• +++ #อ่านบรรทัดแรกกูงง #อ่านจบกูช็อค

    +++ #อีดอกกกกกกกกกกกก_จะบ้า

    😅 งง #ตอนบอกไม่ถอดเสื้อ

    #เอ็นดู #โลกใบนี้มีความลึกลับซ่อนอยู่เยอะ
    +++ #อ่านบรรทัดแรกกูงง #อ่านจบกูช็อค +++ #อีดอกกกกกกกกกกกก_จะบ้า 😅 งง #ตอนบอกไม่ถอดเสื้อ #เอ็นดู #โลกใบนี้มีความลึกลับซ่อนอยู่เยอะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ปัญหามันจะไม่เกิดถ้ารักใครก็รักมันไม่ไปทำร้ายกัน
    น้องฮาน่า ดาวตต.ที่มีนิสัยน่ารักคนนึงในสายตาพี่คิงส์นะ
    โดนตัดต่อจนทำให้เข้าใจผิดว่าที่น้องพูดว่าสตอเบอร์รี่คือไปสะกิดนางฟ้านางสวรรค์
    บอบบางเหลือเกิน คนรักคนชอบคนคลั่งไคล้นางฟ้า ก็ปักธง
    ทำแบบที่เคยทำกับแน๊กชาลี
    .. ตอนนี้ เพจอีจวง จากเพจข่าวสารก็กลายเป็นเพจเชียร์เกาไปเรียบร้อย พี่คิงส์และคนไทยหลายๆคน ก็รู้สึกผิดหวัง แต่ก็เรื่องของเค้าอะนะ เค้ายอมแลก ก็อย่างที่ป้า จ. เค้าบอกนั่นแหละ ว่าคนที่เพจอีจวง เป็นแฟนคลับนางฟ้านางสวรรค์ ยอมแลกกับฐานมวลชน เมื่อรักยอมแลกเราคนดูสื่อก็มีสิทธิ์ที่จะเลิกติดตาม วินๆ
    - แต่ประเด็นวันนี้คือ การที่น้องฮาน่า ซึ่งไม่เคยเป็นพิษเป็นภัยยกับใคร ก็ถูกกลุ่มคนคลั่งไคล้นางฟ้านางสวรรค์ มาคุกกคามม เล่นงานน้องฮาน่ากันฉ่ำๆ ทำขบวนการในแบบที่จัดให้แน๊กมาแล้ว ยูซผีปั่นนเทรนก็มา จนน้องต้องออกมาไลฟ์สด อธิบาย ต่างๆนาๆ
    - เทรนทิพย์ ณ ปัจจุบัน สื่อมวลชนในไทยตอนนี้ก็รู้กันทั่วแล้ว ว่ามันสามารถจัดการให้เกิดได้ด้วยบอท สั่งให้บอทยูซผี จำนวนมากๆ พิมพ์ข้อความเดียวกัน แฮชเท็คเดียวกัน หรือประโยคซ้ำๆกัน พร้อมๆกัน ซึ่งมันไม่ใช่เทรนที่เป็นธรรมชาติ
    - สุดท้าย อะไรที่มันผิดธรรมชาติ ธรรมชาติก็จะกลับมาลงโทษษ
    พี่คิงส์ฯ ขอส่งสารนี้ เป็นกำลังใจให้น้องฮาน่านะครับ ให้น้องแคร์คนที่รักน้อง อย่าไปสนใจเทรนทิพย์ หรือคนที่พยายามให้ร้ายน้อง มันเป็นขบวนการที่ชาลีเคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้ฉ่ำๆมาแล้ว
    - น้องฮาน่าเป็นเด็กดีเสมอในสายตาพี่คิงส์ และคนไทยอีกหลายๆคน เห็นแล้วรู้สึกเอ็นดู ยังเด็ก ยังแบ๊วจริง ไม่ต้องแสร้งทำ ไม่ได้เหมือนแสดง ไม่ดู ปญอ. รักษาคุณภาพไว้นะครับ จากใจพี่คิงส์ฯ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ปัญหามันจะไม่เกิดถ้ารักใครก็รักมันไม่ไปทำร้ายกัน น้องฮาน่า ดาวตต.ที่มีนิสัยน่ารักคนนึงในสายตาพี่คิงส์นะ โดนตัดต่อจนทำให้เข้าใจผิดว่าที่น้องพูดว่าสตอเบอร์รี่คือไปสะกิดนางฟ้านางสวรรค์ บอบบางเหลือเกิน คนรักคนชอบคนคลั่งไคล้นางฟ้า ก็ปักธง ทำแบบที่เคยทำกับแน๊กชาลี .. ตอนนี้ เพจอีจวง จากเพจข่าวสารก็กลายเป็นเพจเชียร์เกาไปเรียบร้อย พี่คิงส์และคนไทยหลายๆคน ก็รู้สึกผิดหวัง แต่ก็เรื่องของเค้าอะนะ เค้ายอมแลก ก็อย่างที่ป้า จ. เค้าบอกนั่นแหละ ว่าคนที่เพจอีจวง เป็นแฟนคลับนางฟ้านางสวรรค์ ยอมแลกกับฐานมวลชน เมื่อรักยอมแลกเราคนดูสื่อก็มีสิทธิ์ที่จะเลิกติดตาม วินๆ - แต่ประเด็นวันนี้คือ การที่น้องฮาน่า ซึ่งไม่เคยเป็นพิษเป็นภัยยกับใคร ก็ถูกกลุ่มคนคลั่งไคล้นางฟ้านางสวรรค์ มาคุกกคามม เล่นงานน้องฮาน่ากันฉ่ำๆ ทำขบวนการในแบบที่จัดให้แน๊กมาแล้ว ยูซผีปั่นนเทรนก็มา จนน้องต้องออกมาไลฟ์สด อธิบาย ต่างๆนาๆ - เทรนทิพย์ ณ ปัจจุบัน สื่อมวลชนในไทยตอนนี้ก็รู้กันทั่วแล้ว ว่ามันสามารถจัดการให้เกิดได้ด้วยบอท สั่งให้บอทยูซผี จำนวนมากๆ พิมพ์ข้อความเดียวกัน แฮชเท็คเดียวกัน หรือประโยคซ้ำๆกัน พร้อมๆกัน ซึ่งมันไม่ใช่เทรนที่เป็นธรรมชาติ - สุดท้าย อะไรที่มันผิดธรรมชาติ ธรรมชาติก็จะกลับมาลงโทษษ พี่คิงส์ฯ ขอส่งสารนี้ เป็นกำลังใจให้น้องฮาน่านะครับ ให้น้องแคร์คนที่รักน้อง อย่าไปสนใจเทรนทิพย์ หรือคนที่พยายามให้ร้ายน้อง มันเป็นขบวนการที่ชาลีเคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้ฉ่ำๆมาแล้ว - น้องฮาน่าเป็นเด็กดีเสมอในสายตาพี่คิงส์ และคนไทยอีกหลายๆคน เห็นแล้วรู้สึกเอ็นดู ยังเด็ก ยังแบ๊วจริง ไม่ต้องแสร้งทำ ไม่ได้เหมือนแสดง ไม่ดู ปญอ. รักษาคุณภาพไว้นะครับ จากใจพี่คิงส์ฯ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 443 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ตอบคำถามที่ค้างคาใจแฟนเพจหลายๆคน
    มีแฟนเพจถามมาเยอะ และอีกหลายๆคนสงสัยแต่ไม่กล้าถาม
    กับท่าทีคิงสเพจคิงส์ ที่ดูจะปล่อยผ่าน เรื่องราวของจีกามิน
    - ลือว่า พี่คิงส์ถูกเรียกไปเคลีย
    - ลือว่า พี่คิงส์เกมส์ โดนจับ
    - ลือว่า กลัว ป้า จ.
    คือ ลือไปได้เป็น 108 - 1900 สตอรี่
    พี่คิงส์ ได้ตอบข้อความทางช่องแชตไปพอสมควร
    ตอบแบบตรงๆ เป็นข้อๆ เอาจริงๆก็ไม่ได้อยากให้ความสำคัญ
    กับเรื่องเกาหลีซักเท่าไหร่แล้ว เพราะระยะเวลาสามเดือน
    ก็ถือว่า ให้เวลากับเรื่องนี้นานมากเกินไปแล้ว
    แต่ถ้าถามถึงเหตุผลคือ
    1. พี่คิงส์ ไปช่วยเพจพันธมิตร ขุดเรื่องบอส ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
    2. พี่คิงส์ ไปหาข้อมูลเพิ่ม เรื่องทนูย ต.
    3. พี่คิงส์ไม่ชอบไปขยี้ปมของใคร โดยเฉพาะ ป้า จ. แต่ที่ทำไปทั้งหมด เพราะ ป้า จ. ท้าทายทุกวัน ทำให้พี่คิงส์มูฟออนไม่ได้ แต่ถามว่ามีความสุขมั๊ย ที่เอาปมป้า จ. มาขยี้ ตอบตรงๆ ไม่มีความสุข และยิ่งนับวัน ป้า จ. ก็เหมือนซาาดิสส สนุกกับการโดนขยี้ปม ก็เลยตัดสินใจว่า พอดีกว่า ไม่อยากฝืนทำอะไรที่มันไม่มีความสุข ถามว่า สนุกมั๊ย สนุกแหละ แต่มีความสุขมั๊ย ไม่อะ
    4. น้องแน๊ก โตแล้ว น้องสามารถปกป้องตัวเองได้ ถ้าน้องต้องการ แม้ว่าฝ่ายคนรักกามิน จะจินตนาการว่า กามินเหมือนยัยตัวเล็ก เด็กสามขวบ เค้ามีความสุขในการจินตนาการแบบนั้น แต่สำหรับคนที่เอ็นดูแน๊กน้องๆจะต้องอยู่กับความเป็นจริง ว่าแน๊ก อายุสามสิบกว่าแล้ว โตแล้ว มีวิจารณญาน มีสติ มีปัญญา ที่จะไตร่ตรองในการตัดสินใจ ว่าจะปกป้องตัวเองและครอบครัวในรูปแบบไหน ถ้าแน๊กไม่ตอบโต้ หรือปกป้องตัวเอง ก็เป็นสิทธิของน้อง
    5. ส่วนเรื่องของจีกามิน กับแฟนคลับของพวกเค้า จากข้อมูลที่พี่คิงส์ได้เปิดเผยไป มันก็มากเพียงพอที่ทำให้หลายคนเกิดสติ แม้กระทั่ง เทพดีซีหลายๆคน ก็ยังมูฟออนออกไป แต่สำหรับคนที่รักจีกามินจริงๆ คลั่งไคล้ จินตนาการว่าเธอคือนางฟ้าอะไร สุดท้ายนะ มันก็ความสุขเค้า ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเราอีกต่อไป อะไรที่ควรรู้ ก็บอกก็ทำโพสไปหมดแล้ว เราปกป้องได้เฉพาะคนที่พร้อมจะรับฟังข้อมูล และนำไปตรวจสอบพิจารณา ส่วนคนที่รักและมีความสุขที่จะรักจีกามิน และไม่อยากฟังไม่อยากเชื่อข้อมูลอื่นๆ อีกด้าน มันก็เป็นชีวิตเค้า ความสุขเค้า เงินเค้า มันจะอิ๊บอ๋าย ก็เรื่องของเค้า ก็ต้องถือเป็นสิทธิที่เราจะไปละเมิดไม่ได้ เหมือนธรรมชาติ เมื่อเราเห็นแมงเม่าวิ่งบินเข้ากองไฟ เราจะไปขวางมันก็ไม่ได้ สุดท้ายก็จะตุยตูนิเย่ และกลับไปเป็นปุ๋ยดิน ว่าไปมันก็ไม่ใช่เรื่องของเรา เรื่องแมงเม่า เพราะคงเครียดจนตรรุย ถ้าต้องห่วงแมงเม่าทุกตัว และมันก็เป็นความสุขของเค้า ตังค์เค้า เวลาเค้า เค้าพร้อมจะเสียให้กับสิ่งที่เค้าเชื่อ มันก็ถือเป็นอิสระในความคิดของแต่ละคน
    6. ส่วนที่จีกามินมาไทย เอาจริงๆ พี่คิงส์ก็มองว่าเป็นข่าวคนต่างด้าว ที่เข้ามาทำมาหากินในประเทศไทยคนนึงนะ ตอนนี้ ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไร เห็นภาพแฟลคลับจีกามินเค้าดีใจไปต้อนรับ มันก็เป็นปกตินะ คนมันรัก ก็ไปรับ ไม่เห็นแปลกอะไร เค้าจะเทิดทูนเป็นองค์หญิงกำมะลออะไร ก็เรื่องของเค้าอีกนั่นแหละ จะให้พี่คิงส์ไปแขวะ ไปขยี้ มันก็ไม่ใช่มั๊ย ไม่ได้สำคัญขนาดนั้นนะ
    7. จะมีแอบขำๆก็ตรงป้า จ. แกประกาศกร้าว เหมือนผู้ทรงอิทธิพล มีทั้งเตรียมบอดี้กาด ทั้งตานาย อะไร ชอบสำนวนแก แต่ก็แค่นั้นนะ ไม่ได้อะไร
    เอาว่า ความสุขใคร ก็ความสุขมันละกันนะ
    จะรัก จะชอบ กามิน จะรักจะชอบ ชาลี ก็อยู่กันดีๆ
    ต่างคน ก็ต่างทำมาหากินกันไป แยกย้ายเอาเวลากันไปทำมาหากินกันด้วยล่ะ เอฟซี แฟนคลับทั้งสองฝ่าย เดี๋ยวจะตังหมด ไม่มีเปย์
    และที่สำคัญ อย่าลืมให้เวลากับครอบครัวบ้าง บาลาลให้ได้
    ระหว่างโลกเสมือน กับโลกความจริง เพราะสุดท้าย วันที่คุณแย่
    จะกามิน จะชาลี เค้าไม่ได้มาเช็ดตัวให้คุณ ไม่ได้มาให้กำลังใจคุณ
    ซึ่งพวกเค้าก็ไม่ผิดนะ เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ของพวกเค้า
    พวกเค้าก็สร้างความสุข น้องๆก็ซัพพอตกันไป วินๆ
    แต่โลกแห่งความจริง คุณต้องกลับมาใส่ใจให้มากกว่าเดิม
    พระเอก นางเอก และครอบครัวในชีวิตจริง มันคนละคนกัน
    รักได้ แต่อย่าอิน จนกลางค่ำกลางคืนไม่หลับไม่นอน ตื่นเช้าเสียงานเสียการ
    ไม่มีสมาธิ ส่งผลกระทบบนชีวิตจริง ไม่มีใครมาช่วยคุณได้นะ
    นี่แหละ สัจจะธรรม
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ตอบคำถามที่ค้างคาใจแฟนเพจหลายๆคน มีแฟนเพจถามมาเยอะ และอีกหลายๆคนสงสัยแต่ไม่กล้าถาม กับท่าทีคิงสเพจคิงส์ ที่ดูจะปล่อยผ่าน เรื่องราวของจีกามิน - ลือว่า พี่คิงส์ถูกเรียกไปเคลีย - ลือว่า พี่คิงส์เกมส์ โดนจับ - ลือว่า กลัว ป้า จ. คือ ลือไปได้เป็น 108 - 1900 สตอรี่ พี่คิงส์ ได้ตอบข้อความทางช่องแชตไปพอสมควร ตอบแบบตรงๆ เป็นข้อๆ เอาจริงๆก็ไม่ได้อยากให้ความสำคัญ กับเรื่องเกาหลีซักเท่าไหร่แล้ว เพราะระยะเวลาสามเดือน ก็ถือว่า ให้เวลากับเรื่องนี้นานมากเกินไปแล้ว แต่ถ้าถามถึงเหตุผลคือ 1. พี่คิงส์ ไปช่วยเพจพันธมิตร ขุดเรื่องบอส ในช่วงเวลาที่ผ่านมา 2. พี่คิงส์ ไปหาข้อมูลเพิ่ม เรื่องทนูย ต. 3. พี่คิงส์ไม่ชอบไปขยี้ปมของใคร โดยเฉพาะ ป้า จ. แต่ที่ทำไปทั้งหมด เพราะ ป้า จ. ท้าทายทุกวัน ทำให้พี่คิงส์มูฟออนไม่ได้ แต่ถามว่ามีความสุขมั๊ย ที่เอาปมป้า จ. มาขยี้ ตอบตรงๆ ไม่มีความสุข และยิ่งนับวัน ป้า จ. ก็เหมือนซาาดิสส สนุกกับการโดนขยี้ปม ก็เลยตัดสินใจว่า พอดีกว่า ไม่อยากฝืนทำอะไรที่มันไม่มีความสุข ถามว่า สนุกมั๊ย สนุกแหละ แต่มีความสุขมั๊ย ไม่อะ 4. น้องแน๊ก โตแล้ว น้องสามารถปกป้องตัวเองได้ ถ้าน้องต้องการ แม้ว่าฝ่ายคนรักกามิน จะจินตนาการว่า กามินเหมือนยัยตัวเล็ก เด็กสามขวบ เค้ามีความสุขในการจินตนาการแบบนั้น แต่สำหรับคนที่เอ็นดูแน๊กน้องๆจะต้องอยู่กับความเป็นจริง ว่าแน๊ก อายุสามสิบกว่าแล้ว โตแล้ว มีวิจารณญาน มีสติ มีปัญญา ที่จะไตร่ตรองในการตัดสินใจ ว่าจะปกป้องตัวเองและครอบครัวในรูปแบบไหน ถ้าแน๊กไม่ตอบโต้ หรือปกป้องตัวเอง ก็เป็นสิทธิของน้อง 5. ส่วนเรื่องของจีกามิน กับแฟนคลับของพวกเค้า จากข้อมูลที่พี่คิงส์ได้เปิดเผยไป มันก็มากเพียงพอที่ทำให้หลายคนเกิดสติ แม้กระทั่ง เทพดีซีหลายๆคน ก็ยังมูฟออนออกไป แต่สำหรับคนที่รักจีกามินจริงๆ คลั่งไคล้ จินตนาการว่าเธอคือนางฟ้าอะไร สุดท้ายนะ มันก็ความสุขเค้า ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเราอีกต่อไป อะไรที่ควรรู้ ก็บอกก็ทำโพสไปหมดแล้ว เราปกป้องได้เฉพาะคนที่พร้อมจะรับฟังข้อมูล และนำไปตรวจสอบพิจารณา ส่วนคนที่รักและมีความสุขที่จะรักจีกามิน และไม่อยากฟังไม่อยากเชื่อข้อมูลอื่นๆ อีกด้าน มันก็เป็นชีวิตเค้า ความสุขเค้า เงินเค้า มันจะอิ๊บอ๋าย ก็เรื่องของเค้า ก็ต้องถือเป็นสิทธิที่เราจะไปละเมิดไม่ได้ เหมือนธรรมชาติ เมื่อเราเห็นแมงเม่าวิ่งบินเข้ากองไฟ เราจะไปขวางมันก็ไม่ได้ สุดท้ายก็จะตุยตูนิเย่ และกลับไปเป็นปุ๋ยดิน ว่าไปมันก็ไม่ใช่เรื่องของเรา เรื่องแมงเม่า เพราะคงเครียดจนตรรุย ถ้าต้องห่วงแมงเม่าทุกตัว และมันก็เป็นความสุขของเค้า ตังค์เค้า เวลาเค้า เค้าพร้อมจะเสียให้กับสิ่งที่เค้าเชื่อ มันก็ถือเป็นอิสระในความคิดของแต่ละคน 6. ส่วนที่จีกามินมาไทย เอาจริงๆ พี่คิงส์ก็มองว่าเป็นข่าวคนต่างด้าว ที่เข้ามาทำมาหากินในประเทศไทยคนนึงนะ ตอนนี้ ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไร เห็นภาพแฟลคลับจีกามินเค้าดีใจไปต้อนรับ มันก็เป็นปกตินะ คนมันรัก ก็ไปรับ ไม่เห็นแปลกอะไร เค้าจะเทิดทูนเป็นองค์หญิงกำมะลออะไร ก็เรื่องของเค้าอีกนั่นแหละ จะให้พี่คิงส์ไปแขวะ ไปขยี้ มันก็ไม่ใช่มั๊ย ไม่ได้สำคัญขนาดนั้นนะ 7. จะมีแอบขำๆก็ตรงป้า จ. แกประกาศกร้าว เหมือนผู้ทรงอิทธิพล มีทั้งเตรียมบอดี้กาด ทั้งตานาย อะไร ชอบสำนวนแก แต่ก็แค่นั้นนะ ไม่ได้อะไร เอาว่า ความสุขใคร ก็ความสุขมันละกันนะ จะรัก จะชอบ กามิน จะรักจะชอบ ชาลี ก็อยู่กันดีๆ ต่างคน ก็ต่างทำมาหากินกันไป แยกย้ายเอาเวลากันไปทำมาหากินกันด้วยล่ะ เอฟซี แฟนคลับทั้งสองฝ่าย เดี๋ยวจะตังหมด ไม่มีเปย์ และที่สำคัญ อย่าลืมให้เวลากับครอบครัวบ้าง บาลาลให้ได้ ระหว่างโลกเสมือน กับโลกความจริง เพราะสุดท้าย วันที่คุณแย่ จะกามิน จะชาลี เค้าไม่ได้มาเช็ดตัวให้คุณ ไม่ได้มาให้กำลังใจคุณ ซึ่งพวกเค้าก็ไม่ผิดนะ เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ของพวกเค้า พวกเค้าก็สร้างความสุข น้องๆก็ซัพพอตกันไป วินๆ แต่โลกแห่งความจริง คุณต้องกลับมาใส่ใจให้มากกว่าเดิม พระเอก นางเอก และครอบครัวในชีวิตจริง มันคนละคนกัน รักได้ แต่อย่าอิน จนกลางค่ำกลางคืนไม่หลับไม่นอน ตื่นเช้าเสียงานเสียการ ไม่มีสมาธิ ส่งผลกระทบบนชีวิตจริง ไม่มีใครมาช่วยคุณได้นะ นี่แหละ สัจจะธรรม #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1037 มุมมอง 0 รีวิว
  • เอ็นดู
    เอ็นดู
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • #หนึ่งในร้อย

    ก่อนหน้าละครฉายไม่นาน ผมเคยพูดถึงเรื่องนี้ไปหนหนึ่ง มาบัดนี้ละครออกอากาศได้ประมาณครึ่งทางแล้วกระมัง อยากพูดถึงอีกครั้งด้วยเป็นนิยายของดอกไม้สดที่เป็นเรื่องในดวงใจมาตั้งแต่เด็ก

    ละครทำออกมาได้ทั้งเป็นที่ต้องใจ และติดใจ ต้องใจในที่นี้หมายถึงมีส่วนที่ชื่นชอบ ติดใจในที่นี้หมายถึงมีส่วนที่แปลงไปเยอะพอสมควร ที่โดยส่วนตัวอดคิดไม่ได้ว่ามีความจำเป็นเพียงใด จึงต้องเปลี่ยนไปในลักษณะนั้น

    แต่เอาเถิด เข้าใจว่าต้นฉบับเรื่องหนึ่งในร้อยนี้ เป็นนิยายซึ่งยากมากที่จะสร้างขึ้นมาเป็นละคร เพราะโดยความเป็นจริงนั้นถูกเขียนมาเพื่อเหมาะกับเป็นเรื่องสำหรับอ่านมากที่สุด ทว่าแน่นอน คนที่อ่านแล้วชื่นชอบในนิยายเรื่องนี้ เชื่อว่าโดยมากต้องมีภาพในจินตนาการโลดแล่นอยู่ในหัว ที่เป็นไปได้ก็อยากเห็นภาพเคลื่อนไหวหรือคนที่เป็นตัวตนจริง และรอมาอย่างยาวนานว่าจะมีโอกาสได้เห็นอนงค์และคุณพระอรรถคดี โลดแล่นอยู่ในจอให้ชมในสักวันหนึ่ง(ไม่ได้ดูเวอร์ชันคุณภิญโญ ทองเจือ เพราะยังเด็กเกินที่จะสนใจดูละคร) ซึ่งต้องขอขอบคุณผู้จัดในข้อนี้ที่เห็นคุณค่าบทประพันธ์ของดอกไม้สด จนนำมาสู่การทำฝันในวัยเยาว์ของผมให้กลายเป็นจริง

    .

    ด้วยความที่ถูกนำมาสร้าง ณ ปี พ.ศ. 2567 แม้นจะยังคงยุคสมัยตามช่วงเวลาในนิยายก็ตาม แน่นอนว่าคนรุ่นใหม่ที่เกิดไม่ทันได้อ่านหนึ่งในร้อยมาก่อนย่อมมีอยู่เป็นจำนวนมาก และคนในรุ่นนี้เองที่เติบโตมากับเทคโนโลยีต่าง ๆ และโลกในชีวิตประจำวันที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายแทบทุกอย่าง ทำให้โดยพื้นฐานแล้วส่วนใหญ่พวกเขามักไม่ทนกับอะไรที่ค่อยเป็นค่อยไป ดำเนินเรื่องอย่างเชื่องช้า เนิบ ๆ ดังเช่นความรักของคนในยุคที่นิยายหนึ่งในร้อยถือกำเนิด ด้วยความอดทนอันจำกัดนี้เอง คงเป็นเหตุผลสำคัญที่คนเขียนบทมีโจทย์สำคัญเป็นการบ้านว่าทำอย่างไร จะให้ละครในแต่ละตอนดึงดูดคนดูกลุ่มนี้ ที่ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญให้ตรึงสายตาไว้กับอนงค์และคุณพระอรรถคดีได้ตลอด ตั้งแต่เริ่มฉายจนจบฉากสุดท้ายในแต่ละตอน โดยไม่เปลี่ยนช่องหรือหันเหความสนใจไปทำอย่างอื่นเสีย จึงปรากฏเป็นหนึ่งในร้อยที่มีอนงค์และคุณพระอรรถซึ่งถูกใส่จริตและเสริมบุคลิกให้มีความเป็นไปได้มากที่สุดเพื่อดึงดูดใจ ให้คนดูหลงรักในตัวละครทั้งสองตั้งแต่ตอนแรก

    .

    หลายเหตุการณ์หลายตัวละครที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ ซึ่งไม่มีในต้นฉบับเดิม หรือแม้นกระทั่งอนงค์ที่ได้รับการปรับให้เก่งกล้าเกินงามในบางสถานการณ์ อีกทั้งมั่นใจในตัวเองสูงมาก จนเหมือนจะเป็นอนงค์ขั้นสุด ที่ไม่ใช่แค่ขั้นกว่า เรียกว่ามีความเข้มข้นของพลังงานชีวิตเปี่ยมล้นจนแสดงออกมาเกินขีดอยู่บ้าง แต่เพราะเป็นญาญ่าแสดง จึงพอให้อภัยทำเป็นมองข้ามไปไม่ติดใจมาก ด้วยว่าสวมบทอนงค์ได้อย่างน่าเอ็นดูยิ่ง หากเป็นคนอื่นมารับบทนี้ ยังนึกไม่ออกเช่นกันว่าจะรอดหรือไม่ อาจจะได้ภาพของอนงค์ที่น่าเกลียดน่าชังไปเลยก็เป็นได้ และเพราะบทบาทของอนงค์ในนิยายนั้นถูกกล่าวถึงน้อยมาก รายละเอียดของเรื่องส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่ตัวของคุณพระฯ ที่เป็นหัวใจหลักของนิยาย ส่วนมากเนื้อหาบอกเล่าประวัติความเป็นมาแต่หนหลังเชื่อมต่อมาถึงปัจจุบัน ที่คุณพระฯ มีความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น ๆ ในทางไหนอย่างไรบ้าง ส่วนอนงค์เพียงถูกกล่าวถึงแบบโฉบไปเฉี่ยวมา ฉากที่พบกันระหว่างพระนางมีอยู่แค่ไม่กี่หนตลอดทั้งเรื่อง โดยมากอนงค์จะรับรู้เรื่องของคุณพระฯ ผ่านการบอกเล่าของแม่ช้อยมากกว่า ด้วยเหตุนี้จึงเข้าใจได้ว่าทำไมผู้เขียนบทจึงต้องทำงานหนักมาก ในการเปลี่ยนให้อนงค์ในนิยายกลายเป็นตัวละครที่ถูกดึงขึ้นมาให้ได้รับบทบาทที่เด่นพอ ๆ กันหรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียงกับตัวเอกของเรื่อง ไม่อย่างนั้นคนดูคงจะไม่ติดตามและทิ้งละครไปอย่างรวดเร็วเป็นแน่

    .

    แต่ส่วนที่น่าเสียดายที่ดูเหมือนจะหายไปคือนิสัยรักการจดบันทึกหรือเขียนไดอารีของอนงค์ ที่ต้นฉบับหากรับรู้เรื่องราวใดมาจากปากแม่ช้อย เธอจะรีบนำมาเขียนใส่ไว้ในสมุดบันทึกประจำตัว เพื่อเก็บไว้อ่านคนเดียว ซึ่งคนอ่านก็จะสามารถทราบถึงจิตใจของเธอที่มีต่อคุณพระฯ จากสิ่งที่เธอเขียนนั่นเอง ซึ่งเป็นส่วนที่ดีมากและแทบจะไม่พบเลยในเวอร์ชันละคร นอกจากแค่ตอนที่อนงค์ทำเป็นสมุดเล่มเล็กที่มีภาพและคำแนะนำตัวเองแล้วมอบให้คุณพระฯ ซึ่งออกจะเป็นการกระทำที่ค่อนข้างเสี่ยงต่อภาพพจน์ที่ถูกมองจากคนอย่างคุณพระฯได้เหมือนกัน

    .

    จากนี้ต่อไปในอีกครึ่งทางที่เหลือนั้น ไม่แน่ใจว่าเรื่องราวที่ถูกเขียนขึ้นใหม่จะเป็นไปในทิศทางไหน คุณพระฯเองก็ถูกปรับให้คล้ายจะกลายเป็นโฮล์มส์ ที่ขยายการงานให้กว้างออกไปจากในหนังสือเพื่อจะได้มีอะไรให้เล่นกับบทละครมากขึ้น จึงเป็นคุณพระฯ ที่เหมือนอยู่กันคนละโลกกับคุณพระฯในนิยาย ส่วนชัดก็กลายเป็นคนที่อ่อนแอจนปวกเปียกไม่สมกับที่เป็นทหารสักนิด และเห็นแก่ตัวเองอย่างร้ายกาจจนน่ารังเกียจไปเลย เพราะต้นฉบับนิยายนั้นชัดเปลี่ยนใจจากอนงค์มาหาจันทร ด้วยความที่ไม่ระแคะระคายมาก่อนว่าพี่ชายนั้นรักจันทรอยู่ก่อนแล้ว จึงได้ขอร้องให้พี่ช่วยไปสู่ขอจันทรแทนแม่

    ส่วนด้านอื่นที่ดีงามนั้นมีคนพูดกันไปมากแล้ว จึงไม่ขอพูดซ้ำ แต่สิ่งที่อยากจะกล่าวถึงอย่างมาก ที่เป็นหัวใจสำคัญของเรื่องนี้เลยก็คือ ความหมายของชื่อเรื่อง "หนึ่งในร้อย"

    .

    หนึ่งในร้อย เป็นคำเปรียบถึงคนอย่างคุณพระฯ เรื่องนี้ชัดเจนแน่นอน ความดีของตัวละครนี้ สำหรับคนที่ดูละครอย่างเดียวอาจเห็นภาพได้ไม่ตรงและใสเท่าในบทประพันธ์ เพราะหนังสือมีเวลาให้ผู้เขียนได้ใส่รายละเอียด และเล่าให้คนอ่านสามารถรู้ชัดเจนถึงที่มาที่ไปแห่งความเป็นคน ซึ่งมีความเป็นสัตบุรุษคือไม่ใช่แค่ดีอย่างทั่วไปหรือดีแบบโลก ๆ เท่านั้น แต่มีความดำรงตนอยู่ในศีลและตั้งตนให้ดำรงมั่นในธรรมะที่เป็นเครื่องหล่อเลี้ยง ให้ใจไม่ไหลไปตามกระแสแห่งความต้องการที่เป็นอำนาจฝ่ายต่ำ จึงไม่ถูกชักจูงโดยง่ายจากแรงเร้าภายนอกที่มากระทบ ด้วยเหตุนี้คุณพระฯ จึงมีคุณธรรมอยู่ประจำใจเสมอ อันจะคอยคัดท้ายไม่ให้หลุดออกนอกเส้นทางดีงาม แม้นมีบางคราวที่ต้องผจญคลื่นลมพายุโหมกระหน่ำจนถึงขั้นแทบอับปาง เกือบจะไม่สามารถนำพานาวาชีวิตล่องฝ่าภัยต่อไปเหนือลำน้ำได้ แต่สุดท้ายก็รอดพ้นจากวิกฤตและได้รับผลแห่งความดีที่ทำมาด้วยความสุขใจในเบื้องปลาย

    .

    ทว่าคุณพระฯ เองก็ยังมีข้อเสียที่เด่นชัดมาก หากจะมองให้ลึกลงไป นั่นคือการที่เขาช่วยคนโดยเน้นไปที่การอนุเคราะห์ เติมเต็มความต้องการทางด้านปัจจัยสี่ให้แก่แม่และน้อง ๆ หรือคนที่รู้จัก และแม้นในคนทั่วไปเท่าที่อาชีพการงานและฐานะแห่งตนจะพอทำได้ แต่ไม่ได้ช่วยด้วยการฝึกให้คนเหล่านั้นรู้จักการช่วยเหลือตนเอง ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าถึงคราวที่คุณพระฯ อยู่ในสถานะอันลำบากในทางใดทางหนึ่ง ที่ไม่อาจจะให้ความช่วยเหลือหรือจำต้องปฏิเสธคำขอร้อง บรรดาคนซึ่งเคยได้รับเป็นประจำจากเขามาโดยตลอด จึงเกิดความไม่พอใจ กลายเป็นความโกรธ จนหลุดแสดงอำนาจและกิเลสในใจตนให้ระเบิดออกมาอย่างกับคนเสียจริต เห็นได้จากแม่และชัดเป็นต้น

    .

    ดังนั้นการช่วยคนที่ประเสริฐเลิศยอดที่สุด ที่จะไม่กลับเป็นภัยย้อนมาทำร้ายตัวของคนซึ่งเป็นผู้ให้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งต้องเน้นช่วยคนด้วยการให้เขารู้จักการช่วยเหลือตัวเองให้อยู่รอดได้ โดยไม่เป็นเพียงผู้ขอร่ำไปตลอดไป นั่นคือสิ่งที่ผมได้ฟังอยู่เสมอจากคำสอนของพระอาจารย์ที่เคารพศรัทธา ด้วยพรหมวิหาร 4 นั้นมีความสำคัญอย่างมากสำหรับคนผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้ใหญ่ คือต้องมีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา แต่ถ้าเมตตาไม่มีประมาณแล้วขาดซึ่งปัญญากำกับ เมตตานั้นจะเป็นเช่นอาวุธที่หันกลับสู่ตนหากไม่ระวัง

    .

    คุณพระฯ เองมีเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลกเป็นที่ตั้ง โดยเฉพาะกับญาติจนถึงขั้นให้ความช่วยเหลือคือความกรุณาดังแสดงออกให้เห็น และมีจิตพลอยยินดีในเมื่อผู้อื่นได้รับความเจริญหรือผลแห่งความสำเร็จ ไม่เกิดอิจฉาริษยาประทุษร้ายกับใครแม้นเป็นฝ่ายถูกกระทำ แต่คุณพระฯ ยังสอบไม่ผ่านในข้ออุเบกขา คือไม่รู้จักที่จะตัดรอบ ช่วยได้เท่าที่ช่วยไหว สัตว์โลกล้วนมีวิบากแห่งตนซึ่งได้สั่งสมมาไม่ว่าทางร้ายหรือดี ไม่ใช่ต้องเอาชีวิตของเขาขึ้นมาแบกหามไว้ราวกับเป็นเรื่องของตนเองไปเสียทั้งหมด คือช่วยแล้วปล่อยวางไม่ลง แม่ก็แล้ว น้อง ๆ หลายคนและครอบครัวของน้องก็อีก จึงต้องตกที่นั่งถูกคนที่ตนให้ความช่วยเหลือนั้นวกกลับมาทำร้ายตนจนสาหัสแทบจะสิ้นลมหายใจ เป็นการเบียดเบียนตนเองซึ่งทางพุทธศาสนาไม่สรรเสริญ

    .

    ดังนั้น คนอย่างคุณพระฯ อาจหาได้ยาก ดังเช่นคำว่า "หนึ่งในร้อย" แต่คนที่หาได้ยากกว่าอาจถึงขั้น "หนึ่งในล้าน" คือคนที่เข้าใจ และเข้าถึง หลักธรรมในหมวด 4 ของพุทธศาสนาอย่างแท้จริงและนำมาปฏิบัติได้คือ เมตตาได้ทุกผู้แม้เป็นศัตรูของตัวเอง ช่วยเหลือได้ทุกคนเท่าที่ช่วยไหวโดยไม่เดือดร้อน มีใจร่วมยินดีเมื่อเห็นว่าเขาได้ดี ปราศจากความคิดมุ่งร้ายอยากทำลาย สุดท้ายคือไม่อนาทรร้อนใจแม้นไม่สามารถช่วยได้ ด้วยเห็นแล้วว่าไม่อาจช่วย หรือช่วยต่อไปจะเป็นโทษต่อเขาและต่อเรามากกว่า ก็ต้องปล่อยเขาไปตามทางที่เขาสร้างมา

    .

    ตอนล่าสุดเมื่อคืนยังไม่ว่างดูสดแบบเต็ม ๆ เลย แค่ผ่านตาแวบ ๆ บางฉาก แต่ก็พอเดาทิศทางได้เลา ๆ ว่าบทดัดแปลงคงจะพาอนงค์และคุณพระฯ ทะลุมิติท่องไปไกลในดินแดนอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคนละโลกกับเรื่องที่เกิดขึ้นในนิยาย ถ้าเรียกภาษาคนรุ่นใหม่คงจะใช้คำว่า ตัวละครเดียวกันแต่อยู่คนละมัลติเวิร์ส(ไม่แน่ใจสะกดเช่นนี้หรือไม่)กระมัง

    นี่คือส่วนที่หวั่นใจมาตลอด เพราะในสัปดาห์ก่อนที่เห็นว่าฉากสำคัญที่อยู่ตอนท้ายในนิยาย คือคุณพระล้มเจ็บ ถูกร่นขึ้นมาตั้งแต่กลางเรื่อง อีกทั้งความดราม่าที่ถูกผูกขึ้นใหม่ระหว่างตัวละคร 3-4 ตัว ก็ทำให้พอจะคาดการณ์ได้ว่า ต่อจากนี้ไปคงจะเป็นการด้นใส่อะไรต่อมิอะไรเข้ามาอีกมาก และไม่รู้ว่าจะไปจบลงที่ตรงไหน ก็ได้แต่ละเหี่ยใจ

    .

    ความดีงามของอนงค์ในหนังสือ ที่แม้นเป็นสาวสมัยใหม่ในยุคนั้น แต่ยังมีความรู้รักในเกียรติและศักดิ์ศรีของกุลสตรี ฉลาดและมีเฉลียว อีกทั้งมองคนออกอย่างเลิศ วางตัวเหมาะสมไม่ทำอะไรที่จะไปสะกิดให้คุณพระฯ นึกหยามหรือดูแคลนเอาได้

    จนกระทั่งถึงเวลาที่ทุกอย่างดำเนินไปจนถึงที่สุด จึงกล้าเผยหัวใจตนให้คนที่แอบเทิดทูนบูชารับรู้ ทั้งที่ทราบอยู่แก่ใจว่าอาจทำให้คุณพระฯ มองเธอไปในแง่ไม่ดี แต่ใจที่นึกเวทนาสงสารบวกความรักที่งอกเงยมานานมันเปี่ยมล้นพ้นใจ เกินกว่าจะเก็บกลั้นไว้ภายใน จึงได้ปลดปล่อยไหลทะลักไปในครานั้น แต่แม้จะหลุดคำพูดฝากรัก หากถ้อยคำที่สื่อสารก็ยังเปี่ยมด้วยมธุรส และงดงามในภาษาที่ช่างสรรคำมาเจรจาอย่างน่าทึ่ง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้นคงจะไม่อาจคาดหวังว่าจะได้พบเจอเสียแล้ว เพราะได้ถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นอนงค์ในแบบฉบับที่เหมือนปล่อยให้อำนาจความรัก ชักจูงเธอไปให้คิดและทำในสิ่งซึ่งอนงค์ในนิยายจะไม่มีวันทำเป็นอันขาด

    น่าเสียดาย...

    ภาพประกอบขอยืมจากในเน็ต

    #thaitimes
    #ดอกไม้สด
    #ละคร
    #mycherieamour
    #วิเคราะห์ตัวละคร
    #วิจารณ์ละคร
    #หนึ่งในร้อย ก่อนหน้าละครฉายไม่นาน ผมเคยพูดถึงเรื่องนี้ไปหนหนึ่ง มาบัดนี้ละครออกอากาศได้ประมาณครึ่งทางแล้วกระมัง อยากพูดถึงอีกครั้งด้วยเป็นนิยายของดอกไม้สดที่เป็นเรื่องในดวงใจมาตั้งแต่เด็ก ละครทำออกมาได้ทั้งเป็นที่ต้องใจ และติดใจ ต้องใจในที่นี้หมายถึงมีส่วนที่ชื่นชอบ ติดใจในที่นี้หมายถึงมีส่วนที่แปลงไปเยอะพอสมควร ที่โดยส่วนตัวอดคิดไม่ได้ว่ามีความจำเป็นเพียงใด จึงต้องเปลี่ยนไปในลักษณะนั้น แต่เอาเถิด เข้าใจว่าต้นฉบับเรื่องหนึ่งในร้อยนี้ เป็นนิยายซึ่งยากมากที่จะสร้างขึ้นมาเป็นละคร เพราะโดยความเป็นจริงนั้นถูกเขียนมาเพื่อเหมาะกับเป็นเรื่องสำหรับอ่านมากที่สุด ทว่าแน่นอน คนที่อ่านแล้วชื่นชอบในนิยายเรื่องนี้ เชื่อว่าโดยมากต้องมีภาพในจินตนาการโลดแล่นอยู่ในหัว ที่เป็นไปได้ก็อยากเห็นภาพเคลื่อนไหวหรือคนที่เป็นตัวตนจริง และรอมาอย่างยาวนานว่าจะมีโอกาสได้เห็นอนงค์และคุณพระอรรถคดี โลดแล่นอยู่ในจอให้ชมในสักวันหนึ่ง(ไม่ได้ดูเวอร์ชันคุณภิญโญ ทองเจือ เพราะยังเด็กเกินที่จะสนใจดูละคร) ซึ่งต้องขอขอบคุณผู้จัดในข้อนี้ที่เห็นคุณค่าบทประพันธ์ของดอกไม้สด จนนำมาสู่การทำฝันในวัยเยาว์ของผมให้กลายเป็นจริง . ด้วยความที่ถูกนำมาสร้าง ณ ปี พ.ศ. 2567 แม้นจะยังคงยุคสมัยตามช่วงเวลาในนิยายก็ตาม แน่นอนว่าคนรุ่นใหม่ที่เกิดไม่ทันได้อ่านหนึ่งในร้อยมาก่อนย่อมมีอยู่เป็นจำนวนมาก และคนในรุ่นนี้เองที่เติบโตมากับเทคโนโลยีต่าง ๆ และโลกในชีวิตประจำวันที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายแทบทุกอย่าง ทำให้โดยพื้นฐานแล้วส่วนใหญ่พวกเขามักไม่ทนกับอะไรที่ค่อยเป็นค่อยไป ดำเนินเรื่องอย่างเชื่องช้า เนิบ ๆ ดังเช่นความรักของคนในยุคที่นิยายหนึ่งในร้อยถือกำเนิด ด้วยความอดทนอันจำกัดนี้เอง คงเป็นเหตุผลสำคัญที่คนเขียนบทมีโจทย์สำคัญเป็นการบ้านว่าทำอย่างไร จะให้ละครในแต่ละตอนดึงดูดคนดูกลุ่มนี้ ที่ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญให้ตรึงสายตาไว้กับอนงค์และคุณพระอรรถคดีได้ตลอด ตั้งแต่เริ่มฉายจนจบฉากสุดท้ายในแต่ละตอน โดยไม่เปลี่ยนช่องหรือหันเหความสนใจไปทำอย่างอื่นเสีย จึงปรากฏเป็นหนึ่งในร้อยที่มีอนงค์และคุณพระอรรถซึ่งถูกใส่จริตและเสริมบุคลิกให้มีความเป็นไปได้มากที่สุดเพื่อดึงดูดใจ ให้คนดูหลงรักในตัวละครทั้งสองตั้งแต่ตอนแรก . หลายเหตุการณ์หลายตัวละครที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ ซึ่งไม่มีในต้นฉบับเดิม หรือแม้นกระทั่งอนงค์ที่ได้รับการปรับให้เก่งกล้าเกินงามในบางสถานการณ์ อีกทั้งมั่นใจในตัวเองสูงมาก จนเหมือนจะเป็นอนงค์ขั้นสุด ที่ไม่ใช่แค่ขั้นกว่า เรียกว่ามีความเข้มข้นของพลังงานชีวิตเปี่ยมล้นจนแสดงออกมาเกินขีดอยู่บ้าง แต่เพราะเป็นญาญ่าแสดง จึงพอให้อภัยทำเป็นมองข้ามไปไม่ติดใจมาก ด้วยว่าสวมบทอนงค์ได้อย่างน่าเอ็นดูยิ่ง หากเป็นคนอื่นมารับบทนี้ ยังนึกไม่ออกเช่นกันว่าจะรอดหรือไม่ อาจจะได้ภาพของอนงค์ที่น่าเกลียดน่าชังไปเลยก็เป็นได้ และเพราะบทบาทของอนงค์ในนิยายนั้นถูกกล่าวถึงน้อยมาก รายละเอียดของเรื่องส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่ตัวของคุณพระฯ ที่เป็นหัวใจหลักของนิยาย ส่วนมากเนื้อหาบอกเล่าประวัติความเป็นมาแต่หนหลังเชื่อมต่อมาถึงปัจจุบัน ที่คุณพระฯ มีความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น ๆ ในทางไหนอย่างไรบ้าง ส่วนอนงค์เพียงถูกกล่าวถึงแบบโฉบไปเฉี่ยวมา ฉากที่พบกันระหว่างพระนางมีอยู่แค่ไม่กี่หนตลอดทั้งเรื่อง โดยมากอนงค์จะรับรู้เรื่องของคุณพระฯ ผ่านการบอกเล่าของแม่ช้อยมากกว่า ด้วยเหตุนี้จึงเข้าใจได้ว่าทำไมผู้เขียนบทจึงต้องทำงานหนักมาก ในการเปลี่ยนให้อนงค์ในนิยายกลายเป็นตัวละครที่ถูกดึงขึ้นมาให้ได้รับบทบาทที่เด่นพอ ๆ กันหรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียงกับตัวเอกของเรื่อง ไม่อย่างนั้นคนดูคงจะไม่ติดตามและทิ้งละครไปอย่างรวดเร็วเป็นแน่ . แต่ส่วนที่น่าเสียดายที่ดูเหมือนจะหายไปคือนิสัยรักการจดบันทึกหรือเขียนไดอารีของอนงค์ ที่ต้นฉบับหากรับรู้เรื่องราวใดมาจากปากแม่ช้อย เธอจะรีบนำมาเขียนใส่ไว้ในสมุดบันทึกประจำตัว เพื่อเก็บไว้อ่านคนเดียว ซึ่งคนอ่านก็จะสามารถทราบถึงจิตใจของเธอที่มีต่อคุณพระฯ จากสิ่งที่เธอเขียนนั่นเอง ซึ่งเป็นส่วนที่ดีมากและแทบจะไม่พบเลยในเวอร์ชันละคร นอกจากแค่ตอนที่อนงค์ทำเป็นสมุดเล่มเล็กที่มีภาพและคำแนะนำตัวเองแล้วมอบให้คุณพระฯ ซึ่งออกจะเป็นการกระทำที่ค่อนข้างเสี่ยงต่อภาพพจน์ที่ถูกมองจากคนอย่างคุณพระฯได้เหมือนกัน . จากนี้ต่อไปในอีกครึ่งทางที่เหลือนั้น ไม่แน่ใจว่าเรื่องราวที่ถูกเขียนขึ้นใหม่จะเป็นไปในทิศทางไหน คุณพระฯเองก็ถูกปรับให้คล้ายจะกลายเป็นโฮล์มส์ ที่ขยายการงานให้กว้างออกไปจากในหนังสือเพื่อจะได้มีอะไรให้เล่นกับบทละครมากขึ้น จึงเป็นคุณพระฯ ที่เหมือนอยู่กันคนละโลกกับคุณพระฯในนิยาย ส่วนชัดก็กลายเป็นคนที่อ่อนแอจนปวกเปียกไม่สมกับที่เป็นทหารสักนิด และเห็นแก่ตัวเองอย่างร้ายกาจจนน่ารังเกียจไปเลย เพราะต้นฉบับนิยายนั้นชัดเปลี่ยนใจจากอนงค์มาหาจันทร ด้วยความที่ไม่ระแคะระคายมาก่อนว่าพี่ชายนั้นรักจันทรอยู่ก่อนแล้ว จึงได้ขอร้องให้พี่ช่วยไปสู่ขอจันทรแทนแม่ ส่วนด้านอื่นที่ดีงามนั้นมีคนพูดกันไปมากแล้ว จึงไม่ขอพูดซ้ำ แต่สิ่งที่อยากจะกล่าวถึงอย่างมาก ที่เป็นหัวใจสำคัญของเรื่องนี้เลยก็คือ ความหมายของชื่อเรื่อง "หนึ่งในร้อย" . หนึ่งในร้อย เป็นคำเปรียบถึงคนอย่างคุณพระฯ เรื่องนี้ชัดเจนแน่นอน ความดีของตัวละครนี้ สำหรับคนที่ดูละครอย่างเดียวอาจเห็นภาพได้ไม่ตรงและใสเท่าในบทประพันธ์ เพราะหนังสือมีเวลาให้ผู้เขียนได้ใส่รายละเอียด และเล่าให้คนอ่านสามารถรู้ชัดเจนถึงที่มาที่ไปแห่งความเป็นคน ซึ่งมีความเป็นสัตบุรุษคือไม่ใช่แค่ดีอย่างทั่วไปหรือดีแบบโลก ๆ เท่านั้น แต่มีความดำรงตนอยู่ในศีลและตั้งตนให้ดำรงมั่นในธรรมะที่เป็นเครื่องหล่อเลี้ยง ให้ใจไม่ไหลไปตามกระแสแห่งความต้องการที่เป็นอำนาจฝ่ายต่ำ จึงไม่ถูกชักจูงโดยง่ายจากแรงเร้าภายนอกที่มากระทบ ด้วยเหตุนี้คุณพระฯ จึงมีคุณธรรมอยู่ประจำใจเสมอ อันจะคอยคัดท้ายไม่ให้หลุดออกนอกเส้นทางดีงาม แม้นมีบางคราวที่ต้องผจญคลื่นลมพายุโหมกระหน่ำจนถึงขั้นแทบอับปาง เกือบจะไม่สามารถนำพานาวาชีวิตล่องฝ่าภัยต่อไปเหนือลำน้ำได้ แต่สุดท้ายก็รอดพ้นจากวิกฤตและได้รับผลแห่งความดีที่ทำมาด้วยความสุขใจในเบื้องปลาย . ทว่าคุณพระฯ เองก็ยังมีข้อเสียที่เด่นชัดมาก หากจะมองให้ลึกลงไป นั่นคือการที่เขาช่วยคนโดยเน้นไปที่การอนุเคราะห์ เติมเต็มความต้องการทางด้านปัจจัยสี่ให้แก่แม่และน้อง ๆ หรือคนที่รู้จัก และแม้นในคนทั่วไปเท่าที่อาชีพการงานและฐานะแห่งตนจะพอทำได้ แต่ไม่ได้ช่วยด้วยการฝึกให้คนเหล่านั้นรู้จักการช่วยเหลือตนเอง ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าถึงคราวที่คุณพระฯ อยู่ในสถานะอันลำบากในทางใดทางหนึ่ง ที่ไม่อาจจะให้ความช่วยเหลือหรือจำต้องปฏิเสธคำขอร้อง บรรดาคนซึ่งเคยได้รับเป็นประจำจากเขามาโดยตลอด จึงเกิดความไม่พอใจ กลายเป็นความโกรธ จนหลุดแสดงอำนาจและกิเลสในใจตนให้ระเบิดออกมาอย่างกับคนเสียจริต เห็นได้จากแม่และชัดเป็นต้น . ดังนั้นการช่วยคนที่ประเสริฐเลิศยอดที่สุด ที่จะไม่กลับเป็นภัยย้อนมาทำร้ายตัวของคนซึ่งเป็นผู้ให้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งต้องเน้นช่วยคนด้วยการให้เขารู้จักการช่วยเหลือตัวเองให้อยู่รอดได้ โดยไม่เป็นเพียงผู้ขอร่ำไปตลอดไป นั่นคือสิ่งที่ผมได้ฟังอยู่เสมอจากคำสอนของพระอาจารย์ที่เคารพศรัทธา ด้วยพรหมวิหาร 4 นั้นมีความสำคัญอย่างมากสำหรับคนผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้ใหญ่ คือต้องมีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา แต่ถ้าเมตตาไม่มีประมาณแล้วขาดซึ่งปัญญากำกับ เมตตานั้นจะเป็นเช่นอาวุธที่หันกลับสู่ตนหากไม่ระวัง . คุณพระฯ เองมีเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลกเป็นที่ตั้ง โดยเฉพาะกับญาติจนถึงขั้นให้ความช่วยเหลือคือความกรุณาดังแสดงออกให้เห็น และมีจิตพลอยยินดีในเมื่อผู้อื่นได้รับความเจริญหรือผลแห่งความสำเร็จ ไม่เกิดอิจฉาริษยาประทุษร้ายกับใครแม้นเป็นฝ่ายถูกกระทำ แต่คุณพระฯ ยังสอบไม่ผ่านในข้ออุเบกขา คือไม่รู้จักที่จะตัดรอบ ช่วยได้เท่าที่ช่วยไหว สัตว์โลกล้วนมีวิบากแห่งตนซึ่งได้สั่งสมมาไม่ว่าทางร้ายหรือดี ไม่ใช่ต้องเอาชีวิตของเขาขึ้นมาแบกหามไว้ราวกับเป็นเรื่องของตนเองไปเสียทั้งหมด คือช่วยแล้วปล่อยวางไม่ลง แม่ก็แล้ว น้อง ๆ หลายคนและครอบครัวของน้องก็อีก จึงต้องตกที่นั่งถูกคนที่ตนให้ความช่วยเหลือนั้นวกกลับมาทำร้ายตนจนสาหัสแทบจะสิ้นลมหายใจ เป็นการเบียดเบียนตนเองซึ่งทางพุทธศาสนาไม่สรรเสริญ . ดังนั้น คนอย่างคุณพระฯ อาจหาได้ยาก ดังเช่นคำว่า "หนึ่งในร้อย" แต่คนที่หาได้ยากกว่าอาจถึงขั้น "หนึ่งในล้าน" คือคนที่เข้าใจ และเข้าถึง หลักธรรมในหมวด 4 ของพุทธศาสนาอย่างแท้จริงและนำมาปฏิบัติได้คือ เมตตาได้ทุกผู้แม้เป็นศัตรูของตัวเอง ช่วยเหลือได้ทุกคนเท่าที่ช่วยไหวโดยไม่เดือดร้อน มีใจร่วมยินดีเมื่อเห็นว่าเขาได้ดี ปราศจากความคิดมุ่งร้ายอยากทำลาย สุดท้ายคือไม่อนาทรร้อนใจแม้นไม่สามารถช่วยได้ ด้วยเห็นแล้วว่าไม่อาจช่วย หรือช่วยต่อไปจะเป็นโทษต่อเขาและต่อเรามากกว่า ก็ต้องปล่อยเขาไปตามทางที่เขาสร้างมา . ตอนล่าสุดเมื่อคืนยังไม่ว่างดูสดแบบเต็ม ๆ เลย แค่ผ่านตาแวบ ๆ บางฉาก แต่ก็พอเดาทิศทางได้เลา ๆ ว่าบทดัดแปลงคงจะพาอนงค์และคุณพระฯ ทะลุมิติท่องไปไกลในดินแดนอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคนละโลกกับเรื่องที่เกิดขึ้นในนิยาย ถ้าเรียกภาษาคนรุ่นใหม่คงจะใช้คำว่า ตัวละครเดียวกันแต่อยู่คนละมัลติเวิร์ส(ไม่แน่ใจสะกดเช่นนี้หรือไม่)กระมัง นี่คือส่วนที่หวั่นใจมาตลอด เพราะในสัปดาห์ก่อนที่เห็นว่าฉากสำคัญที่อยู่ตอนท้ายในนิยาย คือคุณพระล้มเจ็บ ถูกร่นขึ้นมาตั้งแต่กลางเรื่อง อีกทั้งความดราม่าที่ถูกผูกขึ้นใหม่ระหว่างตัวละคร 3-4 ตัว ก็ทำให้พอจะคาดการณ์ได้ว่า ต่อจากนี้ไปคงจะเป็นการด้นใส่อะไรต่อมิอะไรเข้ามาอีกมาก และไม่รู้ว่าจะไปจบลงที่ตรงไหน ก็ได้แต่ละเหี่ยใจ . ความดีงามของอนงค์ในหนังสือ ที่แม้นเป็นสาวสมัยใหม่ในยุคนั้น แต่ยังมีความรู้รักในเกียรติและศักดิ์ศรีของกุลสตรี ฉลาดและมีเฉลียว อีกทั้งมองคนออกอย่างเลิศ วางตัวเหมาะสมไม่ทำอะไรที่จะไปสะกิดให้คุณพระฯ นึกหยามหรือดูแคลนเอาได้ จนกระทั่งถึงเวลาที่ทุกอย่างดำเนินไปจนถึงที่สุด จึงกล้าเผยหัวใจตนให้คนที่แอบเทิดทูนบูชารับรู้ ทั้งที่ทราบอยู่แก่ใจว่าอาจทำให้คุณพระฯ มองเธอไปในแง่ไม่ดี แต่ใจที่นึกเวทนาสงสารบวกความรักที่งอกเงยมานานมันเปี่ยมล้นพ้นใจ เกินกว่าจะเก็บกลั้นไว้ภายใน จึงได้ปลดปล่อยไหลทะลักไปในครานั้น แต่แม้จะหลุดคำพูดฝากรัก หากถ้อยคำที่สื่อสารก็ยังเปี่ยมด้วยมธุรส และงดงามในภาษาที่ช่างสรรคำมาเจรจาอย่างน่าทึ่ง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้นคงจะไม่อาจคาดหวังว่าจะได้พบเจอเสียแล้ว เพราะได้ถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นอนงค์ในแบบฉบับที่เหมือนปล่อยให้อำนาจความรัก ชักจูงเธอไปให้คิดและทำในสิ่งซึ่งอนงค์ในนิยายจะไม่มีวันทำเป็นอันขาด น่าเสียดาย... ภาพประกอบขอยืมจากในเน็ต #thaitimes #ดอกไม้สด #ละคร #mycherieamour #วิเคราะห์ตัวละคร #วิจารณ์ละคร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 425 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อเลี้ยงแมวหนึ่งตัว จะเอ็นดูแมวทั้งโลก

    จากหนังสือ |แมวยิ้มง่ายใช่ว่าแตกสลายไม่เป็น

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    เมื่อเลี้ยงแมวหนึ่งตัว จะเอ็นดูแมวทั้งโลก จากหนังสือ |แมวยิ้มง่ายใช่ว่าแตกสลายไม่เป็น #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • ...ฉันเกิดในรัชกาลที่ ๙...เกิดมาระหว่างทางสองทางที่เห็นทั้งความเจริญและความยากลำบาก ต้องพลัดพรากจากพ่อและแม่ทั้งๆที่ฉันยังไม่อดนมเลย พี่สาวที่เป็นเหมือนแม่คนที่สองเธอเล่าให้ฟังว่าบางครั้งแม่ต้องขึ้นเหนือเดินทางไปค้าขายสินค้าครอบครัวเราเป็นคนค้าขายทิ้งให้ฉันอยู่กับพี่สาวฉันจะไม่ดื่มนมสัตว์พี่สาวชงนมให้ฉันๆจะอ๊วกตลอดพี่ต้องขอลูกค้าที่มีลูกอ่อนที่มาซื้อของที่ร้านขอนมให้น้องกินหน่อย ฉันจึงมีแม่นมหลายคนมากช่วยให้นมในช่วงที่แม่ไม่อยู่บ้านบางครั้ง15วัน.บางครั้งเป็นเดือนๆแต่พี่จะบอกว่าฉันเลี้ยงง่ายไม่เคยร้องไห้หิวนมเลยพี่สงสารครั้งหนึ่งเธอให้ฉันดื่มนมเธอแต่มันไม่มีน้ำนมเพราะเธอเพิ่งแรกสาวอายุ15ปียังไม่มีแฟนเลย เล่าไปก็ขำเอ็นดูความเป็นเด็กคิดดีแต่ไม่เข้าใจ😊ฉันผูกพันกับเธอมากรักพี่สาวคนนี้ที่สุดเลยแล้ววันหนึ่งเธอก็จากไปไม่มีวันกลับมาอีกเลย💔หัวใจสลายอีกแล้ว ความรักนี่มันเจ็บจริงๆนะ🖤#15102567"13:00น.
    ...ฉันเกิดในรัชกาลที่ ๙...เกิดมาระหว่างทางสองทางที่เห็นทั้งความเจริญและความยากลำบาก ต้องพลัดพรากจากพ่อและแม่ทั้งๆที่ฉันยังไม่อดนมเลย พี่สาวที่เป็นเหมือนแม่คนที่สองเธอเล่าให้ฟังว่าบางครั้งแม่ต้องขึ้นเหนือเดินทางไปค้าขายสินค้าครอบครัวเราเป็นคนค้าขายทิ้งให้ฉันอยู่กับพี่สาวฉันจะไม่ดื่มนมสัตว์พี่สาวชงนมให้ฉันๆจะอ๊วกตลอดพี่ต้องขอลูกค้าที่มีลูกอ่อนที่มาซื้อของที่ร้านขอนมให้น้องกินหน่อย ฉันจึงมีแม่นมหลายคนมากช่วยให้นมในช่วงที่แม่ไม่อยู่บ้านบางครั้ง15วัน.บางครั้งเป็นเดือนๆแต่พี่จะบอกว่าฉันเลี้ยงง่ายไม่เคยร้องไห้หิวนมเลยพี่สงสารครั้งหนึ่งเธอให้ฉันดื่มนมเธอแต่มันไม่มีน้ำนมเพราะเธอเพิ่งแรกสาวอายุ15ปียังไม่มีแฟนเลย เล่าไปก็ขำเอ็นดูความเป็นเด็กคิดดีแต่ไม่เข้าใจ😊ฉันผูกพันกับเธอมากรักพี่สาวคนนี้ที่สุดเลยแล้ววันหนึ่งเธอก็จากไปไม่มีวันกลับมาอีกเลย💔หัวใจสลายอีกแล้ว ความรักนี่มันเจ็บจริงๆนะ🖤#15102567"13:00น.
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2024.06.30 📸 BABYMONSTER PRESENTS : SEE YOU THERE IN BANGKOK

    เกริ่นก่อน ว่าเกือบจะถอดใจ ไม่ได้ไปแฟนมีตน้อง ๆ แล้ว แต่เมื่อมีประกาศว่าจะเพิ่มรอบอีกวัน ไม่รอช้า ตัดสินใจทันทีว่าต้องไปหาน้อง ๆ ให้ได้
    ด้วยความตั้งใจที่อยากจะไปเจอน้อง ๆ ทุกคน อยากไปให้กำลังใจน้อง ๆ ครั้งนี้ก็ได้เจอกับน้อง ๆ แล้ว สิ่งแรกที่ผมได้เห็นเมื่อไปถึงคือแฟนคลับที่ตั้งใจไปเชียร์น้อง ๆ มีทั้งเด็กเล็ก เด็กโต วัยรุ่น ไปถึงวัยผู้ใหญ่ก็มี มากันทั้งครอบครัวก็มี เห็นได้ชัดเลยว่าแฟนคลับน้อง ๆ มีมาทุกช่วงวัยจริง ๆ
    ถึงช่วงเวลาที่น้อง ๆ เบม่อนปรากฏตัวต่อหน้าแฟน ๆ บอกเลยว่าสุดยอดจริง ๆ แล้วตลอดทั้งงานน้อง ๆ สนุก เฮฮา วาไรตี้ เอ็นจอยกับทุก ๆ คน น่ารักน่าเอ็นดูสุด ๆ โชว์ของน้อง ๆ ทุกโชว์เรียกว่า น้อง ๆ ใส่ไม่ยั้งจริง ๆ ได้เห็นโชว์ของน้อง ๆ แบบสด ๆ บอกเลยว่า ร้อง แร็ป เต้น น้อง ๆ เอาอยู่ จัดหนักทุกเพลง เก่งกันมาก ๆ ส่วนทักษะภาษาไทยของ "รุกะ-อาสะ-รามิ-โรร่า-อาฮยอน" ที่ได้ร่ำเรียนมาจากเจ๊แคนและน้องแพร ก็เก่งไม่แพ้กัน โดยเฉพาะน้องรามิมายเลิฟผมนี่แหละ โดนตกซ้ำแล้วซ้ำเล่า น้องพูดไทยเก่งมาก แล้วพูดไม่หยุดด้วย 555 คำทุกคำที่น้องพูดออกมาคือสำเนียงไทย จริตคนไทยแท้ ๆ เลย น้องตกคนเข้าด้อมได้เยอะมาก เอ๊ะ! หรือแท้จริงแล้ว วงนี้จะมีคนไทย 3 คน ชักไม่แน่ใจละ 555
    จากจุดเริ่มต้นตั้งแต่โปรเจคเปิดตัวเทรนนี YG Next ผ่านบททดสอบมามากมายจนมาถึง Last Evaluation และได้เดบิวต์ในฐานะเมมเบอร์ตัวจริงของ BABYMONSTER ครบทั้ง 7 คน ผมได้เห็นพัฒนาการของน้อง ๆ ทุกคนแบบก้าวกระโดด เห็นถึงความไม่ย่อท้อ ฝ่าฟันต่อทุกอุปสรรค์ ล้มมาไม่รู้กี่ครั้ง แต่น้อง ๆ ก็ลุกขึ้นสู้ได้ ฝึกฝนอย่างหนักเพื่อมาถึงความฝันอันสูงสุดนี้ คือการได้เดบิวต์แบบพร้อมหน้าพร้อมตาทั้ง 7 คน ผมเองรู้สึกภูมิใจในตัวของน้อง ๆ ทุกคน โดยเฉพาะเมมเบอร์ไทยอย่างชิกิต้า (แคนนี่) และภริตา (แพร) หนู 2 คนคือความภาคภูมิใจของคนไทย หนูสามารถทำให้แฟนไทยได้เห็นแล้วว่าพวกหนูทำได้ และครั้งนี้หนูได้นำความสำเร็จนี้กลับมาฝากแฟน ๆ ชาวไทยได้ประทับใจและชื่นชม พวกหนูสุดยอดมาก 🥰
    ก็เหมือนครั้งนี้ที่ผมตั้งใจไปหาน้อง ๆ นอกจากจะไปให้กำลังใจน้อง ๆ แล้ว ก็ยังได้มาดูผลงานสด ๆ บนเวทีของน้อง ๆ หลังจากที่น้อง ๆ ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างยาวนาน ฝึกฝน สู้ทนฟันฝ่าจนมีวันนี้ได้ สุดท้ายนี้ พี่อยากจะบอกน้อง ๆ ว่าแฟนมีตครั้งนี้ น้อง ๆ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจริง ๆ เก่งมาก ๆ ครับ หลังจากนี้ก็ขอเป็นกำลังใจให้น้อง ๆ สู้ต่อไป รังสรรค์ผลงานดี ๆ แบบนี้ ส่งความสุข ความน่ารักแบบนี้ ให้แฟน ๆ ได้เห็นกันต่อไปเรื่อย ๆ เลยนะ ขอให้อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปนาน ๆ เป็นอีกหลายสิบปีเลย และพี่เองก็จะสนับสนุน อุดหนุนผลงานของน้อง ๆ ต่อไปแน่นอน และที่สำคัญ.....มาไทยบ่อย ๆ นะ ถ้ากลับมาอีก พี่พร้อมไปหาน้อง ๆ อีกแน่นอน💝

    #BABYMONSTER
    #SEEYOUTHEREinBANGKOK
    2024.06.30 📸 BABYMONSTER PRESENTS : SEE YOU THERE IN BANGKOK เกริ่นก่อน ว่าเกือบจะถอดใจ ไม่ได้ไปแฟนมีตน้อง ๆ แล้ว แต่เมื่อมีประกาศว่าจะเพิ่มรอบอีกวัน ไม่รอช้า ตัดสินใจทันทีว่าต้องไปหาน้อง ๆ ให้ได้ ด้วยความตั้งใจที่อยากจะไปเจอน้อง ๆ ทุกคน อยากไปให้กำลังใจน้อง ๆ ครั้งนี้ก็ได้เจอกับน้อง ๆ แล้ว สิ่งแรกที่ผมได้เห็นเมื่อไปถึงคือแฟนคลับที่ตั้งใจไปเชียร์น้อง ๆ มีทั้งเด็กเล็ก เด็กโต วัยรุ่น ไปถึงวัยผู้ใหญ่ก็มี มากันทั้งครอบครัวก็มี เห็นได้ชัดเลยว่าแฟนคลับน้อง ๆ มีมาทุกช่วงวัยจริง ๆ ถึงช่วงเวลาที่น้อง ๆ เบม่อนปรากฏตัวต่อหน้าแฟน ๆ บอกเลยว่าสุดยอดจริง ๆ แล้วตลอดทั้งงานน้อง ๆ สนุก เฮฮา วาไรตี้ เอ็นจอยกับทุก ๆ คน น่ารักน่าเอ็นดูสุด ๆ โชว์ของน้อง ๆ ทุกโชว์เรียกว่า น้อง ๆ ใส่ไม่ยั้งจริง ๆ ได้เห็นโชว์ของน้อง ๆ แบบสด ๆ บอกเลยว่า ร้อง แร็ป เต้น น้อง ๆ เอาอยู่ จัดหนักทุกเพลง เก่งกันมาก ๆ ส่วนทักษะภาษาไทยของ "รุกะ-อาสะ-รามิ-โรร่า-อาฮยอน" ที่ได้ร่ำเรียนมาจากเจ๊แคนและน้องแพร ก็เก่งไม่แพ้กัน โดยเฉพาะน้องรามิมายเลิฟผมนี่แหละ โดนตกซ้ำแล้วซ้ำเล่า น้องพูดไทยเก่งมาก แล้วพูดไม่หยุดด้วย 555 คำทุกคำที่น้องพูดออกมาคือสำเนียงไทย จริตคนไทยแท้ ๆ เลย น้องตกคนเข้าด้อมได้เยอะมาก เอ๊ะ! หรือแท้จริงแล้ว วงนี้จะมีคนไทย 3 คน ชักไม่แน่ใจละ 555 จากจุดเริ่มต้นตั้งแต่โปรเจคเปิดตัวเทรนนี YG Next ผ่านบททดสอบมามากมายจนมาถึง Last Evaluation และได้เดบิวต์ในฐานะเมมเบอร์ตัวจริงของ BABYMONSTER ครบทั้ง 7 คน ผมได้เห็นพัฒนาการของน้อง ๆ ทุกคนแบบก้าวกระโดด เห็นถึงความไม่ย่อท้อ ฝ่าฟันต่อทุกอุปสรรค์ ล้มมาไม่รู้กี่ครั้ง แต่น้อง ๆ ก็ลุกขึ้นสู้ได้ ฝึกฝนอย่างหนักเพื่อมาถึงความฝันอันสูงสุดนี้ คือการได้เดบิวต์แบบพร้อมหน้าพร้อมตาทั้ง 7 คน ผมเองรู้สึกภูมิใจในตัวของน้อง ๆ ทุกคน โดยเฉพาะเมมเบอร์ไทยอย่างชิกิต้า (แคนนี่) และภริตา (แพร) หนู 2 คนคือความภาคภูมิใจของคนไทย หนูสามารถทำให้แฟนไทยได้เห็นแล้วว่าพวกหนูทำได้ และครั้งนี้หนูได้นำความสำเร็จนี้กลับมาฝากแฟน ๆ ชาวไทยได้ประทับใจและชื่นชม พวกหนูสุดยอดมาก 🥰 ก็เหมือนครั้งนี้ที่ผมตั้งใจไปหาน้อง ๆ นอกจากจะไปให้กำลังใจน้อง ๆ แล้ว ก็ยังได้มาดูผลงานสด ๆ บนเวทีของน้อง ๆ หลังจากที่น้อง ๆ ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างยาวนาน ฝึกฝน สู้ทนฟันฝ่าจนมีวันนี้ได้ สุดท้ายนี้ พี่อยากจะบอกน้อง ๆ ว่าแฟนมีตครั้งนี้ น้อง ๆ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจริง ๆ เก่งมาก ๆ ครับ หลังจากนี้ก็ขอเป็นกำลังใจให้น้อง ๆ สู้ต่อไป รังสรรค์ผลงานดี ๆ แบบนี้ ส่งความสุข ความน่ารักแบบนี้ ให้แฟน ๆ ได้เห็นกันต่อไปเรื่อย ๆ เลยนะ ขอให้อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปนาน ๆ เป็นอีกหลายสิบปีเลย และพี่เองก็จะสนับสนุน อุดหนุนผลงานของน้อง ๆ ต่อไปแน่นอน และที่สำคัญ.....มาไทยบ่อย ๆ นะ ถ้ากลับมาอีก พี่พร้อมไปหาน้อง ๆ อีกแน่นอน💝 #BABYMONSTER #SEEYOUTHEREinBANGKOK
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทวิเคราะห์ UGC (User-Generated Content )เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง” โดย ดร.จักรกฤษณ์ สิริริน เจ้าของนามปากกา “นกป่า อุษาคเนย์” อยู่ในวงการสื่อสารมวลชนมา 25 ปี เนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า

    “หากนำทฤษฎี UGC มาจับกับปรากฏการณ์ “หมูเด้ง” ก็จะเห็นได้ว่า กระแสความโด่งดังของ “หมูเด้ง” ตรงตามรูปแบบของการทำ UGC ทุกประการ

    แม้ในตอนเริ่มต้น ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อครั้งที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” จัดประกวดตั้งชื่อ “หมูเด้ง” ในช่วงแรก ที่ชื่อ “หมูเด้ง” ชนะ VOTE “หมูแดง” และ “หมูสับ” ด้วยคะแนน 20,000 กว่า เรียกได้ว่าขาดลอย

    ในช่วงนั้น ยังไม่เกิดกระแส “หมูเด้ง” แต่อย่างใด มิหนำซ้ำ หลังจากได้ชื่อแล้ว ก็เหลือคนสนใจ “หมูเด้ง” น้อยมาก

    เพราะค่าเฉลี่ยความสนใจลูกสัตว์เกิดใหม่ จะมีอยู่เพียงสั้นๆ คือประมาณ 7 วัน ที่ประชาชนให้ความสนใจ ทำให้สื่อมวลชนต้องคอยตามติดในช่วงเวลาหนึ่ง จากนั้นก็จะเริ่มซาลง และเริ่มห่างหาย จนกระแสเงียบไปในที่สุด

    ซึ่งทาง “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ก็อาจมีการนำเสนอลูกสัตว์เกิดใหม่รายอื่นๆ ตามมาอีกเรื่อยๆ พอผลตัดสินการประกวดจบสิ้นลงแล้ว กระแสก็จะกลับไปเงียบอีกครั้ง วนเวียนอยู่เช่นนี้

    ต่างจาก “หมูเด้ง” โดยสิ้นเชิง

    เป็นเพราะว่า “หมูเด้ง” เกิดในยุคที่ทุกคนบนโลกเข้าถึง Social Media โดยเรื่องราวที่น่าสนใจจะไม่จำกัดอยู่ภายในประเทศใดประเทศหนึ่งอีกต่อไป ไม่เหมือนกระแสลูกสัตว์เกิดใหม่ที่ผ่านมาของ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว”

    แต่ทันทีที่ “อรรถพล หนุนดี” หรือ “พี่เบนซ์” เจ้าของ Facebook Fanpage “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ได้เริ่มทำ Content “หมูเด้ง” กระแส “หมูเด้ง” ก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น

    ฐาน “แฟนคลับ” ที่เหนียวแน่น หรือที่เรียกว่า “ลูกเพจ” ดั้งเดิมของ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ที่มีปริมาณมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มี Empathy หรือ “ความผูกพัน” อย่างสูง ยิ่งช่วยต่อยอด Content ในแบบฉบับ UGC ได้เป็นอย่างดี

    ผนวกกับการที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” อยู่ใกล้ศรีราชา จุดที่มีชาวญี่ปุ่นพำนักในเมืองไทยเป็นชุมชน ทำให้มีการแชร์ Content “หมูเด้ง” ต่อๆ กันไปในหมู่ชาวญี่ปุ่น จากเมืองไทยไปญี่ปุ่น และแพร่กระจายไปทั่วโลก

    สำทับด้วยสำนักข่าวตะวันตก ได้แห่กันมาทำข่าว “หมูเด้ง” ติดๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น AP, AFP, BBC, VOA, CNN ก็ยิ่งช่วยสร้าง UGC ให้กับ “หมูเด้ง” จนกลายเป็น Viral ระดับโลกไปแล้ว

    จากความน่ารัก น่าเอ็นดู การสัมผัสได้ถึงการไม่มีผลประโยชน์ใดแอบแฝงใน Content เนื่องจากเป็นลูกสัตว์เกิดใหม่ในสวนสัตว์ที่ค่าเข้าชมไม่ได้มากมายอะไร และการขายสินค้าของสวนสัตว์ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึกต่างๆ ก็ไม่ได้มีราคาค่างวดที่แพงจนจับต้องไม่ได้

    แปลไทยเป็นไทยก็คือ Brand “หมูเด้ง” เป็น Brand บริสุทธิ์ ผนวกกับความทะลึ่ง สะดีดสะดิ้ง น่ารักน่าชัง เมื่อรวมกับบุคลิกดั้งเดิมของ “หมูเด้ง” ที่เป็นลูกฮิปโปแคระที่มีลีลาตลกเป็นพื้นเพอยู่แล้ว ยิ่งเรียกรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความประทับใจได้ไม่ยาก

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรู้สึกลึกๆ ในใจมนุษย์เกี่ยวกับ “ลูกสัตว์” หรือ Baby Animal ทั้งลูกมนุษย์ด้วยกันที่ถือเป็นสัตว์ประเภทหนึ่ง และลูกสัตว์ต่างๆ ที่ดูแล้วให้ความรู้สึกน่ารัก น่าเอ็นดู อยากอุ้ม อยากเลี้ยง ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์เป็นทุนเดิม

    ประกอบกับคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ที่แอบเกรี้ยวกราด น่ารัก น่าหยิก ทำให้เป็น UGC ที่ถูกนำไปต่อยอดได้ง่ายใน “วัฒนธรรมมีม” หรือ Meme Culture

    ยกระดับสู่การเป็น “วัฒนธรรมร่วม” ผ่าน Social Media

    เบื้องหลังความสำเร็จของ UGC “หมูเด้ง” คงต้องยกเครดิตให้ “พี่เบนซ์” ไปเต็มๆ ที่สามารถดึงคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ออกมาเล่าได้อย่างน่ารัก

    พูดอีกแบบก็คือ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” มาถูกที่ ถูกเวลา และเล่นได้ถูกจุด จับจุด อารมณ์ร่วมของผู้คนได้อยู่หมัด สร้างการเชื่อมต่อ และเชื่อมโยงอารมณ์ความรู้สึกของผู้คน เข้ากับ “หมูเด้ง” ได้ตรงจุด

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่เสพ Social Media ที่อยู่ไกลจาก “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ที่ไม่สะดวกเดินทางมาสัมผัสกับ “หมูเด้ง” ได้ด้วยตัวเอง

    ตอบสนองธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความรักสัตว์เป็นทุนเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ลูกสัตว์” น่ารัก ที่ตนไม่สามารถเลี้ยงเอาไว้ในบ้านได้

    จึงสามารถสรุปได้ว่า UGC อยู่เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง”

    https://www.salika.co/2024/10/04/user-generated-content-moodeng/

    #Thaitimes
    บทวิเคราะห์ UGC (User-Generated Content )เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง” โดย ดร.จักรกฤษณ์ สิริริน เจ้าของนามปากกา “นกป่า อุษาคเนย์” อยู่ในวงการสื่อสารมวลชนมา 25 ปี เนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า “หากนำทฤษฎี UGC มาจับกับปรากฏการณ์ “หมูเด้ง” ก็จะเห็นได้ว่า กระแสความโด่งดังของ “หมูเด้ง” ตรงตามรูปแบบของการทำ UGC ทุกประการ แม้ในตอนเริ่มต้น ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อครั้งที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” จัดประกวดตั้งชื่อ “หมูเด้ง” ในช่วงแรก ที่ชื่อ “หมูเด้ง” ชนะ VOTE “หมูแดง” และ “หมูสับ” ด้วยคะแนน 20,000 กว่า เรียกได้ว่าขาดลอย ในช่วงนั้น ยังไม่เกิดกระแส “หมูเด้ง” แต่อย่างใด มิหนำซ้ำ หลังจากได้ชื่อแล้ว ก็เหลือคนสนใจ “หมูเด้ง” น้อยมาก เพราะค่าเฉลี่ยความสนใจลูกสัตว์เกิดใหม่ จะมีอยู่เพียงสั้นๆ คือประมาณ 7 วัน ที่ประชาชนให้ความสนใจ ทำให้สื่อมวลชนต้องคอยตามติดในช่วงเวลาหนึ่ง จากนั้นก็จะเริ่มซาลง และเริ่มห่างหาย จนกระแสเงียบไปในที่สุด ซึ่งทาง “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ก็อาจมีการนำเสนอลูกสัตว์เกิดใหม่รายอื่นๆ ตามมาอีกเรื่อยๆ พอผลตัดสินการประกวดจบสิ้นลงแล้ว กระแสก็จะกลับไปเงียบอีกครั้ง วนเวียนอยู่เช่นนี้ ต่างจาก “หมูเด้ง” โดยสิ้นเชิง เป็นเพราะว่า “หมูเด้ง” เกิดในยุคที่ทุกคนบนโลกเข้าถึง Social Media โดยเรื่องราวที่น่าสนใจจะไม่จำกัดอยู่ภายในประเทศใดประเทศหนึ่งอีกต่อไป ไม่เหมือนกระแสลูกสัตว์เกิดใหม่ที่ผ่านมาของ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” แต่ทันทีที่ “อรรถพล หนุนดี” หรือ “พี่เบนซ์” เจ้าของ Facebook Fanpage “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ได้เริ่มทำ Content “หมูเด้ง” กระแส “หมูเด้ง” ก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น ฐาน “แฟนคลับ” ที่เหนียวแน่น หรือที่เรียกว่า “ลูกเพจ” ดั้งเดิมของ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” ที่มีปริมาณมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มี Empathy หรือ “ความผูกพัน” อย่างสูง ยิ่งช่วยต่อยอด Content ในแบบฉบับ UGC ได้เป็นอย่างดี ผนวกกับการที่ “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” อยู่ใกล้ศรีราชา จุดที่มีชาวญี่ปุ่นพำนักในเมืองไทยเป็นชุมชน ทำให้มีการแชร์ Content “หมูเด้ง” ต่อๆ กันไปในหมู่ชาวญี่ปุ่น จากเมืองไทยไปญี่ปุ่น และแพร่กระจายไปทั่วโลก สำทับด้วยสำนักข่าวตะวันตก ได้แห่กันมาทำข่าว “หมูเด้ง” ติดๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น AP, AFP, BBC, VOA, CNN ก็ยิ่งช่วยสร้าง UGC ให้กับ “หมูเด้ง” จนกลายเป็น Viral ระดับโลกไปแล้ว จากความน่ารัก น่าเอ็นดู การสัมผัสได้ถึงการไม่มีผลประโยชน์ใดแอบแฝงใน Content เนื่องจากเป็นลูกสัตว์เกิดใหม่ในสวนสัตว์ที่ค่าเข้าชมไม่ได้มากมายอะไร และการขายสินค้าของสวนสัตว์ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึกต่างๆ ก็ไม่ได้มีราคาค่างวดที่แพงจนจับต้องไม่ได้ แปลไทยเป็นไทยก็คือ Brand “หมูเด้ง” เป็น Brand บริสุทธิ์ ผนวกกับความทะลึ่ง สะดีดสะดิ้ง น่ารักน่าชัง เมื่อรวมกับบุคลิกดั้งเดิมของ “หมูเด้ง” ที่เป็นลูกฮิปโปแคระที่มีลีลาตลกเป็นพื้นเพอยู่แล้ว ยิ่งเรียกรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความประทับใจได้ไม่ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรู้สึกลึกๆ ในใจมนุษย์เกี่ยวกับ “ลูกสัตว์” หรือ Baby Animal ทั้งลูกมนุษย์ด้วยกันที่ถือเป็นสัตว์ประเภทหนึ่ง และลูกสัตว์ต่างๆ ที่ดูแล้วให้ความรู้สึกน่ารัก น่าเอ็นดู อยากอุ้ม อยากเลี้ยง ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์เป็นทุนเดิม ประกอบกับคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ที่แอบเกรี้ยวกราด น่ารัก น่าหยิก ทำให้เป็น UGC ที่ถูกนำไปต่อยอดได้ง่ายใน “วัฒนธรรมมีม” หรือ Meme Culture ยกระดับสู่การเป็น “วัฒนธรรมร่วม” ผ่าน Social Media เบื้องหลังความสำเร็จของ UGC “หมูเด้ง” คงต้องยกเครดิตให้ “พี่เบนซ์” ไปเต็มๆ ที่สามารถดึงคาแรกเตอร์ของ “หมูเด้ง” ออกมาเล่าได้อย่างน่ารัก พูดอีกแบบก็คือ “ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง” มาถูกที่ ถูกเวลา และเล่นได้ถูกจุด จับจุด อารมณ์ร่วมของผู้คนได้อยู่หมัด สร้างการเชื่อมต่อ และเชื่อมโยงอารมณ์ความรู้สึกของผู้คน เข้ากับ “หมูเด้ง” ได้ตรงจุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่เสพ Social Media ที่อยู่ไกลจาก “สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” ที่ไม่สะดวกเดินทางมาสัมผัสกับ “หมูเด้ง” ได้ด้วยตัวเอง ตอบสนองธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความรักสัตว์เป็นทุนเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ลูกสัตว์” น่ารัก ที่ตนไม่สามารถเลี้ยงเอาไว้ในบ้านได้ จึงสามารถสรุปได้ว่า UGC อยู่เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง” https://www.salika.co/2024/10/04/user-generated-content-moodeng/ #Thaitimes
    WWW.SALIKA.CO
    UGC เบื้องหลังความดังของ “หมูเด้ง”
    User-Generated Content (UGC) หมายถึง Story ที่ผู้บริโภค หรือลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมาย สร้างขึ้นมาเอง โดยผู้คนเหล่านั้น จะพูดถึงเรื่องราวที่พวกเขาประทับใจ หรือให้ความสนใจ โดยที่ต้นเรื่องไม่ต้องเสียเงินจ้างแม้แต่บาทเดียว
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 717 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช้าไปนิด ไม่ว่าอะไรนะติ่งขา………พี่ปูเขาเรื่องแยะ เลยต้องค้นหาข้อมูลมาเม้าท์กันเยอะหน่อยค่าาาา…!!!

    ตอนยี่สิบเอ็ด………งานหลวงงานราษฎร์……งานปราบปิดจ๊อบเป็นงานถนัด…!!!

