• โดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกัน คว้าชัยในรัฐอินดีแอนา, รัฐเคนทักกี และรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันอังคาร(5พ.ย.) ขณะที่ กมลา แฮร์ริส คว้าชัยได้ที่เวอร์มอนต์ จากการคาดการณ์ของสถาบันเอดิสัน รีเสิร์ช ขณะที่หน่วยเลือกตั้งต่างๆทยอยปิดหีบไปแล้ว 9 รัฐ ในนั้นรวมถึงรัฐสมรภูมิสำคัญอย่างจอร์เจียและนอร์ทแคโรไลนา
    .
    ทั้งนี้ในรัฐจอร์เจียนั้น หลังการนับคะแนนผ่านพ้นไปราวๆ 21.7% ทางสถาบันเอดิสัน รีเสิร์ช ระบุว่า ทรัมป์ ได้คะแนนเสียงไป 59.8% ทิ้งห่าง แฮร์ริส ที่ได้ไป 39.8%
    .
    ผลการเลือกตั้งเบื้องต้นของรัฐดังกล่าวข้างต้นที่ไม่ใช่รัฐสมรภูมิถือว่าเป็นไปตามความคาดหมาย ดังนั้นศึกชิงชัยครั้งนี้จึงน่าจะไปตัดสินกันที่รัฐสมรภูมิ 7 รัฐ อันประกอบด้วยจอร์เจีย, นอร์ทโคไรนา, แอริโซนา, มิชิแกน, เนวาดา, เพนซิลเวเนียและวิสคอนซิน ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพลต่างๆก่อนหน้านี้ เผยให้เห็นว่าทั้งคู่มีคะแนนนิยมแบบหายใจรดต้นคอจนถึงวันเลือกตั้ง
    .
    ไม่กี่ชั่วโมงก่อนปิดหีบ ทรัมป์กล่าวอ้างบนแพลตฟอร์มทรัสต์ โซเชียล โดยไม่ให้หลักฐานใดๆ ว่า "มีการพูดกันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการโกงเลือกตั้งในฟิลาเดลเฟีย" หลังจากเขาเคยกล่าวอ้างแบบเดียวกันนี้เมื่อปี 2020 ในเมืองที่ชาวเดโมแครตเป็นกลุ่มใหญ่ ทั้งนี้ในโพสต์ต่อมา ทรัมป์ อ้างอีกว่ามีการโกงในดีทรอยต์เช่นกัน
    .
    เซธ บลูสเตน คณะกรรมการการเลือกตั้งเมืองฟิลาเดลเฟีย ตอบโต้บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ระบุว่า "ข้อกล่าวหานี้ไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย มันเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการบิดเบือนข้อมูล การโหวตในฟิลาเดลเฟียเป็นไปอย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้"
    .
    ทีมหาเสียงของทรัมป์ บ่งชี้ว่าเขาอาจประกาศชัยชนะในคืนวันเลือกตั้ง แม้ว่าบัตรเลือกตั้งหลายล้านใบยังไม่ถูกนับ แบบเดียวกับที่เขาเคยทำเมื่อ 4 ปีก่อน อย่างไรก็ตามคาดหมายว่าอาจต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะทราบว่าใครเป็นฝ่ายชนะ หากว่าระยะห่างของคะแนนในบรรดารัฐสมรภูมินั้นออกมาฉิวเฉียดอย่างที่คาดหมายไว้
    .
    ทรัมป์ มีแผนรับชมผลการเลือกตั้งที่บ้านพักตากอากาศในมาร์อาโก ก่อนปราศรัยกับบรรดาผู้สนับสนุน ณ ศูนย์ประชุมที่อยู่ใกล้เคียง ส่วน กมลา แฮร์ริส คู่แข่งของทรัมป์ มีรายงานว่าเธอจะอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และให้สัมภาษณ์ทางวิทยุ จากนั้นจะไปร่วมติดตามการนับคะแนนที่มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เธอเคยเรียน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106770
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกัน คว้าชัยในรัฐอินดีแอนา, รัฐเคนทักกี และรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันอังคาร(5พ.ย.) ขณะที่ กมลา แฮร์ริส คว้าชัยได้ที่เวอร์มอนต์ จากการคาดการณ์ของสถาบันเอดิสัน รีเสิร์ช ขณะที่หน่วยเลือกตั้งต่างๆทยอยปิดหีบไปแล้ว 9 รัฐ ในนั้นรวมถึงรัฐสมรภูมิสำคัญอย่างจอร์เจียและนอร์ทแคโรไลนา . ทั้งนี้ในรัฐจอร์เจียนั้น หลังการนับคะแนนผ่านพ้นไปราวๆ 21.7% ทางสถาบันเอดิสัน รีเสิร์ช ระบุว่า ทรัมป์ ได้คะแนนเสียงไป 59.8% ทิ้งห่าง แฮร์ริส ที่ได้ไป 39.8% . ผลการเลือกตั้งเบื้องต้นของรัฐดังกล่าวข้างต้นที่ไม่ใช่รัฐสมรภูมิถือว่าเป็นไปตามความคาดหมาย ดังนั้นศึกชิงชัยครั้งนี้จึงน่าจะไปตัดสินกันที่รัฐสมรภูมิ 7 รัฐ อันประกอบด้วยจอร์เจีย, นอร์ทโคไรนา, แอริโซนา, มิชิแกน, เนวาดา, เพนซิลเวเนียและวิสคอนซิน ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพลต่างๆก่อนหน้านี้ เผยให้เห็นว่าทั้งคู่มีคะแนนนิยมแบบหายใจรดต้นคอจนถึงวันเลือกตั้ง . ไม่กี่ชั่วโมงก่อนปิดหีบ ทรัมป์กล่าวอ้างบนแพลตฟอร์มทรัสต์ โซเชียล โดยไม่ให้หลักฐานใดๆ ว่า "มีการพูดกันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการโกงเลือกตั้งในฟิลาเดลเฟีย" หลังจากเขาเคยกล่าวอ้างแบบเดียวกันนี้เมื่อปี 2020 ในเมืองที่ชาวเดโมแครตเป็นกลุ่มใหญ่ ทั้งนี้ในโพสต์ต่อมา ทรัมป์ อ้างอีกว่ามีการโกงในดีทรอยต์เช่นกัน . เซธ บลูสเตน คณะกรรมการการเลือกตั้งเมืองฟิลาเดลเฟีย ตอบโต้บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ระบุว่า "ข้อกล่าวหานี้ไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย มันเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการบิดเบือนข้อมูล การโหวตในฟิลาเดลเฟียเป็นไปอย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้" . ทีมหาเสียงของทรัมป์ บ่งชี้ว่าเขาอาจประกาศชัยชนะในคืนวันเลือกตั้ง แม้ว่าบัตรเลือกตั้งหลายล้านใบยังไม่ถูกนับ แบบเดียวกับที่เขาเคยทำเมื่อ 4 ปีก่อน อย่างไรก็ตามคาดหมายว่าอาจต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะทราบว่าใครเป็นฝ่ายชนะ หากว่าระยะห่างของคะแนนในบรรดารัฐสมรภูมินั้นออกมาฉิวเฉียดอย่างที่คาดหมายไว้ . ทรัมป์ มีแผนรับชมผลการเลือกตั้งที่บ้านพักตากอากาศในมาร์อาโก ก่อนปราศรัยกับบรรดาผู้สนับสนุน ณ ศูนย์ประชุมที่อยู่ใกล้เคียง ส่วน กมลา แฮร์ริส คู่แข่งของทรัมป์ มีรายงานว่าเธอจะอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และให้สัมภาษณ์ทางวิทยุ จากนั้นจะไปร่วมติดตามการนับคะแนนที่มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เธอเคยเรียน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106770 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Yay
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1119 มุมมอง 0 รีวิว
  • กกต.เริ่มไล่เชือด ส.ว.ประเดิม 'สมชาย เล่งหลัก' 'หมอเกศ' จ่อคิวต่อไป
    .
    วุฒิสภาชุดปัจจุบันที่เริ่มทำงานมาได้สักระยะ เวลานี้มีเรื่องให้ส.ว.บางคนร้อนๆหนาวๆกันบ้างแล้ว ภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ให้สมาชิกภาพความเป็น ส.ว.ของนายสมชาย เล่งหลัก สิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสี่ หรือไม่
    .
    โดยเป็นผลมาจากกรณีศาลฎีกามีคำพิพากษาให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี เมื่อครั้งนายสมชาย ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สงขลา เขต 9 พรรคภูมิใจไทย รู้เห็นสนับสนุนให้มีการแจกเงินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อจงใจให้ลงคะแนนให้แก่ตน ด้วยเหตุนี้กกต.จึงเห็นว่านายสมชาย เป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่ง ส.ว. โดยขณะนี้อยู่ระหว่าง กกต.จัดทำคำวินิจฉัยและยกร่างคำร้องก่อนที่จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญต่อไป
    .
    อีกคนที่ต้องลุ้นเช่นกัน คือ พ.ญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย ส.ว.กลุ่ม19 (กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ) โดยกกต.เตรียมพิจารณาว่าความถูกต้องของประวัติการศึกษาที่ระบุว่าเป็นศาสตราจารย์ จบปริญญาเอกจาก California University ในใบเอกสารแนะนำตัวสมาชิกวุฒิสภา (สว.3) เข้าข่ายเป็นการกระทำหลอกลวง จูงใจให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณเพื่อให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนให้แก่ตนตามมาตรา 77 (4) พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 หรือไม่ ในสัปดาห์หน้า
    ..............
    Sondhi X
    กกต.เริ่มไล่เชือด ส.ว.ประเดิม 'สมชาย เล่งหลัก' 'หมอเกศ' จ่อคิวต่อไป . วุฒิสภาชุดปัจจุบันที่เริ่มทำงานมาได้สักระยะ เวลานี้มีเรื่องให้ส.ว.บางคนร้อนๆหนาวๆกันบ้างแล้ว ภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ให้สมาชิกภาพความเป็น ส.ว.ของนายสมชาย เล่งหลัก สิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสี่ หรือไม่ . โดยเป็นผลมาจากกรณีศาลฎีกามีคำพิพากษาให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี เมื่อครั้งนายสมชาย ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สงขลา เขต 9 พรรคภูมิใจไทย รู้เห็นสนับสนุนให้มีการแจกเงินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อจงใจให้ลงคะแนนให้แก่ตน ด้วยเหตุนี้กกต.จึงเห็นว่านายสมชาย เป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่ง ส.ว. โดยขณะนี้อยู่ระหว่าง กกต.จัดทำคำวินิจฉัยและยกร่างคำร้องก่อนที่จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญต่อไป . อีกคนที่ต้องลุ้นเช่นกัน คือ พ.ญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย ส.ว.กลุ่ม19 (กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ) โดยกกต.เตรียมพิจารณาว่าความถูกต้องของประวัติการศึกษาที่ระบุว่าเป็นศาสตราจารย์ จบปริญญาเอกจาก California University ในใบเอกสารแนะนำตัวสมาชิกวุฒิสภา (สว.3) เข้าข่ายเป็นการกระทำหลอกลวง จูงใจให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณเพื่อให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนให้แก่ตนตามมาตรา 77 (4) พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 หรือไม่ ในสัปดาห์หน้า .............. Sondhi X
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 651 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สามารถ” ชิงลาออกพ้นพรรค​ พปชร.​ เซ่นปมคลิปฉาว เรียกรับทรัพย์ดิไอคอน​ “ไพบูลย์” บอกยื่นตั้งแต่ 25 ต.ค.แต่ไม่ได้แจ้งพรรค

    วันนี้ (29 ต.ค.) ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐรัฐ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ถึงกรณี นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช​ อดีตรองโฆษกพรรค พปชร.ถูกพาดพิงเรื่องคลิปเสียงคดีดิไอคอน ว่า นายสามารถ ได้ลาออกจากสมาชิกพรรค พปชร.แล้ว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กกต. ได้ส่งหนังสือลาออกมาแล้ว ยืนยันว่า นายสามารถ ลาออกเอง

    ด้าน นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร.เปิดเผยว่า นายสามารถ​ ได้ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคต่​อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว​ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ต.ค. โดยที่ไม่ได้แจ้งพรรค ขณะที่หนังสือลาออกได้มาถึงพรรคในวันนี้

    ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยในที่ประชุมพรรคได้มีการพูดคุยถึงนายสามารถ แต่เนื่องจากมีหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคของนายสามารถส่งมา พรรคจึงมีมติรับทราบ ทำให้พรรคไม่ต้องใช้มติพรรคในการขับนายสามารถ

    #MGROnline #พรรคพลังประชารัฐ
    “สามารถ” ชิงลาออกพ้นพรรค​ พปชร.​ เซ่นปมคลิปฉาว เรียกรับทรัพย์ดิไอคอน​ “ไพบูลย์” บอกยื่นตั้งแต่ 25 ต.ค.แต่ไม่ได้แจ้งพรรค • วันนี้ (29 ต.ค.) ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐรัฐ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ถึงกรณี นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช​ อดีตรองโฆษกพรรค พปชร.ถูกพาดพิงเรื่องคลิปเสียงคดีดิไอคอน ว่า นายสามารถ ได้ลาออกจากสมาชิกพรรค พปชร.แล้ว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กกต. ได้ส่งหนังสือลาออกมาแล้ว ยืนยันว่า นายสามารถ ลาออกเอง • ด้าน นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร.เปิดเผยว่า นายสามารถ​ ได้ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคต่​อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว​ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ต.ค. โดยที่ไม่ได้แจ้งพรรค ขณะที่หนังสือลาออกได้มาถึงพรรคในวันนี้ • ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยในที่ประชุมพรรคได้มีการพูดคุยถึงนายสามารถ แต่เนื่องจากมีหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคของนายสามารถส่งมา พรรคจึงมีมติรับทราบ ทำให้พรรคไม่ต้องใช้มติพรรคในการขับนายสามารถ • #MGROnline #พรรคพลังประชารัฐ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • USAID คงต้องผิดหวังอีกครั้ง!

    คณะกรรมการการเลือกตั้งกลางของจอร์เจียเผยแพร่การนับคะแนนล่าสุดเมื่อเช้านี้
    เมื่อนับคะแนนได้ 99%:

    - Georgian Dream 54%
    - Coalition for Change 11%
    - Unity to save Georgia 10%
    - Strong Georgia 9%
    - For Georgia 8%

    พรรค Georgian Dream ของนายกรัฐมนตรีจอร์เจีย (คนขวามือในรูป) ชนะการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาครั้งล่าสุดด้วยคะแนนเสียง 54.24% ตามข้อมูลจากคณะกรรมการการเลือกตั้งกลาง หลังจากนับคะแนนไปแล้ว 99%
    USAID คงต้องผิดหวังอีกครั้ง! คณะกรรมการการเลือกตั้งกลางของจอร์เจียเผยแพร่การนับคะแนนล่าสุดเมื่อเช้านี้ เมื่อนับคะแนนได้ 99%: - Georgian Dream 54% - Coalition for Change 11% - Unity to save Georgia 10% - Strong Georgia 9% - For Georgia 8% พรรค Georgian Dream ของนายกรัฐมนตรีจอร์เจีย (คนขวามือในรูป) ชนะการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาครั้งล่าสุดด้วยคะแนนเสียง 54.24% ตามข้อมูลจากคณะกรรมการการเลือกตั้งกลาง หลังจากนับคะแนนไปแล้ว 99%
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากนับคะแนนเสียงได้ 69% พรรครัฐบาลของจอร์เจีย "Georgian Dream" นำอยู่ด้วยคะแนนเสียง 52.98% ตามข้อมูลเบื้องต้นจากคณะกรรมการการเลือกตั้งกลาง

    พรรค Georgian Dream คาดว่าจะสามารถคว้าที่นั่งในรัฐสภาได้ประมาณ 90 จากทั้งหมด 150 ที่นั่ง

    ประชาชนที่สนับสนุนพรรค "Georgian Dream" เริ่มออกมาเดินขบวนเพื่อแสดงความยินดี และมีการส่งเสียงเพื่อแสดงออกถึงการต่อต้านสหภาพยุโรปอีกด้วย

    พรรค "Georgian Dream" ซึ่งเป็นพรรคของ "อิราคลี โคบาคิดเซ" (Irakli Kobakhidze) นายกรัฐมนตรีจอร์เจียคนปัจจุบัน กล่าวในช่วงหาเสียงว่า เขาจะพาจอร์เจียรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับรัสเซียใหม่ และพรรคของเขายังต่อต้านกลุ่ม LGBTQ อีกด้วย
    หลังจากนับคะแนนเสียงได้ 69% พรรครัฐบาลของจอร์เจีย "Georgian Dream" นำอยู่ด้วยคะแนนเสียง 52.98% ตามข้อมูลเบื้องต้นจากคณะกรรมการการเลือกตั้งกลาง พรรค Georgian Dream คาดว่าจะสามารถคว้าที่นั่งในรัฐสภาได้ประมาณ 90 จากทั้งหมด 150 ที่นั่ง ประชาชนที่สนับสนุนพรรค "Georgian Dream" เริ่มออกมาเดินขบวนเพื่อแสดงความยินดี และมีการส่งเสียงเพื่อแสดงออกถึงการต่อต้านสหภาพยุโรปอีกด้วย พรรค "Georgian Dream" ซึ่งเป็นพรรคของ "อิราคลี โคบาคิดเซ" (Irakli Kobakhidze) นายกรัฐมนตรีจอร์เจียคนปัจจุบัน กล่าวในช่วงหาเสียงว่า เขาจะพาจอร์เจียรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับรัสเซียใหม่ และพรรคของเขายังต่อต้านกลุ่ม LGBTQ อีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทีมหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาพรรคเลเบอร์ของนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ แห่งสหราชอาณาจักร ว่าแทรกแซงอย่างโจ่งแจ้งในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังมีอาสาสมัครบางส่วนเดินทางมาช่วยหาเสียงให้กมลา แฮร์ริส
    .
    แคมป์หาเสียงของผู้สมัครจากรีพับลิกัน ยื่นคำร้องไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้งกลางในวอชิงตัน เรียกร้องให้ทำการสืบสวนในสิ่งที่พวกเขาให้คำจำกัดความว่าเป็นความช่วยเหลืออย่างผิดกฎหมายจากพรรคเลเบอร์ที่มอบแก่ทีมหาเสียงของแฮร์ริส
    .
    รอยเตอร์อ้างว่าเป็นเวลานานแล้วที่บรรดาอาสาสมัครทางการเมืองสหราชอาณาจักร จะเดินทางมายังสหรัฐฯ ก่อนหน้าศึกเลือกตั้ง โดยที่พวกนักเคลื่อนไหวจากพรรคเลเบอร์ พรรคซ้ายกลาง ปกติแล้วมักให้การสนับสนุนพรรคเดโมแครต ส่วนพรรคคอนเซอร์เวทีฟ จะให้การสนับสนุนพรรครีพับลิกัน
    .
    พวกเจ้าหน้าที่สหราชอาณาจักร ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม บอกกับรอยเตอร์ ยอมรับว่าที่ปรึกษาระดับสูงบางส่วนของพรรคเลเบอร์ เดินทางไปพบกับเหล่านักยุทธศาสตร์ของเดโมแครตในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังจากพวกเขาได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในศึกเลือกตั้งสหราชอาณาจักรเมื่อเดือนกรกฎาคม
    .
    นายกรัฐมนตรีสตาร์เมอร์ ปฏิเสธข้อสันนิษฐานที่ว่าเสียงคร่ำครวญเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวจะก่อความเสียหายในความสัมพันธ์กับทรัมป์ หากว่าอดีตประธานาธิบดีรายนี้คว้าชัยชนะอีกครั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายน โดยอ้างว่าบรรดาผู้สนับสนุนพรรคเลเบอร์สมัครใจช่วยแฮร์ริส หาเสียงนอกเวลางาน
    .
    "พวกเขาทำมันในเวลาว่าง พวกเขาทำมันโดยสมัครใจ ผมคิดว่าพวกเขาคงอยู่ที่นั่น พร้อมกับอาสมัครคนอื่นๆ มันเป็นเรื่องที่ตรงไปตรงมาอย่างมาก"
    .
    เกรก สเวนสัน ประธาน Republicans Overseas UK องค์กรการเมืองที่เกี่ยวข้องกับชาวอเมริกาที่โหวตเลือกรีพับลิกัน ที่พำนักอยู่ในสหราชอาณาจักร บอกว่า ทรัมป์ เป็นคนที่ยากจะคาดเดา แต่ถ้าเขาชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนหน้า เหตุการณ์นี้ไม่น่าจะก่อความเสียหายในความสัมพันธ์กับสตาร์เมอร์
    .
    "ทรัมป์มักทำเรื่องต่างๆ ให้เป็นเรื่องส่วนตัว และปล่อยให้เป็นประเด็นพิพาทส่วนตัวส่งผลกระทบกับเขา" สเวนสันกล่าวกับรอยเตอร์ "แต่ผมคิดว่าทรัมป์จะมองข้ามเรื่องนี้ เรื่องนี้อาจก่อรอยแผลเป็นเล็กๆ น้อยๆ หรืออาจจะไม่ก่อบาดแผลใดๆ เลยก็ได้"
    .
    อ้างอิงกฎระเบียบในสหรัฐฯ ชาวต่างชาติสามารถสมัครใจเข้าร่วมรณรงค์หาเสียง แต่ไม่มีสิทธิให้การสนับสนุนทางการเงิน
    .
    คำร้องเรียนจากทีมหาเสียงของทรัมปื อ้างรายงานข่าวของสื่อมวลชนและข้อความหนึ่งบน LinkedIn ที่โพสต์โดย โซเฟีย พาเทล หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของพรรคเลเบอร์สหราชอาณาจักร ที่เขียนว่ามีเจ้าหน้าที่พรรคเลเบอร์ทั้งในอดีตและปัจจุบันเกือบ 100 คน ที่จะเดินทางไปยังสหรัฐฯ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อช่วยให้ แฮร์ริส รองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตได้รับเลือกตั้ง
    .
    ในคำร้องเรียนเขียนว่า "ข้าพเจ้าในนามของโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 ร้องขอให้ดำเนินการสืบสวนในทันทีต่อการแทรกแซงโดยต่างชาติอย่างโจ่งแจ้งในศึกเลือตั้งประธานาธิบดี 2024 ในรูปแบบที่เหมือนเป็นการสนับสนุนอย่างผิดกฎหมายโดยต่างประเทศ"
    .
    "การค้นหาว่ามีต่างชาติแทรกแซงศึกเลือกตั้งของเราหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องมองไม่ไกลนอกเหนือจากโพสต์บน LinkedIn เลย มองด้วยสายตาเปล่าก็รู้ว่าการแทรกแซงกำลังเกิดขึ้น"
    .
    ในข่าวประชาสัมพันธ์ที่ใช้ชื่อว่า "สหราชอาณาจักรกำลังมา" ทีมหาเสียงของทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า "พรรคเลเบอร์ พรรคฝ่ายซ้าย" เป็นแรงบันดาลใจในนโยบายเสรีนิยมและวาทกรรมที่เป็นอันตรายของกมลา แฮร์ริส
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102310
    ..............
    Sondhi X
    ทีมหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาพรรคเลเบอร์ของนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ แห่งสหราชอาณาจักร ว่าแทรกแซงอย่างโจ่งแจ้งในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังมีอาสาสมัครบางส่วนเดินทางมาช่วยหาเสียงให้กมลา แฮร์ริส . แคมป์หาเสียงของผู้สมัครจากรีพับลิกัน ยื่นคำร้องไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้งกลางในวอชิงตัน เรียกร้องให้ทำการสืบสวนในสิ่งที่พวกเขาให้คำจำกัดความว่าเป็นความช่วยเหลืออย่างผิดกฎหมายจากพรรคเลเบอร์ที่มอบแก่ทีมหาเสียงของแฮร์ริส . รอยเตอร์อ้างว่าเป็นเวลานานแล้วที่บรรดาอาสาสมัครทางการเมืองสหราชอาณาจักร จะเดินทางมายังสหรัฐฯ ก่อนหน้าศึกเลือกตั้ง โดยที่พวกนักเคลื่อนไหวจากพรรคเลเบอร์ พรรคซ้ายกลาง ปกติแล้วมักให้การสนับสนุนพรรคเดโมแครต ส่วนพรรคคอนเซอร์เวทีฟ จะให้การสนับสนุนพรรครีพับลิกัน . พวกเจ้าหน้าที่สหราชอาณาจักร ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม บอกกับรอยเตอร์ ยอมรับว่าที่ปรึกษาระดับสูงบางส่วนของพรรคเลเบอร์ เดินทางไปพบกับเหล่านักยุทธศาสตร์ของเดโมแครตในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังจากพวกเขาได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในศึกเลือกตั้งสหราชอาณาจักรเมื่อเดือนกรกฎาคม . นายกรัฐมนตรีสตาร์เมอร์ ปฏิเสธข้อสันนิษฐานที่ว่าเสียงคร่ำครวญเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวจะก่อความเสียหายในความสัมพันธ์กับทรัมป์ หากว่าอดีตประธานาธิบดีรายนี้คว้าชัยชนะอีกครั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายน โดยอ้างว่าบรรดาผู้สนับสนุนพรรคเลเบอร์สมัครใจช่วยแฮร์ริส หาเสียงนอกเวลางาน . "พวกเขาทำมันในเวลาว่าง พวกเขาทำมันโดยสมัครใจ ผมคิดว่าพวกเขาคงอยู่ที่นั่น พร้อมกับอาสมัครคนอื่นๆ มันเป็นเรื่องที่ตรงไปตรงมาอย่างมาก" . เกรก สเวนสัน ประธาน Republicans Overseas UK องค์กรการเมืองที่เกี่ยวข้องกับชาวอเมริกาที่โหวตเลือกรีพับลิกัน ที่พำนักอยู่ในสหราชอาณาจักร บอกว่า ทรัมป์ เป็นคนที่ยากจะคาดเดา แต่ถ้าเขาชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนหน้า เหตุการณ์นี้ไม่น่าจะก่อความเสียหายในความสัมพันธ์กับสตาร์เมอร์ . "ทรัมป์มักทำเรื่องต่างๆ ให้เป็นเรื่องส่วนตัว และปล่อยให้เป็นประเด็นพิพาทส่วนตัวส่งผลกระทบกับเขา" สเวนสันกล่าวกับรอยเตอร์ "แต่ผมคิดว่าทรัมป์จะมองข้ามเรื่องนี้ เรื่องนี้อาจก่อรอยแผลเป็นเล็กๆ น้อยๆ หรืออาจจะไม่ก่อบาดแผลใดๆ เลยก็ได้" . อ้างอิงกฎระเบียบในสหรัฐฯ ชาวต่างชาติสามารถสมัครใจเข้าร่วมรณรงค์หาเสียง แต่ไม่มีสิทธิให้การสนับสนุนทางการเงิน . คำร้องเรียนจากทีมหาเสียงของทรัมปื อ้างรายงานข่าวของสื่อมวลชนและข้อความหนึ่งบน LinkedIn ที่โพสต์โดย โซเฟีย พาเทล หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของพรรคเลเบอร์สหราชอาณาจักร ที่เขียนว่ามีเจ้าหน้าที่พรรคเลเบอร์ทั้งในอดีตและปัจจุบันเกือบ 100 คน ที่จะเดินทางไปยังสหรัฐฯ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อช่วยให้ แฮร์ริส รองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตได้รับเลือกตั้ง . ในคำร้องเรียนเขียนว่า "ข้าพเจ้าในนามของโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 ร้องขอให้ดำเนินการสืบสวนในทันทีต่อการแทรกแซงโดยต่างชาติอย่างโจ่งแจ้งในศึกเลือตั้งประธานาธิบดี 2024 ในรูปแบบที่เหมือนเป็นการสนับสนุนอย่างผิดกฎหมายโดยต่างประเทศ" . "การค้นหาว่ามีต่างชาติแทรกแซงศึกเลือกตั้งของเราหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องมองไม่ไกลนอกเหนือจากโพสต์บน LinkedIn เลย มองด้วยสายตาเปล่าก็รู้ว่าการแทรกแซงกำลังเกิดขึ้น" . ในข่าวประชาสัมพันธ์ที่ใช้ชื่อว่า "สหราชอาณาจักรกำลังมา" ทีมหาเสียงของทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า "พรรคเลเบอร์ พรรคฝ่ายซ้าย" เป็นแรงบันดาลใจในนโยบายเสรีนิยมและวาทกรรมที่เป็นอันตรายของกมลา แฮร์ริส . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102310 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1772 มุมมอง 0 รีวิว

  • กกต.ขีดเส้น 30 วัน ยุบ6พรรคการเมือง เพื่อไทยโวยโดนล้างแค้น
    .
    คดียุบพรรคการเมืองกลับมาเป็นประเด็นทางการเมืองอีกครั้งภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนคำร้องยุบพรรคเพื่อไทยและ6พรรคร่วมรัฐบาลเดิม จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยได้ครอบงำพรรคเพื่อไทย
    .
    ทั้งนี้ มีรายงานว่า กระบวนการหลังจากนี้ ทางคณะกรรมการสอบสวนจะต้องตรวจสอบเอกสาร หลักฐานต่างๆ พยานบุคคล ซึ่งอาจจะต้องเชิญผู้ร้องและผู้ถูกร้องมาชี้แจงข้อเท็จจริง โดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่หากข้อมูล พยานเอกสาร และหลักฐาน ยังไม่ครบถ้วนที่จะสรุปความเห็นของสำนวนเสนอนายทะเบียนพรรคได้ สามารถยื่นขอขยายระยะเวลาได้อีกครั้ง ครั้งละไม่เกิน 30 วัน จนกว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จ
    .
    ขณะที่ มีท่าทีจากเลขาธิการพรรคเพื่อไทยอย่างนายสรวงศ์ เทียนทอง ระบุว่า พรรคมีข้อมูลและหลักฐานเพียงพอที่จะต่อสู้ประเด็นนี้ แต่ในฐานะประชาชนคนหนึ่งอยากให้หน่วยงานต่างๆ คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศชาติ เพราะทุกครั้งที่มีการร้องเรียนและหน่วยงานที่รับผิดชอบรับมาเป็นประเด็น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนตลอดจนนักท่องเที่ยวก็จะหายไปทันที
    .
    "ชัดเจนอยู่แล้ว เพราะทุกอย่างประดังเข้ามาหลังจากที่เราประกาศไม่ร่วมงานกับพรรคการเมืองนี้" นายสรวงศ์ ตอบคำถามที่ถามว่ามองว่าเป็นเกมการเมืองหลังจากที่เราผลักพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่
    ..............
    Sondhi X
    กกต.ขีดเส้น 30 วัน ยุบ6พรรคการเมือง เพื่อไทยโวยโดนล้างแค้น . คดียุบพรรคการเมืองกลับมาเป็นประเด็นทางการเมืองอีกครั้งภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนคำร้องยุบพรรคเพื่อไทยและ6พรรคร่วมรัฐบาลเดิม จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยได้ครอบงำพรรคเพื่อไทย . ทั้งนี้ มีรายงานว่า กระบวนการหลังจากนี้ ทางคณะกรรมการสอบสวนจะต้องตรวจสอบเอกสาร หลักฐานต่างๆ พยานบุคคล ซึ่งอาจจะต้องเชิญผู้ร้องและผู้ถูกร้องมาชี้แจงข้อเท็จจริง โดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่หากข้อมูล พยานเอกสาร และหลักฐาน ยังไม่ครบถ้วนที่จะสรุปความเห็นของสำนวนเสนอนายทะเบียนพรรคได้ สามารถยื่นขอขยายระยะเวลาได้อีกครั้ง ครั้งละไม่เกิน 30 วัน จนกว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จ . ขณะที่ มีท่าทีจากเลขาธิการพรรคเพื่อไทยอย่างนายสรวงศ์ เทียนทอง ระบุว่า พรรคมีข้อมูลและหลักฐานเพียงพอที่จะต่อสู้ประเด็นนี้ แต่ในฐานะประชาชนคนหนึ่งอยากให้หน่วยงานต่างๆ คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศชาติ เพราะทุกครั้งที่มีการร้องเรียนและหน่วยงานที่รับผิดชอบรับมาเป็นประเด็น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนตลอดจนนักท่องเที่ยวก็จะหายไปทันที . "ชัดเจนอยู่แล้ว เพราะทุกอย่างประดังเข้ามาหลังจากที่เราประกาศไม่ร่วมงานกับพรรคการเมืองนี้" นายสรวงศ์ ตอบคำถามที่ถามว่ามองว่าเป็นเกมการเมืองหลังจากที่เราผลักพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ .............. Sondhi X
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 625 มุมมอง 0 รีวิว
  • อนุรา กุมาร ดิสสานายาเก สส.จากพรรคมาร์กซิสต์ ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีศรีลังกา สามารถโค่น นายนรานิล วิกรมสิงห์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันออกไปได้

    22 กันยายน 2567-รายงานข่าวเอพีระบุว่า นายดิสซานายาเกรณรงค์หาเสียงสนับสนุนจากชนชั้นแรงงานและต่อต้านชนชั้นนำทางการเมือง ทำให้เขาเป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นหนุ่มสาว เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 39 ตามมาด้วยนายสาจิธ เปรมทาสา ผู้นำฝ่ายค้านได้คะแนนร้อยละ 34 ตามผลการนับคะแนนที่เผยแพร่โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง

    การเลือกตั้งจัดขึ้นในวันเสาร์ที่21 กันยายนมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากประเทศกำลังพยายามฟื้นตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์และ ความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นตามมาโดยมีผู้สมัคร 38 คนลงแข่งขัน แต่โดยส่วนใหญ่จะเน้นที่ผู้สมัครสามคนคือ Dissanayake, Wickremesinghe และPremadasa

    สำหรับนาย ดิสสานายาเก วัย 55 ปี เป็นผู้นำของกลุ่มแนวร่วมฝ่ายซ้ายที่เรียกว่า National People's Power ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรที่ประกอบด้วยกลุ่มประชาสังคม นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ พระสงฆ์ และนักศึกษาหัวก้าวหน้า

    เมื่อปี 2562 นาย ดิสซานายาเกะ ลงสมัครการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งก่อนเคะแนได้เสียงเพียง 3% ผิดกับวันนี้ที่ได้คะแนนเสียงถึง 39%ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง17ล้านคน ถือเป็นผลงานที่แข็งแกร่ง และบ่งชี้ว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งเริ่มเบื่อหน่ายกับนโยบายเดิม ซึ่งถูกกล่าวหาว่าผลักให้เศรษฐกิจไม่มั่นคง

    วิกฤตเศรษฐกิจของศรีลังกาเกิดจากการกู้ยืมเงินมากเกินไปสำหรับโครงการที่ไม่สร้างรายได้ ผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 และความดื้อรั้นของรัฐบาลในการใช้เงินสำรองต่างประเทศที่มีอยู่อย่างจำกัดเพื่อพยุงสกุลเงินรูปี ส่งผลให้เศรษฐกิจตกต่ำอย่างหนัก

    ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำส่งผลให้ขาดแคลนสิ่งจำเป็น เช่น ยาอาหาร แก๊สหุงต้ม และเชื้อเพลิงอย่างรุนแรง ทำให้ประชาชนต้องยืนรอคิวเป็นเวลานานหลายวันเพื่อซื้อสิ่งของเหล่านี้ ส่งผลให้เกิดการจลาจล ผู้ประท้วงบุกยึดอาคารสำคัญๆ รวมถึงบ้านของประธานาธิบดี สำนักงานของเขา และสำนักงานของนายกรัฐมนตรี จนทำให้โกตาบายา ราชปักษา ประธานาธิบดีในขณะนั้นต้องหลบหนีออกนอกประเทศและลาออก

    วิกรมสิงห์ได้รับเลือกโดยการลงคะแนนเสียงของรัฐสภาในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2565 เพื่อดำรงตำแหน่งแทนราชปักษาในช่วงเวลาที่เหลือ

    รัฐบาลวิกรมสิงห์ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่าได้ผ่านอุปสรรคสุดท้ายในการปรับโครงสร้างหนี้แล้วด้วยการบรรลุข้อตกลงในหลักการกับผู้ถือพันธบัตรเอกชน

    ศรีลังกาผิดนัดชำระหนี้ ทั้งหนี้ในประเทศและต่างประเทศมียอดรวม 83,000 ล้านดอลลาร์ รัฐบาลระบุว่าขณะนี้ได้ปรับโครงสร้างหนี้แล้วมากกว่า 17,000 ล้านดอลลาร์

    หากรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของ Dissanayake ที่กล่าวว่าเขาจะเจรจาข้อตกลงกับ IMF ใหม่เพื่อให้มาตรการรัดเข็มขัดมีความเหมาะสมมากขึ้น แต่รัฐบาลวิกรมสิงห์เตือนว่าการเคลื่อนไหวใดๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงพื้นฐานของข้อตกลงอาจทำให้การอนุมัติเงินงวดที่ 4 มูลค่าเกือบ 3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมีความสำคัญต่อการรักษาเสถียรภาพล่าช้าออกไป

    #Thaitimes
    อนุรา กุมาร ดิสสานายาเก สส.จากพรรคมาร์กซิสต์ ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีศรีลังกา สามารถโค่น นายนรานิล วิกรมสิงห์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันออกไปได้ 22 กันยายน 2567-รายงานข่าวเอพีระบุว่า นายดิสซานายาเกรณรงค์หาเสียงสนับสนุนจากชนชั้นแรงงานและต่อต้านชนชั้นนำทางการเมือง ทำให้เขาเป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นหนุ่มสาว เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 39 ตามมาด้วยนายสาจิธ เปรมทาสา ผู้นำฝ่ายค้านได้คะแนนร้อยละ 34 ตามผลการนับคะแนนที่เผยแพร่โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง การเลือกตั้งจัดขึ้นในวันเสาร์ที่21 กันยายนมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากประเทศกำลังพยายามฟื้นตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์และ ความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นตามมาโดยมีผู้สมัคร 38 คนลงแข่งขัน แต่โดยส่วนใหญ่จะเน้นที่ผู้สมัครสามคนคือ Dissanayake, Wickremesinghe และPremadasa สำหรับนาย ดิสสานายาเก วัย 55 ปี เป็นผู้นำของกลุ่มแนวร่วมฝ่ายซ้ายที่เรียกว่า National People's Power ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรที่ประกอบด้วยกลุ่มประชาสังคม นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ พระสงฆ์ และนักศึกษาหัวก้าวหน้า เมื่อปี 2562 นาย ดิสซานายาเกะ ลงสมัครการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งก่อนเคะแนได้เสียงเพียง 3% ผิดกับวันนี้ที่ได้คะแนนเสียงถึง 39%ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง17ล้านคน ถือเป็นผลงานที่แข็งแกร่ง และบ่งชี้ว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งเริ่มเบื่อหน่ายกับนโยบายเดิม ซึ่งถูกกล่าวหาว่าผลักให้เศรษฐกิจไม่มั่นคง วิกฤตเศรษฐกิจของศรีลังกาเกิดจากการกู้ยืมเงินมากเกินไปสำหรับโครงการที่ไม่สร้างรายได้ ผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 และความดื้อรั้นของรัฐบาลในการใช้เงินสำรองต่างประเทศที่มีอยู่อย่างจำกัดเพื่อพยุงสกุลเงินรูปี ส่งผลให้เศรษฐกิจตกต่ำอย่างหนัก ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำส่งผลให้ขาดแคลนสิ่งจำเป็น เช่น ยาอาหาร แก๊สหุงต้ม และเชื้อเพลิงอย่างรุนแรง ทำให้ประชาชนต้องยืนรอคิวเป็นเวลานานหลายวันเพื่อซื้อสิ่งของเหล่านี้ ส่งผลให้เกิดการจลาจล ผู้ประท้วงบุกยึดอาคารสำคัญๆ รวมถึงบ้านของประธานาธิบดี สำนักงานของเขา และสำนักงานของนายกรัฐมนตรี จนทำให้โกตาบายา ราชปักษา ประธานาธิบดีในขณะนั้นต้องหลบหนีออกนอกประเทศและลาออก วิกรมสิงห์ได้รับเลือกโดยการลงคะแนนเสียงของรัฐสภาในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2565 เพื่อดำรงตำแหน่งแทนราชปักษาในช่วงเวลาที่เหลือ รัฐบาลวิกรมสิงห์ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่าได้ผ่านอุปสรรคสุดท้ายในการปรับโครงสร้างหนี้แล้วด้วยการบรรลุข้อตกลงในหลักการกับผู้ถือพันธบัตรเอกชน ศรีลังกาผิดนัดชำระหนี้ ทั้งหนี้ในประเทศและต่างประเทศมียอดรวม 83,000 ล้านดอลลาร์ รัฐบาลระบุว่าขณะนี้ได้ปรับโครงสร้างหนี้แล้วมากกว่า 17,000 ล้านดอลลาร์ หากรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของ Dissanayake ที่กล่าวว่าเขาจะเจรจาข้อตกลงกับ IMF ใหม่เพื่อให้มาตรการรัดเข็มขัดมีความเหมาะสมมากขึ้น แต่รัฐบาลวิกรมสิงห์เตือนว่าการเคลื่อนไหวใดๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงพื้นฐานของข้อตกลงอาจทำให้การอนุมัติเงินงวดที่ 4 มูลค่าเกือบ 3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมีความสำคัญต่อการรักษาเสถียรภาพล่าช้าออกไป #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 852 มุมมอง 0 รีวิว
  • เลือกตั้งปี 2024อาจเป็นครี้งสุดท้ายของสหรัฐ
    มาร์ติน อาร์มสตรองแห่ง armstrongeconomics.com คาดการณ์ว่าการเลือกตั้งในปี 2024ของสหรัฐอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะว่าฝ่ายสนับสนุนทั้งโดนัลด์ ทรัมป์ และกมลา แฮร์ริสจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ซึ่งจะนำไปสู้การฟ้องร้องในศาลทำให้ไม่สามารถรับรองผลการเลือกตั้งได้ และในที่สุดอาจจะนำไปสู่สงครามกลางเมือง
    อาร์มสตรอง บอกว่า ทรัมป์กับแฮร์ริสกำลังกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ทางกฎหมายที่ดุเดือดและน่ารังเกียจ ซึ่งจะทำให้ประเทศสหรัฐแตกแยกอย่างแน่นอน โดยเสริมว่าสื่อกระแสหลักจะทรยศต่อประเทศและทุกสิ่งที่รัฐธรรมนูญอเมริกันเคยยืนหยัด และพวกเขาจะสนับสนุนคนหลบเข้าเมืองที่ผิดกฎหมายและแฮร์รีสทั้งหมดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
    เขาบอกว่าการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นมุ่งหน้าสู่ปี 2032 ซึ่งจะทำลายสังคมตะวันตกในแง่ของการเป็นเมืองหลวงทางการเงินที่มีอิทธิพลต่อระบบการเงินโลก
    “พวกนีโอคอน (Neocon) กำลังทำลายสังคมตะวันตกเพราะความเกลียดชังรัสเซียและจีน ซึ่งส่งผลให้เกิดเมืองหลวงทางการเงินของโลกที่สหรัฐอเมริกายึดครองจากลอนดอนในปี 1918 เนื่องจากสงครามโลกครั้งที่ 1 เราจะสูญเสียสถานภาพนี้ 112 ปีต่อมา เพราะสงครามโลกครั้งที่ 3 และสื่อมวลชนก็ให้กำลังเชียร์ให้เกิด (ครึ่งรอบ 224 ปีของการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง)
    พรรคเดโมแครตได้ส่งข้อความนี้ออกไปบรรดาผู้สนับสนุน:

    “… เรากำลังเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับโครงการคุ้มครองผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพื่อปกป้องทรัมป์และพันธมิตรของเขาที่โจมตีสิทธิในการลงคะแนนเสียงของเรา นั่นเป็นสาเหตุที่เราลงทุนหกหลักในโครงการ Democrats Abroad เพื่อลงทะเบียนและรับคะแนนโหวตจากชาวอเมริกันเกือบ 9 ล้านคนที่อาศัยและรับใช้ในต่างประเทศ และนั่นคือเหตุผลที่เราขยายความพยายามในการจัดงานเสมือนจริงที่ประสบความสำเร็จเพื่อมีส่วนร่วมและระดมอาสาสมัครให้ได้มากที่สุด เพื่อให้คุณสามารถมีส่วนร่วมได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม”
    อาร์มสตรอง กล่าวต่อไปว่า จอร์เจียได้นำกฎใหม่สำหรับคณะกรรมการการเลือกตั้งของรัฐมาใช้ โดยอนุญาตให้สมาชิกชะลอการรับรองการเลือกตั้ง ถ้าหากมีการสอบถามเกี่ยวกับความคลาดเคลื่อนของบัตรลงคะแนน ในรัฐแอริโซนา มิชิแกน และเนวาดา ฝ่ายรีพับรีกันได้ผลักดันให้มีการกำจัดรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่ใช่พลเมือง พรรครีพับลิกันในเนวาดายื่นฟ้องเพื่อป้องกันไม่ให้มีการนับบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์หากได้รับหลังวันเลือกตั้ง ถึงกระนั้นพรรคเดโมแครตก็กำลังต่อสู้กับสิ่งนั้นเช่นกัน
    ในรัฐที่ฐานเสียงแกว่งไปมาอย่างจอร์เจีย แอริโซนา มิชิแกน เนวาดา และเพนซิลเวเนีย ผลของการลงคะแนนเสียงที่มีการโต้แย้งอาจจบลงที่ศาลฎีกา มีการปล่อยให้ผู้อพยพเข้าไปในยุโรปและสหรัฐอเมริกาอย่างผิดกฎหมายโดยที่ส่วนใหญ่ไม่ได้ให้อะไรเลยแก่สังคม เพื่อเป้าหมายของลัทธิเผด็จการที่จะควบคุมประชาชน โดยวางแผนที่จะให้พวกอพยพหลบเข้าเมืองลงคะแนนเสียงให้พรรคเดโมแครต
    ผลของการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีการโต้แย้งอย่างเผ็ดร้อนจนอาจจะจบลงที่ศาล จากนั้น หากพรรคเดโมแครตหรือพรรครีพับลิกันแต่งตั้งผู้พิพากษาเป็นผู้ตัดสิน ผู้แพ้ก็จะโต้แย้งว่าการตัดสินดังกล่าวเป็นเรื่องทางการเมือง ไม่มีทางหนีพ้นวิกฤตนี้ไปได้ เพราะฝ่ายซ้ายรู้ว่าตนกำลังพ่ายแพ้ และแทนที่จะตั้งคำถามกับปรัชญาแนวทางของตน กลับตั้งใจที่จะชนะทุกวิถีทางที่เป็นไปได้
    ที่การประชุมประชาธิปไตย ไบเดนราดน้ำมันลงบนกองไฟ ซึ่งหากทรัมป์ชนะ นั่นก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย เขากล่าวว่า “นี่จะเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม” ไบเดนบอกกับฝูงชนในสุนทรพจน์ของเขาว่าเมื่อวันที่ 6 มกราคม “เราเกือบจะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับตัวตนของเราในฐานะประเทศไป และภัยคุกคามนั้น—นี่ไม่ใช่คำพูดเกินจริง—ภัยคุกคามนั้นยังดำรงอยู่”

    IMCT News

    ที่มา https://www.armstrongeconomics.com/international-news/politics/us-2024-may-be-our-last/
    เลือกตั้งปี 2024อาจเป็นครี้งสุดท้ายของสหรัฐ มาร์ติน อาร์มสตรองแห่ง armstrongeconomics.com คาดการณ์ว่าการเลือกตั้งในปี 2024ของสหรัฐอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะว่าฝ่ายสนับสนุนทั้งโดนัลด์ ทรัมป์ และกมลา แฮร์ริสจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ซึ่งจะนำไปสู้การฟ้องร้องในศาลทำให้ไม่สามารถรับรองผลการเลือกตั้งได้ และในที่สุดอาจจะนำไปสู่สงครามกลางเมือง อาร์มสตรอง บอกว่า ทรัมป์กับแฮร์ริสกำลังกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ทางกฎหมายที่ดุเดือดและน่ารังเกียจ ซึ่งจะทำให้ประเทศสหรัฐแตกแยกอย่างแน่นอน โดยเสริมว่าสื่อกระแสหลักจะทรยศต่อประเทศและทุกสิ่งที่รัฐธรรมนูญอเมริกันเคยยืนหยัด และพวกเขาจะสนับสนุนคนหลบเข้าเมืองที่ผิดกฎหมายและแฮร์รีสทั้งหมดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เขาบอกว่าการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นมุ่งหน้าสู่ปี 2032 ซึ่งจะทำลายสังคมตะวันตกในแง่ของการเป็นเมืองหลวงทางการเงินที่มีอิทธิพลต่อระบบการเงินโลก “พวกนีโอคอน (Neocon) กำลังทำลายสังคมตะวันตกเพราะความเกลียดชังรัสเซียและจีน ซึ่งส่งผลให้เกิดเมืองหลวงทางการเงินของโลกที่สหรัฐอเมริกายึดครองจากลอนดอนในปี 1918 เนื่องจากสงครามโลกครั้งที่ 1 เราจะสูญเสียสถานภาพนี้ 112 ปีต่อมา เพราะสงครามโลกครั้งที่ 3 และสื่อมวลชนก็ให้กำลังเชียร์ให้เกิด (ครึ่งรอบ 224 ปีของการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง) พรรคเดโมแครตได้ส่งข้อความนี้ออกไปบรรดาผู้สนับสนุน: “… เรากำลังเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับโครงการคุ้มครองผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพื่อปกป้องทรัมป์และพันธมิตรของเขาที่โจมตีสิทธิในการลงคะแนนเสียงของเรา นั่นเป็นสาเหตุที่เราลงทุนหกหลักในโครงการ Democrats Abroad เพื่อลงทะเบียนและรับคะแนนโหวตจากชาวอเมริกันเกือบ 9 ล้านคนที่อาศัยและรับใช้ในต่างประเทศ และนั่นคือเหตุผลที่เราขยายความพยายามในการจัดงานเสมือนจริงที่ประสบความสำเร็จเพื่อมีส่วนร่วมและระดมอาสาสมัครให้ได้มากที่สุด เพื่อให้คุณสามารถมีส่วนร่วมได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม” อาร์มสตรอง กล่าวต่อไปว่า จอร์เจียได้นำกฎใหม่สำหรับคณะกรรมการการเลือกตั้งของรัฐมาใช้ โดยอนุญาตให้สมาชิกชะลอการรับรองการเลือกตั้ง ถ้าหากมีการสอบถามเกี่ยวกับความคลาดเคลื่อนของบัตรลงคะแนน ในรัฐแอริโซนา มิชิแกน และเนวาดา ฝ่ายรีพับรีกันได้ผลักดันให้มีการกำจัดรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่ใช่พลเมือง พรรครีพับลิกันในเนวาดายื่นฟ้องเพื่อป้องกันไม่ให้มีการนับบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์หากได้รับหลังวันเลือกตั้ง ถึงกระนั้นพรรคเดโมแครตก็กำลังต่อสู้กับสิ่งนั้นเช่นกัน ในรัฐที่ฐานเสียงแกว่งไปมาอย่างจอร์เจีย แอริโซนา มิชิแกน เนวาดา และเพนซิลเวเนีย ผลของการลงคะแนนเสียงที่มีการโต้แย้งอาจจบลงที่ศาลฎีกา มีการปล่อยให้ผู้อพยพเข้าไปในยุโรปและสหรัฐอเมริกาอย่างผิดกฎหมายโดยที่ส่วนใหญ่ไม่ได้ให้อะไรเลยแก่สังคม เพื่อเป้าหมายของลัทธิเผด็จการที่จะควบคุมประชาชน โดยวางแผนที่จะให้พวกอพยพหลบเข้าเมืองลงคะแนนเสียงให้พรรคเดโมแครต ผลของการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีการโต้แย้งอย่างเผ็ดร้อนจนอาจจะจบลงที่ศาล จากนั้น หากพรรคเดโมแครตหรือพรรครีพับลิกันแต่งตั้งผู้พิพากษาเป็นผู้ตัดสิน ผู้แพ้ก็จะโต้แย้งว่าการตัดสินดังกล่าวเป็นเรื่องทางการเมือง ไม่มีทางหนีพ้นวิกฤตนี้ไปได้ เพราะฝ่ายซ้ายรู้ว่าตนกำลังพ่ายแพ้ และแทนที่จะตั้งคำถามกับปรัชญาแนวทางของตน กลับตั้งใจที่จะชนะทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ ที่การประชุมประชาธิปไตย ไบเดนราดน้ำมันลงบนกองไฟ ซึ่งหากทรัมป์ชนะ นั่นก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย เขากล่าวว่า “นี่จะเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม” ไบเดนบอกกับฝูงชนในสุนทรพจน์ของเขาว่าเมื่อวันที่ 6 มกราคม “เราเกือบจะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับตัวตนของเราในฐานะประเทศไป และภัยคุกคามนั้น—นี่ไม่ใช่คำพูดเกินจริง—ภัยคุกคามนั้นยังดำรงอยู่” IMCT News ที่มา https://www.armstrongeconomics.com/international-news/politics/us-2024-may-be-our-last/
    WWW.ARMSTRONGECONOMICS.COM
    US 2024 May be Our Last
    This year's election is shaping up to be decided in court rather than the ballot box. Both Donald Trump and Kamala Harris are preparing for what will become a
    Like
    Love
    Wow
    Sad
    36
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1834 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใบเหลืองชาญ เลือกตั้งใหม่ อบจ.ปทุมฯ

    สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติสั่งให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานีใหม่ ตามมาตรา 106 วรรคสี่ แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ปี 2562 เมื่อวันที่ 27 ส.ค. หลังพิจารณาเรื่องการประกาศรับรองผล และพยานหลักฐานของสำนวนเรื่องร้องเรียนตามมาตรา 65 (3) แล้วเห็นว่า กรณีกล่าวหาว่านายชาญ พวงเพ็ชร์ ที่ได้รับการเลือกตั้ง จัดเลี้ยงและมหรสพเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนให้ตนนั้น เป็นเหตุอันควรเชื่อได้ว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม

    อย่างไรก็ตาม มติสั่งเลือกตั้งใหม่ของ กกต. ดังกล่าวเป็นการให้ใบเหลือง ดังนั้นการแข่งขันก็จะเป็นการใช้ผู้สมัครชุดเดิมโดยนายชาญ ซึ่งได้รับเลือกมาด้วยคะแนนสูงสุดในการเลือกตั้งคราวก่อน ยังคงสามารถลงแข่งขันได้ ส่วนวันเลือกตั้งผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยความเห็นชอบของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดจะเป็นผู้ประกาศ

    ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัครเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวขอขอบคุณ กกต.ที่ให้ความเป็นธรรม และพร้อมลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้ง ขอให้ กกต.เร่งจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว ไม่ต้องรอ 45 วัน ใช้เวลา 2 สัปดาห์ก็พอ เพราะเป็นคนเดิมเพิ่งหาเสียงกันมา ถ้าปล่อยให้นานออกไปสถานการณ์จะล่อแหลมเพราะน้ำจะท่วม มั่นใจว่าคนปทุมธานีรู้แล้วว่าใครผู้สมัครรายใดที่มีปัญหา พร้อมเชิญชวนชาวจังหวัดปทุมธานีออกมาใช้สิทธิกันให้มากขึ้น เพื่อศักดิ์ศรีของจังหวัด อย่าให้คนไม่ดีมาซื้อเสียง

    แหล่งข่าวจากผู้ใกล้ชิดการเมืองท้องถิ่นจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยกับ Newskit ว่า เรื่องดังกล่าวทราบว่าเป็นที่ตกใจแก่ข้าราชการ อบจ.ปทุมธานีอยู่บ้าง เพราะรอผลการเลือกตั้งกว่า 2 เดือนก็ไม่มีความชัดเจน เมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น ที่ประกาศรับรองผลไปแล้วอย่างรวดเร็ว ที่ผ่านมา อบจ.ปทุมธานีใช้งบประมาณจัดการเลือกตั้งกว่า 70 ล้านบาท โดยใช้งบกลาง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งต่อไป ขึ้นอยู่กับ กกต.ปทุมธานีจะเป็นผู้กำหนด คาดว่าไม่เกิน 1 เดือนนับจากนี้ แต่เห็นว่าต้องจัดเลือกตั้ง 3 รอบ ยังเหลือการเลือกตั้งสมาชิกสภา อบจ.ปทุมธานี ที่จะหมดวาระในวันที่ 19 ธ.ค. และคาดว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือน ก.พ. 2568

    สำหรับผลใบเหลืองที่ออกมา ต้องดูว่านายชาญจะลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย หรือในนามอิสระ เพราะที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยถูกโจมตีเรื่องการส่งผู้สมัครที่มีปัญหาคุณสมบัติ ซ้ำด้วยนายชาญถูก กกต.ให้ใบเหลือง ทำให้พรรคเพื่อไทยได้รับความเสียหาย ก่อนหน้านี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปงานบวชลูกชายนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือนายกเบี้ยว นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ซึ่งเป็นคนของนายชาญ จากเหตุดังกล่าวทำให้ กกต.ให้ใบเหลือง ด้วยข้อหาจัดเลี้ยงและมหรสพเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนน ไม่นับรวมคดีค้างเก่าใน ป.ป.ช. อาจมีผลต่อการตัดสินใจของผู้มีสิทธิเลือกตั้งว่าจะเลือกใคร

    ส่วน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ คาดว่าทีมงานอาจมีความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่ผ่านมาจากทั้งหมด 7 อำเภอ ชนะเลือกตั้งในเขตอำเภอเมือง อำเภอที่มีความเจริญเนื่องมาจากเป็นพื้นที่บ้านจัดสรร หรืออำเภอที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ เช่น อ.หนองเสือ ที่คราวนี้ชนะคู่แข่งมาได้ แต่จะเสียเปรียบ 2 อำเภอ ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรม คือ อ.สามโคก ซึ่งเป็นพื้นที่ฐานเสียงของนายชาญ มีความผูกพันมานาน และ อ.ลาดหลุมแก้ว ที่การเลือกตั้งครั้งนี้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์แพ้ให้กับคู่แข่ง ประเมินว่าทีมงาน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ อาจกำลังถอดบทเรียนตรงนี้สำหรับการเลือกตั้งรอบสองที่กำลังจะมาถึง

    ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีผู้มาใช้สิทธิมากน้อยขนาดไหน เมื่อเทียบกับคราวที่แล้วมีผู้มาใช้สิทธิไม่ถึง 50% แหล่งข่าวมองว่าอาจมีโอกาสเพิ่มขึ้นมาบ้าง เพราะจากการที่ผลเลือกตั้งออกมา ผู้ชนะคราวที่แล้วกลับแพ้ คราวนี้จึงแพ้ไม่ได้ อีกทั้งยังมีเหตุการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ ที่เกรงกันว่ามวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลลงมายังจังหวัดปทุมธานี จำเป็นต้องมีเจ้าภาพบริหารจัดการและดูแลประชาชน หากเกิดสูญญากาศทางการเมือง ประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนมากขึ้น

    สำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 949,421 คน แต่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 472,536 คน คิดเป็น 49.77% โดยนายชาญ ซึ่งเป็นผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ชนะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ โดยนายชาญได้ 203,032 คะแนน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้ 201,212 คะแนน ห่างกัน 1,820 คะแนน ส่วนอันดับสาม นายนพดล ลัดดาแย้ม ได้ 16,983 คะแนน และอันดับสี่ นายอธิวัฒน์ สอนเนย ได้ 7,122 คะแนน ส่วนบัตรเสียมี 11,302 ใบ คิดเป็น 2.39% และบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 32,885 ใบ คิดเป็น 6.96%

    #Newskit #อบจปทุมธานี #เลือกตั้งซ่อม
    ใบเหลืองชาญ เลือกตั้งใหม่ อบจ.ปทุมฯ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติสั่งให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานีใหม่ ตามมาตรา 106 วรรคสี่ แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ปี 2562 เมื่อวันที่ 27 ส.ค. หลังพิจารณาเรื่องการประกาศรับรองผล และพยานหลักฐานของสำนวนเรื่องร้องเรียนตามมาตรา 65 (3) แล้วเห็นว่า กรณีกล่าวหาว่านายชาญ พวงเพ็ชร์ ที่ได้รับการเลือกตั้ง จัดเลี้ยงและมหรสพเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนให้ตนนั้น เป็นเหตุอันควรเชื่อได้ว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม อย่างไรก็ตาม มติสั่งเลือกตั้งใหม่ของ กกต. ดังกล่าวเป็นการให้ใบเหลือง ดังนั้นการแข่งขันก็จะเป็นการใช้ผู้สมัครชุดเดิมโดยนายชาญ ซึ่งได้รับเลือกมาด้วยคะแนนสูงสุดในการเลือกตั้งคราวก่อน ยังคงสามารถลงแข่งขันได้ ส่วนวันเลือกตั้งผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยความเห็นชอบของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดจะเป็นผู้ประกาศ ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัครเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวขอขอบคุณ กกต.ที่ให้ความเป็นธรรม และพร้อมลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้ง ขอให้ กกต.เร่งจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว ไม่ต้องรอ 45 วัน ใช้เวลา 2 สัปดาห์ก็พอ เพราะเป็นคนเดิมเพิ่งหาเสียงกันมา ถ้าปล่อยให้นานออกไปสถานการณ์จะล่อแหลมเพราะน้ำจะท่วม มั่นใจว่าคนปทุมธานีรู้แล้วว่าใครผู้สมัครรายใดที่มีปัญหา พร้อมเชิญชวนชาวจังหวัดปทุมธานีออกมาใช้สิทธิกันให้มากขึ้น เพื่อศักดิ์ศรีของจังหวัด อย่าให้คนไม่ดีมาซื้อเสียง แหล่งข่าวจากผู้ใกล้ชิดการเมืองท้องถิ่นจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยกับ Newskit ว่า เรื่องดังกล่าวทราบว่าเป็นที่ตกใจแก่ข้าราชการ อบจ.ปทุมธานีอยู่บ้าง เพราะรอผลการเลือกตั้งกว่า 2 เดือนก็ไม่มีความชัดเจน เมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น ที่ประกาศรับรองผลไปแล้วอย่างรวดเร็ว ที่ผ่านมา อบจ.ปทุมธานีใช้งบประมาณจัดการเลือกตั้งกว่า 70 ล้านบาท โดยใช้งบกลาง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งต่อไป ขึ้นอยู่กับ กกต.ปทุมธานีจะเป็นผู้กำหนด คาดว่าไม่เกิน 1 เดือนนับจากนี้ แต่เห็นว่าต้องจัดเลือกตั้ง 3 รอบ ยังเหลือการเลือกตั้งสมาชิกสภา อบจ.ปทุมธานี ที่จะหมดวาระในวันที่ 19 ธ.ค. และคาดว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือน ก.พ. 2568 สำหรับผลใบเหลืองที่ออกมา ต้องดูว่านายชาญจะลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย หรือในนามอิสระ เพราะที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยถูกโจมตีเรื่องการส่งผู้สมัครที่มีปัญหาคุณสมบัติ ซ้ำด้วยนายชาญถูก กกต.ให้ใบเหลือง ทำให้พรรคเพื่อไทยได้รับความเสียหาย ก่อนหน้านี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปงานบวชลูกชายนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือนายกเบี้ยว นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ซึ่งเป็นคนของนายชาญ จากเหตุดังกล่าวทำให้ กกต.ให้ใบเหลือง ด้วยข้อหาจัดเลี้ยงและมหรสพเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนน ไม่นับรวมคดีค้างเก่าใน ป.ป.ช. อาจมีผลต่อการตัดสินใจของผู้มีสิทธิเลือกตั้งว่าจะเลือกใคร ส่วน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ คาดว่าทีมงานอาจมีความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่ผ่านมาจากทั้งหมด 7 อำเภอ ชนะเลือกตั้งในเขตอำเภอเมือง อำเภอที่มีความเจริญเนื่องมาจากเป็นพื้นที่บ้านจัดสรร หรืออำเภอที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ เช่น อ.หนองเสือ ที่คราวนี้ชนะคู่แข่งมาได้ แต่จะเสียเปรียบ 2 อำเภอ ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรม คือ อ.สามโคก ซึ่งเป็นพื้นที่ฐานเสียงของนายชาญ มีความผูกพันมานาน และ อ.ลาดหลุมแก้ว ที่การเลือกตั้งครั้งนี้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์แพ้ให้กับคู่แข่ง ประเมินว่าทีมงาน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ อาจกำลังถอดบทเรียนตรงนี้สำหรับการเลือกตั้งรอบสองที่กำลังจะมาถึง ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีผู้มาใช้สิทธิมากน้อยขนาดไหน เมื่อเทียบกับคราวที่แล้วมีผู้มาใช้สิทธิไม่ถึง 50% แหล่งข่าวมองว่าอาจมีโอกาสเพิ่มขึ้นมาบ้าง เพราะจากการที่ผลเลือกตั้งออกมา ผู้ชนะคราวที่แล้วกลับแพ้ คราวนี้จึงแพ้ไม่ได้ อีกทั้งยังมีเหตุการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ ที่เกรงกันว่ามวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลลงมายังจังหวัดปทุมธานี จำเป็นต้องมีเจ้าภาพบริหารจัดการและดูแลประชาชน หากเกิดสูญญากาศทางการเมือง ประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนมากขึ้น สำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 949,421 คน แต่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 472,536 คน คิดเป็น 49.77% โดยนายชาญ ซึ่งเป็นผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ชนะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ โดยนายชาญได้ 203,032 คะแนน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้ 201,212 คะแนน ห่างกัน 1,820 คะแนน ส่วนอันดับสาม นายนพดล ลัดดาแย้ม ได้ 16,983 คะแนน และอันดับสี่ นายอธิวัฒน์ สอนเนย ได้ 7,122 คะแนน ส่วนบัตรเสียมี 11,302 ใบ คิดเป็น 2.39% และบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 32,885 ใบ คิดเป็น 6.96% #Newskit #อบจปทุมธานี #เลือกตั้งซ่อม
    Like
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1057 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไอ่เราก็เป็นพลเมืองดีซะด้วย
    #ขอแจ้งเบาะแสให้กกตและศาลรัฐธรรมนูญทราบครับ
    ว่านายเท้งเต้ง หัวหน้าพรรคคนใหม่ของส้ม หรือพรรคประชาโจน
    มีพฤติกรรมอันอุกอาจที่เข้าข่ายปลุกระดม
    ให้เกิดการล้มล้างการปกครองในระบบประชาธิปไตย
    อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
    ครับ
    และหลังรับตำแหน่งก็ได้ออกมาประกาศเดินหน้าเรื่องนี้ด้วย
    ปล่อยไปไม่ได้ครับท่าน
    #คณะกรรมการการเลือกตั้ง
    #ศาลรัฐธรรมนูญ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ไอ่เราก็เป็นพลเมืองดีซะด้วย #ขอแจ้งเบาะแสให้กกตและศาลรัฐธรรมนูญทราบครับ ว่านายเท้งเต้ง หัวหน้าพรรคคนใหม่ของส้ม หรือพรรคประชาโจน มีพฤติกรรมอันอุกอาจที่เข้าข่ายปลุกระดม ให้เกิดการล้มล้างการปกครองในระบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ครับ และหลังรับตำแหน่งก็ได้ออกมาประกาศเดินหน้าเรื่องนี้ด้วย ปล่อยไปไม่ได้ครับท่าน #คณะกรรมการการเลือกตั้ง #ศาลรัฐธรรมนูญ #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 345 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุบพรรคก้าวไกล จะเกิดอะไรขึ้น?

    7 สิงหาคม 2567 ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยลงมติและอ่านคำวินิจฉัย คดีที่นายธีรยุทธ สุววรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ศาลวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2562 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) หลังการพิจารณาคดีใช้เวลา 4 เดือน

    ที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญ ใช้วิธีรวบรวมพยานหลักฐานให้ผู้เกี่ยวข้องยื่นคำชี้แจง และให้พรรคก้าวไกลยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา โดยพรรคก้าวไกลได้ขอเลื่อนไปแล้ว 3 ครั้ง รวมระยะเวลา 60 วัน กระทั่งวันที่ 17 กรกฎาคม 2567 ที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ สั่งยุติการไต่สวน เนื่องจากเห็นว่าคดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายมีพยานหลักฐานเพียงพอให้วินิจฉัยได้

    หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่ยุบพรรคก้าวไกล หมายความว่าการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง และสังกัดของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ทุกอย่างยังเป็นไปตามปกติ แต่หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล จะมีผลตามมาดังต่อไปนี้

    1. กรรมการบริหารพรรคในขณะที่กระทำความผิดถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี มี 6 คนที่เป็น สส. ปัจจุบัน ประกอบด้วย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคขณะนั้น นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคขณะนั้น น.ส.เบญจา แสงจันทร์ นายสุเทพ อู่อ้น นายอภิชาติ ศิริสุนทร และนายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก

    ส่วน 5 คน ไม่ได้เป็น สส. พรรคแล้ว ประกอบด้วย น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เหรัญญิกพรรค นายณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล นายทะเบียนสมาชิกพรรค นายสมชาย ฝั่งชลจิตร นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล และนายอภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์ (ชุดที่นายชัยธวัชเป็นหัวหน้าพรรค)

    2. สส.บัญชีรายชื่อ หายไป 5 คน จากเดิม 39 คน เหลือ 34 คน ไม่มีการเลื่อนบัญชีขึ้นมาทดแทน เนื่องจากพรรคถูกยุบ ส่วน สส.แบบแบ่งเขต 109 คน ต้องหาสังกัดใหม่ภายใน 60 วัน และจัดการเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 แทนนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง เท่ากับ สส. พรรคก้าวไกล ในฐานะฝ่ายค้านในสภาฯ ลดลงจาก 148 คน เหลือ 143 คน

    (สส. ก้าวไกลลดลงจาก 151 คน เหลือ 148 คน เพราะมี สส. ที่ถูกขับออกจากพรรค 3 คน คือ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา, นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา และนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์)

    ไม่นับรวมมีข่าวว่า สส. บางคนไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นแบบข้ามขั้ว ที่ไม่ใช่พรรคสำรองของพรรคก้าวไกล ตามที่นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ออกมาให้ข่าวโดยอ้างว่ามีนักการเมืองรายหนึ่งเสนอซื้อตัว สส.งูเห่า 20-30 ล้านบาท หากพรรคก้าวไกลถูกยุบ

    3. มีผลต่อกรณีที่นายธีรยุทธ ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อให้ตรวจสอบและเอาผิดจริยธรรมของพรรคก้าวไกล และ สส.พรรคก้าวไกล 44 คนในขณะนั้น ที่ร่วมลงชื่อเสนอแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 แต่ปัจจุบันเหลือ สส. ในสภาที่เคยลงชื่อเพียง 30 คน

    #Newskit #ยุบพรรคก้าวไกล #ศาลรัฐธรรมนูญ
    ยุบพรรคก้าวไกล จะเกิดอะไรขึ้น? 7 สิงหาคม 2567 ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยลงมติและอ่านคำวินิจฉัย คดีที่นายธีรยุทธ สุววรรณเกษร ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ศาลวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2562 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) หลังการพิจารณาคดีใช้เวลา 4 เดือน ที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญ ใช้วิธีรวบรวมพยานหลักฐานให้ผู้เกี่ยวข้องยื่นคำชี้แจง และให้พรรคก้าวไกลยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา โดยพรรคก้าวไกลได้ขอเลื่อนไปแล้ว 3 ครั้ง รวมระยะเวลา 60 วัน กระทั่งวันที่ 17 กรกฎาคม 2567 ที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ สั่งยุติการไต่สวน เนื่องจากเห็นว่าคดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายมีพยานหลักฐานเพียงพอให้วินิจฉัยได้ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่ยุบพรรคก้าวไกล หมายความว่าการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง และสังกัดของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ทุกอย่างยังเป็นไปตามปกติ แต่หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล จะมีผลตามมาดังต่อไปนี้ 1. กรรมการบริหารพรรคในขณะที่กระทำความผิดถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี มี 6 คนที่เป็น สส. ปัจจุบัน ประกอบด้วย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคขณะนั้น นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคขณะนั้น น.ส.เบญจา แสงจันทร์ นายสุเทพ อู่อ้น นายอภิชาติ ศิริสุนทร และนายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก ส่วน 5 คน ไม่ได้เป็น สส. พรรคแล้ว ประกอบด้วย น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เหรัญญิกพรรค นายณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล นายทะเบียนสมาชิกพรรค นายสมชาย ฝั่งชลจิตร นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล และนายอภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์ (ชุดที่นายชัยธวัชเป็นหัวหน้าพรรค) 2. สส.บัญชีรายชื่อ หายไป 5 คน จากเดิม 39 คน เหลือ 34 คน ไม่มีการเลื่อนบัญชีขึ้นมาทดแทน เนื่องจากพรรคถูกยุบ ส่วน สส.แบบแบ่งเขต 109 คน ต้องหาสังกัดใหม่ภายใน 60 วัน และจัดการเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขต 1 แทนนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง เท่ากับ สส. พรรคก้าวไกล ในฐานะฝ่ายค้านในสภาฯ ลดลงจาก 148 คน เหลือ 143 คน (สส. ก้าวไกลลดลงจาก 151 คน เหลือ 148 คน เพราะมี สส. ที่ถูกขับออกจากพรรค 3 คน คือ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา, นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา และนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์) ไม่นับรวมมีข่าวว่า สส. บางคนไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นแบบข้ามขั้ว ที่ไม่ใช่พรรคสำรองของพรรคก้าวไกล ตามที่นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ออกมาให้ข่าวโดยอ้างว่ามีนักการเมืองรายหนึ่งเสนอซื้อตัว สส.งูเห่า 20-30 ล้านบาท หากพรรคก้าวไกลถูกยุบ 3. มีผลต่อกรณีที่นายธีรยุทธ ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อให้ตรวจสอบและเอาผิดจริยธรรมของพรรคก้าวไกล และ สส.พรรคก้าวไกล 44 คนในขณะนั้น ที่ร่วมลงชื่อเสนอแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 แต่ปัจจุบันเหลือ สส. ในสภาที่เคยลงชื่อเพียง 30 คน #Newskit #ยุบพรรคก้าวไกล #ศาลรัฐธรรมนูญ
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 830 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ก่อแก้ว พิกุลทอง”อดีตแกนนำ นปช. ได้เลื่อนขึ้นมาป็น สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย หลังจาก“สุดาวรรณ” ยื่นขอลาออกจาก สส.ปาร์ตี้ลิสต์มุ่งทำงานเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมอย่างเดียว

    3 สิงหาคม 2567-เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสภาผู้แทนราษฎร เรื่องให้ผู้มีชื่ออยู่ในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง เลื่อนขึ้นมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทนตำแหน่งที่ว่าง

    ตามที่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ลงวันที่ 19 มิ.ย.ประกาศให้ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล ผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 21 ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นั้น บัดนี้ น.ส.สุดาวรรณ ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส.ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของ น.ส.สุดาวรรณ สิ้นสุดลง อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 105 (2) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงประกาศให้ผู้มีชื่อในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยลำดับที่ 36 เลื่อนขึ้นมาเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทน คือ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ประกาศ ณ วันที่ 1 ส.ค. ลงนามโดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ

    สำหรับ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ต้องลาออกจากการเป็นสส.บัญชีรายชื่อให้นายก่อแก้ว ที่ได้เลื่อนเป็นสส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายก่อแก้วเคยมีบทบาทเป็นแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และอดีตรักษาการผู้อำนวยการองค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ. )

    #Thaitimes
    “ก่อแก้ว พิกุลทอง”อดีตแกนนำ นปช. ได้เลื่อนขึ้นมาป็น สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย หลังจาก“สุดาวรรณ” ยื่นขอลาออกจาก สส.ปาร์ตี้ลิสต์มุ่งทำงานเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมอย่างเดียว 3 สิงหาคม 2567-เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสภาผู้แทนราษฎร เรื่องให้ผู้มีชื่ออยู่ในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง เลื่อนขึ้นมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ลงวันที่ 19 มิ.ย.ประกาศให้ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล ผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 21 ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นั้น บัดนี้ น.ส.สุดาวรรณ ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส.ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของ น.ส.สุดาวรรณ สิ้นสุดลง อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 105 (2) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงประกาศให้ผู้มีชื่อในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยลำดับที่ 36 เลื่อนขึ้นมาเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทน คือ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ประกาศ ณ วันที่ 1 ส.ค. ลงนามโดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ สำหรับ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ต้องลาออกจากการเป็นสส.บัญชีรายชื่อให้นายก่อแก้ว ที่ได้เลื่อนเป็นสส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายก่อแก้วเคยมีบทบาทเป็นแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และอดีตรักษาการผู้อำนวยการองค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ. ) #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 380 มุมมอง 0 รีวิว