• บูรพาไม่แพ้ Ep.138 : เปิดใจเด็กไทย เรียนมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของจีน
    .
    พอดแคส บูรพาไม่แพ้ ตอนนี้ เราได้คุยกับเด็กไทยคนหนึ่ง ซึ่งไปเรียนที่ประเทศจีนตั้งแต่ชั้นมัธยมต้น และตอนนี้ได้เข้าเรียนที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยชิงหัว ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของจีน เด็กไทยคนนี้ก็คือ “น้องป้อง” ปัณวิทย์ ลิ้มเลิศวาที ลูกชายของพี่หมี ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที พิธีกรรายการ สภากาแฟ ของช่อง NEWS 1
    .
    ทุกวันนี้ ประเทศจีนกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของการศึกษา ไม่แพ้หลายประเทศชาติตะวันตก โดยปัจจุบันมีนักเรียน-นักศึกษาคนไทยไปเรียนที่เมืองจีนมากกว่า 3 หมื่นคน โดยส่วนใหญ่ได้รับทุนการศึกษาจากทั้งหน่วยงานของจีน และของประเทศไทย ซึ่งแตกต่างจากในอดีตอย่างสิ้นเชิง ....
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=etVfT1VI9l8
    .
    #บูรพาไม่แพ้ #เรียนเมืองจีน #ชิงหัว #มหาวิทยาลัยจีน #ป้องปัณวิทย์
    บูรพาไม่แพ้ Ep.138 : เปิดใจเด็กไทย เรียนมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของจีน . พอดแคส บูรพาไม่แพ้ ตอนนี้ เราได้คุยกับเด็กไทยคนหนึ่ง ซึ่งไปเรียนที่ประเทศจีนตั้งแต่ชั้นมัธยมต้น และตอนนี้ได้เข้าเรียนที่คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยชิงหัว ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของจีน เด็กไทยคนนี้ก็คือ “น้องป้อง” ปัณวิทย์ ลิ้มเลิศวาที ลูกชายของพี่หมี ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที พิธีกรรายการ สภากาแฟ ของช่อง NEWS 1 . ทุกวันนี้ ประเทศจีนกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของการศึกษา ไม่แพ้หลายประเทศชาติตะวันตก โดยปัจจุบันมีนักเรียน-นักศึกษาคนไทยไปเรียนที่เมืองจีนมากกว่า 3 หมื่นคน โดยส่วนใหญ่ได้รับทุนการศึกษาจากทั้งหน่วยงานของจีน และของประเทศไทย ซึ่งแตกต่างจากในอดีตอย่างสิ้นเชิง .... . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=etVfT1VI9l8 . #บูรพาไม่แพ้ #เรียนเมืองจีน #ชิงหัว #มหาวิทยาลัยจีน #ป้องปัณวิทย์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เบื้องหลังความเร็วของ Bun Install — เมื่อการติดตั้งแพ็กเกจกลายเป็นงานระบบ ไม่ใช่แค่เรื่อง JavaScript”

    ในโลกของนักพัฒนา JavaScript ที่เคยชินกับการรอ npm install จนกาแฟเย็น Bun ได้เข้ามาเปลี่ยนเกมด้วยความเร็วที่เหนือชั้น โดยเฉลี่ยเร็วกว่า npm ถึง 7 เท่า, pnpm 4 เท่า และ yarn 17 เท่า แต่เบื้องหลังความเร็วนี้ไม่ใช่แค่การเขียนโค้ดให้ดีขึ้น — มันคือการออกแบบใหม่ทั้งหมดในระดับระบบปฏิบัติการ

    Bun มองการติดตั้งแพ็กเกจเป็น “ปัญหาด้านระบบ” มากกว่าปัญหา JavaScript โดยลดการใช้ system call ที่สิ้นเปลือง, ใช้การจัดเก็บข้อมูลแบบ binary, และใช้การคัดลอกไฟล์แบบ native ที่เร็วกว่าเดิมหลายเท่า นอกจากนี้ยังใช้ multi-threading เต็มรูปแบบเพื่อให้ทุก core ของ CPU ทำงานพร้อมกัน ต่างจาก npm ที่ใช้แค่ thread เดียว

    Bun เขียนด้วยภาษา Zig ซึ่งสามารถเรียก system call ได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่าน libuv หรือ event loop แบบ Node.js ทำให้การอ่านไฟล์หรือจัดการเครือข่ายเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และยังใช้เทคนิคเช่น clonefile (macOS) หรือ hardlink (Linux) เพื่อคัดลอกไฟล์โดยไม่ต้องอ่านและเขียนใหม่

    นอกจากนี้ Bun ยังใช้การจัดเก็บข้อมูลแบบ Structure of Arrays แทน Object-based ซึ่งช่วยให้ CPU โหลดข้อมูลได้เร็วขึ้นจาก cache โดยไม่ต้องวิ่งไป RAM บ่อย ๆ และยังมีการจัดการ lockfile แบบ cache-friendly ที่ลดการ parsing JSON ซ้ำซ้อน

    สาเหตุที่ Bun install เร็วกว่าเครื่องมืออื่น
    ลดจำนวน system call ที่สิ้นเปลือง เช่น futex และ epoll
    ใช้ Zig เรียก system call โดยตรง ไม่ผ่าน JavaScript runtime
    ใช้ binary manifest แทน JSON เพื่อลดการ parsing
    ใช้ clonefile (macOS) และ hardlink (Linux) เพื่อคัดลอกไฟล์แบบ O(1)

    การจัดการข้อมูลแบบ cache-friendly
    ใช้ Structure of Arrays แทน Object-based เพื่อเพิ่ม cache locality
    ลด pointer chasing ที่ทำให้ CPU ต้องวิ่งไป RAM บ่อย
    lockfile ของ Bun ใช้รูปแบบที่อ่านเร็วและลดการจัดสรรหน่วยความจำ
    ใช้ string buffer เดียวสำหรับข้อมูลซ้ำ เช่นชื่อแพ็กเกจและเวอร์ชัน

    การใช้ multi-core อย่างเต็มประสิทธิภาพ
    Bun ใช้ thread pool แบบ work-stealing ที่ไม่มีการล็อก
    แต่ละ thread มี memory pool ของตัวเอง ลดการรอการจัดสรร
    network thread แยกจาก CPU thread ทำให้ไม่ต้องรอการดาวน์โหลด
    สามารถประมวลผล package.json ได้มากกว่า 140,000 ไฟล์ต่อวินาที

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Bun ใช้ libdeflate แทน zlib เพื่อการ decompress ที่เร็วขึ้น
    clonefile และ hardlink เป็นเทคนิค copy-on-write ที่ลดการใช้พื้นที่
    Bun install แบบ cached เร็วกว่า npm install แบบ fresh ถึง 196 เท่า
    Bun สามารถใช้ในโปรเจกต์ Node.js ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยน runtime

    https://bun.com/blog/behind-the-scenes-of-bun-install
    ⚙️ “เบื้องหลังความเร็วของ Bun Install — เมื่อการติดตั้งแพ็กเกจกลายเป็นงานระบบ ไม่ใช่แค่เรื่อง JavaScript” ในโลกของนักพัฒนา JavaScript ที่เคยชินกับการรอ npm install จนกาแฟเย็น Bun ได้เข้ามาเปลี่ยนเกมด้วยความเร็วที่เหนือชั้น โดยเฉลี่ยเร็วกว่า npm ถึง 7 เท่า, pnpm 4 เท่า และ yarn 17 เท่า แต่เบื้องหลังความเร็วนี้ไม่ใช่แค่การเขียนโค้ดให้ดีขึ้น — มันคือการออกแบบใหม่ทั้งหมดในระดับระบบปฏิบัติการ Bun มองการติดตั้งแพ็กเกจเป็น “ปัญหาด้านระบบ” มากกว่าปัญหา JavaScript โดยลดการใช้ system call ที่สิ้นเปลือง, ใช้การจัดเก็บข้อมูลแบบ binary, และใช้การคัดลอกไฟล์แบบ native ที่เร็วกว่าเดิมหลายเท่า นอกจากนี้ยังใช้ multi-threading เต็มรูปแบบเพื่อให้ทุก core ของ CPU ทำงานพร้อมกัน ต่างจาก npm ที่ใช้แค่ thread เดียว Bun เขียนด้วยภาษา Zig ซึ่งสามารถเรียก system call ได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่าน libuv หรือ event loop แบบ Node.js ทำให้การอ่านไฟล์หรือจัดการเครือข่ายเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และยังใช้เทคนิคเช่น clonefile (macOS) หรือ hardlink (Linux) เพื่อคัดลอกไฟล์โดยไม่ต้องอ่านและเขียนใหม่ นอกจากนี้ Bun ยังใช้การจัดเก็บข้อมูลแบบ Structure of Arrays แทน Object-based ซึ่งช่วยให้ CPU โหลดข้อมูลได้เร็วขึ้นจาก cache โดยไม่ต้องวิ่งไป RAM บ่อย ๆ และยังมีการจัดการ lockfile แบบ cache-friendly ที่ลดการ parsing JSON ซ้ำซ้อน ✅ สาเหตุที่ Bun install เร็วกว่าเครื่องมืออื่น ➡️ ลดจำนวน system call ที่สิ้นเปลือง เช่น futex และ epoll ➡️ ใช้ Zig เรียก system call โดยตรง ไม่ผ่าน JavaScript runtime ➡️ ใช้ binary manifest แทน JSON เพื่อลดการ parsing ➡️ ใช้ clonefile (macOS) และ hardlink (Linux) เพื่อคัดลอกไฟล์แบบ O(1) ✅ การจัดการข้อมูลแบบ cache-friendly ➡️ ใช้ Structure of Arrays แทน Object-based เพื่อเพิ่ม cache locality ➡️ ลด pointer chasing ที่ทำให้ CPU ต้องวิ่งไป RAM บ่อย ➡️ lockfile ของ Bun ใช้รูปแบบที่อ่านเร็วและลดการจัดสรรหน่วยความจำ ➡️ ใช้ string buffer เดียวสำหรับข้อมูลซ้ำ เช่นชื่อแพ็กเกจและเวอร์ชัน ✅ การใช้ multi-core อย่างเต็มประสิทธิภาพ ➡️ Bun ใช้ thread pool แบบ work-stealing ที่ไม่มีการล็อก ➡️ แต่ละ thread มี memory pool ของตัวเอง ลดการรอการจัดสรร ➡️ network thread แยกจาก CPU thread ทำให้ไม่ต้องรอการดาวน์โหลด ➡️ สามารถประมวลผล package.json ได้มากกว่า 140,000 ไฟล์ต่อวินาที ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Bun ใช้ libdeflate แทน zlib เพื่อการ decompress ที่เร็วขึ้น ➡️ clonefile และ hardlink เป็นเทคนิค copy-on-write ที่ลดการใช้พื้นที่ ➡️ Bun install แบบ cached เร็วกว่า npm install แบบ fresh ถึง 196 เท่า ➡️ Bun สามารถใช้ในโปรเจกต์ Node.js ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยน runtime https://bun.com/blog/behind-the-scenes-of-bun-install
    BUN.COM
    Behind The Scenes of Bun Install
    Learn how Bun is able to cut install times by up to 25×. Bun skips Node.js's overhead with direct system calls, cache-friendly data layouts, OS-level copy-on-write, and full-core parallelism.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำธุรกิจต้องไว! เครื่องบดถ้วยรุ่น 500 กรัม BONNY ตัวเดียวจบทุกงาน!
    การทำผงวัตถุดิบแห้งให้ได้คุณภาพไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป! เครื่องบดถ้วยรุ่น 500 กรัม BONNY ช่วยให้การทำงานของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว
    - ทรงพลัง: กำลังไฟ 1,400W บดได้ละเอียดทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพร เมล็ดกาแฟ หรือธัญพืช
    - รวดเร็ว: ความเร็ว 25,000 รอบ/นาที ประหยัดเวลาทำงาน เพิ่มกำลังการผลิต
    - คุ้มค่า: ความจุ 500g เหมาะสำหรับงานหลากหลาย ตอบโจทย์ธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง
    ลงทุนครั้งเดียว แต่คุ้มค่าเกินราคาแน่นอน!
    ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน
    แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7
    แชท Facebook: m.me/yonghahheng
    LINE Business ID: @588okjbj (มี @ ข้างหน้า) หรือ https://lin.ee/HV4lSKp
    โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-318-9098
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    E-mail: sales@yoryonghahheng.com และ yonghahheng@gmail.com
    เวลาเปิดทำการ:
    จันทร์ - ศุกร์: 8.00 - 17.00 น.
    เสาร์: 8.00 - 16.00 น.
    #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY #เครื่องบดสมุนไพร #บดแห้ง #เครื่องบดยา #ผงสมุนไพร #เครื่องบดอาหารแห้ง #เครื่องบดความเร็วสูง #ธุรกิจขนาดเล็ก #อุปกรณ์ทำอาหาร #สมุนไพร #เครื่องเทศ #เครื่องบดละเอียด #เครื่องบดอเนกประสงค์ #เครื่องบดพริก #เครื่องบดกาแฟ #เครื่องบดธัญพืช #เครื่องบดสมุนไพรผง #เครื่องบดสแตนเลส #เครื่องบดไฟฟ้า #เครื่องบดเมล็ดพืช #เครื่องบดวัตถุดิบ #เครื่องบดเครื่องเทศ #บดผง #อุปกรณ์ทำครัว #เครื่องบด #เครื่องบดอาหาร #ของแห้ง
    ทำธุรกิจต้องไว! 🚀 เครื่องบดถ้วยรุ่น 500 กรัม BONNY ตัวเดียวจบทุกงาน! การทำผงวัตถุดิบแห้งให้ได้คุณภาพไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป! เครื่องบดถ้วยรุ่น 500 กรัม BONNY ช่วยให้การทำงานของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว 💨 - ทรงพลัง: กำลังไฟ 1,400W บดได้ละเอียดทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพร เมล็ดกาแฟ หรือธัญพืช 🌾 - รวดเร็ว: ความเร็ว 25,000 รอบ/นาที ประหยัดเวลาทำงาน เพิ่มกำลังการผลิต 📈 - คุ้มค่า: ความจุ 500g เหมาะสำหรับงานหลากหลาย ตอบโจทย์ธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง 👍 ลงทุนครั้งเดียว แต่คุ้มค่าเกินราคาแน่นอน! ✨ ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 📍 แชท Facebook: m.me/yonghahheng 💬 LINE Business ID: @588okjbj (มี @ ข้างหน้า) หรือ https://lin.ee/HV4lSKp 📱 โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-318-9098 📞 เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com 💻 E-mail: sales@yoryonghahheng.com และ yonghahheng@gmail.com 📧 เวลาเปิดทำการ: จันทร์ - ศุกร์: 8.00 - 17.00 น. เสาร์: 8.00 - 16.00 น. #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY #เครื่องบดสมุนไพร #บดแห้ง #เครื่องบดยา #ผงสมุนไพร #เครื่องบดอาหารแห้ง #เครื่องบดความเร็วสูง #ธุรกิจขนาดเล็ก #อุปกรณ์ทำอาหาร #สมุนไพร #เครื่องเทศ #เครื่องบดละเอียด #เครื่องบดอเนกประสงค์ #เครื่องบดพริก #เครื่องบดกาแฟ #เครื่องบดธัญพืช #เครื่องบดสมุนไพรผง #เครื่องบดสแตนเลส #เครื่องบดไฟฟ้า #เครื่องบดเมล็ดพืช #เครื่องบดวัตถุดิบ #เครื่องบดเครื่องเทศ #บดผง #อุปกรณ์ทำครัว #เครื่องบด #เครื่องบดอาหาร #ของแห้ง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลนี้คนไทยก็ไร้ความหวัง "ประเทศไทยอาจมีสภาพเหมือนอินโดนีเซีย ประชาชนสุดจะทนกับนักการเมืองแล้ว...ผลประโยชน์ฯลฯ#นักการเมืองเราจะมีไว้ทำไม?"ประเทศมีสงคราม ประชาชนกับทหารช่วยกัน น้ำท่วมทหาร&กลุ่มอาสาฯลฯช่วยกัน ไม่มีนักการเมืองหน้าไหนเลยออกมาช่วยเหลือประชาชน"ทหารเขาก็เป็นประชาชนคนหนึ่งเหมือนกันเดินแช่น้ำเป็นวันๆจนเท้าเลือดออก เป็นเบาหวานเท้าเป็นแผลอาจสูญเสียขาได้เหมือนกัน "มีไหมพวกที่ชอบอ้าง'ปชช.11/14ล้านเสียง. ที่เลือกพวกคุณเข้าไปรับเงินเดือนกันเป็นแสน ค่าอาหารวันละ1พันบาท.ค่ายานพาหนะฟรีฯลฯ ออกมาช่วยประชาชนบ้างไหม ชายแดนคนไทยตายไม่มีใครสักคนออกมาประนามกัมพูชาเรื่องมนุษยธรรม ยิงใส่บ้านเรือนคนอพยพเป็นแสนมองไม่เห็น "ทหารกัมพูชาฆ่าคนไทยบอกต้องรับมารักษา เด็กกัมพูชาเหยียบธงชาติไทยบอกต้องให้สิทธิได้เรียนอ้างสิทธิสารพัด บล่าๆๆ🗣#กับคนไทยด้วยกับเงียบกริปมองไม่เห็น #เราขออยู่แบบไม่มีนักการเมืองดีกว่า ชายแดนไทย-เขมร "จะทำกำแพงล้อมรั้วลวดหนามคัดค้านกันจังทำไม??มันมีผลประโยชน์อะไรนักหรือ เพื่อนบ้านเลวกั้นรั้วถาวรไปเลยดีแล้วไว้ใจไม่ได้ ต่างคนต่างอยู่ถ้าจะเข้ามาก็ต้องมีหนังสือเข้าออกตามกฎหมาย ขนาดคุณวีระเดินอยู่บนแผ่นดินไทยยังโดนจับไปขังคุกตั้งหลายปีบรรพบุรุษเราสอนไว้แล้วว่าอย่าไว้ใจ"พวกละแวกมันชอบหักหลัง"ดูซิจีนช่วยหักหลังจีนไปจับมือเมกา..คนแบบนี้คบได้หรือ?"มีแต่ขอๆๆแต่ประเทศไม่ได้พัฒนาไปไหนเลย ผู้นำรวยมหาศาลประชาชนยากจนเข็นใจ แค่ห้องน้ำยังไม่มีคนต้องฉี่ใส่กำแพงวังอนาถแท้ๆประชาชนเขาถูกสอนฝังหัวในแบบเรียนเลยว่า"เสียม(สยาม)รุกรานปล้นสมบัติเขามา คนอยู่ในประเทศถูกปิดหูปิดตาก็พอเข้าใจได้ แต่เขมรนอกประเทศที่สามารถค้นคว้าหาข้อมูลที่แท้จริงได้ก็เปล่า เป็นเหมือนกันหมดฝังหัวข้อมูลเท็จกันมานาน#เราอย่าทิ้งมรดกบาปไว้ให้ลูกหลานต้องมารบฆ่าฟันกันในภายภาคหน้าเลย#เงินทองจะเอาไปไหนนักหนา #เกียรติยศศักดิ์ศรีเงินซื้อไม่ได้นะแม่ทัพภาค2พูดน่ะถูกต้องแล้ววันหนึ่งกินไม่ถึง300บ.ชีวิตก็นับถอยหลังแล้วที่มีก็พอแล้ว.."นกม.ไม่เคยพออุดมการณ์มันไม่เคยมีอยู่จริงอาสามารับใช้ชาติปากเป็นมัน"#หนูมีเล็กน้อยหนูก็บริจาคช่วยซื้อแอนตี้โดรนตามกำลังเพื่อเชฟชีวิตทหารๆของเรา ถ้าจะล้อมรั้วทำกำแพงก็จะร่วมบริจาค ต่อให้ไม่มีก็จะขายทองให้เลย ไม่มีแผ่นดินเราก็ไม่มีชีวิตหรอก""นกม.อย่าให้ประชาชนสุดทนจะเป็นแบบอินโดนีเซียๆดีนะทหารเขาอยู่ข้างประชาชน"ตอนนี้เงินเฟ้อข้าวของแพงไปหมด ถ้าอเมริกาล้มไทยมีผลกระทบแน่ไทยเราก็ถือเงินดอลล่าร์ไว้เยอะซะด้วย"พิมพ์เงินเป็นว่าเล่นเลยๆจะเป็นกระดาษเปล่าๆไร้ค่าแบบเวเนฯเงินตกเกลื่อนถนนคนยังไม่เก็บเลยเวเนฯทำงานทั้งวันซื้อใข่แพงเดียวยังไม่ได้เลย กาแฟแก้วละ6,000บาท."ไทยกินกาแฟเอสแก้วล่ะ45-50บ.ยังได้อยู่#คนอินโดนีเซียสุดยอดจริงๆบุกเข้าไปถึงในบ้านนักการเมืองเลย
    รัฐบาลนี้คนไทยก็ไร้ความหวัง "ประเทศไทยอาจมีสภาพเหมือนอินโดนีเซีย ประชาชนสุดจะทนกับนักการเมืองแล้ว🤚📣...ผลประโยชน์ฯลฯ#นักการเมืองเราจะมีไว้ทำไม?"ประเทศมีสงคราม ประชาชนกับทหารช่วยกัน น้ำท่วมทหาร&กลุ่มอาสาฯลฯช่วยกัน ไม่มีนักการเมืองหน้าไหนเลยออกมาช่วยเหลือประชาชน"ทหารเขาก็เป็นประชาชนคนหนึ่งเหมือนกันเดินแช่น้ำเป็นวันๆจนเท้าเลือดออก เป็นเบาหวานเท้าเป็นแผลอาจสูญเสียขาได้เหมือนกัน "มีไหมพวกที่ชอบอ้าง'ปชช.11/14ล้านเสียง. ที่เลือกพวกคุณเข้าไปรับเงินเดือนกันเป็นแสน ค่าอาหารวันละ1พันบาท.ค่ายานพาหนะฟรีฯลฯ ออกมาช่วยประชาชนบ้างไหม ชายแดนคนไทยตายไม่มีใครสักคนออกมาประนามกัมพูชาเรื่องมนุษยธรรม ยิงใส่บ้านเรือนคนอพยพเป็นแสนมองไม่เห็น "ทหารกัมพูชาฆ่าคนไทยบอกต้องรับมารักษา เด็กกัมพูชาเหยียบธงชาติไทยบอกต้องให้สิทธิได้เรียนอ้างสิทธิสารพัด บล่าๆๆ🗣#กับคนไทยด้วยกับเงียบกริป🙊🙉🙈มองไม่เห็น #เราขออยู่แบบไม่มีนักการเมืองดีกว่า ชายแดนไทย-เขมร "จะทำกำแพงล้อมรั้วลวดหนามคัดค้านกันจังทำไม??มันมีผลประโยชน์อะไรนักหรือ เพื่อนบ้านเลวกั้นรั้วถาวรไปเลยดีแล้วไว้ใจไม่ได้ ต่างคนต่างอยู่ถ้าจะเข้ามาก็ต้องมีหนังสือเข้าออกตามกฎหมาย ขนาดคุณวีระเดินอยู่บนแผ่นดินไทยยังโดนจับไปขังคุกตั้งหลายปีบรรพบุรุษเราสอนไว้แล้วว่าอย่าไว้ใจ"พวกละแวกมันชอบหักหลัง"ดูซิจีนช่วยหักหลังจีนไปจับมือเมกา..คนแบบนี้คบได้หรือ?"มีแต่ขอๆๆแต่ประเทศไม่ได้พัฒนาไปไหนเลย ผู้นำรวยมหาศาลประชาชนยากจนเข็นใจ แค่ห้องน้ำยังไม่มีคนต้องฉี่ใส่กำแพงวังอนาถแท้ๆประชาชนเขาถูกสอนฝังหัวในแบบเรียนเลยว่า"เสียม(สยาม)รุกรานปล้นสมบัติเขามา คนอยู่ในประเทศถูกปิดหูปิดตาก็พอเข้าใจได้ แต่เขมรนอกประเทศที่สามารถค้นคว้าหาข้อมูลที่แท้จริงได้ก็เปล่า เป็นเหมือนกันหมดฝังหัวข้อมูลเท็จกันมานาน#เราอย่าทิ้งมรดกบาปไว้ให้ลูกหลานต้องมารบฆ่าฟันกันในภายภาคหน้าเลย#เงินทองจะเอาไปไหนนักหนา #เกียรติยศศักดิ์ศรีเงินซื้อไม่ได้นะแม่ทัพภาค2พูดน่ะถูกต้องแล้ววันหนึ่งกินไม่ถึง300บ.ชีวิตก็นับถอยหลังแล้วที่มีก็พอแล้ว.."นกม.ไม่เคยพออุดมการณ์มันไม่เคยมีอยู่จริงอาสามารับใช้ชาติปากเป็นมัน"#หนูมีเล็กน้อยหนูก็บริจาคช่วยซื้อแอนตี้โดรนตามกำลังเพื่อเชฟชีวิตทหารๆของเรา ถ้าจะล้อมรั้วทำกำแพงก็จะร่วมบริจาค ต่อให้ไม่มีก็จะขายทองให้เลย ไม่มีแผ่นดินเราก็ไม่มีชีวิตหรอก""นกม.อย่าให้ประชาชนสุดทนจะเป็นแบบอินโดนีเซียๆดีนะทหารเขาอยู่ข้างประชาชน"ตอนนี้เงินเฟ้อข้าวของแพงไปหมด ถ้าอเมริกาล้มไทยมีผลกระทบแน่ไทยเราก็ถือเงินดอลล่าร์ไว้เยอะซะด้วย"พิมพ์เงินเป็นว่าเล่นเลยๆจะเป็นกระดาษเปล่าๆไร้ค่าแบบเวเนฯเงินตกเกลื่อนถนนคนยังไม่เก็บเลยเวเนฯทำงานทั้งวันซื้อใข่แพงเดียวยังไม่ได้เลย กาแฟแก้วละ6,000บาท."ไทยกินกาแฟเอสแก้วล่ะ45-50บ.ยังได้อยู่#คนอินโดนีเซียสุดยอดจริงๆบุกเข้าไปถึงในบ้านนักการเมืองเลย
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • ว่าที่สตรีหมายเลข1"จ๋า ธนนนท์" ภรรยา "อนุทิน" : [News story]

    ทำความรู้จัก "จ๋า ธนนนท์ นิรามิษ" ภรรยาของ "อนุทิน ชาญวีรกูล" เจ้าของธุรกิจร้านกาแฟ สู่ว่าที่สตรีหมายเลข 1 ของไทย
    ว่าที่สตรีหมายเลข1"จ๋า ธนนนท์" ภรรยา "อนุทิน" : [News story] ทำความรู้จัก "จ๋า ธนนนท์ นิรามิษ" ภรรยาของ "อนุทิน ชาญวีรกูล" เจ้าของธุรกิจร้านกาแฟ สู่ว่าที่สตรีหมายเลข 1 ของไทย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 319 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก NomadGo: เมื่อการนับของในร้านกลายเป็นงานของ AI ที่ไม่เคยเหนื่อย

    Starbucks ประกาศในเดือนกันยายน 2025 ว่าจะนำระบบนับสินค้าด้วย AI ไปใช้ในร้านที่บริษัทเป็นเจ้าของกว่า 11,000 แห่งทั่วอเมริกาเหนือภายในสิ้นเดือนนี้ โดยใช้แท็บเล็ตที่ติดตั้งซอฟต์แวร์จากบริษัท NomadGo ซึ่งสามารถสแกนชั้นวางสินค้าและนับจำนวนของอัตโนมัติ พร้อมแจ้งเตือนเมื่อสินค้าใกล้หมด เช่น cold foam, oat milk หรือ caramel drizzle

    Deb Hall Lefevre, CTO ของ Starbucks ระบุว่า ระบบนี้ช่วยให้พนักงานใช้เวลาน้อยลงในห้องเก็บของ และมีเวลามากขึ้นในการชงกาแฟและพูดคุยกับลูกค้า โดยระบบนี้ทำให้การนับสต็อกเกิดขึ้นบ่อยขึ้นถึง 8 เท่าเมื่อเทียบกับวิธีเดิม

    NomadGo ใช้เทคโนโลยีผสมผสานระหว่าง 3D spatial intelligence, computer vision และ augmented reality เพื่อให้แท็บเล็ตสามารถ “มองเห็น” และเข้าใจสิ่งที่อยู่บนชั้นวางได้แบบเรียลไทม์

    นอกจากระบบนับสต็อกแล้ว Starbucks ยังได้เปิดตัว Green Dot Assist ซึ่งเป็นผู้ช่วยเสมือนสำหรับพนักงาน และ Smart Queue ที่ใช้ AI เพื่อจัดลำดับการเตรียมเครื่องดื่มให้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับปรุงซัพพลายเชนและประสบการณ์ลูกค้าด้วย AI

    การใช้งาน AI ในการนับสต็อก
    ใช้แท็บเล็ตสแกนชั้นวางสินค้าและนับจำนวนอัตโนมัติ
    แจ้งเตือนเมื่อสินค้าใกล้หมด เช่น cold foam, oat milk, caramel drizzle
    เพิ่มความถี่ในการนับสต็อกมากขึ้นถึง 8 เท่า

    เทคโนโลยีของ NomadGo
    ใช้ 3D spatial intelligence, computer vision และ augmented reality
    ทำให้แท็บเล็ตสามารถเข้าใจสิ่งของในพื้นที่จริงได้แบบเรียลไทม์
    เคยให้บริการกับร้านแฟรนไชส์ของ Taco Bell และ KFC

    ผลกระทบต่อการทำงานในร้าน
    พนักงานใช้เวลาน้อยลงในห้องเก็บของ
    มีเวลามากขึ้นในการชงกาแฟและพูดคุยกับลูกค้า
    เพิ่มความแม่นยำในการเติมสินค้าและลดของขาด

    เทคโนโลยีอื่นที่ Starbucks ใช้ร่วมกัน
    Green Dot Assist: ผู้ช่วยเสมือนสำหรับพนักงาน
    Smart Queue: ระบบจัดลำดับการเตรียมเครื่องดื่มด้วย AI
    ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของแผนปรับปรุงซัพพลายเชนและประสบการณ์ลูกค้า

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/03/starbucks-rolls-out-ai-for-inventory-counting
    🎙️ เรื่องเล่าจาก NomadGo: เมื่อการนับของในร้านกลายเป็นงานของ AI ที่ไม่เคยเหนื่อย Starbucks ประกาศในเดือนกันยายน 2025 ว่าจะนำระบบนับสินค้าด้วย AI ไปใช้ในร้านที่บริษัทเป็นเจ้าของกว่า 11,000 แห่งทั่วอเมริกาเหนือภายในสิ้นเดือนนี้ โดยใช้แท็บเล็ตที่ติดตั้งซอฟต์แวร์จากบริษัท NomadGo ซึ่งสามารถสแกนชั้นวางสินค้าและนับจำนวนของอัตโนมัติ พร้อมแจ้งเตือนเมื่อสินค้าใกล้หมด เช่น cold foam, oat milk หรือ caramel drizzle Deb Hall Lefevre, CTO ของ Starbucks ระบุว่า ระบบนี้ช่วยให้พนักงานใช้เวลาน้อยลงในห้องเก็บของ และมีเวลามากขึ้นในการชงกาแฟและพูดคุยกับลูกค้า โดยระบบนี้ทำให้การนับสต็อกเกิดขึ้นบ่อยขึ้นถึง 8 เท่าเมื่อเทียบกับวิธีเดิม NomadGo ใช้เทคโนโลยีผสมผสานระหว่าง 3D spatial intelligence, computer vision และ augmented reality เพื่อให้แท็บเล็ตสามารถ “มองเห็น” และเข้าใจสิ่งที่อยู่บนชั้นวางได้แบบเรียลไทม์ นอกจากระบบนับสต็อกแล้ว Starbucks ยังได้เปิดตัว Green Dot Assist ซึ่งเป็นผู้ช่วยเสมือนสำหรับพนักงาน และ Smart Queue ที่ใช้ AI เพื่อจัดลำดับการเตรียมเครื่องดื่มให้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับปรุงซัพพลายเชนและประสบการณ์ลูกค้าด้วย AI ✅ การใช้งาน AI ในการนับสต็อก ➡️ ใช้แท็บเล็ตสแกนชั้นวางสินค้าและนับจำนวนอัตโนมัติ ➡️ แจ้งเตือนเมื่อสินค้าใกล้หมด เช่น cold foam, oat milk, caramel drizzle ➡️ เพิ่มความถี่ในการนับสต็อกมากขึ้นถึง 8 เท่า ✅ เทคโนโลยีของ NomadGo ➡️ ใช้ 3D spatial intelligence, computer vision และ augmented reality ➡️ ทำให้แท็บเล็ตสามารถเข้าใจสิ่งของในพื้นที่จริงได้แบบเรียลไทม์ ➡️ เคยให้บริการกับร้านแฟรนไชส์ของ Taco Bell และ KFC ✅ ผลกระทบต่อการทำงานในร้าน ➡️ พนักงานใช้เวลาน้อยลงในห้องเก็บของ ➡️ มีเวลามากขึ้นในการชงกาแฟและพูดคุยกับลูกค้า ➡️ เพิ่มความแม่นยำในการเติมสินค้าและลดของขาด ✅ เทคโนโลยีอื่นที่ Starbucks ใช้ร่วมกัน ➡️ Green Dot Assist: ผู้ช่วยเสมือนสำหรับพนักงาน ➡️ Smart Queue: ระบบจัดลำดับการเตรียมเครื่องดื่มด้วย AI ➡️ ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของแผนปรับปรุงซัพพลายเชนและประสบการณ์ลูกค้า https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/03/starbucks-rolls-out-ai-for-inventory-counting
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Starbucks rolls out AI for inventory counting
    -Starbucks is rolling out a new system for counting inventory that uses artificial intelligence technology to its more than 11,000 company-owned stores in North America by the end of September, the global coffee chain announced on Wednesday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • สตาร์บัคส์มาเลเซียอ่วม หางเลขบอยคอตขาดทุนยับ

    กิจกรรมคว่ำบาตรจากเหตุความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ส่งผลทำให้ร้านกาแฟสัญชาติอเมริกัน สตาร์บัคส์ (Starbucks) ในประเทศมาเลเซีย ภายใต้การบริหารงานของเบอร์จายา ฟู้ด เบอร์ฮัด (Berjaya Food Berhad) ธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มเบอร์จายา คอร์ปอเรชัน (Berjaya Corporation) ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดรายงานผลประกอบการไปยังตลาดหลักทรัพย์เบอร์ซามาเลเซีย (Bursa Malaysia) ว่า งบการเงินปี 2025 มีรายได้รวม 476.770 ล้านริงกิต ขาดทุน 291.99 ล้านริงกิต (ประมาณ 2,232.37 ล้านบาท) ซึ่งเป็นสถิติสูงสุด เทียบกับงบการเงินปี 2024 เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2567 ที่มีรายได้รวม 750.70 ล้านบาท ขาดทุน 90.92 ล้านริงกิต

    สาเหตุหลักมาจากผลกระทบที่ยืดเยื้อ ของกระแสความรู้สึกที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ซึ่งส่งผลต่อพลวัตของตลาดและรูปแบบการใช้จ่ายของผู้บริโภค นับจากนี้จะมุ่งเน้นกระจายตลาดทั้งในและต่างประเทศ (ซึ่งบริหารร้านสตาร์บัคส์ในประเทศบรูไน และไอซ์แลนด์) พร้อมกับปรับโครงสร้างร้านค้าในประเทศ ใช้นวัตกรรมควบคู่กับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล และการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น มุ่งเน้นการขยายตัวในด้านดิจิทัลและโซเชียลมีเดีย ควบคู่กับประสบการณ์ร้านค้าที่มีชีวิต

    ที่ผ่านมา สตาร์บัคส์ มาเลเซีย ได้รับผลกระทบจากกรณีบริษัทแม่ในสหรัฐอเมริกา ฟ้องร้องสหภาพแรงงานสตาร์บัคส์ กรณีโพสต์ข้อความสนับสนุนปาเลสไตน์ จากเหตุปะทะกับอิสราเอลในฉนวนกาซาเมื่อปี 2566 ทำให้เกิดกิจกรรมคว่ำบาตรไปทั่วโลก แม้แต่มาเลเซียซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ก็ได้รับอิทธิพลจากการรณรงค์ในครั้งนี้ ส่งผลให้รายได้ลดลง ต้องทยอยปิดสาขาที่รายได้ลดลง แม้ผู้ก่อตั้งกลุ่มเบอร์จายาอย่างวินเซนต์ ตัน (Vincent Tan) จะขอร้องให้ทบทวน ย้ำว่าผู้บริหารร้านเป็นบริษัทมาเลเซีย และพนักงาน 85% เป็นชาวมุสลิม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังบริจาคเงิน 1 ล้านริงกิตแก่กองทุนเพื่อมนุษยธรรมของชาวปาเลสไตน์ (AAKRP) ของรัฐบาลมาเลเซียอีกด้วย

    ร้านสตาร์บัคส์ มาเลเซีย เปิดสาขาแรกเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2541 ที่ศูนย์การค้าเคแอล พลาซา ย่านบูกิตบินตัง (ปัจจุบันคือ ศูนย์การค้าฟาเรนไฮต์ 88) ก่อนขยายสาขาไปทั่วประเทศ กระทั่งในปี 2567 มีจำนวนสาขารวม 408 แห่ง ซึ่งเบอร์จายา ฟู้ด เบอร์ฮัด ยังเป็นผู้บริหารร้านอาหารเคนนี่ โรเจอร์ โรสเตอร์, ร้านคริสปี้ ครีม, ร้านปารีสบาแก็ต, ร้านจอยบีน และร้านเคลาวา นอกจากนี้ กลุ่มเบอร์จายา ยังเป็นผู้บริหารร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น (7-Eleven) ในมาเลเซีย ปัจจุบันมีจำนวนสาขารวม 2,646 แห่ง

    #Newskit
    สตาร์บัคส์มาเลเซียอ่วม หางเลขบอยคอตขาดทุนยับ กิจกรรมคว่ำบาตรจากเหตุความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ส่งผลทำให้ร้านกาแฟสัญชาติอเมริกัน สตาร์บัคส์ (Starbucks) ในประเทศมาเลเซีย ภายใต้การบริหารงานของเบอร์จายา ฟู้ด เบอร์ฮัด (Berjaya Food Berhad) ธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มเบอร์จายา คอร์ปอเรชัน (Berjaya Corporation) ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดรายงานผลประกอบการไปยังตลาดหลักทรัพย์เบอร์ซามาเลเซีย (Bursa Malaysia) ว่า งบการเงินปี 2025 มีรายได้รวม 476.770 ล้านริงกิต ขาดทุน 291.99 ล้านริงกิต (ประมาณ 2,232.37 ล้านบาท) ซึ่งเป็นสถิติสูงสุด เทียบกับงบการเงินปี 2024 เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2567 ที่มีรายได้รวม 750.70 ล้านบาท ขาดทุน 90.92 ล้านริงกิต สาเหตุหลักมาจากผลกระทบที่ยืดเยื้อ ของกระแสความรู้สึกที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ซึ่งส่งผลต่อพลวัตของตลาดและรูปแบบการใช้จ่ายของผู้บริโภค นับจากนี้จะมุ่งเน้นกระจายตลาดทั้งในและต่างประเทศ (ซึ่งบริหารร้านสตาร์บัคส์ในประเทศบรูไน และไอซ์แลนด์) พร้อมกับปรับโครงสร้างร้านค้าในประเทศ ใช้นวัตกรรมควบคู่กับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล และการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น มุ่งเน้นการขยายตัวในด้านดิจิทัลและโซเชียลมีเดีย ควบคู่กับประสบการณ์ร้านค้าที่มีชีวิต ที่ผ่านมา สตาร์บัคส์ มาเลเซีย ได้รับผลกระทบจากกรณีบริษัทแม่ในสหรัฐอเมริกา ฟ้องร้องสหภาพแรงงานสตาร์บัคส์ กรณีโพสต์ข้อความสนับสนุนปาเลสไตน์ จากเหตุปะทะกับอิสราเอลในฉนวนกาซาเมื่อปี 2566 ทำให้เกิดกิจกรรมคว่ำบาตรไปทั่วโลก แม้แต่มาเลเซียซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ก็ได้รับอิทธิพลจากการรณรงค์ในครั้งนี้ ส่งผลให้รายได้ลดลง ต้องทยอยปิดสาขาที่รายได้ลดลง แม้ผู้ก่อตั้งกลุ่มเบอร์จายาอย่างวินเซนต์ ตัน (Vincent Tan) จะขอร้องให้ทบทวน ย้ำว่าผู้บริหารร้านเป็นบริษัทมาเลเซีย และพนักงาน 85% เป็นชาวมุสลิม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังบริจาคเงิน 1 ล้านริงกิตแก่กองทุนเพื่อมนุษยธรรมของชาวปาเลสไตน์ (AAKRP) ของรัฐบาลมาเลเซียอีกด้วย ร้านสตาร์บัคส์ มาเลเซีย เปิดสาขาแรกเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2541 ที่ศูนย์การค้าเคแอล พลาซา ย่านบูกิตบินตัง (ปัจจุบันคือ ศูนย์การค้าฟาเรนไฮต์ 88) ก่อนขยายสาขาไปทั่วประเทศ กระทั่งในปี 2567 มีจำนวนสาขารวม 408 แห่ง ซึ่งเบอร์จายา ฟู้ด เบอร์ฮัด ยังเป็นผู้บริหารร้านอาหารเคนนี่ โรเจอร์ โรสเตอร์, ร้านคริสปี้ ครีม, ร้านปารีสบาแก็ต, ร้านจอยบีน และร้านเคลาวา นอกจากนี้ กลุ่มเบอร์จายา ยังเป็นผู้บริหารร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น (7-Eleven) ในมาเลเซีย ปัจจุบันมีจำนวนสาขารวม 2,646 แห่ง #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 285 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เวียดนาม #บานาฮิลล์ อย่างจึ้ง!! 6,994
    พัก 4 ดาว รวมทิปไกด์ ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม

    🗓 จำนวนวัน 3วัน 2คืน
    ✈ VZ-ไทยเวียดเจ็ท แอร์
    พักโรงแรม

    สะพานมือยักษ์
    บานาฮิลล์
    POP MART
    เมืองโบราณฮอยอัน
    นั่งเรือกระด้ง
    วัดหลิ๋นอึ๋ง
    ร้านกาแฟ Son Tra Marina

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์เวียดนาม #vietnam #ทัวร์บานาฮิลล์ #banahills #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    #เวียดนาม #บานาฮิลล์ อย่างจึ้ง!! 6,994🔥🔥 พัก 4 ดาว ✨ รวมทิปไกด์ ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ✨ 🗓 จำนวนวัน 3วัน 2คืน ✈ VZ-ไทยเวียดเจ็ท แอร์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐⭐ 📍 สะพานมือยักษ์ 📍 บานาฮิลล์ 📍 POP MART 📍 เมืองโบราณฮอยอัน 📍 นั่งเรือกระด้ง 📍 วัดหลิ๋นอึ๋ง 📍 ร้านกาแฟ Son Tra Marina รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์เวียดนาม #vietnam #ทัวร์บานาฮิลล์ #banahills #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 350 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • #เวียดนาม #บานาฮิลล์ อย่างจึ้ง!! 4,994

    🗓 จำนวนวัน 3วัน 2คืน
    ✈ VZ-ไทยเวียดเจ็ท แอร์
    พักโรงแรม

    สะพานมือยักษ์
    บานาฮิลล์
    POP MART
    เมืองโบราณฮอยอัน
    นั่งเรือกระด้ง
    วัดหลิ๋นอึ๋ง
    ร้านกาแฟ Son Tra Marina

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์เวียดนาม #vietnam #ทัวร์บานาฮิลล์ #banahills #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    #เวียดนาม #บานาฮิลล์ อย่างจึ้ง!! 4,994 🔥🔥 🗓 จำนวนวัน 3วัน 2คืน ✈ VZ-ไทยเวียดเจ็ท แอร์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 สะพานมือยักษ์ 📍 บานาฮิลล์ 📍 POP MART 📍 เมืองโบราณฮอยอัน 📍 นั่งเรือกระด้ง 📍 วัดหลิ๋นอึ๋ง 📍 ร้านกาแฟ Son Tra Marina รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์เวียดนาม #vietnam #ทัวร์บานาฮิลล์ #banahills #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 372 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • กาแฟแล้วแต่จะจ่าย เพื่อโรงเรียนน้องๆในจังหวัดพิษณุโลก
    กาแฟแล้วแต่จะจ่าย เพื่อโรงเรียนน้องๆในจังหวัดพิษณุโลก
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • เวียดนาม ซื้อ 1 แถม 1
    หน้าพาส + พร้อมโอนเท่านั้น
    ราคาเริ่มต้นเพียง 11,111 บาท
    เฉลี่ยเพียงคนละ 5,555 บาท เท่านั้น!!

    🗓 จำนวนวัน 3วัน 2คืน
    ✈ FD-แอร์เอเชีย
    พักโรงแรม &

    บานาฮิลล์
    สะพานมือยักษ์
    Apec Park
    นั่งเรือกระด้ง
    สะพานแห่งความรัก
    สะพานมังกร
    วัดหลิ๋นอึ๋ง
    ร้านกาแฟ Son Tra Marina

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์เวียดนาม #vietnam #ทัวร์บานาฮิลล์ #banahills #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    💥 เวียดนาม ซื้อ 1 แถม 1 💥 ✨ หน้าพาส + พร้อมโอนเท่านั้น ✨ ✈️ ราคาเริ่มต้นเพียง 11,111 บาท 💸 เฉลี่ยเพียงคนละ 5,555 บาท เท่านั้น!! 🗓 จำนวนวัน 3วัน 2คืน ✈ FD-แอร์เอเชีย 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ & ⭐⭐⭐⭐ 📍 บานาฮิลล์ 📍 สะพานมือยักษ์ 📍 Apec Park 📍 นั่งเรือกระด้ง 📍 สะพานแห่งความรัก 📍 สะพานมังกร 📍 วัดหลิ๋นอึ๋ง 📍 ร้านกาแฟ Son Tra Marina รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์เวียดนาม #vietnam #ทัวร์บานาฮิลล์ #banahills #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 432 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เวียดนาม ซื้อ 1 แถม 1
    หน้าพาส + พร้อมโอนเท่านั้น
    ราคาเริ่มต้นเพียง 11,111 บาท
    เฉลี่ยเพียงคนละ 5,555 บาท เท่านั้น!!

    🗓 จำนวนวัน 3วัน 2คืน
    ✈ VZ-ไทยเวียดเจ็ท แอร์
    พักโรงแรม &

    Apec Park
    บานาฮิลล์
    สะพานมือยักษ์
    นั่งเรือกระด้ง
    สะพานมังกร
    สะพานแห่งความรัก
    วัดหลิ๋นอึ๋ง
    ร้านกาแฟ Son Tra Marina

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์เวียดนาม #vietnam #บานาฮิลล์ #banahills #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    💥 เวียดนาม ซื้อ 1 แถม 1 💥 ✨ หน้าพาส + พร้อมโอนเท่านั้น ✨ ✈️ ราคาเริ่มต้นเพียง 11,111 บาท 💸 เฉลี่ยเพียงคนละ 5,555 บาท เท่านั้น!! 🗓 จำนวนวัน 3วัน 2คืน ✈ VZ-ไทยเวียดเจ็ท แอร์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ & ⭐⭐⭐⭐ 📍 Apec Park 📍 บานาฮิลล์ 📍 สะพานมือยักษ์ 📍 นั่งเรือกระด้ง 📍 สะพานมังกร 📍 สะพานแห่งความรัก 📍 วัดหลิ๋นอึ๋ง 📍 ร้านกาแฟ Son Tra Marina รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์เวียดนาม #vietnam #บานาฮิลล์ #banahills #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 412 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Starbucks เกาหลีใต้ขอคืนพื้นที่: ห้ามตั้งออฟฟิศในร้านกาแฟ

    ในเกาหลีใต้ การใช้ร้านกาแฟเป็นพื้นที่ทำงานหรือเรียนกลายเป็นวัฒนธรรมที่แพร่หลายจน Starbucks ต้องออกมาตรการใหม่ทั่วประเทศ โดยติดป้ายประกาศห้ามลูกค้านำอุปกรณ์สำนักงานมาใช้ในร้าน เช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เครื่องพิมพ์ ปลั๊กพ่วงหลายช่อง และฉากกั้นส่วนตัว

    กลุ่มลูกค้าที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ถูกเรียกว่า “คากงจก” (cagongjok) ซึ่งเป็นคำผสมระหว่าง “คาเฟ่” กับ “กงบู” (เรียน) หมายถึงคนที่ใช้ร้านกาแฟเป็นพื้นที่ทำงานหรือเรียนเป็นเวลานาน โดยบางคนถึงขั้นนำเครื่องพิมพ์มาเสียบปลั๊กของร้าน หรือสร้างบูธส่วนตัวด้วยฉากกั้น

    Starbucks ระบุว่ามาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ร้านสะดวกสำหรับลูกค้าทุกคน และลดความเสี่ยงจากการสูญหายหรือขโมยทรัพย์สิน โดยพนักงานจะคอยแจ้งเตือนลูกค้าที่ใช้พื้นที่เกินความจำเป็น หรือทิ้งของไว้บนโต๊ะนานเกินไป

    ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลาง “คาเฟ่บูม” ในเกาหลีใต้ ซึ่งมีร้านกาแฟมากกว่า 100,000 แห่งทั่วประเทศ และการใช้ร้านกาแฟเป็นพื้นที่ทำงานก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่การนั่งนานเกินไปอาจทำให้ร้านขาดทุน เพราะกาแฟหนึ่งแก้วครอบคลุมค่าใช้ที่นั่งได้เพียง 1 ชั่วโมง 42 นาทีเท่านั้น

    https://www.tomshardware.com/software/social-media/korean-starbucks-bans-desktop-pcs-printers-and-office-partitions-power-strips-also-forbidden-in-crackdown-on-industrious-customers
    ☕🖥️ Starbucks เกาหลีใต้ขอคืนพื้นที่: ห้ามตั้งออฟฟิศในร้านกาแฟ ในเกาหลีใต้ การใช้ร้านกาแฟเป็นพื้นที่ทำงานหรือเรียนกลายเป็นวัฒนธรรมที่แพร่หลายจน Starbucks ต้องออกมาตรการใหม่ทั่วประเทศ โดยติดป้ายประกาศห้ามลูกค้านำอุปกรณ์สำนักงานมาใช้ในร้าน เช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เครื่องพิมพ์ ปลั๊กพ่วงหลายช่อง และฉากกั้นส่วนตัว กลุ่มลูกค้าที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ถูกเรียกว่า “คากงจก” (cagongjok) ซึ่งเป็นคำผสมระหว่าง “คาเฟ่” กับ “กงบู” (เรียน) หมายถึงคนที่ใช้ร้านกาแฟเป็นพื้นที่ทำงานหรือเรียนเป็นเวลานาน โดยบางคนถึงขั้นนำเครื่องพิมพ์มาเสียบปลั๊กของร้าน หรือสร้างบูธส่วนตัวด้วยฉากกั้น Starbucks ระบุว่ามาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ร้านสะดวกสำหรับลูกค้าทุกคน และลดความเสี่ยงจากการสูญหายหรือขโมยทรัพย์สิน โดยพนักงานจะคอยแจ้งเตือนลูกค้าที่ใช้พื้นที่เกินความจำเป็น หรือทิ้งของไว้บนโต๊ะนานเกินไป ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลาง “คาเฟ่บูม” ในเกาหลีใต้ ซึ่งมีร้านกาแฟมากกว่า 100,000 แห่งทั่วประเทศ และการใช้ร้านกาแฟเป็นพื้นที่ทำงานก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่การนั่งนานเกินไปอาจทำให้ร้านขาดทุน เพราะกาแฟหนึ่งแก้วครอบคลุมค่าใช้ที่นั่งได้เพียง 1 ชั่วโมง 42 นาทีเท่านั้น https://www.tomshardware.com/software/social-media/korean-starbucks-bans-desktop-pcs-printers-and-office-partitions-power-strips-also-forbidden-in-crackdown-on-industrious-customers
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Korean Starbucks bans desktop PCs, printers, and office partitions — power strips also forbidden in crackdown on industrious customers
    A new ‘Guide to comfortable use of the store’ asks café visitors to stop bringing in ‘Personal desktops, printers, power strips, partitions, etc.’
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ ชาวกัมพูชาต้องเผชิญชะตากรรมครั้งใหม่ ไม่ต่างอะไรกับการค่าล้างเผ่าพันธุ์ แม้ไม่ถูกสังหารทันที แต่ถูกปล่อยให้ทุกข์ทรมารจากความอดอยากแร้นแค้น ขณะที่ผู้นำเฮงซวยจิบกาแฟตีกอล์ฟ เสวยสุขในคฤหาสน์
    #7ดอกจิก
    #TruthFromThailand
    #scambodia
    ♣ ชาวกัมพูชาต้องเผชิญชะตากรรมครั้งใหม่ ไม่ต่างอะไรกับการค่าล้างเผ่าพันธุ์ แม้ไม่ถูกสังหารทันที แต่ถูกปล่อยให้ทุกข์ทรมารจากความอดอยากแร้นแค้น ขณะที่ผู้นำเฮงซวยจิบกาแฟตีกอล์ฟ เสวยสุขในคฤหาสน์ #7ดอกจิก #TruthFromThailand #scambodia
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • blackrockเจ้าพ่อของโลก ที่มีหลอดกาแฟรอธไชล์ดและหลอดกาแฟร็อกกี้เฟลเลอร์ร่วมเล่นด้วยตลอดทั้งตระกูลอื่นๆตรึมของพวกละโมบโลภอยากได้ทรัพยากรมีค่ามากมายเพื่อปล้นชิงไปจากประชาชนคนไทย ปล้นชิงไปจากประเทศไทยผ่านขี้ข้าลูกน้องมันในนามรัฐบาลไทยที่ช่วยเหลือมันผ่านกฎหมายไทยโดยปล้นชิงให้ถูกต้องชอบธรรม อำนวยสร้างโดยคนทรยศประจำรัฐบาลไทยทุกยุคทุกสมัย,สั่งซ้ายหันขวาหันกินขี้ได้หมด,ประชาชนคนไทยจึงยากจนมีบัตรคนจนเพิ่มขึ้น,บนนโยบายวางไทยเป็นที่อยู่เพื่อยึดแดกถาวรของมันตลอดการผีปอบผีสิงประจำประเทศไทยถาวรโดยมีรัฐบาลไทยคือทายาทอสูรให้มันสิง เช่นนั้นประเทศไทยจะดูดผลิตขายน้ำมันเองสร้างความร่ำรวยมั่งคั่งไปนานแล้ว,เพราะมีฝรั่งผีปอบนี้กัดกินประเทศไทยเรานานเกินไปที่สุมหัวกับนักการเมืองไปเป็นรัฐบาลที่ขายความมั่งคั่งคนไทยแก่พวกมันเหล่านี้,พวกนี้ทุกๆตัวต้องถูกประหารชีวิตและยึดทรัพย์สินทั้งหมด,แต่ด้วยกระบวนการที่เสื่อมทุกๆวงการ ทรยศชาติตนเองทุกๆวงการ ไม่สามารถกล้าหาญพอจะประหารชีวิตพวกนี้จริงใดๆได้ ขี้ขลาดกับพวกนี้,แต่เก่งกล้าสามารถกับประชาชนตาดำๆยากจน, เราต้องล้างทำความสะอาดประเทศครั้งใหญ่จริงๆภายในประเทศไทยเรา.
    ..อเมริกาและฝรั่งเศสตัวเปิดหน้าชัดจริงแล้วในตอนนี้ โดยหลอดกาแฟตระกูลใดๆจะอยู่เบื้องหลังจริงก็ตามหรือองค์กรทุนใหญ่สากลโลกอีลิทdeep stateแบบblackrockนี้จะอยู่เบื้องหลังก็ตาม,เรา..ประชาชนคนไทย ทหารพระราชาเราสามารถตัดตอนจัดการกวาดล้างจริงก่อนภายในประเทศเรานี้ได้ทันทีแน่นอน,ในเวลานี้ไม่มีใครเหมาะสมเท่า บิ๊กปูบิ๊กกุ้งและสหายท่านๆเหล่านี้ที่ลงใจพร้อมสามัคคีร่วมกับคนทั้งประเทศไทยเราว่าชาติไทยอธิปไตยไทยต้องมาก่อน,จังหวะเวลานี้เหมาะสมแก่กาลจะประกาศกฎอัยการศึกมาก,นี้คือสงครามการปกป้องอธิปไตยไทยจากข้าศึกคนทรยศภายในประเทศเราเองที่มีต่างชาติสนับสนุนเต็มที่ที่เปิดเผยชัดเจนคือเขมรนี้เอง,และอเมริกาฝรั่งเศสบวกชาติสมุนขี้ข้ามันทั้งหมดแบบมาเลย์ตัวปั่นภาคใต้ไทยเรา,กฎอัยการศึกทั่วประเทศจึงต้องเปิดจริงๆ,คณะคนไทยรักชาติที่มีองค์รู้มีความสามารถพร้ิมอาสารับใช้ชาติบนสงครามนี้อย่างพร้อมเพรียงใจกันแน่นอนอาทิคณะรวมพลังแผ่นดินไทยเราซึ่งคือทัพใหญ่คณะใหญ่และมีทัพย่อยทัพเล็กภาคอาสาของประชาชนมาอีกอย่างมหาศาลทั่วทิศถิ่นไทยเรา,ชาติ ศาสน์ กษัตริย์คือประเทศไทยเรา,คนชั่วเลวอยู่หนักแผ่นดินนานเกินพอแล้วไร้สำนึกคิดดีใดๆได้อีกต้องมิให้มีชีวิตอีกต่อไป,นี้คือสงครามครั้งสุดท้ายแห่งเรา..ประเทศไทย.เอเชียต้องปลอดฝรั่งลักษณะนี้หรือมารอีลิทต่างดาวเลวชั่วลักษณะนี้.
    blackrockเจ้าพ่อของโลก ที่มีหลอดกาแฟรอธไชล์ดและหลอดกาแฟร็อกกี้เฟลเลอร์ร่วมเล่นด้วยตลอดทั้งตระกูลอื่นๆตรึมของพวกละโมบโลภอยากได้ทรัพยากรมีค่ามากมายเพื่อปล้นชิงไปจากประชาชนคนไทย ปล้นชิงไปจากประเทศไทยผ่านขี้ข้าลูกน้องมันในนามรัฐบาลไทยที่ช่วยเหลือมันผ่านกฎหมายไทยโดยปล้นชิงให้ถูกต้องชอบธรรม อำนวยสร้างโดยคนทรยศประจำรัฐบาลไทยทุกยุคทุกสมัย,สั่งซ้ายหันขวาหันกินขี้ได้หมด,ประชาชนคนไทยจึงยากจนมีบัตรคนจนเพิ่มขึ้น,บนนโยบายวางไทยเป็นที่อยู่เพื่อยึดแดกถาวรของมันตลอดการผีปอบผีสิงประจำประเทศไทยถาวรโดยมีรัฐบาลไทยคือทายาทอสูรให้มันสิง เช่นนั้นประเทศไทยจะดูดผลิตขายน้ำมันเองสร้างความร่ำรวยมั่งคั่งไปนานแล้ว,เพราะมีฝรั่งผีปอบนี้กัดกินประเทศไทยเรานานเกินไปที่สุมหัวกับนักการเมืองไปเป็นรัฐบาลที่ขายความมั่งคั่งคนไทยแก่พวกมันเหล่านี้,พวกนี้ทุกๆตัวต้องถูกประหารชีวิตและยึดทรัพย์สินทั้งหมด,แต่ด้วยกระบวนการที่เสื่อมทุกๆวงการ ทรยศชาติตนเองทุกๆวงการ ไม่สามารถกล้าหาญพอจะประหารชีวิตพวกนี้จริงใดๆได้ ขี้ขลาดกับพวกนี้,แต่เก่งกล้าสามารถกับประชาชนตาดำๆยากจน, เราต้องล้างทำความสะอาดประเทศครั้งใหญ่จริงๆภายในประเทศไทยเรา. ..อเมริกาและฝรั่งเศสตัวเปิดหน้าชัดจริงแล้วในตอนนี้ โดยหลอดกาแฟตระกูลใดๆจะอยู่เบื้องหลังจริงก็ตามหรือองค์กรทุนใหญ่สากลโลกอีลิทdeep stateแบบblackrockนี้จะอยู่เบื้องหลังก็ตาม,เรา..ประชาชนคนไทย ทหารพระราชาเราสามารถตัดตอนจัดการกวาดล้างจริงก่อนภายในประเทศเรานี้ได้ทันทีแน่นอน,ในเวลานี้ไม่มีใครเหมาะสมเท่า บิ๊กปูบิ๊กกุ้งและสหายท่านๆเหล่านี้ที่ลงใจพร้อมสามัคคีร่วมกับคนทั้งประเทศไทยเราว่าชาติไทยอธิปไตยไทยต้องมาก่อน,จังหวะเวลานี้เหมาะสมแก่กาลจะประกาศกฎอัยการศึกมาก,นี้คือสงครามการปกป้องอธิปไตยไทยจากข้าศึกคนทรยศภายในประเทศเราเองที่มีต่างชาติสนับสนุนเต็มที่ที่เปิดเผยชัดเจนคือเขมรนี้เอง,และอเมริกาฝรั่งเศสบวกชาติสมุนขี้ข้ามันทั้งหมดแบบมาเลย์ตัวปั่นภาคใต้ไทยเรา,กฎอัยการศึกทั่วประเทศจึงต้องเปิดจริงๆ,คณะคนไทยรักชาติที่มีองค์รู้มีความสามารถพร้ิมอาสารับใช้ชาติบนสงครามนี้อย่างพร้อมเพรียงใจกันแน่นอนอาทิคณะรวมพลังแผ่นดินไทยเราซึ่งคือทัพใหญ่คณะใหญ่และมีทัพย่อยทัพเล็กภาคอาสาของประชาชนมาอีกอย่างมหาศาลทั่วทิศถิ่นไทยเรา,ชาติ ศาสน์ กษัตริย์คือประเทศไทยเรา,คนชั่วเลวอยู่หนักแผ่นดินนานเกินพอแล้วไร้สำนึกคิดดีใดๆได้อีกต้องมิให้มีชีวิตอีกต่อไป,นี้คือสงครามครั้งสุดท้ายแห่งเรา..ประเทศไทย.เอเชียต้องปลอดฝรั่งลักษณะนี้หรือมารอีลิทต่างดาวเลวชั่วลักษณะนี้.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 345 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ZUS COFFEE ทุนมาเลย์ฯ บุกไทย

    ZUS COFFEE (ซุส คอฟฟี่) โลโก้ชายเครางามสีน้ำเงิน ผู้บริโภคชาวไทยอาจไม่คุ้นหู แต่ที่ประเทศมาเลเซียถือเป็นแบรนด์ร้านกาแฟที่มีสาขามากที่สุด 746 แห่ง แซงหน้าสตาร์บัคส์ มาเลเซีย ของกลุ่มเบอร์จายา คอร์ปอเรชั่น (Berjaya Corporation) ที่มีประมาณ 320 แห่ง กระทั่งขยายสาขาไปยังฟิลิปปินส์ในปี 2566 มีมากถึง 153 สาขา ต่อด้วยสิงคโปร์ 5 สาขา บรูไน 5 สาขาในปี 2567 และไทยคือจุดหมายล่าสุด ก่อนจะเปิดที่อินโดนีเซียร่วมกับกลุ่มกาปัลอาปี (Kapal Api Group) ในลำดับถัดไป

    ซุส คอฟฟี่ เปิดสาขาแรกในไทยที่อาคารวานิช เพลส อารีย์ ถนนพหลโยธิน ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 ส.ค. 2568 บริหารงานโดย บริษัท ซุสเพรซโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด จัดตั้งเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ด้วยทุนจดทะเบียน 81.55 ล้านบาท มีกรรมการบริษัทชาวมาเลเซีย 5 คน ร่วมกับ นายพงษ์ศักดิ์ ธัมประพาสอัศดร กรรมการบริษัทชาวไทย นับเป็นกลุ่มทุนมาเลเซียในไทยที่โดดเด่น เมื่อเทียบกับกลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย หรือกลุ่มมิสเตอร์ ดี.ไอ.วาย.

    แหล่งข่าวระบุว่า ซุส คอฟฟี่ เป็นความตั้งใจของบริษัทแม่ในมาเลเซีย ที่ต้องการขยายตลาดมายังประเทศไทยโดยตรง ไม่ได้เป็นแฟรนไชส์ มีแผนที่จะขยายสาขาในไทยราว 30 แห่งภายในต้นปี 2569 โดยสาขาถัดไปอยู่ที่ย่านอโศก ปิ่นเกล้า และสีลม ส่วนข้อกังวลถึงวัตถุดิบโดยเฉพาะกะทิ สำหรับเมนูยอดนิยมอย่าง Coconut Latte ยอมรับว่าที่ประเทศมาเลเซียกะทิขาดตลาดจริง แต่สำหรับประเทศไทยวัตถุดิบเหลือเฟือ เชื่อว่าคนไทยขาดกะทิไม่ได้

    ก่อนหน้านี้ นายเวนอน เทียน เจิ้ง ฮุย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของซุสเพรซโซ่ มาเลเซีย กล่าวกับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาว่า ซุสคอฟฟี่วางแผนที่จะเปิดสาขาใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ราว 200 แห่งในปีนี้ โดยจะเปิดสาขาใหม่อย่างน้อย 107 แห่งในมาเลเซีย ประมาณ 80 แห่งในฟิลิปปินส์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากแฟรงค์ เลา มหาเศรษฐีชาวฟิลิปปินส์ และอีก 6 แห่งในสิงคโปร์ ส่วนบรูไนบริหารในรูปแบบแฟรนไชส์

    ซุส คอฟฟี่ ก่อตั้งในปี 2562 เริ่มต้นจากโมเดลธุรกิจที่เน้นเทคโนโลยีด้วยบริการส่งกาแฟผ่านแอปพลิเคชันของตัวเอง ก่อนเติบโตอย่างก้าวกระโดดช่วงโควิด-19 ที่มีการล็อกดาวน์และผู้คนนิยมสั่งอาหารออนไลน์ ทำให้มียอดขายออนไลน์ประมาณ 70% จากการจัดส่งและรับสินค้าเอง และด้วยการปรับต้นทุนสร้างร้านกาแฟแบบดั้งเดิม ทำให้ขายกาแฟได้ถูกกว่าสตาร์บัคส์ราว 20% และเริ่มได้รับความนิยมในหมู่ลูกค้าชาวมาเลเซีย ขณะที่สตาร์บัคส์ได้รับผลกระทบจากการรณรงค์คว่ำบาตรกรณีความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์

    #Newskit
    ZUS COFFEE ทุนมาเลย์ฯ บุกไทย ZUS COFFEE (ซุส คอฟฟี่) โลโก้ชายเครางามสีน้ำเงิน ผู้บริโภคชาวไทยอาจไม่คุ้นหู แต่ที่ประเทศมาเลเซียถือเป็นแบรนด์ร้านกาแฟที่มีสาขามากที่สุด 746 แห่ง แซงหน้าสตาร์บัคส์ มาเลเซีย ของกลุ่มเบอร์จายา คอร์ปอเรชั่น (Berjaya Corporation) ที่มีประมาณ 320 แห่ง กระทั่งขยายสาขาไปยังฟิลิปปินส์ในปี 2566 มีมากถึง 153 สาขา ต่อด้วยสิงคโปร์ 5 สาขา บรูไน 5 สาขาในปี 2567 และไทยคือจุดหมายล่าสุด ก่อนจะเปิดที่อินโดนีเซียร่วมกับกลุ่มกาปัลอาปี (Kapal Api Group) ในลำดับถัดไป ซุส คอฟฟี่ เปิดสาขาแรกในไทยที่อาคารวานิช เพลส อารีย์ ถนนพหลโยธิน ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 ส.ค. 2568 บริหารงานโดย บริษัท ซุสเพรซโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด จัดตั้งเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ด้วยทุนจดทะเบียน 81.55 ล้านบาท มีกรรมการบริษัทชาวมาเลเซีย 5 คน ร่วมกับ นายพงษ์ศักดิ์ ธัมประพาสอัศดร กรรมการบริษัทชาวไทย นับเป็นกลุ่มทุนมาเลเซียในไทยที่โดดเด่น เมื่อเทียบกับกลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย หรือกลุ่มมิสเตอร์ ดี.ไอ.วาย. แหล่งข่าวระบุว่า ซุส คอฟฟี่ เป็นความตั้งใจของบริษัทแม่ในมาเลเซีย ที่ต้องการขยายตลาดมายังประเทศไทยโดยตรง ไม่ได้เป็นแฟรนไชส์ มีแผนที่จะขยายสาขาในไทยราว 30 แห่งภายในต้นปี 2569 โดยสาขาถัดไปอยู่ที่ย่านอโศก ปิ่นเกล้า และสีลม ส่วนข้อกังวลถึงวัตถุดิบโดยเฉพาะกะทิ สำหรับเมนูยอดนิยมอย่าง Coconut Latte ยอมรับว่าที่ประเทศมาเลเซียกะทิขาดตลาดจริง แต่สำหรับประเทศไทยวัตถุดิบเหลือเฟือ เชื่อว่าคนไทยขาดกะทิไม่ได้ ก่อนหน้านี้ นายเวนอน เทียน เจิ้ง ฮุย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของซุสเพรซโซ่ มาเลเซีย กล่าวกับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาว่า ซุสคอฟฟี่วางแผนที่จะเปิดสาขาใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ราว 200 แห่งในปีนี้ โดยจะเปิดสาขาใหม่อย่างน้อย 107 แห่งในมาเลเซีย ประมาณ 80 แห่งในฟิลิปปินส์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากแฟรงค์ เลา มหาเศรษฐีชาวฟิลิปปินส์ และอีก 6 แห่งในสิงคโปร์ ส่วนบรูไนบริหารในรูปแบบแฟรนไชส์ ซุส คอฟฟี่ ก่อตั้งในปี 2562 เริ่มต้นจากโมเดลธุรกิจที่เน้นเทคโนโลยีด้วยบริการส่งกาแฟผ่านแอปพลิเคชันของตัวเอง ก่อนเติบโตอย่างก้าวกระโดดช่วงโควิด-19 ที่มีการล็อกดาวน์และผู้คนนิยมสั่งอาหารออนไลน์ ทำให้มียอดขายออนไลน์ประมาณ 70% จากการจัดส่งและรับสินค้าเอง และด้วยการปรับต้นทุนสร้างร้านกาแฟแบบดั้งเดิม ทำให้ขายกาแฟได้ถูกกว่าสตาร์บัคส์ราว 20% และเริ่มได้รับความนิยมในหมู่ลูกค้าชาวมาเลเซีย ขณะที่สตาร์บัคส์ได้รับผลกระทบจากการรณรงค์คว่ำบาตรกรณีความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 476 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใครเป็นเจ้าของสตาร์บัคส์ กัมพูชา เครื่องดื่มแก้วโปรดของฮุน เซน

    นับตั้งแต่การปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา เฟซบุ๊ก Samdech Hun Sen of Cambodia ของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา พบว่ามักจะโพสต์ภาพคู่กับกาแฟแก้วโปรดยี่ห้อสตาร์บัคส์ (Starbucks) ซึ่งเป็นแบรนด์กาแฟสัญชาติอเมริกันอยู่ข้างกาย พร้อมบอกเล่าประสบการณ์ที่ตนเองพยายามลดปริมาณความหวานของน้ำตาลจาก 100% ก่อนลดลงมาเหลือ 0% เพื่อสุขภาพ

    แม้แบรนด์กาแฟสัญชาติอเมริกัน อาจไม่เกี่ยวข้องกับการส่งสัญญาณสนับสนุนสหรัฐอเมริกาของกัมพูชา หลังเข้ามามีบทบาทให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิง และนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เสนอชื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ แต่ก็คงมีคนสงสัยว่า ร้านสตาร์บัคส์ในกัมพูชาเป็นของใคร?

    ร้านสตาร์บัคส์ กัมพูชาบริหารงานโดย คอฟฟี่ คอนเซ็ปต์ (แคมโบเดีย) บริษัทในเครือฮ่องกง แม็กซิมส์ กรุ๊ป (Hong Kong Maxim's Group) เปิดสาขาแรกในกัมพูชาเมื่อปี 2558 ภายในท่าอากาศยานนานาชาติพนมเปญ ปัจจุบันมี 47 สาขา ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญและปริมณฑล นอกนั้นจะมีจังหวัดพระสีหนุ เสียมราฐ บันเตียเมียนเจย (ปอยเปต) พระตะบอง และกัมปอต

    ในภูมิภาคอาเซียน กลุ่มฮ่องกง แม็กซิมส์ กรุ๊ป บริหารร้านสตาร์บัคส์ในเวียดนาม กัมพูชา ไทย ลาว และสิงคโปร์ โดยร้านสตาร์บัคส์ ประเทศไทย บริหารงานโดย บริษัท คอฟฟี่ คอนเซ็ปต์ รีเทล จำกัด ร่วมทุนระหว่างกลุ่มฮ่องกง แม็กซิมส์ กรุ๊ป กับกลุ่มไทยเบฟ รับสิทธิการบริหารธุรกิจค้าปลีกของร้านสตาร์บัคส์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน

    ร้านสตาร์บัคส์ มาเลเซีย และร้านสตาร์บัคส์ บรูไน บริหารงานโดย เบอร์จายา คอร์ปอเรชัน (Berjaya Corporation) ประกอบธุรกิจค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ โรงแรมและการบริการ (Hospitality) ใน 8 ประเทศ ผู้ครองสิทธิ์แฟรนไชส์ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในมาเลเซีย ร้านคริสปี้ครีม และธุรกิจลอตเตอรี่ Sports Toto

    ร้านสตาร์บัคส์ อินโดนีเซีย บริหารงานโดยกลุ่มมิตรา อาดิเพอร์คาซา ทีบีเค (Mitra Adiperkasa Tbk.) ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ ผู้จัดจำหน่ายสินค้าเครื่องกีฬา แฟชั่น บริหารงานห้างสรรพสินค้าโซโก้ในอินโดนีเซีย และบริหารแบรนด์ร้านอาหารชั้นนำอย่างร้านเบอร์เกอร์คิง ร้านคริสปี้ครีม ร้านซับเวย์ เป็นต้น

    ร้านสตาร์บัคส์ ฟิลิปปินส์ บริหารงานโดย รัสตัน คอฟฟี่ คอร์ปอเรชั่น (Rustan Coffee Corporation) ในเครือรัสตัน ประกอบธุรกิจห้างสรรพสินค้า ร้านบูติกระดับไฮเอนด์ ผู้จัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ต่างประเทศกว่า 2,000 แบรนด์ และเป็นเจ้าของสนามกอล์ฟชั้นนำทางตอนใต้ของมะนิลา

    #Newskit

    (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะตีพิมพ์ลงใน Facebook และ Instagram วันพุธที่ 13 ส.ค. 2568)
    ใครเป็นเจ้าของสตาร์บัคส์ กัมพูชา เครื่องดื่มแก้วโปรดของฮุน เซน นับตั้งแต่การปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา เฟซบุ๊ก Samdech Hun Sen of Cambodia ของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา พบว่ามักจะโพสต์ภาพคู่กับกาแฟแก้วโปรดยี่ห้อสตาร์บัคส์ (Starbucks) ซึ่งเป็นแบรนด์กาแฟสัญชาติอเมริกันอยู่ข้างกาย พร้อมบอกเล่าประสบการณ์ที่ตนเองพยายามลดปริมาณความหวานของน้ำตาลจาก 100% ก่อนลดลงมาเหลือ 0% เพื่อสุขภาพ แม้แบรนด์กาแฟสัญชาติอเมริกัน อาจไม่เกี่ยวข้องกับการส่งสัญญาณสนับสนุนสหรัฐอเมริกาของกัมพูชา หลังเข้ามามีบทบาทให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิง และนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เสนอชื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ แต่ก็คงมีคนสงสัยว่า ร้านสตาร์บัคส์ในกัมพูชาเป็นของใคร? ร้านสตาร์บัคส์ กัมพูชาบริหารงานโดย คอฟฟี่ คอนเซ็ปต์ (แคมโบเดีย) บริษัทในเครือฮ่องกง แม็กซิมส์ กรุ๊ป (Hong Kong Maxim's Group) เปิดสาขาแรกในกัมพูชาเมื่อปี 2558 ภายในท่าอากาศยานนานาชาติพนมเปญ ปัจจุบันมี 47 สาขา ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญและปริมณฑล นอกนั้นจะมีจังหวัดพระสีหนุ เสียมราฐ บันเตียเมียนเจย (ปอยเปต) พระตะบอง และกัมปอต ในภูมิภาคอาเซียน กลุ่มฮ่องกง แม็กซิมส์ กรุ๊ป บริหารร้านสตาร์บัคส์ในเวียดนาม กัมพูชา ไทย ลาว และสิงคโปร์ โดยร้านสตาร์บัคส์ ประเทศไทย บริหารงานโดย บริษัท คอฟฟี่ คอนเซ็ปต์ รีเทล จำกัด ร่วมทุนระหว่างกลุ่มฮ่องกง แม็กซิมส์ กรุ๊ป กับกลุ่มไทยเบฟ รับสิทธิการบริหารธุรกิจค้าปลีกของร้านสตาร์บัคส์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน ร้านสตาร์บัคส์ มาเลเซีย และร้านสตาร์บัคส์ บรูไน บริหารงานโดย เบอร์จายา คอร์ปอเรชัน (Berjaya Corporation) ประกอบธุรกิจค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ โรงแรมและการบริการ (Hospitality) ใน 8 ประเทศ ผู้ครองสิทธิ์แฟรนไชส์ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในมาเลเซีย ร้านคริสปี้ครีม และธุรกิจลอตเตอรี่ Sports Toto ร้านสตาร์บัคส์ อินโดนีเซีย บริหารงานโดยกลุ่มมิตรา อาดิเพอร์คาซา ทีบีเค (Mitra Adiperkasa Tbk.) ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ ผู้จัดจำหน่ายสินค้าเครื่องกีฬา แฟชั่น บริหารงานห้างสรรพสินค้าโซโก้ในอินโดนีเซีย และบริหารแบรนด์ร้านอาหารชั้นนำอย่างร้านเบอร์เกอร์คิง ร้านคริสปี้ครีม ร้านซับเวย์ เป็นต้น ร้านสตาร์บัคส์ ฟิลิปปินส์ บริหารงานโดย รัสตัน คอฟฟี่ คอร์ปอเรชั่น (Rustan Coffee Corporation) ในเครือรัสตัน ประกอบธุรกิจห้างสรรพสินค้า ร้านบูติกระดับไฮเอนด์ ผู้จัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ต่างประเทศกว่า 2,000 แบรนด์ และเป็นเจ้าของสนามกอล์ฟชั้นนำทางตอนใต้ของมะนิลา #Newskit (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะตีพิมพ์ลงใน Facebook และ Instagram วันพุธที่ 13 ส.ค. 2568)
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 628 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากอนาคตวันนี้: ร้านขายหุ่นยนต์แห่งแรกของจีนเปิดตัวแล้วในปักกิ่ง

    ในวันที่ 8 สิงหาคม 2025 ก่อนงาน World Robot Conference จะเปิดฉาก จีนได้เปิดตัว “Robot Mall” ร้านขายหุ่นยนต์แบบครบวงจรแห่งแรกของประเทศ ณ เขตเศรษฐกิจเทคโนโลยีปักกิ่ง (Beijing E-Town) โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันการพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จากงานวิจัยสู่การใช้งานจริง

    ร้านนี้ถูกออกแบบให้เป็น “4S store” สำหรับหุ่นยนต์ ซึ่งหมายถึง Sales (ขาย), Service (บริการ), Spare parts (อะไหล่), และ Survey (เก็บข้อมูลผู้ใช้) โดยมีหุ่นยนต์กว่า 50 แบบจาก 40 บริษัททั่วประเทศ ตั้งแต่หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร หุ่นยนต์เล่นหมากรุก ไปจนถึงหุ่นยนต์ที่จำลองบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น ไอน์สไตน์ นิวตัน และหลี่ไป๋

    แม้จะมีการโชว์ความสามารถที่น่าทึ่ง เช่น หุ่นยนต์ชงกาแฟหรือเต้นรำ แต่ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น หุ่นยนต์แยกขยะที่ยังต้องให้พนักงานช่วยรีเซ็ตเมื่อทำงานผิดพลาด

    การเปิดร้านนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ของจีน โดยมีแผนจะอัปเกรดเป็นเวอร์ชัน 2.0 ในเดือนพฤศจิกายน พร้อมเพิ่มหุ่นยนต์ประเภทใหม่และสถานการณ์ใช้งานจริงที่หลากหลายยิ่งขึ้น

    จีนเปิดตัว Robot Mall ร้านขายหุ่นยนต์แบบ 4S แห่งแรกในปักกิ่ง
    ครอบคลุมการขาย บริการ อะไหล่ และเก็บข้อมูลผู้ใช้

    ตั้งอยู่ในเขต Beijing E-Town ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ของจีน
    ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 40 นาที

    มีหุ่นยนต์กว่า 50 แบบจาก 40 บริษัททั่วประเทศ
    รวมถึงหุ่นยนต์ทางการแพทย์ อุตสาหกรรม และหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์

    หุ่นยนต์สามารถทำงานหลากหลาย เช่น เสิร์ฟอาหาร เล่นหมากรุก เต้นรำ และชงกาแฟ
    มีการจำลองบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์เพื่อการศึกษาและความบันเทิง

    Robot Mall เปิดตัวก่อนงาน World Robot Conference 2025
    งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8–12 สิงหาคม ณ ปักกิ่ง

    มีแผนเปิดเวอร์ชัน 2.0 ในเดือนพฤศจิกายน 2025
    จะเพิ่มสถานการณ์ใช้งานจริงและหุ่นยนต์ประเภทใหม่

    ตลาดหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ทั่วโลกคาดว่าจะทะลุ 1 ล้านล้านหยวนภายใน 3 ปี
    ขยายจากภาคอุตสาหกรรมไปสู่บริการและการใช้งานในบ้าน

    เขต Yizhuang มีบริษัทด้านหุ่นยนต์กว่า 300 แห่ง
    คิดเป็น 50% ของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในปักกิ่ง

    จีนมีแผน 5 ปีเพื่อเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมหุ่นยนต์ระดับโลกภายในปี 2025
    มุ่งเพิ่มความหนาแน่นของหุ่นยนต์ในภาคการผลิต

    งาน World Robot Conference เป็นเวทีระดับโลกด้าน AI และหุ่นยนต์
    มีผู้เข้าร่วมกว่า 1.3 ล้านคน และจัดประกวดหุ่นยนต์ระดับนานาชาติ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/08/shopping-for-a-robot-china039s-new-robot-store-in-photos
    🤖🏬 เรื่องเล่าจากอนาคตวันนี้: ร้านขายหุ่นยนต์แห่งแรกของจีนเปิดตัวแล้วในปักกิ่ง ในวันที่ 8 สิงหาคม 2025 ก่อนงาน World Robot Conference จะเปิดฉาก จีนได้เปิดตัว “Robot Mall” ร้านขายหุ่นยนต์แบบครบวงจรแห่งแรกของประเทศ ณ เขตเศรษฐกิจเทคโนโลยีปักกิ่ง (Beijing E-Town) โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันการพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จากงานวิจัยสู่การใช้งานจริง ร้านนี้ถูกออกแบบให้เป็น “4S store” สำหรับหุ่นยนต์ ซึ่งหมายถึง Sales (ขาย), Service (บริการ), Spare parts (อะไหล่), และ Survey (เก็บข้อมูลผู้ใช้) โดยมีหุ่นยนต์กว่า 50 แบบจาก 40 บริษัททั่วประเทศ ตั้งแต่หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร หุ่นยนต์เล่นหมากรุก ไปจนถึงหุ่นยนต์ที่จำลองบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น ไอน์สไตน์ นิวตัน และหลี่ไป๋ แม้จะมีการโชว์ความสามารถที่น่าทึ่ง เช่น หุ่นยนต์ชงกาแฟหรือเต้นรำ แต่ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น หุ่นยนต์แยกขยะที่ยังต้องให้พนักงานช่วยรีเซ็ตเมื่อทำงานผิดพลาด การเปิดร้านนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ของจีน โดยมีแผนจะอัปเกรดเป็นเวอร์ชัน 2.0 ในเดือนพฤศจิกายน พร้อมเพิ่มหุ่นยนต์ประเภทใหม่และสถานการณ์ใช้งานจริงที่หลากหลายยิ่งขึ้น ✅ จีนเปิดตัว Robot Mall ร้านขายหุ่นยนต์แบบ 4S แห่งแรกในปักกิ่ง ➡️ ครอบคลุมการขาย บริการ อะไหล่ และเก็บข้อมูลผู้ใช้ ✅ ตั้งอยู่ในเขต Beijing E-Town ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ของจีน ➡️ ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 40 นาที ✅ มีหุ่นยนต์กว่า 50 แบบจาก 40 บริษัททั่วประเทศ ➡️ รวมถึงหุ่นยนต์ทางการแพทย์ อุตสาหกรรม และหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ ✅ หุ่นยนต์สามารถทำงานหลากหลาย เช่น เสิร์ฟอาหาร เล่นหมากรุก เต้นรำ และชงกาแฟ ➡️ มีการจำลองบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์เพื่อการศึกษาและความบันเทิง ✅ Robot Mall เปิดตัวก่อนงาน World Robot Conference 2025 ➡️ งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8–12 สิงหาคม ณ ปักกิ่ง ✅ มีแผนเปิดเวอร์ชัน 2.0 ในเดือนพฤศจิกายน 2025 ➡️ จะเพิ่มสถานการณ์ใช้งานจริงและหุ่นยนต์ประเภทใหม่ ✅ ตลาดหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ทั่วโลกคาดว่าจะทะลุ 1 ล้านล้านหยวนภายใน 3 ปี ➡️ ขยายจากภาคอุตสาหกรรมไปสู่บริการและการใช้งานในบ้าน ✅ เขต Yizhuang มีบริษัทด้านหุ่นยนต์กว่า 300 แห่ง ➡️ คิดเป็น 50% ของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในปักกิ่ง ✅ จีนมีแผน 5 ปีเพื่อเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมหุ่นยนต์ระดับโลกภายในปี 2025 ➡️ มุ่งเพิ่มความหนาแน่นของหุ่นยนต์ในภาคการผลิต ✅ งาน World Robot Conference เป็นเวทีระดับโลกด้าน AI และหุ่นยนต์ ➡️ มีผู้เข้าร่วมกว่า 1.3 ล้านคน และจัดประกวดหุ่นยนต์ระดับนานาชาติ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/08/shopping-for-a-robot-china039s-new-robot-store-in-photos
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Shopping for a robot? China's new robot store in photos
    A high-tech district in the Chinese capital is opening an all-service robot store on Friday to push a national drive to develop humanoid robots.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 366 มุมมอง 0 รีวิว
  • กาแฟแบรนด์เขมร คาเฟ่อเวจี ยึดหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เอากาแฟเหลือ น้ำแข็งเหลือจากแก้วอื่นมาใช้ต่อ ตามหลักบริโภคซากศพดั่งโลโก้ อีแร้งโลกันตร์
    #คิงส์โพธิ์แดง
    กาแฟแบรนด์เขมร คาเฟ่อเวจี ยึดหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เอากาแฟเหลือ น้ำแข็งเหลือจากแก้วอื่นมาใช้ต่อ ตามหลักบริโภคซากศพดั่งโลโก้ อีแร้งโลกันตร์ #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 211 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากอวกาศ: เมื่อต้นแบบมะเร็งถูกส่งขึ้นไปโคจรเพื่อช่วยรักษาคนบนโลก

    ในห้องทดลองที่ลอยอยู่เหนือโลกกว่า 400 กิโลเมตร นักวิทยาศาสตร์กำลังทำสิ่งที่ฟังดูเหมือนนิยายวิทยาศาสตร์—พวกเขากำลังปลูกเนื้อมะเร็งจริงจากผู้ป่วยในสภาวะไร้น้ำหนัก เพื่อศึกษาว่ามะเร็งตอบสนองต่อยาอย่างไรในสภาพแวดล้อมที่ต่างจากโลก

    บริษัท Encapsulate ได้พัฒนาเทคโนโลยี “tumor-on-a-chip” ที่สามารถปลูกเนื้อมะเร็งขนาดเล็กจากตัวอย่างชีวภาพของผู้ป่วยให้เติบโตเป็นสามมิติในอวกาศ ซึ่งช่วยให้เห็นพฤติกรรมของเซลล์มะเร็งได้ชัดเจนขึ้นกว่าการทดลองบนโลก เพราะในอวกาศ เซลล์ไม่ถูกแรงโน้มถ่วงดึงลง ทำให้สามารถรวมตัวกันได้เหมือนในร่างกายมนุษย์จริงๆ

    การทดลองนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยีล้ำยุค แต่เป็นก้าวสำคัญของ “การรักษาแบบเฉพาะบุคคล” หรือ personalized medicine ที่จะช่วยให้แพทย์เลือกยาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคนได้แม่นยำขึ้น โดยไม่ต้องลองผิดลองถูก

    และไม่ใช่แค่ในอวกาศ—บนโลกก็มีความก้าวหน้าเช่นกัน เช่น รัสเซียกำลังทดลองวัคซีนมะเร็งแบบ mRNA ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับผู้ป่วยแต่ละคนโดยใช้ AI หรือในเดนมาร์กที่ใช้ AI สร้างโปรตีนขนาดเล็กเพื่อฝึกระบบภูมิคุ้มกันให้จำแนกและทำลายเซลล์มะเร็งได้อย่างแม่นยำ

    นักวิทยาศาสตร์ปลูกเนื้อมะเร็งในอวกาศเพื่อศึกษาการตอบสนองต่อยา
    ใช้เทคโนโลยี tumor-on-a-chip จากบริษัท Encapsulate
    เติบโตในสภาพไร้น้ำหนักเพื่อเลียนแบบพฤติกรรมในร่างกายมนุษย์

    การทดลองอยู่ภายใต้โครงการ In Space Production Applications ของ NASA
    ได้รับเงินสนับสนุนกว่า 4.88 ล้านดอลลาร์จาก NASA และ NSF

    มีการทดลองร่วมกับศูนย์มะเร็งชั้นนำในสหรัฐฯ
    ศึกษาผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และตับอ่อนกว่า 200 ราย

    ระบบทดลองในอวกาศเป็นแบบอัตโนมัติ
    นักบินอวกาศเพียงแค่เสียบอุปกรณ์เหมือนเครื่องชงกาแฟ

    ผลการทดลองพบว่าเนื้อมะเร็งตอบสนองต่อยาแตกต่างจากบนโลก
    อาจช่วยระบุตัวบ่งชี้ใหม่ในการแพร่กระจายหรือดื้อยา

    https://www.techspot.com/news/108922-scientists-growing-tumors-space-study-how-personalize-cancer.html
    👨‍🚀 เรื่องเล่าจากอวกาศ: เมื่อต้นแบบมะเร็งถูกส่งขึ้นไปโคจรเพื่อช่วยรักษาคนบนโลก ในห้องทดลองที่ลอยอยู่เหนือโลกกว่า 400 กิโลเมตร นักวิทยาศาสตร์กำลังทำสิ่งที่ฟังดูเหมือนนิยายวิทยาศาสตร์—พวกเขากำลังปลูกเนื้อมะเร็งจริงจากผู้ป่วยในสภาวะไร้น้ำหนัก เพื่อศึกษาว่ามะเร็งตอบสนองต่อยาอย่างไรในสภาพแวดล้อมที่ต่างจากโลก บริษัท Encapsulate ได้พัฒนาเทคโนโลยี “tumor-on-a-chip” ที่สามารถปลูกเนื้อมะเร็งขนาดเล็กจากตัวอย่างชีวภาพของผู้ป่วยให้เติบโตเป็นสามมิติในอวกาศ ซึ่งช่วยให้เห็นพฤติกรรมของเซลล์มะเร็งได้ชัดเจนขึ้นกว่าการทดลองบนโลก เพราะในอวกาศ เซลล์ไม่ถูกแรงโน้มถ่วงดึงลง ทำให้สามารถรวมตัวกันได้เหมือนในร่างกายมนุษย์จริงๆ การทดลองนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยีล้ำยุค แต่เป็นก้าวสำคัญของ “การรักษาแบบเฉพาะบุคคล” หรือ personalized medicine ที่จะช่วยให้แพทย์เลือกยาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคนได้แม่นยำขึ้น โดยไม่ต้องลองผิดลองถูก และไม่ใช่แค่ในอวกาศ—บนโลกก็มีความก้าวหน้าเช่นกัน เช่น รัสเซียกำลังทดลองวัคซีนมะเร็งแบบ mRNA ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับผู้ป่วยแต่ละคนโดยใช้ AI หรือในเดนมาร์กที่ใช้ AI สร้างโปรตีนขนาดเล็กเพื่อฝึกระบบภูมิคุ้มกันให้จำแนกและทำลายเซลล์มะเร็งได้อย่างแม่นยำ ✅ นักวิทยาศาสตร์ปลูกเนื้อมะเร็งในอวกาศเพื่อศึกษาการตอบสนองต่อยา ➡️ ใช้เทคโนโลยี tumor-on-a-chip จากบริษัท Encapsulate ➡️ เติบโตในสภาพไร้น้ำหนักเพื่อเลียนแบบพฤติกรรมในร่างกายมนุษย์ ✅ การทดลองอยู่ภายใต้โครงการ In Space Production Applications ของ NASA ➡️ ได้รับเงินสนับสนุนกว่า 4.88 ล้านดอลลาร์จาก NASA และ NSF ✅ มีการทดลองร่วมกับศูนย์มะเร็งชั้นนำในสหรัฐฯ ➡️ ศึกษาผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และตับอ่อนกว่า 200 ราย ✅ ระบบทดลองในอวกาศเป็นแบบอัตโนมัติ ➡️ นักบินอวกาศเพียงแค่เสียบอุปกรณ์เหมือนเครื่องชงกาแฟ ✅ ผลการทดลองพบว่าเนื้อมะเร็งตอบสนองต่อยาแตกต่างจากบนโลก ➡️ อาจช่วยระบุตัวบ่งชี้ใหม่ในการแพร่กระจายหรือดื้อยา https://www.techspot.com/news/108922-scientists-growing-tumors-space-study-how-personalize-cancer.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Scientists are growing tumors in space to study how to personalize cancer treatment
    In a laboratory more than 249 miles above Earth, a new generation of cancer research is unfolding. A biotech startup is harnessing the microgravity environment of the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 328 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: Coffeematic PC – คอมพิวเตอร์ที่ชงกาแฟ และใช้กาแฟร้อนในการ “ระบายความร้อน”

    ในฤดูหนาวปี 2024 Doug MacDowell ศิลปินและนักสร้างสรรค์ ได้หยิบเครื่องชงกาแฟ GE Coffeematic รุ่นปี 1980 จากร้านของมือสอง แล้วดัดแปลงให้กลายเป็นคอมพิวเตอร์เล่นเกมที่สามารถชงกาแฟได้จริง และใช้กาแฟร้อนในการระบายความร้อนของ CPU

    เขาใช้ชิ้นส่วนเก่าจากยุค 2000 เช่น เมนบอร์ด ASUS M2NPV-VM, CPU AMD Athlon II X4, RAM DDR2 และ SSD 240GB ติดตั้งลงบนตัวเครื่องชงกาแฟ พร้อมระบบท่อและปั๊มที่หมุนเวียนกาแฟร้อน (~90°C) ผ่านหม้อน้ำสองตัว ก่อนส่งไปยัง CPU เพื่อควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ที่ประมาณ 33°C

    แม้จะฟังดู “เกือบทำลายตัวเอง” แต่ Coffeematic PC กลับทำงานได้จริงทั้งในส่วนของคอมพิวเตอร์และเครื่องชงกาแฟ แม้จะไม่เหมาะกับการใช้งานทุกวัน และกาแฟที่ได้ก็ไม่ควรดื่มก็ตาม

    Coffeematic PC คือการรวมเครื่องชงกาแฟ GE รุ่นปี 1980 กับคอมพิวเตอร์เล่นเกม
    ใช้เมนบอร์ด ASUS M2NPV-VM และ CPU AMD Athlon II X4
    ติดตั้งบนตัวเครื่องด้วยแผ่นสแตนเลสและซีลกันน้ำ

    ระบบระบายความร้อนใช้กาแฟร้อนแทนน้ำหรือพัดลม
    กาแฟร้อน (~90°C) ถูกปั๊มผ่านหม้อน้ำก่อนถึง CPU
    อุณหภูมิ CPU คงที่ที่ ~33°C หลังหมุนเวียน 75 นาที

    ทั้งคอมพิวเตอร์และเครื่องชงกาแฟทำงานได้จริง
    สามารถชงกาแฟและเปิดระบบปฏิบัติการ Linux Mint ได้
    มีปั๊มแยกสำหรับจ่ายกาแฟให้ผู้ใช้โดยตรง

    เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ “coffee maker PC” ที่มีมาตั้งแต่ปี 2002
    มีรุ่นก่อนหน้าเช่น The Caffeine Machine (2002), Zotac Mekspresso (2018), Mr. Coffee PC (2019), Nerdforge (2024)
    Coffeematic PC เป็นรุ่นที่ 5 ในสายงานนี้

    โครงการนี้เน้นความคิดสร้างสรรค์มากกว่าการใช้งานจริง
    เป็นงานศิลปะเชิงเทคนิคที่ท้าทายขอบเขตของการออกแบบ
    แสดงในนิทรรศการ Sparklines พร้อมกราฟข้อมูลที่เขียนด้วยมือ

    กาแฟที่ใช้ในระบบไม่เหมาะสำหรับการบริโภค
    ท่อและปั๊มไม่ใช่อุปกรณ์สำหรับอาหาร
    อาจเกิดเชื้อราและสิ่งสกปรกสะสมในระบบ

    ระบบเปิดเผยสายไฟและชิ้นส่วนทั้งหมด อาจเกิดอันตรายจากน้ำหก
    การเติมน้ำผิดพลาดอาจทำให้ระบบไฟฟ้าลัดวงจร
    ไม่มีการป้องกันจากการสัมผัสโดยตรง

    ไม่เหมาะกับการใช้งานทุกวันหรือเป็นคอมพิวเตอร์หลัก
    ใช้ชิ้นส่วนเก่าที่ไม่รองรับซอฟต์แวร์ใหม่
    ประสิทธิภาพต่ำเมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์ปัจจุบัน

    การใช้กาแฟร้อนในการระบายความร้อนอาจเสี่ยงต่อความเสียหายของ CPU
    อุณหภูมิเริ่มต้นสูงเกินกว่าที่ CPU ควรรับได้
    ต้องพึ่งพาหม้อน้ำและการควบคุมที่แม่นยำ

    https://www.dougmacdowell.com/coffeematic-pc.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: Coffeematic PC – คอมพิวเตอร์ที่ชงกาแฟ และใช้กาแฟร้อนในการ “ระบายความร้อน” ในฤดูหนาวปี 2024 Doug MacDowell ศิลปินและนักสร้างสรรค์ ได้หยิบเครื่องชงกาแฟ GE Coffeematic รุ่นปี 1980 จากร้านของมือสอง แล้วดัดแปลงให้กลายเป็นคอมพิวเตอร์เล่นเกมที่สามารถชงกาแฟได้จริง และใช้กาแฟร้อนในการระบายความร้อนของ CPU เขาใช้ชิ้นส่วนเก่าจากยุค 2000 เช่น เมนบอร์ด ASUS M2NPV-VM, CPU AMD Athlon II X4, RAM DDR2 และ SSD 240GB ติดตั้งลงบนตัวเครื่องชงกาแฟ พร้อมระบบท่อและปั๊มที่หมุนเวียนกาแฟร้อน (~90°C) ผ่านหม้อน้ำสองตัว ก่อนส่งไปยัง CPU เพื่อควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ที่ประมาณ 33°C แม้จะฟังดู “เกือบทำลายตัวเอง” แต่ Coffeematic PC กลับทำงานได้จริงทั้งในส่วนของคอมพิวเตอร์และเครื่องชงกาแฟ แม้จะไม่เหมาะกับการใช้งานทุกวัน และกาแฟที่ได้ก็ไม่ควรดื่มก็ตาม ✅ Coffeematic PC คือการรวมเครื่องชงกาแฟ GE รุ่นปี 1980 กับคอมพิวเตอร์เล่นเกม ➡️ ใช้เมนบอร์ด ASUS M2NPV-VM และ CPU AMD Athlon II X4 ➡️ ติดตั้งบนตัวเครื่องด้วยแผ่นสแตนเลสและซีลกันน้ำ ✅ ระบบระบายความร้อนใช้กาแฟร้อนแทนน้ำหรือพัดลม ➡️ กาแฟร้อน (~90°C) ถูกปั๊มผ่านหม้อน้ำก่อนถึง CPU ➡️ อุณหภูมิ CPU คงที่ที่ ~33°C หลังหมุนเวียน 75 นาที ✅ ทั้งคอมพิวเตอร์และเครื่องชงกาแฟทำงานได้จริง ➡️ สามารถชงกาแฟและเปิดระบบปฏิบัติการ Linux Mint ได้ ➡️ มีปั๊มแยกสำหรับจ่ายกาแฟให้ผู้ใช้โดยตรง ✅ เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ “coffee maker PC” ที่มีมาตั้งแต่ปี 2002 ➡️ มีรุ่นก่อนหน้าเช่น The Caffeine Machine (2002), Zotac Mekspresso (2018), Mr. Coffee PC (2019), Nerdforge (2024) ➡️ Coffeematic PC เป็นรุ่นที่ 5 ในสายงานนี้ ✅ โครงการนี้เน้นความคิดสร้างสรรค์มากกว่าการใช้งานจริง ➡️ เป็นงานศิลปะเชิงเทคนิคที่ท้าทายขอบเขตของการออกแบบ ➡️ แสดงในนิทรรศการ Sparklines พร้อมกราฟข้อมูลที่เขียนด้วยมือ ‼️ กาแฟที่ใช้ในระบบไม่เหมาะสำหรับการบริโภค ⛔ ท่อและปั๊มไม่ใช่อุปกรณ์สำหรับอาหาร ⛔ อาจเกิดเชื้อราและสิ่งสกปรกสะสมในระบบ ‼️ ระบบเปิดเผยสายไฟและชิ้นส่วนทั้งหมด อาจเกิดอันตรายจากน้ำหก ⛔ การเติมน้ำผิดพลาดอาจทำให้ระบบไฟฟ้าลัดวงจร ⛔ ไม่มีการป้องกันจากการสัมผัสโดยตรง ‼️ ไม่เหมาะกับการใช้งานทุกวันหรือเป็นคอมพิวเตอร์หลัก ⛔ ใช้ชิ้นส่วนเก่าที่ไม่รองรับซอฟต์แวร์ใหม่ ⛔ ประสิทธิภาพต่ำเมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์ปัจจุบัน ‼️ การใช้กาแฟร้อนในการระบายความร้อนอาจเสี่ยงต่อความเสียหายของ CPU ⛔ อุณหภูมิเริ่มต้นสูงเกินกว่าที่ CPU ควรรับได้ ⛔ ต้องพึ่งพาหม้อน้ำและการควบคุมที่แม่นยำ https://www.dougmacdowell.com/coffeematic-pc.html
    WWW.DOUGMACDOWELL.COM
    Coffeematic PC – Coffee Maker Computer by Doug MacDowell
    A 1980s GE coffee maker converted into a working computer. Part art, part absurd machine, fully functional.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปลี่ยนชื่อปั๊ม
    เปลี่ยนชื่อร้านกาแฟ
    ชีวิตเหมนจะดีขึ้นไหม
    ถ้าไม่เปลี่ยนผู้นำ
    กำจัดตระกูลฮุนได้ จบสิ้นทุกความขัดแย้ง
    #7ดอกจิก
    เปลี่ยนชื่อปั๊ม เปลี่ยนชื่อร้านกาแฟ ชีวิตเหมนจะดีขึ้นไหม ถ้าไม่เปลี่ยนผู้นำ กำจัดตระกูลฮุนได้ จบสิ้นทุกความขัดแย้ง #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ฮุนเซน” ไม่ยอมนอน ประชุมเตรียมการกับ ผบ.เหล่าทัพเขมรทั้งคืน หลังปล่อยข่าวกองทัพไทยเตรียมบุก แม้กองทัพไทยออกมาปฏิเสธ อ้างสั่ง ผบ.ทหารแนวหน้าให้เคารพข้อตกลงหยุดยิงโดยเคร่งครัด พร้อมเร่งฝ่ายไทยปล่อยตัว 18 ทหารที่ถูกคุมตัว โชว์แก้วกาแฟลดน้ำตาลเหลือ 30% บอกเป้าหมายคือ 0% เพื่อป้องกันเบาหวาน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000073589

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    “ฮุนเซน” ไม่ยอมนอน ประชุมเตรียมการกับ ผบ.เหล่าทัพเขมรทั้งคืน หลังปล่อยข่าวกองทัพไทยเตรียมบุก แม้กองทัพไทยออกมาปฏิเสธ อ้างสั่ง ผบ.ทหารแนวหน้าให้เคารพข้อตกลงหยุดยิงโดยเคร่งครัด พร้อมเร่งฝ่ายไทยปล่อยตัว 18 ทหารที่ถูกคุมตัว โชว์แก้วกาแฟลดน้ำตาลเหลือ 30% บอกเป้าหมายคือ 0% เพื่อป้องกันเบาหวาน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000073589 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 385 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอน 7
    ไม่ช้าไม่นาน สภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ก็ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2502 (ค.ศ.1959) สภาพัฒน์ฯ ควรบันทึกไว้ด้วยว่า เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ คนแรก ชื่อนายพจน์ สารสิน (พจน์ อีกแล้ว!)
    อย่างที่เล่าไว้ตอนแรกๆ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ ฉบับที่ 1 ได้ถูกทำขึ้นโดยใช้วิธีแปลรายงานของธนาคารโลก (World Bank) ทั้งฉบับเป็นภาษาไทย ฝ่ายไทยไม่ต้องออกแรงเปลืองหัวสมองเท่าเม็ดถั่ว แค่แปลแล้วนำก็มาใช้เป็นแผนแม่ บทของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ก็เท่านั้นเอง
    รายการที่ไทยแลนด์ต้องพัฒนาเป็นการด่วน คือระบบสาธารณูปโภค ด้านไฟฟ้า น้ำประปา ปรับปรุงระบบขน ส่ง สร้างถนน สร้างท่าเรือ สร้างเขื่อน อ่างเก็บน้ำ และสร้างสนามบิน! ฟังดูดี๊ดีนะครับ แต่ลองสังเกตอีกที  สิ่งที่พี่เบิ้มเขาให้เราทำน่ะ มันอะไรกันแน่
    แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาปรับปรุงระบบต่างๆ มาก่อสร้างตามรายการ และระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแผน มันเกินกว่างบประมาณไปหลายจี๋นะ เดี๋ยวก็จะกลายเป็นคนเคยรวยเร็วไปหน่อยมั้ย คุณป๋ารำพึงดังๆ
    แน่นอน พีเบิ้มหูไว ก็ติดเครื่องดักฟังไว้ทั่วราชอาณาจักรไทย ได้ยินดังนั้นก็บอกว่า สมันน้อยไม่ต้องห่วง เดี๋ยวไอจัดให้ !
    ไอหาเงินกู้ดอกถูกไว้ให้ยูแล้ว ของธนาคารโลก ไงล่ะ สำรวจเอง เขียนเอง ให้กู้เอง ไม่รู้สึกแปลกกันบ้างเหรอไง ว่าแล้วชาวเราก็กระโดดลงหม้อตุ๋นด้วยความขอบคุณ
    โปรดรับทราบว่า ไทยสร้างสนามบินตามแผนพัฒนาฯ ด้วยเงินกู้ทั้งหมด 7 แห่ง คือ อู่ตะเภา ตาคลี อุบล อุดร โคราช น้ำพอง และนครพนม พัฒนาประเทศไทยจริงๆ ชาวบ้านยังขี่สองล้อ สามล้อกันอยู่เลย คุณพ่อให้สร้างสนามบิน เฮ้อ เกินจะบรรยาย มันจะให้กู ขี้สามล้อ วิ่งเล่นในสนามบินหรือไงนะเนี่ย
    สาธารณูปโภคที่สร้างก็อยู่ในจังหวัดที่สร้างสนามบินหรือใกล้เคียง นั่นแหละเช่น ถนนสายอู่ตะเภา โคราช สายพิษณุโลกขอนแก่น ถนนพวกนี้ตามรายงานของ ซีไอเอ เขาเรียกว่า ถนนยุทธศาสตร์! พัฒนาประเทศไทยจริงๆ
    นอกจากนี้ยังสร้าง สถานีเรดาร์ที่อุดร อุบล ศรีราชา ฯลฯ
    สถานีเรดาร์ใหญ่ที่สุดอยู่ที่อุดร ชื่อสถานีรามสูร มีอุปกรณ์ตรวจสอบครบเครื่อง บริเวณกว้างขวางขนาดมีสนามกอล์ฟ 9 หลุม สระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิคฯลฯ มีพนักงานชาวอเมริกัน 1,000 คนและลูกจ้างชาวไทยอีก1,400 คน รวมพนักงานทั้งหมด 2,400 คน มันจะเอาไว้ดักฟังสัญญาณดาวอังคารหรือไงวุ้ย
    ที่สำคัญ สถานีนี้ไม่อนุญาตให้คนไทยทั่วไปเข้าในบริเวณ แล้วมันอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ได้ไงเนี่ย
    หลังสงครามเวียตนามเลิก อเมริกาถอนทัพออกจากประเทศไทย แต่ลืมถอนสถานีรามสูรกลับไปด้วย ยังฝากไว้ในสถานที่แห่งหนึ่งของประเทศไทย เอาไว้ดักฟังหนุ่มสาวไทยจีบกันหรือไงไม่รู้ เพราะฉะนั้นทุกเรื่องที่เรากระซิบกันน่ะ พี่เขารู้หมดน่ะ เรื่องนี้ ผมเล่าแล้วก็เสี่ยงกับการกลายเป็นมนุษย์ล่องหนอย่างยิ่ง
    คิดออก มองเห็นหรือยัง อเมริกามหามิตรมอบของขวัญแบบไหนให้ไทยแลนด์ ประเภทล้วงกระเป๋าเรา เอาไปซื้อของของขวัญให้เราน่ะ หลงดีใจจนเนื้อเต้น
    ที่นี้เข้าใจหรือยัง ไอ้แผนพัฒนาเศรษฐกิจ น่ะ มันวางไว้ก่อนแล้ว มันเตรียมการพัฒนาบ้านเรา เพื่อใช้บ้านเราเป็นฐานไปรบกับคอมมี่ที่เวียตนาม จะเอารถบรรทุกทหารหัวทองวิ่งมาบนท้องนาได้ไง บางแห่งถนนยังไม่มี มีแต่ทางเกวียน สนุกจริงๆ
    อย่าลืมถนนมิตรภาพ ที่อเมริกาสร้างให้ไทย ที่คนไทยภูมิใจหนักหนาด้วยล่ะ  วันเปิดถนนทำพิธีใหญ่โต ไปยืนตบมือกันเปาะแปะ เอารถไปทดลองวิ่งกันเป็นแถว แหม! มันเรียบดีนะ เอาถ้วยกาแฟวางหน้ารถไม่หกเลยจ๊ะ เฮ้ย! ไม่ทันคิดว่าถนนนี้เป็นเส้นทางหลักที่พี่เบิ้มเขาจะใช้ในการลำเลียงพลและอาวุธยุทโธปกรณ์เอาไว้ไปรบกะเวียตนาม
    มันคล้ายๆ บ้านเรายังกินข้าวด้วยมือเปิบอยู่ แต่วันดีคืนร้าย ดันมีคนให้ของขวัญ เราก็ดีใจเปิดกล่องของขวัญออกมา อ้าวตาย กลายเป็น มีดกับส้อม เขาบอกว่า…เอาไว้ใช้เวลาไอมาทานข้าวบ้านยูไง ของขวัญแบบนั่นน่ะ เข้าใจไหมครับ
    หลังจากเตรียมการเรื่องแผนพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ไทยแลนด์แดนสวรรค์มีถนน มีน้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี (แต่ยังไม่มีงานทำ 555) สนามบินก็สร้างแล้ว ตำรวจสารพัดนึกก็มีแล้ว เหลืออะไรล่ะที่เรายังไม่ได้ให้ไทยแลนด์ทำกองทัพไงจ้ะ ไทยแลนด์ต้องมีกองทัพอันเกรียงไกร เอาไว้ป้องกันประเทศ เอาไว้กันไม่ให้พวกคอมมี่ มันขยายตัวแหลมหัวเข้ามาแถวนี้
    ตั้งแต่ พ.ศ.2504 ถึง พ.ศ.2515 ตลอดเวลาที่อเมริกา นำทัพสู้ในสงครามเวียตนาม ไทยมีส่วนสำคัญ ในการรบเคียงขาเคียงบ่าเคียงไหล่กับอเมริกา รวมไปถึงการรบในลาวและกัมพูชา ตลอดเวลาดังกล่าว มีทหารอเมริกันอยู่ในประเทศไทย น้อยสุด 50,000 นาย และมากสุดถึง 200,000 นาย มีเครื่องบินขึ้นลงทั้งหมดไม่น้อยกว่า 70, 000 เที่ยว บินไปปฏิบัติการรบทั้งที่ เวียตนาม ลาวและกัมพูชา
    ที่น่าสนใจ การที่อเมริกาเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานทัพ โจมตีเวียตนามและเพื่อนบ้าน อเมริกาไม่เคยทำข้อตกลงอย่างเป็นรูปธรรมกับไทย มันเป็นความพอใจของทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายอเมริกาก็ไม่ต้องการมีข้อผูกมัด แค่มาใช้บ้านเขาเฉยๆ เอง มาเมื่อไหร่ ไปเมื่อไหร่ ไม่มีข้อผูกพัน… ฝ่ายเจ้าของบ้านคือรัฐบาลก็ O.K งุบๆ งิบๆ อย่างนี้ดีกว่า …ไม่มีใครรู้เงินช่วยเหลือเข้ามาเท่าไหร่ ส่วนไหนของวัด ส่วนไหนของกรรมการ อู้ฟู้กันเป็นแถวๆ
    และที่เหลือเชื่อไปกว่านั้น พี่เบิ้มอ้างว่า ปฏิบัติการที่ใช้ไทยเป็นฐานทัพน่ะ เป็นปฏิบัติการลับเสีย 99% เพราะฉะนั้นเกือบทุกครั้งที่เครื่องบินรบของพี่เขาจะบินขึ้นจากฐานทัพ (ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย) พี่เขาไม่ต้องขออนุญาตไทย …ไทยแลนด์ยูไม่ต้องยุ่ง… เดี๋ยวความลับรั่วไหลเหมือนท่อน้ำประปาบ้านยู
    ทหารไทยก็ใจกว้าง ตกลงงั้นไอมอบอำนาจให้ยูอนุมัติบินได้เลยนะ ทูตอเมริกันประจำไทย ขณะนั้น นายมาร์ติน (Martin) จึงเป็นคนอนุมัติ กดปุ่ม O.K.!
    สิทธิสภาพนอกอาณาเขตยุคสงครามเวียตนาม ประชาชนคนไทยรู้ไหมเป็นเมืองขึ้นเขาไปแล้ว! แล้วจะไม่บอกว่า ทหารไทยนี่เป็นยอดดวงใจของพี่เบิ้มอเมริกาได้ยังไง ยังไม่จบเรื่องยอดดวงใจนี้ มีหลายภาค ค่อยๆ อ่านไป
    เห็นชัดหรือยังครับ ลองเรียบเรียงดูการสำรวจของธนาคารโลก (World Bank) แผนพัฒนาเศรษฐกิจ การตั้งสภาพัฒน์ การพัฒนาประเทศ การให้ความช่วยเหลือโดย CIA แก่กรมตำรวจ การให้ความช่วยเหลือแก่กอง ทัพไทย การควบ คุมจัดตั้งการเลือกตั้ง การควบคุมการเมืองไทยทั้งทางตรงทางอ้อม มันโยงกันไหมและทำเพื่ออะไร ผลประ โยชน์ของใคร อาจมีผู้เห็นแย้งว่า ไทยก็ได้ประโยชน์ ป้องกันไม่ให้ระบอบคอม มิวนิสต์เข้ายึดครองประเทศไทย แต่ถามว่า แล้วเรามีวิธีป้องกันด้วยวิธีอื่นหรือไม่ ที่ไม่ต้องเปลี่ยนประ เทศกลับหัวกลับหางหกคะเมนตีลังกาเช่นนี้
    เมื่ออเมริกาถอนฐานทัพออกไปจากไทยเมื่อปี พ.ศ.2517 (ค.ศ.1974) ประเทศไทยมีสภาพเป็นอย่างไร ผู้ที่เกิดไม่ทันสมัยนั้น ลองไปหาประวัติศาสตร์อ่านกันดูหน่อย รีบๆ ทำความรู้จักไว้ เพราะเหตุการณ์เช่น สงครามเวียตนาม ฐานทัพ และวัฒนธรรมอเมริกัน การควบคุมชีวิตของคนไทยโดยการเมืองและกองทัพของอเมริกา อาจกลับมาอีกครั้ง และครั้งนี้ถ้ากลับมาอีก ไทยเรายังจะมีประเทศเหลือหรือเปล่า ไม่แน่ใจ
    หยิบกระดาษมา 1 แผ่น ด้านซ้ายเขียนต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์ ด้านขวาเขียนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ เพื่อนำเข้าทุนนิยมเสรี เปลี่ยนประเทศทำเกษตรกรรม เป็นประเทศอุตสาหกรรม ดูทีละด้าน ก็ไม่รู้ว่าเรื่องเดียวกัน แต่ลองเอามาร้อยเรียงกัน เหมือนต่อจิกซอว์ เราน่าจะเห็นว่า นี่มันคือการล่าอาณานิคมยุคใหม่ ที่แนบเนียน ชนิดถ้าไม่ทำ CSI ก็จับผู้ร้ายไม่ได้เด็ดขาด
    ชาวไทยที่รักทั้งหลาย จงอย่างดูอะไรที่ละด้าน ที่ละชิ้น …หัดมองภาพรวม หัดต่อภาพให้เป็น แล้วจะได้เห็นภาพใหญ่ พวกสื่อเขาไม่ทำให้เราหรอกครับ เขาเสนอทีละภาพ ทีละเหตุการณ์ จิกซอว์ที่ละตัว เราก็เห็นก็ตามเท่าที่เขาเสนอให้ดู แล้วยิ่งถ้ามันเสนอแบบฟอกย้อมล่ะ จะรู้ได้ยังไง ว่าที่สีฟ้าๆ น่ะ มันน้ำหรือท้องฟ้า สีเขียว ๆ น่ะมันดอลลาร์ หรือใบตองที่แน่สีทองๆ อย่านึกว่าเป็นทอง อาจเป็นอย่างอื่นก็ได้นะ
    ภายใต้ Pax Americana หรือการขยายระบบทุนนิยมของอเมริกา ไทยแลนด์แดนเนรมิต ต้องแต่งตัวใหม่ ทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง เพื่อให้ทุนนิยมอุตสาหกรรมเข้ามาในบ้านเราได้เต็มที่ พี่เบิ้มจึงทั้งบีบทั้งบี้ ถึงขนาดขู่ว่า ถ้าไม่เป็นเด็กดีจะตัดงบช่วยเหลือ พวก good boy เลย ต้องออกพรบ.ให้พี่เบิ้มเต็มพิกัดในพ.ศ.2505 เช่น พรบ.ส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม เป็นการจูงใจให้นักลง ทุน ต ด (แปลว่าต่างด้าว) เต็มที่ พรบ.งบประมาณ และตั้งสนง.งบประมาณ ไทยแลนด์ ยูจะได้ไม่เอาเงินช่วยเหลือไปใช้จ่ายรุ่ยร่าย เงินของไอนะ พรบ.ธนาคารพาณิชย์ จะได้เข้ามาตรฐาน ต ด (ต่างด้าว) เปิดทางให้ ต ด มาลงทุน
    แล้วดูตอนนี้ซิ ลงทุนกันไปถึงไหน ธนาคารชื่อไทยน่ะ ทุนไทยเหลือแค่ไหน เป็นของฝรั่งตาน้ำข้าวหัวทอง ตาตี่หัวดำ อย่างสิงคโปร์ขี้ข้าฝรั่งเข้าไปเท่าไหร่ ถ้าอยากรู้ตัวเลขจริงๆ ทำใจแข็งไปขอดูรายงานของ ธปท.เลยครับ รู้แล้วอย่าเป็นลมก็แล้วกัน!
    เรื่องนี้ ถ้าเล่าขบวนการสมคบอันชั่วร้ายของขบวนการทุนนิยมเสรีแล้ว
    ท่านผู้อ่านอาจอยากเปลี่ยนใจไปใช้เงินพดด้วง!
    นอกจากนี้พี้เบิ้มยังแนะนำ (บังคับ!) ให้สมันน้อยยกเลิกรัฐวิสาหกิจ 150 แห่ง ที่ตั้งมาตั้งกะสมัยคณะราษฎร (อันนี้มันส์พะยะค่ะ เล่นเอาพวกปล้นเจ้า หน้าจ๋อยไปเลย) เพราะว่าการเป็นรัฐวิสาหกิจ หมายความว่า รัฐเป็นผู้ดำเนินกิจการเอง ควบคุมเอง ทุนต่างด้าว ทุนนิยมเสรีจะเข้ามาค้าแล้วรวยได้อย่างไร มันก็เหมือนเล่นไพ่กับเจ้ามือ มันจะไปได้กินเจ้ามืออย่างไร ดังนั้นพี่เบิ้มเลยบังคับให้มีทั้งการตัด การตอนรัฐวิสาหกิจให้หดและหายไปในที่สุด …ไอ้ทฤษฏีตอนไม่ให้โตน่ะ แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ก็ยังใช้เล่นต่อ เนื่องมาถึงทุกวันนี้ เห็นฤทธิ์ทุนนิยมเสรีหรือยัง มันมาทั้งได้ในรูปทุนนิยมต่างด้าว และทุนนิยมเผด็จการไทย
    ชาวบ้านอย่างเราๆ ก็มีแต่จนแห้งตายซาก ทั้งขึ้น ทั้งล่อง


    คนเล่านิทาน
    ตอน 7 ไม่ช้าไม่นาน สภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ก็ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2502 (ค.ศ.1959) สภาพัฒน์ฯ ควรบันทึกไว้ด้วยว่า เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ คนแรก ชื่อนายพจน์ สารสิน (พจน์ อีกแล้ว!) อย่างที่เล่าไว้ตอนแรกๆ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ ฉบับที่ 1 ได้ถูกทำขึ้นโดยใช้วิธีแปลรายงานของธนาคารโลก (World Bank) ทั้งฉบับเป็นภาษาไทย ฝ่ายไทยไม่ต้องออกแรงเปลืองหัวสมองเท่าเม็ดถั่ว แค่แปลแล้วนำก็มาใช้เป็นแผนแม่ บทของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ก็เท่านั้นเอง รายการที่ไทยแลนด์ต้องพัฒนาเป็นการด่วน คือระบบสาธารณูปโภค ด้านไฟฟ้า น้ำประปา ปรับปรุงระบบขน ส่ง สร้างถนน สร้างท่าเรือ สร้างเขื่อน อ่างเก็บน้ำ และสร้างสนามบิน! ฟังดูดี๊ดีนะครับ แต่ลองสังเกตอีกที  สิ่งที่พี่เบิ้มเขาให้เราทำน่ะ มันอะไรกันแน่ แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาปรับปรุงระบบต่างๆ มาก่อสร้างตามรายการ และระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแผน มันเกินกว่างบประมาณไปหลายจี๋นะ เดี๋ยวก็จะกลายเป็นคนเคยรวยเร็วไปหน่อยมั้ย คุณป๋ารำพึงดังๆ แน่นอน พีเบิ้มหูไว ก็ติดเครื่องดักฟังไว้ทั่วราชอาณาจักรไทย ได้ยินดังนั้นก็บอกว่า สมันน้อยไม่ต้องห่วง เดี๋ยวไอจัดให้ ! ไอหาเงินกู้ดอกถูกไว้ให้ยูแล้ว ของธนาคารโลก ไงล่ะ สำรวจเอง เขียนเอง ให้กู้เอง ไม่รู้สึกแปลกกันบ้างเหรอไง ว่าแล้วชาวเราก็กระโดดลงหม้อตุ๋นด้วยความขอบคุณ โปรดรับทราบว่า ไทยสร้างสนามบินตามแผนพัฒนาฯ ด้วยเงินกู้ทั้งหมด 7 แห่ง คือ อู่ตะเภา ตาคลี อุบล อุดร โคราช น้ำพอง และนครพนม พัฒนาประเทศไทยจริงๆ ชาวบ้านยังขี่สองล้อ สามล้อกันอยู่เลย คุณพ่อให้สร้างสนามบิน เฮ้อ เกินจะบรรยาย มันจะให้กู ขี้สามล้อ วิ่งเล่นในสนามบินหรือไงนะเนี่ย สาธารณูปโภคที่สร้างก็อยู่ในจังหวัดที่สร้างสนามบินหรือใกล้เคียง นั่นแหละเช่น ถนนสายอู่ตะเภา โคราช สายพิษณุโลกขอนแก่น ถนนพวกนี้ตามรายงานของ ซีไอเอ เขาเรียกว่า ถนนยุทธศาสตร์! พัฒนาประเทศไทยจริงๆ นอกจากนี้ยังสร้าง สถานีเรดาร์ที่อุดร อุบล ศรีราชา ฯลฯ สถานีเรดาร์ใหญ่ที่สุดอยู่ที่อุดร ชื่อสถานีรามสูร มีอุปกรณ์ตรวจสอบครบเครื่อง บริเวณกว้างขวางขนาดมีสนามกอล์ฟ 9 หลุม สระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิคฯลฯ มีพนักงานชาวอเมริกัน 1,000 คนและลูกจ้างชาวไทยอีก1,400 คน รวมพนักงานทั้งหมด 2,400 คน มันจะเอาไว้ดักฟังสัญญาณดาวอังคารหรือไงวุ้ย ที่สำคัญ สถานีนี้ไม่อนุญาตให้คนไทยทั่วไปเข้าในบริเวณ แล้วมันอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทย ได้ไงเนี่ย หลังสงครามเวียตนามเลิก อเมริกาถอนทัพออกจากประเทศไทย แต่ลืมถอนสถานีรามสูรกลับไปด้วย ยังฝากไว้ในสถานที่แห่งหนึ่งของประเทศไทย เอาไว้ดักฟังหนุ่มสาวไทยจีบกันหรือไงไม่รู้ เพราะฉะนั้นทุกเรื่องที่เรากระซิบกันน่ะ พี่เขารู้หมดน่ะ เรื่องนี้ ผมเล่าแล้วก็เสี่ยงกับการกลายเป็นมนุษย์ล่องหนอย่างยิ่ง คิดออก มองเห็นหรือยัง อเมริกามหามิตรมอบของขวัญแบบไหนให้ไทยแลนด์ ประเภทล้วงกระเป๋าเรา เอาไปซื้อของของขวัญให้เราน่ะ หลงดีใจจนเนื้อเต้น ที่นี้เข้าใจหรือยัง ไอ้แผนพัฒนาเศรษฐกิจ น่ะ มันวางไว้ก่อนแล้ว มันเตรียมการพัฒนาบ้านเรา เพื่อใช้บ้านเราเป็นฐานไปรบกับคอมมี่ที่เวียตนาม จะเอารถบรรทุกทหารหัวทองวิ่งมาบนท้องนาได้ไง บางแห่งถนนยังไม่มี มีแต่ทางเกวียน สนุกจริงๆ อย่าลืมถนนมิตรภาพ ที่อเมริกาสร้างให้ไทย ที่คนไทยภูมิใจหนักหนาด้วยล่ะ  วันเปิดถนนทำพิธีใหญ่โต ไปยืนตบมือกันเปาะแปะ เอารถไปทดลองวิ่งกันเป็นแถว แหม! มันเรียบดีนะ เอาถ้วยกาแฟวางหน้ารถไม่หกเลยจ๊ะ เฮ้ย! ไม่ทันคิดว่าถนนนี้เป็นเส้นทางหลักที่พี่เบิ้มเขาจะใช้ในการลำเลียงพลและอาวุธยุทโธปกรณ์เอาไว้ไปรบกะเวียตนาม มันคล้ายๆ บ้านเรายังกินข้าวด้วยมือเปิบอยู่ แต่วันดีคืนร้าย ดันมีคนให้ของขวัญ เราก็ดีใจเปิดกล่องของขวัญออกมา อ้าวตาย กลายเป็น มีดกับส้อม เขาบอกว่า…เอาไว้ใช้เวลาไอมาทานข้าวบ้านยูไง ของขวัญแบบนั่นน่ะ เข้าใจไหมครับ หลังจากเตรียมการเรื่องแผนพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ไทยแลนด์แดนสวรรค์มีถนน มีน้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี (แต่ยังไม่มีงานทำ 555) สนามบินก็สร้างแล้ว ตำรวจสารพัดนึกก็มีแล้ว เหลืออะไรล่ะที่เรายังไม่ได้ให้ไทยแลนด์ทำกองทัพไงจ้ะ ไทยแลนด์ต้องมีกองทัพอันเกรียงไกร เอาไว้ป้องกันประเทศ เอาไว้กันไม่ให้พวกคอมมี่ มันขยายตัวแหลมหัวเข้ามาแถวนี้ ตั้งแต่ พ.ศ.2504 ถึง พ.ศ.2515 ตลอดเวลาที่อเมริกา นำทัพสู้ในสงครามเวียตนาม ไทยมีส่วนสำคัญ ในการรบเคียงขาเคียงบ่าเคียงไหล่กับอเมริกา รวมไปถึงการรบในลาวและกัมพูชา ตลอดเวลาดังกล่าว มีทหารอเมริกันอยู่ในประเทศไทย น้อยสุด 50,000 นาย และมากสุดถึง 200,000 นาย มีเครื่องบินขึ้นลงทั้งหมดไม่น้อยกว่า 70, 000 เที่ยว บินไปปฏิบัติการรบทั้งที่ เวียตนาม ลาวและกัมพูชา ที่น่าสนใจ การที่อเมริกาเข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานทัพ โจมตีเวียตนามและเพื่อนบ้าน อเมริกาไม่เคยทำข้อตกลงอย่างเป็นรูปธรรมกับไทย มันเป็นความพอใจของทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายอเมริกาก็ไม่ต้องการมีข้อผูกมัด แค่มาใช้บ้านเขาเฉยๆ เอง มาเมื่อไหร่ ไปเมื่อไหร่ ไม่มีข้อผูกพัน… ฝ่ายเจ้าของบ้านคือรัฐบาลก็ O.K งุบๆ งิบๆ อย่างนี้ดีกว่า …ไม่มีใครรู้เงินช่วยเหลือเข้ามาเท่าไหร่ ส่วนไหนของวัด ส่วนไหนของกรรมการ อู้ฟู้กันเป็นแถวๆ และที่เหลือเชื่อไปกว่านั้น พี่เบิ้มอ้างว่า ปฏิบัติการที่ใช้ไทยเป็นฐานทัพน่ะ เป็นปฏิบัติการลับเสีย 99% เพราะฉะนั้นเกือบทุกครั้งที่เครื่องบินรบของพี่เขาจะบินขึ้นจากฐานทัพ (ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย) พี่เขาไม่ต้องขออนุญาตไทย …ไทยแลนด์ยูไม่ต้องยุ่ง… เดี๋ยวความลับรั่วไหลเหมือนท่อน้ำประปาบ้านยู ทหารไทยก็ใจกว้าง ตกลงงั้นไอมอบอำนาจให้ยูอนุมัติบินได้เลยนะ ทูตอเมริกันประจำไทย ขณะนั้น นายมาร์ติน (Martin) จึงเป็นคนอนุมัติ กดปุ่ม O.K.! สิทธิสภาพนอกอาณาเขตยุคสงครามเวียตนาม ประชาชนคนไทยรู้ไหมเป็นเมืองขึ้นเขาไปแล้ว! แล้วจะไม่บอกว่า ทหารไทยนี่เป็นยอดดวงใจของพี่เบิ้มอเมริกาได้ยังไง ยังไม่จบเรื่องยอดดวงใจนี้ มีหลายภาค ค่อยๆ อ่านไป เห็นชัดหรือยังครับ ลองเรียบเรียงดูการสำรวจของธนาคารโลก (World Bank) แผนพัฒนาเศรษฐกิจ การตั้งสภาพัฒน์ การพัฒนาประเทศ การให้ความช่วยเหลือโดย CIA แก่กรมตำรวจ การให้ความช่วยเหลือแก่กอง ทัพไทย การควบ คุมจัดตั้งการเลือกตั้ง การควบคุมการเมืองไทยทั้งทางตรงทางอ้อม มันโยงกันไหมและทำเพื่ออะไร ผลประ โยชน์ของใคร อาจมีผู้เห็นแย้งว่า ไทยก็ได้ประโยชน์ ป้องกันไม่ให้ระบอบคอม มิวนิสต์เข้ายึดครองประเทศไทย แต่ถามว่า แล้วเรามีวิธีป้องกันด้วยวิธีอื่นหรือไม่ ที่ไม่ต้องเปลี่ยนประ เทศกลับหัวกลับหางหกคะเมนตีลังกาเช่นนี้ เมื่ออเมริกาถอนฐานทัพออกไปจากไทยเมื่อปี พ.ศ.2517 (ค.ศ.1974) ประเทศไทยมีสภาพเป็นอย่างไร ผู้ที่เกิดไม่ทันสมัยนั้น ลองไปหาประวัติศาสตร์อ่านกันดูหน่อย รีบๆ ทำความรู้จักไว้ เพราะเหตุการณ์เช่น สงครามเวียตนาม ฐานทัพ และวัฒนธรรมอเมริกัน การควบคุมชีวิตของคนไทยโดยการเมืองและกองทัพของอเมริกา อาจกลับมาอีกครั้ง และครั้งนี้ถ้ากลับมาอีก ไทยเรายังจะมีประเทศเหลือหรือเปล่า ไม่แน่ใจ หยิบกระดาษมา 1 แผ่น ด้านซ้ายเขียนต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์ ด้านขวาเขียนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ เพื่อนำเข้าทุนนิยมเสรี เปลี่ยนประเทศทำเกษตรกรรม เป็นประเทศอุตสาหกรรม ดูทีละด้าน ก็ไม่รู้ว่าเรื่องเดียวกัน แต่ลองเอามาร้อยเรียงกัน เหมือนต่อจิกซอว์ เราน่าจะเห็นว่า นี่มันคือการล่าอาณานิคมยุคใหม่ ที่แนบเนียน ชนิดถ้าไม่ทำ CSI ก็จับผู้ร้ายไม่ได้เด็ดขาด ชาวไทยที่รักทั้งหลาย จงอย่างดูอะไรที่ละด้าน ที่ละชิ้น …หัดมองภาพรวม หัดต่อภาพให้เป็น แล้วจะได้เห็นภาพใหญ่ พวกสื่อเขาไม่ทำให้เราหรอกครับ เขาเสนอทีละภาพ ทีละเหตุการณ์ จิกซอว์ที่ละตัว เราก็เห็นก็ตามเท่าที่เขาเสนอให้ดู แล้วยิ่งถ้ามันเสนอแบบฟอกย้อมล่ะ จะรู้ได้ยังไง ว่าที่สีฟ้าๆ น่ะ มันน้ำหรือท้องฟ้า สีเขียว ๆ น่ะมันดอลลาร์ หรือใบตองที่แน่สีทองๆ อย่านึกว่าเป็นทอง อาจเป็นอย่างอื่นก็ได้นะ ภายใต้ Pax Americana หรือการขยายระบบทุนนิยมของอเมริกา ไทยแลนด์แดนเนรมิต ต้องแต่งตัวใหม่ ทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง เพื่อให้ทุนนิยมอุตสาหกรรมเข้ามาในบ้านเราได้เต็มที่ พี่เบิ้มจึงทั้งบีบทั้งบี้ ถึงขนาดขู่ว่า ถ้าไม่เป็นเด็กดีจะตัดงบช่วยเหลือ พวก good boy เลย ต้องออกพรบ.ให้พี่เบิ้มเต็มพิกัดในพ.ศ.2505 เช่น พรบ.ส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม เป็นการจูงใจให้นักลง ทุน ต ด (แปลว่าต่างด้าว) เต็มที่ พรบ.งบประมาณ และตั้งสนง.งบประมาณ ไทยแลนด์ ยูจะได้ไม่เอาเงินช่วยเหลือไปใช้จ่ายรุ่ยร่าย เงินของไอนะ พรบ.ธนาคารพาณิชย์ จะได้เข้ามาตรฐาน ต ด (ต่างด้าว) เปิดทางให้ ต ด มาลงทุน แล้วดูตอนนี้ซิ ลงทุนกันไปถึงไหน ธนาคารชื่อไทยน่ะ ทุนไทยเหลือแค่ไหน เป็นของฝรั่งตาน้ำข้าวหัวทอง ตาตี่หัวดำ อย่างสิงคโปร์ขี้ข้าฝรั่งเข้าไปเท่าไหร่ ถ้าอยากรู้ตัวเลขจริงๆ ทำใจแข็งไปขอดูรายงานของ ธปท.เลยครับ รู้แล้วอย่าเป็นลมก็แล้วกัน! เรื่องนี้ ถ้าเล่าขบวนการสมคบอันชั่วร้ายของขบวนการทุนนิยมเสรีแล้ว ท่านผู้อ่านอาจอยากเปลี่ยนใจไปใช้เงินพดด้วง! นอกจากนี้พี้เบิ้มยังแนะนำ (บังคับ!) ให้สมันน้อยยกเลิกรัฐวิสาหกิจ 150 แห่ง ที่ตั้งมาตั้งกะสมัยคณะราษฎร (อันนี้มันส์พะยะค่ะ เล่นเอาพวกปล้นเจ้า หน้าจ๋อยไปเลย) เพราะว่าการเป็นรัฐวิสาหกิจ หมายความว่า รัฐเป็นผู้ดำเนินกิจการเอง ควบคุมเอง ทุนต่างด้าว ทุนนิยมเสรีจะเข้ามาค้าแล้วรวยได้อย่างไร มันก็เหมือนเล่นไพ่กับเจ้ามือ มันจะไปได้กินเจ้ามืออย่างไร ดังนั้นพี่เบิ้มเลยบังคับให้มีทั้งการตัด การตอนรัฐวิสาหกิจให้หดและหายไปในที่สุด …ไอ้ทฤษฏีตอนไม่ให้โตน่ะ แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ก็ยังใช้เล่นต่อ เนื่องมาถึงทุกวันนี้ เห็นฤทธิ์ทุนนิยมเสรีหรือยัง มันมาทั้งได้ในรูปทุนนิยมต่างด้าว และทุนนิยมเผด็จการไทย ชาวบ้านอย่างเราๆ ก็มีแต่จนแห้งตายซาก ทั้งขึ้น ทั้งล่อง คนเล่านิทาน
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 592 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากบทความ: “อยากเปิดร้านกาแฟเหรอ? งั้นตอบให้ได้ก่อนว่า...จะเอากาแฟจากไหน?”

    Adam เริ่มต้นด้วยการเล่าถึงคนจำนวนมากที่เบื่อกับงานปัจจุบัน และฝันอยากเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ ของตัวเอง แต่เมื่อเขาถามว่า “คุณจะเอากาแฟจากไหน?” คนส่วนใหญ่กลับตอบไม่ได้

    เขาเรียกสิ่งนี้ว่า “Coffee Beans Procedure”—เป็นเทคนิคทางจิตวิทยาที่เรียกว่า “unpacking” หรือการแยกแยะภาพฝันออกมาเป็นรายละเอียดจริง ๆ ว่าชีวิตในบทบาทนั้นจะเป็นอย่างไร

    เมื่อเราไม่ unpack ความฝันของตัวเอง เราจะติดอยู่กับภาพลวงตา เช่นคิดว่าเป็นศาสตราจารย์คือการเดินใส่เสื้อทวีดในมหาวิทยาลัยแล้วมีคนทักว่า “สวัสดีครับอาจารย์” ทั้งที่จริงคือการเขียนงานวิจัยและสอนนักศึกษา

    Adam สรุปว่า “ทุกงานที่ดีจริง ๆ จะดูเหมือนเหมาะกับคนบ้า”—เพราะมันมีความยาก ความซ้ำซาก หรือความเครียดที่คนทั่วไปรับไม่ไหว แต่คนที่เหมาะกับงานนั้นคือคนที่ “บ้าแบบถูกจุด”

    Coffee Beans Procedure คือการทดสอบว่าเรารู้จริงหรือเปล่าว่าอยากทำงานอะไร
    ถามคำถามเชิงรายละเอียด เช่น “จะใช้เครื่องชงกาแฟรุ่นไหน?” เพื่อดูว่าเราสนใจงานนั้นจริงหรือแค่ฝัน
    ถ้าตอบไม่ได้หรือไม่สนใจคำถามเหล่านี้ แสดงว่าอาจไม่เหมาะกับงานนั้น

    Unpacking คือเทคนิคทางจิตวิทยาในการแยกภาพฝันออกเป็นรายละเอียดจริง
    ช่วยให้เรามองเห็นชีวิตจริงในบทบาทนั้น ไม่ใช่แค่ภาพในหัว
    ลดความเสี่ยงในการเลือกเส้นทางผิดเพราะเข้าใจผิด

    คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าชีวิตของอาชีพที่อยากทำจริง ๆ เป็นอย่างไร
    เช่น นักศึกษาที่อยากเป็นอาจารย์แต่ไม่รู้ว่าต้องเขียนงานวิจัยและสอนทุกวัน
    เมื่อ unpack แล้วจึงพบว่า “ไม่อยากทำสิ่งนั้นเลย”

    งานที่ดูดีจากภายนอกมักมีด้านมืดที่คนทั่วไปรับไม่ไหว
    เช่น ศัลยแพทย์ต้องทำหัตถการเดิมซ้ำ ๆ ทุกสัปดาห์
    นักแสดงต้องพึ่งรูปลักษณ์และความนิยม
    ช่างภาพงานแต่งต้องทำงานทุกคืนวันเสาร์โดยไม่เมา

    คนที่เหมาะกับงานเหล่านี้คือคนที่ “บ้าแบบถูกจุด”
    มีความหลงใหลในสิ่งที่คนอื่นมองว่าเป็นข้อเสีย
    พร้อมรับความเครียด ความซ้ำซาก หรือความไม่แน่นอน

    https://www.experimental-history.com/p/face-it-youre-a-crazy-person
    🧠 เรื่องเล่าจากบทความ: “อยากเปิดร้านกาแฟเหรอ? งั้นตอบให้ได้ก่อนว่า...จะเอากาแฟจากไหน?” Adam เริ่มต้นด้วยการเล่าถึงคนจำนวนมากที่เบื่อกับงานปัจจุบัน และฝันอยากเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ ของตัวเอง แต่เมื่อเขาถามว่า “คุณจะเอากาแฟจากไหน?” คนส่วนใหญ่กลับตอบไม่ได้ เขาเรียกสิ่งนี้ว่า “Coffee Beans Procedure”—เป็นเทคนิคทางจิตวิทยาที่เรียกว่า “unpacking” หรือการแยกแยะภาพฝันออกมาเป็นรายละเอียดจริง ๆ ว่าชีวิตในบทบาทนั้นจะเป็นอย่างไร เมื่อเราไม่ unpack ความฝันของตัวเอง เราจะติดอยู่กับภาพลวงตา เช่นคิดว่าเป็นศาสตราจารย์คือการเดินใส่เสื้อทวีดในมหาวิทยาลัยแล้วมีคนทักว่า “สวัสดีครับอาจารย์” ทั้งที่จริงคือการเขียนงานวิจัยและสอนนักศึกษา Adam สรุปว่า “ทุกงานที่ดีจริง ๆ จะดูเหมือนเหมาะกับคนบ้า”—เพราะมันมีความยาก ความซ้ำซาก หรือความเครียดที่คนทั่วไปรับไม่ไหว แต่คนที่เหมาะกับงานนั้นคือคนที่ “บ้าแบบถูกจุด” ✅ Coffee Beans Procedure คือการทดสอบว่าเรารู้จริงหรือเปล่าว่าอยากทำงานอะไร ➡️ ถามคำถามเชิงรายละเอียด เช่น “จะใช้เครื่องชงกาแฟรุ่นไหน?” เพื่อดูว่าเราสนใจงานนั้นจริงหรือแค่ฝัน ➡️ ถ้าตอบไม่ได้หรือไม่สนใจคำถามเหล่านี้ แสดงว่าอาจไม่เหมาะกับงานนั้น ✅ Unpacking คือเทคนิคทางจิตวิทยาในการแยกภาพฝันออกเป็นรายละเอียดจริง ➡️ ช่วยให้เรามองเห็นชีวิตจริงในบทบาทนั้น ไม่ใช่แค่ภาพในหัว ➡️ ลดความเสี่ยงในการเลือกเส้นทางผิดเพราะเข้าใจผิด ✅ คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าชีวิตของอาชีพที่อยากทำจริง ๆ เป็นอย่างไร ➡️ เช่น นักศึกษาที่อยากเป็นอาจารย์แต่ไม่รู้ว่าต้องเขียนงานวิจัยและสอนทุกวัน ➡️ เมื่อ unpack แล้วจึงพบว่า “ไม่อยากทำสิ่งนั้นเลย” ✅ งานที่ดูดีจากภายนอกมักมีด้านมืดที่คนทั่วไปรับไม่ไหว ➡️ เช่น ศัลยแพทย์ต้องทำหัตถการเดิมซ้ำ ๆ ทุกสัปดาห์ ➡️ นักแสดงต้องพึ่งรูปลักษณ์และความนิยม ➡️ ช่างภาพงานแต่งต้องทำงานทุกคืนวันเสาร์โดยไม่เมา ✅ คนที่เหมาะกับงานเหล่านี้คือคนที่ “บ้าแบบถูกจุด” ➡️ มีความหลงใหลในสิ่งที่คนอื่นมองว่าเป็นข้อเสีย ➡️ พร้อมรับความเครียด ความซ้ำซาก หรือความไม่แน่นอน https://www.experimental-history.com/p/face-it-youre-a-crazy-person
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 334 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts