วันนี้มาคุยกันต่อเกี่ยวกับสมัยราชวงศ์ชิง เพื่อนเพจที่เคยดูละครยุคสมัยดังกล่าวจะต้องเคยเห็นผ้าแถบสีขาวที่ไขว้อยู่ที่คอของสตรีในวังหลัง บางคนเรียกมันว่า “หลิ่งจิง” (领巾) หรือผ้าแถบพันคอ แต่จริงๆ แล้วมันมีชื่ออย่างเป็นทางการเรียกว่า “หลงหัว” (龙华)
หลงหัวเป็นผ้าแถบสีขาวชายตรง ขนาดหน้ากว้างประมาณ 2 นิ้ว ส่วนใหญ่ทำจากผ้าแพร วิธีใส่ที่ถูกต้องคือชายหนึ่งปล่อยอิสระ แต่อีกชายหนึ่งต้องสอดเก็บเข้าไปในคอเสื้อ (ดังภาพที่นำมาแสดง แต่จะเห็นในละครหลายเรื่องเอาชายข้างหนึ่งพับทบแนบกลับไปกับแถบผ้าซึ่งเป็นวิธีใส่ที่ผิด)
ประโยชน์ของหลงหัวคือไว้อุ่นคอและปิดคอของสตรีเนื่องจากเสื้อสมัยนั้นเป็นคอกลมไม่มีปก ต่อมาในช่วงปลายราชวงศ์ชิงนิยมใช้เสื้อมีปกจึงเลิกใช้หลงหัวไป (ประมาณช่วงปีค.ศ. 1862 เป็นต้นไป)
เนื้อผ้าและลายปักของหลงหัวนั้น มีเกณฑ์กำหนดตามยศศักดิ์ ยิ่งมียศสูง เนื้อผ้าที่ใช้ก็จะยิ่งมีค่าและมีลายปักมากและอาจมีความกว้างขึ้นอีกเล็กน้อย (ฉะนั้นที่เห็นพระสนมตำแหน่งสูงๆ หรือฮองเฮาใส่แบบเกลี้ยงๆ ในบางเรื่องจึงไม่ถูกต้องนะจ๊ะ) ดังนั้น ขันที นางกำนัลและแม้แต่ฮ่องเต้ยังอาศัยรูปแบบลายปักของหลงหัวมาจำแนกยศศักดิ์ของสตรีต่างๆ ในวังหลังได้อีกด้วย (อย่าลืมว่านางในมีจำนวนมากจนจำกันไม่ได้หมด)
แต่ไม่ใช่อยากปักลายอะไรก็ปักได้ เรามาดูกันว่าแต่ละตำแหน่งมีลวดลายอะไรบ้าง
เริ่มกันที่ไทเฮา มีภาพจริงของพระนางซูสีไทเฮามาให้ดู จะเห็นว่าหลงหัวมีการปักจนเต็มแถบ ลวดลายที่ปักนั้นคือคำว่า “โซ่ว” ซึ่งจะเห็นว่าละครเรื่อง <เจินหวน จอมนางคู่แผ่นดิน> ทำเรื่องหลงหัวออกมาตรงตามแบบฉบับจริง (ดูรูปประกอบ) คือเป็นการสลับลายกลมที่เรียกว่า “ถวนโซ่ว” และลายอักษรที่เรียกว่า “ฉางโซ่ว” ซึ่งล้วนมีความหมายให้อายุยืน
มาต่อกันที่ตำแหน่งอื่น ฮองเฮาสามารถปักลวดลายได้หลายชนิดจนเต็มแถบ ที่นิยมคือลายอักษร ‘โซ่ว’ ลายดอกโบตั๋น และลายเฟิ่งหวง ส่วนกุ้ยเฟยสามารถปักลวดลายได้หลายชนิดจนเต็มแถบเช่นกันเพียงแต่ห้ามปักลายอักษร สำหรับ ‘เฟย’ นั้น ให้ปักลายดอกไม้ดอกใหญ่ได้สี่ดอกเท่านั้น (ดูตัวอย่างในภาพ) และสำหรับพระสนมระดับต่างๆ ให้ใช้เป็นลายปักดอกไม้แต่จะเป็นดอกเล็กไม่เกินสามดอก อย่างเช่นตำแหน่ง ‘ฉางจ้าย’ มีลายดอกไม้ได้เพียงดอกเดียว ส่วนนางในที่ไม่ได้รับพระราชทานตำแหน่งและนางกำนัลไม่สามารถมีลายปักได้เลยและแบ่งยศด้วยความยาวของชายผ้า ยิ่งสั้นยิ่งเป็นนางกำนัลระดับล่าง
(แก้ไขเพิ่มเติม: ในภาพที่นำมาแสดงมีคำบรรยายผิด กราบขออภัย 1) สะกดหลงหัวผิด 2) ในภาพเรียก 'เฟย' เป็นพระสนมแต่มีเพื่อนเพจใจดีช่วยบอกมาว่าเฟยเป็นพระชายา ไม่ใช่พระสนมแล้ว)
(ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)
Credit รูปภาพและข้อมูลจาก:
https://www.wenshigu.com/fyrw/hgrw/323315.html
https://zhuanlan.zhihu.com/p/47119908
https://zhuanlan.zhihu.com/p/93071937
https://kknews.cc/zh-sg/entertainment/5bl34xk.html
https://www.sohu.com/a/254800788_100148471
https://kknews.cc/fashion/9nbbz28.html
#หลิ่งจิง #หลงหัว #เครื่องแต่งกายพระสนม #เครื่องแต่งกายราชวงศ์ชิง #ประวัติศาสตร์จีน #เจินหวน #หรูอี้
หลงหัวเป็นผ้าแถบสีขาวชายตรง ขนาดหน้ากว้างประมาณ 2 นิ้ว ส่วนใหญ่ทำจากผ้าแพร วิธีใส่ที่ถูกต้องคือชายหนึ่งปล่อยอิสระ แต่อีกชายหนึ่งต้องสอดเก็บเข้าไปในคอเสื้อ (ดังภาพที่นำมาแสดง แต่จะเห็นในละครหลายเรื่องเอาชายข้างหนึ่งพับทบแนบกลับไปกับแถบผ้าซึ่งเป็นวิธีใส่ที่ผิด)
ประโยชน์ของหลงหัวคือไว้อุ่นคอและปิดคอของสตรีเนื่องจากเสื้อสมัยนั้นเป็นคอกลมไม่มีปก ต่อมาในช่วงปลายราชวงศ์ชิงนิยมใช้เสื้อมีปกจึงเลิกใช้หลงหัวไป (ประมาณช่วงปีค.ศ. 1862 เป็นต้นไป)
เนื้อผ้าและลายปักของหลงหัวนั้น มีเกณฑ์กำหนดตามยศศักดิ์ ยิ่งมียศสูง เนื้อผ้าที่ใช้ก็จะยิ่งมีค่าและมีลายปักมากและอาจมีความกว้างขึ้นอีกเล็กน้อย (ฉะนั้นที่เห็นพระสนมตำแหน่งสูงๆ หรือฮองเฮาใส่แบบเกลี้ยงๆ ในบางเรื่องจึงไม่ถูกต้องนะจ๊ะ) ดังนั้น ขันที นางกำนัลและแม้แต่ฮ่องเต้ยังอาศัยรูปแบบลายปักของหลงหัวมาจำแนกยศศักดิ์ของสตรีต่างๆ ในวังหลังได้อีกด้วย (อย่าลืมว่านางในมีจำนวนมากจนจำกันไม่ได้หมด)
แต่ไม่ใช่อยากปักลายอะไรก็ปักได้ เรามาดูกันว่าแต่ละตำแหน่งมีลวดลายอะไรบ้าง
เริ่มกันที่ไทเฮา มีภาพจริงของพระนางซูสีไทเฮามาให้ดู จะเห็นว่าหลงหัวมีการปักจนเต็มแถบ ลวดลายที่ปักนั้นคือคำว่า “โซ่ว” ซึ่งจะเห็นว่าละครเรื่อง <เจินหวน จอมนางคู่แผ่นดิน> ทำเรื่องหลงหัวออกมาตรงตามแบบฉบับจริง (ดูรูปประกอบ) คือเป็นการสลับลายกลมที่เรียกว่า “ถวนโซ่ว” และลายอักษรที่เรียกว่า “ฉางโซ่ว” ซึ่งล้วนมีความหมายให้อายุยืน
มาต่อกันที่ตำแหน่งอื่น ฮองเฮาสามารถปักลวดลายได้หลายชนิดจนเต็มแถบ ที่นิยมคือลายอักษร ‘โซ่ว’ ลายดอกโบตั๋น และลายเฟิ่งหวง ส่วนกุ้ยเฟยสามารถปักลวดลายได้หลายชนิดจนเต็มแถบเช่นกันเพียงแต่ห้ามปักลายอักษร สำหรับ ‘เฟย’ นั้น ให้ปักลายดอกไม้ดอกใหญ่ได้สี่ดอกเท่านั้น (ดูตัวอย่างในภาพ) และสำหรับพระสนมระดับต่างๆ ให้ใช้เป็นลายปักดอกไม้แต่จะเป็นดอกเล็กไม่เกินสามดอก อย่างเช่นตำแหน่ง ‘ฉางจ้าย’ มีลายดอกไม้ได้เพียงดอกเดียว ส่วนนางในที่ไม่ได้รับพระราชทานตำแหน่งและนางกำนัลไม่สามารถมีลายปักได้เลยและแบ่งยศด้วยความยาวของชายผ้า ยิ่งสั้นยิ่งเป็นนางกำนัลระดับล่าง
(แก้ไขเพิ่มเติม: ในภาพที่นำมาแสดงมีคำบรรยายผิด กราบขออภัย 1) สะกดหลงหัวผิด 2) ในภาพเรียก 'เฟย' เป็นพระสนมแต่มีเพื่อนเพจใจดีช่วยบอกมาว่าเฟยเป็นพระชายา ไม่ใช่พระสนมแล้ว)
(ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)
Credit รูปภาพและข้อมูลจาก:
https://www.wenshigu.com/fyrw/hgrw/323315.html
https://zhuanlan.zhihu.com/p/47119908
https://zhuanlan.zhihu.com/p/93071937
https://kknews.cc/zh-sg/entertainment/5bl34xk.html
https://www.sohu.com/a/254800788_100148471
https://kknews.cc/fashion/9nbbz28.html
#หลิ่งจิง #หลงหัว #เครื่องแต่งกายพระสนม #เครื่องแต่งกายราชวงศ์ชิง #ประวัติศาสตร์จีน #เจินหวน #หรูอี้
วันนี้มาคุยกันต่อเกี่ยวกับสมัยราชวงศ์ชิง เพื่อนเพจที่เคยดูละครยุคสมัยดังกล่าวจะต้องเคยเห็นผ้าแถบสีขาวที่ไขว้อยู่ที่คอของสตรีในวังหลัง บางคนเรียกมันว่า “หลิ่งจิง” (领巾) หรือผ้าแถบพันคอ แต่จริงๆ แล้วมันมีชื่ออย่างเป็นทางการเรียกว่า “หลงหัว” (龙华)
หลงหัวเป็นผ้าแถบสีขาวชายตรง ขนาดหน้ากว้างประมาณ 2 นิ้ว ส่วนใหญ่ทำจากผ้าแพร วิธีใส่ที่ถูกต้องคือชายหนึ่งปล่อยอิสระ แต่อีกชายหนึ่งต้องสอดเก็บเข้าไปในคอเสื้อ (ดังภาพที่นำมาแสดง แต่จะเห็นในละครหลายเรื่องเอาชายข้างหนึ่งพับทบแนบกลับไปกับแถบผ้าซึ่งเป็นวิธีใส่ที่ผิด)
ประโยชน์ของหลงหัวคือไว้อุ่นคอและปิดคอของสตรีเนื่องจากเสื้อสมัยนั้นเป็นคอกลมไม่มีปก ต่อมาในช่วงปลายราชวงศ์ชิงนิยมใช้เสื้อมีปกจึงเลิกใช้หลงหัวไป (ประมาณช่วงปีค.ศ. 1862 เป็นต้นไป)
เนื้อผ้าและลายปักของหลงหัวนั้น มีเกณฑ์กำหนดตามยศศักดิ์ ยิ่งมียศสูง เนื้อผ้าที่ใช้ก็จะยิ่งมีค่าและมีลายปักมากและอาจมีความกว้างขึ้นอีกเล็กน้อย (ฉะนั้นที่เห็นพระสนมตำแหน่งสูงๆ หรือฮองเฮาใส่แบบเกลี้ยงๆ ในบางเรื่องจึงไม่ถูกต้องนะจ๊ะ) ดังนั้น ขันที นางกำนัลและแม้แต่ฮ่องเต้ยังอาศัยรูปแบบลายปักของหลงหัวมาจำแนกยศศักดิ์ของสตรีต่างๆ ในวังหลังได้อีกด้วย (อย่าลืมว่านางในมีจำนวนมากจนจำกันไม่ได้หมด)
แต่ไม่ใช่อยากปักลายอะไรก็ปักได้ เรามาดูกันว่าแต่ละตำแหน่งมีลวดลายอะไรบ้าง
เริ่มกันที่ไทเฮา มีภาพจริงของพระนางซูสีไทเฮามาให้ดู จะเห็นว่าหลงหัวมีการปักจนเต็มแถบ ลวดลายที่ปักนั้นคือคำว่า “โซ่ว” ซึ่งจะเห็นว่าละครเรื่อง <เจินหวน จอมนางคู่แผ่นดิน> ทำเรื่องหลงหัวออกมาตรงตามแบบฉบับจริง (ดูรูปประกอบ) คือเป็นการสลับลายกลมที่เรียกว่า “ถวนโซ่ว” และลายอักษรที่เรียกว่า “ฉางโซ่ว” ซึ่งล้วนมีความหมายให้อายุยืน
มาต่อกันที่ตำแหน่งอื่น ฮองเฮาสามารถปักลวดลายได้หลายชนิดจนเต็มแถบ ที่นิยมคือลายอักษร ‘โซ่ว’ ลายดอกโบตั๋น และลายเฟิ่งหวง ส่วนกุ้ยเฟยสามารถปักลวดลายได้หลายชนิดจนเต็มแถบเช่นกันเพียงแต่ห้ามปักลายอักษร สำหรับ ‘เฟย’ นั้น ให้ปักลายดอกไม้ดอกใหญ่ได้สี่ดอกเท่านั้น (ดูตัวอย่างในภาพ) และสำหรับพระสนมระดับต่างๆ ให้ใช้เป็นลายปักดอกไม้แต่จะเป็นดอกเล็กไม่เกินสามดอก อย่างเช่นตำแหน่ง ‘ฉางจ้าย’ มีลายดอกไม้ได้เพียงดอกเดียว ส่วนนางในที่ไม่ได้รับพระราชทานตำแหน่งและนางกำนัลไม่สามารถมีลายปักได้เลยและแบ่งยศด้วยความยาวของชายผ้า ยิ่งสั้นยิ่งเป็นนางกำนัลระดับล่าง
(แก้ไขเพิ่มเติม: ในภาพที่นำมาแสดงมีคำบรรยายผิด กราบขออภัย 1) สะกดหลงหัวผิด 2) ในภาพเรียก 'เฟย' เป็นพระสนมแต่มีเพื่อนเพจใจดีช่วยบอกมาว่าเฟยเป็นพระชายา ไม่ใช่พระสนมแล้ว)
(ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)
Credit รูปภาพและข้อมูลจาก:
https://www.wenshigu.com/fyrw/hgrw/323315.html
https://zhuanlan.zhihu.com/p/47119908
https://zhuanlan.zhihu.com/p/93071937
https://kknews.cc/zh-sg/entertainment/5bl34xk.html
https://www.sohu.com/a/254800788_100148471
https://kknews.cc/fashion/9nbbz28.html
#หลิ่งจิง #หลงหัว #เครื่องแต่งกายพระสนม #เครื่องแต่งกายราชวงศ์ชิง #ประวัติศาสตร์จีน #เจินหวน #หรูอี้
1 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
22 มุมมอง
0 รีวิว