    ในการกลับมาในครั้งนี้ ปูตินผ่านสารพัดม็อบมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะในช่วงนี้ของชีวิตที่จะขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีในยุคสังคมเปิดทางโลกออนไลน์……เขาพบว่ากลุ่มต่อต้านได้เติบโตไปมาก
    คราวนี้ เขามีอายุ ห้าสิบเก้า……สุขภาพดีเยี่ยม พร้อมที่จะนำพาประเทศไปยังจุดที่สูงสุด จะต้องเป็นมหาอำนาจในทุกด้าน
    และจะต้องเป็นศูนย์กลางของยูเรเชีย……
    เขาเดินออกมาจากพระวิหารในวันที่เข้าพบกับ
    พระอธิการคิริลล์ หลังจากการเข้าสาบานตน ด้วยท่าทางที่พร้อมที่จะรับมือกับฝ่ายตรงข้ามทุกหมู่เหล่า

    กลุ่มแรก…คือ กลุ่มที่ชุมนุมอยู่ที่จตุรัส Bolotnaya กลางกรุงมอสโคว์ ที่ปูตินต้องการแค่ผู้นำ Leonid Razvozzhayev (ซ้ายจัด) ที่ไหวตัวทัน หนีไปกบดานที่ยูเครน
    เพียงไม่กี่วันต่อมา ……ก็มีกลุ่มคนมา”อุ้ม” เขาไปจากที่พัก นำตัวกลับไปยังรัสเซีย ขึ้นศาล
    ถูกตัดสินให้ไปนอนเล่นที่ไซบีเรียห้าปี……

    กลุ่มหัวหอกอื่นๆ เช่น Aleksei Navalny ทนายความนักการเมืองที่มีฐานเสียงพอสมควร ที่ไม่ยอมรับผลเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่จะต้องรับข้อหาในการก่อความไม่สงบตามมา
    แต่.……สิ่งที่ไม่คาดคิด คือ หนึ่งในหัวหอกที่ต่อต้านปูตินในขบวนการเดียวกัน คือ Ksena Sobchak ธิดาสาวของ อนาโตลี
    เจ้านายและผู้สนับสนุนที่สำคัญของปูติน ที่ได้ช่วยเหลือและตอบแทนกันมาตั้งแต่สมัยที่ปูตินเพิ่มเริ่มเตาะแตะทางการเมือง ในกรุงเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก
    ที่แม้แต่อนาโตลีจะจากโลกนี้ไปแล้ว ปูตินก็ยังคือว่าครอบครัวนี้เป็นผู้ที่เขาต้องให้ความสงเคราะห์ เช่น ภริยาของอนาโตลี ได้เป็นกรรมการบริหารในเทศบาล (ข้าราชการประจำ)
    แม้แต่ตัว เซน่าเอง……ก็ได้เข้ามาทำงานในสถานีโทรทัศน์ (ด้วยการสนับสนุนของปูติน) ตั้งแต่ปี 2014 ตามสายงานที่เรียนมา จนมาเป็นผู้ดำเนินรายการที่มีชื่อเสียงพอสมควร

    สรุปว่า…ชีวิตทางการงานของเธอและมารดา……ได้สิ้นสุดลงแค่นั้น (2012) แต่เหมือนกับส่งเสือเข้าป่า เพราะเซน่าได้หันไปซบกับฝ่ายตรงข้ามอย่างเต็มตัว

    ส่วนเรื่องคดีสาวห่ามทั้งหลาย ที่ขึ้นไปเต้นเหยงๆอยู่บนพระวิหาร ได้ถูกตัดสินจำคุก ในข้อหา……ลบหลู่ศาสนาและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์……และเนื่องจากหลายคนเป็นนักดนตรีแนวพั้งค์
    ข่าวในทางตะวันตกจึงตีไปในทิศทางที่ว่า “จำกัดอิสรภาพของศิลปิน…” ที่เหล่าดาราใหญ่ๆ เช่น Paul McCartney ก็พลอยบ้าจี้ตามไปด้วย

    ปูตินได้ไปร่วมประชุมในวาระงานโอลิมปิกภาคฤดูร้อนที่ลอนดอน
    นายกรัฐมนตรี David Cameron ได้เข้ามาถามถึงเรื่องนี้
    ปูตินตอบว่า……
    “เรื่องนี้ดูยังไงก็ผิด ไม่ว่าเขาจะแย้งว่าอะไร ชาติไหนก็ต้องมีขอบเขตในเรื่องศาสนา ถ้าพวกก่อการพวกนี้ลองไปเต้นที่มัสยิด….คุณคิดว่าพวกเขาจะมีชีวิตรอดออกมาหรือ..??
    แน่นอนว่า…ในวันที่ 17 สิงหาคม เมื่อคดีขึ้นสู่ศาล การตัดสินคือ จำคุก 2 ปี (ติดจริงๆแค่ เจ็ดเดือน)
    จากนั้นกลุ่ม ***** Riot ก็สลายตัวลงไปจากบนดิน แต่ยังพอมีกระแสทางลับๆ

    ทางด้านการต่างประเทศระหว่างสหรัฐ เริ่มตึงเครียด เข้ามาทุกที เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่า ในกลุ่มผู้ชุมนุมระดับหัวหน้า ได้มีกลุ่มตะวันตกสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง กลุ่มสนับสนุนพวกนั้นมาในรูปแบบขององค์กร เช่น USAID, NGO
    ปูตินได้วางนโยบายไว้ว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในลิเบีย…
    ที่เขาได้เห็นกลุ่มนาโต้ได้เข้ารุมย่ำยีเพราะเพียงเพื่อหวังจะเอากัดดาฟีลงจากอำนาจนั้น เขาจะไม่ยอมให้สหรัฐและพรรคพวกที่เรียกว่า NATO มาเป็นคนชี้ชะตาของชาติไหนในโลกนี้อีก……พอกันที……!!

    การแก้และออกกฎหมายใหม่ได้ทำขึ้นรัวๆ เริ่มจาก……ห้ามการรับเลี้ยงดูเด็กกำพร้าจากรัสเซีย (จากต่างประเทศ ที่อเมริกาเป็นประเทศที่ขอไปเลี้ยงมากสุด) แม้ว่าบางรายที่กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการทางเอกสาร
    เมื่อถูกซักถามหนักๆจากสื่อ ในเรื่องว่าเป็นการดับอนาคตของเด็กหรือไม่…??
    เขาตอบว่า…”คุณคิดว่านี่คือการดับอนาคตหรือ มันน่าอับอายและเป็นรอยบาปให้กับเด็กของเราต่างหาก……นี่คุณบ้าไปหรือเปล่า…?!!

    ในวันคล้ายวันเกิดของปูตินที่ครบหกสิบปี………เขาเริ่มทำการประชาสัมพันธ์ตัวเองอย่างรัวๆ เช่น ดำน้ำในทะเลดำ หาไหโบราณ (ถึงแม้จะเป็นการจัดฉาก ก็ดูเนียน……)
    ขี่ม้า เปลือยอก…(ถึงจะจัด……ก็โอเค) ขี่เครื่องร่อน……มีนกบินตาม (อันนี้ก็ดูเก๋ไปอีกแบบ…) ไปสมทบกับกลุ่มบิ๊กไบค์ที่เป็นเกลอกัน ( ก็ดูแพง……เพราะใช้ Harley Davidson สามล้ออย่างใหญ่……)
    และที่ต้องกรี๊ดดด…คือ ปูตินไปแอบหัดเล่นไอซ์ ฮ๊อกกี้ ที่ค่อนข้างจะดูแอ๊บสักหน่อย แต่พอออกงานได้ มีสะดุดล้มพังพาบให้เห็น…ก็ยังน่าเอ็นดู (แต่คนถ่าย……ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ไม่รู้)

    มีการให้ทำคลิปรายการของความเป็นอยู่ในบ้านพัก ที่ให้ชาวบ้านได้รับรู้ว่า ท่านผู้นำตื่นในเวลาแปดโมงครึ่ง จากเตียงก็ออกกำลังกายเลย คือเข้าห้องยิม และดูข่าวไปด้วย จากนั้นไปว่ายน้ำระยะ 1000 เมตร เริ่มอาหารเช้าในเวลาเที่ยง
    เป็นพวกโจ๊กด้วยธัญพืช ไข่นกกระทา สลัดและน้ำผลไม้คั้นสดส่วนประกอบจะมาจากสวนในพระวิหารของพระอธิการ Kirill
    จากนั้นจะทำงานจนถึงดึก การประชุมมักจะเป็นในเวลาที่ผู้คนส่วนใหญ่เข้านอนไปแล้ว…
    ที่บ้าน…ไม่มีวี่แววของผู้อาศัยคนอื่น ไม่มีลุดมิลา และ บุตรสาวทั้งสอง นอกจาก Koni สุนัขข้างกายที่ตามติดไปทุกที่
    แต่…อย่างไรก็ตาม ในยุคเขานั้น รายได้ของประชาชนจากปีละจำนวนพันดอลล่าร์ พุ่งขึ้นมาเป็นหลักหมื่น

    ธิดาทั้งสองของปูติน คนโต คือ มาเรีย ได้แต่งงานกับนักธุรกิจชาวดัทช์ Jorrit Faassen ที่ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในอนุกรรมการของ Gazprom แทบไม่มีใครรู้จักเขาเลยจนกระทั่ง วันหนึ่งในเดือนพฤศจิกายน 2010 ที่เขาไปเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถอีกคันหนึ่งที่เป็นรถเบ๊นซ์ของมหาเศรษฐีหนุ่ม Matvei Urin
    เหล่าบอดี้การ์ดของมหาเศรษฐีที่ตามมาในรถตู้ ได้กรูกันมาทำร้าย Faassen จนถึงขั้นหาม…

    เรื่องได้ไปถึงปูติน (เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) ผลคือ เหล่าบอดี้การ์ดติดคุกกันพร้อมหน้า ส่วน Urin โดนหลายคดี……
    ทำร้ายร่างกาย และ ยกเลิกใบอนุญาตทำธนาคาร เพราะตรวจสอบบัญชีในการดำเนินการพบว่ามีการทุจริต……ติดคุก สี่ปีครึ่ง
    ทั้งมาเรียและฟาสเซ่น ได้แต่งงานกันที่กรีซ ในปี 2012 และมีบุตรชาย ที่ปูตินได้เป็นพ่อทูนหัว
    ส่วนบุตรสาวคนเล็ก Katya มีข่าวลือว่ามีคู่รักเป็นลูกชายนายพลเกาหลีเหนือ (ไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน) แต่เธอชอบศิลปการแสดง และเคยเป็นผู้อำนวยการในองค์กรพัฒนาบุคลากรของมหาวิทยาลัยมอสโคว์

    ถึงแม้จะอยู่คนเดียว แต่บ่อยครั้งที่ปูตินจะรายล้อมไปด้วยกลุ่มเพื่อนเก่าๆที่เคยกอดคอสู้กันมา จัดปาร์ตี้และได้มีคอนเสิร์ตเล็กๆจากวงดุริยางค์จากเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก มาขับกล่อม

    และในวันที่ปูตินเข้าสาบานตนในฐานะประธานาธิบดี ในเดือนพฤษภาคมนั้น คือวันที่ทุกคนได้เห็นลุดมิลายืนเคียงข้างกับเขา แต่ทุกคนก็ได้รับรู้แล้วว่า ทั้งคู่นี้แยกกันอยู่มานานแสนนาน
    จนในเดือนมิถุนายน ที่เขาทั้งคู่ไปในงานบัลเล่ต์ “Esmeralda”
    ที่นักข่าวได้ยิงคำถามตรง ว่า
    “ไม่เห็นท่านมาด้วยกันบ่อยๆ แล้วข่าวลือที่ว่าท่านได้แยกกันอยู่มันเท็จจริงประการใด?”
    ปูติน เหลือบไปมองลุดมิลา ก่อนที่จะตอบว่า
    “เป็นเรื่องจริง ลุดมิลาต้องทนกับสภาพการทำงานที่ไม่เป็นเวล่ำเวลาของผมมานานแสนนาน เราแทบไม่มีเวลาพบกันเลย ต่างคนต่างอยู่มาแปดเก้าปีแล้ว..”
    ลุดมิลาได้พูดขึ้นมาว่า…
    “เราหย่ากันก็จริง แต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ยังช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”
    นั่นคือการยืนยันจากคนทั้งสองด้วยตัวเอง

    ปูตินมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะให้งานกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ Sochi เป็นการประกาศความยิ่งใหญ่ของรัสเซียสู่สายตาชาวโลก โดยทุ่มทุนถึง หกหมื่นล้านดอลล่าร์ (เทียบเท่า) ที่นับว่าเป็นงบที่ใช้สำหรับโอลิมปิกที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ (เจ็ดเท่าเหนือกว่าแคนาดาในปี 2010)
    ที่ทุกคนทางทีมฝ่ายเศรษฐกิจเริ่มอึดอัด เพราะยังไม่นับทางรถไฟเชื่อมสู่เขา และ เส้นทางถนน
    ผู้รับเหมาต่างพากันอิ่มเอมในการบวกราคา (เพราะยิ่งเร่งยิ่งแพง)
    เรื่องนี้ถึงหูปูติน……เขาเรียกคณะกรรมการมาถามว่า ใครเป็นคนรับผิดชอบส่วนที่ล่าช้า (คือ เส้นทางของสกีสลาลอม หรือ ลงเขาที่ต้องผ่านอุปสรรคต่างๆ……ที่ปูตินเห็นว่า……งานไม่เนี๊ยบ)
    คำตอบคือ Akhmed Bilalov รองประธานคณะมนตรี ที่มีผลประโยชน์แอบแฝงคือมีที่ทางอยู่ทางด้านล่างของภูเขา เลยกินเศษกินเลยกับบริษัทก่อสร้าง งบประมาณ 40 ล้านในทีแรก
    บานมาเป็น 260 ล้าน…
    ปูตินเรียกให้มาพบพร้อมกับประธานงานโอลิมปิก(ออกสื่อ)
    แล้วถามตรงๆว่า……อธิบายมา……ช้าแล้วยังไม่ดีสมราคา เพราะ…???
    คำอธิบายทั้งหมดที่ยกมา……ฟังไม่ขึ้น……!!
    ปูตินเลยสั่งแบบสั้นๆแต่ได้ใจความว่า……”งั้นก็คงต้องจัดการกันใหม่……”
    แล้วเขาก็เดินออกไป….

    วันรุ่งขึ้น…Akhmed ถูกปลดออกจากทุกตำแหน่งในคณะมนตรี
    ปูตินได้ให้ฝ่ายบัญชีทำการตรวจสอบย้อนหลังในทุกงานที่เขารับทำมา รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่ออกจะเว่อร์ในการไปดูงานประชุมที่ลอนดอน……
    ผู้ที่มารับหน้าที่แทนคือ ผู้ที่ชนะการประกวดราคาประมูล ธนาคาร Sberbank ที่มีประธานคือ German Greff
    (ที่งานนี้ต้องเข้าเนื้อไปอย่างมากมาย เพราะต้องยอมขาดทุน)

    ~~-ต้องเล่าต่อถึง Akhmed Bilalov ไม่งั้นจะค้างคาในใจ
    หลังจากที่โดนการตรวจสอบบัญชีแบบเข้ม อาเหมดถูกข้อหาฉ้อโกง คอรัปชั่น ตามมาติดๆ ที่มีโทษถึงจำคุกสี่ถึงสิบปี
    ไม่ใช่เขาคนเดียว ……แต่พี่น้องสองคนและผู้บริหารทุกคนในบริษัทโดนคดีหมด
    เขาหนีออกจากรัสเซีย ไม่ไปปรากฏตัวที่ศาลโดยอ้างว่าจะถูกคุกคามเอาชีวิต เพราะในที่ทำงานของเขามีร่องรอยของผงยาพิษ
    เขาหนีไปที่เยอรมัน และ ไปปักหลักที่ฟลอริดา, สหรัฐอเมริกา
    ที่เขาถูกจับกุมเพราะไม่มีเอกสารการอนุญาตให้ต่อวีซ่า (2019) ที่ตามกฏแล้ว……เขาอาจจะต้องส่งกลับไปที่รัสเซีย
    แต่จากนั้น ข่าวของเขาก็เงียบหายไป………
    รัสเซียได้ทวงถามไปที่อเมริกา….ก็ไม่ได้รับคำตอบอะไร
    เชื่อว่า…คงใช้เงินซื้อเส้นทางใบเขียวไปแล้ว..


    Wiwanda W. Vichit
    ช้าไปนิด ไม่ว่าอะไรนะติ่งขา………พี่ปูเขาเรื่องแยะ เลยต้องค้นหาข้อมูลมาเม้าท์กันเยอะหน่อยค่าาาา…!!! ตอนยี่สิบเอ็ด………งานหลวงงานราษฎร์……งานปราบปิดจ๊อบเป็นงานถนัด…!!! ในการกลับมาในครั้งนี้ ปูตินผ่านสารพัดม็อบมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะในช่วงนี้ของชีวิตที่จะขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีในยุคสังคมเปิดทางโลกออนไลน์……เขาพบว่ากลุ่มต่อต้านได้เติบโตไปมาก คราวนี้ เขามีอายุ ห้าสิบเก้า……สุขภาพดีเยี่ยม พร้อมที่จะนำพาประเทศไปยังจุดที่สูงสุด จะต้องเป็นมหาอำนาจในทุกด้าน และจะต้องเป็นศูนย์กลางของยูเรเชีย…… เขาเดินออกมาจากพระวิหารในวันที่เข้าพบกับ พระอธิการคิริลล์ หลังจากการเข้าสาบานตน ด้วยท่าทางที่พร้อมที่จะรับมือกับฝ่ายตรงข้ามทุกหมู่เหล่า กลุ่มแรก…คือ กลุ่มที่ชุมนุมอยู่ที่จตุรัส Bolotnaya กลางกรุงมอสโคว์ ที่ปูตินต้องการแค่ผู้นำ Leonid Razvozzhayev (ซ้ายจัด) ที่ไหวตัวทัน หนีไปกบดานที่ยูเครน เพียงไม่กี่วันต่อมา ……ก็มีกลุ่มคนมา”อุ้ม” เขาไปจากที่พัก นำตัวกลับไปยังรัสเซีย ขึ้นศาล ถูกตัดสินให้ไปนอนเล่นที่ไซบีเรียห้าปี…… กลุ่มหัวหอกอื่นๆ เช่น Aleksei Navalny ทนายความนักการเมืองที่มีฐานเสียงพอสมควร ที่ไม่ยอมรับผลเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่จะต้องรับข้อหาในการก่อความไม่สงบตามมา แต่.……สิ่งที่ไม่คาดคิด คือ หนึ่งในหัวหอกที่ต่อต้านปูตินในขบวนการเดียวกัน คือ Ksena Sobchak ธิดาสาวของ อนาโตลี เจ้านายและผู้สนับสนุนที่สำคัญของปูติน ที่ได้ช่วยเหลือและตอบแทนกันมาตั้งแต่สมัยที่ปูตินเพิ่มเริ่มเตาะแตะทางการเมือง ในกรุงเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก ที่แม้แต่อนาโตลีจะจากโลกนี้ไปแล้ว ปูตินก็ยังคือว่าครอบครัวนี้เป็นผู้ที่เขาต้องให้ความสงเคราะห์ เช่น ภริยาของอนาโตลี ได้เป็นกรรมการบริหารในเทศบาล (ข้าราชการประจำ) แม้แต่ตัว เซน่าเอง……ก็ได้เข้ามาทำงานในสถานีโทรทัศน์ (ด้วยการสนับสนุนของปูติน) ตั้งแต่ปี 2014 ตามสายงานที่เรียนมา จนมาเป็นผู้ดำเนินรายการที่มีชื่อเสียงพอสมควร สรุปว่า…ชีวิตทางการงานของเธอและมารดา……ได้สิ้นสุดลงแค่นั้น (2012) แต่เหมือนกับส่งเสือเข้าป่า เพราะเซน่าได้หันไปซบกับฝ่ายตรงข้ามอย่างเต็มตัว ส่วนเรื่องคดีสาวห่ามทั้งหลาย ที่ขึ้นไปเต้นเหยงๆอยู่บนพระวิหาร ได้ถูกตัดสินจำคุก ในข้อหา……ลบหลู่ศาสนาและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์……และเนื่องจากหลายคนเป็นนักดนตรีแนวพั้งค์ ข่าวในทางตะวันตกจึงตีไปในทิศทางที่ว่า “จำกัดอิสรภาพของศิลปิน…” ที่เหล่าดาราใหญ่ๆ เช่น Paul McCartney ก็พลอยบ้าจี้ตามไปด้วย ปูตินได้ไปร่วมประชุมในวาระงานโอลิมปิกภาคฤดูร้อนที่ลอนดอน นายกรัฐมนตรี David Cameron ได้เข้ามาถามถึงเรื่องนี้ ปูตินตอบว่า…… “เรื่องนี้ดูยังไงก็ผิด ไม่ว่าเขาจะแย้งว่าอะไร ชาติไหนก็ต้องมีขอบเขตในเรื่องศาสนา ถ้าพวกก่อการพวกนี้ลองไปเต้นที่มัสยิด….คุณคิดว่าพวกเขาจะมีชีวิตรอดออกมาหรือ..?? แน่นอนว่า…ในวันที่ 17 สิงหาคม เมื่อคดีขึ้นสู่ศาล การตัดสินคือ จำคุก 2 ปี (ติดจริงๆแค่ เจ็ดเดือน) จากนั้นกลุ่ม Pussy Riot ก็สลายตัวลงไปจากบนดิน แต่ยังพอมีกระแสทางลับๆ ทางด้านการต่างประเทศระหว่างสหรัฐ เริ่มตึงเครียด เข้ามาทุกที เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่า ในกลุ่มผู้ชุมนุมระดับหัวหน้า ได้มีกลุ่มตะวันตกสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง กลุ่มสนับสนุนพวกนั้นมาในรูปแบบขององค์กร เช่น USAID, NGO ปูตินได้วางนโยบายไว้ว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในลิเบีย… ที่เขาได้เห็นกลุ่มนาโต้ได้เข้ารุมย่ำยีเพราะเพียงเพื่อหวังจะเอากัดดาฟีลงจากอำนาจนั้น เขาจะไม่ยอมให้สหรัฐและพรรคพวกที่เรียกว่า NATO มาเป็นคนชี้ชะตาของชาติไหนในโลกนี้อีก……พอกันที……!! การแก้และออกกฎหมายใหม่ได้ทำขึ้นรัวๆ เริ่มจาก……ห้ามการรับเลี้ยงดูเด็กกำพร้าจากรัสเซีย (จากต่างประเทศ ที่อเมริกาเป็นประเทศที่ขอไปเลี้ยงมากสุด) แม้ว่าบางรายที่กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการทางเอกสาร เมื่อถูกซักถามหนักๆจากสื่อ ในเรื่องว่าเป็นการดับอนาคตของเด็กหรือไม่…?? เขาตอบว่า…”คุณคิดว่านี่คือการดับอนาคตหรือ มันน่าอับอายและเป็นรอยบาปให้กับเด็กของเราต่างหาก……นี่คุณบ้าไปหรือเปล่า…?!! ในวันคล้ายวันเกิดของปูตินที่ครบหกสิบปี………เขาเริ่มทำการประชาสัมพันธ์ตัวเองอย่างรัวๆ เช่น ดำน้ำในทะเลดำ หาไหโบราณ (ถึงแม้จะเป็นการจัดฉาก ก็ดูเนียน……) ขี่ม้า เปลือยอก…(ถึงจะจัด……ก็โอเค) ขี่เครื่องร่อน……มีนกบินตาม (อันนี้ก็ดูเก๋ไปอีกแบบ…) ไปสมทบกับกลุ่มบิ๊กไบค์ที่เป็นเกลอกัน ( ก็ดูแพง……เพราะใช้ Harley Davidson สามล้ออย่างใหญ่……) และที่ต้องกรี๊ดดด…คือ ปูตินไปแอบหัดเล่นไอซ์ ฮ๊อกกี้ ที่ค่อนข้างจะดูแอ๊บสักหน่อย แต่พอออกงานได้ มีสะดุดล้มพังพาบให้เห็น…ก็ยังน่าเอ็นดู (แต่คนถ่าย……ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ไม่รู้) มีการให้ทำคลิปรายการของความเป็นอยู่ในบ้านพัก ที่ให้ชาวบ้านได้รับรู้ว่า ท่านผู้นำตื่นในเวลาแปดโมงครึ่ง จากเตียงก็ออกกำลังกายเลย คือเข้าห้องยิม และดูข่าวไปด้วย จากนั้นไปว่ายน้ำระยะ 1000 เมตร เริ่มอาหารเช้าในเวลาเที่ยง เป็นพวกโจ๊กด้วยธัญพืช ไข่นกกระทา สลัดและน้ำผลไม้คั้นสดส่วนประกอบจะมาจากสวนในพระวิหารของพระอธิการ Kirill จากนั้นจะทำงานจนถึงดึก การประชุมมักจะเป็นในเวลาที่ผู้คนส่วนใหญ่เข้านอนไปแล้ว… ที่บ้าน…ไม่มีวี่แววของผู้อาศัยคนอื่น ไม่มีลุดมิลา และ บุตรสาวทั้งสอง นอกจาก Koni สุนัขข้างกายที่ตามติดไปทุกที่ แต่…อย่างไรก็ตาม ในยุคเขานั้น รายได้ของประชาชนจากปีละจำนวนพันดอลล่าร์ พุ่งขึ้นมาเป็นหลักหมื่น ธิดาทั้งสองของปูติน คนโต คือ มาเรีย ได้แต่งงานกับนักธุรกิจชาวดัทช์ Jorrit Faassen ที่ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในอนุกรรมการของ Gazprom แทบไม่มีใครรู้จักเขาเลยจนกระทั่ง วันหนึ่งในเดือนพฤศจิกายน 2010 ที่เขาไปเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถอีกคันหนึ่งที่เป็นรถเบ๊นซ์ของมหาเศรษฐีหนุ่ม Matvei Urin เหล่าบอดี้การ์ดของมหาเศรษฐีที่ตามมาในรถตู้ ได้กรูกันมาทำร้าย Faassen จนถึงขั้นหาม… เรื่องได้ไปถึงปูติน (เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) ผลคือ เหล่าบอดี้การ์ดติดคุกกันพร้อมหน้า ส่วน Urin โดนหลายคดี…… ทำร้ายร่างกาย และ ยกเลิกใบอนุญาตทำธนาคาร เพราะตรวจสอบบัญชีในการดำเนินการพบว่ามีการทุจริต……ติดคุก สี่ปีครึ่ง ทั้งมาเรียและฟาสเซ่น ได้แต่งงานกันที่กรีซ ในปี 2012 และมีบุตรชาย ที่ปูตินได้เป็นพ่อทูนหัว ส่วนบุตรสาวคนเล็ก Katya มีข่าวลือว่ามีคู่รักเป็นลูกชายนายพลเกาหลีเหนือ (ไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน) แต่เธอชอบศิลปการแสดง และเคยเป็นผู้อำนวยการในองค์กรพัฒนาบุคลากรของมหาวิทยาลัยมอสโคว์ ถึงแม้จะอยู่คนเดียว แต่บ่อยครั้งที่ปูตินจะรายล้อมไปด้วยกลุ่มเพื่อนเก่าๆที่เคยกอดคอสู้กันมา จัดปาร์ตี้และได้มีคอนเสิร์ตเล็กๆจากวงดุริยางค์จากเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก มาขับกล่อม และในวันที่ปูตินเข้าสาบานตนในฐานะประธานาธิบดี ในเดือนพฤษภาคมนั้น คือวันที่ทุกคนได้เห็นลุดมิลายืนเคียงข้างกับเขา แต่ทุกคนก็ได้รับรู้แล้วว่า ทั้งคู่นี้แยกกันอยู่มานานแสนนาน จนในเดือนมิถุนายน ที่เขาทั้งคู่ไปในงานบัลเล่ต์ “Esmeralda” ที่นักข่าวได้ยิงคำถามตรง ว่า “ไม่เห็นท่านมาด้วยกันบ่อยๆ แล้วข่าวลือที่ว่าท่านได้แยกกันอยู่มันเท็จจริงประการใด?” ปูติน เหลือบไปมองลุดมิลา ก่อนที่จะตอบว่า “เป็นเรื่องจริง ลุดมิลาต้องทนกับสภาพการทำงานที่ไม่เป็นเวล่ำเวลาของผมมานานแสนนาน เราแทบไม่มีเวลาพบกันเลย ต่างคนต่างอยู่มาแปดเก้าปีแล้ว..” ลุดมิลาได้พูดขึ้นมาว่า… “เราหย่ากันก็จริง แต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ยังช่วยเหลือซึ่งกันและกัน” นั่นคือการยืนยันจากคนทั้งสองด้วยตัวเอง ปูตินมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะให้งานกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ Sochi เป็นการประกาศความยิ่งใหญ่ของรัสเซียสู่สายตาชาวโลก โดยทุ่มทุนถึง หกหมื่นล้านดอลล่าร์ (เทียบเท่า) ที่นับว่าเป็นงบที่ใช้สำหรับโอลิมปิกที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ (เจ็ดเท่าเหนือกว่าแคนาดาในปี 2010) ที่ทุกคนทางทีมฝ่ายเศรษฐกิจเริ่มอึดอัด เพราะยังไม่นับทางรถไฟเชื่อมสู่เขา และ เส้นทางถนน ผู้รับเหมาต่างพากันอิ่มเอมในการบวกราคา (เพราะยิ่งเร่งยิ่งแพง) เรื่องนี้ถึงหูปูติน……เขาเรียกคณะกรรมการมาถามว่า ใครเป็นคนรับผิดชอบส่วนที่ล่าช้า (คือ เส้นทางของสกีสลาลอม หรือ ลงเขาที่ต้องผ่านอุปสรรคต่างๆ……ที่ปูตินเห็นว่า……งานไม่เนี๊ยบ) คำตอบคือ Akhmed Bilalov รองประธานคณะมนตรี ที่มีผลประโยชน์แอบแฝงคือมีที่ทางอยู่ทางด้านล่างของภูเขา เลยกินเศษกินเลยกับบริษัทก่อสร้าง งบประมาณ 40 ล้านในทีแรก บานมาเป็น 260 ล้าน… ปูตินเรียกให้มาพบพร้อมกับประธานงานโอลิมปิก(ออกสื่อ) แล้วถามตรงๆว่า……อธิบายมา……ช้าแล้วยังไม่ดีสมราคา เพราะ…??? คำอธิบายทั้งหมดที่ยกมา……ฟังไม่ขึ้น……!! ปูตินเลยสั่งแบบสั้นๆแต่ได้ใจความว่า……”งั้นก็คงต้องจัดการกันใหม่……” แล้วเขาก็เดินออกไป…. วันรุ่งขึ้น…Akhmed ถูกปลดออกจากทุกตำแหน่งในคณะมนตรี ปูตินได้ให้ฝ่ายบัญชีทำการตรวจสอบย้อนหลังในทุกงานที่เขารับทำมา รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่ออกจะเว่อร์ในการไปดูงานประชุมที่ลอนดอน…… ผู้ที่มารับหน้าที่แทนคือ ผู้ที่ชนะการประกวดราคาประมูล ธนาคาร Sberbank ที่มีประธานคือ German Greff (ที่งานนี้ต้องเข้าเนื้อไปอย่างมากมาย เพราะต้องยอมขาดทุน) ~~-ต้องเล่าต่อถึง Akhmed Bilalov ไม่งั้นจะค้างคาในใจ หลังจากที่โดนการตรวจสอบบัญชีแบบเข้ม อาเหมดถูกข้อหาฉ้อโกง คอรัปชั่น ตามมาติดๆ ที่มีโทษถึงจำคุกสี่ถึงสิบปี ไม่ใช่เขาคนเดียว ……แต่พี่น้องสองคนและผู้บริหารทุกคนในบริษัทโดนคดีหมด เขาหนีออกจากรัสเซีย ไม่ไปปรากฏตัวที่ศาลโดยอ้างว่าจะถูกคุกคามเอาชีวิต เพราะในที่ทำงานของเขามีร่องรอยของผงยาพิษ เขาหนีไปที่เยอรมัน และ ไปปักหลักที่ฟลอริดา, สหรัฐอเมริกา ที่เขาถูกจับกุมเพราะไม่มีเอกสารการอนุญาตให้ต่อวีซ่า (2019) ที่ตามกฏแล้ว……เขาอาจจะต้องส่งกลับไปที่รัสเซีย แต่จากนั้น ข่าวของเขาก็เงียบหายไป……… รัสเซียได้ทวงถามไปที่อเมริกา….ก็ไม่ได้รับคำตอบอะไร เชื่อว่า…คงใช้เงินซื้อเส้นทางใบเขียวไปแล้ว.. Wiwanda W. Vichit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุณติ่งๆคะ………ที่พวกเราผ่านพบเห็นกันมาในเมืองไทย พี่ปูเขาก็ผ่านเส้นทางนี้มาเหมือนกันค่าาาา………!!!

    ตอนยี่สิบ……คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ………แคร์ที่ไหน..?!!!

    ในช่วงที่เมดเวเดฟเป็นประธานาธิบดีนั้น เขาเข้าขากันได้ดีกับบารัค โอบามา ที่มีการลงนามในสัญญาค้าขายต่อกัน เปิดโปรแกรมรับนักลงทุนต่างชาติใหม่ (ที่ปูตินปิดไปเมื่อ 2009)
    ในการประชุม World Trade Organization ที่ Davos ปลายปี 2010 เมดเวเดฟที่เตรียมคำตอบไว้มากมายเกี่ยวกับการตลาดที่จะตอบนักข่าว….
    แต่…เขาโดนถามในสิ่งที่เขาไม่มีความรู้ที่จะตอบให้ นั่นคือ
    ทางรัสเซียมีนโยบายอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องการลุกฮือของกลุ่มชาติอาหรับ (Arab Spring) ที่ต่อต้าน Qaddafi (ลิเบีย) และHosni Mubarak (อียิบต์)
    เขาตอบไปอย่างที่นักประชาธิปไตย ควรจะตอบ นั่นคือ เพราะ
    การที่รัฐบาลไม่ตอบสนองกับความต้องการของประชาชน…!!!

    ซึ่งนั่นคือการผิดพลาดมหันต์……ในฐานะผู้นำรัสเซียที่รัฐบาลเคยผ่านการปราบม๊อบมาสารพัดชนิด และแต่ละรายก็ไม่พ้นการเข้าทุบตี และ จับเข้าคุกไปทุกครั้ง
    คราวนี้จะมาทำโลกสวย….
    เล่นเอา……ปูตินที่กำลังวุ่นอยู่ที่ Sochi ถึงกับกุมขมับ……

    แถม……ข้อความของเมดเวเดฟ……รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา (ในเวลานั้น) คือ Joe Biden โดดรับลูกทันที……เขาเอาคำพูดของเมดเวเดฟไปใช้ในอภิปรายที่ Moscow State University ในเดือนมีนาคม 2011 โดยว่า…
    “ประชาชนชาวรัสเซียส่วนใหญ่ย่อมต้องการสิทธิในการเลือกผู้นำเหมือนอย่างชาติอื่นๆ เขาต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ในประเทศที่มีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออก และต้องการสื่อที่เป็นกระบอกเสียงในการที่จะต่อสู้กับการคอรัปชั่น…เพราะนั่นคือ การเป็นกิ่งใบของต้นประชาธิปไตย ผมใคร่วิงวอนนักศึกษาในวันนี้อย่ารับความเป็นประชาธิปไตยแบบครึ่งๆกลางๆ อย่าเชื่อในสัญญามาร..(Faustian bargain) …”

    ~~~คงไม่ต้องสงสัยเลยนะคะ ว่า ทำไมปูตินถึงได้แค้นฝังหุ่นกับโจ ไบเดน…และ อเมริกา…

    แต่เบื้องหลังฉาก การมาของโจ ไบเดน คือการหนีบเมดเวเดฟ
    เข้าไปเป็นพวกในสนธิสัญญาร่วมรบ กับกลุ่มนาโต้ เพื่อที่จะส่งทหารไปช่วยในลิเบีย และร่วมในการปิดน่านฟ้า เพื่อขจัด
    กัดดาฟี
    เมดเวเดฟ……ตกบันไดพลอยโจน เพราะคำพูดของตัวเองที่ค้ำคออยู่ จึงตกลงตามนั้น

    ปูตินได้มองเห็นแล้วว่าเมดเวเดฟกำลังตกหลุมพรางของกลุ่มตะวันตก เพราะเขายังอ่อนประสบการณ์ ไม่เคยเป็น KGB เป็นคนโลกสวย และ ชื่นชอบแสงสีวัฒนธรรมตะวันตกอย่าง ฝรั่งเศส อิตาลี และพอมีโอบามาเป็นเกลอเข้าหน่อย เลยเป็นปลื้ม……
    เขาจึงเรียกมาดุแกมเตือนว่า……เรื่องการลุกฮือโดยการปั่นของอเมริกา จะไม่หยุดลงแค่นี้แน่นอน เพราะมันได้กลายเป็นนโนบายหลักของพญาอินทรีย์ที่จะต้องสร้างความแตกแยกในตะวันออกกลาง
    เขาได้บอกกับเมดเวเดฟต่อ……ว่า…
    “ย้อนกลับไปดูอดีตนะ ถ้ามีเวลาค้นคว้า……ว่า กลุ่มชาวอิหร่าน
    ที่ก่อกบฎขึ้นมา ด้วยการนำของโคไมนี่ (Khomeini) แล้วไอ้โคไมนี่คนนี้….เค้าอยู่ที่ไหน…จะบอกให้……เค้านอนเล่นเดินสบายอยู่ที่ฝรั่งเศส
    รอรับนโยบายจากพวกตะวันตกเอามาปั่นยุแยง……แล้วไงล่ะ
    ดาบนั้นคืนสนอง ตอนนี้อิหร่านมีนิวเคลียร์เป็นของตัวเอง…สมน้ำหน้า…และสิ่งที่ตะวันตกทำนั้น ไม่ใช่ว่าจะเรียกร้องประชาธิปไตยให้กับประชาชนเสียเมื่อไหร่ ถ้าดูในประวัติศาสตร์ในยุคกลาง…เขาทำมาแล้ว ในเรื่องชักชวนพวกเพื่อนบ้านออกไปรวมกันแล้วไปตีบ้านอื่น……ในยุคนั้นเขาเรียกว่า Crusade….ตอนนี้ก็เหมือนเดิม เขาเรียกว่า “กองทัพนาโต้”
    ที่มีวัตถุประสงค์ทำเพื่อให้กัดดาฟี่หัวแข็งลงจากอำนาจ
    เพื่อที่จะเอากลุ่มที่ตัวเองสนับสนุนขึ้นมาแทน……มันคือการปล้นประเทศโดยการเปลี่ยนผู้นำเท่านั้น
    แต่…ประชาธิปไตยไม่ได้คืบหน้าไปไหน ประชาชนก็ทำมาหากินแบบอดๆอยากๆเหมือนเดิม ……”

    (~~~ข้อความตรงนี้”โดนใจ” มากค่ะ อธิบายได้หมดถึงความเป็นอเมริกาในทุกวันนี้…)

    ในขณะเดียวกันปูตินก็เริ่มได้กลิ่นไอว่า…สิ่งที่เกิดขึ้นในกลุ่มตะวันออกกลาง……น่าจะเกิดขึ้นในรัสเซียไม่ช้าก็เร็ว…!!!

    แต่เพราะเหตุการณ์ไม่สงบที่เกิดขึ้นเรียงเป็นไข่ปลานี้ สภาได้พิจารณาแล้ว เห็นพ้องกันว่า จะขยายอายุเวลาของประธานาธิบดีไปเป็นหกปี เริ่มจากสมัยหน้าของการเลือกตั้ง
    เพราะรัสเซียเป็นประเทศใหญ่ มีพื้นที่ที่ยังต้องพัฒนาอีกมาก

    ในเดือนพฤษภาคม 2011 เป็นสามปีที่เมดเวเดฟได้อยู่ในตำแหน่ง ผลงานเด่นของเขาคือ ศูนย์เทคโนโลยี Skolkovo ที่สร้างเพื่อให้เท่าเทียมหรือเกินหน้า Silicon Valley ที่ California
    และได้ก่อตั้งกลุ่มการเมืองเป็นของตัวเอง ชื่อ All Russia People’s Front แบบรวบรวมคนรุ่นใหม่ หัวทันสมัย ใฝ่ความเจริญทางประชาธิปไตยและเศรษฐกิจขึ้นมา พุ่งเป้าที่กลุ่มคนเพิ่มเริ่มทำงาน
    เพียงแค่ประกาศ…สมาชิกหลั่งไหลเข้ามาสมัครกันอย่างหนาแน่น ทั้งส่วนตัวและองค์กรต่างๆ
    แต่เมื่อเขาถูกสัมภาษณ์ในนิตยสาร The Financial Times
    ที่ถูกถามว่า….เขาลงสมัครรับเลือกตั้งในสมัยที่สองหรือไม่?
    เขาตอบอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ว่า………มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ “คณะ” แต่โดยทั่วไป.……ประธานาธิบดีย่อมต้องการที่จะลงสนามต่อในครั้งต่อไป…”
    คำตอบกำกวมแบบนั้น ได้ชี้ชัดว่า….เมดเวเดฟ……ไม่ใช่ของจริง…!!

    ส่วน”ของจริง” นั้น ไม่ค่อยออกงาน หรือให้สัมภาษณ์บ่อยๆ แต่ยังคงความนิยมชื่นชอบอย่างไม่เคยจาง เพราะเป็นคนที่ถึงลูกถึงคน ยังไปลั้ลลากิจกรรมกับกลุ่มยุวชน Nashi….ไปสวดมนต์
    ในโบสถ์ ……ไปดำน้ำลึกหาวัตถุโบราณ …
    ยังเรียกเสียงกรี๊ดสลบได้ในทุกความเคลื่อนไหว…

    เมื่อตอนหาเสียงการเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่มี เมดเวเดฟ, ปูติน ,พรรคคอมมิวนิสต์ และ พรรค Liberal Democrats
    ที่คราวนี้ออกจะดุเดือดเลือดพล่าน เพราะ……กลุ่มใต้ดิน และ บนดินที่ต่อต้านการกลับมาของปูตินได้ผนึกกำลังกันอย่างแข็งขัน แบ่งกันเป็นก๊กเล็กก๊กน้อย
    หัวหน้านำคือ Boris Nemtsov นักฟิสิกส์หัวรุนแรง เคยเป็นนักการเมืองในยุคของเยลซินจนมาสู่ผู้แทนในสภาดูมา, Sergei Mironov หัวหน้าพรรค A Just Russia และ Aleksei Navalny ทนายความนักเคลื่อนไหว ต่อต้านคอร์รัปชั่น
    และทั้งหมด……ต่อต้านปูติน

    การต่อต้านได้เริ่มขยายตัวขึ้น และกล้าขึ้น ถึงขนาดกล้าโห่ไล่ปูตินในงานเปิดกีฬาชกมวยในสเตเดี้ยมที่มอสโคว์
    เรื่องการต่อต้านนั้น ปูตินเจอมาเยอะ แต่คราวนี้ฝ่ายตรงข้ามถึงขั้นทำรายการวิทยุที่ใช้ชื่อรายการว่า “หมดยุคของปูตินได้แล้ว” ดำเนินรายการโดย Alexei Navalny (หรือ AN ที่จะใช้ต่อไป)
    และมีการจัดตั้งการชุมนุม พากันเดินขบวนไปที่นั่นที่นี่
    ตำรวจได้เข้าทำการจับกุม AN ในฐานะสร้างความวุ่นวาย จำคุกไปสิบห้าวัน
    แต่เมื่อออกมา เขาได้จัดขบวนใหญ่กว่าเดิม ระดมคนรุ่นใหม่ นักศึกษาที่มากันมากมาย

    ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2012 สิบกว่าวันก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง
    ที่โบสถ์ออโธดอกซ์ Cathedral of Christ the Savoir
    มีผู้หญิงสาวห้าคน ที่ขึ้นไปปีนป่ายบนเสาสลัก ถอดเสื้อโค้ท
    ออก ข้างในแต่งกายสไตล์พั้งค์ แต่สวมหน้ากากหลากสี ……ต่างตะโกนพร้อมกับชูกำปั้นกันไปมา
    เสียงที่ตะโกนดังก้องด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย
    หนึ่งในนั้น คือ Yekaterina Samutsevich (นักดนตรี) กำลังจะเอากีตาร์ขึ้นมาดีด แต่การ์ดได้ดึงตัวเธอออกมาก่อน
    ทั้งหมด……ยังไม่หยุดตะโกน……ปูตินออกไป……ปูตินออกไป……!!
    เป็นเรื่องใหญ่ในข่าวภาคค่ำในคืนนั้น ……ที่สาวไปว่า ต้นตอเหตุมากจากกลุ่มเกย์และเลสเบี้ยนที่ต้องการความเท่าเทียม
    และได้มี กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “***** Riot” (ไปแปลกันเองนะคะ แต่ดิฉันจะเรียกว่า PR)

    กลุ่มนี้มีประมาณสิบกว่าคน ที่ไม่เปิดเผยตัวเอง แต่พร้อมที่จะก่อความวุ่นวายต่อต้านปูตินในวันที่เขาจะประกาศตัวลงชิงประธานาธิบดี แนวการต้านคือ การวาดอวัยวะเพศในที่ต่างๆในกรุงเซนต์ และ มอสโคว์ และ การร่วมเพศ เป็นสัญญลักษณ์
    เช่นออกคลิปการร่วมเพศในที่สำคัญๆอย่างโจ่งแจ้ง

    ปูตินแก้เกมด้วยการ…ไม่พูดถึงเรื่องต่อต้าน แต่เขาประชุมผู้นำของทุกศาสนา เช่น ออโธดอกซ์,ยิว, พุทธ, อิสลาม และ คาธอลิก แม้แต่ Seventhday Adventists ให้มาร่วมรับฟังความเห็นที่ Danilov Monastery โดยมีพระอธิการ Kirill เป็นองค์ประธาน
    ที่ทั้งหมดได้แสดงความเสียใจกับการต่อต้านที่หยาบคาย ลบหลู่สถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และ เป็นสิ่งที่รับไม่ได้…
    ปูตินไม่ต้องทำอะไร……เพียงแต่ช่วยทำข่าวให้กระจายออกไป
    กลุ่มต่อต้านได้รับคำตำหนิและรังเกียจเดียดฉันท์จากประชาชนกลับไปอย่างมากมาย

    จากนั้น ปูตินยังใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวด้วยการที่จัดกิจกรรมรักชาติ ขึ้นที่โน่นที่นี่
    จนถึงวันที่ 4 มีนาคม วันเลือกตั้ง เขาได้ประกาศชัยชนะด้วยการรับคะแนนเสียงถึง 63%
    นั่นคือ การกลับมาอย่างสง่าผ่าเผยของปูติน ……
    ที่ฝ่ายก่อกวนเจ้าเก่า AN ที่นำผู้ชุมนุมกว่าสองพันคนข้างนอกนั้น ถึงกับหัวเสียด้วยความผิดหวัง
    ส่วน Sergei Udaltsov หัวหอกการต่อต้าน……ไม่ยอมแพ้ เขาสั่งให้ทุกคนเตรียมตัวตั้งเต้นท์นอนบนถนน (ตามแบบการประท้วงที่เคียฟ, ยูเครนในปี 2004)
    ข่าวทางรัฐบาลได้ออกมาอย่างน่ารัก น่าเอ็นดู ……ว่า
    “ผู้ชุมนุมก็เปรียบเสมือนลูกๆที่มีนิสัยเสีย ไม่ได้อะไรดังใจก็ฟาดหัวฟาดหาง เราก็เปรียบเสมือนพ่อแม่ที่ไม่ตามใจ
    เราไม่รีบไปซื้อของเล่นให้ …แต่จะสอนให้ไปสนใจเล่นอย่างอื่นที่มีประโยชน์แทน……”

    ของเล่นที่มีประโยชน์ที่พวกชุมชุมได้รับตอนที่ตั้งเต้นท์ไม่ทันเสร็จ……คือ ตำรวจพร้อมกระบองได้เข้าบุกแบบถึงพริกถึงขิง จับเข้าคุกนับร้อย บาดเจ็บหลายสิบ
    ถนนในมอสโคว์….โล่งสะอาดในวันต่อมา….!!!!


    Wiwanda W. Vichit
    คุณติ่งๆคะ………ที่พวกเราผ่านพบเห็นกันมาในเมืองไทย พี่ปูเขาก็ผ่านเส้นทางนี้มาเหมือนกันค่าาาา………!!! ตอนยี่สิบ……คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ………แคร์ที่ไหน..?!!! ในช่วงที่เมดเวเดฟเป็นประธานาธิบดีนั้น เขาเข้าขากันได้ดีกับบารัค โอบามา ที่มีการลงนามในสัญญาค้าขายต่อกัน เปิดโปรแกรมรับนักลงทุนต่างชาติใหม่ (ที่ปูตินปิดไปเมื่อ 2009) ในการประชุม World Trade Organization ที่ Davos ปลายปี 2010 เมดเวเดฟที่เตรียมคำตอบไว้มากมายเกี่ยวกับการตลาดที่จะตอบนักข่าว…. แต่…เขาโดนถามในสิ่งที่เขาไม่มีความรู้ที่จะตอบให้ นั่นคือ ทางรัสเซียมีนโยบายอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องการลุกฮือของกลุ่มชาติอาหรับ (Arab Spring) ที่ต่อต้าน Qaddafi (ลิเบีย) และHosni Mubarak (อียิบต์) เขาตอบไปอย่างที่นักประชาธิปไตย ควรจะตอบ นั่นคือ เพราะ การที่รัฐบาลไม่ตอบสนองกับความต้องการของประชาชน…!!! ซึ่งนั่นคือการผิดพลาดมหันต์……ในฐานะผู้นำรัสเซียที่รัฐบาลเคยผ่านการปราบม๊อบมาสารพัดชนิด และแต่ละรายก็ไม่พ้นการเข้าทุบตี และ จับเข้าคุกไปทุกครั้ง คราวนี้จะมาทำโลกสวย…. เล่นเอา……ปูตินที่กำลังวุ่นอยู่ที่ Sochi ถึงกับกุมขมับ…… แถม……ข้อความของเมดเวเดฟ……รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา (ในเวลานั้น) คือ Joe Biden โดดรับลูกทันที……เขาเอาคำพูดของเมดเวเดฟไปใช้ในอภิปรายที่ Moscow State University ในเดือนมีนาคม 2011 โดยว่า… “ประชาชนชาวรัสเซียส่วนใหญ่ย่อมต้องการสิทธิในการเลือกผู้นำเหมือนอย่างชาติอื่นๆ เขาต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ในประเทศที่มีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออก และต้องการสื่อที่เป็นกระบอกเสียงในการที่จะต่อสู้กับการคอรัปชั่น…เพราะนั่นคือ การเป็นกิ่งใบของต้นประชาธิปไตย ผมใคร่วิงวอนนักศึกษาในวันนี้อย่ารับความเป็นประชาธิปไตยแบบครึ่งๆกลางๆ อย่าเชื่อในสัญญามาร..(Faustian bargain) …” ~~~คงไม่ต้องสงสัยเลยนะคะ ว่า ทำไมปูตินถึงได้แค้นฝังหุ่นกับโจ ไบเดน…และ อเมริกา… แต่เบื้องหลังฉาก การมาของโจ ไบเดน คือการหนีบเมดเวเดฟ เข้าไปเป็นพวกในสนธิสัญญาร่วมรบ กับกลุ่มนาโต้ เพื่อที่จะส่งทหารไปช่วยในลิเบีย และร่วมในการปิดน่านฟ้า เพื่อขจัด กัดดาฟี เมดเวเดฟ……ตกบันไดพลอยโจน เพราะคำพูดของตัวเองที่ค้ำคออยู่ จึงตกลงตามนั้น ปูตินได้มองเห็นแล้วว่าเมดเวเดฟกำลังตกหลุมพรางของกลุ่มตะวันตก เพราะเขายังอ่อนประสบการณ์ ไม่เคยเป็น KGB เป็นคนโลกสวย และ ชื่นชอบแสงสีวัฒนธรรมตะวันตกอย่าง ฝรั่งเศส อิตาลี และพอมีโอบามาเป็นเกลอเข้าหน่อย เลยเป็นปลื้ม…… เขาจึงเรียกมาดุแกมเตือนว่า……เรื่องการลุกฮือโดยการปั่นของอเมริกา จะไม่หยุดลงแค่นี้แน่นอน เพราะมันได้กลายเป็นนโนบายหลักของพญาอินทรีย์ที่จะต้องสร้างความแตกแยกในตะวันออกกลาง เขาได้บอกกับเมดเวเดฟต่อ……ว่า… “ย้อนกลับไปดูอดีตนะ ถ้ามีเวลาค้นคว้า……ว่า กลุ่มชาวอิหร่าน ที่ก่อกบฎขึ้นมา ด้วยการนำของโคไมนี่ (Khomeini) แล้วไอ้โคไมนี่คนนี้….เค้าอยู่ที่ไหน…จะบอกให้……เค้านอนเล่นเดินสบายอยู่ที่ฝรั่งเศส รอรับนโยบายจากพวกตะวันตกเอามาปั่นยุแยง……แล้วไงล่ะ ดาบนั้นคืนสนอง ตอนนี้อิหร่านมีนิวเคลียร์เป็นของตัวเอง…สมน้ำหน้า…และสิ่งที่ตะวันตกทำนั้น ไม่ใช่ว่าจะเรียกร้องประชาธิปไตยให้กับประชาชนเสียเมื่อไหร่ ถ้าดูในประวัติศาสตร์ในยุคกลาง…เขาทำมาแล้ว ในเรื่องชักชวนพวกเพื่อนบ้านออกไปรวมกันแล้วไปตีบ้านอื่น……ในยุคนั้นเขาเรียกว่า Crusade….ตอนนี้ก็เหมือนเดิม เขาเรียกว่า “กองทัพนาโต้” ที่มีวัตถุประสงค์ทำเพื่อให้กัดดาฟี่หัวแข็งลงจากอำนาจ เพื่อที่จะเอากลุ่มที่ตัวเองสนับสนุนขึ้นมาแทน……มันคือการปล้นประเทศโดยการเปลี่ยนผู้นำเท่านั้น แต่…ประชาธิปไตยไม่ได้คืบหน้าไปไหน ประชาชนก็ทำมาหากินแบบอดๆอยากๆเหมือนเดิม ……” (~~~ข้อความตรงนี้”โดนใจ” มากค่ะ อธิบายได้หมดถึงความเป็นอเมริกาในทุกวันนี้…) ในขณะเดียวกันปูตินก็เริ่มได้กลิ่นไอว่า…สิ่งที่เกิดขึ้นในกลุ่มตะวันออกกลาง……น่าจะเกิดขึ้นในรัสเซียไม่ช้าก็เร็ว…!!! แต่เพราะเหตุการณ์ไม่สงบที่เกิดขึ้นเรียงเป็นไข่ปลานี้ สภาได้พิจารณาแล้ว เห็นพ้องกันว่า จะขยายอายุเวลาของประธานาธิบดีไปเป็นหกปี เริ่มจากสมัยหน้าของการเลือกตั้ง เพราะรัสเซียเป็นประเทศใหญ่ มีพื้นที่ที่ยังต้องพัฒนาอีกมาก ในเดือนพฤษภาคม 2011 เป็นสามปีที่เมดเวเดฟได้อยู่ในตำแหน่ง ผลงานเด่นของเขาคือ ศูนย์เทคโนโลยี Skolkovo ที่สร้างเพื่อให้เท่าเทียมหรือเกินหน้า Silicon Valley ที่ California และได้ก่อตั้งกลุ่มการเมืองเป็นของตัวเอง ชื่อ All Russia People’s Front แบบรวบรวมคนรุ่นใหม่ หัวทันสมัย ใฝ่ความเจริญทางประชาธิปไตยและเศรษฐกิจขึ้นมา พุ่งเป้าที่กลุ่มคนเพิ่มเริ่มทำงาน เพียงแค่ประกาศ…สมาชิกหลั่งไหลเข้ามาสมัครกันอย่างหนาแน่น ทั้งส่วนตัวและองค์กรต่างๆ แต่เมื่อเขาถูกสัมภาษณ์ในนิตยสาร The Financial Times ที่ถูกถามว่า….เขาลงสมัครรับเลือกตั้งในสมัยที่สองหรือไม่? เขาตอบอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ว่า………มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ “คณะ” แต่โดยทั่วไป.……ประธานาธิบดีย่อมต้องการที่จะลงสนามต่อในครั้งต่อไป…” คำตอบกำกวมแบบนั้น ได้ชี้ชัดว่า….เมดเวเดฟ……ไม่ใช่ของจริง…!! ส่วน”ของจริง” นั้น ไม่ค่อยออกงาน หรือให้สัมภาษณ์บ่อยๆ แต่ยังคงความนิยมชื่นชอบอย่างไม่เคยจาง เพราะเป็นคนที่ถึงลูกถึงคน ยังไปลั้ลลากิจกรรมกับกลุ่มยุวชน Nashi….ไปสวดมนต์ ในโบสถ์ ……ไปดำน้ำลึกหาวัตถุโบราณ … ยังเรียกเสียงกรี๊ดสลบได้ในทุกความเคลื่อนไหว… เมื่อตอนหาเสียงการเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่มี เมดเวเดฟ, ปูติน ,พรรคคอมมิวนิสต์ และ พรรค Liberal Democrats ที่คราวนี้ออกจะดุเดือดเลือดพล่าน เพราะ……กลุ่มใต้ดิน และ บนดินที่ต่อต้านการกลับมาของปูตินได้ผนึกกำลังกันอย่างแข็งขัน แบ่งกันเป็นก๊กเล็กก๊กน้อย หัวหน้านำคือ Boris Nemtsov นักฟิสิกส์หัวรุนแรง เคยเป็นนักการเมืองในยุคของเยลซินจนมาสู่ผู้แทนในสภาดูมา, Sergei Mironov หัวหน้าพรรค A Just Russia และ Aleksei Navalny ทนายความนักเคลื่อนไหว ต่อต้านคอร์รัปชั่น และทั้งหมด……ต่อต้านปูติน การต่อต้านได้เริ่มขยายตัวขึ้น และกล้าขึ้น ถึงขนาดกล้าโห่ไล่ปูตินในงานเปิดกีฬาชกมวยในสเตเดี้ยมที่มอสโคว์ เรื่องการต่อต้านนั้น ปูตินเจอมาเยอะ แต่คราวนี้ฝ่ายตรงข้ามถึงขั้นทำรายการวิทยุที่ใช้ชื่อรายการว่า “หมดยุคของปูตินได้แล้ว” ดำเนินรายการโดย Alexei Navalny (หรือ AN ที่จะใช้ต่อไป) และมีการจัดตั้งการชุมนุม พากันเดินขบวนไปที่นั่นที่นี่ ตำรวจได้เข้าทำการจับกุม AN ในฐานะสร้างความวุ่นวาย จำคุกไปสิบห้าวัน แต่เมื่อออกมา เขาได้จัดขบวนใหญ่กว่าเดิม ระดมคนรุ่นใหม่ นักศึกษาที่มากันมากมาย ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2012 สิบกว่าวันก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ที่โบสถ์ออโธดอกซ์ Cathedral of Christ the Savoir มีผู้หญิงสาวห้าคน ที่ขึ้นไปปีนป่ายบนเสาสลัก ถอดเสื้อโค้ท ออก ข้างในแต่งกายสไตล์พั้งค์ แต่สวมหน้ากากหลากสี ……ต่างตะโกนพร้อมกับชูกำปั้นกันไปมา เสียงที่ตะโกนดังก้องด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย หนึ่งในนั้น คือ Yekaterina Samutsevich (นักดนตรี) กำลังจะเอากีตาร์ขึ้นมาดีด แต่การ์ดได้ดึงตัวเธอออกมาก่อน ทั้งหมด……ยังไม่หยุดตะโกน……ปูตินออกไป……ปูตินออกไป……!! เป็นเรื่องใหญ่ในข่าวภาคค่ำในคืนนั้น ……ที่สาวไปว่า ต้นตอเหตุมากจากกลุ่มเกย์และเลสเบี้ยนที่ต้องการความเท่าเทียม และได้มี กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “Pussy Riot” (ไปแปลกันเองนะคะ แต่ดิฉันจะเรียกว่า PR) กลุ่มนี้มีประมาณสิบกว่าคน ที่ไม่เปิดเผยตัวเอง แต่พร้อมที่จะก่อความวุ่นวายต่อต้านปูตินในวันที่เขาจะประกาศตัวลงชิงประธานาธิบดี แนวการต้านคือ การวาดอวัยวะเพศในที่ต่างๆในกรุงเซนต์ และ มอสโคว์ และ การร่วมเพศ เป็นสัญญลักษณ์ เช่นออกคลิปการร่วมเพศในที่สำคัญๆอย่างโจ่งแจ้ง ปูตินแก้เกมด้วยการ…ไม่พูดถึงเรื่องต่อต้าน แต่เขาประชุมผู้นำของทุกศาสนา เช่น ออโธดอกซ์,ยิว, พุทธ, อิสลาม และ คาธอลิก แม้แต่ Seventhday Adventists ให้มาร่วมรับฟังความเห็นที่ Danilov Monastery โดยมีพระอธิการ Kirill เป็นองค์ประธาน ที่ทั้งหมดได้แสดงความเสียใจกับการต่อต้านที่หยาบคาย ลบหลู่สถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และ เป็นสิ่งที่รับไม่ได้… ปูตินไม่ต้องทำอะไร……เพียงแต่ช่วยทำข่าวให้กระจายออกไป กลุ่มต่อต้านได้รับคำตำหนิและรังเกียจเดียดฉันท์จากประชาชนกลับไปอย่างมากมาย จากนั้น ปูตินยังใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวด้วยการที่จัดกิจกรรมรักชาติ ขึ้นที่โน่นที่นี่ จนถึงวันที่ 4 มีนาคม วันเลือกตั้ง เขาได้ประกาศชัยชนะด้วยการรับคะแนนเสียงถึง 63% นั่นคือ การกลับมาอย่างสง่าผ่าเผยของปูติน …… ที่ฝ่ายก่อกวนเจ้าเก่า AN ที่นำผู้ชุมนุมกว่าสองพันคนข้างนอกนั้น ถึงกับหัวเสียด้วยความผิดหวัง ส่วน Sergei Udaltsov หัวหอกการต่อต้าน……ไม่ยอมแพ้ เขาสั่งให้ทุกคนเตรียมตัวตั้งเต้นท์นอนบนถนน (ตามแบบการประท้วงที่เคียฟ, ยูเครนในปี 2004) ข่าวทางรัฐบาลได้ออกมาอย่างน่ารัก น่าเอ็นดู ……ว่า “ผู้ชุมนุมก็เปรียบเสมือนลูกๆที่มีนิสัยเสีย ไม่ได้อะไรดังใจก็ฟาดหัวฟาดหาง เราก็เปรียบเสมือนพ่อแม่ที่ไม่ตามใจ เราไม่รีบไปซื้อของเล่นให้ …แต่จะสอนให้ไปสนใจเล่นอย่างอื่นที่มีประโยชน์แทน……” ของเล่นที่มีประโยชน์ที่พวกชุมชุมได้รับตอนที่ตั้งเต้นท์ไม่ทันเสร็จ……คือ ตำรวจพร้อมกระบองได้เข้าบุกแบบถึงพริกถึงขิง จับเข้าคุกนับร้อย บาดเจ็บหลายสิบ ถนนในมอสโคว์….โล่งสะอาดในวันต่อมา….!!!! Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 511 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ยิ่งตอกย้ำการทำเป็นขบวนการ
    #เปิดความจริงที่ไม่มีใครรู้หรือรู้แต่ไม่กล้าพูด
    #คิงส์โพธิ์แดงที่นี่ที่เดียว
    การที่ช่องตต.ของน้องๆที่รักและเอ็นดูน้องแน๊ก
    โดนทาหล่ม จนปลิว ปรากฏการนี้ ทุนไม่หนาจริง ทำไม่ได้
    ในห้อง DC นอกเหนือจากมีคนที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว
    ที่หาที่พึ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ด้วยการโอ้โลมปฏิโลมของโจมณฑนีแล้ว
    ก็ยังมี ตัวใหญ่แห่งเว็บออนไลน์ ลงท้ายด้วย 888
    ซึ่งตอนนี้ รับสมัครปกม.สายเทาแบบไม่อั้น
    สร้างอณาจักรที่ปอยเปรด ตึกอลังยิ่งกว่าตึกชิน
    เพื่อการรองรับ คอมเพล็ก ที่จะเปลี่ยนประเทศไทย
    ให้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งการซักอบรีดเงินดาร์คให้ขาว
    ผ่านแพลตฟอร์ม หนึ่งในนั้นคือ ตต.
    แต่หากตต. ไม่มีบิ๊กแม็ต กระบวนการฟอกจะทำไมได้
    เพราะมันจะเห็นการเข้าออกของเงินจำนวนมหาศาลอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
    จะอ้างไม่ได้ว่า เป็นรายได้จากการได้รับของขวัญ
    ตกแต่ง บช. ไม่ได้ ดังนั้น การที่ต้องมีตัวละครที่คนสนใจจริงๆเท่านั้น
    จึงเป็นสิ่งสำคัญ และที่ผ่านมา ชาลีไม่เอาบิ๊กแม๊ต แต่อิเหวิง
    จัดถี่ จัดบ่อย ทำให้สภาพคล่องของเงินดาร์คเปลี่ยนลบเป็นบวกขึ้นทันตา
    จึงมีเอเจนซี่ มากหน้าหลายตา แห่มาเปิดและติดต่อ ตต.เกอร์ไทย
    รวมถึง มีดาราตกกระป๋องบางคน ก็มีความ want ไปติดต่อขอสร้างทีมเองด้วยซ้ำ บินไปดิลตปท.ก็เอา
    แต่อุปสรรค ดันมาเกิดที่ มีเพจหน้ากาก ชื่อคิงส์โพธิ์แดงมาจากไหนไม่ทราบได้ มาเปิด มาขุด โฉ่งฉ่าง ทำให้ลูกจ้างระดับหัวอย่างโจมณฑนี ยังต้องหลบไปตั้งหลักถึงสามวัน เพื่อไปหาแนวทางร่วมกับเอเจนซี่ และกลุ่มทุนดาร์ค
    เพื่อแก้เกมส์กันอุตหลุด
    - ขั้นตอนแรก โพส ข่มขวัญ ว่าอย่านะ คิงส์ อย่านะ คนนนั้นคนนี้
    ผลปรากฏ หยุดไม่ได้
    - ขั้นตอนที่สอง โพส ข่มขวัญ ด้านกฏหม-าย ต้มเดชา ว่าจะจ้าง สุดท้าย ได้เป็นข่าวแล้วเทพี่เด
    ผลปรากฏ หยุดไม่ได้
    - ให้ลิ่วล้อ นำโดยไอ่เป็ด มาป่วน ตามช่อง ตามเพจ ส่งข้อความว่าจะเล่นด้านกฏห-มาย
    ผลปรากฏ หยุดไม่ได้
    - เปลี่ยนเวย์มาเล่นหน้าบ้านอย่างหลังบ้านอย่าง โดนด้านหน้าต้องหยุดเล่นชาลี แต่ ให้หลังบ้าน โจ เป็ด โดยได้รับการสนับสนุนจากเจ้าพ่อเว็บออนไลน์ลงท้ายด้วย 888 ซึ่งมีระบบพวกนี้อยู่แล้ว ลงทุนระดับ 1000 ล้าน เพราะที่คนเข้าใจผิดว่า ก็แค่ซื้อไว้ปั๊ม ไลค์ ไม่กี่ตังค์ คุณกำลังเข้าใจผิด นี่คือการสร้างแอค และสั่งการแอค ด้วยระบบที่ใช้มือถือหรือคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กจำนวนมหาศาล เฉพาะระบบวางเน็ตเวิร์คก็หลายสิบล้าน เซิฟเวอร์ตัวละ 3 ล้าน จำนวนมหาศาล เพราะต้องเก็บคุกกี้ ของทุกแพลตฟอร์ม สามารถสั่งการโดยกำหนดจำนวนบอทที่จะลงไปปฏิบัติงาน กดไลค์ได้ ได้ทุกไอคอน สั่งวิวได้ คอมเม้น และสร้างเทรนได้ ด้วยพิมพ์ # ตามด้วยสิ่งที่ต้องการพร้อมๆกัน สั่งจำนวน แค่นี้ เทรนก็ขึ้น แต่การขึ้นพร้อมกัน ในจำนวนหลักแสน ในภาวะที่เอไอ ของx ก็พัฒนาลง เพราะต้องการมียูซแข่งกับแอพฟ้า เลยเปิดให้มีการปั๊มยูซผี แบบไม่ปิดกั้น ก็ยิ่งทำให้พวกนี้ทำได้ง่าย ปั้นเทรนง่าย และการลงทุนนี้ ก็มีไว้สำหรับการปั่นวิวตต.ในอนาคตในระหว่างพีเค เพื่อทำให้เหมือนมีคนดูเยอะเพียงพอในระหว่างพีเค เพื่อสอดแทรกเงินดาร์คเข้าระบบ และมีการปล่อยของขวัญ 5 - 10% ของเงินดาร์ค แต่แต่งบช อ้างว่า ได้มา 100 แล้วถอนเหรีญออกมาเป็นเงินสะอาดทั้งหมด
    -ทุนดาร์คข้ามชาติรวมกับเจ้าพ่อเว็บออนไลน์ลงท้าย888 จึงเกิดอภิมหาป่วนทั่วโซเชียล ตต.ของน้องที่ทำช่องหลายคน ปลิว อย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน แม้แอฟฟ้า จะมีระบบเอไอที่แกร่งสุด ณ เวลานี้ แต่ด้วยการอัดงบมหาศาล ก็มีผล แม้แต่เพจคิงส์เอง เพจใหม่ปลิวไปสามสี่รอบ แต่ทีมงานเราก็กู้กลับคืนมาได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่การมองเห็นอาจดร็อปลง แฟนเพจต้องเข้ามาในเพจเพื่ออัพเดทข้อมูลเอง ถึงจะเห็น
    -และโจมณฑนี เป็นเซ็นเตอร์ ในการวางแผน มีขี้ ข้า อย่างคนชีวิตกากๆ ไรเดอร์ที่ต้องหนีหัวซุกหัวซุนจากการบิดลูกค้า ชีวิตที่ไม่มีอะไรจะเสีย มาเป็นคนคอนโทลบอท บอกเป้าในการปฏิบัติการ มีโจมณฑนี สร้างชุดข้อความเป็นมาสเตอร์ นำไปเจนเอไอ ให้มีความหมายใกล้เคียงแบบไม่ซ้ำใน gpt จนทำให้ สื่อไทยหลายสำนัก โดนต้ม ตามไม่ทัน งงๆกับกระแส ที่สวนทางกับความจริง
    ดังนั้น พี่คิงส์ต้องบอกว่า การต่อสู้ครั้งนี้ เป็นเรื่องของความดีกับความซั่ว
    ที่เราชาวโซเชียลไทย ต้องรวมพลัง ในการปกป้องอธิปไตยของชาติ
    สกัดกั้น กลุ่มทุนดาร์ค และการฟอกของ เจ้าพ่อเว็บออนไลน์ลงท้าย 888
    และยังมีตัวละครอีกหลายตัว
    ท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ อาจเข้าใจว่า นี่คือทั้งหมดแล้วพี่คิงส์ตอบเลยว่า ยังไม่ถึงครึ่งของความจริงทั้งหมดที่มี
    เดี๋ยวจะมาเปิดความจริงในโพสต่อๆไป
    ขอแนะนำ ให้น้องๆที่ทำตต. และทุกแพลตฟอร์ม ให้สร้างช่องอีกจำนวนมากๆ ไว้รอ ขนาดช่องน้องแน๊ก ก็ยังได้รับผลกระทบ
    ปลิว กลางอากาศ
    พี่คิงส์เชื่อในความดี ที่ชนะสิ่งซั่วร้ายเสมอ
    โลก เป็นแบบนี้เสมอมา และจะตลอดไป
    ขอเป็นกำลังใจให้กับนักสู้ทุกคน
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ยิ่งตอกย้ำการทำเป็นขบวนการ #เปิดความจริงที่ไม่มีใครรู้หรือรู้แต่ไม่กล้าพูด #คิงส์โพธิ์แดงที่นี่ที่เดียว การที่ช่องตต.ของน้องๆที่รักและเอ็นดูน้องแน๊ก โดนทาหล่ม จนปลิว ปรากฏการนี้ ทุนไม่หนาจริง ทำไม่ได้ ในห้อง DC นอกเหนือจากมีคนที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่หาที่พึ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ด้วยการโอ้โลมปฏิโลมของโจมณฑนีแล้ว ก็ยังมี ตัวใหญ่แห่งเว็บออนไลน์ ลงท้ายด้วย 888 ซึ่งตอนนี้ รับสมัครปกม.สายเทาแบบไม่อั้น สร้างอณาจักรที่ปอยเปรด ตึกอลังยิ่งกว่าตึกชิน เพื่อการรองรับ คอมเพล็ก ที่จะเปลี่ยนประเทศไทย ให้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งการซักอบรีดเงินดาร์คให้ขาว ผ่านแพลตฟอร์ม หนึ่งในนั้นคือ ตต. แต่หากตต. ไม่มีบิ๊กแม็ต กระบวนการฟอกจะทำไมได้ เพราะมันจะเห็นการเข้าออกของเงินจำนวนมหาศาลอย่างไม่เป็นธรรมชาติ จะอ้างไม่ได้ว่า เป็นรายได้จากการได้รับของขวัญ ตกแต่ง บช. ไม่ได้ ดังนั้น การที่ต้องมีตัวละครที่คนสนใจจริงๆเท่านั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญ และที่ผ่านมา ชาลีไม่เอาบิ๊กแม๊ต แต่อิเหวิง จัดถี่ จัดบ่อย ทำให้สภาพคล่องของเงินดาร์คเปลี่ยนลบเป็นบวกขึ้นทันตา จึงมีเอเจนซี่ มากหน้าหลายตา แห่มาเปิดและติดต่อ ตต.เกอร์ไทย รวมถึง มีดาราตกกระป๋องบางคน ก็มีความ want ไปติดต่อขอสร้างทีมเองด้วยซ้ำ บินไปดิลตปท.ก็เอา แต่อุปสรรค ดันมาเกิดที่ มีเพจหน้ากาก ชื่อคิงส์โพธิ์แดงมาจากไหนไม่ทราบได้ มาเปิด มาขุด โฉ่งฉ่าง ทำให้ลูกจ้างระดับหัวอย่างโจมณฑนี ยังต้องหลบไปตั้งหลักถึงสามวัน เพื่อไปหาแนวทางร่วมกับเอเจนซี่ และกลุ่มทุนดาร์ค เพื่อแก้เกมส์กันอุตหลุด - ขั้นตอนแรก โพส ข่มขวัญ ว่าอย่านะ คิงส์ อย่านะ คนนนั้นคนนี้ ผลปรากฏ หยุดไม่ได้ - ขั้นตอนที่สอง โพส ข่มขวัญ ด้านกฏหม-าย ต้มเดชา ว่าจะจ้าง สุดท้าย ได้เป็นข่าวแล้วเทพี่เด ผลปรากฏ หยุดไม่ได้ - ให้ลิ่วล้อ นำโดยไอ่เป็ด มาป่วน ตามช่อง ตามเพจ ส่งข้อความว่าจะเล่นด้านกฏห-มาย ผลปรากฏ หยุดไม่ได้ - เปลี่ยนเวย์มาเล่นหน้าบ้านอย่างหลังบ้านอย่าง โดนด้านหน้าต้องหยุดเล่นชาลี แต่ ให้หลังบ้าน โจ เป็ด โดยได้รับการสนับสนุนจากเจ้าพ่อเว็บออนไลน์ลงท้ายด้วย 888 ซึ่งมีระบบพวกนี้อยู่แล้ว ลงทุนระดับ 1000 ล้าน เพราะที่คนเข้าใจผิดว่า ก็แค่ซื้อไว้ปั๊ม ไลค์ ไม่กี่ตังค์ คุณกำลังเข้าใจผิด นี่คือการสร้างแอค และสั่งการแอค ด้วยระบบที่ใช้มือถือหรือคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กจำนวนมหาศาล เฉพาะระบบวางเน็ตเวิร์คก็หลายสิบล้าน เซิฟเวอร์ตัวละ 3 ล้าน จำนวนมหาศาล เพราะต้องเก็บคุกกี้ ของทุกแพลตฟอร์ม สามารถสั่งการโดยกำหนดจำนวนบอทที่จะลงไปปฏิบัติงาน กดไลค์ได้ ได้ทุกไอคอน สั่งวิวได้ คอมเม้น และสร้างเทรนได้ ด้วยพิมพ์ # ตามด้วยสิ่งที่ต้องการพร้อมๆกัน สั่งจำนวน แค่นี้ เทรนก็ขึ้น แต่การขึ้นพร้อมกัน ในจำนวนหลักแสน ในภาวะที่เอไอ ของx ก็พัฒนาลง เพราะต้องการมียูซแข่งกับแอพฟ้า เลยเปิดให้มีการปั๊มยูซผี แบบไม่ปิดกั้น ก็ยิ่งทำให้พวกนี้ทำได้ง่าย ปั้นเทรนง่าย และการลงทุนนี้ ก็มีไว้สำหรับการปั่นวิวตต.ในอนาคตในระหว่างพีเค เพื่อทำให้เหมือนมีคนดูเยอะเพียงพอในระหว่างพีเค เพื่อสอดแทรกเงินดาร์คเข้าระบบ และมีการปล่อยของขวัญ 5 - 10% ของเงินดาร์ค แต่แต่งบช อ้างว่า ได้มา 100 แล้วถอนเหรีญออกมาเป็นเงินสะอาดทั้งหมด -ทุนดาร์คข้ามชาติรวมกับเจ้าพ่อเว็บออนไลน์ลงท้าย888 จึงเกิดอภิมหาป่วนทั่วโซเชียล ตต.ของน้องที่ทำช่องหลายคน ปลิว อย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน แม้แอฟฟ้า จะมีระบบเอไอที่แกร่งสุด ณ เวลานี้ แต่ด้วยการอัดงบมหาศาล ก็มีผล แม้แต่เพจคิงส์เอง เพจใหม่ปลิวไปสามสี่รอบ แต่ทีมงานเราก็กู้กลับคืนมาได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่การมองเห็นอาจดร็อปลง แฟนเพจต้องเข้ามาในเพจเพื่ออัพเดทข้อมูลเอง ถึงจะเห็น -และโจมณฑนี เป็นเซ็นเตอร์ ในการวางแผน มีขี้ ข้า อย่างคนชีวิตกากๆ ไรเดอร์ที่ต้องหนีหัวซุกหัวซุนจากการบิดลูกค้า ชีวิตที่ไม่มีอะไรจะเสีย มาเป็นคนคอนโทลบอท บอกเป้าในการปฏิบัติการ มีโจมณฑนี สร้างชุดข้อความเป็นมาสเตอร์ นำไปเจนเอไอ ให้มีความหมายใกล้เคียงแบบไม่ซ้ำใน gpt จนทำให้ สื่อไทยหลายสำนัก โดนต้ม ตามไม่ทัน งงๆกับกระแส ที่สวนทางกับความจริง ดังนั้น พี่คิงส์ต้องบอกว่า การต่อสู้ครั้งนี้ เป็นเรื่องของความดีกับความซั่ว ที่เราชาวโซเชียลไทย ต้องรวมพลัง ในการปกป้องอธิปไตยของชาติ สกัดกั้น กลุ่มทุนดาร์ค และการฟอกของ เจ้าพ่อเว็บออนไลน์ลงท้าย 888 และยังมีตัวละครอีกหลายตัว ท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ อาจเข้าใจว่า นี่คือทั้งหมดแล้วพี่คิงส์ตอบเลยว่า ยังไม่ถึงครึ่งของความจริงทั้งหมดที่มี เดี๋ยวจะมาเปิดความจริงในโพสต่อๆไป ขอแนะนำ ให้น้องๆที่ทำตต. และทุกแพลตฟอร์ม ให้สร้างช่องอีกจำนวนมากๆ ไว้รอ ขนาดช่องน้องแน๊ก ก็ยังได้รับผลกระทบ ปลิว กลางอากาศ พี่คิงส์เชื่อในความดี ที่ชนะสิ่งซั่วร้ายเสมอ โลก เป็นแบบนี้เสมอมา และจะตลอดไป ขอเป็นกำลังใจให้กับนักสู้ทุกคน #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1015 มุมมอง 0 รีวิว
  • #นิทานEP3ชาวนากับงูเหม็นจอมหงี่
    #ตอนเปิดเทพแห่งวังศรีธัญญ่า
    สวัสดี แฟนเพจคิงส์โพธิ์แดง และคิงส์ปีศาจ
    ความสนุกเข้มข้น ของนิทานกำลังไต่ระดับเพดานที่จะมีความข้นขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสำหรับใครที่รู้สึกตาลาย เดี๋ยวซักครู่พี่คิงส์จะมาทำเป็นสารมีเสียงให้ และถ้าคุณคนพร้อม เรามาเริ่มกันเลย
    ย้ำอีกครั้งว่า นิทานเรื่องนี้ถูกสร้างมาเพื่อความบันเทิงและเป็นคติสอนใจเท่านั้น ไม่ได้มิได้มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลจริงแต่อย่างใด อย่าทะลึ่งเอาไปโยงเดี๋ยวจะต้องมีคนออกมาดิ้นแก้ตัวอีก ไอ่ฉัด
    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ที่พี่คิงส์จะไม่ย้อนไปสองอีพีก่อนหน้า ขอพาท่านมารู้จักกับวังศรีธัญญ่า
    วังศรีธัญญ่า มีนังเฒ่าจี หรือชื่อเต็มๆคือ จีมัณฑโน เป็นผู้ดูแลเรียกได้ว่าเป็นเจ้าแม่แห่งวัง โดยนังเฒ่าจีก็ไม่ได้รายได้ทางตรงจากวังแต่อย่างใด แต่ก็ไม่ได้ทำฟรี มีรายได้จากการจ้างนอกระบบ ของกลุ่มมารดำข้ามพิภพ เดี๋ยวพี่คิงส์จะเล่าตอนมารดำข้ามพิภพแยกไปเป็นอีพีอื่นๆอีกที
    สำหรับวังศรีธัญญ่านี้ เกิดขึ้นตั้งแต่ งูจอมหงี่พบกับชาวนาหน้าหล่อ และมีการถ่ายทอดผ่านกระจกวิเศษ ด้วยการแสดงของนังงู ก็ทำให้คนที่มีความรักในตัวชาวนาหน้าหล่อ ต่างพากันเอ็นดู และเป็นการฉวยโอกาสที่เฒ่าจีมัณฑโน ต้องการแสวงหาประโยชน์จากงานนี้ ด้วยขอเสนอดีๆกับกลุ่มดาร์คข้ามพิภพ ทำให้เฒ่าจีแทบไม่ต้องทำมาหารับประทานใดๆเลย เพียงแค่คุมคนในวังให้อยู่ก็พอ - อ่านต่อที่เพจคิงส์ปีศาจ
    - เนื้อหานิทานไม่ได้สั้นแบบนี้ เพราะยังไม่จบเพียงเท่านี้ นี่เป็นเพียงเริ่มต้น
    อยากอ่านยาวๆจนจบ พีอี3 ไปอ่านต่อได้ที่
    เพจ คิงส์ปีศาจ
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #นิทานEP3ชาวนากับงูเหม็นจอมหงี่ #ตอนเปิดเทพแห่งวังศรีธัญญ่า สวัสดี แฟนเพจคิงส์โพธิ์แดง และคิงส์ปีศาจ ความสนุกเข้มข้น ของนิทานกำลังไต่ระดับเพดานที่จะมีความข้นขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสำหรับใครที่รู้สึกตาลาย เดี๋ยวซักครู่พี่คิงส์จะมาทำเป็นสารมีเสียงให้ และถ้าคุณคนพร้อม เรามาเริ่มกันเลย ย้ำอีกครั้งว่า นิทานเรื่องนี้ถูกสร้างมาเพื่อความบันเทิงและเป็นคติสอนใจเท่านั้น ไม่ได้มิได้มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลจริงแต่อย่างใด อย่าทะลึ่งเอาไปโยงเดี๋ยวจะต้องมีคนออกมาดิ้นแก้ตัวอีก ไอ่ฉัด กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ที่พี่คิงส์จะไม่ย้อนไปสองอีพีก่อนหน้า ขอพาท่านมารู้จักกับวังศรีธัญญ่า วังศรีธัญญ่า มีนังเฒ่าจี หรือชื่อเต็มๆคือ จีมัณฑโน เป็นผู้ดูแลเรียกได้ว่าเป็นเจ้าแม่แห่งวัง โดยนังเฒ่าจีก็ไม่ได้รายได้ทางตรงจากวังแต่อย่างใด แต่ก็ไม่ได้ทำฟรี มีรายได้จากการจ้างนอกระบบ ของกลุ่มมารดำข้ามพิภพ เดี๋ยวพี่คิงส์จะเล่าตอนมารดำข้ามพิภพแยกไปเป็นอีพีอื่นๆอีกที สำหรับวังศรีธัญญ่านี้ เกิดขึ้นตั้งแต่ งูจอมหงี่พบกับชาวนาหน้าหล่อ และมีการถ่ายทอดผ่านกระจกวิเศษ ด้วยการแสดงของนังงู ก็ทำให้คนที่มีความรักในตัวชาวนาหน้าหล่อ ต่างพากันเอ็นดู และเป็นการฉวยโอกาสที่เฒ่าจีมัณฑโน ต้องการแสวงหาประโยชน์จากงานนี้ ด้วยขอเสนอดีๆกับกลุ่มดาร์คข้ามพิภพ ทำให้เฒ่าจีแทบไม่ต้องทำมาหารับประทานใดๆเลย เพียงแค่คุมคนในวังให้อยู่ก็พอ - อ่านต่อที่เพจคิงส์ปีศาจ - เนื้อหานิทานไม่ได้สั้นแบบนี้ เพราะยังไม่จบเพียงเท่านี้ นี่เป็นเพียงเริ่มต้น อยากอ่านยาวๆจนจบ พีอี3 ไปอ่านต่อได้ที่ เพจ คิงส์ปีศาจ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 892 มุมมอง 0 รีวิว
  • เทพเอ็นดูพระพิฆเณศวร
    เทพเอ็นดูพระพิฆเณศวร
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ภาพกับเนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด
    เนื้อหาได้มาจากที่นึง
    ส่วนภาพ เป็นภาพของ ตต.เกอร์ ไอดอล
    ชื่อดับ ชาวเกาหลี เป็นภาพก่อนที่เธอมาทำการแสดง
    ให้คนไทยได้เอ็นดู
    ประวัติ เธอเรียนป.โท การแสดง
    เนื่องจากอายุขึ้นเลข 3 ทำให้ การเป็นตัวประกอบ
    และแดนเซอร์ปลายแถว ไม่สมหวัง
    ภาพนี้อยู่ในไอจีของเธอ เมื่อกพ.ปีที่แล้ว
    ตอนนั้นเธอไปญี่ปุ่นเป็นเดือนๆ
    ค่าเทอมไม่มีจ่าย แต่ไปอยู่ญี่ปุ่นยังไม่ไม่ทราบได้
    เป็นเดือนๆ แถมติด ปาจิงโกะงอมแงม
    จนตัดสินใจว่า จะไม่เป็นละ นักสะดงนักแสดง นักเต้น
    เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ คือการสักสัญลักษณ์
    ของปากจิงโกะลงบนตัว เพื่อโชคลาภ
    แล้วตอนหลัง เห็นช่องทางมาไลฟ์หากินในตต.
    ก็จะคล้ายๆคะหรี่ตกเกรด ที่ต้องหาทางออกของชีวิตให้ได้
    และด้วยการเรียนการแสดง จึงทำให้เข้าถึงบทบาท
    จากสาวสก็อย แปลงร่างเป็น สาวน้อยแบ๊วๆ
    จนบางทีหลุดไปถึงกับ ปญอ.เหมือนฉาบขวบก็มีซีนให้เห็น
    มีเอเจนซี่คอยกำกับการแสดง
    แต่เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เพจคิงส์โพธิ์แดง
    มาจากไหนไม่ทราบได้ ออกมาขุดเรื่องของเธอ
    ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ ได้ตื่นรู้
    แต่ก็ยังคงมีทุยไทยจำนวนไม่น้อย
    รู้นะ มีเอเจนซี่ รู้นะว่าเป็นการแสดง
    แต่ก็ยังไม่อยากตื่นมาเผชิญโลกแห่งความจริง
    มีหัวหน้าทุยชื่อ โจมณฑานี
    จบข่าว
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง รายงาน
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ภาพกับเนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด เนื้อหาได้มาจากที่นึง ส่วนภาพ เป็นภาพของ ตต.เกอร์ ไอดอล ชื่อดับ ชาวเกาหลี เป็นภาพก่อนที่เธอมาทำการแสดง ให้คนไทยได้เอ็นดู ประวัติ เธอเรียนป.โท การแสดง เนื่องจากอายุขึ้นเลข 3 ทำให้ การเป็นตัวประกอบ และแดนเซอร์ปลายแถว ไม่สมหวัง ภาพนี้อยู่ในไอจีของเธอ เมื่อกพ.ปีที่แล้ว ตอนนั้นเธอไปญี่ปุ่นเป็นเดือนๆ ค่าเทอมไม่มีจ่าย แต่ไปอยู่ญี่ปุ่นยังไม่ไม่ทราบได้ เป็นเดือนๆ แถมติด ปาจิงโกะงอมแงม จนตัดสินใจว่า จะไม่เป็นละ นักสะดงนักแสดง นักเต้น เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ คือการสักสัญลักษณ์ ของปากจิงโกะลงบนตัว เพื่อโชคลาภ แล้วตอนหลัง เห็นช่องทางมาไลฟ์หากินในตต. ก็จะคล้ายๆคะหรี่ตกเกรด ที่ต้องหาทางออกของชีวิตให้ได้ และด้วยการเรียนการแสดง จึงทำให้เข้าถึงบทบาท จากสาวสก็อย แปลงร่างเป็น สาวน้อยแบ๊วๆ จนบางทีหลุดไปถึงกับ ปญอ.เหมือนฉาบขวบก็มีซีนให้เห็น มีเอเจนซี่คอยกำกับการแสดง แต่เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เพจคิงส์โพธิ์แดง มาจากไหนไม่ทราบได้ ออกมาขุดเรื่องของเธอ ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ ได้ตื่นรู้ แต่ก็ยังคงมีทุยไทยจำนวนไม่น้อย รู้นะ มีเอเจนซี่ รู้นะว่าเป็นการแสดง แต่ก็ยังไม่อยากตื่นมาเผชิญโลกแห่งความจริง มีหัวหน้าทุยชื่อ โจมณฑานี จบข่าว #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง รายงาน #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 736 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำนานบทใหม่มีได้ทุกวัน! นักท่องเที่ยวสักลาย 'หมูเด้ง' เจอช็อตฟีลขั้นสุด นี่มันรูปหมูตุ๋น ชาวเน็ตเอ็นดู บอกก็น่ารักเหมือนกัน

    ติดตามรายละเอียดในคอมเมนต์

    #หมูเด้ง #ฮิปโปแคระ #สัก #รอยสัก #โหนกระแส
    ตำนานบทใหม่มีได้ทุกวัน! นักท่องเที่ยวสักลาย 'หมูเด้ง' เจอช็อตฟีลขั้นสุด นี่มันรูปหมูตุ๋น ชาวเน็ตเอ็นดู บอกก็น่ารักเหมือนกัน ติดตามรายละเอียดในคอมเมนต์ #หมูเด้ง #ฮิปโปแคระ #สัก #รอยสัก #โหนกระแส
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 273 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เป็นคำถามที่ดี
    อธิบายแบบนี้ มันมี 2 สเต็ป
    1. เริ่มต้น โดยที่จริงๆแล้ว น้องแน๊กชาลีสำหรับพี่คิงส์ก่อนหน้านี้ ก็เป็นน้องคนนึงที่เราเห็นในวงการบันเทิง มาปฏิสัมพันธ์กับกามิน เห็นผ่านๆ ก็ดูน่ารักดี แต่ไม่ได้เป็นด้อม ที่มีความผูกพันเหมือนหลายๆคน แต่เหตุการณ์มันเริ่มต้นคือ วันที่แน๊กออกมาไลฟ์ตั้งแต่ค่ำยันเช้า พี่คิงส์มาเปิดตอนแปดโมงแล้ว ก็เลยสงสัยว่าใครทำให้น้องคนนี้ตกอยู่ในสภาพนี้ นั่นหละนิสัยที่ไม่ยอมให้ความสงสัยค้าคา ก็เลยเริ่มขุดข้อมูล และแล้วด้วยการมองเห็น ข บ ก ของโจ ในการให้ร้ายต่อแน๊ก สร้างเครือข่าย ทำให้คนไทยด้วยกัน เข้าใจแน็กผิด แต่พี่คิงส์มีข้อมูลที่มันสวนทาง และยิ่งขุด ยิ่งรู้จักคนไทย ที่ชื่อแน๊กชาลีมากขึ้น ทำให้เข้าใจสถานการณ์ ว่าน้อง ต้องอดทนแค่ไหน ในขณะที่ต้องย้อมกับแฟนคลับชาวไทย ถ้าไม่มีใครออกมาปกป้องคนไทยด้วยกัน แล้วใครจะทำ ถึงขนาดวางเรื่องการเมืองที่นำเสนอเรื่องเอ็กคลูซีฟ การวิเคราะห์ ที่แม่นยำ 99% จนแฟนเพจถามตลอดว่าเลขงวดนี้จะออกอะไร แฟนเพจดั้งเดิมช่วยยืนยันเรื่องนี้ได้ทุกคน เราจึงไม่ต้องการแสง เพราะเรามีแสงของตัวเราเองมานานมากแล้ว และไม่เคยให้ความสำคัญกับมันเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ให้ความสำคัญกับการบรรลุเป้าหมาย ให้คนไทยได้รู้ว่าใครที่คิดร้ายกับคนในประเทศ ใครกำลังทำอะไรที่คนไทยเสียประโยชน์ นั่นคือความสำเร็จที่เราภูมิใจ
    2. เมื่อขุดไปเรื่อยๆ เพื่อตอบข้อสงสัยว่า ข บ ก นำโดยโจ มีใครเป็นเครือข่าย และเค้าทำเพื่ออะไร ก็ไปเจอกับสิ่งที่อึ้ง ที่มันเป็นเรื่องระดับ ฟอกข้ามชาติ บิ๊กแม็ต พีเค ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ในเวลานี้ ยุโปร ตะวันออกลาง และเอเชียหลายประเทศ กำลังตื่นตัว แต่ประเทศไทย แทบไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย เท่าที่ดู ก็จะมีแค่สื่อตำนาน อย่าง สนธิ ที่ได้ข้อมูลมาในชุดเดียวกัน แต่มีข้อมูลที่ลึกกว่าคิงส์โพธิ์แดงหลายสิบเท่า และมีความกล้าที่จะเปิดเผย
    ดังนั้น มาส่วนของคำถาม
    ว่า พี่คิงส์ไม่กลัวเหรอ
    ตอบ
    พี่คิงส์ อาจมีความไม่เหมือนกับคนทั่วไปอยู่ 1 ข้อ
    พี่คิงส์คิดว่า คนเราอายุขัยแค่ 70-80 ปี
    ยังไง วันหนึ่งก็ไม่มีเราอยู่บนโลกนี้แน่นอน
    ดังนั้น คุณค่าของชีวิต มันจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับ
    เราอยู่นานแค่ไหน แต่การทำชีวิต 1 ชีวิตให้มีค่า
    มันขึ้นกับว่า เราอยู่เพื่อใครตะหาก
    ประเด็นการออกมาช่วยน้องชาลี พี่คิงส์ถูกให้ร้ายต่างๆนานา
    ว่าอยากได้ยอดไลค์บ้าง อยากดังบ้าง ซึ่งพวกนี้
    ไม่เคยรู้จักเพจคิงส์โพธิ์แดงมาก่อน
    ไม่เคยรู้ว่าเราสู้กับใครมาบ้าง
    ไม่เคยรู้ว่าคลิปที่เราสร้าง โพสที่เราเปิดข้อมูล
    มีคนดูกี่แสน และหลายคลิปก็ทะลุล้าน เป็นเรื่องปกติไปแล้ว
    จึงไม่มีเหตุผลที่ต้องหาอะไรมาอธิบาย
    มีแค่ข้อเดียวคือ ถ้าไม่ปกป้องคนไทยด้วยกัน แล้วใครจะปกป้องเรา
    และที่ลึกไปถึงกลุ่มทุนดาร์คที่ซัพพอตโจ และเครือข่าย
    ต้องสังเคราะห์ให้ลึกซึ้งก่อนว่า
    เงินดาร์ค ที่ว่าได้มายังไง
    1. การพานัน
    2. ค้ามานุษย์
    3. คอเซ็งเทอร์
    4. ยาเฉพติค
    นี่คือส่วนหลักๆของเงินดาร์ค ที่มันจะเอามาใช้ได้ ต้องผ่านกระบวนการฟอกเท่านั้น ไม่เช่นนั้น มีก็เหมือนไม่มี ทำอะไรไม่ได้ เพราะทุกประเทศต่างจับตาเรื่องนี้กันทั้งนั้น
    และข้อมูลที่พี่คิงส์ฯได้เปิดไปแล้วนั้น ว่าทั้งสหรัฐ ทั้งตุรกี ทั้งจีน ทั้งไต้หวัน ต่างตื่นตัวกันมาก กลุ่มเงินดาร์ค ใช้จังหวะที่ชาลีและคนไทยเข้าใจผิดไม่คิดว่าสิ่งที่กามินทำนั้น คือการแสดงที่มีเอเจนซี่กำกับอยู่ และมีชื่อเสียงก้องประเทศอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน วางแผนไกลถึงขนาดจะใช้ไทยเป็นฐานใหญ่ เพราะหลายเดือนที่ผ่านมา มีการนำเงินเข้าสู่ระบบ ตต. และฟอกไปแล้วจำนวนมหาศาล ผ่านการแต่งบช ว่าได้รับผลประโยชน์จากของขวัญในตน. สอดแทรกกับของขวัญจริงที่คนไทยส่งให้ด้วยความเอ็นดู
    คำถาม ถ้าพี่คิงส์ไม่เปิดเผยเรื่องนี้แบบตรงๆ
    ป่านนี้ พีเค บิ๊กแม็ต ก็กระหึ่มอยู่ เงินดาร์คก็ยังฟอกกันได้อย่างเฟื่องฟู
    และประเทศเราก็จะกลายเป็น ฐานใหญ่เงินดาร์คไปแล้วก็เป็นได้ เพราะตอนนี้ มีเอเจนซี่ เริ่มเข้ามาเตรียมหาตัวแสดง และปั้น เพื่อเข้าสู่กระบวนการ ฟอกให้ขาว
    ดังนั้น ถ้าการที่เพจนี้ ได้ต่อสู้แล้วช่วยคนไทยได้ทั้งประเทศ
    อย่าถามว่ากลัวมั๊ย ต้องถามว่าคุ้มมั๊ย
    ถ้าคุณได้ใช้ชีวิตของคุณ ช่วยคนไทยได้กว่า 70 ล้านคน
    ซึ่งพี่คิงส์ มีคำตอบกับตัวเองแล้วว่า "คุ้มค่า"
    ขอตอบรอบนี้รอบเดียวนะครับ
    ถึงจะไม่ได้ทำทุกอย่างดีหมดถูกต้องหมดมาตลอดชีวิตที่ผ่านมา
    แต่สิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ มั่นใจว่า "ถูกต้องที่สุด" แล้วจริงๆ
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #เป็นคำถามที่ดี อธิบายแบบนี้ มันมี 2 สเต็ป 1. เริ่มต้น โดยที่จริงๆแล้ว น้องแน๊กชาลีสำหรับพี่คิงส์ก่อนหน้านี้ ก็เป็นน้องคนนึงที่เราเห็นในวงการบันเทิง มาปฏิสัมพันธ์กับกามิน เห็นผ่านๆ ก็ดูน่ารักดี แต่ไม่ได้เป็นด้อม ที่มีความผูกพันเหมือนหลายๆคน แต่เหตุการณ์มันเริ่มต้นคือ วันที่แน๊กออกมาไลฟ์ตั้งแต่ค่ำยันเช้า พี่คิงส์มาเปิดตอนแปดโมงแล้ว ก็เลยสงสัยว่าใครทำให้น้องคนนี้ตกอยู่ในสภาพนี้ นั่นหละนิสัยที่ไม่ยอมให้ความสงสัยค้าคา ก็เลยเริ่มขุดข้อมูล และแล้วด้วยการมองเห็น ข บ ก ของโจ ในการให้ร้ายต่อแน๊ก สร้างเครือข่าย ทำให้คนไทยด้วยกัน เข้าใจแน็กผิด แต่พี่คิงส์มีข้อมูลที่มันสวนทาง และยิ่งขุด ยิ่งรู้จักคนไทย ที่ชื่อแน๊กชาลีมากขึ้น ทำให้เข้าใจสถานการณ์ ว่าน้อง ต้องอดทนแค่ไหน ในขณะที่ต้องย้อมกับแฟนคลับชาวไทย ถ้าไม่มีใครออกมาปกป้องคนไทยด้วยกัน แล้วใครจะทำ ถึงขนาดวางเรื่องการเมืองที่นำเสนอเรื่องเอ็กคลูซีฟ การวิเคราะห์ ที่แม่นยำ 99% จนแฟนเพจถามตลอดว่าเลขงวดนี้จะออกอะไร แฟนเพจดั้งเดิมช่วยยืนยันเรื่องนี้ได้ทุกคน เราจึงไม่ต้องการแสง เพราะเรามีแสงของตัวเราเองมานานมากแล้ว และไม่เคยให้ความสำคัญกับมันเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ให้ความสำคัญกับการบรรลุเป้าหมาย ให้คนไทยได้รู้ว่าใครที่คิดร้ายกับคนในประเทศ ใครกำลังทำอะไรที่คนไทยเสียประโยชน์ นั่นคือความสำเร็จที่เราภูมิใจ 2. เมื่อขุดไปเรื่อยๆ เพื่อตอบข้อสงสัยว่า ข บ ก นำโดยโจ มีใครเป็นเครือข่าย และเค้าทำเพื่ออะไร ก็ไปเจอกับสิ่งที่อึ้ง ที่มันเป็นเรื่องระดับ ฟอกข้ามชาติ บิ๊กแม็ต พีเค ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ในเวลานี้ ยุโปร ตะวันออกลาง และเอเชียหลายประเทศ กำลังตื่นตัว แต่ประเทศไทย แทบไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย เท่าที่ดู ก็จะมีแค่สื่อตำนาน อย่าง สนธิ ที่ได้ข้อมูลมาในชุดเดียวกัน แต่มีข้อมูลที่ลึกกว่าคิงส์โพธิ์แดงหลายสิบเท่า และมีความกล้าที่จะเปิดเผย ดังนั้น มาส่วนของคำถาม ว่า พี่คิงส์ไม่กลัวเหรอ ตอบ พี่คิงส์ อาจมีความไม่เหมือนกับคนทั่วไปอยู่ 1 ข้อ พี่คิงส์คิดว่า คนเราอายุขัยแค่ 70-80 ปี ยังไง วันหนึ่งก็ไม่มีเราอยู่บนโลกนี้แน่นอน ดังนั้น คุณค่าของชีวิต มันจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับ เราอยู่นานแค่ไหน แต่การทำชีวิต 1 ชีวิตให้มีค่า มันขึ้นกับว่า เราอยู่เพื่อใครตะหาก ประเด็นการออกมาช่วยน้องชาลี พี่คิงส์ถูกให้ร้ายต่างๆนานา ว่าอยากได้ยอดไลค์บ้าง อยากดังบ้าง ซึ่งพวกนี้ ไม่เคยรู้จักเพจคิงส์โพธิ์แดงมาก่อน ไม่เคยรู้ว่าเราสู้กับใครมาบ้าง ไม่เคยรู้ว่าคลิปที่เราสร้าง โพสที่เราเปิดข้อมูล มีคนดูกี่แสน และหลายคลิปก็ทะลุล้าน เป็นเรื่องปกติไปแล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่ต้องหาอะไรมาอธิบาย มีแค่ข้อเดียวคือ ถ้าไม่ปกป้องคนไทยด้วยกัน แล้วใครจะปกป้องเรา และที่ลึกไปถึงกลุ่มทุนดาร์คที่ซัพพอตโจ และเครือข่าย ต้องสังเคราะห์ให้ลึกซึ้งก่อนว่า เงินดาร์ค ที่ว่าได้มายังไง 1. การพานัน 2. ค้ามานุษย์ 3. คอเซ็งเทอร์ 4. ยาเฉพติค นี่คือส่วนหลักๆของเงินดาร์ค ที่มันจะเอามาใช้ได้ ต้องผ่านกระบวนการฟอกเท่านั้น ไม่เช่นนั้น มีก็เหมือนไม่มี ทำอะไรไม่ได้ เพราะทุกประเทศต่างจับตาเรื่องนี้กันทั้งนั้น และข้อมูลที่พี่คิงส์ฯได้เปิดไปแล้วนั้น ว่าทั้งสหรัฐ ทั้งตุรกี ทั้งจีน ทั้งไต้หวัน ต่างตื่นตัวกันมาก กลุ่มเงินดาร์ค ใช้จังหวะที่ชาลีและคนไทยเข้าใจผิดไม่คิดว่าสิ่งที่กามินทำนั้น คือการแสดงที่มีเอเจนซี่กำกับอยู่ และมีชื่อเสียงก้องประเทศอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน วางแผนไกลถึงขนาดจะใช้ไทยเป็นฐานใหญ่ เพราะหลายเดือนที่ผ่านมา มีการนำเงินเข้าสู่ระบบ ตต. และฟอกไปแล้วจำนวนมหาศาล ผ่านการแต่งบช ว่าได้รับผลประโยชน์จากของขวัญในตน. สอดแทรกกับของขวัญจริงที่คนไทยส่งให้ด้วยความเอ็นดู คำถาม ถ้าพี่คิงส์ไม่เปิดเผยเรื่องนี้แบบตรงๆ ป่านนี้ พีเค บิ๊กแม็ต ก็กระหึ่มอยู่ เงินดาร์คก็ยังฟอกกันได้อย่างเฟื่องฟู และประเทศเราก็จะกลายเป็น ฐานใหญ่เงินดาร์คไปแล้วก็เป็นได้ เพราะตอนนี้ มีเอเจนซี่ เริ่มเข้ามาเตรียมหาตัวแสดง และปั้น เพื่อเข้าสู่กระบวนการ ฟอกให้ขาว ดังนั้น ถ้าการที่เพจนี้ ได้ต่อสู้แล้วช่วยคนไทยได้ทั้งประเทศ อย่าถามว่ากลัวมั๊ย ต้องถามว่าคุ้มมั๊ย ถ้าคุณได้ใช้ชีวิตของคุณ ช่วยคนไทยได้กว่า 70 ล้านคน ซึ่งพี่คิงส์ มีคำตอบกับตัวเองแล้วว่า "คุ้มค่า" ขอตอบรอบนี้รอบเดียวนะครับ ถึงจะไม่ได้ทำทุกอย่างดีหมดถูกต้องหมดมาตลอดชีวิตที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ มั่นใจว่า "ถูกต้องที่สุด" แล้วจริงๆ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Love
    17
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2770 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เลขคู่รวย# เลขคู่เหล่านี้ ส่งเสริมความเป็นเศรษฐี มีโชคการเงินแบบชุดใหญ่ มีลาภแบบไม่คาดคิด เป็นเลขแห่งโชคลาภ มีดวงทางเสี่ยงโชค มีพลังแห่งนักบริหาร หมุนเงินก้อนโต มีโชคทางการเงิน หาเงินเก่งและใช้เก่งไม่แพ้กัน คู่เลขมงคล เลขเสริมเสน่ห์ ใคร ๆ ก็เอ็นดู 15-51, 24, 42, 56_65_78_87 28-82.
    "คำว่า คู่ คือ อยู่ติดกัน
    #เลขคู่รวย# เลขคู่เหล่านี้ ส่งเสริมความเป็นเศรษฐี มีโชคการเงินแบบชุดใหญ่ มีลาภแบบไม่คาดคิด เป็นเลขแห่งโชคลาภ มีดวงทางเสี่ยงโชค มีพลังแห่งนักบริหาร หมุนเงินก้อนโต มีโชคทางการเงิน หาเงินเก่งและใช้เก่งไม่แพ้กัน คู่เลขมงคล เลขเสริมเสน่ห์ ใคร ๆ ก็เอ็นดู 15-51, 24, 42, 56_65_78_87 28-82. "คำว่า คู่ คือ อยู่ติดกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอบคุณปู่ย่าตายาย พ่อแม่พี่ เพื่ิอนสนิท มิตรสหาย ขอบคุณความรักความอบอุ่น รักแท้จากพ่อแม่ ความเอ็นดูและความจริงใจจากพี่ เพื่อนสนิท มิตรสหาย 😍🥰😘

    เรารวยมากๆอยู่แล้ว มีความสุขทุกเวลาอยู่แล้ว ได้ทำอะไรตามใจตัวเองอยู่แล้ว มีทรัพย์สมบัติ มีเงินมีทอง อัญมณี และความรักที่ดีอยู่แล้ว และเป็นรักที่บริสุทธิ์ ที่ทำให้ชีวิตเรานั้นดีงาม สวยงาม ประวัติที่ดี การศึกษาที่ดี สุขภาพที่จะต้องดีขึ้นทุกวัน ต้องตอกย้ำสุขภาพดีด้วยการเลือกกินสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

    😍😍😍
    ขอบคุณปู่ย่าตายาย พ่อแม่พี่ เพื่ิอนสนิท มิตรสหาย ขอบคุณความรักความอบอุ่น รักแท้จากพ่อแม่ ความเอ็นดูและความจริงใจจากพี่ เพื่อนสนิท มิตรสหาย 😍🥰😘 เรารวยมากๆอยู่แล้ว มีความสุขทุกเวลาอยู่แล้ว ได้ทำอะไรตามใจตัวเองอยู่แล้ว มีทรัพย์สมบัติ มีเงินมีทอง อัญมณี และความรักที่ดีอยู่แล้ว และเป็นรักที่บริสุทธิ์ ที่ทำให้ชีวิตเรานั้นดีงาม สวยงาม ประวัติที่ดี การศึกษาที่ดี สุขภาพที่จะต้องดีขึ้นทุกวัน ต้องตอกย้ำสุขภาพดีด้วยการเลือกกินสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 😍😍😍
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 0 รีวิว
  • #อุต๊ะมีความน่าอัวพี่คิงส์นี่ขนตั้งชัน
    ป้าโจวตกขาว หรือมณฑนี
    ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนเธอเป็นใคร
    พิธีกรตกยุค ที่เคยแสดงออกถึงความรักชาติ
    แต่หลังจากที่นางมีอาการเปื่อยจิต
    ต้องรับการบำ บัด จังหวะ
    แน๊กเริ่มมีความคิดช่วยเหลืออิเหวิงกามิจ
    นางเลยหลุดเข้าสู่มิติแห่งความเพ้อฝัน
    และเป็นแนวร่วมตั้งกลุ่มลั-บ
    โดยเอเจนซี่กับอิเหวิงทำแพลนรอไว้แล้วตั้งแต่แปดเดือนที่แล้ว
    เพื่อให้สาวกเข้าไปสิงสถิตและได้คุยส่วนตัวกับอิเหวิง
    มีทั้งรายเดือน มีทั้งเรียกไปเปย์ติ๊กเกอร์ตอนพีเค
    เรียกว่า ทุยสาวกบางคน หมดกันเป็นล้าน
    ส่วนป้าโจตกขาวก็ได้ส่วนแบ่ง มีหน้าที่
    สร้างอุปทานหมู่ ด้วยความชำนาญในการเป็นนักพูดตกยุค
    เล่นเอาสาวกเคลิ้มล่องลอยเหมือนจักรวาลนี้สร้างมาเพื่ออิเหวิง
    และเมื่อแน๊กเริ่มรับรู้ว่ามีคนที่เปย์จนเดือดร้อนเพราะหลงอิป้าโจกับอิเหวิง
    ก็เลยต้องหาทางสร้างเรื่องไม่จริง ใส่ไคร้ว่าน้องแน๊ก เปื่อยจิต โดยเอาอาการของตัวเอง ไปยัดเยียดให้น้องแน๊ก กระจายกันในกลุ่ม
    (หลักต๋านส่งมาเพียบบบบ)
    ให้อิเหวิงเป็นผู้ถูกกระทำ
    เมื่อแน๊กรู้สึกว่า อิเหวิงไม่จบกับโลภะ รวมถึงคนที่ได้ประโยชน์ร่วมก็เลยเถิด
    ก็ต้องจบความรักเพื่อปกป้องคนไทยด้วยกัน
    จึงเป็นที่มาที่อิป้าโจตกขาว สร้างกลุ่มสุมหัว โดยดึงคนที่เสียประโยชน์จากการที่แน๊กตัดขาดความสัมพันธ์ มารวมกันเพื่อสหบาทาแน๊ก และอวยอิเหวิง
    จุดนี้แหละ ที่พี่คิงส์รับรู้รับทราบ ทั้งๆที่พี่คิงส์เองเอ็นดูแน๊ก แต่ไม่เคยอินหรือติดตามเป็นลูกทัพน้องแน๊กเลย แต่มันคือเรื่องการที่น้องผู้ชายคนหนึ่ง ถูกอธรรมอย่างไม่ยุติธรรม ด้วยกลุ่มก้อนเฮงชวยพวกนี้ รวมถึงคนที่ถูกเชี่ยมจิตในกลุ่มที่ยังคงเปย์ตามการจูงจมูกของอิป้าโจวตกขาว
    ทำให้พี่คิงส์ต้องหันมาเปิดเผยเรื่องนี้อย่างจริงจัง
    ต่อมา สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้สื่อข่าวระดับตำนาน ได้มองเรื่องนี้ว่าเป็นอตร.กับคนไทย จึงนัดหมายว่าจะนำเสนอข้อมูลในวันศุกร์ที่ 13 กันยายน 67
    อิป้าโจวตกขาว ก็ดิ้น ถึงขนาดข่มด้วยการโพส เบรคสื่อระดับตำนาน สารพัด
    นี่คือที่มา ของการเปิดเผยข้อมูลสำคัญมาตลอดจนถึงตอนนี้
    หลังจากที่ข้อมูลได้เปิดเผยสู่สาธารณะ
    อิป้าโจวตกขาวถึงกับช็อค ไม่กล้าโพสใดๆอีกเลย
    เพราะยิ่งขุด ยิ่งเจอ
    แม้กระทั่ง มีการแอบตั้งโรงเรียนอย่างไม่ถูกต้องตาม-ก-ฏ-ห-ม-าย เพื่อลวงคนในกลุ่มและคนทั่วไปที่เป็นแฟนคลับกามิจ ไปเรียนทำนายทายทัก ฝึกจิตฝึกวิญาณ เอาง่ายๆ หาแดรกกับความเชื่อ คนละเป็นหมื่น ซึ่งไม่นาน กระทรวงคงได้ติดต่อนางไป นี่มันอาชีพต้มคนไทยชัดๆ
    แต่ซักครู่นี้่เอง นางเจอคนเปิดความจริงแบบงานละเอียดยิบอย่างพี่คิงส์ฯ
    กองเชียร์ก็บอกให้มาโต้ แต่จะโต้ได้ไง เพราะมันคือความจริง นางเลยเข้าสายกับช่องสาวกของนาง และพูดเสียงเครือแบบ ขึ้นมาก ทั้งสั่นทั้งกลัว
    "ที่เงียบไป ไม่ได้เงียบไปเฉยๆนะ นี่ก็กำลังไปตร.ไซเบอร์ จะจัดการคนที่มาทำให้นางเสื่อม เพราะที่พูดไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์" ป๊าดดดด
    พี่คิงส์ก็ย้อนกลับไปดู หลักฐานก็มีน้า
    เอางี้ป้า อยากทำอะไรจัดมา
    ส่วนพี่คิงส์ก็รู้สึกกลัวมาก
    จะตอบสนองป้าด้วยการขุดให้ลึกไปอีกแบบรัวๆ
    เอาให้คนไทยทั่วประเทศ สว่างวาบเลย
    ป้าได้ปิดท้ายไว้ว่า
    "เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับป้าโจวตกขาว"
    คือหวังให้เพจคิงส์โพธิ์แดงกลัว ว่างั้น!!
    หึหึ ป้าโจ ไปสืบก่อนก็ดี ว่าคิงส์โพธิ์แดง
    สู้กับใครมาบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
    อิฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง3
    #อุต๊ะมีความน่าอัวพี่คิงส์นี่ขนตั้งชัน ป้าโจวตกขาว หรือมณฑนี ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนเธอเป็นใคร พิธีกรตกยุค ที่เคยแสดงออกถึงความรักชาติ แต่หลังจากที่นางมีอาการเปื่อยจิต ต้องรับการบำ บัด จังหวะ แน๊กเริ่มมีความคิดช่วยเหลืออิเหวิงกามิจ นางเลยหลุดเข้าสู่มิติแห่งความเพ้อฝัน และเป็นแนวร่วมตั้งกลุ่มลั-บ โดยเอเจนซี่กับอิเหวิงทำแพลนรอไว้แล้วตั้งแต่แปดเดือนที่แล้ว เพื่อให้สาวกเข้าไปสิงสถิตและได้คุยส่วนตัวกับอิเหวิง มีทั้งรายเดือน มีทั้งเรียกไปเปย์ติ๊กเกอร์ตอนพีเค เรียกว่า ทุยสาวกบางคน หมดกันเป็นล้าน ส่วนป้าโจตกขาวก็ได้ส่วนแบ่ง มีหน้าที่ สร้างอุปทานหมู่ ด้วยความชำนาญในการเป็นนักพูดตกยุค เล่นเอาสาวกเคลิ้มล่องลอยเหมือนจักรวาลนี้สร้างมาเพื่ออิเหวิง และเมื่อแน๊กเริ่มรับรู้ว่ามีคนที่เปย์จนเดือดร้อนเพราะหลงอิป้าโจกับอิเหวิง ก็เลยต้องหาทางสร้างเรื่องไม่จริง ใส่ไคร้ว่าน้องแน๊ก เปื่อยจิต โดยเอาอาการของตัวเอง ไปยัดเยียดให้น้องแน๊ก กระจายกันในกลุ่ม (หลักต๋านส่งมาเพียบบบบ) ให้อิเหวิงเป็นผู้ถูกกระทำ เมื่อแน๊กรู้สึกว่า อิเหวิงไม่จบกับโลภะ รวมถึงคนที่ได้ประโยชน์ร่วมก็เลยเถิด ก็ต้องจบความรักเพื่อปกป้องคนไทยด้วยกัน จึงเป็นที่มาที่อิป้าโจตกขาว สร้างกลุ่มสุมหัว โดยดึงคนที่เสียประโยชน์จากการที่แน๊กตัดขาดความสัมพันธ์ มารวมกันเพื่อสหบาทาแน๊ก และอวยอิเหวิง จุดนี้แหละ ที่พี่คิงส์รับรู้รับทราบ ทั้งๆที่พี่คิงส์เองเอ็นดูแน๊ก แต่ไม่เคยอินหรือติดตามเป็นลูกทัพน้องแน๊กเลย แต่มันคือเรื่องการที่น้องผู้ชายคนหนึ่ง ถูกอธรรมอย่างไม่ยุติธรรม ด้วยกลุ่มก้อนเฮงชวยพวกนี้ รวมถึงคนที่ถูกเชี่ยมจิตในกลุ่มที่ยังคงเปย์ตามการจูงจมูกของอิป้าโจวตกขาว ทำให้พี่คิงส์ต้องหันมาเปิดเผยเรื่องนี้อย่างจริงจัง ต่อมา สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้สื่อข่าวระดับตำนาน ได้มองเรื่องนี้ว่าเป็นอตร.กับคนไทย จึงนัดหมายว่าจะนำเสนอข้อมูลในวันศุกร์ที่ 13 กันยายน 67 อิป้าโจวตกขาว ก็ดิ้น ถึงขนาดข่มด้วยการโพส เบรคสื่อระดับตำนาน สารพัด นี่คือที่มา ของการเปิดเผยข้อมูลสำคัญมาตลอดจนถึงตอนนี้ หลังจากที่ข้อมูลได้เปิดเผยสู่สาธารณะ อิป้าโจวตกขาวถึงกับช็อค ไม่กล้าโพสใดๆอีกเลย เพราะยิ่งขุด ยิ่งเจอ แม้กระทั่ง มีการแอบตั้งโรงเรียนอย่างไม่ถูกต้องตาม-ก-ฏ-ห-ม-าย เพื่อลวงคนในกลุ่มและคนทั่วไปที่เป็นแฟนคลับกามิจ ไปเรียนทำนายทายทัก ฝึกจิตฝึกวิญาณ เอาง่ายๆ หาแดรกกับความเชื่อ คนละเป็นหมื่น ซึ่งไม่นาน กระทรวงคงได้ติดต่อนางไป นี่มันอาชีพต้มคนไทยชัดๆ แต่ซักครู่นี้่เอง นางเจอคนเปิดความจริงแบบงานละเอียดยิบอย่างพี่คิงส์ฯ กองเชียร์ก็บอกให้มาโต้ แต่จะโต้ได้ไง เพราะมันคือความจริง นางเลยเข้าสายกับช่องสาวกของนาง และพูดเสียงเครือแบบ ขึ้นมาก ทั้งสั่นทั้งกลัว "ที่เงียบไป ไม่ได้เงียบไปเฉยๆนะ นี่ก็กำลังไปตร.ไซเบอร์ จะจัดการคนที่มาทำให้นางเสื่อม เพราะที่พูดไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์" ป๊าดดดด พี่คิงส์ก็ย้อนกลับไปดู หลักฐานก็มีน้า เอางี้ป้า อยากทำอะไรจัดมา ส่วนพี่คิงส์ก็รู้สึกกลัวมาก จะตอบสนองป้าด้วยการขุดให้ลึกไปอีกแบบรัวๆ เอาให้คนไทยทั่วประเทศ สว่างวาบเลย ป้าได้ปิดท้ายไว้ว่า "เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับป้าโจวตกขาว" คือหวังให้เพจคิงส์โพธิ์แดงกลัว ว่างั้น!! หึหึ ป้าโจ ไปสืบก่อนก็ดี ว่าคิงส์โพธิ์แดง สู้กับใครมาบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน อิฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2 #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง3
    Like
    Love
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2965 มุมมอง 1 รีวิว


