• ‘คมนาคม’ กางแผนพัฒนาเชิงพาณิชย์ท่าเรือกรุงเทพ ชูพื้นที่ 520 ไร่ นำร่องพัฒนารับเอนเตอร์เทนเมนต์ฯ ส่วน ‘คาสิโน’ ต้องรอกฎหมายก่อน
    https://www.thai-tai.tv/news/18538/
    ‘คมนาคม’ กางแผนพัฒนาเชิงพาณิชย์ท่าเรือกรุงเทพ ชูพื้นที่ 520 ไร่ นำร่องพัฒนารับเอนเตอร์เทนเมนต์ฯ ส่วน ‘คาสิโน’ ต้องรอกฎหมายก่อน https://www.thai-tai.tv/news/18538/
    0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร เผยความคืบหน้าภารกิจค้นหาผู้ติดค้างในอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม เปิดพื้นที่และแผ่นคอนกรีตรวมทั้งซากอาคารทั้งหมดถึงชั้นใต้ดินครบแล้ว ทั้งรอบอาคารและในตัวอาคารทั้งหมด 40x40 เมตร ยังเหลือซากอาคารที่ล้มลงไปกองด้านข้างชิดกับอาคารจอดรถ สูง 3 เมตร กว้าง 15-20 เมตร แม้เนื้องานไม่มากแต่ต้องระมัดระวังเครื่องจักรหนักที่จะไปเพิ่มน้ำหนักทำให้พื้นยุบลง คาดใช้เวลา 2-3 วัน จะจบภารกิจ ส่วนการนําร่างผู้ประสบภัยรวมทั้งชิ้นส่วนอวัยวะที่ยังค้างอยู่ที่นิติเวช กว่า 200 ชิ้น ต้องรอผลพิสูจน์ DNA ว่าเป็นร่างมนุษย์กี่คน ตรงกับข้อมูลของพนักงานสอบสวนที่แจ้งมาว่า 109 คนหรือไม่ โดยข้อมูลของพนักงานสอบสวนยังค้างอยู่ 13 ราย ในตัวอาคารไม่มีแล้ว ส่วนร่างที่แจ้งว่าพบ 87 ราย สามารถยืนยันและคืนร่างได้ 45 ราย แต่การออกใบมรณบัตรของสำนักงานเขตมี 47 ใบ เท่ากับว่ามีส่วนที่ไม่สามารถยืนยันตัวบุคคลได้ ถ้ายอดไม่ครบและไม่ตรง ต้องหาว่าข้อมูลที่ได้มาคลาดเคลื่อนตรงไหน เพราะหน้างานเราเปิดพื้นที่หมดแล้วไม่พบผู้ประสบภัยเพิ่ม
    นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร เผยความคืบหน้าภารกิจค้นหาผู้ติดค้างในอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม เปิดพื้นที่และแผ่นคอนกรีตรวมทั้งซากอาคารทั้งหมดถึงชั้นใต้ดินครบแล้ว ทั้งรอบอาคารและในตัวอาคารทั้งหมด 40x40 เมตร ยังเหลือซากอาคารที่ล้มลงไปกองด้านข้างชิดกับอาคารจอดรถ สูง 3 เมตร กว้าง 15-20 เมตร แม้เนื้องานไม่มากแต่ต้องระมัดระวังเครื่องจักรหนักที่จะไปเพิ่มน้ำหนักทำให้พื้นยุบลง คาดใช้เวลา 2-3 วัน จะจบภารกิจ ส่วนการนําร่างผู้ประสบภัยรวมทั้งชิ้นส่วนอวัยวะที่ยังค้างอยู่ที่นิติเวช กว่า 200 ชิ้น ต้องรอผลพิสูจน์ DNA ว่าเป็นร่างมนุษย์กี่คน ตรงกับข้อมูลของพนักงานสอบสวนที่แจ้งมาว่า 109 คนหรือไม่ โดยข้อมูลของพนักงานสอบสวนยังค้างอยู่ 13 ราย ในตัวอาคารไม่มีแล้ว ส่วนร่างที่แจ้งว่าพบ 87 ราย สามารถยืนยันและคืนร่างได้ 45 ราย แต่การออกใบมรณบัตรของสำนักงานเขตมี 47 ใบ เท่ากับว่ามีส่วนที่ไม่สามารถยืนยันตัวบุคคลได้ ถ้ายอดไม่ครบและไม่ตรง ต้องหาว่าข้อมูลที่ได้มาคลาดเคลื่อนตรงไหน เพราะหน้างานเราเปิดพื้นที่หมดแล้วไม่พบผู้ประสบภัยเพิ่ม
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 169 Views 10 0 Reviews
  • กรุงเทพมหานคร แถลงปรับยอดผู้ประสบเหตุเพิ่มเป็น 109 ราย โดยยืนยันผู้เสียชีวิตแล้ว 86 ราย และยังอยู่ระหว่างติดตามผู้สูญหายอีก 14 ราย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เร่งตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลจากชิ้นส่วนมนุษย์ที่พบในพื้นที่กว่า 280 ชิ้น หวังจะสามารถส่งร่างกลับคืนสู่ครอบครัวอย่างสมศักดิ์ศรี ไม่ปล่อยให้ผู้สูญหายกลายเป็นเพียงสถิติที่ไร้ชื่อ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000041698

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กรุงเทพมหานคร แถลงปรับยอดผู้ประสบเหตุเพิ่มเป็น 109 ราย โดยยืนยันผู้เสียชีวิตแล้ว 86 ราย และยังอยู่ระหว่างติดตามผู้สูญหายอีก 14 ราย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เร่งตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลจากชิ้นส่วนมนุษย์ที่พบในพื้นที่กว่า 280 ชิ้น หวังจะสามารถส่งร่างกลับคืนสู่ครอบครัวอย่างสมศักดิ์ศรี ไม่ปล่อยให้ผู้สูญหายกลายเป็นเพียงสถิติที่ไร้ชื่อ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000041698 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 477 Views 0 Reviews
  • “สนข.”เผยคจร.รับทราบแผนแก้รถติดพื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม”ศูนย์วัฒนธรรมฯ – ตลิ่งชัน” รฟม.-กทม. -บชน.เตรียมทดลองปรับการเดินรถ”ถนนราชปรารถ,พระรามที่ 1 เริ่ม 5 – 20 พ.ค.68

    นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันอังคารที่ 22 เมษายน 2568 คณะกรรมการฯ ได้มีมติรับทราบผลการศึกษาการแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรม – ตลิ่งชัน ตามที่ สนข. เสนอ และมอบหมายให้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) ดำเนินการตามผลการศึกษาเพื่อเร่งแก้ไขและบรรเทาปัญหาการจราจรตามแนวเส้นทางการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มอย่างเร่งด่วน

    จากการศึกษาพบว่า พื้นที่สำคัญที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากการก่อสร้างคือ ถนนเพชรบุรี ช่วงแยกยมราช แยกราชเทวี และแยกประตูน้ำ เนื่องจากถนนเพชรบุรีเป็นถนนสายหลักในการเดินทางตามแนวทิศตะวันออก - ตะวันตกของกรุงเทพฯ มีปริมาณการจราจรผ่านเส้นทางเป็นจำนวนมาก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/business/detail/9680000041704

    #MGROnline #รถไฟฟ้าสายสีส้ม
    “สนข.”เผยคจร.รับทราบแผนแก้รถติดพื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม”ศูนย์วัฒนธรรมฯ – ตลิ่งชัน” รฟม.-กทม. -บชน.เตรียมทดลองปรับการเดินรถ”ถนนราชปรารถ,พระรามที่ 1 เริ่ม 5 – 20 พ.ค.68 • นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันอังคารที่ 22 เมษายน 2568 คณะกรรมการฯ ได้มีมติรับทราบผลการศึกษาการแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรม – ตลิ่งชัน ตามที่ สนข. เสนอ และมอบหมายให้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) ดำเนินการตามผลการศึกษาเพื่อเร่งแก้ไขและบรรเทาปัญหาการจราจรตามแนวเส้นทางการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มอย่างเร่งด่วน • จากการศึกษาพบว่า พื้นที่สำคัญที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากการก่อสร้างคือ ถนนเพชรบุรี ช่วงแยกยมราช แยกราชเทวี และแยกประตูน้ำ เนื่องจากถนนเพชรบุรีเป็นถนนสายหลักในการเดินทางตามแนวทิศตะวันออก - ตะวันตกของกรุงเทพฯ มีปริมาณการจราจรผ่านเส้นทางเป็นจำนวนมาก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/business/detail/9680000041704 • #MGROnline #รถไฟฟ้าสายสีส้ม
    0 Comments 0 Shares 121 Views 0 Reviews
  • ธนาคารกรุงเทพเชื่อมระบบโอนเงินหยวน

    ผมเขียนเรื่อง “จีนเปิดตัวหยวนดิจิทัลข่ม SWIFT” ไปเมื่อวันเสาร์ โดยจีนได้เปิดตัว “ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคาร” (China’s Cross–Border Interbank Payment System) รุ่นใหม่หรือ CIPS รุ่น 2.0 ซึ่งโอนเงินได้รวดเร็วกว่าเดิม โดยเชื่อมต่อกับธนาคารใน 16 ประเทศพร้อมกัน ทั้งใน จีน อาเซียน และตะวันออกกลาง เมื่อเช้าตรู่วันที่ 21 เม.ย. CIPS เป็นระบบโอนเงินข้ามชาติแบบเดียวกับ SWIFT ของสหรัฐฯ แต่ CIPS จะโอนเป็นเงินหยวนของจีน ขณะที่ SWIFT จะโอนเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ CIPS ถือเป็นระบบโอนเงินข้ามชาติที่เป็นคู่แข่งสำคัญของสหรัฐฯ CIPS ใช้เวลาโอนเงินข้ามประเทศเร็วมากเพียงไม่กี่วินาที มีต้นทุนการโอนเงินที่ตํ่ามาก เทียบกับ ระบบ SWIFT ของสหรัฐฯที่ต้องใช้เวลาในการโอนเงิน 2–3 วัน มีค่าโอนเงินที่แพงกว่ากันถึง 4 หมื่นกว่าเท่า

    การเปิดตัวของ ระบบโอนเงินข้ามพรมแดน CIPS 2.0 ของจีนครั้งนี้ จึงเป็นการทลายการผูกขาดโอนเงินข้ามชาติของระบบ SWIFT สหรัฐฯ ที่มีมายาวนาน

    วันอังคาร 29 เม.ย. คุณพิพัฒน์ อัสสมงคล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ได้เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพได้เพิ่มศักยภาพการทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวน (Chinese Yuan–CNY) ผ่าน ระบบการชำระเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน หรือ CIPS (Cross–Border Interbank Payment System) เป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ใช้รับอนุมัติจากธนาคารกลางจีนให้เป็น Direct Participant สมาชิกตรง

    ดังนั้น ธนาคารกรุงเทพจึงสามารถทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวนได้โดยตรงกับระบบ CIPS ซึ่งช่วยลดระยะเวลาทำธุรกรรมให้สั้นลง คู่ค้าได้รับเงินเร็วขึ้น ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ เป็นการยกระดับประสิทธิภาพธุรกิจให้มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น ส่งเสริมให้เกิดการค้าระหว่างประเทศไทยกับจีนในอนาคตเพิ่มมากขึ้นด้วย

    คุณพิพัฒน์ กล่าวว่า บริการโอนเงิน CIPS เหมาะสำหรับผู้ประกอบการ นำเข้าและส่งออกซึ่งมีธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศกับคู่ค้าในจีน โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการค้าสูง เช่น เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เป็นต้น ปี 2567 จีนเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับ 1 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันรวมเกือบ 4.1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออกจากไทยไปจีนมูลค่าประมาณ 1.2 ล้าน ล้านบาท และการนำเข้าจากจีนมีมูลค่าประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท จึงถือเป็นตลาดที่ใหญ่มาก

    การเข้าร่วมเป็น Direct Participant ในระบบ CIPS สะท้อนถึงความตั้งใจในการพัฒนาบริการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น และทำให้ธุรกิจของลูกค้าได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจยุคใหม่ ตอกย้ำความเป็น “เพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้าน” เคียงข้างและช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ การพัฒนาบริการดังกล่าวจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

    วันนี้การค้าโลกแยกออกเป็น 2 ค่ายชัดเจน จีน กับ สหรัฐฯ เมื่อ ประธานาธิบดีทรัมป์ ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลกเพื่อเอาเปรียบ ตั้งแต่ 2 เม.ย.ทรัมป์ได้ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศไปแล้ว 10% และ จะขึ้นภาษีตอบโต้อีก 20–245% กับประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ จะยึดคลองปานามา จะยึดคลองสุเอซที่เก็บค่าผ่านเรือสหรัฐฯ กลายเป็นอันธพาลระดับโลก ทำให้ทุกชาติ เริ่มถอยห่างจากสหรัฐฯมาใกล้ชิดกับจีนมากขึ้น

    มาซาโตะ คานดะ ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้เสนอ ให้ประเทศในเอเชียหันมาค้าขายกันเองให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อปกป้องเศรษฐกิจในภูมิภาคจากแรงกระแทกภายนอก

    ผมเชื่อว่า ระบบโอนเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน CIPS ของจีน จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการค้าในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก “ยกเว้นสหรัฐฯ” ทำให้ ระบบโอนเงิน SWIFT ลดบทบาทลง สหรัฐฯจะได้ “โดดเดี่ยวตัวเอง” สมใจทรัมป์แน่นอน.


    “ลม เปลี่ยนทิศ”

    https://www.thairath.co.th/news/local/2855708
    ธนาคารกรุงเทพเชื่อมระบบโอนเงินหยวน ผมเขียนเรื่อง “จีนเปิดตัวหยวนดิจิทัลข่ม SWIFT” ไปเมื่อวันเสาร์ โดยจีนได้เปิดตัว “ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคาร” (China’s Cross–Border Interbank Payment System) รุ่นใหม่หรือ CIPS รุ่น 2.0 ซึ่งโอนเงินได้รวดเร็วกว่าเดิม โดยเชื่อมต่อกับธนาคารใน 16 ประเทศพร้อมกัน ทั้งใน จีน อาเซียน และตะวันออกกลาง เมื่อเช้าตรู่วันที่ 21 เม.ย. CIPS เป็นระบบโอนเงินข้ามชาติแบบเดียวกับ SWIFT ของสหรัฐฯ แต่ CIPS จะโอนเป็นเงินหยวนของจีน ขณะที่ SWIFT จะโอนเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ CIPS ถือเป็นระบบโอนเงินข้ามชาติที่เป็นคู่แข่งสำคัญของสหรัฐฯ CIPS ใช้เวลาโอนเงินข้ามประเทศเร็วมากเพียงไม่กี่วินาที มีต้นทุนการโอนเงินที่ตํ่ามาก เทียบกับ ระบบ SWIFT ของสหรัฐฯที่ต้องใช้เวลาในการโอนเงิน 2–3 วัน มีค่าโอนเงินที่แพงกว่ากันถึง 4 หมื่นกว่าเท่า การเปิดตัวของ ระบบโอนเงินข้ามพรมแดน CIPS 2.0 ของจีนครั้งนี้ จึงเป็นการทลายการผูกขาดโอนเงินข้ามชาติของระบบ SWIFT สหรัฐฯ ที่มีมายาวนาน วันอังคาร 29 เม.ย. คุณพิพัฒน์ อัสสมงคล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ได้เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพได้เพิ่มศักยภาพการทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวน (Chinese Yuan–CNY) ผ่าน ระบบการชำระเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน หรือ CIPS (Cross–Border Interbank Payment System) เป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ใช้รับอนุมัติจากธนาคารกลางจีนให้เป็น Direct Participant สมาชิกตรง ดังนั้น ธนาคารกรุงเทพจึงสามารถทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวนได้โดยตรงกับระบบ CIPS ซึ่งช่วยลดระยะเวลาทำธุรกรรมให้สั้นลง คู่ค้าได้รับเงินเร็วขึ้น ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ เป็นการยกระดับประสิทธิภาพธุรกิจให้มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น ส่งเสริมให้เกิดการค้าระหว่างประเทศไทยกับจีนในอนาคตเพิ่มมากขึ้นด้วย คุณพิพัฒน์ กล่าวว่า บริการโอนเงิน CIPS เหมาะสำหรับผู้ประกอบการ นำเข้าและส่งออกซึ่งมีธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศกับคู่ค้าในจีน โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการค้าสูง เช่น เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เป็นต้น ปี 2567 จีนเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับ 1 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันรวมเกือบ 4.1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออกจากไทยไปจีนมูลค่าประมาณ 1.2 ล้าน ล้านบาท และการนำเข้าจากจีนมีมูลค่าประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท จึงถือเป็นตลาดที่ใหญ่มาก การเข้าร่วมเป็น Direct Participant ในระบบ CIPS สะท้อนถึงความตั้งใจในการพัฒนาบริการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น และทำให้ธุรกิจของลูกค้าได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจยุคใหม่ ตอกย้ำความเป็น “เพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้าน” เคียงข้างและช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ การพัฒนาบริการดังกล่าวจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น วันนี้การค้าโลกแยกออกเป็น 2 ค่ายชัดเจน จีน กับ สหรัฐฯ เมื่อ ประธานาธิบดีทรัมป์ ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลกเพื่อเอาเปรียบ ตั้งแต่ 2 เม.ย.ทรัมป์ได้ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศไปแล้ว 10% และ จะขึ้นภาษีตอบโต้อีก 20–245% กับประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ จะยึดคลองปานามา จะยึดคลองสุเอซที่เก็บค่าผ่านเรือสหรัฐฯ กลายเป็นอันธพาลระดับโลก ทำให้ทุกชาติ เริ่มถอยห่างจากสหรัฐฯมาใกล้ชิดกับจีนมากขึ้น มาซาโตะ คานดะ ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้เสนอ ให้ประเทศในเอเชียหันมาค้าขายกันเองให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อปกป้องเศรษฐกิจในภูมิภาคจากแรงกระแทกภายนอก ผมเชื่อว่า ระบบโอนเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน CIPS ของจีน จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการค้าในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก “ยกเว้นสหรัฐฯ” ทำให้ ระบบโอนเงิน SWIFT ลดบทบาทลง สหรัฐฯจะได้ “โดดเดี่ยวตัวเอง” สมใจทรัมป์แน่นอน. “ลม เปลี่ยนทิศ” https://www.thairath.co.th/news/local/2855708
    WWW.THAIRATH.CO.TH
    ธนาคารกรุงเทพเชื่อมระบบโอนเงินหยวน
    ผมเพิ่งเขียนเรื่อง “จีนเปิดตัวหยวนดิจิทัลข่ม SWIFT” ไปเมื่อวันเสาร์ โดยจีนได้เปิดตัว “ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคาร” (China’s Cross–Border Interbank Payment System) รุ่นใหม่หรือ CIPS รุ่น 2.0
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 192 Views 0 Reviews
  • สงกรานต์ปี 68 ต่างชาติเที่ยวไทยลดลง

    สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI เปิดเผยสถิติการเดินทางเข้าออกประเทศ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 เทียบกับปี 2567 โดยใช้ข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ระหว่างวันที่ 1-20 เม.ย. พบว่าชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยลดลงกว่าปีก่อน ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงกว่า 43% อีกด้านหนึ่ง คนไทยเดินทางออกนอกประเทศมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

    โดยชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย มีจำนวนประมาณ 2.1 ล้านคน ลดลง 4.5% จากปี 2567 สัญชาติที่เข้าประเทศไทยมากที่สุด คือ มาเลเซีย ประมาณ 306,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 6.53% อันดับสอง จีน ประมาณ 225,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 43.06% อันดับสาม ลาว ประมาณ 189,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 7.02% อันดับสี่ อินเดีย ประมาณ 141,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 23.43% และอันดับห้า รัสเซีย ประมาณ 118,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 15.43%

    ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศมากที่สุด อันดับ 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประมาณ 897,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 3.18% อันดับสอง ท่าอากาศยานภูเก็ต ประมาณ 299,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10.73% อันดับสาม ท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) ประมาณ 224,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 18.63% อันดับสี่ ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จ.สงขลา ประมาณ 122,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 6.43% และอันดับห้า จุดตรวจสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 จ.หนองคาย ประมาณ 74,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 11.27% ส่วนเที่ยวบินขาเข้าจากต่างประเทศ มีประมาณ 12,000 เที่ยวบิน ลดลงจากปีที่แล้ว 5.24%

    ส่วนคนไทยที่เดินทางออกนอกประเทศ มีประมาณ 702,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10.92% โดยพบว่าผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมากที่สุด ประมาณ 196,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 0.67% จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว ประมาณ 97,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 20.02% ท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) ประมาณ 82,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 58.62% ด่านตรวจคนเข้าเมืองปาดังเบซาร์ จ.สงขลา ประมาณ 57,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 64.15% และ จุดตรวจสะพานข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ประมาณ 54,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 19.37%

    ก่อนหน้านี้ กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 20 เม.ย. 2568 พบว่ามีจำนวน 11,272,379 คน จำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 1,524,697 คน มาเลเซีย 1,401,169 คน รัสเซีย 835,385 คน อินเดีย 677,793 คน และเกาหลีใต้ 549,982 คน

    #Newskit
    สงกรานต์ปี 68 ต่างชาติเที่ยวไทยลดลง สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI เปิดเผยสถิติการเดินทางเข้าออกประเทศ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 เทียบกับปี 2567 โดยใช้ข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ระหว่างวันที่ 1-20 เม.ย. พบว่าชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยลดลงกว่าปีก่อน ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงกว่า 43% อีกด้านหนึ่ง คนไทยเดินทางออกนอกประเทศมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย มีจำนวนประมาณ 2.1 ล้านคน ลดลง 4.5% จากปี 2567 สัญชาติที่เข้าประเทศไทยมากที่สุด คือ มาเลเซีย ประมาณ 306,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 6.53% อันดับสอง จีน ประมาณ 225,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 43.06% อันดับสาม ลาว ประมาณ 189,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 7.02% อันดับสี่ อินเดีย ประมาณ 141,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 23.43% และอันดับห้า รัสเซีย ประมาณ 118,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 15.43% ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศมากที่สุด อันดับ 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประมาณ 897,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 3.18% อันดับสอง ท่าอากาศยานภูเก็ต ประมาณ 299,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10.73% อันดับสาม ท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) ประมาณ 224,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 18.63% อันดับสี่ ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จ.สงขลา ประมาณ 122,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 6.43% และอันดับห้า จุดตรวจสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 จ.หนองคาย ประมาณ 74,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 11.27% ส่วนเที่ยวบินขาเข้าจากต่างประเทศ มีประมาณ 12,000 เที่ยวบิน ลดลงจากปีที่แล้ว 5.24% ส่วนคนไทยที่เดินทางออกนอกประเทศ มีประมาณ 702,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10.92% โดยพบว่าผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมากที่สุด ประมาณ 196,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 0.67% จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว ประมาณ 97,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 20.02% ท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) ประมาณ 82,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 58.62% ด่านตรวจคนเข้าเมืองปาดังเบซาร์ จ.สงขลา ประมาณ 57,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 64.15% และ จุดตรวจสะพานข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ประมาณ 54,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 19.37% ก่อนหน้านี้ กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 20 เม.ย. 2568 พบว่ามีจำนวน 11,272,379 คน จำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 1,524,697 คน มาเลเซีย 1,401,169 คน รัสเซีย 835,385 คน อินเดีย 677,793 คน และเกาหลีใต้ 549,982 คน #Newskit
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 242 Views 0 Reviews
  • ปมร้อนข่าวลึก : ศาลสั่งไต่สวน'ทักษิณ' พลิกข้อกฎหมาย ศึกนี้ 'รอด' หรือ 'ร่วง'

    เวลานี้บ้านจันทร์ส่องหล้าน่าจะเกิดอาการสั่นคลอนพอสมควร ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้หยิบยกเอากรณีคำร้องของนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในเรื่องที่กรมราชทัณฑ์อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกตัดสินจำคุก 8 ปี แต่ได้รับการลดโทษเหลือ 1 ปี ออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไปรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล มาพิจารณาด้วยตัวเอง แม้จะมีความเห็นว่านายชาญชัย ผู้ร้องไม่ได้เป็นคู่ความในคดีของนายทักษิณมาก่อนก็ตาม

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000040615

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ปมร้อนข่าวลึก : ศาลสั่งไต่สวน'ทักษิณ' พลิกข้อกฎหมาย ศึกนี้ 'รอด' หรือ 'ร่วง' เวลานี้บ้านจันทร์ส่องหล้าน่าจะเกิดอาการสั่นคลอนพอสมควร ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้หยิบยกเอากรณีคำร้องของนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในเรื่องที่กรมราชทัณฑ์อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกตัดสินจำคุก 8 ปี แต่ได้รับการลดโทษเหลือ 1 ปี ออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไปรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล มาพิจารณาด้วยตัวเอง แม้จะมีความเห็นว่านายชาญชัย ผู้ร้องไม่ได้เป็นคู่ความในคดีของนายทักษิณมาก่อนก็ตาม อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000040615 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    4
    0 Comments 0 Shares 733 Views 0 Reviews
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง บรรเทาทุกข์ผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา และ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ มอบเงินช่วยเหลือพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค รวมมูลค่ากว่า 3 แสนบาท
    .
    วันนี้ (วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก พร้อมด้วย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีม แผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา รวมจำนวน 41 คน โดยมอบเงินสดคนละ 3,500 บาท พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 17 ชุด รวมมูลค่าการช่วยเหลือทั้งสิ้น 186,000 บาท (หนึ่งแสนแปดหมื่นหกพันบาทถ้วน) โดยมี นายพงษ์ศักดิ์ ธีระกิตติวัฒนา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฉะเชิงเทรา ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆ ร่วมในพิธี พร้อมด้วย มูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถาน เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี ณ บริเวณตลาดเก่าพนมสารคาม อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา
    .
    โดยวานนี้ (วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2568) นายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่มูลนิธิฯ พร้อมด้วย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีมแผนกสาธารณภัย ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุอัคคีภัยบริเวณชุมชนใกล้สำนักงานเขตธนบุรี แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ รวมจำนวน 42 คน โดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบเงินสดคนละ 3,500 บาท พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภครายครอบครัว จำนวน 14 ชุด และรายบุคคล จำนวน 3 ชุด ในการนี้ มูลนิธิไกรสิทธิการกุศล ร่วมมอบเงินสด คนละ 400 บาท และ พุทธสมาคมปทุมรังษี ร่วมมอบข้าวสาร คนละ 10 กิโลกรัม รวมมูลค่าการช่วยเหลือทั้ง 3 องค์กรทั้งสิ้น 211,700 บาท (สองแสนหนึ่งหมื่นหนึ่งพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน)
    .
    รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยทั้งในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ เป็นเงินทั้งสิ้น 397,700 บาท (สามแสนเก้าหมื่นเจ็ดพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน)
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    #แอปพลิเคชัน และ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418
    #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง บรรเทาทุกข์ผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา และ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ มอบเงินช่วยเหลือพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค รวมมูลค่ากว่า 3 แสนบาท . วันนี้ (วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก พร้อมด้วย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีม แผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา รวมจำนวน 41 คน โดยมอบเงินสดคนละ 3,500 บาท พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 17 ชุด รวมมูลค่าการช่วยเหลือทั้งสิ้น 186,000 บาท (หนึ่งแสนแปดหมื่นหกพันบาทถ้วน) โดยมี นายพงษ์ศักดิ์ ธีระกิตติวัฒนา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฉะเชิงเทรา ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆ ร่วมในพิธี พร้อมด้วย มูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถาน เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี ณ บริเวณตลาดเก่าพนมสารคาม อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา . โดยวานนี้ (วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2568) นายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่มูลนิธิฯ พร้อมด้วย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีมแผนกสาธารณภัย ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุอัคคีภัยบริเวณชุมชนใกล้สำนักงานเขตธนบุรี แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ รวมจำนวน 42 คน โดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบเงินสดคนละ 3,500 บาท พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภครายครอบครัว จำนวน 14 ชุด และรายบุคคล จำนวน 3 ชุด ในการนี้ มูลนิธิไกรสิทธิการกุศล ร่วมมอบเงินสด คนละ 400 บาท และ พุทธสมาคมปทุมรังษี ร่วมมอบข้าวสาร คนละ 10 กิโลกรัม รวมมูลค่าการช่วยเหลือทั้ง 3 องค์กรทั้งสิ้น 211,700 บาท (สองแสนหนึ่งหมื่นหนึ่งพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน) . รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยทั้งในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ เป็นเงินทั้งสิ้น 397,700 บาท (สามแสนเก้าหมื่นเจ็ดพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน) . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” #แอปพลิเคชัน และ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 Comments 0 Shares 223 Views 0 Reviews
  • ผบช.น. เผยคดีอดีตตำรวจยศ “พล.ต.อ.” ชนแล้วหนี อยู่ระหว่าง ดำเนินการสอบข้อเท็จจริงโดยละเอียด พร้อมให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ตามพยานหลักฐาน

    จากกรณีเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลา 23.00 น.ที่บริเวณแยกทางเข้าโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท แขวง พระโขนง เขต คลองเตย กรุงเทพมหานคร พบรถยนต์ รุ่น E240 SEDAN ยี่ห้อ MERCEDES BENZ สี เทา โดยมี พล.ต.อ.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ อดีตที่ปรึกษา สบ.10 เป็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว อยู่บนนถนนพระรามที่ 4 กล้วยน้ำไท มุ่งหน้าพระโขนง ในช่องทางที่ 2 จากซ้าย เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ ชนกับรถจักรยานยนต์ขับอยู่ในช่องทางที่ 1 จากซ้าย มีนายนที ศรีทา เป็นผู้ขับขี่จักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บตามที่ข่าวเสนอไปแล้วนั้น

    ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (30 เม.ย.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 และ พ.ต.อ.พิสิษฐ์ มีวิริยกุล ผกก.สน.คลองตัน ดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าว โดยและเอียด และให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เบื้องต้นทราบว่า ผู้บาดเจ็บตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ซึ่งพนักงานสอบสวน ได้ซักถามอาการเบื้องต้นแล้ว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/crime/detail/9680000040544

    #MGROnline #อดีตตำรวจ #ชนแล้วหนี
    ผบช.น. เผยคดีอดีตตำรวจยศ “พล.ต.อ.” ชนแล้วหนี อยู่ระหว่าง ดำเนินการสอบข้อเท็จจริงโดยละเอียด พร้อมให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ตามพยานหลักฐาน • จากกรณีเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลา 23.00 น.ที่บริเวณแยกทางเข้าโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท แขวง พระโขนง เขต คลองเตย กรุงเทพมหานคร พบรถยนต์ รุ่น E240 SEDAN ยี่ห้อ MERCEDES BENZ สี เทา โดยมี พล.ต.อ.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ อดีตที่ปรึกษา สบ.10 เป็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว อยู่บนนถนนพระรามที่ 4 กล้วยน้ำไท มุ่งหน้าพระโขนง ในช่องทางที่ 2 จากซ้าย เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ ชนกับรถจักรยานยนต์ขับอยู่ในช่องทางที่ 1 จากซ้าย มีนายนที ศรีทา เป็นผู้ขับขี่จักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บตามที่ข่าวเสนอไปแล้วนั้น • ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (30 เม.ย.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 และ พ.ต.อ.พิสิษฐ์ มีวิริยกุล ผกก.สน.คลองตัน ดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าว โดยและเอียด และให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เบื้องต้นทราบว่า ผู้บาดเจ็บตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ซึ่งพนักงานสอบสวน ได้ซักถามอาการเบื้องต้นแล้ว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/crime/detail/9680000040544 • #MGROnline #อดีตตำรวจ #ชนแล้วหนี
    0 Comments 0 Shares 210 Views 0 Reviews
  • 30 เมษายน 2568-รายงานข่าวNBT News ระบุว่าทบ. แจงปมคลิปกลุ่มชายนับสิบแต่งชุดคล้ายสารวัตรทหารในงานอีเวนต์เอกชน ยังไม่ยืนยันเป็นกำลังพล อยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่หากพบผิดจริง เตรียมสอบสวนทางวินัย

    กองทัพบก ชี้แจง ตามที่มีการเผยแพร่ภาพกิจกรรมภายในงานแห่งหนึ่งบนสื่อสังคมออนไลน์และปรากฏภาพบุคคลแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารร่วมปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยนั้น กองทัพบกได้เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นและขอชี้แจงดังนี้ จากผลการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัท Quanhou ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567 ณ อาคาร 6 ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยมีบุคคลสำคัญเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

    ในขั้นต้น กองทัพบกได้ประสานกับกองพันทหารสารวัตรที่ 11 (พัน.สห.11) ซึ่งเป็นหน่วยทหารที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพบว่าไม่มีคำสั่งให้กำลังพลของหน่วยเข้าปฏิบัติภารกิจในงานดังกล่าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าบุคคลที่แต่งกายในลักษณะคล้ายสารวัตรทหารนั้นเป็นกำลังพลของกองทัพบกหรือไม่ หรือสังกัดหน่วยงานใด ซึ่งขณะนี้กองทัพบกอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมอย่างละเอียด

    ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบว่ามีความเกี่ยวข้องหรือเป็นกำลังพลของกองทัพบกจริง จะต้องเข้าสู่กระบวนการสอบสวนทางวินัยเนื่องจากถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่นอกเหนือคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบวินัยของทางราชการอย่างชัดเจน

    ทั้งนี้ในคลิปแสดงพิธีเปิดงาน https://www.facebook.com/share/v/14bPiUYy6s/?mibextid=wwXIfr
    30 เมษายน 2568-รายงานข่าวNBT News ระบุว่าทบ. แจงปมคลิปกลุ่มชายนับสิบแต่งชุดคล้ายสารวัตรทหารในงานอีเวนต์เอกชน ยังไม่ยืนยันเป็นกำลังพล อยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่หากพบผิดจริง เตรียมสอบสวนทางวินัย กองทัพบก ชี้แจง ตามที่มีการเผยแพร่ภาพกิจกรรมภายในงานแห่งหนึ่งบนสื่อสังคมออนไลน์และปรากฏภาพบุคคลแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารร่วมปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยนั้น กองทัพบกได้เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นและขอชี้แจงดังนี้ จากผลการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัท Quanhou ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567 ณ อาคาร 6 ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยมีบุคคลสำคัญเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ในขั้นต้น กองทัพบกได้ประสานกับกองพันทหารสารวัตรที่ 11 (พัน.สห.11) ซึ่งเป็นหน่วยทหารที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพบว่าไม่มีคำสั่งให้กำลังพลของหน่วยเข้าปฏิบัติภารกิจในงานดังกล่าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าบุคคลที่แต่งกายในลักษณะคล้ายสารวัตรทหารนั้นเป็นกำลังพลของกองทัพบกหรือไม่ หรือสังกัดหน่วยงานใด ซึ่งขณะนี้กองทัพบกอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมอย่างละเอียด ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบว่ามีความเกี่ยวข้องหรือเป็นกำลังพลของกองทัพบกจริง จะต้องเข้าสู่กระบวนการสอบสวนทางวินัยเนื่องจากถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่นอกเหนือคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบวินัยของทางราชการอย่างชัดเจน ทั้งนี้ในคลิปแสดงพิธีเปิดงาน https://www.facebook.com/share/v/14bPiUYy6s/?mibextid=wwXIfr
    0 Comments 0 Shares 197 Views 0 Reviews
  • สุริยะอยู่ไหน แก้ปัญหากี่โมง ดีแต่ขู่แบนผู้รับเหมา ล่าสุด ก้อนปูนหล่นจากโครงการก่อสร้างทางด่วนพระราม 2 ใต้ทางต่างระดับขาออกกรุงเทพฯ ทะลุกระจก คนขับบาดเจ็บ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ทางด่วนพระราม2
    #สุริยะ
    สุริยะอยู่ไหน แก้ปัญหากี่โมง ดีแต่ขู่แบนผู้รับเหมา ล่าสุด ก้อนปูนหล่นจากโครงการก่อสร้างทางด่วนพระราม 2 ใต้ทางต่างระดับขาออกกรุงเทพฯ ทะลุกระจก คนขับบาดเจ็บ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #ทางด่วนพระราม2 #สุริยะ
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอเชิญศิษยานุศิษย์และสาธุชน ร่วมงานฉลองบรรลุธรรมหลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) ประจำปี 2568 สักการะหลวงปู่ไต้ฮง ชมการแสดงอุปรากรจีน (งิ้ว) และรับประทานสาคูสิริมงคล ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ
    .
    ระหว่างวันที่ 4-9 พฤษภาคม 2568 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ ขอเชิญศิษยานุศิษย์และสาธุชน ร่วมงานฉลองบรรลุธรรมหลวงปู่ไต้ฮง ประจำปี 2568 ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯสักการะหลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) เพื่อความเป็นสิริมงคล ชมการแสดงอุปรากรจีน (งิ้ว) และ รับประทานสาคูสิริมงคล (อี๊)
    โดยมูลนิธิฯ จัดเตรียมบริการเฉพาะบรรจุถุงให้ผู้มีจิตศรัทธานำกลับบ้านเท่านั้น
    .
    ติดตามข่าวสารและกิจกรรมงานสาธารณกุศลของศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รวมถึงงานฉลองบรรลุธรรมหลวงปู่ไต้ฮง ได้ที่ เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    #มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##
    #สายด่วนและแอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418#
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอเชิญศิษยานุศิษย์และสาธุชน ร่วมงานฉลองบรรลุธรรมหลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) ประจำปี 2568 สักการะหลวงปู่ไต้ฮง ชมการแสดงอุปรากรจีน (งิ้ว) และรับประทานสาคูสิริมงคล ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ . ระหว่างวันที่ 4-9 พฤษภาคม 2568 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ ขอเชิญศิษยานุศิษย์และสาธุชน ร่วมงานฉลองบรรลุธรรมหลวงปู่ไต้ฮง ประจำปี 2568 ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯสักการะหลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) เพื่อความเป็นสิริมงคล ชมการแสดงอุปรากรจีน (งิ้ว) และ รับประทานสาคูสิริมงคล (อี๊) โดยมูลนิธิฯ จัดเตรียมบริการเฉพาะบรรจุถุงให้ผู้มีจิตศรัทธานำกลับบ้านเท่านั้น . ติดตามข่าวสารและกิจกรรมงานสาธารณกุศลของศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รวมถึงงานฉลองบรรลุธรรมหลวงปู่ไต้ฮง ได้ที่ เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . #มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## #สายด่วนและแอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418#
    0 Comments 0 Shares 175 Views 0 Reviews
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอเชิญศิษยานุศิษย์และสาธุชน ร่วมงานฉลองบรรลุธรรมหลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) ประจำปี 2568 สักการะหลวงปู่ไต้ฮง ชมการแสดงอุปรากรจีน (งิ้ว) และรับประทานสาคูสิริมงคล ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ
    .
    ระหว่างวันที่ 4-9 พฤษภาคม 2568 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ ขอเชิญศิษยานุศิษย์และสาธุชน ร่วมงานฉลองบรรลุธรรมหลวงปู่ไต้ฮง ประจำปี 2568 ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯสักการะหลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) เพื่อความเป็นสิริมงคล ชมการแสดงอุปรากรจีน (งิ้ว) และ รับประทานสาคูสิริมงคล (อี๊)
    โดยมูลนิธิฯ จัดเตรียมบริการเฉพาะบรรจุถุงให้ผู้มีจิตศรัทธานำกลับบ้านเท่านั้น
    .
    ติดตามข่าวสารและกิจกรรมงานสาธารณกุศลของศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รวมถึงงานฉลองบรรลุธรรมหลวงปู่ไต้ฮง ได้ที่ เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    #มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##
    #สายด่วนและแอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418#
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอเชิญศิษยานุศิษย์และสาธุชน ร่วมงานฉลองบรรลุธรรมหลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) ประจำปี 2568 สักการะหลวงปู่ไต้ฮง ชมการแสดงอุปรากรจีน (งิ้ว) และรับประทานสาคูสิริมงคล ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ . ระหว่างวันที่ 4-9 พฤษภาคม 2568 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ ขอเชิญศิษยานุศิษย์และสาธุชน ร่วมงานฉลองบรรลุธรรมหลวงปู่ไต้ฮง ประจำปี 2568 ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯสักการะหลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) เพื่อความเป็นสิริมงคล ชมการแสดงอุปรากรจีน (งิ้ว) และ รับประทานสาคูสิริมงคล (อี๊) โดยมูลนิธิฯ จัดเตรียมบริการเฉพาะบรรจุถุงให้ผู้มีจิตศรัทธานำกลับบ้านเท่านั้น . ติดตามข่าวสารและกิจกรรมงานสาธารณกุศลของศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รวมถึงงานฉลองบรรลุธรรมหลวงปู่ไต้ฮง ได้ที่ เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . #มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## #สายด่วนและแอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418#
    0 Comments 0 Shares 194 Views 0 Reviews
  • “กัน จอมพลัง” พาลูกสาวและลูกชายของตากับยายกระบะคู่กรณี “พีช” รับมอบรถกระบะมือสอง มูลค่ากว่า 6 แสนบาท พร้อมมอเตอร์ไซค์ จาก “บิ๊ก สระแก้ว” รวมถึงเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่า และแฟนคลับ รวม 5 แสนบาท

    วันนี้ (26 เม.ย.) ที่ร้าน Davin Cafe นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พร้อมด้วยลูกสาวและลูกชาย ของตากับยาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากกรณีนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือพีช บุตรชายของ นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือนายกเบี้ยวอดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี ขับรถ BMW กระแทกรถกระบะของตากับยายบนทางด่วน ได้เดินทางมารับรถกะบะ อีซูซุ แค็บ Calendar ปี 2022 สีบรอนซ์ ราคา 600,000 บาท มอเตอร์ไซค์ ฮอนด้าเวฟ 110i 2025 สีน้ำ-ขาว ราคา 47,000 บาท รวมถึงอาหารทั้งหมูยอ ข้าวสารจากทางครอบครัวของนายอรรถวัฒน์ ตังคะประเสริฐ หรือบิ๊ก สระแก้ว และนายสุรพล ตังคะประเสริฐ ประธานบริษัท ดีที่สุดคาร์แอนเซอวิส ฮอนด้าประสิทธิ์ระแก้ว(2554) ปตท. เฮียพลสั่งลุยซ้อน้องจัดเต็ม มั่งมีศรีสุข

    กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการประกาศตามหาซื้อรถให้กับทางคุณตาคุณยาย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีหลายคนเสนอเข้ามา ซึ่งทางคุณบิ๊กมีการเสนอรถฟอร์จูนเนอร์มาให้กับครอบครัวคุณตาคุณยายด้วย ยอมรับว่า ตนเองตกใจเป็นอย่างมากเพราะฟอร์จูนเนอร์ออกใหม่ราคา 1 ล้านกว่าบาท จึงได้มีการไปปรึกษาคุณตาคุณยาย แต่ทั้งสองคนไม่กล้ารับ เพราะอยากจะได้รถที่เป็นกระบะแคปเหมือนเดิม และไม่ได้หวังว่าจะต้องได้รถมือหนึ่ง ซึ่งคุณตาคุณยายทำให้ตนรู้สึกดีเป็นอย่างมากที่ไม่ได้ช่วยโอกาสอยากจะได้อะไรเป็นสุรต่านร่ำรวย กลับทำให้รู้สึกสงสารคุณตาคุณยายมากกว่าเดิม

    จึงจำเป็นที่จะต้องหาดูรถ ให้คุณตาคุณยายใหม่ จนคุณบิ๊กเสนอรถเข้ามาดูใหม่ เป็นรถกระบะแคปปี 2022 เลขกิโลนั้นไม่ได้เยอะมาก ซึ่งทางคุณบิ๊กนั้นต้องการที่จะช่วยจริงๆ ได้มีการลากจากจังหวัดสระแก้วมาที่กรุงเทพมหานคร เพื่อส่งมอบให้กับคุณตาคุณยาย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/crime/detail/9680000039217

    #MGROnline #กันจอมพลัง
    “กัน จอมพลัง” พาลูกสาวและลูกชายของตากับยายกระบะคู่กรณี “พีช” รับมอบรถกระบะมือสอง มูลค่ากว่า 6 แสนบาท พร้อมมอเตอร์ไซค์ จาก “บิ๊ก สระแก้ว” รวมถึงเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิธรรมนัสพรหมเผ่า และแฟนคลับ รวม 5 แสนบาท • วันนี้ (26 เม.ย.) ที่ร้าน Davin Cafe นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พร้อมด้วยลูกสาวและลูกชาย ของตากับยาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากกรณีนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือพีช บุตรชายของ นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือนายกเบี้ยวอดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี ขับรถ BMW กระแทกรถกระบะของตากับยายบนทางด่วน ได้เดินทางมารับรถกะบะ อีซูซุ แค็บ Calendar ปี 2022 สีบรอนซ์ ราคา 600,000 บาท มอเตอร์ไซค์ ฮอนด้าเวฟ 110i 2025 สีน้ำ-ขาว ราคา 47,000 บาท รวมถึงอาหารทั้งหมูยอ ข้าวสารจากทางครอบครัวของนายอรรถวัฒน์ ตังคะประเสริฐ หรือบิ๊ก สระแก้ว และนายสุรพล ตังคะประเสริฐ ประธานบริษัท ดีที่สุดคาร์แอนเซอวิส ฮอนด้าประสิทธิ์ระแก้ว(2554) ปตท. เฮียพลสั่งลุยซ้อน้องจัดเต็ม มั่งมีศรีสุข • กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการประกาศตามหาซื้อรถให้กับทางคุณตาคุณยาย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีหลายคนเสนอเข้ามา ซึ่งทางคุณบิ๊กมีการเสนอรถฟอร์จูนเนอร์มาให้กับครอบครัวคุณตาคุณยายด้วย ยอมรับว่า ตนเองตกใจเป็นอย่างมากเพราะฟอร์จูนเนอร์ออกใหม่ราคา 1 ล้านกว่าบาท จึงได้มีการไปปรึกษาคุณตาคุณยาย แต่ทั้งสองคนไม่กล้ารับ เพราะอยากจะได้รถที่เป็นกระบะแคปเหมือนเดิม และไม่ได้หวังว่าจะต้องได้รถมือหนึ่ง ซึ่งคุณตาคุณยายทำให้ตนรู้สึกดีเป็นอย่างมากที่ไม่ได้ช่วยโอกาสอยากจะได้อะไรเป็นสุรต่านร่ำรวย กลับทำให้รู้สึกสงสารคุณตาคุณยายมากกว่าเดิม • จึงจำเป็นที่จะต้องหาดูรถ ให้คุณตาคุณยายใหม่ จนคุณบิ๊กเสนอรถเข้ามาดูใหม่ เป็นรถกระบะแคปปี 2022 เลขกิโลนั้นไม่ได้เยอะมาก ซึ่งทางคุณบิ๊กนั้นต้องการที่จะช่วยจริงๆ ได้มีการลากจากจังหวัดสระแก้วมาที่กรุงเทพมหานคร เพื่อส่งมอบให้กับคุณตาคุณยาย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/crime/detail/9680000039217 • #MGROnline #กันจอมพลัง
    0 Comments 0 Shares 301 Views 0 Reviews
  • เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายร่างของตำรวจทั้ง 6 นาย ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกในทะเล ไปยังวัดตรีทศเทพฯ เตรียมส่งกลับประกอบพิธีศสาสนาตามภูมิลำเนาพรุ่งนี้

    วันนี้ (26 เม.ย.) ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เจ้าหน้าที่นิติเวชนำร่างของตำรวจทั้ง 6 นาย สังกัดกองบินตำรวจ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกในทะเลบรรจุใส่โลงศพและนำขึ้นรถศูนย์ส่งกลับและรถพยาบาล โรงพยาบาลตำรวจจำนวน 6 คัน โดยมีพระสงฆ์ 6 รูป ประจำรถศูนย์ส่งกลับฯคันละ 1 รูป รวมถึงญาติ พร้อมทั้งมีรถจักรยานยนต์ตำรวจของกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.)

    นำโดย พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ รอง ผบก.จร. ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น นรต.54 กับ พ.ต.อ.ประธาน เขียวขำ นักบิน (สบ 4) กองบินตำรวจ หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นผู้ขับรถนำขบวนด้วยตนเอง ในการเคลื่อนย้ายร่าง ไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดตรีทศเทพวรวิหาร ถนนประชาธิปไตย แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/crime/detail/9680000039179

    #MGROnline #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ #ตำรวจกล้า #อาลัยตำรวจกล้า #กองบินตำรวจ
    #เครื่องบินตก
    เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายร่างของตำรวจทั้ง 6 นาย ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกในทะเล ไปยังวัดตรีทศเทพฯ เตรียมส่งกลับประกอบพิธีศสาสนาตามภูมิลำเนาพรุ่งนี้ • วันนี้ (26 เม.ย.) ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เจ้าหน้าที่นิติเวชนำร่างของตำรวจทั้ง 6 นาย สังกัดกองบินตำรวจ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกในทะเลบรรจุใส่โลงศพและนำขึ้นรถศูนย์ส่งกลับและรถพยาบาล โรงพยาบาลตำรวจจำนวน 6 คัน โดยมีพระสงฆ์ 6 รูป ประจำรถศูนย์ส่งกลับฯคันละ 1 รูป รวมถึงญาติ พร้อมทั้งมีรถจักรยานยนต์ตำรวจของกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) • นำโดย พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ รอง ผบก.จร. ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น นรต.54 กับ พ.ต.อ.ประธาน เขียวขำ นักบิน (สบ 4) กองบินตำรวจ หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นผู้ขับรถนำขบวนด้วยตนเอง ในการเคลื่อนย้ายร่าง ไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดตรีทศเทพวรวิหาร ถนนประชาธิปไตย แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/crime/detail/9680000039179 • #MGROnline #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ #ตำรวจกล้า #อาลัยตำรวจกล้า #กองบินตำรวจ #เครื่องบินตก
    0 Comments 0 Shares 280 Views 0 Reviews
  • “คิดส์ ซีนีมา” เปิดสาขาใหม่ที่โคราช ซีนีเพล็กซ์ ตอกย้ำความสำเร็จโรงภาพยนตร์สำหรับครอบครัว เติบโตต่อเนื่อง พร้อมขยายอีกหลายสาขาทั่วประเทศ

    บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) พาโรงภาพยนตร์ คิดส์ ซีนีมา (Kids Cinema) เดินหน้าขยายฐาน ความสุขสู่ครอบครัวไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัว สาขาที่ 20 ณ โคราช ซีนีเพล็กซ์ ชั้น 3 ศูนย์การค้า เดอะมอลล์ โคราช พร้อมโปรโมชั่นพิเศษฉลองเปิดสาขาใหม่ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านประสบการณ์การชมภาพยนตร์สำหรับเด็กและ ครอบครัวที่แตกต่าง ด้วยแนวคิด “Creating happy memories through movies and play" ทีต้องการสร้างความสุขให้กับกลุ่มครอบครัว ผสมผสานความสนุกจากเครื่องเล่น และกิจกรรมต่างๆ กับการชมภาพยนตร์อย่างปลอดภัยและสบายใจ ไอคอน ซีเน

    ปัจจุบัน คิดส์ ซีนีมา มีทั้งหมด 19 สาขาในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ได้แก่ พารากอน ซีนีเพล็กซ์, คอนิค, ควอเทียร์ ซีนีอาร์ต, เมกา ซีนีเพล็กซ์, เวสต์เกต ซีนีเพล็กซ์, อีสต์วิลล์ ซีนีเพล็กซ์, พรอมานาด ซีนีเพล็กซ์, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน, เมเจอร์ เซ็นทรัล พระราม 3, เมเจอร์ บางแค, เมเจอร์ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ลาดกระบัง, เมเจอร์ รังสิต, เอสพลานาด งามวงศ์วาน-แคราย, บางกะปิ ซีนีเพล็กซ์, เวสต์วิลล์ ซีนีเพล็กซ์, เมเจอร์ เซ็นทรัล เชียงใหม่ (เซ็นเฟส), เมเจอร์ เซ็นทรัล ระยอง, นครปฐม ซีนีเพล็กซ์, เมเจอร์ เซ็นทรัล อุดร โดยโคราช ซีนีเพล็กซ์ เป็น สาขาที่ 20

    โรงภาพยนตร์ คิดส์ ซีนีมา สาขา โคราช ซีนีเพล็กซ์ ตั้งอยู่บนชั้น 3 ศูนย์การค้า เดอะมอลล์ โคราช เปิดให้บริการทุกวัน เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ (ช่วงปิดเทอมเปิดให้บริการทุกวัน ถึงวันที่ 12 พฤษภาคม 2568) โดยจะเปิดให้บริการวัน แรก ในวันเสาร์ที่ 26 เมษายน 2568 สามารถรองรับลูกค้าได้ 183 ที่นั่ง มีที่นั่งพิเศษ Double Sofa Bed เหมาะสำหรับ ครอบครัวที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ ภายในโรงมีการเพิ่มแสงสว่างขึ้น 30% ปรับลดระดับเสียงลง 20% พร้อมพื้นที่กิจกรรม สันทนาการสำหรับเด็ก ๆ อาทิ สไลเดอร์ และ บ่อบอลหลากสีสัน นอกจากนี้ บริเวณด้านหน้าโรงภาพยนตร์ยังมีบริการเครื่อง เล่น Playland ดินแดนแห่งความสุขให้เด็กๆ ได้ทำกิจกรรมก่อนเข้าชมภาพยนตร์อีกด้วย

    พิเศษ...ช่วงแรกของการเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์สำหรับเด็ก Kids Cinema โคราช ซีนีเพล็กซ์ พร้อม แจกความสุขความบันเทิงให้กับน้อง ๆ และคุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง ฉลองสาขาที่ 20 ให้ สมาชิก M GEN Kids (อายุ ไม่เกิน 12 ปี) รับสิทธิ์ดูหนังฟรี สำหรับที่ปกติ และ ฮันนีมูน สำหรับรอบ คิดส์ ซีนีมา ตลอดทั้งวัน และ ดูหนังฟรีทั้ง ครอบครัว เรื่อง ไมน์คราฟต์ มูฟวี่ และ โดราเอมอนเดอะมูฟวี่: ไดโนเสาร์ตัวใหม่ของโนบิตะ ในวันเสาร์ที่ 26 เมษายน 2568 - อาทิตย์ที่ 27 เมษายน 2568 เฉพาะรอบเวลา 11.00 น.เท่านั้น โดยคุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง สามารถ ลงทะเบียนรับบัตรชมภาพยนตร์บริเวณหน้าโรงภาพยนตร์สำหรับเด็ก Kids Cinema ตั้งแต่เวลา 10.30 น.
    .
    จำกัดจำนวนครอบครัวละไม่เกิน 4 ที่นั่ง ซึ่งครอบครัวที่ใช้สิทธิ์ชมภาพยนตร์ฟรีจะต้องมีน้องอายุไม่เกิน 12 ปี เข้าร่วมชมภาพยนตร์ด้วย สิทธิพิเศษนี้เพื่อน้อง ๆ อายุไม่เกิน 12 ปี สำหรับเด็กที่ไม่มีบัตรสมาชิก M GEN Kids รับสิทธิ์สมัครสมาชิกบัตร M GEN Kids ฟรี ถึง 31 พฤษภาคม 2568

    นอกจากนี้ ยังมีสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก M GEN Kids อีกมากมาย ให้ดูหนังสนุกพร้อมกัน อร่อยจุใจ ทั้งครอบครัว กับ Family Package เพียง 899.- สำหรับโรงภาพยนตร์คิดส์ ซีนีมา สาขาโคราช ซีนีเพล็กซ์ ประกอบด้วยที่นั่ง Double Sofa Bed หรือ Opera Chair 1 คู่ + Supersize Set (ป๊อปคอร์น 355 ออนซ์ จำนวน 1 ถัง และเครื่องดื่ม 32 ออนซ์ จำนวน 2 แก้ว)

    และดูหนังฉลองวันเกิด ได้ทั้งความสุขและความคุ้มในเวลาเดียวกัน! จากปกติราคา 1590.- ลดเหลือเพียง 690.- ตลอดเดือนพฤษภาคม (ประกอบด้วย ที่นั่งประเภท Double Sofa Bed 1 คู่ (สำหรับผู้ใหญ่ 2 ท่าน และเด็กเล็ก 1 ท่าน), Popcorn Supersize 355oz 1 ถัง + เครื่องดื่ม 32 oz. 2 แก้ว, Birthday Gift 1 ชิ้น, สิทธิ์ในการถ่ายภาพโพลา รอยด์ 1 ใบ) ระยะเวลาตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2568 – 31 พฤษภาคม 2568

    และพลาดไม่ได้กับกิจกรรมเอาใจนักสำรวจตัวน้อย อาทิ กิจกรรม Workshop ขุดฟอสซิลไดโนเสาร์ และ ระบายสีถุงผ้า ไดโนเสาร์ และหุ่นจำลองลมยักษ์ไดโนเสาร์ กิจกรรมเล่านิทาน กิจกรรมดีๆ แบบนี้ ที่คิดส์ ซีนีมา สาขา โคราช ซีนีเพล็กซ์ เท่านั้น

    การเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์สำหรับเด็ก "Kids Cinema สาขาโคราช ซีนีเพล็กซ์ ครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญใน การสร้างพื้นที่แห่งความสุข ปลอดภัย และสร้างสรรค์ให้กับเด็กๆ และครอบครัว และสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการ ยกระดับประสบการณ์โรงภาพยนตร์ให้เป็นมากกว่าการดูหนัง แต่เป็นช่วงเวลาคุณภาพร่วมกันของทั้งครอบครัว
    .
    Factsheet: ข้อมูลโรงภาพยนตร์
    คิดส์ ซีนีมา โลกบันเทิงแห่งจินตนาการ และการเรียนรู้สำหรับเด็ก

    การเปิดโรงภาพยนตร์สำหรับเด็กเพื่อรองรับความต้องการของกลุ่ม Family ที่นิยมพาลูกไปสัมผัสประสบการณ์ นอกห้องเรียน ซึ่งการภาพยนตร์ก็นับเป็นกิจกรรมหนึ่งที่กลุ่ม Family อยากให้เด็กๆได้เรียนรู้ แต่ติดปัญหาเรื่องการเข้าชม ในโรงภาพยนตร์ปกติที่อาจไม่เอื้ออำนวย เช่น รบกวนลูกค้ากลุ่มอื่นๆ แสงสว่างไม่เพียงพอทำให้เด็กหวาดกลัวและ ยังไม่มี ภาพยนตร์เฉพาะสำหรับเด็ก จึงไม่สามารถตอบสนองความต้องการให้กับกลุ่ม Kids & Family ได้ Kids Cinema จึงเป็น ทางเลือกใหม่ในการใช้โรงภาพยนตร์สำหรับกลุ่ม Kids & Family เพื่อทำกิจกรรมสันทนาการร่วมกันภายในครอบครัวและ & เวิร์คช็อปที่หลากหลาย รวมทั้งเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ของเด็กๆและผู้ปกครอง เพื่อแลกเปลี่ยนและเพิ่มทักษะการเรียนรู้ สิ่งใหม่ๆและ สนับสนุนพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กได้อีกด้วย ภายในโรง Kids Cinema ยังมีบริการเครื่องเล่น Play Land ดินแดนแห่งความสุขพร้อมบ่อบอลหลากสีสัน สไลด์เดอร์ไว้ให้เด็กๆและ เก้าอี้สีสันแนวลูกกวาดที่สร้างบรรยากาศความ สดใสให้กับโรงภาพยนตร์คิดส์ ซีนีมา

    จุดเด่นของโรงภาพยนตร์คิดส์ ซีนีมา
    สไลเดอร์และ บ่อบอลขนาดยักษ์กว่าหนึ่งหมื่นลูกภายในโรงภาพยนตร์ ให้เด็กๆ ได้สนุกพร้อมมีความสุขกับการ ชมภาพยนตร์

    ● ภายในโรงมีการเพิ่มแสงสว่างขึ้น 30 % และปรับลดงระดับเสียงลง 20 % เพื่อให้เหมาะกับเด็กๆ มากขึ้น % Double Sofa Bed ที่นั่งพิเศษ เหมาะสำหรับครอบครัว ที่ออกแบบมาเฉพาะโรงคิดส์ ซีนีมาเท่านั้น สนุกและเพลิดเพลินกับกิจกรรม workshop, mascot, ที่พร้อมสร้างความสุขให้เด็กๆ ทุกสัปดาห์ • เปิดให้บริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยปัจจุบันมีทั้งหมด 19 สาขา สามารถติดต่อปิดรอบ เหมาโรงภาพยนตร์ เพื่อจัดกิจกรรมเพื่อน้องๆ ชมภาพยนตร์ หรือจัดปาร์ตี้วันเกิดแบบ Kids Cinema ได้

    Private ได้ที่โรงภาพยนตร์

    เงื่อนไขการให้บริการ คิดส์ ซีนีมา

    เด็กส่วนสูงไม่เกิน 70 ซม. เข้าชมฟรี (สงวนสิทธิ์เฉพาะสมาชิก M GEN Kids เท่านั้น)

    ● สำหรับที่นั่งประเภท Double Sofa Bed กรณีเด็กสูงไม่เกิน 120 ซม. สามารถนั่งกับผู้ปกครองได้ • สามารถเช็กรอบเวลาภาพยนตร์ก่อนเข้าใช้บริการ ได้ที่แอปพลิเคชัน Major APP หรือตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ (ETicket) ที่หน้าโรงภาพยนตร์ (โดยสังเกตได้จากไอคอน Kids Cinema)
    ● ไม่สามารถนำอาหารภายในโรงภาพยนตร์ได้ และเครื่องดื่มจากร้านค้าภายนอก เข้ามาเพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณางดใช้โทรศัพท์มือถือและกล้องถ่ายรูปภายในโรงภาพยนตร์ (ถ่ายบรรยากาศ โรงภาพยนตร์ได้ แต่ไม่สามารถถ่ายติดภาพยนตร์ที่ฉายอยู่บนจอได้)
    ● สงวนสิทธิ์ผู้ใช้บริการเครื่องเล่นภายใน KIDS CINEMA สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 5-12 ขวบ และมีส่วนสูงไม่เกิน 120 ซม. เท่านั้น (กรณีไม่เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ต้องมีผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด)
    ● เพื่อความปลอดภัย ผู้ใช้บริการเครื่องเล่นภายในโรงภาพยนตร์ KIDS CINEMA จะต้องอยู่ในความดูแลของ ผู้ปกครองตลอดเวลา
    ผู้ใช้บริการต้องเล่นเครื่องเล่นอย่างถูกวิธีตามเงื่อนไขของเครื่องเล่นนั้นๆ ไม่เล่นผาดโผน หรือกิจกรรมใดก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่น
    ผู้ใช้บริการจะต้องล้างมือทำความสะอาดทุกครั้งก่อนเล่นเครื่องเล่นเพื่อความสะอาดถูกหลักอนามัย กรุณาถอดรองเท้าและสวมถุงเท้าก่อนเข้าใช้บริการเครื่องเล่นทุกชนิด
    ปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำแนะนำจากพนักงานอย่างเคร่งครัด ทางโรงภาพยนตร์คิดส์ ซีนีมาไม่รับผิดชอบในกรณีบาดเจ็บ หรือทรัพย์สินสูญหายใดๆทุกกรณี

    คิดส์ ซีนีมาดูแลและใส่ใจความสะอาด ทำความสะอาดบ่อบอล ลูกบอล และอุปกรณ์เครื่องเล่นด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ทุกวัน
    ● ดูดฝุ่น ทำความสะอาดเก้าอี้ และ พื้น พรม ทุกรอบฉาย ผ้าห่ม ทำความสะอาด และ เปลี่ยนใหม่ทุกรอบฉาย

    อบโอโซน ฆ่าเชื้อ ทุกวัน

    บัตร M GEN Next Kids พร้อมสิทธิพิเศษมากมาย
    ● ซื้อตั๋วหนังราคาเด็ก เริ่มต้น 100 บาท ดูหนังฟรีในสัปดาห์เกิด 1 ที่นั่ง
    ● รับสิทธิ์ซื้อป๊อปคอร์น คิดส์เซ็ท เพียง 50 บาท (ป๊อปคอร์น 26 ออนซ์ + น้ำอัดลม 12 ออนซ์)

    รายชื่อภาพยนตร์ที่เข้าฉาย ที่โรงภาพยนตร์ คิดส์ ซีนีมา
    24 เมษายน 2568 Doraemon the Movie 2020 : Nobita's New Dinosaur
    1 พฤษภาคม 2568 The Day The Earth Blew Up : A Looney Tunes Movie 1 พฤษภาคม 2568 Doraemon The Movie 2022 : Nobita's Little Star Wars
    8 พฤษภาคม 2568 Doraemon The Movie 2023 : Nobita's Sky Utopia
    15 พฤษภาคม 2568 Doraemon the Movie 2024 : Nobita's Earth Symphony
    22 พฤษภาคม 2568 Lilo & Stitch
    11 มิถุนายน 2568 How to train your dragon
    19 มิถุนายน 2568 Elio
    2 กรกฎาคม 2568 Jurassic World 4
    17 กรกฎาคม 2568 The Smurfs Movie
    7 สิงหาคม 2568 The Bed Guys 2
    9 ตุลาคม 2568 Gabby's Dollhouse: The Movie
    27 พฤษจิกายน 2568 Zootopia2
    18 ธันวาคม 2568 Avatar 3

    สนใจปิดรอบเหมาโรง สร้างบรรยากาศแห่งความสุขในวันสำคัญที่ #คิดส์ซีนีมา #KidsCinema โรงภาพยนตร์สำหรับเด็กและครอบครัว

    GROUP BOOKING ปิดรอบชมภาพยนตร์

    จัดกิจกรรม EVENT สำหรับเด็ก

    BIRTHDAY PARTIES

    ● PRIVATE PARTIES

    . CSR ACTIVITIES

    ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ผู้จัดการสาขา คุณเอ้ โทร. 095-601-3320
    .
    รายชื่อผู้บริหารร่วมถ่ายภาพ
    1. คุณดวงตา พงษ์วิไลย์ Vice President - Marketing The Mall Shopping Center
    2. คุณวุธรวี จารุวัฒนะ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารธุรกิจโรงภาพยนตร์ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน)
    3. ผู้ช่วยศาสตราจารย์เรขา อินทรกำแหง ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
    4. นายชุตินันท์ ทองคำ ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม ฝ่ายพัฒนาแหล่งเรียนรู้แลนวัตกรรมการสื่อสาร มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
    5. คุณวิชัย สถิตเดชกุญชร กรรมการหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา
    6. คุณปอ คุณสุพัธนี วินิจฉัยกุล - ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป (Assistant General Manager - Tenant)
    “คิดส์ ซีนีมา” เปิดสาขาใหม่ที่โคราช ซีนีเพล็กซ์ ตอกย้ำความสำเร็จโรงภาพยนตร์สำหรับครอบครัว เติบโตต่อเนื่อง พร้อมขยายอีกหลายสาขาทั่วประเทศ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) พาโรงภาพยนตร์ คิดส์ ซีนีมา (Kids Cinema) เดินหน้าขยายฐาน ความสุขสู่ครอบครัวไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัว สาขาที่ 20 ณ โคราช ซีนีเพล็กซ์ ชั้น 3 ศูนย์การค้า เดอะมอลล์ โคราช พร้อมโปรโมชั่นพิเศษฉลองเปิดสาขาใหม่ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านประสบการณ์การชมภาพยนตร์สำหรับเด็กและ ครอบครัวที่แตกต่าง ด้วยแนวคิด “Creating happy memories through movies and play" ทีต้องการสร้างความสุขให้กับกลุ่มครอบครัว ผสมผสานความสนุกจากเครื่องเล่น และกิจกรรมต่างๆ กับการชมภาพยนตร์อย่างปลอดภัยและสบายใจ ไอคอน ซีเน ปัจจุบัน คิดส์ ซีนีมา มีทั้งหมด 19 สาขาในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ได้แก่ พารากอน ซีนีเพล็กซ์, คอนิค, ควอเทียร์ ซีนีอาร์ต, เมกา ซีนีเพล็กซ์, เวสต์เกต ซีนีเพล็กซ์, อีสต์วิลล์ ซีนีเพล็กซ์, พรอมานาด ซีนีเพล็กซ์, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน, เมเจอร์ เซ็นทรัล พระราม 3, เมเจอร์ บางแค, เมเจอร์ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ลาดกระบัง, เมเจอร์ รังสิต, เอสพลานาด งามวงศ์วาน-แคราย, บางกะปิ ซีนีเพล็กซ์, เวสต์วิลล์ ซีนีเพล็กซ์, เมเจอร์ เซ็นทรัล เชียงใหม่ (เซ็นเฟส), เมเจอร์ เซ็นทรัล ระยอง, นครปฐม ซีนีเพล็กซ์, เมเจอร์ เซ็นทรัล อุดร โดยโคราช ซีนีเพล็กซ์ เป็น สาขาที่ 20 โรงภาพยนตร์ คิดส์ ซีนีมา สาขา โคราช ซีนีเพล็กซ์ ตั้งอยู่บนชั้น 3 ศูนย์การค้า เดอะมอลล์ โคราช เปิดให้บริการทุกวัน เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ (ช่วงปิดเทอมเปิดให้บริการทุกวัน ถึงวันที่ 12 พฤษภาคม 2568) โดยจะเปิดให้บริการวัน แรก ในวันเสาร์ที่ 26 เมษายน 2568 สามารถรองรับลูกค้าได้ 183 ที่นั่ง มีที่นั่งพิเศษ Double Sofa Bed เหมาะสำหรับ ครอบครัวที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ ภายในโรงมีการเพิ่มแสงสว่างขึ้น 30% ปรับลดระดับเสียงลง 20% พร้อมพื้นที่กิจกรรม สันทนาการสำหรับเด็ก ๆ อาทิ สไลเดอร์ และ บ่อบอลหลากสีสัน นอกจากนี้ บริเวณด้านหน้าโรงภาพยนตร์ยังมีบริการเครื่อง เล่น Playland ดินแดนแห่งความสุขให้เด็กๆ ได้ทำกิจกรรมก่อนเข้าชมภาพยนตร์อีกด้วย พิเศษ...ช่วงแรกของการเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์สำหรับเด็ก Kids Cinema โคราช ซีนีเพล็กซ์ พร้อม แจกความสุขความบันเทิงให้กับน้อง ๆ และคุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง ฉลองสาขาที่ 20 ให้ สมาชิก M GEN Kids (อายุ ไม่เกิน 12 ปี) รับสิทธิ์ดูหนังฟรี สำหรับที่ปกติ และ ฮันนีมูน สำหรับรอบ คิดส์ ซีนีมา ตลอดทั้งวัน และ ดูหนังฟรีทั้ง ครอบครัว เรื่อง ไมน์คราฟต์ มูฟวี่ และ โดราเอมอนเดอะมูฟวี่: ไดโนเสาร์ตัวใหม่ของโนบิตะ ในวันเสาร์ที่ 26 เมษายน 2568 - อาทิตย์ที่ 27 เมษายน 2568 เฉพาะรอบเวลา 11.00 น.เท่านั้น โดยคุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง สามารถ ลงทะเบียนรับบัตรชมภาพยนตร์บริเวณหน้าโรงภาพยนตร์สำหรับเด็ก Kids Cinema ตั้งแต่เวลา 10.30 น. . จำกัดจำนวนครอบครัวละไม่เกิน 4 ที่นั่ง ซึ่งครอบครัวที่ใช้สิทธิ์ชมภาพยนตร์ฟรีจะต้องมีน้องอายุไม่เกิน 12 ปี เข้าร่วมชมภาพยนตร์ด้วย สิทธิพิเศษนี้เพื่อน้อง ๆ อายุไม่เกิน 12 ปี สำหรับเด็กที่ไม่มีบัตรสมาชิก M GEN Kids รับสิทธิ์สมัครสมาชิกบัตร M GEN Kids ฟรี ถึง 31 พฤษภาคม 2568 นอกจากนี้ ยังมีสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก M GEN Kids อีกมากมาย ให้ดูหนังสนุกพร้อมกัน อร่อยจุใจ ทั้งครอบครัว กับ Family Package เพียง 899.- สำหรับโรงภาพยนตร์คิดส์ ซีนีมา สาขาโคราช ซีนีเพล็กซ์ ประกอบด้วยที่นั่ง Double Sofa Bed หรือ Opera Chair 1 คู่ + Supersize Set (ป๊อปคอร์น 355 ออนซ์ จำนวน 1 ถัง และเครื่องดื่ม 32 ออนซ์ จำนวน 2 แก้ว) และดูหนังฉลองวันเกิด ได้ทั้งความสุขและความคุ้มในเวลาเดียวกัน! จากปกติราคา 1590.- ลดเหลือเพียง 690.- ตลอดเดือนพฤษภาคม (ประกอบด้วย ที่นั่งประเภท Double Sofa Bed 1 คู่ (สำหรับผู้ใหญ่ 2 ท่าน และเด็กเล็ก 1 ท่าน), Popcorn Supersize 355oz 1 ถัง + เครื่องดื่ม 32 oz. 2 แก้ว, Birthday Gift 1 ชิ้น, สิทธิ์ในการถ่ายภาพโพลา รอยด์ 1 ใบ) ระยะเวลาตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2568 – 31 พฤษภาคม 2568 และพลาดไม่ได้กับกิจกรรมเอาใจนักสำรวจตัวน้อย อาทิ กิจกรรม Workshop ขุดฟอสซิลไดโนเสาร์ และ ระบายสีถุงผ้า ไดโนเสาร์ และหุ่นจำลองลมยักษ์ไดโนเสาร์ กิจกรรมเล่านิทาน กิจกรรมดีๆ แบบนี้ ที่คิดส์ ซีนีมา สาขา โคราช ซีนีเพล็กซ์ เท่านั้น การเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์สำหรับเด็ก "Kids Cinema สาขาโคราช ซีนีเพล็กซ์ ครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญใน การสร้างพื้นที่แห่งความสุข ปลอดภัย และสร้างสรรค์ให้กับเด็กๆ และครอบครัว และสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการ ยกระดับประสบการณ์โรงภาพยนตร์ให้เป็นมากกว่าการดูหนัง แต่เป็นช่วงเวลาคุณภาพร่วมกันของทั้งครอบครัว . Factsheet: ข้อมูลโรงภาพยนตร์ คิดส์ ซีนีมา โลกบันเทิงแห่งจินตนาการ และการเรียนรู้สำหรับเด็ก การเปิดโรงภาพยนตร์สำหรับเด็กเพื่อรองรับความต้องการของกลุ่ม Family ที่นิยมพาลูกไปสัมผัสประสบการณ์ นอกห้องเรียน ซึ่งการภาพยนตร์ก็นับเป็นกิจกรรมหนึ่งที่กลุ่ม Family อยากให้เด็กๆได้เรียนรู้ แต่ติดปัญหาเรื่องการเข้าชม ในโรงภาพยนตร์ปกติที่อาจไม่เอื้ออำนวย เช่น รบกวนลูกค้ากลุ่มอื่นๆ แสงสว่างไม่เพียงพอทำให้เด็กหวาดกลัวและ ยังไม่มี ภาพยนตร์เฉพาะสำหรับเด็ก จึงไม่สามารถตอบสนองความต้องการให้กับกลุ่ม Kids & Family ได้ Kids Cinema จึงเป็น ทางเลือกใหม่ในการใช้โรงภาพยนตร์สำหรับกลุ่ม Kids & Family เพื่อทำกิจกรรมสันทนาการร่วมกันภายในครอบครัวและ & เวิร์คช็อปที่หลากหลาย รวมทั้งเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ของเด็กๆและผู้ปกครอง เพื่อแลกเปลี่ยนและเพิ่มทักษะการเรียนรู้ สิ่งใหม่ๆและ สนับสนุนพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กได้อีกด้วย ภายในโรง Kids Cinema ยังมีบริการเครื่องเล่น Play Land ดินแดนแห่งความสุขพร้อมบ่อบอลหลากสีสัน สไลด์เดอร์ไว้ให้เด็กๆและ เก้าอี้สีสันแนวลูกกวาดที่สร้างบรรยากาศความ สดใสให้กับโรงภาพยนตร์คิดส์ ซีนีมา จุดเด่นของโรงภาพยนตร์คิดส์ ซีนีมา สไลเดอร์และ บ่อบอลขนาดยักษ์กว่าหนึ่งหมื่นลูกภายในโรงภาพยนตร์ ให้เด็กๆ ได้สนุกพร้อมมีความสุขกับการ ชมภาพยนตร์ ● ภายในโรงมีการเพิ่มแสงสว่างขึ้น 30 % และปรับลดงระดับเสียงลง 20 % เพื่อให้เหมาะกับเด็กๆ มากขึ้น % Double Sofa Bed ที่นั่งพิเศษ เหมาะสำหรับครอบครัว ที่ออกแบบมาเฉพาะโรงคิดส์ ซีนีมาเท่านั้น สนุกและเพลิดเพลินกับกิจกรรม workshop, mascot, ที่พร้อมสร้างความสุขให้เด็กๆ ทุกสัปดาห์ • เปิดให้บริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยปัจจุบันมีทั้งหมด 19 สาขา สามารถติดต่อปิดรอบ เหมาโรงภาพยนตร์ เพื่อจัดกิจกรรมเพื่อน้องๆ ชมภาพยนตร์ หรือจัดปาร์ตี้วันเกิดแบบ Kids Cinema ได้ Private ได้ที่โรงภาพยนตร์ เงื่อนไขการให้บริการ คิดส์ ซีนีมา เด็กส่วนสูงไม่เกิน 70 ซม. เข้าชมฟรี (สงวนสิทธิ์เฉพาะสมาชิก M GEN Kids เท่านั้น) ● สำหรับที่นั่งประเภท Double Sofa Bed กรณีเด็กสูงไม่เกิน 120 ซม. สามารถนั่งกับผู้ปกครองได้ • สามารถเช็กรอบเวลาภาพยนตร์ก่อนเข้าใช้บริการ ได้ที่แอปพลิเคชัน Major APP หรือตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ (ETicket) ที่หน้าโรงภาพยนตร์ (โดยสังเกตได้จากไอคอน Kids Cinema) ● ไม่สามารถนำอาหารภายในโรงภาพยนตร์ได้ และเครื่องดื่มจากร้านค้าภายนอก เข้ามาเพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณางดใช้โทรศัพท์มือถือและกล้องถ่ายรูปภายในโรงภาพยนตร์ (ถ่ายบรรยากาศ โรงภาพยนตร์ได้ แต่ไม่สามารถถ่ายติดภาพยนตร์ที่ฉายอยู่บนจอได้) ● สงวนสิทธิ์ผู้ใช้บริการเครื่องเล่นภายใน KIDS CINEMA สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 5-12 ขวบ และมีส่วนสูงไม่เกิน 120 ซม. เท่านั้น (กรณีไม่เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ต้องมีผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด) ● เพื่อความปลอดภัย ผู้ใช้บริการเครื่องเล่นภายในโรงภาพยนตร์ KIDS CINEMA จะต้องอยู่ในความดูแลของ ผู้ปกครองตลอดเวลา ผู้ใช้บริการต้องเล่นเครื่องเล่นอย่างถูกวิธีตามเงื่อนไขของเครื่องเล่นนั้นๆ ไม่เล่นผาดโผน หรือกิจกรรมใดก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่น ผู้ใช้บริการจะต้องล้างมือทำความสะอาดทุกครั้งก่อนเล่นเครื่องเล่นเพื่อความสะอาดถูกหลักอนามัย กรุณาถอดรองเท้าและสวมถุงเท้าก่อนเข้าใช้บริการเครื่องเล่นทุกชนิด ปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำแนะนำจากพนักงานอย่างเคร่งครัด ทางโรงภาพยนตร์คิดส์ ซีนีมาไม่รับผิดชอบในกรณีบาดเจ็บ หรือทรัพย์สินสูญหายใดๆทุกกรณี คิดส์ ซีนีมาดูแลและใส่ใจความสะอาด ทำความสะอาดบ่อบอล ลูกบอล และอุปกรณ์เครื่องเล่นด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ทุกวัน ● ดูดฝุ่น ทำความสะอาดเก้าอี้ และ พื้น พรม ทุกรอบฉาย ผ้าห่ม ทำความสะอาด และ เปลี่ยนใหม่ทุกรอบฉาย อบโอโซน ฆ่าเชื้อ ทุกวัน บัตร M GEN Next Kids พร้อมสิทธิพิเศษมากมาย ● ซื้อตั๋วหนังราคาเด็ก เริ่มต้น 100 บาท ดูหนังฟรีในสัปดาห์เกิด 1 ที่นั่ง ● รับสิทธิ์ซื้อป๊อปคอร์น คิดส์เซ็ท เพียง 50 บาท (ป๊อปคอร์น 26 ออนซ์ + น้ำอัดลม 12 ออนซ์) รายชื่อภาพยนตร์ที่เข้าฉาย ที่โรงภาพยนตร์ คิดส์ ซีนีมา 24 เมษายน 2568 Doraemon the Movie 2020 : Nobita's New Dinosaur 1 พฤษภาคม 2568 The Day The Earth Blew Up : A Looney Tunes Movie 1 พฤษภาคม 2568 Doraemon The Movie 2022 : Nobita's Little Star Wars 8 พฤษภาคม 2568 Doraemon The Movie 2023 : Nobita's Sky Utopia 15 พฤษภาคม 2568 Doraemon the Movie 2024 : Nobita's Earth Symphony 22 พฤษภาคม 2568 Lilo & Stitch 11 มิถุนายน 2568 How to train your dragon 19 มิถุนายน 2568 Elio 2 กรกฎาคม 2568 Jurassic World 4 17 กรกฎาคม 2568 The Smurfs Movie 7 สิงหาคม 2568 The Bed Guys 2 9 ตุลาคม 2568 Gabby's Dollhouse: The Movie 27 พฤษจิกายน 2568 Zootopia2 18 ธันวาคม 2568 Avatar 3 สนใจปิดรอบเหมาโรง สร้างบรรยากาศแห่งความสุขในวันสำคัญที่ #คิดส์ซีนีมา #KidsCinema โรงภาพยนตร์สำหรับเด็กและครอบครัว GROUP BOOKING ปิดรอบชมภาพยนตร์ จัดกิจกรรม EVENT สำหรับเด็ก BIRTHDAY PARTIES ● PRIVATE PARTIES . CSR ACTIVITIES ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ผู้จัดการสาขา คุณเอ้ โทร. 095-601-3320 . รายชื่อผู้บริหารร่วมถ่ายภาพ 1. คุณดวงตา พงษ์วิไลย์ Vice President - Marketing The Mall Shopping Center 2. คุณวุธรวี จารุวัฒนะ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารธุรกิจโรงภาพยนตร์ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) 3. ผู้ช่วยศาสตราจารย์เรขา อินทรกำแหง ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา 4. นายชุตินันท์ ทองคำ ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม ฝ่ายพัฒนาแหล่งเรียนรู้แลนวัตกรรมการสื่อสาร มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา 5. คุณวิชัย สถิตเดชกุญชร กรรมการหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา 6. คุณปอ คุณสุพัธนี วินิจฉัยกุล - ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป (Assistant General Manager - Tenant)
    0 Comments 0 Shares 480 Views 0 Reviews
  • 78 ปี วิสามัญ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ จากผู้ใหญ่บ้าน สู่ขุนโจรผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อตำรวจน่ากลัวกว่าเสือ จึงถูกหลอกซ้ำซาก ล่อติดคุก-ลวงยิงทิ้ง 🐅

    เมื่อผู้ใหญ่บ้าน กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่รัฐกลัวที่สุด ย้อนตำนาน “เสือฝ้าย” จอมโจรผู้เลื่องชื่อแห่งเมืองสุพรรณ กับบทสรุปที่กลายเป็นปริศนา เสือจริงหรือตำรวจคือภัยร้ายกว่า?

    เรื่องราวของ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้กล้าท้าทายอำนาจรัฐ ด้วยเหตุแห่งความอยุติธรรม กลายเป็นตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ ที่ชาวบ้านรัก และตำรวจหวาดกลัว 🕵️‍♂️🔥

    เมื่อความอยุติธรรม สร้างตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ หากพูดถึง "เสือ" ในตำนานไทย หลายคนอาจนึกถึง “เสือใบ”, “เสือดำ” หรือ “เสือมเหศวร” แต่มีอีกหนึ่งชื่อ ที่ไม่อาจมองข้ามได้เลยคือ “เสือฝ้าย” 🐯 จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้ที่ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นโจร แต่กลับกลายเป็นตำนาน ด้วยความเจ็บแค้นที่ถูกระบบรังแก

    "เสือฝ้าย" หรือ "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลเดิมบาง เป็นนักรบเสรีไทย และเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยากทำดีเพื่อบ้านเกิด แต่เมื่อความดี ถูกตอบแทนด้วยความอยุติธรรม จึงเลือกหนทางของ "เสือ"

    “เมื่อรัฐเล่นตลกกับข้า ข้าก็จะสร้างเสียงหัวเราะให้พวกมัน!” เสือฝ้าย กล่าวไว้ หลังพ้นโทษจำคุก 8 ปี

    😇👉😈 "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2431 ที่ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นลูกของชาวนา ครอบครัวมีพี่น้อง 8 คน เติบโตมาอย่างเรียบง่าย กระทั่งช่วงวัย 20 ต้น ๆ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าใหญ่ หมู่ที่ 5”

    ระหว่างสงครามโลก ครั้งที่สอง เสือฝ้ายมีบทบาทสำคัญใน “ขบวนการเสรีไทย” ต่อต้านทหารญี่ปุ่น และได้รับฉายา “จอมพลฝ้าย” จากประชาชน

    แต่เรื่องราวกลับเปลี่ยนไป เมื่อถูกใส่ร้ายจากหลานเขย ผู้มีสายสัมพันธ์กับตำรวจ ถูกตัดสินให้ติดคุกถึง 8 ปี ทั้งที่ไม่มีความผิด นี่คือจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง 🧨

    ✊ เสือฝ้ายผู้รักความยุติธรรม แม้จะถูกตราหน้าว่าเป็น “โจร” แต่เสือฝ้ายไม่เหมือนโจรทั่วไป

    สิ่งที่ “ปล้น” ไม่ใช่เพื่อความร่ำรวยส่วนตัว เสือฝ้ายตั้งเป้าเล่นงานเฉพาะ “ผู้มีอำนาจที่ฉ้อโกง” ไม่ปล้นคนจน ไม่แตะต้องชาวบ้าน แจกจ่ายทรัพย์สินที่ปล้นมา ให้กับผู้ยากไร้ในชุมชน

    🔥 ชาวบ้านจึงเปรียบเสือฝ้ายเสมือน “ฮีโร่” มากกว่า “ผู้ร้าย” ❤️

    “ชาวบ้านรักเสือฝ้าย เพราะไม่เคยทำร้ายใครที่ไม่มีอำนาจ”

    🏴‍☠️ ชุมโจรที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เสือฝ้ายไม่ใช่โจรเดี่ยว นำกองกำลังชุมโจรที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่ไทยเคยมี สมุนไม่ต่ำกว่า 100-200 คน เทียบกับกลุ่มโจรทั่วไปในยุคนั้น ที่มีเพียง 10-20 คน

    เสือฝ้ายใช้เส้นทางป่าในเขตเดิมบางนางบวช ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าทึบ เป็นที่หลบซ่อนและตั้งฐานปฏิบัติการ

    “บางคนว่าทั้งสุพรรณบุรี คือบ้านของเสือฝ้าย เพราะทุกคนต่างพร้อมใจ ให้การช่วยเหลือ”

    🌆 เมืองสุพรรณยุคโจรครองเมือง 🧧 ย้อนกลับไปในยุคต้นรัชกาลที่ 6 เมืองสุพรรณฯ เต็มไปด้วยข่าวปล้น คนจีนอพยพมาตั้งตลาด หอดูโจรถูกสร้างไว้ทั่วเมือง

    จนมีคำพูดติดปากว่า “ใครไปรับราชการที่สุพรรณฯ ต้องเตรียมหม้อใส่กระดูกกลับบ้าน”

    สุพรรณกลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในแง่ลบ แต่ก็เป็นบ้านของวีรบุรุษนอกกฎหมาย ที่ชาวบ้านศรัทธา

    📜 การลวงฆ่าเสือฝ้าย ความจริงที่ไม่เคยเปิดเผยอย่างเป็นทางการ 🔫 วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2490 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก...

    ตำรวจกองปราบหลอกเสือฝ้ายว่า จะพาไปรับรางวัลที่กรุงเทพฯ แล้วนำตัวไปพักที่โรงแรมศรีธงชัย ปัจจุบันคือธนาคารกรุงศรีฯ แต่รุ่งเช้ากลับมีข่าวว่า เสือฝ้ายถูกยิงตายที่ป่าช้าบ้านบางกะโพ้น ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง โดยอ้างว่า “กระโดดน้ำหนี” ❌

    แต่ชาวบ้านไม่เชื่อ เพราะ “ไม่มีทางที่เสือฝ้ายจะหนี ทั้งที่เชื่อว่ากำลังจะได้รางวัล”

    😰 ปากคำชาวบ้าน ตำรวจน่ากลัวกว่าโจร

    “ตำรวจกองปราบน่ากลัวกว่าเสือเสียอีก พวกเขาอำพรางข่าว หลอกลวง และฆ่าคนบริสุทธิ์” ยายเกียด ทรัพย์จีน กล่าวไว้

    เธอเผยว่าเคยต้องปลอมตัว เอาโคลนทาทั่วตัว เพื่อส่งเสบียงให้ชุมโจรแบบลับ ๆ

    🧘‍♂️ เสือฝ้ายกับขุนพันธ์ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ยอมรับสินบน ⚖️ เสือฝ้ายเคยพยายามติดสินบน “ขุนพันธ์” นายตำรวจผู้ปราบโจรในตำนาน แต่ขุนพันธ์ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่า "ไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบ" และไม่ยอมลดศักดิ์ศรีของตำรวจ ด้วยการรับสินบนจากโจร

    🐯 เสือฝ้ายในโลกภาพยนตร์ 🎬 เสือฝ้ายยังเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเฉพาะในภาพยนตร์ "ขุนพันธ์ ภาค 2" แสดงโดย ผู้พันเบิร์ด "พันโทวันชนะ สวัสดี" เพิ่มความเหนือธรรมชาติ เช่น วิชานะจังงัง, รอยสักยันต์ช้างเอราวัณ และยันต์ท้าวเวสสุวรรณ

    🔥 ความตายที่กลายเป็นตำนาน แม้เสือฝ้ายจะถูกฆ่าตาย แต่ตำนานของเขายังอยู่...

    เสือฝ้ายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ถูกระบบกดขี่ แล้วลุกขึ้นมาต่อสู้ เป็นเสียงของผู้ไร้เสียง และเป็นเสือที่ถูกฆ่าโดย “สัตว์ที่ร้ายกว่า”

    คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ ❓

    ใครสั่งวิสามัญเสือฝ้ายจริง ๆ?

    ตำรวจเพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือมีเจตนาแอบแฝง?

    ทำไมข่าวถูกกลบอย่างรวดเร็ว?

    🐾 เสือที่ยังคงคำรามในประวัติศาสตร์ 📚 เรื่องราวของเสือฝ้าย ไม่ใช่เพียงเรื่องของโจร หรือเรื่องของตำรวจ
    แต่คือ “ภาพสะท้อนของสังคม” ที่ยังคงเป็นจริงแม้ผ่านไป 78 ปี

    เสือฝ้ายคือผู้ที่ระบบผลักให้กลายเป็นโจร แต่ชาวบ้านกลับยกย่องว่า “วีรบุรุษ” และตราบใดที่ความอยุติธรรมยังมีอยู่ เสียงคำรามของ “เสือฝ้าย” ก็ยังดังก้องในใจของคนรุ่นหลัง ✊

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251009 เม.ย. 2568

    📢 #เสือฝ้าย #ตำนานเสือสุพรรณ #จอมโจรไทย #ประวัติศาสตร์โจร #ขุนพันธ์ #เสรีไทย #วิสามัญฆาตกรรม #สุพรรณบุรี #วีรบุรุษโจร #เสือฝ้ายผู้ยิ่งใหญ่
    78 ปี วิสามัญ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ จากผู้ใหญ่บ้าน สู่ขุนโจรผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อตำรวจน่ากลัวกว่าเสือ จึงถูกหลอกซ้ำซาก ล่อติดคุก-ลวงยิงทิ้ง 🐅 เมื่อผู้ใหญ่บ้าน กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่รัฐกลัวที่สุด ย้อนตำนาน “เสือฝ้าย” จอมโจรผู้เลื่องชื่อแห่งเมืองสุพรรณ กับบทสรุปที่กลายเป็นปริศนา เสือจริงหรือตำรวจคือภัยร้ายกว่า? เรื่องราวของ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้กล้าท้าทายอำนาจรัฐ ด้วยเหตุแห่งความอยุติธรรม กลายเป็นตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ ที่ชาวบ้านรัก และตำรวจหวาดกลัว 🕵️‍♂️🔥 เมื่อความอยุติธรรม สร้างตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ หากพูดถึง "เสือ" ในตำนานไทย หลายคนอาจนึกถึง “เสือใบ”, “เสือดำ” หรือ “เสือมเหศวร” แต่มีอีกหนึ่งชื่อ ที่ไม่อาจมองข้ามได้เลยคือ “เสือฝ้าย” 🐯 จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้ที่ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นโจร แต่กลับกลายเป็นตำนาน ด้วยความเจ็บแค้นที่ถูกระบบรังแก "เสือฝ้าย" หรือ "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลเดิมบาง เป็นนักรบเสรีไทย และเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยากทำดีเพื่อบ้านเกิด แต่เมื่อความดี ถูกตอบแทนด้วยความอยุติธรรม จึงเลือกหนทางของ "เสือ" “เมื่อรัฐเล่นตลกกับข้า ข้าก็จะสร้างเสียงหัวเราะให้พวกมัน!” เสือฝ้าย กล่าวไว้ หลังพ้นโทษจำคุก 8 ปี 😇👉😈 "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2431 ที่ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นลูกของชาวนา ครอบครัวมีพี่น้อง 8 คน เติบโตมาอย่างเรียบง่าย กระทั่งช่วงวัย 20 ต้น ๆ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าใหญ่ หมู่ที่ 5” ระหว่างสงครามโลก ครั้งที่สอง เสือฝ้ายมีบทบาทสำคัญใน “ขบวนการเสรีไทย” ต่อต้านทหารญี่ปุ่น และได้รับฉายา “จอมพลฝ้าย” จากประชาชน แต่เรื่องราวกลับเปลี่ยนไป เมื่อถูกใส่ร้ายจากหลานเขย ผู้มีสายสัมพันธ์กับตำรวจ ถูกตัดสินให้ติดคุกถึง 8 ปี ทั้งที่ไม่มีความผิด นี่คือจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง 🧨 ✊ เสือฝ้ายผู้รักความยุติธรรม แม้จะถูกตราหน้าว่าเป็น “โจร” แต่เสือฝ้ายไม่เหมือนโจรทั่วไป สิ่งที่ “ปล้น” ไม่ใช่เพื่อความร่ำรวยส่วนตัว เสือฝ้ายตั้งเป้าเล่นงานเฉพาะ “ผู้มีอำนาจที่ฉ้อโกง” ไม่ปล้นคนจน ไม่แตะต้องชาวบ้าน แจกจ่ายทรัพย์สินที่ปล้นมา ให้กับผู้ยากไร้ในชุมชน 🔥 ชาวบ้านจึงเปรียบเสือฝ้ายเสมือน “ฮีโร่” มากกว่า “ผู้ร้าย” ❤️ “ชาวบ้านรักเสือฝ้าย เพราะไม่เคยทำร้ายใครที่ไม่มีอำนาจ” 🏴‍☠️ ชุมโจรที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เสือฝ้ายไม่ใช่โจรเดี่ยว นำกองกำลังชุมโจรที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่ไทยเคยมี สมุนไม่ต่ำกว่า 100-200 คน เทียบกับกลุ่มโจรทั่วไปในยุคนั้น ที่มีเพียง 10-20 คน เสือฝ้ายใช้เส้นทางป่าในเขตเดิมบางนางบวช ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าทึบ เป็นที่หลบซ่อนและตั้งฐานปฏิบัติการ “บางคนว่าทั้งสุพรรณบุรี คือบ้านของเสือฝ้าย เพราะทุกคนต่างพร้อมใจ ให้การช่วยเหลือ” 🌆 เมืองสุพรรณยุคโจรครองเมือง 🧧 ย้อนกลับไปในยุคต้นรัชกาลที่ 6 เมืองสุพรรณฯ เต็มไปด้วยข่าวปล้น คนจีนอพยพมาตั้งตลาด หอดูโจรถูกสร้างไว้ทั่วเมือง จนมีคำพูดติดปากว่า “ใครไปรับราชการที่สุพรรณฯ ต้องเตรียมหม้อใส่กระดูกกลับบ้าน” สุพรรณกลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในแง่ลบ แต่ก็เป็นบ้านของวีรบุรุษนอกกฎหมาย ที่ชาวบ้านศรัทธา 📜 การลวงฆ่าเสือฝ้าย ความจริงที่ไม่เคยเปิดเผยอย่างเป็นทางการ 🔫 วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2490 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก... ตำรวจกองปราบหลอกเสือฝ้ายว่า จะพาไปรับรางวัลที่กรุงเทพฯ แล้วนำตัวไปพักที่โรงแรมศรีธงชัย ปัจจุบันคือธนาคารกรุงศรีฯ แต่รุ่งเช้ากลับมีข่าวว่า เสือฝ้ายถูกยิงตายที่ป่าช้าบ้านบางกะโพ้น ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง โดยอ้างว่า “กระโดดน้ำหนี” ❌ แต่ชาวบ้านไม่เชื่อ เพราะ “ไม่มีทางที่เสือฝ้ายจะหนี ทั้งที่เชื่อว่ากำลังจะได้รางวัล” 😰 ปากคำชาวบ้าน ตำรวจน่ากลัวกว่าโจร “ตำรวจกองปราบน่ากลัวกว่าเสือเสียอีก พวกเขาอำพรางข่าว หลอกลวง และฆ่าคนบริสุทธิ์” ยายเกียด ทรัพย์จีน กล่าวไว้ เธอเผยว่าเคยต้องปลอมตัว เอาโคลนทาทั่วตัว เพื่อส่งเสบียงให้ชุมโจรแบบลับ ๆ 🧘‍♂️ เสือฝ้ายกับขุนพันธ์ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ยอมรับสินบน ⚖️ เสือฝ้ายเคยพยายามติดสินบน “ขุนพันธ์” นายตำรวจผู้ปราบโจรในตำนาน แต่ขุนพันธ์ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่า "ไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบ" และไม่ยอมลดศักดิ์ศรีของตำรวจ ด้วยการรับสินบนจากโจร 🐯 เสือฝ้ายในโลกภาพยนตร์ 🎬 เสือฝ้ายยังเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเฉพาะในภาพยนตร์ "ขุนพันธ์ ภาค 2" แสดงโดย ผู้พันเบิร์ด "พันโทวันชนะ สวัสดี" เพิ่มความเหนือธรรมชาติ เช่น วิชานะจังงัง, รอยสักยันต์ช้างเอราวัณ และยันต์ท้าวเวสสุวรรณ 🔥 ความตายที่กลายเป็นตำนาน แม้เสือฝ้ายจะถูกฆ่าตาย แต่ตำนานของเขายังอยู่... เสือฝ้ายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ถูกระบบกดขี่ แล้วลุกขึ้นมาต่อสู้ เป็นเสียงของผู้ไร้เสียง และเป็นเสือที่ถูกฆ่าโดย “สัตว์ที่ร้ายกว่า” คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ ❓ ใครสั่งวิสามัญเสือฝ้ายจริง ๆ? ตำรวจเพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือมีเจตนาแอบแฝง? ทำไมข่าวถูกกลบอย่างรวดเร็ว? 🐾 เสือที่ยังคงคำรามในประวัติศาสตร์ 📚 เรื่องราวของเสือฝ้าย ไม่ใช่เพียงเรื่องของโจร หรือเรื่องของตำรวจ แต่คือ “ภาพสะท้อนของสังคม” ที่ยังคงเป็นจริงแม้ผ่านไป 78 ปี เสือฝ้ายคือผู้ที่ระบบผลักให้กลายเป็นโจร แต่ชาวบ้านกลับยกย่องว่า “วีรบุรุษ” และตราบใดที่ความอยุติธรรมยังมีอยู่ เสียงคำรามของ “เสือฝ้าย” ก็ยังดังก้องในใจของคนรุ่นหลัง ✊ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251009 เม.ย. 2568 📢 #เสือฝ้าย #ตำนานเสือสุพรรณ #จอมโจรไทย #ประวัติศาสตร์โจร #ขุนพันธ์ #เสรีไทย #วิสามัญฆาตกรรม #สุพรรณบุรี #วีรบุรุษโจร #เสือฝ้ายผู้ยิ่งใหญ่
    0 Comments 0 Shares 369 Views 0 Reviews
  • 63 ปี "ครูรวม วงศ์พันธ์" จากลูกชาวนา สู่เป้าประหารชีวิต “คอมมิวนิสต์” คนแรกของไทย 🔥

    ย้อนไปสู่เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ที่ยังคงสะเทือนใจคนรุ่นหลัง “ครูรวม วงศ์พันธ์” ครูผู้ใฝ่รู้ ผู้กลายเป็นนักโทษคอมมิวนิสต์คนแรกที่ถูกยิงเป้า ประหารชีวิตตามคำสั่งมาตรา 17 ของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์

    🟦 จากลูกชาวนาแห่งสุพรรณบุรี สู่ผู้ต้องหาคดีคอมมิวนิสต์คนแรกของไทย ที่ถูกประหารชีวิต เรื่องราวสะท้อนยุคสมัย ที่อุดมการณ์นำมาสู่ชะตากรรม อันน่าเศร้า

    🔶 ช่วงเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์ไทย ในยุคสงครามเย็น มีบุคคลหนึ่งที่ชื่อ “รวม วงศ์พันธ์” ถูกจารึกไว้ว่าเป็น “ผู้กระทำการอันเป็นคอมมิวนิสต์” คนแรกที่ถูกประหารชีวิต ตามกฎหมายมาตรา 17 ของธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักรปี พ.ศ. 2502 ✍️

    จะพาย้อนกลับไป 63 ปี ที่ผ่านมา เพื่อศึกษาทั้งชีวิตของครูรวม เบื้องหลังคำสั่งประหาร และบริบทของการเมืองไทยยุคนั้น 🕯️

    🟤 จากลูกชาวนา...สู่ครูใหญ่โรงเรียนจีน 👨‍🏫 “รวม วงศ์พันธ์” เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2465 ที่บ้านมะขามล้ม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรชายของนายอยู่ และนางไร มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน เติบโตในครอบครัวชาวนาธรรมดา แต่เต็มไปด้วยความใฝ่เรียน 📚

    เรียนหนังสือจากโรงเรียนวัดเล็กๆ ใกล้บ้าน ต่อมาได้เข้าเรียนโรงเรียนชื่อดังในกรุงเทพฯ อย่างสวนกุหลาบวิทยาลัย และพาณิชยการพระนคร ก่อนเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งในยุคนั้น ถือเป็นแหล่งเพาะบ่มความคิดเสรี ของนักศึกษาไทย 🇹🇭

    ความรักในการเรียน รักในการสอน ครูรวมเริ่มต้นอาชีพครูในโรงเรียนจีน “กวงกงสวย” ก่อนก้าวขึ้นเป็นครูใหญ่ฝ่ายไทย เป็นที่เคารพรักของนักเรียน และครูร่วมงานจำนวนมาก นอกจากนี้ยังได้แต่งงานกับ "ครูประดิษฐ์ สุทธิจิตร์" คู่ชีวิตผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุข ในชีวิตอุดมการณ์ 💞

    🟥 สถานการณ์โลกกับภัยคอมมิวนิสต์ 🌍 ช่วงปี 2460–2500 โลกกำลังเผชิญกับ ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อรัสเซียกลายเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ จีนถูกยึดครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์ นำโดย "เหมา เจ๋อตง" และในหลายประเทศอุดมการณ์นี้แผ่ขยายเข้าสู่ สังคมชนบทและแรงงาน 🛠️

    ความกลัวในสายตารัฐ ประเทศไทยในยุคนั้น อยู่ภายใต้ความตื่นกลัวต่อภัย “แดง” หรือภัยคอมมิวนิสต์จากต่างประเทศ รัฐบาลในหลายยุค รวมถึงยุคของ "จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์" จึงเลือกใช้มาตรการเด็ดขาด เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม ⛔

    🟩 แม้รัฐจะมีกฎหมายควบคุมแนวคิดคอมมิวนิสต์ มาตั้งแต่ปี 2476 แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งการแพร่กระจายได้ โดยเฉพาะในหมู่ชนชั้นแรงงาน ชาวนา และครู ซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้าถึง ปัญหาความเหลื่อมล้ำโดยตรง 👩‍🌾

    ครูรวมเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เชื่อ ในอุดมการณ์ความเท่าเทียม และใช้วิธีการพูดคุย แบ่งปันความรู้กับชาวบ้านในชนบท รวมถึงสร้าง “ไร่รวม” ที่กาญจนบุรี เพื่อเป็นโรงเรียนการเมืองอย่างลับๆ 🏕️

    🟦 การจับกุม คำพิพากษา และคำสั่งประหาร ⚖️ ในปี พ.ศ. 2505 รัฐบาลจับกุมครูรวม จากการสืบสวน และคำให้การของพยานร่วมกลุ่ม กล่าวหาว่า เป็นผู้นำเครือข่ายคอมมิวนิสต์ ลอบรับคำสั่งจากต่างชาติ และพยายามล้มล้างสถาบันชาติ

    จอมพลสฤษดิ์ใช้อำนาจตาม “มาตรา 17” สั่งให้ประหารชีวิตทันที โดยไม่ต้องขึ้นศาล ⛓️

    🕕 ค่ำวันอังคารที่ 24 เมษายน 2505 เวลา 18.00 น. ที่เรือนจำกลางบางขวาง ครูรวมถูกยิงเป้าจนเสียชีวิต นับเป็นครั้งแรก ที่มีการประหารผู้ต้องหาคอมมิวนิสต์ ในประวัติศาสตร์ไทย 🇹🇭⚰️

    🟨 วิเคราะห์คดีครูรวม ในบริบทสังคมไทย “ฮีโร่” หรือ “กบฏ”? กรณีของครูรวม สะท้อนถึงยุคสมัยที่ “ความเชื่อ” อาจถูกตีความว่าเป็น “ภัย” การกระทำของครูรวมในสายตารัฐ เป็นอันตรายต่อความมั่นคง แต่ในสายตาของชาวบ้าน และนักศึกษาในยุคต่อมา คือผู้จุดประกายความคิด เพื่อเสรีภาพ 🕊️

    🟪 มรดกแห่งความทรงจำ กว่า 33 ปีหลังการประหาร ศพของครูรวมเพิ่งถูกพบ ที่วัดมกุฏกษัตริยาราม โดยไร้ป้ายบอกชื่อ เป็นอีกหนึ่งเครื่องหมายคำถาม ที่สะท้อนว่า... เรื่องราวนี้ อาจไม่ได้รับความยุติธรรมเท่าที่ควร ❗

    แม้จะเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่ชื่อของ “ครูรวม วงศ์พันธ์” ยังคงเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับคนรุ่นใหม่ ที่เชื่อในอุดมการณ์ เสรีภาพ และความเสมอภาค

    🧭 ครูรวมไม่ใช่แค่ครูธรรมดา แต่เป็นบุคคลหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตอย่างแน่วแน่ เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต

    ✊ แม้ถูกประหารในฐานะ “คอมมิวนิสต์” แต่ยังคงเป็น “ครูของประชาชน” ในความทรงจำของผู้คนมากมาย

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241115 เม.ย. 2568

    🔖 #ครูรวมวงศ์พันธ์ #คอมมิวนิสต์ไทย #คดีประหารชีวิต #ประวัติศาสตร์การเมืองไทย #มาตรา17 #ยุคสงครามเย็น #การศึกษากับอุดมการณ์ #ครูไทยในอดีต #ประหารชีวิต #วีรบุรุษประชาชน
    63 ปี "ครูรวม วงศ์พันธ์" จากลูกชาวนา สู่เป้าประหารชีวิต “คอมมิวนิสต์” คนแรกของไทย 🔥 ย้อนไปสู่เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ที่ยังคงสะเทือนใจคนรุ่นหลัง “ครูรวม วงศ์พันธ์” ครูผู้ใฝ่รู้ ผู้กลายเป็นนักโทษคอมมิวนิสต์คนแรกที่ถูกยิงเป้า ประหารชีวิตตามคำสั่งมาตรา 17 ของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ 🟦 จากลูกชาวนาแห่งสุพรรณบุรี สู่ผู้ต้องหาคดีคอมมิวนิสต์คนแรกของไทย ที่ถูกประหารชีวิต เรื่องราวสะท้อนยุคสมัย ที่อุดมการณ์นำมาสู่ชะตากรรม อันน่าเศร้า 🔶 ช่วงเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์ไทย ในยุคสงครามเย็น มีบุคคลหนึ่งที่ชื่อ “รวม วงศ์พันธ์” ถูกจารึกไว้ว่าเป็น “ผู้กระทำการอันเป็นคอมมิวนิสต์” คนแรกที่ถูกประหารชีวิต ตามกฎหมายมาตรา 17 ของธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักรปี พ.ศ. 2502 ✍️ จะพาย้อนกลับไป 63 ปี ที่ผ่านมา เพื่อศึกษาทั้งชีวิตของครูรวม เบื้องหลังคำสั่งประหาร และบริบทของการเมืองไทยยุคนั้น 🕯️ 🟤 จากลูกชาวนา...สู่ครูใหญ่โรงเรียนจีน 👨‍🏫 “รวม วงศ์พันธ์” เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2465 ที่บ้านมะขามล้ม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรชายของนายอยู่ และนางไร มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน เติบโตในครอบครัวชาวนาธรรมดา แต่เต็มไปด้วยความใฝ่เรียน 📚 เรียนหนังสือจากโรงเรียนวัดเล็กๆ ใกล้บ้าน ต่อมาได้เข้าเรียนโรงเรียนชื่อดังในกรุงเทพฯ อย่างสวนกุหลาบวิทยาลัย และพาณิชยการพระนคร ก่อนเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งในยุคนั้น ถือเป็นแหล่งเพาะบ่มความคิดเสรี ของนักศึกษาไทย 🇹🇭 ความรักในการเรียน รักในการสอน ครูรวมเริ่มต้นอาชีพครูในโรงเรียนจีน “กวงกงสวย” ก่อนก้าวขึ้นเป็นครูใหญ่ฝ่ายไทย เป็นที่เคารพรักของนักเรียน และครูร่วมงานจำนวนมาก นอกจากนี้ยังได้แต่งงานกับ "ครูประดิษฐ์ สุทธิจิตร์" คู่ชีวิตผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุข ในชีวิตอุดมการณ์ 💞 🟥 สถานการณ์โลกกับภัยคอมมิวนิสต์ 🌍 ช่วงปี 2460–2500 โลกกำลังเผชิญกับ ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อรัสเซียกลายเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ จีนถูกยึดครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์ นำโดย "เหมา เจ๋อตง" และในหลายประเทศอุดมการณ์นี้แผ่ขยายเข้าสู่ สังคมชนบทและแรงงาน 🛠️ ความกลัวในสายตารัฐ ประเทศไทยในยุคนั้น อยู่ภายใต้ความตื่นกลัวต่อภัย “แดง” หรือภัยคอมมิวนิสต์จากต่างประเทศ รัฐบาลในหลายยุค รวมถึงยุคของ "จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์" จึงเลือกใช้มาตรการเด็ดขาด เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม ⛔ 🟩 แม้รัฐจะมีกฎหมายควบคุมแนวคิดคอมมิวนิสต์ มาตั้งแต่ปี 2476 แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งการแพร่กระจายได้ โดยเฉพาะในหมู่ชนชั้นแรงงาน ชาวนา และครู ซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้าถึง ปัญหาความเหลื่อมล้ำโดยตรง 👩‍🌾 ครูรวมเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เชื่อ ในอุดมการณ์ความเท่าเทียม และใช้วิธีการพูดคุย แบ่งปันความรู้กับชาวบ้านในชนบท รวมถึงสร้าง “ไร่รวม” ที่กาญจนบุรี เพื่อเป็นโรงเรียนการเมืองอย่างลับๆ 🏕️ 🟦 การจับกุม คำพิพากษา และคำสั่งประหาร ⚖️ ในปี พ.ศ. 2505 รัฐบาลจับกุมครูรวม จากการสืบสวน และคำให้การของพยานร่วมกลุ่ม กล่าวหาว่า เป็นผู้นำเครือข่ายคอมมิวนิสต์ ลอบรับคำสั่งจากต่างชาติ และพยายามล้มล้างสถาบันชาติ จอมพลสฤษดิ์ใช้อำนาจตาม “มาตรา 17” สั่งให้ประหารชีวิตทันที โดยไม่ต้องขึ้นศาล ⛓️ 🕕 ค่ำวันอังคารที่ 24 เมษายน 2505 เวลา 18.00 น. ที่เรือนจำกลางบางขวาง ครูรวมถูกยิงเป้าจนเสียชีวิต นับเป็นครั้งแรก ที่มีการประหารผู้ต้องหาคอมมิวนิสต์ ในประวัติศาสตร์ไทย 🇹🇭⚰️ 🟨 วิเคราะห์คดีครูรวม ในบริบทสังคมไทย “ฮีโร่” หรือ “กบฏ”? กรณีของครูรวม สะท้อนถึงยุคสมัยที่ “ความเชื่อ” อาจถูกตีความว่าเป็น “ภัย” การกระทำของครูรวมในสายตารัฐ เป็นอันตรายต่อความมั่นคง แต่ในสายตาของชาวบ้าน และนักศึกษาในยุคต่อมา คือผู้จุดประกายความคิด เพื่อเสรีภาพ 🕊️ 🟪 มรดกแห่งความทรงจำ กว่า 33 ปีหลังการประหาร ศพของครูรวมเพิ่งถูกพบ ที่วัดมกุฏกษัตริยาราม โดยไร้ป้ายบอกชื่อ เป็นอีกหนึ่งเครื่องหมายคำถาม ที่สะท้อนว่า... เรื่องราวนี้ อาจไม่ได้รับความยุติธรรมเท่าที่ควร ❗ แม้จะเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่ชื่อของ “ครูรวม วงศ์พันธ์” ยังคงเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับคนรุ่นใหม่ ที่เชื่อในอุดมการณ์ เสรีภาพ และความเสมอภาค 🧭 ครูรวมไม่ใช่แค่ครูธรรมดา แต่เป็นบุคคลหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตอย่างแน่วแน่ เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต ✊ แม้ถูกประหารในฐานะ “คอมมิวนิสต์” แต่ยังคงเป็น “ครูของประชาชน” ในความทรงจำของผู้คนมากมาย ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241115 เม.ย. 2568 🔖 #ครูรวมวงศ์พันธ์ #คอมมิวนิสต์ไทย #คดีประหารชีวิต #ประวัติศาสตร์การเมืองไทย #มาตรา17 #ยุคสงครามเย็น #การศึกษากับอุดมการณ์ #ครูไทยในอดีต #ประหารชีวิต #วีรบุรุษประชาชน
    0 Comments 0 Shares 485 Views 0 Reviews
  • ผบก.สอท.1 เผยตำรวจเร่งรวบรวมสืบสวนสอบสวน และขยายผลเพื่อทำการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ในคดี ดร.หญิงขโมยข้อสอบนิติศาสตร์ ม.จุฬาฯ ให้อดีตนายตำรวจยศ “พล.ต.อ.” เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ด้าน "คริษฐ์ ปริยะเกตุ - ชานนท์ อ่วมทร" เข้าให้ปากคำแล้ว ปัดให้สัมภาษณ์สื่อ

    จากกรณีตำรวจไซเบอร์จับกุม นางขนิษฐา (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ลงวันที่ 22 เม.ย. 68 ในข้อหา “ร่วมกันเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” โดยจับกุมได้ที่บ้านย่านบางบอน กรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา กรณีถูกกล่าวหา นำข้อสอบของคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกไปเพื่อให้กับอดีตนายตำรวจยศ “พล.ต.อ.” นายหนึ่งคัดลอก โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2566 ตามที่เสนอข่าวนั้น

    ความคืบหน้าล่สสุดวันนี้ (23 เม.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 เปิดเผยความคืบหน้าว่า สืบเนื่องจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตำรวจไซเบอร์ได้จับกุมเจ้าแม่เว็บพนันซึ่งเป็นการทำผิดซ้ำซาก จึงทำการตรวจสอบหาความเชื่อมโยงกับคดีเว็บพนันออนไลน์ที่จับไปเมื่อปี 66 โดยได้ตรวจสอบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ จึงทำให้พบว่า มีการลักลอบนำข้อสอบจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งออกไป จากนั้นได้ทำการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ผู้ที่นำข้อสอบออกไปนั้นคือนางขนิษฐา อายุ 53 ปี เป็นนักวิชาการอิสระ ดีกรีระดับปริญญาเอก แต่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับทางมหาวิทยาลัย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/crime/detail/9680000038125

    #MGROnline #ข้อสอบนิติศาสตร์
    ผบก.สอท.1 เผยตำรวจเร่งรวบรวมสืบสวนสอบสวน และขยายผลเพื่อทำการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ในคดี ดร.หญิงขโมยข้อสอบนิติศาสตร์ ม.จุฬาฯ ให้อดีตนายตำรวจยศ “พล.ต.อ.” เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ด้าน "คริษฐ์ ปริยะเกตุ - ชานนท์ อ่วมทร" เข้าให้ปากคำแล้ว ปัดให้สัมภาษณ์สื่อ • จากกรณีตำรวจไซเบอร์จับกุม นางขนิษฐา (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ลงวันที่ 22 เม.ย. 68 ในข้อหา “ร่วมกันเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” โดยจับกุมได้ที่บ้านย่านบางบอน กรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา กรณีถูกกล่าวหา นำข้อสอบของคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกไปเพื่อให้กับอดีตนายตำรวจยศ “พล.ต.อ.” นายหนึ่งคัดลอก โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2566 ตามที่เสนอข่าวนั้น • ความคืบหน้าล่สสุดวันนี้ (23 เม.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 เปิดเผยความคืบหน้าว่า สืบเนื่องจากเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตำรวจไซเบอร์ได้จับกุมเจ้าแม่เว็บพนันซึ่งเป็นการทำผิดซ้ำซาก จึงทำการตรวจสอบหาความเชื่อมโยงกับคดีเว็บพนันออนไลน์ที่จับไปเมื่อปี 66 โดยได้ตรวจสอบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ จึงทำให้พบว่า มีการลักลอบนำข้อสอบจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งออกไป จากนั้นได้ทำการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ผู้ที่นำข้อสอบออกไปนั้นคือนางขนิษฐา อายุ 53 ปี เป็นนักวิชาการอิสระ ดีกรีระดับปริญญาเอก แต่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับทางมหาวิทยาลัย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/crime/detail/9680000038125 • #MGROnline #ข้อสอบนิติศาสตร์
    0 Comments 0 Shares 264 Views 0 Reviews
  • 9 ปี สิ้น “บรรหาร ศิลปอาชา” 🐉 มังกรสุพรรณ นายกฯ ผู้สร้างเมืองด้วยมือปลาไหลใส่สเก็ต รวยอันดับสอง รองจากทักษิณ ชายผู้พลิกเมือง “สุพรรณบุรี” จนกลายเป็น “บรรหารบุรี”

    📅 เช้าตรู่วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559 แวดวงการเมืองไทย ต้องพบกับความสูญเสียครั้งสำคัญ เมื่อ “นายบรรหาร ศิลปอาชา” อดีตนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 21 ถึงแก่อนิจกรรมด้วยภาวะภูมิแพ้ และหอบหืดกำเริบ ที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ รวมอายุได้ 83 ปี 247 วัน

    แม้เวลาจะผ่านมา 9 ปี แต่ชื่อของบรรหารก็ยังคงดังก้อง ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย ทั้งในฐานะนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพล นายกฯ ที่สู้จนได้เป็นผู้นำประเทศ และ “เจ้าพ่อเมืองสุพรรณ” ผู้ปั้นเมืองทั้งเมืองด้วยความตั้งใจ และสายสัมพันธ์ทางการเมืองอันแน่นหนา

    🧠 จะพาคุณย้อนรอยชีวิต และผลงานของชายผู้ได้ฉายาว่า “ปลาไหลใส่สเก็ต” อย่างบรรหาร พร้อมเจาะลึกทุกมิติที่ควรรู้ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และมรดกที่ทิ้งไว้ให้เมืองสุพรรณบุรี 🇹🇭

    👦 ชีวิตวัยเด็กของ "เต็กเซียง แซ่เบ๊" เด็กชายแห่งท่าพี่เลี้ยง บรรหารเกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2475 ที่ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีชื่อเดิมว่า “เต็กเซียง แซ่เบ๊” (馬德祥)

    👨‍👩‍👧‍👦 เป็นบุตรคนที่ 4 จากทั้งหมด 6 คน ของครอบครัวชาวจีนแต้จิ๋ว ที่ทำธุรกิจร้านขายสิ่งทอชื่อ “ย่งหยูฮง” พ่อแม่คือ "เซ่งกิม" และ "สายเอ็ง แซ่เบ๊" ซึ่งปลูกฝังความขยันขันแข็ง และแนวคิดแบบพ่อค้า ให้แก่บรรหารตั้งแต่วัยเยาว์

    แม้จะเรียนถึงแค่ระดับมัธยมต้น ที่โรงเรียนวัฒนศิลป์วิทยาลัยในกรุงเทพฯ แต่ต้องหยุดเรียนเพราะสงครามโลก ครั้งที่สอง จึงเลือกเดินทางสายนักธุรกิจ สร้างฐานะด้วยตนเองจากงานรับเหมาก่อสร้าง จนในที่สุดกลายเป็นนักธุรกิจใหญ่ ผู้ก่อตั้งบริษัทมากมาย เช่น

    🏗️ บริษัทสหศรีชัยก่อสร้าง จำกัด
    ⚗️ บริษัทบี.เอส.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
    🧪 บริษัทคอสติกไทย จำกัด จำหน่ายเคมีภัณฑ์

    จากเด็กชายในเมืองเล็ก ๆ สู่เจ้าของอาณาจักรธุรกิจ และผู้นำประเทศ บรรหารถือเป็นตัวอย่าง ของคนที่สร้างทุกอย่างจากศูนย์ 💪

    🏛️ ก้าวแรกสู่การเมือง จากเทศบาลเมือง สู่สภาผู้แทนราษฎร เส้นทางการเมืองของบรรหาร เริ่มต้นในฐานะ “สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี” จากการแต่งตั้งในปี พ.ศ. 2516 ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ในปี พ.ศ. 2518 และลงเลือกตั้งเป็น ส.ส. สุพรรณบุรีในปี พ.ศ. 2519 ซึ่งเขาชนะทุกครั้งที่ลงสมัคร รวมทั้งสิ้น 11 สมัย! 🗳️

    🏆 จากพลังแห่งความนิยมในพื้นที่สุพรรณบุรี บรรหารก้าวขึ้นสู่เวทีใหญ่ เป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง อาทิ

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 🚆

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 🏢

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 🌾

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 💰

    บรรหารได้รับสมญานามว่า “มังกรสุพรรณ” ด้วยพลังในการควบคุมพื้นที่อย่างแน่นหนา และ “ปลาไหลใส่สเก็ต” ด้วยสไตล์ทางการเมือง ที่ลื่นไหลยืดหยุ่น

    👑 สู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 21 📌 ปี พ.ศ. 2538 บรรหาร ศิลปอาชา ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 21 ของประเทศไทย พร้อมควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

    🎯 ผลงานสำคัญที่เกิดขึ้นในรัฐบาลบรรหาร ได้แก่ ริเริ่มร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540, เป็นเจ้าภาพ ASEM และ ASEAN Summitm การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่เชียงใหม่, การจัดงานเกษตรอุตสาหกรรมโลก WORLDTECH’95 และการตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ

    แม้การบริหารของบรรหาร ถูกฝ่ายค้านวิจารณ์อย่างหนัก จนต้องยุบสภาในปี พ.ศ. 2539 แต่ผลงานจำนวนมาก ก็ยังถูกพูดถึงจนถึงปัจจุบัน

    💸 รวยจริง ไม่ต้องโชว์ บรรหารกับทรัพย์สินมหาศาล 📈 จากรายงานของสำนักข่าวอิศรา “บรรหาร” ได้รับการจัดอันดับให้เป็น “นายกรัฐมนตรีที่ร่ำรวยที่สุด เป็นอันดับ 2” รองจาก “ทักษิณ ชินวัตร” โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่มาจาก

    ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 🏗️

    ธุรกิจเคมีภัณฑ์ 📦

    อสังหาริมทรัพย์ทั้งในเมือง และต่างจังหวัด 🏢

    ของสะสม เช่น พระเครื่อง นาฬิกาหรู รถยนต์หรู ⌚🚗

    แต่สิ่งที่ทำให้บรรหาร ได้รับความเคารพคือ “การใช้เงินเป็น” ไม่ใช่ “โชว์หรู” ใช้ทรัพย์สินเพื่อพัฒนา ไม่ใช่เพื่อสร้างภาพลักษณ์

    🌸 มรดกที่ทิ้งไว้ "บรรหารบุรี" เมืองต้นแบบของจังหวัดนิยม เมืองสุพรรณบุรีในวันนี้ กลายเป็นต้นแบบของการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบ “จังหวัดนิยม” (Provincial Identity) ซึ่งนักวิชาการญี่ปุ่น "Yoshinori Nishizaki" อธิบายไว้ชัดเจนว่า

    “บรรหารสามารถสร้างอัตลักษณ์ใหม่ให้เมือง ผ่านโครงการต่างๆ ที่จับต้องได้จริง จนกลายเป็นแรงศรัทธาทางการเมือง”

    🧱 ตัวอย่างผลงานในสุพรรณบุรี เช่น หอคอยเมืองสุพรรณ, ถนนคุณภาพระดับประเทศ, โรงเรียนบรรหารแจ่มใส, โรงพยาบาล, ศูนย์ราชการรวมศูนย์, พิพิธภัณฑ์, หอเกียรติยศ และศาลหลักเมือง

    สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้คนมองเห็นว่า “นักการเมืองที่ดี” คือคนที่ “พัฒนาชุมชน” ไม่ใช่แค่พูดสวยหรูบนเวที

    📌 บทเรียนจากชีวิตบรรหาร สัจจะ และกตัญญู หากถามถึงคุณธรรมสำคัญในชีวิตของบรรหาร มีอยู่ 2 คำ ที่บรรหารยึดมั่นเสมอ คือ

    “สัจจะ” คำพูดต้องรักษาให้ได้

    “กตัญญู” ต่อบ้านเกิด และผู้มีพระคุณ

    นี่คือสิ่งที่ทำให้ชื่อของบรรหาร ยังถูกพูดถึงแม้เวลาผ่านไปหลายปี และยังเป็นแบบอย่างให้กับนักการเมืองรุ่นใหม่ ได้ศึกษาเรียนรู้

    📜 มังกรสุพรรณ ผู้ล่องด้วยสัจจะ "บรรหาร ศิลปอาชา" ไม่ใช่แค่ “อดีตนายกรัฐมนตรี” แต่คือชายที่หล่อหลอมเมืองสุพรรณบุรี ให้กลายเป็นพื้นที่พิเศษ ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย 🐉

    จากชายที่เกิดในครอบครัวพ่อค้า สู่ผู้พัฒนาจังหวัดด้วยวิสัยทัศน์

    จากนักธุรกิจที่สร้างตัวเอง สู่ผู้นำที่เปลี่ยนภูมิทัศน์การเมืองไทย 🇹🇭

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 231016 เม.ย. 2568

    🔖 #บรรหารศิลปอาชา #นายกรัฐมนตรีไทย #มังกรสุพรรณ #บรรหารบุรี #ปลาไหลใส่สเก็ต #สุพรรณบุรี #การเมืองไทย #พัฒนาท้องถิ่น #จังหวัดนิยม #บุคคลสำคัญ
    9 ปี สิ้น “บรรหาร ศิลปอาชา” 🐉 มังกรสุพรรณ นายกฯ ผู้สร้างเมืองด้วยมือปลาไหลใส่สเก็ต รวยอันดับสอง รองจากทักษิณ ชายผู้พลิกเมือง “สุพรรณบุรี” จนกลายเป็น “บรรหารบุรี” 📅 เช้าตรู่วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559 แวดวงการเมืองไทย ต้องพบกับความสูญเสียครั้งสำคัญ เมื่อ “นายบรรหาร ศิลปอาชา” อดีตนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 21 ถึงแก่อนิจกรรมด้วยภาวะภูมิแพ้ และหอบหืดกำเริบ ที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ รวมอายุได้ 83 ปี 247 วัน แม้เวลาจะผ่านมา 9 ปี แต่ชื่อของบรรหารก็ยังคงดังก้อง ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย ทั้งในฐานะนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพล นายกฯ ที่สู้จนได้เป็นผู้นำประเทศ และ “เจ้าพ่อเมืองสุพรรณ” ผู้ปั้นเมืองทั้งเมืองด้วยความตั้งใจ และสายสัมพันธ์ทางการเมืองอันแน่นหนา 🧠 จะพาคุณย้อนรอยชีวิต และผลงานของชายผู้ได้ฉายาว่า “ปลาไหลใส่สเก็ต” อย่างบรรหาร พร้อมเจาะลึกทุกมิติที่ควรรู้ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และมรดกที่ทิ้งไว้ให้เมืองสุพรรณบุรี 🇹🇭 👦 ชีวิตวัยเด็กของ "เต็กเซียง แซ่เบ๊" เด็กชายแห่งท่าพี่เลี้ยง บรรหารเกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2475 ที่ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีชื่อเดิมว่า “เต็กเซียง แซ่เบ๊” (馬德祥) 👨‍👩‍👧‍👦 เป็นบุตรคนที่ 4 จากทั้งหมด 6 คน ของครอบครัวชาวจีนแต้จิ๋ว ที่ทำธุรกิจร้านขายสิ่งทอชื่อ “ย่งหยูฮง” พ่อแม่คือ "เซ่งกิม" และ "สายเอ็ง แซ่เบ๊" ซึ่งปลูกฝังความขยันขันแข็ง และแนวคิดแบบพ่อค้า ให้แก่บรรหารตั้งแต่วัยเยาว์ แม้จะเรียนถึงแค่ระดับมัธยมต้น ที่โรงเรียนวัฒนศิลป์วิทยาลัยในกรุงเทพฯ แต่ต้องหยุดเรียนเพราะสงครามโลก ครั้งที่สอง จึงเลือกเดินทางสายนักธุรกิจ สร้างฐานะด้วยตนเองจากงานรับเหมาก่อสร้าง จนในที่สุดกลายเป็นนักธุรกิจใหญ่ ผู้ก่อตั้งบริษัทมากมาย เช่น 🏗️ บริษัทสหศรีชัยก่อสร้าง จำกัด ⚗️ บริษัทบี.เอส.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 🧪 บริษัทคอสติกไทย จำกัด จำหน่ายเคมีภัณฑ์ จากเด็กชายในเมืองเล็ก ๆ สู่เจ้าของอาณาจักรธุรกิจ และผู้นำประเทศ บรรหารถือเป็นตัวอย่าง ของคนที่สร้างทุกอย่างจากศูนย์ 💪 🏛️ ก้าวแรกสู่การเมือง จากเทศบาลเมือง สู่สภาผู้แทนราษฎร เส้นทางการเมืองของบรรหาร เริ่มต้นในฐานะ “สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี” จากการแต่งตั้งในปี พ.ศ. 2516 ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ในปี พ.ศ. 2518 และลงเลือกตั้งเป็น ส.ส. สุพรรณบุรีในปี พ.ศ. 2519 ซึ่งเขาชนะทุกครั้งที่ลงสมัคร รวมทั้งสิ้น 11 สมัย! 🗳️ 🏆 จากพลังแห่งความนิยมในพื้นที่สุพรรณบุรี บรรหารก้าวขึ้นสู่เวทีใหญ่ เป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 🚆 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 🏢 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 🌾 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 💰 บรรหารได้รับสมญานามว่า “มังกรสุพรรณ” ด้วยพลังในการควบคุมพื้นที่อย่างแน่นหนา และ “ปลาไหลใส่สเก็ต” ด้วยสไตล์ทางการเมือง ที่ลื่นไหลยืดหยุ่น 👑 สู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 21 📌 ปี พ.ศ. 2538 บรรหาร ศิลปอาชา ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 21 ของประเทศไทย พร้อมควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 🎯 ผลงานสำคัญที่เกิดขึ้นในรัฐบาลบรรหาร ได้แก่ ริเริ่มร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540, เป็นเจ้าภาพ ASEM และ ASEAN Summitm การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่เชียงใหม่, การจัดงานเกษตรอุตสาหกรรมโลก WORLDTECH’95 และการตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ แม้การบริหารของบรรหาร ถูกฝ่ายค้านวิจารณ์อย่างหนัก จนต้องยุบสภาในปี พ.ศ. 2539 แต่ผลงานจำนวนมาก ก็ยังถูกพูดถึงจนถึงปัจจุบัน 💸 รวยจริง ไม่ต้องโชว์ บรรหารกับทรัพย์สินมหาศาล 📈 จากรายงานของสำนักข่าวอิศรา “บรรหาร” ได้รับการจัดอันดับให้เป็น “นายกรัฐมนตรีที่ร่ำรวยที่สุด เป็นอันดับ 2” รองจาก “ทักษิณ ชินวัตร” โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่มาจาก ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 🏗️ ธุรกิจเคมีภัณฑ์ 📦 อสังหาริมทรัพย์ทั้งในเมือง และต่างจังหวัด 🏢 ของสะสม เช่น พระเครื่อง นาฬิกาหรู รถยนต์หรู ⌚🚗 แต่สิ่งที่ทำให้บรรหาร ได้รับความเคารพคือ “การใช้เงินเป็น” ไม่ใช่ “โชว์หรู” ใช้ทรัพย์สินเพื่อพัฒนา ไม่ใช่เพื่อสร้างภาพลักษณ์ 🌸 มรดกที่ทิ้งไว้ "บรรหารบุรี" เมืองต้นแบบของจังหวัดนิยม เมืองสุพรรณบุรีในวันนี้ กลายเป็นต้นแบบของการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบ “จังหวัดนิยม” (Provincial Identity) ซึ่งนักวิชาการญี่ปุ่น "Yoshinori Nishizaki" อธิบายไว้ชัดเจนว่า “บรรหารสามารถสร้างอัตลักษณ์ใหม่ให้เมือง ผ่านโครงการต่างๆ ที่จับต้องได้จริง จนกลายเป็นแรงศรัทธาทางการเมือง” 🧱 ตัวอย่างผลงานในสุพรรณบุรี เช่น หอคอยเมืองสุพรรณ, ถนนคุณภาพระดับประเทศ, โรงเรียนบรรหารแจ่มใส, โรงพยาบาล, ศูนย์ราชการรวมศูนย์, พิพิธภัณฑ์, หอเกียรติยศ และศาลหลักเมือง สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้คนมองเห็นว่า “นักการเมืองที่ดี” คือคนที่ “พัฒนาชุมชน” ไม่ใช่แค่พูดสวยหรูบนเวที 📌 บทเรียนจากชีวิตบรรหาร สัจจะ และกตัญญู หากถามถึงคุณธรรมสำคัญในชีวิตของบรรหาร มีอยู่ 2 คำ ที่บรรหารยึดมั่นเสมอ คือ “สัจจะ” คำพูดต้องรักษาให้ได้ “กตัญญู” ต่อบ้านเกิด และผู้มีพระคุณ นี่คือสิ่งที่ทำให้ชื่อของบรรหาร ยังถูกพูดถึงแม้เวลาผ่านไปหลายปี และยังเป็นแบบอย่างให้กับนักการเมืองรุ่นใหม่ ได้ศึกษาเรียนรู้ 📜 มังกรสุพรรณ ผู้ล่องด้วยสัจจะ "บรรหาร ศิลปอาชา" ไม่ใช่แค่ “อดีตนายกรัฐมนตรี” แต่คือชายที่หล่อหลอมเมืองสุพรรณบุรี ให้กลายเป็นพื้นที่พิเศษ ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย 🐉 จากชายที่เกิดในครอบครัวพ่อค้า สู่ผู้พัฒนาจังหวัดด้วยวิสัยทัศน์ จากนักธุรกิจที่สร้างตัวเอง สู่ผู้นำที่เปลี่ยนภูมิทัศน์การเมืองไทย 🇹🇭 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 231016 เม.ย. 2568 🔖 #บรรหารศิลปอาชา #นายกรัฐมนตรีไทย #มังกรสุพรรณ #บรรหารบุรี #ปลาไหลใส่สเก็ต #สุพรรณบุรี #การเมืองไทย #พัฒนาท้องถิ่น #จังหวัดนิยม #บุคคลสำคัญ
    0 Comments 0 Shares 476 Views 0 Reviews
  • มาเลย์ถกไทย ทำรถไฟแพนเอเชีย

    หลังจากการมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เพื่อการเจรจาทำงาน (Working Visit) และหารือติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับความร่วมมือไทย-มาเลเซีย ระหว่างวันที่ 17-18 เม.ย. ล่าสุด นายแอนโทนี่ โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย มีกำหนดพบกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ในวันที่ 2 พ.ค. เพื่อหารือเกี่ยวกับการสร้างโครงข่ายรถไฟสายแพนเอเชีย (PARN) และเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีในภาคการขนส่ง

    โดยโครงการที่กำลังอยู่ในระหว่างการหารือ ได้แก่ การก่อสร้างสะพานสุไหงโก-ลกแห่งที่ 2 ระหว่างด่าน ICQS รันเตาปันยัง รัฐกลันตัน กับด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส การก่อสร้างถนนเชื่อมต่อระหว่างด่าน ICQS บูกิตกายูฮีตัม รัฐเคดะห์ กับด่านพรมแดนสะเดาแห่งใหม่ จ.สงขลา ถนนเชื่อมต่อระหว่างด่านปะลิสกับจังหวัดสตูล ซึ่งรัฐบาลมุ่งมั่นในการพัฒนาทางรถไฟทั่วโลก โดยตระหนักถึงโอกาสสำคัญของทางรถไฟในแต่ละประเทศ และบทบาทในการเสริมสร้างความร่วมมือในระดับภูมิภาค

    การประชุมครั้งถัดไปจะมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างความร่วมมือในภาคส่วนรถไฟระหว่างสองประเทศ ซึ่งขณะนี้จำกัดอยู่เพียงการใช้งานภายในประเทศเท่านั้น แม้จะมีความร่วมมือระหว่างการรถไฟมาลายา (KTM Berhad) กับการรถไฟแห่งประเทศไทยอยู่แล้ว แต่การยกระดับความร่วมมือนี้จะนำไปสู่ระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล เพื่อให้การพัฒนาระบบรถไฟเชิงยุทธศาสตร์เกิดขึ้นได้ การเชื่อมโยงเครือข่ายรถไฟระหว่างมาเลเซียและไทย จะสามารถเปิดเส้นทางข้ามอาเซียนและจีนได้ นำมาซึ่งประโยชน์มหาศาลให้กับภูมิภาคอาเซียน

    มีรายงานว่า มาเลเซียกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับโครงข่ายรถไฟสายแพนเอเชีย เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมการค้าฮาลาลระหว่างมาเลเซียและจีน ระหว่างประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน เยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานนี้ ยังสนับสนุนโครงข่ายรถไฟสายแพนเอเชีย โดยเน้นย้ำถึงศักยภาพในการเปิดตลาดในจีนตะวันตก โดยเฉพาะในภูมิภาคมองโกเลียใน ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ว มาเลเซียร่วมกับไทยและพันธมิตรจากจีน เปิดตัวโครงการ Asean Express นำร่องขนส่งสินค้าทางรถไฟไปยังเมืองฉงชิ่ง มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ผ่านประเทศไทยและลาว โดยใช้เวลาเพียง 9 วัน

    สำหรับโครงข่ายรถไฟสายแพนเอเชีย มีจุดเริ่มต้นจากนครคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน แบ่งเป็น 3 สาย ได้แก่ 1. คุนหมิง–ต้าหลี่-รุ่ยลี่-ย่างกุ้ง-กรุงเทพฯ 2. คุนหมิง–ยวี่ซี-โม่หาน-เวียงจันทน์–กรุงเทพฯ 3. คุนหมิง–ยวี่ซี–เหอโขว่-ฮานอย-โฮจิมินห์-พนมเปญ-กรุงเทพฯ จากนั้นลงสู่ทางใต้ ผ่านประเทศมาเลเซีย ปลายทางประเทศสิงคโปร์

    #Newskit
    มาเลย์ถกไทย ทำรถไฟแพนเอเชีย หลังจากการมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เพื่อการเจรจาทำงาน (Working Visit) และหารือติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับความร่วมมือไทย-มาเลเซีย ระหว่างวันที่ 17-18 เม.ย. ล่าสุด นายแอนโทนี่ โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย มีกำหนดพบกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ในวันที่ 2 พ.ค. เพื่อหารือเกี่ยวกับการสร้างโครงข่ายรถไฟสายแพนเอเชีย (PARN) และเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีในภาคการขนส่ง โดยโครงการที่กำลังอยู่ในระหว่างการหารือ ได้แก่ การก่อสร้างสะพานสุไหงโก-ลกแห่งที่ 2 ระหว่างด่าน ICQS รันเตาปันยัง รัฐกลันตัน กับด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส การก่อสร้างถนนเชื่อมต่อระหว่างด่าน ICQS บูกิตกายูฮีตัม รัฐเคดะห์ กับด่านพรมแดนสะเดาแห่งใหม่ จ.สงขลา ถนนเชื่อมต่อระหว่างด่านปะลิสกับจังหวัดสตูล ซึ่งรัฐบาลมุ่งมั่นในการพัฒนาทางรถไฟทั่วโลก โดยตระหนักถึงโอกาสสำคัญของทางรถไฟในแต่ละประเทศ และบทบาทในการเสริมสร้างความร่วมมือในระดับภูมิภาค การประชุมครั้งถัดไปจะมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างความร่วมมือในภาคส่วนรถไฟระหว่างสองประเทศ ซึ่งขณะนี้จำกัดอยู่เพียงการใช้งานภายในประเทศเท่านั้น แม้จะมีความร่วมมือระหว่างการรถไฟมาลายา (KTM Berhad) กับการรถไฟแห่งประเทศไทยอยู่แล้ว แต่การยกระดับความร่วมมือนี้จะนำไปสู่ระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล เพื่อให้การพัฒนาระบบรถไฟเชิงยุทธศาสตร์เกิดขึ้นได้ การเชื่อมโยงเครือข่ายรถไฟระหว่างมาเลเซียและไทย จะสามารถเปิดเส้นทางข้ามอาเซียนและจีนได้ นำมาซึ่งประโยชน์มหาศาลให้กับภูมิภาคอาเซียน มีรายงานว่า มาเลเซียกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับโครงข่ายรถไฟสายแพนเอเชีย เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมการค้าฮาลาลระหว่างมาเลเซียและจีน ระหว่างประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน เยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานนี้ ยังสนับสนุนโครงข่ายรถไฟสายแพนเอเชีย โดยเน้นย้ำถึงศักยภาพในการเปิดตลาดในจีนตะวันตก โดยเฉพาะในภูมิภาคมองโกเลียใน ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ว มาเลเซียร่วมกับไทยและพันธมิตรจากจีน เปิดตัวโครงการ Asean Express นำร่องขนส่งสินค้าทางรถไฟไปยังเมืองฉงชิ่ง มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ผ่านประเทศไทยและลาว โดยใช้เวลาเพียง 9 วัน สำหรับโครงข่ายรถไฟสายแพนเอเชีย มีจุดเริ่มต้นจากนครคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน แบ่งเป็น 3 สาย ได้แก่ 1. คุนหมิง–ต้าหลี่-รุ่ยลี่-ย่างกุ้ง-กรุงเทพฯ 2. คุนหมิง–ยวี่ซี-โม่หาน-เวียงจันทน์–กรุงเทพฯ 3. คุนหมิง–ยวี่ซี–เหอโขว่-ฮานอย-โฮจิมินห์-พนมเปญ-กรุงเทพฯ จากนั้นลงสู่ทางใต้ ผ่านประเทศมาเลเซีย ปลายทางประเทศสิงคโปร์ #Newskit
    0 Comments 0 Shares 310 Views 0 Reviews
  • โฆษกดีเอสไอ แจงเบื้องต้น “3 นอมินีไทย” ถือหุ้นอำพราง บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ ปฏิเสธไม่ได้เป็นนอมินี พบข้อมูลกบดานในกรุงเทพฯ ก่อนเข้ามอบตัว ตรวจสอบเบื้องต้นสถานะไม่เจอแหล่งเงินที่นำมาชำระค่าหุ้น

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000037332

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    โฆษกดีเอสไอ แจงเบื้องต้น “3 นอมินีไทย” ถือหุ้นอำพราง บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ ปฏิเสธไม่ได้เป็นนอมินี พบข้อมูลกบดานในกรุงเทพฯ ก่อนเข้ามอบตัว ตรวจสอบเบื้องต้นสถานะไม่เจอแหล่งเงินที่นำมาชำระค่าหุ้น อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000037332 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 484 Views 0 Reviews
  • ทนายความพา 3 นอมินีคนไทย บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ เข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดีเอสไอ พร้อมแสดงหมายจับ สอบปากคำตามขั้นตอน

    วันนี้ (21 เม.ย.) ณ ห้องสำนักงานรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 8 ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ อาคารบี กรุงเทพฯ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า สำหรับ 3 กรรมการผู้ถือหุ้นชาวไทยของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ ติดต่อขอเข้ามอบตัวทั้งหมด คือ นายโสภณ มีชัย ถือหุ้น 407,997 หุ้น (40.7997%) , นายประจวบ ศิริเขตร ถือหุ้น 102,000 หุ้น (10.2%) และ นายมานัส ศรีอนันท์ ถือหุ้น 3 หุ้น (0.0003%) ซึ่งจากการสอบสวนของดีเอสไอ ชัดเจนว่าเจ้าตัวไม่ได้อยู่ในสถานะเพียงพอที่จะดำเนินธุรกิจขนาดใหญ่ และไม่มีวิชาชีพเชี่ยวชาญเกี่ยวข้องในด้านงานวิศวกรรมก่อสร้าง

    ต่อมา ทนายความของนายมานัส ศรีอนันท์ ได้เดินทางนำเอกสารชี้แจงข้อมูลเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยได้ให้ข้อมูลสั้น ๆ กับผู้สื่อข่าว ว่า ตนเองเป็นทนายความให้นายมานัส โดยนำเอกสารมาชี้แจง เบื้องต้นทราบว่าวันนี้มาทั้ง 3 คน ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นนอมินีของบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ ยืนยันว่าทั้ง 3 รายไม่ได้เป็นไปตามที่ถูกกล่าวหา อย่างไรก็ตาม ขอให้ตนได้เข้าไปรับฟังข้อมูลและนำเอกสารไปชี้แจงก่อน และจะชี้แจงอีกครั้ง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000037248

    #MGROnline #ดีเอสไอ
    ทนายความพา 3 นอมินีคนไทย บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ เข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดีเอสไอ พร้อมแสดงหมายจับ สอบปากคำตามขั้นตอน • วันนี้ (21 เม.ย.) ณ ห้องสำนักงานรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ชั้น 8 ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ อาคารบี กรุงเทพฯ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า สำหรับ 3 กรรมการผู้ถือหุ้นชาวไทยของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ ติดต่อขอเข้ามอบตัวทั้งหมด คือ นายโสภณ มีชัย ถือหุ้น 407,997 หุ้น (40.7997%) , นายประจวบ ศิริเขตร ถือหุ้น 102,000 หุ้น (10.2%) และ นายมานัส ศรีอนันท์ ถือหุ้น 3 หุ้น (0.0003%) ซึ่งจากการสอบสวนของดีเอสไอ ชัดเจนว่าเจ้าตัวไม่ได้อยู่ในสถานะเพียงพอที่จะดำเนินธุรกิจขนาดใหญ่ และไม่มีวิชาชีพเชี่ยวชาญเกี่ยวข้องในด้านงานวิศวกรรมก่อสร้าง • ต่อมา ทนายความของนายมานัส ศรีอนันท์ ได้เดินทางนำเอกสารชี้แจงข้อมูลเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยได้ให้ข้อมูลสั้น ๆ กับผู้สื่อข่าว ว่า ตนเองเป็นทนายความให้นายมานัส โดยนำเอกสารมาชี้แจง เบื้องต้นทราบว่าวันนี้มาทั้ง 3 คน ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นนอมินีของบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ ยืนยันว่าทั้ง 3 รายไม่ได้เป็นไปตามที่ถูกกล่าวหา อย่างไรก็ตาม ขอให้ตนได้เข้าไปรับฟังข้อมูลและนำเอกสารไปชี้แจงก่อน และจะชี้แจงอีกครั้ง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000037248 • #MGROnline #ดีเอสไอ
    0 Comments 1 Shares 275 Views 0 Reviews
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพแก่สตรี แม่เลี้ยงเดี่ยวหรือด้อยโอกาส ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี พร้อมมอบรถเข็นวีลแชร์แก่ผู้พิการด้อยโอกาส มอบจักรยานให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ชนบท และนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการประชาชนฟรี
    .
    วันนี้ (วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก นางชุติมา ตันติศิริวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการ นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ และ นางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่สตรีที่มีรายได้น้อยมีภาระหน้าที่ดูแลคนในครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม มีความรู้ความสามารถ แต่ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ จำนวน 6 ราย พร้อมมอบรถเข็นวีลแชร์แก่ผู้พิการด้อยโอกาส จำนวน 10 ราย และมอบจักรยาน แก่โรงเรียนชนบทที่ขาดแคลน จำนวน 2 โรงเรียน รวมจำนวน 20 คัน พร้อมกระบอกน้ำขนาด 1 ลิตร รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือชาวชลบุรีในครั้งนี้ทั้งสิ้น 184,072 บาท (หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นแปดพันห้าร้อยยี่สิบบาทถ้วน) พร้อมกันนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้นำทีมหน่วยแพทย์ฯ ลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น ฯลฯ โดยมี นายพงศ์ธสิษฐ์ ปิจนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว นายนัธทวัฒน์ ธนโชติชัยพัชร์ ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ 36 พรรษา จังหวัดชลบุรี และนางสาวอัญชลี จงคดีกิจ (ปุ๊-อัญชลี) อาสาสมัครศิลปินมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมในพิธี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ 36 พรรษา จังหวัดชลบุรี
    .
    นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ โดยเราได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##
    #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพแก่สตรี แม่เลี้ยงเดี่ยวหรือด้อยโอกาส ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี พร้อมมอบรถเข็นวีลแชร์แก่ผู้พิการด้อยโอกาส มอบจักรยานให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ชนบท และนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการประชาชนฟรี . วันนี้ (วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก นางชุติมา ตันติศิริวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการ นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ และ นางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่สตรีที่มีรายได้น้อยมีภาระหน้าที่ดูแลคนในครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม มีความรู้ความสามารถ แต่ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ จำนวน 6 ราย พร้อมมอบรถเข็นวีลแชร์แก่ผู้พิการด้อยโอกาส จำนวน 10 ราย และมอบจักรยาน แก่โรงเรียนชนบทที่ขาดแคลน จำนวน 2 โรงเรียน รวมจำนวน 20 คัน พร้อมกระบอกน้ำขนาด 1 ลิตร รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือชาวชลบุรีในครั้งนี้ทั้งสิ้น 184,072 บาท (หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นแปดพันห้าร้อยยี่สิบบาทถ้วน) พร้อมกันนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้นำทีมหน่วยแพทย์ฯ ลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น ฯลฯ โดยมี นายพงศ์ธสิษฐ์ ปิจนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว นายนัธทวัฒน์ ธนโชติชัยพัชร์ ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ 36 พรรษา จังหวัดชลบุรี และนางสาวอัญชลี จงคดีกิจ (ปุ๊-อัญชลี) อาสาสมัครศิลปินมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมในพิธี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ 36 พรรษา จังหวัดชลบุรี . นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ โดยเราได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 Comments 0 Shares 606 Views 0 Reviews
  • ผู้ว่าฯ กทม. – CEO ซีพีเอฟ คิกออฟ โครงการ “กล้าจากป่า พนาในเมือง (กทม.)” เพิ่มพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ
    https://www.thai-tai.tv/news/18212/
    ผู้ว่าฯ กทม. – CEO ซีพีเอฟ คิกออฟ โครงการ “กล้าจากป่า พนาในเมือง (กทม.)” เพิ่มพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ https://www.thai-tai.tv/news/18212/
    0 Comments 0 Shares 116 Views 0 Reviews
More Results