• ไปกันต่อ งานประเพณีสงการนต์ ใน อ.ศรีราชา 2568
    17-18 เม.ย. งานประเพณีแห่พญายม สงกรานต์บางพระ
    18 เม.ย. ประเพณีอุ้มสาวลงน้ำ และ สงกรานต์เกาะสีชัง
    19-21 เม.ย. งานสงกรานต์ศรีมหาราชา และ ประเพณีกองข้าว
    กาแฟ ชา ไข่ลวก ไฮ้ หมวย https://goo.gl/maps/rf3UG3QF3pHTPSAz8
    ร้าน เจ กาแฟโบราณ https://goo.gl/maps/H7rqh7TzoHMXZHeh9
    สั่งออนไลน์ ลิงค์อยู่ในช่องแสดงความคิดเห็น
    ไปกันต่อ งานประเพณีสงการนต์ ใน อ.ศรีราชา 2568 17-18 เม.ย. งานประเพณีแห่พญายม สงกรานต์บางพระ 18 เม.ย. ประเพณีอุ้มสาวลงน้ำ และ สงกรานต์เกาะสีชัง 19-21 เม.ย. งานสงกรานต์ศรีมหาราชา และ ประเพณีกองข้าว กาแฟ ชา ไข่ลวก ไฮ้ หมวย https://goo.gl/maps/rf3UG3QF3pHTPSAz8 ร้าน เจ กาแฟโบราณ https://goo.gl/maps/H7rqh7TzoHMXZHeh9 สั่งออนไลน์ ลิงค์อยู่ในช่องแสดงความคิดเห็น
    1 Comments 0 Shares 94 Views 0 Reviews
  • ** บทกวีทับทิมจาก <ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ>**

    สวัสดีค่ะ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เราได้คุยถึงเรื่องสีแดงในเรื่อง <ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ> เพื่อนเพจที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้คงจะจำได้ว่าพ่อของนางเอกทิ้งสูตรเกี่ยวกับการผสมสีแดงของตระกูลไว้ในบทกวีที่เกี่ยวกับทับทิม Storyฯ เห็นว่ามีเกร็ดประวัติศาสตร์เล็กๆ สอดแทรกอยู่ในนี้ที่เพื่อนเพจคงไม่รู้ เลยมาแบ่งปันให้ฟัง... เป็นเรื่องราวชีวิตคู่ของหลี่ไป๋

    บทกวีดังกล่าวมีชื่อว่า ‘หย่งหลินหนี่ว์ตงชวงไห่สือหลิ่ว’ (咏邻女东窗海石榴 แปลได้ประมาณว่า ชื่นชมสตรีข้างบ้านผ่านหน้าต่างและต้นทับทิม) เป็นผลงานของหลี่ไป๋ เซียนกวีแห่งราชวงศ์ถัง ถูกประพันธ์ขึ้นสมัยที่เขาพำนักอยู่ในเขตซานตง ใจความบรรยายถึงความงามของสตรีข้างบ้านที่เขามองเห็นผ่านหน้าต่าง ซึ่งเขาเรียกในบทกวีว่า ‘สตรีจากแดนหลู่’ ความงามของนางถูกเสริมด้วยความงามของต้นทับทิมที่มีดอกสีแดงจัดตัดกับใบเขียว เขาถึงกับรำพันว่าจะยอมเป็นกิ่งทับทิมที่ทอดเกยอาภรณ์ของนางเพื่อขอเพียงให้ได้ใกล้ชิดอนงค์นาง แต่จนใจได้แต่ชะเง้อมองผ่านหน้าต่าง

    แน่นอนว่ามันเป็นกลอนบอกรัก และสตรีดังกล่าวเป็นหนึ่งในภรรรยาของหลี่ไป๋

    เพื่อนเพจหลายท่านอาจไม่คุ้นเคยกับชีวประวัติของหลี่ไป๋และคงไม่ทราบว่าหลี่ไป๋มีภรรยาสี่คน จริงๆ แล้วเขาแต่งงานอย่างถูกต้องตามธรรมเนียมสองครั้ง ส่วนภรรยาอีกสองคนไม่ได้แต่งงานแต่อยู่กินด้วยกันเฉยๆ

    เขาแต่งงานครั้งแรกเมื่ออายุยี่สิบเจ็ดปีกับภรรยาคนแรกคือสตรีสกุลสวี่ผู้เป็นหลานของอดีตอัครเสนาบดีในรัชสมัยขององค์ถังเกาจง ถูกรับเข้าจวนสกุลสวี่เป็นเขยแต่งเข้าหรือที่เรียกว่า ‘จุ้ยซวี่’ มีลูกด้วยกันสองคน ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง แต่ลูกทั้งสองได้ใช้แซ่หลี่ตามหลี่ไป๋ผู้เป็นบิดา (อนึ่ง ปกติจุ้ยซวี่แต่งเข้าเรือนของสตรี เมื่อมีลูกก็จะใช้แซ่ของผู้เป็นมารดาไม่ใช่บิดา Storyฯ เคยเขียนถึงแล้ว แปะลิ้งค์ไว้ให้อ่านใหม่ที่ท้ายเรื่อง) ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันกับนางสกุลสวี่นี้ หลี่ไป๋มีชีวิตค่อนข้างสบายเพราะฝ่ายหญิงมีฐานะดีและเขามีอิสระที่จะเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ตามใจหมาย ว่ากันว่าเขารักภรรยาคนนี้มากแต่นางป่วยตายหลังจากใช้ชีวิตคู่ด้วยกันนานสิบเอ็ดปี

    เมื่อสิ้นภรรยาคนแรก หลี่ไป๋ก็พาลูกจากจวนสกุลสวี่ออกเดินทาง มาหยุดพำนักที่บริเวณพื้นที่แถบซานตง หลังจากนั้นหนึ่งปีเขาก็อยู่กินกับนางสกุลหลิว ว่ากันว่าเป็นเพราะต้องการหาคนมาช่วยเลี้ยงลูกเพื่อว่าตนเองจะได้มีอิสระในการเดินทาง ส่วนนางสกุลหลิวเองก็คาดหวังว่าหลี่ไป๋จะมีอนาคตขุนนางสวยงาม แต่ หลี่ไป๋ก็ยังไม่ได้เข้ารับราชการเสียที สุดท้ายนางทนไม่ได้กับความเป็นกวีขี้เมาของหลี่ไป๋ ทั้งสองจึงแยกทางกันอย่างไม่แฮปปี้

    ต่อมาอีกประมาณหกปี หลี่ไป๋ยังคงอยู่ในละแวกพื้นที่ซานตงหรือที่เรียกว่าพื้นที่หลู่นี้ และได้อยู่กินกับภรรยาคนที่สาม ซึ่งก็คือ ‘สตรีจากแดนหลู่’ ในบทกวีข้างต้นนั่นเอง เขาซื้อที่ดินทำกินให้นางดูแลทรัพย์สินอย่างไว้ใจ นางเองก็ขยันขันแข็งทำมาหากิน ส่วนตัวเขายังคงออกเดินทางไปตามพื้นที่ต่างๆ และใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในเมืองหลวง พวกเขามีบุตรชายด้วยกันหนึ่งคน แต่ไม่มีการบันทึกถึงรายละเอียดว่าเกิดอะไรกับลูกชายคนนี้ และไม่มีหลักฐานปรากฏด้วยซ้ำว่าสตรีนางนี้มีชื่อสกุลใด บ้างว่านางเป็นแม่หม้ายบ้างว่านางได้หมั้นหมายแล้วแต่คู่หมายหายไปหลายปีกลายเป็นหม้ายขันหมาก แต่ที่แน่ๆ คือนางอยู่ข้างบ้าน มองกันไปมองกันมาก็เกิดปิ๊งกันเลยอยู่กินกัน เล่าขานกันต่อมาเพียงว่าอยู่ด้วยกันเพียงห้าปีนางก็ตายจากไป

    หลี่ไป๋แต่งงานครั้งที่สองกับภรรยาคนสุดท้ายคือสตรีสกุลจง เป็นหลานปู่ของจงฉู่เค่อ อดีตอัครเสนาบดีอีกท่านหนึ่งและเขาแต่งเข้าเรือนฝ่ายหญิงอีกครั้ง อยู่ด้วยกันสิบปีอย่างสมบูรณ์พูนสุขแต่ไม่มีบุตร แต่สุดท้ายหลี่ไป๋เข้าไปพัวพันกับคดีการเมืองและนางเสียชีวิตลง ส่วนเขาถูกเนรเทศและแม้ว่าในบั้นปลายชีวิตจะได้รับอิสรภาพแต่ก็ต้องจบชีวิตลงอย่างเดียวดาย

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    บทความในอดีตเกี่ยวกับเจ้าบ่าวจุ้ยซวี่ https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/134357391983589

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.gdzjdaily.com.cn/p/2903387.html
    https://www.photophoto.cn/pic/11693708.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://m.thepaper.cn/baijiahao_7753758
    https://gushici.china.com/srgushi/10.html
    https://www.163.com/dy/article/G328S2640543SC39.html
    https://baike.baidu.com/item/咏邻女东窗海石榴/9436296
    https://www.sohu.com/a/341251009_100053536

    #ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ #กวีเอก #หลี่ไป๋ #เซียนกวี #ราชวงศ์ถัง #สาระจีน
    ** บทกวีทับทิมจาก <ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ>** สวัสดีค่ะ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เราได้คุยถึงเรื่องสีแดงในเรื่อง <ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ> เพื่อนเพจที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้คงจะจำได้ว่าพ่อของนางเอกทิ้งสูตรเกี่ยวกับการผสมสีแดงของตระกูลไว้ในบทกวีที่เกี่ยวกับทับทิม Storyฯ เห็นว่ามีเกร็ดประวัติศาสตร์เล็กๆ สอดแทรกอยู่ในนี้ที่เพื่อนเพจคงไม่รู้ เลยมาแบ่งปันให้ฟัง... เป็นเรื่องราวชีวิตคู่ของหลี่ไป๋ บทกวีดังกล่าวมีชื่อว่า ‘หย่งหลินหนี่ว์ตงชวงไห่สือหลิ่ว’ (咏邻女东窗海石榴 แปลได้ประมาณว่า ชื่นชมสตรีข้างบ้านผ่านหน้าต่างและต้นทับทิม) เป็นผลงานของหลี่ไป๋ เซียนกวีแห่งราชวงศ์ถัง ถูกประพันธ์ขึ้นสมัยที่เขาพำนักอยู่ในเขตซานตง ใจความบรรยายถึงความงามของสตรีข้างบ้านที่เขามองเห็นผ่านหน้าต่าง ซึ่งเขาเรียกในบทกวีว่า ‘สตรีจากแดนหลู่’ ความงามของนางถูกเสริมด้วยความงามของต้นทับทิมที่มีดอกสีแดงจัดตัดกับใบเขียว เขาถึงกับรำพันว่าจะยอมเป็นกิ่งทับทิมที่ทอดเกยอาภรณ์ของนางเพื่อขอเพียงให้ได้ใกล้ชิดอนงค์นาง แต่จนใจได้แต่ชะเง้อมองผ่านหน้าต่าง แน่นอนว่ามันเป็นกลอนบอกรัก และสตรีดังกล่าวเป็นหนึ่งในภรรรยาของหลี่ไป๋ เพื่อนเพจหลายท่านอาจไม่คุ้นเคยกับชีวประวัติของหลี่ไป๋และคงไม่ทราบว่าหลี่ไป๋มีภรรยาสี่คน จริงๆ แล้วเขาแต่งงานอย่างถูกต้องตามธรรมเนียมสองครั้ง ส่วนภรรยาอีกสองคนไม่ได้แต่งงานแต่อยู่กินด้วยกันเฉยๆ เขาแต่งงานครั้งแรกเมื่ออายุยี่สิบเจ็ดปีกับภรรยาคนแรกคือสตรีสกุลสวี่ผู้เป็นหลานของอดีตอัครเสนาบดีในรัชสมัยขององค์ถังเกาจง ถูกรับเข้าจวนสกุลสวี่เป็นเขยแต่งเข้าหรือที่เรียกว่า ‘จุ้ยซวี่’ มีลูกด้วยกันสองคน ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง แต่ลูกทั้งสองได้ใช้แซ่หลี่ตามหลี่ไป๋ผู้เป็นบิดา (อนึ่ง ปกติจุ้ยซวี่แต่งเข้าเรือนของสตรี เมื่อมีลูกก็จะใช้แซ่ของผู้เป็นมารดาไม่ใช่บิดา Storyฯ เคยเขียนถึงแล้ว แปะลิ้งค์ไว้ให้อ่านใหม่ที่ท้ายเรื่อง) ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันกับนางสกุลสวี่นี้ หลี่ไป๋มีชีวิตค่อนข้างสบายเพราะฝ่ายหญิงมีฐานะดีและเขามีอิสระที่จะเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ตามใจหมาย ว่ากันว่าเขารักภรรยาคนนี้มากแต่นางป่วยตายหลังจากใช้ชีวิตคู่ด้วยกันนานสิบเอ็ดปี เมื่อสิ้นภรรยาคนแรก หลี่ไป๋ก็พาลูกจากจวนสกุลสวี่ออกเดินทาง มาหยุดพำนักที่บริเวณพื้นที่แถบซานตง หลังจากนั้นหนึ่งปีเขาก็อยู่กินกับนางสกุลหลิว ว่ากันว่าเป็นเพราะต้องการหาคนมาช่วยเลี้ยงลูกเพื่อว่าตนเองจะได้มีอิสระในการเดินทาง ส่วนนางสกุลหลิวเองก็คาดหวังว่าหลี่ไป๋จะมีอนาคตขุนนางสวยงาม แต่ หลี่ไป๋ก็ยังไม่ได้เข้ารับราชการเสียที สุดท้ายนางทนไม่ได้กับความเป็นกวีขี้เมาของหลี่ไป๋ ทั้งสองจึงแยกทางกันอย่างไม่แฮปปี้ ต่อมาอีกประมาณหกปี หลี่ไป๋ยังคงอยู่ในละแวกพื้นที่ซานตงหรือที่เรียกว่าพื้นที่หลู่นี้ และได้อยู่กินกับภรรยาคนที่สาม ซึ่งก็คือ ‘สตรีจากแดนหลู่’ ในบทกวีข้างต้นนั่นเอง เขาซื้อที่ดินทำกินให้นางดูแลทรัพย์สินอย่างไว้ใจ นางเองก็ขยันขันแข็งทำมาหากิน ส่วนตัวเขายังคงออกเดินทางไปตามพื้นที่ต่างๆ และใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในเมืองหลวง พวกเขามีบุตรชายด้วยกันหนึ่งคน แต่ไม่มีการบันทึกถึงรายละเอียดว่าเกิดอะไรกับลูกชายคนนี้ และไม่มีหลักฐานปรากฏด้วยซ้ำว่าสตรีนางนี้มีชื่อสกุลใด บ้างว่านางเป็นแม่หม้ายบ้างว่านางได้หมั้นหมายแล้วแต่คู่หมายหายไปหลายปีกลายเป็นหม้ายขันหมาก แต่ที่แน่ๆ คือนางอยู่ข้างบ้าน มองกันไปมองกันมาก็เกิดปิ๊งกันเลยอยู่กินกัน เล่าขานกันต่อมาเพียงว่าอยู่ด้วยกันเพียงห้าปีนางก็ตายจากไป หลี่ไป๋แต่งงานครั้งที่สองกับภรรยาคนสุดท้ายคือสตรีสกุลจง เป็นหลานปู่ของจงฉู่เค่อ อดีตอัครเสนาบดีอีกท่านหนึ่งและเขาแต่งเข้าเรือนฝ่ายหญิงอีกครั้ง อยู่ด้วยกันสิบปีอย่างสมบูรณ์พูนสุขแต่ไม่มีบุตร แต่สุดท้ายหลี่ไป๋เข้าไปพัวพันกับคดีการเมืองและนางเสียชีวิตลง ส่วนเขาถูกเนรเทศและแม้ว่าในบั้นปลายชีวิตจะได้รับอิสรภาพแต่ก็ต้องจบชีวิตลงอย่างเดียวดาย (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) บทความในอดีตเกี่ยวกับเจ้าบ่าวจุ้ยซวี่ https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/134357391983589 Credit รูปภาพจาก: https://www.gdzjdaily.com.cn/p/2903387.html https://www.photophoto.cn/pic/11693708.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://m.thepaper.cn/baijiahao_7753758 https://gushici.china.com/srgushi/10.html https://www.163.com/dy/article/G328S2640543SC39.html https://baike.baidu.com/item/咏邻女东窗海石榴/9436296 https://www.sohu.com/a/341251009_100053536 #ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ #กวีเอก #หลี่ไป๋ #เซียนกวี #ราชวงศ์ถัง #สาระจีน
    1 Comments 0 Shares 252 Views 0 Reviews
  • 11-04-68/03 : หมี CNN / ผู้ใหญ่เหี้ย..พาเด็กซวย! ท่าทางอียิวมันคงเครียดแค้นอีอินทรีเหล็กอย่างหนัก กะไม่ให้เหลือลูกหลานไว้สืบพันธุ์ต่อไป ลากเด็ก เยาวชนมาตายห่าให้หมด เอาให้บ้านเมืองเต็มไปด้วยกลิ่นดินปืน? ปชต.ตอแหล จะเติบโตเต็มที่ ในพื้นที่ ที่มีควายหน้าโง่เยอะที่สุด ยิ่ง EGO แรง ขาดสติ สิ้นชาติ สูญพันธุ์ง่ายดาย มรึงฆ่ากันเองตายไม่พอ ยังจะเอาลูกหลานไปตายห่าต่ออีก ให้ภาพจำในวัยเด็ก มีแต่เรื่องปืนและการเข่นฆ่า นี่เหรอ ประเทศที่พัฒนาแล้ว ขัดแย้งกับภาพลักษณ์ที่มรึงอุตส่าห์ตอแหลสร้างกันมายาวนานนับศตวรรษ อะไรน่ะ สิทธิ เสรีภาพ มนุษยชน คือเรื่องเอาไว้หลอกควายหน้าโง่จ๊ะ แผ่นดินใคร ใครก็ต้องปกป้อง ไม่ใช่เอารูปแบบการปกครองชาติหมาที่อื่นมาอ้าง แล้วปล้นแผ่นดินเค้าไปทั่ว ปชต.พ่องดิ? เรื่องสร้างความตื่นตระหนก อีโง่ยุโรปมันถนัด เพราะแท้จริงแล้ว ฝรั่งขี้ขลาดกว่าเอเซียเยอะ กลัวตาย ถึงเวลาสู้ เผ่นหางจุกตูดหมด ผิดกับสายพันธุ์สลาฟ ฮั่น และอโยธยา พุ่งเข้าใส่ ใจมันได้ ตายไม่กลัว กลัวไม่ได้สู้เพื่อแผ่นดินเกิด การปลุกฝังมันต่างกัน กว่าจะเป็นแผ่นดินพ่อทุกวันนี้ได้ เราต้องแลกกับอะไรมาเยอะ เมื่อเทคโนโลยีเอเซียก้าวกระโดดแซงหน้าไอ้อีเหี้ยตะวันตก มันถึงได้เกิดการแข็งข้อแบบนี้ไงล่ะ? ใครมันจะยอมตามหลัง ไอ้อีหน้าโง่ ที่โง่ดักดาน โง่บัดซบกว่ากู 100 เท่า กันล่ะ? ที่อียุโรปเอาเด็กมาบังหน้า กูอ่านแผนออกเลย เดาไม่ยาก ถึงเวลาจริง ดันส่งเด็ก สตรี คนชรา มายื่นแถวหน้า เพื่อขู่รัสเซีย แน่จริงยิงสิฟ่ะ? รัสเซียสุภาพบุรุษพอ เปิดโจ๊ะเจรจา แล้วค่อยเก็บไอ้พวกเหี้ยอย่างมรึงกลางที่ประชุมนั่นแหละ ชาวบ้านจะได้ไม่เดือดร้อน เอาแบบแม่นยำ เป๊ะเด๊ะ ลงกลางหัว กลางเป้า กลางตึกกันไปเลย ทหารจะฆ่าศัตรูที่เป็นทหาร เค้าไม่ฆ่าพลเรือน เหมือนที่พวกระยำสลัดหมาอย่างมรึงทำกันมาก่อนหน้า อีโปล อีไวกิ้ง รู้ตัว ไม่ตายคาตรีนเครมลิน ก็ตายคาตรีนวอชิงตัน แต่กูจะบอกให้ หากมรึงรู้ชะตากรรมตัวเอง ว่ายังไงก็ต้องเสียดินแดนแล้วไซร้ สู้อยู่กับผู้ที่เปิดช่องทางอยู่ร่วมกันดีกว่ามั้ย หากอยู่กับอีวอชิงตัน มรึงก็เป็นได้แค่ ขี้ข้ารองตรีนเท่านั้น! ลำดับอาหารอันโอชะจานโปรดของปูติน เริ่มที่อียูเครน ต่อ อีโปล+อี 3 เสือก ต่อ สแกนดิเนเวีย ต่อ ลอนดอน ทั้งหมดจบลงที่ท่อแก็สอาร์คติค เข้าเชื่อมยุโรป เอเซีย อาหรับ แอฟริกา ตอนนี้สิ่งที่ปูตินทำคือ ตัดแขน ตัดขา มรึงหมดเกลี้ยงแล้ว รอแค่บดขยี้ ไปเรื่อยๆ จนมรึงต้องยอมหมอบ บีบจนมรึงไม่มีจะแดร๊ก ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีอาหาร และน้ำ จะอยู่กันต่อยังไง? สุดท้ายก็ต้องจบที่โต๊ะเจรจา ด้วยการแพ้สงครามอย่างไม่มีเงื่อนไข กติกาใหม่โลกถึงจะก่อเกิดสำเร็จ และนั่นคือการตัดขาดยุโรปออกจากสหรัฐ อย่างเต็มตรีน ชั่วโมงนี้ เหี้ยมันจ้องหักหลังกันเองแน่ ทำชัวร์ เพราะใครดี ใครได้ ใครรอด? หมากัดกัน ภาพที่น่าสมเพช จนมรึงแทบอ๊วก

    Germany to prepare children for war – Handelsblatt หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ระบุว่า เยอรมนีจะเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับสงคราม

    ------------------------------------------------------------------------—
    RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ระบุว่า เยอรมนีจะเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับสงคราม

    เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ Handelsblatt รายงานจากโฆษกกระทรวงว่า กระทรวงมหาดไทยของเยอรมนีเสนอให้โรงเรียนเตรียมนักเรียนให้พร้อมกับวิกฤติต่างๆรวมถึงสงคราม

    ข้อเสนอต่อ “ความพร้อมของประชาชน” จากรัฐบาลยุโรปตะวันตกตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งและเริ่มเป็นตัวกลางในการเจรจาสันติภาพกับยูเครนซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศเยอรมนี อันนาเลนา บาเออร์บ๊อกมองว่าเป็น “ทางตัน”

    ตามรายงาน การโจมตีของรัสเซียต่อประเทศนาโต้ “ในช่วง 4-7 ปี” ถือว่าเป็น “สถานการณ์ที่เป็นไปได้” ตามคำพูดของกองทัพ Bundeswehr

    เด็กนักเรียนควร “ได้รับการเตรียมพร้อมต่อเหตุการณ์ที่แย่ที่สุด” การฝึกซ้อมเพื่อรับมือกับวิกฤติควรอยู่ในหลักสูตรและสิ่งของจำเป็นสำหรับเหตุฉุกเฉินควรมีอยู่ทุกบ้าน

    รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าพวกเขาอาจโจมตีประเทศนาโตัตั้งแต่ความรุนแรงจากสงครามยูเครนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม การเรียกร้องเกี่ยวกับความพร้อมของประชาชนแพร่กระจายไปทั่วยุโรปและอังกฤษในสัปดาห์ที่แล้ว

    คณะกรรมาธิการยุโรปแนะนำว่า ชาวยุโรปควรกักตุนสินค้าจำเป็นรวมถึงอาหารและน้ำเพื่อให้เพียงพอสำหรับ 3 วันหากเกิดเหตุฉุกเฉิน

    โปแลนด์และนอร์เวย์ย้ำถึงมาตรการสมัยสงครามเย็นอย่างที่เก็บระเบิด ป้อมหลบภัย และการซ้อมรบทางทหารครั้งใหญ่ ขณะที่สวีเดนและฟินแลนด์มีคำแนะนำให้ประชาชนต่อการตอบโต้หากประเทศถูกโจมตี

    เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐบาลรัสเซียระบุว่า ประเทศพร้อมเจรจาหยุดยิงอย่างถาวรเพื่อยุติความขัดแย้งกับยูเครนหากมีการยืนยันว่า ยูเครนจะยอมทำตาม

    ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูตินและประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์พูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อเดือนที่แล้วหลังรัสเซียตกลงที่จะยืดเวลาการโจมตีโรงพลังงานพร้อมการลงนามต่อข้อเสนอของยูเครน อย่างไรก็ตาม รัสเซียกล่าวหายูเครนว่าละเมิดข้อตกลงแม้จะบอกว่าพวกเขาให้เกียรติรัสเซีย

    https://www.rt.com/news/615355-germany-prepare-children-war/

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    11-04-68/03 : หมี CNN / ผู้ใหญ่เหี้ย..พาเด็กซวย! ท่าทางอียิวมันคงเครียดแค้นอีอินทรีเหล็กอย่างหนัก กะไม่ให้เหลือลูกหลานไว้สืบพันธุ์ต่อไป ลากเด็ก เยาวชนมาตายห่าให้หมด เอาให้บ้านเมืองเต็มไปด้วยกลิ่นดินปืน? ปชต.ตอแหล จะเติบโตเต็มที่ ในพื้นที่ ที่มีควายหน้าโง่เยอะที่สุด ยิ่ง EGO แรง ขาดสติ สิ้นชาติ สูญพันธุ์ง่ายดาย มรึงฆ่ากันเองตายไม่พอ ยังจะเอาลูกหลานไปตายห่าต่ออีก ให้ภาพจำในวัยเด็ก มีแต่เรื่องปืนและการเข่นฆ่า นี่เหรอ ประเทศที่พัฒนาแล้ว ขัดแย้งกับภาพลักษณ์ที่มรึงอุตส่าห์ตอแหลสร้างกันมายาวนานนับศตวรรษ อะไรน่ะ สิทธิ เสรีภาพ มนุษยชน คือเรื่องเอาไว้หลอกควายหน้าโง่จ๊ะ แผ่นดินใคร ใครก็ต้องปกป้อง ไม่ใช่เอารูปแบบการปกครองชาติหมาที่อื่นมาอ้าง แล้วปล้นแผ่นดินเค้าไปทั่ว ปชต.พ่องดิ? เรื่องสร้างความตื่นตระหนก อีโง่ยุโรปมันถนัด เพราะแท้จริงแล้ว ฝรั่งขี้ขลาดกว่าเอเซียเยอะ กลัวตาย ถึงเวลาสู้ เผ่นหางจุกตูดหมด ผิดกับสายพันธุ์สลาฟ ฮั่น และอโยธยา พุ่งเข้าใส่ ใจมันได้ ตายไม่กลัว กลัวไม่ได้สู้เพื่อแผ่นดินเกิด การปลุกฝังมันต่างกัน กว่าจะเป็นแผ่นดินพ่อทุกวันนี้ได้ เราต้องแลกกับอะไรมาเยอะ เมื่อเทคโนโลยีเอเซียก้าวกระโดดแซงหน้าไอ้อีเหี้ยตะวันตก มันถึงได้เกิดการแข็งข้อแบบนี้ไงล่ะ? ใครมันจะยอมตามหลัง ไอ้อีหน้าโง่ ที่โง่ดักดาน โง่บัดซบกว่ากู 100 เท่า กันล่ะ? ที่อียุโรปเอาเด็กมาบังหน้า กูอ่านแผนออกเลย เดาไม่ยาก ถึงเวลาจริง ดันส่งเด็ก สตรี คนชรา มายื่นแถวหน้า เพื่อขู่รัสเซีย แน่จริงยิงสิฟ่ะ? รัสเซียสุภาพบุรุษพอ เปิดโจ๊ะเจรจา แล้วค่อยเก็บไอ้พวกเหี้ยอย่างมรึงกลางที่ประชุมนั่นแหละ ชาวบ้านจะได้ไม่เดือดร้อน เอาแบบแม่นยำ เป๊ะเด๊ะ ลงกลางหัว กลางเป้า กลางตึกกันไปเลย ทหารจะฆ่าศัตรูที่เป็นทหาร เค้าไม่ฆ่าพลเรือน เหมือนที่พวกระยำสลัดหมาอย่างมรึงทำกันมาก่อนหน้า อีโปล อีไวกิ้ง รู้ตัว ไม่ตายคาตรีนเครมลิน ก็ตายคาตรีนวอชิงตัน แต่กูจะบอกให้ หากมรึงรู้ชะตากรรมตัวเอง ว่ายังไงก็ต้องเสียดินแดนแล้วไซร้ สู้อยู่กับผู้ที่เปิดช่องทางอยู่ร่วมกันดีกว่ามั้ย หากอยู่กับอีวอชิงตัน มรึงก็เป็นได้แค่ ขี้ข้ารองตรีนเท่านั้น! ลำดับอาหารอันโอชะจานโปรดของปูติน เริ่มที่อียูเครน ต่อ อีโปล+อี 3 เสือก ต่อ สแกนดิเนเวีย ต่อ ลอนดอน ทั้งหมดจบลงที่ท่อแก็สอาร์คติค เข้าเชื่อมยุโรป เอเซีย อาหรับ แอฟริกา ตอนนี้สิ่งที่ปูตินทำคือ ตัดแขน ตัดขา มรึงหมดเกลี้ยงแล้ว รอแค่บดขยี้ ไปเรื่อยๆ จนมรึงต้องยอมหมอบ บีบจนมรึงไม่มีจะแดร๊ก ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีอาหาร และน้ำ จะอยู่กันต่อยังไง? สุดท้ายก็ต้องจบที่โต๊ะเจรจา ด้วยการแพ้สงครามอย่างไม่มีเงื่อนไข กติกาใหม่โลกถึงจะก่อเกิดสำเร็จ และนั่นคือการตัดขาดยุโรปออกจากสหรัฐ อย่างเต็มตรีน ชั่วโมงนี้ เหี้ยมันจ้องหักหลังกันเองแน่ ทำชัวร์ เพราะใครดี ใครได้ ใครรอด? หมากัดกัน ภาพที่น่าสมเพช จนมรึงแทบอ๊วก Germany to prepare children for war – Handelsblatt หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ระบุว่า เยอรมนีจะเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับสงคราม ------------------------------------------------------------------------— RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ระบุว่า เยอรมนีจะเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับสงคราม เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ Handelsblatt รายงานจากโฆษกกระทรวงว่า กระทรวงมหาดไทยของเยอรมนีเสนอให้โรงเรียนเตรียมนักเรียนให้พร้อมกับวิกฤติต่างๆรวมถึงสงคราม ข้อเสนอต่อ “ความพร้อมของประชาชน” จากรัฐบาลยุโรปตะวันตกตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งและเริ่มเป็นตัวกลางในการเจรจาสันติภาพกับยูเครนซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศเยอรมนี อันนาเลนา บาเออร์บ๊อกมองว่าเป็น “ทางตัน” ตามรายงาน การโจมตีของรัสเซียต่อประเทศนาโต้ “ในช่วง 4-7 ปี” ถือว่าเป็น “สถานการณ์ที่เป็นไปได้” ตามคำพูดของกองทัพ Bundeswehr เด็กนักเรียนควร “ได้รับการเตรียมพร้อมต่อเหตุการณ์ที่แย่ที่สุด” การฝึกซ้อมเพื่อรับมือกับวิกฤติควรอยู่ในหลักสูตรและสิ่งของจำเป็นสำหรับเหตุฉุกเฉินควรมีอยู่ทุกบ้าน รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าพวกเขาอาจโจมตีประเทศนาโตัตั้งแต่ความรุนแรงจากสงครามยูเครนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม การเรียกร้องเกี่ยวกับความพร้อมของประชาชนแพร่กระจายไปทั่วยุโรปและอังกฤษในสัปดาห์ที่แล้ว คณะกรรมาธิการยุโรปแนะนำว่า ชาวยุโรปควรกักตุนสินค้าจำเป็นรวมถึงอาหารและน้ำเพื่อให้เพียงพอสำหรับ 3 วันหากเกิดเหตุฉุกเฉิน โปแลนด์และนอร์เวย์ย้ำถึงมาตรการสมัยสงครามเย็นอย่างที่เก็บระเบิด ป้อมหลบภัย และการซ้อมรบทางทหารครั้งใหญ่ ขณะที่สวีเดนและฟินแลนด์มีคำแนะนำให้ประชาชนต่อการตอบโต้หากประเทศถูกโจมตี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐบาลรัสเซียระบุว่า ประเทศพร้อมเจรจาหยุดยิงอย่างถาวรเพื่อยุติความขัดแย้งกับยูเครนหากมีการยืนยันว่า ยูเครนจะยอมทำตาม ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูตินและประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์พูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อเดือนที่แล้วหลังรัสเซียตกลงที่จะยืดเวลาการโจมตีโรงพลังงานพร้อมการลงนามต่อข้อเสนอของยูเครน อย่างไรก็ตาม รัสเซียกล่าวหายูเครนว่าละเมิดข้อตกลงแม้จะบอกว่าพวกเขาให้เกียรติรัสเซีย https://www.rt.com/news/615355-germany-prepare-children-war/ ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    WWW.RT.COM
    Germany to prepare children for war – Handelsblatt
    The newspaper has described a Russian attack on NATO territory as “a realistic scenario,” despite Moscow’s reassurances and peace talks
    0 Comments 0 Shares 389 Views 0 Reviews
  • 09-04-68/01 : หมี CNN / "หมีตะนอย" EP25 ตอน WORLD OF THE MATRIX ตอบทุกคำถามคาใจ อีทรัมปป์ ปูติน สีจิ้นผิง เล่นอาไยกันอยู่? การ์ตูนซิมป์สัน แจ้งไว้ว่า อีทรัมปป์ จะตายในวันที่ 12 เมษายนนี้(สงกรานต์ได้กลับบ้านเก่า) อะไรที่คนเริ่มเชื่อ มันคือการสะกดจิต จูงจมูก สิ่งเดียวที่จะกรองมรึงจากสิ่งหลอกลวง ภาพมายา นั่นคือ "สติคิด ปัญญาตามมาทันที" รอดูว่าคำทำนายอีการ์ตูนซิมป์สันจะเข้าเป้าอีกเหมือนเคยหรือไม่ ส่วนตัวมองสวน เพราะทฤษฎีนี้ มันจะเกิดขึ้นได้เพื่อเป้าหมายเดียว คือนำโลกสู่ WWIII โดยอเมริกาจะปฎิวัติตัวเองครั้งใหญ่ ลอบฆ่าผู้นำ ไม่ใช่ครั้งแรก อีทรัมปป์ถูกจัดฉากล่อเป้าสังหารมา 3 ครั้งแล้ว ตั้งแต่ทรัมปป์ 1.0 แล้วมาเกิดก่อนเลือกตั้ง 2 ครั้ง นั่นยิ่งชัด โลกคือละคร!

    ที่ว่า "สติ" คืออะไร? การ์ตูนซิมป์สัน ใครเขียน ใครแต่ง? แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นตรงกับเนื้อหาในการ์ตูน มันไม่ใช่บังเอิญ แต่เป็นการส่งสัญญานบอกให้คนในสมาคมลับทำงานต่างหาก สิ่งที่ต้องเกิดขึ้น จากใบสั่งของ DEEP STATE ยิ่งชัดเจนว่า การ์ตูนซิมป์สันเป็นของใคร? มันคือ "ขั้นตอน การล้างสมอง" ทุกฉาก กำกับโดยใครกันล่ะ? เค้าถึงเรียกไงล่ะว่า "โลกคือละคร" THE MATRIX อย่าลืมว่าใครคือเจ้าพ่อหนังฮอลีวู๊ดสิ? เหยียบดวงจันทร์ปลอมยังทำมาแล้ว ระเบิดทั้งตึก จัดฉากเครื่องบินชนตึก เอาชีวิตชาวอเมริกัน 3000 ตัวไปบูชายันต์ เพื่อแลกกับมติผ่านในสภาครองเกรซ เอางบแสนล้านไปถลุง เปิดสงครามใส่อิรักเพื่อปล้นทองคำ และยึดบ่อน้ำมันเค้าแบบหน้าด้านๆ โดยอ้างประชาธิปไตย สิ่งเหล่านี้ ควายจะมองไม่เห็น และไม่มีวันได้รู้ความจริง จนกว่ามันจะเปิดดวงตาที่3 ได้สำเร็จ เพราะบุญมันน้อย สติไม่มี ถูกซาตานครอบงำ ดังนั้น ความจริง หรือแสง จะเป็นตัวเปิดตาควายทั้งโลก เมื่อเปิดแล้ว มรึงจะรู้ทะลุภพมิติทั้งหมด ดวงตาเห็นธรรม ไอ้ที่ดิ้นรนมาทั้งชีวิต เพื่อแลกกับสิ่งที่ไม่มีตัวตน ไปเพื่อ? นั่นแหละ เค้าเรียกวังวน หรือลูปของกรรมไม่จบสิ้น อยากหลุดพ้น ง่ายนิดเดียว ลด ละ เลิก ปล่อยวาง ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ทำร้ายใคร จงให้ด้วยสติ และจงรับด้วยปัญญา

    ทฤษฎีสมคบคิด ที่กระจายอยู่ในโซเชี่ยลตอนนี้มันมีที่มาเสมอ หากมองโลกความเป็นจริง แค่ตำแหน่ง ปธน.สหรัฐ แค่อีทรัมปป์ตัวเดียว ไม่อาจจะโคน DEEP STATE ลงทั้งโคตรได้ดอกน่ะ ไม่งั้น ป่านนี้ คงมีปธน.หลายคนทำไปนานแล้ว แล้วจะพบจุดจบแบบที่ JFK โดนไงล่ะ ไม่แปลกทีมงานทรัมปป์มีตระกูล JFK อยู่ด้วย เพราะเค้าต้องการล้างแค้นเอาคืนให้ปู่เค้าไงล่ะ เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์สหรัฐซะใหม่ ทำไมอีทรัมปป์จะไม่รู้ ลำพังแค่กู จะมีอำนาจอะไรไปสั่งบรรดาขี้ข้า DEEP STATE ที่เกาะกินแผ่นดินนี้มา ตั้งแต่ปล้นสะดมภ์แผ่นดินอินเดียนแดงเค้า ตั้งประเทศอเมริกาใหม่ ชุดแรกก็มาจากอังกฤษ ใครล่ะ ประจำสาขาอังกฤษ ก็อี FREEMASON เจ้าเก่า ขาประจำ ดังนั้น ดวงเมืองอีสหรัฐ ถึงกำหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า มันคือแหล่งอำนาจมืดโลก ที่ถูกควบคุมโดยเหี้ยต่างดาวที่ชื่อ "อีเรปทีเรี่ยน" เจ้านายอียิวระยำสลัดหมาอีกที เรื่องอีเรปทีเรี่ยนปล่อยให้สภาแสงเค้าจัดการไป มวยถูกคู่ ส่วนอียิวเหี้ย มวลมนุษยชาติจะจัดการกันเอง แบ่งคู่ชกกันเรียบร้อย?

    ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ อีทรัมปป์จำเป็นต้องมืออาชีพ รู้งาน ใคร..ผู้มีอำนาจสูงสุด ใคร..เหนือกว่า และมีพลังมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงโลกได้จริง ล้มอีเหี้ยยิวขี้ข้า และอีเรปทีเรี่ยนไปพร้อมกัน พลังที่ว่านี้ หาได้จาก มอสโคว์ และปักกิ่ง เหมือนสภาแสง เค้าจะระบุตัวชัดเจน ว่าจะให้ใครมากู้โลกคืนจากอีเรปทีเรี่ยน หวยไปออก "ปูติน และสีจิ้นผิง" ฟังแล้วเหมือนโลกการ์ตูน มีพระเอก มีผู้ร้าย ชีวิตจริง มันก็ไม่แตกต่างจากนี้ดอก ทฤษฎีสงครามการค้าที่อีทรัมปป์ล่ออยู่ ชงอยู่ เพื่อให้สีจิ้นผิงตบ มันคือการสมยอม และต้องการหั่นแหล่งรายได้ไอ้พวกฟรีเมสัน เจ้าพ่อตลาดหุ้น ธนาคาร คลังโลก ที่ดูแลโดย CITY OF LONDON เมื่อโลกเศรษฐกิจพังยับ จะนำไปสู่สงครามใหญ่ นั่นคือสิ่งที่มนุษย์ส่วนใหญ่คิด แต่สิ่งที่อีทรัมปป์ต้องการ แล้วดึงสีจิ้นผิง ปูติน เข้าร่วมแสดงละครฉากใหญ่นี้ เพื่อลดบทบาท อิทธิพลของ DEEP STATE ในสหรัฐ และทำลายท่อน้ำเลี้ยง CITY OF LONDON ไปในตัว ถามว่าสีจิ้นผิงรู้มั้ย? ตอนนี้ ยังตอบไม่ได้ เพราะเป็นแค่ข้อสังเกตุ ทฤษฎีแผนปลดระวางเหี้ย จะรู้ได้ก็ต้องเมื่อ มีการกระทำแล้วจริงเท่านั้น ดังนั้น หมีจึงมาสรปุและชี้เป้าให้ดูว่า ต้องจับตาดูอะไร อะไรคือจริง อะไรคือเท็จ ให้ไปดูทิศทางการเงินโลก ให้ไปดูกระแสเงินโลก ให้ไปดูฐานการค้าทั้งโลก และตัวเลขจริง ว่าใครแท้จริงกำหนดทิศทางตลาดโลกได้จริง

    หากสังเกตุ ช่วงนี้มันสอดคล้องกันหลายอย่าง อยู่ดีดี วงการแฟชั่นโลกที่อีฟรีเมสันกินหัวคิวอยู่ หุ้นร่วงระนาว ยอดตก กระแสไม่คลั่งแบรนด์เนม ที่อียิว และกลุ่ม ELITE พยายามจะปั่นมายาวนานนับศตวรรษ เริ่มสั่นคลอน ไม่ได้ตามเป้า อย่าลืมว่า โรงงานผลิตจากไหน วัตถุดิบจากใคร? แรงงานใครทำ? คำตอบทั้งหมดคือ "เอเซีย" ตะวันตกที่เกิดเพราะใช้พลังงานเอเซีย ใช้แรงงานเอเซีย แอฟริกา ลาติน ใช้วัตถุดิบจากเอเซียเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเซมิคอนดั๊กเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัย 4 ทั้งหมด นี่คือที่มาว่าทำไม อีทรัมปป์จะลากตัวเหี้ยยานแม่ลงได้จริง มรึงต้องใช้พลังจากเอเซียเท่านั้น เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ที่อยู่สูงกว่า โดยสภาแสง เค้ากำหนดคู่ต่อกรอำนาจมืดไว้ล่วงหน้ามาก่อนนับ 1000 ปีแล้ว ไม่งั้น มรึงจะเจอคนอย่างปูติน สีจิ้นผิง ที่โคตรอัจฉริยะเหนือมนุษย์ได้อย่างไร? เอเซียเนี่ยแหละจะขึ้นสู่จุดสูงสุดของโลก แบบที่โลกไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้น ที่กูชี้เป้าให้มรึงเก็บบ้าน ที่ดิน คอนโด เอาไว้ เพราะต้องการจะสื่อว่า นี่คือแผ่นดินทองคำของจริง ราคาจึงไม่ใช่คำตอบ คำตอบแท้จริงคือ ใครเป็นผู้ครอบครองพื้นที่ตรงนี้ต่างหาก เพราะมันจะปลูก จะสร้าง จะทำอะไรก็เจริญงอกงามง่ายดาย ดินแดนแห่งพลังงานบวกมาเต็มตรีน คลื่นความถี่ระดับสูง หมู่เทวดา ฟ้าดิน มาจุติลง ถึงได้ชื่อ ดินแดนสุวรรณภูมิไงล่ะ เก็บสินทรัพย์ให้ดีดี มรึงรวยแน่ กูท้า? และจะรวยกันทั้งแผ่นดิน เมื่อเปลี่ยนการปกครองกลับคืนสู่ที่ที่ควรจะเป็น "พ่อปกครองลูก" สิ่งเดียวที่เป็นตัวตนของเรา

    ไม่แปลก มอ 112 ทำงานอีกแล้ว กองทัพสั่งฟ้องตรง สัญญานชัดยิ่งกว่า "ปาท่องโก๋คู่" หน้าที่กองทัพคืออะไร ใครหมิ่น บ่อนทำลาย คิดร้ายต่อราชวงศ์จักรี ใครมันจะเก็บไว้ทำพ่อง? พ่อมรึง หากไม่รักษาดูแลให้ดี มรึงยังจะเรียกตัวเองเป็นลูกมั้ย? เชื่อกูเหอะว่า หลังยุบสภา จะมีสส. สว. พาเหรดกันเดินเข้าคุกกันอีกเพี๊ยบ นักวิชาการทั้งหลาย ที่รับงานเหี้ยเค้ามา จะไม่มีใครรอด ทั้งหมด ไม่ตายในคุก ก็เผ่นออกนอกสิ้น เพราะเวลาแห่งการชำระล้างแผ่นดิน ขับไล่เสนียดจัญไรมาถึงแล้ว อะไรที่โพสกันในโซเชี่ยล มันถูกส่งต่อกันมา เพื่อบ่งบอกอะไรบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น ทุกอย่างมีตัวเบื้องหลังกำหนดทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายแสง หรือฝ่ายมืด โลกเดินหน้าเต็มกำลังแล้ว อย่าได้เสียดาย หรือหันไปมองข้างหลัง ยังยึดติดกับอดีต ภาพมายาที่มรึงลิ้มรสชาดแล้วติดใจ มันคือยาพิษ สิ่งดีดีกำลังจะเกิด ไม่ว่าจะถูกใจมรึงหรือไม่ แต่นั่นคือทางรอดของโลก ไม่มีใครได้ดั่งใจทุกอย่าง ได้มาอย่าง ก็ต้องยอมเสียอีกอย่าง แต่จงเลือกสิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่ต้องมี สิ่งที่ขาดไม่ได้ นั่นคือทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด โลกสู้กับอะไร? ความอยู่รอดของโลกขึ้นอยู่กับอะไร? คำตอบเดียว "ศีล สมาธิ ปัญญา" ไม่เกี่ยวศาสนา แต่เป็น FACT ข้อเท็จจริง ที่มรึงจะได้เจอผู้สร้างมรึงนั่นเอง

    ปล.อีทรัมปป์ได้เลือกแล้ว หนทางจากนี้ จะมีแต่แรง แรงขึ้น แรงที่สุด ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด DEEP STATE เป็นแค่ชื่อเรียก แต่องค์กรลับใต้ดินทั่วโลก ที่ทำงานประสานกัน ต่างรู้ดีว่า "อีกฝ่าย(สภาแสงสว่าง)" กำลังจะมาทำการชำระล้างโลก การต่อสู้ทุก 100 ปี เกิดขึ้นเป็นปฎิทินจักรวาลเสมอ เพราะเราอยู่ในโลก THE MATRIX มีบทบาทอะไรก็เล่นกันไป หลุดพ้นเมื่อไหร่ ดวงตาที่ 3 เปิดเมื่อไหร่ มรึงจะเจอผู้มีพระคุณที่ผ่านมาทั้งหมดในภพภูมิที่สูงกว่าที่มรึงจะเข้าใจได้ เพราะสมองคนเราถูกปิดกั้นอยู่ มนุษย์เป็นสิ่งที่พระเจ้าสร้าง ดังนั้น เป็นดาบ 2 คม ใช้ถูกทางก็แจ่มจรัส ใช้ผิดทางก็นรกอเวจี เหมือนพระเจ้าได้ให้การตัดสินใจทั้งหมดไว้ที่มรึง มรึงเลือกเอง ใครเลือกอะไรก็ได้อย่างงั้น กูเลือกไว้นานแล้ว เดินหน้าลุย มรึงก็เลือกแล้ว ถึงได้มาเจอกันในภพชาตินี้ ได้มากู้ชาติ บ้านเมืองพร้อมกัน ในช่วงเวลาเดียวกัน นั่นคือ "คน 2 แผ่นดิน" นั่นเอง

    ปล.2 ในวัน 11 กันยายน 2568 ครบรอบ 9 ปีเต็ม กลุ่มโรนิน 500 กูเคยบอกแล้วว่า ปีนี้ต้องพิเศษสุดติ่งกระดิ่งหมี ของแทนใจ ที่ระลึก บอกได้ว่า "ชัดเจนทุกอณูแห่งความรัก" แน่นอน ต้องมีสัญลักษณ์ เลข 9 คนในรัชการที่ 9 พ่วงต่อรัชกาลที่ 10 ปีที่ 9 ของบ้านโรนิน แจ้งไว้ก่อน สมาชิกท่านใด ที่อยู่ต่างประเทศ ติดต่อญาติ คนรู้จัก เพื่องฝูงไว้ล่วงหน้าได้เลย การส่งพัศดุจากมือแอดมินนิดหน่อย จะส่งได้เฉพาะภายในประเทศเท่านั้น ท่านต้องให้ผู้รับที่อยู่ประเทศไทยส่งต่อให้ท่านอีกทีนึง ที่พูดล่วงหน้า เพราะบอกเลยว่า มันชัดเจนที่สุด สิ่งที่ทำมาตลอด 9 ปีเต็ม อยู่ในสิ่งที่จะมอบให้นี้ นัยยะซ่อนนัยยะ 3 ชั้น กับอีกเกลียวครึ่งรอบ มรึงจะเยอะไปไหน? หมีได้เลือกแล้ว สิ่งนี้อาจจะหายากหน่อย หากผลิตในจำนวนมาก แต่ไม่เกินความสามารถแอดมินนิดหน่อย และทีมงาน รวมทั้งสมาชิกบางท่าน ที่มีความสามารถเฉพาะด้าน ทำเท่าที่งบมี ทำด้วยใจ ไม่สนมูลค่า ดังนั้น ทุกอย่างที่ได้ส่งมอบไป คืองานที่เน้นคุณภาพ ปราณีต และใส่ใจ มันคือของขวัญแทนใจจากบ้านนี้ สู่ลูกบ้านที่มีจิตใจเดียวกันมาโดยตลอด 9 ปี มันต้องดัง มันต้องปัง ให้สมกับที่เป็นลูกพ่ออยู่หัวในรัชกาลที่ 9 คนดีศรีอโยธยา ไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลัง สู้ไปด้วยกัน ตายไปด้วยกัน จะเป็นผีก็จะอยู่เฝ้าแผ่นดินพ่อกู นี่คือ "จิต" ที่มันผูกร่วมกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน ไม่รู้กี่ภพ กี่สมัย พลังจึงก่อเกิดขึ้นมาให้เห็นเด่นชัดเช่นนี้ ด้วยรักและปลาทู

    หมี CNN(หมีตะนอย จะโพสเฉพาะเรื่อง เพื่อให้เข้าใจไปในทิศทางเดียวกันว่า มันกำลังจะเกิดเหี้ยอะไรขึ้นนับจากนี้ เกมส์ไม่แรง โลกไม่เปลี่ยน เหี้ยมันแพ้ยับ ถึงได้สู้ตายถวายหัวเช่นนี้ อีทรัมปป์ไปไม่รอด หากไม่ได้ขั้วใหม่เข้ามาช่วยล้างบาง น่าจะเรียก "ทีมเฉพาะกิจ" เสร็จศึกใหญ่ แล้วค่อยมากัดกันต่อ แต่ตอนนี้ กำจัดศัตรูของมวลมนุษยชาติก่อน เชื่อว่ากูโพสปุ๊บ เดี๋ยวมีตามลบอีกเหมือนเคย เพราะเรื่องแบบนี้ จะมีใครมาเล่าให้พวกมรึงฟังกันล่ะ หากไม่บร๊า ก็เสียสติ กูถึงต้องเรียบเรียงให้เข้าใจ ว่าโลกมันคือละครอย่างไร? แต่ละคนมีบทบาทของตัวเอง เล่นให้สุด แล้วจบที่เป้าหมายเดียว)
    09 เมษายน 68
    10.22 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    09-04-68/01 : หมี CNN / "หมีตะนอย" EP25 ตอน WORLD OF THE MATRIX ตอบทุกคำถามคาใจ อีทรัมปป์ ปูติน สีจิ้นผิง เล่นอาไยกันอยู่? การ์ตูนซิมป์สัน แจ้งไว้ว่า อีทรัมปป์ จะตายในวันที่ 12 เมษายนนี้(สงกรานต์ได้กลับบ้านเก่า) อะไรที่คนเริ่มเชื่อ มันคือการสะกดจิต จูงจมูก สิ่งเดียวที่จะกรองมรึงจากสิ่งหลอกลวง ภาพมายา นั่นคือ "สติคิด ปัญญาตามมาทันที" รอดูว่าคำทำนายอีการ์ตูนซิมป์สันจะเข้าเป้าอีกเหมือนเคยหรือไม่ ส่วนตัวมองสวน เพราะทฤษฎีนี้ มันจะเกิดขึ้นได้เพื่อเป้าหมายเดียว คือนำโลกสู่ WWIII โดยอเมริกาจะปฎิวัติตัวเองครั้งใหญ่ ลอบฆ่าผู้นำ ไม่ใช่ครั้งแรก อีทรัมปป์ถูกจัดฉากล่อเป้าสังหารมา 3 ครั้งแล้ว ตั้งแต่ทรัมปป์ 1.0 แล้วมาเกิดก่อนเลือกตั้ง 2 ครั้ง นั่นยิ่งชัด โลกคือละคร! ที่ว่า "สติ" คืออะไร? การ์ตูนซิมป์สัน ใครเขียน ใครแต่ง? แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นตรงกับเนื้อหาในการ์ตูน มันไม่ใช่บังเอิญ แต่เป็นการส่งสัญญานบอกให้คนในสมาคมลับทำงานต่างหาก สิ่งที่ต้องเกิดขึ้น จากใบสั่งของ DEEP STATE ยิ่งชัดเจนว่า การ์ตูนซิมป์สันเป็นของใคร? มันคือ "ขั้นตอน การล้างสมอง" ทุกฉาก กำกับโดยใครกันล่ะ? เค้าถึงเรียกไงล่ะว่า "โลกคือละคร" THE MATRIX อย่าลืมว่าใครคือเจ้าพ่อหนังฮอลีวู๊ดสิ? เหยียบดวงจันทร์ปลอมยังทำมาแล้ว ระเบิดทั้งตึก จัดฉากเครื่องบินชนตึก เอาชีวิตชาวอเมริกัน 3000 ตัวไปบูชายันต์ เพื่อแลกกับมติผ่านในสภาครองเกรซ เอางบแสนล้านไปถลุง เปิดสงครามใส่อิรักเพื่อปล้นทองคำ และยึดบ่อน้ำมันเค้าแบบหน้าด้านๆ โดยอ้างประชาธิปไตย สิ่งเหล่านี้ ควายจะมองไม่เห็น และไม่มีวันได้รู้ความจริง จนกว่ามันจะเปิดดวงตาที่3 ได้สำเร็จ เพราะบุญมันน้อย สติไม่มี ถูกซาตานครอบงำ ดังนั้น ความจริง หรือแสง จะเป็นตัวเปิดตาควายทั้งโลก เมื่อเปิดแล้ว มรึงจะรู้ทะลุภพมิติทั้งหมด ดวงตาเห็นธรรม ไอ้ที่ดิ้นรนมาทั้งชีวิต เพื่อแลกกับสิ่งที่ไม่มีตัวตน ไปเพื่อ? นั่นแหละ เค้าเรียกวังวน หรือลูปของกรรมไม่จบสิ้น อยากหลุดพ้น ง่ายนิดเดียว ลด ละ เลิก ปล่อยวาง ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ทำร้ายใคร จงให้ด้วยสติ และจงรับด้วยปัญญา ทฤษฎีสมคบคิด ที่กระจายอยู่ในโซเชี่ยลตอนนี้มันมีที่มาเสมอ หากมองโลกความเป็นจริง แค่ตำแหน่ง ปธน.สหรัฐ แค่อีทรัมปป์ตัวเดียว ไม่อาจจะโคน DEEP STATE ลงทั้งโคตรได้ดอกน่ะ ไม่งั้น ป่านนี้ คงมีปธน.หลายคนทำไปนานแล้ว แล้วจะพบจุดจบแบบที่ JFK โดนไงล่ะ ไม่แปลกทีมงานทรัมปป์มีตระกูล JFK อยู่ด้วย เพราะเค้าต้องการล้างแค้นเอาคืนให้ปู่เค้าไงล่ะ เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์สหรัฐซะใหม่ ทำไมอีทรัมปป์จะไม่รู้ ลำพังแค่กู จะมีอำนาจอะไรไปสั่งบรรดาขี้ข้า DEEP STATE ที่เกาะกินแผ่นดินนี้มา ตั้งแต่ปล้นสะดมภ์แผ่นดินอินเดียนแดงเค้า ตั้งประเทศอเมริกาใหม่ ชุดแรกก็มาจากอังกฤษ ใครล่ะ ประจำสาขาอังกฤษ ก็อี FREEMASON เจ้าเก่า ขาประจำ ดังนั้น ดวงเมืองอีสหรัฐ ถึงกำหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า มันคือแหล่งอำนาจมืดโลก ที่ถูกควบคุมโดยเหี้ยต่างดาวที่ชื่อ "อีเรปทีเรี่ยน" เจ้านายอียิวระยำสลัดหมาอีกที เรื่องอีเรปทีเรี่ยนปล่อยให้สภาแสงเค้าจัดการไป มวยถูกคู่ ส่วนอียิวเหี้ย มวลมนุษยชาติจะจัดการกันเอง แบ่งคู่ชกกันเรียบร้อย? ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ อีทรัมปป์จำเป็นต้องมืออาชีพ รู้งาน ใคร..ผู้มีอำนาจสูงสุด ใคร..เหนือกว่า และมีพลังมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงโลกได้จริง ล้มอีเหี้ยยิวขี้ข้า และอีเรปทีเรี่ยนไปพร้อมกัน พลังที่ว่านี้ หาได้จาก มอสโคว์ และปักกิ่ง เหมือนสภาแสง เค้าจะระบุตัวชัดเจน ว่าจะให้ใครมากู้โลกคืนจากอีเรปทีเรี่ยน หวยไปออก "ปูติน และสีจิ้นผิง" ฟังแล้วเหมือนโลกการ์ตูน มีพระเอก มีผู้ร้าย ชีวิตจริง มันก็ไม่แตกต่างจากนี้ดอก ทฤษฎีสงครามการค้าที่อีทรัมปป์ล่ออยู่ ชงอยู่ เพื่อให้สีจิ้นผิงตบ มันคือการสมยอม และต้องการหั่นแหล่งรายได้ไอ้พวกฟรีเมสัน เจ้าพ่อตลาดหุ้น ธนาคาร คลังโลก ที่ดูแลโดย CITY OF LONDON เมื่อโลกเศรษฐกิจพังยับ จะนำไปสู่สงครามใหญ่ นั่นคือสิ่งที่มนุษย์ส่วนใหญ่คิด แต่สิ่งที่อีทรัมปป์ต้องการ แล้วดึงสีจิ้นผิง ปูติน เข้าร่วมแสดงละครฉากใหญ่นี้ เพื่อลดบทบาท อิทธิพลของ DEEP STATE ในสหรัฐ และทำลายท่อน้ำเลี้ยง CITY OF LONDON ไปในตัว ถามว่าสีจิ้นผิงรู้มั้ย? ตอนนี้ ยังตอบไม่ได้ เพราะเป็นแค่ข้อสังเกตุ ทฤษฎีแผนปลดระวางเหี้ย จะรู้ได้ก็ต้องเมื่อ มีการกระทำแล้วจริงเท่านั้น ดังนั้น หมีจึงมาสรปุและชี้เป้าให้ดูว่า ต้องจับตาดูอะไร อะไรคือจริง อะไรคือเท็จ ให้ไปดูทิศทางการเงินโลก ให้ไปดูกระแสเงินโลก ให้ไปดูฐานการค้าทั้งโลก และตัวเลขจริง ว่าใครแท้จริงกำหนดทิศทางตลาดโลกได้จริง หากสังเกตุ ช่วงนี้มันสอดคล้องกันหลายอย่าง อยู่ดีดี วงการแฟชั่นโลกที่อีฟรีเมสันกินหัวคิวอยู่ หุ้นร่วงระนาว ยอดตก กระแสไม่คลั่งแบรนด์เนม ที่อียิว และกลุ่ม ELITE พยายามจะปั่นมายาวนานนับศตวรรษ เริ่มสั่นคลอน ไม่ได้ตามเป้า อย่าลืมว่า โรงงานผลิตจากไหน วัตถุดิบจากใคร? แรงงานใครทำ? คำตอบทั้งหมดคือ "เอเซีย" ตะวันตกที่เกิดเพราะใช้พลังงานเอเซีย ใช้แรงงานเอเซีย แอฟริกา ลาติน ใช้วัตถุดิบจากเอเซียเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเซมิคอนดั๊กเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัย 4 ทั้งหมด นี่คือที่มาว่าทำไม อีทรัมปป์จะลากตัวเหี้ยยานแม่ลงได้จริง มรึงต้องใช้พลังจากเอเซียเท่านั้น เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ที่อยู่สูงกว่า โดยสภาแสง เค้ากำหนดคู่ต่อกรอำนาจมืดไว้ล่วงหน้ามาก่อนนับ 1000 ปีแล้ว ไม่งั้น มรึงจะเจอคนอย่างปูติน สีจิ้นผิง ที่โคตรอัจฉริยะเหนือมนุษย์ได้อย่างไร? เอเซียเนี่ยแหละจะขึ้นสู่จุดสูงสุดของโลก แบบที่โลกไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้น ที่กูชี้เป้าให้มรึงเก็บบ้าน ที่ดิน คอนโด เอาไว้ เพราะต้องการจะสื่อว่า นี่คือแผ่นดินทองคำของจริง ราคาจึงไม่ใช่คำตอบ คำตอบแท้จริงคือ ใครเป็นผู้ครอบครองพื้นที่ตรงนี้ต่างหาก เพราะมันจะปลูก จะสร้าง จะทำอะไรก็เจริญงอกงามง่ายดาย ดินแดนแห่งพลังงานบวกมาเต็มตรีน คลื่นความถี่ระดับสูง หมู่เทวดา ฟ้าดิน มาจุติลง ถึงได้ชื่อ ดินแดนสุวรรณภูมิไงล่ะ เก็บสินทรัพย์ให้ดีดี มรึงรวยแน่ กูท้า? และจะรวยกันทั้งแผ่นดิน เมื่อเปลี่ยนการปกครองกลับคืนสู่ที่ที่ควรจะเป็น "พ่อปกครองลูก" สิ่งเดียวที่เป็นตัวตนของเรา ไม่แปลก มอ 112 ทำงานอีกแล้ว กองทัพสั่งฟ้องตรง สัญญานชัดยิ่งกว่า "ปาท่องโก๋คู่" หน้าที่กองทัพคืออะไร ใครหมิ่น บ่อนทำลาย คิดร้ายต่อราชวงศ์จักรี ใครมันจะเก็บไว้ทำพ่อง? พ่อมรึง หากไม่รักษาดูแลให้ดี มรึงยังจะเรียกตัวเองเป็นลูกมั้ย? เชื่อกูเหอะว่า หลังยุบสภา จะมีสส. สว. พาเหรดกันเดินเข้าคุกกันอีกเพี๊ยบ นักวิชาการทั้งหลาย ที่รับงานเหี้ยเค้ามา จะไม่มีใครรอด ทั้งหมด ไม่ตายในคุก ก็เผ่นออกนอกสิ้น เพราะเวลาแห่งการชำระล้างแผ่นดิน ขับไล่เสนียดจัญไรมาถึงแล้ว อะไรที่โพสกันในโซเชี่ยล มันถูกส่งต่อกันมา เพื่อบ่งบอกอะไรบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น ทุกอย่างมีตัวเบื้องหลังกำหนดทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายแสง หรือฝ่ายมืด โลกเดินหน้าเต็มกำลังแล้ว อย่าได้เสียดาย หรือหันไปมองข้างหลัง ยังยึดติดกับอดีต ภาพมายาที่มรึงลิ้มรสชาดแล้วติดใจ มันคือยาพิษ สิ่งดีดีกำลังจะเกิด ไม่ว่าจะถูกใจมรึงหรือไม่ แต่นั่นคือทางรอดของโลก ไม่มีใครได้ดั่งใจทุกอย่าง ได้มาอย่าง ก็ต้องยอมเสียอีกอย่าง แต่จงเลือกสิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่ต้องมี สิ่งที่ขาดไม่ได้ นั่นคือทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด โลกสู้กับอะไร? ความอยู่รอดของโลกขึ้นอยู่กับอะไร? คำตอบเดียว "ศีล สมาธิ ปัญญา" ไม่เกี่ยวศาสนา แต่เป็น FACT ข้อเท็จจริง ที่มรึงจะได้เจอผู้สร้างมรึงนั่นเอง ปล.อีทรัมปป์ได้เลือกแล้ว หนทางจากนี้ จะมีแต่แรง แรงขึ้น แรงที่สุด ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด DEEP STATE เป็นแค่ชื่อเรียก แต่องค์กรลับใต้ดินทั่วโลก ที่ทำงานประสานกัน ต่างรู้ดีว่า "อีกฝ่าย(สภาแสงสว่าง)" กำลังจะมาทำการชำระล้างโลก การต่อสู้ทุก 100 ปี เกิดขึ้นเป็นปฎิทินจักรวาลเสมอ เพราะเราอยู่ในโลก THE MATRIX มีบทบาทอะไรก็เล่นกันไป หลุดพ้นเมื่อไหร่ ดวงตาที่ 3 เปิดเมื่อไหร่ มรึงจะเจอผู้มีพระคุณที่ผ่านมาทั้งหมดในภพภูมิที่สูงกว่าที่มรึงจะเข้าใจได้ เพราะสมองคนเราถูกปิดกั้นอยู่ มนุษย์เป็นสิ่งที่พระเจ้าสร้าง ดังนั้น เป็นดาบ 2 คม ใช้ถูกทางก็แจ่มจรัส ใช้ผิดทางก็นรกอเวจี เหมือนพระเจ้าได้ให้การตัดสินใจทั้งหมดไว้ที่มรึง มรึงเลือกเอง ใครเลือกอะไรก็ได้อย่างงั้น กูเลือกไว้นานแล้ว เดินหน้าลุย มรึงก็เลือกแล้ว ถึงได้มาเจอกันในภพชาตินี้ ได้มากู้ชาติ บ้านเมืองพร้อมกัน ในช่วงเวลาเดียวกัน นั่นคือ "คน 2 แผ่นดิน" นั่นเอง ปล.2 ในวัน 11 กันยายน 2568 ครบรอบ 9 ปีเต็ม กลุ่มโรนิน 500 กูเคยบอกแล้วว่า ปีนี้ต้องพิเศษสุดติ่งกระดิ่งหมี ของแทนใจ ที่ระลึก บอกได้ว่า "ชัดเจนทุกอณูแห่งความรัก" แน่นอน ต้องมีสัญลักษณ์ เลข 9 คนในรัชการที่ 9 พ่วงต่อรัชกาลที่ 10 ปีที่ 9 ของบ้านโรนิน แจ้งไว้ก่อน สมาชิกท่านใด ที่อยู่ต่างประเทศ ติดต่อญาติ คนรู้จัก เพื่องฝูงไว้ล่วงหน้าได้เลย การส่งพัศดุจากมือแอดมินนิดหน่อย จะส่งได้เฉพาะภายในประเทศเท่านั้น ท่านต้องให้ผู้รับที่อยู่ประเทศไทยส่งต่อให้ท่านอีกทีนึง ที่พูดล่วงหน้า เพราะบอกเลยว่า มันชัดเจนที่สุด สิ่งที่ทำมาตลอด 9 ปีเต็ม อยู่ในสิ่งที่จะมอบให้นี้ นัยยะซ่อนนัยยะ 3 ชั้น กับอีกเกลียวครึ่งรอบ มรึงจะเยอะไปไหน? หมีได้เลือกแล้ว สิ่งนี้อาจจะหายากหน่อย หากผลิตในจำนวนมาก แต่ไม่เกินความสามารถแอดมินนิดหน่อย และทีมงาน รวมทั้งสมาชิกบางท่าน ที่มีความสามารถเฉพาะด้าน ทำเท่าที่งบมี ทำด้วยใจ ไม่สนมูลค่า ดังนั้น ทุกอย่างที่ได้ส่งมอบไป คืองานที่เน้นคุณภาพ ปราณีต และใส่ใจ มันคือของขวัญแทนใจจากบ้านนี้ สู่ลูกบ้านที่มีจิตใจเดียวกันมาโดยตลอด 9 ปี มันต้องดัง มันต้องปัง ให้สมกับที่เป็นลูกพ่ออยู่หัวในรัชกาลที่ 9 คนดีศรีอโยธยา ไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลัง สู้ไปด้วยกัน ตายไปด้วยกัน จะเป็นผีก็จะอยู่เฝ้าแผ่นดินพ่อกู นี่คือ "จิต" ที่มันผูกร่วมกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน ไม่รู้กี่ภพ กี่สมัย พลังจึงก่อเกิดขึ้นมาให้เห็นเด่นชัดเช่นนี้ ด้วยรักและปลาทู หมี CNN(หมีตะนอย จะโพสเฉพาะเรื่อง เพื่อให้เข้าใจไปในทิศทางเดียวกันว่า มันกำลังจะเกิดเหี้ยอะไรขึ้นนับจากนี้ เกมส์ไม่แรง โลกไม่เปลี่ยน เหี้ยมันแพ้ยับ ถึงได้สู้ตายถวายหัวเช่นนี้ อีทรัมปป์ไปไม่รอด หากไม่ได้ขั้วใหม่เข้ามาช่วยล้างบาง น่าจะเรียก "ทีมเฉพาะกิจ" เสร็จศึกใหญ่ แล้วค่อยมากัดกันต่อ แต่ตอนนี้ กำจัดศัตรูของมวลมนุษยชาติก่อน เชื่อว่ากูโพสปุ๊บ เดี๋ยวมีตามลบอีกเหมือนเคย เพราะเรื่องแบบนี้ จะมีใครมาเล่าให้พวกมรึงฟังกันล่ะ หากไม่บร๊า ก็เสียสติ กูถึงต้องเรียบเรียงให้เข้าใจ ว่าโลกมันคือละครอย่างไร? แต่ละคนมีบทบาทของตัวเอง เล่นให้สุด แล้วจบที่เป้าหมายเดียว) 09 เมษายน 68 10.22 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    0 Comments 0 Shares 517 Views 0 Reviews
  • US Office of the Comptroller of the Currency (OCC) หน่วยงานที่กำกับดูแลธนาคารแห่งชาติในสหรัฐฯ ได้เผชิญการโจมตีไซเบอร์อย่างรุนแรงจนเกิดช่องโหว่ในระบบอีเมลเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ทำให้มีการเข้าถึงข้อมูลสำคัญกว่า 150,000 อีเมล เหตุการณ์นี้ถูกจัดว่าเป็นการละเมิดที่มีผลกระทบร้ายแรงต่อความปลอดภัยไซเบอร์

    ✅ จุดเริ่มต้นการละเมิด:
    - OCC พบ พฤติกรรมผิดปกติ ระหว่างบัญชีผู้ดูแลระบบ (Admin) และ Mailbox ของผู้ใช้งานในระบบ
    - การโจมตีนี้ถูกยืนยันว่าเป็น Unauthorized Activity และส่งผลให้มีการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต

    ✅ การตอบสนองของ OCC:
    - หน่วยงานปิดบัญชีผู้ดูแลระบบที่ถูกเจาะระบบทันที
    - เรียกทีมภายนอกมาตรวจสอบปัญหา พร้อมรายงานเหตุการณ์ให้กับ Cybersecurity and Infrastructure Security Agency (CISA)
    - มีการแจ้งข้อมูลต่อสาธารณะเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์

    ✅ บทเรียนที่สำคัญ:
    - มีการตั้งคำถามว่าหน่วยงานที่มีความสำคัญระดับนี้ได้รับ ทรัพยากรที่เพียงพอ ในการป้องกันภัยไซเบอร์หรือไม่ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า IT Team ของหน่วยงานอาจขาดแคลนงบประมาณและบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ

    David Shipley นักวิเคราะห์ความปลอดภัยไซเบอร์ชี้ว่า การละเมิดครั้งนี้เป็นสัญญาณเตือนสำคัญ ที่เน้นย้ำว่าความพยายามในการป้องกันภัยไซเบอร์ในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับความกดดันมหาศาล ทั้งในด้านการลดทรัพยากรและการจัดการกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    Shipley กล่าวว่า “การโจมตีที่กล้าหาญแบบนี้ แสดงถึงความพยายามของผู้โจมตีที่มีความมั่นใจอย่างสูง รวมถึงความท้าทายที่ระบบป้องกันต้องเผชิญในการยับยั้งพฤติกรรมดังกล่าว”

    https://www.csoonline.com/article/3957698/occ-email-system-breach-described-as-stunning-serious.html
    US Office of the Comptroller of the Currency (OCC) หน่วยงานที่กำกับดูแลธนาคารแห่งชาติในสหรัฐฯ ได้เผชิญการโจมตีไซเบอร์อย่างรุนแรงจนเกิดช่องโหว่ในระบบอีเมลเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ทำให้มีการเข้าถึงข้อมูลสำคัญกว่า 150,000 อีเมล เหตุการณ์นี้ถูกจัดว่าเป็นการละเมิดที่มีผลกระทบร้ายแรงต่อความปลอดภัยไซเบอร์ ✅ จุดเริ่มต้นการละเมิด: - OCC พบ พฤติกรรมผิดปกติ ระหว่างบัญชีผู้ดูแลระบบ (Admin) และ Mailbox ของผู้ใช้งานในระบบ - การโจมตีนี้ถูกยืนยันว่าเป็น Unauthorized Activity และส่งผลให้มีการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ✅ การตอบสนองของ OCC: - หน่วยงานปิดบัญชีผู้ดูแลระบบที่ถูกเจาะระบบทันที - เรียกทีมภายนอกมาตรวจสอบปัญหา พร้อมรายงานเหตุการณ์ให้กับ Cybersecurity and Infrastructure Security Agency (CISA) - มีการแจ้งข้อมูลต่อสาธารณะเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ✅ บทเรียนที่สำคัญ: - มีการตั้งคำถามว่าหน่วยงานที่มีความสำคัญระดับนี้ได้รับ ทรัพยากรที่เพียงพอ ในการป้องกันภัยไซเบอร์หรือไม่ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า IT Team ของหน่วยงานอาจขาดแคลนงบประมาณและบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ David Shipley นักวิเคราะห์ความปลอดภัยไซเบอร์ชี้ว่า การละเมิดครั้งนี้เป็นสัญญาณเตือนสำคัญ ที่เน้นย้ำว่าความพยายามในการป้องกันภัยไซเบอร์ในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับความกดดันมหาศาล ทั้งในด้านการลดทรัพยากรและการจัดการกฎหมายที่เกี่ยวข้อง Shipley กล่าวว่า “การโจมตีที่กล้าหาญแบบนี้ แสดงถึงความพยายามของผู้โจมตีที่มีความมั่นใจอย่างสูง รวมถึงความท้าทายที่ระบบป้องกันต้องเผชิญในการยับยั้งพฤติกรรมดังกล่าว” https://www.csoonline.com/article/3957698/occ-email-system-breach-described-as-stunning-serious.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    OCC email system breach described as ‘stunning, serious’
    Agency that regulates all US national banks alerted Congress Tuesday about ‘unusual interactions’ involving system administrative account.
    0 Comments 0 Shares 137 Views 0 Reviews
  • มีเกร็ดเล็กๆ น้อยที่เคยได้ยินท่านหลวงตาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องโชคเรื่องลาภ จึงขอนำมาเล่าให้ฟังกันครับ

    หลวงตาม้าท่านเคยบอกกับลูกศิษย์ท่านหนึ่งว่า เวลาถูกหวยหรือล็อตเตอรรี่ ให้แบ่ง 1ใน 3 ของส่วนที่ได้ไปทำบุญ แล้วครั้งต่อไปจะถูกอีก! เป็นบุญต่อบุญไง

    และอีกครั้งหนึ่ง ท่านเคยบอกได้ใจความว่า...บางทีเวลาเราไปขอหวยหรือขอเรื่องทรัพย์กับเทวดาเนี่ย เขาก็อยากให้เราเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากให้นะ แต่คนบางคนเนี่ย มันไม่เคยให้ทานมาก่อนเลย เทวดาเขาก็มองไม่เห็นบุญ เลยไม่รู้จะให้ยังไง ดังนั้นเวลาไปขอเรื่องทรัพย์หรือเรื่องหวยกับเทวดาเนี่ย ก่อนจะขอนั้น ให้เรานึกถึง บุญที่เราเคยทำทานมาก่อน เอาทานที่มันใหญ่ๆที่เราเคยทำมา นั่นแหละ เทวดาเขาจะมองเห็นบุญเรา แล้วเขาจะให้ได้

    จากที่หลวงตาม้าท่านกล่าวนั้น ที่ท่านบอกว่า ให้นึกถึงทานที่มันใหญ่ๆ ที่เราเคยทำมา บางท่านอาจจะไม่ทราบว่าอย่างไหนที่เรียกว่าทานอย่างใหญ่

    ผมขอยกตัวอย่างให้ฟังนะครับ เช่น ร่วมสร้างวิหาร ร่วมสร้างวัด ร่วมสร้างพระแล้วแจกฟรี หรือให้ธรรมะเป็นทาน อย่างนี้ล้วนแล้วแต่เป็นบุญใหญ่ทั้งนั้น ที่เป็นบุญใหญ่เพราะ อย่างการสร้างวัดนี้ ใครก็ตามที่เข้าไปทำบุญใดๆ ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับวัดนี้ เราก็มีส่วนได้บุญด้วยทั้งหมด เพราะเราเป็นเหตุให้เขาได้บุญ เอาแค่ว่ามีคนไปกวาดลานวัด เราก็ได้บุญด้วย เพราะเราเป็นเหตุ หรือการให้ธรรมะเป็นทานนั้น เช่น ถ้าเราไปสอนใครสวดมนต์ แล้วเขาคนนั้นนำไปสวด ทุกครั้งที่เขาสวด เราก็มีส่วนได้บุญด้วย เพราะเราเป็นเหตุ หลวงตาม้าท่านเคยบอกว่า..... หลวงปู่(ดู่) ท่านสอนว่า... เวลาจะทำอะไรให้เลือกทำที่มันยาวๆ จะดีกว่า อย่างการสร้างพระพุทธรูปเนี่ย
    พระพุทธรูปบางองค์อยู่ได้เป็นหลายร้อยปีเลยนะ ภายในระยะเวลาหลายร้อยปีนั้น ผู้ใดก็ตามที่มากราบพระพุทธรูปองค์นี้หรือมาทำบุญกับพระพุทธรูปองค์นี้ คนที่สร้างจะมีส่วนได้บุญทั้งหมด เพราะเป็นเหตุให้เขาได้กราบหรือได้ทำบุญ

    อย่างครูบา(ศรีวิชัย) เนี่ย ท่านไปสร้างวัดใช่ไหม ใครก็ตามที่ทำบุญใดๆ ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับวัดนั้น
    ท่านครูบาได้ด้วยหมดเลย(หัวเราะ)

    หรืออย่างหลวงตาสร้างพระเนี่ย ใครก็ตามที่เอาพระของหลวงตาไปกำทำสมาธิ หลวงตาก็ได้บุญด้วยหมดเลยนะ ตอนนี้หลวงตาใจสบายตลอดเวลาเลยเนี่ย เพราะมีคนสวดให้ตลอดเวลา(หัวเราะ)

    เมื่อหลวงตาท่านพูดอย่างนี้ ผมจึงได้เข้าใจ การทำบุญใดๆ ที่ทำแล้วส่งผลเป็นระยะยาว อานิสงส์ย่อมได้มากกว่าบุญที่ทำแล้วจบลงตรงนั้นเลย

    ขอบคุณและ เครดิตที่มา

    น้อมกราบ 
    #หลวงตาม้า
    #หลวงตาม้าวัดถ้ำเมืองนะ
    #พระวรงคตวิริยธโร
    #วัดถ้ำเมืองนะ
    #หลวงปู่ดู่พรหมปัญโญ
    #พระพรหมปัญโญ
    #สวดคาถามหาจักรพรรดิ
    #สวดมนต์ #บันทึกบุญ #โมทนาบุญ #ยินดีในบุญ
    #คาถามหาจักรพรรดิ108
    #ธรรมทานเหนือการให้ทั้งปวง
    #พุทธังอนันตังธัมมังจักรวาลังสังฆังนิพพานะปัจจะโยโหตุ

    ว่ากันต่อต่อไปให้ได้บุญ
    @แฟนตัวยง
    มีเกร็ดเล็กๆ น้อยที่เคยได้ยินท่านหลวงตาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องโชคเรื่องลาภ จึงขอนำมาเล่าให้ฟังกันครับ หลวงตาม้าท่านเคยบอกกับลูกศิษย์ท่านหนึ่งว่า เวลาถูกหวยหรือล็อตเตอรรี่ ให้แบ่ง 1ใน 3 ของส่วนที่ได้ไปทำบุญ แล้วครั้งต่อไปจะถูกอีก! เป็นบุญต่อบุญไง และอีกครั้งหนึ่ง ท่านเคยบอกได้ใจความว่า...บางทีเวลาเราไปขอหวยหรือขอเรื่องทรัพย์กับเทวดาเนี่ย เขาก็อยากให้เราเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากให้นะ แต่คนบางคนเนี่ย มันไม่เคยให้ทานมาก่อนเลย เทวดาเขาก็มองไม่เห็นบุญ เลยไม่รู้จะให้ยังไง ดังนั้นเวลาไปขอเรื่องทรัพย์หรือเรื่องหวยกับเทวดาเนี่ย ก่อนจะขอนั้น ให้เรานึกถึง บุญที่เราเคยทำทานมาก่อน เอาทานที่มันใหญ่ๆที่เราเคยทำมา นั่นแหละ เทวดาเขาจะมองเห็นบุญเรา แล้วเขาจะให้ได้ จากที่หลวงตาม้าท่านกล่าวนั้น ที่ท่านบอกว่า ให้นึกถึงทานที่มันใหญ่ๆ ที่เราเคยทำมา บางท่านอาจจะไม่ทราบว่าอย่างไหนที่เรียกว่าทานอย่างใหญ่ ผมขอยกตัวอย่างให้ฟังนะครับ เช่น ร่วมสร้างวิหาร ร่วมสร้างวัด ร่วมสร้างพระแล้วแจกฟรี หรือให้ธรรมะเป็นทาน อย่างนี้ล้วนแล้วแต่เป็นบุญใหญ่ทั้งนั้น ที่เป็นบุญใหญ่เพราะ อย่างการสร้างวัดนี้ ใครก็ตามที่เข้าไปทำบุญใดๆ ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับวัดนี้ เราก็มีส่วนได้บุญด้วยทั้งหมด เพราะเราเป็นเหตุให้เขาได้บุญ เอาแค่ว่ามีคนไปกวาดลานวัด เราก็ได้บุญด้วย เพราะเราเป็นเหตุ หรือการให้ธรรมะเป็นทานนั้น เช่น ถ้าเราไปสอนใครสวดมนต์ แล้วเขาคนนั้นนำไปสวด ทุกครั้งที่เขาสวด เราก็มีส่วนได้บุญด้วย เพราะเราเป็นเหตุ หลวงตาม้าท่านเคยบอกว่า..... หลวงปู่(ดู่) ท่านสอนว่า... เวลาจะทำอะไรให้เลือกทำที่มันยาวๆ จะดีกว่า อย่างการสร้างพระพุทธรูปเนี่ย พระพุทธรูปบางองค์อยู่ได้เป็นหลายร้อยปีเลยนะ ภายในระยะเวลาหลายร้อยปีนั้น ผู้ใดก็ตามที่มากราบพระพุทธรูปองค์นี้หรือมาทำบุญกับพระพุทธรูปองค์นี้ คนที่สร้างจะมีส่วนได้บุญทั้งหมด เพราะเป็นเหตุให้เขาได้กราบหรือได้ทำบุญ อย่างครูบา(ศรีวิชัย) เนี่ย ท่านไปสร้างวัดใช่ไหม ใครก็ตามที่ทำบุญใดๆ ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับวัดนั้น ท่านครูบาได้ด้วยหมดเลย(หัวเราะ) หรืออย่างหลวงตาสร้างพระเนี่ย ใครก็ตามที่เอาพระของหลวงตาไปกำทำสมาธิ หลวงตาก็ได้บุญด้วยหมดเลยนะ ตอนนี้หลวงตาใจสบายตลอดเวลาเลยเนี่ย เพราะมีคนสวดให้ตลอดเวลา(หัวเราะ) เมื่อหลวงตาท่านพูดอย่างนี้ ผมจึงได้เข้าใจ การทำบุญใดๆ ที่ทำแล้วส่งผลเป็นระยะยาว อานิสงส์ย่อมได้มากกว่าบุญที่ทำแล้วจบลงตรงนั้นเลย ขอบคุณและ เครดิตที่มา น้อมกราบ  #หลวงตาม้า #หลวงตาม้าวัดถ้ำเมืองนะ #พระวรงคตวิริยธโร #วัดถ้ำเมืองนะ #หลวงปู่ดู่พรหมปัญโญ #พระพรหมปัญโญ #สวดคาถามหาจักรพรรดิ #สวดมนต์ #บันทึกบุญ #โมทนาบุญ #ยินดีในบุญ #คาถามหาจักรพรรดิ108 #ธรรมทานเหนือการให้ทั้งปวง #พุทธังอนันตังธัมมังจักรวาลังสังฆังนิพพานะปัจจะโยโหตุ ว่ากันต่อต่อไปให้ได้บุญ @แฟนตัวยง
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 193 Views 0 Reviews
  • “ภาษีศุลกากรทรัมป์” ยังคงตามเขย่าตลาดการเงินทั่วโลกในวันจันทร์ (7 เม.ย.) ต่อเนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยที่ประมุขสหรัฐฯแสดงท่าทียืนกรานแข็งกร้าวว่าแผนการสะท้านเศรษฐกิจโลกของตนนั้นถูกต้องและได้ผล รวมทั้งขู่ว่าต่างชาติจะต้องยอมจ่าย “มโหฬาร” หากจะให้อเมริกายกเลิกมาตรการภาษีซึ่งตัวเขาเองบอกว่าเป็น “ยา” เพื่อแก้ปัญหา ทางด้านจีนเรียกร้องนานาชาติร่วมกันต่อต้านมาตรการภาษีของวอชิงตัน ชี้เป็นการดำเนินการฝ่ายเดียว กีดกันการค้า และข่มเหงรังแกทางเศรษฐกิจ เพื่อสนองประโยชน์ของตัวเองและผลักภาระให้ประเทศอื่น
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000033235

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ภาษีศุลกากรทรัมป์” ยังคงตามเขย่าตลาดการเงินทั่วโลกในวันจันทร์ (7 เม.ย.) ต่อเนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยที่ประมุขสหรัฐฯแสดงท่าทียืนกรานแข็งกร้าวว่าแผนการสะท้านเศรษฐกิจโลกของตนนั้นถูกต้องและได้ผล รวมทั้งขู่ว่าต่างชาติจะต้องยอมจ่าย “มโหฬาร” หากจะให้อเมริกายกเลิกมาตรการภาษีซึ่งตัวเขาเองบอกว่าเป็น “ยา” เพื่อแก้ปัญหา ทางด้านจีนเรียกร้องนานาชาติร่วมกันต่อต้านมาตรการภาษีของวอชิงตัน ชี้เป็นการดำเนินการฝ่ายเดียว กีดกันการค้า และข่มเหงรังแกทางเศรษฐกิจ เพื่อสนองประโยชน์ของตัวเองและผลักภาระให้ประเทศอื่น . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000033235 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    5
    0 Comments 0 Shares 1539 Views 0 Reviews
  • 06-04-68/01 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.28(มาตามนัด..ไม่มีโดด 4)

    เขยิบซะทีขั้วใหม่ เป็นไปตามแผน จีน-รัสเซีน ประกาศศักดา รักของเราจะไม่มีเหี้ยมาแทรกได้ตลอดไป นัยยะคือ หลังอิหร่าน โสมแดง จับมือเป็นโรงงานผลิตอาวุธขย่มเหี้ย จีนเดินสายโลจิสติคโลกต่อ รัสเซียควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์ มองภาพใหญ่ มรึงจะเห็นการล่าถอยของฝ่ายขั้วเก่าชัดเจน ไอ้สงครามที่เห็นอยู่ตอนนี้ และที่ผ่านมา มันชี้ชัดแล้วว่า "ใครกำลังจะปิดเกมส์" นี่คือสิ่งที่ศรีธนญชัย และอาเซียน กำลังรอเปลี่ยนขั้วเบ็ดเสร็จอยู่ อำนาจการปกครองปชต.ตอแหลจะหมดไป ไทยจะนำโลกสู่การวิวัฒนาการใหม่ พ่อปกครองลูกฉบับ 5.1 หัวเป็นแต่งตั้ง หางเป็นเลือกตั้ง เพราะมันเห็นชัดแล้วว่า "คุณสมบัติของควายไม่เหมาะจะเลือกผู้นำ" ส่งคืนพระราชอำนาจเมื่อไหร่ ไทยปลดแอกเหี้ยทันที ตอนนี้ แค่อเมริกายืนให้ได้ ยังยาก เพราะเสือกไปสร้างเงื่อนไขไว้เพี๊ยบ เมื่อไม่มีใครคบ เหี้ยรู้ดีว่าจะรอดต้องพึ่งพาขั้วใหม่ อย่าคิดว่าอะไรก็เกิดขึ้นไม่ได้ โลกความจริง ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความอยู่รอดของตัวเอง อเมริกา รัสเซีย จีน จะหยุดทะเลาะกันเปลือกนอก แต่หลังฉาก มรึงเผลอกูแทง จะเป็นไปเช่นนี้เสมอ กรีนแลนด์จะเป็นจุดล่อแหลม อยากให้กูช่วยมรึงมั้ยล่ะ? ยุโรปต้านเหี้ยไม่อยู่ดอก รัสเซีย จีน อยู่นิ่งๆ พอ รอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์

    ทั้งโลกขอบคุณ อีทรัมปป์ สงครามกำแพงภาษีที่มรึงก่อไว้ตอนนี้ ทำให้โลกหันมาจับมือกันเอง ซื้อ-ขายกันเอง แล้วมรึงก็หมาไงล่ะ? ใครมันจะโง่สั่งซื้อสินค้าราคาโคตรแพงเกินจริงแถมห่วยบัดซบ ยุโรปหนีไม่รอด ยังไงก็ต้องใข้บริการจีน เพราะเป็นทางเลือกเดียวที่จะอุ้มได้จริง เข้าสู่ BRICS ทันที ดอลล่าร์กลายเป็นสิ่งต้องห้ามโลก นั่นโลกถึงจะเปลี่ยนมือของจริง ส่วนอเมริการบราฆ่าฟันกันเอง กรรมเก่าที่มรึงไปปล้นดินแดนชาวอินเดียนแดงเค้ามา ฆ่าเป็นล้าน สภาพเดียวกัน อนิจจัง! ไทยจะเป็นฮับอาเซียนเหรอ? ดูสัญญานจากอะไร? จีนจะเปิดโรงงานเพิ่มขึ้น อาเซียนจะก่อตัว รมด้วยช่วยกัน หลังพม่าโดนล่อหนัก สูญเสียไปเยอะ อีขะแมร์ความมั่นคงการเมืองสั่นคลอน ลาวเจอพิษเศรษฐกิจ ทั้ง 3 ดินแดนนี้ มีโอกาสจะเข้าผนวกกับไทยบางส่วน โดยเฉพาะชนกลุ่มน้อย ปัญหาพิพากเรื่องพรมแดนจะเริ่มเจรจากันอย่างจริงจัง เพื่อลดความขัดแย้ง เข้าสู่โหมดช่วยกันทำมาหาแดร๊กกันต่อดีกว่ามั้ย? ทั้งหมดจะเกิดขึ้น ด้วยเงื่อนไขเดียว เหี้ยต้องตายก่อนไงล่ะ? นี่แหละที่เค้ารอ และยังไม่ลงมือทำอะไรตอนนี้ หากเหี้ยจนตรอก หันมาเปิดศึกแปซิฟิค คือจบทันที มรึงต้องยกขบวนกองทัพใหญ่ขนาดไหน ถึงจะมาต้านแสนยานุภาพขั้วใหม่ได้ หลังบ้านมรึงรั่วทันที

    อเมริกาเจ๊งยับ ยุโรปล่มสลาย เหลือใครล่ะ ที่ค้ำจุนโลกได้ หากไม่ใช่ กลุ่ม BRICS ซึ่งไม่มีผลกระทบจากแผนล้างโลกอีทรัมปป์ ยิ่งบีบให้สมาชิกเพิ่มขึ้น หลายชาติทิ้งดอลล่าร์มากขึ้น SCO จะก้าวกระโดด ไม่มีกองทัพใด ที่มีแสนยานุภาพมากเท่านี้อีกแล้ว ขั้วใหม่จะเดินเกมส์สวนทางแผนอีทรัมปป์ทันที ปัญหาคือบรรดาลิ่วล่อเหี้ยทั้งหลาย ต่างจับตัวกันต่อต้านอีทรัมปป์แล้ว ทั้งอียุ่นปี่ อีโสมขาว อีแคน มันจะส่งผลกระทบถึงแผนความมั่นคงแปซิฟิค และแผนปิดมหาสมุทรอินเดียของสหรัฐ รัสเซียยิ้ม เหี้ยต้องมากราบตรีนเพื่อความอยู่รอด จะเป็นใครก่อน อีทรัมปป์ หรือยุโรป? ด้านบ้านทรายทอง ม็อบเริ่มเดินสวนสนามกันแล้ว ไม่ใช่แค่ล้ม "กาสิโอ๊ะ" แต่จะเขี่ยอีรัฐบาลเถื่อนลงถังขยะทันที สูตร น้ำเงิน ส้ม แดง ขอให้มาจริงเฮอะ กูท้า? จะได้ไปกันให้หมดทั้งคอกเหี้ย กระแสคืนพระราชอำนาจจะกลับมาแรงอีกครั้ง ชูกษัตริย์ปกครองแผ่นดิน ทุกอย่างพิมพ์เขียวเค้าเขียนรอไว้แล้ว รอแค่ละครปิดฉาก คือเดินหน้าทันที เหี้ยยังอยู่ ยังไม่ใช่เวลาออกตัวแรง รอเหี้ยแตกแผ่นดินเมื่อไหร่ รัสเซีย จีน ขึ้นแท่นอย่างเป็นทางการปุ๊บ นั่นแหละ หางจะโผล่ทันที ศรีธนญชัยจะเป็นผู้นำชาติอาเซียนในการเปลี่ยนแปลงการปกครองรูปแบบใหม่ ไม่แน่ ทั้งอีขะแมร์ ลาว หม่อง อาจจะดึงสถาบันกษัตริย์กลับมาอีกครั้ง ตามแบบไทยโมเดล นี่คือสิ่งที่ผู้คนรอคอย

    ตัวอย่างดี๊ดี..เพ่อัจ แฉยับ รมต.บินลอดช่อง ไปฟาดกาสิโอ๊ะ โดนเค้าหลอกฟัน 7 ล้าน 5 ผีพนันเข้าสิงเหรอจ๊ะ? ไม่เป็นไร เดี๋ยวกลับมาแดร๊กต่อได้อีกหลายสิบล้าน สรุปนักการเมืองหาเงินไปส่งส่วยบ่อนเหรอจ๊ะ? แล้วมรึงจะไม่ให้ผลัดใบแผ่นดินได้อย่างไร หันซ้ายก็เหี้ย หันขวาก็เหี้ย มีแต่เหี้ยเต็มสภา เหี้ยปกครองควาย นี่ไง ปชต.ตอแหลที่มรึงใฝ่ฝัน ยังไม่หนำใจพอ..เพ่อัจ หลังสงกรานต์ มรึงเจอกูแน่ ไอ้อีบนเรือขาเสี้ยน วอนส้นตรีน จัดหนัก จัดเต็ม ให้ 2 ดอกใหญ่ ไม่ต้องหนี ดีออก? เค้าเตรียมคุกรอไว้ให้มรึงนานแล้ว เตรียมเปิดลายแทง "แผนฆาตกรรมอำพรางผีอีโมตั้งแต่ต้นจนจบ" งานนี้ ตายยกคอก เผ่นยกรัง ธุรกิจสีเทาโดนรวบหมด รายชื่อมีครบ ภาพถ่ายมีเยอะ เส้นทางการเงินมีเพี๊ยบ คลิปก็มี ภาพก็มา เสียงก็โผล่ มรึงจะเอาเหี้ยอะไรมาแถต่อได้อีกล่ะ? ผีอีโม ทิ้งทวน ก่อนจะไปขึ้นสรวจสวรรค์ เคลียร์เรื่องคาใจจบ หดมเคราะห์ หมดโศก รู้เช่นเห็นชาติ ผัวตัวเอง 3 วันจาก นารีเป็นอื่น แม่ขายลูกสาวแดร๊ก เพื่อนขายตัวให้เหี้ย ชีวิตบัดซบกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว ที่สุดของกรรมเก่ามรึง เอาให้จบในชาตินี้ ภพหน้าไปเป็นนางฟ้าอยู่ข้างบนน่ะ อย่าได้ลงมาอีกเลย

    แผนเรียกแขกอีทรัมปป์มาเต็ม CIVIL WAR ก็มา ยุโรปเตรียมป้องกันกรีนแลนด์ สงครามการค้ายุโรป-สหรัฐ สงครามล้างบาง DEEP STATE ตัดท่อน้ำเลี้ยงใหญ่ แผนส่ง HAARP ทุบอาเซียน เศรษฐกิจเอเซีย แผนดันทองคำทะลุเพดานบิน แผนล่าแหล่งพลังงานทั่วโลก ไม่ว่าจะทำอะไรต่อ ทั้งหมดเพียงสิ่งเดียว คือยื้อดอลล่าร์สุดชีวิต รีดภาษี ลดเงินเดือนเจ้าหน้าที่ ตัดรายจ่ายอีลาทิ้งไป เพื่อเอาเงินไปโปะ กำหนดเส้นตายต่อดอกเบี้ยที่ไม่มีวันจ่ายหมด เพื่อหาโอกาสพิมพ์แบงค์กงเต๊กออกมาผยุงเศรษฐกิจเน่าอเมริโกย มรึงยิ่งทำยิ่งฉิบหาย อเมริกาหมดสภาพแล้ว อยู่ไปวันวัน ดอลล่าร์ไม่มีใครเอา มันคือจบแล้ว อาหรับโดดปกป้องอิหร่าน มรึงบุก กูสวนทันที อีมาครงกำลังดึงยุโรปตายห่าคาวงตรีน ท้ารบเหี้ยมะกัน ท้าตีรัสเซีย ระวังให้ดีดี เครมลินยกมา แล้วมรึงจะไร้แผ่นดินอยู่ อีเบียร์หมดสภาพแล้ว รอวันแตกเท่านั้น ไวรัส แผ่นดินไหว ก่อการร้าย สึนามิ น้ำท่วม ไฟป่า คลื่นความร้อน มาแน่ เพราะมันตั้งใจให้โลกเจ๊งให้หมด แล้วมา SET 0 กันใหม่ โดยไม่ต้องใข้หนี้ไงล่ะ แต่ถามขั้วใหม่รึยัง? ว่าใครอนุญาติให้มรึงทำ? ยูเรเซียกำลังจะมีบทบาทสำคัญโลก รัสเซียชงรอไว้แล้ว โลจิสติคสู่แอฟริกา เอเซีย ยุโรป ลาติน จัดเต็มคาราเบล พลังงานถูก ใครไม่เอากันล่ะ? เงื่อนไขปลดแอกดอลล่าร์ ฆ่า SWIFT

    ปล.มาอีกละ รอยเลื่อน "อาระกัน" มรึงไม่ต้องสงสัย มันมีของมันมานานแล้ว หากแต่อยู่ที่ใครไปกระตุ้นมันต่างหากล่ะ? รึว่านี่ คือแผนย้ายเมืองหลวงของศรีธนญชัยกันแน่ หลายอย่าง อย่าเชื่อแค่ตาเห็น บางอย่างอาจเป็นเราที่สมรู้ร่วมคิด เพื่อเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง ในกลศึก ไม่มีผิดชอบ ชั่วดี สิ่งเดียวที่ทำคือความอยู่รอดของแผ่นดิน เพราะสังเกตุอะไรหลายอย่าง มันดูง่ายดายเกินไป มันดูเหมือนหน่วยความมั่นคงต้องการให้เกิดอะไรขึ้นงั้นแหละ แค่เซนส์มันบอก ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ ดูทรงแล้ว มันต้องมีอะไรซ่อนไว้ในกอไผ่ชัวร์ แค่ตอนนี้ ยังไม่ถึงเวลาจะบอก จับตาละครการเมืองไทยและเทศ ให้ดีดี ทุกอย่างสอดคล้องกันเสมอ ไม่มีอะไรบังเอิญ และไม่มีอะไรที่ได้มาฟรี ทุกอย่างมีใบเสร็จเสมอ ต้องมีคนจ่าย ต้องมีคนชดใช้ รมต.คลังสวนกระแสอีทรัมปป์อาละวาด เร่งส่งออกไปสหรัฐเพิ่มขึ้น และนำเข้าปลาทูน่าจากสหรัฐเพิ่มขึ้น เพื่อปรับดุลการค้าให้สมดุล จากได้เปรียบ 70% ให้เหลือ 40% ดูภายนอกคือวินวินทุกฝ่าย แต่พอดูภายใน มันคือช่วยอุ้มเหี้ยนั่นแหละ ตี 2 หน้าดั่งเดิม แค่มรึงไม่ถล่มแผ่นดินไหวใส่กูเพิ่มก็พอแล้ว นี่ไง ทาสในเรือนเบี้ย ลีลาขัดใจ แต่แผ่นดินจะรอดปลอดภัย ได้จริงเหรอ? อยู่ที่มุมมอง ล่าสุด 7.1 ปาปัวมาแล้ว หวั่นเกิดคลื่นสึนามิ กระทบทั้งภูมิภาค โปรดสังเกตุ บทจะมา มาถี่ยิบได้เหรอ มันโจงครึ่มเกินไปเป่า? มารัว มาถี่ แบบนี้ มันกดปุ่มรีโมต ชัดๆ รอกูล่อหินเหลืองมรึงกลับบ้างดีมั้ย? เอาให้ยุบทั้งแผ่นดิน ธรณีสูบกันไปเลย ไหนๆ จะเผาโลกกันแล้ว?

    หมี CNN(WTO เดือด เร่งประชุมเอาคืนอีทรัมปป์ ปั่นโลกเข้าไปสิ มรึงไม่รบ เดี๋ยวกูปล่อยของหมดหน้าตัก เอาให้เดือดร้อนทั้งโลก เกมส์โลกมาทรงหมาจนตรอก รัสเซีย จีน หากจะซ้ำอีทรัมปป์ คือตายคาตรีนชัวร์ แต่จะทำไปทำไม ปล่อยให้มันไล่ฆ่ากันเองกับ DEEP STATE ให้เสร็จก่อน ใครรอด ค่อยมาคุยกับกู ว่าจะเอายังไง? ทุกอย่างเข้าทางตรีนขั้วใหม่สุดติ่งกระดิ่งเหมี๊ยว แค่นิ่งเดี๋ยวชนะเอง อยู่ให้เป็น เย็นให้ได้ นิ่งเข้าไว้)
    06 เมษายน 68(วันจักรี..ถนนโล่งดีมั้ยจ๊ะ?)
    13.44 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    06-04-68/01 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.28(มาตามนัด..ไม่มีโดด 4) เขยิบซะทีขั้วใหม่ เป็นไปตามแผน จีน-รัสเซีน ประกาศศักดา รักของเราจะไม่มีเหี้ยมาแทรกได้ตลอดไป นัยยะคือ หลังอิหร่าน โสมแดง จับมือเป็นโรงงานผลิตอาวุธขย่มเหี้ย จีนเดินสายโลจิสติคโลกต่อ รัสเซียควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์ มองภาพใหญ่ มรึงจะเห็นการล่าถอยของฝ่ายขั้วเก่าชัดเจน ไอ้สงครามที่เห็นอยู่ตอนนี้ และที่ผ่านมา มันชี้ชัดแล้วว่า "ใครกำลังจะปิดเกมส์" นี่คือสิ่งที่ศรีธนญชัย และอาเซียน กำลังรอเปลี่ยนขั้วเบ็ดเสร็จอยู่ อำนาจการปกครองปชต.ตอแหลจะหมดไป ไทยจะนำโลกสู่การวิวัฒนาการใหม่ พ่อปกครองลูกฉบับ 5.1 หัวเป็นแต่งตั้ง หางเป็นเลือกตั้ง เพราะมันเห็นชัดแล้วว่า "คุณสมบัติของควายไม่เหมาะจะเลือกผู้นำ" ส่งคืนพระราชอำนาจเมื่อไหร่ ไทยปลดแอกเหี้ยทันที ตอนนี้ แค่อเมริกายืนให้ได้ ยังยาก เพราะเสือกไปสร้างเงื่อนไขไว้เพี๊ยบ เมื่อไม่มีใครคบ เหี้ยรู้ดีว่าจะรอดต้องพึ่งพาขั้วใหม่ อย่าคิดว่าอะไรก็เกิดขึ้นไม่ได้ โลกความจริง ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความอยู่รอดของตัวเอง อเมริกา รัสเซีย จีน จะหยุดทะเลาะกันเปลือกนอก แต่หลังฉาก มรึงเผลอกูแทง จะเป็นไปเช่นนี้เสมอ กรีนแลนด์จะเป็นจุดล่อแหลม อยากให้กูช่วยมรึงมั้ยล่ะ? ยุโรปต้านเหี้ยไม่อยู่ดอก รัสเซีย จีน อยู่นิ่งๆ พอ รอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ ทั้งโลกขอบคุณ อีทรัมปป์ สงครามกำแพงภาษีที่มรึงก่อไว้ตอนนี้ ทำให้โลกหันมาจับมือกันเอง ซื้อ-ขายกันเอง แล้วมรึงก็หมาไงล่ะ? ใครมันจะโง่สั่งซื้อสินค้าราคาโคตรแพงเกินจริงแถมห่วยบัดซบ ยุโรปหนีไม่รอด ยังไงก็ต้องใข้บริการจีน เพราะเป็นทางเลือกเดียวที่จะอุ้มได้จริง เข้าสู่ BRICS ทันที ดอลล่าร์กลายเป็นสิ่งต้องห้ามโลก นั่นโลกถึงจะเปลี่ยนมือของจริง ส่วนอเมริการบราฆ่าฟันกันเอง กรรมเก่าที่มรึงไปปล้นดินแดนชาวอินเดียนแดงเค้ามา ฆ่าเป็นล้าน สภาพเดียวกัน อนิจจัง! ไทยจะเป็นฮับอาเซียนเหรอ? ดูสัญญานจากอะไร? จีนจะเปิดโรงงานเพิ่มขึ้น อาเซียนจะก่อตัว รมด้วยช่วยกัน หลังพม่าโดนล่อหนัก สูญเสียไปเยอะ อีขะแมร์ความมั่นคงการเมืองสั่นคลอน ลาวเจอพิษเศรษฐกิจ ทั้ง 3 ดินแดนนี้ มีโอกาสจะเข้าผนวกกับไทยบางส่วน โดยเฉพาะชนกลุ่มน้อย ปัญหาพิพากเรื่องพรมแดนจะเริ่มเจรจากันอย่างจริงจัง เพื่อลดความขัดแย้ง เข้าสู่โหมดช่วยกันทำมาหาแดร๊กกันต่อดีกว่ามั้ย? ทั้งหมดจะเกิดขึ้น ด้วยเงื่อนไขเดียว เหี้ยต้องตายก่อนไงล่ะ? นี่แหละที่เค้ารอ และยังไม่ลงมือทำอะไรตอนนี้ หากเหี้ยจนตรอก หันมาเปิดศึกแปซิฟิค คือจบทันที มรึงต้องยกขบวนกองทัพใหญ่ขนาดไหน ถึงจะมาต้านแสนยานุภาพขั้วใหม่ได้ หลังบ้านมรึงรั่วทันที อเมริกาเจ๊งยับ ยุโรปล่มสลาย เหลือใครล่ะ ที่ค้ำจุนโลกได้ หากไม่ใช่ กลุ่ม BRICS ซึ่งไม่มีผลกระทบจากแผนล้างโลกอีทรัมปป์ ยิ่งบีบให้สมาชิกเพิ่มขึ้น หลายชาติทิ้งดอลล่าร์มากขึ้น SCO จะก้าวกระโดด ไม่มีกองทัพใด ที่มีแสนยานุภาพมากเท่านี้อีกแล้ว ขั้วใหม่จะเดินเกมส์สวนทางแผนอีทรัมปป์ทันที ปัญหาคือบรรดาลิ่วล่อเหี้ยทั้งหลาย ต่างจับตัวกันต่อต้านอีทรัมปป์แล้ว ทั้งอียุ่นปี่ อีโสมขาว อีแคน มันจะส่งผลกระทบถึงแผนความมั่นคงแปซิฟิค และแผนปิดมหาสมุทรอินเดียของสหรัฐ รัสเซียยิ้ม เหี้ยต้องมากราบตรีนเพื่อความอยู่รอด จะเป็นใครก่อน อีทรัมปป์ หรือยุโรป? ด้านบ้านทรายทอง ม็อบเริ่มเดินสวนสนามกันแล้ว ไม่ใช่แค่ล้ม "กาสิโอ๊ะ" แต่จะเขี่ยอีรัฐบาลเถื่อนลงถังขยะทันที สูตร น้ำเงิน ส้ม แดง ขอให้มาจริงเฮอะ กูท้า? จะได้ไปกันให้หมดทั้งคอกเหี้ย กระแสคืนพระราชอำนาจจะกลับมาแรงอีกครั้ง ชูกษัตริย์ปกครองแผ่นดิน ทุกอย่างพิมพ์เขียวเค้าเขียนรอไว้แล้ว รอแค่ละครปิดฉาก คือเดินหน้าทันที เหี้ยยังอยู่ ยังไม่ใช่เวลาออกตัวแรง รอเหี้ยแตกแผ่นดินเมื่อไหร่ รัสเซีย จีน ขึ้นแท่นอย่างเป็นทางการปุ๊บ นั่นแหละ หางจะโผล่ทันที ศรีธนญชัยจะเป็นผู้นำชาติอาเซียนในการเปลี่ยนแปลงการปกครองรูปแบบใหม่ ไม่แน่ ทั้งอีขะแมร์ ลาว หม่อง อาจจะดึงสถาบันกษัตริย์กลับมาอีกครั้ง ตามแบบไทยโมเดล นี่คือสิ่งที่ผู้คนรอคอย ตัวอย่างดี๊ดี..เพ่อัจ แฉยับ รมต.บินลอดช่อง ไปฟาดกาสิโอ๊ะ โดนเค้าหลอกฟัน 7 ล้าน 5 ผีพนันเข้าสิงเหรอจ๊ะ? ไม่เป็นไร เดี๋ยวกลับมาแดร๊กต่อได้อีกหลายสิบล้าน สรุปนักการเมืองหาเงินไปส่งส่วยบ่อนเหรอจ๊ะ? แล้วมรึงจะไม่ให้ผลัดใบแผ่นดินได้อย่างไร หันซ้ายก็เหี้ย หันขวาก็เหี้ย มีแต่เหี้ยเต็มสภา เหี้ยปกครองควาย นี่ไง ปชต.ตอแหลที่มรึงใฝ่ฝัน ยังไม่หนำใจพอ..เพ่อัจ หลังสงกรานต์ มรึงเจอกูแน่ ไอ้อีบนเรือขาเสี้ยน วอนส้นตรีน จัดหนัก จัดเต็ม ให้ 2 ดอกใหญ่ ไม่ต้องหนี ดีออก? เค้าเตรียมคุกรอไว้ให้มรึงนานแล้ว เตรียมเปิดลายแทง "แผนฆาตกรรมอำพรางผีอีโมตั้งแต่ต้นจนจบ" งานนี้ ตายยกคอก เผ่นยกรัง ธุรกิจสีเทาโดนรวบหมด รายชื่อมีครบ ภาพถ่ายมีเยอะ เส้นทางการเงินมีเพี๊ยบ คลิปก็มี ภาพก็มา เสียงก็โผล่ มรึงจะเอาเหี้ยอะไรมาแถต่อได้อีกล่ะ? ผีอีโม ทิ้งทวน ก่อนจะไปขึ้นสรวจสวรรค์ เคลียร์เรื่องคาใจจบ หดมเคราะห์ หมดโศก รู้เช่นเห็นชาติ ผัวตัวเอง 3 วันจาก นารีเป็นอื่น แม่ขายลูกสาวแดร๊ก เพื่อนขายตัวให้เหี้ย ชีวิตบัดซบกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว ที่สุดของกรรมเก่ามรึง เอาให้จบในชาตินี้ ภพหน้าไปเป็นนางฟ้าอยู่ข้างบนน่ะ อย่าได้ลงมาอีกเลย แผนเรียกแขกอีทรัมปป์มาเต็ม CIVIL WAR ก็มา ยุโรปเตรียมป้องกันกรีนแลนด์ สงครามการค้ายุโรป-สหรัฐ สงครามล้างบาง DEEP STATE ตัดท่อน้ำเลี้ยงใหญ่ แผนส่ง HAARP ทุบอาเซียน เศรษฐกิจเอเซีย แผนดันทองคำทะลุเพดานบิน แผนล่าแหล่งพลังงานทั่วโลก ไม่ว่าจะทำอะไรต่อ ทั้งหมดเพียงสิ่งเดียว คือยื้อดอลล่าร์สุดชีวิต รีดภาษี ลดเงินเดือนเจ้าหน้าที่ ตัดรายจ่ายอีลาทิ้งไป เพื่อเอาเงินไปโปะ กำหนดเส้นตายต่อดอกเบี้ยที่ไม่มีวันจ่ายหมด เพื่อหาโอกาสพิมพ์แบงค์กงเต๊กออกมาผยุงเศรษฐกิจเน่าอเมริโกย มรึงยิ่งทำยิ่งฉิบหาย อเมริกาหมดสภาพแล้ว อยู่ไปวันวัน ดอลล่าร์ไม่มีใครเอา มันคือจบแล้ว อาหรับโดดปกป้องอิหร่าน มรึงบุก กูสวนทันที อีมาครงกำลังดึงยุโรปตายห่าคาวงตรีน ท้ารบเหี้ยมะกัน ท้าตีรัสเซีย ระวังให้ดีดี เครมลินยกมา แล้วมรึงจะไร้แผ่นดินอยู่ อีเบียร์หมดสภาพแล้ว รอวันแตกเท่านั้น ไวรัส แผ่นดินไหว ก่อการร้าย สึนามิ น้ำท่วม ไฟป่า คลื่นความร้อน มาแน่ เพราะมันตั้งใจให้โลกเจ๊งให้หมด แล้วมา SET 0 กันใหม่ โดยไม่ต้องใข้หนี้ไงล่ะ แต่ถามขั้วใหม่รึยัง? ว่าใครอนุญาติให้มรึงทำ? ยูเรเซียกำลังจะมีบทบาทสำคัญโลก รัสเซียชงรอไว้แล้ว โลจิสติคสู่แอฟริกา เอเซีย ยุโรป ลาติน จัดเต็มคาราเบล พลังงานถูก ใครไม่เอากันล่ะ? เงื่อนไขปลดแอกดอลล่าร์ ฆ่า SWIFT ปล.มาอีกละ รอยเลื่อน "อาระกัน" มรึงไม่ต้องสงสัย มันมีของมันมานานแล้ว หากแต่อยู่ที่ใครไปกระตุ้นมันต่างหากล่ะ? รึว่านี่ คือแผนย้ายเมืองหลวงของศรีธนญชัยกันแน่ หลายอย่าง อย่าเชื่อแค่ตาเห็น บางอย่างอาจเป็นเราที่สมรู้ร่วมคิด เพื่อเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง ในกลศึก ไม่มีผิดชอบ ชั่วดี สิ่งเดียวที่ทำคือความอยู่รอดของแผ่นดิน เพราะสังเกตุอะไรหลายอย่าง มันดูง่ายดายเกินไป มันดูเหมือนหน่วยความมั่นคงต้องการให้เกิดอะไรขึ้นงั้นแหละ แค่เซนส์มันบอก ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ ดูทรงแล้ว มันต้องมีอะไรซ่อนไว้ในกอไผ่ชัวร์ แค่ตอนนี้ ยังไม่ถึงเวลาจะบอก จับตาละครการเมืองไทยและเทศ ให้ดีดี ทุกอย่างสอดคล้องกันเสมอ ไม่มีอะไรบังเอิญ และไม่มีอะไรที่ได้มาฟรี ทุกอย่างมีใบเสร็จเสมอ ต้องมีคนจ่าย ต้องมีคนชดใช้ รมต.คลังสวนกระแสอีทรัมปป์อาละวาด เร่งส่งออกไปสหรัฐเพิ่มขึ้น และนำเข้าปลาทูน่าจากสหรัฐเพิ่มขึ้น เพื่อปรับดุลการค้าให้สมดุล จากได้เปรียบ 70% ให้เหลือ 40% ดูภายนอกคือวินวินทุกฝ่าย แต่พอดูภายใน มันคือช่วยอุ้มเหี้ยนั่นแหละ ตี 2 หน้าดั่งเดิม แค่มรึงไม่ถล่มแผ่นดินไหวใส่กูเพิ่มก็พอแล้ว นี่ไง ทาสในเรือนเบี้ย ลีลาขัดใจ แต่แผ่นดินจะรอดปลอดภัย ได้จริงเหรอ? อยู่ที่มุมมอง ล่าสุด 7.1 ปาปัวมาแล้ว หวั่นเกิดคลื่นสึนามิ กระทบทั้งภูมิภาค โปรดสังเกตุ บทจะมา มาถี่ยิบได้เหรอ มันโจงครึ่มเกินไปเป่า? มารัว มาถี่ แบบนี้ มันกดปุ่มรีโมต ชัดๆ รอกูล่อหินเหลืองมรึงกลับบ้างดีมั้ย? เอาให้ยุบทั้งแผ่นดิน ธรณีสูบกันไปเลย ไหนๆ จะเผาโลกกันแล้ว? หมี CNN(WTO เดือด เร่งประชุมเอาคืนอีทรัมปป์ ปั่นโลกเข้าไปสิ มรึงไม่รบ เดี๋ยวกูปล่อยของหมดหน้าตัก เอาให้เดือดร้อนทั้งโลก เกมส์โลกมาทรงหมาจนตรอก รัสเซีย จีน หากจะซ้ำอีทรัมปป์ คือตายคาตรีนชัวร์ แต่จะทำไปทำไม ปล่อยให้มันไล่ฆ่ากันเองกับ DEEP STATE ให้เสร็จก่อน ใครรอด ค่อยมาคุยกับกู ว่าจะเอายังไง? ทุกอย่างเข้าทางตรีนขั้วใหม่สุดติ่งกระดิ่งเหมี๊ยว แค่นิ่งเดี๋ยวชนะเอง อยู่ให้เป็น เย็นให้ได้ นิ่งเข้าไว้) 06 เมษายน 68(วันจักรี..ถนนโล่งดีมั้ยจ๊ะ?) 13.44 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    0 Comments 0 Shares 532 Views 0 Reviews
  • ใครจะกะพริบตาก่อนกัน🧲 หมากเจรจาของทรัมป์ คือ ตัังกำแพงภาษีสูงไว้ก่อน ต้อนให้คู่ค้าเข้ามาเจรจาถ้าคู่ค้าหมอบ ตกลงกันได้ ลดภาษีทั้งสองฝ่าย ก็จะเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ทรัมป์คงประเมินแล้วว่า ในจำนวนกว่า 180 ประเทศ จะสามารถเคลียร์แบบนี้ ได้เกือบหมด ถึงแม้บางประเทศแสดงท่าที พร้อมจะตอบโต้ เช่น บราซิลลงมติ ให้อำนาจผู้นำสู้กับทรัมป์แต่ก็เลี่ยง ไม่ได้ตั้งกำแพงโต้กลับทันที พร้อมจะทำการเจรจาเสียก่อน🪤 ทรัมป์ไม่ได้บีบแคนาดาหรือเม็กซิโกเพิ่ม สองประเทศนี้จึงนิ่ง มีอยู่เพียงจีน ที่ตั้งกำแพงโต้กลับ 34% ทันที ส่วนยุโรปบอกว่าจะทำเช่นเดียวกัน แต่ไม่รู้จะประกาศเมื่อใดคาดว่ายุโรปจะเดินอย่างระมัดระวัง เพราะขายสินค้าให้สหรัฐ ปีละ 5.3 แสนล้านยูโร เกือบ 1/5 ของส่งออกยุโรปนอกจากรถยนต์ ที่เหลือคือเวชภัณฑ์ 1.1 แสน เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า 0.9 แสน 🔫 สินค้าเหล่านี้มีอัตรากำไรสูง ยุโรปคงไม่เสี่ยงตัดสะพานทิ้งส่วนสหรัฐขายสินค้าให้ยุโรป 3.7 แสนล้านดอลลาร์ เกือบ 1/5 ของส่งออกสหรัฐเช่นกันถึงแม้ถ้าโดนโต้กลับรุนแรง ก็จะแย่พอกันแต่เป็นเวชภัณฑ์ 0.6 แสน เรือบิน 0.3 แสน พลังงาน 0.3 แสน ซึ่งยุโรปจำเป้นต้องใช้อยู่ตลอด ดังนั้น ละครฉากยุโรป ที่ทรัมป์เป็นพระเอก ก็คงจบลงได้ไม่ยาก 💣 ปัญหาใหญ่สุดของทรัมป์ จึงอยู่ที่สีจิ้นผิง ในฐานะผู้นำของ Global South สีจะยอมทรัมป์ไม่ได้ทรัมป์น่าจะผิดหวังพอควร เพราะรีบอ้างว่า การที่จีนโต้กลับ ส่อเป็นการหวาดผวา และเดินหมากผิดพลาด*** น่าสงสัยว่า ทรัมป์หรือสี ใครจะกะพริบตาก่อนกันข้อความที่ทรัมป์เผยแพร่ บ่งชี้ว่า เดิมคงหวังให้สีเข้ามาเจรจา เพื่อจะได้ลดกำแพงกันไปทั้งสองฝ่าย วิน วินแต่เมื่อไม่เป็นตามแผน ก็รีบปลอบใจคนอเมริกัน (ดูรูป 1) ว่า💊 [กำแพงภาษีสองฝั่งนั้น กระทบจีนมากกว่าสหรัฐ แบบเทียบกันไม่ได้เลย มาตรการนี้ ทำให้มีคนจะลงทุนในสหรัฐ กว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว ถึงแม้ศึกนี้ยาก แต่เราชนะแน่จึงขอให้คนอเมริกันอดทนอีกหน่อย]จีนนำเข้าจากสหรัฐ ปีละ 1.5 แสนล้านดอลลาร์ (6% ของนำเข้าจีน)เป็นเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า 2.4 หมื่นล้าน น้ำมันและก๊าซ 2 หมื่น เวชภัณฑ์ 2 หมื่น อาหาร 1.6 หมื่น 🩸 ส่วนใหญ่ จีนน่าจะสามารถผลิตได้เอง หรือหาแหล่งซื้ออื่นแทนได้ ผลกระทบจึงน่าจะไม่มากนักแต่ผลกระทบต่อเกษตรกรสหรัฐ จะมีมาก และเป็นฐานเสียงสำคัญ ทรัมป์ก็รู้ดีสหรัฐนำเข้าจากจีน ปีละ 5 แสนล้านดอลลาร์ (15% ของส่งออกจีน) เป็นเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า 2 แสน ของเด็กเล่น 3 หมื่น เฟอร์นิเจอร์ 2 หมื่น สินค้าพลาสติก 2 หมื่น🧬 เนื่องจากไม่มีประเทศอื่นใด ที่ต้นทุนสินค้า consumer แข่งกับจีนได้ ดังนั้น คนอเมริกันก็ยังต้องใช้ของจีนต่อไปถามว่า ผู้ผลิตจีน หรือผู้บริโภคสหรัฐ ใครจะเป็นผู้ควักกระเป๋า เพื่อข้ามกำแพงภาษี 54%การผลิตสินค้าพื้นๆ เหล่านี้ กำไรผู้ผลิตในจีน ขณะนี้เหลือบางมาก หลายโรงงานปิดตัวไปแล้วจึงเป็นไปไม่ไดั ที่จีนจะควักกระเป๋ามาจ่ายถ้าภาษียังค้างเช่นนี้ ภายใน 2-3 เดือน ราคาที่คนอเมริกันต้องจ่าย จะขยับสูงขึ้น อย่างหายห่วง 🧹 ถึงแม้ยอดส่งออกจีนไปสหรัฐ จะลดลง แต่จะไม่มีอุตสาหกรรมเบา ที่จะย้ายจากจีน ไปผลิตที่สหรัฐ ทรัมป์ก็รู้ดีอเมริกันชน ชั้นล่างและชั้นกลาง คนส่วนใหญ่ที่ซื้อสินค้าจีน จึงจะหันกลับไปมองทรัมป์ ด้วยสายตาเคืองรูป 2 แสดงการที่จีนได้กระจายแหล่งนำเข้าสินค้าต่างๆ เปลี่ยนไปจากสหรัฐรูป 3 นอกจากนี้ จีนยังบีบสหรัฐเพิ่ม โดย (1) คุมการส่งออกแร่หายากอีก 7 ตัว และ (2) เพิ่มจำนวนบริษัทสหรัฐที่คุมการส่งออกรูป 4-5 แร่หายาก 7 ตัวนี้ มีชื่อแปลกๆ แต่ต้องใช้ในการผลิตยุทโธปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ พลังงานหมุนเวียน และดาวเทียม🧻 เป็นอันว่า หมากของทรัมป์ จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไฮเทคในสหรัฐ แบบเต็มๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะต่อชาวบ้านก่อนหน้านี้ ทรัมป์ขู่ว่า ถ้าประเทศใดโต้กลับ เขาจะยกระดับกำแพงให้สูงขึ้นอีกบัดนี้ คำขู่นี้ เจอกับหมากรุกกลับของสีจิ้นผิงแล้ว🧐 ต้องไม่ลืมว่า ชนชาวจีนกำลังเผชิญเศรษฐกิจชะลอตัว จากฟองสบู่อสังหาแตก และส่งออกลดลง บัณฑิตตกงานความอึดอัดในจีน เดิมมีสีเป็นเป้า บัดนี้ ทรัมป์ได้ยื่นตัวเข้ามา บังเป็นเป้าแทนแล้วสีอาจจะชอบใจละครฉากนี้ แต่การเดินเนื้อเรื่อง น่าจะไม่เป็นไปตามบทของทรัมป์วันที่ 6 เมษายน 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ
    ใครจะกะพริบตาก่อนกัน🧲 หมากเจรจาของทรัมป์ คือ ตัังกำแพงภาษีสูงไว้ก่อน ต้อนให้คู่ค้าเข้ามาเจรจาถ้าคู่ค้าหมอบ ตกลงกันได้ ลดภาษีทั้งสองฝ่าย ก็จะเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ทรัมป์คงประเมินแล้วว่า ในจำนวนกว่า 180 ประเทศ จะสามารถเคลียร์แบบนี้ ได้เกือบหมด ถึงแม้บางประเทศแสดงท่าที พร้อมจะตอบโต้ เช่น บราซิลลงมติ ให้อำนาจผู้นำสู้กับทรัมป์แต่ก็เลี่ยง ไม่ได้ตั้งกำแพงโต้กลับทันที พร้อมจะทำการเจรจาเสียก่อน🪤 ทรัมป์ไม่ได้บีบแคนาดาหรือเม็กซิโกเพิ่ม สองประเทศนี้จึงนิ่ง มีอยู่เพียงจีน ที่ตั้งกำแพงโต้กลับ 34% ทันที ส่วนยุโรปบอกว่าจะทำเช่นเดียวกัน แต่ไม่รู้จะประกาศเมื่อใดคาดว่ายุโรปจะเดินอย่างระมัดระวัง เพราะขายสินค้าให้สหรัฐ ปีละ 5.3 แสนล้านยูโร เกือบ 1/5 ของส่งออกยุโรปนอกจากรถยนต์ ที่เหลือคือเวชภัณฑ์ 1.1 แสน เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า 0.9 แสน 🔫 สินค้าเหล่านี้มีอัตรากำไรสูง ยุโรปคงไม่เสี่ยงตัดสะพานทิ้งส่วนสหรัฐขายสินค้าให้ยุโรป 3.7 แสนล้านดอลลาร์ เกือบ 1/5 ของส่งออกสหรัฐเช่นกันถึงแม้ถ้าโดนโต้กลับรุนแรง ก็จะแย่พอกันแต่เป็นเวชภัณฑ์ 0.6 แสน เรือบิน 0.3 แสน พลังงาน 0.3 แสน ซึ่งยุโรปจำเป้นต้องใช้อยู่ตลอด ดังนั้น ละครฉากยุโรป ที่ทรัมป์เป็นพระเอก ก็คงจบลงได้ไม่ยาก 💣 ปัญหาใหญ่สุดของทรัมป์ จึงอยู่ที่สีจิ้นผิง ในฐานะผู้นำของ Global South สีจะยอมทรัมป์ไม่ได้ทรัมป์น่าจะผิดหวังพอควร เพราะรีบอ้างว่า การที่จีนโต้กลับ ส่อเป็นการหวาดผวา และเดินหมากผิดพลาด*** น่าสงสัยว่า ทรัมป์หรือสี ใครจะกะพริบตาก่อนกันข้อความที่ทรัมป์เผยแพร่ บ่งชี้ว่า เดิมคงหวังให้สีเข้ามาเจรจา เพื่อจะได้ลดกำแพงกันไปทั้งสองฝ่าย วิน วินแต่เมื่อไม่เป็นตามแผน ก็รีบปลอบใจคนอเมริกัน (ดูรูป 1) ว่า💊 [กำแพงภาษีสองฝั่งนั้น กระทบจีนมากกว่าสหรัฐ แบบเทียบกันไม่ได้เลย มาตรการนี้ ทำให้มีคนจะลงทุนในสหรัฐ กว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว ถึงแม้ศึกนี้ยาก แต่เราชนะแน่จึงขอให้คนอเมริกันอดทนอีกหน่อย]จีนนำเข้าจากสหรัฐ ปีละ 1.5 แสนล้านดอลลาร์ (6% ของนำเข้าจีน)เป็นเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า 2.4 หมื่นล้าน น้ำมันและก๊าซ 2 หมื่น เวชภัณฑ์ 2 หมื่น อาหาร 1.6 หมื่น 🩸 ส่วนใหญ่ จีนน่าจะสามารถผลิตได้เอง หรือหาแหล่งซื้ออื่นแทนได้ ผลกระทบจึงน่าจะไม่มากนักแต่ผลกระทบต่อเกษตรกรสหรัฐ จะมีมาก และเป็นฐานเสียงสำคัญ ทรัมป์ก็รู้ดีสหรัฐนำเข้าจากจีน ปีละ 5 แสนล้านดอลลาร์ (15% ของส่งออกจีน) เป็นเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า 2 แสน ของเด็กเล่น 3 หมื่น เฟอร์นิเจอร์ 2 หมื่น สินค้าพลาสติก 2 หมื่น🧬 เนื่องจากไม่มีประเทศอื่นใด ที่ต้นทุนสินค้า consumer แข่งกับจีนได้ ดังนั้น คนอเมริกันก็ยังต้องใช้ของจีนต่อไปถามว่า ผู้ผลิตจีน หรือผู้บริโภคสหรัฐ ใครจะเป็นผู้ควักกระเป๋า เพื่อข้ามกำแพงภาษี 54%การผลิตสินค้าพื้นๆ เหล่านี้ กำไรผู้ผลิตในจีน ขณะนี้เหลือบางมาก หลายโรงงานปิดตัวไปแล้วจึงเป็นไปไม่ไดั ที่จีนจะควักกระเป๋ามาจ่ายถ้าภาษียังค้างเช่นนี้ ภายใน 2-3 เดือน ราคาที่คนอเมริกันต้องจ่าย จะขยับสูงขึ้น อย่างหายห่วง 🧹 ถึงแม้ยอดส่งออกจีนไปสหรัฐ จะลดลง แต่จะไม่มีอุตสาหกรรมเบา ที่จะย้ายจากจีน ไปผลิตที่สหรัฐ ทรัมป์ก็รู้ดีอเมริกันชน ชั้นล่างและชั้นกลาง คนส่วนใหญ่ที่ซื้อสินค้าจีน จึงจะหันกลับไปมองทรัมป์ ด้วยสายตาเคืองรูป 2 แสดงการที่จีนได้กระจายแหล่งนำเข้าสินค้าต่างๆ เปลี่ยนไปจากสหรัฐรูป 3 นอกจากนี้ จีนยังบีบสหรัฐเพิ่ม โดย (1) คุมการส่งออกแร่หายากอีก 7 ตัว และ (2) เพิ่มจำนวนบริษัทสหรัฐที่คุมการส่งออกรูป 4-5 แร่หายาก 7 ตัวนี้ มีชื่อแปลกๆ แต่ต้องใช้ในการผลิตยุทโธปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ พลังงานหมุนเวียน และดาวเทียม🧻 เป็นอันว่า หมากของทรัมป์ จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไฮเทคในสหรัฐ แบบเต็มๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะต่อชาวบ้านก่อนหน้านี้ ทรัมป์ขู่ว่า ถ้าประเทศใดโต้กลับ เขาจะยกระดับกำแพงให้สูงขึ้นอีกบัดนี้ คำขู่นี้ เจอกับหมากรุกกลับของสีจิ้นผิงแล้ว🧐 ต้องไม่ลืมว่า ชนชาวจีนกำลังเผชิญเศรษฐกิจชะลอตัว จากฟองสบู่อสังหาแตก และส่งออกลดลง บัณฑิตตกงานความอึดอัดในจีน เดิมมีสีเป็นเป้า บัดนี้ ทรัมป์ได้ยื่นตัวเข้ามา บังเป็นเป้าแทนแล้วสีอาจจะชอบใจละครฉากนี้ แต่การเดินเนื้อเรื่อง น่าจะไม่เป็นไปตามบทของทรัมป์วันที่ 6 เมษายน 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 383 Views 0 Reviews
  • สภาฯ พักประชุมไป 40 นาที หลัง สส.พท.เสนอลัดคิวพิจารณา กม.กาสิโน ขณะฝ่ายค้านเสนอญัตติแผ่นดินไหว กลับมาเปิดประชุมยังซัดกันต่อ “วันนอร์” สุดไม่ทน ลุกยืน-เรียก จนท.ระงับเหตุ ก่อนใช้มติโหวตให้สิทธิ์ “พท.”เสนอญัตติก่อน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000031904
    สภาฯ พักประชุมไป 40 นาที หลัง สส.พท.เสนอลัดคิวพิจารณา กม.กาสิโน ขณะฝ่ายค้านเสนอญัตติแผ่นดินไหว กลับมาเปิดประชุมยังซัดกันต่อ “วันนอร์” สุดไม่ทน ลุกยืน-เรียก จนท.ระงับเหตุ ก่อนใช้มติโหวตให้สิทธิ์ “พท.”เสนอญัตติก่อน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000031904
    Angry
    Haha
    3
    0 Comments 0 Shares 636 Views 0 Reviews
  • 01-04-68/01 : หมี CNN / ยังไม่ชัดพออีกเหรอ? ไอ้ควาย! มรึงจะเอาเหี้ยอะไรไปเทียบ? กองเรือที่ดีที่สุดในโลกตอนนี้ ไปอยู่ที่รัสเซีย จีน หมดแล้ว นวตกรรมโลกยุคใหม่ เทไปเอเซียหมดเกลี้ยง ของเก่าสมัย 30 ปี ก่อน มรึงยังกล้าเอามาอวดอ้างอีกเหรอ? อาร์คติค มันแบเบอร์อยู่แล้ว หากมรึงคิดจะวัด ตอบคำถามให้ได้ก่อนว่า "อาวุธมรึงที่จะใช้ในพื้นที่ติดลบ 60 องศา เซลเซียส มีแค่ไหน?" รัสเซียพัฒนาอาวุธจุดเหยือกแข็งมานานนับ 30 ปี ไม่ว่าจะรบในสมรภูมิใด เค้ารับได้หมด แต่อาวุธมรึงน็อค ตั้งแต่ยังไม่ทันจะใช้ แล้วจำนวนมรึงมีแค่ไหน เค้าผลิต 24 ชม. NON STOP วัคถุดิบมี เงินมี แล้วมรึงล่ะ ยิ่งกำลังพลไม่ต้องถาม จีน รัสเซีย มีเป็นล้าน ยังไม่นับทหารรับจ้างอีกครึ่งล้าน อาร์คติคของใคร? คงไม่ต้องถามกันต่อให้เสียอารมณ์ เพราะทุกวันนี้ เรือตัดน้ำแข็ง โครงสร้างพื้นฐาน สำหรับฐานทัพ ฐานปฎิบัติการ ในอาร์คติค รัสเซีย จีน จัดเต็มกว่ามรึงเยอะ แค่ชาตินาโต้ สแกนดิเนเวีย ยังมีไม่ถึงครึ่ง สิ่งอำนวยความสะดวก อุปกรณ์ ที่มรึงจะใช้สำรวจ เจาะ หรือเพื่อวิจัยงานธรณี เพราะเงินสู้เค้าไม่ได้ เพราะพลังงานมรึงเป็นรอง เพราะเทคโนโลยีเทียบชั้นไม่ติด อย่าว่าแต่อาร์คติคเลย ไอ้ที่มรึงมีอยู่ ยังรักษาไว้ไม่ได้ คงมีแต่ควายเท่านั้น ที่เชื่อว่ามรึงเจ๋ง? ยิ่งอเมริกาโดดเดี่ยว เปลี่ยนยุโรปจากพันธมิตรกลายเป็นศัตรู ลำพังมรึงและนาโต้ หมาหมู่ ยังแพ้ยับรัสเซียในยูเครน ยังจะมีหน้ามาเสนอในอาร์คติคเพื่อ? อีกไม่นานดอก ท่อแก็สอาร์คติคจะเข้าสู่ยุโรปชัวร์ ไปถึงกรีนแลนด์ด้วย หากสดชื่น เหี้ยไม่เจียมตัว บทสุดท้ายคือ "สูญพันธุ์เหี้ย" รบกันเองให้เสร็จก่อนดีกว่ามุย? เหลือเท่าไหร่ค่อยมาวัดกับกู ให้กูขยี้เล่น บอกตรง จีน รัสเซีย มองข้าม อเมริกา ยุโรป ไปนานแล้ว เค้ารวบรวมโลกเข้าหากัน ผ่าน BRICS แล้วมรึงล่ะ ดีแต่แตกแยก จะเอาเหี้ยอะไรไปชนะ? ภูมิภาคศาสตร์โลกยุคใหม่ กลายเป็นพื้นที่ของโลกใหม่ไปแล้ว สงครามไม่เกิด มรึงก็จะดันให้เกิดให้ได้ ตายไม่ว่า แต่อียิวต้องยังคงอยู่สิน่ะ? งั้นล่ออียิวตายโหงก่อนตัวแรกเลยดีมั้ยล่ะ? ต้นตอปัญหาโลกทั้งหมดเกิดจากมันเนี่ยแหละ ในอาร์คติค นอกจากเป็นแหล่งพลังงานมหาศาลโลก ยังเป็นแหล่งของวัตถุลึกลับ และศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์นอกโลก ศูนย์ฐานปฎิบัติการใต้น้ำ ทำให้รู้ถึงสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งมันมีมานานแล้วนับ 1000000 ปี นวตกรรมใหม่โลกก่อเกิด อานิสงค์จากเพื่อนต่างมิติ ร่องรอย ติดตามเทคโนโลยีนอกโลก แม้แต่เศษอุกกาบาต ก็ทำให้สามารถทราบถึงเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมาได้ ความลับแท้จริงจากสิ่งนอกโลก มีกระจายไปทั่ว แต่จุดศูนย์กลางอยู่ที่ "แอนตาร์กติกา" ซึ่งมนุษย์ไม่ได้ถูกอนุญาตให้เข้าใกล้แถบนั้น คือข้อตกลงกันระหว่างชาวโลก กับผู้มาเยือนที่รักสันติภาพ

    Russia vs US: Who Holds the Ice in the Arctic Fleet Race? รัสเซียหรือสหรัฐ - ใครจะเป็นผู้รักษาน้ำแข็งในการแข่งขันกองเรือในอาร์คติก

    ------------------------------------------------------------------------—
    RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : รัสเซียหรือสหรัฐ - ใครจะเป็นผู้ครอบครองเขตน้ำแข็งในการแข่งขันกองเรือในอาร์คติก

    รองประธานาธิบดีสหรัฐ เจดี แวนซ์กล่าวว่า สหรัฐจำเป็นต้องสร้างความมั่นใจว่าประเทศจะเป็นผู้นำในอาร์คติก เพื่อแซงหน้ารัสเซียแต่จะมีความเป็นไปได้หรือไม่สำหรับกองเรืออาร์คติก เมื่อเทียบกับกองเรือของรัสเซีย

    กองเรืออาร์คติกของรัสเซีย

    • กองเรือรัสเซียในอาร์คติกเป็นกองเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มียานพาหนะ 42 ลำซึ่งมีเรือฝ่าน้ำแข็งพลังงานนิวเคลียร์ 8 ลำและเรือฝ่าน้ำแข็งที่ใช้น้ำมันและไฟฟ้า 34 ลำ
    • กองเรือประกอบด้วยเรือฝ่าน้ำแข็งพลังงานนิวเคลียร์หนักจาก Project 22220 ที่มีกำลัง 60 เมกะวัตต์ (MW) รวมถึงเรือฝ่าน้ำแข็งที่มีกำลังมากที่สุดในโลกอย่าง Viktor Chernomyrdin ซึ่งมีกำลัง 25 เมกะวัตต์ (MW)
    • ความมั่นใจของรัสเซียอาร์คติกคือ กองเรือรัสเซียทางตอนเหนือ รวมถึงเรือฝ่ายน้ำแข็งหนัก Ilya Muromets เรือปราบเรือดำน้ำ Vice-Admiral Kulakov และเรือรบใหญ่ Alexander Otrakovsky
    • เรือดำน้ำนิวเคลียร์ระดับ Borei ยังสามารถปฏิบัติการได้ในขั้วโลกเหนือซึ่งแต่ละลำบรรทุกขีปนาวุธข้ามทวีป Bulava 16 ลูก เรือดำน้ำนิวเคลียร์ระดับ Yasen พร้อมขีปนาวุธ Onyx ขีปนาวุธ Kalibr และขีปนาวุธ Zircon

    กองเรืออาร์คติกของสหรัฐ

    • เรือรบ Polar Star ยังคงเป็นเรือฝ่าน้ำแข็งหนักเพียงลำเดียวของสหรัฐที่สามารถฝ่าน้ำแข็งในอาร์คติก ส่วนเรือฝ่าน้ำแข็งขนาดกลาง Healy ไม่ได้ใช้งานในอาร์คติกแล้ว
    • เรือรบบางลำเช่น เรือพิฆาต Arleigh Burke และเรือลาดตระเวน Ticonderoga สามารถปฏิบัติการได้ในอาร์คติก
    • เรือดำน้ำที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์หลายลำ เช่น เรือ Los Angeles เรือ Virginia และเรือ Seawolf สามารถเดินเรือในน้ำแข็งได้
    • จากเรื่องที่สหรัฐ “มีเรือฝ่าน้ำแข็งน้อยกว่าอย่างมาก” เมื่อเทียบกับรัสเซีย Gregory Guillot ผู้บัญชาการของกองทัพเรือของสหรัฐและกองทัพอากาศอเมริกาเหนือที่ยอมรับว่า “ยังไม่ได้จำกัดเสรีภาพในการซ้อมรบในอาร์คติก”

    https://sputnikglobe.com/20250329/-russia-vs-us-who-holds-the-ice-in-the-arctic-fleet-race--1121710115.html

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    01-04-68/01 : หมี CNN / ยังไม่ชัดพออีกเหรอ? ไอ้ควาย! มรึงจะเอาเหี้ยอะไรไปเทียบ? กองเรือที่ดีที่สุดในโลกตอนนี้ ไปอยู่ที่รัสเซีย จีน หมดแล้ว นวตกรรมโลกยุคใหม่ เทไปเอเซียหมดเกลี้ยง ของเก่าสมัย 30 ปี ก่อน มรึงยังกล้าเอามาอวดอ้างอีกเหรอ? อาร์คติค มันแบเบอร์อยู่แล้ว หากมรึงคิดจะวัด ตอบคำถามให้ได้ก่อนว่า "อาวุธมรึงที่จะใช้ในพื้นที่ติดลบ 60 องศา เซลเซียส มีแค่ไหน?" รัสเซียพัฒนาอาวุธจุดเหยือกแข็งมานานนับ 30 ปี ไม่ว่าจะรบในสมรภูมิใด เค้ารับได้หมด แต่อาวุธมรึงน็อค ตั้งแต่ยังไม่ทันจะใช้ แล้วจำนวนมรึงมีแค่ไหน เค้าผลิต 24 ชม. NON STOP วัคถุดิบมี เงินมี แล้วมรึงล่ะ ยิ่งกำลังพลไม่ต้องถาม จีน รัสเซีย มีเป็นล้าน ยังไม่นับทหารรับจ้างอีกครึ่งล้าน อาร์คติคของใคร? คงไม่ต้องถามกันต่อให้เสียอารมณ์ เพราะทุกวันนี้ เรือตัดน้ำแข็ง โครงสร้างพื้นฐาน สำหรับฐานทัพ ฐานปฎิบัติการ ในอาร์คติค รัสเซีย จีน จัดเต็มกว่ามรึงเยอะ แค่ชาตินาโต้ สแกนดิเนเวีย ยังมีไม่ถึงครึ่ง สิ่งอำนวยความสะดวก อุปกรณ์ ที่มรึงจะใช้สำรวจ เจาะ หรือเพื่อวิจัยงานธรณี เพราะเงินสู้เค้าไม่ได้ เพราะพลังงานมรึงเป็นรอง เพราะเทคโนโลยีเทียบชั้นไม่ติด อย่าว่าแต่อาร์คติคเลย ไอ้ที่มรึงมีอยู่ ยังรักษาไว้ไม่ได้ คงมีแต่ควายเท่านั้น ที่เชื่อว่ามรึงเจ๋ง? ยิ่งอเมริกาโดดเดี่ยว เปลี่ยนยุโรปจากพันธมิตรกลายเป็นศัตรู ลำพังมรึงและนาโต้ หมาหมู่ ยังแพ้ยับรัสเซียในยูเครน ยังจะมีหน้ามาเสนอในอาร์คติคเพื่อ? อีกไม่นานดอก ท่อแก็สอาร์คติคจะเข้าสู่ยุโรปชัวร์ ไปถึงกรีนแลนด์ด้วย หากสดชื่น เหี้ยไม่เจียมตัว บทสุดท้ายคือ "สูญพันธุ์เหี้ย" รบกันเองให้เสร็จก่อนดีกว่ามุย? เหลือเท่าไหร่ค่อยมาวัดกับกู ให้กูขยี้เล่น บอกตรง จีน รัสเซีย มองข้าม อเมริกา ยุโรป ไปนานแล้ว เค้ารวบรวมโลกเข้าหากัน ผ่าน BRICS แล้วมรึงล่ะ ดีแต่แตกแยก จะเอาเหี้ยอะไรไปชนะ? ภูมิภาคศาสตร์โลกยุคใหม่ กลายเป็นพื้นที่ของโลกใหม่ไปแล้ว สงครามไม่เกิด มรึงก็จะดันให้เกิดให้ได้ ตายไม่ว่า แต่อียิวต้องยังคงอยู่สิน่ะ? งั้นล่ออียิวตายโหงก่อนตัวแรกเลยดีมั้ยล่ะ? ต้นตอปัญหาโลกทั้งหมดเกิดจากมันเนี่ยแหละ ในอาร์คติค นอกจากเป็นแหล่งพลังงานมหาศาลโลก ยังเป็นแหล่งของวัตถุลึกลับ และศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์นอกโลก ศูนย์ฐานปฎิบัติการใต้น้ำ ทำให้รู้ถึงสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งมันมีมานานแล้วนับ 1000000 ปี นวตกรรมใหม่โลกก่อเกิด อานิสงค์จากเพื่อนต่างมิติ ร่องรอย ติดตามเทคโนโลยีนอกโลก แม้แต่เศษอุกกาบาต ก็ทำให้สามารถทราบถึงเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมาได้ ความลับแท้จริงจากสิ่งนอกโลก มีกระจายไปทั่ว แต่จุดศูนย์กลางอยู่ที่ "แอนตาร์กติกา" ซึ่งมนุษย์ไม่ได้ถูกอนุญาตให้เข้าใกล้แถบนั้น คือข้อตกลงกันระหว่างชาวโลก กับผู้มาเยือนที่รักสันติภาพ Russia vs US: Who Holds the Ice in the Arctic Fleet Race? รัสเซียหรือสหรัฐ - ใครจะเป็นผู้รักษาน้ำแข็งในการแข่งขันกองเรือในอาร์คติก ------------------------------------------------------------------------— RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : รัสเซียหรือสหรัฐ - ใครจะเป็นผู้ครอบครองเขตน้ำแข็งในการแข่งขันกองเรือในอาร์คติก รองประธานาธิบดีสหรัฐ เจดี แวนซ์กล่าวว่า สหรัฐจำเป็นต้องสร้างความมั่นใจว่าประเทศจะเป็นผู้นำในอาร์คติก เพื่อแซงหน้ารัสเซียแต่จะมีความเป็นไปได้หรือไม่สำหรับกองเรืออาร์คติก เมื่อเทียบกับกองเรือของรัสเซีย กองเรืออาร์คติกของรัสเซีย • กองเรือรัสเซียในอาร์คติกเป็นกองเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มียานพาหนะ 42 ลำซึ่งมีเรือฝ่าน้ำแข็งพลังงานนิวเคลียร์ 8 ลำและเรือฝ่าน้ำแข็งที่ใช้น้ำมันและไฟฟ้า 34 ลำ • กองเรือประกอบด้วยเรือฝ่าน้ำแข็งพลังงานนิวเคลียร์หนักจาก Project 22220 ที่มีกำลัง 60 เมกะวัตต์ (MW) รวมถึงเรือฝ่าน้ำแข็งที่มีกำลังมากที่สุดในโลกอย่าง Viktor Chernomyrdin ซึ่งมีกำลัง 25 เมกะวัตต์ (MW) • ความมั่นใจของรัสเซียอาร์คติกคือ กองเรือรัสเซียทางตอนเหนือ รวมถึงเรือฝ่ายน้ำแข็งหนัก Ilya Muromets เรือปราบเรือดำน้ำ Vice-Admiral Kulakov และเรือรบใหญ่ Alexander Otrakovsky • เรือดำน้ำนิวเคลียร์ระดับ Borei ยังสามารถปฏิบัติการได้ในขั้วโลกเหนือซึ่งแต่ละลำบรรทุกขีปนาวุธข้ามทวีป Bulava 16 ลูก เรือดำน้ำนิวเคลียร์ระดับ Yasen พร้อมขีปนาวุธ Onyx ขีปนาวุธ Kalibr และขีปนาวุธ Zircon กองเรืออาร์คติกของสหรัฐ • เรือรบ Polar Star ยังคงเป็นเรือฝ่าน้ำแข็งหนักเพียงลำเดียวของสหรัฐที่สามารถฝ่าน้ำแข็งในอาร์คติก ส่วนเรือฝ่าน้ำแข็งขนาดกลาง Healy ไม่ได้ใช้งานในอาร์คติกแล้ว • เรือรบบางลำเช่น เรือพิฆาต Arleigh Burke และเรือลาดตระเวน Ticonderoga สามารถปฏิบัติการได้ในอาร์คติก • เรือดำน้ำที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์หลายลำ เช่น เรือ Los Angeles เรือ Virginia และเรือ Seawolf สามารถเดินเรือในน้ำแข็งได้ • จากเรื่องที่สหรัฐ “มีเรือฝ่าน้ำแข็งน้อยกว่าอย่างมาก” เมื่อเทียบกับรัสเซีย Gregory Guillot ผู้บัญชาการของกองทัพเรือของสหรัฐและกองทัพอากาศอเมริกาเหนือที่ยอมรับว่า “ยังไม่ได้จำกัดเสรีภาพในการซ้อมรบในอาร์คติก” https://sputnikglobe.com/20250329/-russia-vs-us-who-holds-the-ice-in-the-arctic-fleet-race--1121710115.html ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    SPUTNIKGLOBE.COM
    Russia vs US: Who Holds the Ice in the Arctic Fleet Race?
    US Vice President JD Vance said the US needs to make sure it's leading in the Arctic to outperform Russia.
    0 Comments 0 Shares 533 Views 0 Reviews
  • “พิชัย”สั่งการคณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ที่มี “ร.ต.จักรา” ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด หลังมีข้อสงสัยเป็นนอมินี เผยผลตรวจสอบ สำนักงานปิด ไม่มีเจ้าหน้าที่ ติดต่อทางโทรศัพท์ไม่ได้ ทั้งเบอร์พื้นฐาน เบอร์มือถือ เตรียมลุยตรวจสอบบริษัทอื่นอีก 13 บริษัท ที่มีที่ตั้งที่เดียวกัน และมีกรรมการและผู้ถือหุ้นคนเดียวกันต่อไป

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000030709
    “พิชัย”สั่งการคณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ที่มี “ร.ต.จักรา” ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด หลังมีข้อสงสัยเป็นนอมินี เผยผลตรวจสอบ สำนักงานปิด ไม่มีเจ้าหน้าที่ ติดต่อทางโทรศัพท์ไม่ได้ ทั้งเบอร์พื้นฐาน เบอร์มือถือ เตรียมลุยตรวจสอบบริษัทอื่นอีก 13 บริษัท ที่มีที่ตั้งที่เดียวกัน และมีกรรมการและผู้ถือหุ้นคนเดียวกันต่อไป อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000030709
    Like
    Haha
    5
    0 Comments 1 Shares 582 Views 0 Reviews
  • “รักมิรู้เริ่มต้นจากที่ใด ถลาลึกตรึงใจสุดคณนา” (ฉิงปู้จื๊อสัวฉี่ อี้หว่างเอ๋อร์เซิ้น / 情不知所起,一往而深)

    ต้อนรับสัปดาห์แห่งความรักกันด้วยอีกหนึ่งวลีสุดฮิตเกี่ยวกับความรัก ที่ Storyฯ เชื่อว่าแฟนนิยายจีนต้องเคยผ่านตายามตัวละครบอกรักกัน (แต่อาจแปลแตกต่างกันบ้างแล้วแต่ผู้แปล)

    ตัวอย่างจากในซีรีส์ก็มี อย่างเช่นในเรื่อง <เจินหวน จอมนางคู่แผ่นดิน> ในฉากที่เหล่ามเหสีชายาและสนมนั่งชมละครงิ้วในวังหลัง นางเอกเมื่อยังเป็นว่านกุ้ยเหรินได้พูดว่า “ในบทประพันธ์ <ศาลาโบตั๋น> มีเขียนไว้ว่า ‘รักมิรู้เริ่มต้นจากที่ใด ถลาลึกตรึงใจสุดคณนา คนเป็นอาจตาย คนตายอาจเป็น’...” (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า)

    ละครเรื่องนี้แฝงบทกวีเลื่องชื่อไว้ในคำสนทนาหลายบท วลีที่กล่าวถึงข้างต้นเป็นวลีจากบทประพันธ์ ‘ศาลาโบตั๋น’ (หมู่ตานถิง / 牡丹亭) (ค.ศ. 1598) ของทังเสียนจู่ นักอักษรและนักประพันธ์บทงิ้วที่เลื่องชื่อในสมัยราชวงศ์หมิง เป็นบทประพันธ์ที่โด่งดังเพราะเป็นเรื่องราวความรักกินใจและเพราะความสละสลวยของภาษา มีทั้งสิ้น 55 ตอน ว่ากันว่า ถ้าแสดงชุดเต็ม ละครงิ้วนี้อาจกินเวลานานถึง 22 ชั่วโมง!

    ปัจจุบัน ‘ศาลาโบตั๋น’ ยังคงเป็นหนึ่งในงิ้วสุดนิยมและได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในสี่ของบทประพันธ์ละครงิ้วโบราณที่ดีที่สุดของจีน ได้รับการแปลไปหลายภาษาเช่น อังกฤษ เยอรมัน ญี่ปุ่น ฯลฯ มีอีกชื่อหนึ่งว่า ‘ฝันคืนวิญญาณ’ (还魂梦)

    ‘ศาลาโบตั๋น’ เป็นเรื่องราวของตู้ลี่เหนียง สตรีลูกขุนนางที่งามเพียบพร้อม วันหนึ่งนางหลับอยู่ในอุทยานในเรือนแล้วฝันว่าได้พบรักกับบัณฑิตหนุ่มนามว่าหลิ่วเมิ่งเหมย เป็นรักที่ตราตรึงใจทำให้นางโหยหาแม้เมื่อตื่นขึ้นมาแล้ว สุดท้ายนางเฝ้ารอแต่ชายในฝันจนตรอมใจตายไป ก่อนตายนางได้ให้คนวาดภาพนางไว้ และสามปีให้หลัง ปรากฏว่ามีบัณฑิตหนุ่มชื่อหลิ่วเมิ่งเหมยเข้าเมืองมาสอบราชบัณฑิต ได้เห็นรูปของนางก็หลงรักและฝันถึง ในฝันนั้นนางบอกเขาว่า หากเขาขุดศพของนางที่ถูกฝังอยู่ในอุทยานขึ้นมา นางจะฟื้นคืนชีพ หลิ่วเมิ่งเหมยทำตามคำบอกของนางก็พบว่าศพของนางยังไม่เน่าเปื่อยและนางก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาจริงๆ เขาทั้งสองจึงครองรักกันต่อไป

    จึงเป็นที่มาของวรรคที่ว่า ‘รักมิรู้เริ่มต้นจากที่ใด ถลาลึกตรึงใจสุดคณนา คนเป็นอาจตาย คนตายอาจเป็น’ และเป็นวลีที่ถูกนำมาใช้บ่อยครั้งเพื่อสะท้อนความหมายของมันว่า รักนั้น บางทีก็หาเหตุผลและจุดเริ่มต้นไม่ได้ คนที่ถลำลงไปในรักสามารถตายเพื่อรักได้ และรักก็สามารถสร้างปาฏิหารย์ให้คนตายฟื้นคืนชีพได้

    เป็นประโยคที่ผ่านตา Storyฯ บ่อยมากจนจำไม่ได้แล้วว่ามีในละครหรือนิยายเรื่องไหนอีกที่กล่าวถึงวลีนี้ เท่าที่พอจะจำได้ ก็มีเรื่อง ‘ความฝันในหอแดง’ หากเพื่อนเพจคุ้นหูคุ้นตาจากซีรีส์หรือนิยายเรื่องอื่นก็เม้นท์มาบอกกันได้นะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพและข้อมูลเรียบเรียงจาก:
    https://new.qq.com/rain/a/20210820A0E6Z100
    https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=e1f2a8e8bf19704ecbbbff47
    https://baike.baidu.com/item/情不知所起一往而深
    https://www.ximalaya.com/ask/q142274?source=m_jump

    #เจินหวน #หมู่ตานถิง #ศาลาโบตั๋น #วลีรักจีน #ทังเสียนจู่
    “รักมิรู้เริ่มต้นจากที่ใด ถลาลึกตรึงใจสุดคณนา” (ฉิงปู้จื๊อสัวฉี่ อี้หว่างเอ๋อร์เซิ้น / 情不知所起,一往而深) ต้อนรับสัปดาห์แห่งความรักกันด้วยอีกหนึ่งวลีสุดฮิตเกี่ยวกับความรัก ที่ Storyฯ เชื่อว่าแฟนนิยายจีนต้องเคยผ่านตายามตัวละครบอกรักกัน (แต่อาจแปลแตกต่างกันบ้างแล้วแต่ผู้แปล) ตัวอย่างจากในซีรีส์ก็มี อย่างเช่นในเรื่อง <เจินหวน จอมนางคู่แผ่นดิน> ในฉากที่เหล่ามเหสีชายาและสนมนั่งชมละครงิ้วในวังหลัง นางเอกเมื่อยังเป็นว่านกุ้ยเหรินได้พูดว่า “ในบทประพันธ์ <ศาลาโบตั๋น> มีเขียนไว้ว่า ‘รักมิรู้เริ่มต้นจากที่ใด ถลาลึกตรึงใจสุดคณนา คนเป็นอาจตาย คนตายอาจเป็น’...” (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า) ละครเรื่องนี้แฝงบทกวีเลื่องชื่อไว้ในคำสนทนาหลายบท วลีที่กล่าวถึงข้างต้นเป็นวลีจากบทประพันธ์ ‘ศาลาโบตั๋น’ (หมู่ตานถิง / 牡丹亭) (ค.ศ. 1598) ของทังเสียนจู่ นักอักษรและนักประพันธ์บทงิ้วที่เลื่องชื่อในสมัยราชวงศ์หมิง เป็นบทประพันธ์ที่โด่งดังเพราะเป็นเรื่องราวความรักกินใจและเพราะความสละสลวยของภาษา มีทั้งสิ้น 55 ตอน ว่ากันว่า ถ้าแสดงชุดเต็ม ละครงิ้วนี้อาจกินเวลานานถึง 22 ชั่วโมง! ปัจจุบัน ‘ศาลาโบตั๋น’ ยังคงเป็นหนึ่งในงิ้วสุดนิยมและได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในสี่ของบทประพันธ์ละครงิ้วโบราณที่ดีที่สุดของจีน ได้รับการแปลไปหลายภาษาเช่น อังกฤษ เยอรมัน ญี่ปุ่น ฯลฯ มีอีกชื่อหนึ่งว่า ‘ฝันคืนวิญญาณ’ (还魂梦) ‘ศาลาโบตั๋น’ เป็นเรื่องราวของตู้ลี่เหนียง สตรีลูกขุนนางที่งามเพียบพร้อม วันหนึ่งนางหลับอยู่ในอุทยานในเรือนแล้วฝันว่าได้พบรักกับบัณฑิตหนุ่มนามว่าหลิ่วเมิ่งเหมย เป็นรักที่ตราตรึงใจทำให้นางโหยหาแม้เมื่อตื่นขึ้นมาแล้ว สุดท้ายนางเฝ้ารอแต่ชายในฝันจนตรอมใจตายไป ก่อนตายนางได้ให้คนวาดภาพนางไว้ และสามปีให้หลัง ปรากฏว่ามีบัณฑิตหนุ่มชื่อหลิ่วเมิ่งเหมยเข้าเมืองมาสอบราชบัณฑิต ได้เห็นรูปของนางก็หลงรักและฝันถึง ในฝันนั้นนางบอกเขาว่า หากเขาขุดศพของนางที่ถูกฝังอยู่ในอุทยานขึ้นมา นางจะฟื้นคืนชีพ หลิ่วเมิ่งเหมยทำตามคำบอกของนางก็พบว่าศพของนางยังไม่เน่าเปื่อยและนางก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาจริงๆ เขาทั้งสองจึงครองรักกันต่อไป จึงเป็นที่มาของวรรคที่ว่า ‘รักมิรู้เริ่มต้นจากที่ใด ถลาลึกตรึงใจสุดคณนา คนเป็นอาจตาย คนตายอาจเป็น’ และเป็นวลีที่ถูกนำมาใช้บ่อยครั้งเพื่อสะท้อนความหมายของมันว่า รักนั้น บางทีก็หาเหตุผลและจุดเริ่มต้นไม่ได้ คนที่ถลำลงไปในรักสามารถตายเพื่อรักได้ และรักก็สามารถสร้างปาฏิหารย์ให้คนตายฟื้นคืนชีพได้ เป็นประโยคที่ผ่านตา Storyฯ บ่อยมากจนจำไม่ได้แล้วว่ามีในละครหรือนิยายเรื่องไหนอีกที่กล่าวถึงวลีนี้ เท่าที่พอจะจำได้ ก็มีเรื่อง ‘ความฝันในหอแดง’ หากเพื่อนเพจคุ้นหูคุ้นตาจากซีรีส์หรือนิยายเรื่องอื่นก็เม้นท์มาบอกกันได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพและข้อมูลเรียบเรียงจาก: https://new.qq.com/rain/a/20210820A0E6Z100 https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=e1f2a8e8bf19704ecbbbff47 https://baike.baidu.com/item/情不知所起一往而深 https://www.ximalaya.com/ask/q142274?source=m_jump #เจินหวน #หมู่ตานถิง #ศาลาโบตั๋น #วลีรักจีน #ทังเสียนจู่
    腾讯网
    腾讯网从2003年创立至今,已经成为集新闻信息,区域垂直生活服务、社会化媒体资讯和产品为一体的互联网媒体平台。腾讯网下设新闻、科技、财经、娱乐、体育、汽车、时尚等多个频道,充分满足用户对不同类型资讯的需求。同时专注不同领域内容,打造精品栏目,并顺应技术发展趋势,推出网络直播等创新形式,改变了用户获取资讯的方式和习惯。
    1 Comments 0 Shares 561 Views 0 Reviews
  • “อวี๋ซูซิน” นักแสดง-นักร้องสาวดาวดังชาวจีน โพสต์ IG เที่ยวฟิน- กินฉ่ำ ในเมืองไทย หลังเดินทางมาถ่ายทำซีรีส์เรื่องใหม่ในเมืองไทย ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้นคงต้องติดตามกันต่อไป

    “อวี๋ซูซิน” หรือที่ใครหลาย ๆ คนรู้จักกันในนาม “เอสเธอร์ อวี๋” (Esther Yu) เป็นหนึ่งในนักแสดง นักร้อง ไอดอลสาวชาวจีนชื่อดัง เธอเปิดตัวจากการแสดงในละครเรื่อง Border Town Prodigal เมื่อปี 2016 และเธอได้รับการยอมรับจากบทบาทในละครฮิต Find Yourself (2020) Moonlight (2021) และ Love Between Fairy and Devil (2022) นอกจากนี้เธอยังเคยเดบิวต์เป็นสมาชิกของเกิร์ลกรุปจีน THE9 อีกด้วย

    ปัจจุบันอวี๋ซูซินมีผลงานการถ่ายทำซีรีส์อย่างต่อเนื่อง โดยซีรีส์ชื่อดังที่คนไทยรู้จักกันดี ได้แก่ เพลงรักใต้แสงจันทร์ ของรักของข้า เหนือเมฆาชะตาลิขิต เซียนกระบี่เปิดผนึกพิชิตชะตา ดารารักนิรันดร์ เป็นต้น

    นอกจากนี้ล่าสุดอวี๋ซูซินยังบินมาถ่ายทำซีรีส์เรื่องใหม่ในประเทศไทย ซึ่งเธอก็ได้โพสต์ IG บรรยากาศการเที่ยวฟิน- กินฉ่ำ ในเมืองไทยให้แฟน ๆ ได้ชมกัน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/travel/detail/9680000029276

    #MGROnline #YuShuXin #EstherYu​​​ #อวี๋ซูซิน #虞书欣
    “อวี๋ซูซิน” นักแสดง-นักร้องสาวดาวดังชาวจีน โพสต์ IG เที่ยวฟิน- กินฉ่ำ ในเมืองไทย หลังเดินทางมาถ่ายทำซีรีส์เรื่องใหม่ในเมืองไทย ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้นคงต้องติดตามกันต่อไป • “อวี๋ซูซิน” หรือที่ใครหลาย ๆ คนรู้จักกันในนาม “เอสเธอร์ อวี๋” (Esther Yu) เป็นหนึ่งในนักแสดง นักร้อง ไอดอลสาวชาวจีนชื่อดัง เธอเปิดตัวจากการแสดงในละครเรื่อง Border Town Prodigal เมื่อปี 2016 และเธอได้รับการยอมรับจากบทบาทในละครฮิต Find Yourself (2020) Moonlight (2021) และ Love Between Fairy and Devil (2022) นอกจากนี้เธอยังเคยเดบิวต์เป็นสมาชิกของเกิร์ลกรุปจีน THE9 อีกด้วย • ปัจจุบันอวี๋ซูซินมีผลงานการถ่ายทำซีรีส์อย่างต่อเนื่อง โดยซีรีส์ชื่อดังที่คนไทยรู้จักกันดี ได้แก่ เพลงรักใต้แสงจันทร์ ของรักของข้า เหนือเมฆาชะตาลิขิต เซียนกระบี่เปิดผนึกพิชิตชะตา ดารารักนิรันดร์ เป็นต้น • นอกจากนี้ล่าสุดอวี๋ซูซินยังบินมาถ่ายทำซีรีส์เรื่องใหม่ในประเทศไทย ซึ่งเธอก็ได้โพสต์ IG บรรยากาศการเที่ยวฟิน- กินฉ่ำ ในเมืองไทยให้แฟน ๆ ได้ชมกัน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/travel/detail/9680000029276 • #MGROnline #YuShuXin #EstherYu​​​ #อวี๋ซูซิน #虞书欣
    0 Comments 0 Shares 582 Views 0 Reviews
  • หลวงปู่ดู่ เตือนเรื่อง "ปรามาสพระ"

    วันหนึ่งมีผู้มากราบนมัสการท่าน และเรียนถามปัญหาต่างๆ จากนั้นจึงกลับไป หลวงปู่ท่านได้ยกเป็นคติเตือนใจให้ผู้เขียนฟังว่า

    “คนที่มาเมื่อกี้ หากไปเจอพระดีล่ะก็ลงนรก ไม่ไปสวรรค์ นิพพานหรอก”

    ผู้เขียนจึงเรียนถามท่านว่า “เพราะเหตุไรครับ”

    ท่านตอบว่า “ก็จะไปปรามาสพระท่านน่ะซี ไม่ได้ไปเอาธรรมจากท่าน”

    หลวงปู่เคยเตือนพวกเราไว้ว่า

    “การไปอยู่กับพระอรหันต์ อย่าอยู่กับท่านนาน เพราะเมื่อเกิดความมักคุ้นแล้ว มักทำให้ลืมตัว เห็นท่านเป็นเพื่อนเล่น คุยเล่นหัวท่านบ้าง ให้ท่านเหาะให้ดูบ้าง ถึงกับออกปากใช้ท่านเลยก็มี การกระทำเช่นนี้ ถือเป็นการปรามาสพระ ลบหลู่ครูอาจารย์ และเป็นบาปมาก ปิดกั้นทางมรรคผลนิพพานได้ จึงขอให้พวกเราสำรวมระวังให้ดี”

    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
    #หลวงปู่ดู่พรหมปัญโญ
    #พระพรหมปัญโญ
    #สวดคาถามหาจักรพรรดิ
    #สวดมนต์ #บันทึกบุญ #โมทนาบุญ #ยินดีในบุญ
    #คาถามหาจักรพรรดิ108
    #ธรรมทานเหนือการให้ทั้งปวง
    #พุทธังอนันตังธัมมังจักรวาลังสังฆังนิพพานะปัจจะโยโหตุ
    #ขอให้ประสบแต่ความดีปราศจากความทุกข์"

    ว่ากันต่อต่อไปให้ได้บุญ
    หลวงปู่ดู่ เตือนเรื่อง "ปรามาสพระ" วันหนึ่งมีผู้มากราบนมัสการท่าน และเรียนถามปัญหาต่างๆ จากนั้นจึงกลับไป หลวงปู่ท่านได้ยกเป็นคติเตือนใจให้ผู้เขียนฟังว่า “คนที่มาเมื่อกี้ หากไปเจอพระดีล่ะก็ลงนรก ไม่ไปสวรรค์ นิพพานหรอก” ผู้เขียนจึงเรียนถามท่านว่า “เพราะเหตุไรครับ” ท่านตอบว่า “ก็จะไปปรามาสพระท่านน่ะซี ไม่ได้ไปเอาธรรมจากท่าน” หลวงปู่เคยเตือนพวกเราไว้ว่า “การไปอยู่กับพระอรหันต์ อย่าอยู่กับท่านนาน เพราะเมื่อเกิดความมักคุ้นแล้ว มักทำให้ลืมตัว เห็นท่านเป็นเพื่อนเล่น คุยเล่นหัวท่านบ้าง ให้ท่านเหาะให้ดูบ้าง ถึงกับออกปากใช้ท่านเลยก็มี การกระทำเช่นนี้ ถือเป็นการปรามาสพระ ลบหลู่ครูอาจารย์ และเป็นบาปมาก ปิดกั้นทางมรรคผลนิพพานได้ จึงขอให้พวกเราสำรวมระวังให้ดี” หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ #หลวงปู่ดู่พรหมปัญโญ #พระพรหมปัญโญ #สวดคาถามหาจักรพรรดิ #สวดมนต์ #บันทึกบุญ #โมทนาบุญ #ยินดีในบุญ #คาถามหาจักรพรรดิ108 #ธรรมทานเหนือการให้ทั้งปวง #พุทธังอนันตังธัมมังจักรวาลังสังฆังนิพพานะปัจจะโยโหตุ #ขอให้ประสบแต่ความดีปราศจากความทุกข์" ว่ากันต่อต่อไปให้ได้บุญ
    0 Comments 0 Shares 402 Views 0 Reviews
  • **ผ้าไหมทอลายสูจิ่น เทคนิคการทออันเป็นมรดกทางภูมิปัญญาวัฒนธรรม**

    สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วเราตามรอย <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ไปยังแหล่งผลิตของผ้าไหมสูจิ่น (蜀锦) หรือเมืองอี้โจวในเรื่องซึ่งก็คือเมืองเฉิงตูนั่นเอง Storyฯ ได้กล่าวไว้ว่าผ้าไหมสูจิ่นเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดผ้าไหมทอลายของจีน และเทคนิคการทอผ้าสูจิ่นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของจีนเมื่อปี 2006 วันนี้มาคุยกันต่อค่ะ

    ประวัติการทอผ้าไหมจีนมีมายาวนานหลายพันปี แต่เทคนิคการทอผ้าสูจิ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมนี้มีมาอย่างน้อยตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 206 ก่อนคริสตกาล - ปีค.ศ. 220) โดยมีหลักฐานจากการขุดพบเครื่องทอโบราณจากหลุมฝังศพสมัยราชวงศ์ฮั่น และใช้เวลานานมากในการทำความเข้าใจวิธีการทำงานของมัน เนื่องจากเอกสารข้อมูลที่หลงเหลือเกี่ยวกับมันมีน้อยมากอันสืบเนื่องจากเมืองเฉิงตูและเขตพื้นที่ทอผ้าได้รับความเสียหายจากไฟสงครามเมื่อแมนจูเข้ายึด ปัจจุบันมีการจำลองขึ้นใหม่จนใช้การได้จริง จัดเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทอและงานปักสูจิ่นเมืองเฉิงตู (Chengdu Shu Brocade And Embroidery Museum) (ดูรูปประกอบ 2)

    นอกจากนี้ยังมีการขุดพบผ้าไหมทอลายสูจิ่นในพื้นที่แถบซินเกียงที่สะท้อนถึงความสามารถในการทอผ้าลายซับซ้อนในสมัยฮั่น โดยผลงานที่โด่งดังมากที่สุดคือผ้าหุ้มข้อมือที่มีชื่อเรียกว่า ‘อู่ซิงชูตงฟางลี่จงกั๋ว’ (五星出东方利中国/ Five Stars Rising in the East) ผ้าผืนนี้มีสีสันสดใสโดยเน้นสีที่เป็นตัวแทนของห้าดาว (ห้าธาตุ) มีลายสัตว์มงคลและตัวอักษร ‘อู่ซิงชูตงฟางลี่ตงกั๋ว’ และเนื่องด้วยมีการค้นพบเศษผ้าอื่นที่มีลายต่อเนื่องกัน ผู้เชี่ยวชาญจึงวิเคราะห์ไว้ว่าผ้าผืนเต็มประกอบด้วยตัวอักษรยี่สิบอักษร เป็นผ้าทอเนื้อละเอียดมาก ภายในผ้าหนึ่งตารางเซ็นติเมตรมีด้ายยืนทับซ้อนกันทั้งสิ้นกว่า 200 เส้น!

    ต่อมาในสมัยถังและซ่ง เครื่องทอผ้าถูกพัฒนาให้ทอลายที่หลากหลายได้มากยิ่งขึ้นและมีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น โดยมีการบรรยายลักษณะไว้ในบันทึก ‘เทียนกงคายอู้’ (天工开物 /The Exploitation of the Works of Nature) ซึ่งเป็นหนังสือสมัยหมิงจัดทำขึ้นโดยซ่งอิงซิงเมื่อปีค.ศ. 1637 เพื่อบันทึกถึงกว่า 300 อาชีพที่เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและกรรมวิธีการผลิตที่เกี่ยวข้อง (ดูรูปประกอบ 3) ปัจจุบันมีเครื่องโบราณจริงจากสมัยชิงแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทอและงานปักสูจิ่นเมืองเฉิงตู

    เครื่องทอที่ว่านี้ต้องใช้ช่างทอสองคนพร้อมกัน คนหนึ่งนั่งข้างบนบังคับกลุ่มเส้นไหมเพื่อจัดลายทอ อีกคนหนึ่งนั่งข้างล่างทำหน้าที่ทอและดูแลเรื่องเฉดสี รวมแล้วมีเส้นไหมกว่าหมื่นเส้นที่ต้องบังคับ มีขนาดเล็กคือ ‘เสี่ยวฮวาโหลว’ และขนาดใหญ่คือ ‘ต้าฮวาโหลว’ โดยต้าฮวาโหลวมีความสูงถึงห้าเมตร

    แม้แต่อาจารย์ผู้มีประสบการณ์มาหลายสิบปียังสามารถทอได้เพียงไม่เกินสิบเซ็นติเมตรต่อวันด้วยมันต้องใช้แรงและโฟกัสมาก และความยากที่สุดของการทอผ้าไหมสูจิ่นด้วยเครื่องอย่างนี้คือการเอาลายที่ดีไซน์บนภาพวาดแปลงออกมาเป็นการเรียงเส้นไหมนั่งเอง เล่าอย่างนี้อาจนึกภาพไม่ออก เพื่อนเพจลองดูคลิปสั้นนี้ก็จะพอเห็นภาพค่ะ https://www.youtube.com/shorts/fPzQzevjD2M และหากใครพอมีเวลาก็ลองดูสาระคดียาวประมาณ 15 นาทีมีซับภาษาอังกฤษ ก็จะเห็นความซับซ้อนของการทอผ้าสูจิ่นอย่างเต็มรูปแบบ... https://www.youtube.com/watch?v=uYHbELbospQ&t=609s

    เอกลักษณ์ของผ้าสูจิ่นคือลายทอพื้นเมือง เทคนิคการทอลายทับซ้อนได้หลายชั้นและมีสีสันที่สดใส โดยมีชื่อเรียกจำแนกชนิดย่อยไปได้อีกตามลายทอ อธิบายเช่นนี้ก็คงจะยังไม่ค่อยเห็นความแตกต่าง แต่ในรูปประกอบ 1 ก็พอจะเห็นบางส่วนของลายทอต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในซีรีส์ <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ได้นะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://m.bjnews.com.cn/detail/1732938607168793.html
    https://www.facebook.com/permalink.php/?story_fbid=1083381463798209&id=100063790956424
    https://j.021east.com/p/1652758642049238
    https://sichuan.scol.com.cn/ggxw/202102/58058065.html
    https://www.ccmapp.cn/news/detail?id=bd8d36d9-2b59-4fa0-b8e9-7d8b65852db3&categoryid=&categoryname=最新资讯
    https://www.chinasilkmuseum.com/cs/info_164.aspx?itemid=26725
    https://www.researchgate.net/figure/Traditional-Chinese-drawbar-silk-loom-Roads-to-Zanadu_fig4_284551990
    https://news.qq.com/rain/a/20241229A059DQ00
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.youtube.com/shorts/fPzQzevjD2M https://www.youtube.com/watch?v=uYHbELbospQ&t=609s
    https://www.youtube.com/watch?v=1zNDpGNh_Z4&t=1197s
    https://sichuan.scol.com.cn/ggxw/202102/58058065.html

    #ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ #ผ้าไหมจีน #ผ้าไหมจิ่น #สูจิ่น #เฉิงตู #สามก๊ก #สี่สุดยอดผ้าไหมจีน #เครื่องทอผ้าจีนโบราณ #สาระจีน
    **ผ้าไหมทอลายสูจิ่น เทคนิคการทออันเป็นมรดกทางภูมิปัญญาวัฒนธรรม** สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วเราตามรอย <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ไปยังแหล่งผลิตของผ้าไหมสูจิ่น (蜀锦) หรือเมืองอี้โจวในเรื่องซึ่งก็คือเมืองเฉิงตูนั่นเอง Storyฯ ได้กล่าวไว้ว่าผ้าไหมสูจิ่นเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดผ้าไหมทอลายของจีน และเทคนิคการทอผ้าสูจิ่นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของจีนเมื่อปี 2006 วันนี้มาคุยกันต่อค่ะ ประวัติการทอผ้าไหมจีนมีมายาวนานหลายพันปี แต่เทคนิคการทอผ้าสูจิ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมนี้มีมาอย่างน้อยตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 206 ก่อนคริสตกาล - ปีค.ศ. 220) โดยมีหลักฐานจากการขุดพบเครื่องทอโบราณจากหลุมฝังศพสมัยราชวงศ์ฮั่น และใช้เวลานานมากในการทำความเข้าใจวิธีการทำงานของมัน เนื่องจากเอกสารข้อมูลที่หลงเหลือเกี่ยวกับมันมีน้อยมากอันสืบเนื่องจากเมืองเฉิงตูและเขตพื้นที่ทอผ้าได้รับความเสียหายจากไฟสงครามเมื่อแมนจูเข้ายึด ปัจจุบันมีการจำลองขึ้นใหม่จนใช้การได้จริง จัดเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทอและงานปักสูจิ่นเมืองเฉิงตู (Chengdu Shu Brocade And Embroidery Museum) (ดูรูปประกอบ 2) นอกจากนี้ยังมีการขุดพบผ้าไหมทอลายสูจิ่นในพื้นที่แถบซินเกียงที่สะท้อนถึงความสามารถในการทอผ้าลายซับซ้อนในสมัยฮั่น โดยผลงานที่โด่งดังมากที่สุดคือผ้าหุ้มข้อมือที่มีชื่อเรียกว่า ‘อู่ซิงชูตงฟางลี่จงกั๋ว’ (五星出东方利中国/ Five Stars Rising in the East) ผ้าผืนนี้มีสีสันสดใสโดยเน้นสีที่เป็นตัวแทนของห้าดาว (ห้าธาตุ) มีลายสัตว์มงคลและตัวอักษร ‘อู่ซิงชูตงฟางลี่ตงกั๋ว’ และเนื่องด้วยมีการค้นพบเศษผ้าอื่นที่มีลายต่อเนื่องกัน ผู้เชี่ยวชาญจึงวิเคราะห์ไว้ว่าผ้าผืนเต็มประกอบด้วยตัวอักษรยี่สิบอักษร เป็นผ้าทอเนื้อละเอียดมาก ภายในผ้าหนึ่งตารางเซ็นติเมตรมีด้ายยืนทับซ้อนกันทั้งสิ้นกว่า 200 เส้น! ต่อมาในสมัยถังและซ่ง เครื่องทอผ้าถูกพัฒนาให้ทอลายที่หลากหลายได้มากยิ่งขึ้นและมีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น โดยมีการบรรยายลักษณะไว้ในบันทึก ‘เทียนกงคายอู้’ (天工开物 /The Exploitation of the Works of Nature) ซึ่งเป็นหนังสือสมัยหมิงจัดทำขึ้นโดยซ่งอิงซิงเมื่อปีค.ศ. 1637 เพื่อบันทึกถึงกว่า 300 อาชีพที่เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและกรรมวิธีการผลิตที่เกี่ยวข้อง (ดูรูปประกอบ 3) ปัจจุบันมีเครื่องโบราณจริงจากสมัยชิงแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทอและงานปักสูจิ่นเมืองเฉิงตู เครื่องทอที่ว่านี้ต้องใช้ช่างทอสองคนพร้อมกัน คนหนึ่งนั่งข้างบนบังคับกลุ่มเส้นไหมเพื่อจัดลายทอ อีกคนหนึ่งนั่งข้างล่างทำหน้าที่ทอและดูแลเรื่องเฉดสี รวมแล้วมีเส้นไหมกว่าหมื่นเส้นที่ต้องบังคับ มีขนาดเล็กคือ ‘เสี่ยวฮวาโหลว’ และขนาดใหญ่คือ ‘ต้าฮวาโหลว’ โดยต้าฮวาโหลวมีความสูงถึงห้าเมตร แม้แต่อาจารย์ผู้มีประสบการณ์มาหลายสิบปียังสามารถทอได้เพียงไม่เกินสิบเซ็นติเมตรต่อวันด้วยมันต้องใช้แรงและโฟกัสมาก และความยากที่สุดของการทอผ้าไหมสูจิ่นด้วยเครื่องอย่างนี้คือการเอาลายที่ดีไซน์บนภาพวาดแปลงออกมาเป็นการเรียงเส้นไหมนั่งเอง เล่าอย่างนี้อาจนึกภาพไม่ออก เพื่อนเพจลองดูคลิปสั้นนี้ก็จะพอเห็นภาพค่ะ https://www.youtube.com/shorts/fPzQzevjD2M และหากใครพอมีเวลาก็ลองดูสาระคดียาวประมาณ 15 นาทีมีซับภาษาอังกฤษ ก็จะเห็นความซับซ้อนของการทอผ้าสูจิ่นอย่างเต็มรูปแบบ... https://www.youtube.com/watch?v=uYHbELbospQ&t=609s เอกลักษณ์ของผ้าสูจิ่นคือลายทอพื้นเมือง เทคนิคการทอลายทับซ้อนได้หลายชั้นและมีสีสันที่สดใส โดยมีชื่อเรียกจำแนกชนิดย่อยไปได้อีกตามลายทอ อธิบายเช่นนี้ก็คงจะยังไม่ค่อยเห็นความแตกต่าง แต่ในรูปประกอบ 1 ก็พอจะเห็นบางส่วนของลายทอต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในซีรีส์ <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://m.bjnews.com.cn/detail/1732938607168793.html https://www.facebook.com/permalink.php/?story_fbid=1083381463798209&id=100063790956424 https://j.021east.com/p/1652758642049238 https://sichuan.scol.com.cn/ggxw/202102/58058065.html https://www.ccmapp.cn/news/detail?id=bd8d36d9-2b59-4fa0-b8e9-7d8b65852db3&categoryid=&categoryname=最新资讯 https://www.chinasilkmuseum.com/cs/info_164.aspx?itemid=26725 https://www.researchgate.net/figure/Traditional-Chinese-drawbar-silk-loom-Roads-to-Zanadu_fig4_284551990 https://news.qq.com/rain/a/20241229A059DQ00 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.youtube.com/shorts/fPzQzevjD2M https://www.youtube.com/watch?v=uYHbELbospQ&t=609s https://www.youtube.com/watch?v=1zNDpGNh_Z4&t=1197s https://sichuan.scol.com.cn/ggxw/202102/58058065.html #ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ #ผ้าไหมจีน #ผ้าไหมจิ่น #สูจิ่น #เฉิงตู #สามก๊ก #สี่สุดยอดผ้าไหมจีน #เครื่องทอผ้าจีนโบราณ #สาระจีน
    3 Comments 0 Shares 899 Views 0 Reviews
  • Intel ได้ปล่อย SDK XeSS 2.0 ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเพิ่มความละเอียด สร้างเฟรมใหม่ และลดความล่าช้าในเกมได้ง่ายขึ้น ผ่านปลั๊กอินที่พร้อมใช้กับ Unreal Engine และ Unity อย่างไรก็ตาม XeSS ยังไม่เปิดซอร์ส ทำให้นักพัฒนาต้องพึ่งพาไฟล์ไบนารีจาก Intel เท่านั้น และรองรับแค่ Windows ซึ่งอาจทำให้สูญเสียข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง FSR ของ AMD ที่ยืดหยุ่นกว่า Intel มีความตั้งใจที่จะเร่งพัฒนาเทคโนโลยีนี้ แต่ต้องดูกันต่อไปว่า XeSS จะสามารถขยายการใช้งานได้มากขึ้นหรือไม่ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/intel-finally-releases-the-xess-2-0-sdk-for-developers-technology-still-gated-by-closed-source-barriers
    Intel ได้ปล่อย SDK XeSS 2.0 ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเพิ่มความละเอียด สร้างเฟรมใหม่ และลดความล่าช้าในเกมได้ง่ายขึ้น ผ่านปลั๊กอินที่พร้อมใช้กับ Unreal Engine และ Unity อย่างไรก็ตาม XeSS ยังไม่เปิดซอร์ส ทำให้นักพัฒนาต้องพึ่งพาไฟล์ไบนารีจาก Intel เท่านั้น และรองรับแค่ Windows ซึ่งอาจทำให้สูญเสียข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง FSR ของ AMD ที่ยืดหยุ่นกว่า Intel มีความตั้งใจที่จะเร่งพัฒนาเทคโนโลยีนี้ แต่ต้องดูกันต่อไปว่า XeSS จะสามารถขยายการใช้งานได้มากขึ้นหรือไม่ในอนาคต https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/intel-finally-releases-the-xess-2-0-sdk-for-developers-technology-still-gated-by-closed-source-barriers
    0 Comments 0 Shares 180 Views 0 Reviews
  • ก่อนหน้านี้มีคุยเรื่องความหมายของดอกไม้ วันนี้เลยมาคุยกันสั้นๆ เรื่องสุภาษิตจีนที่เกี่ยวกับดอกไม้

    เพื่อนเพจที่ได้ดูละคร <เทียบท้าปฐพี> คงเคยผ่านตาฉากที่พระเอกต้องแกล้งเป็นดื่มเหล้าเมาแล้วนางเอกเตือนไม่ให้ดื่มเยอะ ตัวร้ายถึงกับออกปากว่า “นางข้าหลวงคนนี้ มาจากในวังหรือ? ทั้งซื่อสัตย์และงดงามนัก เป็นดอกไม้งามที่เฉลียวฉลาด” (หมายเหตุ คำแปลยกมาจากซับไทยของละครเรื่องนี้)

    แต่เพื่อนเพจที่ไม่ทราบภาษาจีนคงไม่รู้ว่า ‘ดอกไม้งามที่เฉลียวฉลาด’ นี้ ในฉบับภาษาจีนใช้คำว่า ‘เจี๋ยอวี่ฮวา’ (解语花) แปลตรงตัวว่า เข้าใจ+ภาษา+ดอกไม้ (อุ้ย... ความหมายเพี้ยน!) เปรียบเปรยถึงหญิงงามที่ฉลาดมีความเข้าอกเข้าใจคนอื่น เป็นวลีที่นิยมใช้ในสมัยซ่ง

    สุภาษิตนี้มีจุดกำเนิดจากบทประพันธ์เชิงประวัติศาสตร์ของนักอักษรศาสตร์ในช่วงปลายราชวงศ์ถังนามว่า หวางเหรินอี้ (ค.ศ. 880-956) เป็นเรื่องเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากสมัยองค์ถังเสวียนจง ฮ่องเต้องค์ที่เจ็ดแห่งราชวงศ์ถัง โดยฉากที่กล่าวถึงนี้บรรยายว่า วันหนึ่งในสารทฤดู เดือนแปด องค์ถังเสวียนจงทรงชื่นชมความงามของธรรมชาติอยู่ในอุทยานกับญาติๆ และนางใน ดอกบัวขาวบานสะพรั่งชูช่อเป็นที่ชื่นชมของผู้คน แต่แล้วทรงหันมาชี้นิ้วไปยังหยางกุ้ยเฟยที่ตามเสด็จมาด้วยแล้วเอ่ยว่า “ไยจะสู้เจี๋ยอวี่ฮวาของเรา” (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์) เป็นเหตุการณ์ที่ถูกเล่ากันต่อๆ มาให้เป็นตัวอย่างว่าหยางกุ้ยเฟยเป็นที่โปรดปรานขององค์ถังเสวียนจงเพียงใด

    ความหมายดั้งเดิมของ ‘เจี๋ยอวี่ฮวา’ ในตอนนั้นคือ บุปผาที่พูดได้ ย่อมงดงามกว่าบุปผาธรรมดา ใช้เปรียบเปรยสตรีที่งดงามยิ่งนัก และในเวลานั้นใช้หมายถึงหยางกุ้ยเฟยนั่นเอง

    ต่อมาคำว่า ‘เจี๋ยอวี่ฮวา’ ถูกนำมาใช้ในบทกวีและบทประพันธ์ของชนรุ่นหลัง ปัจจุบันเป็นสุภาษิตที่แปลว่าสตรีที่งามยิ่งนัก หรือสตรีที่ทั้งงามและมีเสน่ห์ (เพราะมีความเข้าอกเข้าใจคน)

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://baike.baidu.com/item/解语花/9250245
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/解语花/9250245
    https://baike.baidu.com/item/王仁裕
    https://www.sohu.com/a/273086275_100069764
    https://cidian.qianp.com/ci/%E8%A7%A3%E8%AF%AD%E8%8A%B1

    #เทียบท้าปฐพี #หยางกุ้ยเฟย #เจี๋ยอวี่ฮวา
    ก่อนหน้านี้มีคุยเรื่องความหมายของดอกไม้ วันนี้เลยมาคุยกันสั้นๆ เรื่องสุภาษิตจีนที่เกี่ยวกับดอกไม้ เพื่อนเพจที่ได้ดูละคร <เทียบท้าปฐพี> คงเคยผ่านตาฉากที่พระเอกต้องแกล้งเป็นดื่มเหล้าเมาแล้วนางเอกเตือนไม่ให้ดื่มเยอะ ตัวร้ายถึงกับออกปากว่า “นางข้าหลวงคนนี้ มาจากในวังหรือ? ทั้งซื่อสัตย์และงดงามนัก เป็นดอกไม้งามที่เฉลียวฉลาด” (หมายเหตุ คำแปลยกมาจากซับไทยของละครเรื่องนี้) แต่เพื่อนเพจที่ไม่ทราบภาษาจีนคงไม่รู้ว่า ‘ดอกไม้งามที่เฉลียวฉลาด’ นี้ ในฉบับภาษาจีนใช้คำว่า ‘เจี๋ยอวี่ฮวา’ (解语花) แปลตรงตัวว่า เข้าใจ+ภาษา+ดอกไม้ (อุ้ย... ความหมายเพี้ยน!) เปรียบเปรยถึงหญิงงามที่ฉลาดมีความเข้าอกเข้าใจคนอื่น เป็นวลีที่นิยมใช้ในสมัยซ่ง สุภาษิตนี้มีจุดกำเนิดจากบทประพันธ์เชิงประวัติศาสตร์ของนักอักษรศาสตร์ในช่วงปลายราชวงศ์ถังนามว่า หวางเหรินอี้ (ค.ศ. 880-956) เป็นเรื่องเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากสมัยองค์ถังเสวียนจง ฮ่องเต้องค์ที่เจ็ดแห่งราชวงศ์ถัง โดยฉากที่กล่าวถึงนี้บรรยายว่า วันหนึ่งในสารทฤดู เดือนแปด องค์ถังเสวียนจงทรงชื่นชมความงามของธรรมชาติอยู่ในอุทยานกับญาติๆ และนางใน ดอกบัวขาวบานสะพรั่งชูช่อเป็นที่ชื่นชมของผู้คน แต่แล้วทรงหันมาชี้นิ้วไปยังหยางกุ้ยเฟยที่ตามเสด็จมาด้วยแล้วเอ่ยว่า “ไยจะสู้เจี๋ยอวี่ฮวาของเรา” (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์) เป็นเหตุการณ์ที่ถูกเล่ากันต่อๆ มาให้เป็นตัวอย่างว่าหยางกุ้ยเฟยเป็นที่โปรดปรานขององค์ถังเสวียนจงเพียงใด ความหมายดั้งเดิมของ ‘เจี๋ยอวี่ฮวา’ ในตอนนั้นคือ บุปผาที่พูดได้ ย่อมงดงามกว่าบุปผาธรรมดา ใช้เปรียบเปรยสตรีที่งดงามยิ่งนัก และในเวลานั้นใช้หมายถึงหยางกุ้ยเฟยนั่นเอง ต่อมาคำว่า ‘เจี๋ยอวี่ฮวา’ ถูกนำมาใช้ในบทกวีและบทประพันธ์ของชนรุ่นหลัง ปัจจุบันเป็นสุภาษิตที่แปลว่าสตรีที่งามยิ่งนัก หรือสตรีที่ทั้งงามและมีเสน่ห์ (เพราะมีความเข้าอกเข้าใจคน) (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://baike.baidu.com/item/解语花/9250245 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/解语花/9250245 https://baike.baidu.com/item/王仁裕 https://www.sohu.com/a/273086275_100069764 https://cidian.qianp.com/ci/%E8%A7%A3%E8%AF%AD%E8%8A%B1 #เทียบท้าปฐพี #หยางกุ้ยเฟย #เจี๋ยอวี่ฮวา
    0 Comments 0 Shares 445 Views 0 Reviews
  • ปปส. จับนักร้องนำ I-ZAX “แซ็ก-วัชรพล ปานพุ่ม” แกนนำขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ 🌐⚖️

    ปลุกกระแสวงการเพลงร็อกไทยให้สั่นสะเทือน! ข่าวใหญ่ที่ทุกคนไม่คาดคิด นักร้องนำวงร็อกระดับตำนาน “แซ็ก-วัชรพล ปานพุ่ม” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “แซ็ก I-ZAX” ถูกจับในคดีค้ายาเสพติดข้ามชาติ โดยสำนักงาน ป.ป.ส. บุกค้นและยึดของกลาง ยาเสพติดจำนวนมหาศาลที่บ้านพัก สร้างความตกตะลึงให้แฟนเพลง และวงการบันเทิงไทยอีกครั้ง 😱🎤

    📌 จุดเริ่มต้นของการจับกุม ที่สั่นสะเทือนวงการ หน่วยงานความมั่นคงจีน ได้จับกุมคนไทย ที่ลักลอบขนยาเสพติด เข้าไปในประเทศจีน และได้ประสานข้อมูลกับสำนักงาน ป.ป.ส. ไทย อย่างรวดเร็ว ข้อมูลที่ได้ กลายเป็นกุญแจสำคัญ ในการขยายผลสืบสวน จนพบเครือข่ายค้ายาข้ามชาติ ที่มีแกนนำเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ในวงการบันเทิงไทย

    เมื่อข้อมูลจากจีนถึงมือ ป.ป.ส. ไทย เจ้าหน้าที่จึงเริ่มดำเนินการสืบสวนขยายผล ในเครือข่ายผู้ซื้อ-ผู้ขายผ่านช่องทางออนไลน์ 📱💻 กระทั่งพบเบาะแสที่นำไปสู่การจับกุม “แซ็ก-วัชรพล ปานพุ่ม” ขณะที่แซ็กทำการติดต่อซื้อยาเสพติด ในจังหวะที่เจ้าหน้าที่จับกุมผู้จัดการดารา โดยพบว่าแซ็กมีพฤติกรรมเกี่ยวข้อง กับการค้ายาอย่างต่อเนื่อง และเป็นขาประจำในวงการนี้มานานแล้ว

    🚨 ภารกิจบุกค้นจับกุม! พบของกลางยาเสพติดเพียบ ป.ป.ส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของ “แซ็ก I-ZAX” และตรวจยึดของกลาง เป็นยาเสพติดหลายประเภท ทั้ง

    - ยาบ้า
    - ไอซ์ เมทแอมเฟตามีน พิ้งค์โกลด์ สีทอง
    - เอ็กซ์ตาซี
    - เคตามีน
    - MDMA

    รวมไปถึงอุปกรณ์เสพ และชั่งตวงวัดน้ำหนักยา ที่บ่งชี้ถึงการกระจายสินค้า ในระดับแกนนำหัวจ่าย ของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ 🚔📦

    การค้นพบครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้ชื่อของ “แซ็ก I-ZAX” ติดอันดับข่าวหน้าหนึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายผล เพื่อจับกุมศิลปิน และดาราในวงการบันเทิง ที่เกี่ยวข้องกับการเสพ และค้ายาอีกหลายราย 🎭💊

    🎸 จากตำนานวงร็อก สู่ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ เส้นทางศิลปินของ I-ZAX วงดนตรีขวัญใจวัยรุ่นยุค 2000 ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2545 ในนาม ไอ-แซ็ก (I-ZAX)

    สมาชิกดั้งเดิม 5 คน ได้แก่
    - พัชรพล ปานพุ่ม หรือแซ็ก นักร้องนำ
    - พงศภัค ทองเจริญ หรือเพชร มือกีตาร์
    - ชัชวาล พูลผล หรือชัช มือเบส
    - จาตุรงค์ เนื่องจำนงค์ หรือจา มือกลอง
    - คำรณ เต่าทอง หรือยา มือคีย์บอร์ด

    มีผลงานอัลบั้มดัง เช่น
    🎶 คนรักกัน (2545)
    🎶 ใจถึงใจ (2547)
    🎶 Tag Team (2549)

    เพลงฮิตระดับชาติอย่าง "ดอกไม้กับหัวใจ", "ปวดใจ" และ "เขียนใจให้เป็นเพลง" เคยทำให้ “แซ็ก” กลายเป็นขวัญใจแฟนเพลงทั่วประเทศ

    🕵️‍♂️ ความจริงอีกด้าน ที่ซ่อนอยู่หลังไมค์ หลังจากห่างหายไปจากวงการเพลง เนื่องจากอาการป่วยไทรอยด์เป็นพิษ แซ็กได้กลับมาร่วมรายการ The Mask Mirror ในปี 2562 ใต้หน้ากาก “น้ำพริกหมู” พร้อมเล่าประสบการณ์ ที่ทุกข์ทรมานจากโรคร้าย จนแฟนเพลงหลายคน ต่างสงสารและเห็นใจ ❤️‍🩹

    แต่เบื้องหลังชีวิตใหม่ ที่ดูเหมือนจะสดใส กลับมีความลับมืดดำซ่อนอยู่! จากการสืบสวนพบว่า แซ็กกลับเข้าไปพัวพัน กับเครือข่ายยาเสพติดอีกครั้ง และในฐานะ “แกนนำระดับหัวจ่าย” ซึ่งมีเครือข่ายลูกค้ามากมาย รวมถึงศิลปิน และดาราในวงการบันเทิงด้วย 💼💸

    ⚖️ ผลกระทบต่อวงการบันเทิง และดนตรีไทย การจับกุมแซ็กในครั้งนี้ ไม่เพียงทำให้วงการเพลงสะเทือนเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนแรง ถึงวงการบันเทิงไทยว่า ยาเสพติดยังคงเป็นภัยร้าย ที่แฝงตัวในทุกแวดวงสังคม 🚫💉

    ป.ป.ส. เตรียมขยายผลการจับกุม ไปยังเครือข่ายดารา-ศิลปิน ที่เกี่ยวข้องกับแซ็ก I-ZAX อย่างละเอียด และจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติม ในเร็ววันนี้

    📢 ยาเสพติดไม่เพียงแต่ ทำลายชีวิตของผู้ใช้เท่านั้น แต่ยังทำลายอนาคต สังคม และครอบครัวอีกด้วย ❌🧬 โทษจำคุกสูงสุดถึง โทษประหารชีวิต การครอบครองยาเสพติดประเภท 1 เช่น ไอซ์, เฮโรอีน, MDMA การจำหน่ายหรือผลิต มีโทษหนักทั้งจำคุกตลอดชีวิต และโทษปรับมหาศาล

    การเลือกเดินทางผิดของแซ็ก I-ZAX ถือเป็นกรณีศึกษาเตือนใจทุกคน ที่อาจหลงผิดในเส้นทางอันตรายนี้ 🛑

    🛡️ สรุปบทเรียนจากคดี “แซ็ก I-ZAX” เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
    ✅ ไม่มีใครหนีพ้นความยุติธรรม
    ✅ ชื่อเสียงและความสำเร็จ ไม่ได้ช่วยปกป้องจากผลของการกระทำผิด
    ✅ วงการบันเทิงควรมีการตรวจสอบภายใน และให้ความสำคัญกับสุขภาพจิต และจริยธรรมของศิลปิน

    ✍️ การจับกุม “แซ็ก-วัชรพล ปานพุ่ม” ถือเป็นข่าวใหญ่ที่สะท้อนปัญหาลึก ในสังคมบันเทิงไทย วง I-ZAX ที่เคยเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ กลับกลายเป็นข่าวฉาวระดับชาติ สังคมจึงควรตระหนัก และร่วมมือกันต่อต้านยาเสพติดในทุกมิติ 🚫🕊️

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 181605 มี.ค. 2568

    📌 #แซ็กIZAX #ค้ายาเสพติด #ปปสจับแซ็ก #ข่าวดารา #ข่าวดังวันนี้ #IZAXวงร็อก #ข่าววงการเพลง #ยาเสพติดข้ามชาติ #ข่าวด่วนไทย #จับกุมนักร้องดัง
    ปปส. จับนักร้องนำ I-ZAX “แซ็ก-วัชรพล ปานพุ่ม” แกนนำขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ 🌐⚖️ ปลุกกระแสวงการเพลงร็อกไทยให้สั่นสะเทือน! ข่าวใหญ่ที่ทุกคนไม่คาดคิด นักร้องนำวงร็อกระดับตำนาน “แซ็ก-วัชรพล ปานพุ่ม” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “แซ็ก I-ZAX” ถูกจับในคดีค้ายาเสพติดข้ามชาติ โดยสำนักงาน ป.ป.ส. บุกค้นและยึดของกลาง ยาเสพติดจำนวนมหาศาลที่บ้านพัก สร้างความตกตะลึงให้แฟนเพลง และวงการบันเทิงไทยอีกครั้ง 😱🎤 📌 จุดเริ่มต้นของการจับกุม ที่สั่นสะเทือนวงการ หน่วยงานความมั่นคงจีน ได้จับกุมคนไทย ที่ลักลอบขนยาเสพติด เข้าไปในประเทศจีน และได้ประสานข้อมูลกับสำนักงาน ป.ป.ส. ไทย อย่างรวดเร็ว ข้อมูลที่ได้ กลายเป็นกุญแจสำคัญ ในการขยายผลสืบสวน จนพบเครือข่ายค้ายาข้ามชาติ ที่มีแกนนำเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ในวงการบันเทิงไทย เมื่อข้อมูลจากจีนถึงมือ ป.ป.ส. ไทย เจ้าหน้าที่จึงเริ่มดำเนินการสืบสวนขยายผล ในเครือข่ายผู้ซื้อ-ผู้ขายผ่านช่องทางออนไลน์ 📱💻 กระทั่งพบเบาะแสที่นำไปสู่การจับกุม “แซ็ก-วัชรพล ปานพุ่ม” ขณะที่แซ็กทำการติดต่อซื้อยาเสพติด ในจังหวะที่เจ้าหน้าที่จับกุมผู้จัดการดารา โดยพบว่าแซ็กมีพฤติกรรมเกี่ยวข้อง กับการค้ายาอย่างต่อเนื่อง และเป็นขาประจำในวงการนี้มานานแล้ว 🚨 ภารกิจบุกค้นจับกุม! พบของกลางยาเสพติดเพียบ ป.ป.ส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของ “แซ็ก I-ZAX” และตรวจยึดของกลาง เป็นยาเสพติดหลายประเภท ทั้ง - ยาบ้า - ไอซ์ เมทแอมเฟตามีน พิ้งค์โกลด์ สีทอง - เอ็กซ์ตาซี - เคตามีน - MDMA รวมไปถึงอุปกรณ์เสพ และชั่งตวงวัดน้ำหนักยา ที่บ่งชี้ถึงการกระจายสินค้า ในระดับแกนนำหัวจ่าย ของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ 🚔📦 การค้นพบครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้ชื่อของ “แซ็ก I-ZAX” ติดอันดับข่าวหน้าหนึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายผล เพื่อจับกุมศิลปิน และดาราในวงการบันเทิง ที่เกี่ยวข้องกับการเสพ และค้ายาอีกหลายราย 🎭💊 🎸 จากตำนานวงร็อก สู่ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ เส้นทางศิลปินของ I-ZAX วงดนตรีขวัญใจวัยรุ่นยุค 2000 ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2545 ในนาม ไอ-แซ็ก (I-ZAX) สมาชิกดั้งเดิม 5 คน ได้แก่ - พัชรพล ปานพุ่ม หรือแซ็ก นักร้องนำ - พงศภัค ทองเจริญ หรือเพชร มือกีตาร์ - ชัชวาล พูลผล หรือชัช มือเบส - จาตุรงค์ เนื่องจำนงค์ หรือจา มือกลอง - คำรณ เต่าทอง หรือยา มือคีย์บอร์ด มีผลงานอัลบั้มดัง เช่น 🎶 คนรักกัน (2545) 🎶 ใจถึงใจ (2547) 🎶 Tag Team (2549) เพลงฮิตระดับชาติอย่าง "ดอกไม้กับหัวใจ", "ปวดใจ" และ "เขียนใจให้เป็นเพลง" เคยทำให้ “แซ็ก” กลายเป็นขวัญใจแฟนเพลงทั่วประเทศ 🕵️‍♂️ ความจริงอีกด้าน ที่ซ่อนอยู่หลังไมค์ หลังจากห่างหายไปจากวงการเพลง เนื่องจากอาการป่วยไทรอยด์เป็นพิษ แซ็กได้กลับมาร่วมรายการ The Mask Mirror ในปี 2562 ใต้หน้ากาก “น้ำพริกหมู” พร้อมเล่าประสบการณ์ ที่ทุกข์ทรมานจากโรคร้าย จนแฟนเพลงหลายคน ต่างสงสารและเห็นใจ ❤️‍🩹 แต่เบื้องหลังชีวิตใหม่ ที่ดูเหมือนจะสดใส กลับมีความลับมืดดำซ่อนอยู่! จากการสืบสวนพบว่า แซ็กกลับเข้าไปพัวพัน กับเครือข่ายยาเสพติดอีกครั้ง และในฐานะ “แกนนำระดับหัวจ่าย” ซึ่งมีเครือข่ายลูกค้ามากมาย รวมถึงศิลปิน และดาราในวงการบันเทิงด้วย 💼💸 ⚖️ ผลกระทบต่อวงการบันเทิง และดนตรีไทย การจับกุมแซ็กในครั้งนี้ ไม่เพียงทำให้วงการเพลงสะเทือนเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนแรง ถึงวงการบันเทิงไทยว่า ยาเสพติดยังคงเป็นภัยร้าย ที่แฝงตัวในทุกแวดวงสังคม 🚫💉 ป.ป.ส. เตรียมขยายผลการจับกุม ไปยังเครือข่ายดารา-ศิลปิน ที่เกี่ยวข้องกับแซ็ก I-ZAX อย่างละเอียด และจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติม ในเร็ววันนี้ 📢 ยาเสพติดไม่เพียงแต่ ทำลายชีวิตของผู้ใช้เท่านั้น แต่ยังทำลายอนาคต สังคม และครอบครัวอีกด้วย ❌🧬 โทษจำคุกสูงสุดถึง โทษประหารชีวิต การครอบครองยาเสพติดประเภท 1 เช่น ไอซ์, เฮโรอีน, MDMA การจำหน่ายหรือผลิต มีโทษหนักทั้งจำคุกตลอดชีวิต และโทษปรับมหาศาล การเลือกเดินทางผิดของแซ็ก I-ZAX ถือเป็นกรณีศึกษาเตือนใจทุกคน ที่อาจหลงผิดในเส้นทางอันตรายนี้ 🛑 🛡️ สรุปบทเรียนจากคดี “แซ็ก I-ZAX” เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ✅ ไม่มีใครหนีพ้นความยุติธรรม ✅ ชื่อเสียงและความสำเร็จ ไม่ได้ช่วยปกป้องจากผลของการกระทำผิด ✅ วงการบันเทิงควรมีการตรวจสอบภายใน และให้ความสำคัญกับสุขภาพจิต และจริยธรรมของศิลปิน ✍️ การจับกุม “แซ็ก-วัชรพล ปานพุ่ม” ถือเป็นข่าวใหญ่ที่สะท้อนปัญหาลึก ในสังคมบันเทิงไทย วง I-ZAX ที่เคยเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ กลับกลายเป็นข่าวฉาวระดับชาติ สังคมจึงควรตระหนัก และร่วมมือกันต่อต้านยาเสพติดในทุกมิติ 🚫🕊️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 181605 มี.ค. 2568 📌 #แซ็กIZAX #ค้ายาเสพติด #ปปสจับแซ็ก #ข่าวดารา #ข่าวดังวันนี้ #IZAXวงร็อก #ข่าววงการเพลง #ยาเสพติดข้ามชาติ #ข่าวด่วนไทย #จับกุมนักร้องดัง
    0 Comments 0 Shares 990 Views 0 Reviews
  • เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยจำได้ว่า Storyฯ เคยเขียนว่าพระเอกในเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร> ‘ลู่อี้’ นั้นมีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ วันนี้มาคุยกันกับเกร็ดประวัติศาสตร์จากละครเรื่องนี้ที่ Storyฯ เพิ่งได้กลับมาตั้งใจดูอีกครั้งและพบว่าตัวเองตกหล่นรายละเอียดไปไม่น้อย

    เพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้อาจพอจำได้ว่าในเนื้อเรื่องมีตัวร้ายคือ ‘เหยียนซื่อฟาน’ ซึ่งเป็นลูกชายของขุนนางตัวโกงนาม ‘เหยียนซง’ ซึ่งทั้งสองคนนี้มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ในรัชสมัยขององค์หมิงซื่อจงแห่งราชวง์หมิง โดยเหยียนซงรับตำแหน่งหัวหน้าของคณะขุนนางสูงสุดหรือที่เรียกว่า ‘เน่ยเก๋อ’ (内阁 จึงเป็นที่มาของการเรียกขาน เหยียนซื่อฟานว่า ‘เสี่ยวเก๋อเหล่า’) ในละครมีฉากที่เหยียนซื่อฟานได้ภาพวาด ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ มาและมีการถกกันว่าเป็นภาพของแท้หรือไม่

    Storyฯ เคยเขียนถึงภาพวาด ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ มาแล้วตอนที่คุยกันเกี่ยวกับละคร <สามบุปผาลิขิตฝัน> แต่วันนี้มีรายละเอียดเพิ่มเติม ขอถอดบทสนทนาจากในละครเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร> มาดังนี้
    ... “ได้ยินมาว่าจางเจ๋อตวนใช้เวลาหนึ่งปีก็วาดภาพม้วนยาวนี้เสร็จ นับว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถหายาก... ท่านใต้เท่าสวี่... เชิญท่านลองคุยๆ ดูภาพนี้จริงปลอมหรือไม่อย่างไร” เหยียนซงกล่าว
    ใต้เท้าสวี่เอ่ย “...ตามที่ข้าน้อยทราบมา ภาพนี้ควรมีลายพระอักษรรูปแบบโซ่วจินขององค์ซ่งฮุยจงเป็นคำว่า ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ห้าอักษร... และมีตราประทับมังกรคู่ อีกทั้งมีบทกลอนนำ ภาพนี้ดูแล้วไม่คล้ายเป็นภาพวาดเลียนแบบ” (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า)

    ภาพวาด ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ยาว 528 ซม. สูง 24.8 ซม. เป็นหนึ่งในสิบของภาพโบราณที่มีค่าที่สุดของจีน ถูกวาดขึ้นโดยจางเจ๋อตวน เขาใช้เวลาหนึ่งปีในการวาดภาพนี้จริงหรือไม่ ไม่ปรากฏหลักฐานหรือบันทึกใดกล่าวชัด แต่ภาพนี้เคยตกอยู่ในมือของเหยียนซงจริง! ตอนที่ตระกูลเหยียนถูกลงทัณฑ์และยึดสมบัตินั้น รายชื่อของสมบัติที่ริบได้นั้นยาวถึง 140 หน้ากระดาษและหนึ่งในนั้นก็คือ ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ นี้

    จากบันทึกที่พอแกะรอยกันได้ ว่ากันว่าภาพนี้แรกเริ่มถูกนำถวายองค์ซ่งฮุยจง (ค.ศ. 1522-1566) และพระองค์ทรงเขียนชื่อ ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ขึ้นบนภาพด้วยอักษรในรูปแบบ ‘โซ่วจิน’ ซึ่งเป็นรูปแบบอักษรที่ทรงคิดประดิษฐ์ขึ้นเอง (ดูตัวอย่างจากรูป2 ขวา) เป็นที่ถกเถียงกันต่อมาว่าทรงโปรดภาพนี้หรือไม่เพราะมันไม่ได้ถูกเก็บไว้ในท้องพระคลังแต่ถูกพระราชทานให้ขุนนาง

    หลังจากนั้น ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ผ่านการเดินทางอย่างโชกโชน ในช่วงที่ราชวงศ์จินยึดแผ่นดินซ่งได้สำเร็จนั้น ว่ากันว่ามันถูกเก็บเข้าท้องพระคลังและถูกยักยอกออกมาขายทอดตลาด เป็นช่วงที่มีการเขียนบทนำลงไปหน้าภาพ ต่อมาในสมัยหยวนก็ถูกซื้อเก็บเข้าท้องพระคลังอีกครั้งและถูกยักยอกออกมาขายอีก มีการเสาะหามันเรื่อยมาจนตกมาอยู่ในมือของเหยียนซงในสมัยหมิง โดยที่ก่อนหน้านั้นปรากฏงานลอกเลียนแบบออกมาจำนวนไม่น้อย ต่อมามันถูกริบเป็นสมบัติหลวงอีกครั้งโดยมีการลบตราประทับที่แสดงความเป็นเจ้าของของตระกูลเหยียนออกจากภาพ หลังจากนั้นมันถูกเปลี่ยนมือไปมาในแวดวงขุนนาง โดยไม่แน่ว่าเป็นการได้รับพระราชทานหรือยักยอก และปรากฏบทความนำหน้าภาพขึ้นมาเพิ่มอีก โดยที่ลายพระหัตถ์ขององค์หมิงซื่อจงไม่ทราบว่าหายไปจากภาพตั้งแต่เมื่อใด ผู้ที่ถือครองครั้งสุดท้ายว่ากันว่าคือขันทีนามว่า ‘เฝิงเป่า’ ซึ่งต่อมาถูกลงทัณฑ์ริบสมบัติ

    ภาพนี้หายสาบสูญไปนานกว่าสองร้อยปี แน่นอนว่ามีภาพปลอมจำนวนไม่น้อยปรากฏขึ้น และภาพที่เชื่อว่าเป็นฉบับจริงนี้ปรากฏในตลาดและมาถึงมือของพิพิธภัณฑ์มณฑลเหลียวหนิงในปีค.ศ. 1950 ปัจจุบันถูกเก็บอยู่ในพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้าม

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    บทความของ Storyฯ เกี่ยวกับลู่อี้: https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid0QA8xxCRgWSD6jP6PexAdnrZmEdGAHVxGTu3UXj3CpZfkovdY37ft9rQbauD6KfQzl
    บทความของ Storyฯ เกี่ยวกับชิงหมิงซ่างเหอถู: https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid01MbyBtawx6X9xEHogRvHY8NesM2MVWHUBgYeuujQnFrPFA39dgddSihm4jjXrfiPl

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    http://www.zgsshh.com/Works_body.asp?id=1190&amp;qx=137
    http://www.fengxuelin.com/tougao/16546.html
    http://ent.sina.com.cn/v/m/2017-10-12/doc-ifymviyp0369720.shtml
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.chinanews.com.cn/cul/news/2010/06-21/2352544.shtml
    http://collection.sina.com.cn/jczs/2016-10-26/doc-ifxwztrt0466746.shtml
    https://baike.baidu.com/item/瘦金体/884949

    #ยอดองครักษ์เสื้อแพร #ชิงหมิงซ่างเหอถู #เหยียนซื่อฟาน #ซ่งฮุยจง #อักษรโซ่วจิน
    เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยจำได้ว่า Storyฯ เคยเขียนว่าพระเอกในเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร> ‘ลู่อี้’ นั้นมีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ วันนี้มาคุยกันกับเกร็ดประวัติศาสตร์จากละครเรื่องนี้ที่ Storyฯ เพิ่งได้กลับมาตั้งใจดูอีกครั้งและพบว่าตัวเองตกหล่นรายละเอียดไปไม่น้อย เพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้อาจพอจำได้ว่าในเนื้อเรื่องมีตัวร้ายคือ ‘เหยียนซื่อฟาน’ ซึ่งเป็นลูกชายของขุนนางตัวโกงนาม ‘เหยียนซง’ ซึ่งทั้งสองคนนี้มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ในรัชสมัยขององค์หมิงซื่อจงแห่งราชวง์หมิง โดยเหยียนซงรับตำแหน่งหัวหน้าของคณะขุนนางสูงสุดหรือที่เรียกว่า ‘เน่ยเก๋อ’ (内阁 จึงเป็นที่มาของการเรียกขาน เหยียนซื่อฟานว่า ‘เสี่ยวเก๋อเหล่า’) ในละครมีฉากที่เหยียนซื่อฟานได้ภาพวาด ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ มาและมีการถกกันว่าเป็นภาพของแท้หรือไม่ Storyฯ เคยเขียนถึงภาพวาด ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ มาแล้วตอนที่คุยกันเกี่ยวกับละคร <สามบุปผาลิขิตฝัน> แต่วันนี้มีรายละเอียดเพิ่มเติม ขอถอดบทสนทนาจากในละครเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร> มาดังนี้ ... “ได้ยินมาว่าจางเจ๋อตวนใช้เวลาหนึ่งปีก็วาดภาพม้วนยาวนี้เสร็จ นับว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถหายาก... ท่านใต้เท่าสวี่... เชิญท่านลองคุยๆ ดูภาพนี้จริงปลอมหรือไม่อย่างไร” เหยียนซงกล่าว ใต้เท้าสวี่เอ่ย “...ตามที่ข้าน้อยทราบมา ภาพนี้ควรมีลายพระอักษรรูปแบบโซ่วจินขององค์ซ่งฮุยจงเป็นคำว่า ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ห้าอักษร... และมีตราประทับมังกรคู่ อีกทั้งมีบทกลอนนำ ภาพนี้ดูแล้วไม่คล้ายเป็นภาพวาดเลียนแบบ” (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า) ภาพวาด ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ยาว 528 ซม. สูง 24.8 ซม. เป็นหนึ่งในสิบของภาพโบราณที่มีค่าที่สุดของจีน ถูกวาดขึ้นโดยจางเจ๋อตวน เขาใช้เวลาหนึ่งปีในการวาดภาพนี้จริงหรือไม่ ไม่ปรากฏหลักฐานหรือบันทึกใดกล่าวชัด แต่ภาพนี้เคยตกอยู่ในมือของเหยียนซงจริง! ตอนที่ตระกูลเหยียนถูกลงทัณฑ์และยึดสมบัตินั้น รายชื่อของสมบัติที่ริบได้นั้นยาวถึง 140 หน้ากระดาษและหนึ่งในนั้นก็คือ ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ นี้ จากบันทึกที่พอแกะรอยกันได้ ว่ากันว่าภาพนี้แรกเริ่มถูกนำถวายองค์ซ่งฮุยจง (ค.ศ. 1522-1566) และพระองค์ทรงเขียนชื่อ ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ขึ้นบนภาพด้วยอักษรในรูปแบบ ‘โซ่วจิน’ ซึ่งเป็นรูปแบบอักษรที่ทรงคิดประดิษฐ์ขึ้นเอง (ดูตัวอย่างจากรูป2 ขวา) เป็นที่ถกเถียงกันต่อมาว่าทรงโปรดภาพนี้หรือไม่เพราะมันไม่ได้ถูกเก็บไว้ในท้องพระคลังแต่ถูกพระราชทานให้ขุนนาง หลังจากนั้น ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ผ่านการเดินทางอย่างโชกโชน ในช่วงที่ราชวงศ์จินยึดแผ่นดินซ่งได้สำเร็จนั้น ว่ากันว่ามันถูกเก็บเข้าท้องพระคลังและถูกยักยอกออกมาขายทอดตลาด เป็นช่วงที่มีการเขียนบทนำลงไปหน้าภาพ ต่อมาในสมัยหยวนก็ถูกซื้อเก็บเข้าท้องพระคลังอีกครั้งและถูกยักยอกออกมาขายอีก มีการเสาะหามันเรื่อยมาจนตกมาอยู่ในมือของเหยียนซงในสมัยหมิง โดยที่ก่อนหน้านั้นปรากฏงานลอกเลียนแบบออกมาจำนวนไม่น้อย ต่อมามันถูกริบเป็นสมบัติหลวงอีกครั้งโดยมีการลบตราประทับที่แสดงความเป็นเจ้าของของตระกูลเหยียนออกจากภาพ หลังจากนั้นมันถูกเปลี่ยนมือไปมาในแวดวงขุนนาง โดยไม่แน่ว่าเป็นการได้รับพระราชทานหรือยักยอก และปรากฏบทความนำหน้าภาพขึ้นมาเพิ่มอีก โดยที่ลายพระหัตถ์ขององค์หมิงซื่อจงไม่ทราบว่าหายไปจากภาพตั้งแต่เมื่อใด ผู้ที่ถือครองครั้งสุดท้ายว่ากันว่าคือขันทีนามว่า ‘เฝิงเป่า’ ซึ่งต่อมาถูกลงทัณฑ์ริบสมบัติ ภาพนี้หายสาบสูญไปนานกว่าสองร้อยปี แน่นอนว่ามีภาพปลอมจำนวนไม่น้อยปรากฏขึ้น และภาพที่เชื่อว่าเป็นฉบับจริงนี้ปรากฏในตลาดและมาถึงมือของพิพิธภัณฑ์มณฑลเหลียวหนิงในปีค.ศ. 1950 ปัจจุบันถูกเก็บอยู่ในพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้าม (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) บทความของ Storyฯ เกี่ยวกับลู่อี้: https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid0QA8xxCRgWSD6jP6PexAdnrZmEdGAHVxGTu3UXj3CpZfkovdY37ft9rQbauD6KfQzl บทความของ Storyฯ เกี่ยวกับชิงหมิงซ่างเหอถู: https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid01MbyBtawx6X9xEHogRvHY8NesM2MVWHUBgYeuujQnFrPFA39dgddSihm4jjXrfiPl Credit รูปภาพจากในละครและจาก: http://www.zgsshh.com/Works_body.asp?id=1190&amp;qx=137 http://www.fengxuelin.com/tougao/16546.html http://ent.sina.com.cn/v/m/2017-10-12/doc-ifymviyp0369720.shtml Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.chinanews.com.cn/cul/news/2010/06-21/2352544.shtml http://collection.sina.com.cn/jczs/2016-10-26/doc-ifxwztrt0466746.shtml https://baike.baidu.com/item/瘦金体/884949 #ยอดองครักษ์เสื้อแพร #ชิงหมิงซ่างเหอถู #เหยียนซื่อฟาน #ซ่งฮุยจง #อักษรโซ่วจิน
    0 Comments 0 Shares 827 Views 0 Reviews
  • 12 มีนาคม 2568-เพจวิเคราะห์บอลจริงจังเขียนบทความน่าสนใจว่ามาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ มารับงานตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 สิ่งแรกที่เธอต้องเจอคือ "หนี้สิน" ที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ทิ้งไว้ให้เงินในบัญชีของสมาคม ณ วันนั้น มีทั้งหมด 27.7 ล้านบาท ส่วนหนี้สินมี 132.6 ล้านบาท แปลว่า ยุคของมาดามแป้งต้องเริ่มแบบติดลบ 105 ล้านบาทย้อนกลับไปดูวันสุดท้าย ของพล.ต.อ.สมยศ ในฐานะนายกสมาคม เขาบอกว่า "อิจฉาคนที่จะเข้ามาเป็นนายกฯ คนใหม่ ที่เข้ามาแล้วมีพร้อมทุกอย่าง ตอนที่ผมเข้ามามีแค่กุญแจดอกเดียวใช้เปิดเข้าสมาคม คนเรามันวาสนาไม่เท่ากันจริงๆ" โอเค... พล.ต.อ.สมยศ อาจเริ่มต้นด้วยกุญแจดอกเดียว ไขเข้าไปในห้องแล้วเจอแต่ความว่างเปล่าแต่กับเคสของมาดามแป้ง เธอเอากุญแจดอกนั้นไขเข้าไป แล้วเจอ "กองหนี้สินมหาศาล" ที่เธอไม่ได้ก่อ แต่ต้องเป็นคนชดใช้ในวันนี้ (11 มีนาคม) มาดามแป้งแถลงผลงาน ครบ 1 ปีที่เข้ามาเป็นนายกสมาคม แต่สาเหตุที่สื่อมวลชนมหาศาลมาทำข่าววันนี้ ไม่ใช่เรื่องผลงานดังกล่าว ทุกคนอยากรู้แค่ว่า "มาดามแป้ง จะจัดการปัญหาหนี้สิน 360 ล้านบาทกับสยามสปอร์ตอย่างไร?" ผมขอสรุป 2 คดีของสมาคมกับสยามสปอร์ตนิดเดียวครับ ---------------คดีที่ 1 สยามสปอร์ต ฟ้อง สมาคมฟุตบอล 1,401 ล้านบาท โทษฐานฉีกสัญญาผู้ถือสิทธิประโยชน์ไทยลีก โดยไม่ได้รับความเห็นชอบศาลชั้นต้น : สมาคมต้องจ่ายค่าเสียหาย 50 ล้านบาท บวกดอกเบี้ยศาลอุทธรณ์ : สมาคมต้องจ่ายค่าเสียหาย 450 ล้านบาท บวกดอกเบี้ยศาลฎีกา : สมาคมต้องจ่ายค่าเสียหาย 360 ล้านบาท บวกดอกเบี้ยสมาคมแพ้คดีทุกศาล เพราะต่อให้คุณจะไม่ชอบสัญญาขนาดไหน คุณก็ไปฉีกสัญญาที่เซ็นกันแล้วอย่างถูกต้องไม่ได้ มาดามแป้งบอกว่า หนี้สินไม่ได้มีแค่เงินต้น 360 ล้าน แต่ดอกเบี้ยก็มหาศาลมาก เกิน 200 ล้านบาทแน่นอน---------------คดีที่ 2 สมาคมฟุตบอล ฟ้อง สยามสปอร์ต ขอเอาทรัพย์สินคืน 1,139 ล้านบาท เนื่องจากมองว่าสยามสปอร์ต ทำเงินจากการเป็นผู้ถือสิทธิประโยชน์ แต่ไม่ยอมส่งมอบเงินให้สมาคมศาลชั้นต้น : สยามสปอร์ต ต้องจ่ายค่าเสียหาย 99 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยศาลอุทธรณ์ : ยกฟ้อง ศาลฎีกา : ไม่รับฎีกาคดีที่สมาคมฟ้องสยามสปอร์ต จบแล้วเช่นกัน ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า ไม่มีหลักฐานเพียงพอว่าสยามสปอร์ตกั๊กเงินเอาไว้เอง ทำให้บทสรุปของคดีนี้ สยามสปอร์ตชนะอีกคดี ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายแม้แต่บาทเดียว---------------ในการปะทะกันบนศาลครั้งนี้ สยามสปอร์ตเป็นฝ่ายชนะโดยสมบูรณ์ไปแล้ว ทั้ง 2 คดี และสมาคมต้องหาเงินมหาศาลเอามาชำระหนี้แปลว่า มาดามแป้ง มารับตำแหน่งนายกสมาคม 1 ปี เธอมีหนี้สิ้นเริ่มต้น 105 ล้านบาท ตามด้วยหนี้ก้อนที่สองของสยามสปอร์ต (เงินต้น + ดอกเบี้ย) อีก 560 ล้านบาท รวมแล้วกลมๆ สมาคมมีหนี้สิ้นทั้งหมด 665 ล้านบาท ที่ต้องชดใช้ในทางกฎหมายนั้น คนที่ฉีกสัญญาของสยามสปอร์ตคือ "นิติบุคคล" ไม่ใช่ตัว "สมยศ" แปลว่า ภาระหนี้สิ้นเหล่านี้ มาดามแป้งในฐานะนายกสมาคมคนปัจจุบัน ต้องเป็นคนหาเงินมาชำระให้เจ้าหนี้ถ้าเธอหาเงินไม่ได้ สมาคมอาจจะถูกยึดทรัพย์ สำนักงานที่ทำการสมาคมก็จะโดนยึดเอาไปจ่ายหนี้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นจุดอ่อนไหวของมาดามแป้งอย่างมาก เพราะถ้าสมาคมที่ก่อตั้งมา 110 ปี ต้องล่มสลาย โดนยึดทุกอย่างในยุคของเธอ มันจะเป็นตราบาปที่ติดในใจเธอไปตลอดเมื่อพูดถึงตรงนี้ มาดามแป้งร้องไห้ เธอบอกว่า "แป้งมาด้วยเจตนาดี ทุกคนคงจะเห็นใจแป้งบ้าง สิ่งที่แป้งเจอเนี่ย แป้งทำเต็มที่ ในฐานะผู้หญิงคนแรกที่เป็นนายกสมาคมฟุตบอลคนแรกของทวีปเอเชีย เข้ามาไม่มีอะไรเลย มีแต่หนี้ แป้งไม่เคยดราม่า แต่ว่าแป้งคิดว่า แป้งทำงานมาได้ถึงขนาดนี้ แป้งเต็มที่แล้ว ""แป้งแค่ขอความเห็นใจ และขอกำลังใจ จากแฟนบอลและสื่อมวลชน เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ปัญหานี้ต้องถูกแก้ด้วยแป้งและสภากรรมการ แต่เรื่องหนี้สินมันไม่ได้เกิดขึ้นในยุคแป้ง แต่แป้งต้องมารับทุกสิ่งทุกอย่าง แป้งเป็นคน และเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจเหมือนกัน"ถ้าเราพูดกันแบบตรงๆ เลย ตลอด 1 ปีของมาดามแป้ง เธอก็มีผลงานไม่เลวหลายอย่าง เช่น พาทีมชาติไทยมีอันดับโลกต่ำกว่าร้อย ครั้งแรกในรอบ 16 ปี, หาเงินมาจ่ายให้สโมสรไทยลีกได้สำเร็จ รวมถึง จัดงานฟีฟ่า คองเกรสได้เยี่ยมจนได้รับคำชมแน่นอน มาดามแป้งไม่ได้เพอร์เฟ็กต์ ทุกคนทราบดี เรื่องโปรแกรมเลื่อนไทยลีกจนชุลมุน เธอก็ยังจัดการไม่ดีนัก แต่อย่างน้อย การต่อสู้ในสภาพที่สมาคมเจอหนี้มหาศาลขนาดนี้ ถือว่าโอเคแล้วสำหรับเรื่องการใช้หนี้ เมื่อศาลมีฎีกามาแล้ว ยังไงก็ต้องหาเงินมาชดใช้ โชคดีที่ทางมาดามแป้ง กับ ระวิ โหลทอง เจ้าของสยามสปอร์ต สนิทสนมกันดี ก็อาจจะพอประนีประนอม ยืดเวลาจ่ายกันได้อยู่จริงอยู่ แม้ศาลจะระบุว่า คนที่ต้องใช้หนี้ คือสมาคมฟุตบอลซึ่งเป็นนิติบุคคล แต่มาดามแป้งรู้สึกว่าการกระทำที่สร้างความเสียหายขนาดนี้ ไม่แฟร์เลยที่ พล.ต.อ.สมยศ จะรอดไปดื้อๆ โดยไม่ต้องรับผิดชอบอะไรดังนั้นเธอจึงศึกษาข้อมูล และค้นพบว่ามีประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 76 ที่ระบุว่า "นิติบุคคลที่ต้องชดใช้ความเสียหาย สามารถไล่เบี้ย ฟ้องร้องคืนจากคนที่ก่อความเสียหายได้" มาดามแป้ง จึงเตรียมฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ และ สภากรรมการชุดก่อน ในมาตรา 76 นี้ โทษฐานฉีกสัญญากับสยามสปอร์ตโดยพลการ จนสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับสมาคม เรื่องนี้จะขึ้นสู่ศาลแน่นอน ก็ต้องมาดูกันว่า สมาคมฟุตบอลจะสามารถทวงเงินคืนสักก้อน จากพล.ต.อ.สมยศ และสภากรรมการชุดเก่าได้หรือไม่ ---------------ในงานแถลงข่าวครั้งนี้ ไฮไลท์ของจริง ที่มาดามแป้งอยากเล่า ไม่ใช่คดีของสยามสปอร์ต แต่เป็นการแฉพล.ต.อ.สมยศ แบบ "เละ" อัดทุกอย่างจนกระจุยไปหมด ในวันแรกที่มาดามแป้งมารับงานเป็นนายกสมาคมคนใหม่ เมื่อเจอหนี้สินร้อยล้านกว่าบาท ทำให้เธอตั้งคำถามว่า แล้วเงินก้อนต่างๆ ที่สมาคมได้รับมาก่อนหน้านี้ หายไปไหนหมด?ทำให้เธอตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจชื่อ "คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน" นำโดย นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.พรรคเพื่อไทย จากจังหวัดเลย ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องคดีฟอกเงิน มาไล่เช็กรายรับ-รายจ่าย ของสมาคมยุคก่อนว่า เงินมันไปอยู่ไหนบ้างสิ่งที่ค้นเจอจากการตรวจสอบมีหลายอย่าง ที่แปลก [ เรื่องแปลกอย่างที่ 1 ] คดีที่สมาคม ฟ้อง สยามสปอร์ต 1,139 ล้านบาท สมาคมของพล.ต.อ.สมยศ ได้ติดต่อทนายความเอาไว้ และมีการตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายการว่าความแล้วเรียบร้อยศาลชั้นต้น 750,000 บาท, ศาลอุทธรณ์ 300,000 บาท และ ศาลฎีกา 300,000 บาท เป็นค่าวิชาชีพของทีมทนายความในศาลชั้นต้น กับ ศาลอุทธรณ์ก็จ่ายกันไป ตามราคา แต่พอถึงศาลฎีกา (ที่ศาลไม่รับฟ้องด้วย) จากตัวเลขที่ตกลงกัน 3 แสนบาท อยู่ๆ ทางสมาคมไปจ่ายให้ทนายความ เป็นจำนวน 30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมาดื้อๆ 100 เท่าโดยการจ่ายเงิน 30 ล้านบาท เกิดขึ้นก่อน พล.ต.อ.สมยศ จะหมดวาระไม่ถึง 1 เดือนเท่านั้น ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า เป็นไปได้หรือ ที่จะว่าความด้วยราคา 30 ล้านบาท? แล้วทำไมถึงจ่ายแพงกว่าร้อยเท่าจากเดิมที่ตกลงกัน นี่คือการ "ทิ้งทวน" เอาเงินก้อนสุดท้าย ก่อนจะอำลาตำแหน่งหรือเปล่า ก็ไม่สามารถตอบได้[ เรื่องแปลกอย่างที่ 2 ] ทุกๆ ปี ฟีฟ่าจะจ่ายเงินสนับสนุนให้สมาคมฟุตบอลทั่วโลกปีละ 1,250,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่พอมาดามแป้งเข้ามาทำงานในปีแรก ฟีฟ่ากลับจ่ายให้แค่ 750,000 ดอลลาร์เท่านั้น หายไป 5 แสนเหรียญทีมงานของมาดามแป้งจึงไปค้นข้อมูล ปรากฏว่า สมาคมยุคพล.ต.อ.สมยศ ไปขอกู้เงินจากฟีฟ่า ในวันที่ 9 ตุลาคม 2563 เป็นจำนวน 5 ล้านดอลลาร์ (155 ล้านบาท)ฟีฟ่าจ่ายให้ 5 ล้านดอลลาร์ตามคำขอ โดยแจ้งสมาคมให้ชดใช้คืน ด้วยการผ่อนจ่าย 10 ปี (2564-2573) ปีละ 5 แสนดอลลาร์ ซึ่งทางฟีฟ่าจะหักเอาเลย จากเงินสนับสนุนที่จะให้สมาคมเป็นรายปีนั่นคือเหตุผลที่สมาคมยุคมาดามแป้ง จะเงินหายไป 5 แสนเหรียญ (16.8 ล้านบาท) ทุกปี จนถึงปี 2573นี่เป็นเรื่องที่มาดามแป้งเฮิร์ทมาก เพราะเธอหมดวาระนายกสมาคม ในปี 2571 เท่ากับว่าเธอต้องจ่าย 5 แสนเหรียญที่ พล.ต.อ.สมยศก่อขึ้นมาไปเรื่อยๆ จนจบวาระของเธอเลยด้วยซ้ำขณะที่ 5 ล้านดอลลาร์ที่ได้มาจากฟีฟ่าตอนแรกสุด ก็ไม่รู้อยู่ไหนแล้ว จับมือใครดมไม่ได้ มีข่าวว่าเอามาใช้จ่ายในช่วงโควิด ที่ไม่มีรายได้ แต่ก็ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง[ เรื่องแปลกอย่างที่ 3 ]พล.ต.อ.สมยศ ตัดสินใจขาย Data Analytics และ Gaming Right ของ ฟุตบอลไทยลีก และ ทีมชาติไทย ให้กับบริษัท Perform จากมาเลเซียทั้งสองอย่างคือ สิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดของฟุตบอลไทย เช่น เปอร์เซ็นต์การครองบอล, จำนวนใบเหลือง-ใบเหลือง, จำนวนนาทีที่ลงสนาม, ระยะทางการวิ่งของผู้เล่นแต่ละคน ข้อมูลเหล่านี้ สามารถเอาไปใช้ในอะไรก็ได้ เช่น เอาไปสร้างเกมแฟนตาซี, เอาไปใช้เป็นข้อมูลสำหรับโต๊ะพนัน หรือถ้าคิด worst case คือเอาสถิติเหล่านี้มาศึกษาทั้งไทยลีก หรือทีมชาติก็ได้ เพื่อที่ชาติเพื่อนบ้านจะได้แซงหน้าเราไปได้ในอนาคต พล.ต.อ.สมยศ ขายสิทธิ์ Data Analytics และ Gaming Right ยาวไปจนถึงปี 2571 ซึ่งมาดามแป้ง พยายามขอซื้อคืน เพราะไม่อยากให้ข้อมูลบอลไทยรั่วไหล แต่บริษัท Perform ไม่ขาย เงินที่ได้จากการขายลิขสิทธิ์ก้อนนี้ "ไม่รู้อยู่ไหน" แต่ปัญหาไม่ใช่แค่เรื่องเงินเท่านั้น มันเป็นข้อมูลภายในของฟุตบอลไทย ที่ไม่รู้ว่าประเทศอื่นจะเอาไปใช้ทำอะไรก็ไม่รู้ เป็นเรื่องที่น่ากังวลเหมือนกัน[ เรื่องแปลกอย่างที่ 4 ]ในวงการฟุตบอลไทยนั้น เป็นธรรมเนียม ที่นายกสมาคมจะไม่รับเงินเดือนกัน คือผมไม่ได้บอกว่า ดีหรือเปล่า แต่ธรรมเนียมปฏิบัติเขาทำกันมาแบบนี้ คนที่ลงสมัครนายกสมาคมจะรู้แต่แรกโดยธรรมชาติอย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สมยศ เป็นคนแรกที่รับเงินเดือนในฐานะนายกสมาคม โดยตั้งเงินเดือนให้ตัวเอง เป็นจำนวน 5 แสนบาท ไม่เพียงแค่นั้น ยังรับเงินอีกทาง ในฐานะผู้บริหารของบริษัท ไทยลีก อีกจำนวน 5 แสนบาท รวมแล้วเป็นเงินทั้งสิ้นเดือนละ 1 ล้านบาทเคยมีคนไปสอบถามในเรื่องนี้ แต่พล.ต.อ.สมยศ ก็อธิบายว่า รับเงินเดือนมาก็จริง แต่ก็มีการบริจาคกลับคืนให้สมาคม เป็นจำนวน 32 ล้านบาท ไม่ได้เอาไปทั้งหมดขนาดนั้นปัญหาในเรื่องนี้คือ ทีมตรวจสอบของมาดามแป้งไปหาเงิน 32 ล้านที่ว่านี้ และ "ยังไม่พบ" จนถึงตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าเงินก้อนนี้อยู่ไหน ไม่รู้ว่ามีการบริจาคจริงตามที่พูดหรือเปล่า---------------มาดามแป้งใช้เวลาแถลงข่าวทั้งหมด 64 นาที เล่าทุกอย่าง แบบตรงไปตรงมา เธอยืนยันว่า "ไม่ได้มีปัญหาส่วนตัว กับ พล.ต.อ.สมยศ แต่จำเป็นต้องทำ เพื่อทวงเงินที่เป็นของสมาคมกลับคืนมา เพราะสมาคมฟุตบอลต้องเดินหน้าต่อไปให้ได้" ทีนี้ เมื่อฝั่งสมาคมโจมตีใส่อย่างหนักหน่วงแล้ว ก็ถึงคิวของ พล.ต.อ.สมยศ ต้องออกมาอธิบายตัวเอง ว่าข้อสงสัยต่างๆ ที่มาดามแป้งพูดถึงนั้น มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ค่าทนาย 30 ล้าน มันก็แปลกจริงๆ นั่นแหละน่าคิดนะ ว่าเงินก้อนโตที่เข้าออกสมาคม จำนวนมากกว่าร้อยล้าน สุดท้ายมันหายไปไหนหมด ทำไมเหลือแต่หนี้สินทิ้งเอาไว้สำหรับประเด็นที่เราต้องติดตาม มีหลายอย่าง เช่น ในปี 2571 ที่จะหมดสัญญากับผู้ถือสิทธิประโยชน์รายปัจจุบัน (แพลนบี) และ เจ้าของลิขสิทธิ์เสื้อแข่งทีมชาติ (วอร์ริกซ์) สมาคมจะเดินหมากอย่างไรต่อ จะเซ็นกัน 8 ปีแบบเดิมอีกไหม รวมถึง การเจรจาหาทางชำระหนี้สยามสปอร์ตจะทำอย่างไร เมื่อไม่มีเงินในบัญชีเลย จะเล่นแร่แปรธาตุ หาเงินจากไหนได้บ้าง? นี่คือช่วงเวลาที่มาดามแป้งต้องใช้กลยุทธ์ธุรกิจทุกอย่าง รวมถึงคอนเน็กชั่นทั้งหมดที่เธอมี ในการประคองให้สมาคมรอดพ้นวิกฤติไปให้ได้หลังจบงานแถลงข่าว มาดามแป้งเดินมาขอบคุณสื่อมวลชน และพอเธอเดินมาถึง ผมถามเธอว่า "เจอแบบนี้ ภาระหนี้สินหลายร้อยล้านที่ตัวเองไม่ได้ก่อ เคยคิดจะลาออกไหมครับ?" มาดามแป้ง หยุดคิด แล้วตอบผมว่า "เคยคิดนะคะ" "แต่เราได้กำลังใจจากคนมากมาย นายกสมาคมประเทศอื่นในเอเชีย ก็บอกว่าอยู่ต่อเถอะ เพราะเราทำงานได้ดีแล้ว มันก็เลยมีพลังที่จะสู้ต่อ""และที่สำคัญ ถ้าเราไม่ทำ ถ้าเราไม่แก้ปัญหานี้ แล้วจะปล่อยให้ใครจะมาแก้ ดังนั้นก็ต้องสู้ค่ะ"ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวการแถลงข่าว ที่เดือดดาลที่สุดของสมาคมฟุตบอล มาดามแป้งเริ่มด้วยเสียงหัวเราะ รอยยิ้มในการแถลงผลงาน ตามด้วยอารมณ์โมโห ก่อนจะปิดท้ายด้วยน้ำตาเข้าใจเธอครับ ถ้าอยู่ๆ ต้องมารับภาระหนี้สินร้อยล้านแบบไม่ทันตั้งตัวขนาดนี้ คงทั้งแค้น ทั้งเศร้าเป็นธรรมดาการเป็นผู้นำองค์กร ที่ต้องแบกรับความคาดหวังทุกอย่าง มันไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ วันนี้มาดามแป้งทำให้เห็นว่า เธอก็คือมนุษย์คนหนึ่งที่มีความอ่อนไหว เสียใจได้ ร้องไห้เป็น แต่แม้จะเสียใจแค่ไหน ก็ต้องปาดน้ำตาแล้วแก้ปัญหากันต่อปิดท้ายในเรื่องนี้ สิ่งที่น่าจับตาที่สุดคือ ความโปร่งใสของอดีตนายกฯ สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่เข้ามารับตำแหน่ง กับสโลแกนว่า "มาจับโจร" แต่ตอนนี้กลับโดนข้อครหามากมาย เหมือนว่าเขาเป็นโจรเสียเองสมมุติว่า เขาไม่ได้ทำอะไรผิด บริหารงานด้วยความบริสุทธิ์ใจมาตลอด ก็ไม่เห็นต้องกลัวการตรวจสอบ คนซื่อสัตย์ย่อมต้องหาคำอธิบายทุกอย่างได้อยู่แล้ว แต่ในทางตรงข้าม ถ้ามีจิตใจคิดทุจริต หวังใช้สมาคมฟุตบอลในการกอบโกยผลประโยชน์ล่ะก็ รับรองได้ว่าเรื่องนี้ จะไม่จบง่ายๆ อย่างแน่นอนเพราะถ้าหากคนเป็นผู้นำ ยังไม่ตรงไปตรงมา มีนอกมีในอยู่ตลอด แล้วอนาคตของวงการฟุตบอลไทยจะเป็นอย่างไร ... แค่คิดก็สิ้นหวังแล้ว
    12 มีนาคม 2568-เพจวิเคราะห์บอลจริงจังเขียนบทความน่าสนใจว่ามาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ มารับงานตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 สิ่งแรกที่เธอต้องเจอคือ "หนี้สิน" ที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ทิ้งไว้ให้เงินในบัญชีของสมาคม ณ วันนั้น มีทั้งหมด 27.7 ล้านบาท ส่วนหนี้สินมี 132.6 ล้านบาท แปลว่า ยุคของมาดามแป้งต้องเริ่มแบบติดลบ 105 ล้านบาทย้อนกลับไปดูวันสุดท้าย ของพล.ต.อ.สมยศ ในฐานะนายกสมาคม เขาบอกว่า "อิจฉาคนที่จะเข้ามาเป็นนายกฯ คนใหม่ ที่เข้ามาแล้วมีพร้อมทุกอย่าง ตอนที่ผมเข้ามามีแค่กุญแจดอกเดียวใช้เปิดเข้าสมาคม คนเรามันวาสนาไม่เท่ากันจริงๆ" โอเค... พล.ต.อ.สมยศ อาจเริ่มต้นด้วยกุญแจดอกเดียว ไขเข้าไปในห้องแล้วเจอแต่ความว่างเปล่าแต่กับเคสของมาดามแป้ง เธอเอากุญแจดอกนั้นไขเข้าไป แล้วเจอ "กองหนี้สินมหาศาล" ที่เธอไม่ได้ก่อ แต่ต้องเป็นคนชดใช้ในวันนี้ (11 มีนาคม) มาดามแป้งแถลงผลงาน ครบ 1 ปีที่เข้ามาเป็นนายกสมาคม แต่สาเหตุที่สื่อมวลชนมหาศาลมาทำข่าววันนี้ ไม่ใช่เรื่องผลงานดังกล่าว ทุกคนอยากรู้แค่ว่า "มาดามแป้ง จะจัดการปัญหาหนี้สิน 360 ล้านบาทกับสยามสปอร์ตอย่างไร?" ผมขอสรุป 2 คดีของสมาคมกับสยามสปอร์ตนิดเดียวครับ ---------------คดีที่ 1 สยามสปอร์ต ฟ้อง สมาคมฟุตบอล 1,401 ล้านบาท โทษฐานฉีกสัญญาผู้ถือสิทธิประโยชน์ไทยลีก โดยไม่ได้รับความเห็นชอบศาลชั้นต้น : สมาคมต้องจ่ายค่าเสียหาย 50 ล้านบาท บวกดอกเบี้ยศาลอุทธรณ์ : สมาคมต้องจ่ายค่าเสียหาย 450 ล้านบาท บวกดอกเบี้ยศาลฎีกา : สมาคมต้องจ่ายค่าเสียหาย 360 ล้านบาท บวกดอกเบี้ยสมาคมแพ้คดีทุกศาล เพราะต่อให้คุณจะไม่ชอบสัญญาขนาดไหน คุณก็ไปฉีกสัญญาที่เซ็นกันแล้วอย่างถูกต้องไม่ได้ มาดามแป้งบอกว่า หนี้สินไม่ได้มีแค่เงินต้น 360 ล้าน แต่ดอกเบี้ยก็มหาศาลมาก เกิน 200 ล้านบาทแน่นอน---------------คดีที่ 2 สมาคมฟุตบอล ฟ้อง สยามสปอร์ต ขอเอาทรัพย์สินคืน 1,139 ล้านบาท เนื่องจากมองว่าสยามสปอร์ต ทำเงินจากการเป็นผู้ถือสิทธิประโยชน์ แต่ไม่ยอมส่งมอบเงินให้สมาคมศาลชั้นต้น : สยามสปอร์ต ต้องจ่ายค่าเสียหาย 99 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยศาลอุทธรณ์ : ยกฟ้อง ศาลฎีกา : ไม่รับฎีกาคดีที่สมาคมฟ้องสยามสปอร์ต จบแล้วเช่นกัน ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า ไม่มีหลักฐานเพียงพอว่าสยามสปอร์ตกั๊กเงินเอาไว้เอง ทำให้บทสรุปของคดีนี้ สยามสปอร์ตชนะอีกคดี ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายแม้แต่บาทเดียว---------------ในการปะทะกันบนศาลครั้งนี้ สยามสปอร์ตเป็นฝ่ายชนะโดยสมบูรณ์ไปแล้ว ทั้ง 2 คดี และสมาคมต้องหาเงินมหาศาลเอามาชำระหนี้แปลว่า มาดามแป้ง มารับตำแหน่งนายกสมาคม 1 ปี เธอมีหนี้สิ้นเริ่มต้น 105 ล้านบาท ตามด้วยหนี้ก้อนที่สองของสยามสปอร์ต (เงินต้น + ดอกเบี้ย) อีก 560 ล้านบาท รวมแล้วกลมๆ สมาคมมีหนี้สิ้นทั้งหมด 665 ล้านบาท ที่ต้องชดใช้ในทางกฎหมายนั้น คนที่ฉีกสัญญาของสยามสปอร์ตคือ "นิติบุคคล" ไม่ใช่ตัว "สมยศ" แปลว่า ภาระหนี้สิ้นเหล่านี้ มาดามแป้งในฐานะนายกสมาคมคนปัจจุบัน ต้องเป็นคนหาเงินมาชำระให้เจ้าหนี้ถ้าเธอหาเงินไม่ได้ สมาคมอาจจะถูกยึดทรัพย์ สำนักงานที่ทำการสมาคมก็จะโดนยึดเอาไปจ่ายหนี้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นจุดอ่อนไหวของมาดามแป้งอย่างมาก เพราะถ้าสมาคมที่ก่อตั้งมา 110 ปี ต้องล่มสลาย โดนยึดทุกอย่างในยุคของเธอ มันจะเป็นตราบาปที่ติดในใจเธอไปตลอดเมื่อพูดถึงตรงนี้ มาดามแป้งร้องไห้ เธอบอกว่า "แป้งมาด้วยเจตนาดี ทุกคนคงจะเห็นใจแป้งบ้าง สิ่งที่แป้งเจอเนี่ย แป้งทำเต็มที่ ในฐานะผู้หญิงคนแรกที่เป็นนายกสมาคมฟุตบอลคนแรกของทวีปเอเชีย เข้ามาไม่มีอะไรเลย มีแต่หนี้ แป้งไม่เคยดราม่า แต่ว่าแป้งคิดว่า แป้งทำงานมาได้ถึงขนาดนี้ แป้งเต็มที่แล้ว ""แป้งแค่ขอความเห็นใจ และขอกำลังใจ จากแฟนบอลและสื่อมวลชน เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ปัญหานี้ต้องถูกแก้ด้วยแป้งและสภากรรมการ แต่เรื่องหนี้สินมันไม่ได้เกิดขึ้นในยุคแป้ง แต่แป้งต้องมารับทุกสิ่งทุกอย่าง แป้งเป็นคน และเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจเหมือนกัน"ถ้าเราพูดกันแบบตรงๆ เลย ตลอด 1 ปีของมาดามแป้ง เธอก็มีผลงานไม่เลวหลายอย่าง เช่น พาทีมชาติไทยมีอันดับโลกต่ำกว่าร้อย ครั้งแรกในรอบ 16 ปี, หาเงินมาจ่ายให้สโมสรไทยลีกได้สำเร็จ รวมถึง จัดงานฟีฟ่า คองเกรสได้เยี่ยมจนได้รับคำชมแน่นอน มาดามแป้งไม่ได้เพอร์เฟ็กต์ ทุกคนทราบดี เรื่องโปรแกรมเลื่อนไทยลีกจนชุลมุน เธอก็ยังจัดการไม่ดีนัก แต่อย่างน้อย การต่อสู้ในสภาพที่สมาคมเจอหนี้มหาศาลขนาดนี้ ถือว่าโอเคแล้วสำหรับเรื่องการใช้หนี้ เมื่อศาลมีฎีกามาแล้ว ยังไงก็ต้องหาเงินมาชดใช้ โชคดีที่ทางมาดามแป้ง กับ ระวิ โหลทอง เจ้าของสยามสปอร์ต สนิทสนมกันดี ก็อาจจะพอประนีประนอม ยืดเวลาจ่ายกันได้อยู่จริงอยู่ แม้ศาลจะระบุว่า คนที่ต้องใช้หนี้ คือสมาคมฟุตบอลซึ่งเป็นนิติบุคคล แต่มาดามแป้งรู้สึกว่าการกระทำที่สร้างความเสียหายขนาดนี้ ไม่แฟร์เลยที่ พล.ต.อ.สมยศ จะรอดไปดื้อๆ โดยไม่ต้องรับผิดชอบอะไรดังนั้นเธอจึงศึกษาข้อมูล และค้นพบว่ามีประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 76 ที่ระบุว่า "นิติบุคคลที่ต้องชดใช้ความเสียหาย สามารถไล่เบี้ย ฟ้องร้องคืนจากคนที่ก่อความเสียหายได้" มาดามแป้ง จึงเตรียมฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ และ สภากรรมการชุดก่อน ในมาตรา 76 นี้ โทษฐานฉีกสัญญากับสยามสปอร์ตโดยพลการ จนสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับสมาคม เรื่องนี้จะขึ้นสู่ศาลแน่นอน ก็ต้องมาดูกันว่า สมาคมฟุตบอลจะสามารถทวงเงินคืนสักก้อน จากพล.ต.อ.สมยศ และสภากรรมการชุดเก่าได้หรือไม่ ---------------ในงานแถลงข่าวครั้งนี้ ไฮไลท์ของจริง ที่มาดามแป้งอยากเล่า ไม่ใช่คดีของสยามสปอร์ต แต่เป็นการแฉพล.ต.อ.สมยศ แบบ "เละ" อัดทุกอย่างจนกระจุยไปหมด ในวันแรกที่มาดามแป้งมารับงานเป็นนายกสมาคมคนใหม่ เมื่อเจอหนี้สินร้อยล้านกว่าบาท ทำให้เธอตั้งคำถามว่า แล้วเงินก้อนต่างๆ ที่สมาคมได้รับมาก่อนหน้านี้ หายไปไหนหมด?ทำให้เธอตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจชื่อ "คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน" นำโดย นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.พรรคเพื่อไทย จากจังหวัดเลย ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องคดีฟอกเงิน มาไล่เช็กรายรับ-รายจ่าย ของสมาคมยุคก่อนว่า เงินมันไปอยู่ไหนบ้างสิ่งที่ค้นเจอจากการตรวจสอบมีหลายอย่าง ที่แปลก [ เรื่องแปลกอย่างที่ 1 ] คดีที่สมาคม ฟ้อง สยามสปอร์ต 1,139 ล้านบาท สมาคมของพล.ต.อ.สมยศ ได้ติดต่อทนายความเอาไว้ และมีการตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายการว่าความแล้วเรียบร้อยศาลชั้นต้น 750,000 บาท, ศาลอุทธรณ์ 300,000 บาท และ ศาลฎีกา 300,000 บาท เป็นค่าวิชาชีพของทีมทนายความในศาลชั้นต้น กับ ศาลอุทธรณ์ก็จ่ายกันไป ตามราคา แต่พอถึงศาลฎีกา (ที่ศาลไม่รับฟ้องด้วย) จากตัวเลขที่ตกลงกัน 3 แสนบาท อยู่ๆ ทางสมาคมไปจ่ายให้ทนายความ เป็นจำนวน 30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมาดื้อๆ 100 เท่าโดยการจ่ายเงิน 30 ล้านบาท เกิดขึ้นก่อน พล.ต.อ.สมยศ จะหมดวาระไม่ถึง 1 เดือนเท่านั้น ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า เป็นไปได้หรือ ที่จะว่าความด้วยราคา 30 ล้านบาท? แล้วทำไมถึงจ่ายแพงกว่าร้อยเท่าจากเดิมที่ตกลงกัน นี่คือการ "ทิ้งทวน" เอาเงินก้อนสุดท้าย ก่อนจะอำลาตำแหน่งหรือเปล่า ก็ไม่สามารถตอบได้[ เรื่องแปลกอย่างที่ 2 ] ทุกๆ ปี ฟีฟ่าจะจ่ายเงินสนับสนุนให้สมาคมฟุตบอลทั่วโลกปีละ 1,250,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่พอมาดามแป้งเข้ามาทำงานในปีแรก ฟีฟ่ากลับจ่ายให้แค่ 750,000 ดอลลาร์เท่านั้น หายไป 5 แสนเหรียญทีมงานของมาดามแป้งจึงไปค้นข้อมูล ปรากฏว่า สมาคมยุคพล.ต.อ.สมยศ ไปขอกู้เงินจากฟีฟ่า ในวันที่ 9 ตุลาคม 2563 เป็นจำนวน 5 ล้านดอลลาร์ (155 ล้านบาท)ฟีฟ่าจ่ายให้ 5 ล้านดอลลาร์ตามคำขอ โดยแจ้งสมาคมให้ชดใช้คืน ด้วยการผ่อนจ่าย 10 ปี (2564-2573) ปีละ 5 แสนดอลลาร์ ซึ่งทางฟีฟ่าจะหักเอาเลย จากเงินสนับสนุนที่จะให้สมาคมเป็นรายปีนั่นคือเหตุผลที่สมาคมยุคมาดามแป้ง จะเงินหายไป 5 แสนเหรียญ (16.8 ล้านบาท) ทุกปี จนถึงปี 2573นี่เป็นเรื่องที่มาดามแป้งเฮิร์ทมาก เพราะเธอหมดวาระนายกสมาคม ในปี 2571 เท่ากับว่าเธอต้องจ่าย 5 แสนเหรียญที่ พล.ต.อ.สมยศก่อขึ้นมาไปเรื่อยๆ จนจบวาระของเธอเลยด้วยซ้ำขณะที่ 5 ล้านดอลลาร์ที่ได้มาจากฟีฟ่าตอนแรกสุด ก็ไม่รู้อยู่ไหนแล้ว จับมือใครดมไม่ได้ มีข่าวว่าเอามาใช้จ่ายในช่วงโควิด ที่ไม่มีรายได้ แต่ก็ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง[ เรื่องแปลกอย่างที่ 3 ]พล.ต.อ.สมยศ ตัดสินใจขาย Data Analytics และ Gaming Right ของ ฟุตบอลไทยลีก และ ทีมชาติไทย ให้กับบริษัท Perform จากมาเลเซียทั้งสองอย่างคือ สิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดของฟุตบอลไทย เช่น เปอร์เซ็นต์การครองบอล, จำนวนใบเหลือง-ใบเหลือง, จำนวนนาทีที่ลงสนาม, ระยะทางการวิ่งของผู้เล่นแต่ละคน ข้อมูลเหล่านี้ สามารถเอาไปใช้ในอะไรก็ได้ เช่น เอาไปสร้างเกมแฟนตาซี, เอาไปใช้เป็นข้อมูลสำหรับโต๊ะพนัน หรือถ้าคิด worst case คือเอาสถิติเหล่านี้มาศึกษาทั้งไทยลีก หรือทีมชาติก็ได้ เพื่อที่ชาติเพื่อนบ้านจะได้แซงหน้าเราไปได้ในอนาคต พล.ต.อ.สมยศ ขายสิทธิ์ Data Analytics และ Gaming Right ยาวไปจนถึงปี 2571 ซึ่งมาดามแป้ง พยายามขอซื้อคืน เพราะไม่อยากให้ข้อมูลบอลไทยรั่วไหล แต่บริษัท Perform ไม่ขาย เงินที่ได้จากการขายลิขสิทธิ์ก้อนนี้ "ไม่รู้อยู่ไหน" แต่ปัญหาไม่ใช่แค่เรื่องเงินเท่านั้น มันเป็นข้อมูลภายในของฟุตบอลไทย ที่ไม่รู้ว่าประเทศอื่นจะเอาไปใช้ทำอะไรก็ไม่รู้ เป็นเรื่องที่น่ากังวลเหมือนกัน[ เรื่องแปลกอย่างที่ 4 ]ในวงการฟุตบอลไทยนั้น เป็นธรรมเนียม ที่นายกสมาคมจะไม่รับเงินเดือนกัน คือผมไม่ได้บอกว่า ดีหรือเปล่า แต่ธรรมเนียมปฏิบัติเขาทำกันมาแบบนี้ คนที่ลงสมัครนายกสมาคมจะรู้แต่แรกโดยธรรมชาติอย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สมยศ เป็นคนแรกที่รับเงินเดือนในฐานะนายกสมาคม โดยตั้งเงินเดือนให้ตัวเอง เป็นจำนวน 5 แสนบาท ไม่เพียงแค่นั้น ยังรับเงินอีกทาง ในฐานะผู้บริหารของบริษัท ไทยลีก อีกจำนวน 5 แสนบาท รวมแล้วเป็นเงินทั้งสิ้นเดือนละ 1 ล้านบาทเคยมีคนไปสอบถามในเรื่องนี้ แต่พล.ต.อ.สมยศ ก็อธิบายว่า รับเงินเดือนมาก็จริง แต่ก็มีการบริจาคกลับคืนให้สมาคม เป็นจำนวน 32 ล้านบาท ไม่ได้เอาไปทั้งหมดขนาดนั้นปัญหาในเรื่องนี้คือ ทีมตรวจสอบของมาดามแป้งไปหาเงิน 32 ล้านที่ว่านี้ และ "ยังไม่พบ" จนถึงตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าเงินก้อนนี้อยู่ไหน ไม่รู้ว่ามีการบริจาคจริงตามที่พูดหรือเปล่า---------------มาดามแป้งใช้เวลาแถลงข่าวทั้งหมด 64 นาที เล่าทุกอย่าง แบบตรงไปตรงมา เธอยืนยันว่า "ไม่ได้มีปัญหาส่วนตัว กับ พล.ต.อ.สมยศ แต่จำเป็นต้องทำ เพื่อทวงเงินที่เป็นของสมาคมกลับคืนมา เพราะสมาคมฟุตบอลต้องเดินหน้าต่อไปให้ได้" ทีนี้ เมื่อฝั่งสมาคมโจมตีใส่อย่างหนักหน่วงแล้ว ก็ถึงคิวของ พล.ต.อ.สมยศ ต้องออกมาอธิบายตัวเอง ว่าข้อสงสัยต่างๆ ที่มาดามแป้งพูดถึงนั้น มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ค่าทนาย 30 ล้าน มันก็แปลกจริงๆ นั่นแหละน่าคิดนะ ว่าเงินก้อนโตที่เข้าออกสมาคม จำนวนมากกว่าร้อยล้าน สุดท้ายมันหายไปไหนหมด ทำไมเหลือแต่หนี้สินทิ้งเอาไว้สำหรับประเด็นที่เราต้องติดตาม มีหลายอย่าง เช่น ในปี 2571 ที่จะหมดสัญญากับผู้ถือสิทธิประโยชน์รายปัจจุบัน (แพลนบี) และ เจ้าของลิขสิทธิ์เสื้อแข่งทีมชาติ (วอร์ริกซ์) สมาคมจะเดินหมากอย่างไรต่อ จะเซ็นกัน 8 ปีแบบเดิมอีกไหม รวมถึง การเจรจาหาทางชำระหนี้สยามสปอร์ตจะทำอย่างไร เมื่อไม่มีเงินในบัญชีเลย จะเล่นแร่แปรธาตุ หาเงินจากไหนได้บ้าง? นี่คือช่วงเวลาที่มาดามแป้งต้องใช้กลยุทธ์ธุรกิจทุกอย่าง รวมถึงคอนเน็กชั่นทั้งหมดที่เธอมี ในการประคองให้สมาคมรอดพ้นวิกฤติไปให้ได้หลังจบงานแถลงข่าว มาดามแป้งเดินมาขอบคุณสื่อมวลชน และพอเธอเดินมาถึง ผมถามเธอว่า "เจอแบบนี้ ภาระหนี้สินหลายร้อยล้านที่ตัวเองไม่ได้ก่อ เคยคิดจะลาออกไหมครับ?" มาดามแป้ง หยุดคิด แล้วตอบผมว่า "เคยคิดนะคะ" "แต่เราได้กำลังใจจากคนมากมาย นายกสมาคมประเทศอื่นในเอเชีย ก็บอกว่าอยู่ต่อเถอะ เพราะเราทำงานได้ดีแล้ว มันก็เลยมีพลังที่จะสู้ต่อ""และที่สำคัญ ถ้าเราไม่ทำ ถ้าเราไม่แก้ปัญหานี้ แล้วจะปล่อยให้ใครจะมาแก้ ดังนั้นก็ต้องสู้ค่ะ"ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวการแถลงข่าว ที่เดือดดาลที่สุดของสมาคมฟุตบอล มาดามแป้งเริ่มด้วยเสียงหัวเราะ รอยยิ้มในการแถลงผลงาน ตามด้วยอารมณ์โมโห ก่อนจะปิดท้ายด้วยน้ำตาเข้าใจเธอครับ ถ้าอยู่ๆ ต้องมารับภาระหนี้สินร้อยล้านแบบไม่ทันตั้งตัวขนาดนี้ คงทั้งแค้น ทั้งเศร้าเป็นธรรมดาการเป็นผู้นำองค์กร ที่ต้องแบกรับความคาดหวังทุกอย่าง มันไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ วันนี้มาดามแป้งทำให้เห็นว่า เธอก็คือมนุษย์คนหนึ่งที่มีความอ่อนไหว เสียใจได้ ร้องไห้เป็น แต่แม้จะเสียใจแค่ไหน ก็ต้องปาดน้ำตาแล้วแก้ปัญหากันต่อปิดท้ายในเรื่องนี้ สิ่งที่น่าจับตาที่สุดคือ ความโปร่งใสของอดีตนายกฯ สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่เข้ามารับตำแหน่ง กับสโลแกนว่า "มาจับโจร" แต่ตอนนี้กลับโดนข้อครหามากมาย เหมือนว่าเขาเป็นโจรเสียเองสมมุติว่า เขาไม่ได้ทำอะไรผิด บริหารงานด้วยความบริสุทธิ์ใจมาตลอด ก็ไม่เห็นต้องกลัวการตรวจสอบ คนซื่อสัตย์ย่อมต้องหาคำอธิบายทุกอย่างได้อยู่แล้ว แต่ในทางตรงข้าม ถ้ามีจิตใจคิดทุจริต หวังใช้สมาคมฟุตบอลในการกอบโกยผลประโยชน์ล่ะก็ รับรองได้ว่าเรื่องนี้ จะไม่จบง่ายๆ อย่างแน่นอนเพราะถ้าหากคนเป็นผู้นำ ยังไม่ตรงไปตรงมา มีนอกมีในอยู่ตลอด แล้วอนาคตของวงการฟุตบอลไทยจะเป็นอย่างไร ... แค่คิดก็สิ้นหวังแล้ว
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 1244 Views 0 Reviews
  • วันนี้มาคุยกันต่ออีกสักนิดกับเกร็ดความรู้ทางวัฒนธรรมจีนจากละครเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร>

    Storyฯ ขอถอดบทสนทนาจากในละครมาคุยกัน เป็นฉากที่พระเอกลู่อี้กับนางเอกจินเซี่ยไปเดินเที่ยวกันแล้วจินเซี่ยเห็นจี้หยกรูปปลา ก็ซื้อให้ลู่อี้เป็นของขวัญ เป็นฉากที่ใต้เท้าลู่สาดน้ำตาลมากมายด้วยสายตา ในฉากนี้จินเซี่ยอธิบายว่า “ทะเลเหนือมีปลา เรียกว่า ‘คุ้น’ ความใหญ่ของคุ้นนั้นมิทราบว่ากี่พันหลี่ เมื่อแปลงร่างเป็นนก เรียกว่า ‘เผิง’ ... ใต้เท้า นี่เป็นปลาที่เหินฟ้าและดำน้ำได้” (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า)

    นอกจากเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร> แล้ว ยังมีในละครจีนมีอีกไม่น้อยที่มีการกล่าวถึงปลาคุนนี้ อย่างเช่นในเรื่อง <อวลกลิ่นละอองรัก> ก็เช่นกัน

    ‘คุ้น’ (鲲) แรกปรากฏอยู่ในหนังสือ ‘เลี่ยจื่อทังเวิ่น’ (列子·汤问) ซึ่งเป็นหนังสือรวมเรื่องเล่าตำนานปรัมปราในยุคสมัยชุนชิว ถูกบรรยายไว้ว่าเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่มหาศาล และปรากฏอีกครั้งในบทประพันธ์ ‘เซียวเหยาโหยว’ (ทัศนาจรไร้กังวล / 逍遥游) ของจวงจื่อ (庄子 ปี 369-286 ก่อนคริสตกาล) ผู้นำด้านความคิดและปรัชญาเต๋าในยุคสมัยรณรัฐ

    ‘เซียวเหยาโหยว’ เป็นหนึ่งในบทความที่รวมเล่มอยู่ในหนังสือปรัชญาของจวงจื่อโดยหนังสือนี้มีชื่อว่า ‘จวงจื่อ’ ตามผู้แต่ง (ต่อมาภายหลังถูกเรียกขานว่าคัมภีร์ ‘หนานหัวเจินจิง’) โดยเป็นการเล่าถึงปลาคุ้นที่กลายร่างเป็นนกเผิงขนาดมหึมาบินจากทะเลเหนือลงใต้ กระพือปีกทีหนึ่งก็เกิดคลื่นลม ระหว่างการเดินทางนี้เล่าถึงการกระทำของนกเล็กต่างๆ รวมถึงกล่าวถึงผู้คนในเมืองที่เป็นทางผ่าน เป็นการเปรียบเทียบเชิงปรัชญาว่า สิ่งที่ใหญ่มีผลกระทบได้กว้างไกล สิ่งที่เล็กมีผลกระทบได้น้อย ไม่เพียงแต่สัตว์ มนุษย์ก็เช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกสรรพสิ่งไม่ว่าเล็กใหญ่ล้วนมีขีดจำกัดของมันและถูกจองจำด้วยวิถีชีวิตและหน้าที่ของมัน เมื่อใดที่เราสามารถปล่อยวางทุกสิ่งได้จึงจะสามารถท่องโลกกว้างนี้ได้ไร้กังวลอย่างแท้จริง และ ‘คุ้น’ จึงเป็นตัวแทนของจิตวิญญาณที่ไร้พันธนาการ

    ในเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร> จินเซี่ยเปรียบใต้เท้าลู่เป็นปลายักษ์ที่เรียกว่า ‘คุ้น’ หลายครั้ง ทั้งตอนตัดกระดาษเป็นรูปปลา ทั้งตอนเลือกไม้เสียบผม ‘เน่าร้างร้าง’ (ที่ Storyฯ เคยเขียนถึงเมื่อนานมาแล้ว) และในฉากที่กล่าวถึงข้างต้น ปลาคุ้นยักษ์ที่บินได้นี้ ไม่เพียงสะท้อนถึงชุดมัจฉาบินอันเป็นสัญลักษณ์ขององครักษ์เสื้อแพร แต่ยังเปรียบถึงความเก่งกาจของลู่อี้ที่เป็นดังปลาที่เหินฟ้าได้และดำน้ำได้ และเป็นคนที่ไม่ยอมให้ใครหรืออะไรมาตีกรอบให้ตนเองได้

    เพื่อนเพจผ่านตาเรื่อง ‘คุ้น’ ในละครเรื่องใดกันอีกบ้าง พอจำกันได้ไหม?
    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://www.sohu.com/a/372005451_120549941
    https://aiko933227.pixnet.net/blog/post/355134478
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.zdic.net/hans/%E9%80%8D%E9%81%A5%E6%B8%B8
    https://so.gushiwen.cn/shiwenv_5bfecbe60620.aspx
    https://baike.baidu.com/item/逍遥游/1506
    https://baike.baidu.com/item/列子·汤问/6023097

    #ยอดองครักษ์เสื้อแพร #อวลกลิ่นละอองรัก #ปลาคุ้น #นกเผิง #เลี่ยจื่อทังเวิ่น #เซียวเหยาโหยว
    วันนี้มาคุยกันต่ออีกสักนิดกับเกร็ดความรู้ทางวัฒนธรรมจีนจากละครเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร> Storyฯ ขอถอดบทสนทนาจากในละครมาคุยกัน เป็นฉากที่พระเอกลู่อี้กับนางเอกจินเซี่ยไปเดินเที่ยวกันแล้วจินเซี่ยเห็นจี้หยกรูปปลา ก็ซื้อให้ลู่อี้เป็นของขวัญ เป็นฉากที่ใต้เท้าลู่สาดน้ำตาลมากมายด้วยสายตา ในฉากนี้จินเซี่ยอธิบายว่า “ทะเลเหนือมีปลา เรียกว่า ‘คุ้น’ ความใหญ่ของคุ้นนั้นมิทราบว่ากี่พันหลี่ เมื่อแปลงร่างเป็นนก เรียกว่า ‘เผิง’ ... ใต้เท้า นี่เป็นปลาที่เหินฟ้าและดำน้ำได้” (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า) นอกจากเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร> แล้ว ยังมีในละครจีนมีอีกไม่น้อยที่มีการกล่าวถึงปลาคุนนี้ อย่างเช่นในเรื่อง <อวลกลิ่นละอองรัก> ก็เช่นกัน ‘คุ้น’ (鲲) แรกปรากฏอยู่ในหนังสือ ‘เลี่ยจื่อทังเวิ่น’ (列子·汤问) ซึ่งเป็นหนังสือรวมเรื่องเล่าตำนานปรัมปราในยุคสมัยชุนชิว ถูกบรรยายไว้ว่าเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่มหาศาล และปรากฏอีกครั้งในบทประพันธ์ ‘เซียวเหยาโหยว’ (ทัศนาจรไร้กังวล / 逍遥游) ของจวงจื่อ (庄子 ปี 369-286 ก่อนคริสตกาล) ผู้นำด้านความคิดและปรัชญาเต๋าในยุคสมัยรณรัฐ ‘เซียวเหยาโหยว’ เป็นหนึ่งในบทความที่รวมเล่มอยู่ในหนังสือปรัชญาของจวงจื่อโดยหนังสือนี้มีชื่อว่า ‘จวงจื่อ’ ตามผู้แต่ง (ต่อมาภายหลังถูกเรียกขานว่าคัมภีร์ ‘หนานหัวเจินจิง’) โดยเป็นการเล่าถึงปลาคุ้นที่กลายร่างเป็นนกเผิงขนาดมหึมาบินจากทะเลเหนือลงใต้ กระพือปีกทีหนึ่งก็เกิดคลื่นลม ระหว่างการเดินทางนี้เล่าถึงการกระทำของนกเล็กต่างๆ รวมถึงกล่าวถึงผู้คนในเมืองที่เป็นทางผ่าน เป็นการเปรียบเทียบเชิงปรัชญาว่า สิ่งที่ใหญ่มีผลกระทบได้กว้างไกล สิ่งที่เล็กมีผลกระทบได้น้อย ไม่เพียงแต่สัตว์ มนุษย์ก็เช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกสรรพสิ่งไม่ว่าเล็กใหญ่ล้วนมีขีดจำกัดของมันและถูกจองจำด้วยวิถีชีวิตและหน้าที่ของมัน เมื่อใดที่เราสามารถปล่อยวางทุกสิ่งได้จึงจะสามารถท่องโลกกว้างนี้ได้ไร้กังวลอย่างแท้จริง และ ‘คุ้น’ จึงเป็นตัวแทนของจิตวิญญาณที่ไร้พันธนาการ ในเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร> จินเซี่ยเปรียบใต้เท้าลู่เป็นปลายักษ์ที่เรียกว่า ‘คุ้น’ หลายครั้ง ทั้งตอนตัดกระดาษเป็นรูปปลา ทั้งตอนเลือกไม้เสียบผม ‘เน่าร้างร้าง’ (ที่ Storyฯ เคยเขียนถึงเมื่อนานมาแล้ว) และในฉากที่กล่าวถึงข้างต้น ปลาคุ้นยักษ์ที่บินได้นี้ ไม่เพียงสะท้อนถึงชุดมัจฉาบินอันเป็นสัญลักษณ์ขององครักษ์เสื้อแพร แต่ยังเปรียบถึงความเก่งกาจของลู่อี้ที่เป็นดังปลาที่เหินฟ้าได้และดำน้ำได้ และเป็นคนที่ไม่ยอมให้ใครหรืออะไรมาตีกรอบให้ตนเองได้ เพื่อนเพจผ่านตาเรื่อง ‘คุ้น’ ในละครเรื่องใดกันอีกบ้าง พอจำกันได้ไหม? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.sohu.com/a/372005451_120549941 https://aiko933227.pixnet.net/blog/post/355134478 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.zdic.net/hans/%E9%80%8D%E9%81%A5%E6%B8%B8 https://so.gushiwen.cn/shiwenv_5bfecbe60620.aspx https://baike.baidu.com/item/逍遥游/1506 https://baike.baidu.com/item/列子·汤问/6023097 #ยอดองครักษ์เสื้อแพร #อวลกลิ่นละอองรัก #ปลาคุ้น #นกเผิง #เลี่ยจื่อทังเวิ่น #เซียวเหยาโหยว
    WWW.SOHU.COM
    锦衣之下:袁今夏身世显贵,小蓝真实身份更是显赫_严世蕃
    陆绎替袁今夏挡毒镖之后,袁今夏身上的正义感爆棚,就算下大雨被追杀,也从没有放开过陆绎的手。 袁今夏的真实身份是前首辅夏然的后人,如果不是当年夏家被陷害,袁今夏的身份应该和现在的严世蕃一样高高在上…
    0 Comments 0 Shares 774 Views 0 Reviews
  • เมื่อสองวันก่อน อยู่ดีๆ ยูทูปก็โผล่คลิปสั้นจากเรื่อง <หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์> มาให้ดูจน Storyฯ น้ำตาร่วงเผาะ วันนี้เลยเอามาแบ่งปันเผื่อว่าเพื่อนเพจจะ ‘อิน’ ตามไปด้วย

    เป็นฉากที่หรูอี้เอ่ยกับเฉียนหลงฮ่องเต้ว่า “ทรงทราบถึงวลี ‘หลันอินซวี่กั่ว’ หรือไม่เพคะ? วลีนี้... ตอนหม่อมฉันเรียนเมื่อยังเด็กได้แต่รู้สึกเสียใจเสียดาย แต่วันนี้หม่อมฉันเข้าใจแล้ว... บุปผาผลิบานแล้วโรยร่วงตามเวลาของมัน...” (หมายเหตุ ถอดบทสนทนามาจากในละคร แต่ Storyฯ แปลเองจ้า) เป็นประโยคที่สร้างความเจ็บปวดให้กับเฉียนหลงในภายหลังไม่น้อย

    ทั้ง ‘หลันอินซวี่กั่ว’ และ “บุปผาผลิบานแล้วโรยร่วงตามเวลาของมัน” ล้วนเป็นประโยคเด็ดที่มีมาแต่วรรณกรรมโบราณ และมีเรื่องราวให้เล่าถึง แต่อาจต้องแบ่งคุยเป็นสองตอน

    วันนี้คุยกันเรื่องวลี ‘หลันอินซวี่กั่ว’ (兰因絮果) ซึ่งเป็นสุภาษิตจีน บางทีสลับตำแหน่งเป็น ‘ซวี่กั่วหลันอิน’ ก็ได้ ความหมายของมันเป็นดังที่ในละครมีอธิบายไว้ว่า หมายถึงชีวิตคู่ที่เริ่มต้นสวยงามแต่จบลงอย่างขมขื่น เป็นวลีที่แปลยาก เพราะ ‘หลัน’ อาจแปลว่าดอกกล้วยไม้ (หลันฮวา) หรือดอกแม็กโนเลีย (อวี้หลันหรือมู่หลัน) และ ‘ซวี่’ แปลว่าปุยฝ้ายหรือดอกของต้นหลิ่วเรียกว่า ‘หลิ่วซวี่’ ส่วน ‘อิน’ นั้นแปลว่าต้นตอหรือสาเหตุ และ ‘กั่ว’ คือผล ดังนั้น วลีนี้แปลตรงตัวไม่ได้เพราะมันเป็นวลีเชิงอุปมาอุปไมย เลยขอเล่าความเป็นมาของมันก่อน เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น

    ที่มาของการเรียกชีวิตคู่ที่หวานชื่นว่า ‘หลันอิน’ นั้น เป็นเรื่องราวในยุคสมัยชุนชิวของเจิ้งเหวินกง เจ้าผู้ปกครองแคว้นเจิ้งและอนุภรรยานามว่าเยี่ยนจี๋ นางผู้นี้มาจากเมืองเล็กๆ และเป็นอนุภรรยาที่ไม่เคยอยู่ในสายตาของเจิ้งเหวินกง แต่ต่อมานางฝันว่ามีเทพธิดานำดอกหลันฮวามามอบให้และบอกว่าดอกไม้นี้จะทำให้นางได้รับความรักจากเจิ้งเหวินกงและจะได้บุตรที่โดดเด่นมาเป็นผู้สืบทอดแผ่นดินต่อไป ครั้นวันถัดไปนางได้พบกับเจิ้งเหวินกงโดยบังเอิญก็ได้เล่าเรื่องนี้ให้เจิ้งเหวินกงฟัง ก่อเกิดเป็นความสนใจในตัวนาง จนต่อมานางได้เป็นที่โปรดปรานมากมายของเจิ้งเหวินกง และภายหลังคลอดบุตรชายนามว่า ‘หลัน’ เรื่องนี้จึงเป็นการเล่าขานกันต่อในแง่ที่ว่าเป็นความรักที่งอกงามอันมีสาเหตุมาจากดอกหลันฮวาหรือเรียกสั้นๆ ว่า ‘หลันอิน’ นั่นเอง และ ‘หลันอิน’ ถูกนำมาใช้ในบทประพันธ์ไม่น้อยเพื่อเรียกการครองคู่ที่เกิดขึ้นจากความรักอันสุกงอม

    มีเรื่องเล่าต่อมาว่า เจิ้งเหวินกงมีอนุภรรยามากมาย ความโปรดปรานในตัวเยี่ยนจี๋ลดเลือนไปตามกาลเวลา อีกทั้งเขาเป็นคนอำมหิต เพื่อรักษาอำนาจของตัวเองถึงกับฆ่าลูกชายไปสองคน ส่วนเจิ้งหลันนั้นถูกขับออกจากแคว้น แต่ต่อมาได้กลับมาครองแคว้นเจิ้งในที่สุด เป็นที่รู้จักกันในนามเจิ้งมู่กง ภายใต้การปกครองของเจิ้งมู่กงและลูกชายของเขา แคว้นเจิ้งกลายเป็นหนึ่งในแคว้นที่เข้มแข็งที่สุดของยุคสมัยนั้น

    ส่วนคำว่า ‘ซวี่’ นั้น ว่ากันว่าแรกเริ่มมาจากบทกวีของหลานสาวของเซี่ยไท่ฟู่ (ไท่ฟู่คือตำแหน่งราชครู) ในสมัยราชวงศ์จิ้น ผู้ซึ่งถูกยกย่องว่าเป็นสตรีที่เชี่ยวชาญด้านอักษร นางเปรียบเปรยหิมะขาวที่โปรยปรายด้วยวลีที่ว่า ‘ดุจดอกหลิ่วเริงระบำในสายลม’ (未若柳絮因风起) (ขอเรียกว่าดอก แต่จริงๆ เป็นเมล็ดของต้นหลิ่ว)

    ต่อมา ‘ซวี่กั่ว’ และ ‘หลันอินซวี่กั่ว’ ปรากฏขึ้นในบทประพันธ์ยุคสมัยชิง เป็นส่วนหนึ่งของวลีที่ว่า ‘หลันอินซวี่กั่ว เซี่ยนเยี่ยสุยเซิน’ (兰因絮果, 现业谁深) Storyฯ ขอแปลและเรียบเรียงประโยคนี้ว่า ‘รักแรกผลิบานงดงามดุจหลันฮวา สุดท้ายมลายหายดุจดอกหลิ่วพลิ้วสลาย ผู้ใดเล่าจะกล่าวได้ว่า สลักลึกลงบนใจผู้ใดมากกว่ากัน’

    ‘หลันอินซวี่กั่ว’ ในเรื่อง <หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์> จึงเป็นการสรุปเรื่องราวความรักของเฉียนหลงและหรูอี้ได้อย่างชัดเจนด้วยอักษรเพียงสี่ตัว

    เพื่อให้อินกับประโยคนี้ ขอเชิญเพื่อนเพจหลับตาและนึกภาพดอกไม้ผลิบานพร้อมกับรอยยิ้มสุขสดชื่นให้แก่กันของหรูอี้และเฉียนหลงในละคร แล้วตัดมาเป็นภาพปุยสีขาวๆ ที่ถูกสายลมพัดแตกไปพร้อมๆ กับภาพของหรูอี้ที่สิ้นลมอย่างสงบข้างๆ กระถางต้นเหมยที่แห้งกรอบ...

    “คัท!” อาทิตย์หน้ามาคุยกันต่อกับประโยคถัดไปที่ว่า ‘บุปผาผลิบานแล้วโรยร่วงตามเวลาของมัน’ ค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://okapi.books.com.tw/article/11422
    https://ent.tom.com/201807/1011240093.html
    https://www.sohu.com/a/230867588_100149137
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.xiumu.cn/ts/2018/0824/4278239.html
    https://www.163.com/dy/article/G0GD3GUH0537ML11.html
    https://baike.baidu.com/item/未若柳絮因风起/8776864

    #หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์ #หลันอินซวี่กั่ว #เจิ้งเหวินกง #เยี่ยนจี๋
    เมื่อสองวันก่อน อยู่ดีๆ ยูทูปก็โผล่คลิปสั้นจากเรื่อง <หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์> มาให้ดูจน Storyฯ น้ำตาร่วงเผาะ วันนี้เลยเอามาแบ่งปันเผื่อว่าเพื่อนเพจจะ ‘อิน’ ตามไปด้วย เป็นฉากที่หรูอี้เอ่ยกับเฉียนหลงฮ่องเต้ว่า “ทรงทราบถึงวลี ‘หลันอินซวี่กั่ว’ หรือไม่เพคะ? วลีนี้... ตอนหม่อมฉันเรียนเมื่อยังเด็กได้แต่รู้สึกเสียใจเสียดาย แต่วันนี้หม่อมฉันเข้าใจแล้ว... บุปผาผลิบานแล้วโรยร่วงตามเวลาของมัน...” (หมายเหตุ ถอดบทสนทนามาจากในละคร แต่ Storyฯ แปลเองจ้า) เป็นประโยคที่สร้างความเจ็บปวดให้กับเฉียนหลงในภายหลังไม่น้อย ทั้ง ‘หลันอินซวี่กั่ว’ และ “บุปผาผลิบานแล้วโรยร่วงตามเวลาของมัน” ล้วนเป็นประโยคเด็ดที่มีมาแต่วรรณกรรมโบราณ และมีเรื่องราวให้เล่าถึง แต่อาจต้องแบ่งคุยเป็นสองตอน วันนี้คุยกันเรื่องวลี ‘หลันอินซวี่กั่ว’ (兰因絮果) ซึ่งเป็นสุภาษิตจีน บางทีสลับตำแหน่งเป็น ‘ซวี่กั่วหลันอิน’ ก็ได้ ความหมายของมันเป็นดังที่ในละครมีอธิบายไว้ว่า หมายถึงชีวิตคู่ที่เริ่มต้นสวยงามแต่จบลงอย่างขมขื่น เป็นวลีที่แปลยาก เพราะ ‘หลัน’ อาจแปลว่าดอกกล้วยไม้ (หลันฮวา) หรือดอกแม็กโนเลีย (อวี้หลันหรือมู่หลัน) และ ‘ซวี่’ แปลว่าปุยฝ้ายหรือดอกของต้นหลิ่วเรียกว่า ‘หลิ่วซวี่’ ส่วน ‘อิน’ นั้นแปลว่าต้นตอหรือสาเหตุ และ ‘กั่ว’ คือผล ดังนั้น วลีนี้แปลตรงตัวไม่ได้เพราะมันเป็นวลีเชิงอุปมาอุปไมย เลยขอเล่าความเป็นมาของมันก่อน เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ที่มาของการเรียกชีวิตคู่ที่หวานชื่นว่า ‘หลันอิน’ นั้น เป็นเรื่องราวในยุคสมัยชุนชิวของเจิ้งเหวินกง เจ้าผู้ปกครองแคว้นเจิ้งและอนุภรรยานามว่าเยี่ยนจี๋ นางผู้นี้มาจากเมืองเล็กๆ และเป็นอนุภรรยาที่ไม่เคยอยู่ในสายตาของเจิ้งเหวินกง แต่ต่อมานางฝันว่ามีเทพธิดานำดอกหลันฮวามามอบให้และบอกว่าดอกไม้นี้จะทำให้นางได้รับความรักจากเจิ้งเหวินกงและจะได้บุตรที่โดดเด่นมาเป็นผู้สืบทอดแผ่นดินต่อไป ครั้นวันถัดไปนางได้พบกับเจิ้งเหวินกงโดยบังเอิญก็ได้เล่าเรื่องนี้ให้เจิ้งเหวินกงฟัง ก่อเกิดเป็นความสนใจในตัวนาง จนต่อมานางได้เป็นที่โปรดปรานมากมายของเจิ้งเหวินกง และภายหลังคลอดบุตรชายนามว่า ‘หลัน’ เรื่องนี้จึงเป็นการเล่าขานกันต่อในแง่ที่ว่าเป็นความรักที่งอกงามอันมีสาเหตุมาจากดอกหลันฮวาหรือเรียกสั้นๆ ว่า ‘หลันอิน’ นั่นเอง และ ‘หลันอิน’ ถูกนำมาใช้ในบทประพันธ์ไม่น้อยเพื่อเรียกการครองคู่ที่เกิดขึ้นจากความรักอันสุกงอม มีเรื่องเล่าต่อมาว่า เจิ้งเหวินกงมีอนุภรรยามากมาย ความโปรดปรานในตัวเยี่ยนจี๋ลดเลือนไปตามกาลเวลา อีกทั้งเขาเป็นคนอำมหิต เพื่อรักษาอำนาจของตัวเองถึงกับฆ่าลูกชายไปสองคน ส่วนเจิ้งหลันนั้นถูกขับออกจากแคว้น แต่ต่อมาได้กลับมาครองแคว้นเจิ้งในที่สุด เป็นที่รู้จักกันในนามเจิ้งมู่กง ภายใต้การปกครองของเจิ้งมู่กงและลูกชายของเขา แคว้นเจิ้งกลายเป็นหนึ่งในแคว้นที่เข้มแข็งที่สุดของยุคสมัยนั้น ส่วนคำว่า ‘ซวี่’ นั้น ว่ากันว่าแรกเริ่มมาจากบทกวีของหลานสาวของเซี่ยไท่ฟู่ (ไท่ฟู่คือตำแหน่งราชครู) ในสมัยราชวงศ์จิ้น ผู้ซึ่งถูกยกย่องว่าเป็นสตรีที่เชี่ยวชาญด้านอักษร นางเปรียบเปรยหิมะขาวที่โปรยปรายด้วยวลีที่ว่า ‘ดุจดอกหลิ่วเริงระบำในสายลม’ (未若柳絮因风起) (ขอเรียกว่าดอก แต่จริงๆ เป็นเมล็ดของต้นหลิ่ว) ต่อมา ‘ซวี่กั่ว’ และ ‘หลันอินซวี่กั่ว’ ปรากฏขึ้นในบทประพันธ์ยุคสมัยชิง เป็นส่วนหนึ่งของวลีที่ว่า ‘หลันอินซวี่กั่ว เซี่ยนเยี่ยสุยเซิน’ (兰因絮果, 现业谁深) Storyฯ ขอแปลและเรียบเรียงประโยคนี้ว่า ‘รักแรกผลิบานงดงามดุจหลันฮวา สุดท้ายมลายหายดุจดอกหลิ่วพลิ้วสลาย ผู้ใดเล่าจะกล่าวได้ว่า สลักลึกลงบนใจผู้ใดมากกว่ากัน’ ‘หลันอินซวี่กั่ว’ ในเรื่อง <หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์> จึงเป็นการสรุปเรื่องราวความรักของเฉียนหลงและหรูอี้ได้อย่างชัดเจนด้วยอักษรเพียงสี่ตัว เพื่อให้อินกับประโยคนี้ ขอเชิญเพื่อนเพจหลับตาและนึกภาพดอกไม้ผลิบานพร้อมกับรอยยิ้มสุขสดชื่นให้แก่กันของหรูอี้และเฉียนหลงในละคร แล้วตัดมาเป็นภาพปุยสีขาวๆ ที่ถูกสายลมพัดแตกไปพร้อมๆ กับภาพของหรูอี้ที่สิ้นลมอย่างสงบข้างๆ กระถางต้นเหมยที่แห้งกรอบ... “คัท!” อาทิตย์หน้ามาคุยกันต่อกับประโยคถัดไปที่ว่า ‘บุปผาผลิบานแล้วโรยร่วงตามเวลาของมัน’ ค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://okapi.books.com.tw/article/11422 https://ent.tom.com/201807/1011240093.html https://www.sohu.com/a/230867588_100149137 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.xiumu.cn/ts/2018/0824/4278239.html https://www.163.com/dy/article/G0GD3GUH0537ML11.html https://baike.baidu.com/item/未若柳絮因风起/8776864 #หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์ #หลันอินซวี่กั่ว #เจิ้งเหวินกง #เยี่ยนจี๋
    OKAPI.BOOKS.COM.TW
    個人意見:演出深情演得最好也最落力的,往往都是渣男──《如懿傳》教會我的事
    《如懿傳》講的就是婚姻。該宮鬥的情節雖一樣不少,但心機只是這部小說的點綴,真正著力的...
    0 Comments 0 Shares 595 Views 0 Reviews
  • ประชาชนชาวเนปาลหลายแสนคน (บางแหล่งข่าวระบุมากกว่าล้านคน) มารวมตัวกันเพื่อต้อนรับ "สมเด็จพระราชาธิบดีคยาเนนทรา พีระ พิกรม ชาห์ เทวะ" กษัตริย์พระองค์สุดท้ายของเนปาล หลังจากสถาบันกษัตริย์ถูกยุบในปีพ.ศ. 2551 (2008) ขณะพระองค์เสด็จกลับกรุงกาฐมาณฑุ [กาด-มาน-ดุ] เมืองหลวงของเนปาล ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศพยายามเรียกร้องให้เนปาลฟื้นฟูสถาบันกษัตริย์มานานหลายปี

    ผู้ชุมนุมที่มาต้อนรับฯรายหนึ่งบอกว่า เค้าเป็นผู้ที่เคยร่วมชุมนุมประท้วงต่อต้านพระองค์เมื่อปี 2006 แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจต้องการให้มีสถาบันฯ ต้องการให้พระองค์กลับมาครองราช เพราะนักการเมืองคอร์รัปชั่นกันอย่างเลวร้าย เหล่าผู้มีอำนาจไม่ทำอะไรให้ประเทศเลย

    ตอนนั้นที่เค้าออกมาชุมนุมประท้วงไม่เอาสถาบันกษัตริย์เพราะคิดว่าจะช่วยทำให้ประเทศดีขึ้น แต่เค้าคิดผิด ประเทศย่ำแย่หนักกว่าเดิม ตอนนี้เลยเปลี่ยนใจอยากให้ฟื้นฟูสถาบันฯ

    ในปีพ.ศ. 2551 สภานิติบัญญัติแห่งชาติของเนปาล ได้มีมติยกเลิกการปกครองระบอบราชาธิปไตย และสถาปนาสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล เป็นการสิ้นสุดระบอบการปกครองของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ปกครองประเทศกว่า 240 ปี และราชวงศ์ชาห์ซึ่งปกครองแผ่นดินนี้เกือบ 500 ปี
    .
    ก่อนการล่มสลายของสถาบันกษัตริย์เนปาล:
    สรุปคร่าวๆมาจาก ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร
    https://www.posttoday.com/columnist/639757
    หลังเหตุการณ์สังหารหมู่ของราชวงศ์เนปาลในปี 2001 ส่งผลให้พระมหากษัตริย์พิเรนทรพีรพิกรมศาหเทวะและสมเด็จพระราชินีไอศวรรยาราชยลักษมีเทวีศาหะ เสด็จสวรรคต พร้อมด้วยสมาชิกพระราชวงศ์อีก 7 พระองค์

    ต่อมาเจ้าชายชญาเนนทร พระอนุชาของพระมหากษัตริย์พิเรนทราพระมหากษัตริย์เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดความขัดแย้งกับฝ่ายการเมืองอย่างรุนแรง โดยที่กษัตริย์ชญาเนนทรพยายามปกป้องสถาบันกษัตริย์อย่างเต็มที่ โดยอ้างสาเหตุจากการทุจริตคอรัปชั่น และการบริหารเทศที่ล้มเหลวของพรรคการเมืองทั้งหลาย

    ในปี 2002 กษัตริย์ชญาเนนทรทรงประกาศยุบสภา แต่การเมืองที่วุ่นวาย ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้สำเร็จ จนที่สุดพระองค์ตัดสินใจยึดอำนาจในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2005 ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจจากพรรคการเมืองต่างๆ

    ในปี 2006 กลุ่มพันธมิตรพรรคการเมืองรวมตัวกันต่อต้านการปกครองของพระมหากษัตริย์ชญาเนนทร จนเกิดความวุ่นวายภายในประเทศ จนนำไปสู่การเสียชีวิตของผู้ชุมนุมที่ไม่พอใจสถาบันกษัตริย์

    ในที่สุดพระมหากษัตริย์ชญาเนนทร ทรงยอมให้อำนาจบริหารแก่พรรคการเมืองเพื่อกลับคืนสู่ประชาธิปไตยอีกครั้ง และพรรคการเมืองต่างเรียกร้องให้จัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาเพื่อกำหนดบทบาทในการเมืองของพระมหากษัตริย์

    10 มิถุนายน ค.ศ. 2006 รัฐสภาเนปาลได้ยกเลิกอำนาจที่สำคัญๆของพระมหากษัตริย์ รวมทั้งอำนาจในการยับยั้งกฎหมาย ทำให้บทบาทของพระมหากษัตริย์ในฐานะที่ทำงานร่วมกับรัฐสภาได้สิ้นสุดลง (King in Parliament) และลดทอนพระมหากษัตริย์เป็นเพียงตรายาง แต่ให้พระองค์ยังทรงทำหน้าที่ประมุขของรัฐในการต้อนรับอาคันตุกะและทูตานุทูตต่อไปได้ และรัฐสภาได้โอนอำนาจที่พระมหากษัตริย์เคยมีไปที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้อำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีมาตลอด 239 ปีมีอันต้องสิ้นสุดลง

    23 สิงหาคม ค.ศ. 2007 รัฐบาลในช่วงเปลี่ยนผ่านของเนปาลได้ยึดทรัพย์สินทั้งหมดของพระมหากษัตริย์ชญาเนนทรที่สืบจากพระเชษฐาของพระองค์ให้เป็นสมบัติของชาติ รวมทั้งพระราชวัง (Narayanhiti Palace) แต่ไม่ได้ยึดทรัพย์สินที่กษัตริย์ชญาเนนทรครอบครองก่อนขึ้นครองราชย์

    24 ธันวาคม ค.ศ. 2007 รัฐสภารักษาการได้ลงมติว่า อาจจะมีการให้สถาบันพระมหากษัตริย์ยุติลงชั่วคราวในปี ค.ศ. 2008 อันเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงสันติภาพกับพวกกบฏเหมาอิสต์ ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวนี้คือร่างกฎหมายแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะเปลี่ยนเนปาลให้เป็นสาธารณรัฐนั่นเอง

    28 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 สภาร่างรัฐธรรมนูญประกาศอย่างเป็นทางการว่าในรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขจะไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์อีกต่อไป และเนปาลจะเปลี่ยนไปเป็นสาธารณรัฐ การตัดสินดังกล่าวเกิดขึ้นโดยไม่มีการทำประชามติ กษัตริย์ชญาเนนทรยอมรับการตัดสินดังกล่าว และขอให้รัฐบาลจัดที่พักอาศัยให้พระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์ และรัฐบาลได้จัดให้พระองค์พำนักอยู่ที่วังแห่งหนึ่ง (Nirmal Niwas Palace)

    ประชาชนชาวเนปาลหลายแสนคน (บางแหล่งข่าวระบุมากกว่าล้านคน) มารวมตัวกันเพื่อต้อนรับ "สมเด็จพระราชาธิบดีคยาเนนทรา พีระ พิกรม ชาห์ เทวะ" กษัตริย์พระองค์สุดท้ายของเนปาล หลังจากสถาบันกษัตริย์ถูกยุบในปีพ.ศ. 2551 (2008) ขณะพระองค์เสด็จกลับกรุงกาฐมาณฑุ [กาด-มาน-ดุ] เมืองหลวงของเนปาล ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศพยายามเรียกร้องให้เนปาลฟื้นฟูสถาบันกษัตริย์มานานหลายปี ผู้ชุมนุมที่มาต้อนรับฯรายหนึ่งบอกว่า เค้าเป็นผู้ที่เคยร่วมชุมนุมประท้วงต่อต้านพระองค์เมื่อปี 2006 แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจต้องการให้มีสถาบันฯ ต้องการให้พระองค์กลับมาครองราช เพราะนักการเมืองคอร์รัปชั่นกันอย่างเลวร้าย เหล่าผู้มีอำนาจไม่ทำอะไรให้ประเทศเลย ตอนนั้นที่เค้าออกมาชุมนุมประท้วงไม่เอาสถาบันกษัตริย์เพราะคิดว่าจะช่วยทำให้ประเทศดีขึ้น แต่เค้าคิดผิด ประเทศย่ำแย่หนักกว่าเดิม ตอนนี้เลยเปลี่ยนใจอยากให้ฟื้นฟูสถาบันฯ ในปีพ.ศ. 2551 สภานิติบัญญัติแห่งชาติของเนปาล ได้มีมติยกเลิกการปกครองระบอบราชาธิปไตย และสถาปนาสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล เป็นการสิ้นสุดระบอบการปกครองของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ปกครองประเทศกว่า 240 ปี และราชวงศ์ชาห์ซึ่งปกครองแผ่นดินนี้เกือบ 500 ปี . ก่อนการล่มสลายของสถาบันกษัตริย์เนปาล: สรุปคร่าวๆมาจาก ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร https://www.posttoday.com/columnist/639757 หลังเหตุการณ์สังหารหมู่ของราชวงศ์เนปาลในปี 2001 ส่งผลให้พระมหากษัตริย์พิเรนทรพีรพิกรมศาหเทวะและสมเด็จพระราชินีไอศวรรยาราชยลักษมีเทวีศาหะ เสด็จสวรรคต พร้อมด้วยสมาชิกพระราชวงศ์อีก 7 พระองค์ ต่อมาเจ้าชายชญาเนนทร พระอนุชาของพระมหากษัตริย์พิเรนทราพระมหากษัตริย์เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดความขัดแย้งกับฝ่ายการเมืองอย่างรุนแรง โดยที่กษัตริย์ชญาเนนทรพยายามปกป้องสถาบันกษัตริย์อย่างเต็มที่ โดยอ้างสาเหตุจากการทุจริตคอรัปชั่น และการบริหารเทศที่ล้มเหลวของพรรคการเมืองทั้งหลาย ในปี 2002 กษัตริย์ชญาเนนทรทรงประกาศยุบสภา แต่การเมืองที่วุ่นวาย ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้สำเร็จ จนที่สุดพระองค์ตัดสินใจยึดอำนาจในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2005 ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจจากพรรคการเมืองต่างๆ ในปี 2006 กลุ่มพันธมิตรพรรคการเมืองรวมตัวกันต่อต้านการปกครองของพระมหากษัตริย์ชญาเนนทร จนเกิดความวุ่นวายภายในประเทศ จนนำไปสู่การเสียชีวิตของผู้ชุมนุมที่ไม่พอใจสถาบันกษัตริย์ ในที่สุดพระมหากษัตริย์ชญาเนนทร ทรงยอมให้อำนาจบริหารแก่พรรคการเมืองเพื่อกลับคืนสู่ประชาธิปไตยอีกครั้ง และพรรคการเมืองต่างเรียกร้องให้จัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาเพื่อกำหนดบทบาทในการเมืองของพระมหากษัตริย์ 10 มิถุนายน ค.ศ. 2006 รัฐสภาเนปาลได้ยกเลิกอำนาจที่สำคัญๆของพระมหากษัตริย์ รวมทั้งอำนาจในการยับยั้งกฎหมาย ทำให้บทบาทของพระมหากษัตริย์ในฐานะที่ทำงานร่วมกับรัฐสภาได้สิ้นสุดลง (King in Parliament) และลดทอนพระมหากษัตริย์เป็นเพียงตรายาง แต่ให้พระองค์ยังทรงทำหน้าที่ประมุขของรัฐในการต้อนรับอาคันตุกะและทูตานุทูตต่อไปได้ และรัฐสภาได้โอนอำนาจที่พระมหากษัตริย์เคยมีไปที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้อำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีมาตลอด 239 ปีมีอันต้องสิ้นสุดลง 23 สิงหาคม ค.ศ. 2007 รัฐบาลในช่วงเปลี่ยนผ่านของเนปาลได้ยึดทรัพย์สินทั้งหมดของพระมหากษัตริย์ชญาเนนทรที่สืบจากพระเชษฐาของพระองค์ให้เป็นสมบัติของชาติ รวมทั้งพระราชวัง (Narayanhiti Palace) แต่ไม่ได้ยึดทรัพย์สินที่กษัตริย์ชญาเนนทรครอบครองก่อนขึ้นครองราชย์ 24 ธันวาคม ค.ศ. 2007 รัฐสภารักษาการได้ลงมติว่า อาจจะมีการให้สถาบันพระมหากษัตริย์ยุติลงชั่วคราวในปี ค.ศ. 2008 อันเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงสันติภาพกับพวกกบฏเหมาอิสต์ ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวนี้คือร่างกฎหมายแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะเปลี่ยนเนปาลให้เป็นสาธารณรัฐนั่นเอง 28 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 สภาร่างรัฐธรรมนูญประกาศอย่างเป็นทางการว่าในรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขจะไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์อีกต่อไป และเนปาลจะเปลี่ยนไปเป็นสาธารณรัฐ การตัดสินดังกล่าวเกิดขึ้นโดยไม่มีการทำประชามติ กษัตริย์ชญาเนนทรยอมรับการตัดสินดังกล่าว และขอให้รัฐบาลจัดที่พักอาศัยให้พระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์ และรัฐบาลได้จัดให้พระองค์พำนักอยู่ที่วังแห่งหนึ่ง (Nirmal Niwas Palace)
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 637 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จะยกเว้นบรรดาผู้ผลิตรถยนต์จากมาตรการรีดภาษี 25% สินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นเวลา 1 เดือน ตราบใดที่พวกเขาปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเสรีที่มีอยู่ในปัจจุบัน จากการเปิดเผยของทำเนียบขาว
    .
    นกอจากนี้ ทำเนียบขาวยังเผยด้วยว่าประธานาธิบดีทรัมป์ เปิดกว้างสำหรับพิจารณามอบข้อยกเว้นจากการรีดภาษีสำหรับสินค้าอื่นๆ ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้วเมื่อวันอังคาร (4 มี.ค.) ที่ผ่านมา
    .
    อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ แสดงจุดยืนว่าเขายังไม่ล้มเลิกสงครามการค้ากับแคนาดาและเม็กซิโก ในขณะที่เขาพยายามกดดันทั้ง 2 ประเทศ ที่ปราบปรามการลักลอบขนยาเฟนทานิล ทั้งนี้หลังจากพุดคุยทางโทรศัพท์กับ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ทรัมป์บอกว่าเขาไม่แน่ใจว่าสถานการณ์ดีขึ้นแล้วหรือไม่
    .
    "เขาบอกว่ามันดีขึ้นแล้ว แต่ผมบอกกลับไปว่า มันยังไม่เพียงพอ" ทรัมป์เขียนบนทรัสต์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง ส่วนทำเนียบนายกรัฐมนตรีแคนาดาระบุว่า "การพูดคุยทางโทรศัพท์จบลงด้วยรูปแบบความเป็นมิตร!" พร้อมบอกว่าจะมีการเดินหน้าเจรจากันต่อไป
    .
    ข้อยกเว้นจากการถูกรีดภาษี กระตุ้นให้บรรดาหุ้นยานยนต์ฟื้นตัวถ้วนหน้า หลังจากความตึงเครียดทางการค้าที่ก่อความไม่แน่นอนแก่เหล่าผู้ประกอบการสหรัฐฯ และกัดเซาะความเชื่อมั่นผู้บริโภค ได้นำมาซึ่งแรงขายในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
    .
    ความเคลื่อนไหวยกเว้นภาษีเป็นเวลา 1 เดือน สำหรับรถยนต์และรถกระบะที่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ในเนื้อหาของข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา ตามกรอบของทรัมป์ จะเป็นประโยชน์กับฟอร์ดและจีเอ็ม 2 ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอเมริกา ตามความเห็นของนักวิเคราะห์
    .
    ขณะเดียวกัน ทรัมป์ อาจละเว้นรีดภาษี 10% พลังงานนำเข้าจากแคนาดา อย่างเช่นน้ำมันดิบและเบนซิน ที่ปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเสรีที่มีชื่อว่า USMCA
    .
    คำขู่รีดภาษีของทรัมป์ ก่อความเสียหายร้ายแรงในความสัมพันธ์ระหว่าง 3 ชาติคู่หูทางการค้า แคนาดาตอบโต้ด้วยว่าการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ อย่างเจาะจง ส่วน เม็กซิโก ก็ประกาศแก้แค้นเช่นกัน
    .
    การรีดภาษีเสี่ยงบั่นทอนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นของแคนาดา และยิ่งไปกว่านั้นอาจโหมกระพือภาวะถดถอย เนื่องจากประเทศแห่งนี้พึ่งพิงตลาดสหรัฐฯ ในการส่งออก คิดเป็นสัดส่วนถึง 75% และนำเข้าสินค้าจากอเมริกา คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของสินค้านำเข้าทั้งหมด
    .
    ความตึงเครียดทางการค้าอาจก่อความเจ็บปวดแก่สหรัฐฯ เช่นกัน จากข้อมูลใหม่ที่เผยแพร่ในวันพุธ (5 มี.ค.) พบว่าการเติบโตของการจ้างงานกำลังชะลอตัว เช่นเดียวกับค่าจ้างสำหรับแรงงานที่เปลี่ยนงานใหม่ก็ลดลง ขณะที่รายงานของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) พบความไม่แน่ใจอย่างกว้างขวางในหมู่ภาคธุรกิจทั่วอเมริกาต่อนโยบายต่างๆ ของทรัมป์ และบางธุรกิจถึงขั้นตัดสินใจปรับขึ้นราคาไปแล้ว โดยไม่รอให้มาตรการรีดภาษีมีผลบังคับใช้
    .
    นอกจากแคนาดาและเม็กซิโกแล้ว ทรัมป์ยังกำหนดมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีก 10% กระตุ้นให้ปักกิ่งตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมเช่นกัน
    .
    ถ้อยแถลงเกี่ยวกับการยกเว้นภาษี มีขึ้น 1 วันหลังจากทรัมป์พูดคุยทางโทรศัพท์กับซีอีโอของฟอร์ด จีเอ็ม และสเตลแลนทิส
    .
    รถยนต์ที่ผลิตโดยทั้ง 3 บริษัท จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ USMCA ที่กำหนดให้ต้องมีชิ้นส่วนที่ผลิตในอเมริกาเหนือ 75% เพื่อที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าสู่ตลาดอเมริกา โดยไม่จำเป็นต้องเสียภาษีใดๆ
    .
    นอกจากนี้ กฎเกณฑ์ดังกล่าวยังบังคับให้ส่วนประกอบ 40% ของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลต้องผลิตในสหรัฐฯ หรือแคนาดา และต้องเป็นชิ้นส่วนหลักๆ ในนั้นรวมถึงเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ตัวถังและโครงช่วงล่าง ในขณะที่รถกระบะนั้น กำหนดไว้ที่ 45%
    .
    แหล่งข่าวในภาคอุตสาหกรรมเผยว่าบรรดาผู้ผลิตรถยนต์สนับสนุนการส่งเสริมการลงทุนของสหรัฐฯ แต่ต้องการความแน่นอนเกี่ยวกับนโยบายรีดภาษี เช่นเดียวกับกฎเกณฑ์ด้านมลพิษ ก่อนดำเนินการเปลี่ยนแปลงใดๆ
    .
    มาตรการยกเว้นนี้ ยังก่อประโยชน์กับรถยนต์แบรนด์ต่างชาติบางส่วน ที่มีฐานการผลิตขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ในนั้นรวมถึงฮอนด้าและโตโยต้า แต่คู่แข่งบางแห่งที่ไม่ปฏิบัติตามจะต้องถูกรีดภาษี 25% เต็มจำนวน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021625
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จะยกเว้นบรรดาผู้ผลิตรถยนต์จากมาตรการรีดภาษี 25% สินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นเวลา 1 เดือน ตราบใดที่พวกเขาปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเสรีที่มีอยู่ในปัจจุบัน จากการเปิดเผยของทำเนียบขาว . นกอจากนี้ ทำเนียบขาวยังเผยด้วยว่าประธานาธิบดีทรัมป์ เปิดกว้างสำหรับพิจารณามอบข้อยกเว้นจากการรีดภาษีสำหรับสินค้าอื่นๆ ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้วเมื่อวันอังคาร (4 มี.ค.) ที่ผ่านมา . อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ แสดงจุดยืนว่าเขายังไม่ล้มเลิกสงครามการค้ากับแคนาดาและเม็กซิโก ในขณะที่เขาพยายามกดดันทั้ง 2 ประเทศ ที่ปราบปรามการลักลอบขนยาเฟนทานิล ทั้งนี้หลังจากพุดคุยทางโทรศัพท์กับ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ทรัมป์บอกว่าเขาไม่แน่ใจว่าสถานการณ์ดีขึ้นแล้วหรือไม่ . "เขาบอกว่ามันดีขึ้นแล้ว แต่ผมบอกกลับไปว่า มันยังไม่เพียงพอ" ทรัมป์เขียนบนทรัสต์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง ส่วนทำเนียบนายกรัฐมนตรีแคนาดาระบุว่า "การพูดคุยทางโทรศัพท์จบลงด้วยรูปแบบความเป็นมิตร!" พร้อมบอกว่าจะมีการเดินหน้าเจรจากันต่อไป . ข้อยกเว้นจากการถูกรีดภาษี กระตุ้นให้บรรดาหุ้นยานยนต์ฟื้นตัวถ้วนหน้า หลังจากความตึงเครียดทางการค้าที่ก่อความไม่แน่นอนแก่เหล่าผู้ประกอบการสหรัฐฯ และกัดเซาะความเชื่อมั่นผู้บริโภค ได้นำมาซึ่งแรงขายในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา . ความเคลื่อนไหวยกเว้นภาษีเป็นเวลา 1 เดือน สำหรับรถยนต์และรถกระบะที่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ในเนื้อหาของข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา ตามกรอบของทรัมป์ จะเป็นประโยชน์กับฟอร์ดและจีเอ็ม 2 ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอเมริกา ตามความเห็นของนักวิเคราะห์ . ขณะเดียวกัน ทรัมป์ อาจละเว้นรีดภาษี 10% พลังงานนำเข้าจากแคนาดา อย่างเช่นน้ำมันดิบและเบนซิน ที่ปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเสรีที่มีชื่อว่า USMCA . คำขู่รีดภาษีของทรัมป์ ก่อความเสียหายร้ายแรงในความสัมพันธ์ระหว่าง 3 ชาติคู่หูทางการค้า แคนาดาตอบโต้ด้วยว่าการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ อย่างเจาะจง ส่วน เม็กซิโก ก็ประกาศแก้แค้นเช่นกัน . การรีดภาษีเสี่ยงบั่นทอนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นของแคนาดา และยิ่งไปกว่านั้นอาจโหมกระพือภาวะถดถอย เนื่องจากประเทศแห่งนี้พึ่งพิงตลาดสหรัฐฯ ในการส่งออก คิดเป็นสัดส่วนถึง 75% และนำเข้าสินค้าจากอเมริกา คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของสินค้านำเข้าทั้งหมด . ความตึงเครียดทางการค้าอาจก่อความเจ็บปวดแก่สหรัฐฯ เช่นกัน จากข้อมูลใหม่ที่เผยแพร่ในวันพุธ (5 มี.ค.) พบว่าการเติบโตของการจ้างงานกำลังชะลอตัว เช่นเดียวกับค่าจ้างสำหรับแรงงานที่เปลี่ยนงานใหม่ก็ลดลง ขณะที่รายงานของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) พบความไม่แน่ใจอย่างกว้างขวางในหมู่ภาคธุรกิจทั่วอเมริกาต่อนโยบายต่างๆ ของทรัมป์ และบางธุรกิจถึงขั้นตัดสินใจปรับขึ้นราคาไปแล้ว โดยไม่รอให้มาตรการรีดภาษีมีผลบังคับใช้ . นอกจากแคนาดาและเม็กซิโกแล้ว ทรัมป์ยังกำหนดมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีก 10% กระตุ้นให้ปักกิ่งตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมเช่นกัน . ถ้อยแถลงเกี่ยวกับการยกเว้นภาษี มีขึ้น 1 วันหลังจากทรัมป์พูดคุยทางโทรศัพท์กับซีอีโอของฟอร์ด จีเอ็ม และสเตลแลนทิส . รถยนต์ที่ผลิตโดยทั้ง 3 บริษัท จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ USMCA ที่กำหนดให้ต้องมีชิ้นส่วนที่ผลิตในอเมริกาเหนือ 75% เพื่อที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าสู่ตลาดอเมริกา โดยไม่จำเป็นต้องเสียภาษีใดๆ . นอกจากนี้ กฎเกณฑ์ดังกล่าวยังบังคับให้ส่วนประกอบ 40% ของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลต้องผลิตในสหรัฐฯ หรือแคนาดา และต้องเป็นชิ้นส่วนหลักๆ ในนั้นรวมถึงเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ตัวถังและโครงช่วงล่าง ในขณะที่รถกระบะนั้น กำหนดไว้ที่ 45% . แหล่งข่าวในภาคอุตสาหกรรมเผยว่าบรรดาผู้ผลิตรถยนต์สนับสนุนการส่งเสริมการลงทุนของสหรัฐฯ แต่ต้องการความแน่นอนเกี่ยวกับนโยบายรีดภาษี เช่นเดียวกับกฎเกณฑ์ด้านมลพิษ ก่อนดำเนินการเปลี่ยนแปลงใดๆ . มาตรการยกเว้นนี้ ยังก่อประโยชน์กับรถยนต์แบรนด์ต่างชาติบางส่วน ที่มีฐานการผลิตขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ในนั้นรวมถึงฮอนด้าและโตโยต้า แต่คู่แข่งบางแห่งที่ไม่ปฏิบัติตามจะต้องถูกรีดภาษี 25% เต็มจำนวน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021625 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    17
    0 Comments 0 Shares 2672 Views 0 Reviews
More Results