• สแกนเดียวครบ! QR Code รวมทุกช่องทางโซเชียลมีเดีย 'พรรคไทยก้าวใหม่' ชวนคนไทยพลิกโฉมประเทศสู่ความแข็งแกร่ง "ก้าวใหม่ ให้ไทยสตรอง"
    https://www.thai-tai.tv/news/21855/
    .
    #ไทยไท #ไทยก้าวใหม่ #ไทยสตรอง #การเมืองก้าวใหม่ #ติดตามการทำงาน
    สแกนเดียวครบ! QR Code รวมทุกช่องทางโซเชียลมีเดีย 'พรรคไทยก้าวใหม่' ชวนคนไทยพลิกโฉมประเทศสู่ความแข็งแกร่ง "ก้าวใหม่ ให้ไทยสตรอง" https://www.thai-tai.tv/news/21855/ . #ไทยไท #ไทยก้าวใหม่ #ไทยสตรอง #การเมืองก้าวใหม่ #ติดตามการทำงาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • BIG Story | ซิ่ง สั่ง ตาย

    ย้อนรอยคดีดวลเดือดกลางเมืองเมื่อ 10 ปีก่อน การเสียชีวิตปริศนาของ “ลูกชายนักการเมืองคนดังจังหวัดอุทัยธานี” ที่เริ่มต้นจากการซิ่งบนท้องถนน นำไปสู่เหตุปะทะจนมีผู้เสียชีวิต ปมขัดแย้งส่วนตัว หรือคำสั่งลับที่ไม่มีใครกล้าพูดถึง? ติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่จากจุดเกิดเหตุ สู่กระบวนการพิสูจน์หลักฐาน และปมเงื่อนที่ยังตั้งคำถาม

    รับชมสารคดีเชิงข่าว BIG STORY: ซิ่ง สั่ง ตาย ได้ที่ Thaitimes App

    #BigStory #ซิ่งสั่งตาย #คดีลูกนักการเมือง #อุทัยธานี #พิสูจน์หลักฐาน #ดวลเดือดกลางเมือง #ThaiTimes
    BIG Story | ซิ่ง สั่ง ตาย ย้อนรอยคดีดวลเดือดกลางเมืองเมื่อ 10 ปีก่อน การเสียชีวิตปริศนาของ “ลูกชายนักการเมืองคนดังจังหวัดอุทัยธานี” ที่เริ่มต้นจากการซิ่งบนท้องถนน นำไปสู่เหตุปะทะจนมีผู้เสียชีวิต ปมขัดแย้งส่วนตัว หรือคำสั่งลับที่ไม่มีใครกล้าพูดถึง? ติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่จากจุดเกิดเหตุ สู่กระบวนการพิสูจน์หลักฐาน และปมเงื่อนที่ยังตั้งคำถาม 📲 รับชมสารคดีเชิงข่าว BIG STORY: ซิ่ง สั่ง ตาย ได้ที่ Thaitimes App #BigStory #ซิ่งสั่งตาย #คดีลูกนักการเมือง #อุทัยธานี #พิสูจน์หลักฐาน #ดวลเดือดกลางเมือง #ThaiTimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • “Oktane 2025: เมื่อ AI กลายเป็นผู้ใช้ — Okta และ Auth0 เปิดตัวระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับ Agentic AI แบบครบวงจร”

    ในงาน Oktane 2025 ที่ลาสเวกัส Okta และ Auth0 ได้เปิดตัวชุดเครื่องมือใหม่สำหรับการรักษาความปลอดภัยของ AI agents ซึ่งเป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อรองรับยุคใหม่ของ “Agentic AI” — ปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถตัดสินใจและดำเนินการได้เองโดยไม่ต้องพึ่งมนุษย์ตลอดเวลา

    Todd McKinnon ซีอีโอของ Okta เปิดเวทีด้วยแนวคิด “ถ้าคุณจะทำ AI ให้ถูก คุณต้องทำ Identity ให้ถูกก่อน” โดยเน้นว่า AI agents ไม่ใช่แค่ระบบอัตโนมัติ แต่เป็น “ผู้ใช้” ที่ต้องมีการจัดการสิทธิ์ การตรวจสอบ และการป้องกันภัยคุกคามเหมือนกับมนุษย์

    หนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ที่เปิดตัวคือ “Cross App Access” ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่ช่วยให้ AI agents สามารถเข้าถึงหลายแอปได้โดยไม่ต้องผ่านหน้าจอขออนุญาตซ้ำ ๆ อีกต่อไป โดยผู้ดูแลระบบสามารถควบคุมสิทธิ์ได้จากศูนย์กลาง และยกเลิกการเข้าถึงแบบถาวรได้ทันที

    Auth0 ก็ไม่น้อยหน้า โดยเปิดตัว “Auth0 for AI Agents” ที่จะเปิดให้ใช้งานทั่วไปในเดือนหน้า พร้อมระบบที่ครอบคลุม 4 ด้านหลัก ได้แก่ การยืนยันตัวตน, การเรียก API อย่างปลอดภัย, การตรวจสอบการทำงานแบบ asynchronous และการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลแบบละเอียด

    นอกจากนี้ Okta ยังประกาศขยายศูนย์ข้อมูลใหม่ในแคนาดาและอินเดีย เพื่อรองรับการใช้งานทั่วโลก และเปิดตัวระบบ “Identity Governance” ที่ใช้ AI ในการตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติระหว่างการยืนยันตัวตน เช่น bot attacks หรือการปลอมแปลง credential

    งานนี้ยังมีการพูดถึงเหตุการณ์แฮก AI agent ของ McDonald’s ที่ชื่อ McHire ซึ่งถูกโจมตีผ่านช่องโหว่ด้านรหัสผ่านและการตั้งค่าความปลอดภัยที่ไม่รัดกุม — เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า AI ที่ไม่มีการจัดการ Identity อย่างเหมาะสม อาจกลายเป็นจุดอ่อนขององค์กรได้ทันที

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Okta เปิดตัวระบบ Identity สำหรับ AI agents โดยเน้นความปลอดภัยตั้งแต่การออกแบบ
    ฟีเจอร์ Cross App Access ช่วยให้ AI agents เข้าถึงหลายแอปโดยไม่ต้องขออนุญาตซ้ำ
    ผู้ดูแลสามารถควบคุมสิทธิ์และยกเลิกการเข้าถึงได้จากศูนย์กลาง
    Auth0 เปิดตัว Auth0 for AI Agents พร้อมระบบ 4 ด้านหลักเพื่อความปลอดภัย
    Okta ขยายศูนย์ข้อมูลใหม่ในแคนาดาและอินเดีย
    เปิดตัวระบบ Identity Governance ที่ใช้ AI ตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติ
    มีการพูดถึงเหตุการณ์แฮก McHire เพื่อเน้นความสำคัญของการจัดการ Identity
    งาน Oktane 2025 มีการสาธิตระบบ audit trail สำหรับติดตามการทำงานของ AI agents

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Agentic AI คือระบบที่สามารถตัดสินใจและดำเนินการได้เองโดยไม่ต้องพึ่งมนุษย์
    การจัดการ Identity สำหรับ AI agents ต้องครอบคลุมทั้งสิทธิ์, การตรวจสอบ และการควบคุม
    Cross App Access เป็นการต่อยอดจาก OAuth ที่ลดความซับซ้อนของการขอสิทธิ์
    การใช้ AI ใน Identity Governance ช่วยลด false positive และเพิ่มความแม่นยำ
    การขยายศูนย์ข้อมูลช่วยลด latency และเพิ่มความมั่นคงในการให้บริการระดับโลก

    https://www.techradar.com/pro/live/oktane-2025-all-the-news-and-updates-as-they-happen
    🔐 “Oktane 2025: เมื่อ AI กลายเป็นผู้ใช้ — Okta และ Auth0 เปิดตัวระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับ Agentic AI แบบครบวงจร” ในงาน Oktane 2025 ที่ลาสเวกัส Okta และ Auth0 ได้เปิดตัวชุดเครื่องมือใหม่สำหรับการรักษาความปลอดภัยของ AI agents ซึ่งเป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อรองรับยุคใหม่ของ “Agentic AI” — ปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถตัดสินใจและดำเนินการได้เองโดยไม่ต้องพึ่งมนุษย์ตลอดเวลา Todd McKinnon ซีอีโอของ Okta เปิดเวทีด้วยแนวคิด “ถ้าคุณจะทำ AI ให้ถูก คุณต้องทำ Identity ให้ถูกก่อน” โดยเน้นว่า AI agents ไม่ใช่แค่ระบบอัตโนมัติ แต่เป็น “ผู้ใช้” ที่ต้องมีการจัดการสิทธิ์ การตรวจสอบ และการป้องกันภัยคุกคามเหมือนกับมนุษย์ หนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ที่เปิดตัวคือ “Cross App Access” ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่ช่วยให้ AI agents สามารถเข้าถึงหลายแอปได้โดยไม่ต้องผ่านหน้าจอขออนุญาตซ้ำ ๆ อีกต่อไป โดยผู้ดูแลระบบสามารถควบคุมสิทธิ์ได้จากศูนย์กลาง และยกเลิกการเข้าถึงแบบถาวรได้ทันที Auth0 ก็ไม่น้อยหน้า โดยเปิดตัว “Auth0 for AI Agents” ที่จะเปิดให้ใช้งานทั่วไปในเดือนหน้า พร้อมระบบที่ครอบคลุม 4 ด้านหลัก ได้แก่ การยืนยันตัวตน, การเรียก API อย่างปลอดภัย, การตรวจสอบการทำงานแบบ asynchronous และการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลแบบละเอียด นอกจากนี้ Okta ยังประกาศขยายศูนย์ข้อมูลใหม่ในแคนาดาและอินเดีย เพื่อรองรับการใช้งานทั่วโลก และเปิดตัวระบบ “Identity Governance” ที่ใช้ AI ในการตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติระหว่างการยืนยันตัวตน เช่น bot attacks หรือการปลอมแปลง credential งานนี้ยังมีการพูดถึงเหตุการณ์แฮก AI agent ของ McDonald’s ที่ชื่อ McHire ซึ่งถูกโจมตีผ่านช่องโหว่ด้านรหัสผ่านและการตั้งค่าความปลอดภัยที่ไม่รัดกุม — เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า AI ที่ไม่มีการจัดการ Identity อย่างเหมาะสม อาจกลายเป็นจุดอ่อนขององค์กรได้ทันที ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Okta เปิดตัวระบบ Identity สำหรับ AI agents โดยเน้นความปลอดภัยตั้งแต่การออกแบบ ➡️ ฟีเจอร์ Cross App Access ช่วยให้ AI agents เข้าถึงหลายแอปโดยไม่ต้องขออนุญาตซ้ำ ➡️ ผู้ดูแลสามารถควบคุมสิทธิ์และยกเลิกการเข้าถึงได้จากศูนย์กลาง ➡️ Auth0 เปิดตัว Auth0 for AI Agents พร้อมระบบ 4 ด้านหลักเพื่อความปลอดภัย ➡️ Okta ขยายศูนย์ข้อมูลใหม่ในแคนาดาและอินเดีย ➡️ เปิดตัวระบบ Identity Governance ที่ใช้ AI ตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติ ➡️ มีการพูดถึงเหตุการณ์แฮก McHire เพื่อเน้นความสำคัญของการจัดการ Identity ➡️ งาน Oktane 2025 มีการสาธิตระบบ audit trail สำหรับติดตามการทำงานของ AI agents ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Agentic AI คือระบบที่สามารถตัดสินใจและดำเนินการได้เองโดยไม่ต้องพึ่งมนุษย์ ➡️ การจัดการ Identity สำหรับ AI agents ต้องครอบคลุมทั้งสิทธิ์, การตรวจสอบ และการควบคุม ➡️ Cross App Access เป็นการต่อยอดจาก OAuth ที่ลดความซับซ้อนของการขอสิทธิ์ ➡️ การใช้ AI ใน Identity Governance ช่วยลด false positive และเพิ่มความแม่นยำ ➡️ การขยายศูนย์ข้อมูลช่วยลด latency และเพิ่มความมั่นคงในการให้บริการระดับโลก https://www.techradar.com/pro/live/oktane-2025-all-the-news-and-updates-as-they-happen
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลก AWS: Amazon เปิดเกมรุกเต็มรูปแบบสู่ยุค AI Agents

    ในงาน AWS Summit ที่นิวยอร์ก Amazon ประกาศเปิดตัวชุดบริการใหม่ภายใต้ชื่อ “Bedrock AgentCore” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับสร้างและจัดการ AI agents โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ทุกองค์กรสามารถนำ agent ไปใช้งานได้ ไม่ว่าจะมีความเชี่ยวชาญด้าน IT มากน้อยแค่ไหน

    AgentCore ประกอบด้วยบริการหลายส่วน เช่น:
    - Runtime ที่ปลอดภัยและปรับขนาดได้
    - ระบบยืนยันตัวตน (AgentCore Identity)
    - ระบบติดตามการทำงาน (AgentCore Observability)
    - ระบบเชื่อมต่อ API และข้อมูล (AgentCore Gateway)
    - ระบบหน่วยความจำระยะสั้นและยาว (AgentCore Memory)
    - ระบบแปลความหมายโค้ด (AgentCore Code Interpreter)
    - ระบบทำงานในเบราว์เซอร์ (AgentCore Browser)

    นอกจากนี้ AWS ยังเปิดตัว Strands Agents ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สสำหรับสร้าง agent ด้วยโมเดลจาก Langchain, CrewAI และ LlamaIndex รวมถึงเปิดตัว Agent Marketplace ที่มี agent สำเร็จรูปกว่า 800 รายการให้เลือกใช้งาน

    เพื่อรองรับการฝึกและปรับแต่งโมเดล AI สำหรับ agent AWS ยังเพิ่มฟีเจอร์ใน SageMaker และเปิดตัวบริการจัดเก็บเวกเตอร์ใหม่ชื่อ Amazon S3 Vectors

    AWS เปิดตัว Bedrock AgentCore สำหรับสร้างและจัดการ AI agents
    รองรับการทำงานแบบปลอดภัย ปรับขนาดได้ และเชื่อมต่อกับระบบต่าง ๆ

    AgentCore รองรับโมเดลจาก Langchain, CrewAI, LlamaIndex และ Strands Agents
    เปิดกว้างสำหรับนักพัฒนาและโอเพ่นซอร์ส

    AgentCore Identity รองรับ OAuth และระบบยืนยันตัวตนอื่น ๆ
    เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน agent

    AgentCore Observability ช่วยติดตามการทำงานและการเข้าถึงข้อมูล
    เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการตรวจสอบการทำงานของ agent

    AgentCore Gateway รองรับ MCP และ A2A protocol
    ช่วยให้ agent เชื่อมต่อกับ API และระบบภายนอกได้หลากหลาย

    AgentCore Memory รองรับการสร้างหน่วยความจำระยะสั้นและยาว
    ช่วยให้ agent เรียนรู้จากบริบทและประวัติการใช้งาน

    AgentCore Code Interpreter ช่วยให้เข้าใจการทำงานของ agent
    เหมาะสำหรับการดีบักและปรับแต่งพฤติกรรมของ agent

    AWS เปิดตัว Agent Marketplace พร้อม agent สำเร็จรูปกว่า 800 รายการ
    ช่วยให้องค์กรเริ่มใช้งาน agent ได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องพัฒนาเอง

    AWS เพิ่มฟีเจอร์ใน SageMaker สำหรับปรับแต่งโมเดล Nova
    รองรับการใช้ข้อมูลภายในองค์กรเพื่อฝึกโมเดล

    เปิดตัว Amazon S3 Vectors สำหรับจัดเก็บข้อมูลเวกเตอร์ราคาประหยัด
    เหมาะกับการฝึกและปรับแต่งโมเดล AI ขนาดใหญ่

    AI agents ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการใช้งานจริง
    องค์กรต้องทดลองและปรับแต่งก่อนใช้งานในระดับ production

    การทำงานแบบอัตโนมัติของ agent อาจเกิดผลกระทบที่ไม่คาดคิด
    ต้องมีระบบ guardrails และการตรวจสอบอย่างรัดกุม

    การเชื่อมต่อกับระบบภายนอกผ่าน agent อาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    ต้องตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึงและการจัดการข้อมูลอย่างละเอียด

    Agent Marketplace ยังไม่มีมาตรฐานกลางในการประเมินคุณภาพ agent
    ผู้ใช้อาจต้องทดสอบ agent ด้วยตนเองก่อนนำไปใช้งานจริง

    https://www.techspot.com/news/108714-amazon-big-bet-ai-agents-comes-focus-aws.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลก AWS: Amazon เปิดเกมรุกเต็มรูปแบบสู่ยุค AI Agents ในงาน AWS Summit ที่นิวยอร์ก Amazon ประกาศเปิดตัวชุดบริการใหม่ภายใต้ชื่อ “Bedrock AgentCore” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับสร้างและจัดการ AI agents โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ทุกองค์กรสามารถนำ agent ไปใช้งานได้ ไม่ว่าจะมีความเชี่ยวชาญด้าน IT มากน้อยแค่ไหน AgentCore ประกอบด้วยบริการหลายส่วน เช่น: - Runtime ที่ปลอดภัยและปรับขนาดได้ - ระบบยืนยันตัวตน (AgentCore Identity) - ระบบติดตามการทำงาน (AgentCore Observability) - ระบบเชื่อมต่อ API และข้อมูล (AgentCore Gateway) - ระบบหน่วยความจำระยะสั้นและยาว (AgentCore Memory) - ระบบแปลความหมายโค้ด (AgentCore Code Interpreter) - ระบบทำงานในเบราว์เซอร์ (AgentCore Browser) นอกจากนี้ AWS ยังเปิดตัว Strands Agents ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สสำหรับสร้าง agent ด้วยโมเดลจาก Langchain, CrewAI และ LlamaIndex รวมถึงเปิดตัว Agent Marketplace ที่มี agent สำเร็จรูปกว่า 800 รายการให้เลือกใช้งาน เพื่อรองรับการฝึกและปรับแต่งโมเดล AI สำหรับ agent AWS ยังเพิ่มฟีเจอร์ใน SageMaker และเปิดตัวบริการจัดเก็บเวกเตอร์ใหม่ชื่อ Amazon S3 Vectors ✅ AWS เปิดตัว Bedrock AgentCore สำหรับสร้างและจัดการ AI agents ➡️ รองรับการทำงานแบบปลอดภัย ปรับขนาดได้ และเชื่อมต่อกับระบบต่าง ๆ ✅ AgentCore รองรับโมเดลจาก Langchain, CrewAI, LlamaIndex และ Strands Agents ➡️ เปิดกว้างสำหรับนักพัฒนาและโอเพ่นซอร์ส ✅ AgentCore Identity รองรับ OAuth และระบบยืนยันตัวตนอื่น ๆ ➡️ เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน agent ✅ AgentCore Observability ช่วยติดตามการทำงานและการเข้าถึงข้อมูล ➡️ เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการตรวจสอบการทำงานของ agent ✅ AgentCore Gateway รองรับ MCP และ A2A protocol ➡️ ช่วยให้ agent เชื่อมต่อกับ API และระบบภายนอกได้หลากหลาย ✅ AgentCore Memory รองรับการสร้างหน่วยความจำระยะสั้นและยาว ➡️ ช่วยให้ agent เรียนรู้จากบริบทและประวัติการใช้งาน ✅ AgentCore Code Interpreter ช่วยให้เข้าใจการทำงานของ agent ➡️ เหมาะสำหรับการดีบักและปรับแต่งพฤติกรรมของ agent ✅ AWS เปิดตัว Agent Marketplace พร้อม agent สำเร็จรูปกว่า 800 รายการ ➡️ ช่วยให้องค์กรเริ่มใช้งาน agent ได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องพัฒนาเอง ✅ AWS เพิ่มฟีเจอร์ใน SageMaker สำหรับปรับแต่งโมเดล Nova ➡️ รองรับการใช้ข้อมูลภายในองค์กรเพื่อฝึกโมเดล ✅ เปิดตัว Amazon S3 Vectors สำหรับจัดเก็บข้อมูลเวกเตอร์ราคาประหยัด ➡️ เหมาะกับการฝึกและปรับแต่งโมเดล AI ขนาดใหญ่ ‼️ AI agents ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการใช้งานจริง ⛔ องค์กรต้องทดลองและปรับแต่งก่อนใช้งานในระดับ production ‼️ การทำงานแบบอัตโนมัติของ agent อาจเกิดผลกระทบที่ไม่คาดคิด ⛔ ต้องมีระบบ guardrails และการตรวจสอบอย่างรัดกุม ‼️ การเชื่อมต่อกับระบบภายนอกผ่าน agent อาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ⛔ ต้องตรวจสอบสิทธิ์การเข้าถึงและการจัดการข้อมูลอย่างละเอียด ‼️ Agent Marketplace ยังไม่มีมาตรฐานกลางในการประเมินคุณภาพ agent ⛔ ผู้ใช้อาจต้องทดสอบ agent ด้วยตนเองก่อนนำไปใช้งานจริง https://www.techspot.com/news/108714-amazon-big-bet-ai-agents-comes-focus-aws.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Amazon's big bet on AI agents comes into focus at AWS Summit
    At AWS Summit, Amazon's cloud computing division addressed these challenges head-on, unveiling a broad range of offerings that include development and deployment tools for agents, as well...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 380 มุมมอง 0 รีวิว
  • การพักระหว่างวันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
    ผลการศึกษาล่าสุดจาก DeskTime พบว่า พนักงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดไม่ได้ทำงานต่อเนื่องตลอดทั้งวัน แต่ใช้ รูปแบบการทำงานแบบ 75/33 ซึ่งหมายถึง ทำงาน 75 นาที แล้วพัก 33 นาที

    ในช่วงการทำงานจากที่บ้านระหว่างการระบาดของโควิด-19 พนักงานมีแนวโน้ม ทำงานต่อเนื่องนานขึ้น โดยมีอัตราส่วน 112/26 (ทำงาน 112 นาที พัก 26 นาที) ซึ่งแตกต่างจากปัจจุบันที่พนักงาน ใช้เวลาพักมากขึ้น

    DeskTime วิเคราะห์ข้อมูลจาก ผู้ใช้ซอฟต์แวร์ 6,000 คน และพบว่า พนักงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดมักจะหยุดพักประมาณ 4 ครั้งต่อวัน ซึ่งมากกว่าช่วงที่ทำงานจากที่บ้านที่มีการพักเพียง 3 ครั้ง

    ข้อมูลจากข่าว
    - พนักงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดใช้รูปแบบการทำงาน 75/33 (ทำงาน 75 นาที พัก 33 นาที)
    - ในช่วงโควิด-19 พนักงานทำงานต่อเนื่องนานขึ้น โดยมีอัตราส่วน 112/26
    - DeskTime วิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ใช้ซอฟต์แวร์ 6,000 คน
    - พนักงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดมักจะหยุดพักประมาณ 4 ครั้งต่อวัน
    - การทำงานในออฟฟิศหรือแบบไฮบริดช่วยให้พนักงานมีโอกาสพักมากขึ้น

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การทำงานต่อเนื่องโดยไม่พักอาจลดประสิทธิภาพและส่งผลเสียต่อสุขภาพจิต
    - ซอฟต์แวร์ติดตามการทำงานอาจไม่สามารถวัดประสิทธิภาพที่แท้จริงได้
    - ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานจะส่งผลต่อองค์กรในระยะยาวอย่างไร
    - การทำงานจากที่บ้านอาจทำให้พนักงานมีเวลาพักน้อยลงและรู้สึกโดดเดี่ยวมากขึ้น

    การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า การพักระหว่างวันมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพการทำงาน และอาจช่วยให้ องค์กรสามารถปรับรูปแบบการทำงานเพื่อเพิ่มผลผลิตและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน

    https://www.techspot.com/news/108182-most-productive-workers-rest-almost-two-half-hours.html
    🏢 การพักระหว่างวันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ผลการศึกษาล่าสุดจาก DeskTime พบว่า พนักงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดไม่ได้ทำงานต่อเนื่องตลอดทั้งวัน แต่ใช้ รูปแบบการทำงานแบบ 75/33 ซึ่งหมายถึง ทำงาน 75 นาที แล้วพัก 33 นาที ในช่วงการทำงานจากที่บ้านระหว่างการระบาดของโควิด-19 พนักงานมีแนวโน้ม ทำงานต่อเนื่องนานขึ้น โดยมีอัตราส่วน 112/26 (ทำงาน 112 นาที พัก 26 นาที) ซึ่งแตกต่างจากปัจจุบันที่พนักงาน ใช้เวลาพักมากขึ้น DeskTime วิเคราะห์ข้อมูลจาก ผู้ใช้ซอฟต์แวร์ 6,000 คน และพบว่า พนักงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดมักจะหยุดพักประมาณ 4 ครั้งต่อวัน ซึ่งมากกว่าช่วงที่ทำงานจากที่บ้านที่มีการพักเพียง 3 ครั้ง ✅ ข้อมูลจากข่าว - พนักงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดใช้รูปแบบการทำงาน 75/33 (ทำงาน 75 นาที พัก 33 นาที) - ในช่วงโควิด-19 พนักงานทำงานต่อเนื่องนานขึ้น โดยมีอัตราส่วน 112/26 - DeskTime วิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ใช้ซอฟต์แวร์ 6,000 คน - พนักงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดมักจะหยุดพักประมาณ 4 ครั้งต่อวัน - การทำงานในออฟฟิศหรือแบบไฮบริดช่วยให้พนักงานมีโอกาสพักมากขึ้น ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การทำงานต่อเนื่องโดยไม่พักอาจลดประสิทธิภาพและส่งผลเสียต่อสุขภาพจิต - ซอฟต์แวร์ติดตามการทำงานอาจไม่สามารถวัดประสิทธิภาพที่แท้จริงได้ - ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานจะส่งผลต่อองค์กรในระยะยาวอย่างไร - การทำงานจากที่บ้านอาจทำให้พนักงานมีเวลาพักน้อยลงและรู้สึกโดดเดี่ยวมากขึ้น การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า การพักระหว่างวันมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพการทำงาน และอาจช่วยให้ องค์กรสามารถปรับรูปแบบการทำงานเพื่อเพิ่มผลผลิตและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน https://www.techspot.com/news/108182-most-productive-workers-rest-almost-two-half-hours.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    The most productive workers "rest" almost two and a half hours during an 8-hour workday, study claims
    DeskTime, the cloud-based time tracking and productivity management software from the Draugiem Group, carried out the recent productivity study.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 330 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิทย์ซินโครตรอนร่วมมือบริษัทเอกชนพัฒนายาสีฟันสมุนไพรป้องกันฟันผุ-ลดการเสียวฟัน

    นักวิทยาศาสตร์สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ร่วมมือบริษัทเอกชน พัฒนายาสีฟันสมุนไพรป้องกันผุ-ลดการเสียวฟัน โดยมีส่วนผสมของเปปไทด์จากข้าวไรซ์เบอร์รี่ ล่าสุดคว้า 2 เหรียญรางวัลจากงานแสดงนวัตกรรม ณ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ พร้อมรางวัลพิเศษจาก French Federation of Inventors

    นครราชสีมา - ดร.ศิริวรรณ ณะวงษ์ หัวหน้าส่วนวิจัยด้านอาหารและการเกษตร สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน กล่าวว่า “สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนได้มีส่วนร่วมกับ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด พัฒนายาสีฟันสมุนไพร 2 สูตร ได้แก่ ยาสีฟัน Nature’s Touch ที่เสริมสร้างเคลือบฟันและป้องกันฟันผุด้วยกรดอะมิโนและเปปไทด์จากรำข้าวไรซ์เบอร์รี่ และยาสีฟัน Hi-Herb ที่ป้องกันการเสียวฟันด้วยกรดอะมิโนและเปปไทด์จากรำข้าวไรซ์เบอร์รี่ โดยได้ใช้เทคนิคแสงซินโครตรอนศึกษาประสิทธิภาพของยาสีฟันทั้งสองสูตร”

    “ในการศึกษาประสิทธิภาพยาสีฟัน Nature’s Touch ที่เสริมสร้างเคลือบฟันและป้องกันฟันผุนั้น ทีมวิจัยได้ใช้เทคนิคอินฟราเรดสเปกโตรสโกปีจากแสงซินโครตรอนติดตามการทำงานของกรดอะมิโนและเปปไทด์ในการยึดติดกับฟันหลังจากการแปรงฟัน ส่วนการศึกษาประสิทธิภาพยาสีฟัน Hi-Herb ที่ป้องกันการเสียวฟันนั้น ทีมวิจัยใช้ 3 เทคนิคแสงซินโครตรอน ได้แก่ เทคนิคอินฟราเรดสเปกโตรสโกปี เทคนิคการกระเจิงรังสีเอกซ์ (SAXS/WAXS) และเทคนิคเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (XTM) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของยาสีฟันสูตรป้องกันการเสียวฟัน โดยติดตามการเรียงตัวของกรดอะมิโนและเปปไทด์ที่เข้าไปในรูฟันเพื่อช่วยป้องกันการเสียวฟัน”

    “งานวิจัยนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งของการใช้ประโยชน์แสงซินโครตรอนเพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งล่าสุดยังได้รับรางวัลจากประกวดภายในงาน The 50th Geneva International Exhibition of Inventions 2025 ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุม Palexpo นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ โดยยาสีฟันสูตรเสริมสร้างเคลือบฟันและป้องกันฟันผุได้รับเหรียญเงินจากการประกวดหลักภายในงาน และได้รับรางวัลพิเศษจากสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดย French Federation of Inventors และยาสีฟันสูตรป้องกันการเสียวฟันได้รับรางวัลเหรียญทองแดงจากการประกวดหลักภายในงาน นอกจากนี้ทั้งสองผลงานจากยังได้รับประกาศนียบัตรจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ซึ่งมีพิธีมอบภายในงานจัดแสดงนวัตกรรมที่สวิตเซอร์แลนด์ด้วย" ดร.ศิริวรรณ ณะวงษ์ กล่าวสรุป

    สำหรับผู้ประกอบการผู้สนใจในการใช้ประโยชน์แสงซินโครตรอนเพื่อส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ สามารถติดต่อได้ที่ ส่วนบริการอุตสาหกรรมและสังคม ฝ่ายยุทธศาสตร์องค์กร สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) โทร.08 9949 7313 หรือ อีเมล bds@slri.or.th
    นักวิทย์ซินโครตรอนร่วมมือบริษัทเอกชนพัฒนายาสีฟันสมุนไพรป้องกันฟันผุ-ลดการเสียวฟัน นักวิทยาศาสตร์สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ร่วมมือบริษัทเอกชน พัฒนายาสีฟันสมุนไพรป้องกันผุ-ลดการเสียวฟัน โดยมีส่วนผสมของเปปไทด์จากข้าวไรซ์เบอร์รี่ ล่าสุดคว้า 2 เหรียญรางวัลจากงานแสดงนวัตกรรม ณ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ พร้อมรางวัลพิเศษจาก French Federation of Inventors นครราชสีมา - ดร.ศิริวรรณ ณะวงษ์ หัวหน้าส่วนวิจัยด้านอาหารและการเกษตร สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน กล่าวว่า “สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนได้มีส่วนร่วมกับ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด พัฒนายาสีฟันสมุนไพร 2 สูตร ได้แก่ ยาสีฟัน Nature’s Touch ที่เสริมสร้างเคลือบฟันและป้องกันฟันผุด้วยกรดอะมิโนและเปปไทด์จากรำข้าวไรซ์เบอร์รี่ และยาสีฟัน Hi-Herb ที่ป้องกันการเสียวฟันด้วยกรดอะมิโนและเปปไทด์จากรำข้าวไรซ์เบอร์รี่ โดยได้ใช้เทคนิคแสงซินโครตรอนศึกษาประสิทธิภาพของยาสีฟันทั้งสองสูตร” “ในการศึกษาประสิทธิภาพยาสีฟัน Nature’s Touch ที่เสริมสร้างเคลือบฟันและป้องกันฟันผุนั้น ทีมวิจัยได้ใช้เทคนิคอินฟราเรดสเปกโตรสโกปีจากแสงซินโครตรอนติดตามการทำงานของกรดอะมิโนและเปปไทด์ในการยึดติดกับฟันหลังจากการแปรงฟัน ส่วนการศึกษาประสิทธิภาพยาสีฟัน Hi-Herb ที่ป้องกันการเสียวฟันนั้น ทีมวิจัยใช้ 3 เทคนิคแสงซินโครตรอน ได้แก่ เทคนิคอินฟราเรดสเปกโตรสโกปี เทคนิคการกระเจิงรังสีเอกซ์ (SAXS/WAXS) และเทคนิคเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (XTM) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของยาสีฟันสูตรป้องกันการเสียวฟัน โดยติดตามการเรียงตัวของกรดอะมิโนและเปปไทด์ที่เข้าไปในรูฟันเพื่อช่วยป้องกันการเสียวฟัน” “งานวิจัยนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งของการใช้ประโยชน์แสงซินโครตรอนเพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งล่าสุดยังได้รับรางวัลจากประกวดภายในงาน The 50th Geneva International Exhibition of Inventions 2025 ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุม Palexpo นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ โดยยาสีฟันสูตรเสริมสร้างเคลือบฟันและป้องกันฟันผุได้รับเหรียญเงินจากการประกวดหลักภายในงาน และได้รับรางวัลพิเศษจากสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดย French Federation of Inventors และยาสีฟันสูตรป้องกันการเสียวฟันได้รับรางวัลเหรียญทองแดงจากการประกวดหลักภายในงาน นอกจากนี้ทั้งสองผลงานจากยังได้รับประกาศนียบัตรจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ซึ่งมีพิธีมอบภายในงานจัดแสดงนวัตกรรมที่สวิตเซอร์แลนด์ด้วย" ดร.ศิริวรรณ ณะวงษ์ กล่าวสรุป สำหรับผู้ประกอบการผู้สนใจในการใช้ประโยชน์แสงซินโครตรอนเพื่อส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ สามารถติดต่อได้ที่ ส่วนบริการอุตสาหกรรมและสังคม ฝ่ายยุทธศาสตร์องค์กร สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) โทร.08 9949 7313 หรือ อีเมล bds@slri.or.th
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 455 มุมมอง 0 รีวิว
  • WorkComposer แอปพลิเคชันที่ใช้ในการติดตามการทำงานของพนักงาน ได้เกิดเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลครั้งใหญ่ โดยมีภาพหน้าจอการทำงานของพนักงานกว่า 21 ล้านภาพ ถูกเปิดเผยสู่สาธารณะผ่านอินเทอร์เน็ต เหตุการณ์นี้เกิดจากการตั้งค่าที่ผิดพลาดใน Amazon S3 storage bucket ซึ่งทำให้ข้อมูลที่ควรจะเป็นส่วนตัวกลายเป็นสาธารณะ

    ภาพที่รั่วไหลมีข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น อีเมล การสนทนาภายในองค์กร เอกสารธุรกิจ และข้อมูลการเข้าสู่ระบบที่แสดงชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และ API keys ซึ่งอาจถูกนำไปใช้ในการโจรกรรมข้อมูล การหลอกลวง หรือการสอดแนมทางธุรกิจ

    Cybernews ซึ่งเป็นผู้ค้นพบเหตุการณ์นี้ ได้แจ้งเตือน WorkComposer และบริษัทได้ดำเนินการแก้ไขโดยการปิดการเข้าถึงข้อมูลที่รั่วไหล อย่างไรก็ตาม WorkComposer ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้

    เหตุการณ์และผลกระทบ
    - ข้อมูลภาพหน้าจอการทำงานของพนักงานกว่า 21 ล้านภาพถูกเปิดเผย
    - มีข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น อีเมล การสนทนา และข้อมูลการเข้าสู่ระบบ

    การแก้ไขปัญหา
    - WorkComposer ได้ปิดการเข้าถึงข้อมูลที่รั่วไหล
    - Cybernews แจ้งเตือนบริษัทเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้

    ผลกระทบต่อความปลอดภัย
    - ข้อมูลที่รั่วไหลอาจถูกนำไปใช้ในการโจรกรรมข้อมูลและการหลอกลวง
    - พนักงานไม่มีการควบคุมข้อมูลส่วนตัวที่ปรากฏในภาพ

    ความสำคัญของการป้องกัน
    - เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของการตั้งค่าความปลอดภัยในระบบคลาวด์

    https://www.techspot.com/news/107711-workcomposer-leak-exposes-21-million-employee-screenshots-online.html
    WorkComposer แอปพลิเคชันที่ใช้ในการติดตามการทำงานของพนักงาน ได้เกิดเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลครั้งใหญ่ โดยมีภาพหน้าจอการทำงานของพนักงานกว่า 21 ล้านภาพ ถูกเปิดเผยสู่สาธารณะผ่านอินเทอร์เน็ต เหตุการณ์นี้เกิดจากการตั้งค่าที่ผิดพลาดใน Amazon S3 storage bucket ซึ่งทำให้ข้อมูลที่ควรจะเป็นส่วนตัวกลายเป็นสาธารณะ ภาพที่รั่วไหลมีข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น อีเมล การสนทนาภายในองค์กร เอกสารธุรกิจ และข้อมูลการเข้าสู่ระบบที่แสดงชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และ API keys ซึ่งอาจถูกนำไปใช้ในการโจรกรรมข้อมูล การหลอกลวง หรือการสอดแนมทางธุรกิจ Cybernews ซึ่งเป็นผู้ค้นพบเหตุการณ์นี้ ได้แจ้งเตือน WorkComposer และบริษัทได้ดำเนินการแก้ไขโดยการปิดการเข้าถึงข้อมูลที่รั่วไหล อย่างไรก็ตาม WorkComposer ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ✅ เหตุการณ์และผลกระทบ - ข้อมูลภาพหน้าจอการทำงานของพนักงานกว่า 21 ล้านภาพถูกเปิดเผย - มีข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น อีเมล การสนทนา และข้อมูลการเข้าสู่ระบบ ✅ การแก้ไขปัญหา - WorkComposer ได้ปิดการเข้าถึงข้อมูลที่รั่วไหล - Cybernews แจ้งเตือนบริษัทเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ✅ ผลกระทบต่อความปลอดภัย - ข้อมูลที่รั่วไหลอาจถูกนำไปใช้ในการโจรกรรมข้อมูลและการหลอกลวง - พนักงานไม่มีการควบคุมข้อมูลส่วนตัวที่ปรากฏในภาพ ✅ ความสำคัญของการป้องกัน - เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของการตั้งค่าความปลอดภัยในระบบคลาวด์ https://www.techspot.com/news/107711-workcomposer-leak-exposes-21-million-employee-screenshots-online.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    WorkComposer leak exposes 21 million employee screenshots online
    Over 200,000 employees across thousands of organizations use WorkComposer to track productivity by logging keystrokes, monitoring application usage, and capturing screenshots every few minutes. Researchers at Cybernews...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 287 มุมมอง 0 รีวิว
  • WorkComposer ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันติดตามการทำงานของพนักงาน ได้ถูกเปิดเผยว่ามีการรั่วไหลของภาพหน้าจอมากกว่า 21 ล้านภาพ บนอินเทอร์เน็ตแบบเปิด โดยภาพเหล่านี้ถูกเก็บไว้ใน Amazon S3 bucket ที่ไม่มีการป้องกัน ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เช่น การขโมยข้อมูล การฉ้อโกง และการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา

    ภาพหน้าจอที่รั่วไหลแสดงถึงกิจกรรมของพนักงานในเวลาจริง เช่น การสื่อสารที่เป็นความลับ พอร์ทัลการเข้าสู่ระบบ รหัสผ่าน และข้อมูลที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญา แม้ว่าบริษัทจะล็อกการเข้าถึงข้อมูลในภายหลัง แต่ยังไม่มีหลักฐานว่าข้อมูลเหล่านี้ถูกใช้โดยอาชญากรไซเบอร์

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่าการจัดการฐานข้อมูลที่ไม่มีการป้องกันเป็นสาเหตุสำคัญของการรั่วไหลของข้อมูลในปีนี้ โดยมีการรั่วไหลมากกว่า 2.8 พันล้านรายการ ทั่วโลก

    การรั่วไหลของภาพหน้าจอ
    - มีการรั่วไหลของภาพหน้าจอมากกว่า 21 ล้านภาพบนอินเทอร์เน็ตแบบเปิด
    - ภาพเหล่านี้แสดงถึงกิจกรรมของพนักงานในเวลาจริง เช่น การสื่อสารและข้อมูลที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญา

    การจัดการฐานข้อมูลที่ไม่มีการป้องกัน
    - ข้อมูลถูกเก็บไว้ใน Amazon S3 bucket ที่ไม่มีการป้องกัน
    - บริษัทได้ล็อกการเข้าถึงข้อมูลในภายหลัง

    ผลกระทบต่อความปลอดภัย
    - การรั่วไหลอาจนำไปสู่ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เช่น การขโมยข้อมูลและการฉ้อโกง

    คำเตือนจากนักวิจัยด้านความปลอดภัย
    - การจัดการฐานข้อมูลที่ไม่มีการป้องกันเป็นสาเหตุสำคัญของการรั่วไหลของข้อมูล

    https://www.techradar.com/pro/security/top-employee-monitoring-app-leaks-21-million-screenshots-on-thousands-of-users
    WorkComposer ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันติดตามการทำงานของพนักงาน ได้ถูกเปิดเผยว่ามีการรั่วไหลของภาพหน้าจอมากกว่า 21 ล้านภาพ บนอินเทอร์เน็ตแบบเปิด โดยภาพเหล่านี้ถูกเก็บไว้ใน Amazon S3 bucket ที่ไม่มีการป้องกัน ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เช่น การขโมยข้อมูล การฉ้อโกง และการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ภาพหน้าจอที่รั่วไหลแสดงถึงกิจกรรมของพนักงานในเวลาจริง เช่น การสื่อสารที่เป็นความลับ พอร์ทัลการเข้าสู่ระบบ รหัสผ่าน และข้อมูลที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญา แม้ว่าบริษัทจะล็อกการเข้าถึงข้อมูลในภายหลัง แต่ยังไม่มีหลักฐานว่าข้อมูลเหล่านี้ถูกใช้โดยอาชญากรไซเบอร์ นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่าการจัดการฐานข้อมูลที่ไม่มีการป้องกันเป็นสาเหตุสำคัญของการรั่วไหลของข้อมูลในปีนี้ โดยมีการรั่วไหลมากกว่า 2.8 พันล้านรายการ ทั่วโลก ✅ การรั่วไหลของภาพหน้าจอ - มีการรั่วไหลของภาพหน้าจอมากกว่า 21 ล้านภาพบนอินเทอร์เน็ตแบบเปิด - ภาพเหล่านี้แสดงถึงกิจกรรมของพนักงานในเวลาจริง เช่น การสื่อสารและข้อมูลที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญา ✅ การจัดการฐานข้อมูลที่ไม่มีการป้องกัน - ข้อมูลถูกเก็บไว้ใน Amazon S3 bucket ที่ไม่มีการป้องกัน - บริษัทได้ล็อกการเข้าถึงข้อมูลในภายหลัง ✅ ผลกระทบต่อความปลอดภัย - การรั่วไหลอาจนำไปสู่ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เช่น การขโมยข้อมูลและการฉ้อโกง ✅ คำเตือนจากนักวิจัยด้านความปลอดภัย - การจัดการฐานข้อมูลที่ไม่มีการป้องกันเป็นสาเหตุสำคัญของการรั่วไหลของข้อมูล https://www.techradar.com/pro/security/top-employee-monitoring-app-leaks-21-million-screenshots-on-thousands-of-users
    WWW.TECHRADAR.COM
    Top employee monitoring app leaks 21 million screenshots on thousands of users
    WorkComposer leaking screenshots of user activity on the clear web
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 392 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ถ้าเป็นคนที่มีจิตวิญญาณคงทำไม่ได้"
    หลอกทำข้อตกลงหยุดยิง
    ชาวปาเลสไตน์ที่ลี้ภัยสงครามทะยอยกลับเข้ากาซา
    แน่นอนว่าสมาชิกฮามาสกลับเข้ามาด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่อิสราเอลรู้ดีอยู่แล้ว
    โจมตีอย่างรุนแรงโดยไม่แจ้งล่วงหน้า เพื่อทำลายสมาชิกฮามาส โดยการแลกชีวิตชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์ รายงานล่าสุด เสียชีวิต 354 ราย เป็นเด็กเล็ก 50 ราย ผู้หญิงอีก 30 ราย

    การโจมตีของอิสราเอลครั้งนี้ สามารถทำลายแกนนำระดับสูงของกลุ่มฮามาสลงได้ รวมถึงนายยาสเซอร์ ฮาร์บ สมาชิกสำนักงานการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐบาล

    นอกจากนี้ ยังมีนายเอสซัม อัล-ดาลิส หัวหน้าคณะกรรมการติดตามการทำงานของกลุ่มฮามาส นายอาเหม็ด อัล-ฮัตตา ปลัดกระทรวงยุติธรรมของกลุ่มฮามาส นายมะห์มูด อาบู วัตฟา ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายบาห์จัต อาบู สุลต่าน อธิบดีกรมความมั่นคงภายใน

    คำถามง่ายๆคือ กลุ่มฮามาสจะสูญสลายไปหรือไม่ ในเมื่อหลายฝ่ายออกมาเตือนอิสราเอลตั้งแต่เริ่มต้นทำสงครามแล้วว่า ฮามาสไม่ใช่บุคคล แต่พวกเขาคือเป็นจิตวิญญาณ แม้การทำลายสมาชิกระดับแกนนำ แต่พวกเข้าก็สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ตลอด และแสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นเช่นนั้นจริง
    "ถ้าเป็นคนที่มีจิตวิญญาณคงทำไม่ได้" หลอกทำข้อตกลงหยุดยิง ชาวปาเลสไตน์ที่ลี้ภัยสงครามทะยอยกลับเข้ากาซา แน่นอนว่าสมาชิกฮามาสกลับเข้ามาด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่อิสราเอลรู้ดีอยู่แล้ว โจมตีอย่างรุนแรงโดยไม่แจ้งล่วงหน้า เพื่อทำลายสมาชิกฮามาส โดยการแลกชีวิตชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์ รายงานล่าสุด เสียชีวิต 354 ราย เป็นเด็กเล็ก 50 ราย ผู้หญิงอีก 30 ราย การโจมตีของอิสราเอลครั้งนี้ สามารถทำลายแกนนำระดับสูงของกลุ่มฮามาสลงได้ รวมถึงนายยาสเซอร์ ฮาร์บ สมาชิกสำนักงานการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐบาล นอกจากนี้ ยังมีนายเอสซัม อัล-ดาลิส หัวหน้าคณะกรรมการติดตามการทำงานของกลุ่มฮามาส นายอาเหม็ด อัล-ฮัตตา ปลัดกระทรวงยุติธรรมของกลุ่มฮามาส นายมะห์มูด อาบู วัตฟา ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายบาห์จัต อาบู สุลต่าน อธิบดีกรมความมั่นคงภายใน คำถามง่ายๆคือ กลุ่มฮามาสจะสูญสลายไปหรือไม่ ในเมื่อหลายฝ่ายออกมาเตือนอิสราเอลตั้งแต่เริ่มต้นทำสงครามแล้วว่า ฮามาสไม่ใช่บุคคล แต่พวกเขาคือเป็นจิตวิญญาณ แม้การทำลายสมาชิกระดับแกนนำ แต่พวกเข้าก็สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้ตลอด และแสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นเช่นนั้นจริง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 540 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯคุณหนูปรี๊ดแตก โพสต์ไอจีโต้เดือด ดราม่าน้ำท่วมใต้
    .
    เริ่มเก็บทรงไม่อยู่แล้ว สำหรับแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลังจากโดนวิจารณ์หนักกรณีน้ำท่วมใต้ตอนล่างแต่นายกฯยังคงเดินสายตรวจราชการพื้นที่ภาคเหนือ แม้นายกฯจะยืนยันว่าได้เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วนและยืนยันว่าไม่ทอดทิ้งคนใต้ เพราะมีสามีเป็นคนใต้ แต่ปรากฎว่านายกฯได้โพสต์ช้อความผ่านสตอรีอินสตาแกรมส่วนตัว ผ่านบัญชีผู้ใช้ @ingshin21 ข้อความว่า “Your negativity is a reflection of your own reality ความคิดเชิงลบของคุณสะท้อนถึงตัวตนคุณเอง” และโพสต์อีกข้อความว่า “Insecure people put others down to raise themselves up คนที่ไม่มีความมั่นใจ กดคนอื่นให้ต่ำลง เพื่อยกตนเองให้สูงขึ้น”
    .
    เห็นแบบนี้ต้องรอดูว่าการโพสต์ระบายอารมณ์ออกมาแบบนี้ จะมีแรงเสียดทานทางการเมืองออกมาหรือไม่อย่างไร
    .
    ขณะเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำโดย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายคารม พลพรกลาง น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อมอบนโยบายการประชาสัมพันธ์
    .
    นายกฯ กล่าวเน้นย้ำเรื่องการสื่อสาร โดยเฉพาะการสื่อสารถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งกรณีน้ำท่วมทางภาคเหนือและภาคใต้ นำเสนอให้ประชาชนทราบว่านโยบายเรื่องใดที่รัฐบาลได้ทำจนเป็นผลสำเร็จโดยใช้ “แม่สายโมเดล” เป็นการเข้าไปฟื้นฟู ในระยะแรก ระยะกลาง และระยะยาว เช่น จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ที่มีการอนุมัติงบประมาณไปแล้วเกือบ 20,000 ล้านบาท เพื่อวางระบบป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก
    .
    ส่วนภาคใต้ที่เข้าสู่ระยะที่ 2 หลังจากที่มีการฟื้นฟูสถานการณ์น้ำท่วมแล้วจะใช้โมเดลไม่น้อยกว่าที่ภาคเหนือ เพื่อให้เกิดการสมดุลในการแก้ไขปัญหา และมีแนวคิดในการปรับปรุง คณะกรรมการศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติ ที่จะต้องรับผิดชอบไม่เพียงเรื่องน้ำท่วมอย่างเดียว ยังมีภัยหนาว แล้ง ฝน ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะใด รัฐบาลจะต้องใช้กลไกนี้ดำเนินการได้ฉับพลันทันที ซึ่งต้องมีการสั่งการชัดเจน โดยมีโมเดลแม่สายที่ประสบความสำเร็จเป็นต้นแบบ ซึ่งแม่สายได้คืนพื้นที่อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาสองเดือน
    .
    นายจิรายุ เปิดเผยว่า การประชุมดังกล่าว นายกฯกำชับให้นำเสนอผลงานรัฐบาลตามข้อเท็จจริง และลงรายละเอียดผลงานทุกกระทรวง เพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามการทำงานของรัฐบาลได้ทุกกระทรวง เพราะรัฐบาลที่เข้มแข็งจะต้องมาจากผลการทำงานที่มาจากทุกกระทรวง นายกรัฐมนตรีก็มีบทบาทในฐานะหัวหน้ารัฐบาล เพราะเป็นผู้ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล
    .............
    Sondhi X
    นายกฯคุณหนูปรี๊ดแตก โพสต์ไอจีโต้เดือด ดราม่าน้ำท่วมใต้ . เริ่มเก็บทรงไม่อยู่แล้ว สำหรับแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หลังจากโดนวิจารณ์หนักกรณีน้ำท่วมใต้ตอนล่างแต่นายกฯยังคงเดินสายตรวจราชการพื้นที่ภาคเหนือ แม้นายกฯจะยืนยันว่าได้เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วนและยืนยันว่าไม่ทอดทิ้งคนใต้ เพราะมีสามีเป็นคนใต้ แต่ปรากฎว่านายกฯได้โพสต์ช้อความผ่านสตอรีอินสตาแกรมส่วนตัว ผ่านบัญชีผู้ใช้ @ingshin21 ข้อความว่า “Your negativity is a reflection of your own reality ความคิดเชิงลบของคุณสะท้อนถึงตัวตนคุณเอง” และโพสต์อีกข้อความว่า “Insecure people put others down to raise themselves up คนที่ไม่มีความมั่นใจ กดคนอื่นให้ต่ำลง เพื่อยกตนเองให้สูงขึ้น” . เห็นแบบนี้ต้องรอดูว่าการโพสต์ระบายอารมณ์ออกมาแบบนี้ จะมีแรงเสียดทานทางการเมืองออกมาหรือไม่อย่างไร . ขณะเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำโดย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายคารม พลพรกลาง น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อมอบนโยบายการประชาสัมพันธ์ . นายกฯ กล่าวเน้นย้ำเรื่องการสื่อสาร โดยเฉพาะการสื่อสารถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งกรณีน้ำท่วมทางภาคเหนือและภาคใต้ นำเสนอให้ประชาชนทราบว่านโยบายเรื่องใดที่รัฐบาลได้ทำจนเป็นผลสำเร็จโดยใช้ “แม่สายโมเดล” เป็นการเข้าไปฟื้นฟู ในระยะแรก ระยะกลาง และระยะยาว เช่น จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ที่มีการอนุมัติงบประมาณไปแล้วเกือบ 20,000 ล้านบาท เพื่อวางระบบป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก . ส่วนภาคใต้ที่เข้าสู่ระยะที่ 2 หลังจากที่มีการฟื้นฟูสถานการณ์น้ำท่วมแล้วจะใช้โมเดลไม่น้อยกว่าที่ภาคเหนือ เพื่อให้เกิดการสมดุลในการแก้ไขปัญหา และมีแนวคิดในการปรับปรุง คณะกรรมการศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติ ที่จะต้องรับผิดชอบไม่เพียงเรื่องน้ำท่วมอย่างเดียว ยังมีภัยหนาว แล้ง ฝน ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะใด รัฐบาลจะต้องใช้กลไกนี้ดำเนินการได้ฉับพลันทันที ซึ่งต้องมีการสั่งการชัดเจน โดยมีโมเดลแม่สายที่ประสบความสำเร็จเป็นต้นแบบ ซึ่งแม่สายได้คืนพื้นที่อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาสองเดือน . นายจิรายุ เปิดเผยว่า การประชุมดังกล่าว นายกฯกำชับให้นำเสนอผลงานรัฐบาลตามข้อเท็จจริง และลงรายละเอียดผลงานทุกกระทรวง เพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามการทำงานของรัฐบาลได้ทุกกระทรวง เพราะรัฐบาลที่เข้มแข็งจะต้องมาจากผลการทำงานที่มาจากทุกกระทรวง นายกรัฐมนตรีก็มีบทบาทในฐานะหัวหน้ารัฐบาล เพราะเป็นผู้ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ............. Sondhi X
    Haha
    Like
    Yay
    7
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1755 มุมมอง 0 รีวิว
  • คดีแรกในวิชาชีพสื่อ 50 ปี "สุนันท์ ศรีจันทรา" / สุนันท์ ศรีจันทราเขียนคอลัมน์ใน “ชุมชนคนหุ้น” หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ 360 องศา มาประมาณ 8 ปี ยืนหยัดในหลักการปกป้องผลประโยชน์ประชาชน ผู้ลงทุนในตลาดหุ้น ผ่านการข่มขู่ คุกคาม และการถูกดำเนินคดีมานับสิบคดี โดยไม่เคยถูกตัดสินว่ามีความผิดและถูกลงโทษเพิ่งถูกตัดสินลงโทษในคดีที่ "น.ส.ชญานี โปขันเงิน" ผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด ฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทเป็นครั้งแรก โดยถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 1.8 แสนบาท และร่วมชดใช้เงินให้โจกท์ทั้ง 3 รวมเป็นเงิน 2.4 ล้านบาทเป็นครั้งแรกในวิชาชีพสื่อที่ยาวนานมาประมาณ 50 ปี เป็นคดีแรกที่ถูกตัดสินลงโทษแต่คำตัดสินของศาลเป็นความจริงที่เกิดขึ้นแล้ว และต้องยอมรับตามกระบวนการยุติธรรม เพราะเป็นกระบวนการที่จะสร้างความสงบเรียบร้อยของสังคม และเป็นระบบที่ช่วยให้ประชาชนที่ถูกละเมิดได้รับความเป็นธรรม ซึ่งทุกคนต้องยอมรับเพียงแต่การต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมยังไม่สิ้นสุด เพราะยังมีขั้นตอนการยื่นชั้นอุทธรณ์ ซึ่งทนายความกำลังเตรียมการอยู่ และคดีนี้คงสิ้นสุดในชั้นฎีกามีผู้ที่ติดตามการทำงานในวิชาชีพสื่อจำนวนมาก ส่งกำลังใจมาให้ ขออย่าท้อแท้ และเดินหน้าในวิชาชีพต่อไป ซึ่งต้องขอขอบคุณมิตรสหายหรือผู้ติดตามผลงานทุกท่านเพียงแต่สิ่งที่จะบอกกับมิตรสหายที่ติดตามผลงานคือ ตั้งแต่ตัดสินใจก้าวเข้าสู่วิชาชีพสื่อ ได้ตั้งปณิธานไว้ว่า จะยึดมั่นในหลักการสื่อมวลชนที่ดี จะยืดหยัดในอุดมการณ์การทำงานเพื่อประชาชนส่วนใหญ่ จะไม่ทรยศต่อวิชาชีพ จะยึดความถูกต้อง ยึดมั่นในรักษาจริยธรรมจรรยาบรรณวิชาชีพและไม่ยอมก้มหัวให้คนที่สร้างความเสียหายให้สังคมส่วนรวม ไม่ยอมให้ผลประโยชน์มาครอบงำการทำหน้าที่สื่อ50 ปีที่อยู่ในวิชาชีพสื่อ เจอแรงกดดันจากการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาในทุกรูปแบบ เจอข้อเสนอผลประโยชน์มหาศาลที่ยั่วยวน เพื่อให้หลีกเลี่ยงหรืองดการนำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา แต่ก็ผ่านกิเลสที่ทำให้นักข่าวหลายคนต้องกลายเป็นแค่ “กาฝาก” ในวิชาชีพสื่อมาได้การถูกตัดสินลงโทษจำคุก ถูกปรับ ต้องร่วมชดใช้เยียวยาโจทก์ มีมิตรสหายคำถามว่า จะทำให้เกิดความท้อแท้หรือไม่ แน่นอนว่า การถูกตัดสินว่ามีความผิดจากการทำหน้าที่ในวิชาชีพสื่อเป็นครั้งแรก ย่อมมีความรู้สึกผิดหวังอยู่บ้างเป็นธรรมดาแต่ไม่ได้เกิดความท้อแท้แต่อย่างใด ไม่ได้มีผลต่อความมุ่งมั่นในวิชาชีพสื่อที่ยึดมั่นในหลักการ อุดมการณ์ ต่อสู้เพื่อความถูกต้องเป็นธรรม ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และเป็นสื่อที่ยึดถือจริยธรรมจรรยาบรรณในวิชาชีพต่อไปโดยไม่เปลี่ยนแปลงการจะต้องเผชิญชะตากรรมใดๆ เป็นสิ่งที่เตรียมใจไว้แล้ว นับตั้งแต่ก้าวแรกในวิชาชีพสื่อ และถือว่า เป็นเส้นทางชีวิตที่เลือกแล้วถ้ากลัวการข่มขู่คุกคาม ถ้ากลัวการถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ถ้ากลัวคุกตะราง ถ้าไม่สามารถรักษาอุดมการณ์หรือหลักการของการเป็นสื่อที่ดีและยึดมั่นในจริยธรรมจรรยาบรรณในวิชาชีพได้ ควรจะต้องหันหลังจากวิชาชีพสื่อหรือเปลี่ยนจุดยืน เปลี่ยนแนวคิด ล้มเลิกอุดมการณ์และจุดยืน แปลงตัวเองเป็น "กาฝาก" ในวิชาชีพสื่อ ซึ่งพร้อมจะรับใช้ หรือเชลียร์ใครก็ตามที่โยนเศษเงินฟาดหัวถ้าเป็นสื่อที่ดีไม่ได้ ควรออกจากวิชาชีพ อย่าอยู่เป็นสื่อเลวที่ทำให้ภาพลักษณ์องคาพยพวิชาชีพสื่อเสียหาย อย่าเป็นสื่อเลวที่หนักแผ่นดินสุดท้าย ขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับกำลังใจจากมิตรสหาย และผู้ที่ติดตามชื่นชมผลงานการทำวิชาชีพสื่อทุกท่านขอยืนยันครับ ตราบใดที่ยังอยู่ในวิชาชีพสื่อ ตราบใดที่ยังเขียน “คอลัมน์” ชุมชนคนหุ้น จะยึดมั่นในหลักการความถูกต้อง ยึดมั่นการทำหน้าที่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ประชาชนส่วนใหญ่ชะตากรรมใดๆ ที่ต้องเผชิญ ไม่ได้ทำให้ "สุนันท์ ศรีจันทรา" เปลี่ยนแปลงจากสื่อที่ยึดในจริยธรรมจรรยาบรรณในวิชาชีพสื่อโดยไม่เคยเปลี่ยนแปลงตลอด 50 ปีที่ผ่านมา
    คดีแรกในวิชาชีพสื่อ 50 ปี "สุนันท์ ศรีจันทรา" / สุนันท์ ศรีจันทราเขียนคอลัมน์ใน “ชุมชนคนหุ้น” หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ 360 องศา มาประมาณ 8 ปี ยืนหยัดในหลักการปกป้องผลประโยชน์ประชาชน ผู้ลงทุนในตลาดหุ้น ผ่านการข่มขู่ คุกคาม และการถูกดำเนินคดีมานับสิบคดี โดยไม่เคยถูกตัดสินว่ามีความผิดและถูกลงโทษเพิ่งถูกตัดสินลงโทษในคดีที่ "น.ส.ชญานี โปขันเงิน" ผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด ฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทเป็นครั้งแรก โดยถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 1.8 แสนบาท และร่วมชดใช้เงินให้โจกท์ทั้ง 3 รวมเป็นเงิน 2.4 ล้านบาทเป็นครั้งแรกในวิชาชีพสื่อที่ยาวนานมาประมาณ 50 ปี เป็นคดีแรกที่ถูกตัดสินลงโทษแต่คำตัดสินของศาลเป็นความจริงที่เกิดขึ้นแล้ว และต้องยอมรับตามกระบวนการยุติธรรม เพราะเป็นกระบวนการที่จะสร้างความสงบเรียบร้อยของสังคม และเป็นระบบที่ช่วยให้ประชาชนที่ถูกละเมิดได้รับความเป็นธรรม ซึ่งทุกคนต้องยอมรับเพียงแต่การต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมยังไม่สิ้นสุด เพราะยังมีขั้นตอนการยื่นชั้นอุทธรณ์ ซึ่งทนายความกำลังเตรียมการอยู่ และคดีนี้คงสิ้นสุดในชั้นฎีกามีผู้ที่ติดตามการทำงานในวิชาชีพสื่อจำนวนมาก ส่งกำลังใจมาให้ ขออย่าท้อแท้ และเดินหน้าในวิชาชีพต่อไป ซึ่งต้องขอขอบคุณมิตรสหายหรือผู้ติดตามผลงานทุกท่านเพียงแต่สิ่งที่จะบอกกับมิตรสหายที่ติดตามผลงานคือ ตั้งแต่ตัดสินใจก้าวเข้าสู่วิชาชีพสื่อ ได้ตั้งปณิธานไว้ว่า จะยึดมั่นในหลักการสื่อมวลชนที่ดี จะยืดหยัดในอุดมการณ์การทำงานเพื่อประชาชนส่วนใหญ่ จะไม่ทรยศต่อวิชาชีพ จะยึดความถูกต้อง ยึดมั่นในรักษาจริยธรรมจรรยาบรรณวิชาชีพและไม่ยอมก้มหัวให้คนที่สร้างความเสียหายให้สังคมส่วนรวม ไม่ยอมให้ผลประโยชน์มาครอบงำการทำหน้าที่สื่อ50 ปีที่อยู่ในวิชาชีพสื่อ เจอแรงกดดันจากการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาในทุกรูปแบบ เจอข้อเสนอผลประโยชน์มหาศาลที่ยั่วยวน เพื่อให้หลีกเลี่ยงหรืองดการนำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา แต่ก็ผ่านกิเลสที่ทำให้นักข่าวหลายคนต้องกลายเป็นแค่ “กาฝาก” ในวิชาชีพสื่อมาได้การถูกตัดสินลงโทษจำคุก ถูกปรับ ต้องร่วมชดใช้เยียวยาโจทก์ มีมิตรสหายคำถามว่า จะทำให้เกิดความท้อแท้หรือไม่ แน่นอนว่า การถูกตัดสินว่ามีความผิดจากการทำหน้าที่ในวิชาชีพสื่อเป็นครั้งแรก ย่อมมีความรู้สึกผิดหวังอยู่บ้างเป็นธรรมดาแต่ไม่ได้เกิดความท้อแท้แต่อย่างใด ไม่ได้มีผลต่อความมุ่งมั่นในวิชาชีพสื่อที่ยึดมั่นในหลักการ อุดมการณ์ ต่อสู้เพื่อความถูกต้องเป็นธรรม ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และเป็นสื่อที่ยึดถือจริยธรรมจรรยาบรรณในวิชาชีพต่อไปโดยไม่เปลี่ยนแปลงการจะต้องเผชิญชะตากรรมใดๆ เป็นสิ่งที่เตรียมใจไว้แล้ว นับตั้งแต่ก้าวแรกในวิชาชีพสื่อ และถือว่า เป็นเส้นทางชีวิตที่เลือกแล้วถ้ากลัวการข่มขู่คุกคาม ถ้ากลัวการถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ถ้ากลัวคุกตะราง ถ้าไม่สามารถรักษาอุดมการณ์หรือหลักการของการเป็นสื่อที่ดีและยึดมั่นในจริยธรรมจรรยาบรรณในวิชาชีพได้ ควรจะต้องหันหลังจากวิชาชีพสื่อหรือเปลี่ยนจุดยืน เปลี่ยนแนวคิด ล้มเลิกอุดมการณ์และจุดยืน แปลงตัวเองเป็น "กาฝาก" ในวิชาชีพสื่อ ซึ่งพร้อมจะรับใช้ หรือเชลียร์ใครก็ตามที่โยนเศษเงินฟาดหัวถ้าเป็นสื่อที่ดีไม่ได้ ควรออกจากวิชาชีพ อย่าอยู่เป็นสื่อเลวที่ทำให้ภาพลักษณ์องคาพยพวิชาชีพสื่อเสียหาย อย่าเป็นสื่อเลวที่หนักแผ่นดินสุดท้าย ขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับกำลังใจจากมิตรสหาย และผู้ที่ติดตามชื่นชมผลงานการทำวิชาชีพสื่อทุกท่านขอยืนยันครับ ตราบใดที่ยังอยู่ในวิชาชีพสื่อ ตราบใดที่ยังเขียน “คอลัมน์” ชุมชนคนหุ้น จะยึดมั่นในหลักการความถูกต้อง ยึดมั่นการทำหน้าที่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ประชาชนส่วนใหญ่ชะตากรรมใดๆ ที่ต้องเผชิญ ไม่ได้ทำให้ "สุนันท์ ศรีจันทรา" เปลี่ยนแปลงจากสื่อที่ยึดในจริยธรรมจรรยาบรรณในวิชาชีพสื่อโดยไม่เคยเปลี่ยนแปลงตลอด 50 ปีที่ผ่านมา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 865 มุมมอง 0 รีวิว
  • โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง……“จากสนธิ ลิ้มทองกุล ถึงนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์"
    .
    ในรายการ "สนธิเล่าเรื่อง" เมื่อวันพุธที่2ตุลาคมที่ผ่านมา ผมพูดจาโดยตรงกับท่านนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ ที่ท่านพูดโอดครวญว่าทำงานยังไม่ถึงเดือนเลย ผมจะมาไล่ท่านแล้วหรือ ท่านใช้ความเป็นเด็ก ความน่าสงสาร ทำให้ตัวท่านเหมือนกับถูกผู้ใหญ่อย่างผมรังแก ฟังเสียก่อนแล้วจะรู้ว่าผมไม่ได้รังแกอะไรเขา เขาทำตัวเขาเองทั้งสิ้น
    .
    ท่านนายกฯ แพทองธารครับ ถึงเวลาแล้วที่ท่านจะต้องใช้สติปัญญาในการพิจารณาข้อความ เรื่องราวต่างๆ ของท่าน ท่านอย่าไปเที่ยวให้นักข่าวถามท่าน หรือว่าให้คนใกล้ชิดใส่ร้ายป้ายสี
    .
    ในรายการ "ความจริงมีหนึ่งเดียว" ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน ผมบอกว่าผมจะทำ 3 เรื่อง -เรื่องแรกที่ผมจะทำก็คือว่า ไม่เกินสิ้นปีนี้ผมจะไปยื่นขอความเป็นธรรมกับกรณีที่ผมโดนลอบสังหาร เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2552 โดนยิง 200 นัด บาดเจ็บสาหัส จากวันนั้นถึงวันนี้คดีความไม่ไปไหนเลย
    .
    -เรื่องที่สอง เรื่องปริมาณพม่าลี้ภัยเข้ามาในเมืองไทยเยอะเหลือเกิน สมุทรปราการ มหาชัย แม่สอดกลายเป็นเมืองพม่า พม่าเริ่มเข้ามาเป็นเจ้าของกิจการหลายกิจการ อันนี้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ พรรคภูมิใจไทยมีส่วนเกี่ยวข้อง 3 แห่ง กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน และ กระทรวงมหาดไทย แล้วเรามีพรรคการเมือง คือ พรรคประชาชน (พม่า) หนุนหลังพวกลี้ภัยพม่าพวกนี้ทั้งหมดเลย นี่คือความเป็นห่วงที่ผมมีอยู่ นั่นคือจดหมายคำร้องเรียนเรื่องที่สองที่จะตามไป
    .
    เรื่องสุดท้ายผมบอกว่าผมจะติดตามการทำงานของท่านนายกฯ แพทองธารตลอดเวลา แล้วถ้าท่านทำถูกต้อง ผมให้กำลังใจ แต่ถ้าทำอะไรไม่ถูกต้อง มีการฉ้อราษฎร์บังหลวง ขายชาติ ขายแผ่นดิน ยกเกาะกูดให้กับเขมร ซึ่งท่านนายกฯ แพทองธารก็ต้องรู้ว่า ตระกูล "ชินวัตร" โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณพ่อของท่าน มีความสนิทสนมกับสมเด็จฮุน เซน มาก
    .
    ตรงนี้ถ้าท่านนายกฯ ไม่ลงมาจัดการหรือระมัดระวังตัว แล้วเราต้องยกชาติยกแผ่นดิน ยกพื้นที่ให้กับเขมร ขโมยพื้นที่เกาะกูดไป รวมเบ็ดเสร็จ รวมทั้งฉ้อราษฎร์บังหลวง ช่วยเหลือผู้คนในเครือข่ายตัวเอง ผมบอกว่า ถ้ามันเป็นอย่างนี้ ผมจะขอลงถนนเพื่อที่จะไล่ท่าน แต่ผมไม่ได้บอกว่าทันที ผมบอกจะรอจนถึงปีหน้า ขึ้นอยู่กับการกระทำของท่านนายกฯ
    .
    แต่ถ้าท่านยังรักพ่อมากกว่ารักชาติ ซึ่งเป็นอย่างนั้นผมก็ไม่ประหลาดใจ ทิศทางมันน่าจะไปทางด้านนั้น แต่ผมบอกท่านนายกฯแล้วหลายเรื่องนะ การคอร์รัปชัน ความไม่โปร่งใสในการทำงาน ความที่ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรมที่ควรจะได้รับ เหมือนผมโดนยิงไปแล้ว 12 ปี ไม่ได้รับความยุติธรรม ผมกำลังจะทดสอบท่านว่าท่านจะหาความยุติธรรมให้ผมได้หรือเปล่า มีที่ไหน โดนลอบสังหารด้วยอาวุธสงคราม 200 นัด 12 ปีแล้ว เรื่องราวไม่ได้ไปไหนเลย
    .
    แต่ที่สำคัญที่สุด นอกเหนือกว่าสิ่งอื่นใด ท่านต้องไม่ขายชาติ ท่านต้องไม่ยกแผ่นดินเกาะกูดให้กับเขมร เพื่อแลกกับสิทธิในการขุดน้ำมันด้วยกัน พื้นที่ทับซ้อนในทะเลเขมรยอมรับว่าที่นี้เป็นที่ของไทย ไม่รุกเข้ามา เมื่อยอมรับแล้ว การเจรจาเพื่อที่จะลงทุนร่วมกันในที่นั้นย่อมเป็นไปได้ ถูกไหมท่านนายกฯ แต่ไม่ใช่มาตัดให้เขมรเพื่อให้เขมรมีสิทธิ์ นี่คือสิ่งที่ผมจะยอมให้ไม่ได้
    โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง……“จากสนธิ ลิ้มทองกุล ถึงนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์" . ในรายการ "สนธิเล่าเรื่อง" เมื่อวันพุธที่2ตุลาคมที่ผ่านมา ผมพูดจาโดยตรงกับท่านนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ ที่ท่านพูดโอดครวญว่าทำงานยังไม่ถึงเดือนเลย ผมจะมาไล่ท่านแล้วหรือ ท่านใช้ความเป็นเด็ก ความน่าสงสาร ทำให้ตัวท่านเหมือนกับถูกผู้ใหญ่อย่างผมรังแก ฟังเสียก่อนแล้วจะรู้ว่าผมไม่ได้รังแกอะไรเขา เขาทำตัวเขาเองทั้งสิ้น . ท่านนายกฯ แพทองธารครับ ถึงเวลาแล้วที่ท่านจะต้องใช้สติปัญญาในการพิจารณาข้อความ เรื่องราวต่างๆ ของท่าน ท่านอย่าไปเที่ยวให้นักข่าวถามท่าน หรือว่าให้คนใกล้ชิดใส่ร้ายป้ายสี . ในรายการ "ความจริงมีหนึ่งเดียว" ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน ผมบอกว่าผมจะทำ 3 เรื่อง -เรื่องแรกที่ผมจะทำก็คือว่า ไม่เกินสิ้นปีนี้ผมจะไปยื่นขอความเป็นธรรมกับกรณีที่ผมโดนลอบสังหาร เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2552 โดนยิง 200 นัด บาดเจ็บสาหัส จากวันนั้นถึงวันนี้คดีความไม่ไปไหนเลย . -เรื่องที่สอง เรื่องปริมาณพม่าลี้ภัยเข้ามาในเมืองไทยเยอะเหลือเกิน สมุทรปราการ มหาชัย แม่สอดกลายเป็นเมืองพม่า พม่าเริ่มเข้ามาเป็นเจ้าของกิจการหลายกิจการ อันนี้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ พรรคภูมิใจไทยมีส่วนเกี่ยวข้อง 3 แห่ง กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน และ กระทรวงมหาดไทย แล้วเรามีพรรคการเมือง คือ พรรคประชาชน (พม่า) หนุนหลังพวกลี้ภัยพม่าพวกนี้ทั้งหมดเลย นี่คือความเป็นห่วงที่ผมมีอยู่ นั่นคือจดหมายคำร้องเรียนเรื่องที่สองที่จะตามไป . เรื่องสุดท้ายผมบอกว่าผมจะติดตามการทำงานของท่านนายกฯ แพทองธารตลอดเวลา แล้วถ้าท่านทำถูกต้อง ผมให้กำลังใจ แต่ถ้าทำอะไรไม่ถูกต้อง มีการฉ้อราษฎร์บังหลวง ขายชาติ ขายแผ่นดิน ยกเกาะกูดให้กับเขมร ซึ่งท่านนายกฯ แพทองธารก็ต้องรู้ว่า ตระกูล "ชินวัตร" โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณพ่อของท่าน มีความสนิทสนมกับสมเด็จฮุน เซน มาก . ตรงนี้ถ้าท่านนายกฯ ไม่ลงมาจัดการหรือระมัดระวังตัว แล้วเราต้องยกชาติยกแผ่นดิน ยกพื้นที่ให้กับเขมร ขโมยพื้นที่เกาะกูดไป รวมเบ็ดเสร็จ รวมทั้งฉ้อราษฎร์บังหลวง ช่วยเหลือผู้คนในเครือข่ายตัวเอง ผมบอกว่า ถ้ามันเป็นอย่างนี้ ผมจะขอลงถนนเพื่อที่จะไล่ท่าน แต่ผมไม่ได้บอกว่าทันที ผมบอกจะรอจนถึงปีหน้า ขึ้นอยู่กับการกระทำของท่านนายกฯ . แต่ถ้าท่านยังรักพ่อมากกว่ารักชาติ ซึ่งเป็นอย่างนั้นผมก็ไม่ประหลาดใจ ทิศทางมันน่าจะไปทางด้านนั้น แต่ผมบอกท่านนายกฯแล้วหลายเรื่องนะ การคอร์รัปชัน ความไม่โปร่งใสในการทำงาน ความที่ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรมที่ควรจะได้รับ เหมือนผมโดนยิงไปแล้ว 12 ปี ไม่ได้รับความยุติธรรม ผมกำลังจะทดสอบท่านว่าท่านจะหาความยุติธรรมให้ผมได้หรือเปล่า มีที่ไหน โดนลอบสังหารด้วยอาวุธสงคราม 200 นัด 12 ปีแล้ว เรื่องราวไม่ได้ไปไหนเลย . แต่ที่สำคัญที่สุด นอกเหนือกว่าสิ่งอื่นใด ท่านต้องไม่ขายชาติ ท่านต้องไม่ยกแผ่นดินเกาะกูดให้กับเขมร เพื่อแลกกับสิทธิในการขุดน้ำมันด้วยกัน พื้นที่ทับซ้อนในทะเลเขมรยอมรับว่าที่นี้เป็นที่ของไทย ไม่รุกเข้ามา เมื่อยอมรับแล้ว การเจรจาเพื่อที่จะลงทุนร่วมกันในที่นั้นย่อมเป็นไปได้ ถูกไหมท่านนายกฯ แต่ไม่ใช่มาตัดให้เขมรเพื่อให้เขมรมีสิทธิ์ นี่คือสิ่งที่ผมจะยอมให้ไม่ได้
    Like
    Love
    25
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 2719 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สนธิ" ลั่นจับตา "อุ๊งอิ๊ง" ทำงาน ห่วงเรื่องคอรัปชัน-พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล เตือนเป็นตัวของตัวเอง อย่าให้พ่อครอบงำ
    .
    วันนี้ (2 ต.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวในรายการสนธิเล่าเรื่อง ทาง ยูทูป Sondhitalk ถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่าไม่พร้อมจะมีเรื่อง อย่าเพิ่งลงถนนไล่ เพราะทำงานได้เดือนเดียว พร้อมคุยทุกภาคส่วนเพื่อให้ประเทศสงบสุข ว่า ต้องใช้สติปัญญาพิจารณาข้อความ อย่าไปให้นักข่าวถามหรือคนใกล้ชิดใส่ร้ายป้ายสี ตนประกาศว่ามี 3 เรื่องที่จะทำ คือ
    .
    1. ขอความเป็นธรรมกรณีถูกลอบสังหารเมื่อ 17 เม.ย. 2552 บาดเจ็บสาหัส แต่คดีไม่คืบหน้าทั้งที่จะขาดอายุความ
    .
    2. ร้องเรียนเรื่องผู้ลี้ภัยชาวพม่าเข้ามาจำนวนมากปรากฎตัวตามที่ต่างๆ พยายามมีบุตรหลานเพื่อให้ได้สัญชาติไทย ประกอบอาชีพเป็นเจ้าของกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีการตั้งโรงเรียนโดยกลุ่มเอ็นจีโอ ร้องเพลงชาติพม่า ซึ่งเกี่ยวกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นของพรรคภูมิใจไทย
    .
    ส่วนข้อ 3. จะติดตามการทำงานของนายกฯ ตลอดเวลา ถ้าทำถูกต้องผมให้กำลังใจ แต่ถ้าทำอะไรไม่ถูกต้อง มีการฉ้อราษฎร์บังหลวง ขายชาติขายแผ่นดิน ยกเกาะกูดให้กัมพูชา นายกฯ ต้องรู้ว่าตระกูลชินวัตรโดยเฉพาะนายทักษิณ ชินวัตร บิดา มีความสนิทสนมกับสมเด็จฯ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เรื่องเกาะกูดและพื้นที่ทับซ้อนในทะเลมีการคุยกันระหว่างนายทักษิณ สมเด็จฯ ฮุน เซน และสมเด็จฯ ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา
    .
    "ถ้านายกฯ ไม่ลงมาจัดการ หรือระมัดระวังตัว แล้วเราต้องยกชาติยกแผ่นดิน ยกพื้นที่ให้กับเขมร ขโมยพื้นที่เกาะกูดไป รวมทั้งฉ้อราษฎร์บังหลวง ช่วยเหลือผู้คนในเครือข่ายตัวเอง ผมบอกว่าถ้ามันเป็นอย่างนี้ ผมจะขอลงถนนเพื่อที่จะไล่ท่าน แต่ผมไม่ได้บอกว่าทันที ผมบอกจะรอจนถึงปีหน้า ผมเป็นผู้ใหญ่แล้ว ผมเป็นคนมีเหตุผล นายกฯ อาจจะได้รับการเสี้ยมสอนให้พูดจาแบบนี้ เพื่อทำให้ผมดูเป็นผู้ใหญ่ที่รังแกเด็ก นี่คือข้อเท็จจริงที่แท้จริง ถ้านายกฯ เข้าใจที่ผมพูดจะเห็นว่าผมไม่ได้ใส่รองเท้าผ้าใบแล้วบอกว่าไปไล่นายกฯ ไม่ใช่" นายสนธิ กล่าว
    .
    คลิกอ่านทั้งหมด >> https://sondhitalk.com/detail/9670000092924
    "สนธิ" ลั่นจับตา "อุ๊งอิ๊ง" ทำงาน ห่วงเรื่องคอรัปชัน-พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล เตือนเป็นตัวของตัวเอง อย่าให้พ่อครอบงำ . วันนี้ (2 ต.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวในรายการสนธิเล่าเรื่อง ทาง ยูทูป Sondhitalk ถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่าไม่พร้อมจะมีเรื่อง อย่าเพิ่งลงถนนไล่ เพราะทำงานได้เดือนเดียว พร้อมคุยทุกภาคส่วนเพื่อให้ประเทศสงบสุข ว่า ต้องใช้สติปัญญาพิจารณาข้อความ อย่าไปให้นักข่าวถามหรือคนใกล้ชิดใส่ร้ายป้ายสี ตนประกาศว่ามี 3 เรื่องที่จะทำ คือ . 1. ขอความเป็นธรรมกรณีถูกลอบสังหารเมื่อ 17 เม.ย. 2552 บาดเจ็บสาหัส แต่คดีไม่คืบหน้าทั้งที่จะขาดอายุความ . 2. ร้องเรียนเรื่องผู้ลี้ภัยชาวพม่าเข้ามาจำนวนมากปรากฎตัวตามที่ต่างๆ พยายามมีบุตรหลานเพื่อให้ได้สัญชาติไทย ประกอบอาชีพเป็นเจ้าของกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีการตั้งโรงเรียนโดยกลุ่มเอ็นจีโอ ร้องเพลงชาติพม่า ซึ่งเกี่ยวกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นของพรรคภูมิใจไทย . ส่วนข้อ 3. จะติดตามการทำงานของนายกฯ ตลอดเวลา ถ้าทำถูกต้องผมให้กำลังใจ แต่ถ้าทำอะไรไม่ถูกต้อง มีการฉ้อราษฎร์บังหลวง ขายชาติขายแผ่นดิน ยกเกาะกูดให้กัมพูชา นายกฯ ต้องรู้ว่าตระกูลชินวัตรโดยเฉพาะนายทักษิณ ชินวัตร บิดา มีความสนิทสนมกับสมเด็จฯ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เรื่องเกาะกูดและพื้นที่ทับซ้อนในทะเลมีการคุยกันระหว่างนายทักษิณ สมเด็จฯ ฮุน เซน และสมเด็จฯ ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา . "ถ้านายกฯ ไม่ลงมาจัดการ หรือระมัดระวังตัว แล้วเราต้องยกชาติยกแผ่นดิน ยกพื้นที่ให้กับเขมร ขโมยพื้นที่เกาะกูดไป รวมทั้งฉ้อราษฎร์บังหลวง ช่วยเหลือผู้คนในเครือข่ายตัวเอง ผมบอกว่าถ้ามันเป็นอย่างนี้ ผมจะขอลงถนนเพื่อที่จะไล่ท่าน แต่ผมไม่ได้บอกว่าทันที ผมบอกจะรอจนถึงปีหน้า ผมเป็นผู้ใหญ่แล้ว ผมเป็นคนมีเหตุผล นายกฯ อาจจะได้รับการเสี้ยมสอนให้พูดจาแบบนี้ เพื่อทำให้ผมดูเป็นผู้ใหญ่ที่รังแกเด็ก นี่คือข้อเท็จจริงที่แท้จริง ถ้านายกฯ เข้าใจที่ผมพูดจะเห็นว่าผมไม่ได้ใส่รองเท้าผ้าใบแล้วบอกว่าไปไล่นายกฯ ไม่ใช่" นายสนธิ กล่าว . คลิกอ่านทั้งหมด >> https://sondhitalk.com/detail/9670000092924
    SONDHITALK.COM
    "สนธิ" ลั่นจับตา "อุ๊งอิ๊ง" ทำงาน ห่วงเรื่องคอรัปชัน-พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล เตือนเป็นตัวของตัวเอง อย่าให้พ่อครอบงำ
    วันนี้ (2 ต.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวในรายการสนธิเล่าเรื่อง ทางยูทูบ sondhitalk ถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่าไม่พร้อมจะมีเรื่อง อย่าเพิ่งลงถนนไล่ เพราะทำงานได้เดือนเดียว พร้อมคุยทุกภาคส่วนเพื่อให้ป
    Like
    Love
    Wow
    35
    1 ความคิดเห็น 3 การแบ่งปัน 2327 มุมมอง 0 รีวิว
  • #คนรู้จริง
    แฟนเพจหลายท่านที่เพิ่งเข้ามาติดตามคิงส์โพธิ์แดงที่เคารพรักยิ่ง
    เชื่อว่าหลายท่านที่เพิ่งเข้ามาติดตาม
    สิ่งที่คิงส์โพธิ์แดงยึดถือคือ การยืนอยู่ข้างความถูกต้อง
    หากมีสิ่งใด ที่ส่งผลที่ไม่ดีต่อคนไทยส่วนใหญ่
    หรือมีการก้าวล่วงต่อสถาบัน
    หรือแม้กระทั่งคนมีสีระดับบิ๊กๆ
    ที่ซุกความรำยำไว้ใต้พรม
    เพจคิงส์โพธิ์แดงขุดยับ
    และเราไม่เลิกจนกว่าคนซั่วนั้นๆจะตุย
    เราไม่สนคำข่ม คำขู่ววใดๆ
    ขอขอบคุณที่เพียงแค่ 3 วันกว่าๆของการเปิดเพจ
    คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง หลังจากเพจเก่าโดนลัตติ๊กามิจผู้
    คลั่งไคล้กิมจิ๊ มายิ-ง รัวๆ เพจปลิว
    แล้วไง กรรูก็สร้างใหม่สิ อิฉัด
    แล้วตอนนี้ก็ทำสำรองไว้ ทั้ง
    คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2
    และคิงส์โพธิ์แดง-สำรอง3
    เพจ กรุง ทุ่งแตก #คุยมันส์ทุกเรื่อง
    คือเพจดังที่ติดตามการทำงานของเรามาตั้งแต่เปิดเพจวันแรก
    จึงรู้ดีว่านิสัยการทำงานของเราเป็นอย่างไร
    อิป้าโจตกขาว เทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่เพจคิงส์ฯเคยต่อสู้มา
    และเรา ไม่เคยแพ้
    ถ้าโจ อยากจะลอง ก็ไปต่อกันยาวๆ
    ที่เมิงคิดว่าคิงส์ขุดที่ผ่านมา "ว่าแรง"
    ยังแรงได้อีกเยอะ เพิ่มระดับไปเรื่่อยๆ
    ปฏิบัติต่อไป Wยุทธการทุบหม้อข้าว" ทั้งเครือข่าย
    แล้วจะรู้จักคิงส์โพธิ์แดงมากกว่านี้
    ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง3
    #คนรู้จริง แฟนเพจหลายท่านที่เพิ่งเข้ามาติดตามคิงส์โพธิ์แดงที่เคารพรักยิ่ง เชื่อว่าหลายท่านที่เพิ่งเข้ามาติดตาม สิ่งที่คิงส์โพธิ์แดงยึดถือคือ การยืนอยู่ข้างความถูกต้อง หากมีสิ่งใด ที่ส่งผลที่ไม่ดีต่อคนไทยส่วนใหญ่ หรือมีการก้าวล่วงต่อสถาบัน หรือแม้กระทั่งคนมีสีระดับบิ๊กๆ ที่ซุกความรำยำไว้ใต้พรม เพจคิงส์โพธิ์แดงขุดยับ และเราไม่เลิกจนกว่าคนซั่วนั้นๆจะตุย เราไม่สนคำข่ม คำขู่ววใดๆ ขอขอบคุณที่เพียงแค่ 3 วันกว่าๆของการเปิดเพจ คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง หลังจากเพจเก่าโดนลัตติ๊กามิจผู้ คลั่งไคล้กิมจิ๊ มายิ-ง รัวๆ เพจปลิว แล้วไง กรรูก็สร้างใหม่สิ อิฉัด แล้วตอนนี้ก็ทำสำรองไว้ ทั้ง คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2 และคิงส์โพธิ์แดง-สำรอง3 เพจ กรุง ทุ่งแตก #คุยมันส์ทุกเรื่อง คือเพจดังที่ติดตามการทำงานของเรามาตั้งแต่เปิดเพจวันแรก จึงรู้ดีว่านิสัยการทำงานของเราเป็นอย่างไร อิป้าโจตกขาว เทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่เพจคิงส์ฯเคยต่อสู้มา และเรา ไม่เคยแพ้ ถ้าโจ อยากจะลอง ก็ไปต่อกันยาวๆ ที่เมิงคิดว่าคิงส์ขุดที่ผ่านมา "ว่าแรง" ยังแรงได้อีกเยอะ เพิ่มระดับไปเรื่่อยๆ ปฏิบัติต่อไป Wยุทธการทุบหม้อข้าว" ทั้งเครือข่าย แล้วจะรู้จักคิงส์โพธิ์แดงมากกว่านี้ ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2 #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง3
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 653 มุมมอง 0 รีวิว