• ทุกวันนี้ศูนย์ข้อมูลระดับโลกมีปัญหาใหญ่มากคือ “ความร้อน” — เพราะเซิร์ฟเวอร์ และโดยเฉพาะชิป AI สมัยใหม่ ร้อนขึ้นทุกปีจนระบบทำความเย็นต้องวิ่งตามแบบหืดขึ้นคอ และตอนนี้การทำความเย็นคิดเป็นเกือบ 40% ของพลังงานทั้งหมดในศูนย์ข้อมูล แล้วด้วยนะ

    ทีม UC San Diego เลยคิด “เราจะลอกระบบระบายความร้อนจากธรรมชาติดีไหม?” พวกเขาเลยสร้างแผ่นไฟเบอร์ที่ใช้กลไกแบบเดียวกับ “เหงื่อของมนุษย์” — คือน้ำถูกดูดขึ้นมาบนพื้นผิวด้วยแรง capillary จากรูเล็ก ๆ แล้วระเหยออกเพื่อพาความร้อนไป ซึ่งไม่ต้องใช้พลังงานอะไรเพิ่มเลย

    ทีมนักวิจัยสามารถทดสอบแผ่นนี้ภายใต้ความร้อนสูงกว่า 800 วัตต์/ตารางเซนติเมตร (ระดับเดียวกับการระบายความร้อนของ GPU/CPU ที่หนักมาก) และพบว่าแผ่นไม่เพียงแต่ทนได้ — แต่ยังระบายความร้อนได้ต่อเนื่องหลายชั่วโมงโดยไม่อุดตันหรือรั่วซึมเหมือนวัสดุแบบเดิม ๆ

    พวกเขากำลังจะพัฒนาต่อไปเป็น cold plate สำหรับชิปโดยตรง และวางแผนจะต่อยอดเชิงพาณิชย์ด้วยบริษัทสตาร์ทอัปเร็ว ๆ นี้

    ✅ ทีม UC San Diego พัฒนาแผ่นไฟเบอร์ระบายความร้อนด้วยการระเหยแบบ passive  
    • เลียนแบบกลไกการระเหยของเหงื่อในสิ่งมีชีวิต  
    • ใช้รูพรุนละเอียดช่วยดูดน้ำขึ้นมาระบายความร้อนโดยไม่ต้องใช้พลังงานเพิ่ม

    ✅ แผ่นสามารถรองรับความร้อนสูงได้ถึง 800 วัตต์/ตารางเซนติเมตร  
    • สูงกว่าการระบายความร้อนทั่วไปหลายเท่า และไม่เกิดการเดือดหรืออุดตัน

    ✅ พัฒนาโดยทีมนักวิจัยนำโดยศาสตราจารย์ Renkun Chen ร่วมกับนักศึกษาปริญญาเอกและนักวิจัยหลังปริญญา  
    • ตีพิมพ์ในวารสาร Joule

    ✅ โครงสร้างของแผ่นมาจากวัสดุที่เคยใช้ในระบบกรองน้ำ  
    • มีรูเชื่อมต่อกัน (interconnected pores) และขนาดรูเหมาะสมเพื่อให้เกิดแรง capillary พอดี

    ✅ เตรียมขยายผลสู่งานจริงโดยต่อยอดเป็น cold plate ติดกับชิป และเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์

    ✅ อาจนำไปใช้กับอุปกรณ์ในระดับ edge computing หรือมือถือได้ในอนาคต  
    • เพราะใช้พลังงานน้อยและมีประสิทธิภาพดีแม้ในพื้นที่จำกัด

    https://www.techradar.com/pro/cooling-data-centers-is-a-multi-billion-dollar-problem-researchers-want-to-use-a-common-cooling-mechanism-found-in-animals-to-solve-that-issue
    ทุกวันนี้ศูนย์ข้อมูลระดับโลกมีปัญหาใหญ่มากคือ “ความร้อน” — เพราะเซิร์ฟเวอร์ และโดยเฉพาะชิป AI สมัยใหม่ ร้อนขึ้นทุกปีจนระบบทำความเย็นต้องวิ่งตามแบบหืดขึ้นคอ และตอนนี้การทำความเย็นคิดเป็นเกือบ 40% ของพลังงานทั้งหมดในศูนย์ข้อมูล แล้วด้วยนะ ทีม UC San Diego เลยคิด “เราจะลอกระบบระบายความร้อนจากธรรมชาติดีไหม?” พวกเขาเลยสร้างแผ่นไฟเบอร์ที่ใช้กลไกแบบเดียวกับ “เหงื่อของมนุษย์” — คือน้ำถูกดูดขึ้นมาบนพื้นผิวด้วยแรง capillary จากรูเล็ก ๆ แล้วระเหยออกเพื่อพาความร้อนไป ซึ่งไม่ต้องใช้พลังงานอะไรเพิ่มเลย ทีมนักวิจัยสามารถทดสอบแผ่นนี้ภายใต้ความร้อนสูงกว่า 800 วัตต์/ตารางเซนติเมตร (ระดับเดียวกับการระบายความร้อนของ GPU/CPU ที่หนักมาก) และพบว่าแผ่นไม่เพียงแต่ทนได้ — แต่ยังระบายความร้อนได้ต่อเนื่องหลายชั่วโมงโดยไม่อุดตันหรือรั่วซึมเหมือนวัสดุแบบเดิม ๆ พวกเขากำลังจะพัฒนาต่อไปเป็น cold plate สำหรับชิปโดยตรง และวางแผนจะต่อยอดเชิงพาณิชย์ด้วยบริษัทสตาร์ทอัปเร็ว ๆ นี้ ✅ ทีม UC San Diego พัฒนาแผ่นไฟเบอร์ระบายความร้อนด้วยการระเหยแบบ passive   • เลียนแบบกลไกการระเหยของเหงื่อในสิ่งมีชีวิต   • ใช้รูพรุนละเอียดช่วยดูดน้ำขึ้นมาระบายความร้อนโดยไม่ต้องใช้พลังงานเพิ่ม ✅ แผ่นสามารถรองรับความร้อนสูงได้ถึง 800 วัตต์/ตารางเซนติเมตร   • สูงกว่าการระบายความร้อนทั่วไปหลายเท่า และไม่เกิดการเดือดหรืออุดตัน ✅ พัฒนาโดยทีมนักวิจัยนำโดยศาสตราจารย์ Renkun Chen ร่วมกับนักศึกษาปริญญาเอกและนักวิจัยหลังปริญญา   • ตีพิมพ์ในวารสาร Joule ✅ โครงสร้างของแผ่นมาจากวัสดุที่เคยใช้ในระบบกรองน้ำ   • มีรูเชื่อมต่อกัน (interconnected pores) และขนาดรูเหมาะสมเพื่อให้เกิดแรง capillary พอดี ✅ เตรียมขยายผลสู่งานจริงโดยต่อยอดเป็น cold plate ติดกับชิป และเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ ✅ อาจนำไปใช้กับอุปกรณ์ในระดับ edge computing หรือมือถือได้ในอนาคต   • เพราะใช้พลังงานน้อยและมีประสิทธิภาพดีแม้ในพื้นที่จำกัด https://www.techradar.com/pro/cooling-data-centers-is-a-multi-billion-dollar-problem-researchers-want-to-use-a-common-cooling-mechanism-found-in-animals-to-solve-that-issue
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • เคยคิดไหมครับว่าสักวันหนึ่งจะมี "หุ่นยนต์แฮกเกอร์" ที่เก่งกว่าคนจริง? วันนั้นมาถึงแล้ว เพราะ Xbow คือ AI ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นแฮกเกอร์มืออาชีพโดยเฉพาะ มันสามารถ “แฮกระบบ” อย่างถูกกฎหมายผ่านการเจาะช่องโหว่ (penetration test) แบบอัตโนมัติ และรายงานเข้าระบบบั๊ก bounty ได้เร็วและแม่นยำกว่าคน

    Xbow เพิ่งขึ้นเป็น อันดับ 1 ในสหรัฐฯ บน HackerOne ซึ่งจัดอันดับจาก “จำนวนช่องโหว่ที่ค้นพบ + ความร้ายแรง” และการที่ “AI” ได้อันดับสูงสุดเป็นครั้งแรกนี้ ก็ทำให้นักลงทุนแห่ให้เงินเพิ่มอีก 75 ล้านดอลลาร์

    แต่นี่ไม่ได้เป็นแค่ความสำเร็จครับ — เพราะผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยหลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า “เรากำลังก้าวสู่ยุคที่เครื่องจักรกำลังแฮกระบบของเครื่องจักรด้วยกันเองหรือเปล่า?” และถ้า AI ฝั่งร้ายพัฒนาเร็วเท่าฝั่งดีล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น…

    ✅ Xbow คือ AI แฮกเกอร์ที่พัฒนาโดยบริษัทชื่อเดียวกัน ก่อตั้งในปี 2024 โดยอดีตผู้บริหาร GitHub  
    • มีทีมพัฒนาเคยทำงานกับ Copilot และ Semmle (บริษัทรักษาความปลอดภัยที่ GitHub เคยซื้อ)

    ✅ Xbow ขึ้นอันดับ 1 ของ HackerOne ในสหรัฐฯ จากคะแนน reputation สูงสุด  
    • เก็บแต้มจากการพบช่องโหว่ที่มีความสำคัญมาก และรายงานสำเร็จ

    ✅ ระดมทุนเพิ่มอีก $75 ล้าน จาก Altimeter Capital, Sequoia และ NFDG  
    • เพื่อขยายระบบ AI ให้ทำงานได้ละเอียดและครอบคลุมมากขึ้น

    ✅ ทำ penetration testing แบบอัตโนมัติ – ใช้เวลาน้อยกว่า และราคาถูกกว่าทีม red team ปกติ  
    • ปกติจ้าง red team ทดสอบ 1 ครั้งเฉลี่ย $18,000 แต่ Xbow ทำได้บ่อยและต่อเนื่อง

    ✅ Xbow ค้นพบช่องโหว่ในบริษัทชื่อดัง เช่น Amazon, Disney, PayPal, Sony  
    • แต่ผู้ใช้งานเป็นองค์กรเท่านั้น ยังไม่เปิดเผยรายชื่อทั้งหมด

    ✅ ทำงานคู่กับ HackerOne ที่ให้มนุษย์รีวิวข้อผิดพลาดที่ AI พบ เพื่อกันไม่ให้เกิด “hallucination”  
    • แยกจริงปลอมก่อนส่งรายงานให้บริษัท

    ✅ ในอนาคต Xbow จะสามารถ “เสนอทางแก้ไข” ให้กับลูกค้าด้วย เช่น แก้โค้ด หรือแนะนำวิธี fix ช่องโหว่  
    • ไม่ใช่แค่หาเจอ แต่ช่วยซ่อมได้ด้วย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/26/one-of-the-best-hackers-in-the-us-is-an-ai-bot
    เคยคิดไหมครับว่าสักวันหนึ่งจะมี "หุ่นยนต์แฮกเกอร์" ที่เก่งกว่าคนจริง? วันนั้นมาถึงแล้ว เพราะ Xbow คือ AI ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นแฮกเกอร์มืออาชีพโดยเฉพาะ มันสามารถ “แฮกระบบ” อย่างถูกกฎหมายผ่านการเจาะช่องโหว่ (penetration test) แบบอัตโนมัติ และรายงานเข้าระบบบั๊ก bounty ได้เร็วและแม่นยำกว่าคน Xbow เพิ่งขึ้นเป็น อันดับ 1 ในสหรัฐฯ บน HackerOne ซึ่งจัดอันดับจาก “จำนวนช่องโหว่ที่ค้นพบ + ความร้ายแรง” และการที่ “AI” ได้อันดับสูงสุดเป็นครั้งแรกนี้ ก็ทำให้นักลงทุนแห่ให้เงินเพิ่มอีก 75 ล้านดอลลาร์ แต่นี่ไม่ได้เป็นแค่ความสำเร็จครับ — เพราะผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยหลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า “เรากำลังก้าวสู่ยุคที่เครื่องจักรกำลังแฮกระบบของเครื่องจักรด้วยกันเองหรือเปล่า?” และถ้า AI ฝั่งร้ายพัฒนาเร็วเท่าฝั่งดีล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น… ✅ Xbow คือ AI แฮกเกอร์ที่พัฒนาโดยบริษัทชื่อเดียวกัน ก่อตั้งในปี 2024 โดยอดีตผู้บริหาร GitHub   • มีทีมพัฒนาเคยทำงานกับ Copilot และ Semmle (บริษัทรักษาความปลอดภัยที่ GitHub เคยซื้อ) ✅ Xbow ขึ้นอันดับ 1 ของ HackerOne ในสหรัฐฯ จากคะแนน reputation สูงสุด   • เก็บแต้มจากการพบช่องโหว่ที่มีความสำคัญมาก และรายงานสำเร็จ ✅ ระดมทุนเพิ่มอีก $75 ล้าน จาก Altimeter Capital, Sequoia และ NFDG   • เพื่อขยายระบบ AI ให้ทำงานได้ละเอียดและครอบคลุมมากขึ้น ✅ ทำ penetration testing แบบอัตโนมัติ – ใช้เวลาน้อยกว่า และราคาถูกกว่าทีม red team ปกติ   • ปกติจ้าง red team ทดสอบ 1 ครั้งเฉลี่ย $18,000 แต่ Xbow ทำได้บ่อยและต่อเนื่อง ✅ Xbow ค้นพบช่องโหว่ในบริษัทชื่อดัง เช่น Amazon, Disney, PayPal, Sony   • แต่ผู้ใช้งานเป็นองค์กรเท่านั้น ยังไม่เปิดเผยรายชื่อทั้งหมด ✅ ทำงานคู่กับ HackerOne ที่ให้มนุษย์รีวิวข้อผิดพลาดที่ AI พบ เพื่อกันไม่ให้เกิด “hallucination”   • แยกจริงปลอมก่อนส่งรายงานให้บริษัท ✅ ในอนาคต Xbow จะสามารถ “เสนอทางแก้ไข” ให้กับลูกค้าด้วย เช่น แก้โค้ด หรือแนะนำวิธี fix ช่องโหว่   • ไม่ใช่แค่หาเจอ แต่ช่วยซ่อมได้ด้วย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/26/one-of-the-best-hackers-in-the-us-is-an-ai-bot
    WWW.THESTAR.COM.MY
    One of the best hackers in the US is an AI bot
    A hacker named Xbow has topped a prestigious security industry US leaderboard that tracks who has found and reported the most vulnerabilities in software from large companies. Xbow isn't a person – it's an artificial intelligence tool developed by a company of the same name.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • ย้อนกลับไปปี 2019 Microsoft ลงเงิน $1,000 ล้านเพื่อหนุน OpenAI และให้บริการบน Azure — จนกลายเป็นหุ้นส่วนหลักของกันและกันมาจนถึงทุกวันนี้

    แต่ล่าสุดมีรายงานจาก The Information ว่าในสัญญาระหว่างสองฝ่าย มีข้อกำหนดหนึ่งที่เริ่ม “ขัดกันอย่างแรง” — ข้อกำหนดนั้นคือ:

    > “เมื่อ OpenAI สร้าง AGI ได้ Microsoft จะ ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงเทคโนโลยีนั้นอีกต่อไป”

    ใช่ครับ…ต่อให้ Microsoft เป็นผู้ลงทุนใหญ่ และใช้ GPT ในบริการทั่วโลก พวกเขาก็จะถูก “ตัดสิทธิ์” เมื่อ AGI เกิดขึ้นจริง

    แน่นอนว่า Microsoft ไม่พอใจ จึงพยายามเจรจาขอแก้ไขเงื่อนไข แต่ฝั่ง OpenAI ยังยืนกรานไม่ยอมเปลี่ยนแปลง — ความตึงเครียดเลยเกิดขึ้นกลางความสัมพันธ์ที่เคยแน่นแฟ้น

    เรื่องนี้ยังเชื่อมโยงกับการที่ OpenAI กำลังจะเปลี่ยนสถานะเป็น “Public-Benefit Corporation” ซึ่งต้องอาศัยความเห็นชอบจาก Microsoft — แต่ก็ยังตกลงรายละเอียดกันไม่ได้ แม้จะคุยกันมาหลายเดือนแล้วก็ตาม

    ✅ OpenAI และ Microsoft กำลังมีข้อขัดแย้งเรื่อง “สิทธิ์เข้าถึงเทคโนโลยี AGI” ตามข้อตกลงเดิม  
    • เมื่อ OpenAI พัฒนา AGI ได้ Microsoft จะหมดสิทธิ์ใช้เทคโนโลยีนั้น  
    • Microsoft ต้องการเปลี่ยนเงื่อนไข แต่ OpenAI ไม่ยอม

    ✅ ทั้งสองฝ่ายออกแถลงการณ์ร่วมว่า “ความร่วมมือยังต่อเนื่องอยู่” และ “กำลังพูดคุยกันอย่างสร้างสรรค์”  
    • แต่รายงานระบุว่าความสัมพันธ์เริ่ม “มีรอยร้าว” ชัดเจน

    ✅ OpenAI ต้องการเปลี่ยนสถานะเป็น Public-Benefit Corporation  
    • กระบวนการนี้ต้องได้รับความเห็นชอบจาก Microsoft ซึ่งยังตกลงกันไม่ได้

    ✅ Microsoft ลงทุนใน OpenAI มาตั้งแต่ปี 2019 ด้วยเงิน $1 พันล้าน + ให้บริการผ่าน Azure AI  
    • ถือเป็นพันธมิตรที่สำคัญที่สุดของกันและกัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/26/microsoft-and-openai-dueling-over-artificial-general-intelligence-the-information-reports
    ย้อนกลับไปปี 2019 Microsoft ลงเงิน $1,000 ล้านเพื่อหนุน OpenAI และให้บริการบน Azure — จนกลายเป็นหุ้นส่วนหลักของกันและกันมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ล่าสุดมีรายงานจาก The Information ว่าในสัญญาระหว่างสองฝ่าย มีข้อกำหนดหนึ่งที่เริ่ม “ขัดกันอย่างแรง” — ข้อกำหนดนั้นคือ: > “เมื่อ OpenAI สร้าง AGI ได้ Microsoft จะ ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงเทคโนโลยีนั้นอีกต่อไป” ใช่ครับ…ต่อให้ Microsoft เป็นผู้ลงทุนใหญ่ และใช้ GPT ในบริการทั่วโลก พวกเขาก็จะถูก “ตัดสิทธิ์” เมื่อ AGI เกิดขึ้นจริง แน่นอนว่า Microsoft ไม่พอใจ จึงพยายามเจรจาขอแก้ไขเงื่อนไข แต่ฝั่ง OpenAI ยังยืนกรานไม่ยอมเปลี่ยนแปลง — ความตึงเครียดเลยเกิดขึ้นกลางความสัมพันธ์ที่เคยแน่นแฟ้น เรื่องนี้ยังเชื่อมโยงกับการที่ OpenAI กำลังจะเปลี่ยนสถานะเป็น “Public-Benefit Corporation” ซึ่งต้องอาศัยความเห็นชอบจาก Microsoft — แต่ก็ยังตกลงรายละเอียดกันไม่ได้ แม้จะคุยกันมาหลายเดือนแล้วก็ตาม ✅ OpenAI และ Microsoft กำลังมีข้อขัดแย้งเรื่อง “สิทธิ์เข้าถึงเทคโนโลยี AGI” ตามข้อตกลงเดิม   • เมื่อ OpenAI พัฒนา AGI ได้ Microsoft จะหมดสิทธิ์ใช้เทคโนโลยีนั้น   • Microsoft ต้องการเปลี่ยนเงื่อนไข แต่ OpenAI ไม่ยอม ✅ ทั้งสองฝ่ายออกแถลงการณ์ร่วมว่า “ความร่วมมือยังต่อเนื่องอยู่” และ “กำลังพูดคุยกันอย่างสร้างสรรค์”   • แต่รายงานระบุว่าความสัมพันธ์เริ่ม “มีรอยร้าว” ชัดเจน ✅ OpenAI ต้องการเปลี่ยนสถานะเป็น Public-Benefit Corporation   • กระบวนการนี้ต้องได้รับความเห็นชอบจาก Microsoft ซึ่งยังตกลงกันไม่ได้ ✅ Microsoft ลงทุนใน OpenAI มาตั้งแต่ปี 2019 ด้วยเงิน $1 พันล้าน + ให้บริการผ่าน Azure AI   • ถือเป็นพันธมิตรที่สำคัญที่สุดของกันและกัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/26/microsoft-and-openai-dueling-over-artificial-general-intelligence-the-information-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Microsoft and OpenAI dueling over artificial general intelligence, The Information reports
    (Reuters) -Microsoft and OpenAI are at odds over a contractual provision related to artificial general intelligence, The Information reported on Wednesday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • หั่นกระท้อนแช่อิ่มไวสุด ๆ! ✨
    หั่นเนื้อผลไม้ได้เร็ว เท่ากัน สวยงาม ไม่เละ
    เหมาะกับการผลิต “กระท้อนแช่อิ่ม” ปริมาณมาก
    ใช้งานง่าย ปลอดภัย มีถาดกันมือ พร้อมล้อเลื่อนเคลื่อนย้ายสะดวก

    ✅ จุดเด่นของเครื่องนี้

    📌 โครงสร้าง สแตนเลส แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นานหลายปี
    📌 หั่นไวต่อเนื่อง 200-300 กก./ชั่วโมง เหมาะกับสายแปรรูปขาย
    📌 ใบมีด แท่งคู่แนวตั้ง หั่นได้ “เท่ากันทุกชิ้น” ไม่เละ ไม่เสียเนื้อ
    📌 มี ถาดกันมือ (Safety) เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้
    📌 มีล้อเลื่อน 4 จุด เคลื่อนย้ายสะดวก ไม่ต้องยกให้เมื่อย
    📌 ทำความสะอาดง่าย แยกชิ้นส่วนได้ ไม่ยุ่งยาก
    📌 หั่นกระท้อนแช่อิ่มได้ "พอดีคำ" พร้อมจัดแพ็คขายหรือดองทันที!

    🔧 ข้อมูลทางเทคนิค
    - มอเตอร์: 1.5 แรงม้า
    - กระแสไฟ: 220 โวลต์ (ไฟบ้านทั่วไป)
    - ขนาดเครื่อง: 38.5 x 68 x 81 ซม.
    - น้ำหนัก: 65 กิโลกรัม
    - กำลังผลิต: 200-300 กก./ชั่วโมง

    สนใจสินค้าเครื่องไหน สามารถเข้ามาดูที่ร้านได้เลยนะคะ
    เวลาเปิดทำการ :
    จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00
    และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00
    แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7

    #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼‼
    ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน
    m.me/yonghahheng👈👈 แชทเลย
    LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า)
    หรือ https://lin.ee/5H812n9
    02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    www.yoryonghahheng.com
    E-mail : sales@yoryonghahheng.com
    yonghahheng@gmail.com

    #เครื่องหั่นกระท้อน #เครื่องหั่นผลไม้ #เครื่องหั่นแช่อิ่ม #เครื่องหั่นผลไม้แปรรูป #กระท้อนแช่อิ่ม #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #หั่นกระท้อนเร็ว #เครื่องหั่นผลไม้ดอง #เครื่องหั่นเชิงพาณิชย์ #เครื่องหั่นอุตสาหกรรม #แปรรูปผลไม้ #กระท้อนดอง #กระท้อนแช่อิ่ม #กระท้อนแช่อิ่มโบราณ #กระท้อนแช่อิ่มสูตรดั้งเดิม #กระท้อนแช่อิ่มหวานเย็น #กระท้อนแช่อิ่มขายดี #ผลไม้แช่อิ่ม #ของกินเล่น #ของกินอร่อย #ผลไม้แปรรูป #ของฝากขึ้นชื่อ #กระท้อนดอง #แช่อิ่มทำขาย #กระท้อนพร้อมทาน
    หั่นกระท้อนแช่อิ่มไวสุด ๆ! ✨ หั่นเนื้อผลไม้ได้เร็ว เท่ากัน สวยงาม ไม่เละ เหมาะกับการผลิต “กระท้อนแช่อิ่ม” ปริมาณมาก ใช้งานง่าย ปลอดภัย มีถาดกันมือ พร้อมล้อเลื่อนเคลื่อนย้ายสะดวก ✅ จุดเด่นของเครื่องนี้ 📌 โครงสร้าง สแตนเลส แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นานหลายปี 📌 หั่นไวต่อเนื่อง 200-300 กก./ชั่วโมง เหมาะกับสายแปรรูปขาย 📌 ใบมีด แท่งคู่แนวตั้ง หั่นได้ “เท่ากันทุกชิ้น” ไม่เละ ไม่เสียเนื้อ 📌 มี ถาดกันมือ (Safety) เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ 📌 มีล้อเลื่อน 4 จุด เคลื่อนย้ายสะดวก ไม่ต้องยกให้เมื่อย 📌 ทำความสะอาดง่าย แยกชิ้นส่วนได้ ไม่ยุ่งยาก 📌 หั่นกระท้อนแช่อิ่มได้ "พอดีคำ" พร้อมจัดแพ็คขายหรือดองทันที! 🔧 ข้อมูลทางเทคนิค - มอเตอร์: 1.5 แรงม้า - กระแสไฟ: 220 โวลต์ (ไฟบ้านทั่วไป) - ขนาดเครื่อง: 38.5 x 68 x 81 ซม. - น้ำหนัก: 65 กิโลกรัม - กำลังผลิต: 200-300 กก./ชั่วโมง สนใจสินค้าเครื่องไหน สามารถเข้ามาดูที่ร้านได้เลยนะคะ เวลาเปิดทำการ : จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00 แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼‼ ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน m.me/yonghahheng👈👈 แชทเลย LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือ https://lin.ee/5H812n9 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 www.yoryonghahheng.com E-mail : sales@yoryonghahheng.com yonghahheng@gmail.com #เครื่องหั่นกระท้อน #เครื่องหั่นผลไม้ #เครื่องหั่นแช่อิ่ม #เครื่องหั่นผลไม้แปรรูป #กระท้อนแช่อิ่ม #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #หั่นกระท้อนเร็ว #เครื่องหั่นผลไม้ดอง #เครื่องหั่นเชิงพาณิชย์ #เครื่องหั่นอุตสาหกรรม #แปรรูปผลไม้ #กระท้อนดอง #กระท้อนแช่อิ่ม #กระท้อนแช่อิ่มโบราณ #กระท้อนแช่อิ่มสูตรดั้งเดิม #กระท้อนแช่อิ่มหวานเย็น #กระท้อนแช่อิ่มขายดี #ผลไม้แช่อิ่ม #ของกินเล่น #ของกินอร่อย #ผลไม้แปรรูป #ของฝากขึ้นชื่อ #กระท้อนดอง #แช่อิ่มทำขาย #กระท้อนพร้อมทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดงบกว่า 5 แสนบาท ขยายโอกาส สร้างอาชีพ สร้างชีวิตอย่างเท่าเทียม แก่ชาวขอนแก่นต่อเนื่อง
    มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ มอบวีลแชร์แก่ผู้พิการ มอบจักรยานให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ชนบท และมอบหุ่นจำลองช่วยฟื้นคืนชีพผู้ใหญ่และเครื่องช่วยสาธิตกระตุกไฟฟ้าหัวใจ พร้อมนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการฟรี
    .
    วานนี้ (วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นางจินดา บุญลาภทวีโชค กรรมการตรวจสอบ นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และนางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่นอีกครั้ง โดยมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ จำนวน 20 ราย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 397,610 บาท เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังจัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ ทีมบรรเทาสาธารณภัย (กู้ชีพ) และอาสาสมัครออกหน่วยให้บริการประชาชนในพื้นที่ฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ พร้อมกันนี้ มูลนิธิฯ ยังได้มอบหุ่นจำลองช่วยฟื้นคืนชีพผู้ใหญ่และเครื่องช่วยสาธิตกระตุกไฟฟ้าหัวใจ จำนวน 2 ชุด (4 ชิ้น) ในโครงการ “สนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์” ให้แก่ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวรัตนาภา เพื่อใช้ในหลักสูตรฝึกอบรมทักษะอาชีพดูแลผู้สูงอายุ รวมทั้ง มอบรถเข็นวีลแชร์แก่ผู้พิการ จำนวน 10 ราย และมอบรถจักรยานแก่โรงเรียนชนบทที่ขาดแคลน จำนวน 2 โรงเรียน รวม 20 คัน เพื่อให้นักเรียนที่ประสบปัญหาในการเดินทางได้ยืมเรียน รวมถึงเป็นการแบ่งเบาภาระค่าพาหนะแก่ผู้ปกครองได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังเสริมสร้างให้นักเรียนได้ออกกำลังกาย เรียนรู้กฎจราจร เรียนรู้การแบ่งปัน และดูแลรักษาสาธารณสมบัติร่วมกัน รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือชาวขอนแก่นในครั้งนี้ทั้งสิ้น 596,362 บาท (ห้าแสนเก้าหมื่นหกพันสามร้อยหกสิบสองบาทถ้วน) โดยมี ผศ.ดร.พนธ์พันธ์ เลิศจันทรางกูร ที่ปรึกษาอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว พร้อมด้วย นายสงวน สุธรรม ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 5 นางสาวศุภวรรณ ขูดแก้ว ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ และอาสาสมัครเฉพาะกิจมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมในพิธี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวรัตนาภา จังหวัดขอนแก่น
    .
    นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการ ส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ ในการประกอบอาชีพ โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก ในการคัดกรองผู้ที่ผ่านการฝึกอบรม เสริมทักษะอาชีพ โดยมูลนิธิฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินการโครงการดังกล่าวนี้ จะมีส่วนสนับสนุน ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ เลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##
    #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดงบกว่า 5 แสนบาท ขยายโอกาส สร้างอาชีพ สร้างชีวิตอย่างเท่าเทียม แก่ชาวขอนแก่นต่อเนื่อง มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ มอบวีลแชร์แก่ผู้พิการ มอบจักรยานให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ชนบท และมอบหุ่นจำลองช่วยฟื้นคืนชีพผู้ใหญ่และเครื่องช่วยสาธิตกระตุกไฟฟ้าหัวใจ พร้อมนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการฟรี . วานนี้ (วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นางจินดา บุญลาภทวีโชค กรรมการตรวจสอบ นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และนางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่นอีกครั้ง โดยมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ จำนวน 20 ราย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 397,610 บาท เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังจัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ ทีมบรรเทาสาธารณภัย (กู้ชีพ) และอาสาสมัครออกหน่วยให้บริการประชาชนในพื้นที่ฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ พร้อมกันนี้ มูลนิธิฯ ยังได้มอบหุ่นจำลองช่วยฟื้นคืนชีพผู้ใหญ่และเครื่องช่วยสาธิตกระตุกไฟฟ้าหัวใจ จำนวน 2 ชุด (4 ชิ้น) ในโครงการ “สนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์” ให้แก่ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวรัตนาภา เพื่อใช้ในหลักสูตรฝึกอบรมทักษะอาชีพดูแลผู้สูงอายุ รวมทั้ง มอบรถเข็นวีลแชร์แก่ผู้พิการ จำนวน 10 ราย และมอบรถจักรยานแก่โรงเรียนชนบทที่ขาดแคลน จำนวน 2 โรงเรียน รวม 20 คัน เพื่อให้นักเรียนที่ประสบปัญหาในการเดินทางได้ยืมเรียน รวมถึงเป็นการแบ่งเบาภาระค่าพาหนะแก่ผู้ปกครองได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังเสริมสร้างให้นักเรียนได้ออกกำลังกาย เรียนรู้กฎจราจร เรียนรู้การแบ่งปัน และดูแลรักษาสาธารณสมบัติร่วมกัน รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือชาวขอนแก่นในครั้งนี้ทั้งสิ้น 596,362 บาท (ห้าแสนเก้าหมื่นหกพันสามร้อยหกสิบสองบาทถ้วน) โดยมี ผศ.ดร.พนธ์พันธ์ เลิศจันทรางกูร ที่ปรึกษาอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว พร้อมด้วย นายสงวน สุธรรม ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 5 นางสาวศุภวรรณ ขูดแก้ว ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ และอาสาสมัครเฉพาะกิจมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมในพิธี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวรัตนาภา จังหวัดขอนแก่น . นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการ ส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ ในการประกอบอาชีพ โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก ในการคัดกรองผู้ที่ผ่านการฝึกอบรม เสริมทักษะอาชีพ โดยมูลนิธิฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินการโครงการดังกล่าวนี้ จะมีส่วนสนับสนุน ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ เลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฟังดูเหมือน Sci-Fi เลยใช่ไหมครับ? X Display คือบริษัทจาก North Carolina ที่ทำเทคโนโลยี MicroLED แต่รอบนี้เขาเอา “แนวคิดจอแสดงผล” มาประยุกต์ใหม่ ไม่ได้ไว้โชว์ภาพให้คนดู แต่กลายเป็นช่องสื่อสารสำหรับ เครื่องคุยกับเครื่อง

    ระบบนี้ประกอบด้วย:
    - ตัวส่งข้อมูล: ใช้ emitters หลายพันตัว ส่งแสงหลายความยาวคลื่นพร้อมกัน → เขียนข้อมูลเป็น “เฟรมของแสง” ต่อเนื่อง
    - ตัวรับข้อมูล: กล้องความเร็วสูงพิเศษ (เหมือน “ตา” ของอีกเครื่อง) จับเฟรมแสง แล้วแปลงกลับเป็นดิจิทัลอีกที

    ผลลัพธ์คือการส่งข้อมูลแบบไร้สายในศูนย์ข้อมูลความเร็วสูง โดย ไม่ต้องใช้สาย fiber เลย และทาง X Display เคลมว่า "ประหยัดพลังงานกว่าทรานซีฟเวอร์ 800G แบบดั้งเดิม 2–3 เท่า"

    เทคโนโลยีนี้ไม่เหมาะกับเกมเมอร์หรืองานกราฟิกทั่วไป — แต่มาเพื่องานใหญ่อย่าง AI data center, supercomputer clusters, optical networking และ ระบบ LiFi (ส่งข้อมูลผ่านแสง)

    https://www.techspot.com/news/108424-x-display-made-ultra-fast-cable-free-display.html
    ฟังดูเหมือน Sci-Fi เลยใช่ไหมครับ? X Display คือบริษัทจาก North Carolina ที่ทำเทคโนโลยี MicroLED แต่รอบนี้เขาเอา “แนวคิดจอแสดงผล” มาประยุกต์ใหม่ ไม่ได้ไว้โชว์ภาพให้คนดู แต่กลายเป็นช่องสื่อสารสำหรับ เครื่องคุยกับเครื่อง ระบบนี้ประกอบด้วย: - ตัวส่งข้อมูล: ใช้ emitters หลายพันตัว ส่งแสงหลายความยาวคลื่นพร้อมกัน → เขียนข้อมูลเป็น “เฟรมของแสง” ต่อเนื่อง - ตัวรับข้อมูล: กล้องความเร็วสูงพิเศษ (เหมือน “ตา” ของอีกเครื่อง) จับเฟรมแสง แล้วแปลงกลับเป็นดิจิทัลอีกที ผลลัพธ์คือการส่งข้อมูลแบบไร้สายในศูนย์ข้อมูลความเร็วสูง โดย ไม่ต้องใช้สาย fiber เลย และทาง X Display เคลมว่า "ประหยัดพลังงานกว่าทรานซีฟเวอร์ 800G แบบดั้งเดิม 2–3 เท่า" เทคโนโลยีนี้ไม่เหมาะกับเกมเมอร์หรืองานกราฟิกทั่วไป — แต่มาเพื่องานใหญ่อย่าง AI data center, supercomputer clusters, optical networking และ ระบบ LiFi (ส่งข้อมูลผ่านแสง) https://www.techspot.com/news/108424-x-display-made-ultra-fast-cable-free-display.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    X Display unveils ultra-fast, cable-free display that turns data into light
    X Display is focused on developing and licensing new intellectual property related to MicroLED and other display technologies. The North Carolina-based developer recently unveiled a novel application...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอนแรกหลายองค์กรคิดว่า “ระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่แล้ว” น่าจะพอเอาอยู่กับ AI — เพราะก็มี patch, มี asset inventory, มี firewall อยู่แล้ว แต่วันนี้กลายเป็นว่า... AI คือสัตว์คนละสายพันธุ์เลยครับ

    เพราะ AI ขยายพื้นที่โจมตีออกไปถึง API, third-party, supply chain และยังมีความเสี่ยงใหม่แบบเฉพาะตัว เช่น model poisoning, prompt injection, data inference ซึ่งไม่เคยต้องรับมือในโลก legacy มาก่อน

    และแม้ว่าองค์กรจะลงทุนกับ AI อย่างหนัก แต่เกือบครึ่ง (46%) ของโครงการ AI ถูกหยุดกลางคันหรือไม่เคยได้ไปถึง production ด้วยซ้ำ — ส่วนใหญ่เกิดจากความล้มเหลวในด้าน governance, ความเสี่ยง, ข้อมูลไม่สะอาด และขาดทีมที่เข้าใจ AI จริง ๆ

    ข่าวนี้จึงเสนอบทบาทใหม่ 5 แบบที่ CISO ต้องกลายร่างเป็น: “นักกฎหมาย, นักวิเคราะห์, ครู, นักวิจัย และนักสร้างพันธมิตร”

    ✅ 5 ขั้นตอนสำคัญที่ CISO ต้องทำเพื่อรักษาความปลอดภัยของ AI:
    ✅ 1. เริ่มทุกอย่างด้วยโมเดล AI Governance ที่แข็งแรงและครอบคลุม  
    • ต้องมี alignment ระหว่างทีมธุรกิจ–เทคโนโลยีว่า AI จะใช้ทำอะไร และใช้อย่างไร  
    • สร้าง framework ที่รวม ethics, compliance, transparency และ success metrics  
    • ใช้แนวทางจาก NIST AI RMF, ISO/IEC 42001:2023, UNESCO AI Ethics, RISE และ CARE

    ✅ 2. พัฒนา “มุมมองความเสี่ยงของ AI” ที่ต่อเนื่องและลึกกว่าระบบปกติ  
    • สร้าง AI asset inventory, risk register, และ software bill of materials  
    • ติดตามภัยคุกคามเฉพาะ AI เช่น data leakage, model drift, prompt injection  
    • ใช้ MITRE ATLAS และตรวจสอบ vendor + third-party supply chain อย่างใกล้ชิด

    ✅ 3. ขยายนิยาม “data integrity” ให้ครอบคลุมถึงโมเดล AI ด้วย  
    • ไม่ใช่แค่ข้อมูลไม่โดนแก้ไข แต่รวมถึง bias, fairness และ veracity  
    • เช่นเคยมีกรณี Amazon และ UK ใช้ AI ที่กลายเป็นอคติทางเพศและสีผิว

    ✅ 4. ยกระดับ “AI literacy” ให้ทั้งองค์กรเข้าใจและใช้งานอย่างปลอดภัย  
    • เริ่มจากทีม Security → Dev → ฝ่ายธุรกิจ  
    • สอน OWASP Top 10 for LLMs, Google’s SAIF, CSA Secure AI  
    • End user ต้องรู้เรื่อง misuse, data leak และ deepfake ด้วย

    ✅ 5. มอง AI Security แบบ “ผู้ช่วย” ไม่ใช่ “อัตโนมัติเต็มขั้น”  
    • ใช้ AI ช่วย triage alert, คัด log, วิเคราะห์ risk score แต่ยังต้องมีคนคุม  
    • พิจารณาผู้ให้บริการ AI Security อย่างรอบคอบ เพราะหลายเจ้าแค่ “แปะป้าย AI” แต่ยังไม่ mature

    https://www.csoonline.com/article/4011384/the-cisos-5-step-guide-to-securing-ai-operations.html
    ตอนแรกหลายองค์กรคิดว่า “ระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่แล้ว” น่าจะพอเอาอยู่กับ AI — เพราะก็มี patch, มี asset inventory, มี firewall อยู่แล้ว แต่วันนี้กลายเป็นว่า... AI คือสัตว์คนละสายพันธุ์เลยครับ เพราะ AI ขยายพื้นที่โจมตีออกไปถึง API, third-party, supply chain และยังมีความเสี่ยงใหม่แบบเฉพาะตัว เช่น model poisoning, prompt injection, data inference ซึ่งไม่เคยต้องรับมือในโลก legacy มาก่อน และแม้ว่าองค์กรจะลงทุนกับ AI อย่างหนัก แต่เกือบครึ่ง (46%) ของโครงการ AI ถูกหยุดกลางคันหรือไม่เคยได้ไปถึง production ด้วยซ้ำ — ส่วนใหญ่เกิดจากความล้มเหลวในด้าน governance, ความเสี่ยง, ข้อมูลไม่สะอาด และขาดทีมที่เข้าใจ AI จริง ๆ ข่าวนี้จึงเสนอบทบาทใหม่ 5 แบบที่ CISO ต้องกลายร่างเป็น: “นักกฎหมาย, นักวิเคราะห์, ครู, นักวิจัย และนักสร้างพันธมิตร” ✅ 5 ขั้นตอนสำคัญที่ CISO ต้องทำเพื่อรักษาความปลอดภัยของ AI: ✅ 1. เริ่มทุกอย่างด้วยโมเดล AI Governance ที่แข็งแรงและครอบคลุม   • ต้องมี alignment ระหว่างทีมธุรกิจ–เทคโนโลยีว่า AI จะใช้ทำอะไร และใช้อย่างไร   • สร้าง framework ที่รวม ethics, compliance, transparency และ success metrics   • ใช้แนวทางจาก NIST AI RMF, ISO/IEC 42001:2023, UNESCO AI Ethics, RISE และ CARE ✅ 2. พัฒนา “มุมมองความเสี่ยงของ AI” ที่ต่อเนื่องและลึกกว่าระบบปกติ   • สร้าง AI asset inventory, risk register, และ software bill of materials   • ติดตามภัยคุกคามเฉพาะ AI เช่น data leakage, model drift, prompt injection   • ใช้ MITRE ATLAS และตรวจสอบ vendor + third-party supply chain อย่างใกล้ชิด ✅ 3. ขยายนิยาม “data integrity” ให้ครอบคลุมถึงโมเดล AI ด้วย   • ไม่ใช่แค่ข้อมูลไม่โดนแก้ไข แต่รวมถึง bias, fairness และ veracity   • เช่นเคยมีกรณี Amazon และ UK ใช้ AI ที่กลายเป็นอคติทางเพศและสีผิว ✅ 4. ยกระดับ “AI literacy” ให้ทั้งองค์กรเข้าใจและใช้งานอย่างปลอดภัย   • เริ่มจากทีม Security → Dev → ฝ่ายธุรกิจ   • สอน OWASP Top 10 for LLMs, Google’s SAIF, CSA Secure AI   • End user ต้องรู้เรื่อง misuse, data leak และ deepfake ด้วย ✅ 5. มอง AI Security แบบ “ผู้ช่วย” ไม่ใช่ “อัตโนมัติเต็มขั้น”   • ใช้ AI ช่วย triage alert, คัด log, วิเคราะห์ risk score แต่ยังต้องมีคนคุม   • พิจารณาผู้ให้บริการ AI Security อย่างรอบคอบ เพราะหลายเจ้าแค่ “แปะป้าย AI” แต่ยังไม่ mature https://www.csoonline.com/article/4011384/the-cisos-5-step-guide-to-securing-ai-operations.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    The CISO’s 5-step guide to securing AI operations
    Security leaders must become AI cheerleaders, risk experts, data stewards, teachers, and researchers. Here’s how to lead your organization toward more secure and effective AI use.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกีจะขอพบกับประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐในวันพุธในระหว่างการประชุมสุดยอดนาโตสัปดาห์นี้ การหารือคาดว่าจะเน้นไปที่การขอให้สนับสนุนยูเครนอย่างต่อเนื่องของสหรัฐและการคว่ำบาตรรัสเซีย

    ทางด้านประธานาธิบดีทรัมป์ยังไม่ได้เสนอความช่วยเหลือใดๆเพิ่มเติมให้กับยูเครน เพราะความช่วยเหลือที่สหรัฐส่งไปยังยูเครนขณะนี้ ซึ่งได้รับการอนุมัติไว้ตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีไบเดนดูเหมือนว่าแค่นั้นจะเพียงพอแล้ว
    เซเลนสกีจะขอพบกับประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐในวันพุธในระหว่างการประชุมสุดยอดนาโตสัปดาห์นี้ การหารือคาดว่าจะเน้นไปที่การขอให้สนับสนุนยูเครนอย่างต่อเนื่องของสหรัฐและการคว่ำบาตรรัสเซีย ทางด้านประธานาธิบดีทรัมป์ยังไม่ได้เสนอความช่วยเหลือใดๆเพิ่มเติมให้กับยูเครน เพราะความช่วยเหลือที่สหรัฐส่งไปยังยูเครนขณะนี้ ซึ่งได้รับการอนุมัติไว้ตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีไบเดนดูเหมือนว่าแค่นั้นจะเพียงพอแล้ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ กล่าวเมื่อวันอังคารว่ามีการละเมิดการหยุดยิงกันทั้งสองฝ่ายที่ทรัมป์เป็นคนกลาง ทรัมป์กล่าว

    และยังกล่าวต่ออีกว่า เขาไม่พอใจอิหร่านเช่นกัน แต่ "ไม่พอใจอิสราเอลมากกว่า"

    ทรัมป์กล่าวว่า "ผมไม่ชอบที่อิสราเอล 'ยิงส่งท้าย' ทันทีหลังจากตกลงหยุดยิง"

    เขายังกล่าวอีกว่าโครงการผลิตนิวเคลียร์ของอิหร่านได้ถูกทำลายไปแล้ว "กำลังการผลิตนิวเคลียร์ของอิหร่านหายไปแล้ว และอิหร่านจะไม่มีวันสร้างโครงการนิวเคลียร์ของตนขึ้นมาใหม่ได้อีก"

    👉ช่วงที่ทรัมป์โพสต์ข้อความว่าทั้งสองฝ่ายตกลงหยุดยิงกันได้แล้ว อิสราเอลโจมตีทางอากาศใส่อิหร่านอย่างรุนแรงต่อเนื่องนับชั่วโมง

    👉หลังจากนั้นต่อมาช่วงเช้า อิหร่านจึงทำการตอบโต้อิสราเอลไปหลายระลอก
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ กล่าวเมื่อวันอังคารว่ามีการละเมิดการหยุดยิงกันทั้งสองฝ่ายที่ทรัมป์เป็นคนกลาง ทรัมป์กล่าว และยังกล่าวต่ออีกว่า เขาไม่พอใจอิหร่านเช่นกัน แต่ "ไม่พอใจอิสราเอลมากกว่า" ทรัมป์กล่าวว่า "ผมไม่ชอบที่อิสราเอล 'ยิงส่งท้าย' ทันทีหลังจากตกลงหยุดยิง" เขายังกล่าวอีกว่าโครงการผลิตนิวเคลียร์ของอิหร่านได้ถูกทำลายไปแล้ว "กำลังการผลิตนิวเคลียร์ของอิหร่านหายไปแล้ว และอิหร่านจะไม่มีวันสร้างโครงการนิวเคลียร์ของตนขึ้นมาใหม่ได้อีก" 👉ช่วงที่ทรัมป์โพสต์ข้อความว่าทั้งสองฝ่ายตกลงหยุดยิงกันได้แล้ว อิสราเอลโจมตีทางอากาศใส่อิหร่านอย่างรุนแรงต่อเนื่องนับชั่วโมง 👉หลังจากนั้นต่อมาช่วงเช้า อิหร่านจึงทำการตอบโต้อิสราเอลไปหลายระลอก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าปีที่แล้วเราพูดถึงว่าใครครองตลาด AI วันนี้เราพูดถึงว่า…ใคร “ดูแลความเสี่ยงจาก AI” ได้ดีที่สุดแทนครับ และ Microsoft ก็ต้องการพิสูจน์ว่าเขาไม่ใช่แค่เจ้าของ Copilot หรือ Azure AI เท่านั้น — แต่ยังเป็น “ผู้นำด้านการพัฒนา AI ที่ไม่ปล่อยให้มันหลุดมือ”

    ในรายงานนี้ (ฉบับที่ 2 ต่อจากฉบับแรกในเดือนพฤษภาคม 2024) Microsoft เน้นประเด็นสำคัญ 3 ด้าน:
    1️⃣ ลงทุนในการบริหารความเสี่ยงด้าน AI ทั้งที่เป็นข้อความ ภาพ เสียง วิดีโอ และระบบ AI เชิงเอเจนต์ (agentic systems)
    2️⃣ เตรียมรับกฎใหม่ เช่น EU AI Act อย่างเป็นระบบ พร้อมจัดทำเอกสารและแนวทางให้ลูกค้านำไปใช้เพื่อให้ปฏิบัติตามได้จริง
    3️⃣ สร้างทีมและเครื่องมือ เช่น AI Frontiers Lab ที่เน้นการทดลอง ระบบ red team และการวัดความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง

    Microsoft ยังประกาศชัดว่า จะ “ลงทุนอย่างต่อเนื่องในเครื่องมือวัดความเสี่ยงแบบปฏิบัติได้จริง (risk measurement and tooling at scale)” และจะ “เปิดเผยสิ่งที่เรียนรู้ให้ชุมชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ” ด้วย

    https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-says-responsible-ai-is-now-its-biggest-priority-but-what-does-this-look-like
    ถ้าปีที่แล้วเราพูดถึงว่าใครครองตลาด AI วันนี้เราพูดถึงว่า…ใคร “ดูแลความเสี่ยงจาก AI” ได้ดีที่สุดแทนครับ และ Microsoft ก็ต้องการพิสูจน์ว่าเขาไม่ใช่แค่เจ้าของ Copilot หรือ Azure AI เท่านั้น — แต่ยังเป็น “ผู้นำด้านการพัฒนา AI ที่ไม่ปล่อยให้มันหลุดมือ” ในรายงานนี้ (ฉบับที่ 2 ต่อจากฉบับแรกในเดือนพฤษภาคม 2024) Microsoft เน้นประเด็นสำคัญ 3 ด้าน: 1️⃣ ลงทุนในการบริหารความเสี่ยงด้าน AI ทั้งที่เป็นข้อความ ภาพ เสียง วิดีโอ และระบบ AI เชิงเอเจนต์ (agentic systems) 2️⃣ เตรียมรับกฎใหม่ เช่น EU AI Act อย่างเป็นระบบ พร้อมจัดทำเอกสารและแนวทางให้ลูกค้านำไปใช้เพื่อให้ปฏิบัติตามได้จริง 3️⃣ สร้างทีมและเครื่องมือ เช่น AI Frontiers Lab ที่เน้นการทดลอง ระบบ red team และการวัดความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง Microsoft ยังประกาศชัดว่า จะ “ลงทุนอย่างต่อเนื่องในเครื่องมือวัดความเสี่ยงแบบปฏิบัติได้จริง (risk measurement and tooling at scale)” และจะ “เปิดเผยสิ่งที่เรียนรู้ให้ชุมชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ” ด้วย https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-says-responsible-ai-is-now-its-biggest-priority-but-what-does-this-look-like
    WWW.TECHRADAR.COM
    Microsoft says “Responsible AI” is now its biggest priority - but what does this look like?
    New Transparency Report reveals Microsoft's plans for building trustworthy models
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิหร่านยิงขีปนาวุธพิสัยไกลประมาณ 15 ลูกไปที่อิสราเอลในหลายระลอก การโจมตีกินเวลานานประมาณ 40 นาที ซึ่งถือเป็นการโจมตีที่ยาวนานที่สุดครั้งหนึ่งนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น และยังมีการยิงขีปนาวุธอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับเป็นการยกระดับความรุนแรงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

    👉โรงไฟฟ้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในเมืองแอชดอด (Ashdod) ทางตอนใต้ของอิสราเอลได้รับความเสียหาย ส่งผลให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างในพื้นที่

    👉บริษัท Israeli Electric เรียกโรงไฟฟ้าแห่งนี้ว่าเป็น "สถานที่ยุทธศาสตร์" ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความเสียหายนั้นร้ายแรงเพียงใด และสถานที่แห่งนี้มีความสำคัญเพียงใดสำหรับระบบไฟฟ้าของประเทศ

    👉ในช่วงหลัง อิสราเอลจะใช้วิธีตอบโต้กลับทันทีที่อิหร่านเปิดฉากโจมตีระลอกใหญ่ เพื่อหวังกลบข่าวความเสียหายจากการโจมตีของอิหร่าน เนื่องจากอิสราเอลสามารถควบคุมสื่อและโซเชี่ยลได้มากกว่า ซึ่งผิดกับอิหร่าน แม้จะมีการควบคุม แต่ไม่ได้เคร่งครัดมากเท่ากับอิสราเอล
    อิหร่านยิงขีปนาวุธพิสัยไกลประมาณ 15 ลูกไปที่อิสราเอลในหลายระลอก การโจมตีกินเวลานานประมาณ 40 นาที ซึ่งถือเป็นการโจมตีที่ยาวนานที่สุดครั้งหนึ่งนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น และยังมีการยิงขีปนาวุธอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับเป็นการยกระดับความรุนแรงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน 👉โรงไฟฟ้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในเมืองแอชดอด (Ashdod) ทางตอนใต้ของอิสราเอลได้รับความเสียหาย ส่งผลให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างในพื้นที่ 👉บริษัท Israeli Electric เรียกโรงไฟฟ้าแห่งนี้ว่าเป็น "สถานที่ยุทธศาสตร์" ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความเสียหายนั้นร้ายแรงเพียงใด และสถานที่แห่งนี้มีความสำคัญเพียงใดสำหรับระบบไฟฟ้าของประเทศ 👉ในช่วงหลัง อิสราเอลจะใช้วิธีตอบโต้กลับทันทีที่อิหร่านเปิดฉากโจมตีระลอกใหญ่ เพื่อหวังกลบข่าวความเสียหายจากการโจมตีของอิหร่าน เนื่องจากอิสราเอลสามารถควบคุมสื่อและโซเชี่ยลได้มากกว่า ซึ่งผิดกับอิหร่าน แม้จะมีการควบคุม แต่ไม่ได้เคร่งครัดมากเท่ากับอิสราเอล
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้มีหลายอย่างที่ต้องทำอย่างไม่เกรงกลัวใครอีกตั้งเยอะแยะ ไม่คิดท้อถอยเลยทำต่อเนื่องได้ไม่ต้องลังเลอะไรเลยครับ และ Soul Saver Online เข้าได้แปปเดียวหลุดซะแล้ว เซิฟน่าจะเน่ายกเข่ง แต่ Maplestory ผมคงไม่หยุดเล่นแน่นอน แต่เล่นวันละ 1-2 ชม. ก็ได้
    วันนี้มีหลายอย่างที่ต้องทำอย่างไม่เกรงกลัวใครอีกตั้งเยอะแยะ ไม่คิดท้อถอยเลยทำต่อเนื่องได้ไม่ต้องลังเลอะไรเลยครับ และ Soul Saver Online เข้าได้แปปเดียวหลุดซะแล้ว เซิฟน่าจะเน่ายกเข่ง แต่ Maplestory ผมคงไม่หยุดเล่นแน่นอน แต่เล่นวันละ 1-2 ชม. ก็ได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'กองทัพไทย' ยันไม่ล้ำเส้น แจงปมนักปั่นชม 'ตาเมือนธม' 'กัมพูชา' ดิ้นพล่านหนัก
    .
    รัฐบาลกัมพูชายังคงออกอาการโวยวายต่อเนื่อง โดยล่าสุดกระทรวงกลาโหมกัมพูชาออกแถลงการณ์แสดงความกังวล กรณีเจ้าหน้าที่ทหารไทยนำคณะนักปั่นจักรยานเข้าเยี่ยมชมบริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ก่อนเวลาเปิดทำการ โดยอ้างว่าไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้า ซึ่งในเรื่องนี้ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับหน่วยทหารที่รับผิดชอบพื้นที่ พบว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของ จ.สุรินทร์ จัดโดยสำนักการท่องเที่ยว และกีฬาจังหวัด ภายใต้ชื่อว่า “ปั่น 2 ปราสาท สัมผัสทุเรียนเมืองช้าง @พนมดงรัก 2025”
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000058804

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    'กองทัพไทย' ยันไม่ล้ำเส้น แจงปมนักปั่นชม 'ตาเมือนธม' 'กัมพูชา' ดิ้นพล่านหนัก . รัฐบาลกัมพูชายังคงออกอาการโวยวายต่อเนื่อง โดยล่าสุดกระทรวงกลาโหมกัมพูชาออกแถลงการณ์แสดงความกังวล กรณีเจ้าหน้าที่ทหารไทยนำคณะนักปั่นจักรยานเข้าเยี่ยมชมบริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ก่อนเวลาเปิดทำการ โดยอ้างว่าไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้า ซึ่งในเรื่องนี้ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับหน่วยทหารที่รับผิดชอบพื้นที่ พบว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของ จ.สุรินทร์ จัดโดยสำนักการท่องเที่ยว และกีฬาจังหวัด ภายใต้ชื่อว่า “ปั่น 2 ปราสาท สัมผัสทุเรียนเมืองช้าง @พนมดงรัก 2025” . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000058804 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 653 มุมมอง 0 รีวิว
  • iSoftStone อาจไม่ใช่ชื่อที่คนทั่วไปเคยได้ยิน แต่มันคือหนึ่งในม้ามืดที่มาจากสายงาน B2B โดยเฉพาะด้านการศึกษา, ภาครัฐ และองค์กรขนาดกลางในจีน ซึ่งเป็นภาคที่ได้รับ เงินสนับสนุนจากรัฐบาลจีนอย่างต่อเนื่อง แม้ตลาดองค์กรขนาดใหญ่จะซบเซา

    ใน Q1 ปี 2025 พวกเขาขายพีซีไปถึง 890,000 เครื่อง — เพิ่มจาก 420,000 เครื่องในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว (โต 111% ภายในปีเดียว!) ซึ่งมากพอจะทำให้ส่วนแบ่งตลาดพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 10% แล้ว — ใกล้แซง Huawei ที่ 12% และแซง Apple กับ HP ไปแล้วเรียบร้อย

    นอกจาก B2B แล้ว iSoftStone ยังลงมาเล่นในตลาดเกมแรง ๆ ด้วย — ซึ่งเซกเมนต์นี้ในจีนยังโตปีละ 24% โดยเฉพาะฝั่งเครื่องแรงระดับสูง (High-End Gaming)

    แม้ตอนนี้ iSoftStone จะยังขายแค่ในจีน แต่มีประสบการณ์ทำโปรเจกต์ใหญ่ในต่างประเทศ เช่น ศูนย์ข้อมูลในสิงคโปร์ จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า จะบุกตลาดโลกในไม่ช้านี้ — โดยเฉพาะเมื่อจีนต้องการดันแบรนด์ในประเทศให้แข็งแกร่งเพื่อแข่งขันกับ Lenovo, Dell, Apple และ HP

    https://www.techradar.com/pro/huge-pc-vendor-youve-never-heard-of-is-set-to-become-second-biggest-player-in-china-ahead-of-apple-hp-heres-why-it-matters
    iSoftStone อาจไม่ใช่ชื่อที่คนทั่วไปเคยได้ยิน แต่มันคือหนึ่งในม้ามืดที่มาจากสายงาน B2B โดยเฉพาะด้านการศึกษา, ภาครัฐ และองค์กรขนาดกลางในจีน ซึ่งเป็นภาคที่ได้รับ เงินสนับสนุนจากรัฐบาลจีนอย่างต่อเนื่อง แม้ตลาดองค์กรขนาดใหญ่จะซบเซา ใน Q1 ปี 2025 พวกเขาขายพีซีไปถึง 890,000 เครื่อง — เพิ่มจาก 420,000 เครื่องในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว (โต 111% ภายในปีเดียว!) ซึ่งมากพอจะทำให้ส่วนแบ่งตลาดพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 10% แล้ว — ใกล้แซง Huawei ที่ 12% และแซง Apple กับ HP ไปแล้วเรียบร้อย นอกจาก B2B แล้ว iSoftStone ยังลงมาเล่นในตลาดเกมแรง ๆ ด้วย — ซึ่งเซกเมนต์นี้ในจีนยังโตปีละ 24% โดยเฉพาะฝั่งเครื่องแรงระดับสูง (High-End Gaming) แม้ตอนนี้ iSoftStone จะยังขายแค่ในจีน แต่มีประสบการณ์ทำโปรเจกต์ใหญ่ในต่างประเทศ เช่น ศูนย์ข้อมูลในสิงคโปร์ จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า จะบุกตลาดโลกในไม่ช้านี้ — โดยเฉพาะเมื่อจีนต้องการดันแบรนด์ในประเทศให้แข็งแกร่งเพื่อแข่งขันกับ Lenovo, Dell, Apple และ HP https://www.techradar.com/pro/huge-pc-vendor-youve-never-heard-of-is-set-to-become-second-biggest-player-in-china-ahead-of-apple-hp-heres-why-it-matters
    WWW.TECHRADAR.COM
    Unknown outside China, iSoftStone is now the country’s third-largest PC brand
    iSoftStone enjoyed a 111% increase in unit shipments in just one year
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • เวลานั่งรอคิวหมอ หรือขึ้นรถไฟฟ้า หลายคนก็หยิบมือถือขึ้นมาเปิดโซเชียลฯ แบบอัตโนมัติ เพราะมันสนุก ดูง่าย และ “ให้ความสุขเล็ก ๆ” ผ่านวิดีโอ รูปภาพ หรือการแจ้งเตือนต่าง ๆ

    แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ สมองเราถูกกระตุ้นตลอดเวลา — ผ่านโดพามีน (dopamine) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้รู้สึกดีและเป็นรางวัลในสมอง คล้ายกับเวลาทานของหวาน คาเฟอีน หรือได้ Like บน IG

    ฟังดูดี แต่ถ้าได้รับมากเกินไป สมองจะเริ่ม “ด้านชา” ต้องการสิ่งเร้าที่มากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ต้องเลื่อนคลิปเร็วกว่าเดิม หรือเล่นโซเชียลหลายแพลตฟอร์มพร้อมกัน ซึ่งอาจกลายเป็น อาการเสพติดสิ่งเร้าแบบไม่รู้ตัว เช่น เบื่อดูหนังยาว ๆ เบื่อเล่นบอร์ดเกม เพราะ “ไม่เร้าใจพอ”

    แนวทางแก้คือ Dopamine Detox หรือการลดสิ่งเร้าลง ไม่ใช่หยุดความสุข แต่ให้สมอง “พักและรีเซตระบบบ้าง” เพื่อกลับมารับรู้ความสุขจากเรื่องธรรมดาให้ได้อีกครั้ง เช่น การอ่านหนังสือ, วาดรูป, เดินเล่นแบบไม่ฟังเพลง ฯลฯ

    ✅ สมาร์ตโฟนและโซเชียลมีเดียทำให้สมองหลั่ง dopamine ต่อเนื่อง จนกลายเป็นภาวะ overstimulation  
    • เมื่อถูกกระตุ้นบ่อย สมองต้องการสิ่งเร้าที่แรงขึ้นเพื่อรู้สึกเท่าเดิม  
    • คล้ายกลไกเดียวกับการเสพติดพฤติกรรมหรือสารบางชนิด

    ✅ Dopamine Detox คือการลดสิ่งเร้าที่มากเกินไปเพื่อให้ระบบประสาทฟื้นสมดุล  
    • ไม่ใช่การงดทุกความสุข แต่เป็นการ “รีเซตจังหวะสมอง”

    ✅ ตัวอย่างกิจกรรมที่แนะนำในการ Detox:  
    • ปิดการแจ้งเตือน / ลดเวลาใช้หน้าจอก่อนนอน  
    • หยุดฟังพอดแคสต์/เพลงระหว่างทำอย่างอื่น เพื่อฝึกโฟกัส  
    • ทำกิจกรรมอนาล็อก เช่น อ่านหนังสือ เดินเล่น วาดรูป

    ✅ หากทำต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มความสามารถในการรับรู้ สงบใจ และกลับมาสนุกกับกิจกรรมเรียบง่ายได้อีกครั้ง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/22/039dopamine-detox039-why-it-pays-to-put-your-phone-away
    เวลานั่งรอคิวหมอ หรือขึ้นรถไฟฟ้า หลายคนก็หยิบมือถือขึ้นมาเปิดโซเชียลฯ แบบอัตโนมัติ เพราะมันสนุก ดูง่าย และ “ให้ความสุขเล็ก ๆ” ผ่านวิดีโอ รูปภาพ หรือการแจ้งเตือนต่าง ๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ สมองเราถูกกระตุ้นตลอดเวลา — ผ่านโดพามีน (dopamine) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้รู้สึกดีและเป็นรางวัลในสมอง คล้ายกับเวลาทานของหวาน คาเฟอีน หรือได้ Like บน IG ฟังดูดี แต่ถ้าได้รับมากเกินไป สมองจะเริ่ม “ด้านชา” ต้องการสิ่งเร้าที่มากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ต้องเลื่อนคลิปเร็วกว่าเดิม หรือเล่นโซเชียลหลายแพลตฟอร์มพร้อมกัน ซึ่งอาจกลายเป็น อาการเสพติดสิ่งเร้าแบบไม่รู้ตัว เช่น เบื่อดูหนังยาว ๆ เบื่อเล่นบอร์ดเกม เพราะ “ไม่เร้าใจพอ” แนวทางแก้คือ Dopamine Detox หรือการลดสิ่งเร้าลง ไม่ใช่หยุดความสุข แต่ให้สมอง “พักและรีเซตระบบบ้าง” เพื่อกลับมารับรู้ความสุขจากเรื่องธรรมดาให้ได้อีกครั้ง เช่น การอ่านหนังสือ, วาดรูป, เดินเล่นแบบไม่ฟังเพลง ฯลฯ ✅ สมาร์ตโฟนและโซเชียลมีเดียทำให้สมองหลั่ง dopamine ต่อเนื่อง จนกลายเป็นภาวะ overstimulation   • เมื่อถูกกระตุ้นบ่อย สมองต้องการสิ่งเร้าที่แรงขึ้นเพื่อรู้สึกเท่าเดิม   • คล้ายกลไกเดียวกับการเสพติดพฤติกรรมหรือสารบางชนิด ✅ Dopamine Detox คือการลดสิ่งเร้าที่มากเกินไปเพื่อให้ระบบประสาทฟื้นสมดุล   • ไม่ใช่การงดทุกความสุข แต่เป็นการ “รีเซตจังหวะสมอง” ✅ ตัวอย่างกิจกรรมที่แนะนำในการ Detox:   • ปิดการแจ้งเตือน / ลดเวลาใช้หน้าจอก่อนนอน   • หยุดฟังพอดแคสต์/เพลงระหว่างทำอย่างอื่น เพื่อฝึกโฟกัส   • ทำกิจกรรมอนาล็อก เช่น อ่านหนังสือ เดินเล่น วาดรูป ✅ หากทำต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มความสามารถในการรับรู้ สงบใจ และกลับมาสนุกกับกิจกรรมเรียบง่ายได้อีกครั้ง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/22/039dopamine-detox039-why-it-pays-to-put-your-phone-away
    WWW.THESTAR.COM.MY
    'Dopamine detox': Why it pays to put your phone away
    What do you do while sitting in a doctor's waiting room? Or after settling into a train seat on your commute home from work? Or standing at the kitchen stove as the noodle water creeps towards a boil?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม้ว่า AMD Ryzen ตระกูล X3D จะให้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในเกม เพราะมี L3 Cache แบบ 3D stacked ช่วยลด latency ได้มาก แต่ก็มีผู้ใช้บางรายเจอปัญหา “กระตุกยิบ ๆ” หรือ micro-stuttering โดยเฉพาะกับรุ่นที่ใช้ 2 CCD (Core Complex Die)

    ผู้ใช้บางคนใน Reddit และ YouTube ค้นพบว่า การเข้า BIOS แล้วเปลี่ยนค่า “Global C-State Control” จาก Auto → Enabled อาจช่วยลดอาการกระตุกได้ทันที โดยเฉพาะในเกมที่มีการโหลดข้อมูลต่อเนื่อง

    ฟีเจอร์ C-State นี้คือระบบที่จัดการ sleep state ของซีพียู เพื่อประหยัดพลังงาน โดยจะ “พัก” ฟังก์ชันบางอย่างเมื่อไม่ใช้งาน เช่น core, I/O หรือ Infinity Fabric (Data Fabric) — แต่ถ้า BIOS ตั้งค่าแบบ Auto ใน X3D บางรุ่น ฟีเจอร์นี้อาจถูกปิดไปเลย ทำให้ซีพียูทำงานแบบ Full power ตลอดเวลาและเกิดความไม่เสถียรในบางช่วง

    แม้การเบนช์มาร์กด้วยโปรแกรม AIDA64 จะไม่เห็นความต่างชัดเจน แต่ในเกมจริงอาจช่วยได้ โดยเฉพาะถ้า Windows ไม่จัดสรรงานให้ไปยัง CCD ที่มี V-Cache อย่างเหมาะสม

    ✅ AMD Ryzen X3D บางรุ่นพบอาการกระตุกหรือ micro-stutter บน Windows  
    • โดยเฉพาะเมื่อใช้เกมที่โหลดข้อมูลถี่ และในรุ่น 2 CCD (มีแคชแค่ฝั่งเดียว)

    ✅ การเปลี่ยน BIOS Setting “Global C-State Control” → Enabled ช่วยลดการกระตุกในบางกรณี  
    • Auto อาจปิดฟีเจอร์ไปโดยไม่รู้ตัวในบางเมนบอร์ด  
    • Enabled จะเปิดการทำงานของ C-State เต็มรูปแบบ

    ✅ C-State คือฟีเจอร์จัดการพลังงานผ่าน ACPI ให้ OS เลือกพัก core/IO/infinity fabric ได้ตามความเหมาะสม  
    • ทำงานคู่กับ P-State ที่จัดการ clock/voltage scaling

    ✅ การเปิด C-State ช่วยให้ Windows จัดการ “Preferred Core” และ CCD ได้ดีขึ้น  
    • โดยเฉพาะหาก CPPC ไม่ทำงานเต็มประสิทธิภาพ

    ✅ Tips เพิ่มเติม: การปิดการแสดงผล Power Percent ใน MSI Afterburner ก็ช่วยลด micro-stutter ได้  
    • เป็นปัญหาที่รู้กันมานาน แม้ใช้ CPU รุ่นไม่ใช่ X3D ก็ตาม

    ‼️ การเปลี่ยน BIOS โดยไม่รู้ค่าเดิม อาจทำให้ระบบไม่เสถียร หรือมีผลกับ power consumption  
    • ควรจดค่าก่อนเปลี่ยน และทดสอบใน workload ที่ใช้จริง

    ‼️ ผลลัพธ์จากการเปลี่ยน Global C-State ยังไม่แน่นอนในทุกเกม/ระบบ  
    • ไม่มีผลกับ AIDA64 แต่ในเกมอาจแตกต่าง ต้องลองเป็นกรณีไป

    ‼️ ถ้าใช้ Mainboard รุ่นเก่าหรือ BIOS ไม่อัปเดต อาจไม่มีตัวเลือกนี้ หรือชื่ออาจไม่ตรงกัน  
    • เช่น อาจใช้ชื่อ CPU Power Saving, C-State Mode, ฯลฯ

    ‼️ การเปิด C-State ทำให้ CPU เข้าสู่ sleep state ได้ — แม้อาจเพิ่ม efficiency แต่ต้องระวังปัญหาความหน่วงในบางงานเฉพาะทาง  
    • โดยเฉพาะในการเรนเดอร์หรือทำงานที่ต้อง full load ต่อเนื่อง

    https://www.neowin.net/news/some-amd-ryzen-users-can-get-free-windows-performance-boost-with-this-simple-system-tweak/
    แม้ว่า AMD Ryzen ตระกูล X3D จะให้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในเกม เพราะมี L3 Cache แบบ 3D stacked ช่วยลด latency ได้มาก แต่ก็มีผู้ใช้บางรายเจอปัญหา “กระตุกยิบ ๆ” หรือ micro-stuttering โดยเฉพาะกับรุ่นที่ใช้ 2 CCD (Core Complex Die) ผู้ใช้บางคนใน Reddit และ YouTube ค้นพบว่า การเข้า BIOS แล้วเปลี่ยนค่า “Global C-State Control” จาก Auto → Enabled อาจช่วยลดอาการกระตุกได้ทันที โดยเฉพาะในเกมที่มีการโหลดข้อมูลต่อเนื่อง ฟีเจอร์ C-State นี้คือระบบที่จัดการ sleep state ของซีพียู เพื่อประหยัดพลังงาน โดยจะ “พัก” ฟังก์ชันบางอย่างเมื่อไม่ใช้งาน เช่น core, I/O หรือ Infinity Fabric (Data Fabric) — แต่ถ้า BIOS ตั้งค่าแบบ Auto ใน X3D บางรุ่น ฟีเจอร์นี้อาจถูกปิดไปเลย ทำให้ซีพียูทำงานแบบ Full power ตลอดเวลาและเกิดความไม่เสถียรในบางช่วง แม้การเบนช์มาร์กด้วยโปรแกรม AIDA64 จะไม่เห็นความต่างชัดเจน แต่ในเกมจริงอาจช่วยได้ โดยเฉพาะถ้า Windows ไม่จัดสรรงานให้ไปยัง CCD ที่มี V-Cache อย่างเหมาะสม ✅ AMD Ryzen X3D บางรุ่นพบอาการกระตุกหรือ micro-stutter บน Windows   • โดยเฉพาะเมื่อใช้เกมที่โหลดข้อมูลถี่ และในรุ่น 2 CCD (มีแคชแค่ฝั่งเดียว) ✅ การเปลี่ยน BIOS Setting “Global C-State Control” → Enabled ช่วยลดการกระตุกในบางกรณี   • Auto อาจปิดฟีเจอร์ไปโดยไม่รู้ตัวในบางเมนบอร์ด   • Enabled จะเปิดการทำงานของ C-State เต็มรูปแบบ ✅ C-State คือฟีเจอร์จัดการพลังงานผ่าน ACPI ให้ OS เลือกพัก core/IO/infinity fabric ได้ตามความเหมาะสม   • ทำงานคู่กับ P-State ที่จัดการ clock/voltage scaling ✅ การเปิด C-State ช่วยให้ Windows จัดการ “Preferred Core” และ CCD ได้ดีขึ้น   • โดยเฉพาะหาก CPPC ไม่ทำงานเต็มประสิทธิภาพ ✅ Tips เพิ่มเติม: การปิดการแสดงผล Power Percent ใน MSI Afterburner ก็ช่วยลด micro-stutter ได้   • เป็นปัญหาที่รู้กันมานาน แม้ใช้ CPU รุ่นไม่ใช่ X3D ก็ตาม ‼️ การเปลี่ยน BIOS โดยไม่รู้ค่าเดิม อาจทำให้ระบบไม่เสถียร หรือมีผลกับ power consumption   • ควรจดค่าก่อนเปลี่ยน และทดสอบใน workload ที่ใช้จริง ‼️ ผลลัพธ์จากการเปลี่ยน Global C-State ยังไม่แน่นอนในทุกเกม/ระบบ   • ไม่มีผลกับ AIDA64 แต่ในเกมอาจแตกต่าง ต้องลองเป็นกรณีไป ‼️ ถ้าใช้ Mainboard รุ่นเก่าหรือ BIOS ไม่อัปเดต อาจไม่มีตัวเลือกนี้ หรือชื่ออาจไม่ตรงกัน   • เช่น อาจใช้ชื่อ CPU Power Saving, C-State Mode, ฯลฯ ‼️ การเปิด C-State ทำให้ CPU เข้าสู่ sleep state ได้ — แม้อาจเพิ่ม efficiency แต่ต้องระวังปัญหาความหน่วงในบางงานเฉพาะทาง   • โดยเฉพาะในการเรนเดอร์หรือทำงานที่ต้อง full load ต่อเนื่อง https://www.neowin.net/news/some-amd-ryzen-users-can-get-free-windows-performance-boost-with-this-simple-system-tweak/
    WWW.NEOWIN.NET
    Some AMD Ryzen users can get free Windows performance boost with this simple system tweak
    AMD Ryzen processor owners, especially X3D ones, may be in for a pleasant surprise as a simple tweak to one of their system settings can help boost performance.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่ออิหร่านรายงานว่า ขณะนี้อิสราเอลกำลังโจมตีที่เมืองทาบริซ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิหร่าน เป้าหมายได้แก่ฐานทัพของ IRGC รวมถึงฐานทัพทหารที่รู้จักกันในชื่อ “อัลอาชูรอ” (Al-Ashura)

    👉การตอบโต้ตรงไปตรงมาแบบนี้ อิสราเอลแพ้อย่างแน่นอน หากสหรัฐไม่เข้ามาช่วยสนับสนุนด้านอาวุธอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพื้นที่ของอิหร่านกับอิสราเอลนั้นต่างกันอย่างมาก

    👉อีกประการหนึ่งคือ ด้วยขนาดของพื้นที่ที่ต่างกัน ทำให้การโจมตีแต่ละครั้ง พลเรือนของอิสราเอลที่รวมตัวอยู่ตามเมืองใหญ่ ได้รับผลกระทบมากกว่า ซึ่งทำให้ความโกรธแค้นของประชาชนที่มีต่อเนทันยาฮูเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

    สื่ออิหร่านรายงานว่า ขณะนี้อิสราเอลกำลังโจมตีที่เมืองทาบริซ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิหร่าน เป้าหมายได้แก่ฐานทัพของ IRGC รวมถึงฐานทัพทหารที่รู้จักกันในชื่อ “อัลอาชูรอ” (Al-Ashura) 👉การตอบโต้ตรงไปตรงมาแบบนี้ อิสราเอลแพ้อย่างแน่นอน หากสหรัฐไม่เข้ามาช่วยสนับสนุนด้านอาวุธอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพื้นที่ของอิหร่านกับอิสราเอลนั้นต่างกันอย่างมาก 👉อีกประการหนึ่งคือ ด้วยขนาดของพื้นที่ที่ต่างกัน ทำให้การโจมตีแต่ละครั้ง พลเรือนของอิสราเอลที่รวมตัวอยู่ตามเมืองใหญ่ ได้รับผลกระทบมากกว่า ซึ่งทำให้ความโกรธแค้นของประชาชนที่มีต่อเนทันยาฮูเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • **กองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (IRGC):**

    ขีปนาวุธพิสัยกลาง Kheibar (หรืออีกชื่อคือ Khorramshahr -4) ถูกยิงไปยังดินแดนที่ถูกยึดครองเป็นครั้งแรกในปฏิบัติการนี้

    - พิสัยยิง: 2,000 กิโลเมตร
    - หัวรบ: หนัก 1.5 ตัน
    - ความเร็ว: เร็วกว่าเสียง 16 เท่าเมื่อบินนอกชั้นบรรยากาศ และ 8 เท่าเมื่ออยู่ในชั้นบรรยากาศ

    นี่เป็นครั้งแรกที่อิหร่านใช้ขีปนาวุธชนิดนี้โจมตีอิสราเอล ขีปนาวุธ Kheibar หรือที่รู้จักกันในชื่อ Khorramshahr-4

    .

    เกี่ยวกับขีปนาวุธ Kheibar ซึ่งคือรุ่นที่ 4 ของขีปนาวุธพิสัยกลาง Khorramshahr (MRBM - Medium-Range Ballistic Missile)

    👉ขีปนาวุธ Khorramshahr เริ่มทดสอบครั้งแรกเดือนมกราคม 2017 และประสบผลสำเร็จในเดือนกันยายนปีเดียวกัน

    👉ต่อมา Khorramshahr ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และในเดือนพฤษภาคม 2023 ได้เปิดตัวรุ่นที่ 4 หรือเรียกอีกอย่างว่าขีปนาวุธ Kheibar

    👉ขีปนาวุธดังกล่าวนี้มีพิสัยทำการ 2,000 กม. สามารถบรรทุกหัวรบได้ 1,500 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังสามารถบรรทุกหัวรบขนาดใหญ่ได้ 1 ลูก หรืออาจจะแบ่งเป็นหัวรบเล็กๆได้หลายลูก (สูงสุด 80 ลูก) ทำให้ความสามารถในการโจมตีจะครอบคลุมพื้นที่กว้างมาก

    👉ขีปนาวุธนี้ยังสามารถควบคุมและปรับวิถีโคจรนอกชั้นบรรยากาศของโลก และปิดใช้งานระบบนำทางเมื่อเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ ทำให้มีการป้องกันที่สมบูรณ์ต่อการโจมตีด้วยสงครามอิเล็กทรอนิกส์
    **กองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (IRGC):** ขีปนาวุธพิสัยกลาง Kheibar (หรืออีกชื่อคือ Khorramshahr -4) ถูกยิงไปยังดินแดนที่ถูกยึดครองเป็นครั้งแรกในปฏิบัติการนี้ - พิสัยยิง: 2,000 กิโลเมตร - หัวรบ: หนัก 1.5 ตัน - ความเร็ว: เร็วกว่าเสียง 16 เท่าเมื่อบินนอกชั้นบรรยากาศ และ 8 เท่าเมื่ออยู่ในชั้นบรรยากาศ นี่เป็นครั้งแรกที่อิหร่านใช้ขีปนาวุธชนิดนี้โจมตีอิสราเอล ขีปนาวุธ Kheibar หรือที่รู้จักกันในชื่อ Khorramshahr-4 . เกี่ยวกับขีปนาวุธ Kheibar ซึ่งคือรุ่นที่ 4 ของขีปนาวุธพิสัยกลาง Khorramshahr (MRBM - Medium-Range Ballistic Missile) 👉ขีปนาวุธ Khorramshahr เริ่มทดสอบครั้งแรกเดือนมกราคม 2017 และประสบผลสำเร็จในเดือนกันยายนปีเดียวกัน 👉ต่อมา Khorramshahr ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และในเดือนพฤษภาคม 2023 ได้เปิดตัวรุ่นที่ 4 หรือเรียกอีกอย่างว่าขีปนาวุธ Kheibar 👉ขีปนาวุธดังกล่าวนี้มีพิสัยทำการ 2,000 กม. สามารถบรรทุกหัวรบได้ 1,500 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังสามารถบรรทุกหัวรบขนาดใหญ่ได้ 1 ลูก หรืออาจจะแบ่งเป็นหัวรบเล็กๆได้หลายลูก (สูงสุด 80 ลูก) ทำให้ความสามารถในการโจมตีจะครอบคลุมพื้นที่กว้างมาก 👉ขีปนาวุธนี้ยังสามารถควบคุมและปรับวิถีโคจรนอกชั้นบรรยากาศของโลก และปิดใช้งานระบบนำทางเมื่อเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ ทำให้มีการป้องกันที่สมบูรณ์ต่อการโจมตีด้วยสงครามอิเล็กทรอนิกส์
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • องค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่านออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านของสหรัฐฯ ว่าเป็น “การละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งสนธิสัญญา NPT อย่างโจ่งแจ้ง” และกล่าวว่า “การกระทำดังกล่าวจะไม่สามารถหยุดการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติของอิหร่านลงได้”

    .

    แถลงการณ์ฉบับเต็มขององค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่าน (AEOI - The Atomic Energy Organization of Iran):

    'หลังจากการโจมตีอย่างโหดร้ายโดยศัตรูไซออนิสต์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ฐานปฏิบัติการนิวเคลียร์ของประเทศที่ฟอร์โดว์ นาตันซ์ และอิสฟาฮาน ถูกโจมตีเมื่อเช้านี้โดยศัตรูของอิหร่าน ซึ่งเป็นการกระทำที่โหดร้ายที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT)

    การกระทำนี้เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศนั้นอย่าง
    ชัดเจน และช่างน่าเสียดายที่มันเกิดขึ้นท่ามกลางความเฉยเมย และยังเป็นการสมรู้ร่วมคิดของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA)

    ศัตรูของเราออกมาอ้างความรับผิดชอบสำหรับการโจมตีฐานปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลอย่างต่อเนื่องของ IAEA ตามข้อตกลงการป้องกันและสนธิสัญญา NPT

    เราหวังว่าจะได้เห็นการประณามจากนานาประเทศ และสนับสนุนอิหร่านในการบรรลุสิทธิอันชอบธรรมของตน

    องค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่านขอรับรองต่อชาติอิหร่านที่ยิ่งใหญ่ว่า แม้จะมีแผนการชั่วร้ายของศัตรู แต่ด้วยความพยายามของนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญที่ปฏิวัติวงการและกระตือรือร้นนับพันคน องค์การจะไม่ยอมให้การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติซึ่งเป็นผลจากเลือดของผู้พลีชีพเพื่อนิวเคลียร์ต้องหยุดชะงักลง
    องค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่านออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านของสหรัฐฯ ว่าเป็น “การละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งสนธิสัญญา NPT อย่างโจ่งแจ้ง” และกล่าวว่า “การกระทำดังกล่าวจะไม่สามารถหยุดการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติของอิหร่านลงได้” . แถลงการณ์ฉบับเต็มขององค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่าน (AEOI - The Atomic Energy Organization of Iran): 'หลังจากการโจมตีอย่างโหดร้ายโดยศัตรูไซออนิสต์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ฐานปฏิบัติการนิวเคลียร์ของประเทศที่ฟอร์โดว์ นาตันซ์ และอิสฟาฮาน ถูกโจมตีเมื่อเช้านี้โดยศัตรูของอิหร่าน ซึ่งเป็นการกระทำที่โหดร้ายที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT) การกระทำนี้เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศนั้นอย่าง ชัดเจน และช่างน่าเสียดายที่มันเกิดขึ้นท่ามกลางความเฉยเมย และยังเป็นการสมรู้ร่วมคิดของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ศัตรูของเราออกมาอ้างความรับผิดชอบสำหรับการโจมตีฐานปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลอย่างต่อเนื่องของ IAEA ตามข้อตกลงการป้องกันและสนธิสัญญา NPT เราหวังว่าจะได้เห็นการประณามจากนานาประเทศ และสนับสนุนอิหร่านในการบรรลุสิทธิอันชอบธรรมของตน องค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่านขอรับรองต่อชาติอิหร่านที่ยิ่งใหญ่ว่า แม้จะมีแผนการชั่วร้ายของศัตรู แต่ด้วยความพยายามของนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญที่ปฏิวัติวงการและกระตือรือร้นนับพันคน องค์การจะไม่ยอมให้การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติซึ่งเป็นผลจากเลือดของผู้พลีชีพเพื่อนิวเคลียร์ต้องหยุดชะงักลง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 161 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพการระเบิดอย่างรุนแรงต่อเนื่องตลอดคืน หลังจากกองทัพรัสเซียถล่มพื้นที่โรงกลั่นและคลังน้ำมันในภูมิภาคคราเมนชูก (Kremenchug) โดยได้ยินเสียงระเบิดประมาณ 50 ครั้ง ในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา

    โรงกลั่นน้ำมันแห่งนี้เป็นโรงกลั่นหลักขอภูมิภาค และมีบทบาทสำคัญในการจัดหาเชื้อเพลิงให้กับกองทัพยูเครน

    การโจมตีครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รัสเซียรายงานว่าเริ่มต้นจากการใช้โดรนโจมตีก่อน หลังจากนั้นตามมาด้วยขีปนาวุธร่อน และ Iskander รวมทั้งขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง Kinzhal ก็มีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน
    ภาพการระเบิดอย่างรุนแรงต่อเนื่องตลอดคืน หลังจากกองทัพรัสเซียถล่มพื้นที่โรงกลั่นและคลังน้ำมันในภูมิภาคคราเมนชูก (Kremenchug) โดยได้ยินเสียงระเบิดประมาณ 50 ครั้ง ในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา โรงกลั่นน้ำมันแห่งนี้เป็นโรงกลั่นหลักขอภูมิภาค และมีบทบาทสำคัญในการจัดหาเชื้อเพลิงให้กับกองทัพยูเครน การโจมตีครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รัสเซียรายงานว่าเริ่มต้นจากการใช้โดรนโจมตีก่อน หลังจากนั้นตามมาด้วยขีปนาวุธร่อน และ Iskander รวมทั้งขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง Kinzhal ก็มีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิกฤตแล้วสถานการณ์พลังงานในกัมพูชา ราคาน้ำมันเมืองปอยเปตพุ่งต่อเนื่องหลังตัดไฟจากไทย ทำความต้องการใช้น้ำมันสำหรับเครื่องปั่นไฟเพิ่มสูง สวนทางปริมาณน้ำมันที่เริ่มขาดแคลน วันนี้ชาวเขมรพากันแห่ขับรถยนต์-จยย.ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เข้ามาเติมน้ำมันบริเวณชายสระแก้วจนแน่น ซ้ำบางรายใช้ถัง 200 ลิตรซื้อกักตุน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000058463

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    วิกฤตแล้วสถานการณ์พลังงานในกัมพูชา ราคาน้ำมันเมืองปอยเปตพุ่งต่อเนื่องหลังตัดไฟจากไทย ทำความต้องการใช้น้ำมันสำหรับเครื่องปั่นไฟเพิ่มสูง สวนทางปริมาณน้ำมันที่เริ่มขาดแคลน วันนี้ชาวเขมรพากันแห่ขับรถยนต์-จยย.ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เข้ามาเติมน้ำมันบริเวณชายสระแก้วจนแน่น ซ้ำบางรายใช้ถัง 200 ลิตรซื้อกักตุน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000058463 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Wow
    6
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 534 มุมมอง 0 รีวิว
  • 555,ดูดีๆเหมือนทั้งหมดคนไทยเรากำลังถูกหลอกขนานใหญ่จริงๆ,ทั้งหมดเล่นเกมส์หลอกลวงหมากใหญ่มาก,ครั้งสุดท้ายก็ว่าในฝ่ายนี้,แหกตาประชาชนทั้งหมด,อย่าลืมว่ามีทหารอีลิทไม่ดีประจำอยู่ในทุกๆวงการเช่นกัน,มีงัดข้อกันแน่,แต่ต้องจบจริงๆนะ,อาสนธิและคณะทีมงานรักชาติทั้งหมดจะร่วมกับทหารพระราชายึดอำนาจเด็ดขาดจากฝ่ายไม่ดีพวกนี้อย่างแน่นอน,ลืมไปเลยการลาออกหรือยุบสภาหรืออ้างผ่านงบประมาณบังหน้า ไส้ในในงบประมาณโปร่งใส่แค่ไหนก็ผลงานคลิปว่าทหารไทยอยู่ตรงข้ามเรามันก็ชัดเจนแล้ว,คือกระทำการอะไรต่างๆในตอนนี้ ประเทศไทยอันตรายไปหมดนั่นล่ะ ไว้ใจอะไรที่ไหนได้ล่ะ,คือขาดความเชื่อใจต่อการเป็นรัฐบาลบริหารประเทศแล้ว ยิ่งสส.มากมายกระทำตัวลักษณะนี้อีกเป็นไปมิได้สนใจอธิปไตยชาติไทยเลย วุ่นวายแต่อำนาจและผลประโยชน์ตน, รัฐบาลเฉพาะการสามารถดูรายละเอียดได้ทั้งหมดนั่นล่ะ ดีๆเทียบข้อมูลตรวจสอบว่าจริงเท็จหรือได้งบไปเพื่อแดกมากๆก็ตรวจเห็นความผิดปกติได้ทันที,จัดสรรงบใหม่ให้สมควรเพียงพอจริงเหมาะสมได้ในนายกฯเฉพาะกาลฉุกเฉินนั้น.,คดีความต่างๆทางการเมืองก็สามารถดำเนินการต่อเนื่องได้ทั้งหมดเช่นกันเพราะเกิดขึ้นแล้ว,มิใช่จะลงโทษจากผลที่ยังไม่เกิดขึ้นแบบอนาคต,ไม่มีใครตัดสินความผิดของการกระทำที่ยังไม่มีไม่เกิดแบบในอนาคตหรอก,ยื่นฟ้องๆกันเพราะมันเกิดขึ้นมาแล้วทั้งสิ้น,
    ..ถ้าอ้างว่าหากเกิดการยึดอำนาจรัฐประหารหรือปฏิวัติ คดีความใดๆทางกฎหมายทั้งหมดเป็นอันจบสิ้น,ก็ไม่ถูกเพราะเช่นนั้นกฎหมายพรบ.ปิโตรเลียม สัมปทานทาสทั้งหมดต้องจบสิ้นโมฆะไปด้วย,คนไทยจะต้องได้บ่อน้ำมันคืนอัตโนมัติทันที,ต่างชาติทั้งหมดต้องยินยอมในอธิปไตยเราที่กระทำทั้งหมดด้วย.,แต่ที่ยึดอำนาจมามันเสือกไม่ได้คืนอะไรเลย.
    ..ประเทศต้องยึดอำนาจอย่างเดียวแล้วทำไมไม่ทำนะ,เชิญอาสนธิและคณะทีมงานมากมาย คปท.เป็นต้นและคณะอื่นๆอีกตรึมมาจัดตั้งนายกฯจัดตั้งรัฐบาลพระราชทานเฉพาะกิจเสนอขึ้นไปสิ ทหารคู่รัฐบาลภาคประชาชนมันชอบธรรมโคตรๆ.
    ..
    ..https://youtu.be/kguQOICy4X0?si=1x060sbolqOj2U0n
    555,ดูดีๆเหมือนทั้งหมดคนไทยเรากำลังถูกหลอกขนานใหญ่จริงๆ,ทั้งหมดเล่นเกมส์หลอกลวงหมากใหญ่มาก,ครั้งสุดท้ายก็ว่าในฝ่ายนี้,แหกตาประชาชนทั้งหมด,อย่าลืมว่ามีทหารอีลิทไม่ดีประจำอยู่ในทุกๆวงการเช่นกัน,มีงัดข้อกันแน่,แต่ต้องจบจริงๆนะ,อาสนธิและคณะทีมงานรักชาติทั้งหมดจะร่วมกับทหารพระราชายึดอำนาจเด็ดขาดจากฝ่ายไม่ดีพวกนี้อย่างแน่นอน,ลืมไปเลยการลาออกหรือยุบสภาหรืออ้างผ่านงบประมาณบังหน้า ไส้ในในงบประมาณโปร่งใส่แค่ไหนก็ผลงานคลิปว่าทหารไทยอยู่ตรงข้ามเรามันก็ชัดเจนแล้ว,คือกระทำการอะไรต่างๆในตอนนี้ ประเทศไทยอันตรายไปหมดนั่นล่ะ ไว้ใจอะไรที่ไหนได้ล่ะ,คือขาดความเชื่อใจต่อการเป็นรัฐบาลบริหารประเทศแล้ว ยิ่งสส.มากมายกระทำตัวลักษณะนี้อีกเป็นไปมิได้สนใจอธิปไตยชาติไทยเลย วุ่นวายแต่อำนาจและผลประโยชน์ตน, รัฐบาลเฉพาะการสามารถดูรายละเอียดได้ทั้งหมดนั่นล่ะ ดีๆเทียบข้อมูลตรวจสอบว่าจริงเท็จหรือได้งบไปเพื่อแดกมากๆก็ตรวจเห็นความผิดปกติได้ทันที,จัดสรรงบใหม่ให้สมควรเพียงพอจริงเหมาะสมได้ในนายกฯเฉพาะกาลฉุกเฉินนั้น.,คดีความต่างๆทางการเมืองก็สามารถดำเนินการต่อเนื่องได้ทั้งหมดเช่นกันเพราะเกิดขึ้นแล้ว,มิใช่จะลงโทษจากผลที่ยังไม่เกิดขึ้นแบบอนาคต,ไม่มีใครตัดสินความผิดของการกระทำที่ยังไม่มีไม่เกิดแบบในอนาคตหรอก,ยื่นฟ้องๆกันเพราะมันเกิดขึ้นมาแล้วทั้งสิ้น, ..ถ้าอ้างว่าหากเกิดการยึดอำนาจรัฐประหารหรือปฏิวัติ คดีความใดๆทางกฎหมายทั้งหมดเป็นอันจบสิ้น,ก็ไม่ถูกเพราะเช่นนั้นกฎหมายพรบ.ปิโตรเลียม สัมปทานทาสทั้งหมดต้องจบสิ้นโมฆะไปด้วย,คนไทยจะต้องได้บ่อน้ำมันคืนอัตโนมัติทันที,ต่างชาติทั้งหมดต้องยินยอมในอธิปไตยเราที่กระทำทั้งหมดด้วย.,แต่ที่ยึดอำนาจมามันเสือกไม่ได้คืนอะไรเลย. ..ประเทศต้องยึดอำนาจอย่างเดียวแล้วทำไมไม่ทำนะ,เชิญอาสนธิและคณะทีมงานมากมาย คปท.เป็นต้นและคณะอื่นๆอีกตรึมมาจัดตั้งนายกฯจัดตั้งรัฐบาลพระราชทานเฉพาะกิจเสนอขึ้นไปสิ ทหารคู่รัฐบาลภาคประชาชนมันชอบธรรมโคตรๆ. .. ..https://youtu.be/kguQOICy4X0?si=1x060sbolqOj2U0n
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้เป็นครั้งแรกที่จะเขียนบทความนี้ทุกตัวอักษรจากหัวใจล้วนๆ ไม่มีอ้างอิงข้อมูลใดๆ ไม่มีการหาข้อมูลใดๆ เพิ่มเติม เพราะส่วนตัวคิดว่า คงถึงเวลาที่เราต้องเรียก "สติ" กัน แม้ว่าการส่งเสียงผ่านกลุ่มนี้ อาจจะเงียบกริบ แต่อย่างน้อยๆ คนที่แวะผ่านมาเห็น ขอจงโปรดใช้วิจารณญานในการ ค.ว.ย. กรณีตระกูลฮุน

    ผมหมายถึง "คิด . วิเคระห์ . แยกแยะ" โปรดอย่างคิดเป็นอื่น

    คงปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งที่คุณอุ๊งอิ๊งได้ทำลงเป็น เป็นความผิดพลาดที่ไม่สมควรอภัยอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะด้วยเจตนาดีหรือร้ายอย่างใด สิ่งที่ทำลงไป ไม่อาจเรียกว่าเป็น "การกระทำที่ผ่านการคิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้ว" ได้เลย

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในฐานะผู้นำประเทศที่ทุกๆ การกระทำ คือสิ่งแสดงสถานะตัวแทนและผู้นำประเทศ และไม่ว่าจะด้วยการกล่าวอ้างใดๆ ของคนที่เห็นว่านายกฯ ทำอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ยิ่งช่วย ก็ยิ่งตอกย้ำว่า ลูกสาวคนสุดท้อง ของคุณทักษิณ ยังไม่มีวุฒิภาวะ และความสามารถเพียงพอใจการเป็นผู้นำประเทศ

    โดยเฉพาะการนำเรื่อง "ประเด็นปัญหาระหว่างประเทศ" ไปคุยผ่าน "ความสัมพันธ์ส่วนตัว" ไม่ว่าคนที่คุยด้วยนั้น จะเป็นผู้นำประเทศคู่กรณีตัวจริง หรือ ตัวจริง ก็ตาม (ผมหมายถึง เป็นโดยตำแหน่ง หรือเป็นโดยการยอมรับ) หรือแม้กระทั่ง เป็นการคุยเพื่อหวังดีต่อประเทศจริงๆ หรือเพียงหวังดีต่อเก้าอี้ตนเองก็ตาม

    นี่คือเรื่องของ "ประเทศ" ที่ไม่ใช่ "ธุรกิจส่วนตัว" ที่ไปคุยกันบนกรีนสนามกอล์ฟ หรือจบที่คลับหรือเลานจ์สักที่่ คุยนอกรอบให้ลงตัว แล้วค่อยไปจบในห้องประชุม การพูดคุยในฐานะประเทศ ต่อให้ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว ก็พึงมีคนระวังหลังให้เสมอ ไม่ว่าจะมีอำนาจตัดสินใจหรือไม่ ก็ต้องมีคนช่วยเวลาคุย ไม่ใช่ กำลังจะนอนแล้ว โทรหาอังเคิลซะหน่อย เผื่อเคลียร์ได้

    ผมไม่เคยเชื่อว่าระหว่าง Donald Trump และ Vladimir Putin จะโทรคุยกันโดยอาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัว หรือแม้แต่ระหว่าง Vladimir Putin กับ 习近平 (สีจิ้นผิง) จะคุยกันบนความสัมพันธ์ส่วนตัว

    และเมื่อตัดสินใจผิดพลาด เปลี่ยนการพูดคุยที่ควรจะมีแบบแผนและจริงจัง เป็นวาทกรรมก่อนนอน ก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมา เมื่อคู่สนทนา จริงจังในทุกๆ บริบท

    สรุป ไม่ว่าสายซัพพอร์ตของ น้องอิ๊ง จะพยายามแก้ต่างด้วยเหตุความหวังดีต่อประเทศอย่างไร มันก็ยิ่งตอกย้ำว่า น้องอิ๊ง ไม่เหมาะกับการเป็นผู้นำอยู่ดี - รู้สึกอย่างไรบ้างครับ เมื่อบทสนทนาหนักๆ กลายเป็นเรื่องคุยก่อนนอน

    แต่!!

    สิ่งที่น่ากลัวกว่าท่านนายกฯ ก็คือ ท่านพ่อนายกฯ ที่ไม่ใช่พ่อนายกฯ เมืองไทย แต่เป็นพ่อนายกฯ เขมร ผู้นำตระกูลฮุน ที่กำลัง "เซาะกร่อนบ่อนทำลาย" ความน่าเชื่อถือของประเทศไทยบนเวทีโลกไปทุกวัน ดูจากสิ่งที่กำลังตามต่อมาจากหลังจาก คลิปเสียงเวอร์ชั่นเต็ม 17 นาทีถูกปล่อยออกมา

    สิ่งที่ท่านผู้นำฮุนกระทำ และบัญชาการให้องคาพยบของเหล่าชนชั้นนำของกัมพูชาทำก็คือ การเขย่าประเทศไทยให้แรงที่สุดเท่าที่จะแรงได้ เพื่อสร้างแต้มต่อไม่ว่าจะมากหรือน้อยเพียงใดให้กับการต่ออายุการกดขี่ข่มเหงคนกัมพูชาให้นานที่สุด

    โดยมีเป้าหมายในการเป็น "คิมอิลซุง" หรือ "คิมจองอิล" ของราชวงศ์กัมพูชาให้จงได้ โดยอาศัยเพียงความชาตินิยมของคนกัมพูชา ที่ยังไม่หลุดพ้นจากภาพจำของการตกเป็นเมืองขึ้นของสยามตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา ตั้งแต่นครวัดนครธมถูกอโยธยาเผา เรื่อยมาจนกระทั่งเขมรได้รับการปลดปล่อยจากไทย ด้วยปลายกระบอกปืนของฝรั่งเศส แต่ก็ถูกกดโดยเหล่าเสนาอำมาตย์ที่คอยยกไทยให้เป็นศัตรูผ่านตำราเรียนอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับที่ตำราเรียนประวัติศาสตร์ไทย ยังคงตอกย้ำการเสียกรุงให้พม่า 2 ครั้งมาโดยตลอด

    ยังดีที่คนไทย ได้รับโอกาสมากกว่า เราจึงหลุดพ้นการกดขี่และเรียกร้องสิทธิเสรีภาพจากผู้ปกครองได้มากกว่าคนกัมพูชา แม้ว่าไทยจะลุ่มๆ ดอนๆ ทางด้านประชาธิปไตยมาตลอด 92 ปี จนถึงวันที่เขียนเรื่องนี้

    แต่คนกัมพูชา ยังไม่หลุดพ้นจากเรื่องนั้น ทั้งปัญหาสงครามกลางเมืองและการช่วงชิงอำนาจที่พึ่งยุติไปเมื่อก่อนโลโซปกแดงไม่กี่ปี แถมซ้ำด้วยการที่กลุ่มชนชั้นนำของประเทศกัมพูขากดหัวประชาชนตัวเองต่อเนื่องยาวนาน ยิ่งทำให้คนกัมพูชายังมองภาพรวมไม่ออก

    ซึ่งก็ไม่ค่อยต่างกันคนไทยเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยๆ เราก็มีเสรีมากกว่าในการพูด พรรคฝ่ายค้านของประเทศเรา ก็ยังด่ารัฐบาลได้ทุกวัน ไม่ต้องติดคุก หรือไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นที่ไหน

    ดูได้จาก ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ "ไทย" ได้ดิบได้ดี ชาวกัมพูชาบางส่วน ก็จะแปลงสัญชาติเป็น "เคลมโบเดีย" ทันที และเป็นกับไทย และไทยเท่านั้น ไม่มีลาว ไม่มีเวียดนามที่มีพรมแดนติดกับกัมพูชาเหมือนกัน และเจริญกว่ากัมพูชาเหมือนกันแม้แต่น้อย

    ตราบใดก็ตามที่ คนกัมพูชา ยังไม่หลุดกับดักของชนชั้้นนำ ที่พยายามเอาเรื่องความรู้สึกต่ำต้อยทางเชื่อชาติเมื่อเทียบกับไทย มาเป็นอาวุธเหนี่ยวไกฝังกระสุนลงหัวประชาชนกัมพูชา ตราบนั้น การที่ตระกูลฮุน และชนชั้นนำของกัมพูชา จะใช้ไทยเป็นเครื่องมือก็จะไม่มีวันจบไม่มีวันสิ้น

    และวันนี้ คนไทย กำลังเล่นเกมตระกูลฮุนอยู่

    เรากำลังเสริมภาพลักษณ์ให้ "ฮุนเซน" กลายเป็นรัฐบุรุษแห่งชาติกัมพูชา ดังที่คนกัมพูชากำลังได้ชม "ลูกชายใต้แสงจันทร์วันเพ็ญ" (หรือบางคนเรียกว่า "ลูกชายใต้เดือนเพ็ญ") ผ่านทางสถานีโทรทัศน์กัมพูชาในทุกวัน

    คนไทยเรา แค่ต้องฟังเพลง "เราจะทำตามสัญญา" ก็ปิดทีวี เปิด YouTube หรือ Netflix ดูกันหมดแล้ว แต่นี่ละครทั้งเรื่อง คนกัมพูชามีทางเลือกอะไรบ้าง?

    สิ่งที่เราควรทำในนาทีนี้คือ Status Quo หรือ ตรึงทุกอย่างไว้กับที่ให้นานที่สุด เพราะตระกูลฮุน กำลังเล่นเกมที่เรียกว่า Rally Round the Flag หรือการสร้างภาพการคลั่งชาติ ประคองคะแนนนิยม

    ยิ่งฝ่ายตรงข้ามในเกม ร้อนระอุเท่าไหร่ ตระกูลฮุน ก็จะยิ่งได้ ได้ และ ได้ ได้โดยไม่หยุดหย่อน และหากผันเกมให้เป็นความบาดหมางระหว่างเชื้อชาติได้ ตระกูลฮุนจะยิ่งครอง และกดหัวคนกัมพูชาไปได้อีกหลาย Generation

    และเราก็จะเดือดร้อนไปอีกหลาย Generation เช่นกัน และไม่เพียงแต่ชีวิตประชาชนและทหารหาญที่จะต้องเสียไปในวันนี้ หากการปั่นกระแสเพื่อรักษาอำนาจของตระกูลฮุน จุดติดขึ้นมาจริงๆ ประชาชนและทหารหาญที่ คนรักอิ๊ง นำมากล่าวอ้างว่า ต้องการปกป้องนัก ปกป้องหนา ก็จะยิ่งต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามทีจะไม่มีวันสิ้นสุด

    ไม่ต่างจาก ฉนวนกาซ่า ที่ ปาเลสไตน์ ปะทะกับ อิสราเอล ตามที่ ฮุนเซน กล่าวและหวังไว้ว่ามันจะเกิด

    สิ่งที่ต้องทำในเวลานี้จึงควรเป็นการตั้งสติอย่างมาก และมากที่สุด หยุดเต้นตามเพลงกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาร้องเพลง เต้นรำ ปิดปราสาทในเขตพื้นที่พิพาท หรือการกระทำใดๆ ก็ตาม แม้กระทั่งทหารไทยที่กำลังได้รับแรงเชียร์อย่างมหาศาลให้รบ ก็ควรทิ้งกระบอกปืนไว้ที่ต้้ง แล้วจัดการกับปัญหาต่างๆ ด้วยความอดทนอย่างถึงที่สุด แม้ว่าจะทนไม่ได้ ทนไม่ไหว ก็ต้องทน

    ยิ่งฮุนเซน ไม่สามารถบีบให้กระสุนไทย ฝังในร่างกายคนกัมพูชาได้เท่าไร่

    ยิ่งฮุนเซน ไม่สามารถบีบให้หมัดทหารไทย อัดหน้านักแสดงตุ๊กตาทองรักชาติกัมพูชาที่พยายามยั่วยุในพื้นที่พิพาทรายวันได้เท่าไหร่

    ฮุนเซนก็จะยิ่งอึดอัดกับกระแสที่จะค่อยๆ ตีกลับมากยิ่งขึ้นเท่านั้น

    เมื่อใดก็ตามที่คนไทยสามารถสร้างภาพให้คนกัมพูชาเห็นได้ว่า ฮุนเซน ไม่เท่าไหร่ ไม่ได้ดี ไม่ได้เจ๋ง ซ้ำยังอ่อนด้อย เพราะไม่เคยสร้างความเจริญใดๆ ให้ประเทศเค้าเอง นอกจากความมั่งคั่งของตัวเอง และเป็นเพียงนายใหม่ที่มากดหัวคนกัมพูชามากกว่า สยามในประวัติศาสตร์ และฝรั่งเศสในอดีต

    เพราะฮุนเซนเป็นคนชาติเดียวกันกับคนกัมพูชา ที่ต้องระเหเร่ร่อนมาหางานทำในเมืองไทยเพื่อชีวิตที่่ดีกว่า ไม่สามารถมีชีวิตที่ดีในประเทศตัวเองได้

    ยิ่งภาพความ "ไร้สมรรถภาพ" และ "ไร้ฝีมือ" เกิดขึ้นกับ ฮุนเซน และตระกูลฮุนมากเท่าไหร่ ...เราก็จะใกล้กับความสงบมากขึ้นเท่านั้น

    ณ เวลานี้ จึงไม่ใช่เวลา ส่งทหารเป็นผู้มีอำนาจ หรือต่อให้ส่งอำนาจให้ทหาร ก็ไม่ใช่เวลาที่ทหารจะใช้อำนาจ แต่ต้องเป็นการใช้โอบกอดคนกัมพูชา

    ถ้าเค้าส่งคมมาร้องรำ เราก็เนียนร้องเพลงไทยไปข้างๆ เขาเลย ถือธงชาติ 2 ประเทศเคียงกัน ทำให้รู้สึกว่า คนที่อยู่บริเวณนั้น คือ "คน" เหมือนๆ กัน ที่ต่างก็พูดเขมรได้ พูดไทยเป็นด้วยกันทั้งสิ้น ส่วนคนที่ทำผิดพลาดไป ในตอนนี้ จะลงดาบประหารเลย หรือว่าจะเก็บเอาไว้ด่าเล่นเพลินๆ ก่อน ก็แล้วแต่ท่านจะพิจารณา

    แต่ได้โปรด อย่าหยิบยื่นกระสุนให้ทหารเลย

    หวังว่าเสียงนี้จะเพียงพอที่จะทำให้คนที่แวะเข้ามาอ่าน ได้หยุดความสะใจ และเลือกทางเดินให้กับประเทศอย่างมีวิจารณญาน
    วันนี้เป็นครั้งแรกที่จะเขียนบทความนี้ทุกตัวอักษรจากหัวใจล้วนๆ ไม่มีอ้างอิงข้อมูลใดๆ ไม่มีการหาข้อมูลใดๆ เพิ่มเติม เพราะส่วนตัวคิดว่า คงถึงเวลาที่เราต้องเรียก "สติ" กัน แม้ว่าการส่งเสียงผ่านกลุ่มนี้ อาจจะเงียบกริบ แต่อย่างน้อยๆ คนที่แวะผ่านมาเห็น ขอจงโปรดใช้วิจารณญานในการ ค.ว.ย. กรณีตระกูลฮุน ผมหมายถึง "คิด . วิเคระห์ . แยกแยะ" โปรดอย่างคิดเป็นอื่น คงปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งที่คุณอุ๊งอิ๊งได้ทำลงเป็น เป็นความผิดพลาดที่ไม่สมควรอภัยอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะด้วยเจตนาดีหรือร้ายอย่างใด สิ่งที่ทำลงไป ไม่อาจเรียกว่าเป็น "การกระทำที่ผ่านการคิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้ว" ได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในฐานะผู้นำประเทศที่ทุกๆ การกระทำ คือสิ่งแสดงสถานะตัวแทนและผู้นำประเทศ และไม่ว่าจะด้วยการกล่าวอ้างใดๆ ของคนที่เห็นว่านายกฯ ทำอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ยิ่งช่วย ก็ยิ่งตอกย้ำว่า ลูกสาวคนสุดท้อง ของคุณทักษิณ ยังไม่มีวุฒิภาวะ และความสามารถเพียงพอใจการเป็นผู้นำประเทศ โดยเฉพาะการนำเรื่อง "ประเด็นปัญหาระหว่างประเทศ" ไปคุยผ่าน "ความสัมพันธ์ส่วนตัว" ไม่ว่าคนที่คุยด้วยนั้น จะเป็นผู้นำประเทศคู่กรณีตัวจริง หรือ ตัวจริง ก็ตาม (ผมหมายถึง เป็นโดยตำแหน่ง หรือเป็นโดยการยอมรับ) หรือแม้กระทั่ง เป็นการคุยเพื่อหวังดีต่อประเทศจริงๆ หรือเพียงหวังดีต่อเก้าอี้ตนเองก็ตาม นี่คือเรื่องของ "ประเทศ" ที่ไม่ใช่ "ธุรกิจส่วนตัว" ที่ไปคุยกันบนกรีนสนามกอล์ฟ หรือจบที่คลับหรือเลานจ์สักที่่ คุยนอกรอบให้ลงตัว แล้วค่อยไปจบในห้องประชุม การพูดคุยในฐานะประเทศ ต่อให้ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว ก็พึงมีคนระวังหลังให้เสมอ ไม่ว่าจะมีอำนาจตัดสินใจหรือไม่ ก็ต้องมีคนช่วยเวลาคุย ไม่ใช่ กำลังจะนอนแล้ว โทรหาอังเคิลซะหน่อย เผื่อเคลียร์ได้ ผมไม่เคยเชื่อว่าระหว่าง Donald Trump และ Vladimir Putin จะโทรคุยกันโดยอาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัว หรือแม้แต่ระหว่าง Vladimir Putin กับ 习近平 (สีจิ้นผิง) จะคุยกันบนความสัมพันธ์ส่วนตัว และเมื่อตัดสินใจผิดพลาด เปลี่ยนการพูดคุยที่ควรจะมีแบบแผนและจริงจัง เป็นวาทกรรมก่อนนอน ก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมา เมื่อคู่สนทนา จริงจังในทุกๆ บริบท สรุป ไม่ว่าสายซัพพอร์ตของ น้องอิ๊ง จะพยายามแก้ต่างด้วยเหตุความหวังดีต่อประเทศอย่างไร มันก็ยิ่งตอกย้ำว่า น้องอิ๊ง ไม่เหมาะกับการเป็นผู้นำอยู่ดี - รู้สึกอย่างไรบ้างครับ เมื่อบทสนทนาหนักๆ กลายเป็นเรื่องคุยก่อนนอน แต่!! สิ่งที่น่ากลัวกว่าท่านนายกฯ ก็คือ ท่านพ่อนายกฯ ที่ไม่ใช่พ่อนายกฯ เมืองไทย แต่เป็นพ่อนายกฯ เขมร ผู้นำตระกูลฮุน ที่กำลัง "เซาะกร่อนบ่อนทำลาย" ความน่าเชื่อถือของประเทศไทยบนเวทีโลกไปทุกวัน ดูจากสิ่งที่กำลังตามต่อมาจากหลังจาก คลิปเสียงเวอร์ชั่นเต็ม 17 นาทีถูกปล่อยออกมา สิ่งที่ท่านผู้นำฮุนกระทำ และบัญชาการให้องคาพยบของเหล่าชนชั้นนำของกัมพูชาทำก็คือ การเขย่าประเทศไทยให้แรงที่สุดเท่าที่จะแรงได้ เพื่อสร้างแต้มต่อไม่ว่าจะมากหรือน้อยเพียงใดให้กับการต่ออายุการกดขี่ข่มเหงคนกัมพูชาให้นานที่สุด โดยมีเป้าหมายในการเป็น "คิมอิลซุง" หรือ "คิมจองอิล" ของราชวงศ์กัมพูชาให้จงได้ โดยอาศัยเพียงความชาตินิยมของคนกัมพูชา ที่ยังไม่หลุดพ้นจากภาพจำของการตกเป็นเมืองขึ้นของสยามตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา ตั้งแต่นครวัดนครธมถูกอโยธยาเผา เรื่อยมาจนกระทั่งเขมรได้รับการปลดปล่อยจากไทย ด้วยปลายกระบอกปืนของฝรั่งเศส แต่ก็ถูกกดโดยเหล่าเสนาอำมาตย์ที่คอยยกไทยให้เป็นศัตรูผ่านตำราเรียนอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับที่ตำราเรียนประวัติศาสตร์ไทย ยังคงตอกย้ำการเสียกรุงให้พม่า 2 ครั้งมาโดยตลอด ยังดีที่คนไทย ได้รับโอกาสมากกว่า เราจึงหลุดพ้นการกดขี่และเรียกร้องสิทธิเสรีภาพจากผู้ปกครองได้มากกว่าคนกัมพูชา แม้ว่าไทยจะลุ่มๆ ดอนๆ ทางด้านประชาธิปไตยมาตลอด 92 ปี จนถึงวันที่เขียนเรื่องนี้ แต่คนกัมพูชา ยังไม่หลุดพ้นจากเรื่องนั้น ทั้งปัญหาสงครามกลางเมืองและการช่วงชิงอำนาจที่พึ่งยุติไปเมื่อก่อนโลโซปกแดงไม่กี่ปี แถมซ้ำด้วยการที่กลุ่มชนชั้นนำของประเทศกัมพูขากดหัวประชาชนตัวเองต่อเนื่องยาวนาน ยิ่งทำให้คนกัมพูชายังมองภาพรวมไม่ออก ซึ่งก็ไม่ค่อยต่างกันคนไทยเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยๆ เราก็มีเสรีมากกว่าในการพูด พรรคฝ่ายค้านของประเทศเรา ก็ยังด่ารัฐบาลได้ทุกวัน ไม่ต้องติดคุก หรือไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นที่ไหน ดูได้จาก ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ "ไทย" ได้ดิบได้ดี ชาวกัมพูชาบางส่วน ก็จะแปลงสัญชาติเป็น "เคลมโบเดีย" ทันที และเป็นกับไทย และไทยเท่านั้น ไม่มีลาว ไม่มีเวียดนามที่มีพรมแดนติดกับกัมพูชาเหมือนกัน และเจริญกว่ากัมพูชาเหมือนกันแม้แต่น้อย ตราบใดก็ตามที่ คนกัมพูชา ยังไม่หลุดกับดักของชนชั้้นนำ ที่พยายามเอาเรื่องความรู้สึกต่ำต้อยทางเชื่อชาติเมื่อเทียบกับไทย มาเป็นอาวุธเหนี่ยวไกฝังกระสุนลงหัวประชาชนกัมพูชา ตราบนั้น การที่ตระกูลฮุน และชนชั้นนำของกัมพูชา จะใช้ไทยเป็นเครื่องมือก็จะไม่มีวันจบไม่มีวันสิ้น และวันนี้ คนไทย กำลังเล่นเกมตระกูลฮุนอยู่ เรากำลังเสริมภาพลักษณ์ให้ "ฮุนเซน" กลายเป็นรัฐบุรุษแห่งชาติกัมพูชา ดังที่คนกัมพูชากำลังได้ชม "ลูกชายใต้แสงจันทร์วันเพ็ญ" (หรือบางคนเรียกว่า "ลูกชายใต้เดือนเพ็ญ") ผ่านทางสถานีโทรทัศน์กัมพูชาในทุกวัน คนไทยเรา แค่ต้องฟังเพลง "เราจะทำตามสัญญา" ก็ปิดทีวี เปิด YouTube หรือ Netflix ดูกันหมดแล้ว แต่นี่ละครทั้งเรื่อง คนกัมพูชามีทางเลือกอะไรบ้าง? สิ่งที่เราควรทำในนาทีนี้คือ Status Quo หรือ ตรึงทุกอย่างไว้กับที่ให้นานที่สุด เพราะตระกูลฮุน กำลังเล่นเกมที่เรียกว่า Rally Round the Flag หรือการสร้างภาพการคลั่งชาติ ประคองคะแนนนิยม ยิ่งฝ่ายตรงข้ามในเกม ร้อนระอุเท่าไหร่ ตระกูลฮุน ก็จะยิ่งได้ ได้ และ ได้ ได้โดยไม่หยุดหย่อน และหากผันเกมให้เป็นความบาดหมางระหว่างเชื้อชาติได้ ตระกูลฮุนจะยิ่งครอง และกดหัวคนกัมพูชาไปได้อีกหลาย Generation และเราก็จะเดือดร้อนไปอีกหลาย Generation เช่นกัน และไม่เพียงแต่ชีวิตประชาชนและทหารหาญที่จะต้องเสียไปในวันนี้ หากการปั่นกระแสเพื่อรักษาอำนาจของตระกูลฮุน จุดติดขึ้นมาจริงๆ ประชาชนและทหารหาญที่ คนรักอิ๊ง นำมากล่าวอ้างว่า ต้องการปกป้องนัก ปกป้องหนา ก็จะยิ่งต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามทีจะไม่มีวันสิ้นสุด ไม่ต่างจาก ฉนวนกาซ่า ที่ ปาเลสไตน์ ปะทะกับ อิสราเอล ตามที่ ฮุนเซน กล่าวและหวังไว้ว่ามันจะเกิด สิ่งที่ต้องทำในเวลานี้จึงควรเป็นการตั้งสติอย่างมาก และมากที่สุด หยุดเต้นตามเพลงกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาร้องเพลง เต้นรำ ปิดปราสาทในเขตพื้นที่พิพาท หรือการกระทำใดๆ ก็ตาม แม้กระทั่งทหารไทยที่กำลังได้รับแรงเชียร์อย่างมหาศาลให้รบ ก็ควรทิ้งกระบอกปืนไว้ที่ต้้ง แล้วจัดการกับปัญหาต่างๆ ด้วยความอดทนอย่างถึงที่สุด แม้ว่าจะทนไม่ได้ ทนไม่ไหว ก็ต้องทน ยิ่งฮุนเซน ไม่สามารถบีบให้กระสุนไทย ฝังในร่างกายคนกัมพูชาได้เท่าไร่ ยิ่งฮุนเซน ไม่สามารถบีบให้หมัดทหารไทย อัดหน้านักแสดงตุ๊กตาทองรักชาติกัมพูชาที่พยายามยั่วยุในพื้นที่พิพาทรายวันได้เท่าไหร่ ฮุนเซนก็จะยิ่งอึดอัดกับกระแสที่จะค่อยๆ ตีกลับมากยิ่งขึ้นเท่านั้น เมื่อใดก็ตามที่คนไทยสามารถสร้างภาพให้คนกัมพูชาเห็นได้ว่า ฮุนเซน ไม่เท่าไหร่ ไม่ได้ดี ไม่ได้เจ๋ง ซ้ำยังอ่อนด้อย เพราะไม่เคยสร้างความเจริญใดๆ ให้ประเทศเค้าเอง นอกจากความมั่งคั่งของตัวเอง และเป็นเพียงนายใหม่ที่มากดหัวคนกัมพูชามากกว่า สยามในประวัติศาสตร์ และฝรั่งเศสในอดีต เพราะฮุนเซนเป็นคนชาติเดียวกันกับคนกัมพูชา ที่ต้องระเหเร่ร่อนมาหางานทำในเมืองไทยเพื่อชีวิตที่่ดีกว่า ไม่สามารถมีชีวิตที่ดีในประเทศตัวเองได้ ยิ่งภาพความ "ไร้สมรรถภาพ" และ "ไร้ฝีมือ" เกิดขึ้นกับ ฮุนเซน และตระกูลฮุนมากเท่าไหร่ ...เราก็จะใกล้กับความสงบมากขึ้นเท่านั้น ณ เวลานี้ จึงไม่ใช่เวลา ส่งทหารเป็นผู้มีอำนาจ หรือต่อให้ส่งอำนาจให้ทหาร ก็ไม่ใช่เวลาที่ทหารจะใช้อำนาจ แต่ต้องเป็นการใช้โอบกอดคนกัมพูชา ถ้าเค้าส่งคมมาร้องรำ เราก็เนียนร้องเพลงไทยไปข้างๆ เขาเลย ถือธงชาติ 2 ประเทศเคียงกัน ทำให้รู้สึกว่า คนที่อยู่บริเวณนั้น คือ "คน" เหมือนๆ กัน ที่ต่างก็พูดเขมรได้ พูดไทยเป็นด้วยกันทั้งสิ้น ส่วนคนที่ทำผิดพลาดไป ในตอนนี้ จะลงดาบประหารเลย หรือว่าจะเก็บเอาไว้ด่าเล่นเพลินๆ ก่อน ก็แล้วแต่ท่านจะพิจารณา แต่ได้โปรด อย่าหยิบยื่นกระสุนให้ทหารเลย หวังว่าเสียงนี้จะเพียงพอที่จะทำให้คนที่แวะเข้ามาอ่าน ได้หยุดความสะใจ และเลือกทางเดินให้กับประเทศอย่างมีวิจารณญาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 206 มุมมอง 0 รีวิว
  • **ชื่อเรื่อง <ปรปักษ์จำนน> กับวลีจีนโบราณ**

    สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเรื่องชื่อนิยายและซีรีส์ <ปรปักษ์จำนน> ที่ Storyฯ รู้สึกว่าชื่อไทยแปลได้อรรถรสของชื่อจีนดีมาก

    ชื่อจีนของเรื่องนี้คือ ‘เจ๋อเยา’ (折腰) แปลตรงตัวว่าหักเอว ซึ่งมาจากการโค้งคำนับต่ำมากเพื่อแสดงถึงความเคารพอย่างยิ่งยวด แต่คำว่า ‘เจ๋อเยา’ ไม่ได้เป็นชื่อเรียกท่าโค้งคำนับ หากแต่มีความหมายว่ายอมจำนนหรือยอมสยบต่ออำนาจหรืออิทธิพลที่เหนือกว่า และมันมีที่มาจากวลีจีนโบราณ ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’

    วลีนี้ปรากฏอยู่ในบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์จิ้น (晋书) ส่วนที่บันทึกเรื่องราวบุคคลสำคัญในบรรพที่ชื่อว่า ‘เถาเฉียนจ้วน’ (陶潜传 / ตำนานเถาเฉียน) และเจ้าของวลีคือเถายวนหมิง หรืออีกชื่อหนึ่งว่า เถาเฉียน เขาเป็นกวีและนักประพันธ์ชื่อดังในสมัยจิ้นตะวันออก (ค.ศ. 317-420) มีผลงานเลื่องชื่อมากมาย เช่น วรรณกรรมเรื่อง ‘บันทึกดินแดนดอกท้อ’ เกี่ยวกับดินแดนดอกท้ออันเป็นตัวแทนของดินแดนหรือสังคมในอุดมคติหรือที่ฝรั่งเรียกว่า Utopia ที่มนุษย์แสวงหา (หมายเหตุ Storyฯ เคยเขียนถึงแล้ว ย้อนอ่านได้ที่ลิ้งค์ใต้บทความ)

    เถายวนหมิงมีพื้นเพมาจากตระกูลขุนนางเก่าซึ่งมีฐานะค่อนข้างดี ปู่ทวดเป็นมหาเสนาบดีกลาโหม ปู่เป็นผู้ว่าราชการมณฑล เขาจึงได้รับการศึกษาอย่างดีมาแต่เด็ก ต่อมาฐานะครอบครัวตกต่ำลงจนถึงขั้นยากจนหลังจากบิดาเสียชีวิตไปเมื่อเขาอายุได้แปดขวบ แต่เขาก็ยังหมั่นเพียรขยันศึกษาจนต่อมาได้รับอิทธิพลทางความคิดจากลัทธิเต๋า

    ในช่วงอายุ 29 – 40 ปี เถายวนหมิงเคยเข้ารับราชการเพื่อหาเลี้ยงชีพแต่ก็ต้องลาออกเพราะไม่ชอบการพินอบพิเทาเจ้านายและไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดีทางการเมือง แต่แล้วก็เข้ารับราชการใหม่ เป็นเช่นนี้หลายครั้งครา ทั้งนี้เพราะเขามีใจใฝ่ความสงบของธรรมชาติ รักมัธยัสถ์ ไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดี ต่อมาจึงตัดสินใจลาออกจากราชการอย่างถาวรและหันไปทำไร่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่ก็สุขใจสามารถร่ำสุราแต่งกลอนตามใจอยากและได้สร้างผลงานวรรณกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยผลงานของเขาล้วนแฝงด้วยจิตวิญญาณของธรรมชาติ ความเรียบง่าย และพลังแห่งชีวิต และต่อมาเถายวนหมิงได้ถูกยกย่องเป็นต้นแบบของการละทิ้งลาภยศชื่อเสียงและการใช้ชีวิตอย่างสมถะตามหลักปรัชญาแห่งเต๋า

    วลี ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’ นี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเถายวนหมิงอายุสี่สิบปี เข้ารับราชการในตำแหน่งผู้ว่าการเขตเผิงเจ๋อ (ตั้งอยู่ทางเหนือของมณฑลเจียงซี) อยู่มาวันหนึ่งมีผู้ตรวจการมาตรวจงาน เสมียนหลวงบอกเขาว่าควรแต่งตัวให้เรียบร้อยอย่างเป็นทางการไปต้อนรับผู้ตรวจการ เขาถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายและกล่าววลีนี้ออกมา และเมื่อกล่าวเสร็จเขาก็ยื่นใบลาออกหลังจากรับราชการมาได้เพียงแปดสิบเอ็ดวัน และหลังจากนั้นก็ไม่เข้ารับราชการอีกเลย

    แล้วทำไมต้อง ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ ?

    ประเด็นนี้มีการตีความกันหลากหลาย แต่โดยส่วนใหญ่จะตีความว่า ข้าวสารห้าโต่วคือค่าจ้างของขุนนางระดับผู้ว่าการเขตในสมัยนั้น (หนึ่งโต่วในสมัยนั้นคือประมาณเจ็ดลิตร) ซึ่งฟังดูน้อยนิดเมื่อคำนวณเทียบกับบันทึกโบราณว่าด้วยเงินเดือนข้าราชการ บ้างก็ว่าเป็นเงินเดือนแต่ยังไม่รวมค่าตอบแทนอื่น เช่นผ้าไหม บ้างก็ว่าคิดได้เป็นค่าจ้างรายวันเท่านั้น บ้างก็ว่าเป็นปริมาณข้าวสารที่พอเพียงสำหรับหนึ่งคนในหนึ่งเดือน

    แต่ไม่ว่า ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ จะมีความหมายที่แท้จริงอย่างไร เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้และกล่าวถึงอย่างยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการละทิ้งยศศักดิ์ และวลีนี้ได้กลายมาเป็นสำนวนจีนที่ถูกใช้ผ่านกาลเวลาหลายยุคสมัยเพื่อแปลว่า ไม่ยอมละทิ้งจิตวิญญาณของตนเพื่อยอมสยบให้กับอำนาจหรืออิทธิพล

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    บทความเก่า:
    ดินแดนดอกท้อ https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/525898876205076

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.yangtse.com/news/wy/202506/t20250603_215987.html
    https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_2197713
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/陶渊明/53944
    https://baike.baidu.com/item/陶潜传/75756
    https://k.sina.cn/article_5044281310_12ca99fde020004fcq.html

    #ปรปักษ์จำนน #เจ๋อเยา #เถาเฉียน #เถายวนหมิง #สาระจีน
    **ชื่อเรื่อง <ปรปักษ์จำนน> กับวลีจีนโบราณ** สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเรื่องชื่อนิยายและซีรีส์ <ปรปักษ์จำนน> ที่ Storyฯ รู้สึกว่าชื่อไทยแปลได้อรรถรสของชื่อจีนดีมาก ชื่อจีนของเรื่องนี้คือ ‘เจ๋อเยา’ (折腰) แปลตรงตัวว่าหักเอว ซึ่งมาจากการโค้งคำนับต่ำมากเพื่อแสดงถึงความเคารพอย่างยิ่งยวด แต่คำว่า ‘เจ๋อเยา’ ไม่ได้เป็นชื่อเรียกท่าโค้งคำนับ หากแต่มีความหมายว่ายอมจำนนหรือยอมสยบต่ออำนาจหรืออิทธิพลที่เหนือกว่า และมันมีที่มาจากวลีจีนโบราณ ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’ วลีนี้ปรากฏอยู่ในบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์จิ้น (晋书) ส่วนที่บันทึกเรื่องราวบุคคลสำคัญในบรรพที่ชื่อว่า ‘เถาเฉียนจ้วน’ (陶潜传 / ตำนานเถาเฉียน) และเจ้าของวลีคือเถายวนหมิง หรืออีกชื่อหนึ่งว่า เถาเฉียน เขาเป็นกวีและนักประพันธ์ชื่อดังในสมัยจิ้นตะวันออก (ค.ศ. 317-420) มีผลงานเลื่องชื่อมากมาย เช่น วรรณกรรมเรื่อง ‘บันทึกดินแดนดอกท้อ’ เกี่ยวกับดินแดนดอกท้ออันเป็นตัวแทนของดินแดนหรือสังคมในอุดมคติหรือที่ฝรั่งเรียกว่า Utopia ที่มนุษย์แสวงหา (หมายเหตุ Storyฯ เคยเขียนถึงแล้ว ย้อนอ่านได้ที่ลิ้งค์ใต้บทความ) เถายวนหมิงมีพื้นเพมาจากตระกูลขุนนางเก่าซึ่งมีฐานะค่อนข้างดี ปู่ทวดเป็นมหาเสนาบดีกลาโหม ปู่เป็นผู้ว่าราชการมณฑล เขาจึงได้รับการศึกษาอย่างดีมาแต่เด็ก ต่อมาฐานะครอบครัวตกต่ำลงจนถึงขั้นยากจนหลังจากบิดาเสียชีวิตไปเมื่อเขาอายุได้แปดขวบ แต่เขาก็ยังหมั่นเพียรขยันศึกษาจนต่อมาได้รับอิทธิพลทางความคิดจากลัทธิเต๋า ในช่วงอายุ 29 – 40 ปี เถายวนหมิงเคยเข้ารับราชการเพื่อหาเลี้ยงชีพแต่ก็ต้องลาออกเพราะไม่ชอบการพินอบพิเทาเจ้านายและไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดีทางการเมือง แต่แล้วก็เข้ารับราชการใหม่ เป็นเช่นนี้หลายครั้งครา ทั้งนี้เพราะเขามีใจใฝ่ความสงบของธรรมชาติ รักมัธยัสถ์ ไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดี ต่อมาจึงตัดสินใจลาออกจากราชการอย่างถาวรและหันไปทำไร่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่ก็สุขใจสามารถร่ำสุราแต่งกลอนตามใจอยากและได้สร้างผลงานวรรณกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยผลงานของเขาล้วนแฝงด้วยจิตวิญญาณของธรรมชาติ ความเรียบง่าย และพลังแห่งชีวิต และต่อมาเถายวนหมิงได้ถูกยกย่องเป็นต้นแบบของการละทิ้งลาภยศชื่อเสียงและการใช้ชีวิตอย่างสมถะตามหลักปรัชญาแห่งเต๋า วลี ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’ นี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเถายวนหมิงอายุสี่สิบปี เข้ารับราชการในตำแหน่งผู้ว่าการเขตเผิงเจ๋อ (ตั้งอยู่ทางเหนือของมณฑลเจียงซี) อยู่มาวันหนึ่งมีผู้ตรวจการมาตรวจงาน เสมียนหลวงบอกเขาว่าควรแต่งตัวให้เรียบร้อยอย่างเป็นทางการไปต้อนรับผู้ตรวจการ เขาถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายและกล่าววลีนี้ออกมา และเมื่อกล่าวเสร็จเขาก็ยื่นใบลาออกหลังจากรับราชการมาได้เพียงแปดสิบเอ็ดวัน และหลังจากนั้นก็ไม่เข้ารับราชการอีกเลย แล้วทำไมต้อง ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ ? ประเด็นนี้มีการตีความกันหลากหลาย แต่โดยส่วนใหญ่จะตีความว่า ข้าวสารห้าโต่วคือค่าจ้างของขุนนางระดับผู้ว่าการเขตในสมัยนั้น (หนึ่งโต่วในสมัยนั้นคือประมาณเจ็ดลิตร) ซึ่งฟังดูน้อยนิดเมื่อคำนวณเทียบกับบันทึกโบราณว่าด้วยเงินเดือนข้าราชการ บ้างก็ว่าเป็นเงินเดือนแต่ยังไม่รวมค่าตอบแทนอื่น เช่นผ้าไหม บ้างก็ว่าคิดได้เป็นค่าจ้างรายวันเท่านั้น บ้างก็ว่าเป็นปริมาณข้าวสารที่พอเพียงสำหรับหนึ่งคนในหนึ่งเดือน แต่ไม่ว่า ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ จะมีความหมายที่แท้จริงอย่างไร เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้และกล่าวถึงอย่างยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการละทิ้งยศศักดิ์ และวลีนี้ได้กลายมาเป็นสำนวนจีนที่ถูกใช้ผ่านกาลเวลาหลายยุคสมัยเพื่อแปลว่า ไม่ยอมละทิ้งจิตวิญญาณของตนเพื่อยอมสยบให้กับอำนาจหรืออิทธิพล (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) บทความเก่า: ดินแดนดอกท้อ https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/525898876205076 Credit รูปภาพจาก: https://www.yangtse.com/news/wy/202506/t20250603_215987.html https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_2197713 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/陶渊明/53944 https://baike.baidu.com/item/陶潜传/75756 https://k.sina.cn/article_5044281310_12ca99fde020004fcq.html #ปรปักษ์จำนน #เจ๋อเยา #เถาเฉียน #เถายวนหมิง #สาระจีน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • อับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน กล่าวยืนยันอีกครั้ง จะไม่มีการเจรจาใดๆเกิดขึ้นท่ามกลางการรุกรานของอิสราเอล

    "เราไม่ได้เตรียมตัวในเรื่องการเจรจากับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เนื่องจากการโจมตีของอิสราเอลยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แม้แต่การเจรจากับชาวอเมริกัน มันจะยังไม่เกิดขึ้น พวกเขาคือผู้ร่วมสมคบคิดกับอิสราเอลในการโจมตีอิหร่าน และเราไม่ได้ติดต่อไปยังสหรัฐอเมริกา รายงานข่าวทั้งหมดเป็นเท็จ"

    อารักชี ยังกล่าวถึงขีปนาวุธของอิหร่านว่า มีไว้เพื่อป้องกันประเทศ และไม่เคยใช้โจมตีใคร แต่ทำเพื่อปกป้องประเทศ

    อับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน กล่าวยืนยันอีกครั้ง จะไม่มีการเจรจาใดๆเกิดขึ้นท่ามกลางการรุกรานของอิสราเอล "เราไม่ได้เตรียมตัวในเรื่องการเจรจากับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เนื่องจากการโจมตีของอิสราเอลยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แม้แต่การเจรจากับชาวอเมริกัน มันจะยังไม่เกิดขึ้น พวกเขาคือผู้ร่วมสมคบคิดกับอิสราเอลในการโจมตีอิหร่าน และเราไม่ได้ติดต่อไปยังสหรัฐอเมริกา รายงานข่าวทั้งหมดเป็นเท็จ" อารักชี ยังกล่าวถึงขีปนาวุธของอิหร่านว่า มีไว้เพื่อป้องกันประเทศ และไม่เคยใช้โจมตีใคร แต่ทำเพื่อปกป้องประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 21 0 รีวิว
Pages Boosts