• พักผ่อนและดื่มด่ำกับความงดงามของสองฝั่งแม่น้ำบนเรือ Viking River Cruises พร้อมบรรยากาศสุดโรแมนติกของแม่น้ำดานูบ 🏰✨

    🛳 แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำดานูบ, Viking River, Cruise Only, ขึ้นพัสเซา - ลงบูดาเปสต์ 8 วัน 7 คืน
    📍 เส้นทาง : พัสเซา, เยอรมนี - ลินซ์, ออสเตรีย - เครมส์, ออสเตรีย - เวียนนา, ออสเตรีย - บราติสลาวา, สโลวาเกีย - บูดาเปสต์, ฮังการี
    💬 เดินทาง มี.ค. - พ.ย. 2568

    ⚠️ Special Offer ลด 2,300 AUD ต่อท่าน (พักห้องคู่) ภายใน 15 พ.ย. 67 หรือ จนกว่าห้องจะเต็ม ⚠️
    💸 ราคาเริ่มต้น : AUD5,695 ลดเหลือ เริ่มต้น AUD3,395
    ⭕️ รวมห้องพักบนเรือสำราญ
    ⭕️ รวมทัวร์เสริม

    ➡️ รหัสแพคเกจทัวร์ : VKRP-8D7N-PAS-BUD-2511251
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e7f643

    ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    ☎️: 0 2116 9696 (Auto)
    #เรือVikingRiverCruises #แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำ #แม่น้ำดานูบ #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #CruiseDomain
    พักผ่อนและดื่มด่ำกับความงดงามของสองฝั่งแม่น้ำบนเรือ Viking River Cruises พร้อมบรรยากาศสุดโรแมนติกของแม่น้ำดานูบ 🏰✨ 🛳 แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำดานูบ, Viking River, Cruise Only, ขึ้นพัสเซา - ลงบูดาเปสต์ 8 วัน 7 คืน 📍 เส้นทาง : พัสเซา, เยอรมนี - ลินซ์, ออสเตรีย - เครมส์, ออสเตรีย - เวียนนา, ออสเตรีย - บราติสลาวา, สโลวาเกีย - บูดาเปสต์, ฮังการี 💬 เดินทาง มี.ค. - พ.ย. 2568 ⚠️ Special Offer ลด 2,300 AUD ต่อท่าน (พักห้องคู่) ภายใน 15 พ.ย. 67 หรือ จนกว่าห้องจะเต็ม ⚠️ 💸 ราคาเริ่มต้น : AUD5,695 ลดเหลือ เริ่มต้น AUD3,395 ⭕️ รวมห้องพักบนเรือสำราญ ⭕️ รวมทัวร์เสริม ➡️ รหัสแพคเกจทัวร์ : VKRP-8D7N-PAS-BUD-2511251 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e7f643 ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #เรือVikingRiverCruises #แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำ #แม่น้ำดานูบ #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #CruiseDomain
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันพักผ่อน
    วันพักผ่อน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยืดเยื้อต่อเนื่อง รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน เลื่อนเสนอ ครม.เคาะแก้สัญญา
    .
    เริ่มส่งสัญญาณส่อเค้ายืดเยื้ออีกแล้วสำหรับการเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จากเดิมที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประกาศอย่างมั่นใจว่าการแก้ไขสัญญากับเอกชนจะจบและเสนอให้คณะรัฐมนตรีเคาะได้ภายในเดือนตุลาคม ปรากฎว่าต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดอีกครั้ง
    .
    โดยนายสุริยะ ยอมรับว่า สัปดาห์นี้เรื่องดังกล่าวยังไม่เข้าที่ประชุม ครม. เพราะต้องไปดูรายระเอียดอีกรอบ ซึ่งขณะนี้ได้มีการส่งไปที่คณะกรรมการของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ซึ่งนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังดูแลอยู่
    .
    ทั้งนี้ มีรายงานว่าประเด็นที่กระทรวงคมนาคมต้องนำกลับมาพิจารณาอีกครั้ง คือ การแก้ไขสัญญาใน 5 ประเด็นสำคัญได้แก่
    .
    1.วิธีชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุน จากเดิมเมื่อเอกชนเปิดเดินรถไฟความเร็วสูง รัฐจะแบ่งจ่าย 149,650 ล้านบาท ปรับเป็นลักษณะสร้างไปจ่ายไป
    .
    2.กำหนดการชำระค่าสิทธิให้ร่วมลงทุนในโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ โดยให้เอกชนแบ่งชำระค่าสิทธิ 10,671 ล้านบาท เป็น 7 งวด เป็นรายปี จำนวนเท่ากัน
    .
    3.กำหนดส่วนแบ่งผลประโยชน์ตอบแทนหากอนาคตอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของโครงการลดลง จนทำให้เอกชนได้ผลประโยชน์ตอบแทนเพิ่มขึ้นเกิน 5.52% รฟท.มีสิทธิเรียกให้เอกชนชําระส่วนแบ่งผลประโยชน์เพิ่มได้
    .
    4.การยกเว้นเงื่อนไขการออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน และ
    .
    5.การป้องกันปัญหาในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสถานะทางการเงินของโครงการ โดยปรับปรุงข้อสัญญาในส่วนเหตุสุดวิสัยและเหตุผ่อนผัน ให้สอดคล้องกับสัญญาร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนในโครงการอื่น

    ขณะเดียวกัน เริ่มมีเสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสมในการแก้ไขสัญญาดังกล่าว ทั้งๆที่ฝ่ายรัฐกับเอกชนได้ลงนามไปแล้วแต่ไม่อาจเดินหน้าโครงการได้ เนื่องจากคู่สัญญาฝ่ายเอกชนอ้างเหตุผลเรื่องภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
    .............
    Sondhi X
    ยืดเยื้อต่อเนื่อง รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน เลื่อนเสนอ ครม.เคาะแก้สัญญา . เริ่มส่งสัญญาณส่อเค้ายืดเยื้ออีกแล้วสำหรับการเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จากเดิมที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประกาศอย่างมั่นใจว่าการแก้ไขสัญญากับเอกชนจะจบและเสนอให้คณะรัฐมนตรีเคาะได้ภายในเดือนตุลาคม ปรากฎว่าต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดอีกครั้ง . โดยนายสุริยะ ยอมรับว่า สัปดาห์นี้เรื่องดังกล่าวยังไม่เข้าที่ประชุม ครม. เพราะต้องไปดูรายระเอียดอีกรอบ ซึ่งขณะนี้ได้มีการส่งไปที่คณะกรรมการของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ซึ่งนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังดูแลอยู่ . ทั้งนี้ มีรายงานว่าประเด็นที่กระทรวงคมนาคมต้องนำกลับมาพิจารณาอีกครั้ง คือ การแก้ไขสัญญาใน 5 ประเด็นสำคัญได้แก่ . 1.วิธีชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุน จากเดิมเมื่อเอกชนเปิดเดินรถไฟความเร็วสูง รัฐจะแบ่งจ่าย 149,650 ล้านบาท ปรับเป็นลักษณะสร้างไปจ่ายไป . 2.กำหนดการชำระค่าสิทธิให้ร่วมลงทุนในโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ โดยให้เอกชนแบ่งชำระค่าสิทธิ 10,671 ล้านบาท เป็น 7 งวด เป็นรายปี จำนวนเท่ากัน . 3.กำหนดส่วนแบ่งผลประโยชน์ตอบแทนหากอนาคตอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของโครงการลดลง จนทำให้เอกชนได้ผลประโยชน์ตอบแทนเพิ่มขึ้นเกิน 5.52% รฟท.มีสิทธิเรียกให้เอกชนชําระส่วนแบ่งผลประโยชน์เพิ่มได้ . 4.การยกเว้นเงื่อนไขการออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน และ . 5.การป้องกันปัญหาในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสถานะทางการเงินของโครงการ โดยปรับปรุงข้อสัญญาในส่วนเหตุสุดวิสัยและเหตุผ่อนผัน ให้สอดคล้องกับสัญญาร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนในโครงการอื่น ขณะเดียวกัน เริ่มมีเสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสมในการแก้ไขสัญญาดังกล่าว ทั้งๆที่ฝ่ายรัฐกับเอกชนได้ลงนามไปแล้วแต่ไม่อาจเดินหน้าโครงการได้ เนื่องจากคู่สัญญาฝ่ายเอกชนอ้างเหตุผลเรื่องภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ............. Sondhi X
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 331 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความรู้จากโค๊ชนาตาลี
    https://www.facebook.com/Natalie.Proenca
    https://www.facebook.com/loveandlightawakening/
    https://www.youtube.com/@HealthCoachNatalie
    https://www.youtube.com/@awakenwithnatalie
    https://healthcoachnatalie.podia.com

    ✍️รายการ On the way With Chom EP.11 คุณชมพู่ อารยา สัมภาษณ์ โค้ชนาตาลี ผู้เชี่ยวชาญด้านการดีท็อกซ์ต้านมะเร็ง มาคุยเกี่ยวกับการดีท็อกซ์ร่างกาย
    Facebook 👉 https://www.facebook.com/watch/?v=884245786743330
    Youtube 👉 https://youtu.be/19y5ZYGuKtA
    ✍️LIVE: 40 วิธีดีท็อกซ์ ถ้าคุณไม่อยากแก่เร็ว ห้ามพลาด
    https://www.youtube.com/live/TXQIPnmuZCs?si=bYh7DZVpT7jI2Z5A
    ✍️LIVE: คลิปดีท็อกซ์ปลิวอีกแล้ว! ห้ามพลาดไลฟ์นี้จะเอามาเล่าใหม่
    https://www.youtube.com/live/6eI1jiYjJZ8?si=tpxkIrxPf_f2jBAv
    ✍️Live: ดีท็อกซ์แบบไหนดีที่สุด และผลข้างเคียงที่คุณอาจจะต้องเจอ
    https://www.youtube.com/live/CTrDtjNb4oA?si=v8-3WTko-q3_8qV3
    ✍️LIVE: ถาม-ตอบเรื่องดีท็อกซ์และการบำบัดมะเร็ง
    https://www.youtube.com/live/bXF18zTQB6w?si=JJrbrw-bW_24uPhz
    ✍️🍹สูตรลับน้ำผักฟื้นฟูเซลล์และทำให้ร่างกายเป็นด่าง
    https://www.youtube.com/live/L7BRekpGRjI?si=2dm95slGs74rxx8A
    ✍️🧬รหัสโค้ดในดีเอ็นเอของมนุษย์ไม่ใช่เป็นของ GOD องค์ใดองค์หนึ่ง
    รหัสลับใน DNA ของคุณ มีความหมายซ่อนอยู่ในนั้นที่คุณต้องรู้
    https://www.youtube.com/live/eElgfF8V60Y?si=1XZQPkd7caVDfWY3
    ✍️Live: ซ่อมแซม DNA ด้วยเบต้ากลูแคน ได้จริงหรือ?
    https://www.youtube.com/live/ekNMQ7tHJ3Y?si=G6EPmOWfgExeWxu2
    ✍️ดีท็อกซ์แล้วอาการแย่ลงอาจเป็นเพราะเหตุนี้
    https://www.youtube.com/live/ToCiFmRYnkU?si=PYBJaK9ufUyRZJM_
    ✍️LIVE: วิตามินที่ควรพกไปทานช่วงเดินทาง
    https://www.youtube.com/live/Robzgp_IbPM?si=xk6hdNAQ-YMqB_x-
    ✍️ วิธี Energy Testing หาคำตอบด้วยตัวเองว่าอาหารและวิตามินอะไรที่คุณควรทาน วิธีที่คุณดูแลตัวเอง และใช้ subconscious จิตใต้สำนึก ตอบคำถามให้คุณได้อย่างแม่นยำ
    https://www.youtube.com/live/ia6UtLF42qo?si=J-crrMvxrlMp9oWf
    ✍️LIVE: รีชาร์จเซลล์ด้วย Energy Medicine - PEMF เทคโนโลยีใหม่สำหรับการบำบัดแห่งอนาคต
    https://www.youtube.com/live/h07Zdq2tYu8?si=7puWTAbO670fmAvb
    ✍️LIVE: TOP 11 ผักผลไม้และวิตามินที่ต้องทานในช่วงล้างพิษ
    https://www.youtube.com/live/ud843OO0AlQ?si=pb6WoVO_o4tYRGwC
    ✍️แจกสูตรลับน้ำผักดีท็อกซ์ที่ใช้มานานเกือบ 100 ปีแล้ว
    https://www.youtube.com/live/wJY6nbrFws4?si=guHGzPFOb46SfDAo
    ✍️QUANTUM HEALING การบำบัดในอนาคต
    EP.1 : https://www.youtube.com/live/SNVSfGGzWhQ?si=cpDnTB9SF0Z7rEL2
    EP2 : https://www.youtube.com/live/OYP9ooNsUEc?si=pFy-FA4yYyK8noC9
    EP3 : https://www.youtube.com/live/jGsUeYwLh0s?si=tbRgokDiKvDpA8l0
    ✍️LIVE: เทคโนโลยีใหม่ใช้รักษามาถึงแล้ว
    https://www.youtube.com/live/t_wWeVRsxMM?si=JF8diTyOPnyE6A9_
    ✍️มะเร็งสัมพันธ์กับจักระอย่างไร
    https://www.youtube.com/live/ASOHtPGOkXk?si=OdiQfFqUTSRHswtQ
    ✍️11สิ่งดีท็อกซ์สารพิษที่ธรรมชาติให้มา
    https://www.youtube.com/live/xcLYydbGdkQ?si=BZKfdkKfMMl9onca
    ✍️เคล็ดลับในการทานอาหารต้านมะเร็งที่ทำได้ตลอดกาล
    https://www.youtube.com/live/t6AuYN8xiHk?si=KoGucdbzRE9JxcSr
    ✍️เวิร์คช็อป #ดีท็อกซ์#ล้างพิษ พิชิตโรคแบบองค์รวม” กับโค้ชนาตาลีและทีมแพทย์จาก NOVAVIDA INTEGRATIVE MEDICAL CENTER
    https://youtu.be/tCZW6L6Xyuw?si=yppE4dPOk6IZ1mYD
    ✍️ความเป็นกรดและด่างในร่างกาย
    EP1 : ร่างงกายเราเป็นกรดได้อย่างไร และตอนท้ายสรุปด้วย 5 วิธีง่ายๆ ทำร่างกายให้เป็นด่างด้วยตัวคุณเอง
    https://youtu.be/mEw95s-2oRo?si=-7D8OVrKCKL2S-c4
    EP2 : การตรวจความเป็น กรด และด่าง
    https://youtu.be/hk1WrDffDPc?si=lHUsiXRR5huganWt
    ✍️Saffron ช่วย #ต้านมะเร็ง #ลดความเครียด และ #บำรุงสมอง ช่วยเรื่อง #อัลไซเมอร์ และ #โรคซึมเศร้า
    https://youtu.be/LB--y5lVQfk?si=Hg9y4DIl2ldQdJQa
    ✍️ทำไมต้องเจอเรื่องร้ายๆในชีวิต
    https://youtu.be/WrzE7dRMnTA?si=BVWAz1X8xHyQZmjX
    ✍️พลังบำบัดมหัศจรรย์ด้วยรหัสโค้ดเปลี่ยนคลื่นความถี่ - Star Magic Healing | สัมภาษณ์ Jerry Sargeant ชาวอังกฤษ ร่วมกับอ.ทีน่า
    https://youtu.be/1Wduzh_KhqQ?si=4rQI9hZbA26_D5BK
    ✍️#โจดิสเพนซา #คุณคือพลาซีโบ #สมาธิบำบัด
    ซีรีย์หนังสือเสียงเพื่อเป็นกำลังใจและเพิ่มความรู้ให้คุณ
    https://youtu.be/-3RBDQPj-74?si=sOxQF0AFuRMsli1V
    ✍️Pure Sound Crystal Singing Bowls 432 Hz Solfeggio melody #HealingVibration
    คลิปนี้เป็นเสียงของของคริสตัลโบล์ล้วนๆค่ะ ช่วยกำจัดอารมณ์วิตกกังวลได้อย่างดี
    https://youtu.be/NH5s5N3p_JM?si=173EG3GkKxleXn3Z
    ✍️#crystalsingingbowls เสียงเพลงเบาๆด้วยคลื่นความถี่ Frequency 432 Hz จาก crystal singing bowls เพลงสายทิพย์, Solfeggio Tuning forks และคลื่น 528 Hz จากเสียงเพลง binaural จะช่วยให้คุณผ่อนคลายและหลับสบาย
    https://youtu.be/sg2SS8go_P4?si=GaMPzPvusqQNvHgL
    ✍️#เสียงนำสมาธิ #manifest #ประตูมิติ
    ยังไม่สายที่จะทำสมาธิเพื่อเปิดรับพลังงานจากประตูมิติไลออน (Lion's Gate) กำลังเปิดรอคุณอยู่
    Lion's Gate ของปีนี้แรงกว่าปีที่แล้วค่ะ
    https://youtu.be/AJKysmti6tc?si=nf_g3BS2nuxvts1B
    ✍️เลือกเครื่องปั่นอย่างไรให้เหมาะกับตัวคุณ
    https://youtu.be/c7Gddf0XEp8?si=n2MzRZGp4T5RWs7W
    ✍️การสัมภาษณ์พญ.ณัฐณิชา การลพ จาก Novavida Integrative Medical Center มาให้ความรู้เรื่องการตรวจหามะเร็ง
    https://youtu.be/DS_ptQiSR-c?si=vVijM6ntBAoDzTQi
    ✍️ Finding Your Quantum True-Self “จูนพลังจิตควอนตัมหาตัวเองให้เจอ”
    https://youtu.be/uXXggX1ShoE?si=VCJVz-Cw2HCJNaf1
    ✍️สั่งจิตพิชิตมะเร็ง สิ่งสำคัญที่สุด
    https://youtu.be/T8ytSEd83zI?si=Fc3HlW30G7CnadUg
    ✍️#ตื่นรู้ #HU ครั้งแรกที่โค้ชนาตาลี สนทนากับลูกชายเรื่องการตื่นรู้ และแชร์ประสบการณ์จากการส่ง HU
    https://youtu.be/TMcW2bO_UT4?si=CmEJZiJXKaGCA7-M
    ✍️หลักฐานยืนยัน #DNA มนุษย์ถูกตัดต่อสองแสนปีที่แล้ว DNA ของมนุษย์ถูกเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร และ DNA ส่วนไหนที่ทำให้มนุษย์ต่างจากลิง
    https://youtu.be/SopVb_CQ2TY?si=snl5CfT1d1vHjWQe
    ✍️เพิ่งรู้ว่าเป็นมะเร็ง อยากได้กำลังใจให้ทำแบบนี้
    https://youtu.be/MIhClkNYQHs?si=qZNQqGEU8EhWzU6u
    ✍️วิธีติดตั้ง Glider กับส้อมเสียง OM
    https://youtu.be/OUtgNNesKjU?si=lJT5SGKEaJhP9Rdn
    ✍️คุณเคยสังเกตตัวเองมั้ยคะว่าคุณหายใจอย่างไร และมันสำคัญมากขนาดไหน ถ้าคุณหายใจผิดวิธีเป็นเวลานานๆ อาจทำให้คุณป่วยเป็นโรคได้หลายโรคค่ะ วิดีโอนี้เป็นการแนะนำวิธีปฏิบัติการหายใจให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยอ้างอิงจากหนังสือ “BREATH” เขียนโดย James Nestor https://youtu.be/wg01GqrPAsI?si=VyacPESRGh3f-z3S
    ✍️วิธีซ่อมแซม DNA ด้วยความรักและเทคนิค Freeze Frame
    https://youtu.be/54R-eA8vqsI?si=yKFSSp_Ya77dEJNH
    ✍️วิธีเปิดดีเอ็นเอที่ถูกปิดไว้นานแสนนานด้วยหลักวิทยาศาสตร์สมัยใหม่
    https://youtu.be/mkoPczNxBKY?si=tnKHn1FVLgBBkKor
    ✍️เปิดตาที่สามแล้วคุณจะมีพลังพิเศษ แอบรู้ความลับของต่อมไพเนียลที่คุณต้องรู้
    ✅ คลิปนี้บอกความลับของต่อมไพเนียลที่ถูกค้นพบไม่นานนี้เอง
    ✅ รูปปั้นของชาวอียิปต์โบราณพยายามจะบอกความลับอะไรกับคนสมัยใหม่
    ✅ วิธีสร้างสาร DMT ด้วยตัวคุณเอง
    ✅ และอาหารที่ช่วยล้างหินปูนที่เกาะต่อมไพเนียล
    https://youtu.be/2Yi_2QvU7qI?si=bn1XNJHYwWnTcDe2
    ✍️ความลับของกฎแรงดึงดูด ต้องเรียงลำดับขั้นตอน
    https://youtu.be/nAmM0XZRsxI?si=kQd8H3pELJDtVn0v
    ✍️สมาธิเปิดดีเอ็นเอ HU+528Hz+Light Language+ปรับจักระทั้ง7+ต้อนรับโลกใหม่(New Earth)
    https://youtu.be/AaGi_tIhOTc?si=pEGh3ALzBvgJXDv0
    ✍️ใครที่อยากจะหยุดทานเนื้อสัตว์แต่ยังทำไม่ได้ โค้ชนาตาลีมีเทคนิคที่ทำได้จริงของตัวเองมาแชร์ค่ะ
    https://youtu.be/bnNSUwjLBEo?si=EX1-D_f6W1fTlf0c
    ✍️ชาวไทยใหญ่ท่านหนึ่งกำจัดโรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีก Bell’s palsy ก้อนที่คอและอีกหลายโรคด้วยตัวเอง
    https://youtu.be/dVsPMkbCu_M?si=guwpxCqiSTBQP-oz
    ✍️สังคมใหม่ไม่ใช้เงิน ตลาดนัดออนไลน์ให้แลกเปลี่ยนสิ่งของโดยไม่ใช้เงิน
    https://youtu.be/iyXat83u7lA?si=ayC45Nu98XYKlHgc
    https://m.facebook.com/groups/1076808563215591/?ref=sharehttps://m.facebook.com/groups/1076808563215591/?ref=share&exp=93fa
    ✍️วิธีใช้ส้อมเสียง
    EP1 : https://youtu.be/J4FM5fSCIxU?si=b_yFf5wGVAjy7f2n
    EP2 : https://youtu.be/qvw_RcZJtPk?si=PqBEn3D8zeAVsu15
    ✍️การถอดจิต ความสามารถที่มนุษย์เราทุกคนควรจะมี Remote Viewing ประสบการณ์ดูไกลกับคุณนิมิต ภูติรัช
    https://youtu.be/5Ulzw-CGtkw?si=AYjhn6ULYM2eIB1O
    ✍️FC คุณปุ๊กมีชีวิตที่ดีขึ้นหลังการเป็นมะเร็งเต้านม คุณก็ทำได้เช่นกัน
    https://youtu.be/Q-92FdVArA0?si=VL7bX5f5cdas8hxT
    ✍️เคสคุณแอ้ว เอาชนะมะเร็งปากมดลูก ไม่คี…ไม่ฉาย…
    https://youtu.be/-zzf8ySllkw?si=c4uUWJBJU1tsGEnZ
    ✍️ คำถามเกี่ยวกับมะเร็ง ตอบโดย พญ.ณัฐณิชา Nanovida
    EP1 : การรักษามะเร็งทางเลือกใหม่ https://youtu.be/xLqEVY2YGak?si=ubuB14AdLQea1RT3
    EP2 : ใช้สมุนไพรและดื่มน้ำผักช่วงรับคีโมได้หรือไม่ https://youtu.be/9SJzxNwYaGU?si=FqYgHWb3FFvIQC1D
    ✍️วิธีปล่อยวาง อย่ายึดติดกับร่างกายของเรา กำลังใจให้ผู้ป่วยมะเร็ง
    https://youtu.be/Bp4qVYAYuLM?si=a2FIoqaqdGAp6sqd
    ✍️ไลฟ์สดโค๊ชนาตาลี การใช้ไอโอดีนดีท็อกซ์สารอะลูมิเนียมและล้างพิษวัคซีน
    https://www.youtube.com/live/54P3wpqp40U?si=oietvXlFz7d40gK1
    ความรู้จากโค๊ชนาตาลี https://www.facebook.com/Natalie.Proenca https://www.facebook.com/loveandlightawakening/ https://www.youtube.com/@HealthCoachNatalie https://www.youtube.com/@awakenwithnatalie https://healthcoachnatalie.podia.com ✍️รายการ On the way With Chom EP.11 คุณชมพู่ อารยา สัมภาษณ์ โค้ชนาตาลี ผู้เชี่ยวชาญด้านการดีท็อกซ์ต้านมะเร็ง มาคุยเกี่ยวกับการดีท็อกซ์ร่างกาย Facebook 👉 https://www.facebook.com/watch/?v=884245786743330 Youtube 👉 https://youtu.be/19y5ZYGuKtA ✍️LIVE: 40 วิธีดีท็อกซ์ ถ้าคุณไม่อยากแก่เร็ว ห้ามพลาด https://www.youtube.com/live/TXQIPnmuZCs?si=bYh7DZVpT7jI2Z5A ✍️LIVE: คลิปดีท็อกซ์ปลิวอีกแล้ว! ห้ามพลาดไลฟ์นี้จะเอามาเล่าใหม่ https://www.youtube.com/live/6eI1jiYjJZ8?si=tpxkIrxPf_f2jBAv ✍️Live: ดีท็อกซ์แบบไหนดีที่สุด และผลข้างเคียงที่คุณอาจจะต้องเจอ https://www.youtube.com/live/CTrDtjNb4oA?si=v8-3WTko-q3_8qV3 ✍️LIVE: ถาม-ตอบเรื่องดีท็อกซ์และการบำบัดมะเร็ง https://www.youtube.com/live/bXF18zTQB6w?si=JJrbrw-bW_24uPhz ✍️🍹สูตรลับน้ำผักฟื้นฟูเซลล์และทำให้ร่างกายเป็นด่าง https://www.youtube.com/live/L7BRekpGRjI?si=2dm95slGs74rxx8A ✍️🧬รหัสโค้ดในดีเอ็นเอของมนุษย์ไม่ใช่เป็นของ GOD องค์ใดองค์หนึ่ง รหัสลับใน DNA ของคุณ มีความหมายซ่อนอยู่ในนั้นที่คุณต้องรู้ https://www.youtube.com/live/eElgfF8V60Y?si=1XZQPkd7caVDfWY3 ✍️Live: ซ่อมแซม DNA ด้วยเบต้ากลูแคน ได้จริงหรือ? https://www.youtube.com/live/ekNMQ7tHJ3Y?si=G6EPmOWfgExeWxu2 ✍️ดีท็อกซ์แล้วอาการแย่ลงอาจเป็นเพราะเหตุนี้ https://www.youtube.com/live/ToCiFmRYnkU?si=PYBJaK9ufUyRZJM_ ✍️LIVE: วิตามินที่ควรพกไปทานช่วงเดินทาง https://www.youtube.com/live/Robzgp_IbPM?si=xk6hdNAQ-YMqB_x- ✍️ วิธี Energy Testing หาคำตอบด้วยตัวเองว่าอาหารและวิตามินอะไรที่คุณควรทาน วิธีที่คุณดูแลตัวเอง และใช้ subconscious จิตใต้สำนึก ตอบคำถามให้คุณได้อย่างแม่นยำ https://www.youtube.com/live/ia6UtLF42qo?si=J-crrMvxrlMp9oWf ✍️LIVE: รีชาร์จเซลล์ด้วย Energy Medicine - PEMF เทคโนโลยีใหม่สำหรับการบำบัดแห่งอนาคต https://www.youtube.com/live/h07Zdq2tYu8?si=7puWTAbO670fmAvb ✍️LIVE: TOP 11 ผักผลไม้และวิตามินที่ต้องทานในช่วงล้างพิษ https://www.youtube.com/live/ud843OO0AlQ?si=pb6WoVO_o4tYRGwC ✍️แจกสูตรลับน้ำผักดีท็อกซ์ที่ใช้มานานเกือบ 100 ปีแล้ว https://www.youtube.com/live/wJY6nbrFws4?si=guHGzPFOb46SfDAo ✍️QUANTUM HEALING การบำบัดในอนาคต EP.1 : https://www.youtube.com/live/SNVSfGGzWhQ?si=cpDnTB9SF0Z7rEL2 EP2 : https://www.youtube.com/live/OYP9ooNsUEc?si=pFy-FA4yYyK8noC9 EP3 : https://www.youtube.com/live/jGsUeYwLh0s?si=tbRgokDiKvDpA8l0 ✍️LIVE: เทคโนโลยีใหม่ใช้รักษามาถึงแล้ว https://www.youtube.com/live/t_wWeVRsxMM?si=JF8diTyOPnyE6A9_ ✍️มะเร็งสัมพันธ์กับจักระอย่างไร https://www.youtube.com/live/ASOHtPGOkXk?si=OdiQfFqUTSRHswtQ ✍️11สิ่งดีท็อกซ์สารพิษที่ธรรมชาติให้มา https://www.youtube.com/live/xcLYydbGdkQ?si=BZKfdkKfMMl9onca ✍️เคล็ดลับในการทานอาหารต้านมะเร็งที่ทำได้ตลอดกาล https://www.youtube.com/live/t6AuYN8xiHk?si=KoGucdbzRE9JxcSr ✍️เวิร์คช็อป #ดีท็อกซ์ “ #ล้างพิษ พิชิตโรคแบบองค์รวม” กับโค้ชนาตาลีและทีมแพทย์จาก NOVAVIDA INTEGRATIVE MEDICAL CENTER https://youtu.be/tCZW6L6Xyuw?si=yppE4dPOk6IZ1mYD ✍️ความเป็นกรดและด่างในร่างกาย EP1 : ร่างงกายเราเป็นกรดได้อย่างไร และตอนท้ายสรุปด้วย 5 วิธีง่ายๆ ทำร่างกายให้เป็นด่างด้วยตัวคุณเอง https://youtu.be/mEw95s-2oRo?si=-7D8OVrKCKL2S-c4 EP2 : การตรวจความเป็น กรด และด่าง https://youtu.be/hk1WrDffDPc?si=lHUsiXRR5huganWt ✍️Saffron ช่วย #ต้านมะเร็ง #ลดความเครียด และ #บำรุงสมอง ช่วยเรื่อง #อัลไซเมอร์ และ #โรคซึมเศร้า https://youtu.be/LB--y5lVQfk?si=Hg9y4DIl2ldQdJQa ✍️ทำไมต้องเจอเรื่องร้ายๆในชีวิต https://youtu.be/WrzE7dRMnTA?si=BVWAz1X8xHyQZmjX ✍️พลังบำบัดมหัศจรรย์ด้วยรหัสโค้ดเปลี่ยนคลื่นความถี่ - Star Magic Healing | สัมภาษณ์ Jerry Sargeant ชาวอังกฤษ ร่วมกับอ.ทีน่า https://youtu.be/1Wduzh_KhqQ?si=4rQI9hZbA26_D5BK ✍️#โจดิสเพนซา #คุณคือพลาซีโบ #สมาธิบำบัด ซีรีย์หนังสือเสียงเพื่อเป็นกำลังใจและเพิ่มความรู้ให้คุณ https://youtu.be/-3RBDQPj-74?si=sOxQF0AFuRMsli1V ✍️Pure Sound Crystal Singing Bowls 432 Hz Solfeggio melody #HealingVibration คลิปนี้เป็นเสียงของของคริสตัลโบล์ล้วนๆค่ะ ช่วยกำจัดอารมณ์วิตกกังวลได้อย่างดี https://youtu.be/NH5s5N3p_JM?si=173EG3GkKxleXn3Z ✍️#crystalsingingbowls เสียงเพลงเบาๆด้วยคลื่นความถี่ Frequency 432 Hz จาก crystal singing bowls เพลงสายทิพย์, Solfeggio Tuning forks และคลื่น 528 Hz จากเสียงเพลง binaural จะช่วยให้คุณผ่อนคลายและหลับสบาย https://youtu.be/sg2SS8go_P4?si=GaMPzPvusqQNvHgL ✍️#เสียงนำสมาธิ #manifest #ประตูมิติ ยังไม่สายที่จะทำสมาธิเพื่อเปิดรับพลังงานจากประตูมิติไลออน (Lion's Gate) กำลังเปิดรอคุณอยู่ Lion's Gate ของปีนี้แรงกว่าปีที่แล้วค่ะ https://youtu.be/AJKysmti6tc?si=nf_g3BS2nuxvts1B ✍️เลือกเครื่องปั่นอย่างไรให้เหมาะกับตัวคุณ https://youtu.be/c7Gddf0XEp8?si=n2MzRZGp4T5RWs7W ✍️การสัมภาษณ์พญ.ณัฐณิชา การลพ จาก Novavida Integrative Medical Center มาให้ความรู้เรื่องการตรวจหามะเร็ง https://youtu.be/DS_ptQiSR-c?si=vVijM6ntBAoDzTQi ✍️ Finding Your Quantum True-Self “จูนพลังจิตควอนตัมหาตัวเองให้เจอ” https://youtu.be/uXXggX1ShoE?si=VCJVz-Cw2HCJNaf1 ✍️สั่งจิตพิชิตมะเร็ง สิ่งสำคัญที่สุด https://youtu.be/T8ytSEd83zI?si=Fc3HlW30G7CnadUg ✍️#ตื่นรู้ #HU ครั้งแรกที่โค้ชนาตาลี สนทนากับลูกชายเรื่องการตื่นรู้ และแชร์ประสบการณ์จากการส่ง HU https://youtu.be/TMcW2bO_UT4?si=CmEJZiJXKaGCA7-M ✍️หลักฐานยืนยัน #DNA มนุษย์ถูกตัดต่อสองแสนปีที่แล้ว DNA ของมนุษย์ถูกเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร และ DNA ส่วนไหนที่ทำให้มนุษย์ต่างจากลิง https://youtu.be/SopVb_CQ2TY?si=snl5CfT1d1vHjWQe ✍️เพิ่งรู้ว่าเป็นมะเร็ง อยากได้กำลังใจให้ทำแบบนี้ https://youtu.be/MIhClkNYQHs?si=qZNQqGEU8EhWzU6u ✍️วิธีติดตั้ง Glider กับส้อมเสียง OM https://youtu.be/OUtgNNesKjU?si=lJT5SGKEaJhP9Rdn ✍️คุณเคยสังเกตตัวเองมั้ยคะว่าคุณหายใจอย่างไร และมันสำคัญมากขนาดไหน ถ้าคุณหายใจผิดวิธีเป็นเวลานานๆ อาจทำให้คุณป่วยเป็นโรคได้หลายโรคค่ะ วิดีโอนี้เป็นการแนะนำวิธีปฏิบัติการหายใจให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยอ้างอิงจากหนังสือ “BREATH” เขียนโดย James Nestor https://youtu.be/wg01GqrPAsI?si=VyacPESRGh3f-z3S ✍️วิธีซ่อมแซม DNA ด้วยความรักและเทคนิค Freeze Frame https://youtu.be/54R-eA8vqsI?si=yKFSSp_Ya77dEJNH ✍️วิธีเปิดดีเอ็นเอที่ถูกปิดไว้นานแสนนานด้วยหลักวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ https://youtu.be/mkoPczNxBKY?si=tnKHn1FVLgBBkKor ✍️เปิดตาที่สามแล้วคุณจะมีพลังพิเศษ แอบรู้ความลับของต่อมไพเนียลที่คุณต้องรู้ ✅ คลิปนี้บอกความลับของต่อมไพเนียลที่ถูกค้นพบไม่นานนี้เอง ✅ รูปปั้นของชาวอียิปต์โบราณพยายามจะบอกความลับอะไรกับคนสมัยใหม่ ✅ วิธีสร้างสาร DMT ด้วยตัวคุณเอง ✅ และอาหารที่ช่วยล้างหินปูนที่เกาะต่อมไพเนียล https://youtu.be/2Yi_2QvU7qI?si=bn1XNJHYwWnTcDe2 ✍️ความลับของกฎแรงดึงดูด ต้องเรียงลำดับขั้นตอน https://youtu.be/nAmM0XZRsxI?si=kQd8H3pELJDtVn0v ✍️สมาธิเปิดดีเอ็นเอ HU+528Hz+Light Language+ปรับจักระทั้ง7+ต้อนรับโลกใหม่(New Earth) https://youtu.be/AaGi_tIhOTc?si=pEGh3ALzBvgJXDv0 ✍️ใครที่อยากจะหยุดทานเนื้อสัตว์แต่ยังทำไม่ได้ โค้ชนาตาลีมีเทคนิคที่ทำได้จริงของตัวเองมาแชร์ค่ะ https://youtu.be/bnNSUwjLBEo?si=EX1-D_f6W1fTlf0c ✍️ชาวไทยใหญ่ท่านหนึ่งกำจัดโรคหน้าเบี้ยวครึ่งซีก Bell’s palsy ก้อนที่คอและอีกหลายโรคด้วยตัวเอง https://youtu.be/dVsPMkbCu_M?si=guwpxCqiSTBQP-oz ✍️สังคมใหม่ไม่ใช้เงิน ตลาดนัดออนไลน์ให้แลกเปลี่ยนสิ่งของโดยไม่ใช้เงิน https://youtu.be/iyXat83u7lA?si=ayC45Nu98XYKlHgc https://m.facebook.com/groups/1076808563215591/?ref=sharehttps://m.facebook.com/groups/1076808563215591/?ref=share&exp=93fa ✍️วิธีใช้ส้อมเสียง EP1 : https://youtu.be/J4FM5fSCIxU?si=b_yFf5wGVAjy7f2n EP2 : https://youtu.be/qvw_RcZJtPk?si=PqBEn3D8zeAVsu15 ✍️การถอดจิต ความสามารถที่มนุษย์เราทุกคนควรจะมี Remote Viewing ประสบการณ์ดูไกลกับคุณนิมิต ภูติรัช https://youtu.be/5Ulzw-CGtkw?si=AYjhn6ULYM2eIB1O ✍️FC คุณปุ๊กมีชีวิตที่ดีขึ้นหลังการเป็นมะเร็งเต้านม คุณก็ทำได้เช่นกัน https://youtu.be/Q-92FdVArA0?si=VL7bX5f5cdas8hxT ✍️เคสคุณแอ้ว เอาชนะมะเร็งปากมดลูก ไม่คี…ไม่ฉาย… https://youtu.be/-zzf8ySllkw?si=c4uUWJBJU1tsGEnZ ✍️ คำถามเกี่ยวกับมะเร็ง ตอบโดย พญ.ณัฐณิชา Nanovida EP1 : การรักษามะเร็งทางเลือกใหม่ https://youtu.be/xLqEVY2YGak?si=ubuB14AdLQea1RT3 EP2 : ใช้สมุนไพรและดื่มน้ำผักช่วงรับคีโมได้หรือไม่ https://youtu.be/9SJzxNwYaGU?si=FqYgHWb3FFvIQC1D ✍️วิธีปล่อยวาง อย่ายึดติดกับร่างกายของเรา กำลังใจให้ผู้ป่วยมะเร็ง https://youtu.be/Bp4qVYAYuLM?si=a2FIoqaqdGAp6sqd ✍️ไลฟ์สดโค๊ชนาตาลี การใช้ไอโอดีนดีท็อกซ์สารอะลูมิเนียมและล้างพิษวัคซีน https://www.youtube.com/live/54P3wpqp40U?si=oietvXlFz7d40gK1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘สมรักษ์’ เปิดใจ รับ หย่าภรรยาได้ 2 เดือนเศษ ยืนยันไม่มีการข่มขืน ไม่มีการสำเร็จความใคร่ สาว 17 ปี เจอกันในที่เที่ยว แล้วพากันตามเข้าโรงแรม ถอดเสื้อผ้า กอดหอมกัน ก่อนถามอายุ พอรู้ว่า 17 ปี ก็หยุด ไม่ขอยุ่งด้วย ก่อนหลับไป จนถูกถ่ายภาพแบล็กเมล์
    ขอนแก่น: วันที่ 10 ธ.ค.66 กรณีเยาวชนหญิงอายุ 17 ปี เข้าแจ้งความ กล่าวหากระทำอนาจาร-ล่วงละเมิดทางเพศในโรงแรม เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 10 ธ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวช่อง 3 โทรศัพท์สอบถามไปยัง นายสมรักษ์ คำสิงห์ ที่ถูกกล่าวหา โดยสมรักษ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ตนเองมาเที่ยวตามประสาคนเที่ยวทั่วไป ส่วนน้องเค้าก็มาเที่ยวของน้องเค้า และมาที่โต๊ะเดียวกัน ก่อนจะตามกันไปที่โรงแรม ซึ่งในเรื่องนี้ก็ต้องรอพิสูจน์ ยืนยันว่าตนไม่ได้ข่มขืนใคร และไม่ได้มีเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด ในคืนนั้นมีเพียงการถอดเสื้อผ้า และหอมกอดกันธรรมดา ก่อนจะถามอายุว่าเท่าไหร่ พอบอกว่า 17 พอรู้ก็ตกใจเลย จึงบอกว่าไม่ได้ๆ หยุดตรงนั้น เดี๋ยวตื่นแล้วจะไปส่ง ก่อนจะนอนหลับอยู่บนเตียงไปเลยตรงนั้น

    สมรักษ์ยอมรับว่า ตนได้เซ็นใบหย่ากับภรรยา ประมาณ 2 เดือนกว่าๆ แล้ว

    ”วันเกิดเหตุ ไปเที่ยวร้านอาหารตามประสาของผม ส่วนฝ่ายหญิงก็มากับกลุ่มของเขา แต่มานั่งสังสรรค์ที่โต๊ะของผมด้วย ก่อนจะตามไปโรงแรมกับผม ยอมรับว่า เมื่อไปถึงโรงแรมแล้ว มีการกอดหอมและถอดเสื้อผ้า แต่ยังไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กัน เพราะตนถามฝ่ายหญิงก่อนว่าอายุเท่าไหร่ เมื่อฝ่ายหญิงตอบว่า อายุ 17 ตนก็สะดุ้งและรีบบอกว่า “ไม่ได้ๆ หนูนอนพักผ่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปส่ง” จากนั้นตนก็นอนหลับไป แต่ไม่รู้ว่าฝ่ายหญิงถ่ายรูปตนตอนหลับไว้และไปแจ้งความ ไม่รู้ว่าใครแบล็คเมล์ใคร“ สมรักษ์กล่าว

    “ไปโรงแรมด้วยกันจริง นอนด้วยกันในห้อง และมารู้ว่าอายุ 17 ตอนที่ถึงโรงแรมแล้ว เรื่องการฉุดกระชากขึ้นรถนั้นไม่มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เพราะมีกล้องวงจรปิดอยู่แล้ว ยืนยันไม่มีการฉุดกระชากแต่อย่างใด ผมเองไม่อยากพูดเยอะเพราะน้องก็เป็นเด็ก” สมรักษ์กล่าว

    ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สถานบันเทิง ริมถนนประชาสำราญ พบว่า มีการตรวจบัตรของนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางเข้ามาใช้บริการเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย ของทางภาครัฐ ที่ไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้ามาใช้บริการ และเป็นสถานที่ที่นักชกเหรียญทองมวยโอลิมปิก ได้เข้ามาใช้บริการเมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนที่จะถูกหญิงสาววัย 17 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ ว่าถูกนักชกฮีโร่ล่วงละเมิดทางเพศ

    ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับผู้ดูแลร้านทราบว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ฮีโร่เหรียญทองมวยโอลิมปิกได้เข้ามาใช้บริการจริง และได้มีการได้พูดคุยกับทางสมรักษ์ และก็เห็นกลุ่มของหญิงสาววัย 17 ปี ได้เข้ามาขอถ่ายรูปและพูดคุยจริง แต่หลังจากนั้นก็ไม่ทราบว่าได้ไปด้วยกันหรือไม่ เพราะตนเองก็ต้องดูแลร้าน แต่ยอมรับว่าสมรักษ์ มักจะมาที่ร้านเป็นประจำ

    ขณะที่ข้อมูลจากโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น โดยผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับพนักงานต้อนรับทราบว่า เมื่อวานนี้สมรักษ์ได้มาเปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งนี้จริง โดยปกติแล้วโรงแรมแห่งนี้ ไม่ใช่โรงแรมที่สมรักษ์จะมาพักเป็นประจำ แต่โรงแรมที่นายสมรักษ์พักบ่อยๆ เต็ม เนื่องจากมีเด็กนักเรียนมาสอบแกท-แพท โดยจุดต้อนรับแขกหน้าโรงแรมจะปิดในช่วงเวลาประมาณ 01:00 น. ทำให้ไม่มีใครเห็น ในช่วงที่สมรักษ์และหญิงวัย 17 ปี เดินเข้ามาในโรงแรม รวมถึงไม่มีใครเห็นในช่วงที่ออกไปนอกโรงแรมด้วย

    สำหรับความคืบหน้าของคดี พนักงานสอบสวนได้เข้ามาเก็บภาพวงจรปิด ทั้งที่สถานบันเทิงและที่โรงแรม เพื่อใช้เป็นหลักฐาน เพื่อจะได้เตรียมออกหมายเรียกสมรักษ์มาพบพนักงานสอบสวนต่อไป
    ‘สมรักษ์’ เปิดใจ รับ หย่าภรรยาได้ 2 เดือนเศษ ยืนยันไม่มีการข่มขืน ไม่มีการสำเร็จความใคร่ สาว 17 ปี เจอกันในที่เที่ยว แล้วพากันตามเข้าโรงแรม ถอดเสื้อผ้า กอดหอมกัน ก่อนถามอายุ พอรู้ว่า 17 ปี ก็หยุด ไม่ขอยุ่งด้วย ก่อนหลับไป จนถูกถ่ายภาพแบล็กเมล์ ขอนแก่น: วันที่ 10 ธ.ค.66 กรณีเยาวชนหญิงอายุ 17 ปี เข้าแจ้งความ กล่าวหากระทำอนาจาร-ล่วงละเมิดทางเพศในโรงแรม เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 10 ธ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวช่อง 3 โทรศัพท์สอบถามไปยัง นายสมรักษ์ คำสิงห์ ที่ถูกกล่าวหา โดยสมรักษ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ตนเองมาเที่ยวตามประสาคนเที่ยวทั่วไป ส่วนน้องเค้าก็มาเที่ยวของน้องเค้า และมาที่โต๊ะเดียวกัน ก่อนจะตามกันไปที่โรงแรม ซึ่งในเรื่องนี้ก็ต้องรอพิสูจน์ ยืนยันว่าตนไม่ได้ข่มขืนใคร และไม่ได้มีเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด ในคืนนั้นมีเพียงการถอดเสื้อผ้า และหอมกอดกันธรรมดา ก่อนจะถามอายุว่าเท่าไหร่ พอบอกว่า 17 พอรู้ก็ตกใจเลย จึงบอกว่าไม่ได้ๆ หยุดตรงนั้น เดี๋ยวตื่นแล้วจะไปส่ง ก่อนจะนอนหลับอยู่บนเตียงไปเลยตรงนั้น สมรักษ์ยอมรับว่า ตนได้เซ็นใบหย่ากับภรรยา ประมาณ 2 เดือนกว่าๆ แล้ว ”วันเกิดเหตุ ไปเที่ยวร้านอาหารตามประสาของผม ส่วนฝ่ายหญิงก็มากับกลุ่มของเขา แต่มานั่งสังสรรค์ที่โต๊ะของผมด้วย ก่อนจะตามไปโรงแรมกับผม ยอมรับว่า เมื่อไปถึงโรงแรมแล้ว มีการกอดหอมและถอดเสื้อผ้า แต่ยังไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กัน เพราะตนถามฝ่ายหญิงก่อนว่าอายุเท่าไหร่ เมื่อฝ่ายหญิงตอบว่า อายุ 17 ตนก็สะดุ้งและรีบบอกว่า “ไม่ได้ๆ หนูนอนพักผ่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปส่ง” จากนั้นตนก็นอนหลับไป แต่ไม่รู้ว่าฝ่ายหญิงถ่ายรูปตนตอนหลับไว้และไปแจ้งความ ไม่รู้ว่าใครแบล็คเมล์ใคร“ สมรักษ์กล่าว “ไปโรงแรมด้วยกันจริง นอนด้วยกันในห้อง และมารู้ว่าอายุ 17 ตอนที่ถึงโรงแรมแล้ว เรื่องการฉุดกระชากขึ้นรถนั้นไม่มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เพราะมีกล้องวงจรปิดอยู่แล้ว ยืนยันไม่มีการฉุดกระชากแต่อย่างใด ผมเองไม่อยากพูดเยอะเพราะน้องก็เป็นเด็ก” สมรักษ์กล่าว ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สถานบันเทิง ริมถนนประชาสำราญ พบว่า มีการตรวจบัตรของนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางเข้ามาใช้บริการเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย ของทางภาครัฐ ที่ไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้ามาใช้บริการ และเป็นสถานที่ที่นักชกเหรียญทองมวยโอลิมปิก ได้เข้ามาใช้บริการเมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนที่จะถูกหญิงสาววัย 17 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ ว่าถูกนักชกฮีโร่ล่วงละเมิดทางเพศ ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับผู้ดูแลร้านทราบว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ฮีโร่เหรียญทองมวยโอลิมปิกได้เข้ามาใช้บริการจริง และได้มีการได้พูดคุยกับทางสมรักษ์ และก็เห็นกลุ่มของหญิงสาววัย 17 ปี ได้เข้ามาขอถ่ายรูปและพูดคุยจริง แต่หลังจากนั้นก็ไม่ทราบว่าได้ไปด้วยกันหรือไม่ เพราะตนเองก็ต้องดูแลร้าน แต่ยอมรับว่าสมรักษ์ มักจะมาที่ร้านเป็นประจำ ขณะที่ข้อมูลจากโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น โดยผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับพนักงานต้อนรับทราบว่า เมื่อวานนี้สมรักษ์ได้มาเปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งนี้จริง โดยปกติแล้วโรงแรมแห่งนี้ ไม่ใช่โรงแรมที่สมรักษ์จะมาพักเป็นประจำ แต่โรงแรมที่นายสมรักษ์พักบ่อยๆ เต็ม เนื่องจากมีเด็กนักเรียนมาสอบแกท-แพท โดยจุดต้อนรับแขกหน้าโรงแรมจะปิดในช่วงเวลาประมาณ 01:00 น. ทำให้ไม่มีใครเห็น ในช่วงที่สมรักษ์และหญิงวัย 17 ปี เดินเข้ามาในโรงแรม รวมถึงไม่มีใครเห็นในช่วงที่ออกไปนอกโรงแรมด้วย สำหรับความคืบหน้าของคดี พนักงานสอบสวนได้เข้ามาเก็บภาพวงจรปิด ทั้งที่สถานบันเทิงและที่โรงแรม เพื่อใช้เป็นหลักฐาน เพื่อจะได้เตรียมออกหมายเรียกสมรักษ์มาพบพนักงานสอบสวนต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • การอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว มีหลักการที่อาจทำให้เข้าใจง่ายขึ้นสำหรับลูกคือ:

    สิ่งที่เราอุทิศไปนั้นคือ "บุญ" ซึ่งไม่ใช่อาหารหรือสิ่งของทางกายภาพ แต่เป็นพลังแห่งความสุขและความสว่างที่จิตวิญญาณสามารถสัมผัสได้ บุญนี้ช่วยให้จิตวิญญาณที่ทุกข์สามารถผ่อนคลายและมีความสุขขึ้น หรือหากจิตวิญญาณนั้นสุขอยู่แล้ว บุญที่อุทิศไปก็ช่วยเพิ่มความปลื้มปีติและทำให้รู้สึกว่าได้รับความรักและความปรารถนาดีจากญาติที่ยังระลึกถึง

    แต่การอุทิศส่วนกุศลนี้จะมีผลก็ต่อเมื่อจิตวิญญาณนั้นมีจิตพร้อมรับ ส่วนนี้เหมือนการที่เรายื่นสิ่งของให้ใครบางคน ซึ่งจะได้หรือไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเขาพร้อมรับหรือไม่ และการรับนั้นจะมีผลอย่างไรขึ้นอยู่กับภาวะของผู้ล่วงลับ เช่น หากเป็นเทวดาที่มีฐานะสูงอยู่แล้ว อาจไม่ได้รู้สึกเปลี่ยนแปลงมากจากบุญเล็กน้อย แต่ถ้าผู้ล่วงลับตกอยู่ในสภาวะที่ต้องการบุญ ก็จะได้รับประโยชน์มาก

    การทำบุญอุทิศให้นั้น จึงเป็นการกระทำที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความกตัญญู และให้ทำไปด้วยใจที่ไม่หวังผลว่าอีกฝ่ายจะได้รับหรือไม่ เพราะสิ่งที่แน่นอนคือ เราได้รับความสุขและความสว่างจากการทำบุญนั้นเสมอ
    การอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว มีหลักการที่อาจทำให้เข้าใจง่ายขึ้นสำหรับลูกคือ: สิ่งที่เราอุทิศไปนั้นคือ "บุญ" ซึ่งไม่ใช่อาหารหรือสิ่งของทางกายภาพ แต่เป็นพลังแห่งความสุขและความสว่างที่จิตวิญญาณสามารถสัมผัสได้ บุญนี้ช่วยให้จิตวิญญาณที่ทุกข์สามารถผ่อนคลายและมีความสุขขึ้น หรือหากจิตวิญญาณนั้นสุขอยู่แล้ว บุญที่อุทิศไปก็ช่วยเพิ่มความปลื้มปีติและทำให้รู้สึกว่าได้รับความรักและความปรารถนาดีจากญาติที่ยังระลึกถึง แต่การอุทิศส่วนกุศลนี้จะมีผลก็ต่อเมื่อจิตวิญญาณนั้นมีจิตพร้อมรับ ส่วนนี้เหมือนการที่เรายื่นสิ่งของให้ใครบางคน ซึ่งจะได้หรือไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเขาพร้อมรับหรือไม่ และการรับนั้นจะมีผลอย่างไรขึ้นอยู่กับภาวะของผู้ล่วงลับ เช่น หากเป็นเทวดาที่มีฐานะสูงอยู่แล้ว อาจไม่ได้รู้สึกเปลี่ยนแปลงมากจากบุญเล็กน้อย แต่ถ้าผู้ล่วงลับตกอยู่ในสภาวะที่ต้องการบุญ ก็จะได้รับประโยชน์มาก การทำบุญอุทิศให้นั้น จึงเป็นการกระทำที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความกตัญญู และให้ทำไปด้วยใจที่ไม่หวังผลว่าอีกฝ่ายจะได้รับหรือไม่ เพราะสิ่งที่แน่นอนคือ เราได้รับความสุขและความสว่างจากการทำบุญนั้นเสมอ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=FG9-8pqFqBY
    บทสนทนาของหมูเด้งกับครอบครัว
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาของหมูเด้งกับครอบครัวแนะนำตัวเอง
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #conversations #listeningtest #หมูเด้ง

    The conversations from the clip :

    Moo Deng: Hello everyone! My name is Moo Deng, and I’m the superstar of Khao Kheow Zoo! I was born on July 10, 2024. I have an older brother named Moo Toon; we share the same parents. I love sleeping and swimming in my pond. I have a playful personality and love nibbling on the zoo keeper's shoes!
    Jona (Mom): Hello! My name is Jona, Moo Deng’s mom. I’m 25 years old, and I’m a very loving hippo mom who always keeps Moo Deng safe and happy. I enjoy spending time with him and teaching him how to play in the water. It’s amazing to watch him grow and have fun!
    Tony (DaD): Hi there! My name is Tony, Moo Deng’s dad. I’m 24 years old, and I’m a strong hippo. I want to teach him about the world. I also enjoy relaxing by the pond and sunbathing. I hope to be playing with Moo Deng soon!
    Moo Deng: My parents are awesome! They always support me and help me become a great hippo. I love them both very much. We have so much fun together at the zoo, and I look forward to showing everyone my playful side!
    Jona: As a family, we promote awareness about the importance of wildlife conservation. We want people to understand that hippos are unique animals and that their natural habitats need protection.
    Tony: We’re proud to be part of Khao Kheow Zoo, where we get to interact with visitors and share our story. It’s wonderful to see so many people come here to learn about us!
    Moo Deng: So, come visit us at the zoo! I promise you’ll have a great time watching my playful antics and learning about hippos. Let’s have fun together at the zoo! Thank you for listening to our story!

    หมูเด้ง:สวัสดีทุกคน! ฉันชื่อหมูเด้ง และฉันเป็นซูเปอร์สตาร์ของสวนสัตว์เขาเขียว! ฉันเกิดเมื่อวันที่ 10 กรกฏาคม 2024 ฉ้นมีพี่ชาย พ่อแม่เดียวกันชื่อหมูตุ๋น ฉันชอบนอนและว่ายน้ำในบ่อของฉัน ฉันมีบุคลิกที่ขี้เล่นและชอบกัดรองเท้าของผู้ดูแลสวนสัตว์!
    โจวน่า (แม่):สวัสดีค่ะ! ฉันชื่อโจวน่า แม่ของหมูเด้ง ฉันอายุ 25 ปี ฉันเป็นฮิปโปที่รักลูกมาก และมักจะทำให้หมูเด้งปลอดภัยและมีความสุข ฉันชอบใช้เวลาร่วมกับเขาและสอนเขาเล่นในน้ำ มันยอดเยี่ยมมากที่ได้เห็นเขาเติบโตและสนุกสนาน!
    โทนี่ (พ่อ):สวัสดีครับ! ฉันชื่อโทนี่ พ่อของหมูเด้ง ฉันอายุ 24 ปี ฉันเป็นฮิปโปที่แข็งแรง ฉันอยากสอนเขาเกี่ยวกับโลก ฉันยังชอบนั่งพักผ่อนริมบ่อน้ำและอาบแดด ฉันหวังว่าจะได้เล่นกับหมูเด้งในไม่ช้า!
    หมูเด้ง:พ่อแม่ของฉันยอดเยี่ยมมาก! พวกเขาคอยสนับสนุนฉันและช่วยให้ฉันเป็นอิปโป
    ที่ดี ฉันรักพวกเขาทั้งคู่มาก เรามีความสนุกสนานมากมายที่สวนสัตว์ และฉันรอคอยที่จะแสดงด้านขี้เล่นของฉันให้ทุกคนเห็น!
    โจวน่า:ในฐานะครอบครัว เราส่งเสริมการตระหนักรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการอนุรักษ์สัตว์ป่า เราต้องการให้ผู้คนเข้าใจว่าฮิปโปเป็นสิ่งมีชีวิตที่พิเศษและจำเป็นต้องปกป้องที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของพวกเขา
    โทนี่:เราภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของสวนสัตว์เขาเขียว ที่เราสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าชมและแบ่งปันเรื่องราวของเรา มันดีมากที่ได้เห็นผู้คนมากมายมาที่นี่เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับเรา!
    หมูเด้ง:ดังนั้น มาที่สวนสัตว์และเยี่ยมชมเรานะ! ฉันสัญญาว่าคุณจะมีช่วงเวลาที่สนุกสนานในการดูความซุกซนของฉันและเรียนรู้เกี่ยวกับฮิปโป มาสนุกด้วยกันที่สวนสัตว์! ขอบคุณที่ฟังเรื่องราวของเราค่ะ!

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Superstar (ซู-เปอร์-สตาร์) n. แปลว่า ดารา/นักแสดงที่มีชื่อเสียงมาก
    Zoo (ซู) n. แปลว่า สวนสัตว์
    Older (โอ-เดอร์) adj. แปลว่า ที่มีอายุมากกว่า
    Playful (เพล-ฟูล) adj. แปลว่า ขี้เล่น
    Personality (เพอร์-ซะ-แนล-ละ-ที) n. แปลว่า บุคลิกภาพ
    Nibble (นิบ-เบิล) v. แปลว่า กัดเล็กๆ น้อยๆ
    Keeper (คี-เพอร์) n. แปลว่า ผู้ดูแล
    Pond (พอนด์) n. แปลว่า บ่อน้ำ
    Amazing (อะ-เม-ซิง) adj. แปลว่า น่าทึ่ง
    Grow (โกรว) v. แปลว่า เติบโต
    Awareness (อะ-แวร์-เนส) n. แปลว่า การตระหนักรู้
    Conservation (คอน-เซอร์-เว-ชัน) n. แปลว่า การอนุรักษ์
    Unique (ยู-นีค) adj. แปลว่า พิเศษ/ไม่เหมือนใคร
    Habitat (แฮบ-บิ-แทท) n. แปลว่า ที่อยู่อาศัยของสัตว์
    Antics (แอน-ทิคส์) n. แปลว่า พฤติกรรม/การกระทำที่สนุกสนาน
    https://www.youtube.com/watch?v=FG9-8pqFqBY บทสนทนาของหมูเด้งกับครอบครัว (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาของหมูเด้งกับครอบครัวแนะนำตัวเอง มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #conversations #listeningtest #หมูเด้ง The conversations from the clip : Moo Deng: Hello everyone! My name is Moo Deng, and I’m the superstar of Khao Kheow Zoo! I was born on July 10, 2024. I have an older brother named Moo Toon; we share the same parents. I love sleeping and swimming in my pond. I have a playful personality and love nibbling on the zoo keeper's shoes! Jona (Mom): Hello! My name is Jona, Moo Deng’s mom. I’m 25 years old, and I’m a very loving hippo mom who always keeps Moo Deng safe and happy. I enjoy spending time with him and teaching him how to play in the water. It’s amazing to watch him grow and have fun! Tony (DaD): Hi there! My name is Tony, Moo Deng’s dad. I’m 24 years old, and I’m a strong hippo. I want to teach him about the world. I also enjoy relaxing by the pond and sunbathing. I hope to be playing with Moo Deng soon! Moo Deng: My parents are awesome! They always support me and help me become a great hippo. I love them both very much. We have so much fun together at the zoo, and I look forward to showing everyone my playful side! Jona: As a family, we promote awareness about the importance of wildlife conservation. We want people to understand that hippos are unique animals and that their natural habitats need protection. Tony: We’re proud to be part of Khao Kheow Zoo, where we get to interact with visitors and share our story. It’s wonderful to see so many people come here to learn about us! Moo Deng: So, come visit us at the zoo! I promise you’ll have a great time watching my playful antics and learning about hippos. Let’s have fun together at the zoo! Thank you for listening to our story! หมูเด้ง:สวัสดีทุกคน! ฉันชื่อหมูเด้ง และฉันเป็นซูเปอร์สตาร์ของสวนสัตว์เขาเขียว! ฉันเกิดเมื่อวันที่ 10 กรกฏาคม 2024 ฉ้นมีพี่ชาย พ่อแม่เดียวกันชื่อหมูตุ๋น ฉันชอบนอนและว่ายน้ำในบ่อของฉัน ฉันมีบุคลิกที่ขี้เล่นและชอบกัดรองเท้าของผู้ดูแลสวนสัตว์! โจวน่า (แม่):สวัสดีค่ะ! ฉันชื่อโจวน่า แม่ของหมูเด้ง ฉันอายุ 25 ปี ฉันเป็นฮิปโปที่รักลูกมาก และมักจะทำให้หมูเด้งปลอดภัยและมีความสุข ฉันชอบใช้เวลาร่วมกับเขาและสอนเขาเล่นในน้ำ มันยอดเยี่ยมมากที่ได้เห็นเขาเติบโตและสนุกสนาน! โทนี่ (พ่อ):สวัสดีครับ! ฉันชื่อโทนี่ พ่อของหมูเด้ง ฉันอายุ 24 ปี ฉันเป็นฮิปโปที่แข็งแรง ฉันอยากสอนเขาเกี่ยวกับโลก ฉันยังชอบนั่งพักผ่อนริมบ่อน้ำและอาบแดด ฉันหวังว่าจะได้เล่นกับหมูเด้งในไม่ช้า! หมูเด้ง:พ่อแม่ของฉันยอดเยี่ยมมาก! พวกเขาคอยสนับสนุนฉันและช่วยให้ฉันเป็นอิปโป ที่ดี ฉันรักพวกเขาทั้งคู่มาก เรามีความสนุกสนานมากมายที่สวนสัตว์ และฉันรอคอยที่จะแสดงด้านขี้เล่นของฉันให้ทุกคนเห็น! โจวน่า:ในฐานะครอบครัว เราส่งเสริมการตระหนักรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการอนุรักษ์สัตว์ป่า เราต้องการให้ผู้คนเข้าใจว่าฮิปโปเป็นสิ่งมีชีวิตที่พิเศษและจำเป็นต้องปกป้องที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของพวกเขา โทนี่:เราภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของสวนสัตว์เขาเขียว ที่เราสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าชมและแบ่งปันเรื่องราวของเรา มันดีมากที่ได้เห็นผู้คนมากมายมาที่นี่เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับเรา! หมูเด้ง:ดังนั้น มาที่สวนสัตว์และเยี่ยมชมเรานะ! ฉันสัญญาว่าคุณจะมีช่วงเวลาที่สนุกสนานในการดูความซุกซนของฉันและเรียนรู้เกี่ยวกับฮิปโป มาสนุกด้วยกันที่สวนสัตว์! ขอบคุณที่ฟังเรื่องราวของเราค่ะ! Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Superstar (ซู-เปอร์-สตาร์) n. แปลว่า ดารา/นักแสดงที่มีชื่อเสียงมาก Zoo (ซู) n. แปลว่า สวนสัตว์ Older (โอ-เดอร์) adj. แปลว่า ที่มีอายุมากกว่า Playful (เพล-ฟูล) adj. แปลว่า ขี้เล่น Personality (เพอร์-ซะ-แนล-ละ-ที) n. แปลว่า บุคลิกภาพ Nibble (นิบ-เบิล) v. แปลว่า กัดเล็กๆ น้อยๆ Keeper (คี-เพอร์) n. แปลว่า ผู้ดูแล Pond (พอนด์) n. แปลว่า บ่อน้ำ Amazing (อะ-เม-ซิง) adj. แปลว่า น่าทึ่ง Grow (โกรว) v. แปลว่า เติบโต Awareness (อะ-แวร์-เนส) n. แปลว่า การตระหนักรู้ Conservation (คอน-เซอร์-เว-ชัน) n. แปลว่า การอนุรักษ์ Unique (ยู-นีค) adj. แปลว่า พิเศษ/ไม่เหมือนใคร Habitat (แฮบ-บิ-แทท) n. แปลว่า ที่อยู่อาศัยของสัตว์ Antics (แอน-ทิคส์) n. แปลว่า พฤติกรรม/การกระทำที่สนุกสนาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำแหน่งเอกอัครราชทูตจีนประจำเกาหลีใต้ว่างเว้นมากว่า 3 เดือนแล้ว ถือว่านานที่สุดนับตั้งแต่ชาติทั้งสองสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน

    นายซิง ไห่หมิง เอกอัครราชทูตจีนคนก่อนเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม ปี 2563 และพ้นวาระเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยขณะนี้มีนายฟัง คุน อุปทูตรักษาการไปพลางๆ ก่อน

    อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งล่าช้ามิใช่เพิ่งเกิดขึ้นกับกรณีเกาหลีใต้เท่านั้น

    จีนส่งนายเซี่ย เฟิง อดีต รมช.ต่างประเทศไปเป็นเอกอัครราชทูตที่สหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว หลังจากตำแหน่งว่างมานานเกือบ 5 เดือน นานที่สุดนับตั้งแต่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปี 2522

    นายไฉ รุ่น อดีตเอกอัครราชทูตประจำอิสราเอลก็เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตประจำสหภาพยุโรปคนใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากตำแหน่งร้างมาตั้งแต่เดือนมีนาคม

    นักสังเกตการณ์มองว่า ความล่าช้าในการแต่งตั้งอาจสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่มีมากขึ้น นายชุง แจฮุง ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาด้านจีนแห่งสถาบันเซจงในกรุงโซลระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นแข็งแกร่งขึ้น ส่วนเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ก็กลับมาเป็นศัตรูกันอีก จีนจึงต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบกว่าแต่ก่อน

    นายสือ อิ้นหง อาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยเหรินหมินในกรุงปักกิ่งชี้ว่า หากไม่นับความขัดแย้งอย่างหนักกรณีเกาหลีใต้จะนำระบบต่อต้านขีปนาวุธของสหรัฐฯ (THAAD) มาติดตั้งในประเทศ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อจีนเมื่อปี 2559 แล้ว ความสัมพันธ์จีน-เกาหลีใต้ขณะนี้ถือว่าตกต่ำสุดนับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์กันในปี 2535 จากสาเหตุสำคัญคือเกาหลีใต้กระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงกับสหรัฐฯ ส่วนจีนก็ผ่อนปรนอย่างชัดเจนเรื่องที่เกาหลีเหนือพัฒนาขีปนาวุธนิวเคลียร์

    ในความเห็นของนายจื่อฉวิน จู อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยบักเนลล์ (Bucknell University) ในสหรัฐฯ นั้น ไม่จำเป็นต้องตีความเรื่องตำแหน่งเอกอัครราชทูตว่างให้มากเกินไป เพราะเมื่อพิจารณาถึงความสำคัญของเกาหลีใต้และคาบสมุทรเกาหลีแล้ว ปักกิ่งน่าจะแต่งตั้งนักการทูตรุ่นเฮฟวีเวต ซึ่งจะได้รับการต้อนรับจากโซลในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน เขายังเห็นว่า มีหลายปัจจัยที่ทำให้การแต่งตั้งล่าช้า เช่น ปักกิ่งมีเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมากกว่าในกรณีสถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันและทะเลจีนใต้

    นายจู เฟิง คณบดีบริหารของโรงเรียนการศึกษานานาชาติแห่งมหาวิทยาลัยหนันจิงระบุว่า สำหรับความสัมพันธ์ทวิภาคีแล้ว การที่เอกอัครราชทูตว่างชั่วคราวไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะอุปทูตปฏิบัติหน้าที่แทนชั่วคราวได้

    ตำแหน่งอาจว่างไปอีก 2-3 เดือน หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายชุง แจฮุง แห่งสถาบันเซจงในกรุงโซลคาดคะเน

    ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์

    https://mgronline.com/china/detail/9670000104850

    #Thaitimes
    ตำแหน่งเอกอัครราชทูตจีนประจำเกาหลีใต้ว่างเว้นมากว่า 3 เดือนแล้ว ถือว่านานที่สุดนับตั้งแต่ชาติทั้งสองสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน นายซิง ไห่หมิง เอกอัครราชทูตจีนคนก่อนเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม ปี 2563 และพ้นวาระเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยขณะนี้มีนายฟัง คุน อุปทูตรักษาการไปพลางๆ ก่อน อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งล่าช้ามิใช่เพิ่งเกิดขึ้นกับกรณีเกาหลีใต้เท่านั้น จีนส่งนายเซี่ย เฟิง อดีต รมช.ต่างประเทศไปเป็นเอกอัครราชทูตที่สหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว หลังจากตำแหน่งว่างมานานเกือบ 5 เดือน นานที่สุดนับตั้งแต่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปี 2522 นายไฉ รุ่น อดีตเอกอัครราชทูตประจำอิสราเอลก็เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตประจำสหภาพยุโรปคนใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากตำแหน่งร้างมาตั้งแต่เดือนมีนาคม นักสังเกตการณ์มองว่า ความล่าช้าในการแต่งตั้งอาจสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่มีมากขึ้น นายชุง แจฮุง ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาด้านจีนแห่งสถาบันเซจงในกรุงโซลระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นแข็งแกร่งขึ้น ส่วนเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ก็กลับมาเป็นศัตรูกันอีก จีนจึงต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบกว่าแต่ก่อน นายสือ อิ้นหง อาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยเหรินหมินในกรุงปักกิ่งชี้ว่า หากไม่นับความขัดแย้งอย่างหนักกรณีเกาหลีใต้จะนำระบบต่อต้านขีปนาวุธของสหรัฐฯ (THAAD) มาติดตั้งในประเทศ ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อจีนเมื่อปี 2559 แล้ว ความสัมพันธ์จีน-เกาหลีใต้ขณะนี้ถือว่าตกต่ำสุดนับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์กันในปี 2535 จากสาเหตุสำคัญคือเกาหลีใต้กระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงกับสหรัฐฯ ส่วนจีนก็ผ่อนปรนอย่างชัดเจนเรื่องที่เกาหลีเหนือพัฒนาขีปนาวุธนิวเคลียร์ ในความเห็นของนายจื่อฉวิน จู อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยบักเนลล์ (Bucknell University) ในสหรัฐฯ นั้น ไม่จำเป็นต้องตีความเรื่องตำแหน่งเอกอัครราชทูตว่างให้มากเกินไป เพราะเมื่อพิจารณาถึงความสำคัญของเกาหลีใต้และคาบสมุทรเกาหลีแล้ว ปักกิ่งน่าจะแต่งตั้งนักการทูตรุ่นเฮฟวีเวต ซึ่งจะได้รับการต้อนรับจากโซลในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน เขายังเห็นว่า มีหลายปัจจัยที่ทำให้การแต่งตั้งล่าช้า เช่น ปักกิ่งมีเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมากกว่าในกรณีสถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันและทะเลจีนใต้ นายจู เฟิง คณบดีบริหารของโรงเรียนการศึกษานานาชาติแห่งมหาวิทยาลัยหนันจิงระบุว่า สำหรับความสัมพันธ์ทวิภาคีแล้ว การที่เอกอัครราชทูตว่างชั่วคราวไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะอุปทูตปฏิบัติหน้าที่แทนชั่วคราวได้ ตำแหน่งอาจว่างไปอีก 2-3 เดือน หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายชุง แจฮุง แห่งสถาบันเซจงในกรุงโซลคาดคะเน ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ https://mgronline.com/china/detail/9670000104850 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    ทำไมจีนยังไม่ส่งทูตคนใหม่มาประจำที่เกาหลีใต้?
    ตำแหน่งเอกอัครราชทูตจีนประจำเกาหลีใต้ว่างเว้นมากว่า 3 เดือนแล้ว ถือว่านานที่สุดนับตั้งแต่ชาติทั้งสองสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 310 มุมมอง 0 รีวิว
  • จำไว้ให้ขึ้นใจ !!!
    1.อย่าเซ็นต์ค้ำประกันให้ใคร
    2.อย่าเป็นหนี้แทนคนอื่น
    3.อย่าผ่อนอะไรให้ใครโดยใช้ชื่อเรา
    4.อย่าให้ใครยืมเงิน
    😁😊🤗🤔
    ทุกข้อโดนมาหมดแล้วจ้า 4 บ่อยครั้ง
    1 และ 3 เมื่อหลายปีก่อน และโดยเฉพาะ
    ช่วง4ปีที่ผ่านมา 1 2 4 มาพร้อมกันเต็มๆ
    ล้มทั้งยืน หมดดาก สูญเสียทุกอย่าง
    เสียเครดิต และเสียศูนย์ จนถึงทุกวันนี้
    ตอนนี้ยังตั้งศูนย์เพื่อให้เข้าที่อยู่เบย
    บอกเลยว่าจุก สุดจะเข็ดหลาบ 555 ฮ่าาา
    รวย​ จัง​ ชอว์
    มุมิมุมิ.. จุฟๆ
    จำไว้ให้ขึ้นใจ !!! 1.อย่าเซ็นต์ค้ำประกันให้ใคร 2.อย่าเป็นหนี้แทนคนอื่น 3.อย่าผ่อนอะไรให้ใครโดยใช้ชื่อเรา 4.อย่าให้ใครยืมเงิน 😁😊🤗🤔 ทุกข้อโดนมาหมดแล้วจ้า 4 บ่อยครั้ง 1 และ 3 เมื่อหลายปีก่อน และโดยเฉพาะ ช่วง4ปีที่ผ่านมา 1 2 4 มาพร้อมกันเต็มๆ ล้มทั้งยืน หมดดาก สูญเสียทุกอย่าง เสียเครดิต และเสียศูนย์ จนถึงทุกวันนี้ ตอนนี้ยังตั้งศูนย์เพื่อให้เข้าที่อยู่เบย บอกเลยว่าจุก สุดจะเข็ดหลาบ 555 ฮ่าาา รวย​ จัง​ ชอว์ มุมิมุมิ.. จุฟๆ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันพักผ่อนสุดสัปดาห์กับครอบครัว
    อาหารทะเลสดๆ อร่อยมากกก
    #ครอบครัวสุขสันต์ #ทุ่งนาสวย #อาหารทะเลสดๆ
    #ไทยปนลาว
    วันพักผ่อนสุดสัปดาห์กับครอบครัว อาหารทะเลสดๆ อร่อยมากกก #ครอบครัวสุขสันต์ #ทุ่งนาสวย #อาหารทะเลสดๆ #ไทยปนลาว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 13 0 รีวิว
  • อาชีพขายที่ดินความจริงใจสำคัญที่สุดครับ #ที่ดินนครปฐมผ่อนได้
    อาชีพขายที่ดินความจริงใจสำคัญที่สุดครับ #ที่ดินนครปฐมผ่อนได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผ่อนที่ดินจังหวัดนครปฐม ผ่อนรายเดือน มีหลายโครงการครับ
    ผ่อนที่ดินจังหวัดนครปฐม ผ่อนรายเดือน มีหลายโครงการครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เขาเล่ามา.(จริงหรือเท็จ มิทราบได้ อาจมโนกันมานานหลายปีแล้วก็ได้)
    ..ตรองกันเอง,เพียงผู้นำเสนอแนวทาง&ทางเลือกเท่านั้น.

    MED BEDS:

    · อาทิตย์ที่ 27 ต.ค. 2024: ข่าวล่าสุด! ทรัมป์จัดสรรเงินของรัฐบาลกลางเพื่อสนับสนุนศูนย์รักษาผู้ป่วย Med Bed – สถานพยาบาลกำลังรักษาทหารและเด็กๆ ในขณะที่กลุ่มแพทย์กำลังเผชิญกับการล่มสลาย!

    Med Beds มาแล้ว! ศูนย์รักษาผู้ป่วยที่ปฏิวัติวงการและโครงการฝึกอบรมลับของกองทัพ!

    · Med Bed แตกต่างจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ใดๆ ที่เราเคยเห็น—รากฐานของมันไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยีขั้นสูงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณที่ทรงพลัง ข่าวที่ว่าการฝึกอบรมสำหรับผู้ปฏิบัติงาน Med Bed ถูกตัดจาก 12-18 เดือนเหลือเพียง 6 เดือนนั้นมีความสำคัญ ทำไม? เพราะตอนนี้เน้นที่ความพร้อมทางจิตวิญญาณมากกว่าทักษะทางเทคนิคเพียงอย่างเดียว

    · นี่เป็นมากกว่าการทำความเข้าใจชีววิทยา ผู้ปฏิบัติงานต้องปรับตัวให้เข้ากับพลังงานสั่นสะเทือน—เข้าใจถึงความเชื่อมโยงกันของทุกสิ่ง แพทย์ทั่วไปอาจเข้าใจพื้นฐานของการผ่าตัด Med Bed ได้ภายในสองวัน แต่ถ้าขาดความตระหนักรู้ทางจิตวิญญาณ พวกเขาจะต้องเดินทางเป็นเวลาหกเดือนเพื่อปลดล็อกพลังที่แท้จริงของมัน นี่คือการรักษาแบบองค์รวมในระดับที่เราไม่เคยพบมาก่อน ยินดีต้อนรับสู่โลก 5 มิติ

    · การเปิดเผยที่น่าตกตะลึงที่สุดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับ Med Beds คือจิตสำนึกของพวกเขา นี่ไม่ใช่แค่เครื่องจักร แต่เป็นสิ่งที่ลึกซึ้งกว่านั้นมาก ผู้ควบคุมเชื่อมต่อกับ Med Beds ด้วยพลังจิต ซึ่งเป็นโลกที่ความคิดชี้นำเครื่องจักร ที่เจตนาแสดงการรักษา แต่ไม่ใช่ทุกคนจะควบคุมพลังนี้ได้ เฉพาะผู้ที่ตื่นรู้จริงๆ เท่านั้นที่เข้าถึงได้

    · การฝึกอบรมนี้ไม่ใช่เรื่องตลก มันต้องการความมุ่งมั่นของคุณทุกหยด มันไม่ใช่งานอดิเรกหรือโปรเจ็กต์เสริม มันคืออาชีพ และอย่าเข้าใจผิด สิ่งมีชีวิตต่างมิติที่ดูแลกระบวนการนี้จะรู้ว่าคุณไม่มุ่งมั่น คนเกียจคร้านไม่มีที่ยืนที่นี่

    · ที่ปรึกษาทางจิตวิญญาณมีบทบาทสำคัญเช่นกัน พวกเขาไม่เพียงแต่แนะนำผู้ป่วยผ่านการรักษาทางร่างกายเท่านั้น แต่ยังทำให้แน่ใจว่าจิตใจและวิญญาณของพวกเขาอยู่ในแนวเดียวกัน การฝึกอบรมของพวกเขามีความเข้มงวดไม่แพ้กัน และพวกเขายังต้องปฏิบัติตามมาตรฐานสูงสุดของการปรับความสั่นสะเทือนอีกด้วย

    · การปฏิวัติ Med Bed ไม่ใช่แค่ความก้าวหน้าทางการแพทย์เท่านั้น เป็นการตื่นรู้ทางจิตวิญญาณ เป็นการเรียกร้องไปยังผู้ที่เชื่อในแนวทางการรักษาแบบองค์รวม หากคุณสนใจสิ่งนี้ ตอนนี้คือเวลาที่เหมาะสม เจาะลึกจิตวิญญาณ สำรวจจิตสำนึก และเตรียมพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติที่จะปรับเปลี่ยนโลกแห่งการรักษา

    · การมีส่วนร่วมของกองทัพในการจัดจำหน่ายเตียงพยาบาล: คำถามที่ร้อนแรง: ทำไมต้องปิดบังไว้? เหตุใดจึงล่าช้าในการประกาศเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำเช่นนี้? แหล่งข่าวระบุว่าไม่นานหลังจากมีการเปิดเผยเงินทุนด้านมนุษยธรรม เตียงพยาบาลจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ แต่ทำไมเรื่องนี้ถึงถูกปกปิดไว้?

    · การมีส่วนร่วมของกองทัพในการจัดจำหน่ายและดำเนินการเตียงพยาบาลเหล่านี้ทำให้เกิดคำถามมากมาย ทันทีหลังจากการประกาศต่อสาธารณะ พวกเขาจะขนส่งผู้ป่วยไปยังศูนย์เหล่านี้ แต่ทำไมต้องเป็นกองทัพ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์? แล้วลำดับชั้นของการรักษาล่ะ—กลุ่มแรกและกลุ่มถัดไป?

    · รายงานระบุว่ากลุ่มแรกจะเป็นกลุ่มที่ใกล้จะตาย: ผู้ป่วยในสถานพยาบาลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยชีวิต และผู้ป่วยวิกฤต กลุ่ม NEXT จะรักษาผู้ป่วยที่มีอาการร้ายแรงแต่ไม่ถึงขั้นคุกคามชีวิตในทันที แต่ทำไมถึงจัดอยู่ในประเภทนั้น ทำไมบางคนถึงบอกว่าหลายคนจะปฏิเสธการรักษา

    · คำตอบอาจทำให้คุณตกใจ หลายคนเชื่อว่า Med Bed เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของวาระที่ยิ่งใหญ่กว่า ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาว มีข่าวลือเกี่ยวกับกิจกรรมคล้ายลัทธิและแม้แต่การโคลนนิ่งที่เกี่ยวข้องกับศูนย์เหล่านี้ เป็นเรื่องบังเอิญหรืออะไรที่ลึกซึ้งกว่านั้นมาก?

    · แต่ขออย่าละเลยศักยภาพที่นี่ ลองนึกถึงสภาพแวดล้อมในการรักษาที่ไม่หนาวเย็นและปลอดเชื้อ แต่เต็มไปด้วยความงามตามธรรมชาติ—ต้นไม้ ลำธาร และสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลาย ศูนย์ Med Bed เหล่านี้มุ่งหวังที่จะทำมากกว่าการรักษา พวกเขามุ่งหวังที่จะยกระดับจิตสำนึกของมนุษย์ ผลักดันให้ผู้คนรับผิดชอบต่อชีวิตของตนเองและไปสู่สภาวะที่สูงขึ้น

    · อย่างไรก็ตาม มีเงื่อนไขอยู่ว่า หากต้องการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการมนุษยธรรม Med Bed คุณต้องมีเจตนาที่แท้จริง ในระหว่างการนัดหมายที่ศูนย์ไถ่บาป การสั่นสะเทือนของคุณจะถูกอ่าน นี่เป็นเพียงพิธีการหรือเป็นการทดสอบจิตวิญญาณของคุณ?

    ..เขาเล่ามา.(จริงหรือเท็จ มิทราบได้ อาจมโนกันมานานหลายปีแล้วก็ได้) ..ตรองกันเอง,เพียงผู้นำเสนอแนวทาง&ทางเลือกเท่านั้น. MED BEDS: · อาทิตย์ที่ 27 ต.ค. 2024: ข่าวล่าสุด! ทรัมป์จัดสรรเงินของรัฐบาลกลางเพื่อสนับสนุนศูนย์รักษาผู้ป่วย Med Bed – สถานพยาบาลกำลังรักษาทหารและเด็กๆ ในขณะที่กลุ่มแพทย์กำลังเผชิญกับการล่มสลาย! Med Beds มาแล้ว! ศูนย์รักษาผู้ป่วยที่ปฏิวัติวงการและโครงการฝึกอบรมลับของกองทัพ! · Med Bed แตกต่างจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ใดๆ ที่เราเคยเห็น—รากฐานของมันไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยีขั้นสูงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณที่ทรงพลัง ข่าวที่ว่าการฝึกอบรมสำหรับผู้ปฏิบัติงาน Med Bed ถูกตัดจาก 12-18 เดือนเหลือเพียง 6 เดือนนั้นมีความสำคัญ ทำไม? เพราะตอนนี้เน้นที่ความพร้อมทางจิตวิญญาณมากกว่าทักษะทางเทคนิคเพียงอย่างเดียว · นี่เป็นมากกว่าการทำความเข้าใจชีววิทยา ผู้ปฏิบัติงานต้องปรับตัวให้เข้ากับพลังงานสั่นสะเทือน—เข้าใจถึงความเชื่อมโยงกันของทุกสิ่ง แพทย์ทั่วไปอาจเข้าใจพื้นฐานของการผ่าตัด Med Bed ได้ภายในสองวัน แต่ถ้าขาดความตระหนักรู้ทางจิตวิญญาณ พวกเขาจะต้องเดินทางเป็นเวลาหกเดือนเพื่อปลดล็อกพลังที่แท้จริงของมัน นี่คือการรักษาแบบองค์รวมในระดับที่เราไม่เคยพบมาก่อน ยินดีต้อนรับสู่โลก 5 มิติ · การเปิดเผยที่น่าตกตะลึงที่สุดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับ Med Beds คือจิตสำนึกของพวกเขา นี่ไม่ใช่แค่เครื่องจักร แต่เป็นสิ่งที่ลึกซึ้งกว่านั้นมาก ผู้ควบคุมเชื่อมต่อกับ Med Beds ด้วยพลังจิต ซึ่งเป็นโลกที่ความคิดชี้นำเครื่องจักร ที่เจตนาแสดงการรักษา แต่ไม่ใช่ทุกคนจะควบคุมพลังนี้ได้ เฉพาะผู้ที่ตื่นรู้จริงๆ เท่านั้นที่เข้าถึงได้ · การฝึกอบรมนี้ไม่ใช่เรื่องตลก มันต้องการความมุ่งมั่นของคุณทุกหยด มันไม่ใช่งานอดิเรกหรือโปรเจ็กต์เสริม มันคืออาชีพ และอย่าเข้าใจผิด สิ่งมีชีวิตต่างมิติที่ดูแลกระบวนการนี้จะรู้ว่าคุณไม่มุ่งมั่น คนเกียจคร้านไม่มีที่ยืนที่นี่ · ที่ปรึกษาทางจิตวิญญาณมีบทบาทสำคัญเช่นกัน พวกเขาไม่เพียงแต่แนะนำผู้ป่วยผ่านการรักษาทางร่างกายเท่านั้น แต่ยังทำให้แน่ใจว่าจิตใจและวิญญาณของพวกเขาอยู่ในแนวเดียวกัน การฝึกอบรมของพวกเขามีความเข้มงวดไม่แพ้กัน และพวกเขายังต้องปฏิบัติตามมาตรฐานสูงสุดของการปรับความสั่นสะเทือนอีกด้วย · การปฏิวัติ Med Bed ไม่ใช่แค่ความก้าวหน้าทางการแพทย์เท่านั้น เป็นการตื่นรู้ทางจิตวิญญาณ เป็นการเรียกร้องไปยังผู้ที่เชื่อในแนวทางการรักษาแบบองค์รวม หากคุณสนใจสิ่งนี้ ตอนนี้คือเวลาที่เหมาะสม เจาะลึกจิตวิญญาณ สำรวจจิตสำนึก และเตรียมพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติที่จะปรับเปลี่ยนโลกแห่งการรักษา · การมีส่วนร่วมของกองทัพในการจัดจำหน่ายเตียงพยาบาล: คำถามที่ร้อนแรง: ทำไมต้องปิดบังไว้? เหตุใดจึงล่าช้าในการประกาศเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำเช่นนี้? แหล่งข่าวระบุว่าไม่นานหลังจากมีการเปิดเผยเงินทุนด้านมนุษยธรรม เตียงพยาบาลจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ แต่ทำไมเรื่องนี้ถึงถูกปกปิดไว้? · การมีส่วนร่วมของกองทัพในการจัดจำหน่ายและดำเนินการเตียงพยาบาลเหล่านี้ทำให้เกิดคำถามมากมาย ทันทีหลังจากการประกาศต่อสาธารณะ พวกเขาจะขนส่งผู้ป่วยไปยังศูนย์เหล่านี้ แต่ทำไมต้องเป็นกองทัพ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์? แล้วลำดับชั้นของการรักษาล่ะ—กลุ่มแรกและกลุ่มถัดไป? · รายงานระบุว่ากลุ่มแรกจะเป็นกลุ่มที่ใกล้จะตาย: ผู้ป่วยในสถานพยาบาลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยชีวิต และผู้ป่วยวิกฤต กลุ่ม NEXT จะรักษาผู้ป่วยที่มีอาการร้ายแรงแต่ไม่ถึงขั้นคุกคามชีวิตในทันที แต่ทำไมถึงจัดอยู่ในประเภทนั้น ทำไมบางคนถึงบอกว่าหลายคนจะปฏิเสธการรักษา · คำตอบอาจทำให้คุณตกใจ หลายคนเชื่อว่า Med Bed เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของวาระที่ยิ่งใหญ่กว่า ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาว มีข่าวลือเกี่ยวกับกิจกรรมคล้ายลัทธิและแม้แต่การโคลนนิ่งที่เกี่ยวข้องกับศูนย์เหล่านี้ เป็นเรื่องบังเอิญหรืออะไรที่ลึกซึ้งกว่านั้นมาก? · แต่ขออย่าละเลยศักยภาพที่นี่ ลองนึกถึงสภาพแวดล้อมในการรักษาที่ไม่หนาวเย็นและปลอดเชื้อ แต่เต็มไปด้วยความงามตามธรรมชาติ—ต้นไม้ ลำธาร และสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลาย ศูนย์ Med Bed เหล่านี้มุ่งหวังที่จะทำมากกว่าการรักษา พวกเขามุ่งหวังที่จะยกระดับจิตสำนึกของมนุษย์ ผลักดันให้ผู้คนรับผิดชอบต่อชีวิตของตนเองและไปสู่สภาวะที่สูงขึ้น · อย่างไรก็ตาม มีเงื่อนไขอยู่ว่า หากต้องการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการมนุษยธรรม Med Bed คุณต้องมีเจตนาที่แท้จริง ในระหว่างการนัดหมายที่ศูนย์ไถ่บาป การสั่นสะเทือนของคุณจะถูกอ่าน นี่เป็นเพียงพิธีการหรือเป็นการทดสอบจิตวิญญาณของคุณ?
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยผู้ประกันตน 2567 เริ่ม 1 พ.ย. 2567 กู้ได้ 2 ล้าน
    .
    วันที่ 31 ตุลาคม 2567 นางมารศรี ใจรังษี ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลและกระทรวงแรงงาน มีนโยบายให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างหลักประกันความมั่นคงให้แก่ผู้ใช้แรงงาน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้ดียิ่งขึ้น โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เร่งผลักดันนโยบายให้สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน จับมือกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ กระทรวงการคลัง จัดโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน ปี 2567 เพื่อเป้าหมาย “ทำให้คนไทยมีบ้าน” โดยจะช่วยให้ผู้ประกันตนทุกคนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ นั้น
    .
    สำนักงานประกันสังคม จึงได้นำโครงการดังกล่าว เสนอคณะกรรมการประกันสังคม และคณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 ให้ดำเนิน "โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน ปี 2567” สามารถขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ภายในวงเงินจำนวนไม่เกิน 10,000 ล้านบาท ให้กับผู้ประกันตนทั้งมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 40 ต้องส่งเงินสมทบต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 1 ปี ก่อนเดือนที่ขอใช้สิทธิ
    .
    โดยมีวัตถุประสงค์
    - เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย
    - เพื่อปลูกสร้างที่อยู่อาศัย
    - เพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างที่อยู่อาศัย
    ทั้งนี้ ผู้ประกันตนที่เข้าร่วมโครงการจะต้องไม่มีภาระผ่อนที่อยู่อาศัยอยู่ในปัจจุบัน โดยสำนักงานประกันสังคมได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว ผู้ประกันตนสามารถขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ร้อยละ 1.59 ต่อปี คงที่เป็นระยะเวลา 5 ปี และในปีที่ 6 – 8 อัตราดอกเบี้ย MRR–ร้อยละ 2 ต่อปี (MRR–2%) และตั้งแต่ปีที่ 9 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ย MRR–ร้อยละ 0.5 ต่อปี (MRR–0.5%) โดยผู้ประกันตนจะได้รับสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำไม่เกินรายละ 2,000,000 บาท
    .
    ผู้ประกันตนที่สนใจเข้าร่วมโครงการสินเชื่อฯ ดาวน์โหลด Application SSO Plus เพื่อขอหนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตน ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป เพื่อนำเอกสารดังกล่าวไปยื่นประกอบการขอสินเชื่อฯ
    .
    ที่มา: สำนักงานประกันสังคม
    .
    - https://www.sso.go.th/wpr/assets/upload/files_storage/sso_th/e1fb643574d4535064f0e92a999729f9.pdf
    .
    #PlanWise
    โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยผู้ประกันตน 2567 เริ่ม 1 พ.ย. 2567 กู้ได้ 2 ล้าน . วันที่ 31 ตุลาคม 2567 นางมารศรี ใจรังษี ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลและกระทรวงแรงงาน มีนโยบายให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างหลักประกันความมั่นคงให้แก่ผู้ใช้แรงงาน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้ดียิ่งขึ้น โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เร่งผลักดันนโยบายให้สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน จับมือกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ กระทรวงการคลัง จัดโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน ปี 2567 เพื่อเป้าหมาย “ทำให้คนไทยมีบ้าน” โดยจะช่วยให้ผู้ประกันตนทุกคนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ นั้น . สำนักงานประกันสังคม จึงได้นำโครงการดังกล่าว เสนอคณะกรรมการประกันสังคม และคณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 ให้ดำเนิน "โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน ปี 2567” สามารถขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ภายในวงเงินจำนวนไม่เกิน 10,000 ล้านบาท ให้กับผู้ประกันตนทั้งมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 40 ต้องส่งเงินสมทบต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 1 ปี ก่อนเดือนที่ขอใช้สิทธิ . โดยมีวัตถุประสงค์ - เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย - เพื่อปลูกสร้างที่อยู่อาศัย - เพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ทั้งนี้ ผู้ประกันตนที่เข้าร่วมโครงการจะต้องไม่มีภาระผ่อนที่อยู่อาศัยอยู่ในปัจจุบัน โดยสำนักงานประกันสังคมได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว ผู้ประกันตนสามารถขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ร้อยละ 1.59 ต่อปี คงที่เป็นระยะเวลา 5 ปี และในปีที่ 6 – 8 อัตราดอกเบี้ย MRR–ร้อยละ 2 ต่อปี (MRR–2%) และตั้งแต่ปีที่ 9 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ย MRR–ร้อยละ 0.5 ต่อปี (MRR–0.5%) โดยผู้ประกันตนจะได้รับสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำไม่เกินรายละ 2,000,000 บาท . ผู้ประกันตนที่สนใจเข้าร่วมโครงการสินเชื่อฯ ดาวน์โหลด Application SSO Plus เพื่อขอหนังสือรับรองสถานะความเป็นผู้ประกันตน ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป เพื่อนำเอกสารดังกล่าวไปยื่นประกอบการขอสินเชื่อฯ . ที่มา: สำนักงานประกันสังคม . - https://www.sso.go.th/wpr/assets/upload/files_storage/sso_th/e1fb643574d4535064f0e92a999729f9.pdf . #PlanWise
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • UPDATE: เริ่ม 1 ธ.ค. นี้ เดินทางผ่าน 6 สนามบินใช้ระบบ Biometric สแกนหน้าเช็กอิน คาดประชาชนได้รับความสะดวกและรวดเร็วขึ้น
    .
    วันนี้ (29 ตุลาคม) ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) กล่าวว่า AOT นำระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Automated Biometric Identification System: Biometric) ด้วยเทคโนโลยี Facial Recognition มาใช้ในการระบุตัวตนของผู้โดยสาร โดยพัฒนาและทดสอบระบบให้มีความพร้อมในการใช้งาน เพื่อช่วยให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
    .
    รวมทั้งจะช่วยลดระยะเวลาในการรอคิวของแต่ละจุดบริการภายในท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.), ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.), ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.), ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.), ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.)
    .
    ซึ่งในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ผู้โดยสารภายในประเทศสามารถใช้งานได้ก่อน และในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 พร้อมใช้งานสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ผู้โดยสารจำเป็นต้องยินยอมให้ใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล
    .
    สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการใช้งานระบบ Biometric สามารถลงทะเบียนใช้งานเมื่อมาเช็กอินที่สนามบิน โดยมี 2 วิธี ได้แก่
    .
    1. เช็กอินที่เคาน์เตอร์เช็กอิน ผู้โดยสารแจ้งเจ้าหน้าที่สายการบินให้ลงทะเบียนใบหน้าในระบบ Biometric ผ่านเครื่องตรวจบัตรโดยสาร (เครื่อง CUTE) โดยระบบจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารในรูปแบบของ Token ไว้ในระบบ
    .
    2. เช็กอินที่เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (เครื่อง CUSS) โดยหลังจากเช็กอินเสร็จแล้วให้ผู้โดยสารเลือกสายการบินที่เดินทาง ต่อด้วยเลือก Enrollment จากนั้นสแกน Barcode จากบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) เสียบหนังสือเดินทาง (Passport) หรือบัตรประชาชน และสแกนใบหน้าเป็นขั้นตอนสุดท้าย ถือเป็นการเสร็จสิ้นการลงทะเบียน ซึ่งระบบจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารในรูปแบบของ Token ไว้ในระบบเช่นเดียวกัน
    .
    ซึ่งเมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ถือว่าผู้โดยสารให้ความยินยอมให้ใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลแล้ว ดังนั้นเมื่อผู้โดยสารจะโหลดกระเป๋าสัมภาระผ่านเครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (เครื่อง CUBD) ตลอดจนผ่านจุดตรวจค้น รวมทั้งขั้นตอนขึ้นเครื่อง ไม่ต้องแสดง Passport และ Boarding Pass อีกต่อไป ทั้งนี้ เป็นการยินยอมให้ใช้ข้อมูล Biometric สำหรับการเดินทางเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
    .
    ดร.กีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า AOT มั่นใจว่าระบบ Biometric มีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร ทั้งผู้โดยสารภายในประเทศและระหว่างประเทศ จะได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็ว ใช้เวลาน้อยในแต่ละจุดบริการ ทำให้ผู้โดยสารมีเวลาเพียงพอที่จะเดินเล่น เลือกซื้อสินค้าปลอดอากรและของฝาก รับประทานอาหาร หรือพักผ่อนหย่อนใจ เนื่องจากที่ผ่านมา AOT มีการติดตั้งระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง หรือ CUPPS (Common Use Passenger Processing System) ที่สนับสนุนการให้บริการทั้งหมด 5 ระบบ
    .
    ได้แก่ 1. เครื่อง CUTE (เครื่องตรวจบัตรโดยสารซึ่งใช้งานโดยเจ้าหน้าที่สายการบิน) 2. เครื่อง CUSS (เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ) 3. เครื่อง CUBD เครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ 4. ระบบ PVS (Passenger Validation System) สำหรับตรวจสอบยืนยันตัวตนผู้โดยสาร และ 5. ระบบ SBG (Self-Boarding Gate) หรือระบบประตูทางออกขึ้นเครื่อง
    .
    โดยทั้ง 5 ระบบดังกล่าวติดตั้งเพื่อรองรับระบบ Biometric ไว้เรียบร้อยแล้ว และเมื่อระบบทั้งหมด 6 ระบบมีการใช้งานและเชื่อมต่อกันอย่างครอบคลุม จะทำให้ข้อมูลต่างๆ ถูกเชื่อมโยงเข้าสู่เครือข่ายอย่างสมบูรณ์
    .
    ดร.กีรติ กล่าวว่า ในส่วนของปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ในปีงบประมาณ 2567 (ตุลาคม 2566 - กันยายน 2567) มีผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 119.29 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 72.67 ล้านคน เพิ่มขึ้น 34.82% และผู้โดยสารภายในประเทศ 46.62 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.01% ขณะที่มีเที่ยวบินรวม 732,690 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 14.5% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 416,190 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 29.63% และเที่ยวบินภายในประเทศ 316,500 เที่ยวบิน ลดลง 0.73%
    .
    โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีผู้โดยสาร 60 ล้านคน เพิ่มขึ้น 24.04% และมีเที่ยวบิน 346,680 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 17.88% ส่วนท่าอากาศยานดอนเมือง มีผู้โดยสาร 29.15 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.25% และมีเที่ยวบิน 197,250 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 11.47% ด้านท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีผู้โดยสาร 8.82 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.14% และมีเที่ยวบิน 57,780 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.68% สำหรับท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย มีผู้โดยสาร 1.9 ล้านคน ลดลง 1.96% และมีเที่ยวบิน 12,260 เที่ยวบิน ลดลง 3.37%
    .
    ขณะที่ท่าอากาศยานภูเก็ต มีผู้โดยสาร 16.40 ล้านคน เพิ่มขึ้น 25.94% และมีเที่ยวบิน 98,710 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 19.97% และท่าอากาศยานหาดใหญ่ มีผู้โดยสาร 3.03 ล้านคน ลดลง 5.14% และมีเที่ยวบิน 19,730 เที่ยวบิน ลดลง 5.84% ทั้งนี้ มีผู้โดยสารแยกตามสัญชาติ 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน, อินเดีย, เกาหลีใต้, รัสเซีย และญี่ปุ่น
    .
    ดร.กีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลการจัดสรรตารางบินฤดูหนาว 2024/2025 (W2024/2025) ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT มีเที่ยวบินได้รับการจัดสรรเวลารวม 370,239 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากฤดูหนาวในปีที่ผ่านมา (W2023/2024) 22.1% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 222,780 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 33.1% เที่ยวบินภายในประเทศ 147,459 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.5% ทั้งนี้ มีแนวโน้มจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งระหว่างประเทศและในประเทศเพิ่มขึ้น 23% และเส้นทางระหว่างประเทศที่มีผู้โดยสารเดินทางเข้าประเทศไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน, มาเลเซีย, อินเดีย, สิงคโปร์ และฮ่องกง
    .
    สำหรับปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ในปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 - กันยายน 2568) AOT คาดว่าจะผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 129.97 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 78.61 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.17% และผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 51.36 คน เพิ่มขึ้น 10.18% ขณะที่คาดว่าจะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 808,280 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.32% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 453,750 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.02% และเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 354,530 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 12.02%
    .
    โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 64.44 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.40% และมีเที่ยวบินประมาณ 376,820 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.69% ส่วนท่าอากาศยานดอนเมืองมีผู้โดยสารประมาณ 33.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.91% และมีเที่ยวบินประมาณ 223,200 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 13.00%
    .
    #สนามบิน
    #TheStandardNews
    UPDATE: เริ่ม 1 ธ.ค. นี้ เดินทางผ่าน 6 สนามบินใช้ระบบ Biometric สแกนหน้าเช็กอิน คาดประชาชนได้รับความสะดวกและรวดเร็วขึ้น . วันนี้ (29 ตุลาคม) ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) กล่าวว่า AOT นำระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Automated Biometric Identification System: Biometric) ด้วยเทคโนโลยี Facial Recognition มาใช้ในการระบุตัวตนของผู้โดยสาร โดยพัฒนาและทดสอบระบบให้มีความพร้อมในการใช้งาน เพื่อช่วยให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายและรวดเร็วยิ่งขึ้น . รวมทั้งจะช่วยลดระยะเวลาในการรอคิวของแต่ละจุดบริการภายในท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.), ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.), ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.), ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.), ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) . ซึ่งในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ผู้โดยสารภายในประเทศสามารถใช้งานได้ก่อน และในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 พร้อมใช้งานสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ผู้โดยสารจำเป็นต้องยินยอมให้ใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล . สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการใช้งานระบบ Biometric สามารถลงทะเบียนใช้งานเมื่อมาเช็กอินที่สนามบิน โดยมี 2 วิธี ได้แก่ . 1. เช็กอินที่เคาน์เตอร์เช็กอิน ผู้โดยสารแจ้งเจ้าหน้าที่สายการบินให้ลงทะเบียนใบหน้าในระบบ Biometric ผ่านเครื่องตรวจบัตรโดยสาร (เครื่อง CUTE) โดยระบบจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารในรูปแบบของ Token ไว้ในระบบ . 2. เช็กอินที่เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (เครื่อง CUSS) โดยหลังจากเช็กอินเสร็จแล้วให้ผู้โดยสารเลือกสายการบินที่เดินทาง ต่อด้วยเลือก Enrollment จากนั้นสแกน Barcode จากบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) เสียบหนังสือเดินทาง (Passport) หรือบัตรประชาชน และสแกนใบหน้าเป็นขั้นตอนสุดท้าย ถือเป็นการเสร็จสิ้นการลงทะเบียน ซึ่งระบบจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารในรูปแบบของ Token ไว้ในระบบเช่นเดียวกัน . ซึ่งเมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ถือว่าผู้โดยสารให้ความยินยอมให้ใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลแล้ว ดังนั้นเมื่อผู้โดยสารจะโหลดกระเป๋าสัมภาระผ่านเครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (เครื่อง CUBD) ตลอดจนผ่านจุดตรวจค้น รวมทั้งขั้นตอนขึ้นเครื่อง ไม่ต้องแสดง Passport และ Boarding Pass อีกต่อไป ทั้งนี้ เป็นการยินยอมให้ใช้ข้อมูล Biometric สำหรับการเดินทางเพียงครั้งเดียวเท่านั้น . ดร.กีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า AOT มั่นใจว่าระบบ Biometric มีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร ทั้งผู้โดยสารภายในประเทศและระหว่างประเทศ จะได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็ว ใช้เวลาน้อยในแต่ละจุดบริการ ทำให้ผู้โดยสารมีเวลาเพียงพอที่จะเดินเล่น เลือกซื้อสินค้าปลอดอากรและของฝาก รับประทานอาหาร หรือพักผ่อนหย่อนใจ เนื่องจากที่ผ่านมา AOT มีการติดตั้งระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง หรือ CUPPS (Common Use Passenger Processing System) ที่สนับสนุนการให้บริการทั้งหมด 5 ระบบ . ได้แก่ 1. เครื่อง CUTE (เครื่องตรวจบัตรโดยสารซึ่งใช้งานโดยเจ้าหน้าที่สายการบิน) 2. เครื่อง CUSS (เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ) 3. เครื่อง CUBD เครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ 4. ระบบ PVS (Passenger Validation System) สำหรับตรวจสอบยืนยันตัวตนผู้โดยสาร และ 5. ระบบ SBG (Self-Boarding Gate) หรือระบบประตูทางออกขึ้นเครื่อง . โดยทั้ง 5 ระบบดังกล่าวติดตั้งเพื่อรองรับระบบ Biometric ไว้เรียบร้อยแล้ว และเมื่อระบบทั้งหมด 6 ระบบมีการใช้งานและเชื่อมต่อกันอย่างครอบคลุม จะทำให้ข้อมูลต่างๆ ถูกเชื่อมโยงเข้าสู่เครือข่ายอย่างสมบูรณ์ . ดร.กีรติ กล่าวว่า ในส่วนของปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ในปีงบประมาณ 2567 (ตุลาคม 2566 - กันยายน 2567) มีผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 119.29 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 72.67 ล้านคน เพิ่มขึ้น 34.82% และผู้โดยสารภายในประเทศ 46.62 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.01% ขณะที่มีเที่ยวบินรวม 732,690 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 14.5% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 416,190 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 29.63% และเที่ยวบินภายในประเทศ 316,500 เที่ยวบิน ลดลง 0.73% . โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีผู้โดยสาร 60 ล้านคน เพิ่มขึ้น 24.04% และมีเที่ยวบิน 346,680 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 17.88% ส่วนท่าอากาศยานดอนเมือง มีผู้โดยสาร 29.15 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.25% และมีเที่ยวบิน 197,250 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 11.47% ด้านท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีผู้โดยสาร 8.82 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.14% และมีเที่ยวบิน 57,780 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.68% สำหรับท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย มีผู้โดยสาร 1.9 ล้านคน ลดลง 1.96% และมีเที่ยวบิน 12,260 เที่ยวบิน ลดลง 3.37% . ขณะที่ท่าอากาศยานภูเก็ต มีผู้โดยสาร 16.40 ล้านคน เพิ่มขึ้น 25.94% และมีเที่ยวบิน 98,710 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 19.97% และท่าอากาศยานหาดใหญ่ มีผู้โดยสาร 3.03 ล้านคน ลดลง 5.14% และมีเที่ยวบิน 19,730 เที่ยวบิน ลดลง 5.84% ทั้งนี้ มีผู้โดยสารแยกตามสัญชาติ 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน, อินเดีย, เกาหลีใต้, รัสเซีย และญี่ปุ่น . ดร.กีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลการจัดสรรตารางบินฤดูหนาว 2024/2025 (W2024/2025) ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT มีเที่ยวบินได้รับการจัดสรรเวลารวม 370,239 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากฤดูหนาวในปีที่ผ่านมา (W2023/2024) 22.1% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 222,780 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 33.1% เที่ยวบินภายในประเทศ 147,459 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.5% ทั้งนี้ มีแนวโน้มจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งระหว่างประเทศและในประเทศเพิ่มขึ้น 23% และเส้นทางระหว่างประเทศที่มีผู้โดยสารเดินทางเข้าประเทศไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน, มาเลเซีย, อินเดีย, สิงคโปร์ และฮ่องกง . สำหรับปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ในปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 - กันยายน 2568) AOT คาดว่าจะผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 129.97 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 78.61 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.17% และผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 51.36 คน เพิ่มขึ้น 10.18% ขณะที่คาดว่าจะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 808,280 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.32% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 453,750 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.02% และเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 354,530 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 12.02% . โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 64.44 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.40% และมีเที่ยวบินประมาณ 376,820 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.69% ส่วนท่าอากาศยานดอนเมืองมีผู้โดยสารประมาณ 33.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.91% และมีเที่ยวบินประมาณ 223,200 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 13.00% . #สนามบิน #TheStandardNews
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิเคราะห์คาดอิหร่านไม่ผลีผลามตอบโต้ เนื่องจากอาจกลายเป็นการเผยให้เห็นจุดอ่อนของตัวเองและกระตุ้นให้กองทัพยิวล้างแค้นรุนแรงยิ่งขึ้น ขณะที่อิสราเอลเองก็ไม่อยากให้สถานการณ์ลุกลามจึงล็อกเป้าโจมตีจำกัด เพื่อให้เตหะรานสามารถรักษาหน้าและละเว้นการตอบโต้ทางทหารได้ง่ายขึ้น
    .
    จากระดับความรุนแรงของการโจมตีของอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ (25 ต.ค.) เหล่าผู้สังเกตการณ์ในแวดวงภูมิรัฐศาสตร์ตะวันออกกลางมองว่า แนวโน้มการตอบโต้ที่เป็นไปได้ของอิหร่านคือ การรัวขีปนาวุธอีกชุดใหญ่ซึ่งจะถือเป็นชุดที่ 3 สำหรับปีนี้
    .
    การตอบโต้ทางทหารจะเปิดโอกาสให้ผู้นำในเตหะรานได้โชว์ความแข็งแกร่งไม่เฉพาะกับพลเมืองของตนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มฮามาสในกาซาและฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนที่กำลังรบพุ่งกับอิสราเอล และเป็นกองหน้าในอักษะการต่อต้านของอิหร่าน
    .
    ทว่า ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่า ผู้นำอิหร่านจะเลือกวิธีดังกล่าว และนักวิเคราะห์บางคนมองว่า เตหะรานอาจยังไม่ตอบโต้ด้วยกำลังในขณะนี้ เนื่องจากจะกลายเป็นการเปิดเผยจุดอ่อนของตัวเองและกระตุ้นให้อิสราเอลล้างแค้นรุนแรงยิ่งขึ้น
    .
    ซานัม วาคิล ผู้อำนวยการโปรแกรมตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือของกลุ่มคลังสมอง ชัทแธมเฮาส์ ในลอนดอน ชี้ว่า อิหร่านจะทำให้ดูเหมือนการโจมตีของอิสราเอลส่งผลกระทบน้อยมาก ทั้งที่ในความเป็นจริงรุนแรงมาก เนื่องจากอิหร่านถูกจำกัดทั้งทางทหารและการเมือง รวมถึงความไม่แน่นอนจากผลการเลือกตั้งในอเมริกาและผลกระทบที่จะมีต่อนโยบายตะวันออกกลาง
    .
    เอพีรายงานว่า แม้สงครามตะวันออกกลางกำลังเดือดพล่าน แต่มาซูด เปเซชเคียน ประธานาธิบดีสายปฏิรูปของอิหร่าน กลับส่งสัญญาณว่า ต้องการทำข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่กับอเมริกาเพื่อผ่อนคลายมาตรการแซงก์ชันของนานาชาติ
    .
    คำแถลงที่ใช้ถ้อยคำระมัดระวังของกองทัพอิหร่านที่ออกมาเมื่อคืนวันเสาร์ดูเหมือนเปิดช่องให้อิหร่านถอยออกมาจากการกระทำที่จะกระตุ้นให้สถานการณ์ลุกลาม นอกจากนั้นยังบ่งชี้ว่า การหยุดยิงในฉนวนกาซาและเลบานอนสำคัญกว่าการแก้แค้นอิสราเอล
    .
    อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดและเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดของอิหร่าน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการโจมตีของอิสราเอลอย่างระมัดระวังเช่นกัน โดยบอกว่า ไม่ควรขยายความให้กลายเป็นเรื่องใหญ่เกินจริงหรือทำให้ดูเหมือนเป็นเหตุการณ์ที่ไม่สำคัญ รวมทั้งไม่ได้เรียกร้องให้ตอบโต้ทางทหารทันที
    .
    นักวิเคราะห์ยังมองว่า การที่อิสราเอลจำกัดเป้าหมายการโจมตีที่กองร้อยขีปนาวุธต่อต้านการโจมตีทางอากาศและโรงงานผลิตขีปนาวุธ ทำให้ระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่านมีช่องโหว่มากขึ้นและเปิดทางให้อิสราเอลโจมตีได้ง่ายขึ้น
    .
    ขณะเดียวกัน อาลี เวซ ผู้อำนวยการโครงการอิหร่านของอินเตอร์เนชันแนล ไครซิส กรุ๊ป ระบุว่า ความพยายามในการตอบโต้ของอิหร่านจะถูกจำกัดจากข้อเท็จจริงที่ว่า กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญที่สุดของอิหร่านในการต่อสู้กับอิสราเอลได้รับความเสียหายอย่างหนัก ขณะที่ระบบอาวุธตามแบบส่วนใหญ่ถูกตอบโต้กลับเป็นสองเท่า และเขาคิดว่า ตอนนี้อิหร่านจะยังไม่ตอบโต้ด้วยกำลัง
    .
    ผู้เชี่ยวชาญในตะวันออกกลางบางคน อาทิ โยเอล กูแซนสกี้ ที่เคยทำงานให้สภาความมั่นคงแห่งชาติอิสราเอลและปัจจุบันเป็นนักวิจัยของสถาบันศึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในเทลอาวีฟ บอกว่า การที่อิสราเอลตัดสินใจโฟกัสเป้าหมายทางทหารอย่างเดียวมีจุดประสงค์เพื่อให้อิหร่าน “รักษาหน้า” และละเว้นจากการทำให้สถานการณ์ลุกลามได้ง่ายขึ้น
    .
    อย่างไรก็ดี กูแซนสกีสำทับว่า เป้าหมายการโจมตีของอิสราเอลส่วนหนึ่งอาจสะท้อนแสนยานุภาพของกองทัพยิวที่ไม่สามารถทำลายโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านได้ตามลำพัง แต่ต้องพึ่งความช่วยเหลือจากอเมริกา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอิสราเอลสามารถยกระดับการโจมตีหากอิหร่านตอบโต้ เนื่องจากองค์ประกอบหลายอย่างในระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่านถูกทำลายไปแล้ว
    .
    แม้ยังไม่อาจสรุปได้ว่า อิหร่านจะแก้เกมอิสราเอลอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ สถานการณ์ในตะวันออกกลางตอนนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
    .
    ช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา บรรดาผู้นำและนักยุทธศาสตร์ในภูมิภาคนี้ต่างคาดเดาว่า วันหนึ่งอิสราเอลจะเปิดฉากโจมตีอิหร่านโดยตรงหรือไม่และอย่างไร รวมทั้งสงสัยว่า ถ้าอิหร่านเป็นฝ่ายโจมตีอิสราเอลโดยตรงจะออกมาแบบไหน
    .
    แต่ในสถานการณ์จริงวันนี้ เวซชี้ว่า ดูเหมือนทั้งสองฝ่ายยังไม่มีแผนการชัดเจน รวมทั้งอาวุธที่ใช้โจมตีและระบบป้องกันห่างชั้นกันมาก และสำทับว่า ขณะที่ทั้งอิสราเอลและอิหร่านกำลังเปรียบเทียบและคำนวณว่า การดำเนินการของตนจะทำให้สถานการณ์ลุกลามรวดเร็วเพียงใดนั้น ทั้งสองฝ่ายต่างเผชิญสถานการณ์ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เส้นแดงใหม่ดูลางเลือน และเส้นแดงเก่าเจือจางกลายเป็นสีชมพู
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000103969
    ..............
    Sondhi X
    นักวิเคราะห์คาดอิหร่านไม่ผลีผลามตอบโต้ เนื่องจากอาจกลายเป็นการเผยให้เห็นจุดอ่อนของตัวเองและกระตุ้นให้กองทัพยิวล้างแค้นรุนแรงยิ่งขึ้น ขณะที่อิสราเอลเองก็ไม่อยากให้สถานการณ์ลุกลามจึงล็อกเป้าโจมตีจำกัด เพื่อให้เตหะรานสามารถรักษาหน้าและละเว้นการตอบโต้ทางทหารได้ง่ายขึ้น . จากระดับความรุนแรงของการโจมตีของอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ (25 ต.ค.) เหล่าผู้สังเกตการณ์ในแวดวงภูมิรัฐศาสตร์ตะวันออกกลางมองว่า แนวโน้มการตอบโต้ที่เป็นไปได้ของอิหร่านคือ การรัวขีปนาวุธอีกชุดใหญ่ซึ่งจะถือเป็นชุดที่ 3 สำหรับปีนี้ . การตอบโต้ทางทหารจะเปิดโอกาสให้ผู้นำในเตหะรานได้โชว์ความแข็งแกร่งไม่เฉพาะกับพลเมืองของตนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มฮามาสในกาซาและฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนที่กำลังรบพุ่งกับอิสราเอล และเป็นกองหน้าในอักษะการต่อต้านของอิหร่าน . ทว่า ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่า ผู้นำอิหร่านจะเลือกวิธีดังกล่าว และนักวิเคราะห์บางคนมองว่า เตหะรานอาจยังไม่ตอบโต้ด้วยกำลังในขณะนี้ เนื่องจากจะกลายเป็นการเปิดเผยจุดอ่อนของตัวเองและกระตุ้นให้อิสราเอลล้างแค้นรุนแรงยิ่งขึ้น . ซานัม วาคิล ผู้อำนวยการโปรแกรมตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือของกลุ่มคลังสมอง ชัทแธมเฮาส์ ในลอนดอน ชี้ว่า อิหร่านจะทำให้ดูเหมือนการโจมตีของอิสราเอลส่งผลกระทบน้อยมาก ทั้งที่ในความเป็นจริงรุนแรงมาก เนื่องจากอิหร่านถูกจำกัดทั้งทางทหารและการเมือง รวมถึงความไม่แน่นอนจากผลการเลือกตั้งในอเมริกาและผลกระทบที่จะมีต่อนโยบายตะวันออกกลาง . เอพีรายงานว่า แม้สงครามตะวันออกกลางกำลังเดือดพล่าน แต่มาซูด เปเซชเคียน ประธานาธิบดีสายปฏิรูปของอิหร่าน กลับส่งสัญญาณว่า ต้องการทำข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่กับอเมริกาเพื่อผ่อนคลายมาตรการแซงก์ชันของนานาชาติ . คำแถลงที่ใช้ถ้อยคำระมัดระวังของกองทัพอิหร่านที่ออกมาเมื่อคืนวันเสาร์ดูเหมือนเปิดช่องให้อิหร่านถอยออกมาจากการกระทำที่จะกระตุ้นให้สถานการณ์ลุกลาม นอกจากนั้นยังบ่งชี้ว่า การหยุดยิงในฉนวนกาซาและเลบานอนสำคัญกว่าการแก้แค้นอิสราเอล . อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดและเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดของอิหร่าน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการโจมตีของอิสราเอลอย่างระมัดระวังเช่นกัน โดยบอกว่า ไม่ควรขยายความให้กลายเป็นเรื่องใหญ่เกินจริงหรือทำให้ดูเหมือนเป็นเหตุการณ์ที่ไม่สำคัญ รวมทั้งไม่ได้เรียกร้องให้ตอบโต้ทางทหารทันที . นักวิเคราะห์ยังมองว่า การที่อิสราเอลจำกัดเป้าหมายการโจมตีที่กองร้อยขีปนาวุธต่อต้านการโจมตีทางอากาศและโรงงานผลิตขีปนาวุธ ทำให้ระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่านมีช่องโหว่มากขึ้นและเปิดทางให้อิสราเอลโจมตีได้ง่ายขึ้น . ขณะเดียวกัน อาลี เวซ ผู้อำนวยการโครงการอิหร่านของอินเตอร์เนชันแนล ไครซิส กรุ๊ป ระบุว่า ความพยายามในการตอบโต้ของอิหร่านจะถูกจำกัดจากข้อเท็จจริงที่ว่า กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญที่สุดของอิหร่านในการต่อสู้กับอิสราเอลได้รับความเสียหายอย่างหนัก ขณะที่ระบบอาวุธตามแบบส่วนใหญ่ถูกตอบโต้กลับเป็นสองเท่า และเขาคิดว่า ตอนนี้อิหร่านจะยังไม่ตอบโต้ด้วยกำลัง . ผู้เชี่ยวชาญในตะวันออกกลางบางคน อาทิ โยเอล กูแซนสกี้ ที่เคยทำงานให้สภาความมั่นคงแห่งชาติอิสราเอลและปัจจุบันเป็นนักวิจัยของสถาบันศึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในเทลอาวีฟ บอกว่า การที่อิสราเอลตัดสินใจโฟกัสเป้าหมายทางทหารอย่างเดียวมีจุดประสงค์เพื่อให้อิหร่าน “รักษาหน้า” และละเว้นจากการทำให้สถานการณ์ลุกลามได้ง่ายขึ้น . อย่างไรก็ดี กูแซนสกีสำทับว่า เป้าหมายการโจมตีของอิสราเอลส่วนหนึ่งอาจสะท้อนแสนยานุภาพของกองทัพยิวที่ไม่สามารถทำลายโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านได้ตามลำพัง แต่ต้องพึ่งความช่วยเหลือจากอเมริกา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอิสราเอลสามารถยกระดับการโจมตีหากอิหร่านตอบโต้ เนื่องจากองค์ประกอบหลายอย่างในระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่านถูกทำลายไปแล้ว . แม้ยังไม่อาจสรุปได้ว่า อิหร่านจะแก้เกมอิสราเอลอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ สถานการณ์ในตะวันออกกลางตอนนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน . ช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา บรรดาผู้นำและนักยุทธศาสตร์ในภูมิภาคนี้ต่างคาดเดาว่า วันหนึ่งอิสราเอลจะเปิดฉากโจมตีอิหร่านโดยตรงหรือไม่และอย่างไร รวมทั้งสงสัยว่า ถ้าอิหร่านเป็นฝ่ายโจมตีอิสราเอลโดยตรงจะออกมาแบบไหน . แต่ในสถานการณ์จริงวันนี้ เวซชี้ว่า ดูเหมือนทั้งสองฝ่ายยังไม่มีแผนการชัดเจน รวมทั้งอาวุธที่ใช้โจมตีและระบบป้องกันห่างชั้นกันมาก และสำทับว่า ขณะที่ทั้งอิสราเอลและอิหร่านกำลังเปรียบเทียบและคำนวณว่า การดำเนินการของตนจะทำให้สถานการณ์ลุกลามรวดเร็วเพียงใดนั้น ทั้งสองฝ่ายต่างเผชิญสถานการณ์ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เส้นแดงใหม่ดูลางเลือน และเส้นแดงเก่าเจือจางกลายเป็นสีชมพู . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000103969 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1162 มุมมอง 0 รีวิว
  • อย่าใช้ชีวิตโดยไม่ได้กำไรจากมัน
    อย่าลืมคลายคิ้วที่ขมวดอยู่
    อย่าลืมยิ้มบ้าง หัวเราะบ้าง
    หมุนคอ ผ่อนไหล่ลงบ้าง
    วางสิ่งที่หนักๆ ลงบ้าง
    .
    เล่นตลกกับความผิดพลาดตัวเองบ้างก็ได้
    ยิ่งโตขึ้น ความสุขก็หายากขึ้น
    คงเสียดายแย่ ที่ปล่อยให้ผ่านไปอีกปี
    โดยที่จำเรื่องดีๆ ของปีนี้ไม่ได้


    จากหนังสือ |ครีมชั้นบน

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #ครีมชั้นบน
    อย่าใช้ชีวิตโดยไม่ได้กำไรจากมัน อย่าลืมคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ อย่าลืมยิ้มบ้าง หัวเราะบ้าง หมุนคอ ผ่อนไหล่ลงบ้าง วางสิ่งที่หนักๆ ลงบ้าง . เล่นตลกกับความผิดพลาดตัวเองบ้างก็ได้ ยิ่งโตขึ้น ความสุขก็หายากขึ้น คงเสียดายแย่ ที่ปล่อยให้ผ่านไปอีกปี โดยที่จำเรื่องดีๆ ของปีนี้ไม่ได้ จากหนังสือ |ครีมชั้นบน #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #ครีมชั้นบน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 339 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้นำสูงสุดอิหร่านเผยท่าที กำลังชั่งใจวิธีดีที่สุดในการตอบโต้ “ความชั่วร้าย” ที่อิสราเอลก่อขึ้น เพื่อให้รัฐยิวรับรู้ถึงแสนยานุภาพของประเทศ ขณะอิสราเอลขู่เตหะรานให้เลิกคิดแก้แค้น ส่วนฝ่ายตะวันตกนำโดยสหรัฐฯก็สำทับเรียกร้องอิหร่านอย่าทำให้สถานการณ์บานปลาย
    .
    กองทัพอิสราเอลแถลงยืนยันว่า ได้ส่งเครื่องบินรบเข้าโจมตีโรงงานผลิตขีปนาวุธและที่ตั้งทางทหารในหลายจังหวัดของอิหร่านรวม 3 ระลอกเมื่อเช้ามืดวันเสาร์ (26) ซึ่งภารกิจการโจมตีตอบโต้สำเร็จด้วยดี พร้อมกันนั้นก็เตือนอิหร่านไม่ให้ตอบโต้กลับ
    .
    กองทัพอิสราเอลยังประกาศว่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อจำกัดด้านความปลอดภัยสาธารณะทั่วประเทศ บ่งชี้ว่า อิสราเอลไม่คิดว่า อิหร่านจะตอบโต้กลับในทันที
    .
    เจ้าหน้าที่กลาโหมอิสราเอลคนหนึ่งบอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า อเมริกาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภารกิจนี้ แต่ในเวลาต่อมา ประธานาธิบดีไอแซก เฮอร์ซ็อก ของอิสราเอล กลับกล่าวขอบคุณอเมริกาที่เป็นพันธมิตรที่แท้จริง รวมทั้งขอบคุณสำหรับความร่วมมือทั้งที่เปิดเผยและแบบลับๆ
    .
    ด้าน ฌอน ซาเวตต์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่า การตอบโต้ของอิสราเอลเป็นการป้องกันตนเอง และเรียกร้องให้อิหร่านยุติการโจมตีอิสราเอลเพื่อให้วงจรการต่อสู้นี้ยุติลงโดยไม่ทำให้สถานการณ์ลุกลาม
    .
    เช่นเดียวกับ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่แสดงความหวังว่า “ถึงตอนจบได้แล้ว” พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ดูเหมือนการโจมตีของอิสราเอลจำกัดเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น โดยก่อนหน้านี้ผู้นำสหรัฐฯระบุว่า ได้ขอให้อิสราเอลงดโจมตีเป้าหมายด้านนิวเคลียร์และด้านพลังงาน ในการตอบโต้ที่อิหร่านยิงขีปนาวุธราว 200 ลูกโจมตีใส่อิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา
    .
    ทว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ยังคงแถลงกร้าวว่า อิสราเอลเลือกเป้าหมายโจมตีโดยอิงกับผลประโยชน์ของประเทศ ไม่ได้ทำตามที่อเมริกาชี้นำ
    .
    รัฐมนตรีกลาโหม ลอยด์ ออสติน เป็นเจ้าหน้าที่สหรัฐฯอีกคนหนึ่ง ซึ่งออกมาแถลงว่า อิหร่านไม่ควรทำผิดพลาดด้วยการตอบโต้อิสราเอล และย้ำว่าระหว่างที่เขาหารือกับโยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล มีการพูดกันถึงโอกาสทางการทูตในการผ่อนคลายสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ซึ่งรวมถึงในกาซาและเลบานอน
    .
    สำหรับสหภาพยุโรป และรัสเซีย ต่างออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอดกลั้นถึงที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้สถานการณ์บานปลายจนเกินการควบคุม ขณะที่หลายประเทศ ที่รวมถึงเพื่อนบ้านของอิหร่าน ได้แถลงประณามอิสราเอล
    .
    ต่อมาในวันอาทิตย์ (27) สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอของทางการอิหร่านรายงานว่า อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของประเทศ ประกาศว่า เตหะรานควรพิจารณาวิธีที่ดีที่สุดเพื่อให้อิสราเอลรับรู้ถึงแสนยานุภาพของอิหร่าน และต้องคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศชาติ ก่อนสำทับว่า ความชั่วร้ายที่อิสราเอลก่อขึ้นจากการโจมตีใส่อิหร่านเมื่อคืนวันศุกร์ต่อกับก่อนรุ่งสางวันเสาร์ ต้องไม่ถูกทำให้ดูเป็นเหตุการณ์ที่ไม่สำคัญ และก็ไม่ขยายความให้ใหญ่เกินจริง
    .
    ทั้งนี้ ตั้งแต่วันเสาร์ อิหร่านประณามการกระทำของอิสราเอล โดยกระทรวงต่างประเทศแถลงว่า อิหร่านมีสิทธิ์และหน้าที่ในการปกป้องตนเอง แต่ขณะเดียวกันก็ตระหนักถึงความรับผิดชอบที่มีต่อสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค
    .
    ทางด้านกองทัพอิหร่านระบุว่า เครื่องบินรบของอิสราเอลใช้หัวรบขนาดเล็กมากเพื่อโจมตีระบบเรดาร์ใน 2 จังหวัดและรอบเตหะราน ซึ่งสร้างความเสียหายเพียงจำกัด แต่มีทหารเสียชีวิต 4 นาย
    .
    อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ในภูมิภาค 2 คนที่ได้รับการบรรยายสรุปสถานการณ์จากอิหร่านเผยว่า เตหะรานได้จัดประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงเพื่อพิจารณาขอบเขตการตอบโต้ ซึ่งเจ้าหน้าที่คนหนึ่งระบุว่า ความเสียหายเล็กน้อยมาก แต่สำทับว่า ฐานที่มั่นของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติหลายแห่งในและรอบเตหะรานถูกโจมตีด้วย
    .
    กระนั้น ในอีกด้านหนึ่ง เดวิด อัลไบรต์ อดีตเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาวุธนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ภาพจากดาวเทียมพาณิชย์ที่มีความละเอียดต่ำของพลาเน็ต แลบส์ แสดงให้เห็นว่า จุดหนึ่งที่ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของอิสราเอลคราวล่าสุดนี้ คือนิคมอุตสาหกรรมทหารพาร์ชิน ใกล้เตหะราน ซึ่งทำให้อาคาร 3 แห่งเสียหาย และ 2 แห่งในจำนวนนั้นเป็นสถานที่ผสมเชื้อเพลิงแข็ง ใช้กับพวกขีปนาวุธทิ้งตัว
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า ยังมี เดคเกอร์ เอเวเลธ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์ของซีเอ็นเอ ซึ่งเป็นกลุ่มคลังสมองในวอชิงตัน ที่วิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมของพลาเน็ต แลบส์เช่นเดียวกัน ได้ระบุว่า อิสราเอลยังโจมตีโคจีร์ ที่เป็นสถานที่ผลิตขีปนาวุธใกล้เตหะราน ซึ่งอาจบ่อนทำลายความสามารถของอิหร่านในการผลิตขีปนาวุธเป็นจำนวนมาก รวมทั้งความสามารถในการโจมตีด้วยขีปนาวุธเพื่อเจาะระบบป้องกันขีปนาวุธของอิสราเอล
    .
    สำหรับสถานการณ์ในแนวรบอื่นๆ กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในเลบานอนที่ได้รับการสนับสนุนจากเตหะราน เผยว่า ในวันเสาร์ได้ยิงจรวดโจมตีเขตที่พักอาศัย 5 แห่งทางตอนเหนือของอิสราเอล ขณะที่กองทัพอิสราเอลยืนยันว่า มีจรวด 80 ลูกยิงข้ามแดนไปจริงในวันดังกล่าว
    .
    นอกจากนั้นฮิซบอลเลาะห์ยังประกาศให้ชาวอิสราเอลในพื้นที่กว่า 20 แห่งอพยพ ขณะที่กองทัพอิสราเอลเระบุว่า ได้โจมตีที่ตั้งของฮิซบอลเลาะห์ในย่านดานิเยห์ ทางใต้ของกรุงเบรุต ซึ่งรวมถึงสถานที่ผลิตอาวุธและศูนย์บัญชาการข่าวกรอง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000103586
    ..............
    Sondhi X
    ผู้นำสูงสุดอิหร่านเผยท่าที กำลังชั่งใจวิธีดีที่สุดในการตอบโต้ “ความชั่วร้าย” ที่อิสราเอลก่อขึ้น เพื่อให้รัฐยิวรับรู้ถึงแสนยานุภาพของประเทศ ขณะอิสราเอลขู่เตหะรานให้เลิกคิดแก้แค้น ส่วนฝ่ายตะวันตกนำโดยสหรัฐฯก็สำทับเรียกร้องอิหร่านอย่าทำให้สถานการณ์บานปลาย . กองทัพอิสราเอลแถลงยืนยันว่า ได้ส่งเครื่องบินรบเข้าโจมตีโรงงานผลิตขีปนาวุธและที่ตั้งทางทหารในหลายจังหวัดของอิหร่านรวม 3 ระลอกเมื่อเช้ามืดวันเสาร์ (26) ซึ่งภารกิจการโจมตีตอบโต้สำเร็จด้วยดี พร้อมกันนั้นก็เตือนอิหร่านไม่ให้ตอบโต้กลับ . กองทัพอิสราเอลยังประกาศว่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อจำกัดด้านความปลอดภัยสาธารณะทั่วประเทศ บ่งชี้ว่า อิสราเอลไม่คิดว่า อิหร่านจะตอบโต้กลับในทันที . เจ้าหน้าที่กลาโหมอิสราเอลคนหนึ่งบอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า อเมริกาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภารกิจนี้ แต่ในเวลาต่อมา ประธานาธิบดีไอแซก เฮอร์ซ็อก ของอิสราเอล กลับกล่าวขอบคุณอเมริกาที่เป็นพันธมิตรที่แท้จริง รวมทั้งขอบคุณสำหรับความร่วมมือทั้งที่เปิดเผยและแบบลับๆ . ด้าน ฌอน ซาเวตต์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่า การตอบโต้ของอิสราเอลเป็นการป้องกันตนเอง และเรียกร้องให้อิหร่านยุติการโจมตีอิสราเอลเพื่อให้วงจรการต่อสู้นี้ยุติลงโดยไม่ทำให้สถานการณ์ลุกลาม . เช่นเดียวกับ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่แสดงความหวังว่า “ถึงตอนจบได้แล้ว” พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ดูเหมือนการโจมตีของอิสราเอลจำกัดเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น โดยก่อนหน้านี้ผู้นำสหรัฐฯระบุว่า ได้ขอให้อิสราเอลงดโจมตีเป้าหมายด้านนิวเคลียร์และด้านพลังงาน ในการตอบโต้ที่อิหร่านยิงขีปนาวุธราว 200 ลูกโจมตีใส่อิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา . ทว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ยังคงแถลงกร้าวว่า อิสราเอลเลือกเป้าหมายโจมตีโดยอิงกับผลประโยชน์ของประเทศ ไม่ได้ทำตามที่อเมริกาชี้นำ . รัฐมนตรีกลาโหม ลอยด์ ออสติน เป็นเจ้าหน้าที่สหรัฐฯอีกคนหนึ่ง ซึ่งออกมาแถลงว่า อิหร่านไม่ควรทำผิดพลาดด้วยการตอบโต้อิสราเอล และย้ำว่าระหว่างที่เขาหารือกับโยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล มีการพูดกันถึงโอกาสทางการทูตในการผ่อนคลายสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ซึ่งรวมถึงในกาซาและเลบานอน . สำหรับสหภาพยุโรป และรัสเซีย ต่างออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอดกลั้นถึงที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้สถานการณ์บานปลายจนเกินการควบคุม ขณะที่หลายประเทศ ที่รวมถึงเพื่อนบ้านของอิหร่าน ได้แถลงประณามอิสราเอล . ต่อมาในวันอาทิตย์ (27) สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอของทางการอิหร่านรายงานว่า อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของประเทศ ประกาศว่า เตหะรานควรพิจารณาวิธีที่ดีที่สุดเพื่อให้อิสราเอลรับรู้ถึงแสนยานุภาพของอิหร่าน และต้องคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศชาติ ก่อนสำทับว่า ความชั่วร้ายที่อิสราเอลก่อขึ้นจากการโจมตีใส่อิหร่านเมื่อคืนวันศุกร์ต่อกับก่อนรุ่งสางวันเสาร์ ต้องไม่ถูกทำให้ดูเป็นเหตุการณ์ที่ไม่สำคัญ และก็ไม่ขยายความให้ใหญ่เกินจริง . ทั้งนี้ ตั้งแต่วันเสาร์ อิหร่านประณามการกระทำของอิสราเอล โดยกระทรวงต่างประเทศแถลงว่า อิหร่านมีสิทธิ์และหน้าที่ในการปกป้องตนเอง แต่ขณะเดียวกันก็ตระหนักถึงความรับผิดชอบที่มีต่อสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค . ทางด้านกองทัพอิหร่านระบุว่า เครื่องบินรบของอิสราเอลใช้หัวรบขนาดเล็กมากเพื่อโจมตีระบบเรดาร์ใน 2 จังหวัดและรอบเตหะราน ซึ่งสร้างความเสียหายเพียงจำกัด แต่มีทหารเสียชีวิต 4 นาย . อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ในภูมิภาค 2 คนที่ได้รับการบรรยายสรุปสถานการณ์จากอิหร่านเผยว่า เตหะรานได้จัดประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงเพื่อพิจารณาขอบเขตการตอบโต้ ซึ่งเจ้าหน้าที่คนหนึ่งระบุว่า ความเสียหายเล็กน้อยมาก แต่สำทับว่า ฐานที่มั่นของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติหลายแห่งในและรอบเตหะรานถูกโจมตีด้วย . กระนั้น ในอีกด้านหนึ่ง เดวิด อัลไบรต์ อดีตเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาวุธนิวเคลียร์ของสหประชาชาติ เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ภาพจากดาวเทียมพาณิชย์ที่มีความละเอียดต่ำของพลาเน็ต แลบส์ แสดงให้เห็นว่า จุดหนึ่งที่ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของอิสราเอลคราวล่าสุดนี้ คือนิคมอุตสาหกรรมทหารพาร์ชิน ใกล้เตหะราน ซึ่งทำให้อาคาร 3 แห่งเสียหาย และ 2 แห่งในจำนวนนั้นเป็นสถานที่ผสมเชื้อเพลิงแข็ง ใช้กับพวกขีปนาวุธทิ้งตัว . รอยเตอร์รายงานว่า ยังมี เดคเกอร์ เอเวเลธ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์ของซีเอ็นเอ ซึ่งเป็นกลุ่มคลังสมองในวอชิงตัน ที่วิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมของพลาเน็ต แลบส์เช่นเดียวกัน ได้ระบุว่า อิสราเอลยังโจมตีโคจีร์ ที่เป็นสถานที่ผลิตขีปนาวุธใกล้เตหะราน ซึ่งอาจบ่อนทำลายความสามารถของอิหร่านในการผลิตขีปนาวุธเป็นจำนวนมาก รวมทั้งความสามารถในการโจมตีด้วยขีปนาวุธเพื่อเจาะระบบป้องกันขีปนาวุธของอิสราเอล . สำหรับสถานการณ์ในแนวรบอื่นๆ กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในเลบานอนที่ได้รับการสนับสนุนจากเตหะราน เผยว่า ในวันเสาร์ได้ยิงจรวดโจมตีเขตที่พักอาศัย 5 แห่งทางตอนเหนือของอิสราเอล ขณะที่กองทัพอิสราเอลยืนยันว่า มีจรวด 80 ลูกยิงข้ามแดนไปจริงในวันดังกล่าว . นอกจากนั้นฮิซบอลเลาะห์ยังประกาศให้ชาวอิสราเอลในพื้นที่กว่า 20 แห่งอพยพ ขณะที่กองทัพอิสราเอลเระบุว่า ได้โจมตีที่ตั้งของฮิซบอลเลาะห์ในย่านดานิเยห์ ทางใต้ของกรุงเบรุต ซึ่งรวมถึงสถานที่ผลิตอาวุธและศูนย์บัญชาการข่าวกรอง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000103586 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1324 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=th02B3u2BTY
    บทสนทนาหมอกับคนไข้ที่โรงพยาบาล
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาหมอกับคนไข้ที่โรงพยาบาล
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #conversations #listeningtest #hospital

    The conversations from the clip :

    Doctor: Hello there! How are you feeling today?
    Child Patient: Not so good, doctor. My stomach hurts, and I keep going to the bathroom.
    Doctor: Oh, I see. How many times have you had to go to the bathroom today?
    Child Patient: I think about five or six times.
    Doctor: That sounds like diarrhea. Do you also feel like you have a fever?
    Child Patient: Yes, I feel a bit warm, and my tummy keeps rumbling.
    Doctor: Okay, let's check your temperature. Takes temperature It's slightly high, but nothing too serious. Are you drinking plenty of water?
    Child Patient: Not much. I don’t feel like drinking anything.
    Doctor: It's really important to drink lots of water when you have diarrhea so you don’t get dehydrated.
    Child Patient: Will I need to take medicine?
    Doctor: You might not need medicine right away, but if it doesn’t stop, we may give you some. For now, stay hydrated and eat plain food like rice and bananas.
    Child Patient: Okay, doctor. Can I still play with my toys?
    Doctor: Yes, but make sure to rest too. And wash your hands often so you don’t spread any germs.
    Child Patient: I will! When will I feel better?
    Doctor: You should start feeling better in a day or two, but if not, come back and see me, alright?
    Child Patient: Thanks, doctor. I'll tell my mom everything!
    Doctor: You're welcome! Take care and get plenty of rest.

    หมอ: สวัสดีจ้ะ วันนี้หนูรู้สึกเป็นยังไงบ้าง?
    คนไข้เด็ก: หนูไม่ค่อยสบายค่ะคุณหมอ ท้องหนูปวด แล้วก็เข้าห้องน้ำบ่อยมากเลยค่ะ
    หมอ: อืม เข้าใจแล้ว วันนี้หนูเข้าห้องน้ำไปกี่ครั้งแล้ว?
    คนไข้เด็ก: ประมาณห้าหรือหกครั้งค่ะ
    หมอ: นั่นฟังดูเหมือนอาการท้องเสียนะ หนูรู้สึกว่าตัวร้อนด้วยหรือเปล่า?
    คนไข้เด็ก: ค่ะ หนูรู้สึกว่าตัวร้อนนิดหน่อย แล้วท้องก็ร้องตลอดเลยค่ะ
    หมอ: โอเค เดี๋ยวหมอจะวัดอุณหภูมิให้ ตรวจอุณหภูมิ ตัวร้อนนิดหน่อย แต่ยังไม่หนักมาก หนูได้ดื่มน้ำเยอะ ๆ หรือยัง?
    คนไข้เด็ก: หนูไม่ค่อยได้ดื่มน้ำเท่าไหร่ค่ะ หนูไม่อยากดื่มอะไรเลย
    หมอ: การดื่มน้ำเยอะ ๆ สำคัญมากเวลามีอาการท้องเสียนะจ๊ะ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ
    คนไข้เด็ก: แล้วหนูต้องกินยาหรือเปล่าคะ?
    หมอ: ตอนนี้อาจจะยังไม่ต้องกินยา แต่ถ้าไม่หายอาจจะต้องให้ยา สำหรับตอนนี้ดื่มน้ำเยอะ ๆ และกินอาหารที่ย่อยง่าย เช่น ข้าวและกล้วย
    คนไข้เด็ก: ค่ะคุณหมอ แล้วหนูยังเล่นของเล่นได้อยู่ไหมคะ?
    หมอ: ได้จ้ะ แต่ก็อย่าลืมพักผ่อนด้วยนะ และล้างมือบ่อย ๆ เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่ไปถึงคนอื่น
    คนไข้เด็ก: ค่ะ หนูจะล้างมือ แล้วหนูจะหายเมื่อไหร่คะ?
    หมอ: หนูควรจะรู้สึกดีขึ้นในหนึ่งหรือสองวัน ถ้ายังไม่ดีขึ้นค่อยกลับมาหาหมออีกนะ
    คนไข้เด็ก: ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ หนูจะบอกแม่ทุกอย่างเลย!
    หมอ: ยินดีจ้ะ ดูแลตัวเองดี ๆ และพักผ่อนเยอะ ๆ นะ

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Stomach (สตัม-เมิค) n. แปลว่า ท้อง
    Bathroom (บาธ-รูม) n. แปลว่า ห้องน้ำ
    Diarrhea (ได-อะ-รี-อะ) n. แปลว่า ท้องเสีย
    Fever (ฟี-เวอร์) n. แปลว่า ไข้
    Temperature (เทม-เพอ-เร-เชอะ) n. แปลว่า อุณหภูมิ
    Hydrated (ไฮ-เดร-เทด) adj. แปลว่า ชุ่มชื้น (ไม่ขาดน้ำ)
    Dehydrated (ดี-ไฮ-เดร-เทด) adj. แปลว่า ขาดน้ำ
    Medicine (เมด-ดิ-ซิน) n. แปลว่า ยา
    Rest (เรสทฺ) n./v. แปลว่า พักผ่อน
    Germs (เจิร์มส) n. แปลว่า เชื้อโรค
    Tummy (ทัม-มี่) n. แปลว่า ท้อง (คำที่ใช้กับเด็ก)
    Rumbling (รัม-บลิง) n./v. แปลว่า เสียงท้องร้อง
    Plain food (เพลน-ฟูด) n. แปลว่า อาหารรสจืด
    Toys (ทอยส์) n. แปลว่า ของเล่น
    Symptoms (ซิม-ทอมส) n. แปลว่า อาการ (ของโรค)
    https://www.youtube.com/watch?v=th02B3u2BTY บทสนทนาหมอกับคนไข้ที่โรงพยาบาล (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาหมอกับคนไข้ที่โรงพยาบาล มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #conversations #listeningtest #hospital The conversations from the clip : Doctor: Hello there! How are you feeling today? Child Patient: Not so good, doctor. My stomach hurts, and I keep going to the bathroom. Doctor: Oh, I see. How many times have you had to go to the bathroom today? Child Patient: I think about five or six times. Doctor: That sounds like diarrhea. Do you also feel like you have a fever? Child Patient: Yes, I feel a bit warm, and my tummy keeps rumbling. Doctor: Okay, let's check your temperature. Takes temperature It's slightly high, but nothing too serious. Are you drinking plenty of water? Child Patient: Not much. I don’t feel like drinking anything. Doctor: It's really important to drink lots of water when you have diarrhea so you don’t get dehydrated. Child Patient: Will I need to take medicine? Doctor: You might not need medicine right away, but if it doesn’t stop, we may give you some. For now, stay hydrated and eat plain food like rice and bananas. Child Patient: Okay, doctor. Can I still play with my toys? Doctor: Yes, but make sure to rest too. And wash your hands often so you don’t spread any germs. Child Patient: I will! When will I feel better? Doctor: You should start feeling better in a day or two, but if not, come back and see me, alright? Child Patient: Thanks, doctor. I'll tell my mom everything! Doctor: You're welcome! Take care and get plenty of rest. หมอ: สวัสดีจ้ะ วันนี้หนูรู้สึกเป็นยังไงบ้าง? คนไข้เด็ก: หนูไม่ค่อยสบายค่ะคุณหมอ ท้องหนูปวด แล้วก็เข้าห้องน้ำบ่อยมากเลยค่ะ หมอ: อืม เข้าใจแล้ว วันนี้หนูเข้าห้องน้ำไปกี่ครั้งแล้ว? คนไข้เด็ก: ประมาณห้าหรือหกครั้งค่ะ หมอ: นั่นฟังดูเหมือนอาการท้องเสียนะ หนูรู้สึกว่าตัวร้อนด้วยหรือเปล่า? คนไข้เด็ก: ค่ะ หนูรู้สึกว่าตัวร้อนนิดหน่อย แล้วท้องก็ร้องตลอดเลยค่ะ หมอ: โอเค เดี๋ยวหมอจะวัดอุณหภูมิให้ ตรวจอุณหภูมิ ตัวร้อนนิดหน่อย แต่ยังไม่หนักมาก หนูได้ดื่มน้ำเยอะ ๆ หรือยัง? คนไข้เด็ก: หนูไม่ค่อยได้ดื่มน้ำเท่าไหร่ค่ะ หนูไม่อยากดื่มอะไรเลย หมอ: การดื่มน้ำเยอะ ๆ สำคัญมากเวลามีอาการท้องเสียนะจ๊ะ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ คนไข้เด็ก: แล้วหนูต้องกินยาหรือเปล่าคะ? หมอ: ตอนนี้อาจจะยังไม่ต้องกินยา แต่ถ้าไม่หายอาจจะต้องให้ยา สำหรับตอนนี้ดื่มน้ำเยอะ ๆ และกินอาหารที่ย่อยง่าย เช่น ข้าวและกล้วย คนไข้เด็ก: ค่ะคุณหมอ แล้วหนูยังเล่นของเล่นได้อยู่ไหมคะ? หมอ: ได้จ้ะ แต่ก็อย่าลืมพักผ่อนด้วยนะ และล้างมือบ่อย ๆ เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่ไปถึงคนอื่น คนไข้เด็ก: ค่ะ หนูจะล้างมือ แล้วหนูจะหายเมื่อไหร่คะ? หมอ: หนูควรจะรู้สึกดีขึ้นในหนึ่งหรือสองวัน ถ้ายังไม่ดีขึ้นค่อยกลับมาหาหมออีกนะ คนไข้เด็ก: ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ หนูจะบอกแม่ทุกอย่างเลย! หมอ: ยินดีจ้ะ ดูแลตัวเองดี ๆ และพักผ่อนเยอะ ๆ นะ Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Stomach (สตัม-เมิค) n. แปลว่า ท้อง Bathroom (บาธ-รูม) n. แปลว่า ห้องน้ำ Diarrhea (ได-อะ-รี-อะ) n. แปลว่า ท้องเสีย Fever (ฟี-เวอร์) n. แปลว่า ไข้ Temperature (เทม-เพอ-เร-เชอะ) n. แปลว่า อุณหภูมิ Hydrated (ไฮ-เดร-เทด) adj. แปลว่า ชุ่มชื้น (ไม่ขาดน้ำ) Dehydrated (ดี-ไฮ-เดร-เทด) adj. แปลว่า ขาดน้ำ Medicine (เมด-ดิ-ซิน) n. แปลว่า ยา Rest (เรสทฺ) n./v. แปลว่า พักผ่อน Germs (เจิร์มส) n. แปลว่า เชื้อโรค Tummy (ทัม-มี่) n. แปลว่า ท้อง (คำที่ใช้กับเด็ก) Rumbling (รัม-บลิง) n./v. แปลว่า เสียงท้องร้อง Plain food (เพลน-ฟูด) n. แปลว่า อาหารรสจืด Toys (ทอยส์) n. แปลว่า ของเล่น Symptoms (ซิม-ทอมส) n. แปลว่า อาการ (ของโรค)
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อัจฉริยะ !"

    สำหรับตัวผมแล้ว ถ้าพูดถึงนักเขียนญี่ปุ่นที่เป็นปรมาจารย์ด้านการเล่าเรื่อง และการบรรยายที่สร้างบรรยากาศที่หลอน ๆ สั่นประสาท ความดำมืดและวิปริตของจิตใจของตัวฆาตกรร้าย รวมถึงความรู้สึกเย็บวาบ ขนลุกซู่เมื่ออ่านไปเรื่อย ๆ ที่มีความโดดเด่นแล้ว ชื่อที่นึกถึงเป็นอันดับแรกเลยคือ เอโดะงะวะ รัมโปะ ตามมาด้วย โยโคมิโซะ เซชิ

    #ลายนิ้วมือปีศาจ คืออีกหนึ่งผลงานที่ยืนยันข้อความข้างต้น

    สนพ.เจคลาส
    ผู้เขียน เอโดะงาวะ รัมโปะ
    ผู้แปล ทินภาส พาหะนิชย์
    พิมพ์ เม.ย.2561
    230 บาท 226 หน้า

    เมื่อเกิดคดีฆาตกรรมไม่คาดฝันขึ้น โดยเหยื่อรายแรกเป็นผู้ช่วยงานของนักสืบเอกชนผู้มีชื่อเสียงนามว่า ดร.มุนะกะตะ ซึ่งมีความสามารถและเชี่ยวชาญทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ ชื่อเสียงควบคู่มากับยอดนักสืบเอกอะเกะชิ โคะโงะโร เรื่องราวจึงไม่ธรรมดา แต่เป็นคดีที่มีความยอกย้อนซ่อนเงื่อน และคนร้ายมีวิธีการที่น่ากลัวกว่าฆาตกรทั่วไปอย่างเทียบไม่ได้

    เนื่องจาก นักสืบอะเกะชิที่เป็นเพื่อนและรู้จักกับสารวัตรนะกะมุระแห่งกรมตำรวจนครบาลโตเกียวไม่ว่าง ติดภารกิจที่ต่างแดน จึงเป็นหน้าที่ของ ดร.มุนะกะตะ ที่ต้องออกโรง ทั้งเพื่อล้างอายตนเองที่ไม่สามารถช่วยลูกน้องได้ และเพื่อชื่อเสียงในฐานะนักสืบของตนไม่ให้มัวหมอง เขาจึงเริ่มตามสืบหาตัวคนร้าย ที่ส่งข้อความมาถึง เศรษฐีนักธุรกิจผู้หนึ่งที่มีกิจการค้าของตนเองนาม คะวะเตะ โชตะโร ระบุชัดว่ามีเป้าหมายเพื่อต้องการฆ่าล้างแค้นคนในครอบครัวของเขาทั้งหมด 3 ชีวิต คือตัวคะวะเตะ และลูกสาวอีกสองคนที่เติบโตเป็นสาวสวยแล้ว โดยเขาก็นึกไม่ออกว่าได้สร้างความโกรธแค้นให้เกิดแก่ใครจนถึงขั้นจ้องจะทำลายล้างตระกูลให้ไม่เหลือสักคนเดียว

    แม้นว่า ดร.มุนะกะตะ จะได้หลักฐานสำคัญที่พบจากซองเอกสารที่ผู้ช่วยชายพยายามจะส่งให้ถึงมือเขา ก่อนจะถูกวางยาพิษเสียชีวิต เป็นรอยนิ้วมือที่คาดว่าน่าจะเป็นของผู้ที่กำลังวางแผนฆ่าครอบครัวคะวะเตะ เป็นรอยนิ้วประหลาดน่าขนลุกที่มีลักษณะคล้ายก้นหอย3วง จึงพยายามตามสืบจากเบาะแสดังกล่าว โดยมอบหมายให้ผู้ช่วยชายอีกคนไปดำเนินการ ไม่นานต่อมาลูกสาวทั้งสองของผู้ว่าจ้างกลับพบชะตากรรมดำมืด กลายเป็นเหยื่อถูกฆ่าตายไปทีละคนอย่างน่าพิศวง ทั้งที่มีตำรวจจำนวนมาก และนักสืบคอยเฝ้ายามรักษาความปลอดภัยให้อย่างรัดกุมแน่นหนา

    นี่..ไม่น่าเป็นไปได้ ฆาตกรทำอย่างไร จึงสามารถราวกับภูติผีปีศาจ แถมยังหยามน้ำหน้านักสืบด้วยการทิ้งรอยนิ้วมือที่มีก้นหอย3วงเอาไว้ในหลายวาระ ดร.มุนะกะตะเหมือนถูกคนร้ายนำหน้าหนึ่งก้าวเสมอ สถานการณ์เลวร้ายลง คะวะตะเองนั้นทั้งเศร้าเสียใจและตื่นกลัวอย่างมาก ความแค้นใดในอดีต ที่ฝังแน่นในจิตใจของฆาตกร จนถึงขั้นวางแผนเพื่อจะกำจัดตระกูลของเขาให้สิ้นซาก หลังฆ่าเหยื่อแล้วยังจัดแสดงศพเพื่อหวังให้สาธารณะพบเห็นเป็นการประจานอย่างอำมหิต แต่ในที่สุดฆาตกรก็ไม่อาจรอดพ้นฝีมือในการสืบสวนและแกะรอยของดร.มุนะกะตะ จนสามารถปิดคดีลงได้ แม้จะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกถึง 3 รายก็ตาม

    แต่เรื่องราวกลับไม่จบลงง่ายดายเพียงนั้น หลังจากนักสืบอะเกะชิเสร็จจากภารกิจกลับมา และได้รับทราบเรื่องราวทั้งหมดจากคำบอกเล่าของสารวัตรนะกะมุระ เขาจึงเริ่มดำเนินการสืบสวนในแบบฉบับของตนอย่างลับ ๆ และได้ข้อสรุปที่มีมุมมองต่อคดีนี้แตกต่างไปจากของตำรวจและ ดร.มุนะกะตะโดยสิ้นเชิง อาเกะชิเชื่อว่าคดียังไม่จบ คนร้ายตัวจริงยังลอยนวล แล้วที่แท้ได้เกิดอะไรขึ้นกับเหยื่อทั้งหมดที่สูญเสียไปกันแน่ ตกลงความจริงคือ..ใครกันที่สืบสวนผิดพลาดระหว่าง ดร.มุนะกะตะ กับอาเกะชิ

    นี่คืออีกหนึ่งสุดยอดของความร้ายกาจ กับความจงเกลียดจงชังเข้าขั้นหมกมุ่น และอาฆาตพยาบาทรุนแรงที่สุดคดีหนึ่งเท่าที่ผมเคยได้อ่านมา

    🖋หลังอ่านจบ

    โคตรน่าทึ่ง...คงต้องใช้คำนี้ ไม่นึกว่าผู้เขียนจะบรรจงสร้างโครงเรื่องที่ดูเหมือนเป็นการฆ่าล้างแค้นที่พบได้ในนิยายแนวสืบสวนฆาตกรรมทั่วไป ให้มีความแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ และชั้นเชิงลูกเล่นเทคนิกแพรวพรายได้ขนาดนี้ ดูเหมือนคนร้ายแทบจะไม่ได้ใช้หรืออาศัยความรู้เฉพาะทางพิเศษใดในวิธีการลงมือฆ่าเหยื่อ เพียงอาศัยเรื่องที่ดูธรรมดาสามัญที่สุด มาสร้างขึ้นเป็นกำดักทางจิตใจ หลอกทั้งตัวละครนักสืบในเรื่องและหลอกคนอ่านได้อย่างแนบเนียน แม้นจะมีวางจุดสังเกตที่ชวนให้คิดด้วยความน่าฉงนตามรายทางเป็นระยะ ซึ่งหากใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วนดี ๆ อาจพอจะเริ่มจับจุดและสังเกตเห็นบางอย่าง แต่ถ้าอ่านแบบขี้เกียจคิดให้วุ่นวาย แค่ตามเรื่องราวไปเรื่อย ๆ พอถึงช่วงเฉลยจะส่งผลให้ชวนอัศจรรย์ใจเพิ่มขึ้น ในส่วนของการดำเนินเรื่องตั้งแต่เริ่มต้นจนตลอดทางถึงตอนจบ ไม่มีความน่าเบื่อปรากฏให้เห็น มีแต่สร้างความรู้สึกอยากรู้ ชวนลุ้น เอาใจช่วยให้เหยื่อรอดพ้น และนักสืบจับคนร้ายได้โดยไว ขณะเดียวกันก็อดไม่ได้ที่จะสยิวไปกับบรรยากาศแห่งความไม่น่าไว้ใจ ปริศนาที่ราวกับลูกเล่นหรือมายากลของปีศาจฆาตกร ความโรคจิตขั้นรุนแรงชวนสะอิดสะเอียนที่เลือดเย็น ปนเปกับความรู้สึกอกสั่นขวัญบิน เมื่อนึกถึงแผนการอันชั่วร้ายที่ถูกวางแผนมาอย่างยาวนานหลายสิบปี ตอนนี้ดีที่ไม่ยาวมาก เรียกว่าเนื้อหากำลังเหมาะ

    เอโดะงาวะมีความสามารถในการสร้างปมตัวร้ายที่น่าเศร้าระคนน่ารังเกียจ ไปจนถึงขั้นน่าเกลียดได้อย่างถึงแก่น ราวกับว่าเขาสามารถมองทะลุเห็นถึงสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ภายในของบุคคลธรรมดา ที่ภายนอกดูไม่เหมือนจะเป็นคนร้ายได้เลยนำมาใช้เป็นวัตถุดิบชั้นดี แต่ทั้งอย่างนั้นชีวิตเบื้องหลังที่ถูกแต่งแต้มขึ้นก็ช่างสมจริง จนทำให้รู้สึกสงสารในชะตากรรมรันทดของผู้ก่ออาชญากรรมด้วยเช่นกัน เมื่อบวกกับสไตล์ที่เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ในการเล่าเรื่องเสมือนประหนึ่งตัวเองกำลังนั่งชวนคุยกับคนอ่านในวงล้อมรอบกองไฟยามดึกสงัด และรู้จักการหยอดถ้อยคำบางช่วงตอนที่ยิ่งสร้างอารมณ์ให้คนที่กำลังติดตามเรื่องเล่าของเขาอย่างจดจ่อ เกิดความตื่นเต้นตึงเตรียดไปด้วยแล้ว ก็ยิ่งเป็นความน่าหลงใหลอันชวนให้ไม่อยากลุกไปไหนหรือทำอิริยาบถใดอื่น นอกจากฟังสิ่งที่เขาเล่าต่อจนจบเรื่อง ใจที่เขม็งเกลียวจนแน่นจึงคลายออกและปลอดโปร่งในที่สุด เรื่องนี้ก็เป็นเช่นที่ว่ามานี้ แม้นถูกเขียนมานานกว่า 80 ปี แต่อ่านในยุคปัจจุบันยังคงได้อรรถรส สาระความบันเทิงไม่ด้อยกว่าเรื่องที่แต่งโดยนักเขียนรุ่นใหม่ยุคหลังเลย

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    และอะเกะชิเองก็สมกับความเป็นยอดนักสืบเอกโดยแท้ บุคลิกที่ดูน่าเกรงขามในยามที่ต้องแสดงออกถึงอำนาจให้คนอื่นเห็น แต่ก็ขี้เล่น หัวเราะง่ายยิ้มง่าย ช่วยทำให้ผู้ฟังผ่อนคลาย อีกทั้งวาทศิลป์ในการเลือกใช้คำพูดให้เข้ากับสถานการณ์ก็ยอดเยี่ยม ประกอบกับไหวพริบความช่างสังเกตในการแยกแยะและประมวลผลข้อมูล เห็นถึงจุดอื่นที่คนทั้งหลายไม่ทันเห็นหรือมองข้ามไป ล้วนเป็นคุณสมบัติและภาพลักษณ์ที่น่าจดจำ แม้นจะปรากฏตัวมาในช่วงท้ายใกล้จบ แต่มีบทบาทสำคัญยิ่งที่ส่งผลต่อการพลิกโฉมของคดีนี้ที่สุด

    สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่านงานของรัมโปะมาก่อนเลย เริ่มต้นด้วย "ลายนิ้วมือปีศาจ" ก็ไม่เลวครับ

    ป.ล. พบความผิดพลาดในการพิมพ์หนึ่งจุด

    #thaitimes
    #เอโดะงาวะรัมโปะ
    #ฆาตกรรม
    #สืบสวน
    #นิยายแปล
    #นิยายญี่ปุ่น
    #หนังสือน่าอ่าน
    #ล้างแค้น
    #นักสืบ
    #รีวิวหนังสือ
    #วิจารณ์หนังสือ
    "อัจฉริยะ !" สำหรับตัวผมแล้ว ถ้าพูดถึงนักเขียนญี่ปุ่นที่เป็นปรมาจารย์ด้านการเล่าเรื่อง และการบรรยายที่สร้างบรรยากาศที่หลอน ๆ สั่นประสาท ความดำมืดและวิปริตของจิตใจของตัวฆาตกรร้าย รวมถึงความรู้สึกเย็บวาบ ขนลุกซู่เมื่ออ่านไปเรื่อย ๆ ที่มีความโดดเด่นแล้ว ชื่อที่นึกถึงเป็นอันดับแรกเลยคือ เอโดะงะวะ รัมโปะ ตามมาด้วย โยโคมิโซะ เซชิ #ลายนิ้วมือปีศาจ คืออีกหนึ่งผลงานที่ยืนยันข้อความข้างต้น สนพ.เจคลาส ผู้เขียน เอโดะงาวะ รัมโปะ ผู้แปล ทินภาส พาหะนิชย์ พิมพ์ เม.ย.2561 230 บาท 226 หน้า เมื่อเกิดคดีฆาตกรรมไม่คาดฝันขึ้น โดยเหยื่อรายแรกเป็นผู้ช่วยงานของนักสืบเอกชนผู้มีชื่อเสียงนามว่า ดร.มุนะกะตะ ซึ่งมีความสามารถและเชี่ยวชาญทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ ชื่อเสียงควบคู่มากับยอดนักสืบเอกอะเกะชิ โคะโงะโร เรื่องราวจึงไม่ธรรมดา แต่เป็นคดีที่มีความยอกย้อนซ่อนเงื่อน และคนร้ายมีวิธีการที่น่ากลัวกว่าฆาตกรทั่วไปอย่างเทียบไม่ได้ เนื่องจาก นักสืบอะเกะชิที่เป็นเพื่อนและรู้จักกับสารวัตรนะกะมุระแห่งกรมตำรวจนครบาลโตเกียวไม่ว่าง ติดภารกิจที่ต่างแดน จึงเป็นหน้าที่ของ ดร.มุนะกะตะ ที่ต้องออกโรง ทั้งเพื่อล้างอายตนเองที่ไม่สามารถช่วยลูกน้องได้ และเพื่อชื่อเสียงในฐานะนักสืบของตนไม่ให้มัวหมอง เขาจึงเริ่มตามสืบหาตัวคนร้าย ที่ส่งข้อความมาถึง เศรษฐีนักธุรกิจผู้หนึ่งที่มีกิจการค้าของตนเองนาม คะวะเตะ โชตะโร ระบุชัดว่ามีเป้าหมายเพื่อต้องการฆ่าล้างแค้นคนในครอบครัวของเขาทั้งหมด 3 ชีวิต คือตัวคะวะเตะ และลูกสาวอีกสองคนที่เติบโตเป็นสาวสวยแล้ว โดยเขาก็นึกไม่ออกว่าได้สร้างความโกรธแค้นให้เกิดแก่ใครจนถึงขั้นจ้องจะทำลายล้างตระกูลให้ไม่เหลือสักคนเดียว แม้นว่า ดร.มุนะกะตะ จะได้หลักฐานสำคัญที่พบจากซองเอกสารที่ผู้ช่วยชายพยายามจะส่งให้ถึงมือเขา ก่อนจะถูกวางยาพิษเสียชีวิต เป็นรอยนิ้วมือที่คาดว่าน่าจะเป็นของผู้ที่กำลังวางแผนฆ่าครอบครัวคะวะเตะ เป็นรอยนิ้วประหลาดน่าขนลุกที่มีลักษณะคล้ายก้นหอย3วง จึงพยายามตามสืบจากเบาะแสดังกล่าว โดยมอบหมายให้ผู้ช่วยชายอีกคนไปดำเนินการ ไม่นานต่อมาลูกสาวทั้งสองของผู้ว่าจ้างกลับพบชะตากรรมดำมืด กลายเป็นเหยื่อถูกฆ่าตายไปทีละคนอย่างน่าพิศวง ทั้งที่มีตำรวจจำนวนมาก และนักสืบคอยเฝ้ายามรักษาความปลอดภัยให้อย่างรัดกุมแน่นหนา นี่..ไม่น่าเป็นไปได้ ฆาตกรทำอย่างไร จึงสามารถราวกับภูติผีปีศาจ แถมยังหยามน้ำหน้านักสืบด้วยการทิ้งรอยนิ้วมือที่มีก้นหอย3วงเอาไว้ในหลายวาระ ดร.มุนะกะตะเหมือนถูกคนร้ายนำหน้าหนึ่งก้าวเสมอ สถานการณ์เลวร้ายลง คะวะตะเองนั้นทั้งเศร้าเสียใจและตื่นกลัวอย่างมาก ความแค้นใดในอดีต ที่ฝังแน่นในจิตใจของฆาตกร จนถึงขั้นวางแผนเพื่อจะกำจัดตระกูลของเขาให้สิ้นซาก หลังฆ่าเหยื่อแล้วยังจัดแสดงศพเพื่อหวังให้สาธารณะพบเห็นเป็นการประจานอย่างอำมหิต แต่ในที่สุดฆาตกรก็ไม่อาจรอดพ้นฝีมือในการสืบสวนและแกะรอยของดร.มุนะกะตะ จนสามารถปิดคดีลงได้ แม้จะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกถึง 3 รายก็ตาม แต่เรื่องราวกลับไม่จบลงง่ายดายเพียงนั้น หลังจากนักสืบอะเกะชิเสร็จจากภารกิจกลับมา และได้รับทราบเรื่องราวทั้งหมดจากคำบอกเล่าของสารวัตรนะกะมุระ เขาจึงเริ่มดำเนินการสืบสวนในแบบฉบับของตนอย่างลับ ๆ และได้ข้อสรุปที่มีมุมมองต่อคดีนี้แตกต่างไปจากของตำรวจและ ดร.มุนะกะตะโดยสิ้นเชิง อาเกะชิเชื่อว่าคดียังไม่จบ คนร้ายตัวจริงยังลอยนวล แล้วที่แท้ได้เกิดอะไรขึ้นกับเหยื่อทั้งหมดที่สูญเสียไปกันแน่ ตกลงความจริงคือ..ใครกันที่สืบสวนผิดพลาดระหว่าง ดร.มุนะกะตะ กับอาเกะชิ นี่คืออีกหนึ่งสุดยอดของความร้ายกาจ กับความจงเกลียดจงชังเข้าขั้นหมกมุ่น และอาฆาตพยาบาทรุนแรงที่สุดคดีหนึ่งเท่าที่ผมเคยได้อ่านมา 🖋หลังอ่านจบ โคตรน่าทึ่ง...คงต้องใช้คำนี้ ไม่นึกว่าผู้เขียนจะบรรจงสร้างโครงเรื่องที่ดูเหมือนเป็นการฆ่าล้างแค้นที่พบได้ในนิยายแนวสืบสวนฆาตกรรมทั่วไป ให้มีความแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ และชั้นเชิงลูกเล่นเทคนิกแพรวพรายได้ขนาดนี้ ดูเหมือนคนร้ายแทบจะไม่ได้ใช้หรืออาศัยความรู้เฉพาะทางพิเศษใดในวิธีการลงมือฆ่าเหยื่อ เพียงอาศัยเรื่องที่ดูธรรมดาสามัญที่สุด มาสร้างขึ้นเป็นกำดักทางจิตใจ หลอกทั้งตัวละครนักสืบในเรื่องและหลอกคนอ่านได้อย่างแนบเนียน แม้นจะมีวางจุดสังเกตที่ชวนให้คิดด้วยความน่าฉงนตามรายทางเป็นระยะ ซึ่งหากใคร่ครวญอย่างถี่ถ้วนดี ๆ อาจพอจะเริ่มจับจุดและสังเกตเห็นบางอย่าง แต่ถ้าอ่านแบบขี้เกียจคิดให้วุ่นวาย แค่ตามเรื่องราวไปเรื่อย ๆ พอถึงช่วงเฉลยจะส่งผลให้ชวนอัศจรรย์ใจเพิ่มขึ้น ในส่วนของการดำเนินเรื่องตั้งแต่เริ่มต้นจนตลอดทางถึงตอนจบ ไม่มีความน่าเบื่อปรากฏให้เห็น มีแต่สร้างความรู้สึกอยากรู้ ชวนลุ้น เอาใจช่วยให้เหยื่อรอดพ้น และนักสืบจับคนร้ายได้โดยไว ขณะเดียวกันก็อดไม่ได้ที่จะสยิวไปกับบรรยากาศแห่งความไม่น่าไว้ใจ ปริศนาที่ราวกับลูกเล่นหรือมายากลของปีศาจฆาตกร ความโรคจิตขั้นรุนแรงชวนสะอิดสะเอียนที่เลือดเย็น ปนเปกับความรู้สึกอกสั่นขวัญบิน เมื่อนึกถึงแผนการอันชั่วร้ายที่ถูกวางแผนมาอย่างยาวนานหลายสิบปี ตอนนี้ดีที่ไม่ยาวมาก เรียกว่าเนื้อหากำลังเหมาะ เอโดะงาวะมีความสามารถในการสร้างปมตัวร้ายที่น่าเศร้าระคนน่ารังเกียจ ไปจนถึงขั้นน่าเกลียดได้อย่างถึงแก่น ราวกับว่าเขาสามารถมองทะลุเห็นถึงสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ภายในของบุคคลธรรมดา ที่ภายนอกดูไม่เหมือนจะเป็นคนร้ายได้เลยนำมาใช้เป็นวัตถุดิบชั้นดี แต่ทั้งอย่างนั้นชีวิตเบื้องหลังที่ถูกแต่งแต้มขึ้นก็ช่างสมจริง จนทำให้รู้สึกสงสารในชะตากรรมรันทดของผู้ก่ออาชญากรรมด้วยเช่นกัน เมื่อบวกกับสไตล์ที่เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ในการเล่าเรื่องเสมือนประหนึ่งตัวเองกำลังนั่งชวนคุยกับคนอ่านในวงล้อมรอบกองไฟยามดึกสงัด และรู้จักการหยอดถ้อยคำบางช่วงตอนที่ยิ่งสร้างอารมณ์ให้คนที่กำลังติดตามเรื่องเล่าของเขาอย่างจดจ่อ เกิดความตื่นเต้นตึงเตรียดไปด้วยแล้ว ก็ยิ่งเป็นความน่าหลงใหลอันชวนให้ไม่อยากลุกไปไหนหรือทำอิริยาบถใดอื่น นอกจากฟังสิ่งที่เขาเล่าต่อจนจบเรื่อง ใจที่เขม็งเกลียวจนแน่นจึงคลายออกและปลอดโปร่งในที่สุด เรื่องนี้ก็เป็นเช่นที่ว่ามานี้ แม้นถูกเขียนมานานกว่า 80 ปี แต่อ่านในยุคปัจจุบันยังคงได้อรรถรส สาระความบันเทิงไม่ด้อยกว่าเรื่องที่แต่งโดยนักเขียนรุ่นใหม่ยุคหลังเลย . . . . . . . . . . . และอะเกะชิเองก็สมกับความเป็นยอดนักสืบเอกโดยแท้ บุคลิกที่ดูน่าเกรงขามในยามที่ต้องแสดงออกถึงอำนาจให้คนอื่นเห็น แต่ก็ขี้เล่น หัวเราะง่ายยิ้มง่าย ช่วยทำให้ผู้ฟังผ่อนคลาย อีกทั้งวาทศิลป์ในการเลือกใช้คำพูดให้เข้ากับสถานการณ์ก็ยอดเยี่ยม ประกอบกับไหวพริบความช่างสังเกตในการแยกแยะและประมวลผลข้อมูล เห็นถึงจุดอื่นที่คนทั้งหลายไม่ทันเห็นหรือมองข้ามไป ล้วนเป็นคุณสมบัติและภาพลักษณ์ที่น่าจดจำ แม้นจะปรากฏตัวมาในช่วงท้ายใกล้จบ แต่มีบทบาทสำคัญยิ่งที่ส่งผลต่อการพลิกโฉมของคดีนี้ที่สุด สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่านงานของรัมโปะมาก่อนเลย เริ่มต้นด้วย "ลายนิ้วมือปีศาจ" ก็ไม่เลวครับ ป.ล. พบความผิดพลาดในการพิมพ์หนึ่งจุด #thaitimes #เอโดะงาวะรัมโปะ #ฆาตกรรม #สืบสวน #นิยายแปล #นิยายญี่ปุ่น #หนังสือน่าอ่าน #ล้างแค้น #นักสืบ #รีวิวหนังสือ #วิจารณ์หนังสือ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
  • 27-10-67/01 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.6

    อยากแจ้งเกิด แต่เสือก "แจ้งดับ" คาสายตาทั่วโลก เหี้ยขี้ข้ามะกัน ขนขีปนาวุธตัวตึง ตัวเด่น ตัวดัง มาเพี๊ยบ แม้จะโชว์เติมน้ำมันกลางอากาศ กะเพิ่มระยะโจมตีให้อียิว งานนี้ อียิวต้องได้เกิด หวังถล่มอิหร่านเละเทะ สุดท้าย "หมาเห่าใบตองแห้ง" หมาทั้งยิว หมาทั้งอเมริควาย เจอ S-350s/ S-400 เอาอยู่หมัด สกัดหมดเกลี้ยง ไม่มีเล็ดลอดไปได้ซักกะลูก ขี้ข้าเหี้ยประจักษ์ อยู่ต่อไม่ไหวแย้ว นายใหญ่ "โคตรกระจอก" ตากูบ้างน่ะ อิหร่านเตรียม 1000 ลูก พ่วงไฮเปอร์โซนิคขยี้อียิวให้หายซ่าส์ ล่อฐานทัพเหี้ยมะกันทั่วตะวันออกกลาง กระจอกแล้วยังเสือกมากร่าง ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง? ขั้วใหม่ดาหน้ารุกฆาต หลัง BRICS ประชุมเปิดตัวสมาชิกใหม่เพิ่ม ส่งไฟเขียวอาเซียนของกู ดีออก? ถามจริง? เหี้ยยังเหลือเหี้ยอะไรมาอวดได้อีก นุ๊กก็เก่า ความเร็วก็ต่ำ ยิงก็มั่ว หาเรดาร์ไม่เจอ สู้เพื่อจุดจบ! หลัง JOHN KIM เล่นละครปาหี่ เฮียสีจิ้งผิงร่วมด้วย ส่งหน่วยพิเศษ อาวุธ ไซเบอร์ จัดเต็ม เข้าพื้นที่ยูเครน ช่วยอะไรรัสเซียได้บ้าง? ชี้เป้าหมดเกลี้ยง อะไรอยู่ที่ไหน อาวุธหนักอยู่ตรงไหน เคลื่อนไหวยังไง? มาเพื่อชี้้เป้า ลูกยาวลง หน่วยเก็บกวาดเดินหน้า โสมแดงไม่ได้เสี่ยงเหี้ยอะไรเลย งานนี้ เติมลูกปืนใหญ่ไม่อั้น ยิงเป็นล้านนัดก็ยังเหลือ? อียูเครนมันตายคาตรีนไปนานแล้ว ยังจะซ้ำกูอยู่อีกเหรอ? อีโปลเปลี่ยนท่าทีทันที อังกฤษ อเมริกา อิสราเอล กระจอกเกินกุมกะลาหัวได้ ถอยยังรอด เปิดทางให้คือผ่อนหนักเป็นเบา ใครซวยล่ะ? อีฟินน์ อีสวิงกิ้ง อีสิงโตง่อย งานนี้คาตรีนเครมลิน! ของจริง ไม่มีตอแหล อียิวสั่งถอยพรมแดนเลบานาน หลังตายห่ายกกองพัน เฮซบอเลาะห์โหดจัด ถล่มลูกยาวไม่พอ ตามเก็บกวาดแบบไม่มีเหลือ ศพหายไปเพี๊ยบ? อย่าว่าจะบุกรุกเค้าเลย ยังไม่มีปัญญาข้ามพรมแดนก็ตายห่านับ 1000 แล้ว อาวุธเสียหายหนักเกินเยียวยา เจอโจมตีทุกระบบเอาไม่อยู่ ไปบุกเค้า เจอล่อกับดักตายคาวงตรีนเลบานอน เสธ.เหี้ยมะกัน เตือนแล้ว อย่าแหยมเฮซบอเลาะห์ กระดูกคนละเบอร์ ความเขี้ยวคนละชั้น ผลลัพธ์ตบหน้าอียิวเหี้ยไซออนนิสต์ ไอ้ที่หลงตัวเองมานาน ว่ากูเจ๋ง ที่แท้โคตรกระจอก ไม่รู้เหี้ยอะไรเลยเกี่ยวกับศัตรู ข้ามวิกแป๊บ : ฝันอีป้อมจบลงแล้ว! บุญไม่ถึง บังลังก์สูงเกินไป แหวนอีแม่ นาฬิกาอีเพื่อน ปปช.งับสุดตรีน ไล่เบี้ยจนสุดตรอก ใบสั่งอีแดงเอาคืนให้สาสม อี ไอ(คอน)สัส โดนแรง ทั้งปปช. ปปง. DSI ลากยาวทั้งขบวนการ แหล่งฟอกเงินชัด รู้ตัวเบื้องหลัง ทั้งไทย และเทศ หางโผล่กันหมด ดิ้นพล่านซื้อคดีเพี๊ยบ ติดกับดัก 2 ชั้น แฉไปมา ยิ่งพูดยิ่งลาก งานนี้ระดับชาติ ใครอุ้ม "หัวขาด" กระแส DSI เคาะกะลา ตัวอย่างมีให้เห็น อีหัวหน้าใหญ่ติดคุกไปแล้ว ใครจะเป็นรายต่อไปดีล่ะ? กลียุคกำลังจะไป ทิ้งทวน อยากเห็นต้องได้เห็น เรื่องที่ไม่คาดคิด? SOFT POWER THAI กระฉ่อนโลก เคลื่อนขบวนพยุหยาตราทางชลมารค 2567 เห็นทั้งโลก นี่คือ "สยามประเทศ" ส่งสัญญาน 1 ในอาเซียน ประเพณี วัฒนธรรม สรวจสวรรค์ บนแผ่นดินทอง ผีห่าซาตานเตรียมเผ่นกันหมด แสงขจรกระจายไปทั่วหล้า อัตลักษณ์ความเป็นไทย ที่ลูกหลานควายไทยที่ถูกเหี้ยล้างสมองไม่เข้าใจ! เพราะมันมีแค่ 1 เดียวในโลก ไทยเจริญรุ่งเรือง เพราะพระบารมี! ล่าสุด มาตามนัด อีพ่อนักบุญปลอมตอแหล ถูกสรรพากรถามหา ได้มาเยอะนี่มรึง? ไอ้อีที่หาแดร๊กบนความทุกข์ร้อนของชาวบ้านมีอันเป็นไปหมด โง่เพราะเสพสื่อ โง่เพราะฟังเค้ามา สติไม่มี ปัญญาไม่เกิด ความโลภทั้งนั้น! กลับมาโลกโสมมของเหี้ยต่อ : ผลกระทบ WWIII ที่เหี้ยยังคาดไม่ถึง โดยเฉพาะธุรกิจอียิวที่แบกดอลล่าร์จนหลังอ่วม ขั้วใหม่ไม่ได้แค่ทุบดอลล่าร์ตายคาตรีน แต่ยังส่งผลถึงการค้าทั้งโลก ที่ไม่ผูกดอลล่าร์ด้วย เท่ากับแย่งตลาดโลกไปจากเหี้ยยิวนั่นเองเพราะวัตถุดิบและแหล่งแร่ อาหาร พลังงาน อยู่ในเอเซียทั้งหมด แถมยังได้ใช้เงินสกุล BRICS ใหม่ แล้วขี้ข้าเหี้ยที่ไม่มีเงินสกุลนี้มันจะซื้อหาจากแหล่งต้นทางได้ยังไง? ต้องซื้อผ่านตัวกลาง เท่ากับมรึงเสียเปรียบดุลการค้านั่นเอง เพราะจ่ายแพงกว่าเค้า จะเอาเหี้ยอะไรไปสู้ ของเหี้ยจะขายได้เฉพาะชาติขี้ข้าเหี้ยเท่านั้น เท่ากับจำกัดวงผู้บริโภคนั่นเอง ไม่ใช่ทั้งโลกเหมือนแต่เก่าก่อน! ดอกนี้ ขั้วใหม่วางแผนมาดี จีนถึงได้ขยายโลจิสติคโลกใหม่ เชื่อมแอฟริกา ตะวันออกกลาง ลาติน เข้าหากันหมดไงล่ะ? โดยมีเวเนฯ คิวบา เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน มีสมาชิกของเข้าร่วมกลุ่มเงินดิจิตอลแล้วกว่า 10 ชาติ ทั้งอเมริกาใต้ และอเมริกากลาง ใครๆ ก็ต้องการแหล่งพลังงานที่มั่นคง และค่าเงินที่เป็นธรรม ขอไว้อาลัยให้อีเมสซี่แลนด์ ที่มันถูกแยกออกจากโลกลาตินโดยสมบูรณ์แล้ว ไต้หวันขาสั่น อยู่ดีดี จีน รัสเซีย อิหร่าน และทั้งตะวันออกกลางก็มา มรึงจะเอาให้กูหายไปจากแผนที่โลกเลยเหรอ? ก๊กมินตั๋ง เตรียมยึดสภาล่างไม่อนุมัติก่อสงครามกับจีน มาตามใบเสร็จปักกิ่ง ยิ่งสู้ ยิ่งจบเร็ว อีไล่ ชิง เต๋อ แค่หุ่นเชิด อีไช่ รอดแล้วแค่ในไต้หวัน ออกนอกมรึงโดนแน่! เหมือนอีเสี้ยนยา อีเนรคุณทันยา ชะตากรรมเดียวกัน คือถูกเก็บแน่ ใครจะปล่อยมรึงไว้ล่ะ?

    ปล.เป็นอันแน่ชัด! เมื่ออียิวและเหี้ยมะกันตัดสินใจโจมตีอิหร่านรอบใหม่ นั่นคือใบเสร็จที่อิหร่านจะใช้สิทธิ์ป้องกันตัว ขีปนาวุธ 100000 ลูก ที่คาเมเนอีเคยลั่นเอาไว้ จะได้ใช้ก็งานนี้แหละ เพราะทุกอย่างมันสุกงอมแล้ว ทำไมอียิวถึงยอมฆ่าตัวตาย รู้ดีว่าอิหร่านสกัดได้อยู่แล้ว เหตุผลเดียวคือ ยกระดับสงครามขยายวงกว้างนั่นเอง แต่ WWIII ไม่มา เพราะอิหร่าน และโลกอาหรับลงแขกยิวเท่านั้น จีน รัสเซีย ยืนดู เติมอาวุธให้ เค้ารออะไร? รอเหี้ยมะกันยกกองทัพใหญ่มาช่วยอียิวทั้งหมดไงล่ะ แต่มันนกรู้ เสือกไม่ยอมยกมาให้หมด กลัวหลังบ้านเปิด แล้วจะโดนสวนดาก วอชิงตันตายคาที่ ต่างฝ่ายรู้มือกันดี ว่ามรึงล่อกูออกมาทำไม? เรื่องถึงต้องจบที่อียิวสิ้นชาติพันธุ์ไปไง ย้ายออกจากแผ่นดินคานาอันโดยไม่มีเงื่อนไข แล้วอีเหี้ยมะกันก็เตรียมเปิดบ้านต้องรับยิว แต่ก่อนจะเข้ามา ขอทำความสะอาดบ้านก่อนน่ะ CIVIL WAR หากไม่ฆ่ากันเองก่อนทั้งแผ่นดิน อียิวก็เข้ามาไม่ได้? หลังเลือกตั้งคือ D-DAY แผนแตกอเมริกาไงล่ะ? แล้วอีโง่ยุโรป มันจะอยู่ต่อยังไง? อีเบียร์เจ๊ง อีเศษฝรั่งเจ๊ง มรึงจะไปหาเจ้ามือใหม่เค้าก็ไม่รับ ไม่เอา จะคบเหี้ยต่อ จะอุ้มเหี้ยต่อ ก็เสี่ยงสูญพันธุ์ สิ้นชาติโดยเปล่าประโยชน์ ทำได้แค่ ปล่อยวาง EU ภายในก็จ้องจะแตกอยู่แล้ว สุดท้ายตัวใครตัวมัน? ยุโรปจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป ปชต.จะตายห่า กษัตริย์จะกลับคืนบังลังก์ ราชวงศ์ฮับบรูกเตรียมชงเต็มที่! เศรษฐกิจอิสราเอลเจ๊งหมดแล้ว ทั้งโรงงานผลิต ท่าเรือสินค้า ไปหมดเกลี้ยง แถมถูกชาวโลกแบนต่อต้านสินค้ายิว ที่มาว่าทำไม มันต้องก่อสงครามเพื่อหนีหนี้ ยิวตายไม่พอลากอเมริกา อังกฤษ ยุโรป ตายห่าไปพร้อมกันด้วย เพราะแบกดอลล่าร์จนหลังแอ่น ยูโร ปอนด์ เยน ไปหมด มีแต่ตัวเลข เม็ดเงินจริงไม่มีเหลือ นี่ไง "ทุนนิยมเหี้ยสามานย์" แค่ลงทุนหาเหยื่อมาแบกหนี้ แล้วชิ่งหนี ควายก็เป็นเหยื่อไปสิ เห็นๆ กันอยู่ทุกวี่วัน ไม่มีอะไรลงทุนแล้วได้ทันที ได้มาก ได้เร็ว หากไม่โกงเค้ามาดอกน่ะ สติมี แต่ความโลภมันบังตา เสร็จหมด สูตรหาแดร๊กอียิวมัน ที่ใช้ดอกนี้ทั่วโลกมาเป็นศตวรรษ ยิ่งโลกขัดแย้งกันเยอะ นานาชาติชิงแห่ขอเข้า BRICS เพื่อการคุมครองระยะยาว มีทั้ง SCO กองทัพโลก มีทั้ง AIIB แหล่งเงินลงทุนพร้อมสรรพ เจ้ามือคือ "หยวน" สถานการณ์โลกชี้ชัด ขั้วใหม่ชนะแบเบอร์ แต่ไม่บุ่มบ่าม ไม่เร่งรีบเกินไป ค่อยๆ กลืน ค่อยๆ เชือด จนเหี้ยสิ้นเนื้อประดาตัว จริงดิ? อเมริกาวิกฤตสมองไหล? คนเก่ง คนดังแต่ละสาขาอาชีพ แห่เข้าจีน? ถามกลับ ไอ้ที่อยู่เนี่ย หน้าตาฝรั่ง หรือเอเซีย อ้าว! ไม่ตรงปก จีนวางยาไว้เมื่อ 30 ปี ก่อน เมื่อจะสู้กับเหี้ย ต้องรู้ให้มากกว่าเหี้ย เกจิดัง ศาตราจารย์ PROF. ระดับหัวกะทิระดับโลก หัวดำทั้งนั้น หน้าตาเอเซียชัดเจน แล้วไปทำห่าอะไรที่นั่น มาเพื่อดูดวิชากลับ แล้วสานต่อบ้านเกิดไงล่ะ ดังนั้น จะพูดให้ถูกคือ "ได้เวลากลับบ้านแล้วต่างหาก" เพราะทุกวันนี้ จีนเจริญไปไกลว่าตะวันตกเยอะ จนเทียบไม่ติด เมื่อตัวตึง ตัวดัง แห่กลับบ้านเกิด อเมริกา อังกฤษ จะเหลือเหี้ยอะไรอีก กลับคืนสู่ยุคมืดอีกครั้ง เป็นไปตามวิบากกรรมที่มรึงก่อนั่นเอง!

    หมี CNN(ตะวันออกกลางอิหร่านคุมเกมส์ เอเซียใต้ จีนเอาอยู่ รัสเซียคุมยุโรป เวเนฯ คุมลาติน เกือบจะหมดโลกแล้วมั้ง? เหลือให้เหี้ยมันแดร๊กบ้าง ไม่งั้นกูจะระเบิดฆ่าตัวตาย ลากทั้งโลกตายไปด้วย นั่นแหละ ที่เค้ารอให้มรึงทำอยู่ ไอ้ควาย! สื่อเหี้ยอับอายไม่รู้จะแถยังไงต่อได้อีก แพ้ยับ แพ้ไม่ปรึกษาใคร ยิ่งแถ ยิ่งหมา แต่ก็ยังมีควายตาม สมกับเป็นควาย เกิดมาทำไมไม่รู้?)
    27 ตุลาคม 67
    16.15 น.

    https://linevoom.line.me/post/1173008015093750275
    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ :
    https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    27-10-67/01 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.6 อยากแจ้งเกิด แต่เสือก "แจ้งดับ" คาสายตาทั่วโลก เหี้ยขี้ข้ามะกัน ขนขีปนาวุธตัวตึง ตัวเด่น ตัวดัง มาเพี๊ยบ แม้จะโชว์เติมน้ำมันกลางอากาศ กะเพิ่มระยะโจมตีให้อียิว งานนี้ อียิวต้องได้เกิด หวังถล่มอิหร่านเละเทะ สุดท้าย "หมาเห่าใบตองแห้ง" หมาทั้งยิว หมาทั้งอเมริควาย เจอ S-350s/ S-400 เอาอยู่หมัด สกัดหมดเกลี้ยง ไม่มีเล็ดลอดไปได้ซักกะลูก ขี้ข้าเหี้ยประจักษ์ อยู่ต่อไม่ไหวแย้ว นายใหญ่ "โคตรกระจอก" ตากูบ้างน่ะ อิหร่านเตรียม 1000 ลูก พ่วงไฮเปอร์โซนิคขยี้อียิวให้หายซ่าส์ ล่อฐานทัพเหี้ยมะกันทั่วตะวันออกกลาง กระจอกแล้วยังเสือกมากร่าง ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง? ขั้วใหม่ดาหน้ารุกฆาต หลัง BRICS ประชุมเปิดตัวสมาชิกใหม่เพิ่ม ส่งไฟเขียวอาเซียนของกู ดีออก? ถามจริง? เหี้ยยังเหลือเหี้ยอะไรมาอวดได้อีก นุ๊กก็เก่า ความเร็วก็ต่ำ ยิงก็มั่ว หาเรดาร์ไม่เจอ สู้เพื่อจุดจบ! หลัง JOHN KIM เล่นละครปาหี่ เฮียสีจิ้งผิงร่วมด้วย ส่งหน่วยพิเศษ อาวุธ ไซเบอร์ จัดเต็ม เข้าพื้นที่ยูเครน ช่วยอะไรรัสเซียได้บ้าง? ชี้เป้าหมดเกลี้ยง อะไรอยู่ที่ไหน อาวุธหนักอยู่ตรงไหน เคลื่อนไหวยังไง? มาเพื่อชี้้เป้า ลูกยาวลง หน่วยเก็บกวาดเดินหน้า โสมแดงไม่ได้เสี่ยงเหี้ยอะไรเลย งานนี้ เติมลูกปืนใหญ่ไม่อั้น ยิงเป็นล้านนัดก็ยังเหลือ? อียูเครนมันตายคาตรีนไปนานแล้ว ยังจะซ้ำกูอยู่อีกเหรอ? อีโปลเปลี่ยนท่าทีทันที อังกฤษ อเมริกา อิสราเอล กระจอกเกินกุมกะลาหัวได้ ถอยยังรอด เปิดทางให้คือผ่อนหนักเป็นเบา ใครซวยล่ะ? อีฟินน์ อีสวิงกิ้ง อีสิงโตง่อย งานนี้คาตรีนเครมลิน! ของจริง ไม่มีตอแหล อียิวสั่งถอยพรมแดนเลบานาน หลังตายห่ายกกองพัน เฮซบอเลาะห์โหดจัด ถล่มลูกยาวไม่พอ ตามเก็บกวาดแบบไม่มีเหลือ ศพหายไปเพี๊ยบ? อย่าว่าจะบุกรุกเค้าเลย ยังไม่มีปัญญาข้ามพรมแดนก็ตายห่านับ 1000 แล้ว อาวุธเสียหายหนักเกินเยียวยา เจอโจมตีทุกระบบเอาไม่อยู่ ไปบุกเค้า เจอล่อกับดักตายคาวงตรีนเลบานอน เสธ.เหี้ยมะกัน เตือนแล้ว อย่าแหยมเฮซบอเลาะห์ กระดูกคนละเบอร์ ความเขี้ยวคนละชั้น ผลลัพธ์ตบหน้าอียิวเหี้ยไซออนนิสต์ ไอ้ที่หลงตัวเองมานาน ว่ากูเจ๋ง ที่แท้โคตรกระจอก ไม่รู้เหี้ยอะไรเลยเกี่ยวกับศัตรู ข้ามวิกแป๊บ : ฝันอีป้อมจบลงแล้ว! บุญไม่ถึง บังลังก์สูงเกินไป แหวนอีแม่ นาฬิกาอีเพื่อน ปปช.งับสุดตรีน ไล่เบี้ยจนสุดตรอก ใบสั่งอีแดงเอาคืนให้สาสม อี ไอ(คอน)สัส โดนแรง ทั้งปปช. ปปง. DSI ลากยาวทั้งขบวนการ แหล่งฟอกเงินชัด รู้ตัวเบื้องหลัง ทั้งไทย และเทศ หางโผล่กันหมด ดิ้นพล่านซื้อคดีเพี๊ยบ ติดกับดัก 2 ชั้น แฉไปมา ยิ่งพูดยิ่งลาก งานนี้ระดับชาติ ใครอุ้ม "หัวขาด" กระแส DSI เคาะกะลา ตัวอย่างมีให้เห็น อีหัวหน้าใหญ่ติดคุกไปแล้ว ใครจะเป็นรายต่อไปดีล่ะ? กลียุคกำลังจะไป ทิ้งทวน อยากเห็นต้องได้เห็น เรื่องที่ไม่คาดคิด? SOFT POWER THAI กระฉ่อนโลก เคลื่อนขบวนพยุหยาตราทางชลมารค 2567 เห็นทั้งโลก นี่คือ "สยามประเทศ" ส่งสัญญาน 1 ในอาเซียน ประเพณี วัฒนธรรม สรวจสวรรค์ บนแผ่นดินทอง ผีห่าซาตานเตรียมเผ่นกันหมด แสงขจรกระจายไปทั่วหล้า อัตลักษณ์ความเป็นไทย ที่ลูกหลานควายไทยที่ถูกเหี้ยล้างสมองไม่เข้าใจ! เพราะมันมีแค่ 1 เดียวในโลก ไทยเจริญรุ่งเรือง เพราะพระบารมี! ล่าสุด มาตามนัด อีพ่อนักบุญปลอมตอแหล ถูกสรรพากรถามหา ได้มาเยอะนี่มรึง? ไอ้อีที่หาแดร๊กบนความทุกข์ร้อนของชาวบ้านมีอันเป็นไปหมด โง่เพราะเสพสื่อ โง่เพราะฟังเค้ามา สติไม่มี ปัญญาไม่เกิด ความโลภทั้งนั้น! กลับมาโลกโสมมของเหี้ยต่อ : ผลกระทบ WWIII ที่เหี้ยยังคาดไม่ถึง โดยเฉพาะธุรกิจอียิวที่แบกดอลล่าร์จนหลังอ่วม ขั้วใหม่ไม่ได้แค่ทุบดอลล่าร์ตายคาตรีน แต่ยังส่งผลถึงการค้าทั้งโลก ที่ไม่ผูกดอลล่าร์ด้วย เท่ากับแย่งตลาดโลกไปจากเหี้ยยิวนั่นเองเพราะวัตถุดิบและแหล่งแร่ อาหาร พลังงาน อยู่ในเอเซียทั้งหมด แถมยังได้ใช้เงินสกุล BRICS ใหม่ แล้วขี้ข้าเหี้ยที่ไม่มีเงินสกุลนี้มันจะซื้อหาจากแหล่งต้นทางได้ยังไง? ต้องซื้อผ่านตัวกลาง เท่ากับมรึงเสียเปรียบดุลการค้านั่นเอง เพราะจ่ายแพงกว่าเค้า จะเอาเหี้ยอะไรไปสู้ ของเหี้ยจะขายได้เฉพาะชาติขี้ข้าเหี้ยเท่านั้น เท่ากับจำกัดวงผู้บริโภคนั่นเอง ไม่ใช่ทั้งโลกเหมือนแต่เก่าก่อน! ดอกนี้ ขั้วใหม่วางแผนมาดี จีนถึงได้ขยายโลจิสติคโลกใหม่ เชื่อมแอฟริกา ตะวันออกกลาง ลาติน เข้าหากันหมดไงล่ะ? โดยมีเวเนฯ คิวบา เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน มีสมาชิกของเข้าร่วมกลุ่มเงินดิจิตอลแล้วกว่า 10 ชาติ ทั้งอเมริกาใต้ และอเมริกากลาง ใครๆ ก็ต้องการแหล่งพลังงานที่มั่นคง และค่าเงินที่เป็นธรรม ขอไว้อาลัยให้อีเมสซี่แลนด์ ที่มันถูกแยกออกจากโลกลาตินโดยสมบูรณ์แล้ว ไต้หวันขาสั่น อยู่ดีดี จีน รัสเซีย อิหร่าน และทั้งตะวันออกกลางก็มา มรึงจะเอาให้กูหายไปจากแผนที่โลกเลยเหรอ? ก๊กมินตั๋ง เตรียมยึดสภาล่างไม่อนุมัติก่อสงครามกับจีน มาตามใบเสร็จปักกิ่ง ยิ่งสู้ ยิ่งจบเร็ว อีไล่ ชิง เต๋อ แค่หุ่นเชิด อีไช่ รอดแล้วแค่ในไต้หวัน ออกนอกมรึงโดนแน่! เหมือนอีเสี้ยนยา อีเนรคุณทันยา ชะตากรรมเดียวกัน คือถูกเก็บแน่ ใครจะปล่อยมรึงไว้ล่ะ? ปล.เป็นอันแน่ชัด! เมื่ออียิวและเหี้ยมะกันตัดสินใจโจมตีอิหร่านรอบใหม่ นั่นคือใบเสร็จที่อิหร่านจะใช้สิทธิ์ป้องกันตัว ขีปนาวุธ 100000 ลูก ที่คาเมเนอีเคยลั่นเอาไว้ จะได้ใช้ก็งานนี้แหละ เพราะทุกอย่างมันสุกงอมแล้ว ทำไมอียิวถึงยอมฆ่าตัวตาย รู้ดีว่าอิหร่านสกัดได้อยู่แล้ว เหตุผลเดียวคือ ยกระดับสงครามขยายวงกว้างนั่นเอง แต่ WWIII ไม่มา เพราะอิหร่าน และโลกอาหรับลงแขกยิวเท่านั้น จีน รัสเซีย ยืนดู เติมอาวุธให้ เค้ารออะไร? รอเหี้ยมะกันยกกองทัพใหญ่มาช่วยอียิวทั้งหมดไงล่ะ แต่มันนกรู้ เสือกไม่ยอมยกมาให้หมด กลัวหลังบ้านเปิด แล้วจะโดนสวนดาก วอชิงตันตายคาที่ ต่างฝ่ายรู้มือกันดี ว่ามรึงล่อกูออกมาทำไม? เรื่องถึงต้องจบที่อียิวสิ้นชาติพันธุ์ไปไง ย้ายออกจากแผ่นดินคานาอันโดยไม่มีเงื่อนไข แล้วอีเหี้ยมะกันก็เตรียมเปิดบ้านต้องรับยิว แต่ก่อนจะเข้ามา ขอทำความสะอาดบ้านก่อนน่ะ CIVIL WAR หากไม่ฆ่ากันเองก่อนทั้งแผ่นดิน อียิวก็เข้ามาไม่ได้? หลังเลือกตั้งคือ D-DAY แผนแตกอเมริกาไงล่ะ? แล้วอีโง่ยุโรป มันจะอยู่ต่อยังไง? อีเบียร์เจ๊ง อีเศษฝรั่งเจ๊ง มรึงจะไปหาเจ้ามือใหม่เค้าก็ไม่รับ ไม่เอา จะคบเหี้ยต่อ จะอุ้มเหี้ยต่อ ก็เสี่ยงสูญพันธุ์ สิ้นชาติโดยเปล่าประโยชน์ ทำได้แค่ ปล่อยวาง EU ภายในก็จ้องจะแตกอยู่แล้ว สุดท้ายตัวใครตัวมัน? ยุโรปจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป ปชต.จะตายห่า กษัตริย์จะกลับคืนบังลังก์ ราชวงศ์ฮับบรูกเตรียมชงเต็มที่! เศรษฐกิจอิสราเอลเจ๊งหมดแล้ว ทั้งโรงงานผลิต ท่าเรือสินค้า ไปหมดเกลี้ยง แถมถูกชาวโลกแบนต่อต้านสินค้ายิว ที่มาว่าทำไม มันต้องก่อสงครามเพื่อหนีหนี้ ยิวตายไม่พอลากอเมริกา อังกฤษ ยุโรป ตายห่าไปพร้อมกันด้วย เพราะแบกดอลล่าร์จนหลังแอ่น ยูโร ปอนด์ เยน ไปหมด มีแต่ตัวเลข เม็ดเงินจริงไม่มีเหลือ นี่ไง "ทุนนิยมเหี้ยสามานย์" แค่ลงทุนหาเหยื่อมาแบกหนี้ แล้วชิ่งหนี ควายก็เป็นเหยื่อไปสิ เห็นๆ กันอยู่ทุกวี่วัน ไม่มีอะไรลงทุนแล้วได้ทันที ได้มาก ได้เร็ว หากไม่โกงเค้ามาดอกน่ะ สติมี แต่ความโลภมันบังตา เสร็จหมด สูตรหาแดร๊กอียิวมัน ที่ใช้ดอกนี้ทั่วโลกมาเป็นศตวรรษ ยิ่งโลกขัดแย้งกันเยอะ นานาชาติชิงแห่ขอเข้า BRICS เพื่อการคุมครองระยะยาว มีทั้ง SCO กองทัพโลก มีทั้ง AIIB แหล่งเงินลงทุนพร้อมสรรพ เจ้ามือคือ "หยวน" สถานการณ์โลกชี้ชัด ขั้วใหม่ชนะแบเบอร์ แต่ไม่บุ่มบ่าม ไม่เร่งรีบเกินไป ค่อยๆ กลืน ค่อยๆ เชือด จนเหี้ยสิ้นเนื้อประดาตัว จริงดิ? อเมริกาวิกฤตสมองไหล? คนเก่ง คนดังแต่ละสาขาอาชีพ แห่เข้าจีน? ถามกลับ ไอ้ที่อยู่เนี่ย หน้าตาฝรั่ง หรือเอเซีย อ้าว! ไม่ตรงปก จีนวางยาไว้เมื่อ 30 ปี ก่อน เมื่อจะสู้กับเหี้ย ต้องรู้ให้มากกว่าเหี้ย เกจิดัง ศาตราจารย์ PROF. ระดับหัวกะทิระดับโลก หัวดำทั้งนั้น หน้าตาเอเซียชัดเจน แล้วไปทำห่าอะไรที่นั่น มาเพื่อดูดวิชากลับ แล้วสานต่อบ้านเกิดไงล่ะ ดังนั้น จะพูดให้ถูกคือ "ได้เวลากลับบ้านแล้วต่างหาก" เพราะทุกวันนี้ จีนเจริญไปไกลว่าตะวันตกเยอะ จนเทียบไม่ติด เมื่อตัวตึง ตัวดัง แห่กลับบ้านเกิด อเมริกา อังกฤษ จะเหลือเหี้ยอะไรอีก กลับคืนสู่ยุคมืดอีกครั้ง เป็นไปตามวิบากกรรมที่มรึงก่อนั่นเอง! หมี CNN(ตะวันออกกลางอิหร่านคุมเกมส์ เอเซียใต้ จีนเอาอยู่ รัสเซียคุมยุโรป เวเนฯ คุมลาติน เกือบจะหมดโลกแล้วมั้ง? เหลือให้เหี้ยมันแดร๊กบ้าง ไม่งั้นกูจะระเบิดฆ่าตัวตาย ลากทั้งโลกตายไปด้วย นั่นแหละ ที่เค้ารอให้มรึงทำอยู่ ไอ้ควาย! สื่อเหี้ยอับอายไม่รู้จะแถยังไงต่อได้อีก แพ้ยับ แพ้ไม่ปรึกษาใคร ยิ่งแถ ยิ่งหมา แต่ก็ยังมีควายตาม สมกับเป็นควาย เกิดมาทำไมไม่รู้?) 27 ตุลาคม 67 16.15 น. https://linevoom.line.me/post/1173008015093750275 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันหยุดพักผ่อน🥰❤️
    วันหยุดพักผ่อน🥰❤️
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 22 0 รีวิว
  • ส่วนของงานกฐินนั้น ที่สำคัญอีกอย่างก็คือผู้ครองผ้ากฐิน ถ้าว่ากันโดยพระธรรมวินัยแล้ว ท่านให้บุคคลที่มีจีวรเก่าที่สุดในวัดได้ผ้านั้นไป แต่ว่าระยะหลัง ส่วนใหญ่เจ้าอาวาสมักจะเป็นผู้ครองผ้ากฐิน

    เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ บางท่านถือว่าผู้ครองกฐินจึงมีสิทธิ์ที่จะรับบริวารกฐินทั้งหมด ผู้อื่นไม่มีสิทธิ์รับ เจ้าอาวาสก็เลยมักจะครองกฐินเสียเอง แต่ความจริงแล้วเป็นการเข้าใจผิด เพราะว่าบางวัดมีพระไม่ครบ ๕ รูป ไม่สามารถที่จะรับกฐินได้ ต้องไปยืมพระวัดอื่นมา

    การไปยืมพระวัดอื่นมานั้น พระวัดอื่นที่มานั้น ไม่มีสิทธิ์ไม่มีส่วนในกฐินนั้นทั้งสิ้น ให้เฉพาะบุคคลที่จำพรรษาในวัดนั้นเท่านั้น ดังนั้น...จึงมีการเข้าใจผิดกันว่า ถ้าไม่ครองกฐินแล้วจะไม่มีโอกาสได้รับบริวารกฐิน ซึ่งก็คือไม่มีสิทธิ์รับเงิน ก็ขอให้เข้าใจให้ถูกเสียใหม่

    สำหรับวัดท่าขนุนของเรานั้น ครองกฐินกันไปตามอายุพรรษา ก็คือถ้าปีนี้ไปถึงใคร ปีหน้าท่านถัดไปก็จะรู้เองว่าถึงคิวของตนเองครองกฐินแล้ว สำหรับผู้ครองกฐินนั้นต้องรับภาระหนัก เพราะว่าต้องเป็นผู้รักษาผ้าครองแทนพระทั้งวัด ในเมื่อเป็นผู้รักษาผ้าครองแทนพระทั้งวัด บุคคลที่ได้อานิสงส์กฐินสามารถผ่อนคลายสิกขาบทได้หลายข้อ พูดง่าย ๆ ก็คือ ละเว้นให้ไม่ต้องรักษาศีลหลายข้อ อย่างเช่นว่าการเที่ยวไปโดยไม่ต้องบอกลา ซึ่งปกติแล้ววัดท่าขนุนของเราไม่ยอมให้ไปโดยไม่ต้องบอกลา ออกจากวัดไปไหนจะต้องลาทุกคน อานิสงส์กฐินข้อนี้จึงไม่มีประโยชน์สำหรับพระวัดท่าขนุน

    สามารถฉันคณะโภชนาได้ ก็คือโดยปกติแล้ว ถ้าญาติโยมบอกว่านำอาหารอะไรมาถวายพระ พระไม่สามารถที่จะฉันรวมกันตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไปได้ เพราะว่าเป็นการผิดพระวินัย สาเหตุมาจากสมัยพุทธกาล เมื่อมหาเศรษฐีท่านบอกว่าจะถวายภัตตาหารอะไร พอเป็นอาหารที่ประณีต มีรสดี บรรดาพระก็แห่กันไปจนเขาเลี้ยงไม่ไหว พระพุทธเจ้าจึงต้องตรัสห้ามไว้ว่า ถ้าเป็นอาหารที่เจ้าภาพออกชื่อ ให้ฉันได้ไม่เกิน ๓ รูปเท่านั้น ถ้าถึงรูปที่ ๔ ขึ้นไปเรียกว่าคณะ ถ้าฉันคณะโภชนาแบบนั้น โดนปรับอาบัติทุกคำที่กลืนลงไป ก็แปลว่าศีลขาดทุกคำที่กลืน แต่หากว่ารับกฐินแล้วสามารถฉันคณะโภชนาได้

    ลำดับต่อไป คือ ฉันปรัมปรโภชนาได้ คำว่า ปรัมประ ก็คือฉันจากที่หนึ่งแล้วไปฉันอีกที่หนึ่ง ซึ่งโดยปกติแล้วที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามไว้ เพราะเกรงว่าจะฉันได้น้อย บางทีเจ้าภาพเขาก็เสียใจ แต่เรื่องนี้ไม่ต้องมาใช้กับอาตมา เพราะว่าฉันน้อยเป็นปกติอยู่แล้ว

    ข้อต่อไปท่านบอกว่า ไปไหนไม่ต้องเอาจีวรไปครบสำรับ เพราะว่ามีผู้ครองกฐินรักษาผ้าแทนเราแล้ว

    ข้อสุดท้าย ก็คือ จีวรที่เกิดขึ้นไม่ต้องทำวิกัปเป็น ๒ เจ้าของ สามารถที่จะใช้เป็นของตนเองได้เลย

    ในเมื่ออานิสงส์กฐินสามารถผ่อนคลายสิกขาบทได้หลายข้อ แต่ผู้ที่ครองกฐินจะไม่ได้อานิสงส์นี้ เพราะว่าต้องรักษาผ้ากฐินแทนผู้อื่นทั้งวัด ถ้าทำผ้าขาดครองก็ทำให้ขาดอานิสงส์กฐินทั้งวัดเหมือนกัน

    ดังนั้น...ในส่วนของผู้ครองกฐินจึงสำคัญมาก เพราะว่าห้ามเผลออย่างเด็ดขาด และอานิสงส์กฐินนี้จะมีแค่กลางเดือน ๔ เท่านั้น ถ้าท่านจำพรรษาแล้วไม่ได้รับกฐิน ได้รับอานิสงส์ ๑ เดือน ก็คือตั้งแต่แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ถึงกลางเดือน ๑๒ ถ้าจำพรรษาแล้วได้รับกฐิน ท่านขยายเวลาให้ถึงกลางเดือน ๔ ก็คือเพิ่มขึ้นมาอีก ๔ เดือน แต่อาตมาไม่เคยใช้อานิสงส์กฐิน เพราะว่าอานิสงส์กฐินนั้น ถ้าเผลอเราจะมักง่าย ไปไหนเอาจีวรไปครบไตรก็ไม่ได้หนักหนาสาหัสจนเกินไป จีวรชุดหนึ่งก็ใช้ได้หลายปี

    ขณะเดียวกันเรื่องของคณะโภชนา ปรัมปรโภชนานั้น ถ้าเราเผลอตัวเมื่อไร เกินกลางเดือน ๔ ไปก็จะโดนอาบัติ การไปไหนปกติก็ต้องบอกอยู่แล้วว่าไปไหน เพื่อที่เจ้าอาวาสหรือเพื่อนฝูงจะได้รู้ มีอะไรเร่งด่วนจะได้ตามตัวกันได้

    เมื่อเป็นเช่นนั้น อาตมาบวชมา ๓๐ กว่าปีไม่เคยใช้อานิสงส์กฐินเลย พูดง่าย ๆ ว่าไม่ต้องรอให้กฐินเดาะ แต่เป็นคนเดาะกฐินเสียเอง แต่ว่าในส่วนอื่น บุคคลอื่น โดยเฉพาะพระอื่น ๆ ในวัดท่าขนุน อาตมาไม่ได้บังคับ ใครจะใช้อานิสงส์กฐินก็อย่าเผลอ ถ้าใครไม่ใช้อานิสงส์กฐินก็ขออนุโมทนาด้วย เนื่องเพราะว่าในเรื่องของศีลพระนั้น ไม่มีอะไรน่าหนักใจ ๒๒๗ ข้อก็สามารถรักษาได้ ทำไมต้องไปผ่อนใน ๔ - ๕ ข้อเหล่านั้น

    ในเรื่องของการขอกฐิน วัดท่าขนุนจะไม่มีเรื่องนี้ เนื่องเพราะว่าอาตมาจะตั้งกองกฐินขึ้นมาเอง หลังจากนั้นญาติโยมก็มาสมทบ ร่วมเป็นเจ้าภาพกฐินสามัคคีเท่านั้น เมื่อทราบเช่นนี้แล้ว ถ้ามีวัดใดมาขอกฐิน ญาติโยมจะเป็นเจ้าภาพจะเป็นอะไรก็ตาม ให้รู้ว่าบุญกฐินนั้นโยมได้ไปเต็ม ๆ แต่อานิสงส์กฐินสำหรับพระไม่มีใครได้เลย เพราะว่าในพระวินัยท่านห้ามขอกฐิน

    ญาติโยมที่อยากจะเป็นเจ้าภาพกฐิน ให้ไปปวารณาตนแจ้งต่อเจ้าอาวาสวัดใดวัดหนึ่งที่เราจะเอากฐินไปทอด ว่าเราขอเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน ถ้าอย่างนั้นพระในวัดท่านถึงจะได้อานิสงส์กฐินไปเต็ม ๆ

    ในส่วนของการที่พระไปขอจากญาติโยม ก็คาดว่าเกิดจาก ๒ สาเหตุด้วยกัน
    สาเหตุแรก ก็คือ ไม่รู้ว่าในพระบาลีท่านห้ามขอกฐิน
    อย่างที่ ๒ ก็คือ แกล้งไม่รู้ เพราะว่าอยากได้กฐิน เนื่องจากว่าเจ้าภาพหลายรายมาปวารณากฐินกับอาตมาแล้วถามว่า ต้องการยอดปัจจัยเท่าไร ซึ่งถ้าเป็นวัดอื่น ๆ ก็อาจจะมีการบอกว่าเท่านั้นแสน เท่านี้ล้าน แต่สำหรับวัดท่าขนุน มีโยมถามอยู่ ๒ ปี ปีแรกที่ถาม อาตมาบอกว่าเอามา ๑๖ บาท เป็นเลขมงคลโสฬสสวยดี ปีถัดมาถามอีก บอกว่าเอามา ๙ บาทก็แล้วกัน ก็เป็นอันว่าจบกันแค่นั้น เนื่องจากว่ากฐินอยู่ที่ศรัทธาของโยม ไม่ใช่ว่าพระไปตั้งยอด แล้วให้โยมตะเกียกตะกายหามาด้วยความยากลำบาก

    เรื่องของพระธรรมวินัยแล้ว ส่วนใหญ่พระเณรสมัยนี้ไม่ค่อยที่จะเข้มงวดกัน อาจจะเป็นเพราะว่าพระอุปัชฌาย์อาจารย์ของท่านไม่ได้สั่งสอนไว้ ไม่ได้อบรมไว้ หรือไม่ก็ความที่อยากได้ยอดปัจจัยกฐินมาก ๆ ก็เลยต้องไปเที่ยวขอกฐินจากญาติโยมหลาย ๆ คน เพื่อให้มารวมกันทอด

    ในส่วนของกฐิน ขอย้ำอีกครั้งว่า อานิสงส์กฐิน สำคัญที่สุดตรงผ้าไตร จะเป็นผืนเดียว หรือครบไตรก็ตาม ถ้าไม่มีผ้าไตรก็ไม่เป็นกฐิน ถ้ามีผ้าไตรแล้วบริวารกฐินอื่นไม่จำเป็นต้องมีก็ได้

    เมื่อญาติโยมทราบแล้วจะได้รู้ว่า ในเรื่องของกฐินแต่โบราณมานั้น เขาเน้นกันเรื่องผ้าไตรครองสำหรับพระ แต่ปัจจุบันนี้ผิดเพี้ยนไป กลายเป็นว่าวัดไหนทำยอดเงินได้มาก ก็ถือว่าได้บุญมาก อย่าลืมว่าเงินเป็นแค่บริวารกฐินเท่านั้น ตัวบุญกฐินเต็ม ๆ อยู่ที่ผ้าไตรต่างหาก

    เมื่อญาติโยมได้ทราบในเรื่องของกฐิน ตลอดกระทั่งแบบธรรมเนียมในการปวารณาเป็นเจ้าภาพกฐิน หรือว่าในการถวายกฐินแล้ว ต่อไปก็จะได้ปฏิบัติกันได้ถูกต้อง
    ...................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com
    ส่วนของงานกฐินนั้น ที่สำคัญอีกอย่างก็คือผู้ครองผ้ากฐิน ถ้าว่ากันโดยพระธรรมวินัยแล้ว ท่านให้บุคคลที่มีจีวรเก่าที่สุดในวัดได้ผ้านั้นไป แต่ว่าระยะหลัง ส่วนใหญ่เจ้าอาวาสมักจะเป็นผู้ครองผ้ากฐิน เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ บางท่านถือว่าผู้ครองกฐินจึงมีสิทธิ์ที่จะรับบริวารกฐินทั้งหมด ผู้อื่นไม่มีสิทธิ์รับ เจ้าอาวาสก็เลยมักจะครองกฐินเสียเอง แต่ความจริงแล้วเป็นการเข้าใจผิด เพราะว่าบางวัดมีพระไม่ครบ ๕ รูป ไม่สามารถที่จะรับกฐินได้ ต้องไปยืมพระวัดอื่นมา การไปยืมพระวัดอื่นมานั้น พระวัดอื่นที่มานั้น ไม่มีสิทธิ์ไม่มีส่วนในกฐินนั้นทั้งสิ้น ให้เฉพาะบุคคลที่จำพรรษาในวัดนั้นเท่านั้น ดังนั้น...จึงมีการเข้าใจผิดกันว่า ถ้าไม่ครองกฐินแล้วจะไม่มีโอกาสได้รับบริวารกฐิน ซึ่งก็คือไม่มีสิทธิ์รับเงิน ก็ขอให้เข้าใจให้ถูกเสียใหม่ สำหรับวัดท่าขนุนของเรานั้น ครองกฐินกันไปตามอายุพรรษา ก็คือถ้าปีนี้ไปถึงใคร ปีหน้าท่านถัดไปก็จะรู้เองว่าถึงคิวของตนเองครองกฐินแล้ว สำหรับผู้ครองกฐินนั้นต้องรับภาระหนัก เพราะว่าต้องเป็นผู้รักษาผ้าครองแทนพระทั้งวัด ในเมื่อเป็นผู้รักษาผ้าครองแทนพระทั้งวัด บุคคลที่ได้อานิสงส์กฐินสามารถผ่อนคลายสิกขาบทได้หลายข้อ พูดง่าย ๆ ก็คือ ละเว้นให้ไม่ต้องรักษาศีลหลายข้อ อย่างเช่นว่าการเที่ยวไปโดยไม่ต้องบอกลา ซึ่งปกติแล้ววัดท่าขนุนของเราไม่ยอมให้ไปโดยไม่ต้องบอกลา ออกจากวัดไปไหนจะต้องลาทุกคน อานิสงส์กฐินข้อนี้จึงไม่มีประโยชน์สำหรับพระวัดท่าขนุน สามารถฉันคณะโภชนาได้ ก็คือโดยปกติแล้ว ถ้าญาติโยมบอกว่านำอาหารอะไรมาถวายพระ พระไม่สามารถที่จะฉันรวมกันตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไปได้ เพราะว่าเป็นการผิดพระวินัย สาเหตุมาจากสมัยพุทธกาล เมื่อมหาเศรษฐีท่านบอกว่าจะถวายภัตตาหารอะไร พอเป็นอาหารที่ประณีต มีรสดี บรรดาพระก็แห่กันไปจนเขาเลี้ยงไม่ไหว พระพุทธเจ้าจึงต้องตรัสห้ามไว้ว่า ถ้าเป็นอาหารที่เจ้าภาพออกชื่อ ให้ฉันได้ไม่เกิน ๓ รูปเท่านั้น ถ้าถึงรูปที่ ๔ ขึ้นไปเรียกว่าคณะ ถ้าฉันคณะโภชนาแบบนั้น โดนปรับอาบัติทุกคำที่กลืนลงไป ก็แปลว่าศีลขาดทุกคำที่กลืน แต่หากว่ารับกฐินแล้วสามารถฉันคณะโภชนาได้ ลำดับต่อไป คือ ฉันปรัมปรโภชนาได้ คำว่า ปรัมประ ก็คือฉันจากที่หนึ่งแล้วไปฉันอีกที่หนึ่ง ซึ่งโดยปกติแล้วที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามไว้ เพราะเกรงว่าจะฉันได้น้อย บางทีเจ้าภาพเขาก็เสียใจ แต่เรื่องนี้ไม่ต้องมาใช้กับอาตมา เพราะว่าฉันน้อยเป็นปกติอยู่แล้ว ข้อต่อไปท่านบอกว่า ไปไหนไม่ต้องเอาจีวรไปครบสำรับ เพราะว่ามีผู้ครองกฐินรักษาผ้าแทนเราแล้ว ข้อสุดท้าย ก็คือ จีวรที่เกิดขึ้นไม่ต้องทำวิกัปเป็น ๒ เจ้าของ สามารถที่จะใช้เป็นของตนเองได้เลย ในเมื่ออานิสงส์กฐินสามารถผ่อนคลายสิกขาบทได้หลายข้อ แต่ผู้ที่ครองกฐินจะไม่ได้อานิสงส์นี้ เพราะว่าต้องรักษาผ้ากฐินแทนผู้อื่นทั้งวัด ถ้าทำผ้าขาดครองก็ทำให้ขาดอานิสงส์กฐินทั้งวัดเหมือนกัน ดังนั้น...ในส่วนของผู้ครองกฐินจึงสำคัญมาก เพราะว่าห้ามเผลออย่างเด็ดขาด และอานิสงส์กฐินนี้จะมีแค่กลางเดือน ๔ เท่านั้น ถ้าท่านจำพรรษาแล้วไม่ได้รับกฐิน ได้รับอานิสงส์ ๑ เดือน ก็คือตั้งแต่แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ถึงกลางเดือน ๑๒ ถ้าจำพรรษาแล้วได้รับกฐิน ท่านขยายเวลาให้ถึงกลางเดือน ๔ ก็คือเพิ่มขึ้นมาอีก ๔ เดือน แต่อาตมาไม่เคยใช้อานิสงส์กฐิน เพราะว่าอานิสงส์กฐินนั้น ถ้าเผลอเราจะมักง่าย ไปไหนเอาจีวรไปครบไตรก็ไม่ได้หนักหนาสาหัสจนเกินไป จีวรชุดหนึ่งก็ใช้ได้หลายปี ขณะเดียวกันเรื่องของคณะโภชนา ปรัมปรโภชนานั้น ถ้าเราเผลอตัวเมื่อไร เกินกลางเดือน ๔ ไปก็จะโดนอาบัติ การไปไหนปกติก็ต้องบอกอยู่แล้วว่าไปไหน เพื่อที่เจ้าอาวาสหรือเพื่อนฝูงจะได้รู้ มีอะไรเร่งด่วนจะได้ตามตัวกันได้ เมื่อเป็นเช่นนั้น อาตมาบวชมา ๓๐ กว่าปีไม่เคยใช้อานิสงส์กฐินเลย พูดง่าย ๆ ว่าไม่ต้องรอให้กฐินเดาะ แต่เป็นคนเดาะกฐินเสียเอง แต่ว่าในส่วนอื่น บุคคลอื่น โดยเฉพาะพระอื่น ๆ ในวัดท่าขนุน อาตมาไม่ได้บังคับ ใครจะใช้อานิสงส์กฐินก็อย่าเผลอ ถ้าใครไม่ใช้อานิสงส์กฐินก็ขออนุโมทนาด้วย เนื่องเพราะว่าในเรื่องของศีลพระนั้น ไม่มีอะไรน่าหนักใจ ๒๒๗ ข้อก็สามารถรักษาได้ ทำไมต้องไปผ่อนใน ๔ - ๕ ข้อเหล่านั้น ในเรื่องของการขอกฐิน วัดท่าขนุนจะไม่มีเรื่องนี้ เนื่องเพราะว่าอาตมาจะตั้งกองกฐินขึ้นมาเอง หลังจากนั้นญาติโยมก็มาสมทบ ร่วมเป็นเจ้าภาพกฐินสามัคคีเท่านั้น เมื่อทราบเช่นนี้แล้ว ถ้ามีวัดใดมาขอกฐิน ญาติโยมจะเป็นเจ้าภาพจะเป็นอะไรก็ตาม ให้รู้ว่าบุญกฐินนั้นโยมได้ไปเต็ม ๆ แต่อานิสงส์กฐินสำหรับพระไม่มีใครได้เลย เพราะว่าในพระวินัยท่านห้ามขอกฐิน ญาติโยมที่อยากจะเป็นเจ้าภาพกฐิน ให้ไปปวารณาตนแจ้งต่อเจ้าอาวาสวัดใดวัดหนึ่งที่เราจะเอากฐินไปทอด ว่าเราขอเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน ถ้าอย่างนั้นพระในวัดท่านถึงจะได้อานิสงส์กฐินไปเต็ม ๆ ในส่วนของการที่พระไปขอจากญาติโยม ก็คาดว่าเกิดจาก ๒ สาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรก ก็คือ ไม่รู้ว่าในพระบาลีท่านห้ามขอกฐิน อย่างที่ ๒ ก็คือ แกล้งไม่รู้ เพราะว่าอยากได้กฐิน เนื่องจากว่าเจ้าภาพหลายรายมาปวารณากฐินกับอาตมาแล้วถามว่า ต้องการยอดปัจจัยเท่าไร ซึ่งถ้าเป็นวัดอื่น ๆ ก็อาจจะมีการบอกว่าเท่านั้นแสน เท่านี้ล้าน แต่สำหรับวัดท่าขนุน มีโยมถามอยู่ ๒ ปี ปีแรกที่ถาม อาตมาบอกว่าเอามา ๑๖ บาท เป็นเลขมงคลโสฬสสวยดี ปีถัดมาถามอีก บอกว่าเอามา ๙ บาทก็แล้วกัน ก็เป็นอันว่าจบกันแค่นั้น เนื่องจากว่ากฐินอยู่ที่ศรัทธาของโยม ไม่ใช่ว่าพระไปตั้งยอด แล้วให้โยมตะเกียกตะกายหามาด้วยความยากลำบาก เรื่องของพระธรรมวินัยแล้ว ส่วนใหญ่พระเณรสมัยนี้ไม่ค่อยที่จะเข้มงวดกัน อาจจะเป็นเพราะว่าพระอุปัชฌาย์อาจารย์ของท่านไม่ได้สั่งสอนไว้ ไม่ได้อบรมไว้ หรือไม่ก็ความที่อยากได้ยอดปัจจัยกฐินมาก ๆ ก็เลยต้องไปเที่ยวขอกฐินจากญาติโยมหลาย ๆ คน เพื่อให้มารวมกันทอด ในส่วนของกฐิน ขอย้ำอีกครั้งว่า อานิสงส์กฐิน สำคัญที่สุดตรงผ้าไตร จะเป็นผืนเดียว หรือครบไตรก็ตาม ถ้าไม่มีผ้าไตรก็ไม่เป็นกฐิน ถ้ามีผ้าไตรแล้วบริวารกฐินอื่นไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ เมื่อญาติโยมทราบแล้วจะได้รู้ว่า ในเรื่องของกฐินแต่โบราณมานั้น เขาเน้นกันเรื่องผ้าไตรครองสำหรับพระ แต่ปัจจุบันนี้ผิดเพี้ยนไป กลายเป็นว่าวัดไหนทำยอดเงินได้มาก ก็ถือว่าได้บุญมาก อย่าลืมว่าเงินเป็นแค่บริวารกฐินเท่านั้น ตัวบุญกฐินเต็ม ๆ อยู่ที่ผ้าไตรต่างหาก เมื่อญาติโยมได้ทราบในเรื่องของกฐิน ตลอดกระทั่งแบบธรรมเนียมในการปวารณาเป็นเจ้าภาพกฐิน หรือว่าในการถวายกฐินแล้ว ต่อไปก็จะได้ปฏิบัติกันได้ถูกต้อง ................................... พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน www.watthakhanun.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส่วนของงานกฐินนั้น ที่สำคัญอีกอย่างก็คือผู้ครองผ้ากฐิน ถ้าว่ากันโดยพระธรรมวินัยแล้ว ท่านให้บุคคลที่มีจีวรเก่าที่สุดในวัดได้ผ้านั้นไป แต่ว่าระยะหลัง ส่วนใหญ่เจ้าอาวาสมักจะเป็นผู้ครองผ้ากฐิน

    เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ บางท่านถือว่าผู้ครองกฐินจึงมีสิทธิ์ที่จะรับบริวารกฐินทั้งหมด ผู้อื่นไม่มีสิทธิ์รับ เจ้าอาวาสก็เลยมักจะครองกฐินเสียเอง แต่ความจริงแล้วเป็นการเข้าใจผิด เพราะว่าบางวัดมีพระไม่ครบ ๕ รูป ไม่สามารถที่จะรับกฐินได้ ต้องไปยืมพระวัดอื่นมา

    การไปยืมพระวัดอื่นมานั้น พระวัดอื่นที่มานั้น ไม่มีสิทธิ์ไม่มีส่วนในกฐินนั้นทั้งสิ้น ให้เฉพาะบุคคลที่จำพรรษาในวัดนั้นเท่านั้น ดังนั้น...จึงมีการเข้าใจผิดกันว่า ถ้าไม่ครองกฐินแล้วจะไม่มีโอกาสได้รับบริวารกฐิน ซึ่งก็คือไม่มีสิทธิ์รับเงิน ก็ขอให้เข้าใจให้ถูกเสียใหม่

    สำหรับวัดท่าขนุนของเรานั้น ครองกฐินกันไปตามอายุพรรษา ก็คือถ้าปีนี้ไปถึงใคร ปีหน้าท่านถัดไปก็จะรู้เองว่าถึงคิวของตนเองครองกฐินแล้ว สำหรับผู้ครองกฐินนั้นต้องรับภาระหนัก เพราะว่าต้องเป็นผู้รักษาผ้าครองแทนพระทั้งวัด ในเมื่อเป็นผู้รักษาผ้าครองแทนพระทั้งวัด บุคคลที่ได้อานิสงส์กฐินสามารถผ่อนคลายสิกขาบทได้หลายข้อ พูดง่าย ๆ ก็คือ ละเว้นให้ไม่ต้องรักษาศีลหลายข้อ อย่างเช่นว่าการเที่ยวไปโดยไม่ต้องบอกลา ซึ่งปกติแล้ววัดท่าขนุนของเราไม่ยอมให้ไปโดยไม่ต้องบอกลา ออกจากวัดไปไหนจะต้องลาทุกคน อานิสงส์กฐินข้อนี้จึงไม่มีประโยชน์สำหรับพระวัดท่าขนุน

    สามารถฉันคณะโภชนาได้ ก็คือโดยปกติแล้ว ถ้าญาติโยมบอกว่านำอาหารอะไรมาถวายพระ พระไม่สามารถที่จะฉันรวมกันตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไปได้ เพราะว่าเป็นการผิดพระวินัย สาเหตุมาจากสมัยพุทธกาล เมื่อมหาเศรษฐีท่านบอกว่าจะถวายภัตตาหารอะไร พอเป็นอาหารที่ประณีต มีรสดี บรรดาพระก็แห่กันไปจนเขาเลี้ยงไม่ไหว พระพุทธเจ้าจึงต้องตรัสห้ามไว้ว่า ถ้าเป็นอาหารที่เจ้าภาพออกชื่อ ให้ฉันได้ไม่เกิน ๓ รูปเท่านั้น ถ้าถึงรูปที่ ๔ ขึ้นไปเรียกว่าคณะ ถ้าฉันคณะโภชนาแบบนั้น โดนปรับอาบัติทุกคำที่กลืนลงไป ก็แปลว่าศีลขาดทุกคำที่กลืน แต่หากว่ารับกฐินแล้วสามารถฉันคณะโภชนาได้

    ลำดับต่อไป คือ ฉันปรัมปรโภชนาได้ คำว่า ปรัมประ ก็คือฉันจากที่หนึ่งแล้วไปฉันอีกที่หนึ่ง ซึ่งโดยปกติแล้วที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามไว้ เพราะเกรงว่าจะฉันได้น้อย บางทีเจ้าภาพเขาก็เสียใจ แต่เรื่องนี้ไม่ต้องมาใช้กับอาตมา เพราะว่าฉันน้อยเป็นปกติอยู่แล้ว

    ข้อต่อไปท่านบอกว่า ไปไหนไม่ต้องเอาจีวรไปครบสำรับ เพราะว่ามีผู้ครองกฐินรักษาผ้าแทนเราแล้ว

    ข้อสุดท้าย ก็คือ จีวรที่เกิดขึ้นไม่ต้องทำวิกัปเป็น ๒ เจ้าของ สามารถที่จะใช้เป็นของตนเองได้เลย

    ในเมื่ออานิสงส์กฐินสามารถผ่อนคลายสิกขาบทได้หลายข้อ แต่ผู้ที่ครองกฐินจะไม่ได้อานิสงส์นี้ เพราะว่าต้องรักษาผ้ากฐินแทนผู้อื่นทั้งวัด ถ้าทำผ้าขาดครองก็ทำให้ขาดอานิสงส์กฐินทั้งวัดเหมือนกัน

    ดังนั้น...ในส่วนของผู้ครองกฐินจึงสำคัญมาก เพราะว่าห้ามเผลออย่างเด็ดขาด และอานิสงส์กฐินนี้จะมีแค่กลางเดือน ๔ เท่านั้น ถ้าท่านจำพรรษาแล้วไม่ได้รับกฐิน ได้รับอานิสงส์ ๑ เดือน ก็คือตั้งแต่แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ถึงกลางเดือน ๑๒ ถ้าจำพรรษาแล้วได้รับกฐิน ท่านขยายเวลาให้ถึงกลางเดือน ๔ ก็คือเพิ่มขึ้นมาอีก ๔ เดือน แต่อาตมาไม่เคยใช้อานิสงส์กฐิน เพราะว่าอานิสงส์กฐินนั้น ถ้าเผลอเราจะมักง่าย ไปไหนเอาจีวรไปครบไตรก็ไม่ได้หนักหนาสาหัสจนเกินไป จีวรชุดหนึ่งก็ใช้ได้หลายปี

    ขณะเดียวกันเรื่องของคณะโภชนา ปรัมปรโภชนานั้น ถ้าเราเผลอตัวเมื่อไร เกินกลางเดือน ๔ ไปก็จะโดนอาบัติ การไปไหนปกติก็ต้องบอกอยู่แล้วว่าไปไหน เพื่อที่เจ้าอาวาสหรือเพื่อนฝูงจะได้รู้ มีอะไรเร่งด่วนจะได้ตามตัวกันได้

    เมื่อเป็นเช่นนั้น อาตมาบวชมา ๓๐ กว่าปีไม่เคยใช้อานิสงส์กฐินเลย พูดง่าย ๆ ว่าไม่ต้องรอให้กฐินเดาะ แต่เป็นคนเดาะกฐินเสียเอง แต่ว่าในส่วนอื่น บุคคลอื่น โดยเฉพาะพระอื่น ๆ ในวัดท่าขนุน อาตมาไม่ได้บังคับ ใครจะใช้อานิสงส์กฐินก็อย่าเผลอ ถ้าใครไม่ใช้อานิสงส์กฐินก็ขออนุโมทนาด้วย เนื่องเพราะว่าในเรื่องของศีลพระนั้น ไม่มีอะไรน่าหนักใจ ๒๒๗ ข้อก็สามารถรักษาได้ ทำไมต้องไปผ่อนใน ๔ - ๕ ข้อเหล่านั้น

    ในเรื่องของการขอกฐิน วัดท่าขนุนจะไม่มีเรื่องนี้ เนื่องเพราะว่าอาตมาจะตั้งกองกฐินขึ้นมาเอง หลังจากนั้นญาติโยมก็มาสมทบ ร่วมเป็นเจ้าภาพกฐินสามัคคีเท่านั้น เมื่อทราบเช่นนี้แล้ว ถ้ามีวัดใดมาขอกฐิน ญาติโยมจะเป็นเจ้าภาพจะเป็นอะไรก็ตาม ให้รู้ว่าบุญกฐินนั้นโยมได้ไปเต็ม ๆ แต่อานิสงส์กฐินสำหรับพระไม่มีใครได้เลย เพราะว่าในพระวินัยท่านห้ามขอกฐิน

    ญาติโยมที่อยากจะเป็นเจ้าภาพกฐิน ให้ไปปวารณาตนแจ้งต่อเจ้าอาวาสวัดใดวัดหนึ่งที่เราจะเอากฐินไปทอด ว่าเราขอเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน ถ้าอย่างนั้นพระในวัดท่านถึงจะได้อานิสงส์กฐินไปเต็ม ๆ

    ในส่วนของการที่พระไปขอจากญาติโยม ก็คาดว่าเกิดจาก ๒ สาเหตุด้วยกัน
    สาเหตุแรก ก็คือ ไม่รู้ว่าในพระบาลีท่านห้ามขอกฐิน
    อย่างที่ ๒ ก็คือ แกล้งไม่รู้ เพราะว่าอยากได้กฐิน เนื่องจากว่าเจ้าภาพหลายรายมาปวารณากฐินกับอาตมาแล้วถามว่า ต้องการยอดปัจจัยเท่าไร ซึ่งถ้าเป็นวัดอื่น ๆ ก็อาจจะมีการบอกว่าเท่านั้นแสน เท่านี้ล้าน แต่สำหรับวัดท่าขนุน มีโยมถามอยู่ ๒ ปี ปีแรกที่ถาม อาตมาบอกว่าเอามา ๑๖ บาท เป็นเลขมงคลโสฬสสวยดี ปีถัดมาถามอีก บอกว่าเอามา ๙ บาทก็แล้วกัน ก็เป็นอันว่าจบกันแค่นั้น เนื่องจากว่ากฐินอยู่ที่ศรัทธาของโยม ไม่ใช่ว่าพระไปตั้งยอด แล้วให้โยมตะเกียกตะกายหามาด้วยความยากลำบาก

    เรื่องของพระธรรมวินัยแล้ว ส่วนใหญ่พระเณรสมัยนี้ไม่ค่อยที่จะเข้มงวดกัน อาจจะเป็นเพราะว่าพระอุปัชฌาย์อาจารย์ของท่านไม่ได้สั่งสอนไว้ ไม่ได้อบรมไว้ หรือไม่ก็ความที่อยากได้ยอดปัจจัยกฐินมาก ๆ ก็เลยต้องไปเที่ยวขอกฐินจากญาติโยมหลาย ๆ คน เพื่อให้มารวมกันทอด

    ในส่วนของกฐิน ขอย้ำอีกครั้งว่า อานิสงส์กฐิน สำคัญที่สุดตรงผ้าไตร จะเป็นผืนเดียว หรือครบไตรก็ตาม ถ้าไม่มีผ้าไตรก็ไม่เป็นกฐิน ถ้ามีผ้าไตรแล้วบริวารกฐินอื่นไม่จำเป็นต้องมีก็ได้

    เมื่อญาติโยมทราบแล้วจะได้รู้ว่า ในเรื่องของกฐินแต่โบราณมานั้น เขาเน้นกันเรื่องผ้าไตรครองสำหรับพระ แต่ปัจจุบันนี้ผิดเพี้ยนไป กลายเป็นว่าวัดไหนทำยอดเงินได้มาก ก็ถือว่าได้บุญมาก อย่าลืมว่าเงินเป็นแค่บริวารกฐินเท่านั้น ตัวบุญกฐินเต็ม ๆ อยู่ที่ผ้าไตรต่างหาก

    เมื่อญาติโยมได้ทราบในเรื่องของกฐิน ตลอดกระทั่งแบบธรรมเนียมในการปวารณาเป็นเจ้าภาพกฐิน หรือว่าในการถวายกฐินแล้ว ต่อไปก็จะได้ปฏิบัติกันได้ถูกต้อง
    ...................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com
    ส่วนของงานกฐินนั้น ที่สำคัญอีกอย่างก็คือผู้ครองผ้ากฐิน ถ้าว่ากันโดยพระธรรมวินัยแล้ว ท่านให้บุคคลที่มีจีวรเก่าที่สุดในวัดได้ผ้านั้นไป แต่ว่าระยะหลัง ส่วนใหญ่เจ้าอาวาสมักจะเป็นผู้ครองผ้ากฐิน เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ บางท่านถือว่าผู้ครองกฐินจึงมีสิทธิ์ที่จะรับบริวารกฐินทั้งหมด ผู้อื่นไม่มีสิทธิ์รับ เจ้าอาวาสก็เลยมักจะครองกฐินเสียเอง แต่ความจริงแล้วเป็นการเข้าใจผิด เพราะว่าบางวัดมีพระไม่ครบ ๕ รูป ไม่สามารถที่จะรับกฐินได้ ต้องไปยืมพระวัดอื่นมา การไปยืมพระวัดอื่นมานั้น พระวัดอื่นที่มานั้น ไม่มีสิทธิ์ไม่มีส่วนในกฐินนั้นทั้งสิ้น ให้เฉพาะบุคคลที่จำพรรษาในวัดนั้นเท่านั้น ดังนั้น...จึงมีการเข้าใจผิดกันว่า ถ้าไม่ครองกฐินแล้วจะไม่มีโอกาสได้รับบริวารกฐิน ซึ่งก็คือไม่มีสิทธิ์รับเงิน ก็ขอให้เข้าใจให้ถูกเสียใหม่ สำหรับวัดท่าขนุนของเรานั้น ครองกฐินกันไปตามอายุพรรษา ก็คือถ้าปีนี้ไปถึงใคร ปีหน้าท่านถัดไปก็จะรู้เองว่าถึงคิวของตนเองครองกฐินแล้ว สำหรับผู้ครองกฐินนั้นต้องรับภาระหนัก เพราะว่าต้องเป็นผู้รักษาผ้าครองแทนพระทั้งวัด ในเมื่อเป็นผู้รักษาผ้าครองแทนพระทั้งวัด บุคคลที่ได้อานิสงส์กฐินสามารถผ่อนคลายสิกขาบทได้หลายข้อ พูดง่าย ๆ ก็คือ ละเว้นให้ไม่ต้องรักษาศีลหลายข้อ อย่างเช่นว่าการเที่ยวไปโดยไม่ต้องบอกลา ซึ่งปกติแล้ววัดท่าขนุนของเราไม่ยอมให้ไปโดยไม่ต้องบอกลา ออกจากวัดไปไหนจะต้องลาทุกคน อานิสงส์กฐินข้อนี้จึงไม่มีประโยชน์สำหรับพระวัดท่าขนุน สามารถฉันคณะโภชนาได้ ก็คือโดยปกติแล้ว ถ้าญาติโยมบอกว่านำอาหารอะไรมาถวายพระ พระไม่สามารถที่จะฉันรวมกันตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไปได้ เพราะว่าเป็นการผิดพระวินัย สาเหตุมาจากสมัยพุทธกาล เมื่อมหาเศรษฐีท่านบอกว่าจะถวายภัตตาหารอะไร พอเป็นอาหารที่ประณีต มีรสดี บรรดาพระก็แห่กันไปจนเขาเลี้ยงไม่ไหว พระพุทธเจ้าจึงต้องตรัสห้ามไว้ว่า ถ้าเป็นอาหารที่เจ้าภาพออกชื่อ ให้ฉันได้ไม่เกิน ๓ รูปเท่านั้น ถ้าถึงรูปที่ ๔ ขึ้นไปเรียกว่าคณะ ถ้าฉันคณะโภชนาแบบนั้น โดนปรับอาบัติทุกคำที่กลืนลงไป ก็แปลว่าศีลขาดทุกคำที่กลืน แต่หากว่ารับกฐินแล้วสามารถฉันคณะโภชนาได้ ลำดับต่อไป คือ ฉันปรัมปรโภชนาได้ คำว่า ปรัมประ ก็คือฉันจากที่หนึ่งแล้วไปฉันอีกที่หนึ่ง ซึ่งโดยปกติแล้วที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามไว้ เพราะเกรงว่าจะฉันได้น้อย บางทีเจ้าภาพเขาก็เสียใจ แต่เรื่องนี้ไม่ต้องมาใช้กับอาตมา เพราะว่าฉันน้อยเป็นปกติอยู่แล้ว ข้อต่อไปท่านบอกว่า ไปไหนไม่ต้องเอาจีวรไปครบสำรับ เพราะว่ามีผู้ครองกฐินรักษาผ้าแทนเราแล้ว ข้อสุดท้าย ก็คือ จีวรที่เกิดขึ้นไม่ต้องทำวิกัปเป็น ๒ เจ้าของ สามารถที่จะใช้เป็นของตนเองได้เลย ในเมื่ออานิสงส์กฐินสามารถผ่อนคลายสิกขาบทได้หลายข้อ แต่ผู้ที่ครองกฐินจะไม่ได้อานิสงส์นี้ เพราะว่าต้องรักษาผ้ากฐินแทนผู้อื่นทั้งวัด ถ้าทำผ้าขาดครองก็ทำให้ขาดอานิสงส์กฐินทั้งวัดเหมือนกัน ดังนั้น...ในส่วนของผู้ครองกฐินจึงสำคัญมาก เพราะว่าห้ามเผลออย่างเด็ดขาด และอานิสงส์กฐินนี้จะมีแค่กลางเดือน ๔ เท่านั้น ถ้าท่านจำพรรษาแล้วไม่ได้รับกฐิน ได้รับอานิสงส์ ๑ เดือน ก็คือตั้งแต่แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ถึงกลางเดือน ๑๒ ถ้าจำพรรษาแล้วได้รับกฐิน ท่านขยายเวลาให้ถึงกลางเดือน ๔ ก็คือเพิ่มขึ้นมาอีก ๔ เดือน แต่อาตมาไม่เคยใช้อานิสงส์กฐิน เพราะว่าอานิสงส์กฐินนั้น ถ้าเผลอเราจะมักง่าย ไปไหนเอาจีวรไปครบไตรก็ไม่ได้หนักหนาสาหัสจนเกินไป จีวรชุดหนึ่งก็ใช้ได้หลายปี ขณะเดียวกันเรื่องของคณะโภชนา ปรัมปรโภชนานั้น ถ้าเราเผลอตัวเมื่อไร เกินกลางเดือน ๔ ไปก็จะโดนอาบัติ การไปไหนปกติก็ต้องบอกอยู่แล้วว่าไปไหน เพื่อที่เจ้าอาวาสหรือเพื่อนฝูงจะได้รู้ มีอะไรเร่งด่วนจะได้ตามตัวกันได้ เมื่อเป็นเช่นนั้น อาตมาบวชมา ๓๐ กว่าปีไม่เคยใช้อานิสงส์กฐินเลย พูดง่าย ๆ ว่าไม่ต้องรอให้กฐินเดาะ แต่เป็นคนเดาะกฐินเสียเอง แต่ว่าในส่วนอื่น บุคคลอื่น โดยเฉพาะพระอื่น ๆ ในวัดท่าขนุน อาตมาไม่ได้บังคับ ใครจะใช้อานิสงส์กฐินก็อย่าเผลอ ถ้าใครไม่ใช้อานิสงส์กฐินก็ขออนุโมทนาด้วย เนื่องเพราะว่าในเรื่องของศีลพระนั้น ไม่มีอะไรน่าหนักใจ ๒๒๗ ข้อก็สามารถรักษาได้ ทำไมต้องไปผ่อนใน ๔ - ๕ ข้อเหล่านั้น ในเรื่องของการขอกฐิน วัดท่าขนุนจะไม่มีเรื่องนี้ เนื่องเพราะว่าอาตมาจะตั้งกองกฐินขึ้นมาเอง หลังจากนั้นญาติโยมก็มาสมทบ ร่วมเป็นเจ้าภาพกฐินสามัคคีเท่านั้น เมื่อทราบเช่นนี้แล้ว ถ้ามีวัดใดมาขอกฐิน ญาติโยมจะเป็นเจ้าภาพจะเป็นอะไรก็ตาม ให้รู้ว่าบุญกฐินนั้นโยมได้ไปเต็ม ๆ แต่อานิสงส์กฐินสำหรับพระไม่มีใครได้เลย เพราะว่าในพระวินัยท่านห้ามขอกฐิน ญาติโยมที่อยากจะเป็นเจ้าภาพกฐิน ให้ไปปวารณาตนแจ้งต่อเจ้าอาวาสวัดใดวัดหนึ่งที่เราจะเอากฐินไปทอด ว่าเราขอเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน ถ้าอย่างนั้นพระในวัดท่านถึงจะได้อานิสงส์กฐินไปเต็ม ๆ ในส่วนของการที่พระไปขอจากญาติโยม ก็คาดว่าเกิดจาก ๒ สาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรก ก็คือ ไม่รู้ว่าในพระบาลีท่านห้ามขอกฐิน อย่างที่ ๒ ก็คือ แกล้งไม่รู้ เพราะว่าอยากได้กฐิน เนื่องจากว่าเจ้าภาพหลายรายมาปวารณากฐินกับอาตมาแล้วถามว่า ต้องการยอดปัจจัยเท่าไร ซึ่งถ้าเป็นวัดอื่น ๆ ก็อาจจะมีการบอกว่าเท่านั้นแสน เท่านี้ล้าน แต่สำหรับวัดท่าขนุน มีโยมถามอยู่ ๒ ปี ปีแรกที่ถาม อาตมาบอกว่าเอามา ๑๖ บาท เป็นเลขมงคลโสฬสสวยดี ปีถัดมาถามอีก บอกว่าเอามา ๙ บาทก็แล้วกัน ก็เป็นอันว่าจบกันแค่นั้น เนื่องจากว่ากฐินอยู่ที่ศรัทธาของโยม ไม่ใช่ว่าพระไปตั้งยอด แล้วให้โยมตะเกียกตะกายหามาด้วยความยากลำบาก เรื่องของพระธรรมวินัยแล้ว ส่วนใหญ่พระเณรสมัยนี้ไม่ค่อยที่จะเข้มงวดกัน อาจจะเป็นเพราะว่าพระอุปัชฌาย์อาจารย์ของท่านไม่ได้สั่งสอนไว้ ไม่ได้อบรมไว้ หรือไม่ก็ความที่อยากได้ยอดปัจจัยกฐินมาก ๆ ก็เลยต้องไปเที่ยวขอกฐินจากญาติโยมหลาย ๆ คน เพื่อให้มารวมกันทอด ในส่วนของกฐิน ขอย้ำอีกครั้งว่า อานิสงส์กฐิน สำคัญที่สุดตรงผ้าไตร จะเป็นผืนเดียว หรือครบไตรก็ตาม ถ้าไม่มีผ้าไตรก็ไม่เป็นกฐิน ถ้ามีผ้าไตรแล้วบริวารกฐินอื่นไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ เมื่อญาติโยมทราบแล้วจะได้รู้ว่า ในเรื่องของกฐินแต่โบราณมานั้น เขาเน้นกันเรื่องผ้าไตรครองสำหรับพระ แต่ปัจจุบันนี้ผิดเพี้ยนไป กลายเป็นว่าวัดไหนทำยอดเงินได้มาก ก็ถือว่าได้บุญมาก อย่าลืมว่าเงินเป็นแค่บริวารกฐินเท่านั้น ตัวบุญกฐินเต็ม ๆ อยู่ที่ผ้าไตรต่างหาก เมื่อญาติโยมได้ทราบในเรื่องของกฐิน ตลอดกระทั่งแบบธรรมเนียมในการปวารณาเป็นเจ้าภาพกฐิน หรือว่าในการถวายกฐินแล้ว ต่อไปก็จะได้ปฏิบัติกันได้ถูกต้อง ................................... พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน www.watthakhanun.com
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=0P-SRlgZeS0
    บทสนทนาของหมูเด้งกับคนเลี้ยง
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาของหมูเด้งกับคนเลี้ยง
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #conversations #listeningtest #หมูเด้ง

    The conversations from the clip :

    Moo Deng: Hey, why do I always feel sleepy after eating?
    Zookeeper: Oh, Moo Deng! It’s normal to feel tired after eating. Your body is working hard to digest all that delicious food!
    Moo Deng: I love eating, but sometimes I just want to take a nap right after!
    Zookeeper: That’s okay! Pigs need a lot of rest, especially after enjoying a good meal.
    Moo Deng: Do other animals get sleepy after they eat too?
    Zookeeper: Yes, many animals do. Even lions take long naps after they feast. Sleeping helps them digest their food better.
    Moo Deng: Wow, I didn’t know that! But I must admit... sometimes I get too excited and accidentally nibble on you when we play.
    Zookeeper: Haha, I’ve noticed! You’re a playful little pig, but biting can hurt, Moo Deng.
    Moo Deng: Oh no, I don’t mean to! I just get really happy when we play together.
    Zookeeper: I understand, but you need to be gentle. Biting can be dangerous, even if you don’t mean it.
    Moo Deng: I’ll try to remember! Maybe I can just bump into you instead of biting.
    Zookeeper: That sounds like a great idea! We can still have fun without the biting!
    Moo Deng: Thanks, Zookeeper! I love playing with you, especially after I eat!Zookeeper: I love playing with you too, Moo Deng. Just remember to be gentle, especially when you’re excited!
    Moo Deng: Got it! Now, can I have a carrot? They always make me feel better!
    Zookeeper: Sure! Enjoy your carrot, and then you can take a nice nap!

    หมูเด้ง: สวัสดี ทำไมฉันถึงรู้สึกง่วงนอนทุกครั้งหลังจากกิน?
    คนเลี้ยง: โอ้ หมูเด้ง! มันเป็นเรื่องปกติที่รู้สึกเหนื่อยหลังจากกิน ร่างกายของเธอกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อย่อยอาหารอร่อย ๆ นั่นแหละ!
    หมูเด้ง: ฉันชอบกินนะ แต่บางครั้งฉันก็อยากงีบหลับทันทีเลย!
    คนเลี้ยง: ไม่เป็นไรหรอก! หมูต้องการการพักผ่อนเยอะ ๆ โดยเฉพาะหลังจากเพลิดเพลินกับอาหารดี ๆ
    หมูเด้ง: แล้วสัตว์ตัวอื่น ๆ ก็รู้สึกง่วงหลังจากกินเหมือนกันไหม?
    คนเลี้ยง: ใช่ สัตว์หลายตัวก็เป็นแบบนั้น แม้แต่สิงโตก็นอนหลับยาวหลังจากที่มันกินเข้าไป การนอนช่วยให้พวกมันย่อยอาหารได้ดีขึ้น
    หมูเด้ง: ว้าว ฉันไม่รู้เลย! แต่ฉันต้องยอมรับนะ... บางครั้งฉันตื่นเต้นเกินไปแล้วเผลอกัดพี่ตอนเล่น
    คนเลี้ยง: ฮ่า ๆ ฉันสังเกตเห็นแล้ว! เธอเป็นลูกหมูที่ขี้เล่น แต่การกัดมันเจ็บนะ หมูเด้ง
    หมูเด้ง: อุ๊ย ฉันไม่ได้ตั้งใจ! ฉันแค่ดีใจมาก ๆ เวลาที่เราเล่นด้วยกัน
    คนเลี้ยง: ฉันเข้าใจ แต่เธอต้องอ่อนโยนหน่อย การกัดอาจเป็นอันตรายได้นะ ถึงแม้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจก็ตาม
    หมูเด้ง: ฉันจะพยายามจำไว้! บางทีฉันอาจจะแค่ชนพี่แทนการกัด
    คนเลี้ยง: นั่นฟังดูเป็นความคิดที่ดีนะ เราจะยังเล่นสนุกกันได้ แต่ไม่มีการกัด!
    หมูเด้ง: ขอบคุณนะ พี่คนเลี้ยง ฉันชอบเล่นกับพี่มาก ๆ หลังจากกินเสร็จ!
    คนเลี้ยง: ฉันก็ชอบเล่นกับเธอเหมือนกัน หมูเด้ง แค่จำไว้ว่าต้องอ่อนโยนนะ โดยเฉพาะตอนที่เธอตื่นเต้น
    หมูเด้ง: ฉันจะจำไว้! ตอนนี้ฉันขอแครอทได้ไหม? มันทำให้ฉันง่วงนอนทุกที!
    คนเลี้ยง: ได้สิ! กินแครอทให้อร่อยนะ แล้วก็นอนพักให้สบาย อย่าลืมว่าไม่ต้องกัดอีกแล้วนะ!

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Sleepy (adj.) แปลว่า ง่วงนอน (สลีพ-พี)
    Digest (v.) แปลว่า ย่อยอาหาร (ได-เจสท์)
    Meal (n.) แปลว่า มื้ออาหาร (มีล)
    Rest (v.) แปลว่า พักผ่อน (เรสท์)
    Excited (adj.) แปลว่า ตื่นเต้น (อิค-ไซ-ทิด)
    Playful (adj.) แปลว่า ขี้เล่น (เพลย์-ฟูล)
    Gentle (adj.) แปลว่า อ่อนโยน (เจน-เทิล)
    Tease (v.) แปลว่า แกล้ง (ทีซ)
    Hurt (v.) แปลว่า ทำให้เจ็บ (เฮิร์ท)
    Nudge (v.) แปลว่า ดันเบาๆ, ชนเบาๆ (นัดจ์)
    Healthy (adj.) แปลว่า สุขภาพดี (เฮล-ธี)
    Crunchy (adj.) แปลว่า กรอบ (ครัน-ชี่)
    Bite (v.) แปลว่า กัด (ไบท์)
    Play (v.) แปลว่า เล่น (เพลย์)
    Carrot (n.) แปลว่า แครอท (แคร-รอท)
    https://www.youtube.com/watch?v=0P-SRlgZeS0 บทสนทนาของหมูเด้งกับคนเลี้ยง (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาของหมูเด้งกับคนเลี้ยง มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #conversations #listeningtest #หมูเด้ง The conversations from the clip : Moo Deng: Hey, why do I always feel sleepy after eating? Zookeeper: Oh, Moo Deng! It’s normal to feel tired after eating. Your body is working hard to digest all that delicious food! Moo Deng: I love eating, but sometimes I just want to take a nap right after! Zookeeper: That’s okay! Pigs need a lot of rest, especially after enjoying a good meal. Moo Deng: Do other animals get sleepy after they eat too? Zookeeper: Yes, many animals do. Even lions take long naps after they feast. Sleeping helps them digest their food better. Moo Deng: Wow, I didn’t know that! But I must admit... sometimes I get too excited and accidentally nibble on you when we play. Zookeeper: Haha, I’ve noticed! You’re a playful little pig, but biting can hurt, Moo Deng. Moo Deng: Oh no, I don’t mean to! I just get really happy when we play together. Zookeeper: I understand, but you need to be gentle. Biting can be dangerous, even if you don’t mean it. Moo Deng: I’ll try to remember! Maybe I can just bump into you instead of biting. Zookeeper: That sounds like a great idea! We can still have fun without the biting! Moo Deng: Thanks, Zookeeper! I love playing with you, especially after I eat!Zookeeper: I love playing with you too, Moo Deng. Just remember to be gentle, especially when you’re excited! Moo Deng: Got it! Now, can I have a carrot? They always make me feel better! Zookeeper: Sure! Enjoy your carrot, and then you can take a nice nap! หมูเด้ง: สวัสดี ทำไมฉันถึงรู้สึกง่วงนอนทุกครั้งหลังจากกิน? คนเลี้ยง: โอ้ หมูเด้ง! มันเป็นเรื่องปกติที่รู้สึกเหนื่อยหลังจากกิน ร่างกายของเธอกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อย่อยอาหารอร่อย ๆ นั่นแหละ! หมูเด้ง: ฉันชอบกินนะ แต่บางครั้งฉันก็อยากงีบหลับทันทีเลย! คนเลี้ยง: ไม่เป็นไรหรอก! หมูต้องการการพักผ่อนเยอะ ๆ โดยเฉพาะหลังจากเพลิดเพลินกับอาหารดี ๆ หมูเด้ง: แล้วสัตว์ตัวอื่น ๆ ก็รู้สึกง่วงหลังจากกินเหมือนกันไหม? คนเลี้ยง: ใช่ สัตว์หลายตัวก็เป็นแบบนั้น แม้แต่สิงโตก็นอนหลับยาวหลังจากที่มันกินเข้าไป การนอนช่วยให้พวกมันย่อยอาหารได้ดีขึ้น หมูเด้ง: ว้าว ฉันไม่รู้เลย! แต่ฉันต้องยอมรับนะ... บางครั้งฉันตื่นเต้นเกินไปแล้วเผลอกัดพี่ตอนเล่น คนเลี้ยง: ฮ่า ๆ ฉันสังเกตเห็นแล้ว! เธอเป็นลูกหมูที่ขี้เล่น แต่การกัดมันเจ็บนะ หมูเด้ง หมูเด้ง: อุ๊ย ฉันไม่ได้ตั้งใจ! ฉันแค่ดีใจมาก ๆ เวลาที่เราเล่นด้วยกัน คนเลี้ยง: ฉันเข้าใจ แต่เธอต้องอ่อนโยนหน่อย การกัดอาจเป็นอันตรายได้นะ ถึงแม้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจก็ตาม หมูเด้ง: ฉันจะพยายามจำไว้! บางทีฉันอาจจะแค่ชนพี่แทนการกัด คนเลี้ยง: นั่นฟังดูเป็นความคิดที่ดีนะ เราจะยังเล่นสนุกกันได้ แต่ไม่มีการกัด! หมูเด้ง: ขอบคุณนะ พี่คนเลี้ยง ฉันชอบเล่นกับพี่มาก ๆ หลังจากกินเสร็จ! คนเลี้ยง: ฉันก็ชอบเล่นกับเธอเหมือนกัน หมูเด้ง แค่จำไว้ว่าต้องอ่อนโยนนะ โดยเฉพาะตอนที่เธอตื่นเต้น หมูเด้ง: ฉันจะจำไว้! ตอนนี้ฉันขอแครอทได้ไหม? มันทำให้ฉันง่วงนอนทุกที! คนเลี้ยง: ได้สิ! กินแครอทให้อร่อยนะ แล้วก็นอนพักให้สบาย อย่าลืมว่าไม่ต้องกัดอีกแล้วนะ! Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Sleepy (adj.) แปลว่า ง่วงนอน (สลีพ-พี) Digest (v.) แปลว่า ย่อยอาหาร (ได-เจสท์) Meal (n.) แปลว่า มื้ออาหาร (มีล) Rest (v.) แปลว่า พักผ่อน (เรสท์) Excited (adj.) แปลว่า ตื่นเต้น (อิค-ไซ-ทิด) Playful (adj.) แปลว่า ขี้เล่น (เพลย์-ฟูล) Gentle (adj.) แปลว่า อ่อนโยน (เจน-เทิล) Tease (v.) แปลว่า แกล้ง (ทีซ) Hurt (v.) แปลว่า ทำให้เจ็บ (เฮิร์ท) Nudge (v.) แปลว่า ดันเบาๆ, ชนเบาๆ (นัดจ์) Healthy (adj.) แปลว่า สุขภาพดี (เฮล-ธี) Crunchy (adj.) แปลว่า กรอบ (ครัน-ชี่) Bite (v.) แปลว่า กัด (ไบท์) Play (v.) แปลว่า เล่น (เพลย์) Carrot (n.) แปลว่า แครอท (แคร-รอท)
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • นานมาแล้วเสร็จจากงาน หลังฝนตกหนักหลบมานั่งผ่อนคลายริมคลอง มองธรรมชาติของวิถีแห่งสายน้ำชิลล์กับเบียร์เย็นๆ สะดวก,สบาย,สดชื่น แบบนี้ นี่ละความสุขผ่อนคลายสงบ สบายๆเรียบง่ายสไตล์เรา🥰😇🍻
    นานมาแล้วเสร็จจากงาน หลังฝนตกหนักหลบมานั่งผ่อนคลายริมคลอง มองธรรมชาติของวิถีแห่งสายน้ำชิลล์กับเบียร์เย็นๆ สะดวก,สบาย,สดชื่น แบบนี้ นี่ละความสุขผ่อนคลายสงบ สบายๆเรียบง่ายสไตล์เรา🥰😇🍻
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาร่วมเป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรก ที่จะได้ล่องเรือกับ Disney Cruise เส้นทางใกล้บ้านอย่างสิงคโปร์ ✨
    เรือลำใหม่ Disney Adventure เริ่มเปิดจองวันที่ 10 ธันวาคม 2024 ก่อนจะเริ่มออกเดินทาง ✔️
    ➡️ พร้อมกับโซนใหม่ Marvel Universe พร้อมเครื่องเล่น Ironcycle Test Run รถไฟเหาะที่ยาวที่สุดบนเรือสำราญ และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายบนเรือ 📢
    ✅ การแสดงบรอดเวย์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ
    ✅ ห้องพักที่ถูกตกแต่งด้วยธีม Frozen
    ✅ Disney Imagination Garden พื้นที่สวนเปิดสำหรับการแสดงและพักผ่อน
    ✅ โซนอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก The Jungle Book และ Moana
    ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    ☎️: 0 2116 9696 (Auto)
    #DisneyCruise #DisneyAdventure #Disney #Singapore #Asia #CruiseDomain #ข่าว #ล่องเรือสำราญ #News #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    มาร่วมเป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรก ที่จะได้ล่องเรือกับ Disney Cruise เส้นทางใกล้บ้านอย่างสิงคโปร์ ✨ เรือลำใหม่ Disney Adventure เริ่มเปิดจองวันที่ 10 ธันวาคม 2024 ก่อนจะเริ่มออกเดินทาง ✔️ ➡️ พร้อมกับโซนใหม่ Marvel Universe พร้อมเครื่องเล่น Ironcycle Test Run รถไฟเหาะที่ยาวที่สุดบนเรือสำราญ และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายบนเรือ 📢 ✅ การแสดงบรอดเวย์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ ✅ ห้องพักที่ถูกตกแต่งด้วยธีม Frozen ✅ Disney Imagination Garden พื้นที่สวนเปิดสำหรับการแสดงและพักผ่อน ✅ โซนอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก The Jungle Book และ Moana ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #DisneyCruise #DisneyAdventure #Disney #Singapore #Asia #CruiseDomain #ข่าว #ล่องเรือสำราญ #News #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท ทรัพย์สมบูร์การไฟฟ้า จำกัด
    จำหน่ายโคมไฟ+เฟอร์นิเจอร์

    🎉🎉เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน

    🛌 เตียงไม้สองชั้น (ไม้ยางพารา)

    👉โต๊ะเครื่องแป้ง (ไม้ยางพารา)

    👉โต๊ะอาหาร (หน้าโต๊ะหินแกรนิด + ฐานขาทำจากเหล็ก)

    👉โต๊ะน้ำชา

    👉 โต๊ะผู้จัดการ (มีตู้เซฟนิรภัย)

    #ใช้บัตรเครดิตผ่อนได้ ระยะเวลา 6 เดือน ดอกเบี้ย 0%

    สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มหรือสั่งซื้อ

    โทร. 034-112178, 095-801-5779
    Line. SSB5779

    Fackbook/เพจ : ทรัพย์สมบูรณ์การไฟฟ้า

    พิกัดร้าน อยู่ศูนย์กระจายสินค้าKERRY ก่อนถึงสามแยกไฟแดงนาดี(บางปลา)
    บริษัท ทรัพย์สมบูร์การไฟฟ้า จำกัด จำหน่ายโคมไฟ+เฟอร์นิเจอร์ 🎉🎉เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน 🛌 เตียงไม้สองชั้น (ไม้ยางพารา) 👉โต๊ะเครื่องแป้ง (ไม้ยางพารา) 👉โต๊ะอาหาร (หน้าโต๊ะหินแกรนิด + ฐานขาทำจากเหล็ก) 👉โต๊ะน้ำชา 👉 โต๊ะผู้จัดการ (มีตู้เซฟนิรภัย) #ใช้บัตรเครดิตผ่อนได้ ระยะเวลา 6 เดือน ดอกเบี้ย 0% สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มหรือสั่งซื้อ โทร. 034-112178, 095-801-5779 Line. SSB5779 Fackbook/เพจ : ทรัพย์สมบูรณ์การไฟฟ้า พิกัดร้าน อยู่ศูนย์กระจายสินค้าKERRY ก่อนถึงสามแยกไฟแดงนาดี(บางปลา)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 49 0 รีวิว
  • การยอมรับความจริงของการสูญเสียเป็นกระบวนการที่สำคัญในพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตนี้ล้วนไม่เที่ยง ไม่มีสิ่งใดที่เป็นของเราอย่างแท้จริง การที่เราพยายามยึดติดกับสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลหรือทรัพย์สิน เป็นเพียงการสร้างความทุกข์ให้กับตัวเราเอง เมื่อใดที่เราสูญเสียสิ่งเหล่านั้น จึงเกิดความทุกข์ใจอย่างลึกซึ้ง

    พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญการยอมรับความจริงของสังขาร ความไม่เที่ยง และการฝึกจิตใจให้ยอมรับว่า ไม่มีสิ่งใดที่เป็นของเราจริง การที่เรารู้และยอมรับสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราหายจากความกระวนกระวาย และสามารถมีชีวิตที่สงบสุขมากขึ้น

    1. การสูญเสียเป็นนิมิตหมายที่ดี:
    พระพุทธเจ้าทรงสอนให้มองการสูญเสียเป็นโอกาสในการเรียนรู้ความจริงของชีวิต มันเป็นเครื่องเตือนให้เรารู้ว่าไม่มีอะไรที่เราจะสามารถยึดถือไว้ได้ตลอดไป แม้แต่ชีวิตของเราเอง ดังนั้น การยอมรับและเข้าใจถึงความไม่เที่ยงนี้จะช่วยให้เราผ่อนคลายจากความทุกข์และความกังวล

    2. การยึดติดทำให้เกิดทุกข์:
    ยิ่งเราพยายามดิ้นรนเพื่อยึดติดกับสิ่งที่ไม่เที่ยง เรายิ่งเจ็บปวดและทุกข์ใจ การที่เราปล่อยวางและยอมรับว่า ทุกสิ่งเป็นไปตามกรรมและธรรมชาติ จะช่วยให้เรารู้สึกสบายใจและไม่ต้องทุกข์จากการสูญเสีย

    3. กรรมเป็นสิ่งที่เราพกติดตัวไป:
    สิ่งเดียวที่เราจะนำติดตัวไปได้หลังจากชีวิตนี้คือกรรมที่เราทำไว้ ดังนั้น การฝึกใจให้เข้าใจและยอมรับความจริง จะเป็นกรรมดีที่ช่วยให้เราเดินทางผ่านชีวิตนี้ไปด้วยความสงบ และไม่หลงอยู่กับความทุกข์จากการสูญเสีย

    ในที่สุด การฝึกใจให้ยอมรับความไม่เที่ยงและการปล่อยวางจะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีสติและสงบสุข ไม่ว่าการสูญเสียจะเกิดขึ้นในรูปแบบใดก็ตาม

    การยอมรับความจริงของการสูญเสียเป็นกระบวนการที่สำคัญในพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตนี้ล้วนไม่เที่ยง ไม่มีสิ่งใดที่เป็นของเราอย่างแท้จริง การที่เราพยายามยึดติดกับสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลหรือทรัพย์สิน เป็นเพียงการสร้างความทุกข์ให้กับตัวเราเอง เมื่อใดที่เราสูญเสียสิ่งเหล่านั้น จึงเกิดความทุกข์ใจอย่างลึกซึ้ง พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญการยอมรับความจริงของสังขาร ความไม่เที่ยง และการฝึกจิตใจให้ยอมรับว่า ไม่มีสิ่งใดที่เป็นของเราจริง การที่เรารู้และยอมรับสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราหายจากความกระวนกระวาย และสามารถมีชีวิตที่สงบสุขมากขึ้น 1. การสูญเสียเป็นนิมิตหมายที่ดี: พระพุทธเจ้าทรงสอนให้มองการสูญเสียเป็นโอกาสในการเรียนรู้ความจริงของชีวิต มันเป็นเครื่องเตือนให้เรารู้ว่าไม่มีอะไรที่เราจะสามารถยึดถือไว้ได้ตลอดไป แม้แต่ชีวิตของเราเอง ดังนั้น การยอมรับและเข้าใจถึงความไม่เที่ยงนี้จะช่วยให้เราผ่อนคลายจากความทุกข์และความกังวล 2. การยึดติดทำให้เกิดทุกข์: ยิ่งเราพยายามดิ้นรนเพื่อยึดติดกับสิ่งที่ไม่เที่ยง เรายิ่งเจ็บปวดและทุกข์ใจ การที่เราปล่อยวางและยอมรับว่า ทุกสิ่งเป็นไปตามกรรมและธรรมชาติ จะช่วยให้เรารู้สึกสบายใจและไม่ต้องทุกข์จากการสูญเสีย 3. กรรมเป็นสิ่งที่เราพกติดตัวไป: สิ่งเดียวที่เราจะนำติดตัวไปได้หลังจากชีวิตนี้คือกรรมที่เราทำไว้ ดังนั้น การฝึกใจให้เข้าใจและยอมรับความจริง จะเป็นกรรมดีที่ช่วยให้เราเดินทางผ่านชีวิตนี้ไปด้วยความสงบ และไม่หลงอยู่กับความทุกข์จากการสูญเสีย ในที่สุด การฝึกใจให้ยอมรับความไม่เที่ยงและการปล่อยวางจะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีสติและสงบสุข ไม่ว่าการสูญเสียจะเกิดขึ้นในรูปแบบใดก็ตาม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป็นหนี้คือเป็นทาส
    หวังประมาทว่าผ่อนไหว
    จำเป็นระดับใด
    เลือกเป็นไทฤๅเป็นทาส
    'หนี้'ส่งผลถึงGDPและGNHโดยตรงครับ
    เป็นหนี้คือเป็นทาส หวังประมาทว่าผ่อนไหว จำเป็นระดับใด เลือกเป็นไทฤๅเป็นทาส 'หนี้'ส่งผลถึงGDPและGNHโดยตรงครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท ทรัพย์สมบูร์การไฟฟ้า จำกัด
    จำหน่ายโคมไฟ+เฟอร์นิเจอร์

    🎉🎉โคมไฟตกแต่งบ้าน

    👉 โคมไฟช่อชุดใหญ่
    👉 โคมไฟห้อย
    👉 โคมไฟกิ่งภายใน
    👉 โคมไฟกิ่งภายนอก
    👉 โคมไฟหัวเสา
    👉 โคมไฟดาวไลท์
    👉 โคมเพดาน
    👉 โคมซาลาเปา
    👉 โคมไฟถาด LED
    👉 โคมโมเดิร์น
    👉 โคมโซล่าเซลส์
    👉ไฟริบบิ้น LED
    👉 พัดลมโซล่าเซลส์

    #ใช้บัตรเครดิตผ่อนได้ ระยะเวลา 6 เดือน ดอกเบี้ย 0%

    สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มหรือสั่งซื้อ

    โทร. 034-112178, 095-801-5779
    Line. SSB5779

    Fackbook/เพจ : ทรัพย์สมบูรณ์การไฟฟ้า

    พิกัดร้าน อยู่ศูนย์กระจายสินค้าKERRY ก่อนถึงสามแยกไฟแดงนาดี(บางปลา)
    บริษัท ทรัพย์สมบูร์การไฟฟ้า จำกัด จำหน่ายโคมไฟ+เฟอร์นิเจอร์ 🎉🎉โคมไฟตกแต่งบ้าน 👉 โคมไฟช่อชุดใหญ่ 👉 โคมไฟห้อย 👉 โคมไฟกิ่งภายใน 👉 โคมไฟกิ่งภายนอก 👉 โคมไฟหัวเสา 👉 โคมไฟดาวไลท์ 👉 โคมเพดาน 👉 โคมซาลาเปา 👉 โคมไฟถาด LED 👉 โคมโมเดิร์น 👉 โคมโซล่าเซลส์ 👉ไฟริบบิ้น LED 👉 พัดลมโซล่าเซลส์ #ใช้บัตรเครดิตผ่อนได้ ระยะเวลา 6 เดือน ดอกเบี้ย 0% สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มหรือสั่งซื้อ โทร. 034-112178, 095-801-5779 Line. SSB5779 Fackbook/เพจ : ทรัพย์สมบูรณ์การไฟฟ้า พิกัดร้าน อยู่ศูนย์กระจายสินค้าKERRY ก่อนถึงสามแยกไฟแดงนาดี(บางปลา)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • 24/10/67

    มีกูรูโลกหลายคน…ออกมาเตือนว่า เริ่มมีลางบอกเหตุ จากทั่วโลก
    ให้เริ่มออมเงิน ออมทรัพย์สิน อย่างจริงจังไว้ใช้ในยามฉุกเฉินได้แล้ว

    กูรูหลายท่าน บอกว่า
    ถ้าท่านไม่รีบตายไปก่อน ให้นับถอยหลังไปในอีกไม่เกิน 2-3 ปี ข้างหน้านี้ จะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะรุนแรงกว่ายุคต้มยำกุ้ง และ ลามมาถึงไทยแน่นอน คือ

    1. วิกฤตผู้สูงวัย และคนป่วยที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้มีจำนวนมากกว่าคนที่หารายได้

    2. อาหารขาดแคลน เพราะสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ เช่น น้ำ และป่าถูกทำลาย ทำให้อาหารทะเล และอาหารป่า
    เหลือน้อยลง ๆ

    3. หนี้ล้ม เพราะผู้กู้ไม่มีจ่าย เพราะรายได้เดิม ๆ และงานเดิม ๆ ถูก Disrupt คือถูกทำลายล้าง แล้วสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ โดยความคิดใหม่ ทำใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และชีวิตประจำวัน

    4. พลังงานแพง เพราะเหลือน้อย แต่ความต้องการใช้มาก

    5. โลกร้อน เพราะการเผาเชื้อเพลิงจากฟอสซิล ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก

    6. คนใช้สมองทำงานตกงาน 44% ของทั่วโลก เพราะ AI ทำงานแทน

    7. ผลพวงกระทบจากสงครามตะวันออกกลาง และสงครามยูเครน

    ทั้ง 7 วิกฤตใหญ่จะเกิดกับทั่วโลก เพราะอยู่บนดิน ใต้ฟ้าเดียวกัน และประชาคมเดียวกัน

    ใครที่มีที่ดิน หากไม่เดือดร้อนทางการเงินมากนัก พยายามถือครองให้นานที่สุด เพราะ ในอนาคตไม่นาน จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีกมาก

    เชื่อว่า จะเกิดข้าวยากหมากแพง จะเกิดกลียุค จะเกิดทุพพิกภัย จะมีคนไทยอดอยาก​ ลำบากยากจน จำนวนมากมาย จะเกิดโจรภัยชุกชุมทุกหย่อมหญ้า

    อย่าได้ฟุ้งเฟ้อ
    อย่าได้ใช้ของแบรนด์เนม
    อย่าได้โลภ
    อย่าเชื่อคำหลอกลวงของนักการเมือง
    อย่าฝากความหวังในการรับของแจก แดกของฟรี
    อย่าสร้างภาระหนี้สินเพิ่มเกินตัว หากรู้ว่าไม่มีรายได้ มาเสริมเพิ่มให้รอดได้ จะตกอยู่ในกับดักของวิกฤติ ในการล่มสลายทางเศรษฐกิจโลกในครั้งนี้ ท่านจะเดือดร้อนแสนสาหัส

    พวกอวดรวย พวกที่ชอบใช้ของแบรนด์เนม จะถูก จี้ปล้น ถูกฆ่าชิงทรัพย์ ถูกฆ่าข่มขืน ก่อนประชาชนกลุ่มอื่น ๆ ระวังตัวให้จงดี แต่งตัวล่อโจรเข้าไว้ คงได้เจอหายนะแน่ ๆ

    ความมีสติในทุกสถานการณ์ ย่อมผ่อนหนัก เป็นเบาได้ ขอให้คนไทยทุกคน มีสติปัญญาเพิ่มมากขึ้น รู้จักหาหนทางแก้ปัญหาของแต่ละคน แต่ละครอบครัวให้ดี

    เตรียมตัวไว้ล่วงหน้าก่อน ย่อมเป็นผู้ที่อยู่บนความไม่ประมาท คุณจะได้เป็นคนที่
    โชคดีที่สุด ที่รอดพ้นปลอดภัยจากวิกฤติโลกล้มทางเศรษฐกิจในอนาคตอันใกล้ได้

    สงครามล้างหนี้ ของชาติมหาอำนาจ และ ชาติตะวันตก จักเกิดขึ้นแน่ สงครามล้างแค้น ในชาติตะวันออกกลาง กับอิสราเอล จะทวีความรุนแรงมากขึ้นแน่

    ขอให้กัลยาณมิตรทุกท่าน ประคองร่างกาย และ จิตใจ ให้ผ่านพ้นวิกฤติไปได้ด้วยดีเถิดนะคะ
    24/10/67 มีกูรูโลกหลายคน…ออกมาเตือนว่า เริ่มมีลางบอกเหตุ จากทั่วโลก ให้เริ่มออมเงิน ออมทรัพย์สิน อย่างจริงจังไว้ใช้ในยามฉุกเฉินได้แล้ว กูรูหลายท่าน บอกว่า ถ้าท่านไม่รีบตายไปก่อน ให้นับถอยหลังไปในอีกไม่เกิน 2-3 ปี ข้างหน้านี้ จะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะรุนแรงกว่ายุคต้มยำกุ้ง และ ลามมาถึงไทยแน่นอน คือ 1. วิกฤตผู้สูงวัย และคนป่วยที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้มีจำนวนมากกว่าคนที่หารายได้ 2. อาหารขาดแคลน เพราะสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ เช่น น้ำ และป่าถูกทำลาย ทำให้อาหารทะเล และอาหารป่า เหลือน้อยลง ๆ 3. หนี้ล้ม เพราะผู้กู้ไม่มีจ่าย เพราะรายได้เดิม ๆ และงานเดิม ๆ ถูก Disrupt คือถูกทำลายล้าง แล้วสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ โดยความคิดใหม่ ทำใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และชีวิตประจำวัน 4. พลังงานแพง เพราะเหลือน้อย แต่ความต้องการใช้มาก 5. โลกร้อน เพราะการเผาเชื้อเพลิงจากฟอสซิล ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก 6. คนใช้สมองทำงานตกงาน 44% ของทั่วโลก เพราะ AI ทำงานแทน 7. ผลพวงกระทบจากสงครามตะวันออกกลาง และสงครามยูเครน ทั้ง 7 วิกฤตใหญ่จะเกิดกับทั่วโลก เพราะอยู่บนดิน ใต้ฟ้าเดียวกัน และประชาคมเดียวกัน ใครที่มีที่ดิน หากไม่เดือดร้อนทางการเงินมากนัก พยายามถือครองให้นานที่สุด เพราะ ในอนาคตไม่นาน จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีกมาก เชื่อว่า จะเกิดข้าวยากหมากแพง จะเกิดกลียุค จะเกิดทุพพิกภัย จะมีคนไทยอดอยาก​ ลำบากยากจน จำนวนมากมาย จะเกิดโจรภัยชุกชุมทุกหย่อมหญ้า อย่าได้ฟุ้งเฟ้อ อย่าได้ใช้ของแบรนด์เนม อย่าได้โลภ อย่าเชื่อคำหลอกลวงของนักการเมือง อย่าฝากความหวังในการรับของแจก แดกของฟรี อย่าสร้างภาระหนี้สินเพิ่มเกินตัว หากรู้ว่าไม่มีรายได้ มาเสริมเพิ่มให้รอดได้ จะตกอยู่ในกับดักของวิกฤติ ในการล่มสลายทางเศรษฐกิจโลกในครั้งนี้ ท่านจะเดือดร้อนแสนสาหัส พวกอวดรวย พวกที่ชอบใช้ของแบรนด์เนม จะถูก จี้ปล้น ถูกฆ่าชิงทรัพย์ ถูกฆ่าข่มขืน ก่อนประชาชนกลุ่มอื่น ๆ ระวังตัวให้จงดี แต่งตัวล่อโจรเข้าไว้ คงได้เจอหายนะแน่ ๆ ความมีสติในทุกสถานการณ์ ย่อมผ่อนหนัก เป็นเบาได้ ขอให้คนไทยทุกคน มีสติปัญญาเพิ่มมากขึ้น รู้จักหาหนทางแก้ปัญหาของแต่ละคน แต่ละครอบครัวให้ดี เตรียมตัวไว้ล่วงหน้าก่อน ย่อมเป็นผู้ที่อยู่บนความไม่ประมาท คุณจะได้เป็นคนที่ โชคดีที่สุด ที่รอดพ้นปลอดภัยจากวิกฤติโลกล้มทางเศรษฐกิจในอนาคตอันใกล้ได้ สงครามล้างหนี้ ของชาติมหาอำนาจ และ ชาติตะวันตก จักเกิดขึ้นแน่ สงครามล้างแค้น ในชาติตะวันออกกลาง กับอิสราเอล จะทวีความรุนแรงมากขึ้นแน่ ขอให้กัลยาณมิตรทุกท่าน ประคองร่างกาย และ จิตใจ ให้ผ่านพ้นวิกฤติไปได้ด้วยดีเถิดนะคะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 วิธี ดูแล #ระบบหัวใจและหลอดเลือด ใน #วัยเกษียณ

    เมื่อเข้าสู่วัย #เกษียณ "การดูแล ระบบหัวใจและหลอดเลือด" กลายเป็นเรื่องที่ "ต้องให้ความสำคัญ" เนื่องจากอายุที่มากขึ้น รวมถึงความเสื่อมจากการใช้งานร่างกายตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ส่งผลให้ระบบการทำงานของร่างกาย รวมถึง หัวใจและหลอดเลือดทำงาน ได้น้อยลงกว่า ตอนเป็นวัยหนุ่มสาว (North & Sinclair, 2012).

    เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพและลดความเสี่ยง จากโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้สูงอายุสามารถดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของตนเองได้ ด้วย 3 วิธีหลักนี้

    1. #ปรับโภชนาการ

    "การปรับลดพฤติกรรม การรับประทานอาหาร ที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย" มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณ (Estruch et al., 2013).

    ลดการบริโภค ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์: ไขมันเหล่านี้ทำให้หลอดเลือดอุดตันและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ (Mozaffarian et al., 2006).

    บริโภคอาหารที่มีไฟเบอร์สูง: เช่น ผลไม้ ผัก และธัญพืชเต็มเมล็ด ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอลและทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น (Brown et al., 1999).

    อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง: ช่วยป้องกันการอักเสบในระบบหลอดเลือด เช่น สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ผลไม้เบอร์รี่ ผักใบเขียวเข้ม และถั่วเปลือกแข็ง (Vazquez et al., 2013).

    การรับประทานอาหารแบบนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการสะสมไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจตีบและโรคความดันโลหิตสูงในวัยเกษียณ (Mensink et al., 2003).

    2. #ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม

    การเดินเร็ว หรือ ปั่นจักรยาน: เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของหัวใจและเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด การออกกำลังกายสม่ำเสมอ 30 นาทีต่อวัน จะช่วยลดความดันโลหิตและลดระดับคอเลสเตอรอล (Garber et al., 2011).

    การออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน (Strength Training): เช่น ยกน้ำหนัก หรือทำโยคะ ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ (Westcott, 2012).

    การออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายความเครียด: เช่น ไทเก๊ก หรือการฝึกสมาธิ สามารถลดความเครียดและปรับสมดุลของร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพหัวใจโดยตรง (Lee et al., 2003).

    3. เสริม #สารอาหารจากธรรมชาติ

    ในบางกรณี การเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ สามารถช่วยเสริมการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย: สารอาหารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการสะสางสิ่งพิษ ลดการอักเสบในหลอดเลือด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด (Queiroz et al., 2020). คลอเรลล่าที่ปลอดภัยมีโปรตีนที่สามารถจับโลหะหนักได้ ที่ช่วยขับสิ่งพิษโลหะหนักที่อาจส่งผลต่อสุขภาพหลอดเลือด (Shim et al., 2008). ในขณะที่สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ (Bermejo et al., 2008).

    โอเมก้า 3: เป็นสารอาหารที่ช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือดและป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด (Schmidt et al., 2005).

    โคเอนไซม์คิวเท็น (CoQ10): เป็นสารอาหารที่ช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวาย (Rosenfeldt et al., 2007).

    การดูแลระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณนั้น ต้องอาศัยทั้งการปรับวิถีชีวิต การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การทานอาหารที่เหมาะสม รวมถึงการเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงและเสริมสร้างสุขภาพหัวใจในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Mozaffarian et al., 2008).

    --------

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นสารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันและดูแลสุขภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการจับและขับสารพิษโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม ซึ่งสะสมในร่างกายและส่งผลต่อหลอดเลือด (Shim et al., 2008). การกำจัดสารพิษเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงของการอักเสบและเสื่อมสภาพของหลอดเลือด พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง (Merchant, 2001). คลอเรลล่ายังเสริมภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลระบบประสาท และลดความเครียด ซึ่งช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานดีขึ้น (Jeon et al., 2016).

    สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ Phycocyanin ที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเสียหายของเซลล์หลอดเลือด (Bermejo et al., 2008). สไปรูลิน่าช่วยป้องกันการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Vazquez et al., 2013). นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายและปัญหาหลอดเลือดอื่นๆ (Belay et al., 1993).

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 วิธี ดูแล #ระบบหัวใจและหลอดเลือด ใน #วัยเกษียณ เมื่อเข้าสู่วัย #เกษียณ "การดูแล ระบบหัวใจและหลอดเลือด" กลายเป็นเรื่องที่ "ต้องให้ความสำคัญ" เนื่องจากอายุที่มากขึ้น รวมถึงความเสื่อมจากการใช้งานร่างกายตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ส่งผลให้ระบบการทำงานของร่างกาย รวมถึง หัวใจและหลอดเลือดทำงาน ได้น้อยลงกว่า ตอนเป็นวัยหนุ่มสาว (North & Sinclair, 2012). เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพและลดความเสี่ยง จากโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้สูงอายุสามารถดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของตนเองได้ ด้วย 3 วิธีหลักนี้ 1. #ปรับโภชนาการ "การปรับลดพฤติกรรม การรับประทานอาหาร ที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย" มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณ (Estruch et al., 2013). ลดการบริโภค ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์: ไขมันเหล่านี้ทำให้หลอดเลือดอุดตันและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ (Mozaffarian et al., 2006). บริโภคอาหารที่มีไฟเบอร์สูง: เช่น ผลไม้ ผัก และธัญพืชเต็มเมล็ด ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอลและทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น (Brown et al., 1999). อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง: ช่วยป้องกันการอักเสบในระบบหลอดเลือด เช่น สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ผลไม้เบอร์รี่ ผักใบเขียวเข้ม และถั่วเปลือกแข็ง (Vazquez et al., 2013). การรับประทานอาหารแบบนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการสะสมไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจตีบและโรคความดันโลหิตสูงในวัยเกษียณ (Mensink et al., 2003). 2. #ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม การเดินเร็ว หรือ ปั่นจักรยาน: เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของหัวใจและเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด การออกกำลังกายสม่ำเสมอ 30 นาทีต่อวัน จะช่วยลดความดันโลหิตและลดระดับคอเลสเตอรอล (Garber et al., 2011). การออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน (Strength Training): เช่น ยกน้ำหนัก หรือทำโยคะ ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ (Westcott, 2012). การออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายความเครียด: เช่น ไทเก๊ก หรือการฝึกสมาธิ สามารถลดความเครียดและปรับสมดุลของร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพหัวใจโดยตรง (Lee et al., 2003). 3. เสริม #สารอาหารจากธรรมชาติ ในบางกรณี การเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ สามารถช่วยเสริมการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย: สารอาหารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการสะสางสิ่งพิษ ลดการอักเสบในหลอดเลือด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด (Queiroz et al., 2020). คลอเรลล่าที่ปลอดภัยมีโปรตีนที่สามารถจับโลหะหนักได้ ที่ช่วยขับสิ่งพิษโลหะหนักที่อาจส่งผลต่อสุขภาพหลอดเลือด (Shim et al., 2008). ในขณะที่สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ (Bermejo et al., 2008). โอเมก้า 3: เป็นสารอาหารที่ช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือดและป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด (Schmidt et al., 2005). โคเอนไซม์คิวเท็น (CoQ10): เป็นสารอาหารที่ช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวาย (Rosenfeldt et al., 2007). การดูแลระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณนั้น ต้องอาศัยทั้งการปรับวิถีชีวิต การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การทานอาหารที่เหมาะสม รวมถึงการเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงและเสริมสร้างสุขภาพหัวใจในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Mozaffarian et al., 2008). -------- #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นสารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันและดูแลสุขภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการจับและขับสารพิษโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม ซึ่งสะสมในร่างกายและส่งผลต่อหลอดเลือด (Shim et al., 2008). การกำจัดสารพิษเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงของการอักเสบและเสื่อมสภาพของหลอดเลือด พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง (Merchant, 2001). คลอเรลล่ายังเสริมภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลระบบประสาท และลดความเครียด ซึ่งช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานดีขึ้น (Jeon et al., 2016). สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ Phycocyanin ที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเสียหายของเซลล์หลอดเลือด (Bermejo et al., 2008). สไปรูลิน่าช่วยป้องกันการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Vazquez et al., 2013). นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายและปัญหาหลอดเลือดอื่นๆ (Belay et al., 1993). โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 วิธี ดูแล #ระบบหัวใจและหลอดเลือด ใน #วัยเกษียณ

    เมื่อเข้าสู่วัย #เกษียณ "การดูแล ระบบหัวใจและหลอดเลือด" กลายเป็นเรื่องที่ "ต้องให้ความสำคัญ" เนื่องจากอายุที่มากขึ้น รวมถึงความเสื่อมจากการใช้งานร่างกายตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ส่งผลให้ระบบการทำงานของร่างกาย รวมถึง หัวใจและหลอดเลือดทำงาน ได้น้อยลงกว่า ตอนเป็นวัยหนุ่มสาว (North & Sinclair, 2012).

    เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพและลดความเสี่ยง จากโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้สูงอายุสามารถดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของตนเองได้ ด้วย 3 วิธีหลักนี้

    1. #ปรับโภชนาการ

    "การปรับลดพฤติกรรม การรับประทานอาหาร ที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย" มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณ (Estruch et al., 2013).

    ลดการบริโภค ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์: ไขมันเหล่านี้ทำให้หลอดเลือดอุดตันและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ (Mozaffarian et al., 2006).

    บริโภคอาหารที่มีไฟเบอร์สูง: เช่น ผลไม้ ผัก และธัญพืชเต็มเมล็ด ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอลและทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น (Brown et al., 1999).

    อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง: ช่วยป้องกันการอักเสบในระบบหลอดเลือด เช่น สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ผลไม้เบอร์รี่ ผักใบเขียวเข้ม และถั่วเปลือกแข็ง (Vazquez et al., 2013).

    การรับประทานอาหารแบบนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการสะสมไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจตีบและโรคความดันโลหิตสูงในวัยเกษียณ (Mensink et al., 2003).

    2. #ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม

    การเดินเร็ว หรือ ปั่นจักรยาน: เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของหัวใจและเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด การออกกำลังกายสม่ำเสมอ 30 นาทีต่อวัน จะช่วยลดความดันโลหิตและลดระดับคอเลสเตอรอล (Garber et al., 2011).

    การออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน (Strength Training): เช่น ยกน้ำหนัก หรือทำโยคะ ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ (Westcott, 2012).

    การออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายความเครียด: เช่น ไทเก๊ก หรือการฝึกสมาธิ สามารถลดความเครียดและปรับสมดุลของร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพหัวใจโดยตรง (Lee et al., 2003).

    3. เสริม #สารอาหารจากธรรมชาติ

    ในบางกรณี การเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ สามารถช่วยเสริมการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย: สารอาหารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการสะสางสิ่งพิษ ลดการอักเสบในหลอดเลือด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด (Queiroz et al., 2020). คลอเรลล่าที่ปลอดภัยมีโปรตีนที่สามารถจับโลหะหนักได้ ที่ช่วยขับสิ่งพิษโลหะหนักที่อาจส่งผลต่อสุขภาพหลอดเลือด (Shim et al., 2008). ในขณะที่สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ (Bermejo et al., 2008).

    โอเมก้า 3: เป็นสารอาหารที่ช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือดและป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด (Schmidt et al., 2005).

    โคเอนไซม์คิวเท็น (CoQ10): เป็นสารอาหารที่ช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวาย (Rosenfeldt et al., 2007).

    การดูแลระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณนั้น ต้องอาศัยทั้งการปรับวิถีชีวิต การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การทานอาหารที่เหมาะสม รวมถึงการเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงและเสริมสร้างสุขภาพหัวใจในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Mozaffarian et al., 2008).

    --------

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นสารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันและดูแลสุขภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการจับและขับสารพิษโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม ซึ่งสะสมในร่างกายและส่งผลต่อหลอดเลือด (Shim et al., 2008). การกำจัดสารพิษเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงของการอักเสบและเสื่อมสภาพของหลอดเลือด พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง (Merchant, 2001). คลอเรลล่ายังเสริมภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลระบบประสาท และลดความเครียด ซึ่งช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานดีขึ้น (Jeon et al., 2016).

    สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ Phycocyanin ที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเสียหายของเซลล์หลอดเลือด (Bermejo et al., 2008). สไปรูลิน่าช่วยป้องกันการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Vazquez et al., 2013). นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายและปัญหาหลอดเลือดอื่นๆ (Belay et al., 1993).

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 วิธี ดูแล #ระบบหัวใจและหลอดเลือด ใน #วัยเกษียณ เมื่อเข้าสู่วัย #เกษียณ "การดูแล ระบบหัวใจและหลอดเลือด" กลายเป็นเรื่องที่ "ต้องให้ความสำคัญ" เนื่องจากอายุที่มากขึ้น รวมถึงความเสื่อมจากการใช้งานร่างกายตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ส่งผลให้ระบบการทำงานของร่างกาย รวมถึง หัวใจและหลอดเลือดทำงาน ได้น้อยลงกว่า ตอนเป็นวัยหนุ่มสาว (North & Sinclair, 2012). เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพและลดความเสี่ยง จากโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้สูงอายุสามารถดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของตนเองได้ ด้วย 3 วิธีหลักนี้ 1. #ปรับโภชนาการ "การปรับลดพฤติกรรม การรับประทานอาหาร ที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย" มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณ (Estruch et al., 2013). ลดการบริโภค ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์: ไขมันเหล่านี้ทำให้หลอดเลือดอุดตันและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ (Mozaffarian et al., 2006). บริโภคอาหารที่มีไฟเบอร์สูง: เช่น ผลไม้ ผัก และธัญพืชเต็มเมล็ด ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอลและทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น (Brown et al., 1999). อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง: ช่วยป้องกันการอักเสบในระบบหลอดเลือด เช่น สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ผลไม้เบอร์รี่ ผักใบเขียวเข้ม และถั่วเปลือกแข็ง (Vazquez et al., 2013). การรับประทานอาหารแบบนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการสะสมไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจตีบและโรคความดันโลหิตสูงในวัยเกษียณ (Mensink et al., 2003). 2. #ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม การเดินเร็ว หรือ ปั่นจักรยาน: เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของหัวใจและเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด การออกกำลังกายสม่ำเสมอ 30 นาทีต่อวัน จะช่วยลดความดันโลหิตและลดระดับคอเลสเตอรอล (Garber et al., 2011). การออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน (Strength Training): เช่น ยกน้ำหนัก หรือทำโยคะ ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ (Westcott, 2012). การออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายความเครียด: เช่น ไทเก๊ก หรือการฝึกสมาธิ สามารถลดความเครียดและปรับสมดุลของร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพหัวใจโดยตรง (Lee et al., 2003). 3. เสริม #สารอาหารจากธรรมชาติ ในบางกรณี การเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ สามารถช่วยเสริมการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย: สารอาหารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการสะสางสิ่งพิษ ลดการอักเสบในหลอดเลือด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด (Queiroz et al., 2020). คลอเรลล่าที่ปลอดภัยมีโปรตีนที่สามารถจับโลหะหนักได้ ที่ช่วยขับสิ่งพิษโลหะหนักที่อาจส่งผลต่อสุขภาพหลอดเลือด (Shim et al., 2008). ในขณะที่สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ (Bermejo et al., 2008). โอเมก้า 3: เป็นสารอาหารที่ช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือดและป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด (Schmidt et al., 2005). โคเอนไซม์คิวเท็น (CoQ10): เป็นสารอาหารที่ช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวาย (Rosenfeldt et al., 2007). การดูแลระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณนั้น ต้องอาศัยทั้งการปรับวิถีชีวิต การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การทานอาหารที่เหมาะสม รวมถึงการเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงและเสริมสร้างสุขภาพหัวใจในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Mozaffarian et al., 2008). -------- #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นสารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันและดูแลสุขภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการจับและขับสารพิษโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม ซึ่งสะสมในร่างกายและส่งผลต่อหลอดเลือด (Shim et al., 2008). การกำจัดสารพิษเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงของการอักเสบและเสื่อมสภาพของหลอดเลือด พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง (Merchant, 2001). คลอเรลล่ายังเสริมภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลระบบประสาท และลดความเครียด ซึ่งช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานดีขึ้น (Jeon et al., 2016). สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ Phycocyanin ที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเสียหายของเซลล์หลอดเลือด (Bermejo et al., 2008). สไปรูลิน่าช่วยป้องกันการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Vazquez et al., 2013). นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายและปัญหาหลอดเลือดอื่นๆ (Belay et al., 1993). โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้แทนเกาหลีเหนือประจำยูเอ็น ออกมาแถลง โต้ข่าวซึ่งเผยแพร่อยู่ในโลกตะวันตก ที่กล่าวหาโสมแดงส่งทหารไปช่วยรัสเซียสู้รบในยูเครน ชี้เป็นข่าวลือไม่มีมูล หลังจากก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้แสดงปฏิกิริยาต่อข่าวนี้ด้วยการประณามโสมเหนืออย่างรุนแรง พร้อมเรียกร้องให้เปียงยางถอนทหารกลับทันที รวมทั้งประกาศว่า ถ้าการเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างเปียงยางกับมอสโกยังดำเนินต่อไป โซลจะดำเนินมาตรการตอบโต้ นอกจากนั้นผู้นำเกาหลีใต้ยังเล็งเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างเกาหลีใต้ ยูเครน และนาโต
    .
    สืบเนื่องจากที่หน่วยงานข่าวกรองของเกาหลีใต้กล่าวอ้างตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ (18) ว่า เปียงยางได้จัดส่งทหารจำนวนมากไปช่วยรัสเซีย โดยระบุว่า ขณะนี้กองกำลังสู้รบพิเศษราว 1,500 นายของเกาหลีเหนือ ถูกส่งไปฝึกอยู่ในบริเวณภาคตะวันออกไกลของรัสเซียแล้ว และพร้อมไปร่วมรบในสงครามยูเครนเร็วๆ นี้
    .
    อย่างไรก็ดี ในวันจันทร์ (21) ผู้แทนของเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ แถลงในการประชุมคณะกรรมาธิการของสมัชชาใหญ่ยูเอ็นว่า การกล่าวอ้างของโซลมีเป้าหมายเพื่อทำลายภาพลักษณ์ของเกาหลีเหนือ รวมทั้งบ่อนทำลายความสัมพันธ์ฉันมิตรอันชอบธรรมระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย
    .
    เปียงยางและมอสโกเป็นพันธมิตรกันนับจากการก่อตั้งประเทศเกาหลีเหนือหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้นภายหลังรัสเซียรุกรานยูเครนในปี 2022 ขณะที่เกาหลีใต้และอเมริกาซึ่งก็สนิทสนมกันมากตั้งแต่หลังสงคราม กล่าวหามานานแล้วว่า คิม จองอึน ผู้นำโสมแดง ส่งอาวุธให้รัสเซียใช้ในยูเครน
    .
    เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กับคิมยังลงนามข้อตกลงความมั่นคงที่กำหนดว่า สองประเทศจะช่วยเหลือกันหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดถูกศัตรูรุกราน
    .
    ทางด้านจอร์จี ซีโนเวียฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำโซล ที่ถูกเกาหลีใต้เรียกเข้าพบในวันจันทร์ (21) เพื่อร้องเรียน ไม่ได้ยืนยันข้อกล่าวหาของเกาหลีใต้ แต่ย้ำว่า ความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนืออยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศและไม่กระทบโดยตรงต่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของเกาหลีใต้แต่อย่างใด
    .
    นอกจากนั้นเมื่อคืนวันจันทร์ ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ยังแถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า ความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือไม่ได้พุ่งเป้าที่ประเทศที่สาม และไม่มีใครต้องกังวล
    .
    ในส่วนอเมริกาและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) แม้ไม่ได้ออกมายืนยันข้อกล่าวอ้างของโซล แต่โรเบิร์ต วูด รองเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น แถลงต่อคณะมนตรีความมั่นคงว่า หากข้อกล่าวหาเรื่องเกาหลีเหนือเป็นจริง จะถือเป็นความเคลื่อนไหวที่อันตรายและน่ากังวลมาก อีกทั้งสะท้อนความสัมพันธ์ทางทหารที่ลึกซึ้งขึ้นระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย
    .
    ส่วน มาร์ก รึตเตอ เลขาธิการนาโต กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า การที่เปียงยางส่งทหารไปช่วยรัสเซียรบจะทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งยิ่งลุกลาม
    .
    ระหว่างการหารือทางโทรศัพท์กับรึตเตอ ในวันเดียวกัน ประธานาธิบดียุน ซอกยอลของเกาหลีใต้ เรียกร้องให้นาโตสำรวจมาตรการตอบโต้ที่เป็นรูปธรรม และสำทับว่า จะดำเนินการขั้นตอนต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างเกาหลีใต้ ยูเครน และนาโต
    .
    ขณะเดียวกัน หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ตอบคำถามบีบีซีเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องการร่วมมือระหว่างเปียงยาง-มอสโกว่า จีนหวังว่า ทุกฝ่ายจะดำเนินการเพื่อผ่อนคลายสถานการณ์และหาทางแก้ไขวิกฤตยูเครนด้วยแนวทางการเมือง
    .
    ต่อมาในวันอังคาร (22 ต.ค.) สภาความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ออกคำแถลงประณามเกาหลีเหนืออย่างรุนแรงว่า การส่งทหารไปร่วมสงครามรุกรานที่ผิดกฎหมายของรัสเซียในยูเครนเป็นภัยคุกคามความมั่นคงอย่างมากไม่เฉพาะกับเกาหลีใต้ แต่รวมถึงนานาชาติ พร้อมเรียกร้องให้เปียงยางถอนทหารกลับประเทศทันที และประกาศว่า ถ้าการเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างเปียงยางกับมอสโกยังดำเนินต่อไป เกาหลีใต้จะดำเนินมาตรการตอบโต้
    .
    วันเดียวกันนั้น สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวในรัฐบาลคนหนึ่งว่า โซลกำลังพิจารณาส่งทีมเจ้าหน้าที่ไปยูเครนเพื่อติดตามตรวจสอบเกี่ยวกับทหารเกาหลีเหนือที่ถูกส่งไปรัสเซีย
    .
    จากข้อมูลของแหล่งข่าว ทีมที่จะส่งไปมีแนวโน้มประกอบด้วยนายทหารจากหน่วยข่าวกรองเพื่อวิเคราะห์กลยุทธ์ในสนามรบของเกาหลีเหนือ และร่วมสอบปากคำเชลยสงครามที่ยูเครนควบคุมตัวอยู่
    .
    ยอนฮัปยังรายงานว่า บัญชีเทเลแกรมที่สนับสนุนรัสเซียโพสต์ภาพธงรัสเซียและเกาหลีเหนือเคียงข้างกันอยู่ในสนามรบในยูเครน
    .
    สื่อบางสำนักของเกาหลีใต้อ้างว่า เกาหลีเหนืออาจส่งทหารถึง 12,000 นายไปช่วยรัสเซีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102030
    ..............
    Sondhi X
    ผู้แทนเกาหลีเหนือประจำยูเอ็น ออกมาแถลง โต้ข่าวซึ่งเผยแพร่อยู่ในโลกตะวันตก ที่กล่าวหาโสมแดงส่งทหารไปช่วยรัสเซียสู้รบในยูเครน ชี้เป็นข่าวลือไม่มีมูล หลังจากก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้แสดงปฏิกิริยาต่อข่าวนี้ด้วยการประณามโสมเหนืออย่างรุนแรง พร้อมเรียกร้องให้เปียงยางถอนทหารกลับทันที รวมทั้งประกาศว่า ถ้าการเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างเปียงยางกับมอสโกยังดำเนินต่อไป โซลจะดำเนินมาตรการตอบโต้ นอกจากนั้นผู้นำเกาหลีใต้ยังเล็งเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างเกาหลีใต้ ยูเครน และนาโต . สืบเนื่องจากที่หน่วยงานข่าวกรองของเกาหลีใต้กล่าวอ้างตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ (18) ว่า เปียงยางได้จัดส่งทหารจำนวนมากไปช่วยรัสเซีย โดยระบุว่า ขณะนี้กองกำลังสู้รบพิเศษราว 1,500 นายของเกาหลีเหนือ ถูกส่งไปฝึกอยู่ในบริเวณภาคตะวันออกไกลของรัสเซียแล้ว และพร้อมไปร่วมรบในสงครามยูเครนเร็วๆ นี้ . อย่างไรก็ดี ในวันจันทร์ (21) ผู้แทนของเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ แถลงในการประชุมคณะกรรมาธิการของสมัชชาใหญ่ยูเอ็นว่า การกล่าวอ้างของโซลมีเป้าหมายเพื่อทำลายภาพลักษณ์ของเกาหลีเหนือ รวมทั้งบ่อนทำลายความสัมพันธ์ฉันมิตรอันชอบธรรมระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย . เปียงยางและมอสโกเป็นพันธมิตรกันนับจากการก่อตั้งประเทศเกาหลีเหนือหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้นภายหลังรัสเซียรุกรานยูเครนในปี 2022 ขณะที่เกาหลีใต้และอเมริกาซึ่งก็สนิทสนมกันมากตั้งแต่หลังสงคราม กล่าวหามานานแล้วว่า คิม จองอึน ผู้นำโสมแดง ส่งอาวุธให้รัสเซียใช้ในยูเครน . เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กับคิมยังลงนามข้อตกลงความมั่นคงที่กำหนดว่า สองประเทศจะช่วยเหลือกันหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดถูกศัตรูรุกราน . ทางด้านจอร์จี ซีโนเวียฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำโซล ที่ถูกเกาหลีใต้เรียกเข้าพบในวันจันทร์ (21) เพื่อร้องเรียน ไม่ได้ยืนยันข้อกล่าวหาของเกาหลีใต้ แต่ย้ำว่า ความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนืออยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศและไม่กระทบโดยตรงต่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของเกาหลีใต้แต่อย่างใด . นอกจากนั้นเมื่อคืนวันจันทร์ ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ยังแถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า ความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือไม่ได้พุ่งเป้าที่ประเทศที่สาม และไม่มีใครต้องกังวล . ในส่วนอเมริกาและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) แม้ไม่ได้ออกมายืนยันข้อกล่าวอ้างของโซล แต่โรเบิร์ต วูด รองเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น แถลงต่อคณะมนตรีความมั่นคงว่า หากข้อกล่าวหาเรื่องเกาหลีเหนือเป็นจริง จะถือเป็นความเคลื่อนไหวที่อันตรายและน่ากังวลมาก อีกทั้งสะท้อนความสัมพันธ์ทางทหารที่ลึกซึ้งขึ้นระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย . ส่วน มาร์ก รึตเตอ เลขาธิการนาโต กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า การที่เปียงยางส่งทหารไปช่วยรัสเซียรบจะทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งยิ่งลุกลาม . ระหว่างการหารือทางโทรศัพท์กับรึตเตอ ในวันเดียวกัน ประธานาธิบดียุน ซอกยอลของเกาหลีใต้ เรียกร้องให้นาโตสำรวจมาตรการตอบโต้ที่เป็นรูปธรรม และสำทับว่า จะดำเนินการขั้นตอนต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างเกาหลีใต้ ยูเครน และนาโต . ขณะเดียวกัน หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ตอบคำถามบีบีซีเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องการร่วมมือระหว่างเปียงยาง-มอสโกว่า จีนหวังว่า ทุกฝ่ายจะดำเนินการเพื่อผ่อนคลายสถานการณ์และหาทางแก้ไขวิกฤตยูเครนด้วยแนวทางการเมือง . ต่อมาในวันอังคาร (22 ต.ค.) สภาความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ออกคำแถลงประณามเกาหลีเหนืออย่างรุนแรงว่า การส่งทหารไปร่วมสงครามรุกรานที่ผิดกฎหมายของรัสเซียในยูเครนเป็นภัยคุกคามความมั่นคงอย่างมากไม่เฉพาะกับเกาหลีใต้ แต่รวมถึงนานาชาติ พร้อมเรียกร้องให้เปียงยางถอนทหารกลับประเทศทันที และประกาศว่า ถ้าการเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างเปียงยางกับมอสโกยังดำเนินต่อไป เกาหลีใต้จะดำเนินมาตรการตอบโต้ . วันเดียวกันนั้น สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวในรัฐบาลคนหนึ่งว่า โซลกำลังพิจารณาส่งทีมเจ้าหน้าที่ไปยูเครนเพื่อติดตามตรวจสอบเกี่ยวกับทหารเกาหลีเหนือที่ถูกส่งไปรัสเซีย . จากข้อมูลของแหล่งข่าว ทีมที่จะส่งไปมีแนวโน้มประกอบด้วยนายทหารจากหน่วยข่าวกรองเพื่อวิเคราะห์กลยุทธ์ในสนามรบของเกาหลีเหนือ และร่วมสอบปากคำเชลยสงครามที่ยูเครนควบคุมตัวอยู่ . ยอนฮัปยังรายงานว่า บัญชีเทเลแกรมที่สนับสนุนรัสเซียโพสต์ภาพธงรัสเซียและเกาหลีเหนือเคียงข้างกันอยู่ในสนามรบในยูเครน . สื่อบางสำนักของเกาหลีใต้อ้างว่า เกาหลีเหนืออาจส่งทหารถึง 12,000 นายไปช่วยรัสเซีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102030 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1173 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยแพร่ข้อมูล
    ธนาคารพาณิชย์ไทยเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้
    ส่งผลต่อภาวะต้นทุนทางการเงินที่เริ่มผ่อนคลาย
    สู่ตลาดสินเชื่อ

    ประมาณ 1 สัปดาห์หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน
    หรือ กนง. มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเมื่อวันที่
    16 ต.ค. 2567 (จากระดับ 2.50% มาที่ 2.25%)
    ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งทยอยประกาศปรับลด
    อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงสูงสุด 0.25% โดยให้มีผล
    ต้นเดือนพ.ย. 2567 พร้อมๆ กับต่ออายุมาตรการ
    ช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางไปจนถึงสิ้นปี 2567

    ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า การทยอยปรับลด
    อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ในครั้งนี้
    เป็นหนึ่งในกลไกการส่งผ่านต้นทุนทางการเงิน
    ที่ปรับผ่อนคลายลงตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
    มาสู่ตลาดสินเชื่อ โดยคาดว่า สัดส่วนสินเชื่อรายย่อย
    และสินเชื่อธุรกิจ ที่น่าจะได้รับอานิสงส์จากการปรับลด
    อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ก่อนสิ้นปี 2567 จะอยู่ที่ประมาณ 40.9%
    ของสินเชื่อรวมทั้งระบบแบงก์ไทย

    ขณะที่ผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขาเดียว
    ของธนาคารพาณิชย์ในรอบนี้จะทำให้ภาระดอกเบี้ย
    ของลูกหนี้รายย่อยและภาคธุรกิจปรับลดลงเกือบ
    1,300 ล้านบาท
    (คำนวณผลของภาระดอกเบี้ยที่จะปรับลดลง
    เฉพาะช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค. 2567 โดยยังไม่ได้นับรวม
    สินเชื่อ ส่วนที่จะเข้าสู่ช่วงการปรับอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า)
    ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
    #thaitimes
    💥ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยแพร่ข้อมูล ธนาคารพาณิชย์ไทยเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ส่งผลต่อภาวะต้นทุนทางการเงินที่เริ่มผ่อนคลาย สู่ตลาดสินเชื่อ ประมาณ 1 สัปดาห์หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2567 (จากระดับ 2.50% มาที่ 2.25%) ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งทยอยประกาศปรับลด อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงสูงสุด 0.25% โดยให้มีผล ต้นเดือนพ.ย. 2567 พร้อมๆ กับต่ออายุมาตรการ ช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางไปจนถึงสิ้นปี 2567 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า การทยอยปรับลด อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในกลไกการส่งผ่านต้นทุนทางการเงิน ที่ปรับผ่อนคลายลงตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย มาสู่ตลาดสินเชื่อ โดยคาดว่า สัดส่วนสินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อธุรกิจ ที่น่าจะได้รับอานิสงส์จากการปรับลด อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ก่อนสิ้นปี 2567 จะอยู่ที่ประมาณ 40.9% ของสินเชื่อรวมทั้งระบบแบงก์ไทย ขณะที่ผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขาเดียว ของธนาคารพาณิชย์ในรอบนี้จะทำให้ภาระดอกเบี้ย ของลูกหนี้รายย่อยและภาคธุรกิจปรับลดลงเกือบ 1,300 ล้านบาท (คำนวณผลของภาระดอกเบี้ยที่จะปรับลดลง เฉพาะช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค. 2567 โดยยังไม่ได้นับรวม สินเชื่อ ส่วนที่จะเข้าสู่ช่วงการปรับอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า) ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ศูนย์วิจัยกสิกรไทย #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 อย่างที่ควรทำ เพื่อให้ "ภูมิคุ้มกัน ยังแข็งแรง" ไม่ป่วยง่าย ในวัยเกษียณ

    **บทความนี้ เกิดจากการนำกรอบคิด "ป้องกัน ก่อนปัญหาเกิด" มาใช้กับเรื่องสุขภาพ เพราะหากปัญหาเกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะระดับวิกฤติ เราจะยอมจ่ายเท่าไรก็ได้ เพื่อรักษาสุขภาพและชีวิตของเรา หรือคนที่เรารักไว้ แต่หาก เราเลือกป้องกัน เราจะสามารถวางแผนป้องกันปัญหา โดยจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด**

    เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ เป็นที่ทราบกันว่า ระบบภูมิคุ้มกัน ย่อมไม่แข็งแรงเท่าวัยหนุ่มสาว จึงทำให้ผู้ที่อยู่ในวัยสูงอายุ ต้องระวังป้องกันสุขภาพของตนเองอย่างมาก ไม่ให้ป่วย

    เพราะ "การป่วย" ในแต่ละครั้ง อาจนำไปสู่ อาการแทรกซ้อน ที่มีโอกาสพัฒนากลายเป็น โรคเรื้อรัง ที่ทำให้ใช้ชีวิตไม่ได้ปกติ และหมดความสุขในชีวิต ในวัยเกษียณ ในที่สุด

    3 ข้อด้านล่างนี้ จึงเป็นแนวทางการปฏิบัติ เพื่อ "รักษา ระบบภูมิคุ้มกัน ให้ยังแข็งแรง" สำหรับคนวัยเกษียณ :

    1. #การรับประทานอาหารที่สมดุล

    การรับประทานอาหารที่สมดุลและครบถ้วนตามหลักโภชนาการเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน วิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินซี, วิตามินดี, สังกะสี และธาตุเหล็ก มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน

    #วิตามินซี พบในผลไม้และผัก เช่น ส้ม มะนาว และบรอกโคลี ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ป้องกันการติดเชื้อ (Carr & Maggini, 2017) #วิตามินดี ซึ่งได้รับจากแสงแดดและอาหาร เช่น ปลาแซลมอนและนม เสริมสร้างความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง (Martineau et al., 2017) #สังกะสี ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพบได้ในถั่ว เมล็ดธัญพืช และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน (Prasad, 2013)

    2. #การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

    การออกกำลังกายไม่เพียงแค่ช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวม แต่ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ การออกกำลังกายปานกลาง เช่น การเดิน วิ่งเบาๆ หรือโยคะ จะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น และช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวในการต่อสู้กับเชื้อโรค

    งานวิจัยพบว่าการออกกำลังกายปานกลาง 30 นาทีต่อวันช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดโอกาสการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้การต่อสู้กับเชื้อโรคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น (Nieman & Wentz, 2019)

    3. #การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ

    การนอนหลับที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ เซลล์ภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้ดีขึ้น และร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองจากความเสียหายที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน

    การนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การขาดการนอนหลับสามารถทำให้ระดับของเซลล์เม็ดเลือดขาวลดลง และทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น งานวิจัยพบว่าผู้ที่นอนหลับไม่เพียงพอมีโอกาสติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัด มากขึ้นถึง 4 เท่า (Besedovsky et al., 2012; Cohen et al., 2009)

    ---------

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่ส่งเสริมให้

    "การปฏิบัติทั้ง 3 ข้อของคุณ ได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น กว่าไม่ได้ทาน"

    โดย คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการสะสางสารพิษ โดยเฉพาะโลหะหนักที่สะสมในร่างกาย ซึ่งช่วยให้ลำไส้สะอาดและสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ถูกขัดขวางจากสารพิษตกค้าง (Shim et al., 2008). การสะสางนี้ยังช่วยลดการกระตุ้นของระบบประสาทที่อาจทำให้นอนหลับยาก ทำให้คุณนอนหลับได้ง่ายขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของการพักผ่อน (Jeon et al., 2016). อีกทั้งยังมีงานวิจัยที่ชี้ชัดว่า คลอเรลล่าที่ปลอดภัย สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างมีนัยสำคัญ (Merchant, 2001).

    ในส่วนของ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีคุณสมบัติในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบระดับเซลล์ ซึ่งส่งผลให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่เสียหายหลังจากการออกกำลังกาย (Vazquez et al., 2013)

    ซึ่ง ทั้งหมดนี้ จะช่วยให้ การปฏิบัติทั้ง 3 ข้อดังกล่าว ของคุณ ได้ผลลัพธ์ มากขึ้น กว่า ไม่ได้ทาน

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 อย่างที่ควรทำ เพื่อให้ "ภูมิคุ้มกัน ยังแข็งแรง" ไม่ป่วยง่าย ในวัยเกษียณ **บทความนี้ เกิดจากการนำกรอบคิด "ป้องกัน ก่อนปัญหาเกิด" มาใช้กับเรื่องสุขภาพ เพราะหากปัญหาเกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะระดับวิกฤติ เราจะยอมจ่ายเท่าไรก็ได้ เพื่อรักษาสุขภาพและชีวิตของเรา หรือคนที่เรารักไว้ แต่หาก เราเลือกป้องกัน เราจะสามารถวางแผนป้องกันปัญหา โดยจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด** เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ เป็นที่ทราบกันว่า ระบบภูมิคุ้มกัน ย่อมไม่แข็งแรงเท่าวัยหนุ่มสาว จึงทำให้ผู้ที่อยู่ในวัยสูงอายุ ต้องระวังป้องกันสุขภาพของตนเองอย่างมาก ไม่ให้ป่วย เพราะ "การป่วย" ในแต่ละครั้ง อาจนำไปสู่ อาการแทรกซ้อน ที่มีโอกาสพัฒนากลายเป็น โรคเรื้อรัง ที่ทำให้ใช้ชีวิตไม่ได้ปกติ และหมดความสุขในชีวิต ในวัยเกษียณ ในที่สุด 3 ข้อด้านล่างนี้ จึงเป็นแนวทางการปฏิบัติ เพื่อ "รักษา ระบบภูมิคุ้มกัน ให้ยังแข็งแรง" สำหรับคนวัยเกษียณ : 1. #การรับประทานอาหารที่สมดุล การรับประทานอาหารที่สมดุลและครบถ้วนตามหลักโภชนาการเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน วิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินซี, วิตามินดี, สังกะสี และธาตุเหล็ก มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน #วิตามินซี พบในผลไม้และผัก เช่น ส้ม มะนาว และบรอกโคลี ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ป้องกันการติดเชื้อ (Carr & Maggini, 2017) #วิตามินดี ซึ่งได้รับจากแสงแดดและอาหาร เช่น ปลาแซลมอนและนม เสริมสร้างความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง (Martineau et al., 2017) #สังกะสี ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพบได้ในถั่ว เมล็ดธัญพืช และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน (Prasad, 2013) 2. #การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายไม่เพียงแค่ช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวม แต่ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ การออกกำลังกายปานกลาง เช่น การเดิน วิ่งเบาๆ หรือโยคะ จะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น และช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวในการต่อสู้กับเชื้อโรค งานวิจัยพบว่าการออกกำลังกายปานกลาง 30 นาทีต่อวันช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดโอกาสการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้การต่อสู้กับเชื้อโรคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น (Nieman & Wentz, 2019) 3. #การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ การนอนหลับที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ เซลล์ภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้ดีขึ้น และร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองจากความเสียหายที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน การนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การขาดการนอนหลับสามารถทำให้ระดับของเซลล์เม็ดเลือดขาวลดลง และทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น งานวิจัยพบว่าผู้ที่นอนหลับไม่เพียงพอมีโอกาสติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัด มากขึ้นถึง 4 เท่า (Besedovsky et al., 2012; Cohen et al., 2009) --------- #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่ส่งเสริมให้ "การปฏิบัติทั้ง 3 ข้อของคุณ ได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น กว่าไม่ได้ทาน" โดย คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการสะสางสารพิษ โดยเฉพาะโลหะหนักที่สะสมในร่างกาย ซึ่งช่วยให้ลำไส้สะอาดและสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ถูกขัดขวางจากสารพิษตกค้าง (Shim et al., 2008). การสะสางนี้ยังช่วยลดการกระตุ้นของระบบประสาทที่อาจทำให้นอนหลับยาก ทำให้คุณนอนหลับได้ง่ายขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของการพักผ่อน (Jeon et al., 2016). อีกทั้งยังมีงานวิจัยที่ชี้ชัดว่า คลอเรลล่าที่ปลอดภัย สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างมีนัยสำคัญ (Merchant, 2001). ในส่วนของ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีคุณสมบัติในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบระดับเซลล์ ซึ่งส่งผลให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่เสียหายหลังจากการออกกำลังกาย (Vazquez et al., 2013) ซึ่ง ทั้งหมดนี้ จะช่วยให้ การปฏิบัติทั้ง 3 ข้อดังกล่าว ของคุณ ได้ผลลัพธ์ มากขึ้น กว่า ไม่ได้ทาน โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เกาะหมาก" ทะเลตราด ทรายสวยน้ำใส ดีต่อใจ

    ทะเลตราดช่วงต้นปีแบบนี้กำลังสวยใสคลื่นลมสงบเหมาะแก่การไปท่องเที่ยวอย่างยิ่ง โดยหมู่เกาะทะเลตราดนั้นมีจำนวนเกาะมากถึง 52 เกาะด้วยกัน มีเกาะช้างเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด (และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไทยรองจากเกาะภูเก็ต) นอกจากนั้นก็ยังมีเกาะอื่นๆ ที่เรารู้จักกันดี อาทิ เกาะกูด เกาะหมาก เกาะกระดาด เกาะหวาย เกาะเหลายา เกาะง่าม เกาะรัง เกาะขาม เป็นต้น
    ในวันนี้เราเลือกมายัง "เกาะหมาก" เกาะขนาดกลางที่ตั้งอยู่ระหว่างเกาะช้างกับเกาะกูด โดยนั่งเรือสปีดโบ๊ทจากแหลมงอบ (ท่าเรือกรมหลวงชุมพรฯ) มาถึงยังเกาะหมากประมาณ 45 นาที บนเกาะมีอ่าวและหาดหลายแห่งที่น่าสนใจและเหมาะแก่การท่องเที่ยว เช่น “อ่าวนิด” เป็นที่ตั้งของชุมชนใหญ่ “อ่าวสวนใหญ่” เป็นอ่าวโค้งยาวน่ายล “อ่าวโล่ง” ที่รอบข้างร่มรื่นเขียวครึ้มไปด้วยสวนยางพารา ในหลายๆ หาดหลายๆ อ่าวจะมีการสร้างสะพานเทียบเรือ (ของที่พัก) ทอดยาว ถือเป็นจุดถ่ายรูปและเสน่ห์อันโดดเด่นของเกาะหมาก

    กาะหมากถือเป็นเกาะเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน และยังขึ้นชื่อเรื่องกิจกรรมท่องเที่ยวแบบ "โลว์คาร์บอน" หรือการท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำ เช่น การส่งเสริมการท่องเที่ยวบนเกาะด้วยการปั่นจักรยาน พายเรือคายัก ส่งเสริมให้ร้านอาหารและโรงแรมใช้วัตถุดิบทำอาหารต่างๆ ที่หาได้บนเกาะ แทนที่จะต้องขนขึ้นเรือข้ามเกาะมา ทั้งยังส่งเสริมการปลูกผักสำหรับกินเองและขายในกิจการโรงแรมและร้านอาหาร มีโครงการนำขยะเศษอาหารจากโรงแรมหรือร้านอาหารบนเกาะมาเป็นปุ๋ยหมุนเวียน เป็นต้น



    "เกาะหมาก" ทะเลตราด ทรายสวยน้ำใส ดีต่อใจ ทะเลตราดช่วงต้นปีแบบนี้กำลังสวยใสคลื่นลมสงบเหมาะแก่การไปท่องเที่ยวอย่างยิ่ง โดยหมู่เกาะทะเลตราดนั้นมีจำนวนเกาะมากถึง 52 เกาะด้วยกัน มีเกาะช้างเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด (และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไทยรองจากเกาะภูเก็ต) นอกจากนั้นก็ยังมีเกาะอื่นๆ ที่เรารู้จักกันดี อาทิ เกาะกูด เกาะหมาก เกาะกระดาด เกาะหวาย เกาะเหลายา เกาะง่าม เกาะรัง เกาะขาม เป็นต้น ในวันนี้เราเลือกมายัง "เกาะหมาก" เกาะขนาดกลางที่ตั้งอยู่ระหว่างเกาะช้างกับเกาะกูด โดยนั่งเรือสปีดโบ๊ทจากแหลมงอบ (ท่าเรือกรมหลวงชุมพรฯ) มาถึงยังเกาะหมากประมาณ 45 นาที บนเกาะมีอ่าวและหาดหลายแห่งที่น่าสนใจและเหมาะแก่การท่องเที่ยว เช่น “อ่าวนิด” เป็นที่ตั้งของชุมชนใหญ่ “อ่าวสวนใหญ่” เป็นอ่าวโค้งยาวน่ายล “อ่าวโล่ง” ที่รอบข้างร่มรื่นเขียวครึ้มไปด้วยสวนยางพารา ในหลายๆ หาดหลายๆ อ่าวจะมีการสร้างสะพานเทียบเรือ (ของที่พัก) ทอดยาว ถือเป็นจุดถ่ายรูปและเสน่ห์อันโดดเด่นของเกาะหมาก กาะหมากถือเป็นเกาะเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน และยังขึ้นชื่อเรื่องกิจกรรมท่องเที่ยวแบบ "โลว์คาร์บอน" หรือการท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำ เช่น การส่งเสริมการท่องเที่ยวบนเกาะด้วยการปั่นจักรยาน พายเรือคายัก ส่งเสริมให้ร้านอาหารและโรงแรมใช้วัตถุดิบทำอาหารต่างๆ ที่หาได้บนเกาะ แทนที่จะต้องขนขึ้นเรือข้ามเกาะมา ทั้งยังส่งเสริมการปลูกผักสำหรับกินเองและขายในกิจการโรงแรมและร้านอาหาร มีโครงการนำขยะเศษอาหารจากโรงแรมหรือร้านอาหารบนเกาะมาเป็นปุ๋ยหมุนเวียน เป็นต้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อ่าวเขาควาย เกาะกำตก” อ่าวโค้งแสนสวยแห่งทะเลระนอง

    อ่าวเขาควาย มีความสวยงามแปลกตาไม่เหมือนหาดไหน ๆ เพราะมีลักษณะเป็นโค้งอ่าวครึ่งวงกลมดูคล้ายกับเขาควาย ทั้งยังมีชายหาดที่ขาวเนียนละเอียด สะอาด น้ำทะเลโดยรอบสีฟ้าใส สามารถลงไปเล่นน้ำ ชมปะการังความสวยงามปะการังใต้ท้องทะเลกันได้อย่างเพลิดเพลิน
    นอกจากนี้ด้านบนเกาะยังธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ยังมีต้นสน ขึ้นเรียงรายเต็มแนวชายหาดอีกด้วย ส่วนตามแนวชายหาด ก็มีต้นหูกวาง และต้นจิกทะเล ที่คอยให้ร่มเงา สร้างความสบาย ร่มรื่นให้กับหาดนี้อย่างมาก ที่สำคัญ เงียบสงบมากๆ เพราะ ไม่มีร้านค้า ร้านอาหาร และที่พัก หรือสถานบันเทิงใดๆ ที่นี่จึงเหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนอย่างแท้จริง
    #อ่าวเขาควาย
    #ระนอง
    “อ่าวเขาควาย เกาะกำตก” อ่าวโค้งแสนสวยแห่งทะเลระนอง อ่าวเขาควาย มีความสวยงามแปลกตาไม่เหมือนหาดไหน ๆ เพราะมีลักษณะเป็นโค้งอ่าวครึ่งวงกลมดูคล้ายกับเขาควาย ทั้งยังมีชายหาดที่ขาวเนียนละเอียด สะอาด น้ำทะเลโดยรอบสีฟ้าใส สามารถลงไปเล่นน้ำ ชมปะการังความสวยงามปะการังใต้ท้องทะเลกันได้อย่างเพลิดเพลิน นอกจากนี้ด้านบนเกาะยังธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ยังมีต้นสน ขึ้นเรียงรายเต็มแนวชายหาดอีกด้วย ส่วนตามแนวชายหาด ก็มีต้นหูกวาง และต้นจิกทะเล ที่คอยให้ร่มเงา สร้างความสบาย ร่มรื่นให้กับหาดนี้อย่างมาก ที่สำคัญ เงียบสงบมากๆ เพราะ ไม่มีร้านค้า ร้านอาหาร และที่พัก หรือสถานบันเทิงใดๆ ที่นี่จึงเหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนอย่างแท้จริง #อ่าวเขาควาย #ระนอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 อย่างที่ควรทำ เพื่อให้ "ภูมิคุ้มกัน ยังแข็งแรง" ไม่ป่วยง่าย ในวัยเกษียณ

    **บทความนี้ เกิดจากการนำกรอบคิด "ป้องกัน ก่อนปัญหาเกิด" มาใช้กับเรื่องสุขภาพ เพราะหากปัญหาเกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะระดับวิกฤติ เราจะยอมจ่ายเท่าไรก็ได้ เพื่อรักษาสุขภาพและชีวิตของเรา หรือคนที่เรารักไว้ แต่หาก เราเลือกป้องกัน เราจะสามารถวางแผนป้องกันปัญหา โดยจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด**

    เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ เป็นที่ทราบกันว่า ระบบภูมิคุ้มกัน ย่อมไม่แข็งแรงเท่าวัยหนุ่มสาว จึงทำให้ผู้ที่อยู่ในวัยสูงอายุ ต้องระวังป้องกันสุขภาพของตนเองอย่างมาก ไม่ให้ป่วย

    เพราะ "การป่วย" ในแต่ละครั้ง อาจนำไปสู่ อาการแทรกซ้อน ที่มีโอกาสพัฒนากลายเป็น โรคเรื้อรัง ที่ทำให้ใช้ชีวิตไม่ได้ปกติ และหมดความสุขในชีวิต ในวัยเกษียณ ในที่สุด

    3 ข้อด้านล่างนี้ จึงเป็นแนวทางการปฏิบัติ เพื่อ "รักษา ระบบภูมิคุ้มกัน ให้ยังแข็งแรง" สำหรับคนวัยเกษียณ :

    1. #การรับประทานอาหารที่สมดุล

    การรับประทานอาหารที่สมดุลและครบถ้วนตามหลักโภชนาการเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน วิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินซี, วิตามินดี, สังกะสี และธาตุเหล็ก มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน

    #วิตามินซี พบในผลไม้และผัก เช่น ส้ม มะนาว และบรอกโคลี ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ป้องกันการติดเชื้อ (Carr & Maggini, 2017) #วิตามินดี ซึ่งได้รับจากแสงแดดและอาหาร เช่น ปลาแซลมอนและนม เสริมสร้างความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง (Martineau et al., 2017) #สังกะสี ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพบได้ในถั่ว เมล็ดธัญพืช และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน (Prasad, 2013)

    2. #การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

    การออกกำลังกายไม่เพียงแค่ช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวม แต่ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ การออกกำลังกายปานกลาง เช่น การเดิน วิ่งเบาๆ หรือโยคะ จะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น และช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวในการต่อสู้กับเชื้อโรค

    งานวิจัยพบว่าการออกกำลังกายปานกลาง 30 นาทีต่อวันช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดโอกาสการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้การต่อสู้กับเชื้อโรคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น (Nieman & Wentz, 2019)

    3. #การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ

    การนอนหลับที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ เซลล์ภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้ดีขึ้น และร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองจากความเสียหายที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน

    การนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การขาดการนอนหลับสามารถทำให้ระดับของเซลล์เม็ดเลือดขาวลดลง และทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น งานวิจัยพบว่าผู้ที่นอนหลับไม่เพียงพอมีโอกาสติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัด มากขึ้นถึง 4 เท่า (Besedovsky et al., 2012; Cohen et al., 2009)

    ---------

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่ส่งเสริมให้

    "การปฏิบัติทั้ง 3 ข้อของคุณ ได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น กว่าไม่ได้ทาน"

    โดย คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการสะสางสารพิษ โดยเฉพาะโลหะหนักที่สะสมในร่างกาย ซึ่งช่วยให้ลำไส้สะอาดและสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ถูกขัดขวางจากสารพิษตกค้าง (Shim et al., 2008). การสะสางนี้ยังช่วยลดการกระตุ้นของระบบประสาทที่อาจทำให้นอนหลับยาก ทำให้คุณนอนหลับได้ง่ายขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของการพักผ่อน (Jeon et al., 2016). อีกทั้งยังมีงานวิจัยที่ชี้ชัดว่า คลอเรลล่าที่ปลอดภัย สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างมีนัยสำคัญ (Merchant, 2001).

    ในส่วนของ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีคุณสมบัติในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบระดับเซลล์ ซึ่งส่งผลให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่เสียหายหลังจากการออกกำลังกาย (Vazquez et al., 2013)

    ซึ่ง ทั้งหมดนี้ จะช่วยให้ การปฏิบัติทั้ง 3 ข้อดังกล่าว ของคุณ ได้ผลลัพธ์ มากขึ้น กว่า ไม่ได้ทาน

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 อย่างที่ควรทำ เพื่อให้ "ภูมิคุ้มกัน ยังแข็งแรง" ไม่ป่วยง่าย ในวัยเกษียณ **บทความนี้ เกิดจากการนำกรอบคิด "ป้องกัน ก่อนปัญหาเกิด" มาใช้กับเรื่องสุขภาพ เพราะหากปัญหาเกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะระดับวิกฤติ เราจะยอมจ่ายเท่าไรก็ได้ เพื่อรักษาสุขภาพและชีวิตของเรา หรือคนที่เรารักไว้ แต่หาก เราเลือกป้องกัน เราจะสามารถวางแผนป้องกันปัญหา โดยจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด** เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ เป็นที่ทราบกันว่า ระบบภูมิคุ้มกัน ย่อมไม่แข็งแรงเท่าวัยหนุ่มสาว จึงทำให้ผู้ที่อยู่ในวัยสูงอายุ ต้องระวังป้องกันสุขภาพของตนเองอย่างมาก ไม่ให้ป่วย เพราะ "การป่วย" ในแต่ละครั้ง อาจนำไปสู่ อาการแทรกซ้อน ที่มีโอกาสพัฒนากลายเป็น โรคเรื้อรัง ที่ทำให้ใช้ชีวิตไม่ได้ปกติ และหมดความสุขในชีวิต ในวัยเกษียณ ในที่สุด 3 ข้อด้านล่างนี้ จึงเป็นแนวทางการปฏิบัติ เพื่อ "รักษา ระบบภูมิคุ้มกัน ให้ยังแข็งแรง" สำหรับคนวัยเกษียณ : 1. #การรับประทานอาหารที่สมดุล การรับประทานอาหารที่สมดุลและครบถ้วนตามหลักโภชนาการเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน วิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินซี, วิตามินดี, สังกะสี และธาตุเหล็ก มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน #วิตามินซี พบในผลไม้และผัก เช่น ส้ม มะนาว และบรอกโคลี ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่ป้องกันการติดเชื้อ (Carr & Maggini, 2017) #วิตามินดี ซึ่งได้รับจากแสงแดดและอาหาร เช่น ปลาแซลมอนและนม เสริมสร้างความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง (Martineau et al., 2017) #สังกะสี ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพบได้ในถั่ว เมล็ดธัญพืช และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน (Prasad, 2013) 2. #การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายไม่เพียงแค่ช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวม แต่ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ การออกกำลังกายปานกลาง เช่น การเดิน วิ่งเบาๆ หรือโยคะ จะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น และช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวในการต่อสู้กับเชื้อโรค งานวิจัยพบว่าการออกกำลังกายปานกลาง 30 นาทีต่อวันช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดโอกาสการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้การต่อสู้กับเชื้อโรคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น (Nieman & Wentz, 2019) 3. #การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ การนอนหลับที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ เซลล์ภูมิคุ้มกันสามารถทำงานได้ดีขึ้น และร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองจากความเสียหายที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน การนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การขาดการนอนหลับสามารถทำให้ระดับของเซลล์เม็ดเลือดขาวลดลง และทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น งานวิจัยพบว่าผู้ที่นอนหลับไม่เพียงพอมีโอกาสติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัด มากขึ้นถึง 4 เท่า (Besedovsky et al., 2012; Cohen et al., 2009) --------- #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นคู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่ส่งเสริมให้ "การปฏิบัติทั้ง 3 ข้อของคุณ ได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น กว่าไม่ได้ทาน" โดย คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการสะสางสารพิษ โดยเฉพาะโลหะหนักที่สะสมในร่างกาย ซึ่งช่วยให้ลำไส้สะอาดและสามารถดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ถูกขัดขวางจากสารพิษตกค้าง (Shim et al., 2008). การสะสางนี้ยังช่วยลดการกระตุ้นของระบบประสาทที่อาจทำให้นอนหลับยาก ทำให้คุณนอนหลับได้ง่ายขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของการพักผ่อน (Jeon et al., 2016). อีกทั้งยังมีงานวิจัยที่ชี้ชัดว่า คลอเรลล่าที่ปลอดภัย สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างมีนัยสำคัญ (Merchant, 2001). ในส่วนของ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีคุณสมบัติในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและลดการอักเสบระดับเซลล์ ซึ่งส่งผลให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่เสียหายหลังจากการออกกำลังกาย (Vazquez et al., 2013) ซึ่ง ทั้งหมดนี้ จะช่วยให้ การปฏิบัติทั้ง 3 ข้อดังกล่าว ของคุณ ได้ผลลัพธ์ มากขึ้น กว่า ไม่ได้ทาน โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฝันร้าย ผวา ผจญภัย สมองเสื่อม

    หมอดื้อ ได้นำข้อมูลบทความทางวิทยาศาสตร์วิชาการ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการนอน ทั้งนอนน้อยนอนนานก็ไม่ดี งีบหลับกลางวันนานกว่าครึ่งชั่วโมงหรือ งีบบ่อยๆ ส่อ ถึงภาวะสมองเสื่อมรวมทั้งโน้มนำให้รุนแรงมากขึ้น รวมทั้งการงีบหลับแล้วสะดุ้งตื่นกลับมีปัญญาบังเกิด ทั้งหมดนี้หาอ่านได้ในไทยรัฐคอลัมน์สุขภาพพรรษาหมอดื้อ

    ทั้งนี้ จะพบว่าเรื่องของการนอนเป็นเรื่องมหัศจรรย์และเกี่ยวข้องกับสุขภาวะทางกายและทางสมอง อย่างชัดเจน ทั้งนี้ยังพ่วงเกี่ยวกับเรื่องความฝัน

    ดังที่พูดกันมาแต่โบร่ำโบราณ ว่านอนหลับฝันดีนะ เพราะในเวลาไม่นานมานี้เอง พบว่านอนแล้วฝันร้าย (nightmare) ฝันผวา (night terror) โดยที่มีพฤติกรรมหวาดกลัวถึงกับกรีดร้องหรือมีการเหวี่ยงแขนขา แบบฝันผจญภัยสุ่มเสี่ยงกับสมองไม่ดีสมองเสื่อมเร็วมากขึ้น

    รายงานในวารสารแลนเซท e clinical medicine เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2023 จาก ภาควิชาประสาทวิทยา และศูนย์ Centre for Brain Health โรงพยาบาลและ มหาวิทยาลัย เบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ พบว่าเด็กทุกคนที่เกิดมาในอังกฤษในช่วงสัปดาห์เดียวกันในปี 1958 และมีการประเมินโดยสอบถามจากมารดาเมื่อเด็กอายุได้เจ็ดขวบในปี 1965 และ 11 ขวบในปี 1969 ว่าเด็กประสบกับฝันร้ายหรือฝันผวาหรือไม่ในช่วงระยะเวลาสามเดือนที่ผ่านมา
    โดยมี จำนวนเด็ก 6991 ราย ซึ่งเป็นผู้หญิง 51% พบว่า 78.2% นั้นไม่มีฝันร้ายเลยและ 17.9% มีฝันร้ายอยู่บ้างแต่ 3.8% มีฝันร้ายเป็นประจำตลอดเวลา

    ในปี 2008 เมื่อถึงอายุครบ 50 ปีพบว่ามีถึง 262 รายที่มีความผิดปกติทางสมองพุทธิปัญญา (cognitive impairment) และห้ารายเป็น พาร์กินสัน

    ทั้งนี้หลังจากที่ปรับตัวแปรและปัจจัยร่วมต่างๆ สรุปได้ว่าการที่มีฝันร้ายเป็นประจำและยิ่งบ่อยยิ่งมากในระหว่างเป็นเด็กนั้น จะสุ่มเสี่ยงแปรตามกับการที่จะมีความผิดปกติทางสมองดังกล่าว โดยมีนัยยะสำคัญทางสถิติไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง
    และเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่เคยมีฝันร้ายเลย กลุ่มที่ฝันร้ายเป็นประจำนั้นจะมีความเสี่ยงสำหรับความเสื่อมทางสมองหรือโรคพาร์กินสันที่อายุ 50 ปีสูงขึ้น 85%
    หรือมีโอกาสเป็นภาวะที่เป็นสมองเสื่อมมากขึ้น 76% และมากขึ้นเจ็ดเท่าสำหรับโรคพาร์กินสัน

    โอกาสเป็นภาวะสมองเสื่อมมากขึ้นในลักษณะนี้ ยังพบได้เช่นกัน ในกลุ่มวัยกลางคนและที่สูงวัยมาก (older adults)ที่แม้ว่าจะมีสุขภาพดีก็ตาม แต่มีฝันร้ายอย่างน้อย อาทิตย์ละหนึ่งครั้ง โดยมีโอกาสเพิ่มขึ้นสี่เท่าเมื่อติดตามไปในอีกประมาณ 10 ปีข้างหน้า โดยในคนสูงวัยมากนั้น มีโอกาสเพิ่มขึ้นสองเท่า รายงานในวารสารเดียวกันจากสถาบันเดียวกันในวันที่ 21 กันยายน 2022

    รายงานนี้ ได้ทำการวิเคราะห์คนวัยกลางคนที่มีอายุระหว่าง 35 ถึง 64 ปีเป็นจำนวน 605 รายและติดตามไป 13 ปีรวมทั้งผู้สูงวัยมาก ที่อายุมากกว่าหรือเท่ากับ 79 ปีเป็นจำนวน 2600 รายและติดตามไปเจ็ดปี ทั้งนี้หลังจากที่ได้ทำการปรับปัจจัยตัวแปรต่างๆทั้งสิ้น

    และผู้วิจัยได้ตั้งสมมุติฐานที่จะอธิบายความสัมพันธ์เหล่านี้กับภาวะสมองเสื่อม

    ประการแรกก็คือมีความเป็นไปได้ที่ฝันร้ายฝันผวาเป็นอาการแรกเริ่มของโรคสมองเสื่อมแบบต่างๆทั้ง พาร์กินสัน สมองเสื่อมแบบ Lewy bodies (dementia with Lewy bodies DLB) รวมทั้ง อัลไซเมอร์ ดังที่ได้เคยมีรายงานว่าก่อนหน้า และเกิดจากความเสื่อมของสมองบริเวณหน้าผากทางด้านขวาซึ่งทำหน้าที่ในการลดทอน อารมณ์แปรปรวนในด้านลบระหว่างการฝันในช่วงที่ลูกตามีการเคลื่อนไหวเร็ว (REM sleep) ซึ่งในระยะต่อมาพบว่ายิ่งมีฝันร้ายฝันผวาในผู้ป่วยที่เป็นพาร์กินสัน จะมีความสัมพันธ์กับความเหี่ยวของสมองกลีบขมับหน้าผากทางด้านขวาทั้งที่เปลือกสมองและในสมองส่วนสีขาว (grey and white matter)
    รวมทั้งมีรายงานในระยะต่อมาว่าภาวะฝันในช่วง REM จะเกิดขึ้นก่อนหน้า ที่จะมีอาการของโรคพาร์กินสัน หรือ DLB ถึง 50 ปี แต่ทั้งนี้ความสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างฝันผวาในช่วงตั้งแต่เด็กที่ประเมินตั้งแต่อายุเจ็ดขวบไม่น่าจะอธิบายว่าเด็กในอายุขณะนั้น ที่สมองกำลังมีการพัฒนาจะเกิดพยาธิสภาพผิดปกติแล้วที่อายุยังน้อยมาก

    โดยที่ ฝันร้ายฝัน ผวาต่างๆเหล่านี้อาจจะมีความสัมพันธ์เป็นเหตุหรือปัจจัยที่ทำให้เกิดสมองเสื่อม ตามหลังดังรายงานในประชากรวัยกลางคนและที่สูงวัยมาก

    โดยกลไกที่อาจเป็นไปได้จะอยู่ที่วงจรของการนอนจะไม่เป็นสุข ถูกกระตุกเป็นระยะและส่งผลให้การเคลียร์หรือระบายขยะด้วยระบบ glymphatic system ทำงานไม่เต็มที่ โดยที่ทราบกันดีแล้วว่าการนอนหลับลึกจะทำให้ท่อระบายขยะเหล่านี้กว้างขวางขึ้นอย่างน้อย 60% และการที่ระบายขยะได้ไม่ดีทำให้มีการสะสมมากขึ้น
    เรื่อย ๆ ของโปรตีนพิษบิดเกรียว อมิลอยด์ ทาว และ อัลฟ่า ซินนูคลีอิน
    และการนอนที่ไม่เป็นสุขมีฝันผวาในวัยเด็กเรื่อยมาอาจจะขัดขวางการพัฒนาทางสมอง และทำให้ต้นทุนของสมองลดน้อยถอยลงตามลำดับ และทำให้ถูกทำลายได้เร็วและมากขึ้นเมื่อมีปัจจัยอย่างอื่นเข้ามา
    กระทบ ทั้งนี้รวมทั้งปัจจัยทางด้านพันธุกรรมอีกด้วย

    แม้ว่ารายงานนี้จะเป็นการวิเคราะห์จากการติดตามระยะยาวแต่ก็ยังไม่สามารถอธิบายกลไกได้อย่างถ่องแท้ แต่ก็ไม่สามารถที่จะมองข้ามไปได้

    การผ่อนคลายหรือบรรเทาภาวะฝันร้ายฝันผวาที่เกิดขึ้นในช่วงการนอน REM ที่ประกอบด้วยทั้ง ภาพและอารมณ์ก้าวร้าว ความขัดแย้งกับบุคคลอื่น ความล้มเหลวในชีวิตและผสมปนเปไปด้วยความกลัว ความโกรธและความ เศร้าสลด อาจทำได้ด้วย พฤติกรรมบำบัด (Imagery reversal therapy) โดยนักจิตวิทยา ที่สอนให้ปรับเปลี่ยนฝันร้ายที่ส่งผลในทางลบให้ออกมาเป็นทางบวก และเปรียบเสมือนกับเป็นการวาดความฝันใหม่ และในขณะที่มีการสอนอบรมนั้นในเวลากลางวัน มีการเปิดเสียงคลอไปด้วยเพื่อสร้างจินตนภาพในทางสดใสและสร้างสรรค์และในขณะกลางคืนนั้นขณะที่หลับก็ให้มีเสียงเปิดไปด้วย
    เป็นการศึกษาโดยคณะในสวิตเซอร์แลนด์ที่ทดสอบวิธีดังกล่าวกับผู้ที่ได้รับความทรมานจากฝันร้ายเป็นจำนวน 36 รายและพบว่าได้ผล เป็นที่น่าพอใจ

    กล่าวโดยสรุปการนอนดีนอนหลับไม่ใช่เป็นแต่เพียงระยะเวลาของการนอน หกถึง 8 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ต้องรวมถึงคุณภาพของการนอนที่หลับลึกไม่กระท่อนกระแท่นและไม่แทรกด้วยฝันร้าย ฝันผวา ฝันผจญภัย

    การเจริญสติในทางสร้างสรรค์ ไม่คิดร้ายเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เป็นหนทาง ของความสงบสุขโดยทั่ว

    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต
    ฝันร้าย ผวา ผจญภัย สมองเสื่อม หมอดื้อ ได้นำข้อมูลบทความทางวิทยาศาสตร์วิชาการ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการนอน ทั้งนอนน้อยนอนนานก็ไม่ดี งีบหลับกลางวันนานกว่าครึ่งชั่วโมงหรือ งีบบ่อยๆ ส่อ ถึงภาวะสมองเสื่อมรวมทั้งโน้มนำให้รุนแรงมากขึ้น รวมทั้งการงีบหลับแล้วสะดุ้งตื่นกลับมีปัญญาบังเกิด ทั้งหมดนี้หาอ่านได้ในไทยรัฐคอลัมน์สุขภาพพรรษาหมอดื้อ ทั้งนี้ จะพบว่าเรื่องของการนอนเป็นเรื่องมหัศจรรย์และเกี่ยวข้องกับสุขภาวะทางกายและทางสมอง อย่างชัดเจน ทั้งนี้ยังพ่วงเกี่ยวกับเรื่องความฝัน ดังที่พูดกันมาแต่โบร่ำโบราณ ว่านอนหลับฝันดีนะ เพราะในเวลาไม่นานมานี้เอง พบว่านอนแล้วฝันร้าย (nightmare) ฝันผวา (night terror) โดยที่มีพฤติกรรมหวาดกลัวถึงกับกรีดร้องหรือมีการเหวี่ยงแขนขา แบบฝันผจญภัยสุ่มเสี่ยงกับสมองไม่ดีสมองเสื่อมเร็วมากขึ้น รายงานในวารสารแลนเซท e clinical medicine เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2023 จาก ภาควิชาประสาทวิทยา และศูนย์ Centre for Brain Health โรงพยาบาลและ มหาวิทยาลัย เบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ พบว่าเด็กทุกคนที่เกิดมาในอังกฤษในช่วงสัปดาห์เดียวกันในปี 1958 และมีการประเมินโดยสอบถามจากมารดาเมื่อเด็กอายุได้เจ็ดขวบในปี 1965 และ 11 ขวบในปี 1969 ว่าเด็กประสบกับฝันร้ายหรือฝันผวาหรือไม่ในช่วงระยะเวลาสามเดือนที่ผ่านมา โดยมี จำนวนเด็ก 6991 ราย ซึ่งเป็นผู้หญิง 51% พบว่า 78.2% นั้นไม่มีฝันร้ายเลยและ 17.9% มีฝันร้ายอยู่บ้างแต่ 3.8% มีฝันร้ายเป็นประจำตลอดเวลา ในปี 2008 เมื่อถึงอายุครบ 50 ปีพบว่ามีถึง 262 รายที่มีความผิดปกติทางสมองพุทธิปัญญา (cognitive impairment) และห้ารายเป็น พาร์กินสัน ทั้งนี้หลังจากที่ปรับตัวแปรและปัจจัยร่วมต่างๆ สรุปได้ว่าการที่มีฝันร้ายเป็นประจำและยิ่งบ่อยยิ่งมากในระหว่างเป็นเด็กนั้น จะสุ่มเสี่ยงแปรตามกับการที่จะมีความผิดปกติทางสมองดังกล่าว โดยมีนัยยะสำคัญทางสถิติไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง และเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่เคยมีฝันร้ายเลย กลุ่มที่ฝันร้ายเป็นประจำนั้นจะมีความเสี่ยงสำหรับความเสื่อมทางสมองหรือโรคพาร์กินสันที่อายุ 50 ปีสูงขึ้น 85% หรือมีโอกาสเป็นภาวะที่เป็นสมองเสื่อมมากขึ้น 76% และมากขึ้นเจ็ดเท่าสำหรับโรคพาร์กินสัน โอกาสเป็นภาวะสมองเสื่อมมากขึ้นในลักษณะนี้ ยังพบได้เช่นกัน ในกลุ่มวัยกลางคนและที่สูงวัยมาก (older adults)ที่แม้ว่าจะมีสุขภาพดีก็ตาม แต่มีฝันร้ายอย่างน้อย อาทิตย์ละหนึ่งครั้ง โดยมีโอกาสเพิ่มขึ้นสี่เท่าเมื่อติดตามไปในอีกประมาณ 10 ปีข้างหน้า โดยในคนสูงวัยมากนั้น มีโอกาสเพิ่มขึ้นสองเท่า รายงานในวารสารเดียวกันจากสถาบันเดียวกันในวันที่ 21 กันยายน 2022 รายงานนี้ ได้ทำการวิเคราะห์คนวัยกลางคนที่มีอายุระหว่าง 35 ถึง 64 ปีเป็นจำนวน 605 รายและติดตามไป 13 ปีรวมทั้งผู้สูงวัยมาก ที่อายุมากกว่าหรือเท่ากับ 79 ปีเป็นจำนวน 2600 รายและติดตามไปเจ็ดปี ทั้งนี้หลังจากที่ได้ทำการปรับปัจจัยตัวแปรต่างๆทั้งสิ้น และผู้วิจัยได้ตั้งสมมุติฐานที่จะอธิบายความสัมพันธ์เหล่านี้กับภาวะสมองเสื่อม ประการแรกก็คือมีความเป็นไปได้ที่ฝันร้ายฝันผวาเป็นอาการแรกเริ่มของโรคสมองเสื่อมแบบต่างๆทั้ง พาร์กินสัน สมองเสื่อมแบบ Lewy bodies (dementia with Lewy bodies DLB) รวมทั้ง อัลไซเมอร์ ดังที่ได้เคยมีรายงานว่าก่อนหน้า และเกิดจากความเสื่อมของสมองบริเวณหน้าผากทางด้านขวาซึ่งทำหน้าที่ในการลดทอน อารมณ์แปรปรวนในด้านลบระหว่างการฝันในช่วงที่ลูกตามีการเคลื่อนไหวเร็ว (REM sleep) ซึ่งในระยะต่อมาพบว่ายิ่งมีฝันร้ายฝันผวาในผู้ป่วยที่เป็นพาร์กินสัน จะมีความสัมพันธ์กับความเหี่ยวของสมองกลีบขมับหน้าผากทางด้านขวาทั้งที่เปลือกสมองและในสมองส่วนสีขาว (grey and white matter) รวมทั้งมีรายงานในระยะต่อมาว่าภาวะฝันในช่วง REM จะเกิดขึ้นก่อนหน้า ที่จะมีอาการของโรคพาร์กินสัน หรือ DLB ถึง 50 ปี แต่ทั้งนี้ความสัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างฝันผวาในช่วงตั้งแต่เด็กที่ประเมินตั้งแต่อายุเจ็ดขวบไม่น่าจะอธิบายว่าเด็กในอายุขณะนั้น ที่สมองกำลังมีการพัฒนาจะเกิดพยาธิสภาพผิดปกติแล้วที่อายุยังน้อยมาก โดยที่ ฝันร้ายฝัน ผวาต่างๆเหล่านี้อาจจะมีความสัมพันธ์เป็นเหตุหรือปัจจัยที่ทำให้เกิดสมองเสื่อม ตามหลังดังรายงานในประชากรวัยกลางคนและที่สูงวัยมาก โดยกลไกที่อาจเป็นไปได้จะอยู่ที่วงจรของการนอนจะไม่เป็นสุข ถูกกระตุกเป็นระยะและส่งผลให้การเคลียร์หรือระบายขยะด้วยระบบ glymphatic system ทำงานไม่เต็มที่ โดยที่ทราบกันดีแล้วว่าการนอนหลับลึกจะทำให้ท่อระบายขยะเหล่านี้กว้างขวางขึ้นอย่างน้อย 60% และการที่ระบายขยะได้ไม่ดีทำให้มีการสะสมมากขึ้น เรื่อย ๆ ของโปรตีนพิษบิดเกรียว อมิลอยด์ ทาว และ อัลฟ่า ซินนูคลีอิน และการนอนที่ไม่เป็นสุขมีฝันผวาในวัยเด็กเรื่อยมาอาจจะขัดขวางการพัฒนาทางสมอง และทำให้ต้นทุนของสมองลดน้อยถอยลงตามลำดับ และทำให้ถูกทำลายได้เร็วและมากขึ้นเมื่อมีปัจจัยอย่างอื่นเข้ามา กระทบ ทั้งนี้รวมทั้งปัจจัยทางด้านพันธุกรรมอีกด้วย แม้ว่ารายงานนี้จะเป็นการวิเคราะห์จากการติดตามระยะยาวแต่ก็ยังไม่สามารถอธิบายกลไกได้อย่างถ่องแท้ แต่ก็ไม่สามารถที่จะมองข้ามไปได้ การผ่อนคลายหรือบรรเทาภาวะฝันร้ายฝันผวาที่เกิดขึ้นในช่วงการนอน REM ที่ประกอบด้วยทั้ง ภาพและอารมณ์ก้าวร้าว ความขัดแย้งกับบุคคลอื่น ความล้มเหลวในชีวิตและผสมปนเปไปด้วยความกลัว ความโกรธและความ เศร้าสลด อาจทำได้ด้วย พฤติกรรมบำบัด (Imagery reversal therapy) โดยนักจิตวิทยา ที่สอนให้ปรับเปลี่ยนฝันร้ายที่ส่งผลในทางลบให้ออกมาเป็นทางบวก และเปรียบเสมือนกับเป็นการวาดความฝันใหม่ และในขณะที่มีการสอนอบรมนั้นในเวลากลางวัน มีการเปิดเสียงคลอไปด้วยเพื่อสร้างจินตนภาพในทางสดใสและสร้างสรรค์และในขณะกลางคืนนั้นขณะที่หลับก็ให้มีเสียงเปิดไปด้วย เป็นการศึกษาโดยคณะในสวิตเซอร์แลนด์ที่ทดสอบวิธีดังกล่าวกับผู้ที่ได้รับความทรมานจากฝันร้ายเป็นจำนวน 36 รายและพบว่าได้ผล เป็นที่น่าพอใจ กล่าวโดยสรุปการนอนดีนอนหลับไม่ใช่เป็นแต่เพียงระยะเวลาของการนอน หกถึง 8 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ต้องรวมถึงคุณภาพของการนอนที่หลับลึกไม่กระท่อนกระแท่นและไม่แทรกด้วยฝันร้าย ฝันผวา ฝันผจญภัย การเจริญสติในทางสร้างสรรค์ ไม่คิดร้ายเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เป็นหนทาง ของความสงบสุขโดยทั่ว ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 360 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชายหาดที่สวยที่สุดในจันทบุรี หาดสวยน้ำใส หาดเจ้าหลาว #จันทบุรี #ท่องเที่ยว #ครอบครัว #ทะเล #พักผ่อน #travel #sea #beach #kaiaminute
    ชายหาดที่สวยที่สุดในจันทบุรี หาดสวยน้ำใส หาดเจ้าหลาว #จันทบุรี #ท่องเที่ยว #ครอบครัว #ทะเล #พักผ่อน #travel #sea #beach #kaiaminute
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 31 0 รีวิว
  • 22/10/67

    พ่อลูกคู่หนึ่งอาศัยอยู่ที่ชายป่า พ่อมีอาชีพปลูกผักและเก็บไปขายในเมือง
    ส่วนลูกชายอายุ 10 ขวบมีหน้าที่สำคัญคือ ไปโรงเรียนและตั้งใจศึกษาหาความรู้

    ลูกชายของคนปลูกผักเป็นเด็กเรียนดีมีมารยาท เป็นที่รักใคร่ของครูบาอาจารย์ และผู้ใหญ่ที่พบเห็น
    แต่มาในระยะหลัง ผู้เป็นพ่อสังเกตเห็นว่า ลูกมักจะกลับมาบ้านด้วยใบหน้าที่่บึ้งตึง
    เหมือนมีเรื่องขุ่นมัวในใจ จึงเรียกเข้ามาคุยด้วยในเย็นวันหนึ่ง

    “ลูกรัก ระยะหลังมานี้พ่อรู้สึกว่าลูกไม่ค่อยมีความสุขนัก หน้าตาของลูกบึ้งตึงไม่ชวนมอง
    โดยเฉพาะเวลาที่กลับจากโรงเรียน มีอะไรเกิดขึ้นกับลูก บอกความจริงกับพ่อมาเถิด”

    ลูกชายไม่่คิดปิดบังพ่อของเขาอยู่แล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาเขาเห็นว่า พ่อเหนื่อยเพราะทำงานหนัก
    จึงไม่อยากรบกวนให้ต้องมากังวลด้วยเรื่องของตนอีก แต่เมื่อพ่อเอ่ยปากถามมาเช่นนี้ เขาก็จำเป็นต้องพูดความจริงออกไป

    ” ที่ห้องของผมมีนักเรียนย้ายมาใหม่ครับ เขาเป็นลูกคนมีเงิน แต่ชอบดูถูกคน
    และมักรังแกเพื่อนที่อ่อนแอกว่าเสมอ เมื่อเขาเห็นว่าผมสอบได้คะแนนดี และได้รับคำชมจากครูบ่อย ๆ
    เขาก็มักพูดจาถากถาง และคอยกลั่นแกล้งผมอยู่ตลอดเวลา”

    ลูกชายระบายให้พ่อของเขาฟังอย่างคับแค้นใจ

    ” แล้วลูกทำอย่างไรเมือโดนเขาแกล้ง” ผู้เป็นพ่อถามต่อ

    ” ผมพยายามไม่สนใจ แต่เขาก็ไม่ยอมลดละ ผมคิดว่าผมคงทนเขาไปได้อีกไม่นานหรอกครับพ่อ
    สักวันผมจะต่อยเขา เอาให้เลือดของเขาไหลออกมาล้างปากเสียๆ ของเขาบ้าง”

    พูดจบ ผู้เป็นลูกก็ตกใจวูบขึ้นมาทันที เพราะนึกได้ว่าตนเองเผลอใช้คำพูดที่รุนแรงออกไป
    เขาเหลือบมองหน้าพ่อ คิดว่าพ่อจะต้องโกรธมากแน่ๆ เพราะพ่อสอนเขาให้เป็นผู้ชายที่สุภาพบุรุษ ไม่ทำตัวเกกมะเหรกเกเร
    หาเรื่องชกต่อยกับใคร ทว่า……..พ่อของเขากลับไม่ได้พูดหรือแสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา!
    ลูกชายชั่งใจดูท่าทีของพ่ออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า

    ” ผมรู้ว่าพ่อไม่ชอบให้ผมก้าวร้าว แต่ผมทนไม่ไหวแล้วครับ ผมอยากให้พวกคนที่ทำกับผมรู้จักความเจ็บปวด
    และอับอายบ้าง มันจะได้รู้ว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไรเวลาที่ถูกกลั่นแกล้ง”

    ผู้เป็นพ่อมองหน้าลูกชายแล้วยิ้มน้อย ๆ เขาบอกแก่ลูกด้วยเรื่องที่ไม่เกี่ยวกันเลยว่า

    ” อีกสามวันจะเป็นวันเกิด ครบสิบเอ็ดขวบของลูก ตัวพ่อเองก็ยากจน ไม่เคยให้ของขวัญอะไรลูกเลย
    แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่พ่อจะให้ของขวัญแก่ลูก”

    ลูกชายรู้สึกงุนงงที่จู่ ๆ พ่อก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา อย่างไรก็ตามเขารู้สึกดีใจมาก และเฝ้านับวันรอให้วันเกิดในอีกสามวัน
    มาถึงเร็ว ๆ ครั้นเมื่อถึงวันเกิดของลูกชาย คนปลูกผักก็นำของขวัญมามอบให้แก่ลูกชายของเขาตามสัญญา
    เป็นกล่องกระดาษสีขาว และ สีดำ ขนาดใหญ่ อย่างละ 1 กล่อง

    ” พ่อครับ ทำไมต้องให้ของขวัญแก่ผมตั้งสองชิ้นล่ะครับ ถึงผมจะอยากได้ของขวัญจากพ่อ แต่แค่ชิ้นเดียวก็น่าจะพอแล้ว”
    ลูกชายกล่าวด้วยความเกรงใจ ด้วยรู้ว่าพ่อขายผักแต่ละครั้งได้เงินไม่มากนัก

    ” ลูกรัก พ่อตั้งใจมอบของขวัญให้ลูกเช่นนี้เอง เพราะมันจำเป็นแก่ตัวลูกทั้งสองกล่อง จงรับไปจาก พ่อเถิด”

    ลูกชายก้มลงกราบเท้าพ่อและกล่าวคำขอบคุณอย่างซาบซึ้งใจ จากนั้นเขาจึงลงมือแกะเชือกที่ผูกกล่องกระดาษสีขาวออก
    แต่ก็พบว่า ในกล่องสีขาวนั้นไม่มีอะไรอยู่เลย เขาหันไปมองหน้าพ่อเป็นเชิงคำถาม

    ” เปิดกล่องสีดำด้วยสิลูกรัก” พ่อของเขากล่าวแทนคำตอบ

    ลูกชายรีบแกะเชือกที่ผูกกล่องสีดำออก แต่ในกล่องสีดำก็ไม่มีอะไรเลยเช่นเดียวกับกล่องสีขาว

    นอกจากรูขนาดใหญ่ที่ถูกเจาะเอาไว้ตรงก้นกล่องเท่านั้น

    ” พ่อครับ ไม่มีอะไรอยู่เลยนี่ครับ !!!! ” ลูกชายบอกกับพ่อของเขา

    “พ่อลืมใส่ของลงไปหรือเปล่าครับ หรือเพราะว่ากล่องกระดาษสีดำก้นรั่ว ของที่พ่อใส่ไว้ก็เลยหล่นหายไปโดยที่พ่อไม่รู้ครับ”

    ผู้เป็นพ่อยิ้มอย่างใจดี ก่อนจะเดินไปนั่งข้าง ๆ ลูกชายพร้อมกับบอกว่า

    ” พ่อคงให้ของขวัญแก่ลูกได้แค่กล่องกระดาษสองใบนี้ แต่ของที่อยู่ข้างใน ! ลูกจะต้องเป็นผู้ใส่มันลงไปเอง
    กล่องกระดาษสีขาวเป็นกล่องแห่งความสุข ต่อไปนี้เมื่อไรก็ตามที่ลูกได้พบกับสิ่งดี ๆว หรือเรื่องที่ทำให้ลูกมีความสุข
    ขอให้ลูกเขียนมันลงไปในเศษกระดาษและนำมาใส่ไว้ในกล่องสีขาว

    ส่วนกล่องสีดำคือกล่องแห่งความทุกข์
    ไม่ว่าอะไรที่ทำให้จิตใจของลูกเป็นทุกข์ มัวหมอง ให้ลูกเขียนและนำมาใส่ไว้ในกล่องสีดำ
    แล้ววันหนึ่ง เราจะมาเปิดกล่องทั้งสองใบนี้ดูด้วยกัน”

    แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อจะต้องให้ทำเช่นนี้ แต่ลูกชายก็ยอมทำตามคำขอของพ่อแต่โดยดี
    ทุก ๆ วันเขาจะนำเศษกระดาษมากมายที่เขียนเรื่องราวดี ๆ ในชีวิตหย่อนลงไปในกล่องสีขาว
    และเอาเศษกระดาษอีกมากมายที่เขียนเรื่องราวไม่ดีหย่อนลงไปกล่องสีดำ โดยผู้เป็นพ่อคอยเฝ้ามองการกระทำนี้อยู่เงียบ ๆ

    สามเดือนผ่านไป เย็นวันหนึ่งลูกชายกลับมาจากโรงเรียนด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านยิ่งกว่าวันไหน ๆ
    เขาโยนกระเป๋านักเรียนลงบนเก้าอี้ด้วยความกราดเกรี้ยว และทำท่าจะผลุนผลันออกจากบ้านไปอีกครั้ง
    แต่คนปลูกผักสังเกตเห็นก่อน เขาปราดเข้าไป ฉุดตัวลูกชายไว้และสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น

    ” ผมทนไม่ไหวแล้วครับพ่อ พวกคนเลวคนนั้นมันดูถูกพวกเรา มันว่าพ่อเป็นแค่คนปลูกผักยากจน มันว่าเราสองคนเป็นคนชั้นต่ำไม่มีเกียรติ
    แล้วมันยังขโมยหนังสือเรียนของผมไปทิ้งในถังขยะด้วย ผมจะไปจัดการมัน จะทำให้มันเจ็บและจำไปจนตายเลยที่มันบังอาจมาดูถูกพ่อ”

    คนปลูกผักไม่ได้โกรธตามลูกชาย เขาเพียงแต่ถามลูกว่า “วันนี้ลูกเขียนเรื่องสุข และทุกข์ใส่ในกล่องสีขาวและกล่องสีดำหรือยัง”

    ลูกชายประกาศเสียงกร้าวทันทีว่า ” ผมจะไปจัดการพวกคนนั้นก่อน ให้มันรู้ว่าเราจะไม่ยอมให้มันมาดูถูกเราได้อีก”

    ” ลูกต้องไปเขียนก่อน” พ่อบอกเสียงเรียบ “เพราะวันนี้เราจะเปิดกล่องนั้นออกดูด้วยกัน”

    ลูกชายมองหน้าพ่ออย่างฉงน ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อจะต้องให้เปิดกล่องพวกนั้นในเวลานี้ด้วย
    แต่เขาไม่ใช่เด็กดื้อ จึงยอมข่มอารมณ์โกรธลงชั่วคราวแล้วทำตามที่พ่อบอก

    หลังจากหย่อนกระดาษความสุขความทุกข์ลงในกล่องกระดาษสีขาวสีดำเรียบร้อยแล้ว
    ผู้เป็นพ่อจึงบอกให้ลูกชายยกกล่องกระดาษสีขาวมาวางไว้บนโต๊ะหน้าบ้าน

    ” โอ้โห แค่สาม! เดือนที่ผมใส่เศษกระดาษลงไป ผมไม่คิดเลยว่าจะทำให้กล่องสีขาวหนักได้ขนาดนี้”
    ลูกชายอุทานอย่างคาดไม่ถึง ผู้เป็นพ่อยิ้ม และบอกว่า ” ทีนี้ลูกไปยกกล่องสีดำมาวางตรงนี้ด้วยสิ”

    ” กล่องสีดำน่าจะหนักกว่านี้อีกนะครับ เพราะว่าผมใส่เรื่องไม่ดีของคนที่ชอบแกล้งผมเอาไว้มากทีเดียว”

    แต่ทันทีที่ลูกชายยกกล่องกระดาษสีดำขึ้นจากที่ตั้งเดิมของมัน เศษกระดาษมากมายที่เคยอัดแน่นอยู่ภายในก็ร่วงพรูออกมาจากก้นกล่อง บัดนี้ กล่องกระดาษสีดำก็เบาหวิวไร้น้ำหนัก เพราะไม่มีอะไรคงเหลืออยู่ในนั้นแล้ว ลูกชายหันไปมองหน้าพ่อ

    ” ผมลืมไปเสียสนิทเลยครับว่ากล่องใบนี้มีรูอยู่ด้วย เดี๋ยวผมจะเก็บเศษกระดาษพวกนี้ไปใส่กล่องใบใหม่นะครับ”

    แต่ผู้เป็นพ่อบอกว่า

    “เก็บไปทำไมล่ะลูก เมื่อมันร่วงออกมาจากกล่องแล้วมันก็คือขยะ ใส่กลับเข้าไปไม่ได้อีก ลูกไปเอาไม้กวาดมากวาดมันทิ้งไปให้หมดเถิด
    ต่อไปกล่องแห่งความทุกข์ของลูกจะได้ว่างเปล่า ไม่มีความขุ่นข้องหมองใจเหลืออยู่อีก ในขณะที่กล่องแห่งความสุขของลูก
    จะเต็มไปด้วยความสุขตลอดเวลา”

    อันที่จริง เมื่อลูกบอกพ่อว่า ลูกทนคนที่กลั่นแกล้งทำร้ายลูกไม่ไหวนั้น พ่อก็ไม่เห็นว่าทำไมลูกจะต้องทนเขาด้วย
    เพราะเรื่องนี้ไม่มีอะไรต้องทนเลย เพียงแค่ลูกไม่เก็บเอาสิ่งแย่ ๆ ที่เขาทำกับลูกมาขังไว้กับตัวเอง ไม่ต้องไปทำความรู้จักมัน
    ความทุกข์นั้นก็ระรานหัวใจของลูกไม่ได้

    ดูในกล่องสีขาวสิลูก ความสุขความภูมิใจของลูกตั้งมากมายก็อัดแน่นอยู่ในนั้น ทำไมลูกถึงมองข้ามไป ละทิ้งความทุกข์ซึ่งไร้ประโยชน์
    กับชีวิตของลูก แล้วอยู่กับสิ่งที่ทำให้ลูกเป็นสุขไม่ดีกว่าหรือ”

    ลูกชายมองหน้าพ่ออย่างอัศจรรย์ใจ เขาเพิ่งเข้าใจความหมายของกล่องกระดาษสองใบนั้นอย่างแจ่มชัดในวันนี้เอง

    ความโกรธขึ้งที่มีต่อเพื่อนคนนั้นค่อย ๆ จางหาย หัวใจผ่อนคลายไม่บีบรัดเหมือนเมื่อครู่ ความเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นได้ก็เพราะ กล่องแห่งความทุกข์ของเขาว่างเปล่าแล้วนั่นเอง

    ………………………………………………………………………

    ช่างน่าฉงนจริง ๆ ที่คนเรามักจะจดจำเรื่องราวที่ทำให้ตนเองเจ็บปวดได้แม่นยำ และยาวนานกว่าความสุขอีกตั้งมากมายที่เราเคยรู้จัก

    สิ่งที่คนปลูกผักมอบให้เป็นของขวัญแก่ลูกชายไม่ใช่แค่กล่องกระดาษสีขาวหรือสีดำ แต่เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตให้มีความสุข
    ด้วยการละทิ้งความทุกข์ แล้วทำความรู้จักกับความสุขที่มีให้มากกว่าเดิม เพียงการให้ที่แสนจะธรรมดาครั้งเดียวนี้
    ก็ทำให้ลูกของเขารู้จักความสุขไปจนตลอดชีวิต

    เราอาจจะเลี่ยงคนสกปรกที่ชอบโยนขยะและความโสโครกใส่หน้าบ้านเราไม่ได้ แต่เราก็เลือกที่จะไม่ก้มลงเก็บมันเข้ามาไว้ในบ้าน
    และกวาดมันทิ้งไปอย่างไม่แยแสได้

    แน่นอนว่าการรับมือกับคนพวกนี้เป็นเรื่องน่าเบื่อหน่าย แต่ถ้าเราทำได้ต่อไปความสกปรกก็จะหายไปจากหน้าบ้านของเราเองโดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย
    .
    22/10/67 พ่อลูกคู่หนึ่งอาศัยอยู่ที่ชายป่า พ่อมีอาชีพปลูกผักและเก็บไปขายในเมือง ส่วนลูกชายอายุ 10 ขวบมีหน้าที่สำคัญคือ ไปโรงเรียนและตั้งใจศึกษาหาความรู้ ลูกชายของคนปลูกผักเป็นเด็กเรียนดีมีมารยาท เป็นที่รักใคร่ของครูบาอาจารย์ และผู้ใหญ่ที่พบเห็น แต่มาในระยะหลัง ผู้เป็นพ่อสังเกตเห็นว่า ลูกมักจะกลับมาบ้านด้วยใบหน้าที่่บึ้งตึง เหมือนมีเรื่องขุ่นมัวในใจ จึงเรียกเข้ามาคุยด้วยในเย็นวันหนึ่ง “ลูกรัก ระยะหลังมานี้พ่อรู้สึกว่าลูกไม่ค่อยมีความสุขนัก หน้าตาของลูกบึ้งตึงไม่ชวนมอง โดยเฉพาะเวลาที่กลับจากโรงเรียน มีอะไรเกิดขึ้นกับลูก บอกความจริงกับพ่อมาเถิด” ลูกชายไม่่คิดปิดบังพ่อของเขาอยู่แล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาเขาเห็นว่า พ่อเหนื่อยเพราะทำงานหนัก จึงไม่อยากรบกวนให้ต้องมากังวลด้วยเรื่องของตนอีก แต่เมื่อพ่อเอ่ยปากถามมาเช่นนี้ เขาก็จำเป็นต้องพูดความจริงออกไป ” ที่ห้องของผมมีนักเรียนย้ายมาใหม่ครับ เขาเป็นลูกคนมีเงิน แต่ชอบดูถูกคน และมักรังแกเพื่อนที่อ่อนแอกว่าเสมอ เมื่อเขาเห็นว่าผมสอบได้คะแนนดี และได้รับคำชมจากครูบ่อย ๆ เขาก็มักพูดจาถากถาง และคอยกลั่นแกล้งผมอยู่ตลอดเวลา” ลูกชายระบายให้พ่อของเขาฟังอย่างคับแค้นใจ ” แล้วลูกทำอย่างไรเมือโดนเขาแกล้ง” ผู้เป็นพ่อถามต่อ ” ผมพยายามไม่สนใจ แต่เขาก็ไม่ยอมลดละ ผมคิดว่าผมคงทนเขาไปได้อีกไม่นานหรอกครับพ่อ สักวันผมจะต่อยเขา เอาให้เลือดของเขาไหลออกมาล้างปากเสียๆ ของเขาบ้าง” พูดจบ ผู้เป็นลูกก็ตกใจวูบขึ้นมาทันที เพราะนึกได้ว่าตนเองเผลอใช้คำพูดที่รุนแรงออกไป เขาเหลือบมองหน้าพ่อ คิดว่าพ่อจะต้องโกรธมากแน่ๆ เพราะพ่อสอนเขาให้เป็นผู้ชายที่สุภาพบุรุษ ไม่ทำตัวเกกมะเหรกเกเร หาเรื่องชกต่อยกับใคร ทว่า……..พ่อของเขากลับไม่ได้พูดหรือแสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา! ลูกชายชั่งใจดูท่าทีของพ่ออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า ” ผมรู้ว่าพ่อไม่ชอบให้ผมก้าวร้าว แต่ผมทนไม่ไหวแล้วครับ ผมอยากให้พวกคนที่ทำกับผมรู้จักความเจ็บปวด และอับอายบ้าง มันจะได้รู้ว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไรเวลาที่ถูกกลั่นแกล้ง” ผู้เป็นพ่อมองหน้าลูกชายแล้วยิ้มน้อย ๆ เขาบอกแก่ลูกด้วยเรื่องที่ไม่เกี่ยวกันเลยว่า ” อีกสามวันจะเป็นวันเกิด ครบสิบเอ็ดขวบของลูก ตัวพ่อเองก็ยากจน ไม่เคยให้ของขวัญอะไรลูกเลย แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่พ่อจะให้ของขวัญแก่ลูก” ลูกชายรู้สึกงุนงงที่จู่ ๆ พ่อก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา อย่างไรก็ตามเขารู้สึกดีใจมาก และเฝ้านับวันรอให้วันเกิดในอีกสามวัน มาถึงเร็ว ๆ ครั้นเมื่อถึงวันเกิดของลูกชาย คนปลูกผักก็นำของขวัญมามอบให้แก่ลูกชายของเขาตามสัญญา เป็นกล่องกระดาษสีขาว และ สีดำ ขนาดใหญ่ อย่างละ 1 กล่อง ” พ่อครับ ทำไมต้องให้ของขวัญแก่ผมตั้งสองชิ้นล่ะครับ ถึงผมจะอยากได้ของขวัญจากพ่อ แต่แค่ชิ้นเดียวก็น่าจะพอแล้ว” ลูกชายกล่าวด้วยความเกรงใจ ด้วยรู้ว่าพ่อขายผักแต่ละครั้งได้เงินไม่มากนัก ” ลูกรัก พ่อตั้งใจมอบของขวัญให้ลูกเช่นนี้เอง เพราะมันจำเป็นแก่ตัวลูกทั้งสองกล่อง จงรับไปจาก พ่อเถิด” ลูกชายก้มลงกราบเท้าพ่อและกล่าวคำขอบคุณอย่างซาบซึ้งใจ จากนั้นเขาจึงลงมือแกะเชือกที่ผูกกล่องกระดาษสีขาวออก แต่ก็พบว่า ในกล่องสีขาวนั้นไม่มีอะไรอยู่เลย เขาหันไปมองหน้าพ่อเป็นเชิงคำถาม ” เปิดกล่องสีดำด้วยสิลูกรัก” พ่อของเขากล่าวแทนคำตอบ ลูกชายรีบแกะเชือกที่ผูกกล่องสีดำออก แต่ในกล่องสีดำก็ไม่มีอะไรเลยเช่นเดียวกับกล่องสีขาว นอกจากรูขนาดใหญ่ที่ถูกเจาะเอาไว้ตรงก้นกล่องเท่านั้น ” พ่อครับ ไม่มีอะไรอยู่เลยนี่ครับ !!!! ” ลูกชายบอกกับพ่อของเขา “พ่อลืมใส่ของลงไปหรือเปล่าครับ หรือเพราะว่ากล่องกระดาษสีดำก้นรั่ว ของที่พ่อใส่ไว้ก็เลยหล่นหายไปโดยที่พ่อไม่รู้ครับ” ผู้เป็นพ่อยิ้มอย่างใจดี ก่อนจะเดินไปนั่งข้าง ๆ ลูกชายพร้อมกับบอกว่า ” พ่อคงให้ของขวัญแก่ลูกได้แค่กล่องกระดาษสองใบนี้ แต่ของที่อยู่ข้างใน ! ลูกจะต้องเป็นผู้ใส่มันลงไปเอง กล่องกระดาษสีขาวเป็นกล่องแห่งความสุข ต่อไปนี้เมื่อไรก็ตามที่ลูกได้พบกับสิ่งดี ๆว หรือเรื่องที่ทำให้ลูกมีความสุข ขอให้ลูกเขียนมันลงไปในเศษกระดาษและนำมาใส่ไว้ในกล่องสีขาว ส่วนกล่องสีดำคือกล่องแห่งความทุกข์ ไม่ว่าอะไรที่ทำให้จิตใจของลูกเป็นทุกข์ มัวหมอง ให้ลูกเขียนและนำมาใส่ไว้ในกล่องสีดำ แล้ววันหนึ่ง เราจะมาเปิดกล่องทั้งสองใบนี้ดูด้วยกัน” แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อจะต้องให้ทำเช่นนี้ แต่ลูกชายก็ยอมทำตามคำขอของพ่อแต่โดยดี ทุก ๆ วันเขาจะนำเศษกระดาษมากมายที่เขียนเรื่องราวดี ๆ ในชีวิตหย่อนลงไปในกล่องสีขาว และเอาเศษกระดาษอีกมากมายที่เขียนเรื่องราวไม่ดีหย่อนลงไปกล่องสีดำ โดยผู้เป็นพ่อคอยเฝ้ามองการกระทำนี้อยู่เงียบ ๆ สามเดือนผ่านไป เย็นวันหนึ่งลูกชายกลับมาจากโรงเรียนด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านยิ่งกว่าวันไหน ๆ เขาโยนกระเป๋านักเรียนลงบนเก้าอี้ด้วยความกราดเกรี้ยว และทำท่าจะผลุนผลันออกจากบ้านไปอีกครั้ง แต่คนปลูกผักสังเกตเห็นก่อน เขาปราดเข้าไป ฉุดตัวลูกชายไว้และสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ” ผมทนไม่ไหวแล้วครับพ่อ พวกคนเลวคนนั้นมันดูถูกพวกเรา มันว่าพ่อเป็นแค่คนปลูกผักยากจน มันว่าเราสองคนเป็นคนชั้นต่ำไม่มีเกียรติ แล้วมันยังขโมยหนังสือเรียนของผมไปทิ้งในถังขยะด้วย ผมจะไปจัดการมัน จะทำให้มันเจ็บและจำไปจนตายเลยที่มันบังอาจมาดูถูกพ่อ” คนปลูกผักไม่ได้โกรธตามลูกชาย เขาเพียงแต่ถามลูกว่า “วันนี้ลูกเขียนเรื่องสุข และทุกข์ใส่ในกล่องสีขาวและกล่องสีดำหรือยัง” ลูกชายประกาศเสียงกร้าวทันทีว่า ” ผมจะไปจัดการพวกคนนั้นก่อน ให้มันรู้ว่าเราจะไม่ยอมให้มันมาดูถูกเราได้อีก” ” ลูกต้องไปเขียนก่อน” พ่อบอกเสียงเรียบ “เพราะวันนี้เราจะเปิดกล่องนั้นออกดูด้วยกัน” ลูกชายมองหน้าพ่ออย่างฉงน ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อจะต้องให้เปิดกล่องพวกนั้นในเวลานี้ด้วย แต่เขาไม่ใช่เด็กดื้อ จึงยอมข่มอารมณ์โกรธลงชั่วคราวแล้วทำตามที่พ่อบอก หลังจากหย่อนกระดาษความสุขความทุกข์ลงในกล่องกระดาษสีขาวสีดำเรียบร้อยแล้ว ผู้เป็นพ่อจึงบอกให้ลูกชายยกกล่องกระดาษสีขาวมาวางไว้บนโต๊ะหน้าบ้าน ” โอ้โห แค่สาม! เดือนที่ผมใส่เศษกระดาษลงไป ผมไม่คิดเลยว่าจะทำให้กล่องสีขาวหนักได้ขนาดนี้” ลูกชายอุทานอย่างคาดไม่ถึง ผู้เป็นพ่อยิ้ม และบอกว่า ” ทีนี้ลูกไปยกกล่องสีดำมาวางตรงนี้ด้วยสิ” ” กล่องสีดำน่าจะหนักกว่านี้อีกนะครับ เพราะว่าผมใส่เรื่องไม่ดีของคนที่ชอบแกล้งผมเอาไว้มากทีเดียว” แต่ทันทีที่ลูกชายยกกล่องกระดาษสีดำขึ้นจากที่ตั้งเดิมของมัน เศษกระดาษมากมายที่เคยอัดแน่นอยู่ภายในก็ร่วงพรูออกมาจากก้นกล่อง บัดนี้ กล่องกระดาษสีดำก็เบาหวิวไร้น้ำหนัก เพราะไม่มีอะไรคงเหลืออยู่ในนั้นแล้ว ลูกชายหันไปมองหน้าพ่อ ” ผมลืมไปเสียสนิทเลยครับว่ากล่องใบนี้มีรูอยู่ด้วย เดี๋ยวผมจะเก็บเศษกระดาษพวกนี้ไปใส่กล่องใบใหม่นะครับ” แต่ผู้เป็นพ่อบอกว่า “เก็บไปทำไมล่ะลูก เมื่อมันร่วงออกมาจากกล่องแล้วมันก็คือขยะ ใส่กลับเข้าไปไม่ได้อีก ลูกไปเอาไม้กวาดมากวาดมันทิ้งไปให้หมดเถิด ต่อไปกล่องแห่งความทุกข์ของลูกจะได้ว่างเปล่า ไม่มีความขุ่นข้องหมองใจเหลืออยู่อีก ในขณะที่กล่องแห่งความสุขของลูก จะเต็มไปด้วยความสุขตลอดเวลา” อันที่จริง เมื่อลูกบอกพ่อว่า ลูกทนคนที่กลั่นแกล้งทำร้ายลูกไม่ไหวนั้น พ่อก็ไม่เห็นว่าทำไมลูกจะต้องทนเขาด้วย เพราะเรื่องนี้ไม่มีอะไรต้องทนเลย เพียงแค่ลูกไม่เก็บเอาสิ่งแย่ ๆ ที่เขาทำกับลูกมาขังไว้กับตัวเอง ไม่ต้องไปทำความรู้จักมัน ความทุกข์นั้นก็ระรานหัวใจของลูกไม่ได้ ดูในกล่องสีขาวสิลูก ความสุขความภูมิใจของลูกตั้งมากมายก็อัดแน่นอยู่ในนั้น ทำไมลูกถึงมองข้ามไป ละทิ้งความทุกข์ซึ่งไร้ประโยชน์ กับชีวิตของลูก แล้วอยู่กับสิ่งที่ทำให้ลูกเป็นสุขไม่ดีกว่าหรือ” ลูกชายมองหน้าพ่ออย่างอัศจรรย์ใจ เขาเพิ่งเข้าใจความหมายของกล่องกระดาษสองใบนั้นอย่างแจ่มชัดในวันนี้เอง ความโกรธขึ้งที่มีต่อเพื่อนคนนั้นค่อย ๆ จางหาย หัวใจผ่อนคลายไม่บีบรัดเหมือนเมื่อครู่ ความเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นได้ก็เพราะ กล่องแห่งความทุกข์ของเขาว่างเปล่าแล้วนั่นเอง ……………………………………………………………………… ช่างน่าฉงนจริง ๆ ที่คนเรามักจะจดจำเรื่องราวที่ทำให้ตนเองเจ็บปวดได้แม่นยำ และยาวนานกว่าความสุขอีกตั้งมากมายที่เราเคยรู้จัก สิ่งที่คนปลูกผักมอบให้เป็นของขวัญแก่ลูกชายไม่ใช่แค่กล่องกระดาษสีขาวหรือสีดำ แต่เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตให้มีความสุข ด้วยการละทิ้งความทุกข์ แล้วทำความรู้จักกับความสุขที่มีให้มากกว่าเดิม เพียงการให้ที่แสนจะธรรมดาครั้งเดียวนี้ ก็ทำให้ลูกของเขารู้จักความสุขไปจนตลอดชีวิต เราอาจจะเลี่ยงคนสกปรกที่ชอบโยนขยะและความโสโครกใส่หน้าบ้านเราไม่ได้ แต่เราก็เลือกที่จะไม่ก้มลงเก็บมันเข้ามาไว้ในบ้าน และกวาดมันทิ้งไปอย่างไม่แยแสได้ แน่นอนว่าการรับมือกับคนพวกนี้เป็นเรื่องน่าเบื่อหน่าย แต่ถ้าเราทำได้ต่อไปความสกปรกก็จะหายไปจากหน้าบ้านของเราเองโดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • 22/10/67

    พ่อลูกคู่หนึ่งอาศัยอยู่ที่ชายป่า พ่อมีอาชีพปลูกผักและเก็บไปขายในเมือง
    ส่วนลูกชายอายุ 10 ขวบมีหน้าที่สำคัญคือ ไปโรงเรียนและตั้งใจศึกษาหาความรู้

    ลูกชายของคนปลูกผักเป็นเด็กเรียนดีมีมารยาท เป็นที่รักใคร่ของครูบาอาจารย์ และผู้ใหญ่ที่พบเห็น
    แต่มาในระยะหลัง ผู้เป็นพ่อสังเกตเห็นว่า ลูกมักจะกลับมาบ้านด้วยใบหน้าที่่บึ้งตึง
    เหมือนมีเรื่องขุ่นมัวในใจ จึงเรียกเข้ามาคุยด้วยในเย็นวันหนึ่ง

    “ลูกรัก ระยะหลังมานี้พ่อรู้สึกว่าลูกไม่ค่อยมีความสุขนัก หน้าตาของลูกบึ้งตึงไม่ชวนมอง
    โดยเฉพาะเวลาที่กลับจากโรงเรียน มีอะไรเกิดขึ้นกับลูก บอกความจริงกับพ่อมาเถิด”

    ลูกชายไม่่คิดปิดบังพ่อของเขาอยู่แล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาเขาเห็นว่า พ่อเหนื่อยเพราะทำงานหนัก
    จึงไม่อยากรบกวนให้ต้องมากังวลด้วยเรื่องของตนอีก แต่เมื่อพ่อเอ่ยปากถามมาเช่นนี้ เขาก็จำเป็นต้องพูดความจริงออกไป

    ” ที่ห้องของผมมีนักเรียนย้ายมาใหม่ครับ เขาเป็นลูกคนมีเงิน แต่ชอบดูถูกคน
    และมักรังแกเพื่อนที่อ่อนแอกว่าเสมอ เมื่อเขาเห็นว่าผมสอบได้คะแนนดี และได้รับคำชมจากครูบ่อย ๆ
    เขาก็มักพูดจาถากถาง และคอยกลั่นแกล้งผมอยู่ตลอดเวลา”

    ลูกชายระบายให้พ่อของเขาฟังอย่างคับแค้นใจ

    ” แล้วลูกทำอย่างไรเมือโดนเขาแกล้ง” ผู้เป็นพ่อถามต่อ

    ” ผมพยายามไม่สนใจ แต่เขาก็ไม่ยอมลดละ ผมคิดว่าผมคงทนเขาไปได้อีกไม่นานหรอกครับพ่อ
    สักวันผมจะต่อยเขา เอาให้เลือดของเขาไหลออกมาล้างปากเสียๆ ของเขาบ้าง”

    พูดจบ ผู้เป็นลูกก็ตกใจวูบขึ้นมาทันที เพราะนึกได้ว่าตนเองเผลอใช้คำพูดที่รุนแรงออกไป
    เขาเหลือบมองหน้าพ่อ คิดว่าพ่อจะต้องโกรธมากแน่ๆ เพราะพ่อสอนเขาให้เป็นผู้ชายที่สุภาพบุรุษ ไม่ทำตัวเกกมะเหรกเกเร
    หาเรื่องชกต่อยกับใคร ทว่า……..พ่อของเขากลับไม่ได้พูดหรือแสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา!
    ลูกชายชั่งใจดูท่าทีของพ่ออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า

    ” ผมรู้ว่าพ่อไม่ชอบให้ผมก้าวร้าว แต่ผมทนไม่ไหวแล้วครับ ผมอยากให้พวกคนที่ทำกับผมรู้จักความเจ็บปวด
    และอับอายบ้าง มันจะได้รู้ว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไรเวลาที่ถูกกลั่นแกล้ง”

    ผู้เป็นพ่อมองหน้าลูกชายแล้วยิ้มน้อย ๆ เขาบอกแก่ลูกด้วยเรื่องที่ไม่เกี่ยวกันเลยว่า

    ” อีกสามวันจะเป็นวันเกิด ครบสิบเอ็ดขวบของลูก ตัวพ่อเองก็ยากจน ไม่เคยให้ของขวัญอะไรลูกเลย
    แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่พ่อจะให้ของขวัญแก่ลูก”

    ลูกชายรู้สึกงุนงงที่จู่ ๆ พ่อก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา อย่างไรก็ตามเขารู้สึกดีใจมาก และเฝ้านับวันรอให้วันเกิดในอีกสามวัน
    มาถึงเร็ว ๆ ครั้นเมื่อถึงวันเกิดของลูกชาย คนปลูกผักก็นำของขวัญมามอบให้แก่ลูกชายของเขาตามสัญญา
    เป็นกล่องกระดาษสีขาว และ สีดำ ขนาดใหญ่ อย่างละ 1 กล่อง

    ” พ่อครับ ทำไมต้องให้ของขวัญแก่ผมตั้งสองชิ้นล่ะครับ ถึงผมจะอยากได้ของขวัญจากพ่อ แต่แค่ชิ้นเดียวก็น่าจะพอแล้ว”
    ลูกชายกล่าวด้วยความเกรงใจ ด้วยรู้ว่าพ่อขายผักแต่ละครั้งได้เงินไม่มากนัก

    ” ลูกรัก พ่อตั้งใจมอบของขวัญให้ลูกเช่นนี้เอง เพราะมันจำเป็นแก่ตัวลูกทั้งสองกล่อง จงรับไปจาก พ่อเถิด”

    ลูกชายก้มลงกราบเท้าพ่อและกล่าวคำขอบคุณอย่างซาบซึ้งใจ จากนั้นเขาจึงลงมือแกะเชือกที่ผูกกล่องกระดาษสีขาวออก
    แต่ก็พบว่า ในกล่องสีขาวนั้นไม่มีอะไรอยู่เลย เขาหันไปมองหน้าพ่อเป็นเชิงคำถาม

    ” เปิดกล่องสีดำด้วยสิลูกรัก” พ่อของเขากล่าวแทนคำตอบ

    ลูกชายรีบแกะเชือกที่ผูกกล่องสีดำออก แต่ในกล่องสีดำก็ไม่มีอะไรเลยเช่นเดียวกับกล่องสีขาว

    นอกจากรูขนาดใหญ่ที่ถูกเจาะเอาไว้ตรงก้นกล่องเท่านั้น

    ” พ่อครับ ไม่มีอะไรอยู่เลยนี่ครับ !!!! ” ลูกชายบอกกับพ่อของเขา

    “พ่อลืมใส่ของลงไปหรือเปล่าครับ หรือเพราะว่ากล่องกระดาษสีดำก้นรั่ว ของที่พ่อใส่ไว้ก็เลยหล่นหายไปโดยที่พ่อไม่รู้ครับ”

    ผู้เป็นพ่อยิ้มอย่างใจดี ก่อนจะเดินไปนั่งข้าง ๆ ลูกชายพร้อมกับบอกว่า

    ” พ่อคงให้ของขวัญแก่ลูกได้แค่กล่องกระดาษสองใบนี้ แต่ของที่อยู่ข้างใน ! ลูกจะต้องเป็นผู้ใส่มันลงไปเอง
    กล่องกระดาษสีขาวเป็นกล่องแห่งความสุข ต่อไปนี้เมื่อไรก็ตามที่ลูกได้พบกับสิ่งดี ๆว หรือเรื่องที่ทำให้ลูกมีความสุข
    ขอให้ลูกเขียนมันลงไปในเศษกระดาษและนำมาใส่ไว้ในกล่องสีขาว

    ส่วนกล่องสีดำคือกล่องแห่งความทุกข์
    ไม่ว่าอะไรที่ทำให้จิตใจของลูกเป็นทุกข์ มัวหมอง ให้ลูกเขียนและนำมาใส่ไว้ในกล่องสีดำ
    แล้ววันหนึ่ง เราจะมาเปิดกล่องทั้งสองใบนี้ดูด้วยกัน”

    แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อจะต้องให้ทำเช่นนี้ แต่ลูกชายก็ยอมทำตามคำขอของพ่อแต่โดยดี
    ทุก ๆ วันเขาจะนำเศษกระดาษมากมายที่เขียนเรื่องราวดี ๆ ในชีวิตหย่อนลงไปในกล่องสีขาว
    และเอาเศษกระดาษอีกมากมายที่เขียนเรื่องราวไม่ดีหย่อนลงไปกล่องสีดำ โดยผู้เป็นพ่อคอยเฝ้ามองการกระทำนี้อยู่เงียบ ๆ

    สามเดือนผ่านไป เย็นวันหนึ่งลูกชายกลับมาจากโรงเรียนด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านยิ่งกว่าวันไหน ๆ
    เขาโยนกระเป๋านักเรียนลงบนเก้าอี้ด้วยความกราดเกรี้ยว และทำท่าจะผลุนผลันออกจากบ้านไปอีกครั้ง
    แต่คนปลูกผักสังเกตเห็นก่อน เขาปราดเข้าไป ฉุดตัวลูกชายไว้และสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น

    ” ผมทนไม่ไหวแล้วครับพ่อ พวกคนเลวคนนั้นมันดูถูกพวกเรา มันว่าพ่อเป็นแค่คนปลูกผักยากจน มันว่าเราสองคนเป็นคนชั้นต่ำไม่มีเกียรติ
    แล้วมันยังขโมยหนังสือเรียนของผมไปทิ้งในถังขยะด้วย ผมจะไปจัดการมัน จะทำให้มันเจ็บและจำไปจนตายเลยที่มันบังอาจมาดูถูกพ่อ”

    คนปลูกผักไม่ได้โกรธตามลูกชาย เขาเพียงแต่ถามลูกว่า “วันนี้ลูกเขียนเรื่องสุข และทุกข์ใส่ในกล่องสีขาวและกล่องสีดำหรือยัง”

    ลูกชายประกาศเสียงกร้าวทันทีว่า ” ผมจะไปจัดการพวกคนนั้นก่อน ให้มันรู้ว่าเราจะไม่ยอมให้มันมาดูถูกเราได้อีก”

    ” ลูกต้องไปเขียนก่อน” พ่อบอกเสียงเรียบ “เพราะวันนี้เราจะเปิดกล่องนั้นออกดูด้วยกัน”

    ลูกชายมองหน้าพ่ออย่างฉงน ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อจะต้องให้เปิดกล่องพวกนั้นในเวลานี้ด้วย
    แต่เขาไม่ใช่เด็กดื้อ จึงยอมข่มอารมณ์โกรธลงชั่วคราวแล้วทำตามที่พ่อบอก

    หลังจากหย่อนกระดาษความสุขความทุกข์ลงในกล่องกระดาษสีขาวสีดำเรียบร้อยแล้ว
    ผู้เป็นพ่อจึงบอกให้ลูกชายยกกล่องกระดาษสีขาวมาวางไว้บนโต๊ะหน้าบ้าน

    ” โอ้โห แค่สาม! เดือนที่ผมใส่เศษกระดาษลงไป ผมไม่คิดเลยว่าจะทำให้กล่องสีขาวหนักได้ขนาดนี้”
    ลูกชายอุทานอย่างคาดไม่ถึง ผู้เป็นพ่อยิ้ม และบอกว่า ” ทีนี้ลูกไปยกกล่องสีดำมาวางตรงนี้ด้วยสิ”

    ” กล่องสีดำน่าจะหนักกว่านี้อีกนะครับ เพราะว่าผมใส่เรื่องไม่ดีของคนที่ชอบแกล้งผมเอาไว้มากทีเดียว”

    แต่ทันทีที่ลูกชายยกกล่องกระดาษสีดำขึ้นจากที่ตั้งเดิมของมัน เศษกระดาษมากมายที่เคยอัดแน่นอยู่ภายในก็ร่วงพรูออกมาจากก้นกล่อง บัดนี้ กล่องกระดาษสีดำก็เบาหวิวไร้น้ำหนัก เพราะไม่มีอะไรคงเหลืออยู่ในนั้นแล้ว ลูกชายหันไปมองหน้าพ่อ

    ” ผมลืมไปเสียสนิทเลยครับว่ากล่องใบนี้มีรูอยู่ด้วย เดี๋ยวผมจะเก็บเศษกระดาษพวกนี้ไปใส่กล่องใบใหม่นะครับ”

    แต่ผู้เป็นพ่อบอกว่า

    “เก็บไปทำไมล่ะลูก เมื่อมันร่วงออกมาจากกล่องแล้วมันก็คือขยะ ใส่กลับเข้าไปไม่ได้อีก ลูกไปเอาไม้กวาดมากวาดมันทิ้งไปให้หมดเถิด
    ต่อไปกล่องแห่งความทุกข์ของลูกจะได้ว่างเปล่า ไม่มีความขุ่นข้องหมองใจเหลืออยู่อีก ในขณะที่กล่องแห่งความสุขของลูก
    จะเต็มไปด้วยความสุขตลอดเวลา”

    อันที่จริง เมื่อลูกบอกพ่อว่า ลูกทนคนที่กลั่นแกล้งทำร้ายลูกไม่ไหวนั้น พ่อก็ไม่เห็นว่าทำไมลูกจะต้องทนเขาด้วย
    เพราะเรื่องนี้ไม่มีอะไรต้องทนเลย เพียงแค่ลูกไม่เก็บเอาสิ่งแย่ ๆ ที่เขาทำกับลูกมาขังไว้กับตัวเอง ไม่ต้องไปทำความรู้จักมัน
    ความทุกข์นั้นก็ระรานหัวใจของลูกไม่ได้

    ดูในกล่องสีขาวสิลูก ความสุขความภูมิใจของลูกตั้งมากมายก็อัดแน่นอยู่ในนั้น ทำไมลูกถึงมองข้ามไป ละทิ้งความทุกข์ซึ่งไร้ประโยชน์
    กับชีวิตของลูก แล้วอยู่กับสิ่งที่ทำให้ลูกเป็นสุขไม่ดีกว่าหรือ”

    ลูกชายมองหน้าพ่ออย่างอัศจรรย์ใจ เขาเพิ่งเข้าใจความหมายของกล่องกระดาษสองใบนั้นอย่างแจ่มชัดในวันนี้เอง

    ความโกรธขึ้งที่มีต่อเพื่อนคนนั้นค่อย ๆ จางหาย หัวใจผ่อนคลายไม่บีบรัดเหมือนเมื่อครู่ ความเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นได้ก็เพราะ กล่องแห่งความทุกข์ของเขาว่างเปล่าแล้วนั่นเอง

    ………………………………………………………………………

    ช่างน่าฉงนจริง ๆ ที่คนเรามักจะจดจำเรื่องราวที่ทำให้ตนเองเจ็บปวดได้แม่นยำ และยาวนานกว่าความสุขอีกตั้งมากมายที่เราเคยรู้จัก

    สิ่งที่คนปลูกผักมอบให้เป็นของขวัญแก่ลูกชายไม่ใช่แค่กล่องกระดาษสีขาวหรือสีดำ แต่เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตให้มีความสุข
    ด้วยการละทิ้งความทุกข์ แล้วทำความรู้จักกับความสุขที่มีให้มากกว่าเดิม เพียงการให้ที่แสนจะธรรมดาครั้งเดียวนี้
    ก็ทำให้ลูกของเขารู้จักความสุขไปจนตลอดชีวิต

    เราอาจจะเลี่ยงคนสกปรกที่ชอบโยนขยะและความโสโครกใส่หน้าบ้านเราไม่ได้ แต่เราก็เลือกที่จะไม่ก้มลงเก็บมันเข้ามาไว้ในบ้าน
    และกวาดมันทิ้งไปอย่างไม่แยแสได้

    แน่นอนว่าการรับมือกับคนพวกนี้เป็นเรื่องน่าเบื่อหน่าย แต่ถ้าเราทำได้ต่อไปความสกปรกก็จะหายไปจากหน้าบ้านของเราเองโดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย


    .
    22/10/67 พ่อลูกคู่หนึ่งอาศัยอยู่ที่ชายป่า พ่อมีอาชีพปลูกผักและเก็บไปขายในเมือง ส่วนลูกชายอายุ 10 ขวบมีหน้าที่สำคัญคือ ไปโรงเรียนและตั้งใจศึกษาหาความรู้ ลูกชายของคนปลูกผักเป็นเด็กเรียนดีมีมารยาท เป็นที่รักใคร่ของครูบาอาจารย์ และผู้ใหญ่ที่พบเห็น แต่มาในระยะหลัง ผู้เป็นพ่อสังเกตเห็นว่า ลูกมักจะกลับมาบ้านด้วยใบหน้าที่่บึ้งตึง เหมือนมีเรื่องขุ่นมัวในใจ จึงเรียกเข้ามาคุยด้วยในเย็นวันหนึ่ง “ลูกรัก ระยะหลังมานี้พ่อรู้สึกว่าลูกไม่ค่อยมีความสุขนัก หน้าตาของลูกบึ้งตึงไม่ชวนมอง โดยเฉพาะเวลาที่กลับจากโรงเรียน มีอะไรเกิดขึ้นกับลูก บอกความจริงกับพ่อมาเถิด” ลูกชายไม่่คิดปิดบังพ่อของเขาอยู่แล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาเขาเห็นว่า พ่อเหนื่อยเพราะทำงานหนัก จึงไม่อยากรบกวนให้ต้องมากังวลด้วยเรื่องของตนอีก แต่เมื่อพ่อเอ่ยปากถามมาเช่นนี้ เขาก็จำเป็นต้องพูดความจริงออกไป ” ที่ห้องของผมมีนักเรียนย้ายมาใหม่ครับ เขาเป็นลูกคนมีเงิน แต่ชอบดูถูกคน และมักรังแกเพื่อนที่อ่อนแอกว่าเสมอ เมื่อเขาเห็นว่าผมสอบได้คะแนนดี และได้รับคำชมจากครูบ่อย ๆ เขาก็มักพูดจาถากถาง และคอยกลั่นแกล้งผมอยู่ตลอดเวลา” ลูกชายระบายให้พ่อของเขาฟังอย่างคับแค้นใจ ” แล้วลูกทำอย่างไรเมือโดนเขาแกล้ง” ผู้เป็นพ่อถามต่อ ” ผมพยายามไม่สนใจ แต่เขาก็ไม่ยอมลดละ ผมคิดว่าผมคงทนเขาไปได้อีกไม่นานหรอกครับพ่อ สักวันผมจะต่อยเขา เอาให้เลือดของเขาไหลออกมาล้างปากเสียๆ ของเขาบ้าง” พูดจบ ผู้เป็นลูกก็ตกใจวูบขึ้นมาทันที เพราะนึกได้ว่าตนเองเผลอใช้คำพูดที่รุนแรงออกไป เขาเหลือบมองหน้าพ่อ คิดว่าพ่อจะต้องโกรธมากแน่ๆ เพราะพ่อสอนเขาให้เป็นผู้ชายที่สุภาพบุรุษ ไม่ทำตัวเกกมะเหรกเกเร หาเรื่องชกต่อยกับใคร ทว่า……..พ่อของเขากลับไม่ได้พูดหรือแสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา! ลูกชายชั่งใจดูท่าทีของพ่ออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า ” ผมรู้ว่าพ่อไม่ชอบให้ผมก้าวร้าว แต่ผมทนไม่ไหวแล้วครับ ผมอยากให้พวกคนที่ทำกับผมรู้จักความเจ็บปวด และอับอายบ้าง มันจะได้รู้ว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไรเวลาที่ถูกกลั่นแกล้ง” ผู้เป็นพ่อมองหน้าลูกชายแล้วยิ้มน้อย ๆ เขาบอกแก่ลูกด้วยเรื่องที่ไม่เกี่ยวกันเลยว่า ” อีกสามวันจะเป็นวันเกิด ครบสิบเอ็ดขวบของลูก ตัวพ่อเองก็ยากจน ไม่เคยให้ของขวัญอะไรลูกเลย แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่พ่อจะให้ของขวัญแก่ลูก” ลูกชายรู้สึกงุนงงที่จู่ ๆ พ่อก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา อย่างไรก็ตามเขารู้สึกดีใจมาก และเฝ้านับวันรอให้วันเกิดในอีกสามวัน มาถึงเร็ว ๆ ครั้นเมื่อถึงวันเกิดของลูกชาย คนปลูกผักก็นำของขวัญมามอบให้แก่ลูกชายของเขาตามสัญญา เป็นกล่องกระดาษสีขาว และ สีดำ ขนาดใหญ่ อย่างละ 1 กล่อง ” พ่อครับ ทำไมต้องให้ของขวัญแก่ผมตั้งสองชิ้นล่ะครับ ถึงผมจะอยากได้ของขวัญจากพ่อ แต่แค่ชิ้นเดียวก็น่าจะพอแล้ว” ลูกชายกล่าวด้วยความเกรงใจ ด้วยรู้ว่าพ่อขายผักแต่ละครั้งได้เงินไม่มากนัก ” ลูกรัก พ่อตั้งใจมอบของขวัญให้ลูกเช่นนี้เอง เพราะมันจำเป็นแก่ตัวลูกทั้งสองกล่อง จงรับไปจาก พ่อเถิด” ลูกชายก้มลงกราบเท้าพ่อและกล่าวคำขอบคุณอย่างซาบซึ้งใจ จากนั้นเขาจึงลงมือแกะเชือกที่ผูกกล่องกระดาษสีขาวออก แต่ก็พบว่า ในกล่องสีขาวนั้นไม่มีอะไรอยู่เลย เขาหันไปมองหน้าพ่อเป็นเชิงคำถาม ” เปิดกล่องสีดำด้วยสิลูกรัก” พ่อของเขากล่าวแทนคำตอบ ลูกชายรีบแกะเชือกที่ผูกกล่องสีดำออก แต่ในกล่องสีดำก็ไม่มีอะไรเลยเช่นเดียวกับกล่องสีขาว นอกจากรูขนาดใหญ่ที่ถูกเจาะเอาไว้ตรงก้นกล่องเท่านั้น ” พ่อครับ ไม่มีอะไรอยู่เลยนี่ครับ !!!! ” ลูกชายบอกกับพ่อของเขา “พ่อลืมใส่ของลงไปหรือเปล่าครับ หรือเพราะว่ากล่องกระดาษสีดำก้นรั่ว ของที่พ่อใส่ไว้ก็เลยหล่นหายไปโดยที่พ่อไม่รู้ครับ” ผู้เป็นพ่อยิ้มอย่างใจดี ก่อนจะเดินไปนั่งข้าง ๆ ลูกชายพร้อมกับบอกว่า ” พ่อคงให้ของขวัญแก่ลูกได้แค่กล่องกระดาษสองใบนี้ แต่ของที่อยู่ข้างใน ! ลูกจะต้องเป็นผู้ใส่มันลงไปเอง กล่องกระดาษสีขาวเป็นกล่องแห่งความสุข ต่อไปนี้เมื่อไรก็ตามที่ลูกได้พบกับสิ่งดี ๆว หรือเรื่องที่ทำให้ลูกมีความสุข ขอให้ลูกเขียนมันลงไปในเศษกระดาษและนำมาใส่ไว้ในกล่องสีขาว ส่วนกล่องสีดำคือกล่องแห่งความทุกข์ ไม่ว่าอะไรที่ทำให้จิตใจของลูกเป็นทุกข์ มัวหมอง ให้ลูกเขียนและนำมาใส่ไว้ในกล่องสีดำ แล้ววันหนึ่ง เราจะมาเปิดกล่องทั้งสองใบนี้ดูด้วยกัน” แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อจะต้องให้ทำเช่นนี้ แต่ลูกชายก็ยอมทำตามคำขอของพ่อแต่โดยดี ทุก ๆ วันเขาจะนำเศษกระดาษมากมายที่เขียนเรื่องราวดี ๆ ในชีวิตหย่อนลงไปในกล่องสีขาว และเอาเศษกระดาษอีกมากมายที่เขียนเรื่องราวไม่ดีหย่อนลงไปกล่องสีดำ โดยผู้เป็นพ่อคอยเฝ้ามองการกระทำนี้อยู่เงียบ ๆ สามเดือนผ่านไป เย็นวันหนึ่งลูกชายกลับมาจากโรงเรียนด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านยิ่งกว่าวันไหน ๆ เขาโยนกระเป๋านักเรียนลงบนเก้าอี้ด้วยความกราดเกรี้ยว และทำท่าจะผลุนผลันออกจากบ้านไปอีกครั้ง แต่คนปลูกผักสังเกตเห็นก่อน เขาปราดเข้าไป ฉุดตัวลูกชายไว้และสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ” ผมทนไม่ไหวแล้วครับพ่อ พวกคนเลวคนนั้นมันดูถูกพวกเรา มันว่าพ่อเป็นแค่คนปลูกผักยากจน มันว่าเราสองคนเป็นคนชั้นต่ำไม่มีเกียรติ แล้วมันยังขโมยหนังสือเรียนของผมไปทิ้งในถังขยะด้วย ผมจะไปจัดการมัน จะทำให้มันเจ็บและจำไปจนตายเลยที่มันบังอาจมาดูถูกพ่อ” คนปลูกผักไม่ได้โกรธตามลูกชาย เขาเพียงแต่ถามลูกว่า “วันนี้ลูกเขียนเรื่องสุข และทุกข์ใส่ในกล่องสีขาวและกล่องสีดำหรือยัง” ลูกชายประกาศเสียงกร้าวทันทีว่า ” ผมจะไปจัดการพวกคนนั้นก่อน ให้มันรู้ว่าเราจะไม่ยอมให้มันมาดูถูกเราได้อีก” ” ลูกต้องไปเขียนก่อน” พ่อบอกเสียงเรียบ “เพราะวันนี้เราจะเปิดกล่องนั้นออกดูด้วยกัน” ลูกชายมองหน้าพ่ออย่างฉงน ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อจะต้องให้เปิดกล่องพวกนั้นในเวลานี้ด้วย แต่เขาไม่ใช่เด็กดื้อ จึงยอมข่มอารมณ์โกรธลงชั่วคราวแล้วทำตามที่พ่อบอก หลังจากหย่อนกระดาษความสุขความทุกข์ลงในกล่องกระดาษสีขาวสีดำเรียบร้อยแล้ว ผู้เป็นพ่อจึงบอกให้ลูกชายยกกล่องกระดาษสีขาวมาวางไว้บนโต๊ะหน้าบ้าน ” โอ้โห แค่สาม! เดือนที่ผมใส่เศษกระดาษลงไป ผมไม่คิดเลยว่าจะทำให้กล่องสีขาวหนักได้ขนาดนี้” ลูกชายอุทานอย่างคาดไม่ถึง ผู้เป็นพ่อยิ้ม และบอกว่า ” ทีนี้ลูกไปยกกล่องสีดำมาวางตรงนี้ด้วยสิ” ” กล่องสีดำน่าจะหนักกว่านี้อีกนะครับ เพราะว่าผมใส่เรื่องไม่ดีของคนที่ชอบแกล้งผมเอาไว้มากทีเดียว” แต่ทันทีที่ลูกชายยกกล่องกระดาษสีดำขึ้นจากที่ตั้งเดิมของมัน เศษกระดาษมากมายที่เคยอัดแน่นอยู่ภายในก็ร่วงพรูออกมาจากก้นกล่อง บัดนี้ กล่องกระดาษสีดำก็เบาหวิวไร้น้ำหนัก เพราะไม่มีอะไรคงเหลืออยู่ในนั้นแล้ว ลูกชายหันไปมองหน้าพ่อ ” ผมลืมไปเสียสนิทเลยครับว่ากล่องใบนี้มีรูอยู่ด้วย เดี๋ยวผมจะเก็บเศษกระดาษพวกนี้ไปใส่กล่องใบใหม่นะครับ” แต่ผู้เป็นพ่อบอกว่า “เก็บไปทำไมล่ะลูก เมื่อมันร่วงออกมาจากกล่องแล้วมันก็คือขยะ ใส่กลับเข้าไปไม่ได้อีก ลูกไปเอาไม้กวาดมากวาดมันทิ้งไปให้หมดเถิด ต่อไปกล่องแห่งความทุกข์ของลูกจะได้ว่างเปล่า ไม่มีความขุ่นข้องหมองใจเหลืออยู่อีก ในขณะที่กล่องแห่งความสุขของลูก จะเต็มไปด้วยความสุขตลอดเวลา” อันที่จริง เมื่อลูกบอกพ่อว่า ลูกทนคนที่กลั่นแกล้งทำร้ายลูกไม่ไหวนั้น พ่อก็ไม่เห็นว่าทำไมลูกจะต้องทนเขาด้วย เพราะเรื่องนี้ไม่มีอะไรต้องทนเลย เพียงแค่ลูกไม่เก็บเอาสิ่งแย่ ๆ ที่เขาทำกับลูกมาขังไว้กับตัวเอง ไม่ต้องไปทำความรู้จักมัน ความทุกข์นั้นก็ระรานหัวใจของลูกไม่ได้ ดูในกล่องสีขาวสิลูก ความสุขความภูมิใจของลูกตั้งมากมายก็อัดแน่นอยู่ในนั้น ทำไมลูกถึงมองข้ามไป ละทิ้งความทุกข์ซึ่งไร้ประโยชน์ กับชีวิตของลูก แล้วอยู่กับสิ่งที่ทำให้ลูกเป็นสุขไม่ดีกว่าหรือ” ลูกชายมองหน้าพ่ออย่างอัศจรรย์ใจ เขาเพิ่งเข้าใจความหมายของกล่องกระดาษสองใบนั้นอย่างแจ่มชัดในวันนี้เอง ความโกรธขึ้งที่มีต่อเพื่อนคนนั้นค่อย ๆ จางหาย หัวใจผ่อนคลายไม่บีบรัดเหมือนเมื่อครู่ ความเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นได้ก็เพราะ กล่องแห่งความทุกข์ของเขาว่างเปล่าแล้วนั่นเอง ……………………………………………………………………… ช่างน่าฉงนจริง ๆ ที่คนเรามักจะจดจำเรื่องราวที่ทำให้ตนเองเจ็บปวดได้แม่นยำ และยาวนานกว่าความสุขอีกตั้งมากมายที่เราเคยรู้จัก สิ่งที่คนปลูกผักมอบให้เป็นของขวัญแก่ลูกชายไม่ใช่แค่กล่องกระดาษสีขาวหรือสีดำ แต่เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตให้มีความสุข ด้วยการละทิ้งความทุกข์ แล้วทำความรู้จักกับความสุขที่มีให้มากกว่าเดิม เพียงการให้ที่แสนจะธรรมดาครั้งเดียวนี้ ก็ทำให้ลูกของเขารู้จักความสุขไปจนตลอดชีวิต เราอาจจะเลี่ยงคนสกปรกที่ชอบโยนขยะและความโสโครกใส่หน้าบ้านเราไม่ได้ แต่เราก็เลือกที่จะไม่ก้มลงเก็บมันเข้ามาไว้ในบ้าน และกวาดมันทิ้งไปอย่างไม่แยแสได้ แน่นอนว่าการรับมือกับคนพวกนี้เป็นเรื่องน่าเบื่อหน่าย แต่ถ้าเราทำได้ต่อไปความสกปรกก็จะหายไปจากหน้าบ้านของเราเองโดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุทยานอ่าวมะนาว -เขาตันหยง จ.นราธิวาส

    ตั้งอยู่หมู่ ๑ ตำบลกะลุวอเหนือ เป็นชายหาดที่ยาวต่อเนื่องจากชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของจังหวัดปัตตานี เป็นโค้งอ่าวเชื่อมต่อกันยาว ๔ กิโลเมตร มีโขดหินคั่นสลับโค้งหาดเป็นระยะ ๆ ด้านหนึ่งติดพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์
    หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติน่าเที่ยวแห่งจังหวัดนราธิวาส เพลิดเพลินกับการเที่ยวชมระบบนิเวศที่หลากหลาย ทั้งชายทะเล เนินเขาสูง พื้นที่ป่าสงวน ป่าพรุ และมีอาณาเขตพื้นที่ติดต่อกับพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ทำให้สภาพธรรมชาติมีความสมบูรณ์หลากหลาย มีการพบต้นมะนาวผี ที่มีขนาดใหญ่และสวยงามมาก รวมถึงสัตว์ป่าหายากหลากชนิด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ และรักธรรมชาติโดยแท้จริง

    อุทยานแห่งชาติแห่งนี้มาจากการที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จมาทรงเยี่ยมราษฎรในบริเวณพื้นที่บ้านบางมะนาว หมู่ที่ 1 ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เมื่อหลายปีก่อน ทรงมีพระราชดำริให้มีการปรับปรุงด้านต่างๆ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การศึกษา วัฒนธรรมและการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้น สำนักงานป่าไม้ปัตตานีจึงได้สนองพระราชดำริดังกล่าว โดยทำการสำรวจพื้นที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติพิเศษ ป่าเขาตันหยง ในพื้นที่บริเวณนอกเขตพระราชฐานพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ เพื่อจัดตั้งเป็นวนอุทยานก่อนในเริ่มแรก มีเนื้อที่ประมาณ 23,278.25 ไร่ แล้วตั้งชื่อว่า วนอุทยานอ่าวมะนาว โดยกรมป่าไม้ได้ขึ้นทะเบียนเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2536

    การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข ๔๐๘๔ นราธิวาส-ตากใบ ๓ กิโลเมตร และมีทางแยกไปสู่หาดอีก ๓ กิโลเมตร
    พอข้ามสะพานข้ามแม่น้ำบางนราจะมีทางเลี้ยวซ้าย เข้าไปเพียง 2.5 ม. ก็จะไปถึงแนวป่าสนร่มรื่นและชายทะเลยาวเหยียด พร้อมทั้งป้ายใหญ่โตชื่อ อุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว-เขาตันหยง
    ท่านจะพบบริเวณริมหาดที่มีสวนรุกขชาติ และทิวสนร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายหาด (beach forest) ระยะทาง ๑ กิโลเมตร พันธุ์ไม้ที่พบจะเป็นไม้ที่ชอบความแห้งแล้ง เช่น จักทะเล มะนาวผี เตยทะเล (คล้ายสับปะรด) เป็นต้น และในบริเวณใกล้เคียงยังมีบ้านพักของเอกชนให้บริการ

    เขาตันหยงนั้นเป็นภูเขาเตี้ยๆ มียอดหลายยอดมีพื้นที่พอประมาณไม่สูงนัก ด้านตะวันออกของภูเขาติดชายทะเลอ่าวไทยติดชายหาด ส่วนด้านตะวันตกติดแนวถนนหมายเลข 4064 ด้านทิศใต้เป็นพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์และด้านทิศเหนือจึงเป็นที่ทำการของอุทยานแห่งชาติ อ่าวมะนาว-เขาตันหยงนี่เอง
    ช่วงหน้าน้ำช่วงที่ฝนตกมาหลายวันต่อเนื่องกัน จะมีลำธารน้ำเล็กๆ ตกลงมาจากเขาตันหยงลงสู่ทะเลสองสาย กลายเป็นน้ำตกชั้นเล็กๆ คือน้ำตกธาราสวรรค์ที่ไหลลงชายหาดอ่าวมะนาวแล้วลงสูทะเล กัยน้ำตกริมผา ที่ไหลตกลงจากหน้าผาเล็กๆ ก่อนไหลเข้าหมู่บ้านแล้วออกสู่ชายทะเลด้านทศเหนือ ห่างที่ทำการอุทยานฯไปไม่ไกล

    อุทยานแหงชาติอ่าวมะนาว-ขาตันหยง ยังคงสถานภาพเป็นอุทยานเตรียมการประกาศ แต่ก็ได้รักษาดูแลสถานที่ไว้จนสวยงาม สมกับเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใกล้กับตัวเมืองนราธิวาสที่สุด

    มานราคราววหน้า ลองมาเที่ยวเขาตันหยง-อ่าวมะนาว แล้วจะประทับใจเมืองนี้ไปอีกนาน....







    อุทยานอ่าวมะนาว -เขาตันหยง จ.นราธิวาส ตั้งอยู่หมู่ ๑ ตำบลกะลุวอเหนือ เป็นชายหาดที่ยาวต่อเนื่องจากชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของจังหวัดปัตตานี เป็นโค้งอ่าวเชื่อมต่อกันยาว ๔ กิโลเมตร มีโขดหินคั่นสลับโค้งหาดเป็นระยะ ๆ ด้านหนึ่งติดพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติน่าเที่ยวแห่งจังหวัดนราธิวาส เพลิดเพลินกับการเที่ยวชมระบบนิเวศที่หลากหลาย ทั้งชายทะเล เนินเขาสูง พื้นที่ป่าสงวน ป่าพรุ และมีอาณาเขตพื้นที่ติดต่อกับพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ทำให้สภาพธรรมชาติมีความสมบูรณ์หลากหลาย มีการพบต้นมะนาวผี ที่มีขนาดใหญ่และสวยงามมาก รวมถึงสัตว์ป่าหายากหลากชนิด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ และรักธรรมชาติโดยแท้จริง อุทยานแห่งชาติแห่งนี้มาจากการที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จมาทรงเยี่ยมราษฎรในบริเวณพื้นที่บ้านบางมะนาว หมู่ที่ 1 ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เมื่อหลายปีก่อน ทรงมีพระราชดำริให้มีการปรับปรุงด้านต่างๆ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การศึกษา วัฒนธรรมและการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้น สำนักงานป่าไม้ปัตตานีจึงได้สนองพระราชดำริดังกล่าว โดยทำการสำรวจพื้นที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติพิเศษ ป่าเขาตันหยง ในพื้นที่บริเวณนอกเขตพระราชฐานพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ เพื่อจัดตั้งเป็นวนอุทยานก่อนในเริ่มแรก มีเนื้อที่ประมาณ 23,278.25 ไร่ แล้วตั้งชื่อว่า วนอุทยานอ่าวมะนาว โดยกรมป่าไม้ได้ขึ้นทะเบียนเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2536 การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข ๔๐๘๔ นราธิวาส-ตากใบ ๓ กิโลเมตร และมีทางแยกไปสู่หาดอีก ๓ กิโลเมตร พอข้ามสะพานข้ามแม่น้ำบางนราจะมีทางเลี้ยวซ้าย เข้าไปเพียง 2.5 ม. ก็จะไปถึงแนวป่าสนร่มรื่นและชายทะเลยาวเหยียด พร้อมทั้งป้ายใหญ่โตชื่อ อุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว-เขาตันหยง ท่านจะพบบริเวณริมหาดที่มีสวนรุกขชาติ และทิวสนร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายหาด (beach forest) ระยะทาง ๑ กิโลเมตร พันธุ์ไม้ที่พบจะเป็นไม้ที่ชอบความแห้งแล้ง เช่น จักทะเล มะนาวผี เตยทะเล (คล้ายสับปะรด) เป็นต้น และในบริเวณใกล้เคียงยังมีบ้านพักของเอกชนให้บริการ เขาตันหยงนั้นเป็นภูเขาเตี้ยๆ มียอดหลายยอดมีพื้นที่พอประมาณไม่สูงนัก ด้านตะวันออกของภูเขาติดชายทะเลอ่าวไทยติดชายหาด ส่วนด้านตะวันตกติดแนวถนนหมายเลข 4064 ด้านทิศใต้เป็นพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์และด้านทิศเหนือจึงเป็นที่ทำการของอุทยานแห่งชาติ อ่าวมะนาว-เขาตันหยงนี่เอง ช่วงหน้าน้ำช่วงที่ฝนตกมาหลายวันต่อเนื่องกัน จะมีลำธารน้ำเล็กๆ ตกลงมาจากเขาตันหยงลงสู่ทะเลสองสาย กลายเป็นน้ำตกชั้นเล็กๆ คือน้ำตกธาราสวรรค์ที่ไหลลงชายหาดอ่าวมะนาวแล้วลงสูทะเล กัยน้ำตกริมผา ที่ไหลตกลงจากหน้าผาเล็กๆ ก่อนไหลเข้าหมู่บ้านแล้วออกสู่ชายทะเลด้านทศเหนือ ห่างที่ทำการอุทยานฯไปไม่ไกล อุทยานแหงชาติอ่าวมะนาว-ขาตันหยง ยังคงสถานภาพเป็นอุทยานเตรียมการประกาศ แต่ก็ได้รักษาดูแลสถานที่ไว้จนสวยงาม สมกับเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใกล้กับตัวเมืองนราธิวาสที่สุด มานราคราววหน้า ลองมาเที่ยวเขาตันหยง-อ่าวมะนาว แล้วจะประทับใจเมืองนี้ไปอีกนาน....
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • หาดตะโละกาโปร์ จังหวัดปัตตานี
    หาดตะโละกาโปร์ ตั้งอยู่ใน ตำบลตะโละกาโปร์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ชายหาดชื่อดังที่มาพร้อมกับทัศนีภาพอันงดงามของหาดทรายสีขาว ทอดยาวอยู่ขนานไปกับน้ำทะเลเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ตามชายหาดมีร่มเงาของต้นไม้คอยให้ความร่มรื่นอยู่เสมอ จึงทำให้ชายหาดแห่งนี้กลายเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจชื่อดังที่ชาวปัตตานีมักจะไปเล่นน้ำ เดินเล่น และชมพระอาทิตย์ตกดินอยู่เป็นประจำ

    สมัยก่อน บริเวณของหาดตะโละกาโปร์มีเปลือกหอยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นพื้นที่เก็บเปลือกหอยมาเผาไฟจนสุกกลายเป็นปูนขาว และนำมากินกับหมาก ซึ่งหอยที่ว่านั้นคาดว่าจะเป็น หอยขาว หรือ หอยแครง นั่นเอง เพราะหอยขาวถือเป็นหอยประจำอ่าวของที่นี่ และเป็นสินค้าส่งออกของอำเภอยะหริ่งเลยค่ะ ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นที่มาของชื่อ หาดตะโละกาโปร์ ในภาษามาลายู ตะโละ แปลว่า "อ่าว" ส่วน กาโปร์ แปลว่า "ปูน"

    นอกจากจะเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวปัตตานีแล้ว หาดตะโละกาโปร์ยังตั้งอยู่ใกล้กับหมู่บ้านชาวประมง จึงไม่แปลกหากเราจะเห็น เรือกอและ เรือประมงพื้นบ้านของภาคใต้มาจอดเรียงรายกันหลายลำ แต่ละลำก็จะมีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป โดยจะผสมผสานลายมลายูลายชวาและลายไทยอย่างประณีตบรรจง สีสันฉูดฉาดโดดเด่นท่ามกลางท้องทะเล เป็นเสน่ห์ที่หาชมได้ยากจริงๆ

    #ปัตตานี
    #หาดตะโละกาโปร์
    หาดตะโละกาโปร์ จังหวัดปัตตานี หาดตะโละกาโปร์ ตั้งอยู่ใน ตำบลตะโละกาโปร์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ชายหาดชื่อดังที่มาพร้อมกับทัศนีภาพอันงดงามของหาดทรายสีขาว ทอดยาวอยู่ขนานไปกับน้ำทะเลเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร ตามชายหาดมีร่มเงาของต้นไม้คอยให้ความร่มรื่นอยู่เสมอ จึงทำให้ชายหาดแห่งนี้กลายเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจชื่อดังที่ชาวปัตตานีมักจะไปเล่นน้ำ เดินเล่น และชมพระอาทิตย์ตกดินอยู่เป็นประจำ สมัยก่อน บริเวณของหาดตะโละกาโปร์มีเปลือกหอยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นพื้นที่เก็บเปลือกหอยมาเผาไฟจนสุกกลายเป็นปูนขาว และนำมากินกับหมาก ซึ่งหอยที่ว่านั้นคาดว่าจะเป็น หอยขาว หรือ หอยแครง นั่นเอง เพราะหอยขาวถือเป็นหอยประจำอ่าวของที่นี่ และเป็นสินค้าส่งออกของอำเภอยะหริ่งเลยค่ะ ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นที่มาของชื่อ หาดตะโละกาโปร์ ในภาษามาลายู ตะโละ แปลว่า "อ่าว" ส่วน กาโปร์ แปลว่า "ปูน" นอกจากจะเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวปัตตานีแล้ว หาดตะโละกาโปร์ยังตั้งอยู่ใกล้กับหมู่บ้านชาวประมง จึงไม่แปลกหากเราจะเห็น เรือกอและ เรือประมงพื้นบ้านของภาคใต้มาจอดเรียงรายกันหลายลำ แต่ละลำก็จะมีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป โดยจะผสมผสานลายมลายูลายชวาและลายไทยอย่างประณีตบรรจง สีสันฉูดฉาดโดดเด่นท่ามกลางท้องทะเล เป็นเสน่ห์ที่หาชมได้ยากจริงๆ #ปัตตานี #หาดตะโละกาโปร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • มันน่าจะใกล้ถึง จุดระเบิด เต็มที!!!...สำหรับความเป็นไปของโลกทุกวันนี้ ไม่ว่าจะดูจากแนวรบยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง หรือแม้แต่ทะเลจีนใต้ก็ตามที แต่สำหรับ บ้านเรา นั้น ใครต่อใครดูๆ จะหันไปสนใจหนักไปทางเรื่องดิไอค่ง ไอคอน เรื่องบอสโน่น บอสนี่ซะเป็นหลัก ส่วนจะก่อให้เกิดประโยชน์โพดผลต่อส่วนรวม ต่อสังคมมาก-น้อยขนาดไหน อันนั้นคงต้องว่าไปตาม รสนิยม ของใคร-ของมันก็แล้วกัน...

    แต่สำหรับผู้ที่รักบ้าน-รักเมือง ห่วงบ้าน-ห่วงเมือง...ก็น่าที่จะเริ่มคิดๆ เอาไว้ก่อนล่วงหน้า ว่าโอกาสที่ ผลกระทบ ต่างๆ นานา มันจะอุบัติขึ้นมาในรูปไหน? แบบไหน? ควรที่จะเตรียมตัวรับมือ รับสภาพ กันในลักษณะไหน? อย่างไร? เพราะเอาแค่เฉพาะ ราคาน้ำมัน ที่อาจเตลิดเปิดเปิงไปเป็นร้อยๆ ดอลลาร์

    120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อย่างที่ใครๆ เขาว่า แค่นี้ก็น่าจะรากเขียว-รากเหลือง อ้วกแตก-อ้วกแตน ไปพอสมควรแล้ว แต่ก็อย่างที่เคยมีผู้อุปมา-อุปไมยถึงความเป็นไปของสังคมไทย ของ ระบบ-ระบอบ ในบ้านเมือง ที่อาจไม่ต่างไปจากกองฟืนแห้งๆ ที่ถูกวางสุมเอาไว้ทั่วทุกซอก ทุกมุม โอกาสที่ ประกายไฟ จากไฟสงคราม มันจะกลายเป็นตัวจุดปะทุให้แต่ละสิ่ง-แต่ละอย่าง ต้องมีอัน เตร๊งเตรง...เตร่งต๋อย ไฟไหม้มูลฝอยดังพรึ่บบ์บ์บ์ ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาเสียเลย...

    โดยสิ่งที่ต้องถือว่าเป็น สิ่งสำคัญ เอามากๆ ไม่ว่าสำหรับบ้านไหน-เมืองไหน ในการรับมือกับผลกระทบต่างๆ นานา ก็คงหนีไม่พ้นไปจากความร่วมมือ-ร่วมใจ หรือสิ่งที่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 ท่านทรงเรียกว่า ความรู้รัก-สามัคคี นั่นเอง และเป็นสิ่งที่คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลย ว่าค่อนข้างจะเหือดหาย แห้งแล้ง เอามากๆ สำหรับสังคมไทย โดยเฉพาะนับแต่ช่วง ทศวรรษแห่งความมืดมน หรือเมื่อกว่าสิบๆ ปีที่แล้วเป็นต้นมา ยิ่งเมื่อต้องเจอกับความ ก้าวหน้า-ก้าวไกล ทางเทคโนโลยี ที่สามารถฉีกกระชากสังคมแต่ละสังคม ให้ย่อยแยก แตกกระจาย ไปเป็นชิ้นๆ เกิด ช่องว่างระหว่างวัย ชนิดต่อยังไงก็แทบต่อไม่ติด โอกาสที่จะร่วมแรง-ร่วมใจ ก้าวผ่าน วิกฤต ในแต่ละช่วง แต่ละระยะ มันจึงออกจะยากเย็น แสนเข็ญ อยู่พอสมควร...

    และด้วยเหตุเท่าที่ผ่านมา...จะโดยเพราะ ตบะ-บารมี ของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 หรือ พระสยามเทวาธิราช ก็แล้วแต่จะคิด หลายต่อหลายวิกฤต จึงถูกคลี่คลาย ผ่อนคลาย จากหนักไปเป็นเบา ได้อย่างน่าทึ่ง น่าประทับใจเอามากๆ ชนิดแม้แต่คนต่างบ้าน-ต่างเมือง ยังอด อัศจรรย์ใจ ต่อความยืดหยุ่น ประนีประนอม แห่ง ความเป็นไทย ภายในสังคมไทย ขึ้นมาไม่ได้ โดยเฉพาะการให้ความยอมรับ การยินยอม พร้อมใจ ต่อ ศูนย์รวมจิตใจ ที่อุบัติขึ้นมาโดย พระบารมี ไม่ใช่ด้วย พระราชอำนาจ และได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการคลี่คลายวิกฤตต่างๆ นานา ได้อย่างเป็นมรรค เป็นผล...

    แต่เมื่อสิ่งเหล่านี้ต้องสิ้นสุด ยุติ ลงไปตาม กฎเกณฑ์แห่งธรรมชาติ ...อะไร??? ที่จะเข้ามาเป็นสิ่งทดแทน เป็นตัวช่วยประคับประคอง ในแต่ละห้วง แต่ละระยะ ที่เกิดวิกฤต อันนี้นี่แหละ...ที่คงต้องช่วยกันคิด ช่วยกันตระเตรียมรับมือเอาไว้ในแต่ละด้าน โดยไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นมันจะออกไปทาง อนุรักษนิยม หรือ เสรีนิยม ก็ตาม แต่ถ้าสามารถช่วยประคับประคอง ช่วยคลี่คลายวิกฤตแต่ละรูป แต่ละแบบ ย่อมต้องถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่า มีราคา ไปด้วยกันทั้งนั้น อันเป็นสิ่งที่บรรดาผู้รักบ้านรักเมือง ห่วงบ้าน ห่วงเมือง ทั้งหลาย ไม่ควรคิดที่จะปฏิเสธ...

    การสร้าง ความรู้รัก-สามัคคี ภายใต้สังคมสมัยใหม่ ที่เต็มไปด้วยความย่อยแยก แตกกระจาย ย่อมเป็นอะไรที่ยากเย็น แสนเข็ญ เอามากๆ และยิ่งภายใต้ภาวะวิกฤตที่เข้ามากระหน่ำ ซ้ำเติม ยิ่งแทบทำให้ไม่เห็นทางออก-ทางไป เอาเลยก็ว่าได้ แต่ก็นั่นแหละ...ด้วยเหตุเพราะมีแต่สิ่งนี้เท่านั้น ที่พอจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบา ช่วยประคับประคองสังคมแต่ละสังคมให้พอรอดพ้นปากเหยี่ยว-ปากกาได้มั่ง ดังนั้น...ไม่ว่าจะยากขนาดไหน ไม่ว่ายังแทบมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ แต่ถ้ามุ่งมั่น และเพียรพยายาม พร้อมที่จะสืบทอด ต่อยอด ในสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทรงได้บำเพ็ญเพียร ได้ทรงแสดงให้เห็นเป็นแบบอย่าง ตัวอย่าง ไว้แล้ว อย่างน้อย...ก็น่าจะพอช่วยให้บ้านเมืองไม่ถึงกับต้อง แตกสลาย ลงไปต่อหน้า-ต่อตา.

    https://www.thaipost.net/columnist-people/676550/

    #Thaitimes
    มันน่าจะใกล้ถึง จุดระเบิด เต็มที!!!...สำหรับความเป็นไปของโลกทุกวันนี้ ไม่ว่าจะดูจากแนวรบยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง หรือแม้แต่ทะเลจีนใต้ก็ตามที แต่สำหรับ บ้านเรา นั้น ใครต่อใครดูๆ จะหันไปสนใจหนักไปทางเรื่องดิไอค่ง ไอคอน เรื่องบอสโน่น บอสนี่ซะเป็นหลัก ส่วนจะก่อให้เกิดประโยชน์โพดผลต่อส่วนรวม ต่อสังคมมาก-น้อยขนาดไหน อันนั้นคงต้องว่าไปตาม รสนิยม ของใคร-ของมันก็แล้วกัน... แต่สำหรับผู้ที่รักบ้าน-รักเมือง ห่วงบ้าน-ห่วงเมือง...ก็น่าที่จะเริ่มคิดๆ เอาไว้ก่อนล่วงหน้า ว่าโอกาสที่ ผลกระทบ ต่างๆ นานา มันจะอุบัติขึ้นมาในรูปไหน? แบบไหน? ควรที่จะเตรียมตัวรับมือ รับสภาพ กันในลักษณะไหน? อย่างไร? เพราะเอาแค่เฉพาะ ราคาน้ำมัน ที่อาจเตลิดเปิดเปิงไปเป็นร้อยๆ ดอลลาร์ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อย่างที่ใครๆ เขาว่า แค่นี้ก็น่าจะรากเขียว-รากเหลือง อ้วกแตก-อ้วกแตน ไปพอสมควรแล้ว แต่ก็อย่างที่เคยมีผู้อุปมา-อุปไมยถึงความเป็นไปของสังคมไทย ของ ระบบ-ระบอบ ในบ้านเมือง ที่อาจไม่ต่างไปจากกองฟืนแห้งๆ ที่ถูกวางสุมเอาไว้ทั่วทุกซอก ทุกมุม โอกาสที่ ประกายไฟ จากไฟสงคราม มันจะกลายเป็นตัวจุดปะทุให้แต่ละสิ่ง-แต่ละอย่าง ต้องมีอัน เตร๊งเตรง...เตร่งต๋อย ไฟไหม้มูลฝอยดังพรึ่บบ์บ์บ์ ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาเสียเลย... โดยสิ่งที่ต้องถือว่าเป็น สิ่งสำคัญ เอามากๆ ไม่ว่าสำหรับบ้านไหน-เมืองไหน ในการรับมือกับผลกระทบต่างๆ นานา ก็คงหนีไม่พ้นไปจากความร่วมมือ-ร่วมใจ หรือสิ่งที่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 ท่านทรงเรียกว่า ความรู้รัก-สามัคคี นั่นเอง และเป็นสิ่งที่คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลย ว่าค่อนข้างจะเหือดหาย แห้งแล้ง เอามากๆ สำหรับสังคมไทย โดยเฉพาะนับแต่ช่วง ทศวรรษแห่งความมืดมน หรือเมื่อกว่าสิบๆ ปีที่แล้วเป็นต้นมา ยิ่งเมื่อต้องเจอกับความ ก้าวหน้า-ก้าวไกล ทางเทคโนโลยี ที่สามารถฉีกกระชากสังคมแต่ละสังคม ให้ย่อยแยก แตกกระจาย ไปเป็นชิ้นๆ เกิด ช่องว่างระหว่างวัย ชนิดต่อยังไงก็แทบต่อไม่ติด โอกาสที่จะร่วมแรง-ร่วมใจ ก้าวผ่าน วิกฤต ในแต่ละช่วง แต่ละระยะ มันจึงออกจะยากเย็น แสนเข็ญ อยู่พอสมควร... และด้วยเหตุเท่าที่ผ่านมา...จะโดยเพราะ ตบะ-บารมี ของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 หรือ พระสยามเทวาธิราช ก็แล้วแต่จะคิด หลายต่อหลายวิกฤต จึงถูกคลี่คลาย ผ่อนคลาย จากหนักไปเป็นเบา ได้อย่างน่าทึ่ง น่าประทับใจเอามากๆ ชนิดแม้แต่คนต่างบ้าน-ต่างเมือง ยังอด อัศจรรย์ใจ ต่อความยืดหยุ่น ประนีประนอม แห่ง ความเป็นไทย ภายในสังคมไทย ขึ้นมาไม่ได้ โดยเฉพาะการให้ความยอมรับ การยินยอม พร้อมใจ ต่อ ศูนย์รวมจิตใจ ที่อุบัติขึ้นมาโดย พระบารมี ไม่ใช่ด้วย พระราชอำนาจ และได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการคลี่คลายวิกฤตต่างๆ นานา ได้อย่างเป็นมรรค เป็นผล... แต่เมื่อสิ่งเหล่านี้ต้องสิ้นสุด ยุติ ลงไปตาม กฎเกณฑ์แห่งธรรมชาติ ...อะไร??? ที่จะเข้ามาเป็นสิ่งทดแทน เป็นตัวช่วยประคับประคอง ในแต่ละห้วง แต่ละระยะ ที่เกิดวิกฤต อันนี้นี่แหละ...ที่คงต้องช่วยกันคิด ช่วยกันตระเตรียมรับมือเอาไว้ในแต่ละด้าน โดยไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นมันจะออกไปทาง อนุรักษนิยม หรือ เสรีนิยม ก็ตาม แต่ถ้าสามารถช่วยประคับประคอง ช่วยคลี่คลายวิกฤตแต่ละรูป แต่ละแบบ ย่อมต้องถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่า มีราคา ไปด้วยกันทั้งนั้น อันเป็นสิ่งที่บรรดาผู้รักบ้านรักเมือง ห่วงบ้าน ห่วงเมือง ทั้งหลาย ไม่ควรคิดที่จะปฏิเสธ... การสร้าง ความรู้รัก-สามัคคี ภายใต้สังคมสมัยใหม่ ที่เต็มไปด้วยความย่อยแยก แตกกระจาย ย่อมเป็นอะไรที่ยากเย็น แสนเข็ญ เอามากๆ และยิ่งภายใต้ภาวะวิกฤตที่เข้ามากระหน่ำ ซ้ำเติม ยิ่งแทบทำให้ไม่เห็นทางออก-ทางไป เอาเลยก็ว่าได้ แต่ก็นั่นแหละ...ด้วยเหตุเพราะมีแต่สิ่งนี้เท่านั้น ที่พอจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบา ช่วยประคับประคองสังคมแต่ละสังคมให้พอรอดพ้นปากเหยี่ยว-ปากกาได้มั่ง ดังนั้น...ไม่ว่าจะยากขนาดไหน ไม่ว่ายังแทบมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ แต่ถ้ามุ่งมั่น และเพียรพยายาม พร้อมที่จะสืบทอด ต่อยอด ในสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทรงได้บำเพ็ญเพียร ได้ทรงแสดงให้เห็นเป็นแบบอย่าง ตัวอย่าง ไว้แล้ว อย่างน้อย...ก็น่าจะพอช่วยให้บ้านเมืองไม่ถึงกับต้อง แตกสลาย ลงไปต่อหน้า-ต่อตา. https://www.thaipost.net/columnist-people/676550/ #Thaitimes
    WWW.THAIPOST.NET
    ศูนย์รวมจิตใจในยาม 'วิกฤต'
    มันน่าจะใกล้ถึง จุดระเบิด เต็มที!!!...สำหรับความเป็นไปของโลกทุกวันนี้ ไม่ว่าจะดูจากแนวรบยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง หรือแม้แต่ทะเลจีนใต้ก็ตามที แต่สำหรับ บ้านเรา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • การสวดมนต์ "อิติปิโส" เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่อยู่ในช่วงสุดท้ายของชีวิต ถือเป็นการทำบุญอันเป็นมหากุศลที่ไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อจิตใจของผู้ป่วย แต่ยังส่งผลดีต่อจิตใจของญาติพี่น้องและผู้ร่วมสวดด้วย การสวดมนต์ร่วมกันเช่นนี้ช่วยกระชับสายใยในทางที่ดี และลดทอนความขัดแย้งหรือปัญหาค้างคาในจิตใจ

    การสวดมนต์ช่วยสร้างพลังบวกให้แก่ผู้ป่วยโดยเฉพาะในช่วงเวลาสำคัญของชีวิต ดังที่ได้กล่าวไว้คือช่วยปรับจิตใจของผู้ป่วยให้ไปในทางสว่างและมีจิตที่พร้อมยอมรับการปล่อยวาง ทั้งนี้ผลดีที่เกิดขึ้นจะมีทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น การกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัว การลดทอนความขัดแย้ง และการสร้างพลังความสงบและสว่างในจิตใจของทุกคนที่มีส่วนร่วม

    การปฏิบัติเช่นนี้สามารถพยุงจิตใจผู้ป่วยในช่วงที่สำคัญที่สุด คือช่วงใกล้เสียชีวิต ช่วยนำพาจิตใจให้เข้าสู่ภาวะสงบและพร้อมที่จะก้าวไปสู่ภพภูมิใหม่อย่างราบรื่น ปราศจากความหวาดกลัวหรือกังวลใจจากอดีต

    การที่ญาติๆ มาร่วมกันสวดมนต์ด้วยความตั้งใจดีและเมตตา นอกจากจะช่วยส่งเสริมให้จิตใจของผู้ป่วยดีขึ้นแล้ว ยังทำให้ผู้ที่สวดมนต์เองรู้สึกผ่อนคลาย อภัย และมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นในครอบครัว ส่งผลให้การจากลาของผู้ป่วยเป็นไปด้วยความสงบและราบรื่น

    วิธีนี้เป็นการช่วยให้เกิดความสงบสุขทั้งกับผู้ป่วยและคนรอบข้างในช่วงเวลาสำคัญของชีวิต

    การสวดมนต์ "อิติปิโส" เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่อยู่ในช่วงสุดท้ายของชีวิต ถือเป็นการทำบุญอันเป็นมหากุศลที่ไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อจิตใจของผู้ป่วย แต่ยังส่งผลดีต่อจิตใจของญาติพี่น้องและผู้ร่วมสวดด้วย การสวดมนต์ร่วมกันเช่นนี้ช่วยกระชับสายใยในทางที่ดี และลดทอนความขัดแย้งหรือปัญหาค้างคาในจิตใจ การสวดมนต์ช่วยสร้างพลังบวกให้แก่ผู้ป่วยโดยเฉพาะในช่วงเวลาสำคัญของชีวิต ดังที่ได้กล่าวไว้คือช่วยปรับจิตใจของผู้ป่วยให้ไปในทางสว่างและมีจิตที่พร้อมยอมรับการปล่อยวาง ทั้งนี้ผลดีที่เกิดขึ้นจะมีทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น การกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัว การลดทอนความขัดแย้ง และการสร้างพลังความสงบและสว่างในจิตใจของทุกคนที่มีส่วนร่วม การปฏิบัติเช่นนี้สามารถพยุงจิตใจผู้ป่วยในช่วงที่สำคัญที่สุด คือช่วงใกล้เสียชีวิต ช่วยนำพาจิตใจให้เข้าสู่ภาวะสงบและพร้อมที่จะก้าวไปสู่ภพภูมิใหม่อย่างราบรื่น ปราศจากความหวาดกลัวหรือกังวลใจจากอดีต การที่ญาติๆ มาร่วมกันสวดมนต์ด้วยความตั้งใจดีและเมตตา นอกจากจะช่วยส่งเสริมให้จิตใจของผู้ป่วยดีขึ้นแล้ว ยังทำให้ผู้ที่สวดมนต์เองรู้สึกผ่อนคลาย อภัย และมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นในครอบครัว ส่งผลให้การจากลาของผู้ป่วยเป็นไปด้วยความสงบและราบรื่น วิธีนี้เป็นการช่วยให้เกิดความสงบสุขทั้งกับผู้ป่วยและคนรอบข้างในช่วงเวลาสำคัญของชีวิต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • เห้อ บางทีนึกว่าวันนี้จะราบรื่น เจอข้อผิดพลาดและปัญหา ที่รู้สึกว่าแก้ยากและต้องปิด Meet เสียก่อนเพราะต้องกลับไปแก้โค้ดแบบค่อยๆแก้ เพราะบางทีเขาต้องการด่วนๆ แต่เงินที่รวมที่เสร็จทั้ง 2 งาน คงไม่ต้องเอา ผมคงต้องเลิกทำฟรีแลนซ์เพราะคนรอบข้างขอให้ผมทำงานประจำซึ่งผมไม่ถูกกับสังคมงานประจำที่สุดอยู่แล้วครับ และผมลืมกินยาเพระโฟกัสกับงานที่ผมคิดว่า ยากและปวดหัว หนักหัวมากๆเลยครับ และเขาไม่ยอมให้ผมพักผ่อนด้วย และจะขอดูความคืบหน้าทุกวัน และวันนี้มันก็มาถึงอีกแล้ว แทบจะปากเสียงกับผู้ว่าจ้างที่ทวงถามความคืบหน้าทุกวันทุกคืน ผมบอกเลยว่า ผมบริหารเวลาและการกินไม่ดีพอ แต่เงินไม่หนาพอ และ คนรอบข้างไม่ยอมให้เงินผมทีเดียวเป็น 5000 10000 15000 กลัวผมจะใช้เงินเปลืองและหมดไว นี่จะเข้มงวดมากเกินไปแล้วนะครับ ผมไม่อยากจะระบายอะไรแบบนี้อีกแล้วครับ ไม่เข้าใจความรู้สึกบ้างเลยเหรอครับ อยากให้ผมกลับไปใช้ชีวิตเยี่ยงทาสจับกังกรรมกรแบบนี้ต่อไปหรือครับ ผมบอกเลยว่าน่าเบื่อที่สุดที่สุดที่สุดจริงๆครับ บอกตรงนี้เลยว่าแทบจะบีบน้ำตาเรียกความสงสาร บีบน้ำตาไปก็เท่านั้น ดีไม่ดีทำให้เรื่องแย่ลงไปอีกครับ ชีวิตลำเค็ญเพราะคนรอบข้างเริ่มจะไม่ซัพพอร์ทผมแล้วครับ เซ็งและเบื่อที่สุดครับ
    เห้อ บางทีนึกว่าวันนี้จะราบรื่น เจอข้อผิดพลาดและปัญหา ที่รู้สึกว่าแก้ยากและต้องปิด Meet เสียก่อนเพราะต้องกลับไปแก้โค้ดแบบค่อยๆแก้ เพราะบางทีเขาต้องการด่วนๆ แต่เงินที่รวมที่เสร็จทั้ง 2 งาน คงไม่ต้องเอา ผมคงต้องเลิกทำฟรีแลนซ์เพราะคนรอบข้างขอให้ผมทำงานประจำซึ่งผมไม่ถูกกับสังคมงานประจำที่สุดอยู่แล้วครับ และผมลืมกินยาเพระโฟกัสกับงานที่ผมคิดว่า ยากและปวดหัว หนักหัวมากๆเลยครับ และเขาไม่ยอมให้ผมพักผ่อนด้วย และจะขอดูความคืบหน้าทุกวัน และวันนี้มันก็มาถึงอีกแล้ว แทบจะปากเสียงกับผู้ว่าจ้างที่ทวงถามความคืบหน้าทุกวันทุกคืน ผมบอกเลยว่า ผมบริหารเวลาและการกินไม่ดีพอ แต่เงินไม่หนาพอ และ คนรอบข้างไม่ยอมให้เงินผมทีเดียวเป็น 5000 10000 15000 กลัวผมจะใช้เงินเปลืองและหมดไว นี่จะเข้มงวดมากเกินไปแล้วนะครับ ผมไม่อยากจะระบายอะไรแบบนี้อีกแล้วครับ ไม่เข้าใจความรู้สึกบ้างเลยเหรอครับ อยากให้ผมกลับไปใช้ชีวิตเยี่ยงทาสจับกังกรรมกรแบบนี้ต่อไปหรือครับ ผมบอกเลยว่าน่าเบื่อที่สุดที่สุดที่สุดจริงๆครับ บอกตรงนี้เลยว่าแทบจะบีบน้ำตาเรียกความสงสาร บีบน้ำตาไปก็เท่านั้น ดีไม่ดีทำให้เรื่องแย่ลงไปอีกครับ ชีวิตลำเค็ญเพราะคนรอบข้างเริ่มจะไม่ซัพพอร์ทผมแล้วครับ เซ็งและเบื่อที่สุดครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความเครียดอาจเป็นสัญญาณ
    ที่บอกให้ "พักสักหน่อย"

    จากหนังสือ |ผ่อนคลายกับชีวิตบ้างแล้วเธอจะชอบตัวเองมากขึ้น

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #การใช้ชีวิต #ทัศนคติ #Thaitimes
    ความเครียดอาจเป็นสัญญาณ ที่บอกให้ "พักสักหน่อย" จากหนังสือ |ผ่อนคลายกับชีวิตบ้างแล้วเธอจะชอบตัวเองมากขึ้น #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #การใช้ชีวิต #ทัศนคติ #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 355 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts