คดีแรกในวิชาชีพสื่อ 50 ปี "สุนันท์ ศรีจันทรา" / สุนันท์ ศรีจันทราเขียนคอลัมน์ใน “ชุมชนคนหุ้น” หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ 360 องศา มาประมาณ 8 ปี ยืนหยัดในหลักการปกป้องผลประโยชน์ประชาชน ผู้ลงทุนในตลาดหุ้น ผ่านการข่มขู่ คุกคาม และการถูกดำเนินคดีมานับสิบคดี โดยไม่เคยถูกตัดสินว่ามีความผิดและถูกลงโทษเพิ่งถูกตัดสินลงโทษในคดีที่ "น.ส.ชญานี โปขันเงิน" ผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด ฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทเป็นครั้งแรก โดยถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 1.8 แสนบาท และร่วมชดใช้เงินให้โจกท์ทั้ง 3 รวมเป็นเงิน 2.4 ล้านบาทเป็นครั้งแรกในวิชาชีพสื่อที่ยาวนานมาประมาณ 50 ปี เป็นคดีแรกที่ถูกตัดสินลงโทษแต่คำตัดสินของศาลเป็นความจริงที่เกิดขึ้นแล้ว และต้องยอมรับตามกระบวนการยุติธรรม เพราะเป็นกระบวนการที่จะสร้างความสงบเรียบร้อยของสังคม และเป็นระบบที่ช่วยให้ประชาชนที่ถูกละเมิดได้รับความเป็นธรรม ซึ่งทุกคนต้องยอมรับเพียงแต่การต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมยังไม่สิ้นสุด เพราะยังมีขั้นตอนการยื่นชั้นอุทธรณ์ ซึ่งทนายความกำลังเตรียมการอยู่ และคดีนี้คงสิ้นสุดในชั้นฎีกามีผู้ที่ติดตามการทำงานในวิชาชีพสื่อจำนวนมาก ส่งกำลังใจมาให้ ขออย่าท้อแท้ และเดินหน้าในวิชาชีพต่อไป ซึ่งต้องขอขอบคุณมิตรสหายหรือผู้ติดตามผลงานทุกท่านเพียงแต่สิ่งที่จะบอกกับมิตรสหายที่ติดตามผลงานคือ ตั้งแต่ตัดสินใจก้าวเข้าสู่วิชาชีพสื่อ ได้ตั้งปณิธานไว้ว่า จะยึดมั่นในหลักการสื่อมวลชนที่ดี จะยืดหยัดในอุดมการณ์การทำงานเพื่อประชาชนส่วนใหญ่ จะไม่ทรยศต่อวิชาชีพ จะยึดความถูกต้อง ยึดมั่นในรักษาจริยธรรมจรรยาบรรณวิชาชีพและไม่ยอมก้มหัวให้คนที่สร้างความเสียหายให้สังคมส่วนรวม ไม่ยอมให้ผลประโยชน์มาครอบงำการทำหน้าที่สื่อ50 ปีที่อยู่ในวิชาชีพสื่อ เจอแรงกดดันจากการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาในทุกรูปแบบ เจอข้อเสนอผลประโยชน์มหาศาลที่ยั่วยวน เพื่อให้หลีกเลี่ยงหรืองดการนำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา แต่ก็ผ่านกิเลสที่ทำให้นักข่าวหลายคนต้องกลายเป็นแค่ “กาฝาก” ในวิชาชีพสื่อมาได้การถูกตัดสินลงโทษจำคุก ถูกปรับ ต้องร่วมชดใช้เยียวยาโจทก์ มีมิตรสหายคำถามว่า จะทำให้เกิดความท้อแท้หรือไม่ แน่นอนว่า การถูกตัดสินว่ามีความผิดจากการทำหน้าที่ในวิชาชีพสื่อเป็นครั้งแรก ย่อมมีความรู้สึกผิดหวังอยู่บ้างเป็นธรรมดาแต่ไม่ได้เกิดความท้อแท้แต่อย่างใด ไม่ได้มีผลต่อความมุ่งมั่นในวิชาชีพสื่อที่ยึดมั่นในหลักการ อุดมการณ์ ต่อสู้เพื่อความถูกต้องเป็นธรรม ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และเป็นสื่อที่ยึดถือจริยธรรมจรรยาบรรณในวิชาชีพต่อไปโดยไม่เปลี่ยนแปลงการจะต้องเผชิญชะตากรรมใดๆ เป็นสิ่งที่เตรียมใจไว้แล้ว นับตั้งแต่ก้าวแรกในวิชาชีพสื่อ และถือว่า เป็นเส้นทางชีวิตที่เลือกแล้วถ้ากลัวการข่มขู่คุกคาม ถ้ากลัวการถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ถ้ากลัวคุกตะราง ถ้าไม่สามารถรักษาอุดมการณ์หรือหลักการของการเป็นสื่อที่ดีและยึดมั่นในจริยธรรมจรรยาบรรณในวิชาชีพได้ ควรจะต้องหันหลังจากวิชาชีพสื่อหรือเปลี่ยนจุดยืน เปลี่ยนแนวคิด ล้มเลิกอุดมการณ์และจุดยืน แปลงตัวเองเป็น "กาฝาก" ในวิชาชีพสื่อ ซึ่งพร้อมจะรับใช้ หรือเชลียร์ใครก็ตามที่โยนเศษเงินฟาดหัวถ้าเป็นสื่อที่ดีไม่ได้ ควรออกจากวิชาชีพ อย่าอยู่เป็นสื่อเลวที่ทำให้ภาพลักษณ์องคาพยพวิชาชีพสื่อเสียหาย อย่าเป็นสื่อเลวที่หนักแผ่นดินสุดท้าย ขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับกำลังใจจากมิตรสหาย และผู้ที่ติดตามชื่นชมผลงานการทำวิชาชีพสื่อทุกท่านขอยืนยันครับ ตราบใดที่ยังอยู่ในวิชาชีพสื่อ ตราบใดที่ยังเขียน “คอลัมน์” ชุมชนคนหุ้น จะยึดมั่นในหลักการความถูกต้อง ยึดมั่นการทำหน้าที่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ประชาชนส่วนใหญ่ชะตากรรมใดๆ ที่ต้องเผชิญ ไม่ได้ทำให้ "สุนันท์ ศรีจันทรา" เปลี่ยนแปลงจากสื่อที่ยึดในจริยธรรมจรรยาบรรณในวิชาชีพสื่อโดยไม่เคยเปลี่ยนแปลงตลอด 50 ปีที่ผ่านมา
คดีแรกในวิชาชีพสื่อ 50 ปี "สุนันท์ ศรีจันทรา" / สุนันท์ ศรีจันทราเขียนคอลัมน์ใน “ชุมชนคนหุ้น” หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ 360 องศา มาประมาณ 8 ปี ยืนหยัดในหลักการปกป้องผลประโยชน์ประชาชน ผู้ลงทุนในตลาดหุ้น ผ่านการข่มขู่ คุกคาม และการถูกดำเนินคดีมานับสิบคดี โดยไม่เคยถูกตัดสินว่ามีความผิดและถูกลงโทษเพิ่งถูกตัดสินลงโทษในคดีที่ "น.ส.ชญานี โปขันเงิน" ผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด ฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทเป็นครั้งแรก โดยถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี รอลงอาญา 2 ปี ปรับ 1.8 แสนบาท และร่วมชดใช้เงินให้โจกท์ทั้ง 3 รวมเป็นเงิน 2.4 ล้านบาทเป็นครั้งแรกในวิชาชีพสื่อที่ยาวนานมาประมาณ 50 ปี เป็นคดีแรกที่ถูกตัดสินลงโทษแต่คำตัดสินของศาลเป็นความจริงที่เกิดขึ้นแล้ว และต้องยอมรับตามกระบวนการยุติธรรม เพราะเป็นกระบวนการที่จะสร้างความสงบเรียบร้อยของสังคม และเป็นระบบที่ช่วยให้ประชาชนที่ถูกละเมิดได้รับความเป็นธรรม ซึ่งทุกคนต้องยอมรับเพียงแต่การต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมยังไม่สิ้นสุด เพราะยังมีขั้นตอนการยื่นชั้นอุทธรณ์ ซึ่งทนายความกำลังเตรียมการอยู่ และคดีนี้คงสิ้นสุดในชั้นฎีกามีผู้ที่ติดตามการทำงานในวิชาชีพสื่อจำนวนมาก ส่งกำลังใจมาให้ ขออย่าท้อแท้ และเดินหน้าในวิชาชีพต่อไป ซึ่งต้องขอขอบคุณมิตรสหายหรือผู้ติดตามผลงานทุกท่านเพียงแต่สิ่งที่จะบอกกับมิตรสหายที่ติดตามผลงานคือ ตั้งแต่ตัดสินใจก้าวเข้าสู่วิชาชีพสื่อ ได้ตั้งปณิธานไว้ว่า จะยึดมั่นในหลักการสื่อมวลชนที่ดี จะยืดหยัดในอุดมการณ์การทำงานเพื่อประชาชนส่วนใหญ่ จะไม่ทรยศต่อวิชาชีพ จะยึดความถูกต้อง ยึดมั่นในรักษาจริยธรรมจรรยาบรรณวิชาชีพและไม่ยอมก้มหัวให้คนที่สร้างความเสียหายให้สังคมส่วนรวม ไม่ยอมให้ผลประโยชน์มาครอบงำการทำหน้าที่สื่อ50 ปีที่อยู่ในวิชาชีพสื่อ เจอแรงกดดันจากการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาในทุกรูปแบบ เจอข้อเสนอผลประโยชน์มหาศาลที่ยั่วยวน เพื่อให้หลีกเลี่ยงหรืองดการนำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา แต่ก็ผ่านกิเลสที่ทำให้นักข่าวหลายคนต้องกลายเป็นแค่ “กาฝาก” ในวิชาชีพสื่อมาได้การถูกตัดสินลงโทษจำคุก ถูกปรับ ต้องร่วมชดใช้เยียวยาโจทก์ มีมิตรสหายคำถามว่า จะทำให้เกิดความท้อแท้หรือไม่ แน่นอนว่า การถูกตัดสินว่ามีความผิดจากการทำหน้าที่ในวิชาชีพสื่อเป็นครั้งแรก ย่อมมีความรู้สึกผิดหวังอยู่บ้างเป็นธรรมดาแต่ไม่ได้เกิดความท้อแท้แต่อย่างใด ไม่ได้มีผลต่อความมุ่งมั่นในวิชาชีพสื่อที่ยึดมั่นในหลักการ อุดมการณ์ ต่อสู้เพื่อความถูกต้องเป็นธรรม ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และเป็นสื่อที่ยึดถือจริยธรรมจรรยาบรรณในวิชาชีพต่อไปโดยไม่เปลี่ยนแปลงการจะต้องเผชิญชะตากรรมใดๆ เป็นสิ่งที่เตรียมใจไว้แล้ว นับตั้งแต่ก้าวแรกในวิชาชีพสื่อ และถือว่า เป็นเส้นทางชีวิตที่เลือกแล้วถ้ากลัวการข่มขู่คุกคาม ถ้ากลัวการถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ถ้ากลัวคุกตะราง ถ้าไม่สามารถรักษาอุดมการณ์หรือหลักการของการเป็นสื่อที่ดีและยึดมั่นในจริยธรรมจรรยาบรรณในวิชาชีพได้ ควรจะต้องหันหลังจากวิชาชีพสื่อหรือเปลี่ยนจุดยืน เปลี่ยนแนวคิด ล้มเลิกอุดมการณ์และจุดยืน แปลงตัวเองเป็น "กาฝาก" ในวิชาชีพสื่อ ซึ่งพร้อมจะรับใช้ หรือเชลียร์ใครก็ตามที่โยนเศษเงินฟาดหัวถ้าเป็นสื่อที่ดีไม่ได้ ควรออกจากวิชาชีพ อย่าอยู่เป็นสื่อเลวที่ทำให้ภาพลักษณ์องคาพยพวิชาชีพสื่อเสียหาย อย่าเป็นสื่อเลวที่หนักแผ่นดินสุดท้าย ขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับกำลังใจจากมิตรสหาย และผู้ที่ติดตามชื่นชมผลงานการทำวิชาชีพสื่อทุกท่านขอยืนยันครับ ตราบใดที่ยังอยู่ในวิชาชีพสื่อ ตราบใดที่ยังเขียน “คอลัมน์” ชุมชนคนหุ้น จะยึดมั่นในหลักการความถูกต้อง ยึดมั่นการทำหน้าที่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ประชาชนส่วนใหญ่ชะตากรรมใดๆ ที่ต้องเผชิญ ไม่ได้ทำให้ "สุนันท์ ศรีจันทรา" เปลี่ยนแปลงจากสื่อที่ยึดในจริยธรรมจรรยาบรรณในวิชาชีพสื่อโดยไม่เคยเปลี่ยนแปลงตลอด 50 ปีที่ผ่านมา