• รายงานข่าวจากเพจBrandThink ระบุว่าซัมซุง บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอิเล็กทรอนิกส์เกาหลีใต้แถลงข่าวเศร้าในเช้าวันอังคารที่ 25 มีนาคม 2025 ว่า Han Jong-Hee ผู้เป็น CEO คนหนึ่งของบริษัทได้เสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน (Cardiac Arrest)ทั้งนี้ ทางด้านการบริหารของซัมซุงเองก็คงไม่สะดุดอะไรเพราะบริษัทนี้มี CEO สองคนมาแล้วตั้งแต่ปี 2022 และ Jun Young-Hyun ผู้เป็น CEO อีกคนในฝั่งธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ก็คงจะรับหน้าที่ CEO หลักต่อ ส่วนปีกธุรกิจอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกที่ Han Jong-Hee ผู้ล่วงลับเป็น CEO ทางซัมซุมก็ยังไม่แถลงการว่าใครจะมารับช่วงต่อที่มา:CNN. Samsung co-CEO Han Jong-Hee dies at 63. https://shorter.me/7Hfg3
    รายงานข่าวจากเพจBrandThink ระบุว่าซัมซุง บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอิเล็กทรอนิกส์เกาหลีใต้แถลงข่าวเศร้าในเช้าวันอังคารที่ 25 มีนาคม 2025 ว่า Han Jong-Hee ผู้เป็น CEO คนหนึ่งของบริษัทได้เสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน (Cardiac Arrest)ทั้งนี้ ทางด้านการบริหารของซัมซุงเองก็คงไม่สะดุดอะไรเพราะบริษัทนี้มี CEO สองคนมาแล้วตั้งแต่ปี 2022 และ Jun Young-Hyun ผู้เป็น CEO อีกคนในฝั่งธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ก็คงจะรับหน้าที่ CEO หลักต่อ ส่วนปีกธุรกิจอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกที่ Han Jong-Hee ผู้ล่วงลับเป็น CEO ทางซัมซุมก็ยังไม่แถลงการว่าใครจะมารับช่วงต่อที่มา:CNN. Samsung co-CEO Han Jong-Hee dies at 63. https://shorter.me/7Hfg3
    0 Comments 0 Shares 279 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เรียกร้องให้สภาคองเกรสยกเลิกกฎหมายอุดหนุนอุตสาหกรรมการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์วงเงิน 52,700 ล้านดอลลาร์ปี 2022 ที่ออกโดยรัฐบาล โจ ไบเดน พร้อมเสนอให้เอาดอกผลมาชำระหนี้ของรัฐบาลแทน
    .
    ถ้อยแถลงของผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากที่ TSMC ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่จากไต้หวัน เพิ่งจะประกาศทุ่มเงินลงทุนอีก 100,000 ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างโรงงานอีก 5 แห่งในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันจันทร์ (3 มี.ค.)
    .
    "กฎหมาย CHIPS Act ของพวกคุณมันแย่มาก เราจ่ายเงินหลายแสนล้านดอลลาร์แต่ไม่มีความหมายอะไรเลย พวกเขาเอาเงินเราไปแต่ไม่ใช้" ทรัมป์ กล่าวระหว่างการแถลงนโยบายประจำปีต่อสภาคองเกรสหนแรกหลังเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (4)
    .
    "พวกคุณควรยกเลิกกฎหมาย CHIPS Act และอะไรก็ตามที่เหลืออยู่ ท่านประธาน... ท่านควรเอาเงินส่วนนี้มาลดหนี้"
    .
    กฎหมาย CHIPS and Science Act ถูกลงนามประกาศใช้โดยประธานาธิบดี ไบเดน ในเดือน ส.ค. ปี 2022 ซึ่งรวมถึงวงเงิน 39,000 ล้านดอลลาร์สำหรับอุดหนุนภาคการผลิตเซมิคอนดักเตอร์และองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องในสหรัฐฯ และยังมีวงเงินกู้จากรัฐบาลอีก 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
    .
    คำพูดของ ทรัมป์ เมื่อวานนี้ (4) ถือเป็นการโจมตีกฎหมาย CHIPS Act หนักที่สุดเท่าที่เคยมีมา
    .
    ทรัมป์ ยังบอกด้วยว่า"เราไม่จำเป็นต้องให้เงินพวกเขา" และเพียงแค่มาตรการรีดภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะกระตุ้นให้บริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาตั้งฐานการผลิตชิปในอเมริกา
    .
    โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เคยกล่าวชื่นชมโครงการนี้ แต่ก็บอกว่าอยากจะทบทวนเงินอุดหนุนต่างๆ ที่ออกโดยรัฐบาล ไบเดน
    .
    ทั้งนี้ จีนา ไรมอนโด อดีตรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ในยุคไบเดน เคยไปโน้มน้าวผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ 5 รายของโลกให้มาตั้งโรงงานผลิตชิปในอเมริกาโดยใช้เงินอุดหนุนเป็นสิ่งล่อใจ เพื่อที่จะลดความเสี่ยงในด้านความมั่นคงจากการพึ่งพาชิปนำเข้า
    .
    ในช่วงสัปดาห์ท้ายๆ ก่อน ไบเดน หมดวาระ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้อนุมัติเงินอุดหนุนมากกว่า 33,000 ล้านดอลลาร์ โดยแบ่งเป็นเงินอุดหนุนซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ 4,745 ล้านดอลลาร์ อินเทลสูงสุด 7,860 ล้านดอลลาร์ TSMC 6,600 ล้านดอลลาร์ และ ไมครอน 6,100 ล้านดอลลาร์
    .
    เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางคนเคยแสดงความวิตกกังวลว่า ทรัมป์ อาจจะเข้ามาฉีกข้อตกลงเงินอุดหนุนที่ ไบเดน เคยทำเอาไว้ โดย เคธี โฮชุล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เตือนว่ากฎหมาย CHIPS Act คือเหตุผลที่ไมครอนทุ่มเงิน 100,000 ล้านดอลลาร์สร้างงาน 50,000 ตำแหน่งที่ตอนกลางของรัฐแห่งนี้ "แต่อยู่ๆ ทรัมป์ กลับพูดว่าจะยกเลิกมัน"
    .
    ลุตนิค อ้างถึงเงินอุดหนุน 6,600 ล้านดอลลาร์สำหรับ TSMC ในอีเวนต์ที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ (3) และย้ำว่ากระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ยังไม่มีแผนที่จะใหัเงินอุดหนุนเพิ่มเติมแก่บริษัทชิปไต้หวันรายนี้ แต่ TSMC ยังมีสิทธิได้รับประโยชน์จากเครดิตภาษีการลงทุนในภาคการผลิต 25%
    .
    TSMC แถลงเมื่อเดือน ก.พ. ว่าได้รับเงินอุดหนุนจากสหรัฐฯ มาแล้ว 1,500 ล้านดอลลาร์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021619
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เรียกร้องให้สภาคองเกรสยกเลิกกฎหมายอุดหนุนอุตสาหกรรมการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์วงเงิน 52,700 ล้านดอลลาร์ปี 2022 ที่ออกโดยรัฐบาล โจ ไบเดน พร้อมเสนอให้เอาดอกผลมาชำระหนี้ของรัฐบาลแทน . ถ้อยแถลงของผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากที่ TSMC ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่จากไต้หวัน เพิ่งจะประกาศทุ่มเงินลงทุนอีก 100,000 ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างโรงงานอีก 5 แห่งในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันจันทร์ (3 มี.ค.) . "กฎหมาย CHIPS Act ของพวกคุณมันแย่มาก เราจ่ายเงินหลายแสนล้านดอลลาร์แต่ไม่มีความหมายอะไรเลย พวกเขาเอาเงินเราไปแต่ไม่ใช้" ทรัมป์ กล่าวระหว่างการแถลงนโยบายประจำปีต่อสภาคองเกรสหนแรกหลังเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (4) . "พวกคุณควรยกเลิกกฎหมาย CHIPS Act และอะไรก็ตามที่เหลืออยู่ ท่านประธาน... ท่านควรเอาเงินส่วนนี้มาลดหนี้" . กฎหมาย CHIPS and Science Act ถูกลงนามประกาศใช้โดยประธานาธิบดี ไบเดน ในเดือน ส.ค. ปี 2022 ซึ่งรวมถึงวงเงิน 39,000 ล้านดอลลาร์สำหรับอุดหนุนภาคการผลิตเซมิคอนดักเตอร์และองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องในสหรัฐฯ และยังมีวงเงินกู้จากรัฐบาลอีก 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ . คำพูดของ ทรัมป์ เมื่อวานนี้ (4) ถือเป็นการโจมตีกฎหมาย CHIPS Act หนักที่สุดเท่าที่เคยมีมา . ทรัมป์ ยังบอกด้วยว่า"เราไม่จำเป็นต้องให้เงินพวกเขา" และเพียงแค่มาตรการรีดภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะกระตุ้นให้บริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาตั้งฐานการผลิตชิปในอเมริกา . โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เคยกล่าวชื่นชมโครงการนี้ แต่ก็บอกว่าอยากจะทบทวนเงินอุดหนุนต่างๆ ที่ออกโดยรัฐบาล ไบเดน . ทั้งนี้ จีนา ไรมอนโด อดีตรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ในยุคไบเดน เคยไปโน้มน้าวผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ 5 รายของโลกให้มาตั้งโรงงานผลิตชิปในอเมริกาโดยใช้เงินอุดหนุนเป็นสิ่งล่อใจ เพื่อที่จะลดความเสี่ยงในด้านความมั่นคงจากการพึ่งพาชิปนำเข้า . ในช่วงสัปดาห์ท้ายๆ ก่อน ไบเดน หมดวาระ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้อนุมัติเงินอุดหนุนมากกว่า 33,000 ล้านดอลลาร์ โดยแบ่งเป็นเงินอุดหนุนซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ 4,745 ล้านดอลลาร์ อินเทลสูงสุด 7,860 ล้านดอลลาร์ TSMC 6,600 ล้านดอลลาร์ และ ไมครอน 6,100 ล้านดอลลาร์ . เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางคนเคยแสดงความวิตกกังวลว่า ทรัมป์ อาจจะเข้ามาฉีกข้อตกลงเงินอุดหนุนที่ ไบเดน เคยทำเอาไว้ โดย เคธี โฮชุล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เตือนว่ากฎหมาย CHIPS Act คือเหตุผลที่ไมครอนทุ่มเงิน 100,000 ล้านดอลลาร์สร้างงาน 50,000 ตำแหน่งที่ตอนกลางของรัฐแห่งนี้ "แต่อยู่ๆ ทรัมป์ กลับพูดว่าจะยกเลิกมัน" . ลุตนิค อ้างถึงเงินอุดหนุน 6,600 ล้านดอลลาร์สำหรับ TSMC ในอีเวนต์ที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ (3) และย้ำว่ากระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ยังไม่มีแผนที่จะใหัเงินอุดหนุนเพิ่มเติมแก่บริษัทชิปไต้หวันรายนี้ แต่ TSMC ยังมีสิทธิได้รับประโยชน์จากเครดิตภาษีการลงทุนในภาคการผลิต 25% . TSMC แถลงเมื่อเดือน ก.พ. ว่าได้รับเงินอุดหนุนจากสหรัฐฯ มาแล้ว 1,500 ล้านดอลลาร์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021619 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    8
    0 Comments 0 Shares 2187 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้เกี่ยวกับซัมซุงและการพัฒนาโปรเซสเซอร์ Exynos 2500 รุ่นใหม่ ที่คาดว่าจะเปิดตัวในครึ่งหลังของปี 2025 ซัมซุงพยายามแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นเมื่อไม่สามารถใช้ Exynos 2500 ในการผลิตจำนวนมากได้ เพราะมีปัญหาที่กระบวนการผลิต 3nm GAA ทำให้ต้องใช้โปรเซสเซอร์ Snapdragon 8 Elite ของ Qualcomm ในรุ่น Galaxy S25 ทั้งหมด

    ในรายงานการเงินไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 ส่วนงาน System LSI ของซัมซุงได้กล่าวถึงการปรับปรุงโปรเซสเซอร์ Exynos 2500 และระบุว่ามีแผนจะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 แต่ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่ารุ่นสมาร์ทโฟนไหนที่จะได้ใช้โปรเซสเซอร์ใหม่นี้ แต่อาจเป็นไปได้ว่าจะเป็นรุ่นที่คุ้มค่ามากขึ้น เช่น Galaxy Z Flip 7 ซึ่งมีนักวิเคราะห์เทคโนโลยี Bryan Ma ได้กล่าวถึงในโซเชียลมีเดีย X

    โปรเซสเซอร์ Exynos 2500 ถูกทดสอบใน Geekbench 6 และได้คะแนนน้อยกว่า Snapdragon 8 Elite แต่คาดว่าความแตกต่างนี้อาจไม่เห็นได้ในสถานการณ์ใช้งานจริง อย่างไรก็ตาม ซัมซุงยังต้องพยายามปรับปรุงประสิทธิภาพของ Exynos ให้สามารถแข่งขันกับโปรเซสเซอร์อื่นในตลาดได้

    https://wccftech.com/samsung-optimizing-its-exynos-2500-launch-happening-in-h2-2025/
    ข่าวนี้เกี่ยวกับซัมซุงและการพัฒนาโปรเซสเซอร์ Exynos 2500 รุ่นใหม่ ที่คาดว่าจะเปิดตัวในครึ่งหลังของปี 2025 ซัมซุงพยายามแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นเมื่อไม่สามารถใช้ Exynos 2500 ในการผลิตจำนวนมากได้ เพราะมีปัญหาที่กระบวนการผลิต 3nm GAA ทำให้ต้องใช้โปรเซสเซอร์ Snapdragon 8 Elite ของ Qualcomm ในรุ่น Galaxy S25 ทั้งหมด ในรายงานการเงินไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 ส่วนงาน System LSI ของซัมซุงได้กล่าวถึงการปรับปรุงโปรเซสเซอร์ Exynos 2500 และระบุว่ามีแผนจะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 แต่ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่ารุ่นสมาร์ทโฟนไหนที่จะได้ใช้โปรเซสเซอร์ใหม่นี้ แต่อาจเป็นไปได้ว่าจะเป็นรุ่นที่คุ้มค่ามากขึ้น เช่น Galaxy Z Flip 7 ซึ่งมีนักวิเคราะห์เทคโนโลยี Bryan Ma ได้กล่าวถึงในโซเชียลมีเดีย X โปรเซสเซอร์ Exynos 2500 ถูกทดสอบใน Geekbench 6 และได้คะแนนน้อยกว่า Snapdragon 8 Elite แต่คาดว่าความแตกต่างนี้อาจไม่เห็นได้ในสถานการณ์ใช้งานจริง อย่างไรก็ตาม ซัมซุงยังต้องพยายามปรับปรุงประสิทธิภาพของ Exynos ให้สามารถแข่งขันกับโปรเซสเซอร์อื่นในตลาดได้ https://wccftech.com/samsung-optimizing-its-exynos-2500-launch-happening-in-h2-2025/
    WCCFTECH.COM
    Samsung Is Said To Be Optimizing Its Exynos 2500 for Future Smartphones, With A Launch Expected In The Second Half Of 2025
    During Samsung’s quarterly earnings, its System LSI division mentioned that the Exynos 2500 was being optimized, with a launch slated for later this year
    0 Comments 0 Shares 224 Views 0 Reviews
  • ข่าวที่ไม่สู้ดีสำหรับ AMD ครับ

    ธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ AMD ในตลาด AI GPU โดยระบุว่าแผนการพัฒนาของ AMD ในด้านนี้มีความสามารถในการแข่งขันน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้. ธนาคาร HSBC ได้ลดเป้าหมายราคาหุ้นของ AMD ลง 45% จาก $200 เหลือ $110 ซึ่งแสดงถึงการลดลงอีกประมาณ 11% จากราคาหุ้นปัจจุบันของบริษัท

    นักวิเคราะห์ของ HSBC, แฟรงค์ ลี, เชื่อว่าการแข่งขันในตลาด AI GPU ของ AMD จะลดลงเนื่องจากความต้องการที่ไม่สูงมากสำหรับ GPU รุ่น MI325 และปัญหาการผลิตหน่วยความจำ HBM3e ของซัมซุง นอกจากนี้ AMD ยังมีแผนที่จะเปิดตัว GPU รุ่นใหม่ MI350 ในครึ่งหลังของปี 2025 แต่คาดว่าจะไม่มีโซลูชัน AI rack ที่สามารถแข่งขันกับแพลตฟอร์ม NVL ของ NVIDIA จนกว่าจะถึงปลายปี 2025 หรือต้นปี 2026

    การปรับลดคาดการณ์นี้สอดคล้องกับความคิดเห็นที่ไม่ดีที่เริ่มปรากฏในวอลล์สตรีท. นักวิเคราะห์จาก Wolfe Research ได้ระบุในเดือนธันวาคม 2024 ว่า AMD จะไม่สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับ AI สำหรับปี 2025 ซึ่งจะสร้างความกังวล. นอกจากนี้ ธนาคารแห่งอเมริกา (BofA) ยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของผู้จำหน่ายที่ใช้สถาปัตยกรรม Arm ในตลาด CPU ของ AMD

    จากบทวิเคราห์ข้างต้นนักลงทุนมีความเห็นว่ายังไงกันบ้างครับ จะรอช้อนหรือเปล่าครับ?

    https://wccf.tech/1fs5l
    ข่าวที่ไม่สู้ดีสำหรับ AMD ครับ ธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ AMD ในตลาด AI GPU โดยระบุว่าแผนการพัฒนาของ AMD ในด้านนี้มีความสามารถในการแข่งขันน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้. ธนาคาร HSBC ได้ลดเป้าหมายราคาหุ้นของ AMD ลง 45% จาก $200 เหลือ $110 ซึ่งแสดงถึงการลดลงอีกประมาณ 11% จากราคาหุ้นปัจจุบันของบริษัท นักวิเคราะห์ของ HSBC, แฟรงค์ ลี, เชื่อว่าการแข่งขันในตลาด AI GPU ของ AMD จะลดลงเนื่องจากความต้องการที่ไม่สูงมากสำหรับ GPU รุ่น MI325 และปัญหาการผลิตหน่วยความจำ HBM3e ของซัมซุง นอกจากนี้ AMD ยังมีแผนที่จะเปิดตัว GPU รุ่นใหม่ MI350 ในครึ่งหลังของปี 2025 แต่คาดว่าจะไม่มีโซลูชัน AI rack ที่สามารถแข่งขันกับแพลตฟอร์ม NVL ของ NVIDIA จนกว่าจะถึงปลายปี 2025 หรือต้นปี 2026 การปรับลดคาดการณ์นี้สอดคล้องกับความคิดเห็นที่ไม่ดีที่เริ่มปรากฏในวอลล์สตรีท. นักวิเคราะห์จาก Wolfe Research ได้ระบุในเดือนธันวาคม 2024 ว่า AMD จะไม่สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับ AI สำหรับปี 2025 ซึ่งจะสร้างความกังวล. นอกจากนี้ ธนาคารแห่งอเมริกา (BofA) ยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของผู้จำหน่ายที่ใช้สถาปัตยกรรม Arm ในตลาด CPU ของ AMD จากบทวิเคราห์ข้างต้นนักลงทุนมีความเห็นว่ายังไงกันบ้างครับ จะรอช้อนหรือเปล่าครับ? https://wccf.tech/1fs5l
    WCCF.TECH
    A Major Global Bank Goes Bearish On AMD: "We Now Think AMD's AI GPU Roadmap Is Less Competitive Than Previously Anticipated"
    Although AMD is slated to launch the MI350 GPU in H2 2024, it likely won't have a competitive AI rack solution until late 2025 or early 2026.
    0 Comments 0 Shares 231 Views 0 Reviews
  • เห็นมีการแจ้งเตือน ซื้อขาย มือถือซัมซุงมือ2 เดวนี้ต้องดูด้วยหรอว่าเครื่องติดผ่อนอยู่หรือปล่าวด้วยหรอ
    เห็นมีการแจ้งเตือน ซื้อขาย มือถือซัมซุงมือ2 เดวนี้ต้องดูด้วยหรอว่าเครื่องติดผ่อนอยู่หรือปล่าวด้วยหรอ
    0 Comments 0 Shares 188 Views 0 Reviews
  • ปักกิ่งสวนกลับทันควัน ประกาศจำกัดการส่งออกแร่ธาตุที่มีความสำคัญในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์บางรายการให้อเมริกา หลังจากเมื่อวันจันทร์ (2) วอชิงตันออกมาตรการสกัดอุตสาหกรรมชิปจีนรอบ 3 ซึ่งจะมีการควบคุมการส่งออกไปยังบริษัทแดนมังกร 140 แห่ง
    .
    คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เดินหมากใหญ่กระดานสุดท้ายในวันจันทร์ เพื่อปิดกั้นจีนไม่ให้เข้าถึงและผลิตชิปที่จะช่วยส่งเสริมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) โดยอ้างว่าอาจถูกนำไปใช้งานทางทหารหรือคุกคามความมั่นคงของอเมริกา
    .
    คำสั่งใหม่คราวนี้ยังเกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ก็เป็นที่คาดหมายกันว่า เขาจะยังคงสานต่อมาตรการแข็งกร้าวกับปักกิ่ง
    .
    สำหรับมาตรการรอบล่าสุดของสหรัฐฯ มุ่งครอบคลุมทั้งการจำกัดการจัดส่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไปยังจีน ได้แก่ ชิปหน่วยความจำแบนด์วิดธ์สูงที่จำเป็นสำหรับการใช้งานระดับไฮเอนด์อย่างเช่นการฝึกเครื่องจักรเอไอ เครื่องจักรเครื่องมือผลิตชิปอีก 24 รายการ และเครื่องมือด้านซอฟต์แวร์ 3 รายการ และการจำกัดการส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิปที่ผลิตในประเทศ เช่น สิงคโปร์และมาเลเซีย
    .
    จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์จีน แถลงว่า มาตรการนี้มีเป้าหมายในการป้องกันไม่ให้จีนสามารถส่งเสริมระบบการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในแดนมังกร ซึ่งจะนำไปใช้สนับสนุนการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย
    .
    สำหรับบริษัทจีนที่จะได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดรอบใหม่คราวนี้ ประกอบด้วยบริษัทด้านเซมิคอนดักเตอร์เกือบ 24 แห่ง บริษัทด้านการลงทุน 2 แห่ง และพวกผู้ผลิตเครื่องจักรเครื่องมือผลิตชิปกว่า 100 แห่ง เช่น สเวย์ชัวร์ เทคโนโลยี ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำงานร่วมกับหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ที่ถูกอเมริกาแซงก์ชันและขณะนี้มีบทบาทสำคัญในการผลิตและพัฒนาชิปขั้นสูงของจีน
    .
    บริษัทเหล่านี้จะถูกขึ้นบัญชีดำใน entity list หรือรายชื่อบริษัทที่รัฐบาลอเมริกามองว่า มีอันตรายต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ซึ่งซัปพลายเออร์อเมริกันจะไม่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งผลิตภัณฑ์ให้โดยไม่ได้รับใบอนุญาตพิเศษ
    .
    ยิ่งไปกว่านั้น มาตรการล่าสุดคราวนี้ยังมีการขยายอำนาจของอเมริกาในการควบคุมการส่งออกเครื่องจักรอุปกรณ์ผลิตชิปของพวกผู้ผลิตอเมริกัน ญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์ ที่ทำการผลิตในประเทศอื่นๆ ทั่วโลกและจัดส่งไปห้โรงงานชิปบางแห่งในจีน โดยการควบคุมเช่นนี้จะส่งผลต่อเครื่องจักรอุปกรณ์ที่ผลิตในอิสราเอล มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และไต้หวัน ขณะที่อุปกรณ์ที่ผลิตในญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์ได้รับการยกเว้น
    .
    มาตรการชุดใหม่นี้มีระเบียบจำกัดชิปความจำที่ใช้ในชิปเอไอซึ่งเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี HBM 2 หรือสูงกว่า อันเป็นเทคโนโลยีที่ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ และเอสเค ไฮนิกซ์ของเกาหลีใต้ และไมครอนของอเมริกาใช้อยู่
    .
    สำหรับปฏิกิริยาตอบโต้จากฝ่ายจีน หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงเมื่อวันจันทร์ว่า พฤติกรรมของอเมริกาบ่อนทำลายระเบียบการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และขัดขวางห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ก่อนสำทับว่า จีนจะดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของบริษัทท้องถิ่น
    .
    ทางด้านกระทรวงพาณิชย์จีนโจมตีว่า มาตรการจำกัดของอเมริกาเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของ “การข่มขู่ทางเศรษฐกิจ” และ “แนวทางปฏิบัติที่ไม่อิงกับตลาด”
    .
    จีนประกาศห้ามส่งออกแร่ใช้ทำเซมิคอนดักเตอร์ไปยังสหรัฐฯ
    .
    ต่อมาในวันอังคาร (3) กระทรวงพาณิชย์จีนประกาศใช้มาตรการห้ามการส่งออกพวกสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับแร่ แกลเลียม เจอร์มาเนียม และพลวง (แอนติโมนี) ซึ่งมีศักยภาพที่อาจนำไปใช้ทางทหารได้ ไปยังสหรัฐฯ นอกจากนั้น ยังให้ดำเนินการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดในเรื่องการส่งออกกราไฟต์ไปยังสหรัฐฯ อีกด้วย โดยต้องตรวจสอบผู้ใช้และการนำไปใช้อย่างถี่ถ้วน
    .
    คำชี้แนะว่าด้วยสิ่งของที่อาจนำไปประยุกต์ใช้ได้ทั้งทหารและพลเรือนของกระทรวงพาณิชย์จีนฉบับนี้ ซึ่งมีผลบังคับใช้ในทันที ได้ให้เหตุผลของการออกระเบียบเช่นนี้ว่า เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศชาติ
    .
    “โดยหลักการแล้ว การส่งออกแกลเลียม เจอร์มาเนียม พลวง และพวกวัสดุที่มีความแข็งเป็นพิเศษ (superhard materials) ไปยังสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่ไม่ควรได้รับอนุมัติ” กระทรวงพาณิชย์จีนบอก
    .
    มาตรการใหม่เช่นนี้ เป็นการเพิ่มความเข้มแข็งให้แก่การบังคับใช้ระเบียบจำกัดการส่งออกแร่ธาตุสำคัญยิ่งยวดเหล่านี้ซึ่งปักกิ่งทยอยประกาศออกมาในปีที่แล้ว เพียงแต่มาตรการใหม่นี้ยังมีการระบุเจาะจงว่าใช้กับการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ เท่านั้นอีกด้วย
    .
    ข้อมูลของศุลกากรจีนแสดงให้เห็นว่า ไม่มีการขนส่งเจอร์มาเนียม หรือแกลเลียม ทั้งแบบที่ขึ้นรูปแล้ว (wrought) และแบบที่ไม่ได้ขึ้นรูป (unwrought) ไปยังสหรัฐฯ เลยในปีนี้นับจนถึงเดือนตุลาคม ถึงแม้ในปีก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ คือตลาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 และอันดับ 5 ตามลำดับของแร่เหล่านี้ของจีน
    .
    แกลเลียม และเจอร์มาเนียม ใช้อยู่ในเซมิคอนดักเตอร์ นอกจากนั้นแล้ว เจอร์มาเนียม ยังใช้ในพวกเทคโนโลยีอินฟราเรด สายเคเบิลใยแก้วนำแสง และแผงโซลาร์เซลล์
    .
    ทำนองเดียวกัน การส่งออกพวกผลิตภัณฑ์พลวงของจีนโดยรวมในเดือนตุลาคม ได้หล่นฮวบลงมาถึง 97% เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน หลังจากมาตรการจำกัดการส่งออกของปักกิ่งเริ่มมีผลบังคับใช้
    .
    ในปีที่แล้ว จีนเป็นผู้ผลิตพลวงที่ได้มาจากการทำเหมืองถึงประมาณ 48% ของที่ผลิตได้ทั่วโลก โดยที่พลวงถูกนำไปใช้ทั้งในพวกเครื่องกระสุน ขีปนาวุธอินฟราเรด อาวุธนิวเคลียร์ และกล้องสองตาให้มองกลางคืน ตลอดจนในแบตเตอรี่ และอุปกรณ์โฟโตโวลตาอิก
    .
    “ความเคลื่อนไหวคราวนี้ถือว่าเป็นการทำให้ความตึงเครียดในห่วงโซ่อุปทานยิ่งยกระดับบานปลายออกไปอย่างมากมาย ขณะที่การเข้าถึงพวกวัตถุนี้ก็อยู่ในสภาพตึงตัวอยู่แล้วในโลกตะวันตก” เป็นคำกล่าวของ แจ๊ก เบดเดอร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง โปรเจ็คต์ บลู
    .
    ราคาของพลวงไตรออกไซด์ (antimony trioxide) ที่ตลาดรอตเตอร์ดัม อยู่ที่ 39,000 ดอลลาร์ต่อเมตริกตัน ณ วันที่ 28 พ.ย. เมื่อเปรียบเทียบกับตอนเริ่มต้นปีนี้ หมายความว่าราคาพุ่งสูงขึ้นถึง 228% ทั้งนี้ตามตัวเลขของ อาร์กุส กิจการด้านข้อมูลข่าวสาร
    .
    “ทุกๆ คนจะต้องพยายามลองขุดหาแถวๆ สนามหญ้าหลังบ้านของตัวเอง เพื่อค้นดูว่ามีพลวงหรือไม่ ประเทศจำนวนมากจะต้องพยายามค้นหาสินแร่พลวงให้เจอ” เป็นคำพูดของเทรดเดอร์ด้านโลหะรายหนึ่ง ซึ่งขอให้สงวนนาม
    ..............
    Sondhi X
    ปักกิ่งสวนกลับทันควัน ประกาศจำกัดการส่งออกแร่ธาตุที่มีความสำคัญในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์บางรายการให้อเมริกา หลังจากเมื่อวันจันทร์ (2) วอชิงตันออกมาตรการสกัดอุตสาหกรรมชิปจีนรอบ 3 ซึ่งจะมีการควบคุมการส่งออกไปยังบริษัทแดนมังกร 140 แห่ง . คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เดินหมากใหญ่กระดานสุดท้ายในวันจันทร์ เพื่อปิดกั้นจีนไม่ให้เข้าถึงและผลิตชิปที่จะช่วยส่งเสริมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) โดยอ้างว่าอาจถูกนำไปใช้งานทางทหารหรือคุกคามความมั่นคงของอเมริกา . คำสั่งใหม่คราวนี้ยังเกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ก็เป็นที่คาดหมายกันว่า เขาจะยังคงสานต่อมาตรการแข็งกร้าวกับปักกิ่ง . สำหรับมาตรการรอบล่าสุดของสหรัฐฯ มุ่งครอบคลุมทั้งการจำกัดการจัดส่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไปยังจีน ได้แก่ ชิปหน่วยความจำแบนด์วิดธ์สูงที่จำเป็นสำหรับการใช้งานระดับไฮเอนด์อย่างเช่นการฝึกเครื่องจักรเอไอ เครื่องจักรเครื่องมือผลิตชิปอีก 24 รายการ และเครื่องมือด้านซอฟต์แวร์ 3 รายการ และการจำกัดการส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิปที่ผลิตในประเทศ เช่น สิงคโปร์และมาเลเซีย . จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์จีน แถลงว่า มาตรการนี้มีเป้าหมายในการป้องกันไม่ให้จีนสามารถส่งเสริมระบบการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในแดนมังกร ซึ่งจะนำไปใช้สนับสนุนการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย . สำหรับบริษัทจีนที่จะได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดรอบใหม่คราวนี้ ประกอบด้วยบริษัทด้านเซมิคอนดักเตอร์เกือบ 24 แห่ง บริษัทด้านการลงทุน 2 แห่ง และพวกผู้ผลิตเครื่องจักรเครื่องมือผลิตชิปกว่า 100 แห่ง เช่น สเวย์ชัวร์ เทคโนโลยี ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำงานร่วมกับหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ที่ถูกอเมริกาแซงก์ชันและขณะนี้มีบทบาทสำคัญในการผลิตและพัฒนาชิปขั้นสูงของจีน . บริษัทเหล่านี้จะถูกขึ้นบัญชีดำใน entity list หรือรายชื่อบริษัทที่รัฐบาลอเมริกามองว่า มีอันตรายต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ซึ่งซัปพลายเออร์อเมริกันจะไม่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งผลิตภัณฑ์ให้โดยไม่ได้รับใบอนุญาตพิเศษ . ยิ่งไปกว่านั้น มาตรการล่าสุดคราวนี้ยังมีการขยายอำนาจของอเมริกาในการควบคุมการส่งออกเครื่องจักรอุปกรณ์ผลิตชิปของพวกผู้ผลิตอเมริกัน ญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์ ที่ทำการผลิตในประเทศอื่นๆ ทั่วโลกและจัดส่งไปห้โรงงานชิปบางแห่งในจีน โดยการควบคุมเช่นนี้จะส่งผลต่อเครื่องจักรอุปกรณ์ที่ผลิตในอิสราเอล มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และไต้หวัน ขณะที่อุปกรณ์ที่ผลิตในญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์ได้รับการยกเว้น . มาตรการชุดใหม่นี้มีระเบียบจำกัดชิปความจำที่ใช้ในชิปเอไอซึ่งเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี HBM 2 หรือสูงกว่า อันเป็นเทคโนโลยีที่ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ และเอสเค ไฮนิกซ์ของเกาหลีใต้ และไมครอนของอเมริกาใช้อยู่ . สำหรับปฏิกิริยาตอบโต้จากฝ่ายจีน หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงเมื่อวันจันทร์ว่า พฤติกรรมของอเมริกาบ่อนทำลายระเบียบการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และขัดขวางห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ก่อนสำทับว่า จีนจะดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของบริษัทท้องถิ่น . ทางด้านกระทรวงพาณิชย์จีนโจมตีว่า มาตรการจำกัดของอเมริกาเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของ “การข่มขู่ทางเศรษฐกิจ” และ “แนวทางปฏิบัติที่ไม่อิงกับตลาด” . จีนประกาศห้ามส่งออกแร่ใช้ทำเซมิคอนดักเตอร์ไปยังสหรัฐฯ . ต่อมาในวันอังคาร (3) กระทรวงพาณิชย์จีนประกาศใช้มาตรการห้ามการส่งออกพวกสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับแร่ แกลเลียม เจอร์มาเนียม และพลวง (แอนติโมนี) ซึ่งมีศักยภาพที่อาจนำไปใช้ทางทหารได้ ไปยังสหรัฐฯ นอกจากนั้น ยังให้ดำเนินการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดในเรื่องการส่งออกกราไฟต์ไปยังสหรัฐฯ อีกด้วย โดยต้องตรวจสอบผู้ใช้และการนำไปใช้อย่างถี่ถ้วน . คำชี้แนะว่าด้วยสิ่งของที่อาจนำไปประยุกต์ใช้ได้ทั้งทหารและพลเรือนของกระทรวงพาณิชย์จีนฉบับนี้ ซึ่งมีผลบังคับใช้ในทันที ได้ให้เหตุผลของการออกระเบียบเช่นนี้ว่า เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศชาติ . “โดยหลักการแล้ว การส่งออกแกลเลียม เจอร์มาเนียม พลวง และพวกวัสดุที่มีความแข็งเป็นพิเศษ (superhard materials) ไปยังสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่ไม่ควรได้รับอนุมัติ” กระทรวงพาณิชย์จีนบอก . มาตรการใหม่เช่นนี้ เป็นการเพิ่มความเข้มแข็งให้แก่การบังคับใช้ระเบียบจำกัดการส่งออกแร่ธาตุสำคัญยิ่งยวดเหล่านี้ซึ่งปักกิ่งทยอยประกาศออกมาในปีที่แล้ว เพียงแต่มาตรการใหม่นี้ยังมีการระบุเจาะจงว่าใช้กับการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ เท่านั้นอีกด้วย . ข้อมูลของศุลกากรจีนแสดงให้เห็นว่า ไม่มีการขนส่งเจอร์มาเนียม หรือแกลเลียม ทั้งแบบที่ขึ้นรูปแล้ว (wrought) และแบบที่ไม่ได้ขึ้นรูป (unwrought) ไปยังสหรัฐฯ เลยในปีนี้นับจนถึงเดือนตุลาคม ถึงแม้ในปีก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ คือตลาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 และอันดับ 5 ตามลำดับของแร่เหล่านี้ของจีน . แกลเลียม และเจอร์มาเนียม ใช้อยู่ในเซมิคอนดักเตอร์ นอกจากนั้นแล้ว เจอร์มาเนียม ยังใช้ในพวกเทคโนโลยีอินฟราเรด สายเคเบิลใยแก้วนำแสง และแผงโซลาร์เซลล์ . ทำนองเดียวกัน การส่งออกพวกผลิตภัณฑ์พลวงของจีนโดยรวมในเดือนตุลาคม ได้หล่นฮวบลงมาถึง 97% เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน หลังจากมาตรการจำกัดการส่งออกของปักกิ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ . ในปีที่แล้ว จีนเป็นผู้ผลิตพลวงที่ได้มาจากการทำเหมืองถึงประมาณ 48% ของที่ผลิตได้ทั่วโลก โดยที่พลวงถูกนำไปใช้ทั้งในพวกเครื่องกระสุน ขีปนาวุธอินฟราเรด อาวุธนิวเคลียร์ และกล้องสองตาให้มองกลางคืน ตลอดจนในแบตเตอรี่ และอุปกรณ์โฟโตโวลตาอิก . “ความเคลื่อนไหวคราวนี้ถือว่าเป็นการทำให้ความตึงเครียดในห่วงโซ่อุปทานยิ่งยกระดับบานปลายออกไปอย่างมากมาย ขณะที่การเข้าถึงพวกวัตถุนี้ก็อยู่ในสภาพตึงตัวอยู่แล้วในโลกตะวันตก” เป็นคำกล่าวของ แจ๊ก เบดเดอร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง โปรเจ็คต์ บลู . ราคาของพลวงไตรออกไซด์ (antimony trioxide) ที่ตลาดรอตเตอร์ดัม อยู่ที่ 39,000 ดอลลาร์ต่อเมตริกตัน ณ วันที่ 28 พ.ย. เมื่อเปรียบเทียบกับตอนเริ่มต้นปีนี้ หมายความว่าราคาพุ่งสูงขึ้นถึง 228% ทั้งนี้ตามตัวเลขของ อาร์กุส กิจการด้านข้อมูลข่าวสาร . “ทุกๆ คนจะต้องพยายามลองขุดหาแถวๆ สนามหญ้าหลังบ้านของตัวเอง เพื่อค้นดูว่ามีพลวงหรือไม่ ประเทศจำนวนมากจะต้องพยายามค้นหาสินแร่พลวงให้เจอ” เป็นคำพูดของเทรดเดอร์ด้านโลหะรายหนึ่ง ซึ่งขอให้สงวนนาม .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    3
    0 Comments 0 Shares 1324 Views 0 Reviews
  • กระเป๋า+ผ้าขนหนู - ซัมซุง แก้ว - ไทยประกัน
    กระเป๋า+ผ้าขนหนู - ซัมซุง แก้ว - ไทยประกัน
    0 Comments 0 Shares 166 Views 0 Reviews
  • Apple แซะประเทศชาวบ้านดีนัก สมน้ำหน้ากะลาหัวเจาะ ยอดขายหัวเหว่ยและเสี่ยวมี่ที่อินโดนีเซียพุ่งพรวดรัวๆๆแน่นอน ส่วนตัวผมไม่อยากจะซื้อ Apple มาใช้ไม่ว่าจะแบบไหน ส่วนตัวผมมีซัมซุงเครื่องนึง อีกเครื่องจะรอเก็บเงินซื้อหัวเหว่ยสักหมื่นสองหมื่นก็ต้องสู้ชีวิตสู้งานกันต่อไป สู้ถูกทางดีที่สุดและมั่นคงที่สุดกับตัวเราแล้วครับ
    Apple แซะประเทศชาวบ้านดีนัก สมน้ำหน้ากะลาหัวเจาะ ยอดขายหัวเหว่ยและเสี่ยวมี่ที่อินโดนีเซียพุ่งพรวดรัวๆๆแน่นอน ส่วนตัวผมไม่อยากจะซื้อ Apple มาใช้ไม่ว่าจะแบบไหน ส่วนตัวผมมีซัมซุงเครื่องนึง อีกเครื่องจะรอเก็บเงินซื้อหัวเหว่ยสักหมื่นสองหมื่นก็ต้องสู้ชีวิตสู้งานกันต่อไป สู้ถูกทางดีที่สุดและมั่นคงที่สุดกับตัวเราแล้วครับ
    อินโดห้ามขาย iPhone 16 อยากใช้ต้องนำเข้าเอง (04/11/67) #news1 #อินโดห้ามขายiPhone16
    0 Comments 0 Shares 373 Views 736 0 Reviews
  • อินโดฯ:ไม่มีการลงทุน ก็ไม่ต้องมี iPhone16

    ชัดเจนแล้วว่าทางการอินโดนีเซียไม่ให้บริษัทแอปเปิ้ล (Apple Inc.) ของสหรัฐอเมริกา จำหน่ายโทรศัพท์มือถือไอโฟน 16 (iPhone 16) ในประเทศ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย แถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 ต.ค.) หลังบริษัทท้องถิ่น พีที แอปเปิ้ล อินโดนีเซีย (PT Apple Indonesia) ไม่ปฎิบัติตามข้อกำหนดการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ (Local Content) ให้ได้ 40% แต่ผลิตภัณฑ์รุ่นเก่าของแอปเปิ้ลยังคงจำหน่ายในอินโดนีเซียได้

    ทั้งนี้ มีโทรศัพท์มือถือไอโฟน 16 นำเข้ามาในประเทศอินโดนีเซียแล้ว 9,000 เครื่อง ผ่านการซื้อจากต่างประเทศของผู้โดยสาร และลูกเรือบนเครื่องบิน หรือการส่งพัสดุระหว่างประเทศ แต่ได้รับอนุญาตให้ใช้งานส่วนบุคคล (Personal Use) เท่านั้น ไม่สามารถซื้อขายแก่ผู้อื่นได้ และตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ทางการอินโดนีเซียได้กำหนดให้โทรศัพท์มือถือทุกรุ่นที่ซื้อจากต่างประเทศต้องลงทะเบียนกับรัฐบาล และเสียภาษีในอัตราที่สูง

    กรณีนี้กลายเป็นอุปสรรคที่ทำให้แอปเปิ้ล ไม่สามารถเจาะตลาดสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ แก่ประเทศอินโดนีเซีย ที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานอยู่ประมาณ 350 ล้านเครื่อง มากกว่าจำนวนประชากรราว 270 ล้านคน ทั้งที่แอปเปิ้ลเปิดตัวผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2567 เป็นต้นมา ซึ่งในภูมิภาคอาเซียนวางจำหน่ายแล้วที่ สิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย เวียดนาม บรูไน ฟิลิปปินส์

    ตามข้อบังคับของกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย ปี 2017 กำหนดให้ผู้ประกอบการจะต้องขอใบรับรองผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในประเทศ เรียกว่า TKDN (Tingkat Komponen Domestik Negeri) หนึ่งในนั้นคือการกำหนด Local Content ในรูปแบบการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ การผลิตและการจ้างแรงงานในประเทศ การพัฒนาแอปพลิเคชัน หรือนวัตกรรมในประเทศ ที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเลือกใช้โครงการพัฒนานวัตกรรม ก่อตั้งสถาบัน Apple Academies ที่เมืองทังเกอรัง เมืองซิโดอาร์โจ และเมืองบาตัม

    ปัญหาก็คือ เม็ดเงินลงทุนของแอปเปิ้ลในอินโดนีเซียอยู่ที่ 1.48 ล้านล้านรูเปียห์ ต่ำกว่ายอดการลงทุนทั้งหมดที่กำหนดไว้ 1.71 ล้านล้านรูเปียห์ ทำให้อินโดนีเซียขาดดุลทางการค้าคิดเป็นเงินไทยเกือบ 500 ล้านบาท แม้มองผิวเผินดูเหมือนว่าเป็นการกีดกันทางการค้า จำกัดเสรีภาพในการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ แต่อีกมุมหนึ่ง ถือเป็นการรักษาผลประโยชน์ของชาติ ไม่ให้เกิดการขาดดุลทางการค้า ซึ่งที่ผ่านมา ซัมซุงและเสียวมี่ เลือกที่จะตั้งโรงงานในอินโดนีเซียเช่นกัน

    #Newskit #iPhone16 #Indonesia
    อินโดฯ:ไม่มีการลงทุน ก็ไม่ต้องมี iPhone16 ชัดเจนแล้วว่าทางการอินโดนีเซียไม่ให้บริษัทแอปเปิ้ล (Apple Inc.) ของสหรัฐอเมริกา จำหน่ายโทรศัพท์มือถือไอโฟน 16 (iPhone 16) ในประเทศ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย แถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 ต.ค.) หลังบริษัทท้องถิ่น พีที แอปเปิ้ล อินโดนีเซีย (PT Apple Indonesia) ไม่ปฎิบัติตามข้อกำหนดการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ (Local Content) ให้ได้ 40% แต่ผลิตภัณฑ์รุ่นเก่าของแอปเปิ้ลยังคงจำหน่ายในอินโดนีเซียได้ ทั้งนี้ มีโทรศัพท์มือถือไอโฟน 16 นำเข้ามาในประเทศอินโดนีเซียแล้ว 9,000 เครื่อง ผ่านการซื้อจากต่างประเทศของผู้โดยสาร และลูกเรือบนเครื่องบิน หรือการส่งพัสดุระหว่างประเทศ แต่ได้รับอนุญาตให้ใช้งานส่วนบุคคล (Personal Use) เท่านั้น ไม่สามารถซื้อขายแก่ผู้อื่นได้ และตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ทางการอินโดนีเซียได้กำหนดให้โทรศัพท์มือถือทุกรุ่นที่ซื้อจากต่างประเทศต้องลงทะเบียนกับรัฐบาล และเสียภาษีในอัตราที่สูง กรณีนี้กลายเป็นอุปสรรคที่ทำให้แอปเปิ้ล ไม่สามารถเจาะตลาดสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ แก่ประเทศอินโดนีเซีย ที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานอยู่ประมาณ 350 ล้านเครื่อง มากกว่าจำนวนประชากรราว 270 ล้านคน ทั้งที่แอปเปิ้ลเปิดตัวผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด วางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2567 เป็นต้นมา ซึ่งในภูมิภาคอาเซียนวางจำหน่ายแล้วที่ สิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย เวียดนาม บรูไน ฟิลิปปินส์ ตามข้อบังคับของกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย ปี 2017 กำหนดให้ผู้ประกอบการจะต้องขอใบรับรองผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในประเทศ เรียกว่า TKDN (Tingkat Komponen Domestik Negeri) หนึ่งในนั้นคือการกำหนด Local Content ในรูปแบบการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ การผลิตและการจ้างแรงงานในประเทศ การพัฒนาแอปพลิเคชัน หรือนวัตกรรมในประเทศ ที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเลือกใช้โครงการพัฒนานวัตกรรม ก่อตั้งสถาบัน Apple Academies ที่เมืองทังเกอรัง เมืองซิโดอาร์โจ และเมืองบาตัม ปัญหาก็คือ เม็ดเงินลงทุนของแอปเปิ้ลในอินโดนีเซียอยู่ที่ 1.48 ล้านล้านรูเปียห์ ต่ำกว่ายอดการลงทุนทั้งหมดที่กำหนดไว้ 1.71 ล้านล้านรูเปียห์ ทำให้อินโดนีเซียขาดดุลทางการค้าคิดเป็นเงินไทยเกือบ 500 ล้านบาท แม้มองผิวเผินดูเหมือนว่าเป็นการกีดกันทางการค้า จำกัดเสรีภาพในการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ แต่อีกมุมหนึ่ง ถือเป็นการรักษาผลประโยชน์ของชาติ ไม่ให้เกิดการขาดดุลทางการค้า ซึ่งที่ผ่านมา ซัมซุงและเสียวมี่ เลือกที่จะตั้งโรงงานในอินโดนีเซียเช่นกัน #Newskit #iPhone16 #Indonesia
    Like
    6
    0 Comments 2 Shares 1255 Views 0 Reviews
  • Galaxy Z Fold รุ่นพิเศษ หั่นบาง กล้องดีขึ้น (22/10/67) #news1 #GalaxyZFold #ซัมซุง #สมาร์ตโฟนจอพับ
    Galaxy Z Fold รุ่นพิเศษ หั่นบาง กล้องดีขึ้น (22/10/67) #news1 #GalaxyZFold #ซัมซุง #สมาร์ตโฟนจอพับ
    Like
    Love
    10
    0 Comments 0 Shares 1717 Views 425 0 Reviews