• โฆษก ทบ. แจงปิดด่านไทย-กัมพูชาเป็นส่วนหนึ่งของแผนเพื่อความมั่นคง-ความปลอดภัยของประชาชน หากสถานการณ์เสี่ยงสูง เช่น อาจมียิงปืนใหญ่ระยะไกล ให้หน่วยงานระดับพื้นที่พิจารณา แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน โดยภาพรวมสถานการณ์ยังเรียบร้อย มีเพียงบางจุดที่เป็นปัญหาบ้างแต่ยังไม่น่ากังวล

    วันนี้(31 พ.ค.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงภายหลังมีกระแสข่าวไทยเตรียมปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดแนวหลังจากมีการปลุกระดมต่อต้านสินค้าไทยว่า การปิดด่านเป็นส่วนหนึ่งของแผนสำหรับใช้ในการบริหารจัดการสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคงและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่ง ณ ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด

    ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริงๆ โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน

    สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวมส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051129

    #MGROnline #โฆษกกองทัพบก
    โฆษก ทบ. แจงปิดด่านไทย-กัมพูชาเป็นส่วนหนึ่งของแผนเพื่อความมั่นคง-ความปลอดภัยของประชาชน หากสถานการณ์เสี่ยงสูง เช่น อาจมียิงปืนใหญ่ระยะไกล ให้หน่วยงานระดับพื้นที่พิจารณา แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน โดยภาพรวมสถานการณ์ยังเรียบร้อย มีเพียงบางจุดที่เป็นปัญหาบ้างแต่ยังไม่น่ากังวล • วันนี้(31 พ.ค.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงภายหลังมีกระแสข่าวไทยเตรียมปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดแนวหลังจากมีการปลุกระดมต่อต้านสินค้าไทยว่า การปิดด่านเป็นส่วนหนึ่งของแผนสำหรับใช้ในการบริหารจัดการสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคงและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่ง ณ ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด • ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริงๆ โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน • สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวมส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051129 • #MGROnline #โฆษกกองทัพบก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • หวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีของนักแสดงผู้ล่วงลับ ต้าเอส ได้จัดพิธีแต่งงานกับ หม่า เสี่ยวเหม่ย หรือ แมนดี้ ที่ร้านอาหารสไตล์ลานจีนในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยงานแต่งครั้งนี้จัดขึ้นอย่างเรียบง่าย มีเพียงญาติและเพื่อนสนิทเข้าร่วม ส่วน ลูกสาวและลูกชายที่หวังมีร่วมกับ ต้าเอสไม่ได้ปรากฏตัวในงาน

    คู่บ่าวสาวเปิดตัวในชุดแต่งงานแบบจีนดั้งเดิม โดยแมนดี้สวมกี่เพ้าสีแดงพร้อมเครื่องประดับทองเพียง 3 ชิ้น ได้แก่ มงกุฎ สร้อยคอ และช่อดอกไม้ ไม่ได้สวมชุดกำไลทองลายมังกร–หงส์ตามธรรมเนียม ส่วนหวัง เสี่ยวเฟยสวมชุดสูทปักลายมังกรทองสุดหรู หลังจากทักทายแขกเสร็จ ทั้งคู่ได้เปลี่ยนชุดเป็นสไตล์ตะวันตก

    โดยแมนดี้เลือกใส่ชุดแต่งงานคอเว้าลึกที่อวดหุ่นได้อย่างสวยงาม ในช่วงแลกเปลี่ยนคำสาบาน หวัง เสี่ยวเฟยถึงกับตะโกน “ผมตกลง!” สองครั้ง สร้างเสียงหัวเราะให้แขกในงาน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000050265

    #MGROnline #หวังเสี่ยวเฟย #หม่าเสี่ยวเหม่ย
    หวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีของนักแสดงผู้ล่วงลับ ต้าเอส ได้จัดพิธีแต่งงานกับ หม่า เสี่ยวเหม่ย หรือ แมนดี้ ที่ร้านอาหารสไตล์ลานจีนในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยงานแต่งครั้งนี้จัดขึ้นอย่างเรียบง่าย มีเพียงญาติและเพื่อนสนิทเข้าร่วม ส่วน ลูกสาวและลูกชายที่หวังมีร่วมกับ ต้าเอสไม่ได้ปรากฏตัวในงาน • คู่บ่าวสาวเปิดตัวในชุดแต่งงานแบบจีนดั้งเดิม โดยแมนดี้สวมกี่เพ้าสีแดงพร้อมเครื่องประดับทองเพียง 3 ชิ้น ได้แก่ มงกุฎ สร้อยคอ และช่อดอกไม้ ไม่ได้สวมชุดกำไลทองลายมังกร–หงส์ตามธรรมเนียม ส่วนหวัง เสี่ยวเฟยสวมชุดสูทปักลายมังกรทองสุดหรู หลังจากทักทายแขกเสร็จ ทั้งคู่ได้เปลี่ยนชุดเป็นสไตล์ตะวันตก • โดยแมนดี้เลือกใส่ชุดแต่งงานคอเว้าลึกที่อวดหุ่นได้อย่างสวยงาม ในช่วงแลกเปลี่ยนคำสาบาน หวัง เสี่ยวเฟยถึงกับตะโกน “ผมตกลง!” สองครั้ง สร้างเสียงหัวเราะให้แขกในงาน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000050265 • #MGROnline #หวังเสี่ยวเฟย #หม่าเสี่ยวเหม่ย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจเรมี เรนเนอร์ เปิดใจถึงความรู้สึก ‘โล่งใจอย่างยิ่ง’ ที่เขาสัมผัสได้ขณะ ‘ตาย’ ระหว่างอุบัติเหตุรถกวาดหิมะสุดสยอง

    ดาราดังจากจักรวาล Marvel ได้เผยในบันทึกความทรงจำของเขาชื่อ My Next Breath ว่าเขาเคย ‘ตาย’ ชั่วขณะระหว่างอุบัติเหตุรถกวาดหิมะในวันปีใหม่ ปี 2023 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เขากระดูกหักกว่า 30 จุด และแพทย์ยังบอกว่าเขารอดมาได้อย่างหวุดหวิด เพราะกระดูกหักห่างจากอวัยวะสำคัญหรือเส้นประสาทหลักเพียงไม่กี่มิลลิเมตร

    เรนเนอร์ วัย 54 ปี ถูกล้อรถกวาดหิมะหนักกว่า 14,000 ปอนด์ทับร่าง ขณะพยายามช่วยหลานชายชื่ออเล็กซ์จากอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยเขาเขียนเล่าในบันทึกความทรงจำว่า เขา ‘ตาย’ ไปชั่วครู่ราว 30 นาทีหลังจากนั้น ขณะที่นอนอยู่บนหิมะหน้าบ้าน รอเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงบนภูเขาเซียร์รา เนวาดา

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000050268

    #MGROnline #เจเรมีเรนเนอร์
    เจเรมี เรนเนอร์ เปิดใจถึงความรู้สึก ‘โล่งใจอย่างยิ่ง’ ที่เขาสัมผัสได้ขณะ ‘ตาย’ ระหว่างอุบัติเหตุรถกวาดหิมะสุดสยอง • ดาราดังจากจักรวาล Marvel ได้เผยในบันทึกความทรงจำของเขาชื่อ My Next Breath ว่าเขาเคย ‘ตาย’ ชั่วขณะระหว่างอุบัติเหตุรถกวาดหิมะในวันปีใหม่ ปี 2023 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เขากระดูกหักกว่า 30 จุด และแพทย์ยังบอกว่าเขารอดมาได้อย่างหวุดหวิด เพราะกระดูกหักห่างจากอวัยวะสำคัญหรือเส้นประสาทหลักเพียงไม่กี่มิลลิเมตร • เรนเนอร์ วัย 54 ปี ถูกล้อรถกวาดหิมะหนักกว่า 14,000 ปอนด์ทับร่าง ขณะพยายามช่วยหลานชายชื่ออเล็กซ์จากอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยเขาเขียนเล่าในบันทึกความทรงจำว่า เขา ‘ตาย’ ไปชั่วครู่ราว 30 นาทีหลังจากนั้น ขณะที่นอนอยู่บนหิมะหน้าบ้าน รอเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงบนภูเขาเซียร์รา เนวาดา • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000050268 • #MGROnline #เจเรมีเรนเนอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพว้าใต้ที่มีพื้นที่ติดกับภาคเหนือของไทย นำทหารใหม่ 2,000 นาย เดินสวนสนามแสดงแสนยานุภาพ ในวันเดียวกับที่ทักษิณ ชินวัตร ประกาศกร้าว ขู่จะจัดการว้าแดงด้วยตัวเอง

    วานนี้ (30 พ.ค.) เพจ Wa News Land ที่เป็นกระบอกเสียงของกองทัพสหรัฐว้า (UWSA) กองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในเมียนมา ได้เผยแพร่ภาพพิธีสวนสนามและปฏิญานตนของทหารใหม่ สังกัดเขตทหาร 171 หรือกองทัพว้าใต้ ซึ่งเพิ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ไปพูดในงานปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ"ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ มุมมองและความท้าทายต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน" ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)

    โดยเนื้อหาในการปาฐกถาวันนั้น นายทักษิณได้กล่าวว่าพื้นที่ของกองทัพว้าในรัฐฉาน ถูกใช้เป็นแหล่งผลิตยาเสพติดหลักที่ส่งเข้ามาขายในประเทศไทย พร้อมขู่ว่าจะเข้าไปจัดการกับกองทัพว้าด้วยตนเอง เพราะถือว่าเป็นศัตรู

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000051097

    #MGROnline #กองทัพว้าใต้

    กองทัพว้าใต้ที่มีพื้นที่ติดกับภาคเหนือของไทย นำทหารใหม่ 2,000 นาย เดินสวนสนามแสดงแสนยานุภาพ ในวันเดียวกับที่ทักษิณ ชินวัตร ประกาศกร้าว ขู่จะจัดการว้าแดงด้วยตัวเอง • วานนี้ (30 พ.ค.) เพจ Wa News Land ที่เป็นกระบอกเสียงของกองทัพสหรัฐว้า (UWSA) กองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในเมียนมา ได้เผยแพร่ภาพพิธีสวนสนามและปฏิญานตนของทหารใหม่ สังกัดเขตทหาร 171 หรือกองทัพว้าใต้ ซึ่งเพิ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ไปพูดในงานปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ"ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ มุมมองและความท้าทายต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน" ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) • โดยเนื้อหาในการปาฐกถาวันนั้น นายทักษิณได้กล่าวว่าพื้นที่ของกองทัพว้าในรัฐฉาน ถูกใช้เป็นแหล่งผลิตยาเสพติดหลักที่ส่งเข้ามาขายในประเทศไทย พร้อมขู่ว่าจะเข้าไปจัดการกับกองทัพว้าด้วยตนเอง เพราะถือว่าเป็นศัตรู • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000051097 • #MGROnline #กองทัพว้าใต้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • Guanyin: the Bodhisattva of Great Compassion
    Guanyin: the Bodhisattva of Great Compassion
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💾 ราคาชิป DRAM พุ่งขึ้น 20% ติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง

    ราคาชิป DRAM และ NAND เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 8GB DDR4 ที่ราคาขยับจาก $1.65 ในเดือนเมษายน เป็น $2.10 ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 27%

    การเพิ่มขึ้นของราคาชิป DRAM ส่วนหนึ่งเกิดจาก การกักตุนสินค้าของบริษัทต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจาก ภาษีนำเข้าที่กำหนดโดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งให้ ระยะเวลาผ่อนผัน 90 วัน ก่อนที่ภาษีจะมีผลบังคับใช้

    นอกจากนี้ Samsung, Micron และ SK hynix ได้ประกาศ ยุติการผลิต DDR4 เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงจาก ผู้ผลิตจีน เช่น CXMT และ Fujian Jinhua ที่สามารถขาย DDR4 ในราคาถูกกว่าหน่วยความจำที่ได้รับการปรับปรุงใหม่จากผู้ผลิตรายใหญ่

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - ราคาชิป DRAM และ NAND เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 8GB DDR4 ที่เพิ่มขึ้น 27% ในเดือนพฤษภาคม
    - บริษัทต่าง ๆ กักตุนสินค้าก่อนที่ภาษีนำเข้าจะมีผลบังคับใช้
    - Samsung, Micron และ SK hynix ประกาศยุติการผลิต DDR4
    - CXMT และ Fujian Jinhua ขาย DDR4 ในราคาถูกกว่าผู้ผลิตรายใหญ่
    - การลดลงของอุปทาน DDR4 อาจทำให้ราคาชิปเพิ่มขึ้นต่อไป

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - หากภาษีนำเข้ามีผลบังคับใช้ ราคาชิปอาจเพิ่มขึ้นอีกในไตรมาสถัดไป
    - การยุติการผลิต DDR4 อาจทำให้ผู้ใช้ต้องเปลี่ยนไปใช้ DDR5 ซึ่งมีราคาสูงกว่า
    - ตลาดหน่วยความจำยังคงมีความไม่แน่นอน และอาจส่งผลต่อราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
    - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตจีนจะสามารถรักษาราคาที่ต่ำได้หรือไม่ในระยะยาว

    การเพิ่มขึ้นของราคาชิป DRAM อาจส่งผลต่อ ราคาคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะในกลุ่ม ผลิตภัณฑ์ที่ยังใช้ DDR4 อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายใหญ่จะปรับกลยุทธ์อย่างไร เพื่อรับมือกับการแข่งขันจากจีน

    ℹ️ℹ️ ลุงแนะนำว่าใครอยาก Upgrade RAM DDR4 ให้รีบทำในช่วงนี้เลยครับ เพราะข่าวนี้ และยังมีข่าว บ.จีน จะเลิกผลิต DDR4 ในกลางปีหน้าอีกด้วย

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/dram-prices-have-jumped-by-20-percent-for-the-second-month-in-a-row-surging-demand-is-likely-due-to-stockpiling
    💾 ราคาชิป DRAM พุ่งขึ้น 20% ติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง ราคาชิป DRAM และ NAND เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 8GB DDR4 ที่ราคาขยับจาก $1.65 ในเดือนเมษายน เป็น $2.10 ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 27% การเพิ่มขึ้นของราคาชิป DRAM ส่วนหนึ่งเกิดจาก การกักตุนสินค้าของบริษัทต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจาก ภาษีนำเข้าที่กำหนดโดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งให้ ระยะเวลาผ่อนผัน 90 วัน ก่อนที่ภาษีจะมีผลบังคับใช้ นอกจากนี้ Samsung, Micron และ SK hynix ได้ประกาศ ยุติการผลิต DDR4 เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงจาก ผู้ผลิตจีน เช่น CXMT และ Fujian Jinhua ที่สามารถขาย DDR4 ในราคาถูกกว่าหน่วยความจำที่ได้รับการปรับปรุงใหม่จากผู้ผลิตรายใหญ่ ✅ ข้อมูลจากข่าว - ราคาชิป DRAM และ NAND เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 8GB DDR4 ที่เพิ่มขึ้น 27% ในเดือนพฤษภาคม - บริษัทต่าง ๆ กักตุนสินค้าก่อนที่ภาษีนำเข้าจะมีผลบังคับใช้ - Samsung, Micron และ SK hynix ประกาศยุติการผลิต DDR4 - CXMT และ Fujian Jinhua ขาย DDR4 ในราคาถูกกว่าผู้ผลิตรายใหญ่ - การลดลงของอุปทาน DDR4 อาจทำให้ราคาชิปเพิ่มขึ้นต่อไป ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - หากภาษีนำเข้ามีผลบังคับใช้ ราคาชิปอาจเพิ่มขึ้นอีกในไตรมาสถัดไป - การยุติการผลิต DDR4 อาจทำให้ผู้ใช้ต้องเปลี่ยนไปใช้ DDR5 ซึ่งมีราคาสูงกว่า - ตลาดหน่วยความจำยังคงมีความไม่แน่นอน และอาจส่งผลต่อราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตจีนจะสามารถรักษาราคาที่ต่ำได้หรือไม่ในระยะยาว การเพิ่มขึ้นของราคาชิป DRAM อาจส่งผลต่อ ราคาคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะในกลุ่ม ผลิตภัณฑ์ที่ยังใช้ DDR4 อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายใหญ่จะปรับกลยุทธ์อย่างไร เพื่อรับมือกับการแข่งขันจากจีน ℹ️ℹ️ ลุงแนะนำว่าใครอยาก Upgrade RAM DDR4 ให้รีบทำในช่วงนี้เลยครับ เพราะข่าวนี้ และยังมีข่าว บ.จีน จะเลิกผลิต DDR4 ในกลางปีหน้าอีกด้วย https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/dram-prices-have-jumped-by-20-percent-for-the-second-month-in-a-row-surging-demand-is-likely-due-to-stockpiling
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚀 Molex เปิดตัวโซลูชันสายเคเบิล PCIe 7.0 รองรับความเร็ว 128 GT/s
    Molex ได้เปิดตัว Genesis cable and connector solution สำหรับ PCIe 7.0 ที่สามารถรองรับความเร็ว 128 GT/s ที่ระยะ 1 เมตร โดยออกแบบมาเพื่อแก้ไขข้อจำกัดของ PCB traces ในการส่งสัญญาณความเร็วสูง

    Genesis ใช้ SFF TA-1040 connector ซึ่งช่วยให้สามารถรองรับการใช้งานในอุตสาหกรรมได้อย่างกว้างขวางเมื่อ PCIe 7.0 เริ่มถูกนำมาใช้ โดย Molex ได้ทำการทดสอบ signal integrity และพบว่า loss อยู่ที่ -3.4 dB ที่ 250 มม. และ -9.2 dB ที่ 1000 มม. ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ควบคุมได้

    นอกจากนี้ Genesis ยังใช้ 29 AWG low-loss microwave coax cables เพื่อให้สามารถรักษาคุณภาพสัญญาณได้ดีแม้ในระยะทางที่ยาวขึ้น

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Molex เปิดตัว Genesis cable สำหรับ PCIe 7.0 รองรับความเร็ว 128 GT/s ที่ระยะ 1 เมตร
    - ใช้ SFF TA-1040 connector เพื่อรองรับการใช้งานในอุตสาหกรรม
    - ทดสอบ signal integrity พบว่า loss อยู่ที่ -3.4 dB ที่ 250 มม. และ -9.2 dB ที่ 1000 มม.
    - ใช้ 29 AWG low-loss microwave coax cables เพื่อรักษาคุณภาพสัญญาณ
    - Molex วางแผนเปิดตัว x8 connector ในเดือนพฤษภาคม 2025 และ x16 ในเดือนกรกฎาคม 2025

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - PCIe 7.0 ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา และอาจต้องใช้เวลาหลายปีในการนำมาใช้งานจริง
    - Genesis cable อาจมีต้นทุนสูงเมื่อเทียบกับ PCB traces แบบเดิม
    - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายอื่นจะนำโซลูชันนี้ไปใช้หรือไม่
    - PCIe 7.0 อาจเริ่มถูกนำมาใช้ในศูนย์ข้อมูลช่วงปลายทศวรรษ 2020 หรือต้นทศวรรษ 2030

    Genesis cable ของ Molex อาจช่วยให้ PCIe 7.0 สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในศูนย์ข้อมูลที่ต้องการ การส่งข้อมูลความเร็วสูงในระยะทางที่ไกลขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายอื่นจะนำโซลูชันนี้ไปใช้หรือไม่

    https://www.tomshardware.com/peripherals/cables-connectors/molex-demonstrates-pcie-7-0-cabling-solution-128-gt-s-at-1-meter
    🚀 Molex เปิดตัวโซลูชันสายเคเบิล PCIe 7.0 รองรับความเร็ว 128 GT/s Molex ได้เปิดตัว Genesis cable and connector solution สำหรับ PCIe 7.0 ที่สามารถรองรับความเร็ว 128 GT/s ที่ระยะ 1 เมตร โดยออกแบบมาเพื่อแก้ไขข้อจำกัดของ PCB traces ในการส่งสัญญาณความเร็วสูง Genesis ใช้ SFF TA-1040 connector ซึ่งช่วยให้สามารถรองรับการใช้งานในอุตสาหกรรมได้อย่างกว้างขวางเมื่อ PCIe 7.0 เริ่มถูกนำมาใช้ โดย Molex ได้ทำการทดสอบ signal integrity และพบว่า loss อยู่ที่ -3.4 dB ที่ 250 มม. และ -9.2 dB ที่ 1000 มม. ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ นอกจากนี้ Genesis ยังใช้ 29 AWG low-loss microwave coax cables เพื่อให้สามารถรักษาคุณภาพสัญญาณได้ดีแม้ในระยะทางที่ยาวขึ้น ✅ ข้อมูลจากข่าว - Molex เปิดตัว Genesis cable สำหรับ PCIe 7.0 รองรับความเร็ว 128 GT/s ที่ระยะ 1 เมตร - ใช้ SFF TA-1040 connector เพื่อรองรับการใช้งานในอุตสาหกรรม - ทดสอบ signal integrity พบว่า loss อยู่ที่ -3.4 dB ที่ 250 มม. และ -9.2 dB ที่ 1000 มม. - ใช้ 29 AWG low-loss microwave coax cables เพื่อรักษาคุณภาพสัญญาณ - Molex วางแผนเปิดตัว x8 connector ในเดือนพฤษภาคม 2025 และ x16 ในเดือนกรกฎาคม 2025 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - PCIe 7.0 ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา และอาจต้องใช้เวลาหลายปีในการนำมาใช้งานจริง - Genesis cable อาจมีต้นทุนสูงเมื่อเทียบกับ PCB traces แบบเดิม - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายอื่นจะนำโซลูชันนี้ไปใช้หรือไม่ - PCIe 7.0 อาจเริ่มถูกนำมาใช้ในศูนย์ข้อมูลช่วงปลายทศวรรษ 2020 หรือต้นทศวรรษ 2030 Genesis cable ของ Molex อาจช่วยให้ PCIe 7.0 สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในศูนย์ข้อมูลที่ต้องการ การส่งข้อมูลความเร็วสูงในระยะทางที่ไกลขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายอื่นจะนำโซลูชันนี้ไปใช้หรือไม่ https://www.tomshardware.com/peripherals/cables-connectors/molex-demonstrates-pcie-7-0-cabling-solution-128-gt-s-at-1-meter
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⚖️ Intel ชนะคดีสำคัญกับ VLSI ในข้อพิพาทด้านสิทธิบัตร
    Intel ได้รับชัยชนะในคดีความกับ VLSI Technology LLC ซึ่งเป็นบริษัทที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น "Patent Troll" หรือบริษัทที่ใช้สิทธิบัตรเพื่อเรียกร้องค่าชดเชยโดยไม่ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีจริง

    VLSI เป็นบริษัทที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ Fortress Investment Group ซึ่งเคยฟ้องร้อง Intel ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตรที่ได้มาจาก NXP Semiconductors NV โดยอ้างว่าเทคโนโลยีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกระบวนการออกแบบชิป

    ในปี 2022 Intel ถูกสั่งให้จ่ายค่าชดเชยเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ จากการละเมิดสิทธิบัตรของ VLSI อย่างไรก็ตาม Intel โต้แย้งว่าข้อตกลงด้านสิทธิบัตรที่ทำไว้กับ Finjan Inc. ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ Fortress เช่นเดียวกัน ครอบคลุมสิทธิบัตรที่เป็นข้อพิพาท

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Intel ชนะคดีความกับ VLSI Technology LLC ซึ่งอาจทำให้คำตัดสินก่อนหน้านี้ถูกยกเลิก
    - VLSI อยู่ภายใต้การควบคุมของ Fortress Investment Group ซึ่งเคยฟ้องร้อง Intel ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตร
    - Intel ถูกสั่งให้จ่ายค่าชดเชยเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 แต่โต้แย้งว่าข้อตกลงกับ Finjan Inc. ครอบคลุมสิทธิบัตรที่เป็นข้อพิพาท
    - คดีนี้อาจส่งผลให้คำตัดสินก่อนหน้านี้ที่มีมูลค่ารวมกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ถูกยกเลิก
    - Fortress เคยใช้กลยุทธ์ฟ้องร้องบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง เช่น Apple และ HTC

    🏛️ สิทธิบัตรและบทบาทของ Patent Troll
    Patent Troll คือบริษัทที่ไม่ได้พัฒนาเทคโนโลยีเอง แต่ซื้อสิทธิบัตรมาเพื่อฟ้องร้องบริษัทอื่น ๆ เพื่อเรียกร้องค่าชดเชย โดยมักใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายเพื่อสร้างรายได้จากการฟ้องร้อง

    Fortress Investment Group ถูกวิจารณ์ว่าใช้กลยุทธ์นี้เพื่อเรียกร้องเงินจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Intel, Apple และ HTC อย่างไรก็ตาม คำตัดสินล่าสุดอาจทำให้กลยุทธ์นี้ต้องถูกปรับเปลี่ยน

    https://www.techspot.com/news/108123-intel-wins-crucial-verdict-legal-fight-against-patent.html
    ⚖️ Intel ชนะคดีสำคัญกับ VLSI ในข้อพิพาทด้านสิทธิบัตร Intel ได้รับชัยชนะในคดีความกับ VLSI Technology LLC ซึ่งเป็นบริษัทที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น "Patent Troll" หรือบริษัทที่ใช้สิทธิบัตรเพื่อเรียกร้องค่าชดเชยโดยไม่ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีจริง VLSI เป็นบริษัทที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ Fortress Investment Group ซึ่งเคยฟ้องร้อง Intel ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตรที่ได้มาจาก NXP Semiconductors NV โดยอ้างว่าเทคโนโลยีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกระบวนการออกแบบชิป ในปี 2022 Intel ถูกสั่งให้จ่ายค่าชดเชยเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ จากการละเมิดสิทธิบัตรของ VLSI อย่างไรก็ตาม Intel โต้แย้งว่าข้อตกลงด้านสิทธิบัตรที่ทำไว้กับ Finjan Inc. ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ Fortress เช่นเดียวกัน ครอบคลุมสิทธิบัตรที่เป็นข้อพิพาท ✅ ข้อมูลจากข่าว - Intel ชนะคดีความกับ VLSI Technology LLC ซึ่งอาจทำให้คำตัดสินก่อนหน้านี้ถูกยกเลิก - VLSI อยู่ภายใต้การควบคุมของ Fortress Investment Group ซึ่งเคยฟ้องร้อง Intel ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตร - Intel ถูกสั่งให้จ่ายค่าชดเชยเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022 แต่โต้แย้งว่าข้อตกลงกับ Finjan Inc. ครอบคลุมสิทธิบัตรที่เป็นข้อพิพาท - คดีนี้อาจส่งผลให้คำตัดสินก่อนหน้านี้ที่มีมูลค่ารวมกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ถูกยกเลิก - Fortress เคยใช้กลยุทธ์ฟ้องร้องบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง เช่น Apple และ HTC 🏛️ สิทธิบัตรและบทบาทของ Patent Troll Patent Troll คือบริษัทที่ไม่ได้พัฒนาเทคโนโลยีเอง แต่ซื้อสิทธิบัตรมาเพื่อฟ้องร้องบริษัทอื่น ๆ เพื่อเรียกร้องค่าชดเชย โดยมักใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายเพื่อสร้างรายได้จากการฟ้องร้อง Fortress Investment Group ถูกวิจารณ์ว่าใช้กลยุทธ์นี้เพื่อเรียกร้องเงินจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Intel, Apple และ HTC อย่างไรก็ตาม คำตัดสินล่าสุดอาจทำให้กลยุทธ์นี้ต้องถูกปรับเปลี่ยน https://www.techspot.com/news/108123-intel-wins-crucial-verdict-legal-fight-against-patent.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Intel wins crucial verdict in legal fight against patent troll VLSI
    After a three-day jury trial, the U.S. District Court for the Western District of Texas ruled that VLSI Technology LLC and Finjan Inc. are both under the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • บิ๊กคลีนนิ่งวัดไร่ขิง แค่ล้างวัดอาจไม่พอ

    การปรับภูมิทัศน์จัดระเบียบวัตไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ของพระราชวชิรสุตาภรณ์ (หลวงพ่อแก้ว) เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม และเจ้าอาวาสวัดบางช้างเหนือ รักษาการเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เมื่อวันที่ 30 พ.ค. มองผิวเผินอาจถูกมองว่าสร้างภาพ หลังอดีตพระธรรมวชิรานุวัตร หรือนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า เจ้าอาวาสคนก่อนหน้าถูกดำเนินคดีกรณียักยอกเงินวัดไปเล่นพนันออนไลน์มากกว่า 300 ล้านบาท ทำเอาพุทธศาสนิกชนเสื่อมศรัทธา คนเข้ามาไหว้หลวงพ่อวัดไร่ขิงน้อยลง แต่แท้ที่จริงแล้วอาจเป็นการรื้อโครงสร้างผลประโยชน์ของวัดครั้งใหญ่

    อาทิ ตู้รับบริจาคภายในวัดที่มีถึง 185 ตู้ ถูกยกออกไปเก็บ เหลือเฉพาะตู้รับบริจาคที่จำเป็น จุดจำหน่ายธูปเทียนดอกไม้ก็จัดให้อยู่ในที่เดียวกันด้านหน้าพระอุโบสถ ส่วนร้านจำหน่ายวัตถุมงคลด้านหลังให้ย้ายไปอยู่ด้านหน้า และรื้อโคมไฟที่แขวนบริเวณหลังคาหน้าพระอุโบสถถึงแม่น้ำนครชัยศรีออกทั้งหมด ส่วนร้านกาแฟของนางพชรพร สีเลี้ยง หรือหมอเตย และ พ.จ.อ.ฉัตรชัย สีเลี้ยง คนสนิทนายแย้มปิดกิจการแล้ว เหลือเพียงร้านเครื่องดื่มและของฝากที่เป็นสวัสดิการของวัด

    พระราชวชิรสุตาภรณ์เปิดเผยว่า การทำความสะอาดวัดครั้งนี้เพื่อให้ดูสะอาดโปร่งใส รองรับคนที่มากราบไหว้หลวงพ่อวัดไร่ขิง เป็นการบูรณาการครั้งใหญ่ สิ่งที่รกหูรกตาก็ให้นำออกไป เพื่อให้เกิดความศรัทธามากราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นที่ตัวบุคคล ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด ซึ่งจะทำให้โปร่งใสที่สุด สิ่งไหนที่ไม่ดีต้องแก้ไข สาธุชนจะได้เชื่อมั่น

    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าวัดไร่ขิงโปร่งใสจริงหรือไม่ คือการประมูลร้านค้าในงานฉลองเจดีย์วัดไร่ขิง 15 ส.ค.2568 และการประมูลร้านค้าในงานประจำปีวัดไร่ขิง 17 ก.พ.2569 ที่ผ่านมานอกจากจะแข่งกันประมูลสูงถึง 2.5 ล้านบาท ทำราคาสินค้าภายในงานแพงขึ้น ยอดขายไม่ดีแต่ก็คิดว่าทำบุญให้วัดแล้ว ผู้ค้าต้องจ่ายเงินสดเข้ากรรมการวัดภายในวันประมูล ไม่รับเงินโอน แล้วเอาไปให้นายแย้ม คิดเป็นเงิน 17-18 ล้านบาทจะทำอย่างไร นอกจากนี้ สิ่งที่เป็นพุทธพาณิชย์ไม่ใช่กิจของสงฆ์ อย่างการนำศิลปินแห่งชาติมาเป็นธุระเพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่วัดจะแก้ไขอย่างไร

    ก่อนหน้านี้นายวิเชียร วรจีน โฆษกวัดไร่ขิงให้สัมภาษณ์ช่อง 9 ระบุว่าสมัยพระอุบาลีฯ เป็นเจ้าอาวาสมีเงิน 200-300 ล้านบาท แต่เมื่อนายแย้มเป็นเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่วัดคนเก่าไม่ให้อยู่สักคนเดียว ลดขั้นตอนการเบิกเงินทั้งหมดเป็นการใช้ตามอำเภอใจ และเก็บตู้บริจาคเงินส่วนใหญ่เข้ากุฎิ นอกจากการเงินของวัดจะร่อยหรอแล้วยังมีหนี้สินอีกด้วย

    #Newskit

    หมายเหตุ : ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะเผยแพร่ทาง Facebook และ Instagram วันที่ 4 มิ.ย. 2568
    บิ๊กคลีนนิ่งวัดไร่ขิง แค่ล้างวัดอาจไม่พอ การปรับภูมิทัศน์จัดระเบียบวัตไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ของพระราชวชิรสุตาภรณ์ (หลวงพ่อแก้ว) เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม และเจ้าอาวาสวัดบางช้างเหนือ รักษาการเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เมื่อวันที่ 30 พ.ค. มองผิวเผินอาจถูกมองว่าสร้างภาพ หลังอดีตพระธรรมวชิรานุวัตร หรือนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า เจ้าอาวาสคนก่อนหน้าถูกดำเนินคดีกรณียักยอกเงินวัดไปเล่นพนันออนไลน์มากกว่า 300 ล้านบาท ทำเอาพุทธศาสนิกชนเสื่อมศรัทธา คนเข้ามาไหว้หลวงพ่อวัดไร่ขิงน้อยลง แต่แท้ที่จริงแล้วอาจเป็นการรื้อโครงสร้างผลประโยชน์ของวัดครั้งใหญ่ อาทิ ตู้รับบริจาคภายในวัดที่มีถึง 185 ตู้ ถูกยกออกไปเก็บ เหลือเฉพาะตู้รับบริจาคที่จำเป็น จุดจำหน่ายธูปเทียนดอกไม้ก็จัดให้อยู่ในที่เดียวกันด้านหน้าพระอุโบสถ ส่วนร้านจำหน่ายวัตถุมงคลด้านหลังให้ย้ายไปอยู่ด้านหน้า และรื้อโคมไฟที่แขวนบริเวณหลังคาหน้าพระอุโบสถถึงแม่น้ำนครชัยศรีออกทั้งหมด ส่วนร้านกาแฟของนางพชรพร สีเลี้ยง หรือหมอเตย และ พ.จ.อ.ฉัตรชัย สีเลี้ยง คนสนิทนายแย้มปิดกิจการแล้ว เหลือเพียงร้านเครื่องดื่มและของฝากที่เป็นสวัสดิการของวัด พระราชวชิรสุตาภรณ์เปิดเผยว่า การทำความสะอาดวัดครั้งนี้เพื่อให้ดูสะอาดโปร่งใส รองรับคนที่มากราบไหว้หลวงพ่อวัดไร่ขิง เป็นการบูรณาการครั้งใหญ่ สิ่งที่รกหูรกตาก็ให้นำออกไป เพื่อให้เกิดความศรัทธามากราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นที่ตัวบุคคล ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด ซึ่งจะทำให้โปร่งใสที่สุด สิ่งไหนที่ไม่ดีต้องแก้ไข สาธุชนจะได้เชื่อมั่น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าวัดไร่ขิงโปร่งใสจริงหรือไม่ คือการประมูลร้านค้าในงานฉลองเจดีย์วัดไร่ขิง 15 ส.ค.2568 และการประมูลร้านค้าในงานประจำปีวัดไร่ขิง 17 ก.พ.2569 ที่ผ่านมานอกจากจะแข่งกันประมูลสูงถึง 2.5 ล้านบาท ทำราคาสินค้าภายในงานแพงขึ้น ยอดขายไม่ดีแต่ก็คิดว่าทำบุญให้วัดแล้ว ผู้ค้าต้องจ่ายเงินสดเข้ากรรมการวัดภายในวันประมูล ไม่รับเงินโอน แล้วเอาไปให้นายแย้ม คิดเป็นเงิน 17-18 ล้านบาทจะทำอย่างไร นอกจากนี้ สิ่งที่เป็นพุทธพาณิชย์ไม่ใช่กิจของสงฆ์ อย่างการนำศิลปินแห่งชาติมาเป็นธุระเพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่วัดจะแก้ไขอย่างไร ก่อนหน้านี้นายวิเชียร วรจีน โฆษกวัดไร่ขิงให้สัมภาษณ์ช่อง 9 ระบุว่าสมัยพระอุบาลีฯ เป็นเจ้าอาวาสมีเงิน 200-300 ล้านบาท แต่เมื่อนายแย้มเป็นเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่วัดคนเก่าไม่ให้อยู่สักคนเดียว ลดขั้นตอนการเบิกเงินทั้งหมดเป็นการใช้ตามอำเภอใจ และเก็บตู้บริจาคเงินส่วนใหญ่เข้ากุฎิ นอกจากการเงินของวัดจะร่อยหรอแล้วยังมีหนี้สินอีกด้วย #Newskit หมายเหตุ : ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะเผยแพร่ทาง Facebook และ Instagram วันที่ 4 มิ.ย. 2568
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหยื่อนักแสดง จากรักแรกพบสู่ตราบาป

    ในวันที่ 16 มิ.ย. เอียน ฟาง เหวยจี้ (Ian Fang Weijie) อดีตนักแสดงค่ายมีเดียคอร์ป (Mediacorp) สิงคโปร์ สัญชาติจีนวัย 35 ปี จะต้องเข้าไปรับโทษจำคุก 40 เดือน ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเยาวชน หลังแม่ของเหยื่อ ซึ่งเป็นเยาวชนหญิงวัย 15 ปี แจ้งความว่าลูกสาวถูกอดีตนักแสดงหนุ่มล่วงละเมิดทางเพศมาแล้ว 5 ครั้ง ส่วนใหญ่ไม่ป้องกัน ก่อนที่ลูกสาวจะมีอาการเจ็บที่อวัยวะเพศ และตรวจพบว่าติดเชื้อ HPV ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

    แม่ของเหยื่อให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น 8Days ของสิงคโปร์ ว่า ลูกสาวรู้จักกับเอียน ฟาง เมื่อปี 2567 จากงานบันเทิงงานหนึ่ง ขณะเป็นครูสอนการแสดง เมื่อถามลูกสาวถึงจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ก็เปิดเผยว่า เอียน ฟาง ยอมวิ่งไปสองถนนเพื่อซื้อชาไข่มุกให้ และยอมเดินไปส่งกลับบ้านหลังเลิกเรียน แม้จะต้องเดินเท้านานแค่ไหนก็ตาม สิ่งเหล่านี้ทำให้ลูกสาวรู้สึกว่าเป็น "รักครั้งแรก" ที่เริ่มสั่นไหว ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีกลอุบายที่ทำให้ลูกสาวมีความสุข ด้วยการให้ลูกสาวสักรอยจูบสีแดงไว้บนไหล่ของเขา

    ก่อนที่รูปรอยสักดังกล่าวจะปรากฎในโซเชียลมีเดียของเขา พร้อมคำบรรยาย "น้ำตาจะไหลก่อนที่จะพูดออกมาได้" หลังถูกจับกุมและได้ประกันตัว แม่ของเหยื่อเชื่อว่าแสร้งทำเป็นสงสารและเสียใจเพื่อให้คนอื่นเห็นใจ และเรียกร้องความสนใจไปยังลูกสาว

    เมื่อเอียน ฟาง พาลูกสาวออกไปข้างนอก เขาไม่เคยปรากฎตัวในที่สาธารณะอย่างเปิดเผยอีกเลย แต่ทำตัวเป็นคนเรียบง่ายเหมือนคนดังเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ใครจำหน้าได้ พร้อมบังคับให้ลูกสาวใส่หน้ากากและแว่นกันแดด ทำให้ลูกสาวคิดว่าดูมีเสน่ห์ เหมือนดาราที่ถูกปาปารัสซี่ติดตาม แถมยังพาลูกสาวไปทานข้าวที่ร้านอาหารที่เอียน ฟาง จะได้รับสิทธิ์ทานฟรีในฐานะนักแสดง ทำให้ลูกสาวคิดว่าเขาเป็นคนดังจริงๆ เพราะเขาไม่เคยต้องจ่ายเงินค่าอาหารมื้อนั้นแม้แต่เหรียญเดียว

    นอกจากนี้ เอียน ฟาง มักจะคุยโวโอ้อวดเกี่ยวกับชื่อเสียงของเขา บอกว่าแฟนคลับชื่นชอบเขา และมักจะมอบของขวัญให้เขาอยู่เสมอ อ้างว่าของใช้ในบ้านและเสื้อผ้าหลายชิ้นเป็นของขวัญที่แฟนคลับมอบให้ รวมทั้งยังมีวิธีเกี้ยวพาราสีอื่นๆ เช่น พยายามค้นหาว่าผู้หญิงคนนี้ชอบอาหารอะไร แล้วไปซื้ออาหารแช่แข็งจากซูเปอร์มาร์เก็ต จากนั้นก็ลงมือทำอาหารเอง แล้วบอกผู้หญิงว่า อาหารนั้นทำขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับเธอ

    ตามรายงานข่าวระบุว่า หลังเอียน ฟาง ถูกจับกุม พยายามติดต่อเหยื่อผ่านโซเชียลมีเดียหลายครั้ง โน้มน้าวให้แม่ถอนแจ้งความ บอกว่าถ้าติดคุกจะฆ่าตัวตาย ขณะที่เหยื่อต้องรักษาอาการทางจิต เพราะสูญเสียความมั่นใจและไม่มีความสุขอีกต่อไป

    #Newskit

    หมายเหตุ : ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะเผยแพร่ทาง Facebook และ Instagram วันที่ 4 มิ.ย. 2568
    เหยื่อนักแสดง จากรักแรกพบสู่ตราบาป ในวันที่ 16 มิ.ย. เอียน ฟาง เหวยจี้ (Ian Fang Weijie) อดีตนักแสดงค่ายมีเดียคอร์ป (Mediacorp) สิงคโปร์ สัญชาติจีนวัย 35 ปี จะต้องเข้าไปรับโทษจำคุก 40 เดือน ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเยาวชน หลังแม่ของเหยื่อ ซึ่งเป็นเยาวชนหญิงวัย 15 ปี แจ้งความว่าลูกสาวถูกอดีตนักแสดงหนุ่มล่วงละเมิดทางเพศมาแล้ว 5 ครั้ง ส่วนใหญ่ไม่ป้องกัน ก่อนที่ลูกสาวจะมีอาการเจ็บที่อวัยวะเพศ และตรวจพบว่าติดเชื้อ HPV ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แม่ของเหยื่อให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น 8Days ของสิงคโปร์ ว่า ลูกสาวรู้จักกับเอียน ฟาง เมื่อปี 2567 จากงานบันเทิงงานหนึ่ง ขณะเป็นครูสอนการแสดง เมื่อถามลูกสาวถึงจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ก็เปิดเผยว่า เอียน ฟาง ยอมวิ่งไปสองถนนเพื่อซื้อชาไข่มุกให้ และยอมเดินไปส่งกลับบ้านหลังเลิกเรียน แม้จะต้องเดินเท้านานแค่ไหนก็ตาม สิ่งเหล่านี้ทำให้ลูกสาวรู้สึกว่าเป็น "รักครั้งแรก" ที่เริ่มสั่นไหว ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีกลอุบายที่ทำให้ลูกสาวมีความสุข ด้วยการให้ลูกสาวสักรอยจูบสีแดงไว้บนไหล่ของเขา ก่อนที่รูปรอยสักดังกล่าวจะปรากฎในโซเชียลมีเดียของเขา พร้อมคำบรรยาย "น้ำตาจะไหลก่อนที่จะพูดออกมาได้" หลังถูกจับกุมและได้ประกันตัว แม่ของเหยื่อเชื่อว่าแสร้งทำเป็นสงสารและเสียใจเพื่อให้คนอื่นเห็นใจ และเรียกร้องความสนใจไปยังลูกสาว เมื่อเอียน ฟาง พาลูกสาวออกไปข้างนอก เขาไม่เคยปรากฎตัวในที่สาธารณะอย่างเปิดเผยอีกเลย แต่ทำตัวเป็นคนเรียบง่ายเหมือนคนดังเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ใครจำหน้าได้ พร้อมบังคับให้ลูกสาวใส่หน้ากากและแว่นกันแดด ทำให้ลูกสาวคิดว่าดูมีเสน่ห์ เหมือนดาราที่ถูกปาปารัสซี่ติดตาม แถมยังพาลูกสาวไปทานข้าวที่ร้านอาหารที่เอียน ฟาง จะได้รับสิทธิ์ทานฟรีในฐานะนักแสดง ทำให้ลูกสาวคิดว่าเขาเป็นคนดังจริงๆ เพราะเขาไม่เคยต้องจ่ายเงินค่าอาหารมื้อนั้นแม้แต่เหรียญเดียว นอกจากนี้ เอียน ฟาง มักจะคุยโวโอ้อวดเกี่ยวกับชื่อเสียงของเขา บอกว่าแฟนคลับชื่นชอบเขา และมักจะมอบของขวัญให้เขาอยู่เสมอ อ้างว่าของใช้ในบ้านและเสื้อผ้าหลายชิ้นเป็นของขวัญที่แฟนคลับมอบให้ รวมทั้งยังมีวิธีเกี้ยวพาราสีอื่นๆ เช่น พยายามค้นหาว่าผู้หญิงคนนี้ชอบอาหารอะไร แล้วไปซื้ออาหารแช่แข็งจากซูเปอร์มาร์เก็ต จากนั้นก็ลงมือทำอาหารเอง แล้วบอกผู้หญิงว่า อาหารนั้นทำขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับเธอ ตามรายงานข่าวระบุว่า หลังเอียน ฟาง ถูกจับกุม พยายามติดต่อเหยื่อผ่านโซเชียลมีเดียหลายครั้ง โน้มน้าวให้แม่ถอนแจ้งความ บอกว่าถ้าติดคุกจะฆ่าตัวตาย ขณะที่เหยื่อต้องรักษาอาการทางจิต เพราะสูญเสียความมั่นใจและไม่มีความสุขอีกต่อไป #Newskit หมายเหตุ : ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะเผยแพร่ทาง Facebook และ Instagram วันที่ 4 มิ.ย. 2568
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Worse” vs. “Worst”: Get A Better Understanding Of The Difference

    The words worse and worst are extremely useful. They are the main and often best way we can indicate that something is, well, more bad or most bad. But because they look and sound so similar, it can be easy to mix them up, especially in certain expressions.

    In this article, we’ll break down the difference between worse and worst, explain how they relate to comparative and superlative adjectives (and what those are), and clear up confusion around which word is the correct one to use in some common expressions.

    Quick summary

    Worse and worst are both forms of the word bad. Worse is what’s called the comparative form, basically meaning “more bad.” Worst is the superlative form, basically meaning “most bad.” Worse is used when making a comparison to only one other thing: Your breath is bad, but mine is worse or The situation was bad and it just got worse. Worst is used in comparisons of more than two things: Yours is bad, mine is worse, but his is the worst or That was the worst meal I’ve ever eaten.

    worse vs. worst

    Worse and worst are different words, but both are forms of the adjective bad. Worse is the comparative form and worst is the superlative form.

    A comparative adjective is typically used to compare two things. For example, My brother is bad at basketball, but honestly I’m worse.

    A superlative adjective is used to compare more than two things (as in Out of the five exam I have today, this one is going to be the worst) or state that something is the most extreme out of every possible option (as in That was the worst idea I have ever heard).

    Worse and worst are just like the words better and best, which are the comparative and superlative forms of the word good.

    In most cases, the comparative form of an adjective is made by either adding -er to the end (faster, smarter, bigger, etc.) or adding the word more or less before it (more impressive, less powerful, etc.).

    To form superlatives, it’s most common to add -est to the end of the word (fastest, smartest, biggest, etc.) or add most or least before it (most impressive, least powerful, etc.).

    Worse and worst don’t follow these rules, but you can see a remnant of the superlative ending -est at the end of worst and best, which can help you remember that they are superlatives.

    Worse is used in the expression from bad to worse, which means that something started bad and has only deteriorated in quality or condition, as in My handwriting has gone from bad to worse since I graduated high school.

    Let’s look at some other common questions people have about expressions that use worse or worst.

    Is it worse case or worst case?

    The phrase worst case is used in the two idiomatic expressions: in the worst case and worst-case scenario. Both of these phrases refer to a situation that is as bad as possible compared to any other possible situation, which is why it uses the superlative form worst.

    For example:

    - In the worst case, the beams will collapse instantly.
    - This isn’t what we expect to happen—it’s just the worst-case scenario.

    While it’s possible for the words worse and case to be paired together in a sentence (as in Jacob had a worse case of bronchitis than Melanie did), it’s not a set expression like worst case is.

    Is it if worse comes to worst or if worst comes to worst?

    There are actually two very similar versions of the expression that means “if the worst possible outcome happens”: if worse comes to worst or if worst comes to worst. However, if worst comes to worst is much more commonly used (even though it arguably makes less sense).

    Whatever form is used, the expression is usually accompanied by a proposed solution to the problem. For example:

    - If worse comes to worst and every door is locked, we’ll get in by opening a window.
    - I’m going to try to make it to the store before the storm starts, but if worst comes to worst, I’ll at least have my umbrella with me.

    Examples of worse and worst used in a sentence

    Let’s wrap things up by looking at some of the many different ways we can use worse and worst in a sentence.

    - I think the pink paint looks worse on the wall than the red paint did.
    - Out of all of us, Tom had the worst case of poison ivy.
    - Debra Deer had a worse finishing time than Charlie Cheetah, but Sam Sloth had the worst time by far.
    - My grades went from bad to worse after I missed a few classes.
    - If worst comes to worst and we miss the bus, we’ll just hail a cab.
    - It’s possible that the losses could lead to bankruptcy, but the company is doing everything it can to avoid this worst-case scenario.

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    “Worse” vs. “Worst”: Get A Better Understanding Of The Difference The words worse and worst are extremely useful. They are the main and often best way we can indicate that something is, well, more bad or most bad. But because they look and sound so similar, it can be easy to mix them up, especially in certain expressions. In this article, we’ll break down the difference between worse and worst, explain how they relate to comparative and superlative adjectives (and what those are), and clear up confusion around which word is the correct one to use in some common expressions. Quick summary Worse and worst are both forms of the word bad. Worse is what’s called the comparative form, basically meaning “more bad.” Worst is the superlative form, basically meaning “most bad.” Worse is used when making a comparison to only one other thing: Your breath is bad, but mine is worse or The situation was bad and it just got worse. Worst is used in comparisons of more than two things: Yours is bad, mine is worse, but his is the worst or That was the worst meal I’ve ever eaten. worse vs. worst Worse and worst are different words, but both are forms of the adjective bad. Worse is the comparative form and worst is the superlative form. A comparative adjective is typically used to compare two things. For example, My brother is bad at basketball, but honestly I’m worse. A superlative adjective is used to compare more than two things (as in Out of the five exam I have today, this one is going to be the worst) or state that something is the most extreme out of every possible option (as in That was the worst idea I have ever heard). Worse and worst are just like the words better and best, which are the comparative and superlative forms of the word good. In most cases, the comparative form of an adjective is made by either adding -er to the end (faster, smarter, bigger, etc.) or adding the word more or less before it (more impressive, less powerful, etc.). To form superlatives, it’s most common to add -est to the end of the word (fastest, smartest, biggest, etc.) or add most or least before it (most impressive, least powerful, etc.). Worse and worst don’t follow these rules, but you can see a remnant of the superlative ending -est at the end of worst and best, which can help you remember that they are superlatives. Worse is used in the expression from bad to worse, which means that something started bad and has only deteriorated in quality or condition, as in My handwriting has gone from bad to worse since I graduated high school. Let’s look at some other common questions people have about expressions that use worse or worst. Is it worse case or worst case? The phrase worst case is used in the two idiomatic expressions: in the worst case and worst-case scenario. Both of these phrases refer to a situation that is as bad as possible compared to any other possible situation, which is why it uses the superlative form worst. For example: - In the worst case, the beams will collapse instantly. - This isn’t what we expect to happen—it’s just the worst-case scenario. While it’s possible for the words worse and case to be paired together in a sentence (as in Jacob had a worse case of bronchitis than Melanie did), it’s not a set expression like worst case is. Is it if worse comes to worst or if worst comes to worst? There are actually two very similar versions of the expression that means “if the worst possible outcome happens”: if worse comes to worst or if worst comes to worst. However, if worst comes to worst is much more commonly used (even though it arguably makes less sense). Whatever form is used, the expression is usually accompanied by a proposed solution to the problem. For example: - If worse comes to worst and every door is locked, we’ll get in by opening a window. - I’m going to try to make it to the store before the storm starts, but if worst comes to worst, I’ll at least have my umbrella with me. Examples of worse and worst used in a sentence Let’s wrap things up by looking at some of the many different ways we can use worse and worst in a sentence. - I think the pink paint looks worse on the wall than the red paint did. - Out of all of us, Tom had the worst case of poison ivy. - Debra Deer had a worse finishing time than Charlie Cheetah, but Sam Sloth had the worst time by far. - My grades went from bad to worse after I missed a few classes. - If worst comes to worst and we miss the bus, we’ll just hail a cab. - It’s possible that the losses could lead to bankruptcy, but the company is doing everything it can to avoid this worst-case scenario. © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) แจง กรณีเพจปลอมปล่อยข่าวอ้างว่านิสิตติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ยันเตรียมดำเนินคดีถึงที่สุด

    วันนี้ (30 พ.ค.) เพจ "Mahasarakham University Thailand" ของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงกรณีเพจแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัย เผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน ยืนยันตรวจสอบข้อเท็จจริงรอบด้าน ดูแลนิสิตอย่างใกล้ชิด และดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด

    มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) ขอชี้แจงกรณีเพจเฟซบุ๊ก “น้องใหม่ มมส 69” ซึ่งแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัยและเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน โดยกล่าวอ้างว่านิสิตติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และมีการกล่าวถึงการแพร่ระบาดของโรคร้ายแรงในลักษณะที่อาจทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000050826

    #MGROnline #มหาวิทยาลัยมหาสารคาม #มมส69
    มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) แจง กรณีเพจปลอมปล่อยข่าวอ้างว่านิสิตติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ยันเตรียมดำเนินคดีถึงที่สุด • วันนี้ (30 พ.ค.) เพจ "Mahasarakham University Thailand" ของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงกรณีเพจแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัย เผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน ยืนยันตรวจสอบข้อเท็จจริงรอบด้าน ดูแลนิสิตอย่างใกล้ชิด และดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด • มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) ขอชี้แจงกรณีเพจเฟซบุ๊ก “น้องใหม่ มมส 69” ซึ่งแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัยและเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน โดยกล่าวอ้างว่านิสิตติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และมีการกล่าวถึงการแพร่ระบาดของโรคร้ายแรงในลักษณะที่อาจทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000050826 • #MGROnline #มหาวิทยาลัยมหาสารคาม #มมส69
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพบกออกแถลงการณ์ผลหารือระหว่าง ผบ.ทบ.ไทยและ ผบ.ทบ.กัมพูชา ย้ำยึดแนวทางเจรจา บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยดี บรรลุข้อตกลงทั้งสองฝ่ายถอนกำลังออกจากจุดที่ปะทะ และคงกำลังอยู่ในที่ตั้งเดิม รอผลการประชุม JBC ผู้บังคับบัญชาทั้งสองฝ่ายจะกำกับดูแลกำลังพลให้อยู่ภายใต้กรอบการเจรจาอย่างเคร่งครัด ผบ.ทบ.กัมพูชารับปากหากผู้ใต้บังคับบัญชาฝ่าฝืนพร้อมย้ายออกจากพื้นที่

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000050849

    #MGROnline #ทหารไทย #ทหารกัมพูชา #ช่องบก
    กองทัพบกออกแถลงการณ์ผลหารือระหว่าง ผบ.ทบ.ไทยและ ผบ.ทบ.กัมพูชา ย้ำยึดแนวทางเจรจา บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยดี บรรลุข้อตกลงทั้งสองฝ่ายถอนกำลังออกจากจุดที่ปะทะ และคงกำลังอยู่ในที่ตั้งเดิม รอผลการประชุม JBC ผู้บังคับบัญชาทั้งสองฝ่ายจะกำกับดูแลกำลังพลให้อยู่ภายใต้กรอบการเจรจาอย่างเคร่งครัด ผบ.ทบ.กัมพูชารับปากหากผู้ใต้บังคับบัญชาฝ่าฝืนพร้อมย้ายออกจากพื้นที่ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000050849 • #MGROnline #ทหารไทย #ทหารกัมพูชา #ช่องบก
    Haha
    Angry
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยว #เวียดนาม นอนบนบานาฮิลล์ 3วัน 2คืน 😍
    ปังมาก ไม่ถึงหมื่น 🔥🔥

    🗓 จำนวนวัน 3 วัน 2 คืน
    ✈ VZ-ไทยเวียดเจ็ท แอร์
    🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ & ⭐⭐⭐⭐

    📍 สะพานมือยักษ์
    📍 บานาฮิลล์
    📍 POP MART
    📍 พักบนบานาฮิลล์
    📍 Apec Park
    📍 เมืองโบราณฮอยอัน
    📍 นั่งเรือกระด้ง
    📍 สะพานแห่งความรัก
    📍 สะพานมังกร
    📍 เจ้าแม่กวนอิมวัดหลินอึ๋ง

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    ☎️: 021166395

    #ทัวร์เวียดนาม #บานาฮิลล์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    อ่านน้อยลง
    เที่ยว #เวียดนาม นอนบนบานาฮิลล์ 3วัน 2คืน 😍 ปังมาก ไม่ถึงหมื่น 🔥🔥 🗓 จำนวนวัน 3 วัน 2 คืน ✈ VZ-ไทยเวียดเจ็ท แอร์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ & ⭐⭐⭐⭐ 📍 สะพานมือยักษ์ 📍 บานาฮิลล์ 📍 POP MART 📍 พักบนบานาฮิลล์ 📍 Apec Park 📍 เมืองโบราณฮอยอัน 📍 นั่งเรือกระด้ง 📍 สะพานแห่งความรัก 📍 สะพานมังกร 📍 เจ้าแม่กวนอิมวัดหลินอึ๋ง รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์เวียดนาม #บานาฮิลล์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ อ่านน้อยลง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 4 0 รีวิว
  • 🔍 การโจมตี Asus Routers ด้วยมัลแวร์ ViciousTrap
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก GreyNoise พบว่ามีการโจมตี Asus routers กว่า 9,000 เครื่อง ด้วย ViciousTrap backdoor ซึ่งเป็นมัลแวร์ที่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์โดยไม่ต้องได้รับอนุญาต

    แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่หลายจุด รวมถึง CVE-2023-39780 เพื่อเข้าถึงและควบคุมเราเตอร์ โดยใช้ brute-force login และเปิด SSH access ผ่านพอร์ตเฉพาะ จากนั้นพวกเขาจะฝัง public encryption key เพื่อให้สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ได้จากระยะไกล

    มัลแวร์นี้ถูกเก็บไว้ใน NVRAM ทำให้สามารถอยู่รอดได้แม้จะมีการรีบูตหรืออัปเดตเฟิร์มแวร์

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - GreyNoise พบว่า Asus routers กว่า 9,000 เครื่องถูกโจมตีด้วย ViciousTrap backdoor
    - แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ CVE-2023-39780 และ brute-force login เพื่อเข้าถึงอุปกรณ์
    - มัลแวร์ถูกเก็บไว้ใน NVRAM ทำให้สามารถอยู่รอดได้แม้จะมีการรีบูตหรืออัปเดตเฟิร์มแวร์
    - Asus ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่แล้ว แต่ต้องมีการตรวจสอบและปิด SSH access ด้วยตนเอง
    - GreyNoise แนะนำให้ตรวจสอบการเชื่อมต่อจาก IP ที่น่าสงสัย เช่น 101.99.91.151 และ 79.141.163.179

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - หากไม่ได้ปิด SSH access ด้วยตนเอง มัลแวร์จะยังคงอยู่แม้จะอัปเดตเฟิร์มแวร์แล้ว
    - มัลแวร์นี้สามารถทำให้แฮกเกอร์ควบคุมเราเตอร์จากระยะไกลได้โดยไม่ถูกตรวจจับ
    - GreyNoise ยังไม่สามารถระบุเป้าหมายของแฮกเกอร์ได้ อาจเป็นการเตรียมการโจมตีขนาดใหญ่
    - ควรทำ factory reset หากสงสัยว่าเราเตอร์ถูกโจมตี และตั้งค่าความปลอดภัยใหม่ทั้งหมด

    🔧 วิธีป้องกันและแก้ไข
    หากคุณใช้ Asus routers ควรตรวจสอบว่าเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุด และปิด SSH access ที่ไม่ได้ใช้งาน นอกจากนี้ ควรตรวจสอบ IP ที่น่าสงสัย และทำ factory reset หากพบพฤติกรรมผิดปกติ

    การโจมตีครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการอัปเดตเฟิร์มแวร์และการตั้งค่าความปลอดภัยของอุปกรณ์เครือข่าย เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

    https://www.techspot.com/news/108109-thousands-asus-routers-compromised-vicioustrap-backdoor.html
    🔍 การโจมตี Asus Routers ด้วยมัลแวร์ ViciousTrap นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก GreyNoise พบว่ามีการโจมตี Asus routers กว่า 9,000 เครื่อง ด้วย ViciousTrap backdoor ซึ่งเป็นมัลแวร์ที่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์โดยไม่ต้องได้รับอนุญาต แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่หลายจุด รวมถึง CVE-2023-39780 เพื่อเข้าถึงและควบคุมเราเตอร์ โดยใช้ brute-force login และเปิด SSH access ผ่านพอร์ตเฉพาะ จากนั้นพวกเขาจะฝัง public encryption key เพื่อให้สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ได้จากระยะไกล มัลแวร์นี้ถูกเก็บไว้ใน NVRAM ทำให้สามารถอยู่รอดได้แม้จะมีการรีบูตหรืออัปเดตเฟิร์มแวร์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - GreyNoise พบว่า Asus routers กว่า 9,000 เครื่องถูกโจมตีด้วย ViciousTrap backdoor - แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ CVE-2023-39780 และ brute-force login เพื่อเข้าถึงอุปกรณ์ - มัลแวร์ถูกเก็บไว้ใน NVRAM ทำให้สามารถอยู่รอดได้แม้จะมีการรีบูตหรืออัปเดตเฟิร์มแวร์ - Asus ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่แล้ว แต่ต้องมีการตรวจสอบและปิด SSH access ด้วยตนเอง - GreyNoise แนะนำให้ตรวจสอบการเชื่อมต่อจาก IP ที่น่าสงสัย เช่น 101.99.91.151 และ 79.141.163.179 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - หากไม่ได้ปิด SSH access ด้วยตนเอง มัลแวร์จะยังคงอยู่แม้จะอัปเดตเฟิร์มแวร์แล้ว - มัลแวร์นี้สามารถทำให้แฮกเกอร์ควบคุมเราเตอร์จากระยะไกลได้โดยไม่ถูกตรวจจับ - GreyNoise ยังไม่สามารถระบุเป้าหมายของแฮกเกอร์ได้ อาจเป็นการเตรียมการโจมตีขนาดใหญ่ - ควรทำ factory reset หากสงสัยว่าเราเตอร์ถูกโจมตี และตั้งค่าความปลอดภัยใหม่ทั้งหมด 🔧 วิธีป้องกันและแก้ไข หากคุณใช้ Asus routers ควรตรวจสอบว่าเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุด และปิด SSH access ที่ไม่ได้ใช้งาน นอกจากนี้ ควรตรวจสอบ IP ที่น่าสงสัย และทำ factory reset หากพบพฤติกรรมผิดปกติ การโจมตีครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการอัปเดตเฟิร์มแวร์และการตั้งค่าความปลอดภัยของอุปกรณ์เครือข่าย เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต https://www.techspot.com/news/108109-thousands-asus-routers-compromised-vicioustrap-backdoor.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Thousands of Asus routers compromised by "ViciousTrap" backdoor
    Analysts at GreyNoise have uncovered a mysterious backdoor-based campaign affecting more than 9,000 Asus routers. The unknown cybercriminals are exploiting security vulnerabilities – some of which have...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • Grammarly ได้รับเงินลงทุน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก General Catalyst เพื่อขยายแพลตฟอร์ม AI ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะพัฒนาเครื่องมือที่ช่วยให้การสื่อสารและการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    Grammarly เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับการช่วยตรวจสอบและปรับปรุงการเขียน โดยมีผู้ใช้ 40 ล้านคนต่อวัน นอกจากนี้ บริษัทกำลังพัฒนา AI agent ที่สามารถช่วยจัดการเอกสารและการสื่อสารในองค์กร

    General Catalyst ใช้ Customer Value Fund (CVF) ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดย Grammarly เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับเงินลงทุนมากที่สุดจากกองทุนนี้

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Grammarly ได้รับเงินลงทุน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก General Catalyst
    - เงินทุนนี้จะถูกใช้ในการพัฒนา AI และขยายแพลตฟอร์ม
    - Grammarly มีผู้ใช้ 40 ล้านคนต่อวัน และมีรายได้ต่อปีมากกว่า 700 ล้านเหรียญ
    - General Catalyst ไม่ได้รับหุ้นของ Grammarly แต่จะได้รับผลตอบแทนจากรายได้ที่เกิดขึ้นจากเงินลงทุน

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - Grammarly กำลังเปลี่ยนจากเครื่องมือช่วยเขียนไปเป็นแพลตฟอร์ม AI เต็มรูปแบบ ซึ่งอาจส่งผลต่อรูปแบบการใช้งานของผู้ใช้
    - การลงทุนใน AI มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากต้องแข่งขันกับบริษัทใหญ่ เช่น Google และ Microsoft
    - General Catalyst ใช้โมเดลการลงทุนที่แตกต่างจากกองทุนทั่วไป ซึ่งอาจมีผลต่อการเติบโตของ Grammarly ในระยะยาว
    - Grammarly มีแผนที่จะเข้าตลาดหุ้น แต่ยังไม่มีการกำหนดเวลาที่แน่นอน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/29/exclusive-grammarly-secures-1-billion-from-general-catalyst-to-build-ai-productivity-platform
    Grammarly ได้รับเงินลงทุน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก General Catalyst เพื่อขยายแพลตฟอร์ม AI ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะพัฒนาเครื่องมือที่ช่วยให้การสื่อสารและการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น Grammarly เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับการช่วยตรวจสอบและปรับปรุงการเขียน โดยมีผู้ใช้ 40 ล้านคนต่อวัน นอกจากนี้ บริษัทกำลังพัฒนา AI agent ที่สามารถช่วยจัดการเอกสารและการสื่อสารในองค์กร General Catalyst ใช้ Customer Value Fund (CVF) ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดย Grammarly เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับเงินลงทุนมากที่สุดจากกองทุนนี้ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Grammarly ได้รับเงินลงทุน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก General Catalyst - เงินทุนนี้จะถูกใช้ในการพัฒนา AI และขยายแพลตฟอร์ม - Grammarly มีผู้ใช้ 40 ล้านคนต่อวัน และมีรายได้ต่อปีมากกว่า 700 ล้านเหรียญ - General Catalyst ไม่ได้รับหุ้นของ Grammarly แต่จะได้รับผลตอบแทนจากรายได้ที่เกิดขึ้นจากเงินลงทุน ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - Grammarly กำลังเปลี่ยนจากเครื่องมือช่วยเขียนไปเป็นแพลตฟอร์ม AI เต็มรูปแบบ ซึ่งอาจส่งผลต่อรูปแบบการใช้งานของผู้ใช้ - การลงทุนใน AI มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากต้องแข่งขันกับบริษัทใหญ่ เช่น Google และ Microsoft - General Catalyst ใช้โมเดลการลงทุนที่แตกต่างจากกองทุนทั่วไป ซึ่งอาจมีผลต่อการเติบโตของ Grammarly ในระยะยาว - Grammarly มีแผนที่จะเข้าตลาดหุ้น แต่ยังไม่มีการกำหนดเวลาที่แน่นอน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/29/exclusive-grammarly-secures-1-billion-from-general-catalyst-to-build-ai-productivity-platform
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Grammarly secures $1 billion from General Catalyst to build AI productivity platform
    (This story has been corrected to fix when Grammarly was founded, in paragraph 5, and to clarify the General Catalyst fund relationship, in paragraph 11)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta ได้เปิดเผยว่า Meta AI ซึ่งเป็นผู้ช่วย AI เชิงสร้างสรรค์ของบริษัท มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือน โดย AI นี้ถูกฝังอยู่ในแอปต่าง ๆ ของ Meta เช่น Facebook, Instagram และ WhatsApp ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องค้นหาแยกต่างหาก

    Meta กำลังแข่งขันกับ Google, Microsoft และ OpenAI ในตลาด AI โดยเฉพาะหลังจากที่ Google เปิดตัว AI Overviews ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ให้สรุปผลการค้นหาแบบอัตโนมัติ และมีผู้ใช้มากกว่า 1.5 พันล้านคน

    นอกจากนี้ Meta ยังเปิดตัว แอป Meta AI แบบ standalone เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2025 เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง AI ได้โดยตรง

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Meta AI มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือน
    - AI ถูกฝังอยู่ในแอปของ Meta เช่น Facebook, Instagram และ WhatsApp
    - Meta เปิดตัวแอป Meta AI แบบ standalone เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2025
    - Google เปิดตัว AI Overviews ซึ่งมีผู้ใช้มากกว่า 1.5 พันล้านคน
    - Google Gemini AI มีผู้ใช้มากกว่า 400 ล้านคนต่อเดือน

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าผู้ใช้ Meta AI ใช้งานโดยตั้งใจหรือเป็นการใช้งานแบบอัตโนมัติ
    - การแข่งขันในตลาด AI กำลังรุนแรงขึ้น โดย Meta ต้องแข่งกับ Google, Microsoft และ OpenAI
    - AI ยังมีความท้าทายด้านการป้องกันข้อมูลผิดพลาดและโมเดลธุรกิจ
    - ต้องรอติดตามว่า Meta AI จะสามารถเป็นผู้นำในตลาด AI ส่วนบุคคลได้หรือไม่

    Meta กำลังผลักดัน Meta AI ให้เป็นผู้ช่วย AI ส่วนบุคคลที่มีผู้ใช้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดนี้ยังคงเข้มข้น และต้องจับตาดูว่า Meta จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำได้หรือไม่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/29/zuckerberg-meta-ai-bot-used-a-billion-times-monthly
    Meta ได้เปิดเผยว่า Meta AI ซึ่งเป็นผู้ช่วย AI เชิงสร้างสรรค์ของบริษัท มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือน โดย AI นี้ถูกฝังอยู่ในแอปต่าง ๆ ของ Meta เช่น Facebook, Instagram และ WhatsApp ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องค้นหาแยกต่างหาก Meta กำลังแข่งขันกับ Google, Microsoft และ OpenAI ในตลาด AI โดยเฉพาะหลังจากที่ Google เปิดตัว AI Overviews ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ให้สรุปผลการค้นหาแบบอัตโนมัติ และมีผู้ใช้มากกว่า 1.5 พันล้านคน นอกจากนี้ Meta ยังเปิดตัว แอป Meta AI แบบ standalone เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2025 เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง AI ได้โดยตรง ✅ ข้อมูลจากข่าว - Meta AI มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือน - AI ถูกฝังอยู่ในแอปของ Meta เช่น Facebook, Instagram และ WhatsApp - Meta เปิดตัวแอป Meta AI แบบ standalone เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2025 - Google เปิดตัว AI Overviews ซึ่งมีผู้ใช้มากกว่า 1.5 พันล้านคน - Google Gemini AI มีผู้ใช้มากกว่า 400 ล้านคนต่อเดือน ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าผู้ใช้ Meta AI ใช้งานโดยตั้งใจหรือเป็นการใช้งานแบบอัตโนมัติ - การแข่งขันในตลาด AI กำลังรุนแรงขึ้น โดย Meta ต้องแข่งกับ Google, Microsoft และ OpenAI - AI ยังมีความท้าทายด้านการป้องกันข้อมูลผิดพลาดและโมเดลธุรกิจ - ต้องรอติดตามว่า Meta AI จะสามารถเป็นผู้นำในตลาด AI ส่วนบุคคลได้หรือไม่ Meta กำลังผลักดัน Meta AI ให้เป็นผู้ช่วย AI ส่วนบุคคลที่มีผู้ใช้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดนี้ยังคงเข้มข้น และต้องจับตาดูว่า Meta จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำได้หรือไม่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/29/zuckerberg-meta-ai-bot-used-a-billion-times-monthly
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Zuckerberg: Meta AI bot used a billion times monthly
    Meta chief Mark Zuckerberg touted the tech firm's generative artificial intelligence (Gen AI) assistant on May 28, telling shareholders it is used by a billion people each month across its platforms.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ฮุนเซน” แถลงกลางที่ประชุมวุฒิสภากัมพูชา ขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ เชื่อมั่นใจการเจรจา แต่ยันจุดปะทะเป็นของกัมพูชา ตนเคยไปเยือนปี 52 โวสมัยสงครามปราสาทพระวิหารปี 54 ทหารขอใช้ปืนใหญ่ยิงเข้าไทย 40 กม.แต่ตนไม่ให้ใช้ พร้อมท้ากองทัพไทยบุกนครวัต จะได้ร้องยูเอ็นว่าไทยรุกราน พร้อมทำลายกองทัพไทยให้ย่อยยับ โวเครื่องบินรบของไทยทำอะไรไม่ได้ เขมรมีเครื่องยิงประสิทธิภาพสูง เรียกร้องประชาชนสนับสนุนกองทัพแสดงความสามัคคีเป็นกระดูกสันหลังป้องกันประเทศ

    วันนี้(29 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.34 น. ในเฟซบุ๊ก “Samdech Hun Sen of Cambodia” ของ จอมพล สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา บิดาของนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาคนปัจจุบัน มีการโพสต์ข้อความเป็นสารพิเศษที่สมเด็จฮุนเซนกล่าวในการประชุมวุฒิสภากัมพูชาในวันนี้ โดยระบุว่า

    ต่อไปนี้คือถ้อยแถลงหลักของสมเด็จฮุนเซนในคำแถลงพิเศษเกี่ยวกับการปะทะด้วยอาวุธระหว่างกองทัพกัมพูชาและไทยที่ชายแดนบริเวณมอมเตย จังหวัดพระวิหาร

    สมเด็จฮุนเซนขอให้เพื่อนร่วมชาติของเขาอยู่ในความสงบและไว้วางใจในความเป็นผู้นำของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาผ่านการเจรจาแทนที่จะใช้กำลังทหาร

    นายกรัฐมนตรีขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบในประเด็นชายแดนระหว่างกัมพูชากับไทย และเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาระหว่างรัฐบาลทั้งสอง ระวังข่าวปลอมที่ผลักดันให้เกิดสงครามระหว่างสองประเทศ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000050442

    #MGROnline #ฮุนเซน #กัมพูชา
    “ฮุนเซน” แถลงกลางที่ประชุมวุฒิสภากัมพูชา ขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ เชื่อมั่นใจการเจรจา แต่ยันจุดปะทะเป็นของกัมพูชา ตนเคยไปเยือนปี 52 โวสมัยสงครามปราสาทพระวิหารปี 54 ทหารขอใช้ปืนใหญ่ยิงเข้าไทย 40 กม.แต่ตนไม่ให้ใช้ พร้อมท้ากองทัพไทยบุกนครวัต จะได้ร้องยูเอ็นว่าไทยรุกราน พร้อมทำลายกองทัพไทยให้ย่อยยับ โวเครื่องบินรบของไทยทำอะไรไม่ได้ เขมรมีเครื่องยิงประสิทธิภาพสูง เรียกร้องประชาชนสนับสนุนกองทัพแสดงความสามัคคีเป็นกระดูกสันหลังป้องกันประเทศ • วันนี้(29 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.34 น. ในเฟซบุ๊ก “Samdech Hun Sen of Cambodia” ของ จอมพล สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา บิดาของนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาคนปัจจุบัน มีการโพสต์ข้อความเป็นสารพิเศษที่สมเด็จฮุนเซนกล่าวในการประชุมวุฒิสภากัมพูชาในวันนี้ โดยระบุว่า • ต่อไปนี้คือถ้อยแถลงหลักของสมเด็จฮุนเซนในคำแถลงพิเศษเกี่ยวกับการปะทะด้วยอาวุธระหว่างกองทัพกัมพูชาและไทยที่ชายแดนบริเวณมอมเตย จังหวัดพระวิหาร • สมเด็จฮุนเซนขอให้เพื่อนร่วมชาติของเขาอยู่ในความสงบและไว้วางใจในความเป็นผู้นำของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาผ่านการเจรจาแทนที่จะใช้กำลังทหาร • นายกรัฐมนตรีขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบในประเด็นชายแดนระหว่างกัมพูชากับไทย และเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาระหว่างรัฐบาลทั้งสอง ระวังข่าวปลอมที่ผลักดันให้เกิดสงครามระหว่างสองประเทศ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000050442 • #MGROnline #ฮุนเซน #กัมพูชา
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • มทร.อีสาน จัดประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการและการส่งมอบป้ายการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE
    .
    วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมแคนา 1 ชั้น 3 อาคารสำนักงานอธิการบดี (อาคาร 19) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จังหวัดนครราชสีมา มทร.อีสาน จัดการประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการและการส่งมอบป้ายการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง ระหว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด โดยมี รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวต้อนรับ นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานการประชุมฯ, นายเฮ้อไจ้เฉียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) พร้อมคณะ, นายฉ๋าว กั๋วฮ๋ง รองอธิการบดีสถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ประเทศจีน พร้อมคณะ, นายฮว๋าง หย๋ง เจี๋ย ประธานบริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด พร้อมคณะ, คุณธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา, นายบุญส่ง สุทธิโตคร ผู้อำนวยการสำนักช่าง สำนักงานเทศบาลนครนครราชสีมา, ดร.ธีรพงศ์ คณาศักดิ์ รองประธานฝ่ายบริหารและสื่อสารองค์กร หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, คุณไพสิทธิ์ ปิติทรงสวัสดิ์ ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา, คุณอาทิตย์ ชามขุนทด ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด, นายจำนงค์ แสงเงิน หัวหน้ากองจัดการเดินรถเขต 2, คุณบัญชา กันหาสินธุ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา, คุณขจร ศิวรังสรรค์ รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมระบบราง, คุณวัฒนา สมานจิตร อุปนายกสมาคมวิศวกรรมระบบขนส่งทางรางไทย, ดร.สุรวุฒิ เชิดชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชิดชัยคอร์ปอเรชั่น จำกัด
    .
    โดยในการประชุมครั้งนี้ รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.อภิชิต คำภาหล้า คณบดีคณะระบบรางและการขนส่ง ได้ร่วมกัน นำเสนอจุดประสงค์ของความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยฯ และนำเสนอศูนย์ความร่วมมือทางวิชาการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE และทางด้าน บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) โดย นายเฮ้อไจ้เฉียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) ได้นำเสนอจุดเด่นทางเทคนิคของผลิตภัณฑ์ระบบขนส่ง DRT และรถไฟฟ้ารางเบา รวมถึงแนวคิดความร่วมมือด้านการบริหารจัดการตลอดวงจรชีวิตของขบวนรถไฟ จากนั้น สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ได้กล่าวถึง ภาพรวมของสถาบัน NIRT จุดแข็งของหลักสูตร และแนวทางการจัดตั้งวิทยาลัยระบบรางจีน–ไทย (NIRT สาขาต่างประเทศ) โดย นายฉ๋าว กั๋วฮ๋ง รองอธิการบดีสถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ประเทศจีน ทั้งนี้ นอกจากจะร่วมประชุมหารือด้านความร่วมมือระหว่างกันแล้วยังได้มี การการหารือการเตรียมความพร้อมรองรับการเป็นเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก (International Horticultural Expo) และ แผนรถไฟฟ้ารางเบาในประเทศไทย ซึ่ง บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด โดย นายฮว๋าง หย๋ง เจี๋ย ประธานบริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด ยังได้นำเสนอ เรื่อง การวางแผนผลักดันจังหวัดนครราชสีมาให้เป็นจังหวัดหลักด้านอุตสาหกรรมระบบราง โดยอาศัยโอกาสความร่วมมือจากทั้ง 4 ฝ่าย และการดำเนินโครงการระบบ DRT สำหรับมหกรรมพืชสวนโลกอีกด้วย
    .
    นอกจากนี้ นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ยังได้ให้เกียรติเป็นประธานมอบป้ายสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE แก่ทั้ง 4 หน่วยงาน ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน, บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC), สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT), บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด
    .
    ภายหลังการประชุม นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า “ในนามของจังหวัดนครราชสีมา รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ภายใต้การนำของ รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้จัดการประชุมปรึกษาหารือในวันนี้ ซึ่งเป็นเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ที่มีคุณค่า ก่อให้เกิดแนวทางความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม และนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดในระดับประเทศและนานาชาติ ทั้งยังได้ริเริ่มสานสัมพันธ์อันดีระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา พันธมิตรทุกภาคส่วน ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีการประกาศเจตจำนงมุ่งมั่นในการร่วมพัฒนาด้านเทคโนโลยีและระบบขนส่งทางราง เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัย พัฒนาองค์ความรู้ สร้างนวัตกรรม และพัฒนากำลังคนในอุตสาหกรรมระบบราง ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและเป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง จนได้ร่วมมือกันในการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE ขึ้น ทั้งนี้ จังหวัดนครราชสีมา ในฐานะศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยเฉพาะในด้านระบบคมนาคมขนส่ง การมีสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบรางในพื้นที่ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการยกระดับขีดความสามารถของจังหวัดและภูมิภาค ให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน”
    .
    ด้าน รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้เปิดเผยว่า "สำหรับการประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการ และพิธีส่งมอบป้ายการจัดตั้ง สถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE ในวันนี้ เกิดขึ้นจากการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ต้องขอขอบคุณจังหวัดนครราชสีมาที่ได้ให้ความสำคัญกับ มทร.อีสาน เสมอมา ในความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษา ภาคอุตสาหกรรม และภาควิจัย ทั้งในและต่างประเทศในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านระบบรางให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ความร่วมมือดังกล่าวไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานเท่านั้น หากแต่ยังมีบทบาทสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมระบบรางของประเทศไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล"
    .
    "ทั้งนี้ การที่ มทร.อีสาน ได้พันธมิตรในการร่วมพัฒนาประเทศ ทั้งด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า EV เช่น บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกอบรมเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า และเป็นผู้นำในการให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีขั้นสูงแบบครบวงจร ด้านการขนส่งทางราง เช่น บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. หรือ CRRC เป็นบริษัทชั้นนำของประเทศจีนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและการผลิตอุปกรณ์ขนส่งทางราง และเป็นหนึ่งในบริษัทขนาดใหญ่ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์รถไฟของจีน และสถาบันที่ผลิตกำลังคนที่มีคุณภาพด้านเทคโนโลยีและการจัดการระบบราง เช่น สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ซึ่งเป็นวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตอนในของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีเศรษฐกิจเจริญรุ่งเรืองและมีระดับการพัฒนาระบบรถไฟสูงที่สุดในประเทศจีน ดังนั้น การจัดตั้ง “สถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE” แห่งนี้ จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงานวิจัย การพัฒนาบุคลากร การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการสร้างนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนส่งเสริมให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้และฝึกประสบการณ์จากการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติต่อไป" รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวเพิ่มเติม
    มทร.อีสาน จัดประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการและการส่งมอบป้ายการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE . วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมแคนา 1 ชั้น 3 อาคารสำนักงานอธิการบดี (อาคาร 19) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จังหวัดนครราชสีมา มทร.อีสาน จัดการประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการและการส่งมอบป้ายการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง ระหว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด โดยมี รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวต้อนรับ นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานการประชุมฯ, นายเฮ้อไจ้เฉียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) พร้อมคณะ, นายฉ๋าว กั๋วฮ๋ง รองอธิการบดีสถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ประเทศจีน พร้อมคณะ, นายฮว๋าง หย๋ง เจี๋ย ประธานบริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด พร้อมคณะ, คุณธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา, นายบุญส่ง สุทธิโตคร ผู้อำนวยการสำนักช่าง สำนักงานเทศบาลนครนครราชสีมา, ดร.ธีรพงศ์ คณาศักดิ์ รองประธานฝ่ายบริหารและสื่อสารองค์กร หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, คุณไพสิทธิ์ ปิติทรงสวัสดิ์ ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา, คุณอาทิตย์ ชามขุนทด ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด, นายจำนงค์ แสงเงิน หัวหน้ากองจัดการเดินรถเขต 2, คุณบัญชา กันหาสินธุ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา, คุณขจร ศิวรังสรรค์ รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมระบบราง, คุณวัฒนา สมานจิตร อุปนายกสมาคมวิศวกรรมระบบขนส่งทางรางไทย, ดร.สุรวุฒิ เชิดชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชิดชัยคอร์ปอเรชั่น จำกัด . โดยในการประชุมครั้งนี้ รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.อภิชิต คำภาหล้า คณบดีคณะระบบรางและการขนส่ง ได้ร่วมกัน นำเสนอจุดประสงค์ของความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยฯ และนำเสนอศูนย์ความร่วมมือทางวิชาการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE และทางด้าน บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) โดย นายเฮ้อไจ้เฉียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) ได้นำเสนอจุดเด่นทางเทคนิคของผลิตภัณฑ์ระบบขนส่ง DRT และรถไฟฟ้ารางเบา รวมถึงแนวคิดความร่วมมือด้านการบริหารจัดการตลอดวงจรชีวิตของขบวนรถไฟ จากนั้น สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ได้กล่าวถึง ภาพรวมของสถาบัน NIRT จุดแข็งของหลักสูตร และแนวทางการจัดตั้งวิทยาลัยระบบรางจีน–ไทย (NIRT สาขาต่างประเทศ) โดย นายฉ๋าว กั๋วฮ๋ง รองอธิการบดีสถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ประเทศจีน ทั้งนี้ นอกจากจะร่วมประชุมหารือด้านความร่วมมือระหว่างกันแล้วยังได้มี การการหารือการเตรียมความพร้อมรองรับการเป็นเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก (International Horticultural Expo) และ แผนรถไฟฟ้ารางเบาในประเทศไทย ซึ่ง บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด โดย นายฮว๋าง หย๋ง เจี๋ย ประธานบริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด ยังได้นำเสนอ เรื่อง การวางแผนผลักดันจังหวัดนครราชสีมาให้เป็นจังหวัดหลักด้านอุตสาหกรรมระบบราง โดยอาศัยโอกาสความร่วมมือจากทั้ง 4 ฝ่าย และการดำเนินโครงการระบบ DRT สำหรับมหกรรมพืชสวนโลกอีกด้วย . นอกจากนี้ นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ยังได้ให้เกียรติเป็นประธานมอบป้ายสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE แก่ทั้ง 4 หน่วยงาน ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน, บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC), สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT), บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด . ภายหลังการประชุม นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า “ในนามของจังหวัดนครราชสีมา รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ภายใต้การนำของ รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้จัดการประชุมปรึกษาหารือในวันนี้ ซึ่งเป็นเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ที่มีคุณค่า ก่อให้เกิดแนวทางความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม และนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดในระดับประเทศและนานาชาติ ทั้งยังได้ริเริ่มสานสัมพันธ์อันดีระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา พันธมิตรทุกภาคส่วน ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีการประกาศเจตจำนงมุ่งมั่นในการร่วมพัฒนาด้านเทคโนโลยีและระบบขนส่งทางราง เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัย พัฒนาองค์ความรู้ สร้างนวัตกรรม และพัฒนากำลังคนในอุตสาหกรรมระบบราง ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและเป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง จนได้ร่วมมือกันในการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE ขึ้น ทั้งนี้ จังหวัดนครราชสีมา ในฐานะศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยเฉพาะในด้านระบบคมนาคมขนส่ง การมีสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบรางในพื้นที่ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการยกระดับขีดความสามารถของจังหวัดและภูมิภาค ให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน” . ด้าน รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้เปิดเผยว่า "สำหรับการประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการ และพิธีส่งมอบป้ายการจัดตั้ง สถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE ในวันนี้ เกิดขึ้นจากการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ต้องขอขอบคุณจังหวัดนครราชสีมาที่ได้ให้ความสำคัญกับ มทร.อีสาน เสมอมา ในความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษา ภาคอุตสาหกรรม และภาควิจัย ทั้งในและต่างประเทศในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านระบบรางให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ความร่วมมือดังกล่าวไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานเท่านั้น หากแต่ยังมีบทบาทสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมระบบรางของประเทศไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล" . "ทั้งนี้ การที่ มทร.อีสาน ได้พันธมิตรในการร่วมพัฒนาประเทศ ทั้งด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า EV เช่น บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกอบรมเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า และเป็นผู้นำในการให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีขั้นสูงแบบครบวงจร ด้านการขนส่งทางราง เช่น บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. หรือ CRRC เป็นบริษัทชั้นนำของประเทศจีนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและการผลิตอุปกรณ์ขนส่งทางราง และเป็นหนึ่งในบริษัทขนาดใหญ่ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์รถไฟของจีน และสถาบันที่ผลิตกำลังคนที่มีคุณภาพด้านเทคโนโลยีและการจัดการระบบราง เช่น สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ซึ่งเป็นวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตอนในของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีเศรษฐกิจเจริญรุ่งเรืองและมีระดับการพัฒนาระบบรถไฟสูงที่สุดในประเทศจีน ดังนั้น การจัดตั้ง “สถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE” แห่งนี้ จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงานวิจัย การพัฒนาบุคลากร การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการสร้างนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนส่งเสริมให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้และฝึกประสบการณ์จากการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติต่อไป" รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวเพิ่มเติม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 249 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ธนกฤต” เผย “สมศักดิ์” ส่งหนังสือตีกลับมติแพทยสภาลงโทษ 3 หมอแล้ว เมื่อเย็นวาน มีทั้งเห็นด้วย และให้กลับไปพิจารณาใหม่ เรื่องกระบวนการ แต่ไม่ใช่คำสั่งให้ทบทวน แล้วแต่บอร์ดแพทยสภาจะพิจารณา

    วันนี้ (29 พ.ค.) นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ภายหลังคณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ได้ประชุมไปแล้ว 3 ครั้ง และส่งสรุปความเห็นของแต่ละคนให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แล้ว เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนั้น นายสมศักดิ์ ได้ทำหนังสือส่งถึงแพทยสภาเรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) เวลาประมาณ 16.00 น.

    อย่างไรก็ตาม นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า ตนไม่ทราบในเนื้อหามากนัก แต่ทราบว่าเบื้องต้นว่า นายสมศักดิ์ ได้มีการส่งความเห็นต่อมติของแพทยสภาซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์ 4 คน โดยมี 1 คน ที่ยกคำร้อง อีก 3 คนถูกลงโทษตักเตือนและพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000050394

    #MGROnline #มติแพทยสภา #กระทรวงสาธารณสุข #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
    “ธนกฤต” เผย “สมศักดิ์” ส่งหนังสือตีกลับมติแพทยสภาลงโทษ 3 หมอแล้ว เมื่อเย็นวาน มีทั้งเห็นด้วย และให้กลับไปพิจารณาใหม่ เรื่องกระบวนการ แต่ไม่ใช่คำสั่งให้ทบทวน แล้วแต่บอร์ดแพทยสภาจะพิจารณา • วันนี้ (29 พ.ค.) นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ภายหลังคณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ได้ประชุมไปแล้ว 3 ครั้ง และส่งสรุปความเห็นของแต่ละคนให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แล้ว เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนั้น นายสมศักดิ์ ได้ทำหนังสือส่งถึงแพทยสภาเรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) เวลาประมาณ 16.00 น. • อย่างไรก็ตาม นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า ตนไม่ทราบในเนื้อหามากนัก แต่ทราบว่าเบื้องต้นว่า นายสมศักดิ์ ได้มีการส่งความเห็นต่อมติของแพทยสภาซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์ 4 คน โดยมี 1 คน ที่ยกคำร้อง อีก 3 คนถูกลงโทษตักเตือนและพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000050394 • #MGROnline #มติแพทยสภา #กระทรวงสาธารณสุข #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดี๋ยวจะมีภาคย่อย ของจักรวาลไอ้ Almost Prime Minister นายกฯว่าว ตลอดชีพ

    - Almost RIP (จำผิดพลาดงานศพพ่อง)
    - Almost Dual Degree (แหกตา ปริญญาสองใบ)
    - Almost Billionaire (อายุน้อยหนี้ร้อยล้าน)
    - Almost Prince of Battambang (เจ้าชายทิพย์พระตะบอง)
    - Almost Free Cannabis (เราเลิกเป็นเพื่อนกัญ)
    - Almost Family (เผด็จการบ้านแตก)
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #พิธา
    #นายกว่าว
    #จักรวาลคนเกือบได้เป็น
    เดี๋ยวจะมีภาคย่อย ของจักรวาลไอ้ Almost Prime Minister นายกฯว่าว ตลอดชีพ - Almost RIP (จำผิดพลาดงานศพพ่อง) - Almost Dual Degree (แหกตา ปริญญาสองใบ) - Almost Billionaire (อายุน้อยหนี้ร้อยล้าน) - Almost Prince of Battambang (เจ้าชายทิพย์พระตะบอง) - Almost Free Cannabis (เราเลิกเป็นเพื่อนกัญ) - Almost Family (เผด็จการบ้านแตก) #คิงส์โพธิ์แดง #พิธา #นายกว่าว #จักรวาลคนเกือบได้เป็น
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • บีวายดี (BYD) สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการยานยนต์จีนอีกครั้ง หลังจากประกาศปรับลดราคาครั้งใหญ่ครอบคลุมรถยนต์ถึง 22 รุ่น โดยรุ่นที่ได้รับส่วนลดมากที่สุด ได้แก่ Seal 07 DM-i (รุ่น 1.5L 125km) ที่ลดลงถึง 53,000 หยวน หรือประมาณ 241,792 บาท* นอกจากนี้ รุ่น Qin PLUS DM-i และ Qin L DM-i ก็มีราคาลดลงอย่างชัดเจน ส่งผลให้ราคารถเริ่มต้นอยู่ที่เพียง 63,800–79,800 หยวน หรือประมาณ 291,063 –364,052 บาท

    การปรับลดราคาครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สามในรอบ 2 เดือนของบีวายดี สะท้อนแรงกดดันที่บริษัทเผชิญในด้านยอดขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดภายในประเทศ แม้ว่ายอดขายรวมในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายนจะอยู่ที่ 1.38 ล้านคัน แต่เมื่อพิจารณาเฉพาะในประเทศ ยอดขายอยู่ที่ประมาณ 1.1 ล้านคัน หรือเฉลี่ยเดือนละ 275,000 คัน ซึ่งยังห่างไกลจากเป้าหมายรายปีที่ตั้งไว้ 5.5 ล้านคัน และจำเป็นต้องมียอดขายเฉลี่ยวันละกว่า 15,000 คันในช่วงที่เหลือของปี

    แม้ภาพรวมยอดขายจะดูแข็งแกร่ง แต่บีวายดีกลับเผชิญแรงแข่งขันจากทั้งผู้ผลิตจีนรายอื่นและบริษัทรถยนต์ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มรถราคาประหยัด เช่น รถยนต์รุ่นเรือธงอย่าง Han DM, Song PLUS DM และ Qin PLUS DM ก็เผชิญกับแรงกดดันจากคู่แข่งใหม่ เช่น Geely Xingyao 8ที่มีราคาถูกกว่าถึง 53,000 หยวน หรือ 241,792 บาท และ Chery Fengyun A9 ส่วนในตลาดรถยนต์ ICE แบรนด์ต่างชาติอย่าง Volkswagen, Honda และ Buick ก็เร่งเคลียร์สต๊อกด้วยการหั่นราคาอย่างหนัก ทำให้ความได้เปรียบด้านราคาของบีวายดีลดลง
    ทันทีหลังประกาศลดราคาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นของบีวายดีในตลาดหลักทรัพย์ร่วงลงอย่างรุนแรง โดยในตลาดฮ่องกงราคาลดลงถึง 8.6% และในตลาด A-share ลดลงกว่า 6% ภายในเวลา 3 วัน มูลค่าบริษัทหายไปราว 1 แสนล้านหยวน นักลงทุนตื่นตระหนกกับแนวโน้มกำไรของบริษัทที่จะได้รับผลกระทบจากสงครามราคา ขณะที่หุ้นของบริษัทรถยนต์รายอื่น เช่น Geely, Great Wall, Seres, Changan และ SAIC ก็ร่วงตามไปในระดับ 2–5%

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000050149

    #MGROnline #บีวายดี #ยานยนต์จีน
    บีวายดี (BYD) สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการยานยนต์จีนอีกครั้ง หลังจากประกาศปรับลดราคาครั้งใหญ่ครอบคลุมรถยนต์ถึง 22 รุ่น โดยรุ่นที่ได้รับส่วนลดมากที่สุด ได้แก่ Seal 07 DM-i (รุ่น 1.5L 125km) ที่ลดลงถึง 53,000 หยวน หรือประมาณ 241,792 บาท* นอกจากนี้ รุ่น Qin PLUS DM-i และ Qin L DM-i ก็มีราคาลดลงอย่างชัดเจน ส่งผลให้ราคารถเริ่มต้นอยู่ที่เพียง 63,800–79,800 หยวน หรือประมาณ 291,063 –364,052 บาท • การปรับลดราคาครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สามในรอบ 2 เดือนของบีวายดี สะท้อนแรงกดดันที่บริษัทเผชิญในด้านยอดขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดภายในประเทศ แม้ว่ายอดขายรวมในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายนจะอยู่ที่ 1.38 ล้านคัน แต่เมื่อพิจารณาเฉพาะในประเทศ ยอดขายอยู่ที่ประมาณ 1.1 ล้านคัน หรือเฉลี่ยเดือนละ 275,000 คัน ซึ่งยังห่างไกลจากเป้าหมายรายปีที่ตั้งไว้ 5.5 ล้านคัน และจำเป็นต้องมียอดขายเฉลี่ยวันละกว่า 15,000 คันในช่วงที่เหลือของปี • แม้ภาพรวมยอดขายจะดูแข็งแกร่ง แต่บีวายดีกลับเผชิญแรงแข่งขันจากทั้งผู้ผลิตจีนรายอื่นและบริษัทรถยนต์ต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มรถราคาประหยัด เช่น รถยนต์รุ่นเรือธงอย่าง Han DM, Song PLUS DM และ Qin PLUS DM ก็เผชิญกับแรงกดดันจากคู่แข่งใหม่ เช่น Geely Xingyao 8ที่มีราคาถูกกว่าถึง 53,000 หยวน หรือ 241,792 บาท และ Chery Fengyun A9 ส่วนในตลาดรถยนต์ ICE แบรนด์ต่างชาติอย่าง Volkswagen, Honda และ Buick ก็เร่งเคลียร์สต๊อกด้วยการหั่นราคาอย่างหนัก ทำให้ความได้เปรียบด้านราคาของบีวายดีลดลง ทันทีหลังประกาศลดราคาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นของบีวายดีในตลาดหลักทรัพย์ร่วงลงอย่างรุนแรง โดยในตลาดฮ่องกงราคาลดลงถึง 8.6% และในตลาด A-share ลดลงกว่า 6% ภายในเวลา 3 วัน มูลค่าบริษัทหายไปราว 1 แสนล้านหยวน นักลงทุนตื่นตระหนกกับแนวโน้มกำไรของบริษัทที่จะได้รับผลกระทบจากสงครามราคา ขณะที่หุ้นของบริษัทรถยนต์รายอื่น เช่น Geely, Great Wall, Seres, Changan และ SAIC ก็ร่วงตามไปในระดับ 2–5% • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000050149 • #MGROnline #บีวายดี #ยานยนต์จีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ชาญชัย- เสรีพิสุทธิ์"มอบเอกสาร คดีไต่สวนชั้น 14 ปม"ทักษิณ"พักรักษาตัว ให้ศาลฎีกาประกอบพิจารณา ด้านเสรีพิศุทธ์ เชื่อ 13 มิ.ย. เจ้าตัวไม่มาร่วมฟังไต่สวนของศาลแน่นอน

    เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (29 พ.ค.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถนนราขดำเนินใน นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ,นายสมชาย แสวงการ อดีตสว. ,นายตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ,นายภิมะ สิทธิ์ประเสริฐ และนายนิติธร ล้ำเหลือ เดินทางไปยื่นคำร้องขอส่งมอบพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริงต่างๆ ในคดีที่นายทักษิณ ชินวัตร รักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ขณะถูกคุมขัง อันเป็นที่มาของคำร้องฉบับที่ศาลฎีกาได้สั่งรับไว้ไต่สวนหาความจริงด้วยศาลเองในวันที่ 13 มิ.ยนี้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000050350

    #MGROnline #ชาญชัย #เสรีพิสุทธิ์ #ทักษิณชินวัตร #ชั้น14
    "ชาญชัย- เสรีพิสุทธิ์"มอบเอกสาร คดีไต่สวนชั้น 14 ปม"ทักษิณ"พักรักษาตัว ให้ศาลฎีกาประกอบพิจารณา ด้านเสรีพิศุทธ์ เชื่อ 13 มิ.ย. เจ้าตัวไม่มาร่วมฟังไต่สวนของศาลแน่นอน • เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (29 พ.ค.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถนนราขดำเนินใน นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ,นายสมชาย แสวงการ อดีตสว. ,นายตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ,นายภิมะ สิทธิ์ประเสริฐ และนายนิติธร ล้ำเหลือ เดินทางไปยื่นคำร้องขอส่งมอบพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริงต่างๆ ในคดีที่นายทักษิณ ชินวัตร รักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ขณะถูกคุมขัง อันเป็นที่มาของคำร้องฉบับที่ศาลฎีกาได้สั่งรับไว้ไต่สวนหาความจริงด้วยศาลเองในวันที่ 13 มิ.ยนี้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000050350 • #MGROnline #ชาญชัย #เสรีพิสุทธิ์ #ทักษิณชินวัตร #ชั้น14
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ดอนเมืองโทลล์เวย์”แจ้งตลาดฯ ยื่นอนุญาโตตุลาการฟ้องกรมทางหลวง ชดเชย ผลกระทบโควิดช่วงปี 63-65 เป็นเงิน 2.3 พันล้านบาท “สุริยะ”ยันต้องดำเนินการภายใต้ผลประโยชน์ของรัฐมากที่สุด

    รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) (DMT) หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ลงนามโดยนายศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ เรื่องการยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ สำนักงานศาลยุติธรรม เพื่อใช้สิทธิและปฏิบัติตามสัญญาสัมปทานทางหลวงในทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 ถนนวิภาวดีรังสิต ตอนดินแดง – ดอนเมือง (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) (‘สัญญาสัมปทาน”) ระหว่างกรมทางหลวงกับบริษัทฯ เพื่อให้กรมทางหลวง แก้ไขผลเสียต่อฐานะทางการของบริษัทฯ โดยยื่นคำเสนอข้อพิพาทวันที่ 27 พฤษภาคม 2568

    โดยระบุว่า บริษัทฯ เป็นผู้รับสัมปทานทางหลวงในทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 (ถนนวิภาวดีรังสิต) จากกรมทางหลวง รวม 2 ตอน ได้แก่ สัมปทานทางหลวงตอนดินแดง – ดอนเมือง และสัมปทาน ทางหลวงตอนดอนเมือง – อนุสรณ์สถาน โดยระหว่างอายุสัญญาสัมปทานในปี 2563 ถึงปี 2565 ปรากฎการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร อันเป็นเหตุสุดวิสัยตามสัญญาสัมปทาน ส่งผลให้ปริมาณการจราจรที่ใช้ทางหลวงสัมปทานทางหลวงเดิมและทางหลวงสัมปทานตอนต่อขยายทางด้านทิศเหนือลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของสัญญาสัมปทานโดยแจ้งเหตุสุดวิสัยให้กรมทางหลวงทราบ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000050355

    #MGROnline #ดอนเมืองโทลล์เวย์ #ทางยกระดับดอนเมือง
    “ดอนเมืองโทลล์เวย์”แจ้งตลาดฯ ยื่นอนุญาโตตุลาการฟ้องกรมทางหลวง ชดเชย ผลกระทบโควิดช่วงปี 63-65 เป็นเงิน 2.3 พันล้านบาท “สุริยะ”ยันต้องดำเนินการภายใต้ผลประโยชน์ของรัฐมากที่สุด • รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) (DMT) หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ลงนามโดยนายศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ เรื่องการยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ สำนักงานศาลยุติธรรม เพื่อใช้สิทธิและปฏิบัติตามสัญญาสัมปทานทางหลวงในทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 ถนนวิภาวดีรังสิต ตอนดินแดง – ดอนเมือง (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) (‘สัญญาสัมปทาน”) ระหว่างกรมทางหลวงกับบริษัทฯ เพื่อให้กรมทางหลวง แก้ไขผลเสียต่อฐานะทางการของบริษัทฯ โดยยื่นคำเสนอข้อพิพาทวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 • โดยระบุว่า บริษัทฯ เป็นผู้รับสัมปทานทางหลวงในทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 (ถนนวิภาวดีรังสิต) จากกรมทางหลวง รวม 2 ตอน ได้แก่ สัมปทานทางหลวงตอนดินแดง – ดอนเมือง และสัมปทาน ทางหลวงตอนดอนเมือง – อนุสรณ์สถาน โดยระหว่างอายุสัญญาสัมปทานในปี 2563 ถึงปี 2565 ปรากฎการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร อันเป็นเหตุสุดวิสัยตามสัญญาสัมปทาน ส่งผลให้ปริมาณการจราจรที่ใช้ทางหลวงสัมปทานทางหลวงเดิมและทางหลวงสัมปทานตอนต่อขยายทางด้านทิศเหนือลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของสัญญาสัมปทานโดยแจ้งเหตุสุดวิสัยให้กรมทางหลวงทราบ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000050355 • #MGROnline #ดอนเมืองโทลล์เวย์ #ทางยกระดับดอนเมือง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิทยาศาสตร์อาจต้อง ทบทวนทฤษฎีกำเนิดเอกภพ หลังจากงานวิจัยใหม่ชี้ว่า Cosmic Microwave Background (CMB) หรือ "แสงสะท้อน" จากบิ๊กแบง อาจไม่ได้เกิดจากเหตุการณ์นั้นโดยตรง แต่มีแหล่งกำเนิดอื่น

    CMB เป็นหลักฐานสำคัญที่สนับสนุนทฤษฎีบิ๊กแบงมาตลอดหลายทศวรรษ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์ James Webb ชี้ว่า Early-Type Galaxies (ETGs) อาจเป็นแหล่งกำเนิดของรังสีนี้ ซึ่งหมายความว่า เอกภพอาจวิวัฒนาการเร็วกว่าที่เคยคิด

    นักวิจัยจาก มหาวิทยาลัยนานกิงและมหาวิทยาลัยบอนน์ ใช้แบบจำลองใหม่เพื่อคำนวณว่า ETGs อาจมีส่วนในการสร้าง CMB ตั้งแต่ยุคแรกของเอกภพ ซึ่งอาจทำให้ต้องปรับปรุงโมเดลจักรวาลที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - CMB อาจไม่ได้มาจากบิ๊กแบงโดยตรง แต่เกิดจาก Early-Type Galaxies (ETGs)
    - ข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์ James Webb ชี้ว่า ETGs อาจมีอายุเก่ากว่าที่เคยคิด
    - นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนานกิงและมหาวิทยาลัยบอนน์ ใช้แบบจำลองใหม่เพื่อคำนวณผลกระทบของ ETGs ต่อ CMB
    - เอกภพอาจวิวัฒนาการเร็วกว่าที่เคยคิด ซึ่งอาจทำให้ต้องปรับปรุงโมเดลจักรวาล

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - งานวิจัยนี้ยังอยู่ในขั้นต้น และต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติม
    - อาจต้องมีการปรับปรุงทฤษฎีจักรวาล หากผลการศึกษานี้ได้รับการยืนยัน
    - CMB อาจมีหลายแหล่งกำเนิด ไม่ใช่เพียงแค่บิ๊กแบงหรือ ETGs
    - ต้องรอติดตามผลการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อดูว่าข้อมูลใหม่นี้จะเปลี่ยนแปลงความเข้าใจเกี่ยวกับเอกภพอย่างไร

    การค้นพบนี้อาจนำไปสู่การปรับปรุงทฤษฎีจักรวาลที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน และอาจทำให้เราต้องมองเอกภพในมุมใหม่

    https://www.sciencealert.com/the-big-bangs-glowing-echo-may-be-something-else-entirely
    นักวิทยาศาสตร์อาจต้อง ทบทวนทฤษฎีกำเนิดเอกภพ หลังจากงานวิจัยใหม่ชี้ว่า Cosmic Microwave Background (CMB) หรือ "แสงสะท้อน" จากบิ๊กแบง อาจไม่ได้เกิดจากเหตุการณ์นั้นโดยตรง แต่มีแหล่งกำเนิดอื่น CMB เป็นหลักฐานสำคัญที่สนับสนุนทฤษฎีบิ๊กแบงมาตลอดหลายทศวรรษ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์ James Webb ชี้ว่า Early-Type Galaxies (ETGs) อาจเป็นแหล่งกำเนิดของรังสีนี้ ซึ่งหมายความว่า เอกภพอาจวิวัฒนาการเร็วกว่าที่เคยคิด นักวิจัยจาก มหาวิทยาลัยนานกิงและมหาวิทยาลัยบอนน์ ใช้แบบจำลองใหม่เพื่อคำนวณว่า ETGs อาจมีส่วนในการสร้าง CMB ตั้งแต่ยุคแรกของเอกภพ ซึ่งอาจทำให้ต้องปรับปรุงโมเดลจักรวาลที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ✅ ข้อมูลจากข่าว - CMB อาจไม่ได้มาจากบิ๊กแบงโดยตรง แต่เกิดจาก Early-Type Galaxies (ETGs) - ข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์ James Webb ชี้ว่า ETGs อาจมีอายุเก่ากว่าที่เคยคิด - นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนานกิงและมหาวิทยาลัยบอนน์ ใช้แบบจำลองใหม่เพื่อคำนวณผลกระทบของ ETGs ต่อ CMB - เอกภพอาจวิวัฒนาการเร็วกว่าที่เคยคิด ซึ่งอาจทำให้ต้องปรับปรุงโมเดลจักรวาล ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - งานวิจัยนี้ยังอยู่ในขั้นต้น และต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติม - อาจต้องมีการปรับปรุงทฤษฎีจักรวาล หากผลการศึกษานี้ได้รับการยืนยัน - CMB อาจมีหลายแหล่งกำเนิด ไม่ใช่เพียงแค่บิ๊กแบงหรือ ETGs - ต้องรอติดตามผลการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อดูว่าข้อมูลใหม่นี้จะเปลี่ยนแปลงความเข้าใจเกี่ยวกับเอกภพอย่างไร การค้นพบนี้อาจนำไปสู่การปรับปรุงทฤษฎีจักรวาลที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน และอาจทำให้เราต้องมองเอกภพในมุมใหม่ https://www.sciencealert.com/the-big-bangs-glowing-echo-may-be-something-else-entirely
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    The Big Bang's Glowing 'Echo' May Be Something Else Entirely
    Part of the reason scientists have settled on the Big Bang theory as the best explanation of how the Universe came into being is because of an 'afterglow' it emits – but a new study suggests we may need to rethink the source of this faint radiation.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts