• การหย่าร้างในสมัยจีนโบราณ

    สวัสดีค่ะ ในเรื่อง <ทำนองรักกังวานแดนดิน> พูดถึงการหย่าร้างแบบสมัครใจทั้งสองฝ่ายหรือที่เรียกว่า ‘เหอหลี’ (和离) บ่อยครั้ง ชวนให้ Storyฯ คิดถึงนิยายและซีรีส์ไม่น้อยที่กล่าวถึงการเลิกรากันด้วยวิธีต่างๆ

    วันนี้เรามาคุยกันเรื่องการหย่าร้างหรือเลิกราของสามีภรรยาในจีนโบราณว่ามีกี่วิธี

    วิธีแรกคือบุรุษเป็นฝ่ายทิ้งสตรี หรือที่เรียกว่า ‘ซิว’ (休) หรือ ‘ชู’ (出) หรือ ‘ชวี่’ (去) โดยมีหลักการว่า ‘เจ็ดขับสามไม่ไป’ (七出,三不去) ซึ่งเป็นหลักการที่เริ่มขึ้นในสมัยราชวงศ์โจว (1046-256 ปีก่อนคริสตกาล) และพัฒนาขึ้นมาเป็นกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ผ่านหลายยุคหลายสมัย

    มีบทความภาษาไทยหลายบทความที่กล่าวถึงหลักการ ‘เจ็ดขับสามไม่ไป’ นี้โดยละเอียด เพื่อนเพจสามารถหาอ่านดูได้ Storyฯ ขอพูดแบบสรุปว่า หากภรรยาเข้าข่ายประการใดประการหนึ่งในเจ็ดประการนี้สามีและ/หรือพ่อแม่สามีสามารถขับภรรยาได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ไม่ต้องได้รับความเห็นชอบจากฝ่ายหญิง ขอเพียงสองฝ่ายรับทราบและมีพยานลงนามรับรู้ถือว่าจบ แต่หากฝ่ายชายทิ้งเมียโดยไม่เข้าข่ายเจ็ดข้อนี้ ก็จะมีบทลงโทษตามกฎหมาย อย่างในสมัยถังคือให้ไปเป็นแรงงานหนักหนึ่งปีครึ่ง และเจ็ดประการนี้คือ (1) ไม่เชื่อฟังพ่อแม่สามี (2) ไม่มีบุตรชาย (3) คบชู้สู่ชาย (4) หึงหวงสามี (5) มีโรคร้ายหรือพิการ (6) ปากไม่ดี และ (7) ลักขโมย

    และแม้ว่าภรรยาจะเข้าข่ายเจ็ดประการนี้ แต่หากมีความจำเป็นหนึ่งในสามลักษณะนี้ กฎหมายก็ห้ามไม่ให้บุรุษทิ้งเมีย กล่าวคือ (ก) ภรรยาเมื่อถูกทิ้งและขับออกจากเรือนของสามีแล้วจะไม่มีที่ไป เช่น ตอนแต่งงานพ่อแม่ของสตรียังมีชีวิตอยู่แต่ตอนนี้เสียไปแล้ว (ข) ได้เคยร่วมไว้ทุกข์ให้พ่อแม่สามีนานสามปีแล้ว ถือว่ามีความกตัญญูอย่างยิ่งยวดจนไม่อาจขับไล่ และ (ค) สามีแต่งภรรยามาตอนยากจน พอรวยแล้วจะทิ้งเมีย ทำไม่ได้ หากใครฝ่าฝืนก็มีบทลงโทษทางกฎหมายเช่นกัน อย่างในสมัยถังคือโบยหนึ่งร้อยครั้ง

    การเลิกราแบบที่สองคือ ‘อี้เจวี๋ย’ (义绝 /ตัดสัมพันธ์) หรือการบังคับหย่าโดยอำนาจศาลหรือที่ว่าการท้องถิ่น ปรากฏครั้งแรกในประมวลกฎหมายถัง ซึ่งถูกประกาศใช้ในยุคถังเกาจง (ฮ่องเต้องค์ที่สามแห่งราชวงศ์ถัง) เมื่อปีค.ศ. 653 เป็นกรณีที่ฝ่ายหญิงถูกสามีหรือคนในบ้านสามีกระทำรุนแรง เช่น ตบตีทำร้ายร่างกายฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด บังคับให้ภรรยาไปหลับนอนกับชายอื่น เอาเมียไปขาย หรือมีการประทุษร้ายรุนแรงต่อครอบครัวจนไม่อาจอยู่ร่วมกันได้แล้ว เช่น ฆ่าพ่อแม่ของอีกฝ่าย เป็นต้น เมื่อเกิดเหตุการณ์รุนแรงลักษณะนี้ ไม่ว่าฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงอาจฟ้องหย่าได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีกฎหมายนี้ แม้ว่าสตรีจะร้องทุกข์เพื่อขอหย่ายังมักถูกตัดสินให้รับโทษด้วยเพราะถูกมองว่าการร้องเรียนสามีหรือครอบครัวสามีเป็นการกระทำที่ไม่ถูกจรรยาของสตรี แต่เมื่อมีกฎหมายรองรับแล้ว การบังคับหย่าจึงเป็นเส้นทางสู่อิสรภาพของสตรีวิธีหนึ่ง และเป็นการตัดสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลอีกด้วย

    และการเลิกราแบบสุดท้ายคือการหย่าร้างแบบสมัครใจทั้งสองฝ่ายหรือที่เรียกว่า ‘เหอหลี’ (和离) ซึ่งว่ากันว่ามีปฏิบัติกันมาตั้งแต่ก่อนยุคสมัยราชวงศ์ฉิน แต่... มันไม่ได้เป็นกฎหมายบังคับใช้จวบจนสมัยถัง โดยประมวลกฎหมายแห่งถังบัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่า เมื่อสามีภรรยาไม่พอใจซึ่งกันและกันจนไม่สามารถอยู่ร่วมครองเรือนกันต่อไปได้แล้วนั้น ให้เลิกรากันได้โดยไม่ถือว่าขัดต่อกฎหมาย

    แม้ว่าบทกฎหมายดังกล่าวจะถูกใช้ต่อมาอีกหลายยุคสมัย แต่ไม่มีการอธิบายหลักการนี้เพิ่มเติม และในปัจจุบันยังมีบทความวิเคราะห์ที่ให้ความคิดเห็นแตกต่างกันไปเกี่ยวกับเลิกโดยสมัครใจนี้ในบริบทของสังคมจีนโบราณ ทั้งนี้ ในบริบทของสังคมจีนโบราณ การแต่งงานถูกมองว่าเป็นการเกี่ยวดองของสองตระกูลที่ได้รับการยินยอมจากพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายและไม่ใช่เรื่องของคนสองคนเท่านั้น อย่างที่กล่าวในตอนต้น การเลิกหรือขับเมียยังสามารถทำได้โดยพ่อแม่ของฝ่ายชาย และการถูกบังคับหย่าโดยคำสั่งของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นการกระทำที่ตัดสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูล จึงเป็นที่กังขาว่า การเลิกราโดยสมัครใจเป็นการตัดสินใจร่วมของคนสองคนเท่านั้นจริงหรือ

    จะเห็นได้ว่า นับแต่สมัยถังมามีบทกฎหมายที่คุ้มครองสตรีในการสมรสมากขึ้น แต่กระนั้น บุรุษก็ยังมีทางเลือกมากกว่าสตรี โดยอาจใช้ข้ออ้างของ ‘เจ็ดขับสามไม่ไป’ มาใช้เป็นเหตุผลในการทิ้งเมีย และหากบุรุษไม่ยินยอมเลิกรา สตรีก็หย่าขาดจากสามีไม่ได้ยกเว้นเกิดกรณีร้ายแรงพอที่จะฟ้องหย่าได้

    อย่างไรก็ดี ในยุคสมัยต่อๆ มามีการเพิ่มเติมข้ออนุโลมให้สตรีใช้เป็นเหตุผลการหย่าร้างได้อีกแต่ไม่มาก ตัวอย่างเช่น ในสมัยหมิงมีการกำหนดไว้ว่า หากสามีหายตัวไปไม่กลับบ้านนานเกินสามปี ภรรยาสามารถยกเลิกพันธะสมรสได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายโดยมีเอกสารราชการยืนยัน

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.manmankan.com/dy2013/202401/20764.shtml
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.chinacourt.org/article/detail/2022/11/id/7011234.shtml
    https://www.legal-theory.org/?mod=info&act=view&id=21560
    http://www.legaldaily.com.cn/fxjy/content/2021-05/12/content_8503165.html
    http://law.newdu.com/uploads/202401/31/201005130115.pdf
    https://bjgy.bjcourt.gov.cn/article/detail/2020/11/id/5563896.shtml

    #ทำนองรักกังวานแดนดิน #การหย่าร้าง #เหอหลี #สาระจีน
    การหย่าร้างในสมัยจีนโบราณ สวัสดีค่ะ ในเรื่อง <ทำนองรักกังวานแดนดิน> พูดถึงการหย่าร้างแบบสมัครใจทั้งสองฝ่ายหรือที่เรียกว่า ‘เหอหลี’ (和离) บ่อยครั้ง ชวนให้ Storyฯ คิดถึงนิยายและซีรีส์ไม่น้อยที่กล่าวถึงการเลิกรากันด้วยวิธีต่างๆ วันนี้เรามาคุยกันเรื่องการหย่าร้างหรือเลิกราของสามีภรรยาในจีนโบราณว่ามีกี่วิธี วิธีแรกคือบุรุษเป็นฝ่ายทิ้งสตรี หรือที่เรียกว่า ‘ซิว’ (休) หรือ ‘ชู’ (出) หรือ ‘ชวี่’ (去) โดยมีหลักการว่า ‘เจ็ดขับสามไม่ไป’ (七出,三不去) ซึ่งเป็นหลักการที่เริ่มขึ้นในสมัยราชวงศ์โจว (1046-256 ปีก่อนคริสตกาล) และพัฒนาขึ้นมาเป็นกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ผ่านหลายยุคหลายสมัย มีบทความภาษาไทยหลายบทความที่กล่าวถึงหลักการ ‘เจ็ดขับสามไม่ไป’ นี้โดยละเอียด เพื่อนเพจสามารถหาอ่านดูได้ Storyฯ ขอพูดแบบสรุปว่า หากภรรยาเข้าข่ายประการใดประการหนึ่งในเจ็ดประการนี้สามีและ/หรือพ่อแม่สามีสามารถขับภรรยาได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ไม่ต้องได้รับความเห็นชอบจากฝ่ายหญิง ขอเพียงสองฝ่ายรับทราบและมีพยานลงนามรับรู้ถือว่าจบ แต่หากฝ่ายชายทิ้งเมียโดยไม่เข้าข่ายเจ็ดข้อนี้ ก็จะมีบทลงโทษตามกฎหมาย อย่างในสมัยถังคือให้ไปเป็นแรงงานหนักหนึ่งปีครึ่ง และเจ็ดประการนี้คือ (1) ไม่เชื่อฟังพ่อแม่สามี (2) ไม่มีบุตรชาย (3) คบชู้สู่ชาย (4) หึงหวงสามี (5) มีโรคร้ายหรือพิการ (6) ปากไม่ดี และ (7) ลักขโมย และแม้ว่าภรรยาจะเข้าข่ายเจ็ดประการนี้ แต่หากมีความจำเป็นหนึ่งในสามลักษณะนี้ กฎหมายก็ห้ามไม่ให้บุรุษทิ้งเมีย กล่าวคือ (ก) ภรรยาเมื่อถูกทิ้งและขับออกจากเรือนของสามีแล้วจะไม่มีที่ไป เช่น ตอนแต่งงานพ่อแม่ของสตรียังมีชีวิตอยู่แต่ตอนนี้เสียไปแล้ว (ข) ได้เคยร่วมไว้ทุกข์ให้พ่อแม่สามีนานสามปีแล้ว ถือว่ามีความกตัญญูอย่างยิ่งยวดจนไม่อาจขับไล่ และ (ค) สามีแต่งภรรยามาตอนยากจน พอรวยแล้วจะทิ้งเมีย ทำไม่ได้ หากใครฝ่าฝืนก็มีบทลงโทษทางกฎหมายเช่นกัน อย่างในสมัยถังคือโบยหนึ่งร้อยครั้ง การเลิกราแบบที่สองคือ ‘อี้เจวี๋ย’ (义绝 /ตัดสัมพันธ์) หรือการบังคับหย่าโดยอำนาจศาลหรือที่ว่าการท้องถิ่น ปรากฏครั้งแรกในประมวลกฎหมายถัง ซึ่งถูกประกาศใช้ในยุคถังเกาจง (ฮ่องเต้องค์ที่สามแห่งราชวงศ์ถัง) เมื่อปีค.ศ. 653 เป็นกรณีที่ฝ่ายหญิงถูกสามีหรือคนในบ้านสามีกระทำรุนแรง เช่น ตบตีทำร้ายร่างกายฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด บังคับให้ภรรยาไปหลับนอนกับชายอื่น เอาเมียไปขาย หรือมีการประทุษร้ายรุนแรงต่อครอบครัวจนไม่อาจอยู่ร่วมกันได้แล้ว เช่น ฆ่าพ่อแม่ของอีกฝ่าย เป็นต้น เมื่อเกิดเหตุการณ์รุนแรงลักษณะนี้ ไม่ว่าฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงอาจฟ้องหย่าได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีกฎหมายนี้ แม้ว่าสตรีจะร้องทุกข์เพื่อขอหย่ายังมักถูกตัดสินให้รับโทษด้วยเพราะถูกมองว่าการร้องเรียนสามีหรือครอบครัวสามีเป็นการกระทำที่ไม่ถูกจรรยาของสตรี แต่เมื่อมีกฎหมายรองรับแล้ว การบังคับหย่าจึงเป็นเส้นทางสู่อิสรภาพของสตรีวิธีหนึ่ง และเป็นการตัดสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลอีกด้วย และการเลิกราแบบสุดท้ายคือการหย่าร้างแบบสมัครใจทั้งสองฝ่ายหรือที่เรียกว่า ‘เหอหลี’ (和离) ซึ่งว่ากันว่ามีปฏิบัติกันมาตั้งแต่ก่อนยุคสมัยราชวงศ์ฉิน แต่... มันไม่ได้เป็นกฎหมายบังคับใช้จวบจนสมัยถัง โดยประมวลกฎหมายแห่งถังบัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่า เมื่อสามีภรรยาไม่พอใจซึ่งกันและกันจนไม่สามารถอยู่ร่วมครองเรือนกันต่อไปได้แล้วนั้น ให้เลิกรากันได้โดยไม่ถือว่าขัดต่อกฎหมาย แม้ว่าบทกฎหมายดังกล่าวจะถูกใช้ต่อมาอีกหลายยุคสมัย แต่ไม่มีการอธิบายหลักการนี้เพิ่มเติม และในปัจจุบันยังมีบทความวิเคราะห์ที่ให้ความคิดเห็นแตกต่างกันไปเกี่ยวกับเลิกโดยสมัครใจนี้ในบริบทของสังคมจีนโบราณ ทั้งนี้ ในบริบทของสังคมจีนโบราณ การแต่งงานถูกมองว่าเป็นการเกี่ยวดองของสองตระกูลที่ได้รับการยินยอมจากพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายและไม่ใช่เรื่องของคนสองคนเท่านั้น อย่างที่กล่าวในตอนต้น การเลิกหรือขับเมียยังสามารถทำได้โดยพ่อแม่ของฝ่ายชาย และการถูกบังคับหย่าโดยคำสั่งของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นการกระทำที่ตัดสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูล จึงเป็นที่กังขาว่า การเลิกราโดยสมัครใจเป็นการตัดสินใจร่วมของคนสองคนเท่านั้นจริงหรือ จะเห็นได้ว่า นับแต่สมัยถังมามีบทกฎหมายที่คุ้มครองสตรีในการสมรสมากขึ้น แต่กระนั้น บุรุษก็ยังมีทางเลือกมากกว่าสตรี โดยอาจใช้ข้ออ้างของ ‘เจ็ดขับสามไม่ไป’ มาใช้เป็นเหตุผลในการทิ้งเมีย และหากบุรุษไม่ยินยอมเลิกรา สตรีก็หย่าขาดจากสามีไม่ได้ยกเว้นเกิดกรณีร้ายแรงพอที่จะฟ้องหย่าได้ อย่างไรก็ดี ในยุคสมัยต่อๆ มามีการเพิ่มเติมข้ออนุโลมให้สตรีใช้เป็นเหตุผลการหย่าร้างได้อีกแต่ไม่มาก ตัวอย่างเช่น ในสมัยหมิงมีการกำหนดไว้ว่า หากสามีหายตัวไปไม่กลับบ้านนานเกินสามปี ภรรยาสามารถยกเลิกพันธะสมรสได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายโดยมีเอกสารราชการยืนยัน (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.manmankan.com/dy2013/202401/20764.shtml Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.chinacourt.org/article/detail/2022/11/id/7011234.shtml https://www.legal-theory.org/?mod=info&act=view&id=21560 http://www.legaldaily.com.cn/fxjy/content/2021-05/12/content_8503165.html http://law.newdu.com/uploads/202401/31/201005130115.pdf https://bjgy.bjcourt.gov.cn/article/detail/2020/11/id/5563896.shtml #ทำนองรักกังวานแดนดิน #การหย่าร้าง #เหอหลี #สาระจีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

    เดือนนี้ รับซื้อของผิดกฎหมายจะเป็นผลเสียเกิดการฟ้องร้องฟ้องศาลเป็นคดีความวุ่นวาย กระทำการสิ่งใดควรเก็บเอกสารไว้เป็นหลักฐานยืนยันเพราะมีเกณฑ์จะขัดแย้งโต้เถียงกัน ค้ำประกันให้ใครชื่อเสียงจะเสียหายจนหมดเครดิต ความคิดสร้างสรรค์ที่ถดถอยจะถูกบั่นทอนลดความสำคัญและทำลายความมั่นใจ แต่ชีวิตการงานจะเจริญก้าวหน้า มีตำแหน่ง ยศศักดิ์ อำนาจ วาสนา บารมี โชคดีทางการเงิน เพศหญิงจะต้องแบกรับภาระหนักจนเป็นเหตุให้เกิดการหย่าร้าง ความเครียดจะทำให้ตัดสินใจผิดพลาด ทั้งลูกหลานบริวารไม่ยอมเชื่อฟัง รวมทั้งโรคร้ายภัยแปลกๆ ภัยจากสิ่งเร้นลับหลอกหลอนที่ยากต่อการพิสูจน์หาคำตอบได้ โรคบางโรคเป็นได้ง่ายแต่รักษายากอาจกลายพันธ์ุเรื้อรังจนเป็นโรคที่น่ากลัว
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เดือนนี้ รับซื้อของผิดกฎหมายจะเป็นผลเสียเกิดการฟ้องร้องฟ้องศาลเป็นคดีความวุ่นวาย กระทำการสิ่งใดควรเก็บเอกสารไว้เป็นหลักฐานยืนยันเพราะมีเกณฑ์จะขัดแย้งโต้เถียงกัน ค้ำประกันให้ใครชื่อเสียงจะเสียหายจนหมดเครดิต ความคิดสร้างสรรค์ที่ถดถอยจะถูกบั่นทอนลดความสำคัญและทำลายความมั่นใจ แต่ชีวิตการงานจะเจริญก้าวหน้า มีตำแหน่ง ยศศักดิ์ อำนาจ วาสนา บารมี โชคดีทางการเงิน เพศหญิงจะต้องแบกรับภาระหนักจนเป็นเหตุให้เกิดการหย่าร้าง ความเครียดจะทำให้ตัดสินใจผิดพลาด ทั้งลูกหลานบริวารไม่ยอมเชื่อฟัง รวมทั้งโรคร้ายภัยแปลกๆ ภัยจากสิ่งเร้นลับหลอกหลอนที่ยากต่อการพิสูจน์หาคำตอบได้ โรคบางโรคเป็นได้ง่ายแต่รักษายากอาจกลายพันธ์ุเรื้อรังจนเป็นโรคที่น่ากลัว ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 428 มุมมอง 0 รีวิว
  • Tatyana Bakalchuk สตรีที่รวยที่สุดของรัสเซีย กล่าวหาอดีตสามีที่แยกกันอยู่ว่า พยายามใช้กำลังยึดสำนักงานใหญ่ของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งเธอเป็นเจ้าของ

    18 กันยายน 2567-รายงานข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า Tatyana Bakalchuk สตรีที่รวยที่สุดของรัสเซีย กล่าวหานาย วลาดิสลาฟ บากัลชุก (Vladislav Bakalchuk )อดีตสามีที่แยกกันอยู่ว่าพยายามยึดสำนักงานใหญ่ในมอสโกของ Wildberries แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในประเทศรัสเซียซึ่งเธอเป็นเจ้าของ

    รายงานระบุว่าการทะเลาะวิวาทเริ่มขึ้นเมื่อกลุ่มชายกลุ่มหนึ่งซึ่งนำโดยวลาดิสลาฟ บากัลชุก พยายามจะเข้าไปในอาคาร วิดีโอที่เผยแพร่โดยสถานีข่าว Mash ซึ่งเป็นสถานีข่าวเทเลแกรมที่สนับสนุนเครมลิน แสดงให้เห็นการทะเลาะวิวาทนอกสำนักงาน ตามมาด้วยเสียงปืนและเสียงตะโกน

    ปรากฏว่า รปภ.เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต 1 ราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย และมีผู้ถูกจับกุม 30 ราย

    ความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างทาเทียนาและวลาดิสลาฟ บากัลชุกทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากการหย่าร้างของพวกเขาในเดือนกรกฎาคม วลาดิสลาฟได้ขอความช่วยเหลือจากรามซาน คาดีรอฟ ผู้นำเชเชนอย่างเปิดเผย โดยอ้างว่าเขากำลังเผชิญกับการเข้าซื้อกิจการบริษัทอย่างไม่เป็นมิตร

    กรณีที่ Wildberriesได้ประกาศควบรวมกิจการกับ Russ Group เมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา โดยก่อตั้งแพลตฟอร์มซื้อขายดิจิทัลใหม่ที่ชื่อ RWB ภายใต้การควบรวมกิจการนี้ Robert Mirzoyan แห่ง Russ Group จะเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการผู้จัดการของ RWB โดยมี Tatiana Bakalchuk ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการทั่วไป

    สื่อธุรกิจชี้ข้อตกลงดังกล่าวเป็น "เรื่องแปลกมาก" เนื่องจากเป็นการควบรวมกิจการระหว่างWildberries ที่มีขนาดใหญ่กว่า Russ Group ถึง 20 เท่า โดยมีรายได้ 538,700 ล้านรูเบิล (2,700 ล้านดอลลาร์) เมื่อปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับ Russ Group ที่มีรายได้ 27,900 ล้านรูเบิล (300 ล้านดอลลาร์)และ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน สนับสนุนข้อตกลงควบรวมระหว่าง Russ Group และ Wildberries

    #Thaitimes
    Tatyana Bakalchuk สตรีที่รวยที่สุดของรัสเซีย กล่าวหาอดีตสามีที่แยกกันอยู่ว่า พยายามใช้กำลังยึดสำนักงานใหญ่ของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งเธอเป็นเจ้าของ 18 กันยายน 2567-รายงานข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า Tatyana Bakalchuk สตรีที่รวยที่สุดของรัสเซีย กล่าวหานาย วลาดิสลาฟ บากัลชุก (Vladislav Bakalchuk )อดีตสามีที่แยกกันอยู่ว่าพยายามยึดสำนักงานใหญ่ในมอสโกของ Wildberries แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในประเทศรัสเซียซึ่งเธอเป็นเจ้าของ รายงานระบุว่าการทะเลาะวิวาทเริ่มขึ้นเมื่อกลุ่มชายกลุ่มหนึ่งซึ่งนำโดยวลาดิสลาฟ บากัลชุก พยายามจะเข้าไปในอาคาร วิดีโอที่เผยแพร่โดยสถานีข่าว Mash ซึ่งเป็นสถานีข่าวเทเลแกรมที่สนับสนุนเครมลิน แสดงให้เห็นการทะเลาะวิวาทนอกสำนักงาน ตามมาด้วยเสียงปืนและเสียงตะโกน ปรากฏว่า รปภ.เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต 1 ราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย และมีผู้ถูกจับกุม 30 ราย ความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างทาเทียนาและวลาดิสลาฟ บากัลชุกทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากการหย่าร้างของพวกเขาในเดือนกรกฎาคม วลาดิสลาฟได้ขอความช่วยเหลือจากรามซาน คาดีรอฟ ผู้นำเชเชนอย่างเปิดเผย โดยอ้างว่าเขากำลังเผชิญกับการเข้าซื้อกิจการบริษัทอย่างไม่เป็นมิตร กรณีที่ Wildberriesได้ประกาศควบรวมกิจการกับ Russ Group เมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา โดยก่อตั้งแพลตฟอร์มซื้อขายดิจิทัลใหม่ที่ชื่อ RWB ภายใต้การควบรวมกิจการนี้ Robert Mirzoyan แห่ง Russ Group จะเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการผู้จัดการของ RWB โดยมี Tatiana Bakalchuk ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการทั่วไป สื่อธุรกิจชี้ข้อตกลงดังกล่าวเป็น "เรื่องแปลกมาก" เนื่องจากเป็นการควบรวมกิจการระหว่างWildberries ที่มีขนาดใหญ่กว่า Russ Group ถึง 20 เท่า โดยมีรายได้ 538,700 ล้านรูเบิล (2,700 ล้านดอลลาร์) เมื่อปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับ Russ Group ที่มีรายได้ 27,900 ล้านรูเบิล (300 ล้านดอลลาร์)และ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน สนับสนุนข้อตกลงควบรวมระหว่าง Russ Group และ Wildberries #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1170 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด้วยอัตราการหย่าร้างที่สูง, การใช้ยาเสพติดอย่างแพร่หลาย, และอัตราการฆ่าตัวตายที่เพิ่มสูงขึ้น, ทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากรู้สึกว่าตนเองกำลังเข้าสู่ยุคแห่งการสิ้นหวัง

    พรรครัฐบาล Uniparty ดูเหมือนจะไม่สนใจ, แต่ก็เจริญรุ่งเรือง ในขณะที่ชาวอเมริกันทั่วไปต้องดิ้นรน

    นี่คืออนาคตที่เรากำลังมุ่งหน้าสู่หรือไม่?

    Douglas Macgregor
    .
    With divorce rates high, drug abuse rampant, and suicide rates climbing, many Americans feel like they're spiraling into nihilism.

    The ruling Uniparty seems indifferent, thriving while the average American struggles.

    Is this the future we're headed for?
    .
    11:23 AM · Sep 13, 2024 · 42.1K Views
    https://x.com/DougAMacgregor/status/1834447801092108320
    ด้วยอัตราการหย่าร้างที่สูง, การใช้ยาเสพติดอย่างแพร่หลาย, และอัตราการฆ่าตัวตายที่เพิ่มสูงขึ้น, ทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากรู้สึกว่าตนเองกำลังเข้าสู่ยุคแห่งการสิ้นหวัง พรรครัฐบาล Uniparty ดูเหมือนจะไม่สนใจ, แต่ก็เจริญรุ่งเรือง ในขณะที่ชาวอเมริกันทั่วไปต้องดิ้นรน นี่คืออนาคตที่เรากำลังมุ่งหน้าสู่หรือไม่? Douglas Macgregor . With divorce rates high, drug abuse rampant, and suicide rates climbing, many Americans feel like they're spiraling into nihilism. The ruling Uniparty seems indifferent, thriving while the average American struggles. Is this the future we're headed for? . 11:23 AM · Sep 13, 2024 · 42.1K Views https://x.com/DougAMacgregor/status/1834447801092108320
    Like
    Yay
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 333 มุมมอง 0 รีวิว