• สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ TikTok@pacharapa889 #พระองค์ที #ราชวงศ์จักรี #สถาบันพระมหากษัตริย์ #ทรงพระเจริญ #ว่างว่างก็แวะมา
    สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ TikTok@pacharapa889 #พระองค์ที #ราชวงศ์จักรี #สถาบันพระมหากษัตริย์ #ทรงพระเจริญ #ว่างว่างก็แวะมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • การตอบแทนบุญคุณพระพุทธเจ้า

    พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า การตอบแทนบุญคุณของพระองค์ที่สมบูรณ์ที่สุดคือการ ปฏิบัติธรรมเป็นบูชา เพราะพระองค์ทรงมุ่งหมายให้สัตว์โลกหลุดพ้นจากความทุกข์ และการปฏิบัติธรรมคือหนทางที่นำไปสู่จุดมุ่งหมายนี้โดยตรง


    ---

    วิธีปฏิบัติธรรมเป็นบูชา

    1. เริ่มต้นด้วยการทำจิตดีๆ ให้เกิดขึ้น

    ด้วยทาน: เปิดใจด้วยการแบ่งปัน ช่วยเหลือผู้อื่น

    ด้วยศีล: รักษาความประพฤติของตนให้สะอาดบริสุทธิ์

    ด้วยสมาธิและสติ: ฝึกเจริญสติ รู้กายรู้ใจจนกระจ่างในความไม่เที่ยง



    2. การถวายจิตดีๆ เป็นบูชา

    หากสามารถทำจิตให้สงบและเบาสบายได้แม้เพียงชั่วครู่ ก็น้อมนำจิตดีๆ นั้นถวายแทนการบูชา

    การปฏิบัติที่นำไปสู่ความหลุดพ้นจากความทุกข์ของตัวเรา คือสิ่งที่ทำให้พระพุทธเจ้าทรงพอพระทัยที่สุด





    ---

    ทางเลือกสำหรับผู้เริ่มต้น

    หากยังไม่สามารถปฏิบัติธรรมได้ลึกซึ้งนัก ก็สามารถแสดงความกตัญญูต่อพระพุทธเจ้าได้ด้วยการ:

    นำรูปหรือพระพุทธรูปมาบูชา เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจในการปฏิบัติดี

    ทำบุญ ถวายทาน หรือร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา

    ศึกษาและเผยแผ่คำสอนของพระองค์



    ---

    การตอบแทนคุณครูบาอาจารย์

    ปฏิบัติตามคำสอน: งดเว้นจากสิ่งไม่ดีและลงมือปฏิบัติธรรม

    เผยแผ่คำสอน: ช่วยสืบทอดคำสอนของท่านให้กว้างไกล

    เคารพและระลึกถึงท่าน: ด้วยการประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี



    ---

    สรุป

    การตอบแทนบุญคุณพระพุทธเจ้าและครูบาอาจารย์เริ่มต้นได้จากใจจริง ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ขอเพียงมีความตั้งใจจริง และลงมือทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ทุกการกระทำที่ดีงาม ล้วนถือเป็นการตอบแทนคุณอันสมบูรณ์แล้ว.

    การตอบแทนบุญคุณพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า การตอบแทนบุญคุณของพระองค์ที่สมบูรณ์ที่สุดคือการ ปฏิบัติธรรมเป็นบูชา เพราะพระองค์ทรงมุ่งหมายให้สัตว์โลกหลุดพ้นจากความทุกข์ และการปฏิบัติธรรมคือหนทางที่นำไปสู่จุดมุ่งหมายนี้โดยตรง --- วิธีปฏิบัติธรรมเป็นบูชา 1. เริ่มต้นด้วยการทำจิตดีๆ ให้เกิดขึ้น ด้วยทาน: เปิดใจด้วยการแบ่งปัน ช่วยเหลือผู้อื่น ด้วยศีล: รักษาความประพฤติของตนให้สะอาดบริสุทธิ์ ด้วยสมาธิและสติ: ฝึกเจริญสติ รู้กายรู้ใจจนกระจ่างในความไม่เที่ยง 2. การถวายจิตดีๆ เป็นบูชา หากสามารถทำจิตให้สงบและเบาสบายได้แม้เพียงชั่วครู่ ก็น้อมนำจิตดีๆ นั้นถวายแทนการบูชา การปฏิบัติที่นำไปสู่ความหลุดพ้นจากความทุกข์ของตัวเรา คือสิ่งที่ทำให้พระพุทธเจ้าทรงพอพระทัยที่สุด --- ทางเลือกสำหรับผู้เริ่มต้น หากยังไม่สามารถปฏิบัติธรรมได้ลึกซึ้งนัก ก็สามารถแสดงความกตัญญูต่อพระพุทธเจ้าได้ด้วยการ: นำรูปหรือพระพุทธรูปมาบูชา เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจในการปฏิบัติดี ทำบุญ ถวายทาน หรือร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา ศึกษาและเผยแผ่คำสอนของพระองค์ --- การตอบแทนคุณครูบาอาจารย์ ปฏิบัติตามคำสอน: งดเว้นจากสิ่งไม่ดีและลงมือปฏิบัติธรรม เผยแผ่คำสอน: ช่วยสืบทอดคำสอนของท่านให้กว้างไกล เคารพและระลึกถึงท่าน: ด้วยการประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี --- สรุป การตอบแทนบุญคุณพระพุทธเจ้าและครูบาอาจารย์เริ่มต้นได้จากใจจริง ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ขอเพียงมีความตั้งใจจริง และลงมือทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ทุกการกระทำที่ดีงาม ล้วนถือเป็นการตอบแทนคุณอันสมบูรณ์แล้ว.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ในอดีต 19 ธันวาคม 2423 วันประสูติ “เสด็จเตี่ย-กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์”พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ทรงเป็นพระเจ้าลูกยาเธอลำดับที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมารดาคือ เจ้าจอมมารดาโหมด ธิดาของเจ้าพระยาสุรวงศ์ ไวยวัฒน์ ประสูติเมื่อวันที่ 19 ธันวาม พ.ศ.2423พระองค์ทรงได้รับถวายพระสมัญญาจากกองทัพเรือว่าเป็น “พระบิดาของกองทัพเรือไทย” และต่อมาได้แก้ไขเป็น “องค์บิดาของทหารเรือไทย” เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2544 จากพระกรณียกิจของพระองค์ที่ทรงวางรากฐานและพัฒนาปรับปรุงทหารเรือสยามให้เจริญก้าวหน้าตามแบบประเทศตะวันตก
    วันนี้ในอดีต 19 ธันวาคม 2423 วันประสูติ “เสด็จเตี่ย-กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์”พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ทรงเป็นพระเจ้าลูกยาเธอลำดับที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมารดาคือ เจ้าจอมมารดาโหมด ธิดาของเจ้าพระยาสุรวงศ์ ไวยวัฒน์ ประสูติเมื่อวันที่ 19 ธันวาม พ.ศ.2423พระองค์ทรงได้รับถวายพระสมัญญาจากกองทัพเรือว่าเป็น “พระบิดาของกองทัพเรือไทย” และต่อมาได้แก้ไขเป็น “องค์บิดาของทหารเรือไทย” เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2544 จากพระกรณียกิจของพระองค์ที่ทรงวางรากฐานและพัฒนาปรับปรุงทหารเรือสยามให้เจริญก้าวหน้าตามแบบประเทศตะวันตก
    Love
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • “พ่อดุเรา… บอกให้เราไปถ่ายที่อื่น ให้เราสำรวมและให้ไปบอกคนข้างหลังให้เงียบๆ ด้วย”.…. สมเด็จพระเทพฯ เคยมีรับสั่งเกี่ยวกับภาพนี้อย่างมีความสุขกับนักข่าวว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงตำหนิที่พระองค์ทำตัวเหมือนเด็ก .-Behind the scenes- ....ย้อนกลับไปในวันมหามงคล วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2549 เวลา 11.29 นาฬิกา ณ สีหบัญชร ระเบียงหน้า พระที่นั่งอนันตสมาคม พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จฯ ออกมหาสมาคม ทรงรับการถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในวโรกาสพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี....เช้ามืดตี 4 วันนั้นผมทำหน้าที่ถ่ายภาพให้กับสำนักข่าว AP ผมเข้าจุดบนสแตนถ่ายภาพบริเวณโค้งด้านขวาประตูพระที่นั่งอนันตสมาคมฝั่งเขาดิน อยู่กับช่างภาพรุ่นพี่คนหนึ่ง ในเช้ามืดวันนั้นมีประชาชนใส่เสื้อเหลืองเดินทางมาถวายพระพรกันมากมายเรียกว่ามืดฟ้ามัวดิน แบบที่ว่าจนบัดนี้ยังไม่เคยเห็นการรวมตัวกันของประชาชนไม่ว่าที่ใดในโลกที่มีผู้คนมารวมตัวกันได้มากมายเพียงนี้....รุ่นพี่ผมจึงให้ผมออกไปถ่ายภาพ เก็บบรรยากาศผู้คน ประชาชนผู้จงรักภักดีที่กำลังเดินทางมาและหาจุดถ่ายภาพที่แตกต่างออกไปจากมุมบนสแตนนี้เมื่อพระราชพิธีเริ่มต้นขึ้น เพราะบนสแตนหนึ่งจะอนุญาติให้มีช่างภาพประจำอยู่สำนักละหนึ่งคนเท่านั้น....ผมจึงเดินเก็บภาพไปเรื่อยๆ จากบริเวณหน้าประตูพระที่นั่งฯ เดินสวนเบียดกับประชาชนที่กำลังรีบเข้ามาจับจองพื้นที่ ที่ตอนนี้บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าเต็มจนเกือบแน่นแล้วทั้งที่ฟ้ายังไม่สว่างเลย ซึ่งส่วนใหญ่มานอนจองกันไว้ตั้งแต่เมื่อเย็นวาน.....ผมเดินสวนออกไป ถ่ายภาพไปเรื่อยๆ จนมาถึงเวทีมวยราชดำเนิน ในใจคิดได้ว่า ไปถ่ายภาพเรือโดยสารบริเวณท่าเรือตรงภูเขาทองรูปคงจะสวยเพราะมีประชาชนใส่เสื้อสีเหลืองทุกคนโดยสารกันมาเต็มลำเรือ.....ผมใช้เวลาเดินเบียดเสียดผู้คนและเดินถ่ายภาพไปด้วยกว่าชั่วโมงจนถึงที่หมาย ตอนนี้เวลาเจ็ดโมงแล้ว ฟ้าสว่างประชาชนใส่เสื้อสีเหลืองอยู่ทั่วไปหมด ทุกคนมุ่งสู่ลานพระบรมรูปทรงม้า.....เสียงโทรศัพท์ดังและสั่นเตือนมา ปลายสายคือรุ่นพี่ช่างภาพจากสำนักข่าว AP ที่อยู่บนสแตน ถามผมว่า "ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน" ผมตอบว่า "ผมอยู่ที่สะพานผ่านฟ้าฯ" ปลายสายอุทานคำไทยแท้ออกมาคำนึงอย่างดัง "..." "คุณรีบกลับมาที่สแตนเลย เขาอนุญาตให้ช่างภาพขึ้นสแตนได้ทุกคน ผมจองที่ไว้ให้คุณแล้ว แต่คุณต้องรีบมาเพราะมีช่างภาพมากันเยอะมากๆ" .....ตอนนี้เวลา 7.00 น. พระราชพิธีจะเริ่มเวลา 10.19 น. แต่เราต้องเข้าจุดก่อนพระราชพิธีเริ่มอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง ในใจคิดว่างานลำบากรออยู่ข้างหน้าแน่นอน ที่จะต้องเดินเบียดเสียดกับผู้คนที่อัดตัวกันอยู่ที่ด้านหน้า ที่แม้แต่เวลาเดินสวนออกมาตอนเช้ามืดยังเดินยากและใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะมาถึงตรงที่ยืนนี้.....ผมเริ่มเดินกลับตั้งแต่ตอนรับสายแล้ว ทั้งเดินทั้งวิ่งในช่วงแรกที่พอมีพื้นที่ จนถึงสะพานมัฆวานฯ หน้ายูเอ็นคนเริ่มแน่น มีทั้งนั่ง ทั้งยืน ตรงนี้วิ่งไม่ได้แล้ว เดินยังลำบาก ผมไม่ถ่ายภาพอะไรแล้วตั้งแต่ออกตัวเดินกลับ ถ้าภาพนั้นไม่ดีจริงๆ ....8.30 น. ผมจำได้ว่าผมมาถึงหน้าลานพระรูปทรงม้า มันเป็นภาพจำที่จดจำได้มาจนทุกวันนี้ เบื้องหน้าที่เต็มไปด้วยผู้คนใส่เสื้อสีเหลืองนั่งโบกธงอยู่กันแน่นจนเต็มพื้นที่ มองหาที่ว่างที่เดินไม่มีเลย.....ผมเอาป้ายนักข่าวขึ้นมาแขวนคอ เผื่ออาจช่วยได้บ้างเมื่อเวลาเดินแหวกผู้คนที่นั่งเบียดกันแน่น จนคิดว่าแม้แต่มดตัวเล็กๆ ก็ไม่มีทางรอดออกไปจากจุดนี้ ผมเริ่มยกมือไหว้ ของทางแค่วางเท้าเดินไปได้ ปากก็บอกไม่ได้หยุดว่า "ขออนุญาตเข้าพื้นที่ถ่ายภาพหน่อยครับ" มือนึงก็ชูกล้อง มือนึงก็ไหว้ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ บางคนก็มีน้ำใจ เห็นใจก็ขยับเบียดหลบให้เดิน บางคนก็ด่าว่าสารพัด ว่าทำไมไม่มาเช้าๆ มาเดินจะเหยียบมือเหยีบดเท้าคนอื่นเค้าแบบนี้ทำไม ผมก็ก้มหน้าก้มตา ปากก็ขอโทษ มือก็ยกไหว้ ไม่แก้ตัวหรืออธิบายอะไรทั้งนั้น เพราะจะเสียเวลา กว่าจะขยับได้ทีละเมตร ทีละศอกมันช่างลำบากเสียเหลือเกิน .....9.00 น. แล้วผมมาถึงแค่หางม้า ยังเหลืออีกครึ่งทางผมจึงจะถึงสแตน แต่ยิ่งใกล้ประชาชนที่นั่งอยู่นั้นยิ่งแน่นเท่าทวีคูณ ผมยกมือไหว้ขอทาง ปากร้องขอไม่ได้หยุด เสียงบ่นด่ามีให้ได้ยินตลอดเป็นระยะ แต่ผมเข้าใจว่าเขามา ณ จุดนี้ยากลำบากแค่ไหน ผมได้แต่ยิ้มรับ และไหว้ขอโทษ บางจุดเดินหรือขยับไม่ได้เลย ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นหลายนาทีจนเขาเห็นใจ หลายครั้งผมเกือบถอดใจและหยุดอยู่ตรงนั้น เพราะเกรงใจคนที่นั่งอยู่..... เสียงโทรศัพท์จากช่างภาพรุ่นพี่ดังมาถามไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่แล้วว่าอยู่ตรงไหน ผมก็ยังไปไม่ถึงสแตนสักที เวลาเสด็จก็งวดใกล้เข้ามาทุกที จะเก้าโมงแล้วผมยังอยู่หัวม้าด้านขวามือ อีก 50 เมตรผมจะถึงสแตนแล้ว .....คิดว่าเป็นวันหนึ่งที่ผมโดนด่ามากที่สุด ที่ต้องเดินขอทางเบียดประชาชนที่นั่งเข้ามายังจุดถ่ายภาพ แต่เพราะโดยไม่ได้คาดคิดว่าการเดินกลับมาจะมีความยากลำบากขนาดนี้ เพราะเวลาเดินออกไปจะมีรั้วกั้นให้ไว้สำหรับเป็นทางเดินเข้าออก แต่ด้วยการที่ทุกคนต้องการเข้ามาใกล้ๆ พื้นที่จึงเต็มแน่นไปด้วยประชาชน ไม่มีที่ว่างแม้แต่ทางเดินเล็กๆ .....ผมจำได้ว่าผมเดินมาถึงสแตนในสภาพที่เหงื่อชุ่มในเวลาประมาณ 9.30 น. ผมใช้เวลาเดินจากสะพานผ่านฟ้ามาถึงโค้งด้านขวาพระที่นั่งฯ รวมเวลาสองชั่วโมงครึ่ง เป็นสองชั่วโมงครึ่งที่ยากลำบากใจเป็นที่สุด ท้อหลายครั้ง แต่โอกาสถ่ายงานนี้และร่วมอยู่ในบรรยากาศแบบนี้ไม่ได้มีง่ายๆ ผมต้องอดทนไปให้ถึงสแตนให้ได้ ในเมื่อมีการอนุญาตให้ขึ้นถ่ายได้แล้ว.....ผมมาถึงไม่มีเวลาให้พูดอะไรกันมาก เพราะใกล้เสด็จฯ และทุกคนตกใจ ผมมาได้ยังไงเพราะมองเห็นว่าประชาชนแน่นมากแค่ไหน ผมเช็กชื่อเข้าจุดขึ้นสแตนที่พี่เขาจองไว้ให้ ซึ่งเหลือพื้นที่ให้ยืนแค่สองขา ที่นั่งไม่มี..... จำได้ว่าต้องหยุดคิดทุกสิ่งอย่างที่ผ่านมาไว้ก่อน ต้องมีสติ สมาธิกับงานสำคัญตรงหน้า เพราะอีกไม่นานขบวนเสด็จของทุกพระองค์จะผ่านมาตรงนี้.....เสียงร้องทรงพระเจริญและเสียงชัตเตอร์จากกล้องหลายร้อยตัวดังสนั่นบนสแตนช่างภาพที่เบียดกันแบบไหล่ชนไหล่ เมื่อขบวนเสด็จผ่านมาหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคมเพื่อผ่านเข้าประตูพระที่นั่งฯไป.....เวลา 11.29 นาฬิกา ณ สีหบัญชร ระเบียงหน้า ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จฯ ออกมหาสมาคมพระที่นั่งอนันตสมาคม ประชาชนนับแสนที่เดินทางมาถวายพระพร ณ ลานพระบรมรูปทรงม้าและพื้นที่โดยรอบ เสียงเปร่งร้องตะโกนทรงพระเจริญดังกึกก้องทั่วบริเวณ เป็นเสียงเปร่งร้องทรงพระเจริญที่ดังที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมา.....ในหลวงรัชกาลที่ ๙ แย้มพระสรวล ทรงโบกพระหัตถ์ ทักทายประชาชน เสียงเปร่งร้องและเสียงชัตเตอร์ยังดังไม่หยุด....พระราชพิธีก็เริ่มดำเนินไป ผมก็ถ่ายภาพพระองค์ท่านบ้าง ประชาชนที่ร้องไห้ดีใจบ้าง สลับกันไป อากาศเริ่มร้อน แต่ก็ไม่มีใครหลบถอยออกจากตรงนั้น บางคนเริ่มเป็นลม มีการอุ้มยกออกจากพื้นที่ไปหลายคน.....พระราชพิธีก็ดำเนินไปเรื่อยๆ เสียงร้องตะโกนและเสียงชัตเตอร์เริ่มเบาลงในช่วงรอยต่อของพระราชพิธี ช่างภาพหลายคนเริ่มขยับไปห้องน้ำ หลายคนเริ่มหาอะไรทาน หลายคนเริ่มวางกล้องลงเพราะเป็นช่วงรอยต่อ.....แต่ผมยังคงไม่ยอมทิ้งตาจากวิวไฟน์เดอร์กล้องที่ติดเลนส์ 600 มม.จับกับขาตั้งเดี่ยวในมือที่จับถืออยู่อย่างนิ่งแน่น สายตาที่ยังคงเฝ้ามองพ่อของแผ่นดินที่ทรงประทับนั่งอยู่ ณ สีหบัญชร ระเบียงหน้าพระที่นั่งฯ พระองค์กำลังทอดพระเนตรประชาชนของพระองค์ที่พร้อมใจกันใส่เสื้อสีเหลืองมาร่วมกันถวายพระพรกันอย่างมากมายกว้างไกลจนสุดลูกหูลูกตา..... ณ วินาทีนั้น ที่เป็นช่วงรอยต่อของพระราชพิธี หลายคนเริ่มผ่อนคลาย หลายคนเริ่มขยับทำกิจกรรมอย่างอื่น แต่มีช่างภาพ 3 คนที่ดวงตายังคงไม่ทิ้งช่องมองภาพ ซึ่งผมเป็น 1 ใน 3 คนนั้น .....เสี้ยววินาทีนั้น สมเด็จพระเทพฯ ท่านทรงเสด็จออกมาถ่ายรูป ผมกดชัตเตอร์ด้วยสัญชาติญาน เพราะไม่คิดว่าจะมีภาพนี้ให้เราได้เห็น ผมกดชัตเตอร์ได้สามภาพ ภาพนี้เป็นภาพที่ผมชอบที่สุด เพราะทั้งสองพระองค์ทรงสบพระเนตรกันพอดี.....ณ​ ช่วงเวลานั้น ในใจคิดว่าภาพแนวนี้อาจไม่บังควรในการที่จะเผยแพร่ออกสื่อไป ถ้าต้องเลือกภาพเองก็คงไม่กล้าเลือกภาพนี้ไปเผยแพร่ แต่โชคดีเป็นของทุกคน ที่เวลานั้น ผมไม่มีเวลามานั่งเลือกภาพ ทำภาพเพื่อส่งเข้าไปยังระบบในต่างประเทศ ทางหัวหน้าช่างภาพซึ่งเป็นคนอเมริกัน ส่งคนมารับการ์ดเก็บภาพไปเลือกภาพ ทำภาพให้ .....หัวหน้าจึงเลือกภาพนี้เป็นหนึ่งในภาพชุดวันนั้น เพื่อส่งเข้าระบบภาพของสำนักข่าว AP เพื่อเผยแพร่พระราชพิธีอันยิ่งใหญ่ งดงามของประเทศไทยนี้ไปทั่วโลก เราจึงได้เห็นภาพๆ นี้กันจากหลายๆ สื่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ.....ผมถ่ายภาพมาหลายสิบปี ภาพนี้เป็นภาพแรกที่ได้รับคำขอบคุณจากผู้ที่ได้เห็นภาพ ได้ชมภาพ และส่งข้อความ เขียนคอมเมนต์ขอบคุณช่างภาพผู้ถ่ายภาพนี้.....ผู้ใหญ่หลายคนเมื่อพูดถึงผมหรือจะแนะนำผมให้กับคนอื่น เขาก็จะบอกว่า "ภาพสมเด็จพระเทพฯที่ออกมาถ่ายรูปไง คนนี้เป็นคนถ่าย" .....จริงๆ ภาพใบนี้จะไม่มีทางได้มาเลย ถ้าผมทิ้งตาจากวิวไฟน์เดอร์ และที่ผมไม่ทิ้งช่องมองภาพก็เพราะว่า ผมมีเลนส์เทเลระยะไกลถึง 600 มม. อยู่ในมือ ผมจึงอยากมองในหลวงใกล้ๆ ให้นานที่สุดแค่นั้น ผมจึงให้เวลาทุกนาทีกับการจ้องมองพระองค์ท่านผ่านช่องมองภาพที่ติดเลนส์ขนาดใหญ่ตัวนี้.....ภาพๆ นี้ยังมีช่างภาพอีกสองท่านที่บันทึกไว้ได้ คนหนึ่งเป็นคุณน้าที่ผมเคารพมาก อีกคนเป็นน้องรักร่วมสำนักพิมพ์ มุมภาพ จังหวะอาจต่างกันแต่ทุกคนที่ได้เห็นภาพจะต้องอมยิ้มเหมือนกันแน่นอน.....ความเครียด ความยากลำบากในการเข้าพื้นที่ในตอนเช้า ความอ่อนล้าทุกๆ อย่าง มันมลายหายไปหมดสิ้น เมื่อเห็นและบันทึกรูปๆ นี้ไว้ได้ ."รูปที่มีทุกบ้าน"เครดิต:สุข กะ ภาพ(วสันต์ วณิชชากร)
    “พ่อดุเรา… บอกให้เราไปถ่ายที่อื่น ให้เราสำรวมและให้ไปบอกคนข้างหลังให้เงียบๆ ด้วย”.…. สมเด็จพระเทพฯ เคยมีรับสั่งเกี่ยวกับภาพนี้อย่างมีความสุขกับนักข่าวว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงตำหนิที่พระองค์ทำตัวเหมือนเด็ก .-Behind the scenes- ....ย้อนกลับไปในวันมหามงคล วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2549 เวลา 11.29 นาฬิกา ณ สีหบัญชร ระเบียงหน้า พระที่นั่งอนันตสมาคม พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จฯ ออกมหาสมาคม ทรงรับการถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในวโรกาสพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี....เช้ามืดตี 4 วันนั้นผมทำหน้าที่ถ่ายภาพให้กับสำนักข่าว AP ผมเข้าจุดบนสแตนถ่ายภาพบริเวณโค้งด้านขวาประตูพระที่นั่งอนันตสมาคมฝั่งเขาดิน อยู่กับช่างภาพรุ่นพี่คนหนึ่ง ในเช้ามืดวันนั้นมีประชาชนใส่เสื้อเหลืองเดินทางมาถวายพระพรกันมากมายเรียกว่ามืดฟ้ามัวดิน แบบที่ว่าจนบัดนี้ยังไม่เคยเห็นการรวมตัวกันของประชาชนไม่ว่าที่ใดในโลกที่มีผู้คนมารวมตัวกันได้มากมายเพียงนี้....รุ่นพี่ผมจึงให้ผมออกไปถ่ายภาพ เก็บบรรยากาศผู้คน ประชาชนผู้จงรักภักดีที่กำลังเดินทางมาและหาจุดถ่ายภาพที่แตกต่างออกไปจากมุมบนสแตนนี้เมื่อพระราชพิธีเริ่มต้นขึ้น เพราะบนสแตนหนึ่งจะอนุญาติให้มีช่างภาพประจำอยู่สำนักละหนึ่งคนเท่านั้น....ผมจึงเดินเก็บภาพไปเรื่อยๆ จากบริเวณหน้าประตูพระที่นั่งฯ เดินสวนเบียดกับประชาชนที่กำลังรีบเข้ามาจับจองพื้นที่ ที่ตอนนี้บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าเต็มจนเกือบแน่นแล้วทั้งที่ฟ้ายังไม่สว่างเลย ซึ่งส่วนใหญ่มานอนจองกันไว้ตั้งแต่เมื่อเย็นวาน.....ผมเดินสวนออกไป ถ่ายภาพไปเรื่อยๆ จนมาถึงเวทีมวยราชดำเนิน ในใจคิดได้ว่า ไปถ่ายภาพเรือโดยสารบริเวณท่าเรือตรงภูเขาทองรูปคงจะสวยเพราะมีประชาชนใส่เสื้อสีเหลืองทุกคนโดยสารกันมาเต็มลำเรือ.....ผมใช้เวลาเดินเบียดเสียดผู้คนและเดินถ่ายภาพไปด้วยกว่าชั่วโมงจนถึงที่หมาย ตอนนี้เวลาเจ็ดโมงแล้ว ฟ้าสว่างประชาชนใส่เสื้อสีเหลืองอยู่ทั่วไปหมด ทุกคนมุ่งสู่ลานพระบรมรูปทรงม้า.....เสียงโทรศัพท์ดังและสั่นเตือนมา ปลายสายคือรุ่นพี่ช่างภาพจากสำนักข่าว AP ที่อยู่บนสแตน ถามผมว่า "ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน" ผมตอบว่า "ผมอยู่ที่สะพานผ่านฟ้าฯ" ปลายสายอุทานคำไทยแท้ออกมาคำนึงอย่างดัง "..." "คุณรีบกลับมาที่สแตนเลย เขาอนุญาตให้ช่างภาพขึ้นสแตนได้ทุกคน ผมจองที่ไว้ให้คุณแล้ว แต่คุณต้องรีบมาเพราะมีช่างภาพมากันเยอะมากๆ" .....ตอนนี้เวลา 7.00 น. พระราชพิธีจะเริ่มเวลา 10.19 น. แต่เราต้องเข้าจุดก่อนพระราชพิธีเริ่มอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง ในใจคิดว่างานลำบากรออยู่ข้างหน้าแน่นอน ที่จะต้องเดินเบียดเสียดกับผู้คนที่อัดตัวกันอยู่ที่ด้านหน้า ที่แม้แต่เวลาเดินสวนออกมาตอนเช้ามืดยังเดินยากและใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะมาถึงตรงที่ยืนนี้.....ผมเริ่มเดินกลับตั้งแต่ตอนรับสายแล้ว ทั้งเดินทั้งวิ่งในช่วงแรกที่พอมีพื้นที่ จนถึงสะพานมัฆวานฯ หน้ายูเอ็นคนเริ่มแน่น มีทั้งนั่ง ทั้งยืน ตรงนี้วิ่งไม่ได้แล้ว เดินยังลำบาก ผมไม่ถ่ายภาพอะไรแล้วตั้งแต่ออกตัวเดินกลับ ถ้าภาพนั้นไม่ดีจริงๆ ....8.30 น. ผมจำได้ว่าผมมาถึงหน้าลานพระรูปทรงม้า มันเป็นภาพจำที่จดจำได้มาจนทุกวันนี้ เบื้องหน้าที่เต็มไปด้วยผู้คนใส่เสื้อสีเหลืองนั่งโบกธงอยู่กันแน่นจนเต็มพื้นที่ มองหาที่ว่างที่เดินไม่มีเลย.....ผมเอาป้ายนักข่าวขึ้นมาแขวนคอ เผื่ออาจช่วยได้บ้างเมื่อเวลาเดินแหวกผู้คนที่นั่งเบียดกันแน่น จนคิดว่าแม้แต่มดตัวเล็กๆ ก็ไม่มีทางรอดออกไปจากจุดนี้ ผมเริ่มยกมือไหว้ ของทางแค่วางเท้าเดินไปได้ ปากก็บอกไม่ได้หยุดว่า "ขออนุญาตเข้าพื้นที่ถ่ายภาพหน่อยครับ" มือนึงก็ชูกล้อง มือนึงก็ไหว้ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ บางคนก็มีน้ำใจ เห็นใจก็ขยับเบียดหลบให้เดิน บางคนก็ด่าว่าสารพัด ว่าทำไมไม่มาเช้าๆ มาเดินจะเหยียบมือเหยีบดเท้าคนอื่นเค้าแบบนี้ทำไม ผมก็ก้มหน้าก้มตา ปากก็ขอโทษ มือก็ยกไหว้ ไม่แก้ตัวหรืออธิบายอะไรทั้งนั้น เพราะจะเสียเวลา กว่าจะขยับได้ทีละเมตร ทีละศอกมันช่างลำบากเสียเหลือเกิน .....9.00 น. แล้วผมมาถึงแค่หางม้า ยังเหลืออีกครึ่งทางผมจึงจะถึงสแตน แต่ยิ่งใกล้ประชาชนที่นั่งอยู่นั้นยิ่งแน่นเท่าทวีคูณ ผมยกมือไหว้ขอทาง ปากร้องขอไม่ได้หยุด เสียงบ่นด่ามีให้ได้ยินตลอดเป็นระยะ แต่ผมเข้าใจว่าเขามา ณ จุดนี้ยากลำบากแค่ไหน ผมได้แต่ยิ้มรับ และไหว้ขอโทษ บางจุดเดินหรือขยับไม่ได้เลย ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นหลายนาทีจนเขาเห็นใจ หลายครั้งผมเกือบถอดใจและหยุดอยู่ตรงนั้น เพราะเกรงใจคนที่นั่งอยู่..... เสียงโทรศัพท์จากช่างภาพรุ่นพี่ดังมาถามไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่แล้วว่าอยู่ตรงไหน ผมก็ยังไปไม่ถึงสแตนสักที เวลาเสด็จก็งวดใกล้เข้ามาทุกที จะเก้าโมงแล้วผมยังอยู่หัวม้าด้านขวามือ อีก 50 เมตรผมจะถึงสแตนแล้ว .....คิดว่าเป็นวันหนึ่งที่ผมโดนด่ามากที่สุด ที่ต้องเดินขอทางเบียดประชาชนที่นั่งเข้ามายังจุดถ่ายภาพ แต่เพราะโดยไม่ได้คาดคิดว่าการเดินกลับมาจะมีความยากลำบากขนาดนี้ เพราะเวลาเดินออกไปจะมีรั้วกั้นให้ไว้สำหรับเป็นทางเดินเข้าออก แต่ด้วยการที่ทุกคนต้องการเข้ามาใกล้ๆ พื้นที่จึงเต็มแน่นไปด้วยประชาชน ไม่มีที่ว่างแม้แต่ทางเดินเล็กๆ .....ผมจำได้ว่าผมเดินมาถึงสแตนในสภาพที่เหงื่อชุ่มในเวลาประมาณ 9.30 น. ผมใช้เวลาเดินจากสะพานผ่านฟ้ามาถึงโค้งด้านขวาพระที่นั่งฯ รวมเวลาสองชั่วโมงครึ่ง เป็นสองชั่วโมงครึ่งที่ยากลำบากใจเป็นที่สุด ท้อหลายครั้ง แต่โอกาสถ่ายงานนี้และร่วมอยู่ในบรรยากาศแบบนี้ไม่ได้มีง่ายๆ ผมต้องอดทนไปให้ถึงสแตนให้ได้ ในเมื่อมีการอนุญาตให้ขึ้นถ่ายได้แล้ว.....ผมมาถึงไม่มีเวลาให้พูดอะไรกันมาก เพราะใกล้เสด็จฯ และทุกคนตกใจ ผมมาได้ยังไงเพราะมองเห็นว่าประชาชนแน่นมากแค่ไหน ผมเช็กชื่อเข้าจุดขึ้นสแตนที่พี่เขาจองไว้ให้ ซึ่งเหลือพื้นที่ให้ยืนแค่สองขา ที่นั่งไม่มี..... จำได้ว่าต้องหยุดคิดทุกสิ่งอย่างที่ผ่านมาไว้ก่อน ต้องมีสติ สมาธิกับงานสำคัญตรงหน้า เพราะอีกไม่นานขบวนเสด็จของทุกพระองค์จะผ่านมาตรงนี้.....เสียงร้องทรงพระเจริญและเสียงชัตเตอร์จากกล้องหลายร้อยตัวดังสนั่นบนสแตนช่างภาพที่เบียดกันแบบไหล่ชนไหล่ เมื่อขบวนเสด็จผ่านมาหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคมเพื่อผ่านเข้าประตูพระที่นั่งฯไป.....เวลา 11.29 นาฬิกา ณ สีหบัญชร ระเบียงหน้า ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จฯ ออกมหาสมาคมพระที่นั่งอนันตสมาคม ประชาชนนับแสนที่เดินทางมาถวายพระพร ณ ลานพระบรมรูปทรงม้าและพื้นที่โดยรอบ เสียงเปร่งร้องตะโกนทรงพระเจริญดังกึกก้องทั่วบริเวณ เป็นเสียงเปร่งร้องทรงพระเจริญที่ดังที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมา.....ในหลวงรัชกาลที่ ๙ แย้มพระสรวล ทรงโบกพระหัตถ์ ทักทายประชาชน เสียงเปร่งร้องและเสียงชัตเตอร์ยังดังไม่หยุด....พระราชพิธีก็เริ่มดำเนินไป ผมก็ถ่ายภาพพระองค์ท่านบ้าง ประชาชนที่ร้องไห้ดีใจบ้าง สลับกันไป อากาศเริ่มร้อน แต่ก็ไม่มีใครหลบถอยออกจากตรงนั้น บางคนเริ่มเป็นลม มีการอุ้มยกออกจากพื้นที่ไปหลายคน.....พระราชพิธีก็ดำเนินไปเรื่อยๆ เสียงร้องตะโกนและเสียงชัตเตอร์เริ่มเบาลงในช่วงรอยต่อของพระราชพิธี ช่างภาพหลายคนเริ่มขยับไปห้องน้ำ หลายคนเริ่มหาอะไรทาน หลายคนเริ่มวางกล้องลงเพราะเป็นช่วงรอยต่อ.....แต่ผมยังคงไม่ยอมทิ้งตาจากวิวไฟน์เดอร์กล้องที่ติดเลนส์ 600 มม.จับกับขาตั้งเดี่ยวในมือที่จับถืออยู่อย่างนิ่งแน่น สายตาที่ยังคงเฝ้ามองพ่อของแผ่นดินที่ทรงประทับนั่งอยู่ ณ สีหบัญชร ระเบียงหน้าพระที่นั่งฯ พระองค์กำลังทอดพระเนตรประชาชนของพระองค์ที่พร้อมใจกันใส่เสื้อสีเหลืองมาร่วมกันถวายพระพรกันอย่างมากมายกว้างไกลจนสุดลูกหูลูกตา..... ณ วินาทีนั้น ที่เป็นช่วงรอยต่อของพระราชพิธี หลายคนเริ่มผ่อนคลาย หลายคนเริ่มขยับทำกิจกรรมอย่างอื่น แต่มีช่างภาพ 3 คนที่ดวงตายังคงไม่ทิ้งช่องมองภาพ ซึ่งผมเป็น 1 ใน 3 คนนั้น .....เสี้ยววินาทีนั้น สมเด็จพระเทพฯ ท่านทรงเสด็จออกมาถ่ายรูป ผมกดชัตเตอร์ด้วยสัญชาติญาน เพราะไม่คิดว่าจะมีภาพนี้ให้เราได้เห็น ผมกดชัตเตอร์ได้สามภาพ ภาพนี้เป็นภาพที่ผมชอบที่สุด เพราะทั้งสองพระองค์ทรงสบพระเนตรกันพอดี.....ณ​ ช่วงเวลานั้น ในใจคิดว่าภาพแนวนี้อาจไม่บังควรในการที่จะเผยแพร่ออกสื่อไป ถ้าต้องเลือกภาพเองก็คงไม่กล้าเลือกภาพนี้ไปเผยแพร่ แต่โชคดีเป็นของทุกคน ที่เวลานั้น ผมไม่มีเวลามานั่งเลือกภาพ ทำภาพเพื่อส่งเข้าไปยังระบบในต่างประเทศ ทางหัวหน้าช่างภาพซึ่งเป็นคนอเมริกัน ส่งคนมารับการ์ดเก็บภาพไปเลือกภาพ ทำภาพให้ .....หัวหน้าจึงเลือกภาพนี้เป็นหนึ่งในภาพชุดวันนั้น เพื่อส่งเข้าระบบภาพของสำนักข่าว AP เพื่อเผยแพร่พระราชพิธีอันยิ่งใหญ่ งดงามของประเทศไทยนี้ไปทั่วโลก เราจึงได้เห็นภาพๆ นี้กันจากหลายๆ สื่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ.....ผมถ่ายภาพมาหลายสิบปี ภาพนี้เป็นภาพแรกที่ได้รับคำขอบคุณจากผู้ที่ได้เห็นภาพ ได้ชมภาพ และส่งข้อความ เขียนคอมเมนต์ขอบคุณช่างภาพผู้ถ่ายภาพนี้.....ผู้ใหญ่หลายคนเมื่อพูดถึงผมหรือจะแนะนำผมให้กับคนอื่น เขาก็จะบอกว่า "ภาพสมเด็จพระเทพฯที่ออกมาถ่ายรูปไง คนนี้เป็นคนถ่าย" .....จริงๆ ภาพใบนี้จะไม่มีทางได้มาเลย ถ้าผมทิ้งตาจากวิวไฟน์เดอร์ และที่ผมไม่ทิ้งช่องมองภาพก็เพราะว่า ผมมีเลนส์เทเลระยะไกลถึง 600 มม. อยู่ในมือ ผมจึงอยากมองในหลวงใกล้ๆ ให้นานที่สุดแค่นั้น ผมจึงให้เวลาทุกนาทีกับการจ้องมองพระองค์ท่านผ่านช่องมองภาพที่ติดเลนส์ขนาดใหญ่ตัวนี้.....ภาพๆ นี้ยังมีช่างภาพอีกสองท่านที่บันทึกไว้ได้ คนหนึ่งเป็นคุณน้าที่ผมเคารพมาก อีกคนเป็นน้องรักร่วมสำนักพิมพ์ มุมภาพ จังหวะอาจต่างกันแต่ทุกคนที่ได้เห็นภาพจะต้องอมยิ้มเหมือนกันแน่นอน.....ความเครียด ความยากลำบากในการเข้าพื้นที่ในตอนเช้า ความอ่อนล้าทุกๆ อย่าง มันมลายหายไปหมดสิ้น เมื่อเห็นและบันทึกรูปๆ นี้ไว้ได้ ."รูปที่มีทุกบ้าน"เครดิต:สุข กะ ภาพ(วสันต์ วณิชชากร)
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 470 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระนาม​ "ภูมิพลอดุลเดช" ในรัชกาลที่9​ ได้รับพระราชทานพระนามจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
    ขณะที่พระนาม​ "สิริกิติ์" ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ​นั้น สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่7​ พระราชทาน แสดงถึงพระชะตาทั้ง4พระองค์ที่ผูกพันกันมาแต่ไหน
    #พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว#สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี#พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดช#สม้ด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
    พระนาม​ "ภูมิพลอดุลเดช" ในรัชกาลที่9​ ได้รับพระราชทานพระนามจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะที่พระนาม​ "สิริกิติ์" ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ​นั้น สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่7​ พระราชทาน แสดงถึงพระชะตาทั้ง4พระองค์ที่ผูกพันกันมาแต่ไหน #พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว​ #สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี​ #พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดช​ #สม้ด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 372 มุมมอง 0 รีวิว
  • 13-10-67/01 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.4

