• โค้ดดิ้งคือเรื่องของมนุษย์ คุณหญิงกัลยา ผลักดันแนวคิด "STEAM" และ "T-Wave" สร้างผู้นำ-นวัตกรรมรับมือ VUCA World
    https://www.thai-tai.tv/news/22180/
    .
    #คุณหญิงโค้ดดิ้ง #ไทยไท #คุณหญิงกัลยา #UnpluggedCoding #Claremont #STEAM #TWave
    โค้ดดิ้งคือเรื่องของมนุษย์ คุณหญิงกัลยา ผลักดันแนวคิด "STEAM" และ "T-Wave" สร้างผู้นำ-นวัตกรรมรับมือ VUCA World https://www.thai-tai.tv/news/22180/ . #คุณหญิงโค้ดดิ้ง #ไทยไท #คุณหญิงกัลยา #UnpluggedCoding #Claremont #STEAM #TWave
    0 Comments 0 Shares 19 Views 0 Reviews
  • หัวข้อข่าว: “จีนทุบสถิติโลก! โชว์โดรนเกือบ 16,000 ลำกลางฟ้า – ศิลปะดิจิทัลที่แทนพลุได้อย่างน่าทึ่ง”

    จีนจัดแสดงโชว์โดรนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ เมืองหลิ่วหยาง ด้วยจำนวนโดรนถึง 15,947 ลำ พร้อมคว้าสองสถิติกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ด และเปลี่ยนภาพจำของการเฉลิมฉลองจากพลุสู่แสงดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ.

    เมืองหลิ่วหยาง ซึ่งมีชื่อเสียงว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งพลุ” ได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยการจัดโชว์โดรนที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยใช้โดรนเกือบ 16,000 ลำบินพร้อมกันในรูปแบบแสงสีที่ออกแบบด้วยซอฟต์แวร์แทนการจุดพลุแบบดั้งเดิม

    โชว์นี้มีชื่อว่า “A Firework Belonging to Me” ซึ่งเน้นการใช้เทคโนโลยี RTK (Real-Time Kinematic) และระบบ mesh networking เพื่อควบคุมโดรนให้บินตามเส้นทางที่แม่นยำแบบเรียลไทม์ สร้างภาพต่างๆ เช่น “Sky Tree” ดอกไม้ และหอคอยลอยฟ้า

    นอกจากความงดงามแล้ว โชว์นี้ยังคว้าสองสถิติโลก ได้แก่:
    จำนวนโดรนที่ควบคุมจากคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวมากที่สุด
    จำนวนโดรนที่ปล่อยพลุพร้อมกันมากที่สุด (7,496 ลำ)

    แม้จะเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ แต่โชว์ลักษณะนี้ก็มีความเสี่ยง เช่น การสื่อสารผิดพลาดหรือสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ซึ่งเคยเกิดเหตุโดรนตกใส่ผู้ชมในโชว์ก่อนหน้านี้

    สิ่งที่น่าสนใจคือ เทคโนโลยีที่ใช้ในโชว์นี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในด้านอื่น เช่น การทำแผนที่ การส่งสัญญาณ หรือแม้แต่การใช้งานทางทหาร ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังของการควบคุมแบบรวมศูนย์ในระดับมหภาค

    จีนจัดโชว์โดรนใหญ่ที่สุดในโลกที่เมืองหลิ่วหยาง
    ใช้โดรน 15,947 ลำบินพร้อมกันในโชว์ “A Firework Belonging to Me”

    คว้าสองสถิติกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ด
    จำนวนโดรนที่ควบคุมจากคอมพิวเตอร์เดียวมากที่สุด
    จำนวนโดรนที่ปล่อยพลุพร้อมกันมากที่สุด (7,496 ลำ)

    ใช้เทคโนโลยี RTK และ mesh networking เพื่อควบคุมแบบเรียลไทม์
    เพิ่มความแม่นยำในการบินและลดความผิดพลาด

    เปลี่ยนการเฉลิมฉลองจากพลุสู่แสงดิจิทัล
    ลดมลพิษทางอากาศและเสียงจากการจุดพลุ

    มีการออกแบบภาพลอยฟ้า เช่น Sky Tree และดอกไม้
    สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ชมด้วยศิลปะดิจิทัล

    เทคโนโลยีนี้สามารถนำไปใช้ในงานอื่นๆ ได้
    เช่น การทำแผนที่ การส่งสัญญาณ หรือการใช้งานทางทหาร

    https://www.techradar.com/pro/china-smashes-drone-display-world-record-nearly-16-000-drones-take-to-the-sky-in-incredible-display
    🇨🇳🚁 หัวข้อข่าว: “จีนทุบสถิติโลก! โชว์โดรนเกือบ 16,000 ลำกลางฟ้า – ศิลปะดิจิทัลที่แทนพลุได้อย่างน่าทึ่ง” จีนจัดแสดงโชว์โดรนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ เมืองหลิ่วหยาง ด้วยจำนวนโดรนถึง 15,947 ลำ พร้อมคว้าสองสถิติกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ด และเปลี่ยนภาพจำของการเฉลิมฉลองจากพลุสู่แสงดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ. เมืองหลิ่วหยาง ซึ่งมีชื่อเสียงว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งพลุ” ได้สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยการจัดโชว์โดรนที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยใช้โดรนเกือบ 16,000 ลำบินพร้อมกันในรูปแบบแสงสีที่ออกแบบด้วยซอฟต์แวร์แทนการจุดพลุแบบดั้งเดิม โชว์นี้มีชื่อว่า “A Firework Belonging to Me” ซึ่งเน้นการใช้เทคโนโลยี RTK (Real-Time Kinematic) และระบบ mesh networking เพื่อควบคุมโดรนให้บินตามเส้นทางที่แม่นยำแบบเรียลไทม์ สร้างภาพต่างๆ เช่น “Sky Tree” ดอกไม้ และหอคอยลอยฟ้า นอกจากความงดงามแล้ว โชว์นี้ยังคว้าสองสถิติโลก ได้แก่: 🎗️ จำนวนโดรนที่ควบคุมจากคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวมากที่สุด 🎗️ จำนวนโดรนที่ปล่อยพลุพร้อมกันมากที่สุด (7,496 ลำ) แม้จะเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ แต่โชว์ลักษณะนี้ก็มีความเสี่ยง เช่น การสื่อสารผิดพลาดหรือสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ซึ่งเคยเกิดเหตุโดรนตกใส่ผู้ชมในโชว์ก่อนหน้านี้ สิ่งที่น่าสนใจคือ เทคโนโลยีที่ใช้ในโชว์นี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในด้านอื่น เช่น การทำแผนที่ การส่งสัญญาณ หรือแม้แต่การใช้งานทางทหาร ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังของการควบคุมแบบรวมศูนย์ในระดับมหภาค ✅ จีนจัดโชว์โดรนใหญ่ที่สุดในโลกที่เมืองหลิ่วหยาง ➡️ ใช้โดรน 15,947 ลำบินพร้อมกันในโชว์ “A Firework Belonging to Me” ✅ คว้าสองสถิติกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ด ➡️ จำนวนโดรนที่ควบคุมจากคอมพิวเตอร์เดียวมากที่สุด ➡️ จำนวนโดรนที่ปล่อยพลุพร้อมกันมากที่สุด (7,496 ลำ) ✅ ใช้เทคโนโลยี RTK และ mesh networking เพื่อควบคุมแบบเรียลไทม์ ➡️ เพิ่มความแม่นยำในการบินและลดความผิดพลาด ✅ เปลี่ยนการเฉลิมฉลองจากพลุสู่แสงดิจิทัล ➡️ ลดมลพิษทางอากาศและเสียงจากการจุดพลุ ✅ มีการออกแบบภาพลอยฟ้า เช่น Sky Tree และดอกไม้ ➡️ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ชมด้วยศิลปะดิจิทัล ✅ เทคโนโลยีนี้สามารถนำไปใช้ในงานอื่นๆ ได้ ➡️ เช่น การทำแผนที่ การส่งสัญญาณ หรือการใช้งานทางทหาร https://www.techradar.com/pro/china-smashes-drone-display-world-record-nearly-16-000-drones-take-to-the-sky-in-incredible-display
    WWW.TECHRADAR.COM
    China lit the sky with 16,000 drones, fusing art, software, and precision
    16,000 drones followed a precise RTK-guided path for real-time accuracy.
    0 Comments 0 Shares 38 Views 0 Reviews
  • ดาวเทียมกับดราม่าชิปโลก: จีนโพสต์ภาพ Hsinchu สะเทือนวงการเซมิคอนดักเตอร์

    ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา จีนได้โพสต์ภาพถ่ายดาวเทียมของ “Hsinchu Science Park” บนแพลตฟอร์ม X พร้อมข้อความ “There is but one China in the world” ซึ่งแม้จะไม่กล่าวถึงชิปโดยตรง แต่ภาพที่เลือกกลับเป็นศูนย์กลางการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลกของไต้หวัน — สะท้อนเจตนาทางการเมืองที่ชัดเจน

    Hsinchu คือที่ตั้งของ TSMC, MediaTek, UMC และหน่วยงานรัฐที่ดูแลยุทธศาสตร์ด้านอวกาศและชิปของไต้หวัน โดยเฉพาะ TSMC ที่มีโรงงานระดับสูงอย่าง Fab 12A, 12B, 20, 3, 5, 8, 2 และ Advanced Backend Fab 1 รวมถึง Global R&D Center ที่นักวิเคราะห์ระบุว่า “เป็นที่ที่ IP ของการผลิตชิประดับโลกถูกสร้างขึ้น”

    แม้จะเป็นโพสต์ธรรมดา แต่ในบริบทของความตึงเครียดระหว่างจีน-ไต้หวัน ภาพนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการเตือนโลกว่า “จุดอ่อนของเศรษฐกิจโลก” อยู่ที่นี่ เพราะกว่า 99% ของชิปประสิทธิภาพสูงผลิตในไต้หวัน และหากเกิดเหตุการณ์หยุดชะงักแม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจส่งผลกระทบตั้งแต่ดาต้าเซ็นเตอร์ไปจนถึงระบบป้องกันประเทศ

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก:
    TSMC ถือเป็นผู้ผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลก โดยมีลูกค้าหลักอย่าง Apple, Nvidia, AMD และ Qualcomm
    สหรัฐฯ เคยเตือนว่า TSMC คือ “single point of failure” ของเศรษฐกิจโลก หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
    การแข่งขันด้านเทคโนโลยีระหว่างจีน-สหรัฐฯ ทำให้ไต้หวันกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในสงครามเศรษฐกิจ

    จีนโพสต์ภาพดาวเทียมของ Hsinchu Science Park
    พร้อมข้อความ “There is but one China in the world”
    ภาพแสดงศูนย์กลางการผลิตชิประดับโลกของไต้หวัน

    ความสำคัญของ Hsinchu ต่ออุตสาหกรรมชิป
    เป็นที่ตั้งของ TSMC, MediaTek, UMC และหน่วยงานรัฐ
    มีโรงงาน TSMC หลายแห่งและ Global R&D Center

    ความเสี่ยงเชิงยุทธศาสตร์
    99% ของชิปประสิทธิภาพสูงผลิตในไต้หวัน
    หากเกิดเหตุการณ์หยุดชะงัก อาจกระทบเศรษฐกิจโลก

    การตอบสนองจากสหรัฐฯ และพันธมิตร
    มีการจำลองสถานการณ์ในช่องแคบบาชี
    เพิ่มบทลงโทษการทำลายสายเคเบิลใต้น้ำ

    ความตึงเครียดระหว่างจีน-ไต้หวัน
    การซ้อมปิดล้อมช่องแคบไต้หวันโดยกองทัพเรือจีน
    การตรวจสอบเรือสินค้าและการเคลื่อนไหวทางทหาร

    ความเปราะบางของห่วงโซ่อุปทานชิป
    การพึ่งพา TSMC มากเกินไปในระดับโลก
    ความล่าช้าในการกระจายการผลิตไปยังประเทศอื่น

    เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ภาพถ่ายดาวเทียมธรรมดา แต่เป็น “สัญญาณเตือน” ว่าโลกกำลังพึ่งพาเทคโนโลยีจากพื้นที่เล็ก ๆ ที่อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนของเศรษฐกิจโลก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-posts-photo-of-taiwans-chip-hub-in-political-message
    🛰️ ดาวเทียมกับดราม่าชิปโลก: จีนโพสต์ภาพ Hsinchu สะเทือนวงการเซมิคอนดักเตอร์ ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา จีนได้โพสต์ภาพถ่ายดาวเทียมของ “Hsinchu Science Park” บนแพลตฟอร์ม X พร้อมข้อความ “There is but one China in the world” ซึ่งแม้จะไม่กล่าวถึงชิปโดยตรง แต่ภาพที่เลือกกลับเป็นศูนย์กลางการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลกของไต้หวัน — สะท้อนเจตนาทางการเมืองที่ชัดเจน Hsinchu คือที่ตั้งของ TSMC, MediaTek, UMC และหน่วยงานรัฐที่ดูแลยุทธศาสตร์ด้านอวกาศและชิปของไต้หวัน โดยเฉพาะ TSMC ที่มีโรงงานระดับสูงอย่าง Fab 12A, 12B, 20, 3, 5, 8, 2 และ Advanced Backend Fab 1 รวมถึง Global R&D Center ที่นักวิเคราะห์ระบุว่า “เป็นที่ที่ IP ของการผลิตชิประดับโลกถูกสร้างขึ้น” แม้จะเป็นโพสต์ธรรมดา แต่ในบริบทของความตึงเครียดระหว่างจีน-ไต้หวัน ภาพนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการเตือนโลกว่า “จุดอ่อนของเศรษฐกิจโลก” อยู่ที่นี่ เพราะกว่า 99% ของชิปประสิทธิภาพสูงผลิตในไต้หวัน และหากเกิดเหตุการณ์หยุดชะงักแม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจส่งผลกระทบตั้งแต่ดาต้าเซ็นเตอร์ไปจนถึงระบบป้องกันประเทศ 💡 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก: 💠 TSMC ถือเป็นผู้ผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลก โดยมีลูกค้าหลักอย่าง Apple, Nvidia, AMD และ Qualcomm 💠 สหรัฐฯ เคยเตือนว่า TSMC คือ “single point of failure” ของเศรษฐกิจโลก หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน 💠 การแข่งขันด้านเทคโนโลยีระหว่างจีน-สหรัฐฯ ทำให้ไต้หวันกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในสงครามเศรษฐกิจ ✅ จีนโพสต์ภาพดาวเทียมของ Hsinchu Science Park ➡️ พร้อมข้อความ “There is but one China in the world” ➡️ ภาพแสดงศูนย์กลางการผลิตชิประดับโลกของไต้หวัน ✅ ความสำคัญของ Hsinchu ต่ออุตสาหกรรมชิป ➡️ เป็นที่ตั้งของ TSMC, MediaTek, UMC และหน่วยงานรัฐ ➡️ มีโรงงาน TSMC หลายแห่งและ Global R&D Center ✅ ความเสี่ยงเชิงยุทธศาสตร์ ➡️ 99% ของชิปประสิทธิภาพสูงผลิตในไต้หวัน ➡️ หากเกิดเหตุการณ์หยุดชะงัก อาจกระทบเศรษฐกิจโลก ✅ การตอบสนองจากสหรัฐฯ และพันธมิตร ➡️ มีการจำลองสถานการณ์ในช่องแคบบาชี ➡️ เพิ่มบทลงโทษการทำลายสายเคเบิลใต้น้ำ ‼️ ความตึงเครียดระหว่างจีน-ไต้หวัน ⛔ การซ้อมปิดล้อมช่องแคบไต้หวันโดยกองทัพเรือจีน ⛔ การตรวจสอบเรือสินค้าและการเคลื่อนไหวทางทหาร ‼️ ความเปราะบางของห่วงโซ่อุปทานชิป ⛔ การพึ่งพา TSMC มากเกินไปในระดับโลก ⛔ ความล่าช้าในการกระจายการผลิตไปยังประเทศอื่น เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ภาพถ่ายดาวเทียมธรรมดา แต่เป็น “สัญญาณเตือน” ว่าโลกกำลังพึ่งพาเทคโนโลยีจากพื้นที่เล็ก ๆ ที่อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนของเศรษฐกิจโลก 🌏💥 https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-posts-photo-of-taiwans-chip-hub-in-political-message
    0 Comments 0 Shares 47 Views 0 Reviews
  • ข่าวเด็ดสายเกม: เมื่อรถถังกลายเป็นเกมจริง!

    ถ้าคุณคิดว่าเกมจำลองขับรถถังแค่ใช้จอยสติ๊กกับจอภาพธรรมดา... คุณยังไม่เคยเจอ "Blyat" นักสร้างสรรค์สุดบ้าพลังจากจีน ที่ยกระดับการเล่นเกม World of Tanks ไปอีกขั้น ด้วยการสร้าง “Tank Simulator 5” ที่ไม่ใช่แค่จำลอง แต่เป็นการสร้าง “รถถังจำลองเต็มคัน” พร้อมปืนกลและปืนใหญ่ขนาดเท่าจริง!

    ในวิดีโอล่าสุดที่เผยแพร่บน Bilibili Blyat ขับรถถังจำลองออกจากโรงรถ พร้อมยิงปืนใหญ่ใส่ศัตรูในเกมแบบซิงก์กันเป๊ะ ๆ ทั้งภาพ เสียง และแรงสั่นสะเทือน แถมยังมีฉากฮา ๆ อย่างกางเกงหลุดเพราะแรงถีบของปืนกล และโดนปืนใหญ่ฟาดหัวกลางฉากแบบไม่ตั้งใจ

    นอกจากรถถังแล้ว Blyat ยังเคยสร้างเครื่องจำลองเครื่องบินรบ เครื่องจักรกล Mech และแม้แต่ “เครื่องจำลองขี่ลา” มาแล้ว! ถือเป็นตัวอย่างของการนำเทคโนโลยี DIY และความคลั่งไคล้เกมมาผสานกันอย่างสร้างสรรค์

    เพิ่มเติมจากวงการซิมูเลเตอร์:
    เทรนด์การสร้าง “Cockpit Simulator” กำลังมาแรงในหมู่เกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ เช่น การซื้อห้องนักบิน Boeing 747 มาใช้เล่น Flight Simulator
    อุปกรณ์เสริมอย่าง HydroHaptic ที่ให้สัมผัสบีบ-ดึง-บิด กำลังพัฒนาเพื่อเพิ่มความสมจริงให้กับเกมแนวจำลอง

    โปรเจกต์ Tank Simulator 5 โดย Blyat
    สร้างรถถังจำลองเต็มคัน พร้อมปืนกลและปืนใหญ่ขนาดจริง
    ใช้ร่วมกับเกม World of Tanks เพื่อเพิ่มความสมจริง
    มีฉากตลก เช่น กางเกงหลุดจากแรงถีบ และโดนปืนใหญ่ฟาดหัว

    ความคลั่งไคล้ของ Blyat
    เคยสร้างเครื่องจำลองเครื่องบินรบ, Mech VTOL และขี่ลา
    เผยแพร่ผลงานผ่านช่อง Bilibili

    เทรนด์ซิมูเลเตอร์ในวงการเกม
    มีผู้เล่นซื้อ Cockpit เครื่องบินจริงมาใช้เล่นเกม
    เทคโนโลยีสัมผัสใหม่อย่าง HydroHaptic กำลังพัฒนา

    คำเตือนด้านความปลอดภัย
    การสร้างอุปกรณ์จำลองขนาดใหญ่มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ
    ควรมีพื้นที่ปลอดภัยและอุปกรณ์ป้องกันเมื่อใช้งาน
    ไม่ควรใช้ปืนจำลองในพื้นที่สาธารณะหรือใกล้ผู้คน

    https://www.tomshardware.com/peripherals/controllers-gamepads/full-size-tank-simulator-setup-now-even-crazier-after-being-built-into-a-tactical-vehicle-with-full-size-replica-machine-gun-and-cannon
    🛡️ ข่าวเด็ดสายเกม: เมื่อรถถังกลายเป็นเกมจริง! ถ้าคุณคิดว่าเกมจำลองขับรถถังแค่ใช้จอยสติ๊กกับจอภาพธรรมดา... คุณยังไม่เคยเจอ "Blyat" นักสร้างสรรค์สุดบ้าพลังจากจีน ที่ยกระดับการเล่นเกม World of Tanks ไปอีกขั้น ด้วยการสร้าง “Tank Simulator 5” ที่ไม่ใช่แค่จำลอง แต่เป็นการสร้าง “รถถังจำลองเต็มคัน” พร้อมปืนกลและปืนใหญ่ขนาดเท่าจริง! ในวิดีโอล่าสุดที่เผยแพร่บน Bilibili Blyat ขับรถถังจำลองออกจากโรงรถ พร้อมยิงปืนใหญ่ใส่ศัตรูในเกมแบบซิงก์กันเป๊ะ ๆ ทั้งภาพ เสียง และแรงสั่นสะเทือน แถมยังมีฉากฮา ๆ อย่างกางเกงหลุดเพราะแรงถีบของปืนกล และโดนปืนใหญ่ฟาดหัวกลางฉากแบบไม่ตั้งใจ นอกจากรถถังแล้ว Blyat ยังเคยสร้างเครื่องจำลองเครื่องบินรบ เครื่องจักรกล Mech และแม้แต่ “เครื่องจำลองขี่ลา” มาแล้ว! ถือเป็นตัวอย่างของการนำเทคโนโลยี DIY และความคลั่งไคล้เกมมาผสานกันอย่างสร้างสรรค์ 💡 เพิ่มเติมจากวงการซิมูเลเตอร์: 🎗️ เทรนด์การสร้าง “Cockpit Simulator” กำลังมาแรงในหมู่เกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ เช่น การซื้อห้องนักบิน Boeing 747 มาใช้เล่น Flight Simulator 🎗️ อุปกรณ์เสริมอย่าง HydroHaptic ที่ให้สัมผัสบีบ-ดึง-บิด กำลังพัฒนาเพื่อเพิ่มความสมจริงให้กับเกมแนวจำลอง ✅ โปรเจกต์ Tank Simulator 5 โดย Blyat ➡️ สร้างรถถังจำลองเต็มคัน พร้อมปืนกลและปืนใหญ่ขนาดจริง ➡️ ใช้ร่วมกับเกม World of Tanks เพื่อเพิ่มความสมจริง ➡️ มีฉากตลก เช่น กางเกงหลุดจากแรงถีบ และโดนปืนใหญ่ฟาดหัว ✅ ความคลั่งไคล้ของ Blyat ➡️ เคยสร้างเครื่องจำลองเครื่องบินรบ, Mech VTOL และขี่ลา ➡️ เผยแพร่ผลงานผ่านช่อง Bilibili ✅ เทรนด์ซิมูเลเตอร์ในวงการเกม ➡️ มีผู้เล่นซื้อ Cockpit เครื่องบินจริงมาใช้เล่นเกม ➡️ เทคโนโลยีสัมผัสใหม่อย่าง HydroHaptic กำลังพัฒนา ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัย ⛔ การสร้างอุปกรณ์จำลองขนาดใหญ่มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ ⛔ ควรมีพื้นที่ปลอดภัยและอุปกรณ์ป้องกันเมื่อใช้งาน ⛔ ไม่ควรใช้ปืนจำลองในพื้นที่สาธารณะหรือใกล้ผู้คน https://www.tomshardware.com/peripherals/controllers-gamepads/full-size-tank-simulator-setup-now-even-crazier-after-being-built-into-a-tactical-vehicle-with-full-size-replica-machine-gun-and-cannon
    0 Comments 0 Shares 27 Views 0 Reviews
  • “บินให้สุด!” ดรอนซอกเกอร์มาเลเซียคว้าอันดับ 3 โลก พร้อมจุดประกายกีฬาใหม่แห่งอาเซียน

    กีฬาใหม่ที่ผสมผสานเทคโนโลยีและความมันส์อย่าง “ดรอนซอกเกอร์” กำลังสร้างกระแสในมาเลเซีย หลังทีม Cybersphere Malaysia คว้าอันดับ 3 ในการแข่งขันระดับโลกที่เกาหลีใต้ โดยมีนักกีฬาตั้งแต่เด็กประถมจนถึงมหาวิทยาลัยร่วมทีม สะท้อนว่าเกมนี้ “เปิดกว้างสำหรับทุกคน” และอาจกลายเป็นกีฬายอดนิยมในภูมิภาคอาเซียนในอนาคต.

    ดรอนซอกเกอร์เป็นกีฬาที่เกิดในเกาหลีใต้เมื่อปี 2016 โดยใช้โดรนที่ถูกครอบด้วยกรอบพลาสติกทรงกลมเรียกว่า “Drone Ball” บินภายในกรงสนามเพื่อชนกันและทำคะแนนผ่านห่วงของฝ่ายตรงข้าม การแข่งขันใช้เวลาเพียง 3 นาทีต่อรอบ แต่เต็มไปด้วยความเร็ว ความแม่นยำ และกลยุทธ์

    ทีมมาเลเซียที่ไปแข่ง FIDA World Cup ประกอบด้วยนักเรียนประถม 4 คน มัธยม 1 คน และมหาวิทยาลัย 2 คน สามารถเอาชนะทีมผู้ใหญ่จาก 24 ประเทศได้อย่างน่าทึ่ง โดยใช้โดรนขนาด 20 ซม. ที่บินได้เร็วถึง 30 กม./ชม. และมีการปรับแต่งซอฟต์แวร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบิน

    บทบาทในทีมมีความชัดเจน เช่น striker, guide, libero, sweeper และ keeper ซึ่งต้องอาศัยการสื่อสารและการตัดสินใจแบบฉับไว ทำให้เกมนี้ไม่ใช่แค่ “บินให้เร็ว” แต่ต้อง “คิดให้ไว” ด้วย

    ดรอนซอกเกอร์เป็นกีฬาที่เกิดในเกาหลีใต้ปี 2016
    ใช้โดรนบินชนกันในกรงสนามเพื่อทำคะแนนผ่านห่วง

    ทีมมาเลเซียคว้าอันดับ 3 ใน FIDA World Cup
    แข่งในประเภท Class 20 รองจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้

    ทีมประกอบด้วยนักเรียนประถม มัธยม และมหาวิทยาลัย
    แสดงให้เห็นว่าเกมนี้เปิดกว้างสำหรับทุกวัย

    โดรนมีกรอบพลาสติกป้องกันการชน
    เรียกว่า Drone Ball เพื่อความปลอดภัยในการแข่งขัน

    บทบาทในทีมมี 5 ตำแหน่งหลัก
    striker, guide, libero, sweeper, keeper

    การสื่อสารในทีมเป็นหัวใจสำคัญ
    บางทีมใช้ headset เพื่อประสานงานระหว่างแข่งขัน

    ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นประมาณ RM850 สำหรับ Class 20
    Class 40 มีราคาสูงถึง RM6,000 และบินได้เร็วกว่า 100 กม./ชม.

    การปรับแต่งโดรนช่วยพัฒนาทักษะด้านเทคนิค
    เช่น การซ่อมแซม การปรับน้ำหนัก และการเลือกวัสดุ

    Cybersphere Malaysia เตรียมจัดเทศกาลดรอนซอกเกอร์ในปี 2026
    ร่วมกับ Visit Malaysia Year และ Visit Johor Year

    โดรน Class 40 ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 1.1 กก.
    หากเกินจะผิดกติกาและอาจถูกตัดสิทธิ์

    ผู้เล่นใหม่อาจเข้าใจผิดว่าเล่นแบบเดี่ยวได้
    แต่จริงๆ แล้วต้องอาศัยทีมเวิร์กและการวางแผนร่วมกัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/03/take-to-the-skies-the-adrenaline-rush-of-drone-soccer
    🚁 “บินให้สุด!” ดรอนซอกเกอร์มาเลเซียคว้าอันดับ 3 โลก พร้อมจุดประกายกีฬาใหม่แห่งอาเซียน กีฬาใหม่ที่ผสมผสานเทคโนโลยีและความมันส์อย่าง “ดรอนซอกเกอร์” กำลังสร้างกระแสในมาเลเซีย หลังทีม Cybersphere Malaysia คว้าอันดับ 3 ในการแข่งขันระดับโลกที่เกาหลีใต้ โดยมีนักกีฬาตั้งแต่เด็กประถมจนถึงมหาวิทยาลัยร่วมทีม สะท้อนว่าเกมนี้ “เปิดกว้างสำหรับทุกคน” และอาจกลายเป็นกีฬายอดนิยมในภูมิภาคอาเซียนในอนาคต. ดรอนซอกเกอร์เป็นกีฬาที่เกิดในเกาหลีใต้เมื่อปี 2016 โดยใช้โดรนที่ถูกครอบด้วยกรอบพลาสติกทรงกลมเรียกว่า “Drone Ball” บินภายในกรงสนามเพื่อชนกันและทำคะแนนผ่านห่วงของฝ่ายตรงข้าม การแข่งขันใช้เวลาเพียง 3 นาทีต่อรอบ แต่เต็มไปด้วยความเร็ว ความแม่นยำ และกลยุทธ์ ทีมมาเลเซียที่ไปแข่ง FIDA World Cup ประกอบด้วยนักเรียนประถม 4 คน มัธยม 1 คน และมหาวิทยาลัย 2 คน สามารถเอาชนะทีมผู้ใหญ่จาก 24 ประเทศได้อย่างน่าทึ่ง โดยใช้โดรนขนาด 20 ซม. ที่บินได้เร็วถึง 30 กม./ชม. และมีการปรับแต่งซอฟต์แวร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบิน บทบาทในทีมมีความชัดเจน เช่น striker, guide, libero, sweeper และ keeper ซึ่งต้องอาศัยการสื่อสารและการตัดสินใจแบบฉับไว ทำให้เกมนี้ไม่ใช่แค่ “บินให้เร็ว” แต่ต้อง “คิดให้ไว” ด้วย ✅ ดรอนซอกเกอร์เป็นกีฬาที่เกิดในเกาหลีใต้ปี 2016 ➡️ ใช้โดรนบินชนกันในกรงสนามเพื่อทำคะแนนผ่านห่วง ✅ ทีมมาเลเซียคว้าอันดับ 3 ใน FIDA World Cup ➡️ แข่งในประเภท Class 20 รองจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ✅ ทีมประกอบด้วยนักเรียนประถม มัธยม และมหาวิทยาลัย ➡️ แสดงให้เห็นว่าเกมนี้เปิดกว้างสำหรับทุกวัย ✅ โดรนมีกรอบพลาสติกป้องกันการชน ➡️ เรียกว่า Drone Ball เพื่อความปลอดภัยในการแข่งขัน ✅ บทบาทในทีมมี 5 ตำแหน่งหลัก ➡️ striker, guide, libero, sweeper, keeper ✅ การสื่อสารในทีมเป็นหัวใจสำคัญ ➡️ บางทีมใช้ headset เพื่อประสานงานระหว่างแข่งขัน ✅ ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นประมาณ RM850 สำหรับ Class 20 ➡️ Class 40 มีราคาสูงถึง RM6,000 และบินได้เร็วกว่า 100 กม./ชม. ✅ การปรับแต่งโดรนช่วยพัฒนาทักษะด้านเทคนิค ➡️ เช่น การซ่อมแซม การปรับน้ำหนัก และการเลือกวัสดุ ✅ Cybersphere Malaysia เตรียมจัดเทศกาลดรอนซอกเกอร์ในปี 2026 ➡️ ร่วมกับ Visit Malaysia Year และ Visit Johor Year ‼️ โดรน Class 40 ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 1.1 กก. ⛔ หากเกินจะผิดกติกาและอาจถูกตัดสิทธิ์ ‼️ ผู้เล่นใหม่อาจเข้าใจผิดว่าเล่นแบบเดี่ยวได้ ⛔ แต่จริงๆ แล้วต้องอาศัยทีมเวิร์กและการวางแผนร่วมกัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/03/take-to-the-skies-the-adrenaline-rush-of-drone-soccer
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Take to the skies: The adrenaline rush of drone soccer
    Ever wondered what happens when drones meet soccer? As it turns out, it's a sport that comes pretty close to Harry Potter's Quidditch.
    0 Comments 0 Shares 32 Views 0 Reviews
  • คุณหญิงกัลยา ชี้สังคมไทยเผชิญ "VUCA World" ผันผวน-ซับซ้อน เร่งเตือนรับมือสถานการณ์คาดเดาได้ยาก
    https://www.thai-tai.tv/news/22161/
    .
    #ไทยไท #คุณหญิงกัลยา #VUCAWorld #ไทยก้าวใหม่ #STI #T-wave
    คุณหญิงกัลยา ชี้สังคมไทยเผชิญ "VUCA World" ผันผวน-ซับซ้อน เร่งเตือนรับมือสถานการณ์คาดเดาได้ยาก https://www.thai-tai.tv/news/22161/ . #ไทยไท #คุณหญิงกัลยา #VUCAWorld #ไทยก้าวใหม่ #STI #T-wave
    0 Comments 0 Shares 32 Views 0 Reviews
  • “Internet-in-a-Box” อุปกรณ์ที่แทน Google ได้แม้ไม่มีเน็ต!

    ในโลกที่อินเทอร์เน็ตกลายเป็นสิ่งจำเป็น แต่ยังมีคนกว่า 2.6 พันล้านคนที่เข้าไม่ถึง “Internet-in-a-Box” หรือ IIAB คือเทคโนโลยีที่ช่วยลดช่องว่างนี้ ด้วยการเปลี่ยนอุปกรณ์ธรรมดาให้กลายเป็นคลังข้อมูลขนาดย่อมที่ไม่ต้องพึ่งอินเทอร์เน็ตเลย!

    IIAB เป็นระบบโอเพ่นซอร์สที่สามารถติดตั้งบนคอมพิวเตอร์เก่า Raspberry Pi หรือแม้แต่โน้ตบุ๊กที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว โดยสามารถเก็บข้อมูลได้ถึง 1 เทราไบต์ เช่น เว็บไซต์เพื่อการศึกษา แผนที่ Google หรือ Apple แบบออฟไลน์ และคลังวิดีโอจาก YouTube หรือ TED Talks

    ผู้ใช้งานสามารถเลือกโหลด “content packs” ที่เหมาะกับชุมชนของตน เช่น โรงเรียนสามารถโหลดหลักสูตร Khan Academy ส่วนคลินิกสุขภาพสามารถโหลดข้อมูลทางการแพทย์ไว้ใช้ในพื้นที่ห่างไกล โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเลย

    ระบบนี้ถูกนำไปใช้แล้วในหลายประเทศ เช่น แอฟริกาใต้ เฮติ และรวันดา เพื่อช่วยให้เด็กๆ และผู้ใหญ่ในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงความรู้ได้อย่างเท่าเทียม

    Internet-in-a-Box (IIAB) คืออะไร
    ระบบโอเพ่นซอร์สที่เก็บข้อมูลเว็บไว้ใช้งานแบบออฟไลน์
    รองรับ Linux เช่น Ubuntu, Debian, Raspberry Pi OS
    ใช้งานได้บนคอมพิวเตอร์เก่าและ Raspberry Pi

    ความสามารถของ IIAB
    เก็บข้อมูลได้ถึง 1 เทราไบต์
    โหลด content packs เช่น Khan Academy, TED Talks, แผนที่, วิดีโอ
    สร้างหน้าโฮมเพจแบบปรับแต่งได้สำหรับผู้ใช้งาน

    การใช้งานในพื้นที่ห่างไกล
    ใช้ในโรงเรียน คลินิก และชุมชนที่ไม่มีอินเทอร์เน็ต
    ถูกนำไปใช้ในแอฟริกาใต้ เฮติ รวันดา และอีกหลายประเทศ

    การติดตั้งและขยายข้อมูล
    โหลดข้อมูลจาก archive.org และ worldpossible.org
    เพิ่มข้อมูลจากอุปกรณ์เสริม เช่น USB หรือฮาร์ดดิสก์
    ผู้ใช้สามารถสร้างคลังข้อมูลเองได้

    ข้อจำกัดของ IIAB
    ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจริงหรือค้นหาบน Google ได้
    ต้องติดตั้งและตั้งค่าด้วยตนเอง
    อุปกรณ์บางรุ่นอาจต้องใช้เราเตอร์ Wi-Fi เพื่อแชร์ข้อมูล

    IIAB ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่เป็นความหวังสำหรับผู้คนที่ยังเข้าไม่ถึงโลกดิจิทัล — เปลี่ยนคอมพิวเตอร์เก่าให้กลายเป็นคลังความรู้ และเปลี่ยนชีวิตคนในพื้นที่ห่างไกลให้มีโอกาสเรียนรู้เท่าเทียมกัน

    https://www.slashgear.com/2009691/offline-google-alternative-internet-in-a-box/
    📦 “Internet-in-a-Box” อุปกรณ์ที่แทน Google ได้แม้ไม่มีเน็ต! ในโลกที่อินเทอร์เน็ตกลายเป็นสิ่งจำเป็น แต่ยังมีคนกว่า 2.6 พันล้านคนที่เข้าไม่ถึง “Internet-in-a-Box” หรือ IIAB คือเทคโนโลยีที่ช่วยลดช่องว่างนี้ ด้วยการเปลี่ยนอุปกรณ์ธรรมดาให้กลายเป็นคลังข้อมูลขนาดย่อมที่ไม่ต้องพึ่งอินเทอร์เน็ตเลย! IIAB เป็นระบบโอเพ่นซอร์สที่สามารถติดตั้งบนคอมพิวเตอร์เก่า Raspberry Pi หรือแม้แต่โน้ตบุ๊กที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว โดยสามารถเก็บข้อมูลได้ถึง 1 เทราไบต์ เช่น เว็บไซต์เพื่อการศึกษา แผนที่ Google หรือ Apple แบบออฟไลน์ และคลังวิดีโอจาก YouTube หรือ TED Talks ผู้ใช้งานสามารถเลือกโหลด “content packs” ที่เหมาะกับชุมชนของตน เช่น โรงเรียนสามารถโหลดหลักสูตร Khan Academy ส่วนคลินิกสุขภาพสามารถโหลดข้อมูลทางการแพทย์ไว้ใช้ในพื้นที่ห่างไกล โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเลย ระบบนี้ถูกนำไปใช้แล้วในหลายประเทศ เช่น แอฟริกาใต้ เฮติ และรวันดา เพื่อช่วยให้เด็กๆ และผู้ใหญ่ในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงความรู้ได้อย่างเท่าเทียม ✅ Internet-in-a-Box (IIAB) คืออะไร ➡️ ระบบโอเพ่นซอร์สที่เก็บข้อมูลเว็บไว้ใช้งานแบบออฟไลน์ ➡️ รองรับ Linux เช่น Ubuntu, Debian, Raspberry Pi OS ➡️ ใช้งานได้บนคอมพิวเตอร์เก่าและ Raspberry Pi ✅ ความสามารถของ IIAB ➡️ เก็บข้อมูลได้ถึง 1 เทราไบต์ ➡️ โหลด content packs เช่น Khan Academy, TED Talks, แผนที่, วิดีโอ ➡️ สร้างหน้าโฮมเพจแบบปรับแต่งได้สำหรับผู้ใช้งาน ✅ การใช้งานในพื้นที่ห่างไกล ➡️ ใช้ในโรงเรียน คลินิก และชุมชนที่ไม่มีอินเทอร์เน็ต ➡️ ถูกนำไปใช้ในแอฟริกาใต้ เฮติ รวันดา และอีกหลายประเทศ ✅ การติดตั้งและขยายข้อมูล ➡️ โหลดข้อมูลจาก archive.org และ worldpossible.org ➡️ เพิ่มข้อมูลจากอุปกรณ์เสริม เช่น USB หรือฮาร์ดดิสก์ ➡️ ผู้ใช้สามารถสร้างคลังข้อมูลเองได้ ‼️ ข้อจำกัดของ IIAB ⛔ ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจริงหรือค้นหาบน Google ได้ ⛔ ต้องติดตั้งและตั้งค่าด้วยตนเอง ⛔ อุปกรณ์บางรุ่นอาจต้องใช้เราเตอร์ Wi-Fi เพื่อแชร์ข้อมูล IIAB ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่เป็นความหวังสำหรับผู้คนที่ยังเข้าไม่ถึงโลกดิจิทัล — เปลี่ยนคอมพิวเตอร์เก่าให้กลายเป็นคลังความรู้ และเปลี่ยนชีวิตคนในพื้นที่ห่างไกลให้มีโอกาสเรียนรู้เท่าเทียมกัน https://www.slashgear.com/2009691/offline-google-alternative-internet-in-a-box/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    This Device Can Replace Google When You Need Information Without An Internet Connection - SlashGear
    More than half the world's population can connect to the internet, but for people in remote locations or extreme poverty this device can provide limited access.
    0 Comments 0 Shares 84 Views 0 Reviews
  • ## ทองคำ และ แรงซื้อหลัก จากทั่วโลก ##
    ..
    ..
    ธนาคารกลางทั่วโลกกลับมาซื้อทอง! Q3 ซื้อรวม 220 ตัน หลังจากชะลอการซื้อตลอดครึ่งปีแรกของ 2025
    .
    ตามรายงานจาก World Gold Council (WGC) มีการซื้อทองคำรวม 220 ตัน ในช่วงเดือนกรกฎาคม–กันยายน เพิ่มขึ้น 28% จากไตรมาสก่อนหน้า
    .
    โดยผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุดคือ ธนาคารกลางคาซัคสถาน ขณะที่ บราซิล กลับมาซื้อทองคำอีกครั้งในรอบกว่า 4 ปี
    .
    นั่นแปลว่า ธนาคารกลางทั่วโลกยังมองทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะในภาวะที่ เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่า และ เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนสูง
    .
    นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์, เงินเฟ้อที่ยังสูง และนโยบายการค้าระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลง ล้วนกระตุ้นให้หลายประเทศ “กระจายความเสี่ยงออกจากดอลลาร์”
    .
    ตัวเลขสำคัญจากรายงาน WGC
    .
    การซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (ถึง ก.ย. 2025): 634 ตัน ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของ 3 ปีก่อนหน้า แต่ยัง สูงกว่าค่าเฉลี่ยก่อนปี 2022 (ก่อนรัสเซียบุกยูเครน) โดยคาดการณ์ทั้งปี 2025: 750–900 ตัน
    .
    ทั้งนี้ ราว 66% ของดีมานด์ทองคำในไตรมาสล่าสุดยังไม่ได้รายงานอย่างเป็นทางการ — แปลว่าอาจมี “ผู้ซื้อรายใหญ่ที่ไม่เปิดเผยชื่อ”
    .
    แนวโน้มในตลาดทองคำ:
    ราคาทองคำพุ่งขึ้นกว่า 50% ในปีนี้ไปแล้ว
    .
    การซื้อขายทองคำผ่านกองทุน ETF ที่อ้างอิงทอง (Gold ETFs) ทำสถิติใหม่ มีกระแสเงินไหลเข้ากว่า $26 พันล้านดอลลาร์ทั่วโลกใน Q3
    .
    ความต้องการทองคำจากนักลงทุนทั่วไปเพิ่มขึ้น 13% QoQ เพราะกลัวตกขบวนในรอบขาขึ้น
    .
    แต่ด้านหนึ่ง
    .
    ความต้องการทองรูปพรรณลดลง ในแง่ “ปริมาณ” เหลือต่ำสุดตั้งแต่ปี 2020 เพราะราคาสูงเกินเอื้อม แม้ “มูลค่าการใช้จ่าย” จะเพิ่มขึ้น 13% YoY เป็น $41 พันล้านดอลลาร์
    ....
    ....
    สรุปสั้น ๆ
    .
    ธนาคารกลางกลับมาซื้อทองคำอย่างแข็งแกร่งอีกครั้งใน Q3 แม้ราคาทองจะสูงเป็นประวัติการณ์ แต่พวกเขายังมองทองคำเป็น “เกราะป้องกันความเสี่ยง”
    .
    ปี 2025 อาจเห็นการซื้อมากถึง 900 ตันทั่วโลก — เป็นสัญญาณชัดว่าโลกกำลัง “ถือทองมากกว่าดอลลาร์”
    ## ทองคำ และ แรงซื้อหลัก จากทั่วโลก ## .. .. ธนาคารกลางทั่วโลกกลับมาซื้อทอง! Q3 ซื้อรวม 220 ตัน หลังจากชะลอการซื้อตลอดครึ่งปีแรกของ 2025 . ตามรายงานจาก World Gold Council (WGC) มีการซื้อทองคำรวม 220 ตัน ในช่วงเดือนกรกฎาคม–กันยายน เพิ่มขึ้น 28% จากไตรมาสก่อนหน้า . โดยผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุดคือ ธนาคารกลางคาซัคสถาน ขณะที่ บราซิล กลับมาซื้อทองคำอีกครั้งในรอบกว่า 4 ปี . นั่นแปลว่า ธนาคารกลางทั่วโลกยังมองทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะในภาวะที่ เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่า และ เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนสูง . นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์, เงินเฟ้อที่ยังสูง และนโยบายการค้าระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลง ล้วนกระตุ้นให้หลายประเทศ “กระจายความเสี่ยงออกจากดอลลาร์” . ตัวเลขสำคัญจากรายงาน WGC . การซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (ถึง ก.ย. 2025): 634 ตัน ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของ 3 ปีก่อนหน้า แต่ยัง สูงกว่าค่าเฉลี่ยก่อนปี 2022 (ก่อนรัสเซียบุกยูเครน) โดยคาดการณ์ทั้งปี 2025: 750–900 ตัน . ทั้งนี้ ราว 66% ของดีมานด์ทองคำในไตรมาสล่าสุดยังไม่ได้รายงานอย่างเป็นทางการ — แปลว่าอาจมี “ผู้ซื้อรายใหญ่ที่ไม่เปิดเผยชื่อ” . แนวโน้มในตลาดทองคำ: ราคาทองคำพุ่งขึ้นกว่า 50% ในปีนี้ไปแล้ว . การซื้อขายทองคำผ่านกองทุน ETF ที่อ้างอิงทอง (Gold ETFs) ทำสถิติใหม่ มีกระแสเงินไหลเข้ากว่า $26 พันล้านดอลลาร์ทั่วโลกใน Q3 . ความต้องการทองคำจากนักลงทุนทั่วไปเพิ่มขึ้น 13% QoQ เพราะกลัวตกขบวนในรอบขาขึ้น . แต่ด้านหนึ่ง . ความต้องการทองรูปพรรณลดลง ในแง่ “ปริมาณ” เหลือต่ำสุดตั้งแต่ปี 2020 เพราะราคาสูงเกินเอื้อม แม้ “มูลค่าการใช้จ่าย” จะเพิ่มขึ้น 13% YoY เป็น $41 พันล้านดอลลาร์ .... .... สรุปสั้น ๆ . ธนาคารกลางกลับมาซื้อทองคำอย่างแข็งแกร่งอีกครั้งใน Q3 แม้ราคาทองจะสูงเป็นประวัติการณ์ แต่พวกเขายังมองทองคำเป็น “เกราะป้องกันความเสี่ยง” . ปี 2025 อาจเห็นการซื้อมากถึง 900 ตันทั่วโลก — เป็นสัญญาณชัดว่าโลกกำลัง “ถือทองมากกว่าดอลลาร์”
    0 Comments 0 Shares 64 Views 0 Reviews
  • Radeon 8060S โชว์พลัง! เกมเมอร์ตะลึงกับ iGPU บน Ryzen AI Max 395+ เล่นเกม 1080p ลื่นไหลทุกค่าย

    YouTuber ชื่อดัง RandomGaminginHD ได้ทดสอบ Minisforum MS-S1 Max ที่ใช้ APU รุ่นท็อป Ryzen AI Max 395+ พร้อม iGPU Radeon 8060S และผลลัพธ์ก็เกินคาด: เล่นเกม AAA ที่ 1080p ได้อย่างลื่นไหลโดยไม่ต้องใช้การ์ดจอแยก!

    Ryzen AI Max 395+ ถูกออกแบบมาเพื่อประมวลผลงาน AI แต่กลับกลายเป็น “สัตว์ร้าย” ด้านเกม ด้วย iGPU Radeon 8060S ที่มี 40 CUs และ 2,560 shader cores มากกว่า PlayStation 5 เสียอีก! แถมยังจับคู่กับ LPDDR5X บัส 256-bit ทำให้ประสิทธิภาพเทียบชั้น RTX 4060 ได้ในบางกรณี

    RandomGaminginHD ทดสอบเกมดังหลายเกมที่ 1080p และผลลัพธ์น่าทึ่ง:
    Counter Strike 2: 263 FPS
    Kingdom Come Deliverance 2: 90 FPS
    Red Dead Redemption 2: 82 FPS
    Battlefield 6: 86 FPS
    Cyberpunk 2077 (RT Ultra): 45 FPS
    GTA 5 Enhanced: 77 FPS
    Marvel Rivals: 79 FPS
    Elden Ring: 60 FPS (เต็มเพดานเกม)
    Borderlands 4: 55 FPS
    Outer Worlds 2: 65 FPS

    แม้บางเกมจะใช้การตั้งค่ากราฟิกต่ำหรือปิดฟีเจอร์บางอย่าง เช่น global illumination หรือ ray tracing แต่ก็ยังให้ประสบการณ์เล่นเกมที่ดีเกินคาดสำหรับ iGPU

    Ryzen AI Max 395+ ยังสามารถรัน LLM ขนาดใหญ่ได้ และมีประสิทธิภาพด้าน AI สูงกว่า RTX 4090 ถึง 2 เท่าในด้าน tokens per second ซึ่งทำให้มันกลายเป็น APU ที่ “เกินตัว” ทั้งด้านเกมและงาน AI

    Ryzen AI Max 395+ มาพร้อม iGPU Radeon 8060S
    มี 40 CUs และ 2,560 shader cores
    ใช้ LPDDR5X บัส 256-bit
    ประสิทธิภาพเทียบชั้น RTX 4060 ในบางกรณี

    จุดเด่นของ APU Ryzen AI Max 395+
    รัน LLM ได้ดีเยี่ยม
    ประสิทธิภาพด้าน AI สูงกว่า RTX 4090 ถึง 2 เท่า
    เหมาะกับงาน AI และเกมในเครื่องขนาดเล็ก

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/strix-halo-radeon-8060s-benchmarked-in-games-delivers-butter-smooth-1080p-performance-ryzen-ai-max-395-apu-is-a-pretty-solid-gaming-offering
    🎮🔥 Radeon 8060S โชว์พลัง! เกมเมอร์ตะลึงกับ iGPU บน Ryzen AI Max 395+ เล่นเกม 1080p ลื่นไหลทุกค่าย YouTuber ชื่อดัง RandomGaminginHD ได้ทดสอบ Minisforum MS-S1 Max ที่ใช้ APU รุ่นท็อป Ryzen AI Max 395+ พร้อม iGPU Radeon 8060S และผลลัพธ์ก็เกินคาด: เล่นเกม AAA ที่ 1080p ได้อย่างลื่นไหลโดยไม่ต้องใช้การ์ดจอแยก! Ryzen AI Max 395+ ถูกออกแบบมาเพื่อประมวลผลงาน AI แต่กลับกลายเป็น “สัตว์ร้าย” ด้านเกม ด้วย iGPU Radeon 8060S ที่มี 40 CUs และ 2,560 shader cores มากกว่า PlayStation 5 เสียอีก! แถมยังจับคู่กับ LPDDR5X บัส 256-bit ทำให้ประสิทธิภาพเทียบชั้น RTX 4060 ได้ในบางกรณี RandomGaminginHD ทดสอบเกมดังหลายเกมที่ 1080p และผลลัพธ์น่าทึ่ง: 🎗️ Counter Strike 2: 263 FPS 🎗️ Kingdom Come Deliverance 2: 90 FPS 🎗️ Red Dead Redemption 2: 82 FPS 🎗️ Battlefield 6: 86 FPS 🎗️ Cyberpunk 2077 (RT Ultra): 45 FPS 🎗️ GTA 5 Enhanced: 77 FPS 🎗️ Marvel Rivals: 79 FPS 🎗️ Elden Ring: 60 FPS (เต็มเพดานเกม) 🎗️ Borderlands 4: 55 FPS 🎗️ Outer Worlds 2: 65 FPS แม้บางเกมจะใช้การตั้งค่ากราฟิกต่ำหรือปิดฟีเจอร์บางอย่าง เช่น global illumination หรือ ray tracing แต่ก็ยังให้ประสบการณ์เล่นเกมที่ดีเกินคาดสำหรับ iGPU Ryzen AI Max 395+ ยังสามารถรัน LLM ขนาดใหญ่ได้ และมีประสิทธิภาพด้าน AI สูงกว่า RTX 4090 ถึง 2 เท่าในด้าน tokens per second ซึ่งทำให้มันกลายเป็น APU ที่ “เกินตัว” ทั้งด้านเกมและงาน AI ✅ Ryzen AI Max 395+ มาพร้อม iGPU Radeon 8060S ➡️ มี 40 CUs และ 2,560 shader cores ➡️ ใช้ LPDDR5X บัส 256-bit ➡️ ประสิทธิภาพเทียบชั้น RTX 4060 ในบางกรณี ✅ จุดเด่นของ APU Ryzen AI Max 395+ ➡️ รัน LLM ได้ดีเยี่ยม ➡️ ประสิทธิภาพด้าน AI สูงกว่า RTX 4090 ถึง 2 เท่า ➡️ เหมาะกับงาน AI และเกมในเครื่องขนาดเล็ก https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/strix-halo-radeon-8060s-benchmarked-in-games-delivers-butter-smooth-1080p-performance-ryzen-ai-max-395-apu-is-a-pretty-solid-gaming-offering
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • PhantomRaven: มัลแวร์ npm สุดแสบที่ขโมยข้อมูลนักพัฒนาแบบแนบเนียน

    แคมเปญมัลแวร์ PhantomRaven แอบแฝงใน npm ด้วยแพ็กเกจปลอมกว่า 126 รายการ ใช้เทคนิคลับ Remote Dynamic Dependency เพื่อขโมยโทเคนและข้อมูลลับของนักพัฒนาโดยไม่ถูกตรวจจับ

    ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2025 แคมเปญมัลแวร์ชื่อ PhantomRaven ได้แอบปล่อยแพ็กเกจ npm ปลอมกว่า 126 รายการ ซึ่งถูกดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 86,000 ครั้ง จุดประสงค์หลักคือขโมยข้อมูลลับของนักพัฒนา เช่น GitHub credentials, CI/CD tokens และ npm authentication tokens

    สิ่งที่ทำให้ PhantomRaven อันตรายคือการใช้ฟีเจอร์ Remote Dynamic Dependency (RDD) ซึ่งอนุญาตให้แพ็กเกจ npm ดึง dependencies จาก URL ภายนอก แทนที่จะใช้ registry ปกติ ทำให้เครื่องมือสแกนความปลอดภัยมองว่าแพ็กเกจเหล่านี้ “ไม่มี dependencies” และปลอดภัย ทั้งที่จริงแล้วโค้ดอันตรายจะถูกดึงมาและรันทันทีเมื่อผู้ใช้ติดตั้ง

    แพ็กเกจปลอมเหล่านี้มักมีชื่อคล้ายของจริง เช่น eslint-comments (จริงคือ eslint-plugin-eslint-comments) หรือ unused-imports (จริงคือ eslint-plugin-unused-imports) ซึ่งถูกออกแบบมาให้ AI แนะนำโดยผิดพลาดเมื่อผู้ใช้ถามหาแพ็กเกจในแชตบอตหรือ Copilot

    เมื่อโค้ดรัน มัลแวร์จะเริ่มเก็บข้อมูลจากไฟล์ .gitconfig, .npmrc, package.json รวมถึงสแกนหาโทเคนจาก GitHub Actions, GitLab, Jenkins และ CircleCI จากนั้นจะส่งข้อมูลออกผ่าน HTTP GET, POST และ WebSocket เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลจะหลุดออกไปแม้ในเครือข่ายที่มีไฟร์วอลล์

    PhantomRaven คือแคมเปญมัลแวร์ใน npm
    ปล่อยแพ็กเกจปลอมกว่า 126 รายการ
    ถูกดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 86,000 ครั้ง
    เริ่มต้นในเดือนสิงหาคม 2025 และยังมีแพ็กเกจที่ยังไม่ถูกลบ

    เทคนิค Remote Dynamic Dependency (RDD)
    ดึงโค้ดจาก URL ภายนอกแทน registry
    ทำให้เครื่องมือสแกนมองว่าไม่มี dependencies
    โค้ดอันตรายจะรันทันทีเมื่อติดตั้งผ่าน preinstall script

    ข้อมูลที่มัลแวร์พยายามขโมย
    อีเมลและข้อมูลจากไฟล์ config
    โทเคนจาก GitHub, GitLab, Jenkins, CircleCI
    ข้อมูลระบบ เช่น IP, hostname, OS, username

    ช่องทางการส่งข้อมูลออก
    HTTP GET (ฝังข้อมูลใน URL)
    HTTP POST (ส่ง JSON payload)
    WebSocket (ใช้ในเครือข่ายที่มีข้อจำกัด)

    ความเสี่ยงจากแพ็กเกจปลอม
    ชื่อคล้ายของจริง ทำให้ AI แนะนำผิด
    ผู้ใช้ติดตั้งโดยไม่รู้ว่าเป็นมัลแวร์
    โค้ดดูเหมือน harmless เช่น console.log('Hello, world!') แต่แฝง payload จริงไว้ภายนอก

    ความเสี่ยงต่อระบบ CI/CD และข้อมูลลับ
    โทเคนและ credentials ถูกขโมยโดยไม่รู้ตัว
    ส่งผลกระทบต่อระบบอัตโนมัติและการ deploy
    อาจถูกใช้เพื่อเจาะระบบองค์กรหรือ cloud infrastructure

    เกร็ดน่ารู้เพิ่มเติม
    Remote Dynamic Dependency เป็นฟีเจอร์ที่แทบไม่มีใครใช้ เพราะเสี่ยงต่อความปลอดภัยสูง
    Slopsquatting คือเทคนิคใหม่ที่ใช้ AI สร้างชื่อแพ็กเกจปลอมที่ “ดูเหมือนจริง” เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ติดตั้ง
    นักพัฒนาควรใช้เครื่องมือเช่น npm audit, Snyk, หรือ Socket.dev เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของแพ็กเกจ

    https://securityonline.info/phantomraven-126-malicious-npm-packages-steal-developer-tokens-and-secrets-using-hidden-dependencies/
    🚨 PhantomRaven: มัลแวร์ npm สุดแสบที่ขโมยข้อมูลนักพัฒนาแบบแนบเนียน แคมเปญมัลแวร์ PhantomRaven แอบแฝงใน npm ด้วยแพ็กเกจปลอมกว่า 126 รายการ ใช้เทคนิคลับ Remote Dynamic Dependency เพื่อขโมยโทเคนและข้อมูลลับของนักพัฒนาโดยไม่ถูกตรวจจับ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2025 แคมเปญมัลแวร์ชื่อ PhantomRaven ได้แอบปล่อยแพ็กเกจ npm ปลอมกว่า 126 รายการ ซึ่งถูกดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 86,000 ครั้ง จุดประสงค์หลักคือขโมยข้อมูลลับของนักพัฒนา เช่น GitHub credentials, CI/CD tokens และ npm authentication tokens สิ่งที่ทำให้ PhantomRaven อันตรายคือการใช้ฟีเจอร์ Remote Dynamic Dependency (RDD) ซึ่งอนุญาตให้แพ็กเกจ npm ดึง dependencies จาก URL ภายนอก แทนที่จะใช้ registry ปกติ ทำให้เครื่องมือสแกนความปลอดภัยมองว่าแพ็กเกจเหล่านี้ “ไม่มี dependencies” และปลอดภัย ทั้งที่จริงแล้วโค้ดอันตรายจะถูกดึงมาและรันทันทีเมื่อผู้ใช้ติดตั้ง แพ็กเกจปลอมเหล่านี้มักมีชื่อคล้ายของจริง เช่น eslint-comments (จริงคือ eslint-plugin-eslint-comments) หรือ unused-imports (จริงคือ eslint-plugin-unused-imports) ซึ่งถูกออกแบบมาให้ AI แนะนำโดยผิดพลาดเมื่อผู้ใช้ถามหาแพ็กเกจในแชตบอตหรือ Copilot เมื่อโค้ดรัน มัลแวร์จะเริ่มเก็บข้อมูลจากไฟล์ .gitconfig, .npmrc, package.json รวมถึงสแกนหาโทเคนจาก GitHub Actions, GitLab, Jenkins และ CircleCI จากนั้นจะส่งข้อมูลออกผ่าน HTTP GET, POST และ WebSocket เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลจะหลุดออกไปแม้ในเครือข่ายที่มีไฟร์วอลล์ ✅ PhantomRaven คือแคมเปญมัลแวร์ใน npm ➡️ ปล่อยแพ็กเกจปลอมกว่า 126 รายการ ➡️ ถูกดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 86,000 ครั้ง ➡️ เริ่มต้นในเดือนสิงหาคม 2025 และยังมีแพ็กเกจที่ยังไม่ถูกลบ ✅ เทคนิค Remote Dynamic Dependency (RDD) ➡️ ดึงโค้ดจาก URL ภายนอกแทน registry ➡️ ทำให้เครื่องมือสแกนมองว่าไม่มี dependencies ➡️ โค้ดอันตรายจะรันทันทีเมื่อติดตั้งผ่าน preinstall script ✅ ข้อมูลที่มัลแวร์พยายามขโมย ➡️ อีเมลและข้อมูลจากไฟล์ config ➡️ โทเคนจาก GitHub, GitLab, Jenkins, CircleCI ➡️ ข้อมูลระบบ เช่น IP, hostname, OS, username ✅ ช่องทางการส่งข้อมูลออก ➡️ HTTP GET (ฝังข้อมูลใน URL) ➡️ HTTP POST (ส่ง JSON payload) ➡️ WebSocket (ใช้ในเครือข่ายที่มีข้อจำกัด) ‼️ ความเสี่ยงจากแพ็กเกจปลอม ⛔ ชื่อคล้ายของจริง ทำให้ AI แนะนำผิด ⛔ ผู้ใช้ติดตั้งโดยไม่รู้ว่าเป็นมัลแวร์ ⛔ โค้ดดูเหมือน harmless เช่น console.log('Hello, world!') แต่แฝง payload จริงไว้ภายนอก ‼️ ความเสี่ยงต่อระบบ CI/CD และข้อมูลลับ ⛔ โทเคนและ credentials ถูกขโมยโดยไม่รู้ตัว ⛔ ส่งผลกระทบต่อระบบอัตโนมัติและการ deploy ⛔ อาจถูกใช้เพื่อเจาะระบบองค์กรหรือ cloud infrastructure 🧠 เกร็ดน่ารู้เพิ่มเติม 🎗️ Remote Dynamic Dependency เป็นฟีเจอร์ที่แทบไม่มีใครใช้ เพราะเสี่ยงต่อความปลอดภัยสูง 🎗️ Slopsquatting คือเทคนิคใหม่ที่ใช้ AI สร้างชื่อแพ็กเกจปลอมที่ “ดูเหมือนจริง” เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ติดตั้ง 🎗️ นักพัฒนาควรใช้เครื่องมือเช่น npm audit, Snyk, หรือ Socket.dev เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของแพ็กเกจ https://securityonline.info/phantomraven-126-malicious-npm-packages-steal-developer-tokens-and-secrets-using-hidden-dependencies/
    SECURITYONLINE.INFO
    PhantomRaven: 126 Malicious npm Packages Steal Developer Tokens and Secrets Using Hidden Dependencies
    Koi Security exposed PhantomRaven, an npm supply chain attack using 126 packages. It leverages Remote Dynamic Dependencies (RDD) and AI slopsquatting to steal GitHub/CI/CD secrets from 86,000+ downloads.
    0 Comments 0 Shares 84 Views 0 Reviews
  • ดร.ก้องศักด เผย มาราธอนกรุงเทพฯ ได้รับความนิยมเทียบเท่าระดับเมเจอร์ของโลก ดึงนักวิ่งนานาชาติเข้าร่วมจำนวนมาก
    https://www.thai-tai.tv/news/22095/
    .
    #ไทยไท #AmazingThailandMarathon #อรรถกรศิริลัทธยากร #WorldClassEvent #WorldCapitalMarathon #กกท

    ดร.ก้องศักด เผย มาราธอนกรุงเทพฯ ได้รับความนิยมเทียบเท่าระดับเมเจอร์ของโลก ดึงนักวิ่งนานาชาติเข้าร่วมจำนวนมาก https://www.thai-tai.tv/news/22095/ . #ไทยไท #AmazingThailandMarathon #อรรถกรศิริลัทธยากร #WorldClassEvent #WorldCapitalMarathon #กกท
    0 Comments 0 Shares 70 Views 0 Reviews
  • ทรัมป์แดนซ์กระจาย ส่วนเกินไทย-กัมพูชา : [คุยผ่าโลก worldtalk]
    ทรัมป์แดนซ์กระจาย ส่วนเกินไทย-กัมพูชา : [คุยผ่าโลก worldtalk]
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 0 Reviews
  • เปิดโลกไมโครชิป: นักสะสมเผยภาพภายใน Intel 4004 ชิปโปรแกรมตัวแรกของโลก

    นักสะสมซีพียูนามว่า “CPU Duke” ได้เปิดเผยภาพภายในของ Intel 4004 ชิปไมโครโปรเซสเซอร์ตัวแรกของโลก ที่เปิดตัวเมื่อปี 1971 โดยใช้กล้องจุลทรรศน์สำรวจโครงสร้างภายในระดับนาโน เผยให้เห็นความซับซ้อนของเทคโนโลยีในยุคเริ่มต้นของการประมวลผล

    จุดเด่นของ Intel 4004

    Intel 4004 เป็นชิปขนาด 10,000 นาโนเมตร มีทรานซิสเตอร์จำนวน 2,300 ตัว
    เป็นโปรเซสเซอร์แบบ 4-bit ที่มีความเร็วเพียง 740kHz และใช้แรงดันไฟฟ้าสูงถึง 15V
    รองรับหน่วยความจำสูงสุดเพียง 4KB และสามารถประมวลผลได้ 92,000 คำสั่งต่อวินาที
    ถือเป็นชิปแรกที่สามารถ “โปรแกรมได้” ด้วยซอฟต์แวร์ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการคอมพิวเตอร์

    CPU Duke ได้รับชิปจากพิพิธภัณฑ์ Entertechnikwelt ในสวิตเซอร์แลนด์ และทำการ “เปิดฝา” เพื่อเผยให้เห็นโครงสร้างภายใน เช่น ลวดเชื่อมภายในและชั้นโพลีซิลิคอนใต้แผ่นโลหะ ซึ่งเขาอ้างว่าสามารถนับทรานซิสเตอร์ได้ทีละตัว

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Intel 4004 เป็นชิปแรกที่สามารถโปรแกรมได้ด้วยซอฟต์แวร์
    มีขนาด 10,000nm และทรานซิสเตอร์ 2,300 ตัว
    ความเร็ว 740kHz และแรงดันไฟฟ้า 15V
    รองรับหน่วยความจำเพียง 4KB
    สามารถประมวลผลได้ 92,000 คำสั่งต่อวินาที
    ถูกออกแบบเพื่อใช้ในเครื่องคิดเลขของ Busicom ก่อนจะกลายเป็นชิปอเนกประสงค์

    การเปิดเผยโดย CPU Duke
    ใช้กล้องจุลทรรศน์สำรวจโครงสร้างภายในของ Intel 4004
    เห็นลวดเชื่อมและโครงสร้างโพลีซิลิคอนอย่างชัดเจน
    ได้รับชิปจากพิพิธภัณฑ์ในสวิตเซอร์แลนด์เพื่อการศึกษา

    ความสำคัญทางประวัติศาสตร์
    Intel 4004 เป็นจุดเริ่มต้นของยุคไมโครโปรเซสเซอร์
    เปลี่ยนแนวคิดจากฮาร์ดแวร์เฉพาะทางเป็นระบบที่สามารถเขียนโปรแกรมได้
    เป็นรากฐานของการพัฒนาชิปในยุคปัจจุบัน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/cpu-collector-exposes-microscopic-insides-of-intels-revolutionary-4004-chip-10-000nm-chip-was-the-worlds-first-programmable-microchip-processor
    🔬💡 เปิดโลกไมโครชิป: นักสะสมเผยภาพภายใน Intel 4004 ชิปโปรแกรมตัวแรกของโลก นักสะสมซีพียูนามว่า “CPU Duke” ได้เปิดเผยภาพภายในของ Intel 4004 ชิปไมโครโปรเซสเซอร์ตัวแรกของโลก ที่เปิดตัวเมื่อปี 1971 โดยใช้กล้องจุลทรรศน์สำรวจโครงสร้างภายในระดับนาโน เผยให้เห็นความซับซ้อนของเทคโนโลยีในยุคเริ่มต้นของการประมวลผล 🧠 จุดเด่นของ Intel 4004 💠 Intel 4004 เป็นชิปขนาด 10,000 นาโนเมตร มีทรานซิสเตอร์จำนวน 2,300 ตัว 💠 เป็นโปรเซสเซอร์แบบ 4-bit ที่มีความเร็วเพียง 740kHz และใช้แรงดันไฟฟ้าสูงถึง 15V 💠 รองรับหน่วยความจำสูงสุดเพียง 4KB และสามารถประมวลผลได้ 92,000 คำสั่งต่อวินาที 💠 ถือเป็นชิปแรกที่สามารถ “โปรแกรมได้” ด้วยซอฟต์แวร์ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการคอมพิวเตอร์ CPU Duke ได้รับชิปจากพิพิธภัณฑ์ Entertechnikwelt ในสวิตเซอร์แลนด์ และทำการ “เปิดฝา” เพื่อเผยให้เห็นโครงสร้างภายใน เช่น ลวดเชื่อมภายในและชั้นโพลีซิลิคอนใต้แผ่นโลหะ ซึ่งเขาอ้างว่าสามารถนับทรานซิสเตอร์ได้ทีละตัว ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Intel 4004 เป็นชิปแรกที่สามารถโปรแกรมได้ด้วยซอฟต์แวร์ ➡️ มีขนาด 10,000nm และทรานซิสเตอร์ 2,300 ตัว ➡️ ความเร็ว 740kHz และแรงดันไฟฟ้า 15V ➡️ รองรับหน่วยความจำเพียง 4KB ➡️ สามารถประมวลผลได้ 92,000 คำสั่งต่อวินาที ➡️ ถูกออกแบบเพื่อใช้ในเครื่องคิดเลขของ Busicom ก่อนจะกลายเป็นชิปอเนกประสงค์ ✅ การเปิดเผยโดย CPU Duke ➡️ ใช้กล้องจุลทรรศน์สำรวจโครงสร้างภายในของ Intel 4004 ➡️ เห็นลวดเชื่อมและโครงสร้างโพลีซิลิคอนอย่างชัดเจน ➡️ ได้รับชิปจากพิพิธภัณฑ์ในสวิตเซอร์แลนด์เพื่อการศึกษา ✅ ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ➡️ Intel 4004 เป็นจุดเริ่มต้นของยุคไมโครโปรเซสเซอร์ ➡️ เปลี่ยนแนวคิดจากฮาร์ดแวร์เฉพาะทางเป็นระบบที่สามารถเขียนโปรแกรมได้ ➡️ เป็นรากฐานของการพัฒนาชิปในยุคปัจจุบัน https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/cpu-collector-exposes-microscopic-insides-of-intels-revolutionary-4004-chip-10-000nm-chip-was-the-worlds-first-programmable-microchip-processor
    0 Comments 0 Shares 117 Views 0 Reviews
  • นักวิจัยเยอรมันสร้างพิกเซล OLED ขนาดเล็กที่สุดในโลก — เล็กเพียง 300 นาโนเมตร อาจใช้สร้างจอ 1080p ขนาดแค่ 1 มม.

    ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Julius-Maximilians-Universität Würzburg ประเทศเยอรมนี พัฒนา OLED พิกเซลขนาดจิ๋วเพียง 300 x 300 นาโนเมตร ซึ่งเล็กกว่าพิกเซลของ micro-OLED ปัจจุบันถึง 10 เท่า และยังให้ความสว่างเทียบเท่าพิกเซล OLED ขนาดปกติ

    ในโลกของอุปกรณ์สวมใส่ เช่น แว่นตา AR/VR หรือสมาร์ตวอทช์ ความต้องการจอแสดงผลที่เล็ก เบา และคมชัดสูงมีมากขึ้นเรื่อย ๆ นักวิจัยกลุ่มนี้จึงพัฒนา OLED แบบใหม่ที่ใช้ “เสาอากาศทองคำ” (gold antenna) ขนาดนาโนเมตร เพื่อฉีดกระแสไฟและขยายแสงในพื้นที่เล็กมาก

    พิกเซลต้นแบบที่พัฒนาขึ้นสามารถแสดงแสงสีส้มได้ และมีความสว่างเทียบเท่าพิกเซล OLED ขนาด 5x5 ไมโครเมตร ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานของ micro-OLED ในปัจจุบัน หากนำพิกเซลขนาด 300 นาโนเมตรนี้มาจัดเรียงเป็นจอ 1080p จะได้จอที่มีขนาดเพียง 1 มิลลิเมตรเท่านั้น!

    อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นต้น โดยพิกเซลสามารถทำงานได้เพียง 2 สัปดาห์ก่อนเสื่อมสภาพ นักวิจัยจึงกำลังพัฒนาให้รองรับสี RGB เต็มรูปแบบ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (ปัจจุบันอยู่ที่เพียง 1%)

    พิกเซล OLED ขนาด 300 x 300 นาโนเมตร
    เล็กกว่าพิกเซล micro-OLED ปัจจุบันกว่า 10 เท่า
    ให้ความสว่างเทียบเท่าพิกเซลขนาด 5x5 ไมโครเมตร

    เทคโนโลยีที่ใช้
    เสาอากาศทองคำฉีดกระแสไฟและขยายแสง
    มีฉนวนพิเศษป้องกันการรั่วของทองคำเข้าสู่วัสดุอินทรีย์

    ศักยภาพของเทคโนโลยี
    สร้างจอ 1080p ขนาดเพียง 1 มิลลิเมตร
    เหมาะกับอุปกรณ์สวมใส่ เช่น แว่นตา AR/VR
    ความหนาแน่นของพิกเซลสูงมาก อาจให้ภาพสมจริงระดับใหม่

    ข้อจำกัดปัจจุบัน
    อายุการใช้งานยังสั้น (ประมาณ 2 สัปดาห์)
    ยังแสดงได้เพียงสีส้ม
    ประสิทธิภาพพลังงานต่ำ (1%)

    https://www.tomshardware.com/monitors/researchers-create-worlds-smallest-pixel-measuring-just-300-nanometers-across-could-be-used-to-create-a-1080p-display-measuring-1mm
    🧬 นักวิจัยเยอรมันสร้างพิกเซล OLED ขนาดเล็กที่สุดในโลก — เล็กเพียง 300 นาโนเมตร อาจใช้สร้างจอ 1080p ขนาดแค่ 1 มม. ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Julius-Maximilians-Universität Würzburg ประเทศเยอรมนี พัฒนา OLED พิกเซลขนาดจิ๋วเพียง 300 x 300 นาโนเมตร ซึ่งเล็กกว่าพิกเซลของ micro-OLED ปัจจุบันถึง 10 เท่า และยังให้ความสว่างเทียบเท่าพิกเซล OLED ขนาดปกติ ในโลกของอุปกรณ์สวมใส่ เช่น แว่นตา AR/VR หรือสมาร์ตวอทช์ ความต้องการจอแสดงผลที่เล็ก เบา และคมชัดสูงมีมากขึ้นเรื่อย ๆ นักวิจัยกลุ่มนี้จึงพัฒนา OLED แบบใหม่ที่ใช้ “เสาอากาศทองคำ” (gold antenna) ขนาดนาโนเมตร เพื่อฉีดกระแสไฟและขยายแสงในพื้นที่เล็กมาก พิกเซลต้นแบบที่พัฒนาขึ้นสามารถแสดงแสงสีส้มได้ และมีความสว่างเทียบเท่าพิกเซล OLED ขนาด 5x5 ไมโครเมตร ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานของ micro-OLED ในปัจจุบัน หากนำพิกเซลขนาด 300 นาโนเมตรนี้มาจัดเรียงเป็นจอ 1080p จะได้จอที่มีขนาดเพียง 1 มิลลิเมตรเท่านั้น! อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นต้น โดยพิกเซลสามารถทำงานได้เพียง 2 สัปดาห์ก่อนเสื่อมสภาพ นักวิจัยจึงกำลังพัฒนาให้รองรับสี RGB เต็มรูปแบบ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (ปัจจุบันอยู่ที่เพียง 1%) ✅ พิกเซล OLED ขนาด 300 x 300 นาโนเมตร ➡️ เล็กกว่าพิกเซล micro-OLED ปัจจุบันกว่า 10 เท่า ➡️ ให้ความสว่างเทียบเท่าพิกเซลขนาด 5x5 ไมโครเมตร ✅ เทคโนโลยีที่ใช้ ➡️ เสาอากาศทองคำฉีดกระแสไฟและขยายแสง ➡️ มีฉนวนพิเศษป้องกันการรั่วของทองคำเข้าสู่วัสดุอินทรีย์ ✅ ศักยภาพของเทคโนโลยี ➡️ สร้างจอ 1080p ขนาดเพียง 1 มิลลิเมตร ➡️ เหมาะกับอุปกรณ์สวมใส่ เช่น แว่นตา AR/VR ➡️ ความหนาแน่นของพิกเซลสูงมาก อาจให้ภาพสมจริงระดับใหม่ ✅ ข้อจำกัดปัจจุบัน ➡️ อายุการใช้งานยังสั้น (ประมาณ 2 สัปดาห์) ➡️ ยังแสดงได้เพียงสีส้ม ➡️ ประสิทธิภาพพลังงานต่ำ (1%) https://www.tomshardware.com/monitors/researchers-create-worlds-smallest-pixel-measuring-just-300-nanometers-across-could-be-used-to-create-a-1080p-display-measuring-1mm
    0 Comments 0 Shares 124 Views 0 Reviews
  • Tourism Diplomacy Chiang Mai ทูตเที่ยวไทยเชียงใหม่ : [คุยผ่าโลก worldtalk]
    Tourism Diplomacy Chiang Mai ทูตเที่ยวไทยเชียงใหม่ : [คุยผ่าโลก worldtalk]
    0 Comments 0 Shares 95 Views 0 0 Reviews
  • จีนเร่งผลิต “เรดาร์ควอนตัม” – เทคโนโลยีใหม่ที่อาจลบล้างยุคเครื่องบินล่องหน

    เรดาร์แบบเดิมใช้คลื่นวิทยุสะท้อนจากวัตถุเพื่อวัดตำแหน่งและความเร็ว แต่เครื่องบินล่องหนอย่าง F-22 Raptor ถูกออกแบบมาเพื่อลดการสะท้อนคลื่น ทำให้เรดาร์ทั่วไปตรวจจับได้ยาก

    จีนจึงหันมาใช้ “เรดาร์ควอนตัม” ที่อาศัยหลักการพัวพันควอนตัม (quantum entanglement) โดยสร้างคู่โฟตอนที่ฝังข้อมูลร่วมกันไว้ โฟตอนหนึ่งถูกส่งออกไป ส่วนอีกตัวเก็บไว้ในหน่วยความจำควอนตัม หากโฟตอนที่สะท้อนกลับมาตรงกับตัวที่เก็บไว้ แสดงว่ามีวัตถุอยู่ตรงนั้นแน่นอน

    ปัญหาคือการสร้างโฟตอนพัวพันที่เดินทางไกลยังทำได้ยาก และการเก็บรักษาความพัวพันต้องใช้สภาพแวดล้อมที่เย็นจัดใกล้ศูนย์องศาสัมบูรณ์ ซึ่งยังไม่เหมาะกับการใช้งานภาคสนาม

    อย่างไรก็ตาม จีนได้เริ่มผลิต “เครื่องจับโฟตอน” ที่สามารถตรวจจับโฟตอนเดียวในทะเลของสัญญาณรบกวนได้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเรดาร์ควอนตัม โดยเทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาโดยศูนย์วิจัยในมณฑลอานฮุย และเริ่มผลิตในเดือนตุลาคม 2025

    แม้ยังไม่มีระบบเรดาร์ควอนตัมที่ใช้งานได้จริง แต่ความก้าวหน้าของจีนทำให้ประเทศตะวันตกเริ่มวิตก เพราะหากเทคโนโลยีนี้สำเร็จ อาจทำให้เครื่องบินล่องหนของสหรัฐฯ และพันธมิตรหมดความได้เปรียบในสนามรบ

    วิธีการทำงานของเรดาร์ควอนตัมโดยใช้ Quantum Entanglement
    ยิงโฟตอนที่พัวพันกันออกไป
    ระบบจะสร้างโฟตอนเป็นคู่:
      • ตัวหนึ่งเรียกว่า signal photon ถูกยิงออกไปในอากาศ
      • อีกตัวเรียกว่า idler photon ถูกเก็บไว้ในระบบเรดาร์

    ถ้า signal photon สะท้อนกลับจากวัตถุ (เช่น เครื่องบินล่องหน)
    ระบบจะตรวจสอบว่าโฟตอนที่กลับมามี “ลายเซ็นควอนตัม” ตรงกับ idler photon หรือไม่
    ถ้าตรงกัน แสดงว่าโฟตอนนั้นสะท้อนจากวัตถุจริง ไม่ใช่สัญญาณรบกวน

    ผลลัพธ์คือสามารถระบุตำแหน่งของเครื่องบินล่องหนได้
    แม้เครื่องบินจะสะท้อนคลื่นน้อยมาก แต่โฟตอนที่พัวพันกันจะยังคงมีความสัมพันธ์เฉพาะ
    ทำให้เรดาร์สามารถ “รู้” ได้ว่าโฟตอนที่กลับมาเป็นของตัวเอง ไม่ใช่สัญญาณสุ่ม

    สรุปเนื้อหาจากข่าวและสาระเพิ่มเติม
    ความก้าวหน้าของจีน
    เริ่มผลิตเครื่องจับโฟตอนในเดือนตุลาคม 2025
    พัฒนาโดยศูนย์วิจัยในมณฑลอานฮุย
    เครื่องจับโฟตอนสามารถแยกโฟตอนเดียวจากสัญญาณรบกวนได้

    ความท้าทายทางเทคนิค
    โฟตอนพัวพันที่เดินทางไกลยังสร้างได้ยาก
    ต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิใกล้ศูนย์องศาสัมบูรณ์
    ยังไม่มีระบบที่ใช้งานได้จริงในสนามรบ

    https://www.slashgear.com/2003308/china-building-world-first-quantum-radar-track-stealth-fighter-jets/
    🛰️ จีนเร่งผลิต “เรดาร์ควอนตัม” – เทคโนโลยีใหม่ที่อาจลบล้างยุคเครื่องบินล่องหน เรดาร์แบบเดิมใช้คลื่นวิทยุสะท้อนจากวัตถุเพื่อวัดตำแหน่งและความเร็ว แต่เครื่องบินล่องหนอย่าง F-22 Raptor ถูกออกแบบมาเพื่อลดการสะท้อนคลื่น ทำให้เรดาร์ทั่วไปตรวจจับได้ยาก จีนจึงหันมาใช้ “เรดาร์ควอนตัม” ที่อาศัยหลักการพัวพันควอนตัม (quantum entanglement) โดยสร้างคู่โฟตอนที่ฝังข้อมูลร่วมกันไว้ โฟตอนหนึ่งถูกส่งออกไป ส่วนอีกตัวเก็บไว้ในหน่วยความจำควอนตัม หากโฟตอนที่สะท้อนกลับมาตรงกับตัวที่เก็บไว้ แสดงว่ามีวัตถุอยู่ตรงนั้นแน่นอน ปัญหาคือการสร้างโฟตอนพัวพันที่เดินทางไกลยังทำได้ยาก และการเก็บรักษาความพัวพันต้องใช้สภาพแวดล้อมที่เย็นจัดใกล้ศูนย์องศาสัมบูรณ์ ซึ่งยังไม่เหมาะกับการใช้งานภาคสนาม อย่างไรก็ตาม จีนได้เริ่มผลิต “เครื่องจับโฟตอน” ที่สามารถตรวจจับโฟตอนเดียวในทะเลของสัญญาณรบกวนได้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเรดาร์ควอนตัม โดยเทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาโดยศูนย์วิจัยในมณฑลอานฮุย และเริ่มผลิตในเดือนตุลาคม 2025 แม้ยังไม่มีระบบเรดาร์ควอนตัมที่ใช้งานได้จริง แต่ความก้าวหน้าของจีนทำให้ประเทศตะวันตกเริ่มวิตก เพราะหากเทคโนโลยีนี้สำเร็จ อาจทำให้เครื่องบินล่องหนของสหรัฐฯ และพันธมิตรหมดความได้เปรียบในสนามรบ 🧠 วิธีการทำงานของเรดาร์ควอนตัมโดยใช้ Quantum Entanglement ✅ ยิงโฟตอนที่พัวพันกันออกไป ➡️ ระบบจะสร้างโฟตอนเป็นคู่:   • ตัวหนึ่งเรียกว่า signal photon ถูกยิงออกไปในอากาศ   • อีกตัวเรียกว่า idler photon ถูกเก็บไว้ในระบบเรดาร์ ✅ ถ้า signal photon สะท้อนกลับจากวัตถุ (เช่น เครื่องบินล่องหน) ➡️ ระบบจะตรวจสอบว่าโฟตอนที่กลับมามี “ลายเซ็นควอนตัม” ตรงกับ idler photon หรือไม่ ➡️ ถ้าตรงกัน แสดงว่าโฟตอนนั้นสะท้อนจากวัตถุจริง ไม่ใช่สัญญาณรบกวน ✅ ผลลัพธ์คือสามารถระบุตำแหน่งของเครื่องบินล่องหนได้ ➡️ แม้เครื่องบินจะสะท้อนคลื่นน้อยมาก แต่โฟตอนที่พัวพันกันจะยังคงมีความสัมพันธ์เฉพาะ ➡️ ทำให้เรดาร์สามารถ “รู้” ได้ว่าโฟตอนที่กลับมาเป็นของตัวเอง ไม่ใช่สัญญาณสุ่ม 📌 สรุปเนื้อหาจากข่าวและสาระเพิ่มเติม ✅ ความก้าวหน้าของจีน ➡️ เริ่มผลิตเครื่องจับโฟตอนในเดือนตุลาคม 2025 ➡️ พัฒนาโดยศูนย์วิจัยในมณฑลอานฮุย ➡️ เครื่องจับโฟตอนสามารถแยกโฟตอนเดียวจากสัญญาณรบกวนได้ ✅ ความท้าทายทางเทคนิค ➡️ โฟตอนพัวพันที่เดินทางไกลยังสร้างได้ยาก ➡️ ต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิใกล้ศูนย์องศาสัมบูรณ์ ➡️ ยังไม่มีระบบที่ใช้งานได้จริงในสนามรบ https://www.slashgear.com/2003308/china-building-world-first-quantum-radar-track-stealth-fighter-jets/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    China Is Attempting To Mass Produce 'World-First' Quantum Radars For This One Purpose - SlashGear
    China has managed to produce a key component of quantum radar, meaning the US's stealth fleet could be rendered virtually obsolete overnight.
    0 Comments 0 Shares 111 Views 0 Reviews
  • “USD.AI: สเตเบิลคอยน์ใหม่เชื่อมโลกคริปโตกับ GPU จริงของ Nvidia เพื่อสร้างรายได้จาก AI”

    ตอนนี้มีโปรเจกต์ใหม่ที่ชื่อว่า USD.AI ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ในโลก DeFi ที่ไม่ได้แค่เก็บมูลค่าไว้เฉย ๆ แต่เอาเงินของนักลงทุนไปซื้อ GPU จริง ๆ ของ Nvidia แล้วปล่อยเช่าให้กับนักพัฒนา AI เพื่อหารายได้กลับมาให้ผู้ถือเหรียญ!

    พูดง่าย ๆ คือ ถ้าคุณถือเหรียญ USD.AI ก็เหมือนคุณลงทุนในฮาร์ดแวร์ที่มีคนเช่าใช้งานจริง แล้วรายได้จากการเช่าก็จะถูกนำมาจ่ายคืนให้คุณเป็นผลตอบแทน ซึ่งตอนนี้ผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 13–17% ต่อปี—สูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ แบบเห็น ๆ

    ระบบนี้มีโครงสร้างป้องกันความเสี่ยงแบบ 3 ชั้น ได้แก่ CALIBER, FiLO และ QEV ที่ช่วยให้การลงทุนปลอดภัยขึ้น เช่น การแปลง GPU เป็น NFT เพื่อใช้เป็นหลักประกัน, การมีผู้คัดกรองความเสี่ยงที่ลงทุนเงินของตัวเอง และระบบคิวสำหรับการถอนเงินที่ควบคุมสภาพคล่องได้ดี

    USD.AI คืออะไร
    เป็นโปรโตคอล DeFi ที่ใช้ stablecoin เพื่อซื้อ GPU จริงของ Nvidia
    GPU เหล่านี้ถูกนำไปปล่อยเช่าให้กับนักพัฒนา AI
    รายได้จากการเช่าถูกนำมาจ่ายคืนให้ผู้ถือเหรียญเป็นผลตอบแทน

    ผลตอบแทนที่น่าสนใจ
    อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 13–17% ต่อปี
    สูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี
    รายได้มาจากการใช้งานจริง ไม่ใช่การปั่นเหรียญหรือวงจรเลเวอเรจ

    โครงสร้างความปลอดภัยแบบ 3 ชั้น
    CALIBER: แปลง GPU เป็น NFT และใช้เป็นหลักประกัน
    FiLO: มีผู้คัดกรองความเสี่ยงที่ลงทุนเงินของตัวเองเพื่อรับผิดชอบหากเกิดความเสียหาย
    QEV: ระบบคิวสำหรับการถอนเงินที่ควบคุมสภาพคล่องและให้ผลตอบแทนแก่ผู้รอ

    ประโยชน์ต่อผู้ถือเหรียญและนักพัฒนา AI
    นักลงทุนได้ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า GPU
    นักพัฒนา AI เข้าถึงฮาร์ดแวร์ได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องลงทุนเอง
    เป็นการเชื่อมโลกคริปโตกับการใช้งานจริงในอุตสาหกรรม AI

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/new-stablecoin-connects-crypto-investors-to-real-world-nvidia-ai-gpus-that-earn-money-by-renting-out-compute-power-to-ai-devs-usd-ai-lets-crypto-investors-make-bank-off-ai-compute-rentals
    🪙“USD.AI: สเตเบิลคอยน์ใหม่เชื่อมโลกคริปโตกับ GPU จริงของ Nvidia เพื่อสร้างรายได้จาก AI” ตอนนี้มีโปรเจกต์ใหม่ที่ชื่อว่า USD.AI ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ในโลก DeFi ที่ไม่ได้แค่เก็บมูลค่าไว้เฉย ๆ แต่เอาเงินของนักลงทุนไปซื้อ GPU จริง ๆ ของ Nvidia แล้วปล่อยเช่าให้กับนักพัฒนา AI เพื่อหารายได้กลับมาให้ผู้ถือเหรียญ! พูดง่าย ๆ คือ ถ้าคุณถือเหรียญ USD.AI ก็เหมือนคุณลงทุนในฮาร์ดแวร์ที่มีคนเช่าใช้งานจริง แล้วรายได้จากการเช่าก็จะถูกนำมาจ่ายคืนให้คุณเป็นผลตอบแทน ซึ่งตอนนี้ผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 13–17% ต่อปี—สูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ แบบเห็น ๆ ระบบนี้มีโครงสร้างป้องกันความเสี่ยงแบบ 3 ชั้น ได้แก่ CALIBER, FiLO และ QEV ที่ช่วยให้การลงทุนปลอดภัยขึ้น เช่น การแปลง GPU เป็น NFT เพื่อใช้เป็นหลักประกัน, การมีผู้คัดกรองความเสี่ยงที่ลงทุนเงินของตัวเอง และระบบคิวสำหรับการถอนเงินที่ควบคุมสภาพคล่องได้ดี ✅ USD.AI คืออะไร ➡️ เป็นโปรโตคอล DeFi ที่ใช้ stablecoin เพื่อซื้อ GPU จริงของ Nvidia ➡️ GPU เหล่านี้ถูกนำไปปล่อยเช่าให้กับนักพัฒนา AI ➡️ รายได้จากการเช่าถูกนำมาจ่ายคืนให้ผู้ถือเหรียญเป็นผลตอบแทน ✅ ผลตอบแทนที่น่าสนใจ ➡️ อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 13–17% ต่อปี ➡️ สูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี ➡️ รายได้มาจากการใช้งานจริง ไม่ใช่การปั่นเหรียญหรือวงจรเลเวอเรจ ✅ โครงสร้างความปลอดภัยแบบ 3 ชั้น ➡️ CALIBER: แปลง GPU เป็น NFT และใช้เป็นหลักประกัน ➡️ FiLO: มีผู้คัดกรองความเสี่ยงที่ลงทุนเงินของตัวเองเพื่อรับผิดชอบหากเกิดความเสียหาย ➡️ QEV: ระบบคิวสำหรับการถอนเงินที่ควบคุมสภาพคล่องและให้ผลตอบแทนแก่ผู้รอ ✅ ประโยชน์ต่อผู้ถือเหรียญและนักพัฒนา AI ➡️ นักลงทุนได้ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า GPU ➡️ นักพัฒนา AI เข้าถึงฮาร์ดแวร์ได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องลงทุนเอง ➡️ เป็นการเชื่อมโลกคริปโตกับการใช้งานจริงในอุตสาหกรรม AI https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/new-stablecoin-connects-crypto-investors-to-real-world-nvidia-ai-gpus-that-earn-money-by-renting-out-compute-power-to-ai-devs-usd-ai-lets-crypto-investors-make-bank-off-ai-compute-rentals
    0 Comments 0 Shares 147 Views 0 Reviews
  • Nike เปิดตัวรองเท้า “Powered Footwear” รุ่นแรกของโลก – เดินหรือวิ่งได้ไกลขึ้นโดยไม่เหนื่อย

    Nike ร่วมมือกับบริษัทหุ่นยนต์ Dephy เปิดตัว Project Amplify ซึ่งเป็นระบบรองเท้าแบบใหม่ที่ผสานรองเท้าวิ่งระดับสูงเข้ากับ “ขาเหล็ก” แบบหุ่นยนต์ โดยมีมอเตอร์, สายพานขับเคลื่อน และแบตเตอรี่แบบสวมที่ข้อเท้า ช่วยให้ผู้ใช้เดินหรือวิ่งได้เร็วขึ้นและไกลขึ้นโดยใช้แรงน้อยลง

    แนวคิดนี้คล้ายกับ e-bike ที่ช่วยให้ปั่นจักรยานได้ง่ายขึ้น โดย Nike ตั้งเป้าให้รองเท้านี้ช่วยคนทั่วไปที่วิ่งช้า (เช่น pace 10–12 นาทีต่อไมล์) ไม่ใช่นักกีฬามืออาชีพ

    ระบบหุ่นยนต์สามารถถอดออกได้ ทำให้รองเท้ากลับมาเป็นรองเท้าวิ่งธรรมดาได้เช่นกัน

    จุดเด่นของ Project Amplify
    รองเท้าวิ่งผสานกับขาเหล็กหุ่นยนต์
    มีมอเตอร์, สายพาน, และแบตเตอรี่ข้อเท้า
    ช่วยลดแรงที่ใช้ในการเดินหรือวิ่ง
    ถอดระบบหุ่นยนต์ออกได้ ใช้เป็นรองเท้าธรรมดา

    เป้าหมายของ Nike
    ช่วยคนทั่วไปเดินหรือวิ่งได้ไกลขึ้น
    ลดความเหนื่อยจากการเดินทางหรือออกกำลังกาย
    เปรียบเทียบกับ e-bike ที่ช่วยให้ปั่นง่ายขึ้น

    ความเป็นไปได้ในอนาคต
    Nike ตั้งใจจะวางขายในวงกว้างในอีกไม่กี่ปี
    อาจกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของ wearable robotics
    คล้ายกับ exoskeleton ที่ใช้ในโรงงาน เช่น Hyundai

    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/fancy-an-e-bike-for-your-feet-these-radical-nike-robo-shoes-are-the-worlds-first-powered-footwear
    👟 Nike เปิดตัวรองเท้า “Powered Footwear” รุ่นแรกของโลก – เดินหรือวิ่งได้ไกลขึ้นโดยไม่เหนื่อย Nike ร่วมมือกับบริษัทหุ่นยนต์ Dephy เปิดตัว Project Amplify ซึ่งเป็นระบบรองเท้าแบบใหม่ที่ผสานรองเท้าวิ่งระดับสูงเข้ากับ “ขาเหล็ก” แบบหุ่นยนต์ โดยมีมอเตอร์, สายพานขับเคลื่อน และแบตเตอรี่แบบสวมที่ข้อเท้า ช่วยให้ผู้ใช้เดินหรือวิ่งได้เร็วขึ้นและไกลขึ้นโดยใช้แรงน้อยลง แนวคิดนี้คล้ายกับ e-bike ที่ช่วยให้ปั่นจักรยานได้ง่ายขึ้น โดย Nike ตั้งเป้าให้รองเท้านี้ช่วยคนทั่วไปที่วิ่งช้า (เช่น pace 10–12 นาทีต่อไมล์) ไม่ใช่นักกีฬามืออาชีพ ระบบหุ่นยนต์สามารถถอดออกได้ ทำให้รองเท้ากลับมาเป็นรองเท้าวิ่งธรรมดาได้เช่นกัน ✅ จุดเด่นของ Project Amplify ➡️ รองเท้าวิ่งผสานกับขาเหล็กหุ่นยนต์ ➡️ มีมอเตอร์, สายพาน, และแบตเตอรี่ข้อเท้า ➡️ ช่วยลดแรงที่ใช้ในการเดินหรือวิ่ง ➡️ ถอดระบบหุ่นยนต์ออกได้ ใช้เป็นรองเท้าธรรมดา ✅ เป้าหมายของ Nike ➡️ ช่วยคนทั่วไปเดินหรือวิ่งได้ไกลขึ้น ➡️ ลดความเหนื่อยจากการเดินทางหรือออกกำลังกาย ➡️ เปรียบเทียบกับ e-bike ที่ช่วยให้ปั่นง่ายขึ้น ✅ ความเป็นไปได้ในอนาคต ➡️ Nike ตั้งใจจะวางขายในวงกว้างในอีกไม่กี่ปี ➡️ อาจกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของ wearable robotics ➡️ คล้ายกับ exoskeleton ที่ใช้ในโรงงาน เช่น Hyundai https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/fancy-an-e-bike-for-your-feet-these-radical-nike-robo-shoes-are-the-worlds-first-powered-footwear
    0 Comments 0 Shares 132 Views 0 Reviews
  • How To Refer To Little People: The Terms To Know

    Most people are familiar with the use of the term little people in reference to people who have dwarfism—people whose short stature is the result of a medical or genetic condition. But it’s not the only term.

    In this article, we’ll note the range of terms and preferences and explain some of the notable reasons behind these preferences.

    Content warning: The end of this article includes an explicit mention of an offensive slur. As part of our mission to educate about words and their impact on people, we believe it is important to include information about this word, especially since some people may be unaware that it is considered offensive.

    What is dwarfism?

    An important aspect of understanding dwarfism is understanding that dwarfism is a general term and doesn’t refer to one specific medical condition that causes short stature. Instead, the term is used to refer to shortness of stature that can be caused by many different medical or genetic conditions.

    Generally, an adult is considered to have dwarfism if they have a height measured at 4 feet 10 inches or lower.

    What causes dwarfism?

    The most common cause of dwarfism is achondroplasia, a condition that impairs the growth of bones and causes an atypical skeletal structure, especially in the limbs. While this condition can be inherited, it is often caused by genetic mutations. This means that parents who do not have achondroplasia can have children who do, and parents who do have achondroplasia can have children who don’t.
    What do people with dwarfism prefer to be called?

    First, remember that discussing a condition or physical difference is in many cases unnecessary. Most of the time, the first thing you should ask a person is their name.

    Of course, it is sometimes necessary and important to use generally identifying terms, such as when discussing accessibility in the workplace or a person’s membership in a community. And whenever such things are being discussed, it’s important to use the terms that people themselves prefer when referring to themselves and being referred to.

    Because preferences vary widely, the best approach is always to ask. Preferences may also overlap—some people may use certain terms interchangeably or be OK with multiple terms.

    Here are some of the most common and widely accepted terms.

    dwarf and person with dwarfism

    Some people with dwarfism prefer to be referred to—and to refer to themselves—with the standalone term dwarf. In contrast, some people prefer the term person with dwarfism, an example of what’s called person-first language, which is terminology that places the person before a mention of a specific characteristic (usually literally using the word person or the plural people as the first words in an identifying phrase). Preferring to be referred to as a dwarf is an example of what’s called identity-first language, which places emphasis on a characteristic that a person considers an inherent part of their identity.

    Both terms are considered catch-all terms that encompass all medical and genetic causes of dwarfism. Both versions are also commonly used in the medical community when discussing dwarfism.

    While organizations within the community often use such terms in discussing their members and those they advocate for, such terms are not commonly used in names of such organizations (though there are exceptions).

    It’s important to note that some people may not be comfortable using either term for a variety of reasons. One reason is that they may consider them as too technical outside of a medical context. Furthermore, some people may prefer to avoid the word dwarf’s associations with characters in folklore and pop culture (which in many cases have had the effect of demeaning people of short stature).

    little person, little people

    Out of all of the terms that refer to people with dwarfism, the straightforward little person (and its plural little people) is now likely the most common and the one most people are familiar with.

    Around the world, many organizations focused on people with dwarfism use the term little people in their name and in their communications, including Little People of America, Little People UK, and Little People of British Columbia.

    The increase in the awareness of this terminology is often attributed in part to the high visibility of such terms in notable aspects of pop culture, such as the title of the long-running TV series Little People, Big World.

    Although such terms are now widely used and preferred, keep in mind that personal preferences vary.

    person of short stature and short-statured person

    Although less common, the terms person of short stature and short-statured person (sometimes unhyphenated as short statured) are also used (along with their plural forms that use people). Preferences around person-first or identity-first constructions also apply in this case.

    These phrases are used by groups and organizations focused on little people, often interchangeably with previously mentioned options. They are sometimes also used in the names of such organizations, such as Short Statured People of Australia and Short Stature Scotland.

    Which term should I use?

    Remember that specifying whether or not a person has dwarfism is often completely unnecessary. See the person first—and don’t assume that their size defines them. Most of the time, the first thing you should ask a person is their name.

    In cases when it’s important to identify someone as being short in stature in the ways we’ve discussed here, all of the terms we’ve listed can be suitable. Many are often used interchangeably. Little person and little people are the most common. But no preference is universal, so be sure to respect a person’s preferences.

    Offensive terms

    Although preferences vary around the terms that have been discussed thus far, there are some terms that should never be used. Notably, one term considered extremely offensive is the disparaging word midget. Like other slurs, its explicit mention is often avoided in discussions about the term by instead using the phrase the M word. (We feel it is important to explicitly state it here so as to leave no confusion about which word we’re referring to.)

    Though the term once came to be used by some as a way to distinguish various forms of dwarfism, members of the community and advocacy organizations now note that its history is rooted in demeaning usage—and that it should be avoided altogether.

    That push for avoidance and elimination of use also extends to contexts in which the term has traditionally been applied not to people but to things in reference to their small size (such as certain types of racing cars, as one example).

    สงวนลิขสิทธิ์ © 2025 AAKKHRA & Co.
    How To Refer To Little People: The Terms To Know Most people are familiar with the use of the term little people in reference to people who have dwarfism—people whose short stature is the result of a medical or genetic condition. But it’s not the only term. In this article, we’ll note the range of terms and preferences and explain some of the notable reasons behind these preferences. Content warning: The end of this article includes an explicit mention of an offensive slur. As part of our mission to educate about words and their impact on people, we believe it is important to include information about this word, especially since some people may be unaware that it is considered offensive. What is dwarfism? An important aspect of understanding dwarfism is understanding that dwarfism is a general term and doesn’t refer to one specific medical condition that causes short stature. Instead, the term is used to refer to shortness of stature that can be caused by many different medical or genetic conditions. Generally, an adult is considered to have dwarfism if they have a height measured at 4 feet 10 inches or lower. What causes dwarfism? The most common cause of dwarfism is achondroplasia, a condition that impairs the growth of bones and causes an atypical skeletal structure, especially in the limbs. While this condition can be inherited, it is often caused by genetic mutations. This means that parents who do not have achondroplasia can have children who do, and parents who do have achondroplasia can have children who don’t. What do people with dwarfism prefer to be called? First, remember that discussing a condition or physical difference is in many cases unnecessary. Most of the time, the first thing you should ask a person is their name. Of course, it is sometimes necessary and important to use generally identifying terms, such as when discussing accessibility in the workplace or a person’s membership in a community. And whenever such things are being discussed, it’s important to use the terms that people themselves prefer when referring to themselves and being referred to. Because preferences vary widely, the best approach is always to ask. Preferences may also overlap—some people may use certain terms interchangeably or be OK with multiple terms. Here are some of the most common and widely accepted terms. dwarf and person with dwarfism Some people with dwarfism prefer to be referred to—and to refer to themselves—with the standalone term dwarf. In contrast, some people prefer the term person with dwarfism, an example of what’s called person-first language, which is terminology that places the person before a mention of a specific characteristic (usually literally using the word person or the plural people as the first words in an identifying phrase). Preferring to be referred to as a dwarf is an example of what’s called identity-first language, which places emphasis on a characteristic that a person considers an inherent part of their identity. Both terms are considered catch-all terms that encompass all medical and genetic causes of dwarfism. Both versions are also commonly used in the medical community when discussing dwarfism. While organizations within the community often use such terms in discussing their members and those they advocate for, such terms are not commonly used in names of such organizations (though there are exceptions). It’s important to note that some people may not be comfortable using either term for a variety of reasons. One reason is that they may consider them as too technical outside of a medical context. Furthermore, some people may prefer to avoid the word dwarf’s associations with characters in folklore and pop culture (which in many cases have had the effect of demeaning people of short stature). little person, little people Out of all of the terms that refer to people with dwarfism, the straightforward little person (and its plural little people) is now likely the most common and the one most people are familiar with. Around the world, many organizations focused on people with dwarfism use the term little people in their name and in their communications, including Little People of America, Little People UK, and Little People of British Columbia. The increase in the awareness of this terminology is often attributed in part to the high visibility of such terms in notable aspects of pop culture, such as the title of the long-running TV series Little People, Big World. Although such terms are now widely used and preferred, keep in mind that personal preferences vary. person of short stature and short-statured person Although less common, the terms person of short stature and short-statured person (sometimes unhyphenated as short statured) are also used (along with their plural forms that use people). Preferences around person-first or identity-first constructions also apply in this case. These phrases are used by groups and organizations focused on little people, often interchangeably with previously mentioned options. They are sometimes also used in the names of such organizations, such as Short Statured People of Australia and Short Stature Scotland. Which term should I use? Remember that specifying whether or not a person has dwarfism is often completely unnecessary. See the person first—and don’t assume that their size defines them. Most of the time, the first thing you should ask a person is their name. In cases when it’s important to identify someone as being short in stature in the ways we’ve discussed here, all of the terms we’ve listed can be suitable. Many are often used interchangeably. Little person and little people are the most common. But no preference is universal, so be sure to respect a person’s preferences. Offensive terms Although preferences vary around the terms that have been discussed thus far, there are some terms that should never be used. Notably, one term considered extremely offensive is the disparaging word midget. Like other slurs, its explicit mention is often avoided in discussions about the term by instead using the phrase the M word. (We feel it is important to explicitly state it here so as to leave no confusion about which word we’re referring to.) Though the term once came to be used by some as a way to distinguish various forms of dwarfism, members of the community and advocacy organizations now note that its history is rooted in demeaning usage—and that it should be avoided altogether. That push for avoidance and elimination of use also extends to contexts in which the term has traditionally been applied not to people but to things in reference to their small size (such as certain types of racing cars, as one example). สงวนลิขสิทธิ์ © 2025 AAKKHRA & Co.
    0 Comments 0 Shares 292 Views 0 Reviews
  • “Qwen3-VL จาก Ollama – โมเดล Vision Language ที่ทรงพลังที่สุด พร้อมควบคุมคอมพิวเตอร์ได้แบบอัตโนมัติ!”

    ลองจินตนาการว่าเราชี้กล้องมือถือไปที่ใบไม้ แล้วถามว่า “พิษกับหมาไหม?” หรือเปิดไฟล์ตารางบนคอมแล้วสั่ง AI ให้แปลงเป็นกราฟ — ทั้งหมดนี้ Qwen3-VL ทำได้แล้ว!

    นี่คือโมเดล Vision Language รุ่นใหม่จาก Alibaba ที่เปิดให้ใช้งานผ่าน Ollama โดยมีชื่อเต็มว่า Qwen3-VL-235B-A22B จุดเด่นคือความสามารถในการเข้าใจภาพและวิดีโออย่างลึกซึ้ง แล้วแปลงเป็นโค้ด HTML, CSS หรือ JavaScript ได้ทันที

    มันรองรับ input สูงถึง 1 ล้าน token ซึ่งหมายถึงสามารถประมวลผลวิดีโอความยาว 2 ชั่วโมง หรือเอกสารหลายร้อยหน้าได้ในคราวเดียว และยังเข้าใจตำแหน่งวัตถุ, มุมมอง, และข้อมูลเชิง 3D ได้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน ๆ

    ด้าน OCR ก็ไม่ธรรมดา รองรับถึง 32 ภาษา และสามารถอ่านจากภาพที่เบลอ, มืด, หรือเอียงได้อย่างแม่นยำ

    แต่ที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือความสามารถแบบ “agentic” — Qwen3-VL สามารถควบคุมคอมพิวเตอร์หรือมือถือได้แบบอัตโนมัติ เช่น สั่งจองตั๋วบน Ticketmaster โดยเปิดเบราว์เซอร์, กรอกข้อมูล, เลือกที่นั่ง และกดยืนยัน โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้คลิกเองเลย

    แม้จะยังมีข้อผิดพลาดเล็ก ๆ เช่นกรอก ZIP code ผิด แต่ความเร็วในการทำงานนั้นเหนือกว่าหลายโมเดลที่มีฟีเจอร์คล้ายกัน เช่น GPT-5, Claude หรือ Gemini

    ที่สำคัญคือ Qwen3-VL เปิดให้ใช้งานแบบ โอเพ่นซอร์ส ต่างจากคู่แข่งที่ต้องจ่ายเงิน ทำให้ชุมชนสามารถนำไปปรับแต่งและใช้งานได้อย่างอิสระ

    ความสามารถหลักของ Qwen3-VL
    แปลงภาพ/วิดีโอเป็นโค้ด HTML, CSS, JavaScript
    รองรับ input สูงสุด 1 ล้าน token
    เข้าใจตำแหน่งวัตถุ, มุมมอง, และข้อมูล 3D
    OCR รองรับ 32 ภาษา แม้ภาพเบลอหรือเอียง

    ความสามารถแบบ agentic
    ควบคุมคอมพิวเตอร์หรือมือถือได้แบบอัตโนมัติ
    สั่งจองตั๋ว, โพสต์ Reddit, เขียนข้อความ, สั่งซื้อสินค้า
    ทำงานแบบ end-to-end โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้คลิกเอง
    ความเร็วในการทำงานโดดเด่นกว่าคู่แข่ง

    จุดเด่นด้านการเปิดใช้งาน
    เปิดให้ใช้งานผ่าน Ollama
    เป็นโอเพ่นซอร์ส – นักพัฒนาสามารถปรับแต่งได้
    ไม่ต้องจ่ายเงินเหมือน GPT-5 หรือ Claude
    ได้คะแนนสูงใน benchmark เช่น OS World

    ข้อควรระวังและคำเตือน
    ยังมีข้อผิดพลาดเล็ก ๆ เช่นกรอกข้อมูลผิด
    การควบคุมอัตโนมัติต้องมีระบบตรวจสอบความถูกต้อง
    การเปิดให้ใช้งานแบบโอเพ่นซอร์สอาจเสี่ยงต่อ misuse หากไม่มีการกำกับ
    ความสามารถสูงอาจนำไปใช้ในงานที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่นการแพทย์หรือการเงิน ซึ่งต้องทดสอบก่อนใช้งานจริง

    https://www.slashgear.com/2004206/ollama-qwen3-vl-how-powerful-vision-language-model-works/
    👁️🧠 “Qwen3-VL จาก Ollama – โมเดล Vision Language ที่ทรงพลังที่สุด พร้อมควบคุมคอมพิวเตอร์ได้แบบอัตโนมัติ!” ลองจินตนาการว่าเราชี้กล้องมือถือไปที่ใบไม้ แล้วถามว่า “พิษกับหมาไหม?” หรือเปิดไฟล์ตารางบนคอมแล้วสั่ง AI ให้แปลงเป็นกราฟ — ทั้งหมดนี้ Qwen3-VL ทำได้แล้ว! นี่คือโมเดล Vision Language รุ่นใหม่จาก Alibaba ที่เปิดให้ใช้งานผ่าน Ollama โดยมีชื่อเต็มว่า Qwen3-VL-235B-A22B จุดเด่นคือความสามารถในการเข้าใจภาพและวิดีโออย่างลึกซึ้ง แล้วแปลงเป็นโค้ด HTML, CSS หรือ JavaScript ได้ทันที มันรองรับ input สูงถึง 1 ล้าน token ซึ่งหมายถึงสามารถประมวลผลวิดีโอความยาว 2 ชั่วโมง หรือเอกสารหลายร้อยหน้าได้ในคราวเดียว และยังเข้าใจตำแหน่งวัตถุ, มุมมอง, และข้อมูลเชิง 3D ได้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน ๆ ด้าน OCR ก็ไม่ธรรมดา รองรับถึง 32 ภาษา และสามารถอ่านจากภาพที่เบลอ, มืด, หรือเอียงได้อย่างแม่นยำ แต่ที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือความสามารถแบบ “agentic” — Qwen3-VL สามารถควบคุมคอมพิวเตอร์หรือมือถือได้แบบอัตโนมัติ เช่น สั่งจองตั๋วบน Ticketmaster โดยเปิดเบราว์เซอร์, กรอกข้อมูล, เลือกที่นั่ง และกดยืนยัน โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้คลิกเองเลย แม้จะยังมีข้อผิดพลาดเล็ก ๆ เช่นกรอก ZIP code ผิด แต่ความเร็วในการทำงานนั้นเหนือกว่าหลายโมเดลที่มีฟีเจอร์คล้ายกัน เช่น GPT-5, Claude หรือ Gemini ที่สำคัญคือ Qwen3-VL เปิดให้ใช้งานแบบ โอเพ่นซอร์ส ต่างจากคู่แข่งที่ต้องจ่ายเงิน ทำให้ชุมชนสามารถนำไปปรับแต่งและใช้งานได้อย่างอิสระ ✅ ความสามารถหลักของ Qwen3-VL ➡️ แปลงภาพ/วิดีโอเป็นโค้ด HTML, CSS, JavaScript ➡️ รองรับ input สูงสุด 1 ล้าน token ➡️ เข้าใจตำแหน่งวัตถุ, มุมมอง, และข้อมูล 3D ➡️ OCR รองรับ 32 ภาษา แม้ภาพเบลอหรือเอียง ✅ ความสามารถแบบ agentic ➡️ ควบคุมคอมพิวเตอร์หรือมือถือได้แบบอัตโนมัติ ➡️ สั่งจองตั๋ว, โพสต์ Reddit, เขียนข้อความ, สั่งซื้อสินค้า ➡️ ทำงานแบบ end-to-end โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้คลิกเอง ➡️ ความเร็วในการทำงานโดดเด่นกว่าคู่แข่ง ✅ จุดเด่นด้านการเปิดใช้งาน ➡️ เปิดให้ใช้งานผ่าน Ollama ➡️ เป็นโอเพ่นซอร์ส – นักพัฒนาสามารถปรับแต่งได้ ➡️ ไม่ต้องจ่ายเงินเหมือน GPT-5 หรือ Claude ➡️ ได้คะแนนสูงใน benchmark เช่น OS World ‼️ ข้อควรระวังและคำเตือน ⛔ ยังมีข้อผิดพลาดเล็ก ๆ เช่นกรอกข้อมูลผิด ⛔ การควบคุมอัตโนมัติต้องมีระบบตรวจสอบความถูกต้อง ⛔ การเปิดให้ใช้งานแบบโอเพ่นซอร์สอาจเสี่ยงต่อ misuse หากไม่มีการกำกับ ⛔ ความสามารถสูงอาจนำไปใช้ในงานที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่นการแพทย์หรือการเงิน ซึ่งต้องทดสอบก่อนใช้งานจริง https://www.slashgear.com/2004206/ollama-qwen3-vl-how-powerful-vision-language-model-works/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Ollama's Qwen3-VL Introduces The Most Powerful Vision Language Model - Here's How It Works - SlashGear
    AI is advancing at a rapid rate, and Ollama claims its Qwen3-VL is the most powerful vision language model yet. Here's what it is and how it works.
    0 Comments 0 Shares 239 Views 0 Reviews
  • “เยอรมนีพบแหล่งลิเทียมมหาศาล – อาจเปลี่ยนอนาคตอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าทั้งยุโรป!”

    บริษัท Neptune Energy จากสหราชอาณาจักรประกาศการค้นพบแหล่งแร่ลิเทียมขนาดมหึมาในรัฐ Saxony-Anhalt ประเทศเยอรมนี โดยมีปริมาณลิเทียมคาร์บอเนตประมาณ 43 ล้านตัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแหล่งลิเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมากกว่าที่อินเดียเคยค้นพบถึง 7 เท่า

    แหล่งนี้เคยเป็นพื้นที่สกัดก๊าซธรรมชาติมาก่อน และตอนนี้กำลังถูกเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Direct Lithium Extraction (DLE) ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้บ่อระเหยน้ำเกลือขนาดใหญ่ และปล่อยคาร์บอนน้อยกว่าการทำเหมืองแบบเดิม

    Neptune Energy ได้ทดลองใช้ DLE กับพันธมิตรชื่อ Lilac และกำลังทดสอบกระบวนการดูดซับลิเทียมจากน้ำเกลือ ซึ่งอาจช่วยให้เยอรมนีสามารถผลิตลิเทียมได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากจีนหรือประเทศใน “ลิเทียมไทรแองเกิล” (ชิลี, อาร์เจนตินา, โบลิเวีย)

    ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์เยอรมันต้องนำเข้าลิเทียมจากต่างประเทศ และยังต้องพึ่งพาการแปรรูปจากจีน ทำให้ต้นทุนแบตเตอรี่สูงกว่าคู่แข่งจากจีนถึง 2 เท่า หากเยอรมนีสามารถผลิตและแปรรูปลิเทียมเองได้ จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความมั่นคงทางอุตสาหกรรมอย่างมาก

    อย่างไรก็ตาม การลงทุนในเหมืองและโรงงานแปรรูปต้องใช้เงินมหาศาล และยังไม่แน่ชัดว่าเยอรมนีจะสามารถแข่งขันกับจีนในด้านต้นทุนแรงงานและการผลิตได้หรือไม่

    การค้นพบแหล่งลิเทียมในเยอรมนี
    พบในรัฐ Saxony-Anhalt โดย Neptune Energy
    ปริมาณลิเทียมคาร์บอเนตประมาณ 43 ล้านตัน
    ใหญ่กว่าที่อินเดียเคยค้นพบถึง 7 เท่า
    เคยเป็นพื้นที่สกัดก๊าซธรรมชาติมาก่อน

    เทคโนโลยีการสกัดลิเทียม
    ใช้ Direct Lithium Extraction (DLE) แทนการทำเหมืองหรือบ่อระเหย
    ปล่อยคาร์บอนน้อยกว่าและใช้เวลาน้อยกว่า
    ทดลองร่วมกับบริษัท Lilac
    กำลังทดสอบกระบวนการดูดซับจากน้ำเกลือ

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม EV
    ผู้ผลิตรถยนต์เยอรมันพึ่งพาลิเทียมจากจีนและลิเทียมไทรแองเกิล
    ต้นทุนแบตเตอรี่สูงกว่าคู่แข่งจากจีนถึง 2 เท่า
    หากผลิตเองได้จะลดต้นทุนและเพิ่มความมั่นคง
    อาจเปลี่ยนให้ยุโรปเป็นศูนย์กลางใหม่ของ supply chain EV

    https://www.slashgear.com/1998530/one-of-worlds-largest-lithium-deposits-found-could-reshape-ev-future/
    🔋 “เยอรมนีพบแหล่งลิเทียมมหาศาล – อาจเปลี่ยนอนาคตอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าทั้งยุโรป!” บริษัท Neptune Energy จากสหราชอาณาจักรประกาศการค้นพบแหล่งแร่ลิเทียมขนาดมหึมาในรัฐ Saxony-Anhalt ประเทศเยอรมนี โดยมีปริมาณลิเทียมคาร์บอเนตประมาณ 43 ล้านตัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแหล่งลิเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมากกว่าที่อินเดียเคยค้นพบถึง 7 เท่า แหล่งนี้เคยเป็นพื้นที่สกัดก๊าซธรรมชาติมาก่อน และตอนนี้กำลังถูกเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Direct Lithium Extraction (DLE) ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้บ่อระเหยน้ำเกลือขนาดใหญ่ และปล่อยคาร์บอนน้อยกว่าการทำเหมืองแบบเดิม Neptune Energy ได้ทดลองใช้ DLE กับพันธมิตรชื่อ Lilac และกำลังทดสอบกระบวนการดูดซับลิเทียมจากน้ำเกลือ ซึ่งอาจช่วยให้เยอรมนีสามารถผลิตลิเทียมได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากจีนหรือประเทศใน “ลิเทียมไทรแองเกิล” (ชิลี, อาร์เจนตินา, โบลิเวีย) ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์เยอรมันต้องนำเข้าลิเทียมจากต่างประเทศ และยังต้องพึ่งพาการแปรรูปจากจีน ทำให้ต้นทุนแบตเตอรี่สูงกว่าคู่แข่งจากจีนถึง 2 เท่า หากเยอรมนีสามารถผลิตและแปรรูปลิเทียมเองได้ จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความมั่นคงทางอุตสาหกรรมอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การลงทุนในเหมืองและโรงงานแปรรูปต้องใช้เงินมหาศาล และยังไม่แน่ชัดว่าเยอรมนีจะสามารถแข่งขันกับจีนในด้านต้นทุนแรงงานและการผลิตได้หรือไม่ ✅ การค้นพบแหล่งลิเทียมในเยอรมนี ➡️ พบในรัฐ Saxony-Anhalt โดย Neptune Energy ➡️ ปริมาณลิเทียมคาร์บอเนตประมาณ 43 ล้านตัน ➡️ ใหญ่กว่าที่อินเดียเคยค้นพบถึง 7 เท่า ➡️ เคยเป็นพื้นที่สกัดก๊าซธรรมชาติมาก่อน ✅ เทคโนโลยีการสกัดลิเทียม ➡️ ใช้ Direct Lithium Extraction (DLE) แทนการทำเหมืองหรือบ่อระเหย ➡️ ปล่อยคาร์บอนน้อยกว่าและใช้เวลาน้อยกว่า ➡️ ทดลองร่วมกับบริษัท Lilac ➡️ กำลังทดสอบกระบวนการดูดซับจากน้ำเกลือ ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม EV ➡️ ผู้ผลิตรถยนต์เยอรมันพึ่งพาลิเทียมจากจีนและลิเทียมไทรแองเกิล ➡️ ต้นทุนแบตเตอรี่สูงกว่าคู่แข่งจากจีนถึง 2 เท่า ➡️ หากผลิตเองได้จะลดต้นทุนและเพิ่มความมั่นคง ➡️ อาจเปลี่ยนให้ยุโรปเป็นศูนย์กลางใหม่ของ supply chain EV https://www.slashgear.com/1998530/one-of-worlds-largest-lithium-deposits-found-could-reshape-ev-future/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    This Is One Of World's Largest Lithium Deposits, And It Could Reshape The Future Of EVs - SlashGear
    One of the world's largest lithium deposits was recently discovered outside of the triangle of South American countries that typically harbor the materials.
    0 Comments 0 Shares 210 Views 0 Reviews
  • ข้อมูลก่อนหน้า
    https://t.me/ThaiPitaksithData/6914

    เปิดโปงเบื้องหลัง ธุรกิจไวรัสตัดต่อพันธุกรรม ทำไมคนไทยต้อง Save หมอธีระวัฒน์ เพื่อ Save ประชาชน จากรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ ศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567
    https://fb.watch/qpJFWeLSO0/?
    “หมอธีระวัฒน์” เผยความจริงต้นตอที่มาโควิด พร้อมแจงละเอียดยิบเหตุยุติวิจัยไวรัสค้างคาว
    https://news1live.com/detail/9670000005954
    “หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ“ แจงละเอียดยิบ “แท่งย้วยขาวในหลอดเลือด” (White Clot) และโปรตีนหนามทั่วร่างกายไปไกลถึงลูกอัณฑะ / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/pfbid0mcjQWeLT6R55prCBLgHHxQXfATwsQjRnh8dTuNmaYYhrC1eigXFAWG6tZUweSTTUl/?
    ปรากฏการณ์แท่งย้วยสีขาวตันเส้นเลือด
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000015694
    สารคดี Died Suddenly เป็นการค้นพบเส้นอุดตันในเส้นเลือด ที่ไม่ใช่การอุดตันปกติ นักแต่งศพหลายๆคน มีปัญหาฉีดน้ำยารักษาศพเข้าเส้นเลือดไม่ได้ จึงทำการผ่าดู ปรากฏว่าเจอการอุดตันผิดปกติ ยาวเป็นฟุต!! ฝรั่งเขารู้ก่อนเรามานานแล้ว แล้วคุณยังจะเชื่อว่ามันคือ ฮีทสโตรกอยู่เหรอ สารคดีที่ลงสื่อหลักไม่ได้ เพราะเขาไม่อยากให้คุณรู้
    https://rumble.com/v1wac7i-world-premier-died-suddenly.html
    Thai sub https://rumble.com/v1ytofw-died-suddenly-thai-subtitles-.html
    https://t.me/awakened_thailand/415
    “หมอธีระวัฒน์” ย้ำแท่งย้วยสีขาวเริ่มพบกลางปี 2021 หลังมีการใช้วัคซีน mRNA ยันไม่ใช่นักต่อต้านวัคซีน
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000015912
    “หมอธีระวัฒน์” ย้ำแท่งย้วยสีขาวเริ่มพบกลางปี 2021 หลังมีการใช้วัคซีน mRNA ยันไม่ใช่นักต่อต้านวัคซีน
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000015912
    “หมอธีระวัฒน์” เผย 5 เหตุผล ลาออก หน.ศูนย์ฯโรคอุบัติใหม่
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000037010
    วัคซีน : ที่ปฏิบัติในปัจจุบันเป็นการฝ่าฝืนกฎข้อบังคับทางจริยธรรมทางการแพทย์ทั้งหมดหรือไม่? (ตอนที่ 1)
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000036764
    หัวข้อ ทำไม พระสงฆ์ คนหนุ่มสาว ป่วยทรดตัวไว? รายการสภากาแฟ ช่อง News1
    https://www.youtube.com/live/4BHNF3zpCz0?si=nzF8PfAMNCo_mS8x
    "หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ" เชิญร่วมเสวนา “อันตรายจากวัคซีนร้ายแรงกว่าที่คิด” ณ หอศิลป์กรุงเทพฯ 3 พ.ค.นี้
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000035647
    เรื่องใหญ่! “หมอธีระวัฒน์” เผยนักวิจัย “โมเดอร์นา” ยอมรับเอง วัคซีน mRNA ยังต้องผ่านการปรับปรุงอีกหลายขั้นตอน
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000035583
    มะเร็งเพิ่มหลังฉีดวัคซีนโควิดในญี่ปุ่น : กรณีศึกษาในไทย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000034512
    “หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ“ แจงละเอียดยิบ “แท่งย้วยขาวในหลอดเลือด” และโปรตีนหนามทั่วร่างกายไปไกลถึงลูกอัณฑะ
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000025152
    ไวรัสโควิด สร้างได้ในห้องทดลองและ มีจด สิทธิบัตร ตั้งแต่ปี 2018
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000025130
    นวัตกรรมสุดยอดของวัคซีนเลื้อยดุ ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    https://mgronline.com/daily/detail/9670000023136
    White Clot ยังไม่จบ “หมอธีระวัฒน์” พร้อมตอบแบบจัดเต็ม ในงาน “ความจริงมีหนึ่งเดียว” 17 มี.ค.2567
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000020769
    อจ หมออรรถพล CDC Webinar Live Talk 04 มี.ค. 2567 หัวข้อ ภัยของ Covid Vaccine
    https://rumble.com/v4hcoae--covid-vaccine.html
    ชันสูตรศพผู้ตายจากวัคซีนโควิด 326 ราย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000019343
    คนไทยพิทักษ์สิทธิ์ฯ ร้องดีอีปรับปรุงศูนย์ต้านข่าวปลอม พร้อมแก้ไขข้อมูลเท็จ
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000019152
    ฝ่ายค้านแคนาดาแฉ “ทรูโด” ปกปิดหลักฐานวิจัยไวรัสร่วมกับจีน
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000018855
    "ปานเทพ" เผย 7 ประเด็นสำคัญผลกระทบจากวัคซีนโควิด อันตราย-อำมหิตกว่าที่คิด จี้หยุดฉีด
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000018762
    Save หมอธีระวัฒน์ ผู้เปิดโปงธุรกิจไวรัสตัดต่อพันธุกรรม
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000017172
    https://youtu.be/ucQZu7LbZCM?si=YPMxtmhRnYQrnAnk
    จี้คณบดีแพทยศาสตร์ ศิริราช-จุฬาฯ เลิกติดต่อ “เฟาซี” และ EHA ที่ให้ทุนวิจัยสร้างไวรัสอันตราย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000016687
    “ปานเทพ” เสียดายคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้อ่าน งานวิจัยผลกระทบจากวัคซีนต่อเด็กและเยาวชนไทย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000016219


    จวก “หมอธีระ” ยืนข้างบริษัทยา ปล่อยข่าวปลอมเสียเอง ท้าดีเบตกับวิชาการตัวจริง
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000015945
    หมอธีระ หมอที่ยืนข้างบริษัทยา
    https://www.facebook.com/share/p/9x61sF5dLf2dy6wk/?mibextid=Nif5oz
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid049af37rusAcp8AW12nnFEe2MehpUHd5buVdroxoPy6tmSBFnx7M4RRcHoCSXLFYWl&id=100064810775743&mibextid=Nif5oz
    ปรากฏการณ์แท่งย้วยสีขาวตันเส้นเลือด
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000015694
    “หมอธีระวัฒน์” เผยพบปรากฏการณ์ที่ไม่ได้เห็นมาก่อนในคนฉีดวัคซีน mRNA
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000015334
    โลกใช้เชื้อโรคเป็นอาวุธ..แผ่นดินเรามีโอสถภูมิปัญญา WHO..อย่ายุ่งมาก! | สภากาแฟเวทีชาวบ้าน ช่อง News1
    เข้าใจ สนธิสัญญาโรคระบาดและการแก้ไข IHR ( International Health Regulation หรือ กฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ) ของ WHO (องค์การอนามัยโลก)
    https://youtu.be/Cvml6w6c5WI?si=UL81i3lAOVL9872W
    https://www.rookon.com/?p=1176
    สภาทนายความ แถลงข่าว เรื่อง ประกันโควิด กับผลกระทบวัคซีน 05-06-2024
    https://rumble.com/v4zrij6--05-06-2024.html
    เปิดโปงธุรกิจไวรัสตัดต่อพันธุกรรม : Sondhitalk (ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง) EP.230
    https://m.youtube.com/watch?si=Q9kw0ho0R0JfKya5&fbclid=IwAR2tadgM38rB01iG7B_EKK8lvTA4DScCO4-iSpyg9bBZyAmXfGLsiExEFmI_aem_AZq7B_ZfF8BLBoKcmTknNdVCH9GPFMRKMg6tuV_UV8w2m106s6kASAKDgBYMmG3Lzmg&v=ucQZu7LbZCM&feature=youtu.be
    นวัตกรรมสุดยอดของวัคซีนเลื้อยดุ ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    https://mgronline.com/daily/detail/9670000023136
    สร้างเท็จเป็นจริง เปลี่ยนจริงเป็นเท็จ
    https://m.youtube.com/watch?si=XN7rAI1qEWlI-kr6&fbclid=IwAR1mynXiLAbnauASWUlJJWFbJ9YUkDlYd3MpVN975-j1XiXKT8m6LK2stvs_aem_AQH-ZkLmZSDYhXTbonKF3fZqbmCD50usAsDLiZk9cI9WNJJdVKVS7dUUuc-N1nedwd8&v=D6NboVSczKU&feature=youtu.be
    “หมอธีระวัฒน์” เผยความจริงปรากฏ โควิดหลุดจากแล็บเป็นเรื่องจริง ฝีมือหมอใหญ่สหรัฐฯ ผ่านองค์กร Eco Health Alliance
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000042959
    เราจะรอดพ้นจากการเป็นซอมบี้ได้อย่างไร ?!! / โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    https://youtu.be/RLWADSjPdC0?si=6oot2AiWzNbH7efq
    “อีลอน มัสก์” ร้องเอาผิด “เฟาซี” ตอกย้ำโควิดมาจากแล็บอู่ฮั่นที่อเมริกาให้เงินอุดหนุน
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000043013
    อย่าเงียบ!กดดันไฟเซอร์-โมเดอร์นาถอนใบอนุญาตวัคซีนโควิด อ้างพบตายมากกว่าแอสตร้าฯ3เท่า
    https://mgronline.com/around/detail/9670000040887
    “หมอธีระวัฒน์” ตั้งคำถามหลังแอสตร้าฯ หยุดขาย แล้ววัคซีนชนิดอื่นทำไมทางการไทยยังปกป้อง แฉไฟเซอร์ต้องยอมความ 1 หมื่นคดี
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000040486
    “หมอธีระวัฒน์” ถามแพทย์ศาสตร์ จุฬาฯ รับเงิน 2 พันล้านก๊อปปี้วัคซีนโควิดไฟเซอร์ ได้ผลสำเร็จอย่างไร
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000040290
    “ปานเทพ” ชี้แอสตร้าฯ ถอนใบอนุญาตการตลาดวัคซีนทั่วโลกหลังยอมรับก่อผลข้างเคียง แต่องค์กรรัฐไทยเงียบกริบ สะท้อนสำนึกความปลอดภัยที่ตกต่ำ
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000040078
    “ฉีดแล้ว แถมอะไรบ้าง?” ฟังเวอร์ชั่นมึผู้ดัดแปลง แรพเตอร์ประยุกต์
    https://fb.watch/rY3hwhondy/?
    https://fb.watch/rY3jv7hMym/?
    เปิดวิธีป้องกัน ความอันตราย จากพิษของวัคซีน / ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา สัมภาษณ์โดย ปากซอย 105 รู้ก่อนใคร ลึกจากข่าววงใน
    https://youtu.be/44uwz3X0Gh4?si=_qNy29hSXEYptH4g
    “หมอธีระวัฒน์” เผยเคสคนป่วยจากแอสตร้า-ไฟเซอร์ ชี้ทั้งวัคซีนเชื้อเป็นและ mRNA ส่งผลกระทบระยะสั้นถึงยาว ต่อสมอง-กล้ามเนื้อ
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000037733
    แท่งย้วยสีขาวในหลอดเลือด เกิดขึ้น “ก่อน”ตายเท่านั้น รีบช่วยชมและแชร์ก่อนถูกลบ
    https://fb.watch/s0hNc3DymZ/?
    https://fb.watch/s0hJ12wEyq/?
    ช็อค!!! คำสารภาพของไฟเซอร์ รีบชมและแชร์ก่อนโดนลบ
    https://fb.watch/s0bmq6HW8P/?
    “หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ“ แจงละเอียดยิบ “แท่งย้วยขาวในหลอดเลือด” (White Clot) และโปรตีนหนามทั่วร่างกายไปไกลถึงลูกอัณฑะ / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/945435006950200/?
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000025152
    ไวรัสโควิด สร้างได้ในห้องทดลองและ มีจด สิทธิบัตร ตั้งแต่ปี 2018
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000025130
    “หมอชลธวัช” เผยวัคซีน mRNA โยงโรคสมองเสื่อม แนะคนกลัวอัลไซเมอร์-พาร์กินสัน ไม่ควรฉีด
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000052341
    เงินสำคัญกว่าชีวิต! ผู้เชี่ยวชาญเชื่อ US บิดเบือนวัคซีน 'โควิด' จีน มีเป้าหมายเพื่อสกัดคู่แข่ง
    https://mgronline.com/around/detail/9670000051671

    วัคซีนเทพระส่ำ! รัฐแคนซัสลุยฟ้องเอาผิด 'ไฟเซอร์' กล่าวหาปกปิดความเสี่ยง-โป้ปดประสิทธิภาพ
    https://mgronline.com/around/detail/9670000052000
    ความจริงปรากฏ! รอยเตอร์แฉเอง US ใช้ยุทธการบิดเบือน ใส่ร้ายป้ายสีวัคซีนโควิดของจีน
    https://mgronline.com/around/detail/9670000051466
    “หมอธีระวัฒน์” เผยผลชันสูตรคนตาย วัคซีนโควิดอาจเป็นสาเหตุเชื้ออสุจิไม่วิ่ง
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000051903
    สะเทือนแน่! ศาลสหรัฐฯ ตัดสิน วัคซีนโควิด mRNA ไม่ใช่วัคซีนตามความหมายเดิม
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000051429
    เผยเหตุเชื้อ “ฝีดาษลิง” รุนแรงขึ้นอาจเป็นเพราะการทดลองของมนุษย์
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000050851
    วัคซีนเล่มสีชมพู – ดร. เชอร์รี เทนเพนนี
    https://www.rookon.com/?p=1112
    เรื่องใหญ่! 'หมอธีระวัฒน์'แฉนักวิทยาศาสตร์ของ 'โมเดนา' ยอมรับ วัคซีน mRNR มีอันตรายต้องปรับปรุง https://www.thaipost.net/x-cite-news/574701/
    ตัวเร่งอัลไซเมอร์ ปัจจัยสมองเสื่อม
    https://www.thairath.co.th/news/local/2780279?fbclid=IwZXh0bgNhZW0BMQABHasG0naYhGMWkauoJynJJogiy5_NDCd315hbeWbq9VKsujvb0QlhIDaYXw_aem_AVdXSF5wlAW6xu0DqygB78_9MAXrrrSl80nxmlnJULaXM7V7p4XE8sSaW8nA80wGr9U
    “หมอธีระวัฒน์” แฉวัคซีนไฟเซอร์โดนฟ้องแหลกในสหรัฐฯ แต่ในไทยยังประชาสัมพันธ์ให้ฉีด
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000052545
    ลับ ลวง พราง ชั่วร้าย ยาและวัคซีน (ตอนที่ 1)
    https://mgronline.com/daily/detail/9670000053749
    ขึ้นเครื่องบิน ตอนนี้ต้องถามว่า นักบินฉีดกี่เข็ม มีมรณา mRNA ด้วยไหม ถ้าตอบว่ามี รอไฟลต์หน้าปลอดภัย กว่า
    https://x.com/makismd/status/1805541350026199289?s=53&t=Pd2sCn9Dej9GlmSuERlElA
    งานวิจัย วัคซีน mRNA แทรกตัว เปลี่ยน DNA มนุษย์ได้ใน 6 ชม. โดย รศ.ดร.คล้ายอัปสร พงศ์รพีพร
    https://youtu.be/S32-hkJBJKA
    รูต่ายส่ายสะโพก เสนอ ความจริงที่สื่อกระแสหลักไม่กล้าพูดถึง การหลอกลวงและความเชื่อมโยง...
    วัคซีน mRNA ... มือที่มองไม่เห็นและปลายเข็มแห่งซาตาน (วัคซีน mRNA ส่งผลต่อร่างกายมนุษย์ยังไง)
    https://rumble.com/v6gea87--mrna-...-.html?e9s=src_v1_upp_a
    เปิดแฟ้มลับ...มือสังหารหมู่โลก (วัคซีน mRNA, กำเนิดเชื้อโควิด และ RFK JR. แหกทุจริตในอเมริกา)
    https://rumble.com/v6q1hmg-...-mrna-.html?e9s=src_v1_upp_a
    เปิดแฟ้มลับ...มือสังหาร JFK (วัคซีนก่อมะเร็ง,การลอบสังหาร, รัฐลึก, 911)
    https://rumble.com/v6rewkc-...-jfk-ep3.html?e9s=src_v1_upp_a
    ตัวอย่างหนังสือปฏิเสธวัคซีน
    https://t.me/ThaiPitaksithData/6897
    ชำแหละหมอธนีย์
    ตอนที่ 1. ใครกันแน่ที่หาแสง เพื่อขายของ https://www.facebook.com/share/p/1GzjbbbCHp/
    ตอนที่ 2.สื่อไหนนะที่ให้ข่าวปลอม https://www.facebook.com/share/p/1MVZc5gBdM/
    ตอนที่ 3.ก่อนอ่านงานวิจัย อ่านเอกสารกำกับยาก่อนดีไหม
    https://www.facebook.com/share/p/17W8FE6zLY/
    ตอนที่ 4. มีคนเอาข้อมูลไฟเซอร์มาเขียนรายงาน 102 ฉบับ หมอเคยอ่านไหม https://www.facebook.com/share/p/1JCYxQopJV/
    ตอนที่ 5. อาจารย์ธีระวัฒน์ที่เป็น ครู ของหมอ อธิบายได้ดีพร้อมมีหลักฐานแสดง https://www.facebook.com/share/p/1GU7bL72BH/
    ตอนที่ 6.ไหนว่า อ่านงานวิจัยเป็น ทำไมหมอโดนหลอก?
    https://www.facebook.com/share/p/16YVXEaET1/
    ตอนที่ 7.หมอเข้าใจ mRNA มากแค่ไหน Antigen คืออะไร ตอบได้รึเปล่า? https://www.facebook.com/share/p/1BcP47gdMN/
    ตอนที่ 8. อคติ คือ อะไร ทำไม หมอไม่รู้ตัว ?
    https://www.facebook.com/share/p/1GnAz468Kk/
    ตอนที่ 9.หมอสนใจข้อมูล จริงๆ หรือ? แค่พูดให้ดูดี หรือ กล้าไปขอมาดูจริงๆ
    https://www.facebook.com/share/p/14M6mFcCrE2/
    ตอนที่ 10.กาลามสูตรคือ อะไร ต่างจากใช้ AI อย่างไร
    https://www.facebook.com/share/p/17Wua35Hmi/
    โควิดความจริงที่ถูกเปิดเผย
    ตอนที่ 1 https://www.thairath.co.th/newspaper/2756723
    ตอนที่ 2 https://mgronline.com/daily/detail/9670000008184
    ตอนที่ 3 https://mgronline.com/daily/detail/9670000010320
    ตอนที่ 4 https://mgronline.com/daily/detail/9670000012549
    ตอนที่ 5 https://mgronline.com/daily/detail/9670000014922
    ตอนที่ 6 https://www.thairath.co.th/news/local/2765797
    ตอนที่ 7 https://www.facebook.com/share/p/19ohqtKnpQ/
    ตอนที่ 8 https://www.facebook.com/share/p/1FaswKgAHT/
    ตอนที่ 9 https://www.facebook.com/share/p/19fp8ufNYM/
    ตอน 10
    https://www.facebook.com/share/14MV2xoK5Bq/?mibextid=wwXIfr
    ตอน 11
    https://www.facebook.com/share/p/1JHQybX6oW/?mibextid=wwXIfr
    ตอน 12
    https://www.facebook.com/share/17XgRhXGNF/?mibextid=wwXIfr





    ข้อมูลก่อนหน้า https://t.me/ThaiPitaksithData/6914 ✍️เปิดโปงเบื้องหลัง ธุรกิจไวรัสตัดต่อพันธุกรรม ทำไมคนไทยต้อง Save หมอธีระวัฒน์ เพื่อ Save ประชาชน จากรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ ศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 https://fb.watch/qpJFWeLSO0/? ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยความจริงต้นตอที่มาโควิด พร้อมแจงละเอียดยิบเหตุยุติวิจัยไวรัสค้างคาว https://news1live.com/detail/9670000005954 ✍️“หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ“ แจงละเอียดยิบ “แท่งย้วยขาวในหลอดเลือด” (White Clot) และโปรตีนหนามทั่วร่างกายไปไกลถึงลูกอัณฑะ / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://www.facebook.com/100044511276276/posts/pfbid0mcjQWeLT6R55prCBLgHHxQXfATwsQjRnh8dTuNmaYYhrC1eigXFAWG6tZUweSTTUl/? ✍️ปรากฏการณ์แท่งย้วยสีขาวตันเส้นเลือด https://mgronline.com/qol/detail/9670000015694 ✍️สารคดี Died Suddenly เป็นการค้นพบเส้นอุดตันในเส้นเลือด ที่ไม่ใช่การอุดตันปกติ นักแต่งศพหลายๆคน มีปัญหาฉีดน้ำยารักษาศพเข้าเส้นเลือดไม่ได้ จึงทำการผ่าดู ปรากฏว่าเจอการอุดตันผิดปกติ ยาวเป็นฟุต!! ฝรั่งเขารู้ก่อนเรามานานแล้ว แล้วคุณยังจะเชื่อว่ามันคือ ฮีทสโตรกอยู่เหรอ สารคดีที่ลงสื่อหลักไม่ได้ เพราะเขาไม่อยากให้คุณรู้ https://rumble.com/v1wac7i-world-premier-died-suddenly.html Thai sub https://rumble.com/v1ytofw-died-suddenly-thai-subtitles-.html https://t.me/awakened_thailand/415 ✍️“หมอธีระวัฒน์” ย้ำแท่งย้วยสีขาวเริ่มพบกลางปี 2021 หลังมีการใช้วัคซีน mRNA ยันไม่ใช่นักต่อต้านวัคซีน https://mgronline.com/qol/detail/9670000015912 ✍️“หมอธีระวัฒน์” ย้ำแท่งย้วยสีขาวเริ่มพบกลางปี 2021 หลังมีการใช้วัคซีน mRNA ยันไม่ใช่นักต่อต้านวัคซีน https://mgronline.com/qol/detail/9670000015912 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผย 5 เหตุผล ลาออก หน.ศูนย์ฯโรคอุบัติใหม่ https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000037010 ✍️วัคซีน : ที่ปฏิบัติในปัจจุบันเป็นการฝ่าฝืนกฎข้อบังคับทางจริยธรรมทางการแพทย์ทั้งหมดหรือไม่? (ตอนที่ 1) https://mgronline.com/qol/detail/9670000036764 ✍️หัวข้อ ทำไม พระสงฆ์ คนหนุ่มสาว ป่วยทรดตัวไว? รายการสภากาแฟ ช่อง News1 https://www.youtube.com/live/4BHNF3zpCz0?si=nzF8PfAMNCo_mS8x ✍️"หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ" เชิญร่วมเสวนา “อันตรายจากวัคซีนร้ายแรงกว่าที่คิด” ณ หอศิลป์กรุงเทพฯ 3 พ.ค.นี้ https://mgronline.com/qol/detail/9670000035647 ✍️เรื่องใหญ่! “หมอธีระวัฒน์” เผยนักวิจัย “โมเดอร์นา” ยอมรับเอง วัคซีน mRNA ยังต้องผ่านการปรับปรุงอีกหลายขั้นตอน https://mgronline.com/qol/detail/9670000035583 ✍️มะเร็งเพิ่มหลังฉีดวัคซีนโควิดในญี่ปุ่น : กรณีศึกษาในไทย https://mgronline.com/qol/detail/9670000034512 ✍️“หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ“ แจงละเอียดยิบ “แท่งย้วยขาวในหลอดเลือด” และโปรตีนหนามทั่วร่างกายไปไกลถึงลูกอัณฑะ https://mgronline.com/qol/detail/9670000025152 ✍️ไวรัสโควิด สร้างได้ในห้องทดลองและ มีจด สิทธิบัตร ตั้งแต่ปี 2018 https://mgronline.com/qol/detail/9670000025130 ✍️นวัตกรรมสุดยอดของวัคซีนเลื้อยดุ ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://mgronline.com/daily/detail/9670000023136 ✍️White Clot ยังไม่จบ “หมอธีระวัฒน์” พร้อมตอบแบบจัดเต็ม ในงาน “ความจริงมีหนึ่งเดียว” 17 มี.ค.2567 https://mgronline.com/qol/detail/9670000020769 ✍️อจ หมออรรถพล CDC Webinar Live Talk 04 มี.ค. 2567 หัวข้อ ภัยของ Covid Vaccine https://rumble.com/v4hcoae--covid-vaccine.html ✍️ชันสูตรศพผู้ตายจากวัคซีนโควิด 326 ราย https://mgronline.com/qol/detail/9670000019343 ✍️คนไทยพิทักษ์สิทธิ์ฯ ร้องดีอีปรับปรุงศูนย์ต้านข่าวปลอม พร้อมแก้ไขข้อมูลเท็จ https://mgronline.com/qol/detail/9670000019152 ✍️ฝ่ายค้านแคนาดาแฉ “ทรูโด” ปกปิดหลักฐานวิจัยไวรัสร่วมกับจีน https://mgronline.com/qol/detail/9670000018855 ✍️"ปานเทพ" เผย 7 ประเด็นสำคัญผลกระทบจากวัคซีนโควิด อันตราย-อำมหิตกว่าที่คิด จี้หยุดฉีด https://mgronline.com/qol/detail/9670000018762 ✍️Save หมอธีระวัฒน์ ผู้เปิดโปงธุรกิจไวรัสตัดต่อพันธุกรรม https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000017172 https://youtu.be/ucQZu7LbZCM?si=YPMxtmhRnYQrnAnk ✍️จี้คณบดีแพทยศาสตร์ ศิริราช-จุฬาฯ เลิกติดต่อ “เฟาซี” และ EHA ที่ให้ทุนวิจัยสร้างไวรัสอันตราย https://mgronline.com/qol/detail/9670000016687 ✍️“ปานเทพ” เสียดายคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้อ่าน งานวิจัยผลกระทบจากวัคซีนต่อเด็กและเยาวชนไทย https://mgronline.com/qol/detail/9670000016219 ✍️จวก “หมอธีระ” ยืนข้างบริษัทยา ปล่อยข่าวปลอมเสียเอง ท้าดีเบตกับวิชาการตัวจริง https://mgronline.com/qol/detail/9670000015945 ✍️หมอธีระ หมอที่ยืนข้างบริษัทยา https://www.facebook.com/share/p/9x61sF5dLf2dy6wk/?mibextid=Nif5oz https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid049af37rusAcp8AW12nnFEe2MehpUHd5buVdroxoPy6tmSBFnx7M4RRcHoCSXLFYWl&id=100064810775743&mibextid=Nif5oz ✍️ปรากฏการณ์แท่งย้วยสีขาวตันเส้นเลือด https://mgronline.com/qol/detail/9670000015694 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยพบปรากฏการณ์ที่ไม่ได้เห็นมาก่อนในคนฉีดวัคซีน mRNA https://mgronline.com/qol/detail/9670000015334 ✍️ โลกใช้เชื้อโรคเป็นอาวุธ..แผ่นดินเรามีโอสถภูมิปัญญา WHO..อย่ายุ่งมาก! | สภากาแฟเวทีชาวบ้าน ช่อง News1 เข้าใจ สนธิสัญญาโรคระบาดและการแก้ไข IHR ( International Health Regulation หรือ กฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ) ของ WHO (องค์การอนามัยโลก) https://youtu.be/Cvml6w6c5WI?si=UL81i3lAOVL9872W https://www.rookon.com/?p=1176 ✍️ สภาทนายความ แถลงข่าว เรื่อง ประกันโควิด กับผลกระทบวัคซีน 05-06-2024 https://rumble.com/v4zrij6--05-06-2024.html ✍️ เปิดโปงธุรกิจไวรัสตัดต่อพันธุกรรม : Sondhitalk (ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง) EP.230 https://m.youtube.com/watch?si=Q9kw0ho0R0JfKya5&fbclid=IwAR2tadgM38rB01iG7B_EKK8lvTA4DScCO4-iSpyg9bBZyAmXfGLsiExEFmI_aem_AZq7B_ZfF8BLBoKcmTknNdVCH9GPFMRKMg6tuV_UV8w2m106s6kASAKDgBYMmG3Lzmg&v=ucQZu7LbZCM&feature=youtu.be ✍️ นวัตกรรมสุดยอดของวัคซีนเลื้อยดุ ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://mgronline.com/daily/detail/9670000023136 ✍️ สร้างเท็จเป็นจริง เปลี่ยนจริงเป็นเท็จ https://m.youtube.com/watch?si=XN7rAI1qEWlI-kr6&fbclid=IwAR1mynXiLAbnauASWUlJJWFbJ9YUkDlYd3MpVN975-j1XiXKT8m6LK2stvs_aem_AQH-ZkLmZSDYhXTbonKF3fZqbmCD50usAsDLiZk9cI9WNJJdVKVS7dUUuc-N1nedwd8&v=D6NboVSczKU&feature=youtu.be ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยความจริงปรากฏ โควิดหลุดจากแล็บเป็นเรื่องจริง ฝีมือหมอใหญ่สหรัฐฯ ผ่านองค์กร Eco Health Alliance https://mgronline.com/qol/detail/9670000042959 ✍️เราจะรอดพ้นจากการเป็นซอมบี้ได้อย่างไร ?!! / โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://youtu.be/RLWADSjPdC0?si=6oot2AiWzNbH7efq ✍️“อีลอน มัสก์” ร้องเอาผิด “เฟาซี” ตอกย้ำโควิดมาจากแล็บอู่ฮั่นที่อเมริกาให้เงินอุดหนุน https://mgronline.com/qol/detail/9670000043013 ✍️อย่าเงียบ!กดดันไฟเซอร์-โมเดอร์นาถอนใบอนุญาตวัคซีนโควิด อ้างพบตายมากกว่าแอสตร้าฯ3เท่า https://mgronline.com/around/detail/9670000040887 ✍️“หมอธีระวัฒน์” ตั้งคำถามหลังแอสตร้าฯ หยุดขาย แล้ววัคซีนชนิดอื่นทำไมทางการไทยยังปกป้อง แฉไฟเซอร์ต้องยอมความ 1 หมื่นคดี https://mgronline.com/qol/detail/9670000040486 ✍️“หมอธีระวัฒน์” ถามแพทย์ศาสตร์ จุฬาฯ รับเงิน 2 พันล้านก๊อปปี้วัคซีนโควิดไฟเซอร์ ได้ผลสำเร็จอย่างไร https://mgronline.com/qol/detail/9670000040290 ✍️“ปานเทพ” ชี้แอสตร้าฯ ถอนใบอนุญาตการตลาดวัคซีนทั่วโลกหลังยอมรับก่อผลข้างเคียง แต่องค์กรรัฐไทยเงียบกริบ สะท้อนสำนึกความปลอดภัยที่ตกต่ำ https://mgronline.com/qol/detail/9670000040078 ✍️“ฉีดแล้ว แถมอะไรบ้าง?” ฟังเวอร์ชั่นมึผู้ดัดแปลง แรพเตอร์ประยุกต์ https://fb.watch/rY3hwhondy/? https://fb.watch/rY3jv7hMym/? ✍️เปิดวิธีป้องกัน ความอันตราย จากพิษของวัคซีน / ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา สัมภาษณ์โดย ปากซอย 105 รู้ก่อนใคร ลึกจากข่าววงใน https://youtu.be/44uwz3X0Gh4?si=_qNy29hSXEYptH4g ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยเคสคนป่วยจากแอสตร้า-ไฟเซอร์ ชี้ทั้งวัคซีนเชื้อเป็นและ mRNA ส่งผลกระทบระยะสั้นถึงยาว ต่อสมอง-กล้ามเนื้อ https://mgronline.com/qol/detail/9670000037733 ✍️แท่งย้วยสีขาวในหลอดเลือด เกิดขึ้น “ก่อน”ตายเท่านั้น รีบช่วยชมและแชร์ก่อนถูกลบ https://fb.watch/s0hNc3DymZ/? https://fb.watch/s0hJ12wEyq/? ✍️ช็อค!!! คำสารภาพของไฟเซอร์ รีบชมและแชร์ก่อนโดนลบ https://fb.watch/s0bmq6HW8P/? ✍️ “หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ“ แจงละเอียดยิบ “แท่งย้วยขาวในหลอดเลือด” (White Clot) และโปรตีนหนามทั่วร่างกายไปไกลถึงลูกอัณฑะ / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://www.facebook.com/100044511276276/posts/945435006950200/? https://mgronline.com/qol/detail/9670000025152 ✍️ ไวรัสโควิด สร้างได้ในห้องทดลองและ มีจด สิทธิบัตร ตั้งแต่ปี 2018 https://mgronline.com/qol/detail/9670000025130 ✍️ “หมอชลธวัช” เผยวัคซีน mRNA โยงโรคสมองเสื่อม แนะคนกลัวอัลไซเมอร์-พาร์กินสัน ไม่ควรฉีด https://mgronline.com/qol/detail/9670000052341 ✍️ เงินสำคัญกว่าชีวิต! ผู้เชี่ยวชาญเชื่อ US บิดเบือนวัคซีน 'โควิด' จีน มีเป้าหมายเพื่อสกัดคู่แข่ง https://mgronline.com/around/detail/9670000051671 ✍️ วัคซีนเทพระส่ำ! รัฐแคนซัสลุยฟ้องเอาผิด 'ไฟเซอร์' กล่าวหาปกปิดความเสี่ยง-โป้ปดประสิทธิภาพ https://mgronline.com/around/detail/9670000052000 ✍️ ความจริงปรากฏ! รอยเตอร์แฉเอง US ใช้ยุทธการบิดเบือน ใส่ร้ายป้ายสีวัคซีนโควิดของจีน https://mgronline.com/around/detail/9670000051466 ✍️ “หมอธีระวัฒน์” เผยผลชันสูตรคนตาย วัคซีนโควิดอาจเป็นสาเหตุเชื้ออสุจิไม่วิ่ง https://mgronline.com/qol/detail/9670000051903 ✍️ สะเทือนแน่! ศาลสหรัฐฯ ตัดสิน วัคซีนโควิด mRNA ไม่ใช่วัคซีนตามความหมายเดิม https://mgronline.com/qol/detail/9670000051429 ✍️เผยเหตุเชื้อ “ฝีดาษลิง” รุนแรงขึ้นอาจเป็นเพราะการทดลองของมนุษย์ https://mgronline.com/qol/detail/9670000050851 ✍️ วัคซีนเล่มสีชมพู – ดร. เชอร์รี เทนเพนนี https://www.rookon.com/?p=1112 ✍️ เรื่องใหญ่! 'หมอธีระวัฒน์'แฉนักวิทยาศาสตร์ของ 'โมเดนา' ยอมรับ วัคซีน mRNR มีอันตรายต้องปรับปรุง https://www.thaipost.net/x-cite-news/574701/ ✍️ ตัวเร่งอัลไซเมอร์ ปัจจัยสมองเสื่อม https://www.thairath.co.th/news/local/2780279?fbclid=IwZXh0bgNhZW0BMQABHasG0naYhGMWkauoJynJJogiy5_NDCd315hbeWbq9VKsujvb0QlhIDaYXw_aem_AVdXSF5wlAW6xu0DqygB78_9MAXrrrSl80nxmlnJULaXM7V7p4XE8sSaW8nA80wGr9U ✍️ “หมอธีระวัฒน์” แฉวัคซีนไฟเซอร์โดนฟ้องแหลกในสหรัฐฯ แต่ในไทยยังประชาสัมพันธ์ให้ฉีด https://mgronline.com/qol/detail/9670000052545 ✍️ ลับ ลวง พราง ชั่วร้าย ยาและวัคซีน (ตอนที่ 1) https://mgronline.com/daily/detail/9670000053749 ✍️ขึ้นเครื่องบิน ตอนนี้ต้องถามว่า นักบินฉีดกี่เข็ม มีมรณา mRNA ด้วยไหม ถ้าตอบว่ามี รอไฟลต์หน้าปลอดภัย กว่า https://x.com/makismd/status/1805541350026199289?s=53&t=Pd2sCn9Dej9GlmSuERlElA ✍️งานวิจัย วัคซีน mRNA แทรกตัว เปลี่ยน DNA มนุษย์ได้ใน 6 ชม. โดย รศ.ดร.คล้ายอัปสร พงศ์รพีพร https://youtu.be/S32-hkJBJKA รูต่ายส่ายสะโพก เสนอ ความจริงที่สื่อกระแสหลักไม่กล้าพูดถึง การหลอกลวงและความเชื่อมโยง... ✍️วัคซีน mRNA ... มือที่มองไม่เห็นและปลายเข็มแห่งซาตาน (วัคซีน mRNA ส่งผลต่อร่างกายมนุษย์ยังไง) https://rumble.com/v6gea87--mrna-...-.html?e9s=src_v1_upp_a ✍️เปิดแฟ้มลับ...มือสังหารหมู่โลก (วัคซีน mRNA, กำเนิดเชื้อโควิด และ RFK JR. แหกทุจริตในอเมริกา) https://rumble.com/v6q1hmg-...-mrna-.html?e9s=src_v1_upp_a ✍️เปิดแฟ้มลับ...มือสังหาร JFK (วัคซีนก่อมะเร็ง,การลอบสังหาร, รัฐลึก, 911) https://rumble.com/v6rewkc-...-jfk-ep3.html?e9s=src_v1_upp_a ✍️ตัวอย่างหนังสือปฏิเสธวัคซีน https://t.me/ThaiPitaksithData/6897 ✍️🔪ชำแหละหมอธนีย์ ตอนที่ 1. ใครกันแน่ที่หาแสง เพื่อขายของ https://www.facebook.com/share/p/1GzjbbbCHp/ ตอนที่ 2.สื่อไหนนะที่ให้ข่าวปลอม https://www.facebook.com/share/p/1MVZc5gBdM/ ตอนที่ 3.ก่อนอ่านงานวิจัย อ่านเอกสารกำกับยาก่อนดีไหม https://www.facebook.com/share/p/17W8FE6zLY/ ตอนที่ 4. มีคนเอาข้อมูลไฟเซอร์มาเขียนรายงาน 102 ฉบับ หมอเคยอ่านไหม https://www.facebook.com/share/p/1JCYxQopJV/ ตอนที่ 5. อาจารย์ธีระวัฒน์ที่เป็น ครู ของหมอ อธิบายได้ดีพร้อมมีหลักฐานแสดง https://www.facebook.com/share/p/1GU7bL72BH/ ตอนที่ 6.ไหนว่า อ่านงานวิจัยเป็น ทำไมหมอโดนหลอก? https://www.facebook.com/share/p/16YVXEaET1/ ตอนที่ 7.หมอเข้าใจ mRNA มากแค่ไหน Antigen คืออะไร ตอบได้รึเปล่า? https://www.facebook.com/share/p/1BcP47gdMN/ ตอนที่ 8. อคติ คือ อะไร ทำไม หมอไม่รู้ตัว ? https://www.facebook.com/share/p/1GnAz468Kk/ ตอนที่ 9.หมอสนใจข้อมูล จริงๆ หรือ? แค่พูดให้ดูดี หรือ กล้าไปขอมาดูจริงๆ https://www.facebook.com/share/p/14M6mFcCrE2/ ตอนที่ 10.กาลามสูตรคือ อะไร ต่างจากใช้ AI อย่างไร https://www.facebook.com/share/p/17Wua35Hmi/ ✍️โควิดความจริงที่ถูกเปิดเผย ตอนที่ 1 https://www.thairath.co.th/newspaper/2756723 ตอนที่ 2 https://mgronline.com/daily/detail/9670000008184 ตอนที่ 3 https://mgronline.com/daily/detail/9670000010320 ตอนที่ 4 https://mgronline.com/daily/detail/9670000012549 ตอนที่ 5 https://mgronline.com/daily/detail/9670000014922 ตอนที่ 6 https://www.thairath.co.th/news/local/2765797 ตอนที่ 7 https://www.facebook.com/share/p/19ohqtKnpQ/ ตอนที่ 8 https://www.facebook.com/share/p/1FaswKgAHT/ ตอนที่ 9 https://www.facebook.com/share/p/19fp8ufNYM/ ตอน 10 https://www.facebook.com/share/14MV2xoK5Bq/?mibextid=wwXIfr ตอน 11 https://www.facebook.com/share/p/1JHQybX6oW/?mibextid=wwXIfr ตอน 12 https://www.facebook.com/share/17XgRhXGNF/?mibextid=wwXIfr
    0 Comments 0 Shares 553 Views 0 Reviews
  • “สร้างฐานข้อมูลของคุณเอง! คู่มือสร้าง Key-Value Database ตั้งแต่ศูนย์ – เข้าใจง่าย พร้อมแนวคิดระดับมืออาชีพ”

    บทความนี้จาก nan.fyi พาเราย้อนกลับไปตั้งคำถามว่า “ถ้าเราไม่รู้จักฐานข้อมูลเลย แล้วต้องสร้างมันขึ้นมาเอง จะเริ่มยังไง?” คำตอบคือเริ่มจากสิ่งที่เรียบง่ายที่สุด: ไฟล์ และแนวคิดของ key-value pair เหมือน object ใน JavaScript

    เริ่มต้นจากการเขียนข้อมูลลงไฟล์แบบง่าย ๆ เช่น db set 'hello' 'world' แล้วค้นหาด้วย db get 'hello' ซึ่งจะคืนค่า 'world' กลับมา แต่เมื่อข้อมูลมากขึ้น การอัปเดตและลบข้อมูลในไฟล์จะเริ่มช้า เพราะต้องเลื่อนข้อมูลทั้งหมดตาม byte ที่เปลี่ยน

    เพื่อแก้ปัญหานี้ บทความเสนอให้ใช้ ไฟล์แบบ append-only คือไม่แก้ไขข้อมูลเดิม แต่เพิ่มข้อมูลใหม่ลงท้ายไฟล์เสมอ และใช้ “tombstone” เพื่อระบุว่าข้อมูลถูกลบแล้ว เช่น db set 7 null

    แต่ไฟล์จะโตขึ้นเรื่อย ๆ จึงต้องมีระบบ compaction คือแบ่งไฟล์เป็น segment และค่อย ๆ ล้างข้อมูลที่ไม่จำเป็นออก แล้วรวมไฟล์ใหม่ให้เล็กลง

    ต่อมาเพื่อให้ค้นหาข้อมูลเร็วขึ้น ก็ต้องมี index โดยเก็บ offset ของแต่ละ key เพื่อชี้ตำแหน่งในไฟล์ ซึ่งช่วยให้ค้นหาเร็วขึ้นมาก แต่ก็แลกกับการเขียนข้อมูลที่ช้าลง

    สุดท้าย บทความแนะนำให้ใช้ Sorted String Tables (SST) และ LSM Trees ซึ่งเป็นโครงสร้างที่ใช้จริงในฐานข้อมูลระดับโลก เช่น LevelDB และ DynamoDB โดยใช้การจัดเรียงข้อมูลใน memory ก่อน แล้วค่อยเขียนลง disk พร้อม index เพื่อให้ค้นหาเร็วและเขียนได้ต่อเนื่อง

    แนวคิดพื้นฐานของ Key-Value Database
    ใช้ไฟล์เก็บข้อมูลแบบ key-value
    ค้นหาด้วยการวนลูปหา key ที่ตรง
    อัปเดตและลบข้อมูลทำได้ แต่ช้าเมื่อข้อมูลเยอะ

    การปรับปรุงด้วยไฟล์แบบ append-only
    เพิ่มข้อมูลใหม่ลงท้ายไฟล์เสมอ
    ใช้ tombstone เพื่อระบุการลบ
    ค้นหาค่าล่าสุดของ key แทนค่าตัวแรก

    การจัดการขนาดไฟล์ด้วย compaction
    แบ่งไฟล์เป็น segment
    ล้างข้อมูลที่ล้าสมัยหรือถูกลบ
    รวมไฟล์ใหม่ให้เล็กลงและมีข้อมูลล่าสุดเท่านั้น

    การเพิ่มประสิทธิภาพด้วย index
    เก็บ offset ของ key เพื่อค้นหาเร็วขึ้น
    ใช้ hash table ใน memory สำหรับ index
    แลกกับการเขียนข้อมูลที่ช้าลง

    การจัดเรียงข้อมูลด้วย SST และ LSM Tree
    จัดเรียงข้อมูลใน memory ก่อนเขียนลง disk
    ใช้ skip list หรือ binary search tree สำหรับการจัดเรียง
    เขียนลงไฟล์แบบ append-only พร้อม backup
    ใช้ index เพื่อค้นหาในไฟล์ที่ถูกจัดเรียงแล้ว
    เป็นโครงสร้างที่ใช้ใน LevelDB และ DynamoDB

    https://www.nan.fyi/database
    🗃️ “สร้างฐานข้อมูลของคุณเอง! คู่มือสร้าง Key-Value Database ตั้งแต่ศูนย์ – เข้าใจง่าย พร้อมแนวคิดระดับมืออาชีพ” บทความนี้จาก nan.fyi พาเราย้อนกลับไปตั้งคำถามว่า “ถ้าเราไม่รู้จักฐานข้อมูลเลย แล้วต้องสร้างมันขึ้นมาเอง จะเริ่มยังไง?” คำตอบคือเริ่มจากสิ่งที่เรียบง่ายที่สุด: ไฟล์ และแนวคิดของ key-value pair เหมือน object ใน JavaScript เริ่มต้นจากการเขียนข้อมูลลงไฟล์แบบง่าย ๆ เช่น db set 'hello' 'world' แล้วค้นหาด้วย db get 'hello' ซึ่งจะคืนค่า 'world' กลับมา แต่เมื่อข้อมูลมากขึ้น การอัปเดตและลบข้อมูลในไฟล์จะเริ่มช้า เพราะต้องเลื่อนข้อมูลทั้งหมดตาม byte ที่เปลี่ยน เพื่อแก้ปัญหานี้ บทความเสนอให้ใช้ ไฟล์แบบ append-only คือไม่แก้ไขข้อมูลเดิม แต่เพิ่มข้อมูลใหม่ลงท้ายไฟล์เสมอ และใช้ “tombstone” เพื่อระบุว่าข้อมูลถูกลบแล้ว เช่น db set 7 null แต่ไฟล์จะโตขึ้นเรื่อย ๆ จึงต้องมีระบบ compaction คือแบ่งไฟล์เป็น segment และค่อย ๆ ล้างข้อมูลที่ไม่จำเป็นออก แล้วรวมไฟล์ใหม่ให้เล็กลง ต่อมาเพื่อให้ค้นหาข้อมูลเร็วขึ้น ก็ต้องมี index โดยเก็บ offset ของแต่ละ key เพื่อชี้ตำแหน่งในไฟล์ ซึ่งช่วยให้ค้นหาเร็วขึ้นมาก แต่ก็แลกกับการเขียนข้อมูลที่ช้าลง สุดท้าย บทความแนะนำให้ใช้ Sorted String Tables (SST) และ LSM Trees ซึ่งเป็นโครงสร้างที่ใช้จริงในฐานข้อมูลระดับโลก เช่น LevelDB และ DynamoDB โดยใช้การจัดเรียงข้อมูลใน memory ก่อน แล้วค่อยเขียนลง disk พร้อม index เพื่อให้ค้นหาเร็วและเขียนได้ต่อเนื่อง ✅ แนวคิดพื้นฐานของ Key-Value Database ➡️ ใช้ไฟล์เก็บข้อมูลแบบ key-value ➡️ ค้นหาด้วยการวนลูปหา key ที่ตรง ➡️ อัปเดตและลบข้อมูลทำได้ แต่ช้าเมื่อข้อมูลเยอะ ✅ การปรับปรุงด้วยไฟล์แบบ append-only ➡️ เพิ่มข้อมูลใหม่ลงท้ายไฟล์เสมอ ➡️ ใช้ tombstone เพื่อระบุการลบ ➡️ ค้นหาค่าล่าสุดของ key แทนค่าตัวแรก ✅ การจัดการขนาดไฟล์ด้วย compaction ➡️ แบ่งไฟล์เป็น segment ➡️ ล้างข้อมูลที่ล้าสมัยหรือถูกลบ ➡️ รวมไฟล์ใหม่ให้เล็กลงและมีข้อมูลล่าสุดเท่านั้น ✅ การเพิ่มประสิทธิภาพด้วย index ➡️ เก็บ offset ของ key เพื่อค้นหาเร็วขึ้น ➡️ ใช้ hash table ใน memory สำหรับ index ➡️ แลกกับการเขียนข้อมูลที่ช้าลง ✅ การจัดเรียงข้อมูลด้วย SST และ LSM Tree ➡️ จัดเรียงข้อมูลใน memory ก่อนเขียนลง disk ➡️ ใช้ skip list หรือ binary search tree สำหรับการจัดเรียง ➡️ เขียนลงไฟล์แบบ append-only พร้อม backup ➡️ ใช้ index เพื่อค้นหาในไฟล์ที่ถูกจัดเรียงแล้ว ➡️ เป็นโครงสร้างที่ใช้ใน LevelDB และ DynamoDB https://www.nan.fyi/database
    WWW.NAN.FYI
    Build Your Own Database
    A step-by-step guide to building a key-value database from scratch.
    0 Comments 0 Shares 191 Views 0 Reviews
  • วรภัค รมช.คลัง เตรียมแถลงบ่ายนี้ โอด ถูกขบวนการถ่วงความเจริญ ดิสเครดิต โยงสแกมเมอร์ ลั่นเตรียมดำเนินคดีทางกฎหมายเต็มที่
    https://www.thai-tai.tv/news/22014/
    .
    #ไทยไท #วรภัคธันยาวงษ์ #รมชคลัง #สแกมเมอร์ #แถลงข่าว #ดิสเครดิตรัฐบาล #WorldBankIMF

    วรภัค รมช.คลัง เตรียมแถลงบ่ายนี้ โอด ถูกขบวนการถ่วงความเจริญ ดิสเครดิต โยงสแกมเมอร์ ลั่นเตรียมดำเนินคดีทางกฎหมายเต็มที่ https://www.thai-tai.tv/news/22014/ . #ไทยไท #วรภัคธันยาวงษ์ #รมชคลัง #สแกมเมอร์ #แถลงข่าว #ดิสเครดิตรัฐบาล #WorldBankIMF
    0 Comments 0 Shares 128 Views 0 Reviews
  • “Elon Musk ท้าดวล Andrej Karpathy ในศึก AI Coding Showdown — แต่ได้คำตอบว่า ‘ขอร่วมมือดีกว่าแข่งกัน’” — เมื่อการเปรียบเทียบ Grok กับ Deep Blue กลายเป็นบทสนทนาเรื่องอนาคตของ AGI

    Elon Musk ได้โพสต์ข้อความบน X (Twitter เดิม) ท้าทาย Andrej Karpathy อดีตหัวหน้าฝ่ายวิจัยของ OpenAI ให้เข้าร่วมการแข่งขันเขียนโค้ดระหว่างมนุษย์กับ AI โดยใช้ Grok 5 ซึ่งเป็นโมเดลล่าสุดจากบริษัท xAI ของ Musk โดยเปรียบเทียบการแข่งขันนี้กับแมตช์ในตำนานระหว่าง Garry Kasparov กับ IBM Deep Blue ในปี 1997

    คำท้าของ Musk เกิดขึ้นหลังจาก Karpathy ให้สัมภาษณ์ในรายการ Dwarkesh Podcast โดยกล่าวว่า AGI (Artificial General Intelligence) ยังห่างไกลอีกประมาณ 10 ปี และ Grok 5 ยังตามหลัง GPT-4 อยู่หลายเดือน ซึ่ง Musk ตีความว่าเป็นการเปิดช่องให้จัดการแข่งขัน

    Karpathy ตอบกลับอย่างสุภาพว่าเขาไม่สนใจการแข่งขัน แต่ยินดีร่วมมือกับ Grok แทน โดยมองว่าโมเดล AI ควรเป็น “ผู้ร่วมงาน” มากกว่า “คู่แข่ง”

    บทความยังกล่าวถึงการแข่งขันในวงการ AI ที่เริ่มจริงจังขึ้น เช่น:
    DeepMind ใช้ Gemini 2.5 แก้โจทย์จาก ICPC World Finals ได้ 10 จาก 12 ข้อ
    GPT-4 และ GPT-5 ทำได้ครบ 12/12 ข้อใน benchmark เดียวกัน
    นักพัฒนาชาวโปแลนด์เคยเอาชนะโมเดลของ OpenAI ในการแข่งขัน AtCoder World Tour Finals แบบตัวต่อตัว

    หาก Musk ต้องการให้ Grok 5 ได้รับการยอมรับในระดับเดียวกับโมเดลเหล่านี้ เขาจะต้องจัดการแข่งขันที่มีเงื่อนไขชัดเจน เช่น:
    ใช้ชุดโจทย์สาธารณะ
    จำกัดเวลาและทรัพยากร
    ไม่มีการช่วยเหลือจากมนุษย์
    ให้คะแนนโดยคณะกรรมการอิสระและเผยแพร่ผลอย่างโปร่งใส

    Elon Musk ท้า Andrej Karpathy แข่งเขียนโค้ดกับ Grok 5
    เปรียบเทียบกับแมตช์ Kasparov vs Deep Blue

    Karpathy ปฏิเสธคำท้าอย่างสุภาพ
    ระบุว่าอยากร่วมมือกับ AI มากกว่าจะแข่งกัน

    Karpathy มองว่า AGI ยังห่างไกลอีก 10 ปี
    และ Grok 5 ยังตามหลัง GPT-4 อยู่หลายเดือน

    DeepMind ใช้ Gemini 2.5 แก้โจทย์ ICPC ได้ 10 จาก 12 ข้อ
    GPT-4 และ GPT-5 ทำได้ครบ 12/12 ข้อ

    นักพัฒนาชาวโปแลนด์เคยชนะโมเดล OpenAI ในการแข่งขันจริง
    ที่ AtCoder World Tour Finals

    หาก Grok 5 ต้องการพิสูจน์ตัวเอง ต้องแข่งขันภายใต้เงื่อนไขที่ชัดเจน
    เช่น ชุดโจทย์สาธารณะ, ไม่มีการช่วยเหลือ, ให้คะแนนโดยอิสระ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/musk-challenges-kaparthy-to-an-ai-coding-showdown
    🤖 “Elon Musk ท้าดวล Andrej Karpathy ในศึก AI Coding Showdown — แต่ได้คำตอบว่า ‘ขอร่วมมือดีกว่าแข่งกัน’” — เมื่อการเปรียบเทียบ Grok กับ Deep Blue กลายเป็นบทสนทนาเรื่องอนาคตของ AGI Elon Musk ได้โพสต์ข้อความบน X (Twitter เดิม) ท้าทาย Andrej Karpathy อดีตหัวหน้าฝ่ายวิจัยของ OpenAI ให้เข้าร่วมการแข่งขันเขียนโค้ดระหว่างมนุษย์กับ AI โดยใช้ Grok 5 ซึ่งเป็นโมเดลล่าสุดจากบริษัท xAI ของ Musk โดยเปรียบเทียบการแข่งขันนี้กับแมตช์ในตำนานระหว่าง Garry Kasparov กับ IBM Deep Blue ในปี 1997 คำท้าของ Musk เกิดขึ้นหลังจาก Karpathy ให้สัมภาษณ์ในรายการ Dwarkesh Podcast โดยกล่าวว่า AGI (Artificial General Intelligence) ยังห่างไกลอีกประมาณ 10 ปี และ Grok 5 ยังตามหลัง GPT-4 อยู่หลายเดือน ซึ่ง Musk ตีความว่าเป็นการเปิดช่องให้จัดการแข่งขัน Karpathy ตอบกลับอย่างสุภาพว่าเขาไม่สนใจการแข่งขัน แต่ยินดีร่วมมือกับ Grok แทน โดยมองว่าโมเดล AI ควรเป็น “ผู้ร่วมงาน” มากกว่า “คู่แข่ง” บทความยังกล่าวถึงการแข่งขันในวงการ AI ที่เริ่มจริงจังขึ้น เช่น: 🎗️ DeepMind ใช้ Gemini 2.5 แก้โจทย์จาก ICPC World Finals ได้ 10 จาก 12 ข้อ 🎗️ GPT-4 และ GPT-5 ทำได้ครบ 12/12 ข้อใน benchmark เดียวกัน 🎗️ นักพัฒนาชาวโปแลนด์เคยเอาชนะโมเดลของ OpenAI ในการแข่งขัน AtCoder World Tour Finals แบบตัวต่อตัว หาก Musk ต้องการให้ Grok 5 ได้รับการยอมรับในระดับเดียวกับโมเดลเหล่านี้ เขาจะต้องจัดการแข่งขันที่มีเงื่อนไขชัดเจน เช่น: 🎗️ ใช้ชุดโจทย์สาธารณะ 🎗️ จำกัดเวลาและทรัพยากร 🎗️ ไม่มีการช่วยเหลือจากมนุษย์ 🎗️ ให้คะแนนโดยคณะกรรมการอิสระและเผยแพร่ผลอย่างโปร่งใส ✅ Elon Musk ท้า Andrej Karpathy แข่งเขียนโค้ดกับ Grok 5 ➡️ เปรียบเทียบกับแมตช์ Kasparov vs Deep Blue ✅ Karpathy ปฏิเสธคำท้าอย่างสุภาพ ➡️ ระบุว่าอยากร่วมมือกับ AI มากกว่าจะแข่งกัน ✅ Karpathy มองว่า AGI ยังห่างไกลอีก 10 ปี ➡️ และ Grok 5 ยังตามหลัง GPT-4 อยู่หลายเดือน ✅ DeepMind ใช้ Gemini 2.5 แก้โจทย์ ICPC ได้ 10 จาก 12 ข้อ ➡️ GPT-4 และ GPT-5 ทำได้ครบ 12/12 ข้อ ✅ นักพัฒนาชาวโปแลนด์เคยชนะโมเดล OpenAI ในการแข่งขันจริง ➡️ ที่ AtCoder World Tour Finals ✅ หาก Grok 5 ต้องการพิสูจน์ตัวเอง ต้องแข่งขันภายใต้เงื่อนไขที่ชัดเจน ➡️ เช่น ชุดโจทย์สาธารณะ, ไม่มีการช่วยเหลือ, ให้คะแนนโดยอิสระ https://www.tomshardware.com/tech-industry/musk-challenges-kaparthy-to-an-ai-coding-showdown
    0 Comments 0 Shares 213 Views 0 Reviews
More Results