• บทความกฎหมาย EP.50

    ข่าวกรองคือกระบวนการทางปัญญาที่มีความหมายลึกซึ้งกว่าเพียงการรับรู้ข้อมูลข่าวสารทั่วไปเพราะในทางกฎหมายและระเบียบปฏิบัติของรัฐข่าวกรองเปรียบเสมือนพยานหลักฐานที่ผ่านการกลั่นกรองและตรวจสอบความถูกต้องมาอย่างเป็นระบบเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลนั้นมีน้ำหนักน่าเชื่อถือและสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจในระดับยุทธศาสตร์ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของความมั่นคงข้อมูลที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบย่อมถือเป็นเพียงข่าวลือหรือข่าวสารดิบที่ไม่สามารถนำมาอ้างอิงเป็นฐานในการใช้อำนาจตามกฎหมายได้การที่หน่วยงานรัฐจะดำเนินมาตรการใดๆที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนหรือการดำเนินนโยบายระหว่างประเทศจำเป็นต้องอาศัยข่าวกรองที่มีความแม่นยำสูงมีแหล่งที่มาที่ชัดเจนและได้รับการยืนยันผ่านกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์หรือการสืบสวนเชิงลึกเพื่อให้สอดคล้องกับหลักนิติธรรมที่กำหนดว่าการใช้อำนาจรัฐต้องตั้งอยู่บนฐานของข้อเท็จจริงที่ยุติแล้วเท่านั้นกระบวนการเปลี่ยนข่าวสารให้กลายเป็นข่าวกรองจึงถือเป็นพันธกิจหลักที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและการยึดมั่นในระเบียบข้อบังคับอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจนำไปสู่ความเสียหายต่อส่วนรวมหรือการละเมิดสิทธิของบุคคลโดยมิชอบ

    ในมิติด้านกฎหมายมหาชนและการตีความพยานหลักฐานการนิยามว่าข่าวกรองคือข่าวที่ได้รับการตรวจสอบหลักฐานแล้วว่าเชื่อถือได้สะท้อนถึงมาตรฐานการพิสูจน์ที่เข้มงวดคล้ายคลึงกับหลักการรับฟังพยานหลักฐานในชั้นศาลซึ่งต้องมีการตรวจสอบความเชื่อมโยงและความสมเหตุสมผลของข้อมูลในทุกมิติข่าวกรองที่มีคุณภาพจึงต้องประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญคือความถูกต้องความทันสมัยและความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์โดยมีกฎหมายรองรับบทบาทหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการแสวงหาข้อเท็จจริงภายใต้ขอบเขตที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้การทำหน้าที่ของหน่วยข่าวกรองทหารหรือหน่วยงานความมั่นคงจึงไม่ใช่เพียงการรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุดแต่คือการวิเคราะห์แยกแยะระหว่างความจริงกับความลวงโดยใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีและสติปัญญาของมนุษย์ผสมผสานกันเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อสรุปที่มีพยานหลักฐานสนับสนุนอย่างแน่นหนาความน่าเชื่อถือของข่าวกรองจึงเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้รัฐสามารถพยากรณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าและยับยั้งภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพตามหลักการป้องกันก่อนเกิดเหตุซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในราชอาณาจักรและการคุ้มครองอธิปไตยของชาติในโลกยุคข้อมูลข่าวสารที่เต็มไปด้วยการบิดเบือนข้อเท็จจริง

    โดยสรุปแล้วข่าวกรองจึงมิใช่เพียงคำจำกัดความของการรู้แจ้งเห็นจริงในเหตุการณ์ต่างๆเท่านั้นแต่เป็นบรรทัดฐานทางกฎหมายและการบริหารราชการแผ่นดินที่ให้ความสำคัญกับการพิสูจน์ทราบความจริงก่อนการตัดสินใจดำเนินการใดๆในนามของรัฐการรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการข่าวกรองจึงเท่ากับการรักษามาตรฐานความยุติธรรมและความปลอดภัยของสังคมโดยรวมเพราะเมื่อข่าวกรองมีความชัดเจนและปราศจากข้อสงสัยย่อมทำให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างเป็นธรรมและมีพยานหลักฐานที่ไม่อาจปฏิเสธได้ซึ่งจะส่งผลให้รัฐสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนานาชาติได้อย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของความจริงที่ผ่านการตรวจสอบอย่างเป็นระบบและสมบูรณ์ที่สุดในฐานะที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความมั่นคงของชาติในทุกมิติ
    บทความกฎหมาย EP.50 ข่าวกรองคือกระบวนการทางปัญญาที่มีความหมายลึกซึ้งกว่าเพียงการรับรู้ข้อมูลข่าวสารทั่วไปเพราะในทางกฎหมายและระเบียบปฏิบัติของรัฐข่าวกรองเปรียบเสมือนพยานหลักฐานที่ผ่านการกลั่นกรองและตรวจสอบความถูกต้องมาอย่างเป็นระบบเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลนั้นมีน้ำหนักน่าเชื่อถือและสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจในระดับยุทธศาสตร์ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของความมั่นคงข้อมูลที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบย่อมถือเป็นเพียงข่าวลือหรือข่าวสารดิบที่ไม่สามารถนำมาอ้างอิงเป็นฐานในการใช้อำนาจตามกฎหมายได้การที่หน่วยงานรัฐจะดำเนินมาตรการใดๆที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนหรือการดำเนินนโยบายระหว่างประเทศจำเป็นต้องอาศัยข่าวกรองที่มีความแม่นยำสูงมีแหล่งที่มาที่ชัดเจนและได้รับการยืนยันผ่านกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์หรือการสืบสวนเชิงลึกเพื่อให้สอดคล้องกับหลักนิติธรรมที่กำหนดว่าการใช้อำนาจรัฐต้องตั้งอยู่บนฐานของข้อเท็จจริงที่ยุติแล้วเท่านั้นกระบวนการเปลี่ยนข่าวสารให้กลายเป็นข่าวกรองจึงถือเป็นพันธกิจหลักที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและการยึดมั่นในระเบียบข้อบังคับอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจนำไปสู่ความเสียหายต่อส่วนรวมหรือการละเมิดสิทธิของบุคคลโดยมิชอบ ในมิติด้านกฎหมายมหาชนและการตีความพยานหลักฐานการนิยามว่าข่าวกรองคือข่าวที่ได้รับการตรวจสอบหลักฐานแล้วว่าเชื่อถือได้สะท้อนถึงมาตรฐานการพิสูจน์ที่เข้มงวดคล้ายคลึงกับหลักการรับฟังพยานหลักฐานในชั้นศาลซึ่งต้องมีการตรวจสอบความเชื่อมโยงและความสมเหตุสมผลของข้อมูลในทุกมิติข่าวกรองที่มีคุณภาพจึงต้องประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญคือความถูกต้องความทันสมัยและความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์โดยมีกฎหมายรองรับบทบาทหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการแสวงหาข้อเท็จจริงภายใต้ขอบเขตที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้การทำหน้าที่ของหน่วยข่าวกรองทหารหรือหน่วยงานความมั่นคงจึงไม่ใช่เพียงการรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุดแต่คือการวิเคราะห์แยกแยะระหว่างความจริงกับความลวงโดยใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีและสติปัญญาของมนุษย์ผสมผสานกันเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อสรุปที่มีพยานหลักฐานสนับสนุนอย่างแน่นหนาความน่าเชื่อถือของข่าวกรองจึงเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้รัฐสามารถพยากรณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าและยับยั้งภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพตามหลักการป้องกันก่อนเกิดเหตุซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในราชอาณาจักรและการคุ้มครองอธิปไตยของชาติในโลกยุคข้อมูลข่าวสารที่เต็มไปด้วยการบิดเบือนข้อเท็จจริง โดยสรุปแล้วข่าวกรองจึงมิใช่เพียงคำจำกัดความของการรู้แจ้งเห็นจริงในเหตุการณ์ต่างๆเท่านั้นแต่เป็นบรรทัดฐานทางกฎหมายและการบริหารราชการแผ่นดินที่ให้ความสำคัญกับการพิสูจน์ทราบความจริงก่อนการตัดสินใจดำเนินการใดๆในนามของรัฐการรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการข่าวกรองจึงเท่ากับการรักษามาตรฐานความยุติธรรมและความปลอดภัยของสังคมโดยรวมเพราะเมื่อข่าวกรองมีความชัดเจนและปราศจากข้อสงสัยย่อมทำให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างเป็นธรรมและมีพยานหลักฐานที่ไม่อาจปฏิเสธได้ซึ่งจะส่งผลให้รัฐสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนานาชาติได้อย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของความจริงที่ผ่านการตรวจสอบอย่างเป็นระบบและสมบูรณ์ที่สุดในฐานะที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความมั่นคงของชาติในทุกมิติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุคใหม่ของการติดตั้งแอปบน Linux: 7 เครื่องมือจัดการ GitHub Binaries ที่ช่วยลดงานซ้ำซ้อน

    โลกของ Linux กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เมื่อซอฟต์แวร์จำนวนมากเลือกปล่อยเป็น pre‑compiled binaries บน GitHub Releases แทนการเข้าระบบแพ็กเกจของดิสโทรแบบดั้งเดิม ทำให้ผู้ใช้ต้องคอยเข้าไปดาวน์โหลดไฟล์เองอยู่บ่อยครั้ง บทความจาก It’s FOSS ชี้ให้เห็นว่าเครื่องมือรุ่นใหม่เหล่านี้ช่วย “ปิดช่องว่าง” ระหว่างแพ็กเกจเมเนเจอร์แบบเดิมกับโลกของ GitHub ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    หนึ่งในเครื่องมือที่โดดเด่นคือ Eget ซึ่งช่วยดาวน์โหลดและติดตั้งไบนารีจาก GitHub โดยอัตโนมัติ เพียงระบุชื่อรีโป มันจะเลือกไฟล์ที่เหมาะกับสถาปัตยกรรมของระบบให้ทันที นอกจากนี้ยังมี deb‑get ที่นำแนวคิด apt-get มาประยุกต์ใช้กับ .deb จาก GitHub, PPA และลิงก์ตรง ทำให้ผู้ใช้ Ubuntu และ Debian สามารถติดตั้งซอฟต์แวร์นอกรีโปได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น

    ฝั่ง GUI ก็มี Autonomix ที่ใช้ GTK4 + libadwaita ให้หน้าตาทันสมัย รองรับทั้ง .deb, .rpm, AppImage, Flatpak และ Snap พร้อมระบบติดตามเวอร์ชันในตัว ส่วนเครื่องมืออย่าง bin, Install Release, stew และ AFX ก็เน้นความสามารถเฉพาะทาง เช่น การจัดการหลายแหล่งซอฟต์แวร์, การซิงก์สถานะข้ามเครื่อง, การติดตั้งแบบ declarative และการจัดการปลั๊กอินเชลล์อย่างเป็นระบบ

    ภาพรวมแล้ว เครื่องมือเหล่านี้สะท้อนทิศทางใหม่ของ Linux ที่กำลังเคลื่อนสู่โลกที่ผู้พัฒนาปล่อยซอฟต์แวร์เองมากขึ้น และผู้ใช้ต้องการระบบจัดการไบนารีที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม ไม่ต้องรอแพ็กเกจจากดิสโทร และยังสามารถอัปเดตได้อัตโนมัติแบบแพ็กเกจเมเนเจอร์ดั้งเดิม ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความคล่องตัวของ GitHub กับความสะดวกของระบบจัดการแพ็กเกจที่ผู้ใช้คุ้นเคย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เครื่องมือเด่นสำหรับจัดการ GitHub Binaries
    deb‑get: apt‑get สำหรับ .deb จาก GitHub, PPA, direct download
    Autonomix: ตัวเลือก GUI รองรับหลายฟอร์แมต เช่น deb/rpm/AppImage/Flatpak/Snap
    Eget: ดาวน์โหลดไบนารีอัตโนมัติจาก GitHub พร้อมเลือกไฟล์ที่ตรงสถาปัตยกรรม
    Install Release: ซิงก์สถานะแพ็กเกจข้ามเครื่องผ่านไฟล์ JSON
    bin: จัดการไบนารีจากหลายแหล่ง เช่น GitHub, GitLab, Docker, Hashicorp
    stew: ระบบ declarative ผ่าน Stewfile + UI แบบ interactive
    AFX: จัดการปลั๊กอินเชลล์ + ไบนารีด้วย YAML config

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    ต้องพึ่งพา GitHub API ซึ่งอาจเจอ rate‑limit หากไม่ใช้ token
    บางเครื่องมือยังใหม่มาก เช่น Autonomix อาจมีบั๊กหรือฟีเจอร์ไม่ครบ
    การติดตั้งไบนารีนอกรีโปอาจขาดการตรวจสอบความปลอดภัยจากดิสโทร
    ระบบ declarative หรือ multi‑source อาจซับซ้อนสำหรับผู้ใช้ใหม่

    https://itsfoss.com/github-binaries-tools/
    📦⚙️ ยุคใหม่ของการติดตั้งแอปบน Linux: 7 เครื่องมือจัดการ GitHub Binaries ที่ช่วยลดงานซ้ำซ้อน โลกของ Linux กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เมื่อซอฟต์แวร์จำนวนมากเลือกปล่อยเป็น pre‑compiled binaries บน GitHub Releases แทนการเข้าระบบแพ็กเกจของดิสโทรแบบดั้งเดิม ทำให้ผู้ใช้ต้องคอยเข้าไปดาวน์โหลดไฟล์เองอยู่บ่อยครั้ง บทความจาก It’s FOSS ชี้ให้เห็นว่าเครื่องมือรุ่นใหม่เหล่านี้ช่วย “ปิดช่องว่าง” ระหว่างแพ็กเกจเมเนเจอร์แบบเดิมกับโลกของ GitHub ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในเครื่องมือที่โดดเด่นคือ Eget ซึ่งช่วยดาวน์โหลดและติดตั้งไบนารีจาก GitHub โดยอัตโนมัติ เพียงระบุชื่อรีโป มันจะเลือกไฟล์ที่เหมาะกับสถาปัตยกรรมของระบบให้ทันที นอกจากนี้ยังมี deb‑get ที่นำแนวคิด apt-get มาประยุกต์ใช้กับ .deb จาก GitHub, PPA และลิงก์ตรง ทำให้ผู้ใช้ Ubuntu และ Debian สามารถติดตั้งซอฟต์แวร์นอกรีโปได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น ฝั่ง GUI ก็มี Autonomix ที่ใช้ GTK4 + libadwaita ให้หน้าตาทันสมัย รองรับทั้ง .deb, .rpm, AppImage, Flatpak และ Snap พร้อมระบบติดตามเวอร์ชันในตัว ส่วนเครื่องมืออย่าง bin, Install Release, stew และ AFX ก็เน้นความสามารถเฉพาะทาง เช่น การจัดการหลายแหล่งซอฟต์แวร์, การซิงก์สถานะข้ามเครื่อง, การติดตั้งแบบ declarative และการจัดการปลั๊กอินเชลล์อย่างเป็นระบบ ภาพรวมแล้ว เครื่องมือเหล่านี้สะท้อนทิศทางใหม่ของ Linux ที่กำลังเคลื่อนสู่โลกที่ผู้พัฒนาปล่อยซอฟต์แวร์เองมากขึ้น และผู้ใช้ต้องการระบบจัดการไบนารีที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม ไม่ต้องรอแพ็กเกจจากดิสโทร และยังสามารถอัปเดตได้อัตโนมัติแบบแพ็กเกจเมเนเจอร์ดั้งเดิม ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความคล่องตัวของ GitHub กับความสะดวกของระบบจัดการแพ็กเกจที่ผู้ใช้คุ้นเคย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เครื่องมือเด่นสำหรับจัดการ GitHub Binaries ➡️ deb‑get: apt‑get สำหรับ .deb จาก GitHub, PPA, direct download ➡️ Autonomix: ตัวเลือก GUI รองรับหลายฟอร์แมต เช่น deb/rpm/AppImage/Flatpak/Snap ➡️ Eget: ดาวน์โหลดไบนารีอัตโนมัติจาก GitHub พร้อมเลือกไฟล์ที่ตรงสถาปัตยกรรม ➡️ Install Release: ซิงก์สถานะแพ็กเกจข้ามเครื่องผ่านไฟล์ JSON ➡️ bin: จัดการไบนารีจากหลายแหล่ง เช่น GitHub, GitLab, Docker, Hashicorp ➡️ stew: ระบบ declarative ผ่าน Stewfile + UI แบบ interactive ➡️ AFX: จัดการปลั๊กอินเชลล์ + ไบนารีด้วย YAML config ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ ต้องพึ่งพา GitHub API ซึ่งอาจเจอ rate‑limit หากไม่ใช้ token ⛔ บางเครื่องมือยังใหม่มาก เช่น Autonomix อาจมีบั๊กหรือฟีเจอร์ไม่ครบ ⛔ การติดตั้งไบนารีนอกรีโปอาจขาดการตรวจสอบความปลอดภัยจากดิสโทร ⛔ ระบบ declarative หรือ multi‑source อาจซับซ้อนสำหรับผู้ใช้ใหม่ https://itsfoss.com/github-binaries-tools/
    ITSFOSS.COM
    Stop Manually Checking GitHub Releases — These Tools Automatically Install & Update Apps on Linux
    These handy utilities tools simplify installing and managing binaries from GitHub releases on Linux.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷

    #รวมข่าวIT #20251223 #TechRadar

    Surfshark ขยาย Dedicated IP มาสู่ Linux GUI App
    Surfshark เดินหน้าขยายฟีเจอร์ Dedicated IP มายังแอป GUI บน Linux แบบเต็มรูปแบบ ช่วยลด CAPTCHA, ลดการถูกบล็อก และเพิ่มความเสถียรในการเข้าถึงบริการสำคัญ เช่น ระบบงานองค์กรและธนาคาร โดยไม่ต้องพึ่งส่วนขยายเบราว์เซอร์อีกต่อไป การอัปเดตนี้เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันฟีเจอร์ระดับโปรให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม หลังจากขยายอย่างหนักในปี 2025 และช่วยให้ผู้ใช้ Linux ได้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลและปลอดภัยยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/surfshark-expands-dedicated-ip-to-linux-in-its-latest-desktop-update

    Anthropic เปิด Agent Skills เป็นโอเพ่นซอร์ส ท้าชน OpenAI
    Anthropic เดินเกมเชิงรุกด้วยการเปิด Agent Skills เป็นมาตรฐานโอเพ่นซอร์ส เพื่อให้ AI agents ทำงานซ้ำ ๆ ได้อย่างแม่นยำและปรับแต่งได้ง่ายขึ้น โดย Microsoft และเครื่องมือโค้ดหลายตัวเริ่มนำไปใช้แล้ว การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนความตั้งใจของ Anthropic ที่ต้องการเป็นเลเยอร์โครงสร้างพื้นฐานของอุตสาหกรรม AI ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตโมเดลอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/pro/anthropic-takes-the-fight-to-openai-with-enterprise-ai-tools-and-theyre-going-open-source-too

    ดีลคลาวด์ช่วงคริสต์มาส ช่วยเคลียร์รูปในมือถือแบบคุ้มสุด
    TechRadar แนะนำดีลคลาวด์สตอเรจช่วงคริสต์มาสสำหรับคนที่รูปเต็มมือถือ โดยยกให้ IDrive เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งเพราะได้พื้นที่ 10TB ในราคาถูกมาก พร้อมเข้ารหัสแบบ end‑to‑end และแอปใช้งานง่าย นอกจากนี้ยังมีดีลจาก Internxt, Sync.com และ Degoo ที่เน้นความปลอดภัยและพื้นที่จัดเก็บจำนวนมาก เหมาะทั้งผู้ใช้ทั่วไปและธุรกิจ
    https://www.techradar.com/pro/cut-through-camera-roll-chaos-with-these-christmas-cloud-storage-deals-including-a-huge-saving-on-our-top-choice

    รีวิวโต๊ะยืน Eureka Ark EL — ดีไซน์เด่น ฟีเจอร์ครบ แต่ราคาแรง
    Eureka Ark EL Executive Standing Desk โดดเด่นด้วยดีไซน์ขาโต๊ะทรงใหญ่สไตล์พรีเมียม พร้อมระบบปรับระดับไฟฟ้า 3 โปรไฟล์ ความสูงสูงสุด 48 นิ้ว รองรับน้ำหนัก 100 กก. และมีที่ชาร์จไร้สาย + พอร์ต USB ในตัว แม้จะเป็นโต๊ะที่ใช้งานดีและประกอบง่าย แต่ราคาค่อนข้างสูง วัสดุบางส่วนไม่พรีเมียมเท่าที่ควร และลิ้นชักมีความจุจำกัด
    https://www.techradar.com/pro/eureka-ergonomic-ark-el-executive-standing-desk

    HPE เตือนลูกค้าอัปเดต OneView ด่วน หลังพบช่องโหว่ระดับ 10/10
    HPE ออกแพตช์อุดช่องโหว่ร้ายแรงใน OneView (CVE‑2025‑37164) ซึ่งเปิดทางให้ผู้โจมตีรันโค้ดจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน เสี่ยงต่อการถูกเปลี่ยนค่าคอนฟิกเซิร์ฟเวอร์ ติดมัลแวร์ หรือสร้างแบ็กดอร์ในระดับโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ผู้ใช้ต้องอัปเกรดเป็นเวอร์ชัน 11.0 หรือใช้ hotfix ทันทีเพื่อป้องกันความเสียหาย
    https://www.techradar.com/pro/security/hpe-tells-customers-to-patch-oneview-immediately-as-top-level-security-flaw-spotted

    Arm สูญมูลค่าหลายพันล้าน หลัง Qualcomm เดินเกม RISC‑V
    Arm เผชิญแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่เมื่อ Qualcomm ประกาศเข้าซื้อ Ventana Micro เพื่อเร่งพัฒนา RISC‑V ทำให้นักลงทุนกังวลว่าอนาคตความต้องการสถาปัตยกรรม Arm อาจลดลง ส่งผลให้หุ้นร่วงหนัก ขณะที่ Qualcomm กลับพุ่งขึ้นเพราะตลาดมองว่าบริษัทกำลังวางรากฐานสู่ยุค CPU แบบผสมผสาน Arm + RISC‑V สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์และอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/arm-sheds-billions-in-market-capitalization-after-qualcomm-hints-at-risc-v-adoption-with-ventara-micro-acquisition

    Qualcomm เร่งขยายอาณาจักร AI Data Center ด้วยดีล Alphawave Semi
    Qualcomm ปิดดีลซื้อ Alphawave Semi เร็วกว่ากำหนด เสริมแกร่งด้านเทคโนโลยีเชื่อมต่อความเร็วสูงและชิปแบบ custom เพื่อรองรับงาน AI ขนาดใหญ่ โดยจะผสานเข้ากับสถาปัตยกรรม Oryon และ Hexagon เพื่อสร้างแพลตฟอร์มดาต้าเซ็นเตอร์ที่ครบวงจร พร้อมตั้ง CEO ของ Alphawave มาคุมธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์โดยตรง สะท้อนความตั้งใจของ Qualcomm ที่จะท้าชน Nvidia ในตลาดโครงสร้างพื้นฐาน AI
    https://www.techradar.com/pro/watch-out-nvidia-qualcomm-acquires-alphawave-semi-in-latest-addition-to-its-ai-data-center-push

    Gemini 3 Flash ฉลาดและเร็ว — แต่ยัง “มั่วเนียน” เมื่อไม่รู้คำตอบ
    Gemini 3 Flash ทำคะแนนสูงในหลายการทดสอบ แต่ผลวิเคราะห์ล่าสุดเผยว่าเมื่อโมเดลไม่รู้คำตอบ มันเลือก “ตอบมั่ว” ถึง 91% แทนที่จะบอกว่าไม่รู้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการใช้งานในสถานการณ์จริง โดยเฉพาะเมื่อถูกผนวกเข้ากับ Search แม้ยังเป็นหนึ่งในโมเดลที่แม่นยำที่สุด แต่ความมั่นใจเกินเหตุในบริบทที่ไม่มีข้อมูลจริงยังเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ Google ต้องเร่งแก้
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini-3-flash-is-smart-but-when-it-doesnt-know-it-makes-stuff-up-anyway

    AWS มองอนาคตเป็นยุค “Internet of Agents” พร้อมผลักดัน AgentCore
    ผู้บริหาร AWS เผยวิสัยทัศน์ยุคใหม่ที่ AI agents จะกลายเป็นผู้ช่วยประจำตัวทุกคน โดย AWS ต้องการให้ทุกนักพัฒนาเป็น “agentic developer” ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง AgentCore และ Kiro IDE ที่ช่วยสร้าง agent ได้ง่ายขึ้น พร้อมย้ำว่าความน่าเชื่อถือและการตรวจสอบโดยมนุษย์ยังเป็นหัวใจสำคัญ ก่อนที่โลกจะเข้าสู่ยุคที่งานจำนวนมากถูกเร่งด้วย agent แต่ไม่แทนที่มนุษย์
    https://www.techradar.com/pro/we-are-living-in-times-of-great-change-i-speak-to-aws-top-ai-minds-to-hear-how-it-wants-to-open-up-agents-and-building-to-everyone

    กล้องวงจรปิดไม่ง้อรายเดือน — 3 รุ่นแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ Smart Home
    TechRadar คัด 3 กล้องวงจรปิดที่ใช้งานได้เต็มฟีเจอร์โดยไม่ต้องจ่ายค่าสมาชิกรายเดือน ได้แก่ Baseus S2 ที่มีแผงโซลาร์หมุนตามแสงและระบบจดจำใบหน้า, Swann MaxRanger4K ที่ให้ความละเอียดสูงพร้อมฐานเก็บข้อมูลในตัว และ Reolink Altas PT Ultra ที่เด่นด้านการหมุน‑แพน‑ซูมและภาพกลางคืนสีสันคมชัด ทั้งหมดรองรับการบันทึกแบบ local storage ช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาว
    https://www.techradar.com/home/home-security/top-3-subscription-free-home-security-cameras

    Google Cloud รีเฟรช Partner Network ครั้งใหญ่ เตรียมใช้จริงปี 2026
    Google Cloud เปิดตัวโปรแกรมพาร์ตเนอร์รูปแบบใหม่ที่เน้น “ผลลัพธ์จริงของลูกค้า” มากกว่าการส่งเอกสารหรือทำตามเช็กลิสต์ โดยเพิ่มระบบอัตโนมัติ, การติดตามด้วย AI และเปิดระดับใหม่ชื่อ Diamond สำหรับพาร์ตเนอร์ที่สร้างผลลัพธ์โดดเด่นที่สุด พร้อมช่วงเปลี่ยนผ่าน 6 เดือนเพื่อให้ทุกประเภทพาร์ตเนอร์ปรับตัวก่อนระบบใหม่เริ่มใช้งานเต็มรูปแบบในปี 2026
    https://www.techradar.com/pro/google-cloud-reveals-all-new-channel-program-heres-all-the-key-details

    Alphabet ทุ่ม $4.75B ซื้อ Intersect Power เสริมพลังงานให้ดาต้าเซ็นเตอร์
    Alphabet เข้าซื้อ Intersect Power แบบเต็มตัวเพื่อเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานรองรับดาต้าเซ็นเตอร์ หลังจากเคยลงทุนไปแล้ว $800M ในปี 2024 โดย Intersect จะยังคงดำเนินงานแยกบริษัท พร้อมส่งมอบโครงการพลังงานหลายกิกะวัตต์ให้ Google ใช้ขยายศูนย์ข้อมูลในอนาคต แม้บางทรัพย์สินในแคลิฟอร์เนียและเท็กซัสจะถูกแยกออกไปตั้งบริษัทใหม่ก็ตาม
    https://www.techradar.com/pro/alphabet-secures-usd4-75-billion-intersect-deal-to-make-sure-its-data-centers-have-enough-energy

    Oppo Find X9 Pro — เรือธงสุดโหดสำหรับสาย Android ตัวจริง
    Oppo Find X9 Pro มาพร้อมดีไซน์ใหม่แบบขอบแบน กล้องจัดเต็ม 50MP + 50MP + 200MP, ชิป Dimensity 9500, RAM 16GB และแบต 7,500mAh ที่อึดกว่าคู่แข่งหลายรุ่น หน้าจอ AMOLED 120Hz สว่างสุด 3600 nits และประสิทธิภาพระดับท็อป แม้จะมีความร้อนบ้างและซอฟต์แวร์บางจุดยังแปลก ๆ แต่โดยรวมคือหนึ่งใน Android ที่ครบเครื่องที่สุด—ติดเพียงข้อจำกัดด้านการวางจำหน่ายที่ยังไม่ทั่วโลก
    https://www.techradar.com/phones/oppo-phones/oppo-find-x9-pro-review

    NordProtect เพิ่มระบบ Fraud Monitoring ตรวจจับการปลอมตัวและกู้เงินแอบอ้าง
    NordProtect อัปเกรดระบบป้องกันการฉ้อโกงครั้งใหญ่ โดยเพิ่มการตรวจสอบข้อมูลจาก Equifax, Experian และ TransUnion เพื่อหาสัญญาณเปิดบัญชีใหม่, การเปลี่ยนเครดิตสกอร์, การกู้เงินระยะสั้น และการเปิดบัญชีการเงินโดยใช้ข้อมูลผู้ใช้ พร้อมผสานการล็อกเครดิตของ TransUnion เข้ามาในระบบ แม้บริการเต็มรูปแบบจะยังจำกัดเฉพาะในสหรัฐฯ ก็ตาม
    https://www.techradar.com/pro/security/nordprotect-adds-fraud-monitoring-tool-to-help-protect-users-from-scams

    iPod Classic กลับมาในร่างใหม่ — USB‑C, Bluetooth และราคาสุดถูก
    Innioasis Y1 คือเครื่องเล่นเพลงที่ถอดแบบ iPod Classic แทบทุกจุด ทั้งดีไซน์และ clickwheel แต่เพิ่มความทันสมัยด้วย USB‑C, Bluetooth, รองรับไฟล์หลากหลาย และแบตเล่นเพลงได้ 25–30 ชั่วโมง ในราคาต่ำกว่า $60 แม้คุณภาพงานประกอบและซอฟต์แวร์จะไม่เทียบ Apple และความจุจำกัดที่ 128GB แต่ก็เป็นอุปกรณ์ที่มีเสน่ห์สำหรับคนคิดถึงยุค iPod
    https://www.techradar.com/audio/portable-media-players/someones-made-a-usb-c-version-of-the-ipod-classic-complete-with-clickwheel-and-its-extremely-cheap

    Windows 11 เดินหน้าทดสอบ AI Agents ในระบบ แม้เสียงวิจารณ์ยังแรง
    Microsoft ปล่อยพรีวิว Windows 11 ที่โชว์การทำงานของ AI agents ชัดขึ้น ทั้ง Ask Copilot บนทาสก์บาร์, การอัปเดตสถานะ reasoning แบบเรียลไทม์เมื่อโฮเวอร์ไอคอน และระบบ Agent Launcher ที่เปิดให้แอปภายนอกสร้าง agent ของตัวเองได้ แม้เป็นก้าวสำคัญของ Windows ยุค AI แต่ผู้ใช้จำนวนมากยังไม่พอใจที่ Microsoft ทุ่มทรัพยากรไปกับ AI มากกว่าการแก้ปัญหา UX และบั๊กพื้นฐานของระบบ
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-preview-provides-more-details-on-how-ai-agents-will-work-but-this-remains-a-controversial-path-for-microsoft

    มหาวิทยาลัย Phoenix ถูกแฮ็ก ข้อมูลกว่า 3.5 ล้านรายรั่วจากช่องโหว่ Oracle
    University of Phoenix ยืนยันว่าถูกกลุ่มแรนซัมแวร์ Cl0p เจาะระบบผ่านช่องโหว่ zero‑day ของ Oracle E‑Business Suite ทำให้ข้อมูลของอดีตนักศึกษา พนักงาน และซัพพลายเออร์กว่า 3.5 ล้านรายถูกขโมย ทั้งชื่อ วันเกิด เบอร์บัญชี และ Social Security Number มหาวิทยาลัยแจ้งเตือนผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมให้บริการตรวจสอบตัวตน 12 เดือน และตั้งกองทุนชดเชยความเสียหายสูงสุด $1 ล้าน
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/security/university-of-phoenix-data-breach-may-have-hit-over-3-5-million-victims-heres-what-we-know
    📌📡🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷📡📌 #รวมข่าวIT #20251223 #TechRadar 🛡️ Surfshark ขยาย Dedicated IP มาสู่ Linux GUI App Surfshark เดินหน้าขยายฟีเจอร์ Dedicated IP มายังแอป GUI บน Linux แบบเต็มรูปแบบ ช่วยลด CAPTCHA, ลดการถูกบล็อก และเพิ่มความเสถียรในการเข้าถึงบริการสำคัญ เช่น ระบบงานองค์กรและธนาคาร โดยไม่ต้องพึ่งส่วนขยายเบราว์เซอร์อีกต่อไป การอัปเดตนี้เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันฟีเจอร์ระดับโปรให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม หลังจากขยายอย่างหนักในปี 2025 และช่วยให้ผู้ใช้ Linux ได้ประสบการณ์ที่ลื่นไหลและปลอดภัยยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/surfshark-expands-dedicated-ip-to-linux-in-its-latest-desktop-update 🤖 Anthropic เปิด Agent Skills เป็นโอเพ่นซอร์ส ท้าชน OpenAI Anthropic เดินเกมเชิงรุกด้วยการเปิด Agent Skills เป็นมาตรฐานโอเพ่นซอร์ส เพื่อให้ AI agents ทำงานซ้ำ ๆ ได้อย่างแม่นยำและปรับแต่งได้ง่ายขึ้น โดย Microsoft และเครื่องมือโค้ดหลายตัวเริ่มนำไปใช้แล้ว การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนความตั้งใจของ Anthropic ที่ต้องการเป็นเลเยอร์โครงสร้างพื้นฐานของอุตสาหกรรม AI ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตโมเดลอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/anthropic-takes-the-fight-to-openai-with-enterprise-ai-tools-and-theyre-going-open-source-too ☁️ ดีลคลาวด์ช่วงคริสต์มาส ช่วยเคลียร์รูปในมือถือแบบคุ้มสุด TechRadar แนะนำดีลคลาวด์สตอเรจช่วงคริสต์มาสสำหรับคนที่รูปเต็มมือถือ โดยยกให้ IDrive เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งเพราะได้พื้นที่ 10TB ในราคาถูกมาก พร้อมเข้ารหัสแบบ end‑to‑end และแอปใช้งานง่าย นอกจากนี้ยังมีดีลจาก Internxt, Sync.com และ Degoo ที่เน้นความปลอดภัยและพื้นที่จัดเก็บจำนวนมาก เหมาะทั้งผู้ใช้ทั่วไปและธุรกิจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/cut-through-camera-roll-chaos-with-these-christmas-cloud-storage-deals-including-a-huge-saving-on-our-top-choice 🪑 รีวิวโต๊ะยืน Eureka Ark EL — ดีไซน์เด่น ฟีเจอร์ครบ แต่ราคาแรง Eureka Ark EL Executive Standing Desk โดดเด่นด้วยดีไซน์ขาโต๊ะทรงใหญ่สไตล์พรีเมียม พร้อมระบบปรับระดับไฟฟ้า 3 โปรไฟล์ ความสูงสูงสุด 48 นิ้ว รองรับน้ำหนัก 100 กก. และมีที่ชาร์จไร้สาย + พอร์ต USB ในตัว แม้จะเป็นโต๊ะที่ใช้งานดีและประกอบง่าย แต่ราคาค่อนข้างสูง วัสดุบางส่วนไม่พรีเมียมเท่าที่ควร และลิ้นชักมีความจุจำกัด 🔗 https://www.techradar.com/pro/eureka-ergonomic-ark-el-executive-standing-desk 🔥 HPE เตือนลูกค้าอัปเดต OneView ด่วน หลังพบช่องโหว่ระดับ 10/10 HPE ออกแพตช์อุดช่องโหว่ร้ายแรงใน OneView (CVE‑2025‑37164) ซึ่งเปิดทางให้ผู้โจมตีรันโค้ดจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน เสี่ยงต่อการถูกเปลี่ยนค่าคอนฟิกเซิร์ฟเวอร์ ติดมัลแวร์ หรือสร้างแบ็กดอร์ในระดับโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ผู้ใช้ต้องอัปเกรดเป็นเวอร์ชัน 11.0 หรือใช้ hotfix ทันทีเพื่อป้องกันความเสียหาย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hpe-tells-customers-to-patch-oneview-immediately-as-top-level-security-flaw-spotted 📉 Arm สูญมูลค่าหลายพันล้าน หลัง Qualcomm เดินเกม RISC‑V Arm เผชิญแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่เมื่อ Qualcomm ประกาศเข้าซื้อ Ventana Micro เพื่อเร่งพัฒนา RISC‑V ทำให้นักลงทุนกังวลว่าอนาคตความต้องการสถาปัตยกรรม Arm อาจลดลง ส่งผลให้หุ้นร่วงหนัก ขณะที่ Qualcomm กลับพุ่งขึ้นเพราะตลาดมองว่าบริษัทกำลังวางรากฐานสู่ยุค CPU แบบผสมผสาน Arm + RISC‑V สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์และอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/arm-sheds-billions-in-market-capitalization-after-qualcomm-hints-at-risc-v-adoption-with-ventara-micro-acquisition 🏗️ Qualcomm เร่งขยายอาณาจักร AI Data Center ด้วยดีล Alphawave Semi Qualcomm ปิดดีลซื้อ Alphawave Semi เร็วกว่ากำหนด เสริมแกร่งด้านเทคโนโลยีเชื่อมต่อความเร็วสูงและชิปแบบ custom เพื่อรองรับงาน AI ขนาดใหญ่ โดยจะผสานเข้ากับสถาปัตยกรรม Oryon และ Hexagon เพื่อสร้างแพลตฟอร์มดาต้าเซ็นเตอร์ที่ครบวงจร พร้อมตั้ง CEO ของ Alphawave มาคุมธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์โดยตรง สะท้อนความตั้งใจของ Qualcomm ที่จะท้าชน Nvidia ในตลาดโครงสร้างพื้นฐาน AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/watch-out-nvidia-qualcomm-acquires-alphawave-semi-in-latest-addition-to-its-ai-data-center-push 🤖 Gemini 3 Flash ฉลาดและเร็ว — แต่ยัง “มั่วเนียน” เมื่อไม่รู้คำตอบ Gemini 3 Flash ทำคะแนนสูงในหลายการทดสอบ แต่ผลวิเคราะห์ล่าสุดเผยว่าเมื่อโมเดลไม่รู้คำตอบ มันเลือก “ตอบมั่ว” ถึง 91% แทนที่จะบอกว่าไม่รู้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการใช้งานในสถานการณ์จริง โดยเฉพาะเมื่อถูกผนวกเข้ากับ Search แม้ยังเป็นหนึ่งในโมเดลที่แม่นยำที่สุด แต่ความมั่นใจเกินเหตุในบริบทที่ไม่มีข้อมูลจริงยังเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ Google ต้องเร่งแก้ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini-3-flash-is-smart-but-when-it-doesnt-know-it-makes-stuff-up-anyway 🧠 AWS มองอนาคตเป็นยุค “Internet of Agents” พร้อมผลักดัน AgentCore ผู้บริหาร AWS เผยวิสัยทัศน์ยุคใหม่ที่ AI agents จะกลายเป็นผู้ช่วยประจำตัวทุกคน โดย AWS ต้องการให้ทุกนักพัฒนาเป็น “agentic developer” ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง AgentCore และ Kiro IDE ที่ช่วยสร้าง agent ได้ง่ายขึ้น พร้อมย้ำว่าความน่าเชื่อถือและการตรวจสอบโดยมนุษย์ยังเป็นหัวใจสำคัญ ก่อนที่โลกจะเข้าสู่ยุคที่งานจำนวนมากถูกเร่งด้วย agent แต่ไม่แทนที่มนุษย์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/we-are-living-in-times-of-great-change-i-speak-to-aws-top-ai-minds-to-hear-how-it-wants-to-open-up-agents-and-building-to-everyone 🏠 กล้องวงจรปิดไม่ง้อรายเดือน — 3 รุ่นแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ Smart Home TechRadar คัด 3 กล้องวงจรปิดที่ใช้งานได้เต็มฟีเจอร์โดยไม่ต้องจ่ายค่าสมาชิกรายเดือน ได้แก่ Baseus S2 ที่มีแผงโซลาร์หมุนตามแสงและระบบจดจำใบหน้า, Swann MaxRanger4K ที่ให้ความละเอียดสูงพร้อมฐานเก็บข้อมูลในตัว และ Reolink Altas PT Ultra ที่เด่นด้านการหมุน‑แพน‑ซูมและภาพกลางคืนสีสันคมชัด ทั้งหมดรองรับการบันทึกแบบ local storage ช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาว 🔗 https://www.techradar.com/home/home-security/top-3-subscription-free-home-security-cameras ☁️ Google Cloud รีเฟรช Partner Network ครั้งใหญ่ เตรียมใช้จริงปี 2026 Google Cloud เปิดตัวโปรแกรมพาร์ตเนอร์รูปแบบใหม่ที่เน้น “ผลลัพธ์จริงของลูกค้า” มากกว่าการส่งเอกสารหรือทำตามเช็กลิสต์ โดยเพิ่มระบบอัตโนมัติ, การติดตามด้วย AI และเปิดระดับใหม่ชื่อ Diamond สำหรับพาร์ตเนอร์ที่สร้างผลลัพธ์โดดเด่นที่สุด พร้อมช่วงเปลี่ยนผ่าน 6 เดือนเพื่อให้ทุกประเภทพาร์ตเนอร์ปรับตัวก่อนระบบใหม่เริ่มใช้งานเต็มรูปแบบในปี 2026 🔗 https://www.techradar.com/pro/google-cloud-reveals-all-new-channel-program-heres-all-the-key-details ⚡ Alphabet ทุ่ม $4.75B ซื้อ Intersect Power เสริมพลังงานให้ดาต้าเซ็นเตอร์ Alphabet เข้าซื้อ Intersect Power แบบเต็มตัวเพื่อเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานรองรับดาต้าเซ็นเตอร์ หลังจากเคยลงทุนไปแล้ว $800M ในปี 2024 โดย Intersect จะยังคงดำเนินงานแยกบริษัท พร้อมส่งมอบโครงการพลังงานหลายกิกะวัตต์ให้ Google ใช้ขยายศูนย์ข้อมูลในอนาคต แม้บางทรัพย์สินในแคลิฟอร์เนียและเท็กซัสจะถูกแยกออกไปตั้งบริษัทใหม่ก็ตาม 🔗 https://www.techradar.com/pro/alphabet-secures-usd4-75-billion-intersect-deal-to-make-sure-its-data-centers-have-enough-energy 📱 Oppo Find X9 Pro — เรือธงสุดโหดสำหรับสาย Android ตัวจริง Oppo Find X9 Pro มาพร้อมดีไซน์ใหม่แบบขอบแบน กล้องจัดเต็ม 50MP + 50MP + 200MP, ชิป Dimensity 9500, RAM 16GB และแบต 7,500mAh ที่อึดกว่าคู่แข่งหลายรุ่น หน้าจอ AMOLED 120Hz สว่างสุด 3600 nits และประสิทธิภาพระดับท็อป แม้จะมีความร้อนบ้างและซอฟต์แวร์บางจุดยังแปลก ๆ แต่โดยรวมคือหนึ่งใน Android ที่ครบเครื่องที่สุด—ติดเพียงข้อจำกัดด้านการวางจำหน่ายที่ยังไม่ทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/phones/oppo-phones/oppo-find-x9-pro-review 🔐 NordProtect เพิ่มระบบ Fraud Monitoring ตรวจจับการปลอมตัวและกู้เงินแอบอ้าง NordProtect อัปเกรดระบบป้องกันการฉ้อโกงครั้งใหญ่ โดยเพิ่มการตรวจสอบข้อมูลจาก Equifax, Experian และ TransUnion เพื่อหาสัญญาณเปิดบัญชีใหม่, การเปลี่ยนเครดิตสกอร์, การกู้เงินระยะสั้น และการเปิดบัญชีการเงินโดยใช้ข้อมูลผู้ใช้ พร้อมผสานการล็อกเครดิตของ TransUnion เข้ามาในระบบ แม้บริการเต็มรูปแบบจะยังจำกัดเฉพาะในสหรัฐฯ ก็ตาม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/nordprotect-adds-fraud-monitoring-tool-to-help-protect-users-from-scams 🎧 iPod Classic กลับมาในร่างใหม่ — USB‑C, Bluetooth และราคาสุดถูก Innioasis Y1 คือเครื่องเล่นเพลงที่ถอดแบบ iPod Classic แทบทุกจุด ทั้งดีไซน์และ clickwheel แต่เพิ่มความทันสมัยด้วย USB‑C, Bluetooth, รองรับไฟล์หลากหลาย และแบตเล่นเพลงได้ 25–30 ชั่วโมง ในราคาต่ำกว่า $60 แม้คุณภาพงานประกอบและซอฟต์แวร์จะไม่เทียบ Apple และความจุจำกัดที่ 128GB แต่ก็เป็นอุปกรณ์ที่มีเสน่ห์สำหรับคนคิดถึงยุค iPod 🔗 https://www.techradar.com/audio/portable-media-players/someones-made-a-usb-c-version-of-the-ipod-classic-complete-with-clickwheel-and-its-extremely-cheap 🪟 Windows 11 เดินหน้าทดสอบ AI Agents ในระบบ แม้เสียงวิจารณ์ยังแรง Microsoft ปล่อยพรีวิว Windows 11 ที่โชว์การทำงานของ AI agents ชัดขึ้น ทั้ง Ask Copilot บนทาสก์บาร์, การอัปเดตสถานะ reasoning แบบเรียลไทม์เมื่อโฮเวอร์ไอคอน และระบบ Agent Launcher ที่เปิดให้แอปภายนอกสร้าง agent ของตัวเองได้ แม้เป็นก้าวสำคัญของ Windows ยุค AI แต่ผู้ใช้จำนวนมากยังไม่พอใจที่ Microsoft ทุ่มทรัพยากรไปกับ AI มากกว่าการแก้ปัญหา UX และบั๊กพื้นฐานของระบบ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-preview-provides-more-details-on-how-ai-agents-will-work-but-this-remains-a-controversial-path-for-microsoft 🔓 มหาวิทยาลัย Phoenix ถูกแฮ็ก ข้อมูลกว่า 3.5 ล้านรายรั่วจากช่องโหว่ Oracle University of Phoenix ยืนยันว่าถูกกลุ่มแรนซัมแวร์ Cl0p เจาะระบบผ่านช่องโหว่ zero‑day ของ Oracle E‑Business Suite ทำให้ข้อมูลของอดีตนักศึกษา พนักงาน และซัพพลายเออร์กว่า 3.5 ล้านรายถูกขโมย ทั้งชื่อ วันเกิด เบอร์บัญชี และ Social Security Number มหาวิทยาลัยแจ้งเตือนผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมให้บริการตรวจสอบตัวตน 12 เดือน และตั้งกองทุนชดเชยความเสียหายสูงสุด $1 ล้าน ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/security/university-of-phoenix-data-breach-may-have-hit-over-3-5-million-victims-heres-what-we-know
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷

    #รวมข่าวIT #20251223 #securityonline

    Hardware‑Accelerated BitLocker: ยุคใหม่ของการเข้ารหัสที่ไม่กิน FPS อีกต่อไป
    Microsoft เปิดตัว BitLocker แบบเร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ ซึ่งย้ายภาระการเข้ารหัสจาก CPU ไปยังเอนจินเฉพาะในคอนโทรลเลอร์ NVMe ทำให้ Windows 11 สามารถรักษาความเร็วอ่าน–เขียนระดับเกือบเนทีฟแม้เปิดการเข้ารหัสเต็มระบบ ต่างจากแบบเดิมที่ใช้ซอฟต์แวร์ล้วนและกินทรัพยากรจนกระทบ FPS ในเกมหรือโหลดงานหนักอย่างคอมไพล์โค้ดและเรนเดอร์วิดีโอ เทคโนโลยีใหม่นี้ยังเพิ่มความปลอดภัยด้วยการเก็บกุญแจเข้ารหัสในฮาร์ดแวร์ที่แยกตัว ลดโอกาสโจมตีหน่วยความจำ พร้อมประหยัดพลังงานมากขึ้น โดยจะเปิดใช้ใน Windows 11 24H2–25H2 บนอุปกรณ์ที่มี NVMe controller รุ่นใหม่และ CPU ที่มี crypto engine ในตัว เช่น Intel Core Ultra, AMD Ryzen และ Snapdragon X ซึ่งหมายความว่า HDD และ SATA SSD จะไม่รองรับแน่นอน
    https://securityonline.info/unlocking-the-speed-of-light-how-hardware-accelerated-bitlocker-saves-your-fps/

    The Payroll Trap: แคมเปญ Quishing ใหม่ใช้ QR + CAPTCHA ปลอมเพื่อขโมยเงินเดือนพนักงาน
    แคมเปญฟิชชิงรูปแบบใหม่กำลังพุ่งเป้าไปที่พนักงานโดยใช้ QR code เพื่อหลบระบบความปลอดภัยขององค์กร ก่อนล่อให้เหยื่อสแกนด้วยมือถือส่วนตัวและพาออกนอกเครือข่ายบริษัท จากนั้นหน้าเว็บปลอมจะใช้ CAPTCHA หลอกเพื่อดึงอีเมลและกระตุ้นให้กรอกรหัสผ่าน โดยโครงสร้างหลังบ้านใช้โดเมนหมุนเวียนและ URL เฉพาะรายเหยื่อ ทำให้สืบสวนได้ยากขึ้น สะท้อนการยกระดับฟิชชิงที่ผสานเทคนิคและจิตวิทยาอย่างแนบเนียน
    https://securityonline.info/the-payroll-trap-new-quishing-campaign-uses-fake-captchas-to-hijack-employee-paychecks

    Zero‑Day Linksys: ช่องโหว่ Auth Bypass เปิดทางแฮ็กเกอร์ยึดเราเตอร์โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน
    นักวิจัยพบช่องโหว่ร้ายแรงในเราเตอร์ Linksys E9450‑SG ที่ทำให้ผู้โจมตีบนเครือข่ายท้องถิ่นสามารถเปิด Telnet และเข้าถึงสิทธิ์ root ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน เพียงส่งคำขอ URL ที่เจาะจงไปยัง endpoint ที่ผิดพลาดของเฟิร์มแวร์ แม้จะไม่ถูกโจมตีจากอินเทอร์เน็ตโดยตรง แต่ความเสี่ยงต่อผู้ที่มีผู้ใช้ร่วมเครือข่ายหรือ Wi‑Fi รั่วไหลยังสูงมาก
    https://securityonline.info/zero-day-alert-linksys-auth-bypass-lets-hackers-hijack-routers-without-passwords

    Wonderland: มัลแวร์ Android รุ่นใหม่ใช้ Telegram ควบคุมแบบสองทางเพื่อดูดเงินเหยื่อ
    รายงานจาก Group‑IB เผยการระบาดของมัลแวร์ “Wonderland” ในเอเชียกลาง ซึ่งพัฒนาไปไกลจากโทรจันทั่วไป โดยใช้ dropper ปลอมตัวเป็นไฟล์อัปเดตหรือมีเดียเพื่อหลบการตรวจจับ ก่อนปล่อย payload ที่สื่อสารกับผู้โจมตีแบบ real‑time ผ่าน C2 ทำให้สั่งรัน USSD, ส่ง SMS และขยายการติดเชื้อผ่าน Telegram ของเหยื่อได้โดยอัตโนมัติ แสดงถึงวิวัฒนาการของอาชญากรรมมือถือที่ซับซ้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว
    https://securityonline.info/wonderland-unleashed-new-android-dropper-malware-hijacks-telegram-to-drain-bank-accounts

    EchoGather: แคมเปญจารกรรมไซเบอร์ใช้ XLL + เอกสาร AI‑ปลอมเพื่อเจาะองค์กรรัสเซีย
    กลุ่ม Paper Werewolf ปรับยุทธวิธีใหม่ด้วยการใช้ไฟล์ XLL ซึ่งเป็น DLL ที่ Excel โหลดตรง ทำให้รันโค้ดได้โดยไม่ติดข้อจำกัดของมาโคร พร้อมเทคนิคหน่วงเวลาการทำงานเพื่อหลบระบบตรวจจับ เมื่อ payload ทำงานจะติดตั้ง backdoor “EchoGather” สำหรับเก็บข้อมูลและสั่งงานผ่าน HTTPS ขณะเดียวกันเอกสารล่อเหยื่อที่แนบมากลับถูกสร้างด้วย AI และมีข้อผิดพลาดหลายจุด สะท้อนการผสมผสานระหว่างเทคนิคขั้นสูงและความลวกของมนุษย์
    https://securityonline.info/ai-generated-decoys-xll-stealth-inside-the-new-echogather-cyber-espionage-campaign

    React2Shell Exploited: EtherRAT ใช้ Node.js ปลอมตัวเพื่อล่าคริปโตจากเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก
    แคมเปญโจมตีอัตโนมัติใช้ช่องโหว่ React2Shell เพื่อฝัง EtherRAT บนเซิร์ฟเวอร์ โดยดาวน์โหลด Node.js เวอร์ชันจริงมาติดตั้งเพื่อรันสคริปต์โจมตี ทำให้ยากต่อการตรวจจับ จากนั้นมัลแวร์จะเชื่อมต่อ RPC ของ Ethereum เพื่อทำธุรกรรมกับสัญญาเฉพาะ เป้าหมายคือขโมยสินทรัพย์ดิจิทัลจากระบบที่ถูกยึดแบบไร้การเจาะจงประเทศ ผู้ดูแลระบบควรตรวจสอบ process Node.js แปลกปลอมและโฟลเดอร์ซ่อนใน home path
    https://securityonline.info/react2shell-exploited-new-etherrat-malware-hunts-for-crypto-via-node-js

    M‑Files Identity Hijack: ช่องโหว่ให้พนักงานขโมยตัวตนกันเองได้เงียบ ๆ
    แพลตฟอร์มจัดการเอกสาร M‑Files ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่เปิดทางให้ “ผู้ใช้ภายใน” สามารถดัก session token ของเพื่อนร่วมงานและสวมรอยเข้าถึงข้อมูลลับได้โดยไม่ทิ้งร่องรอย ทำให้การตรวจสอบย้อนหลังแทบเป็นไปไม่ได้ ขณะเดียวกันอีกช่องโหว่ทำให้ข้อมูลจาก vault เก่ารั่วไหลไปยัง vault ใหม่โดยไม่ตั้งใจ สะท้อนความเสี่ยงของระบบที่องค์กรพึ่งพาในงานเอกสารระดับ mission‑critical และจำเป็นต้องอัปเดตแพตช์ทันทีเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้
    https://securityonline.info/identity-theft-in-m-files-high-severity-flaw-lets-insiders-hijack-user-accounts-and-access-sensitive-data

    Purchase Order Deception: แคมเปญจารกรรมใช้ loader อเนกประสงค์โจมตีอุตสาหกรรมยุโรป–ตะวันออกกลาง
    รายงานใหม่เผยแคมเปญที่ใช้ “unified commodity loader” เป็นแกนกลางในการส่ง RAT หลายตระกูลเข้าโจมตีบริษัทผลิตและหน่วยงานรัฐในอิตาลี ฟินแลนด์ และซาอุฯ โดยซ่อน payload ไว้ในภาพผ่าน steganography และดัดแปลงไลบรารีโอเพ่นซอร์สให้กลายเป็นม้าโทรจันที่ตรวจจับยาก พร้อมเทคนิคหลอก UAC แบบแนบเนียน ทำให้แคมเปญนี้เป็นตัวอย่างของการยกระดับ tradecraft ในตลาดมัลแวร์เชิงพาณิชย์
    https://securityonline.info/purchase-order-deception-sophisticated-loader-targets-manufacturing-giants-in-italy-finland-and-saudi-arabia

    Prince of Persia APT กลับมาพร้อมมัลแวร์ควบคุมผ่าน Telegram หลังเงียบไปหลายปี
    กลุ่ม APT สายอิหร่าน “Prince of Persia / Infy” ถูกพบว่ายังปฏิบัติการอยู่และได้อัปเกรดเครื่องมือใหม่ เช่น Tonnerre v50 ที่สื่อสารผ่าน Telegram group และใช้ DGA ซับซ้อนเพื่อหลบการบล็อก โครงสร้างมัลแวร์รุ่นใหม่อย่าง Foudre v34 และ Tonnerre v50 แสดงให้เห็นว่ากลุ่มนี้ไม่ได้หายไป แต่กำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ยืดหยุ่นและตรวจจับยากกว่าเดิม พร้อมหลักฐานว่ามีมนุษย์ควบคุมการโจมตีแบบ real‑time
    https://securityonline.info/iranian-prince-of-persia-apt-resurfaces-with-telegram-controlled-stealth-malware

    Ransomware Cartel: Qilin–DragonForce–LockBit รวมตัวแบบสิ้นหวังท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐ
    ท่ามกลางการกวาดล้างของหน่วยงานรัฐทั่วโลก กลุ่ม Qilin, DragonForce และ LockBit ประกาศตั้ง “คาร์เทล” ร่วมกัน แต่รายงานชี้ว่าการรวมตัวนี้เป็นเพียงความพยายามประคองชื่อเสียงของ LockBit ที่แทบไม่เหลือกิจกรรมจริงแล้ว ขณะที่ Qilin กลับได้ประโยชน์ด้านการตลาดและดึง affiliate ใหม่มากกว่า ภาพรวมสะท้อนการแตกตัวของ ecosystem ransomware และการเปลี่ยนไปสู่โมเดล “ขู่กรรโชกข้อมูลอย่างเดียว” ที่เสี่ยงน้อยกว่าเดิม
    https://securityonline.info/a-desperate-cartel-inside-the-unlikely-alliance-of-qilin-dragonforce-and-a-fading-lockbit

    Scripted Sparrow: เครื่องจักร BEC ระดับอุตสาหกรรมยิงอีเมลหลอกลวงกว่า 3 ล้านฉบับต่อเดือน
    กลุ่มอาชญากร “Scripted Sparrow” ใช้ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบในการส่งอีเมล BEC โดยปลอมเป็นบริษัทเทรนนิ่งผู้บริหาร พร้อมแนบประวัติการสนทนาปลอมระหว่างผู้บริหารกับที่ปรึกษาเพื่อหลอกฝ่ายบัญชีให้จ่ายเงิน กลยุทธ์ใหม่คือส่งอีเมล “ลืมแนบไฟล์” เพื่อบังคับให้เหยื่อตอบกลับ ทำให้การสนทนากลายเป็น trusted thread และเปิดทางให้ส่งบัญชีม้าได้อย่างปลอดภัย การวิเคราะห์พบสมาชิกกระจายหลายทวีปและใช้เทคนิคปลอมตำแหน่ง GPS เพื่อหลบการติดตาม
    https://securityonline.info/the-3-million-email-siege-inside-scripted-sparrows-global-industrialized-bec-machine

    MongoDB Memory Leak: ช่องโหว่ zlib ทำข้อมูลหลุดโดยไม่ต้องล็อกอิน
    ช่องโหว่ร้ายแรงใน MongoDB (CVE‑2025‑14847) เปิดทางให้ผู้โจมตีดึงข้อมูลจาก heap memory ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน เพียงส่งคำขอที่เจาะจงไปยังส่วนที่ใช้ zlib compression ทำให้เซิร์ฟเวอร์ตอบกลับด้วยข้อมูลที่ยังไม่ได้ล้าง ซึ่งอาจรวมถึง query ล่าสุดหรือ credential ที่ค้างอยู่ใน RAM ช่องโหว่นี้กระทบแทบทุกเวอร์ชันย้อนหลังหลายปี และผู้ดูแลระบบถูกแนะนำให้อัปเดตทันทีหรือปิดการใช้ zlib ชั่วคราวเพื่อหยุดการรั่วไหล
    https://securityonline.info/critical-unauthenticated-mongodb-flaw-leaks-sensitive-data-via-zlib-compression

    Anna’s Archive อ้างดูด Spotify 300TB จุดชนวนสอบสวนการรั่วไหลครั้งใหญ่
    กลุ่มเงา Anna’s Archive ระบุว่าสามารถ mirror คลังเพลงของ Spotify ได้กว่า 300TB ครอบคลุม 86 ล้านแทร็กที่คิดเป็น 99.6% ของยอดฟังทั้งหมด โดยใช้วิธีเก็บ metadata 256 ล้านรายการและหลุดไฟล์เสียงบางส่วนผ่านการเลี่ยง DRM แม้ Spotify จะยืนยันเพียงว่ามีการเข้าถึงข้อมูลบางส่วน แต่เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นความเสี่ยงด้านลิขสิทธิ์และความเป็นไปได้ที่ข้อมูลจะถูกนำไปสร้างแพลตฟอร์มสตรีมเถื่อนหรือใช้เทรนโมเดล AI
    https://securityonline.info/annas-archive-claims-300tb-spotify-mirror-forcing-an-investigation-into-a-massive-music-data-leak

    Windows DWM EoP: ช่องโหว่ยกระดับสิทธิ์ด้วยเทคนิค “วาดทับ” พร้อม PoC เผยแพร่แล้ว
    ช่องโหว่ใน Desktop Window Manager (DWM) ของ Windows เปิดทางให้ผู้ใช้ในเครื่องยกระดับสิทธิ์ขึ้นเป็น SYSTEM ผ่านการจัดการกราฟิกผิดพลาด โดยมี PoC เผยแพร่แล้วแม้รายงานฉบับเต็มจะถูกล็อกให้เฉพาะผู้สนับสนุน เหตุการณ์นี้เพิ่มแรงกดดันให้ Microsoft ต้องเร่งแพตช์ เพราะเป็นช่องโหว่ที่ผู้โจมตีสามารถใช้ร่วมกับบั๊กอื่นเพื่อยึดระบบได้อย่างรวดเร็ว
    https://securityonline.info/windows-dwm-flaw-lets-local-users-paint-their-way-to-system-privileges-poc-publishes

    Alphabet ทุ่ม $4.75B ซื้อ Intersect Power เพื่อควบคุมไฟฟ้าป้อน Gemini และศูนย์ข้อมูล
    Alphabet เดินเกมเชิงโครงสร้างด้วยการซื้อ Intersect Power เพื่อแก้ปัญหาพลังงานที่กำลังกลายเป็นคอขวดของการแข่งขัน AI โดยดีลนี้ทำให้ Google ควบคุมโครงการพลังงานหมุนเวียนหลายกิกะวัตต์ รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่สร้างติดกับดาต้าเซ็นเตอร์ในเท็กซัส การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าศึก AI ไม่ได้วัดกันที่ชิปหรือโมเดลอีกต่อไป แต่คือใครสร้างโรงไฟฟ้าได้เร็วกว่า
    https://securityonline.info/the-grid-is-the-goal-alphabets-4-75b-bet-to-own-the-power-plants-behind-gemini

    Android Toll: Google เก็บค่าติดตั้ง $2.85 ต่อแอปเมื่อใช้ลิงก์ดาวน์โหลดภายนอก
    ภายใต้แรงกดดันจากคดี Epic vs Google ศาลบีบให้ Google เปิด Play Store ให้ลิงก์ออกไปดาวน์โหลดภายนอกได้ แต่ Google เสนอโมเดลใหม่ที่ซับซ้อนและมีค่าธรรมเนียมสูง—คิด $2.85 ต่อการติดตั้งแอป และ $3.65 สำหรับเกม หากผู้ใช้ติดตั้งภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลิกลิงก์ พร้อมเก็บส่วนแบ่ง 10–20% สำหรับการจ่ายเงินผ่านระบบของนักพัฒนาเอง ทำให้แม้จะ “เปิด” ระบบ แต่ต้นทุนจริงอาจสูงจนผู้พัฒนาหลายรายไม่อยากออกจาก ecosystem
    https://securityonline.info/the-android-toll-google-to-charge-2-85-per-install-for-external-app-links
    📌🔐🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷🔐📌 #รวมข่าวIT #20251223 #securityonline ⚡ Hardware‑Accelerated BitLocker: ยุคใหม่ของการเข้ารหัสที่ไม่กิน FPS อีกต่อไป Microsoft เปิดตัว BitLocker แบบเร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ ซึ่งย้ายภาระการเข้ารหัสจาก CPU ไปยังเอนจินเฉพาะในคอนโทรลเลอร์ NVMe ทำให้ Windows 11 สามารถรักษาความเร็วอ่าน–เขียนระดับเกือบเนทีฟแม้เปิดการเข้ารหัสเต็มระบบ ต่างจากแบบเดิมที่ใช้ซอฟต์แวร์ล้วนและกินทรัพยากรจนกระทบ FPS ในเกมหรือโหลดงานหนักอย่างคอมไพล์โค้ดและเรนเดอร์วิดีโอ เทคโนโลยีใหม่นี้ยังเพิ่มความปลอดภัยด้วยการเก็บกุญแจเข้ารหัสในฮาร์ดแวร์ที่แยกตัว ลดโอกาสโจมตีหน่วยความจำ พร้อมประหยัดพลังงานมากขึ้น โดยจะเปิดใช้ใน Windows 11 24H2–25H2 บนอุปกรณ์ที่มี NVMe controller รุ่นใหม่และ CPU ที่มี crypto engine ในตัว เช่น Intel Core Ultra, AMD Ryzen และ Snapdragon X ซึ่งหมายความว่า HDD และ SATA SSD จะไม่รองรับแน่นอน 🔗 https://securityonline.info/unlocking-the-speed-of-light-how-hardware-accelerated-bitlocker-saves-your-fps/ 🧾 The Payroll Trap: แคมเปญ Quishing ใหม่ใช้ QR + CAPTCHA ปลอมเพื่อขโมยเงินเดือนพนักงาน แคมเปญฟิชชิงรูปแบบใหม่กำลังพุ่งเป้าไปที่พนักงานโดยใช้ QR code เพื่อหลบระบบความปลอดภัยขององค์กร ก่อนล่อให้เหยื่อสแกนด้วยมือถือส่วนตัวและพาออกนอกเครือข่ายบริษัท จากนั้นหน้าเว็บปลอมจะใช้ CAPTCHA หลอกเพื่อดึงอีเมลและกระตุ้นให้กรอกรหัสผ่าน โดยโครงสร้างหลังบ้านใช้โดเมนหมุนเวียนและ URL เฉพาะรายเหยื่อ ทำให้สืบสวนได้ยากขึ้น สะท้อนการยกระดับฟิชชิงที่ผสานเทคนิคและจิตวิทยาอย่างแนบเนียน 🔗 https://securityonline.info/the-payroll-trap-new-quishing-campaign-uses-fake-captchas-to-hijack-employee-paychecks 📡 Zero‑Day Linksys: ช่องโหว่ Auth Bypass เปิดทางแฮ็กเกอร์ยึดเราเตอร์โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน นักวิจัยพบช่องโหว่ร้ายแรงในเราเตอร์ Linksys E9450‑SG ที่ทำให้ผู้โจมตีบนเครือข่ายท้องถิ่นสามารถเปิด Telnet และเข้าถึงสิทธิ์ root ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน เพียงส่งคำขอ URL ที่เจาะจงไปยัง endpoint ที่ผิดพลาดของเฟิร์มแวร์ แม้จะไม่ถูกโจมตีจากอินเทอร์เน็ตโดยตรง แต่ความเสี่ยงต่อผู้ที่มีผู้ใช้ร่วมเครือข่ายหรือ Wi‑Fi รั่วไหลยังสูงมาก 🔗 https://securityonline.info/zero-day-alert-linksys-auth-bypass-lets-hackers-hijack-routers-without-passwords 📱 Wonderland: มัลแวร์ Android รุ่นใหม่ใช้ Telegram ควบคุมแบบสองทางเพื่อดูดเงินเหยื่อ รายงานจาก Group‑IB เผยการระบาดของมัลแวร์ “Wonderland” ในเอเชียกลาง ซึ่งพัฒนาไปไกลจากโทรจันทั่วไป โดยใช้ dropper ปลอมตัวเป็นไฟล์อัปเดตหรือมีเดียเพื่อหลบการตรวจจับ ก่อนปล่อย payload ที่สื่อสารกับผู้โจมตีแบบ real‑time ผ่าน C2 ทำให้สั่งรัน USSD, ส่ง SMS และขยายการติดเชื้อผ่าน Telegram ของเหยื่อได้โดยอัตโนมัติ แสดงถึงวิวัฒนาการของอาชญากรรมมือถือที่ซับซ้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว 🔗 https://securityonline.info/wonderland-unleashed-new-android-dropper-malware-hijacks-telegram-to-drain-bank-accounts 🧩 EchoGather: แคมเปญจารกรรมไซเบอร์ใช้ XLL + เอกสาร AI‑ปลอมเพื่อเจาะองค์กรรัสเซีย กลุ่ม Paper Werewolf ปรับยุทธวิธีใหม่ด้วยการใช้ไฟล์ XLL ซึ่งเป็น DLL ที่ Excel โหลดตรง ทำให้รันโค้ดได้โดยไม่ติดข้อจำกัดของมาโคร พร้อมเทคนิคหน่วงเวลาการทำงานเพื่อหลบระบบตรวจจับ เมื่อ payload ทำงานจะติดตั้ง backdoor “EchoGather” สำหรับเก็บข้อมูลและสั่งงานผ่าน HTTPS ขณะเดียวกันเอกสารล่อเหยื่อที่แนบมากลับถูกสร้างด้วย AI และมีข้อผิดพลาดหลายจุด สะท้อนการผสมผสานระหว่างเทคนิคขั้นสูงและความลวกของมนุษย์ 🔗 https://securityonline.info/ai-generated-decoys-xll-stealth-inside-the-new-echogather-cyber-espionage-campaign 💰 React2Shell Exploited: EtherRAT ใช้ Node.js ปลอมตัวเพื่อล่าคริปโตจากเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก แคมเปญโจมตีอัตโนมัติใช้ช่องโหว่ React2Shell เพื่อฝัง EtherRAT บนเซิร์ฟเวอร์ โดยดาวน์โหลด Node.js เวอร์ชันจริงมาติดตั้งเพื่อรันสคริปต์โจมตี ทำให้ยากต่อการตรวจจับ จากนั้นมัลแวร์จะเชื่อมต่อ RPC ของ Ethereum เพื่อทำธุรกรรมกับสัญญาเฉพาะ เป้าหมายคือขโมยสินทรัพย์ดิจิทัลจากระบบที่ถูกยึดแบบไร้การเจาะจงประเทศ ผู้ดูแลระบบควรตรวจสอบ process Node.js แปลกปลอมและโฟลเดอร์ซ่อนใน home path 🔗 https://securityonline.info/react2shell-exploited-new-etherrat-malware-hunts-for-crypto-via-node-js 🕵️‍♂️ M‑Files Identity Hijack: ช่องโหว่ให้พนักงานขโมยตัวตนกันเองได้เงียบ ๆ แพลตฟอร์มจัดการเอกสาร M‑Files ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่เปิดทางให้ “ผู้ใช้ภายใน” สามารถดัก session token ของเพื่อนร่วมงานและสวมรอยเข้าถึงข้อมูลลับได้โดยไม่ทิ้งร่องรอย ทำให้การตรวจสอบย้อนหลังแทบเป็นไปไม่ได้ ขณะเดียวกันอีกช่องโหว่ทำให้ข้อมูลจาก vault เก่ารั่วไหลไปยัง vault ใหม่โดยไม่ตั้งใจ สะท้อนความเสี่ยงของระบบที่องค์กรพึ่งพาในงานเอกสารระดับ mission‑critical และจำเป็นต้องอัปเดตแพตช์ทันทีเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้ 🔗 https://securityonline.info/identity-theft-in-m-files-high-severity-flaw-lets-insiders-hijack-user-accounts-and-access-sensitive-data 📦 Purchase Order Deception: แคมเปญจารกรรมใช้ loader อเนกประสงค์โจมตีอุตสาหกรรมยุโรป–ตะวันออกกลาง รายงานใหม่เผยแคมเปญที่ใช้ “unified commodity loader” เป็นแกนกลางในการส่ง RAT หลายตระกูลเข้าโจมตีบริษัทผลิตและหน่วยงานรัฐในอิตาลี ฟินแลนด์ และซาอุฯ โดยซ่อน payload ไว้ในภาพผ่าน steganography และดัดแปลงไลบรารีโอเพ่นซอร์สให้กลายเป็นม้าโทรจันที่ตรวจจับยาก พร้อมเทคนิคหลอก UAC แบบแนบเนียน ทำให้แคมเปญนี้เป็นตัวอย่างของการยกระดับ tradecraft ในตลาดมัลแวร์เชิงพาณิชย์ 🔗 https://securityonline.info/purchase-order-deception-sophisticated-loader-targets-manufacturing-giants-in-italy-finland-and-saudi-arabia 🕌 Prince of Persia APT กลับมาพร้อมมัลแวร์ควบคุมผ่าน Telegram หลังเงียบไปหลายปี กลุ่ม APT สายอิหร่าน “Prince of Persia / Infy” ถูกพบว่ายังปฏิบัติการอยู่และได้อัปเกรดเครื่องมือใหม่ เช่น Tonnerre v50 ที่สื่อสารผ่าน Telegram group และใช้ DGA ซับซ้อนเพื่อหลบการบล็อก โครงสร้างมัลแวร์รุ่นใหม่อย่าง Foudre v34 และ Tonnerre v50 แสดงให้เห็นว่ากลุ่มนี้ไม่ได้หายไป แต่กำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ยืดหยุ่นและตรวจจับยากกว่าเดิม พร้อมหลักฐานว่ามีมนุษย์ควบคุมการโจมตีแบบ real‑time 🔗 https://securityonline.info/iranian-prince-of-persia-apt-resurfaces-with-telegram-controlled-stealth-malware 🤝 Ransomware Cartel: Qilin–DragonForce–LockBit รวมตัวแบบสิ้นหวังท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐ ท่ามกลางการกวาดล้างของหน่วยงานรัฐทั่วโลก กลุ่ม Qilin, DragonForce และ LockBit ประกาศตั้ง “คาร์เทล” ร่วมกัน แต่รายงานชี้ว่าการรวมตัวนี้เป็นเพียงความพยายามประคองชื่อเสียงของ LockBit ที่แทบไม่เหลือกิจกรรมจริงแล้ว ขณะที่ Qilin กลับได้ประโยชน์ด้านการตลาดและดึง affiliate ใหม่มากกว่า ภาพรวมสะท้อนการแตกตัวของ ecosystem ransomware และการเปลี่ยนไปสู่โมเดล “ขู่กรรโชกข้อมูลอย่างเดียว” ที่เสี่ยงน้อยกว่าเดิม 🔗 https://securityonline.info/a-desperate-cartel-inside-the-unlikely-alliance-of-qilin-dragonforce-and-a-fading-lockbit 📨 Scripted Sparrow: เครื่องจักร BEC ระดับอุตสาหกรรมยิงอีเมลหลอกลวงกว่า 3 ล้านฉบับต่อเดือน กลุ่มอาชญากร “Scripted Sparrow” ใช้ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบในการส่งอีเมล BEC โดยปลอมเป็นบริษัทเทรนนิ่งผู้บริหาร พร้อมแนบประวัติการสนทนาปลอมระหว่างผู้บริหารกับที่ปรึกษาเพื่อหลอกฝ่ายบัญชีให้จ่ายเงิน กลยุทธ์ใหม่คือส่งอีเมล “ลืมแนบไฟล์” เพื่อบังคับให้เหยื่อตอบกลับ ทำให้การสนทนากลายเป็น trusted thread และเปิดทางให้ส่งบัญชีม้าได้อย่างปลอดภัย การวิเคราะห์พบสมาชิกกระจายหลายทวีปและใช้เทคนิคปลอมตำแหน่ง GPS เพื่อหลบการติดตาม 🔗 https://securityonline.info/the-3-million-email-siege-inside-scripted-sparrows-global-industrialized-bec-machine 🛢️ MongoDB Memory Leak: ช่องโหว่ zlib ทำข้อมูลหลุดโดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่ร้ายแรงใน MongoDB (CVE‑2025‑14847) เปิดทางให้ผู้โจมตีดึงข้อมูลจาก heap memory ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน เพียงส่งคำขอที่เจาะจงไปยังส่วนที่ใช้ zlib compression ทำให้เซิร์ฟเวอร์ตอบกลับด้วยข้อมูลที่ยังไม่ได้ล้าง ซึ่งอาจรวมถึง query ล่าสุดหรือ credential ที่ค้างอยู่ใน RAM ช่องโหว่นี้กระทบแทบทุกเวอร์ชันย้อนหลังหลายปี และผู้ดูแลระบบถูกแนะนำให้อัปเดตทันทีหรือปิดการใช้ zlib ชั่วคราวเพื่อหยุดการรั่วไหล 🔗 https://securityonline.info/critical-unauthenticated-mongodb-flaw-leaks-sensitive-data-via-zlib-compression 🎧 Anna’s Archive อ้างดูด Spotify 300TB จุดชนวนสอบสวนการรั่วไหลครั้งใหญ่ กลุ่มเงา Anna’s Archive ระบุว่าสามารถ mirror คลังเพลงของ Spotify ได้กว่า 300TB ครอบคลุม 86 ล้านแทร็กที่คิดเป็น 99.6% ของยอดฟังทั้งหมด โดยใช้วิธีเก็บ metadata 256 ล้านรายการและหลุดไฟล์เสียงบางส่วนผ่านการเลี่ยง DRM แม้ Spotify จะยืนยันเพียงว่ามีการเข้าถึงข้อมูลบางส่วน แต่เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นความเสี่ยงด้านลิขสิทธิ์และความเป็นไปได้ที่ข้อมูลจะถูกนำไปสร้างแพลตฟอร์มสตรีมเถื่อนหรือใช้เทรนโมเดล AI 🔗 https://securityonline.info/annas-archive-claims-300tb-spotify-mirror-forcing-an-investigation-into-a-massive-music-data-leak 🖼️ Windows DWM EoP: ช่องโหว่ยกระดับสิทธิ์ด้วยเทคนิค “วาดทับ” พร้อม PoC เผยแพร่แล้ว ช่องโหว่ใน Desktop Window Manager (DWM) ของ Windows เปิดทางให้ผู้ใช้ในเครื่องยกระดับสิทธิ์ขึ้นเป็น SYSTEM ผ่านการจัดการกราฟิกผิดพลาด โดยมี PoC เผยแพร่แล้วแม้รายงานฉบับเต็มจะถูกล็อกให้เฉพาะผู้สนับสนุน เหตุการณ์นี้เพิ่มแรงกดดันให้ Microsoft ต้องเร่งแพตช์ เพราะเป็นช่องโหว่ที่ผู้โจมตีสามารถใช้ร่วมกับบั๊กอื่นเพื่อยึดระบบได้อย่างรวดเร็ว 🔗 https://securityonline.info/windows-dwm-flaw-lets-local-users-paint-their-way-to-system-privileges-poc-publishes ⚡ Alphabet ทุ่ม $4.75B ซื้อ Intersect Power เพื่อควบคุมไฟฟ้าป้อน Gemini และศูนย์ข้อมูล Alphabet เดินเกมเชิงโครงสร้างด้วยการซื้อ Intersect Power เพื่อแก้ปัญหาพลังงานที่กำลังกลายเป็นคอขวดของการแข่งขัน AI โดยดีลนี้ทำให้ Google ควบคุมโครงการพลังงานหมุนเวียนหลายกิกะวัตต์ รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่สร้างติดกับดาต้าเซ็นเตอร์ในเท็กซัส การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าศึก AI ไม่ได้วัดกันที่ชิปหรือโมเดลอีกต่อไป แต่คือใครสร้างโรงไฟฟ้าได้เร็วกว่า 🔗 https://securityonline.info/the-grid-is-the-goal-alphabets-4-75b-bet-to-own-the-power-plants-behind-gemini 📱 Android Toll: Google เก็บค่าติดตั้ง $2.85 ต่อแอปเมื่อใช้ลิงก์ดาวน์โหลดภายนอก ภายใต้แรงกดดันจากคดี Epic vs Google ศาลบีบให้ Google เปิด Play Store ให้ลิงก์ออกไปดาวน์โหลดภายนอกได้ แต่ Google เสนอโมเดลใหม่ที่ซับซ้อนและมีค่าธรรมเนียมสูง—คิด $2.85 ต่อการติดตั้งแอป และ $3.65 สำหรับเกม หากผู้ใช้ติดตั้งภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลิกลิงก์ พร้อมเก็บส่วนแบ่ง 10–20% สำหรับการจ่ายเงินผ่านระบบของนักพัฒนาเอง ทำให้แม้จะ “เปิด” ระบบ แต่ต้นทุนจริงอาจสูงจนผู้พัฒนาหลายรายไม่อยากออกจาก ecosystem 🔗 https://securityonline.info/the-android-toll-google-to-charge-2-85-per-install-for-external-app-links
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • Resideo ถูกฟ้อง: ปมรีแบรนด์กล้องจีนที่เคยรั่วไหลข้อมูล — คดีความใหม่สะเทือนวงการสมาร์ทโฮมสหรัฐฯ

    อุตสาหกรรมสมาร์ทโฮมในสหรัฐฯ กำลังเผชิญแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ เมื่อ Nebraska Attorney General Mike Hilgers เตรียมฟ้องบริษัท Resideo ผู้ผลิตอุปกรณ์สมาร์ทโฮมรายใหญ่ หลังถูกกล่าวหาว่า นำกล้องจากผู้ผลิตจีนที่ถูกแบนอย่าง Hikvision และ Dahua มารีแบรนด์ขายใหม่ ภายใต้ชื่อ Capture โดยไม่เปิดเผยแหล่งที่มาให้ผู้บริโภครับรู้

    Hikvision และ Dahua ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีจำกัดตั้งแต่ปี 2022 เนื่องจากความกังวลด้านความมั่นคง และมีประวัติถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องช่องโหว่ความปลอดภัย รวมถึงความเป็นไปได้ในการเข้าถึงข้อมูลจากบุคคลที่สาม เช่น หน่วยงานรัฐของจีน ทำให้การนำสินค้าจากสองบริษัทนี้กลับมาขายในตลาดสหรัฐฯ ถือเป็นประเด็นอ่อนไหวอย่างยิ่ง

    คดีนี้ยังสะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างในตลาดสมาร์ทโฮมราคาประหยัด ซึ่งมักพึ่งพา OEM จากจีนที่มีประวัติด้านความปลอดภัยไม่ดีนัก หลายรัฐในสหรัฐฯ เริ่มดำเนินคดีลักษณะเดียวกัน เช่น Texas ที่ฟ้องผู้ผลิตทีวีหลายรายเรื่องการเก็บข้อมูลผู้ใช้โดยอัตโนมัติ หรือ Arizona ที่ฟ้อง Temu เรื่องข้อมูลและสินค้าปลอม ทำให้เห็นว่ารัฐต่างๆ กำลังเข้มงวดกับอุปกรณ์ IoT มากขึ้นเรื่อยๆ

    ด้วยจำนวนอุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่ใช้ OEM จากจีนจำนวนมากในตลาดสหรัฐฯ ผู้เชี่ยวชาญมองว่าคดีนี้อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการตรวจสอบครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรม ซึ่งอาจนำไปสู่กฎระเบียบใหม่ที่เข้มงวดกว่าเดิม ทั้งในด้านความโปร่งใสของซัพพลายเชนและมาตรฐานความปลอดภัยของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

    สิ่งที่เกิดขึ้นในคดี Resideo
    Resideo ถูกกล่าวหาว่ารีแบรนด์กล้องจาก Hikvision และ Dahua ซึ่งถูกแบนในสหรัฐฯ
    Nebraska AG ระบุว่าบริษัทละเมิด Consumer Protection Act และ Deceptive Trade Practices Act
    กล้องถูกขายภายใต้แบรนด์ Capture ระหว่างปี 2021–2022 โดยไม่เปิดเผยแหล่งที่มา
    สินค้าจากสองบริษัทจีนมีประวัติด้านช่องโหว่และ backdoor มานานหลายปี

    ความเสี่ยงและผลกระทบต่อผู้บริโภค–อุตสาหกรรม
    ความเสี่ยงด้าน ความเป็นส่วนตัว จากกล้องที่เคยมีประวัติรั่วไหลข้อมูล
    ความไม่โปร่งใสของซัพพลายเชน ทำให้ผู้บริโภคไม่รู้ว่ากำลังใช้สินค้าจากผู้ผลิตที่ถูกแบน
    แนวโน้มรัฐต่างๆ ฟ้องบริษัท IoT เพิ่มขึ้น อาจทำให้ตลาดสมาร์ทโฮมถูกตรวจสอบเข้มงวดกว่าเดิม
    ความเสี่ยงต่อแบรนด์ใหญ่ที่ใช้ OEM จีน หากไม่เปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส อาจถูกฟ้องเช่นกัน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/us-smart-home-company-accused-of-rebranding-footage-leaking-chinese-cameras-nebraska-ag-to-sue-resideo-over-selling-banned-security-cameras
    🕵️‍♂️📹 Resideo ถูกฟ้อง: ปมรีแบรนด์กล้องจีนที่เคยรั่วไหลข้อมูล — คดีความใหม่สะเทือนวงการสมาร์ทโฮมสหรัฐฯ อุตสาหกรรมสมาร์ทโฮมในสหรัฐฯ กำลังเผชิญแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ เมื่อ Nebraska Attorney General Mike Hilgers เตรียมฟ้องบริษัท Resideo ผู้ผลิตอุปกรณ์สมาร์ทโฮมรายใหญ่ หลังถูกกล่าวหาว่า นำกล้องจากผู้ผลิตจีนที่ถูกแบนอย่าง Hikvision และ Dahua มารีแบรนด์ขายใหม่ ภายใต้ชื่อ Capture โดยไม่เปิดเผยแหล่งที่มาให้ผู้บริโภครับรู้ Hikvision และ Dahua ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีจำกัดตั้งแต่ปี 2022 เนื่องจากความกังวลด้านความมั่นคง และมีประวัติถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องช่องโหว่ความปลอดภัย รวมถึงความเป็นไปได้ในการเข้าถึงข้อมูลจากบุคคลที่สาม เช่น หน่วยงานรัฐของจีน ทำให้การนำสินค้าจากสองบริษัทนี้กลับมาขายในตลาดสหรัฐฯ ถือเป็นประเด็นอ่อนไหวอย่างยิ่ง คดีนี้ยังสะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างในตลาดสมาร์ทโฮมราคาประหยัด ซึ่งมักพึ่งพา OEM จากจีนที่มีประวัติด้านความปลอดภัยไม่ดีนัก หลายรัฐในสหรัฐฯ เริ่มดำเนินคดีลักษณะเดียวกัน เช่น Texas ที่ฟ้องผู้ผลิตทีวีหลายรายเรื่องการเก็บข้อมูลผู้ใช้โดยอัตโนมัติ หรือ Arizona ที่ฟ้อง Temu เรื่องข้อมูลและสินค้าปลอม ทำให้เห็นว่ารัฐต่างๆ กำลังเข้มงวดกับอุปกรณ์ IoT มากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยจำนวนอุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่ใช้ OEM จากจีนจำนวนมากในตลาดสหรัฐฯ ผู้เชี่ยวชาญมองว่าคดีนี้อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการตรวจสอบครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรม ซึ่งอาจนำไปสู่กฎระเบียบใหม่ที่เข้มงวดกว่าเดิม ทั้งในด้านความโปร่งใสของซัพพลายเชนและมาตรฐานความปลอดภัยของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ✅ สิ่งที่เกิดขึ้นในคดี Resideo ➡️ Resideo ถูกกล่าวหาว่ารีแบรนด์กล้องจาก Hikvision และ Dahua ซึ่งถูกแบนในสหรัฐฯ ➡️ Nebraska AG ระบุว่าบริษัทละเมิด Consumer Protection Act และ Deceptive Trade Practices Act ➡️ กล้องถูกขายภายใต้แบรนด์ Capture ระหว่างปี 2021–2022 โดยไม่เปิดเผยแหล่งที่มา ➡️ สินค้าจากสองบริษัทจีนมีประวัติด้านช่องโหว่และ backdoor มานานหลายปี ‼️ ความเสี่ยงและผลกระทบต่อผู้บริโภค–อุตสาหกรรม ⛔ ความเสี่ยงด้าน ความเป็นส่วนตัว จากกล้องที่เคยมีประวัติรั่วไหลข้อมูล ⛔ ความไม่โปร่งใสของซัพพลายเชน ทำให้ผู้บริโภคไม่รู้ว่ากำลังใช้สินค้าจากผู้ผลิตที่ถูกแบน ⛔ แนวโน้มรัฐต่างๆ ฟ้องบริษัท IoT เพิ่มขึ้น อาจทำให้ตลาดสมาร์ทโฮมถูกตรวจสอบเข้มงวดกว่าเดิม ⛔ ความเสี่ยงต่อแบรนด์ใหญ่ที่ใช้ OEM จีน หากไม่เปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส อาจถูกฟ้องเช่นกัน https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/us-smart-home-company-accused-of-rebranding-footage-leaking-chinese-cameras-nebraska-ag-to-sue-resideo-over-selling-banned-security-cameras
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • จินนี่ ตอนที่ 5

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่”
    ตอน 5 (จบ)
    สงสัยเพราะไอ้ถังขยะฝาแฝด ดันวิเคราะห์เรื่องรัสเซียยาตราเข้าไปในตะวันออกกลางต่างกัน โอบามาจึง
    ยังไม่ขยับออกจากมุมมืด แค่แก้เก้อ สั่งให้รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา จัดให้มีการถกเรื่องซีเรียที่นครเวียนนา เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ.2015 ระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น รัสเซีย อเมริกา สหภาพยุโรป ซาอุดิอารเบีย ตุรกี และอิหร่าน รวมทั้งตัวแทนของสหประชาชาติ แต่ไม่มีตัวแทนของซีเรียเข้าร่วมประชุมด้วย …. ไอ้เวร จะถกกันเรื่องบ้านเขาแต่ไม่ถามคนในบ้านเขาเลยนะ ว่า เขาต้องการอย่างไร
    และในที่สุด การประชุมก็จบลง ด้วยการสรุปว่า ยังไม่มีข้อตกลง .. เจ๋งเป้งจริงๆ แล้วแบบนี้ พี่เบิ้มใบตองแห้งจะ
    ฟ้อนต่อยังไงครับ 2 เดือนกว่าแล้วนะ พรรคพวกก็งงลูกหาบก็ถามกันเซ็งแซ่ ถาดพร้อม ชุดพร้อม จะเอายังไงจะให้ไปเซิ้งที่ไหนบอกมาเลยครับเจ้านาย
    เจ้านายจะสั่งยังไงดีล่ะ ยังจุกหูไม่หาย หลังจากฟังเพลงด่ารัสเซียคนละเสียงจากไอ้ถังฝาแฝด
    แค่ถังขยะ 2 ใบกลัวเจ้านาย จะมึนไม่พอ ปรากฏว่า ถังขยะใหญ่อีกใบของอเมริกา Brookings Institute ดันออกบทความเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2015 ชื่อ Russia’s military is proving Western punditry wrong” สรุปให้เห็นภาพ หรือ ศักยภาพ ของกองทัพรัสเซียในตะวันออกกลาง มาคนละแนวกับคู่แฝด โดยเฉพาะแฝดตัวที่ดูเหมือนเป็นผู้กำกับฝูงนกอินทรี แบบนี้ เจ้านายคงไม่ใช่แค่จุกหู อาจจะถึงจุกหางเอาด้วย
    ถัง Brookings บอกว่า เมื่อรัสเซียยกทัพเข้าไปในตะวันออกกลางใหม่ๆ นักวิเคราะห์ต่างจับตามอง และเสียงส่วน
    ใหญ่สรุปว่า รัสเซียคงไปได้ไม่กี่น้ำ บางคนบอกว่ากองทัพรัสเซียอ่อนแอ แถมสนิมขึ้นเขรอะแล้วด้วย
    แต่จากการรบของรัสเซียในตะวันออกกลาง เท่าที่ผ่านมาดูเหมือนจะทำให้นักวิเคราะห์เหล่านั้น หน้าแหกไปตามๆกัน
    ในการรบทางอากาศ ฝูงบินรัสเซีย บินโจมตีวันละประมาณ 48 ถึง 96 เที่ยว นับเป็นจำนวนเที่ยว เท่ากับที่
    กองกำลังฝ่ายที่ต่อต้านอัสสาด (ที่อเมริกาสนับสนุน) ทำได้ ในเวลา 1 เดือน… เอ็งทำรายงานแบบนี้ จะให้
    เจ้านายออกจากมุมมืดยังไงวะ
    นอกจากนี้ ฝ่ายรัสเซียได้เด็ดหัวหน้าฝ่ายกบฏ Captain Basil Zamo ที่เป็นกำลังสำคัญของฝ่ายต่อต้านอัสสาด
    ไปเรียบร้อย ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม และผู้บัญชาการรบที่หน่วยNour al-din al-Zinki ก็เสียชีวิตด้วยจากการ
    โจมตีครั้งอื่นของรัสเซีย
    คำถามว่า รัสเซียจะรักษาระดับการโจมตีทางอากาศเช่นนี้ต่อไปได้ไหมถัง Brookings บอกว่า เป็นไปได้ และแถม
    บอกว่า ยามนี้คงไม่มีพรรคพวกเรารายไหนในกลุ่มนาโต้จะสู้กับรัสเซียทางอากาศได้ด้วยซ้ำ …..อ้าว วิเคราะห์
    แบบนี้ เดี๋ยวได้ตกงานกันหมด
    ทางทะเลล่ะ เป็นอย่างไร นักวิเคราะห์บอก เห็นเขาบอกว่าสนิมเขรอะเช่นกัน แต่ที่ไหนได้เจ้านายครับ รัสเซียกลับ
    นำกองทัพเรือรุ่นใหม่มาใช้ เป็นเรือรบขนาดกลาง แต่สามารถยิงจรวดจากฐานประจำเรือได้ในระยะ 900 ไมล์
    ศักยภาพนี้ของรัสเซีย ไม่มีใครรู้มาก่อน เปรียบเทียบกับเรือรบขนาด 2 ,900 ตัน และ 3,100 ตัน combat
    ship เช่น Freedom กับ Independence ของอเมริกา ซึ่งใหญ่กว่าเรือรัสเซียมาก ยังไม่มีเครื่องยิงจรวด
    ประจำเรือ ในอานุภาพระดับเท่ากับรัสเซียเลยนะเจ้านาย
    เป็นเรื่องที่ทำให้เห็นว่า ข้อมูลที่ทางตะวันตกมี เกี่ยวกับอาวุธรัสเซีย ดูเหมือนจะเป็นข้อมูลที่ตกรุ่น และทำให้ฝ่าย
    ตะวันตก ประเมินกองทัพรัสเซียผิดพลาด ข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากการรบของรัสเซียในตะวันออก
    กลาง ดูเหมือนจะทำให้สายตาของตะวันตกที่เคยมองรัสเซียเปลี่ยนไป แต่จะทำให้เกมเปลี่ยนไปเลยหรือไม่
    คงต้องดูจากการขยับหมากของอเมริกา
    ก่อนขยับหมาก ดูเหมือนอเมริกาจะใช้เวลาตรวจสอบศักยภาพของรัสเซียหลายรูปแบบ และใช้เวลานานเอาเรื่อง เหมือนกับซื้อเวลา ก็อเมริกาใหญ่นี่นะ ขืนเซ่อซ่า ออกไปผิดท่า กระจอกไม่ทันกินน้ำหงายท้องผลึ่ง คงมีค่อนโลกหัวร่อเยาะ ผมคนนึงละ รับรองทั้งซ้ำ ทั้งเติมไม่มีเว้น
    อเมริกาจะไม่คิดมากได้อย่างไร 70 ปี ที่ผ่านมาอเมริกาเคยรบกับกองทัพใหญ่ที่ไหนบ้าง หนสุดท้ายที่รบจริงคือ
    สงครามเวียตนาม นั่นมัน 40 กว่าปีมาแล้วนะครับ แล้วอีกฝ่ายก็ตัวเล็กผอมเกร็ง อาวุธส่วนใหญ่ ก็เป็นของเก่าที่
    ฝรั่งเศสทิ้งไว้ หรือ ที่รัสเซียส่งมาให้ทดลองใช้ แต่ฝ่ายอเมริกายกมาเต็มอัตราศึก ครบเครื่อง แถมหลอกลากเอา
    สมันน้อย สมันใหญ่แถวนี้ ไปเข้าแถวช่วยรบกับเขาด้วย ส่วนฝ่ายเวียตนามรบมาแบบเดี่ยวๆ แล้วเป็นยังไงครับ
    รบไป 8 ปี อเมริกาฉิบหายรุ่ย แล้วก็ไม่ได้ชนะจริงๆ ต้องไปทำข้อตกลงหย่าศึก ไม่เข็ดหรือวะ
    ส่วนรายการอิรัค ลิเบีย อาฟกานิสถาน มันเป็นเรื่องผู้ใหญ่รังแกเด็ก ขี่ช้างเข้าไปจับตั๊กกะแตน จะไปรบที เหมือนไป
    ตากอากาศ ทั้งชุด ทั้งอาหารพร้อม ไอติมยังมีกินเลยรบแบบนี้ไม่ชนะก็เอาหัวไปทิ่มบ่อตายเสียดีกว่า แต่คราวนี้ อเมริกาจะเจอรุ่นใหญ่ด้วยกัน มีอาวุธเหมือนกัน ยังไม่รู้แน่ว่าของใครดีกว่ากัน ที่สำคัญ อาจไม่ได้มาแบบ
    เดี่ยวๆ อเมริกาคงต้องคิดแยะ
    อเมริกา มี 2 ทางเลือกทางเลือก
    หนึ่ง คือ เล่นสกปรกสาระพัดวิธี ใต้โต๊ะใต้น้ำ บนดินบนฟ้า หลอกล่อให้ฝูงไอ้ปื้ด ออกมาล่อรัสเซียให้งอมจนเกือบเละก่อน หลังจากนั้น อเมริกาจึงค่อยยกทัพใหญ่ออกมาลุย แบบนี้เป็นสไตล์จิ๊กโก๋ใบตองแห้งของแท้ ไม่มีราศีผู้นำโลกหมายเลขหนึ่งติดอยู่เลย
    หรืออีกทางเลือกหนึ่ง คือ อเมริกาเคลื่อนทัพใหญ่ออกมาลุยกันเลยเท่านั้น ถ้าเป็นทางเลือกนี้ก็คงเล่นกันเต็มรูป
    แบบ แนวกว้าง ยาวไปเกือบทั่วโลก
    แล้วมีโอกาสไหม ที่อเมริกาจะไม่รบ ใช้การเจรจา หรือทำเกียร์ว่าง ปล่อยให้คุณพี่ปูตินว่าการตะวันออกกลาง
    ตามสะดวก คิดว่าเป็นไปได้ไหมครับ
    ผมตอบแทนอเมริกาไม่ได้หรอก แต่ในฐานะคนคุ้นเคย เฝ้าดูเฝ้าด่ามาตลอด 2 ปีกว่า ผมมองว่า ถ้าคุณพี่ปูติน แกมายืนถอดเสื้อเบ่งกล้ามมัดๆ ให้ดูอยู่แถวตะวันออกกลาง แล้วอเมริกายังนั่งแอบอยู่ในมุมห้อง สั่งให้สื่อตีข่าวกลับไปกลับมาทุกวันแต่ไม่ออกไปเจอหน้าก็เหมือนกับว่า อเมริกายอมยกตำแหน่งพี่เบิ้มให้รัสเซียไป อเมริกาจะทำใจยอมเสียตำแหน่งพี่เบิ้มได้หรือโดยเฉพาะให้กับรัสเซีย
    แต่อเมริกา อาจซื้อเวลา เล่นบทเจรจา ฟ้อนไปฟ้อนมาก่อน เพราะยังตั้งหลักจัดทัพไม่ทันคุณพี่ปูตินแกเคลื่อน
    ทัพมาเร็วเกินคาด ข่าวกรองของอเมริกา ที่ว่าแน่ๆ ทำงานไม่ทัน แต่รับรอง ระหว่างจัดทัพหลวง ทัพหน้าคง
    ออกมาแน่ แต่เป็นกองทัพจิ้งหรีด โดยการปั่นให้ไอ้ปื้ดแถวตะวันออกกลาง ออกมาเป็นแสน คุณพี่ปูติน ก็เตรียมรับมือไว้แล้วกัน
    เมื่อยังไงก็ต้องรบ และกำลังเตรียมจัดทัพ อเมริกาจึงกัดฟัน ปล่อยคุณจินนี่ ที่มีเจ้าของเป็นผีดิบสายเหยี่ยว
    จอมโหด จอมตะกละ ออกมาขู่รัสเซีย ว่า อยากจะเล่นเกมไหน จะเล่นเกมแบบสายเหยี่ยว ที่มีถังขยะ CFR
    หนุนมาตลอด ไม่ใช่เหยี่ยวปีกห้อย แบบไอ้ใบตองแห้งที่นั่งกัดเล็บอยู่ในมุมห้อง แถม คุณจีนนี่ ยังลากเอาผีดิบพันธุ์อังกฤษปนยิว รวมทั้งคนขายชาติ มาเป็นการตบหน้ารัสเซียอีกด้วย จะเล่นแบบนี้ไหม หรือรัสเซีย จะพอใจแค่กินขนมเค้กซีเรียด้วยกันแล้วก็กลับบ้านไป ไม่เสียหน้า ไม่ฉิบหายไปตามๆกันอย่างที่ท่านประธานถังขยะเสนอ
    ดูๆ เหมือนคำขู่ แต่ไม่รู้จะเป็นขู่ไปถอยไป หรือเปล่านะ
    แต่ผมเดาว่า คุณพี่ปูติน ไม่ใช่คนกลัวผีดิบ ไม่ว่าพันธุ์ไหนและคงไม่ชอบกินขนมเค้กด้วยและอเมริกาน่าจะรู้คำตอบนี้แล้ว ถึงมีรายการเขย่าขวัญฝ่ายรัสเซียให้ดู แต่ผมเกรงว่า นาฬิกาจะเริ่มนับถอยหลังไปแล้ว เมื่อมีการสอยเครื่องบินโดยสารของรัสเซีย เมื่อวันวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ.2015
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    7 พ.ย. 2558
    จินนี่ ตอนที่ 5 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่” ตอน 5 (จบ) สงสัยเพราะไอ้ถังขยะฝาแฝด ดันวิเคราะห์เรื่องรัสเซียยาตราเข้าไปในตะวันออกกลางต่างกัน โอบามาจึง ยังไม่ขยับออกจากมุมมืด แค่แก้เก้อ สั่งให้รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา จัดให้มีการถกเรื่องซีเรียที่นครเวียนนา เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ.2015 ระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น รัสเซีย อเมริกา สหภาพยุโรป ซาอุดิอารเบีย ตุรกี และอิหร่าน รวมทั้งตัวแทนของสหประชาชาติ แต่ไม่มีตัวแทนของซีเรียเข้าร่วมประชุมด้วย …. ไอ้เวร จะถกกันเรื่องบ้านเขาแต่ไม่ถามคนในบ้านเขาเลยนะ ว่า เขาต้องการอย่างไร และในที่สุด การประชุมก็จบลง ด้วยการสรุปว่า ยังไม่มีข้อตกลง .. เจ๋งเป้งจริงๆ แล้วแบบนี้ พี่เบิ้มใบตองแห้งจะ ฟ้อนต่อยังไงครับ 2 เดือนกว่าแล้วนะ พรรคพวกก็งงลูกหาบก็ถามกันเซ็งแซ่ ถาดพร้อม ชุดพร้อม จะเอายังไงจะให้ไปเซิ้งที่ไหนบอกมาเลยครับเจ้านาย เจ้านายจะสั่งยังไงดีล่ะ ยังจุกหูไม่หาย หลังจากฟังเพลงด่ารัสเซียคนละเสียงจากไอ้ถังฝาแฝด แค่ถังขยะ 2 ใบกลัวเจ้านาย จะมึนไม่พอ ปรากฏว่า ถังขยะใหญ่อีกใบของอเมริกา Brookings Institute ดันออกบทความเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2015 ชื่อ Russia’s military is proving Western punditry wrong” สรุปให้เห็นภาพ หรือ ศักยภาพ ของกองทัพรัสเซียในตะวันออกกลาง มาคนละแนวกับคู่แฝด โดยเฉพาะแฝดตัวที่ดูเหมือนเป็นผู้กำกับฝูงนกอินทรี แบบนี้ เจ้านายคงไม่ใช่แค่จุกหู อาจจะถึงจุกหางเอาด้วย ถัง Brookings บอกว่า เมื่อรัสเซียยกทัพเข้าไปในตะวันออกกลางใหม่ๆ นักวิเคราะห์ต่างจับตามอง และเสียงส่วน ใหญ่สรุปว่า รัสเซียคงไปได้ไม่กี่น้ำ บางคนบอกว่ากองทัพรัสเซียอ่อนแอ แถมสนิมขึ้นเขรอะแล้วด้วย แต่จากการรบของรัสเซียในตะวันออกกลาง เท่าที่ผ่านมาดูเหมือนจะทำให้นักวิเคราะห์เหล่านั้น หน้าแหกไปตามๆกัน ในการรบทางอากาศ ฝูงบินรัสเซีย บินโจมตีวันละประมาณ 48 ถึง 96 เที่ยว นับเป็นจำนวนเที่ยว เท่ากับที่ กองกำลังฝ่ายที่ต่อต้านอัสสาด (ที่อเมริกาสนับสนุน) ทำได้ ในเวลา 1 เดือน… เอ็งทำรายงานแบบนี้ จะให้ เจ้านายออกจากมุมมืดยังไงวะ นอกจากนี้ ฝ่ายรัสเซียได้เด็ดหัวหน้าฝ่ายกบฏ Captain Basil Zamo ที่เป็นกำลังสำคัญของฝ่ายต่อต้านอัสสาด ไปเรียบร้อย ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม และผู้บัญชาการรบที่หน่วยNour al-din al-Zinki ก็เสียชีวิตด้วยจากการ โจมตีครั้งอื่นของรัสเซีย คำถามว่า รัสเซียจะรักษาระดับการโจมตีทางอากาศเช่นนี้ต่อไปได้ไหมถัง Brookings บอกว่า เป็นไปได้ และแถม บอกว่า ยามนี้คงไม่มีพรรคพวกเรารายไหนในกลุ่มนาโต้จะสู้กับรัสเซียทางอากาศได้ด้วยซ้ำ …..อ้าว วิเคราะห์ แบบนี้ เดี๋ยวได้ตกงานกันหมด ทางทะเลล่ะ เป็นอย่างไร นักวิเคราะห์บอก เห็นเขาบอกว่าสนิมเขรอะเช่นกัน แต่ที่ไหนได้เจ้านายครับ รัสเซียกลับ นำกองทัพเรือรุ่นใหม่มาใช้ เป็นเรือรบขนาดกลาง แต่สามารถยิงจรวดจากฐานประจำเรือได้ในระยะ 900 ไมล์ ศักยภาพนี้ของรัสเซีย ไม่มีใครรู้มาก่อน เปรียบเทียบกับเรือรบขนาด 2 ,900 ตัน และ 3,100 ตัน combat ship เช่น Freedom กับ Independence ของอเมริกา ซึ่งใหญ่กว่าเรือรัสเซียมาก ยังไม่มีเครื่องยิงจรวด ประจำเรือ ในอานุภาพระดับเท่ากับรัสเซียเลยนะเจ้านาย เป็นเรื่องที่ทำให้เห็นว่า ข้อมูลที่ทางตะวันตกมี เกี่ยวกับอาวุธรัสเซีย ดูเหมือนจะเป็นข้อมูลที่ตกรุ่น และทำให้ฝ่าย ตะวันตก ประเมินกองทัพรัสเซียผิดพลาด ข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากการรบของรัสเซียในตะวันออก กลาง ดูเหมือนจะทำให้สายตาของตะวันตกที่เคยมองรัสเซียเปลี่ยนไป แต่จะทำให้เกมเปลี่ยนไปเลยหรือไม่ คงต้องดูจากการขยับหมากของอเมริกา ก่อนขยับหมาก ดูเหมือนอเมริกาจะใช้เวลาตรวจสอบศักยภาพของรัสเซียหลายรูปแบบ และใช้เวลานานเอาเรื่อง เหมือนกับซื้อเวลา ก็อเมริกาใหญ่นี่นะ ขืนเซ่อซ่า ออกไปผิดท่า กระจอกไม่ทันกินน้ำหงายท้องผลึ่ง คงมีค่อนโลกหัวร่อเยาะ ผมคนนึงละ รับรองทั้งซ้ำ ทั้งเติมไม่มีเว้น อเมริกาจะไม่คิดมากได้อย่างไร 70 ปี ที่ผ่านมาอเมริกาเคยรบกับกองทัพใหญ่ที่ไหนบ้าง หนสุดท้ายที่รบจริงคือ สงครามเวียตนาม นั่นมัน 40 กว่าปีมาแล้วนะครับ แล้วอีกฝ่ายก็ตัวเล็กผอมเกร็ง อาวุธส่วนใหญ่ ก็เป็นของเก่าที่ ฝรั่งเศสทิ้งไว้ หรือ ที่รัสเซียส่งมาให้ทดลองใช้ แต่ฝ่ายอเมริกายกมาเต็มอัตราศึก ครบเครื่อง แถมหลอกลากเอา สมันน้อย สมันใหญ่แถวนี้ ไปเข้าแถวช่วยรบกับเขาด้วย ส่วนฝ่ายเวียตนามรบมาแบบเดี่ยวๆ แล้วเป็นยังไงครับ รบไป 8 ปี อเมริกาฉิบหายรุ่ย แล้วก็ไม่ได้ชนะจริงๆ ต้องไปทำข้อตกลงหย่าศึก ไม่เข็ดหรือวะ ส่วนรายการอิรัค ลิเบีย อาฟกานิสถาน มันเป็นเรื่องผู้ใหญ่รังแกเด็ก ขี่ช้างเข้าไปจับตั๊กกะแตน จะไปรบที เหมือนไป ตากอากาศ ทั้งชุด ทั้งอาหารพร้อม ไอติมยังมีกินเลยรบแบบนี้ไม่ชนะก็เอาหัวไปทิ่มบ่อตายเสียดีกว่า แต่คราวนี้ อเมริกาจะเจอรุ่นใหญ่ด้วยกัน มีอาวุธเหมือนกัน ยังไม่รู้แน่ว่าของใครดีกว่ากัน ที่สำคัญ อาจไม่ได้มาแบบ เดี่ยวๆ อเมริกาคงต้องคิดแยะ อเมริกา มี 2 ทางเลือกทางเลือก หนึ่ง คือ เล่นสกปรกสาระพัดวิธี ใต้โต๊ะใต้น้ำ บนดินบนฟ้า หลอกล่อให้ฝูงไอ้ปื้ด ออกมาล่อรัสเซียให้งอมจนเกือบเละก่อน หลังจากนั้น อเมริกาจึงค่อยยกทัพใหญ่ออกมาลุย แบบนี้เป็นสไตล์จิ๊กโก๋ใบตองแห้งของแท้ ไม่มีราศีผู้นำโลกหมายเลขหนึ่งติดอยู่เลย หรืออีกทางเลือกหนึ่ง คือ อเมริกาเคลื่อนทัพใหญ่ออกมาลุยกันเลยเท่านั้น ถ้าเป็นทางเลือกนี้ก็คงเล่นกันเต็มรูป แบบ แนวกว้าง ยาวไปเกือบทั่วโลก แล้วมีโอกาสไหม ที่อเมริกาจะไม่รบ ใช้การเจรจา หรือทำเกียร์ว่าง ปล่อยให้คุณพี่ปูตินว่าการตะวันออกกลาง ตามสะดวก คิดว่าเป็นไปได้ไหมครับ ผมตอบแทนอเมริกาไม่ได้หรอก แต่ในฐานะคนคุ้นเคย เฝ้าดูเฝ้าด่ามาตลอด 2 ปีกว่า ผมมองว่า ถ้าคุณพี่ปูติน แกมายืนถอดเสื้อเบ่งกล้ามมัดๆ ให้ดูอยู่แถวตะวันออกกลาง แล้วอเมริกายังนั่งแอบอยู่ในมุมห้อง สั่งให้สื่อตีข่าวกลับไปกลับมาทุกวันแต่ไม่ออกไปเจอหน้าก็เหมือนกับว่า อเมริกายอมยกตำแหน่งพี่เบิ้มให้รัสเซียไป อเมริกาจะทำใจยอมเสียตำแหน่งพี่เบิ้มได้หรือโดยเฉพาะให้กับรัสเซีย แต่อเมริกา อาจซื้อเวลา เล่นบทเจรจา ฟ้อนไปฟ้อนมาก่อน เพราะยังตั้งหลักจัดทัพไม่ทันคุณพี่ปูตินแกเคลื่อน ทัพมาเร็วเกินคาด ข่าวกรองของอเมริกา ที่ว่าแน่ๆ ทำงานไม่ทัน แต่รับรอง ระหว่างจัดทัพหลวง ทัพหน้าคง ออกมาแน่ แต่เป็นกองทัพจิ้งหรีด โดยการปั่นให้ไอ้ปื้ดแถวตะวันออกกลาง ออกมาเป็นแสน คุณพี่ปูติน ก็เตรียมรับมือไว้แล้วกัน เมื่อยังไงก็ต้องรบ และกำลังเตรียมจัดทัพ อเมริกาจึงกัดฟัน ปล่อยคุณจินนี่ ที่มีเจ้าของเป็นผีดิบสายเหยี่ยว จอมโหด จอมตะกละ ออกมาขู่รัสเซีย ว่า อยากจะเล่นเกมไหน จะเล่นเกมแบบสายเหยี่ยว ที่มีถังขยะ CFR หนุนมาตลอด ไม่ใช่เหยี่ยวปีกห้อย แบบไอ้ใบตองแห้งที่นั่งกัดเล็บอยู่ในมุมห้อง แถม คุณจีนนี่ ยังลากเอาผีดิบพันธุ์อังกฤษปนยิว รวมทั้งคนขายชาติ มาเป็นการตบหน้ารัสเซียอีกด้วย จะเล่นแบบนี้ไหม หรือรัสเซีย จะพอใจแค่กินขนมเค้กซีเรียด้วยกันแล้วก็กลับบ้านไป ไม่เสียหน้า ไม่ฉิบหายไปตามๆกันอย่างที่ท่านประธานถังขยะเสนอ ดูๆ เหมือนคำขู่ แต่ไม่รู้จะเป็นขู่ไปถอยไป หรือเปล่านะ แต่ผมเดาว่า คุณพี่ปูติน ไม่ใช่คนกลัวผีดิบ ไม่ว่าพันธุ์ไหนและคงไม่ชอบกินขนมเค้กด้วยและอเมริกาน่าจะรู้คำตอบนี้แล้ว ถึงมีรายการเขย่าขวัญฝ่ายรัสเซียให้ดู แต่ผมเกรงว่า นาฬิกาจะเริ่มนับถอยหลังไปแล้ว เมื่อมีการสอยเครื่องบินโดยสารของรัสเซีย เมื่อวันวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ.2015 สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 7 พ.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 193 มุมมอง 0 รีวิว
  • อันนี้ลุงสงสัยมากว่า... ทำไมกัน?

    สหรัฐฯ สั่งหยุดก่อสร้างกังหันลมนอกชายฝั่งทั้งประเทศ อ้างเหตุผล “ลับทางทหาร”

    รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของทรัมป์ประกาศหยุดการก่อสร้างโครงการกังหันลมนอกชายฝั่งทั้ง 5 แห่งที่กำลังดำเนินงานอยู่ แม้หลายโครงการจะใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้วก็ตาม การตัดสินใจครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับหลายรัฐที่พึ่งพาพลังงานสะอาดจากโครงการเหล่านี้ โดยกระทรวงมหาดไทยอ้างว่าได้รับรายงาน “ลับ” จากกระทรวงกลาโหมเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านความมั่นคง แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ ต่อสาธารณะหรือศาล ทำให้เกิดข้อสงสัยว่ารัฐบาลกำลังใช้การจัดชั้นความลับเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบทางกฎหมายหรือไม่

    ก่อนหน้านี้ ศาลได้เพิกถอนคำสั่งหยุดโครงการลักษณะเดียวกัน เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถให้เหตุผลที่ชัดเจนได้ แต่ครั้งนี้การอ้างข้อมูลลับทำให้การท้าทายทางกฎหมายยากขึ้นอย่างมาก โครงการที่ได้รับผลกระทบรวมถึง Coastal Virginia Offshore Wind (2.6 GW), Empire Wind (810 MW), Revolution Wind (700 MW), Sunrise Wind (925 MW) และ Vineyard Wind 1 (800 MW) ซึ่งหลายโครงการลงทุนไปเกือบครบแล้วและกำลังรอเริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อคืนทุน

    รัฐต่าง ๆ เช่น คอนเนตทิคัตและนิวยอร์กออกมาต่อต้านอย่างรุนแรง โดยมองว่าการหยุดงานครั้งนี้ “ไร้เหตุผลและผิดกฎหมาย” และอาจเป็นเพียงความพยายามของฝ่ายบริหารในการทำลายโครงการพลังงานลมตามความชอบส่วนตัวของประธานาธิบดีมากกว่าการตัดสินใจเชิงนโยบายที่มีข้อมูลรองรับ ข้อมูลในคดีเก่าระบุว่าภายในรัฐบาลเองก็ไม่มีเหตุผลทางเทคนิคที่ชัดเจนในการกลับคำอนุมัติที่มีมานานหลายปี

    เหตุการณ์นี้จึงไม่ใช่แค่การหยุดโครงการพลังงานสะอาด แต่สะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างนโยบายพลังงาน การเมือง และความมั่นคงแห่งชาติที่ถูกใช้เป็นเหตุผลแบบ “ตรวจสอบไม่ได้” ซึ่งอาจกลายเป็นแบบอย่างอันตรายต่อโครงการโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ในอนาคต หากไม่มีการตรวจสอบอย่างโปร่งใสจากศาลและสาธารณะ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งหยุดโครงการกังหันลมนอกชายฝั่งทั้งหมด
    อ้างรายงานลับจากกระทรวงกลาโหม
    ทำให้การตรวจสอบทางกฎหมายทำได้ยากขึ้น

    โครงการที่ได้รับผลกระทบมีมูลค่ามหาศาล
    Coastal Virginia (2.6 GW), Empire Wind, Revolution Wind, Sunrise Wind, Vineyard Wind 1
    หลายโครงการใกล้เสร็จและลงทุนไปเกือบครบแล้ว

    รัฐและบริษัทพลังงานออกมาต่อต้าน
    มองว่าเป็นการใช้อำนาจโดยไร้เหตุผล
    ศาลเคยเพิกถอนคำสั่งลักษณะเดียวกันมาก่อน

    ความเสี่ยงและผลกระทบที่ต้องจับตา
    การใช้ “ข้อมูลลับ” อาจกลายเป็นช่องทางเลี่ยงการตรวจสอบ
    ความไม่แน่นอนอาจทำลายความเชื่อมั่นในโครงการพลังงานสะอาด
    อาจเป็นแบบอย่างให้รัฐบาลใช้เหตุผลด้านความมั่นคงเพื่อหยุดโครงการอื่นในอนาคต


    https://arstechnica.com/science/2025/12/us-government-finds-new-excuse-to-stop-construction-of-offshore-wind/
    อันนี้ลุงสงสัยมากว่า... ทำไมกัน? 🌬️⚠️ สหรัฐฯ สั่งหยุดก่อสร้างกังหันลมนอกชายฝั่งทั้งประเทศ อ้างเหตุผล “ลับทางทหาร” รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของทรัมป์ประกาศหยุดการก่อสร้างโครงการกังหันลมนอกชายฝั่งทั้ง 5 แห่งที่กำลังดำเนินงานอยู่ แม้หลายโครงการจะใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้วก็ตาม การตัดสินใจครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับหลายรัฐที่พึ่งพาพลังงานสะอาดจากโครงการเหล่านี้ โดยกระทรวงมหาดไทยอ้างว่าได้รับรายงาน “ลับ” จากกระทรวงกลาโหมเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านความมั่นคง แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ ต่อสาธารณะหรือศาล ทำให้เกิดข้อสงสัยว่ารัฐบาลกำลังใช้การจัดชั้นความลับเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบทางกฎหมายหรือไม่ ก่อนหน้านี้ ศาลได้เพิกถอนคำสั่งหยุดโครงการลักษณะเดียวกัน เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถให้เหตุผลที่ชัดเจนได้ แต่ครั้งนี้การอ้างข้อมูลลับทำให้การท้าทายทางกฎหมายยากขึ้นอย่างมาก โครงการที่ได้รับผลกระทบรวมถึง Coastal Virginia Offshore Wind (2.6 GW), Empire Wind (810 MW), Revolution Wind (700 MW), Sunrise Wind (925 MW) และ Vineyard Wind 1 (800 MW) ซึ่งหลายโครงการลงทุนไปเกือบครบแล้วและกำลังรอเริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อคืนทุน รัฐต่าง ๆ เช่น คอนเนตทิคัตและนิวยอร์กออกมาต่อต้านอย่างรุนแรง โดยมองว่าการหยุดงานครั้งนี้ “ไร้เหตุผลและผิดกฎหมาย” และอาจเป็นเพียงความพยายามของฝ่ายบริหารในการทำลายโครงการพลังงานลมตามความชอบส่วนตัวของประธานาธิบดีมากกว่าการตัดสินใจเชิงนโยบายที่มีข้อมูลรองรับ ข้อมูลในคดีเก่าระบุว่าภายในรัฐบาลเองก็ไม่มีเหตุผลทางเทคนิคที่ชัดเจนในการกลับคำอนุมัติที่มีมานานหลายปี เหตุการณ์นี้จึงไม่ใช่แค่การหยุดโครงการพลังงานสะอาด แต่สะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างนโยบายพลังงาน การเมือง และความมั่นคงแห่งชาติที่ถูกใช้เป็นเหตุผลแบบ “ตรวจสอบไม่ได้” ซึ่งอาจกลายเป็นแบบอย่างอันตรายต่อโครงการโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ในอนาคต หากไม่มีการตรวจสอบอย่างโปร่งใสจากศาลและสาธารณะ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งหยุดโครงการกังหันลมนอกชายฝั่งทั้งหมด ➡️ อ้างรายงานลับจากกระทรวงกลาโหม ➡️ ทำให้การตรวจสอบทางกฎหมายทำได้ยากขึ้น ✅ โครงการที่ได้รับผลกระทบมีมูลค่ามหาศาล ➡️ Coastal Virginia (2.6 GW), Empire Wind, Revolution Wind, Sunrise Wind, Vineyard Wind 1 ➡️ หลายโครงการใกล้เสร็จและลงทุนไปเกือบครบแล้ว ✅ รัฐและบริษัทพลังงานออกมาต่อต้าน ➡️ มองว่าเป็นการใช้อำนาจโดยไร้เหตุผล ➡️ ศาลเคยเพิกถอนคำสั่งลักษณะเดียวกันมาก่อน ‼️ ความเสี่ยงและผลกระทบที่ต้องจับตา ⛔ การใช้ “ข้อมูลลับ” อาจกลายเป็นช่องทางเลี่ยงการตรวจสอบ ⛔ ความไม่แน่นอนอาจทำลายความเชื่อมั่นในโครงการพลังงานสะอาด ⛔ อาจเป็นแบบอย่างให้รัฐบาลใช้เหตุผลด้านความมั่นคงเพื่อหยุดโครงการอื่นในอนาคต https://arstechnica.com/science/2025/12/us-government-finds-new-excuse-to-stop-construction-of-offshore-wind/
    ARSTECHNICA.COM
    US blocks all offshore wind construction, says reason is classified
    Projects with hardware in the water stopped due to Department of Defense fears.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิตาลีสั่งปรับ Apple เกือบ €100 ล้าน เหตุ ATT สร้างภาระเกินจำเป็นต่อผู้พัฒนาและตลาดโฆษณา

    หน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันของอิตาลี (AGCM) ได้สั่งปรับ Apple เป็นเงิน €98.6 ล้าน จากการบังคับใช้กฎ App Tracking Transparency (ATT) ที่ถูกมองว่า “สร้างภาระเกินสมควร” ต่อผู้พัฒนาแอปและผู้ลงโฆษณา แม้ ATT จะถูกนำเสนอในฐานะฟีเจอร์เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่หน่วยงานกำกับมองว่ากฎนี้ทำให้ Apple ได้เปรียบในตลาดโฆษณาอย่างไม่เป็นธรรม เพราะผู้พัฒนาภายนอกถูกจำกัดการติดตามผู้ใช้ ในขณะที่ Apple ยังสามารถเก็บข้อมูลบางส่วนผ่านระบบของตัวเองได้

    การสอบสวนชี้ว่า ATT ทำให้ผู้พัฒนาต้องเผชิญต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งในด้านการปรับปรุงระบบ การขอความยินยอม และการสูญเสียรายได้จากโฆษณาที่แม่นยำลดลง ขณะเดียวกัน Apple กลับสามารถใช้ข้อมูลภายในระบบของตนเพื่อเสริมความได้เปรียบในตลาดบริการโฆษณา เช่น Apple Search Ads ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วหลังการเปิดตัว ATT จนหลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความเป็นธรรมของกฎนี้

    แม้ Apple จะยืนยันว่า ATT ถูกออกแบบเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่หลายประเทศในยุโรป—including ฝรั่งเศสและเยอรมนี—ก็เริ่มจับตาพฤติกรรมของบริษัทอย่างใกล้ชิด โดยมองว่าการควบคุมข้อมูลผู้ใช้ในระดับแพลตฟอร์มอาจกลายเป็น “อำนาจผูกขาดรูปแบบใหม่” ที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของนักพัฒนาและผู้ลงโฆษณาในวงกว้าง

    การปรับครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงเรื่องของเงิน แต่เป็นสัญญาณว่าหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรปกำลังเริ่มตั้งคำถามต่อโมเดลธุรกิจของ Apple ที่อาศัยความเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มเพื่อกำหนดกฎที่อาจเอื้อประโยชน์ให้ตนเองมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่การตรวจสอบเพิ่มเติมในระดับสหภาพยุโรปในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    อิตาลีสั่งปรับ Apple €98.6 ล้าน
    เหตุผล: ATT สร้างภาระเกินจำเป็นต่อผู้พัฒนา
    มองว่า Apple ได้เปรียบในตลาดโฆษณาอย่างไม่เป็นธรรม

    ผลกระทบต่อผู้พัฒนาและตลาดโฆษณา
    ต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการขอความยินยอมและปรับระบบ
    รายได้โฆษณาลดลงเพราะการติดตามผู้ใช้ทำได้ยากขึ้น

    Apple ยืนยันว่า ATT คือการปกป้องความเป็นส่วนตัว
    แต่หลายประเทศในยุโรปเริ่มตั้งคำถามถึงความโปร่งใส
    Apple Search Ads เติบโตผิดปกติหลัง ATT เปิดตัว

    ความเสี่ยงและประเด็นที่ต้องจับตา
    ความเป็นไปได้ที่จะถูกตรวจสอบเพิ่มเติมในระดับ EU
    ความกังวลว่าแพลตฟอร์มอาจใช้อำนาจควบคุมข้อมูลเพื่อผูกขาด
    ผู้พัฒนาอาจเผชิญต้นทุนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    https://wccftech.com/apples-app-tracking-transparency-att-rules-invite-another-hefty-fine-this-time-from-italy/
    📱💸 อิตาลีสั่งปรับ Apple เกือบ €100 ล้าน เหตุ ATT สร้างภาระเกินจำเป็นต่อผู้พัฒนาและตลาดโฆษณา หน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันของอิตาลี (AGCM) ได้สั่งปรับ Apple เป็นเงิน €98.6 ล้าน จากการบังคับใช้กฎ App Tracking Transparency (ATT) ที่ถูกมองว่า “สร้างภาระเกินสมควร” ต่อผู้พัฒนาแอปและผู้ลงโฆษณา แม้ ATT จะถูกนำเสนอในฐานะฟีเจอร์เพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่หน่วยงานกำกับมองว่ากฎนี้ทำให้ Apple ได้เปรียบในตลาดโฆษณาอย่างไม่เป็นธรรม เพราะผู้พัฒนาภายนอกถูกจำกัดการติดตามผู้ใช้ ในขณะที่ Apple ยังสามารถเก็บข้อมูลบางส่วนผ่านระบบของตัวเองได้ การสอบสวนชี้ว่า ATT ทำให้ผู้พัฒนาต้องเผชิญต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งในด้านการปรับปรุงระบบ การขอความยินยอม และการสูญเสียรายได้จากโฆษณาที่แม่นยำลดลง ขณะเดียวกัน Apple กลับสามารถใช้ข้อมูลภายในระบบของตนเพื่อเสริมความได้เปรียบในตลาดบริการโฆษณา เช่น Apple Search Ads ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วหลังการเปิดตัว ATT จนหลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความเป็นธรรมของกฎนี้ แม้ Apple จะยืนยันว่า ATT ถูกออกแบบเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่หลายประเทศในยุโรป—including ฝรั่งเศสและเยอรมนี—ก็เริ่มจับตาพฤติกรรมของบริษัทอย่างใกล้ชิด โดยมองว่าการควบคุมข้อมูลผู้ใช้ในระดับแพลตฟอร์มอาจกลายเป็น “อำนาจผูกขาดรูปแบบใหม่” ที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของนักพัฒนาและผู้ลงโฆษณาในวงกว้าง การปรับครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงเรื่องของเงิน แต่เป็นสัญญาณว่าหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรปกำลังเริ่มตั้งคำถามต่อโมเดลธุรกิจของ Apple ที่อาศัยความเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มเพื่อกำหนดกฎที่อาจเอื้อประโยชน์ให้ตนเองมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่การตรวจสอบเพิ่มเติมในระดับสหภาพยุโรปในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ อิตาลีสั่งปรับ Apple €98.6 ล้าน ➡️ เหตุผล: ATT สร้างภาระเกินจำเป็นต่อผู้พัฒนา ➡️ มองว่า Apple ได้เปรียบในตลาดโฆษณาอย่างไม่เป็นธรรม ✅ ผลกระทบต่อผู้พัฒนาและตลาดโฆษณา ➡️ ต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการขอความยินยอมและปรับระบบ ➡️ รายได้โฆษณาลดลงเพราะการติดตามผู้ใช้ทำได้ยากขึ้น ✅ Apple ยืนยันว่า ATT คือการปกป้องความเป็นส่วนตัว ➡️ แต่หลายประเทศในยุโรปเริ่มตั้งคำถามถึงความโปร่งใส ➡️ Apple Search Ads เติบโตผิดปกติหลัง ATT เปิดตัว ‼️ ความเสี่ยงและประเด็นที่ต้องจับตา ⛔ ความเป็นไปได้ที่จะถูกตรวจสอบเพิ่มเติมในระดับ EU ⛔ ความกังวลว่าแพลตฟอร์มอาจใช้อำนาจควบคุมข้อมูลเพื่อผูกขาด ⛔ ผู้พัฒนาอาจเผชิญต้นทุนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง https://wccftech.com/apples-app-tracking-transparency-att-rules-invite-another-hefty-fine-this-time-from-italy/
    WCCFTECH.COM
    Apple Hit With Another Massive Fine From Italy Over Its Privacy Features
    Hardly a week goes by when Apple is not subject to a new antitrust scrutiny or penalty in one jurisdiction or the other.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฮ็กครั้งใหญ่โจมตีหน่วยงานน้ำของโรมาเนีย: คอมพิวเตอร์ 1,000 เครื่องถูกปิดจาก BitLocker ransomware

    การโจมตีครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อโครงสร้างพื้นฐานของโรมาเนีย เมื่อหน่วยงานบริหารจัดการน้ำถูกโจมตีด้วย ransomware ที่เข้ารหัสข้อมูลผ่าน BitLocker ของ Windows ส่งผลให้คอมพิวเตอร์กว่า 1,000 เครื่องใน 10 จาก 11 สำนักงานภูมิภาคต้องหยุดทำงานทันที แม้ระบบควบคุมการจ่ายน้ำจริงจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่ระบบสนับสนุนทั้งหมด เช่น อีเมล เว็บเซอร์วิส ฐานข้อมูล และ GIS กลับถูกทำให้ใช้งานไม่ได้อย่างสิ้นเชิง

    ผู้โจมตีไม่ได้ประกาศตัวว่าเป็นกลุ่มใด แต่ทิ้งข้อความให้หน่วยงานติดต่อกลับภายใน 7 วัน ซึ่งเป็นรูปแบบที่คล้ายกับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานในยุโรปช่วงปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะกรณีเดนมาร์กที่เคยถูกแฮ็กจนแรงดันน้ำผิดปกติและท่อแตกหลายจุดในปี 2024 เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้บ้านเรือนกว่า 500 หลังไม่มีน้ำใช้ชั่วคราว และกลายเป็นสัญญาณเตือนว่าระบบสาธารณูปโภคกำลังกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของสงครามไซเบอร์ยุคใหม่

    หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของโรมาเนีย (DNSC) ระบุว่ายังไม่ทราบช่องทางการโจมตี แต่ยืนยันว่าผู้โจมตีใช้ BitLocker ในการเข้ารหัสข้อมูลแทนที่จะใช้เครื่องมือเฉพาะทางแบบ ransomware กลุ่มอื่น ๆ ซึ่งสะท้อนว่าการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือซับซ้อนเสมอไป ขณะนี้ DNSC และหน่วยข่าวกรองกำลังเร่งกู้ระบบและตรวจสอบความเสียหายเพิ่มเติม

    เหตุการณ์นี้ยังเชื่อมโยงกับแนวโน้มการโจมตีที่หลายประเทศในยุโรปมองว่าเป็น “สงครามลูกผสม” โดยเฉพาะการโจมตีที่เชื่อมโยงกับกลุ่มที่สนับสนุนรัสเซีย เช่น Z‑Pentest และ NoName057(16) ที่เคยโจมตีระบบน้ำและเว็บไซต์ของเดนมาร์ก รวมถึง Fancy Bear ที่ถูกกล่าวหาว่าโจมตีระบบควบคุมการบินของเยอรมนีในปี 2024 ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามถึงความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยไซเบอร์น้อยเกินไป

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ขนาดความเสียหายและผลกระทบ
    คอมพิวเตอร์กว่า 1,000 เครื่องถูกปิดจาก BitLocker ransomware
    ระบบสนับสนุน เช่น อีเมล เว็บเซอร์วิส และฐานข้อมูลหยุดทำงาน

    ระบบน้ำยังทำงานได้ตามปกติ
    ระบบควบคุมการจ่ายน้ำไม่ถูกโจมตีโดยตรง
    การควบคุมยังทำผ่านศูนย์สั่งการและการสื่อสารเสียง

    รูปแบบการโจมตีและการสืบสวน
    ผู้โจมตีไม่ประกาศตัว แต่ทิ้งข้อความให้ติดต่อภายใน 7 วัน
    ใช้ BitLocker ของ Windows ในการเข้ารหัสข้อมูล

    ความเสี่ยงและสัญญาณเตือน
    โครงสร้างพื้นฐานยุโรปกำลังเป็นเป้าหมายของ “สงครามลูกผสม”
    เคยมีกรณีเดนมาร์กถูกโจมตีจนท่อแตกและบ้านเรือนขาดน้ำ
    ความปลอดภัยไซเบอร์ยังเป็นเรื่องที่หลายหน่วยงานให้ความสำคัญต่ำเกินไป

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/1-000-computers-taken-offline-in-romanian-water-management-authority-hack-ransomware-takes-bitlocker-encrypted-systems-down
    🚨 แฮ็กครั้งใหญ่โจมตีหน่วยงานน้ำของโรมาเนีย: คอมพิวเตอร์ 1,000 เครื่องถูกปิดจาก BitLocker ransomware การโจมตีครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อโครงสร้างพื้นฐานของโรมาเนีย เมื่อหน่วยงานบริหารจัดการน้ำถูกโจมตีด้วย ransomware ที่เข้ารหัสข้อมูลผ่าน BitLocker ของ Windows ส่งผลให้คอมพิวเตอร์กว่า 1,000 เครื่องใน 10 จาก 11 สำนักงานภูมิภาคต้องหยุดทำงานทันที แม้ระบบควบคุมการจ่ายน้ำจริงจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่ระบบสนับสนุนทั้งหมด เช่น อีเมล เว็บเซอร์วิส ฐานข้อมูล และ GIS กลับถูกทำให้ใช้งานไม่ได้อย่างสิ้นเชิง ผู้โจมตีไม่ได้ประกาศตัวว่าเป็นกลุ่มใด แต่ทิ้งข้อความให้หน่วยงานติดต่อกลับภายใน 7 วัน ซึ่งเป็นรูปแบบที่คล้ายกับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานในยุโรปช่วงปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะกรณีเดนมาร์กที่เคยถูกแฮ็กจนแรงดันน้ำผิดปกติและท่อแตกหลายจุดในปี 2024 เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้บ้านเรือนกว่า 500 หลังไม่มีน้ำใช้ชั่วคราว และกลายเป็นสัญญาณเตือนว่าระบบสาธารณูปโภคกำลังกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของสงครามไซเบอร์ยุคใหม่ หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของโรมาเนีย (DNSC) ระบุว่ายังไม่ทราบช่องทางการโจมตี แต่ยืนยันว่าผู้โจมตีใช้ BitLocker ในการเข้ารหัสข้อมูลแทนที่จะใช้เครื่องมือเฉพาะทางแบบ ransomware กลุ่มอื่น ๆ ซึ่งสะท้อนว่าการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือซับซ้อนเสมอไป ขณะนี้ DNSC และหน่วยข่าวกรองกำลังเร่งกู้ระบบและตรวจสอบความเสียหายเพิ่มเติม เหตุการณ์นี้ยังเชื่อมโยงกับแนวโน้มการโจมตีที่หลายประเทศในยุโรปมองว่าเป็น “สงครามลูกผสม” โดยเฉพาะการโจมตีที่เชื่อมโยงกับกลุ่มที่สนับสนุนรัสเซีย เช่น Z‑Pentest และ NoName057(16) ที่เคยโจมตีระบบน้ำและเว็บไซต์ของเดนมาร์ก รวมถึง Fancy Bear ที่ถูกกล่าวหาว่าโจมตีระบบควบคุมการบินของเยอรมนีในปี 2024 ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามถึงความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยไซเบอร์น้อยเกินไป 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ขนาดความเสียหายและผลกระทบ ➡️ คอมพิวเตอร์กว่า 1,000 เครื่องถูกปิดจาก BitLocker ransomware ➡️ ระบบสนับสนุน เช่น อีเมล เว็บเซอร์วิส และฐานข้อมูลหยุดทำงาน ✅ ระบบน้ำยังทำงานได้ตามปกติ ➡️ ระบบควบคุมการจ่ายน้ำไม่ถูกโจมตีโดยตรง ➡️ การควบคุมยังทำผ่านศูนย์สั่งการและการสื่อสารเสียง ✅ รูปแบบการโจมตีและการสืบสวน ➡️ ผู้โจมตีไม่ประกาศตัว แต่ทิ้งข้อความให้ติดต่อภายใน 7 วัน ➡️ ใช้ BitLocker ของ Windows ในการเข้ารหัสข้อมูล ‼️ ความเสี่ยงและสัญญาณเตือน ⛔ โครงสร้างพื้นฐานยุโรปกำลังเป็นเป้าหมายของ “สงครามลูกผสม” ⛔ เคยมีกรณีเดนมาร์กถูกโจมตีจนท่อแตกและบ้านเรือนขาดน้ำ ⛔ ความปลอดภัยไซเบอร์ยังเป็นเรื่องที่หลายหน่วยงานให้ความสำคัญต่ำเกินไป https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/1-000-computers-taken-offline-in-romanian-water-management-authority-hack-ransomware-takes-bitlocker-encrypted-systems-down
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    1,000 computers taken offline in Romanian water management authority hack
    No group has claimed the attack yet, and thankfully, water is still flowing in Romania.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฮ็กครั้งมโหฬาร: กลุ่ม Pirate Archivist ดูดข้อมูล Spotify 300TB ปล่อยทอร์เรนต์กว่า 86 ล้านไฟล์

    เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในวงการสตรีมมิง เมื่อกลุ่ม Anna’s Archive ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะ “เงาแห่งห้องสมุดโลก” ได้ทำการสกัดข้อมูลจาก Spotify ในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยดึงไฟล์เพลงและเมทาดาทารวมกว่า 300TB ออกมาจากแพลตฟอร์ม พร้อมปล่อยเป็นทอร์เรนต์ให้ดาวน์โหลดอย่างเสรี การรั่วไหลครั้งนี้ครอบคลุมเพลงกว่า 86 ล้านไฟล์ คิดเป็นประมาณ 37% ของคลังเพลงทั้งหมด แต่ครอบคลุมถึง 99.9% ของยอดการฟังบนแพลตฟอร์ม ซึ่งสะท้อนว่าข้อมูลที่หลุดออกมาคือ “แก่นกลาง” ของ Spotify อย่างแท้จริง

    Spotify ยืนยันว่ามีการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และผู้โจมตีใช้วิธีหลบเลี่ยง DRM เพื่อดึงไฟล์เสียงต้นฉบับในรูปแบบ OGG Vorbis 160kbps ออกมา ขณะเดียวกันเมทาดาทากว่า 256 ล้านแถว รวมถึง ISRC ทั้ง 186 ล้านรายการ ก็ถูกนำไปสร้างเป็นฐานข้อมูลที่ค้นหาได้เต็มรูปแบบ ทำให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมการฟังเพลงทั่วโลกถูกเปิดเผยอย่างไม่เคยมีมาก่อน เช่น สัดส่วนเพลงที่แทบไม่มีคนฟัง หรือแนวโน้มความนิยมของเพลงที่มี BPM ประมาณ 120 ซึ่งเป็นจังหวะที่พบมากที่สุดบนแพลตฟอร์ม

    Anna’s Archive อ้างว่าการกระทำครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ “การอนุรักษ์ดนตรีของมนุษยชาติ” โดยมองว่า Spotify ให้ความสำคัญกับเพลงยอดนิยมมากเกินไป และคุณภาพเสียงที่ถูกบีบอัดก็ไม่เหมาะกับการเก็บถาวร พวกเขาจึงสร้างระบบทอร์เรนต์ที่จัดหมวดหมู่ตามความนิยม และใช้ฟอร์แมต AAC (Anna’s Archive Container) เพื่อแพ็กข้อมูลอย่างเป็นระบบ พร้อมทยอยปล่อยข้อมูลเป็นชุดใหญ่ในอนาคต ซึ่งอาจทำให้ผลกระทบของเหตุการณ์นี้ยังคงขยายตัวต่อไปอีกนาน

    ด้าน Spotify ระบุว่าบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีถูกปิดแล้ว และกำลังเพิ่มมาตรการป้องกันใหม่เพื่อรับมือการโจมตีลักษณะนี้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ได้เปิดประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยของแพลตฟอร์มสตรีมมิง และความเปราะบางของระบบ DRM ที่ถูกท้าทายอย่างรุนแรงจากกลุ่มผู้ต้องการ “ปลดปล่อยข้อมูล” สู่สาธารณะ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ขนาดการรั่วไหลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
    ข้อมูลกว่า 300TB ถูกดูดออกจาก Spotify
    รวมเพลงกว่า 86 ล้านไฟล์ ครอบคลุม 99.9% ของยอดฟังทั้งหมด

    ข้อมูลเชิงลึกที่ถูกเปิดเผย
    เมทาดาทา 256 ล้านแถว และ ISRC 186 ล้านรายการ
    ข้อมูลเผยว่า 70% ของเพลงแทบไม่มีคนฟัง และ BPM 120 คือจังหวะยอดนิยม

    การตอบสนองของ Spotify
    ปิดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการโจมตี
    เพิ่มมาตรการป้องกันใหม่และตรวจสอบพฤติกรรมต้องสงสัย

    ความเสี่ยงและผลกระทบที่ต้องจับตา
    การหลบเลี่ยง DRM อาจกระทบความเชื่อมั่นในระบบสตรีมมิง
    การปล่อยข้อมูลเป็นชุดใหญ่ในอนาคตอาจทำให้ผลกระทบขยายวงกว้าง
    อุตสาหกรรมดนตรีอาจเผชิญความเสียหายด้านลิขสิทธิ์ครั้งใหญ่

    https://www.tomshardware.com/service-providers/streaming/pirate-archivist-group-scrapes-spotifys-300tb-library-posts-free-torrents-for-downloading-investigation-underway-as-music-and-metadata-hit-torrent-sites
    🎧 แฮ็กครั้งมโหฬาร: กลุ่ม Pirate Archivist ดูดข้อมูล Spotify 300TB ปล่อยทอร์เรนต์กว่า 86 ล้านไฟล์ เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในวงการสตรีมมิง เมื่อกลุ่ม Anna’s Archive ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะ “เงาแห่งห้องสมุดโลก” ได้ทำการสกัดข้อมูลจาก Spotify ในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยดึงไฟล์เพลงและเมทาดาทารวมกว่า 300TB ออกมาจากแพลตฟอร์ม พร้อมปล่อยเป็นทอร์เรนต์ให้ดาวน์โหลดอย่างเสรี การรั่วไหลครั้งนี้ครอบคลุมเพลงกว่า 86 ล้านไฟล์ คิดเป็นประมาณ 37% ของคลังเพลงทั้งหมด แต่ครอบคลุมถึง 99.9% ของยอดการฟังบนแพลตฟอร์ม ซึ่งสะท้อนว่าข้อมูลที่หลุดออกมาคือ “แก่นกลาง” ของ Spotify อย่างแท้จริง Spotify ยืนยันว่ามีการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และผู้โจมตีใช้วิธีหลบเลี่ยง DRM เพื่อดึงไฟล์เสียงต้นฉบับในรูปแบบ OGG Vorbis 160kbps ออกมา ขณะเดียวกันเมทาดาทากว่า 256 ล้านแถว รวมถึง ISRC ทั้ง 186 ล้านรายการ ก็ถูกนำไปสร้างเป็นฐานข้อมูลที่ค้นหาได้เต็มรูปแบบ ทำให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมการฟังเพลงทั่วโลกถูกเปิดเผยอย่างไม่เคยมีมาก่อน เช่น สัดส่วนเพลงที่แทบไม่มีคนฟัง หรือแนวโน้มความนิยมของเพลงที่มี BPM ประมาณ 120 ซึ่งเป็นจังหวะที่พบมากที่สุดบนแพลตฟอร์ม Anna’s Archive อ้างว่าการกระทำครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ “การอนุรักษ์ดนตรีของมนุษยชาติ” โดยมองว่า Spotify ให้ความสำคัญกับเพลงยอดนิยมมากเกินไป และคุณภาพเสียงที่ถูกบีบอัดก็ไม่เหมาะกับการเก็บถาวร พวกเขาจึงสร้างระบบทอร์เรนต์ที่จัดหมวดหมู่ตามความนิยม และใช้ฟอร์แมต AAC (Anna’s Archive Container) เพื่อแพ็กข้อมูลอย่างเป็นระบบ พร้อมทยอยปล่อยข้อมูลเป็นชุดใหญ่ในอนาคต ซึ่งอาจทำให้ผลกระทบของเหตุการณ์นี้ยังคงขยายตัวต่อไปอีกนาน ด้าน Spotify ระบุว่าบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีถูกปิดแล้ว และกำลังเพิ่มมาตรการป้องกันใหม่เพื่อรับมือการโจมตีลักษณะนี้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ได้เปิดประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยของแพลตฟอร์มสตรีมมิง และความเปราะบางของระบบ DRM ที่ถูกท้าทายอย่างรุนแรงจากกลุ่มผู้ต้องการ “ปลดปล่อยข้อมูล” สู่สาธารณะ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ขนาดการรั่วไหลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ➡️ ข้อมูลกว่า 300TB ถูกดูดออกจาก Spotify ➡️ รวมเพลงกว่า 86 ล้านไฟล์ ครอบคลุม 99.9% ของยอดฟังทั้งหมด ✅ ข้อมูลเชิงลึกที่ถูกเปิดเผย ➡️ เมทาดาทา 256 ล้านแถว และ ISRC 186 ล้านรายการ ➡️ ข้อมูลเผยว่า 70% ของเพลงแทบไม่มีคนฟัง และ BPM 120 คือจังหวะยอดนิยม ✅ การตอบสนองของ Spotify ➡️ ปิดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการโจมตี ➡️ เพิ่มมาตรการป้องกันใหม่และตรวจสอบพฤติกรรมต้องสงสัย ‼️ ความเสี่ยงและผลกระทบที่ต้องจับตา ⛔ การหลบเลี่ยง DRM อาจกระทบความเชื่อมั่นในระบบสตรีมมิง ⛔ การปล่อยข้อมูลเป็นชุดใหญ่ในอนาคตอาจทำให้ผลกระทบขยายวงกว้าง ⛔ อุตสาหกรรมดนตรีอาจเผชิญความเสียหายด้านลิขสิทธิ์ครั้งใหญ่ https://www.tomshardware.com/service-providers/streaming/pirate-archivist-group-scrapes-spotifys-300tb-library-posts-free-torrents-for-downloading-investigation-underway-as-music-and-metadata-hit-torrent-sites
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.49

    บรรทัดฐานทางกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยความตกลงหยุดยิงในฐานะเครื่องมือแห่งสันติภาพและความมั่นคงร่วมกัน

    ความตกลงหยุดยิงมิได้เป็นเพียงการวางอาวุธในเชิงสัญลักษณ์หรือความยินยอมชั่วคราวตามเจตจำนงของคู่ขัดแย้งเท่านั้นแต่ถือเป็นนิติกรรมทางกฎหมายระหว่างประเทศที่มีสถานะเป็นข้อตกลงอย่างเป็นทางการซึ่งมีผลผูกพันในทางกฎหมายอย่างมีนัยสำคัญภายใต้หลักการกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยความขัดแย้งทางอาวุธโดยสถานะของความตกลงหยุดยิงมักถูกตีความว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธีตามกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งกำหนดให้รัฐภาคีต้องพยายามหาทางออกผ่านการเจรจาและการประนีประนอมในทางนิติศาสตร์ข้อตกลงหยุดยิงเปรียบเสมือนสัญญาที่สร้างพื้นที่ปลอดการสู้รบและกำหนดพันธกรณีให้ฝ่ายต่างๆต้องยุติการรุกรานทั้งทางบกทางเรือและทางอากาศรวมถึงการกระทำใดๆที่เป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยของอีกฝ่ายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของพลเรือนซึ่งถือเป็นวัตถุประสงค์หลักของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศที่ต้องการคุ้มครองบุคคลที่มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรบโดยตรงข้อกำหนดในความตกลงหยุดยิงมักจะประกอบด้วยมาตรการเชิงโครงสร้างที่ชัดเจนเช่นการกำหนดเส้นแบ่งเขตหยุดยิงการจัดตั้งเขตปลอดทหารและการจัดวางกลไกตรวจสอบโดยบุคคลที่สามเพื่อสร้างความไว้วางใจและรับประกันว่าทุกฝ่ายจะปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัดโดยไม่แสวงหาความได้เปรียบทางยุทธวิธีในระหว่างที่การยิงสงบลง

    ในมิติด้านกฎหมายมหาชนความตกลงหยุดยิงมีลักษณะที่ซับซ้อนเนื่องจากต้องอาศัยการตีความพฤติการณ์และข้อเท็จจริงในพื้นที่เพื่อประเมินความรับผิดชอบในกรณีที่มีการละเมิดสัญญาการหยุดยิงมักมีรายละเอียดที่ครอบคลุมไปถึงการจำกัดความเคลื่อนไหวของกองกำลังการส่งตัวเชลยศึกกลับประเทศและการอนุญาตให้หน่วยงานบรรเทาทุกข์เข้าถึงพื้นที่เพื่อมนุษยธรรมซึ่งพันธกรณีเหล่านี้หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดฝ่าฝืนย่อมถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศที่อาจนำไปสู่การพิจารณาในเวทีสากลหรือศาลระหว่างประเทศได้การทำข้อตกลงหยุดยิงจึงเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบทางกฎหมายในการร่างข้อความที่รัดกุมเพื่อหลีกเลี่ยงการตีความที่คลาดเคลื่อนอันจะนำไปสู่การปะทุของความรุนแรงรอบใหม่โดยหัวใจสำคัญคือการยอมรับในหลักความเสมอภาคและการเคารพกฎกติกาที่ร่วมกันสร้างขึ้นซึ่งมิใช่เพียงเพื่อยุติเสียงปืนในวันนี้แต่เป็นการวางรากฐานทางกฎหมายและระเบียบวินัยทหารเพื่อนำไปสู่การเจรจาสันติภาพอย่างยั่งยืนในอนาคตอันใกล้การที่คู่ขัดแย้งตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการหยุดยิงจึงเป็นการยืนยันถึงความเคารพต่อกฎเกณฑ์ของสังคมโลกและการให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนเหนือผลประโยชน์ทางการเมืองระยะสั้นที่อาจแลกมาด้วยความสูญเสียอย่างประเมินค่ามิได้

    สรุปได้ว่าความตกลงหยุดยิงทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างภาวะสงครามกับสภาวะสันติภาพที่มั่นคงโดยมีกฎหมายเป็นรากฐานค้ำจุนความศักดิ์สิทธิ์ของข้อตกลงนั้นการหยุดยิงจึงไม่ใช่ความพ่ายแพ้ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่คือชัยชนะของเหตุผลและกระบวนการยุติธรรมที่มุ่งเน้นความปลอดภัยของมวลมนุษยชาติเหนือสิ่งอื่นใดความตกลงหยุดยิงในบริบทของพรมแดนไทยและกัมพูชาหรือพื้นที่ขัดแย้งใดๆในเอเชียล้วนเป็นประจักษ์พยานถึงความพยายามในการใช้กลไกทางกฎหมายเพื่อคลี่คลายวิกฤตการณ์และสร้างบรรยากาศแห่งการอยู่ร่วมกันโดยสันติซึ่งถือเป็นบรรทัดฐานอันสูงสุดที่รัฐอธิปไตยพึงยึดถือปฏิบัติเพื่อจรรโลงไว้ซึ่งสันติภาพโลกตามหลักสากลสืบไป
    บทความกฎหมาย EP.49 บรรทัดฐานทางกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยความตกลงหยุดยิงในฐานะเครื่องมือแห่งสันติภาพและความมั่นคงร่วมกัน ความตกลงหยุดยิงมิได้เป็นเพียงการวางอาวุธในเชิงสัญลักษณ์หรือความยินยอมชั่วคราวตามเจตจำนงของคู่ขัดแย้งเท่านั้นแต่ถือเป็นนิติกรรมทางกฎหมายระหว่างประเทศที่มีสถานะเป็นข้อตกลงอย่างเป็นทางการซึ่งมีผลผูกพันในทางกฎหมายอย่างมีนัยสำคัญภายใต้หลักการกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยความขัดแย้งทางอาวุธโดยสถานะของความตกลงหยุดยิงมักถูกตีความว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธีตามกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งกำหนดให้รัฐภาคีต้องพยายามหาทางออกผ่านการเจรจาและการประนีประนอมในทางนิติศาสตร์ข้อตกลงหยุดยิงเปรียบเสมือนสัญญาที่สร้างพื้นที่ปลอดการสู้รบและกำหนดพันธกรณีให้ฝ่ายต่างๆต้องยุติการรุกรานทั้งทางบกทางเรือและทางอากาศรวมถึงการกระทำใดๆที่เป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยของอีกฝ่ายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของพลเรือนซึ่งถือเป็นวัตถุประสงค์หลักของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศที่ต้องการคุ้มครองบุคคลที่มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรบโดยตรงข้อกำหนดในความตกลงหยุดยิงมักจะประกอบด้วยมาตรการเชิงโครงสร้างที่ชัดเจนเช่นการกำหนดเส้นแบ่งเขตหยุดยิงการจัดตั้งเขตปลอดทหารและการจัดวางกลไกตรวจสอบโดยบุคคลที่สามเพื่อสร้างความไว้วางใจและรับประกันว่าทุกฝ่ายจะปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัดโดยไม่แสวงหาความได้เปรียบทางยุทธวิธีในระหว่างที่การยิงสงบลง ในมิติด้านกฎหมายมหาชนความตกลงหยุดยิงมีลักษณะที่ซับซ้อนเนื่องจากต้องอาศัยการตีความพฤติการณ์และข้อเท็จจริงในพื้นที่เพื่อประเมินความรับผิดชอบในกรณีที่มีการละเมิดสัญญาการหยุดยิงมักมีรายละเอียดที่ครอบคลุมไปถึงการจำกัดความเคลื่อนไหวของกองกำลังการส่งตัวเชลยศึกกลับประเทศและการอนุญาตให้หน่วยงานบรรเทาทุกข์เข้าถึงพื้นที่เพื่อมนุษยธรรมซึ่งพันธกรณีเหล่านี้หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดฝ่าฝืนย่อมถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศที่อาจนำไปสู่การพิจารณาในเวทีสากลหรือศาลระหว่างประเทศได้การทำข้อตกลงหยุดยิงจึงเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบทางกฎหมายในการร่างข้อความที่รัดกุมเพื่อหลีกเลี่ยงการตีความที่คลาดเคลื่อนอันจะนำไปสู่การปะทุของความรุนแรงรอบใหม่โดยหัวใจสำคัญคือการยอมรับในหลักความเสมอภาคและการเคารพกฎกติกาที่ร่วมกันสร้างขึ้นซึ่งมิใช่เพียงเพื่อยุติเสียงปืนในวันนี้แต่เป็นการวางรากฐานทางกฎหมายและระเบียบวินัยทหารเพื่อนำไปสู่การเจรจาสันติภาพอย่างยั่งยืนในอนาคตอันใกล้การที่คู่ขัดแย้งตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการหยุดยิงจึงเป็นการยืนยันถึงความเคารพต่อกฎเกณฑ์ของสังคมโลกและการให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนเหนือผลประโยชน์ทางการเมืองระยะสั้นที่อาจแลกมาด้วยความสูญเสียอย่างประเมินค่ามิได้ สรุปได้ว่าความตกลงหยุดยิงทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างภาวะสงครามกับสภาวะสันติภาพที่มั่นคงโดยมีกฎหมายเป็นรากฐานค้ำจุนความศักดิ์สิทธิ์ของข้อตกลงนั้นการหยุดยิงจึงไม่ใช่ความพ่ายแพ้ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่คือชัยชนะของเหตุผลและกระบวนการยุติธรรมที่มุ่งเน้นความปลอดภัยของมวลมนุษยชาติเหนือสิ่งอื่นใดความตกลงหยุดยิงในบริบทของพรมแดนไทยและกัมพูชาหรือพื้นที่ขัดแย้งใดๆในเอเชียล้วนเป็นประจักษ์พยานถึงความพยายามในการใช้กลไกทางกฎหมายเพื่อคลี่คลายวิกฤตการณ์และสร้างบรรยากาศแห่งการอยู่ร่วมกันโดยสันติซึ่งถือเป็นบรรทัดฐานอันสูงสุดที่รัฐอธิปไตยพึงยึดถือปฏิบัติเพื่อจรรโลงไว้ซึ่งสันติภาพโลกตามหลักสากลสืบไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกรณีอากาศยานเฮลิคอปเตอร์แบบ ฮ.ท.212 ของกองทัพบก ประสบเหตุจำเป็นต้องลงฉุกเฉิน ขณะร่อนลง ณ สนามบินสุรินทร์ภักดี จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลาประมาณ 17.19 น. วันที่ 22 ธันวาคม 2568

    จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้กำลังพลประจำอากาศยานได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยรวม 4 นาย เจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมสถานการณ์และให้การช่วยเหลือโดยทันที ไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่แต่อย่างใด

    ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดถูกนำส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน โดยอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และอาการโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย

    ทั้งนี้ สาเหตุของเหตุการณ์อยู่ระหว่างการตรวจสอบโดยคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ตามระเบียบและขั้นตอนของกองทัพบก เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นธรรมในทุกมิติ โดยกองทัพภาคที่ 2 จะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป

    อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123388

    #News1live #News1 #กองทัพภาคที่2 #ฮ.เบลล์212 #สุรินทร์
    กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกรณีอากาศยานเฮลิคอปเตอร์แบบ ฮ.ท.212 ของกองทัพบก ประสบเหตุจำเป็นต้องลงฉุกเฉิน ขณะร่อนลง ณ สนามบินสุรินทร์ภักดี จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลาประมาณ 17.19 น. วันที่ 22 ธันวาคม 2568 จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้กำลังพลประจำอากาศยานได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยรวม 4 นาย เจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมสถานการณ์และให้การช่วยเหลือโดยทันที ไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่แต่อย่างใด ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดถูกนำส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน โดยอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และอาการโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย ทั้งนี้ สาเหตุของเหตุการณ์อยู่ระหว่างการตรวจสอบโดยคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ตามระเบียบและขั้นตอนของกองทัพบก เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นธรรมในทุกมิติ โดยกองทัพภาคที่ 2 จะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123388 #News1live #News1 #กองทัพภาคที่2 #ฮ.เบลล์212 #สุรินทร์
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 365 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251222 #TechRadar

    RAM ปลอมระบาดหนัก — ผู้ใช้ถูกหลอกด้วยสเปกเกินจริงและชิปรีไซเคิล
    รายงานเตือนว่าตลาดกำลังเผชิญปัญหา RAM ปลอมที่ถูกขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยผู้ผลิตเถื่อนใช้ชิปรีไซเคิลหรือชิปคุณภาพต่ำมารีแบรนด์เป็นรุ่นความเร็วสูง ทำให้ผู้ใช้พบอาการเครื่องล่ม ประสิทธิภาพตก หรืออายุการใช้งานสั้นลงอย่างมาก ปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะความต้องการ RAM ความเร็วสูงเพิ่มขึ้นจากงาน AI และเกมมิ่ง แต่ผู้ซื้อจำนวนมากไม่รู้วิธีตรวจสอบของแท้ ส่งผลให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสได้ง่าย
    https://www.techradar.com/computing/memory/watch-out-ram-rip-offs-are-now-in-vogue-so-heres-how-to-avoid-falling-for-high-end-memory-scams

    “Data คือเลือดหล่อเลี้ยงองค์กร” — Veeam ชี้ความมั่นคงของข้อมูลคือเงื่อนไขสำคัญของ AI
    CEO ของ Veeam อธิบายว่าทุกอุตสาหกรรมกำลังพึ่งพา AI มากขึ้น แต่ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นตาม ทั้งจากมัลแวร์ที่ใช้ AI, ปริมาณข้อมูลที่ไม่เป็นโครงสร้างมหาศาล และการขาดระบบควบคุมข้อมูลที่เชื่อถือได้ ทำให้หลายโปรเจกต์ล้มเหลว เขาย้ำว่า “ไม่มี AI หากไม่มีความปลอดภัยของข้อมูล” และชูแพลตฟอร์มของ Veeam ที่รวมความปลอดภัย การกำกับดูแล และความยืดหยุ่นของข้อมูลไว้ในระบบเดียว เพื่อให้ธุรกิจสามารถใช้ AI ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย
    https://www.techradar.com/pro/it-doesnt-matter-which-industry-you-belong-to-data-is-your-lifeblood-veeam-ceo-tells-us-why-getting-security-and-resiliency-right-is-the-key-to-unleashing-the-power-of-ai

    ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกสร้างใน “สภาพอากาศผิดประเภท” ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล
    รายงานใหม่เผยว่าเกือบ 7,000 จาก 8,808 ดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อุณหภูมิไม่เหมาะสมต่อการทำงาน (ต่ำกว่า 18°C หรือสูงกว่า 27°C) ทำให้ต้องใช้พลังงานในการทำความเย็นมากเกินจำเป็น โดยเฉพาะในประเทศร้อนอย่างสิงคโปร์ที่มีศูนย์ข้อมูลกว่า 1.4GW แม้อุณหภูมิแตะ 33°C ตลอดปี แนวโน้มนี้กำลังสร้างภาระต่อโครงข่ายไฟฟ้า และคาดว่าความต้องการพลังงานของดาต้าเซ็นเตอร์อาจเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวภายในปี 2030
    https://www.techradar.com/pro/no-wonder-theres-a-bubble-study-claims-nearly-all-of-the-worlds-data-centers-are-built-in-the-wrong-climate

    GhostPairing — เทคนิคใหม่ที่แฮ็ก WhatsApp ได้โดยไม่ต้องเจาะรหัสผ่าน
    นักวิจัยเตือนถึงการโจมตีแบบ GhostPairing ที่อาศัยฟีเจอร์ “Linked Devices” ของ WhatsApp เอง โดยหลอกเหยื่อผ่านลิงก์ปลอมให้กรอกเบอร์โทรและยืนยันรหัสเชื่อมอุปกรณ์ ทำให้แฮ็กเกอร์ผูกเบราว์เซอร์ของตนเข้ากับบัญชีเหยื่อได้ทันที เมื่อสำเร็จ ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อความ ส่งข้อความแทนเหยื่อ และดึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ วิธีตรวจสอบเดียวที่เชื่อถือได้คือเข้าไปดูรายชื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในเมนู Linked Devices แล้วลบสิ่งที่ไม่รู้จัก
    https://www.techradar.com/pro/whatsapp-user-warning-hackers-are-hijacking-accounts-without-any-need-to-crack-the-authentication-so-be-on-your-guard

    วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ กล่าวหา Big Tech ผลักภาระค่าไฟของศูนย์ข้อมูลให้ประชาชน
    วุฒิสมาชิก 3 คนส่งจดหมายถึงบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ถามเหตุผลที่ค่าไฟในพื้นที่ที่มีดาต้าเซ็นเตอร์จำนวนมากพุ่งสูงขึ้น แม้บริษัทจะอ้างว่ารับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง แต่โครงสร้างค่าไฟของรัฐกลับผลักต้นทุนการขยายโครงข่ายไฟฟ้าไปยังผู้ใช้ทั่วไป ขณะที่ศูนย์ข้อมูล AI สมัยใหม่ใช้ไฟระดับ “เมืองหนึ่งทั้งเมือง” ทำให้หลายรัฐต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเป็นพันล้านดอลลาร์
    https://www.techradar.com/pro/tech-companies-have-paid-lip-service-us-government-is-asking-ai-giants-why-data-centers-are-leading-to-rising-bills

    หลุดใหม่ชี้ Samsung Galaxy S26 จะเปิดตัวกุมภาพันธ์ แต่ขายจริงอาจต้องรอถึงมีนาคม
    ข้อมูลจากแหล่งข่าววงในระบุว่า Galaxy S26 Series จะเปิดตัวในงาน Unpacked เดือนกุมภาพันธ์ แต่จะวางขายจริงในเดือนมีนาคม ซึ่งช้ากว่ารุ่น S25 ที่เปิดตัวตั้งแต่มกราคม สาเหตุคาดว่ามาจากการปรับไลน์ผลิตภัณฑ์ เช่น การยกเลิก S26 Edge แล้วนำ S26+ กลับมา รวมถึงความไม่ลงตัวด้านชื่อรุ่นและสเปกภายใน ทำให้กำหนดการเลื่อนออกไปเล็กน้อย
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-leak-may-have-revealed-samsungs-launch-window-for-the-galaxy-s26-series-but-they-might-not-go-on-sale-right-away

    LG เปิดตัวเทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่ “Tandem WOLED / RGB Tandem 2.0” พร้อมรีแบรนด์ครั้งใหญ่
    LG Display เตรียมยกระดับตลาดทีวีและมอนิเตอร์ปี 2026 ด้วยการรีแบรนด์เทคโนโลยีจอเป็น “Tandem WOLED” และ “Tandem OLED” พร้อมโชว์ Primary RGB Tandem 2.0 ที่คาดว่าจะเพิ่มความสว่างและประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ โดยยังเผยพาเนลใหม่หลายรุ่น เช่น มอนิเตอร์โค้ง 39 นิ้ว 5K และจอ 27 นิ้วความหนาแน่นสูง ซึ่งทั้งหมดสะท้อนทิศทางการผลักดัน OLED ให้ตอบโจทย์ทั้งเกมมิ่งและทีวีระดับพรีเมียมในปีหน้า
    https://www.techradar.com/televisions/lg-announces-next-gen-version-of-its-best-oled-tv-tech-oh-and-its-changing-the-name

    Google Gemini กำลังจะเข้าไปอยู่ในตู้เย็น Samsung เพื่อช่วยจัดการอาหารและลดของเสีย
    Samsung เตรียมเปิดตัวตู้เย็น Bespoke AI Family Hub ที่ติดตั้ง Google Gemini ซึ่งจะใช้กล้องภายในวิเคราะห์อาหารที่มีอยู่ แนะนำเมนู แจ้งเตือนของใกล้หมดอายุ และจัดการพลังงานให้เหมาะสม รวมถึงรองรับสั่งงานด้วยเสียง ฟีเจอร์นี้อาจเป็นหนึ่งในตัวอย่างแรกของ “AI ในเครื่องใช้ไฟฟ้า” ที่ให้ประโยชน์จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมขยายไปยังตู้แช่ไวน์รุ่นใหม่ด้วย
    https://www.techradar.com/home/smart-home/google-gemini-is-now-heading-to-fridges-and-it-might-actually-be-useful

    ช่องโหว่ในแชตบอท Eurostar เกือบทำให้ข้อมูลลูกค้าเสี่ยงถูกโจมตี
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่าแชตบอท AI ของ Eurostar มีช่องโหว่หลายจุด เช่น การตรวจสอบข้อความย้อนหลังไม่ดีพอ ทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งอันตรายหรือสคริปต์ HTML ได้ แม้บริษัทจะยืนยันว่าข้อมูลลูกค้าไม่เคยเชื่อมต่อกับระบบนี้ แต่เหตุการณ์สะท้อนความเสี่ยงจากการนำ AI มาใช้เร็วเกินไปในองค์กร โดยเฉพาะเมื่อระบบยังไม่ผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างรัดกุม
    https://www.techradar.com/pro/security/eurostar-chatbot-security-flaws-almost-left-customers-exposed-to-data-theft-and-more

    NordVPN เปิดแพ็กเกจ OpenWrt แบบโอเพ่นซอร์สสำหรับเราท์เตอร์ ปรับแต่งได้ลึกระดับ sysadmin
    NordVPN เปิดตัวแพ็กเกจ Linux แบบ headless สำหรับ OpenWrt ช่วยให้ผู้ใช้ติดตั้ง VPN ครอบคลุมทั้งเครือข่ายได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับการตั้งค่าผ่านไฟล์ JSON และเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมอัตโนมัติผ่าน API สะท้อนทิศทางของ NordVPN ที่ผลักดันความโปร่งใสและโอเพ่นซอร์สอย่างจริงจัง รวมถึงเตรียมเพิ่ม UI แบบเว็บในอนาคตเพื่อให้เข้าถึงได้กว้างขึ้น
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nord-vpn-ups-its-game-in-open-source-with-linux-based-package-for-openwrt-routers

    Google ดึงอดีตพนักงานกลับเข้าบริษัทจำนวนมากเพื่อเร่งเกม AI
    รายงานเผยว่า 20% ของวิศวกร AI ที่ Google จ้างในปี 2025 เป็น “boomerang hires” หรืออดีตพนักงานที่กลับมาใหม่ สะท้อนการแข่งขันด้าน AI ที่รุนแรงจนบริษัทต้องดึงบุคลากรที่คุ้นเคยกับระบบภายในกลับมาเสริมทัพ พร้อมทั้งเพิ่มการดึงตัวจากคู่แข่งอย่าง Microsoft, Amazon และ Apple ขณะที่ตลาดยังจับตาว่า Google จะเร่งพัฒนา Gemini และโครงสร้างพื้นฐาน AI ให้ทันคู่แข่งได้เร็วเพียงใด
    https://www.techradar.com/pro/quite-a-few-of-the-ai-software-engineers-hired-by-google-in-2025-were-actually-ex-employees

    Google–Apple เตือนพนักงาน H‑1B หลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกสหรัฐ
    Google และ Apple ส่งสัญญาณเตือนพนักงานที่ถือวีซ่า H‑1B ให้หยุดเดินทางต่างประเทศชั่วคราว เพราะกระบวนการตรวจสอบวีซ่ากลับเข้าประเทศเข้มงวดขึ้นและอาจล่าช้านานหลายเดือน โดยเฉพาะหลังมาตรการตรวจสอบโซเชียลมีเดียใหม่ของรัฐบาล ทำให้หลายคนเสี่ยง “ติดค้าง” ต่างประเทศ ขณะเดียวกันสถานทูตบางแห่งมีคิวสัมภาษณ์ยาวถึง 12 เดือน สะท้อนแรงกดดันด้านนโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่กระทบแรงงานทักษะสูงจำนวนมาก
    https://www.techradar.com/pro/google-and-apple-employees-on-us-visas-apparently-told-to-avoid-international-travel

    ศาลสหรัฐบล็อกกฎหมายตรวจสอบอายุผู้ใช้โซเชียลของรัฐลุยเซียนา
    ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางมีคำสั่งระงับกฎหมาย Act 456 ของรัฐลุยเซียนาอย่างถาวร หลังพบว่ากฎหมายที่บังคับให้แพลตฟอร์มโซเชียลตรวจสอบอายุผู้ใช้ทุกคนและขอความยินยอมจากผู้ปกครองนั้นละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและสร้างความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว โดยศาลชี้ว่ารัฐไม่สามารถใช้อำนาจ “ควบคุมความคิดที่เด็กควรเข้าถึง” ได้ และมีวิธีปกป้องเด็กที่จำกัดสิทธิน้อยกว่านี้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/federal-judge-blocks-louisianas-social-media-age-verification-law-heres-why

    ผู้ให้บริการเทคโนโลยี NHS England ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์
    DXS International ผู้ให้บริการระบบข้อมูลให้ NHS England เปิดเผยว่าเผชิญเหตุแรนซัมแวร์โจมตีเซิร์ฟเวอร์สำนักงาน แม้บริการทางคลินิกยังทำงานได้ตามปกติ แต่กลุ่มแฮ็กเกอร์ DevMan อ้างว่าขโมยข้อมูลกว่า 300GB ซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกค่าไถ่หรือการรั่วไหลในอนาคต เหตุการณ์นี้สะท้อนความเสี่ยงต่อซัพพลายเชนด้านสาธารณสุขที่เคยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสหราชอาณาจักร
    https://www.techradar.com/pro/security/nhs-england-tech-provider-reveals-data-breach-dxs-international-hit-by-ransomware

    iRobot ยืนยัน Roomba ยังใช้งานได้ปกติหลังการเทกโอเวอร์
    หลัง iRobot ถูกเทกโอเวอร์โดยบริษัท Picea ท่ามกลางกระบวนการล้มละลาย ผู้ใช้ Roomba จำนวนมากกังวลเรื่องแอป การอัปเดต และการรับประกัน แต่ CEO ของ iRobot ออกมายืนยันว่าทุกอย่าง “ยังเป็นปกติ” ทั้งแอป การสนับสนุน และการอัปเดตเฟิร์มแวร์จะดำเนินต่อไป พร้อมเผยว่าบริษัทกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2026
    https://www.techradar.com/home/robot-vacuums/its-business-as-usual-the-app-is-working-warranties-will-be-honored-irobot-ceo-reassures-roomba-owners-following-takeover

    ChatGPT เพิ่มโหมดปรับบุคลิก เลือกได้ตั้งแต่สุภาพมืออาชีพถึงเพื่อนสายแซ่บ
    OpenAI เปิดตัวฟีเจอร์ Personalization ใหม่ใน ChatGPT ให้ผู้ใช้ปรับ “บุคลิก” ของโมเดลได้ เช่น ระดับความอบอุ่น ความกระตือรือร้น การใช้หัวข้อย่อย และอีโมจิ ทำให้ผู้ใช้ควบคุมโทนการตอบได้ละเอียดขึ้น ตั้งแต่สไตล์คอร์ปอเรตจริงจังไปจนถึงเพื่อนสนิทสายเมาท์ พร้อมผสานกับ Base Style เดิม เช่น Professional, Friendly หรือ Cynical เพื่อสร้างคาแรกเตอร์เฉพาะตัว
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-personality-settings-let-you-pick-the-vibe-and-it-ranges-from-corporate-calm-to-chaotic-bestie
    📌📡🟡 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟡📡📌 #รวมข่าวIT #20251222 #TechRadar 💾 RAM ปลอมระบาดหนัก — ผู้ใช้ถูกหลอกด้วยสเปกเกินจริงและชิปรีไซเคิล รายงานเตือนว่าตลาดกำลังเผชิญปัญหา RAM ปลอมที่ถูกขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยผู้ผลิตเถื่อนใช้ชิปรีไซเคิลหรือชิปคุณภาพต่ำมารีแบรนด์เป็นรุ่นความเร็วสูง ทำให้ผู้ใช้พบอาการเครื่องล่ม ประสิทธิภาพตก หรืออายุการใช้งานสั้นลงอย่างมาก ปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะความต้องการ RAM ความเร็วสูงเพิ่มขึ้นจากงาน AI และเกมมิ่ง แต่ผู้ซื้อจำนวนมากไม่รู้วิธีตรวจสอบของแท้ ส่งผลให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสได้ง่าย 🔗 https://www.techradar.com/computing/memory/watch-out-ram-rip-offs-are-now-in-vogue-so-heres-how-to-avoid-falling-for-high-end-memory-scams 🧠 “Data คือเลือดหล่อเลี้ยงองค์กร” — Veeam ชี้ความมั่นคงของข้อมูลคือเงื่อนไขสำคัญของ AI CEO ของ Veeam อธิบายว่าทุกอุตสาหกรรมกำลังพึ่งพา AI มากขึ้น แต่ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นตาม ทั้งจากมัลแวร์ที่ใช้ AI, ปริมาณข้อมูลที่ไม่เป็นโครงสร้างมหาศาล และการขาดระบบควบคุมข้อมูลที่เชื่อถือได้ ทำให้หลายโปรเจกต์ล้มเหลว เขาย้ำว่า “ไม่มี AI หากไม่มีความปลอดภัยของข้อมูล” และชูแพลตฟอร์มของ Veeam ที่รวมความปลอดภัย การกำกับดูแล และความยืดหยุ่นของข้อมูลไว้ในระบบเดียว เพื่อให้ธุรกิจสามารถใช้ AI ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย 🔗 https://www.techradar.com/pro/it-doesnt-matter-which-industry-you-belong-to-data-is-your-lifeblood-veeam-ceo-tells-us-why-getting-security-and-resiliency-right-is-the-key-to-unleashing-the-power-of-ai 🌡️ ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกสร้างใน “สภาพอากาศผิดประเภท” ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล รายงานใหม่เผยว่าเกือบ 7,000 จาก 8,808 ดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อุณหภูมิไม่เหมาะสมต่อการทำงาน (ต่ำกว่า 18°C หรือสูงกว่า 27°C) ทำให้ต้องใช้พลังงานในการทำความเย็นมากเกินจำเป็น โดยเฉพาะในประเทศร้อนอย่างสิงคโปร์ที่มีศูนย์ข้อมูลกว่า 1.4GW แม้อุณหภูมิแตะ 33°C ตลอดปี แนวโน้มนี้กำลังสร้างภาระต่อโครงข่ายไฟฟ้า และคาดว่าความต้องการพลังงานของดาต้าเซ็นเตอร์อาจเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวภายในปี 2030 🔗 https://www.techradar.com/pro/no-wonder-theres-a-bubble-study-claims-nearly-all-of-the-worlds-data-centers-are-built-in-the-wrong-climate 🕵️‍♂️ GhostPairing — เทคนิคใหม่ที่แฮ็ก WhatsApp ได้โดยไม่ต้องเจาะรหัสผ่าน นักวิจัยเตือนถึงการโจมตีแบบ GhostPairing ที่อาศัยฟีเจอร์ “Linked Devices” ของ WhatsApp เอง โดยหลอกเหยื่อผ่านลิงก์ปลอมให้กรอกเบอร์โทรและยืนยันรหัสเชื่อมอุปกรณ์ ทำให้แฮ็กเกอร์ผูกเบราว์เซอร์ของตนเข้ากับบัญชีเหยื่อได้ทันที เมื่อสำเร็จ ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อความ ส่งข้อความแทนเหยื่อ และดึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ วิธีตรวจสอบเดียวที่เชื่อถือได้คือเข้าไปดูรายชื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในเมนู Linked Devices แล้วลบสิ่งที่ไม่รู้จัก 🔗 https://www.techradar.com/pro/whatsapp-user-warning-hackers-are-hijacking-accounts-without-any-need-to-crack-the-authentication-so-be-on-your-guard ⚡ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ กล่าวหา Big Tech ผลักภาระค่าไฟของศูนย์ข้อมูลให้ประชาชน วุฒิสมาชิก 3 คนส่งจดหมายถึงบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ถามเหตุผลที่ค่าไฟในพื้นที่ที่มีดาต้าเซ็นเตอร์จำนวนมากพุ่งสูงขึ้น แม้บริษัทจะอ้างว่ารับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง แต่โครงสร้างค่าไฟของรัฐกลับผลักต้นทุนการขยายโครงข่ายไฟฟ้าไปยังผู้ใช้ทั่วไป ขณะที่ศูนย์ข้อมูล AI สมัยใหม่ใช้ไฟระดับ “เมืองหนึ่งทั้งเมือง” ทำให้หลายรัฐต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเป็นพันล้านดอลลาร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/tech-companies-have-paid-lip-service-us-government-is-asking-ai-giants-why-data-centers-are-leading-to-rising-bills 📱 หลุดใหม่ชี้ Samsung Galaxy S26 จะเปิดตัวกุมภาพันธ์ แต่ขายจริงอาจต้องรอถึงมีนาคม ข้อมูลจากแหล่งข่าววงในระบุว่า Galaxy S26 Series จะเปิดตัวในงาน Unpacked เดือนกุมภาพันธ์ แต่จะวางขายจริงในเดือนมีนาคม ซึ่งช้ากว่ารุ่น S25 ที่เปิดตัวตั้งแต่มกราคม สาเหตุคาดว่ามาจากการปรับไลน์ผลิตภัณฑ์ เช่น การยกเลิก S26 Edge แล้วนำ S26+ กลับมา รวมถึงความไม่ลงตัวด้านชื่อรุ่นและสเปกภายใน ทำให้กำหนดการเลื่อนออกไปเล็กน้อย 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-leak-may-have-revealed-samsungs-launch-window-for-the-galaxy-s26-series-but-they-might-not-go-on-sale-right-away 🖥️ LG เปิดตัวเทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่ “Tandem WOLED / RGB Tandem 2.0” พร้อมรีแบรนด์ครั้งใหญ่ LG Display เตรียมยกระดับตลาดทีวีและมอนิเตอร์ปี 2026 ด้วยการรีแบรนด์เทคโนโลยีจอเป็น “Tandem WOLED” และ “Tandem OLED” พร้อมโชว์ Primary RGB Tandem 2.0 ที่คาดว่าจะเพิ่มความสว่างและประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ โดยยังเผยพาเนลใหม่หลายรุ่น เช่น มอนิเตอร์โค้ง 39 นิ้ว 5K และจอ 27 นิ้วความหนาแน่นสูง ซึ่งทั้งหมดสะท้อนทิศทางการผลักดัน OLED ให้ตอบโจทย์ทั้งเกมมิ่งและทีวีระดับพรีเมียมในปีหน้า 🔗 https://www.techradar.com/televisions/lg-announces-next-gen-version-of-its-best-oled-tv-tech-oh-and-its-changing-the-name 🧊 Google Gemini กำลังจะเข้าไปอยู่ในตู้เย็น Samsung เพื่อช่วยจัดการอาหารและลดของเสีย Samsung เตรียมเปิดตัวตู้เย็น Bespoke AI Family Hub ที่ติดตั้ง Google Gemini ซึ่งจะใช้กล้องภายในวิเคราะห์อาหารที่มีอยู่ แนะนำเมนู แจ้งเตือนของใกล้หมดอายุ และจัดการพลังงานให้เหมาะสม รวมถึงรองรับสั่งงานด้วยเสียง ฟีเจอร์นี้อาจเป็นหนึ่งในตัวอย่างแรกของ “AI ในเครื่องใช้ไฟฟ้า” ที่ให้ประโยชน์จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมขยายไปยังตู้แช่ไวน์รุ่นใหม่ด้วย 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/google-gemini-is-now-heading-to-fridges-and-it-might-actually-be-useful 🚨 ช่องโหว่ในแชตบอท Eurostar เกือบทำให้ข้อมูลลูกค้าเสี่ยงถูกโจมตี นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่าแชตบอท AI ของ Eurostar มีช่องโหว่หลายจุด เช่น การตรวจสอบข้อความย้อนหลังไม่ดีพอ ทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งอันตรายหรือสคริปต์ HTML ได้ แม้บริษัทจะยืนยันว่าข้อมูลลูกค้าไม่เคยเชื่อมต่อกับระบบนี้ แต่เหตุการณ์สะท้อนความเสี่ยงจากการนำ AI มาใช้เร็วเกินไปในองค์กร โดยเฉพาะเมื่อระบบยังไม่ผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างรัดกุม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/eurostar-chatbot-security-flaws-almost-left-customers-exposed-to-data-theft-and-more 🔐 NordVPN เปิดแพ็กเกจ OpenWrt แบบโอเพ่นซอร์สสำหรับเราท์เตอร์ ปรับแต่งได้ลึกระดับ sysadmin NordVPN เปิดตัวแพ็กเกจ Linux แบบ headless สำหรับ OpenWrt ช่วยให้ผู้ใช้ติดตั้ง VPN ครอบคลุมทั้งเครือข่ายได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับการตั้งค่าผ่านไฟล์ JSON และเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมอัตโนมัติผ่าน API สะท้อนทิศทางของ NordVPN ที่ผลักดันความโปร่งใสและโอเพ่นซอร์สอย่างจริงจัง รวมถึงเตรียมเพิ่ม UI แบบเว็บในอนาคตเพื่อให้เข้าถึงได้กว้างขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nord-vpn-ups-its-game-in-open-source-with-linux-based-package-for-openwrt-routers 🔄 Google ดึงอดีตพนักงานกลับเข้าบริษัทจำนวนมากเพื่อเร่งเกม AI รายงานเผยว่า 20% ของวิศวกร AI ที่ Google จ้างในปี 2025 เป็น “boomerang hires” หรืออดีตพนักงานที่กลับมาใหม่ สะท้อนการแข่งขันด้าน AI ที่รุนแรงจนบริษัทต้องดึงบุคลากรที่คุ้นเคยกับระบบภายในกลับมาเสริมทัพ พร้อมทั้งเพิ่มการดึงตัวจากคู่แข่งอย่าง Microsoft, Amazon และ Apple ขณะที่ตลาดยังจับตาว่า Google จะเร่งพัฒนา Gemini และโครงสร้างพื้นฐาน AI ให้ทันคู่แข่งได้เร็วเพียงใด 🔗 https://www.techradar.com/pro/quite-a-few-of-the-ai-software-engineers-hired-by-google-in-2025-were-actually-ex-employees 🛂 Google–Apple เตือนพนักงาน H‑1B หลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกสหรัฐ Google และ Apple ส่งสัญญาณเตือนพนักงานที่ถือวีซ่า H‑1B ให้หยุดเดินทางต่างประเทศชั่วคราว เพราะกระบวนการตรวจสอบวีซ่ากลับเข้าประเทศเข้มงวดขึ้นและอาจล่าช้านานหลายเดือน โดยเฉพาะหลังมาตรการตรวจสอบโซเชียลมีเดียใหม่ของรัฐบาล ทำให้หลายคนเสี่ยง “ติดค้าง” ต่างประเทศ ขณะเดียวกันสถานทูตบางแห่งมีคิวสัมภาษณ์ยาวถึง 12 เดือน สะท้อนแรงกดดันด้านนโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่กระทบแรงงานทักษะสูงจำนวนมาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/google-and-apple-employees-on-us-visas-apparently-told-to-avoid-international-travel ⚖️ ศาลสหรัฐบล็อกกฎหมายตรวจสอบอายุผู้ใช้โซเชียลของรัฐลุยเซียนา ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางมีคำสั่งระงับกฎหมาย Act 456 ของรัฐลุยเซียนาอย่างถาวร หลังพบว่ากฎหมายที่บังคับให้แพลตฟอร์มโซเชียลตรวจสอบอายุผู้ใช้ทุกคนและขอความยินยอมจากผู้ปกครองนั้นละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและสร้างความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว โดยศาลชี้ว่ารัฐไม่สามารถใช้อำนาจ “ควบคุมความคิดที่เด็กควรเข้าถึง” ได้ และมีวิธีปกป้องเด็กที่จำกัดสิทธิน้อยกว่านี้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/federal-judge-blocks-louisianas-social-media-age-verification-law-heres-why 🏥 ผู้ให้บริการเทคโนโลยี NHS England ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ DXS International ผู้ให้บริการระบบข้อมูลให้ NHS England เปิดเผยว่าเผชิญเหตุแรนซัมแวร์โจมตีเซิร์ฟเวอร์สำนักงาน แม้บริการทางคลินิกยังทำงานได้ตามปกติ แต่กลุ่มแฮ็กเกอร์ DevMan อ้างว่าขโมยข้อมูลกว่า 300GB ซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกค่าไถ่หรือการรั่วไหลในอนาคต เหตุการณ์นี้สะท้อนความเสี่ยงต่อซัพพลายเชนด้านสาธารณสุขที่เคยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสหราชอาณาจักร 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/nhs-england-tech-provider-reveals-data-breach-dxs-international-hit-by-ransomware 🤖 iRobot ยืนยัน Roomba ยังใช้งานได้ปกติหลังการเทกโอเวอร์ หลัง iRobot ถูกเทกโอเวอร์โดยบริษัท Picea ท่ามกลางกระบวนการล้มละลาย ผู้ใช้ Roomba จำนวนมากกังวลเรื่องแอป การอัปเดต และการรับประกัน แต่ CEO ของ iRobot ออกมายืนยันว่าทุกอย่าง “ยังเป็นปกติ” ทั้งแอป การสนับสนุน และการอัปเดตเฟิร์มแวร์จะดำเนินต่อไป พร้อมเผยว่าบริษัทกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2026 🔗 https://www.techradar.com/home/robot-vacuums/its-business-as-usual-the-app-is-working-warranties-will-be-honored-irobot-ceo-reassures-roomba-owners-following-takeover 🎭 ChatGPT เพิ่มโหมดปรับบุคลิก เลือกได้ตั้งแต่สุภาพมืออาชีพถึงเพื่อนสายแซ่บ OpenAI เปิดตัวฟีเจอร์ Personalization ใหม่ใน ChatGPT ให้ผู้ใช้ปรับ “บุคลิก” ของโมเดลได้ เช่น ระดับความอบอุ่น ความกระตือรือร้น การใช้หัวข้อย่อย และอีโมจิ ทำให้ผู้ใช้ควบคุมโทนการตอบได้ละเอียดขึ้น ตั้งแต่สไตล์คอร์ปอเรตจริงจังไปจนถึงเพื่อนสนิทสายเมาท์ พร้อมผสานกับ Base Style เดิม เช่น Professional, Friendly หรือ Cynical เพื่อสร้างคาแรกเตอร์เฉพาะตัว 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-personality-settings-let-you-pick-the-vibe-and-it-ranges-from-corporate-calm-to-chaotic-bestie
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 388 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251222 #securityonline

    Dify Side-Door Exposure: ช่องโหว่เปิดคอนฟิกระบบ LLM ให้คนแปลกหน้าเห็น
    ช่องโหว่ CVE‑2025‑63387 ใน Dify เวอร์ชัน 1.9.1 เปิดให้ผู้ไม่ผ่านการยืนยันตัวตนเข้าถึง endpoint /console/api/system-features ได้โดยตรง ทำให้ข้อมูลคอนฟิกภายในของระบบ LLM ถูกเปิดเผยแบบไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นในการวางแผนโจมตีต่อเนื่อง แม้จะเป็นเพียงการรั่วไหลข้อมูล แต่ก็ถือเป็นความเสี่ยงระดับสูงสำหรับทีมที่กำลังนำ LLM ไปใช้งานจริงในสภาพแวดล้อมโปรดักชัน
    https://securityonline.info/ais-exposed-side-door-dify-flaw-cve-2025-63387-leaks-system-configs-to-anonymous-users

    BlueDelta’s Silent Shift: GRU ใช้บริการฟรีอย่าง ngrok และ Mocky ลอบขโมยอีเมลยูเครน
    กลุ่ม BlueDelta (APT28) ของรัสเซียปรับยุทธวิธีใหม่โดยใช้บริการฟรี เช่น Mocky, DNS EXIT และ ngrok เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับขโมยบัญชี UKR.NET ผ่าน PDF ล่อเหยื่อและหน้าเว็บปลอมที่ดักทั้งรหัสผ่านและ 2FA แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคนิคข้ามหน้าเตือนของ ngrok ด้วย header พิเศษ ทำให้การโจมตีแนบเนียนและตรวจจับยากขึ้น
    https://securityonline.info/the-grus-silent-shift-how-bluedelta-hijacks-ukrainian-webmail-using-ngrok-and-mocky

    Caminho to Compromise: BlindEagle ใช้อีเมลภายในรัฐโคลอมเบียโจมตีแบบเนียนกริบ
    BlindEagle (APT‑C‑36) ใช้บัญชีอีเมลภายในหน่วยงานรัฐโคลอมเบียที่ถูกยึดไปแล้ว ส่งฟิชชิงแนบ SVG เพื่อนำเหยื่อไปยังเว็บปลอมของศาลแรงงาน ก่อนเรียกใช้ JavaScript + PowerShell แบบ fileless และดาวน์โหลดภาพที่ซ่อนโค้ดผ่าน steganography เพื่อติดตั้ง Caminho downloader ซึ่งเชื่อมโยงตลาดมืดบราซิล และสุดท้ายดึง DCRAT ลงเครื่อง
    https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia

    DOCSWAP 2.0: Kimsuky ใช้ QR Code แพร่มัลแวร์มือถือเวอร์ชันใหม่
    Kimsuky กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเปิดตัว DOCSWAP รุ่นอัปเกรดที่แพร่ผ่าน QR code และ smishing เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งแอปปลอมบน Android ตัวมัลแวร์ใช้ native decryption และ decoy behavior ใหม่เพื่อหลบการวิเคราะห์ ก่อนปลดล็อก RAT ที่สามารถขโมยไฟล์ ควบคุมเครื่อง และส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์ พร้อมหลักฐานเชื่อมโยง DPRK ผ่านข้อความ “Million OK!!!” บนโครงสร้างพื้นฐาน
    https://securityonline.info/north-koreas-kimsuky-upgrades-docswap-malware-to-hijack-smartphones-via-qr-codes

    Shadows of the North: แผนที่โครงสร้างไซเบอร์ DPRK ที่เชื่อมโยงทุกกลุ่มเข้าด้วยกัน
    รายงานร่วมของ Hunt.io และ Acronis เปิดโปงโครงสร้างพื้นฐานไซเบอร์ของเกาหลีเหนือที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกันอย่างแน่นหนา โดยพบว่า Lazarus, Kimsuky และ Bluenoroff แม้จะมีภารกิจต่างกัน แต่กลับใช้เซิร์ฟเวอร์ เครื่องมือ และโครงสร้างเครือข่ายร่วมกันอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ staging servers, credential-harvesting nodes ไปจนถึง FRP tunneling และโครงสร้างที่ผูกกับใบรับรอง SSL เดียวกัน เผยให้เห็น ecosystem ที่ทำงานแบบ “รวมศูนย์” เพื่อการจารกรรม การขโมยเงิน และปฏิบัติการทำลายล้างในระดับรัฐ
    https://securityonline.info/shadows-of-the-north-unmasking-the-sprawling-cyber-infrastructure-of-the-dprk

    ResidentBat: สปายแวร์ KGB ที่ติดตั้งผ่านการยึดมือถือจริง ไม่ต้องพึ่ง zero‑click
    การสืบสวนโดย RESIDENT.NGO และ RSF พบว่า KGB เบลารุสใช้สปายแวร์ชื่อ ResidentBat ที่ติดตั้งด้วยการยึดโทรศัพท์จากนักข่าวและนักกิจกรรมระหว่างการสอบสวน ก่อนบังคับให้ปลดล็อกเครื่องเพื่อดู PIN จากนั้นเจ้าหน้าที่นำเครื่องออกไปติดตั้งแอปที่ขอสิทธิ์สูงถึง 38 รายการ รวมถึงการใช้ Accessibility Service เพื่ออ่านข้อความจากแอปเข้ารหัสอย่าง Signal และ Telegram ทำให้มือถือกลายเป็นอุปกรณ์สอดแนมเต็มรูปแบบที่สามารถบันทึกหน้าจอ คีย์บอร์ด และข้อมูลส่วนตัวทั้งหมด
    https://securityonline.info/the-kgbs-all-seeing-eye-how-residentbat-spyware-turns-seized-phones-into-total-surveillance-tools

    AuraStealer: มัลแวร์ที่หลอกให้เหยื่อ “แฮ็กตัวเอง” ผ่านคลิป TikTok
    AuraStealer มัลแวร์แบบ MaaS ที่กำลังระบาด ใช้กลยุทธ์ “Scam‑Yourself” โดยหลอกเหยื่อผ่านคลิป TikTok ที่สอนปลดล็อกซอฟต์แวร์เถื่อน เมื่อเหยื่อตามขั้นตอนและรันคำสั่ง PowerShell เอง มัลแวร์จะถูกดาวน์โหลดและรันทันที ตัวมันใช้เทคนิคป้องกันการวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น indirect control flow และ exception‑driven API hashing พร้อมความสามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์กว่า 110 ตัวและวอลเล็ตคริปโตจำนวนมาก แม้บางฟีเจอร์ยังทำงานไม่เสถียร แต่ความเสี่ยงยังสูงมาก
    https://securityonline.info/tiktoks-scam-yourself-trap-how-aurastealer-malware-tricks-users-into-hacking-their-own-pcs

    ClickFix Trap: หน้าตรวจสอบมนุษย์ปลอมที่นำไปสู่ Qilin Ransomware
    แคมเปญ ClickFix ใช้หน้า “ยืนยันว่าเป็นมนุษย์” ปลอมเพื่อหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลด batch file ที่ติดตั้ง NetSupport RAT จากนั้นผู้โจมตีใช้ RAT เพื่อดึง StealC V2 ลงเครื่อง ก่อนใช้ข้อมูลที่ขโมยได้เจาะ VPN ขององค์กรและปล่อย Qilin ransomware ซึ่งเป็นหนึ่งใน RaaS ที่ทำเหยื่อมากที่สุดในช่วงปี 2024–2025 โซ่การโจมตีนี้เริ่มจากสคริปต์บนเว็บที่ถูกแฮ็กและจบลงด้วยการเข้ารหัสระบบทั้งองค์กร
    https://securityonline.info/clickfix-trap-fake-human-verification-leads-to-qilin-ransomware-infection

    Cellik Android RAT: มัลแวร์ที่แฝงตัวในแอป Google Play อย่างแนบเนียน
    Cellik เป็น Android RAT แบบบริการเช่า ที่ให้ผู้โจมตีเลือกแอปจาก Google Play แล้ว “ฉีด” payload ลงไปผ่านระบบ APK Builder ทำให้แอปที่ดูปกติกลายเป็นเครื่องมือสอดแนมเต็มรูปแบบ มันรองรับการสตรีมหน้าจอแบบเรียลไทม์ ควบคุมเครื่องจากระยะไกล เปิดกล้อง/ไมค์ และใช้ hidden browser เพื่อทำธุรกรรมหรือขโมยข้อมูลโดยที่ผู้ใช้ไม่เห็นอะไรบนหน้าจอ ถือเป็นการยกระดับภัยคุกคามมือถือให้เข้าถึงได้แม้กับอาชญากรทักษะต่ำ
    https://securityonline.info/the-silent-hijacker-new-cellik-android-rat-turns-legitimate-google-play-apps-into-surveillance-tools

    110 Milliseconds of Truth: Amazon ใช้ “ดีเลย์คีย์บอร์ด” เปิดโปงสายลับเกาหลีเหนือ
    Amazon เปิดเผยปฏิบัติการสกัดแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือที่ปลอมตัวเป็นพนักงานรีโมต โดยใช้ “laptop farms” ในสหรัฐฯ เพื่อสมัครงานและแทรกซึมองค์กร ความผิดปกติถูกจับได้จากค่า latency การพิมพ์ที่สูงถึง 110 มิลลิวินาที ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการควบคุมเครื่องจากต่างประเทศ พร้อมสัญญาณอื่นอย่างภาษาอังกฤษที่ไม่เป็นธรรมชาติ เหตุการณ์นี้สะท้อนการเปลี่ยนยุทธวิธีของ DPRK ที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐฯ เพื่อหลบการตรวจจับ และ Amazon ระบุว่าพยายามโจมตีเพิ่มขึ้นกว่า 27% ต่อไตรมาส
    https://securityonline.info/110-milliseconds-of-truth-how-amazon-used-lag-to-catch-a-north-korean-spy

    Dify’s Exposed Side Door: ช่องโหว่เปิดให้คนแปลกหน้าดูค่าคอนฟิกระบบ AI ได้
    แพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส Dify รุ่น 1.9.1 ถูกพบช่องโหว่ CVE-2025-63387 ที่ปล่อยให้ผู้ใช้ไม่ต้องล็อกอินก็เข้าถึง endpoint /console/api/system-features ได้ ทำให้ข้อมูลคอนฟิกภายในหลุดออกสู่สาธารณะ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นของการโจมตีขั้นต่อไป ช่องโหว่นี้จัดเป็นระดับ High และเป็นตัวอย่างของความเสี่ยงเมื่อระบบ LLM ถูกนำไปใช้จริงโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์ที่เข้มงวด
    https://securityonline.info/ais-exposed-side-door-dify-flaw-cve-2025-63387-leaks-system-configs-to-anonymous-users

    BlueDelta’s Silent Shift: GRU ใช้ ngrok + Mocky ลอบขโมยอีเมลชาวยูเครน
    กลุ่ม BlueDelta (APT28) ของรัสเซียปรับยุทธวิธีใหม่ ใช้บริการฟรีอย่าง Mocky, DNS EXIT และ ngrok เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับขโมยบัญชี UKR.NET โดยแนบลิงก์ใน PDF เพื่อหลบระบบสแกนอีเมล ก่อนพาเหยื่อเข้าสู่เว็บปลอมที่ดักทั้งรหัสผ่านและ 2FA แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคนิคข้ามหน้าเตือนของ ngrok ผ่าน header พิเศษ แสดงให้เห็นการปรับตัวของ GRU หลังถูกกวาดล้างโครงสร้างพื้นฐานในปี 2024
    https://securityonline.info/the-grus-silent-shift-how-bluedelta-hijacks-ukrainian-webmail-using-ngrok-and-mocky

    “Caminho” to Compromise: BlindEagle ใช้อีเมลภายในรัฐโคลอมเบียโจมตีแบบเนียนกริบ
    BlindEagle (APT-C-36) ใช้บัญชีอีเมลภายในหน่วยงานรัฐโคลอมเบียที่ถูกยึดไปแล้ว ส่งฟิชชิงที่แนบ SVG เพื่อนำเหยื่อไปยังเว็บปลอมของศาลแรงงาน ก่อนเรียกใช้ JavaScript + PowerShell แบบ fileless และดาวน์โหลดภาพที่ซ่อนโค้ดผ่าน steganography เพื่อติดตั้ง Caminho downloader ซึ่งเชื่อมโยงกับตลาดมืดบราซิล และสุดท้ายดึง DCRAT ลงเครื่อง เหตุการณ์นี้สะท้อนการยกระดับความซับซ้อนของกลุ่มในภูมิภาคละตินอเมริกา
    https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia

    Kimsuky DOCSWAP 2.0: มัลแวร์มือถือเวอร์ชันใหม่ติดผ่าน QR Code
    Kimsuky กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเปิดตัว DOCSWAP รุ่นอัปเกรดที่แพร่ผ่าน QR code และ smishing เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งแอปปลอมบนมือถือ Android ตัวมัลแวร์ใช้ native decryption และ decoy behavior ใหม่เพื่อหลบการวิเคราะห์ ก่อนปลดล็อก RAT ที่สามารถขโมยไฟล์ ควบคุมเครื่อง และส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์ โดยมีหลักฐานเชื่อมโยงกับ DPRK ผ่านข้อความ “Million OK!!!” และคอมเมนต์ภาษาเกาหลีบนโครงสร้างพื้นฐาน
    https://securityonline.info/north-koreas-kimsuky-upgrades-docswap-malware-to-hijack-smartphones-via-qr-codes

    Exim’s Poisoned Record: แพตช์ที่พลาดเปิดช่อง SQL Injection สู่ Heap Overflow ระดับวิกฤต
    รายงานใหม่เผยว่า Exim 4.99 ยังมีช่องโหว่ลึกที่ไม่ได้รับการแก้ไขจากแพตช์ก่อนหน้า ทำให้ SQL injection ผ่านระบบ ratelimit สามารถนำไปสู่ heap overflow ขนาดใหญ่ถึง 1.5MB ซึ่งอาจเปิดทางสู่ RCE แม้ยังไม่ยืนยันเต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้เกิดจากการ sanitize คีย์ฐานข้อมูลไม่ครบถ้วนและการอ่านค่า bloom_size โดยไม่ตรวจสอบ ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถวาง “ระเบิดเวลา” ในฐานข้อมูลและทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มหรือถูกควบคุมได้ในบางเงื่อนไข
    https://securityonline.info/exims-poisoned-record-how-a-failed-patch-and-sql-injection-lead-to-critical-heap-overflows

    HPE OneView RCE: ช่องโหว่ CVSS 10.0 เปิดประตูให้รันคำสั่งโดยไม่ต้องล็อกอิน
    ช่องโหว่ร้ายแรงใน HPE OneView (CVE-2025-37164) เปิดให้ผู้โจมตีเรียกใช้ API ลับ /rest/id-pools/executeCommand ที่ตั้งค่าเป็น NO_AUTH ทำให้สามารถส่งคำสั่งระบบผ่าน Runtime.exec ได้ทันที นักวิจัยพบว่าเฉพาะบางเวอร์ชัน—โดยเฉพาะ OneView for VMs 6.x และ OneView for Synergy—ได้รับผลกระทบเต็มรูปแบบ และมี PoC พร้อมใช้งานแล้ว ทำให้ผู้ดูแลต้องเร่งอัปเดตหรือใช้ hotfix โดยด่วน
    https://securityonline.info/poc-available-unauthenticated-hpe-oneview-rce-cvss-10-0-exploits-hidden-id-pools-api

    Meta พลิกทิศ: หยุดพาร์ตเนอร์ VR เพื่อทุ่มทรัพยากรสู่แว่น AI
    Meta ตัดสินใจ “พัก” โครงการเปิด Horizon OS ให้ผู้ผลิตรายอื่น เช่น ASUS และ Lenovo หลังพบว่าทิศทางตลาด VR ยังไม่ชัดเจน ขณะที่แว่นอัจฉริยะอย่าง Ray-Ban Meta กลับเติบโตแรง บริษัทจึงหันไปโฟกัสฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของตัวเอง โดยเฉพาะสาย AI glasses และโปรเจกต์ Orion ซึ่งอาจเป็นเส้นทางสู่การใช้งานจริงในวงกว้างมากกว่า VR แบบเดิม
    https://securityonline.info/vr-vision-shift-meta-pauses-third-party-partnerships-to-pivot-toward-ai-smart-glasses

    Kimwolf Botnet: กองทัพ IoT 1.8 ล้านเครื่องที่ยิงทราฟฟิกแซง Google
    บอตเน็ต Kimwolf ที่โจมตีอุปกรณ์ Android TV และกล่องรับสัญญาณกว่า 1.8 ล้านเครื่องทั่วโลก ถูกพบว่าส่งคำสั่ง DDoS มากถึง 1.7 พันล้านครั้งในช่วงไม่กี่วัน ทำให้โดเมน C2 ของมันขึ้นอันดับหนึ่งบน Cloudflare DNS แซง Google ชั่วคราว มัลแวร์นี้ไม่เพียงยิง DDoS แต่ยังมี reverse shell และ proxy forwarding ทำให้ผู้โจมตีใช้เป็นฐานปฏิบัติการขยายผลได้อย่างกว้างขวาง
    https://securityonline.info/the-wolf-among-tvs-1-8-million-strong-kimwolf-botnet-surpasses-google-traffic-to-rule-the-iot

    Windows Server 2025 ปลดล็อก NVMe Native I/O เร็วขึ้น 70% ลดโหลด CPU เกือบครึ่ง
    Microsoft เปิดใช้ Native NVMe I/O ใน Windows Server 2025 ซึ่งตัดชั้นแปลคำสั่ง SCSI/SATA ออก ทำให้ IOPS เพิ่มขึ้นสูงสุด 70% และลด CPU load ได้ถึง 45% ในงาน I/O หนัก โดยเฉพาะฐานข้อมูลและงาน AI แม้ผลลัพธ์ในชุมชนยังหลากหลาย แต่การออกแบบ pipeline ใหม่ทั้งหมดบ่งชี้ว่าระบบที่ใช้ SSD PCIe 5.0 จะได้ประโยชน์สูงสุด
    https://securityonline.info/the-end-of-scsi-windows-server-2025-unlocks-70-faster-storage-with-native-nvme-i-o

    The $100M Stalker: เครือข่าย Nefilim ล่ม—แก๊ง Big Game Hunting สารภาพผิด
    คดีใหญ่ของกลุ่มแรนซัมแวร์ Nefilim เดินหน้าเข้าสู่ตอนสำคัญเมื่อ Artem Stryzhak แฮ็กเกอร์ชาวยูเครนยอมรับสารภาพว่ามีส่วนร่วมในปฏิบัติการโจมตีองค์กรรายได้เกิน 100–200 ล้านดอลลาร์ โดยใช้โมเดลแบ่งกำไรและระบบ “panel” ในการจัดการเหยื่อ พร้อมใช้กลยุทธ์ double extortion ขโมยข้อมูลก่อนล็อกไฟล์ ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ยังล่าตัวหัวโจกอีกคนพร้อมตั้งค่าหัว 11 ล้านดอลลาร์ สะท้อนความซับซ้อนและความระแวงภายในโลกอาชญากรรมไซเบอร์ที่กำลังถูกบีบเข้ามาเรื่อย ๆ
    https://securityonline.info/the-100m-stalker-nefilim-ransomware-affiliate-pleads-guilty-as-doj-hunts-fugitive-leader

    Microsoft ปิดฉาก Telephone Activation—เข้าสู่ยุคยืนยันสิทธิ์ผ่านเว็บเต็มรูปแบบ
    ไมโครซอฟท์ยุติระบบโทรศัพท์สำหรับการ Activate Windows/Office ที่เคยเป็นทางเลือกสำคัญในสภาพแวดล้อมออฟไลน์ โดยผู้ใช้ถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังพอร์ทัลออนไลน์แทน แม้ยังไม่ชัดเจนว่าการคำนวณ Activation ID แบบออฟไลน์ถูกยกเลิกจริงหรือเพียงย้ายไปอยู่บนเว็บ แต่การเปลี่ยนผ่านนี้อาจกระทบองค์กรที่ต้องการระบบ Activate แบบไม่พึ่งอินเทอร์เน็ต และสะท้อนทิศทางใหม่ที่เน้นการควบคุมผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น
    https://securityonline.info/hang-up-the-phone-microsoft-retires-telephone-activation-for-an-online-portal

    OpenAI เปิดสไลเดอร์ปรับ “อารมณ์” ChatGPT—ยุติภาพลักษณ์หุ่นยนต์
    OpenAI ปรับประสบการณ์ใช้งาน ChatGPT ครั้งใหญ่ด้วยตัวเลือกปรับโทนเสียง อารมณ์ การใช้หัวข้อ/ลิสต์ และจำนวนอีโมจิ เพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ใช้มองว่า GPT-5 เย็นชาเกินไปหรือบางครั้งก็ประจบเกินเหตุ การเปิดให้ผู้ใช้ควบคุมบุคลิกของโมเดลเองสะท้อนการเปลี่ยนผ่านจากโมเดลกลางสู่ประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม
    https://securityonline.info/the-end-of-robotic-ai-openai-unlocks-sliders-to-control-chatgpts-warmth-and-tone

    n8n เจอช่องโหว่ CVSS 10.0—Expression Injection พาไปสู่ยึดเซิร์ฟเวอร์เต็มตัว
    แพลตฟอร์ม workflow automation ยอดนิยม n8n เผชิญช่องโหว่ร้ายแรงระดับ 10.0 ที่เปิดทางให้ผู้ใช้ที่ล็อกอินได้สามารถฉีดโค้ดผ่านระบบ Expression Evaluation และหลุดออกจาก sandbox ไปสั่งคำสั่งระดับระบบปฏิบัติการ ส่งผลให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูล แก้ไข workflow หรือยึดเครื่องแม่ข่ายได้ทันที ผู้ดูแลระบบถูกเร่งให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 1.122.0 โดยด่วน
    https://securityonline.info/n8n-under-fire-critical-cvss-10-0-rce-vulnerability-grants-total-server-access

    Device Code Phishing: แฮ็กเกอร์ใช้ฟีเจอร์จริงของ Microsoft 365 เพื่อยึดบัญชี
    แคมเปญโจมตีรูปแบบใหม่ใช้ “Device Code” ซึ่งเป็นฟีเจอร์จริงของ Microsoft OAuth 2.0 หลอกให้เหยื่อกรอกรหัสบนเว็บ Microsoft ที่ถูกต้อง ทำให้แอปของผู้โจมตีได้รับสิทธิ์เข้าถึงบัญชีโดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน วิธีนี้หลบการตรวจสอบ URL ปลอมได้อย่างแนบเนียน และถูกใช้โดยทั้งกลุ่มรัฐหนุนและอาชญากรไซเบอร์เพื่อยึดบัญชีองค์กรในวงกว้าง
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/hackers-abuse-device-codes-to-bypass-security-and-seize-microsoft-365-accounts
    📌🔐🟡 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟡🔐📌 #รวมข่าวIT #20251222 #securityonline 🧩 Dify Side-Door Exposure: ช่องโหว่เปิดคอนฟิกระบบ LLM ให้คนแปลกหน้าเห็น ช่องโหว่ CVE‑2025‑63387 ใน Dify เวอร์ชัน 1.9.1 เปิดให้ผู้ไม่ผ่านการยืนยันตัวตนเข้าถึง endpoint /console/api/system-features ได้โดยตรง ทำให้ข้อมูลคอนฟิกภายในของระบบ LLM ถูกเปิดเผยแบบไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นในการวางแผนโจมตีต่อเนื่อง แม้จะเป็นเพียงการรั่วไหลข้อมูล แต่ก็ถือเป็นความเสี่ยงระดับสูงสำหรับทีมที่กำลังนำ LLM ไปใช้งานจริงในสภาพแวดล้อมโปรดักชัน 🔗 https://securityonline.info/ais-exposed-side-door-dify-flaw-cve-2025-63387-leaks-system-configs-to-anonymous-users 🎯 BlueDelta’s Silent Shift: GRU ใช้บริการฟรีอย่าง ngrok และ Mocky ลอบขโมยอีเมลยูเครน กลุ่ม BlueDelta (APT28) ของรัสเซียปรับยุทธวิธีใหม่โดยใช้บริการฟรี เช่น Mocky, DNS EXIT และ ngrok เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับขโมยบัญชี UKR.NET ผ่าน PDF ล่อเหยื่อและหน้าเว็บปลอมที่ดักทั้งรหัสผ่านและ 2FA แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคนิคข้ามหน้าเตือนของ ngrok ด้วย header พิเศษ ทำให้การโจมตีแนบเนียนและตรวจจับยากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/the-grus-silent-shift-how-bluedelta-hijacks-ukrainian-webmail-using-ngrok-and-mocky 📨 Caminho to Compromise: BlindEagle ใช้อีเมลภายในรัฐโคลอมเบียโจมตีแบบเนียนกริบ BlindEagle (APT‑C‑36) ใช้บัญชีอีเมลภายในหน่วยงานรัฐโคลอมเบียที่ถูกยึดไปแล้ว ส่งฟิชชิงแนบ SVG เพื่อนำเหยื่อไปยังเว็บปลอมของศาลแรงงาน ก่อนเรียกใช้ JavaScript + PowerShell แบบ fileless และดาวน์โหลดภาพที่ซ่อนโค้ดผ่าน steganography เพื่อติดตั้ง Caminho downloader ซึ่งเชื่อมโยงตลาดมืดบราซิล และสุดท้ายดึง DCRAT ลงเครื่อง 🔗 https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia 📱 DOCSWAP 2.0: Kimsuky ใช้ QR Code แพร่มัลแวร์มือถือเวอร์ชันใหม่ Kimsuky กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเปิดตัว DOCSWAP รุ่นอัปเกรดที่แพร่ผ่าน QR code และ smishing เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งแอปปลอมบน Android ตัวมัลแวร์ใช้ native decryption และ decoy behavior ใหม่เพื่อหลบการวิเคราะห์ ก่อนปลดล็อก RAT ที่สามารถขโมยไฟล์ ควบคุมเครื่อง และส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์ พร้อมหลักฐานเชื่อมโยง DPRK ผ่านข้อความ “Million OK!!!” บนโครงสร้างพื้นฐาน 🔗 https://securityonline.info/north-koreas-kimsuky-upgrades-docswap-malware-to-hijack-smartphones-via-qr-codes 🕶️ Shadows of the North: แผนที่โครงสร้างไซเบอร์ DPRK ที่เชื่อมโยงทุกกลุ่มเข้าด้วยกัน รายงานร่วมของ Hunt.io และ Acronis เปิดโปงโครงสร้างพื้นฐานไซเบอร์ของเกาหลีเหนือที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกันอย่างแน่นหนา โดยพบว่า Lazarus, Kimsuky และ Bluenoroff แม้จะมีภารกิจต่างกัน แต่กลับใช้เซิร์ฟเวอร์ เครื่องมือ และโครงสร้างเครือข่ายร่วมกันอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ staging servers, credential-harvesting nodes ไปจนถึง FRP tunneling และโครงสร้างที่ผูกกับใบรับรอง SSL เดียวกัน เผยให้เห็น ecosystem ที่ทำงานแบบ “รวมศูนย์” เพื่อการจารกรรม การขโมยเงิน และปฏิบัติการทำลายล้างในระดับรัฐ 🔗 https://securityonline.info/shadows-of-the-north-unmasking-the-sprawling-cyber-infrastructure-of-the-dprk 📱 ResidentBat: สปายแวร์ KGB ที่ติดตั้งผ่านการยึดมือถือจริง ไม่ต้องพึ่ง zero‑click การสืบสวนโดย RESIDENT.NGO และ RSF พบว่า KGB เบลารุสใช้สปายแวร์ชื่อ ResidentBat ที่ติดตั้งด้วยการยึดโทรศัพท์จากนักข่าวและนักกิจกรรมระหว่างการสอบสวน ก่อนบังคับให้ปลดล็อกเครื่องเพื่อดู PIN จากนั้นเจ้าหน้าที่นำเครื่องออกไปติดตั้งแอปที่ขอสิทธิ์สูงถึง 38 รายการ รวมถึงการใช้ Accessibility Service เพื่ออ่านข้อความจากแอปเข้ารหัสอย่าง Signal และ Telegram ทำให้มือถือกลายเป็นอุปกรณ์สอดแนมเต็มรูปแบบที่สามารถบันทึกหน้าจอ คีย์บอร์ด และข้อมูลส่วนตัวทั้งหมด 🔗 https://securityonline.info/the-kgbs-all-seeing-eye-how-residentbat-spyware-turns-seized-phones-into-total-surveillance-tools 🎭 AuraStealer: มัลแวร์ที่หลอกให้เหยื่อ “แฮ็กตัวเอง” ผ่านคลิป TikTok AuraStealer มัลแวร์แบบ MaaS ที่กำลังระบาด ใช้กลยุทธ์ “Scam‑Yourself” โดยหลอกเหยื่อผ่านคลิป TikTok ที่สอนปลดล็อกซอฟต์แวร์เถื่อน เมื่อเหยื่อตามขั้นตอนและรันคำสั่ง PowerShell เอง มัลแวร์จะถูกดาวน์โหลดและรันทันที ตัวมันใช้เทคนิคป้องกันการวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น indirect control flow และ exception‑driven API hashing พร้อมความสามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์กว่า 110 ตัวและวอลเล็ตคริปโตจำนวนมาก แม้บางฟีเจอร์ยังทำงานไม่เสถียร แต่ความเสี่ยงยังสูงมาก 🔗 https://securityonline.info/tiktoks-scam-yourself-trap-how-aurastealer-malware-tricks-users-into-hacking-their-own-pcs 🧪 ClickFix Trap: หน้าตรวจสอบมนุษย์ปลอมที่นำไปสู่ Qilin Ransomware แคมเปญ ClickFix ใช้หน้า “ยืนยันว่าเป็นมนุษย์” ปลอมเพื่อหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลด batch file ที่ติดตั้ง NetSupport RAT จากนั้นผู้โจมตีใช้ RAT เพื่อดึง StealC V2 ลงเครื่อง ก่อนใช้ข้อมูลที่ขโมยได้เจาะ VPN ขององค์กรและปล่อย Qilin ransomware ซึ่งเป็นหนึ่งใน RaaS ที่ทำเหยื่อมากที่สุดในช่วงปี 2024–2025 โซ่การโจมตีนี้เริ่มจากสคริปต์บนเว็บที่ถูกแฮ็กและจบลงด้วยการเข้ารหัสระบบทั้งองค์กร 🔗 https://securityonline.info/clickfix-trap-fake-human-verification-leads-to-qilin-ransomware-infection 🐾 Cellik Android RAT: มัลแวร์ที่แฝงตัวในแอป Google Play อย่างแนบเนียน Cellik เป็น Android RAT แบบบริการเช่า ที่ให้ผู้โจมตีเลือกแอปจาก Google Play แล้ว “ฉีด” payload ลงไปผ่านระบบ APK Builder ทำให้แอปที่ดูปกติกลายเป็นเครื่องมือสอดแนมเต็มรูปแบบ มันรองรับการสตรีมหน้าจอแบบเรียลไทม์ ควบคุมเครื่องจากระยะไกล เปิดกล้อง/ไมค์ และใช้ hidden browser เพื่อทำธุรกรรมหรือขโมยข้อมูลโดยที่ผู้ใช้ไม่เห็นอะไรบนหน้าจอ ถือเป็นการยกระดับภัยคุกคามมือถือให้เข้าถึงได้แม้กับอาชญากรทักษะต่ำ 🔗 https://securityonline.info/the-silent-hijacker-new-cellik-android-rat-turns-legitimate-google-play-apps-into-surveillance-tools 🕵️‍♀️ 110 Milliseconds of Truth: Amazon ใช้ “ดีเลย์คีย์บอร์ด” เปิดโปงสายลับเกาหลีเหนือ Amazon เปิดเผยปฏิบัติการสกัดแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือที่ปลอมตัวเป็นพนักงานรีโมต โดยใช้ “laptop farms” ในสหรัฐฯ เพื่อสมัครงานและแทรกซึมองค์กร ความผิดปกติถูกจับได้จากค่า latency การพิมพ์ที่สูงถึง 110 มิลลิวินาที ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการควบคุมเครื่องจากต่างประเทศ พร้อมสัญญาณอื่นอย่างภาษาอังกฤษที่ไม่เป็นธรรมชาติ เหตุการณ์นี้สะท้อนการเปลี่ยนยุทธวิธีของ DPRK ที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐฯ เพื่อหลบการตรวจจับ และ Amazon ระบุว่าพยายามโจมตีเพิ่มขึ้นกว่า 27% ต่อไตรมาส 🔗 https://securityonline.info/110-milliseconds-of-truth-how-amazon-used-lag-to-catch-a-north-korean-spy 🧩 Dify’s Exposed Side Door: ช่องโหว่เปิดให้คนแปลกหน้าดูค่าคอนฟิกระบบ AI ได้ แพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส Dify รุ่น 1.9.1 ถูกพบช่องโหว่ CVE-2025-63387 ที่ปล่อยให้ผู้ใช้ไม่ต้องล็อกอินก็เข้าถึง endpoint /console/api/system-features ได้ ทำให้ข้อมูลคอนฟิกภายในหลุดออกสู่สาธารณะ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นของการโจมตีขั้นต่อไป ช่องโหว่นี้จัดเป็นระดับ High และเป็นตัวอย่างของความเสี่ยงเมื่อระบบ LLM ถูกนำไปใช้จริงโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์ที่เข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/ais-exposed-side-door-dify-flaw-cve-2025-63387-leaks-system-configs-to-anonymous-users 🎯 BlueDelta’s Silent Shift: GRU ใช้ ngrok + Mocky ลอบขโมยอีเมลชาวยูเครน กลุ่ม BlueDelta (APT28) ของรัสเซียปรับยุทธวิธีใหม่ ใช้บริการฟรีอย่าง Mocky, DNS EXIT และ ngrok เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับขโมยบัญชี UKR.NET โดยแนบลิงก์ใน PDF เพื่อหลบระบบสแกนอีเมล ก่อนพาเหยื่อเข้าสู่เว็บปลอมที่ดักทั้งรหัสผ่านและ 2FA แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคนิคข้ามหน้าเตือนของ ngrok ผ่าน header พิเศษ แสดงให้เห็นการปรับตัวของ GRU หลังถูกกวาดล้างโครงสร้างพื้นฐานในปี 2024 🔗 https://securityonline.info/the-grus-silent-shift-how-bluedelta-hijacks-ukrainian-webmail-using-ngrok-and-mocky 📨 “Caminho” to Compromise: BlindEagle ใช้อีเมลภายในรัฐโคลอมเบียโจมตีแบบเนียนกริบ BlindEagle (APT-C-36) ใช้บัญชีอีเมลภายในหน่วยงานรัฐโคลอมเบียที่ถูกยึดไปแล้ว ส่งฟิชชิงที่แนบ SVG เพื่อนำเหยื่อไปยังเว็บปลอมของศาลแรงงาน ก่อนเรียกใช้ JavaScript + PowerShell แบบ fileless และดาวน์โหลดภาพที่ซ่อนโค้ดผ่าน steganography เพื่อติดตั้ง Caminho downloader ซึ่งเชื่อมโยงกับตลาดมืดบราซิล และสุดท้ายดึง DCRAT ลงเครื่อง เหตุการณ์นี้สะท้อนการยกระดับความซับซ้อนของกลุ่มในภูมิภาคละตินอเมริกา 🔗 https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia 📱 Kimsuky DOCSWAP 2.0: มัลแวร์มือถือเวอร์ชันใหม่ติดผ่าน QR Code Kimsuky กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเปิดตัว DOCSWAP รุ่นอัปเกรดที่แพร่ผ่าน QR code และ smishing เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งแอปปลอมบนมือถือ Android ตัวมัลแวร์ใช้ native decryption และ decoy behavior ใหม่เพื่อหลบการวิเคราะห์ ก่อนปลดล็อก RAT ที่สามารถขโมยไฟล์ ควบคุมเครื่อง และส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์ โดยมีหลักฐานเชื่อมโยงกับ DPRK ผ่านข้อความ “Million OK!!!” และคอมเมนต์ภาษาเกาหลีบนโครงสร้างพื้นฐาน 🔗 https://securityonline.info/north-koreas-kimsuky-upgrades-docswap-malware-to-hijack-smartphones-via-qr-codes 📡 Exim’s Poisoned Record: แพตช์ที่พลาดเปิดช่อง SQL Injection สู่ Heap Overflow ระดับวิกฤต รายงานใหม่เผยว่า Exim 4.99 ยังมีช่องโหว่ลึกที่ไม่ได้รับการแก้ไขจากแพตช์ก่อนหน้า ทำให้ SQL injection ผ่านระบบ ratelimit สามารถนำไปสู่ heap overflow ขนาดใหญ่ถึง 1.5MB ซึ่งอาจเปิดทางสู่ RCE แม้ยังไม่ยืนยันเต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้เกิดจากการ sanitize คีย์ฐานข้อมูลไม่ครบถ้วนและการอ่านค่า bloom_size โดยไม่ตรวจสอบ ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถวาง “ระเบิดเวลา” ในฐานข้อมูลและทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มหรือถูกควบคุมได้ในบางเงื่อนไข 🔗 https://securityonline.info/exims-poisoned-record-how-a-failed-patch-and-sql-injection-lead-to-critical-heap-overflows 🖥️ HPE OneView RCE: ช่องโหว่ CVSS 10.0 เปิดประตูให้รันคำสั่งโดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่ร้ายแรงใน HPE OneView (CVE-2025-37164) เปิดให้ผู้โจมตีเรียกใช้ API ลับ /rest/id-pools/executeCommand ที่ตั้งค่าเป็น NO_AUTH ทำให้สามารถส่งคำสั่งระบบผ่าน Runtime.exec ได้ทันที นักวิจัยพบว่าเฉพาะบางเวอร์ชัน—โดยเฉพาะ OneView for VMs 6.x และ OneView for Synergy—ได้รับผลกระทบเต็มรูปแบบ และมี PoC พร้อมใช้งานแล้ว ทำให้ผู้ดูแลต้องเร่งอัปเดตหรือใช้ hotfix โดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/poc-available-unauthenticated-hpe-oneview-rce-cvss-10-0-exploits-hidden-id-pools-api 🕶️ Meta พลิกทิศ: หยุดพาร์ตเนอร์ VR เพื่อทุ่มทรัพยากรสู่แว่น AI Meta ตัดสินใจ “พัก” โครงการเปิด Horizon OS ให้ผู้ผลิตรายอื่น เช่น ASUS และ Lenovo หลังพบว่าทิศทางตลาด VR ยังไม่ชัดเจน ขณะที่แว่นอัจฉริยะอย่าง Ray-Ban Meta กลับเติบโตแรง บริษัทจึงหันไปโฟกัสฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของตัวเอง โดยเฉพาะสาย AI glasses และโปรเจกต์ Orion ซึ่งอาจเป็นเส้นทางสู่การใช้งานจริงในวงกว้างมากกว่า VR แบบเดิม 🔗 https://securityonline.info/vr-vision-shift-meta-pauses-third-party-partnerships-to-pivot-toward-ai-smart-glasses 🐺 Kimwolf Botnet: กองทัพ IoT 1.8 ล้านเครื่องที่ยิงทราฟฟิกแซง Google บอตเน็ต Kimwolf ที่โจมตีอุปกรณ์ Android TV และกล่องรับสัญญาณกว่า 1.8 ล้านเครื่องทั่วโลก ถูกพบว่าส่งคำสั่ง DDoS มากถึง 1.7 พันล้านครั้งในช่วงไม่กี่วัน ทำให้โดเมน C2 ของมันขึ้นอันดับหนึ่งบน Cloudflare DNS แซง Google ชั่วคราว มัลแวร์นี้ไม่เพียงยิง DDoS แต่ยังมี reverse shell และ proxy forwarding ทำให้ผู้โจมตีใช้เป็นฐานปฏิบัติการขยายผลได้อย่างกว้างขวาง 🔗 https://securityonline.info/the-wolf-among-tvs-1-8-million-strong-kimwolf-botnet-surpasses-google-traffic-to-rule-the-iot ⚡ Windows Server 2025 ปลดล็อก NVMe Native I/O เร็วขึ้น 70% ลดโหลด CPU เกือบครึ่ง Microsoft เปิดใช้ Native NVMe I/O ใน Windows Server 2025 ซึ่งตัดชั้นแปลคำสั่ง SCSI/SATA ออก ทำให้ IOPS เพิ่มขึ้นสูงสุด 70% และลด CPU load ได้ถึง 45% ในงาน I/O หนัก โดยเฉพาะฐานข้อมูลและงาน AI แม้ผลลัพธ์ในชุมชนยังหลากหลาย แต่การออกแบบ pipeline ใหม่ทั้งหมดบ่งชี้ว่าระบบที่ใช้ SSD PCIe 5.0 จะได้ประโยชน์สูงสุด 🔗 https://securityonline.info/the-end-of-scsi-windows-server-2025-unlocks-70-faster-storage-with-native-nvme-i-o 🕵️‍♂️ The $100M Stalker: เครือข่าย Nefilim ล่ม—แก๊ง Big Game Hunting สารภาพผิด คดีใหญ่ของกลุ่มแรนซัมแวร์ Nefilim เดินหน้าเข้าสู่ตอนสำคัญเมื่อ Artem Stryzhak แฮ็กเกอร์ชาวยูเครนยอมรับสารภาพว่ามีส่วนร่วมในปฏิบัติการโจมตีองค์กรรายได้เกิน 100–200 ล้านดอลลาร์ โดยใช้โมเดลแบ่งกำไรและระบบ “panel” ในการจัดการเหยื่อ พร้อมใช้กลยุทธ์ double extortion ขโมยข้อมูลก่อนล็อกไฟล์ ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ยังล่าตัวหัวโจกอีกคนพร้อมตั้งค่าหัว 11 ล้านดอลลาร์ สะท้อนความซับซ้อนและความระแวงภายในโลกอาชญากรรมไซเบอร์ที่กำลังถูกบีบเข้ามาเรื่อย ๆ 🔗 https://securityonline.info/the-100m-stalker-nefilim-ransomware-affiliate-pleads-guilty-as-doj-hunts-fugitive-leader ☎️ Microsoft ปิดฉาก Telephone Activation—เข้าสู่ยุคยืนยันสิทธิ์ผ่านเว็บเต็มรูปแบบ ไมโครซอฟท์ยุติระบบโทรศัพท์สำหรับการ Activate Windows/Office ที่เคยเป็นทางเลือกสำคัญในสภาพแวดล้อมออฟไลน์ โดยผู้ใช้ถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังพอร์ทัลออนไลน์แทน แม้ยังไม่ชัดเจนว่าการคำนวณ Activation ID แบบออฟไลน์ถูกยกเลิกจริงหรือเพียงย้ายไปอยู่บนเว็บ แต่การเปลี่ยนผ่านนี้อาจกระทบองค์กรที่ต้องการระบบ Activate แบบไม่พึ่งอินเทอร์เน็ต และสะท้อนทิศทางใหม่ที่เน้นการควบคุมผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/hang-up-the-phone-microsoft-retires-telephone-activation-for-an-online-portal 🤖 OpenAI เปิดสไลเดอร์ปรับ “อารมณ์” ChatGPT—ยุติภาพลักษณ์หุ่นยนต์ OpenAI ปรับประสบการณ์ใช้งาน ChatGPT ครั้งใหญ่ด้วยตัวเลือกปรับโทนเสียง อารมณ์ การใช้หัวข้อ/ลิสต์ และจำนวนอีโมจิ เพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ใช้มองว่า GPT-5 เย็นชาเกินไปหรือบางครั้งก็ประจบเกินเหตุ การเปิดให้ผู้ใช้ควบคุมบุคลิกของโมเดลเองสะท้อนการเปลี่ยนผ่านจากโมเดลกลางสู่ประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม 🔗 https://securityonline.info/the-end-of-robotic-ai-openai-unlocks-sliders-to-control-chatgpts-warmth-and-tone ⚠️ n8n เจอช่องโหว่ CVSS 10.0—Expression Injection พาไปสู่ยึดเซิร์ฟเวอร์เต็มตัว แพลตฟอร์ม workflow automation ยอดนิยม n8n เผชิญช่องโหว่ร้ายแรงระดับ 10.0 ที่เปิดทางให้ผู้ใช้ที่ล็อกอินได้สามารถฉีดโค้ดผ่านระบบ Expression Evaluation และหลุดออกจาก sandbox ไปสั่งคำสั่งระดับระบบปฏิบัติการ ส่งผลให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูล แก้ไข workflow หรือยึดเครื่องแม่ข่ายได้ทันที ผู้ดูแลระบบถูกเร่งให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 1.122.0 โดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/n8n-under-fire-critical-cvss-10-0-rce-vulnerability-grants-total-server-access 🔐 Device Code Phishing: แฮ็กเกอร์ใช้ฟีเจอร์จริงของ Microsoft 365 เพื่อยึดบัญชี แคมเปญโจมตีรูปแบบใหม่ใช้ “Device Code” ซึ่งเป็นฟีเจอร์จริงของ Microsoft OAuth 2.0 หลอกให้เหยื่อกรอกรหัสบนเว็บ Microsoft ที่ถูกต้อง ทำให้แอปของผู้โจมตีได้รับสิทธิ์เข้าถึงบัญชีโดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน วิธีนี้หลบการตรวจสอบ URL ปลอมได้อย่างแนบเนียน และถูกใช้โดยทั้งกลุ่มรัฐหนุนและอาชญากรไซเบอร์เพื่อยึดบัญชีองค์กรในวงกว้าง ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/hackers-abuse-device-codes-to-bypass-security-and-seize-microsoft-365-accounts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 405 มุมมอง 0 รีวิว
  • NIST เตือนเซิร์ฟเวอร์เวลาใน Boulder อาจคลาดเคลื่อน — เมื่อ “เวลามาตรฐานของโลก” สะดุดเพราะไฟดับ

    เหตุขัดข้องครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อศูนย์ NIST ที่ Boulder, Colorado สูญเสียไฟฟ้าระดับยูทิลิตี้ในช่วงลมแรงที่ทำให้สายไฟเสียหายและมีการปิดระบบเพื่อป้องกันไฟป่า ผลกระทบหนักที่สุดคือการที่เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองล้มเหลวในจุดสำคัญของโซ่สัญญาณ ทำให้ atomic ensemble time scale NIST‑F4 ซึ่งเป็นหัวใจของ Internet Time Service หยุดทำงานชั่วคราว ส่งผลให้เซิร์ฟเวอร์ time‑a‑b ถึง time‑e‑b รวมถึง ntp‑b.nist.gov อาจให้เวลาที่ไม่ถูกต้อง

    แม้เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ยังตอบสนองคำขอ NTP ได้ แต่ NIST เตือนว่ามันอาจไม่ได้อ้างอิงแหล่งเวลาที่ถูกต้อง และอาจต้องปิดเซิร์ฟเวอร์บางตัวเพื่อป้องกันการกระจายเวลาที่ผิดพลาด ปัญหานี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากเหตุการณ์ที่ Gaithersburg ซึ่งทำให้เวลาคลาดเคลื่อนถึง –10 มิลลิวินาที แสดงให้เห็นว่าระบบเวลามาตรฐานของสหรัฐฯ กำลังเผชิญความเสี่ยงจากเหตุการณ์โครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น

    แม้ความคลาดเคลื่อนระดับไมโครวินาทีจะไม่กระทบผู้ใช้ทั่วไป แต่สำหรับระบบที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การเงิน 고‑frequency, การซิงก์ข้อมูลในดาต้าเซ็นเตอร์, ระบบไฟฟ้า, และ GPS — ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจสร้างความเสียหายเป็นลูกโซ่ได้ นี่คือเหตุผลที่ผู้ใช้งานระดับ critical ต้องตรวจสอบหลายแหล่งเวลาเสมอ และเหตุการณ์นี้ย้ำให้เห็นว่าการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานเพียงจุดเดียวเป็นความเสี่ยงเชิงระบบ

    NIST ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะกู้คืนระบบทั้งหมดเมื่อใด แต่ยืนยันว่าบริการ time.nist.gov ซึ่งใช้ round‑robin DNS และกระจายโหลดข้ามหลายภูมิภาคไม่ได้รับผลกระทบ เหตุการณ์นี้จึงเป็นสัญญาณเตือนว่าการออกแบบระบบเวลาในระดับประเทศต้องมีความทนทานต่อความล้มเหลวมากกว่าที่เป็นอยู่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เหตุไฟดับทำให้ระบบเวลาหลัก NIST‑F4 สะดุด
    เกิดจากลมแรงทำให้สายไฟเสียหายและระบบป้องกันไฟป่าตัดไฟ
    เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองล้มเหลวในตำแหน่งสำคัญของโซ่สัญญาณ

    เซิร์ฟเวอร์เวลาใน Boulder อาจให้เวลาคลาดเคลื่อน
    time‑a‑b ถึง time‑e‑b และ ntp‑b.nist.gov ได้รับผลกระทบ
    อาจต้องปิดเซิร์ฟเวอร์เพื่อป้องกันการกระจายเวลาที่ผิด

    บริการหลัก time.nist.gov ไม่ได้รับผลกระทบ
    ใช้ round‑robin DNS และกระจายโหลดหลายภูมิภาค
    ผู้ใช้ทั่วไปจึงไม่เห็นผลกระทบโดยตรง

    ความเสี่ยงเชิงระบบจากความคลาดเคลื่อนของเวลา
    กระทบระบบการเงิน, ดาต้าเซ็นเตอร์, พลังงาน, และ GPS
    ความผิดพลาดระดับไมโครวินาทีอาจสร้างผลกระทบเป็นลูกโซ่

    โครงสร้างพื้นฐานเวลาของประเทศยังเปราะบาง
    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองในเดือนเดียว
    การพึ่งพาแหล่งเวลาเดียวเป็นความเสี่ยงที่ต้องแก้ไข

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/nist-warns-of-potential-inaccuracies-on-boulder-time-servers-after-power-failure
    ⏱️ NIST เตือนเซิร์ฟเวอร์เวลาใน Boulder อาจคลาดเคลื่อน — เมื่อ “เวลามาตรฐานของโลก” สะดุดเพราะไฟดับ เหตุขัดข้องครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อศูนย์ NIST ที่ Boulder, Colorado สูญเสียไฟฟ้าระดับยูทิลิตี้ในช่วงลมแรงที่ทำให้สายไฟเสียหายและมีการปิดระบบเพื่อป้องกันไฟป่า ผลกระทบหนักที่สุดคือการที่เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองล้มเหลวในจุดสำคัญของโซ่สัญญาณ ทำให้ atomic ensemble time scale NIST‑F4 ซึ่งเป็นหัวใจของ Internet Time Service หยุดทำงานชั่วคราว ส่งผลให้เซิร์ฟเวอร์ time‑a‑b ถึง time‑e‑b รวมถึง ntp‑b.nist.gov อาจให้เวลาที่ไม่ถูกต้อง แม้เซิร์ฟเวอร์เหล่านี้ยังตอบสนองคำขอ NTP ได้ แต่ NIST เตือนว่ามันอาจไม่ได้อ้างอิงแหล่งเวลาที่ถูกต้อง และอาจต้องปิดเซิร์ฟเวอร์บางตัวเพื่อป้องกันการกระจายเวลาที่ผิดพลาด ปัญหานี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากเหตุการณ์ที่ Gaithersburg ซึ่งทำให้เวลาคลาดเคลื่อนถึง –10 มิลลิวินาที แสดงให้เห็นว่าระบบเวลามาตรฐานของสหรัฐฯ กำลังเผชิญความเสี่ยงจากเหตุการณ์โครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น แม้ความคลาดเคลื่อนระดับไมโครวินาทีจะไม่กระทบผู้ใช้ทั่วไป แต่สำหรับระบบที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การเงิน 고‑frequency, การซิงก์ข้อมูลในดาต้าเซ็นเตอร์, ระบบไฟฟ้า, และ GPS — ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจสร้างความเสียหายเป็นลูกโซ่ได้ นี่คือเหตุผลที่ผู้ใช้งานระดับ critical ต้องตรวจสอบหลายแหล่งเวลาเสมอ และเหตุการณ์นี้ย้ำให้เห็นว่าการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานเพียงจุดเดียวเป็นความเสี่ยงเชิงระบบ NIST ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะกู้คืนระบบทั้งหมดเมื่อใด แต่ยืนยันว่าบริการ time.nist.gov ซึ่งใช้ round‑robin DNS และกระจายโหลดข้ามหลายภูมิภาคไม่ได้รับผลกระทบ เหตุการณ์นี้จึงเป็นสัญญาณเตือนว่าการออกแบบระบบเวลาในระดับประเทศต้องมีความทนทานต่อความล้มเหลวมากกว่าที่เป็นอยู่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เหตุไฟดับทำให้ระบบเวลาหลัก NIST‑F4 สะดุด ➡️ เกิดจากลมแรงทำให้สายไฟเสียหายและระบบป้องกันไฟป่าตัดไฟ ➡️ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองล้มเหลวในตำแหน่งสำคัญของโซ่สัญญาณ ✅ เซิร์ฟเวอร์เวลาใน Boulder อาจให้เวลาคลาดเคลื่อน ➡️ time‑a‑b ถึง time‑e‑b และ ntp‑b.nist.gov ได้รับผลกระทบ ➡️ อาจต้องปิดเซิร์ฟเวอร์เพื่อป้องกันการกระจายเวลาที่ผิด ✅ บริการหลัก time.nist.gov ไม่ได้รับผลกระทบ ➡️ ใช้ round‑robin DNS และกระจายโหลดหลายภูมิภาค ➡️ ผู้ใช้ทั่วไปจึงไม่เห็นผลกระทบโดยตรง ‼️ ความเสี่ยงเชิงระบบจากความคลาดเคลื่อนของเวลา ⛔ กระทบระบบการเงิน, ดาต้าเซ็นเตอร์, พลังงาน, และ GPS ⛔ ความผิดพลาดระดับไมโครวินาทีอาจสร้างผลกระทบเป็นลูกโซ่ ‼️ โครงสร้างพื้นฐานเวลาของประเทศยังเปราะบาง ⛔ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองในเดือนเดียว ⛔ การพึ่งพาแหล่งเวลาเดียวเป็นความเสี่ยงที่ต้องแก้ไข https://www.tomshardware.com/tech-industry/nist-warns-of-potential-inaccuracies-on-boulder-time-servers-after-power-failure
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • Flock และ Cyble ใช้ข้อกล่าวหา “Cybercrime” เป็นอาวุธเพื่อปิดปากนักวิจารณ์

    ในเหตุการณ์ที่สะท้อนปัญหาความโปร่งใสของหน่วยงานรัฐและบริษัทเทคโนโลยี Cyble Inc. ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้ “Disrupt Cybercrime” ได้ยื่นรายงานเท็จต่อ Cloudflare เพื่อให้ลบเว็บไซต์ HaveIBeenFlocked ออกจากอินเทอร์เน็ต โดยอ้างว่ามีการ “ฟิชชิง” และ “ละเมิดเครื่องหมายการค้า” ทั้งที่เนื้อหาบนเว็บไซต์เป็นเพียงการเผยแพร่ข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับการใช้งานระบบเฝ้าระวังของ Flock

    รายงานที่ Cyble ส่งไปเต็มไปด้วยข้อกล่าวหาที่ไม่ชัดเจน ตั้งแต่การกล่าวหาว่าเว็บไซต์เป็นของปลอม ไปจนถึงการอ้างว่ามีการเผยแพร่ข้อมูลที่ “ได้มาจาก Flock” ทั้งที่ข้อมูลเหล่านั้นเป็นบันทึกสาธารณะอยู่แล้ว ผู้เขียนบทความตั้งข้อสังเกตว่าการกล่าวหาแบบหว่านแหเช่นนี้อาจเป็นความพยายามปิดปากผู้วิจารณ์มากกว่าจะเป็นการป้องกันภัยไซเบอร์จริงๆ

    Cloudflare เองตอบกลับด้วยคำขอให้แสดงหลักฐานว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลสาธารณะหรือได้รับความยินยอม ซึ่งผู้เขียนมองว่าเป็นคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเรื่องฟิชชิงเลยด้วยซ้ำ สุดท้ายเว็บไซต์ได้ย้ายออกจากโครงสร้างพื้นฐานของ Cloudflare และยังคงเผยแพร่ข้อมูลต่อไป โดยผู้เขียนย้ำว่าจะไม่ยอมให้การคุกคามเช่นนี้หยุดการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐและบริษัทเอกชน

    เหตุการณ์นี้สะท้อนแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก: บริษัทเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับระบบเฝ้าระวังพยายามใช้กฎหมายไซเบอร์หรือข้อกล่าวหาเท็จเพื่อปิดกั้นการตรวจสอบสาธารณะ ซึ่งเป็นประเด็นที่นักสิทธิมนุษยชนและองค์กรตรวจสอบหลายแห่งจับตามองอย่างใกล้ชิด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Cyble ส่งรายงานเท็จเพื่อให้ลบเว็บไซต์ออกจากอินเทอร์เน็ต
    กล่าวหาว่าเว็บไซต์ฟิชชิงและละเมิดเครื่องหมายการค้า
    ข้อกล่าวหาไม่สอดคล้องกับเนื้อหาจริงบนเว็บไซต์

    เป้าหมายคือการปิดปากผู้วิจารณ์ Flock
    เว็บไซต์เผยแพร่ข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับการใช้งานระบบเฝ้าระวัง
    การกล่าวหาอาจเป็นความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นจากการตรวจสอบ

    Cloudflare ขอหลักฐานเพิ่มเติมแต่ไม่ได้แก้ปัญหาที่แท้จริง
    คำถามของ Cloudflare ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเรื่องฟิชชิง
    เว็บไซต์จึงย้ายออกจากโครงสร้างพื้นฐานของ Cloudflare

    ความเสี่ยงต่อเสรีภาพในการตรวจสอบอำนาจรัฐและบริษัทเทคโนโลยี
    การใช้ข้อกล่าวหา “Cybercrime” แบบผิดๆ อาจกลายเป็นเครื่องมือปิดปากสาธารณะ
    แนวโน้มนี้อาจขยายไปสู่การคุกคามผู้สื่อข่าว นักวิจัย และนักสิทธิมนุษยชน

    ผลกระทบต่อความโปร่งใสของระบบเฝ้าระวัง
    หากบริษัทสามารถปิดกั้นข้อมูลได้ง่าย ความรับผิดชอบต่อสังคมจะลดลง
    สังคมอาจไม่สามารถตรวจสอบการใช้อำนาจที่เกินขอบเขตของรัฐหรือเอกชนได้

    https://haveibeenflocked.com/news/cyble-downtime
    🛡️ Flock และ Cyble ใช้ข้อกล่าวหา “Cybercrime” เป็นอาวุธเพื่อปิดปากนักวิจารณ์ ในเหตุการณ์ที่สะท้อนปัญหาความโปร่งใสของหน่วยงานรัฐและบริษัทเทคโนโลยี Cyble Inc. ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้ “Disrupt Cybercrime” ได้ยื่นรายงานเท็จต่อ Cloudflare เพื่อให้ลบเว็บไซต์ HaveIBeenFlocked ออกจากอินเทอร์เน็ต โดยอ้างว่ามีการ “ฟิชชิง” และ “ละเมิดเครื่องหมายการค้า” ทั้งที่เนื้อหาบนเว็บไซต์เป็นเพียงการเผยแพร่ข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับการใช้งานระบบเฝ้าระวังของ Flock รายงานที่ Cyble ส่งไปเต็มไปด้วยข้อกล่าวหาที่ไม่ชัดเจน ตั้งแต่การกล่าวหาว่าเว็บไซต์เป็นของปลอม ไปจนถึงการอ้างว่ามีการเผยแพร่ข้อมูลที่ “ได้มาจาก Flock” ทั้งที่ข้อมูลเหล่านั้นเป็นบันทึกสาธารณะอยู่แล้ว ผู้เขียนบทความตั้งข้อสังเกตว่าการกล่าวหาแบบหว่านแหเช่นนี้อาจเป็นความพยายามปิดปากผู้วิจารณ์มากกว่าจะเป็นการป้องกันภัยไซเบอร์จริงๆ Cloudflare เองตอบกลับด้วยคำขอให้แสดงหลักฐานว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลสาธารณะหรือได้รับความยินยอม ซึ่งผู้เขียนมองว่าเป็นคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเรื่องฟิชชิงเลยด้วยซ้ำ สุดท้ายเว็บไซต์ได้ย้ายออกจากโครงสร้างพื้นฐานของ Cloudflare และยังคงเผยแพร่ข้อมูลต่อไป โดยผู้เขียนย้ำว่าจะไม่ยอมให้การคุกคามเช่นนี้หยุดการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐและบริษัทเอกชน เหตุการณ์นี้สะท้อนแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก: บริษัทเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับระบบเฝ้าระวังพยายามใช้กฎหมายไซเบอร์หรือข้อกล่าวหาเท็จเพื่อปิดกั้นการตรวจสอบสาธารณะ ซึ่งเป็นประเด็นที่นักสิทธิมนุษยชนและองค์กรตรวจสอบหลายแห่งจับตามองอย่างใกล้ชิด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Cyble ส่งรายงานเท็จเพื่อให้ลบเว็บไซต์ออกจากอินเทอร์เน็ต ➡️ กล่าวหาว่าเว็บไซต์ฟิชชิงและละเมิดเครื่องหมายการค้า ➡️ ข้อกล่าวหาไม่สอดคล้องกับเนื้อหาจริงบนเว็บไซต์ ✅ เป้าหมายคือการปิดปากผู้วิจารณ์ Flock ➡️ เว็บไซต์เผยแพร่ข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับการใช้งานระบบเฝ้าระวัง ➡️ การกล่าวหาอาจเป็นความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นจากการตรวจสอบ ✅ Cloudflare ขอหลักฐานเพิ่มเติมแต่ไม่ได้แก้ปัญหาที่แท้จริง ➡️ คำถามของ Cloudflare ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเรื่องฟิชชิง ➡️ เว็บไซต์จึงย้ายออกจากโครงสร้างพื้นฐานของ Cloudflare ‼️ ความเสี่ยงต่อเสรีภาพในการตรวจสอบอำนาจรัฐและบริษัทเทคโนโลยี ⛔ การใช้ข้อกล่าวหา “Cybercrime” แบบผิดๆ อาจกลายเป็นเครื่องมือปิดปากสาธารณะ ⛔ แนวโน้มนี้อาจขยายไปสู่การคุกคามผู้สื่อข่าว นักวิจัย และนักสิทธิมนุษยชน ‼️ ผลกระทบต่อความโปร่งใสของระบบเฝ้าระวัง ⛔ หากบริษัทสามารถปิดกั้นข้อมูลได้ง่าย ความรับผิดชอบต่อสังคมจะลดลง ⛔ สังคมอาจไม่สามารถตรวจสอบการใช้อำนาจที่เกินขอบเขตของรัฐหรือเอกชนได้ https://haveibeenflocked.com/news/cyble-downtime
    HAVEIBEENFLOCKED.COM
    Have I Been Flocked? - License Plate Privacy Check
    Check if your license plate has been searched in the Flock mass surveillance database
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • GnuCash 5.14 อัปเดตใหญ่: เพิ่มการรองรับ US Bonds และยกระดับระบบดึงข้อมูลการเงิน

    GnuCash 5.14 มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญอย่างการรองรับ US Bonds ผ่านโมดูล Finance::Quote ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถดึงราคาของพันธบัตรสหรัฐฯ ประเภท E, EE และ I ได้โดยตรงจากแหล่งข้อมูลออนไลน์ การเพิ่มความสามารถนี้สะท้อนทิศทางของ GnuCash ที่ต้องการเป็นเครื่องมือบัญชีส่วนบุคคลและธุรกิจขนาดเล็กที่ตอบโจทย์การลงทุนยุคใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ใช้ที่ต้องการติดตามสินทรัพย์หลากหลายประเภทในพอร์ตเดียว

    การอัปเดตครั้งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามต่อเนื่องในการทำให้ GnuCash รองรับสินทรัพย์ทางการเงินที่ซับซ้อนขึ้น ซึ่งเป็นเทรนด์ที่เติบโตในปี 2025 เมื่อผู้ใช้ทั่วไปเริ่มลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น ทั้งเพื่อกระจายความเสี่ยงและเพื่อรับผลตอบแทนที่มั่นคงกว่าในสภาวะเศรษฐกิจผันผวน การรองรับ US Bonds จึงเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ GnuCash แข่งขันกับซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ได้ดีขึ้น

    นอกจากนี้ การอัปเดตยังคงเน้นความเสถียรและการแก้ไขบั๊กในหลายส่วน ซึ่งเป็นจุดแข็งของโครงการโอเพ่นซอร์สที่มีชุมชนผู้ใช้และผู้พัฒนาขนาดใหญ่ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องนี้ทำให้ GnuCash ยังคงเป็นหนึ่งในซอฟต์แวร์บัญชีฟรีที่ได้รับความนิยมสูงสุดบน Linux, Windows และ macOS โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการความโปร่งใสและความสามารถในการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังอย่างละเอียด

    ในภาพรวม GnuCash 5.14 เป็นอัปเดตที่แม้จะดูเล็ก แต่มีผลต่อผู้ใช้ที่ลงทุนในตราสารหนี้อย่างชัดเจน และยังเป็นสัญญาณว่าทีมพัฒนากำลังผลักดันให้ซอฟต์แวร์รองรับสินทรัพย์ทางการเงินที่หลากหลายขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้ทันกับความต้องการของผู้ใช้ยุคใหม่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ใน GnuCash 5.14
    รองรับ US Bonds (E, EE, I) ผ่าน Finance::Quote
    ดึงข้อมูลราคาพันธบัตรได้โดยตรงจากแหล่งข้อมูลออนไลน์

    ทิศทางการพัฒนา
    เน้นรองรับสินทรัพย์การเงินที่ซับซ้อนมากขึ้น
    ปรับปรุงเสถียรภาพและแก้ไขบั๊กอย่างต่อเนื่อง

    ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง
    การดึงข้อมูล Finance::Quote อาจขึ้นกับความพร้อมของแหล่งข้อมูลภายนอก
    ผู้ใช้ที่ไม่อัปเดตโมดูล Perl อาจพบปัญหาการดึงข้อมูล

    คำแนะนำสำหรับผู้ใช้
    อัปเดต GnuCash และ Finance::Quote ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลพันธบัตรก่อนบันทึกในบัญชี

    https://9to5linux.com/gnucash-5-14-open-source-accounting-software-adds-support-for-us-bonds
    💵 GnuCash 5.14 อัปเดตใหญ่: เพิ่มการรองรับ US Bonds และยกระดับระบบดึงข้อมูลการเงิน GnuCash 5.14 มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญอย่างการรองรับ US Bonds ผ่านโมดูล Finance::Quote ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถดึงราคาของพันธบัตรสหรัฐฯ ประเภท E, EE และ I ได้โดยตรงจากแหล่งข้อมูลออนไลน์ การเพิ่มความสามารถนี้สะท้อนทิศทางของ GnuCash ที่ต้องการเป็นเครื่องมือบัญชีส่วนบุคคลและธุรกิจขนาดเล็กที่ตอบโจทย์การลงทุนยุคใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ใช้ที่ต้องการติดตามสินทรัพย์หลากหลายประเภทในพอร์ตเดียว การอัปเดตครั้งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามต่อเนื่องในการทำให้ GnuCash รองรับสินทรัพย์ทางการเงินที่ซับซ้อนขึ้น ซึ่งเป็นเทรนด์ที่เติบโตในปี 2025 เมื่อผู้ใช้ทั่วไปเริ่มลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น ทั้งเพื่อกระจายความเสี่ยงและเพื่อรับผลตอบแทนที่มั่นคงกว่าในสภาวะเศรษฐกิจผันผวน การรองรับ US Bonds จึงเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ GnuCash แข่งขันกับซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ การอัปเดตยังคงเน้นความเสถียรและการแก้ไขบั๊กในหลายส่วน ซึ่งเป็นจุดแข็งของโครงการโอเพ่นซอร์สที่มีชุมชนผู้ใช้และผู้พัฒนาขนาดใหญ่ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องนี้ทำให้ GnuCash ยังคงเป็นหนึ่งในซอฟต์แวร์บัญชีฟรีที่ได้รับความนิยมสูงสุดบน Linux, Windows และ macOS โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการความโปร่งใสและความสามารถในการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังอย่างละเอียด ในภาพรวม GnuCash 5.14 เป็นอัปเดตที่แม้จะดูเล็ก แต่มีผลต่อผู้ใช้ที่ลงทุนในตราสารหนี้อย่างชัดเจน และยังเป็นสัญญาณว่าทีมพัฒนากำลังผลักดันให้ซอฟต์แวร์รองรับสินทรัพย์ทางการเงินที่หลากหลายขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้ทันกับความต้องการของผู้ใช้ยุคใหม่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน GnuCash 5.14 ➡️ รองรับ US Bonds (E, EE, I) ผ่าน Finance::Quote ➡️ ดึงข้อมูลราคาพันธบัตรได้โดยตรงจากแหล่งข้อมูลออนไลน์ ✅ ทิศทางการพัฒนา ➡️ เน้นรองรับสินทรัพย์การเงินที่ซับซ้อนมากขึ้น ➡️ ปรับปรุงเสถียรภาพและแก้ไขบั๊กอย่างต่อเนื่อง ‼️ ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง ⛔ การดึงข้อมูล Finance::Quote อาจขึ้นกับความพร้อมของแหล่งข้อมูลภายนอก ⛔ ผู้ใช้ที่ไม่อัปเดตโมดูล Perl อาจพบปัญหาการดึงข้อมูล ‼️ คำแนะนำสำหรับผู้ใช้ ⛔ อัปเดต GnuCash และ Finance::Quote ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด ⛔ ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลพันธบัตรก่อนบันทึกในบัญชี https://9to5linux.com/gnucash-5-14-open-source-accounting-software-adds-support-for-us-bonds
    9TO5LINUX.COM
    GnuCash 5.14 Open-Source Accounting Software Adds Support for US Bonds - 9to5Linux
    GnuCash 5.14 open-source, free, and cross-platform accounting software is now available for download with various improvements and bug fixes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • MPV 0.41 มาแล้ว: ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของวิดีโอเพลเยอร์สายโอเพ่นซอร์สบน Wayland

    MPV 0.41 เปิดตัวพร้อมการปรับปรุงสำคัญด้าน Wayland ซึ่งเป็นหัวใจของเดสก์ท็อป Linux ยุคใหม่ การอัปเดตครั้งนี้ช่วยให้การเรนเดอร์ภาพลื่นไหลขึ้น ลด input latency และแก้ปัญหาการจัดการหน้าต่างที่เคยเป็นข้อจำกัดในเวอร์ชันก่อนหน้า การพัฒนา Wayland ecosystem ที่เร็วขึ้นในปี 2025 ทำให้โปรเจกต์อย่าง MPV ต้องเร่งตามให้ทัน และเวอร์ชันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้เดสก์ท็อปสมัยใหม่ได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน

    อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่โดดเด่นคือการรองรับ Ambient Light Sensor (ALS) ผ่าน sysfs ซึ่งช่วยให้ MPV ปรับความสว่างของวิดีโอตามสภาพแสงรอบตัวได้อัตโนมัติ ฟีเจอร์นี้เคยพบในอุปกรณ์พกพาและระบบปฏิบัติการเชิงพาณิชย์ แต่กำลังเริ่มถูกนำมาใช้ใน Linux Desktop มากขึ้น โดยเฉพาะในแล็ปท็อปรุ่นใหม่ที่รองรับเซนเซอร์แบบมาตรฐาน ACPI และ ALS

    การอัปเดตครั้งนี้ยังสอดคล้องกับทิศทางของ MPV ที่เน้นการรองรับเทคโนโลยีภาพสมัยใหม่ เช่น HDR, tone‑mapping และ GPU scaling ซึ่งเริ่มถูกผลักดันอย่างจริงจังตั้งแต่เวอร์ชัน 0.39–0.40 การพัฒนาอย่างต่อเนื่องนี้ทำให้ MPV กลายเป็นหนึ่งในวิดีโอเพลเยอร์ที่นักรีวิวสาย Linux ยกให้เป็น “มาตรฐานทองคำ” สำหรับงานดูหนังคุณภาพสูงบนระบบโอเพ่นซอร์ส

    ในภาพรวม MPV 0.41 ไม่ได้เป็นเพียงอัปเดตเล็ก ๆ แต่เป็นการยืนยันว่าโปรเจกต์ยังคงเดินหน้าอย่างมั่นคง และพร้อมรองรับอนาคตของ Linux Desktop ที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ Wayland เต็มรูปแบบ ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความเข้ากันได้ และฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ยุคใหม่มากขึ้น

    ไฮไลต์ของ MPV 0.41
    ปรับปรุง Wayland ให้เสถียรและตอบสนองเร็วขึ้น
    รองรับ Ambient Light Sensor ผ่าน sysfs ALS

    ทิศทางการพัฒนา
    สอดคล้องกับการผลักดัน Wayland ใน Linux Desktop
    เดินหน้ารองรับ HDR และ GPU scaling อย่างต่อเนื่อง

    ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง
    ฟีเจอร์ ALS อาจใช้ไม่ได้ในฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า
    การเปลี่ยนผ่านสู่ Wayland อาจทำให้ปลั๊กอินหรือสคริปต์บางตัวต้องปรับตาม

    คำแนะนำสำหรับผู้ใช้
    อัปเดตไดรเวอร์ GPU ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อรองรับฟีเจอร์ใหม่
    ตรวจสอบการตั้งค่า Wayland หากพบปัญหา input หรือการเรนเดอร์

    https://9to5linux.com/mpv-0-41-open-source-video-player-released-with-improved-wayland-support
    🎬 MPV 0.41 มาแล้ว: ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของวิดีโอเพลเยอร์สายโอเพ่นซอร์สบน Wayland MPV 0.41 เปิดตัวพร้อมการปรับปรุงสำคัญด้าน Wayland ซึ่งเป็นหัวใจของเดสก์ท็อป Linux ยุคใหม่ การอัปเดตครั้งนี้ช่วยให้การเรนเดอร์ภาพลื่นไหลขึ้น ลด input latency และแก้ปัญหาการจัดการหน้าต่างที่เคยเป็นข้อจำกัดในเวอร์ชันก่อนหน้า การพัฒนา Wayland ecosystem ที่เร็วขึ้นในปี 2025 ทำให้โปรเจกต์อย่าง MPV ต้องเร่งตามให้ทัน และเวอร์ชันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้เดสก์ท็อปสมัยใหม่ได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่โดดเด่นคือการรองรับ Ambient Light Sensor (ALS) ผ่าน sysfs ซึ่งช่วยให้ MPV ปรับความสว่างของวิดีโอตามสภาพแสงรอบตัวได้อัตโนมัติ ฟีเจอร์นี้เคยพบในอุปกรณ์พกพาและระบบปฏิบัติการเชิงพาณิชย์ แต่กำลังเริ่มถูกนำมาใช้ใน Linux Desktop มากขึ้น โดยเฉพาะในแล็ปท็อปรุ่นใหม่ที่รองรับเซนเซอร์แบบมาตรฐาน ACPI และ ALS การอัปเดตครั้งนี้ยังสอดคล้องกับทิศทางของ MPV ที่เน้นการรองรับเทคโนโลยีภาพสมัยใหม่ เช่น HDR, tone‑mapping และ GPU scaling ซึ่งเริ่มถูกผลักดันอย่างจริงจังตั้งแต่เวอร์ชัน 0.39–0.40 การพัฒนาอย่างต่อเนื่องนี้ทำให้ MPV กลายเป็นหนึ่งในวิดีโอเพลเยอร์ที่นักรีวิวสาย Linux ยกให้เป็น “มาตรฐานทองคำ” สำหรับงานดูหนังคุณภาพสูงบนระบบโอเพ่นซอร์ส ในภาพรวม MPV 0.41 ไม่ได้เป็นเพียงอัปเดตเล็ก ๆ แต่เป็นการยืนยันว่าโปรเจกต์ยังคงเดินหน้าอย่างมั่นคง และพร้อมรองรับอนาคตของ Linux Desktop ที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ Wayland เต็มรูปแบบ ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความเข้ากันได้ และฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ยุคใหม่มากขึ้น ✅ ไฮไลต์ของ MPV 0.41 ➡️ ปรับปรุง Wayland ให้เสถียรและตอบสนองเร็วขึ้น ➡️ รองรับ Ambient Light Sensor ผ่าน sysfs ALS ✅ ทิศทางการพัฒนา ➡️ สอดคล้องกับการผลักดัน Wayland ใน Linux Desktop ➡️ เดินหน้ารองรับ HDR และ GPU scaling อย่างต่อเนื่อง ‼️ ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง ⛔ ฟีเจอร์ ALS อาจใช้ไม่ได้ในฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า ⛔ การเปลี่ยนผ่านสู่ Wayland อาจทำให้ปลั๊กอินหรือสคริปต์บางตัวต้องปรับตาม ‼️ คำแนะนำสำหรับผู้ใช้ ⛔ อัปเดตไดรเวอร์ GPU ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อรองรับฟีเจอร์ใหม่ ⛔ ตรวจสอบการตั้งค่า Wayland หากพบปัญหา input หรือการเรนเดอร์ https://9to5linux.com/mpv-0-41-open-source-video-player-released-with-improved-wayland-support
    9TO5LINUX.COM
    MPV 0.41 Open-Source Video Player Released with Improved Wayland Support - 9to5Linux
    MPV 0.41 open-source media player is now available for download with improved Wayland support and ambient light support on Linux.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
  • Linux Gaming พุ่งแรงรับปลายปี: 13 เกมเด่นใน Steam Winter Sale ที่คอ Linux ไม่ควรพลาด

    Steam Winter Sale ปี 2025 กลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของวงการเกมบน Linux เพราะจำนวนเกมที่รองรับ Proton และ Steam Deck เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ใช้ Linux สามารถเข้าถึงเกมระดับ AAA ได้มากกว่ายุคก่อนหลายเท่า รายชื่อเกมที่ถูกคัดมาบนหน้าเว็บนี้สะท้อนภาพรวมของ ecosystem ที่โตขึ้นอย่างชัดเจน ตั้งแต่เกมอินดี้ราคาประหยัดไปจนถึงเกมฟอร์มยักษ์ที่เคยเป็นไปไม่ได้สำหรับ Linux เมื่อหลายปีก่อน

    สิ่งที่โดดเด่นคือเกมหลากหลายแนว ทั้ง RPG, Survival Horror, Extraction Shooter, Sandbox และ Adventure ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับสถานะ Verified บน Steam Deck แสดงให้เห็นว่าการปรับแต่ง compatibility layer อย่าง Proton ทำงานได้ดีขึ้นมาก นอกจากนี้ เกมอย่าง Dying Light, The Last of Us Part I และ Metal Gear Solid Δ ยังเป็นตัวอย่างของเกมที่แม้ไม่รองรับ Linux แบบ native แต่ก็เล่นได้ดีผ่าน Proton ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องเลือกเกมตามระบบปฏิบัติการอีกต่อไปเหมือนในอดีต

    อีกเทรนด์ที่น่าสนใจคือเกมอินดี้คุณภาพสูง เช่น Tiny Glade, R.E.P.O., และ Escape From Duckov ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในชุมชน Linux เพราะราคาเข้าถึงง่ายและรองรับ Steam Deck ได้ดี การเติบโตของเกมอินดี้สะท้อนความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมที่เปิดกว้างขึ้นสำหรับนักพัฒนาเล็ก ๆ ที่ไม่ต้องพึ่ง engine หรือระบบ DRM ที่ผูกกับ Windows แบบเดิม ๆ

    ท้ายที่สุด รายการนี้ยังชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้ Linux มีตัวเลือกมากขึ้นกว่าเดิมมาก ทั้งเกม native และเกมที่เล่นผ่าน Proton โดยมีส่วนลดแรงในช่วง Winter Sale ทำให้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการขยายคลังเกมของผู้ใช้ Linux โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ใช้ Steam Deck หรือเครื่อง Linux แบบ custom build

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เทรนด์ Linux Gaming ปี 2025
    Proton และ Steam Deck ทำให้เกม AAA เล่นได้ง่ายขึ้น
    เกมอินดี้คุณภาพสูงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

    เกมเด่นที่ลดราคาแรง
    The Last of Us Part I, Dying Light, Expedition 33 ลดสูงสุดถึง 50–85%
    เกม native Linux เช่น Tiny Glade และ Dying Light (ภาคแรก) ทำงานได้ดีมาก

    ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง
    เกมบางเกมยังเป็น “Unsupported” บน Steam Deck เช่น Mafia: The Old Country และ MGS Δ
    ประสบการณ์การเล่นอาจขึ้นกับเวอร์ชัน Proton และสเปกเครื่อง

    คำแนะนำก่อนซื้อ
    ตรวจสอบ ProtonDB ก่อนซื้อเกม AAA
    อัปเดต SteamOS/Proton ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อความเสถียร

    https://itsfoss.com/news/linux-games-steam-winter-sale-2025/
    🎮 Linux Gaming พุ่งแรงรับปลายปี: 13 เกมเด่นใน Steam Winter Sale ที่คอ Linux ไม่ควรพลาด Steam Winter Sale ปี 2025 กลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของวงการเกมบน Linux เพราะจำนวนเกมที่รองรับ Proton และ Steam Deck เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ใช้ Linux สามารถเข้าถึงเกมระดับ AAA ได้มากกว่ายุคก่อนหลายเท่า รายชื่อเกมที่ถูกคัดมาบนหน้าเว็บนี้สะท้อนภาพรวมของ ecosystem ที่โตขึ้นอย่างชัดเจน ตั้งแต่เกมอินดี้ราคาประหยัดไปจนถึงเกมฟอร์มยักษ์ที่เคยเป็นไปไม่ได้สำหรับ Linux เมื่อหลายปีก่อน สิ่งที่โดดเด่นคือเกมหลากหลายแนว ทั้ง RPG, Survival Horror, Extraction Shooter, Sandbox และ Adventure ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับสถานะ Verified บน Steam Deck แสดงให้เห็นว่าการปรับแต่ง compatibility layer อย่าง Proton ทำงานได้ดีขึ้นมาก นอกจากนี้ เกมอย่าง Dying Light, The Last of Us Part I และ Metal Gear Solid Δ ยังเป็นตัวอย่างของเกมที่แม้ไม่รองรับ Linux แบบ native แต่ก็เล่นได้ดีผ่าน Proton ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องเลือกเกมตามระบบปฏิบัติการอีกต่อไปเหมือนในอดีต อีกเทรนด์ที่น่าสนใจคือเกมอินดี้คุณภาพสูง เช่น Tiny Glade, R.E.P.O., และ Escape From Duckov ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในชุมชน Linux เพราะราคาเข้าถึงง่ายและรองรับ Steam Deck ได้ดี การเติบโตของเกมอินดี้สะท้อนความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมที่เปิดกว้างขึ้นสำหรับนักพัฒนาเล็ก ๆ ที่ไม่ต้องพึ่ง engine หรือระบบ DRM ที่ผูกกับ Windows แบบเดิม ๆ ท้ายที่สุด รายการนี้ยังชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้ Linux มีตัวเลือกมากขึ้นกว่าเดิมมาก ทั้งเกม native และเกมที่เล่นผ่าน Proton โดยมีส่วนลดแรงในช่วง Winter Sale ทำให้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการขยายคลังเกมของผู้ใช้ Linux โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ใช้ Steam Deck หรือเครื่อง Linux แบบ custom build 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เทรนด์ Linux Gaming ปี 2025 ➡️ Proton และ Steam Deck ทำให้เกม AAA เล่นได้ง่ายขึ้น ➡️ เกมอินดี้คุณภาพสูงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ✅ เกมเด่นที่ลดราคาแรง ➡️ The Last of Us Part I, Dying Light, Expedition 33 ลดสูงสุดถึง 50–85% ➡️ เกม native Linux เช่น Tiny Glade และ Dying Light (ภาคแรก) ทำงานได้ดีมาก ‼️ ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง ⛔ เกมบางเกมยังเป็น “Unsupported” บน Steam Deck เช่น Mafia: The Old Country และ MGS Δ ⛔ ประสบการณ์การเล่นอาจขึ้นกับเวอร์ชัน Proton และสเปกเครื่อง ‼️ คำแนะนำก่อนซื้อ ⛔ ตรวจสอบ ProtonDB ก่อนซื้อเกม AAA ⛔ อัปเดต SteamOS/Proton ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อความเสถียร https://itsfoss.com/news/linux-games-steam-winter-sale-2025/
    ITSFOSS.COM
    13 Awesome Games Linux Users Can Grab in Steam Winter Sale 🎮 (Ends 5 January)
    End 2025 on a winning note by grabbing some fun games for your Linux gaming rig!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ปิดฉาก Telephone Activation: จุดสิ้นสุดของยุคออฟไลน์ และสัญญาณเปลี่ยนผ่านสู่ Activation-as-a-Service

    Microsoft ได้ยุติระบบ Telephone Activation แบบดั้งเดิมอย่างเงียบ ๆ หลังจากใช้งานมานานหลายทศวรรษ โดยผู้ใช้พบว่าการโทรเพื่อขอ Activation ID ถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังหน้าเว็บแทน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าบริษัทกำลังย้ายกระบวนการทั้งหมดเข้าสู่ระบบออนไลน์เต็มรูปแบบ การเปลี่ยนแปลงนี้กระทบโดยตรงต่อองค์กรที่ยังพึ่งพา MAK keys รุ่นเก่า โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมที่ไม่มีอินเทอร์เน็ต เช่น isolated networks, secure labs หรือ OT environments ที่ต้องการ offline activation เพื่อความปลอดภัย

    ในอดีต Telephone Activation ทำงานผ่านอัลกอริทึมที่สร้าง Activation ID จาก Product ID โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้เป็นกลไกสำคัญในยุค Windows 7–8 และ Office รุ่นเก่า แต่เมื่อ Microsoft ค่อย ๆ เปลี่ยนโมเดลสู่ cloud‑first และ subscription‑based licensing ระบบนี้เริ่มกลายเป็นภาระมากกว่าประโยชน์ ทั้งในแง่การควบคุมลิขสิทธิ์และการลด misuse จาก MAK keys ที่ถูกแจกจ่ายอย่างกว้างขวางในอดีต

    แม้ระบบโทรศัพท์จะถูกปิด แต่ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าการ activate แบบออฟไลน์ถูกยกเลิกโดยสมบูรณ์ บางส่วนของ workflow อาจถูกย้ายไปอยู่บนเว็บในรูปแบบ “online portal that simulates offline activation” เช่น การกรอก Installation ID และรับ Confirmation ID ผ่านเว็บแทนโทรศัพท์ ซึ่งเป็นรูปแบบที่หลายบริษัทเริ่มใช้เพื่อควบคุมการออก Activation ID ให้รัดกุมขึ้น

    อย่างไรก็ตาม การบังคับให้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อ activate อาจสร้างปัญหาในสภาพแวดล้อมที่ถูกจำกัดเครือข่ายอย่างเข้มงวด นี่จึงเป็นสัญญาณว่าผู้ดูแลระบบต้องเตรียมปรับกระบวนการ activation ใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะองค์กรที่ยังใช้ Windows 10/11 แบบ volume licensing หรือ Office 2024 ที่ยังต้องพึ่งพา MAK keys ในบางกรณี

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Microsoft ยุติ Telephone Activation
    การโทรเพื่อขอ Activation ID ถูก redirect ไปหน้าเว็บ
    ไม่มีการระบุผลิตภัณฑ์ที่ยังรองรับแบบโทรศัพท์อีกต่อไป

    MAK Keys และระบบเก่าได้รับผลกระทบ
    MAK บางชุดเคยไม่มี activation limit และถูกใช้ซ้ำได้
    ระบบโทรศัพท์เคยเป็นช่องทางหลักสำหรับ offline activation

    ความเสี่ยงต่อองค์กรที่ยังใช้ระบบออฟไลน์
    สภาพแวดล้อม air‑gapped อาจไม่สามารถ activate ได้ตามเดิม
    การบังคับออนไลน์อาจสร้าง operational friction ใน secure networks

    สิ่งที่ผู้ดูแลระบบควรเตรียมตัว
    ตรวจสอบ workflow activation ปัจจุบันของ Windows/Office
    เตรียมแผน fallback หากต้อง activate ผ่าน online portal เท่านั้น

    https://securityonline.info/hang-up-the-phone-microsoft-retires-telephone-activation-for-an-online-portal/
    ☎️ Microsoft ปิดฉาก Telephone Activation: จุดสิ้นสุดของยุคออฟไลน์ และสัญญาณเปลี่ยนผ่านสู่ Activation-as-a-Service Microsoft ได้ยุติระบบ Telephone Activation แบบดั้งเดิมอย่างเงียบ ๆ หลังจากใช้งานมานานหลายทศวรรษ โดยผู้ใช้พบว่าการโทรเพื่อขอ Activation ID ถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังหน้าเว็บแทน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าบริษัทกำลังย้ายกระบวนการทั้งหมดเข้าสู่ระบบออนไลน์เต็มรูปแบบ การเปลี่ยนแปลงนี้กระทบโดยตรงต่อองค์กรที่ยังพึ่งพา MAK keys รุ่นเก่า โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมที่ไม่มีอินเทอร์เน็ต เช่น isolated networks, secure labs หรือ OT environments ที่ต้องการ offline activation เพื่อความปลอดภัย ในอดีต Telephone Activation ทำงานผ่านอัลกอริทึมที่สร้าง Activation ID จาก Product ID โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้เป็นกลไกสำคัญในยุค Windows 7–8 และ Office รุ่นเก่า แต่เมื่อ Microsoft ค่อย ๆ เปลี่ยนโมเดลสู่ cloud‑first และ subscription‑based licensing ระบบนี้เริ่มกลายเป็นภาระมากกว่าประโยชน์ ทั้งในแง่การควบคุมลิขสิทธิ์และการลด misuse จาก MAK keys ที่ถูกแจกจ่ายอย่างกว้างขวางในอดีต แม้ระบบโทรศัพท์จะถูกปิด แต่ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าการ activate แบบออฟไลน์ถูกยกเลิกโดยสมบูรณ์ บางส่วนของ workflow อาจถูกย้ายไปอยู่บนเว็บในรูปแบบ “online portal that simulates offline activation” เช่น การกรอก Installation ID และรับ Confirmation ID ผ่านเว็บแทนโทรศัพท์ ซึ่งเป็นรูปแบบที่หลายบริษัทเริ่มใช้เพื่อควบคุมการออก Activation ID ให้รัดกุมขึ้น อย่างไรก็ตาม การบังคับให้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อ activate อาจสร้างปัญหาในสภาพแวดล้อมที่ถูกจำกัดเครือข่ายอย่างเข้มงวด นี่จึงเป็นสัญญาณว่าผู้ดูแลระบบต้องเตรียมปรับกระบวนการ activation ใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะองค์กรที่ยังใช้ Windows 10/11 แบบ volume licensing หรือ Office 2024 ที่ยังต้องพึ่งพา MAK keys ในบางกรณี 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Microsoft ยุติ Telephone Activation ➡️ การโทรเพื่อขอ Activation ID ถูก redirect ไปหน้าเว็บ ➡️ ไม่มีการระบุผลิตภัณฑ์ที่ยังรองรับแบบโทรศัพท์อีกต่อไป ✅ MAK Keys และระบบเก่าได้รับผลกระทบ ➡️ MAK บางชุดเคยไม่มี activation limit และถูกใช้ซ้ำได้ ➡️ ระบบโทรศัพท์เคยเป็นช่องทางหลักสำหรับ offline activation ‼️ ความเสี่ยงต่อองค์กรที่ยังใช้ระบบออฟไลน์ ⛔ สภาพแวดล้อม air‑gapped อาจไม่สามารถ activate ได้ตามเดิม ⛔ การบังคับออนไลน์อาจสร้าง operational friction ใน secure networks ‼️ สิ่งที่ผู้ดูแลระบบควรเตรียมตัว ⛔ ตรวจสอบ workflow activation ปัจจุบันของ Windows/Office ⛔ เตรียมแผน fallback หากต้อง activate ผ่าน online portal เท่านั้น https://securityonline.info/hang-up-the-phone-microsoft-retires-telephone-activation-for-an-online-portal/
    SECURITYONLINE.INFO
    Hang Up the Phone: Microsoft Retires Telephone Activation for an Online Portal
    Microsoft has moved its automated telephone activation to a new Online Product Activation Portal for all perpetual licenses. Offline IID/CID still supported.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • BlindEagle ยกระดับการโจมตี: ใช้อีเมลภายใน + Steganography + Caminho Downloader เจาะรัฐบาลโคลอมเบีย

    กลุ่ม BlindEagle (APT‑C‑36) ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้เล่นหลักด้านไซเบอร์สอดแนมในละตินอเมริกา ได้เปิดปฏิบัติการใหม่ที่ซับซ้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป้าหมายคือหน่วยงานภายใต้กระทรวงพาณิชย์ของโคลอมเบีย โดยใช้บัญชีอีเมลภายในที่ถูกยึดครองเพื่อหลอกระบบป้องกันขององค์กรให้เชื่อว่าเป็นการสื่อสารที่ถูกต้องตามปกติ การโจมตีครั้งนี้สะท้อนเทรนด์ใหญ่ของปี 2025 ที่กลุ่ม APT หันมาใช้ “trusted channel compromise” มากขึ้น เพราะสามารถหลบ SPF, DKIM, DMARC ได้อย่างแนบเนียน

    แคมเปญนี้เริ่มจากอีเมลปลอมที่อ้างว่าเป็นประกาศจากศาลแรงงานของโคลอมเบีย พร้อมแนบไฟล์ SVG ที่ดูไม่เป็นอันตราย แต่เมื่อเหยื่อคลิก ระบบจะพาไปยังเว็บปลอมที่เลียนแบบศาลจริง และดาวน์โหลด “ใบเสร็จ” ที่เป็นตัวจุดชนวนการโจมตีแบบ file‑less ประกอบด้วย JavaScript สามชุดและ PowerShell หนึ่งชุด ซึ่งทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อหลบการตรวจจับของ endpoint security รุ่นเก่าอย่างมีประสิทธิภาพ

    BlindEagle ยังใช้เทคนิค steganography ซ่อนโค้ดอันตรายในไฟล์ภาพที่ดาวน์โหลดจาก Internet Archive โดยซ่อน payload ไว้ระหว่าง BaseStart–BaseEnd ซึ่งเป็นเทคนิคที่กำลังกลับมาได้รับความนิยมในหมู่กลุ่ม APT เพราะ bypass ระบบตรวจจับ signature‑based ได้ดีมาก จากนั้นจึงดึง Caminho — downloader ที่คาดว่ามาจากตลาดใต้ดินบราซิล — เพื่อโหลด DCRAT จาก Discord CDN ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ผู้โจมตีใช้บริการ cloud ปกติเป็นโครงสร้างพื้นฐานโจมตี (legitimate‑service abuse)

    การผสานกันของ internal account compromise, steganography และ modular malware ทำให้ BlindEagle ก้าวสู่ระดับความซับซ้อนใหม่อย่างชัดเจน และสะท้อนว่ากลุ่มนี้กำลังขยายขีดความสามารถจากการโจมตีแบบ single‑payload ไปสู่ multi‑stage attack chain ที่ยืดหยุ่นกว่าเดิมอย่างมาก องค์กรในภูมิภาคละตินอเมริกาจึงต้องเตรียมรับมือกับภัยคุกคามที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วนี้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เทคนิคโจมตีที่ BlindEagle ใช้
    ใช้บัญชีอีเมลภายในที่ถูกยึดเพื่อหลบ SPF/DKIM/DMARC
    ส่งไฟล์ SVG ที่ redirect ไปเว็บปลอมของศาล

    โซ่การโจมตีแบบหลายชั้น
    JavaScript 3 ชุด + PowerShell 1 ชุดแบบ file‑less
    ใช้ steganography ซ่อนโค้ดในไฟล์ภาพจาก Internet Archive

    ความเสี่ยงระดับสูงต่อองค์กร
    การใช้ trusted internal accounts ทำให้ระบบตรวจจับแทบไม่ทำงาน
    Abuse Discord CDN เพื่อโหลด DCRAT ทำให้บล็อกยากขึ้น

    คำแนะนำเชิงปฏิบัติ
    ตรวจสอบบัญชีภายในที่มีพฤติกรรมผิดปกติอย่างเข้มงวด
    ปรับปรุง email security ให้ตรวจจับพฤติกรรม ไม่ใช่แค่ authentication

    https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia/
    🕵️‍♂️ BlindEagle ยกระดับการโจมตี: ใช้อีเมลภายใน + Steganography + Caminho Downloader เจาะรัฐบาลโคลอมเบีย กลุ่ม BlindEagle (APT‑C‑36) ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้เล่นหลักด้านไซเบอร์สอดแนมในละตินอเมริกา ได้เปิดปฏิบัติการใหม่ที่ซับซ้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป้าหมายคือหน่วยงานภายใต้กระทรวงพาณิชย์ของโคลอมเบีย โดยใช้บัญชีอีเมลภายในที่ถูกยึดครองเพื่อหลอกระบบป้องกันขององค์กรให้เชื่อว่าเป็นการสื่อสารที่ถูกต้องตามปกติ การโจมตีครั้งนี้สะท้อนเทรนด์ใหญ่ของปี 2025 ที่กลุ่ม APT หันมาใช้ “trusted channel compromise” มากขึ้น เพราะสามารถหลบ SPF, DKIM, DMARC ได้อย่างแนบเนียน แคมเปญนี้เริ่มจากอีเมลปลอมที่อ้างว่าเป็นประกาศจากศาลแรงงานของโคลอมเบีย พร้อมแนบไฟล์ SVG ที่ดูไม่เป็นอันตราย แต่เมื่อเหยื่อคลิก ระบบจะพาไปยังเว็บปลอมที่เลียนแบบศาลจริง และดาวน์โหลด “ใบเสร็จ” ที่เป็นตัวจุดชนวนการโจมตีแบบ file‑less ประกอบด้วย JavaScript สามชุดและ PowerShell หนึ่งชุด ซึ่งทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อหลบการตรวจจับของ endpoint security รุ่นเก่าอย่างมีประสิทธิภาพ BlindEagle ยังใช้เทคนิค steganography ซ่อนโค้ดอันตรายในไฟล์ภาพที่ดาวน์โหลดจาก Internet Archive โดยซ่อน payload ไว้ระหว่าง BaseStart–BaseEnd ซึ่งเป็นเทคนิคที่กำลังกลับมาได้รับความนิยมในหมู่กลุ่ม APT เพราะ bypass ระบบตรวจจับ signature‑based ได้ดีมาก จากนั้นจึงดึง Caminho — downloader ที่คาดว่ามาจากตลาดใต้ดินบราซิล — เพื่อโหลด DCRAT จาก Discord CDN ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ผู้โจมตีใช้บริการ cloud ปกติเป็นโครงสร้างพื้นฐานโจมตี (legitimate‑service abuse) การผสานกันของ internal account compromise, steganography และ modular malware ทำให้ BlindEagle ก้าวสู่ระดับความซับซ้อนใหม่อย่างชัดเจน และสะท้อนว่ากลุ่มนี้กำลังขยายขีดความสามารถจากการโจมตีแบบ single‑payload ไปสู่ multi‑stage attack chain ที่ยืดหยุ่นกว่าเดิมอย่างมาก องค์กรในภูมิภาคละตินอเมริกาจึงต้องเตรียมรับมือกับภัยคุกคามที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วนี้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เทคนิคโจมตีที่ BlindEagle ใช้ ➡️ ใช้บัญชีอีเมลภายในที่ถูกยึดเพื่อหลบ SPF/DKIM/DMARC ➡️ ส่งไฟล์ SVG ที่ redirect ไปเว็บปลอมของศาล ✅ โซ่การโจมตีแบบหลายชั้น ➡️ JavaScript 3 ชุด + PowerShell 1 ชุดแบบ file‑less ➡️ ใช้ steganography ซ่อนโค้ดในไฟล์ภาพจาก Internet Archive ‼️ ความเสี่ยงระดับสูงต่อองค์กร ⛔ การใช้ trusted internal accounts ทำให้ระบบตรวจจับแทบไม่ทำงาน ⛔ Abuse Discord CDN เพื่อโหลด DCRAT ทำให้บล็อกยากขึ้น ‼️ คำแนะนำเชิงปฏิบัติ ⛔ ตรวจสอบบัญชีภายในที่มีพฤติกรรมผิดปกติอย่างเข้มงวด ⛔ ปรับปรุง email security ให้ตรวจจับพฤติกรรม ไม่ใช่แค่ authentication https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia/
    SECURITYONLINE.INFO
    "Caminho" to Compromise: BlindEagle Hackers Hijack Government Emails in Colombia
    A notorious cyber-espionage group known for terrorizing South American institutions has launched a new campaign against the Colombian
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apache NiFi ช็อกวงการอีกครั้ง: ช่องโหว่ Deserialization ทำ Asana Integration เสี่ยงถูกยึดระบบ

    ช่องโหว่ใหม่ใน Apache NiFi ที่ถูกระบุเป็น CVE‑2025‑66524 กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับองค์กรที่ใช้ NiFi เชื่อมต่อกับ Asana เพื่อจัดการ workflow อัตโนมัติ ช่องโหว่นี้เกิดขึ้นใน GetAsanaObject Processor ซึ่งใช้ Java Object Serialization แบบ “ไม่กรองข้อมูล” ทำให้ผู้โจมตีสามารถยัด state ที่ถูกดัดแปลงลงใน distributed cache และ NiFi จะโหลดข้อมูลนั้นกลับมาโดยไม่ตรวจสอบความปลอดภัยเลย

    แม้การโจมตีจะไม่สามารถทำจากภายนอกได้โดยตรง แต่หากผู้โจมตีเข้าถึง cache server ได้—ไม่ว่าจะผ่านการเจาะระบบมาก่อนหรือการตั้งค่าที่ผิดพลาด—ก็สามารถทำให้ NiFi ประพฤติผิดปกติหรือรันโค้ดที่ไม่พึงประสงค์ได้ทันที นี่คือรูปแบบการโจมตีที่คล้ายกับ supply‑chain ภายในระบบ data flow ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ที่กลุ่ม APT ใช้เพิ่มขึ้นในปี 2025

    Apache แก้ไขปัญหานี้ในเวอร์ชัน 2.7.0 โดยยกเลิก Java Serialization และเปลี่ยนไปใช้ JSON Serialization ซึ่งปลอดภัยกว่าและตรวจสอบได้ง่ายกว่า นอกจากนี้ยังแนะนำให้ผู้ดูแลระบบลบ GetAsanaObject Processor ออกหากยังไม่สามารถอัปเกรดได้ทันที การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มใหญ่ในวงการที่กำลังทยอยเลิกใช้ Java Serialization หลังพบปัญหาความปลอดภัยซ้ำซากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

    ช่องโหว่นี้ยังเป็นสัญญาณเตือนว่า integration processor ที่เชื่อมต่อกับ third‑party services เช่น Asana, Jira หรือ Slack มักเป็นจุดอ่อนที่ถูกละเลย เพราะหลายองค์กรเชื่อว่าความเสี่ยงอยู่ที่ตัวระบบหลัก แต่ในความเป็นจริง “ช่องโหว่เล็กในปลายทาง” สามารถลุกลามเป็นการยึดระบบ data pipeline ทั้งชุดได้อย่างง่ายดาย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ช่องโหว่เกิดใน GetAsanaObject Processor
    ใช้ Java Object Serialization แบบไม่กรองข้อมูล
    ทำให้ attacker ใส่ state อันตรายลง cache ได้

    ความรุนแรงระดับสูง (CVSS 7.5)
    ส่งผลให้ NiFi โหลดข้อมูลที่ถูกดัดแปลงโดยไม่ตรวจสอบ
    อาจนำไปสู่การควบคุมพฤติกรรมระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต

    เงื่อนไขที่ทำให้ถูกโจมตีได้
    ผู้โจมตีต้องเข้าถึง cache server ได้โดยตรง
    ระบบที่ตั้งค่า integration แบบเก่าและไม่เคย audit เสี่ยงสูง

    คำแนะนำเร่งด่วน
    อัปเดตเป็น NiFi 2.7.0 ทันที
    หากอัปเดตไม่ได้ ให้ลบ GetAsanaObject Processor ออก

    https://securityonline.info/apache-nifis-data-leak-how-a-high-severity-deserialization-flaw-puts-your-asana-workflows-at-risk/
    ⚠️ Apache NiFi ช็อกวงการอีกครั้ง: ช่องโหว่ Deserialization ทำ Asana Integration เสี่ยงถูกยึดระบบ ช่องโหว่ใหม่ใน Apache NiFi ที่ถูกระบุเป็น CVE‑2025‑66524 กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับองค์กรที่ใช้ NiFi เชื่อมต่อกับ Asana เพื่อจัดการ workflow อัตโนมัติ ช่องโหว่นี้เกิดขึ้นใน GetAsanaObject Processor ซึ่งใช้ Java Object Serialization แบบ “ไม่กรองข้อมูล” ทำให้ผู้โจมตีสามารถยัด state ที่ถูกดัดแปลงลงใน distributed cache และ NiFi จะโหลดข้อมูลนั้นกลับมาโดยไม่ตรวจสอบความปลอดภัยเลย แม้การโจมตีจะไม่สามารถทำจากภายนอกได้โดยตรง แต่หากผู้โจมตีเข้าถึง cache server ได้—ไม่ว่าจะผ่านการเจาะระบบมาก่อนหรือการตั้งค่าที่ผิดพลาด—ก็สามารถทำให้ NiFi ประพฤติผิดปกติหรือรันโค้ดที่ไม่พึงประสงค์ได้ทันที นี่คือรูปแบบการโจมตีที่คล้ายกับ supply‑chain ภายในระบบ data flow ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ที่กลุ่ม APT ใช้เพิ่มขึ้นในปี 2025 Apache แก้ไขปัญหานี้ในเวอร์ชัน 2.7.0 โดยยกเลิก Java Serialization และเปลี่ยนไปใช้ JSON Serialization ซึ่งปลอดภัยกว่าและตรวจสอบได้ง่ายกว่า นอกจากนี้ยังแนะนำให้ผู้ดูแลระบบลบ GetAsanaObject Processor ออกหากยังไม่สามารถอัปเกรดได้ทันที การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มใหญ่ในวงการที่กำลังทยอยเลิกใช้ Java Serialization หลังพบปัญหาความปลอดภัยซ้ำซากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ช่องโหว่นี้ยังเป็นสัญญาณเตือนว่า integration processor ที่เชื่อมต่อกับ third‑party services เช่น Asana, Jira หรือ Slack มักเป็นจุดอ่อนที่ถูกละเลย เพราะหลายองค์กรเชื่อว่าความเสี่ยงอยู่ที่ตัวระบบหลัก แต่ในความเป็นจริง “ช่องโหว่เล็กในปลายทาง” สามารถลุกลามเป็นการยึดระบบ data pipeline ทั้งชุดได้อย่างง่ายดาย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ช่องโหว่เกิดใน GetAsanaObject Processor ➡️ ใช้ Java Object Serialization แบบไม่กรองข้อมูล ➡️ ทำให้ attacker ใส่ state อันตรายลง cache ได้ ✅ ความรุนแรงระดับสูง (CVSS 7.5) ➡️ ส่งผลให้ NiFi โหลดข้อมูลที่ถูกดัดแปลงโดยไม่ตรวจสอบ ➡️ อาจนำไปสู่การควบคุมพฤติกรรมระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต ‼️ เงื่อนไขที่ทำให้ถูกโจมตีได้ ⛔ ผู้โจมตีต้องเข้าถึง cache server ได้โดยตรง ⛔ ระบบที่ตั้งค่า integration แบบเก่าและไม่เคย audit เสี่ยงสูง ‼️ คำแนะนำเร่งด่วน ⛔ อัปเดตเป็น NiFi 2.7.0 ทันที ⛔ หากอัปเดตไม่ได้ ให้ลบ GetAsanaObject Processor ออก https://securityonline.info/apache-nifis-data-leak-how-a-high-severity-deserialization-flaw-puts-your-asana-workflows-at-risk/
    SECURITYONLINE.INFO
    Apache NiFi’s Data Leak: How a High-Severity Deserialization Flaw Puts Your Asana Workflows at Risk
    Apache NiFi patches a High-severity flaw (CVE-2025-66524) in the GetAsanaObject processor. Unfiltered deserialization risks system compromise. Update now!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • Exim ระส่ำอีกครั้ง: ช่องโหว่ SQL Injection ลุกลามสู่ Heap Overflow ระดับวิกฤต

    ช่องโหว่ใหม่ที่ถูกเปิดเผยใน Exim 4.99 ทำให้โลกความปลอดภัยไซเบอร์ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เมื่อ Andrew Fasano จาก NIST ระบุว่าการอุดช่องโหว่เดิม (CVE-2025-26794) นั้น “ปิดไม่สนิท” จนกลายเป็นประตูบานใหญ่ให้แฮ็กเกอร์สามารถโจมตีลึกกว่าเดิมได้ ช่องโหว่นี้เริ่มจากการฉีดคำสั่ง SQL ผ่านฟิลด์ที่ควรจะถูก sanitize แต่กลับถูกละเลยในฟังก์ชัน xtextencode() ส่งผลให้ฐานข้อมูล SQLite ภายใน Exim ถูกควบคุมได้จากภายนอกอย่างไม่ตั้งใจ

    ความร้ายแรงไม่ได้หยุดแค่ SQL Injection เพราะ Fasano พบว่าช่องโหว่นี้สามารถเชื่อมโยงไปสู่ Heap Buffer Overflow ผ่านฟิลด์ bloom_size ที่ระบบอ่านโดยไม่ตรวจสอบความถูกต้อง เมื่อผู้โจมตีใส่ค่าขนาดผิดปกติ ระบบจะเขียนข้อมูลเกินขอบเขตหน่วยความจำ ทำให้เกิด memory corruption สูงสุดกว่า 1.5MB ซึ่งอาจนำไปสู่การยึดเครื่องได้ แม้ ASLR จะช่วยลดโอกาส RCE แต่ Fasano ยืนยันว่า “มีความเป็นไปได้” หากมีการพัฒนา exploit ต่อเนื่อง

    การโจมตีนี้เกิดขึ้นได้เฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ Exim ถูกคอมไพล์ด้วย USE_SQLITE=yes และใช้ ratelimit ACL ที่อิงข้อมูลจากผู้โจมตี เช่น sender_address ซึ่งเป็นการตั้งค่าที่พบได้ในองค์กรจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะระบบอีเมลที่ปรับแต่งเองหรือใช้ config เก่าไม่เคย audit ความปลอดภัย นอกจากนี้ เทรนด์การโจมตี MTA ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2025 จากกลุ่ม APT ที่มองหา entry point ราคาถูกแต่ทรงพลัง เช่นเดียวกับกรณี Postfix และ Sendmail ที่เพิ่งถูกตรวจพบช่องโหว่คล้ายกันในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา

    ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผู้ดูแลระบบอัปเดต Exim ทันที พร้อมตรวจสอบ config ที่ใช้ SQLite และ ratelimit ACL อย่างละเอียด รวมถึงพิจารณาเปลี่ยนไปใช้ parameterized queries เพื่อลดความเสี่ยง SQL Injection แบบถาวร นี่เป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่าระบบอีเมลแบบ self-hosted ยังคงเป็นจุดอ่อนสำคัญขององค์กร หากไม่มีการดูแลเชิงรุกและตรวจสอบความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ช่องโหว่ SQL Injection ใน Exim 4.99
    เกิดจากการ sanitize ข้อมูลไม่สมบูรณ์ในฟังก์ชัน xtextencode()
    สามารถฉีดคำสั่ง SQL ผ่าน sender_address ได้

    ช่องโหว่ลุกลามสู่ Heap Buffer Overflow
    bloom_size ถูกอ่านโดยไม่มีการตรวจสอบ
    memory overflow สูงสุดกว่า 1.5MB

    เงื่อนไขที่ทำให้ระบบเสี่ยง
    Exim ถูกคอมไพล์ด้วย USE_SQLITE=yes
    ใช้ ratelimit ACL ที่อิงข้อมูลจากผู้โจมตี

    ความเสี่ยงระดับองค์กร
    อาจนำไปสู่ Remote Code Execution หาก exploit พัฒนาเพิ่ม
    ระบบอีเมล self-hosted ที่ไม่ได้อัปเดตมีความเสี่ยงสูงมาก

    คำแนะนำเร่งด่วน
    อัปเดต Exim ทันที
    ตรวจสอบ config ที่ใช้ SQLite และ ratelimit ACL

    https://securityonline.info/exims-poisoned-record-how-a-failed-patch-and-sql-injection-lead-to-critical-heap-overflows/
    🛡️ Exim ระส่ำอีกครั้ง: ช่องโหว่ SQL Injection ลุกลามสู่ Heap Overflow ระดับวิกฤต ช่องโหว่ใหม่ที่ถูกเปิดเผยใน Exim 4.99 ทำให้โลกความปลอดภัยไซเบอร์ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เมื่อ Andrew Fasano จาก NIST ระบุว่าการอุดช่องโหว่เดิม (CVE-2025-26794) นั้น “ปิดไม่สนิท” จนกลายเป็นประตูบานใหญ่ให้แฮ็กเกอร์สามารถโจมตีลึกกว่าเดิมได้ ช่องโหว่นี้เริ่มจากการฉีดคำสั่ง SQL ผ่านฟิลด์ที่ควรจะถูก sanitize แต่กลับถูกละเลยในฟังก์ชัน xtextencode() ส่งผลให้ฐานข้อมูล SQLite ภายใน Exim ถูกควบคุมได้จากภายนอกอย่างไม่ตั้งใจ ความร้ายแรงไม่ได้หยุดแค่ SQL Injection เพราะ Fasano พบว่าช่องโหว่นี้สามารถเชื่อมโยงไปสู่ Heap Buffer Overflow ผ่านฟิลด์ bloom_size ที่ระบบอ่านโดยไม่ตรวจสอบความถูกต้อง เมื่อผู้โจมตีใส่ค่าขนาดผิดปกติ ระบบจะเขียนข้อมูลเกินขอบเขตหน่วยความจำ ทำให้เกิด memory corruption สูงสุดกว่า 1.5MB ซึ่งอาจนำไปสู่การยึดเครื่องได้ แม้ ASLR จะช่วยลดโอกาส RCE แต่ Fasano ยืนยันว่า “มีความเป็นไปได้” หากมีการพัฒนา exploit ต่อเนื่อง การโจมตีนี้เกิดขึ้นได้เฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ Exim ถูกคอมไพล์ด้วย USE_SQLITE=yes และใช้ ratelimit ACL ที่อิงข้อมูลจากผู้โจมตี เช่น sender_address ซึ่งเป็นการตั้งค่าที่พบได้ในองค์กรจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะระบบอีเมลที่ปรับแต่งเองหรือใช้ config เก่าไม่เคย audit ความปลอดภัย นอกจากนี้ เทรนด์การโจมตี MTA ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2025 จากกลุ่ม APT ที่มองหา entry point ราคาถูกแต่ทรงพลัง เช่นเดียวกับกรณี Postfix และ Sendmail ที่เพิ่งถูกตรวจพบช่องโหว่คล้ายกันในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผู้ดูแลระบบอัปเดต Exim ทันที พร้อมตรวจสอบ config ที่ใช้ SQLite และ ratelimit ACL อย่างละเอียด รวมถึงพิจารณาเปลี่ยนไปใช้ parameterized queries เพื่อลดความเสี่ยง SQL Injection แบบถาวร นี่เป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่าระบบอีเมลแบบ self-hosted ยังคงเป็นจุดอ่อนสำคัญขององค์กร หากไม่มีการดูแลเชิงรุกและตรวจสอบความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ช่องโหว่ SQL Injection ใน Exim 4.99 ➡️ เกิดจากการ sanitize ข้อมูลไม่สมบูรณ์ในฟังก์ชัน xtextencode() ➡️ สามารถฉีดคำสั่ง SQL ผ่าน sender_address ได้ ✅ ช่องโหว่ลุกลามสู่ Heap Buffer Overflow ➡️ bloom_size ถูกอ่านโดยไม่มีการตรวจสอบ ➡️ memory overflow สูงสุดกว่า 1.5MB ✅ เงื่อนไขที่ทำให้ระบบเสี่ยง ➡️ Exim ถูกคอมไพล์ด้วย USE_SQLITE=yes ➡️ ใช้ ratelimit ACL ที่อิงข้อมูลจากผู้โจมตี ‼️ ความเสี่ยงระดับองค์กร ⛔ อาจนำไปสู่ Remote Code Execution หาก exploit พัฒนาเพิ่ม ⛔ ระบบอีเมล self-hosted ที่ไม่ได้อัปเดตมีความเสี่ยงสูงมาก ‼️ คำแนะนำเร่งด่วน ⛔ อัปเดต Exim ทันที ⛔ ตรวจสอบ config ที่ใช้ SQLite และ ratelimit ACL https://securityonline.info/exims-poisoned-record-how-a-failed-patch-and-sql-injection-lead-to-critical-heap-overflows/
    SECURITYONLINE.INFO
    Exim’s Poisoned Record: How a Failed Patch and SQL Injection Lead to Critical Heap Overflows
    NIST warns of a critical Exim 4.99 flaw. A failed SQLi patch allows attackers to poison SQLite records and trigger a 1.5MB heap buffer overflow.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชาวบ้านชุมชนต้นม่วง ต.ปงป่าหวาย อ.เด่นชัย จ.แพร่ ผวาหนัก หลังพบผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจเพิ่มต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ หลายรายมีอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก เวียนศีรษะ บางรายมีเลือดปนเสมหะ และถูกแพทย์แนะนำให้ย้ายออกจากพื้นที่
    .
    ชาวบ้านระบุว่า ปัญหาเกิดขึ้นหลังมีโรงงานแปรรูปไม้ผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลตั้งอยู่ใกล้ชุมชน ล่าสุดพบผู้ป่วยมีใบรับรองแพทย์แล้วกว่า 20 ราย หลายครอบครัวจำใจอพยพออกจากบ้าน ไปอาศัยอยู่ในที่ดินญาติ ขณะที่ผู้สูงอายุและผู้พิการจำนวนหนึ่งยังต้องทนอยู่กับอาการป่วยภายในหมู่บ้าน
    .
    แกนนำชาวบ้านเรียกร้องให้สาธารณสุขจังหวัดแพร่ เร่งเข้าตรวจสอบและสอบสวนสาเหตุของการเจ็บป่วย หวั่นสถานการณ์ลุกลามรุนแรง หากปล่อยไว้โดยไม่มีมาตรการแก้ไข อาจเกิดการสูญเสียในอนาคต
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122863
    .
    #News1live #News1 #เด่นชัย #แพร่ #โรงงานชีวมวล #ผลกระทบชุมชน #สิ่งแวดล้อม #สุขภาพประชาชน
    ชาวบ้านชุมชนต้นม่วง ต.ปงป่าหวาย อ.เด่นชัย จ.แพร่ ผวาหนัก หลังพบผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจเพิ่มต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ หลายรายมีอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก เวียนศีรษะ บางรายมีเลือดปนเสมหะ และถูกแพทย์แนะนำให้ย้ายออกจากพื้นที่ . ชาวบ้านระบุว่า ปัญหาเกิดขึ้นหลังมีโรงงานแปรรูปไม้ผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลตั้งอยู่ใกล้ชุมชน ล่าสุดพบผู้ป่วยมีใบรับรองแพทย์แล้วกว่า 20 ราย หลายครอบครัวจำใจอพยพออกจากบ้าน ไปอาศัยอยู่ในที่ดินญาติ ขณะที่ผู้สูงอายุและผู้พิการจำนวนหนึ่งยังต้องทนอยู่กับอาการป่วยภายในหมู่บ้าน . แกนนำชาวบ้านเรียกร้องให้สาธารณสุขจังหวัดแพร่ เร่งเข้าตรวจสอบและสอบสวนสาเหตุของการเจ็บป่วย หวั่นสถานการณ์ลุกลามรุนแรง หากปล่อยไว้โดยไม่มีมาตรการแก้ไข อาจเกิดการสูญเสียในอนาคต . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122863 . #News1live #News1 #เด่นชัย #แพร่ #โรงงานชีวมวล #ผลกระทบชุมชน #สิ่งแวดล้อม #สุขภาพประชาชน
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 351 มุมมอง 0 รีวิว
  • ป.ป.ส. เดินหน้าตัดวงจรการเงินขบวนการค้ายาเสพติด เปิดมหกรรมขายทอดตลาดทรัพย์สินคดียาเสพติดส่งท้ายปี นำทรัพย์ยึดได้กว่า 300 รายการ ออกประมูล สร้างรายได้เข้ากองทุนฯ รวมมูลค่าเริ่มต้นกว่า 148 ล้านบาท
    .
    พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล เลขาธิการ ป.ป.ส. ระบุว่า การขายทอดตลาดครั้งนี้เป็นมาตรการสำคัญในการยึดทรัพย์ ตัดกำลังทางการเงินของเครือข่ายยาเสพติด พร้อมนำเงินที่ได้กลับคืนสู่แผ่นดิน เพื่อนำไปใช้ในภารกิจป้องกัน ปราบปราม บำบัดฟื้นฟู และสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างครบวงจร
    .
    ทรัพย์สินที่นำมาประมูลประกอบด้วย รถยนต์หรู ทองคำ เครื่องประดับ แบรนด์เนม อสังหาริมทรัพย์ และของสะสมหายากหลายรายการ โดยบางส่วนเป็นทรัพย์จากคดีเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญที่ศาลมีคำพิพากษาให้ริบตกเป็นของกองทุนฯ แล้ว
    .
    ป.ป.ส. ย้ำการดำเนินการทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และถือเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการตัดรากถอนโคนขบวนการค้ายาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรม
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122624
    .
    #News1live #News1 #ปปส #ตัดวงจรยาเสพติด #ขายทอดตลาดทรัพย์สิน #กองทุนปราบยา
    ป.ป.ส. เดินหน้าตัดวงจรการเงินขบวนการค้ายาเสพติด เปิดมหกรรมขายทอดตลาดทรัพย์สินคดียาเสพติดส่งท้ายปี นำทรัพย์ยึดได้กว่า 300 รายการ ออกประมูล สร้างรายได้เข้ากองทุนฯ รวมมูลค่าเริ่มต้นกว่า 148 ล้านบาท . พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล เลขาธิการ ป.ป.ส. ระบุว่า การขายทอดตลาดครั้งนี้เป็นมาตรการสำคัญในการยึดทรัพย์ ตัดกำลังทางการเงินของเครือข่ายยาเสพติด พร้อมนำเงินที่ได้กลับคืนสู่แผ่นดิน เพื่อนำไปใช้ในภารกิจป้องกัน ปราบปราม บำบัดฟื้นฟู และสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างครบวงจร . ทรัพย์สินที่นำมาประมูลประกอบด้วย รถยนต์หรู ทองคำ เครื่องประดับ แบรนด์เนม อสังหาริมทรัพย์ และของสะสมหายากหลายรายการ โดยบางส่วนเป็นทรัพย์จากคดีเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญที่ศาลมีคำพิพากษาให้ริบตกเป็นของกองทุนฯ แล้ว . ป.ป.ส. ย้ำการดำเนินการทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และถือเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการตัดรากถอนโคนขบวนการค้ายาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรม . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122624 . #News1live #News1 #ปปส #ตัดวงจรยาเสพติด #ขายทอดตลาดทรัพย์สิน #กองทุนปราบยา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 346 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts