• หาความดีประดับจิตประดับกาย..ให้เชื่อบาปบุญคุณโทษ.
    หาความดีประดับจิตประดับกาย..ให้เชื่อบาปบุญคุณโทษ.
    0 Comments 0 Shares 22 Views 0 Reviews

  • บาปเป็นบาป บุญเป็นบุญ ไม่มีใครลบล้างได้
    บาปเป็นบาป บุญเป็นบุญ ไม่มีใครลบล้างได้
    1 Comments 0 Shares 106 Views 3 0 Reviews
  • นรก คือแดนดัดสันดานสัตว์โลกผู้ชอบทำบาป สวรรค์ คือแดนส่งเสริมสัตว์โลกผู้ชอบทำบุญ
    นรก คือแดนดัดสันดานสัตว์โลกผู้ชอบทำบาป สวรรค์ คือแดนส่งเสริมสัตว์โลกผู้ชอบทำบุญ
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 159 Views 8 0 Reviews
  • #คนต้องการพระนิพพานจะมีความรู้สึกอย่างไร

    องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ากล่าวว่า

    "ต้องใช้อากิญจัญญายตนะฌาณเป็นประจำใจ"

    คำว่า #อากิญจัญญายตนะฌาณ ฟังแล้วหนักใจ แต่ความจริงถ้าคนฉลาดก็ไม่หนัก ถ้าคนโง่ก็หนัก
    เพราะอากิญจัญญายตนะฌาน เป็นอารมณ์ของคนฉลาด คือ
    มีความรู้สึกตามความเป็นจริงว่า
    โลกนี้ไม่มีอะไรเหลือ คนเกิดมากี่คนตายหมดเท่านั้น สัตว์เกิดมาเท่าไหร่ตายหมดเท่านั้น
    สภาพของวัตถุทั้งหลายไม่มีการทรงตัว เสื่อมไปแล้วพังหมดเท่านั้น วันนี้ไม่พังวันหน้ามันก็พัง
    คนวันนี้ไม่ตายวันหน้าก็ตาย สัตว์วันนี้ไม่ตายวันหน้าก็ตาย
    ฉะนั้นโลกทั้งหลายไม่เป็นที่น่าอยู่สำหรับเรา เราไม่ต้องการ

    ถ้าบุคคลทั้งหลาย ใช้อารมณ์
    ของอากิญจัญญายตนะฌาณเป็นปกติ
    บุคคลประเภทนี้จะเป็นคนที่มีจิตสบาย คือ
    จิตยอมรับความเป็นจริงว่า
    ร่างกายของเราสักวันหนึ่งมันต้องตาย
    กฏแน่นอนของมันก็คือเดินเข้าไปหาความตายทุกวัน
    เรื่องความตายนี่ไม่ต้องไปคำนึง
    ไม่ต้องคิดถึงว่ามันจะตายเมื่อไหร่ก็เชิญฉันพร้อมแล้ว
    คำว่า พร้อม ก็คือ ยึดเอาพระธรรม คำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระประทีปแก้วไปปฏิบัติ ได้แก่
    สักกายทิฏฐิ มีความรู้สึกว่าชีวิตนี่มันต้องตาย จะตายเมื่อไรก็เชิญฉันมีความดีพร้อม

    ความดีของเราคือ ยอมรับนับถือพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ และทรงกำลังใจไว้ไม่เสื่อมคลาย
    ยึดมั่นในศีล จะเป็นจะตายอย่างไรก็ตามไม่ยอมละเมิดศีล 5 สำหรับฆราวาสอารมณ์ของพระโสดาบัน
    ถ้าคนที่เขาทรงอารมณ์ของศีล 8 เป็นอารมณ์ของพระอนาคามี พระเณรก็เช่นเดียวกัน ต้องรักษาศีลของตน
    นี่แหละบรรดาท่านพุทธศาสนิกชน การเดินเข้ามาหานิพพานเป็นของไม่ยาก

    หลังจากนั้นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้พิจารณาว่า โลกมันไม่ดี มนุษยโลกก็ไม่ดี เทวโลกก็ไม่ดี พรหมโลกก็ไม่ดี เทวโลกกับพรหมโลกนั้นดีเหมือนกัน แต่ดีชั่วคราว ถ้าหมดบุญวาสนาบารมีก็ต้องหล่นมาใหม่ หล่นมาค้างที่บนไม่เป็นไร ส่วนใหญ่ลงมาจากเทวโลกและพรหมโลกก็พุ่งลงนรกไป เพราะบาปเก่ายังไม่ชำระหนี้เขา

    ถ้ามีกำลังใจทรงอารมณ์พระโสดาบันไว้มันก็ไม่ไป อย่างเลวที่สุดมันก็มาค้างที่มนุษย์ แต่ก็ไม่ดีกลับมาค้างในดินแดนที่เราต้องมีทุกข์จะดีอะไร เราก็เป็นคนโง่ถ้าจะเป็นเทวดาหรือพรหม นานเท่าไรมันก็เป็นไม่ได้ หมดบุญวาสนาต้องมา กำลังใจที่ดีที่สุดก็ตัดสินใจว่า

    "ถ้าชีวิตร่างกายมันพังเมื่อไหร่ ขึ้นชื่อว่าความเป็นคนก็ดี เป็นเทวดาก็ดี เป็นพรหมก็ดี จะไม่มีสำหรับเรา เราต้องการจุดเดียว คือ นิพพาน"

    อันนี้พูดกันสำหรับคนที่เจริญทางด้านสุกขวิปัสสโก

    ===================
    จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๑๗๓ เดือนสิงหาคม ๒๕๓๘ หน้า ๓๗-๓๘
    #คนต้องการพระนิพพานจะมีความรู้สึกอย่างไร องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ากล่าวว่า "ต้องใช้อากิญจัญญายตนะฌาณเป็นประจำใจ" คำว่า #อากิญจัญญายตนะฌาณ ฟังแล้วหนักใจ แต่ความจริงถ้าคนฉลาดก็ไม่หนัก ถ้าคนโง่ก็หนัก เพราะอากิญจัญญายตนะฌาน เป็นอารมณ์ของคนฉลาด คือ มีความรู้สึกตามความเป็นจริงว่า โลกนี้ไม่มีอะไรเหลือ คนเกิดมากี่คนตายหมดเท่านั้น สัตว์เกิดมาเท่าไหร่ตายหมดเท่านั้น สภาพของวัตถุทั้งหลายไม่มีการทรงตัว เสื่อมไปแล้วพังหมดเท่านั้น วันนี้ไม่พังวันหน้ามันก็พัง คนวันนี้ไม่ตายวันหน้าก็ตาย สัตว์วันนี้ไม่ตายวันหน้าก็ตาย ฉะนั้นโลกทั้งหลายไม่เป็นที่น่าอยู่สำหรับเรา เราไม่ต้องการ ถ้าบุคคลทั้งหลาย ใช้อารมณ์ ของอากิญจัญญายตนะฌาณเป็นปกติ บุคคลประเภทนี้จะเป็นคนที่มีจิตสบาย คือ จิตยอมรับความเป็นจริงว่า ร่างกายของเราสักวันหนึ่งมันต้องตาย กฏแน่นอนของมันก็คือเดินเข้าไปหาความตายทุกวัน เรื่องความตายนี่ไม่ต้องไปคำนึง ไม่ต้องคิดถึงว่ามันจะตายเมื่อไหร่ก็เชิญฉันพร้อมแล้ว คำว่า พร้อม ก็คือ ยึดเอาพระธรรม คำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระประทีปแก้วไปปฏิบัติ ได้แก่ สักกายทิฏฐิ มีความรู้สึกว่าชีวิตนี่มันต้องตาย จะตายเมื่อไรก็เชิญฉันมีความดีพร้อม ความดีของเราคือ ยอมรับนับถือพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ และทรงกำลังใจไว้ไม่เสื่อมคลาย ยึดมั่นในศีล จะเป็นจะตายอย่างไรก็ตามไม่ยอมละเมิดศีล 5 สำหรับฆราวาสอารมณ์ของพระโสดาบัน ถ้าคนที่เขาทรงอารมณ์ของศีล 8 เป็นอารมณ์ของพระอนาคามี พระเณรก็เช่นเดียวกัน ต้องรักษาศีลของตน นี่แหละบรรดาท่านพุทธศาสนิกชน การเดินเข้ามาหานิพพานเป็นของไม่ยาก หลังจากนั้นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้พิจารณาว่า โลกมันไม่ดี มนุษยโลกก็ไม่ดี เทวโลกก็ไม่ดี พรหมโลกก็ไม่ดี เทวโลกกับพรหมโลกนั้นดีเหมือนกัน แต่ดีชั่วคราว ถ้าหมดบุญวาสนาบารมีก็ต้องหล่นมาใหม่ หล่นมาค้างที่บนไม่เป็นไร ส่วนใหญ่ลงมาจากเทวโลกและพรหมโลกก็พุ่งลงนรกไป เพราะบาปเก่ายังไม่ชำระหนี้เขา ถ้ามีกำลังใจทรงอารมณ์พระโสดาบันไว้มันก็ไม่ไป อย่างเลวที่สุดมันก็มาค้างที่มนุษย์ แต่ก็ไม่ดีกลับมาค้างในดินแดนที่เราต้องมีทุกข์จะดีอะไร เราก็เป็นคนโง่ถ้าจะเป็นเทวดาหรือพรหม นานเท่าไรมันก็เป็นไม่ได้ หมดบุญวาสนาต้องมา กำลังใจที่ดีที่สุดก็ตัดสินใจว่า "ถ้าชีวิตร่างกายมันพังเมื่อไหร่ ขึ้นชื่อว่าความเป็นคนก็ดี เป็นเทวดาก็ดี เป็นพรหมก็ดี จะไม่มีสำหรับเรา เราต้องการจุดเดียว คือ นิพพาน" อันนี้พูดกันสำหรับคนที่เจริญทางด้านสุกขวิปัสสโก =================== จากธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๑๗๓ เดือนสิงหาคม ๒๕๓๘ หน้า ๓๗-๓๘
    0 Comments 0 Shares 185 Views 0 Reviews
  • ปมร้อนข่าวลึก : ภายใต้ซากตึก สตง. ผู้บริหารแถ ลอยตัว จับตาหาแพะรับบาป
    .
    ชั่วโมงนี้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. เป็นหน่วยงานที่กำลังเผชิญกับวิกฤติศรัทธาและความเชื่อมั่นของประชาชนอย่างรุนแรง ภายหลังเกิดเหตุการณ์อาคารสำนักงานแห่งใหม่ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างถล่มเมื่อวันที่28 มีนาคมที่ผ่านมา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000036112

    #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ปมร้อนข่าวลึก : ภายใต้ซากตึก สตง. ผู้บริหารแถ ลอยตัว จับตาหาแพะรับบาป . ชั่วโมงนี้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. เป็นหน่วยงานที่กำลังเผชิญกับวิกฤติศรัทธาและความเชื่อมั่นของประชาชนอย่างรุนแรง ภายหลังเกิดเหตุการณ์อาคารสำนักงานแห่งใหม่ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างถล่มเมื่อวันที่28 มีนาคมที่ผ่านมา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000036112 #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 647 Views 0 Reviews
  • "อยู่ข้างตัวเอง: ชนะโชคร้ายด้วยสติและกรรมใหม่"

    1. จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต

    ไม่ได้มาจาก “แรงเฉื่อยของโชคดี”

    แต่มักเกิดจาก “แรงกดดันของโชคร้าย”

    โชคร้ายบีบให้เราต้อง “คิดต่าง” หรือ “เติบโต” ถ้าใช้สติให้ถูก

    ---

    2. โชคร้ายไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

    ทุกโชคร้ายคือผลของกรรมเก่าที่เราเคยทำไว้

    คนที่เข้ามาในชีวิตเราทำให้เราทุกข์หรือสุข ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
    แต่สะท้อน “สิ่งที่เราเคยทำกับคนอื่น”

    ถ้าเข้าใจเรื่องกรรมอย่างลึกซึ้ง
    จะเลิกโทษคนอื่น และหันมา “ขอบคุณตัวเอง”
    ทั้งยามดีและร้าย

    ---

    3. เจริญสติคือกุญแจ

    เจริญสติจะช่วยให้เห็นว่า:

    กายคือทางรับกรรม

    ใจคือผู้เลือกกรรม

    เมื่อรู้ชัดว่าทุกสิ่งมีเหตุและผล
    จะไม่อยากผูกเวร ไม่อยากเบียดเบียนใคร
    แต่อยากให้อภัยและให้ทุกคนเป็นสุข

    ---

    4. รู้ทันกิเลสคือทางชนะ

    ถ้าตัดสินใจ อยู่ข้างแรงต้านกิเลส (ศีล มโนธรรม เหตุผล)
    → ได้แต้มบุญเพิ่ม

    ถ้าตามแรงกิเลส (ความโกรธ ความโลภ)
    → ตกแต้มบาปทันที

    ---

    5. สุดท้าย…คุณเลือกได้

    "ความเป็นมนุษย์ของคุณ คือพลังต่อต้านแรงบีบคั้น
    คุณแค่เลือกว่าจะอยู่ข้างตัวเอง หรือเลือกเข้าข้างกิเลสเท่านั้น"
    "อยู่ข้างตัวเอง: ชนะโชคร้ายด้วยสติและกรรมใหม่" 1. จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต ไม่ได้มาจาก “แรงเฉื่อยของโชคดี” แต่มักเกิดจาก “แรงกดดันของโชคร้าย” โชคร้ายบีบให้เราต้อง “คิดต่าง” หรือ “เติบโต” ถ้าใช้สติให้ถูก --- 2. โชคร้ายไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทุกโชคร้ายคือผลของกรรมเก่าที่เราเคยทำไว้ คนที่เข้ามาในชีวิตเราทำให้เราทุกข์หรือสุข ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่สะท้อน “สิ่งที่เราเคยทำกับคนอื่น” ถ้าเข้าใจเรื่องกรรมอย่างลึกซึ้ง จะเลิกโทษคนอื่น และหันมา “ขอบคุณตัวเอง” ทั้งยามดีและร้าย --- 3. เจริญสติคือกุญแจ เจริญสติจะช่วยให้เห็นว่า: กายคือทางรับกรรม ใจคือผู้เลือกกรรม เมื่อรู้ชัดว่าทุกสิ่งมีเหตุและผล จะไม่อยากผูกเวร ไม่อยากเบียดเบียนใคร แต่อยากให้อภัยและให้ทุกคนเป็นสุข --- 4. รู้ทันกิเลสคือทางชนะ ถ้าตัดสินใจ อยู่ข้างแรงต้านกิเลส (ศีล มโนธรรม เหตุผล) → ได้แต้มบุญเพิ่ม ถ้าตามแรงกิเลส (ความโกรธ ความโลภ) → ตกแต้มบาปทันที --- 5. สุดท้าย…คุณเลือกได้ "ความเป็นมนุษย์ของคุณ คือพลังต่อต้านแรงบีบคั้น คุณแค่เลือกว่าจะอยู่ข้างตัวเอง หรือเลือกเข้าข้างกิเลสเท่านั้น"
    0 Comments 0 Shares 94 Views 0 Reviews
  • ตัวะพาบาปกรรมไม่ได้อยู่ไกลเรานะ หนึ่งจิต สองตา สามหู สี่ปาก ไวนะพวกนี้
    ตัวะพาบาปกรรมไม่ได้อยู่ไกลเรานะ หนึ่งจิต สองตา สามหู สี่ปาก ไวนะพวกนี้
    0 Comments 0 Shares 60 Views 0 Reviews
  • วัฏจักรกรรมแห่งสังสารวัฏ – ขาขึ้นและขาลง
    ---

    1. สังสารวัฏมีรอบขึ้นและรอบลง

    ไม่มีใครขึ้นสวรรค์ตลอดกาล

    ไม่มีใครตกนรกชั่วนิรันดร์

    ทุกชีวิตเวียนว่ายด้วยบุญและบาป

    ---

    2. เครื่องหมายของ ‘รอบขาขึ้น’

    ความกตัญญูรู้คุณ คือ “ภูมิสัตบุรุษ”

    รู้คุณพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณ

    แม้เกิดมาต่ำต้อย แต่ใจสูง → สร้างกุศลได้ไม่จำกัด

    บาปเก่ากลายเป็นแรงส่งให้ทำดี → ชีวิตเชิดหัวขึ้น

    ---

    3. เครื่องหมายของ ‘รอบขาลง’

    ความหลอกลวง (มุสาวาท) คือ “ต้นทางแห่งบาปใหญ่”

    แม้เกิดมาพร้อมพรั่ง แต่หากโกหกโดยไม่ละอาย

    จะสามารถทำบาปอื่นๆ ได้ทั้งหมดโดยไม่มีขอบเขต

    บุญเก่าถูกใช้ไปกับความฉลาดแบบเจ้าเล่ห์

    ผลคือ → ชีวิตถูกบิดเบือน, ถูกหลอกซ้ำ, ตกต่ำ

    ---

    4. วิบากกรรมของคนหลอกลวง

    กรรมหนัก: ไปอบายภูมิ

    กรรมเบา: กลับมาเกิดแต่ถูกใส่ร้าย, หูเบา, หลงเชื่อง่าย

    ใช้กรรมเก่าที่ดี “มาสร้างบาปใหม่” สร้างอนาคตที่แย่ลง
    ---

    5. สาระสำคัญ
    กรรมดีในอดีตไม่ใช่เครื่องคุ้มกันถาวร
    ถ้าใช้กรรมเก่าอย่างผิดทาง
    ก็กลายเป็นปุ๋ยเร่งบาปให้สุกเร็วกว่าเดิม

    ---

    บทสรุป:
    วัฏจักรแห่งกรรมมีจริง
    ขาขึ้นเริ่มที่ “กตัญญู”
    ขาลงเริ่มที่ “หลอกลวง”
    เลือกฝึกใจให้เป็นทางบุญหรือทางบาปในวันนี้
    เพื่อชี้ทางพรุ่งนี้ว่าจะ "เชิดหน้า" หรือ "ก้มหน้า"
    วัฏจักรกรรมแห่งสังสารวัฏ – ขาขึ้นและขาลง --- 1. สังสารวัฏมีรอบขึ้นและรอบลง ไม่มีใครขึ้นสวรรค์ตลอดกาล ไม่มีใครตกนรกชั่วนิรันดร์ ทุกชีวิตเวียนว่ายด้วยบุญและบาป --- 2. เครื่องหมายของ ‘รอบขาขึ้น’ ความกตัญญูรู้คุณ คือ “ภูมิสัตบุรุษ” รู้คุณพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณ แม้เกิดมาต่ำต้อย แต่ใจสูง → สร้างกุศลได้ไม่จำกัด บาปเก่ากลายเป็นแรงส่งให้ทำดี → ชีวิตเชิดหัวขึ้น --- 3. เครื่องหมายของ ‘รอบขาลง’ ความหลอกลวง (มุสาวาท) คือ “ต้นทางแห่งบาปใหญ่” แม้เกิดมาพร้อมพรั่ง แต่หากโกหกโดยไม่ละอาย จะสามารถทำบาปอื่นๆ ได้ทั้งหมดโดยไม่มีขอบเขต บุญเก่าถูกใช้ไปกับความฉลาดแบบเจ้าเล่ห์ ผลคือ → ชีวิตถูกบิดเบือน, ถูกหลอกซ้ำ, ตกต่ำ --- 4. วิบากกรรมของคนหลอกลวง กรรมหนัก: ไปอบายภูมิ กรรมเบา: กลับมาเกิดแต่ถูกใส่ร้าย, หูเบา, หลงเชื่อง่าย ใช้กรรมเก่าที่ดี “มาสร้างบาปใหม่” สร้างอนาคตที่แย่ลง --- 5. สาระสำคัญ กรรมดีในอดีตไม่ใช่เครื่องคุ้มกันถาวร ถ้าใช้กรรมเก่าอย่างผิดทาง ก็กลายเป็นปุ๋ยเร่งบาปให้สุกเร็วกว่าเดิม --- บทสรุป: วัฏจักรแห่งกรรมมีจริง ขาขึ้นเริ่มที่ “กตัญญู” ขาลงเริ่มที่ “หลอกลวง” เลือกฝึกใจให้เป็นทางบุญหรือทางบาปในวันนี้ เพื่อชี้ทางพรุ่งนี้ว่าจะ "เชิดหน้า" หรือ "ก้มหน้า"
    0 Comments 0 Shares 152 Views 0 Reviews
  • 11-04-68/01 : หมี CNN / ลงจากหลังหมา ก็ยิ่งหมากว่าเดิมสิจ๊ะ? ทำไมมันจะไม่รู้ตัว โดนเป็นแพะรับบาป หนีคุก หนีคดี หนีนักล่าทั่วโลก ใครมันจะยอมปล่อยเก้าอี้กันล่ะ? อีกไม่นาน เยรูซาเล็มก็สิ้นแล้ว เขาเชิญให้มรึงออกไปให้พ้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ ยิ่งสู้ ยิ่งตายห่า ยิ่งห้าวเป้ง ยิ่งฉิบหายหนักกว่าเดิม บรรดาชาติมหาอำนาจ(เก่า) ทั้งสหรัฐ และชาตินาโต้ เสียหมาหนัก โดนเยเมนถล่มกลับอย่างหมา ไม่มีปัญญาจะหยุดใครได้อีกแล้ว มรึงมันตกยุคไปแล้ว ยังเสือก EGO แรงไม่เลิก อาวุธที่เคยภาคภูมิใจเมื่อ 20 ปีก่อน ตอนนี้ แค่ "ขี้หมา ของเด็กเล่น" นวตกรรมใหม่ไม่มี เงินทุนไม่พอ กำลังสำรองไม่เหลือ คลังแสงเกลี้ยง มิน่า รัสเซีย จีน แทบไม่ต้องทำเหี้ยอาไยเลย แค่รอมรึงตายไปเอง ช่วงสูญญากาศ ยิ่งทำให้ศัตรูของยิวเหี้ยไซออนนิสต์แข็งแกร่งขึ้นมาก เติมอาวุธกันอย่างเมามันส์ ผลิตจัดส่งแบบทุกสัปดาห์ ผลิตแบบ NON STOP 24 ชม. ทั้งมอสโคว์ เปียงยาง เตหะราน มรึงยังเหลือเวลาอีกเท่าไหร่? ยื้อคือสิ้นชาติ หากตื่นตัว ยอมแพ้ตอนนี้ ยังพอมีเหลือบ้าง เพราะขั้วใหม่เค้าจะดูดมรึงไปจนกว่าจะสิ้นแผ่นดิน ใครโง่กันแน่? ใครมองดูก็รู้ สุดท้ายเยรูซาเล็มก็ต้องแตก โยกย้ายถิ่นฐานครั้งใหญ่ เหมือนที่เคยทำมานับ 1000 ปี แนวร่วมไม่เหลือ ย้ายขั้วกันหมดแล้ว เอาตัวรอด ก็โยนบาปให้อีเนรคุณทันยา ฟอกตัวใหม่สิน่ะ แต่โลกไม่ให้อภัยมรึงไปนานแล้ว เค้าจะล่อมรึงจนกว่าจะตายห่าสิ้นโลก หนีไปอเมริกาเหนือซะ ที่ที่มรึงควรจะอยู่ ดินแดนต้องคำสาป เฉพาะเหี้ยเท่านั้นที่อยู่ได้ ไม่ว่ามรึงจะเปลี่ยนผู้นำไปอีกซัก 100 ตัว นโยบายเหี้ยระยำสลัดหมาก็ไม่เคยเปลี่ยน เค้าไม่ขี่ช้างไล่จับตั๊กกะแตนอย่างมรึงดอก ล้างบาง ล้างโคตรเท่านั้น ถึงจะเกิดสันติสุขได้จริง ยิวไม่ตาย โลกไม่มีวันสงบสุข สโลแกนที่ทั้งโลกมอบให้มรึงไงล่ะ? การหยุดยิง ทำให้อียิวประเมินสถานการณ์ใหม่ ฝ่ายต่อต้านเติบโตแข็งแกร่งขึ้นเยอะ จากนี้ มรึงจะบุกเหี้ยอะไรได้อีก มีแต่โดนเค้าถล่มกลับยับ เพราะฮามาสเข้าถึงทุกพื้นที่ได้หมดแล้ว ด้วยอุโมงค์ลับนินจากฮาโตริ โผล่ได้ทุกจุด ไปได้ทุกที่ สมกับที่อดทนรอ ขุดแม่งมากว่า 20 ปี ความตั้งใจ และมุ่งมั่นของชาวปาเลสไตน์ ทำให้อียิวต้องกลายเป็นหมาในวันนี้ จะกฎหมายอะไรก็เท่านั้น ในเมื่อผู้บังคับใช้กฎหมายเป็นได้แค่ขี้ข้ารองตรีนอีเยรูซาเล็ม ดังนั้น ชาวโลก โลกอาหรับจึงมีแค่มติเดียว คือขับไล่เหี้ยออกไปให้พ้น อย่าให้มีเหลือแม้แต่ตัวเดียว ถูกย่างสดแน่มรึง! ทุกวันนี้ ยังยิงกันอยู่ไม่สิ้นสุด แค่ข่าวไม่ออก เพราะผู้คนเบื่อหน่าย มรึงจะรบต่อเพื่อ? แพ้ยับซะขนาดนั้น เอาที่มรึงสบายใจ เพราะสุดท้ายแล้ว อาจจะไม่มี ไอ้อียิวหน้าไหนได้ออกไปจากแผ่นดินคานาอันอีกตลอดกาลเลยก็ได้ ตายห่ากันให้หมด ไอ้ที่อพยผหนีไปนับ 10 ล้านตัวก่อนหน้า กระจายไปตามยุโรป อาเซียน อเมริกาเหนือ หมดแล้ว แต่อย่าคิดว่ารอด ที่ไหนมีชุมชนยิว ที่นั่นมีเฮซบอเลาะห์ตามไปเยี่ยมเยียนเสมอ เพราะมอสสาด คือขนมกรุบ(ของกินเล่น)ของนักล่าอาหรับตอนนี้ไงล่ะ?

    Israel’s Netanyahu crossed all limits to stay in power: Gantz เบนนี่ แกนซ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี Netanyahu เนทันยาฮู ทำทุกทางเพื่อให้ยังมีอำนาจ

    ------------------------------------------------------------------------—
    RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : เบนนี่ แกนซ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี Netanyahu เนทันยาฮู ทำทุกทางเพื่อให้ยังมีอำนาจ

    ผู้นำฝ่ายค้านเบนนี่ แกนซ์โจมตีนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูว่า เขาทำทุกทางเพื่อให้ยังมีอำนาจ

    จากการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Yedioth Aharonoth ประธานพรรค National Unity ระบุว่า นายเนทันยาฮู “สละทุกข้อจำกัดที่เป็นไปได้”

    เขากล่าว่า นายเนทันยาฮู“ทำทุกอย่างเพื่อให้ยังอยู่ในรัฐบาล”

    อย่างไรก็ตาม เขาระบุว่า การกระทำของนาย Netanyahu เนทันยาฮุจะไม่ช่วยให้เขาอยู่รอดทางการเมือง

    คณะรัฐมนตรีอิสราเอลลงคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ให้ไล่นายโรเนน บาร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวน ชิน เบต ที่อ้างถึงความผิดพลาดของสำนักงานที่คาดการณ์การโจมตีของกลุ่ม Al-Aqsa ในปี 2023 แต่ศาลสูงสุดชะลอการตัดสินคดีจนถึงวันที่ 8 เมษายน

    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตามจดหมายถึง “ศาลยุติธรรมสูงสุด” นายบาร์ระบุว่า นายเนทันยาฮูเรียกร้องว่า เขาออกความเห็นที่อ้างถึงความกังวลด้านความปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงการให้การกับศาลอย่างต่อเนื่องกับการสืบสวนคดีทุจริตซึ่งเป็นคำร้องที่นายบาร์ยื่น

    เขาเตือนถึงความเป็นไปได้ว่า ชิน เบตจะกลายเป็นตำรวจสายลับที่ระบุว่า การเพิกเฉยส่ง “ข้อความที่ชัดเจนต่อคำสั่งทั้งหมดของชิน เบต รวมถึงผู้นำคนต่อไปว่า หากพวกเขาเสียประโยชน์ในกลุ่มผู้มีตำแหน่งทางการเมือง การถอดถอนจะต้องได้รับการหารือในที่ประชุมทันที”

    ชาวอิสราเอลประท้วงทุกสัปดาห์ตั้งแต่ที่เขาออกคำสั่งให้กลับมาปฏิบัติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซ่าอีกครั้ง ผู้ประท้วงหลายคนเรียกร้องถึงข้อตกลงหยุดยิงเพื่อให้ยังมีการปล่อยตัวประกันที่ยังอยู่

    การกลับมาปฏิบัติการโจมตีเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงก่อนจะมีการพิจารณาคดีทุจริตของนายเนทันยาฮูที่เขาต้องเข้าแสดงหลักฐาน

    อิสราเอลถูกบังคับให้ตกลงในข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮามาสจากความผิดพลาดของประเทศที่ไม่สามารถบรรลุจุดประสงค์ของการทำสงครามรวมถึง “การกวาดล้าง” กลุ่มฮามาสหรือการปล่อยตัวประกัน

    ข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 42 วันที่เกิดความเสียหายจากการโจมตีอย่างรุนแรงของอิสราเอลหมดอายุเมื่อวันที่ 1 มีนาคม

    https://www.presstv.ir/Detail/2025/04/07/745730/Gantz-Israel-Netanyahu-crossed-all-limits-

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    11-04-68/01 : หมี CNN / ลงจากหลังหมา ก็ยิ่งหมากว่าเดิมสิจ๊ะ? ทำไมมันจะไม่รู้ตัว โดนเป็นแพะรับบาป หนีคุก หนีคดี หนีนักล่าทั่วโลก ใครมันจะยอมปล่อยเก้าอี้กันล่ะ? อีกไม่นาน เยรูซาเล็มก็สิ้นแล้ว เขาเชิญให้มรึงออกไปให้พ้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ ยิ่งสู้ ยิ่งตายห่า ยิ่งห้าวเป้ง ยิ่งฉิบหายหนักกว่าเดิม บรรดาชาติมหาอำนาจ(เก่า) ทั้งสหรัฐ และชาตินาโต้ เสียหมาหนัก โดนเยเมนถล่มกลับอย่างหมา ไม่มีปัญญาจะหยุดใครได้อีกแล้ว มรึงมันตกยุคไปแล้ว ยังเสือก EGO แรงไม่เลิก อาวุธที่เคยภาคภูมิใจเมื่อ 20 ปีก่อน ตอนนี้ แค่ "ขี้หมา ของเด็กเล่น" นวตกรรมใหม่ไม่มี เงินทุนไม่พอ กำลังสำรองไม่เหลือ คลังแสงเกลี้ยง มิน่า รัสเซีย จีน แทบไม่ต้องทำเหี้ยอาไยเลย แค่รอมรึงตายไปเอง ช่วงสูญญากาศ ยิ่งทำให้ศัตรูของยิวเหี้ยไซออนนิสต์แข็งแกร่งขึ้นมาก เติมอาวุธกันอย่างเมามันส์ ผลิตจัดส่งแบบทุกสัปดาห์ ผลิตแบบ NON STOP 24 ชม. ทั้งมอสโคว์ เปียงยาง เตหะราน มรึงยังเหลือเวลาอีกเท่าไหร่? ยื้อคือสิ้นชาติ หากตื่นตัว ยอมแพ้ตอนนี้ ยังพอมีเหลือบ้าง เพราะขั้วใหม่เค้าจะดูดมรึงไปจนกว่าจะสิ้นแผ่นดิน ใครโง่กันแน่? ใครมองดูก็รู้ สุดท้ายเยรูซาเล็มก็ต้องแตก โยกย้ายถิ่นฐานครั้งใหญ่ เหมือนที่เคยทำมานับ 1000 ปี แนวร่วมไม่เหลือ ย้ายขั้วกันหมดแล้ว เอาตัวรอด ก็โยนบาปให้อีเนรคุณทันยา ฟอกตัวใหม่สิน่ะ แต่โลกไม่ให้อภัยมรึงไปนานแล้ว เค้าจะล่อมรึงจนกว่าจะตายห่าสิ้นโลก หนีไปอเมริกาเหนือซะ ที่ที่มรึงควรจะอยู่ ดินแดนต้องคำสาป เฉพาะเหี้ยเท่านั้นที่อยู่ได้ ไม่ว่ามรึงจะเปลี่ยนผู้นำไปอีกซัก 100 ตัว นโยบายเหี้ยระยำสลัดหมาก็ไม่เคยเปลี่ยน เค้าไม่ขี่ช้างไล่จับตั๊กกะแตนอย่างมรึงดอก ล้างบาง ล้างโคตรเท่านั้น ถึงจะเกิดสันติสุขได้จริง ยิวไม่ตาย โลกไม่มีวันสงบสุข สโลแกนที่ทั้งโลกมอบให้มรึงไงล่ะ? การหยุดยิง ทำให้อียิวประเมินสถานการณ์ใหม่ ฝ่ายต่อต้านเติบโตแข็งแกร่งขึ้นเยอะ จากนี้ มรึงจะบุกเหี้ยอะไรได้อีก มีแต่โดนเค้าถล่มกลับยับ เพราะฮามาสเข้าถึงทุกพื้นที่ได้หมดแล้ว ด้วยอุโมงค์ลับนินจากฮาโตริ โผล่ได้ทุกจุด ไปได้ทุกที่ สมกับที่อดทนรอ ขุดแม่งมากว่า 20 ปี ความตั้งใจ และมุ่งมั่นของชาวปาเลสไตน์ ทำให้อียิวต้องกลายเป็นหมาในวันนี้ จะกฎหมายอะไรก็เท่านั้น ในเมื่อผู้บังคับใช้กฎหมายเป็นได้แค่ขี้ข้ารองตรีนอีเยรูซาเล็ม ดังนั้น ชาวโลก โลกอาหรับจึงมีแค่มติเดียว คือขับไล่เหี้ยออกไปให้พ้น อย่าให้มีเหลือแม้แต่ตัวเดียว ถูกย่างสดแน่มรึง! ทุกวันนี้ ยังยิงกันอยู่ไม่สิ้นสุด แค่ข่าวไม่ออก เพราะผู้คนเบื่อหน่าย มรึงจะรบต่อเพื่อ? แพ้ยับซะขนาดนั้น เอาที่มรึงสบายใจ เพราะสุดท้ายแล้ว อาจจะไม่มี ไอ้อียิวหน้าไหนได้ออกไปจากแผ่นดินคานาอันอีกตลอดกาลเลยก็ได้ ตายห่ากันให้หมด ไอ้ที่อพยผหนีไปนับ 10 ล้านตัวก่อนหน้า กระจายไปตามยุโรป อาเซียน อเมริกาเหนือ หมดแล้ว แต่อย่าคิดว่ารอด ที่ไหนมีชุมชนยิว ที่นั่นมีเฮซบอเลาะห์ตามไปเยี่ยมเยียนเสมอ เพราะมอสสาด คือขนมกรุบ(ของกินเล่น)ของนักล่าอาหรับตอนนี้ไงล่ะ? Israel’s Netanyahu crossed all limits to stay in power: Gantz เบนนี่ แกนซ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี Netanyahu เนทันยาฮู ทำทุกทางเพื่อให้ยังมีอำนาจ ------------------------------------------------------------------------— RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : เบนนี่ แกนซ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี Netanyahu เนทันยาฮู ทำทุกทางเพื่อให้ยังมีอำนาจ ผู้นำฝ่ายค้านเบนนี่ แกนซ์โจมตีนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูว่า เขาทำทุกทางเพื่อให้ยังมีอำนาจ จากการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Yedioth Aharonoth ประธานพรรค National Unity ระบุว่า นายเนทันยาฮู “สละทุกข้อจำกัดที่เป็นไปได้” เขากล่าว่า นายเนทันยาฮู“ทำทุกอย่างเพื่อให้ยังอยู่ในรัฐบาล” อย่างไรก็ตาม เขาระบุว่า การกระทำของนาย Netanyahu เนทันยาฮุจะไม่ช่วยให้เขาอยู่รอดทางการเมือง คณะรัฐมนตรีอิสราเอลลงคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ให้ไล่นายโรเนน บาร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวน ชิน เบต ที่อ้างถึงความผิดพลาดของสำนักงานที่คาดการณ์การโจมตีของกลุ่ม Al-Aqsa ในปี 2023 แต่ศาลสูงสุดชะลอการตัดสินคดีจนถึงวันที่ 8 เมษายน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตามจดหมายถึง “ศาลยุติธรรมสูงสุด” นายบาร์ระบุว่า นายเนทันยาฮูเรียกร้องว่า เขาออกความเห็นที่อ้างถึงความกังวลด้านความปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงการให้การกับศาลอย่างต่อเนื่องกับการสืบสวนคดีทุจริตซึ่งเป็นคำร้องที่นายบาร์ยื่น เขาเตือนถึงความเป็นไปได้ว่า ชิน เบตจะกลายเป็นตำรวจสายลับที่ระบุว่า การเพิกเฉยส่ง “ข้อความที่ชัดเจนต่อคำสั่งทั้งหมดของชิน เบต รวมถึงผู้นำคนต่อไปว่า หากพวกเขาเสียประโยชน์ในกลุ่มผู้มีตำแหน่งทางการเมือง การถอดถอนจะต้องได้รับการหารือในที่ประชุมทันที” ชาวอิสราเอลประท้วงทุกสัปดาห์ตั้งแต่ที่เขาออกคำสั่งให้กลับมาปฏิบัติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซ่าอีกครั้ง ผู้ประท้วงหลายคนเรียกร้องถึงข้อตกลงหยุดยิงเพื่อให้ยังมีการปล่อยตัวประกันที่ยังอยู่ การกลับมาปฏิบัติการโจมตีเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงก่อนจะมีการพิจารณาคดีทุจริตของนายเนทันยาฮูที่เขาต้องเข้าแสดงหลักฐาน อิสราเอลถูกบังคับให้ตกลงในข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮามาสจากความผิดพลาดของประเทศที่ไม่สามารถบรรลุจุดประสงค์ของการทำสงครามรวมถึง “การกวาดล้าง” กลุ่มฮามาสหรือการปล่อยตัวประกัน ข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 42 วันที่เกิดความเสียหายจากการโจมตีอย่างรุนแรงของอิสราเอลหมดอายุเมื่อวันที่ 1 มีนาคม https://www.presstv.ir/Detail/2025/04/07/745730/Gantz-Israel-Netanyahu-crossed-all-limits- ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    WWW.PRESSTV.IR
    Israel’s Netanyahu crossed all limits to stay in power: Gantz
    Israeli opposition leader Benny Gantz has slammed prime minister Benjamin Netanyahu, saying he crossed all limits to remain in power.
    0 Comments 0 Shares 474 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษากายนครที่ปลอดภัย
    สัทธรรมลำดับที่ : 589
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=589
    ชื่อบทธรรม :- กายนครที่ปลอดภัย
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --กายนครที่ปลอดภัย
    --ภิกษุ ท. ! อริยสาวก ประกอบด้วยสัทธรรม ๗ ประการ
    และเป็นผู้มีปกติได้ตามปรารถนา โดยไม่ยาก ได้โดยไม่ลำบาก
    ซึ่งฌานทั้งสี่ อันประกอบในจิตอันยิ่ง เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม,
    ในกาลใด ;
    --ภิกษุ ท. ! ในกาลนั้น อริยสาวกนี้เรียกได้ว่า เป็นผู้ที่มารอันมีบาปกระทำอะไรไม่ได้.
    --ภิกษุ ท. ! อริยสาวก ประกอบด้วยสัทธรรม ๗ ประการอย่างไรเล่า ?
    +--ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา
    มีเสาระเนียดอันมีรากลึก ฝังไว้ดี ไม่หวั่นไหว ไม่คลอนแคลน
    สำหรับคุ้มภัยในภายในและป้องกันในภายนอก,
    นี้ฉันใด ;
    +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกก็มีสัทธา เชื่อการตรัสรู้ของพระตถาคตว่า
    “แม้เพราะเหตุอย่างนี้ ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น.... ฯลฯ .... เป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน เป็นผู้จำแนกธรรม”
    ดังนี้,
    +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้มี ๑.สัทธา เป็นเสาระเนียด
    ย่อมละอกุศล เจริญกุศล ละกรรมอันมีโทษเจริญกรรมอันไม่มีโทษ
    บริหารตนให้หมดจดอยู่. ฉันนั้นเหมือนกัน
    : นี้ชื่อว่าผู้ประกอบด้วย สัทธรรมประการที่หนึ่ง.
    -http://etipitaka.com/read/pali/23/110/?keywords=สทฺโธ+ตถาคต

    --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา
    มีคูรอบทั้งลึกและกว้าง สำหรับคุ้มภัยในภายในและป้องกันในภายนอก,
    นี้ฉันใด ;
    +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกก็มี ๒.หิริ
    ละอายต่อกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต
    ละอายต่อการถึงพร้อมด้วยอกุศลธรรมอันลามกทั้งหลาย,
    +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้มีหิริเป็นคูล้อมรอบ ย่อมละอกุศล เจริญกุศล
    ละกรรมอันมีโทษ เจริญกรรม อันไม่มีโทษ บริหารตนให้หมดจดอยู่,
    ฉันนั้นเหมือนกัน
    : นี้ชื่อว่าผู้ประกอบด้วย สัทธรรมประการที่สอง.
    http://etipitaka.com/read/pali/23/110/?keywords=หิริ

    --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีเชิงเทินเดินรอบ
    ทั้งสูงและกว้าง สำหรับคุ้มภัยในภายในและป้องกันในภายนอก,
    นี้ฉันใด;
    +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกก็มี ๓.โอตตัปปะ
    สะดุ้งกลัวต่อกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต
    สะดุ้งกลัวต่อความถึงพร้อมด้วยอกุศลธรรมอันลามกทั้งหลาย.
    +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้ มีโอตตัปปะเป็นเชิงเทินเดินรอบ ย่อมละอกุศล เจริญกุศล
    ละกรรมอันมีโทษ เจริญกรรมอันไม่มีโทษ บริหารตนให้หมดจดอยู่, ฉันนั้นเหมือนกัน
    : นี้ชื่อว่าผู้ประกอบด้วย สัทธรรมประการที่สาม.
    http://etipitaka.com/read/pali/23/110/?keywords=โอตฺตปฺ

    --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา
    มีอาวุธอันสั่งสมไว้เป็นอันมาก
    ทั้งชนิดที่ใช้ประหารใกล้ตัวและประหารไกลตัว
    สำหรับคุ้มภัยในภายในและป้องกันในภายนอก,
    นี้ฉันใด;
    +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกก็มี ๔.สุตะ
    อันตนสดับแล้วมาก ทรงสุตะ สั่งสมสุตะ,
    ธรรมเหล่าใดงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด
    ที่เป็นการประกาศพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง
    พร้อมทั้งอรรถะพร้อมทั้งพยัญชนะ,
    ธรรมมีรูปเห็นปานนั้น อันเขาสดับแล้วมาก
    ทรงไว้ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฏฐิ.
    +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้ มีสุตะเป็นอาวุธ
    ย่อมละอกุศล เจริญกุศล ละกรรมอันมีโทษ
    เจริญกรรมอันไม่มีโทษ บริหารตนให้หมดจดอยู่, ฉันนั้นเหมือนกัน
    : นี้ชื่อว่า ผู้ประกอบด้วย สัทธรรมประการที่สี่.
    -http://etipitaka.com/read/pali/23/111/?keywords=สุตา+พหุสฺสุโต

    --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีกองพลประจำอยู่เป็นอันมาก
    คือกองช้าง กองม้า กองรถ กองธนู กองจัดธงประจำกอง กองเสนาธิการ กองพลาธิการ กองอุคคโยธี กองราชบุตร กองจู่โจมกองมหานาค กองคนกล้า กองโล้ไม้ กองเกราะโล้หนัง กองทาสกบุตร สำหรับคุ้มภัยในภายในและป้องกันในภายนอก,
    นี้ฉันใด ;
    +-ภิกษุ ท. ! อริยสาวกมี ๕.ความเพียร(วิริยะ)​อันปรารภแล้ว
    เพื่อละอกุศลธรรมทั้งหลาย เพื่อยังกุศลธรรมทั้งหลายให้ถึงพร้อม
    มีกำลัง มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดทิ้งธุระในกุศลธรรมทั้งหลาย,
    +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้ มีวิริยะเป็นพลกาย
    ย่อมละอกุศลเจริญกุศล ละกรรมอันมีโทษ
    เจริญกรรมอันไม่มีโทษ บริหารตนให้หมดจดอยู่. ฉันนั้นเหมือนกัน
    : นี้ชื่อว่าผู้ประกอบด้วย สัทธรรมประการที่ห้า.
    -http://etipitaka.com/read/pali/23/111/?keywords=วิริยพลกาโย

    --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีนายทวาร
    ที่เป็นบัณฑิต เฉลียวฉลาด มีปัญญา
    ห้ามเข้าแก่คนที่ไม่รู้จัก ให้เข้าแก่คนที่รู้จัก
    เพื่อคุ้มภัยในภายในและป้องกันในภายนอก,
    นี้ฉันใด;
    +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกเป็นผู้มี ๖.สติ
    ประกอบด้วยสติเป็นเครื่องรักษาอย่างยิ่ง
    ระลึกถึงตามระลึกถึงซึ่งกิจที่กระทำและคำที่พูดแล้วแม้นานได้,
    +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้ มี​สติเป็นนายทวาร ย่อมละอกุศล เจริญกุศล
    ละกรรมอันมีโทษ เจริญกรรมอันไม่มีโทษ บริหารตนให้หมดจดอยู่ ฉันนั้นเหมือนกัน
    : นี้ชื่อว่าผู้ประกอบด้วย สัทธรรมประการที่หก.
    http://etipitaka.com/read/pali/23/112/?keywords=สติโทวาริโก

    --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีกำแพงทั้งสูงและกว้าง
    สมบูรณ์ด้วยการก่อและการฉาบ เพื่อคุ้มภัยในและป้องกันในภายนอก,
    นี้ฉันใด ;
    +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกเป็นผู้มี ๗.ปัญญา
    ประกอบด้วยปัญญาเป็นเครื่องถึงธรรมสัจจะแห่งการตั้งขึ้นและการตั้งอยู่ไม่ได้
    อันเป็นอริยะ เป็นเครื่องชำแรกกิเลส ให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ,
    +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้มีปัญญาเป็นความสมบูรณ์ด้วยการก่อและการฉาบ
    ย่อมละอกุศลเจริญกุศล ละกรรมอันมีโทษ
    เจริญกรรมอันไม่มีโทษ บริหารตนให้หมดจดอยู่,
    ฉันนั้นเหมือนกัน : นี้ชื่อว่าผู้ประกอบด้วย สัทธรรมประการที่เจ็ด.
    http://etipitaka.com/read/pali/23/112/?keywords=ปญฺญาย

    --อริยสาวก เป็นผู้ประกอบพร้อมด้วยสัทธรรม ๗ ประการเหล่านี้แล.
    --ภิกษุ ท. ! อริยสาวก เป็นผู้มีปกติได้ตามปรารถนา ได้ไม่ยาก ได้ไม่ลำบาก
    ซึ่งฌานทั้งสี่(๔) อันประกอบในจิตอันยิ่ง
    เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม เป็นอย่างไรเล่า ?
    ๑--ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา
    มีหญ้า ไม้ และน้ำ สั่งสมไว้เป็นอันมาก
    เพื่อความยินดี ไม่สะดุ้งกลัว อยู่เป็นผาสุก ในภายใน เพื่อป้องกันในภายนอก,
    นี้ฉันใด ;
    +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวก
    สงัดจากกามสงัดจากอกุศลธรรม เข้าถึงปฐมฌาน
    อันมีวิตกวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดจากวิเวก แล้วแลอยู่
    เพื่อความยินดี ไม่สะดุ้งกลัว อยู่เป็นผาสุก แห่งตนเพื่อก้าวลงสู่นิพพาน,
    ฉันนั้นเหมือนกัน.
    -http://etipitaka.com/read/pali/23/112/?keywords=นิพฺพานสฺส

    ๒--ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา
    มีข้าวสาลีและข้าวยวะสะสมไว้เป็นอันมาก
    เพื่อความยินดี ไม่สะดุ้งกลัว อยู่เป็นผาสุก ในภายใน เพื่อป้องกันในภายนอก,
    นี้ฉันใด ;
    +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวก
    เพราะความเข้าไปสงบระงับแห่งวิตกและวิจาร เข้าถึงทุติยฌาน
    อันเป็นเครื่องผ่องใสแห่งใจในภายใน นำให้สมาธิเป็นธรรมอันเอกผุดมีขึ้น
    ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีแต่ปีติและสุขอันเกิดจากสมาธิ แล้วแลอยู่
    เพื่อความยินดี ไม่สะดุ้งกลัว อยู่เป็นผาสุก แห่งตน เพื่อก้าวลงสู่นิพพาน,
    ฉันนั้นเหมือนกัน.
    -http://etipitaka.com/read/pali/23/113/?keywords=นิพฺพานสฺส

    ๓--ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา
    มีอปรัณณชาติ คืองา ถั่วเขียว ถั่วราชมาส เป็นต้น สั่งสมไว้เป็นอันมาก
    เพื่อความยินดีไม่สะดุ้งกลัว อยู่เป็นผาสุก ในภายใน เพื่อป้องกันในภายนอก,
    นี้ฉันใด ;
    +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวก
    เพราะความจางคลายไปแห่งปีติ เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติและสัมปปชัญญะ
    และย่อมเสวยความสุขด้วยนามกาย อันชนิดที่พระอริยเจ้ากล่าวสรรเสริญผู้นั้นว่า
    เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติ อยู่เป็นปกติสุข ดังนี้ เข้าถึงตติยฌาน แล้วแลอยู่
    เพื่อความยินดี ไม่สะดุ้งกลัว อยู่เป็นผาสุก แห่งตน เพื่อก้าวลงสู่นิพพาน,
    ฉันนั้นเหมือนกัน.
    -http://etipitaka.com/read/pali/23/113/?keywords=นิพฺพานสฺส

    ๔--ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา
    มีเภสัชสั่งสมไว้เป็นอันมาก คือ เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย และเกลือ
    เพื่อความยินดี ไม่สะดุ้งกลัว อยู่เป็นผาสุก ในภายใน เพื่อป้องกันในภายนอก,
    นี้ฉันใด ;
    --ภิกษุ ท. ! อริยสาวก
    เพราะละสุขและละทุกข์เสียได้
    เพราะความดับไปแห่งโสมนัสและโทมนัสทั้งสองในกาลก่อน เข้าถึงจตุตถฌาน
    ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข มีแต่ความที่สติเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขา แล้วแลอยู่
    เพื่อความยินดี ไม่สะดุ้งกลัว อยู่เป็นผาสุก แห่งตน เพื่อก้าวลงสู่นิพพาน,
    ฉันนั้นเหมือนกัน.
    -http://etipitaka.com/read/pali/23/113/?keywords=นิพฺพานสฺส

    --อริยสาวก เป็นผู้มีปกติได้ตามปรารถนา ได้ไม่ยาก ได้ไม่ลำบาก
    ซึ่งฌานทั้งสี่อันประกอบในจิตอันยิ่ง เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม
    เหล่านี้แล.
    --ภิกษุ ท. ! อริยสาวกประกอบพร้อมด้วยสัทธรรม ๗ ประการเหล่านี้
    และเป็นผู้มีปกติได้ตามปรารถนา ได้ไม่ยาก ได้ไม่ลำบาก
    ซึ่งฌานทั้งสี่(๔)อันประกอบในจิตอันยิ่ง เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม
    เหล่านี้ด้วย, ในกาลใด ;
    --ภิกษุ ท. ! ในกาลนั้น อริยสาวกนี้
    เรียกได้ว่าเป็นผู้ที่มารอันมีบาป กระทำอะไรไม่ได้.-
    (กายนี้ ได้ชื่อว่า กายนคร เพราะมีอะไร ๆ ที่ต้องจัดการรักษาป้องกันเหมือนกับนคร.
    กายนครนี้มีมารคอยรังควาญอยู่ตลอดเวลา ;
    เมื่ออริยสาวกประกอบอยู่ด้วยสัทธรรมทั้งเจ็ด และ
    มีฌานทั้งสี่เป็นเครื่องอยู่อย่างผาสุกแล้ว มารก็ทำอะไรไม่ได้
    จัดเป็นกายนครที่ปลอดภัยด้วยข้อความเป็นอุปมาอุปไมยอย่างไพเราะมาก
    แห่งพระบาลีนี้).

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สตฺตก. อํ. 23/87-93/64.
    http://etipitaka.com/read/thai/23/87/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%94
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สตฺตก. อํ. ๒๓/๑๐๗-๑๑๓/๖๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/23/107/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%94
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=589
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=39&id=589
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=39
    ลำดับสาธยายธรรม : 39 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_39.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษากายนครที่ปลอดภัย สัทธรรมลำดับที่ : 589 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=589 ชื่อบทธรรม :- กายนครที่ปลอดภัย เนื้อความทั้งหมด :- --กายนครที่ปลอดภัย --ภิกษุ ท. ! อริยสาวก ประกอบด้วยสัทธรรม ๗ ประการ และเป็นผู้มีปกติได้ตามปรารถนา โดยไม่ยาก ได้โดยไม่ลำบาก ซึ่งฌานทั้งสี่ อันประกอบในจิตอันยิ่ง เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม, ในกาลใด ; --ภิกษุ ท. ! ในกาลนั้น อริยสาวกนี้เรียกได้ว่า เป็นผู้ที่มารอันมีบาปกระทำอะไรไม่ได้. --ภิกษุ ท. ! อริยสาวก ประกอบด้วยสัทธรรม ๗ ประการอย่างไรเล่า ? +--ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีเสาระเนียดอันมีรากลึก ฝังไว้ดี ไม่หวั่นไหว ไม่คลอนแคลน สำหรับคุ้มภัยในภายในและป้องกันในภายนอก, นี้ฉันใด ; +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกก็มีสัทธา เชื่อการตรัสรู้ของพระตถาคตว่า “แม้เพราะเหตุอย่างนี้ ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น.... ฯลฯ .... เป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน เป็นผู้จำแนกธรรม” ดังนี้, +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้มี ๑.สัทธา เป็นเสาระเนียด ย่อมละอกุศล เจริญกุศล ละกรรมอันมีโทษเจริญกรรมอันไม่มีโทษ บริหารตนให้หมดจดอยู่. ฉันนั้นเหมือนกัน : นี้ชื่อว่าผู้ประกอบด้วย สัทธรรมประการที่หนึ่ง. -http://etipitaka.com/read/pali/23/110/?keywords=สทฺโธ+ตถาคต --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีคูรอบทั้งลึกและกว้าง สำหรับคุ้มภัยในภายในและป้องกันในภายนอก, นี้ฉันใด ; +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกก็มี ๒.หิริ ละอายต่อกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ละอายต่อการถึงพร้อมด้วยอกุศลธรรมอันลามกทั้งหลาย, +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้มีหิริเป็นคูล้อมรอบ ย่อมละอกุศล เจริญกุศล ละกรรมอันมีโทษ เจริญกรรม อันไม่มีโทษ บริหารตนให้หมดจดอยู่, ฉันนั้นเหมือนกัน : นี้ชื่อว่าผู้ประกอบด้วย สัทธรรมประการที่สอง. http://etipitaka.com/read/pali/23/110/?keywords=หิริ --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีเชิงเทินเดินรอบ ทั้งสูงและกว้าง สำหรับคุ้มภัยในภายในและป้องกันในภายนอก, นี้ฉันใด; +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกก็มี ๓.โอตตัปปะ สะดุ้งกลัวต่อกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต สะดุ้งกลัวต่อความถึงพร้อมด้วยอกุศลธรรมอันลามกทั้งหลาย. +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้ มีโอตตัปปะเป็นเชิงเทินเดินรอบ ย่อมละอกุศล เจริญกุศล ละกรรมอันมีโทษ เจริญกรรมอันไม่มีโทษ บริหารตนให้หมดจดอยู่, ฉันนั้นเหมือนกัน : นี้ชื่อว่าผู้ประกอบด้วย สัทธรรมประการที่สาม. http://etipitaka.com/read/pali/23/110/?keywords=โอตฺตปฺ --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีอาวุธอันสั่งสมไว้เป็นอันมาก ทั้งชนิดที่ใช้ประหารใกล้ตัวและประหารไกลตัว สำหรับคุ้มภัยในภายในและป้องกันในภายนอก, นี้ฉันใด; +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกก็มี ๔.สุตะ อันตนสดับแล้วมาก ทรงสุตะ สั่งสมสุตะ, ธรรมเหล่าใดงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ที่เป็นการประกาศพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง พร้อมทั้งอรรถะพร้อมทั้งพยัญชนะ, ธรรมมีรูปเห็นปานนั้น อันเขาสดับแล้วมาก ทรงไว้ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฏฐิ. +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้ มีสุตะเป็นอาวุธ ย่อมละอกุศล เจริญกุศล ละกรรมอันมีโทษ เจริญกรรมอันไม่มีโทษ บริหารตนให้หมดจดอยู่, ฉันนั้นเหมือนกัน : นี้ชื่อว่า ผู้ประกอบด้วย สัทธรรมประการที่สี่. -http://etipitaka.com/read/pali/23/111/?keywords=สุตา+พหุสฺสุโต --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีกองพลประจำอยู่เป็นอันมาก คือกองช้าง กองม้า กองรถ กองธนู กองจัดธงประจำกอง กองเสนาธิการ กองพลาธิการ กองอุคคโยธี กองราชบุตร กองจู่โจมกองมหานาค กองคนกล้า กองโล้ไม้ กองเกราะโล้หนัง กองทาสกบุตร สำหรับคุ้มภัยในภายในและป้องกันในภายนอก, นี้ฉันใด ; +-ภิกษุ ท. ! อริยสาวกมี ๕.ความเพียร(วิริยะ)​อันปรารภแล้ว เพื่อละอกุศลธรรมทั้งหลาย เพื่อยังกุศลธรรมทั้งหลายให้ถึงพร้อม มีกำลัง มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดทิ้งธุระในกุศลธรรมทั้งหลาย, +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้ มีวิริยะเป็นพลกาย ย่อมละอกุศลเจริญกุศล ละกรรมอันมีโทษ เจริญกรรมอันไม่มีโทษ บริหารตนให้หมดจดอยู่. ฉันนั้นเหมือนกัน : นี้ชื่อว่าผู้ประกอบด้วย สัทธรรมประการที่ห้า. -http://etipitaka.com/read/pali/23/111/?keywords=วิริยพลกาโย --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีนายทวาร ที่เป็นบัณฑิต เฉลียวฉลาด มีปัญญา ห้ามเข้าแก่คนที่ไม่รู้จัก ให้เข้าแก่คนที่รู้จัก เพื่อคุ้มภัยในภายในและป้องกันในภายนอก, นี้ฉันใด; +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกเป็นผู้มี ๖.สติ ประกอบด้วยสติเป็นเครื่องรักษาอย่างยิ่ง ระลึกถึงตามระลึกถึงซึ่งกิจที่กระทำและคำที่พูดแล้วแม้นานได้, +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้ มี​สติเป็นนายทวาร ย่อมละอกุศล เจริญกุศล ละกรรมอันมีโทษ เจริญกรรมอันไม่มีโทษ บริหารตนให้หมดจดอยู่ ฉันนั้นเหมือนกัน : นี้ชื่อว่าผู้ประกอบด้วย สัทธรรมประการที่หก. http://etipitaka.com/read/pali/23/112/?keywords=สติโทวาริโก --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีกำแพงทั้งสูงและกว้าง สมบูรณ์ด้วยการก่อและการฉาบ เพื่อคุ้มภัยในและป้องกันในภายนอก, นี้ฉันใด ; +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกเป็นผู้มี ๗.ปัญญา ประกอบด้วยปัญญาเป็นเครื่องถึงธรรมสัจจะแห่งการตั้งขึ้นและการตั้งอยู่ไม่ได้ อันเป็นอริยะ เป็นเครื่องชำแรกกิเลส ให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ, +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้มีปัญญาเป็นความสมบูรณ์ด้วยการก่อและการฉาบ ย่อมละอกุศลเจริญกุศล ละกรรมอันมีโทษ เจริญกรรมอันไม่มีโทษ บริหารตนให้หมดจดอยู่, ฉันนั้นเหมือนกัน : นี้ชื่อว่าผู้ประกอบด้วย สัทธรรมประการที่เจ็ด. http://etipitaka.com/read/pali/23/112/?keywords=ปญฺญาย --อริยสาวก เป็นผู้ประกอบพร้อมด้วยสัทธรรม ๗ ประการเหล่านี้แล. --ภิกษุ ท. ! อริยสาวก เป็นผู้มีปกติได้ตามปรารถนา ได้ไม่ยาก ได้ไม่ลำบาก ซึ่งฌานทั้งสี่(๔) อันประกอบในจิตอันยิ่ง เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม เป็นอย่างไรเล่า ? ๑--ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีหญ้า ไม้ และน้ำ สั่งสมไว้เป็นอันมาก เพื่อความยินดี ไม่สะดุ้งกลัว อยู่เป็นผาสุก ในภายใน เพื่อป้องกันในภายนอก, นี้ฉันใด ; +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวก สงัดจากกามสงัดจากอกุศลธรรม เข้าถึงปฐมฌาน อันมีวิตกวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดจากวิเวก แล้วแลอยู่ เพื่อความยินดี ไม่สะดุ้งกลัว อยู่เป็นผาสุก แห่งตนเพื่อก้าวลงสู่นิพพาน, ฉันนั้นเหมือนกัน. -http://etipitaka.com/read/pali/23/112/?keywords=นิพฺพานสฺส ๒--ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีข้าวสาลีและข้าวยวะสะสมไว้เป็นอันมาก เพื่อความยินดี ไม่สะดุ้งกลัว อยู่เป็นผาสุก ในภายใน เพื่อป้องกันในภายนอก, นี้ฉันใด ; +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวก เพราะความเข้าไปสงบระงับแห่งวิตกและวิจาร เข้าถึงทุติยฌาน อันเป็นเครื่องผ่องใสแห่งใจในภายใน นำให้สมาธิเป็นธรรมอันเอกผุดมีขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีแต่ปีติและสุขอันเกิดจากสมาธิ แล้วแลอยู่ เพื่อความยินดี ไม่สะดุ้งกลัว อยู่เป็นผาสุก แห่งตน เพื่อก้าวลงสู่นิพพาน, ฉันนั้นเหมือนกัน. -http://etipitaka.com/read/pali/23/113/?keywords=นิพฺพานสฺส ๓--ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีอปรัณณชาติ คืองา ถั่วเขียว ถั่วราชมาส เป็นต้น สั่งสมไว้เป็นอันมาก เพื่อความยินดีไม่สะดุ้งกลัว อยู่เป็นผาสุก ในภายใน เพื่อป้องกันในภายนอก, นี้ฉันใด ; +--ภิกษุ ท. ! อริยสาวก เพราะความจางคลายไปแห่งปีติ เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติและสัมปปชัญญะ และย่อมเสวยความสุขด้วยนามกาย อันชนิดที่พระอริยเจ้ากล่าวสรรเสริญผู้นั้นว่า เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติ อยู่เป็นปกติสุข ดังนี้ เข้าถึงตติยฌาน แล้วแลอยู่ เพื่อความยินดี ไม่สะดุ้งกลัว อยู่เป็นผาสุก แห่งตน เพื่อก้าวลงสู่นิพพาน, ฉันนั้นเหมือนกัน. -http://etipitaka.com/read/pali/23/113/?keywords=นิพฺพานสฺส ๔--ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีเภสัชสั่งสมไว้เป็นอันมาก คือ เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย และเกลือ เพื่อความยินดี ไม่สะดุ้งกลัว อยู่เป็นผาสุก ในภายใน เพื่อป้องกันในภายนอก, นี้ฉันใด ; --ภิกษุ ท. ! อริยสาวก เพราะละสุขและละทุกข์เสียได้ เพราะความดับไปแห่งโสมนัสและโทมนัสทั้งสองในกาลก่อน เข้าถึงจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข มีแต่ความที่สติเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขา แล้วแลอยู่ เพื่อความยินดี ไม่สะดุ้งกลัว อยู่เป็นผาสุก แห่งตน เพื่อก้าวลงสู่นิพพาน, ฉันนั้นเหมือนกัน. -http://etipitaka.com/read/pali/23/113/?keywords=นิพฺพานสฺส --อริยสาวก เป็นผู้มีปกติได้ตามปรารถนา ได้ไม่ยาก ได้ไม่ลำบาก ซึ่งฌานทั้งสี่อันประกอบในจิตอันยิ่ง เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม เหล่านี้แล. --ภิกษุ ท. ! อริยสาวกประกอบพร้อมด้วยสัทธรรม ๗ ประการเหล่านี้ และเป็นผู้มีปกติได้ตามปรารถนา ได้ไม่ยาก ได้ไม่ลำบาก ซึ่งฌานทั้งสี่(๔)อันประกอบในจิตอันยิ่ง เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม เหล่านี้ด้วย, ในกาลใด ; --ภิกษุ ท. ! ในกาลนั้น อริยสาวกนี้ เรียกได้ว่าเป็นผู้ที่มารอันมีบาป กระทำอะไรไม่ได้.- (กายนี้ ได้ชื่อว่า กายนคร เพราะมีอะไร ๆ ที่ต้องจัดการรักษาป้องกันเหมือนกับนคร. กายนครนี้มีมารคอยรังควาญอยู่ตลอดเวลา ; เมื่ออริยสาวกประกอบอยู่ด้วยสัทธรรมทั้งเจ็ด และ มีฌานทั้งสี่เป็นเครื่องอยู่อย่างผาสุกแล้ว มารก็ทำอะไรไม่ได้ จัดเป็นกายนครที่ปลอดภัยด้วยข้อความเป็นอุปมาอุปไมยอย่างไพเราะมาก แห่งพระบาลีนี้). #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สตฺตก. อํ. 23/87-93/64. http://etipitaka.com/read/thai/23/87/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%94 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สตฺตก. อํ. ๒๓/๑๐๗-๑๑๓/๖๔. http://etipitaka.com/read/pali/23/107/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%94 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=589 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=39&id=589 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=39 ลำดับสาธยายธรรม : 39 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_39.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - กายนครที่ปลอดภัย
    -กายนครที่ปลอดภัย ภิกษุ ท. ! อริยสาวก ประกอบด้วยสัทธรรม ๗ ประการ และเป็นผู้มีปกติได้ตามปรารถนา โดยไม่ยาก ได้โดยไม่ลำบาก ซึ่งฌานทั้งสี่ อันประกอบในจิตอันยิ่ง เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม, ในกาลใด ; ภิกษุ ท. ! ในกาลนั้น อริยสาวกนี้เรียกได้ว่า เป็นผู้ที่มารอันมีบาปกระทำอะไรไม่ได้. ภิกษุ ท. ! อริยสาวก ประกอบด้วยสัทธรรม ๗ ประการอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีเสาระเนียดอันมีรากลึก ฝังไว้ดี ไม่หวั่นไหว ไม่คลอนแคลน สำหรับคุ้มภัยในภายในและป้องกันในภายนอก, นี้ฉันใด ; ภิกษุ ท. ! อริยสาวกก็มีสัทธา เชื่อการตรัสรู้ของพระตถาคตว่า “แม้เพราะเหตุอย่างนี้ ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น.... ฯลฯ .... เป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน เป็นผู้จำแนกธรรม” ดังนี้, ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้ มีสัทธาเป็นเสาระเนียด ย่อมละอกุศล เจริญกุศล ละกรรมอันมีโทษเจริญกรรมอันไม่มีโทษ บริหารตนให้หมดจดอยู่. ฉันนั้นเหมือนกัน : นี้ชื่อว่าผู้ประกอบด้วย สัทธรรมประการที่หนึ่ง. ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีคูรอบทั้งลึกและกว้าง สำหรับคุ้มภัยในภายในและป้องกันในภายนอก, นี้ฉันใด ; ภิกษุ ท. ! อริยสาวกก็มีหิริ ละอายต่อกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ละอายต่อการถึงพร้อมด้วยอกุศลธรรมอันลามกทั้งหลาย, ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้มีหิริเป็นคูล้อมรอบ ย่อมละอกุศล เจริญกุศล ละกรรมอันมีโทษ เจริญกรรม อันไม่มีโทษ บริหารตนให้หมดจดอยู่, ฉันนั้นเหมือนกัน : นี้ชื่อว่าผู้ประกอบด้วย สัทธรรมประการที่สอง. ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีเชิงเทินเดินรอบ ทั้งสูงและกว้าง สำหรับคุ้มภัยในภายในและป้องกันในภายนอก, นี้ฉันใด; ภิกษุ ท. ! อริยสาวกก็มีโอตตัปปะ สะดุ้งกลัวต่อกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต สะดุ้งกลัวต่อความถึงพร้อมด้วยอกุศลธรรมอันลามกทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้ มีโอตตัปปะเป็นเชิงเทินเดินรอบ ย่อมละอกุศล เจริญกุศล ละกรรมอันมีโทษ เจริญกรรมอันไม่มีโทษ บริหารตนให้หมดจดอยู่, ฉันนั้นเหมือนกัน : นี้ชื่อว่าผู้ประกอบด้วย สัทธรรมประการที่สาม. ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีอาวุธอันสั่งสมไว้เป็นอันมาก ทั้งชนิดที่ใช้ประหารใกล้ตัวและประหารไกลตัว สำหรับคุ้มภัยในภายในและป้องกันในภายนอก, นี้ฉันใด; ภิกษุ ท. ! อริยสาวกก็มีสุตะ อันตนสดับแล้วมาก ทรงสุตะ สั่งสมสุตะ, ธรรมเหล่าใดงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ที่เป็นการประกาศพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง พร้อมทั้งอรรถะพร้อมทั้งพยัญชนะ, ธรรมมีรูปเห็นปานนั้น อันเขาสดับแล้วมาก ทรงไว้ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฏฐิ. ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้ มีสุตะเป็นอาวุธ ย่อมละอกุศล เจริญกุศล ละกรรมอันมีโทษ เจริญกรรมอันไม่มีโทษ บริหารตนให้หมดจดอยู่, ฉันนั้นเหมือนกัน : นี้ชื่อว่า ผู้ประกอบด้วย สัทธรรมประการที่สี่. ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีกองพลประจำอยู่เป็นอันมาก คือกองช้าง กองม้า กองรถ กองธนู กองจัดธงประจำกอง กองเสนาธิการ กองพลาธิการ กองอุคคโยธี กองราชบุตร กองจู่โจมกองมหานาค กองคนกล้า กองโล้ไม้ กองเกราะโล้หนัง กองทาสกบุตร สำหรับคุ้มภัยในภายในและป้องกันในภายนอก, นี้ฉันใด ; ภิกษุ ท. ! อริยสาวกมีความเพียรอันปรารภแล้ว เพื่อละอกุศลธรรมทั้งหลาย เพื่อยังกุศลธรรมทั้งหลายให้ถึงพร้อม มีกำลัง มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดทิ้งธุระในกุศลธรรมทั้งหลาย, ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้ มีวิริยะเป็นพลกาย ย่อมละอกุศล เจริญกุศล ละกรรมอันมีโทษ เจริญกรรมอันไม่มีโทษ บริหารตนให้หมดจดอยู่. ฉันนั้นเหมือนกัน : นี้ชื่อว่าผู้ประกอบด้วย สัทธรรมประการที่ห้า. ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีนายทวาร ที่เป็นบัณฑิต เฉลียวฉลาด มีปัญญา ห้ามเข้าแก่คนที่ไม่รู้จัก ให้เข้าแก่คนที่รู้จัก เพื่อคุ้มภัยในภายในและป้องกันในภายนอก, นี้ฉันใด; ภิกษุ ท. ! อริยสาวกเป็นผู้มีสติ ประกอบด้วยสติเป็นเครื่องรักษาอย่างยิ่ง ระลึกถึง ตามระลึกถึงซึ่งกิจที่กระทำและคำที่พูดแล้วแม้นานได้, ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้ มีสติเป็นนายทวาร ย่อมละอกุศล เจริญกุศล ละกรรมอันมีโทษ เจริญกรรมอันไม่มีโทษ บริหารตนให้หมดจดอยู่ ฉันนั้นเหมือนกัน : นี้ชื่อว่าผู้ประกอบด้วย สัทธรรมประการที่หก. ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีกำแพงทั้งสูงและกว้าง สมบูรณ์ด้วยการก่อและการฉาบ เพื่อคุ้มภัยในและป้องกันในภายนอก, นี้ฉันใด ; ภิกษุ ท. ! อริยสาวกเป็นผู้มีปัญญา ประกอบด้วยปัญญาเป็นเครื่องถึงธรรมสัจจะแห่งการตั้งขึ้นและการตั้งอยู่ไม่ได้ อันเป็นอริยะ เป็นเครื่องชำแรกกิเลส ให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ, ภิกษุ ท. ! อริยสาวกผู้มีปัญญาเป็นความสมบูรณ์ด้วยการก่อและการฉาบ ย่อมละอกุศลเจริญกุศล ละกรรมอันมีโทษ เจริญกรรมอันไม่มีโทษ บริหารตนให้หมดจดอยู่, ฉันนั้นเหมือนกัน : นี้ชื่อว่าผู้ประกอบด้วย สัทธรรมประการที่เจ็ด. อริยสาวก เป็นผู้ประกอบพร้อมด้วยสัทธรรม ๗ ประการเหล่านี้แล. ภิกษุ ท. ! อริยสาวก เป็นผู้มีปกติได้ตามปรารถนา ได้ไม่ยาก ได้ไม่ ลำบาก ซึ่งฌานทั้งสี่ อันประกอบในจิตอันยิ่ง เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีหญ้า ไม้ และน้ำ สั่งสมไว้เป็นอันมาก เพื่อความยินดี ไม่สะดุ้งกลัว อยู่เป็นผาสุก ในภายใน เพื่อป้องกันในภายนอก, นี้ฉันใด ; ภิกษุ ท. ! อริยสาวก สงัดจากกามสงัดจากอกุศลธรรม เข้าถึงปฐมฌาน อันมีวิตกวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดจากวิเวก แล้วแลอยู่ เพื่อความยินดี ไม่สะดุ้งกลัว อยู่เป็นผาสุก แห่งตนเพื่อก้าวลงสู่นิพพาน, ฉันนั้นเหมือนกัน. ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีข้าวสาลีและข้าวยวะสะสมไว้เป็นอันมาก เพื่อความยินดี ไม่สะดุ้งกลัว อยู่เป็นผาสุก ในภายใน เพื่อป้องกันในภายนอก, นี้ฉันใด ; ภิกษุ ท. ! อริยสาวก เพราะความเข้าไปสงบระงับแห่งวิตกและวิจาร เข้าถึงทุติยฌาน อันเป็นเครื่องผ่องใสแห่งใจในภายใน นำให้สมาธิเป็นธรรมอันเอกผุดมีขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีแต่ปีติและสุขอันเกิดจากสมาธิ แล้วแลอยู่ เพื่อความยินดี ไม่สะดุ้งกลัว อยู่เป็นผาสุก แห่งตน เพื่อก้าวลงสู่นิพพาน, ฉันนั้นเหมือนกัน. ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีอปรัณณชาติ คืองา ถั่วเขียว ถั่วราชมาส เป็นต้น สั่งสมไว้เป็นอันมาก เพื่อความยินดีไม่สะดุ้งกลัว อยู่เป็นผาสุก ในภายใน เพื่อป้องกันในภายนอก, นี้ฉันใด ; ภิกษุ ท. ! อริยสาวก เพราะความจางคลายไปแห่งปีติ เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติและสัมปปชัญญะ และย่อมเสวยความสุขด้วยนามกาย อันชนิดที่พระอริยเจ้า กล่าวสรรเสริญผู้นั้นว่า เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติ อยู่เป็นปกติสุข ดังนี้ เข้าถึงตติยฌาน แล้วแลอยู่ เพื่อความยินดี ไม่สะดุ้งกลัว อยู่เป็นผาสุก แห่งตน เพื่อก้าวลงสู่นิพพาน, ฉันนั้นเหมือนกัน. ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนในปัจจันตนครของพระราชา มีเภสัชสั่งสมไว้เป็นอันมาก คือ เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย และเกลือเพื่อความยินดี ไม่สะดุ้งกลัว อยู่เป็นผาสุก ในภายใน เพื่อป้องกันในภายนอก, นี้ฉันใด ; ภิกษุ ท. ! อริยสาวก เพราะละสุขและละทุกข์เสียได้ เพราะความดับไปแห่งโสมนัสและโทมนัสทั้งสองในกาลก่อน เข้าถึงจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข มีแต่ความที่สติเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขา แล้วแลอยู่ เพื่อความยินดี ไม่สะดุ้งกลัว อยู่เป็นผาสุก แห่งตน เพื่อก้าวลงสู่นิพพาน, ฉันนั้นเหมือนกัน. อริยสาวก เป็นผู้มีปกติได้ตามปรารถนา ได้ไม่ยาก ได้ไม่ลำบากซึ่งฌานทั้งสี่อันประกอบในจิตอันยิ่ง เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม เหล่านี้แล. ภิกษุ ท. ! อริยสาวกประกอบพร้อมด้วยสัทธรรม ๗ ประการเหล่านี้และเป็นผู้มีปกติได้ตามปรารถนา ได้ไม่ยาก ได้ไม่ลำบาก ซึ่งฌานทั้งสี่อันประกอบในจิตอันยิ่ง เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม เหล่านี้ด้วย, ในกาลใด ; ภิกษุ ท. ! ในกาลนั้น อริยสาวกนี้ เรียกได้ว่าเป็นผู้ที่มารอันมีบาป กระทำอะไรไม่ได้.
    0 Comments 0 Shares 284 Views 0 Reviews
  • ♣ ปลอบขวัญทันมั้ย คนรอดกลับบ้านไปหมดแล้ว คนบาดเจ็บนอนโรงบาลจนหายกลับบ้านแล้ว คนเสียชีวิตก็ฌาปนกิจไปแล้ว เหลือซากใต้อาคารซึ่งพวกเขาไม่รับรู้อะไรได้แล้ว โผล่มาเกาะส่วนบุญไถ่บาปเหรอ
    #7ดอกจิก
    ♣ ปลอบขวัญทันมั้ย คนรอดกลับบ้านไปหมดแล้ว คนบาดเจ็บนอนโรงบาลจนหายกลับบ้านแล้ว คนเสียชีวิตก็ฌาปนกิจไปแล้ว เหลือซากใต้อาคารซึ่งพวกเขาไม่รับรู้อะไรได้แล้ว โผล่มาเกาะส่วนบุญไถ่บาปเหรอ #7ดอกจิก
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 Reviews
  • รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 4 คนบริสุทธิ์ด้วยการงาน
    .
    งานไม่เคยทำร้ายหรือฆ่าใคร ยิ่งทำงานหลากหลายลักษณะที่ท้าทายความสามารถ รวมทั้งยิ่งทำงานหนัก ที่ก่อให้เกิดประโยชน์เพียงใด ก็ยิ่งทำให้บุคคลนั้นมีประสบการณ์และมีศักยภาพที่สูงขึ้นเพียงนั้น ปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญอย่างหนึ่งนอกเหนือจากการมีความรู้ความสามารถในงานเป็นอย่างดี พร้อมทั้งใส่ใจหาความรู้พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องแล้ว ก็คือ การมีเป้าหมายในชีวิต มีความบากบั่นมานะ พยายามให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ชัดเจนอย่างเด็ดเดี่ยวและมีคุณธรรม ซึ่งการมีวินัยบังคับตนเองเป็นเงื่อนไขสำคัญยิ่งในการเดินทางสู่ความสำเร็จ
    .
    ชีวิตการทำงานของมนุษย์นั้นไม่ยาวนานนัก สูงสุดไม่เกิน 30ปีเศษ ก็ถึงวัยเกษียณ หากตลอดอายุการทำงานนั้นมิได้มีการวางแผนด้านรายได้และการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ และรัดกุมแล้ว เงินทองที่หามาได้ก็จะหมดไปอย่างไม่มีความหมายนัก กล่าวคือ มีความสุขสบายในช่วงวัยทำงาน แต่เมื่อพ้นช่วงเวลานี้ไปแล้ว ก็ขาดรายได้ที่จะทำให้สามารถรักษาระดับความสุขและสะดวกสบายไว้ดังเดิมได้ ลักษณะเช่นนี้เรียกได้ว่า มีความสุขเพียงครึ่งเดียวของช่วงเวลา นั่นคือ สุขในวัยทำงานและทุกข์ในวัยพ้นทำงาน คำถามสำคัญก็คือ ทำอย่างไรบุคคลหนึ่งที่ทำงานมาตลอดชีวิต จะมีความสุขอันเกิดจากความมั่นคงทางการเงินไปตลอด มีมาตราฐานการครองชีพในระดับที่น่าพอใจอย่างคงที่ แม้จะพ้นจากวัยทำงานแล้วก็ตาม
    .
    การบรรลุคุณภาพชีวิตที่น่าพึงปรารถนาดังกล่าว เจ้าของรายได้ต้องเป็นผู้รับผิดชอบเองในเบื้องแรก ไม่อาจหวังพึ่งภาครัฐ หรือนายจ้าง เพราะไม่อาจวางใจได้ว่าตนเองจะได้รับความมั่นคงในชีวิตสมดังใจหวังได้ เจ้าของรายได้จะต้องเป็นที่พึ่งของตนเองด้วยการวางแผน การหารายได้ การใช้จ่าย และการออม เพราะการออมจะนำไปสู่การลงทุน และการเกิดของรายได้ทั้งในวัยทำงานและวันพ้นทำงานโดยไม่ต้องออกแรงทำงาน
    .
    เงินออม เป็นฐานสำคัญของการเป็นมิตรของเงิน และเงินออมของบุคคลจะเกิดขึ้นได้ ก็เพราะมีสิ่งที่เรียกว่า ความมัธยัสถ์ ซึ่งหมายถึง การใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวัง ไม่สุรุ่ยสุร่าย ไม่ใช้จ่ายอย่างโง่เขลาเบาปัญญา ในสิ่งที่ไม่ควรจ่าย เช่น เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือบ่อยๆ ตามแฟชั่น ทั้งๆที่ไม่จำเป็น
    .
    เงินออมของบุคคลใดๆ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อรายจ่ายต่ำกว่ารายได้ และรายจ่ายจะต่ำกว่ารายได้ก็ต่อเมื่อมีความมัธยัสถ์เป็นอุปนิสัย การมัธยัสถ์มิใช่การเอาเปรียบหรือเห็นแก่ตัว หากเป็นแบบแผนหนึ่งของการดำรงชีวิตซึ่งใครก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกได้ การที่บางคนชอบใช้เงินสิ้นเปลืองสุรุ่ยสุร่าย ซื้อของต่างๆโดยมิได้คำนึงถึงประโยชน์ของการใช้สอย ก็เป็นแบบแผนหนึ่งของการดำรงชีพ คนมัธยัสถ์ที่ใจกว้างรู้จักการให้อย่างมีความหมาย อาจมีจำนวนมากกว่าคนสุรุ่ยสุร่ายที่ใจแคบและไม่รู้จักการให้ก็เป็นได้
    .
    พฤติกรรมโดยรวมของบุคคลที่จะทำให้เงินเป็นมิตร ก็คือ “กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ” หรือดังคำโบราณที่ว่า “จงมีเกินใช้ แต่อย่าใช้เกินมี” กล่าวคือ ไม่ว่าจะสามารถอยู่กินในระดับที่คนมีรายได้ขนาดเดียวกันอยู่กินได้อย่างไร ก็จงอยู่กินต่ำกว่าระดับนั้นเสมอ พฤติกรรมเช่นนี้จะทำให้มีเงินออม และมีโอกาสให้ “เงินทำงานรับใช้”
    .
    สำหรับความเป็นศัตรูของเงินนั้น หมายถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่เจ้าของเงิน อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการใช้จ่าย ปรากฏการณ์ดังกล่าวมีข้อสังเกตหลายประการดังต่อไปนี้
    .
    ประการแรก : คือความปรารถนาที่จะบริโภคอย่างทันด่วนของผู้บริโภคโดยทั่วไป เป็นพฤติกรรมที่ทำให้ยินดีกู้ยืมจ่ายดอกเบี้ยในอัตราสูง เพียงเพื่อให้ได้สิ่งของที่ต้องใจ
    ประการที่สอง : การกู้ยืมเกิดขึ้นเพราะ ไม่มีเงินสดเพียงพอที่จะจับจ่าย ณ เวลานั้น จึงต้องกู้ยืม ซึ่งก็คือการนำรายได้ในอนาคตของตนมาใช้โดยต้องจ่ายต้นทุนสูง ต้นเหตุของการกู้ยืมส่วนใหญ่ก็มาจากรายจ่ายสูงกว่ารายได้ และเมือนั้นเงินก็กลายเป็นศัตรูตัวร้าย เพราะดอกเบี้ยจะทำงานตลอดเวลา และคอยทิ่มแทงเจ้าของไม่ว่าในยามหลับหรือตื่น
    .
    ต้นทุนของการกู้ยืมนั้นสูง ตัวอย่างเช่น กู้เงิน 100,000 บาท จ่ายดอกเบี้ยทบต้นร้อยละ 9 ต่อปี ถ้ากู้เงินโดยไม่ชำระอย่างใดทั้งสิ้น ภายในเวลา 8 ปี ยอดเงินต้นและดอกเบี้ยรวมกัน จะเพิ่มอีกประมาณหนึ่งเท่าตัวเป็น 200,000 บาท และหากยังไม่ชำระอีก ในเวลา 8 ปีต่อมา ยอดเงินนี้ก็จะสูงขึ้นอีกเป็น 400,000 บาท หรือประมาณ 4 เท่าตัว ของเงินต้นในเวลา 16 ปี
    รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 4 คนบริสุทธิ์ด้วยการงาน . งานไม่เคยทำร้ายหรือฆ่าใคร ยิ่งทำงานหลากหลายลักษณะที่ท้าทายความสามารถ รวมทั้งยิ่งทำงานหนัก ที่ก่อให้เกิดประโยชน์เพียงใด ก็ยิ่งทำให้บุคคลนั้นมีประสบการณ์และมีศักยภาพที่สูงขึ้นเพียงนั้น ปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญอย่างหนึ่งนอกเหนือจากการมีความรู้ความสามารถในงานเป็นอย่างดี พร้อมทั้งใส่ใจหาความรู้พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องแล้ว ก็คือ การมีเป้าหมายในชีวิต มีความบากบั่นมานะ พยายามให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ชัดเจนอย่างเด็ดเดี่ยวและมีคุณธรรม ซึ่งการมีวินัยบังคับตนเองเป็นเงื่อนไขสำคัญยิ่งในการเดินทางสู่ความสำเร็จ . ชีวิตการทำงานของมนุษย์นั้นไม่ยาวนานนัก สูงสุดไม่เกิน 30ปีเศษ ก็ถึงวัยเกษียณ หากตลอดอายุการทำงานนั้นมิได้มีการวางแผนด้านรายได้และการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ และรัดกุมแล้ว เงินทองที่หามาได้ก็จะหมดไปอย่างไม่มีความหมายนัก กล่าวคือ มีความสุขสบายในช่วงวัยทำงาน แต่เมื่อพ้นช่วงเวลานี้ไปแล้ว ก็ขาดรายได้ที่จะทำให้สามารถรักษาระดับความสุขและสะดวกสบายไว้ดังเดิมได้ ลักษณะเช่นนี้เรียกได้ว่า มีความสุขเพียงครึ่งเดียวของช่วงเวลา นั่นคือ สุขในวัยทำงานและทุกข์ในวัยพ้นทำงาน คำถามสำคัญก็คือ ทำอย่างไรบุคคลหนึ่งที่ทำงานมาตลอดชีวิต จะมีความสุขอันเกิดจากความมั่นคงทางการเงินไปตลอด มีมาตราฐานการครองชีพในระดับที่น่าพอใจอย่างคงที่ แม้จะพ้นจากวัยทำงานแล้วก็ตาม . การบรรลุคุณภาพชีวิตที่น่าพึงปรารถนาดังกล่าว เจ้าของรายได้ต้องเป็นผู้รับผิดชอบเองในเบื้องแรก ไม่อาจหวังพึ่งภาครัฐ หรือนายจ้าง เพราะไม่อาจวางใจได้ว่าตนเองจะได้รับความมั่นคงในชีวิตสมดังใจหวังได้ เจ้าของรายได้จะต้องเป็นที่พึ่งของตนเองด้วยการวางแผน การหารายได้ การใช้จ่าย และการออม เพราะการออมจะนำไปสู่การลงทุน และการเกิดของรายได้ทั้งในวัยทำงานและวันพ้นทำงานโดยไม่ต้องออกแรงทำงาน . เงินออม เป็นฐานสำคัญของการเป็นมิตรของเงิน และเงินออมของบุคคลจะเกิดขึ้นได้ ก็เพราะมีสิ่งที่เรียกว่า ความมัธยัสถ์ ซึ่งหมายถึง การใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวัง ไม่สุรุ่ยสุร่าย ไม่ใช้จ่ายอย่างโง่เขลาเบาปัญญา ในสิ่งที่ไม่ควรจ่าย เช่น เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือบ่อยๆ ตามแฟชั่น ทั้งๆที่ไม่จำเป็น . เงินออมของบุคคลใดๆ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อรายจ่ายต่ำกว่ารายได้ และรายจ่ายจะต่ำกว่ารายได้ก็ต่อเมื่อมีความมัธยัสถ์เป็นอุปนิสัย การมัธยัสถ์มิใช่การเอาเปรียบหรือเห็นแก่ตัว หากเป็นแบบแผนหนึ่งของการดำรงชีวิตซึ่งใครก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกได้ การที่บางคนชอบใช้เงินสิ้นเปลืองสุรุ่ยสุร่าย ซื้อของต่างๆโดยมิได้คำนึงถึงประโยชน์ของการใช้สอย ก็เป็นแบบแผนหนึ่งของการดำรงชีพ คนมัธยัสถ์ที่ใจกว้างรู้จักการให้อย่างมีความหมาย อาจมีจำนวนมากกว่าคนสุรุ่ยสุร่ายที่ใจแคบและไม่รู้จักการให้ก็เป็นได้ . พฤติกรรมโดยรวมของบุคคลที่จะทำให้เงินเป็นมิตร ก็คือ “กินอยู่ต่ำกว่าฐานะ” หรือดังคำโบราณที่ว่า “จงมีเกินใช้ แต่อย่าใช้เกินมี” กล่าวคือ ไม่ว่าจะสามารถอยู่กินในระดับที่คนมีรายได้ขนาดเดียวกันอยู่กินได้อย่างไร ก็จงอยู่กินต่ำกว่าระดับนั้นเสมอ พฤติกรรมเช่นนี้จะทำให้มีเงินออม และมีโอกาสให้ “เงินทำงานรับใช้” . สำหรับความเป็นศัตรูของเงินนั้น หมายถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่เจ้าของเงิน อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการใช้จ่าย ปรากฏการณ์ดังกล่าวมีข้อสังเกตหลายประการดังต่อไปนี้ . ประการแรก : คือความปรารถนาที่จะบริโภคอย่างทันด่วนของผู้บริโภคโดยทั่วไป เป็นพฤติกรรมที่ทำให้ยินดีกู้ยืมจ่ายดอกเบี้ยในอัตราสูง เพียงเพื่อให้ได้สิ่งของที่ต้องใจ ประการที่สอง : การกู้ยืมเกิดขึ้นเพราะ ไม่มีเงินสดเพียงพอที่จะจับจ่าย ณ เวลานั้น จึงต้องกู้ยืม ซึ่งก็คือการนำรายได้ในอนาคตของตนมาใช้โดยต้องจ่ายต้นทุนสูง ต้นเหตุของการกู้ยืมส่วนใหญ่ก็มาจากรายจ่ายสูงกว่ารายได้ และเมือนั้นเงินก็กลายเป็นศัตรูตัวร้าย เพราะดอกเบี้ยจะทำงานตลอดเวลา และคอยทิ่มแทงเจ้าของไม่ว่าในยามหลับหรือตื่น . ต้นทุนของการกู้ยืมนั้นสูง ตัวอย่างเช่น กู้เงิน 100,000 บาท จ่ายดอกเบี้ยทบต้นร้อยละ 9 ต่อปี ถ้ากู้เงินโดยไม่ชำระอย่างใดทั้งสิ้น ภายในเวลา 8 ปี ยอดเงินต้นและดอกเบี้ยรวมกัน จะเพิ่มอีกประมาณหนึ่งเท่าตัวเป็น 200,000 บาท และหากยังไม่ชำระอีก ในเวลา 8 ปีต่อมา ยอดเงินนี้ก็จะสูงขึ้นอีกเป็น 400,000 บาท หรือประมาณ 4 เท่าตัว ของเงินต้นในเวลา 16 ปี
    0 Comments 0 Shares 244 Views 0 Reviews
  • “ดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างไร ให้ได้บุญโดยไม่จมอยู่กับบาปทางใจ”
    ---

    1. การดูแลผู้ป่วยติดเตียง คือทานใหญ่ที่ได้บุญมาก

    โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรืออาการลูกผีลูกคน

    ใช้ทั้งกำลังกายและกำลังใจสูง ถือเป็น “กุศลกรรม” ใหญ่

    แม้มีอารมณ์เผลอเป็นโทสะหรือคิดลบบ้าง ก็ยังได้บุญมากกว่าได้บาป

    ---

    2. ฐานะของผู้ป่วยส่งผลต่อน้ำหนักบุญ

    ถ้าเป็น พ่อแม่ จะมีผลบุญมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นผู้มีพระคุณ

    หากเป็นญาติทั่วไป หรือคนไม่มีบุญคุณโดยตรง บุญก็ยังมี แต่ไม่เท่ากัน

    ต่อให้พ่อแม่เคยทำไม่ดี ก็ยังเป็นฐานแห่งบุญบาปที่ยิ่งใหญ่ตามกฎธรรมชาติ

    ---

    3. ถ้าเคยเผลอคิดว่า "อยากให้ตายๆ ไปเสียที" ถือเป็นบาปไหม?

    ขึ้นอยู่กับเจตนา:

    ถ้าเป็น เมตตา อยากให้เขาพ้นทุกข์ = ไม่เป็นบาป

    ถ้าเป็น โทสะ เหนื่อย รำคาญ อยากให้พ้นจากภาระตัวเอง = เป็นบาปทางใจ แม้ภายนอกจะทำบุญอยู่ก็ตาม

    ---

    4. ทางออกที่ดีที่สุด คือ รักษาใจและสร้างบรรยากาศทางธรรม

    ชวนผู้ป่วยพูดคุยเรื่องดีๆ หรือสวดมนต์แม้เขาจะไม่ได้สติ

    เพราะแม้เขาจะไม่รู้ตัว แต่กระแสจิตที่สว่างของคุณยังส่งถึงเขาได้

    สิ่งนี้มีผลดีต่อทั้งผู้ป่วย และจิตใจของผู้ดูแลเอง

    ---

    5. แก่นแท้ของบุญนี้ ไม่ใช่แค่ดูแลกายเขา แต่คือ "ดูแลใจเรา" ด้วย

    ใจที่เอาตัวรอดจากความเครียด โทสะ และความเหนื่อยล้าได้ คือ “พลังบุญ” ที่เกิดขึ้นจริง

    แม้คนอื่นอาจเข้าใจยาก แต่ตัวเราจะรู้ว่าได้กุศลเต็มใจจริงๆ

    ---

    Essence สั้นๆ

    ดูแลผู้ป่วยติดเตียงให้ดี เป็นบุญใหญ่
    แต่ถ้ารักษาใจให้สว่างด้วยได้ด้วย = เป็นบุญที่ประณีตและแรงกว่าหลายเท่า
    อย่าปล่อยให้โทสะปนใจจนบดบังคุณค่าของสิ่งดีๆ ที่กำลังทำอยู่!
    “ดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างไร ให้ได้บุญโดยไม่จมอยู่กับบาปทางใจ” --- 1. การดูแลผู้ป่วยติดเตียง คือทานใหญ่ที่ได้บุญมาก โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรืออาการลูกผีลูกคน ใช้ทั้งกำลังกายและกำลังใจสูง ถือเป็น “กุศลกรรม” ใหญ่ แม้มีอารมณ์เผลอเป็นโทสะหรือคิดลบบ้าง ก็ยังได้บุญมากกว่าได้บาป --- 2. ฐานะของผู้ป่วยส่งผลต่อน้ำหนักบุญ ถ้าเป็น พ่อแม่ จะมีผลบุญมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นผู้มีพระคุณ หากเป็นญาติทั่วไป หรือคนไม่มีบุญคุณโดยตรง บุญก็ยังมี แต่ไม่เท่ากัน ต่อให้พ่อแม่เคยทำไม่ดี ก็ยังเป็นฐานแห่งบุญบาปที่ยิ่งใหญ่ตามกฎธรรมชาติ --- 3. ถ้าเคยเผลอคิดว่า "อยากให้ตายๆ ไปเสียที" ถือเป็นบาปไหม? ขึ้นอยู่กับเจตนา: ถ้าเป็น เมตตา อยากให้เขาพ้นทุกข์ = ไม่เป็นบาป ถ้าเป็น โทสะ เหนื่อย รำคาญ อยากให้พ้นจากภาระตัวเอง = เป็นบาปทางใจ แม้ภายนอกจะทำบุญอยู่ก็ตาม --- 4. ทางออกที่ดีที่สุด คือ รักษาใจและสร้างบรรยากาศทางธรรม ชวนผู้ป่วยพูดคุยเรื่องดีๆ หรือสวดมนต์แม้เขาจะไม่ได้สติ เพราะแม้เขาจะไม่รู้ตัว แต่กระแสจิตที่สว่างของคุณยังส่งถึงเขาได้ สิ่งนี้มีผลดีต่อทั้งผู้ป่วย และจิตใจของผู้ดูแลเอง --- 5. แก่นแท้ของบุญนี้ ไม่ใช่แค่ดูแลกายเขา แต่คือ "ดูแลใจเรา" ด้วย ใจที่เอาตัวรอดจากความเครียด โทสะ และความเหนื่อยล้าได้ คือ “พลังบุญ” ที่เกิดขึ้นจริง แม้คนอื่นอาจเข้าใจยาก แต่ตัวเราจะรู้ว่าได้กุศลเต็มใจจริงๆ --- Essence สั้นๆ ดูแลผู้ป่วยติดเตียงให้ดี เป็นบุญใหญ่ แต่ถ้ารักษาใจให้สว่างด้วยได้ด้วย = เป็นบุญที่ประณีตและแรงกว่าหลายเท่า อย่าปล่อยให้โทสะปนใจจนบดบังคุณค่าของสิ่งดีๆ ที่กำลังทำอยู่!
    0 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่า ผู้ไม่กลืนเบ็ดของมาร
    สัทธรรมลำดับที่ : 583
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=583
    ชื่อบทธรรม :- ผู้ไม่กลืนเบ็ดของมาร
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ผู้ไม่กลืนเบ็ดของมาร
    --ภิกษุ ท. !
    รูป ที่เห็น ด้วยตาก็ดี,
    เสียง ที่ฟัง ด้วยหูก็ดี,
    กลิ่น ที่ดม ด้วยจมูกก็ดี,
    รส ที่ลิ้ม ด้วยลิ้นก็ดี,
    โผฏฐัพพะ ที่สัมผัส ด้วยกายก็ดี, และ
    ธรรมารมณ์ ที่รู้แจ้ง ด้วยใจก็ดี,
    อัน
    เป็นสิ่งที่ น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ
    เป็นที่ ยวนตายวนใจให้รัก
    เป็นที่ เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ และ
    เป็นที่ ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ มีอยู่.
    ถ้าภิกษุใด
    ๑.ไม่เพลิดเพลิน ๒.ไม่พร่ำเพ้อถึง ๓.ไม่เมาหมกติดอกติดใจอยู่
    ซึ่งอารมณ์มีรูปเป็นต้นนั้นไซร้ ;
    http://etipitaka.com/read/pali/18/198/?keywords=อภินนฺทติ+รูป
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุอย่างนี้ เราเรียกว่า
    #เป็นผู้ไม่กลืนเบ็ดของมารได้ทำลายเบ็ดหักเบ็ด แหลกละเอียดแล้ว
    ไม่ถึงความวิบัติ ไม่ถึงความพินาศฉิบหาย ไม่เป็นผู้ที่มารใจบาป
    จะทำอะไรให้ได้ตามใจเลย ;
    ดังนี้แล.

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/180/290.
    http://etipitaka.com/read/thai/18/180/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๑๙๘/๒๙๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/18/198/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%90
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=583
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=39&id=583
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=39
    ลำดับสาธยายธรรม : 39 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_39.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่า ผู้ไม่กลืนเบ็ดของมาร สัทธรรมลำดับที่ : 583 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=583 ชื่อบทธรรม :- ผู้ไม่กลืนเบ็ดของมาร เนื้อความทั้งหมด :- --ผู้ไม่กลืนเบ็ดของมาร --ภิกษุ ท. ! รูป ที่เห็น ด้วยตาก็ดี, เสียง ที่ฟัง ด้วยหูก็ดี, กลิ่น ที่ดม ด้วยจมูกก็ดี, รส ที่ลิ้ม ด้วยลิ้นก็ดี, โผฏฐัพพะ ที่สัมผัส ด้วยกายก็ดี, และ ธรรมารมณ์ ที่รู้แจ้ง ด้วยใจก็ดี, อัน เป็นสิ่งที่ น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ เป็นที่ ยวนตายวนใจให้รัก เป็นที่ เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ และ เป็นที่ ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ มีอยู่. ถ้าภิกษุใด ๑.ไม่เพลิดเพลิน ๒.ไม่พร่ำเพ้อถึง ๓.ไม่เมาหมกติดอกติดใจอยู่ ซึ่งอารมณ์มีรูปเป็นต้นนั้นไซร้ ; http://etipitaka.com/read/pali/18/198/?keywords=อภินนฺทติ+รูป --ภิกษุ ท. ! ภิกษุอย่างนี้ เราเรียกว่า #เป็นผู้ไม่กลืนเบ็ดของมารได้ทำลายเบ็ดหักเบ็ด แหลกละเอียดแล้ว ไม่ถึงความวิบัติ ไม่ถึงความพินาศฉิบหาย ไม่เป็นผู้ที่มารใจบาป จะทำอะไรให้ได้ตามใจเลย ; ดังนี้แล. #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/180/290. http://etipitaka.com/read/thai/18/180/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๑๙๘/๒๙๐. http://etipitaka.com/read/pali/18/198/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%90 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=583 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=39&id=583 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=39 ลำดับสาธยายธรรม : 39 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_39.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ผู้ไม่กลืนเบ็ดของมาร
    -ผู้ไม่กลืนเบ็ดของมาร ภิกษุ ท. ! รูป ที่เห็น ด้วยตาก็ดี, เสียง ที่ฟังด้วยหูก็ดี, กลิ่น ที่ดมด้วยจมูกก็ดี, รส ที่ลิ้มด้วยลิ้นก็ดี, โผฏฐัพพะ ที่สัมผัสด้วยกายก็ดี, และธรรมารมณ์ ที่รู้แจ้งด้วยใจก็ดี, อันเป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ เป็นที่ยวนตายวนใจให้รัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ และเป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ มีอยู่. ถ้าภิกษุใดไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำเพ้อถึง ไม่เมาหมกติดอกติดใจอยู่ ซึ่งอารมณ์มีรูปเป็นต้นนั้นไซร้ ; ภิกษุ ท. ! ภิกษุอย่างนี้ เราเรียกว่า เป็นผู้ไม่กลืนเบ็ดของมารได้ทำลายเบ็ดหักเบ็ดแหลกละเอียดแล้ว ไม่ถึงความวิบัติ ไม่ถึงความพินาศฉิบหาย ไม่เป็นผู้ที่มารใจบาป จะทำอะไรให้ได้ตามใจเลย ; ดังนี้แล.
    0 Comments 0 Shares 209 Views 0 Reviews
  • ‘สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล’ ยุหัวหน้าพรรคร่วมฯ ถอนตัวจากรัฐบาล ดีกว่าร่วมสร้างตราบาปให้ประเทศ หลังจาก "ทักษิณ" ขู่ขับไล่พ้น ครม.หาก สส.ไม่ยกมือหนุนร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ชี้ไม่เคารพให้เกียรติกัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000033160
    ‘สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล’ ยุหัวหน้าพรรคร่วมฯ ถอนตัวจากรัฐบาล ดีกว่าร่วมสร้างตราบาปให้ประเทศ หลังจาก "ทักษิณ" ขู่ขับไล่พ้น ครม.หาก สส.ไม่ยกมือหนุนร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ชี้ไม่เคารพให้เกียรติกัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000033160
    Like
    Haha
    13
    0 Comments 1 Shares 556 Views 1 Reviews
  • “รักแท้คือการร่วมมือเพื่อคลี่คลายทุกข์ ไม่ใช่แค่ร่วมรับทุกข์”
    ---

    1. รักแท้ไม่ใช่แค่ ‘ร่วมทุกข์’ แต่คือ ‘ร่วมกันแก้ทุกข์’

    ความรักไม่ใช่การจมอยู่ในทุกข์ด้วยกัน

    แต่คือการ มีความสุขในการช่วยให้อีกฝ่ายพ้นทุกข์

    ใครยินดีช่วยแก้ทุกข์ให้อีกฝ่ายเสมอ คือผู้มีใจรักแท้

    ---

    2. การวัดใจ ต้องวัดทั้งสองฝ่าย

    ความรักที่แท้จริง คือการที่ ทั้งคู่พร้อมให้ ไม่ใช่แค่ฝ่ายเดียว “ติดหนี้ใจ”

    ดูว่าต่างฝ่ายต่างอยากอยู่ใกล้ เพื่อช่วยกันไม่ใช่เพื่อแบกกัน

    ---

    3. รักคือการ ‘ร่วมบุญ’ ไม่ใช่เอาเปรียบ

    หากความสัมพันธ์มีฝ่ายหนึ่งจ้องเอาแต่ได้ อีกฝ่ายให้ตลอด

    จะกลายเป็นการใช้หนี้ ไม่ใช่การร่วมทุกข์ร่วมสุข

    ---

    4. วิธีคลี่คลายทุกข์ในรัก เริ่มที่สติ

    ความทุกข์ในความสัมพันธ์ไม่ต้องหนี

    แค่ใช้สติ “ดู” ความทุกข์ด้วยความเข้าใจ

    จะเห็นว่า ทุกข์ไม่เที่ยง เปลี่ยนไปเรื่อยๆ

    ใจจะเริ่มหลุดพ้นจากการยึดถือความทุกข์

    ---

    5. อย่าคาดหวังให้ทุกข์หาย แต่ให้ตั้งใจเห็นทุกข์อย่างเป็นจริง

    ความคาดหวังว่าทุกข์จะหายไวๆ จะยิ่งเติมทุกข์

    แต่หาก “ยอมรับและดู” โดยไม่เร่งผล

    ใจจะเริ่มมีอิสรภาพจากความกระวนกระวาย

    ---

    6. จะรักให้ยืนยาว ต้อง ‘ร่วมสร้างบุญใหม่’ ต่อเนื่อง

    ถึงบาปเก่าจะหนักเพียงใด

    ถ้าเติมบุญใหม่ใส่กันทุกวัน ความทุกข์จะเบาบาง

    และความรักจะเติบโตได้จริง

    รักแท้ไม่ได้หมายถึง มีแต่ความสุขตลอด

    แต่คือ “ผ่านทุกข์ไปด้วยกันอย่างไม่ทอดทิ้ง”

    ---

    Essence สั้นๆ

    > รักแท้ = สุขที่ได้ช่วยกันทุกข์ ไม่ใช่ทุกข์ที่ต้องแบกกันไว้
    ถ้าร่วมทุกข์ แล้วไม่ช่วยกันแก้ทุกข์ = ไม่ใช่รัก แต่เป็นภาระ
    ถ้าร่วมทุกข์ แล้วมีใจแปรเปลี่ยนอกุศลเป็นกุศลร่วมกัน = นั่นแหละรักแท้!
    “รักแท้คือการร่วมมือเพื่อคลี่คลายทุกข์ ไม่ใช่แค่ร่วมรับทุกข์” --- 1. รักแท้ไม่ใช่แค่ ‘ร่วมทุกข์’ แต่คือ ‘ร่วมกันแก้ทุกข์’ ความรักไม่ใช่การจมอยู่ในทุกข์ด้วยกัน แต่คือการ มีความสุขในการช่วยให้อีกฝ่ายพ้นทุกข์ ใครยินดีช่วยแก้ทุกข์ให้อีกฝ่ายเสมอ คือผู้มีใจรักแท้ --- 2. การวัดใจ ต้องวัดทั้งสองฝ่าย ความรักที่แท้จริง คือการที่ ทั้งคู่พร้อมให้ ไม่ใช่แค่ฝ่ายเดียว “ติดหนี้ใจ” ดูว่าต่างฝ่ายต่างอยากอยู่ใกล้ เพื่อช่วยกันไม่ใช่เพื่อแบกกัน --- 3. รักคือการ ‘ร่วมบุญ’ ไม่ใช่เอาเปรียบ หากความสัมพันธ์มีฝ่ายหนึ่งจ้องเอาแต่ได้ อีกฝ่ายให้ตลอด จะกลายเป็นการใช้หนี้ ไม่ใช่การร่วมทุกข์ร่วมสุข --- 4. วิธีคลี่คลายทุกข์ในรัก เริ่มที่สติ ความทุกข์ในความสัมพันธ์ไม่ต้องหนี แค่ใช้สติ “ดู” ความทุกข์ด้วยความเข้าใจ จะเห็นว่า ทุกข์ไม่เที่ยง เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ใจจะเริ่มหลุดพ้นจากการยึดถือความทุกข์ --- 5. อย่าคาดหวังให้ทุกข์หาย แต่ให้ตั้งใจเห็นทุกข์อย่างเป็นจริง ความคาดหวังว่าทุกข์จะหายไวๆ จะยิ่งเติมทุกข์ แต่หาก “ยอมรับและดู” โดยไม่เร่งผล ใจจะเริ่มมีอิสรภาพจากความกระวนกระวาย --- 6. จะรักให้ยืนยาว ต้อง ‘ร่วมสร้างบุญใหม่’ ต่อเนื่อง ถึงบาปเก่าจะหนักเพียงใด ถ้าเติมบุญใหม่ใส่กันทุกวัน ความทุกข์จะเบาบาง และความรักจะเติบโตได้จริง รักแท้ไม่ได้หมายถึง มีแต่ความสุขตลอด แต่คือ “ผ่านทุกข์ไปด้วยกันอย่างไม่ทอดทิ้ง” --- Essence สั้นๆ > รักแท้ = สุขที่ได้ช่วยกันทุกข์ ไม่ใช่ทุกข์ที่ต้องแบกกันไว้ ถ้าร่วมทุกข์ แล้วไม่ช่วยกันแก้ทุกข์ = ไม่ใช่รัก แต่เป็นภาระ ถ้าร่วมทุกข์ แล้วมีใจแปรเปลี่ยนอกุศลเป็นกุศลร่วมกัน = นั่นแหละรักแท้!
    0 Comments 0 Shares 182 Views 0 Reviews
  • เกลือเป็นหนอนเซาะกร่อนทำลายไทย
    เข้าชอนไชทุกองค์กรของประเทศ
    เจาะกินเงินงบประมาณไม่เหลือเศษ
    คือพวกเปรตโหยหิวในวงราชการ

    ไทยสีเทาไร้ศักดิ์ศรีปัญญาทราม
    หลงในกามขาดจริยธรรมมาตรฐาน
    คอร์รัฟชั่นในหน้าที่กินงบประมาณ
    ตามสันดาลคนชั่วไม่กลัวบาปกรรม
    เกลือเป็นหนอนเซาะกร่อนทำลายไทย เข้าชอนไชทุกองค์กรของประเทศ เจาะกินเงินงบประมาณไม่เหลือเศษ คือพวกเปรตโหยหิวในวงราชการ ไทยสีเทาไร้ศักดิ์ศรีปัญญาทราม หลงในกามขาดจริยธรรมมาตรฐาน คอร์รัฟชั่นในหน้าที่กินงบประมาณ ตามสันดาลคนชั่วไม่กลัวบาปกรรม
    0 Comments 0 Shares 140 Views 0 Reviews
  • ใจดีใจพระ
    ชนะมารได้
    ธรรมบำเพ็ญไว้
    ให้ทุกข์ห่างไกล

    ใจที่สงบ
    พบปัญญาได้
    ดีหลักอาศัย
    ให้เจริญธรรม

    กิเลสมารร้าย
    ให้โทษเวรกรรม
    มืดมนมืดดำ
    ยิ่งทำยิ่งร้าย

    สติสำคัญ
    ตั้งมั่นเอาไว้
    ซาบซึ้งถึงใจ
    ให้หลักฐานธรรม

    ใจดีเป็นสุข
    ใจทุกข์บาปกรรม
    อาศัยทางธรรม
    นำความร่มเย็น

    ขอให้พบธรรมความดีมีสุข ยิ่งทำยิ่งเจริญ ทรัพย์นอกใน

    นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
    ใจดีใจพระ ชนะมารได้ ธรรมบำเพ็ญไว้ ให้ทุกข์ห่างไกล ใจที่สงบ พบปัญญาได้ ดีหลักอาศัย ให้เจริญธรรม กิเลสมารร้าย ให้โทษเวรกรรม มืดมนมืดดำ ยิ่งทำยิ่งร้าย สติสำคัญ ตั้งมั่นเอาไว้ ซาบซึ้งถึงใจ ให้หลักฐานธรรม ใจดีเป็นสุข ใจทุกข์บาปกรรม อาศัยทางธรรม นำความร่มเย็น ขอให้พบธรรมความดีมีสุข ยิ่งทำยิ่งเจริญ ทรัพย์นอกใน นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
    0 Comments 0 Shares 84 Views 0 Reviews
  • “ยุคมือถือ – ยุคที่สร้างกรรมได้ง่ายที่สุด”

    ---

    1. กรรมในยุคนี้เกิดเร็ว สะสมเร็ว และแรงกว่ายุคใด

    แค่ปลายนิ้วกระดิกสามารถก่อทั้งบุญและบาปจำนวนมากได้ทันที

    โลกออนไลน์ทำให้ผลของ “วจีกรรม” หรือ “มโนกรรม” กระจายเร็วและกว้างมากกว่าชาติไหนๆ

    ---

    2. ความเปลี่ยนแปลงของยุค: จากอำนาจใหญ่ → ถึงมือทุกคน

    ในอดีต คนจะทำบาปให้คนมากๆ เดือดร้อนต้องมีอำนาจ

    วันนี้แค่มือถือ 1 เครื่อง กับโพสต์ 1 โพสต์ ก็สร้างผลกระทบระดับมหาศาลได้

    ---

    3. ยุค IT คือยุคที่เป็นได้ทั้งนักบุญและคนบาป

    ทุกโพสต์ ทุกคอมเมนต์ ทุกแชร์ คือกรรม

    ความเร็วในการก่อกรรมสูงมาก แต่คุณภาพของกรรม (ดี/ร้าย) ขึ้นกับเจตนาและความรู้เท่าทันของจิต

    ---

    4. สัมมาทิฏฐิ คือเข็มทิศสำคัญ

    ต้องปลูก “สัมมาทิฏฐิ” คือ ความเห็นถูก ให้มั่นในตนเองและลูกหลาน

    ยุคนี้ไม่ใช่แค่ยุคหาเงิน แต่คือยุคสร้างกรรมแบบเข้มข้น ต้องตื่นรู้ให้ไว

    ---

    5. หลักพิจารณาก่อนทำกรรมในยุคโซเชียล

    ผลกระทบกว้างขนาดไหน?

    ทำด้วยเจตนาดีหรือร้าย?

    ขณะทำใจมืดหรือสว่าง?

    หลังทำ รู้สึกยินดีหรือเสียใจ?

    ---

    6. ผลของกรรมออนไลน์

    บาป: จิตจะฟุ้งซ่าน สะใจในทางร้าย เห็นผิดเป็นชอบ นำไปสู่ภัยในชาตินี้และชาติหน้า

    บุญ: ถ้ามีสัมมาทิฏฐิ จะใช้เทคโนโลยีสร้างกรรมดี สะสมบุญอย่างมหาศาล

    ---

    Essence สั้นๆ

    “มือถือของคุณ อาจเป็นเครื่องมือสร้างนรก หรือพาคุณไปนิพพาน อยู่ที่ใจคุณใช้มันอย่างไร”

    “ในยุคโพสต์เป็นบุญ – คอมเมนต์เป็นบาป คนมีสัมมาทิฏฐิเท่านั้นจะรอดปลอดภัย”
    “ยุคมือถือ – ยุคที่สร้างกรรมได้ง่ายที่สุด” --- 1. กรรมในยุคนี้เกิดเร็ว สะสมเร็ว และแรงกว่ายุคใด แค่ปลายนิ้วกระดิกสามารถก่อทั้งบุญและบาปจำนวนมากได้ทันที โลกออนไลน์ทำให้ผลของ “วจีกรรม” หรือ “มโนกรรม” กระจายเร็วและกว้างมากกว่าชาติไหนๆ --- 2. ความเปลี่ยนแปลงของยุค: จากอำนาจใหญ่ → ถึงมือทุกคน ในอดีต คนจะทำบาปให้คนมากๆ เดือดร้อนต้องมีอำนาจ วันนี้แค่มือถือ 1 เครื่อง กับโพสต์ 1 โพสต์ ก็สร้างผลกระทบระดับมหาศาลได้ --- 3. ยุค IT คือยุคที่เป็นได้ทั้งนักบุญและคนบาป ทุกโพสต์ ทุกคอมเมนต์ ทุกแชร์ คือกรรม ความเร็วในการก่อกรรมสูงมาก แต่คุณภาพของกรรม (ดี/ร้าย) ขึ้นกับเจตนาและความรู้เท่าทันของจิต --- 4. สัมมาทิฏฐิ คือเข็มทิศสำคัญ ต้องปลูก “สัมมาทิฏฐิ” คือ ความเห็นถูก ให้มั่นในตนเองและลูกหลาน ยุคนี้ไม่ใช่แค่ยุคหาเงิน แต่คือยุคสร้างกรรมแบบเข้มข้น ต้องตื่นรู้ให้ไว --- 5. หลักพิจารณาก่อนทำกรรมในยุคโซเชียล ผลกระทบกว้างขนาดไหน? ทำด้วยเจตนาดีหรือร้าย? ขณะทำใจมืดหรือสว่าง? หลังทำ รู้สึกยินดีหรือเสียใจ? --- 6. ผลของกรรมออนไลน์ บาป: จิตจะฟุ้งซ่าน สะใจในทางร้าย เห็นผิดเป็นชอบ นำไปสู่ภัยในชาตินี้และชาติหน้า บุญ: ถ้ามีสัมมาทิฏฐิ จะใช้เทคโนโลยีสร้างกรรมดี สะสมบุญอย่างมหาศาล --- Essence สั้นๆ “มือถือของคุณ อาจเป็นเครื่องมือสร้างนรก หรือพาคุณไปนิพพาน อยู่ที่ใจคุณใช้มันอย่างไร” “ในยุคโพสต์เป็นบุญ – คอมเมนต์เป็นบาป คนมีสัมมาทิฏฐิเท่านั้นจะรอดปลอดภัย”
    0 Comments 0 Shares 241 Views 0 Reviews
  • อริยสาวก​พึง​ศึกษา​ว่า​แม้เพียงปฐมฌาน ก็ชื่อว่าเป็นที่หลบพ้นภัยจากมาร
    สัทธรรมลำดับที่ : 949
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=949
    ชื่อบทธรรม : -แม้เพียงปฐมฌาน ก็ชื่อว่าเป็นที่หลบพ้นภัยจากมาร
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --แม้เพียงปฐมฌาน ก็ชื่อว่าเป็นที่หลบพ้นภัยจากมาร
    (พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสข้อความปรารภการสงครามระหว่างเทวดากับอสูร
    : ถ้าฝ่ายใดแพ้ถูกไล่ติดตามไปจนถึงภพเป็นที่อยู่แห่งตน
    ก็พ้นจาการถูกไล่ติดตาม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน.
    สรุปความว่า ภพแห่งตนเป็นที่พึ่งที่ต้านทานของตน สำหรับชนสามัญทั่วไป;
    ส่วนสำหรับภิกษุนั้น ตรัสว่า :-
    )​
    --ภิกษุ ท. ! ฉันใดก็ฉันนั้น
    : ในสมัยใด ภิกษุสงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม เข้าถึง &​ปฐมฌาน
    อันมีวิตกมีวิจาร มีปิติและสุข อันเกิดแต่วิเวกแล้วแลอยู่ ;
    --ภิกษุ ท. ! ในสมัยนั้น ภิกษุย่อมคิดอย่างนี้ว่า
    “ในกาลนี้ เรา มีตนอันถึงแล้ว ซึ่งที่ต้านทานสำหรับสัตว์ผู้กลัวอยู่ มารจะไม่ทำอะไรได้”.
    --ภิกษุ ท. ! แม้มารผู้มีบาป ก็คิดอย่างนี้ว่า
    “ในกาลนี้ ภิกษุมีตนอันถึงแล้ว ซึ่งที่ต้านทานสำหรับสัตว์ผู้กลัวอยู่ เราจะทำอะไรไม่ได้”.
    (ในกรณีแห่ง
    &ทุติยฌาน...
    &ตติยฌาน... และ
    &จตุตถฌาน...
    ก็ได้ตรัสข้อความทำนองเดียวกัน ผิดกันแต่ชื่อแห่งฌาน
    ไม่จำเป็นต้องนำมาใส่ไว้ ในที่นี้ให้ยืดยาว
    จักข้ามไปยังข้อความที่กล่าวถึง อากาสานัญจายตนะ :-
    )
    --ภิกษุ ท. ! ในสมัยใด ภิกษุ
    เพราะก้าวล่วงซึ่ง รูปสัญญา เสียได้โดยประการทั้งปวง
    เพราะการดับไปแห่ง ปฏิฆสัญญา
    เพราะการไม่ทำไว้ในใจซึ่ง นานัตตสัญญา
    จึงเข้าถึง &​อากาสานัญจายตนะ อันมีการทำในใจว่า “อากาศ ไม่มีที่สิ้นสุด”
    ดังนี้ แล้วแลอยู่.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุนี้เรากล่าวว่า
    ได้กระทำมารให้ถึงที่สุด ให้ไม่มีทางไป
    ได้ถึงที่ซึ่งจักษุของมารผู้มีบาปมองไม่เห็น.
    (ในกรณีแห่ฌานที่ถัดไป คือ
    &วิญญาณัญจายตนะ...
    &อากิญจัญญายตนะ... และ
    &เนวสัญญานาสัญญายตนะ....
    ก็ได้ตรัสข้อความทำนองเดียวกัน ผิดกันแต่ชื่อแห่งฌาน
    ไม่จำเป็นต้องนำมาใส่ไว้ ในที่นี้ให้ยืดยาว.
    ส่วนในกรณีแห่งสัญญาเวทยิตนิโรธ นั้น ได้ตรัสว่า:-
    )
    --ภิกษุ ท. ! ในสมัยใด ภิกษุ
    เพราะก้าวล่วงซึ่งเนวสัญญานาสัญญายตนะเสียได้โดยประการทั้งปวง
    จึงเข้าถึง สัญญาเวทยิตนิโรธ แล้วแลอยู่,
    #อาสวะของเธอก็สิ้นสุดไปเพราะเห็นแล้วด้วยปัญญา.
    http://etipitaka.com/read/pali/23/456/?keywords=อาสวา+ปริกฺขีณา+โหนฺติ
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุนี้เรากล่าวว่า
    ได้กระทำมารให้ถึงที่สุด ให้ไม่มีทางไป
    ได้ถึงที่ซึ่งจักษุของมารผู้มีบาปมองไม่เห็น ,
    ข้ามได้แล้วซึ่งเครื่องข้อง (คือตัณหา) ในโลก
    ดังนี้.-
    (ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า เมื่อจิตอยู่ในปฐมฌาน,
    เพียงเท่านั้นจิตก็จะพ้นจากการรบกวนทำร้ายของมาร
    คือนิวรณ์ กิเลส และความรู้สึกอันเป็นทุกข์อื่นๆ
    เพราะอำนาจของปฐมฌานมีมากพอที่จะระงับความรู้สึกอันเป็นทุกข์นั้นเสียได้
    แม้ไม่ตลอดไปก็ต้องได้ในระยะหนึ่งๆ เพื่อเป็นโอกาสให้ได้ปฏิบัติสูงขึ้นไป จนถึงที่สุด.
    ดังนั้น เราควรฝึกฝนอย่างน้อยที่สุดในปฐมฌาน
    สำหรับ เป็นที่หลบภัยจากมารเมื่อไรก็ได้ ดังกล่าวแล้ว
    ).

    #สัมมาสมาธิ
    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นวก.อ. 23/350-353/243.
    http://etipitaka.com/read/thai/23/350/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%94%E0%B9%93
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นวก.อ. ๒๓/๔๕๐-๔๕๓/๒๔๓.
    http://etipitaka.com/read/pali/23/450/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%94%E0%B9%93
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=949
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=81&id=949
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=81
    ลำดับสาธยายธรรม : 81 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_81.mp3
    อริยสาวก​พึง​ศึกษา​ว่า​แม้เพียงปฐมฌาน ก็ชื่อว่าเป็นที่หลบพ้นภัยจากมาร สัทธรรมลำดับที่ : 949 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=949 ชื่อบทธรรม : -แม้เพียงปฐมฌาน ก็ชื่อว่าเป็นที่หลบพ้นภัยจากมาร เนื้อความทั้งหมด :- --แม้เพียงปฐมฌาน ก็ชื่อว่าเป็นที่หลบพ้นภัยจากมาร (พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสข้อความปรารภการสงครามระหว่างเทวดากับอสูร : ถ้าฝ่ายใดแพ้ถูกไล่ติดตามไปจนถึงภพเป็นที่อยู่แห่งตน ก็พ้นจาการถูกไล่ติดตาม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน. สรุปความว่า ภพแห่งตนเป็นที่พึ่งที่ต้านทานของตน สำหรับชนสามัญทั่วไป; ส่วนสำหรับภิกษุนั้น ตรัสว่า :- )​ --ภิกษุ ท. ! ฉันใดก็ฉันนั้น : ในสมัยใด ภิกษุสงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม เข้าถึง &​ปฐมฌาน อันมีวิตกมีวิจาร มีปิติและสุข อันเกิดแต่วิเวกแล้วแลอยู่ ; --ภิกษุ ท. ! ในสมัยนั้น ภิกษุย่อมคิดอย่างนี้ว่า “ในกาลนี้ เรา มีตนอันถึงแล้ว ซึ่งที่ต้านทานสำหรับสัตว์ผู้กลัวอยู่ มารจะไม่ทำอะไรได้”. --ภิกษุ ท. ! แม้มารผู้มีบาป ก็คิดอย่างนี้ว่า “ในกาลนี้ ภิกษุมีตนอันถึงแล้ว ซึ่งที่ต้านทานสำหรับสัตว์ผู้กลัวอยู่ เราจะทำอะไรไม่ได้”. (ในกรณีแห่ง &ทุติยฌาน... &ตติยฌาน... และ &จตุตถฌาน... ก็ได้ตรัสข้อความทำนองเดียวกัน ผิดกันแต่ชื่อแห่งฌาน ไม่จำเป็นต้องนำมาใส่ไว้ ในที่นี้ให้ยืดยาว จักข้ามไปยังข้อความที่กล่าวถึง อากาสานัญจายตนะ :- ) --ภิกษุ ท. ! ในสมัยใด ภิกษุ เพราะก้าวล่วงซึ่ง รูปสัญญา เสียได้โดยประการทั้งปวง เพราะการดับไปแห่ง ปฏิฆสัญญา เพราะการไม่ทำไว้ในใจซึ่ง นานัตตสัญญา จึงเข้าถึง &​อากาสานัญจายตนะ อันมีการทำในใจว่า “อากาศ ไม่มีที่สิ้นสุด” ดังนี้ แล้วแลอยู่. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุนี้เรากล่าวว่า ได้กระทำมารให้ถึงที่สุด ให้ไม่มีทางไป ได้ถึงที่ซึ่งจักษุของมารผู้มีบาปมองไม่เห็น. (ในกรณีแห่ฌานที่ถัดไป คือ &วิญญาณัญจายตนะ... &อากิญจัญญายตนะ... และ &เนวสัญญานาสัญญายตนะ.... ก็ได้ตรัสข้อความทำนองเดียวกัน ผิดกันแต่ชื่อแห่งฌาน ไม่จำเป็นต้องนำมาใส่ไว้ ในที่นี้ให้ยืดยาว. ส่วนในกรณีแห่งสัญญาเวทยิตนิโรธ นั้น ได้ตรัสว่า:- ) --ภิกษุ ท. ! ในสมัยใด ภิกษุ เพราะก้าวล่วงซึ่งเนวสัญญานาสัญญายตนะเสียได้โดยประการทั้งปวง จึงเข้าถึง สัญญาเวทยิตนิโรธ แล้วแลอยู่, #อาสวะของเธอก็สิ้นสุดไปเพราะเห็นแล้วด้วยปัญญา. http://etipitaka.com/read/pali/23/456/?keywords=อาสวา+ปริกฺขีณา+โหนฺติ --ภิกษุ ท. ! ภิกษุนี้เรากล่าวว่า ได้กระทำมารให้ถึงที่สุด ให้ไม่มีทางไป ได้ถึงที่ซึ่งจักษุของมารผู้มีบาปมองไม่เห็น , ข้ามได้แล้วซึ่งเครื่องข้อง (คือตัณหา) ในโลก ดังนี้.- (ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า เมื่อจิตอยู่ในปฐมฌาน, เพียงเท่านั้นจิตก็จะพ้นจากการรบกวนทำร้ายของมาร คือนิวรณ์ กิเลส และความรู้สึกอันเป็นทุกข์อื่นๆ เพราะอำนาจของปฐมฌานมีมากพอที่จะระงับความรู้สึกอันเป็นทุกข์นั้นเสียได้ แม้ไม่ตลอดไปก็ต้องได้ในระยะหนึ่งๆ เพื่อเป็นโอกาสให้ได้ปฏิบัติสูงขึ้นไป จนถึงที่สุด. ดังนั้น เราควรฝึกฝนอย่างน้อยที่สุดในปฐมฌาน สำหรับ เป็นที่หลบภัยจากมารเมื่อไรก็ได้ ดังกล่าวแล้ว ). #สัมมาสมาธิ​ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นวก.อ. 23/350-353/243. http://etipitaka.com/read/thai/23/350/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%94%E0%B9%93 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นวก.อ. ๒๓/๔๕๐-๔๕๓/๒๔๓. http://etipitaka.com/read/pali/23/450/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%94%E0%B9%93 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=949 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=81&id=949 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=81 ลำดับสาธยายธรรม : 81 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_81.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - (ในสูตรอื่นแสดงอานิสงส์แห่งการหลีกเร้นไว้ด้วยการ รู้ชัดการเกิดขึ้นและความดับไปแห่งขันธ์ห้า ก็มี. - ๑๗/๒๐/๓๐. (ดูรายละเอียดของความเกิดและความดับแห่งขันธ์ห้า ในหนังสือ ปฏิจจ. โอ. หน้า ๒๕๙ - ๒๖๒ และที่หน้า ๓๓๘ - ๓๔๑ .
    -(ในสูตรอื่นแสดงอานิสงส์แห่งการหลีกเร้นไว้ด้วยการ รู้ชัดการเกิดขึ้นและความดับไปแห่งขันธ์ห้า ก็มี. - ๑๗/๒๐/๓๐. (ดูรายละเอียดของความเกิดและความดับแห่งขันธ์ห้า ในหนังสือ ปฏิจจ. โอ. หน้า ๒๕๙ - ๒๖๒ และที่หน้า ๓๓๘ - ๓๔๑ . ในสูตรอื่นแสดงไว้ด้วยการ รู้ชัดอริยสัจสี่ ก็มี ดังที่ได้ยกมาไว้ในภาคนำแห่งหนังสือเล่มนี้ ที่หน้า ๗๕. ในสูตรอื่นแสดงไว้ด้วยการ รู้ชัดอายตนิกธรรม ๖ หมวดๆ ละ ๕ อย่างคือ จักษุ รูป จักขุวิญญาณ จักขุสัมผัส เวทนาที่เกิดขึ้นจากจักขุสัมผัส ฯลฯ รวมเป็นรู้ชัดอายตนิกธรรม ๓๐ อย่าง ว่าเป็นอนิจจัง ก็มี. - ๑๘/๑๐๐/๑๔๘. ในสูตรอื่นแสดงไว้ด้วยการปรากฏของอายตนิกธรรมทั้ง ๖ หมวดนั้น โดยความเป็นอนิจจัง ก็มี. - ๑๘/๑๘๑/๒๕๐). แม้เพียงปฐมฌาน ก็ชื่อว่าเป็นที่หลบพ้นภัยจากมาร (พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสข้อความปรารภการสงครามระหว่างเทวดากับอสูร : ถ้าฝ่ายใดแพ้ถูกไล่ติดตามไปจนถึงภพเป็นที่อยู่แห่งตน ก็พ้นจาการถูกไล่ติดตาม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน. สรุปความว่า ภพแห่งตนเป็นที่พึ่งที่ต้านทานของตน สำหรับชนสามัญทั่วไป; ส่วนสำหรับภิกษุนั้น ตรัสว่า :-) ภิกษุ ท. ! ฉันใดก็ฉันนั้น : ในสมัยใด ภิกษุสงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม เข้าถึง ปฐมฌาน อันมีวิตกมีวิจาร มีปิติและสุข อันเกิดแต่วิเวกแล้วแลอยู่ ; ภิกษุ ท. ! ในสมัยนั้น ภิกษุย่อมคิดอย่างนี้ว่า “ในกาลนี้ เรา มีตนอันถึงแล้ว ซึ่งที่ต้านทานสำหรับสัตว์ผู้กลัวอยู่ มารจะไม่ทำอะไรได้”. ภิกษุ ท. ! แม้มารผู้มีบาป ก็คิดอย่างนี้ว่า “ในกาลนี้ ภิกษุมีตนอันถึงแล้ว ซึ่งที่ต้านทานสำหรับสัตว์ผู้กลัว อยู่ เราจะทำอะไรไม่ได้”. (ในกรณีแห่ง ทุติยฌาน ตติยฌาน และจตุตถฌาน ก็ได้ตรัสข้อความทำนองเดียวกัน ผิดกันแต่ชื่อแห่งฌาน ไม่จำเป็นต้องนำมาใส่ไว้ ในที่นี้ให้ยืดยาว จักข้ามไปยังข้อความที่กล่าวถึงอากาสานัญจายตนะ :-) ภิกษุ ท. ! ในสมัยใด ภิกษุ เพราะก้าวล่วงซึ่งรูปสัญญาเสียได้โดยประการทั้งปวง เพราะการดับไปแห่ง ปฏิฆสัญญา เพราะการไม่ทำไว้ในใจ ซึ่งนานัตตสัญญา จึงเข้าถึง อากาสานัญจายตนะ อันมีการทำในใจว่า “อากาศ ไม่มีที่สิ้นสุด” ดังนี้ แล้วแลอยู่. ภิกษุ ท. ! ภิกษุนี้เรากล่าวว่า ได้กระทำมารให้ถึงที่สุด ให้ไม่มีทางไป ได้ถึงที่ซึ่งจักษุของมารผู้มีบาปมองไม่เห็น. (ในกรณีแห่ฌานที่ถัดไป คือ วิญญาณัญจายตนะ อากิญจัญญายตนะ และเนวสัญญานาสัญญายตนะ ก็ได้ตรัสข้อความทำนองเดียวกัน ผิดกันแต่ชื่อแห่งฌาน ไม่จำเป็นต้องนำมาใส่ไว้ ในที่นี้ให้ยืดยาว. ส่วนในกรณีแห่งสัญญาเวทยิตนิโรธ นั้น ได้ตรัสว่า:-) ภิกษุ ท. ! ในสมัยใด ภิกษุ เพราะก้าวล่วงซึ่งเนวสัญญานาสัญญายตนะเสียได้โดยประการทั้งปวง จึงเข้าถึง สัญญาเวทยิตนิโรธ แล้วแลอยู่, อาสวะของเธอก็สิ้นสุดไป เพราะเห็นแล้วด้วยปัญญา. ภิกษุ ท. ! ภิกษุนี้เรากล่าวว่า ได้กระทำมารให้ถึงที่สุด ให้ไม่มีทางไป ได้ถึงที่ซึ่งจักษุของมารผู้มีบาปมองไม่เห็น , ข้ามได้แล้วซึ่งเครื่องข้อง (คือตัณหา) ในโลก ดังนี้.
    0 Comments 0 Shares 363 Views 0 Reviews
  • คุณสมบัติของผู้ที่ “พร้อมจากไปดี”

    ---

    1. ต้องมี “สองพลัง” ประคองจิตให้อุ่นใจ

    พลังที่ 1: กุศลอาจิณณกรรม (กรรมดีสะสม)

    คือ ความดีที่ทำสม่ำเสมอในชีวิตประจำวัน

    เช่น ให้ทาน รักษาศีล ห้ามใจไม่ทำบาป

    เป็น “พลังคุณงามความดี” ที่ติดตัวไปได้แม้สิ้นชีวิต

    พลังที่ 2: สมาธิหรือกำลังจิตที่มั่นคง

    คือ จิตที่นิ่ง สงบ ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว

    ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่หวาดหวั่นตอนใกล้ตาย

    เป็น “พลังใจแน่วแน่” ที่ทำให้แน่ใจได้ว่าจากไปดีแน่นอน

    ---

    2. ปัญหาของคนดีแต่จิตอ่อน

    แม้เป็นคนดี แต่ถ้าใจอ่อนแอ ขี้น้อยใจ ฟุ้งซ่าน กลัดกลุ้ม

    จะทำให้ไม่มั่นใจในความดีของตนเอง

    ยามใกล้ตาย จิตตั้งไม่อยู่ จะสอบไม่ผ่านในวินาทีสำคัญ

    ---

    3. มรณสติที่แท้ ไม่ใช่แค่จินตนาการถึงความตาย

    แต่คือ การ “สำรวจตัวเองจริงๆ” ว่าพร้อมตายดีหรือยัง

    พร้อมในแง่ “กรรมดี” และ “สมาธิ”

    หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จะยังไม่อุ่นใจเต็มที่

    ---

    Essence สั้นๆ

    “คนดีที่ตายดี ไม่ใช่แค่มีบุญ แต่ต้องมีกำลังจิตด้วย”
    “มรณสติ คือการประเมินตนเองว่าวันนี้พร้อมแล้วหรือยัง ถ้าพรุ่งนี้ต้องไปจริงๆ”
    คุณสมบัติของผู้ที่ “พร้อมจากไปดี” --- 1. ต้องมี “สองพลัง” ประคองจิตให้อุ่นใจ พลังที่ 1: กุศลอาจิณณกรรม (กรรมดีสะสม) คือ ความดีที่ทำสม่ำเสมอในชีวิตประจำวัน เช่น ให้ทาน รักษาศีล ห้ามใจไม่ทำบาป เป็น “พลังคุณงามความดี” ที่ติดตัวไปได้แม้สิ้นชีวิต พลังที่ 2: สมาธิหรือกำลังจิตที่มั่นคง คือ จิตที่นิ่ง สงบ ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่หวาดหวั่นตอนใกล้ตาย เป็น “พลังใจแน่วแน่” ที่ทำให้แน่ใจได้ว่าจากไปดีแน่นอน --- 2. ปัญหาของคนดีแต่จิตอ่อน แม้เป็นคนดี แต่ถ้าใจอ่อนแอ ขี้น้อยใจ ฟุ้งซ่าน กลัดกลุ้ม จะทำให้ไม่มั่นใจในความดีของตนเอง ยามใกล้ตาย จิตตั้งไม่อยู่ จะสอบไม่ผ่านในวินาทีสำคัญ --- 3. มรณสติที่แท้ ไม่ใช่แค่จินตนาการถึงความตาย แต่คือ การ “สำรวจตัวเองจริงๆ” ว่าพร้อมตายดีหรือยัง พร้อมในแง่ “กรรมดี” และ “สมาธิ” หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จะยังไม่อุ่นใจเต็มที่ --- Essence สั้นๆ “คนดีที่ตายดี ไม่ใช่แค่มีบุญ แต่ต้องมีกำลังจิตด้วย” “มรณสติ คือการประเมินตนเองว่าวันนี้พร้อมแล้วหรือยัง ถ้าพรุ่งนี้ต้องไปจริงๆ”
    0 Comments 0 Shares 186 Views 0 Reviews
  • ใครสอนให้ตอบอย่างนั้น มโนกรรมทุจริตชัด ๆ..เพราะเห็นผิด(มิจฉาทิฏฐิ) จึงเห็นผิดเป็นชอบ ที่ครอบครัวทำธุรกิจในที่ดินวัด เห็นว่า เป็นธุรกิจชอบด้วยกฎหมาย ไม่สะดุ้ง ไม่ละอาย ไม่เกรงกลัวบาป ไม่เชื่อเรื่องกรรม

    เคียดแค้นพยาบาท ใครทำไม่ถูกใจ ก็ทำลายล้าง

    โลภเพ่งเล็งในอุปกรณ์แห่งทรัพย์ของชาติ โกง ทุจริตทุกช่องทาง รายการยาวเหมือนหางว่าว

    ตอบได้คำเดียว.."ไม่เป็นความจริงค่ะ"..
    ใครสอนให้ตอบอย่างนั้น มโนกรรมทุจริตชัด ๆ..เพราะเห็นผิด(มิจฉาทิฏฐิ) จึงเห็นผิดเป็นชอบ ที่ครอบครัวทำธุรกิจในที่ดินวัด เห็นว่า เป็นธุรกิจชอบด้วยกฎหมาย ไม่สะดุ้ง ไม่ละอาย ไม่เกรงกลัวบาป ไม่เชื่อเรื่องกรรม เคียดแค้นพยาบาท ใครทำไม่ถูกใจ ก็ทำลายล้าง โลภเพ่งเล็งในอุปกรณ์แห่งทรัพย์ของชาติ โกง ทุจริตทุกช่องทาง รายการยาวเหมือนหางว่าว ตอบได้คำเดียว.."ไม่เป็นความจริงค่ะ"..
    0 Comments 1 Shares 260 Views 0 Reviews
  • นี่รังกิเลส
    เหตุทุกข์เดือดร้อน
    ศีลธรรมบั่นทอน
    เดือดร้อนกระจาย

    แกนนำกิเลส
    ก่อเหตุมากมาย
    กฎเกณฑ์ทำลาย
    หมายตนเป็นใหญ่

    กิเลสความโง่
    โคจรทำร้าย
    เสพบาปอาศัย
    ไม่เอาศีลธรรม

    กิเลสห้ำเบียน
    ผิดเพี้ยนคิดทำ
    วาทะก่อกรรม
    ย้ำทางอบาย

    ตื่นเถิดคนดี
    ศีลธรรมอาศัย
    ความดีขวนขวาย
    ให้กพลังใจ

    ขอพบธรรมความดีมีสุข ยิ่งทำยิ่งเจริญรุ่งเรือง

    นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
    นี่รังกิเลส เหตุทุกข์เดือดร้อน ศีลธรรมบั่นทอน เดือดร้อนกระจาย แกนนำกิเลส ก่อเหตุมากมาย กฎเกณฑ์ทำลาย หมายตนเป็นใหญ่ กิเลสความโง่ โคจรทำร้าย เสพบาปอาศัย ไม่เอาศีลธรรม กิเลสห้ำเบียน ผิดเพี้ยนคิดทำ วาทะก่อกรรม ย้ำทางอบาย ตื่นเถิดคนดี ศีลธรรมอาศัย ความดีขวนขวาย ให้กพลังใจ ขอพบธรรมความดีมีสุข ยิ่งทำยิ่งเจริญรุ่งเรือง นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
    0 Comments 0 Shares 217 Views 0 Reviews
  • พรรคประชาชนโยนบาปไอโอให้กองทัพ
    แต่คิงส์ขอสนับสนุนให้มีกองทัพไอโอล้างบางพวกล้มล้าง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    พรรคประชาชนโยนบาปไอโอให้กองทัพ แต่คิงส์ขอสนับสนุนให้มีกองทัพไอโอล้างบางพวกล้มล้าง #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    6
    0 Comments 1 Shares 381 Views 21 0 Reviews
  • มรดกบาปการเมืองไทย จากพี่สู่น้องจากน้องสู่หลาน..แจกอีกและแจกอีก เขาจะทำให้ไทยตกต่ำสุดขีน และเสียดินแดน..และสร้างคนจนถาวรเช่น เวเนซุเอลา อเมริกากลางฯ ลาก่อนรากหญ้าเขลาๆ
    มรดกบาปการเมืองไทย จากพี่สู่น้องจากน้องสู่หลาน..แจกอีกและแจกอีก เขาจะทำให้ไทยตกต่ำสุดขีน และเสียดินแดน..และสร้างคนจนถาวรเช่น เวเนซุเอลา อเมริกากลางฯ ลาก่อนรากหญ้าเขลาๆ
    0 Comments 0 Shares 234 Views 0 Reviews
More Results