    หมดเวลาคุย "ฆ่าล้างโคตรยิวระยำสัดกะหมา" เฮซบอเลาะห์และพวกพ้องยังดาหน้าไล่ถล่มขีปนาวุธเละเทะ ร่างกระจุย สมใจนึกวังบูรพายิ่งนัก! เมื่ออียิวเสี้ยนอยากตายโหง 3 ฮอ ไม่รีรอ ส่งไปหายมบาลรายวัน วันละ 1000 ตัว ทุกทิศทั่วประเทศ จนกว่ามันจะหน้ามืดงัดนุ๊กกระจ๊อกออกมาใช้ นั่นคือ "ปิดเกมส์ทันที" รู้เค้ารู้เรา รบ 100 ครั้ง ชนะ 101 ครั้ง แผนอิหร่านคือบีบให้อียิวเผยธาตุแท้จนหมดเปลือก เลบานอนกลายเป็นแหล่งรวบรวมยอดมนุษย์ไปแล้ว มากันหมดโลกอาหรับ แม้แต่อีไก่งวงส่งเรือรบมาทั้งฝูง อ้างมาหิ้วชาวตุรกีกลับบ้านเพื่อความปลอดภัย เนียนจุงเบยน่ะ คนมารับเยอะกว่าคนจะไป ไอ้สัส! ชัดเจน บีบอีฟาโรห์ อย่าเล่น 2 หน้า จำใจส่งอีแอบเข้าร่วมกระทืบยิวเบื้องหลัง หาไม่แล้ว พื้นที่กันชนอาจถูกอียิวเขมือบแน่ ความเป็นจริงคือ อียิวมันหมดประโยชน์ต่างหากล่ะ พวกมรึงถึงได้เทกันกระหน่ำเยี่ยงนี้ แม้แต่ UN ก็ช่วยมรึงไม่ได้ เพราะเสือกไปถล่มค่ายทหาร UN โชว์กร่างจนโลกเอือมระอา ทำไมอียิวถึงต้องจัดใหญ่ เล่นแรง กลายร่างเป็นอันธพาลเต็มตัว เหตุผลคือ 1.ย้ายแผ่นดินหาบ้านใหม่ 2.ชักดาบหนี้ที่ไม่มีวันจะจ่ายได้จริง 3.ทำลายเยรูซาเล็มให้สิ้นซาก กูไม่ได้ ใครก็ต้องไม่ได้ คุ้นมั้ย..คำนี้? ด้านเหี้ย C ในไทย ผลงานต่ำตมสุดขีด ประกาศรับสมัครหน่วยข่าวกรองขายชาติ ใครอยากจะล้มวัง ทำลายแผ่นดินทองคำ เชิญมาสมัครได้ กูมีผลตอบแทนเป็นเศากระดาษเปล่าที่ขายใครไม่ได้ เพราะกูพิมพ์แจกไม่อั้น ควายไทยบัดซบ ควายไทขายชาติ แห่กันเข้าสมัคร กองทัพรู้เช่นเห็นชาติ มีรอชื่อรอดักไว้หมดแล้ว งานนี้ถูกชำระล้างครั้งใหญ่แน่ เพราะมรึงเปิดไพ่เสี่ยง ความมั่นคงชาติ ไม่ปล่อยให้ใครมากำแหงในแผ่นดินพ่อ ทุกคดีที่เอี่ยวล้มวัง แยกดินแดน ก่อการร้า มาจากเหี้ย C ทั้งหมด วังรู้ กองทัพรู้ จีน รัสเซีย ก็รู้ เค้าถึงได้วางหมากกับดักรอล่อมรึงอยู่เนี่ยไงล่ะ? เปิดหน้ากันหมดแล้ว เหี้ยขาลง รึจะสู้ขั้วใหม่ไฉไลโลก ไทยเราเดินแผน "กฎหมายสักดิ์สิทธิ์" ล่อทุกองคาพยพ ทั้งหน่วยงานราชการขี้ข้าเหี้ย ทุนนิยมเหี้ยสามานย์ พรรคการเมือง แหล่งฟอกเงินสีเทา ที่เอามาทำลายล้างแผ่นดินพ่อกู เบื้องบนรู้ทุกอย่าง และเตรียมต้อนรับอย่างสาสม เชื่อกูดิ มันส์พะยะค่ะ? ไอ้อีขายชาติ ชังชาติ ตอนนี้ ทะยอยหนีออกนอกกันหมดแล้ว ถึงต้องรับเหี้ยชุดใหม่ แล้วทหารก็ไม่รอช้า ส่งสายลับเข้าไปสมัครกับเค้าด้วยสิ? แฉหมดเปลือก หลักฐานมี พยานมี ภัยความมั่นคง ดอกนี้ระดับชาติ จะไร้หลักฐานมัดแน่นไม่ได้ แต่เมื่อแสงทำงานแล้ว ไม่ว่าอะไร ก็หยุดความจริงไม่ได้เช่นกัน ศาลใหญ่ จะดาหน้ากันลงดาบพายุหมุนกันไปเลยทีเดียว ช้าแต่ชัวร์ ช้าแต่มั่นคง ช้าแต่มีคำตอบให้โลกประจักษ์ได้ว่า การมีอยู่ของอเมริกาทั่วโลก นั่นคือก่อการร้ายที่บั่นทอนความมั่นคงนานาชาติที่ผ่านมา เมื่อจีน รัสเซีย อุ้มไทย ถึงเวลาต้องเปิดหน้าชน ก็จะชนแบบมีสติ ใช้ปัญญา และกฎหมาย ความจริงและความถูกต้อง คือพลังแห่งแสง ที่เอาชนะทุกความอัปรีย์จัญไรได้หมด ไม่นานเกินรอ เพราะมันสุกงอมหมดแล้ว ทั้งเรื่องเกมส์โลก และเกมส์ไทย! ด้าน ดิ ไอคอน ตอนเปิดตัวอลังการ แผน 18 มงกุฎ เข้าข่ายทำลายเศรษฐกิจไทย บั่นทอนความมั่นคง ปากท้องชาวบ้านเสียหายหนัก เพราะโลภ เพราะอยากมี อยากได้ เพราะคิดว่าหาเงินง่าย ก็เป็นเหยื่อไปสิ? งานนี้ เบื้องบนสั่งฟันไม่ไว้หน้าไอ้อีใครทั้งนั้น มันแค่เครื่องมือที่ทหารใช้จัดการทุนมืด ทุนสีเทา แหล่งฟอกเงิน แหล่งรายได้ ที่เอามาทำลายประเทศต่อเนื่องนั่นเอง ทุกโซเชี่ยลที่กูเคยบอก ไอ้ที่อวดรวย โชว์กร่าง นั่นคือขบวนการฟอกเงินทั้งนั้น "หมายังรู้" หน่วยข่าวกรองทำไมจะไม่รู้ เนื่องจากวันนี้ เป็นวันสวรรคตรัชกาลที่ 9 ขอให้มรึงจำจงดี "ความดีที่พ่อทำมาตลอดชีวิต มันคือเกราะคุ้มครองภัย ให้สยามประเทศยั่งยืนยง" เพราะพอเพียง เพราะลด ละ เลิก คือทางรอดเดียวของไทยที่ผ่านมา พ่อเล็งเห็นแล้วว่า จุดจบของทุนนิยมเหี้ยสามานย์จะลากผู้บริสุทธิ์ไปตายห่าเท่าไหร่? ถึงได้เตือนสติเรามาโดยตลอด พอคือสุข ไม่อยากคือหมดทุกข์ พอเพียงคือพอใจ สุขเท่าที่มี กินเท่าที่ใช้ สัจธรรมทั้งนั้น ไม่เบียดเบียนใคร ก็ไร้กังวล พึ่งพาตนเอง อย่าแบมือขอใคร ชัดเจนว่า แม้พ่อท่านจะอยู่บนสรวลสวรรค์แล้ว แต่คำพูดของพ่อยังอยู่ในใจคนทั้งแผ่นดินเสมอมา "คนดีศรีอโยธยามีมากกว่าคนชั่ว" ไม่งั้น แผ่นดินคงจะสิ้นไปนานแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองผู้มีธรรม มีจิตสำนึกผิดชอบชั่วดี ขอพ่อท่านอย่าได้กังวล เพราะพ่อหลวงองค์ใหม่ ไม่ธรรมดา พระบารมีสูงส่ง ไม่พูดแต่ทำ ไม่ต้องขอ ช่วยทันทีเสมอมา ท่านเดินตามรอยพ่อเป๊ะเด๊ะ แสงจะเปร่งประกายได้เต็มที่ ยามที่คนดีดี ตั้งจิตอธิษฐานส่งใจให้พ่อหลวงทุกพระองค์ที่สร้างแผ่นดินทองคำนี้ขึ้นมา บุญคุณแผ่นดินไม่มีลืมเลือน! กลับมาสู่โลกโหดร้ายกันต่อ : โลกขานรับ ไล่กระทืบมะเร็งร้ายอียิวสลัดหมา พ่วงอีขี้ข้าเหี้ยมะกัน ตายห่ายกโคตร ยืมมือขั้วใหม่เก็บเหี้ยมะกัน ยุโรป เพื่อบ้านใหม่มรึง ขณะที่ขั้วใหม่ ก็ได้กำจัดขี้ข้ามรึงสิ้นซาก แล้วคืนบ้านเก่าให้ปาเลสไตน์เต็มพื้นที่ แต่มรึงรู้มั้ยว่า แขนขามรึงขาดไปแล้ว ยังจะเหลือใครช่วยมรึงได้อีก? โลกอาหรับจึงลงแขกมรึงอย่างสาหัส เป็นไปตามแผนการรบสงครามครูเสดยุคใหม่ไงล่ะ? รัสเซีย จีน จึงไม่ต้องเหนื่อย แค่ส่งอาวุธเติมให้ไม่อั้นก็พอ แล้วรอดูอียิวเหี้ยขี้แตกรายวัน! อิหร่านได้เตรียมปิดเกมส์นี้ไว้นานแล้ว "ไฮเปอร์โซนิค 15 มัค พ่วงหัวรบนิวเคลียร์ 100 ลูก" จบทันที ไม่มีภาคต่อ? อียิวมันก็นกรู้ ถามว่ามันจะยอมตายจริงมั้ย? เกมส์เดินไปตามสเตปของมัน อียิวยังหาบ้านใหม่ไม่ได้ เพราะ CIVIL WAR ยังไม่มา? เหี้ยมะกันมันจ้องจะฆ่ากันอยู่แล้ว สภาพวันนี้ TRUMP LAND vs NEW ZIONIST LAND จะเละเทะทั้งคู่ แผนแตกอเมริกาเกิดจากภายในทั้งสิ้น? การลอบฆ่าจะก่อเกิด ชงสถานการณ์ให้ไปสู่ภาวะฉุกเฉิน แผนอีตาเพนเค้า ล่อคนลงถนน เอาปืนมาไล่ยิงกัน แบบในหนังคาวบอยที่มรึงถนัด! ยุโรปจะถูกมุสลิมกลืนไปอย่างช้าๆ ไอ้อีผิวขาวจะย้ายรกรากมาเอเซียกันเพี๊ยบ ประเทศมหาอำนาจเก่าจะกลายร่างเป็นชาติยากจนซะงั้น เพราะหมดตูดจากสงคราม กว่าจะฟื้นต้องปูอีก 50 ปี เพราะเอเซียแซงหน้าไปไกลแล้ว ต่อไปอียุโรปจะเข้าอาเซียน ต้องถูกคัดกรอง VISA มากยิ่งขึ้น ทุกอย่างจะกลับตาลปัตรไปหมด แบบที่มรึงไม่เคยคิดมาก่อน?

    ปล.เมื่อระบบป้องกันภัยทางอากาศอิหร่าน และตุรกี ร่วมประสานมือกัน โลกอาหรับได้อานิสงค์ ที่มาว่าทำไม อาหรับใหม่ ไม่กลัวอาวุธเหี้ย NATO อีกต่อไป หลังเฮซบอเลาะห์ ฮูตี ฮามาส ซีเรียบ อิรัก เยเมน โชว์ผลงานมาสเตอร์พีซ ขีปนาวุธเจ๋งกว่าไอ้อีตะวันตก ระบบป้องกันภัยหลายชั้น หลากหลายมากกว่า ยิ่งได้ AI จีน ยิ่งฉลาดล้ำกว่าเก่า เมื่ออียิวนายใหญ่เหี้ยสากลโลก ตายคาตรีนขั้วใหม่ การปลดแอกทั่วโลกจึงจะตามมา และทุกชาติจะเดินไปทิศทางเดียวกันหมด เหมือนที่ BRICS นำโลกอยู่ตอนนี้ อะไรน่ะ? ครม.อียิวชะลอการเอาคืนอิหร่าน จริงดิ? ไอ้ที่มรึงโดนอยู่ทุกนาทีตอนนี้ ยังไม่สาแก่ใจอีกเหรอ? ยังจะมีปัญญาเอาคืนอีกเหรอ? จะเห่าแหกตาดูความจริงหน่อย? มรึงถูกไล่ฆ่า ถูกลงแขก จะเหลือเหี้ยอะไรไปสวนเค้า เค้าบีบให้มรึงใช้นุ๊กไงล่ะ? ใช้สิ จะได้จบเร็วจริง ไม่ต้องรอวันตายนานเกิน? NATO แตกแล้วในเชิงพฤตินัย EU แตกแล้ว ในเชิงความร่วมมือ ฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออก เดินกันคนละทิศ คนละทาง เพราะไม่มีใครเอาใครอยู่ได้อีกแล้ว? โครแอตออกตัว ออสเตรียออกลาย เชกออกพริ้ว ฮังการี เบลารุส เซอร์เบียนำ ตามกันหมดแล้ว พลังงานยั่งยืนรออยู่ การค้า โลจิสติค ตามมา ใครจะเอา EU ที่ไม่เหลือเหี้ยอะไรอีก มีแต่จ่าย มีแต่สงคราม ควายยังคิดได้? อิหร่านพร้อม MIG-29 ทั้งฝูง รอต้อนรับบินรบเหี้ยยิวอย่างใจจดใจจ่อ โดนแน่ หากเข้าน่านฟ้าเตหะราน เก็บ SU-35 อัพเกรดเฉพาะกิจ เป็นอาวุธลับ ไม่บอก รัสเซียเติมอะไรเพิ่มให้ คนขับไปฝึกที่มอสโคว์มา 2 ปีเต็ม ครูฝึกรัสเซียตัวพ่อมาเอง ควบคุม กำกับเอง มาดิ ไอ้สัส! F-35 กระจอกงอกง่อย ส่งมาเลย กูกำลังอยากจะหาเป้าซ้อมมือเล่น? อาวุธอิหร่านมีความหลากหลายมากที่สุดในโลกอาหรับ แม้แต่กองทัพใหญ่อย่างอีไก่งวง ยังต้องขอดูผลงานอิหร่าน มันแจ่มถึงใจจุงเบย อีแอร์โดกัน ถูกเหี้ยยิวปั่นภายใน ถึงเวลาต้องออกตัวแรง ซัดกลับอียิว ผ่านเลบานอน ไงล่ะ? เอาคืนทบต้น ทบดอก ให้เกลี้ยง! ข้ามวิกแป๊บ : เป็นไปตามคาด กูรู เตือนแล้ว หลังแจก 10000 ให้ควาย เศรษฐกิจเงียบกริบ คนยากไม่ใช้เงิน เก็บ จ่ายหนี้ จ่ายดอก เงินหายไปไหนกันหมด ไปอยู่กับเจ้าหนี้เงินกู้ไงล่ะ? ควายยังรู้ ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ! แจกหมดแล้ว ยังไงต่อ? กระตุ้นเหี้ยอะไรได้อีก? กฎหมายตามมาเช็คบิล เตรียมรอคุกได้เลย แสนล้าน ไม่ใช่เงินมรึง แต่ทรัพย์สินพวกมรึงจะถูกเรียกคืนชัวร์! จ่ายต่ออีกน่ะ หากใจไม่ด้านพอ มรึงตั้งใจอย่างเดียว แค่บ่อนทำลายเศรษฐกิจชาติ บ่อนทำลายวัง เพื่อให้ไทยอ่อนแอ ตามใบสั่ง CIA ทหารเค้ารู้หมดเกลี้ยง ถึงได้ปล่อยให้มรึงเล่นไงล่ะ เพราะผลลัพธ์มันรออยู่ปลายทางแล้ว! จบที่ศาลหมดทุกไอ้อี? อีพ่อเหลี่ยมมรึงสติแตกแล้ว หลังถูกหักหลังรายวัน อะไรที่กร่างไว้ อะไรที่มั่น ตอนนี้ มันพลิกตลบหลัง โดนไล่เช็คบิลทุกดอก พรรคก็ไม่รอด อีลูกสาวร่านก็ไม่เหลือ เข้าตัวทุกดอก โดนทุกเม็ด ได้แต่ยื้อ ทหารไม่รอนาน ส่งศาลฟันลงดาบคือจบทันที! นักการเมืองเหี้ยจะหอบทรัพย์สินหนีตายกันจ้าละหวั่น สภาพสิ้นเนื้อประดาตัว ไฮโซรวยฟอกเงิน ดารารวยเงินสีเทา ทุนมืด ไปหมด ใครมีศีลจะรอด? ใครโลภจะคุก? ศรีธนญชัยเดินเกมส์รัดกุม ไม่รีบเร่ง ไม่ต้องอกตัวเยอะ เดี๋ยวเหี้ยมันดิ้นเอง แฉเอง หลักฐานมาเอง เพราะเหี้ยมันย่อมเอาตัวมันรอดก่อนใคร? ไม่มีมิตรแท้ อีเรืองไกร HOT ยื่นฟ้อง 20 คดี โดนแค่ 1 ก็คุกยาวแล้ว กะไม่ให้ได้ผุดได้เกิดกันเลยเหรอ? แผนบีบเหี้ยเผ่นออกนอกมาเต็ม ไปกันให้หมดน่ะจ๊ะ เข้าใจเกมส์ยัง? มีคนชง ศาลตบ ทหารคุมพื้นที่ แสงทำงานเร็วเสมอ? อีอุ้งอุ้ง ไม่รอด ล่อเด้ง ไม่รอนาน? มาตามสูตร รู้ล่วงหน้าแล้ว แค่ขอเข้า HALL OF FLAME แต่มันไม่จบน่ะสิ เพราะพรรคไปด้วยทั้งกะปิ จะเหลือใครจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวเนี่ย? เข้าสูตรยังล่ะ? ทหารกระดิกตรีนรอ เวลาพวกมรึงใกล้จะหมดแล้ว? เหี้ยให้สุด ระยำให้เต็มที่ได้เลย เวลาโดนมันจะได้ไม่คาใจ? เพราะงานนี้ทหารไม่มียั้งมือ กระทืบซ้ำ เผาส่งขึ้นเมรุทันที!

    หมี CNN(ทำดี คนจำ ทำเหี้ย คนแค้น ทำนิ่ง คนด่า ไม่ทำห่าอะไรเลย คนแช่ง สรุปคือ ผลของการกระทำคือตัววัดชะตากรรมมรึงเอง เกมส์โลกต้องจบ เกมส์ไทยต้องโหด ไม่ใช่เวลาโลกสวย แรงเท่าที่จำเป็น อ่อนเท่าที่จะทำได้ อเมริกาใกล้จุดจบ เลือกตั้งคือ D-DAY เผาอเมริกานั่นเอง รอดูความวินาศฉิบหาย CIVIL WAR มาเต็ม เสี้ยนจะฆ่ากันเต็มเหนี่ยว เอาให้เต็มที่ อียิวเชียร์ใจขาดดิ้น เหยื่อคือควายโง่ดักดาน สู้ให้ตาย มรึงก็ไม่ได้อะไรเลย แค่ขี้ข้า)
    13 ตุลาคม 67
    11.28 น.

    https://linevoom.line.me/post/1172879387847403322
    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    13-10-67/01 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.4 หมดเวลาคุย "ฆ่าล้างโคตรยิวระยำสัดกะหมา" เฮซบอเลาะห์และพวกพ้องยังดาหน้าไล่ถล่มขีปนาวุธเละเทะ ร่างกระจุย สมใจนึกวังบูรพายิ่งนัก! เมื่ออียิวเสี้ยนอยากตายโหง 3 ฮอ ไม่รีรอ ส่งไปหายมบาลรายวัน วันละ 1000 ตัว ทุกทิศทั่วประเทศ จนกว่ามันจะหน้ามืดงัดนุ๊กกระจ๊อกออกมาใช้ นั่นคือ "ปิดเกมส์ทันที" รู้เค้ารู้เรา รบ 100 ครั้ง ชนะ 101 ครั้ง แผนอิหร่านคือบีบให้อียิวเผยธาตุแท้จนหมดเปลือก เลบานอนกลายเป็นแหล่งรวบรวมยอดมนุษย์ไปแล้ว มากันหมดโลกอาหรับ แม้แต่อีไก่งวงส่งเรือรบมาทั้งฝูง อ้างมาหิ้วชาวตุรกีกลับบ้านเพื่อความปลอดภัย เนียนจุงเบยน่ะ คนมารับเยอะกว่าคนจะไป ไอ้สัส! ชัดเจน บีบอีฟาโรห์ อย่าเล่น 2 หน้า จำใจส่งอีแอบเข้าร่วมกระทืบยิวเบื้องหลัง หาไม่แล้ว พื้นที่กันชนอาจถูกอียิวเขมือบแน่ ความเป็นจริงคือ อียิวมันหมดประโยชน์ต่างหากล่ะ พวกมรึงถึงได้เทกันกระหน่ำเยี่ยงนี้ แม้แต่ UN ก็ช่วยมรึงไม่ได้ เพราะเสือกไปถล่มค่ายทหาร UN โชว์กร่างจนโลกเอือมระอา ทำไมอียิวถึงต้องจัดใหญ่ เล่นแรง กลายร่างเป็นอันธพาลเต็มตัว เหตุผลคือ 1.ย้ายแผ่นดินหาบ้านใหม่ 2.ชักดาบหนี้ที่ไม่มีวันจะจ่ายได้จริง 3.ทำลายเยรูซาเล็มให้สิ้นซาก กูไม่ได้ ใครก็ต้องไม่ได้ คุ้นมั้ย..คำนี้? ด้านเหี้ย C ในไทย ผลงานต่ำตมสุดขีด ประกาศรับสมัครหน่วยข่าวกรองขายชาติ ใครอยากจะล้มวัง ทำลายแผ่นดินทองคำ เชิญมาสมัครได้ กูมีผลตอบแทนเป็นเศากระดาษเปล่าที่ขายใครไม่ได้ เพราะกูพิมพ์แจกไม่อั้น ควายไทยบัดซบ ควายไทขายชาติ แห่กันเข้าสมัคร กองทัพรู้เช่นเห็นชาติ มีรอชื่อรอดักไว้หมดแล้ว งานนี้ถูกชำระล้างครั้งใหญ่แน่ เพราะมรึงเปิดไพ่เสี่ยง ความมั่นคงชาติ ไม่ปล่อยให้ใครมากำแหงในแผ่นดินพ่อ ทุกคดีที่เอี่ยวล้มวัง แยกดินแดน ก่อการร้า มาจากเหี้ย C ทั้งหมด วังรู้ กองทัพรู้ จีน รัสเซีย ก็รู้ เค้าถึงได้วางหมากกับดักรอล่อมรึงอยู่เนี่ยไงล่ะ? เปิดหน้ากันหมดแล้ว เหี้ยขาลง รึจะสู้ขั้วใหม่ไฉไลโลก ไทยเราเดินแผน "กฎหมายสักดิ์สิทธิ์" ล่อทุกองคาพยพ ทั้งหน่วยงานราชการขี้ข้าเหี้ย ทุนนิยมเหี้ยสามานย์ พรรคการเมือง แหล่งฟอกเงินสีเทา ที่เอามาทำลายล้างแผ่นดินพ่อกู เบื้องบนรู้ทุกอย่าง และเตรียมต้อนรับอย่างสาสม เชื่อกูดิ มันส์พะยะค่ะ? ไอ้อีขายชาติ ชังชาติ ตอนนี้ ทะยอยหนีออกนอกกันหมดแล้ว ถึงต้องรับเหี้ยชุดใหม่ แล้วทหารก็ไม่รอช้า ส่งสายลับเข้าไปสมัครกับเค้าด้วยสิ? แฉหมดเปลือก หลักฐานมี พยานมี ภัยความมั่นคง ดอกนี้ระดับชาติ จะไร้หลักฐานมัดแน่นไม่ได้ แต่เมื่อแสงทำงานแล้ว ไม่ว่าอะไร ก็หยุดความจริงไม่ได้เช่นกัน ศาลใหญ่ จะดาหน้ากันลงดาบพายุหมุนกันไปเลยทีเดียว ช้าแต่ชัวร์ ช้าแต่มั่นคง ช้าแต่มีคำตอบให้โลกประจักษ์ได้ว่า การมีอยู่ของอเมริกาทั่วโลก นั่นคือก่อการร้ายที่บั่นทอนความมั่นคงนานาชาติที่ผ่านมา เมื่อจีน รัสเซีย อุ้มไทย ถึงเวลาต้องเปิดหน้าชน ก็จะชนแบบมีสติ ใช้ปัญญา และกฎหมาย ความจริงและความถูกต้อง คือพลังแห่งแสง ที่เอาชนะทุกความอัปรีย์จัญไรได้หมด ไม่นานเกินรอ เพราะมันสุกงอมหมดแล้ว ทั้งเรื่องเกมส์โลก และเกมส์ไทย! ด้าน ดิ ไอคอน ตอนเปิดตัวอลังการ แผน 18 มงกุฎ เข้าข่ายทำลายเศรษฐกิจไทย บั่นทอนความมั่นคง ปากท้องชาวบ้านเสียหายหนัก เพราะโลภ เพราะอยากมี อยากได้ เพราะคิดว่าหาเงินง่าย ก็เป็นเหยื่อไปสิ? งานนี้ เบื้องบนสั่งฟันไม่ไว้หน้าไอ้อีใครทั้งนั้น มันแค่เครื่องมือที่ทหารใช้จัดการทุนมืด ทุนสีเทา แหล่งฟอกเงิน แหล่งรายได้ ที่เอามาทำลายประเทศต่อเนื่องนั่นเอง ทุกโซเชี่ยลที่กูเคยบอก ไอ้ที่อวดรวย โชว์กร่าง นั่นคือขบวนการฟอกเงินทั้งนั้น "หมายังรู้" หน่วยข่าวกรองทำไมจะไม่รู้ เนื่องจากวันนี้ เป็นวันสวรรคตรัชกาลที่ 9 ขอให้มรึงจำจงดี "ความดีที่พ่อทำมาตลอดชีวิต มันคือเกราะคุ้มครองภัย ให้สยามประเทศยั่งยืนยง" เพราะพอเพียง เพราะลด ละ เลิก คือทางรอดเดียวของไทยที่ผ่านมา พ่อเล็งเห็นแล้วว่า จุดจบของทุนนิยมเหี้ยสามานย์จะลากผู้บริสุทธิ์ไปตายห่าเท่าไหร่? ถึงได้เตือนสติเรามาโดยตลอด พอคือสุข ไม่อยากคือหมดทุกข์ พอเพียงคือพอใจ สุขเท่าที่มี กินเท่าที่ใช้ สัจธรรมทั้งนั้น ไม่เบียดเบียนใคร ก็ไร้กังวล พึ่งพาตนเอง อย่าแบมือขอใคร ชัดเจนว่า แม้พ่อท่านจะอยู่บนสรวลสวรรค์แล้ว แต่คำพูดของพ่อยังอยู่ในใจคนทั้งแผ่นดินเสมอมา "คนดีศรีอโยธยามีมากกว่าคนชั่ว" ไม่งั้น แผ่นดินคงจะสิ้นไปนานแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองผู้มีธรรม มีจิตสำนึกผิดชอบชั่วดี ขอพ่อท่านอย่าได้กังวล เพราะพ่อหลวงองค์ใหม่ ไม่ธรรมดา พระบารมีสูงส่ง ไม่พูดแต่ทำ ไม่ต้องขอ ช่วยทันทีเสมอมา ท่านเดินตามรอยพ่อเป๊ะเด๊ะ แสงจะเปร่งประกายได้เต็มที่ ยามที่คนดีดี ตั้งจิตอธิษฐานส่งใจให้พ่อหลวงทุกพระองค์ที่สร้างแผ่นดินทองคำนี้ขึ้นมา บุญคุณแผ่นดินไม่มีลืมเลือน! กลับมาสู่โลกโหดร้ายกันต่อ : โลกขานรับ ไล่กระทืบมะเร็งร้ายอียิวสลัดหมา พ่วงอีขี้ข้าเหี้ยมะกัน ตายห่ายกโคตร ยืมมือขั้วใหม่เก็บเหี้ยมะกัน ยุโรป เพื่อบ้านใหม่มรึง ขณะที่ขั้วใหม่ ก็ได้กำจัดขี้ข้ามรึงสิ้นซาก แล้วคืนบ้านเก่าให้ปาเลสไตน์เต็มพื้นที่ แต่มรึงรู้มั้ยว่า แขนขามรึงขาดไปแล้ว ยังจะเหลือใครช่วยมรึงได้อีก? โลกอาหรับจึงลงแขกมรึงอย่างสาหัส เป็นไปตามแผนการรบสงครามครูเสดยุคใหม่ไงล่ะ? รัสเซีย จีน จึงไม่ต้องเหนื่อย แค่ส่งอาวุธเติมให้ไม่อั้นก็พอ แล้วรอดูอียิวเหี้ยขี้แตกรายวัน! อิหร่านได้เตรียมปิดเกมส์นี้ไว้นานแล้ว "ไฮเปอร์โซนิค 15 มัค พ่วงหัวรบนิวเคลียร์ 100 ลูก" จบทันที ไม่มีภาคต่อ? อียิวมันก็นกรู้ ถามว่ามันจะยอมตายจริงมั้ย? เกมส์เดินไปตามสเตปของมัน อียิวยังหาบ้านใหม่ไม่ได้ เพราะ CIVIL WAR ยังไม่มา? เหี้ยมะกันมันจ้องจะฆ่ากันอยู่แล้ว สภาพวันนี้ TRUMP LAND vs NEW ZIONIST LAND จะเละเทะทั้งคู่ แผนแตกอเมริกาเกิดจากภายในทั้งสิ้น? การลอบฆ่าจะก่อเกิด ชงสถานการณ์ให้ไปสู่ภาวะฉุกเฉิน แผนอีตาเพนเค้า ล่อคนลงถนน เอาปืนมาไล่ยิงกัน แบบในหนังคาวบอยที่มรึงถนัด! ยุโรปจะถูกมุสลิมกลืนไปอย่างช้าๆ ไอ้อีผิวขาวจะย้ายรกรากมาเอเซียกันเพี๊ยบ ประเทศมหาอำนาจเก่าจะกลายร่างเป็นชาติยากจนซะงั้น เพราะหมดตูดจากสงคราม กว่าจะฟื้นต้องปูอีก 50 ปี เพราะเอเซียแซงหน้าไปไกลแล้ว ต่อไปอียุโรปจะเข้าอาเซียน ต้องถูกคัดกรอง VISA มากยิ่งขึ้น ทุกอย่างจะกลับตาลปัตรไปหมด แบบที่มรึงไม่เคยคิดมาก่อน? ปล.เมื่อระบบป้องกันภัยทางอากาศอิหร่าน และตุรกี ร่วมประสานมือกัน โลกอาหรับได้อานิสงค์ ที่มาว่าทำไม อาหรับใหม่ ไม่กลัวอาวุธเหี้ย NATO อีกต่อไป หลังเฮซบอเลาะห์ ฮูตี ฮามาส ซีเรียบ อิรัก เยเมน โชว์ผลงานมาสเตอร์พีซ ขีปนาวุธเจ๋งกว่าไอ้อีตะวันตก ระบบป้องกันภัยหลายชั้น หลากหลายมากกว่า ยิ่งได้ AI จีน ยิ่งฉลาดล้ำกว่าเก่า เมื่ออียิวนายใหญ่เหี้ยสากลโลก ตายคาตรีนขั้วใหม่ การปลดแอกทั่วโลกจึงจะตามมา และทุกชาติจะเดินไปทิศทางเดียวกันหมด เหมือนที่ BRICS นำโลกอยู่ตอนนี้ อะไรน่ะ? ครม.อียิวชะลอการเอาคืนอิหร่าน จริงดิ? ไอ้ที่มรึงโดนอยู่ทุกนาทีตอนนี้ ยังไม่สาแก่ใจอีกเหรอ? ยังจะมีปัญญาเอาคืนอีกเหรอ? จะเห่าแหกตาดูความจริงหน่อย? มรึงถูกไล่ฆ่า ถูกลงแขก จะเหลือเหี้ยอะไรไปสวนเค้า เค้าบีบให้มรึงใช้นุ๊กไงล่ะ? ใช้สิ จะได้จบเร็วจริง ไม่ต้องรอวันตายนานเกิน? NATO แตกแล้วในเชิงพฤตินัย EU แตกแล้ว ในเชิงความร่วมมือ ฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออก เดินกันคนละทิศ คนละทาง เพราะไม่มีใครเอาใครอยู่ได้อีกแล้ว? โครแอตออกตัว ออสเตรียออกลาย เชกออกพริ้ว ฮังการี เบลารุส เซอร์เบียนำ ตามกันหมดแล้ว พลังงานยั่งยืนรออยู่ การค้า โลจิสติค ตามมา ใครจะเอา EU ที่ไม่เหลือเหี้ยอะไรอีก มีแต่จ่าย มีแต่สงคราม ควายยังคิดได้? อิหร่านพร้อม MIG-29 ทั้งฝูง รอต้อนรับบินรบเหี้ยยิวอย่างใจจดใจจ่อ โดนแน่ หากเข้าน่านฟ้าเตหะราน เก็บ SU-35 อัพเกรดเฉพาะกิจ เป็นอาวุธลับ ไม่บอก รัสเซียเติมอะไรเพิ่มให้ คนขับไปฝึกที่มอสโคว์มา 2 ปีเต็ม ครูฝึกรัสเซียตัวพ่อมาเอง ควบคุม กำกับเอง มาดิ ไอ้สัส! F-35 กระจอกงอกง่อย ส่งมาเลย กูกำลังอยากจะหาเป้าซ้อมมือเล่น? อาวุธอิหร่านมีความหลากหลายมากที่สุดในโลกอาหรับ แม้แต่กองทัพใหญ่อย่างอีไก่งวง ยังต้องขอดูผลงานอิหร่าน มันแจ่มถึงใจจุงเบย อีแอร์โดกัน ถูกเหี้ยยิวปั่นภายใน ถึงเวลาต้องออกตัวแรง ซัดกลับอียิว ผ่านเลบานอน ไงล่ะ? เอาคืนทบต้น ทบดอก ให้เกลี้ยง! ข้ามวิกแป๊บ : เป็นไปตามคาด กูรู เตือนแล้ว หลังแจก 10000 ให้ควาย เศรษฐกิจเงียบกริบ คนยากไม่ใช้เงิน เก็บ จ่ายหนี้ จ่ายดอก เงินหายไปไหนกันหมด ไปอยู่กับเจ้าหนี้เงินกู้ไงล่ะ? ควายยังรู้ ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ! แจกหมดแล้ว ยังไงต่อ? กระตุ้นเหี้ยอะไรได้อีก? กฎหมายตามมาเช็คบิล เตรียมรอคุกได้เลย แสนล้าน ไม่ใช่เงินมรึง แต่ทรัพย์สินพวกมรึงจะถูกเรียกคืนชัวร์! จ่ายต่ออีกน่ะ หากใจไม่ด้านพอ มรึงตั้งใจอย่างเดียว แค่บ่อนทำลายเศรษฐกิจชาติ บ่อนทำลายวัง เพื่อให้ไทยอ่อนแอ ตามใบสั่ง CIA ทหารเค้ารู้หมดเกลี้ยง ถึงได้ปล่อยให้มรึงเล่นไงล่ะ เพราะผลลัพธ์มันรออยู่ปลายทางแล้ว! จบที่ศาลหมดทุกไอ้อี? อีพ่อเหลี่ยมมรึงสติแตกแล้ว หลังถูกหักหลังรายวัน อะไรที่กร่างไว้ อะไรที่มั่น ตอนนี้ มันพลิกตลบหลัง โดนไล่เช็คบิลทุกดอก พรรคก็ไม่รอด อีลูกสาวร่านก็ไม่เหลือ เข้าตัวทุกดอก โดนทุกเม็ด ได้แต่ยื้อ ทหารไม่รอนาน ส่งศาลฟันลงดาบคือจบทันที! นักการเมืองเหี้ยจะหอบทรัพย์สินหนีตายกันจ้าละหวั่น สภาพสิ้นเนื้อประดาตัว ไฮโซรวยฟอกเงิน ดารารวยเงินสีเทา ทุนมืด ไปหมด ใครมีศีลจะรอด? ใครโลภจะคุก? ศรีธนญชัยเดินเกมส์รัดกุม ไม่รีบเร่ง ไม่ต้องอกตัวเยอะ เดี๋ยวเหี้ยมันดิ้นเอง แฉเอง หลักฐานมาเอง เพราะเหี้ยมันย่อมเอาตัวมันรอดก่อนใคร? ไม่มีมิตรแท้ อีเรืองไกร HOT ยื่นฟ้อง 20 คดี โดนแค่ 1 ก็คุกยาวแล้ว กะไม่ให้ได้ผุดได้เกิดกันเลยเหรอ? แผนบีบเหี้ยเผ่นออกนอกมาเต็ม ไปกันให้หมดน่ะจ๊ะ เข้าใจเกมส์ยัง? มีคนชง ศาลตบ ทหารคุมพื้นที่ แสงทำงานเร็วเสมอ? อีอุ้งอุ้ง ไม่รอด ล่อเด้ง ไม่รอนาน? มาตามสูตร รู้ล่วงหน้าแล้ว แค่ขอเข้า HALL OF FLAME แต่มันไม่จบน่ะสิ เพราะพรรคไปด้วยทั้งกะปิ จะเหลือใครจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวเนี่ย? เข้าสูตรยังล่ะ? ทหารกระดิกตรีนรอ เวลาพวกมรึงใกล้จะหมดแล้ว? เหี้ยให้สุด ระยำให้เต็มที่ได้เลย เวลาโดนมันจะได้ไม่คาใจ? เพราะงานนี้ทหารไม่มียั้งมือ กระทืบซ้ำ เผาส่งขึ้นเมรุทันที! หมี CNN(ทำดี คนจำ ทำเหี้ย คนแค้น ทำนิ่ง คนด่า ไม่ทำห่าอะไรเลย คนแช่ง สรุปคือ ผลของการกระทำคือตัววัดชะตากรรมมรึงเอง เกมส์โลกต้องจบ เกมส์ไทยต้องโหด ไม่ใช่เวลาโลกสวย แรงเท่าที่จำเป็น อ่อนเท่าที่จะทำได้ อเมริกาใกล้จุดจบ เลือกตั้งคือ D-DAY เผาอเมริกานั่นเอง รอดูความวินาศฉิบหาย CIVIL WAR มาเต็ม เสี้ยนจะฆ่ากันเต็มเหนี่ยว เอาให้เต็มที่ อียิวเชียร์ใจขาดดิ้น เหยื่อคือควายโง่ดักดาน สู้ให้ตาย มรึงก็ไม่ได้อะไรเลย แค่ขี้ข้า) 13 ตุลาคม 67 11.28 น. https://linevoom.line.me/post/1172879387847403322 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 941 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อยู่ ญาโณทโย ป.ธ.๙) เป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 15 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จอยู่ จะเรียกได้ว่าพระองค์ท่านเป็นโหรอันดับ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ หาใครเทียบได้ยาก แต่ท่านเคยตรัสไว้ว่า "การทำความดีไม่ต้องดูฤกษ์ยาม..." #วัดสระเกศ #สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ #ในหลวงรัชกาลที่9
    สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อยู่ ญาโณทโย ป.ธ.๙) เป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 15 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จอยู่ จะเรียกได้ว่าพระองค์ท่านเป็นโหรอันดับ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ หาใครเทียบได้ยาก แต่ท่านเคยตรัสไว้ว่า "การทำความดีไม่ต้องดูฤกษ์ยาม..." #วัดสระเกศ #สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ #ในหลวงรัชกาลที่9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 377 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • Boris Johnson อดีตนายกฯอังกฤษ ละเมิดกฏสำนักพระราชวัง เขียนหนังสือเกี่ยวกับควีนเอลิซาเบธที่ 2เปิดเผยอาการประชวรโรคมะเร็งกระดูกก่อนเสด็จสวรรคต สำนักพระราชวังอังกฤษชี้ไม่ควรทำอย่างยิ่งเพราะ “ผิด” กฎราชวงศ์

    2 ตุลาคม 2567- รายงานข่าวต่างประเทศระบุว่า หนังสือบันทึกความทรงจำ Boris Johnson Unleashed ของอดีตนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษที่จะออกวางจำหน่ายวันที่ 10 ตุลาคมนี้ กำลังเผชิญกระแสสังคมอย่างมาก กรณีที่เขาออกมาเปิดเผยข้อความในหนังสือบันทึกความทรงจำของเขาเกี่ยวกับพระอาการประชวรของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และช่วงเวลาสุดท้ายของพระองค์ที่เมืองบัลมอรัล ในสกอตแลนด์ว่าทรงประชวรด้วย “โรคมะเร็งกระดูก” ก่อนสวรรคต ซึ่งหลังจากสำนักพระราชวังของอังกฤษทราบเรื่องดังกล่าวก็ได้ออกมาตำหนิว่าเขาไม่ควรเปิดเผยพระอาการประชวรของพระองค์พร้อมทั้งชี้ว่านี่คือการละเมิดกฎพระราชวงศ์

    ส่วนหนึ่งในหนังสือของจอห์นสันระบุว่า “พระองค์ดูซีดและหลังค่อมขึ้น และมีรอยฝกช้ำดำเขียวที่บริเวณข้อมือ ซึ่งน่าจะเกิดจากการให้น้ำเกลือหรือฉีดยา แต่พระองค์ดูเหมือนไม่ได้รับผลกระทบจากความเจ็บปวดเลย ในระหว่างสนทนาพระองค์พระองค์ยังคงยิ้มกว้างอย่างสดใส รอยยิ้มของพระองค์ทำให้สดชื่นเป็นอย่างมาก” นอกจากนี้จอห์นสันได้ระบุว่าการที่เขาได้เฝ้าทูลละอองพระบาทของนายกรัฐมนตรีประจำสัปดาห์กับพระราชินีถือเป็น “สิทธิพิเศษ” และ “กำลังใจ” ให้กับตัวเขาเองด้วย

    ไม่เพียงเท่านี้แต่จอห์นสันยังเขียนถึงอาการประชวรของควีนเอลิซาเบธที่ 2 เอาไว้ว่า “ผมทราบมานานกว่าหนึ่งปีแล้วว่าพระองค์ทรงประชวรด้วยโรคมะเร็งกระดูก และแพทย์ก็เป็นห่วงว่าอาการของพระองค์จะทรุดลงได้ทุกเมื่อ”

    คำบอกเล่าของจอห์นสันนี้ นับว่าขัดกับสาเหตุการสิ้นพระชนม์ ที่สำนักพระราชวังแถลงว่า สาเหตุเกิดจาก “วัยชรา” และการเปิดเผยของจอหืนสันกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้งเพราะตั้งแต่ที่ควีนเอลิซาเบธที่ 2 สิ้นพระชนม์ในเดือนกันยายน ปี 2022 สำนักพระราชวงศ์บักกิงแฮมก็ไม่เคยเปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับสาเหตุการสิ้นพระชนม์ของพระองค์

    อย่างไรก็ตาม จอห์นสันไม่ใช่ผู้นำอังกฤษคนแรกที่ที่เขียนบันทึกรำลึกถึงเรื่องราวในสมัยที่ดำรงตำแหน่งนายกฯที่เข้าเฝ้าพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 อดีตนายกรัฐมนตรี โทนี่ แบลร์, กอร์ดอน บราวน์, และ เดวิด คาเมรอน ต่างก็เคยเขียนหนังสือบันทึกเหตุการณ์การถวายงานกับควีนเอลิซาเบธที่2 เช่นกัน แต่เป็นการกล่าวถึงแบบโดยภาพรวม ไม่ได้มีการลงรายละเอียดที่ชัดเจนแบบเดียวกับจอห์นสัน

    ทั้งนี้ ตามธรรมเนียมปฏิบัติของราชวงศ์อังกฤษจะไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทางการแพทย์ของสมาชิกราชวงศ์ต่อสาธารณชน จนกระทั่งในกรณีของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และ เจ้าหญิงแคทเธอรีนแห่งเวลส์ ที่ทางสำนักพระราชวังบักกิงแฮมเลือกที่จะเปิดเผยอาการประชวรและข้อมูลการรักษาตัวของพระองค์ซึ่งเป็นไปตามพระประสงค์ของทั้ง 2 พระองค์ที่ต้องการแบ่งปันประสบการณ์ส่วนพระองค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง

    ภาพ : จากเฟซบุ๊กBoris Johnson

    #Thaitimes
    Boris Johnson อดีตนายกฯอังกฤษ ละเมิดกฏสำนักพระราชวัง เขียนหนังสือเกี่ยวกับควีนเอลิซาเบธที่ 2เปิดเผยอาการประชวรโรคมะเร็งกระดูกก่อนเสด็จสวรรคต สำนักพระราชวังอังกฤษชี้ไม่ควรทำอย่างยิ่งเพราะ “ผิด” กฎราชวงศ์ 2 ตุลาคม 2567- รายงานข่าวต่างประเทศระบุว่า หนังสือบันทึกความทรงจำ Boris Johnson Unleashed ของอดีตนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษที่จะออกวางจำหน่ายวันที่ 10 ตุลาคมนี้ กำลังเผชิญกระแสสังคมอย่างมาก กรณีที่เขาออกมาเปิดเผยข้อความในหนังสือบันทึกความทรงจำของเขาเกี่ยวกับพระอาการประชวรของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และช่วงเวลาสุดท้ายของพระองค์ที่เมืองบัลมอรัล ในสกอตแลนด์ว่าทรงประชวรด้วย “โรคมะเร็งกระดูก” ก่อนสวรรคต ซึ่งหลังจากสำนักพระราชวังของอังกฤษทราบเรื่องดังกล่าวก็ได้ออกมาตำหนิว่าเขาไม่ควรเปิดเผยพระอาการประชวรของพระองค์พร้อมทั้งชี้ว่านี่คือการละเมิดกฎพระราชวงศ์ ส่วนหนึ่งในหนังสือของจอห์นสันระบุว่า “พระองค์ดูซีดและหลังค่อมขึ้น และมีรอยฝกช้ำดำเขียวที่บริเวณข้อมือ ซึ่งน่าจะเกิดจากการให้น้ำเกลือหรือฉีดยา แต่พระองค์ดูเหมือนไม่ได้รับผลกระทบจากความเจ็บปวดเลย ในระหว่างสนทนาพระองค์พระองค์ยังคงยิ้มกว้างอย่างสดใส รอยยิ้มของพระองค์ทำให้สดชื่นเป็นอย่างมาก” นอกจากนี้จอห์นสันได้ระบุว่าการที่เขาได้เฝ้าทูลละอองพระบาทของนายกรัฐมนตรีประจำสัปดาห์กับพระราชินีถือเป็น “สิทธิพิเศษ” และ “กำลังใจ” ให้กับตัวเขาเองด้วย ไม่เพียงเท่านี้แต่จอห์นสันยังเขียนถึงอาการประชวรของควีนเอลิซาเบธที่ 2 เอาไว้ว่า “ผมทราบมานานกว่าหนึ่งปีแล้วว่าพระองค์ทรงประชวรด้วยโรคมะเร็งกระดูก และแพทย์ก็เป็นห่วงว่าอาการของพระองค์จะทรุดลงได้ทุกเมื่อ” คำบอกเล่าของจอห์นสันนี้ นับว่าขัดกับสาเหตุการสิ้นพระชนม์ ที่สำนักพระราชวังแถลงว่า สาเหตุเกิดจาก “วัยชรา” และการเปิดเผยของจอหืนสันกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้งเพราะตั้งแต่ที่ควีนเอลิซาเบธที่ 2 สิ้นพระชนม์ในเดือนกันยายน ปี 2022 สำนักพระราชวงศ์บักกิงแฮมก็ไม่เคยเปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับสาเหตุการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ อย่างไรก็ตาม จอห์นสันไม่ใช่ผู้นำอังกฤษคนแรกที่ที่เขียนบันทึกรำลึกถึงเรื่องราวในสมัยที่ดำรงตำแหน่งนายกฯที่เข้าเฝ้าพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 อดีตนายกรัฐมนตรี โทนี่ แบลร์, กอร์ดอน บราวน์, และ เดวิด คาเมรอน ต่างก็เคยเขียนหนังสือบันทึกเหตุการณ์การถวายงานกับควีนเอลิซาเบธที่2 เช่นกัน แต่เป็นการกล่าวถึงแบบโดยภาพรวม ไม่ได้มีการลงรายละเอียดที่ชัดเจนแบบเดียวกับจอห์นสัน ทั้งนี้ ตามธรรมเนียมปฏิบัติของราชวงศ์อังกฤษจะไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทางการแพทย์ของสมาชิกราชวงศ์ต่อสาธารณชน จนกระทั่งในกรณีของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และ เจ้าหญิงแคทเธอรีนแห่งเวลส์ ที่ทางสำนักพระราชวังบักกิงแฮมเลือกที่จะเปิดเผยอาการประชวรและข้อมูลการรักษาตัวของพระองค์ซึ่งเป็นไปตามพระประสงค์ของทั้ง 2 พระองค์ที่ต้องการแบ่งปันประสบการณ์ส่วนพระองค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง ภาพ : จากเฟซบุ๊กBoris Johnson #Thaitimes
    Like
    Sad
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 942 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในขณะที่ร.9 กลับมาเมืองไทยในฐานะน้องชายของ
    ร.8 ซึ่งมีแม่ มีพี่สาว รวม 4 คน ท่านอยู่ท่ามกลางประชาชนที่แบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งไม่เอาเจ้าอยู่หัว # ฝ่ายหนึ่งเอาเจ้าอยู่หัวแล้วพร้อมที่จะปกป้องดูแลอารักขาให้อย่างดี ขอเพียงเสด็จกลับนิวัตรพระนคร มาเป็นมิ่งขวัญให้คนไทยอีกครั้ง
    หลังจากที่ พวกกบฎ 2475 ไล่เจ้าอยู่หัวไปแล้ว ไม่มีเจ้าแล้ว อยู่กันแบบไร้ทิศไร้ทาง นักการเมืองเริ่มส่อแววเอาเปรียบประชาชน เห็นแก่ประโยชน์ของพวกพ้องและตนเอง การรักษาความปลอดภัย พระเจ้าอยู่หัวเหมือนปล่อยให้พกปืนเดินยามดูแลตัวเอง สุดท้าย ร.8 ที่เป็นพี่ชาย ร.9 เป็นลุง ร.10 ก็ถูกลอบปลงพระชนม์ ในหลวง ร.9 จึงปรารภว่า คนบ้านนี้เมืองนี้ โหดร้ายป่าเถื่อน เราจะกลับไปแล้วไม่มาอีกดีกว่า
    ระหว่างที่เสด็จดำเนินไป
    มีชาวบ้านที่มารอส่งเสด็จ ตะโกนว่า ในหลวงอย่าทิ้งประชาชน พระองค์จึงต้องมาเป็นพระราชาให้คนไทยอีกครั้งต่อจากพี่ชาย ต้องเลี้ยงหมาไว้ดูแลตนเอง ต้องสอนลูกสาวลูกชายให้เข้มแข็ง ต้องสอนพระราชินีให้ยิงปืนให้เป็น ต้องสอนหลานๆให้ทำงานเลี้ยงดูตัวเองได้ ต้องให้ลูกชายไปเป็นทหาร เพื่อป้องกันประเทศ และราชบัลลังก์ ข่าวในพระราชสำนักเกิน 80% ทรงอยู่ในป่ากับราษฎร และทหารตามแนวชายแดน คอยป้องกันประเทศ
    มีแม่เป็นพี่เลี้ยงในการปกครองประชาราษฎร์ มีพี่สาวเป็นเสมือนเพื่อน และคนดูแล ยามที่ท้อใจเมื่อนึกถึงภาพพี่ชายโดนยิงตาย ไปต่อหน้า
    พัฒนาประเทศได้ไม่นาน แม่กับพี่สาวก็มาจากไป ร.9 จึงเหลือแต่ลูกๆ ท่ามกลางพายุการเมืองที่บ้าคลั่งของพวกไม่เอาเจ้า เผาบ้านเผาเมือง ทำให้พระองค์ที่ทรงประชวรอยู่แล้ว เพราะโหมงานหนักมานานถึง 70 ปี ต้องจากพวกเราไป อย่างสงบ
    ขึ้นสู่รัชสมัยของรัชกาลที่10 ด้วยความอึมครึมทางการเมือง
    พระองค์ไม่มีพ่อแล้ว ไม่มีย่าแล้ว มีแต่แม่ ที่ป่วย กับน้องสาวอีกคนที่ป่วยเช่นกัน และสมเด็จพระเทพฯ ในวัยเกษียณ ที่มีโครงการ ของในหลวง ร.9 ต้องคอยดูแลเยอะแยะ หลังการสวรรคตของร.9 รัฐบาลทำเรื่องกราบบังคมทูล อัญเชิญให้เข้ารับตำแหน่ง เป็นรัชกาลที่10 หากพระองค์ไม่รับตำแหน่ง ก็คงไปอยู่ต่างประเทศ ดำเนินชีวิตตามปกติของคนทั่วไป แต่เป็นเพราะเบ้าหลอมที่ถูกโยนเข้าไปตั้งแต่เยาว์วัยซึ่งสอนให้รู้ว่า พระองค์เลือกเกิดไม่ได้ เพราะการสืบทอดอำนาจทางสายโลหิต มันไม่ได้เกิดจากตัวท่านเองอยากมาเป็น แต่ว่าฟ้าเบื้องบนเขากำหนดมาแบบนี้ จึงต้องลุกขึ้น แล้วลงมือพายนาวาฝ่ามรสุมกันต่อไป เพียงหวังว่า คงไม่มีใครเอาเท้าลงไปราน้ำ เพราะคนพายมันเหนื่อยสายตัวแทบขาด..
    ~~~~
    รักในหลวง...
    ในขณะที่ร.9 กลับมาเมืองไทยในฐานะน้องชายของ ร.8 ซึ่งมีแม่ มีพี่สาว รวม 4 คน ท่านอยู่ท่ามกลางประชาชนที่แบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งไม่เอาเจ้าอยู่หัว # ฝ่ายหนึ่งเอาเจ้าอยู่หัวแล้วพร้อมที่จะปกป้องดูแลอารักขาให้อย่างดี ขอเพียงเสด็จกลับนิวัตรพระนคร มาเป็นมิ่งขวัญให้คนไทยอีกครั้ง หลังจากที่ พวกกบฎ 2475 ไล่เจ้าอยู่หัวไปแล้ว ไม่มีเจ้าแล้ว อยู่กันแบบไร้ทิศไร้ทาง นักการเมืองเริ่มส่อแววเอาเปรียบประชาชน เห็นแก่ประโยชน์ของพวกพ้องและตนเอง การรักษาความปลอดภัย พระเจ้าอยู่หัวเหมือนปล่อยให้พกปืนเดินยามดูแลตัวเอง สุดท้าย ร.8 ที่เป็นพี่ชาย ร.9 เป็นลุง ร.10 ก็ถูกลอบปลงพระชนม์ ในหลวง ร.9 จึงปรารภว่า คนบ้านนี้เมืองนี้ โหดร้ายป่าเถื่อน เราจะกลับไปแล้วไม่มาอีกดีกว่า ระหว่างที่เสด็จดำเนินไป มีชาวบ้านที่มารอส่งเสด็จ ตะโกนว่า ในหลวงอย่าทิ้งประชาชน พระองค์จึงต้องมาเป็นพระราชาให้คนไทยอีกครั้งต่อจากพี่ชาย ต้องเลี้ยงหมาไว้ดูแลตนเอง ต้องสอนลูกสาวลูกชายให้เข้มแข็ง ต้องสอนพระราชินีให้ยิงปืนให้เป็น ต้องสอนหลานๆให้ทำงานเลี้ยงดูตัวเองได้ ต้องให้ลูกชายไปเป็นทหาร เพื่อป้องกันประเทศ และราชบัลลังก์ ข่าวในพระราชสำนักเกิน 80% ทรงอยู่ในป่ากับราษฎร และทหารตามแนวชายแดน คอยป้องกันประเทศ มีแม่เป็นพี่เลี้ยงในการปกครองประชาราษฎร์ มีพี่สาวเป็นเสมือนเพื่อน และคนดูแล ยามที่ท้อใจเมื่อนึกถึงภาพพี่ชายโดนยิงตาย ไปต่อหน้า พัฒนาประเทศได้ไม่นาน แม่กับพี่สาวก็มาจากไป ร.9 จึงเหลือแต่ลูกๆ ท่ามกลางพายุการเมืองที่บ้าคลั่งของพวกไม่เอาเจ้า เผาบ้านเผาเมือง ทำให้พระองค์ที่ทรงประชวรอยู่แล้ว เพราะโหมงานหนักมานานถึง 70 ปี ต้องจากพวกเราไป อย่างสงบ ขึ้นสู่รัชสมัยของรัชกาลที่10 ด้วยความอึมครึมทางการเมือง พระองค์ไม่มีพ่อแล้ว ไม่มีย่าแล้ว มีแต่แม่ ที่ป่วย กับน้องสาวอีกคนที่ป่วยเช่นกัน และสมเด็จพระเทพฯ ในวัยเกษียณ ที่มีโครงการ ของในหลวง ร.9 ต้องคอยดูแลเยอะแยะ หลังการสวรรคตของร.9 รัฐบาลทำเรื่องกราบบังคมทูล อัญเชิญให้เข้ารับตำแหน่ง เป็นรัชกาลที่10 หากพระองค์ไม่รับตำแหน่ง ก็คงไปอยู่ต่างประเทศ ดำเนินชีวิตตามปกติของคนทั่วไป แต่เป็นเพราะเบ้าหลอมที่ถูกโยนเข้าไปตั้งแต่เยาว์วัยซึ่งสอนให้รู้ว่า พระองค์เลือกเกิดไม่ได้ เพราะการสืบทอดอำนาจทางสายโลหิต มันไม่ได้เกิดจากตัวท่านเองอยากมาเป็น แต่ว่าฟ้าเบื้องบนเขากำหนดมาแบบนี้ จึงต้องลุกขึ้น แล้วลงมือพายนาวาฝ่ามรสุมกันต่อไป เพียงหวังว่า คงไม่มีใครเอาเท้าลงไปราน้ำ เพราะคนพายมันเหนื่อยสายตัวแทบขาด.. ~~~~ รักในหลวง...
    Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 419 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอเชิญชมนิทรรศการ แผนที่ประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ ๒๕๑๕ จัดขึ้น ณ ห้องสมุดคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างวันที่ ๒๓ กันยายน ถึงวันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๗ นี้

    กรุงเทพฯ ๒๕๑๕
    นิทรรศการ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
    เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗

    ในปีพุทธศักราช ๒๕๑๕ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ เจริญพระชนมายุครบ ๒๐ พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม เฉลิมพระราชอิสริยยศขึ้นเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ตามโบราณขัตติยราชประเพณี เป็นสยามมกุฎราชกุมารพระองค์ที่สาม ในพระบรมราชจักรีวงศ์ ดำรงพระราชอิสริยยศจวบจนปีพุทธศักราช ๒๕๕๙ จึงเสด็จขึ้นครองราชย์เป็น พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

    ในปีพุทธศักราช ๒๕๖๗ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวเจริญพระชนมายุครบ ๖ รอบ ๗๒ พรรษา อันเป็นมหามงคลสมัย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงจัดนิทรรศการ เฉลิมพระเกียรติ เรื่อง กรุงเทพฯ ๒๕๑๕ ขึ้น เพื่อฉายให้เห็นภูมิลักษณ์ สถาปัตยกรรมและผังเมืองกรุงเทพฯ เมื่อครึ่งศตวรรษที่ล่วงมา จัดแสดงแผนที่ประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ ๒๕๑๕ มาตราส่วน ๑ : ๑๐๐๐ จำนวน ๗๒ ระวาง

    แผนที่ประวัติศาสตร์ ชุดนี้ กองทุนรัชดาภิเษกสมโภช และเงินทุนเฉลิมฉลองสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้สนับสนุนให้ หน่วยวิจัยแผนที่และเอกสารประวัติศาสตร์ฯ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ดำเนินการคัดลอกจากแผนที่เก่า ของหน่วยแผนที่ กองตำรวจจราจร กรมตำรวจ ที่จัดทำขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อให้เป็นฐานข้อมูล สำหรับการเรียนการสอนและวิจัย ที่จะนำไปสู่ การสืบสาน รักษา และต่อยอด องค์ความรู้สถาปัตยกรรม และเมือง กรุงเทพฯ ตามแนวพระราชดำริสืบไป

    นิทรรศการ แผนที่ประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ ๒๕๑๕ จัดขึ้น ณ ห้องสมุดคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างวันที่ ๒๓ กันยายน ถึงวันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๗

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/dcjWxZz8CoV3Y2qq/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    ขอเชิญชมนิทรรศการ แผนที่ประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ ๒๕๑๕ จัดขึ้น ณ ห้องสมุดคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างวันที่ ๒๓ กันยายน ถึงวันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๗ นี้ กรุงเทพฯ ๒๕๑๕ นิทรรศการ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ในปีพุทธศักราช ๒๕๑๕ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ เจริญพระชนมายุครบ ๒๐ พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม เฉลิมพระราชอิสริยยศขึ้นเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ตามโบราณขัตติยราชประเพณี เป็นสยามมกุฎราชกุมารพระองค์ที่สาม ในพระบรมราชจักรีวงศ์ ดำรงพระราชอิสริยยศจวบจนปีพุทธศักราช ๒๕๕๙ จึงเสด็จขึ้นครองราชย์เป็น พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปีพุทธศักราช ๒๕๖๗ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวเจริญพระชนมายุครบ ๖ รอบ ๗๒ พรรษา อันเป็นมหามงคลสมัย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงจัดนิทรรศการ เฉลิมพระเกียรติ เรื่อง กรุงเทพฯ ๒๕๑๕ ขึ้น เพื่อฉายให้เห็นภูมิลักษณ์ สถาปัตยกรรมและผังเมืองกรุงเทพฯ เมื่อครึ่งศตวรรษที่ล่วงมา จัดแสดงแผนที่ประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ ๒๕๑๕ มาตราส่วน ๑ : ๑๐๐๐ จำนวน ๗๒ ระวาง แผนที่ประวัติศาสตร์ ชุดนี้ กองทุนรัชดาภิเษกสมโภช และเงินทุนเฉลิมฉลองสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้สนับสนุนให้ หน่วยวิจัยแผนที่และเอกสารประวัติศาสตร์ฯ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ดำเนินการคัดลอกจากแผนที่เก่า ของหน่วยแผนที่ กองตำรวจจราจร กรมตำรวจ ที่จัดทำขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อให้เป็นฐานข้อมูล สำหรับการเรียนการสอนและวิจัย ที่จะนำไปสู่ การสืบสาน รักษา และต่อยอด องค์ความรู้สถาปัตยกรรม และเมือง กรุงเทพฯ ตามแนวพระราชดำริสืบไป นิทรรศการ แผนที่ประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ ๒๕๑๕ จัดขึ้น ณ ห้องสมุดคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างวันที่ ๒๓ กันยายน ถึงวันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๗ ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/dcjWxZz8CoV3Y2qq/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 642 มุมมอง 0 รีวิว
  • #นับจากนี้ไปคนไทยจะตาสว่างเสียที
    ความเคลื่อนไหวของกลุ่ม ค-อ-ม-มิ-ว-นิ-ส ในประเทศไทย
    มีมาโดยตลอด แต่อดีตจะทำแบบแอบๆทำ รู้กันเฉพาะกลุ่ม
    ภายใต้หนังสือและเว็บไซต์ที่ชื่อฟ้าเดียวกันที่มีเนื้อหา
    ที่บิดเบือนประวัติศาสตร์ให้ร้ายต่อสถาบันกษัตรย์
    คาดว่าในเวลานั้น ธนาธรใช้ทุนส่วนตัวในการเคลื่อนไหวอย่างไม่กระโตกกระตากนัก โดยมีนายชัยธวัชหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนสุดท้ายก่อนถูกยุบเป็นบรรณาธิการอย่างเปิดเผย
    แต่วันหนึ่ง ธนาธร ช่อ และปิยบุตร เหมือนได้พลังวิเศษ
    คิดใหญ่ ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งในช่วงแรก
    คนไทยยังรู้สึกถึงความหวังว่าการเมืองในประเทศไทย
    น่าจะเปลี่ยนไปได้ด้วยมือของคนรุ่นใหม่
    ทำให้ได้คะแนนเสียงมากอย่างน่าตกใจ
    รวมถึงการนำระบบไอโอบอท มาใช้ก่อนใคร
    ปั้นกระแสทวิตเตอร์ กำหนดเทรนให้มีแต่เรื่องราวของพรรคอนาคตใหม่
    ทำให้สื่อทุกสำนักวนเวียนอยู่แต่กับพรรคและคนของพรรคอนาคตใหม่เวลานั้น จนทำให้เกิดอุปทานหมู่ เวลาใครไปคอมเม้นตรงข้าม ก็ใช้บอทไอโอเข้าไปถล่ม จนคนคิดต่างไม่กล้าไปยุ่งเพราะเข้าใจว่า บอทไอโอคือคนจริงๆ
    เกิดปรากฏการคอมเม้นเป็นรูปส้มพร้อมกัน
    แต่เรื่องก็มาแตก ที่วิโรจน์ถ่ายรูปพร้อมอุปกรณ์มือถือหลายสิบเครื่องที่เป็นอุปกรณ์บอทไอโอที่นำเข้าระบบมาจากเวียดนาม
    แต่ตอนนี้ ทุกแพลตฟอร์มต่างปรับตัวและป้องกันบอทไอโอและลบแอคเค้าบอทออกจากระบบแทบเกลี้ยง ทำให้ทุกวันนี้แม้แต่ไลฟ์สดของหัวหน้าพรรคเอง หรือนายพิธาก็ยังมีคนดูแค่สามสี่ร้อยคน
    ยังรวมไปถึงการที่พรรคก้าวไกลไม่กล้าทำในสิ่งที่มีความเสี่ยงต่อกฏหมาย
    ก็ยังมีงบจำนวนมหาศาลที่มีหลักฐานและพยานว่าบุ้งได้รับมาจากการส่งภาพการก่อความวุ่นวายจากสมุน และได้ตังมาก็เอามาเปย์ผู้ และให้เด็กในสังกัดกินอดๆอยากๆ แต่ต้นทางน้ำมานั้น จำนวนมหาศาล ถึงขนาดที่ตรวจสอบบัญชีเพนกวิ้น มีไม่ต่ำกว่า ุ60 ล้านบาท เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องลับเซิทหาได้เป็นข้อมูลจากทางการไทยเองและทรายเจริญปุระ ก็เคยออกมาคอนเฟิร์มเองด้วยซ้ำ
    คำถามว่า งบทำบอทไอโอ งบสร้างความวุ่นวายในนามกลุ่มทะลุวัง หรือ งบในการสร้างพรรค มันเอามาจากไหนกันนะ
    ก็พบว่ามีการสืบเส้นทางการเงินมีองค์กรอิสระองค์กรหนึ่งของต่างชาติ เป็นจุดเชื่อมโยงเงินจากบางคนในสหรัฐเข้ากระเป๋าคนเหล่านี้
    จนในที่สุด ความจริงก็ถูกเปิด ด้วยการที่ผู้นำจิตวิญญาณของอนาคตใหม่หรือพรรคก้าวไกล ต่างเข้านอกออกในสถานฑูตสหรัฐประจำประเทศไทยเป็นว่าเล่น ไม่เว้นแม้แต่เสี่ยเพนกวิ้นเช่นกัน
    จนมาถึงวันนี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ก้าวไกลเป็นพรรคที่ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรเป็นประมุข
    องค์กรแอมเนสตี้ ถึงขนาดออกอาการเหิมเกริม สั่งศาลรัฐธรรมนูญให้รีบกลับคำตัดสิน ซึ่งไม่เคยมีเหตุการละเมิดศาลจากองค์กรต่างชาติแบบนี้มาก่อนในประเทศไทย
    นอกจากนั้น ทูต 18 ประเทศ ที่ทำเกินหน้าที่การเป็นทูตประจำประเทศไทย รวมไปถึง สว.สหรัฐก็ออกมาขู่ศาลไทย อย่างกร่างๆ
    ดังนั้น ที่คิงส์โพธิ์แดงเคยให้ข้อมูลว่า เมกาคือผู้อยู่เ้บื้องหลัง
    ความพยายามในการก้าวก่าย และให้การสนับสนุนส่งเสริมกลุ่มคนที่ให้ร้ายจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตรย์มาโดยตลอดนั้น ก็คือสหรัฐอเมริกา
    ที่มีเป้าหมายในการแก้ไขม.112 นั้น มีความชัดเจนแม้ว่าหากตัดข้อนี้ไปพรรคอื่นๆก็พร้อมร่วมจัดตั้งรัฐบาล แต่เพราะเหตุใดทั้งพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล จึงยืนยันในจุดยืนนี้มาตลอด
    นั่นก็เพราะงบประมาณที่ให้การสนับสนุน ก็ให้มาทำเรื่องนี้โดยตรง
    เพราะการที่แก้ไขม112 โดยการให้ร้าย บิดเบือน พระมหากษัตย์ได้โดยผิดน้อยที่สุดหรือไม่ผิดเลยท ก็คุ้มค่าต่อความเสี่ยงที่จะปั้นแต่งปลุกปั่นให้คนไทยรุ่นใหม่ มีความชิงชังสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะสหรัฐไม่มีฐานทัพในโซนนี้ หากได้ประเทศไทยในการตั้งฐานทัพด้วยการสร้างสถานการณ์ต่างๆ ก็จะสามารถส่งจรวดไปจีนได้ในระยะวิถีกรณีมีความขัดแย้งกันระหว่างประเทศมหาอำนาจ (ซึ่งข้อมูลเรื่องสหรัฐมีเป้าหมายตั้งฐานทัพในประเทศไทย มีหลักฐานอยู่ทั้งที่วิทยาลัยป้องกันราชอนาจักร และฝ่ายความมั่นคงจำนวนไม่น้อย)
    ....และโดยเฉพาะตอนนี้ จีนแผ่นดินใหญ่ก็ได้ใช้สูตรทางเศรษฐกิจและการลงทุนเข้ามาขายอนาเขตแบบเนียนๆทั้งกำพูชา สปปลาว และพม่าแล้ว เหลือแค่ไทยที่ขยับเข้ามาได้ยากกว่าประเทศเพื่อนบ้านมากนักแต่ก็มาแล้วพอสมควรทีเดียว
    แต่สหรัฐที่ยังไม่สามารถมาตั้งฐานทัพในประเทศไทยหรือยึดประเทศไทยได้นั้น เพราะประเทศไทยมีสถาบันพระมหากษัตรที่ทรงอยู่เหนือการเมือง เป็นผู้ทรงให้ทรงเมตตาต่อพสกนิกรในทุกยุคทุกรัชสมัยจวบถึงปัจจุบัน มีผู้จงรักษภักดีต่อพระองค์ที่รักษาปกป้องไว้ซึ่งสามสถาบันหลักที่ยืนหยัดมั่นคงในความเป็นชาติได้ ดังนั้น ม.112 จึงเป็นกูญแจสำคัญที่ก้าวไกลและอนาคตใหม่พยายามผลักดันกฏหมายด้วยวาทะกรรมต่างๆให้ผู้หมิ่นสถาบันผิดน้อยที่สุดหรือไม่ผิดเลยตามกฏหมายนั่นเอง ไม่มีสถาบันกษัตริย์ก็สิ้นชาติ
    หากสังเกตุให้ดีแม้กระทั่งมีเป้าหมายลดกำลังทหาร ก็เพื่อบั่นทอนความมั่นคงของชาติ โดยนำจุดบกพร่องเพียงส่วนน้อย มาตีให้เป็นเรื่อง่ส่วนใหญ่ เพื่อสร้างความชอบธรรมและได้คะแนนเสียงกับกลุ่มเด็กโตที่กำลังจะเกณฑ์และกลัวการเป็นทหารมาเป็นคะแนนเสียงร่วม และพฤติกรรมที่สร้างแนวคิดไม่ให้ลูกมีความกตัญญูกับพ่อแม่ นั่นก็เพราะเมื่อเด็กห่างอกพ่อแม่ก็จะสามารถชักจูงได้โดยง่าย และเป็นฐานมวลชนที่พวกเขาเหล่านี้จูงไปไหนก็ไป
    ดังนั้น ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่คิงส์โพธิ์แดง นำเสนอมาโดยตลอด และทุกอย่างในข้อมูลของโพสนี้ได้มอบให้นั้น ล้วนมีหลักฐาน มีพยานที่หาได้ไม่ยากเลย
    ยกตัวอย่างเช่น ภาพเพนกวิ้น ที่เข้านอกออกในสถานฑุตสหรัฐก็มีให้เห็นอยู่ดาษดื่น
    ดังนั้นพี่น้องชาวไทยอย่าแปลกใจถึงการเคลื่อนไหวขององค์กรอิสระต่างชาติ หรือแม้กระทั่ง นาโต้ un รวมถึงความพยายามกดดันโดนทูตตะวันตกประจำประเทศไทย นั่นเพราะเรามีกลุ่มค-อ-ม-มิ-ว-นิ-ส-ต-ก-ยุ-ค อย่าธร ข่อ ปิยะบุตร และตัวแม่อย่างเจี๊ยบอมรัตน์ที่คิดว่าจะห-ล-อ-ก ใช้งบและอำนาจของสหรัฐและกลุ่มยุโรปเพื่อสานฝันของตัวเอง แต่แท้ที่จริงกลับถูกเค้าใช้ตัวเองเป็นเครื่องมือยึดประเทศไทยเป็นฐานไม่รู้ตัว และมีคนอยากดังแบบพิธา ไอติม และสก็อยอย่างไอซ์ คนไม่อยากเป็นทหารอย่างจิรัฐ ก็มั่วๆรวมๆกันอยู่และยอมแลกความมั่นคงของชาติกับผลประโยชน์ส่วนตัว
    นับจากวันที่ 7 สิงหา 67 นี้ไป เราจะถูกรุมวิจารณ์และกดดันจากสหรัฐและพันธมิตรผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงองค์กรอิสระมากมาย
    คิงส์โพธิ์แดงจึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยผู้รักชาติรับสถาบันร่วมกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตรย์ และ
    ช่วยเผยแพร่ความรู้นี้สู่พี่น้องชาวไทยเพื่อให้ประเทศไทยยังคงอยู่สืบไปนานเท่านาน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #นับจากนี้ไปคนไทยจะตาสว่างเสียที ความเคลื่อนไหวของกลุ่ม ค-อ-ม-มิ-ว-นิ-ส ในประเทศไทย มีมาโดยตลอด แต่อดีตจะทำแบบแอบๆทำ รู้กันเฉพาะกลุ่ม ภายใต้หนังสือและเว็บไซต์ที่ชื่อฟ้าเดียวกันที่มีเนื้อหา ที่บิดเบือนประวัติศาสตร์ให้ร้ายต่อสถาบันกษัตรย์ คาดว่าในเวลานั้น ธนาธรใช้ทุนส่วนตัวในการเคลื่อนไหวอย่างไม่กระโตกกระตากนัก โดยมีนายชัยธวัชหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนสุดท้ายก่อนถูกยุบเป็นบรรณาธิการอย่างเปิดเผย แต่วันหนึ่ง ธนาธร ช่อ และปิยบุตร เหมือนได้พลังวิเศษ คิดใหญ่ ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งในช่วงแรก คนไทยยังรู้สึกถึงความหวังว่าการเมืองในประเทศไทย น่าจะเปลี่ยนไปได้ด้วยมือของคนรุ่นใหม่ ทำให้ได้คะแนนเสียงมากอย่างน่าตกใจ รวมถึงการนำระบบไอโอบอท มาใช้ก่อนใคร ปั้นกระแสทวิตเตอร์ กำหนดเทรนให้มีแต่เรื่องราวของพรรคอนาคตใหม่ ทำให้สื่อทุกสำนักวนเวียนอยู่แต่กับพรรคและคนของพรรคอนาคตใหม่เวลานั้น จนทำให้เกิดอุปทานหมู่ เวลาใครไปคอมเม้นตรงข้าม ก็ใช้บอทไอโอเข้าไปถล่ม จนคนคิดต่างไม่กล้าไปยุ่งเพราะเข้าใจว่า บอทไอโอคือคนจริงๆ เกิดปรากฏการคอมเม้นเป็นรูปส้มพร้อมกัน แต่เรื่องก็มาแตก ที่วิโรจน์ถ่ายรูปพร้อมอุปกรณ์มือถือหลายสิบเครื่องที่เป็นอุปกรณ์บอทไอโอที่นำเข้าระบบมาจากเวียดนาม แต่ตอนนี้ ทุกแพลตฟอร์มต่างปรับตัวและป้องกันบอทไอโอและลบแอคเค้าบอทออกจากระบบแทบเกลี้ยง ทำให้ทุกวันนี้แม้แต่ไลฟ์สดของหัวหน้าพรรคเอง หรือนายพิธาก็ยังมีคนดูแค่สามสี่ร้อยคน ยังรวมไปถึงการที่พรรคก้าวไกลไม่กล้าทำในสิ่งที่มีความเสี่ยงต่อกฏหมาย ก็ยังมีงบจำนวนมหาศาลที่มีหลักฐานและพยานว่าบุ้งได้รับมาจากการส่งภาพการก่อความวุ่นวายจากสมุน และได้ตังมาก็เอามาเปย์ผู้ และให้เด็กในสังกัดกินอดๆอยากๆ แต่ต้นทางน้ำมานั้น จำนวนมหาศาล ถึงขนาดที่ตรวจสอบบัญชีเพนกวิ้น มีไม่ต่ำกว่า ุ60 ล้านบาท เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องลับเซิทหาได้เป็นข้อมูลจากทางการไทยเองและทรายเจริญปุระ ก็เคยออกมาคอนเฟิร์มเองด้วยซ้ำ คำถามว่า งบทำบอทไอโอ งบสร้างความวุ่นวายในนามกลุ่มทะลุวัง หรือ งบในการสร้างพรรค มันเอามาจากไหนกันนะ ก็พบว่ามีการสืบเส้นทางการเงินมีองค์กรอิสระองค์กรหนึ่งของต่างชาติ เป็นจุดเชื่อมโยงเงินจากบางคนในสหรัฐเข้ากระเป๋าคนเหล่านี้ จนในที่สุด ความจริงก็ถูกเปิด ด้วยการที่ผู้นำจิตวิญญาณของอนาคตใหม่หรือพรรคก้าวไกล ต่างเข้านอกออกในสถานฑูตสหรัฐประจำประเทศไทยเป็นว่าเล่น ไม่เว้นแม้แต่เสี่ยเพนกวิ้นเช่นกัน จนมาถึงวันนี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ก้าวไกลเป็นพรรคที่ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรเป็นประมุข องค์กรแอมเนสตี้ ถึงขนาดออกอาการเหิมเกริม สั่งศาลรัฐธรรมนูญให้รีบกลับคำตัดสิน ซึ่งไม่เคยมีเหตุการละเมิดศาลจากองค์กรต่างชาติแบบนี้มาก่อนในประเทศไทย นอกจากนั้น ทูต 18 ประเทศ ที่ทำเกินหน้าที่การเป็นทูตประจำประเทศไทย รวมไปถึง สว.สหรัฐก็ออกมาขู่ศาลไทย อย่างกร่างๆ ดังนั้น ที่คิงส์โพธิ์แดงเคยให้ข้อมูลว่า เมกาคือผู้อยู่เ้บื้องหลัง ความพยายามในการก้าวก่าย และให้การสนับสนุนส่งเสริมกลุ่มคนที่ให้ร้ายจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตรย์มาโดยตลอดนั้น ก็คือสหรัฐอเมริกา ที่มีเป้าหมายในการแก้ไขม.112 นั้น มีความชัดเจนแม้ว่าหากตัดข้อนี้ไปพรรคอื่นๆก็พร้อมร่วมจัดตั้งรัฐบาล แต่เพราะเหตุใดทั้งพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล จึงยืนยันในจุดยืนนี้มาตลอด นั่นก็เพราะงบประมาณที่ให้การสนับสนุน ก็ให้มาทำเรื่องนี้โดยตรง เพราะการที่แก้ไขม112 โดยการให้ร้าย บิดเบือน พระมหากษัตย์ได้โดยผิดน้อยที่สุดหรือไม่ผิดเลยท ก็คุ้มค่าต่อความเสี่ยงที่จะปั้นแต่งปลุกปั่นให้คนไทยรุ่นใหม่ มีความชิงชังสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะสหรัฐไม่มีฐานทัพในโซนนี้ หากได้ประเทศไทยในการตั้งฐานทัพด้วยการสร้างสถานการณ์ต่างๆ ก็จะสามารถส่งจรวดไปจีนได้ในระยะวิถีกรณีมีความขัดแย้งกันระหว่างประเทศมหาอำนาจ (ซึ่งข้อมูลเรื่องสหรัฐมีเป้าหมายตั้งฐานทัพในประเทศไทย มีหลักฐานอยู่ทั้งที่วิทยาลัยป้องกันราชอนาจักร และฝ่ายความมั่นคงจำนวนไม่น้อย) ....และโดยเฉพาะตอนนี้ จีนแผ่นดินใหญ่ก็ได้ใช้สูตรทางเศรษฐกิจและการลงทุนเข้ามาขายอนาเขตแบบเนียนๆทั้งกำพูชา สปปลาว และพม่าแล้ว เหลือแค่ไทยที่ขยับเข้ามาได้ยากกว่าประเทศเพื่อนบ้านมากนักแต่ก็มาแล้วพอสมควรทีเดียว แต่สหรัฐที่ยังไม่สามารถมาตั้งฐานทัพในประเทศไทยหรือยึดประเทศไทยได้นั้น เพราะประเทศไทยมีสถาบันพระมหากษัตรที่ทรงอยู่เหนือการเมือง เป็นผู้ทรงให้ทรงเมตตาต่อพสกนิกรในทุกยุคทุกรัชสมัยจวบถึงปัจจุบัน มีผู้จงรักษภักดีต่อพระองค์ที่รักษาปกป้องไว้ซึ่งสามสถาบันหลักที่ยืนหยัดมั่นคงในความเป็นชาติได้ ดังนั้น ม.112 จึงเป็นกูญแจสำคัญที่ก้าวไกลและอนาคตใหม่พยายามผลักดันกฏหมายด้วยวาทะกรรมต่างๆให้ผู้หมิ่นสถาบันผิดน้อยที่สุดหรือไม่ผิดเลยตามกฏหมายนั่นเอง ไม่มีสถาบันกษัตริย์ก็สิ้นชาติ หากสังเกตุให้ดีแม้กระทั่งมีเป้าหมายลดกำลังทหาร ก็เพื่อบั่นทอนความมั่นคงของชาติ โดยนำจุดบกพร่องเพียงส่วนน้อย มาตีให้เป็นเรื่อง่ส่วนใหญ่ เพื่อสร้างความชอบธรรมและได้คะแนนเสียงกับกลุ่มเด็กโตที่กำลังจะเกณฑ์และกลัวการเป็นทหารมาเป็นคะแนนเสียงร่วม และพฤติกรรมที่สร้างแนวคิดไม่ให้ลูกมีความกตัญญูกับพ่อแม่ นั่นก็เพราะเมื่อเด็กห่างอกพ่อแม่ก็จะสามารถชักจูงได้โดยง่าย และเป็นฐานมวลชนที่พวกเขาเหล่านี้จูงไปไหนก็ไป ดังนั้น ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่คิงส์โพธิ์แดง นำเสนอมาโดยตลอด และทุกอย่างในข้อมูลของโพสนี้ได้มอบให้นั้น ล้วนมีหลักฐาน มีพยานที่หาได้ไม่ยากเลย ยกตัวอย่างเช่น ภาพเพนกวิ้น ที่เข้านอกออกในสถานฑุตสหรัฐก็มีให้เห็นอยู่ดาษดื่น ดังนั้นพี่น้องชาวไทยอย่าแปลกใจถึงการเคลื่อนไหวขององค์กรอิสระต่างชาติ หรือแม้กระทั่ง นาโต้ un รวมถึงความพยายามกดดันโดนทูตตะวันตกประจำประเทศไทย นั่นเพราะเรามีกลุ่มค-อ-ม-มิ-ว-นิ-ส-ต-ก-ยุ-ค อย่าธร ข่อ ปิยะบุตร และตัวแม่อย่างเจี๊ยบอมรัตน์ที่คิดว่าจะห-ล-อ-ก ใช้งบและอำนาจของสหรัฐและกลุ่มยุโรปเพื่อสานฝันของตัวเอง แต่แท้ที่จริงกลับถูกเค้าใช้ตัวเองเป็นเครื่องมือยึดประเทศไทยเป็นฐานไม่รู้ตัว และมีคนอยากดังแบบพิธา ไอติม และสก็อยอย่างไอซ์ คนไม่อยากเป็นทหารอย่างจิรัฐ ก็มั่วๆรวมๆกันอยู่และยอมแลกความมั่นคงของชาติกับผลประโยชน์ส่วนตัว นับจากวันที่ 7 สิงหา 67 นี้ไป เราจะถูกรุมวิจารณ์และกดดันจากสหรัฐและพันธมิตรผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงองค์กรอิสระมากมาย คิงส์โพธิ์แดงจึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยผู้รักชาติรับสถาบันร่วมกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตรย์ และ ช่วยเผยแพร่ความรู้นี้สู่พี่น้องชาวไทยเพื่อให้ประเทศไทยยังคงอยู่สืบไปนานเท่านาน #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1673 มุมมอง 0 รีวิว