• บริษัท Logitech International เพิ่งประกาศแผนการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสามปีข้างหน้า ซึ่งเป็นการเพิ่มงบประมาณการซื้อหุ้นคืนในปัจจุบันอีก 600 ล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกันบริษัทก็ยืนยันว่าคาดหวังยอดขายในปี 2025 จะเติบโตในช่วง 5.4% ถึง 6.4% เพื่อให้ถึงเป้าหมายที่ 4.54 ถึง 4.57 พันล้านดอลลาร์

    ในขณะที่บริษัทก็ได้คาดการณ์ยอดขายในปี 2026 ไว้ที่ 4.53 ถึง 4.71 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะมีการเติบโตในช่วง 1% ถึง 3% ในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง

    Hanneke Faber, CEO ของ Logitech กล่าวว่า "เราเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มหลักของเรา และมีแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการขยายตลาดและเข้าสู่กลุ่มใหม่ ๆ พร้อมกับใช้ AI เป็นตัวเพิ่มพลัง"

    Logitech ได้กลับมามียอดขายเติบโตอีกครั้งหลังจากช่วงที่ตลาดซบเซาหลังการบูมในช่วงโรคระบาด โดยเน้นการขายสินค้าในกลุ่มการศึกษาและสุขภาพเพื่อขยายฐานลูกค้าที่เป็นกลุ่มผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในบ้าน นักเล่นเกม และธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เช่น เมาส์คอมพิวเตอร์ที่มีปุ่มเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม AI อย่าง ChatGPT เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน

    Logitech มีเป้าหมายที่จะขายสินค้าของตนให้กับธุรกิจมากขึ้นในอนาคต โดยมีการประกาศแผนการเพิ่มยอดขายระยะยาวที่ 7% ถึง 10% ต่อปี และคาดว่าจะมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 40% ขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีการขยายตัวในการขายสินค้าในกลุ่มการศึกษาและสุขภาพเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/06/computer-parts-maker-logitech-targets-2-billion-share-buyback
    บริษัท Logitech International เพิ่งประกาศแผนการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสามปีข้างหน้า ซึ่งเป็นการเพิ่มงบประมาณการซื้อหุ้นคืนในปัจจุบันอีก 600 ล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกันบริษัทก็ยืนยันว่าคาดหวังยอดขายในปี 2025 จะเติบโตในช่วง 5.4% ถึง 6.4% เพื่อให้ถึงเป้าหมายที่ 4.54 ถึง 4.57 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่บริษัทก็ได้คาดการณ์ยอดขายในปี 2026 ไว้ที่ 4.53 ถึง 4.71 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะมีการเติบโตในช่วง 1% ถึง 3% ในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง Hanneke Faber, CEO ของ Logitech กล่าวว่า "เราเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มหลักของเรา และมีแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการขยายตลาดและเข้าสู่กลุ่มใหม่ ๆ พร้อมกับใช้ AI เป็นตัวเพิ่มพลัง" Logitech ได้กลับมามียอดขายเติบโตอีกครั้งหลังจากช่วงที่ตลาดซบเซาหลังการบูมในช่วงโรคระบาด โดยเน้นการขายสินค้าในกลุ่มการศึกษาและสุขภาพเพื่อขยายฐานลูกค้าที่เป็นกลุ่มผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในบ้าน นักเล่นเกม และธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เช่น เมาส์คอมพิวเตอร์ที่มีปุ่มเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม AI อย่าง ChatGPT เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน Logitech มีเป้าหมายที่จะขายสินค้าของตนให้กับธุรกิจมากขึ้นในอนาคต โดยมีการประกาศแผนการเพิ่มยอดขายระยะยาวที่ 7% ถึง 10% ต่อปี และคาดว่าจะมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 40% ขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีการขยายตัวในการขายสินค้าในกลุ่มการศึกษาและสุขภาพเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/06/computer-parts-maker-logitech-targets-2-billion-share-buyback
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Logitech targets $2 billion share buyback, confirms 2025 outlook
    (Reuters) -Logitech International will buy back $2 billion worth of shares over the next three years, and will increase its current buyback program by $600 million, the computer parts maker said on Wednesday as it confirmed its 2025 outlook.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทองคำมีบทบาทสำคัญในระบบการเงินโลกมาอย่างยาวนาน และยังคงมีความสำคัญในปัจจุบัน ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวกับทองคำกับการเงินโลก:

    ### 1. **ประวัติศาสตร์ของทองคำ**
    - **มาตรฐานทองคำ (Gold Standard)**: ในอดีต หลายประเทศใช้มาตรฐานทองคำ ซึ่งหมายความว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆ ผูกติดกับปริมาณทองคำที่ประเทศนั้นถือครอง ระบบนี้ช่วยรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนและควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
    - **การยกเลิกมาตรฐานทองคำ**: ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 หลายประเทศเริ่มยกเลิกมาตรฐานทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 สหรัฐอเมริกายกเลิกมาตรฐานทองคำอย่างสมบูรณ์ในปี 1971 ภายใต้การนำของประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน

    ### 2. **บทบาทของทองคำในระบบการเงินสมัยใหม่**
    - **ทุนสำรองระหว่างประเทศ**: ทองคำยังคงเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองระหว่างประเทศของหลายประเทศ ทองคำช่วยเพิ่มความมั่นใจในเสถียรภาพทางการเงินของประเทศและสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ
    - **การลงทุน**: ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe-Haven Asset) ที่นักลงทุนมักจะหันไปลงทุนในช่วงเวลาที่ตลาดการเงินมีความไม่แน่นอน เช่น ภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์
    - **เครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ**: ทองคำมักถูกมองว่าเป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ เนื่องจากมูลค่าของทองคำมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อค่าของเงินกระดาษลดลง

    ### 3. **ตลาดทองคำ**
    - **ตลาดฟิสิคัล**: ตลาดทองคำฟิสิคัลมีการซื้อขายทองคำในรูปแบบของแท่งทองคำ เหรียญทองคำ และเครื่องประดับ ตลาดสำคัญได้แก่ อินเดีย จีน และตะวันออกกลาง
    - **ตลาดอนุพันธ์**: ตลาดอนุพันธ์เช่น สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) และตัวเลือก (Options) ช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำ

    ### 4. **ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ**
    - **ภาวะเศรษฐกิจโลก**: ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น
    - **อัตราดอกเบี้ย**: อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนการถือครองทองคำลดลง
    - **ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ**: ราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากทองคำถูกซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์
    - **ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์**: ความขัดแย้งหรือความตึงเครียดทางการเมืองมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย

    ### 5. **อนาคตของทองคำในระบบการเงินโลก**
    - **การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี**: การเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนอาจส่งผลต่อบทบาทของทองคำในระบบการเงินโลก
    - **ความยั่งยืน**: การทำเหมืองทองคำและการผลิตทองคำมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจส่งผลต่อความต้องการทองคำในอนาคต

    ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความสำคัญในระบบการเงินโลก ทั้งในแง่ของการลงทุน การป้องกันความเสี่ยง และการเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ การเข้าใจบทบาทและปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำจะช่วยให้นักลงทุนและผู้กำหนดนโยบายสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    ทองคำมีบทบาทสำคัญในระบบการเงินโลกมาอย่างยาวนาน และยังคงมีความสำคัญในปัจจุบัน ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวกับทองคำกับการเงินโลก: ### 1. **ประวัติศาสตร์ของทองคำ** - **มาตรฐานทองคำ (Gold Standard)**: ในอดีต หลายประเทศใช้มาตรฐานทองคำ ซึ่งหมายความว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆ ผูกติดกับปริมาณทองคำที่ประเทศนั้นถือครอง ระบบนี้ช่วยรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนและควบคุมอัตราเงินเฟ้อ - **การยกเลิกมาตรฐานทองคำ**: ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 หลายประเทศเริ่มยกเลิกมาตรฐานทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 สหรัฐอเมริกายกเลิกมาตรฐานทองคำอย่างสมบูรณ์ในปี 1971 ภายใต้การนำของประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ### 2. **บทบาทของทองคำในระบบการเงินสมัยใหม่** - **ทุนสำรองระหว่างประเทศ**: ทองคำยังคงเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองระหว่างประเทศของหลายประเทศ ทองคำช่วยเพิ่มความมั่นใจในเสถียรภาพทางการเงินของประเทศและสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ - **การลงทุน**: ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe-Haven Asset) ที่นักลงทุนมักจะหันไปลงทุนในช่วงเวลาที่ตลาดการเงินมีความไม่แน่นอน เช่น ภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ - **เครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ**: ทองคำมักถูกมองว่าเป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ เนื่องจากมูลค่าของทองคำมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อค่าของเงินกระดาษลดลง ### 3. **ตลาดทองคำ** - **ตลาดฟิสิคัล**: ตลาดทองคำฟิสิคัลมีการซื้อขายทองคำในรูปแบบของแท่งทองคำ เหรียญทองคำ และเครื่องประดับ ตลาดสำคัญได้แก่ อินเดีย จีน และตะวันออกกลาง - **ตลาดอนุพันธ์**: ตลาดอนุพันธ์เช่น สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) และตัวเลือก (Options) ช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำ ### 4. **ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ** - **ภาวะเศรษฐกิจโลก**: ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น - **อัตราดอกเบี้ย**: อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนการถือครองทองคำลดลง - **ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ**: ราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากทองคำถูกซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์ - **ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์**: ความขัดแย้งหรือความตึงเครียดทางการเมืองมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย ### 5. **อนาคตของทองคำในระบบการเงินโลก** - **การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี**: การเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนอาจส่งผลต่อบทบาทของทองคำในระบบการเงินโลก - **ความยั่งยืน**: การทำเหมืองทองคำและการผลิตทองคำมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจส่งผลต่อความต้องการทองคำในอนาคต ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความสำคัญในระบบการเงินโลก ทั้งในแง่ของการลงทุน การป้องกันความเสี่ยง และการเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ การเข้าใจบทบาทและปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำจะช่วยให้นักลงทุนและผู้กำหนดนโยบายสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 567 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥ตลาดหุ้นไทย หรือ SET หลังจากแรลลี่
    ขึ้นมากกว่า 170 จุด ตั้งแต่เดือน สิงหาคม
    จนถึง ตุลาคม 2567 จากปัจจัยหลักๆคือ
    1. กองทุนรวมวายุภักษ์1 ที่เข้าเทรดในตลาด
    มากกว่า 1.5 แสนล้านบาท
    2. ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง ในขณะที่
    ค่าเงินบาท แข็งค่าขึ้น ทำให้ฟันโฟว์
    หรือ เม็ดเงินจากนักลงทุนต่างประเทศ
    ไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ รวมทั้งตลาดหุ้นไทย
    3. ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ได้ลดอัตราดอกเบี้ย
    นโยบายลง 0.5% เป็น 4.75 - 5.0%
    4. งบประมาณปี 2568 ของรัฐบาลผ่านความเห็นชอบ
    จากรัฐสภา
    5. มาตการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ด้วยดิจิทัลวอลเลต
    เฟส 1 (1.2 แสนล้านบาท) และ รอบเก็บตก

    ***ตอนนี้ กองทุน หรือ สถาบัน เริ่มเทขายหุ้นทำกำไรออกมา
    หลังจากเข้าซื้อมาตลอดระยะเวลา 3 เดือน***
    คาดการณ์ว่า นักลงทุนในประเทศ หรือ รายย่อย
    ที่เข้าซื้อแบบไล่ราคา จะมีโอกาสสูงที่จะติดดอยหุ้น
    ในระยะต่อไป

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET
    #thaitimes
    💥💥ตลาดหุ้นไทย หรือ SET หลังจากแรลลี่ ขึ้นมากกว่า 170 จุด ตั้งแต่เดือน สิงหาคม จนถึง ตุลาคม 2567 จากปัจจัยหลักๆคือ 1. กองทุนรวมวายุภักษ์1 ที่เข้าเทรดในตลาด มากกว่า 1.5 แสนล้านบาท 2. ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง ในขณะที่ ค่าเงินบาท แข็งค่าขึ้น ทำให้ฟันโฟว์ หรือ เม็ดเงินจากนักลงทุนต่างประเทศ ไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ รวมทั้งตลาดหุ้นไทย 3. ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ได้ลดอัตราดอกเบี้ย นโยบายลง 0.5% เป็น 4.75 - 5.0% 4. งบประมาณปี 2568 ของรัฐบาลผ่านความเห็นชอบ จากรัฐสภา 5. มาตการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ด้วยดิจิทัลวอลเลต เฟส 1 (1.2 แสนล้านบาท) และ รอบเก็บตก ***ตอนนี้ กองทุน หรือ สถาบัน เริ่มเทขายหุ้นทำกำไรออกมา หลังจากเข้าซื้อมาตลอดระยะเวลา 3 เดือน*** คาดการณ์ว่า นักลงทุนในประเทศ หรือ รายย่อย ที่เข้าซื้อแบบไล่ราคา จะมีโอกาสสูงที่จะติดดอยหุ้น ในระยะต่อไป #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 934 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥วันพุธเมื่อวาน ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกยังทรงตัว
    ราคาน้ำมันได้พุ่งสูงขึ้น นักลงทุนกังวลสถานการณ์
    ในตะวันออกกลางระหว่าง อิหร่านและอิสราเอล

    🚩โดยดัชนีหุ้นทั่วโลก ลดลงเล็กน้อยในวันพุธ
    โดยที่ดอลลาร์สหรัฐได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น และราคาน้ำมันลดลง
    จากช่วงก่อนหน้านี้ เนื่องจากนักลงทุนพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจ
    ของสหรัฐฯ และรอคอยการตอบสนองของอิสราเอลต่อการโจมตี
    ด้วยขีปนาวุธของอิหร่านในวันก่อนหน้า

    🚩ส่วนราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีความกังวลว่าสถานการณ์
    ตึงเครียดเพิ่มเติมในตะวันออกกลาง อาจส่งผลกระทบ
    ต่ออุปทานน้ำมันจากภูมิภาคผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก
    แต่การเพิ่มขึ้นนี้ถูกจำกัดด้วยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ
    ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก

    🚩ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์
    เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากรายงานการจ้างงานระดับชาติ
    ของ ADP แสดงให้เห็นว่าการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ
    เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีข้อมูล
    การจ้างงานที่จะประกาศในวันศุกร์ที่จะถึงนี้

    ที่มา : Reuters

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    💥💥วันพุธเมื่อวาน ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกยังทรงตัว ราคาน้ำมันได้พุ่งสูงขึ้น นักลงทุนกังวลสถานการณ์ ในตะวันออกกลางระหว่าง อิหร่านและอิสราเอล 🚩โดยดัชนีหุ้นทั่วโลก ลดลงเล็กน้อยในวันพุธ โดยที่ดอลลาร์สหรัฐได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น และราคาน้ำมันลดลง จากช่วงก่อนหน้านี้ เนื่องจากนักลงทุนพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจ ของสหรัฐฯ และรอคอยการตอบสนองของอิสราเอลต่อการโจมตี ด้วยขีปนาวุธของอิหร่านในวันก่อนหน้า 🚩ส่วนราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีความกังวลว่าสถานการณ์ ตึงเครียดเพิ่มเติมในตะวันออกกลาง อาจส่งผลกระทบ ต่ออุปทานน้ำมันจากภูมิภาคผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก แต่การเพิ่มขึ้นนี้ถูกจำกัดด้วยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก 🚩ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากรายงานการจ้างงานระดับชาติ ของ ADP แสดงให้เห็นว่าการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีข้อมูล การจ้างงานที่จะประกาศในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ ที่มา : Reuters #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 675 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥23/09/2567
    ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ได้กลับมาฟื้นตัว แข็งค่าขึ้นอีกครั้ง
    หลังจากอ่อนค่าลงมาประมาณ 2 สัปดาห์
    ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ส่วนใหญ่
    ปรับตัวลดลง รวมทั้งตลาดหุ้นไทย

    🚩โดยดัชนีฮั่งเส็ง ฮ่องกง หรือ HSI ดัชนีอยู่ที่ 1827.11
    ปรับตัวลง -20 จุด ลดลง -0.13%

    🚩ดัชนี VN30 เวียดนาม ดัชนีอยู่ที่ 1322.46
    ปรับตัวลง -3.54 จุด -0.27%

    🚩ส่วนดัชนีตลาดหุ้นไทยหรือ SET ล่าสุด 14.50 น.
    ดัชนีอยู่ที่ 1445.44 ลดลง -6.44 จุด -0.42%

    🚩และค่าเงินบาท วันนี้อ่อนค่าลง -0.16% เมื่อเทียบกับ
    ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดอยู่ที่ 32.97 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET #ค่าเงินบาท
    #thaitimes
    🔥🔥23/09/2567 ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ได้กลับมาฟื้นตัว แข็งค่าขึ้นอีกครั้ง หลังจากอ่อนค่าลงมาประมาณ 2 สัปดาห์ ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ส่วนใหญ่ ปรับตัวลดลง รวมทั้งตลาดหุ้นไทย 🚩โดยดัชนีฮั่งเส็ง ฮ่องกง หรือ HSI ดัชนีอยู่ที่ 1827.11 ปรับตัวลง -20 จุด ลดลง -0.13% 🚩ดัชนี VN30 เวียดนาม ดัชนีอยู่ที่ 1322.46 ปรับตัวลง -3.54 จุด -0.27% 🚩ส่วนดัชนีตลาดหุ้นไทยหรือ SET ล่าสุด 14.50 น. ดัชนีอยู่ที่ 1445.44 ลดลง -6.44 จุด -0.42% 🚩และค่าเงินบาท วันนี้อ่อนค่าลง -0.16% เมื่อเทียบกับ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดอยู่ที่ 32.97 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET #ค่าเงินบาท #thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1039 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥ในความคิดเห็นส่วนตัวของแอดมิน
    ในอดีต การเคลื่อนไหวของราคาบิทคอยน์ ที่เคยเป็นอิสระ
    ไม่มีสิ่งไหนควบคุมได้ แนวคิดนี้อาจต้องเปลี่ยนไป
    เมื่อปัจจุบัน พบว่า การเคลื่อนไหวของราคาบิทคอยน์
    จะมีแนวโน้ม และทิศทางแปรผันตรง ไปกับค่าเงิน
    ดอลลาร์สหรัฐ คือ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้ม
    แข็งค่าขึ้น ราคาบิทคอยน์ก็จะมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
    เช่นเดียวกัน เมื่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนค่าลง
    ราคาบิทคอยน์ก็มีแนวโน้มปรับตัวลงด้วยเช่นเดียวกัน

    🚩สาเหตุหลักๆน่าจะมาจาก ระบบนิเวศน์ที่ใหญ่ที่สุด
    ของบิทคอยน์อยู่ที่สหรัฐอเมริกา ทั้งบริษัทเหมืองขุด
    นายหน้าซื้อขายแลกเปลี่ยน Exchange, Spot Bitcoin ETF,
    คนซื้อคนขาย เป็นต้น

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #บิทคอยน์ #ดอลลาร์สหรัฐ
    #thaitimes
    🔥🔥ในความคิดเห็นส่วนตัวของแอดมิน ในอดีต การเคลื่อนไหวของราคาบิทคอยน์ ที่เคยเป็นอิสระ ไม่มีสิ่งไหนควบคุมได้ แนวคิดนี้อาจต้องเปลี่ยนไป เมื่อปัจจุบัน พบว่า การเคลื่อนไหวของราคาบิทคอยน์ จะมีแนวโน้ม และทิศทางแปรผันตรง ไปกับค่าเงิน ดอลลาร์สหรัฐ คือ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้ม แข็งค่าขึ้น ราคาบิทคอยน์ก็จะมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เช่นเดียวกัน เมื่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนค่าลง ราคาบิทคอยน์ก็มีแนวโน้มปรับตัวลงด้วยเช่นเดียวกัน 🚩สาเหตุหลักๆน่าจะมาจาก ระบบนิเวศน์ที่ใหญ่ที่สุด ของบิทคอยน์อยู่ที่สหรัฐอเมริกา ทั้งบริษัทเหมืองขุด นายหน้าซื้อขายแลกเปลี่ยน Exchange, Spot Bitcoin ETF, คนซื้อคนขาย เป็นต้น #หุ้นติดดอย #การลงทุน #บิทคอยน์ #ดอลลาร์สหรัฐ #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1300 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥โดยมุมมอง และความคิดเห็นส่วนตัวของแอดมิน
    แอดมินมองว่า ทองคำ คือ สินทรัพย์ที่มีความเสถียร
    และมั่นคงที่สุดในยุคปัจจุบัน ล่าสุด ทองคำ(สัญญาซื้อขายทองคำ)
    ได้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อวาน 12/09/2567
    ที่ ราคา 2580.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์

    🚩จุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้ทองคำมีความมั่นคง
    และ เสถียรมากที่สุดในโลก ในปัจจุบัน ให้สังเกตจาก
    ค่าเงินดอลลารNสหรัฐ จะแข็งค่า หรือ อ่อนค่าลง
    แทบจะไม่มีผลต่อแนวโน้มของราคาทองคำ
    ที่ปรับตัวสูงขึ้น แม้ราคาทองคำ หรือ สัญญาซื้อขายทองคำ จะผูกติด
    กับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐก็ตาม ในการซื้อขาย
    เช่น ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ก็ตาม
    แต่ราคาทองคำ ยังขยับขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการ
    หรือ Demand ยังคงมีอยู่มาก

    🚩สาเหตุที่ demand หรือความต้องการทองคำในตลาดมีมากขึ้น
    อันเนื่องมาจาก การกำเนิดขึ้นของกลุ่ม BRICS สมาชิกเช่น
    รัสเซีย,จีน,อินเดีย,บราซิล,แอฟริกาใต้ เป็นต้น
    โดยเฉพาะ รัสเซีย,จีน และ อินเดีย คือ 3 ประเทศหลัก
    ที่มีการซื้อทองคำ เข้ามาตุนใน ธนาคารกลางของประเทศ
    มากกว่า 50% ในปัจจุบัน

    🚩ซึ่งกลุ่ม BRICS มีแนวทางที่จะลดการใช้เงินดอลลาร์ลง
    และสามารถใช้เงินสกุลอื่นๆ เพื่อแลกเปลี่ยนระหว่างกัน
    มากขึ้น โดยแนวคิดนี้เกิดขึ้น ภายหลังรัสเซียโดนยึด
    ทรัพย์สินต่างๆที่ฝากไว้ในต่างประเทศ เช่นที่สหรัฐ
    และยุโรป เป็นต้น จากการทำสงครามกับยูเครน

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ทองคำ #สัญญาซื้อขายทองคำ
    #thaitimes
    💥💥โดยมุมมอง และความคิดเห็นส่วนตัวของแอดมิน แอดมินมองว่า ทองคำ คือ สินทรัพย์ที่มีความเสถียร และมั่นคงที่สุดในยุคปัจจุบัน ล่าสุด ทองคำ(สัญญาซื้อขายทองคำ) ได้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อวาน 12/09/2567 ที่ ราคา 2580.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ 🚩จุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้ทองคำมีความมั่นคง และ เสถียรมากที่สุดในโลก ในปัจจุบัน ให้สังเกตจาก ค่าเงินดอลลารNสหรัฐ จะแข็งค่า หรือ อ่อนค่าลง แทบจะไม่มีผลต่อแนวโน้มของราคาทองคำ ที่ปรับตัวสูงขึ้น แม้ราคาทองคำ หรือ สัญญาซื้อขายทองคำ จะผูกติด กับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐก็ตาม ในการซื้อขาย เช่น ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ก็ตาม แต่ราคาทองคำ ยังขยับขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการ หรือ Demand ยังคงมีอยู่มาก 🚩สาเหตุที่ demand หรือความต้องการทองคำในตลาดมีมากขึ้น อันเนื่องมาจาก การกำเนิดขึ้นของกลุ่ม BRICS สมาชิกเช่น รัสเซีย,จีน,อินเดีย,บราซิล,แอฟริกาใต้ เป็นต้น โดยเฉพาะ รัสเซีย,จีน และ อินเดีย คือ 3 ประเทศหลัก ที่มีการซื้อทองคำ เข้ามาตุนใน ธนาคารกลางของประเทศ มากกว่า 50% ในปัจจุบัน 🚩ซึ่งกลุ่ม BRICS มีแนวทางที่จะลดการใช้เงินดอลลาร์ลง และสามารถใช้เงินสกุลอื่นๆ เพื่อแลกเปลี่ยนระหว่างกัน มากขึ้น โดยแนวคิดนี้เกิดขึ้น ภายหลังรัสเซียโดนยึด ทรัพย์สินต่างๆที่ฝากไว้ในต่างประเทศ เช่นที่สหรัฐ และยุโรป เป็นต้น จากการทำสงครามกับยูเครน #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ทองคำ #สัญญาซื้อขายทองคำ #thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1514 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥11/09/2567
    ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐผันผวน เนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อ
    หนุนให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ยลง

    🚩โดย อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3%
    ในเดือนสิงหาคม

    🚩และดอลลาร์สหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์
    เมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส

    🚩รวมทั้ง ราคาฟิวเจอร์สของกองทุนเฟด มีแนวโน้มลดลง
    ในเดือนนี้

    🚩ซึ่งคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะ
    ดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเล็กน้อย
    เหลือ 25 จุดพื้นฐานในช่วงปลายเดือนนี้
    จาก 5.25-5.50 เป็น 5.00-5.25

    ที่มา : Reuters

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #อัตราเงินเฟ้อสหรัฐ #thaitimes
    🔥🔥11/09/2567 ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐผันผวน เนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อ หนุนให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ยลง 🚩โดย อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนสิงหาคม 🚩และดอลลาร์สหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส 🚩รวมทั้ง ราคาฟิวเจอร์สของกองทุนเฟด มีแนวโน้มลดลง ในเดือนนี้ 🚩ซึ่งคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะ ดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเล็กน้อย เหลือ 25 จุดพื้นฐานในช่วงปลายเดือนนี้ จาก 5.25-5.50 เป็น 5.00-5.25 ที่มา : Reuters #หุ้นติดดอย #การลงทุน #อัตราเงินเฟ้อสหรัฐ #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1094 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
    หลังจากอ่อนตัวลง 4 วันทำการ
    เนื่องจากผู้ซื้อขายลดการเดิมพันการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดลง

    🚩โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน
    และสกุลเงินหลักอื่นๆ ในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนมองไปข้างหน้า
    ่อข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ หลังจากรายงานการจ้างงาน ที่มีแนวโน้ม
    ลดลงเมื่อวันศุกร์ ทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับขนาดของการ
    ปรับลด อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า
    ที่มา : Reuters
    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ #thaitimes
    🔥🔥ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง หลังจากอ่อนตัวลง 4 วันทำการ เนื่องจากผู้ซื้อขายลดการเดิมพันการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดลง 🚩โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน และสกุลเงินหลักอื่นๆ ในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนมองไปข้างหน้า ่อข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ หลังจากรายงานการจ้างงาน ที่มีแนวโน้ม ลดลงเมื่อวันศุกร์ ทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับขนาดของการ ปรับลด อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า ที่มา : Reuters #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 802 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทย หรือ SET
    ดัชนีปรับตัวขึ้นมากกว่า 75 จุด จาก 1355
    เป็น 1427.64 จุด หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5%
    ในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากปัจจัย

    🚩1. การตั้งรัฐบาล และ ครม. ของนายก อุ๊งอิ๊ง แพรทองธาร ชินวัตร 1
    ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย

    🚩2. โครงการดิจิทัลวอลเลต งบประมาณ 1.2 แสนล้านบาท
    น่าจะเริ่มทะยอยเข้าบัญชี และเริ่มใช้ในปลายเดือนกันยายน นี้
    (สำหรับกลุ่มเปราะบาง 14 ล้านคน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ/ผู้สูงอายุ
    ผู้พิการ)

    🚩3. สภาผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2568 วงเงิน 3.7 ล้านล้านบาท

    🚩4. กระทรวงกการคลังจ่อเปิดกองทุน วายุภักษ์ 1 วงเงิน 1.5 แสนล้าน
    เริ่มจอง 16-20 กันยายน และเข้าเทรด 10 ตุลาคม 2567 นี้

    🚩5. ค่าเงินบาท ปรับตัวแข็งค่าขึ้นในรอบ 9 เดือน
    ล่าสุดอยู่ที่ 33.72 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

    🚩6. แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง จากการคาดการณ์ว่า
    ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง
    จากเดิม 5.25- 5.5% เป็น 5.00% เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
    สหรัฐที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง จากภาคการผลิต และ การจ้างงาน
    ที่มีแนวโน้มลดลง

    🚩7. เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุน (Fundflow) จากตลาดทุนสหรัฐ
    เช่น จากหุ้น, พันธบัตรรัฐบาล ไปยังตลาดทุนอื่นๆ เช่น
    เข้ามาที่ตลาดหุ้นไทย เป็นต้น

    🚩8. ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุน ที่ซื้อ-ขาย หุ้นไทย ได้แก่
    8.1 นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อ 15,000 ล้านบาท
    8.2 นักลงทุนสถาบัน(กองทุน) ซื้อ 5,641 ล้านบาท
    8.3 นักลงทุนในประเทศ (รายย่อย) ขาย -20,000 ล้านบาท
    8.4 บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ขาย -977 ล้านบาท

    🔥🔥 *สิ่งที่น่าจับตามองในสัปดาห์หน้า และระยะยาวคือ
    การเข้าซื้อครั้งนี้ จะมีความยั่งยืน มากน้อยแค่ไหน
    และผู้ลงทุน จะลงทุนในตลาดหุ้นไทย ในระยะยาวหรือไม่
    เพราะที่ผ่านมา เราจะพบว่า เข้าซื้อซักพักนึง แล้วก็เทขาย
    ทำกำไรออกไป

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET
    #thaitimes
    🔥🔥สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทย หรือ SET ดัชนีปรับตัวขึ้นมากกว่า 75 จุด จาก 1355 เป็น 1427.64 จุด หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% ในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากปัจจัย 🚩1. การตั้งรัฐบาล และ ครม. ของนายก อุ๊งอิ๊ง แพรทองธาร ชินวัตร 1 ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย 🚩2. โครงการดิจิทัลวอลเลต งบประมาณ 1.2 แสนล้านบาท น่าจะเริ่มทะยอยเข้าบัญชี และเริ่มใช้ในปลายเดือนกันยายน นี้ (สำหรับกลุ่มเปราะบาง 14 ล้านคน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ/ผู้สูงอายุ ผู้พิการ) 🚩3. สภาผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2568 วงเงิน 3.7 ล้านล้านบาท 🚩4. กระทรวงกการคลังจ่อเปิดกองทุน วายุภักษ์ 1 วงเงิน 1.5 แสนล้าน เริ่มจอง 16-20 กันยายน และเข้าเทรด 10 ตุลาคม 2567 นี้ 🚩5. ค่าเงินบาท ปรับตัวแข็งค่าขึ้นในรอบ 9 เดือน ล่าสุดอยู่ที่ 33.72 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ 🚩6. แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง จากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง จากเดิม 5.25- 5.5% เป็น 5.00% เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สหรัฐที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง จากภาคการผลิต และ การจ้างงาน ที่มีแนวโน้มลดลง 🚩7. เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุน (Fundflow) จากตลาดทุนสหรัฐ เช่น จากหุ้น, พันธบัตรรัฐบาล ไปยังตลาดทุนอื่นๆ เช่น เข้ามาที่ตลาดหุ้นไทย เป็นต้น 🚩8. ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุน ที่ซื้อ-ขาย หุ้นไทย ได้แก่ 8.1 นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อ 15,000 ล้านบาท 8.2 นักลงทุนสถาบัน(กองทุน) ซื้อ 5,641 ล้านบาท 8.3 นักลงทุนในประเทศ (รายย่อย) ขาย -20,000 ล้านบาท 8.4 บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ขาย -977 ล้านบาท 🔥🔥 *สิ่งที่น่าจับตามองในสัปดาห์หน้า และระยะยาวคือ การเข้าซื้อครั้งนี้ จะมีความยั่งยืน มากน้อยแค่ไหน และผู้ลงทุน จะลงทุนในตลาดหุ้นไทย ในระยะยาวหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา เราจะพบว่า เข้าซื้อซักพักนึง แล้วก็เทขาย ทำกำไรออกไป #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1342 มุมมอง 349 0 รีวิว
  • 🔥🔥สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทย หรือ SET
    ดัชนีปรับตัวขึ้นมากกว่า 75 จุด จาก 1355
    เป็น 1427.64 จุด หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5%
    ในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากปัจจัย

    🚩1. การตั้งรัฐบาล และ ครม. ของนายก อุ๊งอิ๊ง แพรทองธาร ชินวัตร 1
    ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย

    🚩2. โครงการดิจิทัลวอลเลต งบประมาณ 1.2 แสนล้านบาท
    น่าจะเริ่มทะยอยเข้าบัญชี และเริ่มใช้ในปลายเดือนกันยายน นี้
    (สำหรับกลุ่มเปราะบาง 14 ล้านคน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ/ผู้สูงอายุ
    ผู้พิการ)

    🚩3. สภาผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2568 วงเงิน 3.7 ล้านล้านบาท

    🚩4. กระทรวงกการคลังจ่อเปิดกองทุน วายุภักษ์ 1 วงเงิน 1.5 แสนล้าน
    เริ่มจอง 16-20 กันยายน และเข้าเทรด 10 ตุลาคม 2567 นี้

    🚩5. ค่าเงินบาท ปรับตัวแข็งค่าขึ้นในรอบ 9 เดือน
    ล่าสุดอยู่ที่ 33.72 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

    🚩6. แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง จากการคาดการณ์ว่า
    ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง
    จากเดิม 5.25- 5.5% เป็น 5.00% เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
    สหรัฐที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง จากภาคการผลิต และ การจ้างงาน
    ที่มีแนวโน้มลดลง

    🚩7. เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุน (Fundflow) จากตลาดทุนสหรัฐ
    เช่น จากหุ้น, พันธบัตรรัฐบาล ไปยังตลาดทุนอื่นๆ เช่น
    เข้ามาที่ตลาดหุ้นไทย เป็นต้น

    🚩8. ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุน ที่ซื้อ-ขาย หุ้นไทย ได้แก่
    8.1 นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อ 15,000 ล้านบาท
    8.2 นักลงทุนสถาบัน(กองทุน) ซื้อ 5,641 ล้านบาท
    8.3 นักลงทุนในประเทศ (รายย่อย) ขาย -20,000 ล้านบาท
    8.4 บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ขาย -977 ล้านบาท

    🔥🔥 *สิ่งที่น่าจับตามองในสัปดาห์หน้า และระยะยาวคือ
    การเข้าซื้อครั้งนี้ จะมีความยั่งยืน มากน้อยแค่ไหน
    และผู้ลงทุน จะลงทุนในตลาดหุ้นไทย ในระยะยาวหรือไม่
    เพราะที่ผ่านมา เราจะพบว่า เข้าซื้อซักพักนึง แล้วก็เทขาย
    ทำกำไรออกไป

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET
    #thaitimes
    🔥🔥สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทย หรือ SET ดัชนีปรับตัวขึ้นมากกว่า 75 จุด จาก 1355 เป็น 1427.64 จุด หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% ในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากปัจจัย 🚩1. การตั้งรัฐบาล และ ครม. ของนายก อุ๊งอิ๊ง แพรทองธาร ชินวัตร 1 ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย 🚩2. โครงการดิจิทัลวอลเลต งบประมาณ 1.2 แสนล้านบาท น่าจะเริ่มทะยอยเข้าบัญชี และเริ่มใช้ในปลายเดือนกันยายน นี้ (สำหรับกลุ่มเปราะบาง 14 ล้านคน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ/ผู้สูงอายุ ผู้พิการ) 🚩3. สภาผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2568 วงเงิน 3.7 ล้านล้านบาท 🚩4. กระทรวงกการคลังจ่อเปิดกองทุน วายุภักษ์ 1 วงเงิน 1.5 แสนล้าน เริ่มจอง 16-20 กันยายน และเข้าเทรด 10 ตุลาคม 2567 นี้ 🚩5. ค่าเงินบาท ปรับตัวแข็งค่าขึ้นในรอบ 9 เดือน ล่าสุดอยู่ที่ 33.72 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ 🚩6. แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง จากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง จากเดิม 5.25- 5.5% เป็น 5.00% เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สหรัฐที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง จากภาคการผลิต และ การจ้างงาน ที่มีแนวโน้มลดลง 🚩7. เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุน (Fundflow) จากตลาดทุนสหรัฐ เช่น จากหุ้น, พันธบัตรรัฐบาล ไปยังตลาดทุนอื่นๆ เช่น เข้ามาที่ตลาดหุ้นไทย เป็นต้น 🚩8. ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุน ที่ซื้อ-ขาย หุ้นไทย ได้แก่ 8.1 นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อ 15,000 ล้านบาท 8.2 นักลงทุนสถาบัน(กองทุน) ซื้อ 5,641 ล้านบาท 8.3 นักลงทุนในประเทศ (รายย่อย) ขาย -20,000 ล้านบาท 8.4 บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ขาย -977 ล้านบาท 🔥🔥 *สิ่งที่น่าจับตามองในสัปดาห์หน้า และระยะยาวคือ การเข้าซื้อครั้งนี้ จะมีความยั่งยืน มากน้อยแค่ไหน และผู้ลงทุน จะลงทุนในตลาดหุ้นไทย ในระยะยาวหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา เราจะพบว่า เข้าซื้อซักพักนึง แล้วก็เทขาย ทำกำไรออกไป #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1320 มุมมอง 0 รีวิว
  • แนวโน้มทองคําขึ้น-ลง มาจากปัจจัยอะไร? เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น

    เท่าที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า ปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดราคาทองคำให้ขึ้นหรือลงนั้น มาจากหลากหลายปัจจัย แต่ที่เป็นปัจจัยหลักๆ ที่พบบ่อยๆ นั้นมีไม่มาก และเรามาดูว่าปัจจัยเหล่านี้ ส่งผลกระทบต่อทองคำให้ปรับตัวขึ้น หรือ ลดลงได้อย่างไร และทำไมต้องเป็นเช่นนั้น มาดูกันเลย

    1.ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ มีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงกันข้ามกับทองคำ
    -ดอลลาร์อ่อน ทองคำจะขึ้น
    เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ ทองคำซื้อขายในรูปแบบสกุลเงินดอลลาร์ เมื่อค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง ทองคำจะมีราคาถูกลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น จึงสร้างความน่าดึงดูดและแรงซื้อทองคำจากนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น

    -ดอลลารแข็งค่า ทองคำจะลง
    เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ ทองคำซื้อขายในรูปแบบสกุลเงินดอลลาร์ เมื่อค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า ทองคำก็จะมีราคาแพง และก็จะถูกลดความน่าสนใจในการเข้าซื้อ ตรงกันข้ามนักลงทุนก็จะเทขายทองคำที่มีอยู่เพื่อทำกำไร

    2. เงินเฟ้อ มักจะมีทิศทางเดียวกันกับทองคำ เงินเฟ้อเพิ่มมากขึ้นทองคำจะปรับตัวขึ้น
    ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าในตัวเอง เป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ เมื่อเงินเฟ้อดีดตัวสูงขึ้น ทองคำจะมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น
    เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ เงินเฟ้อส่งผลต่อ Fiat Money(เงินกระดาษ)ที่มีค่าจากการรับรองของรัฐบาลแต่ละประเทศ และจำเป็นต้องมีสิ่งหนุนหลัง ซึ่งหากเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้นจะทำให้มูลค่าของเงินกระดาษเสื่อมลงนั่นเอง

    3. ภาวะสงครามหรือความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ จะส่งผลให้ทองคำปรับตัวขึ้น
    เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ ภาวะสงครามหรือความขัดแย้งในโลกล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดความต้องการซื้อทองคำที่เพิ่มมากขึ้น อันเนื่องมาจากทองคำจัดเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เมื่อไปอยู่ที่ไหนก็สามารถแลกเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ทันที แตกต่างจากเงินธนบัตรหรือหุ้น ที่เมื่อเกิดความไม่มั่นใจหรือประเทศนั้น ๆ ตัดสินใจทำอะไรที่รุนแรงบานปลายก็จะทำให้มูลค่าของสิ่งเหล่านั้นลดลงไป

    แนวโน้มทองคําขึ้น-ลง มาจากปัจจัยอะไร? เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น เท่าที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า ปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดราคาทองคำให้ขึ้นหรือลงนั้น มาจากหลากหลายปัจจัย แต่ที่เป็นปัจจัยหลักๆ ที่พบบ่อยๆ นั้นมีไม่มาก และเรามาดูว่าปัจจัยเหล่านี้ ส่งผลกระทบต่อทองคำให้ปรับตัวขึ้น หรือ ลดลงได้อย่างไร และทำไมต้องเป็นเช่นนั้น มาดูกันเลย 1.ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ มีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงกันข้ามกับทองคำ -ดอลลาร์อ่อน ทองคำจะขึ้น เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ ทองคำซื้อขายในรูปแบบสกุลเงินดอลลาร์ เมื่อค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง ทองคำจะมีราคาถูกลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่น จึงสร้างความน่าดึงดูดและแรงซื้อทองคำจากนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น -ดอลลารแข็งค่า ทองคำจะลง เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ ทองคำซื้อขายในรูปแบบสกุลเงินดอลลาร์ เมื่อค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า ทองคำก็จะมีราคาแพง และก็จะถูกลดความน่าสนใจในการเข้าซื้อ ตรงกันข้ามนักลงทุนก็จะเทขายทองคำที่มีอยู่เพื่อทำกำไร 2. เงินเฟ้อ มักจะมีทิศทางเดียวกันกับทองคำ เงินเฟ้อเพิ่มมากขึ้นทองคำจะปรับตัวขึ้น ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าในตัวเอง เป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ เมื่อเงินเฟ้อดีดตัวสูงขึ้น ทองคำจะมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ เงินเฟ้อส่งผลต่อ Fiat Money(เงินกระดาษ)ที่มีค่าจากการรับรองของรัฐบาลแต่ละประเทศ และจำเป็นต้องมีสิ่งหนุนหลัง ซึ่งหากเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้นจะทำให้มูลค่าของเงินกระดาษเสื่อมลงนั่นเอง 3. ภาวะสงครามหรือความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ จะส่งผลให้ทองคำปรับตัวขึ้น เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ ภาวะสงครามหรือความขัดแย้งในโลกล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดความต้องการซื้อทองคำที่เพิ่มมากขึ้น อันเนื่องมาจากทองคำจัดเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เมื่อไปอยู่ที่ไหนก็สามารถแลกเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ทันที แตกต่างจากเงินธนบัตรหรือหุ้น ที่เมื่อเกิดความไม่มั่นใจหรือประเทศนั้น ๆ ตัดสินใจทำอะไรที่รุนแรงบานปลายก็จะทำให้มูลค่าของสิ่งเหล่านั้นลดลงไป
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1065 มุมมอง 0 รีวิว