนาจไว้เพื่อประชาชนชาวไทย พ่อร.9 พระคุณท่วมหัว ไทยเจริญมั่นคง พ่อร.10 ประกาศแสนยานุภาพ ไทยเกรียงไกร พ่อร.11-13 ยุคแสงสีทองผ่องอำไพ ศรีวิไล TOP10 โลก มรึงจะยังไม่อใจเหี้ยอะไรอีก มองข้ามเหี้ยไปได้แล้ว เพราะมันไม่คู่ควรให้มรึงจดจำ ยังไงก็ตายโหง ตายห่าชัวร์ ไม่มีรอด) 21 ตุลาคม 67 11.11 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 610 มุมมอง 0 รีวิว
  • 1/10/67

    จากข่าวร้ายที่ ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ โรงเรียนสามเสนวิทยาลัยได้ถึงแก่กรรม ในวัยแค่ 41 ปี สาเหตุจากเส้นเลือดในสมองตีบ ซึ่งไม่คาดคิดมาก่อน เนื่องจากน้องอายุยังน้อย และมีลูกชายฝาแฝดที่ยังอยู่ในวัยเรียนประถมศึกษาตอนต้นเท่านั้น

    โรคนี้จึงเป็นภัยเงียบที่น่ากลัว และได้รับข้อความที่คิดว่าเป็นที่มาของโรคนี้ และเป็นประโยชน์แก่ทุกคน จึงขอนำมาบอกต่อ เพื่อทุกๆคนจะได้ดูแลตัวเองกันด้วย

    ⚫สุขภาพทุกวันนี้ยิ่งไม่ดูแลยิ่งอันตรายมาก
    🔵อาหารการกินนี่สำคัญมากๆ
    โดยเฉพาะน้ำตาลและผลิตภัณฑ์จากน้ำตาลทั้งหลาย
    🔷️ด่วน...
    เส้นเลือด "ตีบ" ในสมองเกิดขึ้นทุก 4 นาที ทำไมตรวจหาสาเหตุไม่เจอ แล้วจะมีวิธีป้องกันได้อย่างไร ?

    ทุกวันนี้ ผมเจอคนป่วยเส้นเลือดตีบทุกวัน ตั้งแต่อายุ 13 ปี ยัน 95 ปี
    มันเกิดอะไรขึ้น ความพิการจะหยุดได้หรือไม่ได้??

    สำหรับผม ผมตอบได้เลยว่า"หยุดได้" เส้นเลือดตีบในสมอง เกิดขึ้นทุก 4 นาที ปีละเป็นแสนคน ดารานักแสดง.. คนจน.. คนรวย.. ก็ไม่เว้น จนเป็นเรื่องน่าวิตกมาก วันนี้การแพทย์สหรัฐยังบอกเลยว่า มันยากมากที่สุด การรักษาคนป่วยเหล่านี้ แทบจะเลือนลาง เสียงบประมาณมากมายกับคนป่วยเหล่านี้

    อาการเส้นเลือดตีบ เป็นอย่างไร?
    เส้นเลือดตีบ อาการที่ส่งสัญญาณ คือ
    1. มึนหัว
    2. บ้านหมุน
    3. อาจมีอาการอาเจียนร่วม
    4. อาการร่วมอ่อนแรงที่แขน
    5. อาการร่วมอ่อนแรงที่ขา
    6. มีกลุ่มก้อนแข็งอุดตาม คอ บ่า ไหล่ อาจส่งสัญญาณปวด

    จากพฤติกรรมที่ทำ คือ.-
    1. พักผ่อนน้อย
    2. ดื่มน้ำน้อย
    3. นอนดึก
    4. ดื่มน้ำเย็นเป็นประจำ
    5. ชอบทานอาหารมันๆ
    6. ชอบดื่มเหล้า สูบบุหรี่
    7. ขาดการออกกำลังกาย
    8. ไม่เคยปรับสมดุล ดูแลระบบหลอดเลือด และการไหลเวียนให้สมดุล
    9. นั่งนาน
    10. ยืนนาน
    11. ทำงานหนัก
    12. ชอบดื่มน้ำอัดลม กินหวานเป็นต้น

    ภาวะเส้นเลือดตีบในสมอง ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค แต่เกิดจากพฤติกรรมที่สะสมมานาน ไม่ต่ำกว่า 4-5 ปี การอุดตันในเส้นเลือดถึงจะเกิดขึ้นได้ การรักษาฟื้นฟูสามารถทำได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลานานไม่ต่ำกว่า 5 ปี

    ส่วนคนที่เป็นมีอาการก่อนเส้นเลือดจะตีบตัน สามารถรักษาได้ ใช้ระยะเวลาไม่เกิน 3-6 เดือน อาการเส้นเลือดตีบในสมองถึงจะไม่เกิดขึ้น แต่ถ้ายังกลับไปทำพฤติกรรมเดิมๆ ก็อาจกลับมาได้อีก เพราะเส้นเลือดตีบในสมอง เกิดจากพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค!!
    1/10/67 จากข่าวร้ายที่ ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ โรงเรียนสามเสนวิทยาลัยได้ถึงแก่กรรม ในวัยแค่ 41 ปี สาเหตุจากเส้นเลือดในสมองตีบ ซึ่งไม่คาดคิดมาก่อน เนื่องจากน้องอายุยังน้อย และมีลูกชายฝาแฝดที่ยังอยู่ในวัยเรียนประถมศึกษาตอนต้นเท่านั้น โรคนี้จึงเป็นภัยเงียบที่น่ากลัว และได้รับข้อความที่คิดว่าเป็นที่มาของโรคนี้ และเป็นประโยชน์แก่ทุกคน จึงขอนำมาบอกต่อ เพื่อทุกๆคนจะได้ดูแลตัวเองกันด้วย ⚫สุขภาพทุกวันนี้ยิ่งไม่ดูแลยิ่งอันตรายมาก 🔵อาหารการกินนี่สำคัญมากๆ โดยเฉพาะน้ำตาลและผลิตภัณฑ์จากน้ำตาลทั้งหลาย 🔷️ด่วน... เส้นเลือด "ตีบ" ในสมองเกิดขึ้นทุก 4 นาที ทำไมตรวจหาสาเหตุไม่เจอ แล้วจะมีวิธีป้องกันได้อย่างไร ? ทุกวันนี้ ผมเจอคนป่วยเส้นเลือดตีบทุกวัน ตั้งแต่อายุ 13 ปี ยัน 95 ปี มันเกิดอะไรขึ้น ความพิการจะหยุดได้หรือไม่ได้?? สำหรับผม ผมตอบได้เลยว่า"หยุดได้" เส้นเลือดตีบในสมอง เกิดขึ้นทุก 4 นาที ปีละเป็นแสนคน ดารานักแสดง.. คนจน.. คนรวย.. ก็ไม่เว้น จนเป็นเรื่องน่าวิตกมาก วันนี้การแพทย์สหรัฐยังบอกเลยว่า มันยากมากที่สุด การรักษาคนป่วยเหล่านี้ แทบจะเลือนลาง เสียงบประมาณมากมายกับคนป่วยเหล่านี้ อาการเส้นเลือดตีบ เป็นอย่างไร? เส้นเลือดตีบ อาการที่ส่งสัญญาณ คือ 1. มึนหัว 2. บ้านหมุน 3. อาจมีอาการอาเจียนร่วม 4. อาการร่วมอ่อนแรงที่แขน 5. อาการร่วมอ่อนแรงที่ขา 6. มีกลุ่มก้อนแข็งอุดตาม คอ บ่า ไหล่ อาจส่งสัญญาณปวด จากพฤติกรรมที่ทำ คือ.- 1. พักผ่อนน้อย 2. ดื่มน้ำน้อย 3. นอนดึก 4. ดื่มน้ำเย็นเป็นประจำ 5. ชอบทานอาหารมันๆ 6. ชอบดื่มเหล้า สูบบุหรี่ 7. ขาดการออกกำลังกาย 8. ไม่เคยปรับสมดุล ดูแลระบบหลอดเลือด และการไหลเวียนให้สมดุล 9. นั่งนาน 10. ยืนนาน 11. ทำงานหนัก 12. ชอบดื่มน้ำอัดลม กินหวานเป็นต้น ภาวะเส้นเลือดตีบในสมอง ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค แต่เกิดจากพฤติกรรมที่สะสมมานาน ไม่ต่ำกว่า 4-5 ปี การอุดตันในเส้นเลือดถึงจะเกิดขึ้นได้ การรักษาฟื้นฟูสามารถทำได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลานานไม่ต่ำกว่า 5 ปี ส่วนคนที่เป็นมีอาการก่อนเส้นเลือดจะตีบตัน สามารถรักษาได้ ใช้ระยะเวลาไม่เกิน 3-6 เดือน อาการเส้นเลือดตีบในสมองถึงจะไม่เกิดขึ้น แต่ถ้ายังกลับไปทำพฤติกรรมเดิมๆ ก็อาจกลับมาได้อีก เพราะเส้นเลือดตีบในสมอง เกิดจากพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค!!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts