• "พีระพันธุ์" เปิดโปงวาระซ่อนเร้น เชื่อกัมพูชาจ้องขยับ "หลักเขต 73" หวังเปลี่ยนเขตแดนทางทะเล ฮุบทรัพยากรพลังงาน
    https://www.thai-tai.tv/news/22384/
    .
    #ไทยไท #พีระพันธุ์ #เขตแดนทางทะเล #หลักเขตที่73 #ทรัพยากรพลังงาน #ไม่มีคำสั่ง
    "พีระพันธุ์" เปิดโปงวาระซ่อนเร้น เชื่อกัมพูชาจ้องขยับ "หลักเขต 73" หวังเปลี่ยนเขตแดนทางทะเล ฮุบทรัพยากรพลังงาน https://www.thai-tai.tv/news/22384/ . #ไทยไท #พีระพันธุ์ #เขตแดนทางทะเล #หลักเขตที่73 #ทรัพยากรพลังงาน #ไม่มีคำสั่ง
    0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 9 ฝันสลาย

    ภูมิศาสตร์การเมืองเกี่ยวกับพลังงานของรัสเซีย เริ่มสำแดงรังสี เมื่อประมาณปี ค.ศ. 2003 ขณะที่อเมริกากำลังเล่นเอาทหารเข้าไปตั้งแคมป์อยู่เมือง Iraq และตะวันออกกลาง คุณพี่ปูตินออกคำสั่งจับ มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย Milkhail Khodorkovsky โทษฐานหนีภาษีและอายัดหุ้นที่ นาย Kho ถืออยู่ในบริษัทนำมันยักษ์ใหญ่ Yukos Oil Group เตรียมยึดเป็นของหลวง

    โลกช็อคกับการออกคำสั่งของคุณพี่ ปู CNN ออกข่าว เผด็จการกำลังสำแดงอำนาจ (ประโยคหากินของ CNN) เหตุผลของการสั่งจับ นาย Kho เกิดขึ้นไม่นาน หลังจากมีรายงานที่ไม่เปิดเผยบอก ว่า นาย Kho ได้ไปพบ รองประธานาธิบดี **** Cheney ที่วอชิงตันในเดือน ก.ค. หลังจากคุยกับนาย Cheney นาย Kho ก็เริ่มเดินสายคุยกับ Exxon Mobil และ Chevron Texaco เกี่ยวกับการซื้อหุ้น ประมาณ 40% ของ Yukos พูดง่าย ๆ นาย Kho กำลังเป็นตัวกลางเจรจาแทนวอชิงตัน เพื่อซื้อหุ้น Yukos นี่มันเป็นการหักหลัง หรือกบฎต่อคุณพี่ปูตินเลยเชียวนะ

    40% ของหุ้นในบริษัท Yukos ของรัสเซีย จะทำให้วอชิงตัน มีอำนาจ (ผ่านบริษัทน้ำมันหน้าม้าทั้งหลาย) ในการกำหนดอนาคตของรัสเซีย ในการเจรจาเกี่ยวกับท่อก๊าซและน้ำมัน ก่อนหน้าการจับกุมไม่เท่าไหร่ นาย Kho ได้ต้อนรับ นายบุชคนพ่อ ที่มา Moscow ในฐานะตัวแทนของ Carlyle Group เพื่อมาหารือ เรื่องที่ฝ่ายอเมริกาจะซื้อหุ้น Yukos (หลังจากเกิดเรื่อง นาย Bush ได้แอบยื่นใบลาออกจาก Carlyle !) รายงานบอกด้วยว่า นาย Kho นี้มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของ Carlyle Group ด้วย
    Carlyle Group ยังมีหุ้นส่วนสำคัญคือ. อดีตรัฐมนตรีกลาโหมของอเมริกา ชื่อ Frank Carlucci นอกเหนือจากอดีตรัฐมนตรี ตปท. คือ นาย James Baker III ที่รู้ ๆ กันอยู่ว่า สนิทกับใครบ้างในดินแดนของสมันน้อย

    ขณะที่ นาย Kho ถูกจับ บริษัท Yukos กำลังเริ่มดำเนินการซื้อหุ้นของ Sibneft กลุ่มบริษัทผู้ผลิตและกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซี ย ถ้ารวม Yukos กับ Sibneft เข้าด้วยกัน ด้วยปริมาณ 19.5 พันล้าน barrel ของน้ำมันและแก๊ซ จะทำให้ Yukos-Sibneft มีปริมาณน้ำมันและแก๊ซมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจาก Exxon Mobil การแอบซื้อหุ้น Yukos -Sibneft จะโดย Exxon หรือ Chevron ก็ตาม มันเหมือนเป็นการทำรัฐประหารยึดอำนาจทางวงการน้ำมันที่ใหญ่ ที่สุด Cheney รู้เรื่องนี้ Bush รู้เรื่องนี้ นาย Kho รู้เรื่องนี้ และที่สำคัญ คุณพี่ปูตินก็รู้เรื่องนี้ และตัดสินใจลงมือจัดการระงับการขายชาติอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว (ผมฝันว่า จะได้เห็น การตัดสินใจเด็ดขาดและรวดเร็วแบบนี้ เกิดขึ้นในบ้านเรานะครับ ! )

    ในราวปลายปี ค.ศ. 2004 มอสโคว์มองเห็นชัดเจนแล้วว่า สงครามเย็นครั้งใหม่กำลังเริ่มขึ้นแล้ว สงครามเย็นครั้งนี้สาเหตุมาจากรัสเซียมีทรัพยากรพลังงานมากเกินไป บอกแล้ว คุณพี่ปูติน ถึงจะมีคนไม่น้อยที่ไม่ชอบหน้าคุณพี่ แต่คุณพี่ไม่ยอมให้ใครมาหยามหน้ารัสเซียอีกแล้ว ยุทธศาสตร์ของคุณพี่ปูตินครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่ป้องกัน แต่เป็นการรุกกลับ และรุกคืบ โดยการใช้ท่อส่งน้ำมันและแก็ซเป็นอาวุธ ที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง (แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผมเชียร์คุณพี่ปูติน ออกนอกหน้าได้ยังไง)

    เมื่อดูสภาพความเป็นอยู่ของชาวรัสเซียในปี ค.ศ. 2004 ก็อยู่ในสภาพธรรมดา ไม่หรูหรา แต่ถ้ามองกันที่สภาพของประเทศ ต้องบอกว่ารัสเซียอู้ฟู้ มีทรัพย์สมบัติมหาศาล ในแง่เขตแดนก็ต้องบอกว่ากว้างใหญ่สุดสายตา เป็นประเทศที่มีอาณาเขตบริเวณใหญ่ที่สุดในโลก ด้านหนึ่ง ชนมหาสมุทรแปซิฟิค อีกด้านชนหน้าประตูของยุโรป ดินแดนกว้างใหญ่ไพศาลนี้มีทรัพยากรมหาศาลตามไปด้วย โดยเฉพาะมีแก๊ซธรรมชาติมากเป็นอันดับ 1 ของโลก รัสเซียเป็นประเทศเดียวในโลก ที่อาจจะมีกำลังทหารพอฟัดกับอเมริกา แม้ว่าจะสหภาพโซเวียตจะล่มสลายไปแล้วก็ตาม แต่เลือดนักสู้เก่าด้านการทหารไม่ได้สลายตามไปด้วย
    รัสเซียมีบ่อน้ำมันมากกว่า 130,000 บ่อ และมีน้ำมันและแก๊ซ (deposits) อีกประมาณ 2,000 แหล่ง มี oil reserves ประมาณ 150 พันล้านบาเรล เช่นเดียวกับ Iraq หรืออาจจะมากกว่า เพราะยังไม่ได้ขุดสำรวจหมดเนื่องจากอยู่ไกลแถวขั้วโลก

    เครือข่ายท่อส่งน้ำมันและแก๊ซเป็น ของรัฐบาล ยาวประมาณ 150,000 กิโลเมตรข้ามประเทศ ตามกฎหมาย Gazprom ซึ่งเป็นของรัฐบาลเท่านั้น ที่มีสิทธิใช้ท่อส่ง ท่อส่งน้ำมันและแก๊ซนี้เป็นทรัพย์สินและอาวุธที่สำคัญที่สุดของรัสเซีย ยิ่งกว่าตัวน้ำมันและแก๊ซเอง และนี่คือหัวใจของการใช้ยุทธศาสตร์พลังงานของคุณพี่ปูตินในการรักษาประเทศไว้

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    29 มิย. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 9 ฝันสลาย ภูมิศาสตร์การเมืองเกี่ยวกับพลังงานของรัสเซีย เริ่มสำแดงรังสี เมื่อประมาณปี ค.ศ. 2003 ขณะที่อเมริกากำลังเล่นเอาทหารเข้าไปตั้งแคมป์อยู่เมือง Iraq และตะวันออกกลาง คุณพี่ปูตินออกคำสั่งจับ มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย Milkhail Khodorkovsky โทษฐานหนีภาษีและอายัดหุ้นที่ นาย Kho ถืออยู่ในบริษัทนำมันยักษ์ใหญ่ Yukos Oil Group เตรียมยึดเป็นของหลวง โลกช็อคกับการออกคำสั่งของคุณพี่ ปู CNN ออกข่าว เผด็จการกำลังสำแดงอำนาจ (ประโยคหากินของ CNN) เหตุผลของการสั่งจับ นาย Kho เกิดขึ้นไม่นาน หลังจากมีรายงานที่ไม่เปิดเผยบอก ว่า นาย Kho ได้ไปพบ รองประธานาธิบดี Dick Cheney ที่วอชิงตันในเดือน ก.ค. หลังจากคุยกับนาย Cheney นาย Kho ก็เริ่มเดินสายคุยกับ Exxon Mobil และ Chevron Texaco เกี่ยวกับการซื้อหุ้น ประมาณ 40% ของ Yukos พูดง่าย ๆ นาย Kho กำลังเป็นตัวกลางเจรจาแทนวอชิงตัน เพื่อซื้อหุ้น Yukos นี่มันเป็นการหักหลัง หรือกบฎต่อคุณพี่ปูตินเลยเชียวนะ 40% ของหุ้นในบริษัท Yukos ของรัสเซีย จะทำให้วอชิงตัน มีอำนาจ (ผ่านบริษัทน้ำมันหน้าม้าทั้งหลาย) ในการกำหนดอนาคตของรัสเซีย ในการเจรจาเกี่ยวกับท่อก๊าซและน้ำมัน ก่อนหน้าการจับกุมไม่เท่าไหร่ นาย Kho ได้ต้อนรับ นายบุชคนพ่อ ที่มา Moscow ในฐานะตัวแทนของ Carlyle Group เพื่อมาหารือ เรื่องที่ฝ่ายอเมริกาจะซื้อหุ้น Yukos (หลังจากเกิดเรื่อง นาย Bush ได้แอบยื่นใบลาออกจาก Carlyle !) รายงานบอกด้วยว่า นาย Kho นี้มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของ Carlyle Group ด้วย Carlyle Group ยังมีหุ้นส่วนสำคัญคือ. อดีตรัฐมนตรีกลาโหมของอเมริกา ชื่อ Frank Carlucci นอกเหนือจากอดีตรัฐมนตรี ตปท. คือ นาย James Baker III ที่รู้ ๆ กันอยู่ว่า สนิทกับใครบ้างในดินแดนของสมันน้อย ขณะที่ นาย Kho ถูกจับ บริษัท Yukos กำลังเริ่มดำเนินการซื้อหุ้นของ Sibneft กลุ่มบริษัทผู้ผลิตและกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซี ย ถ้ารวม Yukos กับ Sibneft เข้าด้วยกัน ด้วยปริมาณ 19.5 พันล้าน barrel ของน้ำมันและแก๊ซ จะทำให้ Yukos-Sibneft มีปริมาณน้ำมันและแก๊ซมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจาก Exxon Mobil การแอบซื้อหุ้น Yukos -Sibneft จะโดย Exxon หรือ Chevron ก็ตาม มันเหมือนเป็นการทำรัฐประหารยึดอำนาจทางวงการน้ำมันที่ใหญ่ ที่สุด Cheney รู้เรื่องนี้ Bush รู้เรื่องนี้ นาย Kho รู้เรื่องนี้ และที่สำคัญ คุณพี่ปูตินก็รู้เรื่องนี้ และตัดสินใจลงมือจัดการระงับการขายชาติอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว (ผมฝันว่า จะได้เห็น การตัดสินใจเด็ดขาดและรวดเร็วแบบนี้ เกิดขึ้นในบ้านเรานะครับ ! ) ในราวปลายปี ค.ศ. 2004 มอสโคว์มองเห็นชัดเจนแล้วว่า สงครามเย็นครั้งใหม่กำลังเริ่มขึ้นแล้ว สงครามเย็นครั้งนี้สาเหตุมาจากรัสเซียมีทรัพยากรพลังงานมากเกินไป บอกแล้ว คุณพี่ปูติน ถึงจะมีคนไม่น้อยที่ไม่ชอบหน้าคุณพี่ แต่คุณพี่ไม่ยอมให้ใครมาหยามหน้ารัสเซียอีกแล้ว ยุทธศาสตร์ของคุณพี่ปูตินครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่ป้องกัน แต่เป็นการรุกกลับ และรุกคืบ โดยการใช้ท่อส่งน้ำมันและแก็ซเป็นอาวุธ ที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง (แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผมเชียร์คุณพี่ปูติน ออกนอกหน้าได้ยังไง) เมื่อดูสภาพความเป็นอยู่ของชาวรัสเซียในปี ค.ศ. 2004 ก็อยู่ในสภาพธรรมดา ไม่หรูหรา แต่ถ้ามองกันที่สภาพของประเทศ ต้องบอกว่ารัสเซียอู้ฟู้ มีทรัพย์สมบัติมหาศาล ในแง่เขตแดนก็ต้องบอกว่ากว้างใหญ่สุดสายตา เป็นประเทศที่มีอาณาเขตบริเวณใหญ่ที่สุดในโลก ด้านหนึ่ง ชนมหาสมุทรแปซิฟิค อีกด้านชนหน้าประตูของยุโรป ดินแดนกว้างใหญ่ไพศาลนี้มีทรัพยากรมหาศาลตามไปด้วย โดยเฉพาะมีแก๊ซธรรมชาติมากเป็นอันดับ 1 ของโลก รัสเซียเป็นประเทศเดียวในโลก ที่อาจจะมีกำลังทหารพอฟัดกับอเมริกา แม้ว่าจะสหภาพโซเวียตจะล่มสลายไปแล้วก็ตาม แต่เลือดนักสู้เก่าด้านการทหารไม่ได้สลายตามไปด้วย รัสเซียมีบ่อน้ำมันมากกว่า 130,000 บ่อ และมีน้ำมันและแก๊ซ (deposits) อีกประมาณ 2,000 แหล่ง มี oil reserves ประมาณ 150 พันล้านบาเรล เช่นเดียวกับ Iraq หรืออาจจะมากกว่า เพราะยังไม่ได้ขุดสำรวจหมดเนื่องจากอยู่ไกลแถวขั้วโลก เครือข่ายท่อส่งน้ำมันและแก๊ซเป็น ของรัฐบาล ยาวประมาณ 150,000 กิโลเมตรข้ามประเทศ ตามกฎหมาย Gazprom ซึ่งเป็นของรัฐบาลเท่านั้น ที่มีสิทธิใช้ท่อส่ง ท่อส่งน้ำมันและแก๊ซนี้เป็นทรัพย์สินและอาวุธที่สำคัญที่สุดของรัสเซีย ยิ่งกว่าตัวน้ำมันและแก๊ซเอง และนี่คือหัวใจของการใช้ยุทธศาสตร์พลังงานของคุณพี่ปูตินในการรักษาประเทศไว้ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 29 มิย. 2557
    0 Comments 0 Shares 469 Views 0 Reviews
  • ออตตาวา จะยื่นฟ้ององค์การการค้าโลก(WTO) เกี่ยวกับมาตรการรีดภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ นอกจากนี้แล้วยังจะเรียกค่าชดเชยภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีระดับภูมิภาคฉบับหนึ่งด้วย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าทีแคนาดาในวันอาทิตย์(2ก.พ.)
    .
    "ชัดเจนว่า รัฐบาลแคนาดามองว่ามาตรการรีดภาษีนี้ละเมิดพันธสัญาทางการค้าที่สหรัฐฯมี" เจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามระบุ
    .
    หลังจากขู่มานานหลายสัปดาห์ ในที่สุดในวันอาทิตย์(2ก.พ.) ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งขึ้นภาษีสินค้านำเข้าทั้งหมดจากแคนาดาอีก 25% ยกเว้นทรัพยากรพลังงาน ซึ่งจะถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 10%
    .
    "แน่นอนว่าเราจะเดินหน้าพึ่งพากฎหมาย ที่เราเชื่อว่าเรามี ผ่านข้อตกลงต่างๆที่เราทำร่วมกับสหรัฐฯ" เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวระบุ อ้างถึงองค์การการค้าโลกและข้อตกลงสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา(CUSMA) ที่ตัวทรัมป์เองเป็นคนลงนามในปี 2018
    .
    การพิจารณาทบทวนข้อตกลง ที่ทางเจ้าหน้าที่แคนาดาเรียกมันว่าเป็น "ข้อตกลงมาตรฐานทองคำ" มีกำหนดดำเนินการในปีหน้า
    .
    นอกจากนี้แล้วในวันอาทิตย์(2ก.พ.) ยังเปิดตัวรายชื่อสินค้าอเมริกา 1,256 รายการ ที่พวกเขามีแผนเล่นงานในรอบแรกของการรีดภาษีตอบโต้ ซึ่้งคิดเป็นมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดาและมีกำหนดบังคับใช้ในวันอังคาร(4ก.พ.) ในนั้นรวมถึงเครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า ยางรถยนต์ เครื่องไม้เครื่องมือ พลาสติก เฟอร์นิเจอร์ ไวน์ สุรา ผลิตภัณฑ์นมและผลไม้
    .
    พวกเจ้าหน้าที่บอกว่ามาตรการรีดภาษีของแคนาดา ไม่ได้เจาะจงเล่นงานรัฐต่างๆที่บริหารงานโดยรีพับลิกัน แต่เล็งเป้าหมายถาโถมแรงกดดันใส่พวกสมาชิกสภาคองเกรสที่มีอิทธิพลกับทรัมป์ ซึ่งก็น่าจะเป็นเหล่าสมาชิกจากรีพับลิกันนั่นเอง
    .
    เจ้าหน้าที่แคนาดาคาดหมายว่าอาจมีการแถลงมาตรการรีดภาษีตอบโต้รอบ 2 ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหย้า โดยครั้งนี้คาดว่าปริมาณสินค้าที่ตกเป็นเป้าหมาย น่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นแตะระดับ 155,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา(ราว 106,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
    .
    "เราหวังว่ามาตรการต่างๆที่เราใช้จะพอเพียงสำหรับโน้มน้าวสหรัฐฯให้เห็นว่าพวกเขากำลังเดินทางผิดเส้นทาง และพวกเขาจะกลับมาหาทางทำงานร่วมกับเรา ในหนทางในการกลับสู่ความเป็นรัฐปกติมากกว่าเดิม" เจ้าหน้าที่รายนี้ระบุ "แต่ถ้าไม่ นายกรัฐมนตรีและคนอื่นๆ บ่งชี้ว่าทุกทางเลือกยังคงอยู่บนโต๊ะ และจะมีการพิจารณาใช้มาตรการที่เหมาะสมเพิ่มเติม"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010781
    ..................
    Sondhi X
    ออตตาวา จะยื่นฟ้ององค์การการค้าโลก(WTO) เกี่ยวกับมาตรการรีดภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ นอกจากนี้แล้วยังจะเรียกค่าชดเชยภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีระดับภูมิภาคฉบับหนึ่งด้วย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าทีแคนาดาในวันอาทิตย์(2ก.พ.) . "ชัดเจนว่า รัฐบาลแคนาดามองว่ามาตรการรีดภาษีนี้ละเมิดพันธสัญาทางการค้าที่สหรัฐฯมี" เจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามระบุ . หลังจากขู่มานานหลายสัปดาห์ ในที่สุดในวันอาทิตย์(2ก.พ.) ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งขึ้นภาษีสินค้านำเข้าทั้งหมดจากแคนาดาอีก 25% ยกเว้นทรัพยากรพลังงาน ซึ่งจะถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 10% . "แน่นอนว่าเราจะเดินหน้าพึ่งพากฎหมาย ที่เราเชื่อว่าเรามี ผ่านข้อตกลงต่างๆที่เราทำร่วมกับสหรัฐฯ" เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวระบุ อ้างถึงองค์การการค้าโลกและข้อตกลงสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา(CUSMA) ที่ตัวทรัมป์เองเป็นคนลงนามในปี 2018 . การพิจารณาทบทวนข้อตกลง ที่ทางเจ้าหน้าที่แคนาดาเรียกมันว่าเป็น "ข้อตกลงมาตรฐานทองคำ" มีกำหนดดำเนินการในปีหน้า . นอกจากนี้แล้วในวันอาทิตย์(2ก.พ.) ยังเปิดตัวรายชื่อสินค้าอเมริกา 1,256 รายการ ที่พวกเขามีแผนเล่นงานในรอบแรกของการรีดภาษีตอบโต้ ซึ่้งคิดเป็นมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดาและมีกำหนดบังคับใช้ในวันอังคาร(4ก.พ.) ในนั้นรวมถึงเครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า ยางรถยนต์ เครื่องไม้เครื่องมือ พลาสติก เฟอร์นิเจอร์ ไวน์ สุรา ผลิตภัณฑ์นมและผลไม้ . พวกเจ้าหน้าที่บอกว่ามาตรการรีดภาษีของแคนาดา ไม่ได้เจาะจงเล่นงานรัฐต่างๆที่บริหารงานโดยรีพับลิกัน แต่เล็งเป้าหมายถาโถมแรงกดดันใส่พวกสมาชิกสภาคองเกรสที่มีอิทธิพลกับทรัมป์ ซึ่งก็น่าจะเป็นเหล่าสมาชิกจากรีพับลิกันนั่นเอง . เจ้าหน้าที่แคนาดาคาดหมายว่าอาจมีการแถลงมาตรการรีดภาษีตอบโต้รอบ 2 ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหย้า โดยครั้งนี้คาดว่าปริมาณสินค้าที่ตกเป็นเป้าหมาย น่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นแตะระดับ 155,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา(ราว 106,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) . "เราหวังว่ามาตรการต่างๆที่เราใช้จะพอเพียงสำหรับโน้มน้าวสหรัฐฯให้เห็นว่าพวกเขากำลังเดินทางผิดเส้นทาง และพวกเขาจะกลับมาหาทางทำงานร่วมกับเรา ในหนทางในการกลับสู่ความเป็นรัฐปกติมากกว่าเดิม" เจ้าหน้าที่รายนี้ระบุ "แต่ถ้าไม่ นายกรัฐมนตรีและคนอื่นๆ บ่งชี้ว่าทุกทางเลือกยังคงอยู่บนโต๊ะ และจะมีการพิจารณาใช้มาตรการที่เหมาะสมเพิ่มเติม" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010781 .................. Sondhi X
    Like
    Love
    8
    0 Comments 0 Shares 1662 Views 0 Reviews
  • บริษัท Bitfarms ซึ่งเป็นบริษัทขุดบิตคอยน์จากแคนาดา ที่กำลังพิจารณาเปลี่ยนแปลงบางส่วนของโรงงานให้เป็นศูนย์ข้อมูลปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาด AI โดยบริษัทได้ว่าจ้างที่ปรึกษาสองรายคือ Appleby Strategy Group และ World Wide Technology เพื่อวิเคราะห์สถานที่ในอเมริกาเหนือและให้คำแนะนำเกี่ยวกับกลยุทธ์การคำนวณและ AI ของบริษัท

    การเปลี่ยนแปลงนี้มีความสำคัญเนื่องจากบริษัทขุดบิตคอยน์มักมีที่ดินขนาดใหญ่และทรัพยากรพลังงานที่สำคัญ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับศูนย์ข้อมูลประสิทธิภาพสูง (HPC) และ AI อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงนี้อาจไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากศูนย์ข้อมูล AI มีความซับซ้อนมากกว่า

    Bitfarms หวังว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้บริษัทมีรายได้ที่มั่นคงและต่อเนื่องจากลูกค้า HPC/AI ในขณะที่ยังคงดำเนินการขุดบิตคอยน์ต่อไปเพื่อใช้ประโยชน์จากศักยภาพของบิตคอยน์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/31/canadian-bitcoin-miner-bitfarms-mulls-pivot-to-ai-data-centers
    บริษัท Bitfarms ซึ่งเป็นบริษัทขุดบิตคอยน์จากแคนาดา ที่กำลังพิจารณาเปลี่ยนแปลงบางส่วนของโรงงานให้เป็นศูนย์ข้อมูลปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาด AI โดยบริษัทได้ว่าจ้างที่ปรึกษาสองรายคือ Appleby Strategy Group และ World Wide Technology เพื่อวิเคราะห์สถานที่ในอเมริกาเหนือและให้คำแนะนำเกี่ยวกับกลยุทธ์การคำนวณและ AI ของบริษัท การเปลี่ยนแปลงนี้มีความสำคัญเนื่องจากบริษัทขุดบิตคอยน์มักมีที่ดินขนาดใหญ่และทรัพยากรพลังงานที่สำคัญ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับศูนย์ข้อมูลประสิทธิภาพสูง (HPC) และ AI อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงนี้อาจไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากศูนย์ข้อมูล AI มีความซับซ้อนมากกว่า Bitfarms หวังว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้บริษัทมีรายได้ที่มั่นคงและต่อเนื่องจากลูกค้า HPC/AI ในขณะที่ยังคงดำเนินการขุดบิตคอยน์ต่อไปเพื่อใช้ประโยชน์จากศักยภาพของบิตคอยน์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/31/canadian-bitcoin-miner-bitfarms-mulls-pivot-to-ai-data-centers
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Canadian bitcoin miner Bitfarms mulls pivot to AI data centers
    (Reuters) - Toronto-based bitcoin miner Bitfarms has enlisted two consultants to explore how it can transform some of its facilities to meet the growing demand for artificial intelligence data centers, it said on Friday.
    0 Comments 0 Shares 475 Views 0 Reviews
  • ## ยก "เกาะกูด" ให้ เขมร ไม่ "กบฏ" ก็ "คนชายชาติ" ##
    ..
    ..
    เกาะกูด เป็นของประเทศไทย ชัดเจน ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน
    .
    ถ้า "นักการเมือง" มาเจรจาให้กลายเป็น "พื้นที่ทับซ้อน" แล้วไป "แบ่งปันผลประโยชน์จากทรัพยากรพลังงาน" กัน...
    .
    ก็ให้ระวังตัวไว้...!!!
    .
    ตอนนี้หลายคนก็คงเริ่มฟิตร่างกาย เตรียมรองเท้า รอไว้แล้ว...!!!
    .

    .
    https://youtu.be/7h0Xockidb4?si=jWjUy6sUTJ3ais50
    ## ยก "เกาะกูด" ให้ เขมร ไม่ "กบฏ" ก็ "คนชายชาติ" ## .. .. เกาะกูด เป็นของประเทศไทย ชัดเจน ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน . ถ้า "นักการเมือง" มาเจรจาให้กลายเป็น "พื้นที่ทับซ้อน" แล้วไป "แบ่งปันผลประโยชน์จากทรัพยากรพลังงาน" กัน... . ก็ให้ระวังตัวไว้...!!! . ตอนนี้หลายคนก็คงเริ่มฟิตร่างกาย เตรียมรองเท้า รอไว้แล้ว...!!! . 🤬🤬🤬🤬 . https://youtu.be/7h0Xockidb4?si=jWjUy6sUTJ3ais50
    Angry
    1
    0 Comments 0 Shares 106 Views 0 Reviews
  • แม่งทำตัวเป็นเจ้าของแผ่นดิน ด้วยหัวใจเถื่อนดิบ
    อย่างหน้าด้าน
    พยายามสร้างระบบเงินตราใหม่ แข่งบาทไทย
    เปิดบ่อนคาสิโน ถูกกฎหมาย 8 แห่ง
    หาประโยชน์ส่วนตัว
    เพื่อฟอกเงิน
    ให้ต่างชาติเช่าคอนโดมิเนียบได้ 75 %
    เช่าที่ 99 ปี ขายแผ่นดิน !
    แบ่งครึ่งทรัพยากรพลังงานใต้ทะเลกับ กัมพูชา (อ้างพื้นที่ทับซ้อนที่ไม่มี)
    แก้รัฐธรรมนูญ และ ระเบียบราชทัณฑ์
    เพื่อประโยชน์ส่วนตัว
    ทั้งหลายทั้งปวง ไม่มีอะไรที่ทำเพื่อประเทศชาติ ประชาชนเลย

    แก็ซน้ำมัน ยังแพงบรรลัย ด้วยโครงสร้างราคาที่ผิดเป็นที่ประจักษ์
    ค่าไฟฟ้า ก็แพงผิดปกติ ด้วยค่าพร้อมจ่าย
    บัดซบ
    ทุนนิยมผูกขาด ยังคงเอาเปรียบคนไทยไม่
    สิ้นสุด
    เป็นบ้าไปแล้วหรือคนไทย
    ผู้ยากไร้ ถึงปล่อยให้สถานการณ์เลวร้ายเช่นนี้คอย ดูดเลือดเนื้อพี่น้องได้ยาวนาน ถึงเพียงนี้
    ฯลฯ
    แม่งกวักมือเรียกรัฐประหาร อย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก
    ขณะที่ขายแผ่นดิน ทีละชิ้น จนสิ้นชาติ

    มีหนทางใดที่ประชาชน
    คนกล้า ไม่ต้องลงถนน
    ต่อต้านบ้าง !

    @“จันผา”
    21 กันยายน 2564
    แม่งทำตัวเป็นเจ้าของแผ่นดิน ด้วยหัวใจเถื่อนดิบ อย่างหน้าด้าน พยายามสร้างระบบเงินตราใหม่ แข่งบาทไทย เปิดบ่อนคาสิโน ถูกกฎหมาย 8 แห่ง หาประโยชน์ส่วนตัว เพื่อฟอกเงิน ให้ต่างชาติเช่าคอนโดมิเนียบได้ 75 % เช่าที่ 99 ปี ขายแผ่นดิน ! แบ่งครึ่งทรัพยากรพลังงานใต้ทะเลกับ กัมพูชา (อ้างพื้นที่ทับซ้อนที่ไม่มี) แก้รัฐธรรมนูญ และ ระเบียบราชทัณฑ์ เพื่อประโยชน์ส่วนตัว ทั้งหลายทั้งปวง ไม่มีอะไรที่ทำเพื่อประเทศชาติ ประชาชนเลย แก็ซน้ำมัน ยังแพงบรรลัย ด้วยโครงสร้างราคาที่ผิดเป็นที่ประจักษ์ ค่าไฟฟ้า ก็แพงผิดปกติ ด้วยค่าพร้อมจ่าย บัดซบ ทุนนิยมผูกขาด ยังคงเอาเปรียบคนไทยไม่ สิ้นสุด เป็นบ้าไปแล้วหรือคนไทย ผู้ยากไร้ ถึงปล่อยให้สถานการณ์เลวร้ายเช่นนี้คอย ดูดเลือดเนื้อพี่น้องได้ยาวนาน ถึงเพียงนี้ ฯลฯ แม่งกวักมือเรียกรัฐประหาร อย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก ขณะที่ขายแผ่นดิน ทีละชิ้น จนสิ้นชาติ มีหนทางใดที่ประชาชน คนกล้า ไม่ต้องลงถนน ต่อต้านบ้าง ! @“จันผา” 21 กันยายน 2564
    0 Comments 0 Shares 253 Views 0 Reviews
  • หน้าด้านหน้าทนมีอยู่จริง มีให้เห็นแล้ว หลายคนพูดผิดไปแล้ว ทำเหมือนไม่รู้ตัว ทั้ง ๆ ที่ได้ทำกรรมสำเร็จแล้วด้วยวาจา หรือทำวจีกรรมทุจริตเสร็จสิ้นแล้ว ได้แก่ การพูดโกหก ตอแหล บิดเบือน ส่อเสียดให้แตกแยก พูดหยาบ(พูดข้ามขั้นตอนระหว่างปัจจัยที่เป็นเหตุกับปัจจัยที่เกิดจากเหตุ) พูดเพ้อเจ้อ(พูดไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีหลักการ ไม่อาศัยเหตุผล..) .....

    เมื่อคนทุจริตทำผิดจริยธรรม การตัดสินใจจัดการบริหารบ้านเมืองตามนโยบาย ก็ย่อมทุจจริต ผิดทำนองคลองธรรมไปด้วยโดยปริยาย

    #ยกตัวอย่าง เช่น
    1)ทำประเทศไทยให้เป็นแหล่งอบายมุขอันดับหนึ่งของโลก
    2)ให้ต่างชาติถือครองที่ดินได้นานถึง 99 ปี
    3)อ้างว่ามีพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล และคิดแบ่งปันทรัพยากรพลังงานกับเพื่อนรัก ฮุนเซน
    4)เอาที่ดินธรณีสงฆ์ มาทำธุรกิจของตน ทั้งที่รู้มาก่อนว่า เป็นที่บริจาคจากยายเนื่อม
    5)เป็น นช.เทวดา แสร้งป่วยทิพย์ ไม่ยอมติดคุก ทั้ง ๆ ที่ได้ยอมรับจากคำขอพระราชทานอภัยโทษมาก่อนแล้ว

    หากนักการเมือง มีจิตสำนึกดี ประเทศจะไม่เดือดร้อน เมื่อเป็นคนไร้ยางอาย ทำเป็นเด็กอมมือ ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี...อย่างนี้แล้ว ประชาชนคนไทยคิดอย่างไร ?
    เราต้องการคนไม่มีจริยธรรมแบบนี้มา บริหารประเทศจริงหรือ ?
    เราหาคนดี คนมีจริยธรรมมาบริหารประเทศของเราไม่ได้แล้ว ?!?!
    หน้าด้านหน้าทนมีอยู่จริง มีให้เห็นแล้ว หลายคนพูดผิดไปแล้ว ทำเหมือนไม่รู้ตัว ทั้ง ๆ ที่ได้ทำกรรมสำเร็จแล้วด้วยวาจา หรือทำวจีกรรมทุจริตเสร็จสิ้นแล้ว ได้แก่ การพูดโกหก ตอแหล บิดเบือน ส่อเสียดให้แตกแยก พูดหยาบ(พูดข้ามขั้นตอนระหว่างปัจจัยที่เป็นเหตุกับปัจจัยที่เกิดจากเหตุ) พูดเพ้อเจ้อ(พูดไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีหลักการ ไม่อาศัยเหตุผล..) ..... เมื่อคนทุจริตทำผิดจริยธรรม การตัดสินใจจัดการบริหารบ้านเมืองตามนโยบาย ก็ย่อมทุจจริต ผิดทำนองคลองธรรมไปด้วยโดยปริยาย #ยกตัวอย่าง เช่น 1)ทำประเทศไทยให้เป็นแหล่งอบายมุขอันดับหนึ่งของโลก 2)ให้ต่างชาติถือครองที่ดินได้นานถึง 99 ปี 3)อ้างว่ามีพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล และคิดแบ่งปันทรัพยากรพลังงานกับเพื่อนรัก ฮุนเซน 4)เอาที่ดินธรณีสงฆ์ มาทำธุรกิจของตน ทั้งที่รู้มาก่อนว่า เป็นที่บริจาคจากยายเนื่อม 5)เป็น นช.เทวดา แสร้งป่วยทิพย์ ไม่ยอมติดคุก ทั้ง ๆ ที่ได้ยอมรับจากคำขอพระราชทานอภัยโทษมาก่อนแล้ว หากนักการเมือง มีจิตสำนึกดี ประเทศจะไม่เดือดร้อน เมื่อเป็นคนไร้ยางอาย ทำเป็นเด็กอมมือ ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี...อย่างนี้แล้ว ประชาชนคนไทยคิดอย่างไร ? เราต้องการคนไม่มีจริยธรรมแบบนี้มา บริหารประเทศจริงหรือ ? เราหาคนดี คนมีจริยธรรมมาบริหารประเทศของเราไม่ได้แล้ว ?!?!
    0 Comments 0 Shares 693 Views 26 0 Reviews