  • หมายเลข 5

    : หมายถึง สติปัญญา การศึกษา หยิ่งในศักดิ์ศรี มีมานะ ใจเป็นธรรม ลางสังหรณ์ดี ความสำเร็จ ผู้ใหญ่เอ็นดู มีความมั่นคง
    แทน ดาวพฤหัส
    หมายเลข 5 : หมายถึง สติปัญญา การศึกษา หยิ่งในศักดิ์ศรี มีมานะ ใจเป็นธรรม ลางสังหรณ์ดี ความสำเร็จ ผู้ใหญ่เอ็นดู มีความมั่นคง แทน ดาวพฤหัส
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ถึงคราต้องเปิดใจทำไมต้องทำข่าวอิเหวิงกามิน
    พี่คิงส์ฯคิดว่ามีแฟนเพจจำนวนหนึ่งที่รู้สึกสงสัยว่าทำไมเพจคิงส์ฯถึงต้องนำเสนอเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมา จุดยืนตามข้อความที่ปักหมูด
    นั่นคือ การยืนหยัดเพื่อปกป้องสถาบันหลักของชาติ
    เปิดเผยแนวคิดล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรย์ทรงเป็นประมุก
    เราดำเนินการโดยไม่มีใครจ้าง ทำด้วยจิตวิญญาณของคนไทยที่รักประเทศชาติและห่วงใจพี่น้องชาวไทยอย่างแท้จริง
    แต่เพจคิงส์โพธิ์แดงก็ไม่เคยนำเสนอเรื่องน้องเน็กและกามินมาเลย มีแต่เพียงหยิบภาพมาแซวขำๆ ระหว่างเพจนี้ กับเพจ วันนี้พรรคส้มโกหกอะไร
    แค่นั้น
    ..แต่กรณีนี้ กับเหตุการณ์ที่แปลสภาพจากกามิน เป็นกามิจ มันเป็นเรื่องสำคัญกว่าคำว่าข่าวดารา แจงให้เห็นภาพดังนี้
    1. เน็กชาลี นอกจากความเป็นดารา แต่น้องคือคนไทยคนหนึ่ง ที่มีจิตใจเมตตาเหมือนคนไทยส่วนใหญ่ที่ชอบช่วยเหลือคน แต่ภาพที่กามินแสดงบนโลกตต. ที่เน็กและคนไทยอดสงสารไม่ได้คือ การกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป การไลฟ์หามรุ่งห้ามค่ำเพื่อหาทุนเรียนต่อ แล้วสุดท้าย กามิจเองก็ออกมายอมรับว่า ณ เวลานั้น มีเอเจนซี่ ที่ทำให้ตัวกามิจเองมีรายได้จากสติ๊กเกอร์เฉลี่ยวันละสองพันกว่าบาท นั่นหมายความว่า ซีนแรก กามิจและเอเจนซี่เกาหลีต้มเราจนเปื่อย แต่มันไม่จบแค่นั้น กามิจแสดงละครเรียกชาลีเข้าไลฟ์ตลอด แสดงแบ๊วๆ ตรงตามจริตคนไทยที่ชอบดูซีรี่เกาหลี ทั้งสงสารและเอ็นดู ก็กะจะช่วยส่งให้ได้เรียนตามฝันนั่นแหละ ดังนั้นนี่คือข้อแรก ที่ต้องแยกประเด็นให้ชัดว่า นี่คือสิ่งที่คนไทยต้องรู้ซึ่งมันก็ไม่ได้ต่างจาก แก๊v คoล ที่คนไทยโดนกันทุกวัน แต่เปลี่ยนเป็นการทำให้สงสาร และส่งติ๊กเกอร์ทางตต. และดูดทรัยพ์คนไทยนี่แหละ
    2. เน็กชาลี แบกรับหลายอย่าง ทั้งความหวังของคนติดตาม และความคิดที่จะพยายามเปลี่ยน ทั้งๆที่รู้ว่าข้อเสียนั้นมากมาย ความดิบ ความสก็อยที่ตัวกามิจเองก็อยากแสดง แต่เน็กเตือนตลอดว่าอย่าทำ ไม่งั้นคนจะไม่รักคุณ ซึ่งเน็กเอง ก็เพิ่งมารู้ไม่นานนี้เองนะครับ ว่ากามิจมีเอเจนซี่ดูแล ตั้งแต่ก่อนที่จะมาไทย
    3. ในเมื่อความจริงปรากฏแบบนี้ ถ้าคุณรู้แบบที่พี่คิงส์รู้ จะไปบอกความจริงเพื่อเตือนคนไทยให้ระมัดระวัง ไม่กลายเป็นพลาดแบบเคสนี้ ซึ่งแน่นอน ถ้าคุณมีใจที่ห่วงคนอื่นเป็น คุณก็จะทำแบบพี่คิงส์
    4. กรณีที่หาว่าพี่คิงส์หวังเรียกยอดไลค์ อันนี้แปลว่าคุณไม่ได้ติดตามเพจนี้มาตั้งแต่ต้น เพจนี้ แม้มีคนติดตามอยู่แค่ครึ่งแสน แต่เราได้ผลิตคลิป และโพสต่างๆที่เป็นข่าวสารที่เป็นประโยชน์กับคนไทย ยอดทะลุล้าน นับสิบๆคลิป และทะลุหลักแสนในอีกหลายแพลตฟอร์ม ดังนั้น เราไม่ได้รู้สึกกระหายสิ่งเหล่านี้ แม้แต่การผูกบัญชีรายได้กับแพลตฟอร์ม เรายังไม่ทำ เพราะเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนที่มีค่ากว่าเงิน
    5. มีคนคอมเม้นว่า พี่คิงส์ ให้หยุดทำข่าวเรื่องนี้เพราะจะทำให้ชาลีเจ็บ พี่คิงส์คิดว่า ตรรกะนี้ผิดเพี้ยนไปมาก คุณมาบอกให้เพจคิงส์ฯหยุดปกป้องคนถูกกระทำ ขอถามกลับว่า ทำไม่คุณไม่ไปบอกให้คนที่กระทำมันหยุดสร้างสตอรี่ทุกวี่วัน มาทำให้คนที่ยังไม่ตื่นรู้ยังหลง และซื้อติ๊กเกอร์ตต.ส่งให้มัน และทำไมคุณไม่คิดว่า สิ่งที่เพจคิงส์เปิดเผย มันคือสิ่งที่อาจจะอยู่ในใจของคนที่รู้ความจริง แต่เค้าพูดไม่ได้ล่ะ อันนี้ต้องกลับไปเรียงลำดับความคิดซะใหม่ เพราะสิ่งที่พี่คิงส์ทำคือการบอกถึงเล่ห์ที่ต่างชาติมองคนไทยเป็นแหล่งรายได้ ด้วยวิธีการที่เราเองก็ไม่เคยเจอมาก่อน และเราควรตั้งรับด้วยความรู้
    6. สำหรับท่านใหม่ๆที่เพิ่งเข้ามา อาจเป็นแฟนคลับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง เรียนด้วยความเคารพว่า เพจนี้ หากพบสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เราทำข่าวขยี้ทุกพรรค เพราะเพจเราไม่ได้เป็นเพจดาราที่ชี้แจงไปแล้วตั้งแต่ข้อ 1 แต่ถ้าท่านต้องการยืนอยู่ข้างความถูกต้องด้วยเหตุ ด้วยผล โดยไม่เอาวิญญาณไปผูกกับพรรคไหน ท่านจะได้รับความบันเทิงจากความจริงที่เพจนี้ได้นำมาเปิดเผย
    สุดท้าย ขอเป็นกำลังใจให้น้องเน็ก ทำความดีต่อไป เป็นคนดีต่อไป อย่างน้อยเพจนี้ ก็เป็นตัวแทนของคนไทย ที่พร้อมปกป้องและยืนเคียงข้างคนดีอย่างเน็กชาลีเสมอ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ถึงคราต้องเปิดใจทำไมต้องทำข่าวอิเหวิงกามิน พี่คิงส์ฯคิดว่ามีแฟนเพจจำนวนหนึ่งที่รู้สึกสงสัยว่าทำไมเพจคิงส์ฯถึงต้องนำเสนอเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมา จุดยืนตามข้อความที่ปักหมูด นั่นคือ การยืนหยัดเพื่อปกป้องสถาบันหลักของชาติ เปิดเผยแนวคิดล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรย์ทรงเป็นประมุก เราดำเนินการโดยไม่มีใครจ้าง ทำด้วยจิตวิญญาณของคนไทยที่รักประเทศชาติและห่วงใจพี่น้องชาวไทยอย่างแท้จริง แต่เพจคิงส์โพธิ์แดงก็ไม่เคยนำเสนอเรื่องน้องเน็กและกามินมาเลย มีแต่เพียงหยิบภาพมาแซวขำๆ ระหว่างเพจนี้ กับเพจ วันนี้พรรคส้มโกหกอะไร แค่นั้น ..แต่กรณีนี้ กับเหตุการณ์ที่แปลสภาพจากกามิน เป็นกามิจ มันเป็นเรื่องสำคัญกว่าคำว่าข่าวดารา แจงให้เห็นภาพดังนี้ 1. เน็กชาลี นอกจากความเป็นดารา แต่น้องคือคนไทยคนหนึ่ง ที่มีจิตใจเมตตาเหมือนคนไทยส่วนใหญ่ที่ชอบช่วยเหลือคน แต่ภาพที่กามินแสดงบนโลกตต. ที่เน็กและคนไทยอดสงสารไม่ได้คือ การกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป การไลฟ์หามรุ่งห้ามค่ำเพื่อหาทุนเรียนต่อ แล้วสุดท้าย กามิจเองก็ออกมายอมรับว่า ณ เวลานั้น มีเอเจนซี่ ที่ทำให้ตัวกามิจเองมีรายได้จากสติ๊กเกอร์เฉลี่ยวันละสองพันกว่าบาท นั่นหมายความว่า ซีนแรก กามิจและเอเจนซี่เกาหลีต้มเราจนเปื่อย แต่มันไม่จบแค่นั้น กามิจแสดงละครเรียกชาลีเข้าไลฟ์ตลอด แสดงแบ๊วๆ ตรงตามจริตคนไทยที่ชอบดูซีรี่เกาหลี ทั้งสงสารและเอ็นดู ก็กะจะช่วยส่งให้ได้เรียนตามฝันนั่นแหละ ดังนั้นนี่คือข้อแรก ที่ต้องแยกประเด็นให้ชัดว่า นี่คือสิ่งที่คนไทยต้องรู้ซึ่งมันก็ไม่ได้ต่างจาก แก๊v คoล ที่คนไทยโดนกันทุกวัน แต่เปลี่ยนเป็นการทำให้สงสาร และส่งติ๊กเกอร์ทางตต. และดูดทรัยพ์คนไทยนี่แหละ 2. เน็กชาลี แบกรับหลายอย่าง ทั้งความหวังของคนติดตาม และความคิดที่จะพยายามเปลี่ยน ทั้งๆที่รู้ว่าข้อเสียนั้นมากมาย ความดิบ ความสก็อยที่ตัวกามิจเองก็อยากแสดง แต่เน็กเตือนตลอดว่าอย่าทำ ไม่งั้นคนจะไม่รักคุณ ซึ่งเน็กเอง ก็เพิ่งมารู้ไม่นานนี้เองนะครับ ว่ากามิจมีเอเจนซี่ดูแล ตั้งแต่ก่อนที่จะมาไทย 3. ในเมื่อความจริงปรากฏแบบนี้ ถ้าคุณรู้แบบที่พี่คิงส์รู้ จะไปบอกความจริงเพื่อเตือนคนไทยให้ระมัดระวัง ไม่กลายเป็นพลาดแบบเคสนี้ ซึ่งแน่นอน ถ้าคุณมีใจที่ห่วงคนอื่นเป็น คุณก็จะทำแบบพี่คิงส์ 4. กรณีที่หาว่าพี่คิงส์หวังเรียกยอดไลค์ อันนี้แปลว่าคุณไม่ได้ติดตามเพจนี้มาตั้งแต่ต้น เพจนี้ แม้มีคนติดตามอยู่แค่ครึ่งแสน แต่เราได้ผลิตคลิป และโพสต่างๆที่เป็นข่าวสารที่เป็นประโยชน์กับคนไทย ยอดทะลุล้าน นับสิบๆคลิป และทะลุหลักแสนในอีกหลายแพลตฟอร์ม ดังนั้น เราไม่ได้รู้สึกกระหายสิ่งเหล่านี้ แม้แต่การผูกบัญชีรายได้กับแพลตฟอร์ม เรายังไม่ทำ เพราะเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนที่มีค่ากว่าเงิน 5. มีคนคอมเม้นว่า พี่คิงส์ ให้หยุดทำข่าวเรื่องนี้เพราะจะทำให้ชาลีเจ็บ พี่คิงส์คิดว่า ตรรกะนี้ผิดเพี้ยนไปมาก คุณมาบอกให้เพจคิงส์ฯหยุดปกป้องคนถูกกระทำ ขอถามกลับว่า ทำไม่คุณไม่ไปบอกให้คนที่กระทำมันหยุดสร้างสตอรี่ทุกวี่วัน มาทำให้คนที่ยังไม่ตื่นรู้ยังหลง และซื้อติ๊กเกอร์ตต.ส่งให้มัน และทำไมคุณไม่คิดว่า สิ่งที่เพจคิงส์เปิดเผย มันคือสิ่งที่อาจจะอยู่ในใจของคนที่รู้ความจริง แต่เค้าพูดไม่ได้ล่ะ อันนี้ต้องกลับไปเรียงลำดับความคิดซะใหม่ เพราะสิ่งที่พี่คิงส์ทำคือการบอกถึงเล่ห์ที่ต่างชาติมองคนไทยเป็นแหล่งรายได้ ด้วยวิธีการที่เราเองก็ไม่เคยเจอมาก่อน และเราควรตั้งรับด้วยความรู้ 6. สำหรับท่านใหม่ๆที่เพิ่งเข้ามา อาจเป็นแฟนคลับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง เรียนด้วยความเคารพว่า เพจนี้ หากพบสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เราทำข่าวขยี้ทุกพรรค เพราะเพจเราไม่ได้เป็นเพจดาราที่ชี้แจงไปแล้วตั้งแต่ข้อ 1 แต่ถ้าท่านต้องการยืนอยู่ข้างความถูกต้องด้วยเหตุ ด้วยผล โดยไม่เอาวิญญาณไปผูกกับพรรคไหน ท่านจะได้รับความบันเทิงจากความจริงที่เพจนี้ได้นำมาเปิดเผย สุดท้าย ขอเป็นกำลังใจให้น้องเน็ก ทำความดีต่อไป เป็นคนดีต่อไป อย่างน้อยเพจนี้ ก็เป็นตัวแทนของคนไทย ที่พร้อมปกป้องและยืนเคียงข้างคนดีอย่างเน็กชาลีเสมอ #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1977 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องนี้ชักสนุกเข้มข้น
    เรื่องมีอยู่ว่า
    เสรีพิศุทธิ์ขอเข้าพบโทนี่ ที่ชั้น 14
    ย้ำอีกทีว่า เสรีขอเข้าพบ เพราะโทนี่ส่งไฟล์ยกเลิกร้องเรียนนายกเศรษฐามาให้เซ็น
    แต่เสรี ดึงเช็ง อยากไปใกล้ชิดทบทวนความหลัง
    โทนี่รู้ ก็เลยออกปาก "ผมเป็นหนี้บุญคุณพี่เสรีเยอะมาก"
    เคลิ้มสิครับ ตามประสาคนหมดวาสนา
    สิ่งเดียวที่เสรีอยากทำ เมื่อได้คุมตร.คือช่วยสุรเชษฐ์
    เรื่องสุรเชษฐ์ยอมจ่ายเท่าไหร่ไม่อั้น
    ถ้าเสรีดึงกลับเข้าราชการได้
    เรื่องนี้โทนี่ก็รุ้
    พอกลับจากชั้น 14 ไม่นานก็ถึงวันโหวตนายกอิ๊ง
    โทนี่ก็โทรมาให้ไปช่วยโหวต ซึ่งวันนั้น
    เสรี หัวหน้าพรรคที่มีสส.คนเดียว ก็ไปยิ้มแย้ม
    แถมแถลงร่วมด้วยนะ พร้อมสนับสนุนอิ๊งทุกอย่าง
    แต่เมื่อเริ่มแบ่งสรรปันส่วนเรื่องเก้าอี้รมต.
    ซึ่งเสรีก็เตรียมคำพูดไว้หมด
    แต่ก็มีแต่พรรคโน้น พรรคนี้ ถูกเรียกไปคุย
    เสรีชักไม่ไว้วางใจ จึงไปหาอ้วนภูมิธรรมในฐานะ
    ผจก.จัดตั้ง รบ. และพูดไปตรงๆแบบที่เค้าไม่ได้ถาม
    ภูมิธรรม พี่อยากคุมตร. คุมความมั่นคง
    ภูมิธรรมก็ตอบทันทีว่า คุยแล้วพี่เสรี
    เค้า(หมายถึงโทนี่) จะคุมเอง โดยใช้ชื่ออิ๊งเป็นร่างทรง
    ในวันนี้ เสรี ถึงกับปรี๊ดแตกว่าโทนี่หักเหลี่ยมตัวเอง
    แต่ๆๆๆ ที่ไหนได้ คุมตร.แบบตรงตัวคือรมตมหาดไทย
    อ้วนขอโทนี่ไว้แล้ว ไม่ใช่โทนี่จะคุมเอง
    เพิ่งจะโป๊ะแตกวันนี้แหละ ตอนเปิดชื่อว่าที่รมต.บางส่วน
    สรุป อ้วนอยากเป็นบิ๊กอ้วนนี่เอง
    ชอบเสือเฒ่าหักเหลี่ยมกัน
    ดูน่าเอ็นดูดี ฮ่าๆๆๆ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    เรื่องนี้ชักสนุกเข้มข้น เรื่องมีอยู่ว่า เสรีพิศุทธิ์ขอเข้าพบโทนี่ ที่ชั้น 14 ย้ำอีกทีว่า เสรีขอเข้าพบ เพราะโทนี่ส่งไฟล์ยกเลิกร้องเรียนนายกเศรษฐามาให้เซ็น แต่เสรี ดึงเช็ง อยากไปใกล้ชิดทบทวนความหลัง โทนี่รู้ ก็เลยออกปาก "ผมเป็นหนี้บุญคุณพี่เสรีเยอะมาก" เคลิ้มสิครับ ตามประสาคนหมดวาสนา สิ่งเดียวที่เสรีอยากทำ เมื่อได้คุมตร.คือช่วยสุรเชษฐ์ เรื่องสุรเชษฐ์ยอมจ่ายเท่าไหร่ไม่อั้น ถ้าเสรีดึงกลับเข้าราชการได้ เรื่องนี้โทนี่ก็รุ้ พอกลับจากชั้น 14 ไม่นานก็ถึงวันโหวตนายกอิ๊ง โทนี่ก็โทรมาให้ไปช่วยโหวต ซึ่งวันนั้น เสรี หัวหน้าพรรคที่มีสส.คนเดียว ก็ไปยิ้มแย้ม แถมแถลงร่วมด้วยนะ พร้อมสนับสนุนอิ๊งทุกอย่าง แต่เมื่อเริ่มแบ่งสรรปันส่วนเรื่องเก้าอี้รมต. ซึ่งเสรีก็เตรียมคำพูดไว้หมด แต่ก็มีแต่พรรคโน้น พรรคนี้ ถูกเรียกไปคุย เสรีชักไม่ไว้วางใจ จึงไปหาอ้วนภูมิธรรมในฐานะ ผจก.จัดตั้ง รบ. และพูดไปตรงๆแบบที่เค้าไม่ได้ถาม ภูมิธรรม พี่อยากคุมตร. คุมความมั่นคง ภูมิธรรมก็ตอบทันทีว่า คุยแล้วพี่เสรี เค้า(หมายถึงโทนี่) จะคุมเอง โดยใช้ชื่ออิ๊งเป็นร่างทรง ในวันนี้ เสรี ถึงกับปรี๊ดแตกว่าโทนี่หักเหลี่ยมตัวเอง แต่ๆๆๆ ที่ไหนได้ คุมตร.แบบตรงตัวคือรมตมหาดไทย อ้วนขอโทนี่ไว้แล้ว ไม่ใช่โทนี่จะคุมเอง เพิ่งจะโป๊ะแตกวันนี้แหละ ตอนเปิดชื่อว่าที่รมต.บางส่วน สรุป อ้วนอยากเป็นบิ๊กอ้วนนี่เอง ชอบเสือเฒ่าหักเหลี่ยมกัน ดูน่าเอ็นดูดี ฮ่าๆๆๆ #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 488 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ฌอน บูรณะหิรัญ" โพสต์ ศาลยกฟ้องปมเงินบริจาคช่วยดับไฟป่า บอก 4 ปีที่ผ่านมาท้าทายมากๆ ขอบคุณทุกกำลังใจ ครอบครัว เพื่อน แฟนๆ ที่ไม่แม้แต่สงสัยในตัวผม

    (26 ก.ค. 67) ฌอน บูรณะหิรัญ โพสต์ข้อความระบุว่า วันนี้ที่ผมอดทนรอคอยมาตลอด4ปี ศาลนนทบุรีพิพากษายกฟ้อง จากความเป็นจริง คือ ผมได้นำเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้รับมาจากการบริจาคของทุกท่านไปช่วยเรื่องไฟป่าแล้วอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ด้วยความเคารพต่อศาล 4 ปีที่ผ่านมาท้าทายมากๆสำหรับผม และ ครอบครัว

    ขอบคุณทุกกำลังใจ ครอบครัว เพื่อน แฟนๆ ที่ไม่แม้แต่สงสัยในตัวผม ทุกคนเชื่อมั่นในตัวผม อยู่เคียงข้างผมมาตลอด ขอบคุณทนาย และ ที่ปรึกษาทุกท่านที่เมตตาเอ็นดูผม ที่สุดคือคำพิพากษาของศาลว่า ผมไม่มีความผิด

    ตื่นเต้นและรอคอยที่จะได้แชร์เรื่องราวให้ทุกคนฟังนะครับ

    I’ve been fighting a silent battle for the last 4 years… today the court dismissed all charges and ruled “not guilty”.

    All the allegations and rumors have been proven wrong. The truth is, I did help with forest fire prevention in northern Thailand and I did help hospitals during covid 19.

    The last 4 years have been tough but as the saying goes “tough times don’t last, tough people do.” I can’t wait to tell you guys all about it.

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/r/JyE5Un2vN8MLM5hP/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    "ฌอน บูรณะหิรัญ" โพสต์ ศาลยกฟ้องปมเงินบริจาคช่วยดับไฟป่า บอก 4 ปีที่ผ่านมาท้าทายมากๆ ขอบคุณทุกกำลังใจ ครอบครัว เพื่อน แฟนๆ ที่ไม่แม้แต่สงสัยในตัวผม (26 ก.ค. 67) ฌอน บูรณะหิรัญ โพสต์ข้อความระบุว่า วันนี้ที่ผมอดทนรอคอยมาตลอด4ปี ศาลนนทบุรีพิพากษายกฟ้อง จากความเป็นจริง คือ ผมได้นำเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้รับมาจากการบริจาคของทุกท่านไปช่วยเรื่องไฟป่าแล้วอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ด้วยความเคารพต่อศาล 4 ปีที่ผ่านมาท้าทายมากๆสำหรับผม และ ครอบครัว ขอบคุณทุกกำลังใจ ครอบครัว เพื่อน แฟนๆ ที่ไม่แม้แต่สงสัยในตัวผม ทุกคนเชื่อมั่นในตัวผม อยู่เคียงข้างผมมาตลอด ขอบคุณทนาย และ ที่ปรึกษาทุกท่านที่เมตตาเอ็นดูผม ที่สุดคือคำพิพากษาของศาลว่า ผมไม่มีความผิด ตื่นเต้นและรอคอยที่จะได้แชร์เรื่องราวให้ทุกคนฟังนะครับ I’ve been fighting a silent battle for the last 4 years… today the court dismissed all charges and ruled “not guilty”. All the allegations and rumors have been proven wrong. The truth is, I did help with forest fire prevention in northern Thailand and I did help hospitals during covid 19. The last 4 years have been tough but as the saying goes “tough times don’t last, tough people do.” I can’t wait to tell you guys all about it. ที่มา : https://www.facebook.com/share/r/JyE5Un2vN8MLM5hP/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 560 มุมมอง 0 รีวิว
  • อะไรของป้าเจี๊ยบอมเกียร์กันเนี่ย
    พี่คิงส์ก็นึกๆแล้ว ไม่เคยว่าอะไรเจี๊ยบเลยนะเนี่ย
    กลัวจนสั่นไปหมดแล้ว
    อยากให้ป้าเจี๊ยบเอ็นดูพี่คิงส์
    แล้วเอาเวลาไปสู้คดีย์นะ ๑๑๒
    รออยู่หลายกรรมหลายวาระนี่
    ปั๊มลายนิ้วมือเรียบร้อยแล้ว
    พวกเราจะคอยเอาใจช่วย
    ป้าเตรียมหรือยัง จะตามอิบุ้ง
    หรือจะตามอานนท์
    แนะนำว่าไหนๆก็อายุปูนนี้แล้ว
    ป้าตามอิบุ้งไปดีกว่า แผ่นดินจะได้สูงขึ้นนะป้านะ
    แหม่ตามหาตัวแอด แอ๊ดอยู่มอนเต จะตามมามั๊ยล่ะป้า
    เก็บแรงไว้หายใจ ยังมีอะไรต้องเจออีกเยอะ
    กรรมมันไวนะป้านะ
    จะมาเอาเรื่องเอาราวอะไรกับน้องคิงส์โพธิ์แดง
    ถาม fc สิ พี่คิงส์ไม่เคยว่าอะไรป้าเลยน้า
    ไม่เชื่อ ลองดูในคอมเม้นเอา
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #เจี๊ยบอมรัตน์
    #เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันใย
    #เจี๊ยบอมเกียร์
    อะไรของป้าเจี๊ยบอมเกียร์กันเนี่ย พี่คิงส์ก็นึกๆแล้ว ไม่เคยว่าอะไรเจี๊ยบเลยนะเนี่ย กลัวจนสั่นไปหมดแล้ว อยากให้ป้าเจี๊ยบเอ็นดูพี่คิงส์ แล้วเอาเวลาไปสู้คดีย์นะ ๑๑๒ รออยู่หลายกรรมหลายวาระนี่ ปั๊มลายนิ้วมือเรียบร้อยแล้ว พวกเราจะคอยเอาใจช่วย ป้าเตรียมหรือยัง จะตามอิบุ้ง หรือจะตามอานนท์ แนะนำว่าไหนๆก็อายุปูนนี้แล้ว ป้าตามอิบุ้งไปดีกว่า แผ่นดินจะได้สูงขึ้นนะป้านะ แหม่ตามหาตัวแอด แอ๊ดอยู่มอนเต จะตามมามั๊ยล่ะป้า เก็บแรงไว้หายใจ ยังมีอะไรต้องเจออีกเยอะ กรรมมันไวนะป้านะ จะมาเอาเรื่องเอาราวอะไรกับน้องคิงส์โพธิ์แดง ถาม fc สิ พี่คิงส์ไม่เคยว่าอะไรป้าเลยน้า ไม่เชื่อ ลองดูในคอมเม้นเอา #คิงส์โพธิ์แดง #เจี๊ยบอมรัตน์ #เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันใย #เจี๊ยบอมเกียร์
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 452 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts