• 💥12/10/67 แอดมินนั่งทำการบ้าน SETHD, SET50 และ SET100
    มีหุ้นอยู่ 3 ตัวที่ราคาเหมาะสม และ จังหวะการซื้อที่ดี
    ลองไปทำการบ้านกันต่อด้วยนะครับ 🙏

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #ตลาดหุ้นไทย
    #thaitimes
    💥12/10/67 แอดมินนั่งทำการบ้าน SETHD, SET50 และ SET100 มีหุ้นอยู่ 3 ตัวที่ราคาเหมาะสม และ จังหวะการซื้อที่ดี ลองไปทำการบ้านกันต่อด้วยนะครับ 🙏 #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #ตลาดหุ้นไทย #thaitimes
    0 Comments 0 Shares 8 Views 0 Reviews
  • การจัดการทางการเงิน
    ตอนที่ 5.
    เปลี่ยนเป้าหมายให้ถึงเส้นชัยด้วย Smart Goal
    หลายคน… ไม่ใช่ไม่มีความฝัน แต่ปัญหาคือมีความฝันแต่ยังไปไม่ถึงฝันสักที ไม่ว่าจะฝันว่าอยากมีบ้านไม้ มีรถใหม่ เรียนต่อ ใช้เงินเยอะทั้งนั้นเลย เงินอาจไม่ได้สำคัญที่สุดในชีวิต แต่ทุกอย่างที่สำคัญในชีวิตล้วนใช้เงินทั้งนั้น ถ้าอยากทำฝันให้เป็นจริงต้องเปลี่ยนความฝันให้เป็นเป้าหมายก่อน หลายคนประเมินการตั้งเป้าหมายที่ต่ำมาก มีงานวิจัยเด็กที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย เกี่ยวกับการตั้งเป้าหมายซึ่งแน่นอนทุกคนล้วนเก่งมากๆแต่ผลที่ออกมาน่าตกใจมากครับ
    .
    ข้อมูลจากงานวิจัยพบว่า
    เด็กรุ่นแรก 80% ไม่เป้าหมาย กลุ่มที่ สอง 13% มีเป้าหมายแต่ไม่ได้เขียน กลุ่มสุดท้ายมีเพียง 3% ที่มีเป้าหมายอย่างชัดเจนและเขียนมันออกมา แล้วทีมวิจัยก็ติดตามเด็กกลุ่มนี้ไปอีกหลายปี และได้พบว่าในเด็กกลุ่มสุดท้ายที่มีเพียง 3 เปอร์เซ็นนั้นจะมีรายได้มากกว่าเด็ก สอง กลุ่มที่เหลืออีก 97% ร่วมกัน แถมมากกว่าถึง 10 เท่าตัวด้วย
    .
    การไม่มีเป้าหมายเหมือนการยิงธนูโดยไม่มีเป้า เป้าหมายไม่ชัดเจนก็เหมือนการปาลูกดอกออกไปให้โดนผนังซึ่งมันกว้างเหลือเกิน แบบนี้คุณจะไปหาท่าไหน ท่าไหนก็ได้ปลาแบบไม่ตั้งใจก็ยังโดน แต่ถ้าเป้าหมายคือ Blue eyes กลางเป้าเลยนะคุณจะปาแบบไหน คุณจะตั้งใจมากเล็งแล้วเล็งอีกมีสมาธิและนิ่งมากๆ เห็นไหมว่าเป้าหมายสำคัญมากๆจงเขียนมันออกมา
    .
    มาดูกันต่อครับว่าแล้วเราต้องเขียนเป้าหมายอย่างไรจึงจะทำให้มันกลายเป็นความจริงขึ้นมาได้ การเขียนเป้าหมายให้ได้ผลจะต้องเป็นแบบเป้าหมายที่เรียกว่า Smart Goal ซึ่งประกอบด้วย 5 สิ่งดังนี้
    S = Specific หรือการเจาะจง ยกตัวอย่างเช่น อยากรวย อยากดูแลพ่อแม่อย่างดี เป็นเป้าหมายที่ไม่ชัดเจนเลยเท่าไหร่คือรวย ให้พ่อแม่เดือนละเท่าไหร่จึงจะถือว่าดูแลอย่างดี ต้องตั้งเป้าหมายว่ามี Passive Income เดือนละ 300,000 บาทตอนอายุ 50 ให้เงินพ่อแม่เดือนละ 50,000 บาทภายในปี xxx นี่คือตัวอย่างของเป้าหมายที่ชัดเจน
    .
    อยากมีความรู้การเงินเพิ่ม แบบนี้ไม่ใช่เป้าหมายที่ดีเพราะไม่เจาะจง แต่ถ้าตั้งเป้าหมายว่าฉันจะอ่านหนังสือการเงินเพิ่มเดือนละ หนึ่ง เล่ม เพื่อที่ 3 ารถมีรายได้ที่ดีเพิ่มขึ้น อย่างนี้เป็นเป้าหมายที่ดีเพราะเจาะจงและชัดเจน
    .
    ทำไมเป้าหมายที่เจาะจงจึงสำคัญ พอหากเป้าหมายไม่เจาะจงการกระทำก็จะไม่เจาะจงในทางกลับกัน ถ้าเป้าหมายของเราเจาะจงเราจะเจาะจงการกระทำตาม จึงทำให้ไปถึงเป้าหมายที่ต้องการได้
    .
    M = Measurable วัดผลได้
    ใช่ตัวอย่างเดิมเลยนะครับ ถ้าเราตั้งเป้าหมายที่ดีเราจะรู้เลยว่ารายได้ที่เราต้องการเพิ่มคือปีละ 500,000 บาท เราก็ 3 ารถวัดผลได้เลยว่าเราต้องทำเดือนละเท่าไหร่แล้วตอนนี้ได้เท่าไหร่แล้ว
    .
    เราต้องการอ่านหนังสือการเงินเพิ่มเดือนละ หนึ่ง เล่มดังนั้นต้องอ่านวันละกี่หน้าแล้วตอนนี้อ่านได้กี่หน้าแล้ว ตามที่วางแผนไว้หรือยัง ผ่านไปครึ่งเดือนแล้วเท่ากับว่าควรอ่านจบไปครึ่งเล่ม แบบนี้คือวัดผลได้ ถ้าเราตั้งเป้าหมายที่วัดผลไม่ได้ไม่มีค่าเลยเพราะจะไม่ทราบความก้าวหน้าของเราเลย
    .
    A = Achievable หรือรู้ว่าต้องทำอย่างไร
    มีวิธีการลงมือทำอย่างชัดเจน มีวิธีการที่จะไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้ ไม่ใช่จินตนาการไปว่าเดี๋ยวมันคงเกิดขึ้นสักวัน เช่น ตั้งเป้าหมายว่าฉันจะผอม แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะผอมได้อย่างไร อย่างนี้ไม่ใช่เป้าหมายที่ดี
    ตั้งเป้าหมายว่าจะอ่านหนังสือการเงินก่อนนอนวันละ 10 หน้า จะสร้างรายได้เพิ่มเดือนละ 5000 บาท จากการลงทุนในกองทุนรวมอย่างนี้เป็นต้น
    .
    R = Relevant หรือสอดคล้องกับเป้าหมายใหญ่
    เป้าหมายที่ดีต้องท้าทาย แต่ต้องเป็นไปได้ด้วยนะครับ ถ้าเราจะตั้งเป้าหมายว่าฉันจะอ่านหนังสือวันละเล่ม ทั้งๆที่ไม่เคยจับหนังสือมาเลยตั้งแต่เรียนจบ แบบนี้ก็คงจะเป็นไปได้ยากมันฝืนตัวเองจนเกินไป ถ้าวันนี้ได้รับเงินเดือนเดือนละ 20,000 บาทแล้วตั้งเป้าหมายว่าจะลงทุนเดือนละแสน แบบนี้คือมันเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าตั้งเป้าหมายว่าจะลงทุนเดือนละ 2000 บาทแบบนี้เป็นเป้าหมายที่ดีเพราะเป็นไปได้
    .
    T = Time-bound หรือมีกรอบเวลาที่ชัดเจน
    ยกตัวอย่างว่าอย่าอ่านหนังสือ 10 เล่ม อย่างนี้ไม่รู้เลยว่าต้องครบเมื่อไหร่ แต่ถ้าตั้งเป้าหมายว่าต้องอ่านหนังสือ 10 เล่มภายใน หนึ่ง ปีแบบนี้คือเป้าหมายที่ดีเพราะมีกรอบเวลาที่ชัดเจน
    ถ้าคุณบอกว่าอย่างมีพอร์ตร้อยลล้านแต่ไม่รู้เมื่อไหร่แบบนี้คือการตั้งเป้าหมายที่ไม่ดี แต่ถ้าตั้งเป้าหมายว่าจะ DCA ทุกเดือน เดือนละ 7000 บาทได้รับผลตอบแทนปีละ 10% เป็นเวลา 10 ปีอย่างนี้เป็นต้นจึงเป็นเป้าหมายที่ดีมีกรอบเวลาชัดเจน ซึ่งมีผลต่อความสำเร็จมากๆเลยนะครับ
    .
    #สอนการลงทุน #สอนเล่นหุ้น #การลงทุน #หุ้น #ตลาดหุ้น #สอนฟรี #กลุ่มคนเล่นหุ้น #เรียนการลงทุน #เรียนหุ้น #พื้นฐานหุ้น #พื้นฐานการลงทุน #การเงิน #การธนาคาร
    การจัดการทางการเงิน ตอนที่ 5. เปลี่ยนเป้าหมายให้ถึงเส้นชัยด้วย Smart Goal หลายคน… ไม่ใช่ไม่มีความฝัน แต่ปัญหาคือมีความฝันแต่ยังไปไม่ถึงฝันสักที ไม่ว่าจะฝันว่าอยากมีบ้านไม้ มีรถใหม่ เรียนต่อ ใช้เงินเยอะทั้งนั้นเลย เงินอาจไม่ได้สำคัญที่สุดในชีวิต แต่ทุกอย่างที่สำคัญในชีวิตล้วนใช้เงินทั้งนั้น ถ้าอยากทำฝันให้เป็นจริงต้องเปลี่ยนความฝันให้เป็นเป้าหมายก่อน หลายคนประเมินการตั้งเป้าหมายที่ต่ำมาก มีงานวิจัยเด็กที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย เกี่ยวกับการตั้งเป้าหมายซึ่งแน่นอนทุกคนล้วนเก่งมากๆแต่ผลที่ออกมาน่าตกใจมากครับ . ข้อมูลจากงานวิจัยพบว่า เด็กรุ่นแรก 80% ไม่เป้าหมาย กลุ่มที่ สอง 13% มีเป้าหมายแต่ไม่ได้เขียน กลุ่มสุดท้ายมีเพียง 3% ที่มีเป้าหมายอย่างชัดเจนและเขียนมันออกมา แล้วทีมวิจัยก็ติดตามเด็กกลุ่มนี้ไปอีกหลายปี และได้พบว่าในเด็กกลุ่มสุดท้ายที่มีเพียง 3 เปอร์เซ็นนั้นจะมีรายได้มากกว่าเด็ก สอง กลุ่มที่เหลืออีก 97% ร่วมกัน แถมมากกว่าถึง 10 เท่าตัวด้วย . การไม่มีเป้าหมายเหมือนการยิงธนูโดยไม่มีเป้า เป้าหมายไม่ชัดเจนก็เหมือนการปาลูกดอกออกไปให้โดนผนังซึ่งมันกว้างเหลือเกิน แบบนี้คุณจะไปหาท่าไหน ท่าไหนก็ได้ปลาแบบไม่ตั้งใจก็ยังโดน แต่ถ้าเป้าหมายคือ Blue eyes กลางเป้าเลยนะคุณจะปาแบบไหน คุณจะตั้งใจมากเล็งแล้วเล็งอีกมีสมาธิและนิ่งมากๆ เห็นไหมว่าเป้าหมายสำคัญมากๆจงเขียนมันออกมา . มาดูกันต่อครับว่าแล้วเราต้องเขียนเป้าหมายอย่างไรจึงจะทำให้มันกลายเป็นความจริงขึ้นมาได้ การเขียนเป้าหมายให้ได้ผลจะต้องเป็นแบบเป้าหมายที่เรียกว่า Smart Goal ซึ่งประกอบด้วย 5 สิ่งดังนี้ S = Specific หรือการเจาะจง ยกตัวอย่างเช่น อยากรวย อยากดูแลพ่อแม่อย่างดี เป็นเป้าหมายที่ไม่ชัดเจนเลยเท่าไหร่คือรวย ให้พ่อแม่เดือนละเท่าไหร่จึงจะถือว่าดูแลอย่างดี ต้องตั้งเป้าหมายว่ามี Passive Income เดือนละ 300,000 บาทตอนอายุ 50 ให้เงินพ่อแม่เดือนละ 50,000 บาทภายในปี xxx นี่คือตัวอย่างของเป้าหมายที่ชัดเจน . อยากมีความรู้การเงินเพิ่ม แบบนี้ไม่ใช่เป้าหมายที่ดีเพราะไม่เจาะจง แต่ถ้าตั้งเป้าหมายว่าฉันจะอ่านหนังสือการเงินเพิ่มเดือนละ หนึ่ง เล่ม เพื่อที่ 3 ารถมีรายได้ที่ดีเพิ่มขึ้น อย่างนี้เป็นเป้าหมายที่ดีเพราะเจาะจงและชัดเจน . ทำไมเป้าหมายที่เจาะจงจึงสำคัญ พอหากเป้าหมายไม่เจาะจงการกระทำก็จะไม่เจาะจงในทางกลับกัน ถ้าเป้าหมายของเราเจาะจงเราจะเจาะจงการกระทำตาม จึงทำให้ไปถึงเป้าหมายที่ต้องการได้ . M = Measurable วัดผลได้ ใช่ตัวอย่างเดิมเลยนะครับ ถ้าเราตั้งเป้าหมายที่ดีเราจะรู้เลยว่ารายได้ที่เราต้องการเพิ่มคือปีละ 500,000 บาท เราก็ 3 ารถวัดผลได้เลยว่าเราต้องทำเดือนละเท่าไหร่แล้วตอนนี้ได้เท่าไหร่แล้ว . เราต้องการอ่านหนังสือการเงินเพิ่มเดือนละ หนึ่ง เล่มดังนั้นต้องอ่านวันละกี่หน้าแล้วตอนนี้อ่านได้กี่หน้าแล้ว ตามที่วางแผนไว้หรือยัง ผ่านไปครึ่งเดือนแล้วเท่ากับว่าควรอ่านจบไปครึ่งเล่ม แบบนี้คือวัดผลได้ ถ้าเราตั้งเป้าหมายที่วัดผลไม่ได้ไม่มีค่าเลยเพราะจะไม่ทราบความก้าวหน้าของเราเลย . A = Achievable หรือรู้ว่าต้องทำอย่างไร มีวิธีการลงมือทำอย่างชัดเจน มีวิธีการที่จะไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้ ไม่ใช่จินตนาการไปว่าเดี๋ยวมันคงเกิดขึ้นสักวัน เช่น ตั้งเป้าหมายว่าฉันจะผอม แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะผอมได้อย่างไร อย่างนี้ไม่ใช่เป้าหมายที่ดี ตั้งเป้าหมายว่าจะอ่านหนังสือการเงินก่อนนอนวันละ 10 หน้า จะสร้างรายได้เพิ่มเดือนละ 5000 บาท จากการลงทุนในกองทุนรวมอย่างนี้เป็นต้น . R = Relevant หรือสอดคล้องกับเป้าหมายใหญ่ เป้าหมายที่ดีต้องท้าทาย แต่ต้องเป็นไปได้ด้วยนะครับ ถ้าเราจะตั้งเป้าหมายว่าฉันจะอ่านหนังสือวันละเล่ม ทั้งๆที่ไม่เคยจับหนังสือมาเลยตั้งแต่เรียนจบ แบบนี้ก็คงจะเป็นไปได้ยากมันฝืนตัวเองจนเกินไป ถ้าวันนี้ได้รับเงินเดือนเดือนละ 20,000 บาทแล้วตั้งเป้าหมายว่าจะลงทุนเดือนละแสน แบบนี้คือมันเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าตั้งเป้าหมายว่าจะลงทุนเดือนละ 2000 บาทแบบนี้เป็นเป้าหมายที่ดีเพราะเป็นไปได้ . T = Time-bound หรือมีกรอบเวลาที่ชัดเจน ยกตัวอย่างว่าอย่าอ่านหนังสือ 10 เล่ม อย่างนี้ไม่รู้เลยว่าต้องครบเมื่อไหร่ แต่ถ้าตั้งเป้าหมายว่าต้องอ่านหนังสือ 10 เล่มภายใน หนึ่ง ปีแบบนี้คือเป้าหมายที่ดีเพราะมีกรอบเวลาที่ชัดเจน ถ้าคุณบอกว่าอย่างมีพอร์ตร้อยลล้านแต่ไม่รู้เมื่อไหร่แบบนี้คือการตั้งเป้าหมายที่ไม่ดี แต่ถ้าตั้งเป้าหมายว่าจะ DCA ทุกเดือน เดือนละ 7000 บาทได้รับผลตอบแทนปีละ 10% เป็นเวลา 10 ปีอย่างนี้เป็นต้นจึงเป็นเป้าหมายที่ดีมีกรอบเวลาชัดเจน ซึ่งมีผลต่อความสำเร็จมากๆเลยนะครับ . #สอนการลงทุน #สอนเล่นหุ้น #การลงทุน #หุ้น #ตลาดหุ้น #สอนฟรี #กลุ่มคนเล่นหุ้น #เรียนการลงทุน #เรียนหุ้น #พื้นฐานหุ้น #พื้นฐานการลงทุน #การเงิน #การธนาคาร
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 5 Views 0 Reviews
  • “ทนายตั้ม” ฟันธง “บอสกันต์-บอสมิน-บอสแซม” ไม่รอดคดี โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง “อี้ แทนคุณ” ชี้เหล่าดาราทราบดีถึงแผนงานบริษัท อย่าบอกว่าไม่รู้เรื่องเพราะเป็นไปไม่ได้ ยิ่งออกมาปฎิเสธ ยิ่งทำเข้าตัวหลอกลวง ฉ้อโกงประชาชน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097553

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ทนายตั้ม” ฟันธง “บอสกันต์-บอสมิน-บอสแซม” ไม่รอดคดี โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง “อี้ แทนคุณ” ชี้เหล่าดาราทราบดีถึงแผนงานบริษัท อย่าบอกว่าไม่รู้เรื่องเพราะเป็นไปไม่ได้ ยิ่งออกมาปฎิเสธ ยิ่งทำเข้าตัวหลอกลวง ฉ้อโกงประชาชน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097553 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    30
    1 Comments 1 Shares 753 Views 0 Reviews
  • “กรรชัย” ปรี๊ด “บอสพอล” บอกไม่รู้มีคนฆ่าตัวตาย เดี๋ยวจะไล่ตั้งแต่หางยันหัวให้ดู! ท้า “มิน-กันต์-แซม” กล้าเผชิญหน้าผู้เสียหายมั้ย?

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097475

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “กรรชัย” ปรี๊ด “บอสพอล” บอกไม่รู้มีคนฆ่าตัวตาย เดี๋ยวจะไล่ตั้งแต่หางยันหัวให้ดู! ท้า “มิน-กันต์-แซม” กล้าเผชิญหน้าผู้เสียหายมั้ย? อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097475 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Sad
    16
    0 Comments 0 Shares 916 Views 0 Reviews
  • ปฐมบท..บอสพอล The Icon

    พอล..คือชื่อของเด็กหนุ่มที่เริ่มต้นก็ค้าขายของที่บ้าน จนกระทั่งยุคที่ Facebook Ads เริ่มให้บริการ

    ตอนนั้นคนยังไม่สนใจการยิงแอด ค่าแอดในการทำโฆษณาเรียกว่าเอาคนได้ที่โหล่มาทำแอดก็ยังกำไร เพราะต้นทุนต่อค่าโฆษณาอยู่ที่คลิกละ 5 สตางค์

    หรือพูดง่ายๆ จ่ายเงินให้เกิดการคลิกเข้ามา 20 ครั้ง เสียเงินแค่ 1 บาท

    ดังนั้นถ้าใครอยู่ในยุคตื่นแอดช่วงแรกเรียกว่ากอบโกยชนิดที่ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อที่ดิน กันได้เลยจริงๆนั่นแหละ

    พ.ศ. 2556 คือยุคเริ่มต้นเมื่อ Facebook ประกาศให้มีการแสดงโฆษณาได้บนประเทศไทย

    พอล..จึงหัดยิงแอดออนไลน์ขายสินค้าของตัวเองจนชำนาญจึงเกิดเป็นพอลผู้ทำการตลาดออนไลน์เก่งมาก (ไม่เก่งได้ไงก็ค่าโฆษณามันยังถูกมาก)

    จะท้าวความให้อ่าน จะได้รู้ว่าทำไมพอลถึงเก่งและหัวใสแยบยลได้อย่างที่เห็นทุกวันนี้ เราจะพาเพื่อนๆแฟนเพจ นั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปดูเรื่องราวของเขากัน..

    ผู้ที่ปั้นพอลให้เก่งอย่างทุกวันนี้ เขามีชื่อว่าคุณ ธเนตรการกล่าวถึงคนนี้เขาไม่ได้เป็นคนทำผิดบาปอะไรนะ เขาเป็นนักการตลาด MLM ที่เก่งที่สุดในไทยระดับต้นๆ

    คุณ ธเนตร ได้สมัครเข้าไปทำการตลาดกับ Jeunesse Global
    👉 https://www.facebook.com/JeunesseGlobal

    ซึ่งเป็นบริษัทขายตรงทั่วๆไปเหมือนแอมเวย์ กิฟฟารีนซึ่งไม่ได้ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่มันมีจุดหนึ่งที่น่าสนใจ

    ก็คือการตลาดยุคนั้นมีกฎห้ามนำสินค้ามาโพสต์ขายออนไลน์ เพื่อเลี่ยงการตัดราคาและเลี่ยงการที่สมาชิกไม่ซื้อสินค้าผ่านบริษัทโดยตรง

    เรียกว่าใครโพสต์ขายหรือชวนคนออนไลน์ จะโดนตัดรหัสทิ้งทันทีเพราะเป็นการทำผิดกฏบริษัท

    แต่..มีนักการตลาดชาวมาเลเซียคนหนึ่ง ชื่อว่า Patric Chan
    👉 https://www.facebook.com/patricchanlive/

    ได้ไปดีลกับ Jeunesse ว่า จะขอพัฒนาระบบชวนคนออนไลน์ได้ไหม โดยให้เหตุผลว่า..จะสามารถทำสปอนเซอร์ข้ามประเทศได้ จะทำให้ Jeunesse มีสมาชิกทั่วโลกได้

    เช่น.เราทำอยู่ที่ไทย เราอาจจะมี Down line อยู่ที่เคนย่า ลาว ไต้หวัน ได้หมด นั่นเป็นไอเดียที่ Jeunesse ตอบตกลงให้ Patric Chan ทำได้

    จึงเกิดเป็นระบบชวนคนออนไลน์ ตอนนั้นแค่ชวนสมัครสมาชิกนะ การสั่งซื้อสินค้าก็ยังคงสั่งผ่านหน้าเวบไซต์ Jeunesse อยู่ดีไม่มีอะไรซับซ้อน

    และคุณ ธเนตร ก็ได้ไปเรียนกับ Patric Chan ตอนที่เขามาเปิดสัมมนาที่ไทยในปี 2558
    👉 https://www.facebook.com/passivewealthTH/

    เมื่อคุณ ธเนตร ได้เรียนรู้ระบบชวนคนออนไลน์แล้วประจวบกับการที่พอลมาสมัครเป็น Downline ของธเนตร ก็เหมือนจับเอาเสือสองตัวมาตีคู่กัน

    เกิดเป็นพลังต่อสู้มหาศาล คนหนึ่งเก่งเรื่องสคริปต์ชวนคน คนหนึ่งเก่งเรื่องยิงแอด ทีนี้แหละความรวยจึงบังเกิด

    เกิดเป็นยอดขายพันล้านของ ธเนตร เกิดยอดขายร้อยล้านของพอล จนทั้งสองคนได้ไปออกรายการต่างๆ

    พอลได้ไปออกรายการตีสิบ จนได้นามสกุลมาต่อท้ายชื่อว่า“พอล ตีสิบ” ใครๆก็เรียกเขาแบบนั้นระหว่างที่เขายังคงทำ Jeunesse

    และตลอดเวลา พอลก็ได้เรียนรู้กลยุทธการทำการตลาดแบบ MLM จากธเนตร จนแตกฉานยิ่งกว่าจบเปรียญธรรม 9 ประโยค

    เมื่อพอลรู้แจ้ง เห็นจริงแล้ว ก็กางปีกโบยบินแยกตัวออกมาจาก ธเนตร มาตั้งบริษัท และทำแบรนด์ชื่อว่า“ The Icon“

    ---------

    โดยช่วงแรกทำสินค้าพวกกาแฟ และ คอลลาเจน เพราะสองอย่างนี้พอลศึกษาแล้วว่าจะทำการตลาดชวนคนได้ง่าย เพราะเป็นสินค้าที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย

    โดยพอลได้วางระบบชวนคนไว้โดยให้ผลตอบแทนเป็นการ "เที่ยวฟรี" และทำโปรโมชั่นเปิดบิลสมัครสมาชิก "เที่ยวฟรี"

    โดยจัดการเที่ยวเน้นไปที่ทะเล พัทยา เพราะดีลค่าโรงแรมได้ถูก พอลฉลาดโดยไม่ได้ดีลโรงแรมห้าดาวอะไร เน้นโรงแรม 3 ดาวก็พอแล้ว โดยมีการจองห้องประชุมไว้ทำสัมมนา

    -----------

    ลูกค้าของพอล..

    ช่วงแรกเขามุ่งเน้นไปที่คนอยากเที่ยวและอยากมีเพื่อนฝูงไปด้วย นั่นก็คือ คนที่เกษียณแล้ว หรือคนแก่นั่นเอง

    เค้ารู้ดีว่ากลุ่มเป้าหมายนี้แหละจะผลักดันให้บริษัทเขาอยู่รอดได้ในช่วงแรก ด้วยการจัดทัวร์เที่ยวกินฟรี (ค่าเดินทางออกเอง)

    โดยการเปิดบิลซื้อสินค้า ช่วงแรกจะมีระดับไม่เยอะ จะมีแบบเปิดคนเดียว เที่ยวคนเดียว และเปิดมากหน่อย ชวนเพื่อนมาเที่ยวได้ฟรี 1 คน 2 คน 3 คน ไล่ไปเรื่อยๆ

    และด้วยหลักการนี้เอง คนแก่จึงตอบรับข้อเสนอของเขาง่าย เพราะนอกจากจะได้สินค้ามากินและใช้แล้วก็ยังได้เที่ยวฟรี

    และคนแก่ส่วนมากมักจะไม่อยากไปเที่ยวคนเดียว จึงเปิดบิลที่ชวนเพื่อนได้ 2 คนขึ้นไป และก็เป็นการชวนเพื่อนมาเที่ยวฟรี

    การเที่ยวก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย ก็คือชวนเพื่อนไปเที่ยวทะเล หลังกินอาหารเช้าแล้ว วันถัดมาก็จะเป็น Event กลางคืน ได้พบกับคนดังที่ออก TV

    นั่นคือบอสพอล ตีสิบ โดยพอลจะมาหลังจากทุกคนถึงแล้ว 1 วันเสมอ เพื่อมาปรากฎตัวบนเวที แล้วก็จะขอบคุณสมาชิกทุกคนที่มาเที่ยว

    รวมไปถึงชักชวนให้คนที่มาเที่ยวกับเพื่อน สมัครสมาชิกเพื่อซื้อสินค้าและสามารถชวนเพื่อนในทริปหน้ากันได้อีก

    โดยคนชวนก็ไม่ใช่ใคร ก็ใช้เพื่อนชวนเพื่อนมันก็ง่ายสิ่คนแก่ขี้เหงายังไงก็ดีกว่ารอลูกหลานพาเที่ยว ฉันไปเที่ยวกับเพื่อนสนุกกว่า

    ทำให้การเปิดบิลซ้ำ การเปิดบิลใหม่ จึงเกิดขึ้นตามแผนการตลาดอันแยบยลของพอลและด้วยวิธีนี้ทำให้ปีแรก บริษัทของพอลมีกำไรเติบโตทันที

    พอล..เริ่มซื้อรถ Super Car ก่อนเลยเพื่อเริ่มเข้าสู่“โหมดความรวย”เพื่อวางแผนกระเถิ่บไปหาลูกค้าที่มีความฝัน..อยากรวยตามแบบคนอื่น

    พอล..เปลี่ยนการตลาดจากคนแก่ มาเจาะคนที่อยากเกษียณก่อนกำหนด คือ เป้าหมายพวกอายุ 35 ขึ้นไปที่ฝันอยากมีรถหรู กระเป๋าแบรนด์เนม..เหมือนคนอื่น

    คนเรามีความฝันนั้นดี “แต่ต้องไม่ลืมนึกถึงความจริง”ที่ว่า บางครั้งความฝันมันก็เป็นได้แค่ความฝัน..ที่ไม่มีวันเป็นความจริง

    พอล..ใช้คอร์สสอนออนไลน์สอนการทำตลาดขายของซึ่งยุคนั้นค่าโฆษณายังไม่แพง แต่ก็เริ่มขยับจากระดับ 10 สตางค์ มาเป็นคลิกละ 50 สตางค์แล้ว แต่มันก็ยังได้ผลอยู่

    เพราะจ่ายค่าโฆษณาไป 1,000 บาท ก็สามารถชวนคนได้ถึง 2000 คลิก ตีไปว่าสนใจ 1% ก็ยังมีคนทักมา 20 คน คอร์สก็เป็นการเตรียม Material ต่างๆเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

    แค่ทุกคนแบกโน้ตบุ๊กของตัวเองมาก็สามารถตั้งโฆษณาได้เลย ทุกคนจะตั้งโฆษณาขายสินค้าและชวนคนเข้าทีม ซึ่งตั้งไว้ที่ 89 บาท

    89 บาท นั่นคือค่าเฉลี่ยที่พอลคำนวณแล้วว่าใช้เทคนิค OPM (Other People Money) แบบนี้ตัวเองก็ไม่ต้องยิงแอดเองแล้ว (จากเดิมตอนชวนคนแก่ต้องยิงแอดเอง และสอนทีมงาน)

    มาคราวนี้พอลได้พัฒนา ระบบการสอน เริ่มมีการตั้งแม่ทีมเพื่อศึกษาวิธีการสอนให้เป็นครู โดยทุกคนก็เอา 89 บาทค่าเรียน ใส่เข้าไปในโฆษณานั่นแหละ

    เท่ากับพอลก็จะได้ Facebook Ads Account มหาศาลโดยที่ตัวเองไม่ต้องเสียเวลาสมัครและไม่ต้องกลัวโดนแบนโฆษณาเพราะถึงโดนก็ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องเหนื่อยลงไปควบคุมเองแล้ว

    ด้วยแผนการตลาดแบบใหม่ ทำให้พอลเติบโตแบบก้าวกระโดด ยอดขายพุ่งไปหลายร้อยล้านทันที เพราะมีการวางเกมเรื่องเปิดบิลไว้แล้ว อย่างที่เห็นในข่าว

    คนมาอย่างน้อยก็ต้องเสียค่าสมัคร member หลัก 2-5 พัน และถ้าแม่ทีมเก่งก็จะต้อนให้ไปเปิดบิลดีลเลอร์ได้เลย 250,000 เพื่อให้เที่ยวฟรีได้เกือบ 10 ครั้ง แถมยังได้โควต้าชวนคนมาเที่ยวด้วย

    เรียกว่าอัดโปรโมชั่นกันแบบจุกๆ เพื่อทำให้คนได้เห็นว่ามาเรียนที่นี่นอกจากจะขายได้แล้ว ยังได้เที่ยวด้วย ทำให้เกิดกระแสบูมไปที่ The Icon

    และด้วยการที่พอลศึกษาข้อกฏหมายกับทนายส่วนตัวมาเป็นอย่างดี รวมถึงได้ความรู้จากอาจารย์ตัวเองมา เขาจึงเลี่ยงวลี..ไม่ได้ทำ MLM

    เพราะรู้ว่าถ้าชวนทำ MLM คนจะไม่มา เขาจึงเรียกระบบของบริษัทตัวเองว่าระบบตัวแทน เพื่อให้คนไม่รู้สึกต่อต้านกับสิ่งที่เขาทำ

    และพอลได้ขออนุญาตการทำการตลาด ที่เรียกว่าตลาดขายตรง ไว้แล้ว บริษัทจึงสามารถดำเนินการได้ โดยไม่มีความผิด และด้วยเทคนิคนี้ทำให้พอล ก้าวเข้าสู่ยอดขายหลายร้อยล้านได้อย่างง่ายดาย
    ---------

    ยุคทองของ..บอสพอล The Icon

    เมื่อโควิดหมดไปประเทศเปิด คนก็เริ่มหางานทำ นั่นจึงเกิดเป็นยอดขาย 4,949,496,994 มีกำไรสุทธิ 813 ล้านบาทเศษ ในปี 2564 นั่นเอง

    เพราะคนแห่มาทำออนไลน์กันเนื่องจากยังคงกลัวโควิดอยู่แต่ก็ต้องทำมาหากินแล้ว ทีนี้ก็แบกตัวเองมาเรียนเพราะอยากมีอาชีพมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัว

    แต่..พอมาเรียนแล้วได้เจอกับนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ เจอคนขับรถสปอร์ต ใส่แบรนด์เนม ความคิดที่อยากจะมีอาชีพที่มีแค่รายได้มาจุนเจือครอบครัวมันเปลี่ยนไป

    เริ่มมีความฝัน อยากสำเร็จ อยากรวย เพราะเห็นจากภาพความสำเร็จของระบบที่พอลได้ออกแบบเอาไว้

    The Icon บูมสุดๆก่อให้เกิดกระแสหลั่งไหลเข้ามาเรียนมากขึ้น ชวนกันมากขึ้น เปิดบิลกันมากขึ้น เที่ยวกันให้สะใจ ทีมงานบอสพอลโพสต์ภาพการกินเที่ยวเต็มโซเชียล

    ภาพถ่ายเหล่านั้นมันดูเหมือนเป็นอนาคตที่สดใสสำหรับทุกคนจริงๆ ดึงดูดคนให้เข้าเรียนเพิ่มขึ้น

    แต่พอคนมาเยอะ มันก็ตรงกับหลัก Supply/Demand เมื่อคนขายมากกว่าคนซื้อและทุกคนแห่กันไปโฆษณาบน Facebook ความฉิบหายจึงบังเกิด

    ค่าโฆษณาพุ่งกระฉูดเพราะทุกคนก็ต้องการ Placement บน Platform ไม่ว่าจะจุดไหนก็จะ Bid ราคากันแบบ Auto

    ทีนี้ AI ของ Facebook ก็ลากราคาต่อคลิกไปสูงถึง 10 บาท ทีนี้เริ่มไม่มีกำไรละ หลายคนเริ่มเจ๊ง หลายคนสต็อกเริ่มล้น..สินค้าติดมือ

    หลายคนเริ่มสู้กับค่าโฆษณาไม่ไหว เพราะยิงแอดไปซ้ำกับคนเดิม ระบบชวนคนทุกบริษัทมันมีข้อเสียตรงนี้แหละคือทำไปสักพักจะมีรหัสซ้ำ

    คำว่ารหัสซ้ำ แปลง่ายๆก็คือทักไปหาคนที่เป็นสมาชิกของ The Icon อยู่แล้ว ดังนั้นการชวนคนจึงไม่ง่ายเหมือนเดิม

    เริ่มเจอหน้าซ้ำ เริ่มเจอคนระดับรากหญ้า เป็นแม่ค้าผักบ้างล่ะ เป็น รปภ.บ้างล่ะ ทำให้ยอดขายปีถัดมาตกลงเหลือ 3 พันกว่าล้าน

    พอล..ต้องการต่ออายุธุรกิจของตัวเองให้เดินหน้าต่อเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าจึงเริ่มหา #ลมใต้ปีก มาช่วยพยุงธุรกิจ

    และรู้ๆกันอยู่ว่าลมใต้ปีกชั้นดีก็คือ..ดารา

    และดาราคนแรกๆเลยก็คือ กันต์ ซึ่งแรกๆกันต์ไม่ได้เข้ามาในฐานะพรีเซ็นเตอร์อีกตางหาก ลองไปสืบค้นกันเอาเองว่าตอนแรกเข้ามาในฐานะอะไร

    กันต์ เข้ามาก่อนแต่มายืนถือสินค้าชิ้นแรกหลังพวกดาราคนอื่น เพราะเพื่อส่งเสริมให้บริษัทมันดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น พอลจึงแต่งตั้งกันต์ให้เป็น CMO ซะเลย

    เพราะจะได้การันตีว่าบริษัทฉันน่ะมันสะอาดโปร่งใสนะฉันไม่โกงหรอก เห็นไหมว่า..พิธีกรระดับประเทศยังมาทำงานร่วมกับฉันเลย

    กันต์ และดาราอีกขโยงหนึ่งทำให้ใครๆก็เชื่อมั่นใน The Icon ชวนเปิดบิลหลักแสนก็ใจอ่อนไม่ต้องหวั่นไหวเพราะมีดาราการันตรี มีดาราพารวย

    แน่นอนว่าช่วงนี้ค่าโฆษณาแพงแล้วนะ แต่มีดารามาการันตี แล้วกำไรมีไหม ก็มีระดับปริ่มๆ แต่บางคนก็เริ่มเจ๊งตั้งแต่เริ่มทำ
    -----------

    ดังที่กล่าวมาข้างบน👆จะเห็นได้ว่าไม่มีเหลี่ยมไหนที่จะตั้งข้อกล่าวหาให้เอาผิดพอลในชั้นศาลในฐานแชร์ลูกโซ่ได้เลย

    จะตั้งข้อกล่าวหาพอลยังยากเพราะไปผิดทางไอ้ที่เย้วๆตั้งธงว่าแชร์ลูกโซ่นี่พอลยิ้มอ่อนเอามือลูบปากคิดในใจ..เสร็จกู

    เพราะเคสแบบนี้มันต้องเริ่มที่ สคบ.ก่อนเลย แต่ด้วยเหตุผลของกฎหมาย สคบ.ก็จะตีความว่า

    การขายสินค้าของพอล..“ไม่ได้ขายต่อไปยังมือผู้บริโภคโดยตรง แต่จำหน่ายไปที่ตัวแทน”และตัวแทนไม่ใช่ผู้บริโภค สคบ.จึงไม่มีอำนาจ“

    หรือเคยมีผู้บริโภคได้รับสินค้าจากมือบอสพอลโดยตรงบ้างไหมล่ะ.? ถ้าไม่มีก็ตรงตามที่ สคบ.ตีความเอาไว้นั่นแหละ

    จึงทำให้ทุกคนที่เคยร้องเรียนไปยัง สคบ.ได้รับคำตอบกลับมาเหมือนกันหมดคือ สคบ.ทำอะไรไม่ได้

    เพราะพอลได้ศึกษาข้อกฏหมายเอาไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย

    ยกเว้นการการันตีว่าแอดต้องปัง #และสินค้ามีคุณภาพ ตรงจุดนี้คือกุญแจดอกเดียวที่จะไขเข้าไปถึงตัวพอลได้นั่นคือ..สินค้าไม่ตรงปรก

    พอล..เริ่มปรับแผนการตลาด ตั้งสำนักงานใหม่ที่รามอินทรา มีรถหรูจอดที่ด้านหน้าเพื่อให้คนมาถ่ายกับรถแล้วก็ไปโพสต์และยิงโฆษณาแทนตนเอง

    เริ่มให้คนสร้างภาพว่าทำแล้วรวย แทนที่จะกลายเป็นเที่ยว ไม่เอาแล้วล่ะ กูเน้นทำแล้วรวย แล้วก็คงคอนเซ็ปต์ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย อยากรวยต้องมาทำกับกูนี่มา ถถถ

    แต่เมื่อคนเริ่มตื่นรู้ ค่าโฆษณาแพง การจะชวนไปต่อในระดับลึกๆทำได้ยาก หลายคนจึงยอมเจ็บแค่นี้แล้วถอยออกมาหาเงินทางอื่นมาใช้หนีั

    ทำให้ปีถัดมา ยอดขายตกเหลือ พันแปดร้อยล้าน หายไปเกือบ 40% ทีนี้บอสพอลก็คงทำได้แค่ยื้อเวลาของธุรกิจตัวเองต่อไป

    โดยการจ้างดารามามากขึ้น ผลิตสินค้าออกมามากขึ้น เพื่อให้การเปิดบิลมัน rotate ไปยังสินค้า SKU ใหม่ๆ

    หลังจากนั้นจึงเป็นความวิบัติที่แท้..

    พอล..ไม่ได้ควบคุมทิศทางบริษัทตัวเองให้ดี รู้ทั้งรู้แต่ยังปล่อยให้ทำ ก็คือแม่ทีม เริ่มกลายร่างสถาปนาตัวเองเป็นโค้ช เก่งระดับประเทศกันทุกคน

    ทุกคนขับรถสปอร์ตกันหมดเลย แล้วรถของใครล่ะ.?

    ก็รถของบอสพอลแทบทุกคันเลยแหละ การตลาดมันจึงกลายเป็นการหลอกลวงผู้คนด้วยโพรไฟล์จอมปลอมทันที

    เพราะรถก็ไม่ใช่ของตัวเอง แต่มาโม้ว่าเป็นของตัวเองเพื่อให้คนอื่นหลงเชื่อว่าทำธุรกิจร่วมกับ The Icon แล้วรวย

    บอสพอลก็ทราบดีเลยนะว่าทำแบบนี้มันคือการหลอกลวง แต่พอลก็รู้ว่าตัวเองไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะเกิดอะไรขึ้นคนที่จะรับกรรมก็แม่ทีมไง ไม่ใช่ตัวเอง

    พอล..ก็หลับตาข้างเดียวปล่อยให้แม่ทีมทำไปตามอำเภอใจ จนมาถึงปัจจุบันที่ทุกคนโหวกเหวกโวยวายนั่นแหละ

    สิ่งที่ควรตระหนักคิด ตื่นให้รู้เอาไว้เลยคือ..

    การยิงแอดขายของออนไลน์มันตายไป 3 ปีแล้วคือหลังปี 2564 ไม่มีใครยิงแอดในระบบตัวแทนไม่ว่าบริษัทใหนแล้วอยู่รอดสักราย นี่คือความจริง

    ไม่ได้พูดถึงแค่ The Icon นะ เราขอพูดถึงทุกๆบริษัท ทุกๆสินค้าเลย เหตุผลก็คือค่าโฆษณามันแพงกว่า Margin ของกำไร

    ดังนั้นคนที่จะอยู่ได้คือ“เจ้าของสินค้าเท่านั้น” ผลิตเอง ยิงเอง โปรโมทเอง ถึงจะอยู่รอด ระบบตัวแทน ระบบออนไลน์มันตายไปตั้งแต่ปี 2564 แล้ว

    คนมันถึงหนีตายไปยิงแอด shopee , lazada กันไงล่ะ เพราะ Facebook มันอยู่ไม่ได้แล้ว แล้วปีนี้ 2567 shopee , lazada ก็เริ่มจะอยู่ไม่ได้แล้ว

    หลายคนจึงไปยิง Tiktok แล้วอีกไม่นานพวกคุณก็จะอยู่ไม่ได้อีกนั่นแหละเพราะมันจะลูปเดิม เหมือนกับ Platform อื่นๆ

    เพราะค่าโฆษณาบน Platform เมื่อแพงแล้วมันจะไม่มีวันลดลง นี่คือกฎแห่งการตลาดง่ายๆ คุณลองไปท่อง Supply/Demand ก็จบแล้ว

    แต่บอสพอลมันพยายามยืดชีวิตด้วยการ rotate บอสจำแลงที่จ้างดาราไปเรื่อยๆ เพื่อให้ FC ทุกระดับทุกวัยยังคงกรี๊ดกับธุรกิจของบอสอยู่

    บอสพอล ถึงไปเลือกพี่โดมยุค 90 มาหาลูกค้าระดับแก่ เลือกมีน มาหาลูกค้าระดับ 30+ ทุกคนก็มีภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ

    พี่แซมก็เช่นกัน เป็นถึงดารานักการเมืองยังลงมาทำธุรกิจนี้เลย ความน่าเชื่อถือแบบนี้พอลซื้อและยื้อมันไปเรื่อยๆตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

    บริษัท the icon ใช้วิธีไม่จ่ายค่าคอมมิชชั่นเป็นเงิน แต่จ่ายเป็นทริปท่องเที่ยวแทน แล้วถ้าใครไม่อยากไปเที่ยว สามารถขายสิทธิ์ไปเที่ยว แลกเป็นเงินกลับไปได้

    จึงเลี่ยงการจ่ายค่าคอมไปได้เยอะ เพราะไปฟันกำไรตอนจัดทริปทัวร์ปุ๊บปั๊บอีก เรียกว่าไปปารีสแต่ได้นั่งรถโฉบหอไอเฟล หรือได้พักตากอากาศที่โรงแรมสามสี่ดาว

    อย่างน้อยก็ได้เที่ยวโว๊ยยยยยยย ส่วนสินค้าขายไม่ออกแกะแดกแม่งให้หมด อส. ถถถ

    สินค้าที่บอกว่าสต็อกไว้ในโกดัง 100% น่ะ เวลาพวกคุณไปเบิกจริงๆ จะเบิกไม่ได้ 100% นะ เพราะมันจะเป็น Dropship

    คือต้องขายได้ บริษัทถึงจะส่งให้ ไม่เน้นให้เบิกกลับไปเก็บที่บ้าน เพราะเปิดบิลดีลเลอร์ต้องรอรอบผลิตของ 2 เดือนเป็นต้นไป

    กว่าจะได้ของครบต้องรอไปเรื่อยๆจนกว่าของจะเข้า ธุรกิจนี้ไ่ม่มีใครโง่ผลิตของมากองไว้ให้หมดอายุหรอก ได้ออเดอร์ค่อยสั่งผลิต

    มันเลยมีช่องว่างให้บอสพอลเอาเงินไปหมุนได้ ได้ข่าวแว่วๆว่าบอสพอลเอาเงินไปลงเทรดด้วย กำไรอู้ฟู่ รวยคนเดียวอีกตามเคย
    ----------

    ดังนั้นบทสรุปของธุรกิจ The Icon เราจะขอบอกให้ชื่นใจดังนี้

    1. พอลคนเดียวที่รวยและรอด เพราะว่าพอลส่งภาษีเที่ยงตรง 100% เป็นลูกรักสรรพากรเลยแหละ นั่นเพราะพอลเรียนรู้จากคุณ ธเนตร ว่าเรื่องนี้ห้่ามพลาด สรรพากรไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงนะพอลนะ

    2. คอร์สขายออนไลน์เรียนราคาถูก ไม่มีอยู่จริง เพราะสุดท้ายพวกคุณจะโดน up sale จะไปเรียนคอร์สระดับ Advance ต้องเป็น Member จะร่ำรวยเงินล้านต้องทุ่ม Dealer

    3. โฆษณาของทุกคนปังหมด เพราะมันมีแม่ทีมที่มี Facebook Account อวตารคอยไปคอมเมนต์สั่งซื้อ แต่มีการซื้อจริงไม่ถีง 20%

    เพราะตอนการันตี การันตีว่าแอดจะปัง แต่คุณปิดการขายไม่ได้เพราะคุณสนทนาขายให้กับแอคผี มันจะไปมียอดซื้อได้ไง พอคุณปิดไม่ได้ทีนี้ความซวยก็เกิดที่ตัวคุณเอง

    พวก Downline ทั้งหลายก็รับกรรมไป หลายคนโดนหลอกว่าจะทำทั้งทีต้องทำแบบ 7-11 เปิดแม่งหลายสาขาเลย ลงเป็นล้านไรงี้

    4. ไม่อยากตุยอย่าเข้าไปทำ หนีได้หนีไป หนีให้สุดชีวิต เพราะมันคือยุคบรรลัยของธุรกิจ The I con ที่ตัวพอลเองเห็นอยู่แท้ๆว่ามันบรรลัย

    ที่ยังหลับหูหลับตาปล่อยให้มันเป็นดั่งระเบิดเวลาที่มันใกล้จะระเบิดแล้ว ก็เพราะความมั่นใจอย่างเดียวเลยที่พอลคิดในใจก็คือ "กูจะไม่โดนคดีอะไรเลย กูขาวสะอาด"

    ทีนี้พวกคุณเข้าใจหรือยังว่าการจะไปด่าพอลมันก็เถียงคอเป็นเอ็น เพราะมันดูใสสะอาด ขาวจั๊วะเลยแหละยิ่งกว่าบรีส จะเห็นแต่แม่ทีมนั่นแหละที่เป็นคนผิด

    ดังนั้นบทจบของละครเรื่องนี้ก็จะไปลงกับแม่ทีมทั้งหลายที่ออกมาเซฟบอสพอลกันให้ลึ่ม ถ้าเรารู้จักจะถามว่า..มึงเซฟตัวเองก่อนไหม มึงไปเซฟ Downline มึงโน่น🤣 อส.

    น้ำกำลังจะท่วมถีงหลังคาบริษัทแล้ว แม่ทีมกำลังอลหม่าน แต่บอสพอลแม่งนอนดูละครคุณธรรมชิลล์ๆ🤣

    เพราะพอลนั้นได้ต่อเรือโนอาร์เตรียมรับสถานการณ์รอไว้ตั้งแต่วันที่ก่อตั้งบริษัทแล้ว ใสสะอาดจนกฏหมายยากที่จะเอื้อมถึง

    สุดท้าย..พอลกับวงศ์วานคนสนิทเท่านั้นที่จะได้ขึ้นเรือโนอาร์รอดตุยจากการถูกน้ำท่วม รอให้น้ำลดก็กลับมาในฐานะคนที่กฏหมายเอื้อมไม่ถีง

    ว่างๆจะเขียนลงลึกให้อ่านว่าทำไมกฏหมายถีงจะเอื้อมไปไม่ถึงบอสพอล เดี๋ยวคอยดูดาราที่เคยไปร่วมวงต่างก็จะออกมายืนยันว่าบริษัทถูกกฏหมาย 100%

    ซึ่งมันก็เป็นความจริงนะ แต่มันเป็นความจริงตามที่กฏหมายตราเอาไว้ว่าทำแบบพอลนั้นไม่ผิด แต่ทางธรรมพอลจะผิดในผิดซ้อนผิดเจตนาทำผิด..ไม่งงนะ.?

    นี่แค่บริษัทแรกนะ ยังมีต่อคิวอีก 4 บริษัท ที่อ่านเรื่องราวแล้วพวกคุณจะอึ้งและมันส์ยิ่งกว่าซีรีย์ เสียอีก

    #พี่ติ่งกระบือบิน ก็อย่าขึ้นทัวร์มาเซฟบอสพอลที่นี่นะครับนะ ผมนี่เขียนช่วยยืนยันเลยนะว่าบอสพอลจะรอดคุก..โอเค๊

    ep.1
    👉 https://www.facebook.com/share/p/YgaYdxzS5FirmYa2/?mibextid=WC7FNe

    สวัสดี
    @ไร้เงา แต่เร้าตรีน

    ปฐมบท..บอสพอล The Icon พอล..คือชื่อของเด็กหนุ่มที่เริ่มต้นก็ค้าขายของที่บ้าน จนกระทั่งยุคที่ Facebook Ads เริ่มให้บริการ ตอนนั้นคนยังไม่สนใจการยิงแอด ค่าแอดในการทำโฆษณาเรียกว่าเอาคนได้ที่โหล่มาทำแอดก็ยังกำไร เพราะต้นทุนต่อค่าโฆษณาอยู่ที่คลิกละ 5 สตางค์ หรือพูดง่ายๆ จ่ายเงินให้เกิดการคลิกเข้ามา 20 ครั้ง เสียเงินแค่ 1 บาท ดังนั้นถ้าใครอยู่ในยุคตื่นแอดช่วงแรกเรียกว่ากอบโกยชนิดที่ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อที่ดิน กันได้เลยจริงๆนั่นแหละ พ.ศ. 2556 คือยุคเริ่มต้นเมื่อ Facebook ประกาศให้มีการแสดงโฆษณาได้บนประเทศไทย พอล..จึงหัดยิงแอดออนไลน์ขายสินค้าของตัวเองจนชำนาญจึงเกิดเป็นพอลผู้ทำการตลาดออนไลน์เก่งมาก (ไม่เก่งได้ไงก็ค่าโฆษณามันยังถูกมาก) จะท้าวความให้อ่าน จะได้รู้ว่าทำไมพอลถึงเก่งและหัวใสแยบยลได้อย่างที่เห็นทุกวันนี้ เราจะพาเพื่อนๆแฟนเพจ นั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปดูเรื่องราวของเขากัน.. ผู้ที่ปั้นพอลให้เก่งอย่างทุกวันนี้ เขามีชื่อว่าคุณ ธเนตรการกล่าวถึงคนนี้เขาไม่ได้เป็นคนทำผิดบาปอะไรนะ เขาเป็นนักการตลาด MLM ที่เก่งที่สุดในไทยระดับต้นๆ คุณ ธเนตร ได้สมัครเข้าไปทำการตลาดกับ Jeunesse Global 👉 https://www.facebook.com/JeunesseGlobal ซึ่งเป็นบริษัทขายตรงทั่วๆไปเหมือนแอมเวย์ กิฟฟารีนซึ่งไม่ได้ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่มันมีจุดหนึ่งที่น่าสนใจ ก็คือการตลาดยุคนั้นมีกฎห้ามนำสินค้ามาโพสต์ขายออนไลน์ เพื่อเลี่ยงการตัดราคาและเลี่ยงการที่สมาชิกไม่ซื้อสินค้าผ่านบริษัทโดยตรง เรียกว่าใครโพสต์ขายหรือชวนคนออนไลน์ จะโดนตัดรหัสทิ้งทันทีเพราะเป็นการทำผิดกฏบริษัท แต่..มีนักการตลาดชาวมาเลเซียคนหนึ่ง ชื่อว่า Patric Chan 👉 https://www.facebook.com/patricchanlive/ ได้ไปดีลกับ Jeunesse ว่า จะขอพัฒนาระบบชวนคนออนไลน์ได้ไหม โดยให้เหตุผลว่า..จะสามารถทำสปอนเซอร์ข้ามประเทศได้ จะทำให้ Jeunesse มีสมาชิกทั่วโลกได้ เช่น.เราทำอยู่ที่ไทย เราอาจจะมี Down line อยู่ที่เคนย่า ลาว ไต้หวัน ได้หมด นั่นเป็นไอเดียที่ Jeunesse ตอบตกลงให้ Patric Chan ทำได้ จึงเกิดเป็นระบบชวนคนออนไลน์ ตอนนั้นแค่ชวนสมัครสมาชิกนะ การสั่งซื้อสินค้าก็ยังคงสั่งผ่านหน้าเวบไซต์ Jeunesse อยู่ดีไม่มีอะไรซับซ้อน และคุณ ธเนตร ก็ได้ไปเรียนกับ Patric Chan ตอนที่เขามาเปิดสัมมนาที่ไทยในปี 2558 👉 https://www.facebook.com/passivewealthTH/ เมื่อคุณ ธเนตร ได้เรียนรู้ระบบชวนคนออนไลน์แล้วประจวบกับการที่พอลมาสมัครเป็น Downline ของธเนตร ก็เหมือนจับเอาเสือสองตัวมาตีคู่กัน เกิดเป็นพลังต่อสู้มหาศาล คนหนึ่งเก่งเรื่องสคริปต์ชวนคน คนหนึ่งเก่งเรื่องยิงแอด ทีนี้แหละความรวยจึงบังเกิด เกิดเป็นยอดขายพันล้านของ ธเนตร เกิดยอดขายร้อยล้านของพอล จนทั้งสองคนได้ไปออกรายการต่างๆ พอลได้ไปออกรายการตีสิบ จนได้นามสกุลมาต่อท้ายชื่อว่า“พอล ตีสิบ” ใครๆก็เรียกเขาแบบนั้นระหว่างที่เขายังคงทำ Jeunesse และตลอดเวลา พอลก็ได้เรียนรู้กลยุทธการทำการตลาดแบบ MLM จากธเนตร จนแตกฉานยิ่งกว่าจบเปรียญธรรม 9 ประโยค เมื่อพอลรู้แจ้ง เห็นจริงแล้ว ก็กางปีกโบยบินแยกตัวออกมาจาก ธเนตร มาตั้งบริษัท และทำแบรนด์ชื่อว่า“ The Icon“ --------- โดยช่วงแรกทำสินค้าพวกกาแฟ และ คอลลาเจน เพราะสองอย่างนี้พอลศึกษาแล้วว่าจะทำการตลาดชวนคนได้ง่าย เพราะเป็นสินค้าที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย โดยพอลได้วางระบบชวนคนไว้โดยให้ผลตอบแทนเป็นการ "เที่ยวฟรี" และทำโปรโมชั่นเปิดบิลสมัครสมาชิก "เที่ยวฟรี" โดยจัดการเที่ยวเน้นไปที่ทะเล พัทยา เพราะดีลค่าโรงแรมได้ถูก พอลฉลาดโดยไม่ได้ดีลโรงแรมห้าดาวอะไร เน้นโรงแรม 3 ดาวก็พอแล้ว โดยมีการจองห้องประชุมไว้ทำสัมมนา ----------- ลูกค้าของพอล.. ช่วงแรกเขามุ่งเน้นไปที่คนอยากเที่ยวและอยากมีเพื่อนฝูงไปด้วย นั่นก็คือ คนที่เกษียณแล้ว หรือคนแก่นั่นเอง เค้ารู้ดีว่ากลุ่มเป้าหมายนี้แหละจะผลักดันให้บริษัทเขาอยู่รอดได้ในช่วงแรก ด้วยการจัดทัวร์เที่ยวกินฟรี (ค่าเดินทางออกเอง) โดยการเปิดบิลซื้อสินค้า ช่วงแรกจะมีระดับไม่เยอะ จะมีแบบเปิดคนเดียว เที่ยวคนเดียว และเปิดมากหน่อย ชวนเพื่อนมาเที่ยวได้ฟรี 1 คน 2 คน 3 คน ไล่ไปเรื่อยๆ และด้วยหลักการนี้เอง คนแก่จึงตอบรับข้อเสนอของเขาง่าย เพราะนอกจากจะได้สินค้ามากินและใช้แล้วก็ยังได้เที่ยวฟรี และคนแก่ส่วนมากมักจะไม่อยากไปเที่ยวคนเดียว จึงเปิดบิลที่ชวนเพื่อนได้ 2 คนขึ้นไป และก็เป็นการชวนเพื่อนมาเที่ยวฟรี การเที่ยวก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย ก็คือชวนเพื่อนไปเที่ยวทะเล หลังกินอาหารเช้าแล้ว วันถัดมาก็จะเป็น Event กลางคืน ได้พบกับคนดังที่ออก TV นั่นคือบอสพอล ตีสิบ โดยพอลจะมาหลังจากทุกคนถึงแล้ว 1 วันเสมอ เพื่อมาปรากฎตัวบนเวที แล้วก็จะขอบคุณสมาชิกทุกคนที่มาเที่ยว รวมไปถึงชักชวนให้คนที่มาเที่ยวกับเพื่อน สมัครสมาชิกเพื่อซื้อสินค้าและสามารถชวนเพื่อนในทริปหน้ากันได้อีก โดยคนชวนก็ไม่ใช่ใคร ก็ใช้เพื่อนชวนเพื่อนมันก็ง่ายสิ่คนแก่ขี้เหงายังไงก็ดีกว่ารอลูกหลานพาเที่ยว ฉันไปเที่ยวกับเพื่อนสนุกกว่า ทำให้การเปิดบิลซ้ำ การเปิดบิลใหม่ จึงเกิดขึ้นตามแผนการตลาดอันแยบยลของพอลและด้วยวิธีนี้ทำให้ปีแรก บริษัทของพอลมีกำไรเติบโตทันที พอล..เริ่มซื้อรถ Super Car ก่อนเลยเพื่อเริ่มเข้าสู่“โหมดความรวย”เพื่อวางแผนกระเถิ่บไปหาลูกค้าที่มีความฝัน..อยากรวยตามแบบคนอื่น พอล..เปลี่ยนการตลาดจากคนแก่ มาเจาะคนที่อยากเกษียณก่อนกำหนด คือ เป้าหมายพวกอายุ 35 ขึ้นไปที่ฝันอยากมีรถหรู กระเป๋าแบรนด์เนม..เหมือนคนอื่น คนเรามีความฝันนั้นดี “แต่ต้องไม่ลืมนึกถึงความจริง”ที่ว่า บางครั้งความฝันมันก็เป็นได้แค่ความฝัน..ที่ไม่มีวันเป็นความจริง พอล..ใช้คอร์สสอนออนไลน์สอนการทำตลาดขายของซึ่งยุคนั้นค่าโฆษณายังไม่แพง แต่ก็เริ่มขยับจากระดับ 10 สตางค์ มาเป็นคลิกละ 50 สตางค์แล้ว แต่มันก็ยังได้ผลอยู่ เพราะจ่ายค่าโฆษณาไป 1,000 บาท ก็สามารถชวนคนได้ถึง 2000 คลิก ตีไปว่าสนใจ 1% ก็ยังมีคนทักมา 20 คน คอร์สก็เป็นการเตรียม Material ต่างๆเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว แค่ทุกคนแบกโน้ตบุ๊กของตัวเองมาก็สามารถตั้งโฆษณาได้เลย ทุกคนจะตั้งโฆษณาขายสินค้าและชวนคนเข้าทีม ซึ่งตั้งไว้ที่ 89 บาท 89 บาท นั่นคือค่าเฉลี่ยที่พอลคำนวณแล้วว่าใช้เทคนิค OPM (Other People Money) แบบนี้ตัวเองก็ไม่ต้องยิงแอดเองแล้ว (จากเดิมตอนชวนคนแก่ต้องยิงแอดเอง และสอนทีมงาน) มาคราวนี้พอลได้พัฒนา ระบบการสอน เริ่มมีการตั้งแม่ทีมเพื่อศึกษาวิธีการสอนให้เป็นครู โดยทุกคนก็เอา 89 บาทค่าเรียน ใส่เข้าไปในโฆษณานั่นแหละ เท่ากับพอลก็จะได้ Facebook Ads Account มหาศาลโดยที่ตัวเองไม่ต้องเสียเวลาสมัครและไม่ต้องกลัวโดนแบนโฆษณาเพราะถึงโดนก็ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องเหนื่อยลงไปควบคุมเองแล้ว ด้วยแผนการตลาดแบบใหม่ ทำให้พอลเติบโตแบบก้าวกระโดด ยอดขายพุ่งไปหลายร้อยล้านทันที เพราะมีการวางเกมเรื่องเปิดบิลไว้แล้ว อย่างที่เห็นในข่าว คนมาอย่างน้อยก็ต้องเสียค่าสมัคร member หลัก 2-5 พัน และถ้าแม่ทีมเก่งก็จะต้อนให้ไปเปิดบิลดีลเลอร์ได้เลย 250,000 เพื่อให้เที่ยวฟรีได้เกือบ 10 ครั้ง แถมยังได้โควต้าชวนคนมาเที่ยวด้วย เรียกว่าอัดโปรโมชั่นกันแบบจุกๆ เพื่อทำให้คนได้เห็นว่ามาเรียนที่นี่นอกจากจะขายได้แล้ว ยังได้เที่ยวด้วย ทำให้เกิดกระแสบูมไปที่ The Icon และด้วยการที่พอลศึกษาข้อกฏหมายกับทนายส่วนตัวมาเป็นอย่างดี รวมถึงได้ความรู้จากอาจารย์ตัวเองมา เขาจึงเลี่ยงวลี..ไม่ได้ทำ MLM เพราะรู้ว่าถ้าชวนทำ MLM คนจะไม่มา เขาจึงเรียกระบบของบริษัทตัวเองว่าระบบตัวแทน เพื่อให้คนไม่รู้สึกต่อต้านกับสิ่งที่เขาทำ และพอลได้ขออนุญาตการทำการตลาด ที่เรียกว่าตลาดขายตรง ไว้แล้ว บริษัทจึงสามารถดำเนินการได้ โดยไม่มีความผิด และด้วยเทคนิคนี้ทำให้พอล ก้าวเข้าสู่ยอดขายหลายร้อยล้านได้อย่างง่ายดาย --------- ยุคทองของ..บอสพอล The Icon เมื่อโควิดหมดไปประเทศเปิด คนก็เริ่มหางานทำ นั่นจึงเกิดเป็นยอดขาย 4,949,496,994 มีกำไรสุทธิ 813 ล้านบาทเศษ ในปี 2564 นั่นเอง เพราะคนแห่มาทำออนไลน์กันเนื่องจากยังคงกลัวโควิดอยู่แต่ก็ต้องทำมาหากินแล้ว ทีนี้ก็แบกตัวเองมาเรียนเพราะอยากมีอาชีพมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัว แต่..พอมาเรียนแล้วได้เจอกับนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ เจอคนขับรถสปอร์ต ใส่แบรนด์เนม ความคิดที่อยากจะมีอาชีพที่มีแค่รายได้มาจุนเจือครอบครัวมันเปลี่ยนไป เริ่มมีความฝัน อยากสำเร็จ อยากรวย เพราะเห็นจากภาพความสำเร็จของระบบที่พอลได้ออกแบบเอาไว้ The Icon บูมสุดๆก่อให้เกิดกระแสหลั่งไหลเข้ามาเรียนมากขึ้น ชวนกันมากขึ้น เปิดบิลกันมากขึ้น เที่ยวกันให้สะใจ ทีมงานบอสพอลโพสต์ภาพการกินเที่ยวเต็มโซเชียล ภาพถ่ายเหล่านั้นมันดูเหมือนเป็นอนาคตที่สดใสสำหรับทุกคนจริงๆ ดึงดูดคนให้เข้าเรียนเพิ่มขึ้น แต่พอคนมาเยอะ มันก็ตรงกับหลัก Supply/Demand เมื่อคนขายมากกว่าคนซื้อและทุกคนแห่กันไปโฆษณาบน Facebook ความฉิบหายจึงบังเกิด ค่าโฆษณาพุ่งกระฉูดเพราะทุกคนก็ต้องการ Placement บน Platform ไม่ว่าจะจุดไหนก็จะ Bid ราคากันแบบ Auto ทีนี้ AI ของ Facebook ก็ลากราคาต่อคลิกไปสูงถึง 10 บาท ทีนี้เริ่มไม่มีกำไรละ หลายคนเริ่มเจ๊ง หลายคนสต็อกเริ่มล้น..สินค้าติดมือ หลายคนเริ่มสู้กับค่าโฆษณาไม่ไหว เพราะยิงแอดไปซ้ำกับคนเดิม ระบบชวนคนทุกบริษัทมันมีข้อเสียตรงนี้แหละคือทำไปสักพักจะมีรหัสซ้ำ คำว่ารหัสซ้ำ แปลง่ายๆก็คือทักไปหาคนที่เป็นสมาชิกของ The Icon อยู่แล้ว ดังนั้นการชวนคนจึงไม่ง่ายเหมือนเดิม เริ่มเจอหน้าซ้ำ เริ่มเจอคนระดับรากหญ้า เป็นแม่ค้าผักบ้างล่ะ เป็น รปภ.บ้างล่ะ ทำให้ยอดขายปีถัดมาตกลงเหลือ 3 พันกว่าล้าน พอล..ต้องการต่ออายุธุรกิจของตัวเองให้เดินหน้าต่อเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าจึงเริ่มหา #ลมใต้ปีก มาช่วยพยุงธุรกิจ และรู้ๆกันอยู่ว่าลมใต้ปีกชั้นดีก็คือ..ดารา และดาราคนแรกๆเลยก็คือ กันต์ ซึ่งแรกๆกันต์ไม่ได้เข้ามาในฐานะพรีเซ็นเตอร์อีกตางหาก ลองไปสืบค้นกันเอาเองว่าตอนแรกเข้ามาในฐานะอะไร กันต์ เข้ามาก่อนแต่มายืนถือสินค้าชิ้นแรกหลังพวกดาราคนอื่น เพราะเพื่อส่งเสริมให้บริษัทมันดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น พอลจึงแต่งตั้งกันต์ให้เป็น CMO ซะเลย เพราะจะได้การันตีว่าบริษัทฉันน่ะมันสะอาดโปร่งใสนะฉันไม่โกงหรอก เห็นไหมว่า..พิธีกรระดับประเทศยังมาทำงานร่วมกับฉันเลย กันต์ และดาราอีกขโยงหนึ่งทำให้ใครๆก็เชื่อมั่นใน The Icon ชวนเปิดบิลหลักแสนก็ใจอ่อนไม่ต้องหวั่นไหวเพราะมีดาราการันตรี มีดาราพารวย แน่นอนว่าช่วงนี้ค่าโฆษณาแพงแล้วนะ แต่มีดารามาการันตี แล้วกำไรมีไหม ก็มีระดับปริ่มๆ แต่บางคนก็เริ่มเจ๊งตั้งแต่เริ่มทำ ----------- ดังที่กล่าวมาข้างบน👆จะเห็นได้ว่าไม่มีเหลี่ยมไหนที่จะตั้งข้อกล่าวหาให้เอาผิดพอลในชั้นศาลในฐานแชร์ลูกโซ่ได้เลย จะตั้งข้อกล่าวหาพอลยังยากเพราะไปผิดทางไอ้ที่เย้วๆตั้งธงว่าแชร์ลูกโซ่นี่พอลยิ้มอ่อนเอามือลูบปากคิดในใจ..เสร็จกู เพราะเคสแบบนี้มันต้องเริ่มที่ สคบ.ก่อนเลย แต่ด้วยเหตุผลของกฎหมาย สคบ.ก็จะตีความว่า การขายสินค้าของพอล..“ไม่ได้ขายต่อไปยังมือผู้บริโภคโดยตรง แต่จำหน่ายไปที่ตัวแทน”และตัวแทนไม่ใช่ผู้บริโภค สคบ.จึงไม่มีอำนาจ“ หรือเคยมีผู้บริโภคได้รับสินค้าจากมือบอสพอลโดยตรงบ้างไหมล่ะ.? ถ้าไม่มีก็ตรงตามที่ สคบ.ตีความเอาไว้นั่นแหละ จึงทำให้ทุกคนที่เคยร้องเรียนไปยัง สคบ.ได้รับคำตอบกลับมาเหมือนกันหมดคือ สคบ.ทำอะไรไม่ได้ เพราะพอลได้ศึกษาข้อกฏหมายเอาไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย ยกเว้นการการันตีว่าแอดต้องปัง #และสินค้ามีคุณภาพ ตรงจุดนี้คือกุญแจดอกเดียวที่จะไขเข้าไปถึงตัวพอลได้นั่นคือ..สินค้าไม่ตรงปรก พอล..เริ่มปรับแผนการตลาด ตั้งสำนักงานใหม่ที่รามอินทรา มีรถหรูจอดที่ด้านหน้าเพื่อให้คนมาถ่ายกับรถแล้วก็ไปโพสต์และยิงโฆษณาแทนตนเอง เริ่มให้คนสร้างภาพว่าทำแล้วรวย แทนที่จะกลายเป็นเที่ยว ไม่เอาแล้วล่ะ กูเน้นทำแล้วรวย แล้วก็คงคอนเซ็ปต์ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย อยากรวยต้องมาทำกับกูนี่มา ถถถ แต่เมื่อคนเริ่มตื่นรู้ ค่าโฆษณาแพง การจะชวนไปต่อในระดับลึกๆทำได้ยาก หลายคนจึงยอมเจ็บแค่นี้แล้วถอยออกมาหาเงินทางอื่นมาใช้หนีั ทำให้ปีถัดมา ยอดขายตกเหลือ พันแปดร้อยล้าน หายไปเกือบ 40% ทีนี้บอสพอลก็คงทำได้แค่ยื้อเวลาของธุรกิจตัวเองต่อไป โดยการจ้างดารามามากขึ้น ผลิตสินค้าออกมามากขึ้น เพื่อให้การเปิดบิลมัน rotate ไปยังสินค้า SKU ใหม่ๆ หลังจากนั้นจึงเป็นความวิบัติที่แท้.. พอล..ไม่ได้ควบคุมทิศทางบริษัทตัวเองให้ดี รู้ทั้งรู้แต่ยังปล่อยให้ทำ ก็คือแม่ทีม เริ่มกลายร่างสถาปนาตัวเองเป็นโค้ช เก่งระดับประเทศกันทุกคน ทุกคนขับรถสปอร์ตกันหมดเลย แล้วรถของใครล่ะ.? ก็รถของบอสพอลแทบทุกคันเลยแหละ การตลาดมันจึงกลายเป็นการหลอกลวงผู้คนด้วยโพรไฟล์จอมปลอมทันที เพราะรถก็ไม่ใช่ของตัวเอง แต่มาโม้ว่าเป็นของตัวเองเพื่อให้คนอื่นหลงเชื่อว่าทำธุรกิจร่วมกับ The Icon แล้วรวย บอสพอลก็ทราบดีเลยนะว่าทำแบบนี้มันคือการหลอกลวง แต่พอลก็รู้ว่าตัวเองไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะเกิดอะไรขึ้นคนที่จะรับกรรมก็แม่ทีมไง ไม่ใช่ตัวเอง พอล..ก็หลับตาข้างเดียวปล่อยให้แม่ทีมทำไปตามอำเภอใจ จนมาถึงปัจจุบันที่ทุกคนโหวกเหวกโวยวายนั่นแหละ สิ่งที่ควรตระหนักคิด ตื่นให้รู้เอาไว้เลยคือ.. การยิงแอดขายของออนไลน์มันตายไป 3 ปีแล้วคือหลังปี 2564 ไม่มีใครยิงแอดในระบบตัวแทนไม่ว่าบริษัทใหนแล้วอยู่รอดสักราย นี่คือความจริง ไม่ได้พูดถึงแค่ The Icon นะ เราขอพูดถึงทุกๆบริษัท ทุกๆสินค้าเลย เหตุผลก็คือค่าโฆษณามันแพงกว่า Margin ของกำไร ดังนั้นคนที่จะอยู่ได้คือ“เจ้าของสินค้าเท่านั้น” ผลิตเอง ยิงเอง โปรโมทเอง ถึงจะอยู่รอด ระบบตัวแทน ระบบออนไลน์มันตายไปตั้งแต่ปี 2564 แล้ว คนมันถึงหนีตายไปยิงแอด shopee , lazada กันไงล่ะ เพราะ Facebook มันอยู่ไม่ได้แล้ว แล้วปีนี้ 2567 shopee , lazada ก็เริ่มจะอยู่ไม่ได้แล้ว หลายคนจึงไปยิง Tiktok แล้วอีกไม่นานพวกคุณก็จะอยู่ไม่ได้อีกนั่นแหละเพราะมันจะลูปเดิม เหมือนกับ Platform อื่นๆ เพราะค่าโฆษณาบน Platform เมื่อแพงแล้วมันจะไม่มีวันลดลง นี่คือกฎแห่งการตลาดง่ายๆ คุณลองไปท่อง Supply/Demand ก็จบแล้ว แต่บอสพอลมันพยายามยืดชีวิตด้วยการ rotate บอสจำแลงที่จ้างดาราไปเรื่อยๆ เพื่อให้ FC ทุกระดับทุกวัยยังคงกรี๊ดกับธุรกิจของบอสอยู่ บอสพอล ถึงไปเลือกพี่โดมยุค 90 มาหาลูกค้าระดับแก่ เลือกมีน มาหาลูกค้าระดับ 30+ ทุกคนก็มีภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ พี่แซมก็เช่นกัน เป็นถึงดารานักการเมืองยังลงมาทำธุรกิจนี้เลย ความน่าเชื่อถือแบบนี้พอลซื้อและยื้อมันไปเรื่อยๆตลอด 3 ปีที่ผ่านมา บริษัท the icon ใช้วิธีไม่จ่ายค่าคอมมิชชั่นเป็นเงิน แต่จ่ายเป็นทริปท่องเที่ยวแทน แล้วถ้าใครไม่อยากไปเที่ยว สามารถขายสิทธิ์ไปเที่ยว แลกเป็นเงินกลับไปได้ จึงเลี่ยงการจ่ายค่าคอมไปได้เยอะ เพราะไปฟันกำไรตอนจัดทริปทัวร์ปุ๊บปั๊บอีก เรียกว่าไปปารีสแต่ได้นั่งรถโฉบหอไอเฟล หรือได้พักตากอากาศที่โรงแรมสามสี่ดาว อย่างน้อยก็ได้เที่ยวโว๊ยยยยยยย ส่วนสินค้าขายไม่ออกแกะแดกแม่งให้หมด อส. ถถถ สินค้าที่บอกว่าสต็อกไว้ในโกดัง 100% น่ะ เวลาพวกคุณไปเบิกจริงๆ จะเบิกไม่ได้ 100% นะ เพราะมันจะเป็น Dropship คือต้องขายได้ บริษัทถึงจะส่งให้ ไม่เน้นให้เบิกกลับไปเก็บที่บ้าน เพราะเปิดบิลดีลเลอร์ต้องรอรอบผลิตของ 2 เดือนเป็นต้นไป กว่าจะได้ของครบต้องรอไปเรื่อยๆจนกว่าของจะเข้า ธุรกิจนี้ไ่ม่มีใครโง่ผลิตของมากองไว้ให้หมดอายุหรอก ได้ออเดอร์ค่อยสั่งผลิต มันเลยมีช่องว่างให้บอสพอลเอาเงินไปหมุนได้ ได้ข่าวแว่วๆว่าบอสพอลเอาเงินไปลงเทรดด้วย กำไรอู้ฟู่ รวยคนเดียวอีกตามเคย ---------- ดังนั้นบทสรุปของธุรกิจ The Icon เราจะขอบอกให้ชื่นใจดังนี้ 1. พอลคนเดียวที่รวยและรอด เพราะว่าพอลส่งภาษีเที่ยงตรง 100% เป็นลูกรักสรรพากรเลยแหละ นั่นเพราะพอลเรียนรู้จากคุณ ธเนตร ว่าเรื่องนี้ห้่ามพลาด สรรพากรไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงนะพอลนะ 2. คอร์สขายออนไลน์เรียนราคาถูก ไม่มีอยู่จริง เพราะสุดท้ายพวกคุณจะโดน up sale จะไปเรียนคอร์สระดับ Advance ต้องเป็น Member จะร่ำรวยเงินล้านต้องทุ่ม Dealer 3. โฆษณาของทุกคนปังหมด เพราะมันมีแม่ทีมที่มี Facebook Account อวตารคอยไปคอมเมนต์สั่งซื้อ แต่มีการซื้อจริงไม่ถีง 20% เพราะตอนการันตี การันตีว่าแอดจะปัง แต่คุณปิดการขายไม่ได้เพราะคุณสนทนาขายให้กับแอคผี มันจะไปมียอดซื้อได้ไง พอคุณปิดไม่ได้ทีนี้ความซวยก็เกิดที่ตัวคุณเอง พวก Downline ทั้งหลายก็รับกรรมไป หลายคนโดนหลอกว่าจะทำทั้งทีต้องทำแบบ 7-11 เปิดแม่งหลายสาขาเลย ลงเป็นล้านไรงี้ 4. ไม่อยากตุยอย่าเข้าไปทำ หนีได้หนีไป หนีให้สุดชีวิต เพราะมันคือยุคบรรลัยของธุรกิจ The I con ที่ตัวพอลเองเห็นอยู่แท้ๆว่ามันบรรลัย ที่ยังหลับหูหลับตาปล่อยให้มันเป็นดั่งระเบิดเวลาที่มันใกล้จะระเบิดแล้ว ก็เพราะความมั่นใจอย่างเดียวเลยที่พอลคิดในใจก็คือ "กูจะไม่โดนคดีอะไรเลย กูขาวสะอาด" ทีนี้พวกคุณเข้าใจหรือยังว่าการจะไปด่าพอลมันก็เถียงคอเป็นเอ็น เพราะมันดูใสสะอาด ขาวจั๊วะเลยแหละยิ่งกว่าบรีส จะเห็นแต่แม่ทีมนั่นแหละที่เป็นคนผิด ดังนั้นบทจบของละครเรื่องนี้ก็จะไปลงกับแม่ทีมทั้งหลายที่ออกมาเซฟบอสพอลกันให้ลึ่ม ถ้าเรารู้จักจะถามว่า..มึงเซฟตัวเองก่อนไหม มึงไปเซฟ Downline มึงโน่น🤣 อส. น้ำกำลังจะท่วมถีงหลังคาบริษัทแล้ว แม่ทีมกำลังอลหม่าน แต่บอสพอลแม่งนอนดูละครคุณธรรมชิลล์ๆ🤣 เพราะพอลนั้นได้ต่อเรือโนอาร์เตรียมรับสถานการณ์รอไว้ตั้งแต่วันที่ก่อตั้งบริษัทแล้ว ใสสะอาดจนกฏหมายยากที่จะเอื้อมถึง สุดท้าย..พอลกับวงศ์วานคนสนิทเท่านั้นที่จะได้ขึ้นเรือโนอาร์รอดตุยจากการถูกน้ำท่วม รอให้น้ำลดก็กลับมาในฐานะคนที่กฏหมายเอื้อมไม่ถีง ว่างๆจะเขียนลงลึกให้อ่านว่าทำไมกฏหมายถีงจะเอื้อมไปไม่ถึงบอสพอล เดี๋ยวคอยดูดาราที่เคยไปร่วมวงต่างก็จะออกมายืนยันว่าบริษัทถูกกฏหมาย 100% ซึ่งมันก็เป็นความจริงนะ แต่มันเป็นความจริงตามที่กฏหมายตราเอาไว้ว่าทำแบบพอลนั้นไม่ผิด แต่ทางธรรมพอลจะผิดในผิดซ้อนผิดเจตนาทำผิด..ไม่งงนะ.? นี่แค่บริษัทแรกนะ ยังมีต่อคิวอีก 4 บริษัท ที่อ่านเรื่องราวแล้วพวกคุณจะอึ้งและมันส์ยิ่งกว่าซีรีย์ เสียอีก #พี่ติ่งกระบือบิน ก็อย่าขึ้นทัวร์มาเซฟบอสพอลที่นี่นะครับนะ ผมนี่เขียนช่วยยืนยันเลยนะว่าบอสพอลจะรอดคุก..โอเค๊ ep.1 👉 https://www.facebook.com/share/p/YgaYdxzS5FirmYa2/?mibextid=WC7FNe สวัสดี @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    0 Comments 0 Shares 27 Views 0 Reviews
  • “กันต์ กันตถาวร”แค่คนช่วยทำการตลาดของ “ดิ ไอคอนฯ”จริงดิ !?! (11/10/67) #news1 #กันต์กันตถาวร #ดิไอคอน
    “กันต์ กันตถาวร”แค่คนช่วยทำการตลาดของ “ดิ ไอคอนฯ”จริงดิ !?! (11/10/67) #news1 #กันต์กันตถาวร #ดิไอคอน
    Like
    Haha
    Sad
    13
    1 Comments 0 Shares 792 Views 608 0 Reviews
  • 11 ตุลาคม 2567 -รายงานจากเว็บไซต์Thaiger ส่องคลังนาฬิกาหรู Patek Philippe ของ ‘กันต์ กันตถาวร ในบัญชีอินสตาแกรม IG : kankantathavorn แสดงความชื่นชอบการสะสมนาฬิกาหรู ราคาแพง โดยเฉพาะแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง “Patek Philippe (ปาเต็ก ฟิลิปป์)” โดยเจ้าตัวแสดงภาพบางส่วนของนาฬิกาเหล่านี้ในอินสตาแกรมให้ปรากฏเป็นที่ฮือฮาในโลกออนไลน์ดังนี้

    1. Patek Philippe 5070P
    นาฬิกา Patek Philippe 5070P คือ นาฬิกาโครโนกราฟ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนาฬิกา ที่สวยงาม และทรงคุณค่าที่สุดในโลก ผลิตจากแพลตตินั่ม (Platinum 950) วัสดุชั้นสูงที่ให้ความหรูหรา สง่างาม และทนทาน
    ราคาเริ่มต้น : 7,150,000 บาท

    2. Patek Philippe 5131P
    Patek Philippe 5131P คือผลงานชิ้นเอกที่ผสานฟังก์ชั่น World Time เข้ากับศิลปะชั้นสูง พร้อมความงดงามจากหน้าปัด Enamel ที่รังสรรค์ขึ้นอย่างประณีต ตัวเรือน Platinum เสริมความหรูหรา สง่างาม สมกับเป็นนาฬิกา ระดับ Grand Complications จากแบรนด์ Patek Philippe ที่ได้รับความนิยม
    ราคาเริ่มต้น : 5,899,000 บาท

    3. Patek Philippe 5961P
    นาฬิกา Patek Philippe 5961P คือสุดยอดนาฬิกาโครโนกราฟ ที่ผสานความซับซ้อนของกลไกที่มีฟังก์ชันจำเป็นกับการใช้งานในปัจจุบันอย่าง ‘ปฏิทิน Annual Calendar การแสดงเวลาสองไทม์โซน’ และ ‘World Time’ ให้เข้ากับความงามสง่าของเพชรน้ำงาม ตัวเรือน Platinum ขับประกายเจิดจรัส สะกดทุกสายตา ด้วยดีไซน์ที่หรูหรา เหนือกาลเวลา

    4. Patek Philippe 6102P
    Patek Philippe 6102P คือที่สุดแห่งนาฬิกาที่ผสานความซับซ้อนของกลไกเข้ากับความงดงามของดวงดาวบนท้องฟ้า หน้าปัด “Celestial Moon Age” แสดงภาพท้องฟ้ายามค่ำคืน พร้อมบอกตำแหน่งของดวงดาว และข้างขึ้น-ข้างแรม ตัวเรือน Platinum ขับประกายความหรูหรา สง่างาม สมกับเป็นผลงานชิ้นเอกจากแบรนด์ Patek Philippe
    ราคาเริ่มต้น : 13,039,900 บาท

    5. Patek Philippe 5740/1G
    Patek Philippe Nautilus 5740/1G คือนาฬิกาข้อมือที่ผสานความสง่างามของดีไซน์สปอร์ต เข้ากับความซับซ้อนของกลไก Perpetual Calendar ได้อย่างลงตัว ซึ่งบอกได้ทั้งที่บอกเวลา วัน เดือน ปี และข้างขึ้นข้างแรม ตัวเรือน White Gold เปล่งประกาย สะท้อนรสนิยม และความหรูหรา ที่เหนือระดับ
    ราคาเริ่มต้น : 7,300,000 บาท

    6. Patek Philippe 5270p
    Patek Philippe 5270P คือ นาฬิกาข้อมือที่รวมฟังก์ชั่น Perpetual Calendar และ Chronograph ไว้ในเรือนเดียว โดดเด่นด้วยความซับซ้อนของกลไก และดีไซน์คลาสสิกเหนือกาลเวลา ตัวเรือน Platinum เปล่งประกาย สะท้อนถึงความหรูหรา สง่างาม และเป็นหนึ่งในนาฬิกาที่นักสะสมทั่วโลกต่างหมายปอง
    ราคาเริ่มต้น : 8,026,200 บาท

    อย่างไรก็ดี ภาพความงามของนาฬิกา ‘ปาเต็ก ฟิลิปป์’ ทั้ง 6 เรือน ที่ได้รวบรวมมาในวันนี้ เป็นเพียงของสะสมส่วนหนึ่งของหนุ่มกันต์เท่านั้น ซึ่งหากรวมราคาคร่าว ๆ แล้วก็จะอยู่ที่ราว ๆ 48,000,000 ล้านบาทไทย ด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกที่ทุกครั้งเมื่อ ‘กันต์ กันตถาวร’ โพสต์ภาพความงามของนาฬิกาในกรุ แฟน ๆ ทางโซเชียลถึงได้ฮือฮากันสุด ๆ

    ที่มา : https://thethaiger.com/th/news/1258824/

    #Thaitimes
    11 ตุลาคม 2567 -รายงานจากเว็บไซต์Thaiger ส่องคลังนาฬิกาหรู Patek Philippe ของ ‘กันต์ กันตถาวร ในบัญชีอินสตาแกรม IG : kankantathavorn แสดงความชื่นชอบการสะสมนาฬิกาหรู ราคาแพง โดยเฉพาะแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง “Patek Philippe (ปาเต็ก ฟิลิปป์)” โดยเจ้าตัวแสดงภาพบางส่วนของนาฬิกาเหล่านี้ในอินสตาแกรมให้ปรากฏเป็นที่ฮือฮาในโลกออนไลน์ดังนี้ 1. Patek Philippe 5070P นาฬิกา Patek Philippe 5070P คือ นาฬิกาโครโนกราฟ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนาฬิกา ที่สวยงาม และทรงคุณค่าที่สุดในโลก ผลิตจากแพลตตินั่ม (Platinum 950) วัสดุชั้นสูงที่ให้ความหรูหรา สง่างาม และทนทาน ราคาเริ่มต้น : 7,150,000 บาท 2. Patek Philippe 5131P Patek Philippe 5131P คือผลงานชิ้นเอกที่ผสานฟังก์ชั่น World Time เข้ากับศิลปะชั้นสูง พร้อมความงดงามจากหน้าปัด Enamel ที่รังสรรค์ขึ้นอย่างประณีต ตัวเรือน Platinum เสริมความหรูหรา สง่างาม สมกับเป็นนาฬิกา ระดับ Grand Complications จากแบรนด์ Patek Philippe ที่ได้รับความนิยม ราคาเริ่มต้น : 5,899,000 บาท 3. Patek Philippe 5961P นาฬิกา Patek Philippe 5961P คือสุดยอดนาฬิกาโครโนกราฟ ที่ผสานความซับซ้อนของกลไกที่มีฟังก์ชันจำเป็นกับการใช้งานในปัจจุบันอย่าง ‘ปฏิทิน Annual Calendar การแสดงเวลาสองไทม์โซน’ และ ‘World Time’ ให้เข้ากับความงามสง่าของเพชรน้ำงาม ตัวเรือน Platinum ขับประกายเจิดจรัส สะกดทุกสายตา ด้วยดีไซน์ที่หรูหรา เหนือกาลเวลา 4. Patek Philippe 6102P Patek Philippe 6102P คือที่สุดแห่งนาฬิกาที่ผสานความซับซ้อนของกลไกเข้ากับความงดงามของดวงดาวบนท้องฟ้า หน้าปัด “Celestial Moon Age” แสดงภาพท้องฟ้ายามค่ำคืน พร้อมบอกตำแหน่งของดวงดาว และข้างขึ้น-ข้างแรม ตัวเรือน Platinum ขับประกายความหรูหรา สง่างาม สมกับเป็นผลงานชิ้นเอกจากแบรนด์ Patek Philippe ราคาเริ่มต้น : 13,039,900 บาท 5. Patek Philippe 5740/1G Patek Philippe Nautilus 5740/1G คือนาฬิกาข้อมือที่ผสานความสง่างามของดีไซน์สปอร์ต เข้ากับความซับซ้อนของกลไก Perpetual Calendar ได้อย่างลงตัว ซึ่งบอกได้ทั้งที่บอกเวลา วัน เดือน ปี และข้างขึ้นข้างแรม ตัวเรือน White Gold เปล่งประกาย สะท้อนรสนิยม และความหรูหรา ที่เหนือระดับ ราคาเริ่มต้น : 7,300,000 บาท 6. Patek Philippe 5270p Patek Philippe 5270P คือ นาฬิกาข้อมือที่รวมฟังก์ชั่น Perpetual Calendar และ Chronograph ไว้ในเรือนเดียว โดดเด่นด้วยความซับซ้อนของกลไก และดีไซน์คลาสสิกเหนือกาลเวลา ตัวเรือน Platinum เปล่งประกาย สะท้อนถึงความหรูหรา สง่างาม และเป็นหนึ่งในนาฬิกาที่นักสะสมทั่วโลกต่างหมายปอง ราคาเริ่มต้น : 8,026,200 บาท อย่างไรก็ดี ภาพความงามของนาฬิกา ‘ปาเต็ก ฟิลิปป์’ ทั้ง 6 เรือน ที่ได้รวบรวมมาในวันนี้ เป็นเพียงของสะสมส่วนหนึ่งของหนุ่มกันต์เท่านั้น ซึ่งหากรวมราคาคร่าว ๆ แล้วก็จะอยู่ที่ราว ๆ 48,000,000 ล้านบาทไทย ด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกที่ทุกครั้งเมื่อ ‘กันต์ กันตถาวร’ โพสต์ภาพความงามของนาฬิกาในกรุ แฟน ๆ ทางโซเชียลถึงได้ฮือฮากันสุด ๆ ที่มา : https://thethaiger.com/th/news/1258824/ #Thaitimes
    THETHAIGER.COM
    เปิดนาฬิกาหรู 'กันต์ กันตถาวร' แต่ละเรือนราคาเหยียบสิบล้าน ดูดีสมฐานะพิธีกรดัง
    เปิดนาฬิกาหรูของ กันต์ กันตถาวร แต่ละเรือนดีไซน์สุดเท่สมราคาเหยียบสิบล้านบาท ด้านทนายตั้ม เผยกลางวงสื่อ คาดมีสะสมไม่น้อยกว่า 30 เรือน
    Like
    Sad
    6
    0 Comments 0 Shares 295 Views 0 Reviews
  • การจัดการทางการเงิน

    ตอนที่ 4.
    ความมั่งคั่งวัดกันที่เวลา - มาดูกันว่าคุณมั่งคั่งแค่ไหนนี่คือสูตรคำนวณ ความมั่งคั่งจะเท่ากับเงินเก็บของคุณหารด้วยค่าใช้จ่ายต่อเดือนของคุณ ยกตัวอย่างเช่นคุณมีเงินเก็บ 100,000 บาท ค่าใช้จ่ายเดือนละ 20,000 บาท 100,000/20,000 = 5 แปลว่าคุณมีความมั่งคั่ง 5 เดือนครับ
    .
    ลองทายกันดูสิครับว่าคนรวยเขามั่งคั่งกันเท่าไหร่ หนึ่ง ปี สอง ปี 5 ปี 10 ปี คำตอบคือ อินฟินิตี้ คือตลอดไปเป็นไป ไปได้อย่างไรมาดูกัน รายได้ส่วนมากของคนรวยเป็น passive income เป็นรายได้ที่มาจากทรัพย์สินและถ้ามันมากกว่าการใช้จ่ายแปลว่าเขาจะมั่งคั่งตลอดไปครับ
    .
    ยกตัวอย่างเช่นถ้าคน หนึ่ง มี passive income เดือนละ หนึ่ง ล้านบาทจากเงินปันผล จากดอกเบี้ย จากค่าเช่าร่วมกันนะครับ เดือนละ หนึ่ง ล้านบาท แต่ว่าค่าใช้จ่ายเขาคือ 500,000 บาท เขาจะอยู่ได้นานแค่ไหนครับ คำตอบคือตลอดไป
    .
    Active income คือรายได้ที่เกิดจากการทำงานหากไม่ทำงานก็ไม่เกิดรายได้เช่น ค่าจ้าง เงินเดือนค่าคอมมิชชั่น รายได้จากการเปิดร้านค้า
    Passive income คือรายได้ที่เกิดจากทรัพย์สินเช่น ค่าเช่า 5 ลิขสิทธิ์ เงินปันผล
    .
    ดอกเบี้ยตอนนี้ทุกคนคงเห็นความสำคัญของการลงทุนแล้วนะครับ แต่ก่อนที่เราจะไปคุยกันเรื่องของการลงทุน ผมมีคำถามครับ
    เป้าหมายการลงทุนของคุณคืออะไร
    คุณต้องการเท่าไหร่
    และอยากได้เมื่อไร ตอบได้ทันทีหรือเปล่า ขอแสดงความยินดีกับคนที่ตอบได้ทันทีนะครับคุณมีเป้าหมายชัดเจนดีแล้ว แต่ถ้าใครยังตอบไม่ได้ไม่เป็นไรครับเราตั้งเป้าหมายกันตอนนี้เลย ทำไมเราต้องตั้งเป้าหมายหลายคนรู้สึกเบื่อคำนี้แล้ว อย่าเบื่อเลยครับ เพราะเป้าหมายคือความชัดเจนคือคำตอบว่าจริงๆแล้วเราต้องการอะไร เราต้องการนำรายได้จากการลงทุนไปทำอะไรกันแน่ เมื่อรู้แล้วเราจะนำไปออกแบบวิธีการและเลือกเครื่องมือที่จะพาเราไปถึงเป้าหมายนั้นได้อย่างถูกต้อง
    ดังนั้นตอนนี้เรามาตั้งเป้าหมายกันก่อน ถ้าเป้าหมายคุณชัดที่เหลือก็ชัด เราต้องออกแบบเป้าหมายกันอย่างชัดเจนอย่างละเอียดเลยครับหลายคนบอกว่าเป้าหมายคืออยากรวย ถ้าตอบแบบนี้ไม่พอนะครับ ต้องถามต่อว่าคำว่ารวยนั้นคือเท่าไหร่ เพราะคำว่ารวยของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนมี หนึ่ง ล้านคือรวย บางคนบอกต้องมีร้อยล้านถึงจะรวย บางคนบอกว่ามีเพียงพอกับการใช้ชีวิตอย่างสบายๆ แค่นี้ก็รวยแล้ว เห็นไหมว่าไม่เท่ากัน ถ้าเราไม่รู้คำตอบที่ชัดเจนเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรารวยแล้ว
    .
    ดังนั้นเราต้องมีเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน ชัดแจ๋วละเอียดเลยนะครับ เพราะการที่ไม่มีเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน ก็เหมือนการยิงธนูโดยไม่มีปลายทางซึ่งไม่มีทางโดนอะไรเลยใช่ไหมครับ และต้องขอบอกอีกด้วยว่าไม่มีเป้าหมายแบบไหนที่ดีที่สุด มีแต่เป้าหมายที่ตอบโจทย์คุณที่สุด
    .
    ดังนั้นไม่ต้องถามผมว่าต้องตั้งเป้าหมายแบบไหนถึงจะดีเพราะคำถามนี้คุณต้องถามตัวคุณเองแล้วฟังคำตอบจากตัวคุณเองด้วยครับ และเป้าหมายของคุณไม่จำเป็นต้องเหมือนของคนอื่นนะครับ ถ้าตอนนี้ยังไม่ได้วางเป้าหมายเอาไว้เลยและคิดไม่ออกเลยว่าจะวางเป้าหมายอย่างไรด้วย ผมมีตัวอย่างการตั้งเป้าหมายมาฝาก ลองอ่านแล้วพิจารณาแล้วเลือกหรือจะนำมาปรับให้สอดคล้องกับความต้องการของตัวเองดูครับ
    1. เงินเก็บที่เพียงพอ – จนทำให้สามารถเกษียณได้ เป้าหมายนี้เป็นเป้าหมายที่คนส่วนใหญ่บนโลกนี้ต้องการ ถ้าคุณตั้งเป้าหมายข้อนี้คุณต้องตอบคำถามตัวเองว่าคุณจะเกษียณเมื่ออายุเท่าไหร่ และคาดว่าจะเสียชีวิตตอนอายุเท่าไหร่ เราต้องคิดเรื่องนี้ไว้เพื่อวางแผนการเงินให้ชัดเจน แค่คาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามนั้นจริงๆนะ เมื่อเราได้ตัวเลขอายุที่ต้องการเกษียณ และตัวเลขอายุขัยโดยประมาณ เราก็จะนำมาคำนวณตัวเลขง่ายๆเพื่อหาเป้าหมายในการลงทุนกัน
    ยกตัวอย่าง ถ้าคุณจะเกษียณตอนอายุ 60 ปีที่แล้วคาดว่าจะเสียชีวิตตอนอายุ 90 ปี ลบเลขง่ายๆก็ใช้ชีวิตต 30 ปีหรือ 360 เดือนใช่ไหมครับ
    .
    สิ่งที่ต้องมาคิดกันต่อคือ 30 ปีที่เหลืออยู่นั้น ต้องการใช้เงินเดือนละเท่าไหร่เพื่อจะนำมาคำนวณหาเงินเก็บที่จะต้องมีก่อนวันเกษียณ
    ยกตัวอย่างเช่น
    ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 25,000 บาท
    ก็ต้องมีเงินเก็บ 25,000 x 12 x 30 = 9 ล้านบาท
    ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 50,000 บาท
    ก็ต้องมีเงินเก็บ 50,000 x 12 x 30 = 18 ล้านบาท
    ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 100,000 บาท
    ก็ต้องมีเงินเก็บ 100,000 x 12 x 30 = 36 ล้านบาท
    ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 200,000 บาท
    ก็ต้องมีเงินเก็บ 200,000 x 12 x 30 = 72 ล้านบาท
    ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 500,000 บาท
    ก็ต้องมีเงินเก็บ 500,000 x 12 x 30 = 180 ล้านบาท
    อย่างนี้เป็นต้น อย่าลืมด้วยว่าตัวเลขนี้ยังไม่รวมเงินเฟ้อนะครับ เก็บไว้ไหมครับ
    .
    2. มีอิสรภาพทางการเงิน – คือการที่มีรายได้จาก passive income มากกว่าค่าใช้จ่ายนั่นเองครับ รายได้จาก passive income คืออะไร ต้องอธิบายก่อนว่ารายได้ของเราถูกแบ่งออกเป็น สอง ประเภทใหญ่ๆคือ active และ Passive income
    Active Income คือรายได้จากการทำงานที่ใช้แรงหรือเวลาของเราไปแลกกับรายได้ประเภทนี้มา เช่นค่าแรงเงินเดือนค่าคอมมิชชั่นเมื่อทำก็เกินรายได้แต่ถ้าไม่ทำก็ไม่เกิดรายได้
    Passive income คือรายได้ที่มาจากทรัพย์สินที่สร้างรายได้ต่อเนื่องกลับมาให้เราเช่น บ้านให้เช่า อพาร์ทเม้นท์ ค่าลิขสิทธ์ดอกเบี้ยเงินฝากปันผล
    .
    รายได้จาก Passive income ควรมีเท่าไหร่ เราวัดได้จาก Wealth Ratio หรืออัตราส่วนความมั่งคั่งซึ่งยิ่งมากยิ่งดีมีวิธีการคำนวณดังนี้
    .
    อัตราส่วนความมั่งคั่ง = รายได้จากทรัพย์สิน/ค่าใช้จ่ายเช่น ถ้ามีรายจ่าย 50,000 บาท และมี Passive income 50,000 บาท
    อัตราส่วนความมั่งคั่งคือ 50,000/50,000 = 1
    หรือถ้ามีรายจ่าย 100,000 บาท และมี passive income 500,000 บาท
    อัตราส่วนความมั่งคั่งคือ 500,000/100,000 = 5
    จะเห็นได้ว่ายิ่งมีอัตราส่วนความมั่งคั่งที่ยิ่งมากก็ยิ่งดีนะครับ ยิ่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งไร้ความกังวลเท่านั้น
    .
    3. Generational Wealth เพื่อส่งต่อให้คนรุ่นหลัง
    เป้าหมายข้อนี้เหมือนเป้าหมายของผมครับ เราอาจตั้งเป้าหมายทางการเงินเป็นการสร้างแล้วส่งมอบต่อให้คนรุ่นหลังได้ ไม่ว่าจะเป็นลูก ล้าน องค์กรการกุศลหรือสาธารณประโยชน์ก็ได้ ถ้าคุณอยากจะส่งรายได้ต่อให้ผู้อื่นคุณจะต้องส่งต่อ Productive Asset หรือทรัพย์สินที่ผลิตเงินได้เช่นอสังหา ปล่อยเช่า หุ้นปันผล กองทุน ETF และส่งต่อความรู้ทางด้านการเงินด้วยนะครับ เพราะถ้าให้แค่เงินไม่ให้ความรู้ไม่ว่าจะมีมากเท่าไหร่ไม่นานก็หมด ต้องส่งทั้ง Mindset และ Skillset ให้เขา ความจริงแล้วแค่ให้ความรู้ทางด้านการเงินที่ถูกต้อง โดยที่ไม่ต้องให้ทรัพย์สิน ไม่ให้รายได้ เค้าก็ 3 ารถหาเงินเองได้ สร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองได้แล้ว แต่ถ้าให้ทรัพย์สินไปด้วยก็ยิ่งก็ยอดเยี่ยม
    .
    4. เป้าหมายแบบอื่นๆ - ได้อีกมากมายที่คุณ 3 ารถออกแบบขึ้นมาตามความต้องการของตัวเอง แต่ขั้นต่ำข้อ หนึ่ง ต้องทำให้ได้เท่าไม่ได้จะลำบากเลยนะครับแถมยังจะเป็นภาระให้คนอื่นด้วย ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างการวางเป้าหมายทางการลงทุนเพื่อให้คุณชัดเจนว่าต้องการอะไรจากการลงทุน ไม่ว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร คุณต้องสร้าง แผนการและค้นหาวิธีการค้นหาเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายนั้นได้แล้วตั้งแต่วันนี้
    .
    เป้าหมายที่ไร้ซึ่งแผนการเป็นแค่ความฝัน – เหมือนเรามีเป้าหมายการเดินทางจากกรุงเทพฯจะไปเชียงใหม่เราจะขึ้นเครื่องบินไปก็ได้นั่งรถโดยสารไปก็ได้ขับรถไปเองก็ได้โบกรถไปก็ได้ใช่ไหม การเงินก็เช่นกัน เมื่อรู้เป้าหมายชัดเจนแล้ว เราก็ต้องมาวางแผนกันว่าจะไปถึงเป้าหมายทางการลงทุนนั้นด้วยเครื่องมืออะไร ซึ่งเครื่องมือที่เรากำลังพูดถึงอยู่นั้นผมเตรียมมาให้ทั้งหมดแล้ว ค่อยๆอ่านทำความเข้าใจและเลือกเครื่องมือไปใช้ตามเป้าหมายของคุณ ไม่มีที่ดีกว่าหรือแย่กว่า และไม่มีเครื่องมือที่ผิดหรือถูกนะครับมีแต่คำตอบที่ตอบโจทย์คุณ ดังนั้นตอนนี้ลองเขียนเป้าหมายออกมาให้ชัดเจนก่อน โดยยังไม่ต้องกังวลถึงวิธีการ เพราะวิธีการนั้นมากมายและไม่ต้องไปหาที่ไหนผมรวบรวมมาให้ทั้งหมดแล้วครับ ไปเรียนรู้ต่อได้เลย
    .
    #สอนการลงทุน #สอนเล่นหุ้น #การลงทุน #หุ้น #ตลาดหุ้น #สอนฟรี #กลุ่มคนเล่นหุ้น #เรียนการลงทุน #เรียนหุ้น #พื้นฐานหุ้น #พื้นฐานการลงทุน #การเงิน #การธนาคาร
    การจัดการทางการเงิน ตอนที่ 4. ความมั่งคั่งวัดกันที่เวลา - มาดูกันว่าคุณมั่งคั่งแค่ไหนนี่คือสูตรคำนวณ ความมั่งคั่งจะเท่ากับเงินเก็บของคุณหารด้วยค่าใช้จ่ายต่อเดือนของคุณ ยกตัวอย่างเช่นคุณมีเงินเก็บ 100,000 บาท ค่าใช้จ่ายเดือนละ 20,000 บาท 100,000/20,000 = 5 แปลว่าคุณมีความมั่งคั่ง 5 เดือนครับ . ลองทายกันดูสิครับว่าคนรวยเขามั่งคั่งกันเท่าไหร่ หนึ่ง ปี สอง ปี 5 ปี 10 ปี คำตอบคือ อินฟินิตี้ คือตลอดไปเป็นไป ไปได้อย่างไรมาดูกัน รายได้ส่วนมากของคนรวยเป็น passive income เป็นรายได้ที่มาจากทรัพย์สินและถ้ามันมากกว่าการใช้จ่ายแปลว่าเขาจะมั่งคั่งตลอดไปครับ . ยกตัวอย่างเช่นถ้าคน หนึ่ง มี passive income เดือนละ หนึ่ง ล้านบาทจากเงินปันผล จากดอกเบี้ย จากค่าเช่าร่วมกันนะครับ เดือนละ หนึ่ง ล้านบาท แต่ว่าค่าใช้จ่ายเขาคือ 500,000 บาท เขาจะอยู่ได้นานแค่ไหนครับ คำตอบคือตลอดไป . Active income คือรายได้ที่เกิดจากการทำงานหากไม่ทำงานก็ไม่เกิดรายได้เช่น ค่าจ้าง เงินเดือนค่าคอมมิชชั่น รายได้จากการเปิดร้านค้า Passive income คือรายได้ที่เกิดจากทรัพย์สินเช่น ค่าเช่า 5 ลิขสิทธิ์ เงินปันผล . ดอกเบี้ยตอนนี้ทุกคนคงเห็นความสำคัญของการลงทุนแล้วนะครับ แต่ก่อนที่เราจะไปคุยกันเรื่องของการลงทุน ผมมีคำถามครับ เป้าหมายการลงทุนของคุณคืออะไร คุณต้องการเท่าไหร่ และอยากได้เมื่อไร ตอบได้ทันทีหรือเปล่า ขอแสดงความยินดีกับคนที่ตอบได้ทันทีนะครับคุณมีเป้าหมายชัดเจนดีแล้ว แต่ถ้าใครยังตอบไม่ได้ไม่เป็นไรครับเราตั้งเป้าหมายกันตอนนี้เลย ทำไมเราต้องตั้งเป้าหมายหลายคนรู้สึกเบื่อคำนี้แล้ว อย่าเบื่อเลยครับ เพราะเป้าหมายคือความชัดเจนคือคำตอบว่าจริงๆแล้วเราต้องการอะไร เราต้องการนำรายได้จากการลงทุนไปทำอะไรกันแน่ เมื่อรู้แล้วเราจะนำไปออกแบบวิธีการและเลือกเครื่องมือที่จะพาเราไปถึงเป้าหมายนั้นได้อย่างถูกต้อง ดังนั้นตอนนี้เรามาตั้งเป้าหมายกันก่อน ถ้าเป้าหมายคุณชัดที่เหลือก็ชัด เราต้องออกแบบเป้าหมายกันอย่างชัดเจนอย่างละเอียดเลยครับหลายคนบอกว่าเป้าหมายคืออยากรวย ถ้าตอบแบบนี้ไม่พอนะครับ ต้องถามต่อว่าคำว่ารวยนั้นคือเท่าไหร่ เพราะคำว่ารวยของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนมี หนึ่ง ล้านคือรวย บางคนบอกต้องมีร้อยล้านถึงจะรวย บางคนบอกว่ามีเพียงพอกับการใช้ชีวิตอย่างสบายๆ แค่นี้ก็รวยแล้ว เห็นไหมว่าไม่เท่ากัน ถ้าเราไม่รู้คำตอบที่ชัดเจนเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรารวยแล้ว . ดังนั้นเราต้องมีเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน ชัดแจ๋วละเอียดเลยนะครับ เพราะการที่ไม่มีเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน ก็เหมือนการยิงธนูโดยไม่มีปลายทางซึ่งไม่มีทางโดนอะไรเลยใช่ไหมครับ และต้องขอบอกอีกด้วยว่าไม่มีเป้าหมายแบบไหนที่ดีที่สุด มีแต่เป้าหมายที่ตอบโจทย์คุณที่สุด . ดังนั้นไม่ต้องถามผมว่าต้องตั้งเป้าหมายแบบไหนถึงจะดีเพราะคำถามนี้คุณต้องถามตัวคุณเองแล้วฟังคำตอบจากตัวคุณเองด้วยครับ และเป้าหมายของคุณไม่จำเป็นต้องเหมือนของคนอื่นนะครับ ถ้าตอนนี้ยังไม่ได้วางเป้าหมายเอาไว้เลยและคิดไม่ออกเลยว่าจะวางเป้าหมายอย่างไรด้วย ผมมีตัวอย่างการตั้งเป้าหมายมาฝาก ลองอ่านแล้วพิจารณาแล้วเลือกหรือจะนำมาปรับให้สอดคล้องกับความต้องการของตัวเองดูครับ 1. เงินเก็บที่เพียงพอ – จนทำให้สามารถเกษียณได้ เป้าหมายนี้เป็นเป้าหมายที่คนส่วนใหญ่บนโลกนี้ต้องการ ถ้าคุณตั้งเป้าหมายข้อนี้คุณต้องตอบคำถามตัวเองว่าคุณจะเกษียณเมื่ออายุเท่าไหร่ และคาดว่าจะเสียชีวิตตอนอายุเท่าไหร่ เราต้องคิดเรื่องนี้ไว้เพื่อวางแผนการเงินให้ชัดเจน แค่คาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามนั้นจริงๆนะ เมื่อเราได้ตัวเลขอายุที่ต้องการเกษียณ และตัวเลขอายุขัยโดยประมาณ เราก็จะนำมาคำนวณตัวเลขง่ายๆเพื่อหาเป้าหมายในการลงทุนกัน ยกตัวอย่าง ถ้าคุณจะเกษียณตอนอายุ 60 ปีที่แล้วคาดว่าจะเสียชีวิตตอนอายุ 90 ปี ลบเลขง่ายๆก็ใช้ชีวิตต 30 ปีหรือ 360 เดือนใช่ไหมครับ . สิ่งที่ต้องมาคิดกันต่อคือ 30 ปีที่เหลืออยู่นั้น ต้องการใช้เงินเดือนละเท่าไหร่เพื่อจะนำมาคำนวณหาเงินเก็บที่จะต้องมีก่อนวันเกษียณ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 25,000 บาท ก็ต้องมีเงินเก็บ 25,000 x 12 x 30 = 9 ล้านบาท ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 50,000 บาท ก็ต้องมีเงินเก็บ 50,000 x 12 x 30 = 18 ล้านบาท ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 100,000 บาท ก็ต้องมีเงินเก็บ 100,000 x 12 x 30 = 36 ล้านบาท ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 200,000 บาท ก็ต้องมีเงินเก็บ 200,000 x 12 x 30 = 72 ล้านบาท ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 500,000 บาท ก็ต้องมีเงินเก็บ 500,000 x 12 x 30 = 180 ล้านบาท อย่างนี้เป็นต้น อย่าลืมด้วยว่าตัวเลขนี้ยังไม่รวมเงินเฟ้อนะครับ เก็บไว้ไหมครับ . 2. มีอิสรภาพทางการเงิน – คือการที่มีรายได้จาก passive income มากกว่าค่าใช้จ่ายนั่นเองครับ รายได้จาก passive income คืออะไร ต้องอธิบายก่อนว่ารายได้ของเราถูกแบ่งออกเป็น สอง ประเภทใหญ่ๆคือ active และ Passive income Active Income คือรายได้จากการทำงานที่ใช้แรงหรือเวลาของเราไปแลกกับรายได้ประเภทนี้มา เช่นค่าแรงเงินเดือนค่าคอมมิชชั่นเมื่อทำก็เกินรายได้แต่ถ้าไม่ทำก็ไม่เกิดรายได้ Passive income คือรายได้ที่มาจากทรัพย์สินที่สร้างรายได้ต่อเนื่องกลับมาให้เราเช่น บ้านให้เช่า อพาร์ทเม้นท์ ค่าลิขสิทธ์ดอกเบี้ยเงินฝากปันผล . รายได้จาก Passive income ควรมีเท่าไหร่ เราวัดได้จาก Wealth Ratio หรืออัตราส่วนความมั่งคั่งซึ่งยิ่งมากยิ่งดีมีวิธีการคำนวณดังนี้ . อัตราส่วนความมั่งคั่ง = รายได้จากทรัพย์สิน/ค่าใช้จ่ายเช่น ถ้ามีรายจ่าย 50,000 บาท และมี Passive income 50,000 บาท อัตราส่วนความมั่งคั่งคือ 50,000/50,000 = 1 หรือถ้ามีรายจ่าย 100,000 บาท และมี passive income 500,000 บาท อัตราส่วนความมั่งคั่งคือ 500,000/100,000 = 5 จะเห็นได้ว่ายิ่งมีอัตราส่วนความมั่งคั่งที่ยิ่งมากก็ยิ่งดีนะครับ ยิ่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งไร้ความกังวลเท่านั้น . 3. Generational Wealth เพื่อส่งต่อให้คนรุ่นหลัง เป้าหมายข้อนี้เหมือนเป้าหมายของผมครับ เราอาจตั้งเป้าหมายทางการเงินเป็นการสร้างแล้วส่งมอบต่อให้คนรุ่นหลังได้ ไม่ว่าจะเป็นลูก ล้าน องค์กรการกุศลหรือสาธารณประโยชน์ก็ได้ ถ้าคุณอยากจะส่งรายได้ต่อให้ผู้อื่นคุณจะต้องส่งต่อ Productive Asset หรือทรัพย์สินที่ผลิตเงินได้เช่นอสังหา ปล่อยเช่า หุ้นปันผล กองทุน ETF และส่งต่อความรู้ทางด้านการเงินด้วยนะครับ เพราะถ้าให้แค่เงินไม่ให้ความรู้ไม่ว่าจะมีมากเท่าไหร่ไม่นานก็หมด ต้องส่งทั้ง Mindset และ Skillset ให้เขา ความจริงแล้วแค่ให้ความรู้ทางด้านการเงินที่ถูกต้อง โดยที่ไม่ต้องให้ทรัพย์สิน ไม่ให้รายได้ เค้าก็ 3 ารถหาเงินเองได้ สร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองได้แล้ว แต่ถ้าให้ทรัพย์สินไปด้วยก็ยิ่งก็ยอดเยี่ยม . 4. เป้าหมายแบบอื่นๆ - ได้อีกมากมายที่คุณ 3 ารถออกแบบขึ้นมาตามความต้องการของตัวเอง แต่ขั้นต่ำข้อ หนึ่ง ต้องทำให้ได้เท่าไม่ได้จะลำบากเลยนะครับแถมยังจะเป็นภาระให้คนอื่นด้วย ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างการวางเป้าหมายทางการลงทุนเพื่อให้คุณชัดเจนว่าต้องการอะไรจากการลงทุน ไม่ว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร คุณต้องสร้าง แผนการและค้นหาวิธีการค้นหาเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายนั้นได้แล้วตั้งแต่วันนี้ . เป้าหมายที่ไร้ซึ่งแผนการเป็นแค่ความฝัน – เหมือนเรามีเป้าหมายการเดินทางจากกรุงเทพฯจะไปเชียงใหม่เราจะขึ้นเครื่องบินไปก็ได้นั่งรถโดยสารไปก็ได้ขับรถไปเองก็ได้โบกรถไปก็ได้ใช่ไหม การเงินก็เช่นกัน เมื่อรู้เป้าหมายชัดเจนแล้ว เราก็ต้องมาวางแผนกันว่าจะไปถึงเป้าหมายทางการลงทุนนั้นด้วยเครื่องมืออะไร ซึ่งเครื่องมือที่เรากำลังพูดถึงอยู่นั้นผมเตรียมมาให้ทั้งหมดแล้ว ค่อยๆอ่านทำความเข้าใจและเลือกเครื่องมือไปใช้ตามเป้าหมายของคุณ ไม่มีที่ดีกว่าหรือแย่กว่า และไม่มีเครื่องมือที่ผิดหรือถูกนะครับมีแต่คำตอบที่ตอบโจทย์คุณ ดังนั้นตอนนี้ลองเขียนเป้าหมายออกมาให้ชัดเจนก่อน โดยยังไม่ต้องกังวลถึงวิธีการ เพราะวิธีการนั้นมากมายและไม่ต้องไปหาที่ไหนผมรวบรวมมาให้ทั้งหมดแล้วครับ ไปเรียนรู้ต่อได้เลย . #สอนการลงทุน #สอนเล่นหุ้น #การลงทุน #หุ้น #ตลาดหุ้น #สอนฟรี #กลุ่มคนเล่นหุ้น #เรียนการลงทุน #เรียนหุ้น #พื้นฐานหุ้น #พื้นฐานการลงทุน #การเงิน #การธนาคาร
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 44 Views 0 Reviews
  • 10 ตุลาคม 2567-รายงานข่าวช่อง8 ระบุว่า บริษัท The Icon โพสต์ชี้แจง กันต์ กันตถาวร, แซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี, มิน พีชญา ,บอย ปกรณ์, โดม ปกรณ์ ลัม ไม่ได้เป็นผู้มีอำนาจลงนามตามหนังสือรับรองบริษัท และไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นแต่อย่างใด

    #Thaitimes
    10 ตุลาคม 2567-รายงานข่าวช่อง8 ระบุว่า บริษัท The Icon โพสต์ชี้แจง กันต์ กันตถาวร, แซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี, มิน พีชญา ,บอย ปกรณ์, โดม ปกรณ์ ลัม ไม่ได้เป็นผู้มีอำนาจลงนามตามหนังสือรับรองบริษัท และไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นแต่อย่างใด #Thaitimes
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 515 Views 0 Reviews
  • 10-10-67/01 : หมี CNN / "เล่าสู่กันฟัง" EP.10 ตอน "NEW WAVE COMING" ยอดสะสมรถอียุ่นปี่ในไทย ลดหวบยับ กว่า 30% ทำไมน่ะรึ? อ้างจีนขยี้ตลาดรถไทย โปรดแหกตาดูทุกปัจจัย รถน้ำมัน ใครจ่ายไหว? ไฮบริคแค่แก้ขัด ระยะยาวจะไปต่อยังไงมิทราบ? เพราะ EV มันไป 1000 กม. แล้ว โคตรพ่อง โคตรแม่ง ขับวันละ 1000 ถึงมุย? เค้ารอให้ทุกอย่างเสถียรก่อน ยังไง EV คืออนาคต ทุกชาติต่างรู้ดี? มรึงหลอกแดร๊กควายไทยมากว่าครึ่งศตวรรษ ดัดแปลงรถกะบะ เสริมแต่งหน่อย ปักป้าย 1.7 ล้าน แม้แต่ควายยังอึ้ง? เจอ BYD มาทีเดียวขาย 700000 ควายถึงจะตื่น? ยุคนี้ น้ำมันแพง เศรษฐกิจต่ำตม รถเกินล้านใครจะซื้อ? ที่มาว่า DEALER ทั่วไทย ย้ายค่าย ปิดกิจการ หันไปขาย EV ดีกว่าค่ายอียุ่นปี่ ใครตายห่าก่อน ตัวแทนอะไหล่ยนต์ไงล่ะ รถสันดาปไปก่อนใครเพื่อน? มันถึงเวลาที่โลกจะเปลี่ยน รับการเปลี่ยนแปลงให้ดีดี รถ EV แค่ปลายยอดภูเขาน้ำแข็ง ยังมีนวตกรรมอีกมาก ที่กำลังจะเข้ามา? สื่อเสี้ยมตีข่าวจีนตีตลาดไทยยับ โยนบาปให้จีน แต่ผู้บริโภคควายไทยได้ตื่น อะไรที่ถูกและดี แล้วมรึงจะจ่ายแพงกว่าทำไม? รถสันดาปใช้กันมาเป็นศตวรรษแล้ว มรึงจะยังใช้กันต่ออีก 100 ปี เหรอ? ปัจจัยยอดสั่งรถลดลงฮวบ มันมีหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่ EV เป็นเหตุ คนสรรหาสิ่งที่ดีกว่า ถูกกว่า เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ตลาดรถมือสองจะตายเอา เพราะที่ผ่านมา กินส่วนต่างไว้เยอะ งวดนี้ คนไม่ต้องซื้อมือสองใช้ หันไปจ่ายมือ 1 ป้ายแดงได้เลย 400000 ก็มีให้เลือก ผลประโยชน์ผู้บริโภคเต็มตรีน ก็ต้องปรับตัวกันไปตามเศรษฐกิจโลก และการเปลี่ยนแปลงที่จะตามมา? กูบอกเลย อีกหน่อย ในเวลาอันสั้น โดรนส่งสินค้า โดรน TAXI มาแน่ แล้วมรึงจะช็อค! เวลาแสงทำงาน ยามเปลี่ยนแปลงผลัดใบโลก มันมักจะเกิดแรงต่อต้านเสมอ สำหรับช่วงแรก แต่พอนานวัน ทุกความสะดวกสบายมากขึ้น ประหยัดกว่า ลดมลพิษได้ดีกว่า พลังงานสะอาดมาเต็มตรีน ใครจะไม่เอา? กลับมาสู่โลกสาย HARD CORE กันต่อ : 300 ลูกพร้อมกัน สาแก่ใจอีช้อยเฮซบอเลาะห์เค้าแหละ เละเป็นโจ๊กตามเคย เห่าเก่งแต่ในสื่อหลอกควาย โลกจริง ตายอย่างกะหมาข้างถนน? ซาเฟด แหล่งอุตสาหกรรมทางทหารอียิว แตกกระจุย ที่ใดมีคลังแสง ที่นั่นคือขุมนรก? ระบบป้องกัยภัยแห้วแดร๊กตามเคย มันใช้จริงได้ที่ไหนกันล่ะ? หมายังรู้! ส่งผลให้อาวุธขาดแคลนทันที เมื่อโรงงานผลิตหายวับ มรึงจะรอรับบริจาคจากใครได้อีก? แม่งไม่เหลือเหี้ยอะไรอีกแล้ว หมดตูดกันทั้งกะปิ? อาหรับกำลังจะทำอะไร? ชี้ให้โลกเห็นว่า ลงแขกยิวสบายตรีน ท้าทายอเมริกาให้เข้ามาช่วย จะได้ตายห่าทีเดียว ที่มาว่าทำไม บินทิ้งระเบิดเหี้ยมะกันหันหลังควับ ไม่ตรงต่อไปถล่มเป้าหมายโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน เพราะถูกล็อคเป้าไงจ๊ะ? "คุณหลอกดาวอีกแย้ว" ล่อให้เข้าไปตายห่าสิน่ะ ลงข่าวหน้า 1 บินทิ้งระเบิดตายคาตรีนไฮเปอร์โซนิค แล้วกูจะยังขายเหี้ยอะไรหลอกควายได้อีกล่ะ? อิหร่านมีระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400/S-350s ถามคำเดียว ยังจะเหลือลำไหนรอดได้อีก? หลังอิหร่านเพิ่งจะทดสอบนิวเคลียร์ใต้ดิน สะเทือนไปถึงอเมริกา นกรู้กันทั่ว มาดิมรึง? หายไปทั้งเยรูซาเล๋มฝั่งตะวันตก เหี้ยมันเองก็รู้ ว่าไม่มีเครื่องบินลำไหนที่จะผ่าน S-400 รัสเซียได้เลย? ไม่ต้องถามถึง S-500 นั่นมันระดับจักรวาล ยิงดาวเทียมร่วงสบายตรีน เอาไว้ใช้กับสงคราม "STAR WARS" เท่านั้น อียิวมันจนแต้มแล้ว แค่ยื้อเวลาตา่ยให้ช้าลงเท่านั้นเอง แต่เฮซบอเลาะห์บอก กูไม่ว่างรอนานขนาดนั้น เลยจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบทันที NON STOP ฆ่าอย่างเมามันส์ ตายแค่ 10 สื่อตีหลอกควาย เอาที่มรึงสบายใจ ดีออก? ข้ามวิกแป๊บ : ไอ้สัส! เวลาหาแดร๊ก เอาแต่เงิน เสนอหน้ารับงานเพี๊ยบ รอจะถูกเฉ่ง ถูกเชือด หนีหางจุกตูดกันหมด ไอ้อี ดาราทั้งหลาย ที่หลอกแดร๊กคนไทย หวังแค่เศษเงิน แต่ไม่ห่วงทรัพย์สินและชีวิตคนไทยด้วยกัน ถามว่ามรึงรู้มั้ยว่าจะต้องไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้ผลิตภัณฑ์ หรือสิ้นค้า ห้างร้านอะไร? สัญญาเค้ามี เจตนาเค้าชัด อีตำหนวดสาวไส้ยาวอยู่แล้ว เพราะกะจะหลอกฟันหนัก อยากรอด ต้องจ่ายคุ้ม จบเกมส์ นี่ไง อีกา(กาลกิณี)กี ตัวจริง เสียงจริง สรุปแผ่นดินนี้ มีอีตำหนวดเป็นโจรแทนซะงั้น ต่อไปคงได้เห็น "โรบินฮู๊ดไทยแลนด์" ที่ออกมาไล่ล่า แฉความเหี้ยของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองซะเอง หลายคนเชื่อ "แผ่นดินนี้ จ่ายหนัก รอดทุกคดี" กูไม่เถียงหากเป็นในกลียุค มันเป็นเช่นนั้น แต่เมื่อแสงทำงาน วาระสุดท้ายของกลียุคจะหมดไป สิ่งสกปรกจะอยู่ต่อไปไม่ได้อีก การชำระล้างจะตามมา การฆ่าเชื้อชั่วมีแน่ ไม่ต้องห่วง? กลับมาดูเหี้ยตายโหงตายห่ากันต่อ : โดนหนักต่อเนื่อง สนามบิน ท่าเรือ ศูนย์บัญชาการ คลังแสง สถานีสื่อสาร ศูนย์กำลังพลสำรอง แม้แต่เส้นทางลำเลียง โดนหมด! แล้วมรึงล่ะ ทำลายเหี้ยอะไรได้บ้าง? มีแต่ข่าวโจมตีท่าเรือ บ้านเรือน แต่หาได้ทำลายอำนาจแสนยานุภาพฝ่ายตรงข้ามได้เลย เพราะเค้าไม่อนุญาตให้มรึงเข้าถึงไงล่ะ? สงครามยุคใหม่มันแข่งกันที่ไฮเปอร์โซนิค รัสเซีย-จีน -อิหร่าน-โสมแดง ตีโจทย์แตกเมื่อ 20 ปีก่อนแล้ว ถึงได้มีวันนี้ วันที่ ขั้วใหม่มี ไฮเปอร์โซนิค เป็น 10 ล้านลูก มรึงฟังไม่ผิดดอก ฟังให้ชัดๆ อีกครั้ง จากปากณัชชาน่ะว่า "10000000 ลูก" ไม่ต้องถาม ใครผลิต? ตอนนี้รวยเละเทะ นับเงินล้นทะลักคลัง! แค่ยอดสั่งจองจากอาหรับ ก็แทบรอคิวไปอีก 2 ปี ใครว่ากูจนฟ่ะเนี่ย? JOHN KIM จน จริงดิ? ควายเชื่อ แต่คนขำก๊าก! อะไรน่ะ บุกมาเป็นสัปดาห์แล้ว ไม่คืบหน้าไปไหนเลย ระเหยไปในอากาศเพี๊ยบ ไหนว่ายึดเฮซบอเลาะห์ได้ไงล่ะ อ้าว..หนังคนละม้วน แล้วไอ้ที่นอนตายพะงสาบพะงาบนับร้อย พรมแดนเลบานอนเนี่ย? หมาไอ้อีตัวไหนกันฟ่ะ ผมทองก็มี ผมดำก็เยอะ NATO ทั้งนั้น ควายได้ใจกูจริง! สรุปคือเหี้ยนอนฝันว่ากำลังจะชนะ? อยากไปปลุกมันเชียว ให้มันฝันต่อไป ลืมตาอีกที ตายห่า..หมดแผ่นดิน! โลกเบาขึ้นไปอีกเยอะ?

    ปล.มหากาพย์เรือดำน้ำไทย ใครระบุไปในสัญญาว่าต้องใช้เครื่องยนต์อินทรีเหล็กเท่านั้น? อีเบียร์ไม่ยอมส่งอะไหล่และชิ้นส่วนประกอบให้ เพราะคว่ำบาตรจีนจากคำสั่ง NATO ทำให้ไม่มีนายพลกองทัพเรือหน้าไหน ยอมเสี่ยงตายเพื่อปลดแอกประเทศ? คำตอบมีอยู่ในตัวมันเอง "แผนกั๊ก" ศรีธนญชัยเล่นแร่แปรวิญญานอีกแล้ว หาแดร๊กก็เรื่อง ยุทธศาสตร์ก็เรื่อง แค่เปลี่ยนเครื่องยนต์คือจบทันที แล้วจะได้มีปัญหากับ NATO ต่อไงล่ะ? จีนเองก็รู้ว่า ไทยคิดยังไง? ท่าเรือดำน้ำที่สร้างไป แต่ไม่มีเรือดำน้ำ ใครคิด? 7000 ล้านเอาไปโยนทิ้งลงทะเลอีกตามเคย? นี่ไง เกมส์การเมืองโลก แต่ช้าก่อน หากคุณโทรหาเราภายใน 10 นาที เราจะมีโปรไฟไหม้ ซื้อ 1 แถม 3 ตามมาทันที จุดจบของมหากาพย์เรือดำน้ำนี้ จะปิดฉากลงเพราะผบ.ทร.คนล่าสุดเนี่ยแหละ บีบครม.แก้ไขสัญญาบัดซบ? ดอกนี้ "ตายเป็นตาย" ถึงว่า เกมส์โลกกำหนดเกมส์ไทย ไม่สิ ทั้งโลกมากกว่า? โลกไม่จบ ไทยอย่าหวังว่าจะจบ? เชื่อมั่นในพระบารมี อะไรที่มืดแปดด้าน จะถูกปลดล็อคเอง เชื่อกูดิ? จีน รัสเซีย ถ่วงดุลกัน แต่ตอนนี้ ต้องฆ่าเหี้ยให้ตายห่าก่อนเท่านั้น? กูบอกไปแล้วน่ะ ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยน? หากมรึงสังเกตุ และคิดรอบด้านให้ดีดี มีอะไรที่กำลังรอเราอยู่ เราปรับเพื่อสิ่งนั้นไงล่ะ? อีเหี้ยมะกันเละเทะ ฟลอริด้าสยอง เฮอริเคน "มิลตัน" ระดับ 5 ตามมาล้างสิ่งสกปรกโสมมจ๊ะ ประชากรควายโลกเยอะเกินไป เอาออกไปบ้าง! อย่ามามั่วว่าเป็นฝีมือจีน ใช้ควอนตั่ม ดาวเทียม ก่อคลื่นสึนามิ เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่โดน พายุ สีนามิ ไฟป่า โรงงานไฟฟ้าดับสนิท(อันนี้ฝีมือไซเบอร์รัสเซีย CONFIRM) เหี้ยยังจะต้องโดนอีกเยอะ สวรรค์ลงโทษไงล่ะ เกิดเป็นคนดีดีไม่ชอบ อยากจะเป็นควายกันให้หมดโลก ถึงเวลาสวรรค์กำหนเอง ใครที่มีประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติและโลก จงอยู่ต่อไป ส่วนพวกไร้ประโยชน์ก็ตายห่าตามกันไป จบน่ะ! โลกคัดสรรไว้ดีแล้ว ข่าวฮาแตก! อีแม่บ้านขะแมร์ แห่สาปแช่งอีฮุนเซน อยากจะครองแผ่นดินเบ็ดเสร็จ ถูกขับอัปเปหิ เนรเทศออกนอกประเทศ เมื่ออำนาจมันผูกขาด ก็ต้องเล่นด้วยคาถา อาคม สาปแช่งกันไปเลย ของเค้าแรงน่ะ จะบอกให้? อีฮุนเซน อยู่ได้อีกไม่นานดอก ไม่มีอะไรยั้งยืน ความดี/ชั่ว จะถูกตัดสินในไม่ช้านี้ อีขะแมร์ที่ไปไม่สุด เพราะบาปกรรม มันทำไว้เยอะ เวลาชดใช้ สวรรค์ ถึงได้ไม่ปราณี และเพ่ไทย จะไม่ลดตัวไปยุ่งละครปาหี่อีขะแมร์เด็ดขาด ใครที่ปวดตับ ปวดหัว กับโซเชี่ยลเสี้ยมไทย-ขะแมร์ รายวัน กูถามจริง มรึงจะเสียเวลาไปสนใจสิ่งที่ไม่มีตัวตนทำไม? มันคู่ควรจะมาท้าดวลเราเหรอ? คนละระดับ ไม่ได้บูลลี่ธรรมดา แต่โคตรจะบูลลี่ เลยจ๊ะ ชัดเจนน่ะ กูรำคาญ! ใครขี้ลืมก็หลบไป แต่กูจำได้ดี ว่ามันเคยทำเหี้ยอะไรเอาไว้กับแผ่นดินพ่อกู อย่าไปให้ราคา เพราะมันไม่มีราคา? ไม่แปลกใจดอก อิหร่าน ผ่านร่าง กฎหมายขยายนิวเคลียร์ ชัดพอมั้ย? ผู้นำคนใหม่มา ทำงานเร็วฟ้าผ่าทันที โปรยิวไงล่ะ อียิวถึงได้ตายโหงตายห่าเกลื่อนในสัปดาห์เดียว บ้านไม่มี ลงใต้ดิน มุดถ้ำกันหมด! ดูผลลัพธ์ ดูการกระทำ อย่าดูแค่เค้าเล่าว่า? แล้วจะฉลาดขึ้น? สงครามข่าวสารมันมีเอาไว้หลอกควาย หากไม่อยากเป็นควาย จงใช้สติ ปัญญา คิดให้ดีดี อะไรที่มันไม่ใช่ ย่อมรู้อยู่แก่ใจ? อย่าเชื่อแค่ตาเห็น หูฟัง แต่ใช้สมองคิดก่อนว่า ใครได้ประโยชน์จากเรื่องนี้? แผนสับขาหลอกมีหลายชั้น ไม่มีใครเดาได้ถูกหมดดอก ไม่งั้น มันจะเรียกว่าแผนซ้อนแผนเหรอ? ดูข้อเท็จจริง ดูสิ่งที่มีอยู่จริง จะไม่หลงทาง? ขั้วใหม่ชนะไปนานแล้ว เค้าแค่รอเวลา ชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แบบไม่ต้องสูญเสียเกินความจำเป็น นี่แหละ ผู้นำโลกคนใหม่ของพวกเราชาวโลก!

    หมี CNN(สิ่งดีดีกำลังจะเข้ามา ดังนั้น อย่ากังวล หากเชื้อชั่วมันแผลงฤทธิ์ นั่นแหละดี เชื้อชั่วไม่โผล่ จะรักษายังไง? ต้องเชียร์ให้มันออกลาย โชว์เหี้ยให้สุดติ่งกระดิ่งเหี้ยกันไปเลย ยิ่งแรงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจบเร็วมากเท่านั้น อย่ากลัวเหี้ย มรึงคือลูกเทวดา จะกลัวเหี้ยไปทำไม? ไอ้อีจัญไรที่เสพอาจม หลอกแดร๊กคนในชาติมาช้านาน ถึงเวลาชดใช้ สภาพอย่างหมาจนตรอก อีเหลี่ยมชั่วหมดมุกแล้ว ยิ่งดิ่น ยิ่งหนีไม่หลุด จ่ายอย่างเดียวคือจบ จบแค่ที่นี่ ออกนอกแผ่นดินเมื่อไหร่ มีคนตามจบชีวิตมรึงอีกเยอะ คงหลับลงดอกน่ะ)
    10 ตุลาคม 67
    11.33 น.

    https://linevoom.line.me/post/1172853488038405740
    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ :
    https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    10-10-67/01 : หมี CNN / "เล่าสู่กันฟัง" EP.10 ตอน "NEW WAVE COMING" ยอดสะสมรถอียุ่นปี่ในไทย ลดหวบยับ กว่า 30% ทำไมน่ะรึ? อ้างจีนขยี้ตลาดรถไทย โปรดแหกตาดูทุกปัจจัย รถน้ำมัน ใครจ่ายไหว? ไฮบริคแค่แก้ขัด ระยะยาวจะไปต่อยังไงมิทราบ? เพราะ EV มันไป 1000 กม. แล้ว โคตรพ่อง โคตรแม่ง ขับวันละ 1000 ถึงมุย? เค้ารอให้ทุกอย่างเสถียรก่อน ยังไง EV คืออนาคต ทุกชาติต่างรู้ดี? มรึงหลอกแดร๊กควายไทยมากว่าครึ่งศตวรรษ ดัดแปลงรถกะบะ เสริมแต่งหน่อย ปักป้าย 1.7 ล้าน แม้แต่ควายยังอึ้ง? เจอ BYD มาทีเดียวขาย 700000 ควายถึงจะตื่น? ยุคนี้ น้ำมันแพง เศรษฐกิจต่ำตม รถเกินล้านใครจะซื้อ? ที่มาว่า DEALER ทั่วไทย ย้ายค่าย ปิดกิจการ หันไปขาย EV ดีกว่าค่ายอียุ่นปี่ ใครตายห่าก่อน ตัวแทนอะไหล่ยนต์ไงล่ะ รถสันดาปไปก่อนใครเพื่อน? มันถึงเวลาที่โลกจะเปลี่ยน รับการเปลี่ยนแปลงให้ดีดี รถ EV แค่ปลายยอดภูเขาน้ำแข็ง ยังมีนวตกรรมอีกมาก ที่กำลังจะเข้ามา? สื่อเสี้ยมตีข่าวจีนตีตลาดไทยยับ โยนบาปให้จีน แต่ผู้บริโภคควายไทยได้ตื่น อะไรที่ถูกและดี แล้วมรึงจะจ่ายแพงกว่าทำไม? รถสันดาปใช้กันมาเป็นศตวรรษแล้ว มรึงจะยังใช้กันต่ออีก 100 ปี เหรอ? ปัจจัยยอดสั่งรถลดลงฮวบ มันมีหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่ EV เป็นเหตุ คนสรรหาสิ่งที่ดีกว่า ถูกกว่า เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ตลาดรถมือสองจะตายเอา เพราะที่ผ่านมา กินส่วนต่างไว้เยอะ งวดนี้ คนไม่ต้องซื้อมือสองใช้ หันไปจ่ายมือ 1 ป้ายแดงได้เลย 400000 ก็มีให้เลือก ผลประโยชน์ผู้บริโภคเต็มตรีน ก็ต้องปรับตัวกันไปตามเศรษฐกิจโลก และการเปลี่ยนแปลงที่จะตามมา? กูบอกเลย อีกหน่อย ในเวลาอันสั้น โดรนส่งสินค้า โดรน TAXI มาแน่ แล้วมรึงจะช็อค! เวลาแสงทำงาน ยามเปลี่ยนแปลงผลัดใบโลก มันมักจะเกิดแรงต่อต้านเสมอ สำหรับช่วงแรก แต่พอนานวัน ทุกความสะดวกสบายมากขึ้น ประหยัดกว่า ลดมลพิษได้ดีกว่า พลังงานสะอาดมาเต็มตรีน ใครจะไม่เอา? กลับมาสู่โลกสาย HARD CORE กันต่อ : 300 ลูกพร้อมกัน สาแก่ใจอีช้อยเฮซบอเลาะห์เค้าแหละ เละเป็นโจ๊กตามเคย เห่าเก่งแต่ในสื่อหลอกควาย โลกจริง ตายอย่างกะหมาข้างถนน? ซาเฟด แหล่งอุตสาหกรรมทางทหารอียิว แตกกระจุย ที่ใดมีคลังแสง ที่นั่นคือขุมนรก? ระบบป้องกัยภัยแห้วแดร๊กตามเคย มันใช้จริงได้ที่ไหนกันล่ะ? หมายังรู้! ส่งผลให้อาวุธขาดแคลนทันที เมื่อโรงงานผลิตหายวับ มรึงจะรอรับบริจาคจากใครได้อีก? แม่งไม่เหลือเหี้ยอะไรอีกแล้ว หมดตูดกันทั้งกะปิ? อาหรับกำลังจะทำอะไร? ชี้ให้โลกเห็นว่า ลงแขกยิวสบายตรีน ท้าทายอเมริกาให้เข้ามาช่วย จะได้ตายห่าทีเดียว ที่มาว่าทำไม บินทิ้งระเบิดเหี้ยมะกันหันหลังควับ ไม่ตรงต่อไปถล่มเป้าหมายโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน เพราะถูกล็อคเป้าไงจ๊ะ? "คุณหลอกดาวอีกแย้ว" ล่อให้เข้าไปตายห่าสิน่ะ ลงข่าวหน้า 1 บินทิ้งระเบิดตายคาตรีนไฮเปอร์โซนิค แล้วกูจะยังขายเหี้ยอะไรหลอกควายได้อีกล่ะ? อิหร่านมีระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400/S-350s ถามคำเดียว ยังจะเหลือลำไหนรอดได้อีก? หลังอิหร่านเพิ่งจะทดสอบนิวเคลียร์ใต้ดิน สะเทือนไปถึงอเมริกา นกรู้กันทั่ว มาดิมรึง? หายไปทั้งเยรูซาเล๋มฝั่งตะวันตก เหี้ยมันเองก็รู้ ว่าไม่มีเครื่องบินลำไหนที่จะผ่าน S-400 รัสเซียได้เลย? ไม่ต้องถามถึง S-500 นั่นมันระดับจักรวาล ยิงดาวเทียมร่วงสบายตรีน เอาไว้ใช้กับสงคราม "STAR WARS" เท่านั้น อียิวมันจนแต้มแล้ว แค่ยื้อเวลาตา่ยให้ช้าลงเท่านั้นเอง แต่เฮซบอเลาะห์บอก กูไม่ว่างรอนานขนาดนั้น เลยจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบทันที NON STOP ฆ่าอย่างเมามันส์ ตายแค่ 10 สื่อตีหลอกควาย เอาที่มรึงสบายใจ ดีออก? ข้ามวิกแป๊บ : ไอ้สัส! เวลาหาแดร๊ก เอาแต่เงิน เสนอหน้ารับงานเพี๊ยบ รอจะถูกเฉ่ง ถูกเชือด หนีหางจุกตูดกันหมด ไอ้อี ดาราทั้งหลาย ที่หลอกแดร๊กคนไทย หวังแค่เศษเงิน แต่ไม่ห่วงทรัพย์สินและชีวิตคนไทยด้วยกัน ถามว่ามรึงรู้มั้ยว่าจะต้องไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้ผลิตภัณฑ์ หรือสิ้นค้า ห้างร้านอะไร? สัญญาเค้ามี เจตนาเค้าชัด อีตำหนวดสาวไส้ยาวอยู่แล้ว เพราะกะจะหลอกฟันหนัก อยากรอด ต้องจ่ายคุ้ม จบเกมส์ นี่ไง อีกา(กาลกิณี)กี ตัวจริง เสียงจริง สรุปแผ่นดินนี้ มีอีตำหนวดเป็นโจรแทนซะงั้น ต่อไปคงได้เห็น "โรบินฮู๊ดไทยแลนด์" ที่ออกมาไล่ล่า แฉความเหี้ยของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองซะเอง หลายคนเชื่อ "แผ่นดินนี้ จ่ายหนัก รอดทุกคดี" กูไม่เถียงหากเป็นในกลียุค มันเป็นเช่นนั้น แต่เมื่อแสงทำงาน วาระสุดท้ายของกลียุคจะหมดไป สิ่งสกปรกจะอยู่ต่อไปไม่ได้อีก การชำระล้างจะตามมา การฆ่าเชื้อชั่วมีแน่ ไม่ต้องห่วง? กลับมาดูเหี้ยตายโหงตายห่ากันต่อ : โดนหนักต่อเนื่อง สนามบิน ท่าเรือ ศูนย์บัญชาการ คลังแสง สถานีสื่อสาร ศูนย์กำลังพลสำรอง แม้แต่เส้นทางลำเลียง โดนหมด! แล้วมรึงล่ะ ทำลายเหี้ยอะไรได้บ้าง? มีแต่ข่าวโจมตีท่าเรือ บ้านเรือน แต่หาได้ทำลายอำนาจแสนยานุภาพฝ่ายตรงข้ามได้เลย เพราะเค้าไม่อนุญาตให้มรึงเข้าถึงไงล่ะ? สงครามยุคใหม่มันแข่งกันที่ไฮเปอร์โซนิค รัสเซีย-จีน -อิหร่าน-โสมแดง ตีโจทย์แตกเมื่อ 20 ปีก่อนแล้ว ถึงได้มีวันนี้ วันที่ ขั้วใหม่มี ไฮเปอร์โซนิค เป็น 10 ล้านลูก มรึงฟังไม่ผิดดอก ฟังให้ชัดๆ อีกครั้ง จากปากณัชชาน่ะว่า "10000000 ลูก" ไม่ต้องถาม ใครผลิต? ตอนนี้รวยเละเทะ นับเงินล้นทะลักคลัง! แค่ยอดสั่งจองจากอาหรับ ก็แทบรอคิวไปอีก 2 ปี ใครว่ากูจนฟ่ะเนี่ย? JOHN KIM จน จริงดิ? ควายเชื่อ แต่คนขำก๊าก! อะไรน่ะ บุกมาเป็นสัปดาห์แล้ว ไม่คืบหน้าไปไหนเลย ระเหยไปในอากาศเพี๊ยบ ไหนว่ายึดเฮซบอเลาะห์ได้ไงล่ะ อ้าว..หนังคนละม้วน แล้วไอ้ที่นอนตายพะงสาบพะงาบนับร้อย พรมแดนเลบานอนเนี่ย? หมาไอ้อีตัวไหนกันฟ่ะ ผมทองก็มี ผมดำก็เยอะ NATO ทั้งนั้น ควายได้ใจกูจริง! สรุปคือเหี้ยนอนฝันว่ากำลังจะชนะ? อยากไปปลุกมันเชียว ให้มันฝันต่อไป ลืมตาอีกที ตายห่า..หมดแผ่นดิน! โลกเบาขึ้นไปอีกเยอะ? ปล.มหากาพย์เรือดำน้ำไทย ใครระบุไปในสัญญาว่าต้องใช้เครื่องยนต์อินทรีเหล็กเท่านั้น? อีเบียร์ไม่ยอมส่งอะไหล่และชิ้นส่วนประกอบให้ เพราะคว่ำบาตรจีนจากคำสั่ง NATO ทำให้ไม่มีนายพลกองทัพเรือหน้าไหน ยอมเสี่ยงตายเพื่อปลดแอกประเทศ? คำตอบมีอยู่ในตัวมันเอง "แผนกั๊ก" ศรีธนญชัยเล่นแร่แปรวิญญานอีกแล้ว หาแดร๊กก็เรื่อง ยุทธศาสตร์ก็เรื่อง แค่เปลี่ยนเครื่องยนต์คือจบทันที แล้วจะได้มีปัญหากับ NATO ต่อไงล่ะ? จีนเองก็รู้ว่า ไทยคิดยังไง? ท่าเรือดำน้ำที่สร้างไป แต่ไม่มีเรือดำน้ำ ใครคิด? 7000 ล้านเอาไปโยนทิ้งลงทะเลอีกตามเคย? นี่ไง เกมส์การเมืองโลก แต่ช้าก่อน หากคุณโทรหาเราภายใน 10 นาที เราจะมีโปรไฟไหม้ ซื้อ 1 แถม 3 ตามมาทันที จุดจบของมหากาพย์เรือดำน้ำนี้ จะปิดฉากลงเพราะผบ.ทร.คนล่าสุดเนี่ยแหละ บีบครม.แก้ไขสัญญาบัดซบ? ดอกนี้ "ตายเป็นตาย" ถึงว่า เกมส์โลกกำหนดเกมส์ไทย ไม่สิ ทั้งโลกมากกว่า? โลกไม่จบ ไทยอย่าหวังว่าจะจบ? เชื่อมั่นในพระบารมี อะไรที่มืดแปดด้าน จะถูกปลดล็อคเอง เชื่อกูดิ? จีน รัสเซีย ถ่วงดุลกัน แต่ตอนนี้ ต้องฆ่าเหี้ยให้ตายห่าก่อนเท่านั้น? กูบอกไปแล้วน่ะ ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยน? หากมรึงสังเกตุ และคิดรอบด้านให้ดีดี มีอะไรที่กำลังรอเราอยู่ เราปรับเพื่อสิ่งนั้นไงล่ะ? อีเหี้ยมะกันเละเทะ ฟลอริด้าสยอง เฮอริเคน "มิลตัน" ระดับ 5 ตามมาล้างสิ่งสกปรกโสมมจ๊ะ ประชากรควายโลกเยอะเกินไป เอาออกไปบ้าง! อย่ามามั่วว่าเป็นฝีมือจีน ใช้ควอนตั่ม ดาวเทียม ก่อคลื่นสึนามิ เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่โดน พายุ สีนามิ ไฟป่า โรงงานไฟฟ้าดับสนิท(อันนี้ฝีมือไซเบอร์รัสเซีย CONFIRM) เหี้ยยังจะต้องโดนอีกเยอะ สวรรค์ลงโทษไงล่ะ เกิดเป็นคนดีดีไม่ชอบ อยากจะเป็นควายกันให้หมดโลก ถึงเวลาสวรรค์กำหนเอง ใครที่มีประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติและโลก จงอยู่ต่อไป ส่วนพวกไร้ประโยชน์ก็ตายห่าตามกันไป จบน่ะ! โลกคัดสรรไว้ดีแล้ว ข่าวฮาแตก! อีแม่บ้านขะแมร์ แห่สาปแช่งอีฮุนเซน อยากจะครองแผ่นดินเบ็ดเสร็จ ถูกขับอัปเปหิ เนรเทศออกนอกประเทศ เมื่ออำนาจมันผูกขาด ก็ต้องเล่นด้วยคาถา อาคม สาปแช่งกันไปเลย ของเค้าแรงน่ะ จะบอกให้? อีฮุนเซน อยู่ได้อีกไม่นานดอก ไม่มีอะไรยั้งยืน ความดี/ชั่ว จะถูกตัดสินในไม่ช้านี้ อีขะแมร์ที่ไปไม่สุด เพราะบาปกรรม มันทำไว้เยอะ เวลาชดใช้ สวรรค์ ถึงได้ไม่ปราณี และเพ่ไทย จะไม่ลดตัวไปยุ่งละครปาหี่อีขะแมร์เด็ดขาด ใครที่ปวดตับ ปวดหัว กับโซเชี่ยลเสี้ยมไทย-ขะแมร์ รายวัน กูถามจริง มรึงจะเสียเวลาไปสนใจสิ่งที่ไม่มีตัวตนทำไม? มันคู่ควรจะมาท้าดวลเราเหรอ? คนละระดับ ไม่ได้บูลลี่ธรรมดา แต่โคตรจะบูลลี่ เลยจ๊ะ ชัดเจนน่ะ กูรำคาญ! ใครขี้ลืมก็หลบไป แต่กูจำได้ดี ว่ามันเคยทำเหี้ยอะไรเอาไว้กับแผ่นดินพ่อกู อย่าไปให้ราคา เพราะมันไม่มีราคา? ไม่แปลกใจดอก อิหร่าน ผ่านร่าง กฎหมายขยายนิวเคลียร์ ชัดพอมั้ย? ผู้นำคนใหม่มา ทำงานเร็วฟ้าผ่าทันที โปรยิวไงล่ะ อียิวถึงได้ตายโหงตายห่าเกลื่อนในสัปดาห์เดียว บ้านไม่มี ลงใต้ดิน มุดถ้ำกันหมด! ดูผลลัพธ์ ดูการกระทำ อย่าดูแค่เค้าเล่าว่า? แล้วจะฉลาดขึ้น? สงครามข่าวสารมันมีเอาไว้หลอกควาย หากไม่อยากเป็นควาย จงใช้สติ ปัญญา คิดให้ดีดี อะไรที่มันไม่ใช่ ย่อมรู้อยู่แก่ใจ? อย่าเชื่อแค่ตาเห็น หูฟัง แต่ใช้สมองคิดก่อนว่า ใครได้ประโยชน์จากเรื่องนี้? แผนสับขาหลอกมีหลายชั้น ไม่มีใครเดาได้ถูกหมดดอก ไม่งั้น มันจะเรียกว่าแผนซ้อนแผนเหรอ? ดูข้อเท็จจริง ดูสิ่งที่มีอยู่จริง จะไม่หลงทาง? ขั้วใหม่ชนะไปนานแล้ว เค้าแค่รอเวลา ชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แบบไม่ต้องสูญเสียเกินความจำเป็น นี่แหละ ผู้นำโลกคนใหม่ของพวกเราชาวโลก! หมี CNN(สิ่งดีดีกำลังจะเข้ามา ดังนั้น อย่ากังวล หากเชื้อชั่วมันแผลงฤทธิ์ นั่นแหละดี เชื้อชั่วไม่โผล่ จะรักษายังไง? ต้องเชียร์ให้มันออกลาย โชว์เหี้ยให้สุดติ่งกระดิ่งเหี้ยกันไปเลย ยิ่งแรงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจบเร็วมากเท่านั้น อย่ากลัวเหี้ย มรึงคือลูกเทวดา จะกลัวเหี้ยไปทำไม? ไอ้อีจัญไรที่เสพอาจม หลอกแดร๊กคนในชาติมาช้านาน ถึงเวลาชดใช้ สภาพอย่างหมาจนตรอก อีเหลี่ยมชั่วหมดมุกแล้ว ยิ่งดิ่น ยิ่งหนีไม่หลุด จ่ายอย่างเดียวคือจบ จบแค่ที่นี่ ออกนอกแผ่นดินเมื่อไหร่ มีคนตามจบชีวิตมรึงอีกเยอะ คงหลับลงดอกน่ะ) 10 ตุลาคม 67 11.33 น. https://linevoom.line.me/post/1172853488038405740 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 Comments 0 Shares 39 Views 0 Reviews
  • กันต์ ยุติบทบาทพิธีกร (10/10/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #กันต์ กันตถาวร #ดาราเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ #บอสกันต์
    กันต์ ยุติบทบาทพิธีกร (10/10/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #กันต์ กันตถาวร #ดาราเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ #บอสกันต์
    Like
    Haha
    11
    0 Comments 0 Shares 1528 Views 979 0 Reviews
  • “กันต์ กันตถาวร” ประกาศลาออก ยุติบทบาทพิธีกรทุกรายการ รับผิดชอบดราม่า “The iCon Group” แสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมให้ข้อมูลทุกหน่วยงาน

    กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์ขณะนี้ สำหรับกรณีดราม่า บริษัทขายตรง ดิไอคอนกรุ๊ป (The iCon Group) ที่มีผู้เสียหายจำนวนมากออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม ล่าสุด “กันต์ กันตถาวร” พิธีกรชื่อดัง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึง Chief Marketing Officer (CMO) ของบริษัท ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวแล้ว

    “กันต์” ได้โพสต์ข้อความแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระบุว่าตนไม่ได้นิ่งนอนใจกับกระแสข่าว และเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ จึงขอยุติบทบาทการเป็นพิธีกรในทุกรายการ จนกว่าเรื่องราวทั้งหมดจะคลี่คลาย พร้อมให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

    ทั้งนี้ “กันต์” ยังยืนยันว่าพร้อมให้ข้อมูลกับทุกหน่วยงานเพื่อความถูกต้องในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งการประกาศยุติบทบาทพิธีกรในครั้งนี้ นับเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นการปกป้องชื่อเสียงขององค์กรที่ตนเองสังกัดอยู่ด้วย

    #Thaitimes
    “กันต์ กันตถาวร” ประกาศลาออก ยุติบทบาทพิธีกรทุกรายการ รับผิดชอบดราม่า “The iCon Group” แสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมให้ข้อมูลทุกหน่วยงาน กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์ขณะนี้ สำหรับกรณีดราม่า บริษัทขายตรง ดิไอคอนกรุ๊ป (The iCon Group) ที่มีผู้เสียหายจำนวนมากออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม ล่าสุด “กันต์ กันตถาวร” พิธีกรชื่อดัง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึง Chief Marketing Officer (CMO) ของบริษัท ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวแล้ว “กันต์” ได้โพสต์ข้อความแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระบุว่าตนไม่ได้นิ่งนอนใจกับกระแสข่าว และเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ จึงขอยุติบทบาทการเป็นพิธีกรในทุกรายการ จนกว่าเรื่องราวทั้งหมดจะคลี่คลาย พร้อมให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ “กันต์” ยังยืนยันว่าพร้อมให้ข้อมูลกับทุกหน่วยงานเพื่อความถูกต้องในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งการประกาศยุติบทบาทพิธีกรในครั้งนี้ นับเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นการปกป้องชื่อเสียงขององค์กรที่ตนเองสังกัดอยู่ด้วย #Thaitimes
    พร้อมให้ข้อมูลทุกหน่วยงาน!! “กันต์ กันตถาวร” ประกาศยุติบทบาทหน้าที่พิธีกรในทุกรายการจนกว่าจะมีความชัดเจนและความกระจ่าง หลังเจอดราม่า “The iCon Group”

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097052

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 524 Views 0 Reviews
  • พร้อมให้ข้อมูลทุกหน่วยงาน!! “กันต์ กันตถาวร” ประกาศยุติบทบาทหน้าที่พิธีกรในทุกรายการจนกว่าจะมีความชัดเจนและความกระจ่าง หลังเจอดราม่า “The iCon Group”

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097052

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    พร้อมให้ข้อมูลทุกหน่วยงาน!! “กันต์ กันตถาวร” ประกาศยุติบทบาทหน้าที่พิธีกรในทุกรายการจนกว่าจะมีความชัดเจนและความกระจ่าง หลังเจอดราม่า “The iCon Group” อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097052 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    15
    0 Comments 1 Shares 2152 Views 0 Reviews
  • #เรื่องนี้บอสคิงส์ต้องชี้แจงนะครับ
    สามท่านนี้ ไม่ใช่พรีเซนเตอร์
    จะมีคำย่อตำแหน่งตามภาพ
    บอสกันต์ คือ CMo ผอ.ฝ่ายมาเก็ตติ้ง
    บอสมิน คือ CCo ผอ.ฝ่ายสื่อสารองค์กร
    บอสแซม คือ ผอ.ฝ่ายวิจัยและพัฒนา
    ดังนั้น จะมาลดตำแหน่งเป็นแค่พรีเซนเตอร์ไม่ได้เด็ดขาด
    คนไทยต้องรู้จักมารยาท ต้องเรียกให้ถูก
    ส่วนพี่คิงส์ คือ C N G
    เป็นวัตถุ อตร. พวกซั่วๆอย่างทะลึ่ง
    หรือทุกคนจะเรียกพี่ว่า
    บอสคิงส์กะได้นะ ไม่ติด
    ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    #เรื่องนี้บอสคิงส์ต้องชี้แจงนะครับ สามท่านนี้ ไม่ใช่พรีเซนเตอร์ จะมีคำย่อตำแหน่งตามภาพ บอสกันต์ คือ CMo ผอ.ฝ่ายมาเก็ตติ้ง บอสมิน คือ CCo ผอ.ฝ่ายสื่อสารองค์กร บอสแซม คือ ผอ.ฝ่ายวิจัยและพัฒนา ดังนั้น จะมาลดตำแหน่งเป็นแค่พรีเซนเตอร์ไม่ได้เด็ดขาด คนไทยต้องรู้จักมารยาท ต้องเรียกให้ถูก ส่วนพี่คิงส์ คือ C N G เป็นวัตถุ อตร. พวกซั่วๆอย่างทะลึ่ง หรือทุกคนจะเรียกพี่ว่า บอสคิงส์กะได้นะ ไม่ติด ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    Like
    Haha
    4
    0 Comments 0 Shares 399 Views 0 Reviews
  • #หนุ่มลั่นตรงส่งสารถึงกันต์
    จริงอย่างที่มดดำเคยกล่าวไว้
    มีปัญหากับใครก็ได้ อย่ามีปัญหากับหนุ่ม กรรไกร
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    #หนุ่มลั่นตรงส่งสารถึงกันต์ จริงอย่างที่มดดำเคยกล่าวไว้ มีปัญหากับใครก็ได้ อย่ามีปัญหากับหนุ่ม กรรไกร #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 Comments 0 Shares 9 Views 0 Reviews
  • FB Page เหยื่อ V.2 เขียนดีมาก ครบถ้วน จึงขอยกมานำเสนอแบบเต็มๆ
    ...............
    ปฐมบท..บอสพอล The Icon

    พอล..คือชื่อของเด็กหนุ่มที่เริ่มต้นก็ค้าขายของที่บ้าน จนกระทั่งยุคที่ Facebook Ads เริ่มให้บริการ

    ตอนนั้นคนยังไม่สนใจการยิงแอด ค่าแอดในการทำโฆษณาเรียกว่าเอาคนได้ที่โหล่มาทำแอดก็ยังกำไร เพราะต้นทุนต่อค่าโฆษณาอยู่ที่คลิกละ 5 สตางค์

    หรือพูดง่ายๆ จ่ายเงินให้เกิดการคลิกเข้ามา 20 ครั้ง เสียเงินแค่ 1 บาท

    ดังนั้นถ้าใครอยู่ในยุคตื่นแอดช่วงแรกเรียกว่ากอบโกยชนิดที่ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อที่ดิน กันได้เลยจริงๆนั่นแหละ

    พ.ศ. 2556 คือยุคเริ่มต้นเมื่อ Facebook ประกาศให้มีการแสดงโฆษณาได้บนประเทศไทย

    พอล..จึงหัดยิงแอดออนไลน์ขายสินค้าของตัวเองจนชำนาญจึงเกิดเป็นพอลผู้ทำการตลาดออนไลน์เก่งมาก (ไม่เก่งได้ไงก็ค่าโฆษณามันยังถูกมาก)

    จะท้าวความให้อ่าน จะได้รู้ว่าทำไมพอลถึงเก่งและหัวใสแยบยลได้อย่างที่เห็นทุกวันนี้ เราจะพาเพื่อนๆแฟนเพจ นั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปดูเรื่องราวของเขากัน..

    ผู้ที่ปั้นพอลให้เก่งอย่างทุกวันนี้ เขามีชื่อว่าคุณ ธเนตรการกล่าวถึงคนนี้เขาไม่ได้เป็นคนทำผิดบาปอะไรนะ เขาเป็นนักการตลาด MLM ที่เก่งที่สุดในไทยระดับต้นๆ

    คุณ ธเนตร ได้สมัครเข้าไปทำการตลาดกับ Jeunesse Global
    👉 https://www.facebook.com/JeunesseGlobal

    ซึ่งเป็นบริษัทขายตรงทั่วๆไปเหมือนแอมเวย์ กิฟฟารีนซึ่งไม่ได้ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่มันมีจุดหนึ่งที่น่าสนใจ

    ก็คือการตลาดยุคนั้นมีกฎห้ามนำสินค้ามาโพสต์ขายออนไลน์ เพื่อเลี่ยงการตัดราคาและเลี่ยงการที่สมาชิกไม่ซื้อสินค้าผ่านบริษัทโดยตรง

    เรียกว่าใครโพสต์ขายหรือชวนคนออนไลน์ จะโดนตัดรหัสทิ้งทันทีเพราะเป็นการทำผิดกฏบริษัท

    แต่..มีนักการตลาดชาวมาเลเซียคนหนึ่ง ชื่อว่า Patric Chan
    👉 https://www.facebook.com/patricchanlive/

    ได้ไปดีลกับ Jeunesse ว่า จะขอพัฒนาระบบชวนคนออนไลน์ได้ไหม โดยให้เหตุผลว่า..จะสามารถทำสปอนเซอร์ข้ามประเทศได้ จะทำให้ Jeunesse มีสมาชิกทั่วโลกได้

    เช่น.เราทำอยู่ที่ไทย เราอาจจะมี Down line อยู่ที่เคนย่า ลาว ไต้หวัน ได้หมด นั่นเป็นไอเดียที่ Jeunesse ตอบตกลงให้ Patric Chan ทำได้

    จึงเกิดเป็นระบบชวนคนออนไลน์ ตอนนั้นแค่ชวนสมัครสมาชิกนะ การสั่งซื้อสินค้าก็ยังคงสั่งผ่านหน้าเวบไซต์ Jeunesse อยู่ดีไม่มีอะไรซับซ้อน

    และคุณ ธเนตร ก็ได้ไปเรียนกับ Patric Chan ตอนที่เขามาเปิดสัมมนาที่ไทยในปี 2558
    👉 https://www.facebook.com/passivewealthTH/

    เมื่อคุณ ธเนตร ได้เรียนรู้ระบบชวนคนออนไลน์แล้วประจวบกับการที่พอลมาสมัครเป็น Downline ของธเนตร ก็เหมือนจับเอาเสือสองตัวมาตีคู่กัน

    เกิดเป็นพลังต่อสู้มหาศาล คนหนึ่งเก่งเรื่องสคริปต์ชวนคน คนหนึ่งเก่งเรื่องยิงแอด ทีนี้แหละความรวยจึงบังเกิด

    เกิดเป็นยอดขายพันล้านของ ธเนตร เกิดยอดขายร้อยล้านของพอล จนทั้งสองคนได้ไปออกรายการต่างๆ

    พอลได้ไปออกรายการตีสิบ จนได้นามสกุลมาต่อท้ายชื่อว่า“พอล ตีสิบ” ใครๆก็เรียกเขาแบบนั้นระหว่างที่เขายังคงทำ Jeunesse

    และตลอดเวลา พอลก็ได้เรียนรู้กลยุทธการทำการตลาดแบบ MLM จากธเนตร จนแตกฉานยิ่งกว่าจบเปรียญธรรม 9 ประโยค

    เมื่อพอลรู้แจ้ง เห็นจริงแล้ว ก็กางปีกโบยบินแยกตัวออกมาจาก ธเนตร มาตั้งบริษัท และทำแบรนด์ชื่อว่า“ The Icon“

    ---------

    โดยช่วงแรกทำสินค้าพวกกาแฟ และ คอลลาเจน เพราะสองอย่างนี้พอลศึกษาแล้วว่าจะทำการตลาดชวนคนได้ง่าย เพราะเป็นสินค้าที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย

    โดยพอลได้วางระบบชวนคนไว้โดยให้ผลตอบแทนเป็นการ "เที่ยวฟรี" และทำโปรโมชั่นเปิดบิลสมัครสมาชิก "เที่ยวฟรี"

    โดยจัดการเที่ยวเน้นไปที่ทะเล พัทยา เพราะดีลค่าโรงแรมได้ถูก พอลฉลาดโดยไม่ได้ดีลโรงแรมห้าดาวอะไร เน้นโรงแรม 3 ดาวก็พอแล้ว โดยมีการจองห้องประชุมไว้ทำสัมมนา

    -----------

    ลูกค้าของพอล..

    ช่วงแรกเขามุ่งเน้นไปที่คนอยากเที่ยวและอยากมีเพื่อนฝูงไปด้วย นั่นก็คือ คนที่เกษียณแล้ว หรือคนแก่นั่นเอง

    เค้ารู้ดีว่ากลุ่มเป้าหมายนี้แหละจะผลักดันให้บริษัทเขาอยู่รอดได้ในช่วงแรก ด้วยการจัดทัวร์เที่ยวกินฟรี (ค่าเดินทางออกเอง)

    โดยการเปิดบิลซื้อสินค้า ช่วงแรกจะมีระดับไม่เยอะ จะมีแบบเปิดคนเดียว เที่ยวคนเดียว และเปิดมากหน่อย ชวนเพื่อนมาเที่ยวได้ฟรี 1 คน 2 คน 3 คน ไล่ไปเรื่อยๆ

    และด้วยหลักการนี้เอง คนแก่จึงตอบรับข้อเสนอของเขาง่าย เพราะนอกจากจะได้สินค้ามากินและใช้แล้วก็ยังได้เที่ยวฟรี

    และคนแก่ส่วนมากมักจะไม่อยากไปเที่ยวคนเดียว จึงเปิดบิลที่ชวนเพื่อนได้ 2 คนขึ้นไป และก็เป็นการชวนเพื่อนมาเที่ยวฟรี

    การเที่ยวก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย ก็คือชวนเพื่อนไปเที่ยวทะเล หลังกินอาหารเช้าแล้ว วันถัดมาก็จะเป็น Event กลางคืน ได้พบกับคนดังที่ออก TV

    นั่นคือบอสพอล ตีสิบ โดยพอลจะมาหลังจากทุกคนถึงแล้ว 1 วันเสมอ เพื่อมาปรากฎตัวบนเวที แล้วก็จะขอบคุณสมาชิกทุกคนที่มาเที่ยว

    รวมไปถึงชักชวนให้คนที่มาเที่ยวกับเพื่อน สมัครสมาชิกเพื่อซื้อสินค้าและสามารถชวนเพื่อนในทริปหน้ากันได้อีก

    โดยคนชวนก็ไม่ใช่ใคร ก็ใช้เพื่อนชวนเพื่อนมันก็ง่ายสิ่คนแก่ขี้เหงายังไงก็ดีกว่ารอลูกหลานพาเที่ยว ฉันไปเที่ยวกับเพื่อนสนุกกว่า

    ทำให้การเปิดบิลซ้ำ การเปิดบิลใหม่ จึงเกิดขึ้นตามแผนการตลาดอันแยบยลของพอลและด้วยวิธีนี้ทำให้ปีแรก บริษัทของพอลมีกำไรเติบโตทันที

    พอล..เริ่มซื้อรถ Super Car ก่อนเลยเพื่อเริ่มเข้าสู่“โหมดความรวย”เพื่อวางแผนกระเถิ่บไปหาลูกค้าที่มีความฝัน..อยากรวยตามแบบคนอื่น

    พอล..เปลี่ยนการตลาดจากคนแก่ มาเจาะคนที่อยากเกษียณก่อนกำหนด คือ เป้าหมายพวกอายุ 35 ขึ้นไปที่ฝันอยากมีรถหรู กระเป๋าแบรนด์เนม..เหมือนคนอื่น

    คนเรามีความฝันนั้นดี “แต่ต้องไม่ลืมนึกถึงความจริง”ที่ว่า บางครั้งความฝันมันก็เป็นได้แค่ความฝัน..ที่ไม่มีวันเป็นความจริง

    พอล..ใช้คอร์สสอนออนไลน์สอนการทำตลาดขายของซึ่งยุคนั้นค่าโฆษณายังไม่แพง แต่ก็เริ่มขยับจากระดับ 10 สตางค์ มาเป็นคลิกละ 50 สตางค์แล้ว แต่มันก็ยังได้ผลอยู่

    เพราะจ่ายค่าโฆษณาไป 1,000 บาท ก็สามารถชวนคนได้ถึง 2000 คลิก ตีไปว่าสนใจ 1% ก็ยังมีคนทักมา 20 คน คอร์สก็เป็นการเตรียม Material ต่างๆเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

    แค่ทุกคนแบกโน้ตบุ๊กของตัวเองมาก็สามารถตั้งโฆษณาได้เลย ทุกคนจะตั้งโฆษณาขายสินค้าและชวนคนเข้าทีม ซึ่งตั้งไว้ที่ 89 บาท

    89 บาท นั่นคือค่าเฉลี่ยที่พอลคำนวณแล้วว่าใช้เทคนิค OPM (Other People Money) แบบนี้ตัวเองก็ไม่ต้องยิงแอดเองแล้ว (จากเดิมตอนชวนคนแก่ต้องยิงแอดเอง และสอนทีมงาน)

    มาคราวนี้พอลได้พัฒนา ระบบการสอน เริ่มมีการตั้งแม่ทีมเพื่อศึกษาวิธีการสอนให้เป็นครู โดยทุกคนก็เอา 89 บาทค่าเรียน ใส่เข้าไปในโฆษณานั่นแหละ

    เท่ากับพอลก็จะได้ Facebook Ads Account มหาศาลโดยที่ตัวเองไม่ต้องเสียเวลาสมัครและไม่ต้องกลัวโดนแบนโฆษณาเพราะถึงโดนก็ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องเหนื่อยลงไปควบคุมเองแล้ว

    ด้วยแผนการตลาดแบบใหม่ ทำให้พอลเติบโตแบบก้าวกระโดด ยอดขายพุ่งไปหลายร้อยล้านทันที เพราะมีการวางเกมเรื่องเปิดบิลไว้แล้ว อย่างที่เห็นในข่าว

    คนมาอย่างน้อยก็ต้องเสียค่าสมัคร member หลัก 2-5 พัน และถ้าแม่ทีมเก่งก็จะต้อนให้ไปเปิดบิลดีลเลอร์ได้เลย 250,000 เพื่อให้เที่ยวฟรีได้เกือบ 10 ครั้ง แถมยังได้โควต้าชวนคนมาเที่ยวด้วย

    เรียกว่าอัดโปรโมชั่นกันแบบจุกๆ เพื่อทำให้คนได้เห็นว่ามาเรียนที่นี่นอกจากจะขายได้แล้ว ยังได้เที่ยวด้วย ทำให้เกิดกระแสบูมไปที่ The Icon

    และด้วยการที่พอลศึกษาข้อกฏหมายกับทนายส่วนตัวมาเป็นอย่างดี รวมถึงได้ความรู้จากอาจารย์ตัวเองมา เขาจึงเลี่ยงวลี..ไม่ได้ทำ MLM

    เพราะรู้ว่าถ้าชวนทำ MLM คนจะไม่มา เขาจึงเรียกระบบของบริษัทตัวเองว่าระบบตัวแทน เพื่อให้คนไม่รู้สึกต่อต้านกับสิ่งที่เขาทำ

    และพอลได้ขออนุญาตการทำการตลาด ที่เรียกว่าตลาดขายตรง ไว้แล้ว บริษัทจึงสามารถดำเนินการได้ โดยไม่มีความผิด และด้วยเทคนิคนี้ทำให้พอล ก้าวเข้าสู่ยอดขายหลายร้อยล้านได้อย่างง่ายดาย
    ---------

    ยุคทองของ..บอสพอล The Icon

    เมื่อโควิดหมดไปประเทศเปิด คนก็เริ่มหางานทำ นั่นจึงเกิดเป็นยอดขาย 4,949,496,994 มีกำไรสุทธิ 813 ล้านบาทเศษ ในปี 2564 นั่นเอง

    เพราะคนแห่มาทำออนไลน์กันเนื่องจากยังคงกลัวโควิดอยู่แต่ก็ต้องทำมาหากินแล้ว ทีนี้ก็แบกตัวเองมาเรียนเพราะอยากมีอาชีพมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัว

    แต่..พอมาเรียนแล้วได้เจอกับนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ เจอคนขับรถสปอร์ต ใส่แบรนด์เนม ความคิดที่อยากจะมีอาชีพที่มีแค่รายได้มาจุนเจือครอบครัวมันเปลี่ยนไป

    เริ่มมีความฝัน อยากสำเร็จ อยากรวย เพราะเห็นจากภาพความสำเร็จของระบบที่พอลได้ออกแบบเอาไว้

    The Icon บูมสุดๆก่อให้เกิดกระแสหลั่งไหลเข้ามาเรียนมากขึ้น ชวนกันมากขึ้น เปิดบิลกันมากขึ้น เที่ยวกันให้สะใจ ทีมงานบอสพอลโพสต์ภาพการกินเที่ยวเต็มโซเชียล

    ภาพถ่ายเหล่านั้นมันดูเหมือนเป็นอนาคตที่สดใสสำหรับทุกคนจริงๆ ดึงดูดคนให้เข้าเรียนเพิ่มขึ้น

    แต่พอคนมาเยอะ มันก็ตรงกับหลัก Supply/Demand เมื่อคนขายมากกว่าคนซื้อและทุกคนแห่กันไปโฆษณาบน Facebook ความฉิบหายจึงบังเกิด

    ค่าโฆษณาพุ่งกระฉูดเพราะทุกคนก็ต้องการ Placement บน Platform ไม่ว่าจะจุดไหนก็จะ Bid ราคากันแบบ Auto

    ทีนี้ AI ของ Facebook ก็ลากราคาต่อคลิกไปสูงถึง 10 บาท ทีนี้เริ่มไม่มีกำไรละ หลายคนเริ่มเจ๊ง หลายคนสต็อกเริ่มล้น..สินค้าติดมือ

    หลายคนเริ่มสู้กับค่าโฆษณาไม่ไหว เพราะยิงแอดไปซ้ำกับคนเดิม ระบบชวนคนทุกบริษัทมันมีข้อเสียตรงนี้แหละคือทำไปสักพักจะมีรหัสซ้ำ

    คำว่ารหัสซ้ำ แปลง่ายๆก็คือทักไปหาคนที่เป็นสมาชิกของ The Icon อยู่แล้ว ดังนั้นการชวนคนจึงไม่ง่ายเหมือนเดิม

    เริ่มเจอหน้าซ้ำ เริ่มเจอคนระดับรากหญ้า เป็นแม่ค้าผักบ้างล่ะ เป็น รปภ.บ้างล่ะ ทำให้ยอดขายปีถัดมาตกลงเหลือ 3 พันกว่าล้าน

    พอล..ต้องการต่ออายุธุรกิจของตัวเองให้เดินหน้าต่อเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าจึงเริ่มหา #ลมใต้ปีก มาช่วยพยุงธุรกิจ

    และรู้ๆกันอยู่ว่าลมใต้ปีกชั้นดีก็คือ..ดารา

    และดาราคนแรกๆเลยก็คือ กันต์ ซึ่งแรกๆกันต์ไม่ได้เข้ามาในฐานะพรีเซ็นเตอร์อีกตางหาก ลองไปสืบค้นกันเอาเองว่าตอนแรกเข้ามาในฐานะอะไร

    กันต์ เข้ามาก่อนแต่มายืนถือสินค้าชิ้นแรกหลังพวกดาราคนอื่น เพราะเพื่อส่งเสริมให้บริษัทมันดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น พอลจึงแต่งตั้งกันต์ให้เป็น CMO ซะเลย

    เพราะจะได้การันตีว่าบริษัทฉันน่ะมันสะอาดโปร่งใสนะฉันไม่โกงหรอก เห็นไหมว่า..พิธีกรระดับประเทศยังมาทำงานร่วมกับฉันเลย

    กันต์ และดาราอีกขโยงหนึ่งทำให้ใครๆก็เชื่อมั่นใน The Icon ชวนเปิดบิลหลักแสนก็ใจอ่อนไม่ต้องหวั่นไหวเพราะมีดาราการันตรี มีดาราพารวย

    แน่นอนว่าช่วงนี้ค่าโฆษณาแพงแล้วนะ แต่มีดารามาการันตี แล้วกำไรมีไหม ก็มีระดับปริ่มๆ แต่บางคนก็เริ่มเจ๊งตั้งแต่เริ่มทำ
    -----------

    ดังที่กล่าวมาข้างบน👆จะเห็นได้ว่าไม่มีเหลี่ยมไหนที่จะตั้งข้อกล่าวหาให้เอาผิดพอลในชั้นศาลได้เลย

    จะตั้งข้อกล่าวหาพอลยังยาก ไอ้ที่เย้วๆตั้งธงว่าแชร์ลูกโซ่นี่พอลยิ้มอ่อนเอามือลูบปากคิดในใจ..เสร็จกู

    เพราะเคสแบบนีัมันต้องเริ่มที่ สคบ.ก่อนเลย แต่ด้วยเหตุผลของกฎหมาย สคบ.ก็จะตีความว่า การขายสินค้าของพอล..“ไม่ได้ขายต่อไปยังมือผู้บริโภคโดยตรง แต่จำหน่ายไปที่ตัวแทน”

    หรือเคยมีใครได้รับสินค้าจากมือบอสพอลโดยตรงบ้างไหมล่ะ.? ถ้าไม่มีก็ตรงตามที่ สคบ.ตีความเอาไว้นั่นแหละ

    จึงทำให้ทุกคนที่เคยร้องเรียนไปยัง สคบ.ได้รับคำตอบกลับมาเหมือนกันหมดคือ สคบ.ทำอะไรไม่ได้

    เพราะพอลได้ศึกษาข้อกฏหมายเอาไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย ยกเว้นการการันตีว่าแอดต้องปัง

    พอล..เริ่มปรับแผนการตลาด ตั้งสำนักงานใหม่ที่รามอินทรา มีรถหรูจอดที่ด้านหน้าเพื่อให้คนมาถ่ายกับรถแล้วก็ไปโพสต์และยิงโฆษณาแทนตนเอง

    เริ่มให้คนสร้างภาพว่าทำแล้วรวย แทนที่จะกลายเป็นเที่ยว ไม่เอาแล้วล่ะ กูเน้นทำแล้วรวย แล้วก็คงคอนเซ็ปต์ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย อยากรวยต้องมาทำกับกูนี่มา ถถถ

    แต่เมื่อคนเริ่มตื่นรู้ ค่าโฆษณาแพง การจะชวนไปต่อในระดับลึกๆทำได้ยาก หลายคนจึงยอมเจ็บแค่นี้แล้วถอยออกมาหาเงินทางอื่นมาใช้หนีั

    ทำให้ปีถัดมา ยอดขายตกเหลือ พันแปดร้อยล้าน หายไปเกือบ 40% ทีนี้บอสพอลก็คงทำได้แค่ยื้อเวลาของธุรกิจตัวเองต่อไป

    โดยการจ้างดารามามากขึ้น ผลิตสินค้าออกมามากขึ้น เพื่อให้การเปิดบิลมัน rotate ไปยังสินค้า SKU ใหม่ๆ

    หลังจากนั้นจึงเป็นความวิบัติที่แท้..

    พอล..ไม่ได้ควบคุมทิศทางบริษัทตัวเองให้ดี รู้ทั้งรู้แต่ยังปล่อยให้ทำ ก็คือแม่ทีม เริ่มกลายร่างสถาปนาตัวเองเป็นโค้ช เก่งระดับประเทศกันทุกคน

    ทุกคนขับรถสปอร์ตกันหมดเลย แล้วรถของใครล่ะ.?

    ก็รถของบอสพอลแทบทุกคันเลยแหละ การตลาดมันจึงกลายเป็นการหลอกลวงผู้คนด้วยโพรไฟล์จอมปลอมทันที

    เพราะรถก็ไม่ใช่ของตัวเอง แต่มาโม้ว่าเป็นของตัวเองเพื่อให้คนอื่นหลงเชื่อว่าทำธุรกิจร่วมกับ The Icon แล้วรวย

    บอสพอลก็ทราบดีเลยนะว่าทำแบบนี้มันคือการหลอกลวง แต่พอลก็รู้ว่าตัวเองไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะเกิดอะไรขึ้นคนที่จะรับกรรมก็แม่ทีมไง ไม่ใช่ตัวเอง

    พอล..ก็หลับตาข้างเดียวปล่อยให้แม่ทีมทำไปตามอำเภอใจ จนมาถึงปัจจุบันที่ทุกคนโหวกเหวกโวยวายนั่นแหละ

    สิ่งที่ควรตระหนักคิด ตื่นให้รู้เอาไว้เลยคือ..

    การยิงแอดขายของออนไลน์มันตายไป 3 ปีแล้วคือหลังปี 2564 ไม่มีใครยิงแอดในระบบตัวแทนไม่ว่าบริษัทใหนแล้วอยู่รอดสักราย นี่คือความจริง

    ไม่ได้พูดถึงแค่ The Icon นะ เราขอพูดถึงทุกๆบริษัท ทุกๆสินค้าเลย เหตุผลก็คือค่าโฆษณามันแพงกว่า Margin ของกำไร

    ดังนั้นคนที่จะอยู่ได้คือ“เจ้าของสินค้าเท่านั้น” ผลิตเอง ยิงเอง โปรโมทเอง ถึงจะอยู่รอด ระบบตัวแทน ระบบออนไลน์มันตายไปตั้งแต่ปี 2564 แล้ว

    คนมันถึงหนีตายไปยิงแอด shopee , lazada กันไงล่ะ เพราะ Facebook มันอยู่ไม่ได้แล้ว แล้วปีนี้ 2567 shopee , lazada ก็เริ่มจะอยู่ไม่ได้แล้ว

    หลายคนจึงไปยิง Tiktok แล้วอีกไม่นานพวกคุณก็จะอยู่ไม่ได้อีกนั่นแหละเพราะมันจะลูปเดิม เหมือนกับ Platform อื่นๆ

    เพราะค่าโฆษณาบน Platform เมื่อแพงแล้วมันจะไม่มีวันลดลง นี่คือกฎแห่งการตลาดง่ายๆ คุณลองไปท่อง Supply/Demand ก็จบแล้ว

    แต่บอสพอลมันพยายามยืดชีวิตด้วยการ rotate บอสจำแลงที่จ้างดาราไปเรื่อยๆ เพื่อให้ FC ทุกระดับทุกวัยยังคงกรี๊ดกับธุรกิจของบอสอยู่

    บอสพอล ถึงไปเลือกพี่โดมยุค 90 มาหาลูกค้าระดับแก่ เลือกมีน มาหาลูกค้าระดับ 30+ ทุกคนก็มีภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ

    พี่แซมก็เช่นกัน เป็นถึงดารานักการเมืองยังลงมาทำธุรกิจนี้เลย ความน่าเชื่อถือแบบนี้พอลซื้อและยื้อมันไปเรื่อยๆตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

    บริษัท the icon ใช้วิธีไม่จ่ายค่าคอมมิชชั่นเป็นเงิน แต่จ่ายเป็นทริปท่องเที่ยวแทน แล้วถ้าใครไม่อยากไปเที่ยว สามารถขายสิทธิ์ไปเที่ยว แลกเป็นเงินกลับไปได้

    จึงเลี่ยงการจ่ายค่าคอมไปได้เยอะ เพราะไปฟันกำไรตอนจัดทริปทัวร์ปุ๊บปั๊บอีก เรียกว่าไปปารีสแต่ได้นั่งรถโฉบหอไอเฟล หรือได้พักตากอากาศที่โรงแรมสามสี่ดาว

    อย่างน้อยก็ได้เที่ยวโว๊ยยยยยยย ส่วนสินค้าขายไม่ออกแกะแดกแม่งให้หมด อส. ถถถ

    สินค้าที่บอกว่าสต็อกไว้ในโกดัง 100% น่ะ เวลาพวกคุณไปเบิกจริงๆ จะเบิกไม่ได้ 100% นะ เพราะมันจะเป็น Dropship

    คือต้องขายได้ บริษัทถึงจะส่งให้ ไม่เน้นให้เบิกกลับไปเก็บที่บ้าน เพราะเปิดบิลดีลเลอร์ต้องรอรอบผลิตของ 2 เดือนเป็นต้นไป

    กว่าจะได้ของครบต้องรอไปเรื่อยๆจนกว่าของจะเข้า ธุรกิจนี้ไ่ม่มีใครโง่ผลิตของมากองไว้ให้หมดอายุหรอก ได้ออเดอร์ค่อยสั่งผลิต

    มันเลยมีช่องว่างให้บอสพอลเอาเงินไปหมุนได้ ได้ข่าวแว่วๆว่าบอสพอลเอาเงินไปลงเทรดด้วย กำไรอู้ฟู่ รวยคนเดียวอีกตามเคย
    ----------

    ดังนั้นบทสรุปของธุรกิจ The Icon เราจะขอบอกให้ชื่นใจดังนี้

    1. พอลคนเดียวที่รวยและรอด เพราะว่าพอลส่งภาษีเที่ยงตรง 100% เป็นลูกรักสรรพากรเลยแหละ นั่นเพราะพอลเรียนรู้จากคุณ ธเนตร ว่าเรื่องนี้ห้่ามพลาด สรรพากรไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงนะพอลนะ

    2. คอร์สขายออนไลน์เรียนราคาถูก ไม่มีอยู่จริง เพราะสุดท้ายพวกคุณจะโดน up sale จะไปเรียนคอร์สระดับ Advance ต้องเป็น Member จะร่ำรวยเงินล้านต้องทุ่ม Dealer

    3. โฆษณาของทุกคนปังหมด เพราะมันมีแม่ทีมที่มี Facebook Account อวตารคอยไปคอมเมนต์สั่งซื้อ แต่มีการซื้อจริงไม่ถีง 20%

    เพราะตอนการันตี การันตีว่าแอดจะปัง แต่คุณปิดการขายไม่ได้เพราะคุณสนทนาขายให้กับแอคผี มันจะไปมียอดซื้อได้ไง พอคุณปิดไม่ได้ทีนี้ความซวยก็เกิดที่ตัวคุณเอง

    พวก Downline ทั้งหลายก็รับกรรมไป หลายคนโดนหลอกว่าจะทำทั้งทีต้องทำแบบ 7-11 เปิดแม่งหลายสาขาเลย ลงเป็นล้านไรงี้

    4. ไม่อยากตุยอย่าเข้าไปทำ หนีได้หนีไป หนีให้สุดชีวิต เพราะมันคือยุคบรรลัยของธุรกิจ The I con ที่ตัวพอลเองเห็นอยู่แท้ๆว่ามันบรรลัย

    ที่ยังหลับหูหลับตาปล่อยให้มันเป็นดั่งระเบิดเวลาที่มันใกล้จะระเบิดแล้ว ก็เพราะความมั่นใจอย่างเดียวเลยที่พอลคิดในใจก็คือ "กูจะไม่โดนคดีอะไรเลย กูขาวสะอาด"

    ทีนี้พวกคุณเข้าใจหรือยังว่าการจะไปด่าพอลมันก็เถียงคอเป็นเอ็น เพราะมันดูใสสะอาด ขาวจั๊วะเลยแหละยิ่งกว่าบรีส จะเห็นแต่แม่ทีมนั่นแหละที่เป็นคนผิด

    ดังนั้นบทจบของละครเรื่องนี้ก็จะไปลงกับแม่ทีมทั้งหลายที่ออกมาเซฟบอสพอลกันให้ลึ่ม ถ้าเรารู้จักจะถามว่า..มึงเซฟตัวเองก่อนไหม มึงไปเซฟ Downline มึงโน่น🤣 อส.

    น้ำกำลังจะท่วมถีงหลังคาบริษัทแล้ว แม่ทีมกำลังอลหม่าน แต่บอสพอลแม่งนอนดูละครคุณธรรมชิลล์ๆ🤣

    เพราะพอลนั้นได้ต่อเรือโนอาร์เตรียมรับสถานการณ์รอไว้ตั้งแต่วันที่ก่อตั้งบริษัทแล้ว ใสสะอาดจนกฏหมายยากที่จะเอื้อมถึง

    สุดท้าย..พอลกับวงศ์วานคนสนิทเท่านั้นที่จะได้ขึ้นเรือโนอาร์รอดตุยจากการถูกน้ำท่วม รอให้น้ำลดก็กลับมาในฐานะคนที่กฏหมายเอื้อมไม่ถีง

    ว่างๆจะเขียนลงลึกให้อ่านว่าทำไมกฏหมายถีงจะเอื้อมไปไม่ถึงบอสพอล เดี๋ยวคอยดูดาราที่เคยไปร่วมวงต่างก็จะออกมายืนยันว่าบริษัทถูกกฏหมาย 100%

    ซึ่งมันก็เป็นความจริงนะ แต่มันเป็นความจริงตามที่กฏหมายตราเอาไว้ว่าทำแบบพอลนั้นไม่ผิด แต่ทางธรรมพอลจะผิดในผิดซ้อนผิดเจตนาทำผิด..ไม่งงนะ.?

    นี่แค่บริษัทแรกนะ ยังมีต่อคิวอีก 4 บริษัท ที่อ่านเรื่องราวแล้วพวกคุณจะอึ้งและมันส์ยิ่งกว่าซีรีย์ เสียอีก

    #พี่ติ่งกระบือบิน ก็อย่าขึ้นทัวร์มาเซฟบอสพอลที่นี่นะครับนะ ผมนี่เขียนช่วยยืนยันเลยนะว่าบอสพอลจะรอดคุก..โอเค๊

    สวัสดี
    @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    .
    Cr : FB เหยื่อ V.2
    FB Page เหยื่อ V.2 เขียนดีมาก ครบถ้วน จึงขอยกมานำเสนอแบบเต็มๆ ............... ปฐมบท..บอสพอล The Icon พอล..คือชื่อของเด็กหนุ่มที่เริ่มต้นก็ค้าขายของที่บ้าน จนกระทั่งยุคที่ Facebook Ads เริ่มให้บริการ ตอนนั้นคนยังไม่สนใจการยิงแอด ค่าแอดในการทำโฆษณาเรียกว่าเอาคนได้ที่โหล่มาทำแอดก็ยังกำไร เพราะต้นทุนต่อค่าโฆษณาอยู่ที่คลิกละ 5 สตางค์ หรือพูดง่ายๆ จ่ายเงินให้เกิดการคลิกเข้ามา 20 ครั้ง เสียเงินแค่ 1 บาท ดังนั้นถ้าใครอยู่ในยุคตื่นแอดช่วงแรกเรียกว่ากอบโกยชนิดที่ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อที่ดิน กันได้เลยจริงๆนั่นแหละ พ.ศ. 2556 คือยุคเริ่มต้นเมื่อ Facebook ประกาศให้มีการแสดงโฆษณาได้บนประเทศไทย พอล..จึงหัดยิงแอดออนไลน์ขายสินค้าของตัวเองจนชำนาญจึงเกิดเป็นพอลผู้ทำการตลาดออนไลน์เก่งมาก (ไม่เก่งได้ไงก็ค่าโฆษณามันยังถูกมาก) จะท้าวความให้อ่าน จะได้รู้ว่าทำไมพอลถึงเก่งและหัวใสแยบยลได้อย่างที่เห็นทุกวันนี้ เราจะพาเพื่อนๆแฟนเพจ นั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปดูเรื่องราวของเขากัน.. ผู้ที่ปั้นพอลให้เก่งอย่างทุกวันนี้ เขามีชื่อว่าคุณ ธเนตรการกล่าวถึงคนนี้เขาไม่ได้เป็นคนทำผิดบาปอะไรนะ เขาเป็นนักการตลาด MLM ที่เก่งที่สุดในไทยระดับต้นๆ คุณ ธเนตร ได้สมัครเข้าไปทำการตลาดกับ Jeunesse Global 👉 https://www.facebook.com/JeunesseGlobal ซึ่งเป็นบริษัทขายตรงทั่วๆไปเหมือนแอมเวย์ กิฟฟารีนซึ่งไม่ได้ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่มันมีจุดหนึ่งที่น่าสนใจ ก็คือการตลาดยุคนั้นมีกฎห้ามนำสินค้ามาโพสต์ขายออนไลน์ เพื่อเลี่ยงการตัดราคาและเลี่ยงการที่สมาชิกไม่ซื้อสินค้าผ่านบริษัทโดยตรง เรียกว่าใครโพสต์ขายหรือชวนคนออนไลน์ จะโดนตัดรหัสทิ้งทันทีเพราะเป็นการทำผิดกฏบริษัท แต่..มีนักการตลาดชาวมาเลเซียคนหนึ่ง ชื่อว่า Patric Chan 👉 https://www.facebook.com/patricchanlive/ ได้ไปดีลกับ Jeunesse ว่า จะขอพัฒนาระบบชวนคนออนไลน์ได้ไหม โดยให้เหตุผลว่า..จะสามารถทำสปอนเซอร์ข้ามประเทศได้ จะทำให้ Jeunesse มีสมาชิกทั่วโลกได้ เช่น.เราทำอยู่ที่ไทย เราอาจจะมี Down line อยู่ที่เคนย่า ลาว ไต้หวัน ได้หมด นั่นเป็นไอเดียที่ Jeunesse ตอบตกลงให้ Patric Chan ทำได้ จึงเกิดเป็นระบบชวนคนออนไลน์ ตอนนั้นแค่ชวนสมัครสมาชิกนะ การสั่งซื้อสินค้าก็ยังคงสั่งผ่านหน้าเวบไซต์ Jeunesse อยู่ดีไม่มีอะไรซับซ้อน และคุณ ธเนตร ก็ได้ไปเรียนกับ Patric Chan ตอนที่เขามาเปิดสัมมนาที่ไทยในปี 2558 👉 https://www.facebook.com/passivewealthTH/ เมื่อคุณ ธเนตร ได้เรียนรู้ระบบชวนคนออนไลน์แล้วประจวบกับการที่พอลมาสมัครเป็น Downline ของธเนตร ก็เหมือนจับเอาเสือสองตัวมาตีคู่กัน เกิดเป็นพลังต่อสู้มหาศาล คนหนึ่งเก่งเรื่องสคริปต์ชวนคน คนหนึ่งเก่งเรื่องยิงแอด ทีนี้แหละความรวยจึงบังเกิด เกิดเป็นยอดขายพันล้านของ ธเนตร เกิดยอดขายร้อยล้านของพอล จนทั้งสองคนได้ไปออกรายการต่างๆ พอลได้ไปออกรายการตีสิบ จนได้นามสกุลมาต่อท้ายชื่อว่า“พอล ตีสิบ” ใครๆก็เรียกเขาแบบนั้นระหว่างที่เขายังคงทำ Jeunesse และตลอดเวลา พอลก็ได้เรียนรู้กลยุทธการทำการตลาดแบบ MLM จากธเนตร จนแตกฉานยิ่งกว่าจบเปรียญธรรม 9 ประโยค เมื่อพอลรู้แจ้ง เห็นจริงแล้ว ก็กางปีกโบยบินแยกตัวออกมาจาก ธเนตร มาตั้งบริษัท และทำแบรนด์ชื่อว่า“ The Icon“ --------- โดยช่วงแรกทำสินค้าพวกกาแฟ และ คอลลาเจน เพราะสองอย่างนี้พอลศึกษาแล้วว่าจะทำการตลาดชวนคนได้ง่าย เพราะเป็นสินค้าที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย โดยพอลได้วางระบบชวนคนไว้โดยให้ผลตอบแทนเป็นการ "เที่ยวฟรี" และทำโปรโมชั่นเปิดบิลสมัครสมาชิก "เที่ยวฟรี" โดยจัดการเที่ยวเน้นไปที่ทะเล พัทยา เพราะดีลค่าโรงแรมได้ถูก พอลฉลาดโดยไม่ได้ดีลโรงแรมห้าดาวอะไร เน้นโรงแรม 3 ดาวก็พอแล้ว โดยมีการจองห้องประชุมไว้ทำสัมมนา ----------- ลูกค้าของพอล.. ช่วงแรกเขามุ่งเน้นไปที่คนอยากเที่ยวและอยากมีเพื่อนฝูงไปด้วย นั่นก็คือ คนที่เกษียณแล้ว หรือคนแก่นั่นเอง เค้ารู้ดีว่ากลุ่มเป้าหมายนี้แหละจะผลักดันให้บริษัทเขาอยู่รอดได้ในช่วงแรก ด้วยการจัดทัวร์เที่ยวกินฟรี (ค่าเดินทางออกเอง) โดยการเปิดบิลซื้อสินค้า ช่วงแรกจะมีระดับไม่เยอะ จะมีแบบเปิดคนเดียว เที่ยวคนเดียว และเปิดมากหน่อย ชวนเพื่อนมาเที่ยวได้ฟรี 1 คน 2 คน 3 คน ไล่ไปเรื่อยๆ และด้วยหลักการนี้เอง คนแก่จึงตอบรับข้อเสนอของเขาง่าย เพราะนอกจากจะได้สินค้ามากินและใช้แล้วก็ยังได้เที่ยวฟรี และคนแก่ส่วนมากมักจะไม่อยากไปเที่ยวคนเดียว จึงเปิดบิลที่ชวนเพื่อนได้ 2 คนขึ้นไป และก็เป็นการชวนเพื่อนมาเที่ยวฟรี การเที่ยวก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย ก็คือชวนเพื่อนไปเที่ยวทะเล หลังกินอาหารเช้าแล้ว วันถัดมาก็จะเป็น Event กลางคืน ได้พบกับคนดังที่ออก TV นั่นคือบอสพอล ตีสิบ โดยพอลจะมาหลังจากทุกคนถึงแล้ว 1 วันเสมอ เพื่อมาปรากฎตัวบนเวที แล้วก็จะขอบคุณสมาชิกทุกคนที่มาเที่ยว รวมไปถึงชักชวนให้คนที่มาเที่ยวกับเพื่อน สมัครสมาชิกเพื่อซื้อสินค้าและสามารถชวนเพื่อนในทริปหน้ากันได้อีก โดยคนชวนก็ไม่ใช่ใคร ก็ใช้เพื่อนชวนเพื่อนมันก็ง่ายสิ่คนแก่ขี้เหงายังไงก็ดีกว่ารอลูกหลานพาเที่ยว ฉันไปเที่ยวกับเพื่อนสนุกกว่า ทำให้การเปิดบิลซ้ำ การเปิดบิลใหม่ จึงเกิดขึ้นตามแผนการตลาดอันแยบยลของพอลและด้วยวิธีนี้ทำให้ปีแรก บริษัทของพอลมีกำไรเติบโตทันที พอล..เริ่มซื้อรถ Super Car ก่อนเลยเพื่อเริ่มเข้าสู่“โหมดความรวย”เพื่อวางแผนกระเถิ่บไปหาลูกค้าที่มีความฝัน..อยากรวยตามแบบคนอื่น พอล..เปลี่ยนการตลาดจากคนแก่ มาเจาะคนที่อยากเกษียณก่อนกำหนด คือ เป้าหมายพวกอายุ 35 ขึ้นไปที่ฝันอยากมีรถหรู กระเป๋าแบรนด์เนม..เหมือนคนอื่น คนเรามีความฝันนั้นดี “แต่ต้องไม่ลืมนึกถึงความจริง”ที่ว่า บางครั้งความฝันมันก็เป็นได้แค่ความฝัน..ที่ไม่มีวันเป็นความจริง พอล..ใช้คอร์สสอนออนไลน์สอนการทำตลาดขายของซึ่งยุคนั้นค่าโฆษณายังไม่แพง แต่ก็เริ่มขยับจากระดับ 10 สตางค์ มาเป็นคลิกละ 50 สตางค์แล้ว แต่มันก็ยังได้ผลอยู่ เพราะจ่ายค่าโฆษณาไป 1,000 บาท ก็สามารถชวนคนได้ถึง 2000 คลิก ตีไปว่าสนใจ 1% ก็ยังมีคนทักมา 20 คน คอร์สก็เป็นการเตรียม Material ต่างๆเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว แค่ทุกคนแบกโน้ตบุ๊กของตัวเองมาก็สามารถตั้งโฆษณาได้เลย ทุกคนจะตั้งโฆษณาขายสินค้าและชวนคนเข้าทีม ซึ่งตั้งไว้ที่ 89 บาท 89 บาท นั่นคือค่าเฉลี่ยที่พอลคำนวณแล้วว่าใช้เทคนิค OPM (Other People Money) แบบนี้ตัวเองก็ไม่ต้องยิงแอดเองแล้ว (จากเดิมตอนชวนคนแก่ต้องยิงแอดเอง และสอนทีมงาน) มาคราวนี้พอลได้พัฒนา ระบบการสอน เริ่มมีการตั้งแม่ทีมเพื่อศึกษาวิธีการสอนให้เป็นครู โดยทุกคนก็เอา 89 บาทค่าเรียน ใส่เข้าไปในโฆษณานั่นแหละ เท่ากับพอลก็จะได้ Facebook Ads Account มหาศาลโดยที่ตัวเองไม่ต้องเสียเวลาสมัครและไม่ต้องกลัวโดนแบนโฆษณาเพราะถึงโดนก็ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องเหนื่อยลงไปควบคุมเองแล้ว ด้วยแผนการตลาดแบบใหม่ ทำให้พอลเติบโตแบบก้าวกระโดด ยอดขายพุ่งไปหลายร้อยล้านทันที เพราะมีการวางเกมเรื่องเปิดบิลไว้แล้ว อย่างที่เห็นในข่าว คนมาอย่างน้อยก็ต้องเสียค่าสมัคร member หลัก 2-5 พัน และถ้าแม่ทีมเก่งก็จะต้อนให้ไปเปิดบิลดีลเลอร์ได้เลย 250,000 เพื่อให้เที่ยวฟรีได้เกือบ 10 ครั้ง แถมยังได้โควต้าชวนคนมาเที่ยวด้วย เรียกว่าอัดโปรโมชั่นกันแบบจุกๆ เพื่อทำให้คนได้เห็นว่ามาเรียนที่นี่นอกจากจะขายได้แล้ว ยังได้เที่ยวด้วย ทำให้เกิดกระแสบูมไปที่ The Icon และด้วยการที่พอลศึกษาข้อกฏหมายกับทนายส่วนตัวมาเป็นอย่างดี รวมถึงได้ความรู้จากอาจารย์ตัวเองมา เขาจึงเลี่ยงวลี..ไม่ได้ทำ MLM เพราะรู้ว่าถ้าชวนทำ MLM คนจะไม่มา เขาจึงเรียกระบบของบริษัทตัวเองว่าระบบตัวแทน เพื่อให้คนไม่รู้สึกต่อต้านกับสิ่งที่เขาทำ และพอลได้ขออนุญาตการทำการตลาด ที่เรียกว่าตลาดขายตรง ไว้แล้ว บริษัทจึงสามารถดำเนินการได้ โดยไม่มีความผิด และด้วยเทคนิคนี้ทำให้พอล ก้าวเข้าสู่ยอดขายหลายร้อยล้านได้อย่างง่ายดาย --------- ยุคทองของ..บอสพอล The Icon เมื่อโควิดหมดไปประเทศเปิด คนก็เริ่มหางานทำ นั่นจึงเกิดเป็นยอดขาย 4,949,496,994 มีกำไรสุทธิ 813 ล้านบาทเศษ ในปี 2564 นั่นเอง เพราะคนแห่มาทำออนไลน์กันเนื่องจากยังคงกลัวโควิดอยู่แต่ก็ต้องทำมาหากินแล้ว ทีนี้ก็แบกตัวเองมาเรียนเพราะอยากมีอาชีพมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัว แต่..พอมาเรียนแล้วได้เจอกับนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ เจอคนขับรถสปอร์ต ใส่แบรนด์เนม ความคิดที่อยากจะมีอาชีพที่มีแค่รายได้มาจุนเจือครอบครัวมันเปลี่ยนไป เริ่มมีความฝัน อยากสำเร็จ อยากรวย เพราะเห็นจากภาพความสำเร็จของระบบที่พอลได้ออกแบบเอาไว้ The Icon บูมสุดๆก่อให้เกิดกระแสหลั่งไหลเข้ามาเรียนมากขึ้น ชวนกันมากขึ้น เปิดบิลกันมากขึ้น เที่ยวกันให้สะใจ ทีมงานบอสพอลโพสต์ภาพการกินเที่ยวเต็มโซเชียล ภาพถ่ายเหล่านั้นมันดูเหมือนเป็นอนาคตที่สดใสสำหรับทุกคนจริงๆ ดึงดูดคนให้เข้าเรียนเพิ่มขึ้น แต่พอคนมาเยอะ มันก็ตรงกับหลัก Supply/Demand เมื่อคนขายมากกว่าคนซื้อและทุกคนแห่กันไปโฆษณาบน Facebook ความฉิบหายจึงบังเกิด ค่าโฆษณาพุ่งกระฉูดเพราะทุกคนก็ต้องการ Placement บน Platform ไม่ว่าจะจุดไหนก็จะ Bid ราคากันแบบ Auto ทีนี้ AI ของ Facebook ก็ลากราคาต่อคลิกไปสูงถึง 10 บาท ทีนี้เริ่มไม่มีกำไรละ หลายคนเริ่มเจ๊ง หลายคนสต็อกเริ่มล้น..สินค้าติดมือ หลายคนเริ่มสู้กับค่าโฆษณาไม่ไหว เพราะยิงแอดไปซ้ำกับคนเดิม ระบบชวนคนทุกบริษัทมันมีข้อเสียตรงนี้แหละคือทำไปสักพักจะมีรหัสซ้ำ คำว่ารหัสซ้ำ แปลง่ายๆก็คือทักไปหาคนที่เป็นสมาชิกของ The Icon อยู่แล้ว ดังนั้นการชวนคนจึงไม่ง่ายเหมือนเดิม เริ่มเจอหน้าซ้ำ เริ่มเจอคนระดับรากหญ้า เป็นแม่ค้าผักบ้างล่ะ เป็น รปภ.บ้างล่ะ ทำให้ยอดขายปีถัดมาตกลงเหลือ 3 พันกว่าล้าน พอล..ต้องการต่ออายุธุรกิจของตัวเองให้เดินหน้าต่อเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าจึงเริ่มหา #ลมใต้ปีก มาช่วยพยุงธุรกิจ และรู้ๆกันอยู่ว่าลมใต้ปีกชั้นดีก็คือ..ดารา และดาราคนแรกๆเลยก็คือ กันต์ ซึ่งแรกๆกันต์ไม่ได้เข้ามาในฐานะพรีเซ็นเตอร์อีกตางหาก ลองไปสืบค้นกันเอาเองว่าตอนแรกเข้ามาในฐานะอะไร กันต์ เข้ามาก่อนแต่มายืนถือสินค้าชิ้นแรกหลังพวกดาราคนอื่น เพราะเพื่อส่งเสริมให้บริษัทมันดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น พอลจึงแต่งตั้งกันต์ให้เป็น CMO ซะเลย เพราะจะได้การันตีว่าบริษัทฉันน่ะมันสะอาดโปร่งใสนะฉันไม่โกงหรอก เห็นไหมว่า..พิธีกรระดับประเทศยังมาทำงานร่วมกับฉันเลย กันต์ และดาราอีกขโยงหนึ่งทำให้ใครๆก็เชื่อมั่นใน The Icon ชวนเปิดบิลหลักแสนก็ใจอ่อนไม่ต้องหวั่นไหวเพราะมีดาราการันตรี มีดาราพารวย แน่นอนว่าช่วงนี้ค่าโฆษณาแพงแล้วนะ แต่มีดารามาการันตี แล้วกำไรมีไหม ก็มีระดับปริ่มๆ แต่บางคนก็เริ่มเจ๊งตั้งแต่เริ่มทำ ----------- ดังที่กล่าวมาข้างบน👆จะเห็นได้ว่าไม่มีเหลี่ยมไหนที่จะตั้งข้อกล่าวหาให้เอาผิดพอลในชั้นศาลได้เลย จะตั้งข้อกล่าวหาพอลยังยาก ไอ้ที่เย้วๆตั้งธงว่าแชร์ลูกโซ่นี่พอลยิ้มอ่อนเอามือลูบปากคิดในใจ..เสร็จกู เพราะเคสแบบนีัมันต้องเริ่มที่ สคบ.ก่อนเลย แต่ด้วยเหตุผลของกฎหมาย สคบ.ก็จะตีความว่า การขายสินค้าของพอล..“ไม่ได้ขายต่อไปยังมือผู้บริโภคโดยตรง แต่จำหน่ายไปที่ตัวแทน” หรือเคยมีใครได้รับสินค้าจากมือบอสพอลโดยตรงบ้างไหมล่ะ.? ถ้าไม่มีก็ตรงตามที่ สคบ.ตีความเอาไว้นั่นแหละ จึงทำให้ทุกคนที่เคยร้องเรียนไปยัง สคบ.ได้รับคำตอบกลับมาเหมือนกันหมดคือ สคบ.ทำอะไรไม่ได้ เพราะพอลได้ศึกษาข้อกฏหมายเอาไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย ยกเว้นการการันตีว่าแอดต้องปัง พอล..เริ่มปรับแผนการตลาด ตั้งสำนักงานใหม่ที่รามอินทรา มีรถหรูจอดที่ด้านหน้าเพื่อให้คนมาถ่ายกับรถแล้วก็ไปโพสต์และยิงโฆษณาแทนตนเอง เริ่มให้คนสร้างภาพว่าทำแล้วรวย แทนที่จะกลายเป็นเที่ยว ไม่เอาแล้วล่ะ กูเน้นทำแล้วรวย แล้วก็คงคอนเซ็ปต์ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย อยากรวยต้องมาทำกับกูนี่มา ถถถ แต่เมื่อคนเริ่มตื่นรู้ ค่าโฆษณาแพง การจะชวนไปต่อในระดับลึกๆทำได้ยาก หลายคนจึงยอมเจ็บแค่นี้แล้วถอยออกมาหาเงินทางอื่นมาใช้หนีั ทำให้ปีถัดมา ยอดขายตกเหลือ พันแปดร้อยล้าน หายไปเกือบ 40% ทีนี้บอสพอลก็คงทำได้แค่ยื้อเวลาของธุรกิจตัวเองต่อไป โดยการจ้างดารามามากขึ้น ผลิตสินค้าออกมามากขึ้น เพื่อให้การเปิดบิลมัน rotate ไปยังสินค้า SKU ใหม่ๆ หลังจากนั้นจึงเป็นความวิบัติที่แท้.. พอล..ไม่ได้ควบคุมทิศทางบริษัทตัวเองให้ดี รู้ทั้งรู้แต่ยังปล่อยให้ทำ ก็คือแม่ทีม เริ่มกลายร่างสถาปนาตัวเองเป็นโค้ช เก่งระดับประเทศกันทุกคน ทุกคนขับรถสปอร์ตกันหมดเลย แล้วรถของใครล่ะ.? ก็รถของบอสพอลแทบทุกคันเลยแหละ การตลาดมันจึงกลายเป็นการหลอกลวงผู้คนด้วยโพรไฟล์จอมปลอมทันที เพราะรถก็ไม่ใช่ของตัวเอง แต่มาโม้ว่าเป็นของตัวเองเพื่อให้คนอื่นหลงเชื่อว่าทำธุรกิจร่วมกับ The Icon แล้วรวย บอสพอลก็ทราบดีเลยนะว่าทำแบบนี้มันคือการหลอกลวง แต่พอลก็รู้ว่าตัวเองไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะเกิดอะไรขึ้นคนที่จะรับกรรมก็แม่ทีมไง ไม่ใช่ตัวเอง พอล..ก็หลับตาข้างเดียวปล่อยให้แม่ทีมทำไปตามอำเภอใจ จนมาถึงปัจจุบันที่ทุกคนโหวกเหวกโวยวายนั่นแหละ สิ่งที่ควรตระหนักคิด ตื่นให้รู้เอาไว้เลยคือ.. การยิงแอดขายของออนไลน์มันตายไป 3 ปีแล้วคือหลังปี 2564 ไม่มีใครยิงแอดในระบบตัวแทนไม่ว่าบริษัทใหนแล้วอยู่รอดสักราย นี่คือความจริง ไม่ได้พูดถึงแค่ The Icon นะ เราขอพูดถึงทุกๆบริษัท ทุกๆสินค้าเลย เหตุผลก็คือค่าโฆษณามันแพงกว่า Margin ของกำไร ดังนั้นคนที่จะอยู่ได้คือ“เจ้าของสินค้าเท่านั้น” ผลิตเอง ยิงเอง โปรโมทเอง ถึงจะอยู่รอด ระบบตัวแทน ระบบออนไลน์มันตายไปตั้งแต่ปี 2564 แล้ว คนมันถึงหนีตายไปยิงแอด shopee , lazada กันไงล่ะ เพราะ Facebook มันอยู่ไม่ได้แล้ว แล้วปีนี้ 2567 shopee , lazada ก็เริ่มจะอยู่ไม่ได้แล้ว หลายคนจึงไปยิง Tiktok แล้วอีกไม่นานพวกคุณก็จะอยู่ไม่ได้อีกนั่นแหละเพราะมันจะลูปเดิม เหมือนกับ Platform อื่นๆ เพราะค่าโฆษณาบน Platform เมื่อแพงแล้วมันจะไม่มีวันลดลง นี่คือกฎแห่งการตลาดง่ายๆ คุณลองไปท่อง Supply/Demand ก็จบแล้ว แต่บอสพอลมันพยายามยืดชีวิตด้วยการ rotate บอสจำแลงที่จ้างดาราไปเรื่อยๆ เพื่อให้ FC ทุกระดับทุกวัยยังคงกรี๊ดกับธุรกิจของบอสอยู่ บอสพอล ถึงไปเลือกพี่โดมยุค 90 มาหาลูกค้าระดับแก่ เลือกมีน มาหาลูกค้าระดับ 30+ ทุกคนก็มีภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ พี่แซมก็เช่นกัน เป็นถึงดารานักการเมืองยังลงมาทำธุรกิจนี้เลย ความน่าเชื่อถือแบบนี้พอลซื้อและยื้อมันไปเรื่อยๆตลอด 3 ปีที่ผ่านมา บริษัท the icon ใช้วิธีไม่จ่ายค่าคอมมิชชั่นเป็นเงิน แต่จ่ายเป็นทริปท่องเที่ยวแทน แล้วถ้าใครไม่อยากไปเที่ยว สามารถขายสิทธิ์ไปเที่ยว แลกเป็นเงินกลับไปได้ จึงเลี่ยงการจ่ายค่าคอมไปได้เยอะ เพราะไปฟันกำไรตอนจัดทริปทัวร์ปุ๊บปั๊บอีก เรียกว่าไปปารีสแต่ได้นั่งรถโฉบหอไอเฟล หรือได้พักตากอากาศที่โรงแรมสามสี่ดาว อย่างน้อยก็ได้เที่ยวโว๊ยยยยยยย ส่วนสินค้าขายไม่ออกแกะแดกแม่งให้หมด อส. ถถถ สินค้าที่บอกว่าสต็อกไว้ในโกดัง 100% น่ะ เวลาพวกคุณไปเบิกจริงๆ จะเบิกไม่ได้ 100% นะ เพราะมันจะเป็น Dropship คือต้องขายได้ บริษัทถึงจะส่งให้ ไม่เน้นให้เบิกกลับไปเก็บที่บ้าน เพราะเปิดบิลดีลเลอร์ต้องรอรอบผลิตของ 2 เดือนเป็นต้นไป กว่าจะได้ของครบต้องรอไปเรื่อยๆจนกว่าของจะเข้า ธุรกิจนี้ไ่ม่มีใครโง่ผลิตของมากองไว้ให้หมดอายุหรอก ได้ออเดอร์ค่อยสั่งผลิต มันเลยมีช่องว่างให้บอสพอลเอาเงินไปหมุนได้ ได้ข่าวแว่วๆว่าบอสพอลเอาเงินไปลงเทรดด้วย กำไรอู้ฟู่ รวยคนเดียวอีกตามเคย ---------- ดังนั้นบทสรุปของธุรกิจ The Icon เราจะขอบอกให้ชื่นใจดังนี้ 1. พอลคนเดียวที่รวยและรอด เพราะว่าพอลส่งภาษีเที่ยงตรง 100% เป็นลูกรักสรรพากรเลยแหละ นั่นเพราะพอลเรียนรู้จากคุณ ธเนตร ว่าเรื่องนี้ห้่ามพลาด สรรพากรไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงนะพอลนะ 2. คอร์สขายออนไลน์เรียนราคาถูก ไม่มีอยู่จริง เพราะสุดท้ายพวกคุณจะโดน up sale จะไปเรียนคอร์สระดับ Advance ต้องเป็น Member จะร่ำรวยเงินล้านต้องทุ่ม Dealer 3. โฆษณาของทุกคนปังหมด เพราะมันมีแม่ทีมที่มี Facebook Account อวตารคอยไปคอมเมนต์สั่งซื้อ แต่มีการซื้อจริงไม่ถีง 20% เพราะตอนการันตี การันตีว่าแอดจะปัง แต่คุณปิดการขายไม่ได้เพราะคุณสนทนาขายให้กับแอคผี มันจะไปมียอดซื้อได้ไง พอคุณปิดไม่ได้ทีนี้ความซวยก็เกิดที่ตัวคุณเอง พวก Downline ทั้งหลายก็รับกรรมไป หลายคนโดนหลอกว่าจะทำทั้งทีต้องทำแบบ 7-11 เปิดแม่งหลายสาขาเลย ลงเป็นล้านไรงี้ 4. ไม่อยากตุยอย่าเข้าไปทำ หนีได้หนีไป หนีให้สุดชีวิต เพราะมันคือยุคบรรลัยของธุรกิจ The I con ที่ตัวพอลเองเห็นอยู่แท้ๆว่ามันบรรลัย ที่ยังหลับหูหลับตาปล่อยให้มันเป็นดั่งระเบิดเวลาที่มันใกล้จะระเบิดแล้ว ก็เพราะความมั่นใจอย่างเดียวเลยที่พอลคิดในใจก็คือ "กูจะไม่โดนคดีอะไรเลย กูขาวสะอาด" ทีนี้พวกคุณเข้าใจหรือยังว่าการจะไปด่าพอลมันก็เถียงคอเป็นเอ็น เพราะมันดูใสสะอาด ขาวจั๊วะเลยแหละยิ่งกว่าบรีส จะเห็นแต่แม่ทีมนั่นแหละที่เป็นคนผิด ดังนั้นบทจบของละครเรื่องนี้ก็จะไปลงกับแม่ทีมทั้งหลายที่ออกมาเซฟบอสพอลกันให้ลึ่ม ถ้าเรารู้จักจะถามว่า..มึงเซฟตัวเองก่อนไหม มึงไปเซฟ Downline มึงโน่น🤣 อส. น้ำกำลังจะท่วมถีงหลังคาบริษัทแล้ว แม่ทีมกำลังอลหม่าน แต่บอสพอลแม่งนอนดูละครคุณธรรมชิลล์ๆ🤣 เพราะพอลนั้นได้ต่อเรือโนอาร์เตรียมรับสถานการณ์รอไว้ตั้งแต่วันที่ก่อตั้งบริษัทแล้ว ใสสะอาดจนกฏหมายยากที่จะเอื้อมถึง สุดท้าย..พอลกับวงศ์วานคนสนิทเท่านั้นที่จะได้ขึ้นเรือโนอาร์รอดตุยจากการถูกน้ำท่วม รอให้น้ำลดก็กลับมาในฐานะคนที่กฏหมายเอื้อมไม่ถีง ว่างๆจะเขียนลงลึกให้อ่านว่าทำไมกฏหมายถีงจะเอื้อมไปไม่ถึงบอสพอล เดี๋ยวคอยดูดาราที่เคยไปร่วมวงต่างก็จะออกมายืนยันว่าบริษัทถูกกฏหมาย 100% ซึ่งมันก็เป็นความจริงนะ แต่มันเป็นความจริงตามที่กฏหมายตราเอาไว้ว่าทำแบบพอลนั้นไม่ผิด แต่ทางธรรมพอลจะผิดในผิดซ้อนผิดเจตนาทำผิด..ไม่งงนะ.? นี่แค่บริษัทแรกนะ ยังมีต่อคิวอีก 4 บริษัท ที่อ่านเรื่องราวแล้วพวกคุณจะอึ้งและมันส์ยิ่งกว่าซีรีย์ เสียอีก #พี่ติ่งกระบือบิน ก็อย่าขึ้นทัวร์มาเซฟบอสพอลที่นี่นะครับนะ ผมนี่เขียนช่วยยืนยันเลยนะว่าบอสพอลจะรอดคุก..โอเค๊ สวัสดี @ไร้เงา แต่เร้าตรีน . Cr : FB เหยื่อ V.2
    Like
    12
    1 Comments 1 Shares 241 Views 1 Reviews
  • 10 ตุลาคม 2567- รายงานข่าวคมชัดลึกเปิดธุรกิจ กันต์ กันตถาวร
    -บริษัท กันต์พลอยแอนด์เดอะเบบี๋ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2564 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจด้านความบันเทิง ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
    -บริษัท ของกันต์เอง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2565 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจ ให้บริการพิธีกรและงานโชว์ทั่วไป นักร้อง นักแสดง ตลอดจนการแสดงตามที่สาธารณะต่างๆ ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
    -บริษัท คนกันต์เอง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2563 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจให้บริการพิธีกรเเละงานโชว์ทั่วไป นักร้อง นักเเสดง ตลอดจนตการเเสดงตามที่สาธารณะต่างๆ ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
    -บริษัท กันต์เอง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2555 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
    -บริษัท กรีนเอทเกรดเอ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2562 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจการผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท

    นอกจากนี้แล้ว กันต์ กันตถาวร เคยมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลเอกชน สถานพยาบาลรับรักษาคนไข้ และผู้ป่วย ภายใต้ชื่อบริษัท สกินบุฟเฟ่ต์ คลินิก จำกัด ซึ่งจดทะเบียนเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2556 ปัจจุบันมีสถานะเป็นเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2559

    #Thaitimes
    10 ตุลาคม 2567- รายงานข่าวคมชัดลึกเปิดธุรกิจ กันต์ กันตถาวร -บริษัท กันต์พลอยแอนด์เดอะเบบี๋ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2564 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจด้านความบันเทิง ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท -บริษัท ของกันต์เอง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2565 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจ ให้บริการพิธีกรและงานโชว์ทั่วไป นักร้อง นักแสดง ตลอดจนการแสดงตามที่สาธารณะต่างๆ ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท -บริษัท คนกันต์เอง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2563 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจให้บริการพิธีกรเเละงานโชว์ทั่วไป นักร้อง นักเเสดง ตลอดจนตการเเสดงตามที่สาธารณะต่างๆ ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท -บริษัท กันต์เอง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2555 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท -บริษัท กรีนเอทเกรดเอ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2562 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจการผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท นอกจากนี้แล้ว กันต์ กันตถาวร เคยมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลเอกชน สถานพยาบาลรับรักษาคนไข้ และผู้ป่วย ภายใต้ชื่อบริษัท สกินบุฟเฟ่ต์ คลินิก จำกัด ซึ่งจดทะเบียนเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2556 ปัจจุบันมีสถานะเป็นเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2559 #Thaitimes
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 420 Views 0 Reviews
  • ช่วยกันต่อต้านสงครามข่าวหน่อยครับ:

    ช่วงนี้มีการรับปริญญาที่มหิดล จึงหยุดทำงานที่บ้านและมีเวลาทำคลิปให้ดู ๑ คลิป ดูแล้วก็แชร์กันหน่อยนะครับ ขณะนี้ประเทศนักล่าอาณานิคมตะวันตกกำลังทำสงครามข่าวเพื่อล้างสมองคนไทย

    มีสื่อสำนักต่างๆ มาแอบอ่านข่าวและดูคลิปผมก็เยอะแต่ไม่ค่อยแชร์ แฟนเพจหลายๆ คนก็ยุให้ผมทำคลิปโน่นคลิปนี่เป็นประจำ แต่พอทำให้ดูแล้วก็ขี้เกียจแชร์ คนไทยส่วนใหญ่จึงยังถูกล้างสมองด้วยข่าวเท็จจากสื่อกระแสหลักของตะวันตกเหมือนเดิม เพราะประเทศไทยมีแต่ประชากรที่ชอบอยู่เฉยๆ เมื่อเห็นภัยคุกคามจากต่างชาติแบบนี้แหละครับ ประเทศจึงถูกยิวไซออนิสต์ควบคุมสื่อกระแสหลักได้มาจนบัดนี้

    ลดทิฐิมานะและโมหะลงกันหน่อยแล้วช่วยกันแชร์ครับ คนไทยจะได้เห็นข่าวอีกด้านกันมากยิ่งขึ้น

    https://www.youtube.com/watch?v=FvVQeemq…

    ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    ช่วยกันต่อต้านสงครามข่าวหน่อยครับ: ช่วงนี้มีการรับปริญญาที่มหิดล จึงหยุดทำงานที่บ้านและมีเวลาทำคลิปให้ดู ๑ คลิป ดูแล้วก็แชร์กันหน่อยนะครับ ขณะนี้ประเทศนักล่าอาณานิคมตะวันตกกำลังทำสงครามข่าวเพื่อล้างสมองคนไทย มีสื่อสำนักต่างๆ มาแอบอ่านข่าวและดูคลิปผมก็เยอะแต่ไม่ค่อยแชร์ แฟนเพจหลายๆ คนก็ยุให้ผมทำคลิปโน่นคลิปนี่เป็นประจำ แต่พอทำให้ดูแล้วก็ขี้เกียจแชร์ คนไทยส่วนใหญ่จึงยังถูกล้างสมองด้วยข่าวเท็จจากสื่อกระแสหลักของตะวันตกเหมือนเดิม เพราะประเทศไทยมีแต่ประชากรที่ชอบอยู่เฉยๆ เมื่อเห็นภัยคุกคามจากต่างชาติแบบนี้แหละครับ ประเทศจึงถูกยิวไซออนิสต์ควบคุมสื่อกระแสหลักได้มาจนบัดนี้ ลดทิฐิมานะและโมหะลงกันหน่อยแล้วช่วยกันแชร์ครับ คนไทยจะได้เห็นข่าวอีกด้านกันมากยิ่งขึ้น https://www.youtube.com/watch?v=FvVQeemq… ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    1 Comments 0 Shares 27 Views 0 Reviews
  • คอมเมนต์เดือด! ถล่ม IG พิธีกรดัง (09/10/67) #news1 #พิธีกรดัง #กันต์กันตถาวร #เครือข่ายขายออนไลน์
    คอมเมนต์เดือด! ถล่ม IG พิธีกรดัง (09/10/67) #news1 #พิธีกรดัง #กันต์กันตถาวร #เครือข่ายขายออนไลน์
    Like
    Love
    Haha
    12
    1 Comments 1 Shares 1307 Views 456 0 Reviews
  • การจัดการทางการเงิน

    ตอนที่ 3.

    ยิ่งออมยิ่งจนลง เมื่อก่อนตามล่าในอดีตต่างออกมาบอกว่าหาเงินได้ปุ๊บให้แบ่งเงินออกมาอย่างน้อย 10% เพื่อนำไปออมและวันนึงเราจะรวย วันนี้วิธีนั้นใช้ไม่ได้แล้วนะครับ ผมไม่ได้จะบอกว่าการเก็บเงิน การออมเงินไม่ดี แค่จะบอกว่าการออมไม่ได้ทำให้เรารวยอีกต่อไปแล้ว ในทางตรงกันข้ามมันกลับทำให้เงินของเรามีมูลค่าลดน้อยลงไปเรื่อยเรื่อย คำแนะนำว่าอยากรวยต้องออมมันอาจจะใช้ได้ในสมัย 40 ถึง 50 ปีก่อน สมัยก่อนตอนที่ผมเด็กๆดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ 10% ต่อปี
    .
    เท่ากับว่าถ้ามีเงินฝากธนาคาร หนึ่ง ล้านบาทเราจะได้รับดอกเบี้ย 100,000 บาทต่อปีไม่น้อยเลยนะครับ คนรุ่นก่อนจึงย้ำนักย้ำหนาให้เรารู้จักผอม เพราะพอมีเงินก้อนใหญ่เราก็จะได้ดอกเบี้ยที่มากพอสำหรับการใช้ชีวิตได้สบายๆเลย แต่ยุคนี้มันไม่มีอีกแล้ว วันนี้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ 0.25% ต่อปี ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังต่ำเฉลี่ยที่ 3% ต่อปี นั่นจึงเท่ากับว่าถ้าเรานำเงินไปฝากธนาคารผลตอบแทนของเราจะติดลบปีละ 2.75% ทุกๆปี และถ้ายิ่งปีไหนเกิดภาวะเงินเฟ้อสูงก็ยิ่งด้อยค่าลงไปอีก เพราะฉะนั้นการออมอย่างเดียวจึงอันตรายมากนักครับ ยิ่งออมเราก็ยิ่งจนลงเรื่อยๆ เพราะดอกเบี้ยที่ได้จากเงินออมไม่ 3 ารถทำให้เราชนะเงินเฟ้อได้นั่นเอง
    .
    จากสถิติยังเห็นอีกว่าคนไทยฝากเงินมากกว่าลงทุน ถ้าเรามัวแต่ออมเงินเราจะลดลงเรื่อยๆ นักวิชาการรุ่นใหม่ๆจึงเปลี่ยนคำแนะนำใหม่จากที่เคยแนะนำว่าหาเงินได้เมื่อไรให้นำไปออม เป็นหาเงินได้เมื่อไรให้นำไปลงทุน เพราะเป็นวิธีการที่จะช่วยให้เราชนะเงินเฟ้อได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องศึกษาหาความรู้ให้ดีก่อนที่จะลงทุนนะครับ.
    .
    เก็บเงิน หนึ่ง ล้านบาทใช้เวลาเท่าไหร่ –
    ถ้าคุณเก็บได้เดือนละ 10,000 บาทคุณจะใช้เวลา 8.3 ปี
    ถ้าคุณเก็บได้เดือนละ 5000 บาทคุณจะใช้เวลา 16.6 ปี
    ถ้าคุณเก็บได้เดือนละ 2500 บาทคุณจะใช้เวลา 33.2 ปี
    ถ้าคุณเก็บได้เดือนละ 1250 บาทคุณจะใช้เวลา 66.4 ปี
    สมมุติว่าตอนนี้คุณอายุ 30 ถ้าคุณเก็บประมาณ 66 ปีกว่าจะครบล้านคุณก็อายุเกือบ 100 ปีเลยนะ
    แต่ถ้าคุณลงทุนเป็น มันจะใช้เวลาน้อยกว่านี้มาก จะใช้เลขเดียวกันเลยนะครับคือเดือนละ 1250 บาทจากเดิมต้องใช้เวลา 66 ปี มาดูว่าถ้าลงทุนจะเหลือกี่ปี ผมจะลอง สอง เวอร์ชั่นนะครับ 4% กับ 8% ถ้าได้ 4% ต่อปีจะใช้เวลาเพียง 394 เดือนเท่านั้นหรือประมาณ 32.8 ปีนี้น้อยลงตั้งครึ่งนึง
    ถ้าได้ 8% จะใช้เวลาเพียงแค่ 283 เดือนหรือจะเท่ากับ 23.5 ปี ซึ่งน้อยลง 3 เท่า แต่ถ้ามีความรู้ด้านการเงินการลงทุนไม่ใช่แค่ทำให้คุณมั่งคั่งเท่านั้นครับแต่คุณจะได้สิ่งที่มีค่ากลับคืนมานั้นก็คือ เวลา เวลาที่คุณ 3 ารถทำสิ่งที่ชอบและดูแลคนที่คุณรัก
    .
    ลงทุนช้า = เงินหายมหาศาล - หลายคนบอกว่าไหวเหรอลงทุนตอนใกล้ๆเกษียณก็ได้มั้งไม่เห็นต้องรีบเลย ใครกำลังคิดแบบนี้อยู่ขอบอกเลยว่าน่าเสียดายแทนมากๆ เพราะคุณจะเสียโอกาสทำเงินไปมหาศาลเลย
    .
    การลงทุนยิ่งเริ่มเร็วยิ่งดี แต่วงเล็บว่าต้องมีความรู้ เพราะระยะเวลามีผลต่อสิ่งมหัศจรรย์ที่เรียกว่า ดอกเบี้ยทบต้น ยิ่งใช้เวลานานดอกเบี้ยทบต้นก็ยิ่งทำงาน ผมจะทำให้คุณเห็นว่าเวลาที่ต่างกันนิดเดียวและผลตอบแทนที่ได้มาต่างกันมหาศาลอย่างไร
    ผมจะให้เงินคุณแบบทบต้นโดยวันที่ หนึ่ง ให้ หนึ่ง บาท , วันที่ สอง ให้ สอง บาท, วันที่ 3 ให้ 4 บาท, วันที่ 4 ให้ 8 บาท, อย่างนี้ไปเรื่อยเรื่อย 30 วันแล้วนำทั้งหมดมารวมกัน ลองหยิบเครื่องคิดเลขมากดดูไปพร้อมๆกันนะครับว่าพอครบ 30 วันคุณจะได้เงินไปเท่าไหร่.... ผมคำนวณในใจได้ยอดเงินทั้งหมดรวมกันคือ 1000 กว่าล้านบาทครับ (1,073,741,823 บาท)
    แล้วลองมาดูกันว่าถ้าให้ช้าไป 10 วันจะได้เท่าไหร่ เราทำเหมือนเดิมเลยนะครับเงินเริ่มต้นเท่าเดิมคือ หนึ่ง บาท แล้วทบต้นไปเรื่อยๆเหมือนเดิมแต่เราจะคิด 20 วัน แล้วนำมารวมกันนะครับ ยอดเงินที่ได้คือ หนึ่ง ล้านกว่าๆเท่านั้น (1,048,575 บาท)
    ซึ่งหายไป 99% เลยนะครับ นี่ช้ากว่ากันแค่ 10 วันนะยอดเงินต่างกันมหาศาลเลย
    .
    เห็นไหมว่าเวลามีผลต่อการลงทุนมากๆ พอผลตอบแทนจากการลงทุนนั้นจะขึ้นกับ 3 ปัจจัยเท่านั้นคือ
    1. เงินลงทุน
    2. ระยะเวลา
    3. อัตราผลตอบแทน
    ถ้าผมลงทุนในจำนวนเงินที่เท่ากันได้ผลตอบแทนที่เท่ากันต่างกันเพียงปัจจัยเดียวคือระยะเวลา ดังนั้นอย่ามัวรอช้านะครับ เริ่มศึกษาและเริ่มต้นลงทุนตั้งแต่ตอนนี้ เป็นเวลาที่ดีที่สุดครับ
    .
    #สอนการลงทุน #สอนเล่นหุ้น #การลงทุน #หุ้น #ตลาดหุ้น #สอนฟรี #กลุ่มคนเล่นหุ้น #เรียนการลงทุน #เรียนหุ้น #พื้นฐานหุ้น #พื้นฐานการลงทุน #การเงิน #การธนาคาร
    การจัดการทางการเงิน ตอนที่ 3. ยิ่งออมยิ่งจนลง เมื่อก่อนตามล่าในอดีตต่างออกมาบอกว่าหาเงินได้ปุ๊บให้แบ่งเงินออกมาอย่างน้อย 10% เพื่อนำไปออมและวันนึงเราจะรวย วันนี้วิธีนั้นใช้ไม่ได้แล้วนะครับ ผมไม่ได้จะบอกว่าการเก็บเงิน การออมเงินไม่ดี แค่จะบอกว่าการออมไม่ได้ทำให้เรารวยอีกต่อไปแล้ว ในทางตรงกันข้ามมันกลับทำให้เงินของเรามีมูลค่าลดน้อยลงไปเรื่อยเรื่อย คำแนะนำว่าอยากรวยต้องออมมันอาจจะใช้ได้ในสมัย 40 ถึง 50 ปีก่อน สมัยก่อนตอนที่ผมเด็กๆดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ 10% ต่อปี . เท่ากับว่าถ้ามีเงินฝากธนาคาร หนึ่ง ล้านบาทเราจะได้รับดอกเบี้ย 100,000 บาทต่อปีไม่น้อยเลยนะครับ คนรุ่นก่อนจึงย้ำนักย้ำหนาให้เรารู้จักผอม เพราะพอมีเงินก้อนใหญ่เราก็จะได้ดอกเบี้ยที่มากพอสำหรับการใช้ชีวิตได้สบายๆเลย แต่ยุคนี้มันไม่มีอีกแล้ว วันนี้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ 0.25% ต่อปี ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังต่ำเฉลี่ยที่ 3% ต่อปี นั่นจึงเท่ากับว่าถ้าเรานำเงินไปฝากธนาคารผลตอบแทนของเราจะติดลบปีละ 2.75% ทุกๆปี และถ้ายิ่งปีไหนเกิดภาวะเงินเฟ้อสูงก็ยิ่งด้อยค่าลงไปอีก เพราะฉะนั้นการออมอย่างเดียวจึงอันตรายมากนักครับ ยิ่งออมเราก็ยิ่งจนลงเรื่อยๆ เพราะดอกเบี้ยที่ได้จากเงินออมไม่ 3 ารถทำให้เราชนะเงินเฟ้อได้นั่นเอง . จากสถิติยังเห็นอีกว่าคนไทยฝากเงินมากกว่าลงทุน ถ้าเรามัวแต่ออมเงินเราจะลดลงเรื่อยๆ นักวิชาการรุ่นใหม่ๆจึงเปลี่ยนคำแนะนำใหม่จากที่เคยแนะนำว่าหาเงินได้เมื่อไรให้นำไปออม เป็นหาเงินได้เมื่อไรให้นำไปลงทุน เพราะเป็นวิธีการที่จะช่วยให้เราชนะเงินเฟ้อได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องศึกษาหาความรู้ให้ดีก่อนที่จะลงทุนนะครับ. . เก็บเงิน หนึ่ง ล้านบาทใช้เวลาเท่าไหร่ – ถ้าคุณเก็บได้เดือนละ 10,000 บาทคุณจะใช้เวลา 8.3 ปี ถ้าคุณเก็บได้เดือนละ 5000 บาทคุณจะใช้เวลา 16.6 ปี ถ้าคุณเก็บได้เดือนละ 2500 บาทคุณจะใช้เวลา 33.2 ปี ถ้าคุณเก็บได้เดือนละ 1250 บาทคุณจะใช้เวลา 66.4 ปี สมมุติว่าตอนนี้คุณอายุ 30 ถ้าคุณเก็บประมาณ 66 ปีกว่าจะครบล้านคุณก็อายุเกือบ 100 ปีเลยนะ แต่ถ้าคุณลงทุนเป็น มันจะใช้เวลาน้อยกว่านี้มาก จะใช้เลขเดียวกันเลยนะครับคือเดือนละ 1250 บาทจากเดิมต้องใช้เวลา 66 ปี มาดูว่าถ้าลงทุนจะเหลือกี่ปี ผมจะลอง สอง เวอร์ชั่นนะครับ 4% กับ 8% ถ้าได้ 4% ต่อปีจะใช้เวลาเพียง 394 เดือนเท่านั้นหรือประมาณ 32.8 ปีนี้น้อยลงตั้งครึ่งนึง ถ้าได้ 8% จะใช้เวลาเพียงแค่ 283 เดือนหรือจะเท่ากับ 23.5 ปี ซึ่งน้อยลง 3 เท่า แต่ถ้ามีความรู้ด้านการเงินการลงทุนไม่ใช่แค่ทำให้คุณมั่งคั่งเท่านั้นครับแต่คุณจะได้สิ่งที่มีค่ากลับคืนมานั้นก็คือ เวลา เวลาที่คุณ 3 ารถทำสิ่งที่ชอบและดูแลคนที่คุณรัก . ลงทุนช้า = เงินหายมหาศาล - หลายคนบอกว่าไหวเหรอลงทุนตอนใกล้ๆเกษียณก็ได้มั้งไม่เห็นต้องรีบเลย ใครกำลังคิดแบบนี้อยู่ขอบอกเลยว่าน่าเสียดายแทนมากๆ เพราะคุณจะเสียโอกาสทำเงินไปมหาศาลเลย . การลงทุนยิ่งเริ่มเร็วยิ่งดี แต่วงเล็บว่าต้องมีความรู้ เพราะระยะเวลามีผลต่อสิ่งมหัศจรรย์ที่เรียกว่า ดอกเบี้ยทบต้น ยิ่งใช้เวลานานดอกเบี้ยทบต้นก็ยิ่งทำงาน ผมจะทำให้คุณเห็นว่าเวลาที่ต่างกันนิดเดียวและผลตอบแทนที่ได้มาต่างกันมหาศาลอย่างไร ผมจะให้เงินคุณแบบทบต้นโดยวันที่ หนึ่ง ให้ หนึ่ง บาท , วันที่ สอง ให้ สอง บาท, วันที่ 3 ให้ 4 บาท, วันที่ 4 ให้ 8 บาท, อย่างนี้ไปเรื่อยเรื่อย 30 วันแล้วนำทั้งหมดมารวมกัน ลองหยิบเครื่องคิดเลขมากดดูไปพร้อมๆกันนะครับว่าพอครบ 30 วันคุณจะได้เงินไปเท่าไหร่.... ผมคำนวณในใจได้ยอดเงินทั้งหมดรวมกันคือ 1000 กว่าล้านบาทครับ (1,073,741,823 บาท) แล้วลองมาดูกันว่าถ้าให้ช้าไป 10 วันจะได้เท่าไหร่ เราทำเหมือนเดิมเลยนะครับเงินเริ่มต้นเท่าเดิมคือ หนึ่ง บาท แล้วทบต้นไปเรื่อยๆเหมือนเดิมแต่เราจะคิด 20 วัน แล้วนำมารวมกันนะครับ ยอดเงินที่ได้คือ หนึ่ง ล้านกว่าๆเท่านั้น (1,048,575 บาท) ซึ่งหายไป 99% เลยนะครับ นี่ช้ากว่ากันแค่ 10 วันนะยอดเงินต่างกันมหาศาลเลย . เห็นไหมว่าเวลามีผลต่อการลงทุนมากๆ พอผลตอบแทนจากการลงทุนนั้นจะขึ้นกับ 3 ปัจจัยเท่านั้นคือ 1. เงินลงทุน 2. ระยะเวลา 3. อัตราผลตอบแทน ถ้าผมลงทุนในจำนวนเงินที่เท่ากันได้ผลตอบแทนที่เท่ากันต่างกันเพียงปัจจัยเดียวคือระยะเวลา ดังนั้นอย่ามัวรอช้านะครับ เริ่มศึกษาและเริ่มต้นลงทุนตั้งแต่ตอนนี้ เป็นเวลาที่ดีที่สุดครับ . #สอนการลงทุน #สอนเล่นหุ้น #การลงทุน #หุ้น #ตลาดหุ้น #สอนฟรี #กลุ่มคนเล่นหุ้น #เรียนการลงทุน #เรียนหุ้น #พื้นฐานหุ้น #พื้นฐานการลงทุน #การเงิน #การธนาคาร
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 11 Views 0 Reviews
  • บทความน่าสนใจของเพจวิเคราะห์บอลจริงจังเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567 มีประเด็นที่มาของการแพ้คดีที่สมาคมฟุตบอลฯยุคพลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วงฟ้องบริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคท ต่อมาศาลทรัพย์สินทางปัญญาตัดสินให้สมาคมฯต้องจ่าย450ล้านบาท เนื้อหาระบุว่า

    “มาดามแป้ง -นวลพรรณ ล่ำซำ โอดครวญว่า เธอต้องเข้ามาเป็นนายกสมาคม แบบ "ติดลบ" เพราะมีหนี้สิน ถูกทิ้งไว้ให้ต้องรับผิดชอบ เป็นจำนวนมหาศาล

    หนี้ที่เธอกล่าวถึง คือ ค่าชดเชยที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ สั่งให้สมาคม ต้องจ่ายให้บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคต เป็นจำนวน 450 ล้านบาท

    คดีนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วทำไมสมาคมถึงแพ้ เราจะไปลำดับเหตุการณ์กันตั้งแต่แรกนะครับ

    ย้อนกลับไป ในปี 2559 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ได้รับเลือกให้เป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และเขาประกาศจุดยืนไว้ว่า "ผมจะเข้ามาเก็บกวาดบ้าน ผมจะเข้ามาจับโจร"

    สิ่งที่ พล.ต.อ.สมยศ ให้ความสำคัญอันดับแรก ไม่ใช่เรื่องของฟุตบอล แต่เป็นการเดินหน้าฟ้องร้อง ผู้ที่มีข้อพิพาทกับสมาคม จำนวนทั้งสิ้น 3 คดี

    2 คดีแรก เกี่ยวกับวรวีร์ มะกูดี เรื่องการสร้างศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติที่หนองจอก และ เรื่องยักยอกทรัพย์ ส่วนคดีที่ 3 เกี่ยวข้องกับบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคต จำกัด (มหาชน)

    ก่อนที่เราจะไปเล่าคดี สมยศ vs สยามสปอร์ต เราจำเป็นต้องปูพื้นแบ็กกราวน์ของเรื่องก่อน เพื่อความเข้าใจในภาพรวมที่ชัดเจนขึ้น

    ฟุตบอลไทยลีก ก่อตั้งในปี 2539 ณ เวลานั้น คนดูในสนามแทบไม่มี ความนิยมตกต่ำมาก

    ในช่วง 5 ปีแรก (2539-2544) สมาคมยุควิจิตร เกตุแก้ว พยายามจัดการด้วยตัวเอง แต่สุดท้ายก็ไปไม่ไหว ขาดทุนยับ

    นั่นทำให้ สุชาติ มุฑุกัณฑ์ ทีมผู้บริหารของสมาคมฟุตบอลขณะนั้น มาขอร้องให้ บริษัท สยามสปอร์ต ช่วยเป็นออร์กาไนเซอร์ จัดการแข่งขันลีกอาชีพขึ้นมา พร้อมทั้งช่วงประชาสัมพันธ์เต็มรูปแบบ เพราะสยามสปอร์ตเป็นสื่อใหญ่ที่มีทรัพยากรในมือ น่าจะช่วยสร้างความนิยมให้ไทยลีกได้

    สิ่งที่จะเอามาแลกเปลี่ยน ก็คือ ให้สยามสปอร์ตเป็น "ผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ของไทยลีก"

    สำหรับส่วนแบ่งของรายได้ในแต่ละปีนั้น มีรายงานว่า

    - ถ้าได้กำไร สยามสปอร์ตจะได้ ส่วนแบ่งกำไร 95% สมาคมได้ 5%
    - ถ้าขาดทุน สยามสปอร์ตต้องรับผิดชอบเองทั้งหมด

    ถ้าดูตัวเลขนี้ (95% - 5%) ดูเหมือนสยามสปอร์ตจะได้ส่วนแบ่งเยอะก็จริง แต่อย่าลืมว่าตอนนั้นฟุตบอลไทยยังไม่มีมูลค่า ถ้าสมาคมเอาไปทำเอง อย่าว่าแต่กำไร 5% เลย มีแต่จะเข้าเนื้อก็เท่านั้น

    และต่อให้สยามสปอร์ตจะเอาไปทำ ก็ใช่ว่าจะได้กำไรมากมายอะไร สุดท้ายสัญญาก็เลยออกมาในรูปแบบนั้น

    ดีลระหว่างสยามสปอร์ต กับ สมาคมในยุควิจิตร เกตุแก้ว ก็เลยเกิดขึ้น โดยสยามสปอร์ตมีหน้าที่ ต้องจัดการแข่งขันและโปรโมท ไทยลีก, ลีกรอง และ ลีกภูมิภาคทั้งหมด

    ระวิ โหลทอง ผู้บริหารสูงสุดของสยามสปอร์ตกล่าวไว้ว่า "ถ้าผมทำฟุตบอลนอกอย่างเดียว ผมก็ไม่ขาดทุนแล้ว แต่เมื่อผมมาทำไทยลีก ก็ไม่อยากให้มีปัญหาต่อกัน ผมลงทุนทำทีมฟุตบอลเพื่อให้วงการสนุก ส่วนตัวแล้วเรื่องเงินทองไม่มีปัญหาสำหรับผม คนอาจจะมองว่าสยามสปอร์ตได้กำไร แต่มันไม่ใช่ หุ้นบริษัทก็ไม่เคยกระดิก"

    นับจากปี 2544 สยามสปอร์ตเป็นผู้บริหารสิทธิประโยชน์ของไทยลีกมาเรื่อยๆ

    ซึ่งระหว่างนี้ นายกสมาคม เปลี่ยนคนจากวิจิตร เกตุแก้ว เป็นวรวีร์ มะกูดี แต่ก็ยังเซ็นสัญญากันต่อเนื่องกันไป ไม่มีปัญหาอะไร

    รายงานจาก Thaipublica เปิดเผยว่าสยามสปอร์ตในฐานะผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ ได้กำไรน้อยมาก โดยเนื้อหาระบุว่า "แม้เม็ดเงินจากสปอนเซอร์ต่างๆ จะไหลผ่านสยามสปอร์ตปีละหลายร้อยล้านบาท แต่ก็มีรายจ่ายที่ใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะค่าลิขสิทธิ์ไทยลีกที่ได้จากทรูวิชั่นส์ ต้องเอาไปแบ่งให้ทีมในไทยพรีเมียร์ลีก และดิวิชั่น 1 และเมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายในการถ่ายทอดสด ที่มีข้อบังคับว่า ต้องถ่ายทอดสดปีละไม่ต่ำกว่า 500 แมตช์ คำนวณแล้ว แทบจะไม่เหลือกำไรเท่าไหร่"

    ผู้บริหารระดับสูงของสยามสปอร์ตรายหนึ่งอธิบายว่า "สิ่งที่บริษัทได้รับ ไม่ใช่กำไรจากการเข้าไปดูแลสิทธิประโยชน์โดยตรง แต่เป็นผลประโยชน์ทางอ้อมมากกว่า เพราะยิ่งวงการฟุตบอลไทยเติบโตเท่าไหร่ ยอดขายสื่อในเครือ และเงินค่าโฆษณาก็ยิ่งเติบโตขึ้น"

    ในปี 2556 สมาคมฟุตบอลยุควรวีร์ เซ็นสัญญาระยะยาวกับสยามสปอร์ต ให้เป็นผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ไทยลีก อีก 10 ปี (2556-2565)

    โดยจุดนี้ มีรายงานไม่ตรงกัน บางแหล่งบอกว่า ส่วนแบ่งกำไรอยู่ที่ 95% - 5% ตามเดิม แต่บางแหล่งข่าวบอกว่า ถูกปรับเป็น 50% - 50% แล้ว

    ตอนนั้นแม้จะต่อสัญญากันระยะยาว แต่ดราม่าไม่มี เพราะไทยลีกยังไม่บูม หลายคนมองว่าไทยลีก เป็นเผือกร้อนด้วยซ้ำ ที่โอกาสขาดทุน มากกว่ากำไร

    อย่างไรก็ตาม จุดพลิกผันสำคัญก็เกิดขึ้น ในปี 2557 เมื่อเกิดปรากฏการณ์ "บอลไทยฟีเวอร์"

    เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง รับตำแหน่งเฮดโค้ชทีมชาติ แล้วพาทีมช้างศึกคว้าแชมป์ AFF เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี พร้อมทั้งทำผลงานมาสเตอร์พีซในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก จนทีมไทย เข้าถึงรอบ 12 ทีมสุดท้าย เป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี

    ทีมชาติชุดใหญ่ มีสตาร์ขึ้นมาประดับวงการพร้อมกันหลายคน เช่น ชนาธิป สรงกระสินธิ์, อดิศักดิ์ ไกรษร, สารัช อยู่เย็น, ชาริล ชัปปุยส์ ฯลฯ ในช่วง AFF จากนั้นก็เพิ่มเติมด้วยผู้เล่นซีเนียร์ ทั้งธีรศิลป์ แดงดา และ ธีราทร บุญมาทัน คือไม่ใช่แค่ชุดใหญ่เท่านั้น แต่บอลเยาวชน ไทยฟอร์มดีมาก คว้าชัยชนะได้ทุกรุ่น

    ทุกอย่างมันส่งเสริมกัน ทำให้ทีมชาติไทย บูมขึ้นแบบพุ่งทะยาน อานิสงส์ก็กลับมาหาไทยลีก ที่มีคนเข้ามาดูอย่างคับคั่ง ทั้งขาจร-ขาประจำ ขณะที่ เรตติ้งถ่ายทอดสดพุ่งสูงมาก

    นักกีฬากลายเป็นไอดอลของเด็กๆ แต่ละคนได้รับงานโฆษณา เป็นรายได้เสริมนอกเหนือจากค่าจ้างในการเล่นฟุตบอลด้วย

    ความนิยมของไทยลีก ทำให้ทรูวิชั่นส์ จ่ายเงินค่าถ่ายทอดสด สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ นั่นคือ สัญญา 4 ปี 4,200 ล้านบาท (เฉลี่ยฤดูกาลละ 1,050 ล้านบาท)

    ไม่ใช่แค่ไทยลีก แต่ลิขสิทธิ์ของทีมชาติชุดใหญ่ ก็ขายได้ราคาดีมาก ในช่วงบอลไทยฟีเวอร์ สามารถขายลิขสิทธิ์ทีมชาติ กับทางไทยรัฐทีวี ได้เงินนัดละ 750,000 บาท

    จากที่สยามสปอร์ต เคยเข้าเนื้อมาหลายๆ ปีติดต่อกัน ในที่สุด เมื่อบอลไทยบูมพร้อมกัน ทั้งสโมสรและทีมชาติ ก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะเก็บเกี่ยวกำไรอย่างเป็นชิ้นเป็นอันแล้ว

    แต่แล้วสถานการณ์ก็พลิกผัน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 เมื่อสมาคมมีการเลือกตั้งนายกครั้งใหม่ และพล.ต.อ.สมยศ เป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้ง ล้างบางขั้วเก่าจนราบคาบ

    สิ่งที่ยังกั๊กๆ กันอยู่ คือพล.ต.อ.สมยศเป็นนายกก็จริง แต่คนดูแลสิทธิประโยชน์ไทยลีก จนถึงปี 2565 ดันเป็นสยามสปอร์ต ซึ่งอยู่ฝั่งขั้วอำนาจเก่าของวรวีร์

    ในมุมของพล.ต.อ.สมยศ จึงเป็นเรื่องกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะตัวเองเป็นนายกสมาคมแท้ๆ แต่ผลกำไรของบอลไทย กลับไปตกอยู่ในมือของอีกขั้วหนึ่ง

    นอกจากนั้น ในมุมของสมาคม มั่นใจว่าถ้าหาผู้ดูแลเจ้าอื่น สมาคมน่าจะได้ส่วนแบ่งมากกว่านี้

    หลังจาก พล.ต.อ.สมยศ ชนะเลือกตั้งเพียงแค่เดือนเดียว มีนาคม 2559 เขาตัดสินใจประกาศ "ยกเลิกสัญญา" กับสยามสปอร์ต ในช่วง 7 ปีที่เหลือ (2559-2565)

    พล.ต.อ.สมยศให้สัมภาษณ์ว่า "เราพิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกับสมาคม เป็นสัญญาผู้ขาดแต่เพียงผู้เดียว ไม่มีการกำหนดค่าตอบแทนขั้นต่ำให้ ส่งผลให้สมาคม ไม่สามารถวางแผนงบประมาณดำเนินการได้ด้วยตัวเอง"

    อธิบายคือ สัญญาฉบับเดิมที่เซ็นกัน สยามสปอร์ตจะเป็นฝ่ายแจ้งเองว่าปีนี้ได้กำไรเท่าไหร่ แล้วจะแบ่งจัดสรรให้สมาคมเอง แต่ถ้าขาดทุนก็ไม่ต้องจ่าย

    วิธีการนี้ ไม่มีกำหนดว่า ต้องจ่าย "ขั้นต่ำ" เท่าไหร่ คือไม่มีตัวเลขระบุ ฝั่งสมาคมเอง ก็มองว่า แบบนี้จะตกแต่งเลขอย่างไรก็ได้น่ะสิ

    พล.ต.อ.สมยศ กล่าวปิดท้ายว่า "ผมไม่มีความขัดแย้งกับบริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคท ผมเข้ามาทำหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่เป็นนายกฯ สมาคม และอาสาเข้ามาแก้ปัญหาต่างๆ ซึ่งเมื่อเห็นว่ามันไม่ถูกต้อง ก็อยากทำให้ถูกต้อง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของสมาคมฯ และประชาชนชาวไทย"

    หลังจากยกเลิกสัญญากับสยามสปอร์ต 1 เดือนเท่านั้น เมษายน 2559 สมาคมเซ็นสัญญากับ แพลนบี มีเดีย เป็นผู้ดูแลสิทธิประโยชน์รายใหม่แทน

    เซ็นฉบับแรก (4 ปี) ในปี 2559-2563 และเซ็นในฉบับที่สอง (8 ปี) ในช่วงปี 2564-2571

    และคดีความที่เป็นข่าวใหญ่ ก็เริ่มต้นจากจุดนี้

    เพราะฝั่งสยามสปอร์ตยอมไม่ได้ ที่โดนฉีกสัญญาที่เหลืออยู่ถึง 7 ปีทิ้งลงดื้อๆ

    คือในมุมของสยามสปอร์ตนั้น สมาคมของพล.ต.อ.สมยศ จะคิดว่าสัญญาไม่เป็นธรรม หรือ ได้ส่วนแบ่งน้อย หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ในเมื่อมันมีการเซ็นสัญญาอย่างถูกต้องแล้ว มาโดนฉีกทิ้งแบบนี้ เขาก็เสียหายทางธุรกิจเช่นกัน แล้วแผนงานที่เตรียมไว้หลายปีต่อจากนี้ ใครจะรับผิดชอบ

    ที่ผ่านมา เขาลงทุนกับบอลไทยมาตั้งเยอะ แล้วพอวันที่มีโอกาสเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ ก็มาโดนฉีกสัญญาทิ้ง มันยุติธรรมกับเขาหรือไม่?

    นั่นทำให้ สยามสปอร์ตจึงฟ้องสมาคมฟุตบอล ในคดีแพ่ง ข้อหาผิดสัญญา และเรียกค่าเสียหายจำนวน 1,400 ล้านบาท

    ศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ รับฟ้องคดีนี้ โดยสยามสปอร์ตเป็นโจทก์ สมาคมฟุตบอลเป็นจำเลย

    ในวันที่ 23 สิงหาคม 2562 ศาลชั้นต้นตัดสินให้สยามสปอร์ตชนะคดี สมาคมฯ ต้องจ่ายเงินชดเชย 50 ล้านบาท โทษฐานบอกเลิกสัญญาโดยมิชอบ

    อย่างไรก็ตามทั้ง 2 ฝ่ายไม่พอใจนักกับผลการตัดสิน โดยฝ่ายกฎหมายของสยามสปอร์ต ให้สัมภาษณ์ว่า "ขอขอบคุณผู้พิพากษาที่ให้ความเป็นธรรมกับเรา อย่างไรก็ตามสยามสปอร์ต จะใช้สิทธิ์อุทธรณ์ในประเด็นเงินค่าเสียหาย ซึ่งทางเรามองว่า มีความเสียหายมากกว่า 50 ล้านบาท"

    แต่ฝั่งสมาคมฯ เองก็ไม่ยอมเช่นกัน โดยพล.ต.อ. สมยศ กล่าวว่า "ผมให้ความเคารพคำสั่งศาล แต่นี่เป็นเพียงศาลชั้นต้น สมาคมจะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาอย่างแน่นอน"

    การต่อสู้คดีในชั้นศาลอุทธรณ์ ดำเนินการมาถึง 2 ปี และในวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ศาลอุทธรณ์ได้ข้อสรุปว่า ตัวเลข 50 ล้านที่ศาลชั้นต้นสั่งให้สมาคม ชดใช้ มันน้อยเกินไป

    และมีคำพิพากษาแก้ ให้สมาคมฯ จ่ายเงินให้สยามสปอร์ตเพิ่มเป็น 450 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี

    จากศาลชั้นต้น 50 ล้านบาท สุดท้ายมาที่ศาลอุทธรณ์ ตัวเงินเด้งขึ้นไปที่ 450 ล้านบาท

    คำวินิจฉัยจากศาล ระบุว่า

    "แม้การบอกเลิกสัญญาระหว่างจำเลยกับโจทก์ จะทำเพื่อการพัฒนาระบบการบริหารให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีความชัดเจนด้านค่าตอบแทน จำนวนค่าตอบแทน รวมถึง คู่สัญญาที่ฝ่ายจำเลย อาจมองว่ามีความสามารถในการบริหารจัดการมากกว่าก็ตาม ทั้งหมด ก็มิได้เป็นเหตุที่จะบอกเลิกสัญญากับโจทก์โดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยจึงต้องจ่ายค่าเสียหายแก่โจทก์"

    เมื่อจบศาลอุทธรณ์ สยามสปอร์ตเป็นฝ่ายชนะคดีอยู่ แต่ฝั่งพล.ต.อ.สมยศ ยังไม่ยอม และตัดสินใจยื่นไปที่ฎีกาเป็นศาลสุดท้าย

    ตอนนี้การพิจารณาฎีกายังไม่ออกมา แต่สมาคมแพ้มา 2 ศาลแล้ว คงยากมาก ที่จะพลิกสถานการณ์ เอาตัวรอด ไม่เสียเงินในศาลสุดท้าย เพียงแต่จะจบแค่กี่บาทเท่านั้น

    คือฝั่ง พล.ต.อ.สมยศ มีสิทธิ์คิดอย่างไรก็ได้

    - คุณไม่พอใจได้ ที่ยุควรวีร์เซ็นสัญญายาวถึง 10 ปี กับสยามสปอร์ต

    - คุณไม่พอใจได้ ที่มองว่าส่วนแบ่งน้อยเกินไปแค่ 5%

    แต่การแก้ปัญหาไม่ใช่การหักดิบ โดยฉีกสัญญาทิ้ง ทางที่ดีกว่านั้นคือการเจรจาหาข้อตกลงร่วมกัน แต่พอคุณไปยกเลิกดื้อๆ แบบนั้น เขาก็ไปสู้ด้วยกฎหมายสิ

    และในมุมของศาล ก็ต้องตัดสินตามหลักฐานที่มันเป็นจริง แค่นั้นเอง

    ------------------------

    นั่นคือเหตุผลที่มาดามแป้ง ให้สัมภาษณ์ในวันก่อนว่า "แป้งไม่ได้มาตั้งต้นทางการเงินที่ศูนย์ แต่เริ่มจากติดลบ ติดลบ ติดลบ มันไม่แฟร์ แต่ก็ต้องทำ เพราะสมาคมฟุตบอลตั้งขึ้นมา 109 ปี ก็ต้องอยู่ต่อไป"

    เธอออกสตาร์ตมา ยังไม่ทันทำงานทำการ ก็มีหนี้สิ้น 450 ล้านบาท รออยู่ ถือว่าเป็นนายกสมาคมที่เหนื่อยสาหัส ตั้งแต่วันแรกที่รับงานทีเดียว

    เอาจริงๆ ก็เห็นใจมาดามแป้งอยู่ เธอเพิ่งมารับงานได้ไม่ถึงปี แต่เจอสารพัดปัญหาให้ต้องแก้ ทั้งเรื่องมูลค่าบอลไทยตกต่ำ รวมถึงเรื่อง สมาคมติดหนี้ติดสิน คงได้แต่เป็นกำลังใจให้เธอ ผ่านช่วงวิกฤตินี้ไปให้ได้

    กับคำถามคือ จะเอาเงิน 450 ล้านจากไหนมาจ่ายสยามสปอร์ต? หรือว่าจะแลกเปลี่ยนด้วยการบาร์เตอร์ ทำอะไรสักอย่าง เราก็ต้องมาติดตามดูกันต่อไป

    พูดกันตรงๆ ว่า ถ้าคนที่มีหัวด้านธุรกิจ และ ทำงานด้านฟุตบอลมาหลายปี อย่างมาดามแป้ง ยังแก้ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ ก็ไม่รู้จะมีใครในประเทศไทย มาจัดการเรื่องนี้ได้อีก

    สำหรับกรณีเรื่อง สมาคม vs สยามสปอร์ตครั้งนี้ บทเรียนสำคัญคือ ความรู้สึกของคุณจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ จะชอบหรือไม่ชอบก็อีกเรื่องหนึ่ง

    แต่เมื่อมันมีสัญญาผูกพันกันไว้ การไปฉีกสัญญาทิ้งดื้อๆ แบบนี้ มีโอกาสสูงมากที่จะเป็นฝ่ายเจ็บตัวเอง

    สำหรับ พล.ต.อ.สมยศ วันนี้เขาลงจากตำแหน่งไปแล้ว เป้าหมายการจับโจร ที่เขาตั้งใจไว้วันแรก ก็ไม่รู้ว่าสำเร็จไหม จับใครได้หรือเปล่า ยิ่งไปกว่านั้น ยังทำให้สมาคมโดนฟ้องร้องจนเป็นหนี้เป็นสิน เป็นภาระให้คนที่มาสานงานต่ออย่างมาก

    เรื่องนี้ทำให้เห็นว่า การเป็นนายกสมาคมฟุตบอล เป็นภารกิจที่ไม่ง่ายเลย แค่บู๊อย่างเดียวไม่พอ แต่คุณต้องฉลาดรอบรู้อีกด้วย

    ถ้าทำอะไรโดยขาดความยั้งคิด องค์กรก็จะต้องเจอสถานการณ์ลำบาก เป็นภาระให้คนรับงานต่อ เหมือนอย่างที่สมาคมฟุตบอลต้องเผชิญอยู่ในเวลานี้”
    ที่มา : https://www.facebook.com/share/ZvKUvXwxRkMKfBci/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    บทความน่าสนใจของเพจวิเคราะห์บอลจริงจังเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567 มีประเด็นที่มาของการแพ้คดีที่สมาคมฟุตบอลฯยุคพลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วงฟ้องบริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคท ต่อมาศาลทรัพย์สินทางปัญญาตัดสินให้สมาคมฯต้องจ่าย450ล้านบาท เนื้อหาระบุว่า “มาดามแป้ง -นวลพรรณ ล่ำซำ โอดครวญว่า เธอต้องเข้ามาเป็นนายกสมาคม แบบ "ติดลบ" เพราะมีหนี้สิน ถูกทิ้งไว้ให้ต้องรับผิดชอบ เป็นจำนวนมหาศาล หนี้ที่เธอกล่าวถึง คือ ค่าชดเชยที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ สั่งให้สมาคม ต้องจ่ายให้บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคต เป็นจำนวน 450 ล้านบาท คดีนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วทำไมสมาคมถึงแพ้ เราจะไปลำดับเหตุการณ์กันตั้งแต่แรกนะครับ ย้อนกลับไป ในปี 2559 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ได้รับเลือกให้เป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และเขาประกาศจุดยืนไว้ว่า "ผมจะเข้ามาเก็บกวาดบ้าน ผมจะเข้ามาจับโจร" สิ่งที่ พล.ต.อ.สมยศ ให้ความสำคัญอันดับแรก ไม่ใช่เรื่องของฟุตบอล แต่เป็นการเดินหน้าฟ้องร้อง ผู้ที่มีข้อพิพาทกับสมาคม จำนวนทั้งสิ้น 3 คดี 2 คดีแรก เกี่ยวกับวรวีร์ มะกูดี เรื่องการสร้างศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติที่หนองจอก และ เรื่องยักยอกทรัพย์ ส่วนคดีที่ 3 เกี่ยวข้องกับบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคต จำกัด (มหาชน) ก่อนที่เราจะไปเล่าคดี สมยศ vs สยามสปอร์ต เราจำเป็นต้องปูพื้นแบ็กกราวน์ของเรื่องก่อน เพื่อความเข้าใจในภาพรวมที่ชัดเจนขึ้น ฟุตบอลไทยลีก ก่อตั้งในปี 2539 ณ เวลานั้น คนดูในสนามแทบไม่มี ความนิยมตกต่ำมาก ในช่วง 5 ปีแรก (2539-2544) สมาคมยุควิจิตร เกตุแก้ว พยายามจัดการด้วยตัวเอง แต่สุดท้ายก็ไปไม่ไหว ขาดทุนยับ นั่นทำให้ สุชาติ มุฑุกัณฑ์ ทีมผู้บริหารของสมาคมฟุตบอลขณะนั้น มาขอร้องให้ บริษัท สยามสปอร์ต ช่วยเป็นออร์กาไนเซอร์ จัดการแข่งขันลีกอาชีพขึ้นมา พร้อมทั้งช่วงประชาสัมพันธ์เต็มรูปแบบ เพราะสยามสปอร์ตเป็นสื่อใหญ่ที่มีทรัพยากรในมือ น่าจะช่วยสร้างความนิยมให้ไทยลีกได้ สิ่งที่จะเอามาแลกเปลี่ยน ก็คือ ให้สยามสปอร์ตเป็น "ผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ของไทยลีก" สำหรับส่วนแบ่งของรายได้ในแต่ละปีนั้น มีรายงานว่า - ถ้าได้กำไร สยามสปอร์ตจะได้ ส่วนแบ่งกำไร 95% สมาคมได้ 5% - ถ้าขาดทุน สยามสปอร์ตต้องรับผิดชอบเองทั้งหมด ถ้าดูตัวเลขนี้ (95% - 5%) ดูเหมือนสยามสปอร์ตจะได้ส่วนแบ่งเยอะก็จริง แต่อย่าลืมว่าตอนนั้นฟุตบอลไทยยังไม่มีมูลค่า ถ้าสมาคมเอาไปทำเอง อย่าว่าแต่กำไร 5% เลย มีแต่จะเข้าเนื้อก็เท่านั้น และต่อให้สยามสปอร์ตจะเอาไปทำ ก็ใช่ว่าจะได้กำไรมากมายอะไร สุดท้ายสัญญาก็เลยออกมาในรูปแบบนั้น ดีลระหว่างสยามสปอร์ต กับ สมาคมในยุควิจิตร เกตุแก้ว ก็เลยเกิดขึ้น โดยสยามสปอร์ตมีหน้าที่ ต้องจัดการแข่งขันและโปรโมท ไทยลีก, ลีกรอง และ ลีกภูมิภาคทั้งหมด ระวิ โหลทอง ผู้บริหารสูงสุดของสยามสปอร์ตกล่าวไว้ว่า "ถ้าผมทำฟุตบอลนอกอย่างเดียว ผมก็ไม่ขาดทุนแล้ว แต่เมื่อผมมาทำไทยลีก ก็ไม่อยากให้มีปัญหาต่อกัน ผมลงทุนทำทีมฟุตบอลเพื่อให้วงการสนุก ส่วนตัวแล้วเรื่องเงินทองไม่มีปัญหาสำหรับผม คนอาจจะมองว่าสยามสปอร์ตได้กำไร แต่มันไม่ใช่ หุ้นบริษัทก็ไม่เคยกระดิก" นับจากปี 2544 สยามสปอร์ตเป็นผู้บริหารสิทธิประโยชน์ของไทยลีกมาเรื่อยๆ ซึ่งระหว่างนี้ นายกสมาคม เปลี่ยนคนจากวิจิตร เกตุแก้ว เป็นวรวีร์ มะกูดี แต่ก็ยังเซ็นสัญญากันต่อเนื่องกันไป ไม่มีปัญหาอะไร รายงานจาก Thaipublica เปิดเผยว่าสยามสปอร์ตในฐานะผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ ได้กำไรน้อยมาก โดยเนื้อหาระบุว่า "แม้เม็ดเงินจากสปอนเซอร์ต่างๆ จะไหลผ่านสยามสปอร์ตปีละหลายร้อยล้านบาท แต่ก็มีรายจ่ายที่ใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะค่าลิขสิทธิ์ไทยลีกที่ได้จากทรูวิชั่นส์ ต้องเอาไปแบ่งให้ทีมในไทยพรีเมียร์ลีก และดิวิชั่น 1 และเมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายในการถ่ายทอดสด ที่มีข้อบังคับว่า ต้องถ่ายทอดสดปีละไม่ต่ำกว่า 500 แมตช์ คำนวณแล้ว แทบจะไม่เหลือกำไรเท่าไหร่" ผู้บริหารระดับสูงของสยามสปอร์ตรายหนึ่งอธิบายว่า "สิ่งที่บริษัทได้รับ ไม่ใช่กำไรจากการเข้าไปดูแลสิทธิประโยชน์โดยตรง แต่เป็นผลประโยชน์ทางอ้อมมากกว่า เพราะยิ่งวงการฟุตบอลไทยเติบโตเท่าไหร่ ยอดขายสื่อในเครือ และเงินค่าโฆษณาก็ยิ่งเติบโตขึ้น" ในปี 2556 สมาคมฟุตบอลยุควรวีร์ เซ็นสัญญาระยะยาวกับสยามสปอร์ต ให้เป็นผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ไทยลีก อีก 10 ปี (2556-2565) โดยจุดนี้ มีรายงานไม่ตรงกัน บางแหล่งบอกว่า ส่วนแบ่งกำไรอยู่ที่ 95% - 5% ตามเดิม แต่บางแหล่งข่าวบอกว่า ถูกปรับเป็น 50% - 50% แล้ว ตอนนั้นแม้จะต่อสัญญากันระยะยาว แต่ดราม่าไม่มี เพราะไทยลีกยังไม่บูม หลายคนมองว่าไทยลีก เป็นเผือกร้อนด้วยซ้ำ ที่โอกาสขาดทุน มากกว่ากำไร อย่างไรก็ตาม จุดพลิกผันสำคัญก็เกิดขึ้น ในปี 2557 เมื่อเกิดปรากฏการณ์ "บอลไทยฟีเวอร์" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง รับตำแหน่งเฮดโค้ชทีมชาติ แล้วพาทีมช้างศึกคว้าแชมป์ AFF เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี พร้อมทั้งทำผลงานมาสเตอร์พีซในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก จนทีมไทย เข้าถึงรอบ 12 ทีมสุดท้าย เป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี ทีมชาติชุดใหญ่ มีสตาร์ขึ้นมาประดับวงการพร้อมกันหลายคน เช่น ชนาธิป สรงกระสินธิ์, อดิศักดิ์ ไกรษร, สารัช อยู่เย็น, ชาริล ชัปปุยส์ ฯลฯ ในช่วง AFF จากนั้นก็เพิ่มเติมด้วยผู้เล่นซีเนียร์ ทั้งธีรศิลป์ แดงดา และ ธีราทร บุญมาทัน คือไม่ใช่แค่ชุดใหญ่เท่านั้น แต่บอลเยาวชน ไทยฟอร์มดีมาก คว้าชัยชนะได้ทุกรุ่น ทุกอย่างมันส่งเสริมกัน ทำให้ทีมชาติไทย บูมขึ้นแบบพุ่งทะยาน อานิสงส์ก็กลับมาหาไทยลีก ที่มีคนเข้ามาดูอย่างคับคั่ง ทั้งขาจร-ขาประจำ ขณะที่ เรตติ้งถ่ายทอดสดพุ่งสูงมาก นักกีฬากลายเป็นไอดอลของเด็กๆ แต่ละคนได้รับงานโฆษณา เป็นรายได้เสริมนอกเหนือจากค่าจ้างในการเล่นฟุตบอลด้วย ความนิยมของไทยลีก ทำให้ทรูวิชั่นส์ จ่ายเงินค่าถ่ายทอดสด สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ นั่นคือ สัญญา 4 ปี 4,200 ล้านบาท (เฉลี่ยฤดูกาลละ 1,050 ล้านบาท) ไม่ใช่แค่ไทยลีก แต่ลิขสิทธิ์ของทีมชาติชุดใหญ่ ก็ขายได้ราคาดีมาก ในช่วงบอลไทยฟีเวอร์ สามารถขายลิขสิทธิ์ทีมชาติ กับทางไทยรัฐทีวี ได้เงินนัดละ 750,000 บาท จากที่สยามสปอร์ต เคยเข้าเนื้อมาหลายๆ ปีติดต่อกัน ในที่สุด เมื่อบอลไทยบูมพร้อมกัน ทั้งสโมสรและทีมชาติ ก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะเก็บเกี่ยวกำไรอย่างเป็นชิ้นเป็นอันแล้ว แต่แล้วสถานการณ์ก็พลิกผัน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 เมื่อสมาคมมีการเลือกตั้งนายกครั้งใหม่ และพล.ต.อ.สมยศ เป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้ง ล้างบางขั้วเก่าจนราบคาบ สิ่งที่ยังกั๊กๆ กันอยู่ คือพล.ต.อ.สมยศเป็นนายกก็จริง แต่คนดูแลสิทธิประโยชน์ไทยลีก จนถึงปี 2565 ดันเป็นสยามสปอร์ต ซึ่งอยู่ฝั่งขั้วอำนาจเก่าของวรวีร์ ในมุมของพล.ต.อ.สมยศ จึงเป็นเรื่องกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะตัวเองเป็นนายกสมาคมแท้ๆ แต่ผลกำไรของบอลไทย กลับไปตกอยู่ในมือของอีกขั้วหนึ่ง นอกจากนั้น ในมุมของสมาคม มั่นใจว่าถ้าหาผู้ดูแลเจ้าอื่น สมาคมน่าจะได้ส่วนแบ่งมากกว่านี้ หลังจาก พล.ต.อ.สมยศ ชนะเลือกตั้งเพียงแค่เดือนเดียว มีนาคม 2559 เขาตัดสินใจประกาศ "ยกเลิกสัญญา" กับสยามสปอร์ต ในช่วง 7 ปีที่เหลือ (2559-2565) พล.ต.อ.สมยศให้สัมภาษณ์ว่า "เราพิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกับสมาคม เป็นสัญญาผู้ขาดแต่เพียงผู้เดียว ไม่มีการกำหนดค่าตอบแทนขั้นต่ำให้ ส่งผลให้สมาคม ไม่สามารถวางแผนงบประมาณดำเนินการได้ด้วยตัวเอง" อธิบายคือ สัญญาฉบับเดิมที่เซ็นกัน สยามสปอร์ตจะเป็นฝ่ายแจ้งเองว่าปีนี้ได้กำไรเท่าไหร่ แล้วจะแบ่งจัดสรรให้สมาคมเอง แต่ถ้าขาดทุนก็ไม่ต้องจ่าย วิธีการนี้ ไม่มีกำหนดว่า ต้องจ่าย "ขั้นต่ำ" เท่าไหร่ คือไม่มีตัวเลขระบุ ฝั่งสมาคมเอง ก็มองว่า แบบนี้จะตกแต่งเลขอย่างไรก็ได้น่ะสิ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวปิดท้ายว่า "ผมไม่มีความขัดแย้งกับบริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคท ผมเข้ามาทำหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่เป็นนายกฯ สมาคม และอาสาเข้ามาแก้ปัญหาต่างๆ ซึ่งเมื่อเห็นว่ามันไม่ถูกต้อง ก็อยากทำให้ถูกต้อง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของสมาคมฯ และประชาชนชาวไทย" หลังจากยกเลิกสัญญากับสยามสปอร์ต 1 เดือนเท่านั้น เมษายน 2559 สมาคมเซ็นสัญญากับ แพลนบี มีเดีย เป็นผู้ดูแลสิทธิประโยชน์รายใหม่แทน เซ็นฉบับแรก (4 ปี) ในปี 2559-2563 และเซ็นในฉบับที่สอง (8 ปี) ในช่วงปี 2564-2571 และคดีความที่เป็นข่าวใหญ่ ก็เริ่มต้นจากจุดนี้ เพราะฝั่งสยามสปอร์ตยอมไม่ได้ ที่โดนฉีกสัญญาที่เหลืออยู่ถึง 7 ปีทิ้งลงดื้อๆ คือในมุมของสยามสปอร์ตนั้น สมาคมของพล.ต.อ.สมยศ จะคิดว่าสัญญาไม่เป็นธรรม หรือ ได้ส่วนแบ่งน้อย หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ในเมื่อมันมีการเซ็นสัญญาอย่างถูกต้องแล้ว มาโดนฉีกทิ้งแบบนี้ เขาก็เสียหายทางธุรกิจเช่นกัน แล้วแผนงานที่เตรียมไว้หลายปีต่อจากนี้ ใครจะรับผิดชอบ ที่ผ่านมา เขาลงทุนกับบอลไทยมาตั้งเยอะ แล้วพอวันที่มีโอกาสเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ ก็มาโดนฉีกสัญญาทิ้ง มันยุติธรรมกับเขาหรือไม่? นั่นทำให้ สยามสปอร์ตจึงฟ้องสมาคมฟุตบอล ในคดีแพ่ง ข้อหาผิดสัญญา และเรียกค่าเสียหายจำนวน 1,400 ล้านบาท ศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ รับฟ้องคดีนี้ โดยสยามสปอร์ตเป็นโจทก์ สมาคมฟุตบอลเป็นจำเลย ในวันที่ 23 สิงหาคม 2562 ศาลชั้นต้นตัดสินให้สยามสปอร์ตชนะคดี สมาคมฯ ต้องจ่ายเงินชดเชย 50 ล้านบาท โทษฐานบอกเลิกสัญญาโดยมิชอบ อย่างไรก็ตามทั้ง 2 ฝ่ายไม่พอใจนักกับผลการตัดสิน โดยฝ่ายกฎหมายของสยามสปอร์ต ให้สัมภาษณ์ว่า "ขอขอบคุณผู้พิพากษาที่ให้ความเป็นธรรมกับเรา อย่างไรก็ตามสยามสปอร์ต จะใช้สิทธิ์อุทธรณ์ในประเด็นเงินค่าเสียหาย ซึ่งทางเรามองว่า มีความเสียหายมากกว่า 50 ล้านบาท" แต่ฝั่งสมาคมฯ เองก็ไม่ยอมเช่นกัน โดยพล.ต.อ. สมยศ กล่าวว่า "ผมให้ความเคารพคำสั่งศาล แต่นี่เป็นเพียงศาลชั้นต้น สมาคมจะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาอย่างแน่นอน" การต่อสู้คดีในชั้นศาลอุทธรณ์ ดำเนินการมาถึง 2 ปี และในวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ศาลอุทธรณ์ได้ข้อสรุปว่า ตัวเลข 50 ล้านที่ศาลชั้นต้นสั่งให้สมาคม ชดใช้ มันน้อยเกินไป และมีคำพิพากษาแก้ ให้สมาคมฯ จ่ายเงินให้สยามสปอร์ตเพิ่มเป็น 450 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี จากศาลชั้นต้น 50 ล้านบาท สุดท้ายมาที่ศาลอุทธรณ์ ตัวเงินเด้งขึ้นไปที่ 450 ล้านบาท คำวินิจฉัยจากศาล ระบุว่า "แม้การบอกเลิกสัญญาระหว่างจำเลยกับโจทก์ จะทำเพื่อการพัฒนาระบบการบริหารให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะได้มีความชัดเจนด้านค่าตอบแทน จำนวนค่าตอบแทน รวมถึง คู่สัญญาที่ฝ่ายจำเลย อาจมองว่ามีความสามารถในการบริหารจัดการมากกว่าก็ตาม ทั้งหมด ก็มิได้เป็นเหตุที่จะบอกเลิกสัญญากับโจทก์โดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยจึงต้องจ่ายค่าเสียหายแก่โจทก์" เมื่อจบศาลอุทธรณ์ สยามสปอร์ตเป็นฝ่ายชนะคดีอยู่ แต่ฝั่งพล.ต.อ.สมยศ ยังไม่ยอม และตัดสินใจยื่นไปที่ฎีกาเป็นศาลสุดท้าย ตอนนี้การพิจารณาฎีกายังไม่ออกมา แต่สมาคมแพ้มา 2 ศาลแล้ว คงยากมาก ที่จะพลิกสถานการณ์ เอาตัวรอด ไม่เสียเงินในศาลสุดท้าย เพียงแต่จะจบแค่กี่บาทเท่านั้น คือฝั่ง พล.ต.อ.สมยศ มีสิทธิ์คิดอย่างไรก็ได้ - คุณไม่พอใจได้ ที่ยุควรวีร์เซ็นสัญญายาวถึง 10 ปี กับสยามสปอร์ต - คุณไม่พอใจได้ ที่มองว่าส่วนแบ่งน้อยเกินไปแค่ 5% แต่การแก้ปัญหาไม่ใช่การหักดิบ โดยฉีกสัญญาทิ้ง ทางที่ดีกว่านั้นคือการเจรจาหาข้อตกลงร่วมกัน แต่พอคุณไปยกเลิกดื้อๆ แบบนั้น เขาก็ไปสู้ด้วยกฎหมายสิ และในมุมของศาล ก็ต้องตัดสินตามหลักฐานที่มันเป็นจริง แค่นั้นเอง ------------------------ นั่นคือเหตุผลที่มาดามแป้ง ให้สัมภาษณ์ในวันก่อนว่า "แป้งไม่ได้มาตั้งต้นทางการเงินที่ศูนย์ แต่เริ่มจากติดลบ ติดลบ ติดลบ มันไม่แฟร์ แต่ก็ต้องทำ เพราะสมาคมฟุตบอลตั้งขึ้นมา 109 ปี ก็ต้องอยู่ต่อไป" เธอออกสตาร์ตมา ยังไม่ทันทำงานทำการ ก็มีหนี้สิ้น 450 ล้านบาท รออยู่ ถือว่าเป็นนายกสมาคมที่เหนื่อยสาหัส ตั้งแต่วันแรกที่รับงานทีเดียว เอาจริงๆ ก็เห็นใจมาดามแป้งอยู่ เธอเพิ่งมารับงานได้ไม่ถึงปี แต่เจอสารพัดปัญหาให้ต้องแก้ ทั้งเรื่องมูลค่าบอลไทยตกต่ำ รวมถึงเรื่อง สมาคมติดหนี้ติดสิน คงได้แต่เป็นกำลังใจให้เธอ ผ่านช่วงวิกฤตินี้ไปให้ได้ กับคำถามคือ จะเอาเงิน 450 ล้านจากไหนมาจ่ายสยามสปอร์ต? หรือว่าจะแลกเปลี่ยนด้วยการบาร์เตอร์ ทำอะไรสักอย่าง เราก็ต้องมาติดตามดูกันต่อไป พูดกันตรงๆ ว่า ถ้าคนที่มีหัวด้านธุรกิจ และ ทำงานด้านฟุตบอลมาหลายปี อย่างมาดามแป้ง ยังแก้ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ ก็ไม่รู้จะมีใครในประเทศไทย มาจัดการเรื่องนี้ได้อีก สำหรับกรณีเรื่อง สมาคม vs สยามสปอร์ตครั้งนี้ บทเรียนสำคัญคือ ความรู้สึกของคุณจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ จะชอบหรือไม่ชอบก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่เมื่อมันมีสัญญาผูกพันกันไว้ การไปฉีกสัญญาทิ้งดื้อๆ แบบนี้ มีโอกาสสูงมากที่จะเป็นฝ่ายเจ็บตัวเอง สำหรับ พล.ต.อ.สมยศ วันนี้เขาลงจากตำแหน่งไปแล้ว เป้าหมายการจับโจร ที่เขาตั้งใจไว้วันแรก ก็ไม่รู้ว่าสำเร็จไหม จับใครได้หรือเปล่า ยิ่งไปกว่านั้น ยังทำให้สมาคมโดนฟ้องร้องจนเป็นหนี้เป็นสิน เป็นภาระให้คนที่มาสานงานต่ออย่างมาก เรื่องนี้ทำให้เห็นว่า การเป็นนายกสมาคมฟุตบอล เป็นภารกิจที่ไม่ง่ายเลย แค่บู๊อย่างเดียวไม่พอ แต่คุณต้องฉลาดรอบรู้อีกด้วย ถ้าทำอะไรโดยขาดความยั้งคิด องค์กรก็จะต้องเจอสถานการณ์ลำบาก เป็นภาระให้คนรับงานต่อ เหมือนอย่างที่สมาคมฟุตบอลต้องเผชิญอยู่ในเวลานี้” ที่มา : https://www.facebook.com/share/ZvKUvXwxRkMKfBci/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 325 Views 0 Reviews
  • ด่วนร่วมกันต้านระบบการเมืองชั่วแทรกแซงแบงค์ชาติให้ชั่วตามทำให้เศรษฐกิจชาติล่มสลายได้
    ด่วนร่วมกันต้านระบบการเมืองชั่วแทรกแซงแบงค์ชาติให้ชั่วตามทำให้เศรษฐกิจชาติล่มสลายได้
    0 Comments 0 Shares 5 Views 0 Reviews
  • การจัดการทางการเงิน
    ตอนที่ 1.
    .
    ทัศนคติทางการเงินของเราเป็นอย่างไร
    เคยเห็นคนที่ทำธุรกิจกี่ครั้งก็เจ๊ง ทั้งๆที่พยายามแล้วไหมครับ มากมาย
    ที่เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะโชคชะตา แต่เป็นเพราะคนเหล่านี้มีจิตวิทยาการเงินไม่ดี หรือพิมพ์เขียวการเงินที่ไม่ดีนั่นเอง
    เวลาคุณสร้างบ้านต้องมีพิมพ์เขียวใช่ไหม ถ้าแบบมันผิดจะสร้างออกมาถูกได้มั้ย ไม่ได้
    แต่ถ้าแบบถูกต่อให้คุณย้ายจังหวัดหรือย้ายประเทศผู้รับเหมาก่อสร้างให้ออกมาตรงตามแบบได้
    การเงินก็เช่นกัน บางคนมีพิมพ์เขียวการเงินที่เบี้ยว ขยันอย่างไรผลลัพธ์ก็ไม่ดี
    ถ้าคุณอยากเปลี่ยนแปลง อยากมีฐานะการเงินที่ดีขึ้น คุณต้องเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับเงินของคุณก่อน
    ปัญหาคือ คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังมีมุมมองต่อเงินในทางที่ผิด จึงผลักเงิน ออกจากตัวเองตลอดเวลาโดยที่ไม่รู้ตัวๆเเล้วก็สงสัยว่าทำไมยังไม่รวยสักที
    .
    แบบทดสอบ Financial Blueprint
    จงให้คะแนนประโยคเหล่านี้ว่าคุณเห็นด้วยมากน้อยเพียงใด เห็นด้วยอย่างมากให้เต็ม 10 ไม่เห็นด้วยอย่างมากให้ 0 คะแนน
    1. คนรวยโกง
    2. คนรวยโลภ
    3. คนรวยขี้อวด
    4. คนรวยเอาเปรียบ
    5. คนรวยเลว
    แล้วรวมคะแนนเลยครับ
    .
    คะแนนที่ดีควรจะเป็นเท่าไหร่ ต้องเป็น 0 ครับ ถ้าใครไม่เป็น 0 ต้องจัดการเปลี่ยนมุมมองต่อเงินใหม่ทันทีเดี๋ยวนี้เลย คุณอาจเคยเห็นคนรวยโกงคนรวยโลภ คนรวยขี้อวดคนรวยเอาเปรียบหรือคนรวยที่เลวๆมาบ้าง แต่อย่าลืมว่าคนจนที่โลภ โกงและเลวก็มีนะ และในทางกลับกันคนรวยที่ดี แบ่งปันบริจาคช่วยเหลือผู้อื่นเสมอก็มี
    .
    คนรวยที่ใช้ชีวิตสมถะก็มี คนรวยที่ถ่อมตนไม่เคยอวดร่ำอวดรวยก็มี คนรวยที่ซื่อสัตย์ตรงไปตรงมาไม่เคยเอารัดเอาเปรียบใครก็มี คนรวยที่เป็นคนดีก็มีให้เห็นมากมาย ดังนั้นคุณต้องเข้าใจว่าเงินและความรวยไม่ใช่สิ่งที่ทำให้คนกลายเป็นคนไม่ดี
    .
    เงินแค่ขยายตัวตนของคนคนนั้นให้เราเห็นเค้าได้ชัดเจนยิ่งขึ้น คนไม่ดีที่มีเงินเยอะขึ้นเขา 3 ารถทำสิ่งที่ไม่ดีได้มากขึ้น แต่ถ้าคุณเป็นคนดีที่มีเงินเยอะขึ้น คุณจะ 3 ารถนำเงินไปสร้างความดีช่วยเหลือผู้คนได้มากขึ้น ความรวยกับความดีไม่เกี่ยวกัน ตอนนี้ถึงเวลาเปลี่ยนพิมพ์เขียวทางการเงินใหม่แล้วครับ ด้วยการหาหลักฐานใหม่มาแทนหลักฐาน 9 แล้วเตรียมตัวรับความเปลี่ยนแปลงฐานะทางการเงิน พร้อมวิธีการกันต่อได้เลย
    .
    สุขภาพการเงินที่ดี
    ถ้าคุณสุขภาพไม่ดีเช่นเป็นมะเร็ง เป็นอัลไซเมอร์คนอื่นก็ต้องมาดูแลคุณ
    เช่นกัน ถ้าพูดมีสุขภาพการเงินไม่ดีคนอื่นก็ต้องเข้ามาช่วยดูแลคุณ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อนรอบตัวหรือประเทศชาติ และถ้ามีคนที่สุขภาพการเงินไม่ดีเยอะๆ สังคมและเศรษฐกิจของประเทศก็อ่อนแอ เงินที่ควรจะนำไปพัฒนาประเทศต้องนำมาช่วยคนที่สุขภาพการเงินไม่ดี แทนที่จะนำเงินนั้นไปพัฒนาประเทศ จากสถิติพบว่าประชากรไทยที่มีอายุเกิน 60 ปี 95% เกษตรไม่ได้เพราะเงินยังไม่พอใช้
    และข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยพบว่า 98% ของบัญชีเงินฝากของคนไทยมีเงินไม่ถึง หนึ่ง ล้านบาท และมากถึง 87.23% มีเงินฝากไม่ถึง 50,000 บาท
    ตัวเลขเหล่านี้น่าตกใจนะครับเพราะกำลังชี้ให้เห็นว่าสุขภาพการเงินของคนไทยกำลังแย่ ความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนกับคนรวยก็ไม่ได้ห่างกันแบบเส้นขนานนะครับ แต่กำลังห่างกันแบบยกกำลัง และจะยิ่งห่างกันออกไปเรื่อยๆแบบยกกำลังซึ่งจะนำไปสู่ความเหลื่อมล้ำด้านอื่นๆด้วยเช่นการศึกษาการรักษาพยาบาลและนำไปสู่ความขัดแย้งที่มากขึ้นในสังคม
    .
    สมมุติง่ายๆคน สอง คนได้เงินมา หนึ่ง ล้านบาทเท่ากัน
    คนแรกคือคนที่ไม่มีความรู้ทางด้านการเงิน นำเงินไปฝากธนาคารรับดอกเบี้ยปีละ 0.25% - ผ่านไป หนึ่ง ปีได้ดอกเบี้ยเพิ่มมา 2500 บาท แต่อีกคนคือคนรวยที่มีความรู้ทางด้านการเงินได้เงินมา หนึ่ง ล้านเท่ากันเลย นำไปลงทุนในกองทุนดัชนีได้ผลตอบแทนมา 8% ผ่านไป หนึ่ง ปีมีเงินเพิ่ม 80,000 บาท นี่แค่ปีเดียวยังต่างกันขนาดนี้ถ้าเรามาดูกันเป็น 10 ปี 20 ปี ก็จะยิ่งเห็นความแตกต่างมีมากขึ้นทวีคูณ ช่องว่างห่างกันแบบยกกำลัง ความเหลื่อมล้ำมากขึ้น รู้ไม่เท่ากันผลตอบแทนไม่เท่ากันจึงสบายไม่เท่ากัน นี่คือที่มาของความเหลื่อมล้ำและช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยที่นับวันยิ่งห่างกันออกไป
    .
    สิ่งที่น่าตกใจเรื่องแรกคือคนไทยเป็นหนี้กันเร็วขึ้นเริ่มเป็นหนี้กันตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปีและกลายเป็นหนี้เสียไปแล้ว 5000 ล้านบาท
    .
    หนี้เสียคืออะไร
    หนี้เสียคือหนี้ที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ 3 งวดหรือ 90 วันขึ้นไป แบบนี้นับเป็นหนี้เสียสิ่งที่น่าตกใจ เรื่องต่อมาคือคนไทยเรามีหนี้เสียเยอะมากค่าเฉลี่ยรวมสูงถึง 16%
    .
    สัดส่วนหนี้เสียจำแนกตามอายุ
    คนไทยช่วงอายุ 20 ถึง 80 ปี ใน 100 คนมีหนี้เสีย 16 คนไม่ สามารถชำระหนี้ได้ภายใน 90 วัน
    คนไทยอายุ 22 ปีใน 100 คนมีหนี้เสียหลักล้านบาท 24 คน
    คนไทยอายุ 31 ปีใน 100 คนมีหนี้เสีย 25 คน
    หมายความว่าคนไทยเดินมา 100 คนเป็นหนี้เสีย 16 คน และที่น่ากังวลคือคนไข้อายุ 22 ปีมีหนี้เสีย 24% คนไทยอายุ 31 ปีมีหนี้เสีย 25% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยและคนกลุ่มนี้คือวัยแห่งความหวังของประเทศเรา แต่สถิติออกมาให้เห็นแบบนี้ก็น่ากังวลว่าอนาคตของประเทศเราจะเป็นอย่างไร
    .
    ปัญหาเงินไม่พอใช้ เกษียณไม่ได้ ความเหลื่อมล้ำและหนี้ในสังคมเราเกิดขึ้นเพราะคนไทยส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ที่สำคัญคือ... ความรู้ด้านการเงิน
    .
    คำถามคือทำไมคนส่วนใหญ่จึงขาดความรู้ด้านการเงิน
    หนึ่งในเหตุผลคือความรู้ด้านการเงินที่มีอยู่ ใช้ภาษาที่เข้าใจยาก เมื่อฟังเรื่องการเงินหรืออ่านหนังสือการเงินที่ไร ไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ คนส่วนใหญ่จึงคิดว่าการเงินเป็นเรื่องยาก ก็เลยไม่อยากจะเรียนรู้ต่อจึงปล่อยหน้าที่นี้ให้นักการเงินดูแล แต่ความจริงแล้วการเงินเป็นเรื่องที่ง่ายและตรงไปตรงมา..
    .
    #สอนการลงทุน #สอนเล่นหุ้น #การลงทุน #หุ้น #ตลาดหุ้น #สอนฟรี #กลุ่มคนเล่นหุ้น #เรียนการลงทุน #เรียนหุ้น #พื้นฐานหุ้น #พื้นฐานการลงทุน #การเงิน #การธนาคาร
    การจัดการทางการเงิน ตอนที่ 1. . ทัศนคติทางการเงินของเราเป็นอย่างไร เคยเห็นคนที่ทำธุรกิจกี่ครั้งก็เจ๊ง ทั้งๆที่พยายามแล้วไหมครับ มากมาย ที่เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะโชคชะตา แต่เป็นเพราะคนเหล่านี้มีจิตวิทยาการเงินไม่ดี หรือพิมพ์เขียวการเงินที่ไม่ดีนั่นเอง เวลาคุณสร้างบ้านต้องมีพิมพ์เขียวใช่ไหม ถ้าแบบมันผิดจะสร้างออกมาถูกได้มั้ย ไม่ได้ แต่ถ้าแบบถูกต่อให้คุณย้ายจังหวัดหรือย้ายประเทศผู้รับเหมาก่อสร้างให้ออกมาตรงตามแบบได้ การเงินก็เช่นกัน บางคนมีพิมพ์เขียวการเงินที่เบี้ยว ขยันอย่างไรผลลัพธ์ก็ไม่ดี ถ้าคุณอยากเปลี่ยนแปลง อยากมีฐานะการเงินที่ดีขึ้น คุณต้องเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับเงินของคุณก่อน ปัญหาคือ คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังมีมุมมองต่อเงินในทางที่ผิด จึงผลักเงิน ออกจากตัวเองตลอดเวลาโดยที่ไม่รู้ตัวๆเเล้วก็สงสัยว่าทำไมยังไม่รวยสักที . แบบทดสอบ Financial Blueprint จงให้คะแนนประโยคเหล่านี้ว่าคุณเห็นด้วยมากน้อยเพียงใด เห็นด้วยอย่างมากให้เต็ม 10 ไม่เห็นด้วยอย่างมากให้ 0 คะแนน 1. คนรวยโกง 2. คนรวยโลภ 3. คนรวยขี้อวด 4. คนรวยเอาเปรียบ 5. คนรวยเลว แล้วรวมคะแนนเลยครับ . คะแนนที่ดีควรจะเป็นเท่าไหร่ ต้องเป็น 0 ครับ ถ้าใครไม่เป็น 0 ต้องจัดการเปลี่ยนมุมมองต่อเงินใหม่ทันทีเดี๋ยวนี้เลย คุณอาจเคยเห็นคนรวยโกงคนรวยโลภ คนรวยขี้อวดคนรวยเอาเปรียบหรือคนรวยที่เลวๆมาบ้าง แต่อย่าลืมว่าคนจนที่โลภ โกงและเลวก็มีนะ และในทางกลับกันคนรวยที่ดี แบ่งปันบริจาคช่วยเหลือผู้อื่นเสมอก็มี . คนรวยที่ใช้ชีวิตสมถะก็มี คนรวยที่ถ่อมตนไม่เคยอวดร่ำอวดรวยก็มี คนรวยที่ซื่อสัตย์ตรงไปตรงมาไม่เคยเอารัดเอาเปรียบใครก็มี คนรวยที่เป็นคนดีก็มีให้เห็นมากมาย ดังนั้นคุณต้องเข้าใจว่าเงินและความรวยไม่ใช่สิ่งที่ทำให้คนกลายเป็นคนไม่ดี . เงินแค่ขยายตัวตนของคนคนนั้นให้เราเห็นเค้าได้ชัดเจนยิ่งขึ้น คนไม่ดีที่มีเงินเยอะขึ้นเขา 3 ารถทำสิ่งที่ไม่ดีได้มากขึ้น แต่ถ้าคุณเป็นคนดีที่มีเงินเยอะขึ้น คุณจะ 3 ารถนำเงินไปสร้างความดีช่วยเหลือผู้คนได้มากขึ้น ความรวยกับความดีไม่เกี่ยวกัน ตอนนี้ถึงเวลาเปลี่ยนพิมพ์เขียวทางการเงินใหม่แล้วครับ ด้วยการหาหลักฐานใหม่มาแทนหลักฐาน 9 แล้วเตรียมตัวรับความเปลี่ยนแปลงฐานะทางการเงิน พร้อมวิธีการกันต่อได้เลย . สุขภาพการเงินที่ดี ถ้าคุณสุขภาพไม่ดีเช่นเป็นมะเร็ง เป็นอัลไซเมอร์คนอื่นก็ต้องมาดูแลคุณ เช่นกัน ถ้าพูดมีสุขภาพการเงินไม่ดีคนอื่นก็ต้องเข้ามาช่วยดูแลคุณ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อนรอบตัวหรือประเทศชาติ และถ้ามีคนที่สุขภาพการเงินไม่ดีเยอะๆ สังคมและเศรษฐกิจของประเทศก็อ่อนแอ เงินที่ควรจะนำไปพัฒนาประเทศต้องนำมาช่วยคนที่สุขภาพการเงินไม่ดี แทนที่จะนำเงินนั้นไปพัฒนาประเทศ จากสถิติพบว่าประชากรไทยที่มีอายุเกิน 60 ปี 95% เกษตรไม่ได้เพราะเงินยังไม่พอใช้ และข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยพบว่า 98% ของบัญชีเงินฝากของคนไทยมีเงินไม่ถึง หนึ่ง ล้านบาท และมากถึง 87.23% มีเงินฝากไม่ถึง 50,000 บาท ตัวเลขเหล่านี้น่าตกใจนะครับเพราะกำลังชี้ให้เห็นว่าสุขภาพการเงินของคนไทยกำลังแย่ ความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนกับคนรวยก็ไม่ได้ห่างกันแบบเส้นขนานนะครับ แต่กำลังห่างกันแบบยกกำลัง และจะยิ่งห่างกันออกไปเรื่อยๆแบบยกกำลังซึ่งจะนำไปสู่ความเหลื่อมล้ำด้านอื่นๆด้วยเช่นการศึกษาการรักษาพยาบาลและนำไปสู่ความขัดแย้งที่มากขึ้นในสังคม . สมมุติง่ายๆคน สอง คนได้เงินมา หนึ่ง ล้านบาทเท่ากัน คนแรกคือคนที่ไม่มีความรู้ทางด้านการเงิน นำเงินไปฝากธนาคารรับดอกเบี้ยปีละ 0.25% - ผ่านไป หนึ่ง ปีได้ดอกเบี้ยเพิ่มมา 2500 บาท แต่อีกคนคือคนรวยที่มีความรู้ทางด้านการเงินได้เงินมา หนึ่ง ล้านเท่ากันเลย นำไปลงทุนในกองทุนดัชนีได้ผลตอบแทนมา 8% ผ่านไป หนึ่ง ปีมีเงินเพิ่ม 80,000 บาท นี่แค่ปีเดียวยังต่างกันขนาดนี้ถ้าเรามาดูกันเป็น 10 ปี 20 ปี ก็จะยิ่งเห็นความแตกต่างมีมากขึ้นทวีคูณ ช่องว่างห่างกันแบบยกกำลัง ความเหลื่อมล้ำมากขึ้น รู้ไม่เท่ากันผลตอบแทนไม่เท่ากันจึงสบายไม่เท่ากัน นี่คือที่มาของความเหลื่อมล้ำและช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยที่นับวันยิ่งห่างกันออกไป . สิ่งที่น่าตกใจเรื่องแรกคือคนไทยเป็นหนี้กันเร็วขึ้นเริ่มเป็นหนี้กันตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปีและกลายเป็นหนี้เสียไปแล้ว 5000 ล้านบาท . หนี้เสียคืออะไร หนี้เสียคือหนี้ที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ 3 งวดหรือ 90 วันขึ้นไป แบบนี้นับเป็นหนี้เสียสิ่งที่น่าตกใจ เรื่องต่อมาคือคนไทยเรามีหนี้เสียเยอะมากค่าเฉลี่ยรวมสูงถึง 16% . สัดส่วนหนี้เสียจำแนกตามอายุ คนไทยช่วงอายุ 20 ถึง 80 ปี ใน 100 คนมีหนี้เสีย 16 คนไม่ สามารถชำระหนี้ได้ภายใน 90 วัน คนไทยอายุ 22 ปีใน 100 คนมีหนี้เสียหลักล้านบาท 24 คน คนไทยอายุ 31 ปีใน 100 คนมีหนี้เสีย 25 คน หมายความว่าคนไทยเดินมา 100 คนเป็นหนี้เสีย 16 คน และที่น่ากังวลคือคนไข้อายุ 22 ปีมีหนี้เสีย 24% คนไทยอายุ 31 ปีมีหนี้เสีย 25% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยและคนกลุ่มนี้คือวัยแห่งความหวังของประเทศเรา แต่สถิติออกมาให้เห็นแบบนี้ก็น่ากังวลว่าอนาคตของประเทศเราจะเป็นอย่างไร . ปัญหาเงินไม่พอใช้ เกษียณไม่ได้ ความเหลื่อมล้ำและหนี้ในสังคมเราเกิดขึ้นเพราะคนไทยส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ที่สำคัญคือ... ความรู้ด้านการเงิน . คำถามคือทำไมคนส่วนใหญ่จึงขาดความรู้ด้านการเงิน หนึ่งในเหตุผลคือความรู้ด้านการเงินที่มีอยู่ ใช้ภาษาที่เข้าใจยาก เมื่อฟังเรื่องการเงินหรืออ่านหนังสือการเงินที่ไร ไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ คนส่วนใหญ่จึงคิดว่าการเงินเป็นเรื่องยาก ก็เลยไม่อยากจะเรียนรู้ต่อจึงปล่อยหน้าที่นี้ให้นักการเงินดูแล แต่ความจริงแล้วการเงินเป็นเรื่องที่ง่ายและตรงไปตรงมา.. . #สอนการลงทุน #สอนเล่นหุ้น #การลงทุน #หุ้น #ตลาดหุ้น #สอนฟรี #กลุ่มคนเล่นหุ้น #เรียนการลงทุน #เรียนหุ้น #พื้นฐานหุ้น #พื้นฐานการลงทุน #การเงิน #การธนาคาร
    0 Comments 0 Shares 60 Views 0 Reviews
  • ตอน#2019"โควิดเริ่มระบาดใหม่ๆ"บัว"เห็นนิมิตเป็นลักษณะนี้จึงวาดและส่งให้ อ.สมเกียรติ ในเพจfbและพูดคุยกับท่านว่าเชื้อไวรัสตัวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติแต่เป็นการตัดต่อพันธุกรรมจากห้องแล็บมันไม่มีชีวิตต้องอาศัยพาหนะและแบ่งตัวเหมือนสำเนา ภาพแรกดูคล้ายปีกค้างคาวแต่ถ้าดูดีๆจะเป็นงู"สัญลักษณ์ทางการแพทย์&เลข๓ไทย(หมายถึงตำรวจลับ)เวลาที่เขาเกาะติดกันจะไม่เป็นอันตรายเวลาจะใช้ต้องดึงออกมาทีละตัวจึงจะมีพิษในการทำร้าย#วิธีที่จะทำลายมันต้องใช้ไฟเผาที่มีอุณหภูมิที่สูงมาก(คือเขาบอกบัวมาแบบนี้ขอไม่เปิดเผยเป็นความเชื่อส่วนบุคคลอย่ารู้เลย)หนูคุยกับอาจารย์ว่าเป้าหมายเขาทำเพื่ออะไรนอกจากคนจะตายเยอะแล้วเศรษฐ์กิจยังแย่อีกนานเลย ตอนนั้นหนูทำงานก็จำเป็นต้องฉีด ว.ซ.AZ/2เข็มๆแรกก็รู้แล้วว่าเป็นไข้เกือบตายหลังจากฉีดผ่านไป4ชม.เวลา1ทุ่มตัวร้อนมากไข้ขึ้นสูงปวดหัวเหมือนจะแตกแต่หนาวสั่นพี่สาวต้องเอาผ้านวมมาห่มให้และกินยาไทรีนอลทุกๆ3ชม.ต่อมาอ่อนเพลียง่าย ใจเต้นพริ้ว บางครั้งคล้ายจะวูบ ห้ามเดินทางจึงจำเป็นต้องฉีดเข็มที่2เกิดอาการภูมิแพ้ผื่นขึ้นตามผิวคันต้องทานยาแก้แพ้,ใช้ยาทาผิว,ทานรางจืดต้มเวลาเป็นไข้เคยทานแต่พาราไม่หายเลยเปลี่ยนมาทาน ยาฟ้าทะลายโจรดีขึ้นมากถ้ามีไข้อีกก็จะทานฟ้าทะลายโจรตลอดเพราะตื่นมาดีขึ้นเหมือนหายไม่เจ็บคอปวดหัวหรือไอ แต่ถ้าเป็นยาแก้ไข้ทั่วไปกดภูมิเราไว้แล้วหมดฤทธิ์ยาก็กลับมาเป็นอีก สมุนไพรไทยเรานี่แหละดีมากทั้งต้มน้ำมะกรูดดื่ม,ดื่มน้ำขิงต้มเอง เลือกใช้ให้เหมาะกับเราเองเพราะร่างกายแต่ละคนต่างกันใช้สูตรหรือปริมาณปรับให้สมดุลกับตนเอง #ส่วนเพื่อนฉีดเข็มแรกก็ปากเบี้ยวแต่ใส่หน้ากากจึงไม่มีใครเห็นบริษัทบังคับให้ฉีดก็รับไป2เข็มAZตอนนี้เขาเป็นมะเร็งเต้านมระยะ3-4กำลังรักษาตัวอยู่#ส่วนครอบครัวเพื่อนอีกคนแม่มาป่วยเป็นโรคหัวใจ,ส่วนพ่อตาบอดและเป็นอัลไซเมอร์พ่อรับไป3เข็ม(เอสฯ,เซอร์,โม)และท่านก็บอกอีกว่าจะเกิดสงครามตอนนั้น"รัสเซีย&ยูเครน"ยังไม่รบกันเลยก็รอดูว่าจะจริงไหมต่อมาก็จริง เขาบอกอีกว่าต่อไปเงินจะเป็นกระดาษแบงค์กงเต๊งไร้ค่าถ้ามีสงครามเนทันยาฮูจะถูกลอบสังหาร(อาจเป็นพวกเดียวกัน)สงครามใหญ่ครั้งนี้อีกาจะแพ้🦅🔥แต่โลกสูญเสียเยอะใครจดสิทธิบัตรก็คนนั้นแหละปล่อย🙄 รอดูกันต่อไป ขอแชร์แค่นี้นะคะ(ถือว่าอ่านนิยายแล้วกันนะคะ😊)มือสมัครเล่น555
    ตอน#2019"โควิดเริ่มระบาดใหม่ๆ"บัว"เห็นนิมิตเป็นลักษณะนี้จึงวาดและส่งให้ อ.สมเกียรติ ในเพจfbและพูดคุยกับท่านว่าเชื้อไวรัสตัวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติแต่เป็นการตัดต่อพันธุกรรมจากห้องแล็บมันไม่มีชีวิตต้องอาศัยพาหนะและแบ่งตัวเหมือนสำเนา ภาพแรกดูคล้ายปีกค้างคาวแต่ถ้าดูดีๆจะเป็นงู"สัญลักษณ์ทางการแพทย์&เลข๓ไทย(หมายถึงตำรวจลับ)เวลาที่เขาเกาะติดกันจะไม่เป็นอันตรายเวลาจะใช้ต้องดึงออกมาทีละตัวจึงจะมีพิษในการทำร้าย#วิธีที่จะทำลายมันต้องใช้ไฟเผาที่มีอุณหภูมิที่สูงมาก(คือเขาบอกบัวมาแบบนี้ขอไม่เปิดเผยเป็นความเชื่อส่วนบุคคลอย่ารู้เลย)หนูคุยกับอาจารย์ว่าเป้าหมายเขาทำเพื่ออะไรนอกจากคนจะตายเยอะแล้วเศรษฐ์กิจยังแย่อีกนานเลย ตอนนั้นหนูทำงานก็จำเป็นต้องฉีด ว.ซ.AZ/2เข็มๆแรกก็รู้แล้วว่าเป็นไข้เกือบตายหลังจากฉีดผ่านไป4ชม.เวลา1ทุ่มตัวร้อนมากไข้ขึ้นสูงปวดหัวเหมือนจะแตกแต่หนาวสั่นพี่สาวต้องเอาผ้านวมมาห่มให้และกินยาไทรีนอลทุกๆ3ชม.ต่อมาอ่อนเพลียง่าย ใจเต้นพริ้ว บางครั้งคล้ายจะวูบ ห้ามเดินทางจึงจำเป็นต้องฉีดเข็มที่2เกิดอาการภูมิแพ้ผื่นขึ้นตามผิวคันต้องทานยาแก้แพ้,ใช้ยาทาผิว,ทานรางจืดต้มเวลาเป็นไข้เคยทานแต่พาราไม่หายเลยเปลี่ยนมาทาน ยาฟ้าทะลายโจรดีขึ้นมากถ้ามีไข้อีกก็จะทานฟ้าทะลายโจรตลอดเพราะตื่นมาดีขึ้นเหมือนหายไม่เจ็บคอปวดหัวหรือไอ แต่ถ้าเป็นยาแก้ไข้ทั่วไปกดภูมิเราไว้แล้วหมดฤทธิ์ยาก็กลับมาเป็นอีก สมุนไพรไทยเรานี่แหละดีมากทั้งต้มน้ำมะกรูดดื่ม,ดื่มน้ำขิงต้มเอง เลือกใช้ให้เหมาะกับเราเองเพราะร่างกายแต่ละคนต่างกันใช้สูตรหรือปริมาณปรับให้สมดุลกับตนเอง #ส่วนเพื่อนฉีดเข็มแรกก็ปากเบี้ยวแต่ใส่หน้ากากจึงไม่มีใครเห็นบริษัทบังคับให้ฉีดก็รับไป2เข็มAZตอนนี้เขาเป็นมะเร็งเต้านมระยะ3-4กำลังรักษาตัวอยู่#ส่วนครอบครัวเพื่อนอีกคนแม่มาป่วยเป็นโรคหัวใจ,ส่วนพ่อตาบอดและเป็นอัลไซเมอร์พ่อรับไป3เข็ม(เอสฯ,เซอร์,โม)และท่านก็บอกอีกว่าจะเกิดสงครามตอนนั้น"รัสเซีย&ยูเครน"ยังไม่รบกันเลยก็รอดูว่าจะจริงไหมต่อมาก็จริง เขาบอกอีกว่าต่อไปเงินจะเป็นกระดาษแบงค์กงเต๊งไร้ค่าถ้ามีสงครามเนทันยาฮูจะถูกลอบสังหาร(อาจเป็นพวกเดียวกัน)สงครามใหญ่ครั้งนี้อีกาจะแพ้🦅🔥แต่โลกสูญเสียเยอะใครจดสิทธิบัตรก็คนนั้นแหละปล่อย🙄 รอดูกันต่อไป ขอแชร์แค่นี้นะคะ(ถือว่าอ่านนิยายแล้วกันนะคะ😊)มือสมัครเล่น555
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 34 Views 0 Reviews
  • นู๋ "หมูเด้ง" เจ้าค่ะ

    เช้านี้ แวะมาบอกน้าน้าว่า "อียิวตายห่ากันเกลื่อนเลยค่ะเมื่อคืน"
    ระเบิดลงหัวเจ้าค่ะ จะเหลือเหรอค่ะ?

    ใต้ดินก็ไม่รอดค่ะ มาสูตรเดียวกับที่ถล่มในมารีโอโพลเยยย..

    อียิวแห่อพยพ..หนีตายกันจ้าละหวั่น สนามบินปิด ไปทางรถ ก็ถูกปิดด่าน

    ข่าวว่าจะถล่มเลบานอน อิหร่าน อิรัก ไปไปมามา ถูกเค้าย้อนศรเจ้าค่ะ

    อาวุธชุดใหญ่จากรัสเซียถึงมือเบรุตแล้ว จากนี้ ของไกล ของแรง โดนแน่

    ทหารรับจ้าง NATO อำลาโลก คาชุดทหารอิสราเอลจ๊ะ หน้ามรึงฝรั่งจ๋า!

    อย่าเพิ่งรีบนับศพทหารน่ะ ข่าวบอก ตาย 10 มรึงตายมาเป็นเดือนแล้ว

    ยอดสะสม 590 ตัว มรึงเชื่อเหรอ กับขีปนาวุธลงกว่า 1500 ลูก ตลอด 2 เดือน

    หมูเด้ง ไม่ชอบ "อีตอแหล" เจ้าค่ะ

    หมูเด้ง เกลียด ไอ้ชาติชั่ว ตัวปัญหาโลก ทำให้ผักโปรดหมูเด้งลดลง

    หากต่อไปผักหมดโลก หมูเด้งจะไปแดร๊กพวกมันแทนค่ะ

    ฝากถึง อี UN ไร้น้ำยาหน่อยค่ะ จะมีมรึงไปทำไมค่ะ หนักแผ่นดินโลก

    เงินไม่มา งานไม่เดิน เจ๊งกันหมดแล้วค่ะ ยังจะเสี้ยนกันต่ออีกมุยค่ะ?

    หมูเด้ง อยู่เมืองไทยสุขสบาย ใต้ร่มพระบารมี แต่อีคนไทยใจสัด มันไม่รู้ค่า

    หมูเด้ง ชี้เป้าไว้ได้หมด ไอ้อี ที่ขายชาติเนี่ย? มาหากูเพื่อทำอีเว้นต์

    หมูเด้งไม่สนค่ะ ไม่เล่นด้วย ขยะแขยงค่ะ ฮิปโปยังรู้คุณคน

    พวกมรึงเข้ามาหากู เพื่อสร้างกระแส เสียดาย มีแต่กีบ ไม่มีนิ้วกลางให้โชว์

    ยังตายกันอีกเยอะค่ะ โลกเบาขึ้นแล้ว อียิวตายวันละ 1000 สื่อไม่ตีดอกค่ะ

    ยังจะเสพสื่อเหี้ยอยู่อีกเหรอค่ะ ขนาดหมูเด้ง ยังเลิกดูเลยค่ะ

    กลัวกลายร่างจากฮิปโป เป็นควายค่ะ "สยอง"

    สุดท้ายนี้ หมูเด้ง อยากจะบอกน้าน้า ว่า

    ฮิปโป เป็นแค่สัด แต่ยังรักชาติน่ะค่ะ มากกว่าอีคนใจสัดกะหมาในสภา

    รอดู "การเปลี่ยนแปลง" ที่จะเกิดขึ้นได้เลยค่ะ

    หมูเด้ง ยังทำประโยชน์ให้แผ่นดินมากกว่า เหี้ยในสภาซะอีกน่ะค่ะ น้าว่ามุย?

    ปล.ภาพใครทำไม่รู้ แต่หมูเด้งสวย ชอบค่ะ หงส์หนาวสัดดดดด!

    รัก และคิดถึง

    หมูเด้ง YNWA
    07 ตค. 67
    08.50 น.
    https://linevoom.line.me/post/1172826629927902179

    https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u
    นู๋ "หมูเด้ง" เจ้าค่ะ เช้านี้ แวะมาบอกน้าน้าว่า "อียิวตายห่ากันเกลื่อนเลยค่ะเมื่อคืน" ระเบิดลงหัวเจ้าค่ะ จะเหลือเหรอค่ะ? ใต้ดินก็ไม่รอดค่ะ มาสูตรเดียวกับที่ถล่มในมารีโอโพลเยยย.. อียิวแห่อพยพ..หนีตายกันจ้าละหวั่น สนามบินปิด ไปทางรถ ก็ถูกปิดด่าน ข่าวว่าจะถล่มเลบานอน อิหร่าน อิรัก ไปไปมามา ถูกเค้าย้อนศรเจ้าค่ะ อาวุธชุดใหญ่จากรัสเซียถึงมือเบรุตแล้ว จากนี้ ของไกล ของแรง โดนแน่ ทหารรับจ้าง NATO อำลาโลก คาชุดทหารอิสราเอลจ๊ะ หน้ามรึงฝรั่งจ๋า! อย่าเพิ่งรีบนับศพทหารน่ะ ข่าวบอก ตาย 10 มรึงตายมาเป็นเดือนแล้ว ยอดสะสม 590 ตัว มรึงเชื่อเหรอ กับขีปนาวุธลงกว่า 1500 ลูก ตลอด 2 เดือน หมูเด้ง ไม่ชอบ "อีตอแหล" เจ้าค่ะ หมูเด้ง เกลียด ไอ้ชาติชั่ว ตัวปัญหาโลก ทำให้ผักโปรดหมูเด้งลดลง หากต่อไปผักหมดโลก หมูเด้งจะไปแดร๊กพวกมันแทนค่ะ ฝากถึง อี UN ไร้น้ำยาหน่อยค่ะ จะมีมรึงไปทำไมค่ะ หนักแผ่นดินโลก เงินไม่มา งานไม่เดิน เจ๊งกันหมดแล้วค่ะ ยังจะเสี้ยนกันต่ออีกมุยค่ะ? หมูเด้ง อยู่เมืองไทยสุขสบาย ใต้ร่มพระบารมี แต่อีคนไทยใจสัด มันไม่รู้ค่า หมูเด้ง ชี้เป้าไว้ได้หมด ไอ้อี ที่ขายชาติเนี่ย? มาหากูเพื่อทำอีเว้นต์ หมูเด้งไม่สนค่ะ ไม่เล่นด้วย ขยะแขยงค่ะ ฮิปโปยังรู้คุณคน พวกมรึงเข้ามาหากู เพื่อสร้างกระแส เสียดาย มีแต่กีบ ไม่มีนิ้วกลางให้โชว์ ยังตายกันอีกเยอะค่ะ โลกเบาขึ้นแล้ว อียิวตายวันละ 1000 สื่อไม่ตีดอกค่ะ ยังจะเสพสื่อเหี้ยอยู่อีกเหรอค่ะ ขนาดหมูเด้ง ยังเลิกดูเลยค่ะ กลัวกลายร่างจากฮิปโป เป็นควายค่ะ "สยอง" สุดท้ายนี้ หมูเด้ง อยากจะบอกน้าน้า ว่า ฮิปโป เป็นแค่สัด แต่ยังรักชาติน่ะค่ะ มากกว่าอีคนใจสัดกะหมาในสภา รอดู "การเปลี่ยนแปลง" ที่จะเกิดขึ้นได้เลยค่ะ หมูเด้ง ยังทำประโยชน์ให้แผ่นดินมากกว่า เหี้ยในสภาซะอีกน่ะค่ะ น้าว่ามุย? ปล.ภาพใครทำไม่รู้ แต่หมูเด้งสวย ชอบค่ะ หงส์หนาวสัดดดดด! รัก และคิดถึง หมูเด้ง YNWA 07 ตค. 67 08.50 น. https://linevoom.line.me/post/1172826629927902179 https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u
    0 Comments 0 Shares 35 Views 0 Reviews
  • พระราชินี ทรงนำไอซ์ฮอกกี้ทีมชาติไทย เสมอทีมจีน ในการแข่งขันนัดกระชับมิตร
    เมื่อเวลา 18.26 น. วันที่ 6 ตุลาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปทอดพระเนตรการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศไทย ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
    ในโอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งทูตกีฬาไอซ์ฮอกกี้หญิงกิตติมศักดิ์ (Women’s Global Ambassador) คนแรก ตามคำกราบบังคมทูลเขิญของสหพันธ์กีฬาฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติ (International Ice Hockey Federation) “IIHF” ทรงนำทีมไอซ์ฮอกกี้ราชอาณาจักรไทยแข่งขันกับทีมสาธารณรัฐประชาชนจีน นัดกระชับมิตรในครั้งนี้ด้วย
    กระทั่งเวลา 19.34 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงนำทัพนักกีฬาไอซ์ฮอกกี้ประเทศไทย ลงสนามพบกับนักกีฬาทีมสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงนำทีมนักกีฬาไทยทำคะแนนขึ้นนำตั้งแต่นาทีแรกของการแข่งขัน และตลอดการแข่งขันทั้ง 2 ทีมต่างผลัดกันต่อสู้ทำคะแนนอย่างดุเดือด
    เมื่อจบเกมแรกทีมไทยเป็นฝ่ายทำคะแนนขึ้นนำทีมจีนด้วย คะแนน 6:2 ส่วนเกมที่ 2 ทั้ง 2 ทีมต่างสู้กันอย่างดุเดือดไม่แพ้เกมแรก ต่างฝ่ายต่างขับเคี่ยวทำคะแนนกันอย่างสูสี ทีมจีนเริ่มทำคะแนนตีตื้นขึ้นมาและเฉือนเอาชนะทีมไทยไปได้ด้วยคะแนน 4:3
    ต่อมากรรมการเป่านกหวีดเริ่มการแข่งขันเกมที่ 3 อันเป็นเกมสุดท้ายทั้ง 2 ทีมต่างสู้ไม่ถอยโดยเฉพาะทีมไทยที่มี สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเป็นแรงกำลังพระราชหฤทัยอันสำคัญ จึงทำให้ทั้งทีมไทยและทีมจีนต่างผลัดกันทำคะแนนอย่างเต็มกำลัง
    จบปิดเกมการแข่งขันทั้งสองทีมทำคะแนนเสมอกันที่ 6:6 สรุปผลการแข่งขันทั้ง 3 เกม ทีมไทยและทีมจีน เสมอกันด้วยคะแนน 6:2 ,4:3 และ 6:6
    #ทรงพระเจริญ

    ที่มา : @เดินตามพ่อ
    https://www.facebook.com/share/vbHWKX5itUPaVQCs/
    พระราชินี ทรงนำไอซ์ฮอกกี้ทีมชาติไทย เสมอทีมจีน ในการแข่งขันนัดกระชับมิตร เมื่อเวลา 18.26 น. วันที่ 6 ตุลาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปทอดพระเนตรการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งกระชับมิตรระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศไทย ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ในโอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งทูตกีฬาไอซ์ฮอกกี้หญิงกิตติมศักดิ์ (Women’s Global Ambassador) คนแรก ตามคำกราบบังคมทูลเขิญของสหพันธ์กีฬาฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติ (International Ice Hockey Federation) “IIHF” ทรงนำทีมไอซ์ฮอกกี้ราชอาณาจักรไทยแข่งขันกับทีมสาธารณรัฐประชาชนจีน นัดกระชับมิตรในครั้งนี้ด้วย กระทั่งเวลา 19.34 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงนำทัพนักกีฬาไอซ์ฮอกกี้ประเทศไทย ลงสนามพบกับนักกีฬาทีมสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงนำทีมนักกีฬาไทยทำคะแนนขึ้นนำตั้งแต่นาทีแรกของการแข่งขัน และตลอดการแข่งขันทั้ง 2 ทีมต่างผลัดกันต่อสู้ทำคะแนนอย่างดุเดือด เมื่อจบเกมแรกทีมไทยเป็นฝ่ายทำคะแนนขึ้นนำทีมจีนด้วย คะแนน 6:2 ส่วนเกมที่ 2 ทั้ง 2 ทีมต่างสู้กันอย่างดุเดือดไม่แพ้เกมแรก ต่างฝ่ายต่างขับเคี่ยวทำคะแนนกันอย่างสูสี ทีมจีนเริ่มทำคะแนนตีตื้นขึ้นมาและเฉือนเอาชนะทีมไทยไปได้ด้วยคะแนน 4:3 ต่อมากรรมการเป่านกหวีดเริ่มการแข่งขันเกมที่ 3 อันเป็นเกมสุดท้ายทั้ง 2 ทีมต่างสู้ไม่ถอยโดยเฉพาะทีมไทยที่มี สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเป็นแรงกำลังพระราชหฤทัยอันสำคัญ จึงทำให้ทั้งทีมไทยและทีมจีนต่างผลัดกันทำคะแนนอย่างเต็มกำลัง จบปิดเกมการแข่งขันทั้งสองทีมทำคะแนนเสมอกันที่ 6:6 สรุปผลการแข่งขันทั้ง 3 เกม ทีมไทยและทีมจีน เสมอกันด้วยคะแนน 6:2 ,4:3 และ 6:6 #ทรงพระเจริญ ที่มา : @เดินตามพ่อ https://www.facebook.com/share/vbHWKX5itUPaVQCs/
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 39 Views 0 Reviews
  • บันทึกเตือนความจำ
    ภัยธรรมชาติที่เกิดจากภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงสุดขั้วนำมาซึ่งปริมาณน้ำฝนที่ไหลหลั่งลงสู่แหล่งน้ำ จำนวนมหาศาล ไหลบ่าจากป่าสู่เมืองในที่ลุ่มต่ำ ในทางกลับกันเชื่อแน่ว่าไม่ช้าก็เร็วเราน่าจะเจอกับเหตุการณ์ในขั้วตรงกันข้ามคือแล้ง ร้อนสุดโต่งแน่

    กันยายนต่อเนื่องถึงตุลาคม ฝนตกต่อเนื่องจนเกิดมวลน้ำจำนวนมหาศาลจากต้นน้ำแม่แตง ไหลเข้าสู่ลำน้ำแม่แตง สายน้ำแห่งการท่องเที่ยวธรรมชาติของเชียงใหม่ ที่ตลอดสองข้างลำน้ำมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก รวมทั้งปางช้างต่างๆเรียงรายตลอดลำน้ำแม่แตง ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาจากรายงานของสถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (๒๕๕๘-๒๕๖๗) พบว่ามีปางช้างถึง ๔๙ ปาง (ช้างจำนวน ๕๔๖ เชือก)

    เหตุระทึกเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่บ่ายวันพฤหัสที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๗ มวลน้ำจำนวนมากไหลบ่าล้นตลิ่งทั้งสองฝั่งของลำน้ำแม่แตงอย่างรวดเร็ว ต่อเนื่องจนถึงเช้ามืดวันศุกร์ น้ำเพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว ช้างส่วนใหญ่ถูกอพยพนำขึ้นไปผูกล่ามไว้ในที่สูง ในขณะที่ปางช้างขนาดใหญ่ (มีช้างมากกว่าหนึ่งร้อยเชือก) ของมูลนิธิช้างและสิ่งแวดล้อม ยังคงสาละวนและพยายามขนย้ายช้างและสัตว์อื่นๆอีกนับพันอาทิ สุนัข แมว แพะ โค กระบือ และสุกร ซึ่งยังคงไม่ทันการณ์ เป็นผลให้มวลน้ำจำนวนมหึมาไหลเข้าสู่ปางช้าง (ระดับน้ำสูงมากกว่า ๑.๕-๒.๐ เมตร เมื่อประเมินด้วยสายตา) การขนย้ายช้างนับร้อย เป็นเรื่องที่ยากและสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียมากทั้งชีวิตคนและช้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อช้างเหล่านี้มิได้ถูกฝึกหรือสื่อสารกับคนเลี้ยงอย่างใกล้ชิดมาก่อน เราเริ่มจับตาอย่างใกล้ชิดว่าจะพอช่วยเหลือสนับสนุนอะไรได้บ้าง

    คณะของสถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เริ่มเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเมื่อเช้าตรู่ของวันศุกร์ จากการร้องขอของเจ้าหน้าที่มูลนิธิทางโทรศัพท์ โดยเบื้องต้นรับทราบมาว่าให้ช่วยเคลื่อนย้ายและดูแลช้างเพศผู้ที่ยังอยู่ในคอกแต่ไม่สามารถออกมาได้ ในขณะที่ระดับน้ำกำลงัเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว คณะทำงานถูกตามตัว รวมทีมและประชุมอย่างเร่งด่วน และออกเดินทางในช่วงสายของวันนั้น
    เมื่อแรกไปถึงพบว่าเส้นทางเข้าถึงปางช้างถูกตัดขาด ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก การติดต่อด้วยโทรศัพท์ไม่สามารถทำได้ ต้องสื่อสารผ่านวิทยุสื่อสารคลื่นสั้นเท่านั้น คณะจึงต้องรอจนถึงบ่ายแก่ๆจึงได้เรือจากหน่วยกู้ภัย จ.กาฬสินธิ์ ข้ามน้ำเพื่อไปดูช้างตัวผู้ในคอกต่างๆเพื่อประเมินสถานการณ์ เราพบว่าช้างตัวผู้ยังอยู่ครบทั้งสิบเชือก ในสภาพที่ช้างลอยคออยู่ภายในคอก แต่ที่แปลกใจคือยังมีช้างตัวเมียอีกหลายสิบเชือกติดค้างอยู่ในคอกด้วย บ้างก็พิการขาเป๋ ตาบอด และยังทราบอีกว่าช้างอีกหลายเชือกได้สูญหายลอยไปกับน้ำด้วย เมื่อช่วงก่อนหน้า ซึ่งต่อมาพบ
    ซากของช้างฟ้าใส(วันเฉลิม)และพลอยทอง เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งต่อการสูญเสีย
    คณะจึงตัดสินใจแบ่งทีมงานออกเป็น ๒ ทีมเพื่อช่วยเหลือช้างให้ครอบคลุมทั้งสองกลุ่ม

    การดำเนินการในภาวะวิกฤติและเร่งด่วนเช่นนี้
    โดยหลักการแล้ว หากพบว่าช้างกับควาญสามารถสื่อสารกันได้ก็จะให้ควาญช้างเป็นผู้นำและกำหนดทิศทางการเดินของช้างเพื่อความปลอดภัย เพราะช้างเองมักเดินเฉพาะเส้นทางที่เคยชิน ซึ่งในกรณีนี้ช้างมักคุ้นชินกับการเดินแบบอิสระในทุ่งกว้างที่อยู่ติดกับน้ำแม่แตง ที่กำลังไหลเชี่ยว นับว่าอันตรายอย่างยิ่ง ฉะนั้นจึงจำเป็นที่ช้างเหล่านี้จะต้องมีควาญเป็นผู้ควบคุมทิศทาง

    ในกรณีช้างเพศเมียหรือช้างที่ไม่ดุร้าย
    หากช้างกับควาญมิได้มีปฏิสัมพันธ์กันมาก่อน หรือมีแต่เพียงเล็กน้อย ในทางทฤษฎีที่มีการเคลื่อนย้ายช้างป่ามักวางยาซึมและนำทางด้วยผ้าพรางแสงตลอดทางเดินเพื่อนำช้างไปยังจุดที่ต้องการ แต่ในกรณีนี้มีน้ำท่วมสูงจึงค่อนข้างเสี่ยงที่จะวางยาซึม (ยาซึมช้างมีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ ทำให้งวงตกลงสู่พื้น) โดยในวันนั้นคณะทำงานที่ประกอบด้วยสัตวแพทย์ ควาญช้างจากสถาบันคชบาลแห่งชาติ ควาญพี่เบิ้ม(ปางที่อยู่ติดกัน) และภัทรฟาร์ม ซึ่งมีความชำนาญ ร่วมกับควาญช้างของมูลนิธิช่วยกันควบคุมและกำหนดเส้นทางด้วยเชือกให้ช้างเดินไปยังจุดที่ปลอดภัย แต่ก็ทุลักทุเลพอควรด้วยเพราะควาญกับช้างสื่อสารกันแทบไม่รู้เรื่อง วันนั้นทีมเราช่วยเหลือช้างตัวเมียได้บางส่วนจนกระทั่งมืดค่ำจึงยุติภารกิจในเวลา ๑๙.๓๐ น.

    ในกรณีช้างเพศผู้ เราไม่สามารถวางยาซึมช้างในขณะที่ยังอยู่ในน้ำได้ ซึ่งจากข้อมูลที่ทีมงานได้รับพบว่าช้างทุกเชือกไม่เคยผ่านการฝึกและบางเชือกมีประวัติทำร้ายคนมาก่อน จึงเกิดคำถามว่าหากเคลื่อนย้ายออกมาได้แล้วจะนำช้างไปผูกล่ามอย่างไร ที่ไหน ทั้งในภาวะซึมหรือปกติ ด้วยเพราะช้างไม่คุ้นเคยกับคนหรือช้างใดๆ ช้างแต่ละเชือกอยุ่ตัวเดียวในคอกมานาน ซึ่งจากการประเมินพบว่าช้างทุกเชือกยังมีสภาพร่างกายปกติ (ยกเว้นพลายขุนเดชที่บาดเจ็บที่ขาหน้า) ดังนั้นจึงใช้วิธีวางแท่นพยุงให้ช้างสามารถใช้งวงยึดพยุงมิให้จมน้ำ หากพบว่าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก เพราะจากประสบการณ์ตรงของคณะทำงานพบว่าช้างมักลอยน้ำและอยู่ในน้ำได้นานถึง ๒ วัน ๑ คืนในสภาพน้ำนิ่ง โดยไม่เกิดอันตราย ซึ่งจากสภาพช้างภายในคอกพบว่ากระแสน้ำยังคงไหลแต่ไม่เชี่ยวมากนักเมื่อเทียบกับในลำน้ำ ช้างน่าจะยังพอพยุงตัวเองไว้ได้ในระยะเวลาหนึ่ง ด้วยเพราะธรรมชาติของน้ำทางภาคเหนือมักมาเร็วไปเร็ว ไม่น่าจะท่วมนาน เราจึงกำหนดให้ทำแพต้นกล้วยไว้ให้ช้างเพื่อช่วยพยุง ต้นกล้วยยังเป็นอาหารและมีน้ำช่วยประทังชีวิตให้ช้างได้อีกด้วย ทั้งนี้ให้เฝ้าระวังพลายขุนเดชเป็นพิเศษ
    โชคดีในช่วงเย็นของวันเดียวกันระดับน้ำเริ่มลดระดับลง เป็นสัญญาณว่าน้ำน่าจะลดลงเป็นปกติในไม่ช้า

    วันรุ่งขึ้นระดับน้ำลดลง เหลือเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำ ช้างเพศเมียถูกเคลื่อนย้ายขึ้นที่สูง ช้างตัวผู้ยังอยู่ในคอกของตัวเอง แต่ทุกตัวยังมีชีวิตอยู่แม้บางเชือกอาจแสดงอาการอ่อนเพลียบ้าง ดังนั้นการฟื้นฟูสุขภาพกาย และสภาวะจิตใจของช้างและควาญจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะโรคต่างๆที่มาหลังน้ำท่วม ก็ดี น้ำป่าที่อาจเข้าสู่ร่างกายช้างในช่วงก่อนหน้าทั้งทางเดินหายใจ ทางเดินอาหารก็ดี ดินโคลนที่มีรสชาดเย้ายวนต่อการลิ้มลองของช้างก็ดี หรือแม้กระทั่งอาหารที่อาจปนเปื้อน ที่ล้วนนำมาซึ่งความเจ็บป่วยของช้างเหล่านี้ได้ และสภาพจิตใจของช้างที่อาจตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การไม่คุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เหล่านี้จำเป็นต้องฟื้นฟูและเฝ้าระวังกันต่อไป

    สรุปยอดรวมช้างในปางก่อนเกิดเหตุ จำนวน ๑๑๘ เชือก ภายหลังน้ำลด พบช้างเพศเมีย ๑๐๖ เชือก เป็นช้างเพศผู้ ๑๐ เชือก สูญหายและเสียชีวิต ๒ เชือก

    วันนี้ฝนตกเบาบางลงแล้ว แต่หากเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันอีก การเรียนรู้บทเรียนและเตรียมแผนเผชิญเหตุทั้งของปางและผู้เกี่ยวข้องเป็นสิ่งที่ต้องจัดทำ
    แม้ในวันนี้ช้างบ้านของไทยจะมีสถานะเป็นทรัพย์สินของผู้ถือครองตามกฎหมาย (พรบ.สัตว์พาหนะ ) แต่จากเหตุการณ์หลายๆครั้งที่ผ่านมา ล้วนกระทบจิตใจคนไทยส่วนใหญ่ หลายส่วนยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองติดตามอย่างใกล้ชิด จึงเป็นสิ่งที่ทุกท่านพึงตระหนักให้ดีว่า "ช้าง" มีสถานะยิ่งกว่าทรัพย์สิน แต่เขาคือสิ่งที่มีคุณค่า ที่สูงค่าอันประเมินมูลค่ามิได้ ซึ่งเป็นสมบัติของคนไทยเราทุกคน

    ปล. ขอบคุณภาพมุมสูงจากคุณน้ำหนึ่ง

    https://www.facebook.com/share/p/zPKFtdBiFkUnLwdL/
    บันทึกเตือนความจำ ภัยธรรมชาติที่เกิดจากภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงสุดขั้วนำมาซึ่งปริมาณน้ำฝนที่ไหลหลั่งลงสู่แหล่งน้ำ จำนวนมหาศาล ไหลบ่าจากป่าสู่เมืองในที่ลุ่มต่ำ ในทางกลับกันเชื่อแน่ว่าไม่ช้าก็เร็วเราน่าจะเจอกับเหตุการณ์ในขั้วตรงกันข้ามคือแล้ง ร้อนสุดโต่งแน่ กันยายนต่อเนื่องถึงตุลาคม ฝนตกต่อเนื่องจนเกิดมวลน้ำจำนวนมหาศาลจากต้นน้ำแม่แตง ไหลเข้าสู่ลำน้ำแม่แตง สายน้ำแห่งการท่องเที่ยวธรรมชาติของเชียงใหม่ ที่ตลอดสองข้างลำน้ำมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก รวมทั้งปางช้างต่างๆเรียงรายตลอดลำน้ำแม่แตง ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาจากรายงานของสถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (๒๕๕๘-๒๕๖๗) พบว่ามีปางช้างถึง ๔๙ ปาง (ช้างจำนวน ๕๔๖ เชือก) เหตุระทึกเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่บ่ายวันพฤหัสที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๗ มวลน้ำจำนวนมากไหลบ่าล้นตลิ่งทั้งสองฝั่งของลำน้ำแม่แตงอย่างรวดเร็ว ต่อเนื่องจนถึงเช้ามืดวันศุกร์ น้ำเพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว ช้างส่วนใหญ่ถูกอพยพนำขึ้นไปผูกล่ามไว้ในที่สูง ในขณะที่ปางช้างขนาดใหญ่ (มีช้างมากกว่าหนึ่งร้อยเชือก) ของมูลนิธิช้างและสิ่งแวดล้อม ยังคงสาละวนและพยายามขนย้ายช้างและสัตว์อื่นๆอีกนับพันอาทิ สุนัข แมว แพะ โค กระบือ และสุกร ซึ่งยังคงไม่ทันการณ์ เป็นผลให้มวลน้ำจำนวนมหึมาไหลเข้าสู่ปางช้าง (ระดับน้ำสูงมากกว่า ๑.๕-๒.๐ เมตร เมื่อประเมินด้วยสายตา) การขนย้ายช้างนับร้อย เป็นเรื่องที่ยากและสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียมากทั้งชีวิตคนและช้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อช้างเหล่านี้มิได้ถูกฝึกหรือสื่อสารกับคนเลี้ยงอย่างใกล้ชิดมาก่อน เราเริ่มจับตาอย่างใกล้ชิดว่าจะพอช่วยเหลือสนับสนุนอะไรได้บ้าง คณะของสถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เริ่มเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเมื่อเช้าตรู่ของวันศุกร์ จากการร้องขอของเจ้าหน้าที่มูลนิธิทางโทรศัพท์ โดยเบื้องต้นรับทราบมาว่าให้ช่วยเคลื่อนย้ายและดูแลช้างเพศผู้ที่ยังอยู่ในคอกแต่ไม่สามารถออกมาได้ ในขณะที่ระดับน้ำกำลงัเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว คณะทำงานถูกตามตัว รวมทีมและประชุมอย่างเร่งด่วน และออกเดินทางในช่วงสายของวันนั้น เมื่อแรกไปถึงพบว่าเส้นทางเข้าถึงปางช้างถูกตัดขาด ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก การติดต่อด้วยโทรศัพท์ไม่สามารถทำได้ ต้องสื่อสารผ่านวิทยุสื่อสารคลื่นสั้นเท่านั้น คณะจึงต้องรอจนถึงบ่ายแก่ๆจึงได้เรือจากหน่วยกู้ภัย จ.กาฬสินธิ์ ข้ามน้ำเพื่อไปดูช้างตัวผู้ในคอกต่างๆเพื่อประเมินสถานการณ์ เราพบว่าช้างตัวผู้ยังอยู่ครบทั้งสิบเชือก ในสภาพที่ช้างลอยคออยู่ภายในคอก แต่ที่แปลกใจคือยังมีช้างตัวเมียอีกหลายสิบเชือกติดค้างอยู่ในคอกด้วย บ้างก็พิการขาเป๋ ตาบอด และยังทราบอีกว่าช้างอีกหลายเชือกได้สูญหายลอยไปกับน้ำด้วย เมื่อช่วงก่อนหน้า ซึ่งต่อมาพบ ซากของช้างฟ้าใส(วันเฉลิม)และพลอยทอง เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งต่อการสูญเสีย คณะจึงตัดสินใจแบ่งทีมงานออกเป็น ๒ ทีมเพื่อช่วยเหลือช้างให้ครอบคลุมทั้งสองกลุ่ม การดำเนินการในภาวะวิกฤติและเร่งด่วนเช่นนี้ โดยหลักการแล้ว หากพบว่าช้างกับควาญสามารถสื่อสารกันได้ก็จะให้ควาญช้างเป็นผู้นำและกำหนดทิศทางการเดินของช้างเพื่อความปลอดภัย เพราะช้างเองมักเดินเฉพาะเส้นทางที่เคยชิน ซึ่งในกรณีนี้ช้างมักคุ้นชินกับการเดินแบบอิสระในทุ่งกว้างที่อยู่ติดกับน้ำแม่แตง ที่กำลังไหลเชี่ยว นับว่าอันตรายอย่างยิ่ง ฉะนั้นจึงจำเป็นที่ช้างเหล่านี้จะต้องมีควาญเป็นผู้ควบคุมทิศทาง ในกรณีช้างเพศเมียหรือช้างที่ไม่ดุร้าย หากช้างกับควาญมิได้มีปฏิสัมพันธ์กันมาก่อน หรือมีแต่เพียงเล็กน้อย ในทางทฤษฎีที่มีการเคลื่อนย้ายช้างป่ามักวางยาซึมและนำทางด้วยผ้าพรางแสงตลอดทางเดินเพื่อนำช้างไปยังจุดที่ต้องการ แต่ในกรณีนี้มีน้ำท่วมสูงจึงค่อนข้างเสี่ยงที่จะวางยาซึม (ยาซึมช้างมีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ ทำให้งวงตกลงสู่พื้น) โดยในวันนั้นคณะทำงานที่ประกอบด้วยสัตวแพทย์ ควาญช้างจากสถาบันคชบาลแห่งชาติ ควาญพี่เบิ้ม(ปางที่อยู่ติดกัน) และภัทรฟาร์ม ซึ่งมีความชำนาญ ร่วมกับควาญช้างของมูลนิธิช่วยกันควบคุมและกำหนดเส้นทางด้วยเชือกให้ช้างเดินไปยังจุดที่ปลอดภัย แต่ก็ทุลักทุเลพอควรด้วยเพราะควาญกับช้างสื่อสารกันแทบไม่รู้เรื่อง วันนั้นทีมเราช่วยเหลือช้างตัวเมียได้บางส่วนจนกระทั่งมืดค่ำจึงยุติภารกิจในเวลา ๑๙.๓๐ น. ในกรณีช้างเพศผู้ เราไม่สามารถวางยาซึมช้างในขณะที่ยังอยู่ในน้ำได้ ซึ่งจากข้อมูลที่ทีมงานได้รับพบว่าช้างทุกเชือกไม่เคยผ่านการฝึกและบางเชือกมีประวัติทำร้ายคนมาก่อน จึงเกิดคำถามว่าหากเคลื่อนย้ายออกมาได้แล้วจะนำช้างไปผูกล่ามอย่างไร ที่ไหน ทั้งในภาวะซึมหรือปกติ ด้วยเพราะช้างไม่คุ้นเคยกับคนหรือช้างใดๆ ช้างแต่ละเชือกอยุ่ตัวเดียวในคอกมานาน ซึ่งจากการประเมินพบว่าช้างทุกเชือกยังมีสภาพร่างกายปกติ (ยกเว้นพลายขุนเดชที่บาดเจ็บที่ขาหน้า) ดังนั้นจึงใช้วิธีวางแท่นพยุงให้ช้างสามารถใช้งวงยึดพยุงมิให้จมน้ำ หากพบว่าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก เพราะจากประสบการณ์ตรงของคณะทำงานพบว่าช้างมักลอยน้ำและอยู่ในน้ำได้นานถึง ๒ วัน ๑ คืนในสภาพน้ำนิ่ง โดยไม่เกิดอันตราย ซึ่งจากสภาพช้างภายในคอกพบว่ากระแสน้ำยังคงไหลแต่ไม่เชี่ยวมากนักเมื่อเทียบกับในลำน้ำ ช้างน่าจะยังพอพยุงตัวเองไว้ได้ในระยะเวลาหนึ่ง ด้วยเพราะธรรมชาติของน้ำทางภาคเหนือมักมาเร็วไปเร็ว ไม่น่าจะท่วมนาน เราจึงกำหนดให้ทำแพต้นกล้วยไว้ให้ช้างเพื่อช่วยพยุง ต้นกล้วยยังเป็นอาหารและมีน้ำช่วยประทังชีวิตให้ช้างได้อีกด้วย ทั้งนี้ให้เฝ้าระวังพลายขุนเดชเป็นพิเศษ โชคดีในช่วงเย็นของวันเดียวกันระดับน้ำเริ่มลดระดับลง เป็นสัญญาณว่าน้ำน่าจะลดลงเป็นปกติในไม่ช้า วันรุ่งขึ้นระดับน้ำลดลง เหลือเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำ ช้างเพศเมียถูกเคลื่อนย้ายขึ้นที่สูง ช้างตัวผู้ยังอยู่ในคอกของตัวเอง แต่ทุกตัวยังมีชีวิตอยู่แม้บางเชือกอาจแสดงอาการอ่อนเพลียบ้าง ดังนั้นการฟื้นฟูสุขภาพกาย และสภาวะจิตใจของช้างและควาญจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะโรคต่างๆที่มาหลังน้ำท่วม ก็ดี น้ำป่าที่อาจเข้าสู่ร่างกายช้างในช่วงก่อนหน้าทั้งทางเดินหายใจ ทางเดินอาหารก็ดี ดินโคลนที่มีรสชาดเย้ายวนต่อการลิ้มลองของช้างก็ดี หรือแม้กระทั่งอาหารที่อาจปนเปื้อน ที่ล้วนนำมาซึ่งความเจ็บป่วยของช้างเหล่านี้ได้ และสภาพจิตใจของช้างที่อาจตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การไม่คุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เหล่านี้จำเป็นต้องฟื้นฟูและเฝ้าระวังกันต่อไป สรุปยอดรวมช้างในปางก่อนเกิดเหตุ จำนวน ๑๑๘ เชือก ภายหลังน้ำลด พบช้างเพศเมีย ๑๐๖ เชือก เป็นช้างเพศผู้ ๑๐ เชือก สูญหายและเสียชีวิต ๒ เชือก วันนี้ฝนตกเบาบางลงแล้ว แต่หากเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันอีก การเรียนรู้บทเรียนและเตรียมแผนเผชิญเหตุทั้งของปางและผู้เกี่ยวข้องเป็นสิ่งที่ต้องจัดทำ แม้ในวันนี้ช้างบ้านของไทยจะมีสถานะเป็นทรัพย์สินของผู้ถือครองตามกฎหมาย (พรบ.สัตว์พาหนะ ) แต่จากเหตุการณ์หลายๆครั้งที่ผ่านมา ล้วนกระทบจิตใจคนไทยส่วนใหญ่ หลายส่วนยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองติดตามอย่างใกล้ชิด จึงเป็นสิ่งที่ทุกท่านพึงตระหนักให้ดีว่า "ช้าง" มีสถานะยิ่งกว่าทรัพย์สิน แต่เขาคือสิ่งที่มีคุณค่า ที่สูงค่าอันประเมินมูลค่ามิได้ ซึ่งเป็นสมบัติของคนไทยเราทุกคน ปล. ขอบคุณภาพมุมสูงจากคุณน้ำหนึ่ง https://www.facebook.com/share/p/zPKFtdBiFkUnLwdL/
    0 Comments 0 Shares 28 Views 0 Reviews
  • วิพากษ์หนังสือ “ในนามความมั่นคงภายในฯ” (1)

    หลังจากได้อ่านหนังสือ ในนามความมั่นคงภายในฯ ซึ่งเขียนโดยอาจารย์พวงทอง ภวัครพันธุ์ แล้ว ขออนุญาตใช้เสรีภาพทางวิชาการ วิพากษ์หนังสือเล่มนี้นะครับ

    ประเด็นแรกต้องกล่าวถึงคือ แนวคิดและทฤษฎีที่นำมาใช้ในงานวิจัย จากที่อ่านนั้น อาจารย์พวงทองไม่ได้กล่าวถึงแนวคิดทฤษฎีใดเป็นรายทฤษฎีโดยเฉพาะ ต้องแกะจากเนื้อหา ส่วนที่อาจารย์พวงทองได้กล่าวถึงในการชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ นั้นได้เอ่ยถึงเพียงแค่ทฤษฎี Civil Control ในสังคมประชาธิปไตยเท่านั้น [1]

    จากที่แกะจากเนื้อหาจะเห็นร่องรอยแนวคิดหลักสำคัญแนวคิดแรก คือ แนวคิดเรื่องชุมชนจินตกรรมของเบเนดิกซ์ แอนเดอร์สัน ซึ่งส่งต่ออิทธิพลแนวคิดให้กับปัญญาชนไทยอย่าง นิธิ เอียวศรีวงศ์, ธงชัย วินิจจะกูล รวมถึง เกษียรเตชะพีระ จนก่อเกิดเป็นงานเขียนซึ่งเกษียรได้ระบุว่าประยุกต์ต่อยอดและพัฒนาแนวคิดชุมชนจินตกรรมหลายเล่ม[2] เล่มที่น่าสนใจคืองาน Siam Mapped : A History of the Geo-Body of a Nation ของธงชัย วินิจจะกูล ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยโดย อ.พวงทอง และคณะ

    แนวความคิดชุมชนจินตกรรม คือ “ความเป็นชาติ และชาตินิยมนั้นเป็นสิ่งประดิษฐ์เฉพาะทางวัตนธรรมอย่างหนึ่ง”[3] ซึ่งนักวิชาการไทยนำมาต่อยอดว่ากระบวนการสร้างชาตินั้นใช้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเป็นเครื่องมือในการสร้างชาติ

    ร่องรอยเหล่านี้ปรากฎอยู่ในวลี อุดมการณ์ราชาชาตินิยม ซึ่งปรากฎอยู่หลายต่อหลายครั้งในหนังสือ รวมทั้งประโยคที่ว่า “แม้ว่าชนชั้นนำอนุรักษ์นิยมจะเชื่อมั่นในวิธีการครอบงำเชิงอุดมการณ์ที่พวกเขาดำเนินมาเกินศตวรรษ”[4]

    ธงชัยได้เขียนไว้ในหนังสือออกนอกขนบประวัติศาสตร์ไทยว่า “...ประวัติศาตร์แบบราชาชาตินิยมที่แพร่หลายครอบงำสังคมไทย หรือเป็น ขนบ (Convention) ของความรู้ประวัติศาสตร์ของไทยในยุคปัจจุบัน มิใช่การไต่สวนค้นคว้าเพื่ออธิบายอดีตหรือปัจจุบันอย่างรอบคอบ แต่เป็นประวัติศาสตร์เพื่อปลูกฝังความเชื่อและศรัทธาชุดหนึ่งที่ไม่พึงสงสัย และตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำอีก [5]

    ร่องรอยอิทธิพลแนวคิดชุมชนจินตกรรมอีกประการคือ จากหนังสือชาติไทย, เมืองไทย,แบบเรียน และอนุสาวรีย์ มีประเด็นหนึ่งที่ใกล้เคียงกับแนวคิดของหนังสือ อ.พวงทองก็คือ นิธิ ได้กล่าวไว้ว่า “ชนชั้นนำทางอำนาจมีความชอบธรรมจะดำรงฐานะนั้นอยู่ได้ก็เพื่อปกป้องชาติจากศัตรู เมื่อใดที่หาศัตรูให้แก่ชาติไม่ได้ ชนชั้นนำก็หาเหตุผลที่จะดำรงสถานะนั้นไว้ได้ยากขึ้น”[6]

    ส่วน อ.พวงทอง นั้นได้กล่าวว่า “ไม่ใช่การป้องกันภัยคุกคามจากภายนอกประเทศหรอก แต่คือภารกิจการป้องกันความมั่นคงภายในประเทศต่างหากที่เป็นสารัตถะ เป็นเหตุผลของการดำรงอยู่ (raison d'être) ของกองทัพไทย” [7]

    จากอิทธิพลแนวคิดของ นิธิ ได้ทำให้ อ.พวงทองได้สรุปในตอนท้ายว่า “กอ.รมน. ถูกสร้างขึ้นเพื่อรับมือกับภัยคอมมิวนิสต์ เพื่อ พคท.พ่ายแพ้ลงแล้ว กอ.รมน. ก็ควรถูกยกเลิกไปด้วย แต่กองทัพและชนชั้นนำจารีตกลับช่วยกันสร้างสภาวะยกเว้นใหม่ๆขึ้นมา สร้างภัยคุกคามความมั่นคงของชาติตัวใหม่ขึ้นมา และผลักดันกฏหมายฉบับใหม่ที่ให้อำนาจกับ กอ.รมน.มากขึ้น”[8]

    ทฤษฎีที่สองที่พบจากหนังสือเล่มนี้ คือ ทฤษฎีวิพากษ์ (Critical Theory) ซึ่งธงชัย วินิจจะกูลได้เขียนไว้ว่า เขาได้รับอิทธิพลของทฤษฎีวิพากษ์ยุคหลังมาร์กซ์ (post-Marxist critical theories) ซึ่งเป็นกลุ่มความคิดที่ท้าทายขนบที่สุด และตนมีประสบการณ์กับความโหดร้ายของประวัติศาตร์ตามขนบราชาชาตินิยม จึงตั้งความปราถนาที่จะรื้อสร้างประวัติศาสตร์ไทยกันใหม่ [9]

    งานที่ธงชัยพยายามท้าทายรื้อประวัติศาสตร์แบบราชาชาตินิยมแบ่งเป็น 3 ประเภท อย่างแรกได้แก่ หนังสือ Siam Mapped อย่างที่สองรวมอยู่ในหนังสือ “โฉมหน้าราชาชาตินิยม” และอย่างที่สาม คือบทความที่แนะนำวิธีวิทยาและแนวคิดต่างๆที่ท้าทายประวัติศาสตร์แบบราชาชาตินิยม [10]

    จำกันได้มั้ยครับใครคือผู้แปลหนังสือเรื่อง Siam Mapped จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมจึงมีคำว่า “ราชาชาตินิยม” ปรากฎอยู่หลายที่ในหนังสือในนามความมั่นคงฯ

    แต่ในฐานะที่งานเรื่องนี้ เป็นงานวิจัยด้านความมั่นคง เราคงไม่สามารถมองโลกด้วยแว่นชุมชนจินตกรรมและทฤษฎีวิพากษ์เท่านั้นครับ

    ทฤษฎี หรือ แนวคิดที่ควรศึกษาแต่ว่าขาดหายไป มีอยู่หลายแนวคิด เช่น

    แนวคิดความมั่นคงแบบองค์รวม (Comprehensive Security) เป็นแนวคิดที่ขยายขอบเขตมุมมองด้านความมั่นคงให้ครอบคลุมมากกว่ามิติทางการทหาร แต่ยังรวมถึงมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการเมือง [11]

    โดย Richard H. Ullman (1983) ในปี 1983 เป็นคนแรก ๆ ที่กล่าวถึงการขยายขอบเขตของความท้าทายด้านความมั่นคงออกไปจากภัยคุกคามทางทหาร ในบทความวิชาการที่ชื่อว่า “Redefining Security” [12]

    แนวคิดนี้แทบจะเป็นแนวคิดหลักในสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ดูจากวารสารมุมมองด้านความมั่นคง[13] จะพบแนวคิด Comprehensive Security เยอะมาก

    หาก อ.พวงทองศึกษาเรื่องนี้สักนิดคงไม่สรุปว่า กองทัพและชนชั้นนำจารีตช่วยกันสร้างภัยคุกคามความมั่นคงของชาติตัวใหม่ขึ้นมา เพราะแนวคิดภัยคุกคามที่ว่านี้ Richard H. Ullman เป็นคนแรกๆที่นำเสนอครับ

    นอกจากนั้นแล้วงานวิจัยชิ้นนี้ยังไม่กล่าวถึงผลกระทบจากปัจจัยภายนอกเช่นการแข่งขันกันของจีนกับสหรัฐฯที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายใน ซึ่งมีแนวคิดที่สำคัญเช่น ความโกลาหลที่ควบคุมได้ (Controlled Chaos) ซึ่งถูกพัฒนาโดยหน่วยงานวิจัยเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ เช่น RAND Corporation ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความไม่เสถียรหรือความวุ่นวายในระบบสังคมและการเมืองของประเทศเป้าหมาย แต่ยังคงมีการควบคุมผลลัพธ์เพื่อให้เกิดประโยชน์ตามที่ต้องการ ซึ่งการเข้าไปแทรกแซงประกอบด้วย การสนับสนุนองค์กรภาคประชาสังคม (NGOs) สื่อมวลชนที่เป็นอิสระ และการให้ทุนวิจัยในสาขาสังคมศาสตร์ ซึ่งการให้ทุนนี้มักมุ่งสร้างเนื้อหาที่เป็นเชิงลบต่อรัฐบาล ซึ่งสิ่งเหล่านี้เคยเกิดขึ้นในห้วงการปฏิวัติสี และที่รัสเซีย [14]

    อีกทั้งการปฏิบัติการในพื้นที่สีเทาของสหรัฐฯ ก็ยืนยันแนวคิดนี้ เนื่องจากหน่วยรบพิเศษของสหรัฐฯมีภารกิจในการค้ำยันบัลลังก์ของผู้นำประเทศที่คล้อยตามนโยบายสหรัฐฯ แต่จะโค่นบัลลังก์ของผู้นำประเทศที่ไม่สนับสนุนนโยบาย ซึ่งจากเดิมนั้นจะสนับสนุนกองโจรเป็นหลักในการเคลื่อนไหวล้มล้าง แต่หลังจากการปฏิวัติบูลโดเซอร์ สหรัฐฯได้หันมาสนับสนุนขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมแทน เนื่องจากได้ผลและเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศมากกว่า[15]

    หากศึกษาแนวคิดเหล่านี้จะเห็นภาพของการแทรกแซงจากต่างชาติเพื่อเข้ามาบ่อนทำลายความมั่นคงภายในของประเทศ การตีความข้อมูลเท่าที่มีแล้วสรุปผลว่า กองทัพและชนชั้นนำจารีตช่วยกันสร้างภัยคุกคามความมั่นคงของชาติตัวใหม่ขึ้นมา นั้นย่อมเป็นการตีความที่ไม่ได้สำรวจจากมุมมองที่หลากหลาย แต่เป็นการตีความจากมุมมองชุมชนจินตกรรมและทฤษฎีวิพากษ์เท่านั้น

    การตีความข้อมูลนั้นเป็นเสรีของนักวิจัยก็จริง แต่ก่อนจะตีความ นักวิจัยควรสำรวจข้อมูลที่มี ว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย ครบถ้วนรอบด้านแล้วหรือยัง

    งานวิจัยชิ้นนี้ที่เสนอยุบกอ.รมน.โดยไม่ได้ศึกษาทฤษฎีความมั่นคงอย่างรอบด้าน ก็คล้ายกับคนที่เสนอให้เลิกดื่มกาแฟ โดยฉายภาพให้เห็นเฉพาะข้อเสียของกาแฟ แต่ไม่กล่าวถึงข้อดี

    งานชิ้นนี้จึงไม่ต่างไปจากการผลิตซ้ำอุดมการณ์ของนิธิ เอียวศรีวงศ์ กับ ธงชัย วินิจจะกูลสักเท่าไหร่

    ยังมีอีกหลายประเด็นเอาไว้ว่ากันต่อในโพสหน้าครับ

    ---

    อ้างอิง

    [1] พวงทอง ภวัครพันธุ์ VS กอ.รมน. เผชิญหน้า ถกปมหนังสือ ในนามของความมั่นคงภายใน, Matichon TV, (นาทีที่ 17:50), https://youtu.be/W2fQ0NrKoqA?si=SgJpjHhEliaNz8vH (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567).

    [2] เกษียร เตชะพีระ, จินตนากรรมที่แปลกแยกจากชุมชน (2), มติชนสุดสัปดาห์, 14 ธันวาคม 2566, https://www.matichonweekly.com/column/article_730383 (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567).

    [3] Benedict Anderson, Imagined Communities, London, Verso, 1983, หน้า 13. อ้างถึงใน นิธิ เอียวศรีวงศ์, ชาติไทย, เมืองไทย, แบบเรียน และอนุสาวรีย์, พิมพ์ครั้งที่ 5 (กรุงเทพฯ: มติชน, 2564), หน้า 40.

    [4] พวงทอง ภวัครพันธุ์, ในนามความมั่นคงภายใน: การแทรกซึมสังคมของกองทัพไทย (นนทบุรี: ฟ้าเดียวกัน, 2567), หน้า 199.

    [5] ธงชัย วินิจจะกูล, ออกนอกขนบประวัติศาสตร์ไทย (นนทบุรี: ฟ้าเดียวกัน, 2562), หน้า 5.

    [6] นิธิ เอียวศรีวงศ์, ชาติไทย, เมืองไทย, แบบเรียน และอนุสาวรีย์, พิมพ์ครั้งที่ 5 (กรุงเทพฯ: มติชน, 2564), หน้า 149.

    [7] พวงทอง ภวัครพันธุ์, ในนามความมั่นคงภายใน: การแทรกซึมสังคมของกองทัพไทย, หน้า 14.

    [8] เรื่องเดียวกัน, หน้า 220.

    [9] ธงชัย วินิจจะกูล, ออกนอกขนบประวัติศาสตร์ไทย, หน้า 8.

    [10] เรื่องเดียวกัน, หน้า 10.

    [11] ดวงมน สุขสมาน, "แนวทางการสร้างความมั่นคงของไทยต่อกลุ่มประเทศ CLMV," วารสารมุมมองความมั่นคง, ฉบับที่ 14 (ตุลาคม 2566-มกราคม 2567), หน้า 30, https://www.nsc.go.th/wp-content/uploads/Journal/article-01403.pdf (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567).

    [12] จารุพล เรืองสุวรรณ, ทบทวนแนวโน้มสถานการณ์ความมั่นคงของโลก สิ่งที่ไทยควรตระหนักและเตรียมการรับมือ, สถาบันวิจัยดิเรก ชัยนาม, 2 มิถุนายน 2564, http://www.polsci.tu.ac.th/direk/view.aspx?id=505&Keyword=%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%84 (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567).

    [13] ศึกษาวารสารมุมมองความมั่นคงได้ที่ https://www.nsc.go.th/ebook-%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%84%e0%b8%87/ (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567).

    [14] A.S. Brychkov and G.A. Nikonorov, "Color Revolutions," Journal of the Academy of Military Science (Russia), แปลโดย Boris Vainer, https://www.armyupress.army.mil/Portals/7/Hot%20Spots/Documents/Russia/Color-Revolutions-Brychkov-Nikonorov.pdf (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567).

    [15] Joseph L. Votel, Charles T. Cleveland, Charles T. Connett, and Will Irwin, "Unconventional Warfare in the Gray Zone," Joint Force Quarterly, NDU Press, ฉบับที่ 80, ไตรมาสที่ 1 ปี 2016, หน้า 101-109, https://ndupress.ndu.edu/JFQ/Joint-Force-Quarterly-80/article/643108/unconventional-warfare-in-the-gray-zone/ (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567).

    ---


    ต. ตุลยากร
    วิพากษ์หนังสือ “ในนามความมั่นคงภายในฯ” (1) หลังจากได้อ่านหนังสือ ในนามความมั่นคงภายในฯ ซึ่งเขียนโดยอาจารย์พวงทอง ภวัครพันธุ์ แล้ว ขออนุญาตใช้เสรีภาพทางวิชาการ วิพากษ์หนังสือเล่มนี้นะครับ ประเด็นแรกต้องกล่าวถึงคือ แนวคิดและทฤษฎีที่นำมาใช้ในงานวิจัย จากที่อ่านนั้น อาจารย์พวงทองไม่ได้กล่าวถึงแนวคิดทฤษฎีใดเป็นรายทฤษฎีโดยเฉพาะ ต้องแกะจากเนื้อหา ส่วนที่อาจารย์พวงทองได้กล่าวถึงในการชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ นั้นได้เอ่ยถึงเพียงแค่ทฤษฎี Civil Control ในสังคมประชาธิปไตยเท่านั้น [1] จากที่แกะจากเนื้อหาจะเห็นร่องรอยแนวคิดหลักสำคัญแนวคิดแรก คือ แนวคิดเรื่องชุมชนจินตกรรมของเบเนดิกซ์ แอนเดอร์สัน ซึ่งส่งต่ออิทธิพลแนวคิดให้กับปัญญาชนไทยอย่าง นิธิ เอียวศรีวงศ์, ธงชัย วินิจจะกูล รวมถึง เกษียรเตชะพีระ จนก่อเกิดเป็นงานเขียนซึ่งเกษียรได้ระบุว่าประยุกต์ต่อยอดและพัฒนาแนวคิดชุมชนจินตกรรมหลายเล่ม[2] เล่มที่น่าสนใจคืองาน Siam Mapped : A History of the Geo-Body of a Nation ของธงชัย วินิจจะกูล ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยโดย อ.พวงทอง และคณะ แนวความคิดชุมชนจินตกรรม คือ “ความเป็นชาติ และชาตินิยมนั้นเป็นสิ่งประดิษฐ์เฉพาะทางวัตนธรรมอย่างหนึ่ง”[3] ซึ่งนักวิชาการไทยนำมาต่อยอดว่ากระบวนการสร้างชาตินั้นใช้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเป็นเครื่องมือในการสร้างชาติ ร่องรอยเหล่านี้ปรากฎอยู่ในวลี อุดมการณ์ราชาชาตินิยม ซึ่งปรากฎอยู่หลายต่อหลายครั้งในหนังสือ รวมทั้งประโยคที่ว่า “แม้ว่าชนชั้นนำอนุรักษ์นิยมจะเชื่อมั่นในวิธีการครอบงำเชิงอุดมการณ์ที่พวกเขาดำเนินมาเกินศตวรรษ”[4] ธงชัยได้เขียนไว้ในหนังสือออกนอกขนบประวัติศาสตร์ไทยว่า “...ประวัติศาตร์แบบราชาชาตินิยมที่แพร่หลายครอบงำสังคมไทย หรือเป็น ขนบ (Convention) ของความรู้ประวัติศาสตร์ของไทยในยุคปัจจุบัน มิใช่การไต่สวนค้นคว้าเพื่ออธิบายอดีตหรือปัจจุบันอย่างรอบคอบ แต่เป็นประวัติศาสตร์เพื่อปลูกฝังความเชื่อและศรัทธาชุดหนึ่งที่ไม่พึงสงสัย และตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำอีก [5] ร่องรอยอิทธิพลแนวคิดชุมชนจินตกรรมอีกประการคือ จากหนังสือชาติไทย, เมืองไทย,แบบเรียน และอนุสาวรีย์ มีประเด็นหนึ่งที่ใกล้เคียงกับแนวคิดของหนังสือ อ.พวงทองก็คือ นิธิ ได้กล่าวไว้ว่า “ชนชั้นนำทางอำนาจมีความชอบธรรมจะดำรงฐานะนั้นอยู่ได้ก็เพื่อปกป้องชาติจากศัตรู เมื่อใดที่หาศัตรูให้แก่ชาติไม่ได้ ชนชั้นนำก็หาเหตุผลที่จะดำรงสถานะนั้นไว้ได้ยากขึ้น”[6] ส่วน อ.พวงทอง นั้นได้กล่าวว่า “ไม่ใช่การป้องกันภัยคุกคามจากภายนอกประเทศหรอก แต่คือภารกิจการป้องกันความมั่นคงภายในประเทศต่างหากที่เป็นสารัตถะ เป็นเหตุผลของการดำรงอยู่ (raison d'être) ของกองทัพไทย” [7] จากอิทธิพลแนวคิดของ นิธิ ได้ทำให้ อ.พวงทองได้สรุปในตอนท้ายว่า “กอ.รมน. ถูกสร้างขึ้นเพื่อรับมือกับภัยคอมมิวนิสต์ เพื่อ พคท.พ่ายแพ้ลงแล้ว กอ.รมน. ก็ควรถูกยกเลิกไปด้วย แต่กองทัพและชนชั้นนำจารีตกลับช่วยกันสร้างสภาวะยกเว้นใหม่ๆขึ้นมา สร้างภัยคุกคามความมั่นคงของชาติตัวใหม่ขึ้นมา และผลักดันกฏหมายฉบับใหม่ที่ให้อำนาจกับ กอ.รมน.มากขึ้น”[8] ทฤษฎีที่สองที่พบจากหนังสือเล่มนี้ คือ ทฤษฎีวิพากษ์ (Critical Theory) ซึ่งธงชัย วินิจจะกูลได้เขียนไว้ว่า เขาได้รับอิทธิพลของทฤษฎีวิพากษ์ยุคหลังมาร์กซ์ (post-Marxist critical theories) ซึ่งเป็นกลุ่มความคิดที่ท้าทายขนบที่สุด และตนมีประสบการณ์กับความโหดร้ายของประวัติศาตร์ตามขนบราชาชาตินิยม จึงตั้งความปราถนาที่จะรื้อสร้างประวัติศาสตร์ไทยกันใหม่ [9] งานที่ธงชัยพยายามท้าทายรื้อประวัติศาสตร์แบบราชาชาตินิยมแบ่งเป็น 3 ประเภท อย่างแรกได้แก่ หนังสือ Siam Mapped อย่างที่สองรวมอยู่ในหนังสือ “โฉมหน้าราชาชาตินิยม” และอย่างที่สาม คือบทความที่แนะนำวิธีวิทยาและแนวคิดต่างๆที่ท้าทายประวัติศาสตร์แบบราชาชาตินิยม [10] จำกันได้มั้ยครับใครคือผู้แปลหนังสือเรื่อง Siam Mapped จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมจึงมีคำว่า “ราชาชาตินิยม” ปรากฎอยู่หลายที่ในหนังสือในนามความมั่นคงฯ แต่ในฐานะที่งานเรื่องนี้ เป็นงานวิจัยด้านความมั่นคง เราคงไม่สามารถมองโลกด้วยแว่นชุมชนจินตกรรมและทฤษฎีวิพากษ์เท่านั้นครับ ทฤษฎี หรือ แนวคิดที่ควรศึกษาแต่ว่าขาดหายไป มีอยู่หลายแนวคิด เช่น แนวคิดความมั่นคงแบบองค์รวม (Comprehensive Security) เป็นแนวคิดที่ขยายขอบเขตมุมมองด้านความมั่นคงให้ครอบคลุมมากกว่ามิติทางการทหาร แต่ยังรวมถึงมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการเมือง [11] โดย Richard H. Ullman (1983) ในปี 1983 เป็นคนแรก ๆ ที่กล่าวถึงการขยายขอบเขตของความท้าทายด้านความมั่นคงออกไปจากภัยคุกคามทางทหาร ในบทความวิชาการที่ชื่อว่า “Redefining Security” [12] แนวคิดนี้แทบจะเป็นแนวคิดหลักในสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ดูจากวารสารมุมมองด้านความมั่นคง[13] จะพบแนวคิด Comprehensive Security เยอะมาก หาก อ.พวงทองศึกษาเรื่องนี้สักนิดคงไม่สรุปว่า กองทัพและชนชั้นนำจารีตช่วยกันสร้างภัยคุกคามความมั่นคงของชาติตัวใหม่ขึ้นมา เพราะแนวคิดภัยคุกคามที่ว่านี้ Richard H. Ullman เป็นคนแรกๆที่นำเสนอครับ นอกจากนั้นแล้วงานวิจัยชิ้นนี้ยังไม่กล่าวถึงผลกระทบจากปัจจัยภายนอกเช่นการแข่งขันกันของจีนกับสหรัฐฯที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายใน ซึ่งมีแนวคิดที่สำคัญเช่น ความโกลาหลที่ควบคุมได้ (Controlled Chaos) ซึ่งถูกพัฒนาโดยหน่วยงานวิจัยเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ เช่น RAND Corporation ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความไม่เสถียรหรือความวุ่นวายในระบบสังคมและการเมืองของประเทศเป้าหมาย แต่ยังคงมีการควบคุมผลลัพธ์เพื่อให้เกิดประโยชน์ตามที่ต้องการ ซึ่งการเข้าไปแทรกแซงประกอบด้วย การสนับสนุนองค์กรภาคประชาสังคม (NGOs) สื่อมวลชนที่เป็นอิสระ และการให้ทุนวิจัยในสาขาสังคมศาสตร์ ซึ่งการให้ทุนนี้มักมุ่งสร้างเนื้อหาที่เป็นเชิงลบต่อรัฐบาล ซึ่งสิ่งเหล่านี้เคยเกิดขึ้นในห้วงการปฏิวัติสี และที่รัสเซีย [14] อีกทั้งการปฏิบัติการในพื้นที่สีเทาของสหรัฐฯ ก็ยืนยันแนวคิดนี้ เนื่องจากหน่วยรบพิเศษของสหรัฐฯมีภารกิจในการค้ำยันบัลลังก์ของผู้นำประเทศที่คล้อยตามนโยบายสหรัฐฯ แต่จะโค่นบัลลังก์ของผู้นำประเทศที่ไม่สนับสนุนนโยบาย ซึ่งจากเดิมนั้นจะสนับสนุนกองโจรเป็นหลักในการเคลื่อนไหวล้มล้าง แต่หลังจากการปฏิวัติบูลโดเซอร์ สหรัฐฯได้หันมาสนับสนุนขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมแทน เนื่องจากได้ผลและเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศมากกว่า[15] หากศึกษาแนวคิดเหล่านี้จะเห็นภาพของการแทรกแซงจากต่างชาติเพื่อเข้ามาบ่อนทำลายความมั่นคงภายในของประเทศ การตีความข้อมูลเท่าที่มีแล้วสรุปผลว่า กองทัพและชนชั้นนำจารีตช่วยกันสร้างภัยคุกคามความมั่นคงของชาติตัวใหม่ขึ้นมา นั้นย่อมเป็นการตีความที่ไม่ได้สำรวจจากมุมมองที่หลากหลาย แต่เป็นการตีความจากมุมมองชุมชนจินตกรรมและทฤษฎีวิพากษ์เท่านั้น การตีความข้อมูลนั้นเป็นเสรีของนักวิจัยก็จริง แต่ก่อนจะตีความ นักวิจัยควรสำรวจข้อมูลที่มี ว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย ครบถ้วนรอบด้านแล้วหรือยัง งานวิจัยชิ้นนี้ที่เสนอยุบกอ.รมน.โดยไม่ได้ศึกษาทฤษฎีความมั่นคงอย่างรอบด้าน ก็คล้ายกับคนที่เสนอให้เลิกดื่มกาแฟ โดยฉายภาพให้เห็นเฉพาะข้อเสียของกาแฟ แต่ไม่กล่าวถึงข้อดี งานชิ้นนี้จึงไม่ต่างไปจากการผลิตซ้ำอุดมการณ์ของนิธิ เอียวศรีวงศ์ กับ ธงชัย วินิจจะกูลสักเท่าไหร่ ยังมีอีกหลายประเด็นเอาไว้ว่ากันต่อในโพสหน้าครับ --- อ้างอิง [1] พวงทอง ภวัครพันธุ์ VS กอ.รมน. เผชิญหน้า ถกปมหนังสือ ในนามของความมั่นคงภายใน, Matichon TV, (นาทีที่ 17:50), https://youtu.be/W2fQ0NrKoqA?si=SgJpjHhEliaNz8vH (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567). [2] เกษียร เตชะพีระ, จินตนากรรมที่แปลกแยกจากชุมชน (2), มติชนสุดสัปดาห์, 14 ธันวาคม 2566, https://www.matichonweekly.com/column/article_730383 (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567). [3] Benedict Anderson, Imagined Communities, London, Verso, 1983, หน้า 13. อ้างถึงใน นิธิ เอียวศรีวงศ์, ชาติไทย, เมืองไทย, แบบเรียน และอนุสาวรีย์, พิมพ์ครั้งที่ 5 (กรุงเทพฯ: มติชน, 2564), หน้า 40. [4] พวงทอง ภวัครพันธุ์, ในนามความมั่นคงภายใน: การแทรกซึมสังคมของกองทัพไทย (นนทบุรี: ฟ้าเดียวกัน, 2567), หน้า 199. [5] ธงชัย วินิจจะกูล, ออกนอกขนบประวัติศาสตร์ไทย (นนทบุรี: ฟ้าเดียวกัน, 2562), หน้า 5. [6] นิธิ เอียวศรีวงศ์, ชาติไทย, เมืองไทย, แบบเรียน และอนุสาวรีย์, พิมพ์ครั้งที่ 5 (กรุงเทพฯ: มติชน, 2564), หน้า 149. [7] พวงทอง ภวัครพันธุ์, ในนามความมั่นคงภายใน: การแทรกซึมสังคมของกองทัพไทย, หน้า 14. [8] เรื่องเดียวกัน, หน้า 220. [9] ธงชัย วินิจจะกูล, ออกนอกขนบประวัติศาสตร์ไทย, หน้า 8. [10] เรื่องเดียวกัน, หน้า 10. [11] ดวงมน สุขสมาน, "แนวทางการสร้างความมั่นคงของไทยต่อกลุ่มประเทศ CLMV," วารสารมุมมองความมั่นคง, ฉบับที่ 14 (ตุลาคม 2566-มกราคม 2567), หน้า 30, https://www.nsc.go.th/wp-content/uploads/Journal/article-01403.pdf (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567). [12] จารุพล เรืองสุวรรณ, ทบทวนแนวโน้มสถานการณ์ความมั่นคงของโลก สิ่งที่ไทยควรตระหนักและเตรียมการรับมือ, สถาบันวิจัยดิเรก ชัยนาม, 2 มิถุนายน 2564, http://www.polsci.tu.ac.th/direk/view.aspx?id=505&Keyword=%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%84 (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567). [13] ศึกษาวารสารมุมมองความมั่นคงได้ที่ https://www.nsc.go.th/ebook-%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%a1%e0%b8%b1%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%84%e0%b8%87/ (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567). [14] A.S. Brychkov and G.A. Nikonorov, "Color Revolutions," Journal of the Academy of Military Science (Russia), แปลโดย Boris Vainer, https://www.armyupress.army.mil/Portals/7/Hot%20Spots/Documents/Russia/Color-Revolutions-Brychkov-Nikonorov.pdf (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567). [15] Joseph L. Votel, Charles T. Cleveland, Charles T. Connett, and Will Irwin, "Unconventional Warfare in the Gray Zone," Joint Force Quarterly, NDU Press, ฉบับที่ 80, ไตรมาสที่ 1 ปี 2016, หน้า 101-109, https://ndupress.ndu.edu/JFQ/Joint-Force-Quarterly-80/article/643108/unconventional-warfare-in-the-gray-zone/ (เข้าถึงเมื่อ 3 ตุลาคม 2567). --- ต. ตุลยากร
    1 Comments 0 Shares 53 Views 0 Reviews
  • 💥แอดมิน นั่งทำการบ้านหุ้น SETHD,SET50 และ SET100
    มีหุ้นอยู่ 7 ตัวที่ราคาเหมาะสม และ จังหวะการซื้อที่ดี
    ลองไปทำการบ้านกันต่อด้วยนะครับ 🙏

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #thaitimes
    💥แอดมิน นั่งทำการบ้านหุ้น SETHD,SET50 และ SET100 มีหุ้นอยู่ 7 ตัวที่ราคาเหมาะสม และ จังหวะการซื้อที่ดี ลองไปทำการบ้านกันต่อด้วยนะครับ 🙏 #หุ้นติดดอย #การลงทุน #SET #thaitimes
    Like
    1
    2 Comments 0 Shares 724 Views 0 Reviews
  • หกทักษะของสุภาพบุรุษ ตอน 2 ‘เยวี่ย’

    สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันถึง ‘จวินจื่อลิ่วอี้’ (君子六艺) หรือหกทักษะที่สุภาพบุรุษในตระกูลสูงศักดิ์พึงมี (หมายเหตุ อี้ แปลได้ว่าทักษะความสามารถ) ซึ่งในบันทึกพิธีการโจวหลี่ระบุไว้ว่าคือ 1. ห้าพิธีการ (หลี่/礼) 2. หกดนตรี (เยวี่ย/乐) 3. ห้าการยิงธนู (เซ่อ/射) 4. ห้าการขับขี่ (อวี้/御) 5. หกอักษร (ซู/书) และ 6. เก้าคำนวณ (ซู่/数)

    สัปดาห์ที่แล้วคุยกันเรื่องทักษะแรกคือห้าพิธีการ วันนี้คุยกันต่อถึงทักษะที่สองคือ ‘เยวี่ย’ เรียกรวมกว่าหกดนตรี ซึ่ง Storyฯ มั่นใจว่าเพื่อนเพจหลายคนคงเข้าใจผิดเหมือน Storyฯ ว่ามันหมายถึงการเล่นดนตรี และภาพที่ลอยมาในหัวคือคุณชายดีดพิณหรือเป่าขลุ่ย

    แต่จริงๆ แล้ว ‘เยวี่ย’ ในบริบทของหกทักษะของสุภาพบุรุษนี้หมายถึงการเต้นรำ

    ใช่ค่ะ สุภาพบุรุษโบราณต้องเรียนรู้ที่จะเต้นรำ แต่มันไม่ใช่การเต้นรำทั่วไป หากแต่หมายถึงการเต้นรำหมู่ของบุรุษประกอบการบวงสรวงหรืองานสำคัญ ซึ่งเราไม่ค่อยเห็นในซีรีส์

    ‘ลิ่วเยวี่ย’ หรือหกดนตรี คือคำเรียกย่อของระบำหกยุคสมัย ‘ลิ่วไต้เยวี่ยอู่’ (六代乐舞) ซึ่งมีมาแต่หกยุคสมัยจีนโบราณบรรพกาล ประกอบด้วย
    (1) ‘อวิ๋นเหมินต้าเจวี้ยน’ (云门大卷/ระบำประตูเมฆ) หรือเรียกสั้นๆ ว่า ‘อวิ๋นเหมิน’ เป็นการงานเฉลิมฉลองร่วมกับประชาชนในสมัยของจักรพรรดิเหลือง (หวงตี้ ประมาณสองพันหกร้อยปีก่อนคริสตกาล) เพื่อเป็นการแซ่ซ้องคุณงามความดีและความเรืองรองของรัชสมัย จากรูปวาดโบราณจะเห็นว่าเป็นการเล่นเครื่องดนตรีบางชนิดไปพร้อมกับเดินเต้นไปด้วย ระบำนี้ในยุคสมัยโจวถูกใช้เป็นระบำหลักในการบวงสรวงฟ้าและเทพยดา
    (2) ‘เสียนฉือ’ (咸池) หรือ ‘ต้าเสียน’ (大咸) เป็นระบำจากยุคสมัยจักรพรรดิเหยา (ประมาณสองพันสามร้อยปีก่อนคริสตกาล) ซึ่งคำว่าเสียนฉือเป็นชื่อเรียกเดิมของทิศพยัคฆ์ขาวหรือทิศตะวันตก ระบำเสียนฉือจึงถูกนำมาใช้เป็นระบำสักการะดินและเทพเจ้าแห่งผืนดิน
    (3) ‘ต้าสาว’ (大韶) เป็นระบำจากยุคสมัยจักรพรรดิซุ่น (ประมาณสองพันสองร้อยปีก่อนคริสตกาล) เป็นระบำที่เชิดชูความงดงามของธรรมชาติรอบกาย ผสมผสานบทกลอน ดนตรี และระบำเข้าด้วยกัน กล่าวคือมีคนอ่านกลอนเป็นท่วงทำนอง มีเสียงเครื่องดนตรีนับสิบชนิดบรรเลงประกอบโดยเน้นเสียงขลุ่ยเซียวเป็นหลัก และมีคนสวมหน้ากากแสดงเป็นเหล่าปักษาและนกเฟิ่งหวงฟ้อนรำ ถูกใช้เป็นระบำบวงสรวงสี่ทิศ
    (4) ‘ต้าเซี่ย’ (大夏) เป็นระบำยุคสมัยราชวงศ์เซี่ย (ประมาณสองพันปีก่อนคริสตกาล) เป็นระบำที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเหตุการณ์ต้าสู่แก้ไขปัญหาน้ำท่วม ถูกใช้เป็นระบำสักการะขุนเขาและสายน้ำ เป็นระบำโบราณเดียวที่ยังคงสืบทอดมาจวบจนปัจจุบันแม้ว่าจะผ่านการเปลี่ยนแปลงมาไม่น้อย(ดูรูปประกอบ)
    (5) ‘ต้าฮู่’ (大濩) เป็นระบำยุคสมัยราชวงศ์ซาง (ประมาณหนึ่งพันหกร้อยปีก่อนคริสตกาล) เพื่อเฉลิมฉลองการล้มราชวงศ์เซี่ยสำเร็จ ใช้เป็นระบำสักการะบรรพบุรุษ
    (6) ‘ต้าอู่’ (大武) เป็นระบำยุคสมัยราชวงศ์โจว เพื่อเฉลิมฉลองการล้มราชวงศ์ซางสำเร็จ ถูกใช้เป็นระบำสักการะบรรพบุรุษเช่นกัน

    ทั้งนี้ ระบำสี่แบบแรกเป็นแบบที่เรียกว่า ‘เหวิน’ (หรือบุ๋น) แต่ระบำสองแบบสุดท้ายเป็นแบบที่เรียกว่า ‘อู่’ (หรือบู๊) ซึ่งเป็นการแสดงออกแนวฮึกเหิม นักแสดงถือโล่และอาวุธเช่นขวาน (แต่ไม่ได้ถอดเสื้อเหมือนใน <กำเนิดเทพเจ้า 1 อาณาจักรแห่งพายุ> นะ) ทั้งหมดนี้มีการกำหนดจัดเรียงแถวอย่างชัดเจน รวมแปดแถว แต่ละแถวแปดคน รวมหกสิบสี่คน และในงานใหญ่อาจมีการจัดการรำหลายแบบพร้อมกันบนลานกว้าง

    นอกจากนี้ ในงานใหญ่ยังมีการรำเสริมโดยเหล่าราชนิกุลชาย โดยกำหนดเป็นการรำอีกหกรูปแบบเรียกเป็น ‘รำเล็ก’ เพราะเป็นการรำเดี่ยวหรือกลุ่มเล็ก แต่ Storyฯ ขอไม่ลงรายละเอียดในชนิดของระบำ ทั้งนี้ ราชนิกุลชายในยุคราชวงศ์โจวเมื่ออายุสิบสามปีก็จะเริ่มเรียน ‘รำเล็ก’ อายุสิบห้าเรียนรำอาวุธ และเมื่ออายุได้ยี่สิบก็เรียน ‘รำใหญ่’ สำหรับพิธีบวงสรวงซึ่งก็คือหกระบำที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเอง และเมื่อสำเร็จการเรียนรู้ระบำต่างๆ เหล่านี้แล้วจึงเข้ารับราชการบรรจุเป็นขุนนางได้

    ทักษะด้านการรำนี้ ถูกใช้สอนในเรื่องของความพร้อมเพรียงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และช่วยปรับท่าทางการเดินเหินให้สง่าผึ่งผาย รวมถึงเรียนรู้เกี่ยวกับขนบธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับงานสักการะต่างๆ แน่นอนว่าสุภาพบุรุษต้องเรียนรู้การเล่นดนตรี เพียงแต่มันได้ถูกระบุเป็นหกทักษะของสุภาพบุรุษเท่านั้นเอง

    สัปดาห์หน้ามาคุยกันต่อค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://app.xinhuanet.com/news/article.html?articleId=1e283da99d5077df8508b27c88bfaeae
    https://chinakongzi.org/zt/2021jikong/yange/202109/t20210922_521023.htm https://guoxue.ifeng.com/c/7qhsbaO24FU
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/六艺/238715
    https://m.jiemian.com/article/1154435.html
    https://m.thepaper.cn/newsDetail_forward_20109083
    https://h.bkzx.cn/knowledge/1733

    #กำเนิดเทพเจ้า #เฟิงเสิน #ทักษะสุภาพบุรุษจีน #ศิลปะสุภาพบุรุษจีน #คำสอนขงจื๊อ #จวินจื่อลิ่วอี้ #สาระจีน
    หกทักษะของสุภาพบุรุษ ตอน 2 ‘เยวี่ย’ สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันถึง ‘จวินจื่อลิ่วอี้’ (君子六艺) หรือหกทักษะที่สุภาพบุรุษในตระกูลสูงศักดิ์พึงมี (หมายเหตุ อี้ แปลได้ว่าทักษะความสามารถ) ซึ่งในบันทึกพิธีการโจวหลี่ระบุไว้ว่าคือ 1. ห้าพิธีการ (หลี่/礼) 2. หกดนตรี (เยวี่ย/乐) 3. ห้าการยิงธนู (เซ่อ/射) 4. ห้าการขับขี่ (อวี้/御) 5. หกอักษร (ซู/书) และ 6. เก้าคำนวณ (ซู่/数) สัปดาห์ที่แล้วคุยกันเรื่องทักษะแรกคือห้าพิธีการ วันนี้คุยกันต่อถึงทักษะที่สองคือ ‘เยวี่ย’ เรียกรวมกว่าหกดนตรี ซึ่ง Storyฯ มั่นใจว่าเพื่อนเพจหลายคนคงเข้าใจผิดเหมือน Storyฯ ว่ามันหมายถึงการเล่นดนตรี และภาพที่ลอยมาในหัวคือคุณชายดีดพิณหรือเป่าขลุ่ย แต่จริงๆ แล้ว ‘เยวี่ย’ ในบริบทของหกทักษะของสุภาพบุรุษนี้หมายถึงการเต้นรำ ใช่ค่ะ สุภาพบุรุษโบราณต้องเรียนรู้ที่จะเต้นรำ แต่มันไม่ใช่การเต้นรำทั่วไป หากแต่หมายถึงการเต้นรำหมู่ของบุรุษประกอบการบวงสรวงหรืองานสำคัญ ซึ่งเราไม่ค่อยเห็นในซีรีส์ ‘ลิ่วเยวี่ย’ หรือหกดนตรี คือคำเรียกย่อของระบำหกยุคสมัย ‘ลิ่วไต้เยวี่ยอู่’ (六代乐舞) ซึ่งมีมาแต่หกยุคสมัยจีนโบราณบรรพกาล ประกอบด้วย (1) ‘อวิ๋นเหมินต้าเจวี้ยน’ (云门大卷/ระบำประตูเมฆ) หรือเรียกสั้นๆ ว่า ‘อวิ๋นเหมิน’ เป็นการงานเฉลิมฉลองร่วมกับประชาชนในสมัยของจักรพรรดิเหลือง (หวงตี้ ประมาณสองพันหกร้อยปีก่อนคริสตกาล) เพื่อเป็นการแซ่ซ้องคุณงามความดีและความเรืองรองของรัชสมัย จากรูปวาดโบราณจะเห็นว่าเป็นการเล่นเครื่องดนตรีบางชนิดไปพร้อมกับเดินเต้นไปด้วย ระบำนี้ในยุคสมัยโจวถูกใช้เป็นระบำหลักในการบวงสรวงฟ้าและเทพยดา (2) ‘เสียนฉือ’ (咸池) หรือ ‘ต้าเสียน’ (大咸) เป็นระบำจากยุคสมัยจักรพรรดิเหยา (ประมาณสองพันสามร้อยปีก่อนคริสตกาล) ซึ่งคำว่าเสียนฉือเป็นชื่อเรียกเดิมของทิศพยัคฆ์ขาวหรือทิศตะวันตก ระบำเสียนฉือจึงถูกนำมาใช้เป็นระบำสักการะดินและเทพเจ้าแห่งผืนดิน (3) ‘ต้าสาว’ (大韶) เป็นระบำจากยุคสมัยจักรพรรดิซุ่น (ประมาณสองพันสองร้อยปีก่อนคริสตกาล) เป็นระบำที่เชิดชูความงดงามของธรรมชาติรอบกาย ผสมผสานบทกลอน ดนตรี และระบำเข้าด้วยกัน กล่าวคือมีคนอ่านกลอนเป็นท่วงทำนอง มีเสียงเครื่องดนตรีนับสิบชนิดบรรเลงประกอบโดยเน้นเสียงขลุ่ยเซียวเป็นหลัก และมีคนสวมหน้ากากแสดงเป็นเหล่าปักษาและนกเฟิ่งหวงฟ้อนรำ ถูกใช้เป็นระบำบวงสรวงสี่ทิศ (4) ‘ต้าเซี่ย’ (大夏) เป็นระบำยุคสมัยราชวงศ์เซี่ย (ประมาณสองพันปีก่อนคริสตกาล) เป็นระบำที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเหตุการณ์ต้าสู่แก้ไขปัญหาน้ำท่วม ถูกใช้เป็นระบำสักการะขุนเขาและสายน้ำ เป็นระบำโบราณเดียวที่ยังคงสืบทอดมาจวบจนปัจจุบันแม้ว่าจะผ่านการเปลี่ยนแปลงมาไม่น้อย(ดูรูปประกอบ) (5) ‘ต้าฮู่’ (大濩) เป็นระบำยุคสมัยราชวงศ์ซาง (ประมาณหนึ่งพันหกร้อยปีก่อนคริสตกาล) เพื่อเฉลิมฉลองการล้มราชวงศ์เซี่ยสำเร็จ ใช้เป็นระบำสักการะบรรพบุรุษ (6) ‘ต้าอู่’ (大武) เป็นระบำยุคสมัยราชวงศ์โจว เพื่อเฉลิมฉลองการล้มราชวงศ์ซางสำเร็จ ถูกใช้เป็นระบำสักการะบรรพบุรุษเช่นกัน ทั้งนี้ ระบำสี่แบบแรกเป็นแบบที่เรียกว่า ‘เหวิน’ (หรือบุ๋น) แต่ระบำสองแบบสุดท้ายเป็นแบบที่เรียกว่า ‘อู่’ (หรือบู๊) ซึ่งเป็นการแสดงออกแนวฮึกเหิม นักแสดงถือโล่และอาวุธเช่นขวาน (แต่ไม่ได้ถอดเสื้อเหมือนใน <กำเนิดเทพเจ้า 1 อาณาจักรแห่งพายุ> นะ) ทั้งหมดนี้มีการกำหนดจัดเรียงแถวอย่างชัดเจน รวมแปดแถว แต่ละแถวแปดคน รวมหกสิบสี่คน และในงานใหญ่อาจมีการจัดการรำหลายแบบพร้อมกันบนลานกว้าง นอกจากนี้ ในงานใหญ่ยังมีการรำเสริมโดยเหล่าราชนิกุลชาย โดยกำหนดเป็นการรำอีกหกรูปแบบเรียกเป็น ‘รำเล็ก’ เพราะเป็นการรำเดี่ยวหรือกลุ่มเล็ก แต่ Storyฯ ขอไม่ลงรายละเอียดในชนิดของระบำ ทั้งนี้ ราชนิกุลชายในยุคราชวงศ์โจวเมื่ออายุสิบสามปีก็จะเริ่มเรียน ‘รำเล็ก’ อายุสิบห้าเรียนรำอาวุธ และเมื่ออายุได้ยี่สิบก็เรียน ‘รำใหญ่’ สำหรับพิธีบวงสรวงซึ่งก็คือหกระบำที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเอง และเมื่อสำเร็จการเรียนรู้ระบำต่างๆ เหล่านี้แล้วจึงเข้ารับราชการบรรจุเป็นขุนนางได้ ทักษะด้านการรำนี้ ถูกใช้สอนในเรื่องของความพร้อมเพรียงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และช่วยปรับท่าทางการเดินเหินให้สง่าผึ่งผาย รวมถึงเรียนรู้เกี่ยวกับขนบธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับงานสักการะต่างๆ แน่นอนว่าสุภาพบุรุษต้องเรียนรู้การเล่นดนตรี เพียงแต่มันได้ถูกระบุเป็นหกทักษะของสุภาพบุรุษเท่านั้นเอง สัปดาห์หน้ามาคุยกันต่อค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://app.xinhuanet.com/news/article.html?articleId=1e283da99d5077df8508b27c88bfaeae https://chinakongzi.org/zt/2021jikong/yange/202109/t20210922_521023.htm https://guoxue.ifeng.com/c/7qhsbaO24FU Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/六艺/238715 https://m.jiemian.com/article/1154435.html https://m.thepaper.cn/newsDetail_forward_20109083 https://h.bkzx.cn/knowledge/1733 #กำเนิดเทพเจ้า #เฟิงเสิน #ทักษะสุภาพบุรุษจีน #ศิลปะสุภาพบุรุษจีน #คำสอนขงจื๊อ #จวินจื่อลิ่วอี้ #สาระจีน
    0 Comments 0 Shares 61 Views 0 Reviews
  • 04-10-67/01 : หมี CNN / บอกแล้วน่ะ! ใครช่วยอียิว? กูถือเป็นศัตรู! เป้าหมายอิหร่านคือล่อเหี้ยมะกัน? ใครบอกล่ะว่า กูจะยืนรอให้มรึงล่อเป้า มรึงต่างหากที่เป็นเป้าล่อให้กู ดีออก? อีกุ๊กกู ถอยไป อย่าเสือก? อิหร่านไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมแล้ว เลบานอนคึกจัดลวกเพ่เปิดก่อน น้องตามใส่ยับทันที ไม่มีอะไรมันส์เท่านี้อีกแล้ว "เทศกาลย่างเหี้ยตัวเป็นๆ" เพราะอียิวสับสน ห่วงการตอบโต้จากเฮซบอเลาะห์มากจนเกินไป อิหร่านสบช่อง ปล่อยชุดแรกล่อเหยื่อ ขีปนาวุธเก่าเพื่อดึงระบบป้องกันภัยชุดแรกของยิวทำงาน ขีปนาวุธลูกละล้านเหรียญ แลกกับขีปนาวุธเก่าราคา 10000 เหรียญ แม่งโคตรคุ้มฉิบหาย เมื่อยิงสกัดออกไปแล้ว เกิดชุดใหม่เข้ามาทันควัน แบบไฮเปอร์โซนิค 8 มัค จะเหลือเหรอ? ไอรอนโดมยังไบ้แดร๊ก มรึงมาเป็นชุด 2..3..4 ติดกันต่อเนื่อง ระบบอียิวรวนทันที ไม่รู้จะดักจับทิศทางไหนก่อน เพราะมันล็อคได้แค่ทีละเป้า ไม่ใช่ของรัสเซียน่ะ จับเป้าพร้อมกัน 10 เป้าหมายได้ มันคนละชั้น ไอ้น้อง! F-35 พังไป 15 ลำ คาคลังแสงสรรพวุธ ปิดข่าวให้ตาย ก็ไม่รอด! นี่แหละ ที่เค้าต้องการล่อมรึงก่อน ปิดแสนยานุภาพทางอากาศ อียิวก็แค่หมาหัวเน่าตัวนึง! ฮามาสยิ่งคึกจัด ลอบโจมตีไส้ในเวสต์แบงค์ต่อ หลังระเบิดลงปุ๊บ ก็ดาหน้าเก็บกวาดทันที กราดยิงในเทลอาวีฟก็ใช่ ระเบิดท่าเรือไฮฟาก็ใช่ โจมตีพร้อมกันทั้งทางอากาศ และทางราบ อียิวถึงอึ้งแดร๊ก เพราะกำลังพลไม่พอ? อีเหี้ยมะกัน ไอ้ขี้ข้าใจหมา ขี้ขลาดตาขาว มรึงหายหัวไปไหน ไหนล่ะ เรือบรรทุกเครื่องบินมรึง? ไหนเรือรบที่บอกจะส่งมา กูรอเป็นเดือนแล้วน่ะ? ขืนมาดิ อีเยเมนมันจ้องล่ออยู่นายจ๋า นู๋ไม่มีทางเลือก หันไปทางไหน เห็นแต่ "ความตาย" ทางการฑูต อิหร่านได้ปิดบัญชีเจรจาไปเรียบร้อยแล้ว นัยยะคือ "ฆ่าอย่างเดียว" พูดให้เปลืองน้ำลายทำไม? ฆ่ายิวคือจบ โลกสันติสุขทันที เรื่องง่ายๆ ที่ควายไม่รู้?

    Iran to respond strongly to any party acting in support of Israel: FM รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านระบุว่า อิหร่านจะตอบโต้ประเทศใดก็ตามที่สนับสนุนอิสราเอล

    ------------------------------------------------------------------------—
    RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านระบุว่า อิหร่านจะตอบโต้ประเทศใดก็ตามที่สนับสนุนอิสราเอล

    รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน อับบาส อารักชีระบุว่า อิหร่านจะตอบโต้ประเทศใดก็ตามที่สนับสนุนอิสราเอลหลังการแก้แค้นของอิหร่าน

    เขาแสดงความยินดีต่อการกระทำที่กล้าหาญของกองกำลังติดอาวุธและการตอบโต้ที่เหมาะสมต่อความโหดร้ายของอิสราเอลซึ่งอธิบายการปฏิบัติการว่าเป็นการป้องกันตนเอง

    เขาระบุว่า ภาพวิดีโอทำให้เห็นว่าอิหร่านบรรลุจุดประสงค์ในการปฏิบัติการซึ่งโจมตีฐานทัพทหาร

    เขากล่าวว่า เขาเจรจาเรื่องดังกล่าวกับรัฐมนตรีต่างประเทศและอิหร่านส่งข้อความให้สถานทูตสวิสเซอร์แลนด์ หลังการโจมตีที่เตือนว่า ชาวอเมริกันไม่ควรเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

    เมื่ออังคารที่ผ่านมา อิหร่านเริ่มปฏิบัติการ “True Promise II” เพื่อแก้แค้นการลอบสังหาร อิสมาอิล ฮานิเยห์ผู้นำฮามาส และเซย์เยด ฮัสซาน นัสรัลเลาะห์ผู้บัญชาการของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์

    อิหร่านระบุว่า 90% ของขีปนาวุธโจมตีเป้าหมายในดินแดนที่อิสราเอลยึดครองรวมถึงฐานทัพทหารและฐานทัพที่มั่นที่ปลอดภัย

    https://www.presstv.ir/Detail/2024/10/02/734432/Iran-to-respond-strongly-to-any-party-acting-in-support-of-Israel-FM

    https://linevoom.line.me/post/1172801482219185783
    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ :
    https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    04-10-67/01 : หมี CNN / บอกแล้วน่ะ! ใครช่วยอียิว? กูถือเป็นศัตรู! เป้าหมายอิหร่านคือล่อเหี้ยมะกัน? ใครบอกล่ะว่า กูจะยืนรอให้มรึงล่อเป้า มรึงต่างหากที่เป็นเป้าล่อให้กู ดีออก? อีกุ๊กกู ถอยไป อย่าเสือก? อิหร่านไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมแล้ว เลบานอนคึกจัดลวกเพ่เปิดก่อน น้องตามใส่ยับทันที ไม่มีอะไรมันส์เท่านี้อีกแล้ว "เทศกาลย่างเหี้ยตัวเป็นๆ" เพราะอียิวสับสน ห่วงการตอบโต้จากเฮซบอเลาะห์มากจนเกินไป อิหร่านสบช่อง ปล่อยชุดแรกล่อเหยื่อ ขีปนาวุธเก่าเพื่อดึงระบบป้องกันภัยชุดแรกของยิวทำงาน ขีปนาวุธลูกละล้านเหรียญ แลกกับขีปนาวุธเก่าราคา 10000 เหรียญ แม่งโคตรคุ้มฉิบหาย เมื่อยิงสกัดออกไปแล้ว เกิดชุดใหม่เข้ามาทันควัน แบบไฮเปอร์โซนิค 8 มัค จะเหลือเหรอ? ไอรอนโดมยังไบ้แดร๊ก มรึงมาเป็นชุด 2..3..4 ติดกันต่อเนื่อง ระบบอียิวรวนทันที ไม่รู้จะดักจับทิศทางไหนก่อน เพราะมันล็อคได้แค่ทีละเป้า ไม่ใช่ของรัสเซียน่ะ จับเป้าพร้อมกัน 10 เป้าหมายได้ มันคนละชั้น ไอ้น้อง! F-35 พังไป 15 ลำ คาคลังแสงสรรพวุธ ปิดข่าวให้ตาย ก็ไม่รอด! นี่แหละ ที่เค้าต้องการล่อมรึงก่อน ปิดแสนยานุภาพทางอากาศ อียิวก็แค่หมาหัวเน่าตัวนึง! ฮามาสยิ่งคึกจัด ลอบโจมตีไส้ในเวสต์แบงค์ต่อ หลังระเบิดลงปุ๊บ ก็ดาหน้าเก็บกวาดทันที กราดยิงในเทลอาวีฟก็ใช่ ระเบิดท่าเรือไฮฟาก็ใช่ โจมตีพร้อมกันทั้งทางอากาศ และทางราบ อียิวถึงอึ้งแดร๊ก เพราะกำลังพลไม่พอ? อีเหี้ยมะกัน ไอ้ขี้ข้าใจหมา ขี้ขลาดตาขาว มรึงหายหัวไปไหน ไหนล่ะ เรือบรรทุกเครื่องบินมรึง? ไหนเรือรบที่บอกจะส่งมา กูรอเป็นเดือนแล้วน่ะ? ขืนมาดิ อีเยเมนมันจ้องล่ออยู่นายจ๋า นู๋ไม่มีทางเลือก หันไปทางไหน เห็นแต่ "ความตาย" ทางการฑูต อิหร่านได้ปิดบัญชีเจรจาไปเรียบร้อยแล้ว นัยยะคือ "ฆ่าอย่างเดียว" พูดให้เปลืองน้ำลายทำไม? ฆ่ายิวคือจบ โลกสันติสุขทันที เรื่องง่ายๆ ที่ควายไม่รู้? Iran to respond strongly to any party acting in support of Israel: FM รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านระบุว่า อิหร่านจะตอบโต้ประเทศใดก็ตามที่สนับสนุนอิสราเอล ------------------------------------------------------------------------— RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านระบุว่า อิหร่านจะตอบโต้ประเทศใดก็ตามที่สนับสนุนอิสราเอล รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน อับบาส อารักชีระบุว่า อิหร่านจะตอบโต้ประเทศใดก็ตามที่สนับสนุนอิสราเอลหลังการแก้แค้นของอิหร่าน เขาแสดงความยินดีต่อการกระทำที่กล้าหาญของกองกำลังติดอาวุธและการตอบโต้ที่เหมาะสมต่อความโหดร้ายของอิสราเอลซึ่งอธิบายการปฏิบัติการว่าเป็นการป้องกันตนเอง เขาระบุว่า ภาพวิดีโอทำให้เห็นว่าอิหร่านบรรลุจุดประสงค์ในการปฏิบัติการซึ่งโจมตีฐานทัพทหาร เขากล่าวว่า เขาเจรจาเรื่องดังกล่าวกับรัฐมนตรีต่างประเทศและอิหร่านส่งข้อความให้สถานทูตสวิสเซอร์แลนด์ หลังการโจมตีที่เตือนว่า ชาวอเมริกันไม่ควรเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เมื่ออังคารที่ผ่านมา อิหร่านเริ่มปฏิบัติการ “True Promise II” เพื่อแก้แค้นการลอบสังหาร อิสมาอิล ฮานิเยห์ผู้นำฮามาส และเซย์เยด ฮัสซาน นัสรัลเลาะห์ผู้บัญชาการของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ อิหร่านระบุว่า 90% ของขีปนาวุธโจมตีเป้าหมายในดินแดนที่อิสราเอลยึดครองรวมถึงฐานทัพทหารและฐานทัพที่มั่นที่ปลอดภัย https://www.presstv.ir/Detail/2024/10/02/734432/Iran-to-respond-strongly-to-any-party-acting-in-support-of-Israel-FM https://linevoom.line.me/post/1172801482219185783 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 66 Views 0 Reviews

  • “ไฟนรก”

    สาหัสโศกทัศนศึกษา
    สูญค่าของสิ่งไม่ควรสูญ
    ด่วนดับทับทวีตรีคูณ
    อาดูรแผ่นดินถิ่นไทย

    ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ซ้ำรอย
    บาปเคราะห์ทยอยเข้าใส่
    โทษเวรโทษกรรมกันไป
    ตามวิสัย ทันสมัย ไม่พัฒนา

    ประมาทขาดสติ ทุกบริบท
    รับผิดชอบทั้งหมดถ้วนหน้า
    โยนกันนั่นนี่ตีตรา
    ชีวิต ชีวา ค่าน้อย

    ไปเถิดไปเกิดบนสวรรค์
    โลกคือโลกันต์พล่านพล่อย
    ไฟนรกลุกโหมโถมทยอย
    คอยแต่ น้ำตา...มาดับไฟ!

    เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
    พฤหัสบดี ๓ ตุลาคม ๒๕๖๗

    #Thaitimes
    “ไฟนรก” สาหัสโศกทัศนศึกษา สูญค่าของสิ่งไม่ควรสูญ ด่วนดับทับทวีตรีคูณ อาดูรแผ่นดินถิ่นไทย ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ซ้ำรอย บาปเคราะห์ทยอยเข้าใส่ โทษเวรโทษกรรมกันไป ตามวิสัย ทันสมัย ไม่พัฒนา ประมาทขาดสติ ทุกบริบท รับผิดชอบทั้งหมดถ้วนหน้า โยนกันนั่นนี่ตีตรา ชีวิต ชีวา ค่าน้อย ไปเถิดไปเกิดบนสวรรค์ โลกคือโลกันต์พล่านพล่อย ไฟนรกลุกโหมโถมทยอย คอยแต่ น้ำตา...มาดับไฟ! เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ พฤหัสบดี ๓ ตุลาคม ๒๕๖๗ #Thaitimes
    Like
    Sad
    6
    0 Comments 0 Shares 644 Views 0 Reviews
  • รายงานจากเพจLiving Pop เกี่ยวกับผลกระทบผู้ใช้เส้นทางสัญจรในโซนเกาะรัตนโกสินทร์หรือเขตเมืองเก่า พื้นที่ประวัติศาสตร์ในเขตพระนครต้องรู้ถึงอนาคตถนนสายหลักของย่านเมืองเก่าจะถูกปิดเบี่ยงการจราจรเพื่อก่อสร้างสถานี interchange ใหญ่ เนื้อหาระบุว่า

    “ 🧡 สายสีม่วงก็ยังมี สายสีส้มก็กำลังมา ใครใช้ถนนในเขตเมืองเก่าเดินทางทุกวันต้องปรับตัวรับการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายใหม่ เพราะทางเลือกน้อยลงกว่าเดิมอีกครับ

    ทุกวันนี้ใครที่เดินทางผ่านตัวเมืองเก่าคงเห็นสภาพการปิดถนนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ไล่มาตามถนนพระสุเมรุตั้งแต่วัดบวรนิเวศ แยกผ่านฟ้า ลงมาจนถึงสวนรมณีนาถ แยกสามยอด ไปสุดที่เชิงสะพานพระปกเกล้า

    แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ ถนนสายหลักของย่านเมืองเก่าจะถูกปิดเบี่ยงการจราจรเพื่อก่อสร้างสถานี interchange ใหญ่ นั่นก็คือ...

    "ถนนราชดำเนินกลาง"

    โดยแนว "🧡 สถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย" จะอยู่ใต้ถนนราชดำเนินกลาง ค่อนไปทางฝั่งทิศเหนือ (ขาออก) โดยตัวสถานีจะทอดยาวตั้งแต่นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ไปจนถึงวงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเลยครับ

    สถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จะเป็นสถานีที่เชื่อมต่อกันกับสถานีชื่อเดียวกันของสายสีม่วง ที่กำลังก่อสร้างอยู่ใต้ถนนพระสุเมรุ โดยมีทางเดินเชื่อมถึงกันทั้งแบบสาธารณะ (unpaid area) และพื้นที่ผู้โดยสาร (paid area) แยกกันคนละชั้นเลย โดยทางเชื่อมจะอ้อมไปด้านหลังตึกเทเวศประกันภัย ที่อยู่ตรงหัวมุมแยกป้อมมหากาฬ

    ---------------

    นอกจากสถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ใกล้เคียงกันยังมีอีกสถานีนึงครับ นั่นก็คือ "🧡 สถานีสนามหลวง" ซึ่งจะตั้งอยู่เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า บนถนนราชินี ด้านหน้าโรงละครแห่งชาติและวัดบวรสถานสุทธาวาส

    โดยจะมีอุโมงค์ทางเข้าออกลอดใต้เชิงทางขึ้นสะพานปิ่นเกล้า ไปโผล่ฝั่งหอศิลป์และพิพิธภัณฑ์เหรียญด้วย รวมถึงมีทางเข้าออกที่ริมขอบสนามหลวงด้วยอีก ซึ่งการขุดทางเชื่อมทางเข้าออกก็อาจจะต้องมีการเปิดหน้าดินบ้างนิดหน่อย

    ---------------

    อย่างไรก็ตาม ตามข้อมูลในเอกสาร EIA ระบุเอาไว้ว่าทั้ง 2 สถานีนี้จะใช้เทคนิคการก่อสร้างแบบพิเศษที่เรียกว่า Pipe Roof คือการหล่อผนังด้านข้างสถานีลงไปก่อน แล้วดันท่อขนาดใหญ่จากด้านข้าง เสียบเข้าไปเชื่อมผนังสถานีทั้งสองฝั่ง โดยจะดันท่อแบบนี้เรียงติดกันเป็นพืดๆ ให้ทำหน้าที่เหมือนเป็นหลังคาสถานีชั่วคราว จากนั้นจะขุดลงไปเพื่อก่อสร้างสถานี "โดยไม่เปิดหน้าดินบนถนน" เทคนิคนี้ถูกใช้ครั้งแรกที่สถานีสนามไชย ซึ่งก็ต้องดูกันต่อไปครับ แต่ผมว่าสุดท้ายก็ต้องมีปิดมีเบี่ยงเลนอยู่ดี

    ---------------

    ภาพแผนผังทางเข้าออกสถานีทั้ง 2 สถานี ผมใส่ไว้ให้ใน comment เหมือนเดิมนะครับ แล้วพรุ่งนี้มาดูกันต่อในตอนสุดท้าย กับโซนฝั่งธน ช่วงศิริราช-บางขุนนนท์ครับ ☺️”

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/kfP8GVeDZx3ftnLy/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    รายงานจากเพจLiving Pop เกี่ยวกับผลกระทบผู้ใช้เส้นทางสัญจรในโซนเกาะรัตนโกสินทร์หรือเขตเมืองเก่า พื้นที่ประวัติศาสตร์ในเขตพระนครต้องรู้ถึงอนาคตถนนสายหลักของย่านเมืองเก่าจะถูกปิดเบี่ยงการจราจรเพื่อก่อสร้างสถานี interchange ใหญ่ เนื้อหาระบุว่า “ 🧡 สายสีม่วงก็ยังมี สายสีส้มก็กำลังมา ใครใช้ถนนในเขตเมืองเก่าเดินทางทุกวันต้องปรับตัวรับการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายใหม่ เพราะทางเลือกน้อยลงกว่าเดิมอีกครับ ทุกวันนี้ใครที่เดินทางผ่านตัวเมืองเก่าคงเห็นสภาพการปิดถนนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ไล่มาตามถนนพระสุเมรุตั้งแต่วัดบวรนิเวศ แยกผ่านฟ้า ลงมาจนถึงสวนรมณีนาถ แยกสามยอด ไปสุดที่เชิงสะพานพระปกเกล้า แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ ถนนสายหลักของย่านเมืองเก่าจะถูกปิดเบี่ยงการจราจรเพื่อก่อสร้างสถานี interchange ใหญ่ นั่นก็คือ... "ถนนราชดำเนินกลาง" โดยแนว "🧡 สถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย" จะอยู่ใต้ถนนราชดำเนินกลาง ค่อนไปทางฝั่งทิศเหนือ (ขาออก) โดยตัวสถานีจะทอดยาวตั้งแต่นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ไปจนถึงวงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเลยครับ สถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จะเป็นสถานีที่เชื่อมต่อกันกับสถานีชื่อเดียวกันของสายสีม่วง ที่กำลังก่อสร้างอยู่ใต้ถนนพระสุเมรุ โดยมีทางเดินเชื่อมถึงกันทั้งแบบสาธารณะ (unpaid area) และพื้นที่ผู้โดยสาร (paid area) แยกกันคนละชั้นเลย โดยทางเชื่อมจะอ้อมไปด้านหลังตึกเทเวศประกันภัย ที่อยู่ตรงหัวมุมแยกป้อมมหากาฬ --------------- นอกจากสถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ใกล้เคียงกันยังมีอีกสถานีนึงครับ นั่นก็คือ "🧡 สถานีสนามหลวง" ซึ่งจะตั้งอยู่เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า บนถนนราชินี ด้านหน้าโรงละครแห่งชาติและวัดบวรสถานสุทธาวาส โดยจะมีอุโมงค์ทางเข้าออกลอดใต้เชิงทางขึ้นสะพานปิ่นเกล้า ไปโผล่ฝั่งหอศิลป์และพิพิธภัณฑ์เหรียญด้วย รวมถึงมีทางเข้าออกที่ริมขอบสนามหลวงด้วยอีก ซึ่งการขุดทางเชื่อมทางเข้าออกก็อาจจะต้องมีการเปิดหน้าดินบ้างนิดหน่อย --------------- อย่างไรก็ตาม ตามข้อมูลในเอกสาร EIA ระบุเอาไว้ว่าทั้ง 2 สถานีนี้จะใช้เทคนิคการก่อสร้างแบบพิเศษที่เรียกว่า Pipe Roof คือการหล่อผนังด้านข้างสถานีลงไปก่อน แล้วดันท่อขนาดใหญ่จากด้านข้าง เสียบเข้าไปเชื่อมผนังสถานีทั้งสองฝั่ง โดยจะดันท่อแบบนี้เรียงติดกันเป็นพืดๆ ให้ทำหน้าที่เหมือนเป็นหลังคาสถานีชั่วคราว จากนั้นจะขุดลงไปเพื่อก่อสร้างสถานี "โดยไม่เปิดหน้าดินบนถนน" เทคนิคนี้ถูกใช้ครั้งแรกที่สถานีสนามไชย ซึ่งก็ต้องดูกันต่อไปครับ แต่ผมว่าสุดท้ายก็ต้องมีปิดมีเบี่ยงเลนอยู่ดี --------------- ภาพแผนผังทางเข้าออกสถานีทั้ง 2 สถานี ผมใส่ไว้ให้ใน comment เหมือนเดิมนะครับ แล้วพรุ่งนี้มาดูกันต่อในตอนสุดท้าย กับโซนฝั่งธน ช่วงศิริราช-บางขุนนนท์ครับ ☺️” ที่มา : https://www.facebook.com/share/kfP8GVeDZx3ftnLy/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    Love
    4
    0 Comments 0 Shares 525 Views 0 Reviews
  • 1 ตุลาคม 2567-รายงานจากเพจเฟซบุ๊ก สายัณห์ รุจิรโมรา ชี้ประเด็น การ audit การถือครองและการตรวจคุณภาพ (assay)ของจำนวนทองคำในคลังของรัฐบาลสหรัฐที่Fort Knox ตลอดถึงธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับทองคำสำรองทั้งหมดนี้

    “ moneymetals
    50-Year Anniversary of the Notorious “Show Audit” of Fort Knox Gold
    การตรวจสอบปริมาณทองคำสำรองสหรัฐที่ Fort Knox เมื่อ 50 ปีก่อน เป็นเพียงทีวีโชว์ ..."show audit"

    Matthew Cortez. Sept 23, 2024

    เงินเฟ้อเป็นเรื่องคอขาดบาดตายที่ตอนนี้กำลังกระจายไปทั่ว มันสูบความมั่งคั่งของผู้ออมเงินผ่านอำนาจซื้อของ "เงิน" ปีแล้วปีเล่า

    ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางทั่วโลก -ตั้งแต่ซาอุดิอราเบีย ยันถึงจีน และทั้งโลก- ต่างก็แข่งกันซื้อทองคำอย่างเร่งด่วน หลายประเทศเช่นพวกกลุ่ม BRICS ถึงขนาดคิดที่จะเลิกใช้ดอลลาร์ในการค้ากันแล้ว

    และเมื่อสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์เกิดความไม่แน่นอน ทั้งนักลงทุน ธุรกิจเอกชน และหน่วยงานของรัฐบาลต่างก็ถือทองคำเพื่อเป็นการปกป้องตนเองให้พ้นจากอิทธิพลจากเงินเฟ้อ

    จากรายงานที่เรารับรู้มาตลอด ทองคำรีเสิร์ฟของสหรัฐมีอยู่ 8,133 ตัน เกือบทั้งหมดนั้นเก็บรักษาที่คลังของรัฐบาลสหรัฐ (Bullion Depository) ที่ Fort Knox, Kentucky ...คลังนี้ถือเป็นสัญญลักษณ์ของสถานะอำนาจทางการเงินที่แข็งแกร่งของอเมริกาที่มีต่อทั้งโลก

    ทุนสำรองทองคำของสหรัฐนี้ไม่มีการตรวจสอบที่เชื่อถือได้มาตั้งแต่ปี 1974 ...ไม่นานหลังจากที่อเมริกาฉีกสัญญา Bretton Woods ที่ทำให้สถานะการถือครองทองคำของอเมริกาเป็นที่น่าเคลิอบแคลงสงสัย ที่จริงแล้ว การ audit ครั้งที่เกิดก่อนหน้าปี 1974 ก็ไม่น่าเชื่อถือเหมือนกัน

    นี่ก็ครบรอบ 50 ปีแล้วที่ประชาชนยังคงอยู่กับความน่าสงสัย คำถามก็ยังคงอยู่...ทองคำทั้งหมดของอเมริกา ยังอยู่มั้ย?

    ประวัติศาสตร์ของคลัง Bullion Depository ของสหรัฐที่ Kentucky

    ก่อสร้างปี 1936 เพื่อสนับสนุนคำสั่ง ปธน. ที่ 6102 (Executive Order 6102) ของปธน. รูสเวลท์ที่บังคับให้ประชาขนแลกทองคำของตนเป็นเงินกระดาษ ...คลังนี้ถูกเรียกตามสถานที่ตั้งว่า Fort Knox

    U.S. Bullion Depository แห่งนี้อยู่ใจกลางประเทศที่ห่างไกลจากชายฝั่งประเทศ เพื่อความปลอดภัยกรณีที่ถูกรุกราน

    ประตูของคลังแห่งนี้หนาถึง 21 นิ้ว ก่อสร้างด้วยเหล็กกล้าถึง 1,420 ตัน มันถูกออกแบบเป็นการเฉพาะเพื่อเก็บรักษาทองคำนับล้านๆ ออนซ์ (เป็นทองคำแท่งที่หลอมมาจากเหรียญ) ทีได้รับมาจากประชาชนสหรัฐ ตามคำสั่ง 6102 กับทองที่ยึดเข้ามาดื้อ ๆ จากประเทศในยุโรป ที่ถูกทำลายจากสงคราม

    ตั้งแต่เมื่อ 50 ปีมาแล้ว ที่ประชาชนอเมริกันก็แคลงใจว่าในคลังยังมีทองคำอยู่จริงหรือ?

    ตอนนั้นมีหลายทฤษฎีที่เกี่ยวกับทองคำเหล่านี้แพร่กระจายไปทั่ว ...ทฤษฎีหนึ่งที่นักฏหมายคนหนึ่งในวอชิงตันให้สัมภาษณ์สื่อ The National Tattler ว่า ทองคำมูลค่า $20,000 ล้านอันตรธานไปจากคลังของรัฐบาลแห่งนี้ ข่าวนี้แพร่ไปทั่วคองเกรสอย่างรวดเร็ว

    คนอเมริกันจำนวนมากข้องใจกับคลังแห่งนี้ คิดว่าทองคำน่าจะหมดไปแล้ว จากการถูกต่างประเทศแลกคืนตลอดหลายปีก่อนหน้านั้น

    The “Show Audit” of Fort Knox Gold in 1974 Created More Questions

    รัฐบาลแก้เกม โดยจัดให้มีการ "Show Audit" ของ Fort Knox Gold เมื่อวันที่ 23 กันยายน 1974 กระทรวงคลังเปิดห้องเก็บทองคำโชว์ แต่เปิดแค่ 1 ห้องจากทั้งหมด 15 ห้อง ให้นักการเมืองและนักข่าวเข้าชมทองคำอย่างใกล้ชิด เพื่อยืนยันว่ามันยังอยู่ ....ดูยังไง ๆ มันก็เป็นรายการทีวีโชว์ ไม่ใช่ audit ...(ผมจะแชร์ลิ้งค์ คลิปส่วนหนึ่งในคอมเมนท์ครับ)

    รายการโชว์ที่มีคลิปรวมกันประมาณสองชั่วโมง เต็มไปด้วยรอยยิ้มของนักการเมืองและนักข่าว ที่มองดูทองคำแท่งที่กองเต็มรวม..สูงถึงเพดานในห้องเก็บนั้น

    ตลอดช่วงของการเข้าชม กลับไม่มีการตรวจสอบความถูกต้องของ serial# ของทองคำแต่ละแท่ง หรือผลการตรวจสอบความบริสุทธิ์ (assay) หรือแม้แต่หลักฐานความเป็นเจ้าของของรัฐบาลสหรัฐ ....(ตอนนั้นยังมีการรับฝากจากรัฐบาลต่างประเทศอยู่มาก)

    นี่เป็นรายการทีวีที่ออกอากาศปี 1974 มากกว่าจะเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือ..แสดงจำนวนทองคำของสหรัฐในคลัง

    หลายสิบปีหลังจากนั้น มันก็ยังคงอึมครึมอยู่อย่างนั้น Fed ก็ยังพิมพ์เงินต่อไป ...ธนาคารกลางทั่วโลกก็เก็บสะสมทองคำกันต่อไป ....คนอเมริกันก็ยังเซ่อ..ไม่รู้อะไรเหมือนเดิมอยู่ต่อไป

    เมื่อปี 2021 สมาชิกสภา Alex Mooney (WV - R) เสนอออกกฎหมายให้มีการ audit การถือครอง ..การตรวจคุณภาพ (assay) และจำนวนทองคำของรัฐบาลสหรัฐ ตลอดถึงธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับทองคำสำรองทั้งหมดนี้ ...แต่เรื่องก็เงียบไป น่าจะต้องมีการเสนออีกในปีต่อ ๆ ไป

    คลิป "show audit" ผมแปะไว้ที่คอมเมนท์ครับ

    https://www.moneymetals.com/news/2024/09/23/50-year-anniversary-of-the-notorious-show-audit-of-fort-knox-gold-003484

    #Thaitimes
    1 ตุลาคม 2567-รายงานจากเพจเฟซบุ๊ก สายัณห์ รุจิรโมรา ชี้ประเด็น การ audit การถือครองและการตรวจคุณภาพ (assay)ของจำนวนทองคำในคลังของรัฐบาลสหรัฐที่Fort Knox ตลอดถึงธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับทองคำสำรองทั้งหมดนี้ “ moneymetals 50-Year Anniversary of the Notorious “Show Audit” of Fort Knox Gold การตรวจสอบปริมาณทองคำสำรองสหรัฐที่ Fort Knox เมื่อ 50 ปีก่อน เป็นเพียงทีวีโชว์ ..."show audit" Matthew Cortez. Sept 23, 2024 เงินเฟ้อเป็นเรื่องคอขาดบาดตายที่ตอนนี้กำลังกระจายไปทั่ว มันสูบความมั่งคั่งของผู้ออมเงินผ่านอำนาจซื้อของ "เงิน" ปีแล้วปีเล่า ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางทั่วโลก -ตั้งแต่ซาอุดิอราเบีย ยันถึงจีน และทั้งโลก- ต่างก็แข่งกันซื้อทองคำอย่างเร่งด่วน หลายประเทศเช่นพวกกลุ่ม BRICS ถึงขนาดคิดที่จะเลิกใช้ดอลลาร์ในการค้ากันแล้ว และเมื่อสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์เกิดความไม่แน่นอน ทั้งนักลงทุน ธุรกิจเอกชน และหน่วยงานของรัฐบาลต่างก็ถือทองคำเพื่อเป็นการปกป้องตนเองให้พ้นจากอิทธิพลจากเงินเฟ้อ จากรายงานที่เรารับรู้มาตลอด ทองคำรีเสิร์ฟของสหรัฐมีอยู่ 8,133 ตัน เกือบทั้งหมดนั้นเก็บรักษาที่คลังของรัฐบาลสหรัฐ (Bullion Depository) ที่ Fort Knox, Kentucky ...คลังนี้ถือเป็นสัญญลักษณ์ของสถานะอำนาจทางการเงินที่แข็งแกร่งของอเมริกาที่มีต่อทั้งโลก ทุนสำรองทองคำของสหรัฐนี้ไม่มีการตรวจสอบที่เชื่อถือได้มาตั้งแต่ปี 1974 ...ไม่นานหลังจากที่อเมริกาฉีกสัญญา Bretton Woods ที่ทำให้สถานะการถือครองทองคำของอเมริกาเป็นที่น่าเคลิอบแคลงสงสัย ที่จริงแล้ว การ audit ครั้งที่เกิดก่อนหน้าปี 1974 ก็ไม่น่าเชื่อถือเหมือนกัน นี่ก็ครบรอบ 50 ปีแล้วที่ประชาชนยังคงอยู่กับความน่าสงสัย คำถามก็ยังคงอยู่...ทองคำทั้งหมดของอเมริกา ยังอยู่มั้ย? ประวัติศาสตร์ของคลัง Bullion Depository ของสหรัฐที่ Kentucky ก่อสร้างปี 1936 เพื่อสนับสนุนคำสั่ง ปธน. ที่ 6102 (Executive Order 6102) ของปธน. รูสเวลท์ที่บังคับให้ประชาขนแลกทองคำของตนเป็นเงินกระดาษ ...คลังนี้ถูกเรียกตามสถานที่ตั้งว่า Fort Knox U.S. Bullion Depository แห่งนี้อยู่ใจกลางประเทศที่ห่างไกลจากชายฝั่งประเทศ เพื่อความปลอดภัยกรณีที่ถูกรุกราน ประตูของคลังแห่งนี้หนาถึง 21 นิ้ว ก่อสร้างด้วยเหล็กกล้าถึง 1,420 ตัน มันถูกออกแบบเป็นการเฉพาะเพื่อเก็บรักษาทองคำนับล้านๆ ออนซ์ (เป็นทองคำแท่งที่หลอมมาจากเหรียญ) ทีได้รับมาจากประชาชนสหรัฐ ตามคำสั่ง 6102 กับทองที่ยึดเข้ามาดื้อ ๆ จากประเทศในยุโรป ที่ถูกทำลายจากสงคราม ตั้งแต่เมื่อ 50 ปีมาแล้ว ที่ประชาชนอเมริกันก็แคลงใจว่าในคลังยังมีทองคำอยู่จริงหรือ? ตอนนั้นมีหลายทฤษฎีที่เกี่ยวกับทองคำเหล่านี้แพร่กระจายไปทั่ว ...ทฤษฎีหนึ่งที่นักฏหมายคนหนึ่งในวอชิงตันให้สัมภาษณ์สื่อ The National Tattler ว่า ทองคำมูลค่า $20,000 ล้านอันตรธานไปจากคลังของรัฐบาลแห่งนี้ ข่าวนี้แพร่ไปทั่วคองเกรสอย่างรวดเร็ว คนอเมริกันจำนวนมากข้องใจกับคลังแห่งนี้ คิดว่าทองคำน่าจะหมดไปแล้ว จากการถูกต่างประเทศแลกคืนตลอดหลายปีก่อนหน้านั้น The “Show Audit” of Fort Knox Gold in 1974 Created More Questions รัฐบาลแก้เกม โดยจัดให้มีการ "Show Audit" ของ Fort Knox Gold เมื่อวันที่ 23 กันยายน 1974 กระทรวงคลังเปิดห้องเก็บทองคำโชว์ แต่เปิดแค่ 1 ห้องจากทั้งหมด 15 ห้อง ให้นักการเมืองและนักข่าวเข้าชมทองคำอย่างใกล้ชิด เพื่อยืนยันว่ามันยังอยู่ ....ดูยังไง ๆ มันก็เป็นรายการทีวีโชว์ ไม่ใช่ audit ...(ผมจะแชร์ลิ้งค์ คลิปส่วนหนึ่งในคอมเมนท์ครับ) รายการโชว์ที่มีคลิปรวมกันประมาณสองชั่วโมง เต็มไปด้วยรอยยิ้มของนักการเมืองและนักข่าว ที่มองดูทองคำแท่งที่กองเต็มรวม..สูงถึงเพดานในห้องเก็บนั้น ตลอดช่วงของการเข้าชม กลับไม่มีการตรวจสอบความถูกต้องของ serial# ของทองคำแต่ละแท่ง หรือผลการตรวจสอบความบริสุทธิ์ (assay) หรือแม้แต่หลักฐานความเป็นเจ้าของของรัฐบาลสหรัฐ ....(ตอนนั้นยังมีการรับฝากจากรัฐบาลต่างประเทศอยู่มาก) นี่เป็นรายการทีวีที่ออกอากาศปี 1974 มากกว่าจะเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือ..แสดงจำนวนทองคำของสหรัฐในคลัง หลายสิบปีหลังจากนั้น มันก็ยังคงอึมครึมอยู่อย่างนั้น Fed ก็ยังพิมพ์เงินต่อไป ...ธนาคารกลางทั่วโลกก็เก็บสะสมทองคำกันต่อไป ....คนอเมริกันก็ยังเซ่อ..ไม่รู้อะไรเหมือนเดิมอยู่ต่อไป เมื่อปี 2021 สมาชิกสภา Alex Mooney (WV - R) เสนอออกกฎหมายให้มีการ audit การถือครอง ..การตรวจคุณภาพ (assay) และจำนวนทองคำของรัฐบาลสหรัฐ ตลอดถึงธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับทองคำสำรองทั้งหมดนี้ ...แต่เรื่องก็เงียบไป น่าจะต้องมีการเสนออีกในปีต่อ ๆ ไป คลิป "show audit" ผมแปะไว้ที่คอมเมนท์ครับ https://www.moneymetals.com/news/2024/09/23/50-year-anniversary-of-the-notorious-show-audit-of-fort-knox-gold-003484 #Thaitimes
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 539 Views 1 Reviews
  • #นาซิซิสนี่คือซีสที่ปากอิโจหรือเปล่า
    #อย่าถามว่าจะหยุดขุดตอนไหน
    ในเมื่อเครือข่ายพวกมันยังไม่หยุด
    กะอิแค่ผญตัวเหม็นคนนึง ที่เพิ่งรู้จักมา 7 - 8 เดือน
    ไม่เคยสร้างบุญคุณห่านอะไรให้คนไทยและประเทศชาติ
    กับชาลีที่เรารู้จักตั้งแต่เป็นด.ช.เจี๊ยบ และมองเห็นเค้าเติบโต
    อย่างดีมีความสุข
    -ถ้าไม่มีเครือข่ายของอิโจป๋วยจิต ไม่มียูซผี ไม่มีโพสผี สำนวนเอไอ ที่จับโป๊ะได้เป็นขโยง รวมถึงใช้ยูซผีฟอลโล่อิเหม็น ใช้ปั่นเทรนทวิชชช
    ป่านนี้ คนลืมอิเหม็นช้างลากไปแล้ว
    คำถาม ค่าใช้จ่าย ทั้งกระบวนการ มาจากไหน
    ทำเป็นขบวนการ อย่าโลกสวยว่า ทุกคนทำฟรี
    พวกเมิงทำตลอดเวลา ทำกันแบบมีสายบังคับบัญชา
    ไอ่พวกทุยพลี มีเฉพาะไอ่พวกหิวแสง เช่น ไอ่เปร็ต ไอ่ลุงนั่นแหละ
    ที่เหลือ ทำเรื่องนี้เป็นรายได้หลัก เดี๋ยวสืบสายเงินก็รู้
    ทั้งหมดนี้ ยิ่งตอกย้ำว่ามีเป้าหมาย ในการปิดปากพี่คิงส์
    บิ๊กแม็ตต้องกลับมาจัด ให้ได้ เพื่อแทรกเงินดาร์คเข้าระบบมาฟอก
    ขอบใจ ความเป็นรูปแบบของโจ ที่จบแค่ม.ต้น
    เลยไม่มีอะไรที่ซับซ้อน จับโป๊ะได้ไม่ยากเลย
    เมิงจะทำยังไงกันต่อ
    ทั้งขู่วว ฟ้-อง ทั้งเอาโปรไฟล์ ตร.ทิพย์มา เอายูซผี คอมเม้นขู่ววว
    แต่เมิงยังปิดปากกรรรูไม่ได้ บิ๊กแม๊ตเพื่อการฟอกของพวกเมิงอะ
    เลิกฝัน
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #นาซิซิสนี่คือซีสที่ปากอิโจหรือเปล่า #อย่าถามว่าจะหยุดขุดตอนไหน ในเมื่อเครือข่ายพวกมันยังไม่หยุด กะอิแค่ผญตัวเหม็นคนนึง ที่เพิ่งรู้จักมา 7 - 8 เดือน ไม่เคยสร้างบุญคุณห่านอะไรให้คนไทยและประเทศชาติ กับชาลีที่เรารู้จักตั้งแต่เป็นด.ช.เจี๊ยบ และมองเห็นเค้าเติบโต อย่างดีมีความสุข -ถ้าไม่มีเครือข่ายของอิโจป๋วยจิต ไม่มียูซผี ไม่มีโพสผี สำนวนเอไอ ที่จับโป๊ะได้เป็นขโยง รวมถึงใช้ยูซผีฟอลโล่อิเหม็น ใช้ปั่นเทรนทวิชชช ป่านนี้ คนลืมอิเหม็นช้างลากไปแล้ว คำถาม ค่าใช้จ่าย ทั้งกระบวนการ มาจากไหน ทำเป็นขบวนการ อย่าโลกสวยว่า ทุกคนทำฟรี พวกเมิงทำตลอดเวลา ทำกันแบบมีสายบังคับบัญชา ไอ่พวกทุยพลี มีเฉพาะไอ่พวกหิวแสง เช่น ไอ่เปร็ต ไอ่ลุงนั่นแหละ ที่เหลือ ทำเรื่องนี้เป็นรายได้หลัก เดี๋ยวสืบสายเงินก็รู้ ทั้งหมดนี้ ยิ่งตอกย้ำว่ามีเป้าหมาย ในการปิดปากพี่คิงส์ บิ๊กแม็ตต้องกลับมาจัด ให้ได้ เพื่อแทรกเงินดาร์คเข้าระบบมาฟอก ขอบใจ ความเป็นรูปแบบของโจ ที่จบแค่ม.ต้น เลยไม่มีอะไรที่ซับซ้อน จับโป๊ะได้ไม่ยากเลย เมิงจะทำยังไงกันต่อ ทั้งขู่วว ฟ้-อง ทั้งเอาโปรไฟล์ ตร.ทิพย์มา เอายูซผี คอมเม้นขู่ววว แต่เมิงยังปิดปากกรรรูไม่ได้ บิ๊กแม๊ตเพื่อการฟอกของพวกเมิงอะ เลิกฝัน #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    7
    0 Comments 0 Shares 940 Views 0 Reviews
  • แฟนเพจทุกท่าน สมมุติทุนดาร์คทุ่มงบเล่นเพจปลิว คงรู้นะว่าจะไปตามกันต่อที่ไหน ถ้ารู้พิมพ์ว่ารู้ครับ
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    แฟนเพจทุกท่าน สมมุติทุนดาร์คทุ่มงบเล่นเพจปลิว คงรู้นะว่าจะไปตามกันต่อที่ไหน ถ้ารู้พิมพ์ว่ารู้ครับ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 775 Views 0 Reviews
  • #คุยแบบกลางๆอยู่ข้างพี่น้องชาวไทย
    #ทองแม่ตั๊กบทพิสูจน์ธรรมะหรืออธรรม
    สวัสดีครับ แฟนเพจคิงส์โพธิ์แดง
    สำหรับคนที่ตามข่าวนี้ และรู้จักแม่ตั๊ก ก็จะมีมุมมองที่ไม่เหมือนกัน
    โดยสังเกตุได้จาก จะมี 2 ด้าน นั่นเพราะประสบการณ์ของแต่ละคนที่เจอนั้นต่างกัน
    เรื่องนี้ เริ่มตั้งแต่มีข่าวเรื่องคนเอาทองแม่ตั๊ก ซึ่งพี่คิงส์ขออนุญาตแฟนเพจ จะไม่เรียกว่าแม่อีก ขอเรียกชื่อว่า ตั๊ก เป็นอันเข้าใจ ส่วนเหตุผลคือ ไม่ใช่แม่กรรู แต่ก็ไม่ได้หมายถึงการด้อยค่าแต่อย่างใด ยังคงให้เกียรติคนที่รู้จักในฝั่งที่มีประสบการณ์ที่ดี และนับถือกันจริงๆอยู่
    -พี่คิงส์ต้องบอกว่า นี่คือ บทพิสูจน์ทั้งคนที่เป็นคู่กรณี และประชาชนไทย เพราะถือว่าเป็นสิ่งใหม่มาก ที่เรายังไม่เคยเจอเคสแบบนี้
    คำว่าไม่เคยเจอ ไม่ใช่เราไม่เคยเจอทอง ที่ไม่สามารถขายที่ร้านทองได้ แต่เราไม่เคยเจอ การที่่คนรู้จักตั๊ก ในมุมที่ต่างกันสุดขั้ว
    มุมมองที่ 1 เป็นคนที่มีน้ำใจ ช่วยเหลือคน และมีบุญคุณกับคนจำนวนมากมาย
    กับมุมมองที่ 2 เป็นแม่ค้าที่ให้โอกาสลูกทีม ได้ลืมตาอ้าปาก มีน้ำใจจนหลายคนเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้
    มีมุมมองที่ 3 นั่นคือลูกค้าที่เคยรับสินค้าที่มีคุณภาพ ราคาดีและไม่เคยมีปัญหาที่มีความคลุมเคลืออย่างที่เป็นข่าว
    มุมมองที่ 4 คือลูกค้าที่พบประสบการณ์ที่ไม่ดี โดยเฉพาะเรื่องทองไม่ลอกไม่ดำ แต่จำนำไม่ได้
    ซึ่งจากการขุด สืบ ข้อมูลตามสไตล์พี่คิงส์ ได้สอบถามคนที่ผ่านประสบการณ์มาทั้ง 4 มุม
    คำถามว่า ทำไม พี่คิงส์ต้องเริ่มจากจุดนี้
    เพราะถ้าใครจำได้ วันแรก พี่คิงส์เคยโพสเรื่องนี้ไป
    แม่ตั๊ก กามิจ ดอกไม้สีทอง ถ้ายังจำกันได้
    โดยหลังจากโพสไม่นาน มีแฟนเพจคิงส์ที่เป็นด้อมแพนด้านี่แหละ
    ทักมาหลายคนมาก ต่างเล่าประสบการณ์ที่แตกต่างกัน
    พี่คิงส์ จึงลบข้อมูลที่โพสบางส่วน เพื่อหาข้อมูล ว่าเพราะอะไร จึงมีคนออกมาปกป้อง ที่พี่คิงส์ก็มั่นใจว่า เค้าเป็นแฟนเพจพี่คิงส์จริงๆ เพราะมีประวัตคุยแชทกับพี่คิงส์มาก่อนหน้านานแล้ว
    ดังนั้น พี่คิงส์คิดว่า เรามาทำความเข้าใจในธุรกิจของตั๊กก่อน
    1. มีบริษัท จริง มีสินค้าจริง
    2. มีทักษะการสื่อสารที่ดี ใช้โซเชียลชำนาญ ไม่แพ้พิมรี่พาย แต่มีระบบเครือข่ายไดเร็คที่แข็งแกร่งกว่ามาก
    3. สินค้าส่วนใหญ่ไม่มีปัญหา
    4. ปัญหาคือทองที่นำไปขายไม่ได้ อันนี้ชัดเจน
    พอเรามองส่วนนี้ เรามาดูผลจาก 3 ข้อแรกก่อน
    ในสามข้อแรก ตั๊ก ได้นำรายได้จากผลกำไรที่พี่คิงส์สืบแล้วไม่มีอะไรคลุมเคลือ แต่มีรายได้มหาศาลจากการขายจริง และยังเชื่อว่าสืบพิสูจน์ได้
    1. เปิดให้คนที่ไม่มีทุน มาทำธุรกิจ และหลายคน เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้
    2. นำเงินไปทำพีอาร์ ที่เป็น CHR ช่วยเหลือคนจริง และมีจำนวนมากด้วย
    ดังนั้น เฉพาะสองส่วนนี้ เวลาที่ตั๊ก มีปัญหากับมวลชนหรือสื่อ
    จึงมีคนที่เคยได้รับความช่วยเหลือ ออกปกป้องด้วยความบริสุทธิ์ใจ แบบไม่มีการจ้างวานแต่อย่างใด และพี่คิงส์บอกเลยว่า สองกลุ่มนี้ จำนวนมากอย่างที่แฟนเพจอาจจะคาดไม่ถึง
    คราวนี้ เรามาดูผลจากข้อที่ 4 และพิสูจน์ความจริง ใครที่คิดว่า อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คือใกล้จบแล้วพี่คิงส์เตือนไว้ก่อนเลยว่า เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ป่ะ เราไปกันต่อ
    เรื่องของทอง ต้องยอมรับความจริงให้ได้่
    1. ทองที่ตั๊กขาย ไม่ใช่ทอง
    2. บางชิ้น เป็นโลหะ บางชิ้น เป็นกระดาษพ่นโลหะ บางชิ้นเป็นพลาสติกเคลือบโลหะ และบางชิ้น มีส่วนผสมของทองน้อยมากๆจนไม่มีใครสะกัดออกมาเพื่อชั่งน้ำหนักได้แม้แต่เป็นการหลอมก็ตาม และในบางชิ้นที่กล่าวไปแล้ว บางอย่างเป็นของแถมที่ตั๊กเองก็พูดยืนยันว่า เป็นทองคำบริสุทธิ์ 99.99
    3. ในส่วนของดอกไม้สีทอง ได้มีการนำตรวจพิสูจน์แล้วว่า เป็นดอกไม้สีทองที่เคลือบด้วยสารคล้ายฟิล์มสีทอง และพี่คิงส์ก็สืบต่ออีกว่า ดอกไม้สีทองแบบนี้ เหมือนกันเป๊ะๆ มันมาจากไหน ก็ได้ข้อมูลว่า มันคือดอกไม้สำหรับการปักเค้กวันเกิด ที่จีนจำหน่ายผ่านแอพประมาณ 1.2 หยวน
    เราเข้าใจตัวสินค้าที่มีปัญหาก็จะไปต่อกันได้
    คำถามคือ การขายทองที่ไม่แท้นี้ ดำเนินกิจการมานานมากแล้วใช้มั๊ย ก็ต้องบอกว่า นานพอสมควรเลยและส่วนต่างกำไรนั้นก็มหาศาล
    แต่มีจุดสำคัญคือ
    1. ตั๊กจะประกาศซื้อขายแลกเปลี่ยน หมายความว่า ถ้าคุณไม่โอเค ตั๊กยินดีซื้อคืน ในเรทที่หักไปประมาณ 60เปอร์เซ็น+- ซึ่งตั๊กก็ประกาศและทำตามนั้นจริง ไม่มีผลัดผ่อนแต่อย่างใด
    2. กรณีของคน ที่มีปัญหาหนักๆจริงๆ ด้วยความที่ตั๊กมีธุรกิจหลายตัวและสร้างรายได้มหาศาลมาก่อนจับเรื่องทอง การคืนแบบเต็มจำนวน หรือจะมีส่วนในการชดใช้เยียวยาเพิ่มแต่ละรายตามตกลงนั้น ตั๊กก็ยินดีคืนแบบไม่มีผลัดผ่อน แต่อย่างใด
    ดังนั้น จากสองกรณีนี้ จึงจบได้ ไม่มีปัญหาและคนที่โดยเฉพาะรักตั๊กอยู่แล้ว ก็ยิ่งมีมุมมองว่า ตั๊กไม่ได้ผิดอะไรเลย ก็ทำตามที่สัญญา
    ในส่วนที่นำไปขายที่ร้านทองไม่ได้ ตั๊กก็พูดย้ำในไลฟ์เช่นกันว่า ซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ คือที่ตั๊ก ไม่ใช่ที่อื่น
    จึงดูแล้ว ทุกอย่างก็เหมือนจะชัด แต่มันก็ยังไม่ชัด อย่างไรไม่รู้ในสายตาของคนจำนวนไม่น้อยเช่นกัน
    และเราจะเห็นจากข้อมูลข่าวอีกว่า สุดท้าย ตั๊กยินดีที่จะคืนเต็มจำนวนกับทุกราย ซึ่งให้นำของแถมคืนให้ครบ หากไม่คบ จะมีการหักไปบางชิ้นถึงหมื่น ก็กลายเป็นปมกลับมาให้พี่หนุ่มเอง รู้สึกว่าจบแบบนี้ยังไม่โอเค
    ซึ่งพี่คิงส์บอกเลยว่า สุดท้าย ตั๊กก็จะคืนเต็มจำนวนแม้ว่าของแถมจะขาดหายไปก็ตาม ถ้าลูกค้าไม่ยอมจริงๆ
    สุดท้าย ลูกค้าที่ซื้อไป และเกิดความเสียหาย สิ่งที่ต้องการไม่ใช่การเอาเรื่อง สิ่งที่ต้องการจริงๆคือการได้รับการชดใช้ แค่นั้นก็เพียงพอแบบไม่ต้องการติดใจเอาความอีกต่อไป
    ดังนั้น เรื่องนี้จะเป็นตำนานบทใหม่ ที่มีความยากในการแยกว่า สุดท้าย ตั๊กคือธรรมมะ หรืออธรรม
    ถ้าจะมองว่าธรรมมะ ก็ไม่น่าจะนำทองที่ไม่แท้มาจำหน่าย
    ถ้ามองว่าอธรรม ตั๊กก็พร้อมรับจบทุกรายโดยคืนเต็มจำนวน
    ความเสียหายจึงไม่เกิด และพี่คิงส์ก็เชื่อว่าลูกค้าตั๊กเองก็จะไม่ลดด้วย
    จากเหตุหลายปัจจัยที่ประกอบกันที่แจ้งไว้ตั้งแต่ต้น
    นี่แหละ แม้แต่พี่คิงส์ ได้นำเสนอมาถึงจุดนี้
    ก็เชื่อว่าแฟนเพจเอง ก็ยังอึนๆ มึนๆ และไม่สามารถให้ข้อสรุปได้เช่นกัน
    ว่าเราจะเสื่อในสิ่งที่เฮ็ด หรือเราจะเฮ็ดในสิ่งที่เสื่อ
    หรือช่วยตอบพี่คิงส์ใต้โพสได้มั๊ยว่า แฟนเพจคิงคิดว่า
    ตั๊ก คือแบบไหนกันแน่
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คุยแบบกลางๆอยู่ข้างพี่น้องชาวไทย #ทองแม่ตั๊กบทพิสูจน์ธรรมะหรืออธรรม สวัสดีครับ แฟนเพจคิงส์โพธิ์แดง สำหรับคนที่ตามข่าวนี้ และรู้จักแม่ตั๊ก ก็จะมีมุมมองที่ไม่เหมือนกัน โดยสังเกตุได้จาก จะมี 2 ด้าน นั่นเพราะประสบการณ์ของแต่ละคนที่เจอนั้นต่างกัน เรื่องนี้ เริ่มตั้งแต่มีข่าวเรื่องคนเอาทองแม่ตั๊ก ซึ่งพี่คิงส์ขออนุญาตแฟนเพจ จะไม่เรียกว่าแม่อีก ขอเรียกชื่อว่า ตั๊ก เป็นอันเข้าใจ ส่วนเหตุผลคือ ไม่ใช่แม่กรรู แต่ก็ไม่ได้หมายถึงการด้อยค่าแต่อย่างใด ยังคงให้เกียรติคนที่รู้จักในฝั่งที่มีประสบการณ์ที่ดี และนับถือกันจริงๆอยู่ -พี่คิงส์ต้องบอกว่า นี่คือ บทพิสูจน์ทั้งคนที่เป็นคู่กรณี และประชาชนไทย เพราะถือว่าเป็นสิ่งใหม่มาก ที่เรายังไม่เคยเจอเคสแบบนี้ คำว่าไม่เคยเจอ ไม่ใช่เราไม่เคยเจอทอง ที่ไม่สามารถขายที่ร้านทองได้ แต่เราไม่เคยเจอ การที่่คนรู้จักตั๊ก ในมุมที่ต่างกันสุดขั้ว มุมมองที่ 1 เป็นคนที่มีน้ำใจ ช่วยเหลือคน และมีบุญคุณกับคนจำนวนมากมาย กับมุมมองที่ 2 เป็นแม่ค้าที่ให้โอกาสลูกทีม ได้ลืมตาอ้าปาก มีน้ำใจจนหลายคนเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ มีมุมมองที่ 3 นั่นคือลูกค้าที่เคยรับสินค้าที่มีคุณภาพ ราคาดีและไม่เคยมีปัญหาที่มีความคลุมเคลืออย่างที่เป็นข่าว มุมมองที่ 4 คือลูกค้าที่พบประสบการณ์ที่ไม่ดี โดยเฉพาะเรื่องทองไม่ลอกไม่ดำ แต่จำนำไม่ได้ ซึ่งจากการขุด สืบ ข้อมูลตามสไตล์พี่คิงส์ ได้สอบถามคนที่ผ่านประสบการณ์มาทั้ง 4 มุม คำถามว่า ทำไม พี่คิงส์ต้องเริ่มจากจุดนี้ เพราะถ้าใครจำได้ วันแรก พี่คิงส์เคยโพสเรื่องนี้ไป แม่ตั๊ก กามิจ ดอกไม้สีทอง ถ้ายังจำกันได้ โดยหลังจากโพสไม่นาน มีแฟนเพจคิงส์ที่เป็นด้อมแพนด้านี่แหละ ทักมาหลายคนมาก ต่างเล่าประสบการณ์ที่แตกต่างกัน พี่คิงส์ จึงลบข้อมูลที่โพสบางส่วน เพื่อหาข้อมูล ว่าเพราะอะไร จึงมีคนออกมาปกป้อง ที่พี่คิงส์ก็มั่นใจว่า เค้าเป็นแฟนเพจพี่คิงส์จริงๆ เพราะมีประวัตคุยแชทกับพี่คิงส์มาก่อนหน้านานแล้ว ดังนั้น พี่คิงส์คิดว่า เรามาทำความเข้าใจในธุรกิจของตั๊กก่อน 1. มีบริษัท จริง มีสินค้าจริง 2. มีทักษะการสื่อสารที่ดี ใช้โซเชียลชำนาญ ไม่แพ้พิมรี่พาย แต่มีระบบเครือข่ายไดเร็คที่แข็งแกร่งกว่ามาก 3. สินค้าส่วนใหญ่ไม่มีปัญหา 4. ปัญหาคือทองที่นำไปขายไม่ได้ อันนี้ชัดเจน พอเรามองส่วนนี้ เรามาดูผลจาก 3 ข้อแรกก่อน ในสามข้อแรก ตั๊ก ได้นำรายได้จากผลกำไรที่พี่คิงส์สืบแล้วไม่มีอะไรคลุมเคลือ แต่มีรายได้มหาศาลจากการขายจริง และยังเชื่อว่าสืบพิสูจน์ได้ 1. เปิดให้คนที่ไม่มีทุน มาทำธุรกิจ และหลายคน เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ 2. นำเงินไปทำพีอาร์ ที่เป็น CHR ช่วยเหลือคนจริง และมีจำนวนมากด้วย ดังนั้น เฉพาะสองส่วนนี้ เวลาที่ตั๊ก มีปัญหากับมวลชนหรือสื่อ จึงมีคนที่เคยได้รับความช่วยเหลือ ออกปกป้องด้วยความบริสุทธิ์ใจ แบบไม่มีการจ้างวานแต่อย่างใด และพี่คิงส์บอกเลยว่า สองกลุ่มนี้ จำนวนมากอย่างที่แฟนเพจอาจจะคาดไม่ถึง คราวนี้ เรามาดูผลจากข้อที่ 4 และพิสูจน์ความจริง ใครที่คิดว่า อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คือใกล้จบแล้วพี่คิงส์เตือนไว้ก่อนเลยว่า เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ป่ะ เราไปกันต่อ เรื่องของทอง ต้องยอมรับความจริงให้ได้่ 1. ทองที่ตั๊กขาย ไม่ใช่ทอง 2. บางชิ้น เป็นโลหะ บางชิ้น เป็นกระดาษพ่นโลหะ บางชิ้นเป็นพลาสติกเคลือบโลหะ และบางชิ้น มีส่วนผสมของทองน้อยมากๆจนไม่มีใครสะกัดออกมาเพื่อชั่งน้ำหนักได้แม้แต่เป็นการหลอมก็ตาม และในบางชิ้นที่กล่าวไปแล้ว บางอย่างเป็นของแถมที่ตั๊กเองก็พูดยืนยันว่า เป็นทองคำบริสุทธิ์ 99.99 3. ในส่วนของดอกไม้สีทอง ได้มีการนำตรวจพิสูจน์แล้วว่า เป็นดอกไม้สีทองที่เคลือบด้วยสารคล้ายฟิล์มสีทอง และพี่คิงส์ก็สืบต่ออีกว่า ดอกไม้สีทองแบบนี้ เหมือนกันเป๊ะๆ มันมาจากไหน ก็ได้ข้อมูลว่า มันคือดอกไม้สำหรับการปักเค้กวันเกิด ที่จีนจำหน่ายผ่านแอพประมาณ 1.2 หยวน เราเข้าใจตัวสินค้าที่มีปัญหาก็จะไปต่อกันได้ คำถามคือ การขายทองที่ไม่แท้นี้ ดำเนินกิจการมานานมากแล้วใช้มั๊ย ก็ต้องบอกว่า นานพอสมควรเลยและส่วนต่างกำไรนั้นก็มหาศาล แต่มีจุดสำคัญคือ 1. ตั๊กจะประกาศซื้อขายแลกเปลี่ยน หมายความว่า ถ้าคุณไม่โอเค ตั๊กยินดีซื้อคืน ในเรทที่หักไปประมาณ 60เปอร์เซ็น+- ซึ่งตั๊กก็ประกาศและทำตามนั้นจริง ไม่มีผลัดผ่อนแต่อย่างใด 2. กรณีของคน ที่มีปัญหาหนักๆจริงๆ ด้วยความที่ตั๊กมีธุรกิจหลายตัวและสร้างรายได้มหาศาลมาก่อนจับเรื่องทอง การคืนแบบเต็มจำนวน หรือจะมีส่วนในการชดใช้เยียวยาเพิ่มแต่ละรายตามตกลงนั้น ตั๊กก็ยินดีคืนแบบไม่มีผลัดผ่อน แต่อย่างใด ดังนั้น จากสองกรณีนี้ จึงจบได้ ไม่มีปัญหาและคนที่โดยเฉพาะรักตั๊กอยู่แล้ว ก็ยิ่งมีมุมมองว่า ตั๊กไม่ได้ผิดอะไรเลย ก็ทำตามที่สัญญา ในส่วนที่นำไปขายที่ร้านทองไม่ได้ ตั๊กก็พูดย้ำในไลฟ์เช่นกันว่า ซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ คือที่ตั๊ก ไม่ใช่ที่อื่น จึงดูแล้ว ทุกอย่างก็เหมือนจะชัด แต่มันก็ยังไม่ชัด อย่างไรไม่รู้ในสายตาของคนจำนวนไม่น้อยเช่นกัน และเราจะเห็นจากข้อมูลข่าวอีกว่า สุดท้าย ตั๊กยินดีที่จะคืนเต็มจำนวนกับทุกราย ซึ่งให้นำของแถมคืนให้ครบ หากไม่คบ จะมีการหักไปบางชิ้นถึงหมื่น ก็กลายเป็นปมกลับมาให้พี่หนุ่มเอง รู้สึกว่าจบแบบนี้ยังไม่โอเค ซึ่งพี่คิงส์บอกเลยว่า สุดท้าย ตั๊กก็จะคืนเต็มจำนวนแม้ว่าของแถมจะขาดหายไปก็ตาม ถ้าลูกค้าไม่ยอมจริงๆ สุดท้าย ลูกค้าที่ซื้อไป และเกิดความเสียหาย สิ่งที่ต้องการไม่ใช่การเอาเรื่อง สิ่งที่ต้องการจริงๆคือการได้รับการชดใช้ แค่นั้นก็เพียงพอแบบไม่ต้องการติดใจเอาความอีกต่อไป ดังนั้น เรื่องนี้จะเป็นตำนานบทใหม่ ที่มีความยากในการแยกว่า สุดท้าย ตั๊กคือธรรมมะ หรืออธรรม ถ้าจะมองว่าธรรมมะ ก็ไม่น่าจะนำทองที่ไม่แท้มาจำหน่าย ถ้ามองว่าอธรรม ตั๊กก็พร้อมรับจบทุกรายโดยคืนเต็มจำนวน ความเสียหายจึงไม่เกิด และพี่คิงส์ก็เชื่อว่าลูกค้าตั๊กเองก็จะไม่ลดด้วย จากเหตุหลายปัจจัยที่ประกอบกันที่แจ้งไว้ตั้งแต่ต้น นี่แหละ แม้แต่พี่คิงส์ ได้นำเสนอมาถึงจุดนี้ ก็เชื่อว่าแฟนเพจเอง ก็ยังอึนๆ มึนๆ และไม่สามารถให้ข้อสรุปได้เช่นกัน ว่าเราจะเสื่อในสิ่งที่เฮ็ด หรือเราจะเฮ็ดในสิ่งที่เสื่อ หรือช่วยตอบพี่คิงส์ใต้โพสได้มั๊ยว่า แฟนเพจคิงคิดว่า ตั๊ก คือแบบไหนกันแน่ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 851 Views 1 Reviews
  • หกทักษะของสุภาพบุรุษจีนโบราณ ตอน 1 ‘หลี่’

    สวัสดีค่ะ เพื่อนเพจที่ได้ดู <องค์หญิงใหญ่> จะจำได้ว่าองค์หญิงหลี่หรงจัดงานเลี้ยงเพื่อทำความรู้จักกับแคนดิเดทราชบุตรเขย โดยในระหว่างงานเลี้ยงได้กำหนดให้เหล่าคุณชายแสดงความสามารถตาม ‘จวินจื่อลิ่วอี้’ (君子六艺) หรือหกทักษะของสุภาพบุรุษ (หมายเหตุ อี้ แปลได้ว่าทักษะความสามารถ) และหกทักษะนี้ได้รับการกล่าวถึงในหลากหลายละครและนิยายจีนโบราณด้วยเช่นกัน

    หกทักษะนี้คือพื้นฐานความรู้ด้านต่างๆ อันแฝงไว้ซึ่งปรัชญาและคำสอนของขงจื๊อ เชื่อว่าเพื่อนเพจเคยผ่านตาผ่านหูว่า หกทักษะนี้คือ พิธีการ (หลี่/礼) ดนตรี (เยวี่ย/乐) ยิงธนู (เซ่อ/射) ขับขี่ (อวี้/御) อักษรศาสตร์ (ซู/书) และคำนวณ (ซู่/数) แต่เชื่อว่าเพื่อนเพจคงไม่รู้ถึงรายละเอียดของมัน

    หกทักษะปรากฏอยู่ในบันทึกพิธีการโจวหลี่ (เป็นบันทึกที่จัดทำขึ้นในสมัยราชวงศ์ฮั่นเพื่อรวมรวมข้อมูลพิธีการและความรู้ด้านต่างๆ จากสมัยราชวงศ์โจว) ในรายละเอียดประกอบด้วย ห้าพิธีการ หกดนตรี ห้าธนู ห้าขับขี่ หกอักษร และเก้าคำนวณ และมีการอธิบายไว้ชัดเจนว่าองค์ประกอบของมันมีอะไรบ้าง Storyฯ อ่านแล้วก็รู้สึกว่ามีหลายอย่างที่เหนือความคาดหมาย เลยมาเล่าสู่กันฟัง แต่ขอแบ่งเล่าเป็นหลายตอนเพื่อไม่ให้บทความยาวเกินไป

    ทักษะแรกคือ ‘หลี่’ (礼) ซึ่งแปลได้ว่าพิธีการหรือมารยาท โดยบัณฑิตต้องรู้ถึงรายละเอียดของการเตรียมงาน ขั้นตอนในงาน กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการวางตัว เสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ และคำพูดที่ถูกต้องเหมาะสม และห้า ‘หลี่’ ที่บัณฑิตต้องรู้คือ
    (1) จี๋หลี่ (吉礼) หมายถึงพิธีการเสริมดวงเสริมบารมี คืองานเซ่นไหว้สักการะและงานบวงสรวงทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นการไหว้เทพเจ้าต่างๆ ตามเทศกาลสำคัญหรือกราบไหว้บรรพบุรุษ
    (2) ซยงหลี่ (凶礼) หมายถึงพิธีการเกี่ยวกับภยันตราย โดยหลักคืองานศพ และหมายรวมถึงพิธีการขับไล่สิ่งอัปมงคลในยามที่เกิดอุทกภัยหรือโรคระบาด หรือพิธีการเซ่นไหว้ไว้อาลัยหลังสงคราม
    (3) จวินหลี่ (军礼) หมายถึงพิธีการด้านการทหาร (การจัดขบวน การเคลื่อนทัพ การบวงสรวงต่างๆ เมื่อองค์กษัตริย์ทรงยาตราทัพเอง การเยี่ยมชมและตรวจการกองทัพ และการต้อนรับกองทัพที่กลับจากสงคราม โดยพิธีการมีจำแนกว่าชนะศึกหรือพ่ายศึกกลับมา ฯลฯ) และยังรวมถึงพิธีการเกี่ยวกับงานล่าสัตว์ประจำฤดูของกษัตริย์ และหมายรวมงานก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ต้องเกณฑ์ชาวบ้านมาร่วมทำเช่นอารามหลวง พระราชวัง ฯลฯ
    (4) ปินหลี่ (宾礼) หมายถึงมารยาทและพิธีการในการต้อนรับแขก โดยจำแนกตามยศศักดิ์ของแขกและผู้ที่ให้การต้อนรับ เช่น กษัตริย์ต้อนรับกษัตริย์แขกเมืองหรือขุนนาง ข้าราชการต้อนรับประชาชนธรรมดา ต้อนรับแขกเมืองระดับต่างๆ ฯลฯ
    (5) เจียหลี่ (嘉礼) หมายถึงพิธีการมงคล ซึ่งจำแนกรายละเอียดตามยศศักดิ์ของเจ้าของงาน เช่นงานราชพิธีต่างๆ (พิธีราชาภิเษก งานแต่งตั้งองค์รัชทายาท งานเลือกชายาและสนม ฯลฯ) งานมงคลสมรส พิธีปักปิ่น พิธีสวมหมวกกวาน พิธีการขอบคุณ พิธีการอำลา งานเลี้ยงสังสรรค์ทั่วไป เป็นต้น

    แน่นอนว่าแต่ละพิธีการเหล่านี้มีรายละเอียดอีกมากมายที่เราไม่ได้ลงรายละเอียดในที่นี้ (หมายเหตุ Storyฯ เคยกล่าวถึงบางพิธีการ เช่นพิธีการปักปิ่น ฯลฯ ลองค้นอ่านบทความเก่าได้จากสารบัญนะคะ) แต่โดยภาพรวมเราจะเห็นได้ว่า ทักษะว่าด้วย ‘หลี่’ นี้ หมายรวมถึงความเข้าใจอย่างละเอียดถึงพิธีการต่างๆ หลักการปฏิบัติและวางตนต่อผู้อื่นและมารยาททางสังคม โดยมาจากแนวคำสอนของขงจื๊อที่ว่า ผู้ที่บกพร่องในทักษะนี้ จะขาดการวางตนที่ดี ไม่รู้ว่าควรปฏิบัติต่อผู้อื่นหรืออยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างไร ทำให้สูญเสียความมั่นใจในตนเอง หรือทำให้เกิดความวุ่นวายสร้างความขุ่นเคืองหรือสับสนต่อผู้อื่นได้ และทำให้สังคมไม่สมานฉันท์

    สัปดาห์หน้าเรามาคุยกันต่อค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.upmedia.mg/news_info.php?Type=196&SerialNo=204949
    https://guoxue.ifeng.com/c/7qhsbaO24FU
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://m.thepaper.cn/newsDetail_forward_20109083
    https://baike.baidu.com/item/六艺/238715
    http://www.dfg.cn/gb/ssht/ly/07-junli.htm
    https://baike.baidu.com/item/五礼/491424

    #องค์หญิงใหญ่ #ทักษะสุภาพบุรุษจีน #ศิลปะสุภาพบุรุษจีน #คำสอนขงจื๊อ #จวินจื่อลิ่วอี้ #สาระจีน

    หกทักษะของสุภาพบุรุษจีนโบราณ ตอน 1 ‘หลี่’ สวัสดีค่ะ เพื่อนเพจที่ได้ดู <องค์หญิงใหญ่> จะจำได้ว่าองค์หญิงหลี่หรงจัดงานเลี้ยงเพื่อทำความรู้จักกับแคนดิเดทราชบุตรเขย โดยในระหว่างงานเลี้ยงได้กำหนดให้เหล่าคุณชายแสดงความสามารถตาม ‘จวินจื่อลิ่วอี้’ (君子六艺) หรือหกทักษะของสุภาพบุรุษ (หมายเหตุ อี้ แปลได้ว่าทักษะความสามารถ) และหกทักษะนี้ได้รับการกล่าวถึงในหลากหลายละครและนิยายจีนโบราณด้วยเช่นกัน หกทักษะนี้คือพื้นฐานความรู้ด้านต่างๆ อันแฝงไว้ซึ่งปรัชญาและคำสอนของขงจื๊อ เชื่อว่าเพื่อนเพจเคยผ่านตาผ่านหูว่า หกทักษะนี้คือ พิธีการ (หลี่/礼) ดนตรี (เยวี่ย/乐) ยิงธนู (เซ่อ/射) ขับขี่ (อวี้/御) อักษรศาสตร์ (ซู/书) และคำนวณ (ซู่/数) แต่เชื่อว่าเพื่อนเพจคงไม่รู้ถึงรายละเอียดของมัน หกทักษะปรากฏอยู่ในบันทึกพิธีการโจวหลี่ (เป็นบันทึกที่จัดทำขึ้นในสมัยราชวงศ์ฮั่นเพื่อรวมรวมข้อมูลพิธีการและความรู้ด้านต่างๆ จากสมัยราชวงศ์โจว) ในรายละเอียดประกอบด้วย ห้าพิธีการ หกดนตรี ห้าธนู ห้าขับขี่ หกอักษร และเก้าคำนวณ และมีการอธิบายไว้ชัดเจนว่าองค์ประกอบของมันมีอะไรบ้าง Storyฯ อ่านแล้วก็รู้สึกว่ามีหลายอย่างที่เหนือความคาดหมาย เลยมาเล่าสู่กันฟัง แต่ขอแบ่งเล่าเป็นหลายตอนเพื่อไม่ให้บทความยาวเกินไป ทักษะแรกคือ ‘หลี่’ (礼) ซึ่งแปลได้ว่าพิธีการหรือมารยาท โดยบัณฑิตต้องรู้ถึงรายละเอียดของการเตรียมงาน ขั้นตอนในงาน กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการวางตัว เสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ และคำพูดที่ถูกต้องเหมาะสม และห้า ‘หลี่’ ที่บัณฑิตต้องรู้คือ (1) จี๋หลี่ (吉礼) หมายถึงพิธีการเสริมดวงเสริมบารมี คืองานเซ่นไหว้สักการะและงานบวงสรวงทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นการไหว้เทพเจ้าต่างๆ ตามเทศกาลสำคัญหรือกราบไหว้บรรพบุรุษ (2) ซยงหลี่ (凶礼) หมายถึงพิธีการเกี่ยวกับภยันตราย โดยหลักคืองานศพ และหมายรวมถึงพิธีการขับไล่สิ่งอัปมงคลในยามที่เกิดอุทกภัยหรือโรคระบาด หรือพิธีการเซ่นไหว้ไว้อาลัยหลังสงคราม (3) จวินหลี่ (军礼) หมายถึงพิธีการด้านการทหาร (การจัดขบวน การเคลื่อนทัพ การบวงสรวงต่างๆ เมื่อองค์กษัตริย์ทรงยาตราทัพเอง การเยี่ยมชมและตรวจการกองทัพ และการต้อนรับกองทัพที่กลับจากสงคราม โดยพิธีการมีจำแนกว่าชนะศึกหรือพ่ายศึกกลับมา ฯลฯ) และยังรวมถึงพิธีการเกี่ยวกับงานล่าสัตว์ประจำฤดูของกษัตริย์ และหมายรวมงานก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ต้องเกณฑ์ชาวบ้านมาร่วมทำเช่นอารามหลวง พระราชวัง ฯลฯ (4) ปินหลี่ (宾礼) หมายถึงมารยาทและพิธีการในการต้อนรับแขก โดยจำแนกตามยศศักดิ์ของแขกและผู้ที่ให้การต้อนรับ เช่น กษัตริย์ต้อนรับกษัตริย์แขกเมืองหรือขุนนาง ข้าราชการต้อนรับประชาชนธรรมดา ต้อนรับแขกเมืองระดับต่างๆ ฯลฯ (5) เจียหลี่ (嘉礼) หมายถึงพิธีการมงคล ซึ่งจำแนกรายละเอียดตามยศศักดิ์ของเจ้าของงาน เช่นงานราชพิธีต่างๆ (พิธีราชาภิเษก งานแต่งตั้งองค์รัชทายาท งานเลือกชายาและสนม ฯลฯ) งานมงคลสมรส พิธีปักปิ่น พิธีสวมหมวกกวาน พิธีการขอบคุณ พิธีการอำลา งานเลี้ยงสังสรรค์ทั่วไป เป็นต้น แน่นอนว่าแต่ละพิธีการเหล่านี้มีรายละเอียดอีกมากมายที่เราไม่ได้ลงรายละเอียดในที่นี้ (หมายเหตุ Storyฯ เคยกล่าวถึงบางพิธีการ เช่นพิธีการปักปิ่น ฯลฯ ลองค้นอ่านบทความเก่าได้จากสารบัญนะคะ) แต่โดยภาพรวมเราจะเห็นได้ว่า ทักษะว่าด้วย ‘หลี่’ นี้ หมายรวมถึงความเข้าใจอย่างละเอียดถึงพิธีการต่างๆ หลักการปฏิบัติและวางตนต่อผู้อื่นและมารยาททางสังคม โดยมาจากแนวคำสอนของขงจื๊อที่ว่า ผู้ที่บกพร่องในทักษะนี้ จะขาดการวางตนที่ดี ไม่รู้ว่าควรปฏิบัติต่อผู้อื่นหรืออยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างไร ทำให้สูญเสียความมั่นใจในตนเอง หรือทำให้เกิดความวุ่นวายสร้างความขุ่นเคืองหรือสับสนต่อผู้อื่นได้ และทำให้สังคมไม่สมานฉันท์ สัปดาห์หน้าเรามาคุยกันต่อค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.upmedia.mg/news_info.php?Type=196&SerialNo=204949 https://guoxue.ifeng.com/c/7qhsbaO24FU Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://m.thepaper.cn/newsDetail_forward_20109083 https://baike.baidu.com/item/六艺/238715 http://www.dfg.cn/gb/ssht/ly/07-junli.htm https://baike.baidu.com/item/五礼/491424 #องค์หญิงใหญ่ #ทักษะสุภาพบุรุษจีน #ศิลปะสุภาพบุรุษจีน #คำสอนขงจื๊อ #จวินจื่อลิ่วอี้ #สาระจีน
    WWW.UPMEDIA.MG
    張凌赫新劇《度華年》對打王星越《墨雨雲間》 他與趙今麥演歡喜冤家3關鍵獲好評--上報
    張凌赫近年事業蒸蒸日上,他2022年擔任王鶴棣、虞書欣的爆款劇《蒼蘭訣》男配嶄露頭角,接著又在2023年與虞......
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 155 Views 0 Reviews
  • 💥💥แอดมิน นั่งทำการบ้าน SETHD, SET50 และ SET100
    มีหุ้นอยู่ 2 ตัว ที่ราคาเหมาะสม และจังหวะการซื้อที่ดี
    ลองไปทำการบ้านกันต่อด้วยนะครับ 🙏

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    💥💥แอดมิน นั่งทำการบ้าน SETHD, SET50 และ SET100 มีหุ้นอยู่ 2 ตัว ที่ราคาเหมาะสม และจังหวะการซื้อที่ดี ลองไปทำการบ้านกันต่อด้วยนะครับ 🙏 #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    0 Comments 0 Shares 817 Views 0 Reviews
  • 💥💥แอดมิน นั่งทำการบ้าน SETHD, SET50 และ SET100
    มีหุ้นอยู่ 2 ตัว ที่ราคาเหมาะสม และจังหวะการซื้อที่ดี
    ลองไปทำการบ้านกันต่อด้วยนะครับ 🙏

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #หุ้นติดดอย
    💥💥แอดมิน นั่งทำการบ้าน SETHD, SET50 และ SET100 มีหุ้นอยู่ 2 ตัว ที่ราคาเหมาะสม และจังหวะการซื้อที่ดี ลองไปทำการบ้านกันต่อด้วยนะครับ 🙏 #หุ้นติดดอย #การลงทุน #หุ้นติดดอย
    0 Comments 0 Shares 227 Views 0 Reviews
  • อีกหลายชั้นความคิดกว่าจะถึง Non-Family DOT ..
    ..ประเทศไทยจึงยังคงมีอุบัติการณ์ผู้ป่วยวัณโรคปีละไม่ต่ำกว่า “หนึ่งแสนราย” และกลับมามีแนวโน้ม “เพิ่มขึ้น” อีกครั้งตามที่ “องค์การอนามัยโลก”คาดการณ์ไว้
    ..กลุ่มเสี่ยงต่างๆ รวมถึง บุคลากรผู้ให้บริการทางการแพทย์ ก็ยังคงเสี่ยงกับวัณโรคกันต่อไป
    อีกหลายชั้นความคิดกว่าจะถึง Non-Family DOT .. ..ประเทศไทยจึงยังคงมีอุบัติการณ์ผู้ป่วยวัณโรคปีละไม่ต่ำกว่า “หนึ่งแสนราย” และกลับมามีแนวโน้ม “เพิ่มขึ้น” อีกครั้งตามที่ “องค์การอนามัยโลก”คาดการณ์ไว้ ..กลุ่มเสี่ยงต่างๆ รวมถึง บุคลากรผู้ให้บริการทางการแพทย์ ก็ยังคงเสี่ยงกับวัณโรคกันต่อไป
    Yay
    1
    0 Comments 0 Shares 21 Views 0 Reviews
  • ปล่อยวางอดีต
    แล้วอยู่กับปัจจุบันตรงหน้า

    มันเกิดขึ้นแล้ว
    ไม่ว่าเพราะอะไร
    มันเกิดขึ้นแล้ว
    ยอมรับมัน แล้วไปกันต่อ

    จากหนังสือ | สู้ ดิ วะ

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #การใช้ชีวิต #ทัศนคติ #Thaitimes
    ปล่อยวางอดีต แล้วอยู่กับปัจจุบันตรงหน้า มันเกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าเพราะอะไร มันเกิดขึ้นแล้ว ยอมรับมัน แล้วไปกันต่อ จากหนังสือ | สู้ ดิ วะ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #การใช้ชีวิต #ทัศนคติ #Thaitimes
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 814 Views 0 Reviews
  • ดรามา Car Free Day กทม.ออกมาแถลงผลทดลองละเลงกิจกรรมที่บรรทัดทอง ประชุมสรุปแล้วนำผลลัพธ์ไปต่อยอดพัฒนาย่านอื่นต่อไป ท่ามกลางเสียงสะท้อนปัญหาผลกระทบต่อชุมชนหลังจบงาน

    26 กันยายน 2567 -นายเอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขาฯ ผู้ว่าฯ กทม. และโฆษก กทม. ได้เปิดเผยถึงการจัดการจราจร Car Free Day บรรทัดทองที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กันยายนนี้ว่า ตามที่สังคมตั้งข้อสังเกตหลายประเด็น หนึ่งในนั้นคือเรื่องงบประมาณว่า กิจกรรมดังกล่าวสำเร็จได้ เพราะความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งรัฐ เอกชน ประชาชน เป็นต้น โดย กทม. เป็นเพียงแกนกลางประสานสนับสนุนเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ โดยไม่ได้ใช้งบจัดกิจกรรมแม้แต่บาทเดียว รวมถึงสีก็ได้รับการสนับสนุนจากเอกชน ไม่ใช่สีทาถนน เพราะตั้งใจให้ล้างออกง่าย เพื่อคืนสภาพถนนที่สมบูรณ์ให้ประชาชนใช้งานตามปกติ ย้ำไม่ได้ลาดยางมะตอยทับ แต่จุดใดที่ควรซ่อมแซมก็จะดำเนินการซ่อมแซมต่อไป

    โฆษก กทม. กล่าวต่อว่า การทาสีถนนเป็นการทดลองลดขนาดถนน (Street Diet) และการเดินข้ามถนนทแยงมุม เป็นการทดลองโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้าร่วมการดำเนินนโยบายเพื่อเมืองอย่างยั่งยืน เป้าหมายระยะสั้นคือ การทดลองทำถนนคนเดิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม Bangkok Car Free 2024 ทั้งยังกระตุ้นเศรษฐกิจ จัดระเบียบทางเท้าและร้านค้า สร้างกิจกรรมนันทนาการ

    ขณะที่เพจ หวังสร้างเมืองก็ได้ลงสรุปปัญหาไว้ว่า

    “การทดลอง Car Free ที่บรรทัดทองจบแล้วครับ แต่ผลลัพธ์จะถูกนำไปพัฒนาย่านอย่างถาวรกันต่อ ทีมกำลังสรุปผลทั้งแบบสอบถาม พูดคุยกับร้านค้า ผู้อยู่อาศัย และจะมีการประชุมสรุปผลสัปดาห์นี้เพื่อต่อยอดการพัฒนาย่านต่อไปครับ นอกจากเสียงตอบรับที่มีผู้มาร่วมงานมากมายแล้ว ผมอยากทดปัญหาเบื้องต้นเอาไว้ด้วยในนี้ครับ ว่าเราเห็นปัญหาอะไรบ้างหากต้องทำต่อเนื่องที่นี่ และขยายผลไปเขตอื่นๆ

    1. ผลกระทบกับคนอยู่อาศัย
    ถึงแม้การปิดถนนจะทำให้เดินอย่างปลอดภัยมากขึ้นก็จริง แต่ผู้อยู่อาศัยในละแวกที่มีผู้สูงอายุอยู่ที่บ้านและจำเป็นต้องใช้รถยนต์ก็ได้รับผลกระทบมากไม่แพ้กัน การปิดถนนแบบร้อยเปอร์เซ็นต์เลย สร้างความลำบากให้ผู้อยู่อาศัยไม่น้อย และเสียงจากดนตรีและความสนุกเกินไปของย่าน ที่อาจรบกวนผู้อยู่อาศัย หากมีการทำต่อเนื่องน่าจะต้องคิดให้ละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น

    2. ปริมาณคนมาด้วยปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้น
    การจัดการขยะของร้านค้าทุกร้าน เช่น ให้แยกขยะเศษอาหาร การเข้าร่วมโครงการไม่เทรวม การคัดแยกขยะต้นทางร่วมกับทางจุฬาฯ

    3. การจัดระเบียบร้านค้า การปรับปรุงทางเท้า และการนำสายไฟลงดิน ฯลฯ

    นอกจากนี้ยังมีเสียงเรื่องการทาสี มีความกังวลเรื่องสีผิดประเภทที่อาจทำให้รถยนต์ลื่น สร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เราได้ข้อมูลแนะนำจากช่างเชี่ยวชาญของบริษัทผู้สนับสนุน เลยอยากขอใช้พื้นที่นี้ชี้แจงด้วยครับ

    1. สีที่ทาไม่เหมาะกับการเป็นสีทาผิวถนน และเป็นสีทนทาน 10 ปี ล้างไม่ออก

    เป็นข้อมูลที่ถูกต้องครับ เพราะจุดประสงค์ของการทาสีคือการทดลองลดเลนถนน (Street Diet) และการเดินข้ามถนนแทยงมุมในเวลากลางวัน พอหมดงานทีมก็ตั้งใจจะล้างออกทั้งหมด สีที่ใช้จึงเป็นสีที่จะไม่อยู่คงทนตลอด เราได้ขอคำปรึกษากับช่างเทคนิคของบริษัทผู้บริจาค และเลือกสีชนิดนี้ก่อนมาใช้ ด้วยเป็นสีทาอาคารไม่ใช่สีทาถนน สีฯ ดังกล่าว มีลักษณะการปกป้องพื้นผิว ประเภทอาคาร มีฟิล์มที่บางกว่า สีจราจร อย่างมาก ไม่ทนต่อแรงเสียดทาน ในการบดอัดของล้อยานพาหนะ ที่จะเสื่อมสภาพ ผิวฟิล์มหลุดล่อนได้ง่าย และ ไม่ทนต่อความชื้นของพื้นผิวถนน ที่จะเสื่อมสภาพในเวลาอันรวดเร็ว และทางทีมได้ล้างออกทั้งหมดในวันจันทร์แล้วครับ

    2. กรณีสีมีพิษ จากข้อมูลของบริษัทผู้บริจาค สีชนิดนี้เมื่อแห้งจะเป็นแผ่นฟิล์มและจะถูกกรองได้ ไม่ละลายลงแหล่งน้ำ และสีได้รับมาตรฐานที่ได้รับฉลากเขียวจาก สมอ. แต่อย่างไรจะขอนำความคิดเห็นนี้ไปพัฒนาต่อ และจะระวังไม่ให้กระทบกับสิ่งแวดล้อมมากกว่านี้ครับ

    3. เป็นการผลาญงบประมาณ
    งานนี้เกิดจากความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ไม่ได้ใช้เงินจากภาครัฐเลยครับ สีที่ทา เราได้รับสีบริจาคจากบริษัทเอกชน และทั้งงานเป็นความร่วมมือภาคประชาสังคมหลายภาคมาก กทม.เป็นเพียงส่วนหนึ่ง รับหน้าที่ดูแลหลังงาน ใช้อุปกรณ์ที่มี เจ้าหน้าที่รักษาฯ และได้ทำการล้างถนนไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาแล้วครับ ต้องขอบคุณพี่ๆข้าราชการที่ช่วยกันด้วยครับ

    อย่างไรก็ตาม ผมต้องขอน้อมรับทุกความเห็นไปปรับปรุง อยากย้ำวัตถุประสงค์หลักของงานที่เลือกที่นี่ คือ “การพัฒนาย่านบรรทัดทองระยะยาว” ไม่ใช่เพียงการจัดงานนี้ครั้งเดียวแล้วผ่านไปครับ เราจะมีการประชุมสรุปผลสัปดาห์นี้ร่วมกับจุฬาฯ และจะนำมาเล่าสู่กันฟังอีกครั้ง จะทาสีทางข้ามถาวรเลยหรือไม่ จะทำการลดเลนถนน (Street Diet) บ้างไหม หรือจะเป็นการปิดถนนบางเวลาเพื่อทำถนนคนเดิน

    ขอน้อมรับทุกความผิดพลาดและทุกอย่างไปปรับปรุงครับ หากใครมีความเห็นอย่างไรก็พิมพ์แจ้งไว้ได้เลยครับ

    ปล. รูปนี้คือภาพเมื่อเช้าหลังจากทีมงานล้างออกตั้งแต่เมื่อวานครับ
    ปล2. เพิ่มเติมที่มีคนถามเรื่องทายางมะตอยทับ เราเพียงล้างออกเท่านั้นครับ ไม่มีการเทยางมะตอยทับแต่อย่างใด พื้นถนนหลายจุดมีความชำรุดอยู่เดิมก็จะใช้โอกาสหลังจากนี้ซ่อมแซมด้วยครับ”

    ที่มา https://www.facebook.com/100086260703100/posts/pfbid02bHbrNVyqnsKQtz6bf2aStu9eR5MmkCGd3XcxMo4gtc4LZ4NR4G8TtshXa2XyMS7Ql/?
    #Thaitimes
    ดรามา Car Free Day กทม.ออกมาแถลงผลทดลองละเลงกิจกรรมที่บรรทัดทอง ประชุมสรุปแล้วนำผลลัพธ์ไปต่อยอดพัฒนาย่านอื่นต่อไป ท่ามกลางเสียงสะท้อนปัญหาผลกระทบต่อชุมชนหลังจบงาน 26 กันยายน 2567 -นายเอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขาฯ ผู้ว่าฯ กทม. และโฆษก กทม. ได้เปิดเผยถึงการจัดการจราจร Car Free Day บรรทัดทองที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กันยายนนี้ว่า ตามที่สังคมตั้งข้อสังเกตหลายประเด็น หนึ่งในนั้นคือเรื่องงบประมาณว่า กิจกรรมดังกล่าวสำเร็จได้ เพราะความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งรัฐ เอกชน ประชาชน เป็นต้น โดย กทม. เป็นเพียงแกนกลางประสานสนับสนุนเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ โดยไม่ได้ใช้งบจัดกิจกรรมแม้แต่บาทเดียว รวมถึงสีก็ได้รับการสนับสนุนจากเอกชน ไม่ใช่สีทาถนน เพราะตั้งใจให้ล้างออกง่าย เพื่อคืนสภาพถนนที่สมบูรณ์ให้ประชาชนใช้งานตามปกติ ย้ำไม่ได้ลาดยางมะตอยทับ แต่จุดใดที่ควรซ่อมแซมก็จะดำเนินการซ่อมแซมต่อไป โฆษก กทม. กล่าวต่อว่า การทาสีถนนเป็นการทดลองลดขนาดถนน (Street Diet) และการเดินข้ามถนนทแยงมุม เป็นการทดลองโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้าร่วมการดำเนินนโยบายเพื่อเมืองอย่างยั่งยืน เป้าหมายระยะสั้นคือ การทดลองทำถนนคนเดิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม Bangkok Car Free 2024 ทั้งยังกระตุ้นเศรษฐกิจ จัดระเบียบทางเท้าและร้านค้า สร้างกิจกรรมนันทนาการ ขณะที่เพจ หวังสร้างเมืองก็ได้ลงสรุปปัญหาไว้ว่า “การทดลอง Car Free ที่บรรทัดทองจบแล้วครับ แต่ผลลัพธ์จะถูกนำไปพัฒนาย่านอย่างถาวรกันต่อ ทีมกำลังสรุปผลทั้งแบบสอบถาม พูดคุยกับร้านค้า ผู้อยู่อาศัย และจะมีการประชุมสรุปผลสัปดาห์นี้เพื่อต่อยอดการพัฒนาย่านต่อไปครับ นอกจากเสียงตอบรับที่มีผู้มาร่วมงานมากมายแล้ว ผมอยากทดปัญหาเบื้องต้นเอาไว้ด้วยในนี้ครับ ว่าเราเห็นปัญหาอะไรบ้างหากต้องทำต่อเนื่องที่นี่ และขยายผลไปเขตอื่นๆ 1. ผลกระทบกับคนอยู่อาศัย ถึงแม้การปิดถนนจะทำให้เดินอย่างปลอดภัยมากขึ้นก็จริง แต่ผู้อยู่อาศัยในละแวกที่มีผู้สูงอายุอยู่ที่บ้านและจำเป็นต้องใช้รถยนต์ก็ได้รับผลกระทบมากไม่แพ้กัน การปิดถนนแบบร้อยเปอร์เซ็นต์เลย สร้างความลำบากให้ผู้อยู่อาศัยไม่น้อย และเสียงจากดนตรีและความสนุกเกินไปของย่าน ที่อาจรบกวนผู้อยู่อาศัย หากมีการทำต่อเนื่องน่าจะต้องคิดให้ละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น 2. ปริมาณคนมาด้วยปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้น การจัดการขยะของร้านค้าทุกร้าน เช่น ให้แยกขยะเศษอาหาร การเข้าร่วมโครงการไม่เทรวม การคัดแยกขยะต้นทางร่วมกับทางจุฬาฯ 3. การจัดระเบียบร้านค้า การปรับปรุงทางเท้า และการนำสายไฟลงดิน ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีเสียงเรื่องการทาสี มีความกังวลเรื่องสีผิดประเภทที่อาจทำให้รถยนต์ลื่น สร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เราได้ข้อมูลแนะนำจากช่างเชี่ยวชาญของบริษัทผู้สนับสนุน เลยอยากขอใช้พื้นที่นี้ชี้แจงด้วยครับ 1. สีที่ทาไม่เหมาะกับการเป็นสีทาผิวถนน และเป็นสีทนทาน 10 ปี ล้างไม่ออก เป็นข้อมูลที่ถูกต้องครับ เพราะจุดประสงค์ของการทาสีคือการทดลองลดเลนถนน (Street Diet) และการเดินข้ามถนนแทยงมุมในเวลากลางวัน พอหมดงานทีมก็ตั้งใจจะล้างออกทั้งหมด สีที่ใช้จึงเป็นสีที่จะไม่อยู่คงทนตลอด เราได้ขอคำปรึกษากับช่างเทคนิคของบริษัทผู้บริจาค และเลือกสีชนิดนี้ก่อนมาใช้ ด้วยเป็นสีทาอาคารไม่ใช่สีทาถนน สีฯ ดังกล่าว มีลักษณะการปกป้องพื้นผิว ประเภทอาคาร มีฟิล์มที่บางกว่า สีจราจร อย่างมาก ไม่ทนต่อแรงเสียดทาน ในการบดอัดของล้อยานพาหนะ ที่จะเสื่อมสภาพ ผิวฟิล์มหลุดล่อนได้ง่าย และ ไม่ทนต่อความชื้นของพื้นผิวถนน ที่จะเสื่อมสภาพในเวลาอันรวดเร็ว และทางทีมได้ล้างออกทั้งหมดในวันจันทร์แล้วครับ 2. กรณีสีมีพิษ จากข้อมูลของบริษัทผู้บริจาค สีชนิดนี้เมื่อแห้งจะเป็นแผ่นฟิล์มและจะถูกกรองได้ ไม่ละลายลงแหล่งน้ำ และสีได้รับมาตรฐานที่ได้รับฉลากเขียวจาก สมอ. แต่อย่างไรจะขอนำความคิดเห็นนี้ไปพัฒนาต่อ และจะระวังไม่ให้กระทบกับสิ่งแวดล้อมมากกว่านี้ครับ 3. เป็นการผลาญงบประมาณ งานนี้เกิดจากความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ไม่ได้ใช้เงินจากภาครัฐเลยครับ สีที่ทา เราได้รับสีบริจาคจากบริษัทเอกชน และทั้งงานเป็นความร่วมมือภาคประชาสังคมหลายภาคมาก กทม.เป็นเพียงส่วนหนึ่ง รับหน้าที่ดูแลหลังงาน ใช้อุปกรณ์ที่มี เจ้าหน้าที่รักษาฯ และได้ทำการล้างถนนไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาแล้วครับ ต้องขอบคุณพี่ๆข้าราชการที่ช่วยกันด้วยครับ อย่างไรก็ตาม ผมต้องขอน้อมรับทุกความเห็นไปปรับปรุง อยากย้ำวัตถุประสงค์หลักของงานที่เลือกที่นี่ คือ “การพัฒนาย่านบรรทัดทองระยะยาว” ไม่ใช่เพียงการจัดงานนี้ครั้งเดียวแล้วผ่านไปครับ เราจะมีการประชุมสรุปผลสัปดาห์นี้ร่วมกับจุฬาฯ และจะนำมาเล่าสู่กันฟังอีกครั้ง จะทาสีทางข้ามถาวรเลยหรือไม่ จะทำการลดเลนถนน (Street Diet) บ้างไหม หรือจะเป็นการปิดถนนบางเวลาเพื่อทำถนนคนเดิน ขอน้อมรับทุกความผิดพลาดและทุกอย่างไปปรับปรุงครับ หากใครมีความเห็นอย่างไรก็พิมพ์แจ้งไว้ได้เลยครับ ปล. รูปนี้คือภาพเมื่อเช้าหลังจากทีมงานล้างออกตั้งแต่เมื่อวานครับ ปล2. เพิ่มเติมที่มีคนถามเรื่องทายางมะตอยทับ เราเพียงล้างออกเท่านั้นครับ ไม่มีการเทยางมะตอยทับแต่อย่างใด พื้นถนนหลายจุดมีความชำรุดอยู่เดิมก็จะใช้โอกาสหลังจากนี้ซ่อมแซมด้วยครับ” ที่มา https://www.facebook.com/100086260703100/posts/pfbid02bHbrNVyqnsKQtz6bf2aStu9eR5MmkCGd3XcxMo4gtc4LZ4NR4G8TtshXa2XyMS7Ql/? #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 933 Views 0 Reviews
  • รีโพสต์เรื่องอื้อฉาวโสมมของDiddyเจ้าพ่อบันเทิงคนดังของอเมริกา
    “ปรากฏการณ์ดิ๊ดดี้ (Diddy) สะเทือนสังคมอเมริกันอย่างรุนแรง เพราะมีเซเลบริตี้เข้าไปข้องเกี่ยวมากมาย

    ก่อนจะเกิดเรื่องฉาว ดิ๊ดดี้ มีความสัมพันธ์ดีๆ กับ นักกีฬาระดับโลกหลายคน แต่ในวันนี้ทุกคนตัดความสัมพันธ์ทิ้งหมดแล้ว

    เลอบรอน เจมส์ นักบาสเกตบอลผู้โด่งดัง สนิทสนมกับดิ๊ดดี้ เป็นการส่วนตัว ลูกชายคนเล็กของเขาชื่อ บรีซ เคยไปเที่ยวกับ เจสซี่ และ ดีลีล่า ลูกสาวแฝดของดิ๊ดดี้ และเคยถ่ายคลิปเต้นด้วยกันอีกต่างหาก

    เลอบรอน เคยพูดอินสตาแกรมไลฟ์ ว่า "ทุกคนรู้ว่า ไม่มีปาร์ตี้ไหน จะเหมือนปาร์ตี้ของดิ๊ดดี้" กลายเป็นประโยคไวรัล ที่จะถูกใช้ไปอีกนานต่อจากนี้

    แต่จากความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ล่าสุดเลอบรอน อันฟอลโลว์ดิ๊ดดี้ไปแล้วเรียบร้อย ตัดขาดกันไปเลย ไม่อยากข้องเกี่ยวใดๆ ด้วย

    แพทริก มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็กจากแคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ เจ้าของแชมป์ซูเปอร์โบวล์ 3 สมัย ไล่ลบทวีต ที่เคยแฮปปี้เบิร์ธเดย์ ดิ๊ดดี้ พยายามไม่ให้เหลือหลักฐานว่าเคยสนิทกัน (แต่โดนคนแคปเก็บไว้แล้ว)

    เช่นเดียวกับ สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ และ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ ก็อันฟอลโลว์ดิ๊ดดี้ ในโซเชียลมีเดียไปแล้วทั้งหมด

    เรื่องราวของดิ๊ดดี้เป็นอย่างไร ทำไมนักกีฬาต้องเลิกติดตามเขา เราจะไปลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่แรก อย่างเข้าใจง่ายนะครับ

    ดิ๊ดดี้ มีชื่อจริงว่า ฌอน คอมบ์ส เขาเป็นคนนิวยอร์ก และเข้าสู่วงการดนตรีตั้งแต่วัยรุ่น และอยู่ในอุตสาหกรรมนี้มา 3 ทศวรรษ ถือเป็นหนึ่งในเลเจนด์ของวงการเพลงแร็พ

    ฌอน คอมบ์ส มีชื่อในวงการหลายชื่อ เช่น Diddy, P.Diddy, Puff Daddy เป็นต้น

    ดิ๊ดดี้ ได้รางวัลใหญ่ๆ ในด้านดนตรีมาแล้ว แทบทุกสถาบัน เช่นแกรมมี่ อวอร์ดส และ MTV Music Awards

    เขามีซิงเกิ้ลขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ด ถึง 3 เพลง โดยหนึ่งในเพลงคลาสสิคที่สุด ที่ทุกคนน่าจะเคยได้ยินแน่นอน คือเพลงชื่อ I'll be missing you แค่อินโทรดังขึ้นมา ก็ติดหูแล้ว (แต่จริงๆ ไปเอาทำนองมาจากเพลงชื่อ Every Breath You Take ของ Police)

    ในปี 1993 ดิ๊ดดี้ เปิดค่ายเพลงชื่อ แบด บอย เรคคอร์ดส และเป็นโปรดิวเซอร์ให้สตาร์ของวงการมาแล้วหลายคน เช่น The Notorious B.I.G. ที่เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนในยุคปัจจุบันก็มี MGK ศิลปินที่ทำเพลงร้อยล้านวิวเป็นว่าเล่น

    ดิ๊ดดี้ ไม่ใช่แค่ทำเพลงเก่งอย่างเดียว แต่ยังมีหัวธุรกิจในระดับสุดยอดอีกด้วย พอมีชื่อเสียงจากฮิปฮอป เขาต่อยอดไปทำแบรนด์เสื้อผ้าชื่อ ฌอน จอห์น ตามด้วยเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ให้กับว็อดก้ายี่ห้อซิร็อค ได้รับส่วนแบ่งยอดขายต่อขวด

    นอกจากนั้น เขายังก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ชื่อ Revolt TV เพื่อนำเสนอวัฒนธรรมและดนตรี ของกลุ่มแอฟริกัน อเมริกัน โดยเฉพาะ

    และในที่สุด ปี 2022 ดิ๊ดดี้ ก็มีสินทรัพย์ทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ (32,000 ล้านบาท) กลายเป็นศิลปินฮิปฮอปแค่ไม่กี่คนบนโลก ที่มีรายได้มหาศาลในเลเวลนี้

    ไม่ใช่แค่ความรวย แต่ดิ๊ดดี้ ยังสร้างอาณาจักรของตัวเองขึ้นมา รวมถึงสร้างเครือข่ายของกลุ่มเซเลบริตี้ ที่คอยซัพพอร์ทช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ทำให้ดิ๊ดดี้ ถูกสื่อมวลชน ใช้คำว่า Mogul (ผู้มีอำนาจ, เจ้าพ่อ) ในวงการดนตรี

    ดิ๊ดดี้นั้น ขึ้นชื่อมาก เรื่องการจัดงานปาร์ตี้ ในช่วงปี 1998-2009 เขาจัดงานชื่อ "ไวท์ปาร์ตี้" สังสรรค์เฉพาะกลุ่มคนรวย คนดัง ใส่เสื้อขาวทั้งงาน เป็นปาร์ตี้ที่พวกเซเล็บอยากไปร่วมกันมากๆ

    ชีวิตของเขาก็ดูราบรื่นดี อย่างในปี 2022 เขาจัดงานปาร์ตี้ ฉลองวันเกิดอายุ 53 ปี ที่เบเวอร์ลี่ฮิลส์ คนดังๆ ทั้ง เจย์ซี, ทราวิส สกอตต์, แมรี่ เจ ไบล์ และ คริส บราวน์ ก็มาร่วมงานด้วย ดูแล้ว ชีวิตก็สบายๆ ไม่มีปัญหาอะไร

    ส่วนเรื่องพฤติกรรมส่วนตัวนั้น ในอดีต เขาโดนคดีต่างๆ มาบ้าง เช่น พกพาอาวุธปืน หรือ ทำร้ายร่างกายคนอื่น แต่ก็รอดมาได้ตลอด ไม่เคยต้องติดคุกสักครั้ง

    อย่างไรก็ตาม ชีวิตของดิ๊ดดี้ ต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นับจากวันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 เมื่อคาซานดร้า เวนทูร่า หรือ แคสซี่ อดีตแฟนสาวของของเขา ที่เลิกรากันไปแล้ว ไปแจ้งความที่นิวยอร์ก

    แคสซี่ ระบายความในใจทั้งหมดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าช่วงเวลาที่เธอคบหากับดิ๊ดดี้ มีแต่ความทรมาน และโดนทำร้ายร่างกายเป็นว่าเล่น

    เธอบอกว่าเคยโดนดิ๊ดดี้ ทั้งเตะ ทั้งต่อย จนตาเขียวช้ำ เลือดออก และมีแผลทั่วร่างกาย ครั้งหนึ่งเคยโดนต่อยท้องต่อหน้าเพื่อนๆ ของดิ๊ดดี้ด้วย

    นอกจากนั้น ยังใช้อำนาจในการบังคับ และล่อลวง ให้เธอมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่น โดยที่ดิ๊ดดี้จะนั่งดูอย่างสนุกสนาน เหมือนกิจกรรมบันเทิง

    ตลอดช่วงที่คบกัน แคสซี่ โดนกระทำมากมาย เช่นบีบคอ ผลักรุนแรงจนกระแทกกำแพง เคยโดนปาไข่ใส่หน้ามาแล้ว เวลาทำอะไรไม่ถูกใจ

    ไม่ใช่แค่ทำร้ายร่างกาย หรือ บังคับเรื่องเพศ แต่ดิ๊ดดี้ ยังมีส่วนพัวพันกับอาชญากรรมหลายอย่าง หนึ่งในนั้น คือการจ้างคนไปเผารถยนต์ ของแรพเปอร์ชื่อ คิด คูดี้ ที่มีข่าวว่าปลื้มแคสซี่

    แล้วไม่ใช่แค่เรื่องที่ตัวเธอโดน แต่แคสซี่ แฉมากกว่านั้น บอกว่า มีปาร์ตี้พิสดาร ที่ดิ๊ดดี้เป็นเจ้าภาพ มีชื่อว่า "freak offs" (ปาร์ตี้หลุดโลก) โดยในงานมีเหล้า มียา สารผิดกฎหมาย และมีการจ้างเด็กเอ็น ทั้งชายและหญิง มามีเซ็กส์กันแบบมั่วสุดๆ และยังมีการถ่ายคลิปเก็บไว้ด้วย โดยไม่สนใจว่า คนในงานจะเต็มใจหรือไม่

    เมื่อโดนแจ้งความใส่ยับแบบนี้ ดิ๊ดดี้ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เขาว่าจ้างทนายให้มาสู้คดีกับแคสซี่บนศาล คุณมีหลักฐานอะไรก็งัดกันออกมาดู

    หลังจากที่แคสซี่ ทำการแฉดิ๊ดดี้นั้น ในจังหวะใกล้ๆ กัน มีคนออกมาแจ้งความใส่ดิ๊ดดี้รัวๆ แบบต่างกรรมต่างวาระ เช่น

    - จอย ดิกเกอร์สัน-นีล เธออ้างว่า ในสมัยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เธอโดนดิ๊ดดี้ ถ่ายคลิประหว่างใช้กำลังมีเซ็กส์กับเธอ จ่ายนั้นเอาไปส่งต่อให้คนอื่น โดยที่เธอไม่ได้ยินยอม

    - ลิซ่า การ์ดเนอร์ บอกว่าเธอกับเพื่อนถูกชวนไปปาร์ตี้ตอนอายุ 16 และโดนดิ๊ดดี้ กับ เพื่อน ล่อลวงให้มีเซ็กส์ด้วย ทั้งๆ ที่เธอยังเป็นผู้เยาว์

    - ผู้หญิงอีกคนที่ไม่เอ่ยนาม บอกว่าเธอโดนดิ๊ดดี้ กับ ประธานบริษัทแบดบอย เรคคอร์ด ชื่อ ฮาร์ฟ ปิแอร์ และผู้ชายอีกคนหนึ่ง ทำการลงแขก ตอนเธออายุ 17 ปี โดยหลอกล่อว่าจะให้โอกาสทางหน้าที่การงาน

    - ร็อดนีย์ โจนส์ โปรดิวเซอร์ผู้ชาย ที่เคยร่วมงานกับดิ๊ดดี้ บอกว่า โดนกดดันให้ไปมีเซ็กส์กับผู้ชายอีกคนหนึ่งในงานปาร์ตี้ โดยอ้างว่า 'นี่เป็นเรื่องปกติในอุตสาหกรรมดนตรี'

    คดีแล้ว คดีเล่า ที่ค่อยๆ แดงออกมาเรื่อยๆ แต่ดิ๊ดดี้ ไม่ยอมจำนน เขาตั้งใจจะสู้ทุกคดี เพราะแค่พูด ใครก็พูดได้ ไว้มีหลักฐานจะจะ ค่อยคิดจะมาโค่นเขา

    วันที่ 17 พฤษภาคม 2024 สถานี CNN ก็ได้หลักฐานเด็ดในคดี แคสซี่-ดิ๊ดดี้ นั่นคือกล้องวงจรปิด จากโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนทัล ในลอสแองเจลิส

    เป็นจังหวะที่แคสซี่ เดินออกจากห้องพัก เพื่อลงลิฟต์เตรียมจะกลับบ้าน แต่ดิ๊ดดี้ ตื่นขึ้นมาพอดี และเห็นแคสซี่ไม่อยู่ จึงวิ่งใส่ผ้าเช็ดตัว ออกมาตามทางเดินแล้วมาเจอเธอที่ลิฟต์

    เขาต่อยเธอด้วยหมัดขวา ถีบไปอีก 2 ที แล้วเอาแจกันแก้วที่โรงแรมวางประดับเอาไว้ ขว้างใส่ ก่อนจะลากคอกลับเข้าห้องนอน

    เมื่อมีหลักฐานจะแจ้งขนาดนี้ แสดงให้เห็นว่าการใช้กำลังเกิดขึ้นจริง ทำให้ดิ๊ดดี้ก็ต้องออกมายอมรับ และกล่าวคำขอโทษต่อมวลชน

    และจากจุดนั้นเอง ทำให้เซเล็บหลายๆ คน เริ่มอันฟอลโลว์เขา ไม่มีใครอยากจะสนิทชิดเชื้อกับคนที่ใช้ความรุนแรงแบบนี้ คือภาพที่ออกไป มันแย่มาก

    และจากจุดนั้น ก็มีคดีใหม่ๆ ที่ถูกเปิดเผยเรื่อยๆ ประเดประดังเข้ามาใส่ดิ๊ดดี้ จนตั้งตัวไม่ทัน

    - คริสตัล แม็คเคนนีย์ นางแบบสาว อ้างว่าโดนดิ๊ดดี้ ใช้กำลังลากเธอเข้าไปในห้องนำแล้วบังคับให้ทำออรัลเซ็กส์ให้ ในสตูดิโอที่ใช้อัดเพลงในนิวยอร์ก

    - เอพริล แลมพรอส นักศึกษาสถาบันแฟชั่น บอกว่าเธอโดนดิ๊ดดี้บังคับให้ทำการเซ็กส์หมู่

    - อาเดรีย อิงลิช นักแสดงหนังโป๊ บอกว่าเธอโดนล่อหลอกให้แสดงกิจกรรมทางเพศ ระหว่างงานปาร์ตี้ โจมตีดิ๊ดดี้ว่าทำการค้ามนุษย์

    - ดอว์น ริชาร์ดส นักร้องจากวงดานิตี้ เคน ที่เคยร่วมงานกับดิ๊ดดี้ บอกว่า โดนดิ๊ดดี้แอบจับหน้าอก และจับก้นหลายครั้ง ทำแบบไม่รู้สึกรู้สาอะไร เหมือนเป็นเรื่องปกติ คุณพ่อของดอว์น ริชาร์ดส ขับรถจากบัลติมอร์ มานิวยอร์กเพื่อมาคุยกับดิ๊ดดี้ แต่โดนขู่ว่า "คิดถึงครอบครัวของแกให้ดีเถอะ"

    เมื่อคดียาวเป็นหางว่าวแบบนี้ ทำให้วันที่ 16 กันยายน 2024 ดิ๊ดดี้ โดนตำรวจจับกุมตัว ที่โรงแรมพาร์กไฮแอต ในนิวยอร์ก

    โดยคดีที่ตำรวจให้ความสนใจคือ การจัดปาร์ตี้เบื้องหน้า แต่เบื้องหลังคือขบวนการค้ากาม ค้ามนุษย์ รวมถึงพรากผู้เยาว์ รวมถึงการทำร้ายร่างกาย ที่มีคลิปหลักฐานชัดเจน

    สิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯ มองอยู่ คือดิ๊ดดี้ อาจทำเรื่องผิดกฎหมายที่ร้ายแรงกว่านั้นอีก เช่น การสร้างองค์กรอาชญากรรมของตัวเองขึ้นมา แล้วมีส่วนในการลักลอบวางเพลิง, การลักพาตัว, การใช้แรงงานทาส, การค้าสารเสพติด และ การติดสินบนเจ้าพนักงาน

    เขาอาจจะไม่ใช่แค่เจ้าพ่อเพลงฮิปฮอปเฉยๆ แต่อาจเป็นผู้มีอิทธิพลของจริงเลยก็ได้

    หลังจากดิ๊ดดี้โดนจับ มีข้อมูลน่าสนใจ ที่ตำรวจค้นพบ ระหว่างการค้นบ้านของดิ๊ดดี้ ที่ลอสแองเจลิส กับ ไมอามี่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานปาร์ตี้ freak offs

    ตำรวจพบว่า มีขวดเบบี้ออยล์ มากถึง 1,000 ขวด อยู่ในบ้าน

    แน่นอน คนก็เชื่อมโยงว่า คุณจะซื้อเบบี้ออยล์มาเยอะขนาดนั้นทำไม เหตุผลน่าจะมีอย่างเดียวคือ คงเอาไปใช้ในกิจกรรมทางเพศอย่างบ้าคลั่ง เช่นงาน ปาร์ตี้เซ็กส์ เป็นต้น

    นับจนถึงเมื่อวานนี้ (24 กันยายน) มีคนแจ้งความดิ๊ดดี้ ทั้งหมด 11 คน และมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นอีกเรื่อยๆ

    รวมถึงบางคดี ที่น่าสนใจเหมือนกัน เช่น จากัวร์ ไรท์ นักร้องสาวชาวอเมริกัน อ้างว่า ดิ๊ดดี้ ถ่ายคลิปของเซเลบริตี้หลายคนเอาไว้ แล้วไปปล่อยในดาร์กเว็บ ได้เงินมา 500 ล้านดอลลาร์

    นอกจากนั้น ยังมีข่าวลืออีกสารพัด ว่าเขาเคยล่วงละเมิด ศิลปินทั้งชาย และ หญิง มาแล้วหลายคน ซึ่งในจำนวนนั้นก็มีคนที่เป็นซูเปอร์สตาร์ในปัจจุบันด้วย

    สถานการณ์ล่าสุด ดิ๊ดดี้ต้องไปอยู่ในห้องขัง โดยเขายื่นข้อเสนอประกันตัว 50 ล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งติด GPS เพื่อการันตีว่าจะไม่หลบหนี แต่ศาลไม่อนุมัติ ทำให้ตอนนี้ดิ๊ดดี้ต้องอยู่ในเรือนจำที่บรู๊คลิน จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

    สเต็ปต่อไปทนายของดิ๊ดดี้ กำลังเตรียมสู้คดีอย่างเต็มที่ คือมีบางเคสที่ดิ๊ดดี้โดนแน่ๆ เช่นทำร้ายร่างกายแคสซี่ เพราะมีกล้องวงจรปิดชัดเจน

    แต่กับคดีอื่นๆ ที่เขาโดนกล่าวหาว่ากระทำ ก็ต้องมาพิสูจน์กันต่อไป ว่าทำจริงหรือไม่

    สำหรับในวงการกีฬานั้น เรื่องนี้ก็สั่นสะเทือนเช่นกัน เพราะศิลปินฮิปฮ็อป กับนักกีฬาอีลีท มักจะสนิทสนมกัน เช่น เคนดริค ลามาร์ กับ เดมาร์ เดโรซาน สนิทกันถึงขั้นเดโรซานไปเล่นในเอ็มวีให้

    หรือตอนรัสเซลล์ เวสต์บรู๊ก นำทริปเปิ้ลดับเบิ้ลในตำนาน (20 แต้ม, 20 รีบาวด์, 20 แอสซิสต์) เขาอุทิศผลงานนี้ ให้กับแรพเปอร์ ชื่อ นิปซีย์ ผู้ล่วงลับ

    โดยดิ๊ดดี้ อยู่ในวงการมาเกิน 30 ปี รู้จักคนมากมาย และสนิทสนมกับนักกีฬาหลายคน ไปร่วมกิจกรรมกับ NBA ก็บ่อย แต่ถึงตรงนี้ ก็คงไม่มีใครที่พร้อมจะอยู่ซัพพอร์ทเขา เพราะไม่อยากติดร่างแหไปด้วย

    มีคนย้อนไปดูคลิปงานปาร์ตี้ freak offs ที่เผยแพร่ออกมา พบว่า มีนักกีฬาบางคนไปร่วมงานด้วย เช่น เลียวนาร์ด โฟร์เนตต์ รันนิ่งแบ็กชุดแชมป์ NFL ของแทมป้าเบย์ บัคคาเนียร์ ซึ่งโฟร์เนตต์ก็โดนสังคมจับจ้องทันทีว่า ไปมั่วยา มั่วเซ็กส์ หรือทำอะไรผิดกฎหมายหรือเปล่า

    ดังนั้นสิ่งที่นักกีฬาทำตอนนี้คือ เอาตัวออกห่างจากดิ๊ดดี้ให้ไกลที่สุด ไม่ให้เชื่อมโยงกันได้ อะไรที่เคยโพสต์ถึงก็ไล่ลบจนเกลี้ยงทั้งหมด

    สิ่งที่เราเห็นจากเรื่องนี้ คือในวันที่ยิ่งใหญ่ ทำอะไรก็ราบรื่น ผู้คนล้อมหน้าล้อมหลัง แต่ในวันนี้ ที่ความผิดเริ่มแดงออกมาเรื่อยๆ ดิ๊ดดี้ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีใครอยากจะร่วม "ปาร์ตี้" ของเขาอีกแล้ว

    และแน่นอน ถ้าพิสูจน์ได้ว่าทำผิดจริง ก็ต้องรับโทษทางกฎหมายกันไป

    บางคนบอกว่า ถ้าทีมทนายไม่เก่งระดับเทพล่ะก็ อิสรภาพวันสุดท้ายของดิ๊ดดี้ อาจจะหมดลงแล้ว และอาจติดคุกในช่วงที่เหลืออยู่ของชีวิต แม้จะมีเงินในบัญชีถึง 1 พันล้านดอลลาร์ก็ตามที”

    ที่มา : เพจวิเคราะห์บอลจริงจัง https://www.facebook.com/share/5f8x3Zx1WzpUs8b5/?mibextid=CTbP7E
    ภาพ

    #Thaitimes
    รีโพสต์เรื่องอื้อฉาวโสมมของDiddyเจ้าพ่อบันเทิงคนดังของอเมริกา “ปรากฏการณ์ดิ๊ดดี้ (Diddy) สะเทือนสังคมอเมริกันอย่างรุนแรง เพราะมีเซเลบริตี้เข้าไปข้องเกี่ยวมากมาย ก่อนจะเกิดเรื่องฉาว ดิ๊ดดี้ มีความสัมพันธ์ดีๆ กับ นักกีฬาระดับโลกหลายคน แต่ในวันนี้ทุกคนตัดความสัมพันธ์ทิ้งหมดแล้ว เลอบรอน เจมส์ นักบาสเกตบอลผู้โด่งดัง สนิทสนมกับดิ๊ดดี้ เป็นการส่วนตัว ลูกชายคนเล็กของเขาชื่อ บรีซ เคยไปเที่ยวกับ เจสซี่ และ ดีลีล่า ลูกสาวแฝดของดิ๊ดดี้ และเคยถ่ายคลิปเต้นด้วยกันอีกต่างหาก เลอบรอน เคยพูดอินสตาแกรมไลฟ์ ว่า "ทุกคนรู้ว่า ไม่มีปาร์ตี้ไหน จะเหมือนปาร์ตี้ของดิ๊ดดี้" กลายเป็นประโยคไวรัล ที่จะถูกใช้ไปอีกนานต่อจากนี้ แต่จากความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ล่าสุดเลอบรอน อันฟอลโลว์ดิ๊ดดี้ไปแล้วเรียบร้อย ตัดขาดกันไปเลย ไม่อยากข้องเกี่ยวใดๆ ด้วย แพทริก มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็กจากแคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ เจ้าของแชมป์ซูเปอร์โบวล์ 3 สมัย ไล่ลบทวีต ที่เคยแฮปปี้เบิร์ธเดย์ ดิ๊ดดี้ พยายามไม่ให้เหลือหลักฐานว่าเคยสนิทกัน (แต่โดนคนแคปเก็บไว้แล้ว) เช่นเดียวกับ สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ และ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ ก็อันฟอลโลว์ดิ๊ดดี้ ในโซเชียลมีเดียไปแล้วทั้งหมด เรื่องราวของดิ๊ดดี้เป็นอย่างไร ทำไมนักกีฬาต้องเลิกติดตามเขา เราจะไปลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่แรก อย่างเข้าใจง่ายนะครับ ดิ๊ดดี้ มีชื่อจริงว่า ฌอน คอมบ์ส เขาเป็นคนนิวยอร์ก และเข้าสู่วงการดนตรีตั้งแต่วัยรุ่น และอยู่ในอุตสาหกรรมนี้มา 3 ทศวรรษ ถือเป็นหนึ่งในเลเจนด์ของวงการเพลงแร็พ ฌอน คอมบ์ส มีชื่อในวงการหลายชื่อ เช่น Diddy, P.Diddy, Puff Daddy เป็นต้น ดิ๊ดดี้ ได้รางวัลใหญ่ๆ ในด้านดนตรีมาแล้ว แทบทุกสถาบัน เช่นแกรมมี่ อวอร์ดส และ MTV Music Awards เขามีซิงเกิ้ลขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ด ถึง 3 เพลง โดยหนึ่งในเพลงคลาสสิคที่สุด ที่ทุกคนน่าจะเคยได้ยินแน่นอน คือเพลงชื่อ I'll be missing you แค่อินโทรดังขึ้นมา ก็ติดหูแล้ว (แต่จริงๆ ไปเอาทำนองมาจากเพลงชื่อ Every Breath You Take ของ Police) ในปี 1993 ดิ๊ดดี้ เปิดค่ายเพลงชื่อ แบด บอย เรคคอร์ดส และเป็นโปรดิวเซอร์ให้สตาร์ของวงการมาแล้วหลายคน เช่น The Notorious B.I.G. ที่เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนในยุคปัจจุบันก็มี MGK ศิลปินที่ทำเพลงร้อยล้านวิวเป็นว่าเล่น ดิ๊ดดี้ ไม่ใช่แค่ทำเพลงเก่งอย่างเดียว แต่ยังมีหัวธุรกิจในระดับสุดยอดอีกด้วย พอมีชื่อเสียงจากฮิปฮอป เขาต่อยอดไปทำแบรนด์เสื้อผ้าชื่อ ฌอน จอห์น ตามด้วยเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ให้กับว็อดก้ายี่ห้อซิร็อค ได้รับส่วนแบ่งยอดขายต่อขวด นอกจากนั้น เขายังก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ชื่อ Revolt TV เพื่อนำเสนอวัฒนธรรมและดนตรี ของกลุ่มแอฟริกัน อเมริกัน โดยเฉพาะ และในที่สุด ปี 2022 ดิ๊ดดี้ ก็มีสินทรัพย์ทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ (32,000 ล้านบาท) กลายเป็นศิลปินฮิปฮอปแค่ไม่กี่คนบนโลก ที่มีรายได้มหาศาลในเลเวลนี้ ไม่ใช่แค่ความรวย แต่ดิ๊ดดี้ ยังสร้างอาณาจักรของตัวเองขึ้นมา รวมถึงสร้างเครือข่ายของกลุ่มเซเลบริตี้ ที่คอยซัพพอร์ทช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ทำให้ดิ๊ดดี้ ถูกสื่อมวลชน ใช้คำว่า Mogul (ผู้มีอำนาจ, เจ้าพ่อ) ในวงการดนตรี ดิ๊ดดี้นั้น ขึ้นชื่อมาก เรื่องการจัดงานปาร์ตี้ ในช่วงปี 1998-2009 เขาจัดงานชื่อ "ไวท์ปาร์ตี้" สังสรรค์เฉพาะกลุ่มคนรวย คนดัง ใส่เสื้อขาวทั้งงาน เป็นปาร์ตี้ที่พวกเซเล็บอยากไปร่วมกันมากๆ ชีวิตของเขาก็ดูราบรื่นดี อย่างในปี 2022 เขาจัดงานปาร์ตี้ ฉลองวันเกิดอายุ 53 ปี ที่เบเวอร์ลี่ฮิลส์ คนดังๆ ทั้ง เจย์ซี, ทราวิส สกอตต์, แมรี่ เจ ไบล์ และ คริส บราวน์ ก็มาร่วมงานด้วย ดูแล้ว ชีวิตก็สบายๆ ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องพฤติกรรมส่วนตัวนั้น ในอดีต เขาโดนคดีต่างๆ มาบ้าง เช่น พกพาอาวุธปืน หรือ ทำร้ายร่างกายคนอื่น แต่ก็รอดมาได้ตลอด ไม่เคยต้องติดคุกสักครั้ง อย่างไรก็ตาม ชีวิตของดิ๊ดดี้ ต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นับจากวันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 เมื่อคาซานดร้า เวนทูร่า หรือ แคสซี่ อดีตแฟนสาวของของเขา ที่เลิกรากันไปแล้ว ไปแจ้งความที่นิวยอร์ก แคสซี่ ระบายความในใจทั้งหมดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าช่วงเวลาที่เธอคบหากับดิ๊ดดี้ มีแต่ความทรมาน และโดนทำร้ายร่างกายเป็นว่าเล่น เธอบอกว่าเคยโดนดิ๊ดดี้ ทั้งเตะ ทั้งต่อย จนตาเขียวช้ำ เลือดออก และมีแผลทั่วร่างกาย ครั้งหนึ่งเคยโดนต่อยท้องต่อหน้าเพื่อนๆ ของดิ๊ดดี้ด้วย นอกจากนั้น ยังใช้อำนาจในการบังคับ และล่อลวง ให้เธอมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่น โดยที่ดิ๊ดดี้จะนั่งดูอย่างสนุกสนาน เหมือนกิจกรรมบันเทิง ตลอดช่วงที่คบกัน แคสซี่ โดนกระทำมากมาย เช่นบีบคอ ผลักรุนแรงจนกระแทกกำแพง เคยโดนปาไข่ใส่หน้ามาแล้ว เวลาทำอะไรไม่ถูกใจ ไม่ใช่แค่ทำร้ายร่างกาย หรือ บังคับเรื่องเพศ แต่ดิ๊ดดี้ ยังมีส่วนพัวพันกับอาชญากรรมหลายอย่าง หนึ่งในนั้น คือการจ้างคนไปเผารถยนต์ ของแรพเปอร์ชื่อ คิด คูดี้ ที่มีข่าวว่าปลื้มแคสซี่ แล้วไม่ใช่แค่เรื่องที่ตัวเธอโดน แต่แคสซี่ แฉมากกว่านั้น บอกว่า มีปาร์ตี้พิสดาร ที่ดิ๊ดดี้เป็นเจ้าภาพ มีชื่อว่า "freak offs" (ปาร์ตี้หลุดโลก) โดยในงานมีเหล้า มียา สารผิดกฎหมาย และมีการจ้างเด็กเอ็น ทั้งชายและหญิง มามีเซ็กส์กันแบบมั่วสุดๆ และยังมีการถ่ายคลิปเก็บไว้ด้วย โดยไม่สนใจว่า คนในงานจะเต็มใจหรือไม่ เมื่อโดนแจ้งความใส่ยับแบบนี้ ดิ๊ดดี้ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เขาว่าจ้างทนายให้มาสู้คดีกับแคสซี่บนศาล คุณมีหลักฐานอะไรก็งัดกันออกมาดู หลังจากที่แคสซี่ ทำการแฉดิ๊ดดี้นั้น ในจังหวะใกล้ๆ กัน มีคนออกมาแจ้งความใส่ดิ๊ดดี้รัวๆ แบบต่างกรรมต่างวาระ เช่น - จอย ดิกเกอร์สัน-นีล เธออ้างว่า ในสมัยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เธอโดนดิ๊ดดี้ ถ่ายคลิประหว่างใช้กำลังมีเซ็กส์กับเธอ จ่ายนั้นเอาไปส่งต่อให้คนอื่น โดยที่เธอไม่ได้ยินยอม - ลิซ่า การ์ดเนอร์ บอกว่าเธอกับเพื่อนถูกชวนไปปาร์ตี้ตอนอายุ 16 และโดนดิ๊ดดี้ กับ เพื่อน ล่อลวงให้มีเซ็กส์ด้วย ทั้งๆ ที่เธอยังเป็นผู้เยาว์ - ผู้หญิงอีกคนที่ไม่เอ่ยนาม บอกว่าเธอโดนดิ๊ดดี้ กับ ประธานบริษัทแบดบอย เรคคอร์ด ชื่อ ฮาร์ฟ ปิแอร์ และผู้ชายอีกคนหนึ่ง ทำการลงแขก ตอนเธออายุ 17 ปี โดยหลอกล่อว่าจะให้โอกาสทางหน้าที่การงาน - ร็อดนีย์ โจนส์ โปรดิวเซอร์ผู้ชาย ที่เคยร่วมงานกับดิ๊ดดี้ บอกว่า โดนกดดันให้ไปมีเซ็กส์กับผู้ชายอีกคนหนึ่งในงานปาร์ตี้ โดยอ้างว่า 'นี่เป็นเรื่องปกติในอุตสาหกรรมดนตรี' คดีแล้ว คดีเล่า ที่ค่อยๆ แดงออกมาเรื่อยๆ แต่ดิ๊ดดี้ ไม่ยอมจำนน เขาตั้งใจจะสู้ทุกคดี เพราะแค่พูด ใครก็พูดได้ ไว้มีหลักฐานจะจะ ค่อยคิดจะมาโค่นเขา วันที่ 17 พฤษภาคม 2024 สถานี CNN ก็ได้หลักฐานเด็ดในคดี แคสซี่-ดิ๊ดดี้ นั่นคือกล้องวงจรปิด จากโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนทัล ในลอสแองเจลิส เป็นจังหวะที่แคสซี่ เดินออกจากห้องพัก เพื่อลงลิฟต์เตรียมจะกลับบ้าน แต่ดิ๊ดดี้ ตื่นขึ้นมาพอดี และเห็นแคสซี่ไม่อยู่ จึงวิ่งใส่ผ้าเช็ดตัว ออกมาตามทางเดินแล้วมาเจอเธอที่ลิฟต์ เขาต่อยเธอด้วยหมัดขวา ถีบไปอีก 2 ที แล้วเอาแจกันแก้วที่โรงแรมวางประดับเอาไว้ ขว้างใส่ ก่อนจะลากคอกลับเข้าห้องนอน เมื่อมีหลักฐานจะแจ้งขนาดนี้ แสดงให้เห็นว่าการใช้กำลังเกิดขึ้นจริง ทำให้ดิ๊ดดี้ก็ต้องออกมายอมรับ และกล่าวคำขอโทษต่อมวลชน และจากจุดนั้นเอง ทำให้เซเล็บหลายๆ คน เริ่มอันฟอลโลว์เขา ไม่มีใครอยากจะสนิทชิดเชื้อกับคนที่ใช้ความรุนแรงแบบนี้ คือภาพที่ออกไป มันแย่มาก และจากจุดนั้น ก็มีคดีใหม่ๆ ที่ถูกเปิดเผยเรื่อยๆ ประเดประดังเข้ามาใส่ดิ๊ดดี้ จนตั้งตัวไม่ทัน - คริสตัล แม็คเคนนีย์ นางแบบสาว อ้างว่าโดนดิ๊ดดี้ ใช้กำลังลากเธอเข้าไปในห้องนำแล้วบังคับให้ทำออรัลเซ็กส์ให้ ในสตูดิโอที่ใช้อัดเพลงในนิวยอร์ก - เอพริล แลมพรอส นักศึกษาสถาบันแฟชั่น บอกว่าเธอโดนดิ๊ดดี้บังคับให้ทำการเซ็กส์หมู่ - อาเดรีย อิงลิช นักแสดงหนังโป๊ บอกว่าเธอโดนล่อหลอกให้แสดงกิจกรรมทางเพศ ระหว่างงานปาร์ตี้ โจมตีดิ๊ดดี้ว่าทำการค้ามนุษย์ - ดอว์น ริชาร์ดส นักร้องจากวงดานิตี้ เคน ที่เคยร่วมงานกับดิ๊ดดี้ บอกว่า โดนดิ๊ดดี้แอบจับหน้าอก และจับก้นหลายครั้ง ทำแบบไม่รู้สึกรู้สาอะไร เหมือนเป็นเรื่องปกติ คุณพ่อของดอว์น ริชาร์ดส ขับรถจากบัลติมอร์ มานิวยอร์กเพื่อมาคุยกับดิ๊ดดี้ แต่โดนขู่ว่า "คิดถึงครอบครัวของแกให้ดีเถอะ" เมื่อคดียาวเป็นหางว่าวแบบนี้ ทำให้วันที่ 16 กันยายน 2024 ดิ๊ดดี้ โดนตำรวจจับกุมตัว ที่โรงแรมพาร์กไฮแอต ในนิวยอร์ก โดยคดีที่ตำรวจให้ความสนใจคือ การจัดปาร์ตี้เบื้องหน้า แต่เบื้องหลังคือขบวนการค้ากาม ค้ามนุษย์ รวมถึงพรากผู้เยาว์ รวมถึงการทำร้ายร่างกาย ที่มีคลิปหลักฐานชัดเจน สิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯ มองอยู่ คือดิ๊ดดี้ อาจทำเรื่องผิดกฎหมายที่ร้ายแรงกว่านั้นอีก เช่น การสร้างองค์กรอาชญากรรมของตัวเองขึ้นมา แล้วมีส่วนในการลักลอบวางเพลิง, การลักพาตัว, การใช้แรงงานทาส, การค้าสารเสพติด และ การติดสินบนเจ้าพนักงาน เขาอาจจะไม่ใช่แค่เจ้าพ่อเพลงฮิปฮอปเฉยๆ แต่อาจเป็นผู้มีอิทธิพลของจริงเลยก็ได้ หลังจากดิ๊ดดี้โดนจับ มีข้อมูลน่าสนใจ ที่ตำรวจค้นพบ ระหว่างการค้นบ้านของดิ๊ดดี้ ที่ลอสแองเจลิส กับ ไมอามี่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานปาร์ตี้ freak offs ตำรวจพบว่า มีขวดเบบี้ออยล์ มากถึง 1,000 ขวด อยู่ในบ้าน แน่นอน คนก็เชื่อมโยงว่า คุณจะซื้อเบบี้ออยล์มาเยอะขนาดนั้นทำไม เหตุผลน่าจะมีอย่างเดียวคือ คงเอาไปใช้ในกิจกรรมทางเพศอย่างบ้าคลั่ง เช่นงาน ปาร์ตี้เซ็กส์ เป็นต้น นับจนถึงเมื่อวานนี้ (24 กันยายน) มีคนแจ้งความดิ๊ดดี้ ทั้งหมด 11 คน และมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นอีกเรื่อยๆ รวมถึงบางคดี ที่น่าสนใจเหมือนกัน เช่น จากัวร์ ไรท์ นักร้องสาวชาวอเมริกัน อ้างว่า ดิ๊ดดี้ ถ่ายคลิปของเซเลบริตี้หลายคนเอาไว้ แล้วไปปล่อยในดาร์กเว็บ ได้เงินมา 500 ล้านดอลลาร์ นอกจากนั้น ยังมีข่าวลืออีกสารพัด ว่าเขาเคยล่วงละเมิด ศิลปินทั้งชาย และ หญิง มาแล้วหลายคน ซึ่งในจำนวนนั้นก็มีคนที่เป็นซูเปอร์สตาร์ในปัจจุบันด้วย สถานการณ์ล่าสุด ดิ๊ดดี้ต้องไปอยู่ในห้องขัง โดยเขายื่นข้อเสนอประกันตัว 50 ล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งติด GPS เพื่อการันตีว่าจะไม่หลบหนี แต่ศาลไม่อนุมัติ ทำให้ตอนนี้ดิ๊ดดี้ต้องอยู่ในเรือนจำที่บรู๊คลิน จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง สเต็ปต่อไปทนายของดิ๊ดดี้ กำลังเตรียมสู้คดีอย่างเต็มที่ คือมีบางเคสที่ดิ๊ดดี้โดนแน่ๆ เช่นทำร้ายร่างกายแคสซี่ เพราะมีกล้องวงจรปิดชัดเจน แต่กับคดีอื่นๆ ที่เขาโดนกล่าวหาว่ากระทำ ก็ต้องมาพิสูจน์กันต่อไป ว่าทำจริงหรือไม่ สำหรับในวงการกีฬานั้น เรื่องนี้ก็สั่นสะเทือนเช่นกัน เพราะศิลปินฮิปฮ็อป กับนักกีฬาอีลีท มักจะสนิทสนมกัน เช่น เคนดริค ลามาร์ กับ เดมาร์ เดโรซาน สนิทกันถึงขั้นเดโรซานไปเล่นในเอ็มวีให้ หรือตอนรัสเซลล์ เวสต์บรู๊ก นำทริปเปิ้ลดับเบิ้ลในตำนาน (20 แต้ม, 20 รีบาวด์, 20 แอสซิสต์) เขาอุทิศผลงานนี้ ให้กับแรพเปอร์ ชื่อ นิปซีย์ ผู้ล่วงลับ โดยดิ๊ดดี้ อยู่ในวงการมาเกิน 30 ปี รู้จักคนมากมาย และสนิทสนมกับนักกีฬาหลายคน ไปร่วมกิจกรรมกับ NBA ก็บ่อย แต่ถึงตรงนี้ ก็คงไม่มีใครที่พร้อมจะอยู่ซัพพอร์ทเขา เพราะไม่อยากติดร่างแหไปด้วย มีคนย้อนไปดูคลิปงานปาร์ตี้ freak offs ที่เผยแพร่ออกมา พบว่า มีนักกีฬาบางคนไปร่วมงานด้วย เช่น เลียวนาร์ด โฟร์เนตต์ รันนิ่งแบ็กชุดแชมป์ NFL ของแทมป้าเบย์ บัคคาเนียร์ ซึ่งโฟร์เนตต์ก็โดนสังคมจับจ้องทันทีว่า ไปมั่วยา มั่วเซ็กส์ หรือทำอะไรผิดกฎหมายหรือเปล่า ดังนั้นสิ่งที่นักกีฬาทำตอนนี้คือ เอาตัวออกห่างจากดิ๊ดดี้ให้ไกลที่สุด ไม่ให้เชื่อมโยงกันได้ อะไรที่เคยโพสต์ถึงก็ไล่ลบจนเกลี้ยงทั้งหมด สิ่งที่เราเห็นจากเรื่องนี้ คือในวันที่ยิ่งใหญ่ ทำอะไรก็ราบรื่น ผู้คนล้อมหน้าล้อมหลัง แต่ในวันนี้ ที่ความผิดเริ่มแดงออกมาเรื่อยๆ ดิ๊ดดี้ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีใครอยากจะร่วม "ปาร์ตี้" ของเขาอีกแล้ว และแน่นอน ถ้าพิสูจน์ได้ว่าทำผิดจริง ก็ต้องรับโทษทางกฎหมายกันไป บางคนบอกว่า ถ้าทีมทนายไม่เก่งระดับเทพล่ะก็ อิสรภาพวันสุดท้ายของดิ๊ดดี้ อาจจะหมดลงแล้ว และอาจติดคุกในช่วงที่เหลืออยู่ของชีวิต แม้จะมีเงินในบัญชีถึง 1 พันล้านดอลลาร์ก็ตามที” ที่มา : เพจวิเคราะห์บอลจริงจัง https://www.facebook.com/share/5f8x3Zx1WzpUs8b5/?mibextid=CTbP7E ภาพ #Thaitimes
    Like
    1
    2 Comments 0 Shares 934 Views 0 Reviews
  • ในขณะที่ร.9 กลับมาเมืองไทยในฐานะน้องชายของ
    ร.8 ซึ่งมีแม่ มีพี่สาว รวม 4 คน ท่านอยู่ท่ามกลางประชาชนที่แบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งไม่เอาเจ้าอยู่หัว # ฝ่ายหนึ่งเอาเจ้าอยู่หัวแล้วพร้อมที่จะปกป้องดูแลอารักขาให้อย่างดี ขอเพียงเสด็จกลับนิวัตรพระนคร มาเป็นมิ่งขวัญให้คนไทยอีกครั้ง
    หลังจากที่ พวกกบฎ 2475 ไล่เจ้าอยู่หัวไปแล้ว ไม่มีเจ้าแล้ว อยู่กันแบบไร้ทิศไร้ทาง นักการเมืองเริ่มส่อแววเอาเปรียบประชาชน เห็นแก่ประโยชน์ของพวกพ้องและตนเอง การรักษาความปลอดภัย พระเจ้าอยู่หัวเหมือนปล่อยให้พกปืนเดินยามดูแลตัวเอง สุดท้าย ร.8 ที่เป็นพี่ชาย ร.9 เป็นลุง ร.10 ก็ถูกลอบปลงพระชนม์ ในหลวง ร.9 จึงปรารภว่า คนบ้านนี้เมืองนี้ โหดร้ายป่าเถื่อน เราจะกลับไปแล้วไม่มาอีกดีกว่า
    ระหว่างที่เสด็จดำเนินไป
    มีชาวบ้านที่มารอส่งเสด็จ ตะโกนว่า ในหลวงอย่าทิ้งประชาชน พระองค์จึงต้องมาเป็นพระราชาให้คนไทยอีกครั้งต่อจากพี่ชาย ต้องเลี้ยงหมาไว้ดูแลตนเอง ต้องสอนลูกสาวลูกชายให้เข้มแข็ง ต้องสอนพระราชินีให้ยิงปืนให้เป็น ต้องสอนหลานๆให้ทำงานเลี้ยงดูตัวเองได้ ต้องให้ลูกชายไปเป็นทหาร เพื่อป้องกันประเทศ และราชบัลลังก์ ข่าวในพระราชสำนักเกิน 80% ทรงอยู่ในป่ากับราษฎร และทหารตามแนวชายแดน คอยป้องกันประเทศ
    มีแม่เป็นพี่เลี้ยงในการปกครองประชาราษฎร์ มีพี่สาวเป็นเสมือนเพื่อน และคนดูแล ยามที่ท้อใจเมื่อนึกถึงภาพพี่ชายโดนยิงตาย ไปต่อหน้า
    พัฒนาประเทศได้ไม่นาน แม่กับพี่สาวก็มาจากไป ร.9 จึงเหลือแต่ลูกๆ ท่ามกลางพายุการเมืองที่บ้าคลั่งของพวกไม่เอาเจ้า เผาบ้านเผาเมือง ทำให้พระองค์ที่ทรงประชวรอยู่แล้ว เพราะโหมงานหนักมานานถึง 70 ปี ต้องจากพวกเราไป อย่างสงบ
    ขึ้นสู่รัชสมัยของรัชกาลที่10 ด้วยความอึมครึมทางการเมือง
    พระองค์ไม่มีพ่อแล้ว ไม่มีย่าแล้ว มีแต่แม่ ที่ป่วย กับน้องสาวอีกคนที่ป่วยเช่นกัน และสมเด็จพระเทพฯ ในวัยเกษียณ ที่มีโครงการ ของในหลวง ร.9 ต้องคอยดูแลเยอะแยะ หลังการสวรรคตของร.9 รัฐบาลทำเรื่องกราบบังคมทูล อัญเชิญให้เข้ารับตำแหน่ง เป็นรัชกาลที่10 หากพระองค์ไม่รับตำแหน่ง ก็คงไปอยู่ต่างประเทศ ดำเนินชีวิตตามปกติของคนทั่วไป แต่เป็นเพราะเบ้าหลอมที่ถูกโยนเข้าไปตั้งแต่เยาว์วัยซึ่งสอนให้รู้ว่า พระองค์เลือกเกิดไม่ได้ เพราะการสืบทอดอำนาจทางสายโลหิต มันไม่ได้เกิดจากตัวท่านเองอยากมาเป็น แต่ว่าฟ้าเบื้องบนเขากำหนดมาแบบนี้ จึงต้องลุกขึ้น แล้วลงมือพายนาวาฝ่ามรสุมกันต่อไป เพียงหวังว่า คงไม่มีใครเอาเท้าลงไปราน้ำ เพราะคนพายมันเหนื่อยสายตัวแทบขาด..
    ~~~~
    รักในหลวง...
    ในขณะที่ร.9 กลับมาเมืองไทยในฐานะน้องชายของ ร.8 ซึ่งมีแม่ มีพี่สาว รวม 4 คน ท่านอยู่ท่ามกลางประชาชนที่แบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งไม่เอาเจ้าอยู่หัว # ฝ่ายหนึ่งเอาเจ้าอยู่หัวแล้วพร้อมที่จะปกป้องดูแลอารักขาให้อย่างดี ขอเพียงเสด็จกลับนิวัตรพระนคร มาเป็นมิ่งขวัญให้คนไทยอีกครั้ง หลังจากที่ พวกกบฎ 2475 ไล่เจ้าอยู่หัวไปแล้ว ไม่มีเจ้าแล้ว อยู่กันแบบไร้ทิศไร้ทาง นักการเมืองเริ่มส่อแววเอาเปรียบประชาชน เห็นแก่ประโยชน์ของพวกพ้องและตนเอง การรักษาความปลอดภัย พระเจ้าอยู่หัวเหมือนปล่อยให้พกปืนเดินยามดูแลตัวเอง สุดท้าย ร.8 ที่เป็นพี่ชาย ร.9 เป็นลุง ร.10 ก็ถูกลอบปลงพระชนม์ ในหลวง ร.9 จึงปรารภว่า คนบ้านนี้เมืองนี้ โหดร้ายป่าเถื่อน เราจะกลับไปแล้วไม่มาอีกดีกว่า ระหว่างที่เสด็จดำเนินไป มีชาวบ้านที่มารอส่งเสด็จ ตะโกนว่า ในหลวงอย่าทิ้งประชาชน พระองค์จึงต้องมาเป็นพระราชาให้คนไทยอีกครั้งต่อจากพี่ชาย ต้องเลี้ยงหมาไว้ดูแลตนเอง ต้องสอนลูกสาวลูกชายให้เข้มแข็ง ต้องสอนพระราชินีให้ยิงปืนให้เป็น ต้องสอนหลานๆให้ทำงานเลี้ยงดูตัวเองได้ ต้องให้ลูกชายไปเป็นทหาร เพื่อป้องกันประเทศ และราชบัลลังก์ ข่าวในพระราชสำนักเกิน 80% ทรงอยู่ในป่ากับราษฎร และทหารตามแนวชายแดน คอยป้องกันประเทศ มีแม่เป็นพี่เลี้ยงในการปกครองประชาราษฎร์ มีพี่สาวเป็นเสมือนเพื่อน และคนดูแล ยามที่ท้อใจเมื่อนึกถึงภาพพี่ชายโดนยิงตาย ไปต่อหน้า พัฒนาประเทศได้ไม่นาน แม่กับพี่สาวก็มาจากไป ร.9 จึงเหลือแต่ลูกๆ ท่ามกลางพายุการเมืองที่บ้าคลั่งของพวกไม่เอาเจ้า เผาบ้านเผาเมือง ทำให้พระองค์ที่ทรงประชวรอยู่แล้ว เพราะโหมงานหนักมานานถึง 70 ปี ต้องจากพวกเราไป อย่างสงบ ขึ้นสู่รัชสมัยของรัชกาลที่10 ด้วยความอึมครึมทางการเมือง พระองค์ไม่มีพ่อแล้ว ไม่มีย่าแล้ว มีแต่แม่ ที่ป่วย กับน้องสาวอีกคนที่ป่วยเช่นกัน และสมเด็จพระเทพฯ ในวัยเกษียณ ที่มีโครงการ ของในหลวง ร.9 ต้องคอยดูแลเยอะแยะ หลังการสวรรคตของร.9 รัฐบาลทำเรื่องกราบบังคมทูล อัญเชิญให้เข้ารับตำแหน่ง เป็นรัชกาลที่10 หากพระองค์ไม่รับตำแหน่ง ก็คงไปอยู่ต่างประเทศ ดำเนินชีวิตตามปกติของคนทั่วไป แต่เป็นเพราะเบ้าหลอมที่ถูกโยนเข้าไปตั้งแต่เยาว์วัยซึ่งสอนให้รู้ว่า พระองค์เลือกเกิดไม่ได้ เพราะการสืบทอดอำนาจทางสายโลหิต มันไม่ได้เกิดจากตัวท่านเองอยากมาเป็น แต่ว่าฟ้าเบื้องบนเขากำหนดมาแบบนี้ จึงต้องลุกขึ้น แล้วลงมือพายนาวาฝ่ามรสุมกันต่อไป เพียงหวังว่า คงไม่มีใครเอาเท้าลงไปราน้ำ เพราะคนพายมันเหนื่อยสายตัวแทบขาด.. ~~~~ รักในหลวง...
    Yay
    1
    0 Comments 0 Shares 152 Views 0 Reviews
  • #ให้ร้ายน้องแน๊กขนาดนี้เลยไม่ซั่วทำไม่ได้นะ
    เนื้อความต้นโพสให้ร้ายน้องแบบนี้ครับ
    "ชั้นคือหนึ่งในคนที่บักฮอลแลนด์มันส่งรูปให้ดูค่ะและชั้นไม่เคยเอาไปโพสต์ที่ไหน เพราะสงสารผู้หญิง ทุกวันนี้ชั้นยัง งง อยู่เลยว่า มันส่งมาทำไม แกมขู่ววอีกว่า ถ้ารูปกหลุดจะฟ้-อ-ง-ศ-า-ล"
    สำนวนกากมาก เอาเอไอเจน แล้วไปปล่อยข่าวแบบนี้ทุกแพลตฟอร์ม
    #ขู่จะเล่นคนอื่นแบบไม่ดูเงาหัวตัวเอง
    นี่คือหลักต๋าน 1ในพันสำหรับการทำงาน
    ที่เป็นเครือข่ายของโจ มณฑานี
    ส่งไม้ต่อกันเป็นทอดๆ นำเรื่องบิดเบือนให้ร้าย
    ไปส่งต่อ จนคิดว่าตัวเองทำสิ่งที่ถูกต้อง
    เพจ Per อะไรนั่นน่ะ เมื่อเช้า
    โพสโชว์ ว่าอิกามิจส่งดอกไม้มาให้
    นั่นคือ กามิจจะส่งดอกไม้หรือของขวัญ
    ไปให้ทีมงานเครือข่ายโจทุกคน
    ทำให้เข้าใจว่า อิเหม็นรับรู้ความทุ่มเท
    ยิ่งทำให้พวกนี้คิดมโนว่า ตัวเองพิเศษ
    หารู้ไม่ ว่ามันก็ส่งแบบนี้กับทุกตัวที่ให้ร้ายแน๊ก
    ไม่ต่างกับ สวัสดีวันจันทร์แหละ
    #ชี้เป้าให้ครอบครัวน้องแน๊กนะ #รวบรวมหลักต๋านกันต่อไปครับ
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ให้ร้ายน้องแน๊กขนาดนี้เลยไม่ซั่วทำไม่ได้นะ เนื้อความต้นโพสให้ร้ายน้องแบบนี้ครับ "ชั้นคือหนึ่งในคนที่บักฮอลแลนด์มันส่งรูปให้ดูค่ะและชั้นไม่เคยเอาไปโพสต์ที่ไหน เพราะสงสารผู้หญิง ทุกวันนี้ชั้นยัง งง อยู่เลยว่า มันส่งมาทำไม แกมขู่ววอีกว่า ถ้ารูปกหลุดจะฟ้-อ-ง-ศ-า-ล" สำนวนกากมาก เอาเอไอเจน แล้วไปปล่อยข่าวแบบนี้ทุกแพลตฟอร์ม #ขู่จะเล่นคนอื่นแบบไม่ดูเงาหัวตัวเอง นี่คือหลักต๋าน 1ในพันสำหรับการทำงาน ที่เป็นเครือข่ายของโจ มณฑานี ส่งไม้ต่อกันเป็นทอดๆ นำเรื่องบิดเบือนให้ร้าย ไปส่งต่อ จนคิดว่าตัวเองทำสิ่งที่ถูกต้อง เพจ Per อะไรนั่นน่ะ เมื่อเช้า โพสโชว์ ว่าอิกามิจส่งดอกไม้มาให้ นั่นคือ กามิจจะส่งดอกไม้หรือของขวัญ ไปให้ทีมงานเครือข่ายโจทุกคน ทำให้เข้าใจว่า อิเหม็นรับรู้ความทุ่มเท ยิ่งทำให้พวกนี้คิดมโนว่า ตัวเองพิเศษ หารู้ไม่ ว่ามันก็ส่งแบบนี้กับทุกตัวที่ให้ร้ายแน๊ก ไม่ต่างกับ สวัสดีวันจันทร์แหละ #ชี้เป้าให้ครอบครัวน้องแน๊กนะ #รวบรวมหลักต๋านกันต่อไปครับ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 499 Views 0 Reviews
  • #โจจะทำให้ทุกอย่างพัง
    #ว่าจะลดความแรงลงด้านภาษาแล้วนะเพราะแฟนเพจขอ
    แต่สำหรับอินี่ ไม่ไหวจริงๆ
    ตอนนี้ มาทำตีแบ๊ว หาทางลง จะบอกว่า
    ไม่เคยให้ร้ายชาลีเล๊ยยยย
    ไม่เคย พ่-อ-ง สิ
    ตัวเมิงนี่แหละ ตัวสร้างสตอรี่เซี่ยๆแบบนี้
    ให้ทุยมันเข้าใจผิด ลามไปถึงสร้างความเ-ก-ลี-ยดชัง
    ลามไปถึงครอบครัวเค้า
    จะขุดให้ถึงก้นเหวเลย
    อิโจ อิตกขาว
    ไปกันต่อยาวๆ ไม่ต้องห่วง
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #โจจะทำให้ทุกอย่างพัง #ว่าจะลดความแรงลงด้านภาษาแล้วนะเพราะแฟนเพจขอ แต่สำหรับอินี่ ไม่ไหวจริงๆ ตอนนี้ มาทำตีแบ๊ว หาทางลง จะบอกว่า ไม่เคยให้ร้ายชาลีเล๊ยยยย ไม่เคย พ่-อ-ง สิ ตัวเมิงนี่แหละ ตัวสร้างสตอรี่เซี่ยๆแบบนี้ ให้ทุยมันเข้าใจผิด ลามไปถึงสร้างความเ-ก-ลี-ยดชัง ลามไปถึงครอบครัวเค้า จะขุดให้ถึงก้นเหวเลย อิโจ อิตกขาว ไปกันต่อยาวๆ ไม่ต้องห่วง #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    3
    0 Comments 0 Shares 641 Views 0 Reviews
  • #คิงส์โพธิ์แนน
    พี่แนน เป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญ
    ที่ออกมายืนข้างชาลี ตั้งแต่มีขบวนการอิโจ
    ให้ร้ายน้องแน็ก ตัวสร้างวาทะกรรมแน๊กเปื่อยจิต
    เป็นเป็นหนึ่งในจำนวนแฟนคลับที่ได้เข้าบ้านคู้บอน
    ฟังคำอธิบายต่างๆ และเห็นภาพความจริงของเรื่อง
    และเป็นอีกหนึ่งที่ถูกพาดพิงว่า คือคิงส์โพธิ์แดง
    ก็เอามาเทียบกันชัดๆให้เห็นก็จะจะ
    คิงส์โพธิ์แดง
    กับคิงส์โพธิ์แนน
    คนละคนกันนะครับ
    และฝากบอกพี่แนนด้วย
    เวลาเต้น ต้องระวังกางเกงร่วงในไลฟ์นะครับ
    เห็นแล้วตอนแรกก็เอ๊ะ ทำไม
    คิงส์โพธิ์แนนเค้าใส่เกงในเต้นกลางไฟล์
    อ้อ เกงตัวนอกเพิ่งร่วงไปนี่เอง
    ไม่งั้น คนที่ยังเดามั่วๆแล้วคิดว่า
    พี่แนนคือคิงส์ ก็จะส่งผลกระทบให้
    ภาพลักษณ์ของคิงส์ ประมาณว่า
    หมดกัน นะครับ
    หยอกๆ ไปกันต่อยาวๆ
    ต้องรวมข้อมูล ส่งคนตกขาว
    ไปสู่นรกภูมิก่อนนะคับนะ
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แนน พี่แนน เป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญ ที่ออกมายืนข้างชาลี ตั้งแต่มีขบวนการอิโจ ให้ร้ายน้องแน็ก ตัวสร้างวาทะกรรมแน๊กเปื่อยจิต เป็นเป็นหนึ่งในจำนวนแฟนคลับที่ได้เข้าบ้านคู้บอน ฟังคำอธิบายต่างๆ และเห็นภาพความจริงของเรื่อง และเป็นอีกหนึ่งที่ถูกพาดพิงว่า คือคิงส์โพธิ์แดง ก็เอามาเทียบกันชัดๆให้เห็นก็จะจะ คิงส์โพธิ์แดง กับคิงส์โพธิ์แนน คนละคนกันนะครับ และฝากบอกพี่แนนด้วย เวลาเต้น ต้องระวังกางเกงร่วงในไลฟ์นะครับ เห็นแล้วตอนแรกก็เอ๊ะ ทำไม คิงส์โพธิ์แนนเค้าใส่เกงในเต้นกลางไฟล์ อ้อ เกงตัวนอกเพิ่งร่วงไปนี่เอง ไม่งั้น คนที่ยังเดามั่วๆแล้วคิดว่า พี่แนนคือคิงส์ ก็จะส่งผลกระทบให้ ภาพลักษณ์ของคิงส์ ประมาณว่า หมดกัน นะครับ หยอกๆ ไปกันต่อยาวๆ ต้องรวมข้อมูล ส่งคนตกขาว ไปสู่นรกภูมิก่อนนะคับนะ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธ์แดงสำรอง
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 697 Views 0 Reviews
  • 💥แอดมิน ทำการบ้านหุ้น SETHD,SET50 และ SET100
    มีหุ้นอยู่ 2 ตัว ที่ราคาเหมาะสม และจังหวะการเข้าซื้อที่ดีครับ
    ไปทำการบ้านกันต่อด้วยนะครับ 🙏

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    💥แอดมิน ทำการบ้านหุ้น SETHD,SET50 และ SET100 มีหุ้นอยู่ 2 ตัว ที่ราคาเหมาะสม และจังหวะการเข้าซื้อที่ดีครับ ไปทำการบ้านกันต่อด้วยนะครับ 🙏 #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    0 Comments 0 Shares 1087 Views 0 Reviews
  • สวัสดียามเช้าครับ​ วันนี้ที่หาดใหญ่บรรยากาศค่อนข้างสบายมีเมฆเป็นส่วนมากเหมาะกับการนอนหลับพักผ่อน😊😊 แต่ชีวิตคนใช้แรงงานก็ทำงานกันต่อไปยามว่างๆก็นั่งส่องพระแบบชิวๆไป🍀🍀 วันนี้ก็ขอนำเสนอ...🙏🙏🙏...
    หลวงปู่มหาศิลา สิริจันโท​ สวนสงฆ์แกแปะ
    เนื้อนวะโลหะ​ No.28 สวยใสไร้ศัลยกรรม​
    สวัสดียามเช้าครับ​ วันนี้ที่หาดใหญ่บรรยากาศค่อนข้างสบายมีเมฆเป็นส่วนมากเหมาะกับการนอนหลับพักผ่อน😊😊 แต่ชีวิตคนใช้แรงงานก็ทำงานกันต่อไปยามว่างๆก็นั่งส่องพระแบบชิวๆไป🍀🍀 วันนี้ก็ขอนำเสนอ...🙏🙏🙏... หลวงปู่มหาศิลา สิริจันโท​ สวนสงฆ์แกแปะ เนื้อนวะโลหะ​ No.28 สวยใสไร้ศัลยกรรม​
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 115 Views 0 Reviews
More Results