• “ตรวจสภาพความพร้อมด้านกำลังพลและยุทโธปกรณ์เพื่อเตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชน”
    .
    กองร้อยชุดปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัยที่ 2 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 25 (กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23) ตรวจสภาพความพร้อม ด้านกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการสนับสนุนช่วยเหลือประชาชน การบรรเทาสาธารณภัยได้อย่างทันท่วงที และมีประสิทธิภาพ จึงมีความจำเป็นที่ต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องของคนและอุปกรณ์ต่างๆ ณ กองบังคับการกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 ค่ายวีรวัฒน์โยธิน อ.เมือง จ.สุรินทร์
    .
    #กองพันสุรินทร์
    #กองร้อยบรรเทาสาธารณภัย
    #กองทัพบกเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส
    “ตรวจสภาพความพร้อมด้านกำลังพลและยุทโธปกรณ์เพื่อเตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชน” . กองร้อยชุดปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัยที่ 2 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 25 (กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23) ตรวจสภาพความพร้อม ด้านกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการสนับสนุนช่วยเหลือประชาชน การบรรเทาสาธารณภัยได้อย่างทันท่วงที และมีประสิทธิภาพ จึงมีความจำเป็นที่ต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องของคนและอุปกรณ์ต่างๆ ณ กองบังคับการกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 ค่ายวีรวัฒน์โยธิน อ.เมือง จ.สุรินทร์ . #กองพันสุรินทร์ #กองร้อยบรรเทาสาธารณภัย #กองทัพบกเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส
    0 Comments 0 Shares 39 Views 0 Reviews
  • การฝึกทางทหารประกอบดนตรี "ราชวัลลภเริงระบำ" (Hop to the bodies slams) ประจำปี 2568
    .
    พลตรี เรืองพงษ์ วงษ์ศรีสุข ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 3 พบปะและให้กำลังใจ กรมราชวัลลภเริงระบำ โดยประกอบกำลังจาก กรมทหารม้าที่ 6, กองพันทหารม้าที่ 6 กรมทหารม้าที่ 6, กองพันทหารม้าที่ 14 กรมทหารม้าที่ 7 และ กองพันทหารม้าที่ 8 กองพลทหารราบที่ 3 ซึ่งได้ทำการฝึกซักซ้อมเพื่อเตรียมการแข่งขันฯ ในระดับกองทัพภาค ประจำปี 2568 ณ ลานอัศวิน ค่ายเปรมติณสูลานนท์ อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น
    .
    #กองพลทหารม้าที่3
    #กองทัพภาคที่2
    #กองทัพบก
    การฝึกทางทหารประกอบดนตรี "ราชวัลลภเริงระบำ" (Hop to the bodies slams) ประจำปี 2568 . พลตรี เรืองพงษ์ วงษ์ศรีสุข ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 3 พบปะและให้กำลังใจ กรมราชวัลลภเริงระบำ โดยประกอบกำลังจาก กรมทหารม้าที่ 6, กองพันทหารม้าที่ 6 กรมทหารม้าที่ 6, กองพันทหารม้าที่ 14 กรมทหารม้าที่ 7 และ กองพันทหารม้าที่ 8 กองพลทหารราบที่ 3 ซึ่งได้ทำการฝึกซักซ้อมเพื่อเตรียมการแข่งขันฯ ในระดับกองทัพภาค ประจำปี 2568 ณ ลานอัศวิน ค่ายเปรมติณสูลานนท์ อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น . #กองพลทหารม้าที่3 #กองทัพภาคที่2 #กองทัพบก
    0 Comments 0 Shares 52 Views 0 Reviews
  • "เข้าสู่ฤดูฝน เรายังเคียงข้างประชาชน พร้อมช่วยเหลือในทุกโอกาส"
    .
    กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 8 จัดกำลังพล พร้อมยานพาหนะ ยุทโธปกรณ์ ลงพื้นที่ อำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ในการติดตามสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ที่เอ่อล้นตลิ่งลำน้ำเชิญไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในหลายหมู่บ้าน
    .
    มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่
    •ตำบลวังสวาบ: บ้านหนองแห้ว ม.3, บ้านวังมน ม.4, บ้านเขาวง ม.5, บ้านโนนเตาเหล็ก ม.10
    •ตำบลนาฝาย: บ้านสะแกเครือ ม.1, บ้านสองคอน ม.3, บ้านนาท่าลี่ ม.4, บ้านนาฝายเหนือ ม.5
    •ตำบลโนนคอม: บ้านเซินเหนือ ม.2, บ้านเซินใต้ ม.3
    .
    โดยประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ทางน้ำได้รับผลกระทบจากน้ำหลากไหลเข้าท่วมบ้านเรือน หน่วยจึงได้เร่งให้การช่วยเหลือโดยการกรอกกระสอบทรายเพื่อจัดทำแนวป้องกันน้ำ ยกสิ่งของขึ้นที่สูง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมความพร้อมในการเข้าช่วยเหลือเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด
    .
    #กองพลทหารราบที่3
    #กองทัพภาคที่2
    #กองทัพบกRoyalThaiArmy
    "เข้าสู่ฤดูฝน เรายังเคียงข้างประชาชน พร้อมช่วยเหลือในทุกโอกาส" . กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 8 จัดกำลังพล พร้อมยานพาหนะ ยุทโธปกรณ์ ลงพื้นที่ อำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ในการติดตามสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ที่เอ่อล้นตลิ่งลำน้ำเชิญไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในหลายหมู่บ้าน . มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ •ตำบลวังสวาบ: บ้านหนองแห้ว ม.3, บ้านวังมน ม.4, บ้านเขาวง ม.5, บ้านโนนเตาเหล็ก ม.10 •ตำบลนาฝาย: บ้านสะแกเครือ ม.1, บ้านสองคอน ม.3, บ้านนาท่าลี่ ม.4, บ้านนาฝายเหนือ ม.5 •ตำบลโนนคอม: บ้านเซินเหนือ ม.2, บ้านเซินใต้ ม.3 . โดยประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ทางน้ำได้รับผลกระทบจากน้ำหลากไหลเข้าท่วมบ้านเรือน หน่วยจึงได้เร่งให้การช่วยเหลือโดยการกรอกกระสอบทรายเพื่อจัดทำแนวป้องกันน้ำ ยกสิ่งของขึ้นที่สูง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมความพร้อมในการเข้าช่วยเหลือเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด . #กองพลทหารราบที่3 #กองทัพภาคที่2 #กองทัพบกRoyalThaiArmy
    0 Comments 0 Shares 63 Views 0 Reviews
  • แม่ทัพภาคที่2 ห่วงใยน้องทหารใหม่ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจน้องคนเล็กแห่งกองทัพบก
    .
    พล.ท.บุญสิน พาดกลาง มทภ.2 พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมพบปะให้กำลังใจน้องทหารใหม่ มทบ.210 และ ร.3 พัน.3 ผลัดที่ 1/68 ณ หน่วยฝึกทหารใหม่ มทบ.210 ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม โดยมี พล.ต.ฉัฐชัย มีชั้นช่วง ผบ.มทบ.210 พร้อมคณะผู้บังคับบัญชา และกำลังพลร่วมให้การต้อนรับ พร้อมทั้งได้มอบนโยบายการฝึกให้มีประสิทธิภาพ เน้นย้ำมาตรการความปลอดภัย ตามนโยบายของกองทัพบก การดูแลด้านคุณภาพชีวิตทหารใหม่ สวัสดิการสิทธิต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ทหารใหม่ และญาติ พร้อมได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญให้กับผู้ฝึก และน้องทหารใหม่ เพื่อเป็นกำลังใจในการฝึกต่อไป
    .
    #น้องคนเล็ก
    #Bootcamp168
    แม่ทัพภาคที่2 ห่วงใยน้องทหารใหม่ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจน้องคนเล็กแห่งกองทัพบก . พล.ท.บุญสิน พาดกลาง มทภ.2 พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมพบปะให้กำลังใจน้องทหารใหม่ มทบ.210 และ ร.3 พัน.3 ผลัดที่ 1/68 ณ หน่วยฝึกทหารใหม่ มทบ.210 ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม โดยมี พล.ต.ฉัฐชัย มีชั้นช่วง ผบ.มทบ.210 พร้อมคณะผู้บังคับบัญชา และกำลังพลร่วมให้การต้อนรับ พร้อมทั้งได้มอบนโยบายการฝึกให้มีประสิทธิภาพ เน้นย้ำมาตรการความปลอดภัย ตามนโยบายของกองทัพบก การดูแลด้านคุณภาพชีวิตทหารใหม่ สวัสดิการสิทธิต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ทหารใหม่ และญาติ พร้อมได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญให้กับผู้ฝึก และน้องทหารใหม่ เพื่อเป็นกำลังใจในการฝึกต่อไป . #น้องคนเล็ก #Bootcamp168
    0 Comments 0 Shares 61 Views 0 Reviews
  • “คณะมูลนิธิชัยพัฒนา ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการทหารพันธุ์ดี ในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี”
    .
    พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ ที่ปรึกษามูลนิธิชัยพัฒนา และ หม่อมราชวงศ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักกิจการพิเศษ มูลนิธิชัยพัฒนา ในการเดินทางตรวจเยี่ยมโครงการทหารพันธุ์ดี ของ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 และ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 พร้อมทั้งเดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการทหารพันธุ์ดี "ชุมชนเบิกบาน อาหารปลอดภัย" ณ โรงเรียนบ้านราษฎร์รักแดน อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์, โรงเรียนบ้านประทาย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และ โรงเรียนบ้านดงแถบ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
    .
    เพื่อติดตามความคืบหน้าของการดำเนินโครงการฯ และแนะนำแนวทางการปลูกพืชให้เหมาะสมกับพื้นที่ การส่งขายเข้าตลาด การดูแลสัตว์เลี้ยงภายในโครงการฯ ให้มีสุขภาพแข็งแรง สามารถขยายพันธุ์ได้ดี การรู้จักใช้ระบบชีวภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช การขยายพันธุ์พืชสู่ชุมชนรอบค่ายทหาร และชุมชนรอบโรงเรียน อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป โดยมี ผู้บังคับหน่วยในพื้นที่, คณะครูนักเรียน และกรรมการสถานศึกษา ร่วมให้การต้อนรับ
    .
    #โครงการทหารพันธุ์ดี
    #กองกำลังสุรนารี
    #กองทัพภาคที่2
    #กองทัพบก
    #ArmyPRCenter
    “คณะมูลนิธิชัยพัฒนา ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการทหารพันธุ์ดี ในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี” . พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ ที่ปรึกษามูลนิธิชัยพัฒนา และ หม่อมราชวงศ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักกิจการพิเศษ มูลนิธิชัยพัฒนา ในการเดินทางตรวจเยี่ยมโครงการทหารพันธุ์ดี ของ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 และ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 พร้อมทั้งเดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการทหารพันธุ์ดี "ชุมชนเบิกบาน อาหารปลอดภัย" ณ โรงเรียนบ้านราษฎร์รักแดน อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์, โรงเรียนบ้านประทาย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และ โรงเรียนบ้านดงแถบ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี . เพื่อติดตามความคืบหน้าของการดำเนินโครงการฯ และแนะนำแนวทางการปลูกพืชให้เหมาะสมกับพื้นที่ การส่งขายเข้าตลาด การดูแลสัตว์เลี้ยงภายในโครงการฯ ให้มีสุขภาพแข็งแรง สามารถขยายพันธุ์ได้ดี การรู้จักใช้ระบบชีวภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช การขยายพันธุ์พืชสู่ชุมชนรอบค่ายทหาร และชุมชนรอบโรงเรียน อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป โดยมี ผู้บังคับหน่วยในพื้นที่, คณะครูนักเรียน และกรรมการสถานศึกษา ร่วมให้การต้อนรับ . #โครงการทหารพันธุ์ดี #กองกำลังสุรนารี #กองทัพภาคที่2 #กองทัพบก #ArmyPRCenter
    0 Comments 0 Shares 66 Views 0 Reviews
  • ทบ.แจงเหตุการณ์ปะทะทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนช่องบก อุบลราชธานี ปัจจุบัน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างรอการเจรจา
    .
    เช้าวันนี้ (28 พฤศภาคม 2568) ณ กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยระบุว่าได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารีเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.30 น.
    .
    โดย หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเพื่อเข้าพูดคุยเจรจาตามแนวทางการปฏิบัติที่เคยกระทำมา เมื่อถึงบริเวณดังกล่าว กำลังส่วนระวังเหตุของทหารกัมพูชาได้เข้าใจผิด และเริ่มใช้อาวุธ ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที
    .
    ต่อมาเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานงานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ
    .
    ปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อจัดการกรณีอ้างสิทธิในพื้นที่ และกำหนดแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ ตามข้อตกลงที่มีอยู่
    .
    กองทัพบกขอยืนยันว่า กำลังพลฝ่ายไทยปลอดภัย ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต และจะรายงานความคืบหน้าเพิ่มเติมให้ทราบต่อไป
    .
    Cr.ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก โดยทีมโฆษกกองทัพบก
    #RTA #กองทัพบก #กองทัพภาคที่2
    ทบ.แจงเหตุการณ์ปะทะทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนช่องบก อุบลราชธานี ปัจจุบัน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างรอการเจรจา . เช้าวันนี้ (28 พฤศภาคม 2568) ณ กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยระบุว่าได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารีเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.30 น. . โดย หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเพื่อเข้าพูดคุยเจรจาตามแนวทางการปฏิบัติที่เคยกระทำมา เมื่อถึงบริเวณดังกล่าว กำลังส่วนระวังเหตุของทหารกัมพูชาได้เข้าใจผิด และเริ่มใช้อาวุธ ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที . ต่อมาเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานงานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ . ปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อจัดการกรณีอ้างสิทธิในพื้นที่ และกำหนดแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ ตามข้อตกลงที่มีอยู่ . กองทัพบกขอยืนยันว่า กำลังพลฝ่ายไทยปลอดภัย ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต และจะรายงานความคืบหน้าเพิ่มเติมให้ทราบต่อไป . Cr.ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก โดยทีมโฆษกกองทัพบก #RTA #กองทัพบก #กองทัพภาคที่2
    0 Comments 0 Shares 53 Views 0 Reviews
  • "แม่ทัพภาคที่ 2 ตรวจเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ มณฑลทหารบกที่ 29 พร้อมมอบนโยบาย สร้างขวัญและกำลังใจให้กับน้องๆ ทหารใหม่ ในห้วงการฝึก"
    .
    พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางตรวจเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ มณฑลทหารบกที่ 29 อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร โดยมี พลตรี ยงยุทธ ขันทวี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 29 ฝ่ายเสนาธิการ และผู้ฝึก ให้การต้อนรับ พร้อมตรวจเยี่ยมการฝึกบรรเทาสาธารภัย ของน้องทหารใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชน
    .
    โดย แม่ทัพภาคที่ 2 ได้มอบนโยบาย เน้นย้ำการฝึกเพื่อให้มีประสิทธิภาพ เน้นย้ำมาตรการความปลอดภัย ตามนโยบายของกองทัพบก การดูแลด้านคุณภาพชีวิตทหารใหม่ สวัสดิการสิทธิต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ทหารใหม่ และญาติ พร้อมได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญให้กับผู้ฝึก และน้องทหารใหม่ เพื่อเป็นกำลังใจในการฝึกต่อไป
    .
    #น้องคนเล็ก #BootCamp68 #พลทหาร
    #โอกาสที่เลือกได้
    #มณฑลทหารบกที่29
    #กองทัพภาคที่2
    "แม่ทัพภาคที่ 2 ตรวจเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ มณฑลทหารบกที่ 29 พร้อมมอบนโยบาย สร้างขวัญและกำลังใจให้กับน้องๆ ทหารใหม่ ในห้วงการฝึก" . พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางตรวจเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ มณฑลทหารบกที่ 29 อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร โดยมี พลตรี ยงยุทธ ขันทวี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 29 ฝ่ายเสนาธิการ และผู้ฝึก ให้การต้อนรับ พร้อมตรวจเยี่ยมการฝึกบรรเทาสาธารภัย ของน้องทหารใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชน . โดย แม่ทัพภาคที่ 2 ได้มอบนโยบาย เน้นย้ำการฝึกเพื่อให้มีประสิทธิภาพ เน้นย้ำมาตรการความปลอดภัย ตามนโยบายของกองทัพบก การดูแลด้านคุณภาพชีวิตทหารใหม่ สวัสดิการสิทธิต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ทหารใหม่ และญาติ พร้อมได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญให้กับผู้ฝึก และน้องทหารใหม่ เพื่อเป็นกำลังใจในการฝึกต่อไป . #น้องคนเล็ก #BootCamp68 #พลทหาร #โอกาสที่เลือกได้ #มณฑลทหารบกที่29 #กองทัพภาคที่2
    0 Comments 0 Shares 55 Views 0 Reviews
  • "กองทัพภาคที่ 2 จัดประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาศักยภาพบุคคลากรด้านการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด"

    พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาศักยภาพบุคคลากรด้านการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด พร้อมด้วย พลตรี กิติศักดิ์ ถาวร เสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

    โดย กองทัพภาคที่ 2 และหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ (นบ.ยส.24) ได้ปฏิบัติภารกิจเร่งด่วนตามนโยบายของรัฐบาล กำหนดแผนปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด "Seal Stop Safe” ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน โดยในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 มี จำนวน 25 อำเภอ

    ซึ่งการประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาศักยภาพบุคคลากรด้านการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ในครั้งนี้มุ่งเน้นให้ผู้ปฏิบัติสามารถปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและเป็นไปตามที่ รัฐบาล ,กองทัพบก และแม่ทัพภาคที่ 2 เน้นย้ำในการปราบปรามยาเสพติดและสิ่งของผิดกฎหมายตามแนวชายแดน ไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ก่อให้เกิดเป็นปัญหาให้กับประเทศชาติและประชาชนอย่างจริงจัง และเด็ดขาด

    #รัฐบาล
    #กองทัพบก
    #กองทัพภาคที่2
    #นบยส24
    #ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่2
    "กองทัพภาคที่ 2 จัดประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาศักยภาพบุคคลากรด้านการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด" พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาศักยภาพบุคคลากรด้านการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด พร้อมด้วย พลตรี กิติศักดิ์ ถาวร เสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดย กองทัพภาคที่ 2 และหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ (นบ.ยส.24) ได้ปฏิบัติภารกิจเร่งด่วนตามนโยบายของรัฐบาล กำหนดแผนปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด "Seal Stop Safe” ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน โดยในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 มี จำนวน 25 อำเภอ ซึ่งการประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาศักยภาพบุคคลากรด้านการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ในครั้งนี้มุ่งเน้นให้ผู้ปฏิบัติสามารถปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและเป็นไปตามที่ รัฐบาล ,กองทัพบก และแม่ทัพภาคที่ 2 เน้นย้ำในการปราบปรามยาเสพติดและสิ่งของผิดกฎหมายตามแนวชายแดน ไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ก่อให้เกิดเป็นปัญหาให้กับประเทศชาติและประชาชนอย่างจริงจัง และเด็ดขาด #รัฐบาล #กองทัพบก #กองทัพภาคที่2 #นบยส24 #ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่2
    0 Comments 0 Shares 178 Views 0 Reviews
  • "กองทัพภาคที่ 2 จัดประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาศักยภาพบุคคลากรด้านการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด"

    พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาศักยภาพบุคคลากรด้านการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด พร้อมด้วย พลตรี กิติศักดิ์ ถาวร เสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

    โดย กองทัพภาคที่ 2 และหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ (นบ.ยส.24) ได้ปฏิบัติภารกิจเร่งด่วนตามนโยบายของรัฐบาล กำหนดแผนปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด "Seal Stop Safe” ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน โดยในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 มี จำนวน 25 อำเภอ

    ซึ่งการประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาศักยภาพบุคคลากรด้านการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ในครั้งนี้มุ่งเน้นให้ผู้ปฏิบัติสามารถปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและเป็นไปตามที่ รัฐบาล ,กองทัพบก และแม่ทัพภาคที่ 2 เน้นย้ำในการปราบปรามยาเสพติดและสิ่งของผิดกฎหมายตามแนวชายแดน ไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ก่อให้เกิดเป็นปัญหาให้กับประเทศชาติและประชาชนอย่างจริงจัง และเด็ดขาด

    #รัฐบาล
    #กองทัพบก
    #กองทัพภาคที่2
    #นบยส24
    #ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่2
    "กองทัพภาคที่ 2 จัดประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาศักยภาพบุคคลากรด้านการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด" พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาศักยภาพบุคคลากรด้านการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด พร้อมด้วย พลตรี กิติศักดิ์ ถาวร เสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดย กองทัพภาคที่ 2 และหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ (นบ.ยส.24) ได้ปฏิบัติภารกิจเร่งด่วนตามนโยบายของรัฐบาล กำหนดแผนปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด "Seal Stop Safe” ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน โดยในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 มี จำนวน 25 อำเภอ ซึ่งการประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาศักยภาพบุคคลากรด้านการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ในครั้งนี้มุ่งเน้นให้ผู้ปฏิบัติสามารถปฏิบัติงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและเป็นไปตามที่ รัฐบาล ,กองทัพบก และแม่ทัพภาคที่ 2 เน้นย้ำในการปราบปรามยาเสพติดและสิ่งของผิดกฎหมายตามแนวชายแดน ไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ก่อให้เกิดเป็นปัญหาให้กับประเทศชาติและประชาชนอย่างจริงจัง และเด็ดขาด #รัฐบาล #กองทัพบก #กองทัพภาคที่2 #นบยส24 #ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่2
    0 Comments 0 Shares 152 Views 0 Reviews
  • "แม่ทัพภาคที่ 2 มอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรของข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างในกองบัญชาการ กองทัพภาคที่ 2"
    .
    พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานพิธีมอบทุนการศึกษาแก่บุตรของข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างภายในกองบัญชาการ และกองร้อยกองบัญชาการ กองทัพภาคที่ 2 ที่มีผลการเรียนดีและมีความประพฤติเรียบร้อย จำนวน 522 ทุน เป็นเงิน 1,627,000 บาท โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ อนุบาล – ม.3 , ม.4 – ม.6 และ ปวช., ปวส. – ปริญญาตรี
    .
    แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ทุนการศึกษาที่มอบในวันนี้เป็นเงินที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย จงใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอให้ทุกคนประพฤติปฏิบัติตนแต่ในสิ่งที่ดีงาม ให้มุ่งมั่นตั้งใจ อยากทำอาชีพอะไร ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน แล้วหาวิธีการไปให้ถึง ให้อดทนใช้ช่วงเวลาศึกษาเล่าเรียนให้ดีที่สุดแล้วจะสบายในวันข้างหน้า หากเน้นสบายในวันนี้ บั้นปลายจะลำบาก ที่สำคัญให้เชื่อฟังพ่อแม่ และเป็นคนดีของสังคม

    #กองทัพภาคที่2
    #กองทัพบกRoyalThaiArmy
    #ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่2
    "แม่ทัพภาคที่ 2 มอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรของข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างในกองบัญชาการ กองทัพภาคที่ 2" . พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานพิธีมอบทุนการศึกษาแก่บุตรของข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างภายในกองบัญชาการ และกองร้อยกองบัญชาการ กองทัพภาคที่ 2 ที่มีผลการเรียนดีและมีความประพฤติเรียบร้อย จำนวน 522 ทุน เป็นเงิน 1,627,000 บาท โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ อนุบาล – ม.3 , ม.4 – ม.6 และ ปวช., ปวส. – ปริญญาตรี . แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ทุนการศึกษาที่มอบในวันนี้เป็นเงินที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย จงใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอให้ทุกคนประพฤติปฏิบัติตนแต่ในสิ่งที่ดีงาม ให้มุ่งมั่นตั้งใจ อยากทำอาชีพอะไร ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน แล้วหาวิธีการไปให้ถึง ให้อดทนใช้ช่วงเวลาศึกษาเล่าเรียนให้ดีที่สุดแล้วจะสบายในวันข้างหน้า หากเน้นสบายในวันนี้ บั้นปลายจะลำบาก ที่สำคัญให้เชื่อฟังพ่อแม่ และเป็นคนดีของสังคม #กองทัพภาคที่2 #กองทัพบกRoyalThaiArmy #ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่2
    0 Comments 0 Shares 250 Views 0 Reviews
  • "เยี่ยมครอบครัว น้องทหารใหม่ 1/68"
    กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 13 เข้าพบปะเยี่ยมครอบครัว พลทหาร อภิรักษ์ มิปะทัง น้องทหารใหม่ ผลัดที่ 1 ประจำปี 2568 พร้อมมอบสิ่งอุปโภค - บริโภคให้กับครอบครัวน้องทหารใหม่ เพื่อคลายความกังวลในเรื่องความเป็นอยู่ และเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว ณ บ้านเลขที่ 109 ตำบลหนองหาน อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี
    #Bootcamp168 #น้องคนเล็ก
    #กองพลทหารราบที่3
    #กองทัพภาคที่2
    #กองทัพบกRoyalThaiArmy
    "เยี่ยมครอบครัว น้องทหารใหม่ 1/68" กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 13 เข้าพบปะเยี่ยมครอบครัว พลทหาร อภิรักษ์ มิปะทัง น้องทหารใหม่ ผลัดที่ 1 ประจำปี 2568 พร้อมมอบสิ่งอุปโภค - บริโภคให้กับครอบครัวน้องทหารใหม่ เพื่อคลายความกังวลในเรื่องความเป็นอยู่ และเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว ณ บ้านเลขที่ 109 ตำบลหนองหาน อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี #Bootcamp168 #น้องคนเล็ก #กองพลทหารราบที่3 #กองทัพภาคที่2 #กองทัพบกRoyalThaiArmy
    0 Comments 0 Shares 303 Views 0 Reviews
  • อ.ไชยันต์ ไชยพร ร้อง ปอท.เอาผิดเพจ "สมศักดิ์ เจียม" โพสต์กล่าวหาเป็นหนึ่งในขบวนการ IO ของกองทัพบก ยันไม่ยอมให้ใครมาสั่งหรือตกอยู่ภายใต้อำนาจอิทธิพลใดๆ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042366

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    อ.ไชยันต์ ไชยพร ร้อง ปอท.เอาผิดเพจ "สมศักดิ์ เจียม" โพสต์กล่าวหาเป็นหนึ่งในขบวนการ IO ของกองทัพบก ยันไม่ยอมให้ใครมาสั่งหรือตกอยู่ภายใต้อำนาจอิทธิพลใดๆ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042366 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Wow
    7
    1 Comments 1 Shares 574 Views 1 Reviews
  • "อ.ไชยันต์ ไชยพร" ร้อง ปอท.เอาผิดเพจ "สมศักดิ์ เจียม" โพสต์กล่าวหาเป็นหนึ่งในขบวนการ IO ของกองทัพบก ยันไม่ยอมให้ใครมาสั่งหรือตกอยู่ภายใต้อำนาจอิทธิพลใดๆ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000042378

    #SondhiX #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "อ.ไชยันต์ ไชยพร" ร้อง ปอท.เอาผิดเพจ "สมศักดิ์ เจียม" โพสต์กล่าวหาเป็นหนึ่งในขบวนการ IO ของกองทัพบก ยันไม่ยอมให้ใครมาสั่งหรือตกอยู่ภายใต้อำนาจอิทธิพลใดๆ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000042378 #SondhiX #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    10
    0 Comments 0 Shares 1116 Views 0 Reviews
  • 'อ.ไชยันต์' ร้อง ปอท.เอาผิดเพจ 'สมศักดิ์ เจียม' โพสต์กล่าวหาเป็นหนึ่งในขบวนการ IO ของกองทัพบก
    https://www.thai-tai.tv/news/18537/
    'อ.ไชยันต์' ร้อง ปอท.เอาผิดเพจ 'สมศักดิ์ เจียม' โพสต์กล่าวหาเป็นหนึ่งในขบวนการ IO ของกองทัพบก https://www.thai-tai.tv/news/18537/
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 Reviews
  • กองทัพบกออกแถลงหลังภาพชายแต่งกายคล้ายสารวัตรทหารอารักขาหญิงชาวจีนในงานเปิดตัวสินค้าโผล่โซเชียล ยืนยันหน่วยพัน.สห.11 ไม่ได้ส่งกำลังพลร่วมงาน และอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นทหารจริงหรือไม่ หากพบกระทำผิดจริง เตรียมสอบวินัยทันที

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/politics/detail/9680000040409

    #MGROnline #สารวัตรทหาร
    กองทัพบกออกแถลงหลังภาพชายแต่งกายคล้ายสารวัตรทหารอารักขาหญิงชาวจีนในงานเปิดตัวสินค้าโผล่โซเชียล ยืนยันหน่วยพัน.สห.11 ไม่ได้ส่งกำลังพลร่วมงาน และอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นทหารจริงหรือไม่ หากพบกระทำผิดจริง เตรียมสอบวินัยทันที • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/politics/detail/9680000040409 • #MGROnline #สารวัตรทหาร
    Angry
    1
    0 Comments 0 Shares 237 Views 0 Reviews
  • 30 เมษายน 2568-รายงานข่าวNBT News ระบุว่าทบ. แจงปมคลิปกลุ่มชายนับสิบแต่งชุดคล้ายสารวัตรทหารในงานอีเวนต์เอกชน ยังไม่ยืนยันเป็นกำลังพล อยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่หากพบผิดจริง เตรียมสอบสวนทางวินัย

    กองทัพบก ชี้แจง ตามที่มีการเผยแพร่ภาพกิจกรรมภายในงานแห่งหนึ่งบนสื่อสังคมออนไลน์และปรากฏภาพบุคคลแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารร่วมปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยนั้น กองทัพบกได้เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นและขอชี้แจงดังนี้ จากผลการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัท Quanhou ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567 ณ อาคาร 6 ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยมีบุคคลสำคัญเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

    ในขั้นต้น กองทัพบกได้ประสานกับกองพันทหารสารวัตรที่ 11 (พัน.สห.11) ซึ่งเป็นหน่วยทหารที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพบว่าไม่มีคำสั่งให้กำลังพลของหน่วยเข้าปฏิบัติภารกิจในงานดังกล่าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าบุคคลที่แต่งกายในลักษณะคล้ายสารวัตรทหารนั้นเป็นกำลังพลของกองทัพบกหรือไม่ หรือสังกัดหน่วยงานใด ซึ่งขณะนี้กองทัพบกอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมอย่างละเอียด

    ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบว่ามีความเกี่ยวข้องหรือเป็นกำลังพลของกองทัพบกจริง จะต้องเข้าสู่กระบวนการสอบสวนทางวินัยเนื่องจากถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่นอกเหนือคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบวินัยของทางราชการอย่างชัดเจน

    ทั้งนี้ในคลิปแสดงพิธีเปิดงาน https://www.facebook.com/share/v/14bPiUYy6s/?mibextid=wwXIfr
    30 เมษายน 2568-รายงานข่าวNBT News ระบุว่าทบ. แจงปมคลิปกลุ่มชายนับสิบแต่งชุดคล้ายสารวัตรทหารในงานอีเวนต์เอกชน ยังไม่ยืนยันเป็นกำลังพล อยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่หากพบผิดจริง เตรียมสอบสวนทางวินัย กองทัพบก ชี้แจง ตามที่มีการเผยแพร่ภาพกิจกรรมภายในงานแห่งหนึ่งบนสื่อสังคมออนไลน์และปรากฏภาพบุคคลแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารร่วมปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยนั้น กองทัพบกได้เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นและขอชี้แจงดังนี้ จากผลการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัท Quanhou ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567 ณ อาคาร 6 ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยมีบุคคลสำคัญเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ในขั้นต้น กองทัพบกได้ประสานกับกองพันทหารสารวัตรที่ 11 (พัน.สห.11) ซึ่งเป็นหน่วยทหารที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพบว่าไม่มีคำสั่งให้กำลังพลของหน่วยเข้าปฏิบัติภารกิจในงานดังกล่าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าบุคคลที่แต่งกายในลักษณะคล้ายสารวัตรทหารนั้นเป็นกำลังพลของกองทัพบกหรือไม่ หรือสังกัดหน่วยงานใด ซึ่งขณะนี้กองทัพบกอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมอย่างละเอียด ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบว่ามีความเกี่ยวข้องหรือเป็นกำลังพลของกองทัพบกจริง จะต้องเข้าสู่กระบวนการสอบสวนทางวินัยเนื่องจากถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่นอกเหนือคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบวินัยของทางราชการอย่างชัดเจน ทั้งนี้ในคลิปแสดงพิธีเปิดงาน https://www.facebook.com/share/v/14bPiUYy6s/?mibextid=wwXIfr
    0 Comments 0 Shares 300 Views 0 Reviews
  • 25 เมษายน 2568 เกิดเหตุระเบิดแสวงเครื่องสังหารนายพลยารอสลาฟ มอสคาลิก นายทหารระดับสูงจากกองเสนาธิการทหารของกองทัพบกรัสเซีย เสียชีวิตในรถยนต์ในเมืองบาลาชิคา ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันออกไม่ถึง 32 กม.
ก่อนที่ทูตพิเศษสหรัฐฯ จะพบหารือกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ในช่วงที่สหรัฐฯ เพิ่มแรงกดดันให้รัสเซียและยูเครนบรรลุข้อตกลงสันติภาพ

เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว หน่วยความมั่นคงยูเครนยอมรับว่า อยู่เบื้องหลังเหตุลอบสังหารพลโทอิกอร์ คิริลลอฟ ของรัสเซีย ด้วยระเบิดซุกซ่อนในสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่จอดนอกอะพาร์ตเมนต์ของเขา

ข่าวเหตุระเบิดครั้งล่าสุดมีขึ้นในช่วงที่สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะเข้าพบหารือกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน หลังเดินทางถึงกรุงมอสโกเช้าวันนี้ โดยเป็นการเยือนรัสเซียครั้งที่ 4 นับจากต้นปีนี้ ต่อมามีรายงานว่า วิตคอฟฟ์ได้พบกับปูตินแล้ว โดยคาดว่าจะหารือเรื่องข้อเสนอแผนสันติภาพในสงครามยูเครน
    25 เมษายน 2568 เกิดเหตุระเบิดแสวงเครื่องสังหารนายพลยารอสลาฟ มอสคาลิก นายทหารระดับสูงจากกองเสนาธิการทหารของกองทัพบกรัสเซีย เสียชีวิตในรถยนต์ในเมืองบาลาชิคา ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันออกไม่ถึง 32 กม.
ก่อนที่ทูตพิเศษสหรัฐฯ จะพบหารือกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ในช่วงที่สหรัฐฯ เพิ่มแรงกดดันให้รัสเซียและยูเครนบรรลุข้อตกลงสันติภาพ

เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว หน่วยความมั่นคงยูเครนยอมรับว่า อยู่เบื้องหลังเหตุลอบสังหารพลโทอิกอร์ คิริลลอฟ ของรัสเซีย ด้วยระเบิดซุกซ่อนในสกูตเตอร์ไฟฟ้าที่จอดนอกอะพาร์ตเมนต์ของเขา

ข่าวเหตุระเบิดครั้งล่าสุดมีขึ้นในช่วงที่สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะเข้าพบหารือกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน หลังเดินทางถึงกรุงมอสโกเช้าวันนี้ โดยเป็นการเยือนรัสเซียครั้งที่ 4 นับจากต้นปีนี้ ต่อมามีรายงานว่า วิตคอฟฟ์ได้พบกับปูตินแล้ว โดยคาดว่าจะหารือเรื่องข้อเสนอแผนสันติภาพในสงครามยูเครน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 236 Views 0 Reviews
  • 48 ปี ประหาร “เสธ.หลาด” พลเอกฉลาด หิรัญศิริ นักโทษกบฏคนสุดท้าย ที่ตายด้วยการยิงเป้า 🇹🇭⚖️ เสียงปืนสุดท้าย ของการปฏิวัติ ที่ไม่สำเร็จ

    ย้อนรอยคดีประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า ที่สะท้อนทั้งความหวัง ความกล้า และการถูกลืม

    🧭 บทเรียนจากอดีต ที่ไม่อาจมองข้าม บ่ายวันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2520 เวลา 15.24 น. ณ เรือนจำกลางบางขวาง เสียงปืนชุดหนึ่ง ดังก้องสะท้อนในความเงียบสงบ เป็นการสิ้นสุดชีวิตของ “เสธ. หลาด” หรือ "พลเอกฉลาด หิรัญศิริ" นายทหารชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งถูกตัดสินประหารชีวิต ในข้อหากบฏ

    เสธ.หลาดเป็นคนสุดท้ายในประวัติศาสตร์ไทย ที่ถูกประหารด้วยการยิงเป้า โดยคำสั่งตามมาตรา 21 แห่งรัฐธรรมนูญไทย ซึ่งเปิดช่องให้รัฐบาลในเวลานั้น สามารถออกคำสั่งให้ประหารชีวิตได้ โดยไม่ต้องผ่านศาล 👁️‍🗨️

    จะพาเจาะลึกตั้งแต่ชีวประวัติของ "พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ" เหตุการณ์รัฐประหารที่ล้มเหลว การตัดสินโทษ และคำถามที่ยังไร้คำตอบว่า... “ทำไมเสธ.หลาดต้องถูกประหาร?” 🤔

    👤 จากทหารกล้า สู่ผู้นำกบฏ "พล.อ. ฉลาด หิรัญศิริ" ถือกำเนิดในยุคสงครามโลก ครั้งที่สอง เริ่มรับราชการในปี พ.ศ. 2483 ที่อุดรธานี มีชีวิตในวงการทหารมายาวนาน ผ่านสงครามเกาหลี และสงครามเวียดนาม เป็นหนึ่งในผู้ได้รับการยอมรับว่าเป็น “ทหารนักรบของจริง” 🪖

    เคยดำรงตำแหน่ง รองผู้บังคับกองร้อย เสนาธิการกรมยุทธศึกษาทหารบก ผู้บัญชาการกองกำลังทหารไทย ในเวียดนามใต้ (ผลัด 2) และผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก

    ชื่อเสียงของเสธ.หลาดในสนามรบ เป็นที่เลื่องลือ ถึงขนาดได้รับประกาศเกียรติคุณ จากประธานาธิบดีเวียดนามใต้ 🎖️

    อย่างไรก็ตาม เส้นทางในกองทัพ กลับไม่เป็นไปตามฝัน เมื่อการเมืองเข้ามาแทรกแซง ส่งผลให้ความทะเยอทะยานของเสธ.หลาด ในการก้าวสู่ตำแหน่ง "ผู้บัญชาการทหารบก" ต้องพังทลายลง

    ⚔️ ปฏิบัติการยึดอำนาจ 26 มีนาคม 2520 ความพยายามที่สิ้นสุดด้วยการล้อม เมื่อการเมืองไม่เอื้อ เสธ.หลาดเลือกเส้นทาง ของการก่อรัฐประหาร โดยในวันที่ 26 มีนาคม 2520 พล.อ. ฉลาด พร้อมพวก เข้ายึดศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก “สวนรื่นฤดี” โดยมีลูกชายของเขา "พ.ต. อัศวิน หิรัญศิริ" เป็นผู้บัญชาการกองกำลัง

    แผนการดูเหมือนจะประสบความสำเร็จในช่วงแรก แต่กลับถูกฝ่ายรัฐบาล ควบคุมสถานการณ์ได้ ในเวลาไม่นาน โดยมี "พ.ต. สุรยุทธ์ จุลานนท์" เป็นตัวกลางในการเจรจาให้ยอมแพ้ และเสนอให้ลี้ภัยไปไต้หวัน

    แต่ข้อตกลงนี้ กลับไม่สำเร็จ เมื่อการเดินทางไปไต้หวันล้มเหลว และผู้นำรัฐประหารทั้งหมด ถูกจับกุมทันที

    🔥 ทำไมต้องประหาร? คำถามที่ยังไร้คำตอบ การใช้ มาตรา 21 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2519 คือประเด็นที่ถกเถียงมากที่สุดในกรณีนี้ เนื่องจากไม่ผ่านกระบวนการศาลปกติ แต่เป็นอำนาจตรงจากรัฐบาลในเวลานั้น

    นายกรัฐมนตรี "ธานินทร์ กรัยวิเชียร" กล่าวภายหลังว่า “ไม่เห็นควรใช้มาตรา 21 อย่างพร่ำเพรื่อ”

    แต่เสียงของนายกฯ แพ้เสียงทหาร ในที่ประชุมร่วมรัฐบาล-คณะปฏิรูป เพราะคะแนนเสียงห่างกัน 16 ต่อ 26 ทำให้คดีนี้ถูกนำไปสู่การตัดสินโทษประหารทันที

    ✨ ข้อสังเกตจาก "สุธรรม แสงประทุม" นักโทษการเมือง ฝ่ายทหารหวาดกลัวว่า เสธ.หลาด จะหลบหนี ดพราะเชื่อว่ายังมีอิทธิพลภายใน รวมถึงกังวลว่า จะถูกเปิดโปงภายในกองทัพ

    นี่คือการ "กำจัด" มากกว่าการ "ยุติธรรม"?

    🕊️ ช่วงสุดท้ายของชีวิต “เสธ. หลาด”
    เวลา 14.00 น. เสธ.หลาดถูกเบิกตัวจากแดนพิเศษ ไปยังห้องควบคุม เขาถามเจ้าหน้าที่พี่เลี้ยงว่า “ญาติมาเยี่ยมหรือ เขาอนุญาตให้เยี่ยมแล้วใช่ไหม?”

    ไม่มีคำตอบ เขารู้ในใจว่าชะตากำลังจะมาถึง

    เวลา 14.20 น. เสธ.หลาดฟังคำสั่งประหารอย่างสงบ พร้อมเซ็นชื่อรับทราบ แล้วเขียนพินัยกรรม 4 แผ่น ✍️ ปฏิเสธอาหารมื้อสุดท้าย และขอดื่มเพียง น้ำส้ม 1 ขวด

    เวลา 14.50 น. พระมหาเจียมเทศนาเรื่องกรรม เสธ.หลาดกล่าว "สาธุ" และก้มกราบ 3 ครั้ง พร้อมประเคนเงินจำนวน 100 บาท และนาฬิกาโอเมกา🙏

    เวลา 15.24 น. เสียงปืนจบชีวิต "เสธ.หลาด" ตรงศาลาแปดเหลี่ยม ในเรือนจำบางขวาง

    คำพูดสุดท้าย "ถ้าพร้อมแล้ว จะบอกนะ"

    จากนั้น...มือของเสธ.หลาดสั่นเบา ๆ เพื่อ "เขย่าดอกไม้ในมือ" เป็นสัญญาณให้เพชฌฆาตเหนี่ยวไก

    🪦 เสธ. หลาดในความทรงจำ ของนักโทษการเมือง "สุธรรม แสงประทุม" เล่าว่า เสธ.หลาด หรือ “ลุงหลาด” อยู่ตึกเดียวกันในบางขวาง โดย “ลุงหลาด” มักชอบพูดเสมอว่า

    “ลุงถูกหักหลัง” ใครคือผู้หักหลัง? ยังไม่มีใครรู้แน่ชัด... หรืออาจรู้ แต่ไม่มีใครกล้าพูด

    เสธ.หลาดยังถามสุธรรมซ้ำ ๆ ว่า "การต่อสู้ของลุง สมควรแก่เหตุหรือเปล่า?"

    สุธรรมตอบว่า "ก็พอสมควรแก่เหตุครับ"

    🧩 เสธ. หลาดในหน้าประวัติศาสตร์: วีรบุรุษ? กบฏ? หรือเหยื่อการเมือง? สิ่งที่ควรถามในวันนี้ไม่ใช่แค่ว่า “เขาผิดหรือไม่?”

    แต่คือ “เขาได้รับความยุติธรรมหรือเปล่า?”

    การประหารชีวิต ที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการศาล

    การเจรจาที่หลอกให้เขายอมแพ้

    การกล่าวหาว่า เขามีอิทธิพลเกินไป

    ทั้งหมดนี้คือคำถาม ที่ยังไม่มีคำตอบ และอาจไม่เคยมีวันหนึ่ง ที่คำตอบเหล่านั้นจะถูกเปิดเผย...

    🔚 เสียงสะท้อนจากกระสุนในวันนั้น เรื่องราวของ “เสธ.หลาด” พลเอกฉลาด หิรัญศิริ ไม่ใช่แค่ประวัติศาสตร์ของคน คนหนึ่ง แต่มันสะท้อนถึง โครงสร้างอำนาจของไทยในอดีต สะท้อนถึงความเปราะบางของ “ความยุติธรรม” เมื่อ “อำนาจ” มาแทนที่ 📜⚖️

    48 ปี ผ่านไป คำถามยังคงอยู่...

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 221706 เม.ย. 2568

    📱 #เสธหลาด #ฉลาดหิรัญศิริ #กบฏ2520 #ประหารชีวิต #ประวัติศาสตร์ไทย #คดีดังไทย #รัฐประหาร #การเมืองไทย #บางขวาง #มาตรา21
    48 ปี ประหาร “เสธ.หลาด” พลเอกฉลาด หิรัญศิริ นักโทษกบฏคนสุดท้าย ที่ตายด้วยการยิงเป้า 🇹🇭⚖️ เสียงปืนสุดท้าย ของการปฏิวัติ ที่ไม่สำเร็จ ย้อนรอยคดีประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า ที่สะท้อนทั้งความหวัง ความกล้า และการถูกลืม 🧭 บทเรียนจากอดีต ที่ไม่อาจมองข้าม บ่ายวันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2520 เวลา 15.24 น. ณ เรือนจำกลางบางขวาง เสียงปืนชุดหนึ่ง ดังก้องสะท้อนในความเงียบสงบ เป็นการสิ้นสุดชีวิตของ “เสธ. หลาด” หรือ "พลเอกฉลาด หิรัญศิริ" นายทหารชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งถูกตัดสินประหารชีวิต ในข้อหากบฏ เสธ.หลาดเป็นคนสุดท้ายในประวัติศาสตร์ไทย ที่ถูกประหารด้วยการยิงเป้า โดยคำสั่งตามมาตรา 21 แห่งรัฐธรรมนูญไทย ซึ่งเปิดช่องให้รัฐบาลในเวลานั้น สามารถออกคำสั่งให้ประหารชีวิตได้ โดยไม่ต้องผ่านศาล 👁️‍🗨️ จะพาเจาะลึกตั้งแต่ชีวประวัติของ "พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ" เหตุการณ์รัฐประหารที่ล้มเหลว การตัดสินโทษ และคำถามที่ยังไร้คำตอบว่า... “ทำไมเสธ.หลาดต้องถูกประหาร?” 🤔 👤 จากทหารกล้า สู่ผู้นำกบฏ "พล.อ. ฉลาด หิรัญศิริ" ถือกำเนิดในยุคสงครามโลก ครั้งที่สอง เริ่มรับราชการในปี พ.ศ. 2483 ที่อุดรธานี มีชีวิตในวงการทหารมายาวนาน ผ่านสงครามเกาหลี และสงครามเวียดนาม เป็นหนึ่งในผู้ได้รับการยอมรับว่าเป็น “ทหารนักรบของจริง” 🪖 เคยดำรงตำแหน่ง รองผู้บังคับกองร้อย เสนาธิการกรมยุทธศึกษาทหารบก ผู้บัญชาการกองกำลังทหารไทย ในเวียดนามใต้ (ผลัด 2) และผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ชื่อเสียงของเสธ.หลาดในสนามรบ เป็นที่เลื่องลือ ถึงขนาดได้รับประกาศเกียรติคุณ จากประธานาธิบดีเวียดนามใต้ 🎖️ อย่างไรก็ตาม เส้นทางในกองทัพ กลับไม่เป็นไปตามฝัน เมื่อการเมืองเข้ามาแทรกแซง ส่งผลให้ความทะเยอทะยานของเสธ.หลาด ในการก้าวสู่ตำแหน่ง "ผู้บัญชาการทหารบก" ต้องพังทลายลง ⚔️ ปฏิบัติการยึดอำนาจ 26 มีนาคม 2520 ความพยายามที่สิ้นสุดด้วยการล้อม เมื่อการเมืองไม่เอื้อ เสธ.หลาดเลือกเส้นทาง ของการก่อรัฐประหาร โดยในวันที่ 26 มีนาคม 2520 พล.อ. ฉลาด พร้อมพวก เข้ายึดศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก “สวนรื่นฤดี” โดยมีลูกชายของเขา "พ.ต. อัศวิน หิรัญศิริ" เป็นผู้บัญชาการกองกำลัง แผนการดูเหมือนจะประสบความสำเร็จในช่วงแรก แต่กลับถูกฝ่ายรัฐบาล ควบคุมสถานการณ์ได้ ในเวลาไม่นาน โดยมี "พ.ต. สุรยุทธ์ จุลานนท์" เป็นตัวกลางในการเจรจาให้ยอมแพ้ และเสนอให้ลี้ภัยไปไต้หวัน แต่ข้อตกลงนี้ กลับไม่สำเร็จ เมื่อการเดินทางไปไต้หวันล้มเหลว และผู้นำรัฐประหารทั้งหมด ถูกจับกุมทันที 🔥 ทำไมต้องประหาร? คำถามที่ยังไร้คำตอบ การใช้ มาตรา 21 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2519 คือประเด็นที่ถกเถียงมากที่สุดในกรณีนี้ เนื่องจากไม่ผ่านกระบวนการศาลปกติ แต่เป็นอำนาจตรงจากรัฐบาลในเวลานั้น นายกรัฐมนตรี "ธานินทร์ กรัยวิเชียร" กล่าวภายหลังว่า “ไม่เห็นควรใช้มาตรา 21 อย่างพร่ำเพรื่อ” แต่เสียงของนายกฯ แพ้เสียงทหาร ในที่ประชุมร่วมรัฐบาล-คณะปฏิรูป เพราะคะแนนเสียงห่างกัน 16 ต่อ 26 ทำให้คดีนี้ถูกนำไปสู่การตัดสินโทษประหารทันที ✨ ข้อสังเกตจาก "สุธรรม แสงประทุม" นักโทษการเมือง ฝ่ายทหารหวาดกลัวว่า เสธ.หลาด จะหลบหนี ดพราะเชื่อว่ายังมีอิทธิพลภายใน รวมถึงกังวลว่า จะถูกเปิดโปงภายในกองทัพ นี่คือการ "กำจัด" มากกว่าการ "ยุติธรรม"? 🕊️ ช่วงสุดท้ายของชีวิต “เสธ. หลาด” เวลา 14.00 น. เสธ.หลาดถูกเบิกตัวจากแดนพิเศษ ไปยังห้องควบคุม เขาถามเจ้าหน้าที่พี่เลี้ยงว่า “ญาติมาเยี่ยมหรือ เขาอนุญาตให้เยี่ยมแล้วใช่ไหม?” ไม่มีคำตอบ เขารู้ในใจว่าชะตากำลังจะมาถึง เวลา 14.20 น. เสธ.หลาดฟังคำสั่งประหารอย่างสงบ พร้อมเซ็นชื่อรับทราบ แล้วเขียนพินัยกรรม 4 แผ่น ✍️ ปฏิเสธอาหารมื้อสุดท้าย และขอดื่มเพียง น้ำส้ม 1 ขวด เวลา 14.50 น. พระมหาเจียมเทศนาเรื่องกรรม เสธ.หลาดกล่าว "สาธุ" และก้มกราบ 3 ครั้ง พร้อมประเคนเงินจำนวน 100 บาท และนาฬิกาโอเมกา🙏 เวลา 15.24 น. เสียงปืนจบชีวิต "เสธ.หลาด" ตรงศาลาแปดเหลี่ยม ในเรือนจำบางขวาง คำพูดสุดท้าย "ถ้าพร้อมแล้ว จะบอกนะ" จากนั้น...มือของเสธ.หลาดสั่นเบา ๆ เพื่อ "เขย่าดอกไม้ในมือ" เป็นสัญญาณให้เพชฌฆาตเหนี่ยวไก 🪦 เสธ. หลาดในความทรงจำ ของนักโทษการเมือง "สุธรรม แสงประทุม" เล่าว่า เสธ.หลาด หรือ “ลุงหลาด” อยู่ตึกเดียวกันในบางขวาง โดย “ลุงหลาด” มักชอบพูดเสมอว่า “ลุงถูกหักหลัง” ใครคือผู้หักหลัง? ยังไม่มีใครรู้แน่ชัด... หรืออาจรู้ แต่ไม่มีใครกล้าพูด เสธ.หลาดยังถามสุธรรมซ้ำ ๆ ว่า "การต่อสู้ของลุง สมควรแก่เหตุหรือเปล่า?" สุธรรมตอบว่า "ก็พอสมควรแก่เหตุครับ" 🧩 เสธ. หลาดในหน้าประวัติศาสตร์: วีรบุรุษ? กบฏ? หรือเหยื่อการเมือง? สิ่งที่ควรถามในวันนี้ไม่ใช่แค่ว่า “เขาผิดหรือไม่?” แต่คือ “เขาได้รับความยุติธรรมหรือเปล่า?” การประหารชีวิต ที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการศาล การเจรจาที่หลอกให้เขายอมแพ้ การกล่าวหาว่า เขามีอิทธิพลเกินไป ทั้งหมดนี้คือคำถาม ที่ยังไม่มีคำตอบ และอาจไม่เคยมีวันหนึ่ง ที่คำตอบเหล่านั้นจะถูกเปิดเผย... 🔚 เสียงสะท้อนจากกระสุนในวันนั้น เรื่องราวของ “เสธ.หลาด” พลเอกฉลาด หิรัญศิริ ไม่ใช่แค่ประวัติศาสตร์ของคน คนหนึ่ง แต่มันสะท้อนถึง โครงสร้างอำนาจของไทยในอดีต สะท้อนถึงความเปราะบางของ “ความยุติธรรม” เมื่อ “อำนาจ” มาแทนที่ 📜⚖️ 48 ปี ผ่านไป คำถามยังคงอยู่... ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 221706 เม.ย. 2568 📱 #เสธหลาด #ฉลาดหิรัญศิริ #กบฏ2520 #ประหารชีวิต #ประวัติศาสตร์ไทย #คดีดังไทย #รัฐประหาร #การเมืองไทย #บางขวาง #มาตรา21
    0 Comments 0 Shares 688 Views 0 Reviews
  • จีนจัดซ้อมรบด้วยกระสุนจริงชุดใหญ่รอบเกาะไต้หวัน ด้วยการส่งทั้งกองทัพบก, กองทัพเรือ, กองทัพอากาศ และขีปนาวุธเข้าโอบล้อม ในยุทธวิธีปิดกั้นเกาะที่ปกครองตนเองแห่งนี้ในพื้นที่ห่างจากทางใต้ของเกาะไปประมาณ 40 ไมล์ทะเล (74 กิโลเมตร)

    จีนกล่าวว่าการซ้อมรบครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งคำเตือนที่เด็ดขาดและแข็งกร้าวต่อกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในไต้หวัน

    การซ้อมรบครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ พีท เฮกเซธ กล่าวว่าสถานการณ์กับจีนทีเพียงอย่างเดียวนั่นคือการทำสงคราม และไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และยังกล่าวอีกว่า สหรัฐพร้อมสนับสนุนไต้หวันอย่างเต็มที่ โดยจะลดการสนับสนุนในภูมิภาคอื่น เพื่อมุ่งเป้ามาที่จีนแห่งเดียว

    การซ้อมรบในสัปดาห์นี้เป็นการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์

    จีนจัดซ้อมรบด้วยกระสุนจริงชุดใหญ่รอบเกาะไต้หวัน ด้วยการส่งทั้งกองทัพบก, กองทัพเรือ, กองทัพอากาศ และขีปนาวุธเข้าโอบล้อม ในยุทธวิธีปิดกั้นเกาะที่ปกครองตนเองแห่งนี้ในพื้นที่ห่างจากทางใต้ของเกาะไปประมาณ 40 ไมล์ทะเล (74 กิโลเมตร) จีนกล่าวว่าการซ้อมรบครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งคำเตือนที่เด็ดขาดและแข็งกร้าวต่อกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในไต้หวัน การซ้อมรบครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ พีท เฮกเซธ กล่าวว่าสถานการณ์กับจีนทีเพียงอย่างเดียวนั่นคือการทำสงคราม และไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และยังกล่าวอีกว่า สหรัฐพร้อมสนับสนุนไต้หวันอย่างเต็มที่ โดยจะลดการสนับสนุนในภูมิภาคอื่น เพื่อมุ่งเป้ามาที่จีนแห่งเดียว การซ้อมรบในสัปดาห์นี้เป็นการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
    0 Comments 1 Shares 379 Views 0 Reviews
  • #แผ่นดินไหว กองทัพบก เร่งช่วยเหลือเหตุอาคาร สตง.ถล่ม และอพยพประชาชนที่ติดค้างภายในอาคารสยามสเคป จากเหตุแผ่นดินไหวใน กทม.
    https://www.thai-tai.tv/news/17895/
    #แผ่นดินไหว กองทัพบก เร่งช่วยเหลือเหตุอาคาร สตง.ถล่ม และอพยพประชาชนที่ติดค้างภายในอาคารสยามสเคป จากเหตุแผ่นดินไหวใน กทม. https://www.thai-tai.tv/news/17895/
    0 Comments 0 Shares 119 Views 0 Reviews
  • #แผ่นดินไหว “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ตึกถล่มแผ่นดินไหว ดับแล้ว 3 ติดในอาคารอีกกว่า 80 คน กองทัพบกระดมทหารช่วยเหลือแผ่นดินไหว
    https://www.thai-tai.tv/news/17892/
    #แผ่นดินไหว “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ตึกถล่มแผ่นดินไหว ดับแล้ว 3 ติดในอาคารอีกกว่า 80 คน กองทัพบกระดมทหารช่วยเหลือแผ่นดินไหว https://www.thai-tai.tv/news/17892/
    0 Comments 0 Shares 126 Views 0 Reviews
  • รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งบริหารใหม่เพื่อรวมศูนย์การจัดซื้อเทคโนโลยีและลดการสิ้นเปลือง โดยมุ่งเป้าไปที่การประหยัดงบประมาณถึง 100 พันล้านดอลลาร์ หน่วยงาน GSA จะรับผิดชอบการซื้อสินค้า IT ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตัวอย่างความสำเร็จคือการรวมศูนย์บริการป้องกันข้อมูลที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มาก

    ลดความสิ้นเปลืองและขจัดความซ้ำซ้อน:
    - ภายในสองเดือนก่อนการลงนามคำสั่ง รัฐบาลได้ยกเลิกหรือปรับปรุงสัญญาไปแล้วกว่า 6,000 ฉบับ ซึ่งช่วยประหยัดงบประมาณอย่างเห็นได้ชัด.

    ผลกระทบด้านการจัดซื้อ:
    - หน่วยงานรัฐ เช่น NASA, NIH และกองทัพบก ได้ทำข้อตกลงการซื้อแบบปริมาณมาก (volume purchasing agreements) ผ่าน GSA แต่มีหลายหน่วยงานที่ยังไม่ได้ทำสัญญาลักษณะนี้

    ความสำเร็จที่ผ่านมาของ GSA:
    - ตัวอย่างเช่น การรวมศูนย์บริการป้องกันข้อมูลประจำตัว ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 150 ล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณ 2024

    ความคุ้มค่าด้านฮาร์ดแวร์:
    - รัฐบาลใช้เงินประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปีเพื่อซื้อคอมพิวเตอร์สำหรับเจ้าหน้าที่ แต่ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มีการซื้อผ่าน GSA เพียง 6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งแสดงถึงช่องว่างในการประหยัดงบ

    https://www.techradar.com/pro/us-government-it-contracts-set-to-be-centralized-in-new-trump-order
    รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งบริหารใหม่เพื่อรวมศูนย์การจัดซื้อเทคโนโลยีและลดการสิ้นเปลือง โดยมุ่งเป้าไปที่การประหยัดงบประมาณถึง 100 พันล้านดอลลาร์ หน่วยงาน GSA จะรับผิดชอบการซื้อสินค้า IT ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตัวอย่างความสำเร็จคือการรวมศูนย์บริการป้องกันข้อมูลที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มาก ลดความสิ้นเปลืองและขจัดความซ้ำซ้อน: - ภายในสองเดือนก่อนการลงนามคำสั่ง รัฐบาลได้ยกเลิกหรือปรับปรุงสัญญาไปแล้วกว่า 6,000 ฉบับ ซึ่งช่วยประหยัดงบประมาณอย่างเห็นได้ชัด. ผลกระทบด้านการจัดซื้อ: - หน่วยงานรัฐ เช่น NASA, NIH และกองทัพบก ได้ทำข้อตกลงการซื้อแบบปริมาณมาก (volume purchasing agreements) ผ่าน GSA แต่มีหลายหน่วยงานที่ยังไม่ได้ทำสัญญาลักษณะนี้ ความสำเร็จที่ผ่านมาของ GSA: - ตัวอย่างเช่น การรวมศูนย์บริการป้องกันข้อมูลประจำตัว ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 150 ล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณ 2024 ความคุ้มค่าด้านฮาร์ดแวร์: - รัฐบาลใช้เงินประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปีเพื่อซื้อคอมพิวเตอร์สำหรับเจ้าหน้าที่ แต่ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มีการซื้อผ่าน GSA เพียง 6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งแสดงถึงช่องว่างในการประหยัดงบ https://www.techradar.com/pro/us-government-it-contracts-set-to-be-centralized-in-new-trump-order
    0 Comments 0 Shares 253 Views 0 Reviews
  • 7 มีนาคม 2568-เมื่อเวลา 08.55 น.วันที่ 7 มีนาคม 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในฉลองพระองค์ชุดนักบิน เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ไปทอดพระเนตรการแสดงการบิน เนื่องในโอกาสครบ 88 ปี กองทัพอากาศ ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 กองทัพอากาศ เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานครเมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ พลอากาศเอก เสกสรร คันธา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ ประธานจัดงานการแสดงการบินเนื่องในโอกาสครบ 88 ปี กองทัพอากาศ พร้อมด้วยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และข้าราชการทหารอากาศ เฝ้าฯ รับเสด็จจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังที่ประทับหน้าอาคารท่าอากาศยานทหาร 2 ทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพอากาศ แล้วพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลอากาศเอก คิดควร สดับ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ และนางวริสรา สดับ ภริยา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสร็จแล้ว ผู้บัญชาการทหารอากาศ กราบบังคมทูลรายงานการจัดการแสดงการบินเนื่องในโอกาสครบ 88 ปี กองทัพอากาศจากนั้น ทอดพระเนตรการแสดงการบิน ชุดที่ 1 ประกอบด้วย “การบินฟอร์เมชัน ดิสเพลย์ วิธ เนชันแนล คัลเลอร์ส สโมค” (Formation Display with National Colors Smoke) โดยเครื่องบิน AU-23, T-50TH และเครื่องบิน F-16MLU จากกองทัพอากาศไทย “การบินกริพเพน เดโม” (Gripen Demo) จากกองทัพอากาศไทย “การบินออกัสท์ เฟิร์ธ” (August 1ST) โดยเครื่องบิน J-10C จากกองทัพอากาศสาธารณรัฐประชาชนจีน และ “การบินเอฟ-35เอ เดโม” (F-35A Demo) จากกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาภายหลังจบการแสดงการบินชุดที่ 1 แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จเข้าภายในอาคารท่าอากาศยานทหาร 2 พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ และภริยา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึกจากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการและวีดิทัศน์ภารกิจเครื่องบิน “กริพเพน” (Gripen) บินลงจอดบนถนนในพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งทำการวิ่งขึ้นจาก สนามบินหาดใหญ่บินไปตามจุดที่กำหนดเพื่อทำการลงสนามแบบ Straight in approach โดยในเที่ยวแรกได้ทำ Low approach เพื่อทำความคุ้นเคยและในเที่ยวบินที่2 จึงทำการลงสนามจริง นิทรรศการพระมหากษัตริย์นักบินแห่งราชวงศ์จักรี ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสนพระราชหฤทัย และทรงพระปรีชาสามารถด้านการบินทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติอย่างเชี่ยวชาญ หลังจากที่ทรงสำเร็จการศึกษาทางการทหารเมื่อพุทธศักราช 2522 ทรงเริ่มเข้ารับการฝึกบินหลักสูตรเฮลิคอปเตอร์โจมตีติดอาวุธ (Gunship) ของกองทัพบก เมื่อพุทธศักราช 2523 และทรงฝึกบินหลักสูตรเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพอากาศ ทรงสำเร็จตามหลักสูตร เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2523 และได้ทรงบินเฮลิคอปเตอร์ด้วยพระองค์เอง เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนนายเรืออากาศ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2523 ซึ่งปัจจุบันคือโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช และทรงรับพระราชทานประดับเครื่องหมายแสดงความสามารถในการบินของกองทัพอากาศ จากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อันเป็นความภูมิใจของกำลังพลของกองทัพอากาศ และพสกนิกรชาวไทยที่ได้มีพระมหากษัตริย์นักบิน เป็นมิ่งขวัญของแผ่นดินภายหลังจากทอดพระเนตรนิทรรศการเสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี เสด็จฯ ไปยังหน้าอาคารท่าอากาศยานทหาร 2 ทอดพระเนตรเครื่องบินขับไล่ไอพ่นแบบ เอฟ-5อี (F-5E) และทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์กับเครื่องบิน ที-50 อากาศยานไอพ่นความเร็วเหนือเสียง และเป็นอากาศยานโจมตี จากกองบิน 4 ตาคลี จ.นครสวรรค์ด้วยพระราชปณิธานในการเป็นนักบิน ทรงเข้ารับการถวายการฝึกบินกับอากาศยานปีกตรึงโดยกองทัพอากาศ และเสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาเทคนิคการบินจากฐานทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ได้แก่ ฐานทัพอากาศเล็คแลนด์ เมืองแซนเอนโทนิโอ รัฐเท็กซัส ทรงจบหลักสูตรการบินขับไล่ไอพ่น ยุทธวิธีขั้นพื้นฐานจากฝูงบินขับไล่ยุทธวิธีที่ 425 ฐานบินวิลเลียมส์ รัฐแอริโซนา ทรงเข้าศึกษาฝึกบินกับเครื่องบินขับไล่ไอพ่นแบบ เอฟ-5อี (F-5E) ในหลักสูตรการบินขับไล่ไอพ่นทางยุทธวิธีชั้นสูง ทรงเข้าประจำการ ณ กองปฏิบัติการทางอากาศพิเศษ การทำลายและยุทธวิธีรบนอกแบบ กับทรงศึกษาหลักสูตรทางทหารเพิ่มเติม เช่น หลักสูตรต้นหนชั้นสูง การลาดตระเวน หลักสูตรส่งทางอากาศ หลักสูตรการบิ เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไปแบบ ยูเอช-1เอช (UH-1H) ของกองทัพบกสหรัฐอเมริกา ณ ฟอร์ท แบรกก์ รัฐนอร์ธ แคโรไลนา และหลักสูตรเฮลิคอปเตอร์โจมตีติดอาวุธแบบ เอเอช-1เอส คอบรา (AH-1S COBRA) ทรงฝึกฝนการบินอย่างสม่ำเสมอ และยังได้ทรงเข้าร่วมการแข่งขันการปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธีของกองทัพอากาศที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยทรงเข้าร่วมแข่งขันระหว่างพุทธศักราช 2526 ถึง 2530 ณ สนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล จ.ลพบุรีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักบินขับไล่ไอพ่นพระองค์แรกแห่งราชวงศ์จักรี ที่ทรงทำการบินกับเครื่องบินกองทัพอากาศได้เกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นอากาศยานปีกหมุน อากาศยานปีกตรึงแบบใบพัด และเครื่องยนต์ไอพ่น และด้วยพระปรีชาสามารถ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเป็นนักบินขับไล่ที่มีชั่วโมงบินต่อเนื่องมากกว่า 2,800 ชั่วโมงบิน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ยากยิ่งสำหรับนักบินขับไล่ทั่วโลกที่จะทำได้ และด้วยพระราชหฤทัยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา ทรงถ่ายทอดประสบการณ์ที่ทรงมี ปฏิบัติหน้าที่ครูการบิน พระราชทานการฝึกสอนทั้งวิชาการภาคพื้นและการฝึกบินให้แก่นักบินขับไล่ของกองทัพอากาศ แสดงถึงพระปรีชาสามารถที่ทรงตั้งพระราชหฤทัยพัฒนาและยกระดับการบินของชาติให้ทัดเทียมนานาประเทศ ทรงอุปถัมภ์งานด้านการบินอย่างต่อเนื่อง นับเป็นคุณูปการแก่กองทัพอากาศไทย และกิจการการบินของประเทศเป็นอย่างยิ่งจากนั้นทอดพระเนตรนิทรรศการเครื่องบินฝึกจำลอง (Gripen E/F Simulator) ของเครื่องบิน Gripen ด้วยความสนพระราชหฤทัย ในโอกาสนี้ มีพระราชปฏิสันถารกับนักบินในฝูงบินจากสาธารณรัฐประชาชนจีน และสหรัฐอเมริกาเสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปยังที่ประทับหน้าอาคารท่าอากาศยานทหาร 2 ทอดพระเนตรการแสดงการบิน ชุดที่ 2 “การบินสูรยกิรัณ” (Suryakiran) จากกองทัพอากาศสาธารณรัฐอินเดีย ภายหลังจบการแสดงการบิน เสด็จออกจากที่ประทับหน้าอาคารท่าอากาศยานทหาร 2 ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกองทัพอากาศ จัดการแสดงการบินเนื่องในโอกาสครบ 88 ปี เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวาระที่กระทรวงกลาโหมได้ยกฐานะกรมทหารอากาศ ขึ้นเป็นกองทัพอากาศ ตั้งแต่พุทธศักราช 2480 ซึ่งปฏิบัติภารกิจอย่างมุ่งมั่นเพื่อรักษาความมั่นคง ของชาติ และดํารงความพร้อมของกําลังทางอากาศ เพื่อรับมือกับภัยคุกคาม ทุกรูปแบบ รวมทั้งการใช้ขีดความสามารถของ กองทัพอากาศทุกมิติ เพื่อช่วยเหลือ ประชาชนอย่างเต็มความสามารถตลอด 88 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น จึงจัดงานขึ้นภายใต้แนวคิด “AIR SOVEREIGNTY THROUGH UNBEATABLE COLLABORATION” หรือ “อธิปไตยเหนือน่านฟ้า ผ่านความร่วมมืออันแข็งแกร่ง” เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงเกียรติประวัติความภาคภูมิใจ ในเกียรติภูมิของกองทัพอากาศ และแสดงถึงขีดความสามารถของ กองทัพอากาศ ในการปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคง การสนับสนุนหน่วยงาน ภาครัฐและเอกชน การใช้ขีดความสามารถในทุกด้านเพื่อช่วยเหลือประชาชน ตลอดจนแสดงถึงแผนการพัฒนากองทัพอากาศในอนาคต แสดงถึงความพร้อมของกองทัพอากาศ ในด้านการส่งเสริม ภาคอุตสาหกรรมการบิน และภาคอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ อันนำไปสู่ การเป็นศูนย์กลางทางการบินในภูมิภาคตามนโยบายรัฐบาล ที่ส่งเสริมและกระชับความร่วมมือภายในประเทศ และเสริมสร้างมิตรภาพความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างกองทัพอากาศ กับกองทัพอากาศมิตรประเทศโดยปีนี้ได้จัดแสดงอากาศยานของกองทัพอากาศไทย และกองทัพอากาศมิตรประเทศ ทั้ง 3 ประเทศด้วยกัน ประกอบด้วย กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา , กองทัพอากาศสาธารณรัฐอินเดีย และกองทัพอากาศสาธารณรัฐประชาชนจีน มีกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 7 - 8 มีนาคม ณ กองบิน 6 ท่าอากาศยานทหารดอนเมือง
    7 มีนาคม 2568-เมื่อเวลา 08.55 น.วันที่ 7 มีนาคม 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในฉลองพระองค์ชุดนักบิน เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ไปทอดพระเนตรการแสดงการบิน เนื่องในโอกาสครบ 88 ปี กองทัพอากาศ ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 กองทัพอากาศ เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานครเมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ พลอากาศเอก เสกสรร คันธา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ ประธานจัดงานการแสดงการบินเนื่องในโอกาสครบ 88 ปี กองทัพอากาศ พร้อมด้วยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และข้าราชการทหารอากาศ เฝ้าฯ รับเสด็จจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังที่ประทับหน้าอาคารท่าอากาศยานทหาร 2 ทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพอากาศ แล้วพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลอากาศเอก คิดควร สดับ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ และนางวริสรา สดับ ภริยา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสร็จแล้ว ผู้บัญชาการทหารอากาศ กราบบังคมทูลรายงานการจัดการแสดงการบินเนื่องในโอกาสครบ 88 ปี กองทัพอากาศจากนั้น ทอดพระเนตรการแสดงการบิน ชุดที่ 1 ประกอบด้วย “การบินฟอร์เมชัน ดิสเพลย์ วิธ เนชันแนล คัลเลอร์ส สโมค” (Formation Display with National Colors Smoke) โดยเครื่องบิน AU-23, T-50TH และเครื่องบิน F-16MLU จากกองทัพอากาศไทย “การบินกริพเพน เดโม” (Gripen Demo) จากกองทัพอากาศไทย “การบินออกัสท์ เฟิร์ธ” (August 1ST) โดยเครื่องบิน J-10C จากกองทัพอากาศสาธารณรัฐประชาชนจีน และ “การบินเอฟ-35เอ เดโม” (F-35A Demo) จากกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาภายหลังจบการแสดงการบินชุดที่ 1 แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จเข้าภายในอาคารท่าอากาศยานทหาร 2 พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ และภริยา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึกจากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการและวีดิทัศน์ภารกิจเครื่องบิน “กริพเพน” (Gripen) บินลงจอดบนถนนในพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งทำการวิ่งขึ้นจาก สนามบินหาดใหญ่บินไปตามจุดที่กำหนดเพื่อทำการลงสนามแบบ Straight in approach โดยในเที่ยวแรกได้ทำ Low approach เพื่อทำความคุ้นเคยและในเที่ยวบินที่2 จึงทำการลงสนามจริง นิทรรศการพระมหากษัตริย์นักบินแห่งราชวงศ์จักรี ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสนพระราชหฤทัย และทรงพระปรีชาสามารถด้านการบินทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติอย่างเชี่ยวชาญ หลังจากที่ทรงสำเร็จการศึกษาทางการทหารเมื่อพุทธศักราช 2522 ทรงเริ่มเข้ารับการฝึกบินหลักสูตรเฮลิคอปเตอร์โจมตีติดอาวุธ (Gunship) ของกองทัพบก เมื่อพุทธศักราช 2523 และทรงฝึกบินหลักสูตรเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพอากาศ ทรงสำเร็จตามหลักสูตร เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2523 และได้ทรงบินเฮลิคอปเตอร์ด้วยพระองค์เอง เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนนายเรืออากาศ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2523 ซึ่งปัจจุบันคือโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช และทรงรับพระราชทานประดับเครื่องหมายแสดงความสามารถในการบินของกองทัพอากาศ จากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อันเป็นความภูมิใจของกำลังพลของกองทัพอากาศ และพสกนิกรชาวไทยที่ได้มีพระมหากษัตริย์นักบิน เป็นมิ่งขวัญของแผ่นดินภายหลังจากทอดพระเนตรนิทรรศการเสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี เสด็จฯ ไปยังหน้าอาคารท่าอากาศยานทหาร 2 ทอดพระเนตรเครื่องบินขับไล่ไอพ่นแบบ เอฟ-5อี (F-5E) และทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์กับเครื่องบิน ที-50 อากาศยานไอพ่นความเร็วเหนือเสียง และเป็นอากาศยานโจมตี จากกองบิน 4 ตาคลี จ.นครสวรรค์ด้วยพระราชปณิธานในการเป็นนักบิน ทรงเข้ารับการถวายการฝึกบินกับอากาศยานปีกตรึงโดยกองทัพอากาศ และเสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาเทคนิคการบินจากฐานทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ได้แก่ ฐานทัพอากาศเล็คแลนด์ เมืองแซนเอนโทนิโอ รัฐเท็กซัส ทรงจบหลักสูตรการบินขับไล่ไอพ่น ยุทธวิธีขั้นพื้นฐานจากฝูงบินขับไล่ยุทธวิธีที่ 425 ฐานบินวิลเลียมส์ รัฐแอริโซนา ทรงเข้าศึกษาฝึกบินกับเครื่องบินขับไล่ไอพ่นแบบ เอฟ-5อี (F-5E) ในหลักสูตรการบินขับไล่ไอพ่นทางยุทธวิธีชั้นสูง ทรงเข้าประจำการ ณ กองปฏิบัติการทางอากาศพิเศษ การทำลายและยุทธวิธีรบนอกแบบ กับทรงศึกษาหลักสูตรทางทหารเพิ่มเติม เช่น หลักสูตรต้นหนชั้นสูง การลาดตระเวน หลักสูตรส่งทางอากาศ หลักสูตรการบิ เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไปแบบ ยูเอช-1เอช (UH-1H) ของกองทัพบกสหรัฐอเมริกา ณ ฟอร์ท แบรกก์ รัฐนอร์ธ แคโรไลนา และหลักสูตรเฮลิคอปเตอร์โจมตีติดอาวุธแบบ เอเอช-1เอส คอบรา (AH-1S COBRA) ทรงฝึกฝนการบินอย่างสม่ำเสมอ และยังได้ทรงเข้าร่วมการแข่งขันการปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธีของกองทัพอากาศที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยทรงเข้าร่วมแข่งขันระหว่างพุทธศักราช 2526 ถึง 2530 ณ สนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล จ.ลพบุรีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักบินขับไล่ไอพ่นพระองค์แรกแห่งราชวงศ์จักรี ที่ทรงทำการบินกับเครื่องบินกองทัพอากาศได้เกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นอากาศยานปีกหมุน อากาศยานปีกตรึงแบบใบพัด และเครื่องยนต์ไอพ่น และด้วยพระปรีชาสามารถ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเป็นนักบินขับไล่ที่มีชั่วโมงบินต่อเนื่องมากกว่า 2,800 ชั่วโมงบิน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ยากยิ่งสำหรับนักบินขับไล่ทั่วโลกที่จะทำได้ และด้วยพระราชหฤทัยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา ทรงถ่ายทอดประสบการณ์ที่ทรงมี ปฏิบัติหน้าที่ครูการบิน พระราชทานการฝึกสอนทั้งวิชาการภาคพื้นและการฝึกบินให้แก่นักบินขับไล่ของกองทัพอากาศ แสดงถึงพระปรีชาสามารถที่ทรงตั้งพระราชหฤทัยพัฒนาและยกระดับการบินของชาติให้ทัดเทียมนานาประเทศ ทรงอุปถัมภ์งานด้านการบินอย่างต่อเนื่อง นับเป็นคุณูปการแก่กองทัพอากาศไทย และกิจการการบินของประเทศเป็นอย่างยิ่งจากนั้นทอดพระเนตรนิทรรศการเครื่องบินฝึกจำลอง (Gripen E/F Simulator) ของเครื่องบิน Gripen ด้วยความสนพระราชหฤทัย ในโอกาสนี้ มีพระราชปฏิสันถารกับนักบินในฝูงบินจากสาธารณรัฐประชาชนจีน และสหรัฐอเมริกาเสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปยังที่ประทับหน้าอาคารท่าอากาศยานทหาร 2 ทอดพระเนตรการแสดงการบิน ชุดที่ 2 “การบินสูรยกิรัณ” (Suryakiran) จากกองทัพอากาศสาธารณรัฐอินเดีย ภายหลังจบการแสดงการบิน เสด็จออกจากที่ประทับหน้าอาคารท่าอากาศยานทหาร 2 ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกองทัพอากาศ จัดการแสดงการบินเนื่องในโอกาสครบ 88 ปี เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวาระที่กระทรวงกลาโหมได้ยกฐานะกรมทหารอากาศ ขึ้นเป็นกองทัพอากาศ ตั้งแต่พุทธศักราช 2480 ซึ่งปฏิบัติภารกิจอย่างมุ่งมั่นเพื่อรักษาความมั่นคง ของชาติ และดํารงความพร้อมของกําลังทางอากาศ เพื่อรับมือกับภัยคุกคาม ทุกรูปแบบ รวมทั้งการใช้ขีดความสามารถของ กองทัพอากาศทุกมิติ เพื่อช่วยเหลือ ประชาชนอย่างเต็มความสามารถตลอด 88 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น จึงจัดงานขึ้นภายใต้แนวคิด “AIR SOVEREIGNTY THROUGH UNBEATABLE COLLABORATION” หรือ “อธิปไตยเหนือน่านฟ้า ผ่านความร่วมมืออันแข็งแกร่ง” เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงเกียรติประวัติความภาคภูมิใจ ในเกียรติภูมิของกองทัพอากาศ และแสดงถึงขีดความสามารถของ กองทัพอากาศ ในการปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคง การสนับสนุนหน่วยงาน ภาครัฐและเอกชน การใช้ขีดความสามารถในทุกด้านเพื่อช่วยเหลือประชาชน ตลอดจนแสดงถึงแผนการพัฒนากองทัพอากาศในอนาคต แสดงถึงความพร้อมของกองทัพอากาศ ในด้านการส่งเสริม ภาคอุตสาหกรรมการบิน และภาคอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ อันนำไปสู่ การเป็นศูนย์กลางทางการบินในภูมิภาคตามนโยบายรัฐบาล ที่ส่งเสริมและกระชับความร่วมมือภายในประเทศ และเสริมสร้างมิตรภาพความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างกองทัพอากาศ กับกองทัพอากาศมิตรประเทศโดยปีนี้ได้จัดแสดงอากาศยานของกองทัพอากาศไทย และกองทัพอากาศมิตรประเทศ ทั้ง 3 ประเทศด้วยกัน ประกอบด้วย กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา , กองทัพอากาศสาธารณรัฐอินเดีย และกองทัพอากาศสาธารณรัฐประชาชนจีน มีกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 7 - 8 มีนาคม ณ กองบิน 6 ท่าอากาศยานทหารดอนเมือง
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 1210 Views 0 Reviews
  • ป.ป.ส. ร่วมภาคี เปิดปฏิบัติการ "ตัดไฟแต่ต้นลม" ครั้งที่ 3 ทลายเครือข่ายส่งออกไอซ์-เฮโรอีนข้ามชาติ ยึดทรัพย์สินรวม มูลค่า 80 ล้านบาท

    วันนี้ (5 มี.ค.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. , นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย , นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. , นายธันวา ผุดผ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 , พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย , พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3 บช.ปส. , พ.อ.จักรพงษ์ สอดสี รอง ผบ.ฉก.ทัพเจ้าตาก และ พ.อ.ปริญญา วีระศรีนารา หัวหน้าศูนย์ข่าวยาเสพติด ฝ่ายข่าวศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ร่วมแถลงผลปฏิบัติการ ตัดไฟแต่ต้นลม ครั้งที่ 3 ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 10 จุดปฏิบัติการ 6 จังหวัด (จ.เชียงราย 2 จุด/ จ.เชียงใหม่ 2 จุด/ จ.สุพรรณบุรี 2 จุด/ จ.อ่างทอง 2 จุด/ จ.สุโขทัย 1 จุด / จ.พระนครศรีอยุธยา 1 จุด) เพื่อติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับ 3 คน

    พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ เครือข่ายส่งออกไอซ์ - เฮโรอีน ข้ามชาติ สืบเนื่องจาก คดีการจับกุมเมื่อวันที่ 22 ต.ค.67 สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ หน่วยงานภาคี จับกุมผู้ต้องหารวม 3 คน พร้อมเฮโรอีน 154 กิโลกรัม เหตุเกิดที่ จ.ชัยนาท ต่อเนื่อง จ.สุพรรณบุรี เครือข่ายดังกล่าวมีพฤติการณ์ซุกซ่อนเฮโรอีนในช่องลับภายในรถตู้ โดยลักลอบลำเลียงมาจากพื้นที่ชายแดน ด้าน จ.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศก่อนจะส่งต่อไปยังปลายทางประเทศที่สาม ในครั้งนั้นสามารถตรวจยึดทรัพย์สินได้กว่า 7.6 ล้านบาท

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000021390

    #MGROnline #ตัดไฟแต่ต้นลม
    ป.ป.ส. ร่วมภาคี เปิดปฏิบัติการ "ตัดไฟแต่ต้นลม" ครั้งที่ 3 ทลายเครือข่ายส่งออกไอซ์-เฮโรอีนข้ามชาติ ยึดทรัพย์สินรวม มูลค่า 80 ล้านบาท • วันนี้ (5 มี.ค.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. , นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย , นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. , นายธันวา ผุดผ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 , พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย , พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3 บช.ปส. , พ.อ.จักรพงษ์ สอดสี รอง ผบ.ฉก.ทัพเจ้าตาก และ พ.อ.ปริญญา วีระศรีนารา หัวหน้าศูนย์ข่าวยาเสพติด ฝ่ายข่าวศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ร่วมแถลงผลปฏิบัติการ ตัดไฟแต่ต้นลม ครั้งที่ 3 ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 10 จุดปฏิบัติการ 6 จังหวัด (จ.เชียงราย 2 จุด/ จ.เชียงใหม่ 2 จุด/ จ.สุพรรณบุรี 2 จุด/ จ.อ่างทอง 2 จุด/ จ.สุโขทัย 1 จุด / จ.พระนครศรีอยุธยา 1 จุด) เพื่อติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับ 3 คน • พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ เครือข่ายส่งออกไอซ์ - เฮโรอีน ข้ามชาติ สืบเนื่องจาก คดีการจับกุมเมื่อวันที่ 22 ต.ค.67 สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ หน่วยงานภาคี จับกุมผู้ต้องหารวม 3 คน พร้อมเฮโรอีน 154 กิโลกรัม เหตุเกิดที่ จ.ชัยนาท ต่อเนื่อง จ.สุพรรณบุรี เครือข่ายดังกล่าวมีพฤติการณ์ซุกซ่อนเฮโรอีนในช่องลับภายในรถตู้ โดยลักลอบลำเลียงมาจากพื้นที่ชายแดน ด้าน จ.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศก่อนจะส่งต่อไปยังปลายทางประเทศที่สาม ในครั้งนั้นสามารถตรวจยึดทรัพย์สินได้กว่า 7.6 ล้านบาท • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000021390 • #MGROnline #ตัดไฟแต่ต้นลม
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 794 Views 0 Reviews
  • 7 ปี สิ้น “แม่ทัพหาญ” พลเอกหาญ ลีนานนท์ ผู้บุกเบิกนโยบายใต้ร่มเย็น ค้านเรือเหาะ เลิกปราบปราม สร้างความเข้าใจ ใช้สันติวิธี

    “ดับไฟใต้ด้วยสันติวิธี” คือแนวทางที่ พลเอกหาญ ลีนานนท์ เลือกใช้ตลอดชีวิตการรับราชการ และการเมือง ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าได้ผล ในการสร้างความสงบ ให้กับภาคใต้ของไทย

    📌 7 ปี แล้วที่ พลเอกหาญ ลีนานนท์ หรือ "แม่ทัพหาญ" จากไป ทิ้งไว้เพียงตำนานของแม่ทัพ ผู้เปลี่ยนนโยบายความมั่นคงของไทย จากการใช้กำลัง สู่สันติวิธี 🌿

    แม้จะจากโลกนี้ไปเมื่อ 7 ปี ที่ผ่านมา แต่ชื่อของแม่ทัพหาญ ยังคงถูกกล่าวถึงในแวดวงการเมือง และกองทัพ โดยเฉพาะเรื่อง "นโยบายใต้ร่มเย็น" ที่กลายเป็นแนวทางสำคัญ ในการแก้ปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ 🕊️

    👤 🎖️ เส้นทางสู่กองทัพ
    พลเอกหาญ ลีนานนท์ เกิดเมื่อ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2467 ที่อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล เป็นบุตรของขุนด่านลีนานนท์ และนางนิตย์ ลีนานนท์

    การศึกษาของแม่ทัพหาญเริ่มจาก
    - โรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย
    - โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
    - โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร
    - โรงเรียนนายร้อยทหารบก ร่วมรุ่นกับ พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก และพลเอกเทียนชัย ศิริสัมพันธ์

    หลังจบการศึกษา แม่ทัพหาญไต่เต้าขึ้นสู่ ตำแหน่งสำคัญในกองทัพ จนกระทั่งได้รับแต่งตั้ง เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงที่สร้างคุณูปการ มากที่สุดในชีวิต

    🏅 🔥 ปัญหาภาคใต้ก่อนยุคแม่ทัพหาญ
    ก่อนที่แม่ทัพหาญจะเข้ารับตำแหน่ง ภาคใต้เผชิญปัญหาความรุนแรงจากหลายกลุ่ม ได้แก่
    ✅ ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (พคท.)
    ✅ ขบวนการโจรก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดน (ขจก.)
    ✅ โจรจีนคอมมิวนิสต์มาลายา
    ✅ อิทธิพลท้องถิ่นและกลุ่มผู้มีอำนาจมืด

    รัฐใช้มาตรการปราบปรามอย่างหนัก แต่ไม่ได้ผล จนกระทั่งแม่ทัพหาญ เข้ามาเปลี่ยนแนวทางการแก้ปัญหา

    ☂️ นโยบายใต้ร่มเย็น จากสงครามสู่สันติภาพ
    "ใต้ร่มเย็น" เป็นนโยบายที่ให้ความสำคัญกับการเมือง มากกว่าการทหาร โดยมีหลักการสำคัญ 4 ข้อ ได้แก่

    1️⃣ ปกป้องชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ทั้งไทยพุทธและมุสลิม
    2️⃣ ทำให้พื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซียปลอดภัย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
    3️⃣ กำจัดอำนาจเผด็จการ และอิทธิพลมืดด้วยสันติวิธี
    4️⃣ สร้างความสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน

    แม่ทัพหาญยึดหลักว่า "ต้องชนะใจประชาชน" ไม่ใช่แค่เอาชนะศัตรู ซึ่งเป็นหัวใจของยุทธศาสตร์ "นโยบาย 66/23" ที่ใช้ปราบคอมมิวนิสต์สำเร็จมาแล้ว

    📝 ผลลัพธ์ของนโยบายใต้ร่มเย็น
    ✅ กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ มอบตัวจำนวนมาก
    ✅ ปัญหาความรุนแรง ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
    ✅ ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ และประชาชนดีขึ้น

    🚢 ค้านเรือเหาะ ไม่เห็นด้วยกับการทุ่มงบประมาณ อย่างไร้ประสิทธิภาพ ⚠️
    ในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กองทัพบกได้ จัดซื้อเรือเหาะมูลค่า 350 ล้านบาท เพื่อใช้เฝ้าระวังในสามจังหวัดชายแดนใต้ แต่กลับกลายเป็น ประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

    แม่ทัพหาญ เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญ ที่ออกมาคัดค้าน โดยให้เหตุผลว่า
    ❌ ภูมิประเทศภาคใต้ เต็มไปด้วยป่าดงดิบ เรือเหาะจะจับภาพได้ยาก
    ❌ ขบวนการก่อความไม่สงบ อยู่ปะปนกับชาวบ้าน ไม่ใช่ในป่าเขา
    ❌ อาวุธเทคโนโลยีแพง ไม่ช่วยแก้ปัญหาได้จริง สิ่งที่สำคัญกว่าคือ ความเข้าใจประชาชน
    ❌ เป็นการใช้งบประมาณอย่างไม่คุ้มค่า ขณะที่เงินเหล่านี้ สามารถนำไปพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ได้

    🔴 บทความ "บทเรียนจากการรบ" ของแม่ทัพหาญ ระบุว่า
    "การซื้อเรือเหาะปราบโจรนี้ แสดงว่าทั้งผู้บังคับบัญชา ไม่มีความคิดที่จะแก้ปัญหาทางยุทธศาสตร์ โจรไม่ได้อยู่ในป่า แต่เขาอยู่ในบ้าน ในหมู่บ้าน ถ้าเรือเหาะถ่ายภาพมาได้ แล้วจะรู้ได้อย่างไร ว่าใครเป็นโจร หรือเป็นชาวบ้าน?"

    ท้ายที่สุด เรือเหาะถูกปลดระวาง โดยไม่เคยใช้งานเต็มศักยภาพ ซึ่งพิสูจน์ว่า แม่ทัพหาญคิดถูก 🛑

    🌟 แม่ทัพหาญ ตำนานที่ยังมีชีวิต
    แม้ว่า พลเอกหาญ ลีนานนท์ จะจากไปเมื่อ 7 ปี ที่ผ่านมา แต่แนวคิดและอุดมการณ์ ยังคงส่งอิทธิพล ต่อการแก้ปัญหาภาคใต้ จนถึงปัจจุบัน

    ✅ พิสูจน์ว่าสันติวิธีดีกว่าการใช้กำลัง
    ✅ เปลี่ยนแนวคิด "สงคราม" เป็น "การเมืองนำการทหาร"
    ✅ ต่อต้านการทุ่มงบประมาณ อย่างไร้เหตุผล
    ✅ เป็นต้นแบบของผู้นำ ที่ประชาชนไว้วางใจ

    🕊️ "แม่ทัพหาญ" อาจจากไป แต่แนวคิดยังคงอยู่ตลอดกาล🔥
    ✅ พลเอกหาญ ลีนานนท์ เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้ริเริ่ม "นโยบายใต้ร่มเย็น"
    ✅ เปลี่ยนจาก "การปราบปราม" เป็น "การสร้างความเข้าใจ"
    ✅ คัดค้านเรือเหาะ 350 ล้าน เพราะมองว่าสิ้นเปลือง และไม่แก้ปัญหาที่แท้จริง
    ✅ สร้างแนวทางสันติวิธี ที่กลายเป็นต้นแบบ การแก้ปัญหาภาคใต้

    🌿 "ดับไฟใต้ไม่ต้องใช้ปืน แต่ต้องใช้ใจ" พลเอกหาญ ลีนานนท์

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 111039 ก.พ. 2568

    📢 #แม่ทัพหาญ #ใต้ร่มเย็น #สันติวิธี #ดับไฟใต้ #การเมืองนำการทหาร #ค้านเรือเหาะ #ภาคใต้ #กองทัพไทย #7ปีสิ้นแม่ทัพหาญ
    7 ปี สิ้น “แม่ทัพหาญ” พลเอกหาญ ลีนานนท์ ผู้บุกเบิกนโยบายใต้ร่มเย็น ค้านเรือเหาะ เลิกปราบปราม สร้างความเข้าใจ ใช้สันติวิธี “ดับไฟใต้ด้วยสันติวิธี” คือแนวทางที่ พลเอกหาญ ลีนานนท์ เลือกใช้ตลอดชีวิตการรับราชการ และการเมือง ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าได้ผล ในการสร้างความสงบ ให้กับภาคใต้ของไทย 📌 7 ปี แล้วที่ พลเอกหาญ ลีนานนท์ หรือ "แม่ทัพหาญ" จากไป ทิ้งไว้เพียงตำนานของแม่ทัพ ผู้เปลี่ยนนโยบายความมั่นคงของไทย จากการใช้กำลัง สู่สันติวิธี 🌿 แม้จะจากโลกนี้ไปเมื่อ 7 ปี ที่ผ่านมา แต่ชื่อของแม่ทัพหาญ ยังคงถูกกล่าวถึงในแวดวงการเมือง และกองทัพ โดยเฉพาะเรื่อง "นโยบายใต้ร่มเย็น" ที่กลายเป็นแนวทางสำคัญ ในการแก้ปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนใต้ 🕊️ 👤 🎖️ เส้นทางสู่กองทัพ พลเอกหาญ ลีนานนท์ เกิดเมื่อ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2467 ที่อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล เป็นบุตรของขุนด่านลีนานนท์ และนางนิตย์ ลีนานนท์ การศึกษาของแม่ทัพหาญเริ่มจาก - โรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย - โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย - โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร - โรงเรียนนายร้อยทหารบก ร่วมรุ่นกับ พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก และพลเอกเทียนชัย ศิริสัมพันธ์ หลังจบการศึกษา แม่ทัพหาญไต่เต้าขึ้นสู่ ตำแหน่งสำคัญในกองทัพ จนกระทั่งได้รับแต่งตั้ง เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงที่สร้างคุณูปการ มากที่สุดในชีวิต 🏅 🔥 ปัญหาภาคใต้ก่อนยุคแม่ทัพหาญ ก่อนที่แม่ทัพหาญจะเข้ารับตำแหน่ง ภาคใต้เผชิญปัญหาความรุนแรงจากหลายกลุ่ม ได้แก่ ✅ ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (พคท.) ✅ ขบวนการโจรก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดน (ขจก.) ✅ โจรจีนคอมมิวนิสต์มาลายา ✅ อิทธิพลท้องถิ่นและกลุ่มผู้มีอำนาจมืด รัฐใช้มาตรการปราบปรามอย่างหนัก แต่ไม่ได้ผล จนกระทั่งแม่ทัพหาญ เข้ามาเปลี่ยนแนวทางการแก้ปัญหา ☂️ นโยบายใต้ร่มเย็น จากสงครามสู่สันติภาพ "ใต้ร่มเย็น" เป็นนโยบายที่ให้ความสำคัญกับการเมือง มากกว่าการทหาร โดยมีหลักการสำคัญ 4 ข้อ ได้แก่ 1️⃣ ปกป้องชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ทั้งไทยพุทธและมุสลิม 2️⃣ ทำให้พื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซียปลอดภัย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 3️⃣ กำจัดอำนาจเผด็จการ และอิทธิพลมืดด้วยสันติวิธี 4️⃣ สร้างความสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน แม่ทัพหาญยึดหลักว่า "ต้องชนะใจประชาชน" ไม่ใช่แค่เอาชนะศัตรู ซึ่งเป็นหัวใจของยุทธศาสตร์ "นโยบาย 66/23" ที่ใช้ปราบคอมมิวนิสต์สำเร็จมาแล้ว 📝 ผลลัพธ์ของนโยบายใต้ร่มเย็น ✅ กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ มอบตัวจำนวนมาก ✅ ปัญหาความรุนแรง ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ✅ ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ และประชาชนดีขึ้น 🚢 ค้านเรือเหาะ ไม่เห็นด้วยกับการทุ่มงบประมาณ อย่างไร้ประสิทธิภาพ ⚠️ ในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กองทัพบกได้ จัดซื้อเรือเหาะมูลค่า 350 ล้านบาท เพื่อใช้เฝ้าระวังในสามจังหวัดชายแดนใต้ แต่กลับกลายเป็น ประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แม่ทัพหาญ เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญ ที่ออกมาคัดค้าน โดยให้เหตุผลว่า ❌ ภูมิประเทศภาคใต้ เต็มไปด้วยป่าดงดิบ เรือเหาะจะจับภาพได้ยาก ❌ ขบวนการก่อความไม่สงบ อยู่ปะปนกับชาวบ้าน ไม่ใช่ในป่าเขา ❌ อาวุธเทคโนโลยีแพง ไม่ช่วยแก้ปัญหาได้จริง สิ่งที่สำคัญกว่าคือ ความเข้าใจประชาชน ❌ เป็นการใช้งบประมาณอย่างไม่คุ้มค่า ขณะที่เงินเหล่านี้ สามารถนำไปพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ได้ 🔴 บทความ "บทเรียนจากการรบ" ของแม่ทัพหาญ ระบุว่า "การซื้อเรือเหาะปราบโจรนี้ แสดงว่าทั้งผู้บังคับบัญชา ไม่มีความคิดที่จะแก้ปัญหาทางยุทธศาสตร์ โจรไม่ได้อยู่ในป่า แต่เขาอยู่ในบ้าน ในหมู่บ้าน ถ้าเรือเหาะถ่ายภาพมาได้ แล้วจะรู้ได้อย่างไร ว่าใครเป็นโจร หรือเป็นชาวบ้าน?" ท้ายที่สุด เรือเหาะถูกปลดระวาง โดยไม่เคยใช้งานเต็มศักยภาพ ซึ่งพิสูจน์ว่า แม่ทัพหาญคิดถูก 🛑 🌟 แม่ทัพหาญ ตำนานที่ยังมีชีวิต แม้ว่า พลเอกหาญ ลีนานนท์ จะจากไปเมื่อ 7 ปี ที่ผ่านมา แต่แนวคิดและอุดมการณ์ ยังคงส่งอิทธิพล ต่อการแก้ปัญหาภาคใต้ จนถึงปัจจุบัน ✅ พิสูจน์ว่าสันติวิธีดีกว่าการใช้กำลัง ✅ เปลี่ยนแนวคิด "สงคราม" เป็น "การเมืองนำการทหาร" ✅ ต่อต้านการทุ่มงบประมาณ อย่างไร้เหตุผล ✅ เป็นต้นแบบของผู้นำ ที่ประชาชนไว้วางใจ 🕊️ "แม่ทัพหาญ" อาจจากไป แต่แนวคิดยังคงอยู่ตลอดกาล🔥 ✅ พลเอกหาญ ลีนานนท์ เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้ริเริ่ม "นโยบายใต้ร่มเย็น" ✅ เปลี่ยนจาก "การปราบปราม" เป็น "การสร้างความเข้าใจ" ✅ คัดค้านเรือเหาะ 350 ล้าน เพราะมองว่าสิ้นเปลือง และไม่แก้ปัญหาที่แท้จริง ✅ สร้างแนวทางสันติวิธี ที่กลายเป็นต้นแบบ การแก้ปัญหาภาคใต้ 🌿 "ดับไฟใต้ไม่ต้องใช้ปืน แต่ต้องใช้ใจ" พลเอกหาญ ลีนานนท์ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 111039 ก.พ. 2568 📢 #แม่ทัพหาญ #ใต้ร่มเย็น #สันติวิธี #ดับไฟใต้ #การเมืองนำการทหาร #ค้านเรือเหาะ #ภาคใต้ #กองทัพไทย #7ปีสิ้นแม่ทัพหาญ
    0 Comments 0 Shares 1160 Views 0 Reviews
More Results