• ขายชาติมั้ยแบบนี้!

    เซเลนสกี้ ทุ่มหมดหน้าตัก เสนอยกทรัพย์สินทั้งแผ่นดินให้ทรัมป์ แถมถีบจีนพ้นยูเครน

    Financial Times รายงานว่า ประธานาธิบดี Volodymyr Zelensky ได้นำเสนอ "แผนชัยชนะ" ต่อ Donald Trump โดยเสนอให้ยูเครนส่งทหารไปแทนที่กองกำลังสหรัฐในยุโรปบางส่วนหลังสิ้นสุดความขัดแย้ง เพื่อช่วยสหรัฐประหยัดงบประมาณ นอกจากนี้ยังเสนอให้สหรัฐเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติของยูเครนเพื่อแลกกับความช่วยเหลือทางทหาร รวมถึงการพิจารณาให้สหรัฐมีสิทธิพิเศษในการคัดกรองการลงทุนในยูเครน โดยเฉพาะการกีดกันจีนออกไป

    แผนนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันการตกลงกันระหว่าง Trump และ Vladimir Putin โดยข้ามหัวยูเครน ซึ่งอาจกระทบต่อการสนับสนุนจากชาติตะวันตก ผู้นำธุรกิจยูเครนบางส่วนเชื่อว่าข้อเสนอนี้อาจเป็นประโยชน์ต่อ Trump แม้จะอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้นของการพัฒนา โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่พึ่งพาเทคโนโลยีจีน เช่น โทรคมนาคม อาจเปลี่ยนไปใช้ของสหรัฐแทนและดึงดูดการลงทุนจากตะวันตกมากขึ้น

    https://www.facebook.com/groups/194174770388504/posts/367480763057903/
    ขายชาติมั้ยแบบนี้! เซเลนสกี้ ทุ่มหมดหน้าตัก เสนอยกทรัพย์สินทั้งแผ่นดินให้ทรัมป์ แถมถีบจีนพ้นยูเครน Financial Times รายงานว่า ประธานาธิบดี Volodymyr Zelensky ได้นำเสนอ "แผนชัยชนะ" ต่อ Donald Trump โดยเสนอให้ยูเครนส่งทหารไปแทนที่กองกำลังสหรัฐในยุโรปบางส่วนหลังสิ้นสุดความขัดแย้ง เพื่อช่วยสหรัฐประหยัดงบประมาณ นอกจากนี้ยังเสนอให้สหรัฐเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติของยูเครนเพื่อแลกกับความช่วยเหลือทางทหาร รวมถึงการพิจารณาให้สหรัฐมีสิทธิพิเศษในการคัดกรองการลงทุนในยูเครน โดยเฉพาะการกีดกันจีนออกไป แผนนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันการตกลงกันระหว่าง Trump และ Vladimir Putin โดยข้ามหัวยูเครน ซึ่งอาจกระทบต่อการสนับสนุนจากชาติตะวันตก ผู้นำธุรกิจยูเครนบางส่วนเชื่อว่าข้อเสนอนี้อาจเป็นประโยชน์ต่อ Trump แม้จะอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้นของการพัฒนา โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่พึ่งพาเทคโนโลยีจีน เช่น โทรคมนาคม อาจเปลี่ยนไปใช้ของสหรัฐแทนและดึงดูดการลงทุนจากตะวันตกมากขึ้น https://www.facebook.com/groups/194174770388504/posts/367480763057903/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • 12/11/67

    ตุรกีเป็นสถานที่แห่งเดียวในโลกที่มี
    ดอกกุหลาบสีดำตามธรรมชาติ

    เติบโตโดยได้รับน้ำจากแม่น้ำยูเฟรติส ดอกไม้ชนิดนี้หายากมาก มีเฉพาะในหมู่บ้าน Halfeti จังหวัด shanlıurfa
    ทางตะวันออกเฉียงใต้ ใกล้จังหวัด Urfa
    ในช่วงฤดูร้อนจะปรากฏเป็นสีดำ

    ส่วนในฤดูกาลอื่นๆ จะเป็นสีแดงเข้มมาก ความหลากหลายนี้เกิดจากความหนาแน่นของดินและการรวมกันของแอนโทไซยานินซึ่งเป็นเม็ดสีที่ละลายน้ำได้
    ดินมีผลกระทบอย่างมากต่อเม็ดสีนี้ เนื่องจากมีความไวต่อ pH ค่อนข้างมาก

    Cr Moosordee Areepeng
    12/11/67 ตุรกีเป็นสถานที่แห่งเดียวในโลกที่มี ดอกกุหลาบสีดำตามธรรมชาติ เติบโตโดยได้รับน้ำจากแม่น้ำยูเฟรติส ดอกไม้ชนิดนี้หายากมาก มีเฉพาะในหมู่บ้าน Halfeti จังหวัด shanlıurfa ทางตะวันออกเฉียงใต้ ใกล้จังหวัด Urfa ในช่วงฤดูร้อนจะปรากฏเป็นสีดำ ส่วนในฤดูกาลอื่นๆ จะเป็นสีแดงเข้มมาก ความหลากหลายนี้เกิดจากความหนาแน่นของดินและการรวมกันของแอนโทไซยานินซึ่งเป็นเม็ดสีที่ละลายน้ำได้ ดินมีผลกระทบอย่างมากต่อเม็ดสีนี้ เนื่องจากมีความไวต่อ pH ค่อนข้างมาก Cr Moosordee Areepeng
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • เล่านิยายที่ตนเองเขียนแบบคร่าวๆ ผ่านวีดีโอค่ะ

    Mystery of Ahnya ปริศนาแห่งอัณยา แนว ชญ ลึกลับสยองขวัญ ดาร์คแฟนตาซี เน้นทริลเลอร์ จบแล้วค่ะ
    Writer : Cirrus Halo
    เมื่อเอรินได้รับคำเชิญจากแฟนหนุ่มของเธอให้ไปเยือนบ้านเกิดที่ชื่อเมืองอัณยา เธอต้องเผชิญกับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ การฆาตกรรม พฤติกรรมของชาวเมืองและแฟนหนุ่มที่แปลกไป ทำให้เธอต้องสืบหาเบาะแสเพื่อพิสูจน์ความจริง โปรดติดตามได้ใน Mystery of Ahnya ปริศนาแห่งอัณยาค่ะ
    ที่เว็บนิยายออนไลน์ Tunwalai, Kawebook, Fictionlog, readAwrite, Dreame
    หรือ E-Book ที่ Mebmarket และ Pinto ค่ะ
    เล่านิยายที่ตนเองเขียนแบบคร่าวๆ ผ่านวีดีโอค่ะ Mystery of Ahnya ปริศนาแห่งอัณยา แนว ชญ ลึกลับสยองขวัญ ดาร์คแฟนตาซี เน้นทริลเลอร์ จบแล้วค่ะ Writer : Cirrus Halo เมื่อเอรินได้รับคำเชิญจากแฟนหนุ่มของเธอให้ไปเยือนบ้านเกิดที่ชื่อเมืองอัณยา เธอต้องเผชิญกับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ การฆาตกรรม พฤติกรรมของชาวเมืองและแฟนหนุ่มที่แปลกไป ทำให้เธอต้องสืบหาเบาะแสเพื่อพิสูจน์ความจริง โปรดติดตามได้ใน Mystery of Ahnya ปริศนาแห่งอัณยาค่ะ ที่เว็บนิยายออนไลน์ Tunwalai, Kawebook, Fictionlog, readAwrite, Dreame หรือ E-Book ที่ Mebmarket และ Pinto ค่ะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 73 0 รีวิว
  • ผลกระทบของการทำผิดศีลและการฝืนความจริงต่อตัวเอง โดยเปรียบเทียบการทำงานของสมองและจิตใจระหว่างการมีสติ มีสมาธิ กับการทำผิดศีล

    เมื่อเรามีสติและสมาธิ สมองจะทำงานง่ายดายเพราะมีเป้าหมายเดียว คิดเรื่องเดียว เหมือนกับการรักษาสมดุลบนจักรยาน ทำให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย รู้สึกสบาย แต่เมื่อต้องทำสิ่งที่ขัดกับความจริง เช่น โกหก สมองต้องใช้ความพยายามสูงมากขึ้นเพราะต้องจัดการกับความจริงที่รับรู้และพยายามสร้างเรื่องเท็จที่ไม่หลุดลอย การโกหกหรือทำผิดศีลจึงเหมือนการเดินบนเส้นเชือกโดยที่ต้องควบคุมความกลัวไปด้วย ทำให้รู้สึกตึงเครียดและไม่เป็นธรรมชาติ

    ยิ่งถ้าความรู้สึกผิดตกค้างอยู่ในจิตใจ เมื่อนั่งสมาธิจะยิ่งรู้สึกถึงความเครียดแน่นค้าง หากเรามีความคาดหวังว่าสมาธิจะทำให้ผ่อนคลายทันที ก็อาจทำให้เกิดความเครียดซ้ำเติม เพราะปัญหาที่ยังแก้ไม่เสร็จจะทำให้สมองและจิตใจฝืนตัวเองอย่างหนัก สุดท้ายสำหรับคนที่มีปมขัดแย้งกับจิตเพียงเล็กน้อย การนั่งสมาธิอาจทำให้รู้สึกถึงความหม่นหมองหรือฟุ้งซ่านที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะทำให้ยากที่จะรักษาความสงบและสมาธิที่ผ่องใส

    ผลกระทบของการทำผิดศีลและการฝืนความจริงต่อตัวเอง โดยเปรียบเทียบการทำงานของสมองและจิตใจระหว่างการมีสติ มีสมาธิ กับการทำผิดศีล เมื่อเรามีสติและสมาธิ สมองจะทำงานง่ายดายเพราะมีเป้าหมายเดียว คิดเรื่องเดียว เหมือนกับการรักษาสมดุลบนจักรยาน ทำให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย รู้สึกสบาย แต่เมื่อต้องทำสิ่งที่ขัดกับความจริง เช่น โกหก สมองต้องใช้ความพยายามสูงมากขึ้นเพราะต้องจัดการกับความจริงที่รับรู้และพยายามสร้างเรื่องเท็จที่ไม่หลุดลอย การโกหกหรือทำผิดศีลจึงเหมือนการเดินบนเส้นเชือกโดยที่ต้องควบคุมความกลัวไปด้วย ทำให้รู้สึกตึงเครียดและไม่เป็นธรรมชาติ ยิ่งถ้าความรู้สึกผิดตกค้างอยู่ในจิตใจ เมื่อนั่งสมาธิจะยิ่งรู้สึกถึงความเครียดแน่นค้าง หากเรามีความคาดหวังว่าสมาธิจะทำให้ผ่อนคลายทันที ก็อาจทำให้เกิดความเครียดซ้ำเติม เพราะปัญหาที่ยังแก้ไม่เสร็จจะทำให้สมองและจิตใจฝืนตัวเองอย่างหนัก สุดท้ายสำหรับคนที่มีปมขัดแย้งกับจิตเพียงเล็กน้อย การนั่งสมาธิอาจทำให้รู้สึกถึงความหม่นหมองหรือฟุ้งซ่านที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะทำให้ยากที่จะรักษาความสงบและสมาธิที่ผ่องใส
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🍁 พระอะไร ทำปลอมง่ายที่สุด ต้นทุน ต่ำที่สุด... (เหมือนไม่เหมือน ก็ว่ากันไป)
    ...ทำ.ง่าย เอาดินเหนียว..มาทำบล๊อกแม่พิมพ์ก็ได้ ..ไม่ต้องใช้วัสดุแบบแข็งๆ ที่ต้องแกะสลัก เช่น ไม้ หรือหินสบู่ หรือ หล่อขึ้นมาด้วยโลหะ...การตกแต่งแก้ไขพิมพ์ก็ง่าย.....
    ..วัตถุดิบ ก็ตามธรรมชาติ...
    แรงงานคน ชาวบ้านทั่วไปทำได้..ไม่ต้องมีเครื่องจักรใดๆ ก็ได้....กด ขึ้น ตากแดด..จบ ...จะทำแกล้งเก่า ก็ว่าไป.
    ...หลายจังหวัด ที่มีพระกรุ เนื้อดิน จำนวนมาก...ล้วนมีงานข่างชาวบ้านแบบนี้...ลำพูน พิษณุโลก กำแพงเพชร ..เป็นต้น..แต่เขาจะไม่ใช้คำว่า ทำพระปลอม...เขาใช้คำว่า สินค้าชุมชน ทำเป็นของที่ระลึก........
    ....
    🍁 พระอะไร ทำปลอมง่ายที่สุด ต้นทุน ต่ำที่สุด... (เหมือนไม่เหมือน ก็ว่ากันไป) ...ทำ.ง่าย เอาดินเหนียว..มาทำบล๊อกแม่พิมพ์ก็ได้ ..ไม่ต้องใช้วัสดุแบบแข็งๆ ที่ต้องแกะสลัก เช่น ไม้ หรือหินสบู่ หรือ หล่อขึ้นมาด้วยโลหะ...การตกแต่งแก้ไขพิมพ์ก็ง่าย..... ..วัตถุดิบ ก็ตามธรรมชาติ... แรงงานคน ชาวบ้านทั่วไปทำได้..ไม่ต้องมีเครื่องจักรใดๆ ก็ได้....กด ขึ้น ตากแดด..จบ ...จะทำแกล้งเก่า ก็ว่าไป. ...หลายจังหวัด ที่มีพระกรุ เนื้อดิน จำนวนมาก...ล้วนมีงานข่างชาวบ้านแบบนี้...ลำพูน พิษณุโลก กำแพงเพชร ..เป็นต้น..แต่เขาจะไม่ใช้คำว่า ทำพระปลอม...เขาใช้คำว่า สินค้าชุมชน ทำเป็นของที่ระลึก........ ....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✨พระผงรูปเหมือนหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี พิมพ์ยืน ด้านหลังมีเกศา และ จีวรของหลวงตา

    หลวงตามหาบัว เป็นศิษย์องค์สำคัญในพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

    คุณอุดมศิลป์ ลูกศิษย์หลวงตามหาบัว ได้นำมาให้คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งก็เป็นลูกศิษย์ของหลวงตาเช่นกัน

    คุณอุดมศิลป์ เล่าว่า เมื่อครั้งที่ไปอินเดียได้เก็บรวบรวมดินจากสถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เช่น พุทธคยา ค้นศรีมหาโพธิ์ ฯลฯ

    หลังจากกลับมาไทยได้นำเอาดินเหล่านี้ไปไว้ที่วัดอโศการามของท่านพ่อลี ปรากฎว่า ดินที่รวบรวมมานั้นเปลี่ยนเป็นสีเขียวสวยมากจึงนำมาเป็นมวลสารจัดสร้างวัตถุมงคลเป็นพระผงรูปเหมือนหลวงตามหาบัวพิมพ์ยืนและนั่งสมาธิ เมื่อสร้างเสร็จแล้วนำมาขอให้หลวงตามหาบัวอฐิษฐานจิตปลุกเสก ซึ่งหลวงตาเมตตาอฐิษฐานนานถึง20นาที

    ต่อมาคุณอุดมศิลป์ได้นำพระบางส่วนถวายหลวงปู่ลี กุสลธโร วัดภูผาแดง หนองวัวซอ อุดรธานีศิษย์ของหลวงตามหาบัว ซึ่งท่านพอได้รับก็เก็บรักษาพระรุ่นนี้เอาไว้ในกุฏิของท่านอย่างดี ไม่ได้นำมาแจกจ่ายให้ใครเลย

    จนกระทั่งนานแค่ไหนไม่มีใครทราบ หลวงปู่ลีได้นำออกมามอบให้ลูกศิษย์คนหนึ่ง ซึ่งพอได้รับพระรุ่นนี้อาราธนาขึ้นคอก็ปรากฎเกิดเรื่องราวปาฎิหารย์โดยไม่คาดคิด ฟันแทงไม่เข้า หลังจากลูกศิษย์รายนี้ถูกชาย3คนที่ใช้มีดดาบเป็นอาวุธฟันแทงไม่เข้า และ สามารถแย่งอาวุธมาได้อีกต่างหากโดยเจ้าตัวไม่เป็นอันตรายแม้แต่น้อย

    ความสวยงามของพุทธศิลป์องค์นี้จะเห็นผิวพระมีคราบสีของดินที่ขึ้นเองตามธรรมชาติตรงจีวรของหลวงตาซึ่งแตกต่างจากพระองค์อื่นๆในรุ่นนี้



    ✨พระผงรูปเหมือนหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี พิมพ์ยืน ด้านหลังมีเกศา และ จีวรของหลวงตา หลวงตามหาบัว เป็นศิษย์องค์สำคัญในพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต คุณอุดมศิลป์ ลูกศิษย์หลวงตามหาบัว ได้นำมาให้คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งก็เป็นลูกศิษย์ของหลวงตาเช่นกัน คุณอุดมศิลป์ เล่าว่า เมื่อครั้งที่ไปอินเดียได้เก็บรวบรวมดินจากสถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เช่น พุทธคยา ค้นศรีมหาโพธิ์ ฯลฯ หลังจากกลับมาไทยได้นำเอาดินเหล่านี้ไปไว้ที่วัดอโศการามของท่านพ่อลี ปรากฎว่า ดินที่รวบรวมมานั้นเปลี่ยนเป็นสีเขียวสวยมากจึงนำมาเป็นมวลสารจัดสร้างวัตถุมงคลเป็นพระผงรูปเหมือนหลวงตามหาบัวพิมพ์ยืนและนั่งสมาธิ เมื่อสร้างเสร็จแล้วนำมาขอให้หลวงตามหาบัวอฐิษฐานจิตปลุกเสก ซึ่งหลวงตาเมตตาอฐิษฐานนานถึง20นาที ต่อมาคุณอุดมศิลป์ได้นำพระบางส่วนถวายหลวงปู่ลี กุสลธโร วัดภูผาแดง หนองวัวซอ อุดรธานีศิษย์ของหลวงตามหาบัว ซึ่งท่านพอได้รับก็เก็บรักษาพระรุ่นนี้เอาไว้ในกุฏิของท่านอย่างดี ไม่ได้นำมาแจกจ่ายให้ใครเลย จนกระทั่งนานแค่ไหนไม่มีใครทราบ หลวงปู่ลีได้นำออกมามอบให้ลูกศิษย์คนหนึ่ง ซึ่งพอได้รับพระรุ่นนี้อาราธนาขึ้นคอก็ปรากฎเกิดเรื่องราวปาฎิหารย์โดยไม่คาดคิด ฟันแทงไม่เข้า หลังจากลูกศิษย์รายนี้ถูกชาย3คนที่ใช้มีดดาบเป็นอาวุธฟันแทงไม่เข้า และ สามารถแย่งอาวุธมาได้อีกต่างหากโดยเจ้าตัวไม่เป็นอันตรายแม้แต่น้อย ความสวยงามของพุทธศิลป์องค์นี้จะเห็นผิวพระมีคราบสีของดินที่ขึ้นเองตามธรรมชาติตรงจีวรของหลวงตาซึ่งแตกต่างจากพระองค์อื่นๆในรุ่นนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เรา ประเทศไทยเราล่ะ,เราจะซ่อมแซมประเทศไทยเราจริงจังแบบไหน&กันเสียที.

    ..พรรคเดโมแครต ถ้าคุณสงสัยว่าทำไมอเมริกาถึงเลือกทรัมป์ ฉันขออธิบายให้ฟัง:

    ความจริงก็คือ ชาวอเมริกันเบื่อหน่ายกับเรื่องบ้าๆ ของคุณแล้ว

    คุณทำลายชาติและวัฒนธรรมของเรา คุณล้อเลียน ดูถูก และเลือกปฏิบัติต่อเราอย่างเปิดเผย จากนั้นก็เรียกเราว่าพวกเหยียดผิว เหยียดเพศ และพวกนาซี เมื่อเราเริ่มสังเกตเห็น

    คุณทำให้สถาบันอันยิ่งใหญ่ของเราเสื่อมเสียชื่อเสียงและเสื่อมทราม รวมถึงสื่อ โซเชียลมีเดีย เทคโนโลยี สถาบันการศึกษา หน่วยข่าวกรอง สุขภาพ ยา ฮอลลีวูด ความบันเทิง กีฬา ทุกอย่าง! คุณใช้ทุกแง่มุมของชีวิตชาวอเมริกันเป็นอาวุธ และใช้มันเพื่อผลักดันวาระฝ่ายซ้ายสุดโต่งของคุณให้พวกเราต้องทนทุกข์ทรมาน

    คุณบอกเราว่าทรัมป์เป็นทรัพยากรของรัสเซียที่กำลังจะก่อสงครามโลกครั้งที่ 3 และจะเลวร้ายยิ่งกว่าฮิตเลอร์ จากนั้นคุณก็ใช้สิ่งนั้นเป็นข้ออ้างในการแสดงความเกลียดชังต่อผู้สนับสนุนทรัมป์และก่อจลาจลบนท้องถนน คุณใช้สิ่งนั้นเป็นข้ออ้างในการขัดขวางและทำลายวาระแรกของทรัมป์ และกลายเป็นว่ามันเป็นเรื่องโกหกทั้งหมด
    จากนั้นในช่วงโควิด คุณเรียกร้องให้เราทุกคนถูกบังคับให้ทำการทดลองทางการแพทย์โดยไม่ทดลอง คุณต้องการให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยถูกขังไว้ในคุก คุณต้องการให้เด็กๆ ถูกพรากไปจากพ่อแม่ที่ต่อต้านวัคซีน คุณต้องการให้พวกต่อต้านวัคซีนอยู่ในค่าย คุณเชียร์ให้พวกเราต้องตาย จากนั้นก็กลายเป็นว่าคุณคิดผิดเกี่ยวกับทุกอย่าง ตั้งแต่แหล่งกำเนิดที่มนุษย์สร้างขึ้น ไปจนถึงหน้ากาก วัคซีน การเว้นระยะห่างทางสังคม ไอเวอร์เมกติน HCQ ภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ และทุกสิ่งทุกอย่าง

    จากนั้นในช่วงยูเครน คุณบอกเราว่ายูเครนเป็นปราการของประชาธิปไตย และพวกเขาต้องการเงินภาษีของเราทั้งหมดอย่างมาก จากนั้นก็กลายเป็นว่ายูเครนเป็นหนึ่งในประเทศที่ทุจริตมากที่สุดในโลก โดยมีกองกำลังทหารนาซีตามตัวอักษร และที่จริงแล้วเป็นเพียงปฏิบัติการฟอกเงินเพื่อขโมยเงินจากผู้เสียภาษีชาวอเมริกัน คุณต้องการปกป้องพรมแดนของยูเครนมากกว่าของเราเอง คุณส่งเงินหลายแสนล้านดอลลาร์ไปยังอีกฟากของโลก ในขณะที่ชาวอเมริกันต้องทนทุกข์ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนขึ้นอยู่กับคำโกหก

    นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ Epstein, Diddy และการค้ามนุษย์อีกด้วย พวกคุณทุกคนบอกเราอย่างรุนแรงว่าการค้ามนุษย์เป็นเพียงเรื่องหลอกลวง พวกคุณบอกเราว่าชายแดนปลอดภัย และพวกคุณบอกเราว่าใครก็ตามที่ตั้งคำถามถึงเรื่องนี้คือพวกนักทฤษฎีสมคบคิดที่ไถ่ถอนไม่ได้และน่ารังเกียจ (และเป็นขยะ) พวกคุณบอกว่าใครก็ตามที่ดูรายการ "Sound of Freedom" ล้วนเป็นพวกหัวรุนแรง QAnon และเป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย จากนั้นมันก็กลายเป็นเรื่องจริง และชนชั้นสูงก็มีส่วนร่วมในอาชญากรรมที่เลวร้ายต่อเด็กๆ จริงๆ หลังจากที่คุณบอกเรามาหลายสิบปีว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง พวกคุณปกปิดอาชญากรรมที่เลวร้ายที่สุดที่จินตนาการได้ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง

    ฉันทำแบบนี้ได้เป็นวันๆ แต่ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจประเด็นแล้ว ชาวอเมริกันตื่นตัวต่อกลลวงและความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา และเราจะไม่ทนอีกต่อไป ดังนั้นเราจึงจ้างโดนัลด์ เจ. ทรัมป์และทีมผู้รักชาติของเขาเพื่อแก้ไขสถานการณ์ และนำอเมริกากลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

    นี่คือความเป็นจริงของสถานการณ์ คุณเป็นคนเลว และคุณถูกหลอก ยิ่งคุณตื่นรู้เร็วเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งสามารถเข้าร่วมกับเราในการซ่อมแซมประเทศนี้ได้เร็วขึ้นเท่านั้น หรือคุณสามารถเลือกที่จะปฏิเสธความจริง และใช้ชีวิตที่เหลือของคุณไปกับความเกลียดชังที่ขึ้นอยู่กับคำโกหก

    ทางเลือกเป็นของคุณ

    ลงชื่อ: ผู้รักชาติอเมริกันที่แท้จริง

    @realDonaldTrump ขอบคุณสำหรับความกล้าหาญและการยืนหยัดเพื่ออเมริกาและมวลมนุษยชาติ ขอพระเจ้าอวยพรอเมริกา 🙏🏼🇺🇸ฟ
    ..เรา ประเทศไทยเราล่ะ,เราจะซ่อมแซมประเทศไทยเราจริงจังแบบไหน&กันเสียที. ..พรรคเดโมแครต ถ้าคุณสงสัยว่าทำไมอเมริกาถึงเลือกทรัมป์ ฉันขออธิบายให้ฟัง: ความจริงก็คือ ชาวอเมริกันเบื่อหน่ายกับเรื่องบ้าๆ ของคุณแล้ว คุณทำลายชาติและวัฒนธรรมของเรา คุณล้อเลียน ดูถูก และเลือกปฏิบัติต่อเราอย่างเปิดเผย จากนั้นก็เรียกเราว่าพวกเหยียดผิว เหยียดเพศ และพวกนาซี เมื่อเราเริ่มสังเกตเห็น คุณทำให้สถาบันอันยิ่งใหญ่ของเราเสื่อมเสียชื่อเสียงและเสื่อมทราม รวมถึงสื่อ โซเชียลมีเดีย เทคโนโลยี สถาบันการศึกษา หน่วยข่าวกรอง สุขภาพ ยา ฮอลลีวูด ความบันเทิง กีฬา ทุกอย่าง! คุณใช้ทุกแง่มุมของชีวิตชาวอเมริกันเป็นอาวุธ และใช้มันเพื่อผลักดันวาระฝ่ายซ้ายสุดโต่งของคุณให้พวกเราต้องทนทุกข์ทรมาน คุณบอกเราว่าทรัมป์เป็นทรัพยากรของรัสเซียที่กำลังจะก่อสงครามโลกครั้งที่ 3 และจะเลวร้ายยิ่งกว่าฮิตเลอร์ จากนั้นคุณก็ใช้สิ่งนั้นเป็นข้ออ้างในการแสดงความเกลียดชังต่อผู้สนับสนุนทรัมป์และก่อจลาจลบนท้องถนน คุณใช้สิ่งนั้นเป็นข้ออ้างในการขัดขวางและทำลายวาระแรกของทรัมป์ และกลายเป็นว่ามันเป็นเรื่องโกหกทั้งหมด จากนั้นในช่วงโควิด คุณเรียกร้องให้เราทุกคนถูกบังคับให้ทำการทดลองทางการแพทย์โดยไม่ทดลอง คุณต้องการให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยถูกขังไว้ในคุก คุณต้องการให้เด็กๆ ถูกพรากไปจากพ่อแม่ที่ต่อต้านวัคซีน คุณต้องการให้พวกต่อต้านวัคซีนอยู่ในค่าย คุณเชียร์ให้พวกเราต้องตาย จากนั้นก็กลายเป็นว่าคุณคิดผิดเกี่ยวกับทุกอย่าง ตั้งแต่แหล่งกำเนิดที่มนุษย์สร้างขึ้น ไปจนถึงหน้ากาก วัคซีน การเว้นระยะห่างทางสังคม ไอเวอร์เมกติน HCQ ภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ และทุกสิ่งทุกอย่าง จากนั้นในช่วงยูเครน คุณบอกเราว่ายูเครนเป็นปราการของประชาธิปไตย และพวกเขาต้องการเงินภาษีของเราทั้งหมดอย่างมาก จากนั้นก็กลายเป็นว่ายูเครนเป็นหนึ่งในประเทศที่ทุจริตมากที่สุดในโลก โดยมีกองกำลังทหารนาซีตามตัวอักษร และที่จริงแล้วเป็นเพียงปฏิบัติการฟอกเงินเพื่อขโมยเงินจากผู้เสียภาษีชาวอเมริกัน คุณต้องการปกป้องพรมแดนของยูเครนมากกว่าของเราเอง คุณส่งเงินหลายแสนล้านดอลลาร์ไปยังอีกฟากของโลก ในขณะที่ชาวอเมริกันต้องทนทุกข์ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนขึ้นอยู่กับคำโกหก นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ Epstein, Diddy และการค้ามนุษย์อีกด้วย พวกคุณทุกคนบอกเราอย่างรุนแรงว่าการค้ามนุษย์เป็นเพียงเรื่องหลอกลวง พวกคุณบอกเราว่าชายแดนปลอดภัย และพวกคุณบอกเราว่าใครก็ตามที่ตั้งคำถามถึงเรื่องนี้คือพวกนักทฤษฎีสมคบคิดที่ไถ่ถอนไม่ได้และน่ารังเกียจ (และเป็นขยะ) พวกคุณบอกว่าใครก็ตามที่ดูรายการ "Sound of Freedom" ล้วนเป็นพวกหัวรุนแรง QAnon และเป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย จากนั้นมันก็กลายเป็นเรื่องจริง และชนชั้นสูงก็มีส่วนร่วมในอาชญากรรมที่เลวร้ายต่อเด็กๆ จริงๆ หลังจากที่คุณบอกเรามาหลายสิบปีว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง พวกคุณปกปิดอาชญากรรมที่เลวร้ายที่สุดที่จินตนาการได้ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ฉันทำแบบนี้ได้เป็นวันๆ แต่ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจประเด็นแล้ว ชาวอเมริกันตื่นตัวต่อกลลวงและความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา และเราจะไม่ทนอีกต่อไป ดังนั้นเราจึงจ้างโดนัลด์ เจ. ทรัมป์และทีมผู้รักชาติของเขาเพื่อแก้ไขสถานการณ์ และนำอเมริกากลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง นี่คือความเป็นจริงของสถานการณ์ คุณเป็นคนเลว และคุณถูกหลอก ยิ่งคุณตื่นรู้เร็วเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งสามารถเข้าร่วมกับเราในการซ่อมแซมประเทศนี้ได้เร็วขึ้นเท่านั้น หรือคุณสามารถเลือกที่จะปฏิเสธความจริง และใช้ชีวิตที่เหลือของคุณไปกับความเกลียดชังที่ขึ้นอยู่กับคำโกหก ทางเลือกเป็นของคุณ ลงชื่อ: ผู้รักชาติอเมริกันที่แท้จริง @realDonaldTrump ขอบคุณสำหรับความกล้าหาญและการยืนหยัดเพื่ออเมริกาและมวลมนุษยชาติ ขอพระเจ้าอวยพรอเมริกา 🙏🏼🇺🇸ฟ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาภูษิตาสอาดเสวยบ้านรักธรรมชาติ ยอมไม่ได้ว่าเราโม้ #ก๋วยเตี๋ยว #หิว #กิน #พิกัดของอร่อย #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #อาหารไทย #ครัวไทย #พาชิม #เทรนด์วันนี้ #food #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาภูษิตาสอาดเสวยบ้านรักธรรมชาติ ยอมไม่ได้ว่าเราโม้ #ก๋วยเตี๋ยว #หิว #กิน #พิกัดของอร่อย #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #อาหารไทย #ครัวไทย #พาชิม #เทรนด์วันนี้ #food #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 91 0 รีวิว
  • การรักษามะเร็งเป็นหน้าที่หลักของแพทย์ แต่การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ป่วยสามารถทำเพื่อเสริมการรักษา และเพิ่มโอกาสในการหยุดยั้งมะเร็งไม่ให้ลุกลามได้ เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายที่เหมาะสม ลดความเครียด และการนอนหลับที่เพียงพอ ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานที่ดีขึ้น พร้อมกับการรักษาของแพทย์ให้ได้ผลดียิ่งขึ้น

    การร่วมมือกันระหว่างผู้ป่วยและแพทย์เป็นสิ่งสำคัญในการรับมือกับมะเร็ง


    #ทางเลือกการรักษามะเร็ง #รักษามะเร็งแบบธรรมชาติ #สารอาหารต้านมะเร็ง #บำรุงสุขภาพต้านมะเร็ง #สมุนไพรบำบัดมะเร็ง #โภชนาการเพื่อสุขภาพ #บำบัดด้วยอาหาร #สุขภาพและโภชนาการ #โภชนเภสัชศาสตร์ #พอลลิตินเพื่อสุขภาพ
    การรักษามะเร็งเป็นหน้าที่หลักของแพทย์ แต่การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ป่วยสามารถทำเพื่อเสริมการรักษา และเพิ่มโอกาสในการหยุดยั้งมะเร็งไม่ให้ลุกลามได้ เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายที่เหมาะสม ลดความเครียด และการนอนหลับที่เพียงพอ ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานที่ดีขึ้น พร้อมกับการรักษาของแพทย์ให้ได้ผลดียิ่งขึ้น การร่วมมือกันระหว่างผู้ป่วยและแพทย์เป็นสิ่งสำคัญในการรับมือกับมะเร็ง #ทางเลือกการรักษามะเร็ง #รักษามะเร็งแบบธรรมชาติ #สารอาหารต้านมะเร็ง #บำรุงสุขภาพต้านมะเร็ง #สมุนไพรบำบัดมะเร็ง #โภชนาการเพื่อสุขภาพ #บำบัดด้วยอาหาร #สุขภาพและโภชนาการ #โภชนเภสัชศาสตร์ #พอลลิตินเพื่อสุขภาพ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 57 0 รีวิว
  • งานอาสา เดรัจฉานโฟโต้
    ชวนมาเป็นอาสาถ่ายภาพสัตว์ในสวนสัตว์เพื่อนเดรัจฉาน

    อาสาสมัคร ช่วยถ่ายภาพของน้องๆ ที่นี่เป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของน้องๆ สัตว์ป่าที่เคยถูกนำมาเป็นสัตว์เลี้ยง แต่ด้วยข้อจำกัดบางอย่างทำให้เจ้าของไม่สามารถเลี้ยงและนำมาบริจาคให้ทางสวนสัตว์ได้ดูแลต่อ มาที่นี่อาสาสมัครจะได้พบกับนกหลากหลายสายพันธุ์ งู ลิงกระรอก เมียร์แคท และอื่นๆ

    โดยงานนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง สวนสัตว์ เพื่อน เดรัจฉาน ร่วมกับ ธนาคารจิตอาสา JitArsa Bank และ สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) : ThaiHealth เรียนรู้ชีวิตของน้องๆ ช่วยกันให้น้องๆ ได้มีภาพถ่ายที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกและความสวยงามในธรรมชาติ
    ณ สวนสัตว์เพื่อนเดรัจฉาน รามอินทรา ซอย 5
    #งานอาสา #เกียรติบัตรอาสา #สวนสัตว์เพื่อนเดรัจฉาน #thaitimes #สยามโสภา #thaitimesสยามโสภา #thaitimesอาสา
    งานอาสา เดรัจฉานโฟโต้ ชวนมาเป็นอาสาถ่ายภาพสัตว์ในสวนสัตว์เพื่อนเดรัจฉาน อาสาสมัคร ช่วยถ่ายภาพของน้องๆ ที่นี่เป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของน้องๆ สัตว์ป่าที่เคยถูกนำมาเป็นสัตว์เลี้ยง แต่ด้วยข้อจำกัดบางอย่างทำให้เจ้าของไม่สามารถเลี้ยงและนำมาบริจาคให้ทางสวนสัตว์ได้ดูแลต่อ มาที่นี่อาสาสมัครจะได้พบกับนกหลากหลายสายพันธุ์ งู ลิงกระรอก เมียร์แคท และอื่นๆ โดยงานนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง สวนสัตว์ เพื่อน เดรัจฉาน ร่วมกับ ธนาคารจิตอาสา JitArsa Bank และ สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) : ThaiHealth เรียนรู้ชีวิตของน้องๆ ช่วยกันให้น้องๆ ได้มีภาพถ่ายที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกและความสวยงามในธรรมชาติ ณ สวนสัตว์เพื่อนเดรัจฉาน รามอินทรา ซอย 5 #งานอาสา #เกียรติบัตรอาสา #สวนสัตว์เพื่อนเดรัจฉาน #thaitimes #สยามโสภา #thaitimesสยามโสภา #thaitimesอาสา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 54 0 รีวิว
  • ข้อความนี้ชี้ให้เห็นถึงอำนาจของความคิดที่มีต่อชีวิตของเรา โดยเฉพาะความคิดในแง่ลบที่อาจทำให้เรารู้สึกเจ็บปวด สับสน และหลงทางได้มากกว่าสิ่งอื่นใด การที่เราไม่สามารถบังคับความคิดหรือกำจัดความคิดร้ายๆ ให้หายไปได้ตามใจต้องการ ทำให้เรามองเห็นสัจธรรมข้อหนึ่งของพุทธศาสนา นั่นคือ "อนัตตา" ความคิดไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวเรา และไม่อาจควบคุมได้อย่างแท้จริง

    เมื่อเรารู้จักตามดูความคิด โดยไม่ไปสู้หรือเล่นกับมัน เราจะสังเกตได้ว่าความคิดเหล่านั้นค่อยๆ รบกวนจิตใจน้อยลง การเฝ้าดูโดยไม่ตัดสินหรือพยายามบังคับให้มันหายไปทำให้เราได้เข้าใจธรรมชาติของความคิดว่าเป็นเพียงสิ่งชั่วคราว เป็นสิ่งที่มาแล้วก็ไป

    การฝึกยอมรับความคิดตามที่มันเป็นจะช่วยให้เรามองเห็นธรรมชาติที่ไม่แน่นอนและไร้ตัวตนของมันได้ชัดเจนขึ้น นี่คือทางหนึ่งที่พุทธศาสนาชี้ให้เราเห็นถึงการปล่อยวาง เมื่อเรายอมรับความคิดอย่างที่มันเป็น เราจะรู้สึกเบาขึ้น และไม่ถูกความคิดร้ายๆ ควบคุมใจให้มืดมนอีกต่อไป
    ข้อความนี้ชี้ให้เห็นถึงอำนาจของความคิดที่มีต่อชีวิตของเรา โดยเฉพาะความคิดในแง่ลบที่อาจทำให้เรารู้สึกเจ็บปวด สับสน และหลงทางได้มากกว่าสิ่งอื่นใด การที่เราไม่สามารถบังคับความคิดหรือกำจัดความคิดร้ายๆ ให้หายไปได้ตามใจต้องการ ทำให้เรามองเห็นสัจธรรมข้อหนึ่งของพุทธศาสนา นั่นคือ "อนัตตา" ความคิดไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวเรา และไม่อาจควบคุมได้อย่างแท้จริง เมื่อเรารู้จักตามดูความคิด โดยไม่ไปสู้หรือเล่นกับมัน เราจะสังเกตได้ว่าความคิดเหล่านั้นค่อยๆ รบกวนจิตใจน้อยลง การเฝ้าดูโดยไม่ตัดสินหรือพยายามบังคับให้มันหายไปทำให้เราได้เข้าใจธรรมชาติของความคิดว่าเป็นเพียงสิ่งชั่วคราว เป็นสิ่งที่มาแล้วก็ไป การฝึกยอมรับความคิดตามที่มันเป็นจะช่วยให้เรามองเห็นธรรมชาติที่ไม่แน่นอนและไร้ตัวตนของมันได้ชัดเจนขึ้น นี่คือทางหนึ่งที่พุทธศาสนาชี้ให้เราเห็นถึงการปล่อยวาง เมื่อเรายอมรับความคิดอย่างที่มันเป็น เราจะรู้สึกเบาขึ้น และไม่ถูกความคิดร้ายๆ ควบคุมใจให้มืดมนอีกต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • การรักษาโรคมะเร็งแบบแพทย์บูรณาการ (Integrative Medicine) เป็นการผสมผสานระหว่างการรักษามะเร็งด้วยวิธีการแพทย์แผนปัจจุบันกับการบำบัดทางเลือกหรือการรักษาทางธรรมชาติ โดยเน้นการรักษาแบบองค์รวมที่ครอบคลุมทั้งร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการรักษาและบรรเทาอาการข้างเคียงจากการรักษาหลัก

    แนวทางในการรักษาแบบแพทย์บูรณาการ

    1. การรักษาหลักด้วยวิธีทางการแพทย์

    ใช้เคมีบำบัด (Chemotherapy)

    การฉายแสง (Radiation Therapy)

    การผ่าตัด (Surgery)

    การใช้ยามุ่งเป้าหรือยาชีวบำบัด (Targeted Therapy/Immunotherapy)



    2. การเสริมด้วยวิธีธรรมชาติและทางเลือก

    การรับประทานอาหารที่เหมาะสม: แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีคุณค่าสูง หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ร่างกายมีการอักเสบสูง เช่น น้ำตาลขาว อาหารแปรรูป หรือไขมันทรานส์

    การบำบัดด้วยสมุนไพร: เช่น ขมิ้นชัน เห็ดหลินจือ หรือตรีผลา สมุนไพรบางชนิดมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบหรือเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย

    การออกกำลังกายเบาๆ: เช่น โยคะ ไทเก็ก หรือการเดิน ซึ่งช่วยลดความเครียดและเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย

    การบำบัดด้านจิตใจ: เช่น การฝึกสมาธิ การทำโยคะ หรือการฝึกหายใจ เพื่อช่วยควบคุมความเครียดและความกังวลที่เกี่ยวข้องกับการรักษามะเร็ง

    การใช้วิทยาการเสริมจากธรรมชาติ: เช่น การฝังเข็ม การบำบัดด้วยกลิ่นหอม (Aromatherapy) การนวดบำบัด ซึ่งอาจช่วยลดผลข้างเคียงบางอย่างจากการรักษาหลัก เช่น คลื่นไส้ ปวด หรืออาการอ่อนเพลีย


    ประโยชน์ของการรักษาแบบแพทย์บูรณาการ

    ลดอาการข้างเคียงจากการรักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบัน

    เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและความแข็งแรงของร่างกาย

    ลดความเครียดและสร้างความมั่นใจในการเผชิญกับโรค

    ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วยในระหว่างและหลังการรักษา


    ปรึกษา อ.ธนกร ศูนย์สร้างภูมิบำบัด
    ☎️. 090-465-6360

    ดูข้อมูลเพิ่ม กดที่ลิงค์
    https://lin.ee/pBbSqSD

    #โรคมะเร็ง #มะเร็ง #มะเร็งปอด #มะเร็งเต้านม #มะเร็งตับ #รักษามะเร็ง #อาการมะเร็ง #ป้องกันมะเร็ง #สุขภาพ #สู้มะเร็ง #ตรวจมะเร็ง #ความรู้เรื่องมะเร็ง #มะเร็งผิวหนัง #เคมีบำบัด #การฉายรังสี #ภูมิคุ้มกันบำบัด #วิธีรักษามะเร็ง #คำแนะนำมะเร็ง #ข้อมูลสุขภาพ #ชีวิตสู้มะเร็ง
    การรักษาโรคมะเร็งแบบแพทย์บูรณาการ (Integrative Medicine) เป็นการผสมผสานระหว่างการรักษามะเร็งด้วยวิธีการแพทย์แผนปัจจุบันกับการบำบัดทางเลือกหรือการรักษาทางธรรมชาติ โดยเน้นการรักษาแบบองค์รวมที่ครอบคลุมทั้งร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการรักษาและบรรเทาอาการข้างเคียงจากการรักษาหลัก แนวทางในการรักษาแบบแพทย์บูรณาการ 1. การรักษาหลักด้วยวิธีทางการแพทย์ ใช้เคมีบำบัด (Chemotherapy) การฉายแสง (Radiation Therapy) การผ่าตัด (Surgery) การใช้ยามุ่งเป้าหรือยาชีวบำบัด (Targeted Therapy/Immunotherapy) 2. การเสริมด้วยวิธีธรรมชาติและทางเลือก การรับประทานอาหารที่เหมาะสม: แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีคุณค่าสูง หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ร่างกายมีการอักเสบสูง เช่น น้ำตาลขาว อาหารแปรรูป หรือไขมันทรานส์ การบำบัดด้วยสมุนไพร: เช่น ขมิ้นชัน เห็ดหลินจือ หรือตรีผลา สมุนไพรบางชนิดมีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบหรือเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย การออกกำลังกายเบาๆ: เช่น โยคะ ไทเก็ก หรือการเดิน ซึ่งช่วยลดความเครียดและเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย การบำบัดด้านจิตใจ: เช่น การฝึกสมาธิ การทำโยคะ หรือการฝึกหายใจ เพื่อช่วยควบคุมความเครียดและความกังวลที่เกี่ยวข้องกับการรักษามะเร็ง การใช้วิทยาการเสริมจากธรรมชาติ: เช่น การฝังเข็ม การบำบัดด้วยกลิ่นหอม (Aromatherapy) การนวดบำบัด ซึ่งอาจช่วยลดผลข้างเคียงบางอย่างจากการรักษาหลัก เช่น คลื่นไส้ ปวด หรืออาการอ่อนเพลีย ประโยชน์ของการรักษาแบบแพทย์บูรณาการ ลดอาการข้างเคียงจากการรักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบัน เสริมสร้างภูมิคุ้มกันและความแข็งแรงของร่างกาย ลดความเครียดและสร้างความมั่นใจในการเผชิญกับโรค ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วยในระหว่างและหลังการรักษา ปรึกษา อ.ธนกร ศูนย์สร้างภูมิบำบัด ☎️. 090-465-6360 ดูข้อมูลเพิ่ม กดที่ลิงค์ https://lin.ee/pBbSqSD #โรคมะเร็ง #มะเร็ง #มะเร็งปอด #มะเร็งเต้านม #มะเร็งตับ #รักษามะเร็ง #อาการมะเร็ง #ป้องกันมะเร็ง #สุขภาพ #สู้มะเร็ง #ตรวจมะเร็ง #ความรู้เรื่องมะเร็ง #มะเร็งผิวหนัง #เคมีบำบัด #การฉายรังสี #ภูมิคุ้มกันบำบัด #วิธีรักษามะเร็ง #คำแนะนำมะเร็ง #ข้อมูลสุขภาพ #ชีวิตสู้มะเร็ง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 80 0 รีวิว
  • แกนนำไทยภักดี ง้างปาก “ภูมิธรรม” ทำไมจึงยอมให้กัมพูชากำหนดพื้นทางทะเล ด้วยการเล็งมาที่ยอดเขาสูงสุดของเกาะกูด? ยกคำพูด “ทักษิณ” สวน “นายกฯ อิ๊งค์” mou44 ยกเลิกไม่ได้ก็ไม่จริง ดักยังดื้อจะเป็นพรรคเพื่อเขมรแทนเพื่อไทย

    วันนี้ (10 พ.ย.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า #ภูมิธรรมไปเกาะกูดไม่มีอะไรใหม่

    คุณภูมิธรรม มาลงพื้นที่เกาะกูด เพื่อมายืนยันว่า เกาะกูดเป็นของไทย เกาะกูดมีธรรมชาติที่สวยงาม พร้อมกับมาเยี่ยมกำลังพลที่ดูแลพื้นที่

    ผมยังยืนยันนะครับว่า วันนี้ประชาชนไทย หรือแม้แต่ประชาชนเกาะกูด ไม่ได้กังวลใจว่า เกาะกูดไม่ได้เป็นของไทย ย้ำนะครับว่า ไม่ได้กังวลใจว่า เกาะกูดไม่ได้เป็นของไทย เพราะเกาะกูดเป็นของไทยวันยังค่ำ

    ในเมื่อเกาะกูดเป็นของไทย พื้นที่ทางทะเลโดยรอบเกาะกูด 200 ไมล์ทะเล (370 กม.) ทั้งน้ำทะล กุ้งหอยปูปลา ผิวดินใต้ทะเล รวมทั้งพื้นดินใต้ผิวดินใต้ทะเล แหล่งพลังงาน ต้องเป็นของไทยด้วย ไม่ใช่เป็นของไทยแค่ตัวเกาะ

    สิ่งที่คนไทยกังวลใจกันมากๆ ก็คือ เมื่อเกาะกูดเป็นของไทย ไทยเราไปยอมรับเส้นอาณาเขตทางทะเล (ไหล่ทวีป) ของกัมพูชา ที่เล็งผ่านยอดเขาที่สูงสุดของเกาะกูด ออกไปอ่าวไทย ได้อย่างไร มันจึงเกิดพื้นที่ทับซ้อนมหาศาล

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/politics/detail/9670000108138

    #MGROnline #เกาะกูด #ภูมิธรรมไปเกาะกูดไม่มีอะไรใหม่
    แกนนำไทยภักดี ง้างปาก “ภูมิธรรม” ทำไมจึงยอมให้กัมพูชากำหนดพื้นทางทะเล ด้วยการเล็งมาที่ยอดเขาสูงสุดของเกาะกูด? ยกคำพูด “ทักษิณ” สวน “นายกฯ อิ๊งค์” mou44 ยกเลิกไม่ได้ก็ไม่จริง ดักยังดื้อจะเป็นพรรคเพื่อเขมรแทนเพื่อไทย • วันนี้ (10 พ.ย.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า #ภูมิธรรมไปเกาะกูดไม่มีอะไรใหม่ • คุณภูมิธรรม มาลงพื้นที่เกาะกูด เพื่อมายืนยันว่า เกาะกูดเป็นของไทย เกาะกูดมีธรรมชาติที่สวยงาม พร้อมกับมาเยี่ยมกำลังพลที่ดูแลพื้นที่ • ผมยังยืนยันนะครับว่า วันนี้ประชาชนไทย หรือแม้แต่ประชาชนเกาะกูด ไม่ได้กังวลใจว่า เกาะกูดไม่ได้เป็นของไทย ย้ำนะครับว่า ไม่ได้กังวลใจว่า เกาะกูดไม่ได้เป็นของไทย เพราะเกาะกูดเป็นของไทยวันยังค่ำ • ในเมื่อเกาะกูดเป็นของไทย พื้นที่ทางทะเลโดยรอบเกาะกูด 200 ไมล์ทะเล (370 กม.) ทั้งน้ำทะล กุ้งหอยปูปลา ผิวดินใต้ทะเล รวมทั้งพื้นดินใต้ผิวดินใต้ทะเล แหล่งพลังงาน ต้องเป็นของไทยด้วย ไม่ใช่เป็นของไทยแค่ตัวเกาะ • สิ่งที่คนไทยกังวลใจกันมากๆ ก็คือ เมื่อเกาะกูดเป็นของไทย ไทยเราไปยอมรับเส้นอาณาเขตทางทะเล (ไหล่ทวีป) ของกัมพูชา ที่เล็งผ่านยอดเขาที่สูงสุดของเกาะกูด ออกไปอ่าวไทย ได้อย่างไร มันจึงเกิดพื้นที่ทับซ้อนมหาศาล • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9670000108138 • #MGROnline #เกาะกูด #ภูมิธรรมไปเกาะกูดไม่มีอะไรใหม่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าเด็กน้อยไม่ประสา เห็นเพื่อนเอานิ้วไปแหย่ปลั๊กไฟเล่น แต่ปลั๊กนั้นหามีกระแสไฟฟ้าไม่ ก็ทำสีหน้าระรื่น สนุกสนานเฮฮา

    พฤติกรรมเลียนแบบเกิดขึ้นโดยปกติธรรมชาติของมนุษย์
    ไอ้เจ้าเด็กคนนี้เกิดอุตริ เมื่อกลับถึงบ้าน แทนที่จะเอานิ้วไปแหย่รูปลั๊กไฟเหมือนเจ้าเพื่อนคนนั้น

    "ในเมื่อเอ็งทำได้ ทำไมข้าจะทำไม่ได้เล่า"

    ฉับพลันก็ล้วงมือเข้าไปในกางเกงตัวน้อย เพลานั้น ก็ดึง "หำ" ดุ้นเล็กๆน่ารักๆ ออกมา...

    โถ่ ไอ้เด็กเหี้ย !
    เจ้าเด็กน้อยไม่ประสา เห็นเพื่อนเอานิ้วไปแหย่ปลั๊กไฟเล่น แต่ปลั๊กนั้นหามีกระแสไฟฟ้าไม่ ก็ทำสีหน้าระรื่น สนุกสนานเฮฮา พฤติกรรมเลียนแบบเกิดขึ้นโดยปกติธรรมชาติของมนุษย์ ไอ้เจ้าเด็กคนนี้เกิดอุตริ เมื่อกลับถึงบ้าน แทนที่จะเอานิ้วไปแหย่รูปลั๊กไฟเหมือนเจ้าเพื่อนคนนั้น "ในเมื่อเอ็งทำได้ ทำไมข้าจะทำไม่ได้เล่า" ฉับพลันก็ล้วงมือเข้าไปในกางเกงตัวน้อย เพลานั้น ก็ดึง "หำ" ดุ้นเล็กๆน่ารักๆ ออกมา... โถ่ ไอ้เด็กเหี้ย !
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 52 0 รีวิว
  • เคยเห็นกันไหม? ผึ้งตัดใบกุหลาบ 🐝เคยเห็นกันไป ผึ้งตัดใบกุหลาบ 🐝 น่ารักดีนะเนี่ย 😄 สงสัยคงเอาไปทำรังแน่เลย 🤔 เห็นแบบนี้แล้ว ใครว่าแมลงน่ากลัวกันนะ 😊 บางทีพวกเขาก็น่ารักเหมือนกันนะ 💕 #ผึ้งน้อย #น่ารัก #ธรรมชาติ #กุหลาบ #ผึ้งตัดใบ
    เคยเห็นกันไหม? ผึ้งตัดใบกุหลาบ 🐝เคยเห็นกันไป ผึ้งตัดใบกุหลาบ 🐝 น่ารักดีนะเนี่ย 😄 สงสัยคงเอาไปทำรังแน่เลย 🤔 เห็นแบบนี้แล้ว ใครว่าแมลงน่ากลัวกันนะ 😊 บางทีพวกเขาก็น่ารักเหมือนกันนะ 💕 #ผึ้งน้อย #น่ารัก #ธรรมชาติ #กุหลาบ #ผึ้งตัดใบ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 13 0 รีวิว
  • พวกผมก็เตรียมพร้อมรับมือตำรวจเบียร์คุตไว้แล้ว พวกเราไม่เน้นความรุนแรง เราเน้นความเป็นธรรมชาติ พวกไม้ พวกตะบอง ไรงี้ อย่าลืมนะครับพวกเรามือเปล่า...
    พวกผมก็เตรียมพร้อมรับมือตำรวจเบียร์คุตไว้แล้ว พวกเราไม่เน้นความรุนแรง เราเน้นความเป็นธรรมชาติ พวกไม้ พวกตะบอง ไรงี้ อย่าลืมนะครับพวกเรามือเปล่า...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธรรมชาติ
    ธรรมชาติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิสัญญาองค์การอนามัยโลก

    ประเทศไทยควรต้องสนใจกับข้อกำหนดสนธิสัญญากับองค์การอนามัยโลก

    รายชื่อคัดค้าน และรายละเอียด สนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกที่ เมื่อตกลง ต้องทำตาม
    อย่าง บิดพริ้วไม่ได้

    ปัจจุบันมีการลงขื่อ 60,000 ราย และ รวมทั้ง มีการคัดค้านจาก สมาพันธ์เครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย
    ซึ่งถือว่าเป็นประชาชนรากหญ้าและได้รับผลกระทบ
    อย่างสูงเมื่อการดำรงชีวิต การเข้าถึงยาและสมุนไพรวิถีไทยจะถูกห้าม

    รายละเอียดเหล่านี้ ส่งถึง ท่าน รมต ประธานสภา และ กระทรวง สาธารณสุข
    ตั้งแต่พฤษภาคม 2567 จนถึงปัจจุบันนี้ คนไทยยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น

    และทางการ และรัฐบาล ควร ต้องชี้แจงให้คนไทยทุกคนทราบ

    และ รัฐบาล ทราบหรือไม่ว่า ควรต้องทำอะไร ทั้งๆที่ประเทศต่างๆทั่วโลกกังวล

    ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าประเทศไทยมีทรัพยากรสมุนไพรธรรมชาติที่ใช้กันมาเนิ่นนานแล้ว แต่ถูกด้อยค่าไปตามลำดับ

    และต้องตระหนักว่าสมุนไพรเหล่านี้ปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาเป็นยาและส่งกลับมาขาย ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร และตัวอื่นๆ โดยศึกษาในขั้นโมเลกุลและผลตรงกับที่บรรพบุรุษไทยได้จารึกสรรพคุณไว้ตั้งแต่สมัยต้นรัชกาล ด้วยซ้ำ
    ในตำราแพทย์ไทยนั้น

    ยกตัวอย่างเช่นรูปลักษณะของฝีดาษได้บรรยายไว้ 12 ชนิด ซึ่งตรงกับ 12 ไวรัสในตระกูลฝีดาษที่เราทราบกันในปัจจุบัน และมีการระบุสมุนไพรแต่ละประเภทตามความรุนแรงของชนิดฝีดาษ

    ข้อมูลรายละเอียดของการคัดค้าน WHO 24 พค.67
    https://drive.google.com/drive/folders/1GyWC2OcVnUkglL7YUtFRum8S_TqZvmIU

    ความสำคัญของ สนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกต่อภาคีเครือข่ายรวมกระทั่งถึงประเทศไทย
    ถ้าอยู่ภายใต้ สนธิสัญญานี้ จะบิดพริ้วมิได้
    และจะเกิด ผลกระทบติดตามมากมาย หลายเรื่อง เช่น
    1- องค์การอนามัยโลกสามารถประกาศโรคระบาดใดให้เป็น สถานการณ์โรค ระบาดทั้งโลกได้ โดยไม่ต้องฟัง ข้อมูลรายละเอียดจากพื้นที่ให้ครบทุกด้าน
    2- เมื่อประกาศแล้วเราต้องทำตามทุกอย่าง และไม่สามารถทำอะไรที่ควรจะทำได้
    3- วัคซีนต้องฉีดตามองค์การอนามัยโลกสั่ง โดย องค์การอนามัยโลก ไม่ต้อง มีความรับผิดชอบ ถ้าเกิดมีผลข้างเคียง ไม่ว่าจะรุนแรงเท่าใด เพราะถือว่า ได้รับสิทธิ์และถืออำนาจสั่งการได้อย่างสมบูรณ์
    4-ยา ต้องใช้ตามที่สั่งโดยไม่บิดพลิ้ว นั่นคือยาต้องสั่งจากต่างประเทศอย่างเดียว และยาที่ผลิตจากวัตถุดิบจากประเทศในเอเชียจะถูกมองว่าไม่มีประสิทธิภาพไม่ได้มาตรฐานและมีอันตรายทันที หรือไม่
    5- สมุนไพรที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีการใช้และจะมีการออกประกาศโดยกระทรวงทบวงกรมสถาบันโรงเรียนแพทย์โดยถือว่าเป็นคำสั่งหรือข้อแนะนำจากองค์การอนามัยโลกและผ่านมาทาง อย สหรัฐ ศูนย์ควบคุมป้องกันโรคของสหรัฐ
    6- สามารถที่จะเซ็นเซอร์ทุกอย่างได้ที่เกี่ยวกับข้อมูลที่ควรจะเป็น ไม่ว่าเป็นผลข้างเคียงผลแทรกซ้อนของวัคซีนและยาที่องค์การอนามัยโลกสั่ง
    ประชาชนไม่สามารถสื่อสารการใช้ยาที่คนไทยใช้อยู่แล้วในพื้นที่ และมีหน่วยงานที่เซ็นเซอร์โดยจัดให้เป็นข้อมูลเท็จ misinformation ผ่านทางหน่วยงานของรัฐ จากองค์กร และสู่ประชาชนทั้งประเทศให้เชื่อฟัง

    ทั้งนี้จะมีหน่วยงานที่สอดส่องโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์และทำการถอดถอนข้อมูล ดิสเครดิต ผู้ที่ให้ข้อมูลทันที มีหน่วยงานลักษณะนี้ รวมทั้งกระทรวงของรัฐที่ทำตามกระบวนการนี้

    สิ่งที่กล่าวนี้เกิดขึ้นแล้ว ในช่วงโควิด และเป็นที่ประจักษ์ในเรื่องของผลกระทบผลข้างเคียง ของสิ่งที่ฉีด

    โดยที่ทางการของประเทศ ไทยเองประกาศทั่วประเทศเมื่อต้นปี 2567 ว่า
    ผลกระทบร้ายแรงและถึงแก่ชีวิตทั้งประเทศมีเพียงห้าราย
    โดยที่ตัวเลขห้ารายนี้ จะเทียบกับหนึ่งในล้าน ซึ่ง
    เป็นตัวเลขที่ยอมรับได้ตามประกาศขององค์การอนามัยโลก
    ทั้งๆที่รายอื่นเป็น 10,000 เป็น 100,000 ถูกปัดว่าไม่มีความเกี่ยวข้อง และถึงกระทั่งให้หาข้อพิสูจน์มา เอง โดยที่การพิสูจน์ หรือชันสูตรศพ ทาง วิทยาศาสตร์นั้นต้องการทุนไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท

    สิ่งเหล่านี้ปรากฏขึ้นแล้วและจะรุนแรงขึ้นอีกหลายเท่าถ้าตกอยู่ในสนธิสัญญานี้

    วัคซีนในปัจจุบันและต่อจากนี้ในมนุษย์และสัตว์ใช้เทคโนโลยี ที่ใช้กับโควิด ทั้งนี้โดยอ้างว่า ได้ใช้กับประชาชนทั่วโลกแล้วและผลกระทบไม่ได้เกิดจากวัคซีน

    นสพ มติชน ฉบับพิมพ์
    ท็อล์กออฟเดอะทาวน์
    10 พย 2567

    กระบวนการรวบรวมรายชื่อคัดค้านและนำส่งทางการของประเทศไทยโดยกลุ่มแพทย์และประชาชนไทยพิทักษ์สิทธิ์

    รวบรวมข้อมูลโดย
    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต
    สนธิสัญญาองค์การอนามัยโลก ประเทศไทยควรต้องสนใจกับข้อกำหนดสนธิสัญญากับองค์การอนามัยโลก รายชื่อคัดค้าน และรายละเอียด สนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกที่ เมื่อตกลง ต้องทำตาม อย่าง บิดพริ้วไม่ได้ ปัจจุบันมีการลงขื่อ 60,000 ราย และ รวมทั้ง มีการคัดค้านจาก สมาพันธ์เครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นประชาชนรากหญ้าและได้รับผลกระทบ อย่างสูงเมื่อการดำรงชีวิต การเข้าถึงยาและสมุนไพรวิถีไทยจะถูกห้าม รายละเอียดเหล่านี้ ส่งถึง ท่าน รมต ประธานสภา และ กระทรวง สาธารณสุข ตั้งแต่พฤษภาคม 2567 จนถึงปัจจุบันนี้ คนไทยยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น และทางการ และรัฐบาล ควร ต้องชี้แจงให้คนไทยทุกคนทราบ และ รัฐบาล ทราบหรือไม่ว่า ควรต้องทำอะไร ทั้งๆที่ประเทศต่างๆทั่วโลกกังวล ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าประเทศไทยมีทรัพยากรสมุนไพรธรรมชาติที่ใช้กันมาเนิ่นนานแล้ว แต่ถูกด้อยค่าไปตามลำดับ และต้องตระหนักว่าสมุนไพรเหล่านี้ปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาเป็นยาและส่งกลับมาขาย ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร และตัวอื่นๆ โดยศึกษาในขั้นโมเลกุลและผลตรงกับที่บรรพบุรุษไทยได้จารึกสรรพคุณไว้ตั้งแต่สมัยต้นรัชกาล ด้วยซ้ำ ในตำราแพทย์ไทยนั้น ยกตัวอย่างเช่นรูปลักษณะของฝีดาษได้บรรยายไว้ 12 ชนิด ซึ่งตรงกับ 12 ไวรัสในตระกูลฝีดาษที่เราทราบกันในปัจจุบัน และมีการระบุสมุนไพรแต่ละประเภทตามความรุนแรงของชนิดฝีดาษ ข้อมูลรายละเอียดของการคัดค้าน WHO 24 พค.67 https://drive.google.com/drive/folders/1GyWC2OcVnUkglL7YUtFRum8S_TqZvmIU ความสำคัญของ สนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกต่อภาคีเครือข่ายรวมกระทั่งถึงประเทศไทย ถ้าอยู่ภายใต้ สนธิสัญญานี้ จะบิดพริ้วมิได้ และจะเกิด ผลกระทบติดตามมากมาย หลายเรื่อง เช่น 1- องค์การอนามัยโลกสามารถประกาศโรคระบาดใดให้เป็น สถานการณ์โรค ระบาดทั้งโลกได้ โดยไม่ต้องฟัง ข้อมูลรายละเอียดจากพื้นที่ให้ครบทุกด้าน 2- เมื่อประกาศแล้วเราต้องทำตามทุกอย่าง และไม่สามารถทำอะไรที่ควรจะทำได้ 3- วัคซีนต้องฉีดตามองค์การอนามัยโลกสั่ง โดย องค์การอนามัยโลก ไม่ต้อง มีความรับผิดชอบ ถ้าเกิดมีผลข้างเคียง ไม่ว่าจะรุนแรงเท่าใด เพราะถือว่า ได้รับสิทธิ์และถืออำนาจสั่งการได้อย่างสมบูรณ์ 4-ยา ต้องใช้ตามที่สั่งโดยไม่บิดพลิ้ว นั่นคือยาต้องสั่งจากต่างประเทศอย่างเดียว และยาที่ผลิตจากวัตถุดิบจากประเทศในเอเชียจะถูกมองว่าไม่มีประสิทธิภาพไม่ได้มาตรฐานและมีอันตรายทันที หรือไม่ 5- สมุนไพรที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีการใช้และจะมีการออกประกาศโดยกระทรวงทบวงกรมสถาบันโรงเรียนแพทย์โดยถือว่าเป็นคำสั่งหรือข้อแนะนำจากองค์การอนามัยโลกและผ่านมาทาง อย สหรัฐ ศูนย์ควบคุมป้องกันโรคของสหรัฐ 6- สามารถที่จะเซ็นเซอร์ทุกอย่างได้ที่เกี่ยวกับข้อมูลที่ควรจะเป็น ไม่ว่าเป็นผลข้างเคียงผลแทรกซ้อนของวัคซีนและยาที่องค์การอนามัยโลกสั่ง ประชาชนไม่สามารถสื่อสารการใช้ยาที่คนไทยใช้อยู่แล้วในพื้นที่ และมีหน่วยงานที่เซ็นเซอร์โดยจัดให้เป็นข้อมูลเท็จ misinformation ผ่านทางหน่วยงานของรัฐ จากองค์กร และสู่ประชาชนทั้งประเทศให้เชื่อฟัง ทั้งนี้จะมีหน่วยงานที่สอดส่องโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์และทำการถอดถอนข้อมูล ดิสเครดิต ผู้ที่ให้ข้อมูลทันที มีหน่วยงานลักษณะนี้ รวมทั้งกระทรวงของรัฐที่ทำตามกระบวนการนี้ สิ่งที่กล่าวนี้เกิดขึ้นแล้ว ในช่วงโควิด และเป็นที่ประจักษ์ในเรื่องของผลกระทบผลข้างเคียง ของสิ่งที่ฉีด โดยที่ทางการของประเทศ ไทยเองประกาศทั่วประเทศเมื่อต้นปี 2567 ว่า ผลกระทบร้ายแรงและถึงแก่ชีวิตทั้งประเทศมีเพียงห้าราย โดยที่ตัวเลขห้ารายนี้ จะเทียบกับหนึ่งในล้าน ซึ่ง เป็นตัวเลขที่ยอมรับได้ตามประกาศขององค์การอนามัยโลก ทั้งๆที่รายอื่นเป็น 10,000 เป็น 100,000 ถูกปัดว่าไม่มีความเกี่ยวข้อง และถึงกระทั่งให้หาข้อพิสูจน์มา เอง โดยที่การพิสูจน์ หรือชันสูตรศพ ทาง วิทยาศาสตร์นั้นต้องการทุนไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท สิ่งเหล่านี้ปรากฏขึ้นแล้วและจะรุนแรงขึ้นอีกหลายเท่าถ้าตกอยู่ในสนธิสัญญานี้ วัคซีนในปัจจุบันและต่อจากนี้ในมนุษย์และสัตว์ใช้เทคโนโลยี ที่ใช้กับโควิด ทั้งนี้โดยอ้างว่า ได้ใช้กับประชาชนทั่วโลกแล้วและผลกระทบไม่ได้เกิดจากวัคซีน นสพ มติชน ฉบับพิมพ์ ท็อล์กออฟเดอะทาวน์ 10 พย 2567 กระบวนการรวบรวมรายชื่อคัดค้านและนำส่งทางการของประเทศไทยโดยกลุ่มแพทย์และประชาชนไทยพิทักษ์สิทธิ์ รวบรวมข้อมูลโดย ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    Like
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 280 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีโอ-คลีน1
    สารบำบัดเลน
    ลดปัญหาพื้นบ่อเน่าเสีย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
    ตะกอนสารอินทรีย์หรือเลนที่ก้นบ่อกุ้ง จาก ขี้กุ้ง เศษอาหารเหลือ และซากแพลงก์ตอน ทำให้
    พื้นบ่อเสื่อมโทรม เป็นแหล่งสะสมของสารพิษเช่น แอมโมเนีย ไนไตรท์ และก๊าซไข่เน่า
    ส่งผลเสียต่อสุขภาพกุ้งและคุณภาพน้ำ ทำให้กุ้งเครียด อ่อนแอ กินอาหารลดลง
    มีความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคสูงขึ้นเช่น โรคตับ โรคขี้ขาว โรคเหงือกดำ ซูโอแทมเนียม
    โรคเรืองแสง ซึ่งเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคตัวแดงจุดขาว
    ผลิตจากสารธรรมชาติ ผ่านกระบวนการผลิตให้มีคุณสมบัติย่อยสลายเลนก้นบ่อ
    ลดปัญหากุ้งซุกกองเลนในเวลาที่ ฝนตก อุณหภูมิต่ำ ซึ่งทำให้เกิดโรคเหงือกดำ กุ้งกินอาหารลด อ่อนแอ ตัวหลวม ติดเชื้อแบคทีเรียและโปรโตซัว
    *ช่วยย่อยสลายขี้กุ้ง กำจัดและลดปริมาณเลนที่พื้นบ่อ ทำให้พื้นบ่อสะอาด
    *ป้องกันพื้นบ่อเน่าเสีย ช่วยลดกลิ่นเหม็นซึ่งเกิดจากการหมักหมมของของเสีย
    *ช่วยลดแอมโมเนีย ป้องกันการสะสมและการเกิดไนไตรท์ ช่วยกำจัดก๊าซไข่เน่า
    *ช่วยให้สิ่งแวดล้อมในบ่อเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของกุ้ง มีความปลอดภัยต่อกุ้ง และสิ่งแวดล้อม
    อัตราการใช้:
    *เตรียมบ่อ:กรณีบ่อไม่ได้ดันขี้เลนออก 5-10กก./ไร่ บริเวณกองเลน
    *ระหว่างการเลี้ยง:เพื่อลดการสะสมของเลนกลางบ่อ 2-3 กก./ไร่ ทุก 7-10 วัน
    ***หว่านในแนวเลน หรือบริเวณกลางบ่อโดยไม่ต้องละลายน้ำ หรือเฉพาะจุดที่มีของเสียสะสม
    บรรจุ 5 กก.ราคา 350.-บาท
    สนใจต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่
    ปูมทองจีโอ
    👍👍👍👍👍👍👍👍👍
    🌹🌳🌴🌾🌿🍀🐠🐟
    📲 081-6633435
    👉💖Line ID:jee_ex15
    https://line.me/ti/p/1vOPz_sRCe
    👍👍👍👍👍👍👍👍👍
    จีโอ-คลีน1 สารบำบัดเลน ลดปัญหาพื้นบ่อเน่าเสีย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ตะกอนสารอินทรีย์หรือเลนที่ก้นบ่อกุ้ง จาก ขี้กุ้ง เศษอาหารเหลือ และซากแพลงก์ตอน ทำให้ พื้นบ่อเสื่อมโทรม เป็นแหล่งสะสมของสารพิษเช่น แอมโมเนีย ไนไตรท์ และก๊าซไข่เน่า ส่งผลเสียต่อสุขภาพกุ้งและคุณภาพน้ำ ทำให้กุ้งเครียด อ่อนแอ กินอาหารลดลง มีความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคสูงขึ้นเช่น โรคตับ โรคขี้ขาว โรคเหงือกดำ ซูโอแทมเนียม โรคเรืองแสง ซึ่งเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคตัวแดงจุดขาว ผลิตจากสารธรรมชาติ ผ่านกระบวนการผลิตให้มีคุณสมบัติย่อยสลายเลนก้นบ่อ ลดปัญหากุ้งซุกกองเลนในเวลาที่ ฝนตก อุณหภูมิต่ำ ซึ่งทำให้เกิดโรคเหงือกดำ กุ้งกินอาหารลด อ่อนแอ ตัวหลวม ติดเชื้อแบคทีเรียและโปรโตซัว *ช่วยย่อยสลายขี้กุ้ง กำจัดและลดปริมาณเลนที่พื้นบ่อ ทำให้พื้นบ่อสะอาด *ป้องกันพื้นบ่อเน่าเสีย ช่วยลดกลิ่นเหม็นซึ่งเกิดจากการหมักหมมของของเสีย *ช่วยลดแอมโมเนีย ป้องกันการสะสมและการเกิดไนไตรท์ ช่วยกำจัดก๊าซไข่เน่า *ช่วยให้สิ่งแวดล้อมในบ่อเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของกุ้ง มีความปลอดภัยต่อกุ้ง และสิ่งแวดล้อม อัตราการใช้: *เตรียมบ่อ:กรณีบ่อไม่ได้ดันขี้เลนออก 5-10กก./ไร่ บริเวณกองเลน *ระหว่างการเลี้ยง:เพื่อลดการสะสมของเลนกลางบ่อ 2-3 กก./ไร่ ทุก 7-10 วัน ***หว่านในแนวเลน หรือบริเวณกลางบ่อโดยไม่ต้องละลายน้ำ หรือเฉพาะจุดที่มีของเสียสะสม บรรจุ 5 กก.ราคา 350.-บาท สนใจต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ ปูมทองจีโอ 👍👍👍👍👍👍👍👍👍 🌹🌳🌴🌾🌿🍀🐠🐟 📲 081-6633435 👉💖Line ID:jee_ex15 https://line.me/ti/p/1vOPz_sRCe 👍👍👍👍👍👍👍👍👍
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 22 0 รีวิว
  • ขอเชิญร่วมงาน
    "ลอยกระทง คลองสาน สำราญใจ"
    สืบสาน ความเป็นไทย ใส่ใจ สิ่งแวดล้อม
    ในวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา 17.00 - 20.00 น.
    ณ สวนสารพัด (สวน 15 นาที) ถนนเชียงใหม่ เขตคลองสาน

    พิกัด https://maps.app.goo.gl/H6y1zUdbUDSQF25n6

    > ร่วมชม การแสดงนาฏศิลป์ไทยและเพลงพื้นบ้าน เพื่อสืบสานวัฒนธรรมไทย
    โดยนักเรียน โรงเรียนมัธยมวัดสุทธาราม
    > ร่วมกิจกรรม กระทงประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติ (มีจำนวนจำกัด)
    > ร่วมลอยกระทง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา (ในพื้นที่จัดเตรียม)
    > เลือกช้อป ชิม อาหาร จากร้านค้าชาวคลองสาน

    มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมสืบสานวัฒนธรรม ของชาวคลองสาน ด้วยกัน
    สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 083 889 9996

    จัดโดย
    #กรมส่งเสริมวัฒนธรรม
    #สภาวัฒนธรรมเขตคลองสาน
    #สำนักงานเขตคลองสาน
    #โรงเรียนมัธยมวัดสุทธาราม
    #สยามโสภา
    ขอเชิญร่วมงาน "ลอยกระทง คลองสาน สำราญใจ" สืบสาน ความเป็นไทย ใส่ใจ สิ่งแวดล้อม ในวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา 17.00 - 20.00 น. ณ สวนสารพัด (สวน 15 นาที) ถนนเชียงใหม่ เขตคลองสาน พิกัด https://maps.app.goo.gl/H6y1zUdbUDSQF25n6 > ร่วมชม การแสดงนาฏศิลป์ไทยและเพลงพื้นบ้าน เพื่อสืบสานวัฒนธรรมไทย โดยนักเรียน โรงเรียนมัธยมวัดสุทธาราม > ร่วมกิจกรรม กระทงประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติ (มีจำนวนจำกัด) > ร่วมลอยกระทง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา (ในพื้นที่จัดเตรียม) > เลือกช้อป ชิม อาหาร จากร้านค้าชาวคลองสาน มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมสืบสานวัฒนธรรม ของชาวคลองสาน ด้วยกัน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 083 889 9996 จัดโดย #กรมส่งเสริมวัฒนธรรม #สภาวัฒนธรรมเขตคลองสาน #สำนักงานเขตคลองสาน #โรงเรียนมัธยมวัดสุทธาราม #สยามโสภา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚩ทำไม?? ต้องเป็นว่านหางจระเข้
    สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิลเท่านั้น
    ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill)
    ซึ่งเป็นพืชที่ถูกนำมาใช้ในการดูแลสุ.ขภ.าพ
    และการบำบัดโร.คต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะใช้ในวงการแพ.ทย์แผ.นโบราณ และแพ.ทย์แผนใหม่ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมาย

    ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill)
    มีลักษณะต้นใหญ่และเนื้อวุ้นมากที่สุดในวงศ์

    ว่านหางจระเข้ ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับการนำมาบริโภค ทำยา น้ำว่าน หรือเครื่องสำอาง
    สายพันธุ์นี้มีกำเนิดดั้งเดิมในแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกา และได้รับการยอมรับในประโยชน์อันทรงคุณค่ามาเป็นเวลานับทศวรรษ จนได้รับการขนานนามว่า “พืชมหัศจรรย์” หรือ “อายุวัฒนะ” สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า 200 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นวิตามินต่างๆ เกลือแร่ กรดอะมิโนทั้ง 20 ชนิด เอนไซน์ และเบต้าแคโรทีน และไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ (HDL) เป็นต้น

    ด้วยคุณค่าของสารอาหารต่างๆ อันเป็นประโยชน์เหล่านี้ ผสมผสานอย่างเหมาะสมตามธรรมชาติ นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านสารปฏิชีวนะ ชาวญี่ปุ่นได้ทำการวิจัยพบสารออกฤทธิ์ทางปฏิชีวนะถึง 3 ชนิด ในว่านหางจระเข้ได้แก่

    - อโลอิน (Aloin) มีฤทธิ์มาฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราบางชนิด

    - อโลดิน (Emodin)มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซ.ล์ลมะเร็.ง

    - อโลมิซิน (Alocmicin)ที่มีฤทธิ์สมานแ.ผลและระงับการขยายตัวของเชื้.อไวรั.ส

    ว่านหางจระเข้เป็นพืชที่มีคุณสมบัติและประโยชน์มากมาย ทั้งในด้านการรักษาสุขภาพ การบำรุงความงาม และการปรับปรุงสภาพแวดล้อม ว่านหางจระเข้มีสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และกรดอะมิโนอีกหลายชนิดที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ แมกนีเซียม, โพแทสเซียม, ทองแดง, แมงกานีส, ซีลีเนียม, โครเมียม, วิตามิน A C E B1 B2 B3 B6 B9 B12 และโคลีนนอกจากนี้
    ว่านหางจระเข้ยังมีสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย และช่วยสมานแผล ได้แก่ โพลีฟีนอล (Polysaccharides) แอนทราควิโนน (Anthraquinone) และกลีโคโปรตีน (Glycoprotein) ซึ่งทั้งหมดนี้มีบทบาทในการปรับสมดุลและส่งเสริมสุขภาพของร่างกาย

    ขอบคุณ ข้อมูลจาก Google
    #ว่านหางจระเข้ #สมุนไพร #สมุนไพรปลอดสาร
    🚩ทำไม?? ต้องเป็นว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิลเท่านั้น ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill) ซึ่งเป็นพืชที่ถูกนำมาใช้ในการดูแลสุ.ขภ.าพ และการบำบัดโร.คต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะใช้ในวงการแพ.ทย์แผ.นโบราณ และแพ.ทย์แผนใหม่ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมาย ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill) มีลักษณะต้นใหญ่และเนื้อวุ้นมากที่สุดในวงศ์ ว่านหางจระเข้ ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับการนำมาบริโภค ทำยา น้ำว่าน หรือเครื่องสำอาง สายพันธุ์นี้มีกำเนิดดั้งเดิมในแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกา และได้รับการยอมรับในประโยชน์อันทรงคุณค่ามาเป็นเวลานับทศวรรษ จนได้รับการขนานนามว่า “พืชมหัศจรรย์” หรือ “อายุวัฒนะ” สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า 200 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นวิตามินต่างๆ เกลือแร่ กรดอะมิโนทั้ง 20 ชนิด เอนไซน์ และเบต้าแคโรทีน และไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ (HDL) เป็นต้น ด้วยคุณค่าของสารอาหารต่างๆ อันเป็นประโยชน์เหล่านี้ ผสมผสานอย่างเหมาะสมตามธรรมชาติ นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านสารปฏิชีวนะ ชาวญี่ปุ่นได้ทำการวิจัยพบสารออกฤทธิ์ทางปฏิชีวนะถึง 3 ชนิด ในว่านหางจระเข้ได้แก่ - อโลอิน (Aloin) มีฤทธิ์มาฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราบางชนิด - อโลดิน (Emodin)มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซ.ล์ลมะเร็.ง - อโลมิซิน (Alocmicin)ที่มีฤทธิ์สมานแ.ผลและระงับการขยายตัวของเชื้.อไวรั.ส ว่านหางจระเข้เป็นพืชที่มีคุณสมบัติและประโยชน์มากมาย ทั้งในด้านการรักษาสุขภาพ การบำรุงความงาม และการปรับปรุงสภาพแวดล้อม ว่านหางจระเข้มีสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และกรดอะมิโนอีกหลายชนิดที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ แมกนีเซียม, โพแทสเซียม, ทองแดง, แมงกานีส, ซีลีเนียม, โครเมียม, วิตามิน A C E B1 B2 B3 B6 B9 B12 และโคลีนนอกจากนี้ ว่านหางจระเข้ยังมีสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย และช่วยสมานแผล ได้แก่ โพลีฟีนอล (Polysaccharides) แอนทราควิโนน (Anthraquinone) และกลีโคโปรตีน (Glycoprotein) ซึ่งทั้งหมดนี้มีบทบาทในการปรับสมดุลและส่งเสริมสุขภาพของร่างกาย ขอบคุณ ข้อมูลจาก Google #ว่านหางจระเข้ #สมุนไพร #สมุนไพรปลอดสาร
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill)
    🚩ทำไม?? ต้องเป็นว่านหางจระเข้
    สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิลเท่านั้น
    ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill)
    ซึ่งเป็นพืชที่ถูกนำมาใช้ในการดูแลสุ.ขภ.าพ
    และการบำบัดโร.คต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะใช้ในวงการแพ.ทย์แผ.นโบราณ และแพ.ทย์แผนใหม่ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมาย

    ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill)
    มีลักษณะต้นใหญ่และเนื้อวุ้นมากที่สุดในวงศ์

    ว่านหางจระเข้ ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับการนำมาบริโภค ทำยา น้ำว่าน หรือเครื่องสำอาง
    สายพันธุ์นี้มีกำเนิดดั้งเดิมในแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกา และได้รับการยอมรับในประโยชน์อันทรงคุณค่ามาเป็นเวลานับทศวรรษ จนได้รับการขนานนามว่า “พืชมหัศจรรย์” หรือ “อายุวัฒนะ” สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า 200 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นวิตามินต่างๆ เกลือแร่ กรดอะมิโนทั้ง 20 ชนิด เอนไซน์ และเบต้าแคโรทีน และไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ (HDL) เป็นต้น

    ด้วยคุณค่าของสารอาหารต่างๆ อันเป็นประโยชน์เหล่านี้ ผสมผสานอย่างเหมาะสมตามธรรมชาติ นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านสารปฏิชีวนะ ชาวญี่ปุ่นได้ทำการวิจัยพบสารออกฤทธิ์ทางปฏิชีวนะถึง 3 ชนิด ในว่านหางจระเข้ได้แก่

    - อโลอิน (Aloin) มีฤทธิ์มาฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราบางชนิด

    - อโลดิน (Emodin)มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซ.ล์ลมะเร็.ง

    - อโลมิซิน (Alocmicin)ที่มีฤทธิ์สมานแ.ผลและระงับการขยายตัวของเชื้.อไวรั.ส

    ว่านหางจระเข้เป็นพืชที่มีคุณสมบัติและประโยชน์มากมาย ทั้งในด้านการรักษาสุขภาพ การบำรุงความงาม และการปรับปรุงสภาพแวดล้อม ว่านหางจระเข้มีสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และกรดอะมิโนอีกหลายชนิดที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ แมกนีเซียม, โพแทสเซียม, ทองแดง, แมงกานีส, ซีลีเนียม, โครเมียม, วิตามิน A C E B1 B2 B3 B6 B9 B12 และโคลีนนอกจากนี้
    ว่านหางจระเข้ยังมีสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย และช่วยสมานแผล ได้แก่ โพลีฟีนอล (Polysaccharides) แอนทราควิโนน (Anthraquinone) และกลีโคโปรตีน (Glycoprotein) ซึ่งทั้งหมดนี้มีบทบาทในการปรับสมดุลและส่งเสริมสุขภาพของร่างกาย

    ขอบคุณ ข้อมูลจาก Google
    #ว่านหางจระเข้ #สมุนไพร #สมุนไพรปลอดสาร#thaitimes
    ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill) 🚩ทำไม?? ต้องเป็นว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิลเท่านั้น ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill) ซึ่งเป็นพืชที่ถูกนำมาใช้ในการดูแลสุ.ขภ.าพ และการบำบัดโร.คต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะใช้ในวงการแพ.ทย์แผ.นโบราณ และแพ.ทย์แผนใหม่ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมาย ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill) มีลักษณะต้นใหญ่และเนื้อวุ้นมากที่สุดในวงศ์ ว่านหางจระเข้ ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับการนำมาบริโภค ทำยา น้ำว่าน หรือเครื่องสำอาง สายพันธุ์นี้มีกำเนิดดั้งเดิมในแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกา และได้รับการยอมรับในประโยชน์อันทรงคุณค่ามาเป็นเวลานับทศวรรษ จนได้รับการขนานนามว่า “พืชมหัศจรรย์” หรือ “อายุวัฒนะ” สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า 200 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นวิตามินต่างๆ เกลือแร่ กรดอะมิโนทั้ง 20 ชนิด เอนไซน์ และเบต้าแคโรทีน และไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ (HDL) เป็นต้น ด้วยคุณค่าของสารอาหารต่างๆ อันเป็นประโยชน์เหล่านี้ ผสมผสานอย่างเหมาะสมตามธรรมชาติ นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านสารปฏิชีวนะ ชาวญี่ปุ่นได้ทำการวิจัยพบสารออกฤทธิ์ทางปฏิชีวนะถึง 3 ชนิด ในว่านหางจระเข้ได้แก่ - อโลอิน (Aloin) มีฤทธิ์มาฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราบางชนิด - อโลดิน (Emodin)มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซ.ล์ลมะเร็.ง - อโลมิซิน (Alocmicin)ที่มีฤทธิ์สมานแ.ผลและระงับการขยายตัวของเชื้.อไวรั.ส ว่านหางจระเข้เป็นพืชที่มีคุณสมบัติและประโยชน์มากมาย ทั้งในด้านการรักษาสุขภาพ การบำรุงความงาม และการปรับปรุงสภาพแวดล้อม ว่านหางจระเข้มีสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และกรดอะมิโนอีกหลายชนิดที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ แมกนีเซียม, โพแทสเซียม, ทองแดง, แมงกานีส, ซีลีเนียม, โครเมียม, วิตามิน A C E B1 B2 B3 B6 B9 B12 และโคลีนนอกจากนี้ ว่านหางจระเข้ยังมีสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย และช่วยสมานแผล ได้แก่ โพลีฟีนอล (Polysaccharides) แอนทราควิโนน (Anthraquinone) และกลีโคโปรตีน (Glycoprotein) ซึ่งทั้งหมดนี้มีบทบาทในการปรับสมดุลและส่งเสริมสุขภาพของร่างกาย ขอบคุณ ข้อมูลจาก Google #ว่านหางจระเข้ #สมุนไพร #สมุนไพรปลอดสาร#thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 351 มุมมอง 0 รีวิว


  • 🎇 Phu Quoc Cruise Port! ท่าเรือบนเกาะเวียดนาม ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่หลากหลายบนเกาะฟูก๊วก หรือที่รู้จักกันว่า ไข่มุกแห่งเวียดนาม ชายหาดและธรรมชาติที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว 🎠✨

    สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำใกล้ท่าเรือ!
    ✔️ แกรนด์เวิลด์ฟูก๊วก (Grand World Phu Quoc) :⚓️🛳️
    ศูนย์รวมความบันเทิงและการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ บนพื้นที่ขนาดใหญ่ 6,000 กว่าไร่ ภายในมีทั้งที่เที่ยว ที่ช้อปปิ้ง พิพิธภัณฑ์ รวมถึงรีสอร์ทสุดหรู ออกแบบและสร้างอาคารต่างๆ ด้วยการจำลองเมืองท่องเที่ยวชื่อดังจากทั่วโลกมาไว้ที่นี่

    ✔️ สวนสนุกวินวันเดอร์ (VinWonders Phu Quoc) : 🎢
    สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนา Vinpearl ซึ่งเป็นเครือรีสอร์ตและสถานที่ท่องเที่ยวระดับหรูในเวียดนาม

    ✔️ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำวินเพิร์ล ซีเชลล์ (Vinpearl Sea Shell Aquarium) : 🐳
    พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเวียดนาม เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทุกวัยสามารถเพลิดเพลินกับการชมสัตว์น้ำหลากหลายชนิด

    ✔️ สวนสัตว์วินเพิร์ลซาฟารี ฟูก๊วก (Vinpearl Safari Phu Quoc) : 🐨
    สวนสัตว์เปิดที่ให้คุณได้สัมผัสกับสัตว์ป่าในบรรยากาศที่ใกล้ชิด สถานที่ที่เหมาะสำหรับครอบครัวและผู้ที่รักสัตว์ นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ ผ่านการจัดแสดงและกิจกรรมที่หลากหลาย


    ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620

    ☎️: 0 2116 9696 (Auto)
    #PhuQuocCruisePort #PhuQuoc #Vietnam #cruisedomain #port #GrandWorld #VinWonders #VinpearlSeaShellAquarium #VinpearlSafariPhuQuoc
    🎇 Phu Quoc Cruise Port! ท่าเรือบนเกาะเวียดนาม ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่หลากหลายบนเกาะฟูก๊วก หรือที่รู้จักกันว่า ไข่มุกแห่งเวียดนาม ชายหาดและธรรมชาติที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว 🎠✨ สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำใกล้ท่าเรือ! ✔️ แกรนด์เวิลด์ฟูก๊วก (Grand World Phu Quoc) :⚓️🛳️ ศูนย์รวมความบันเทิงและการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ บนพื้นที่ขนาดใหญ่ 6,000 กว่าไร่ ภายในมีทั้งที่เที่ยว ที่ช้อปปิ้ง พิพิธภัณฑ์ รวมถึงรีสอร์ทสุดหรู ออกแบบและสร้างอาคารต่างๆ ด้วยการจำลองเมืองท่องเที่ยวชื่อดังจากทั่วโลกมาไว้ที่นี่ ✔️ สวนสนุกวินวันเดอร์ (VinWonders Phu Quoc) : 🎢 สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนา Vinpearl ซึ่งเป็นเครือรีสอร์ตและสถานที่ท่องเที่ยวระดับหรูในเวียดนาม ✔️ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำวินเพิร์ล ซีเชลล์ (Vinpearl Sea Shell Aquarium) : 🐳 พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเวียดนาม เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทุกวัยสามารถเพลิดเพลินกับการชมสัตว์น้ำหลากหลายชนิด ✔️ สวนสัตว์วินเพิร์ลซาฟารี ฟูก๊วก (Vinpearl Safari Phu Quoc) : 🐨 สวนสัตว์เปิดที่ให้คุณได้สัมผัสกับสัตว์ป่าในบรรยากาศที่ใกล้ชิด สถานที่ที่เหมาะสำหรับครอบครัวและผู้ที่รักสัตว์ นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ ผ่านการจัดแสดงและกิจกรรมที่หลากหลาย ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #PhuQuocCruisePort #PhuQuoc #Vietnam #cruisedomain #port #GrandWorld #VinWonders #VinpearlSeaShellAquarium #VinpearlSafariPhuQuoc
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • การควบคุมตนเองยามโกรธ คือทักษะพื้นฐานที่ช่วยให้เราเข้าใจธรรมชาติของจิต เมื่อโกรธ เรามักรู้สึกอยากพูดหรือทำสิ่งที่อาจไม่เป็นตัวเราอย่างแท้จริง การสังเกตและยับยั้งไม่ให้แสดงออกทันที ทำให้เรามีโอกาสได้เห็นความเป็นไปของอารมณ์และความคิดได้ชัดเจนขึ้น

    ยามโกรธให้ลองรอจนความรู้สึกเย็นลงแล้วค่อยทบทวนว่าความคิดหรือคำพูดนั้นเหมาะสมจริงหรือไม่ การระงับปากก่อนโพล่งทำให้เราสังเกตเห็นความต่างของจิตระหว่างโกรธและสงบ ซึ่งไม่เพียงทำให้เราเข้าใจตนเองมากขึ้น แต่ยังทำให้เราเข้าใจผู้อื่นดีขึ้นด้วย เพราะเราเห็นได้ว่า คนอื่นก็มีช่วงที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้เช่นกัน การที่เราเข้าใจธรรมชาติของตนเองนี้เองจะช่วยให้เราถือสาและคาดหวังจากผู้อื่นน้อยลง

    ท้ายที่สุด การยับยั้งคำพูดเพื่อทบทวนอารมณ์และเหตุผล จะช่วยให้เราเจริญสติในทุกสถานการณ์และรู้จักปรุงแต่งความคิดอย่างเหมาะสม เมื่อตระหนักได้ว่าสิ่งใดควรพูดหรือไม่ควรพูด ชีวิตก็จะเรียบง่ายและเป็นไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ วันต่อวัน
    การควบคุมตนเองยามโกรธ คือทักษะพื้นฐานที่ช่วยให้เราเข้าใจธรรมชาติของจิต เมื่อโกรธ เรามักรู้สึกอยากพูดหรือทำสิ่งที่อาจไม่เป็นตัวเราอย่างแท้จริง การสังเกตและยับยั้งไม่ให้แสดงออกทันที ทำให้เรามีโอกาสได้เห็นความเป็นไปของอารมณ์และความคิดได้ชัดเจนขึ้น ยามโกรธให้ลองรอจนความรู้สึกเย็นลงแล้วค่อยทบทวนว่าความคิดหรือคำพูดนั้นเหมาะสมจริงหรือไม่ การระงับปากก่อนโพล่งทำให้เราสังเกตเห็นความต่างของจิตระหว่างโกรธและสงบ ซึ่งไม่เพียงทำให้เราเข้าใจตนเองมากขึ้น แต่ยังทำให้เราเข้าใจผู้อื่นดีขึ้นด้วย เพราะเราเห็นได้ว่า คนอื่นก็มีช่วงที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้เช่นกัน การที่เราเข้าใจธรรมชาติของตนเองนี้เองจะช่วยให้เราถือสาและคาดหวังจากผู้อื่นน้อยลง ท้ายที่สุด การยับยั้งคำพูดเพื่อทบทวนอารมณ์และเหตุผล จะช่วยให้เราเจริญสติในทุกสถานการณ์และรู้จักปรุงแต่งความคิดอย่างเหมาะสม เมื่อตระหนักได้ว่าสิ่งใดควรพูดหรือไม่ควรพูด ชีวิตก็จะเรียบง่ายและเป็นไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ วันต่อวัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • 7/11/67

    “ปริศนาจากพระพุทธรูป"

    คงไม่มีใครไม่เคยเห็นพระพุทธรูป แต่คงจะมีน้อยคนที่รู้ว่า ลักษณะของพระพุทธรูปที่เราเห็นกันอยู่บ่อยครั้งนั้น แฝงข้อคิดอันประเสริฐสุดในชีวิตเอาไว้ ถึง 5 ประการ
    คือ

    1. พระเศียรแหลม

    มีคำถามว่า ทำไมพระพุทธรูปจึงมีพระเศียรแหลมในเมื่อพระพุทธเจ้าของเราก็เป็นมนุษย์ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเขาสร้างพระพุทธรูปเพื่อให้คิดเป็นปริศนาธรรม

    พระเศียรแหลมนั้นหมายถึง สติปัญญาที่เฉียบแหลมในการดำเนินชีวิต สอนให้เราใช้ชีวิตและรู้จักแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยสติปัญญาไม่ใช่ใช้แต่อารมณ์

    ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ไม่มีอะไรแก้ไขไม่ได้ ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ แก้ ใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบเสียก่อน แล้วความผิดพลาดจะเกิดขึ้นน้อย หรือแม้มันเกิดขึ้น เราก็จะเรียนรู้จากมันได้อย่างรวดเร็ว

    ปัญญาคือ ที่สุดแห่งธรรม หากมีปัญญา ชีวิตจะไม่มีปัญหา เพราะทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาจะกลายเป็นเครื่องมือที่สามารถนำไปใช้พัฒนาจิตใจได้เสมอ

    2. พระกรรณยาน

    หูยานเป็นปริศนาธรรมให้ชาวพุทธเป็นคนหูหนัก คือ มีความหนักแน่นมั่นคง ไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ แต่หมั่นคิดพิจารณาไตร่ตรองด้วยสติปัญญาอันแยบคาย แล้วจึงเชื่อในหลักฐานและข้อพิสูจน์ที่ตัวเองได้นำไปทดสอบแล้ว

    เราต้องเชื่อมั่นในหลักเหตุและผล (Cause & Effect) เชื่อว่าบุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น เชื่อว่าสุดท้าย คน ๆเดียวที่จะสามารถทำให้เราสุขหรือทุกข์ ดีหรือเลวได้คือ ตัวเราเอง และ ชีวิตเราจะเสื่อมทรามหรือเจริญรุ่งเรือง ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอำนาจภายนอกหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ขึ้นอยู่กับความคิด คำพูด และการกระทำของเราเองฉะนั้น ในการใช้ชีวิต ให้มีความสุขุมเยือกเย็น มีสติ และ มีเหตุผลเข้าไว้ อย่าปล่อยใจไปยึดตามสิ่งที่ได้ยิน เชื่อตามคนอื่น หรือตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่นจนเกินไป ลองพิสูจน์สิ่งต่าง ๆด้วยตัวเองเสียก่อนจะเชื่อ ตามหลัก “กาลามสูตร” เพื่อฝึกฝนการเป็นคนที่มีจิตใจหนักแน่นมั่นคง ดั่งองค์พระพุทธฯ

    3. พระเนตรมองต่ำ

    พระพุทธรูปที่สร้างโดยทั่วไปจะมีพระเนตรมองลงที่พระวรกายของพระองค์ ไม่ได้มองดูหน้าต่าง หรือมองดูประตูพระอุโบสถว่าจะมีใครเข้ามาไหว้บ้าง นี่เป็นปริศนาธรรม

    สอนให้มองตนเองและพิจารณาตนเองเสมอ ตักเตือนแก้ไขตนเองก่อนจะไปคอยจับผิดผู้อื่น ตามปกติคนเรามักจะมองเห็นแต่ความผิดพลาดของบุคคลอื่น โดยลืมมองข้อบกพร่องของตนเอง มัวแต่เอาเวลาไปนินทาว่าร้ายและจ้องแต่จะคอยวิจารณ์หรือเปลี่ยนแปลงคนรอบข้างอย่างเดียว ทำให้สูญเสียโอกาสในการปรับปรุงพัฒนาตัวเอง ใครเล่าจะตักเตือนตัวเราได้ดีกว่าตัวเราเอง จึงมีพุทธพจน์ตรัสให้เตือนตนเองว่า

    “อตฺตนา โจทยตฺตาน”

    ซึ่งแปลเป็นกลอนได้ว่า...

    “จงเตือนตนของตนให้พ้นผิด
    ตนเตือนจิตตนได้ใครจะเหมือน
    ตนเตือนตนไม่ได้ใครจะเตือน
    ตนแชเชือนรีบเตือนตนให้พ้นภัย”

    นอกจากนั้น พระเนตรที่มองต่ำคือ การสอนให้ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ไม่ใช่เหม่อมองฟ้าจนฝันเฟื่องถึงเรื่องที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น หรือ มัวหลงล่องลอยอยู่ในอดีตที่ผ่านพ้นไปแล้วและไม่มีวันหวนกลับมา ตาที่มองลงต่ำจะช่วยย้ำเตือนใจเราว่า “กลับมาก่อนเถิด... กลับบ้านมาอยู่กับลมหายใจที่ปลายจมูก... เพราะนั่นคือ ดินแดนแห่งสวรรค์ที่แท้จริง”

    4. พระพักตร์อันสงบนิ่ง

    ไม่ว่าใครจะด่าว่าพระพุทธรูปอย่างไร ท่านก็ยังสงบนิ่ง ไม่ว่าน้ำจะท่วม แผ่นดินจะไหว หรือใครจะเตะ ต่อย นินทา หรือทำร้ายพระพุทธรูปมากแค่ไหน ท่านก็นิ่งสงบรับแรงกระทบต่าง ๆ เหล่านั้นอย่างมั่นคง เบิกบาน และไม่หวั่นไหวไปกับปัญหาทั้งเล็กและใหญ่

    ให้ความรู้สึกเย็นสบายต่อผู้พบเห็นอยู่เสมอ ในชีวิตของเรา ไม่ใช่ว่าเราจะต้องยอมคนอยู่เสมอ แต่ถ้าเราสามารถฝึกรับแรงกระแทกทุกรูปแบบด้วยความนิ่งสงบได้ เราก็จะสามารถตอบโต้อย่างสร้างสรรค์และทรงพลังยิ่งกว่าเดิม เพราะคนบ้าจะโต้ตอบแบบหน้ามืด และคนโง่จะตอบโต้ตอนที่ตัวเองกำลังโกรธ ส่งผลให้ตัวเองและคนอื่นตกตายไปตามกัน

    หากเรารู้จักนิ่งสงบรับแรงกระแทกต่าง ๆ ในชีวิตได้เหมือนพระพุทธรูป ขั้นตอนต่อไปของการตอบโต้จะเกิดจากสติ เกิดจากปัญญา และเกิดจากพลังอันยิ่งใหญ่ที่มาจากใจที่สงบนิ่ง ซึ่งจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สร้างบาดแผลให้กับคนอื่นหรือตัวเอง

    5. รอยยิ้มของผู้ที่เข้าใจโลก

    สุดท้าย คือปริศนาจากพระโอษฐ์ที่แย้มยิ้มอยู่เสมอ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่รักสรรพสิ่ง รักโลก และเข้าใจความจริงของโลก...

    ความจริงที่ว่า... ทุกสิ่งย่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดาความจริงที่ว่า... ไม่มีอะไรแน่นอน
    ความจริงที่ว่า... ไม่มีอะไรคงทนถาวรความจริงที่ว่า... ไม่มีอะไรเป็นของเราอย่างแท้จริง

    ความสุขและความทุกข์ เป็นของคู่กันเสมอ ฉะนั้น

    “ผู้ที่เข้าใจความจริง” จะสามารถสงบนิ่งอยู่ได้ในธรรมชาติของสรรพสิ่ง ไม่วิ่งตามกระแสโลกจนเหนื่อยเกินไป และสามารถใช้ชีวิตอย่างเบิกบานได้ท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ำ เพราะมีสัจธรรมเป็นที่พักพิง

    นอกจากนั้นรอยยิ้มของพระพุทธรูป คือ รอยยิ้มของผู้ที่ถ่อมตัว แต่ในขณะเดียวกันก็เข้าใจความยิ่งใหญ่และคุณค่าของความเป็นมนุษย์ รู้ว่าแม้ตัวเองจะเป็นเพียงเศษผงธุลีหนึ่งในจักรวาล แต่ก็เป็นเศษผงธุลีที่สามารถเข้าใจความจริงของจักรวาลได้ จึงทั้งเป็นสิ่งที่พิเศษและไม่พิเศษ ในเวลาเดียวกัน...

    อย่าลืมนะ ว่า ในจิตใจของพวกเราทุกคน มีความเป็นพุทธะ (ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน) ซ่อนอยู่ โดยไม่มีข้อยกเว้น เพราะหลายคนอาจไม่ทราบว่า แท้จริงคำว่า “พระพุทธเจ้า” (ผู้ตื่นรู้) ไม่ใช่ “ชื่อ” แต่เป็น “คำนำหน้าชื่อ”

    และในอดีตก็เคยมีพระพุทธเจ้ามาแล้วหลายพระองค์ โดยองค์ปัจจุบันที่เรารู้จักกันดีมีพระนามว่า

    “โคตมะ” ซึ่งแปลว่า “ผู้ขับไล่ความมืด (อวิชชา) ด้วยแสงสว่างแห่งปัญญา”

    ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า
    ไม่ว่าใครก็สามารถไปถึงจุดของความเป็น “พุทธะ” ได้ทั้งนั้น หากคนคนนั้นหมั่นใช้ชีวิตอย่างมีสติและมีปัญญาอยู่เสมอ

    # ฉะนั้น เมื่อใดที่เราก้มลงกราบพระพุทธรูป นอกจากจะระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้าแล้ว ก็อย่าลืมระลึกถึงปรัชญาที่แฝงไว้ด้วย
    7/11/67 “ปริศนาจากพระพุทธรูป" คงไม่มีใครไม่เคยเห็นพระพุทธรูป แต่คงจะมีน้อยคนที่รู้ว่า ลักษณะของพระพุทธรูปที่เราเห็นกันอยู่บ่อยครั้งนั้น แฝงข้อคิดอันประเสริฐสุดในชีวิตเอาไว้ ถึง 5 ประการ คือ 1. พระเศียรแหลม มีคำถามว่า ทำไมพระพุทธรูปจึงมีพระเศียรแหลมในเมื่อพระพุทธเจ้าของเราก็เป็นมนุษย์ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเขาสร้างพระพุทธรูปเพื่อให้คิดเป็นปริศนาธรรม พระเศียรแหลมนั้นหมายถึง สติปัญญาที่เฉียบแหลมในการดำเนินชีวิต สอนให้เราใช้ชีวิตและรู้จักแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยสติปัญญาไม่ใช่ใช้แต่อารมณ์ ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ไม่มีอะไรแก้ไขไม่ได้ ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ แก้ ใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบเสียก่อน แล้วความผิดพลาดจะเกิดขึ้นน้อย หรือแม้มันเกิดขึ้น เราก็จะเรียนรู้จากมันได้อย่างรวดเร็ว ปัญญาคือ ที่สุดแห่งธรรม หากมีปัญญา ชีวิตจะไม่มีปัญหา เพราะทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาจะกลายเป็นเครื่องมือที่สามารถนำไปใช้พัฒนาจิตใจได้เสมอ 2. พระกรรณยาน หูยานเป็นปริศนาธรรมให้ชาวพุทธเป็นคนหูหนัก คือ มีความหนักแน่นมั่นคง ไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ แต่หมั่นคิดพิจารณาไตร่ตรองด้วยสติปัญญาอันแยบคาย แล้วจึงเชื่อในหลักฐานและข้อพิสูจน์ที่ตัวเองได้นำไปทดสอบแล้ว เราต้องเชื่อมั่นในหลักเหตุและผล (Cause & Effect) เชื่อว่าบุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น เชื่อว่าสุดท้าย คน ๆเดียวที่จะสามารถทำให้เราสุขหรือทุกข์ ดีหรือเลวได้คือ ตัวเราเอง และ ชีวิตเราจะเสื่อมทรามหรือเจริญรุ่งเรือง ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอำนาจภายนอกหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ขึ้นอยู่กับความคิด คำพูด และการกระทำของเราเองฉะนั้น ในการใช้ชีวิต ให้มีความสุขุมเยือกเย็น มีสติ และ มีเหตุผลเข้าไว้ อย่าปล่อยใจไปยึดตามสิ่งที่ได้ยิน เชื่อตามคนอื่น หรือตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่นจนเกินไป ลองพิสูจน์สิ่งต่าง ๆด้วยตัวเองเสียก่อนจะเชื่อ ตามหลัก “กาลามสูตร” เพื่อฝึกฝนการเป็นคนที่มีจิตใจหนักแน่นมั่นคง ดั่งองค์พระพุทธฯ 3. พระเนตรมองต่ำ พระพุทธรูปที่สร้างโดยทั่วไปจะมีพระเนตรมองลงที่พระวรกายของพระองค์ ไม่ได้มองดูหน้าต่าง หรือมองดูประตูพระอุโบสถว่าจะมีใครเข้ามาไหว้บ้าง นี่เป็นปริศนาธรรม สอนให้มองตนเองและพิจารณาตนเองเสมอ ตักเตือนแก้ไขตนเองก่อนจะไปคอยจับผิดผู้อื่น ตามปกติคนเรามักจะมองเห็นแต่ความผิดพลาดของบุคคลอื่น โดยลืมมองข้อบกพร่องของตนเอง มัวแต่เอาเวลาไปนินทาว่าร้ายและจ้องแต่จะคอยวิจารณ์หรือเปลี่ยนแปลงคนรอบข้างอย่างเดียว ทำให้สูญเสียโอกาสในการปรับปรุงพัฒนาตัวเอง ใครเล่าจะตักเตือนตัวเราได้ดีกว่าตัวเราเอง จึงมีพุทธพจน์ตรัสให้เตือนตนเองว่า “อตฺตนา โจทยตฺตาน” ซึ่งแปลเป็นกลอนได้ว่า... “จงเตือนตนของตนให้พ้นผิด ตนเตือนจิตตนได้ใครจะเหมือน ตนเตือนตนไม่ได้ใครจะเตือน ตนแชเชือนรีบเตือนตนให้พ้นภัย” นอกจากนั้น พระเนตรที่มองต่ำคือ การสอนให้ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ไม่ใช่เหม่อมองฟ้าจนฝันเฟื่องถึงเรื่องที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น หรือ มัวหลงล่องลอยอยู่ในอดีตที่ผ่านพ้นไปแล้วและไม่มีวันหวนกลับมา ตาที่มองลงต่ำจะช่วยย้ำเตือนใจเราว่า “กลับมาก่อนเถิด... กลับบ้านมาอยู่กับลมหายใจที่ปลายจมูก... เพราะนั่นคือ ดินแดนแห่งสวรรค์ที่แท้จริง” 4. พระพักตร์อันสงบนิ่ง ไม่ว่าใครจะด่าว่าพระพุทธรูปอย่างไร ท่านก็ยังสงบนิ่ง ไม่ว่าน้ำจะท่วม แผ่นดินจะไหว หรือใครจะเตะ ต่อย นินทา หรือทำร้ายพระพุทธรูปมากแค่ไหน ท่านก็นิ่งสงบรับแรงกระทบต่าง ๆ เหล่านั้นอย่างมั่นคง เบิกบาน และไม่หวั่นไหวไปกับปัญหาทั้งเล็กและใหญ่ ให้ความรู้สึกเย็นสบายต่อผู้พบเห็นอยู่เสมอ ในชีวิตของเรา ไม่ใช่ว่าเราจะต้องยอมคนอยู่เสมอ แต่ถ้าเราสามารถฝึกรับแรงกระแทกทุกรูปแบบด้วยความนิ่งสงบได้ เราก็จะสามารถตอบโต้อย่างสร้างสรรค์และทรงพลังยิ่งกว่าเดิม เพราะคนบ้าจะโต้ตอบแบบหน้ามืด และคนโง่จะตอบโต้ตอนที่ตัวเองกำลังโกรธ ส่งผลให้ตัวเองและคนอื่นตกตายไปตามกัน หากเรารู้จักนิ่งสงบรับแรงกระแทกต่าง ๆ ในชีวิตได้เหมือนพระพุทธรูป ขั้นตอนต่อไปของการตอบโต้จะเกิดจากสติ เกิดจากปัญญา และเกิดจากพลังอันยิ่งใหญ่ที่มาจากใจที่สงบนิ่ง ซึ่งจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สร้างบาดแผลให้กับคนอื่นหรือตัวเอง 5. รอยยิ้มของผู้ที่เข้าใจโลก สุดท้าย คือปริศนาจากพระโอษฐ์ที่แย้มยิ้มอยู่เสมอ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่รักสรรพสิ่ง รักโลก และเข้าใจความจริงของโลก... ความจริงที่ว่า... ทุกสิ่งย่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดาความจริงที่ว่า... ไม่มีอะไรแน่นอน ความจริงที่ว่า... ไม่มีอะไรคงทนถาวรความจริงที่ว่า... ไม่มีอะไรเป็นของเราอย่างแท้จริง ความสุขและความทุกข์ เป็นของคู่กันเสมอ ฉะนั้น “ผู้ที่เข้าใจความจริง” จะสามารถสงบนิ่งอยู่ได้ในธรรมชาติของสรรพสิ่ง ไม่วิ่งตามกระแสโลกจนเหนื่อยเกินไป และสามารถใช้ชีวิตอย่างเบิกบานได้ท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ำ เพราะมีสัจธรรมเป็นที่พักพิง นอกจากนั้นรอยยิ้มของพระพุทธรูป คือ รอยยิ้มของผู้ที่ถ่อมตัว แต่ในขณะเดียวกันก็เข้าใจความยิ่งใหญ่และคุณค่าของความเป็นมนุษย์ รู้ว่าแม้ตัวเองจะเป็นเพียงเศษผงธุลีหนึ่งในจักรวาล แต่ก็เป็นเศษผงธุลีที่สามารถเข้าใจความจริงของจักรวาลได้ จึงทั้งเป็นสิ่งที่พิเศษและไม่พิเศษ ในเวลาเดียวกัน... อย่าลืมนะ ว่า ในจิตใจของพวกเราทุกคน มีความเป็นพุทธะ (ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน) ซ่อนอยู่ โดยไม่มีข้อยกเว้น เพราะหลายคนอาจไม่ทราบว่า แท้จริงคำว่า “พระพุทธเจ้า” (ผู้ตื่นรู้) ไม่ใช่ “ชื่อ” แต่เป็น “คำนำหน้าชื่อ” และในอดีตก็เคยมีพระพุทธเจ้ามาแล้วหลายพระองค์ โดยองค์ปัจจุบันที่เรารู้จักกันดีมีพระนามว่า “โคตมะ” ซึ่งแปลว่า “ผู้ขับไล่ความมืด (อวิชชา) ด้วยแสงสว่างแห่งปัญญา” ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า ไม่ว่าใครก็สามารถไปถึงจุดของความเป็น “พุทธะ” ได้ทั้งนั้น หากคนคนนั้นหมั่นใช้ชีวิตอย่างมีสติและมีปัญญาอยู่เสมอ # ฉะนั้น เมื่อใดที่เราก้มลงกราบพระพุทธรูป นอกจากจะระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้าแล้ว ก็อย่าลืมระลึกถึงปรัชญาที่แฝงไว้ด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts