• แจ้งอัปเดตเวอร์ชัน 3.2.2 (iOS) เราได้ทำการอัปเดตแอปพลิเคชันเวอร์ชัน 3.2.2 สำหรับ iOS โดยมีการปรับปรุงดังนี้:

    - ปัญหาการแชร์วิดีโอ Live แล้วเล่นไม่ได้ได้รับการแก้ไขเรียบร้อย

    เรายังคงมุ่งมั่นพัฒนาแอปพลิเคชันให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด

    #thaitimes #UpdateAPP

    แจ้งอัปเดตเวอร์ชัน 3.2.2 (iOS) เราได้ทำการอัปเดตแอปพลิเคชันเวอร์ชัน 3.2.2 สำหรับ iOS โดยมีการปรับปรุงดังนี้: - ปัญหาการแชร์วิดีโอ Live แล้วเล่นไม่ได้ได้รับการแก้ไขเรียบร้อย เรายังคงมุ่งมั่นพัฒนาแอปพลิเคชันให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด #thaitimes #UpdateAPP
    0 Comments 0 Shares 69 Views 0 Reviews
  • รักษาสุขภาพให้แข็งแรงและมีความสุขอยู่เสมอ. Always Stay fit and Happy .#Thaitimes
    รักษาสุขภาพให้แข็งแรงและมีความสุขอยู่เสมอ. Always Stay fit and Happy .#Thaitimes
    0 Comments 0 Shares 63 Views 0 Reviews
  • รักษาสุขภาพให้แข็งแรงและมีความสุขอยู่เสมอ. Always Stay fit and Happy .#Thaitimes
    รักษาสุขภาพให้แข็งแรงและมีความสุขอยู่เสมอ. Always Stay fit and Happy .#Thaitimes
    0 Comments 0 Shares 62 Views 0 Reviews
  • Masjid Agung Al-Aqsa Klaten มัสยิดอากุงอัลอักซอ (Masjid Agung Al-Aqsa) ตั้งอยู่ในเมืองกลาตัน (Klaten) จังหวัดชวากลาง ประเทศอินโดนีเซีย เป็นหนึ่งในมัสยิดที่มีความสวยงามและสำคัญในภูมิภาคนี้ เนื่องจากมีลักษณะสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและมีบทบาทสำคัญในชุมชนชาวมุสลิมในพื้นที่https://maps.app.goo.gl/zFCMDhC97wgTFQyTA?g_st=com.google.maps.preview.copyประวัติโดยย่อ 1. การก่อสร้างมัสยิดแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) เพื่อเป็นศูนย์กลางการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและกิจกรรมของชุมชนชาวมุสลิมในกลาตัน ตัวมัสยิดมีสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก มัสยิดอัลอักซอในเยรูซาเล็ม โดยผสมผสานสไตล์อิสลามแบบดั้งเดิมกับองค์ประกอบสมัยใหม่ 2. สถาปัตยกรรม โดมหลักของมัสยิดมีขนาดใหญ่และโดดเด่น โดยมีสีทองและลวดลายที่วิจิตรบรรจง เสาสูงและการตกแต่งภายในสะท้อนถึงศิลปะแบบอิสลามที่ละเอียดอ่อน ภายในสามารถรองรับผู้มาละหมาดได้มากกว่า 2,000 คน 3. บทบาทในชุมชน เป็นศูนย์กลางของการเรียนการสอนเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม ใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมและงานเฉลิมฉลองสำคัญ เช่น วันฮารีรายอ 4. สถานที่ท่องเที่ยวและความสำคัญนอกจากจะเป็นศูนย์กลางทางศาสนาแล้ว มัสยิดอากุงอัลอักซอยังเป็นจุดสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการชมความงดงามของสถาปัตยกรรม และสัมผัสบรรยากาศทางศาสนาในภูมิภาคนี้มัสยิดอากุงอัลอักซอถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ชาวมุสลิมในอินโดนีเซียภูมิใจ และยังเป็นจุดเด่นที่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางศาสนาและวัฒนธรรมในพื้นที่กลาตัน.
    Masjid Agung Al-Aqsa Klaten มัสยิดอากุงอัลอักซอ (Masjid Agung Al-Aqsa) ตั้งอยู่ในเมืองกลาตัน (Klaten) จังหวัดชวากลาง ประเทศอินโดนีเซีย เป็นหนึ่งในมัสยิดที่มีความสวยงามและสำคัญในภูมิภาคนี้ เนื่องจากมีลักษณะสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและมีบทบาทสำคัญในชุมชนชาวมุสลิมในพื้นที่https://maps.app.goo.gl/zFCMDhC97wgTFQyTA?g_st=com.google.maps.preview.copyประวัติโดยย่อ 1. การก่อสร้างมัสยิดแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2003 (พ.ศ. 2546) เพื่อเป็นศูนย์กลางการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและกิจกรรมของชุมชนชาวมุสลิมในกลาตัน ตัวมัสยิดมีสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก มัสยิดอัลอักซอในเยรูซาเล็ม โดยผสมผสานสไตล์อิสลามแบบดั้งเดิมกับองค์ประกอบสมัยใหม่ 2. สถาปัตยกรรม โดมหลักของมัสยิดมีขนาดใหญ่และโดดเด่น โดยมีสีทองและลวดลายที่วิจิตรบรรจง เสาสูงและการตกแต่งภายในสะท้อนถึงศิลปะแบบอิสลามที่ละเอียดอ่อน ภายในสามารถรองรับผู้มาละหมาดได้มากกว่า 2,000 คน 3. บทบาทในชุมชน เป็นศูนย์กลางของการเรียนการสอนเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม ใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมและงานเฉลิมฉลองสำคัญ เช่น วันฮารีรายอ 4. สถานที่ท่องเที่ยวและความสำคัญนอกจากจะเป็นศูนย์กลางทางศาสนาแล้ว มัสยิดอากุงอัลอักซอยังเป็นจุดสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการชมความงดงามของสถาปัตยกรรม และสัมผัสบรรยากาศทางศาสนาในภูมิภาคนี้มัสยิดอากุงอัลอักซอถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ชาวมุสลิมในอินโดนีเซียภูมิใจ และยังเป็นจุดเด่นที่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางศาสนาและวัฒนธรรมในพื้นที่กลาตัน.
    0 Comments 0 Shares 80 Views 0 Reviews
  • แสงแห่งปัญญา🌼แสงปัญญาสว่างไกลกว่าแสงทองเผยความจริงลับล่องสิ้นหมองมัวดับความหลงกิเลสลวงที่พันพัวปลดใจชั่วจากตัณหาพาชีวาสุขลวงหลอกดั่งฝันพลันจางสิ้นสุขจอมปลอมสูญสิ้นทุกถิ่นหล้าสุขแท้จริงอยู่ในใจเบิกตาเดินตามธรรมพาไปสู่สุขงามถาวร บุญญวรรณ#BYIAgalicoOracleTarot #tarotwisdomheritage The Light of Wisdom🌼The light of wisdom shines brighter than the sun,Revealing truth where illusions are undone.It dispels darkness and deceit that binds,Freeing the heart from desires of all kinds.False joy fades like dreams that quickly dissolve,Pleasures fleeting, unable to resolve.True happiness lies in awakened sight,Guided forever by the Dharma's light.Thaworn Boonyawan
    แสงแห่งปัญญา🌼แสงปัญญาสว่างไกลกว่าแสงทองเผยความจริงลับล่องสิ้นหมองมัวดับความหลงกิเลสลวงที่พันพัวปลดใจชั่วจากตัณหาพาชีวาสุขลวงหลอกดั่งฝันพลันจางสิ้นสุขจอมปลอมสูญสิ้นทุกถิ่นหล้าสุขแท้จริงอยู่ในใจเบิกตาเดินตามธรรมพาไปสู่สุขงามถาวร บุญญวรรณ#BYIAgalicoOracleTarot #tarotwisdomheritage The Light of Wisdom🌼The light of wisdom shines brighter than the sun,Revealing truth where illusions are undone.It dispels darkness and deceit that binds,Freeing the heart from desires of all kinds.False joy fades like dreams that quickly dissolve,Pleasures fleeting, unable to resolve.True happiness lies in awakened sight,Guided forever by the Dharma's light.Thaworn Boonyawan
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • เห็นผล ! นบ.ยส.24 ลุยหนัก 55 วัน สกัดกั้น ยึดยาบ้าได้ กว่า 24 ล้านเม็ด
    ตัวเลขยาเสพติด ไม่ลด ! มีแต่พุ่ง ปราบเท่าไหร่ก็ไม่หมด
    ยาบ้า 24,647,000 เม็ด
    ไอซ์ 1,193.548 กิโลกรัม
    เฮโรอีน 91.83 กิโลกรัม
    เคตามีน 3.79 กิโลกรัม
    ยาอี 6 กิโลกรัม
    ฝิ่น 0.66 กิโลกรัม และ ส่วนผสมจากยาเสพติดหลายชนิด ฤทธิ์รุนแรง อาจถึงขั้นเสียชีวิต อย่าง Happy Water อีกกว่า 410 ซอง
    .
    ผู้ต้องหาเย้ยอำนาจรัฐ 312 คน เกม! จำนนพร้อมของกลาง
    สถิติการจับกุม ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึง 24 พฤศจิกายน 2567
    สะท้อนว่า นบ.ยส.24 จะไม่ลดละ ไม่จำนนต่อยาเสพติดภัยร้ายใกล้ตัวที่คุกคามสวัสดิภาพพี่น้องประชาชน อย่างเด็ดขาด !
    .
    เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น จับกุม นโยบายสำคัญของ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) ปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ และขยายผลเครือข่ายที่จับกุมได้ทุกระดับอย่างจริงจังทุกพื้นที่ รวมทั้งการขยายผลเพื่ออายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ทั้งของผู้ค้า ผู้ช่วยเหลือและสนับสนุนเครือข่ายทั้งหมดมาตรวจสอบ ถือเป็นนโยบายเร่งด่วน โดยให้เป็นมาตรการเชิงรุก ทั้งการป้องกันและปราบปราม เนื่องจากเป็นภัยอันตรายที่บั่นทอนทั้งสังคม เศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะ มาตรการป้องกันและสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เด็ก เยาวชน ไม่ให้เข้าไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติดแต่แรก ทั้งนี้ต้องอาศัยการบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อหาทางป้องกันร่วมกัน
    .
    นอกจากนี้ ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้นำกำลังพลในส่วนกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี เข้ารับการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด แม้กระทั่งแม่ทัพภาคที่ 2 เอง ก็ต้องเข้ารับการตรวจ ไม่มีการยกเว้น ! ตามนโยบายของกองทัพบกที่ต้องการป้องกันและป้องปรามกำลังพล ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเป็นหลักประกันให้กับสังคม ว่าทหารทุกนายจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด
    #กองทัพภาคที่2
    #กองทัพบกRoyalThaiArmy
    เห็นผล ! นบ.ยส.24 ลุยหนัก 55 วัน สกัดกั้น ยึดยาบ้าได้ กว่า 24 ล้านเม็ด ตัวเลขยาเสพติด ไม่ลด ! มีแต่พุ่ง ปราบเท่าไหร่ก็ไม่หมด ยาบ้า 24,647,000 เม็ด ไอซ์ 1,193.548 กิโลกรัม เฮโรอีน 91.83 กิโลกรัม เคตามีน 3.79 กิโลกรัม ยาอี 6 กิโลกรัม ฝิ่น 0.66 กิโลกรัม และ ส่วนผสมจากยาเสพติดหลายชนิด ฤทธิ์รุนแรง อาจถึงขั้นเสียชีวิต อย่าง Happy Water อีกกว่า 410 ซอง . ผู้ต้องหาเย้ยอำนาจรัฐ 312 คน เกม! จำนนพร้อมของกลาง สถิติการจับกุม ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึง 24 พฤศจิกายน 2567 สะท้อนว่า นบ.ยส.24 จะไม่ลดละ ไม่จำนนต่อยาเสพติดภัยร้ายใกล้ตัวที่คุกคามสวัสดิภาพพี่น้องประชาชน อย่างเด็ดขาด ! . เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น จับกุม นโยบายสำคัญของ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) ปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ และขยายผลเครือข่ายที่จับกุมได้ทุกระดับอย่างจริงจังทุกพื้นที่ รวมทั้งการขยายผลเพื่ออายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ทั้งของผู้ค้า ผู้ช่วยเหลือและสนับสนุนเครือข่ายทั้งหมดมาตรวจสอบ ถือเป็นนโยบายเร่งด่วน โดยให้เป็นมาตรการเชิงรุก ทั้งการป้องกันและปราบปราม เนื่องจากเป็นภัยอันตรายที่บั่นทอนทั้งสังคม เศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะ มาตรการป้องกันและสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เด็ก เยาวชน ไม่ให้เข้าไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติดแต่แรก ทั้งนี้ต้องอาศัยการบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อหาทางป้องกันร่วมกัน . นอกจากนี้ ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้นำกำลังพลในส่วนกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี เข้ารับการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด แม้กระทั่งแม่ทัพภาคที่ 2 เอง ก็ต้องเข้ารับการตรวจ ไม่มีการยกเว้น ! ตามนโยบายของกองทัพบกที่ต้องการป้องกันและป้องปรามกำลังพล ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเป็นหลักประกันให้กับสังคม ว่าทหารทุกนายจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด #กองทัพภาคที่2 #กองทัพบกRoyalThaiArmy
    0 Comments 0 Shares 151 Views 0 Reviews
  • MAX OLED คือ เทคโนโลยีจอ OLED ใหม่ ที่พัฒนาโดยบริษัท Applied Materials สัญชาติอเมริกันที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1967 จะเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการผลิตจอ OLED ให้มีคุณภาพสูงขึ้นและต้นทุนต่ำลง ใช้พลังงานน้อยลง 30% ทำให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เทคโนโลยีจอใหม่นี้เพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการผลิตจอ OLED ให้มีคุณภาพสูงขึ้นและต้นทุนต่ำลง ลุงรอซื้อเลยครับแบบนี้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/applied-materials-max-oled-screens-touted-to-offer-5x-lifespan-tech-claimed-to-produce-brighter-and-higher-resolution-screens-too
    MAX OLED คือ เทคโนโลยีจอ OLED ใหม่ ที่พัฒนาโดยบริษัท Applied Materials สัญชาติอเมริกันที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1967 จะเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการผลิตจอ OLED ให้มีคุณภาพสูงขึ้นและต้นทุนต่ำลง ใช้พลังงานน้อยลง 30% ทำให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เทคโนโลยีจอใหม่นี้เพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการผลิตจอ OLED ให้มีคุณภาพสูงขึ้นและต้นทุนต่ำลง ลุงรอซื้อเลยครับแบบนี้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/applied-materials-max-oled-screens-touted-to-offer-5x-lifespan-tech-claimed-to-produce-brighter-and-higher-resolution-screens-too
    0 Comments 0 Shares 112 Views 0 Reviews
  • ลือหึ่ง “ทนายสายหยุด” ถอนตัวคดีตั้ม อับอายถูกสังคมบูลลี่ เป็นทนายไร้จริยธรรม.วันนี้ (24 พ.ย.) ทีมงานคุยทุกเรื่องกับสนธิ ได้รับการประสานจาก นายสายหยุด เพ็งบุญชู หรือทนายปาเกียว ทนายความคู่ใจที่ได้รับการมอบหมายจาก นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ให้เป็นผู้ทำคดีฉ้อโกง “มาดามอ้อย” จำนวน 71 ล้านบาท และคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ว่า วันพรุ่งนี้ (25 พ.ย.) จะเดินทางไปที่ห้องส่งรายการโหนกระแส เพื่อแถลงข่าวกับหนุ่มกรรชัย ให้สังคมรับทราบว่า จะขอถอนตัวออกจากการเป็นทนายความ ของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เนื่องจากขณะนี้รู้สึกตัวว่า ตนเองถูกหลอก โดยเฉพาะพยานหลักฐานที่ นายษิทรา ตระเตรียมไว้ให้ ล้วนเป็นพยานหลักฐานเท็จ อาทิ สัญญาการว่าจ้างทำ app สลากออนไลน์ ที่เป็นเพียงฉบับร่าง ตอนนี้เอกสารในมือทนายความไม่มีลายเซ็นผู้ใดแม้แต่รายเดียว ประกอบกับได้ทำการสืบสวนในทางลับแล้วว่า เฉพาะสัญญาฉบับนี้ มีการดัดแปลงแต่งเติมแก้ไข จากคอมพิวเตอร์ภายในสำนักงานกฎหมายของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด มาจำนวนหลายครั้ง ก่อนที่จะส่งถึงมือตนเอง นั่นหมายถึง นายษิทรา พยายามปิดบังข้อเท็จจริงทำให้รับไม่ได้ที่จะทำงานให้ต่อไปอีก,#ทนายสายหยุด #ทนายปาเกียว #หนุ่มกรรชัย #โหนกระแส #มาดามอ้อย #คดีฉ้อโกง #ษิทราเบี้ยบังเกิด #ทนายตั้ม
    ลือหึ่ง “ทนายสายหยุด” ถอนตัวคดีตั้ม อับอายถูกสังคมบูลลี่ เป็นทนายไร้จริยธรรม.วันนี้ (24 พ.ย.) ทีมงานคุยทุกเรื่องกับสนธิ ได้รับการประสานจาก นายสายหยุด เพ็งบุญชู หรือทนายปาเกียว ทนายความคู่ใจที่ได้รับการมอบหมายจาก นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ให้เป็นผู้ทำคดีฉ้อโกง “มาดามอ้อย” จำนวน 71 ล้านบาท และคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ว่า วันพรุ่งนี้ (25 พ.ย.) จะเดินทางไปที่ห้องส่งรายการโหนกระแส เพื่อแถลงข่าวกับหนุ่มกรรชัย ให้สังคมรับทราบว่า จะขอถอนตัวออกจากการเป็นทนายความ ของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เนื่องจากขณะนี้รู้สึกตัวว่า ตนเองถูกหลอก โดยเฉพาะพยานหลักฐานที่ นายษิทรา ตระเตรียมไว้ให้ ล้วนเป็นพยานหลักฐานเท็จ อาทิ สัญญาการว่าจ้างทำ app สลากออนไลน์ ที่เป็นเพียงฉบับร่าง ตอนนี้เอกสารในมือทนายความไม่มีลายเซ็นผู้ใดแม้แต่รายเดียว ประกอบกับได้ทำการสืบสวนในทางลับแล้วว่า เฉพาะสัญญาฉบับนี้ มีการดัดแปลงแต่งเติมแก้ไข จากคอมพิวเตอร์ภายในสำนักงานกฎหมายของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด มาจำนวนหลายครั้ง ก่อนที่จะส่งถึงมือตนเอง นั่นหมายถึง นายษิทรา พยายามปิดบังข้อเท็จจริงทำให้รับไม่ได้ที่จะทำงานให้ต่อไปอีก,#ทนายสายหยุด #ทนายปาเกียว #หนุ่มกรรชัย #โหนกระแส #มาดามอ้อย #คดีฉ้อโกง #ษิทราเบี้ยบังเกิด #ทนายตั้ม
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 234 Views 0 Reviews
  • “Karat” vs. “Carat”: The Difference Between How These Measure All That Glitters

    When you’re buying gold and diamond jewelry, the difference between karats and carats can get confusing—and expensive—really fast.

    That’s because karat and carat are used in similar contexts in similar ways (as units of measure), and in some cases and places they can even overlap.

    We’ll break down what each word means, what exactly it measures, and review the different ways they’re used. We’ll even cover the homophones carrot and caret—and why there’s no such thing as 25-karat gold.

    Quick summary

    A carat is a unit of measure for the weight of gemstones, as in an eight-carat diamond or The jewel is 1 carat. In the US and other places, the word karat is typically used as a unit of measure for the purity of gold, as in 14-karat gold and 24-karat gold. In the UK and other places, the spelling carat is applied to both gems and gold.

    Is it karat or carat?

    Both spellings are used, but they can refer to different things in different places.

    The spelling carat is typically always used for the unit of measure for the weight of gemstones, as in a three-carat diamond.

    In the US and some other places, the word karat is used as a unit of measure for the purity of gold, as in 14-karat gold and 24-karat gold. In the UK and other places, the spelling carat is used for both gold and jewels.

    What does karat mean in gold?

    Pure gold is a very soft metal—it’s so soft it can be bent without even being heated. This makes it extremely inconvenient to make jewelry out of. It’s also very expensive. For these reasons, gold jewelry is often made from gold alloys, meaning gold mixed with some other metal.

    The amount of gold in an alloy is measured in karats (or carats, in the UK and some other places). The mix is divided into 24 karats, which are kind of like fractions of the metal.

    So, 14-karat gold is made of 14 parts gold out of 24 total parts (in other words, it’s about 58% gold). Gold labeled as 24-karat gold is pure gold, which is why it’s so expensive (and malleable). Karat is commonly abbreviated as k. Common karat values are 10k, 14k, 18k, 22k, and 24k (there is nothing above 24k gold, since it is pure gold).

    What does carat mean in gems?

    In the context of gemstones, and especially diamonds, carat refers to the weight of the stone. A carat is equivalent to .20 grams. In some systems, the weight of a diamond is divided into 100 points, with 100 points equaling one carat. Diamonds over 1 carat are typically described in terms of their carat value: a 2-carat diamond, a 3.5-carat diamond, and so on.

    Obviously, the heavier the diamond, the bigger it’s likely to be, so this measurement is often used, on a practical level, as a measure of how large the diamond is. The biggest diamond ever dug up was the 3,106-carat Cullinan Diamond. But the average size of a diamond in an engagement ring is around 1 carat or less.

    Carat vs. carrot (vs. caret)

    Here’s a golden nugget of etymology, a real gem: the word karat is a variant of the word carat, which comes from the Medieval Latin carratus, a term once used by alchemists. It comes from Arabic qīrāṭ, meaning “weight of 4 grains,” from the Greek kerátion, meaning “carob bean,” “weight of 3.333 grains,” or, literally, “little horn.”

    That little horn might bring to mind the somewhat hornlike appearance of a carrot, and in fact carrot has a distant etymological connection with carat. Carrot is rooted in the Greek kárē, meaning “head.”

    Interestingly, the mark known as a caret (‸)—the one used to show where something should be inserted—kind of looks like a carrot, but its name is not etymologically related to carrot or carat. It comes from the Latin meaning “(there) is missing,” from the verb carēre, meaning “to be without.”

    Examples of karat and carat used in a sentence

    Here are some examples that show how karat and carat are commonly used.

    - My parents bought me 24-karat gold earrings for my birthday!
    - At 18 karats, this bracelet is a less expensive option.
    - They keep a 10-carat diamond in the vault.
    - The ring will be set with a jewel of three carats.

    Copyright 2024, AAKKHRA, All Rights Reserved.
    “Karat” vs. “Carat”: The Difference Between How These Measure All That Glitters When you’re buying gold and diamond jewelry, the difference between karats and carats can get confusing—and expensive—really fast. That’s because karat and carat are used in similar contexts in similar ways (as units of measure), and in some cases and places they can even overlap. We’ll break down what each word means, what exactly it measures, and review the different ways they’re used. We’ll even cover the homophones carrot and caret—and why there’s no such thing as 25-karat gold. Quick summary A carat is a unit of measure for the weight of gemstones, as in an eight-carat diamond or The jewel is 1 carat. In the US and other places, the word karat is typically used as a unit of measure for the purity of gold, as in 14-karat gold and 24-karat gold. In the UK and other places, the spelling carat is applied to both gems and gold. Is it karat or carat? Both spellings are used, but they can refer to different things in different places. The spelling carat is typically always used for the unit of measure for the weight of gemstones, as in a three-carat diamond. In the US and some other places, the word karat is used as a unit of measure for the purity of gold, as in 14-karat gold and 24-karat gold. In the UK and other places, the spelling carat is used for both gold and jewels. What does karat mean in gold? Pure gold is a very soft metal—it’s so soft it can be bent without even being heated. This makes it extremely inconvenient to make jewelry out of. It’s also very expensive. For these reasons, gold jewelry is often made from gold alloys, meaning gold mixed with some other metal. The amount of gold in an alloy is measured in karats (or carats, in the UK and some other places). The mix is divided into 24 karats, which are kind of like fractions of the metal. So, 14-karat gold is made of 14 parts gold out of 24 total parts (in other words, it’s about 58% gold). Gold labeled as 24-karat gold is pure gold, which is why it’s so expensive (and malleable). Karat is commonly abbreviated as k. Common karat values are 10k, 14k, 18k, 22k, and 24k (there is nothing above 24k gold, since it is pure gold). What does carat mean in gems? In the context of gemstones, and especially diamonds, carat refers to the weight of the stone. A carat is equivalent to .20 grams. In some systems, the weight of a diamond is divided into 100 points, with 100 points equaling one carat. Diamonds over 1 carat are typically described in terms of their carat value: a 2-carat diamond, a 3.5-carat diamond, and so on. Obviously, the heavier the diamond, the bigger it’s likely to be, so this measurement is often used, on a practical level, as a measure of how large the diamond is. The biggest diamond ever dug up was the 3,106-carat Cullinan Diamond. But the average size of a diamond in an engagement ring is around 1 carat or less. Carat vs. carrot (vs. caret) Here’s a golden nugget of etymology, a real gem: the word karat is a variant of the word carat, which comes from the Medieval Latin carratus, a term once used by alchemists. It comes from Arabic qīrāṭ, meaning “weight of 4 grains,” from the Greek kerátion, meaning “carob bean,” “weight of 3.333 grains,” or, literally, “little horn.” That little horn might bring to mind the somewhat hornlike appearance of a carrot, and in fact carrot has a distant etymological connection with carat. Carrot is rooted in the Greek kárē, meaning “head.” Interestingly, the mark known as a caret (‸)—the one used to show where something should be inserted—kind of looks like a carrot, but its name is not etymologically related to carrot or carat. It comes from the Latin meaning “(there) is missing,” from the verb carēre, meaning “to be without.” Examples of karat and carat used in a sentence Here are some examples that show how karat and carat are commonly used. - My parents bought me 24-karat gold earrings for my birthday! - At 18 karats, this bracelet is a less expensive option. - They keep a 10-carat diamond in the vault. - The ring will be set with a jewel of three carats. Copyright 2024, AAKKHRA, All Rights Reserved.
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 306 Views 0 Reviews
  • What’s In A Name: The Laws That Apply When Naming Your Baby

    Can you really name your baby that?!

    Picking a baby name that everyone (from grandma to the grocery clerk) likes can be a fruitless, futile endeavor. Coming up with one that confounds the whole world is seemingly a lot easier. Take Elon Musk, chief of Tesla and SpaceX, and singer Grimes, who recently announced the birth of their daughter, Exa Dark Sideræl, or “Y” for short. The “Y” makes more sense when you know that their older son is named X Æ A-12. (Yes, we’re talking about their human son, not the name of a new car or spacecraft.)

    Sometimes, parents decide a name change is in order—like when celebrity couple Kylie Jenner and Travis Scott announced that they were going to change their son’s name from Wolf to one that better suits him. In other cases, though, a name change is not a matter of preference but of legality.

    Is a baby name with numbers and symbols legal?

    Call it peculiar, perplexing, or sensationalistic, but one thing you may not be able to call X Æ A-12 is … legal. When it comes to baby names, the fact is parents don’t always have free rein to choose any name they like. There are laws that limit their choices. These laws vary by state, and they’re arbitrary at best, but they are laws that appear in the books. While some states have strict laws that prohibit obscenities, numbers, and names that are too long, other states have no restrictions.

    Take laid-back California, which isn’t so laid back when it comes to baby names. In fact, the state won’t even allow accent marks and other diacritical marks in names like José. This restriction originated in 1986, when Proposition 63 established English as the California’s official language. Names must only contain “the 26 alphabetical characters of the English language with appropriate punctuation if necessary.” And guess where little X Æ A-12 was born? That’s right: the Golden State.

    It seems that for now, a California birth certificate can be completed with single dashes in the spaces for first, middle, and last names, and a legal name can be added later, which is exactly what Elon and Grimes have done for their son.

    Will he ever need a legal name? Not necessarily. He won’t be arrested for not having one, but he will need one if he wants to obtain a Social Security number, passport, or driver’s license. His parents could consider tweaking his name a bit to make the legal cut, perhaps by spelling out some of the characters as David and Victoria Beckham did with their daughter, Harper Seven.

    Why are there laws about baby names?

    Not only are baby name laws inconsistent across the country, but if they are meant to protect children from controversial or embarrassing names, they often miss the boat. For example, in a well-publicized New Jersey case, a couple named their son Adolf Hitler Campbell, which is somehow permissible under the state’s law. The law bans names that contain “obscenity, numerals, symbols, or a combination of letters, numerals, or symbols…”, but naming a child after a mass murderer is A-OK.

    In most cases, the United States is pretty relaxed about what you can name your child when it comes to the stigma or meaning a name may carry.

    However there are some really bizarre cases where baby names have not been allowed in the good ol’ US. For example, in 2013, a Tennessee judge ordered that a baby’s name be changed to Martin instead of Messiah. Her reasoning: “The word Messiah is a title and it’s a title that has only been earned by one person and that one person is Jesus Christ.” That reasoning was later overturned, however, and the baby’s name was changed back to Messiah.

    And in Georgia, a couple eventually won a legal battle to give their daughter the surname Allah. The court’s original objection to the name wasn’t any implied meaning, but rather that neither parent had that last name. Plus we don’t have to look far for celebrities who chose rather unusual baby names that have gone unchallenged. Penn Jillette named his child Moxie CrimeFighter, and Nicolas Cage chose Kal-El Coppola, to name a few—all of those passed the legal test.

    Whether or not naming moderation is the government’s business is up for debate. Usually, states challenge names for reasons of practicality; for example, a record-keeping software may only allow a certain number of characters or not allow numerical digits. In Arkansas, you can’t name your child Test, Unk, Void, Baby Boy, Infant, or a handful of other names, because its system won’t accept them. In Hawaii, parents can include symbols in names, but for each one, there has to be at least one number too. In New Hampshire, the baby’s first, middle, and last names can’t exceed 100 characters in total.

    According to constitutional law expert Carlton F.W. Larson (writing in the The George Washington Law Review), baby naming “is a legal universe that has scarcely been mapped, full of strange lacunae, spotty statutory provisions, and patchy, inconsistent caselaw.”

    Are there naming laws in other countries?

    Naming laws around the world vary even more and are often even more stringent than those in the United States.

    In France, for example, parents have been banned from giving their children names that would “lead to a childhood of mockery,” such as Prince William and Mini Cooper. In Germany, a court ruled that a couple couldn’t name their child Stone because “a child cannot identify with it, because it is an object.” Möwe (“seagull”) was rejected as well, because the bird is “a nuisance and is seen as a pest and would therefore degrade the child.” In Denmark, parents must select from a list of pre-approved names, and if they want to use one that’s not on the list, they must get special permission.

    In any case, if you’re planning on having a baby, you may want to check the laws in your locale before you get too attached to a name. Of course, even if your favorite name doesn’t make the grade, nicknames are a whole other, unrestricted territory. Anyone who has ever had a sobriquet like Stinky or Pickle Pop may wish there were some more stringent laws governing them, too.

    Copyright 2024, AAKKHRA, All Rights Reserved.
    What’s In A Name: The Laws That Apply When Naming Your Baby Can you really name your baby that?! Picking a baby name that everyone (from grandma to the grocery clerk) likes can be a fruitless, futile endeavor. Coming up with one that confounds the whole world is seemingly a lot easier. Take Elon Musk, chief of Tesla and SpaceX, and singer Grimes, who recently announced the birth of their daughter, Exa Dark Sideræl, or “Y” for short. The “Y” makes more sense when you know that their older son is named X Æ A-12. (Yes, we’re talking about their human son, not the name of a new car or spacecraft.) Sometimes, parents decide a name change is in order—like when celebrity couple Kylie Jenner and Travis Scott announced that they were going to change their son’s name from Wolf to one that better suits him. In other cases, though, a name change is not a matter of preference but of legality. Is a baby name with numbers and symbols legal? Call it peculiar, perplexing, or sensationalistic, but one thing you may not be able to call X Æ A-12 is … legal. When it comes to baby names, the fact is parents don’t always have free rein to choose any name they like. There are laws that limit their choices. These laws vary by state, and they’re arbitrary at best, but they are laws that appear in the books. While some states have strict laws that prohibit obscenities, numbers, and names that are too long, other states have no restrictions. Take laid-back California, which isn’t so laid back when it comes to baby names. In fact, the state won’t even allow accent marks and other diacritical marks in names like José. This restriction originated in 1986, when Proposition 63 established English as the California’s official language. Names must only contain “the 26 alphabetical characters of the English language with appropriate punctuation if necessary.” And guess where little X Æ A-12 was born? That’s right: the Golden State. It seems that for now, a California birth certificate can be completed with single dashes in the spaces for first, middle, and last names, and a legal name can be added later, which is exactly what Elon and Grimes have done for their son. Will he ever need a legal name? Not necessarily. He won’t be arrested for not having one, but he will need one if he wants to obtain a Social Security number, passport, or driver’s license. His parents could consider tweaking his name a bit to make the legal cut, perhaps by spelling out some of the characters as David and Victoria Beckham did with their daughter, Harper Seven. Why are there laws about baby names? Not only are baby name laws inconsistent across the country, but if they are meant to protect children from controversial or embarrassing names, they often miss the boat. For example, in a well-publicized New Jersey case, a couple named their son Adolf Hitler Campbell, which is somehow permissible under the state’s law. The law bans names that contain “obscenity, numerals, symbols, or a combination of letters, numerals, or symbols…”, but naming a child after a mass murderer is A-OK. In most cases, the United States is pretty relaxed about what you can name your child when it comes to the stigma or meaning a name may carry. However there are some really bizarre cases where baby names have not been allowed in the good ol’ US. For example, in 2013, a Tennessee judge ordered that a baby’s name be changed to Martin instead of Messiah. Her reasoning: “The word Messiah is a title and it’s a title that has only been earned by one person and that one person is Jesus Christ.” That reasoning was later overturned, however, and the baby’s name was changed back to Messiah. And in Georgia, a couple eventually won a legal battle to give their daughter the surname Allah. The court’s original objection to the name wasn’t any implied meaning, but rather that neither parent had that last name. Plus we don’t have to look far for celebrities who chose rather unusual baby names that have gone unchallenged. Penn Jillette named his child Moxie CrimeFighter, and Nicolas Cage chose Kal-El Coppola, to name a few—all of those passed the legal test. Whether or not naming moderation is the government’s business is up for debate. Usually, states challenge names for reasons of practicality; for example, a record-keeping software may only allow a certain number of characters or not allow numerical digits. In Arkansas, you can’t name your child Test, Unk, Void, Baby Boy, Infant, or a handful of other names, because its system won’t accept them. In Hawaii, parents can include symbols in names, but for each one, there has to be at least one number too. In New Hampshire, the baby’s first, middle, and last names can’t exceed 100 characters in total. According to constitutional law expert Carlton F.W. Larson (writing in the The George Washington Law Review), baby naming “is a legal universe that has scarcely been mapped, full of strange lacunae, spotty statutory provisions, and patchy, inconsistent caselaw.” Are there naming laws in other countries? Naming laws around the world vary even more and are often even more stringent than those in the United States. In France, for example, parents have been banned from giving their children names that would “lead to a childhood of mockery,” such as Prince William and Mini Cooper. In Germany, a court ruled that a couple couldn’t name their child Stone because “a child cannot identify with it, because it is an object.” Möwe (“seagull”) was rejected as well, because the bird is “a nuisance and is seen as a pest and would therefore degrade the child.” In Denmark, parents must select from a list of pre-approved names, and if they want to use one that’s not on the list, they must get special permission. In any case, if you’re planning on having a baby, you may want to check the laws in your locale before you get too attached to a name. Of course, even if your favorite name doesn’t make the grade, nicknames are a whole other, unrestricted territory. Anyone who has ever had a sobriquet like Stinky or Pickle Pop may wish there were some more stringent laws governing them, too. Copyright 2024, AAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 Comments 0 Shares 341 Views 0 Reviews
  • Fancy Spring Words To Breathe Life Into Your Budding Vocabulary

    As Leo Tolstoy wrote in the classic Anna Karenina, “spring is the time of plans and projects.” To put it more bluntly, spring is a time of new growth, new experiences, and, in most of the world, temperamental weather. To encourage your personal growth during this season of change, why not try out some of these sophisticated vocabulary terms related to spring?

    verdurous
    Verdurous is an adjective meaning “rich in verdure; freshly green; verdant.” Verdure is a fancy word meaning “greenness, especially of fresh, flourishing vegetation.” The word comes from the Middle French verd, meaning “green.” (The modern French equivalent of this word is vert.)

    vernal
    An adjective that directly relates to the season is vernal, meaning “of or relating to spring.” It is also used figuratively to mean “belonging to or characteristic of youth,” which is just one of many examples of spring being related to new birth or adolescence. Vernal comes from Latin vernālis, meaning “of spring.”

    recrudesce
    Many of the words in this list end in the suffixes -esce, -escent, or -escence, which are used to denote the beginning of an action. This makes sense if you consider the overall theme of spring, which is the beginning of new life or new experiences. One such word is recrudesce, “to break out afresh, as a sore, a disease, or anything else that has been quiescent.” Quiescent is another fancy word that means “being at rest.”

    frondescence
    Another word that describes plants shaking off their winter slumber and waking up to spring is frondescence, “the process or period of putting forth leaves, as a tree, plant, or the like.” The word comes from the Latin frondescēns, “becoming leafy.” If the frond- part of the word looks familiar, that’s probably because the English frond means “an often large, finely divided leaf,” from the Latin frond meaning “branch.”

    effloresce
    Yet another -esce verb on this list is effloresce, “to burst into bloom, blossom.” In chemistry, however, the verb has a specific meaning to describe a surface becoming covered in a “mealy or powdery substance upon exposure to air” or “covered with crystals of salt.” You can imagine it looks like crystals “blooming” on the surface of a substance.

    juvenescence
    The word is a noun meaning “youth or immaturity” or “the act or process of growing from childhood to youth.” The juven- part of the word comes from the Latin for “young.” This is ultimately the same Latin root we see in the more familiar juvenile, meaning “young” or “youthful.”

    renascent
    In the spring, it seems as if everything is renascent after the long, cold winter. Renascent means “being reborn; springing again into being or vigor.” The Latin root of this word can also be seen in the word Renaissance, a term given to the “great revival of art, literature, and learning in Europe beginning in the 14th century and extending to the 17th century,” a time when culture was being reborn after the medieval ages.

    incalescent
    One of the most pleasant aspects of spring is that the weather is incalescent, or “increasing in heat or ardor.” While this term can be used literally to describe something becoming warm, it is also used to describe a growing romance or love, when things are “heating up.”

    provenience
    The spring is a time when new things begin. In other words, it is the provenience of many creatures. Provenience means “origin; source.” The word provenience is primarily used in archaeology to describe the spot where an object is found or originated, to differentiate from provenance, which describes the chain of ownership of an object.

    risorgimento
    A term similar to renascent is risorgimento [ ri-zawr-juh–men-toh ], “any period or instance of rebirth or renewed activity.” When capitalized, it refers to a specific period of Italian history during “the period of or movement for the liberation and unification of Italy, 1750–1870.” As you may have guessed, the word risorgimento comes from Italian for “to rise again.”

    pullulate
    Pullulate is a verb with a variety of meanings, including “to send forth sprouts, buds, etc.; germinate; sprout” and “to exist abundantly; swarm; teem.” In the spring, plants and animals pullulate. The verb pullulate comes from the Latin pullulāre, meaning “to sprout, bring forth young.” Specifically, a pullus in Latin means “chicken,” which is ultimately the root of the French word for chicken, poulet.

    fecundate
    A verb related to pullulate is fecundate, “to make prolific or fruitful.” The word fecund and its verb form fecundate is ultimately related to root fētus, “bringing forth of young.” If that word looks familiar, that’s because it’s at the root of the English fetus, “the young of an animal in the womb or egg.” It’s all about the birth of new life.

    erumpent
    One of the first signs of spring is when the crocuses grow erumpent from the cold, hard earth. Erumpent is an adjective that means “bursting forth.” It is also used particularly to describe fungi or algae “projecting from or bursting through host tissue.” The way that mushrooms pop up on the bark of decomposing trees is a good visualization of the meaning of erumpent.

    burgeon
    Another word that describes the proliferation of new growth that occurs in the spring is burgeon, “to grow or develop quickly; flourish.” Burgeon is generally used as a verb, but it can also be used as a noun to mean “a bud; sprout.” The origin of burgeon is pretty interesting; it ultimately comes from the Latin burra meaning “wool, fluff,” likely a reference to the down covering certain buds in spring.

    redolent
    With all of the new flowers blossoming, trees leafing, and the rain making the world smell of wet dirt, one good word to describe spring is redolent, “having a pleasant odor; fragrant.” This is an adjective that is also used figuratively to mean “suggestive; reminiscent [of].” For example, Her poems are redolent of Keats’s sonnets, or they make one think of Keats’s sonnets.

    hyetal
    Speaking of the general dampness of spring, one good word to describe this weather is hyetal [ hahy-i-tl ], “of or relating to rain or rainfall.” Unlike the majority of the words on this list which have Latin roots, hyetal comes from the Greek hyetós, which means “rain.” This is why the study of rainfall is technically known as hyetography or hyetology.

    salubrious
    When the gray clouds of winter lift and a crisp spring breeze blows in, the weather feels especially salubrious, “favorable to or promoting health; healthful.” There’s nothing like a little fresh air to perk you up. Salubrious comes from the Latin salūbris, meaning “promoting health.” The word salutary comes from a similar root, and it means “favorable to or promoting health; healthful.”

    Chelidonian
    One way to describe a spring breeze is Chelidonian, which is what the ancient Greeks called it. The name comes from the Greek for swallow, because the appearance of the spring wind augured their appearance. It was believed that the swallows flew from Africa to Europe on the Chelidonian winds.

    bucolic
    Another term from Greek we can use to describe the spring is bucolic, which literally means “of or relating to shepherds; pastoral.” However, it is typically used figuratively to describe any pleasant natural or country scene. Historically, a bucolic was a specific kind of “pastoral poem” that describes the peacefulness or beauty of rural life.

    vivify
    You may feel particularly vivified in the spring months. Vivify is a verb that means “to give life to; animate; quicken.” The root of vivify is the Late Latin vīvificāre, which roughly translates to “to make live.”

    Copyright 2024, AAKKHRA, All Rights Reserved.
    Fancy Spring Words To Breathe Life Into Your Budding Vocabulary As Leo Tolstoy wrote in the classic Anna Karenina, “spring is the time of plans and projects.” To put it more bluntly, spring is a time of new growth, new experiences, and, in most of the world, temperamental weather. To encourage your personal growth during this season of change, why not try out some of these sophisticated vocabulary terms related to spring? verdurous Verdurous is an adjective meaning “rich in verdure; freshly green; verdant.” Verdure is a fancy word meaning “greenness, especially of fresh, flourishing vegetation.” The word comes from the Middle French verd, meaning “green.” (The modern French equivalent of this word is vert.) vernal An adjective that directly relates to the season is vernal, meaning “of or relating to spring.” It is also used figuratively to mean “belonging to or characteristic of youth,” which is just one of many examples of spring being related to new birth or adolescence. Vernal comes from Latin vernālis, meaning “of spring.” recrudesce Many of the words in this list end in the suffixes -esce, -escent, or -escence, which are used to denote the beginning of an action. This makes sense if you consider the overall theme of spring, which is the beginning of new life or new experiences. One such word is recrudesce, “to break out afresh, as a sore, a disease, or anything else that has been quiescent.” Quiescent is another fancy word that means “being at rest.” frondescence Another word that describes plants shaking off their winter slumber and waking up to spring is frondescence, “the process or period of putting forth leaves, as a tree, plant, or the like.” The word comes from the Latin frondescēns, “becoming leafy.” If the frond- part of the word looks familiar, that’s probably because the English frond means “an often large, finely divided leaf,” from the Latin frond meaning “branch.” effloresce Yet another -esce verb on this list is effloresce, “to burst into bloom, blossom.” In chemistry, however, the verb has a specific meaning to describe a surface becoming covered in a “mealy or powdery substance upon exposure to air” or “covered with crystals of salt.” You can imagine it looks like crystals “blooming” on the surface of a substance. juvenescence The word is a noun meaning “youth or immaturity” or “the act or process of growing from childhood to youth.” The juven- part of the word comes from the Latin for “young.” This is ultimately the same Latin root we see in the more familiar juvenile, meaning “young” or “youthful.” renascent In the spring, it seems as if everything is renascent after the long, cold winter. Renascent means “being reborn; springing again into being or vigor.” The Latin root of this word can also be seen in the word Renaissance, a term given to the “great revival of art, literature, and learning in Europe beginning in the 14th century and extending to the 17th century,” a time when culture was being reborn after the medieval ages. incalescent One of the most pleasant aspects of spring is that the weather is incalescent, or “increasing in heat or ardor.” While this term can be used literally to describe something becoming warm, it is also used to describe a growing romance or love, when things are “heating up.” provenience The spring is a time when new things begin. In other words, it is the provenience of many creatures. Provenience means “origin; source.” The word provenience is primarily used in archaeology to describe the spot where an object is found or originated, to differentiate from provenance, which describes the chain of ownership of an object. risorgimento A term similar to renascent is risorgimento [ ri-zawr-juh–men-toh ], “any period or instance of rebirth or renewed activity.” When capitalized, it refers to a specific period of Italian history during “the period of or movement for the liberation and unification of Italy, 1750–1870.” As you may have guessed, the word risorgimento comes from Italian for “to rise again.” pullulate Pullulate is a verb with a variety of meanings, including “to send forth sprouts, buds, etc.; germinate; sprout” and “to exist abundantly; swarm; teem.” In the spring, plants and animals pullulate. The verb pullulate comes from the Latin pullulāre, meaning “to sprout, bring forth young.” Specifically, a pullus in Latin means “chicken,” which is ultimately the root of the French word for chicken, poulet. fecundate A verb related to pullulate is fecundate, “to make prolific or fruitful.” The word fecund and its verb form fecundate is ultimately related to root fētus, “bringing forth of young.” If that word looks familiar, that’s because it’s at the root of the English fetus, “the young of an animal in the womb or egg.” It’s all about the birth of new life. erumpent One of the first signs of spring is when the crocuses grow erumpent from the cold, hard earth. Erumpent is an adjective that means “bursting forth.” It is also used particularly to describe fungi or algae “projecting from or bursting through host tissue.” The way that mushrooms pop up on the bark of decomposing trees is a good visualization of the meaning of erumpent. burgeon Another word that describes the proliferation of new growth that occurs in the spring is burgeon, “to grow or develop quickly; flourish.” Burgeon is generally used as a verb, but it can also be used as a noun to mean “a bud; sprout.” The origin of burgeon is pretty interesting; it ultimately comes from the Latin burra meaning “wool, fluff,” likely a reference to the down covering certain buds in spring. redolent With all of the new flowers blossoming, trees leafing, and the rain making the world smell of wet dirt, one good word to describe spring is redolent, “having a pleasant odor; fragrant.” This is an adjective that is also used figuratively to mean “suggestive; reminiscent [of].” For example, Her poems are redolent of Keats’s sonnets, or they make one think of Keats’s sonnets. hyetal Speaking of the general dampness of spring, one good word to describe this weather is hyetal [ hahy-i-tl ], “of or relating to rain or rainfall.” Unlike the majority of the words on this list which have Latin roots, hyetal comes from the Greek hyetós, which means “rain.” This is why the study of rainfall is technically known as hyetography or hyetology. salubrious When the gray clouds of winter lift and a crisp spring breeze blows in, the weather feels especially salubrious, “favorable to or promoting health; healthful.” There’s nothing like a little fresh air to perk you up. Salubrious comes from the Latin salūbris, meaning “promoting health.” The word salutary comes from a similar root, and it means “favorable to or promoting health; healthful.” Chelidonian One way to describe a spring breeze is Chelidonian, which is what the ancient Greeks called it. The name comes from the Greek for swallow, because the appearance of the spring wind augured their appearance. It was believed that the swallows flew from Africa to Europe on the Chelidonian winds. bucolic Another term from Greek we can use to describe the spring is bucolic, which literally means “of or relating to shepherds; pastoral.” However, it is typically used figuratively to describe any pleasant natural or country scene. Historically, a bucolic was a specific kind of “pastoral poem” that describes the peacefulness or beauty of rural life. vivify You may feel particularly vivified in the spring months. Vivify is a verb that means “to give life to; animate; quicken.” The root of vivify is the Late Latin vīvificāre, which roughly translates to “to make live.” Copyright 2024, AAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 Comments 0 Shares 334 Views 0 Reviews
  • IMC Accreditation Training Center

    ก้าวอีกขั้นของ 10X Consulting ที่ได้รับการพิจารณาเป็นแบรนด์ที่ผ่านการรับรองตามสมรรถนะระดับสากลของ International Mentoring Center (IMC) หรือ IMC Accreditation Training Center
    10X Consulting เป็นแบรนด์แรกในประเทศที่ให้บริการ และให้การรับรอง (Certified) แก่บุคคล ทีม และองค์กรที่เรียนรู้ด้านเมนทอร์อย่างเต็มรูปแบบ

    เราทุ่มเทพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามเหตุผลของการดำรงอยู่ของเรา (Why we exist?) : “พัฒนาองค์กรและผู้ประกอบการสร้างแบรนด์ไทยในระดับโลก” มุ่งสู่วิสัยทัศน์ “ผู้ให้บริการโซลูชั่นชั้นนำทางการจัดการที่เป็นเลิศเพื่อบุคคล ทีม และสถานที่ทำงานที่คนทุกคนประสบความสำเร็จ”

    ความก้าวหน้าอีกขั้นของเราเกิดจากความเชื่อมั่นและทุ่มเทอย่างต่อเนื่องในการใช้ “OKR – Objective & Key Results” ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเชี่ยวชาญ และให้บริการแก่องค์กร ทีมและผู้นำ ซึ่งเป็นลูกค้าคนพิเศษ – คนสำคัญซึ่งมอบความไว้วางใจให้เราได้มีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนการพัฒนาองค์กร

    10X Consulting เรายังคงมุ่งหน้าสู่ BHAG (Big Hairy Audacious Goal) ของเรา “ยกระดับผลงานองค์กร/โครงการ > 10X จำนวน 1 ล้านองค์กร/โครงการ ภายในปี 2030”

    รายละเอียดการรับรอง
    การรับรองนี้ตระหนักถึงความมุ่งมั่นของคุณในการให้การฝึกอบรมการให้คําปรึกษาคุณภาพสูงและการปฏิบัติตามมาตรฐานของ IMC
    ประเภท : ศูนย์ฝึกอบรมที่ได้รับการรับรอง
    ชื่อศูนย์ฝึกอบรม : 10X Consulting
    วันที่รับรอง : 21 พ.ย. 2567
    วันหมดอายุ : 20 พ.ย. 2569

    ในฐานะผู้ให้บริการการฝึกอบรมที่ได้รับการรับรองจาก IMC คุณได้รับอนุญาตให้:
    -ใช้โลโก้และการกําหนดผู้ให้บริการการฝึกอบรมที่ได้รับการรับรองจาก IMC
    -เสนอโปรแกรมการให้คําปรึกษาที่ได้รับการรับรองจาก IMC
    -ออกป้ายที่ได้รับการรับรอง IMC ให้กับผู้สําเร็จการศึกษาจากโปรแกรมของคุณ

    ตรวจโปรไฟล์การรับรอง IMC Accreditation Training Center ได้ที่ https://app.mentoringcenter.org/detailed-overview/?center=10x-Consulting-20
    IMC Accreditation Training Center ก้าวอีกขั้นของ 10X Consulting ที่ได้รับการพิจารณาเป็นแบรนด์ที่ผ่านการรับรองตามสมรรถนะระดับสากลของ International Mentoring Center (IMC) หรือ IMC Accreditation Training Center 10X Consulting เป็นแบรนด์แรกในประเทศที่ให้บริการ และให้การรับรอง (Certified) แก่บุคคล ทีม และองค์กรที่เรียนรู้ด้านเมนทอร์อย่างเต็มรูปแบบ เราทุ่มเทพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามเหตุผลของการดำรงอยู่ของเรา (Why we exist?) : “พัฒนาองค์กรและผู้ประกอบการสร้างแบรนด์ไทยในระดับโลก” มุ่งสู่วิสัยทัศน์ “ผู้ให้บริการโซลูชั่นชั้นนำทางการจัดการที่เป็นเลิศเพื่อบุคคล ทีม และสถานที่ทำงานที่คนทุกคนประสบความสำเร็จ” ความก้าวหน้าอีกขั้นของเราเกิดจากความเชื่อมั่นและทุ่มเทอย่างต่อเนื่องในการใช้ “OKR – Objective & Key Results” ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเชี่ยวชาญ และให้บริการแก่องค์กร ทีมและผู้นำ ซึ่งเป็นลูกค้าคนพิเศษ – คนสำคัญซึ่งมอบความไว้วางใจให้เราได้มีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนการพัฒนาองค์กร 10X Consulting เรายังคงมุ่งหน้าสู่ BHAG (Big Hairy Audacious Goal) ของเรา “ยกระดับผลงานองค์กร/โครงการ > 10X จำนวน 1 ล้านองค์กร/โครงการ ภายในปี 2030” รายละเอียดการรับรอง การรับรองนี้ตระหนักถึงความมุ่งมั่นของคุณในการให้การฝึกอบรมการให้คําปรึกษาคุณภาพสูงและการปฏิบัติตามมาตรฐานของ IMC ประเภท : ศูนย์ฝึกอบรมที่ได้รับการรับรอง ชื่อศูนย์ฝึกอบรม : 10X Consulting วันที่รับรอง : 21 พ.ย. 2567 วันหมดอายุ : 20 พ.ย. 2569 ในฐานะผู้ให้บริการการฝึกอบรมที่ได้รับการรับรองจาก IMC คุณได้รับอนุญาตให้: -ใช้โลโก้และการกําหนดผู้ให้บริการการฝึกอบรมที่ได้รับการรับรองจาก IMC -เสนอโปรแกรมการให้คําปรึกษาที่ได้รับการรับรองจาก IMC -ออกป้ายที่ได้รับการรับรอง IMC ให้กับผู้สําเร็จการศึกษาจากโปรแกรมของคุณ ตรวจโปรไฟล์การรับรอง IMC Accreditation Training Center ได้ที่ https://app.mentoringcenter.org/detailed-overview/?center=10x-Consulting-20
    0 Comments 0 Shares 147 Views 0 Reviews
  • 💬 สื่อเรียกผมว่าหัวหน้า ‘เครือข่ายปูตินในอิตาลี’ เพราะบอกความจริงเกี่ยวกับยูเครน – นักข่าวอิตาลี

    จอร์โจ เบียนคี ถูกพรากโอกาสที่จะพูดต่อสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครนและเรียกเขาว่าสายลับรัสเซีย เพราะพยายามแจ้งให้ชาวอิตาลีทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงของสิ่งที่เกิดขึ้นในยูเครน หลังจากเริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหาร, นักข่าวบอกกับสปุตนิก

    นักข่าวรายงานเหตุการณ์ในยูเครนตั้งแต่ยูโรไมดานในปี ๒๐๑๔, และปรากฏตัวหลายครั้งในฐานะผู้เชี่ยวชาญในสื่อของอิตาลี หลังจากเริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหาร, เขาเดินทางไปดอนบาสเกือบสองเดือน, ซึ่งเขาได้เห็นการปลดปล่อยมาริอูโปลและโวลโนวาคาด้วยตาตนเอง

    🗨️“ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา, ฉันไม่สามารถจัดการประชุมในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยได้อีกต่อไป หนังสือพิมพ์ Corriere della Sera ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของอิตาลี ได้พิมพ์ชื่อฉันบนหน้าแรก, โดยอ้างว่าฉันเป็นหัวหน้าเครือข่ายของปูตินในอิตาลี,” เขาเล่าให้ฟัง, พร้อมทั้งเสริมว่า คดีที่ฟ้องเขานั้นได้ถูกส่งไปยัง มาริโอ ดรากี หัวหน้ารัฐบาลอิตาลีในขณะนั้น

    บิอันคีเน้นย้ำว่า เขายังคงพูดความจริงต่อไป, โดยอธิบายว่าข้อตกลงมินสค์ถูกใช้เพื่อติดอาวุธให้ยูเครนอย่างลับๆ และแนวคิดนีโอนาซีก็ถูกสังเกตในประเทศนี้จริงๆ, เนื่องจากนักข่าวเองก็เห็นสัญลักษณ์และวรรณกรรมนีโอนาซีเมื่อเขาอยู่ที่เมืองมาริอูโปล

    🗨️อย่างไรก็ตาม, หนังสือพิมพ์ทั้งหมดที่พูดถึงเรื่องนี้มาหลายปีก็ “เปลี่ยนใจในชั่วข้ามคืน,” และเริ่มอ้างว่าไม่มีอุดมการณ์ดังกล่าวในยูเครน, นักข่าวเน้นย้ำ
    .
    💬 MEDIA CALLED ME HEAD OF ‘PUTIN'S NETWORK IN ITALY’ FOR TELLING THE TRUTH ABOUT UKRAINE – Italian journalist

    Giorgio Bianchi was deprived of the opportunity to speak publicly about the Ukraine conflict and called a Russian spy for trying to inform Italians about the real reasons for what is happening in Ukraine after the start of the special military operation, the journalist told Sputnik.

    The reporter has been covering events in Ukraine since the Euromaidan in 2014, and has appeared several times as an expert in the Italian media. After the start of the special military operation, he went to Donbass for almost two months, where he witnessed the liberation of Mariupol and Volnovakha firsthand.

    🗨️“From that moment on, I could no longer hold conferences in schools and universities. Italy's most popular newspaper Corriere della Sera printed me on the front page, claiming that I was the head of 'Putin's network in Italy,'” he shared, adding that the case against him was sent to Italy's then-head of government Mario Draghi.

    Bianchi emphasized that he continued to tell the truth, explaining that the Minsk agreements were subversively used to arm Ukraine and that neo-Nazi ideas were actually observed in the country, as the journalist himself saw neo-Nazi symbols and literature when he was in Mariupol.

    🗨️However, all the newspapers that had been talking about it for years suddenly “changed their minds overnight,” and began to claim there was no such ideology in Ukraine, the journalist stressed.
    .
    12:19 PM · Nov 23, 2024 · 5,380 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1860191337099723243
    💬 สื่อเรียกผมว่าหัวหน้า ‘เครือข่ายปูตินในอิตาลี’ เพราะบอกความจริงเกี่ยวกับยูเครน – นักข่าวอิตาลี จอร์โจ เบียนคี ถูกพรากโอกาสที่จะพูดต่อสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครนและเรียกเขาว่าสายลับรัสเซีย เพราะพยายามแจ้งให้ชาวอิตาลีทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงของสิ่งที่เกิดขึ้นในยูเครน หลังจากเริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหาร, นักข่าวบอกกับสปุตนิก นักข่าวรายงานเหตุการณ์ในยูเครนตั้งแต่ยูโรไมดานในปี ๒๐๑๔, และปรากฏตัวหลายครั้งในฐานะผู้เชี่ยวชาญในสื่อของอิตาลี หลังจากเริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหาร, เขาเดินทางไปดอนบาสเกือบสองเดือน, ซึ่งเขาได้เห็นการปลดปล่อยมาริอูโปลและโวลโนวาคาด้วยตาตนเอง 🗨️“ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา, ฉันไม่สามารถจัดการประชุมในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยได้อีกต่อไป หนังสือพิมพ์ Corriere della Sera ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของอิตาลี ได้พิมพ์ชื่อฉันบนหน้าแรก, โดยอ้างว่าฉันเป็นหัวหน้าเครือข่ายของปูตินในอิตาลี,” เขาเล่าให้ฟัง, พร้อมทั้งเสริมว่า คดีที่ฟ้องเขานั้นได้ถูกส่งไปยัง มาริโอ ดรากี หัวหน้ารัฐบาลอิตาลีในขณะนั้น บิอันคีเน้นย้ำว่า เขายังคงพูดความจริงต่อไป, โดยอธิบายว่าข้อตกลงมินสค์ถูกใช้เพื่อติดอาวุธให้ยูเครนอย่างลับๆ และแนวคิดนีโอนาซีก็ถูกสังเกตในประเทศนี้จริงๆ, เนื่องจากนักข่าวเองก็เห็นสัญลักษณ์และวรรณกรรมนีโอนาซีเมื่อเขาอยู่ที่เมืองมาริอูโปล 🗨️อย่างไรก็ตาม, หนังสือพิมพ์ทั้งหมดที่พูดถึงเรื่องนี้มาหลายปีก็ “เปลี่ยนใจในชั่วข้ามคืน,” และเริ่มอ้างว่าไม่มีอุดมการณ์ดังกล่าวในยูเครน, นักข่าวเน้นย้ำ . 💬 MEDIA CALLED ME HEAD OF ‘PUTIN'S NETWORK IN ITALY’ FOR TELLING THE TRUTH ABOUT UKRAINE – Italian journalist Giorgio Bianchi was deprived of the opportunity to speak publicly about the Ukraine conflict and called a Russian spy for trying to inform Italians about the real reasons for what is happening in Ukraine after the start of the special military operation, the journalist told Sputnik. The reporter has been covering events in Ukraine since the Euromaidan in 2014, and has appeared several times as an expert in the Italian media. After the start of the special military operation, he went to Donbass for almost two months, where he witnessed the liberation of Mariupol and Volnovakha firsthand. 🗨️“From that moment on, I could no longer hold conferences in schools and universities. Italy's most popular newspaper Corriere della Sera printed me on the front page, claiming that I was the head of 'Putin's network in Italy,'” he shared, adding that the case against him was sent to Italy's then-head of government Mario Draghi. Bianchi emphasized that he continued to tell the truth, explaining that the Minsk agreements were subversively used to arm Ukraine and that neo-Nazi ideas were actually observed in the country, as the journalist himself saw neo-Nazi symbols and literature when he was in Mariupol. 🗨️However, all the newspapers that had been talking about it for years suddenly “changed their minds overnight,” and began to claim there was no such ideology in Ukraine, the journalist stressed. . 12:19 PM · Nov 23, 2024 · 5,380 Views https://x.com/SputnikInt/status/1860191337099723243
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 194 Views 0 Reviews
  • 💬สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรกำลังทำสงครามกับสหภาพยุโรปด้วยการคว่ำบาตรรัสเซีย – นักข่าวอิตาลี

    การคว่ำบาตรที่วอชิงตันกดดันให้ประเทศในยุโรปบังคับใช้กับรัสเซียนั้น แท้จริงแล้วกลับส่งผลเสียต่อสหภาพยุโรป (EU) มากกว่า, นักข่าวอิตาลี จอร์โจ เบียนคี กล่าวกับสปุตนิก

    🗨️“ผมรู้สึกว่า นี่คือสงครามของสหรัฐฯไม่ใช่แค่กับรัสเซียเท่านั้น, แต่ยังรวมถึงอิตาลี, เยอรมนี, และฝรั่งเศสด้วย เพราะมาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐฯบังคับให้ประเทศของเราใช้, ผมเรียกว่ามาตรการคว่ำบาตรอัตโนมัติ, มาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้มุ่งเป้ามาที่เราเองมากกว่ารัสเซีย,” เขากล่าว

    เบียนคีเชื่อว่า จริงๆแล้วสหรัฐฯและสหราชอาณาจักรได้รับประโยชน์จากการคว่ำบาตรเหล่านี้มากกว่าการทิ้งระเบิดเขตอุตสาหกรรมของยุโรปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

    🗨️“บริษัทขนาดใหญ่จะย้ายออกจากประเทศ [EU] ไป “บางบริษัทได้ย้ายไปยังเอเชียแล้ว, และตอนนี้พวกเขาจะย้ายไปอเมริกาเพราะมีเงื่อนไขทางธุรกิจที่เอื้ออำนวยมากกว่า,” นักข่าวกล่าวเสริม
    .
    💬US AND UK ARE WAGING WAR AGAINST EU WITH ANTI-RUSSIAN SANCTIONS – Italian journalist

    The sanctions that Washington is pressuring European countries to impose against Russia are actually hurting the European Union (EU) more, Italian journalist Giorgio Bianchi told Sputnik.

    🗨️“I have the impression that this is a US war not only against Russia, but also against Italy, Germany, and France. Because the sanctions that the US has forced our countries to apply, I call them auto-sanctions, these sanctions are directed more against us than against Russia,” he pointed out.

    Bianchi believes that the US and UK have actually benefited far more from these sanctions than from the bombing of Europe’s industrial districts during World War II.

    🗨️“Large companies will simply move out of [EU] countries. Some of them have already moved to Asia, and now they will move to America because of more favorable business conditions,” the journalist added.
    .
    4:14 PM · Nov 23, 2024 · 859 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1860250584944681019
    💬สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรกำลังทำสงครามกับสหภาพยุโรปด้วยการคว่ำบาตรรัสเซีย – นักข่าวอิตาลี การคว่ำบาตรที่วอชิงตันกดดันให้ประเทศในยุโรปบังคับใช้กับรัสเซียนั้น แท้จริงแล้วกลับส่งผลเสียต่อสหภาพยุโรป (EU) มากกว่า, นักข่าวอิตาลี จอร์โจ เบียนคี กล่าวกับสปุตนิก 🗨️“ผมรู้สึกว่า นี่คือสงครามของสหรัฐฯไม่ใช่แค่กับรัสเซียเท่านั้น, แต่ยังรวมถึงอิตาลี, เยอรมนี, และฝรั่งเศสด้วย เพราะมาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐฯบังคับให้ประเทศของเราใช้, ผมเรียกว่ามาตรการคว่ำบาตรอัตโนมัติ, มาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้มุ่งเป้ามาที่เราเองมากกว่ารัสเซีย,” เขากล่าว เบียนคีเชื่อว่า จริงๆแล้วสหรัฐฯและสหราชอาณาจักรได้รับประโยชน์จากการคว่ำบาตรเหล่านี้มากกว่าการทิ้งระเบิดเขตอุตสาหกรรมของยุโรปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง 🗨️“บริษัทขนาดใหญ่จะย้ายออกจากประเทศ [EU] ไป “บางบริษัทได้ย้ายไปยังเอเชียแล้ว, และตอนนี้พวกเขาจะย้ายไปอเมริกาเพราะมีเงื่อนไขทางธุรกิจที่เอื้ออำนวยมากกว่า,” นักข่าวกล่าวเสริม . 💬US AND UK ARE WAGING WAR AGAINST EU WITH ANTI-RUSSIAN SANCTIONS – Italian journalist The sanctions that Washington is pressuring European countries to impose against Russia are actually hurting the European Union (EU) more, Italian journalist Giorgio Bianchi told Sputnik. 🗨️“I have the impression that this is a US war not only against Russia, but also against Italy, Germany, and France. Because the sanctions that the US has forced our countries to apply, I call them auto-sanctions, these sanctions are directed more against us than against Russia,” he pointed out. Bianchi believes that the US and UK have actually benefited far more from these sanctions than from the bombing of Europe’s industrial districts during World War II. 🗨️“Large companies will simply move out of [EU] countries. Some of them have already moved to Asia, and now they will move to America because of more favorable business conditions,” the journalist added. . 4:14 PM · Nov 23, 2024 · 859 Views https://x.com/SputnikInt/status/1860250584944681019
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 176 Views 0 Reviews
  • ขอวิธี ยกเลิก subscription เหตุผล ไม่ต่องการผูกมัดกับ google/ application not stable/please change the way to subscription via true money wallet.
    ขอวิธี ยกเลิก subscription เหตุผล ไม่ต่องการผูกมัดกับ google/ application not stable/please change the way to subscription via true money wallet.
    0 Comments 0 Shares 100 Views 0 Reviews
  • 🧵การที่รัสเซียใช้ขีปนาวุธโอเรชนิก เป็นคำเตือนร้ายแรงต่อนาโต้ท่ามกลางอันตรายของสงครามโลก – นักวิเคราะห์

    การโจมตีฐานทัพของยูเครนโดยใช้ขีปนาวุธพิสัยกลางความเร็วเหนือเสียงโอเรชนิกรุ่นใหม่เป็น “คำเตือนร้ายแรงต่อนาโต้ฅ,” โรบินสัน ฟารินาซโซ, อดีตเจ้าหน้าที่บราซิล, กล่าวกับสปุตนิก

    🗨️เขาย้ำว่าประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯได้ข้าม “เส้นแดง” ด้วยการอนุญาตให้ระบอบเคียฟโจมตีรัสเซียด้วยอาวุธพิสัยไกลของอเมริกา “มอสโกตระหนักดีว่าการโจมตีประเภทนี้ซึ่งยากในทางเทคนิคนั้น สามารถดำเนินการได้ก็ต่อเมื่อได้รับการสนับสนุนจากนาโต้เท่านั้น, ในกรณีนี้คือสหรัฐฯ,” เขากล่าว
    .
    นักวิเคราะห์คนอื่นๆเห็นด้วย:
    .
    🔸วอชิงตันกำลัง “กระตุ้นให้เกิดการยกระดับความรุนแรงที่เปลี่ยนแปลงธรรมชาติของความขัดแย้งไปอย่างสิ้นเชิง,” ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์การทหาร ริคาร์โด คาบรัล เน้นย้ำ

    🔸การที่สหรัฐฯอนุญาตให้เคียฟใช้อาวุธพิสัยไกลเป็น “การรุกทางจิตวิทยาอย่างต่อเนื่อง” เพื่อทดสอบความอดทนของมอสโกว, นักวิเคราะห์ชาวเวเนซุเอลา วลาดิมีร์ อาเดรียนซา กล่าว, และเสริมว่าขั้นตอนอันตรายของความขัดแย้งมีต้นตอมาจาก “ความกระหายอย่างแรงกล้าของกองทัพ, การเงิน และเทคโนโลยีของสหรัฐฯ”
    .
    🔸มอสโกมีสิทธิทุกประการที่จะปกป้องตัวเองจาก “การกระทำอันชั่วร้ายและเป็นอาชญากรรม” ของนาโต้, อุมแบร์โต โมราเลส ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยอิสระแห่งปวยบลา ประเทศเม็กซิโก กล่าว

    🔸ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ได้ส่งสารอย่างชัดเจนว่า เหตุการณ์ปัจจุบันในเวทีระหว่างประเทศแสดงให้เห็นถึง "พฤติกรรมการฆ่าตัวตายและไม่รับผิดชอบของชาติตะวันตก ซึ่งคุกคามการทำลายล้างอย่างสิ้นเชิง," นักรัฐศาสตร์ชาวเลบานอน ฮัสซัน ฮมาเดห์ เน้นย้ำ, และเสริมว่า "โลกต้องลุกขึ้นต่อต้านคนชั่วร้ายเหล่านี้ที่มุ่งมั่นที่จะทำลายโลก และการตอบสนองต้องเหมาะสมกับการกระทำของพวกเขา"
    .
    🔸การที่วอชิงตันอนุมัติให้เคียฟใช้ขีปนาวุธที่ผลิตในสหรัฐฯนั้น มีจุดประสงค์เพื่อบีบบังคับให้รัฐบาลในอนาคตของโดนัลด์ ทรัมป์ ต้อง “ดำเนินการท่ามกลางความวุ่นวายทางภูมิรัฐศาสตร์,” ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเวเนซุเอลา วิลเมอร์ เดปาบลอส กล่าว

    🔸เมื่อเหลือเวลาอีกไม่ถึงสองเดือนก่อนการถ่ายโอนอำนาจ, ไบเดนกำลังพยายามทำให้ยากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับประธานาธิบดีคนต่อไปในการแก้ไขวิกฤตยูเครน, นักวิทยาศาสตร์การเมืองชาวอิหร่าน Emad Abshenas เชื่อเช่นนั้น

    🔸คำสั่งของปูตินในการใช้ขีปนาวุธ Oreshnik ถือเป็น "คำเตือนสำหรับประเทศสมาชิก NATO ท่ามกลางภัยคุกคามจากสงครามโลกที่เพิ่มมากขึ้น," ผู้เชี่ยวชาญชาวจีน Sima Pingbang อธิบาย และกล่าวต่อไปว่าระบอบการปกครองเคียฟได้กลายมาเป็น "อุปสรรคต่อสันติภาพ" และ "Biden และ Zelensky ไม่สามารถยอมรับชัยชนะของมอสโกได้"
    .
    🧵RUSSIA’S USE OF ORESHNIK MISSILE IS A GRAVE WARNING TO NATO AMID DANGER OF A WORLD WAR – analysts

    Russia’s strike on a Ukrainian defense facility using its new Oreshnik hypersonic medium-range ballistic missile is a “a serious warning to NATO,” Robinson Farinazzo, a retired Brazilian officer, told Sputnik.

    🗨️He underscored that US President Joe Biden crossed "a red line" by authorizing the Kiev regime to strike Russia with long-range American weapons. "Moscow is perfectly aware that this type of attack, technically difficult, can only be carried out with the support of NATO, in this case the US," he said.
    .
    OTHER ANALYSTS AGREE:
    .
    🔸Washington is “provoking an escalation that completely changes the nature of the conflict,” military history expert Ricardo Cabral emphasized.

    🔸The US allowing Kiev to use long-range weapons is "a continued psychological offensive" to test Moscow's tolerance, Venezuelan analyst Vladimir Adrianza noted, adding that the dangerous stage of the conflict stems from the “voracious appetite of the US military, financial and technological complex.”
    .
    🔸Moscow has every right to defend itself against NATO's “sinister and criminal actions," noted Humberto Morales, professor at the Autonomous University of Puebla, Mexico.

    🔸President Vladimir Putin has clearly conveyed the message that current events on the international arena demonstrate the “suicidal and irresponsible behavior by the West which threatens total destruction,” Lebanese political scientist Hassan Hmadeh underscored, adding, "The world must stand up to these evil people who are determined to destroy the planet, and the response must be commensurate with their actions."
    .
    🔸Washington's approval for Kiev to use US-made missiles is intended to force Donald Trump’s future administration to “operate in geopolitical chaos,” Venezuelan international relations expert Wilmer Depablos said.

    🔸With less than two months to go before the transfer of power, Biden is trying to make it as difficult as possible for the next president to resolve the Ukraine crisis, Iranian political scientist Emad Abshenas believes.

    🔸Putin's order to use the Oreshnik missile is “a warning to NATO countries amid the growing threat of a world war,” Chinese pundit Sima Pingbang explained, going on to say that the Kiev regime has become “an obstacle to peace” and that “Biden and Zelensky are unable to accept Moscow's victory."
    .
    8:59 PM · Nov 22, 2024 · 9,427 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1859959796624982449
    🧵การที่รัสเซียใช้ขีปนาวุธโอเรชนิก เป็นคำเตือนร้ายแรงต่อนาโต้ท่ามกลางอันตรายของสงครามโลก – นักวิเคราะห์ การโจมตีฐานทัพของยูเครนโดยใช้ขีปนาวุธพิสัยกลางความเร็วเหนือเสียงโอเรชนิกรุ่นใหม่เป็น “คำเตือนร้ายแรงต่อนาโต้ฅ,” โรบินสัน ฟารินาซโซ, อดีตเจ้าหน้าที่บราซิล, กล่าวกับสปุตนิก 🗨️เขาย้ำว่าประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯได้ข้าม “เส้นแดง” ด้วยการอนุญาตให้ระบอบเคียฟโจมตีรัสเซียด้วยอาวุธพิสัยไกลของอเมริกา “มอสโกตระหนักดีว่าการโจมตีประเภทนี้ซึ่งยากในทางเทคนิคนั้น สามารถดำเนินการได้ก็ต่อเมื่อได้รับการสนับสนุนจากนาโต้เท่านั้น, ในกรณีนี้คือสหรัฐฯ,” เขากล่าว . นักวิเคราะห์คนอื่นๆเห็นด้วย: . 🔸วอชิงตันกำลัง “กระตุ้นให้เกิดการยกระดับความรุนแรงที่เปลี่ยนแปลงธรรมชาติของความขัดแย้งไปอย่างสิ้นเชิง,” ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์การทหาร ริคาร์โด คาบรัล เน้นย้ำ 🔸การที่สหรัฐฯอนุญาตให้เคียฟใช้อาวุธพิสัยไกลเป็น “การรุกทางจิตวิทยาอย่างต่อเนื่อง” เพื่อทดสอบความอดทนของมอสโกว, นักวิเคราะห์ชาวเวเนซุเอลา วลาดิมีร์ อาเดรียนซา กล่าว, และเสริมว่าขั้นตอนอันตรายของความขัดแย้งมีต้นตอมาจาก “ความกระหายอย่างแรงกล้าของกองทัพ, การเงิน และเทคโนโลยีของสหรัฐฯ” . 🔸มอสโกมีสิทธิทุกประการที่จะปกป้องตัวเองจาก “การกระทำอันชั่วร้ายและเป็นอาชญากรรม” ของนาโต้, อุมแบร์โต โมราเลส ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยอิสระแห่งปวยบลา ประเทศเม็กซิโก กล่าว 🔸ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ได้ส่งสารอย่างชัดเจนว่า เหตุการณ์ปัจจุบันในเวทีระหว่างประเทศแสดงให้เห็นถึง "พฤติกรรมการฆ่าตัวตายและไม่รับผิดชอบของชาติตะวันตก ซึ่งคุกคามการทำลายล้างอย่างสิ้นเชิง," นักรัฐศาสตร์ชาวเลบานอน ฮัสซัน ฮมาเดห์ เน้นย้ำ, และเสริมว่า "โลกต้องลุกขึ้นต่อต้านคนชั่วร้ายเหล่านี้ที่มุ่งมั่นที่จะทำลายโลก และการตอบสนองต้องเหมาะสมกับการกระทำของพวกเขา" . 🔸การที่วอชิงตันอนุมัติให้เคียฟใช้ขีปนาวุธที่ผลิตในสหรัฐฯนั้น มีจุดประสงค์เพื่อบีบบังคับให้รัฐบาลในอนาคตของโดนัลด์ ทรัมป์ ต้อง “ดำเนินการท่ามกลางความวุ่นวายทางภูมิรัฐศาสตร์,” ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเวเนซุเอลา วิลเมอร์ เดปาบลอส กล่าว 🔸เมื่อเหลือเวลาอีกไม่ถึงสองเดือนก่อนการถ่ายโอนอำนาจ, ไบเดนกำลังพยายามทำให้ยากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับประธานาธิบดีคนต่อไปในการแก้ไขวิกฤตยูเครน, นักวิทยาศาสตร์การเมืองชาวอิหร่าน Emad Abshenas เชื่อเช่นนั้น 🔸คำสั่งของปูตินในการใช้ขีปนาวุธ Oreshnik ถือเป็น "คำเตือนสำหรับประเทศสมาชิก NATO ท่ามกลางภัยคุกคามจากสงครามโลกที่เพิ่มมากขึ้น," ผู้เชี่ยวชาญชาวจีน Sima Pingbang อธิบาย และกล่าวต่อไปว่าระบอบการปกครองเคียฟได้กลายมาเป็น "อุปสรรคต่อสันติภาพ" และ "Biden และ Zelensky ไม่สามารถยอมรับชัยชนะของมอสโกได้" . 🧵RUSSIA’S USE OF ORESHNIK MISSILE IS A GRAVE WARNING TO NATO AMID DANGER OF A WORLD WAR – analysts Russia’s strike on a Ukrainian defense facility using its new Oreshnik hypersonic medium-range ballistic missile is a “a serious warning to NATO,” Robinson Farinazzo, a retired Brazilian officer, told Sputnik. 🗨️He underscored that US President Joe Biden crossed "a red line" by authorizing the Kiev regime to strike Russia with long-range American weapons. "Moscow is perfectly aware that this type of attack, technically difficult, can only be carried out with the support of NATO, in this case the US," he said. . OTHER ANALYSTS AGREE: . 🔸Washington is “provoking an escalation that completely changes the nature of the conflict,” military history expert Ricardo Cabral emphasized. 🔸The US allowing Kiev to use long-range weapons is "a continued psychological offensive" to test Moscow's tolerance, Venezuelan analyst Vladimir Adrianza noted, adding that the dangerous stage of the conflict stems from the “voracious appetite of the US military, financial and technological complex.” . 🔸Moscow has every right to defend itself against NATO's “sinister and criminal actions," noted Humberto Morales, professor at the Autonomous University of Puebla, Mexico. 🔸President Vladimir Putin has clearly conveyed the message that current events on the international arena demonstrate the “suicidal and irresponsible behavior by the West which threatens total destruction,” Lebanese political scientist Hassan Hmadeh underscored, adding, "The world must stand up to these evil people who are determined to destroy the planet, and the response must be commensurate with their actions." . 🔸Washington's approval for Kiev to use US-made missiles is intended to force Donald Trump’s future administration to “operate in geopolitical chaos,” Venezuelan international relations expert Wilmer Depablos said. 🔸With less than two months to go before the transfer of power, Biden is trying to make it as difficult as possible for the next president to resolve the Ukraine crisis, Iranian political scientist Emad Abshenas believes. 🔸Putin's order to use the Oreshnik missile is “a warning to NATO countries amid the growing threat of a world war,” Chinese pundit Sima Pingbang explained, going on to say that the Kiev regime has become “an obstacle to peace” and that “Biden and Zelensky are unable to accept Moscow's victory." . 8:59 PM · Nov 22, 2024 · 9,427 Views https://x.com/SputnikInt/status/1859959796624982449
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 557 Views 0 Reviews
  • ไลฟ์สด แผนการโลกร้อนลวงโลกสู่การเป็นทาส
    โดย อดิเทพ จาวลาห์ และครูหนึ่ง
    ยูทูป https://www.youtube.com/live/YrrTEeqnsMU?si=1sMRr89nEAfhVFIn
    เฟสบุ๊ก https://www.facebook.com/share/v/1JZkhFrjJk/
    ติ๊กต็อก https://www.tiktok.com/@adithepchawla01/live?enter_from_merge=pc_share&enter_method=pc_share&is_from_webapp=1&sender_device=pc (ไม่มีย้อนหลัง)
    ไลฟ์สด แผนการโลกร้อนลวงโลกสู่การเป็นทาส โดย อดิเทพ จาวลาห์ และครูหนึ่ง ยูทูป https://www.youtube.com/live/YrrTEeqnsMU?si=1sMRr89nEAfhVFIn เฟสบุ๊ก https://www.facebook.com/share/v/1JZkhFrjJk/ ติ๊กต็อก https://www.tiktok.com/@adithepchawla01/live?enter_from_merge=pc_share&enter_method=pc_share&is_from_webapp=1&sender_device=pc (ไม่มีย้อนหลัง)
    0 Comments 0 Shares 196 Views 0 Reviews
  • 🇺🇸🇪🇺🇺🇦🇷🇺‼🚨 การชี้แจง: การยิง IRBM ของรัสเซียใส่ยูเครน ทำให้สหรัฐฯและยุโรปคิดว่ารัสเซียกำลังโจมตียูเครนด้วยอาวุธนิวเคลียร์ชั่วขณะหนึ่ง

    📞 หลังจากที่มีข้อมูลเพิ่มเติมปรากฏขึ้นในช่วงเย็นของเมื่อวาน ก็ชัดเจนว่ารัสเซียได้ส่งคำเตือนถึงสหรัฐฯแล้ว

    แต่รายละเอียดสำคัญ! ฉันได้ค้นหาผ่านช่องทางและประกาศต่างๆมากมาย และตอนนี้สิ่งที่ฉันคิดว่าเกิดขึ้นแล้ว!

    🗣 รัสเซียแจ้งกับสหรัฐฯล่วงหน้า ๓๐ นาที ก่อนปล่อยขีปนาวุธ, ว่าพวกเขาจะยิงขีปนาวุธลูกใหญ่ไปที่ยูเครน, โดยไม่ได้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม

    ซึ่งเพียงพอที่จะรักษามาตรฐานความปลอดภัยทางนิวเคลียร์, ประเทศหนึ่งจำเป็นต้องประกาศวิถีการบินเพื่อให้ประเทศต่างๆทราบว่าใครเป็นเป้าหมาย

    การบอกว่าขีปนาวุธไปที่ยูเครนจึงเพียงพอแล้ว, เพื่อให้สหรัฐฯทราบว่า ไม่ได้เล็งเป้าไปที่สหรัฐฯ, หรือพันธมิตรนาโตใดๆ

    ‼ แต่สหรัฐฯไม่รู้เลยว่าจะมีการยิงอะไรออกไป, จะไปลงที่ใดในยูเครนกันแน่, และไม่รู้ว่าเป็นอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่

    ในช่วงเวลาสั้นๆ สหรัฐฯและยุโรปคิดว่า รัสเซียอาจโจมตียูเครนด้วยอาวุธนิวเคลียร์

    พวกเขารู้เพียงว่ามันไม่ใช่นิวเคลียร์ โดยการตรวจสอบว่าเมือง Dnipro ยังอยู่หรือไม่ หลังจากเกิดผลกระทบ

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุโรปที่ตื่นตระหนกจนขี้หดตดหาย, เพราะพวกเขาประหลาดใจกับการปล่อยนิวเคลียร์ครั้งนี้มาก และไม่มีคำเตือนใดๆ

    -> โดยพื้นฐานแล้ว, หากรัสเซียตัดสินใจโจมตียูเครนด้วยอาวุธนิวเคลียร์ … ตะวันตกก็คงได้เพียงแต่เฝ้าดู

    1/
    .
    🇺🇸🇪🇺🇺🇦🇷🇺‼🚨 CLARIFICATION: Russia’s IRBM launch at Ukraine made the US and Europe think Russia is nuking Ukraine for a short moment.

    📞 Now the after more information appeared in the evening yesterday it became clear that Russia did give the US a warning.

    But the details matter! I’ve dug through many channels and announcement and that what I think happened now!

    🗣 Russia told the US exactly 30 minutes before launch, that they’re gonna launch a big missile at Ukraine, not specifying any more details.

    This is enough to uphold the nuclear safety protocol, a country needs to announce the flight trajectory so countries know who is targeted.

    Saying a missile at Ukraine is hence enough, so the US knew it’s not targeted at them, nor any NATO allies.

    ‼ But the US had no clue what is going to be launched, where exactly in Ukraine it will land, nor if it is nuclear.

    So for a short moment US and Europe thought Russia is potentially nuking Ukraine.

    They only knew that it was not nuclear by checking if the city Dnipro is still physically there after the impacts.

    Especially Europe was freaked out, since they were surprised by the launch fully and had no warning.

    -> Essentially, If Russia decides to nuke Ukraine … the west will only just watch.

    1/
    .
    4:25 PM · Nov 22, 2024 · 119K Views
    https://x.com/MyLordBebo/status/1859891008445542851
    🇺🇸🇪🇺🇺🇦🇷🇺‼🚨 การชี้แจง: การยิง IRBM ของรัสเซียใส่ยูเครน ทำให้สหรัฐฯและยุโรปคิดว่ารัสเซียกำลังโจมตียูเครนด้วยอาวุธนิวเคลียร์ชั่วขณะหนึ่ง 📞 หลังจากที่มีข้อมูลเพิ่มเติมปรากฏขึ้นในช่วงเย็นของเมื่อวาน ก็ชัดเจนว่ารัสเซียได้ส่งคำเตือนถึงสหรัฐฯแล้ว แต่รายละเอียดสำคัญ! ฉันได้ค้นหาผ่านช่องทางและประกาศต่างๆมากมาย และตอนนี้สิ่งที่ฉันคิดว่าเกิดขึ้นแล้ว! 🗣 รัสเซียแจ้งกับสหรัฐฯล่วงหน้า ๓๐ นาที ก่อนปล่อยขีปนาวุธ, ว่าพวกเขาจะยิงขีปนาวุธลูกใหญ่ไปที่ยูเครน, โดยไม่ได้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งเพียงพอที่จะรักษามาตรฐานความปลอดภัยทางนิวเคลียร์, ประเทศหนึ่งจำเป็นต้องประกาศวิถีการบินเพื่อให้ประเทศต่างๆทราบว่าใครเป็นเป้าหมาย การบอกว่าขีปนาวุธไปที่ยูเครนจึงเพียงพอแล้ว, เพื่อให้สหรัฐฯทราบว่า ไม่ได้เล็งเป้าไปที่สหรัฐฯ, หรือพันธมิตรนาโตใดๆ ‼ แต่สหรัฐฯไม่รู้เลยว่าจะมีการยิงอะไรออกไป, จะไปลงที่ใดในยูเครนกันแน่, และไม่รู้ว่าเป็นอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่ ในช่วงเวลาสั้นๆ สหรัฐฯและยุโรปคิดว่า รัสเซียอาจโจมตียูเครนด้วยอาวุธนิวเคลียร์ พวกเขารู้เพียงว่ามันไม่ใช่นิวเคลียร์ โดยการตรวจสอบว่าเมือง Dnipro ยังอยู่หรือไม่ หลังจากเกิดผลกระทบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุโรปที่ตื่นตระหนกจนขี้หดตดหาย, เพราะพวกเขาประหลาดใจกับการปล่อยนิวเคลียร์ครั้งนี้มาก และไม่มีคำเตือนใดๆ -> โดยพื้นฐานแล้ว, หากรัสเซียตัดสินใจโจมตียูเครนด้วยอาวุธนิวเคลียร์ … ตะวันตกก็คงได้เพียงแต่เฝ้าดู 1/ . 🇺🇸🇪🇺🇺🇦🇷🇺‼🚨 CLARIFICATION: Russia’s IRBM launch at Ukraine made the US and Europe think Russia is nuking Ukraine for a short moment. 📞 Now the after more information appeared in the evening yesterday it became clear that Russia did give the US a warning. But the details matter! I’ve dug through many channels and announcement and that what I think happened now! 🗣 Russia told the US exactly 30 minutes before launch, that they’re gonna launch a big missile at Ukraine, not specifying any more details. This is enough to uphold the nuclear safety protocol, a country needs to announce the flight trajectory so countries know who is targeted. Saying a missile at Ukraine is hence enough, so the US knew it’s not targeted at them, nor any NATO allies. ‼ But the US had no clue what is going to be launched, where exactly in Ukraine it will land, nor if it is nuclear. So for a short moment US and Europe thought Russia is potentially nuking Ukraine. They only knew that it was not nuclear by checking if the city Dnipro is still physically there after the impacts. Especially Europe was freaked out, since they were surprised by the launch fully and had no warning. -> Essentially, If Russia decides to nuke Ukraine … the west will only just watch. 1/ . 4:25 PM · Nov 22, 2024 · 119K Views https://x.com/MyLordBebo/status/1859891008445542851
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 672 Views 6 0 Reviews
  • ทางผ่านแวะหน่อยแล้วกัน 😍 @Taman Sari (สวนน้ำของบรรดานางสนมขององค์สุลต่าน) มีคู่บ่าวสาวมาถ่ายพรีเวดดิ้งเยอะมาก และชื่นชมอีกอย่าง มีไกค์ชาวบ้านคอยแนะนำเยอะเลย ส่งเสริมให้ชาวบ้านและชุมชนรอบข้าง (ราคาคนท้องถิ่น 15,000 รูเปีย ประมาณ 40฿ ต่อคน)https://maps.app.goo.gl/3GmqVW2PBQhHV8qB9?g_st=com.google.maps.preview.copyTaman Sari หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Water Castle” เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองยอกยาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 โดย สุลต่านฮาเมงกูบูโวที่ 1 (Sultan Hamengkubuwono I) แห่งราชอาณาจักรยอกยาการ์ตา จุดประสงค์ดั้งเดิมของ Taman Sari คือการเป็นสถานที่พักผ่อนส่วนตัวของราชวงศ์และใช้สำหรับพิธีกรรมทางศาสนา การป้องกัน รวมถึงเป็นสวนน้ำเพื่อความเพลิดเพลิน  ประวัติที่สำคัญ: 1. การก่อสร้างTaman Sari ถูกสร้างขึ้นในปี 1758-1765 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมยุโรป ผสมผสานกับสไตล์ชวา มีสระน้ำ พื้นที่พักผ่อน และอาคารหลากหลายที่ออกแบบอย่างประณีต เช่น สระว่ายน้ำส่วนตัวของสุลต่าน และหอคอยชมวิว  2. หน้าที่การใช้งาน ใช้เป็น ที่พักผ่อนส่วนตัวของราชวงศ์ เป็น ป้อมปราการทางยุทธศาสตร์ ซึ่งมีอุโมงค์ใต้ดินและพื้นที่ลับเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน ใช้สำหรับ พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะพิธีทางน้ำที่เกี่ยวข้องกับสุลต่านและครอบครัว  3. สถานะในปัจจุบันTaman Sari ในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมของอินโดนีเซีย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมส่วนต่าง ๆ เช่น สระน้ำกลางแจ้งที่ยังคงสภาพดี และโครงสร้างบางส่วนที่ได้รับการบูรณะ  ด้วยความผสมผสานของวัฒนธรรมท้องถิ่นและตะวันตก Taman Sari จึงเป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงถึงประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมของอินโดนีเซียในยุคโบราณ.
    ทางผ่านแวะหน่อยแล้วกัน 😍 @Taman Sari (สวนน้ำของบรรดานางสนมขององค์สุลต่าน) มีคู่บ่าวสาวมาถ่ายพรีเวดดิ้งเยอะมาก และชื่นชมอีกอย่าง มีไกค์ชาวบ้านคอยแนะนำเยอะเลย ส่งเสริมให้ชาวบ้านและชุมชนรอบข้าง (ราคาคนท้องถิ่น 15,000 รูเปีย ประมาณ 40฿ ต่อคน)https://maps.app.goo.gl/3GmqVW2PBQhHV8qB9?g_st=com.google.maps.preview.copyTaman Sari หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Water Castle” เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองยอกยาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 โดย สุลต่านฮาเมงกูบูโวที่ 1 (Sultan Hamengkubuwono I) แห่งราชอาณาจักรยอกยาการ์ตา จุดประสงค์ดั้งเดิมของ Taman Sari คือการเป็นสถานที่พักผ่อนส่วนตัวของราชวงศ์และใช้สำหรับพิธีกรรมทางศาสนา การป้องกัน รวมถึงเป็นสวนน้ำเพื่อความเพลิดเพลิน  ประวัติที่สำคัญ: 1. การก่อสร้างTaman Sari ถูกสร้างขึ้นในปี 1758-1765 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมยุโรป ผสมผสานกับสไตล์ชวา มีสระน้ำ พื้นที่พักผ่อน และอาคารหลากหลายที่ออกแบบอย่างประณีต เช่น สระว่ายน้ำส่วนตัวของสุลต่าน และหอคอยชมวิว  2. หน้าที่การใช้งาน ใช้เป็น ที่พักผ่อนส่วนตัวของราชวงศ์ เป็น ป้อมปราการทางยุทธศาสตร์ ซึ่งมีอุโมงค์ใต้ดินและพื้นที่ลับเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน ใช้สำหรับ พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะพิธีทางน้ำที่เกี่ยวข้องกับสุลต่านและครอบครัว  3. สถานะในปัจจุบันTaman Sari ในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมของอินโดนีเซีย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมส่วนต่าง ๆ เช่น สระน้ำกลางแจ้งที่ยังคงสภาพดี และโครงสร้างบางส่วนที่ได้รับการบูรณะ  ด้วยความผสมผสานของวัฒนธรรมท้องถิ่นและตะวันตก Taman Sari จึงเป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงถึงประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมของอินโดนีเซียในยุคโบราณ.
    0 Comments 0 Shares 462 Views 0 Reviews
  • ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    0 Comments 0 Shares 390 Views 0 Reviews
  • ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    0 Comments 0 Shares 385 Views 0 Reviews
  • ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    ทำงานด้วย เที่ยวไปด้วย Prambanan Temple, Jogjakartahttps://maps.app.goo.gl/fmMafK8eDM6yStvE6?g_st=com.google.maps.preview.copyปรัมบานัน (Prambanan Temple) เป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ในจังหวัดยอกยาการ์ตา (Yogyakarta) บนเกาะชวา วัดนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2534ประวัติย่อ • สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9วัดปรัมบานันถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ภายใต้การปกครองของราชวงศ์มาตาราม (Mataram Kingdom) เพื่ออุทิศให้กับตรีมูรติในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระพรหม (ผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้รักษา) และพระศิวะ (ผู้ทำลาย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระศิวะ ซึ่งถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของวัดแห่งนี้ • รูปแบบสถาปัตยกรรมวัดหลักของปรัมบานันมีลักษณะเด่นด้วยยอดแหลมสูง ตัววัดสร้างด้วยหินภูเขาไฟและประกอบด้วยกลุ่มวัดย่อย 240 แห่ง แต่ในปัจจุบันบางส่วนอยู่ในสภาพซากปรักหักพัง • การล่มสลายหลังจากศตวรรษที่ 10 วัดนี้ถูกทิ้งร้างและเริ่มเสื่อมสภาพเนื่องจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว และการปกคลุมของพืชพรรณ • การบูรณะเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 โดยเน้นการอนุรักษ์ตามหลักฐานโบราณที่มีอยู่ความน่าสนใจ • วัดปรัมบานันมีลวดลายแกะสลักหินที่วิจิตรงดงาม บอกเล่าเรื่องราวมหากาพย์รามเกียรติ์ (Ramayana) • วัดหลักสามแห่งคือ วัดศิวะ (Shiva Temple), วัดวิษณุ (Vishnu Temple), และ วัดพรหม (Brahma Temple)วัดปรัมบานันยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญในอินโดนีเซีย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและชมการแสดงรามายณะบัลเลต์ (Ramayana Ballet) ที่จัดขึ้นในยามค่ำคืนท่ามกลางแสงไฟที่วัดอีกด้วย
    0 Comments 0 Shares 379 Views 0 Reviews
  • iOS ก็มาแล้วนะครับ อย่าลืม Update APP กันนะครับ ที่ App store และสำหรับ Android ได้ที่ Play store.
    iOS ก็มาแล้วนะครับ อย่าลืม Update APP กันนะครับ ที่ App store และสำหรับ Android ได้ที่ Play store.
    แจ้งอัปเดตเวอร์ชัน 3.2.1 (iOS) เราได้ทำการอัปเดตแอปพลิเคชันเวอร์ชัน 3.2.1 สำหรับ iOS โดยมีการปรับปรุงดังนี้:

    - แก้ไขบั๊กต่าง ๆ เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลยิ่งขึ้น

    เรายังคงมุ่งมั่นพัฒนาแอปพลิเคชันให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด
    อย่าลืมอัปเดตแอปพลิเคชัน ThaiTimes บน iOS ของคุณวันนี้!

    #thaitimes #Update #iOS
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 283 Views 0 Reviews
  • 🤣บริจาคขยะ: ATACMS จำนวนมากของสหรัฐฯ ที่รับปากจะส่งมอบให้ยูเครนหมดอายุในปี ๒๐๑๕🤣

    ATACMS บางส่วนที่หมดอายุในคลังแสงของกองทัพสหรัฐฯ, ซึ่งรับปากว่าจะส่งมอบให้ยูเครน, หมดอายุเร็วสุดในปี ๒๐๑๕ เพื่อยืดอายุการใช้งาน, สหรัฐฯได้ลงทุนมากกว่า ๑ พันล้านดอลลาร์, ตามการคำนวณของสปุตนิก โดยอิงจากเอกสารทางการเงินของกระทรวงกลาโหม

    ในปีงบประมาณ (FY) ๒๐๑๖, ซึ่งเริ่มต้นในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๐๑๕, กองทัพบกสหรัฐฯ ต้องใช้เงิน ๓๐.๑ ล้านดอลลาร์ ในการปรับเปลี่ยน "๑๐ รายการสินทรัพย์ [ATACMS] ที่หมดอายุ และรีเซ็ตอายุการใช้งานตามสัญญา," ตามรายงานงบประมาณปีงบประมาณ ๒๐๑๖

    เนื่องจาก ATACMS มีอายุการใช้งาน ๑๐ ปี, ขีปนาวุธ ๑๐ ลูกที่ดัดแปลงในปี ๒๐๑๕ คาดว่าจะหมดอายุใช้งานอีกครั้งในปี ๒๐๒๕

    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา, กองทัพบกสหรัฐฯ ได้พยายามเปลี่ยน ATACMS ด้วยขีปนาวุธ Precision Strike Missile (PrSM) รุ่นใหม่กว่าและก้าวหน้ากว่า แม้ว่าขีปนาวุธแต่ละลูกของ ATACMS จะมีราคาประมาณ ๑ ล้านดอลลาร์, แต่ราคาของ PrSM รุ่นล่าสุดนั้นสูงกว่า ๒ ล้านดอลลาร์ต่อขีปนาวุธหนึ่งลูก

    นี่อาจอธิบายได้ว่าทำไมยูเครนจึงได้รับอาวุธมูลค่า ๓๓,๓๐๐ ล้านดอลลาร์ ผ่านหน่วยงาน Presidential Drawdown Authority (PDA), ในขณะที่สหรัฐฯ ต้องใช้เงิน ๔๕,๗๐๐ ล้านดอลลาร์ ในการซื้ออาวุธใหม่เพื่อเติมเต็มคลังอาวุธ, ตามตัวเลขจาก Ukraine Oversight

    🤣วอชิงตันใช้โอกาสนี้เพียงเพื่อกำจัดอาวุธที่หมดอายุในคลังอาวุธของตน, เช่น ATACMS และอัปเกรดระบบอาวุธด้วยเงินทุนที่เรียกว่า "ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน"🤣
    .
    DONATING JUNK: NUMEROUS US ATACMS PLEDGED TO UKRAINE EXPIRED IN 2015

    Some of the aging ATACMS in American military inventory, which were promised for delivery to Ukraine, expired as early as 2015. To extend their service life, the US invested over $1 billion, according to calculations by Sputnik based on Pentagon financial documents.

    During fiscal year (FY) 2016, which began on October 1, 2015, the US Army had to spend $30.1 million to modify “10 expired [ATACMS] assets and reset their contractual service life,” according to the FY 2016 budget report.

    Since the ATACMS has a 10-year service life, the 10 missiles modified in 2015 are expected to expire again in 2025.

    In recent years, the US Army has been working to replace the ATACMS with the newer and more advanced Precision Strike Missile (PrSM). While each missile of the ATACMS costs approximately $1 million, the price for the latest PrSM exceeds $2 million per missile.

    This may explain why Ukraine received $33.3 billion worth of weapons through the Presidential Drawdown Authority (PDA), while the US had to spend $45.7 billion to buy new weapons to replenish its stockpile, according to figures from Ukraine Oversight.

    Washington simply took the opportunity to get rid of expiring weapons in its inventory, such as the ATACMS, and upgraded its weapons systems with funds labeled as “military assistance to Ukraine.”
    .
    2:18 PM · Nov 21, 2024 · 3,242 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1859496668044964345
    🤣บริจาคขยะ: ATACMS จำนวนมากของสหรัฐฯ ที่รับปากจะส่งมอบให้ยูเครนหมดอายุในปี ๒๐๑๕🤣 ATACMS บางส่วนที่หมดอายุในคลังแสงของกองทัพสหรัฐฯ, ซึ่งรับปากว่าจะส่งมอบให้ยูเครน, หมดอายุเร็วสุดในปี ๒๐๑๕ เพื่อยืดอายุการใช้งาน, สหรัฐฯได้ลงทุนมากกว่า ๑ พันล้านดอลลาร์, ตามการคำนวณของสปุตนิก โดยอิงจากเอกสารทางการเงินของกระทรวงกลาโหม ในปีงบประมาณ (FY) ๒๐๑๖, ซึ่งเริ่มต้นในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๐๑๕, กองทัพบกสหรัฐฯ ต้องใช้เงิน ๓๐.๑ ล้านดอลลาร์ ในการปรับเปลี่ยน "๑๐ รายการสินทรัพย์ [ATACMS] ที่หมดอายุ และรีเซ็ตอายุการใช้งานตามสัญญา," ตามรายงานงบประมาณปีงบประมาณ ๒๐๑๖ เนื่องจาก ATACMS มีอายุการใช้งาน ๑๐ ปี, ขีปนาวุธ ๑๐ ลูกที่ดัดแปลงในปี ๒๐๑๕ คาดว่าจะหมดอายุใช้งานอีกครั้งในปี ๒๐๒๕ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา, กองทัพบกสหรัฐฯ ได้พยายามเปลี่ยน ATACMS ด้วยขีปนาวุธ Precision Strike Missile (PrSM) รุ่นใหม่กว่าและก้าวหน้ากว่า แม้ว่าขีปนาวุธแต่ละลูกของ ATACMS จะมีราคาประมาณ ๑ ล้านดอลลาร์, แต่ราคาของ PrSM รุ่นล่าสุดนั้นสูงกว่า ๒ ล้านดอลลาร์ต่อขีปนาวุธหนึ่งลูก นี่อาจอธิบายได้ว่าทำไมยูเครนจึงได้รับอาวุธมูลค่า ๓๓,๓๐๐ ล้านดอลลาร์ ผ่านหน่วยงาน Presidential Drawdown Authority (PDA), ในขณะที่สหรัฐฯ ต้องใช้เงิน ๔๕,๗๐๐ ล้านดอลลาร์ ในการซื้ออาวุธใหม่เพื่อเติมเต็มคลังอาวุธ, ตามตัวเลขจาก Ukraine Oversight 🤣วอชิงตันใช้โอกาสนี้เพียงเพื่อกำจัดอาวุธที่หมดอายุในคลังอาวุธของตน, เช่น ATACMS และอัปเกรดระบบอาวุธด้วยเงินทุนที่เรียกว่า "ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน"🤣 . DONATING JUNK: NUMEROUS US ATACMS PLEDGED TO UKRAINE EXPIRED IN 2015 Some of the aging ATACMS in American military inventory, which were promised for delivery to Ukraine, expired as early as 2015. To extend their service life, the US invested over $1 billion, according to calculations by Sputnik based on Pentagon financial documents. During fiscal year (FY) 2016, which began on October 1, 2015, the US Army had to spend $30.1 million to modify “10 expired [ATACMS] assets and reset their contractual service life,” according to the FY 2016 budget report. Since the ATACMS has a 10-year service life, the 10 missiles modified in 2015 are expected to expire again in 2025. In recent years, the US Army has been working to replace the ATACMS with the newer and more advanced Precision Strike Missile (PrSM). While each missile of the ATACMS costs approximately $1 million, the price for the latest PrSM exceeds $2 million per missile. This may explain why Ukraine received $33.3 billion worth of weapons through the Presidential Drawdown Authority (PDA), while the US had to spend $45.7 billion to buy new weapons to replenish its stockpile, according to figures from Ukraine Oversight. Washington simply took the opportunity to get rid of expiring weapons in its inventory, such as the ATACMS, and upgraded its weapons systems with funds labeled as “military assistance to Ukraine.” . 2:18 PM · Nov 21, 2024 · 3,242 Views https://x.com/SputnikInt/status/1859496668044964345
    Like
    Haha
    3
    0 Comments 0 Shares 424 Views 0 Reviews
  • Happy Birthday ถุงทอง
    Happy Birthday ถุงทอง
    0 Comments 0 Shares 105 Views 0 Reviews
More Results