• อันวาร์ตั้งทักษิณ ฝ่าด่านออกนอกประเทศ

    การประกาศแต่งตั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน ของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนในปี 2568 ระหว่างการเยือนประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายอันวาร์มั่นใจว่าประสบการณ์นายทักษิณในฐานะนักการเมืองจะให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่า พร้อมกับทีมงานจากประเทศสมาชิกอาเซียนในรูปแบบไม่เป็นทางการ ซึ่งมาเลเซียต้องการประโยชน์จากประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญการเมือง (Statesmen) เหล่านี้

    นายโมฮัมหมัด ฮะซัน รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า นายทักษิณจะมีบทบาทในฐานะที่ปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการ เพราะเป็นผู้มีอิทธิพลในประเทศไทย ได้รับการยอมรับจากสหรัฐอเมริกา และมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับจีน ซึ่งจะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างอาเซียน นายทักษิณและบุคคลที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆ ที่จะประกาศแต่งตั้งในภายหลังร่วมงานกับนายอันวาร์มายาวนาน สามารถเสนอข้อมูลเชิงลึกว่าอาเซียนจะก้าวต่อไปได้อย่างไร ยืนยันว่าไม่ใช่คณะที่ปรึกษาอาเซียน แต่เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในฐานะประธานอาเซียน และไม่ใช่องค์กรอย่างเป็นทางการหรือหน่วยงานใหม่ในอาเซียน

    เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2567 ศาลอาญาให้ปล่อยตัวชั่วคราวนายทักษิณ ในคดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 ตีราคาประกัน 500,000 บาท และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล นายทักษิณเคยขอเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปพบแพทย์ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และไปพบบุคคลสำคัญ แต่ศาลอาญายกคำร้องไม่อนุญาต เพราะอาการป่วยเป็นโรคที่เกิดแก่บุคคลทั่วไป และแพทย์ในประเทศตรวจรักษาเป็นประจำอยู่แล้ว ส่วนการไปพบบุคคลสำคัญก็เป็นเรื่องส่วนตัว และไม่มีพยานหลักฐานยืนยันชัดแจ้งถึงความจำเป็น

    นายทักษิณอาจใช้การเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียนของนายอันวาร์ เพื่อขอเดินทางออกนอกประเทศก็เป็นได้ ซึ่งคดีมาตรา 112 ศาลกำหนดนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยในช่วงเดือน ก.ค. 2568

    รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง เห็นว่าการที่นายอันวาร์แต่งตั้งนายทักษิณ ช่วยอุดช่องว่างเรื่องที่รัฐบาลชุดปัจจุบันขาดความรู้ความชำนาญในเรื่องมาเลเซีย เพราะ น.ส.แพทองธาร ไม่มีความพร้อมในหลายเรื่อง โดยเฉพาะความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก็เป็นดาบสองคม หากใช้ไม่ระวัง ไม่มีความชัดเจนและโปร่งใส เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประเทศในแนวทางที่ถูกต้อง อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ และคนไทยโดยรวมได้ในที่สุด

    #Newskit
    อันวาร์ตั้งทักษิณ ฝ่าด่านออกนอกประเทศ การประกาศแต่งตั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน ของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนในปี 2568 ระหว่างการเยือนประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายอันวาร์มั่นใจว่าประสบการณ์นายทักษิณในฐานะนักการเมืองจะให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่า พร้อมกับทีมงานจากประเทศสมาชิกอาเซียนในรูปแบบไม่เป็นทางการ ซึ่งมาเลเซียต้องการประโยชน์จากประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญการเมือง (Statesmen) เหล่านี้ นายโมฮัมหมัด ฮะซัน รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า นายทักษิณจะมีบทบาทในฐานะที่ปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการ เพราะเป็นผู้มีอิทธิพลในประเทศไทย ได้รับการยอมรับจากสหรัฐอเมริกา และมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับจีน ซึ่งจะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างอาเซียน นายทักษิณและบุคคลที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆ ที่จะประกาศแต่งตั้งในภายหลังร่วมงานกับนายอันวาร์มายาวนาน สามารถเสนอข้อมูลเชิงลึกว่าอาเซียนจะก้าวต่อไปได้อย่างไร ยืนยันว่าไม่ใช่คณะที่ปรึกษาอาเซียน แต่เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในฐานะประธานอาเซียน และไม่ใช่องค์กรอย่างเป็นทางการหรือหน่วยงานใหม่ในอาเซียน เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2567 ศาลอาญาให้ปล่อยตัวชั่วคราวนายทักษิณ ในคดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 ตีราคาประกัน 500,000 บาท และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล นายทักษิณเคยขอเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปพบแพทย์ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และไปพบบุคคลสำคัญ แต่ศาลอาญายกคำร้องไม่อนุญาต เพราะอาการป่วยเป็นโรคที่เกิดแก่บุคคลทั่วไป และแพทย์ในประเทศตรวจรักษาเป็นประจำอยู่แล้ว ส่วนการไปพบบุคคลสำคัญก็เป็นเรื่องส่วนตัว และไม่มีพยานหลักฐานยืนยันชัดแจ้งถึงความจำเป็น นายทักษิณอาจใช้การเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียนของนายอันวาร์ เพื่อขอเดินทางออกนอกประเทศก็เป็นได้ ซึ่งคดีมาตรา 112 ศาลกำหนดนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยในช่วงเดือน ก.ค. 2568 รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง เห็นว่าการที่นายอันวาร์แต่งตั้งนายทักษิณ ช่วยอุดช่องว่างเรื่องที่รัฐบาลชุดปัจจุบันขาดความรู้ความชำนาญในเรื่องมาเลเซีย เพราะ น.ส.แพทองธาร ไม่มีความพร้อมในหลายเรื่อง โดยเฉพาะความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก็เป็นดาบสองคม หากใช้ไม่ระวัง ไม่มีความชัดเจนและโปร่งใส เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประเทศในแนวทางที่ถูกต้อง อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ และคนไทยโดยรวมได้ในที่สุด #Newskit
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ทหารเรือ #ราชนาวี ซ้อม #รบ หนักเพื่อ #ความชำนาญ #ความพร้อม ของ #กำลังพลในการ #ปกป้อง #รักษา #อาณาเขต #อธิปไตย #ชาติไทย #ประเทศไทย ส่งภาพขึ้นเพจทุกวันเลย
    #ทหารเรือ #ราชนาวี ซ้อม #รบ หนักเพื่อ #ความชำนาญ #ความพร้อม ของ #กำลังพลในการ #ปกป้อง #รักษา #อาณาเขต #อธิปไตย #ชาติไทย #ประเทศไทย ส่งภาพขึ้นเพจทุกวันเลย
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 161 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซ้อมให้เกิดความความชำนาญ
    ซ้อมให้เกิดความความชำนาญ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 801 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=LiZ0OlLdrjU
    บทสนทนาสัมภาษณ์งาน
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาสัมภาษณ์งาน
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #conversations #listeningtest #jobinterview

    The conversations from the clip :

    Interviewer: Good morning! Thank you for coming in today.
    Candidate: Good morning! Thank you for having me.
    Interviewer: Can you start by telling me a little about your background and experience?
    Candidate: Sure! I graduated with a degree in Marketing and have three years of experience in digital marketing.
    Interviewer: That’s great! What specific skills do you bring to the table?
    Candidate: I’m proficient in SEO, content creation, and social media management.
    Interviewer: Can you give an example of a successful campaign you’ve managed?
    Candidate: Absolutely! I led a social media campaign that increased our followers by 30% in just two months.
    Interviewer: Impressive! What tools do you use for your marketing efforts?
    Candidate: I primarily use Google Analytics, Hootsuite, and Mailchimp.
    Interviewer: Have you worked with a team in your previous roles?
    Candidate: Yes, I collaborated closely with the sales and design teams to align our strategies.
    Interviewer: How do you handle tight deadlines and pressure?
    Candidate: I prioritize tasks and stay organized to ensure everything is completed on time.
    Interviewer: Good to hear! How do you measure the success of your campaigns?
    Candidate: I look at engagement metrics, conversion rates, and ROI to evaluate effectiveness.
    Interviewer: What motivates you in your work?
    Candidate: I’m motivated by seeing tangible results and helping my team succeed.
    Interviewer: Do you have any questions for us about the company or role?
    Candidate: Yes, I’d like to know more about the team culture here.
    Interviewer: We have a collaborative and supportive environment that encourages growth.
    Candidate: That sounds wonderful! I appreciate the opportunity to interview.
    Interviewer: Thank you for your time today. We will be in touch soon!

    ผู้สัมภาษณ์: สวัสดีตอนเช้า! ขอบคุณที่มาในวันนี้
    ผู้สมัครงาน: สวัสดีค่ะ! ขอบคุณที่ให้โอกาสฉัน
    ผู้สัมภาษณ์: คุณช่วยบอกเกี่ยวกับพื้นฐานและประสบการณ์ของคุณหน่อยได้ไหม?
    ผู้สมัครงาน: แน่นอนค่ะ! ฉันจบการศึกษาด้วยปริญญาด้านการตลาดและมีประสบการณ์ 3 ปีในด้านการตลาดดิจิทัล
    ผู้สัมภาษณ์: ดีมาก! คุณมีทักษะเฉพาะอะไรบ้างที่สามารถนำมาช่วยงานได้?
    ผู้สมัครงาน: ฉันมีความชำนาญใน SEO, การสร้างเนื้อหา และการจัดการโซเชียลมีเดีย
    ผู้สัมภาษณ์: คุณสามารถยกตัวอย่างแคมเปญที่ประสบความสำเร็จที่คุณเคยจัดการได้ไหม?
    ผู้สมัครงาน: แน่นอนค่ะ! ฉันเป็นผู้นำแคมเปญโซเชียลมีเดียที่เพิ่มผู้ติดตามของเราได้ 30% ภายในเวลาเพียงสองเดือน
    ผู้สัมภาษณ์: น่าประทับใจมาก! คุณใช้เครื่องมืออะไรบ้างในการทำการตลาด?
    ผู้สมัครงาน: ฉันใช้ Google Analytics, Hootsuite และ Mailchimp เป็นหลัก
    ผู้สัมภาษณ์: คุณเคยทำงานเป็นทีมในตำแหน่งก่อนหน้านี้ไหม?
    ผู้สมัครงาน: ใช่ค่ะ ฉันได้ทำงานร่วมกับทีมขายและทีมออกแบบอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกัน
    ผู้สัมภาษณ์: คุณจัดการกับกำหนดเวลาที่เข้มงวดและความกดดันอย่างไร?
    ผู้สมัครงาน: ฉันจะจัดลำดับความสำคัญของงานและรักษาความเป็นระเบียบเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งต่าง ๆ จะเสร็จสิ้นตามเวลา
    ผู้สัมภาษณ์: ดีที่ได้ยินแบบนั้น! คุณวัดความสำเร็จของแคมเปญของคุณอย่างไร?
    ผู้สมัครงาน: ฉันดูที่เมตริกการมีส่วนร่วม อัตราการแปลง และ ROI เพื่อประเมินประสิทธิภาพ
    ผู้สัมภาษณ์: อะไรคือแรงจูงใจในงานของคุณ?
    ผู้สมัครงาน: ฉันมีแรงจูงใจจากการเห็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้และการช่วยให้ทีมของผม/ฉันประสบความสำเร็จ
    ผู้สัมภาษณ์: คุณมีคำถามอะไรเกี่ยวกับบริษัทหรือบทบาทนี้ไหม?
    ผู้สมัครงาน: ใช่ค่ะ ฉันอยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมของทีมที่นี่
    ผู้สัมภาษณ์: เรามีสภาพแวดล้อมที่ร่วมมือและสนับสนุนซึ่งส่งเสริมการเติบโต
    ผู้สมัครงาน: ฟังดูยอดเยี่ยมมาก! ฉันขอบคุณสำหรับโอกาสในการสัมภาษณ์
    ผู้สัมภาษณ์: ขอบคุณสำหรับเวลาของคุณในวันนี้ เราจะติดต่อกลับเร็ว ๆ นี้!

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Background (แบค-กราวน์ด) n. แปลว่า ประวัติ (ภูมิหลัง)
    Experience (เอ็กซ์-พีเรีนซ) n. แปลว่า ประสบการณ์
    Proficient (พรอฟ-ฟิช-เอ็นท) adj. แปลว่า ชำนาญ
    Campaign (แคม-แพน) n. แปลว่า แคมเปญ
    Social media (โซเชียล มีเดีย) n. แปลว่า สื่อสังคมออนไลน์
    Metrics (เมท-ริค) n. แปลว่า ตัวชี้วัด
    Engagement (เอน-เกจ-เมนต์) n. แปลว่า การมีส่วนร่วม
    Collaboration (คอลลาบอเรชัน) n. แปลว่า การร่วมมือ
    Pressure (เพรช-เชอร์) n. แปลว่า ความกดดัน
    Motivation (โม-ทิ-เวชัน) n. แปลว่า แรงจูงใจ
    Results (รี-ซัลทส์) n. แปลว่า ผลลัพธ์
    Culture (คัลเจอร์) n. แปลว่า วัฒนธรรม
    Strategy (สแตรท-จี้) n. แปลว่า ยุทธศาสตร์
    Tools (ทูลส์) n. แปลว่า เครื่องมือ
    Supportive (ซัพ-พอร์-ทิฟ) adj. แปลว่า สนับสนุน
    https://www.youtube.com/watch?v=LiZ0OlLdrjU บทสนทนาสัมภาษณ์งาน (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาสัมภาษณ์งาน มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #conversations #listeningtest #jobinterview The conversations from the clip : Interviewer: Good morning! Thank you for coming in today. Candidate: Good morning! Thank you for having me. Interviewer: Can you start by telling me a little about your background and experience? Candidate: Sure! I graduated with a degree in Marketing and have three years of experience in digital marketing. Interviewer: That’s great! What specific skills do you bring to the table? Candidate: I’m proficient in SEO, content creation, and social media management. Interviewer: Can you give an example of a successful campaign you’ve managed? Candidate: Absolutely! I led a social media campaign that increased our followers by 30% in just two months. Interviewer: Impressive! What tools do you use for your marketing efforts? Candidate: I primarily use Google Analytics, Hootsuite, and Mailchimp. Interviewer: Have you worked with a team in your previous roles? Candidate: Yes, I collaborated closely with the sales and design teams to align our strategies. Interviewer: How do you handle tight deadlines and pressure? Candidate: I prioritize tasks and stay organized to ensure everything is completed on time. Interviewer: Good to hear! How do you measure the success of your campaigns? Candidate: I look at engagement metrics, conversion rates, and ROI to evaluate effectiveness. Interviewer: What motivates you in your work? Candidate: I’m motivated by seeing tangible results and helping my team succeed. Interviewer: Do you have any questions for us about the company or role? Candidate: Yes, I’d like to know more about the team culture here. Interviewer: We have a collaborative and supportive environment that encourages growth. Candidate: That sounds wonderful! I appreciate the opportunity to interview. Interviewer: Thank you for your time today. We will be in touch soon! ผู้สัมภาษณ์: สวัสดีตอนเช้า! ขอบคุณที่มาในวันนี้ ผู้สมัครงาน: สวัสดีค่ะ! ขอบคุณที่ให้โอกาสฉัน ผู้สัมภาษณ์: คุณช่วยบอกเกี่ยวกับพื้นฐานและประสบการณ์ของคุณหน่อยได้ไหม? ผู้สมัครงาน: แน่นอนค่ะ! ฉันจบการศึกษาด้วยปริญญาด้านการตลาดและมีประสบการณ์ 3 ปีในด้านการตลาดดิจิทัล ผู้สัมภาษณ์: ดีมาก! คุณมีทักษะเฉพาะอะไรบ้างที่สามารถนำมาช่วยงานได้? ผู้สมัครงาน: ฉันมีความชำนาญใน SEO, การสร้างเนื้อหา และการจัดการโซเชียลมีเดีย ผู้สัมภาษณ์: คุณสามารถยกตัวอย่างแคมเปญที่ประสบความสำเร็จที่คุณเคยจัดการได้ไหม? ผู้สมัครงาน: แน่นอนค่ะ! ฉันเป็นผู้นำแคมเปญโซเชียลมีเดียที่เพิ่มผู้ติดตามของเราได้ 30% ภายในเวลาเพียงสองเดือน ผู้สัมภาษณ์: น่าประทับใจมาก! คุณใช้เครื่องมืออะไรบ้างในการทำการตลาด? ผู้สมัครงาน: ฉันใช้ Google Analytics, Hootsuite และ Mailchimp เป็นหลัก ผู้สัมภาษณ์: คุณเคยทำงานเป็นทีมในตำแหน่งก่อนหน้านี้ไหม? ผู้สมัครงาน: ใช่ค่ะ ฉันได้ทำงานร่วมกับทีมขายและทีมออกแบบอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกัน ผู้สัมภาษณ์: คุณจัดการกับกำหนดเวลาที่เข้มงวดและความกดดันอย่างไร? ผู้สมัครงาน: ฉันจะจัดลำดับความสำคัญของงานและรักษาความเป็นระเบียบเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งต่าง ๆ จะเสร็จสิ้นตามเวลา ผู้สัมภาษณ์: ดีที่ได้ยินแบบนั้น! คุณวัดความสำเร็จของแคมเปญของคุณอย่างไร? ผู้สมัครงาน: ฉันดูที่เมตริกการมีส่วนร่วม อัตราการแปลง และ ROI เพื่อประเมินประสิทธิภาพ ผู้สัมภาษณ์: อะไรคือแรงจูงใจในงานของคุณ? ผู้สมัครงาน: ฉันมีแรงจูงใจจากการเห็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้และการช่วยให้ทีมของผม/ฉันประสบความสำเร็จ ผู้สัมภาษณ์: คุณมีคำถามอะไรเกี่ยวกับบริษัทหรือบทบาทนี้ไหม? ผู้สมัครงาน: ใช่ค่ะ ฉันอยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมของทีมที่นี่ ผู้สัมภาษณ์: เรามีสภาพแวดล้อมที่ร่วมมือและสนับสนุนซึ่งส่งเสริมการเติบโต ผู้สมัครงาน: ฟังดูยอดเยี่ยมมาก! ฉันขอบคุณสำหรับโอกาสในการสัมภาษณ์ ผู้สัมภาษณ์: ขอบคุณสำหรับเวลาของคุณในวันนี้ เราจะติดต่อกลับเร็ว ๆ นี้! Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Background (แบค-กราวน์ด) n. แปลว่า ประวัติ (ภูมิหลัง) Experience (เอ็กซ์-พีเรีนซ) n. แปลว่า ประสบการณ์ Proficient (พรอฟ-ฟิช-เอ็นท) adj. แปลว่า ชำนาญ Campaign (แคม-แพน) n. แปลว่า แคมเปญ Social media (โซเชียล มีเดีย) n. แปลว่า สื่อสังคมออนไลน์ Metrics (เมท-ริค) n. แปลว่า ตัวชี้วัด Engagement (เอน-เกจ-เมนต์) n. แปลว่า การมีส่วนร่วม Collaboration (คอลลาบอเรชัน) n. แปลว่า การร่วมมือ Pressure (เพรช-เชอร์) n. แปลว่า ความกดดัน Motivation (โม-ทิ-เวชัน) n. แปลว่า แรงจูงใจ Results (รี-ซัลทส์) n. แปลว่า ผลลัพธ์ Culture (คัลเจอร์) n. แปลว่า วัฒนธรรม Strategy (สแตรท-จี้) n. แปลว่า ยุทธศาสตร์ Tools (ทูลส์) n. แปลว่า เครื่องมือ Supportive (ซัพ-พอร์-ทิฟ) adj. แปลว่า สนับสนุน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 518 มุมมอง 0 รีวิว
  • 23 ตุลาคม วันปิยมหาราช น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

    ////////////////////

    23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ต่อประเทศไทยหลายด้าน และสิ่งที่โดดเด่นคือ การประกาศ เลิกทาส เป็นการหยุดวงจรการเป็นทาส เพราะเมื่อสมัยก่อนหากพ่อแม่เป็นทาส ลูกที่เกิดมาก็ต้องเป็นทาสต่อไปเรื่อยๆ ทางราชการจึงได้ประกาศให้วันที่ 23 ตุลาคมของทุกปีเป็นหนึ่งในวันระลึกถึงความสำคัญของเหตุการณ์ในชาติ โดยเรียกว่า “วันปิยมหาราช”
    พระราชประวัติ
    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) มีพระนามเดิมว่า สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2396 เป็นโอรสองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระนางเจ้าฟ้ารำเพยภมราภิรมย์ (สมเด็จพระเทพศิรินทรา พระบรมราชินี)เมื่อพระชนมายุได้ 9 พรรษา ทรงได้รับสถาปนาขึ้นเป็น กรมหมื่นพิฆเนศวรสุรลังกาศ ต่อมาเมื่อพระชนมายุได้ 13 พรรษา ทรงได้รับสถาปนาขึ้นเป็น กรมขุนพินิตประชานาถ พระองค์ได้รับการศึกษาอย่างเป็นทางการตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ศึกษาวิชาต่างๆ เช่น ชีววิทยา วิชาดาบ วิศวกรรมศาสตร์ ภาษาอังกฤษและมานุษยวิทยา และเดินทางไปต่างประเทศและศึกษายุโรป และวิทยาศาสตร์การทหาร ในช่วงครองราชย์ 42 ปี พระองค์ทรงริเริ่มขบวนการปฏิรูปการพัฒนาตนเองและความเจริญรุ่งเรือง ทำให้การเมืองและการทหารของไทยเป็นตะวันตก และบรรลุความมั่งคั่ง ความก้าวหน้า สันติภาพและความพึงพอใจของประเทศ นักวิชาการหลายคนเชื่อว่าการกระทำของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาเอกราชไว้ได้

    ประราชกรณียกิจสำคัญ

    การเลิกทาส : ออกพระราชบัญญัติเลิกทาสที่แท้จริงขึ้น เรียกว่า “พระราชบัญญัติทาส ร.ศ.124” (พ.ศ.2448) เลิกเรื่องลูกทาส ในเรือนเบี้ยอย่างเด็ดขาด เด็กที่เกิดจากทาส ไม่เป็นทาสอีกต่อไป การซื้อขายทาสเป็นโทษทางอาญา ส่วนผู้ที่เป็นทาสอยู่แล้ว ให้นายเงินลดค่าตัวให้เดือนละ 4 บาท จนกว่าจะหมด

    การปฏิรูประเบียบบริหารราชการ : ได้ทรงปรับปรุงหน้าที่ของกรมต่าง ๆ ที่มีอยู่แต่เดิมให้เป็นระเบียบเรียบร้อยโดยรวมกรมต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายเวลานั้นเข้าเป็นกระทรวง กระทรวงหนึ่ง ๆ ก็มีหน้าที่อย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างพอเหมาะสม

    การศึกษา : ทรงโปรดให้จัดตั้งโรงเรียนหลวงขึ้นในพระบรมมหาราชวัง แล้วมีหมายประกาศชักชวนพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการให้ส่งบุตรหลานเข้า เรียน โรงเรียนภาษาไทยนี้

    การคมนาคม ได้โปรดเกล้าฯ ให้ขยายถนนบำรุงเมือง ถนนที่ทรงสร้างใหม่ คือ ถนนเยาวราช ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนดินสอ ถนนบูรพา ถนนอุณากรรณ เป็นต้น

    การสุขาภิบาล ได้ทรงตั้งกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อดูแลจัดตั้งโรงพยาบาลขึ้นหลายแห่ง เช่น ศิริราชพยาบาล โรงพยาบาลบางรัก โรงพยาบาลโรคจิต และโรงเลี้ยงเด็ก

    การวรรณคดี ทรงเป็นนักประพันธ์ ซึ่งมีความชำนาญทั้งทางร้อยแก้วและร้อยกรอง เช่น ไกลบ้าน ลิลิตนิทราชาคริต เงาะป่า พระราชพิธีสิบสองเดือน เป็นต้น

    ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายฯ
    สำนักงาน นันท์นภัส วงศ์ใหญ่
    ขอน้อมรำลึกถึง
    พระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าและเพื่อเทิดพระเกียรติแด่พระองค์ท่านที่ทรงมีคุณูปการต่อประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง
    23 ตุลาคม วันปิยมหาราช น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 //////////////////// 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ต่อประเทศไทยหลายด้าน และสิ่งที่โดดเด่นคือ การประกาศ เลิกทาส เป็นการหยุดวงจรการเป็นทาส เพราะเมื่อสมัยก่อนหากพ่อแม่เป็นทาส ลูกที่เกิดมาก็ต้องเป็นทาสต่อไปเรื่อยๆ ทางราชการจึงได้ประกาศให้วันที่ 23 ตุลาคมของทุกปีเป็นหนึ่งในวันระลึกถึงความสำคัญของเหตุการณ์ในชาติ โดยเรียกว่า “วันปิยมหาราช” พระราชประวัติ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) มีพระนามเดิมว่า สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2396 เป็นโอรสองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระนางเจ้าฟ้ารำเพยภมราภิรมย์ (สมเด็จพระเทพศิรินทรา พระบรมราชินี)เมื่อพระชนมายุได้ 9 พรรษา ทรงได้รับสถาปนาขึ้นเป็น กรมหมื่นพิฆเนศวรสุรลังกาศ ต่อมาเมื่อพระชนมายุได้ 13 พรรษา ทรงได้รับสถาปนาขึ้นเป็น กรมขุนพินิตประชานาถ พระองค์ได้รับการศึกษาอย่างเป็นทางการตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ศึกษาวิชาต่างๆ เช่น ชีววิทยา วิชาดาบ วิศวกรรมศาสตร์ ภาษาอังกฤษและมานุษยวิทยา และเดินทางไปต่างประเทศและศึกษายุโรป และวิทยาศาสตร์การทหาร ในช่วงครองราชย์ 42 ปี พระองค์ทรงริเริ่มขบวนการปฏิรูปการพัฒนาตนเองและความเจริญรุ่งเรือง ทำให้การเมืองและการทหารของไทยเป็นตะวันตก และบรรลุความมั่งคั่ง ความก้าวหน้า สันติภาพและความพึงพอใจของประเทศ นักวิชาการหลายคนเชื่อว่าการกระทำของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาเอกราชไว้ได้ ประราชกรณียกิจสำคัญ การเลิกทาส : ออกพระราชบัญญัติเลิกทาสที่แท้จริงขึ้น เรียกว่า “พระราชบัญญัติทาส ร.ศ.124” (พ.ศ.2448) เลิกเรื่องลูกทาส ในเรือนเบี้ยอย่างเด็ดขาด เด็กที่เกิดจากทาส ไม่เป็นทาสอีกต่อไป การซื้อขายทาสเป็นโทษทางอาญา ส่วนผู้ที่เป็นทาสอยู่แล้ว ให้นายเงินลดค่าตัวให้เดือนละ 4 บาท จนกว่าจะหมด การปฏิรูประเบียบบริหารราชการ : ได้ทรงปรับปรุงหน้าที่ของกรมต่าง ๆ ที่มีอยู่แต่เดิมให้เป็นระเบียบเรียบร้อยโดยรวมกรมต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายเวลานั้นเข้าเป็นกระทรวง กระทรวงหนึ่ง ๆ ก็มีหน้าที่อย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างพอเหมาะสม การศึกษา : ทรงโปรดให้จัดตั้งโรงเรียนหลวงขึ้นในพระบรมมหาราชวัง แล้วมีหมายประกาศชักชวนพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการให้ส่งบุตรหลานเข้า เรียน โรงเรียนภาษาไทยนี้ การคมนาคม ได้โปรดเกล้าฯ ให้ขยายถนนบำรุงเมือง ถนนที่ทรงสร้างใหม่ คือ ถนนเยาวราช ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนดินสอ ถนนบูรพา ถนนอุณากรรณ เป็นต้น การสุขาภิบาล ได้ทรงตั้งกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อดูแลจัดตั้งโรงพยาบาลขึ้นหลายแห่ง เช่น ศิริราชพยาบาล โรงพยาบาลบางรัก โรงพยาบาลโรคจิต และโรงเลี้ยงเด็ก การวรรณคดี ทรงเป็นนักประพันธ์ ซึ่งมีความชำนาญทั้งทางร้อยแก้วและร้อยกรอง เช่น ไกลบ้าน ลิลิตนิทราชาคริต เงาะป่า พระราชพิธีสิบสองเดือน เป็นต้น ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายฯ สำนักงาน นันท์นภัส วงศ์ใหญ่ ขอน้อมรำลึกถึง พระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าและเพื่อเทิดพระเกียรติแด่พระองค์ท่านที่ทรงมีคุณูปการต่อประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 391 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าจะลองซื้อหุ้นครั้งแรก แอดมินมีข้อแนะนำมั้ย?
    ตอบ : ให้ลองซื้อหุ้น SETHD (ในตลาดมี 30 ตัว)
    จำนวน 100 หุ้น เป้าหมายเพื่อปันผล และลองถือระยะยาว
    เพื่อดูผลลัพธ์นั้น รวมทั้งติดตามผล และดูการเคลื่อนไหว
    ของราคาประกอบไปด้วย เมื่อเราเรียนรู้จนเกิดความชำนาญ
    และมีวิธีการที่ถูกต้องแล้ว ค่อยขยับเพิ่มจำนวนหุ้นให้มากขึ้น

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET
    #thaitimes
    ถ้าจะลองซื้อหุ้นครั้งแรก แอดมินมีข้อแนะนำมั้ย? ตอบ : ให้ลองซื้อหุ้น SETHD (ในตลาดมี 30 ตัว) จำนวน 100 หุ้น เป้าหมายเพื่อปันผล และลองถือระยะยาว เพื่อดูผลลัพธ์นั้น รวมทั้งติดตามผล และดูการเคลื่อนไหว ของราคาประกอบไปด้วย เมื่อเราเรียนรู้จนเกิดความชำนาญ และมีวิธีการที่ถูกต้องแล้ว ค่อยขยับเพิ่มจำนวนหุ้นให้มากขึ้น #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 339 มุมมอง 0 รีวิว
  • บันทึกเตือนความจำ
    ภัยธรรมชาติที่เกิดจากภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงสุดขั้วนำมาซึ่งปริมาณน้ำฝนที่ไหลหลั่งลงสู่แหล่งน้ำ จำนวนมหาศาล ไหลบ่าจากป่าสู่เมืองในที่ลุ่มต่ำ ในทางกลับกันเชื่อแน่ว่าไม่ช้าก็เร็วเราน่าจะเจอกับเหตุการณ์ในขั้วตรงกันข้ามคือแล้ง ร้อนสุดโต่งแน่

    กันยายนต่อเนื่องถึงตุลาคม ฝนตกต่อเนื่องจนเกิดมวลน้ำจำนวนมหาศาลจากต้นน้ำแม่แตง ไหลเข้าสู่ลำน้ำแม่แตง สายน้ำแห่งการท่องเที่ยวธรรมชาติของเชียงใหม่ ที่ตลอดสองข้างลำน้ำมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก รวมทั้งปางช้างต่างๆเรียงรายตลอดลำน้ำแม่แตง ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาจากรายงานของสถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (๒๕๕๘-๒๕๖๗) พบว่ามีปางช้างถึง ๔๙ ปาง (ช้างจำนวน ๕๔๖ เชือก)

    เหตุระทึกเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่บ่ายวันพฤหัสที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๗ มวลน้ำจำนวนมากไหลบ่าล้นตลิ่งทั้งสองฝั่งของลำน้ำแม่แตงอย่างรวดเร็ว ต่อเนื่องจนถึงเช้ามืดวันศุกร์ น้ำเพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว ช้างส่วนใหญ่ถูกอพยพนำขึ้นไปผูกล่ามไว้ในที่สูง ในขณะที่ปางช้างขนาดใหญ่ (มีช้างมากกว่าหนึ่งร้อยเชือก) ของมูลนิธิช้างและสิ่งแวดล้อม ยังคงสาละวนและพยายามขนย้ายช้างและสัตว์อื่นๆอีกนับพันอาทิ สุนัข แมว แพะ โค กระบือ และสุกร ซึ่งยังคงไม่ทันการณ์ เป็นผลให้มวลน้ำจำนวนมหึมาไหลเข้าสู่ปางช้าง (ระดับน้ำสูงมากกว่า ๑.๕-๒.๐ เมตร เมื่อประเมินด้วยสายตา) การขนย้ายช้างนับร้อย เป็นเรื่องที่ยากและสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียมากทั้งชีวิตคนและช้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อช้างเหล่านี้มิได้ถูกฝึกหรือสื่อสารกับคนเลี้ยงอย่างใกล้ชิดมาก่อน เราเริ่มจับตาอย่างใกล้ชิดว่าจะพอช่วยเหลือสนับสนุนอะไรได้บ้าง

    คณะของสถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เริ่มเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเมื่อเช้าตรู่ของวันศุกร์ จากการร้องขอของเจ้าหน้าที่มูลนิธิทางโทรศัพท์ โดยเบื้องต้นรับทราบมาว่าให้ช่วยเคลื่อนย้ายและดูแลช้างเพศผู้ที่ยังอยู่ในคอกแต่ไม่สามารถออกมาได้ ในขณะที่ระดับน้ำกำลงัเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว คณะทำงานถูกตามตัว รวมทีมและประชุมอย่างเร่งด่วน และออกเดินทางในช่วงสายของวันนั้น
    เมื่อแรกไปถึงพบว่าเส้นทางเข้าถึงปางช้างถูกตัดขาด ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก การติดต่อด้วยโทรศัพท์ไม่สามารถทำได้ ต้องสื่อสารผ่านวิทยุสื่อสารคลื่นสั้นเท่านั้น คณะจึงต้องรอจนถึงบ่ายแก่ๆจึงได้เรือจากหน่วยกู้ภัย จ.กาฬสินธิ์ ข้ามน้ำเพื่อไปดูช้างตัวผู้ในคอกต่างๆเพื่อประเมินสถานการณ์ เราพบว่าช้างตัวผู้ยังอยู่ครบทั้งสิบเชือก ในสภาพที่ช้างลอยคออยู่ภายในคอก แต่ที่แปลกใจคือยังมีช้างตัวเมียอีกหลายสิบเชือกติดค้างอยู่ในคอกด้วย บ้างก็พิการขาเป๋ ตาบอด และยังทราบอีกว่าช้างอีกหลายเชือกได้สูญหายลอยไปกับน้ำด้วย เมื่อช่วงก่อนหน้า ซึ่งต่อมาพบ
    ซากของช้างฟ้าใส(วันเฉลิม)และพลอยทอง เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งต่อการสูญเสีย
    คณะจึงตัดสินใจแบ่งทีมงานออกเป็น ๒ ทีมเพื่อช่วยเหลือช้างให้ครอบคลุมทั้งสองกลุ่ม

    การดำเนินการในภาวะวิกฤติและเร่งด่วนเช่นนี้
    โดยหลักการแล้ว หากพบว่าช้างกับควาญสามารถสื่อสารกันได้ก็จะให้ควาญช้างเป็นผู้นำและกำหนดทิศทางการเดินของช้างเพื่อความปลอดภัย เพราะช้างเองมักเดินเฉพาะเส้นทางที่เคยชิน ซึ่งในกรณีนี้ช้างมักคุ้นชินกับการเดินแบบอิสระในทุ่งกว้างที่อยู่ติดกับน้ำแม่แตง ที่กำลังไหลเชี่ยว นับว่าอันตรายอย่างยิ่ง ฉะนั้นจึงจำเป็นที่ช้างเหล่านี้จะต้องมีควาญเป็นผู้ควบคุมทิศทาง

    ในกรณีช้างเพศเมียหรือช้างที่ไม่ดุร้าย
    หากช้างกับควาญมิได้มีปฏิสัมพันธ์กันมาก่อน หรือมีแต่เพียงเล็กน้อย ในทางทฤษฎีที่มีการเคลื่อนย้ายช้างป่ามักวางยาซึมและนำทางด้วยผ้าพรางแสงตลอดทางเดินเพื่อนำช้างไปยังจุดที่ต้องการ แต่ในกรณีนี้มีน้ำท่วมสูงจึงค่อนข้างเสี่ยงที่จะวางยาซึม (ยาซึมช้างมีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ ทำให้งวงตกลงสู่พื้น) โดยในวันนั้นคณะทำงานที่ประกอบด้วยสัตวแพทย์ ควาญช้างจากสถาบันคชบาลแห่งชาติ ควาญพี่เบิ้ม(ปางที่อยู่ติดกัน) และภัทรฟาร์ม ซึ่งมีความชำนาญ ร่วมกับควาญช้างของมูลนิธิช่วยกันควบคุมและกำหนดเส้นทางด้วยเชือกให้ช้างเดินไปยังจุดที่ปลอดภัย แต่ก็ทุลักทุเลพอควรด้วยเพราะควาญกับช้างสื่อสารกันแทบไม่รู้เรื่อง วันนั้นทีมเราช่วยเหลือช้างตัวเมียได้บางส่วนจนกระทั่งมืดค่ำจึงยุติภารกิจในเวลา ๑๙.๓๐ น.

    ในกรณีช้างเพศผู้ เราไม่สามารถวางยาซึมช้างในขณะที่ยังอยู่ในน้ำได้ ซึ่งจากข้อมูลที่ทีมงานได้รับพบว่าช้างทุกเชือกไม่เคยผ่านการฝึกและบางเชือกมีประวัติทำร้ายคนมาก่อน จึงเกิดคำถามว่าหากเคลื่อนย้ายออกมาได้แล้วจะนำช้างไปผูกล่ามอย่างไร ที่ไหน ทั้งในภาวะซึมหรือปกติ ด้วยเพราะช้างไม่คุ้นเคยกับคนหรือช้างใดๆ ช้างแต่ละเชือกอยุ่ตัวเดียวในคอกมานาน ซึ่งจากการประเมินพบว่าช้างทุกเชือกยังมีสภาพร่างกายปกติ (ยกเว้นพลายขุนเดชที่บาดเจ็บที่ขาหน้า) ดังนั้นจึงใช้วิธีวางแท่นพยุงให้ช้างสามารถใช้งวงยึดพยุงมิให้จมน้ำ หากพบว่าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก เพราะจากประสบการณ์ตรงของคณะทำงานพบว่าช้างมักลอยน้ำและอยู่ในน้ำได้นานถึง ๒ วัน ๑ คืนในสภาพน้ำนิ่ง โดยไม่เกิดอันตราย ซึ่งจากสภาพช้างภายในคอกพบว่ากระแสน้ำยังคงไหลแต่ไม่เชี่ยวมากนักเมื่อเทียบกับในลำน้ำ ช้างน่าจะยังพอพยุงตัวเองไว้ได้ในระยะเวลาหนึ่ง ด้วยเพราะธรรมชาติของน้ำทางภาคเหนือมักมาเร็วไปเร็ว ไม่น่าจะท่วมนาน เราจึงกำหนดให้ทำแพต้นกล้วยไว้ให้ช้างเพื่อช่วยพยุง ต้นกล้วยยังเป็นอาหารและมีน้ำช่วยประทังชีวิตให้ช้างได้อีกด้วย ทั้งนี้ให้เฝ้าระวังพลายขุนเดชเป็นพิเศษ
    โชคดีในช่วงเย็นของวันเดียวกันระดับน้ำเริ่มลดระดับลง เป็นสัญญาณว่าน้ำน่าจะลดลงเป็นปกติในไม่ช้า

    วันรุ่งขึ้นระดับน้ำลดลง เหลือเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำ ช้างเพศเมียถูกเคลื่อนย้ายขึ้นที่สูง ช้างตัวผู้ยังอยู่ในคอกของตัวเอง แต่ทุกตัวยังมีชีวิตอยู่แม้บางเชือกอาจแสดงอาการอ่อนเพลียบ้าง ดังนั้นการฟื้นฟูสุขภาพกาย และสภาวะจิตใจของช้างและควาญจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะโรคต่างๆที่มาหลังน้ำท่วม ก็ดี น้ำป่าที่อาจเข้าสู่ร่างกายช้างในช่วงก่อนหน้าทั้งทางเดินหายใจ ทางเดินอาหารก็ดี ดินโคลนที่มีรสชาดเย้ายวนต่อการลิ้มลองของช้างก็ดี หรือแม้กระทั่งอาหารที่อาจปนเปื้อน ที่ล้วนนำมาซึ่งความเจ็บป่วยของช้างเหล่านี้ได้ และสภาพจิตใจของช้างที่อาจตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การไม่คุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เหล่านี้จำเป็นต้องฟื้นฟูและเฝ้าระวังกันต่อไป

    สรุปยอดรวมช้างในปางก่อนเกิดเหตุ จำนวน ๑๑๘ เชือก ภายหลังน้ำลด พบช้างเพศเมีย ๑๐๖ เชือก เป็นช้างเพศผู้ ๑๐ เชือก สูญหายและเสียชีวิต ๒ เชือก

    วันนี้ฝนตกเบาบางลงแล้ว แต่หากเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันอีก การเรียนรู้บทเรียนและเตรียมแผนเผชิญเหตุทั้งของปางและผู้เกี่ยวข้องเป็นสิ่งที่ต้องจัดทำ
    แม้ในวันนี้ช้างบ้านของไทยจะมีสถานะเป็นทรัพย์สินของผู้ถือครองตามกฎหมาย (พรบ.สัตว์พาหนะ ) แต่จากเหตุการณ์หลายๆครั้งที่ผ่านมา ล้วนกระทบจิตใจคนไทยส่วนใหญ่ หลายส่วนยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองติดตามอย่างใกล้ชิด จึงเป็นสิ่งที่ทุกท่านพึงตระหนักให้ดีว่า "ช้าง" มีสถานะยิ่งกว่าทรัพย์สิน แต่เขาคือสิ่งที่มีคุณค่า ที่สูงค่าอันประเมินมูลค่ามิได้ ซึ่งเป็นสมบัติของคนไทยเราทุกคน

    ปล. ขอบคุณภาพมุมสูงจากคุณน้ำหนึ่ง

    https://www.facebook.com/share/p/zPKFtdBiFkUnLwdL/
    บันทึกเตือนความจำ ภัยธรรมชาติที่เกิดจากภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงสุดขั้วนำมาซึ่งปริมาณน้ำฝนที่ไหลหลั่งลงสู่แหล่งน้ำ จำนวนมหาศาล ไหลบ่าจากป่าสู่เมืองในที่ลุ่มต่ำ ในทางกลับกันเชื่อแน่ว่าไม่ช้าก็เร็วเราน่าจะเจอกับเหตุการณ์ในขั้วตรงกันข้ามคือแล้ง ร้อนสุดโต่งแน่ กันยายนต่อเนื่องถึงตุลาคม ฝนตกต่อเนื่องจนเกิดมวลน้ำจำนวนมหาศาลจากต้นน้ำแม่แตง ไหลเข้าสู่ลำน้ำแม่แตง สายน้ำแห่งการท่องเที่ยวธรรมชาติของเชียงใหม่ ที่ตลอดสองข้างลำน้ำมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก รวมทั้งปางช้างต่างๆเรียงรายตลอดลำน้ำแม่แตง ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาจากรายงานของสถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (๒๕๕๘-๒๕๖๗) พบว่ามีปางช้างถึง ๔๙ ปาง (ช้างจำนวน ๕๔๖ เชือก) เหตุระทึกเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่บ่ายวันพฤหัสที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๗ มวลน้ำจำนวนมากไหลบ่าล้นตลิ่งทั้งสองฝั่งของลำน้ำแม่แตงอย่างรวดเร็ว ต่อเนื่องจนถึงเช้ามืดวันศุกร์ น้ำเพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว ช้างส่วนใหญ่ถูกอพยพนำขึ้นไปผูกล่ามไว้ในที่สูง ในขณะที่ปางช้างขนาดใหญ่ (มีช้างมากกว่าหนึ่งร้อยเชือก) ของมูลนิธิช้างและสิ่งแวดล้อม ยังคงสาละวนและพยายามขนย้ายช้างและสัตว์อื่นๆอีกนับพันอาทิ สุนัข แมว แพะ โค กระบือ และสุกร ซึ่งยังคงไม่ทันการณ์ เป็นผลให้มวลน้ำจำนวนมหึมาไหลเข้าสู่ปางช้าง (ระดับน้ำสูงมากกว่า ๑.๕-๒.๐ เมตร เมื่อประเมินด้วยสายตา) การขนย้ายช้างนับร้อย เป็นเรื่องที่ยากและสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียมากทั้งชีวิตคนและช้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อช้างเหล่านี้มิได้ถูกฝึกหรือสื่อสารกับคนเลี้ยงอย่างใกล้ชิดมาก่อน เราเริ่มจับตาอย่างใกล้ชิดว่าจะพอช่วยเหลือสนับสนุนอะไรได้บ้าง คณะของสถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เริ่มเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเมื่อเช้าตรู่ของวันศุกร์ จากการร้องขอของเจ้าหน้าที่มูลนิธิทางโทรศัพท์ โดยเบื้องต้นรับทราบมาว่าให้ช่วยเคลื่อนย้ายและดูแลช้างเพศผู้ที่ยังอยู่ในคอกแต่ไม่สามารถออกมาได้ ในขณะที่ระดับน้ำกำลงัเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว คณะทำงานถูกตามตัว รวมทีมและประชุมอย่างเร่งด่วน และออกเดินทางในช่วงสายของวันนั้น เมื่อแรกไปถึงพบว่าเส้นทางเข้าถึงปางช้างถูกตัดขาด ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก การติดต่อด้วยโทรศัพท์ไม่สามารถทำได้ ต้องสื่อสารผ่านวิทยุสื่อสารคลื่นสั้นเท่านั้น คณะจึงต้องรอจนถึงบ่ายแก่ๆจึงได้เรือจากหน่วยกู้ภัย จ.กาฬสินธิ์ ข้ามน้ำเพื่อไปดูช้างตัวผู้ในคอกต่างๆเพื่อประเมินสถานการณ์ เราพบว่าช้างตัวผู้ยังอยู่ครบทั้งสิบเชือก ในสภาพที่ช้างลอยคออยู่ภายในคอก แต่ที่แปลกใจคือยังมีช้างตัวเมียอีกหลายสิบเชือกติดค้างอยู่ในคอกด้วย บ้างก็พิการขาเป๋ ตาบอด และยังทราบอีกว่าช้างอีกหลายเชือกได้สูญหายลอยไปกับน้ำด้วย เมื่อช่วงก่อนหน้า ซึ่งต่อมาพบ ซากของช้างฟ้าใส(วันเฉลิม)และพลอยทอง เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งต่อการสูญเสีย คณะจึงตัดสินใจแบ่งทีมงานออกเป็น ๒ ทีมเพื่อช่วยเหลือช้างให้ครอบคลุมทั้งสองกลุ่ม การดำเนินการในภาวะวิกฤติและเร่งด่วนเช่นนี้ โดยหลักการแล้ว หากพบว่าช้างกับควาญสามารถสื่อสารกันได้ก็จะให้ควาญช้างเป็นผู้นำและกำหนดทิศทางการเดินของช้างเพื่อความปลอดภัย เพราะช้างเองมักเดินเฉพาะเส้นทางที่เคยชิน ซึ่งในกรณีนี้ช้างมักคุ้นชินกับการเดินแบบอิสระในทุ่งกว้างที่อยู่ติดกับน้ำแม่แตง ที่กำลังไหลเชี่ยว นับว่าอันตรายอย่างยิ่ง ฉะนั้นจึงจำเป็นที่ช้างเหล่านี้จะต้องมีควาญเป็นผู้ควบคุมทิศทาง ในกรณีช้างเพศเมียหรือช้างที่ไม่ดุร้าย หากช้างกับควาญมิได้มีปฏิสัมพันธ์กันมาก่อน หรือมีแต่เพียงเล็กน้อย ในทางทฤษฎีที่มีการเคลื่อนย้ายช้างป่ามักวางยาซึมและนำทางด้วยผ้าพรางแสงตลอดทางเดินเพื่อนำช้างไปยังจุดที่ต้องการ แต่ในกรณีนี้มีน้ำท่วมสูงจึงค่อนข้างเสี่ยงที่จะวางยาซึม (ยาซึมช้างมีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ ทำให้งวงตกลงสู่พื้น) โดยในวันนั้นคณะทำงานที่ประกอบด้วยสัตวแพทย์ ควาญช้างจากสถาบันคชบาลแห่งชาติ ควาญพี่เบิ้ม(ปางที่อยู่ติดกัน) และภัทรฟาร์ม ซึ่งมีความชำนาญ ร่วมกับควาญช้างของมูลนิธิช่วยกันควบคุมและกำหนดเส้นทางด้วยเชือกให้ช้างเดินไปยังจุดที่ปลอดภัย แต่ก็ทุลักทุเลพอควรด้วยเพราะควาญกับช้างสื่อสารกันแทบไม่รู้เรื่อง วันนั้นทีมเราช่วยเหลือช้างตัวเมียได้บางส่วนจนกระทั่งมืดค่ำจึงยุติภารกิจในเวลา ๑๙.๓๐ น. ในกรณีช้างเพศผู้ เราไม่สามารถวางยาซึมช้างในขณะที่ยังอยู่ในน้ำได้ ซึ่งจากข้อมูลที่ทีมงานได้รับพบว่าช้างทุกเชือกไม่เคยผ่านการฝึกและบางเชือกมีประวัติทำร้ายคนมาก่อน จึงเกิดคำถามว่าหากเคลื่อนย้ายออกมาได้แล้วจะนำช้างไปผูกล่ามอย่างไร ที่ไหน ทั้งในภาวะซึมหรือปกติ ด้วยเพราะช้างไม่คุ้นเคยกับคนหรือช้างใดๆ ช้างแต่ละเชือกอยุ่ตัวเดียวในคอกมานาน ซึ่งจากการประเมินพบว่าช้างทุกเชือกยังมีสภาพร่างกายปกติ (ยกเว้นพลายขุนเดชที่บาดเจ็บที่ขาหน้า) ดังนั้นจึงใช้วิธีวางแท่นพยุงให้ช้างสามารถใช้งวงยึดพยุงมิให้จมน้ำ หากพบว่าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก เพราะจากประสบการณ์ตรงของคณะทำงานพบว่าช้างมักลอยน้ำและอยู่ในน้ำได้นานถึง ๒ วัน ๑ คืนในสภาพน้ำนิ่ง โดยไม่เกิดอันตราย ซึ่งจากสภาพช้างภายในคอกพบว่ากระแสน้ำยังคงไหลแต่ไม่เชี่ยวมากนักเมื่อเทียบกับในลำน้ำ ช้างน่าจะยังพอพยุงตัวเองไว้ได้ในระยะเวลาหนึ่ง ด้วยเพราะธรรมชาติของน้ำทางภาคเหนือมักมาเร็วไปเร็ว ไม่น่าจะท่วมนาน เราจึงกำหนดให้ทำแพต้นกล้วยไว้ให้ช้างเพื่อช่วยพยุง ต้นกล้วยยังเป็นอาหารและมีน้ำช่วยประทังชีวิตให้ช้างได้อีกด้วย ทั้งนี้ให้เฝ้าระวังพลายขุนเดชเป็นพิเศษ โชคดีในช่วงเย็นของวันเดียวกันระดับน้ำเริ่มลดระดับลง เป็นสัญญาณว่าน้ำน่าจะลดลงเป็นปกติในไม่ช้า วันรุ่งขึ้นระดับน้ำลดลง เหลือเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำ ช้างเพศเมียถูกเคลื่อนย้ายขึ้นที่สูง ช้างตัวผู้ยังอยู่ในคอกของตัวเอง แต่ทุกตัวยังมีชีวิตอยู่แม้บางเชือกอาจแสดงอาการอ่อนเพลียบ้าง ดังนั้นการฟื้นฟูสุขภาพกาย และสภาวะจิตใจของช้างและควาญจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะโรคต่างๆที่มาหลังน้ำท่วม ก็ดี น้ำป่าที่อาจเข้าสู่ร่างกายช้างในช่วงก่อนหน้าทั้งทางเดินหายใจ ทางเดินอาหารก็ดี ดินโคลนที่มีรสชาดเย้ายวนต่อการลิ้มลองของช้างก็ดี หรือแม้กระทั่งอาหารที่อาจปนเปื้อน ที่ล้วนนำมาซึ่งความเจ็บป่วยของช้างเหล่านี้ได้ และสภาพจิตใจของช้างที่อาจตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การไม่คุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เหล่านี้จำเป็นต้องฟื้นฟูและเฝ้าระวังกันต่อไป สรุปยอดรวมช้างในปางก่อนเกิดเหตุ จำนวน ๑๑๘ เชือก ภายหลังน้ำลด พบช้างเพศเมีย ๑๐๖ เชือก เป็นช้างเพศผู้ ๑๐ เชือก สูญหายและเสียชีวิต ๒ เชือก วันนี้ฝนตกเบาบางลงแล้ว แต่หากเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันอีก การเรียนรู้บทเรียนและเตรียมแผนเผชิญเหตุทั้งของปางและผู้เกี่ยวข้องเป็นสิ่งที่ต้องจัดทำ แม้ในวันนี้ช้างบ้านของไทยจะมีสถานะเป็นทรัพย์สินของผู้ถือครองตามกฎหมาย (พรบ.สัตว์พาหนะ ) แต่จากเหตุการณ์หลายๆครั้งที่ผ่านมา ล้วนกระทบจิตใจคนไทยส่วนใหญ่ หลายส่วนยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองติดตามอย่างใกล้ชิด จึงเป็นสิ่งที่ทุกท่านพึงตระหนักให้ดีว่า "ช้าง" มีสถานะยิ่งกว่าทรัพย์สิน แต่เขาคือสิ่งที่มีคุณค่า ที่สูงค่าอันประเมินมูลค่ามิได้ ซึ่งเป็นสมบัติของคนไทยเราทุกคน ปล. ขอบคุณภาพมุมสูงจากคุณน้ำหนึ่ง https://www.facebook.com/share/p/zPKFtdBiFkUnLwdL/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 399 มุมมอง 0 รีวิว
  • #อุต๊ะมีความน่าอัวพี่คิงส์นี่ขนตั้งชัน
    ป้าโจวตกขาว หรือมณฑนี
    ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนเธอเป็นใคร
    พิธีกรตกยุค ที่เคยแสดงออกถึงความรักชาติ
    แต่หลังจากที่นางมีอาการเปื่อยจิต
    ต้องรับการบำ บัด จังหวะ
    แน๊กเริ่มมีความคิดช่วยเหลืออิเหวิงกามิจ
    นางเลยหลุดเข้าสู่มิติแห่งความเพ้อฝัน
    และเป็นแนวร่วมตั้งกลุ่มลั-บ
    โดยเอเจนซี่กับอิเหวิงทำแพลนรอไว้แล้วตั้งแต่แปดเดือนที่แล้ว
    เพื่อให้สาวกเข้าไปสิงสถิตและได้คุยส่วนตัวกับอิเหวิง
    มีทั้งรายเดือน มีทั้งเรียกไปเปย์ติ๊กเกอร์ตอนพีเค
    เรียกว่า ทุยสาวกบางคน หมดกันเป็นล้าน
    ส่วนป้าโจตกขาวก็ได้ส่วนแบ่ง มีหน้าที่
    สร้างอุปทานหมู่ ด้วยความชำนาญในการเป็นนักพูดตกยุค
    เล่นเอาสาวกเคลิ้มล่องลอยเหมือนจักรวาลนี้สร้างมาเพื่ออิเหวิง
    และเมื่อแน๊กเริ่มรับรู้ว่ามีคนที่เปย์จนเดือดร้อนเพราะหลงอิป้าโจกับอิเหวิง
    ก็เลยต้องหาทางสร้างเรื่องไม่จริง ใส่ไคร้ว่าน้องแน๊ก เปื่อยจิต โดยเอาอาการของตัวเอง ไปยัดเยียดให้น้องแน๊ก กระจายกันในกลุ่ม
    (หลักต๋านส่งมาเพียบบบบ)
    ให้อิเหวิงเป็นผู้ถูกกระทำ
    เมื่อแน๊กรู้สึกว่า อิเหวิงไม่จบกับโลภะ รวมถึงคนที่ได้ประโยชน์ร่วมก็เลยเถิด
    ก็ต้องจบความรักเพื่อปกป้องคนไทยด้วยกัน
    จึงเป็นที่มาที่อิป้าโจตกขาว สร้างกลุ่มสุมหัว โดยดึงคนที่เสียประโยชน์จากการที่แน๊กตัดขาดความสัมพันธ์ มารวมกันเพื่อสหบาทาแน๊ก และอวยอิเหวิง
    จุดนี้แหละ ที่พี่คิงส์รับรู้รับทราบ ทั้งๆที่พี่คิงส์เองเอ็นดูแน๊ก แต่ไม่เคยอินหรือติดตามเป็นลูกทัพน้องแน๊กเลย แต่มันคือเรื่องการที่น้องผู้ชายคนหนึ่ง ถูกอธรรมอย่างไม่ยุติธรรม ด้วยกลุ่มก้อนเฮงชวยพวกนี้ รวมถึงคนที่ถูกเชี่ยมจิตในกลุ่มที่ยังคงเปย์ตามการจูงจมูกของอิป้าโจวตกขาว
    ทำให้พี่คิงส์ต้องหันมาเปิดเผยเรื่องนี้อย่างจริงจัง
    ต่อมา สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้สื่อข่าวระดับตำนาน ได้มองเรื่องนี้ว่าเป็นอตร.กับคนไทย จึงนัดหมายว่าจะนำเสนอข้อมูลในวันศุกร์ที่ 13 กันยายน 67
    อิป้าโจวตกขาว ก็ดิ้น ถึงขนาดข่มด้วยการโพส เบรคสื่อระดับตำนาน สารพัด
    นี่คือที่มา ของการเปิดเผยข้อมูลสำคัญมาตลอดจนถึงตอนนี้
    หลังจากที่ข้อมูลได้เปิดเผยสู่สาธารณะ
    อิป้าโจวตกขาวถึงกับช็อค ไม่กล้าโพสใดๆอีกเลย
    เพราะยิ่งขุด ยิ่งเจอ
    แม้กระทั่ง มีการแอบตั้งโรงเรียนอย่างไม่ถูกต้องตาม-ก-ฏ-ห-ม-าย เพื่อลวงคนในกลุ่มและคนทั่วไปที่เป็นแฟนคลับกามิจ ไปเรียนทำนายทายทัก ฝึกจิตฝึกวิญาณ เอาง่ายๆ หาแดรกกับความเชื่อ คนละเป็นหมื่น ซึ่งไม่นาน กระทรวงคงได้ติดต่อนางไป นี่มันอาชีพต้มคนไทยชัดๆ
    แต่ซักครู่นี้่เอง นางเจอคนเปิดความจริงแบบงานละเอียดยิบอย่างพี่คิงส์ฯ
    กองเชียร์ก็บอกให้มาโต้ แต่จะโต้ได้ไง เพราะมันคือความจริง นางเลยเข้าสายกับช่องสาวกของนาง และพูดเสียงเครือแบบ ขึ้นมาก ทั้งสั่นทั้งกลัว
    "ที่เงียบไป ไม่ได้เงียบไปเฉยๆนะ นี่ก็กำลังไปตร.ไซเบอร์ จะจัดการคนที่มาทำให้นางเสื่อม เพราะที่พูดไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์" ป๊าดดดด
    พี่คิงส์ก็ย้อนกลับไปดู หลักฐานก็มีน้า
    เอางี้ป้า อยากทำอะไรจัดมา
    ส่วนพี่คิงส์ก็รู้สึกกลัวมาก
    จะตอบสนองป้าด้วยการขุดให้ลึกไปอีกแบบรัวๆ
    เอาให้คนไทยทั่วประเทศ สว่างวาบเลย
    ป้าได้ปิดท้ายไว้ว่า
    "เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับป้าโจวตกขาว"
    คือหวังให้เพจคิงส์โพธิ์แดงกลัว ว่างั้น!!
    หึหึ ป้าโจ ไปสืบก่อนก็ดี ว่าคิงส์โพธิ์แดง
    สู้กับใครมาบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
    อิฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง3
    #อุต๊ะมีความน่าอัวพี่คิงส์นี่ขนตั้งชัน ป้าโจวตกขาว หรือมณฑนี ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนเธอเป็นใคร พิธีกรตกยุค ที่เคยแสดงออกถึงความรักชาติ แต่หลังจากที่นางมีอาการเปื่อยจิต ต้องรับการบำ บัด จังหวะ แน๊กเริ่มมีความคิดช่วยเหลืออิเหวิงกามิจ นางเลยหลุดเข้าสู่มิติแห่งความเพ้อฝัน และเป็นแนวร่วมตั้งกลุ่มลั-บ โดยเอเจนซี่กับอิเหวิงทำแพลนรอไว้แล้วตั้งแต่แปดเดือนที่แล้ว เพื่อให้สาวกเข้าไปสิงสถิตและได้คุยส่วนตัวกับอิเหวิง มีทั้งรายเดือน มีทั้งเรียกไปเปย์ติ๊กเกอร์ตอนพีเค เรียกว่า ทุยสาวกบางคน หมดกันเป็นล้าน ส่วนป้าโจตกขาวก็ได้ส่วนแบ่ง มีหน้าที่ สร้างอุปทานหมู่ ด้วยความชำนาญในการเป็นนักพูดตกยุค เล่นเอาสาวกเคลิ้มล่องลอยเหมือนจักรวาลนี้สร้างมาเพื่ออิเหวิง และเมื่อแน๊กเริ่มรับรู้ว่ามีคนที่เปย์จนเดือดร้อนเพราะหลงอิป้าโจกับอิเหวิง ก็เลยต้องหาทางสร้างเรื่องไม่จริง ใส่ไคร้ว่าน้องแน๊ก เปื่อยจิต โดยเอาอาการของตัวเอง ไปยัดเยียดให้น้องแน๊ก กระจายกันในกลุ่ม (หลักต๋านส่งมาเพียบบบบ) ให้อิเหวิงเป็นผู้ถูกกระทำ เมื่อแน๊กรู้สึกว่า อิเหวิงไม่จบกับโลภะ รวมถึงคนที่ได้ประโยชน์ร่วมก็เลยเถิด ก็ต้องจบความรักเพื่อปกป้องคนไทยด้วยกัน จึงเป็นที่มาที่อิป้าโจตกขาว สร้างกลุ่มสุมหัว โดยดึงคนที่เสียประโยชน์จากการที่แน๊กตัดขาดความสัมพันธ์ มารวมกันเพื่อสหบาทาแน๊ก และอวยอิเหวิง จุดนี้แหละ ที่พี่คิงส์รับรู้รับทราบ ทั้งๆที่พี่คิงส์เองเอ็นดูแน๊ก แต่ไม่เคยอินหรือติดตามเป็นลูกทัพน้องแน๊กเลย แต่มันคือเรื่องการที่น้องผู้ชายคนหนึ่ง ถูกอธรรมอย่างไม่ยุติธรรม ด้วยกลุ่มก้อนเฮงชวยพวกนี้ รวมถึงคนที่ถูกเชี่ยมจิตในกลุ่มที่ยังคงเปย์ตามการจูงจมูกของอิป้าโจวตกขาว ทำให้พี่คิงส์ต้องหันมาเปิดเผยเรื่องนี้อย่างจริงจัง ต่อมา สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้สื่อข่าวระดับตำนาน ได้มองเรื่องนี้ว่าเป็นอตร.กับคนไทย จึงนัดหมายว่าจะนำเสนอข้อมูลในวันศุกร์ที่ 13 กันยายน 67 อิป้าโจวตกขาว ก็ดิ้น ถึงขนาดข่มด้วยการโพส เบรคสื่อระดับตำนาน สารพัด นี่คือที่มา ของการเปิดเผยข้อมูลสำคัญมาตลอดจนถึงตอนนี้ หลังจากที่ข้อมูลได้เปิดเผยสู่สาธารณะ อิป้าโจวตกขาวถึงกับช็อค ไม่กล้าโพสใดๆอีกเลย เพราะยิ่งขุด ยิ่งเจอ แม้กระทั่ง มีการแอบตั้งโรงเรียนอย่างไม่ถูกต้องตาม-ก-ฏ-ห-ม-าย เพื่อลวงคนในกลุ่มและคนทั่วไปที่เป็นแฟนคลับกามิจ ไปเรียนทำนายทายทัก ฝึกจิตฝึกวิญาณ เอาง่ายๆ หาแดรกกับความเชื่อ คนละเป็นหมื่น ซึ่งไม่นาน กระทรวงคงได้ติดต่อนางไป นี่มันอาชีพต้มคนไทยชัดๆ แต่ซักครู่นี้่เอง นางเจอคนเปิดความจริงแบบงานละเอียดยิบอย่างพี่คิงส์ฯ กองเชียร์ก็บอกให้มาโต้ แต่จะโต้ได้ไง เพราะมันคือความจริง นางเลยเข้าสายกับช่องสาวกของนาง และพูดเสียงเครือแบบ ขึ้นมาก ทั้งสั่นทั้งกลัว "ที่เงียบไป ไม่ได้เงียบไปเฉยๆนะ นี่ก็กำลังไปตร.ไซเบอร์ จะจัดการคนที่มาทำให้นางเสื่อม เพราะที่พูดไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์" ป๊าดดดด พี่คิงส์ก็ย้อนกลับไปดู หลักฐานก็มีน้า เอางี้ป้า อยากทำอะไรจัดมา ส่วนพี่คิงส์ก็รู้สึกกลัวมาก จะตอบสนองป้าด้วยการขุดให้ลึกไปอีกแบบรัวๆ เอาให้คนไทยทั่วประเทศ สว่างวาบเลย ป้าได้ปิดท้ายไว้ว่า "เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับป้าโจวตกขาว" คือหวังให้เพจคิงส์โพธิ์แดงกลัว ว่างั้น!! หึหึ ป้าโจ ไปสืบก่อนก็ดี ว่าคิงส์โพธิ์แดง สู้กับใครมาบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน อิฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2 #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง3
    Like
    Love
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3020 มุมมอง 1 รีวิว
  • Clarks
    (121113292)
    Clarks Originals Wallabee Suede Loafers Shoes
    Size. UK 7G /26 cm
    ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ Excellent Condition (95%+)

    🔥 Price : 1,390฿

    👉 เรื่องราว :-
    Clarks เป็นแบรนด์รองเท้าที่มีต้นกำเนิดจากประเทศอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นในปี 1825 โดยพี่น้องตระกูล Clark ที่มีความชำนาญในการทำรองเท้าหนังแกะ

    ✅ จุดเด่นของ Clarks :-
    🔹ประสบการณ์ยาวนาน : ด้วยประวัติอันยาวนานกว่า 190 ปี Clarks จึงสั่งสมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการผลิต รองเท้าที่มีคุณภาพและดีไซน์ที่โดดเด่น
    🔹นวัตกรรม : Clarks ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้รองเท้ามีความสบายและตอบสนองต่อความต้องการของผู้สวมใส่ได้มากยิ่งขึ้น
    🔹ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ : Clarks ผลิตรองเท้าหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่รองเท้าลำลองไปจนถึงรองเท้าทางการ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่ม
    🔹คุณภาพ : Clarks ให้ความสำคัญกับคุณภาพของวัสดุและกระบวนการผลิต เพื่อให้ได้รองเท้าที่มีความทนทานและใช้งานได้ยาวนาน
    🔹ความคลาสสิก : ดีไซน์ของรองเท้า Clarks มักมีความคลาสสิกและไม่ตกยุค ทำให้สามารถสวมใส่ได้ในทุกโอกาส
    🔹ความสบาย : รองเท้า Clarks เน้นเรื่องความสบายในการสวมใส่ ทำให้รู้สึกสบายเท้าตลอดทั้งวัน

    🔥รองเท้ารุ่นที่โด่งดัง :-
    🔹Desert Boot : รองเท้าบูทหนังกลับทรงคลาสสิกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรองเท้าของทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
    🔹Wallabee : รองเท้าหนังกลับทรงโมคาซินที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่สวยงาม
    Clarks (121113292) Clarks Originals Wallabee Suede Loafers Shoes Size. UK 7G /26 cm ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ Excellent Condition (95%+) 🔥 Price : 1,390฿ 👉 เรื่องราว :- Clarks เป็นแบรนด์รองเท้าที่มีต้นกำเนิดจากประเทศอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นในปี 1825 โดยพี่น้องตระกูล Clark ที่มีความชำนาญในการทำรองเท้าหนังแกะ ✅ จุดเด่นของ Clarks :- 🔹ประสบการณ์ยาวนาน : ด้วยประวัติอันยาวนานกว่า 190 ปี Clarks จึงสั่งสมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการผลิต รองเท้าที่มีคุณภาพและดีไซน์ที่โดดเด่น 🔹นวัตกรรม : Clarks ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้รองเท้ามีความสบายและตอบสนองต่อความต้องการของผู้สวมใส่ได้มากยิ่งขึ้น 🔹ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ : Clarks ผลิตรองเท้าหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่รองเท้าลำลองไปจนถึงรองเท้าทางการ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่ม 🔹คุณภาพ : Clarks ให้ความสำคัญกับคุณภาพของวัสดุและกระบวนการผลิต เพื่อให้ได้รองเท้าที่มีความทนทานและใช้งานได้ยาวนาน 🔹ความคลาสสิก : ดีไซน์ของรองเท้า Clarks มักมีความคลาสสิกและไม่ตกยุค ทำให้สามารถสวมใส่ได้ในทุกโอกาส 🔹ความสบาย : รองเท้า Clarks เน้นเรื่องความสบายในการสวมใส่ ทำให้รู้สึกสบายเท้าตลอดทั้งวัน 🔥รองเท้ารุ่นที่โด่งดัง :- 🔹Desert Boot : รองเท้าบูทหนังกลับทรงคลาสสิกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรองเท้าของทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 🔹Wallabee : รองเท้าหนังกลับทรงโมคาซินที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่สวยงาม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ ๔ ประการแห่งธรรมทั้งหลายที่บุคคลฟังเนืองๆ
    คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ อันบุคคลพึงหวังได้

    อานิสงส์ ๔ ประการเป็นไฉน

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ย่อมเล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ…เวทัลละ ธรรมเหล่านั้น
    เป็นธรรมอันภิกษุนั้นฟังเนืองๆ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ เธอมีสติ หลงลืม
    เมื่อกระทำกาละ ย่อมเข้าถึงเทพนิกายหมู่ใดหมู่หนึ่ง บทแห่งธรรมทั้งหลายย่อมปรากฏแก่เธอ
    ผู้มีความสุขในภพนั้น สติบังเกิดขึ้นช้า แต่สัตว์นั้นย่อมเป็นผู้บรรลุคุณวิเศษ เร็วพลัน

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นอานิสงส์ประการที่ ๑ แห่งธรรมทั้งหลายที่บุคคลฟังเนืองๆ คล่องปาก ขึ้นใจ
    แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิอันบุคคลพึงหวังได้ ฯ

    อีกประการหนึ่ง ภิกษุย่อมเล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ…เวทัลละ ธรรมเหล่านั้น
    เป็นธรรมอันภิกษุนั้นฟังเนืองๆ คล่องปากขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ เธอมีสติหลงลืม เมื่อ
    กระทำกาละ ย่อมเข้าถึงเทพนิกายหมู่ใดหมู่หนึ่งบทแห่งธรรมทั้งหลายย่อมไม่ปรากฏแก่เธอ ผู้มี
    ความสุขอยู่ในภพนั้นเลย แต่ภิกษุผู้มีฤทธิ์ ถึงความชำนาญแห่งจิต แสดงธรรมแก่เทพบริษัท
    เธอมีความปริวิตกอย่างนี้ว่า ในกาลก่อนเราได้ประพฤติพรหมจรรย์ในธรรมวินัยใด นี้คือธรรมวินัย
    นั้น สติบังเกิดขึ้นช้า แต่ว่าสัตว์นั้นย่อมบรรลุคุณวิเศษ เร็วพลันดูกรภิกษุทั้งหลาย บุรุษผู้ฉลาดต่อ
    เสียงกลอง เขาเดินทางไกล พึงได้ยินเสียงกลอง เขาไม่พึงมีความสงสัย หรือเคลือบแคลงว่า
    เสียงกลองหรือไม่ใช่หนอที่แท้เขาพึงถึงความตกลงใจว่า เสียงกลองทีเดียว ฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้น
    เหมือนกัน ย่อมเล่าเรียนธรรม ฯลฯ ย่อมเป็นผู้บรรลุคุณวิเศษ เร็วพลัน ดูกรภิกษุทั้งหลาย

    นี้เป็นอานิสงส์ประการที่ ๒ แห่งธรรมทั้งหลายที่ภิกษุฟังเนืองๆคล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดี
    ด้วยทิฐิ อันบุคคลพึงหวังได้ ฯ

    สามารถอ่านต่อที่เว็บบอร์ดพระนิพพาน

    https://www.thenirvanalive.com/2024/06/13/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B9%8C-%E0%B9%94-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3/
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ ๔ ประการแห่งธรรมทั้งหลายที่บุคคลฟังเนืองๆ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ อันบุคคลพึงหวังได้ อานิสงส์ ๔ ประการเป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ย่อมเล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ…เวทัลละ ธรรมเหล่านั้น เป็นธรรมอันภิกษุนั้นฟังเนืองๆ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ เธอมีสติ หลงลืม เมื่อกระทำกาละ ย่อมเข้าถึงเทพนิกายหมู่ใดหมู่หนึ่ง บทแห่งธรรมทั้งหลายย่อมปรากฏแก่เธอ ผู้มีความสุขในภพนั้น สติบังเกิดขึ้นช้า แต่สัตว์นั้นย่อมเป็นผู้บรรลุคุณวิเศษ เร็วพลัน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นอานิสงส์ประการที่ ๑ แห่งธรรมทั้งหลายที่บุคคลฟังเนืองๆ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิอันบุคคลพึงหวังได้ ฯ อีกประการหนึ่ง ภิกษุย่อมเล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ…เวทัลละ ธรรมเหล่านั้น เป็นธรรมอันภิกษุนั้นฟังเนืองๆ คล่องปากขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ เธอมีสติหลงลืม เมื่อ กระทำกาละ ย่อมเข้าถึงเทพนิกายหมู่ใดหมู่หนึ่งบทแห่งธรรมทั้งหลายย่อมไม่ปรากฏแก่เธอ ผู้มี ความสุขอยู่ในภพนั้นเลย แต่ภิกษุผู้มีฤทธิ์ ถึงความชำนาญแห่งจิต แสดงธรรมแก่เทพบริษัท เธอมีความปริวิตกอย่างนี้ว่า ในกาลก่อนเราได้ประพฤติพรหมจรรย์ในธรรมวินัยใด นี้คือธรรมวินัย นั้น สติบังเกิดขึ้นช้า แต่ว่าสัตว์นั้นย่อมบรรลุคุณวิเศษ เร็วพลันดูกรภิกษุทั้งหลาย บุรุษผู้ฉลาดต่อ เสียงกลอง เขาเดินทางไกล พึงได้ยินเสียงกลอง เขาไม่พึงมีความสงสัย หรือเคลือบแคลงว่า เสียงกลองหรือไม่ใช่หนอที่แท้เขาพึงถึงความตกลงใจว่า เสียงกลองทีเดียว ฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้น เหมือนกัน ย่อมเล่าเรียนธรรม ฯลฯ ย่อมเป็นผู้บรรลุคุณวิเศษ เร็วพลัน ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นอานิสงส์ประการที่ ๒ แห่งธรรมทั้งหลายที่ภิกษุฟังเนืองๆคล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดี ด้วยทิฐิ อันบุคคลพึงหวังได้ ฯ สามารถอ่านต่อที่เว็บบอร์ดพระนิพพาน https://www.thenirvanalive.com/2024/06/13/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B9%8C-%E0%B9%94-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3/
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 532 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฝึกฝนทักษะการลืม (ปล่อยวาง)
    ทุกๆเรื่องที่ไม่จำเป็นกับชีวิตให้เกิดความชำนาญ
    เพื่อจิตของเราจะได้ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อย
    แต่จะสดใสมีพละกำลังที่ดีกว่าเดิม

    ถ้าหากต้องการให้ชีวิตดีขึ้นกว่าจุดเดิมที่เคยเป็น
    ทักษะหนึ่งที่เราต้องฝึกฝนอยู่บ่อยๆ ซ้ำๆ
    คือทักษะการลืม (ปล่อยวาง)
    ให้เกิดความชำนาญ คุ้นชิน และทักษะการลืมมีความเป็นเลิศในตัวเรา จนเราสามารถใช้มันได้อย่างแคล่วคล่อง รวดเร็ว เป็นไปแบบอัตโนมัติ
    หมายความว่า เมื่อใดก็ตามที่เราพบเจอสิ่งใดๆ เรื่องใดๆก็ที่ไม่ได้สำคัญ และไม่จำเป็น กับชีวิต หรือไม่ได้ก่อให้เกิดคุณค่าต่อจิตใจเรา ส่งผลอันไม่ดีต่อจิตใจเรา
    ไม่ว่าจะระดับใดก็ตามเราก็สามารถดึงทักษะการลืม (ปล่อยวาง) ออกมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
    และเกิดประสิทธิผลที่ดี
    .
    ผลลัพธ์ที่ได้คือ จิตใจของเราไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยแบกรับหรือจดจำเรื่องที่ไม่ดี ที่ไม่มีความสำคัญ และไม่มีจำเป็นต่อจิตใจ เมื่อจิตใจของเราไม่เหน็ดเหนื่อย จิตของเราก็จะสดใสและมีพละกำลังที่ดีกว่าเดิมมากยิ่งขึ้น ในทุกช่วงเวลาที่ผ่านไปของชีวิต หรือในทุกๆวันของชีวิตเรา
    และเป็นการสร้างความพร้อมให้กับจิตใจของเราอยู่เสมอ เพื่อต้อนรับสิ่งที่ดีงามและมีคุณค่ากับชีวิตเรา

    ธรณ์ชยะ ฐณิยะกิตติอังกูร 
    ฝึกฝนทักษะการลืม (ปล่อยวาง) ทุกๆเรื่องที่ไม่จำเป็นกับชีวิตให้เกิดความชำนาญ เพื่อจิตของเราจะได้ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อย แต่จะสดใสมีพละกำลังที่ดีกว่าเดิม ถ้าหากต้องการให้ชีวิตดีขึ้นกว่าจุดเดิมที่เคยเป็น ทักษะหนึ่งที่เราต้องฝึกฝนอยู่บ่อยๆ ซ้ำๆ คือทักษะการลืม (ปล่อยวาง) ให้เกิดความชำนาญ คุ้นชิน และทักษะการลืมมีความเป็นเลิศในตัวเรา จนเราสามารถใช้มันได้อย่างแคล่วคล่อง รวดเร็ว เป็นไปแบบอัตโนมัติ หมายความว่า เมื่อใดก็ตามที่เราพบเจอสิ่งใดๆ เรื่องใดๆก็ที่ไม่ได้สำคัญ และไม่จำเป็น กับชีวิต หรือไม่ได้ก่อให้เกิดคุณค่าต่อจิตใจเรา ส่งผลอันไม่ดีต่อจิตใจเรา ไม่ว่าจะระดับใดก็ตามเราก็สามารถดึงทักษะการลืม (ปล่อยวาง) ออกมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว และเกิดประสิทธิผลที่ดี . ผลลัพธ์ที่ได้คือ จิตใจของเราไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยแบกรับหรือจดจำเรื่องที่ไม่ดี ที่ไม่มีความสำคัญ และไม่มีจำเป็นต่อจิตใจ เมื่อจิตใจของเราไม่เหน็ดเหนื่อย จิตของเราก็จะสดใสและมีพละกำลังที่ดีกว่าเดิมมากยิ่งขึ้น ในทุกช่วงเวลาที่ผ่านไปของชีวิต หรือในทุกๆวันของชีวิตเรา และเป็นการสร้างความพร้อมให้กับจิตใจของเราอยู่เสมอ เพื่อต้อนรับสิ่งที่ดีงามและมีคุณค่ากับชีวิตเรา ธรณ์ชยะ ฐณิยะกิตติอังกูร 
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚩 สำนักงานอาหารและยา จงใจให้ข้อมูลเท็จต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ❗

    วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๗

    เรียน เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน

    ตามที่ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน มีหนังสือ ที่ ผผ ๑๐๐๔/๒๑๙๕ ลงวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๗ แจ้งผลการพิจารณาเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับการพิจารณาเรื่องร้องเรียนเลขดำที่ ๒๒๔๑/๒๕๖๕ เรื่องร้องเรียนเลขแดงที่ ๑๒๑๔/๒๕๖๗ โดยในหนังสือดังกล่าวได้ส่งมอบสำเนาหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ที่ สธ ๑๐๐๙/๑๓๘ ลงวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๖๖ มาด้วยนั้น จะเห็นได้ชัดเจนว่า
    🔸️๑.สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้ให้ “ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด ซึ่งคือ
    นายไพศาล ดั่นคุ้ม
    เลขาธิการอาหารและยาทำหนังสือ แก้ต่าง ความผิดของตนเองโดยมิได้พิจารณาเอกสารที่ผู้ร้อง ขอให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบ มิได้ให้โอกาสผู้ร้องเข้าชี้แจงข้อเท็จจริง และมิได้ดำเนินการขอความเห็นจากหน่วยงานที่เป็นกลาง ที่มีความชำนาญในเรื่องที่ถูกร้องเรียนในประเด็นข้อกฎหมายที่เป็นปัญหา อาทิ สำนักงานกฤษฎีกา หรือ สำนักงานอัยการสูงสุด แต่กลับรับฟังแต่ข้อแก้ตัวจากผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดแต่เพียงฝ่ายเดียว

    🔸️๒.ในเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงของสำนักงานอาหารและยาดังกล่าวได้ ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ ซ้ำยังให้ข้อมูลที่ยืนยันว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยเลขาธิการสำนักงานอาหารและยา นายไพศาล ดั่นคุ้ม ได้กระทำผิดโดยออกประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยที่ไม่มีอำนาจในการออกประกาศดังกล่าว และยังไม่ลงประกาศดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษาก่อนการบังคับใช้ อันมีประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาดังต่อไปนี้

    ๒.๑. ประกาศ “การอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบันสำหรับมนุษย์แบบมีเงื่อนไขในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีการระบาดใหญ่ของโรค (Conditional Approval for Emergency Use of Medicinal Products)” เป็นกฎหมายหรือไม่ นั้นในประกาศดังกล่าวได้ระบุไว้ชัดเจนว่า “อาศัยอำนาจของผู้อนุญาตตามมาตรา ๔ ประกอบกับพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัติยา พ.ศ. ๒๕๑๐ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาจึงออกประกาศดังต่อไปนี้” อันเป็นการอ้างถึงอำนาจในการออกประกาศจากอำนาจที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๔ และ มาตรา ๗๙ ของพระราชบัญญัติยา พ.ศ.๒๕๑๐ ดังนั้นการออกประกาศดังกล่าวจึงจำต้องเป็นไปตามที่บัญญัติไว้ใน พระราชบัญญัติยา พ.ศ.๒๕๑๐ จะอ้างข้อกฎหมายอื่นๆไม่ได้

    ๒.๒. ในมาตรา ๔ ของ พระราชบัญญัติยา พ.ศ.๒๕๑๐ ได้บัญญัติว่า
    “ผู้อนุญาต” หมายความว่า
    (๑) เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา หรือผู้ซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยามอบหมาย สำหรับการอนุญาตผลิตยาหรือการนำ หรือสั่งยาเข้ามาในราชอาณาจักร
    (๒) เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา หรือผู้ซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยามอบหมาย สำหรับการอนุญาตขายยาในกรุงเทพมหานคร”
    ซึ่งให้อำนาจ เลขาธิการอาหารและยา ให้มีอำนาจในการ “อนุญาตผลิตยาหรือการนำ หรือสั่งยาเข้ามาในราชอาณาจักร” และ “อนุญาตขายยาในกรุงเทพมหานคร” โดยมิได้ให้อำนาจในการออกประกาศแต่อย่างใด

    ๒.๓. ในมาตรา ๗๙ ของพระราชบัญญัติยา พ.ศ.๒๕๑๐ ได้บัญญัติไว้ว่า
    “ผู้รับอนุญาตผลิตยา หรือผู้รับอนุญาตให้นำหรือสั่งยาเข้ามาในราชอาณาจักร ผู้ใด ประสงค์จะผลิต หรือนำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาแผนปัจจุบันหรือยาแผนโบราณ ต้องนำตำรับยำนั้นมาขอขึ้นทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และเมื่อได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับยาแล้วจึงจะผลิตยา หรือนำหรือสั่งยานั้นเข้ามาในราชอาณาจักรได้”
    ในมาตราดังกล่าวได้บัญญัติให้ผู้รับอนุญาต ต้องขอขึ้นทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่มิได้มีข้อบัญญัติให้อำนาจแก่ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาในการออกประกาศใดๆตามพระราชบัญญัตินี้แต่อย่างใด

    ๒.๔. ในมาตรา ๔ ของพระราชบัญญัติยา พ.ศ.๒๕๑๐ ได้บัญญัติไว้ว่า
    “กระบวนการพิจารณาอนุญาตยา” หมายความว่า การพิจารณาคำขอ การตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร การประเมินเอกสารทางวิชาการ การตรวจวิเคราะห์ การตรวจสถานประกอบการ หรือการตรวจสอบ เพื่อออกใบอนุญาต ใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับยำหรือใบรับรอง ตลอดจนการพิจารณาใดๆเกี่ยวกับยา”
    จะเห็นได้ว่า “ประกาศการอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบันสำหรับมนุษย์แบบมีเงื่อนไขในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีการระบาดใหญ่ของโรค (Conditional Approval for Emergency Use of Medicinal Products)” เป็น “กระบวนการพิจารณาอนุญาตยา” ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติยา พ.ศ.๒๕๑๐ ทั้งนี้ในหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ที่ สธ ๑๐๐๙/๑๓๘ ลงวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๖๖ ข้อ ๑. หน้า ๑ ยังได้ระบุว่า ประกาศดังกล่าวเป็น “แนวทางการพิจารณาเอกสารหลักฐานของพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อให้สอดคล้องกับกฎกระทรวงฯ โดยเป็นการออก “แนวทางการพิจารณา” เพิ่มเติม ทั้งนี้ในหนังสือฉบับดังกล่าวหน้า ๒ ข้อ ๒ ยังระบุด้วยว่า “ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่องผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบันสำหรับมนุษย์แบบมีเงื่อนไขในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีการระบาดใหญ่ของโรค มีข้อกำหนดว่าต้องเป็นการใช้ผลิตภัณฑ์ยาภายใต้สภาวะช่วงการระบาดใหญ่ของโรค (Pandemic) เพื่อใช้ในการวินิจฉัย บำบัด บรรเทา รักษาหรือป้องกันโรคหรือความเจ็บป่วยของมนุษย์ ซึ่งมีความร้ายแรงหรือเป็นอันตรายถึงชีวิต และมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เชิงประจักษ์ที่สนับสนุนว่าผลิตภัณฑ์นั้น “อาจมีประสิทธิภาพ" เนื่องจากหลักฐานในการพิจารณาอนุญาตอยู่ในระดับที่จำกัดกว่าที่ใช้ในการพิจารณาอนุมัติทะเบียนตำรับยาในช่องทางปกติ” ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าประกาศดังกล่าวเป็น “ข้อกำหนด” ที่ผู้ขอรับการอนุญาต ต้องทำตาม มิใช่ แนวทางการพิจารณาของพนักงานเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมเพื่อความโปร่งใสตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด ทั้งนี้ในเอกสารดังกล่าวยังระบุชัดเจน ว่าประกาศนี้ อนุญาตให้ใช้หลักฐานในการพิจารณาอนุญาตในระดับที่ต่ำกว่าที่ใช้ในการพิจารณาอนุมัติทะเบียนยาตามปกติ ทั้งนี้หลักเกณฑ์การพิจารณายาตามปกตินั้นเป็นหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงว่าด้วยการขึ้นทะเบียนตำรับยา พ.ศ. ๒๕๕๕ ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติยา พ.ศ. ๒๕๑๐ การที่ประกาศฉบับดังกล่าวอนุญาตให้ใช้หลักฐานที่ต่ำกว่าที่ระบุไว้ในกฎกระทรวงจึงเป็นการยืนยันว่า ประกาศดังกล่าวเป็น กระบวนการพิจารณาอนุญาตยา ตามที่บัญญัติไว้ใน มาตรา ๔

    ๒.๕. มาตรา ๕ ของพระราชบัญญัติยา พ.ศ.๒๕๑๐ ได้บัญญัติไว้ว่า
    “มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ กับออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราท้ายพระราชบัญญัตินี้ ลดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียม และกำหนดกิจการอื่น รวมทั้งออกประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
    การออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมตามวรรคหนึ่ง จะกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมให้แตกต่างกันโดยคำนึงถึงประเภท ชนิด และลักษณะของยาหรือหมวดยาที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต หรือขนาดและกิจการของผู้ประกอบการก็ได้
    กฎกระทรวงและประกาศนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้”
    อันเป็นการบัญญัติ อำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในการออกประกาศตามพระราชบัญญัตินี้ โดยมิได้ให้อำนาจดังกล่าวแก่ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแต่อย่างใด ทั้งนี้ยังบัญญัติไว้ชัดเจนว่า ประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้นั้น ให้ใช้บังคับได้เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วเท่านั้น ทั้งนี้ในพระราชบัญญัติยา พ.ศ.๒๕๑๐ มิได้มีการบัญญัติในมาตราใดที่ให้อำนาจ เลขาธิการอาหารและยาในการออกประกาศใดๆตามพระราชบัญญัตินี้เลย

    🔸️๓. จากข้อมูลที่ระบุในข้อ ๒. การที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาระบุว่า “โดยประกาศดังกล่าวพระราชบัญญัติยา พ.ศ.๒๕๑๐ ไม่ได้บัญญัติให้ต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา” จึงเป็นการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ

    🔸️๔. พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ.๒๕๔๐ ได้บัญญัติไว้ใน หมวด ๑ การเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร มาตรา ๗ ว่า
    “หน่วยงานของรัฐตองส่งขอมูลข่าวสารของราชการอยางนอยดังตอไปนี้ลงพิมพในราชกิจจานุเบกษา”
    อันเป็นการระบุชัดเจนว่า “อย่างน้อย” มิได้เป็นการ “ยกเว้น” ให้ไม่ต้องทำตามข้อบังคับที่บัญญัติไว้ในกฎหมายอื่น ที่บัญญัติไว้ให้ต้องลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแต่อย่างใด และด้วยเหตุผลดังกล่าวการอ้างมาตรา ๘ ของพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ.๒๕๔๐ จึงเป็นการอ้างที่ไม่สามารถกระทำได้

    🔸️๕. ทั้งนี้ในการอ้างมาตรา ๘ ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ.๒๕๔๐ ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ยังให้เหตุผลว่า เป็นการออกประกาศ “มีลักษณะในทางที่เป็นคุณ” อันเป็นการชี้ให้เห็นเจตนาในการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการที่ขอการอนุญาต

    🔸️๖. การที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา อ้างว่าการออกประกาศดังกล่าวเพื่อ “สร้างความโปร่งใส” นั้นก็มิได้เป็นไปตามอ้างแต่อย่างใด เนื่องจากหาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา มีเจตนาที่จะสร้างความโปร่งใสให้เกิดขึ้นจริงๆแล้ว ย่อมยินดีที่จะเปิดเผยแผนความเสี่ยง และตามที่ระบุไว้ใน ข้อ ๔ (๔) และข้อมูลติดตามความปลอดภัยของผู้ป่วยทุกราย (patient registry) ตามที่ระบุไว้ในข้อ ๕ (๑) ของประกาศฉบับดังกล่าว แต่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากลับปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของทางราชการดังกล่าวเมื่อมีการร้องขอ อันอาจเป็นการกระทำที่เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการที่นำเข้าผลิตภัณฑ์ยา

    ⚖จากประเด็นต่างๆที่ชี้แจงมาข้างต้นจะเห็นได้ว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยเฉพาะ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นายไพศาล ดั่นคุ้ม ได้กระทำความผิดใช้อำนาจโดยมิชอบ อันเป็นความผิดทางอาญา และยังจงใจให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อปกปิดความผิดของตนเอง อันเป็นการชี้ให้เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหามิได้มีความสำนึกในการกระทำผิดดังกล่าวซ้ำร้ายยังกระทำความผิดซ้ำซ้อนเพื่อปกปิดความผิดของตนด้วย การใช้อำนาจโดยมิชอบนี้มีผลให้การพิจารณาอนุญาตยาดังกล่าวมิได้เป็นไปตามข้อกำหนดที่บัญญัติไว้ตามพระราชบัญญัติยา อันอาจจะก่อให้เกิดผลกระทบมากมายต่อประชาชนผู้บริโภค ทั้งนี้ขณะนี้ได้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับบริษัทผู้ผลิตยา โดยเฉพาะบริษัทไฟเซอร์โดยหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในหลายประเทศทั่วโลก

    🚩 ด้วยเหตุนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินจำต้อง เสนอเรื่องดังกล่าวพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลปกครอง และให้ศาลปกครองพิจารณาวินิจฉัยโดยไม่ชักช้า ทั้งนี้ ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครอง และวิธีพิจารณาคดีปกครอง ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๓๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๖๐ ต่อไป

    ไฟล์จดหมายฉบับนี้
    https://drive.google.com/file/d/1EZfSguSfbiz2wXzPZefhL5fJQrr6boxN/view?usp=drivesdk

    ไฟล์ข้อมูลสนง.อาหารและยาทำผิด
    https://drive.google.com/file/d/15qYw-tywnTcvd-U9g0bO3M2IJLSs8KCg/view?usp=drivesdk

    กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    🚩 สำนักงานอาหารและยา จงใจให้ข้อมูลเท็จต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ❗ วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๗ เรียน เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ตามที่ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน มีหนังสือ ที่ ผผ ๑๐๐๔/๒๑๙๕ ลงวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๗ แจ้งผลการพิจารณาเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับการพิจารณาเรื่องร้องเรียนเลขดำที่ ๒๒๔๑/๒๕๖๕ เรื่องร้องเรียนเลขแดงที่ ๑๒๑๔/๒๕๖๗ โดยในหนังสือดังกล่าวได้ส่งมอบสำเนาหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ที่ สธ ๑๐๐๙/๑๓๘ ลงวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๖๖ มาด้วยนั้น จะเห็นได้ชัดเจนว่า 🔸️๑.สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้ให้ “ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด ซึ่งคือ นายไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการอาหารและยาทำหนังสือ แก้ต่าง ความผิดของตนเองโดยมิได้พิจารณาเอกสารที่ผู้ร้อง ขอให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบ มิได้ให้โอกาสผู้ร้องเข้าชี้แจงข้อเท็จจริง และมิได้ดำเนินการขอความเห็นจากหน่วยงานที่เป็นกลาง ที่มีความชำนาญในเรื่องที่ถูกร้องเรียนในประเด็นข้อกฎหมายที่เป็นปัญหา อาทิ สำนักงานกฤษฎีกา หรือ สำนักงานอัยการสูงสุด แต่กลับรับฟังแต่ข้อแก้ตัวจากผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดแต่เพียงฝ่ายเดียว 🔸️๒.ในเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงของสำนักงานอาหารและยาดังกล่าวได้ ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ ซ้ำยังให้ข้อมูลที่ยืนยันว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยเลขาธิการสำนักงานอาหารและยา นายไพศาล ดั่นคุ้ม ได้กระทำผิดโดยออกประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยที่ไม่มีอำนาจในการออกประกาศดังกล่าว และยังไม่ลงประกาศดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษาก่อนการบังคับใช้ อันมีประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาดังต่อไปนี้ ๒.๑. ประกาศ “การอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบันสำหรับมนุษย์แบบมีเงื่อนไขในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีการระบาดใหญ่ของโรค (Conditional Approval for Emergency Use of Medicinal Products)” เป็นกฎหมายหรือไม่ นั้นในประกาศดังกล่าวได้ระบุไว้ชัดเจนว่า “อาศัยอำนาจของผู้อนุญาตตามมาตรา ๔ ประกอบกับพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัติยา พ.ศ. ๒๕๑๐ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาจึงออกประกาศดังต่อไปนี้” อันเป็นการอ้างถึงอำนาจในการออกประกาศจากอำนาจที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๔ และ มาตรา ๗๙ ของพระราชบัญญัติยา พ.ศ.๒๕๑๐ ดังนั้นการออกประกาศดังกล่าวจึงจำต้องเป็นไปตามที่บัญญัติไว้ใน พระราชบัญญัติยา พ.ศ.๒๕๑๐ จะอ้างข้อกฎหมายอื่นๆไม่ได้ ๒.๒. ในมาตรา ๔ ของ พระราชบัญญัติยา พ.ศ.๒๕๑๐ ได้บัญญัติว่า “ผู้อนุญาต” หมายความว่า (๑) เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา หรือผู้ซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยามอบหมาย สำหรับการอนุญาตผลิตยาหรือการนำ หรือสั่งยาเข้ามาในราชอาณาจักร (๒) เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา หรือผู้ซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยามอบหมาย สำหรับการอนุญาตขายยาในกรุงเทพมหานคร” ซึ่งให้อำนาจ เลขาธิการอาหารและยา ให้มีอำนาจในการ “อนุญาตผลิตยาหรือการนำ หรือสั่งยาเข้ามาในราชอาณาจักร” และ “อนุญาตขายยาในกรุงเทพมหานคร” โดยมิได้ให้อำนาจในการออกประกาศแต่อย่างใด ๒.๓. ในมาตรา ๗๙ ของพระราชบัญญัติยา พ.ศ.๒๕๑๐ ได้บัญญัติไว้ว่า “ผู้รับอนุญาตผลิตยา หรือผู้รับอนุญาตให้นำหรือสั่งยาเข้ามาในราชอาณาจักร ผู้ใด ประสงค์จะผลิต หรือนำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาแผนปัจจุบันหรือยาแผนโบราณ ต้องนำตำรับยำนั้นมาขอขึ้นทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และเมื่อได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับยาแล้วจึงจะผลิตยา หรือนำหรือสั่งยานั้นเข้ามาในราชอาณาจักรได้” ในมาตราดังกล่าวได้บัญญัติให้ผู้รับอนุญาต ต้องขอขึ้นทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่มิได้มีข้อบัญญัติให้อำนาจแก่ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาในการออกประกาศใดๆตามพระราชบัญญัตินี้แต่อย่างใด ๒.๔. ในมาตรา ๔ ของพระราชบัญญัติยา พ.ศ.๒๕๑๐ ได้บัญญัติไว้ว่า “กระบวนการพิจารณาอนุญาตยา” หมายความว่า การพิจารณาคำขอ การตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร การประเมินเอกสารทางวิชาการ การตรวจวิเคราะห์ การตรวจสถานประกอบการ หรือการตรวจสอบ เพื่อออกใบอนุญาต ใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับยำหรือใบรับรอง ตลอดจนการพิจารณาใดๆเกี่ยวกับยา” จะเห็นได้ว่า “ประกาศการอนุญาตผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบันสำหรับมนุษย์แบบมีเงื่อนไขในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีการระบาดใหญ่ของโรค (Conditional Approval for Emergency Use of Medicinal Products)” เป็น “กระบวนการพิจารณาอนุญาตยา” ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติยา พ.ศ.๒๕๑๐ ทั้งนี้ในหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ที่ สธ ๑๐๐๙/๑๓๘ ลงวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๖๖ ข้อ ๑. หน้า ๑ ยังได้ระบุว่า ประกาศดังกล่าวเป็น “แนวทางการพิจารณาเอกสารหลักฐานของพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อให้สอดคล้องกับกฎกระทรวงฯ โดยเป็นการออก “แนวทางการพิจารณา” เพิ่มเติม ทั้งนี้ในหนังสือฉบับดังกล่าวหน้า ๒ ข้อ ๒ ยังระบุด้วยว่า “ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่องผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบันสำหรับมนุษย์แบบมีเงื่อนไขในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีการระบาดใหญ่ของโรค มีข้อกำหนดว่าต้องเป็นการใช้ผลิตภัณฑ์ยาภายใต้สภาวะช่วงการระบาดใหญ่ของโรค (Pandemic) เพื่อใช้ในการวินิจฉัย บำบัด บรรเทา รักษาหรือป้องกันโรคหรือความเจ็บป่วยของมนุษย์ ซึ่งมีความร้ายแรงหรือเป็นอันตรายถึงชีวิต และมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เชิงประจักษ์ที่สนับสนุนว่าผลิตภัณฑ์นั้น “อาจมีประสิทธิภาพ" เนื่องจากหลักฐานในการพิจารณาอนุญาตอยู่ในระดับที่จำกัดกว่าที่ใช้ในการพิจารณาอนุมัติทะเบียนตำรับยาในช่องทางปกติ” ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าประกาศดังกล่าวเป็น “ข้อกำหนด” ที่ผู้ขอรับการอนุญาต ต้องทำตาม มิใช่ แนวทางการพิจารณาของพนักงานเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมเพื่อความโปร่งใสตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด ทั้งนี้ในเอกสารดังกล่าวยังระบุชัดเจน ว่าประกาศนี้ อนุญาตให้ใช้หลักฐานในการพิจารณาอนุญาตในระดับที่ต่ำกว่าที่ใช้ในการพิจารณาอนุมัติทะเบียนยาตามปกติ ทั้งนี้หลักเกณฑ์การพิจารณายาตามปกตินั้นเป็นหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงว่าด้วยการขึ้นทะเบียนตำรับยา พ.ศ. ๒๕๕๕ ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติยา พ.ศ. ๒๕๑๐ การที่ประกาศฉบับดังกล่าวอนุญาตให้ใช้หลักฐานที่ต่ำกว่าที่ระบุไว้ในกฎกระทรวงจึงเป็นการยืนยันว่า ประกาศดังกล่าวเป็น กระบวนการพิจารณาอนุญาตยา ตามที่บัญญัติไว้ใน มาตรา ๔ ๒.๕. มาตรา ๕ ของพระราชบัญญัติยา พ.ศ.๒๕๑๐ ได้บัญญัติไว้ว่า “มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ กับออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราท้ายพระราชบัญญัตินี้ ลดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียม และกำหนดกิจการอื่น รวมทั้งออกประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ การออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมตามวรรคหนึ่ง จะกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมให้แตกต่างกันโดยคำนึงถึงประเภท ชนิด และลักษณะของยาหรือหมวดยาที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต หรือขนาดและกิจการของผู้ประกอบการก็ได้ กฎกระทรวงและประกาศนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้” อันเป็นการบัญญัติ อำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในการออกประกาศตามพระราชบัญญัตินี้ โดยมิได้ให้อำนาจดังกล่าวแก่ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแต่อย่างใด ทั้งนี้ยังบัญญัติไว้ชัดเจนว่า ประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้นั้น ให้ใช้บังคับได้เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วเท่านั้น ทั้งนี้ในพระราชบัญญัติยา พ.ศ.๒๕๑๐ มิได้มีการบัญญัติในมาตราใดที่ให้อำนาจ เลขาธิการอาหารและยาในการออกประกาศใดๆตามพระราชบัญญัตินี้เลย 🔸️๓. จากข้อมูลที่ระบุในข้อ ๒. การที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาระบุว่า “โดยประกาศดังกล่าวพระราชบัญญัติยา พ.ศ.๒๕๑๐ ไม่ได้บัญญัติให้ต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา” จึงเป็นการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ 🔸️๔. พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ.๒๕๔๐ ได้บัญญัติไว้ใน หมวด ๑ การเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร มาตรา ๗ ว่า “หน่วยงานของรัฐตองส่งขอมูลข่าวสารของราชการอยางนอยดังตอไปนี้ลงพิมพในราชกิจจานุเบกษา” อันเป็นการระบุชัดเจนว่า “อย่างน้อย” มิได้เป็นการ “ยกเว้น” ให้ไม่ต้องทำตามข้อบังคับที่บัญญัติไว้ในกฎหมายอื่น ที่บัญญัติไว้ให้ต้องลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแต่อย่างใด และด้วยเหตุผลดังกล่าวการอ้างมาตรา ๘ ของพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ.๒๕๔๐ จึงเป็นการอ้างที่ไม่สามารถกระทำได้ 🔸️๕. ทั้งนี้ในการอ้างมาตรา ๘ ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ.๒๕๔๐ ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ยังให้เหตุผลว่า เป็นการออกประกาศ “มีลักษณะในทางที่เป็นคุณ” อันเป็นการชี้ให้เห็นเจตนาในการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการที่ขอการอนุญาต 🔸️๖. การที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา อ้างว่าการออกประกาศดังกล่าวเพื่อ “สร้างความโปร่งใส” นั้นก็มิได้เป็นไปตามอ้างแต่อย่างใด เนื่องจากหาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา มีเจตนาที่จะสร้างความโปร่งใสให้เกิดขึ้นจริงๆแล้ว ย่อมยินดีที่จะเปิดเผยแผนความเสี่ยง และตามที่ระบุไว้ใน ข้อ ๔ (๔) และข้อมูลติดตามความปลอดภัยของผู้ป่วยทุกราย (patient registry) ตามที่ระบุไว้ในข้อ ๕ (๑) ของประกาศฉบับดังกล่าว แต่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากลับปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของทางราชการดังกล่าวเมื่อมีการร้องขอ อันอาจเป็นการกระทำที่เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการที่นำเข้าผลิตภัณฑ์ยา ⚖จากประเด็นต่างๆที่ชี้แจงมาข้างต้นจะเห็นได้ว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยเฉพาะ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นายไพศาล ดั่นคุ้ม ได้กระทำความผิดใช้อำนาจโดยมิชอบ อันเป็นความผิดทางอาญา และยังจงใจให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อปกปิดความผิดของตนเอง อันเป็นการชี้ให้เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหามิได้มีความสำนึกในการกระทำผิดดังกล่าวซ้ำร้ายยังกระทำความผิดซ้ำซ้อนเพื่อปกปิดความผิดของตนด้วย การใช้อำนาจโดยมิชอบนี้มีผลให้การพิจารณาอนุญาตยาดังกล่าวมิได้เป็นไปตามข้อกำหนดที่บัญญัติไว้ตามพระราชบัญญัติยา อันอาจจะก่อให้เกิดผลกระทบมากมายต่อประชาชนผู้บริโภค ทั้งนี้ขณะนี้ได้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับบริษัทผู้ผลิตยา โดยเฉพาะบริษัทไฟเซอร์โดยหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในหลายประเทศทั่วโลก 🚩 ด้วยเหตุนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินจำต้อง เสนอเรื่องดังกล่าวพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลปกครอง และให้ศาลปกครองพิจารณาวินิจฉัยโดยไม่ชักช้า ทั้งนี้ ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครอง และวิธีพิจารณาคดีปกครอง ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๓๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๖๐ ต่อไป ไฟล์จดหมายฉบับนี้ https://drive.google.com/file/d/1EZfSguSfbiz2wXzPZefhL5fJQrr6boxN/view?usp=drivesdk ไฟล์ข้อมูลสนง.อาหารและยาทำผิด https://drive.google.com/file/d/15qYw-tywnTcvd-U9g0bO3M2IJLSs8KCg/view?usp=drivesdk กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 675 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ที่หลายๆคนได้ข่าววุฒิปลอมต่างประเทศ
    จากการติดตามข่าวนี้ โดยเฉพาะจากการขยี้ของสรย้วย
    ทำให้คนไทยได้เห็นหน้า Boss ตัวจริง
    ที่ใช้ความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาต่างประเทศ
    และมีความชำนาญด้านการทำงานวิจัย
    ทำเป็นขบวนการโดยดิลธุรกิจกับต่างประเทศ
    โดยแฝงเข้าไปตามมหาวิทยาลัย พร้อมเผยแบบแอบๆ
    ให้ลูกศิษย์ได้รู้ว่า มันมีวิธีการในการได้มาซึ่งป.เอก
    หรือวิทยฐานะที่ง่ายกว่าการเรียนตามระบบในประเทศไทย
    โดยมีเครือข่ายคล้ายเซล ที่ผันตัวจากนักศึกษากลายเป็นนายหน้า
    ในการติดต่อประสานงาน เพื่อว่าหากมีอะไรฉุกเฉิน
    จะได้โยนให้เซลเป็นหนังหน้าไฟในการพามา
    เพื่ออ้างว่ามิได้เป็นการเชื้อเชิญจากปากสุขุมพงศ์เอง
    รอดตัวในทุกๆเรื่อง เพราะวางเกมส์ไว้อย่างดี
    จนในที่สุด ก็ได้เห็นลีลาการตอบคำถามที่เหมือนปลาไหล
    แต่เจอสรย้วยต้อนจนยอมรับเองว่าตนเองอยู่ตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง
    ปัญหาเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ออกตัวสลัดหมอเกศ อ้างว่าไม่ได้ปกป้อง ตัวเองไม่รู้อะไรเลย มุ้งมิ้ง ใสๆ
    โดนต้อนว่า รับรองมั๊ยว่า ที่แคลิฟอร์เนียยูนิเวอร์ซิตี้ มีมาตรฐาน
    ก็สลัดทิ้งอีก บอกไม่รับรอง
    ทั้งๆที่ตัวเองรับเงินในฐานะประธานสอบงานวิจัยสาขาประเทศไทย
    วกไปวนมา ทำให้คนไทยได้รู้ว่า น่าจะไม่ใช่เฉพาะธรรมนัส หรือหมอเกศ
    ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะโดนต้มจนเปื่อย น่าจะมีคนรวยๆอีกจำนวนมากที่ตอนนี้ได้แต่ใจสั่นระรัว
    ว่าเรื่องมันจะโป๊ะมาถึงตัวเองวันไหน
    คิงส์โพธิ์แดงขอแนะนำว่า สุขุมพงศ์ อย่าให้คนอื่นเรียกตัวเองว่าอาจารย์อีกเลยนะ เรียกว่า บอสแห่งการทำวุฒิปลอม หรือไม่ก็ผู้จัดการทำวุฒิปลอมสาขาประเทศไทยก็ได้
    คนเป็นอาจารย์ ไม่หากินกับลูกศิษย์หรอก
    แต่ขอชมนะ ต้มธรรมนัสได้นี่ โครตเก่ง
    เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #หมอเกศ
    #สุขุมพงศ์
    #เยี่ยมจริงๆเยี่ยมจริงๆเยี่ยมจริงๆ
    ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ที่หลายๆคนได้ข่าววุฒิปลอมต่างประเทศ จากการติดตามข่าวนี้ โดยเฉพาะจากการขยี้ของสรย้วย ทำให้คนไทยได้เห็นหน้า Boss ตัวจริง ที่ใช้ความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาต่างประเทศ และมีความชำนาญด้านการทำงานวิจัย ทำเป็นขบวนการโดยดิลธุรกิจกับต่างประเทศ โดยแฝงเข้าไปตามมหาวิทยาลัย พร้อมเผยแบบแอบๆ ให้ลูกศิษย์ได้รู้ว่า มันมีวิธีการในการได้มาซึ่งป.เอก หรือวิทยฐานะที่ง่ายกว่าการเรียนตามระบบในประเทศไทย โดยมีเครือข่ายคล้ายเซล ที่ผันตัวจากนักศึกษากลายเป็นนายหน้า ในการติดต่อประสานงาน เพื่อว่าหากมีอะไรฉุกเฉิน จะได้โยนให้เซลเป็นหนังหน้าไฟในการพามา เพื่ออ้างว่ามิได้เป็นการเชื้อเชิญจากปากสุขุมพงศ์เอง รอดตัวในทุกๆเรื่อง เพราะวางเกมส์ไว้อย่างดี จนในที่สุด ก็ได้เห็นลีลาการตอบคำถามที่เหมือนปลาไหล แต่เจอสรย้วยต้อนจนยอมรับเองว่าตนเองอยู่ตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง ปัญหาเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ออกตัวสลัดหมอเกศ อ้างว่าไม่ได้ปกป้อง ตัวเองไม่รู้อะไรเลย มุ้งมิ้ง ใสๆ โดนต้อนว่า รับรองมั๊ยว่า ที่แคลิฟอร์เนียยูนิเวอร์ซิตี้ มีมาตรฐาน ก็สลัดทิ้งอีก บอกไม่รับรอง ทั้งๆที่ตัวเองรับเงินในฐานะประธานสอบงานวิจัยสาขาประเทศไทย วกไปวนมา ทำให้คนไทยได้รู้ว่า น่าจะไม่ใช่เฉพาะธรรมนัส หรือหมอเกศ ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะโดนต้มจนเปื่อย น่าจะมีคนรวยๆอีกจำนวนมากที่ตอนนี้ได้แต่ใจสั่นระรัว ว่าเรื่องมันจะโป๊ะมาถึงตัวเองวันไหน คิงส์โพธิ์แดงขอแนะนำว่า สุขุมพงศ์ อย่าให้คนอื่นเรียกตัวเองว่าอาจารย์อีกเลยนะ เรียกว่า บอสแห่งการทำวุฒิปลอม หรือไม่ก็ผู้จัดการทำวุฒิปลอมสาขาประเทศไทยก็ได้ คนเป็นอาจารย์ ไม่หากินกับลูกศิษย์หรอก แต่ขอชมนะ ต้มธรรมนัสได้นี่ โครตเก่ง เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ #คิงส์โพธิ์แดง #หมอเกศ #สุขุมพงศ์ #เยี่ยมจริงๆเยี่ยมจริงๆเยี่ยมจริงๆ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 647 มุมมอง 0 รีวิว