• Cherry: ตำนานสวิตช์คีย์บอร์ดในวิกฤติการเงิน

    Cherry ผู้ผลิตสวิตช์เชิงกลที่เป็นที่รักของนักเล่นคีย์บอร์ดทั่วโลก กำลังเผชิญวิกฤติการเงินครั้งใหญ่ โดยหนี้สินของบริษัทสูงกว่ามูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด ทำให้ผู้บริหารต้องพิจารณาขายธุรกิจบางส่วน เช่น แผนก Peripherals (คีย์บอร์ดและเมาส์) หรือ Digital Health & Solutions เพื่อรักษาสภาพคล่อง.

    แม้จะมีข่าวการขายธุรกิจ แต่ สวิตช์ Cherry MX ที่เป็นหัวใจหลักของวงการคีย์บอร์ดยังคงอยู่ภายใต้แผนก Components ซึ่งจะไม่ถูกขายออกไปในตอนนี้ ทำให้แฟน ๆ ที่กังวลว่าสวิตช์จะหายไปจากตลาดยังคงสบายใจได้. อย่างไรก็ตาม Cherry สูญเสียความได้เปรียบทางนวัตกรรมไปมาก หลังสิทธิบัตร Cherry MX หมดอายุในปี 2014 เปิดทางให้คู่แข่งอย่าง Gateron, Kailh และ Outemu เข้ามาแย่งตลาดด้วยสวิตช์ที่มีลูกเล่นใหม่ ๆ เช่น โรงงานหล่อลื่น (factory-lubed) และ Hall-effect switches.

    สถานการณ์ยิ่งย่ำแย่หลังปี 2022 เมื่อยอดขายลดลงครึ่งหนึ่งจากช่วงที่เคยรุ่งเรืองในยุคโควิด-19 แม้รายได้รวมจะฟื้นตัวในปี 2023 แต่แผนก Digital Health และ Components กลับยังคงขาดทุน ทำให้ผู้บริหารต้องหาทางออกด้วยการขายบางธุรกิจและย้ายการผลิตสวิตช์จากเยอรมนีไปยังจีนและสโลวาเกียเพื่อลดต้นทุน.

    Cherry ยังพยายามเสริมสภาพคล่องด้วยการขายธุรกิจ Active Key (อุปกรณ์สุขอนามัย) ได้เงิน 21 ล้านยูโร พร้อมขอเงินสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นใหญ่ Argand Partners และจัดหาเงินกู้เพิ่มเติม 23 ล้านยูโร แต่ผู้บริหารยอมรับว่าการอยู่รอดในระยะยาวอาจต้องพึ่งการควบรวมกิจการหรือขายธุรกิจบางส่วนออกไป.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    วิกฤติการเงินของ Cherry
    หนี้สินสูงกว่ามูลค่าทรัพย์สิน
    พิจารณาขายแผนก Peripherals หรือ Digital Health & Solutions

    สถานะของ Cherry MX
    อยู่ในแผนก Components จึงยังไม่ถูกขาย
    สิทธิบัตรหมดอายุปี 2014 เปิดทางคู่แข่ง

    การแข่งขันในตลาด
    คู่แข่งอย่าง Gateron, Kailh, Outemu พัฒนาสวิตช์ใหม่ ๆ
    บริษัทใหญ่เช่น Corsair, Logitech, Razer หันไปใช้สวิตช์จากคู่แข่ง

    มาตรการแก้ไข
    ย้ายการผลิตไปจีนและสโลวาเกีย
    ขาย Active Key ได้ 21 ล้านยูโร
    ได้เงินกู้เพิ่ม 23 ล้านยูโร และการสนับสนุนจาก Argand Partners

    ความเสี่ยงต่ออนาคต
    อาจต้องขายธุรกิจเพิ่มเติมเพื่อความอยู่รอด
    การสูญเสียความได้เปรียบทางนวัตกรรมทำให้ยากต่อการแข่งขัน

    https://www.tomshardware.com/peripherals/keyboards/iconic-mechanical-keyboard-switch-maker-cherry-is-in-deep-financial-trouble-the-company-is-considering-selling-its-peripherals-division-to-stay-afloat
    ⌨️ Cherry: ตำนานสวิตช์คีย์บอร์ดในวิกฤติการเงิน Cherry ผู้ผลิตสวิตช์เชิงกลที่เป็นที่รักของนักเล่นคีย์บอร์ดทั่วโลก กำลังเผชิญวิกฤติการเงินครั้งใหญ่ โดยหนี้สินของบริษัทสูงกว่ามูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด ทำให้ผู้บริหารต้องพิจารณาขายธุรกิจบางส่วน เช่น แผนก Peripherals (คีย์บอร์ดและเมาส์) หรือ Digital Health & Solutions เพื่อรักษาสภาพคล่อง. แม้จะมีข่าวการขายธุรกิจ แต่ สวิตช์ Cherry MX ที่เป็นหัวใจหลักของวงการคีย์บอร์ดยังคงอยู่ภายใต้แผนก Components ซึ่งจะไม่ถูกขายออกไปในตอนนี้ ทำให้แฟน ๆ ที่กังวลว่าสวิตช์จะหายไปจากตลาดยังคงสบายใจได้. อย่างไรก็ตาม Cherry สูญเสียความได้เปรียบทางนวัตกรรมไปมาก หลังสิทธิบัตร Cherry MX หมดอายุในปี 2014 เปิดทางให้คู่แข่งอย่าง Gateron, Kailh และ Outemu เข้ามาแย่งตลาดด้วยสวิตช์ที่มีลูกเล่นใหม่ ๆ เช่น โรงงานหล่อลื่น (factory-lubed) และ Hall-effect switches. สถานการณ์ยิ่งย่ำแย่หลังปี 2022 เมื่อยอดขายลดลงครึ่งหนึ่งจากช่วงที่เคยรุ่งเรืองในยุคโควิด-19 แม้รายได้รวมจะฟื้นตัวในปี 2023 แต่แผนก Digital Health และ Components กลับยังคงขาดทุน ทำให้ผู้บริหารต้องหาทางออกด้วยการขายบางธุรกิจและย้ายการผลิตสวิตช์จากเยอรมนีไปยังจีนและสโลวาเกียเพื่อลดต้นทุน. Cherry ยังพยายามเสริมสภาพคล่องด้วยการขายธุรกิจ Active Key (อุปกรณ์สุขอนามัย) ได้เงิน 21 ล้านยูโร พร้อมขอเงินสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นใหญ่ Argand Partners และจัดหาเงินกู้เพิ่มเติม 23 ล้านยูโร แต่ผู้บริหารยอมรับว่าการอยู่รอดในระยะยาวอาจต้องพึ่งการควบรวมกิจการหรือขายธุรกิจบางส่วนออกไป. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ วิกฤติการเงินของ Cherry ➡️ หนี้สินสูงกว่ามูลค่าทรัพย์สิน ➡️ พิจารณาขายแผนก Peripherals หรือ Digital Health & Solutions ✅ สถานะของ Cherry MX ➡️ อยู่ในแผนก Components จึงยังไม่ถูกขาย ➡️ สิทธิบัตรหมดอายุปี 2014 เปิดทางคู่แข่ง ✅ การแข่งขันในตลาด ➡️ คู่แข่งอย่าง Gateron, Kailh, Outemu พัฒนาสวิตช์ใหม่ ๆ ➡️ บริษัทใหญ่เช่น Corsair, Logitech, Razer หันไปใช้สวิตช์จากคู่แข่ง ✅ มาตรการแก้ไข ➡️ ย้ายการผลิตไปจีนและสโลวาเกีย ➡️ ขาย Active Key ได้ 21 ล้านยูโร ➡️ ได้เงินกู้เพิ่ม 23 ล้านยูโร และการสนับสนุนจาก Argand Partners ‼️ ความเสี่ยงต่ออนาคต ⛔ อาจต้องขายธุรกิจเพิ่มเติมเพื่อความอยู่รอด ⛔ การสูญเสียความได้เปรียบทางนวัตกรรมทำให้ยากต่อการแข่งขัน https://www.tomshardware.com/peripherals/keyboards/iconic-mechanical-keyboard-switch-maker-cherry-is-in-deep-financial-trouble-the-company-is-considering-selling-its-peripherals-division-to-stay-afloat
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar
    #รวมข่าวIT #20251128 #TechRadar

     Google Assistant กำลังจะถูกแทนที่ด้วย Gemini บน Android Auto
    Google เตรียมปิดฉาก Google Assistant บน Android Auto ภายในเดือนมีนาคมปีหน้า และจะนำ Gemini ซึ่งเป็น AI รุ่นใหม่เข้ามาแทนที่ จุดเด่นคือการสื่อสารที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น เช่น การสั่งนำทางด้วยประโยคง่าย ๆ อย่าง “พาไปหาร้านเบอร์เกอร์ที่ดีที่สุดแถวนี้” แล้ว Gemini จะจัดการให้ทันที รวมถึงสามารถสานต่อบทสนทนา เช่นถามต่อว่าเมนูยอดนิยมคืออะไร หรือมีที่จอดฟรีไหม นอกจากนี้ Gemini ยังช่วยให้การส่งข้อความระหว่างขับรถง่ายขึ้น เช่นสั่งให้ส่งข้อความพร้อมใส่อีโมจิโดยไม่ต้องแก้ไขหลายครั้ง ถือเป็นการยกระดับการใช้งาน Android Auto ให้ปลอดภัยและสะดวกกว่าเดิม https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/google-hints-at-google-assistant-shutdown-date-for-android-auto-heres-what-that-means-for-you

    Tab 2: Amazon บล็อก Shopping Agent ของ ChatGPT
    Amazon ตัดสินใจบล็อกฟีเจอร์ Shopping Agent ใหม่ของ ChatGPT ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้ค้นหาสินค้าและดีลออนไลน์ เหตุผลหลักคือความกังวลเรื่องการแข่งขันและการควบคุมข้อมูลการซื้อขายบนแพลตฟอร์มของตนเอง การบล็อกครั้งนี้อาจส่งผลต่อผู้ใช้ที่หวังจะใช้ AI เพื่อช่วยเลือกซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น และยังสะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซกับผู้พัฒนา AI ที่กำลังรุกเข้ามาในตลาดการช้อปปิ้งออนไลน์ https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/amazon-blocks-chatgpts-new-shopping-agent-what-the-fallout-could-mean-for-you

    ระบบเตือนความปลอดภัยในรถจะ “น่ารำคาญ” น้อยลงในปี 2026
    หลายคนคงเคยหงุดหงิดกับเสียงเตือนหรือระบบความปลอดภัยในรถที่ดังบ่อยเกินไป ข่าวดีคือ ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป กฎใหม่ในยุโรปจะบังคับให้ผู้ผลิตรถยนต์ปรับระบบเตือนให้ “ไม่รบกวน” ผู้ขับขี่มากเกินไป เป้าหมายคือยังคงความปลอดภัย แต่ไม่สร้างความเครียดหรือรำคาญจนผู้ใช้ปิดระบบทิ้ง การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้การขับรถมีสมดุลระหว่างความปลอดภัยและความสบายใจมากขึ้น
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/sick-of-annoying-car-safety-warning-systems-good-news-theyll-become-less-intrusive-from-2026-heres-why

    รวมไอเท็มโทนดำสำหรับ Home Office สุดมินิมอล
    TechRadar แนะนำ 15 ผลิตภัณฑ์โทนสีดำที่เหมาะกับการสร้างบรรยากาศ Home Office แบบมินิมอล ตั้งแต่โต๊ะทำงาน เก้าอี้ ไปจนถึงอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่ช่วยให้พื้นที่ทำงานดูเรียบง่ายแต่มีสไตล์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบโทนเข้มและอยากได้บรรยากาศที่ทันสมัยและไม่รกตา การเลือกใช้โทนสีดำยังช่วยให้โฟกัสกับงานได้ดีขึ้นและสร้างความรู้สึกเป็นระเบียบ
    https://www.techradar.com/pro/website-building/15-products-id-use-to-build-my-dream-minimalist-home-office

     AWS สร้างระบบ DNS Backstop ป้องกันการล่มครั้งใหญ่
    AWS กำลังพัฒนาระบบ DNS Backstop ใหม่เพื่อป้องกันการหยุดทำงานของบริการครั้งใหญ่ในอนาคต หลังจากที่เคยเกิดเหตุการณ์ระบบล่มจนกระทบผู้ใช้จำนวนมาก การสร้าง Backstop นี้จะช่วยให้ระบบมีความทนทานและสามารถรับมือกับปัญหาได้ดียิ่งขึ้น ถือเป็นการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าองค์กรที่พึ่งพา AWS ในการดำเนินธุรกิจ
    https://www.techradar.com/pro/aws-is-building-a-new-dns-backstop-to-prevent-further-outages

    Windows 11 กำลังเสียความนิยมเมื่อเทียบกับ Windows 10
    Dell เปิดเผยข้อมูลที่สะท้อนว่า Windows 11 ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร หลังจากที่ Windows 10 หมดการสนับสนุนแล้ว ผู้ใช้จำนวนมากยังคงเลือกใช้ Windows 10 ต่อไป แม้จะไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัยแล้วก็ตาม สิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายของ Microsoft ในการผลักดันให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ Windows 11 ซึ่งอาจต้องหาวิธีสร้างแรงจูงใจเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ใช้ยอมอัปเกรด
    https://www.techradar.com/computing/windows/is-windows-11-fighting-a-losing-battle-dell-underlines-how-unpopular-the-os-is-after-support-ended-compared-to-windows-10

     OpenAI เปิดให้ลูกค้าองค์กรเลือกที่เก็บข้อมูล ChatGPT
    OpenAI ประกาศฟีเจอร์ใหม่สำหรับลูกค้าองค์กร โดยสามารถเลือกได้ว่าข้อมูลของ ChatGPT จะถูกเก็บไว้ที่ไหน ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ธุรกิจที่มีข้อกำหนดด้านกฎหมายหรือความปลอดภัยสามารถควบคุมการจัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้น ถือเป็นการตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการความยืดหยุ่นและความมั่นใจในการใช้ AI โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่มีข้อกำหนดเข้มงวด
    https://www.techradar.com/pro/openai-now-lets-business-customers-choose-where-their-chatgpt-data-is-hosted

     Apple แย่งบัลลังก์มือถือจาก Samsung หลัง 14 ปี
    Apple เตรียมขึ้นแท่นเป็นผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนแทน Samsung เป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี โดยแรงหนุนหลักมาจาก iPhone 17 ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในตลาดมือถือโลก และสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของ Apple ในการสร้างนวัตกรรมและดึงดูดผู้ใช้ได้อย่างต่อเนื่อง
    https://www.techradar.com/phones/iphone/apple-will-take-samsungs-phone-crown-for-the-first-time-in-14-years-and-its-all-thanks-to-the-iphone-17

     ยุโรปเตรียมห้ามโซเชียลมีเดียสำหรับผู้ต่ำกว่า 16 ปี
    สหภาพยุโรปกำลังพิจารณากฎหมายใหม่ที่จะห้ามผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย เหตุผลหลักคือการปกป้องเยาวชนจากผลกระทบด้านสุขภาพจิตและความเสี่ยงจากการใช้งานออนไลน์ หากกฎหมายนี้ผ่าน จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่กระทบทั้งผู้ใช้และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วโลก
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/europe-wants-to-ban-social-media-for-under-16s-heres-all-we-know

     Sony เปิดตัวเซ็นเซอร์กล้องมือถือ 200MP ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    Sony เปิดตัวเซ็นเซอร์กล้องมือถือความละเอียด 200MP ที่ถูกขนานนามว่า “ใหญ่ที่สุดในโลก” โดยคาดว่าจะถูกนำไปใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่หลายรุ่น จุดเด่นคือการถ่ายภาพที่คมชัดและเก็บรายละเอียดได้มากขึ้น ซึ่งอาจเป็นการยกระดับมาตรฐานการถ่ายภาพบนมือถือไปอีกขั้น
    https://www.techradar.com/phones/sony-just-launched-the-worlds-largest-200mp-smartphone-sensor-heres-which-phones-could-get-it

    หูฟังลดเสียงรบกวน Loop ลดราคาแรง
    ช่วง Black Friday นี้ TechRadar เล่าประสบการณ์ตรงจากการลองใช้หูฟังลดเสียงรบกวน Loop หลายรุ่น ที่ช่วยทั้งการสนทนาในที่เสียงดัง การดูคอนเสิร์ต ไปจนถึงการนอนหลับสบาย โดยรุ่นเด่นคือ Loop Switch 2 ที่สามารถปรับโหมดลดเสียงได้ถึง 3 ระดับในคู่เดียว ทำให้ใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ ราคาลดเหลือเพียง 47.95 ดอลลาร์ในสหรัฐ และ 43.95 ปอนด์ในสหราชอาณาจักร ถือเป็นดีลที่คุ้มค่ามากสำหรับคนที่อยากได้หูฟังลดเสียงคุณภาพสูง
    https://www.techradar.com/health-fitness/ive-tried-all-the-best-loop-earplugs-and-now-theyre-on-sale-for-black-friday

    Asus เตือนช่องโหว่ร้ายแรงใน AiCloud Router
    Asus ออกประกาศเร่งด่วนหลังพบช่องโหว่ร้ายแรงในฟีเจอร์ AiCloud ของเราเตอร์ ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงถึง 9.2/10 และกระทบหลายรุ่นที่ยังใช้งานอยู่ ผู้ใช้ถูกแนะนำให้อัปเดตเฟิร์มแวร์ทันที หรือปิดการใช้งาน AiCloud และบริการแชร์ไฟล์เพื่อความปลอดภัย การอัปเดตครั้งนี้ยังแก้ไขช่องโหว่อื่น ๆ อีก 9 จุด แสดงให้เห็นว่าเราเตอร์เป็นเป้าหมายหลักของการโจมตีไซเบอร์
    https://www.techradar.com/pro/security/asus-warns-of-new-security-flaw-affecting-aicloud-routers-heres-what-we-know

    ช่องโหว่ Fluent Bit เสี่ยงกระทบระบบ Cloud ทั่วโลก
    Fluent Bit ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดการ log ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ถูกพบว่ามีช่องโหว่หลายจุดที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถแก้ไข log หรือรันโค้ดอันตรายจากระยะไกลได้ ช่องโหว่บางส่วนมีอยู่มานานกว่า 4-6 ปี ทำให้ระบบ Cloud ของ AWS, Google Cloud และ Microsoft Azure เสี่ยงถูกโจมตี ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดและตรวจสอบการตั้งค่า log อย่างเข้มงวด เพราะการโจมตีสามารถทำได้ง่ายและมีผลกระทบกว้างขวางต่อธุรกิจที่พึ่งพา Cloud
    https://www.techradar.com/pro/these-worrying-security-flaws-could-put-every-major-cloud-provider-at-risk-heres-what-we-know-so-far

    รีวิวเครื่องดูดฝุ่นเบาแต่ทรงพลัง
    TechRadar ทดลองเครื่องดูดฝุ่นหลายรุ่นเพื่อหาตัวที่เบาและใช้งานง่ายที่สุด ผลคือ Shark Detect Pro และ Dreame R20 โดดเด่นที่สุด โดย Shark Detect Pro เบามากจนถือมือเดียวได้สบาย แต่กำลังดูดไม่แรงเท่า Dreame R20 ที่มีคาร์บอนไฟเบอร์ช่วยให้เบาและทำความสะอาดได้ดีกว่า ทั้งสองรุ่นมีดีลลดราคาช่วง Black Friday ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้เครื่องดูดฝุ่นเบา ๆ แต่ยังคงประสิทธิภาพในการทำความสะอาด
    https://www.techradar.com/home/vacuums/i-tested-a-whole-bunch-of-vacuums-and-these-are-the-best-lightweight-options

    OpenAI ขอโทษเหตุข้อมูลรั่วจาก Mixpanel
    OpenAI ออกแถลงการณ์ขอโทษหลังบริษัทพันธมิตรด้านวิเคราะห์ข้อมูล Mixpanel ถูกเจาะระบบ ทำให้ข้อมูลนักพัฒนาที่ใช้แพลตฟอร์ม API ของ OpenAI รั่วไหล เช่น อีเมล ตำแหน่งโดยประมาณ และข้อมูลเบราว์เซอร์ แต่ยืนยันว่าไม่กระทบผู้ใช้ ChatGPT ทั่วไป และไม่มีข้อมูลสำคัญอย่างรหัสผ่านหรือ API key ถูกเปิดเผย OpenAI ได้ยุติการใช้บริการ Mixpanel และเพิ่มมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยกับพันธมิตรทั้งหมด พร้อมแนะนำให้ผู้ใช้เปิดการยืนยันตัวตนหลายขั้นตอนเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/openai-apologizes-for-big-mixpanel-data-breach-that-exposed-emails-and-more-heres-what-we-know

    Opera Neon เปิดตัวนักวิจัย AI ช่วยหาข้อมูลเร็วขึ้น
    Opera Neon กำลังสร้างความฮือฮา ด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้ AI ช่วยค้นคว้าและสรุปข้อมูลได้ภายในเวลาเพียง 1 นาที จากเดิมที่ต้องเปิดหลายแท็บพร้อมกัน ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ซับซ้อนอย่างรวดเร็วและเป็นระเบียบมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การใช้งานเบราว์เซอร์ให้ทันสมัยและตอบโจทย์คนทำงานยุคใหม่
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/opera-neons-ai-researcher-does-in-one-minute-what-used-to-take-a-dozen-tabs

    มัลแวร์ปลอมตัวเป็น Windows Update
    มีรายงานว่าแฮกเกอร์กำลังใช้เทคนิคใหม่ โดยปลอมตัวเป็นการอัปเดต Windows ที่ดูสมจริงมาก เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ติดตั้งมัลแวร์ที่ทรงพลัง วิธีการนี้สามารถหลอกแม้กระทั่งผู้ใช้ที่ระมัดระวัง การโจมตีลักษณะนี้เน้นใช้ภาพและข้อความที่เหมือนของจริง ทำให้ผู้ใช้ยากที่จะสังเกตเห็นความผิดปกติ ผู้เชี่ยวชาญเตือนให้ตรวจสอบทุกครั้งก่อนติดตั้งอัปเดต และควรดาวน์โหลดจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น
    https://www.techradar.com/pro/maybe-dont-trust-every-windows-update-without-checking-hackers-hijack-images-to-spread-dangerous-malware

    ไฟล์ Blender ปลอมแพร่มัลแวร์ StealC
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่าไฟล์โมเดล 3D จาก Blender ที่ถูกปลอมแปลง กำลังถูกใช้เพื่อแพร่กระจายมัลแวร์ StealC ซึ่งสามารถขโมยข้อมูลสำคัญจากเครื่องผู้ใช้ได้ การโจมตีนี้อาศัยความนิยมของ Blender ในวงการออกแบบและแอนิเมชัน ทำให้ผู้ใช้ที่ดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือเสี่ยงสูงที่จะติดมัลแวร์ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ตรวจสอบแหล่งที่มาของไฟล์ทุกครั้ง และใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันที่ทันสมัย
    https://www.techradar.com/pro/security/malicious-blender-model-files-deliver-stealc-infostealing-malware

    Missouri บังคับตรวจสอบอายุออนไลน์
    รัฐ Missouri เตรียมบังคับใช้กฎหมายใหม่ภายในสามวัน ที่กำหนดให้เว็บไซต์ต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้งานอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม กฎหมายนี้จะส่งผลต่อแพลตฟอร์มออนไลน์หลายประเภท ทั้งเว็บบันเทิงและบริการสตรีมมิ่ง ทำให้ผู้ให้บริการต้องปรับระบบยืนยันตัวตนเพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับใหม่ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านความปลอดภัยดิจิทัล
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/missouri-to-enforce-mandatory-age-verification-in-three-days

    Amazon Leo Ultra อินเทอร์เน็ตดาวเทียมความเร็วสูง
    Amazon เปิดตัวบริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Leo Ultra ที่ให้ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุดถึง 1Gbps และอัปโหลด 400Mbps ถือเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Starlink จุดเด่นคือความเร็วที่เหนือกว่าและการเชื่อมต่อที่เสถียร ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งผู้ใช้งานทั่วไปและธุรกิจที่ต้องการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล การเปิดตัวครั้งนี้อาจเปลี่ยนสมดุลของตลาดอินเทอร์เน็ตดาวเทียมทั่วโลก
    https://www.techradar.com/pro/amazons-rival-to-starlink-offers-fastest-downloads-and-uploads-but-how-will-it-stack-up-in-real-life
    📌📡🔵 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔵📡📌 #รวมข่าวIT #20251128 #TechRadar 🛠️ Google Assistant กำลังจะถูกแทนที่ด้วย Gemini บน Android Auto Google เตรียมปิดฉาก Google Assistant บน Android Auto ภายในเดือนมีนาคมปีหน้า และจะนำ Gemini ซึ่งเป็น AI รุ่นใหม่เข้ามาแทนที่ จุดเด่นคือการสื่อสารที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น เช่น การสั่งนำทางด้วยประโยคง่าย ๆ อย่าง “พาไปหาร้านเบอร์เกอร์ที่ดีที่สุดแถวนี้” แล้ว Gemini จะจัดการให้ทันที รวมถึงสามารถสานต่อบทสนทนา เช่นถามต่อว่าเมนูยอดนิยมคืออะไร หรือมีที่จอดฟรีไหม นอกจากนี้ Gemini ยังช่วยให้การส่งข้อความระหว่างขับรถง่ายขึ้น เช่นสั่งให้ส่งข้อความพร้อมใส่อีโมจิโดยไม่ต้องแก้ไขหลายครั้ง ถือเป็นการยกระดับการใช้งาน Android Auto ให้ปลอดภัยและสะดวกกว่าเดิม 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/google-hints-at-google-assistant-shutdown-date-for-android-auto-heres-what-that-means-for-you 🛒 Tab 2: Amazon บล็อก Shopping Agent ของ ChatGPT Amazon ตัดสินใจบล็อกฟีเจอร์ Shopping Agent ใหม่ของ ChatGPT ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้ค้นหาสินค้าและดีลออนไลน์ เหตุผลหลักคือความกังวลเรื่องการแข่งขันและการควบคุมข้อมูลการซื้อขายบนแพลตฟอร์มของตนเอง การบล็อกครั้งนี้อาจส่งผลต่อผู้ใช้ที่หวังจะใช้ AI เพื่อช่วยเลือกซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น และยังสะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซกับผู้พัฒนา AI ที่กำลังรุกเข้ามาในตลาดการช้อปปิ้งออนไลน์ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/amazon-blocks-chatgpts-new-shopping-agent-what-the-fallout-could-mean-for-you 🚗 ระบบเตือนความปลอดภัยในรถจะ “น่ารำคาญ” น้อยลงในปี 2026 หลายคนคงเคยหงุดหงิดกับเสียงเตือนหรือระบบความปลอดภัยในรถที่ดังบ่อยเกินไป ข่าวดีคือ ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป กฎใหม่ในยุโรปจะบังคับให้ผู้ผลิตรถยนต์ปรับระบบเตือนให้ “ไม่รบกวน” ผู้ขับขี่มากเกินไป เป้าหมายคือยังคงความปลอดภัย แต่ไม่สร้างความเครียดหรือรำคาญจนผู้ใช้ปิดระบบทิ้ง การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้การขับรถมีสมดุลระหว่างความปลอดภัยและความสบายใจมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/sick-of-annoying-car-safety-warning-systems-good-news-theyll-become-less-intrusive-from-2026-heres-why 🖤 รวมไอเท็มโทนดำสำหรับ Home Office สุดมินิมอล TechRadar แนะนำ 15 ผลิตภัณฑ์โทนสีดำที่เหมาะกับการสร้างบรรยากาศ Home Office แบบมินิมอล ตั้งแต่โต๊ะทำงาน เก้าอี้ ไปจนถึงอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่ช่วยให้พื้นที่ทำงานดูเรียบง่ายแต่มีสไตล์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบโทนเข้มและอยากได้บรรยากาศที่ทันสมัยและไม่รกตา การเลือกใช้โทนสีดำยังช่วยให้โฟกัสกับงานได้ดีขึ้นและสร้างความรู้สึกเป็นระเบียบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/website-building/15-products-id-use-to-build-my-dream-minimalist-home-office 🌐 AWS สร้างระบบ DNS Backstop ป้องกันการล่มครั้งใหญ่ AWS กำลังพัฒนาระบบ DNS Backstop ใหม่เพื่อป้องกันการหยุดทำงานของบริการครั้งใหญ่ในอนาคต หลังจากที่เคยเกิดเหตุการณ์ระบบล่มจนกระทบผู้ใช้จำนวนมาก การสร้าง Backstop นี้จะช่วยให้ระบบมีความทนทานและสามารถรับมือกับปัญหาได้ดียิ่งขึ้น ถือเป็นการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าองค์กรที่พึ่งพา AWS ในการดำเนินธุรกิจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/aws-is-building-a-new-dns-backstop-to-prevent-further-outages 💻 Windows 11 กำลังเสียความนิยมเมื่อเทียบกับ Windows 10 Dell เปิดเผยข้อมูลที่สะท้อนว่า Windows 11 ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร หลังจากที่ Windows 10 หมดการสนับสนุนแล้ว ผู้ใช้จำนวนมากยังคงเลือกใช้ Windows 10 ต่อไป แม้จะไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัยแล้วก็ตาม สิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายของ Microsoft ในการผลักดันให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ Windows 11 ซึ่งอาจต้องหาวิธีสร้างแรงจูงใจเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ใช้ยอมอัปเกรด 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/is-windows-11-fighting-a-losing-battle-dell-underlines-how-unpopular-the-os-is-after-support-ended-compared-to-windows-10 🏢 OpenAI เปิดให้ลูกค้าองค์กรเลือกที่เก็บข้อมูล ChatGPT OpenAI ประกาศฟีเจอร์ใหม่สำหรับลูกค้าองค์กร โดยสามารถเลือกได้ว่าข้อมูลของ ChatGPT จะถูกเก็บไว้ที่ไหน ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ธุรกิจที่มีข้อกำหนดด้านกฎหมายหรือความปลอดภัยสามารถควบคุมการจัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้น ถือเป็นการตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการความยืดหยุ่นและความมั่นใจในการใช้ AI โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่มีข้อกำหนดเข้มงวด 🔗 https://www.techradar.com/pro/openai-now-lets-business-customers-choose-where-their-chatgpt-data-is-hosted 📱 Apple แย่งบัลลังก์มือถือจาก Samsung หลัง 14 ปี Apple เตรียมขึ้นแท่นเป็นผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนแทน Samsung เป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี โดยแรงหนุนหลักมาจาก iPhone 17 ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในตลาดมือถือโลก และสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของ Apple ในการสร้างนวัตกรรมและดึงดูดผู้ใช้ได้อย่างต่อเนื่อง 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/apple-will-take-samsungs-phone-crown-for-the-first-time-in-14-years-and-its-all-thanks-to-the-iphone-17 🚫 ยุโรปเตรียมห้ามโซเชียลมีเดียสำหรับผู้ต่ำกว่า 16 ปี สหภาพยุโรปกำลังพิจารณากฎหมายใหม่ที่จะห้ามผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย เหตุผลหลักคือการปกป้องเยาวชนจากผลกระทบด้านสุขภาพจิตและความเสี่ยงจากการใช้งานออนไลน์ หากกฎหมายนี้ผ่าน จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่กระทบทั้งผู้ใช้และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/europe-wants-to-ban-social-media-for-under-16s-heres-all-we-know 📸 Sony เปิดตัวเซ็นเซอร์กล้องมือถือ 200MP ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Sony เปิดตัวเซ็นเซอร์กล้องมือถือความละเอียด 200MP ที่ถูกขนานนามว่า “ใหญ่ที่สุดในโลก” โดยคาดว่าจะถูกนำไปใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่หลายรุ่น จุดเด่นคือการถ่ายภาพที่คมชัดและเก็บรายละเอียดได้มากขึ้น ซึ่งอาจเป็นการยกระดับมาตรฐานการถ่ายภาพบนมือถือไปอีกขั้น 🔗 https://www.techradar.com/phones/sony-just-launched-the-worlds-largest-200mp-smartphone-sensor-heres-which-phones-could-get-it 🎧 หูฟังลดเสียงรบกวน Loop ลดราคาแรง ช่วง Black Friday นี้ TechRadar เล่าประสบการณ์ตรงจากการลองใช้หูฟังลดเสียงรบกวน Loop หลายรุ่น ที่ช่วยทั้งการสนทนาในที่เสียงดัง การดูคอนเสิร์ต ไปจนถึงการนอนหลับสบาย โดยรุ่นเด่นคือ Loop Switch 2 ที่สามารถปรับโหมดลดเสียงได้ถึง 3 ระดับในคู่เดียว ทำให้ใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์ ราคาลดเหลือเพียง 47.95 ดอลลาร์ในสหรัฐ และ 43.95 ปอนด์ในสหราชอาณาจักร ถือเป็นดีลที่คุ้มค่ามากสำหรับคนที่อยากได้หูฟังลดเสียงคุณภาพสูง 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/ive-tried-all-the-best-loop-earplugs-and-now-theyre-on-sale-for-black-friday 🔐 Asus เตือนช่องโหว่ร้ายแรงใน AiCloud Router Asus ออกประกาศเร่งด่วนหลังพบช่องโหว่ร้ายแรงในฟีเจอร์ AiCloud ของเราเตอร์ ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงถึง 9.2/10 และกระทบหลายรุ่นที่ยังใช้งานอยู่ ผู้ใช้ถูกแนะนำให้อัปเดตเฟิร์มแวร์ทันที หรือปิดการใช้งาน AiCloud และบริการแชร์ไฟล์เพื่อความปลอดภัย การอัปเดตครั้งนี้ยังแก้ไขช่องโหว่อื่น ๆ อีก 9 จุด แสดงให้เห็นว่าเราเตอร์เป็นเป้าหมายหลักของการโจมตีไซเบอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/asus-warns-of-new-security-flaw-affecting-aicloud-routers-heres-what-we-know ☁️ ช่องโหว่ Fluent Bit เสี่ยงกระทบระบบ Cloud ทั่วโลก Fluent Bit ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดการ log ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ถูกพบว่ามีช่องโหว่หลายจุดที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถแก้ไข log หรือรันโค้ดอันตรายจากระยะไกลได้ ช่องโหว่บางส่วนมีอยู่มานานกว่า 4-6 ปี ทำให้ระบบ Cloud ของ AWS, Google Cloud และ Microsoft Azure เสี่ยงถูกโจมตี ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดและตรวจสอบการตั้งค่า log อย่างเข้มงวด เพราะการโจมตีสามารถทำได้ง่ายและมีผลกระทบกว้างขวางต่อธุรกิจที่พึ่งพา Cloud 🔗 https://www.techradar.com/pro/these-worrying-security-flaws-could-put-every-major-cloud-provider-at-risk-heres-what-we-know-so-far 🧹 รีวิวเครื่องดูดฝุ่นเบาแต่ทรงพลัง TechRadar ทดลองเครื่องดูดฝุ่นหลายรุ่นเพื่อหาตัวที่เบาและใช้งานง่ายที่สุด ผลคือ Shark Detect Pro และ Dreame R20 โดดเด่นที่สุด โดย Shark Detect Pro เบามากจนถือมือเดียวได้สบาย แต่กำลังดูดไม่แรงเท่า Dreame R20 ที่มีคาร์บอนไฟเบอร์ช่วยให้เบาและทำความสะอาดได้ดีกว่า ทั้งสองรุ่นมีดีลลดราคาช่วง Black Friday ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้เครื่องดูดฝุ่นเบา ๆ แต่ยังคงประสิทธิภาพในการทำความสะอาด 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/i-tested-a-whole-bunch-of-vacuums-and-these-are-the-best-lightweight-options 🛡️ OpenAI ขอโทษเหตุข้อมูลรั่วจาก Mixpanel OpenAI ออกแถลงการณ์ขอโทษหลังบริษัทพันธมิตรด้านวิเคราะห์ข้อมูล Mixpanel ถูกเจาะระบบ ทำให้ข้อมูลนักพัฒนาที่ใช้แพลตฟอร์ม API ของ OpenAI รั่วไหล เช่น อีเมล ตำแหน่งโดยประมาณ และข้อมูลเบราว์เซอร์ แต่ยืนยันว่าไม่กระทบผู้ใช้ ChatGPT ทั่วไป และไม่มีข้อมูลสำคัญอย่างรหัสผ่านหรือ API key ถูกเปิดเผย OpenAI ได้ยุติการใช้บริการ Mixpanel และเพิ่มมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยกับพันธมิตรทั้งหมด พร้อมแนะนำให้ผู้ใช้เปิดการยืนยันตัวตนหลายขั้นตอนเพื่อเพิ่มความปลอดภัย 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/openai-apologizes-for-big-mixpanel-data-breach-that-exposed-emails-and-more-heres-what-we-know 🤖 Opera Neon เปิดตัวนักวิจัย AI ช่วยหาข้อมูลเร็วขึ้น Opera Neon กำลังสร้างความฮือฮา ด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้ AI ช่วยค้นคว้าและสรุปข้อมูลได้ภายในเวลาเพียง 1 นาที จากเดิมที่ต้องเปิดหลายแท็บพร้อมกัน ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ซับซ้อนอย่างรวดเร็วและเป็นระเบียบมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การใช้งานเบราว์เซอร์ให้ทันสมัยและตอบโจทย์คนทำงานยุคใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/opera-neons-ai-researcher-does-in-one-minute-what-used-to-take-a-dozen-tabs 🪟 มัลแวร์ปลอมตัวเป็น Windows Update มีรายงานว่าแฮกเกอร์กำลังใช้เทคนิคใหม่ โดยปลอมตัวเป็นการอัปเดต Windows ที่ดูสมจริงมาก เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ติดตั้งมัลแวร์ที่ทรงพลัง วิธีการนี้สามารถหลอกแม้กระทั่งผู้ใช้ที่ระมัดระวัง การโจมตีลักษณะนี้เน้นใช้ภาพและข้อความที่เหมือนของจริง ทำให้ผู้ใช้ยากที่จะสังเกตเห็นความผิดปกติ ผู้เชี่ยวชาญเตือนให้ตรวจสอบทุกครั้งก่อนติดตั้งอัปเดต และควรดาวน์โหลดจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/maybe-dont-trust-every-windows-update-without-checking-hackers-hijack-images-to-spread-dangerous-malware 🎨 ไฟล์ Blender ปลอมแพร่มัลแวร์ StealC นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่าไฟล์โมเดล 3D จาก Blender ที่ถูกปลอมแปลง กำลังถูกใช้เพื่อแพร่กระจายมัลแวร์ StealC ซึ่งสามารถขโมยข้อมูลสำคัญจากเครื่องผู้ใช้ได้ การโจมตีนี้อาศัยความนิยมของ Blender ในวงการออกแบบและแอนิเมชัน ทำให้ผู้ใช้ที่ดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือเสี่ยงสูงที่จะติดมัลแวร์ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ตรวจสอบแหล่งที่มาของไฟล์ทุกครั้ง และใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันที่ทันสมัย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/malicious-blender-model-files-deliver-stealc-infostealing-malware 🧑‍⚖️ Missouri บังคับตรวจสอบอายุออนไลน์ รัฐ Missouri เตรียมบังคับใช้กฎหมายใหม่ภายในสามวัน ที่กำหนดให้เว็บไซต์ต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้งานอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม กฎหมายนี้จะส่งผลต่อแพลตฟอร์มออนไลน์หลายประเภท ทั้งเว็บบันเทิงและบริการสตรีมมิ่ง ทำให้ผู้ให้บริการต้องปรับระบบยืนยันตัวตนเพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับใหม่ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านความปลอดภัยดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/missouri-to-enforce-mandatory-age-verification-in-three-days 🚀 Amazon Leo Ultra อินเทอร์เน็ตดาวเทียมความเร็วสูง Amazon เปิดตัวบริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Leo Ultra ที่ให้ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุดถึง 1Gbps และอัปโหลด 400Mbps ถือเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Starlink จุดเด่นคือความเร็วที่เหนือกว่าและการเชื่อมต่อที่เสถียร ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งผู้ใช้งานทั่วไปและธุรกิจที่ต้องการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล การเปิดตัวครั้งนี้อาจเปลี่ยนสมดุลของตลาดอินเทอร์เน็ตดาวเทียมทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/pro/amazons-rival-to-starlink-offers-fastest-downloads-and-uploads-but-how-will-it-stack-up-in-real-life
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 539 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขออภัยที่ข่าวสารไปไม่ถึงคุณ

    สถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ จ.สงขลา และจังหวัดภาคใต้ในช่วงที่ผ่านมา หลายภาคส่วนต่างทำหน้าที่แก้ไขปัญหาสถานการณ์ในรูปแบบต่างๆ เช่นเดียวกับสื่อมวลชนแต่ละสำนัก ต่างทำหน้าที่นำเสนอปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย และประสานความช่วยเหลือกับภาคส่วนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสล้มผังรายการปกติ จัดรายการพิเศษ "มหาอุทกภัยภาคใต้ 2568" ตั้งแต่ 05.30 ถึง 24.00 น.

    ขณะที่ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สั่งการให้กรมประชาสัมพันธ์ และบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ปรับผังรายการและขยายการรายงานสถานการณ์แบบเรียลไทม์ ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) และสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 เอ็มคอต เอชดี รวมทั้งสื่อวิทยุและสื่อออนไลน์ในเครือข่ายสื่อรัฐ ไม่นับรวมความทุ่มเทของสื่อมวลชนสำนักอื่นๆ ต่างเหน็ดเหนื่อยและเสียสละไม่แพ้กัน

    แต่เนื่องจากปัจจุบันระบบ Algorithm ของโซเชียลมีเดียตะวันตก มักจะเลือกนำเสนอในสิ่งที่ผู้ใช้สนใจเป็นหลัก ทำให้ไม่ทราบว่าบ้านเมืองกำลังเกิดอะไรขึ้น เข้าใจผิดว่าสื่อมวลชนไม่ทำหน้าที่ เริ่มจากอินฟลูเอนเซอร์รายหนึ่ง ซึ่งมีผู้ติดตาม 1.7 ล้านราย ระบุว่า "อยากให้สื่อเสนอข่าวน้ำท่วมก่อนค่ะ ดาราเป็นหนี้ใดๆ ให้เขาหาเงินใช้หนี้ไป เพราะตอนนี้ทั่วพื้นที่หาดใหญ่มีทั้งเด็กทารกและคนชราติดอยู่ในพื้นที่รอหน่วยงานไปช่วยเหลือเยอะมากๆ ค่ะ"

    สื่อมวลชนต่างพากันวิจารณ์เป็นจำนวนมาก สุดท้ายอินฟลูเอนเซอร์รายดังกล่าวขอโทษสื่อมวลชนทุกคน ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ไม่สบายใจ คนที่นำเสนออยู่แล้วไม่ได้ว่าอะไรเลย ไม่ได้โพสต์เพื่อล่าแม่มด ชวนทะเลาะหรือทำให้เกิดความแตกแยก แค่อยากทำให้คนสนใจน้ำท่วมมากขึ้นสักคน ก็บรรลุเป้าหมายของตนแล้ว และได้แก้ไขต้นโพสต์เพื่อความสบายใจ ตรงจุดประสงค์ที่จะสื่อมากขึ้น และไม่ทำให้เป็นการกล่าวโทษใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

    แต่สำหรับ "นารา เครปกะเทย" หรือนายอนิวัต ประทุมถิ่น อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ผู้ติดตามมากกว่า 2.4 ล้านคน กลับระบุว่า "สื่อช่วยหยุดลงข่าวดาราเรื่องเงินได้แล้วค่ะ แล้วมาช่วยลงข่าวน้ำท่วมภาคใต้หน่อยค่ะ มีคนเดือดร้อนมากมาย คิดเสียว่าเขาคือพ่อแม่เราเนอะ" ปรากฎว่ามีแฟนคลับต่างพากันคอมเมนต์เห็นด้วย แม้จะมีคนทักท้วงว่า คิดอะไรไม่ออก ด่าสื่อไว้ก่อน สื่อเขาทำข่าว ลงพื้นที่กันหมดแล้ว แต่กลับตอบคำถามอีกอย่าง

    นี่คือผลเสียของอิทธิพลจากโซเชียลมีเดียตะวันตกที่ระบบอัลกอริทึมครอบงำผู้คนในชีวิตประจำวัน กลายเป็นการปิดหูปิดตาทางอ้อม ทำให้ประชาชนไม่รู้ว่า ประเทศไทยเวลานี้กำลังเกิดหายนะอะไรขึ้น กว่าจะรู้ตัวก็สายเกินแก้

    #Newskit
    ขออภัยที่ข่าวสารไปไม่ถึงคุณ สถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ จ.สงขลา และจังหวัดภาคใต้ในช่วงที่ผ่านมา หลายภาคส่วนต่างทำหน้าที่แก้ไขปัญหาสถานการณ์ในรูปแบบต่างๆ เช่นเดียวกับสื่อมวลชนแต่ละสำนัก ต่างทำหน้าที่นำเสนอปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย และประสานความช่วยเหลือกับภาคส่วนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสล้มผังรายการปกติ จัดรายการพิเศษ "มหาอุทกภัยภาคใต้ 2568" ตั้งแต่ 05.30 ถึง 24.00 น. ขณะที่ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สั่งการให้กรมประชาสัมพันธ์ และบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ปรับผังรายการและขยายการรายงานสถานการณ์แบบเรียลไทม์ ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) และสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 เอ็มคอต เอชดี รวมทั้งสื่อวิทยุและสื่อออนไลน์ในเครือข่ายสื่อรัฐ ไม่นับรวมความทุ่มเทของสื่อมวลชนสำนักอื่นๆ ต่างเหน็ดเหนื่อยและเสียสละไม่แพ้กัน แต่เนื่องจากปัจจุบันระบบ Algorithm ของโซเชียลมีเดียตะวันตก มักจะเลือกนำเสนอในสิ่งที่ผู้ใช้สนใจเป็นหลัก ทำให้ไม่ทราบว่าบ้านเมืองกำลังเกิดอะไรขึ้น เข้าใจผิดว่าสื่อมวลชนไม่ทำหน้าที่ เริ่มจากอินฟลูเอนเซอร์รายหนึ่ง ซึ่งมีผู้ติดตาม 1.7 ล้านราย ระบุว่า "อยากให้สื่อเสนอข่าวน้ำท่วมก่อนค่ะ ดาราเป็นหนี้ใดๆ ให้เขาหาเงินใช้หนี้ไป เพราะตอนนี้ทั่วพื้นที่หาดใหญ่มีทั้งเด็กทารกและคนชราติดอยู่ในพื้นที่รอหน่วยงานไปช่วยเหลือเยอะมากๆ ค่ะ" สื่อมวลชนต่างพากันวิจารณ์เป็นจำนวนมาก สุดท้ายอินฟลูเอนเซอร์รายดังกล่าวขอโทษสื่อมวลชนทุกคน ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ไม่สบายใจ คนที่นำเสนออยู่แล้วไม่ได้ว่าอะไรเลย ไม่ได้โพสต์เพื่อล่าแม่มด ชวนทะเลาะหรือทำให้เกิดความแตกแยก แค่อยากทำให้คนสนใจน้ำท่วมมากขึ้นสักคน ก็บรรลุเป้าหมายของตนแล้ว และได้แก้ไขต้นโพสต์เพื่อความสบายใจ ตรงจุดประสงค์ที่จะสื่อมากขึ้น และไม่ทำให้เป็นการกล่าวโทษใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่สำหรับ "นารา เครปกะเทย" หรือนายอนิวัต ประทุมถิ่น อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ผู้ติดตามมากกว่า 2.4 ล้านคน กลับระบุว่า "สื่อช่วยหยุดลงข่าวดาราเรื่องเงินได้แล้วค่ะ แล้วมาช่วยลงข่าวน้ำท่วมภาคใต้หน่อยค่ะ มีคนเดือดร้อนมากมาย คิดเสียว่าเขาคือพ่อแม่เราเนอะ" ปรากฎว่ามีแฟนคลับต่างพากันคอมเมนต์เห็นด้วย แม้จะมีคนทักท้วงว่า คิดอะไรไม่ออก ด่าสื่อไว้ก่อน สื่อเขาทำข่าว ลงพื้นที่กันหมดแล้ว แต่กลับตอบคำถามอีกอย่าง นี่คือผลเสียของอิทธิพลจากโซเชียลมีเดียตะวันตกที่ระบบอัลกอริทึมครอบงำผู้คนในชีวิตประจำวัน กลายเป็นการปิดหูปิดตาทางอ้อม ทำให้ประชาชนไม่รู้ว่า ประเทศไทยเวลานี้กำลังเกิดหายนะอะไรขึ้น กว่าจะรู้ตัวก็สายเกินแก้ #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 362 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Surveillance Pricing: เมื่อข้อมูลส่วนตัวถูกใช้กำหนดราคาสินค้า”

    แนวคิด surveillance pricing เกิดขึ้นจากการที่บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การค้นหาออนไลน์ การเคลื่อนไหวของเมาส์ หรือสินค้าที่ถูกทิ้งไว้ในตะกร้า เพื่อปรับราคาสินค้าให้เหมาะกับผู้บริโภคแต่ละคน ตัวอย่างเช่น พ่อแม่มือใหม่อาจเห็นสินค้าสำหรับเด็กที่แพงกว่าคู่รักที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หรือคนที่เพิ่งได้รับเงินเดือนอาจไม่ได้รับคูปองส่วนลดเหมือนคนอื่น

    แม้การตั้งราคาตามข้อมูลผู้บริโภคจะถูกกฎหมาย แต่ก็สร้างความรู้สึกไม่สบายใจ เพราะราคาที่จ่ายไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “อุปสงค์และอุปทาน” แบบดั้งเดิม แต่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่บริษัทคิดว่าผู้บริโภค “ยอมจ่าย” ซึ่งทำให้หลายคนรู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบและถูกติดตามตลอดเวลา

    ในสหรัฐฯ ประเด็นนี้ถูกหยิบยกโดย Federal Trade Commission (FTC) ที่เคยเปิดรับความคิดเห็นสาธารณะ แต่ภายหลังถูกปิดไป อย่างไรก็ตาม รัฐต่าง ๆ เช่น แคลิฟอร์เนีย จอร์เจีย และอิลลินอยส์ กำลังพิจารณากฎหมายเพื่อจำกัดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในการตั้งราคา ขณะที่รัฐนิวยอร์กถึงขั้นออกกฎหมายบังคับให้บริษัทต้องเปิดเผยหากใช้วิธีนี้ และอัยการสูงสุดได้ออกประกาศเตือนผู้บริโภคแล้ว

    นักวิชาการและนักเคลื่อนไหวด้านผู้บริโภคมองว่า surveillance pricing เป็น “การปฏิวัติที่น่ากังวล” ในระบบเศรษฐกิจ เพราะมันใช้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น อารมณ์ ความเคลื่อนไหวสายตา หรือแม้แต่การกดแป้นพิมพ์ เพื่อกำหนดราคาสินค้าในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ผ้าอ้อมไปจนถึงขนมปัง

    สรุปเป็นหัวข้อ
    แนวคิด Surveillance Pricing
    ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การค้นหา การคลิก หรือการละทิ้งสินค้าในตะกร้า
    ตั้งราคาสินค้าแตกต่างกันตามผู้บริโภคแต่ละคน

    ตัวอย่างการใช้งานจริง
    พ่อแม่มือใหม่เห็นสินค้าสำหรับเด็กแพงกว่าคนอื่น
    คนที่เพิ่งได้รับเงินเดือนอาจไม่ได้รับคูปองส่วนลด

    สถานะทางกฎหมาย
    การตั้งราคาแบบนี้ยังถือว่าถูกกฎหมาย
    FTC เคยศึกษาเรื่องนี้ แต่ปิดช่องทางรับความคิดเห็นไปแล้ว

    การเคลื่อนไหวในระดับรัฐ
    แคลิฟอร์เนีย จอร์เจีย และอิลลินอยส์ กำลังพิจารณากฎหมายควบคุม
    นิวยอร์กออกกฎหมายบังคับให้บริษัทเปิดเผยการใช้วิธีนี้

    ข้อกังวลต่อผู้บริโภค
    รู้สึกถูกติดตามและถูกเอาเปรียบ
    ราคาสินค้าไม่สะท้อนอุปสงค์-อุปทาน แต่สะท้อนสิ่งที่บริษัทคิดว่าผู้บริโภคยอมจ่าย

    ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคม
    ใช้ข้อมูลละเอียดอ่อน เช่น อารมณ์และการเคลื่อนไหวสายตา
    อาจสร้างความไม่ไว้วางใจต่อระบบเศรษฐกิจดิจิทัล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/why-039surveillance-pricing039-strikes-a-nerve
    🕵️ “Surveillance Pricing: เมื่อข้อมูลส่วนตัวถูกใช้กำหนดราคาสินค้า” แนวคิด surveillance pricing เกิดขึ้นจากการที่บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การค้นหาออนไลน์ การเคลื่อนไหวของเมาส์ หรือสินค้าที่ถูกทิ้งไว้ในตะกร้า เพื่อปรับราคาสินค้าให้เหมาะกับผู้บริโภคแต่ละคน ตัวอย่างเช่น พ่อแม่มือใหม่อาจเห็นสินค้าสำหรับเด็กที่แพงกว่าคู่รักที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หรือคนที่เพิ่งได้รับเงินเดือนอาจไม่ได้รับคูปองส่วนลดเหมือนคนอื่น แม้การตั้งราคาตามข้อมูลผู้บริโภคจะถูกกฎหมาย แต่ก็สร้างความรู้สึกไม่สบายใจ เพราะราคาที่จ่ายไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “อุปสงค์และอุปทาน” แบบดั้งเดิม แต่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่บริษัทคิดว่าผู้บริโภค “ยอมจ่าย” ซึ่งทำให้หลายคนรู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบและถูกติดตามตลอดเวลา ในสหรัฐฯ ประเด็นนี้ถูกหยิบยกโดย Federal Trade Commission (FTC) ที่เคยเปิดรับความคิดเห็นสาธารณะ แต่ภายหลังถูกปิดไป อย่างไรก็ตาม รัฐต่าง ๆ เช่น แคลิฟอร์เนีย จอร์เจีย และอิลลินอยส์ กำลังพิจารณากฎหมายเพื่อจำกัดการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในการตั้งราคา ขณะที่รัฐนิวยอร์กถึงขั้นออกกฎหมายบังคับให้บริษัทต้องเปิดเผยหากใช้วิธีนี้ และอัยการสูงสุดได้ออกประกาศเตือนผู้บริโภคแล้ว นักวิชาการและนักเคลื่อนไหวด้านผู้บริโภคมองว่า surveillance pricing เป็น “การปฏิวัติที่น่ากังวล” ในระบบเศรษฐกิจ เพราะมันใช้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น อารมณ์ ความเคลื่อนไหวสายตา หรือแม้แต่การกดแป้นพิมพ์ เพื่อกำหนดราคาสินค้าในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ผ้าอ้อมไปจนถึงขนมปัง 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ แนวคิด Surveillance Pricing ➡️ ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การค้นหา การคลิก หรือการละทิ้งสินค้าในตะกร้า ➡️ ตั้งราคาสินค้าแตกต่างกันตามผู้บริโภคแต่ละคน ✅ ตัวอย่างการใช้งานจริง ➡️ พ่อแม่มือใหม่เห็นสินค้าสำหรับเด็กแพงกว่าคนอื่น ➡️ คนที่เพิ่งได้รับเงินเดือนอาจไม่ได้รับคูปองส่วนลด ✅ สถานะทางกฎหมาย ➡️ การตั้งราคาแบบนี้ยังถือว่าถูกกฎหมาย ➡️ FTC เคยศึกษาเรื่องนี้ แต่ปิดช่องทางรับความคิดเห็นไปแล้ว ✅ การเคลื่อนไหวในระดับรัฐ ➡️ แคลิฟอร์เนีย จอร์เจีย และอิลลินอยส์ กำลังพิจารณากฎหมายควบคุม ➡️ นิวยอร์กออกกฎหมายบังคับให้บริษัทเปิดเผยการใช้วิธีนี้ ‼️ ข้อกังวลต่อผู้บริโภค ⛔ รู้สึกถูกติดตามและถูกเอาเปรียบ ⛔ ราคาสินค้าไม่สะท้อนอุปสงค์-อุปทาน แต่สะท้อนสิ่งที่บริษัทคิดว่าผู้บริโภคยอมจ่าย ‼️ ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคม ⛔ ใช้ข้อมูลละเอียดอ่อน เช่น อารมณ์และการเคลื่อนไหวสายตา ⛔ อาจสร้างความไม่ไว้วางใจต่อระบบเศรษฐกิจดิจิทัล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/why-039surveillance-pricing039-strikes-a-nerve
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Why 'surveillance pricing' strikes a nerve
    Surveillance pricing describes a practice in which a company sets a price for particular consumers based on what it gleans from their personal data.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 1

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 1
    ในที่สุด ภาพของญี่ปุ่น ที่วาดไว้อย่างสวยงามว่า เป็นชาติที่รักความสงบ ไม่มีวันไปรุกรานใครอีกตลอดกาล ตามรัฐธรรมนูญญี่ปุ่น ที่อเมริกาเขียนให้เมื่อปี ค.ศ.1948 ก็ถูกลบทิ้งเรียบร้อย เมื่อวันที่ 17 กรกฏาคม ที่ผ่านมา เมื่อสภาล่างของญี่ปุ่น ได้ลงคะแนนผ่านกฏหมาย ที่จะแปลความรัฐธรรมนูญดังกล่าให้ญี่ปุ่นสามารถนำกองทัที่มีไว้เพื่อป้องกันตนเอง Self Defence Force (SDF) ถลาร่อนไปได้ทั่วโลก แบกถาดไปได้ทุกแห่ง ตามคำสั่งของนายท่าน ไอ้ที่บอกว่าจะ ไม่รุกรานใครอีกตลอดกาล ของญี่ปุ่นนี่ “ตลอดกาล” มันนานมาก นานน้อย แค่ไหนก็ได้ ตามแต่นายท่านจะสั่ง
    กฏหมายนี้ ยังจะต้องผ่านสภาสูงอีกรอบ ภายในเดือนสิงหาคม แต่ไม่มีปัญหา เขาว่าพรรค LPD ของนายอาเบะคุมเสียงต้ัง 2 ใน 3 ของสภาสูง นอนหลับตาไขว้ห้างได้สบายใจ ไม่ต้องเอามือก่ายหน้าผาก แถมสั่งลูกน้องให้ไปเตรียมตัดชุดแบกถาดล่วงหน้าได้ ไม่ต้องกลัวเป็นซามูไรสายบัวเหี่ยว
    ตั้งแต่ข่าวนี้ออกสื่อ มีเสียงดังเหมือนมังกรคำราม ออกมาอย่างไม่พอใจ ไม่ต้องสงสัย มาจากบ้านอาเฮียของผมนั่นแหละ ทำไมอาเฮียต้องเอ็ดตะโรด้วย ใครเขาอยากจะแก้รัฐธรรมนูญ หรือแก้อะไร เฮียก็อย่าไปใส่ใจน่า อย่าทำตัวเหมือนไอ้พวกใบตองแห้ง ที่ไม่พอใจไปหมด เดี๋ยวก็สั่งให้แก้ สั่งให้ถอด สั่งให้เปิด สั่งให้เปลี่ยน สั่งมันทุกอย่าง เหลืออย่างเดียว ยังไม่ได้ให้สั่งขี้มูก สั่งมาซีวะ กำลังถูกหวัดต้นฝนเล่นงานอยู่ จะได้เอาให้หน้าสถานทูตมันลื่นพราดเชียว (ฮา)
    อาเฮียบอกไม่ขำ (โว้ย) อ้าว เฮียครับ ธรรมดาก็เห็นหยอกกันได้ แต่เรื่องไอ้ยุ่นแบกถาดนี่ ทำไมเฮียบูดกระทันหัน เรื่องทะเลาะกันตีกัน มันก็นาน 70, 80 ปีแล้วนะ เป็นแผลก็ตกสะเก็ด ไปแล้ว เฮียไปเกาซ้ำแผลมันจะหายได้ยังไง อาเฮียบอก ลื้อไปศึกษาดูให้ดี อย่าดีแต่พล่าม หายเซ่อ แล้วคอยมาคุยกันว่า ทำไมแผลเก่านาน กว่า 70 ปี ถึงไม่ตกสะเก็ดเสียที
    จริงของอาเฮีย ผมเองยังเซ่อจับเกี่ยวเรื่องญี่ปุ่น มีคำถามค้างกับตัวเองอยู่หลายเรื่อง มองบางอย่างยังไม่ชัด เหมือนอะไรมันยังขัดกัน หรือ หมุนไปคนละทาง
    อะไรทำให้ญี่ปุ่น ลุกขึ้นไปรุกรานเพื่อนบ้านตัวเอง อย่างหิวกระหายและทารุณ และไปเข้าร่วมทำสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างดุดันและเหี้ยมโหด ญี่ปุ่นโกรธแค้นใครมาหรือญี่ปุ่นถูกหลอก หรือมีข้อตกลงกับใคร หรือมันเป็นนิสัยของชนชาติที่รักษาเกียรติยศด้วยการเอามีดคว้านท้องตัวเอง ก็เลยเห็นชีวิตคนอื่นไม่ต่างกับผักดองหรือสาหร่าย
    ผมว่า เรามาเริ่มจากประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น แบบสั้นๆ แต่แพนกล้องให้กว้าง แล้วค่อยๆเจาะลึกดีกว่า จริงๆอยากเขียนแบบ ต้มข้ามศตวรรษ อีกรอบ แต่สงสัยทั้งคนเขียน และคนอ่านหมดแรงไปก่อนวันอันควร
    จากหลักสูตรการศึกษาวิชาประวัติ ศาสตร์ญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ที่ฝรั่งเขียน มักจะระบุว่า พฤติกรรมของญี่ปุ่น ที่แสดงในช่วง ค.ศ.1852 ถึง 1945 มาจากแรงผลักดัน ที่ไม่อยากมีชะตา หรือสภาพอย่างจีน เมื่อช่วงศตวรรษ ที่ 19 อืม… เริ่มแบบนี้ ผมเกรงว่า แผลเก่าของอาเฮีย จะกลายเป็นแผลใหม่สดขึ้นมาอีก อาเฮีย อย่าเพิ่งเข้ามาอ่านนะครับ ให้ผมพล่ามให้จบก่อน ผมยังไม่อยากมีเรื่องกับมังกร
    นักประวัติศาสตร์ บอกว่า สำหรับญี่ปุ่น การเข้าสู่สงครามโลก มันลามมาจากการปะทะกัน ระหว่างญี่ปุ่นกับจีน ที่เรียกว่า สงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 2 Second Sino Japanese War หรือ ที่เรียกอีกชื่อว่า Marco Polo Bridge Incident ที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1937 หลังจากที่มีการทุบถอง ปะทะกันตามแนวเขตแดนมาหลายปี ต้ังแต่ญี่ปุ่นไปบุกแมนจูเรีย ในปี ค.ศ.1931 นู่น
    เอะ แล้วญี่ปุ่นนึกยังไง ถึงซ่าเข้าไปบุกแมนจูเรีย นักประวัติศาสตร์บอกว่า งั้นต้องถอยกลับมาปี ค.ศ1853 ก่อน ถึงจะเดินหน้าต่อ อย่าเพิ่งโวยว่า ผมถอยไปเรื่อยๆ แล้วเมื่อไหร่จะรู้เรื่องกัน เอาน่า จะรู้เรื่องอะไร ก็รู้ให้มันชัดๆ ดีกว่ารู้เรื่องดาราทะเลาะกัน งอนกัน ที่จริงๆแล้ว เราก็ไม่รู้เรื่องจริงของพวกเขาอยู่ดี ใช่ไหมครับ
    ก่อนปี ค.ศ.1853 นักประวัติศาสตร์ บอกญี่ปุ่นเป็นชาติ ที่รักสันโดษ ไม่คบค้ากับใคร นานๆ ก็มีชาวดัชท์เอาเรือบรรทุกสินค้าแวะมาจอด ซื้อของขายของ แถวท่าเรือที่เมืองนางาซากิ Nagasaki ชาวต่างชาตินอกเหนือจากนั้น ไม่อนุญาต ไม่รู้ดัชท์หลุดมาได้ไง
    พอถึงปี ค.ศ.1853 ต้นเหตุที่ทำให้ญี่ปุ่นเปลี่ยนนิสัยรักสันโดษ ก็มาถึง นาวาโทแมทธิว เพอรี่ นำเรือรบอเมริกันมาจอด อยู่ที่ปากอ่าวเมืองโตเกียว และไม่ได้มากันลำเดียว ขนกันมาถึง 4 ลำ เล่นเอาปากอ่าว แน่นเอี้ยด นี่มันสูตรสำเร็จ แจกโรเนียวเลยนะ เอาเรือรบมาขอจับมือ
    ญี่ปุ่นเห็นเรือรบที่ไม่ได้รับ เชิญ มาจอดเต็มหน้าบ้าน ก็ยัวะจัด บังวิวสวยๆหมด เลยท้าวสะเอวถลกกิโมโน ชี้นิ้วตะโกนไล่ ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ทหารเรือฝรั่งบอกว่า ไม่ไป แถมหันปืนใหญ่ใส่เมืองโตเกียว ญี่ปุ่นยิ่งยั๊วะ รวบรวมเรือเล็กเรือน้อย ติดธงทิวสวยงาม ไปล้อมเรือรบ น่าเอ็นดูจัง แต่ทหารเรือ ไม่เอ็นดูด้วย กลับยื่นจดหมายของประธานาธิบดี Millard Fillmore แห่งแดนใบตองแห้ง เอ้า เอาไปส่งให้โชกุนโตกุกาวาที่ปก ครองญี่ปุ่นขณะนั้น แถมด้วยยิงปืนใหญ่โชว์ จนบ้านน้อยๆของชาวญี่ปุ่น ที่อยู่ริมอ่าวพังพินาศ นักประวัติศาสตร์ ไม่ได้จดมาว่าพังไปเท่าไหร่ ว่าแล้วก็แล่นเรือจากไป แต่ไม่ไปลับ สำทับกับชาวญี่ปุ่น ที่ยังไม่หายตกใจ หูอื้อจากเสียงปืนใหญ่…. แล้วเราจะกลับมาเอาคำตอบ….ฮู้ย เข้มซะไม่มี เอาปืนใหญ่ มาขู่กระบอกไม้ไผ่ ซามูไรมุดหัวหายไปไหนหมด
    หนึ่งปีผ่านไป ทหารเรือพกปืนใหญ่ก็กลับมาจริง คราวนี้ยกโขยงเรือรบมากัน 8 ลำ คราวที่แล้วมา 4 ลำ ดูจะน้อยไป เดี๋ยวจะสู้กับไม้ไผ่ไม่ไหว แถมมาพร้อมกับมือเหล็ก ยื่นมาบีบคอญี่ปุ่น ให้เซ็นสัญญา Convention of Kanagawa ให้ญี่ปุ่นเปิดท่าเรือชิโมดะ Shimoda (ชื่อเดิมของโตเกียวนั่นแหละ) และเมือง ฮาโกดาเตะ Hagodate ซึ่งอยู่ทางใต้ของฮอกไกโด Hokkaido เพื่อค้าขายกับอเมริกา ตามเงื่อนไขที่อเมริกากำหนด ญี่ปุ่นคิดหนัก เฮ้อ… ซามูไร ถึงจะคมยังไง ก็คงสู้กับปืนใหญ่ลำบาก เนะ… ว่าแล้วก็คอตก หน้าก้ม ยกมือขึ้นประทับตรา ในสัญญาขู่เอาไมตรี
    (หมายเหตุ ก่อนเดินหน้าเล่าต่อ ถ้าผมเรียกชื่อ สะกดชื่อญี่ปุ่นผิด ก็ไม่ต้องทักท้วงกันมาหลังจอนะ ครับ รบกวนบอกกันหน้าจอเลยว่า ผิดที่ไหน ที่ถูก ต้องเรียกยังไง ผมจะขอบคุณมาก ผมแค่เขียนนิทานให้อ่าน ไม่ใช่ครูสอนภาษา และผมก็ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่น แต่ก็พยายามจะไม่เขียนแบบมั่ว หรือชุ่ยครับ อ้อ ไม่ใช่เฉพาะภาษาญี่ปุ่นนะครับ ทุกภาษาที่สะกดผิด นิทานเรื่องนี้ จะมีทั้งภาษาจีน ภาษาฝรั่งอั้งม้อ รวมทั้งภาษาไทย ที่ตอนเขียนถูก แต่ตอนโพสต์ผิดก็มี และมีแยะขึ้น บางวันถึงขนาด เครื่องมันขึ้น F ให้หน้าเพจผม ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน บางครั้งก็แก้ไขทัน บางทีก็ไม่ทัน ก็ขอความกรุณา อย่า งง เขียนนิทานแบบนี้ ลงเพจให้อ่านกัน เหมือนเล่นกระดานโต้คลื่น พยุงตัวให้รอด ไม่จมน้ำหาย ได้โผล่หัวอยู่มาได้ เกือบ 2 ปีนี่ ก็กินแรงแยะเหมือนกันนะครับ แรงคนแก่มีเหลือไม่มาก เรื่องอะไรที่ไม่ถึงกับขัดหู ขัดตา ก็ปล่อยไปบ้าง ต้องขออภัยล่วงหน้า)
    เรื่อง นายนาวาโทเพอรี่ ขี่เรือรบพกปืนใหญ่ มาขู่เอาไมตรีกับญี่ปุ่นนี่ จริงๆ ทำเอาซามูไรหน้าจ๋อย ใจฝ่อไปจม ที่เคยเชื่อว่า ตนเองเป็นชาติที่เข็มแข็ง ซามูไรคมกริบ ไม่เคยพลาดเป้า ตอนนี้เหงื่อตก คิดหนัก เราด้อยกว่าเขาแยะนักหรือ ขนาดจีนว่าใหญ่ ยังโดนไอ้พวกไกยิ่น (ญี่ปุ่น เรียก ฝรั่ง ว่า Gai-Jin) เล่นซะร่วง แล้วเราจะทำอย่างไรดี
    ด้วยความกลัวไอ้พวกไกยิ่น เอาปืนใหญ่มายิงโชว์อีก ญึ่ปุ่นตัดสินใจเด็ดเดี่ยว มีทางเดียวเราต้องปฏิรูปตัวเอง ญี่ปุ่นทำจริงจัง ปี ค.ศ.1868 ญี่ปุ่นจัดการบ้านการเมืองตัวเองใหม่ เรียกว่า Meiji Restoration เริ่มขบวนการปลดโชกุน ที่เคยมีอำนาจใหญ่กว่าฟ้า กลับลงมาสู่พื้น แล้วเอาอำนาจให้มาอยู่ในมือของจักรพรรดิแทน หรือจริงๆ ก็คืออยู่ในมือของกลุ่มที่ชักใยอยู่หลังฉาก ที่ไปปลดโชกุน และอุ้มจักรพรรดิขึ้นมาเป็นเจว็ด นั่นแหละ
    กลุ่มมือที่อยู่หลักฉาก เชื่อว่า ด้วยการเปลี่ยนโครงสร้างทางสังคม โดยล้มเลิกระบบขุนนาง ปรับปรุงกองทัพให้เข็มแข็ง และวางแผนให้ประเทศเดินหน้าไปทางด้านอุตสาหกรรม พยายามสร้างชาติใหม่ให้เท่าทันตะวันตก ชะตาชีวิตของประเทศ ก็น่าจะพ้นจากสภาพการถูกไอ้พวก ไกยิ่นทำลาย พวกสังคมอีลิต ต่างพากันสลัดกิโมโนทิ้ง มาแต่งตัว และใส่หมวกแบบตะวันตก แล้วชาวญี่ปุ่นหัวสมัยใหม่ ก็รีบสร้างระบบรัฐสภา เร่งร่างรัฐธรรมนูญ… นี่ ผมกำลังเล่าเรื่องญี่ปุ่นนะครับ..
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    13 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 1 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 1 ในที่สุด ภาพของญี่ปุ่น ที่วาดไว้อย่างสวยงามว่า เป็นชาติที่รักความสงบ ไม่มีวันไปรุกรานใครอีกตลอดกาล ตามรัฐธรรมนูญญี่ปุ่น ที่อเมริกาเขียนให้เมื่อปี ค.ศ.1948 ก็ถูกลบทิ้งเรียบร้อย เมื่อวันที่ 17 กรกฏาคม ที่ผ่านมา เมื่อสภาล่างของญี่ปุ่น ได้ลงคะแนนผ่านกฏหมาย ที่จะแปลความรัฐธรรมนูญดังกล่าให้ญี่ปุ่นสามารถนำกองทัที่มีไว้เพื่อป้องกันตนเอง Self Defence Force (SDF) ถลาร่อนไปได้ทั่วโลก แบกถาดไปได้ทุกแห่ง ตามคำสั่งของนายท่าน ไอ้ที่บอกว่าจะ ไม่รุกรานใครอีกตลอดกาล ของญี่ปุ่นนี่ “ตลอดกาล” มันนานมาก นานน้อย แค่ไหนก็ได้ ตามแต่นายท่านจะสั่ง กฏหมายนี้ ยังจะต้องผ่านสภาสูงอีกรอบ ภายในเดือนสิงหาคม แต่ไม่มีปัญหา เขาว่าพรรค LPD ของนายอาเบะคุมเสียงต้ัง 2 ใน 3 ของสภาสูง นอนหลับตาไขว้ห้างได้สบายใจ ไม่ต้องเอามือก่ายหน้าผาก แถมสั่งลูกน้องให้ไปเตรียมตัดชุดแบกถาดล่วงหน้าได้ ไม่ต้องกลัวเป็นซามูไรสายบัวเหี่ยว ตั้งแต่ข่าวนี้ออกสื่อ มีเสียงดังเหมือนมังกรคำราม ออกมาอย่างไม่พอใจ ไม่ต้องสงสัย มาจากบ้านอาเฮียของผมนั่นแหละ ทำไมอาเฮียต้องเอ็ดตะโรด้วย ใครเขาอยากจะแก้รัฐธรรมนูญ หรือแก้อะไร เฮียก็อย่าไปใส่ใจน่า อย่าทำตัวเหมือนไอ้พวกใบตองแห้ง ที่ไม่พอใจไปหมด เดี๋ยวก็สั่งให้แก้ สั่งให้ถอด สั่งให้เปิด สั่งให้เปลี่ยน สั่งมันทุกอย่าง เหลืออย่างเดียว ยังไม่ได้ให้สั่งขี้มูก สั่งมาซีวะ กำลังถูกหวัดต้นฝนเล่นงานอยู่ จะได้เอาให้หน้าสถานทูตมันลื่นพราดเชียว (ฮา) อาเฮียบอกไม่ขำ (โว้ย) อ้าว เฮียครับ ธรรมดาก็เห็นหยอกกันได้ แต่เรื่องไอ้ยุ่นแบกถาดนี่ ทำไมเฮียบูดกระทันหัน เรื่องทะเลาะกันตีกัน มันก็นาน 70, 80 ปีแล้วนะ เป็นแผลก็ตกสะเก็ด ไปแล้ว เฮียไปเกาซ้ำแผลมันจะหายได้ยังไง อาเฮียบอก ลื้อไปศึกษาดูให้ดี อย่าดีแต่พล่าม หายเซ่อ แล้วคอยมาคุยกันว่า ทำไมแผลเก่านาน กว่า 70 ปี ถึงไม่ตกสะเก็ดเสียที จริงของอาเฮีย ผมเองยังเซ่อจับเกี่ยวเรื่องญี่ปุ่น มีคำถามค้างกับตัวเองอยู่หลายเรื่อง มองบางอย่างยังไม่ชัด เหมือนอะไรมันยังขัดกัน หรือ หมุนไปคนละทาง อะไรทำให้ญี่ปุ่น ลุกขึ้นไปรุกรานเพื่อนบ้านตัวเอง อย่างหิวกระหายและทารุณ และไปเข้าร่วมทำสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างดุดันและเหี้ยมโหด ญี่ปุ่นโกรธแค้นใครมาหรือญี่ปุ่นถูกหลอก หรือมีข้อตกลงกับใคร หรือมันเป็นนิสัยของชนชาติที่รักษาเกียรติยศด้วยการเอามีดคว้านท้องตัวเอง ก็เลยเห็นชีวิตคนอื่นไม่ต่างกับผักดองหรือสาหร่าย ผมว่า เรามาเริ่มจากประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น แบบสั้นๆ แต่แพนกล้องให้กว้าง แล้วค่อยๆเจาะลึกดีกว่า จริงๆอยากเขียนแบบ ต้มข้ามศตวรรษ อีกรอบ แต่สงสัยทั้งคนเขียน และคนอ่านหมดแรงไปก่อนวันอันควร จากหลักสูตรการศึกษาวิชาประวัติ ศาสตร์ญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ที่ฝรั่งเขียน มักจะระบุว่า พฤติกรรมของญี่ปุ่น ที่แสดงในช่วง ค.ศ.1852 ถึง 1945 มาจากแรงผลักดัน ที่ไม่อยากมีชะตา หรือสภาพอย่างจีน เมื่อช่วงศตวรรษ ที่ 19 อืม… เริ่มแบบนี้ ผมเกรงว่า แผลเก่าของอาเฮีย จะกลายเป็นแผลใหม่สดขึ้นมาอีก อาเฮีย อย่าเพิ่งเข้ามาอ่านนะครับ ให้ผมพล่ามให้จบก่อน ผมยังไม่อยากมีเรื่องกับมังกร นักประวัติศาสตร์ บอกว่า สำหรับญี่ปุ่น การเข้าสู่สงครามโลก มันลามมาจากการปะทะกัน ระหว่างญี่ปุ่นกับจีน ที่เรียกว่า สงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 2 Second Sino Japanese War หรือ ที่เรียกอีกชื่อว่า Marco Polo Bridge Incident ที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1937 หลังจากที่มีการทุบถอง ปะทะกันตามแนวเขตแดนมาหลายปี ต้ังแต่ญี่ปุ่นไปบุกแมนจูเรีย ในปี ค.ศ.1931 นู่น เอะ แล้วญี่ปุ่นนึกยังไง ถึงซ่าเข้าไปบุกแมนจูเรีย นักประวัติศาสตร์บอกว่า งั้นต้องถอยกลับมาปี ค.ศ1853 ก่อน ถึงจะเดินหน้าต่อ อย่าเพิ่งโวยว่า ผมถอยไปเรื่อยๆ แล้วเมื่อไหร่จะรู้เรื่องกัน เอาน่า จะรู้เรื่องอะไร ก็รู้ให้มันชัดๆ ดีกว่ารู้เรื่องดาราทะเลาะกัน งอนกัน ที่จริงๆแล้ว เราก็ไม่รู้เรื่องจริงของพวกเขาอยู่ดี ใช่ไหมครับ ก่อนปี ค.ศ.1853 นักประวัติศาสตร์ บอกญี่ปุ่นเป็นชาติ ที่รักสันโดษ ไม่คบค้ากับใคร นานๆ ก็มีชาวดัชท์เอาเรือบรรทุกสินค้าแวะมาจอด ซื้อของขายของ แถวท่าเรือที่เมืองนางาซากิ Nagasaki ชาวต่างชาตินอกเหนือจากนั้น ไม่อนุญาต ไม่รู้ดัชท์หลุดมาได้ไง พอถึงปี ค.ศ.1853 ต้นเหตุที่ทำให้ญี่ปุ่นเปลี่ยนนิสัยรักสันโดษ ก็มาถึง นาวาโทแมทธิว เพอรี่ นำเรือรบอเมริกันมาจอด อยู่ที่ปากอ่าวเมืองโตเกียว และไม่ได้มากันลำเดียว ขนกันมาถึง 4 ลำ เล่นเอาปากอ่าว แน่นเอี้ยด นี่มันสูตรสำเร็จ แจกโรเนียวเลยนะ เอาเรือรบมาขอจับมือ ญี่ปุ่นเห็นเรือรบที่ไม่ได้รับ เชิญ มาจอดเต็มหน้าบ้าน ก็ยัวะจัด บังวิวสวยๆหมด เลยท้าวสะเอวถลกกิโมโน ชี้นิ้วตะโกนไล่ ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ทหารเรือฝรั่งบอกว่า ไม่ไป แถมหันปืนใหญ่ใส่เมืองโตเกียว ญี่ปุ่นยิ่งยั๊วะ รวบรวมเรือเล็กเรือน้อย ติดธงทิวสวยงาม ไปล้อมเรือรบ น่าเอ็นดูจัง แต่ทหารเรือ ไม่เอ็นดูด้วย กลับยื่นจดหมายของประธานาธิบดี Millard Fillmore แห่งแดนใบตองแห้ง เอ้า เอาไปส่งให้โชกุนโตกุกาวาที่ปก ครองญี่ปุ่นขณะนั้น แถมด้วยยิงปืนใหญ่โชว์ จนบ้านน้อยๆของชาวญี่ปุ่น ที่อยู่ริมอ่าวพังพินาศ นักประวัติศาสตร์ ไม่ได้จดมาว่าพังไปเท่าไหร่ ว่าแล้วก็แล่นเรือจากไป แต่ไม่ไปลับ สำทับกับชาวญี่ปุ่น ที่ยังไม่หายตกใจ หูอื้อจากเสียงปืนใหญ่…. แล้วเราจะกลับมาเอาคำตอบ….ฮู้ย เข้มซะไม่มี เอาปืนใหญ่ มาขู่กระบอกไม้ไผ่ ซามูไรมุดหัวหายไปไหนหมด หนึ่งปีผ่านไป ทหารเรือพกปืนใหญ่ก็กลับมาจริง คราวนี้ยกโขยงเรือรบมากัน 8 ลำ คราวที่แล้วมา 4 ลำ ดูจะน้อยไป เดี๋ยวจะสู้กับไม้ไผ่ไม่ไหว แถมมาพร้อมกับมือเหล็ก ยื่นมาบีบคอญี่ปุ่น ให้เซ็นสัญญา Convention of Kanagawa ให้ญี่ปุ่นเปิดท่าเรือชิโมดะ Shimoda (ชื่อเดิมของโตเกียวนั่นแหละ) และเมือง ฮาโกดาเตะ Hagodate ซึ่งอยู่ทางใต้ของฮอกไกโด Hokkaido เพื่อค้าขายกับอเมริกา ตามเงื่อนไขที่อเมริกากำหนด ญี่ปุ่นคิดหนัก เฮ้อ… ซามูไร ถึงจะคมยังไง ก็คงสู้กับปืนใหญ่ลำบาก เนะ… ว่าแล้วก็คอตก หน้าก้ม ยกมือขึ้นประทับตรา ในสัญญาขู่เอาไมตรี (หมายเหตุ ก่อนเดินหน้าเล่าต่อ ถ้าผมเรียกชื่อ สะกดชื่อญี่ปุ่นผิด ก็ไม่ต้องทักท้วงกันมาหลังจอนะ ครับ รบกวนบอกกันหน้าจอเลยว่า ผิดที่ไหน ที่ถูก ต้องเรียกยังไง ผมจะขอบคุณมาก ผมแค่เขียนนิทานให้อ่าน ไม่ใช่ครูสอนภาษา และผมก็ไม่ใช่ชาวญี่ปุ่น แต่ก็พยายามจะไม่เขียนแบบมั่ว หรือชุ่ยครับ อ้อ ไม่ใช่เฉพาะภาษาญี่ปุ่นนะครับ ทุกภาษาที่สะกดผิด นิทานเรื่องนี้ จะมีทั้งภาษาจีน ภาษาฝรั่งอั้งม้อ รวมทั้งภาษาไทย ที่ตอนเขียนถูก แต่ตอนโพสต์ผิดก็มี และมีแยะขึ้น บางวันถึงขนาด เครื่องมันขึ้น F ให้หน้าเพจผม ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน บางครั้งก็แก้ไขทัน บางทีก็ไม่ทัน ก็ขอความกรุณา อย่า งง เขียนนิทานแบบนี้ ลงเพจให้อ่านกัน เหมือนเล่นกระดานโต้คลื่น พยุงตัวให้รอด ไม่จมน้ำหาย ได้โผล่หัวอยู่มาได้ เกือบ 2 ปีนี่ ก็กินแรงแยะเหมือนกันนะครับ แรงคนแก่มีเหลือไม่มาก เรื่องอะไรที่ไม่ถึงกับขัดหู ขัดตา ก็ปล่อยไปบ้าง ต้องขออภัยล่วงหน้า) เรื่อง นายนาวาโทเพอรี่ ขี่เรือรบพกปืนใหญ่ มาขู่เอาไมตรีกับญี่ปุ่นนี่ จริงๆ ทำเอาซามูไรหน้าจ๋อย ใจฝ่อไปจม ที่เคยเชื่อว่า ตนเองเป็นชาติที่เข็มแข็ง ซามูไรคมกริบ ไม่เคยพลาดเป้า ตอนนี้เหงื่อตก คิดหนัก เราด้อยกว่าเขาแยะนักหรือ ขนาดจีนว่าใหญ่ ยังโดนไอ้พวกไกยิ่น (ญี่ปุ่น เรียก ฝรั่ง ว่า Gai-Jin) เล่นซะร่วง แล้วเราจะทำอย่างไรดี ด้วยความกลัวไอ้พวกไกยิ่น เอาปืนใหญ่มายิงโชว์อีก ญึ่ปุ่นตัดสินใจเด็ดเดี่ยว มีทางเดียวเราต้องปฏิรูปตัวเอง ญี่ปุ่นทำจริงจัง ปี ค.ศ.1868 ญี่ปุ่นจัดการบ้านการเมืองตัวเองใหม่ เรียกว่า Meiji Restoration เริ่มขบวนการปลดโชกุน ที่เคยมีอำนาจใหญ่กว่าฟ้า กลับลงมาสู่พื้น แล้วเอาอำนาจให้มาอยู่ในมือของจักรพรรดิแทน หรือจริงๆ ก็คืออยู่ในมือของกลุ่มที่ชักใยอยู่หลังฉาก ที่ไปปลดโชกุน และอุ้มจักรพรรดิขึ้นมาเป็นเจว็ด นั่นแหละ กลุ่มมือที่อยู่หลักฉาก เชื่อว่า ด้วยการเปลี่ยนโครงสร้างทางสังคม โดยล้มเลิกระบบขุนนาง ปรับปรุงกองทัพให้เข็มแข็ง และวางแผนให้ประเทศเดินหน้าไปทางด้านอุตสาหกรรม พยายามสร้างชาติใหม่ให้เท่าทันตะวันตก ชะตาชีวิตของประเทศ ก็น่าจะพ้นจากสภาพการถูกไอ้พวก ไกยิ่นทำลาย พวกสังคมอีลิต ต่างพากันสลัดกิโมโนทิ้ง มาแต่งตัว และใส่หมวกแบบตะวันตก แล้วชาวญี่ปุ่นหัวสมัยใหม่ ก็รีบสร้างระบบรัฐสภา เร่งร่างรัฐธรรมนูญ… นี่ ผมกำลังเล่าเรื่องญี่ปุ่นนะครับ.. สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 13 ส.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 513 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง ใครมาเยือนถึงเรือนชาน

    “ใครมาเยือนถึงเรือนชาน….“
    เมื่อวาน มีท่านผู้อ่านนิทานส่งข่าวบอกผมว่า นายทูตอเมรืกันคนใหม่ เขาจะมาแล้วนะ แล้วเราจะทำอย่างไร ผมรู้ข่าวแล้ว แต่บังเอิญผมกำลังติดพันกับการเขียนนิทานเรื่องใหม่อย่างขมักเขม้น เลยยังไม่อยากเขียนรับนายทูตนั่น ตอนบ่าย ตื่นมาไล่อ่านข่าว แหม อดไม่ได้ เจอบทความของสื่อใหญ่มาก ที่เคารพท่านหนึ่ง ท่านเขียนบทความเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม นี้ เรื่อง … สหรัฐที่ ” กำลังจะเปลี่ยนไป” …
    ฮะ… นี่ผมตกข่าวอะไรหรือ ไอ้นักล่าใบตองแห้ง มันจะเปลี่ยนเป็นอะไร จากนักล่า จะเป็นนักล้วง หรือนักรัก หรือไง นักล้วงก็เป็นตลอดอยู่แล้วนี่หว่า สงสัยเป็น จะอย่างหลัง นักรัก … เพราะทน (หึง) ไม่ไหว เจอทหารไทยเบอร์ใหญ่มาก บอกรักจีนกลางเวทีอาเซียน เมื่อต้นเดือนสิงหาคมนี้ เล่นเอาสื่อฝรั่งช็อก ออกข่าวว่าไทยบอกรักจีนกลางเวทีอาเซียน ข่าวนี้ ทำให้ผมความครื้นเครงใจอย่างยิ่ง
    ผมเลยต้องแว๊บไปอ่านบทบทความของท่านสื่อใหญ่ ซึ่งผมก็เป็นแฟนท่านเหมือนกันนะ
    บทความท่านสื่อใหญ่เริ่มต้นซะ ผมนึกว่าท่านเอานิทานจิ๊กโก๋ปากซอยของผม มาช่วยโปรโมทให้ อ่านๆ ไป อ้าว แล้วกัน กลายเป็นคนละซอย ฮา…ไปหาอ่านกันเองแล้วกันครับ
    ผมแค่ติดใจ ตอนท่านจะจบบทความนั่นแหละ ท่านว่าสังคมไทยดูเหมือนจะวิพากษ์วิจารณ์ทูตอเมริกันคนใหม่ที่กำลังจะมา ด้วย”ทัศนคติลบ” มากอยู่ ในความเห็นของท่าน เอกลักษณ์แข็งของไทย เมื่อมีแขกไปใครมาเยือนถึงเรือ นชาน จะยิ้มแย้ม ยินดี ต้อนรับ… ดังนั้น เราอย่าใช่ “ใจขุ่น” สรุปการมาของเขาในแง่ร้าย ทันที่ทันใด จะดีไหม ท่านว่า ท่าทีของสหรัฐต่อไทยกำลังจะเปลี่ยนไป…?
    เอาละครับ ท่านเป็นสื่อใหญ่ที่ผมเคารพ ท่านจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ท่าน แต่ผมก็มีความเห็นของผม แถมให้เหมือนกัน
    ตามรายงานความประพฤติของเด็กชาย สยาม ที่ครูประจำชั้น ที่ดูแลแดนสยาม ต้องทำส่งครูใหญ่ คือสภาสูงของอเมริกา ทุกปี หรือที่เรียกว่า Congressional Sevice Report เรื่อง Thailand: Background and U.S. Relations ซึ่งออกมาเมื่อวันที่ 29 กรกฏาคม ที่ผ่านมานี้ นั้น ผมมองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงของอเมริกา… ในทางที่เป็นคุณ หรือเป็นบวกกับประเทศไทยแต่อย่างใดเลย
    เอกสารยาว 19 หน้า อ้างความสัมพันธ์ที่มีมาช้านาน ตั้งแต่ ปี ค.ศ.1954 รักกันจัง รวมมือกันจริง แต่ความรักมาสะดุดก็ตอนที่ แดนสยามมีปฏิวัติถี่หน่อย 2 ครั้ง ในไม่กี่ปีที่ผ่านมา
    ข้อความอื่นๆ ก็เป็นไปตามแบบฟอร์มเดิม รวมทั้งเรื่องการเสือก เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ซึ่งเป็นที่เคารพอย่างสูงสุดของเรา และเรื่องการสืบสันตติวงศ์ของพระราชวงศ์ ซึ่งเป็นเรื่องภายในและละเอียดอ่อนของเรา มันก็ยังเสือกเหมือนเดิม ผมยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงของไอ้ใบตองแห้งเลยนะ
    ที่มีพิเศษเพิ่มเติม คือ เรื่องการปฏิวัติของลุงตู่ คุณครูประจำชั้น ที่ทำรายงานบอกว่า การที่ทหารไทยทำการปฏิวัติ ในปี ค.ศ.2014 ไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นเรื่องใหญ่สำหรับอเมริกา เป็นการท้าทายความสัมพันธ์ ระหว่างอเมริกากับไทยว่า จะยังอยู่ในราง หรือจะตกราง ในหลายๆทาง ความสัมพันธ์ด้านกองทัพ กับกองทัพ military – to – military ระหว่างอเมริกากับไทย เป็นเสาหลักที่แข็งแรงที่สุด ในด้านความสัมพันธ์ ระหว่างอเมริกากับไทย….
    ….นอกจากนี้ มีนักวิเคราะห์บอกว่า สัมพันธ์ไทย-อเมริกา เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องรักษาไว้ เพราะจะทำให้ อเมริกาอาจเสียโอกาส ในการเข้ามาใช้ฐานและเครื่องมือเครื่องใช้ทางทหารที่สำคัญในไทย โดยเฉพาะอู่ตะเภา ที่สามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ ( ซึ่งรวมถึง C-17s และ C-130s) ได้ และอยู่ติดกับท่าเรือน้ำลึก และมีสาธารญูปโภคพร้อม ในการใช้บริหารและควบคุมระบบ เมื่อตอนอเมริกามีปฏิบัติการณ์อิรัค และอาฟกานิสถานกองทัพอมริกัน ใช้อู่ตะเภาเป็นที่แวะเติมน้ำมัน…….การเสียโอกาสนี้ จะทำให้ อิทธิพลของจีนในภูมิภาค เพิ่มสูงขึ้น….
    ….นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานหลายสิบหน่วย ของอเมริกา ที่ใช้ไทยเป็นสำนักงานใหญ่ (ปฏิบัติการ) ในภูมิภาค เจ้าหน้าที่เหล่านั้น ไม่สบายใจว่า การเมืองไทยที่ไม่สงบ จะทำให้การทำงานของพวกเขาสะดุด….
    เอาละครับ ไปอ่านส่วนที่เป็นน้ำกันเองต่อ ผมแกะส่วนที่เป็นเนื้อมาให้แล้ว ลองพิจารณากันดูนะครับ ไอ้ใบตองแห้ง มันมองเราอย่างไร และมันเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง หรือถ้ามันจะเปลี่ยน เปลี่ยนตรงไหน เพราะอะไร
    มันอาจจะเพิ่งสำนึก ว่า กูโง่ กูบ้า ขนาดไหน ที่มาทำกร่างใส่สมันน้อย นึกไม่ถึงว่าสมันน้อย จะเปลี่ยนเป็นช้างไทยสู้ศึก แล้วนี่ กูจะบุกจีน ผ่านรูไหนดีวู้ย ไม่มีอะไรดีกว่า หน้าด้าน ด่าแล้ว ก็กลับมาตบหัวได้ เดี๋ยวคนไทยใจดี ใครมาเยือนถึงเรือนชาน ก็ต้อนรับเอง เหมียนเดิม
    ถ้าไม่แน่ใจ ว่าจะต้อนรับนายทูตตนใหม่ของไอ้ใบตองแห้งอย่างไรดี จะเอาพวกมาลัยไปคอยยืนคล้องคอ แถมโบกธงอเมริกัน ตะโกนร้อง พ่อกูมาแล้ว หรือ จะด่ามันต่อไปว่า กูรู้นะ ว่ามึงกำลังคิดจะทำอะไร หรือจะเฉยๆ ดูท่าทีกันไปก่อน
    ถ้าไม่แน่ใจนะครับ ก็โปรดอดใจ รออีกไม่กี่วัน ผมกำลังปั่นนิทานเรื่องใหม่ เกี่ยวกับความสัมพันธ์อันซับซ้อน ระหว่างจีน ญี่ปุ่น อังกฤษ อเมริกา และ มันอาจจะมาเกี่ยวกับแดนสยามของเรา อ่านนิทานเรื่องนั้นแล้ว น่าจะได้คำตอบ ว่าจะรับนายทูตใบตองแห้งคนใหม่อย่างไร
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    8 ส.ค. 2558
    เรื่อง ใครมาเยือนถึงเรือนชาน “ใครมาเยือนถึงเรือนชาน….“ เมื่อวาน มีท่านผู้อ่านนิทานส่งข่าวบอกผมว่า นายทูตอเมรืกันคนใหม่ เขาจะมาแล้วนะ แล้วเราจะทำอย่างไร ผมรู้ข่าวแล้ว แต่บังเอิญผมกำลังติดพันกับการเขียนนิทานเรื่องใหม่อย่างขมักเขม้น เลยยังไม่อยากเขียนรับนายทูตนั่น ตอนบ่าย ตื่นมาไล่อ่านข่าว แหม อดไม่ได้ เจอบทความของสื่อใหญ่มาก ที่เคารพท่านหนึ่ง ท่านเขียนบทความเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม นี้ เรื่อง … สหรัฐที่ ” กำลังจะเปลี่ยนไป” … ฮะ… นี่ผมตกข่าวอะไรหรือ ไอ้นักล่าใบตองแห้ง มันจะเปลี่ยนเป็นอะไร จากนักล่า จะเป็นนักล้วง หรือนักรัก หรือไง นักล้วงก็เป็นตลอดอยู่แล้วนี่หว่า สงสัยเป็น จะอย่างหลัง นักรัก … เพราะทน (หึง) ไม่ไหว เจอทหารไทยเบอร์ใหญ่มาก บอกรักจีนกลางเวทีอาเซียน เมื่อต้นเดือนสิงหาคมนี้ เล่นเอาสื่อฝรั่งช็อก ออกข่าวว่าไทยบอกรักจีนกลางเวทีอาเซียน ข่าวนี้ ทำให้ผมความครื้นเครงใจอย่างยิ่ง ผมเลยต้องแว๊บไปอ่านบทบทความของท่านสื่อใหญ่ ซึ่งผมก็เป็นแฟนท่านเหมือนกันนะ บทความท่านสื่อใหญ่เริ่มต้นซะ ผมนึกว่าท่านเอานิทานจิ๊กโก๋ปากซอยของผม มาช่วยโปรโมทให้ อ่านๆ ไป อ้าว แล้วกัน กลายเป็นคนละซอย ฮา…ไปหาอ่านกันเองแล้วกันครับ ผมแค่ติดใจ ตอนท่านจะจบบทความนั่นแหละ ท่านว่าสังคมไทยดูเหมือนจะวิพากษ์วิจารณ์ทูตอเมริกันคนใหม่ที่กำลังจะมา ด้วย”ทัศนคติลบ” มากอยู่ ในความเห็นของท่าน เอกลักษณ์แข็งของไทย เมื่อมีแขกไปใครมาเยือนถึงเรือ นชาน จะยิ้มแย้ม ยินดี ต้อนรับ… ดังนั้น เราอย่าใช่ “ใจขุ่น” สรุปการมาของเขาในแง่ร้าย ทันที่ทันใด จะดีไหม ท่านว่า ท่าทีของสหรัฐต่อไทยกำลังจะเปลี่ยนไป…? เอาละครับ ท่านเป็นสื่อใหญ่ที่ผมเคารพ ท่านจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ท่าน แต่ผมก็มีความเห็นของผม แถมให้เหมือนกัน ตามรายงานความประพฤติของเด็กชาย สยาม ที่ครูประจำชั้น ที่ดูแลแดนสยาม ต้องทำส่งครูใหญ่ คือสภาสูงของอเมริกา ทุกปี หรือที่เรียกว่า Congressional Sevice Report เรื่อง Thailand: Background and U.S. Relations ซึ่งออกมาเมื่อวันที่ 29 กรกฏาคม ที่ผ่านมานี้ นั้น ผมมองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงของอเมริกา… ในทางที่เป็นคุณ หรือเป็นบวกกับประเทศไทยแต่อย่างใดเลย เอกสารยาว 19 หน้า อ้างความสัมพันธ์ที่มีมาช้านาน ตั้งแต่ ปี ค.ศ.1954 รักกันจัง รวมมือกันจริง แต่ความรักมาสะดุดก็ตอนที่ แดนสยามมีปฏิวัติถี่หน่อย 2 ครั้ง ในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ข้อความอื่นๆ ก็เป็นไปตามแบบฟอร์มเดิม รวมทั้งเรื่องการเสือก เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ซึ่งเป็นที่เคารพอย่างสูงสุดของเรา และเรื่องการสืบสันตติวงศ์ของพระราชวงศ์ ซึ่งเป็นเรื่องภายในและละเอียดอ่อนของเรา มันก็ยังเสือกเหมือนเดิม ผมยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงของไอ้ใบตองแห้งเลยนะ ที่มีพิเศษเพิ่มเติม คือ เรื่องการปฏิวัติของลุงตู่ คุณครูประจำชั้น ที่ทำรายงานบอกว่า การที่ทหารไทยทำการปฏิวัติ ในปี ค.ศ.2014 ไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นเรื่องใหญ่สำหรับอเมริกา เป็นการท้าทายความสัมพันธ์ ระหว่างอเมริกากับไทยว่า จะยังอยู่ในราง หรือจะตกราง ในหลายๆทาง ความสัมพันธ์ด้านกองทัพ กับกองทัพ military – to – military ระหว่างอเมริกากับไทย เป็นเสาหลักที่แข็งแรงที่สุด ในด้านความสัมพันธ์ ระหว่างอเมริกากับไทย…. ….นอกจากนี้ มีนักวิเคราะห์บอกว่า สัมพันธ์ไทย-อเมริกา เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องรักษาไว้ เพราะจะทำให้ อเมริกาอาจเสียโอกาส ในการเข้ามาใช้ฐานและเครื่องมือเครื่องใช้ทางทหารที่สำคัญในไทย โดยเฉพาะอู่ตะเภา ที่สามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ ( ซึ่งรวมถึง C-17s และ C-130s) ได้ และอยู่ติดกับท่าเรือน้ำลึก และมีสาธารญูปโภคพร้อม ในการใช้บริหารและควบคุมระบบ เมื่อตอนอเมริกามีปฏิบัติการณ์อิรัค และอาฟกานิสถานกองทัพอมริกัน ใช้อู่ตะเภาเป็นที่แวะเติมน้ำมัน…….การเสียโอกาสนี้ จะทำให้ อิทธิพลของจีนในภูมิภาค เพิ่มสูงขึ้น…. ….นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานหลายสิบหน่วย ของอเมริกา ที่ใช้ไทยเป็นสำนักงานใหญ่ (ปฏิบัติการ) ในภูมิภาค เจ้าหน้าที่เหล่านั้น ไม่สบายใจว่า การเมืองไทยที่ไม่สงบ จะทำให้การทำงานของพวกเขาสะดุด…. เอาละครับ ไปอ่านส่วนที่เป็นน้ำกันเองต่อ ผมแกะส่วนที่เป็นเนื้อมาให้แล้ว ลองพิจารณากันดูนะครับ ไอ้ใบตองแห้ง มันมองเราอย่างไร และมันเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง หรือถ้ามันจะเปลี่ยน เปลี่ยนตรงไหน เพราะอะไร มันอาจจะเพิ่งสำนึก ว่า กูโง่ กูบ้า ขนาดไหน ที่มาทำกร่างใส่สมันน้อย นึกไม่ถึงว่าสมันน้อย จะเปลี่ยนเป็นช้างไทยสู้ศึก แล้วนี่ กูจะบุกจีน ผ่านรูไหนดีวู้ย ไม่มีอะไรดีกว่า หน้าด้าน ด่าแล้ว ก็กลับมาตบหัวได้ เดี๋ยวคนไทยใจดี ใครมาเยือนถึงเรือนชาน ก็ต้อนรับเอง เหมียนเดิม ถ้าไม่แน่ใจ ว่าจะต้อนรับนายทูตตนใหม่ของไอ้ใบตองแห้งอย่างไรดี จะเอาพวกมาลัยไปคอยยืนคล้องคอ แถมโบกธงอเมริกัน ตะโกนร้อง พ่อกูมาแล้ว หรือ จะด่ามันต่อไปว่า กูรู้นะ ว่ามึงกำลังคิดจะทำอะไร หรือจะเฉยๆ ดูท่าทีกันไปก่อน ถ้าไม่แน่ใจนะครับ ก็โปรดอดใจ รออีกไม่กี่วัน ผมกำลังปั่นนิทานเรื่องใหม่ เกี่ยวกับความสัมพันธ์อันซับซ้อน ระหว่างจีน ญี่ปุ่น อังกฤษ อเมริกา และ มันอาจจะมาเกี่ยวกับแดนสยามของเรา อ่านนิทานเรื่องนั้นแล้ว น่าจะได้คำตอบ ว่าจะรับนายทูตใบตองแห้งคนใหม่อย่างไร สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 8 ส.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 426 มุมมอง 0 รีวิว
  • ของอร่อย ไม่ต้องพูดเยอะหรอก…กิน กิน กิน อย่างเดียวก็พอ .. หอยลายทอดกรอบจ้า

    หอยลายอบกรอบสไปซี่ 🌶 เผ็ดนัว เคี้ยวมันส์! กรอบจริงไม่จกตา หอยลายเน้น ๆ ไม่ผสมแป้ง อบจนหอม กรุบ ๆ ทุกคำ แถมรสเผ็ดกำลังดี กินเล่นก็เพลิน กินกับเบียร์คือโคตรฟิน ไม่มีสารกันบูด ไม่ใส่น้ำตาลปลอม กินได้สบายใจ จัดแพ็กพร้อมส่งทั่วไทย คลิกเลยจ้าาา

    หอยลายอบกรอบ รสโคเรียสไปซี่ ความอร่อยลงตัวที่ห้ามไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ .. มีความเผ็ดๆ แต่ไม่มาก เคี้ยวเล่นก็เพลิน ทานกับข้าวก็เลิศ

    ยากได้ความอร่อยแบบนี้ ส่งตรงถึงหน้าบ้าน ต้องร้านเราเลยครับ… กดสั่งซื้อในตะกร้าได้เลยครับ

    ร้านกินจุ๊บจิ๊บ อร่อย สดใหม่ ส่งไว ได้คุณภาพ

    ⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้า
    หอยลายกรอบ รสโคเรียสไปซี่ ใน TikTok
    https://vt.tiktok.com/ZShf94QeQ/

    หอยลายกรอบ รสโคเรียสไปซี่ ใน Shopee
    https://th.shp.ee/sic8iXL

    เลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง
    1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop
    2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_

    เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ

    #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #ปลาซิวกรอบ #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาข้างเหลือง #กิมสั่วงา


    #หอยลาย #ปลาจิ้งจ้าง #หมึก #กุนเชียง #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #หมึกฉาบ #ถุง
    ของอร่อย ไม่ต้องพูดเยอะหรอก…กิน กิน กิน อย่างเดียวก็พอ .. หอยลายทอดกรอบจ้า หอยลายอบกรอบสไปซี่ 🌶🔥 เผ็ดนัว เคี้ยวมันส์! กรอบจริงไม่จกตา หอยลายเน้น ๆ ไม่ผสมแป้ง อบจนหอม กรุบ ๆ ทุกคำ แถมรสเผ็ดกำลังดี กินเล่นก็เพลิน กินกับเบียร์คือโคตรฟิน 🍻 ไม่มีสารกันบูด ไม่ใส่น้ำตาลปลอม กินได้สบายใจ จัดแพ็กพร้อมส่งทั่วไทย คลิกเลยจ้าาา 📦 หอยลายอบกรอบ รสโคเรียสไปซี่ ความอร่อยลงตัวที่ห้ามไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ 😁.. มีความเผ็ดๆ แต่ไม่มาก เคี้ยวเล่นก็เพลิน ทานกับข้าวก็เลิศ ยากได้ความอร่อยแบบนี้ ส่งตรงถึงหน้าบ้าน ต้องร้านเราเลยครับ… กดสั่งซื้อในตะกร้าได้เลยครับ 😍ร้านกินจุ๊บจิ๊บ อร่อย สดใหม่ ส่งไว ได้คุณภาพ😍 🌶️♨️⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้า หอยลายกรอบ รสโคเรียสไปซี่ 🐟🐠 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZShf94QeQ/ หอยลายกรอบ รสโคเรียสไปซี่🐠🐟 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/sic8iXL เลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง 1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop 2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_ เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #ปลาซิวกรอบ #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาข้างเหลือง #กิมสั่วงา #หอยลาย #ปลาจิ้งจ้าง #หมึก #กุนเชียง #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #หมึกฉาบ #ถุง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • คนไทยทุกคนสบายใจได้เลย กต.จะร้องเรียนแล้วนะจ๊ะ!!! (18/11/68)
    .
    #thaitimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #กระทรวงการต่างประเทศ #การเมืองไทย #กัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา #ข่าวร้อน #ข่าววันนี้ #newsupdate
    คนไทยทุกคนสบายใจได้เลย กต.จะร้องเรียนแล้วนะจ๊ะ!!! (18/11/68) . #thaitimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #กระทรวงการต่างประเทศ #การเมืองไทย #กัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา #ข่าวร้อน #ข่าววันนี้ #newsupdate
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • รมว.กห.สบายใจ 'ฮุนเซน' ท้าปิดด่าน 100 ปี ยันยังไม่ปล่อยตัว 18 เชลยศึก ชี้เป็น "สัญลักษณ์" กัมพูชาไม่ได้สิ้นสุดความเป็นปรปักษ์
    https://www.thai-tai.tv/news/22431/
    .
    #ไทยไท #ณัฐพลนาคพาณิชย์ #เก็บกู้ทุ่นระเบิด #18เชลยศึก #ฮุนเซน #JointDeclaration

    รมว.กห.สบายใจ 'ฮุนเซน' ท้าปิดด่าน 100 ปี ยันยังไม่ปล่อยตัว 18 เชลยศึก ชี้เป็น "สัญลักษณ์" กัมพูชาไม่ได้สิ้นสุดความเป็นปรปักษ์ https://www.thai-tai.tv/news/22431/ . #ไทยไท #ณัฐพลนาคพาณิชย์ #เก็บกู้ทุ่นระเบิด #18เชลยศึก #ฮุนเซน #JointDeclaration
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • 6 ขั้นตอนการเรียนรู้ทักษะสังคมของ Sasha

    บทความ My six stages of learning to be a socially normal person โดย Sasha Chapin เล่าประสบการณ์การเรียนรู้ทักษะทางสังคมผ่าน 6 ขั้นตอน ตั้งแต่การพยายามเป็น “คนที่น่าสนใจ” ไปจนถึงการเรียนรู้ที่จะเชื่อมโยงกับผู้อื่นด้วยความรักและการยอมรับ ก่อนจะมาถึงจุดที่สามารถเลือกได้ว่าจะเชื่อมโยงหรือเว้นระยะห่างอย่างสมดุล

    ขั้นแรก: การเป็นคนที่น่าสนใจ
    ในวัยเด็กและวัยรุ่น Sasha พยายามสร้างตัวตนให้ดูฉลาดและน่าฟัง เช่น การอ่านบทกวีและวรรณกรรมยาก ๆ หรือเล่าเรื่องดราม่าในชีวิต แต่สิ่งนี้กลับทำให้เขาดูเป็น “คนโชว์” มากกว่าการเชื่อมโยงจริง ๆ จึงยังไม่สามารถเข้ากับสังคมได้อย่างแท้จริง

    ขั้นสอง–สาม: การเล่นเกมสังคมและการคลายกฎเกณฑ์
    เมื่อทำงานในร้านอาหาร เขาเรียนรู้จากเพื่อนร่วมงานว่า การเชื่อมโยงคือการเล่นเกมที่อีกฝ่ายต้องการ ไม่ใช่การยึดติดกับบทบาทตายตัว ต่อมาเขาพบว่าการ “คลายกฎ” และใส่ความแปลกเล็กน้อยลงไป เช่น พูดประโยคที่ไม่คาดคิด ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและเปิดใจมากขึ้น

    ขั้นสี่: การเต้นไปตามจังหวะ
    ผ่านการฝึกสมาธิและการสังเกต เขาเริ่มเข้าใจ ภาษากายและอารมณ์ที่ละเอียดอ่อน ของผู้คน ทำให้การสื่อสารเหมือนการเต้นรำที่ต้องตอบสนองตามจังหวะ ไม่ใช่การคิดวิเคราะห์อย่างแข็งทื่อ

    ขั้นห้า–หก: ความรัก การยอมรับ และการเลือกเชื่อมโยง
    ในฐานะโค้ช เขาลองใช้ “พลังการเยียวยา” ผ่านการเปิดใจและการฟังอย่างลึกซึ้ง จนผู้คนรู้สึกได้รับการปลอบโยน แต่เขาก็พบข้อจำกัดว่า การเปิดใจมากเกินไปอาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าเป็นความสัมพันธ์เชิงลึกหรือการจีบ สุดท้ายเขาจึงเรียนรู้ที่จะปรับระดับการเชื่อมโยงตามสถานการณ์ และยอมรับว่าบางครั้งการเว้นระยะห่างก็เป็นสิ่งที่ดี

    สรุปประเด็นสำคัญ
    6 ขั้นตอนการเรียนรู้ทักษะสังคมของ Sasha
    จากการพยายามเป็นคนที่น่าสนใจ → เล่นเกมสังคม → คลายกฎเกณฑ์ → เต้นไปตามจังหวะ → เปิดใจด้วยความรัก → เลือกเชื่อมโยงอย่างสมดุล

    บทเรียนสำคัญจากร้านอาหาร
    การสังเกตและตอบสนองต่อเกมสังคมของอีกฝ่ายทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจ

    การฝึกสมาธิและการสังเกตภาษากาย
    ช่วยให้เข้าใจอารมณ์และสร้างการเชื่อมโยงที่แท้จริง

    การเปิดใจสร้างความสัมพันธ์ลึกซึ้งได้ง่าย
    แต่ต้องระวังไม่ให้ผู้คนตีความผิดว่าเป็นความสัมพันธ์เชิงโรแมนติก

    ความเสี่ยงจากการเปิดใจมากเกินไป
    อาจทำให้คนอื่นรู้สึกถูกหลอกหรือสับสนในความสัมพันธ์

    การพยายามเป็น “คนที่น่าสนใจ” อย่างเดียวไม่เพียงพอ
    เพราะจะกลายเป็นการโชว์มากกว่าการเชื่อมโยงจริง ๆ

    https://sashachapin.substack.com/p/my-six-stages-of-learning-to-be-a
    🥂 6 ขั้นตอนการเรียนรู้ทักษะสังคมของ Sasha บทความ My six stages of learning to be a socially normal person โดย Sasha Chapin เล่าประสบการณ์การเรียนรู้ทักษะทางสังคมผ่าน 6 ขั้นตอน ตั้งแต่การพยายามเป็น “คนที่น่าสนใจ” ไปจนถึงการเรียนรู้ที่จะเชื่อมโยงกับผู้อื่นด้วยความรักและการยอมรับ ก่อนจะมาถึงจุดที่สามารถเลือกได้ว่าจะเชื่อมโยงหรือเว้นระยะห่างอย่างสมดุล 🎭 ขั้นแรก: การเป็นคนที่น่าสนใจ ในวัยเด็กและวัยรุ่น Sasha พยายามสร้างตัวตนให้ดูฉลาดและน่าฟัง เช่น การอ่านบทกวีและวรรณกรรมยาก ๆ หรือเล่าเรื่องดราม่าในชีวิต แต่สิ่งนี้กลับทำให้เขาดูเป็น “คนโชว์” มากกว่าการเชื่อมโยงจริง ๆ จึงยังไม่สามารถเข้ากับสังคมได้อย่างแท้จริง 🍷 ขั้นสอง–สาม: การเล่นเกมสังคมและการคลายกฎเกณฑ์ เมื่อทำงานในร้านอาหาร เขาเรียนรู้จากเพื่อนร่วมงานว่า การเชื่อมโยงคือการเล่นเกมที่อีกฝ่ายต้องการ ไม่ใช่การยึดติดกับบทบาทตายตัว ต่อมาเขาพบว่าการ “คลายกฎ” และใส่ความแปลกเล็กน้อยลงไป เช่น พูดประโยคที่ไม่คาดคิด ทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายและเปิดใจมากขึ้น 💃 ขั้นสี่: การเต้นไปตามจังหวะ ผ่านการฝึกสมาธิและการสังเกต เขาเริ่มเข้าใจ ภาษากายและอารมณ์ที่ละเอียดอ่อน ของผู้คน ทำให้การสื่อสารเหมือนการเต้นรำที่ต้องตอบสนองตามจังหวะ ไม่ใช่การคิดวิเคราะห์อย่างแข็งทื่อ ❤️ ขั้นห้า–หก: ความรัก การยอมรับ และการเลือกเชื่อมโยง ในฐานะโค้ช เขาลองใช้ “พลังการเยียวยา” ผ่านการเปิดใจและการฟังอย่างลึกซึ้ง จนผู้คนรู้สึกได้รับการปลอบโยน แต่เขาก็พบข้อจำกัดว่า การเปิดใจมากเกินไปอาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าเป็นความสัมพันธ์เชิงลึกหรือการจีบ สุดท้ายเขาจึงเรียนรู้ที่จะปรับระดับการเชื่อมโยงตามสถานการณ์ และยอมรับว่าบางครั้งการเว้นระยะห่างก็เป็นสิ่งที่ดี 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ 6 ขั้นตอนการเรียนรู้ทักษะสังคมของ Sasha ➡️ จากการพยายามเป็นคนที่น่าสนใจ → เล่นเกมสังคม → คลายกฎเกณฑ์ → เต้นไปตามจังหวะ → เปิดใจด้วยความรัก → เลือกเชื่อมโยงอย่างสมดุล ✅ บทเรียนสำคัญจากร้านอาหาร ➡️ การสังเกตและตอบสนองต่อเกมสังคมของอีกฝ่ายทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจ ✅ การฝึกสมาธิและการสังเกตภาษากาย ➡️ ช่วยให้เข้าใจอารมณ์และสร้างการเชื่อมโยงที่แท้จริง ✅ การเปิดใจสร้างความสัมพันธ์ลึกซึ้งได้ง่าย ➡️ แต่ต้องระวังไม่ให้ผู้คนตีความผิดว่าเป็นความสัมพันธ์เชิงโรแมนติก ‼️ ความเสี่ยงจากการเปิดใจมากเกินไป ⛔ อาจทำให้คนอื่นรู้สึกถูกหลอกหรือสับสนในความสัมพันธ์ ‼️ การพยายามเป็น “คนที่น่าสนใจ” อย่างเดียวไม่เพียงพอ ⛔ เพราะจะกลายเป็นการโชว์มากกว่าการเชื่อมโยงจริง ๆ https://sashachapin.substack.com/p/my-six-stages-of-learning-to-be-a
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้มข้ามศตวรรษ บทแถม ตอน ฤทธิ์ยิว 5 – 6
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทแถม
    “ฤทธิ์ยิว”

    (5)

    นี่เล่ามา เป็นการเจริญเติบโตของอิทธิพลยิว ก่อนอเมริกาจะมีประธานาธิบดี ชื่อ Woodlow Wilson ที่ได้รับสมญาว่า “สุดยอดตัวสำรอง” รองจากประธานาธิบดี Franklin D Roosevelt ที่ได้รับขนานนามว่า “เป็นสุดยอดขวัญใจ” ของอเมริกันยิว Wilson นั้น เป็นที่รู้กันว่าเขาใกล้ชิดกับพวกยิว และรัฐบาลของเขาอยู่ในมือพวกยิว Wilson รู้สึกจะเป็นประธานาธิบดีของอเมริกาคนแรก ที่ยิวให้การสนับสนุนเต็มที่ ดันเต็มหลัง ทั้งด้านการเงิน และการอื่น นับเป็นม้าแข่ง ที่พวกยิวบอกว่า นำถ้วยรางวัลมาให้พวกเขาอย่างคุ้มการลงทุน

    พวกยิวมีจำนวนไม่กี่หยิบมือ แต่ไม่กี่หยิบมือนี้ ได้หยิบชิ้นปลามัน สร้างฐานอำนาจในปี 1912 เรียบร้อย Herzl อายุสั้น เลยไม่ได้นั่งบัลลังก์ใด แต่ผู้ที่เดินตามเจตนารมย์ของเขาดูเหมือนจะดำเนินการไม่พลาดเป้าหมาย ที่ Herzl กำหนดไว้

    – Oscar Straus ยิวเยอรมัน เป็นยิวคนแรก ที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีในอเมริกา เขาได้ในสมัยประธานาธิบดี Roosevelt และต่อมาได้ไปเป็นทูต ประจำออตโตมาน ในสมัยของ Taft
    – Jacob Schiff หัวหน้าใหญ่ ของบริษัทการเงิน Kuhn, Loeb รายนี้คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณ
    – Louis Marshall ไซออนนิสต์ ผู้ก่อตั้ง AJC
    – พี่น้องตระกูล Warburg: Paul, Felix และ Max ตระกูลนี้ก็คงไม่ต้องบรรยาย
    – Henry Morgenthau, Sr. ทนายความ พ่อของ Henry ซึ่งต่อมามีอิทธิพลมากกว่าพ่อ
    – Louis Brandeis ทนายความ ไซออนนิสต์ชนิดเข้ม ซึ่งต่อมามีอิทธิพลสูงยิ่ง
    – Samuel Untermyer ทนายความเขี้ยวยาว
    – Bernard Baruch นักการเงินจาก วอลสตรีท สุดยอดนักชักใย
    – Stephen Wise นักบวชยิวออสเตรียนและ ไซออนนิสต์อย่างเข้มข้น
    – Richard Gottheil นักบวชยิวอังกฤษ และ ไซออนนิสต์

    นี่เป็นตาข่ายยิวตัวสำคัญ เฉพาะฝั่งอเมริกาเท่านั้น ยังมีทางฝั่งอังกฤษ และยุโรปที่ทำงานกันเป็นเครือข่ายอีกไม่น้อย

    พวกที่ใช้อำนาจอันร้ายกาจของก ระเป๋าเงิน รายใหญ่ที่สำแดงเดชช่วย Wilson คือ Henry Morgenthau, Jacob Schiff, Samuel Untermyer และหน้าใหม่แต่มาแรง คือ Bernard Baruch ส่วนบทบาทของ Warburg นั้นน่าสนใจ เขาน่าจะเป็นมันสมองให้ยิว ทั้งฝั่งอเมริกา ยุโรป โดยเฉพาะเยอรมัน และ Federal Reserve System ของอเมริกา เป็นผลงานของ Paul Warburg ล้วนๆ

    Morgenthau สนับสนุน ม้าชื่อ Wilson ตั้งแต่ Wilson ยังเป็นผู้ว่าการนิวเจอร์ซี เขาจ่ายเงินดูแล Wilson เป็นรายเดือน เป็นที่รู้กันว่า Morgenthau สนับสนุน Wilson แบบไม่มีอั้น และเมื่อ Wilson ได้เป็นประธานาธิบดี ในปี 1912 เขาก็ตอบแทน Morgenthau แบบไม่อั้นเช่นเดียวกัน Morgenthau ได้ไปเป็นทูตอเมริกา ประจำที่ออตโตมานตามคาด เพื่อดูแลปาเลสไตน์

    ส่วน Louise Brandis ได้รับเสนอชื่อให้เป็นผู้พิพากษาศาลสูง เป็นยิวคนแรกในวงการยุติธรรม เขาเป็นอยู่ 23 ปีและมีบทบาทสำคัญในสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง แต่ที่มาของการได้ตำแหน่งของเขา ค่อนข้างพิเศษกว่าใคร

    มีเรื่องเล่ากันว่า เมื่อ Wilson ได้นั่งเก้าอี้ตำแหน่งประธานาธิบดี ในปี 1914 ไม่กี่วัน เขามียิวรุ่นใหญ่ ที่อยู่ในกลุ่มเจ้าของกระเป๋าที่ สนับสนุน Wilson มาขอพบ คือ Samuel Untermeyer ซึ่งเป็นทนาย ของสำนักงาน Guggemheim, Untermeyer & Marshall ที่ดูแลด้านกฏหมายให้แก่ Kuhn, Loeb & Co
    Untermeyer บอกกับ Wilson ว่า เขามีลูกความที่เป็นภรรยา ของอาจารย์ ที่สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัย Princton ช่วงเดียวกับที่ Wilson สอน และลูกความของเขาขอให้แจ้งกับ Wilson ว่า เธอยินดีที่จะรับเงิน 40,000 เหรียญ แทนการฟ้องร้อง Wilson เรื่องการผิดสัญญา แล้ว Untermeyer ก็ควักจดหมายมัดใหญ่ ยื่นให้ Wilson มันเป็นจดหมายที่ Wilson เขียนถึงเมียของเพื่อนร่วมงาน Wilson จำลายมือตัวเองได้ แต่เขาบอกว่า เขาไม่มีเงิน 40,000 เหรียญที่จะจ่ายให้กับคนที่แบล๊กเมล์เขา Untermeyer บอกไม่เป็นไรหรอก ท่านประธานาธิบดี เรื่องเงินจำนวนนี้ ผมจะเป็นคนจัดการแทนท่านเอง แต่ผมขอให้ท่านรับปากว่า เมื่อมีตำแหน่งในศาลสูงว่างเมื่อ ไหร่ ขอให้แต่งตั้ง ไซออนนิสต์ ยิวเคร่ง ชื่อ Louise Dembitz Brandeis ก็แล้วกัน Wilson ก็รับปาก หลังจากนั้น ไม่ถึงปี วันที่ 5 มิถุนายน 1915 Louise Brandeis ก็ได้รับเลือกเป็นผู้พิพากษาศาลสูง

    แต่คนที่ได้ตำแหน่ง และมีบทบาทโดดเด่นที่สุด คือ Bernard Baruch ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 30 Baruch โผล่มาจากไหนไม่มีใครรู้ อยู่ดีๆ ก็หยิบชิ้นปลามัน ในปี คศ 1915 อังกฤษทำสงครามกับเยอรมันแล้ว แต่อเมริกายังเป็นกลาง Baruch เตือนให้อเมริกาเตรียมพร้อมสำหรับเข้าสงคราม เขาหงุดหงิดว่า อเมริกาไม่เตรียมอะไรเลย เขาเชื่อว่าอเมริกาต้องถูกลากเข้าไปทำสงครามแน่นอน และจะมาเร็วกว่าที่คิด และคงเป็นเรื่องของนางฟ้าเศก Baruch ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้า สภากลาโหม Council of National Defense ในต้นปี คศ 1916 เขาเข้าไปควบคุม หน่วยงานน่าสนใจคือ คณกรรมการสำหรับกิจการสงคราม War Industries Board (WIB) ซึ่งในเวลาสงคราม หน่วยงานนี้จะมีอำนาจล้นฟ้า และ Baruch คนเดียวโดดๆ เป็นคนคุม และกุมแน่นหน่วยงานนี้ตลอดช่วงเวลาสงคราม

    ในคำให้การของ Baruch ต่อวุฒิสมาชิก Albert Jefferies เขาสรุป บทบาทของเขาดังนี้:

    ” ผมเป็นคนดูแลตัดสินใจ ว่า จะให้ใคร หน่วยงานไหน ได้อะไร การตัดสินใจอยู่ที่ผม ท่านประธานาธิบดี มอบหมายให้ผมเป็นคนตัดสินใจ ว่า กองทัพบก หรือ กองทัพเรือ ควรจะได้อะไร หรือ การรถไฟ ควรมีอะไร หรือ ฝ่ายสัมพันธมิตร หรือ ท่านนายพล Allenby ควรมีรถไฟหรือไม่ หรือควรเอาไปใช้ที่รัสเซีย หรือใช้ที่ฝรั่งเศส ใช่ ผมมีอำนาจมาก ผมอาจมีอำนาจมากกว่าที่ใครๆเคยมีในสงคราม มันน่าสงสัย แต่มันเป็นเรื่องจริง”
    ก็น่าสงสัยจริงอยู่หรอก ว่า คนหนุ่มชาวยิว ที่ไม่เคยได้ลงเลือกตั้งอะไรเลย ไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองแม้แต่น้อย แต่ในยามวิกฤติ เขากลายเป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในรัฐบาล รองมาจากประธานาธิบดี บทบาทของเขาตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 ว่าใหญ่แล้ว แต่นั่นมันเป็นแค่การซ้อมใหญ่ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ Franklin D Roosevelt เป็นประธานาธิบดี Baruch ในฐานะ หัวหน้า สำนักงาน War Mobilization ดูเหมือนจะใหญ่มากกว่า และในฐานะที่เขาได้กลายเป็นเพื่อนสนิทของท่านหลอด Winston Churchill ของอังกฤษด้วย “Barney” ก็กลายเป็นชื่อ ที่ใครๆ ก็ต้องเรียกหา

    ####################
    “ฤทธิ์ยิว”

    (6)

    สงครามโลกครั้งที่ 1 ตีระฆังเริ่ม ในเดือนสิงหาคม 1914 เมื่อกองทัพเยอรมันเคลื่อนพลผ่านเข้าไปในเขตแดนของเบลเยี่ยม ที่ประกาศตัวเป็นกลาง โดยมีเป้าหมายปลายทางคือฝรั่งเศส หลังจากนั้นหลายประเทศก็ทยอยกันเข้าสู่สงคราม ถึงปลายปี 1914 ประมาณ 10 ประเทศ ก็อยู่ในสภาวะสงคราม แต่อเมริกา ยังใช้ยโนบายเป็นกลางอยู่ต่อไป อีกเกือบ 2 ปีครึ่ง สุนทรพจน์ของ Wilson เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม คศ 1914 หลังจากสงครามเริ่มหมาดๆ ประกาศชัดหูคนอเมริกัน ว่า”…เรามีหน้าที่ ที่จะเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ ที่มีความสงบ…” และเมื่อตอนหาเสียง ที่จะเป็นประธานาธิบดีสมัย 2 ในปี 1916 คำขวัญของ Wilson ที่บอกว่า เขาไม่พาเราเข้าสงคราม he kept us out of war ยังก้องหูคนอเมริกันอยู่

    แต่แล้วในวันที่ 2 เมษายน 1917 Wilson ก็เลี้ยวออกนอกเส้นทางกระทันหัน ประกาศสงครามกับเยอรมัน ชาวบ้านอเมริกันตามไม่ทันหัวทิ่มกันเป็นแถว โผคำอธิบาย ที่วงในรัฐบาลสั่งให้สื่อกระป๋องสีตรายิว ช่วยกันโหม คือ เนื่องมาจากการกระทำอันป่าเถื่อนของเยอรมัน ที่ใช้ตอร์ปิโดยิงเรือโดยสารและเรือบรรทุกสินค้าของอเมริกัน และเราก็ไม่มีทางเลือกอื่นเหลืออีกแล้ว นอกจากทำสงครามกับไอ้พวกเถื่อนนั้น ทั้งข่าว ทั้งภาพ ดุเดือดถึงใจ
    อันที่จริงเมื่อเริ่มสงครามใหม่ๆ เยอรมันยิงตอร์ปิโดร์ใส่เรือบรรทุกสินค้าของฝ่ายสัมพันธมิตรจริง แต่เมื่อ Wilson ทำการประท้วงเมื่อเดือนสิงหาคม 1915 เยอรมันก็หยุดยิง เยอรมันหยุดยิงไปนานพอสมควร จนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 1917 และตลอดเวลาที่เยอรมันหยุดยิง อเมริกาก็ค้าขายกับอังกฤษ ศัตรูของเยอรมัน อย่างสบายใจ ส่งสินค้าเพื่อสงครามให้อังกฤษ แถมช่วยอังกฤษ บล๊อกเส้นทางเดินเรือส่งสินค้าของเยอรมันอีกด้วย ก็ไม่น่าแปลกใจ ที่ในที่สุดเยอรมัน ก็กลับมายิงเรือทุกลำไม่ว่าของชาติไหน ที่ผ่านมาในเขต war zone

    แล้วตกลงสาเหตุ ของการประกาศเข้าสู่สงครามของอเมริกา จริงๆมันคืออะไรกันแน่

    วุฒิสมาชิก George Norris บอกว่า คนอเมริกัน ถูกทำให้เข้วจากประวัติศาสตร์ และจากความจริงที่มาจากการที่พวกนักการเงินวอลสตรีท ให้เงินกู้จำนวนมหึมากับพวกสัมพันธมิตร และแน่นอนพวกนี้กลัวหนี้สูญ ทั้งๆที่พวกเขาก็ทำกำไรได้มากมายจากการขายอาวุธยุทโธปกรณ์ กลุ่มพวกนี้แหละ ที่ใช้ให้พวกสื่อกระป๋องสี ละเลงเสียจนคนอเมริกัน เปลี่ยนใจ อยากจะทำสงครามกันไปหมด ทุกสงครามมีแต่ความหายนะ…. เรา เข้าสู่สงครามเพราะคำสั่งของทอง และใครล่ะที่มีทอง …

    อำนาจ เป็นเรื่องที่น่าสนใจ บางทีการสร้างภาพว่า มีอำนาจ ก็ทำให้กลายเป็นมีอำนาจจริงไปได้ ถ้ามีคนเชื่อ พวกยิวขณะนั้น ไม่มีกองทัพของตนเอง ไม่มีประเทศของตนเอง แถม มีเรื่องขัดแย้งเกิดอยู่ในหลายประเทศ และในหลายประเทศนั้น มีชาวยิว อยู่จำนวนน้อยมาก ไม่เกิน 1 หรือ 2 % ของจำนวนพลเมืองในประเทศนั้นๆ แต่คนจำนวนเท่าหยิบมือนี้ สามารถบงการนโยบายต่างประเทศได้ สามารถจุดชนวนสงครามได้ และสามารถชี้นำ หรือคัดท้ายผลของสงครามนั้นได้อีกด้วย ตัวอย่างที่เห็น คือ การที่อเมริกายกเลิกสนธิสัญญากับรัสเซีย ในปี 1911, การเลือกตั้งประธานาธิบดีของอเมริกา ในปี 1912 และอีกหลายเรื่องที่จะเล่าต่อไป

    แต่สิ่งสำคัญ ที่ทำให้คน “เชื่อ” ในภาพที่สร้างนั้น เป็นผลงานของสื่อ ไม่ว่าจะเป็นสื่อประเภทใด พวกยิวซื้อ ครอบครอง และควบคุมไว้หมดสิ้น และใช้อย่างได้ผลเลิศ เป็นเรื่องที่เราไม่ควรมองข้าม

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    8 มิ.ย. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ บทแถม ตอน ฤทธิ์ยิว 5 – 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทแถม “ฤทธิ์ยิว” (5) นี่เล่ามา เป็นการเจริญเติบโตของอิทธิพลยิว ก่อนอเมริกาจะมีประธานาธิบดี ชื่อ Woodlow Wilson ที่ได้รับสมญาว่า “สุดยอดตัวสำรอง” รองจากประธานาธิบดี Franklin D Roosevelt ที่ได้รับขนานนามว่า “เป็นสุดยอดขวัญใจ” ของอเมริกันยิว Wilson นั้น เป็นที่รู้กันว่าเขาใกล้ชิดกับพวกยิว และรัฐบาลของเขาอยู่ในมือพวกยิว Wilson รู้สึกจะเป็นประธานาธิบดีของอเมริกาคนแรก ที่ยิวให้การสนับสนุนเต็มที่ ดันเต็มหลัง ทั้งด้านการเงิน และการอื่น นับเป็นม้าแข่ง ที่พวกยิวบอกว่า นำถ้วยรางวัลมาให้พวกเขาอย่างคุ้มการลงทุน พวกยิวมีจำนวนไม่กี่หยิบมือ แต่ไม่กี่หยิบมือนี้ ได้หยิบชิ้นปลามัน สร้างฐานอำนาจในปี 1912 เรียบร้อย Herzl อายุสั้น เลยไม่ได้นั่งบัลลังก์ใด แต่ผู้ที่เดินตามเจตนารมย์ของเขาดูเหมือนจะดำเนินการไม่พลาดเป้าหมาย ที่ Herzl กำหนดไว้ – Oscar Straus ยิวเยอรมัน เป็นยิวคนแรก ที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีในอเมริกา เขาได้ในสมัยประธานาธิบดี Roosevelt และต่อมาได้ไปเป็นทูต ประจำออตโตมาน ในสมัยของ Taft – Jacob Schiff หัวหน้าใหญ่ ของบริษัทการเงิน Kuhn, Loeb รายนี้คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณ – Louis Marshall ไซออนนิสต์ ผู้ก่อตั้ง AJC – พี่น้องตระกูล Warburg: Paul, Felix และ Max ตระกูลนี้ก็คงไม่ต้องบรรยาย – Henry Morgenthau, Sr. ทนายความ พ่อของ Henry ซึ่งต่อมามีอิทธิพลมากกว่าพ่อ – Louis Brandeis ทนายความ ไซออนนิสต์ชนิดเข้ม ซึ่งต่อมามีอิทธิพลสูงยิ่ง – Samuel Untermyer ทนายความเขี้ยวยาว – Bernard Baruch นักการเงินจาก วอลสตรีท สุดยอดนักชักใย – Stephen Wise นักบวชยิวออสเตรียนและ ไซออนนิสต์อย่างเข้มข้น – Richard Gottheil นักบวชยิวอังกฤษ และ ไซออนนิสต์ นี่เป็นตาข่ายยิวตัวสำคัญ เฉพาะฝั่งอเมริกาเท่านั้น ยังมีทางฝั่งอังกฤษ และยุโรปที่ทำงานกันเป็นเครือข่ายอีกไม่น้อย พวกที่ใช้อำนาจอันร้ายกาจของก ระเป๋าเงิน รายใหญ่ที่สำแดงเดชช่วย Wilson คือ Henry Morgenthau, Jacob Schiff, Samuel Untermyer และหน้าใหม่แต่มาแรง คือ Bernard Baruch ส่วนบทบาทของ Warburg นั้นน่าสนใจ เขาน่าจะเป็นมันสมองให้ยิว ทั้งฝั่งอเมริกา ยุโรป โดยเฉพาะเยอรมัน และ Federal Reserve System ของอเมริกา เป็นผลงานของ Paul Warburg ล้วนๆ Morgenthau สนับสนุน ม้าชื่อ Wilson ตั้งแต่ Wilson ยังเป็นผู้ว่าการนิวเจอร์ซี เขาจ่ายเงินดูแล Wilson เป็นรายเดือน เป็นที่รู้กันว่า Morgenthau สนับสนุน Wilson แบบไม่มีอั้น และเมื่อ Wilson ได้เป็นประธานาธิบดี ในปี 1912 เขาก็ตอบแทน Morgenthau แบบไม่อั้นเช่นเดียวกัน Morgenthau ได้ไปเป็นทูตอเมริกา ประจำที่ออตโตมานตามคาด เพื่อดูแลปาเลสไตน์ ส่วน Louise Brandis ได้รับเสนอชื่อให้เป็นผู้พิพากษาศาลสูง เป็นยิวคนแรกในวงการยุติธรรม เขาเป็นอยู่ 23 ปีและมีบทบาทสำคัญในสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง แต่ที่มาของการได้ตำแหน่งของเขา ค่อนข้างพิเศษกว่าใคร มีเรื่องเล่ากันว่า เมื่อ Wilson ได้นั่งเก้าอี้ตำแหน่งประธานาธิบดี ในปี 1914 ไม่กี่วัน เขามียิวรุ่นใหญ่ ที่อยู่ในกลุ่มเจ้าของกระเป๋าที่ สนับสนุน Wilson มาขอพบ คือ Samuel Untermeyer ซึ่งเป็นทนาย ของสำนักงาน Guggemheim, Untermeyer & Marshall ที่ดูแลด้านกฏหมายให้แก่ Kuhn, Loeb & Co Untermeyer บอกกับ Wilson ว่า เขามีลูกความที่เป็นภรรยา ของอาจารย์ ที่สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัย Princton ช่วงเดียวกับที่ Wilson สอน และลูกความของเขาขอให้แจ้งกับ Wilson ว่า เธอยินดีที่จะรับเงิน 40,000 เหรียญ แทนการฟ้องร้อง Wilson เรื่องการผิดสัญญา แล้ว Untermeyer ก็ควักจดหมายมัดใหญ่ ยื่นให้ Wilson มันเป็นจดหมายที่ Wilson เขียนถึงเมียของเพื่อนร่วมงาน Wilson จำลายมือตัวเองได้ แต่เขาบอกว่า เขาไม่มีเงิน 40,000 เหรียญที่จะจ่ายให้กับคนที่แบล๊กเมล์เขา Untermeyer บอกไม่เป็นไรหรอก ท่านประธานาธิบดี เรื่องเงินจำนวนนี้ ผมจะเป็นคนจัดการแทนท่านเอง แต่ผมขอให้ท่านรับปากว่า เมื่อมีตำแหน่งในศาลสูงว่างเมื่อ ไหร่ ขอให้แต่งตั้ง ไซออนนิสต์ ยิวเคร่ง ชื่อ Louise Dembitz Brandeis ก็แล้วกัน Wilson ก็รับปาก หลังจากนั้น ไม่ถึงปี วันที่ 5 มิถุนายน 1915 Louise Brandeis ก็ได้รับเลือกเป็นผู้พิพากษาศาลสูง แต่คนที่ได้ตำแหน่ง และมีบทบาทโดดเด่นที่สุด คือ Bernard Baruch ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 30 Baruch โผล่มาจากไหนไม่มีใครรู้ อยู่ดีๆ ก็หยิบชิ้นปลามัน ในปี คศ 1915 อังกฤษทำสงครามกับเยอรมันแล้ว แต่อเมริกายังเป็นกลาง Baruch เตือนให้อเมริกาเตรียมพร้อมสำหรับเข้าสงคราม เขาหงุดหงิดว่า อเมริกาไม่เตรียมอะไรเลย เขาเชื่อว่าอเมริกาต้องถูกลากเข้าไปทำสงครามแน่นอน และจะมาเร็วกว่าที่คิด และคงเป็นเรื่องของนางฟ้าเศก Baruch ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้า สภากลาโหม Council of National Defense ในต้นปี คศ 1916 เขาเข้าไปควบคุม หน่วยงานน่าสนใจคือ คณกรรมการสำหรับกิจการสงคราม War Industries Board (WIB) ซึ่งในเวลาสงคราม หน่วยงานนี้จะมีอำนาจล้นฟ้า และ Baruch คนเดียวโดดๆ เป็นคนคุม และกุมแน่นหน่วยงานนี้ตลอดช่วงเวลาสงคราม ในคำให้การของ Baruch ต่อวุฒิสมาชิก Albert Jefferies เขาสรุป บทบาทของเขาดังนี้: ” ผมเป็นคนดูแลตัดสินใจ ว่า จะให้ใคร หน่วยงานไหน ได้อะไร การตัดสินใจอยู่ที่ผม ท่านประธานาธิบดี มอบหมายให้ผมเป็นคนตัดสินใจ ว่า กองทัพบก หรือ กองทัพเรือ ควรจะได้อะไร หรือ การรถไฟ ควรมีอะไร หรือ ฝ่ายสัมพันธมิตร หรือ ท่านนายพล Allenby ควรมีรถไฟหรือไม่ หรือควรเอาไปใช้ที่รัสเซีย หรือใช้ที่ฝรั่งเศส ใช่ ผมมีอำนาจมาก ผมอาจมีอำนาจมากกว่าที่ใครๆเคยมีในสงคราม มันน่าสงสัย แต่มันเป็นเรื่องจริง” ก็น่าสงสัยจริงอยู่หรอก ว่า คนหนุ่มชาวยิว ที่ไม่เคยได้ลงเลือกตั้งอะไรเลย ไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองแม้แต่น้อย แต่ในยามวิกฤติ เขากลายเป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในรัฐบาล รองมาจากประธานาธิบดี บทบาทของเขาตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 ว่าใหญ่แล้ว แต่นั่นมันเป็นแค่การซ้อมใหญ่ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ Franklin D Roosevelt เป็นประธานาธิบดี Baruch ในฐานะ หัวหน้า สำนักงาน War Mobilization ดูเหมือนจะใหญ่มากกว่า และในฐานะที่เขาได้กลายเป็นเพื่อนสนิทของท่านหลอด Winston Churchill ของอังกฤษด้วย “Barney” ก็กลายเป็นชื่อ ที่ใครๆ ก็ต้องเรียกหา #################### “ฤทธิ์ยิว” (6) สงครามโลกครั้งที่ 1 ตีระฆังเริ่ม ในเดือนสิงหาคม 1914 เมื่อกองทัพเยอรมันเคลื่อนพลผ่านเข้าไปในเขตแดนของเบลเยี่ยม ที่ประกาศตัวเป็นกลาง โดยมีเป้าหมายปลายทางคือฝรั่งเศส หลังจากนั้นหลายประเทศก็ทยอยกันเข้าสู่สงคราม ถึงปลายปี 1914 ประมาณ 10 ประเทศ ก็อยู่ในสภาวะสงคราม แต่อเมริกา ยังใช้ยโนบายเป็นกลางอยู่ต่อไป อีกเกือบ 2 ปีครึ่ง สุนทรพจน์ของ Wilson เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม คศ 1914 หลังจากสงครามเริ่มหมาดๆ ประกาศชัดหูคนอเมริกัน ว่า”…เรามีหน้าที่ ที่จะเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ ที่มีความสงบ…” และเมื่อตอนหาเสียง ที่จะเป็นประธานาธิบดีสมัย 2 ในปี 1916 คำขวัญของ Wilson ที่บอกว่า เขาไม่พาเราเข้าสงคราม he kept us out of war ยังก้องหูคนอเมริกันอยู่ แต่แล้วในวันที่ 2 เมษายน 1917 Wilson ก็เลี้ยวออกนอกเส้นทางกระทันหัน ประกาศสงครามกับเยอรมัน ชาวบ้านอเมริกันตามไม่ทันหัวทิ่มกันเป็นแถว โผคำอธิบาย ที่วงในรัฐบาลสั่งให้สื่อกระป๋องสีตรายิว ช่วยกันโหม คือ เนื่องมาจากการกระทำอันป่าเถื่อนของเยอรมัน ที่ใช้ตอร์ปิโดยิงเรือโดยสารและเรือบรรทุกสินค้าของอเมริกัน และเราก็ไม่มีทางเลือกอื่นเหลืออีกแล้ว นอกจากทำสงครามกับไอ้พวกเถื่อนนั้น ทั้งข่าว ทั้งภาพ ดุเดือดถึงใจ อันที่จริงเมื่อเริ่มสงครามใหม่ๆ เยอรมันยิงตอร์ปิโดร์ใส่เรือบรรทุกสินค้าของฝ่ายสัมพันธมิตรจริง แต่เมื่อ Wilson ทำการประท้วงเมื่อเดือนสิงหาคม 1915 เยอรมันก็หยุดยิง เยอรมันหยุดยิงไปนานพอสมควร จนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 1917 และตลอดเวลาที่เยอรมันหยุดยิง อเมริกาก็ค้าขายกับอังกฤษ ศัตรูของเยอรมัน อย่างสบายใจ ส่งสินค้าเพื่อสงครามให้อังกฤษ แถมช่วยอังกฤษ บล๊อกเส้นทางเดินเรือส่งสินค้าของเยอรมันอีกด้วย ก็ไม่น่าแปลกใจ ที่ในที่สุดเยอรมัน ก็กลับมายิงเรือทุกลำไม่ว่าของชาติไหน ที่ผ่านมาในเขต war zone แล้วตกลงสาเหตุ ของการประกาศเข้าสู่สงครามของอเมริกา จริงๆมันคืออะไรกันแน่ วุฒิสมาชิก George Norris บอกว่า คนอเมริกัน ถูกทำให้เข้วจากประวัติศาสตร์ และจากความจริงที่มาจากการที่พวกนักการเงินวอลสตรีท ให้เงินกู้จำนวนมหึมากับพวกสัมพันธมิตร และแน่นอนพวกนี้กลัวหนี้สูญ ทั้งๆที่พวกเขาก็ทำกำไรได้มากมายจากการขายอาวุธยุทโธปกรณ์ กลุ่มพวกนี้แหละ ที่ใช้ให้พวกสื่อกระป๋องสี ละเลงเสียจนคนอเมริกัน เปลี่ยนใจ อยากจะทำสงครามกันไปหมด ทุกสงครามมีแต่ความหายนะ…. เรา เข้าสู่สงครามเพราะคำสั่งของทอง และใครล่ะที่มีทอง … อำนาจ เป็นเรื่องที่น่าสนใจ บางทีการสร้างภาพว่า มีอำนาจ ก็ทำให้กลายเป็นมีอำนาจจริงไปได้ ถ้ามีคนเชื่อ พวกยิวขณะนั้น ไม่มีกองทัพของตนเอง ไม่มีประเทศของตนเอง แถม มีเรื่องขัดแย้งเกิดอยู่ในหลายประเทศ และในหลายประเทศนั้น มีชาวยิว อยู่จำนวนน้อยมาก ไม่เกิน 1 หรือ 2 % ของจำนวนพลเมืองในประเทศนั้นๆ แต่คนจำนวนเท่าหยิบมือนี้ สามารถบงการนโยบายต่างประเทศได้ สามารถจุดชนวนสงครามได้ และสามารถชี้นำ หรือคัดท้ายผลของสงครามนั้นได้อีกด้วย ตัวอย่างที่เห็น คือ การที่อเมริกายกเลิกสนธิสัญญากับรัสเซีย ในปี 1911, การเลือกตั้งประธานาธิบดีของอเมริกา ในปี 1912 และอีกหลายเรื่องที่จะเล่าต่อไป แต่สิ่งสำคัญ ที่ทำให้คน “เชื่อ” ในภาพที่สร้างนั้น เป็นผลงานของสื่อ ไม่ว่าจะเป็นสื่อประเภทใด พวกยิวซื้อ ครอบครอง และควบคุมไว้หมดสิ้น และใช้อย่างได้ผลเลิศ เป็นเรื่องที่เราไม่ควรมองข้าม สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 8 มิ.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 681 มุมมอง 0 รีวิว
  • รับรู้ค่าจริงเบื้องต้นนั้นถูกแล้ว ก้าวแรกในการเดินขึ้นถนนหรือลงป่าเลยนะ,อย่าประมาทเพราะไฟอันน้อยนิด,หลักเมื่อถูกต้อง,ก็จะพลาดลำบาก,โลกแบน ก็จะขยายการรับรู้อีกแบบ,โลกกลมก็ขยายการรับรู้อีกแบบ กลมมีอวกาศกั้นกัน,แบนมีแบบกำแพงน้ำแข็งกัน ,มีโดมชั้นบรรยากาศมาเป็นสมมุติฐานอ้างธรรมชาติอีก,
    ..โค๊ชหรือกูรูเหล่านี้ สมควรร่วมกันฟันธงเลย ว่า แบนหรือกลมหรือกลวงหรือโดม,การเฉลยคำตอบมันดีเสมอ,เปิดสิ่งที่คว่ำให้หงาย,มืดให้สว่างรู้แจ้งชัดคำตอบในสิ่งนั้น.,เราสมควรทิ้งวาทะกรรมเดิมๆว่าจงไปศึกษาให้รับรู้เองหาคำตอบเองเถิดได้แล้ว,เฉลยเสร็จ เขาจะพิสูจน์คำตอบหรือเชื่อ ไม่เชื่อ มันค.ว.ย.เขาแล้ว แต่โค๊ชต่างๆพอมาช่วยกันขยายค่าจริงความจริงฟันธงในสิ่งที่เป็นจริงมันดีแน่นอน.
    ..ความจริงเปิดแล้ว,ส่วนอจิณไตยใครมันก็ว่าไป,อย่างน้อยโค๊ชกายมนุษย์หยาบๆเราก็เฉลยค่าจริงตามสมมุติหยาบๆเราไปก่อน,ไม่ข้าวสาร เก็บข้าวเปลือกก็เอา ไม่ได้ข้าวเปลือกเก็บแกลบเก็บรำเก็บข้าวปลายก็เอา,สันดานจริตพื้นฐานแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่เราสามารถวางพื้นฐานที่ชัดเจน ที่ถูกต้องพยายามบอกแจ้งเตือนให้คนเข้าใจผิดไม่หลงตามได้ ,ยิ่งแบนหรือกลม หากเอารูปถ่ายจริงๆนอกอวกาศ มาได้นะยิ่งดี,ตลอดรูปภาพโลกแบนก็ด้วย ลงรายละเอียดดีเกินจริงๆเช่นกัน,เสียดายไม่มีภาพคลิปของจริงนอกกำแพงน้ำแข็งหรือนอกโลกจากประชาชนคนโลกจริงๆ มีแต่นาซ่าอ้างอิงภาพถ่ายล่ะ,ส่วนโลกแบนยังมีน้ำหนักว่ามีคนหลุดออกไปพบเจอจริงหรือโลกกลวงก็ด้วย แต่ทั้งหมดก็เป็นเรื่องเล่าอีก เราก็ดูผ่านสื่ออีลิทควบคุมเช่นกันด้วย.
    ..คิดเล่นๆนะ บางทีก็อยากให้ครูบาอาจารย์ตามวัดตามวาเราที่บรรลุธรรม ออกมายืนยันเรื่องนี้จริงๆ เราคนหนึ่งล่ะ อาจเชื่อว่าพระท่านไม่โกหกแน่นอน ท่านค้ำประกันชัดเจนด้วย,ผู้มีฤทธิ์ถอดจิตถอดใจท่องภพภูมิทั้งหยาบทั้งละเอียดได้,ด้านหยาบๆแบบเราๆเสือกสนใจทางหยาบว่าโลกมันกลมมันแบนมันกลวงมันโดมจริงมั้ย,ถ้าท่านบอกสิ่งใดมานะก็เป็นอันสามารถลงใจเชื่อตามได้สบายใจ ก็จะไม่หลงหยาบๆหักเหความสนใจอีก,ไม่ต้องรอบรรลุธรรมเองเห็นเองก็ว่า,สไตล์รับรู้ขั้นพื้นฐานในตัวเลย ว่าคนบนโลกนี้มีแขนสองข้างขาสองข้างตาสองดวงหูซ้ายขวาเป็นต้น,คนเราเกิดมาบนโลกใบนี้ รู้ว่ามีอาณาจักรอื่นนอกกำแพงน้ำแข็ง ติดๆโลกเรา นอกอวกาศคนละดวงดาว อนาคตสร้างยานบินไปมาหากันได้ก็ว่า ,ส่วนใครจะเข้าใจว่ารับรู้ไปก็เท่านั้นก็เรื่องของเขา,แต่โค๊ชๆเหล่านี้ร่วมกันหาค่าจริงมาเฉลยคนที่มีอวิชาย่อมเป็นสิ่งดีงามสร้างพลังบวกได้.,นี้คือมุมมองมโนส่วนตัว,เพราะคนเราโง่โดยมาก เราอยู่สำนักโง่ๆนานไป,มีคนมาบอกมาเตือนมาหยิกให้ตื่นมารู้บ้างก็ดี,ใครจะนอนหลับต่อก็เจตนาเขา.


    https://vm.tiktok.com/ZSHcEcRRqXHgH-2fCNQ/
    รับรู้ค่าจริงเบื้องต้นนั้นถูกแล้ว ก้าวแรกในการเดินขึ้นถนนหรือลงป่าเลยนะ,อย่าประมาทเพราะไฟอันน้อยนิด,หลักเมื่อถูกต้อง,ก็จะพลาดลำบาก,โลกแบน ก็จะขยายการรับรู้อีกแบบ,โลกกลมก็ขยายการรับรู้อีกแบบ กลมมีอวกาศกั้นกัน,แบนมีแบบกำแพงน้ำแข็งกัน ,มีโดมชั้นบรรยากาศมาเป็นสมมุติฐานอ้างธรรมชาติอีก, ..โค๊ชหรือกูรูเหล่านี้ สมควรร่วมกันฟันธงเลย ว่า แบนหรือกลมหรือกลวงหรือโดม,การเฉลยคำตอบมันดีเสมอ,เปิดสิ่งที่คว่ำให้หงาย,มืดให้สว่างรู้แจ้งชัดคำตอบในสิ่งนั้น.,เราสมควรทิ้งวาทะกรรมเดิมๆว่าจงไปศึกษาให้รับรู้เองหาคำตอบเองเถิดได้แล้ว,เฉลยเสร็จ เขาจะพิสูจน์คำตอบหรือเชื่อ ไม่เชื่อ มันค.ว.ย.เขาแล้ว แต่โค๊ชต่างๆพอมาช่วยกันขยายค่าจริงความจริงฟันธงในสิ่งที่เป็นจริงมันดีแน่นอน. ..ความจริงเปิดแล้ว,ส่วนอจิณไตยใครมันก็ว่าไป,อย่างน้อยโค๊ชกายมนุษย์หยาบๆเราก็เฉลยค่าจริงตามสมมุติหยาบๆเราไปก่อน,ไม่ข้าวสาร เก็บข้าวเปลือกก็เอา ไม่ได้ข้าวเปลือกเก็บแกลบเก็บรำเก็บข้าวปลายก็เอา,สันดานจริตพื้นฐานแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่เราสามารถวางพื้นฐานที่ชัดเจน ที่ถูกต้องพยายามบอกแจ้งเตือนให้คนเข้าใจผิดไม่หลงตามได้ ,ยิ่งแบนหรือกลม หากเอารูปถ่ายจริงๆนอกอวกาศ มาได้นะยิ่งดี,ตลอดรูปภาพโลกแบนก็ด้วย ลงรายละเอียดดีเกินจริงๆเช่นกัน,เสียดายไม่มีภาพคลิปของจริงนอกกำแพงน้ำแข็งหรือนอกโลกจากประชาชนคนโลกจริงๆ มีแต่นาซ่าอ้างอิงภาพถ่ายล่ะ,ส่วนโลกแบนยังมีน้ำหนักว่ามีคนหลุดออกไปพบเจอจริงหรือโลกกลวงก็ด้วย แต่ทั้งหมดก็เป็นเรื่องเล่าอีก เราก็ดูผ่านสื่ออีลิทควบคุมเช่นกันด้วย. ..คิดเล่นๆนะ บางทีก็อยากให้ครูบาอาจารย์ตามวัดตามวาเราที่บรรลุธรรม ออกมายืนยันเรื่องนี้จริงๆ เราคนหนึ่งล่ะ อาจเชื่อว่าพระท่านไม่โกหกแน่นอน ท่านค้ำประกันชัดเจนด้วย,ผู้มีฤทธิ์ถอดจิตถอดใจท่องภพภูมิทั้งหยาบทั้งละเอียดได้,ด้านหยาบๆแบบเราๆเสือกสนใจทางหยาบว่าโลกมันกลมมันแบนมันกลวงมันโดมจริงมั้ย,ถ้าท่านบอกสิ่งใดมานะก็เป็นอันสามารถลงใจเชื่อตามได้สบายใจ ก็จะไม่หลงหยาบๆหักเหความสนใจอีก,ไม่ต้องรอบรรลุธรรมเองเห็นเองก็ว่า,สไตล์รับรู้ขั้นพื้นฐานในตัวเลย ว่าคนบนโลกนี้มีแขนสองข้างขาสองข้างตาสองดวงหูซ้ายขวาเป็นต้น,คนเราเกิดมาบนโลกใบนี้ รู้ว่ามีอาณาจักรอื่นนอกกำแพงน้ำแข็ง ติดๆโลกเรา นอกอวกาศคนละดวงดาว อนาคตสร้างยานบินไปมาหากันได้ก็ว่า ,ส่วนใครจะเข้าใจว่ารับรู้ไปก็เท่านั้นก็เรื่องของเขา,แต่โค๊ชๆเหล่านี้ร่วมกันหาค่าจริงมาเฉลยคนที่มีอวิชาย่อมเป็นสิ่งดีงามสร้างพลังบวกได้.,นี้คือมุมมองมโนส่วนตัว,เพราะคนเราโง่โดยมาก เราอยู่สำนักโง่ๆนานไป,มีคนมาบอกมาเตือนมาหยิกให้ตื่นมารู้บ้างก็ดี,ใครจะนอนหลับต่อก็เจตนาเขา. https://vm.tiktok.com/ZSHcEcRRqXHgH-2fCNQ/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 268 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต่างประเทศกำลังรวมพลังเพื่อต่อต้าน เพราะไม่ต้องการให้อีลิทควบคุมวิถีการใช้ชีวิตอย่างอิสระเสรีของเขา,ย่อมาดูไทย กำลังผ่านสาระพัดร่างกฎหมาย ลักหลับประชาชน หักเหความสนใจให้คนไทยไปสนใจเรื่องอื่นๆแทนเช่นเกี่ยวกับเขมรที่ปั่นปลุกกระแสจนติด,ทำไมไทยไม่สั่งจบ เพราะมันไม่ต้องการให้จบ จึงลากยาวจุดกระแสต่อเรื่องราวไปทั่วตลอดเวลา,โดยอีกด้านหนึ่ง ดำเนินทุกวิถีทางให้แผนอีลิทซาตานเดินหน้าทางแอบๆได้อย่างราบรื่น,ผ่านกลไกสส.สว.ในสภาของมันสั่งให้ผ่านกฎหมายต่างๆที่ว่านั้นอย่างเรียบร้อยโดยรวดเร็ว,สังเกตุมุกคาร์บอนต่ำที่สอดแทรกในประกาศนโยบายของรัฐบาลหนูนี้,แอบวางหมากเนียนๆไว้หมด อุ๊งอิ๊งไปหนูมาก็คนของมันหมด,ควบคุมได้หมด เช่นเก็บความลับที่ชั่วเลวไว้ แบบฮุนเซนขู่จะแฉนั้นล่ะ,แล้วก็ปฏิบัติตามมันขู่ทุกๆอย่างอย่างควบคุมโดยว่าง่ายเป็นต้น,คุณอดิเทพไขข้อสงสัยนี้ชัดเจน,เรา..จะประเทศไหนๆทั่วโลก ชาวโลกด้วยกันหมด หากสามัคคีร่วมกันทำลายอีลิทกันอย่างจริงจังทั่วโลก เรา..จะเป็นไทอิสระเสรีแน่นอน,ใครจะมาเยี่ยมมาเยือนกันของชาติไหนๆจะไร้พรมแดนกีดกั้นทันที และไม่ทำลายทำร้ายกันด้วยหรือข่มเหงกันแบบปัจจุบัน คนเราทั่วโลกจะให้เกียรติซึ่งกันและกันในคุณค่าชีวิตของแต่ละคนนั้นเอง ผิวสีใดๆก็รักกันได้ลงใจ ชาติใดก็รักกันได้สบายใจ,สันดานแบบคนเขมรจะไม่มีเลย,จึงสงบสันติเป็นสุขกันทั่วโลก.


    รวมพลังต่อต้าน Digital ID

    เวลาและสถานที่
    22 พ.ย. 2568, 13:00 – 17:00 น.

    ลอนดอน, ลอนดอน W2 2UH, สหราชอาณาจักร

    เกี่ยวกับกิจกรรม
    เลือกอิสรภาพเหนือการควบคุม มาร่วมกับเราที่ Marble Arch, ลอนดอน เวลา 13:00 น. เพื่อรวมพลังต่อต้านการนำ Digital ID สู่อำนาจ

    แพลตฟอร์มประชาชน

    เราคือขบวนการรากหญ้าที่สร้างขึ้นโดยคนธรรมดาที่ไม่ยอมนิ่งเฉย พันธกิจของเราคือการปลุกพลัง เสริมพลัง และรวมชุมชนให้เป็นหนึ่ง ผ่านความคิดสร้างสรรค์ ความจริง และการกระทำในโลกแห่งความเป็นจริง ตั้งแต่การเผยแพร่แบบไวรัลไปจนถึงการชุมนุมทั่วประเทศ เราพิสูจน์ให้เห็นว่าการพูดออกมานั้นทรงพลัง สร้างแรงบันดาลใจ และสนุกสนาน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหว เชื่อมต่อ และเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง เพราะเมื่อรวมกัน เราคือพลัง

    https://www.thepeoplesplatform.co.uk/events-1/unite-against-digital-id

    ต่างประเทศกำลังรวมพลังเพื่อต่อต้าน เพราะไม่ต้องการให้อีลิทควบคุมวิถีการใช้ชีวิตอย่างอิสระเสรีของเขา,ย่อมาดูไทย กำลังผ่านสาระพัดร่างกฎหมาย ลักหลับประชาชน หักเหความสนใจให้คนไทยไปสนใจเรื่องอื่นๆแทนเช่นเกี่ยวกับเขมรที่ปั่นปลุกกระแสจนติด,ทำไมไทยไม่สั่งจบ เพราะมันไม่ต้องการให้จบ จึงลากยาวจุดกระแสต่อเรื่องราวไปทั่วตลอดเวลา,โดยอีกด้านหนึ่ง ดำเนินทุกวิถีทางให้แผนอีลิทซาตานเดินหน้าทางแอบๆได้อย่างราบรื่น,ผ่านกลไกสส.สว.ในสภาของมันสั่งให้ผ่านกฎหมายต่างๆที่ว่านั้นอย่างเรียบร้อยโดยรวดเร็ว,สังเกตุมุกคาร์บอนต่ำที่สอดแทรกในประกาศนโยบายของรัฐบาลหนูนี้,แอบวางหมากเนียนๆไว้หมด อุ๊งอิ๊งไปหนูมาก็คนของมันหมด,ควบคุมได้หมด เช่นเก็บความลับที่ชั่วเลวไว้ แบบฮุนเซนขู่จะแฉนั้นล่ะ,แล้วก็ปฏิบัติตามมันขู่ทุกๆอย่างอย่างควบคุมโดยว่าง่ายเป็นต้น,คุณอดิเทพไขข้อสงสัยนี้ชัดเจน,เรา..จะประเทศไหนๆทั่วโลก ชาวโลกด้วยกันหมด หากสามัคคีร่วมกันทำลายอีลิทกันอย่างจริงจังทั่วโลก เรา..จะเป็นไทอิสระเสรีแน่นอน,ใครจะมาเยี่ยมมาเยือนกันของชาติไหนๆจะไร้พรมแดนกีดกั้นทันที และไม่ทำลายทำร้ายกันด้วยหรือข่มเหงกันแบบปัจจุบัน คนเราทั่วโลกจะให้เกียรติซึ่งกันและกันในคุณค่าชีวิตของแต่ละคนนั้นเอง ผิวสีใดๆก็รักกันได้ลงใจ ชาติใดก็รักกันได้สบายใจ,สันดานแบบคนเขมรจะไม่มีเลย,จึงสงบสันติเป็นสุขกันทั่วโลก. รวมพลังต่อต้าน Digital ID เวลาและสถานที่ 22 พ.ย. 2568, 13:00 – 17:00 น. ลอนดอน, ลอนดอน W2 2UH, สหราชอาณาจักร เกี่ยวกับกิจกรรม เลือกอิสรภาพเหนือการควบคุม มาร่วมกับเราที่ Marble Arch, ลอนดอน เวลา 13:00 น. เพื่อรวมพลังต่อต้านการนำ Digital ID สู่อำนาจ แพลตฟอร์มประชาชน เราคือขบวนการรากหญ้าที่สร้างขึ้นโดยคนธรรมดาที่ไม่ยอมนิ่งเฉย พันธกิจของเราคือการปลุกพลัง เสริมพลัง และรวมชุมชนให้เป็นหนึ่ง ผ่านความคิดสร้างสรรค์ ความจริง และการกระทำในโลกแห่งความเป็นจริง ตั้งแต่การเผยแพร่แบบไวรัลไปจนถึงการชุมนุมทั่วประเทศ เราพิสูจน์ให้เห็นว่าการพูดออกมานั้นทรงพลัง สร้างแรงบันดาลใจ และสนุกสนาน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหว เชื่อมต่อ และเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง เพราะเมื่อรวมกัน เราคือพลัง https://www.thepeoplesplatform.co.uk/events-1/unite-against-digital-id
    WWW.THEPEOPLESPLATFORM.CO.UK
    Unite Against Digital ID | The People 1
    Choose freedom over control. Join us at the Marble Arch, London at 1pm to unite against The Digital ID being brought into power.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 413 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวข้อข่าว: “Digital Footprints” – เมื่อ AI กลายเป็นเครื่องมือปลุกชีวิตลูกที่จากไป

    บทความจาก The Star เผยเรื่องราวสะเทือนใจของพ่อแม่ในสหรัฐฯ ที่สูญเสียลูกจากการใช้เฟนทานิล ซึ่งเป็นสารเสพติดร้ายแรง พวกเขาหันมาใช้เครื่องมือ AI เพื่อสร้างภาพถ่าย วิดีโอ และกราฟิกของลูกที่จากไป—บางครั้งในรูปแบบที่ลูกไม่เคยมีจริง เช่น ใส่ชุดแต่งงาน ขี่ม้า หรือพูดจาก “สวรรค์”

    Tammy Plakstis หนึ่งในแม่ที่สูญเสียลูกชายวัย 29 ปี ได้ใช้แอปอย่าง Photolab และ Canva เพื่อสร้างภาพ AI ของลูกชายในฉากต่าง ๆ เช่น พื้นหลังอวกาศหรือภาพเหมือนในชุดสูท เธอใช้เวลาหลายพันชั่วโมงสร้างภาพให้กับแม่คนอื่น ๆ ในกลุ่ม “Angel Mom” ที่สูญเสียลูกจากเฟนทานิลเช่นกัน

    แม้หลายคนบอกว่าภาพเหล่านี้ช่วยเยียวยาใจ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านจริยธรรมและจิตวิทยาเตือนว่า การใช้ AI ในลักษณะนี้อาจบิดเบือนความทรงจำ และสร้างความคาดหวังที่ไม่สมจริง

    การใช้ AI เพื่อเยียวยาความเศร้า
    พ่อแม่สร้างภาพและวิดีโอของลูกที่เสียชีวิต
    ใช้แอป Photolab และ Canva สร้างกราฟิกในฉากต่าง ๆ
    กลุ่ม “Angel Mom” แชร์ภาพกันในโซเชียลมีเดีย

    ตัวอย่างการใช้งาน
    วิดีโอ AI ของ Rachel DeMaio พูดจาก “สวรรค์” เพื่อเตือนเรื่องเฟนทานิล
    ภาพของ Dylan ในชุดสูทหรือฉากอวกาศ
    ภาพของ Ryan Powell ที่แม่บอกว่า “เขาไม่เคยแต่งตัวแบบนั้น”

    ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ
    Alex John London เตือนว่า AI อาจขัดขวางการเยียวยา
    การบิดเบือนความทรงจำอาจทำให้ไม่ยอมรับความจริง
    Lynn Beck รู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นภาพลูกสาวในฉากที่ไม่เคยเกิดขึ้น

    การออกกฎหมายควบคุม
    รัฐ Pennsylvania ออกกฎหมายห้ามใช้ AI สร้างภาพบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต
    มีการเสนอร่างกฎหมายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ deepfake และการใช้ AI ในระบบสุขภาพ

    ความเสี่ยงจากการบิดเบือนความทรงจำ
    ภาพที่ไม่ตรงกับความจริงอาจทำให้ผู้สูญเสียไม่ยอมรับความจริง
    อาจสร้างความคาดหวังหรือภาพลวงตาที่ขัดขวางการเยียวยา

    การใช้ AI โดยไม่ได้รับความยินยอม
    อาจละเมิดสิทธิของผู้เสียชีวิตและครอบครัว
    เสี่ยงต่อการถูกนำไปใช้ในทางหลอกลวงหรือฉ้อโกง

    การพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป
    บางคนใช้เวลาหลายพันชั่วโมงสร้างภาพ AI
    อาจกลายเป็นพฤติกรรมเสพติดที่ไม่ช่วยให้เยียวยาอย่างแท้จริง

    เรื่องราวนี้สะท้อนให้เห็นว่า AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือสร้างภาพ แต่เป็นเครื่องมือที่สัมผัสจิตใจมนุษย์อย่างลึกซึ้ง—และการใช้มันเพื่อเยียวยาความเศร้า ต้องมาพร้อมกับความระมัดระวังและความเข้าใจในผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นทั้งทางจิตใจและจริยธรรม.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/05/digital-footprints-employing-ai-parents-in-the-us-are-resurrecting-children-lost-to-fentanyl
    📰 หัวข้อข่าว: “Digital Footprints” – เมื่อ AI กลายเป็นเครื่องมือปลุกชีวิตลูกที่จากไป บทความจาก The Star เผยเรื่องราวสะเทือนใจของพ่อแม่ในสหรัฐฯ ที่สูญเสียลูกจากการใช้เฟนทานิล ซึ่งเป็นสารเสพติดร้ายแรง พวกเขาหันมาใช้เครื่องมือ AI เพื่อสร้างภาพถ่าย วิดีโอ และกราฟิกของลูกที่จากไป—บางครั้งในรูปแบบที่ลูกไม่เคยมีจริง เช่น ใส่ชุดแต่งงาน ขี่ม้า หรือพูดจาก “สวรรค์” Tammy Plakstis หนึ่งในแม่ที่สูญเสียลูกชายวัย 29 ปี ได้ใช้แอปอย่าง Photolab และ Canva เพื่อสร้างภาพ AI ของลูกชายในฉากต่าง ๆ เช่น พื้นหลังอวกาศหรือภาพเหมือนในชุดสูท เธอใช้เวลาหลายพันชั่วโมงสร้างภาพให้กับแม่คนอื่น ๆ ในกลุ่ม “Angel Mom” ที่สูญเสียลูกจากเฟนทานิลเช่นกัน แม้หลายคนบอกว่าภาพเหล่านี้ช่วยเยียวยาใจ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านจริยธรรมและจิตวิทยาเตือนว่า การใช้ AI ในลักษณะนี้อาจบิดเบือนความทรงจำ และสร้างความคาดหวังที่ไม่สมจริง ✅ การใช้ AI เพื่อเยียวยาความเศร้า ➡️ พ่อแม่สร้างภาพและวิดีโอของลูกที่เสียชีวิต ➡️ ใช้แอป Photolab และ Canva สร้างกราฟิกในฉากต่าง ๆ ➡️ กลุ่ม “Angel Mom” แชร์ภาพกันในโซเชียลมีเดีย ✅ ตัวอย่างการใช้งาน ➡️ วิดีโอ AI ของ Rachel DeMaio พูดจาก “สวรรค์” เพื่อเตือนเรื่องเฟนทานิล ➡️ ภาพของ Dylan ในชุดสูทหรือฉากอวกาศ ➡️ ภาพของ Ryan Powell ที่แม่บอกว่า “เขาไม่เคยแต่งตัวแบบนั้น” ✅ ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ ➡️ Alex John London เตือนว่า AI อาจขัดขวางการเยียวยา ➡️ การบิดเบือนความทรงจำอาจทำให้ไม่ยอมรับความจริง ➡️ Lynn Beck รู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นภาพลูกสาวในฉากที่ไม่เคยเกิดขึ้น ✅ การออกกฎหมายควบคุม ➡️ รัฐ Pennsylvania ออกกฎหมายห้ามใช้ AI สร้างภาพบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ➡️ มีการเสนอร่างกฎหมายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ deepfake และการใช้ AI ในระบบสุขภาพ ‼️ ความเสี่ยงจากการบิดเบือนความทรงจำ ⛔ ภาพที่ไม่ตรงกับความจริงอาจทำให้ผู้สูญเสียไม่ยอมรับความจริง ⛔ อาจสร้างความคาดหวังหรือภาพลวงตาที่ขัดขวางการเยียวยา ‼️ การใช้ AI โดยไม่ได้รับความยินยอม ⛔ อาจละเมิดสิทธิของผู้เสียชีวิตและครอบครัว ⛔ เสี่ยงต่อการถูกนำไปใช้ในทางหลอกลวงหรือฉ้อโกง ‼️ การพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป ⛔ บางคนใช้เวลาหลายพันชั่วโมงสร้างภาพ AI ⛔ อาจกลายเป็นพฤติกรรมเสพติดที่ไม่ช่วยให้เยียวยาอย่างแท้จริง เรื่องราวนี้สะท้อนให้เห็นว่า AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือสร้างภาพ แต่เป็นเครื่องมือที่สัมผัสจิตใจมนุษย์อย่างลึกซึ้ง—และการใช้มันเพื่อเยียวยาความเศร้า ต้องมาพร้อมกับความระมัดระวังและความเข้าใจในผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นทั้งทางจิตใจและจริยธรรม. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/05/digital-footprints-employing-ai-parents-in-the-us-are-resurrecting-children-lost-to-fentanyl
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Digital footprints: Employing AI, parents in the US are resurrecting children lost to fentanyl
    Many say that, without any new photographs of their kids, the practice has helped them heal and feel close to them. Others worry this use of AI has gone too far.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 395 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้มข้ามศตวรรษ – ที่แท้ก็โจร 1 – 3
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร”

    ตอน 1

    ขณะตัดสินใจเข้าทำสงครามโลก ในเดือนสิงหาคม 1914 อังกฤษ กระเป๋าแบน เศรษฐกิจร่องแร่ง และทองสำรองใน Bank of England ใกล้จะแห้งขอดอย่างน่าตกใจ อังกฤษไม่อยู่ในสภาพที่จะทำสงครามได้เลย อังกฤษรู้ตัวดี แต่อังกฤษก็เดินหน้าประกาศสงครามกับเยอรมันอย่างท่าดี ถ้าไม่ใช่เป็นนักพนันระดับเซียน ที่ลักไก่ เกจนหมดหน้าตัก ก็ต้องเป็นนักวางแผนที่เลือดเย็นและล้ำลึกอย่างน่ากลัว

    เดือนตุลาคม 1914 อังกฤษส่งคณะทำงานพิเศษ จากฝ่ายกิจกรรมสงครามของตนไปวอชิงตัน เพื่อเจรจาให้ทางวอชิงตันจัดการให้ภาคเอกชนของอเมริกา เป็นผู้ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ สัมภาระและกำลังบำรุงให้ เพราะอเมริกาในฐานะประเทศเป็นกลางอย่างเป็นทางการ จะทำในฐานะประเทศไม่ได้ เลยเลี่ยงให้เอกชนออกหน้า

    อังกฤษเลือก J P Morgan & Co เป็นตัวแทนแต่ผู้เดียวในการจัดซื้อ Sole Purchasing Agent ดูเผินๆ เหมือนกับเป็นเรื่องเสี่ยงมาก ที่เลือกตัวแทนรายเดียว แต่เนื่องจากเป็นบทหนึ่งของละครลวงโลก เราจะเห็นว่า มันมีการเตรียมการอย่างแยบยลมา แล้ว ที่ให้อเมริกามี Federal Reserve System ที่สามารถทำให้ J P Morgan และพวก ซึ่งก็เป็นผู้บริหาร และเจ้าของ Federal Reseve Bank สามารถบริหารความเสี่ยงของตน ผ่านการควบคุมหนี้ของรัฐบาล พร้อมกับการควบคุมการพิมพ์ธนบัตรของประเทศในขณะเดียวกัน

    ด้วยวิธีการนี้ อังกฤษจึงสามารถเดินหน้า ทำสงครามได้อย่างสบายใจ อเมริกา โดยนักธุรกิจ เช่น Rockefeller, Morgan, Carnegie ฯลฯ ก็สบายใจ พวกเขาผลิต และขายสินค้า ส่งให้อังกฤษ ทำให้พากันรวยหนักกันขึ้นไปอีก และโดยไม่ต้องห่วงเรื่องจะต้องเสียภาษีเงินได้ก้อนใหญ่ให้ รัฐบาล เพราะบทในละครลวงโลก เรื่องภาษีนี้ ก็ได้มีจัดการหาทางออก เตรียมใว้เรียบร้อยแล้ว โดยนาย Wilson ได้ยอมให้แก้กฏหมายของอเมริกา ในปี 1913 ให้มูลนิธิเพื่อการกุศล ได้รับยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ และบรรดานายทุนเศรษฐีโตครรวยต่างๆของอเมริกา ก็พากันจดทะเบียนตั้งมูลนิธิ และโอนทรัพย์สินของตนไปไว้ในมูลนิธิ เพื่อเลี่ยงภาษี เช่น มูลนิธิ Rockefeller มูลนิธิ Carnegie มูลนิธิ Ford เรียบร้อยก่อนที่จะได้อังกฤษ มาเป็นลูกหนี้
    นี่คือ ประชาธิปไตยแบบ ตะหวักตะบวยของอเมริกา ที่ยังมีสมันน้อยหลงชื่นชม

    Morgan ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้รัฐบาลอังกฤษ ในการจัดซื้อ อาวุธ กระสุน เครื่องแบบ เคมี ฯลฯ สาระพัด ที่จำเป็นสำหรับการทำสงครามในสมัย ค.ศ. 1914 และในฐานะเป็นตัวแทนดูแลด้านการ เงินด้วย Morgan ไม่ใช่แค่เลือกว่า “จะซื้ออะไร ” เขาเป็นผู้เลือกด้วยว่า “จะซื้อจากใคร” ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ที่กลุ่มธุรกิจในเครือข่ายของ Morgan และ Rockefeller คือกลุ่มที่ได้รับเลือกไปก่อน และรวยไปก่อน

    เมื่อ British War Office ถามประธาน J P Morgan คนใหม่คือ J P Morgan Jr. หรือที่เพื่อนเรียกว่า Jack ซึ่งขึ้นมารับตำแหน่งแทนพ่อที่ตายไปเมื่อ ปี 1913 ว่า รัฐบาลของ Wilson มีปัญหาหรือไม่ ที่สถาบันการเงินใหญ่ของอเมริกา เข้ามาช่วยเหลืออังกฤษอย่างเปิดเผย เกี่ยวกับการสงคราม

    Jack ตอบว่า ไม่มีปัญหาครับเจ้านาย ไม่กระทบกับความเป็นกลางของรัฐบาลอเมริกัน อย่างแน่นอนที่สุด เพราะว่า Morgan ทำธุรกิจกับ British War Office และรัฐบาลของฝรั่งเศส เป็นการทำธุรกิจตามปรกติธรรมดา เพื่อเพิ่มปริมาณการค้าขายต่อกัน ไม่ใช่เป็นข้อตกลงทางการเมือง หรือการฑูตแต่อย่างใด กลิ้งได้พริ้วจริงๆไอ้หนู

    เดือนมกราคม 1915 Jack ไปพบกับประธานาธิบดี Wilson ที่ทำเนียบ White House เพื่อหารือเรื่องดังกล่าว Wilson ยืนยันว่า เขาไม่มีข้อขัดข้อง ในการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม Morgan หรือผู้อื่น ในเรื่องที่หารือนั้น

    ก็คงทำให้เข้าใจได้ว่า ไม่มีใครต้มใคร หลอกใครมาเข้าฉาก เป็นการสมัครใจมาร่วมเล่นละครกันทั้งนั้น

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร”

    ตอน 2

    ในปี ค.ศ. 1915 เมื่อสงครามเริ่มใหม่ๆ E.I. Dupont de Nemours & Co แห่ง Delaware ได้รับเงิน 100 ล้านเหรียญ จากอังกฤษ ผ่าน J P Morgan เพื่อขยายแผนกวัตถุระเบิด ภายในไม่กี่เดือน Dupont ขยายตัวจากบริษัทเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก เป็นบริษัทอยู่แถวหน้าทางอุตสา หกรรม Hercules Powder และ Monsanto Chemical โตตามไปด้วย บริษัทเหล็กกล้า และเหล็กดิบ ก็งอกงาม เหล็กดิบราคาขึ้น จากตันละ 13 เหรียญ เป็น ตันละ 42 เหรียญ
    Bethlehem Steel, US Steel, Westinghouse Electric, Remington Arms, Colt Firearms ได้รับใบสั่งซื้อสินค้ามาเป็นกอง ตั้งสูง จนผลิตไม่ทัน อุตสาหกรรมเหล็กอย่างเดียว กำไรเพิ่มจาก 23 ล้านเหรียญ ในปี 1914 เป็น 224 ล้านเหรียญ ในปี 1917 และระหว่างปี 1914-1917 Anaconda Copper ของ William Rockefeller ได้กำไรโดดจาก 9 ล้านเหรียญ เป็น 25 ล้านเหรียญ ส่วนทรัพย์สินของ บริษัท Phelps Dodge ซึ่งเป็นนายทุนใหญ่ในการส่งให้ Wilson ไปนั่งที่ White House ขี้นไป 400 %

    เฉพาะปี 1916 ขณะที่เศรษฐกิจทั่วไป ของอเมริกากำลังขาลาก แค่การส่งสินค้าออกเกี่ยวกับอาวุธ ให้แก่อังกฤษ และฝรั่งเศส อย่างเดียว มูลค่าสูงถึง 1,290 พันล้านเหรียญแล้ว มันเป็นโอกาสทองคำ ของคนบางกลุ่มในอเมริกา ก่อนที่อเมริกาจะเข้าสู่สงครามโลก

    J P Morgan ได้จัดหาอาวุธยุทธปัจจัยให้รัฐบาล อังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี เป็นมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 5 พันล้านเหรียญ ทั้งหมด ซื้อโดยเครดิต ที่ J P Morgan เป็นผู้จัดการให้ เงินจำนวนดังกล่าวคิดเป็นมูลค่าในปัจจุบัน เท่ากับประมาณ 9 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งยังไม่เคยมีสถาบันการเงินส่วนบุคคลใด เคยทำมาก่อน

    มันเป็นจำนวนมโหฬาร พอที่จะทำให้เกิดซึนามิทางการเงินได้ ถ้ามีการผิดนัดไม่ชำระเงิน

    เดือนเมษายน 1915 ประมาณ 2 ปี ก่อนอเมริกาจะเข้าสูสงครามโลก ครั้งที่ 1 อย่างเป็นทางการ Thomas W Lamont หุ้นส่วนคนหนึ่งของ J P Morgan ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่มีความหมายมาก แต่มีน้อยคน ที่ให้ความสนใจอย่างจริงจังที่ American Academy of Political Science ในเมือง Philadelphia

    ” เรา (อเมริกา) ได้เปลี่ยนสภาพ จากเป็นลูกหนี้ กลายมาเป็นเจ้าหนี้ ใบสั่งซื้อสินค้าที่เราได้รับ กองสูงเป็นตั้ง ผู้ผลิตหลายรายของเรา รวมทั้งผู้ขาย ได้ธุรกิจอย่างมหัศจรรย์จากสงครามนี้ ใบสั่งซื้อสินค้าสงคราม มียอดสูงเป็นล้านๆเหรียญ และมันกำลังส่งผลไปถึงธุรกิจอื่นๆ ทั่วไปด้วย แต่จุดสำคัญอยู่ที่การปรับตัวดีขึ้นของธุรกิจของเรา ทำให้อเมริกากลายเป็นปัจจัยใหญ่ในตลาดเงินกู้ระหว่างประเทศ
    จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต หลายคนเชื่อว่า ต่อไปนิวยอร์ค อาจจะเหนือกว่าลอนดอนในการเป็นศูนย์กลางตลาดเงินของโลก เราอาจกลายเป็นศูนย์กลางการค้าของโลก… มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้สูง….

    แต่ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญสองสามอย่าง อย่างหนึ่งคือ ระยะเวลาของการทำสงคราม…. ถ้าสงครามจบเร็ว เยอรมัน ซึ่งขณะนี้การส่งสินค้าออกถูกตัดขาดเกือบหมด จะกลับมาเป็นคู่แข่งสำคัญทันที

    ฉะนั้น เราจะเป็นเจ้าหนี้จำนวนมหาศาลหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ “ระยะเวลา” ของการทำสงคราม ถ้ามันนานพอ เราอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลง ที่ดอลล่าร์จะกลายเป็นตัวเทียบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ แทนปอนด์สเตอริงก์”

    สุนทรพจน์นี้ ทำให้เห็นเป้าหมาย และการพัฒนา ให้เงินกู้ระหว่างประเทศ กลายเป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ของ J P Morgan ในระหว่างการทำสงครามโลกครั้งที่ 1 และหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ไปจนถึงการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างน่ากลัว และชั่วยิ่ง

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร”

    ตอน 3

    นโยบายของ J P Morgan ตามแนวที่เราเข้าใจจากสุนทรพจน์ของ Lamont ดูเหมือนจะราบรื่น เป็นไปตามแผน แต่พอถึงปลายปี 1916 จนเริ่มเข้าเดือนแรกของปี 1917 ข่าวลือเกี่ยวกับรัสเซียชักมาแปลก และ ในเดือนกุมภาพันธ์ ก็เป็นจริงตามข่าว ซาร์นิโคลัสที่ 2 ของรัสเซีย ประกาศสละ
    บัลลังค์ หลังจากมีการปฏิวัติ โดยคนชื่อไม่ดัง Alexandre Kerensky กองทัพรัสเซียระส่ำ เยอรมันดีใจ ไม่ต้องรบทั้ง 2 แนว จึงทุ่มกำลังมาทางด้านตะวันตกเต็มที่ และอังกฤษอาจกลายเป็นฝ่ายแพ้สงคราม !

    Morgan และพวก เริ่มออกอาการ ไอ้ที่กลัวว่าจะเกิด ทำท่าจะเกิดจริงๆ สงครามอาจจะจบเร็วกว่าที่คิด โดยเยอรมันเป็นฝ่ายชนะ และนั่นคือหายนะ ของ Morgan อังกฤษและพวก ซึ่งรวมถึงอเมริกาด้วย
    นาย Walter Hines Page ซึ่งเคยเป็นผู้ดูแล General Education Board ของ Rockefeller ก่อนได้รับเลือกให้ไปเป็นฑูตอเมริกา ประจำลอนดอน ขณะนั้น ได้ทำหนังสือลงวันที่ 5 มีนาคม 1917 ถึง ประธานาธิบดี Wilson

    ” ผมคิดว่า สถานการณ์ปัจจุบัน มีความกดดันสูงเกินกว่าที่ Morgan ในสถานะตัวแทนทางการเงินของรัฐบาลอังกฤษ และฝรั่งเศสจะรับได้ จำเป็นที่จะต้องมีการหารือกันเป็นการด่วน ….หากเราจะเข้าไปทำสงครามกับเยอรมัน คงเป็นการช่วยฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างยิ่งยวด และในกรณีดังกล่าว รัฐบาลเราน่าจะทำ ถ้าสามารถทำได้คือ ช่วยลงทุนให้เงินกู้กับอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือค้ำประกันเงินกู้ให้เขา ….แต่เราจะต้องเข้าร่วมทำสงครามกับเยอรมันด้วย เราถึงจะให้เงินกู้โดยตรง หรือให้การค้ำประกันได้…”

    4 อาทิตย์หลังจากได้รับจดหมายของฑูต Page ประธานาธิบดี Wilson ซึ่งตอนหาเสียงลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี สมัยที่ 2 ในปี 1916 ประกาศไว้ว่า เราเป็นฝ่ายไม่ทำสงคราม ก็พาอเมริกาเข้าสู่สงคราม ตามบทละครลวงโลก

    Wilson แถลงต่อสภาสูง เพื่อขอทำสงครามกับเยอรมัน ด้วยเหตุผลว่า เยอรมันละเมิดกฏการเดินเรือในน่านน้ำที่เป็นกลาง โดยใช้เรือดำน้ำโจมตีเรือของอเมริกาเรือขนส่งสินค้าของอังกฤษ และฝรั่งเศส สภาสูงลงมติอย่างท่วมท้น ให้อำนาจเขาประกาศสงครามกับเยอรมัน

    กระทรวงการคลังของอเมริกา ให้การสนับสนุน ที่อเมริกาจะออกพันธบัตร Liberty Bond เพื่อระดมเงินจากชาวอเมริกัน สนับสนุนให้อังกฤษทำสงครามต่อ โดยนาย Benjamin Strong ประธานธนาคารกลางของอเมริกา Federal Reserve Bank ซึ่งมาจาก กลุ่ม Morgan บอกว่า ตามกฎหมาย Federal Reserve Act ที่เพิ่งออกในปี 1913 ทำได้สบายมาก และเงินงวดแรก ที่ได้จากการขายพันธบัตร Liberty War ให้ชาวบ้าน ถูกนำมาใช้หนี้ ที่อังกฤษมีกับ Morgan จำนวน 400 ล้านเหรียญก่อนรายการอื่น

    สรุปง่ายๆว่า Wilson เอาเงินชาวบ้านมาใช้หนี้ให้เศรษฐี Morgan หรืออาจจะเป็น Rothschild ไม่แนใจ
    จากวันที่อเมริกาประกาศสงครามกับ เยอรมันอย่างเป็นทางการ ในเดือนเมษายน 1917 จนถึงวันที่มีการลงนามสัญญาสงบ ศึกกับเยอรมัน ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 1918 อเมริกาให้เงินกู้กับ สัมพันมิตร ยุโรป เป็นจำนวนประมาณ 9 พันล้านเหรียญ เงินดังกล่าว ไม่ได้ไปถึงมือผู้กู้ ส่วนใหญ่กลับไปอยู่ที่กลุ่ม Morgan, Kuhn Loeb และ Rockefeller เพื่อจ่ายเป็นค่าสินค้าสงครามที่ส่งให้กับฝ่ายสัมพันธมิตร เงินกู้ดังกล่าวนี้ เป็นจำนวนต่างหาก นอกเหนือจากที่อังกฤษให้ J P Morgan เป็นตัวแทนระดมเงินกู้ต้ังแต่เริ่มทำสงคราม จนถึงสงครามเลิก อีกจำนวนมหาศาล

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    8 พ.ค. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – ที่แท้ก็โจร 1 – 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร” ตอน 1 ขณะตัดสินใจเข้าทำสงครามโลก ในเดือนสิงหาคม 1914 อังกฤษ กระเป๋าแบน เศรษฐกิจร่องแร่ง และทองสำรองใน Bank of England ใกล้จะแห้งขอดอย่างน่าตกใจ อังกฤษไม่อยู่ในสภาพที่จะทำสงครามได้เลย อังกฤษรู้ตัวดี แต่อังกฤษก็เดินหน้าประกาศสงครามกับเยอรมันอย่างท่าดี ถ้าไม่ใช่เป็นนักพนันระดับเซียน ที่ลักไก่ เกจนหมดหน้าตัก ก็ต้องเป็นนักวางแผนที่เลือดเย็นและล้ำลึกอย่างน่ากลัว เดือนตุลาคม 1914 อังกฤษส่งคณะทำงานพิเศษ จากฝ่ายกิจกรรมสงครามของตนไปวอชิงตัน เพื่อเจรจาให้ทางวอชิงตันจัดการให้ภาคเอกชนของอเมริกา เป็นผู้ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ สัมภาระและกำลังบำรุงให้ เพราะอเมริกาในฐานะประเทศเป็นกลางอย่างเป็นทางการ จะทำในฐานะประเทศไม่ได้ เลยเลี่ยงให้เอกชนออกหน้า อังกฤษเลือก J P Morgan & Co เป็นตัวแทนแต่ผู้เดียวในการจัดซื้อ Sole Purchasing Agent ดูเผินๆ เหมือนกับเป็นเรื่องเสี่ยงมาก ที่เลือกตัวแทนรายเดียว แต่เนื่องจากเป็นบทหนึ่งของละครลวงโลก เราจะเห็นว่า มันมีการเตรียมการอย่างแยบยลมา แล้ว ที่ให้อเมริกามี Federal Reserve System ที่สามารถทำให้ J P Morgan และพวก ซึ่งก็เป็นผู้บริหาร และเจ้าของ Federal Reseve Bank สามารถบริหารความเสี่ยงของตน ผ่านการควบคุมหนี้ของรัฐบาล พร้อมกับการควบคุมการพิมพ์ธนบัตรของประเทศในขณะเดียวกัน ด้วยวิธีการนี้ อังกฤษจึงสามารถเดินหน้า ทำสงครามได้อย่างสบายใจ อเมริกา โดยนักธุรกิจ เช่น Rockefeller, Morgan, Carnegie ฯลฯ ก็สบายใจ พวกเขาผลิต และขายสินค้า ส่งให้อังกฤษ ทำให้พากันรวยหนักกันขึ้นไปอีก และโดยไม่ต้องห่วงเรื่องจะต้องเสียภาษีเงินได้ก้อนใหญ่ให้ รัฐบาล เพราะบทในละครลวงโลก เรื่องภาษีนี้ ก็ได้มีจัดการหาทางออก เตรียมใว้เรียบร้อยแล้ว โดยนาย Wilson ได้ยอมให้แก้กฏหมายของอเมริกา ในปี 1913 ให้มูลนิธิเพื่อการกุศล ได้รับยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ และบรรดานายทุนเศรษฐีโตครรวยต่างๆของอเมริกา ก็พากันจดทะเบียนตั้งมูลนิธิ และโอนทรัพย์สินของตนไปไว้ในมูลนิธิ เพื่อเลี่ยงภาษี เช่น มูลนิธิ Rockefeller มูลนิธิ Carnegie มูลนิธิ Ford เรียบร้อยก่อนที่จะได้อังกฤษ มาเป็นลูกหนี้ นี่คือ ประชาธิปไตยแบบ ตะหวักตะบวยของอเมริกา ที่ยังมีสมันน้อยหลงชื่นชม Morgan ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้รัฐบาลอังกฤษ ในการจัดซื้อ อาวุธ กระสุน เครื่องแบบ เคมี ฯลฯ สาระพัด ที่จำเป็นสำหรับการทำสงครามในสมัย ค.ศ. 1914 และในฐานะเป็นตัวแทนดูแลด้านการ เงินด้วย Morgan ไม่ใช่แค่เลือกว่า “จะซื้ออะไร ” เขาเป็นผู้เลือกด้วยว่า “จะซื้อจากใคร” ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ที่กลุ่มธุรกิจในเครือข่ายของ Morgan และ Rockefeller คือกลุ่มที่ได้รับเลือกไปก่อน และรวยไปก่อน เมื่อ British War Office ถามประธาน J P Morgan คนใหม่คือ J P Morgan Jr. หรือที่เพื่อนเรียกว่า Jack ซึ่งขึ้นมารับตำแหน่งแทนพ่อที่ตายไปเมื่อ ปี 1913 ว่า รัฐบาลของ Wilson มีปัญหาหรือไม่ ที่สถาบันการเงินใหญ่ของอเมริกา เข้ามาช่วยเหลืออังกฤษอย่างเปิดเผย เกี่ยวกับการสงคราม Jack ตอบว่า ไม่มีปัญหาครับเจ้านาย ไม่กระทบกับความเป็นกลางของรัฐบาลอเมริกัน อย่างแน่นอนที่สุด เพราะว่า Morgan ทำธุรกิจกับ British War Office และรัฐบาลของฝรั่งเศส เป็นการทำธุรกิจตามปรกติธรรมดา เพื่อเพิ่มปริมาณการค้าขายต่อกัน ไม่ใช่เป็นข้อตกลงทางการเมือง หรือการฑูตแต่อย่างใด กลิ้งได้พริ้วจริงๆไอ้หนู เดือนมกราคม 1915 Jack ไปพบกับประธานาธิบดี Wilson ที่ทำเนียบ White House เพื่อหารือเรื่องดังกล่าว Wilson ยืนยันว่า เขาไม่มีข้อขัดข้อง ในการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม Morgan หรือผู้อื่น ในเรื่องที่หารือนั้น ก็คงทำให้เข้าใจได้ว่า ไม่มีใครต้มใคร หลอกใครมาเข้าฉาก เป็นการสมัครใจมาร่วมเล่นละครกันทั้งนั้น นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร” ตอน 2 ในปี ค.ศ. 1915 เมื่อสงครามเริ่มใหม่ๆ E.I. Dupont de Nemours & Co แห่ง Delaware ได้รับเงิน 100 ล้านเหรียญ จากอังกฤษ ผ่าน J P Morgan เพื่อขยายแผนกวัตถุระเบิด ภายในไม่กี่เดือน Dupont ขยายตัวจากบริษัทเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก เป็นบริษัทอยู่แถวหน้าทางอุตสา หกรรม Hercules Powder และ Monsanto Chemical โตตามไปด้วย บริษัทเหล็กกล้า และเหล็กดิบ ก็งอกงาม เหล็กดิบราคาขึ้น จากตันละ 13 เหรียญ เป็น ตันละ 42 เหรียญ Bethlehem Steel, US Steel, Westinghouse Electric, Remington Arms, Colt Firearms ได้รับใบสั่งซื้อสินค้ามาเป็นกอง ตั้งสูง จนผลิตไม่ทัน อุตสาหกรรมเหล็กอย่างเดียว กำไรเพิ่มจาก 23 ล้านเหรียญ ในปี 1914 เป็น 224 ล้านเหรียญ ในปี 1917 และระหว่างปี 1914-1917 Anaconda Copper ของ William Rockefeller ได้กำไรโดดจาก 9 ล้านเหรียญ เป็น 25 ล้านเหรียญ ส่วนทรัพย์สินของ บริษัท Phelps Dodge ซึ่งเป็นนายทุนใหญ่ในการส่งให้ Wilson ไปนั่งที่ White House ขี้นไป 400 % เฉพาะปี 1916 ขณะที่เศรษฐกิจทั่วไป ของอเมริกากำลังขาลาก แค่การส่งสินค้าออกเกี่ยวกับอาวุธ ให้แก่อังกฤษ และฝรั่งเศส อย่างเดียว มูลค่าสูงถึง 1,290 พันล้านเหรียญแล้ว มันเป็นโอกาสทองคำ ของคนบางกลุ่มในอเมริกา ก่อนที่อเมริกาจะเข้าสู่สงครามโลก J P Morgan ได้จัดหาอาวุธยุทธปัจจัยให้รัฐบาล อังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี เป็นมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 5 พันล้านเหรียญ ทั้งหมด ซื้อโดยเครดิต ที่ J P Morgan เป็นผู้จัดการให้ เงินจำนวนดังกล่าวคิดเป็นมูลค่าในปัจจุบัน เท่ากับประมาณ 9 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งยังไม่เคยมีสถาบันการเงินส่วนบุคคลใด เคยทำมาก่อน มันเป็นจำนวนมโหฬาร พอที่จะทำให้เกิดซึนามิทางการเงินได้ ถ้ามีการผิดนัดไม่ชำระเงิน เดือนเมษายน 1915 ประมาณ 2 ปี ก่อนอเมริกาจะเข้าสูสงครามโลก ครั้งที่ 1 อย่างเป็นทางการ Thomas W Lamont หุ้นส่วนคนหนึ่งของ J P Morgan ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่มีความหมายมาก แต่มีน้อยคน ที่ให้ความสนใจอย่างจริงจังที่ American Academy of Political Science ในเมือง Philadelphia ” เรา (อเมริกา) ได้เปลี่ยนสภาพ จากเป็นลูกหนี้ กลายมาเป็นเจ้าหนี้ ใบสั่งซื้อสินค้าที่เราได้รับ กองสูงเป็นตั้ง ผู้ผลิตหลายรายของเรา รวมทั้งผู้ขาย ได้ธุรกิจอย่างมหัศจรรย์จากสงครามนี้ ใบสั่งซื้อสินค้าสงคราม มียอดสูงเป็นล้านๆเหรียญ และมันกำลังส่งผลไปถึงธุรกิจอื่นๆ ทั่วไปด้วย แต่จุดสำคัญอยู่ที่การปรับตัวดีขึ้นของธุรกิจของเรา ทำให้อเมริกากลายเป็นปัจจัยใหญ่ในตลาดเงินกู้ระหว่างประเทศ จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต หลายคนเชื่อว่า ต่อไปนิวยอร์ค อาจจะเหนือกว่าลอนดอนในการเป็นศูนย์กลางตลาดเงินของโลก เราอาจกลายเป็นศูนย์กลางการค้าของโลก… มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้สูง…. แต่ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญสองสามอย่าง อย่างหนึ่งคือ ระยะเวลาของการทำสงคราม…. ถ้าสงครามจบเร็ว เยอรมัน ซึ่งขณะนี้การส่งสินค้าออกถูกตัดขาดเกือบหมด จะกลับมาเป็นคู่แข่งสำคัญทันที ฉะนั้น เราจะเป็นเจ้าหนี้จำนวนมหาศาลหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ “ระยะเวลา” ของการทำสงคราม ถ้ามันนานพอ เราอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลง ที่ดอลล่าร์จะกลายเป็นตัวเทียบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ แทนปอนด์สเตอริงก์” สุนทรพจน์นี้ ทำให้เห็นเป้าหมาย และการพัฒนา ให้เงินกู้ระหว่างประเทศ กลายเป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ของ J P Morgan ในระหว่างการทำสงครามโลกครั้งที่ 1 และหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ไปจนถึงการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างน่ากลัว และชั่วยิ่ง นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร” ตอน 3 นโยบายของ J P Morgan ตามแนวที่เราเข้าใจจากสุนทรพจน์ของ Lamont ดูเหมือนจะราบรื่น เป็นไปตามแผน แต่พอถึงปลายปี 1916 จนเริ่มเข้าเดือนแรกของปี 1917 ข่าวลือเกี่ยวกับรัสเซียชักมาแปลก และ ในเดือนกุมภาพันธ์ ก็เป็นจริงตามข่าว ซาร์นิโคลัสที่ 2 ของรัสเซีย ประกาศสละ บัลลังค์ หลังจากมีการปฏิวัติ โดยคนชื่อไม่ดัง Alexandre Kerensky กองทัพรัสเซียระส่ำ เยอรมันดีใจ ไม่ต้องรบทั้ง 2 แนว จึงทุ่มกำลังมาทางด้านตะวันตกเต็มที่ และอังกฤษอาจกลายเป็นฝ่ายแพ้สงคราม ! Morgan และพวก เริ่มออกอาการ ไอ้ที่กลัวว่าจะเกิด ทำท่าจะเกิดจริงๆ สงครามอาจจะจบเร็วกว่าที่คิด โดยเยอรมันเป็นฝ่ายชนะ และนั่นคือหายนะ ของ Morgan อังกฤษและพวก ซึ่งรวมถึงอเมริกาด้วย นาย Walter Hines Page ซึ่งเคยเป็นผู้ดูแล General Education Board ของ Rockefeller ก่อนได้รับเลือกให้ไปเป็นฑูตอเมริกา ประจำลอนดอน ขณะนั้น ได้ทำหนังสือลงวันที่ 5 มีนาคม 1917 ถึง ประธานาธิบดี Wilson ” ผมคิดว่า สถานการณ์ปัจจุบัน มีความกดดันสูงเกินกว่าที่ Morgan ในสถานะตัวแทนทางการเงินของรัฐบาลอังกฤษ และฝรั่งเศสจะรับได้ จำเป็นที่จะต้องมีการหารือกันเป็นการด่วน ….หากเราจะเข้าไปทำสงครามกับเยอรมัน คงเป็นการช่วยฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างยิ่งยวด และในกรณีดังกล่าว รัฐบาลเราน่าจะทำ ถ้าสามารถทำได้คือ ช่วยลงทุนให้เงินกู้กับอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือค้ำประกันเงินกู้ให้เขา ….แต่เราจะต้องเข้าร่วมทำสงครามกับเยอรมันด้วย เราถึงจะให้เงินกู้โดยตรง หรือให้การค้ำประกันได้…” 4 อาทิตย์หลังจากได้รับจดหมายของฑูต Page ประธานาธิบดี Wilson ซึ่งตอนหาเสียงลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี สมัยที่ 2 ในปี 1916 ประกาศไว้ว่า เราเป็นฝ่ายไม่ทำสงคราม ก็พาอเมริกาเข้าสู่สงคราม ตามบทละครลวงโลก Wilson แถลงต่อสภาสูง เพื่อขอทำสงครามกับเยอรมัน ด้วยเหตุผลว่า เยอรมันละเมิดกฏการเดินเรือในน่านน้ำที่เป็นกลาง โดยใช้เรือดำน้ำโจมตีเรือของอเมริกาเรือขนส่งสินค้าของอังกฤษ และฝรั่งเศส สภาสูงลงมติอย่างท่วมท้น ให้อำนาจเขาประกาศสงครามกับเยอรมัน กระทรวงการคลังของอเมริกา ให้การสนับสนุน ที่อเมริกาจะออกพันธบัตร Liberty Bond เพื่อระดมเงินจากชาวอเมริกัน สนับสนุนให้อังกฤษทำสงครามต่อ โดยนาย Benjamin Strong ประธานธนาคารกลางของอเมริกา Federal Reserve Bank ซึ่งมาจาก กลุ่ม Morgan บอกว่า ตามกฎหมาย Federal Reserve Act ที่เพิ่งออกในปี 1913 ทำได้สบายมาก และเงินงวดแรก ที่ได้จากการขายพันธบัตร Liberty War ให้ชาวบ้าน ถูกนำมาใช้หนี้ ที่อังกฤษมีกับ Morgan จำนวน 400 ล้านเหรียญก่อนรายการอื่น สรุปง่ายๆว่า Wilson เอาเงินชาวบ้านมาใช้หนี้ให้เศรษฐี Morgan หรืออาจจะเป็น Rothschild ไม่แนใจ จากวันที่อเมริกาประกาศสงครามกับ เยอรมันอย่างเป็นทางการ ในเดือนเมษายน 1917 จนถึงวันที่มีการลงนามสัญญาสงบ ศึกกับเยอรมัน ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 1918 อเมริกาให้เงินกู้กับ สัมพันมิตร ยุโรป เป็นจำนวนประมาณ 9 พันล้านเหรียญ เงินดังกล่าว ไม่ได้ไปถึงมือผู้กู้ ส่วนใหญ่กลับไปอยู่ที่กลุ่ม Morgan, Kuhn Loeb และ Rockefeller เพื่อจ่ายเป็นค่าสินค้าสงครามที่ส่งให้กับฝ่ายสัมพันธมิตร เงินกู้ดังกล่าวนี้ เป็นจำนวนต่างหาก นอกเหนือจากที่อังกฤษให้ J P Morgan เป็นตัวแทนระดมเงินกู้ต้ังแต่เริ่มทำสงคราม จนถึงสงครามเลิก อีกจำนวนมหาศาล สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 8 พ.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 732 มุมมอง 0 รีวิว
  • 21 เคล็ดลับจัดปาร์ตี้ให้ปัง! จากประสบการณ์ตรงของเจ้าภาพมือโปร

    นี่คือ 21 ข้อคิดจากบทความ “21 Facts About Throwing Good Parties” ที่ช่วยให้คุณจัดปาร์ตี้ได้สนุกและน่าจดจำมากขึ้น

    ให้ความสำคัญกับความสบายใจของเจ้าภาพก่อนสิ่งอื่นใด ถ้าเจ้าภาพเครียด แขกก็จะเครียดตาม
    ตั้งเวลาเริ่มงานให้เร็วกว่าเวลาจริงเล็กน้อย เช่น บอกว่าเริ่ม 1:45 เพื่อให้คนมาถึงตอน 2:00
    เชิญเพื่อนสนิทมาก่อนเวลา 30–60 นาที เพื่อช่วยจัดงานและสร้างบรรยากาศก่อนแขกหลักมา
    คนส่วนใหญ่จะไปงานที่รู้ว่ามีเพื่อนอย่างน้อย 3 คนอยู่แล้ว
    ใช้แอปที่แสดงรายชื่อแขก เช่น Partiful หรือ Luma เริ่มเชิญเพื่อนสนิทก่อน แล้วค่อยขยายวง
    ส่งคำเชิญในกลุ่มแชทหรืออีเมล cc ที่มีคนรู้จักกัน
    ถ้าเชิญรายบุคคล ให้พูดถึงเพื่อนร่วมงานที่ได้รับเชิญด้วย
    ในกลุ่มเล็ก ความเข้ากันของแขกสำคัญมาก เหมือนการปรุงอาหาร ต้องเลือกส่วนผสมที่เข้ากัน
    งานใหญ่เปรียบเหมือนซุปรวมทุกอย่าง แค่หลีกเลี่ยง “ส่วนผสม” ที่ทำให้เสียรสก็พอ
    อย่ารู้สึกผิดที่ไม่เชิญบางคน การคัดเลือกแขกเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อรักษาบรรยากาศ
    งานที่สมดุลทางเพศจะดีกว่า พยายามรักษาสัดส่วน 60–40 เพื่อไม่ให้ฝ่ายใดรู้สึกอึดอัด
    จัดงานร่วมกับคนที่อยู่นอกวงสังคมของคุณ เพื่อให้กลุ่มเพื่อนต่าง ๆ ได้พบกัน
    คำนวณอัตราการยกเลิก (flake rate) เช่น ถ้า 1/3 ของคนที่ตอบรับจะไม่มา ให้เชิญเพิ่ม
    คู่รักมักจะยกเลิกพร้อมกัน ส่งผลต่อจำนวนแขกในงานเล็กอย่างมาก
    สร้างการเคลื่อนไหวในงานให้มากที่สุด เช่น ใช้โต๊ะสูง หรือจัดพื้นที่ให้คนยืนได้
    วางอาหารและเครื่องดื่มคนละจุด เพื่อให้คนเดินไปมาและพบกันมากขึ้น
    ถ้ามีแขกที่ไม่รู้จักใคร ให้แนะนำเขาเข้ากลุ่ม ใช้สิทธิ์เจ้าภาพในการเชื่อมคน
    วิธีออกจากวงสนทนา: ค่อย ๆ ถอยออกโดยไม่ดึงความสนใจ
    ตลอดงาน ให้เน้นแนะนำคนใหม่ ๆ มากกว่าคุยกับเพื่อนสนิท
    จำไว้ว่า: การจัดปาร์ตี้คือบริการสาธารณะ คุณกำลังสร้างพื้นที่ให้คนพบกันและอาจเปลี่ยนชีวิต
    ปัญหาใหญ่ของหลายงานคือเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าคุณรู้วิธีแก้ แจ้งเจ้าภาพด้วย!

    ถ้าคุณกำลังวางแผนจัดงานเล็ก ๆ หรือปาร์ตี้ใหญ่ ลองใช้ข้อคิดเหล่านี้เป็นแนวทาง แล้วคุณจะพบว่าการจัดงานไม่ใช่แค่เรื่องสนุก — แต่มันคือการสร้างความสุขให้กับคนรอบตัวด้วย

    https://www.atvbt.com/21-facts-about-throwing-good-parties/
    🎉 21 เคล็ดลับจัดปาร์ตี้ให้ปัง! จากประสบการณ์ตรงของเจ้าภาพมือโปร นี่คือ 21 ข้อคิดจากบทความ “21 Facts About Throwing Good Parties” ที่ช่วยให้คุณจัดปาร์ตี้ได้สนุกและน่าจดจำมากขึ้น 🎉 🎗️ ให้ความสำคัญกับความสบายใจของเจ้าภาพก่อนสิ่งอื่นใด ถ้าเจ้าภาพเครียด แขกก็จะเครียดตาม 🎗️ ตั้งเวลาเริ่มงานให้เร็วกว่าเวลาจริงเล็กน้อย เช่น บอกว่าเริ่ม 1:45 เพื่อให้คนมาถึงตอน 2:00 🎗️ เชิญเพื่อนสนิทมาก่อนเวลา 30–60 นาที เพื่อช่วยจัดงานและสร้างบรรยากาศก่อนแขกหลักมา 🎗️ คนส่วนใหญ่จะไปงานที่รู้ว่ามีเพื่อนอย่างน้อย 3 คนอยู่แล้ว 🎗️ ใช้แอปที่แสดงรายชื่อแขก เช่น Partiful หรือ Luma เริ่มเชิญเพื่อนสนิทก่อน แล้วค่อยขยายวง 🎗️ ส่งคำเชิญในกลุ่มแชทหรืออีเมล cc ที่มีคนรู้จักกัน 🎗️ ถ้าเชิญรายบุคคล ให้พูดถึงเพื่อนร่วมงานที่ได้รับเชิญด้วย 🎗️ ในกลุ่มเล็ก ความเข้ากันของแขกสำคัญมาก เหมือนการปรุงอาหาร ต้องเลือกส่วนผสมที่เข้ากัน 🎗️ งานใหญ่เปรียบเหมือนซุปรวมทุกอย่าง แค่หลีกเลี่ยง “ส่วนผสม” ที่ทำให้เสียรสก็พอ 🎗️ อย่ารู้สึกผิดที่ไม่เชิญบางคน การคัดเลือกแขกเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อรักษาบรรยากาศ 🎗️ งานที่สมดุลทางเพศจะดีกว่า พยายามรักษาสัดส่วน 60–40 เพื่อไม่ให้ฝ่ายใดรู้สึกอึดอัด 🎗️ จัดงานร่วมกับคนที่อยู่นอกวงสังคมของคุณ เพื่อให้กลุ่มเพื่อนต่าง ๆ ได้พบกัน 🎗️ คำนวณอัตราการยกเลิก (flake rate) เช่น ถ้า 1/3 ของคนที่ตอบรับจะไม่มา ให้เชิญเพิ่ม 🎗️ คู่รักมักจะยกเลิกพร้อมกัน ส่งผลต่อจำนวนแขกในงานเล็กอย่างมาก 🎗️ สร้างการเคลื่อนไหวในงานให้มากที่สุด เช่น ใช้โต๊ะสูง หรือจัดพื้นที่ให้คนยืนได้ 🎗️ วางอาหารและเครื่องดื่มคนละจุด เพื่อให้คนเดินไปมาและพบกันมากขึ้น 🎗️ ถ้ามีแขกที่ไม่รู้จักใคร ให้แนะนำเขาเข้ากลุ่ม ใช้สิทธิ์เจ้าภาพในการเชื่อมคน 🎗️ วิธีออกจากวงสนทนา: ค่อย ๆ ถอยออกโดยไม่ดึงความสนใจ 🎗️ ตลอดงาน ให้เน้นแนะนำคนใหม่ ๆ มากกว่าคุยกับเพื่อนสนิท 🎗️ จำไว้ว่า: การจัดปาร์ตี้คือบริการสาธารณะ คุณกำลังสร้างพื้นที่ให้คนพบกันและอาจเปลี่ยนชีวิต 🎗️ ปัญหาใหญ่ของหลายงานคือเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าคุณรู้วิธีแก้ แจ้งเจ้าภาพด้วย! ถ้าคุณกำลังวางแผนจัดงานเล็ก ๆ หรือปาร์ตี้ใหญ่ ลองใช้ข้อคิดเหล่านี้เป็นแนวทาง แล้วคุณจะพบว่าการจัดงานไม่ใช่แค่เรื่องสนุก — แต่มันคือการสร้างความสุขให้กับคนรอบตัวด้วย 💫 https://www.atvbt.com/21-facts-about-throwing-good-parties/
    WWW.ATVBT.COM
    21 Facts About Throwing Good Parties
    Parties are a public service; here's how to throw them.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 311 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่สายไอที: AMD ปรับทิศทางไดรเวอร์ GPU แต่ Linux ยังปลอดภัย!

    ถ้าคุณเป็นสายเกมหรือสาย Linux แล้วได้ยินว่า AMD จะหยุดพัฒนาไดรเวอร์สำหรับการ์ดจอรุ่นเก่าอย่าง RX 5000 และ RX 6000 อาจจะรู้สึกใจหาย แต่ข่าวดีคือ...การเปลี่ยนแปลงนี้ “ไม่กระทบผู้ใช้ Linux” เพราะ AMD แยกการพัฒนาไดรเวอร์ระหว่าง Windows และ Linux อย่างชัดเจน

    เรื่องเริ่มจาก AMD ประกาศว่าไดรเวอร์ RDNA 1 และ RDNA 2 จะเข้าสู่โหมด “maintenance” ซึ่งหลายคนตีความว่าอาจหยุดการอัปเดตเกมใหม่ ๆ แต่ AMD ยืนยันว่าจะยังมีการปรับแต่งเกมต่อไปใน Windows ส่วนฝั่ง Linux นั้น...สบายใจได้ เพราะใช้ระบบไดรเวอร์แบบโอเพ่นซอร์สที่พัฒนาแยกต่างหาก

    ที่สำคัญคือ AMD ตัดสินใจ “เลิกพัฒนา AMDVLK” ซึ่งเป็นไดรเวอร์ Linux แบบโอเพ่นซอร์สที่เคยดูแลเอง แล้วหันไปสนับสนุน “RADV” ซึ่งเป็นไดรเวอร์ที่ชุมชนพัฒนาขึ้นเอง และได้รับการสนับสนุนจากบริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Valve, Google และ Red Hat

    เกร็ดน่ารู้เพิ่มเติม:
    RADV เป็นไดรเวอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า AMDVLK ในหลายกรณี และเป็นตัวเลือกหลักของผู้ใช้ Linux
    การพัฒนาไดรเวอร์แบบโอเพ่นซอร์สช่วยให้การสนับสนุนฮาร์ดแวร์เก่ายังคงอยู่ได้นาน แม้บริษัทผู้ผลิตจะหยุดพัฒนาไปแล้ว

    AMD ปรับสถานะไดรเวอร์ RDNA 1 และ 2 บน Windows
    เข้าสู่โหมด maintenance แต่ยังมีการปรับแต่งเกมใหม่
    ไม่ได้หยุดการสนับสนุนโดยสิ้นเชิง

    ผู้ใช้ Linux ไม่ได้รับผลกระทบ
    ไดรเวอร์ Linux พัฒนาแยกจาก Windows โดยสิ้นเชิง
    ใช้ระบบโอเพ่นซอร์สที่มีการสนับสนุนจากชุมชน

    การเปลี่ยนผ่านจาก AMDVLK ไปสู่ RADV
    AMDVLK ถูกยกเลิกตั้งแต่ 15 กันยายน 2025
    RADV ได้รับการสนับสนุนจาก Valve, Google และ Red Hat
    RADV มีประสิทธิภาพสูงกว่า AMDVLK ในหลายด้าน

    ความแข็งแกร่งของระบบโอเพ่นซอร์ส
    แม้ AMD จะหยุดพัฒนา แต่ RADV ยังมีผู้ดูแลจากหลายองค์กร
    การสนับสนุนฮาร์ดแวร์เก่ายังคงดำเนินต่อไป

    ความเข้าใจผิดจากประกาศของ AMD
    หลายคนคิดว่า Linux จะหยุดรับการอัปเดตไดรเวอร์ด้วย
    ความสับสนเกิดจากการสื่อสารที่ไม่ชัดเจนในช่วงแรก

    ความเสี่ยงหากใช้ไดรเวอร์ที่ไม่ได้รับการอัปเดต
    อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้กับเกมใหม่หรือฟีเจอร์ใหม่
    ควรตรวจสอบเวอร์ชันไดรเวอร์ก่อนอัปเดตระบบหรือเกม

    ใครที่ใช้ Linux เล่นเกมบน Radeon GPU ก็หายห่วงได้เลย เพราะ RADV ยังอยู่ และยังแรง!

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/linux-gamers-wont-be-affected-by-rx-5000-6000-series-driver-shift-amd-changes-limited-to-windows-thanks-to-separated-development
    🧠 ข่าวใหญ่สายไอที: AMD ปรับทิศทางไดรเวอร์ GPU แต่ Linux ยังปลอดภัย! ถ้าคุณเป็นสายเกมหรือสาย Linux แล้วได้ยินว่า AMD จะหยุดพัฒนาไดรเวอร์สำหรับการ์ดจอรุ่นเก่าอย่าง RX 5000 และ RX 6000 อาจจะรู้สึกใจหาย แต่ข่าวดีคือ...การเปลี่ยนแปลงนี้ “ไม่กระทบผู้ใช้ Linux” เพราะ AMD แยกการพัฒนาไดรเวอร์ระหว่าง Windows และ Linux อย่างชัดเจน เรื่องเริ่มจาก AMD ประกาศว่าไดรเวอร์ RDNA 1 และ RDNA 2 จะเข้าสู่โหมด “maintenance” ซึ่งหลายคนตีความว่าอาจหยุดการอัปเดตเกมใหม่ ๆ แต่ AMD ยืนยันว่าจะยังมีการปรับแต่งเกมต่อไปใน Windows ส่วนฝั่ง Linux นั้น...สบายใจได้ เพราะใช้ระบบไดรเวอร์แบบโอเพ่นซอร์สที่พัฒนาแยกต่างหาก ที่สำคัญคือ AMD ตัดสินใจ “เลิกพัฒนา AMDVLK” ซึ่งเป็นไดรเวอร์ Linux แบบโอเพ่นซอร์สที่เคยดูแลเอง แล้วหันไปสนับสนุน “RADV” ซึ่งเป็นไดรเวอร์ที่ชุมชนพัฒนาขึ้นเอง และได้รับการสนับสนุนจากบริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Valve, Google และ Red Hat 💡 เกร็ดน่ารู้เพิ่มเติม: 💠 RADV เป็นไดรเวอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า AMDVLK ในหลายกรณี และเป็นตัวเลือกหลักของผู้ใช้ Linux 💠 การพัฒนาไดรเวอร์แบบโอเพ่นซอร์สช่วยให้การสนับสนุนฮาร์ดแวร์เก่ายังคงอยู่ได้นาน แม้บริษัทผู้ผลิตจะหยุดพัฒนาไปแล้ว ✅ AMD ปรับสถานะไดรเวอร์ RDNA 1 และ 2 บน Windows ➡️ เข้าสู่โหมด maintenance แต่ยังมีการปรับแต่งเกมใหม่ ➡️ ไม่ได้หยุดการสนับสนุนโดยสิ้นเชิง ✅ ผู้ใช้ Linux ไม่ได้รับผลกระทบ ➡️ ไดรเวอร์ Linux พัฒนาแยกจาก Windows โดยสิ้นเชิง ➡️ ใช้ระบบโอเพ่นซอร์สที่มีการสนับสนุนจากชุมชน ✅ การเปลี่ยนผ่านจาก AMDVLK ไปสู่ RADV ➡️ AMDVLK ถูกยกเลิกตั้งแต่ 15 กันยายน 2025 ➡️ RADV ได้รับการสนับสนุนจาก Valve, Google และ Red Hat ➡️ RADV มีประสิทธิภาพสูงกว่า AMDVLK ในหลายด้าน ✅ ความแข็งแกร่งของระบบโอเพ่นซอร์ส ➡️ แม้ AMD จะหยุดพัฒนา แต่ RADV ยังมีผู้ดูแลจากหลายองค์กร ➡️ การสนับสนุนฮาร์ดแวร์เก่ายังคงดำเนินต่อไป ‼️ ความเข้าใจผิดจากประกาศของ AMD ⛔ หลายคนคิดว่า Linux จะหยุดรับการอัปเดตไดรเวอร์ด้วย ⛔ ความสับสนเกิดจากการสื่อสารที่ไม่ชัดเจนในช่วงแรก ‼️ ความเสี่ยงหากใช้ไดรเวอร์ที่ไม่ได้รับการอัปเดต ⛔ อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้กับเกมใหม่หรือฟีเจอร์ใหม่ ⛔ ควรตรวจสอบเวอร์ชันไดรเวอร์ก่อนอัปเดตระบบหรือเกม ใครที่ใช้ Linux เล่นเกมบน Radeon GPU ก็หายห่วงได้เลย เพราะ RADV ยังอยู่ และยังแรง! 🎮 https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/linux-gamers-wont-be-affected-by-rx-5000-6000-series-driver-shift-amd-changes-limited-to-windows-thanks-to-separated-development
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘พีระพันธุ์’ ไม่สบายใจปม ‘ข้อตกลงไทย-กัมพูชา’ ชี้ศักดิ์ศรีประเทศต้องมาก่อน พร้อมตั้งข้อสงสัยปมลงนาม ‘แร่แรร์เอิร์ธ’
    https://www.thai-tai.tv/news/22147/
    .
    #ไทยไท #พีระพันธุ์ #MOUแรร์เอิร์ธ #สแกมเมอร์ #ถ้อยแถลงไทยกัมพูชา #ประหารคอร์รัปชัน

    ‘พีระพันธุ์’ ไม่สบายใจปม ‘ข้อตกลงไทย-กัมพูชา’ ชี้ศักดิ์ศรีประเทศต้องมาก่อน พร้อมตั้งข้อสงสัยปมลงนาม ‘แร่แรร์เอิร์ธ’ https://www.thai-tai.tv/news/22147/ . #ไทยไท #พีระพันธุ์ #MOUแรร์เอิร์ธ #สแกมเมอร์ #ถ้อยแถลงไทยกัมพูชา #ประหารคอร์รัปชัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 258 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ความผิดทั้งหมดคือข้าราชการประจำของกระทรวงการต่างประเทศไทยเต็ม กับอดีตรัฐบาลทั้งหมดจากฝ่ายการเมืองที่ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตต่อดินแดนอธิปไตยตนเองในการปกป้องแผ่นดินไทยและยึดคืนมาทั้งหมดที่ถูกต้องชอบธรรมแต่ต้น,คน กต. ตั้งใจเล่นเดินเรื่องให้ผิดจุดผิดประเด็นชัดเจน ทำหนังสือประท้วงฑูตฝรั่งเศสตัวต้นเหตุปัญหาก็จบ ที่คืนผิดประเทศ ต้องคืนแผ่นดินพื้นที่ให้ถูกประเทศ มลฑลบูรพาตะวันออกทั้งหมดตลอดเกาะกงด้วย ต้องคืนเป็นของไทย,ตอนนี้กองทัพไทยมีสิทธิชอบธรรมในการยึดอำนาจปฏิวัติปฏิรูปประเทศไทยใหม่ทั้งหมด,ผลักดันคนต่างประเทศออกจากประเทศไทยทั้งหมดก่อนเพื่อตัดตอนทุกๆปัญหามิให้เกิดขึ้นได้ด้วย,เรื่องของคนไทย บ้านไทย แผ่นดินไทย ภายในบ้าน คนนอก คนต่างชาติต่างประเทศที่อยู่บนแผ่นดินไทยต้องออกไปก่อนทั้งหมด ทุกๆกรณีแบบไม่มีเงื่อนไขใดๆ,เรา..ประเทศไทยจะบริหารจัดการทุกๆปัญหาอย่างสบายใจแน่นอน.,จะเห็นต้นเหตุตัวปัญหาได้ชัดเจนด้วย,ทหารไทยและกองทัพไทยเราจะคืนความสงบสุขอย่างสบายๆทันที,ปัญหาทั้งหมดล้วนมาจากพวกต่างชาติมาอยู่ประเทศไทยทั้งสิ้น,มาแย่งแผ่นดินไทยของคนไทยแย่งทรัพยากรไทยมีค่ามากมายไปจากประชาชนคนไทยเราชัดเจน.
    ..กองทัพไทยต้องเด็ดขาดเรื่องนี้จริงๆ,เสมือนอเมริกาปิดบ้านมันนั้นล่ะ ,เราก็ปิดบ้านขับไล่ถีบต่างชาติออกไปก่อนได้.,ถีบออกใ้หมดปจากอผ่นดินไทยสัก10-20ปี เราจะเห็นชัดถึงความสงบความปลอดภัยทันที,จะแปลกใจว่า ต่างชาติเหี้ยวุ่นวายทั่วโลก แต่ไทยเรากลับสงบสุขทันที จะเห็นชัดเจนแน่นอน.,คนไทยเทาก็ยิ่งจัดการสะดวกง่ายดายไปอีก.


    https://youtube.com/live/43nVcEDBjog?si=JA9EC2QyNeL8TpyL
    ..ความผิดทั้งหมดคือข้าราชการประจำของกระทรวงการต่างประเทศไทยเต็ม กับอดีตรัฐบาลทั้งหมดจากฝ่ายการเมืองที่ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตต่อดินแดนอธิปไตยตนเองในการปกป้องแผ่นดินไทยและยึดคืนมาทั้งหมดที่ถูกต้องชอบธรรมแต่ต้น,คน กต. ตั้งใจเล่นเดินเรื่องให้ผิดจุดผิดประเด็นชัดเจน ทำหนังสือประท้วงฑูตฝรั่งเศสตัวต้นเหตุปัญหาก็จบ ที่คืนผิดประเทศ ต้องคืนแผ่นดินพื้นที่ให้ถูกประเทศ มลฑลบูรพาตะวันออกทั้งหมดตลอดเกาะกงด้วย ต้องคืนเป็นของไทย,ตอนนี้กองทัพไทยมีสิทธิชอบธรรมในการยึดอำนาจปฏิวัติปฏิรูปประเทศไทยใหม่ทั้งหมด,ผลักดันคนต่างประเทศออกจากประเทศไทยทั้งหมดก่อนเพื่อตัดตอนทุกๆปัญหามิให้เกิดขึ้นได้ด้วย,เรื่องของคนไทย บ้านไทย แผ่นดินไทย ภายในบ้าน คนนอก คนต่างชาติต่างประเทศที่อยู่บนแผ่นดินไทยต้องออกไปก่อนทั้งหมด ทุกๆกรณีแบบไม่มีเงื่อนไขใดๆ,เรา..ประเทศไทยจะบริหารจัดการทุกๆปัญหาอย่างสบายใจแน่นอน.,จะเห็นต้นเหตุตัวปัญหาได้ชัดเจนด้วย,ทหารไทยและกองทัพไทยเราจะคืนความสงบสุขอย่างสบายๆทันที,ปัญหาทั้งหมดล้วนมาจากพวกต่างชาติมาอยู่ประเทศไทยทั้งสิ้น,มาแย่งแผ่นดินไทยของคนไทยแย่งทรัพยากรไทยมีค่ามากมายไปจากประชาชนคนไทยเราชัดเจน. ..กองทัพไทยต้องเด็ดขาดเรื่องนี้จริงๆ,เสมือนอเมริกาปิดบ้านมันนั้นล่ะ ,เราก็ปิดบ้านขับไล่ถีบต่างชาติออกไปก่อนได้.,ถีบออกใ้หมดปจากอผ่นดินไทยสัก10-20ปี เราจะเห็นชัดถึงความสงบความปลอดภัยทันที,จะแปลกใจว่า ต่างชาติเหี้ยวุ่นวายทั่วโลก แต่ไทยเรากลับสงบสุขทันที จะเห็นชัดเจนแน่นอน.,คนไทยเทาก็ยิ่งจัดการสะดวกง่ายดายไปอีก. https://youtube.com/live/43nVcEDBjog?si=JA9EC2QyNeL8TpyL
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 460 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง ปั่นหัวเสี่ยปั้ม
    “ปั่นหัวเสี่ยปั้ม”

    (1)

    ตะวันออกกลางร้อนระอุขึ้นมาอีกแล้ว เมื่อเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมันซาอุ ดิ ทนร้อนไม่ไหว ลุกออกมาไล่ถล่มพวก Houthi ในเยเมน แหม เสี่ยก็ใจร้อนไปได้ ช่วงนี้ที่ไหนๆ ก็ร้อนทั้งนั้น อุณหภูมิบ้านสมันน้อย ยังพุ่งปรืดร้อนไปถึง 44 องศาเลยคร้าบ

    ทำไมเสี่ยซาอุต้องเป็นเดือดเป็นร้อน ที่พวก Houthi เขาจะลุกขึ้นมาขับไล่รัฐบาลมืออ่อนในบ้านของเขา

    Foreign Affairs นิตยสาร ของ Council on Foreign Relations (CFR) ถังขยะความคิดจอมจุ้น ลงบทความเรื่อง Houthi and the Blowback เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ค.ศ 2015 นี้ บอกว่า ซาอุดิกำลังใช้กระสุนนัดเดียวยิงนกหลายตัว ซาอุดิถือว่า การที่พวก Houthi กล้าลุกหือขึ้นมาสู้กับรัฐบาลตัวก็เพราะมีลูกพี่อิหร่าน เสี่ยนิวเคลียร์ยุแยง ถ้าเสี่ยใหญ่ซาอุทำเฉย ก็เหมือนจะยอมให้อิหร่านขี่คอ แต่ถ้าปราบ Houthi ให้หมอบราบได้ บารมีของเสี่ยใหญ่ซาอุ ก็จะฉายแสงสำแดงรัศมี ให้ลูกกระเป๋งแถบอ่าว Gulf Cooperation Coucil (GCC) นับถือในความเป็นพี่ใหญ่ของเสี่ยซาอุ ที่สามารถจัดระเบียบในตะวันออกกลางได้ โดยไม่ต้องประสาทหลอนกันว่า เรื่องมันจะบานปลาย เพราะความไม่สมดุลยของอำนาจในตะวันออกกลาง ระหว่างซาอุดิอารเบียกับอิหร่าน หมายความว่าไม่ได้กลัวอิหร่านจนหดหมดอีกแล้ว

    ถังขยะความคิด CFR ซึ่งเหมือนเป็นผู้ออกใบสั่งนโยบาย ของไอ้นักล่า บอกว่า เสี่ยปั้มทำได้น่า ยิงมันแรงๆ นัดเดียว แล้วได้นกหลายตัวน่ะ ถ้าเล่นให้เป็น ยิงให้แม่น มันจะเป็นการช่วยไม่ให้สถานการณ์การเมืองในตะวันออกกลาง ร้อนฉ่าขึ้นไปอีก เพราะเสี่ยใหญ่ จะกลายเป็นผู้คุมตะวันออกกลาง

    นี่มันปั่นให้พวกเสี่ยตะวันออกกลางเขาขี่อูฐมาชนกันเองนี่หว่า ไอ้นักล่าใบตองแห้งสงสัยมีแผนชั่ว

    เยเมน เป็นหนามตำใจของซาอุดิ และกลุ่มประเทศที่อยู่ริมอ่าว รวมทั้งโอมาน มาตั้งแต่ เยเมนตั้งประเทศแล้ว เพราะรสนิยมเยเมน ออกไปทางชอบสีแดง ฝักฝ่ายในลัทธิมาร์กซ ฯลฯ แถมระยะหลัง ยังพ่วงเอาพวกกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง พวกอัลกออิดะ เข้าไปสามัคคีชุมนุมกันอีกด้วย ยิ่งทำให้ ซาอุดิอารเบียที่หลังบ้านติดกับเยเมน นอนหลับแบบผวา ไม่ว่านอนกลางวัน หรือนอนกลางคืน ยิ่งมาเห็น พวก Houthi ทำท่าจะชนะในการไล่รัฐบาลของตัว เสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมัน คนรวยแต่ขวัญอ่อน ก็ยิ่งผวาหนัก

    นี่ถ้า Houthi ซึ่งเป็นชีอ่ะ และมีอิหร่านหนุน ยึดเยเมนไปได้ พวกเรามิควันโขมงทั้งเมืองหรือ เสี่ยซาอุจึงต้องสั่งระดมพลพรรค ลูกกระเป๋ง ทั้งหลาย เช่น บาห์เรน อียิปต์ จอร์แดน คูเวต มอรอคโค ปากีสถาน กาต้าร์ ซูดาน เอมิเรต มาช่วยกันสำแดงเดช ไม่ให้พวก Houthi ยึดครองเยเมน และมาปิดอ่าวเอเดน Gulf of Aden ด้านเยเมน
    เสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมันซาอุ โวยข้ามทะเลทรายให้เข้าหูท่านประธานาธิบดีนักล่าใบตองแห้งว่า การใช้กำลังทางอากาศของพวกเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมัน ไม่แน่ว่าจะสามารถจัดการให้เรื่องราวในเยเมนสงบราบเรียบได้หรอกนะ และถ้ามันไม่สงบ ผลกระทบของมันจะบานไปในหลายประเทศเลย และรัศมีอิทธิพลของเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมัน ก็จะแผ่วลงอย่างน่าใจหาย ไอ้ที่จะให้เสี่ยใหญ่ดูแลเด็กๆแถวอ่าว พวก GCC คงเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ ที่สำคัญ มันจะไปกระตุ้นต่อมฮึกเหิมของอิหร่านเสี่ยนิวเคลียร์อย่างช่วยไม่ได้ และแน่นอนเสี่ยนิวเคลียร์ก็คงแบ่งเอาความฮึกเหิมไปทิ้งใว้ใน อิรัค ซีเรีย เลบานอน เยเมน และที่อื่นๆ อีก คิดแล้วเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมันก็รันทดใจ รวยซะเปล่า แต่หามีความสุขไม่ มันเป็นการรำพึงที่น่าสนใจ ว่านักล่าใบตองแห้งจะตอบรับอย่างไร

    ถังขยะความคิดรีบเติมเชื้อ กลัวเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมันจะระทมไม่พอ บอกว่า อะไรกัน สัมพันธ์ระหว่าง ซาอุดิกับอเมริกาก็ยังแข็งแรง ไม่ได้สั่นคลอนเสียหน่อย ไม่ต้อง ป ส ด ไปก่อน และที่คนแถวนี้พูดกันลั่นไปหมดว่า อเมริกากำลังประะเคนข้อเสนอใส่ถาดทองให้อิหร่าน แลกกับข้อตกลงเรื่องนิวเคลียร์ มันเป็นแค่ข่าวลือเข้าใจไหม คิดมากไปได้น่าเสี่ย

    แม้หลายคน ในรัฐบาลใบตองแห้ง อาจจะบอกว่า เสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมัน ทำเกินไป ไม่ควรจะต้องไปยกระดับ ยกกำลัง ไปให้ความสำคัญกับพวก Houthi ถึงขนาดนี้ ซึ่งจะทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ทั้งในบ้านตัวเองและในภูมิภาค แต่ในความเป็นจริงด้านยุทธศาสตร์แล้ว เสี่ยใหญ่ไม่ได้ทำพลาดเรื่องเยเมน มันสมควรแล้วที่เสี่ยใหญ่จะต้องประสาทรับประทาน สถานการณ์ในเยเมน เป็นเรื่องคอขาดบาดตายของซาอุดิอารเบียทีเดียว

    อันที่จริงไม่ใช่เรื่องคอขาดของเสี่ยปั้มน้ำมันฝ่ายเดียว

    หากเยเมน ยอมให้อิหร่านมานั่งสบายใจอยู่ที่ Bab El Mandebของเยเมน ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือระหว่าง Red sea (ทะเลแดง) อ่าวเอเดน ( Gulf of Aden) และคลองสุเอซ ซึ่งอิหร่านได้พยายามที่จะควบคุมช่องแคบฮอร์มุซ (Strait of Hormuz) ซึ่งเกือบหนึ่งในสี่ ของน้ำมันโลก จะต้องผ่าน แทนที่จะกล่าวหาว่าเสี่ยใหญ่ซาอุ ป ส ด ทางวอชิงตันนั่นแหละ ควรทบทวนท่าทีของตนบ้าง หรือทางวอชิตันมีแผนอะไร ที่เสี่ยใหญ่ไม่รู้ ไม่เฉลียวใจ

    (2)

    ไปเอาแผนที่มาดูกันหน่อย จะได้เข้าใจหัวอกเสี่ยใหญ่ซาอุว่า ขวัญแข็ง หรือขวัญอ่อน ประสาทรับประทาน

    ด้านเหนือของซาอุดิอารเบียติดกับจอร์แดน ซี่งเป็นเด็กอยู่ในบัญชีรายจ่าย ของเสี่ยใหญ่ซาอุ เพราะฉะนั้น ไม่ต้องห่วง ตัดทิ้งไปได้ ถัดไปเป็น อิรัค และเหนืออิรัคเป็นเลบานอน ทั้ง 2 ประเทศ เสี่ยใหญ่ซาอุ กล่าวหา (หรือเป็นเรื่องจริง ! ) ว่า อยู่ในบัญชีรายจ่ายของอิหร่านเสี่ยนิวเคลียร์ ถ้าเป็นเรื่องจริง และถ้าเยเมนตกไปอยู่ในมือ Houthi ซึ่งซาอุก็ว่าอิหร่านสนับสนุนด้วย เช่นกัน ถ้าเด็กในบัญชีอิหร่าน ทั้ง 3 รายการ จับมือกัน ซาอุดิ เท่ากับถูกล็อก ทั้งข้างบนข้างล่าง และประตูออกทะเลของ ซาอุดิอารเบียจะถูกบีบเหลือให้ออกด้านเดียว คือออกได้เฉพาะทางอ่าวเปอร์เซีย

    แปลว่าอะไรครับ แปลว่าซาอุดิอารเบียถูกบีบให้ไป เดินผ่านปากของอิหร่าน ไปสู่ทะเลที่ อ่าวโอมานเท่านั้น ผ่านกลุ่มประเทศแถบอ่าว เช่น บาห์เรน การ์ต้า อามิเรต โอมาน ฯลฯ แล้วไปออกอ่าว แถบนั้นเต็มไปด้วยฐานทัพอากาศ และฐานทัพเรือที่ประเทศเหล่านั้น ยอมให้อเมริกาขนกองกำลัง ขนอาวุธมาตั้งอยูเต็ม เพื่อเป็นการดักคออิหร่านไว้ และด้วยความพร้อมใจของพวกเสี่ยคนรวย แต่ขวัญอ่อนทั้งหลาย ที่อยากอุ่นอยู่ในเงื้อมมือของนักล่าใบตองแห้ง เออ แดดทะเลทรายมันคงแรงจริง พวกเสี่ยเขาถึงคิดได้เพี้ยนกันแบบนั้น
    ดูๆก็ ไม่น่าจะเป็นปัญหากับเสี่ยใหญ่ซาอุ ที่มีฐานทัพนักล่าใบตองแห้งอยู่เต็มแถบปากอ่าว แต่เมื่อมันเยื้องอยู่กับปากอิหร่าน ก็ต้องถามเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมันซาอุว่า ด่าอิหร่านเอาไว้แยะ กล้าเดินผ่านปากเขาไหม หรือว่ากล้า เพราะมีฐานทัพของยอดรักนักล่าใบตองแห้ง ต้ังฐานกระจายไว้เต็มอยู่ตรงแถบนั้น

    เสี่ยก็คิดให้ดีแล้วกันว่า ยามนี้มีฐานทัพของไอ้นักล่าใบตองแห้งอยู่ใกล้ตัว มันเป็นโชคดีหรือโชคร้าย เผลอๆจะเป็นตัวล่อเป้า ไม่ใช่เฉพาะแต่ตัวเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมันเท่าน้ันนะ ที่ต้องระวัง ลูกกระเป๋งที่เอาใจเจ้านายให้เขามาตั้งฐานทัพน่ะอยู่ริมอ่าวน่ะ ระวังจะโดนทะลายหายไปพร้อมกับฐานทัพด้วย

    Duncan Campbell สื่อกัดติดเรื่องของนาย Edward Snowden จอมแฉ รายงานว่า จากข้อมูลที่จอมแฉทะยอยปล่อยออกมา เมือง Seeb ในรัฐโอมาน เป็นชุมสายใหญ่ของสายไยแก้ว fiber optic ชื่อรหัส CIRCUIT ที่โอมานยอมให้ GCHQ (Government Communication Headquarters) ของอังกฤษ มาติดตั้งระบบ CIRCUIT ของ ECHELON เครื่องดักสัญญานสุดยอดไว้ตั้งแต่ปี 2009 เพื่อเก็บข้อมูลทุกชิ้นที่ผ่าน ไปมาในแถบนั้น และแชร์ข้อมูลกับพวก 5 ตา the Five Eyes คือ อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแคนาดา หลังจากนั้นข้อมูลจะวิ่งขึ้นฝั่งไปถูกเก็บอยู่ที่ คอนวอล (Cornwall) ของอังกฤษ เหมือนกับที่ไปติดตั้งไว้ที่สวีเดน คอยดักข้อมูลของรัสเซีย

    คราวนี้ คงคอยดักข้อมูลของอิหร่านที่อยู่เยื้องกัน แถมเส้นทางเดินเรือแถบน้ัน อาเฮียของคุณพี่ปูตินเขาก็ชอบใช้ขนน้ำมันจากอาฟริกาไปจีน เรื่องดักฟังที่สวีเดน เขาว่าทำให้สวีเดนได้รับการเยี่ยมเยียน จากเรือดำน้ำรัสเซียถึงหน้ากรุงสต๊อกโฮม คราวนี้ ไม่รู้อาเฮียและอิหร่าน และ ฯลฯ จะส่งอะไรไปเยี่ยมโอมาน

    แค่มีฐานทัพของไอ้นักล่าใบตองแห้ง อยู่แถบอ่าว ก็เป็นเป้าล่อพอแล้ว คราวนี้ยังมี ลูกปิงปอง ECHELON เครื่องดักสัญญานเป็นสายล่อฟ้า คอยอยู่ที่โอมาน ผมก็กลุ้มใจแทนเสี่ยใหญ่ปั้มนำ้มันซาอุจริงๆ ว่าจะตัดสินใจเดินทางไหน ที่จะทำให้ไม่ต้องทุกข์ระทม แต่ดูจากเรื่องราว และบทความของ Foreign Affairs แล้ว ผมคลับคล้าย คราวนี้ เสี่ยใหญ่ซาอุ จะถูกหลอกใช้ ให้เป็นเครื่องสังเวยยังไงไม่รู้ เขามีแผนอยากได้แต่ปั้มน้ำมัน ไม่อยากได้คนคุมปั้มติดไปด้วย เสี่ยพอนึกออกไหมครับ

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    3 เม.ย. 2558
    เรื่อง ปั่นหัวเสี่ยปั้ม “ปั่นหัวเสี่ยปั้ม” (1) ตะวันออกกลางร้อนระอุขึ้นมาอีกแล้ว เมื่อเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมันซาอุ ดิ ทนร้อนไม่ไหว ลุกออกมาไล่ถล่มพวก Houthi ในเยเมน แหม เสี่ยก็ใจร้อนไปได้ ช่วงนี้ที่ไหนๆ ก็ร้อนทั้งนั้น อุณหภูมิบ้านสมันน้อย ยังพุ่งปรืดร้อนไปถึง 44 องศาเลยคร้าบ ทำไมเสี่ยซาอุต้องเป็นเดือดเป็นร้อน ที่พวก Houthi เขาจะลุกขึ้นมาขับไล่รัฐบาลมืออ่อนในบ้านของเขา Foreign Affairs นิตยสาร ของ Council on Foreign Relations (CFR) ถังขยะความคิดจอมจุ้น ลงบทความเรื่อง Houthi and the Blowback เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ค.ศ 2015 นี้ บอกว่า ซาอุดิกำลังใช้กระสุนนัดเดียวยิงนกหลายตัว ซาอุดิถือว่า การที่พวก Houthi กล้าลุกหือขึ้นมาสู้กับรัฐบาลตัวก็เพราะมีลูกพี่อิหร่าน เสี่ยนิวเคลียร์ยุแยง ถ้าเสี่ยใหญ่ซาอุทำเฉย ก็เหมือนจะยอมให้อิหร่านขี่คอ แต่ถ้าปราบ Houthi ให้หมอบราบได้ บารมีของเสี่ยใหญ่ซาอุ ก็จะฉายแสงสำแดงรัศมี ให้ลูกกระเป๋งแถบอ่าว Gulf Cooperation Coucil (GCC) นับถือในความเป็นพี่ใหญ่ของเสี่ยซาอุ ที่สามารถจัดระเบียบในตะวันออกกลางได้ โดยไม่ต้องประสาทหลอนกันว่า เรื่องมันจะบานปลาย เพราะความไม่สมดุลยของอำนาจในตะวันออกกลาง ระหว่างซาอุดิอารเบียกับอิหร่าน หมายความว่าไม่ได้กลัวอิหร่านจนหดหมดอีกแล้ว ถังขยะความคิด CFR ซึ่งเหมือนเป็นผู้ออกใบสั่งนโยบาย ของไอ้นักล่า บอกว่า เสี่ยปั้มทำได้น่า ยิงมันแรงๆ นัดเดียว แล้วได้นกหลายตัวน่ะ ถ้าเล่นให้เป็น ยิงให้แม่น มันจะเป็นการช่วยไม่ให้สถานการณ์การเมืองในตะวันออกกลาง ร้อนฉ่าขึ้นไปอีก เพราะเสี่ยใหญ่ จะกลายเป็นผู้คุมตะวันออกกลาง นี่มันปั่นให้พวกเสี่ยตะวันออกกลางเขาขี่อูฐมาชนกันเองนี่หว่า ไอ้นักล่าใบตองแห้งสงสัยมีแผนชั่ว เยเมน เป็นหนามตำใจของซาอุดิ และกลุ่มประเทศที่อยู่ริมอ่าว รวมทั้งโอมาน มาตั้งแต่ เยเมนตั้งประเทศแล้ว เพราะรสนิยมเยเมน ออกไปทางชอบสีแดง ฝักฝ่ายในลัทธิมาร์กซ ฯลฯ แถมระยะหลัง ยังพ่วงเอาพวกกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง พวกอัลกออิดะ เข้าไปสามัคคีชุมนุมกันอีกด้วย ยิ่งทำให้ ซาอุดิอารเบียที่หลังบ้านติดกับเยเมน นอนหลับแบบผวา ไม่ว่านอนกลางวัน หรือนอนกลางคืน ยิ่งมาเห็น พวก Houthi ทำท่าจะชนะในการไล่รัฐบาลของตัว เสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมัน คนรวยแต่ขวัญอ่อน ก็ยิ่งผวาหนัก นี่ถ้า Houthi ซึ่งเป็นชีอ่ะ และมีอิหร่านหนุน ยึดเยเมนไปได้ พวกเรามิควันโขมงทั้งเมืองหรือ เสี่ยซาอุจึงต้องสั่งระดมพลพรรค ลูกกระเป๋ง ทั้งหลาย เช่น บาห์เรน อียิปต์ จอร์แดน คูเวต มอรอคโค ปากีสถาน กาต้าร์ ซูดาน เอมิเรต มาช่วยกันสำแดงเดช ไม่ให้พวก Houthi ยึดครองเยเมน และมาปิดอ่าวเอเดน Gulf of Aden ด้านเยเมน เสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมันซาอุ โวยข้ามทะเลทรายให้เข้าหูท่านประธานาธิบดีนักล่าใบตองแห้งว่า การใช้กำลังทางอากาศของพวกเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมัน ไม่แน่ว่าจะสามารถจัดการให้เรื่องราวในเยเมนสงบราบเรียบได้หรอกนะ และถ้ามันไม่สงบ ผลกระทบของมันจะบานไปในหลายประเทศเลย และรัศมีอิทธิพลของเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมัน ก็จะแผ่วลงอย่างน่าใจหาย ไอ้ที่จะให้เสี่ยใหญ่ดูแลเด็กๆแถวอ่าว พวก GCC คงเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ ที่สำคัญ มันจะไปกระตุ้นต่อมฮึกเหิมของอิหร่านเสี่ยนิวเคลียร์อย่างช่วยไม่ได้ และแน่นอนเสี่ยนิวเคลียร์ก็คงแบ่งเอาความฮึกเหิมไปทิ้งใว้ใน อิรัค ซีเรีย เลบานอน เยเมน และที่อื่นๆ อีก คิดแล้วเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมันก็รันทดใจ รวยซะเปล่า แต่หามีความสุขไม่ มันเป็นการรำพึงที่น่าสนใจ ว่านักล่าใบตองแห้งจะตอบรับอย่างไร ถังขยะความคิดรีบเติมเชื้อ กลัวเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมันจะระทมไม่พอ บอกว่า อะไรกัน สัมพันธ์ระหว่าง ซาอุดิกับอเมริกาก็ยังแข็งแรง ไม่ได้สั่นคลอนเสียหน่อย ไม่ต้อง ป ส ด ไปก่อน และที่คนแถวนี้พูดกันลั่นไปหมดว่า อเมริกากำลังประะเคนข้อเสนอใส่ถาดทองให้อิหร่าน แลกกับข้อตกลงเรื่องนิวเคลียร์ มันเป็นแค่ข่าวลือเข้าใจไหม คิดมากไปได้น่าเสี่ย แม้หลายคน ในรัฐบาลใบตองแห้ง อาจจะบอกว่า เสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมัน ทำเกินไป ไม่ควรจะต้องไปยกระดับ ยกกำลัง ไปให้ความสำคัญกับพวก Houthi ถึงขนาดนี้ ซึ่งจะทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ทั้งในบ้านตัวเองและในภูมิภาค แต่ในความเป็นจริงด้านยุทธศาสตร์แล้ว เสี่ยใหญ่ไม่ได้ทำพลาดเรื่องเยเมน มันสมควรแล้วที่เสี่ยใหญ่จะต้องประสาทรับประทาน สถานการณ์ในเยเมน เป็นเรื่องคอขาดบาดตายของซาอุดิอารเบียทีเดียว อันที่จริงไม่ใช่เรื่องคอขาดของเสี่ยปั้มน้ำมันฝ่ายเดียว หากเยเมน ยอมให้อิหร่านมานั่งสบายใจอยู่ที่ Bab El Mandebของเยเมน ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือระหว่าง Red sea (ทะเลแดง) อ่าวเอเดน ( Gulf of Aden) และคลองสุเอซ ซึ่งอิหร่านได้พยายามที่จะควบคุมช่องแคบฮอร์มุซ (Strait of Hormuz) ซึ่งเกือบหนึ่งในสี่ ของน้ำมันโลก จะต้องผ่าน แทนที่จะกล่าวหาว่าเสี่ยใหญ่ซาอุ ป ส ด ทางวอชิงตันนั่นแหละ ควรทบทวนท่าทีของตนบ้าง หรือทางวอชิตันมีแผนอะไร ที่เสี่ยใหญ่ไม่รู้ ไม่เฉลียวใจ (2) ไปเอาแผนที่มาดูกันหน่อย จะได้เข้าใจหัวอกเสี่ยใหญ่ซาอุว่า ขวัญแข็ง หรือขวัญอ่อน ประสาทรับประทาน ด้านเหนือของซาอุดิอารเบียติดกับจอร์แดน ซี่งเป็นเด็กอยู่ในบัญชีรายจ่าย ของเสี่ยใหญ่ซาอุ เพราะฉะนั้น ไม่ต้องห่วง ตัดทิ้งไปได้ ถัดไปเป็น อิรัค และเหนืออิรัคเป็นเลบานอน ทั้ง 2 ประเทศ เสี่ยใหญ่ซาอุ กล่าวหา (หรือเป็นเรื่องจริง ! ) ว่า อยู่ในบัญชีรายจ่ายของอิหร่านเสี่ยนิวเคลียร์ ถ้าเป็นเรื่องจริง และถ้าเยเมนตกไปอยู่ในมือ Houthi ซึ่งซาอุก็ว่าอิหร่านสนับสนุนด้วย เช่นกัน ถ้าเด็กในบัญชีอิหร่าน ทั้ง 3 รายการ จับมือกัน ซาอุดิ เท่ากับถูกล็อก ทั้งข้างบนข้างล่าง และประตูออกทะเลของ ซาอุดิอารเบียจะถูกบีบเหลือให้ออกด้านเดียว คือออกได้เฉพาะทางอ่าวเปอร์เซีย แปลว่าอะไรครับ แปลว่าซาอุดิอารเบียถูกบีบให้ไป เดินผ่านปากของอิหร่าน ไปสู่ทะเลที่ อ่าวโอมานเท่านั้น ผ่านกลุ่มประเทศแถบอ่าว เช่น บาห์เรน การ์ต้า อามิเรต โอมาน ฯลฯ แล้วไปออกอ่าว แถบนั้นเต็มไปด้วยฐานทัพอากาศ และฐานทัพเรือที่ประเทศเหล่านั้น ยอมให้อเมริกาขนกองกำลัง ขนอาวุธมาตั้งอยูเต็ม เพื่อเป็นการดักคออิหร่านไว้ และด้วยความพร้อมใจของพวกเสี่ยคนรวย แต่ขวัญอ่อนทั้งหลาย ที่อยากอุ่นอยู่ในเงื้อมมือของนักล่าใบตองแห้ง เออ แดดทะเลทรายมันคงแรงจริง พวกเสี่ยเขาถึงคิดได้เพี้ยนกันแบบนั้น ดูๆก็ ไม่น่าจะเป็นปัญหากับเสี่ยใหญ่ซาอุ ที่มีฐานทัพนักล่าใบตองแห้งอยู่เต็มแถบปากอ่าว แต่เมื่อมันเยื้องอยู่กับปากอิหร่าน ก็ต้องถามเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมันซาอุว่า ด่าอิหร่านเอาไว้แยะ กล้าเดินผ่านปากเขาไหม หรือว่ากล้า เพราะมีฐานทัพของยอดรักนักล่าใบตองแห้ง ต้ังฐานกระจายไว้เต็มอยู่ตรงแถบนั้น เสี่ยก็คิดให้ดีแล้วกันว่า ยามนี้มีฐานทัพของไอ้นักล่าใบตองแห้งอยู่ใกล้ตัว มันเป็นโชคดีหรือโชคร้าย เผลอๆจะเป็นตัวล่อเป้า ไม่ใช่เฉพาะแต่ตัวเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมันเท่าน้ันนะ ที่ต้องระวัง ลูกกระเป๋งที่เอาใจเจ้านายให้เขามาตั้งฐานทัพน่ะอยู่ริมอ่าวน่ะ ระวังจะโดนทะลายหายไปพร้อมกับฐานทัพด้วย Duncan Campbell สื่อกัดติดเรื่องของนาย Edward Snowden จอมแฉ รายงานว่า จากข้อมูลที่จอมแฉทะยอยปล่อยออกมา เมือง Seeb ในรัฐโอมาน เป็นชุมสายใหญ่ของสายไยแก้ว fiber optic ชื่อรหัส CIRCUIT ที่โอมานยอมให้ GCHQ (Government Communication Headquarters) ของอังกฤษ มาติดตั้งระบบ CIRCUIT ของ ECHELON เครื่องดักสัญญานสุดยอดไว้ตั้งแต่ปี 2009 เพื่อเก็บข้อมูลทุกชิ้นที่ผ่าน ไปมาในแถบนั้น และแชร์ข้อมูลกับพวก 5 ตา the Five Eyes คือ อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแคนาดา หลังจากนั้นข้อมูลจะวิ่งขึ้นฝั่งไปถูกเก็บอยู่ที่ คอนวอล (Cornwall) ของอังกฤษ เหมือนกับที่ไปติดตั้งไว้ที่สวีเดน คอยดักข้อมูลของรัสเซีย คราวนี้ คงคอยดักข้อมูลของอิหร่านที่อยู่เยื้องกัน แถมเส้นทางเดินเรือแถบน้ัน อาเฮียของคุณพี่ปูตินเขาก็ชอบใช้ขนน้ำมันจากอาฟริกาไปจีน เรื่องดักฟังที่สวีเดน เขาว่าทำให้สวีเดนได้รับการเยี่ยมเยียน จากเรือดำน้ำรัสเซียถึงหน้ากรุงสต๊อกโฮม คราวนี้ ไม่รู้อาเฮียและอิหร่าน และ ฯลฯ จะส่งอะไรไปเยี่ยมโอมาน แค่มีฐานทัพของไอ้นักล่าใบตองแห้ง อยู่แถบอ่าว ก็เป็นเป้าล่อพอแล้ว คราวนี้ยังมี ลูกปิงปอง ECHELON เครื่องดักสัญญานเป็นสายล่อฟ้า คอยอยู่ที่โอมาน ผมก็กลุ้มใจแทนเสี่ยใหญ่ปั้มนำ้มันซาอุจริงๆ ว่าจะตัดสินใจเดินทางไหน ที่จะทำให้ไม่ต้องทุกข์ระทม แต่ดูจากเรื่องราว และบทความของ Foreign Affairs แล้ว ผมคลับคล้าย คราวนี้ เสี่ยใหญ่ซาอุ จะถูกหลอกใช้ ให้เป็นเครื่องสังเวยยังไงไม่รู้ เขามีแผนอยากได้แต่ปั้มน้ำมัน ไม่อยากได้คนคุมปั้มติดไปด้วย เสี่ยพอนึกออกไหมครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 3 เม.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 688 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่เคยโอนเงินบริจาคให้ "มูลนิธิธรรมนัส" : [THE MESSAGE]

    นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ชี้แจง กรณีเงินบริจาค ยืนยันไม่มีเจตนาเอาเงินไปให้ใคร ไม่มีเงินไปถึงมูลนิธิธรรมนัสฯ ประสานมูลนิธิที่มีความมั่นคงแห่งหนึ่งจะเปลี่ยนไปใช้ชื่อของเขา ตามข้อ 39 สาเหตุที่ไม่มีชื่อเป็นประธานฯ เพราะไม่รับตำแหน่งจะช่วยให้เกิดความโปร่งใส เป็นการคิดต่างกับหลายคน แต่เมื่ออยากให้รับก็จะนั่งประธานฯ เอง ส่วนกรณีผู้บริจาคเงินบางคนขอเงินคืน เงินบริจาคของนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล น่าจะไปทำถนนแล้ว แต่หากไม่สบายใจ จะนำเงินส่วนตัวคืนให้ ยืนยัน ตนเอง ประธาน และกรรมการทุกคน ไม่เคยได้เงินเดือน หรือรายได้ใดๆ จากมูลนิธิฯ ด้านน.ส.กาญจนา สถาวร ประธานมูลนิธิ เผย เงินตั้งมูลนิธิเริ่มต้น 500,000 บาท เป็นการลงขันจากเพื่อนๆ ของกัน มีเงินเข้าทั้งหมด 207 ล้านบาท ใช้ไปแล้ว 117 ล้านบาท มีเงินคงเหลือในบัญชี 90 ล้านบาทหน้างานยังมีภารกิจต่างๆ อยู่ ยืนยัน ไม่ได้เปิดรับเงินบริจาคก่อนมูลนิธิฯ จัดตั้งเสร็จ
    ไม่เคยโอนเงินบริจาคให้ "มูลนิธิธรรมนัส" : [THE MESSAGE] นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ชี้แจง กรณีเงินบริจาค ยืนยันไม่มีเจตนาเอาเงินไปให้ใคร ไม่มีเงินไปถึงมูลนิธิธรรมนัสฯ ประสานมูลนิธิที่มีความมั่นคงแห่งหนึ่งจะเปลี่ยนไปใช้ชื่อของเขา ตามข้อ 39 สาเหตุที่ไม่มีชื่อเป็นประธานฯ เพราะไม่รับตำแหน่งจะช่วยให้เกิดความโปร่งใส เป็นการคิดต่างกับหลายคน แต่เมื่ออยากให้รับก็จะนั่งประธานฯ เอง ส่วนกรณีผู้บริจาคเงินบางคนขอเงินคืน เงินบริจาคของนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล น่าจะไปทำถนนแล้ว แต่หากไม่สบายใจ จะนำเงินส่วนตัวคืนให้ ยืนยัน ตนเอง ประธาน และกรรมการทุกคน ไม่เคยได้เงินเดือน หรือรายได้ใดๆ จากมูลนิธิฯ ด้านน.ส.กาญจนา สถาวร ประธานมูลนิธิ เผย เงินตั้งมูลนิธิเริ่มต้น 500,000 บาท เป็นการลงขันจากเพื่อนๆ ของกัน มีเงินเข้าทั้งหมด 207 ล้านบาท ใช้ไปแล้ว 117 ล้านบาท มีเงินคงเหลือในบัญชี 90 ล้านบาทหน้างานยังมีภารกิจต่างๆ อยู่ ยืนยัน ไม่ได้เปิดรับเงินบริจาคก่อนมูลนิธิฯ จัดตั้งเสร็จ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 466 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่อง ห้องทดลอง
    “ห้องทดลอง”

    (1)

    ผ่านไปไม่กี่วัน จากไปเดินเรียงแถวคล้องแขน แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์น่า สลดที่ปารีส ฝรั่งเศส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม ค.ศ. 2015 ตุรกี ที่ส่งนายกรัฐมนตรี นาย Amed Davutoglu ไปร่วมเดินห่างไม่กี่แถว กับคู่แค้น Benjamin Netanyahu นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ก็เกิดอาการเบรคแตก

    Independent สื่อค่ายชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ฉบับวันที่ 14 มกราคม 2015 รายงานว่า ประธานาธิบดี RecepTayip Erdogan ของตุรกี ให้ข่าวทันที ว่า

    ” พวกตะวันตก the west กำลังเล่นเกมส์ เล่นกันกลางกรุงปารีส ด้วยโดยการโยนให้มุสลิมเป็นเหยื่อ …คนฝรั่งเศส เป็นคนจัดการให้มีการฆ่า แล้วโยนบาปมาให้คนมุสลิม ฝ่ายข่าวกรองของฝรั่งเศส ไม่รู้จักตามรอยคนออกมาจากคุกหรือไง? หลังจากเกิดเหตุ ก็มีการโจมตีสุเหร่าของอิสลาม …เห็นชัดถึงการตอแหล จอมปลอมของพวกตะวันตก เราไม่เคยมีส่วนร่วมในการก่อการร้ายใดเลย …เบื้องหลังเรื่องนี้ มันเกี่ยวกับการแบ่งแยกเรื่องเชื้อชาติ สร้างคำพูดใส่ร้าย และสร้างความเกลียดชังให้กับพวกมุสลิม”

    “กำลังมีการเล่นเกมส์กับโลกมุสลิม เราต้องรับรู้เรื่องนี้กันไว้ ” นาย Erdogan กล่าวเพิ่ม

    สหภาพมุสลิมในฝรั่งเศสรายงานว่า ตั้งแต่เกิดเหตุ มีเหตุการณ์ที่แสดงถึงการต่อต้านมุสลิมประมาณ 50 รายการ ซึ่งรวมถึงการไล่ยิง และการพยายามเผาสุเหร่า

    นาย Erdogan ยังไม่จบง่ายๆ ด่าฝากแถมไปถึงการไปเดินเรียงแถวของ นาย Netanyahoo ว่า
    เขาทำไปได้ยังไง ทำไมคนที่สั่งฆ่าคน 2,500 คน ที่กาซ่า ยังมีหน้ามาเดินโบกมืออยู่ในปารีส เหมือนมีคนมาคอยต้อนรับด้วยความตื่นเต้น กล้าดีไปเดินอยู่ที่นั่นได้ยังไง ไม่นึกถึง เด็กและผู้หญิง ที่ตัวเองฆ่าบ้างเลยหรือ”

    คงยังไม่หนำใจ นายกเทศมนตรี เมืองหลวง Ankara ของตุรกี ช่วยออกมาเสริมอีก
    ” นี่ต้องเป็นผลงานของ Mossad ( หน่วยสืบราชการลับของอิสราเอล ที่ฝีมือชั่วไม่แพ้ CIA หรืออาจจะมากกว่า! ) อยู่เบื้องหลังแน่นอน เป็นการเพิ่มความรังเกียจต่อคนอิสลาม”

    โห รายการนี้ด่ากันแรงนะครับ ถ้าตุรกีไม่ได้ไปถูกเสี้ยนตำตีน หรือเหยียบไปบนขี้หมากองโต ที่กลางกรุงปารีส ระหว่างเดินเรียงแถวกันละก้อ สงสัยต้องมีเรื่องใหญ่คิดการณ์เอาไว้แล้ว ถึงได้ตอกใส่กันแรงขนาดนี้

    ฝ่ายอิสราเอล ก็ไม่ใช่เล่น ถูกด่าปั้บ ออกมาตอกกลับทันที ยังกะสั่งหนังสือพิมพ์ ให้ออกข่าวรอล่วงหน้า เหมือนกับรู้ว่า อีกฝ่ายจะพูดอะไร

    วันที่ 14 มกราคม วันเดียวกัน หนังสือพิมพ์ the Jerusalem Post ลงข่าวว่า นายกรัฐมนตรี Netanyahoo และรัฐมนตรีต่างประเทศ นาย Avigdor Liberman บอกว่า นาย Erdogan ของตุรกี เป็นพวกเกลียดยิว anti-Semitic เป็นเพื่อนบ้านจอมป่วน และกล่าวอ้อมๆว่า ตุรกีให้การสนับสนุนแก่ผู้ก่อการร้าย

    ” การปราบปรามผู้ก่อการร้าย ไม่มีวันทำสำเร็จหรอก ถ้าเรายังใช้วิธีเสแสร้ง หน้าไหว้หลังหลอกกันอยู่อย่างนี้ เราไม่ได้ยินผู้นำระดับโลกคนใดเลย ออกมามาประนามคำพูดของนาย Erdogan ไม่มีสักคนจริงๆ ” นาย Netanyahoo สำทับ

    คำสำทับนี้ดูเหมือนไม่ได้ส่งกลับ ไปที่ นาย Erdogan แต่น่าจะส่งไปไกลกว่านั้น

    เป็นที่รู้กันอยู่ว่า ตอนนี้นายโอบามา ไม่หวานชื่นกับ Nethanyahoo ไม่เหมือน ประธานาธิบดีอเมริกันคนอื่นๆ ที่คอยเอาใจพวกยิว โดยเฉพาะ ก่อนการเลือกตั้ง

    ขณะที่อิสราเอลเหน็บอเมริกา ตุรกี ซึ่งอเมริกามองว่าเป็นลูกกระเป๋งมาตลอด แต่กลับเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลก ที่ให้การสนับสนุนอย่างเปิดเผยต่อ องค์กรฮามาส Hamas ที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวของชาวปาเลสไตน์ และเป็นองค์กรที่อเมริกา และสหภาพยุโรป ต่างขึ้นบัญชีดำ ให้เป็นผู้ก่อการร้ายระดับสำคัญ แต่ดูเหมือนตุรกีจะไม่สนใจ
    แถมล่าสุดเมื่อปลายเดือนธันวา คม ปี 2014 ตุรกีได้เชิญ นาย Khaled Meshaal หัวหน้ากลุ่มฮามาส ไปเยียนตุรกี และเอานาย Meshaal ไปเข้าร่วมประชุมพรรค AKP ของประธานาธิบดี Erdogan ด้วย แน่จริงๆ เรียกว่าท้าทายกันแบบไม่เกรงใจใครเลย
    เอะ แล้วตุรกีต้องเกรงใจใครหรือ?!

    ข่าวหัวหน้าฮามาส ไปเดินฉุยฉายลอยชายอยู่ตุรกี แน่นอนยอมมีคนหงุดหงิด นักล่าใบตองแห้งหงุดหงิดง่ายอ ยู่แล้ว แค่ลมพัดใบตองแห้ง แกว่งแรงไปหน่อย ยังออกเสียงฮึมแฮ่เลย นี่หัวหน้าฮามาส ที่นักล่า อยากขยี้มาหลายรอบ แต่ไม่สำเร็จ ตอนนี้ลงทุนเปลี่ยนแผน ขยี้ไม่ตาย แต่ถ้าซื้อขายอาจจะโอเคมั่งนะ แต่ขอโทษ ฮามาส นอกจากไม่ยอมขายตัวแล้ว ยังไปนั่งสบายใจ เฮฮา กับสุดยอดนักไต่ลวด นายErdogan แชมป์เล่นเกมเสียว เหมือนโชว์ให้ใครดูเสียอีก แบบนี้นักล่าหรือจะปล่อยไปเฉยๆ

    วันที่ 8 มกราคม คศ 2015 คุณหนูเจน Psaki โฆษก กระทรวงการต่างประเทศของนักล่า เลยต้องออกมาทำหน้าเครียดแถลงข่าวว่า

    ” ท่าทีของเราต่อขบวนการฮามาสยังไม่เปลี่ยนนะ ฮามาสคือองค์กรต่างประเทศที่เกี่ยวพันกับการก่อการร้ายมาอย่างต่อเนื่อง และฮามาส ได้แสดงให้เห็นถึงเจตนาอย่างชัดเจนในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา (ช่วงสิงหาคม ปีที่แล้ว) ในความขัดแย้งกับอิสราเอล”

    “เรามีความเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีกับฮามาส และเมื่อรู้ว่า Meshaal ไปเยี่ยมตุรกี เราได้ขอให้รัฐบาลตุรกีกดดันฮามาส เพื่อลดความตึงเครียดและป้องกันความรุนแรง” แหม คุณหนู ช่างไม่มีศิลปะในการพูดเสียเลย มิน่าแถลงข่าวที่ไร ถูกนักข่าวหนุ่มๆ ต้อนจนติดอ่าง ฮา

    ขณะเดียวกันมีข่าวว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของตุรกีบอกว่า ตุรกียินดีต้อนรับ Khaled Meshaal หัวหน้าฮามาส หลังจากมีข่าวว่า Meshaal ซึ่งลี้ภัยไปอยู่ที่กาต้าร์ ได้ถูกทางการของกาต้าร์ ขับออกนอกประเทศแล้ว และเขาอาจจะไปตุรกี

    เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกีบอกว่า ไม่ว่าใคร จะเป็นคนของประเทศใด ก็สามารถเข้าออกตุรกีได้อยู่แล้ว ตราบใดที่ไม่มีปัญหาด้านกฏหมาย นี่มันต้องตอบแบบกลิ้งได้หลายตลบอย่างนี้ สมกับเป็นพวกนักไต่ลวดจริงๆ นักล่าใบตองแห้งน่าจะส่งคุณหนู Psaki มาฝึกงานแถวตุรกีซะหน่อยนะ ฮาอีกครั้ง

    อเมริกา อิสราเอล และตุรกี กำลังมีอะไรคาใจ หรือเล่นบทอะไรกันอยู่หรือ ถึงใช้วิธีเหมือนกาฝาก บินโฉบทิ้งของที่ระลึก แล้วแฉลบข้ามไปต่อ

    #######
    (2)

    ฝ่ายทางกลุ่มฮามาสเองก็ฉุนขาด เมื่อได้ฟังคำวิจารณ์ของอเมริกา เกี่ยวกับการไปนั่งชมวิวตุรกีของนายMehsaal ที่ถ่ายทอดโดยฝีปากของคุณหนู Psaki บอกว่าอเมริกาสามหาว และเหยียดเผ่าพันธ์มากไปแล้ว รัฐบาลอเมริกากำลังไต่อันดับ ทำตัวเข้าข่ายเป็นศัตรูที่แท้จริงของพวกเขาทีเดียว ทั้งนี้ตามคำแถลงของ Al-Qassam Brigades ฝ่ายกองทัพของกลุ่มฮามาส

    ส่วนเรื่องกาต้าร์ขับไล่ นายMeshaal ออกจากประเทศ กาต้าร์ไม่ยืนยัน แต่เมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว กาต้าร์ขับไล่ระดับหัวหน้าของ Muslim Brotherhood 7 คน ที่กาต้าร์เลี้ยงดูไว้นานแล้วออกจากประเทศ เพื่อเป็นการเอาใจพวกราชวงศ์เสี่ยน้ำมันตะวันออกกลาง และรัฐบาลอียิปต์ อืม มาแปลก

    กาต้าร์ไม่ใช่นายทุนรายเดียวที่สนับสนันเลี้ยงดู Muslim Brotherhood ตุรกีก็สนับสนุนเช่นเดียวกัน

    Muslim Brotherhood เป็นกลุ่มอิสลามฝักใฝ่การเมือง ที่รวมตัวกันขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะโค่นล้มรัฐบาลอิสลาม ที่อยู่ใต้อิทธิพลของอเมริกา ตุรกีย่อมให้การสนับสนุนไว้ก่อน เพราะยังไม่แน่ใจอนาคตของตนเอง ส่วนกาต้าร์ละ เข้าไปเกี่ยวอะไรด้วย

    เมื่ออียิปต์เกิดอาหรับสปริง ที่ไม่แน่ว่า สาเหตุจะมาจากการที่ นายมูบารัค ของอียิปต์มีนโยบายเกี่ยวกับปาเลสไตน์ สวนทางกับอิสราเอลหรือเปล่า และอเมริกาภายใต้การกดดันของอิสราเอล จึงส่งอาหรับสปริง เป็นของขวัญให้นายมูบารัค

    ลูกไปเข้าทางของ Muslim Brotherhood อิยิปต์จึงได้ นาย Mohamed Morsi ของ Muslim Brotherhood มาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเรื่องถูกใจตุรกีอย่างยิ่ง เพราะถ้าอิยิปต์ซึ่งมีอาณาเขต ด้านหนึ่ง ติดกับด้านใต้ของอิสราเอล มีผู้มีอำนาจปกครองเป็นพวกเดียวกับตุรกี เมื่อไหร่ที่อิสราเอลทำซ่า อาละวาดใส่ปาเลสไตน์ที่ตุรกีสนับสนุนมาตลอด ตุรกีกับอิยิปต์ซึ่งมีอาณาเขตประกบหัวท้ายอิสราเอลอยู่ คิดเล่นแซนด์วิช ผลัดกันโยนหัวปลีข้ามใส่อิสราเอล ก็น่าจะลดความกร่างของอิสราเอลไปได้บ้าง
    และก็เพราะการเดินสัมพันธ์ระหว่างประเทศแบบนี้ ในช่วงหลังๆของตุรกี โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับอิสราเอล สัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับตุรกี จึงไม่หวานอย่างเดิม และมีส่วนให้ นาย Morsi ของ Muslim Brotherhood น่าจะถูกใบสั่ง ให้ทหารอียิปต์ทำการปฏิวัติซ้อน ทำเอา นาย Morsi หล่นจากแท่นอำนาจไปอย่างรวดเร็ว หลังจากขึ้นมามีอำนาจได้เพียงปีเดียว ดูกันไว้เป็นตัวอย่างนะครับ ว่าเขาเล่นเกมกันอย่างไร

    นอกจากมีเรื่องกับอิสราเอลแล้ว เรื่องซีเรียก็เป็นปัญหาใหญ่ อเมริกาบอกชักจะเบื่อการเล่นเกมของตุรกี ที่พักหลังมีแต่ all pain, no gain แล้วนะ เราชักอยากให้ตุรกีเลือกข้างมาให้ชัดๆเลย เราไม่สนใจ และไม่เดือดร้อนเลย ถ้าไม่ได้ใช้ฐานทัพของเรา ที่อยู่ในตุรกีเพื่อทำการฝึกให้กับฝ่ายต่อต้านไอซิส หรือต่อต้านซีเรีย เราไม่ได้ต้องการให้กองทัพตุรกี ไปสู้ศึกที่ซีเรีย ที่เราต้องต้องการให้ตุรกีทำคือ ให้ตุรกีไปสืบดูให้ได้ และขจัดเส้นทางเข้าออกของผู้ก่อการร้าย เครือข่ายการธุรกิจ และการเงิน ที่ทำผ่านตุรกี ไปให้ซีเรีย ที่ทำให้กลุ่มผู้ก่อการร้ายนี้โตขึ้นอย่างมากใน 3 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ตุรกีทำไม่ได้ หรือไม่ทำให้อเมริกา

    จะให้เข้าใจเรื่องนี้ดีขึ้น ผมขอแนะนำให้ท่านผู้อ่าน ไปเอาแผนที่มากางดู อียิปต์อยู่ด้านล่าง ถัดขึ้นมาข้างบนเอียงขวาหน่อย เป็นอิสราเอล เหนืออิสราเอลเป็นเลบานอน ระหว่างอิสราเอลกับเลบานอนมีเนื้อที่แถบเล็กๆ คือปาเลสไตน์ เหนือเลบานอนเป็นซีเรียและอิรัค เหนือชีเรียเป็นตุรกี เหนือตรุกีเป็นจอร์เจีย ใกล้กับเขตแดนรัสเซีย เหนืออิรัคเป็นอิหร่าน ซึ่งมีเขตแดนติดกับรัสเซียยาวเหยียด

    เล่าแผนที่มายาว เพื่อให้เห็นความสำคัญของปาเลสไตน์ เลบานอน ซีเรีย ตุรกี อิรัค และอิหร่าน ซึ่งเหมือนขนมชั้น ขวางทางเข้าสู่รัสเซีย มันเป็นขนมชั้นที่มีความสำคัญ ทั้งในมิติของสงครามภูมิภาค และมิติสงครามโลก !

    และหมากที่จะเดินให้เป็นสงครามภูมิภาค หรือสงครามโลกตัวสำคัญตัวหนึ่งของฝ่ายอเมริกาคือ อิสราเอล ซึ่งมีอิทธิพล และเล่ห์เหลี่ยมสูงมาก ถึงขนาด อาจจะเป็นตัวบีบ ให้อเมริกาเดินหมากตัวอื่นตามที่ตนเองต้องการ เผลอๆอาจจะเหลี่ยมสูง ถึงขนาดบีบให้ตัวอเมริกาเอง เดินตามที่อิสราเอลหลอกให้เดินก็มีทางเป็นไปได้

    ในขณะที่ตุรกีเป็นหมากตัวใหม่ ที่เหมือนแสดงตัวเปิดเผยว่า เราไม่ใช่อยู่ฝ่ายอเมริกาแล้วนะ ตุรกีและ อิหร่าน น่าจะเป็นหมากที่เดินตามจังหวะที่น่าสนใจ ให้กับฝ่ายรัสเซียในตะวันออกกลาง

    การขยับของอิสราเอล ตุรกี และอิหร่าน ย่อมมีความหมาย ไม่น้อยกว่าการขยับของฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมัน ในยุโรป มันดูเหมือนเป็นคนละเรื่อง แต่มันอาจจะเป็นเรื่องเดียวกัน หรือต่อเนื่องกัน จึงโปรดอย่าลืมจับตา คอยดูการขยับของหมากทั้ง 6 ตัวนี้

    #####
    (3)

    อิหร่าน เป็นหมากอีกตัวที่สำคัญของฝ่ายรัสเซีย เพราะมีข่าวว่า กำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อย่าง ซุ่มเงียบ อเมริกานักล่าใบตองแห้ง แน่นอน ย่อมหงุดหงิดออกอาการ น้ำลายฟูมปาก แต่ก็คิดหนัก เพราะอิหร่านนั้น เหมือนผีดิบคืนชีพ โดนอเมริกาบดขยี้มาหลายรอบ ไม่ตายคาที่เสียที แค่ช้ำใน กลัดหนองอยู่นาน ปล่อยให้อิหร่านพัฒนานิวเคลียร์ไปเรื่อยๆ นอกจากเป็นการเสริมเขี้ยวเล็บให้ ทั้งอิหร่านเอง และช่วยฝ่ายรัสเซียแล้ว ยังทำให้อิสราเอลไข้ขึ้น รู้สึกหนาวสั่นกลางแดดได้ ในตะวันออกกลาง แต่สูตรยาขจัดอิหร่านแบบยกเดียวจบ อเมริกายังคิดไม่สำเร็จ

    อิสราเอลตัวแสบ ต้องรู้อะไรลึกและมีแผนซับซ้อน จึงหนุน แนะ หรือสั่งให้อเมริกาใช้วิธีเจรจากับอิหร่านไปพลางๆก่อน และอเมริกาก็หันมาสั่งสหภาพยุโรปอีกต่อ เจรจากับอิหร่านต่อไปนะพวก เอะ ตกลงใครใหญ่กันแน่

    การเจรจากับอิหร่านในปี 2014 ดูเหมือนราบรื่นดี ผู้ที่รับบทหนักในการเดินสาย เดินสารปั่นหัว เหล่าคณะกรรมการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์ กับอิหร่าน คือ รัฐมนตรีด้านงานข่าวกรอง Minister of Intelligence ของอิสราเอล นาย Yuval Steinitz ซึ่งเดินทางจนนักข่าวแซวว่า ได้ไมล์เลจเป็นบัตรแพลตินั่มหลายใบแล้ว นาย Steinitz เป็นคนไปเอาเอกสารลับมาป้อนให้ คณะกรรมการเจรจา เอาไว้ยันหน้ากับอิหร่าน นอกจากนั้น ทีมงานข่าวกรองของอิสราเอล หน่วยงาน Mossad ก็ทำงานหนัก เพราะเป็นตัวจริง
    เรื่อง ห้องทดลอง “ห้องทดลอง” (1) ผ่านไปไม่กี่วัน จากไปเดินเรียงแถวคล้องแขน แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์น่า สลดที่ปารีส ฝรั่งเศส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม ค.ศ. 2015 ตุรกี ที่ส่งนายกรัฐมนตรี นาย Amed Davutoglu ไปร่วมเดินห่างไม่กี่แถว กับคู่แค้น Benjamin Netanyahu นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ก็เกิดอาการเบรคแตก Independent สื่อค่ายชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ฉบับวันที่ 14 มกราคม 2015 รายงานว่า ประธานาธิบดี RecepTayip Erdogan ของตุรกี ให้ข่าวทันที ว่า ” พวกตะวันตก the west กำลังเล่นเกมส์ เล่นกันกลางกรุงปารีส ด้วยโดยการโยนให้มุสลิมเป็นเหยื่อ …คนฝรั่งเศส เป็นคนจัดการให้มีการฆ่า แล้วโยนบาปมาให้คนมุสลิม ฝ่ายข่าวกรองของฝรั่งเศส ไม่รู้จักตามรอยคนออกมาจากคุกหรือไง? หลังจากเกิดเหตุ ก็มีการโจมตีสุเหร่าของอิสลาม …เห็นชัดถึงการตอแหล จอมปลอมของพวกตะวันตก เราไม่เคยมีส่วนร่วมในการก่อการร้ายใดเลย …เบื้องหลังเรื่องนี้ มันเกี่ยวกับการแบ่งแยกเรื่องเชื้อชาติ สร้างคำพูดใส่ร้าย และสร้างความเกลียดชังให้กับพวกมุสลิม” “กำลังมีการเล่นเกมส์กับโลกมุสลิม เราต้องรับรู้เรื่องนี้กันไว้ ” นาย Erdogan กล่าวเพิ่ม สหภาพมุสลิมในฝรั่งเศสรายงานว่า ตั้งแต่เกิดเหตุ มีเหตุการณ์ที่แสดงถึงการต่อต้านมุสลิมประมาณ 50 รายการ ซึ่งรวมถึงการไล่ยิง และการพยายามเผาสุเหร่า นาย Erdogan ยังไม่จบง่ายๆ ด่าฝากแถมไปถึงการไปเดินเรียงแถวของ นาย Netanyahoo ว่า เขาทำไปได้ยังไง ทำไมคนที่สั่งฆ่าคน 2,500 คน ที่กาซ่า ยังมีหน้ามาเดินโบกมืออยู่ในปารีส เหมือนมีคนมาคอยต้อนรับด้วยความตื่นเต้น กล้าดีไปเดินอยู่ที่นั่นได้ยังไง ไม่นึกถึง เด็กและผู้หญิง ที่ตัวเองฆ่าบ้างเลยหรือ” คงยังไม่หนำใจ นายกเทศมนตรี เมืองหลวง Ankara ของตุรกี ช่วยออกมาเสริมอีก ” นี่ต้องเป็นผลงานของ Mossad ( หน่วยสืบราชการลับของอิสราเอล ที่ฝีมือชั่วไม่แพ้ CIA หรืออาจจะมากกว่า! ) อยู่เบื้องหลังแน่นอน เป็นการเพิ่มความรังเกียจต่อคนอิสลาม” โห รายการนี้ด่ากันแรงนะครับ ถ้าตุรกีไม่ได้ไปถูกเสี้ยนตำตีน หรือเหยียบไปบนขี้หมากองโต ที่กลางกรุงปารีส ระหว่างเดินเรียงแถวกันละก้อ สงสัยต้องมีเรื่องใหญ่คิดการณ์เอาไว้แล้ว ถึงได้ตอกใส่กันแรงขนาดนี้ ฝ่ายอิสราเอล ก็ไม่ใช่เล่น ถูกด่าปั้บ ออกมาตอกกลับทันที ยังกะสั่งหนังสือพิมพ์ ให้ออกข่าวรอล่วงหน้า เหมือนกับรู้ว่า อีกฝ่ายจะพูดอะไร วันที่ 14 มกราคม วันเดียวกัน หนังสือพิมพ์ the Jerusalem Post ลงข่าวว่า นายกรัฐมนตรี Netanyahoo และรัฐมนตรีต่างประเทศ นาย Avigdor Liberman บอกว่า นาย Erdogan ของตุรกี เป็นพวกเกลียดยิว anti-Semitic เป็นเพื่อนบ้านจอมป่วน และกล่าวอ้อมๆว่า ตุรกีให้การสนับสนุนแก่ผู้ก่อการร้าย ” การปราบปรามผู้ก่อการร้าย ไม่มีวันทำสำเร็จหรอก ถ้าเรายังใช้วิธีเสแสร้ง หน้าไหว้หลังหลอกกันอยู่อย่างนี้ เราไม่ได้ยินผู้นำระดับโลกคนใดเลย ออกมามาประนามคำพูดของนาย Erdogan ไม่มีสักคนจริงๆ ” นาย Netanyahoo สำทับ คำสำทับนี้ดูเหมือนไม่ได้ส่งกลับ ไปที่ นาย Erdogan แต่น่าจะส่งไปไกลกว่านั้น เป็นที่รู้กันอยู่ว่า ตอนนี้นายโอบามา ไม่หวานชื่นกับ Nethanyahoo ไม่เหมือน ประธานาธิบดีอเมริกันคนอื่นๆ ที่คอยเอาใจพวกยิว โดยเฉพาะ ก่อนการเลือกตั้ง ขณะที่อิสราเอลเหน็บอเมริกา ตุรกี ซึ่งอเมริกามองว่าเป็นลูกกระเป๋งมาตลอด แต่กลับเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลก ที่ให้การสนับสนุนอย่างเปิดเผยต่อ องค์กรฮามาส Hamas ที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวของชาวปาเลสไตน์ และเป็นองค์กรที่อเมริกา และสหภาพยุโรป ต่างขึ้นบัญชีดำ ให้เป็นผู้ก่อการร้ายระดับสำคัญ แต่ดูเหมือนตุรกีจะไม่สนใจ แถมล่าสุดเมื่อปลายเดือนธันวา คม ปี 2014 ตุรกีได้เชิญ นาย Khaled Meshaal หัวหน้ากลุ่มฮามาส ไปเยียนตุรกี และเอานาย Meshaal ไปเข้าร่วมประชุมพรรค AKP ของประธานาธิบดี Erdogan ด้วย แน่จริงๆ เรียกว่าท้าทายกันแบบไม่เกรงใจใครเลย เอะ แล้วตุรกีต้องเกรงใจใครหรือ?! ข่าวหัวหน้าฮามาส ไปเดินฉุยฉายลอยชายอยู่ตุรกี แน่นอนยอมมีคนหงุดหงิด นักล่าใบตองแห้งหงุดหงิดง่ายอ ยู่แล้ว แค่ลมพัดใบตองแห้ง แกว่งแรงไปหน่อย ยังออกเสียงฮึมแฮ่เลย นี่หัวหน้าฮามาส ที่นักล่า อยากขยี้มาหลายรอบ แต่ไม่สำเร็จ ตอนนี้ลงทุนเปลี่ยนแผน ขยี้ไม่ตาย แต่ถ้าซื้อขายอาจจะโอเคมั่งนะ แต่ขอโทษ ฮามาส นอกจากไม่ยอมขายตัวแล้ว ยังไปนั่งสบายใจ เฮฮา กับสุดยอดนักไต่ลวด นายErdogan แชมป์เล่นเกมเสียว เหมือนโชว์ให้ใครดูเสียอีก แบบนี้นักล่าหรือจะปล่อยไปเฉยๆ วันที่ 8 มกราคม คศ 2015 คุณหนูเจน Psaki โฆษก กระทรวงการต่างประเทศของนักล่า เลยต้องออกมาทำหน้าเครียดแถลงข่าวว่า ” ท่าทีของเราต่อขบวนการฮามาสยังไม่เปลี่ยนนะ ฮามาสคือองค์กรต่างประเทศที่เกี่ยวพันกับการก่อการร้ายมาอย่างต่อเนื่อง และฮามาส ได้แสดงให้เห็นถึงเจตนาอย่างชัดเจนในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา (ช่วงสิงหาคม ปีที่แล้ว) ในความขัดแย้งกับอิสราเอล” “เรามีความเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีกับฮามาส และเมื่อรู้ว่า Meshaal ไปเยี่ยมตุรกี เราได้ขอให้รัฐบาลตุรกีกดดันฮามาส เพื่อลดความตึงเครียดและป้องกันความรุนแรง” แหม คุณหนู ช่างไม่มีศิลปะในการพูดเสียเลย มิน่าแถลงข่าวที่ไร ถูกนักข่าวหนุ่มๆ ต้อนจนติดอ่าง ฮา ขณะเดียวกันมีข่าวว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของตุรกีบอกว่า ตุรกียินดีต้อนรับ Khaled Meshaal หัวหน้าฮามาส หลังจากมีข่าวว่า Meshaal ซึ่งลี้ภัยไปอยู่ที่กาต้าร์ ได้ถูกทางการของกาต้าร์ ขับออกนอกประเทศแล้ว และเขาอาจจะไปตุรกี เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกีบอกว่า ไม่ว่าใคร จะเป็นคนของประเทศใด ก็สามารถเข้าออกตุรกีได้อยู่แล้ว ตราบใดที่ไม่มีปัญหาด้านกฏหมาย นี่มันต้องตอบแบบกลิ้งได้หลายตลบอย่างนี้ สมกับเป็นพวกนักไต่ลวดจริงๆ นักล่าใบตองแห้งน่าจะส่งคุณหนู Psaki มาฝึกงานแถวตุรกีซะหน่อยนะ ฮาอีกครั้ง อเมริกา อิสราเอล และตุรกี กำลังมีอะไรคาใจ หรือเล่นบทอะไรกันอยู่หรือ ถึงใช้วิธีเหมือนกาฝาก บินโฉบทิ้งของที่ระลึก แล้วแฉลบข้ามไปต่อ ####### (2) ฝ่ายทางกลุ่มฮามาสเองก็ฉุนขาด เมื่อได้ฟังคำวิจารณ์ของอเมริกา เกี่ยวกับการไปนั่งชมวิวตุรกีของนายMehsaal ที่ถ่ายทอดโดยฝีปากของคุณหนู Psaki บอกว่าอเมริกาสามหาว และเหยียดเผ่าพันธ์มากไปแล้ว รัฐบาลอเมริกากำลังไต่อันดับ ทำตัวเข้าข่ายเป็นศัตรูที่แท้จริงของพวกเขาทีเดียว ทั้งนี้ตามคำแถลงของ Al-Qassam Brigades ฝ่ายกองทัพของกลุ่มฮามาส ส่วนเรื่องกาต้าร์ขับไล่ นายMeshaal ออกจากประเทศ กาต้าร์ไม่ยืนยัน แต่เมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว กาต้าร์ขับไล่ระดับหัวหน้าของ Muslim Brotherhood 7 คน ที่กาต้าร์เลี้ยงดูไว้นานแล้วออกจากประเทศ เพื่อเป็นการเอาใจพวกราชวงศ์เสี่ยน้ำมันตะวันออกกลาง และรัฐบาลอียิปต์ อืม มาแปลก กาต้าร์ไม่ใช่นายทุนรายเดียวที่สนับสนันเลี้ยงดู Muslim Brotherhood ตุรกีก็สนับสนุนเช่นเดียวกัน Muslim Brotherhood เป็นกลุ่มอิสลามฝักใฝ่การเมือง ที่รวมตัวกันขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะโค่นล้มรัฐบาลอิสลาม ที่อยู่ใต้อิทธิพลของอเมริกา ตุรกีย่อมให้การสนับสนุนไว้ก่อน เพราะยังไม่แน่ใจอนาคตของตนเอง ส่วนกาต้าร์ละ เข้าไปเกี่ยวอะไรด้วย เมื่ออียิปต์เกิดอาหรับสปริง ที่ไม่แน่ว่า สาเหตุจะมาจากการที่ นายมูบารัค ของอียิปต์มีนโยบายเกี่ยวกับปาเลสไตน์ สวนทางกับอิสราเอลหรือเปล่า และอเมริกาภายใต้การกดดันของอิสราเอล จึงส่งอาหรับสปริง เป็นของขวัญให้นายมูบารัค ลูกไปเข้าทางของ Muslim Brotherhood อิยิปต์จึงได้ นาย Mohamed Morsi ของ Muslim Brotherhood มาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเรื่องถูกใจตุรกีอย่างยิ่ง เพราะถ้าอิยิปต์ซึ่งมีอาณาเขต ด้านหนึ่ง ติดกับด้านใต้ของอิสราเอล มีผู้มีอำนาจปกครองเป็นพวกเดียวกับตุรกี เมื่อไหร่ที่อิสราเอลทำซ่า อาละวาดใส่ปาเลสไตน์ที่ตุรกีสนับสนุนมาตลอด ตุรกีกับอิยิปต์ซึ่งมีอาณาเขตประกบหัวท้ายอิสราเอลอยู่ คิดเล่นแซนด์วิช ผลัดกันโยนหัวปลีข้ามใส่อิสราเอล ก็น่าจะลดความกร่างของอิสราเอลไปได้บ้าง และก็เพราะการเดินสัมพันธ์ระหว่างประเทศแบบนี้ ในช่วงหลังๆของตุรกี โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับอิสราเอล สัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับตุรกี จึงไม่หวานอย่างเดิม และมีส่วนให้ นาย Morsi ของ Muslim Brotherhood น่าจะถูกใบสั่ง ให้ทหารอียิปต์ทำการปฏิวัติซ้อน ทำเอา นาย Morsi หล่นจากแท่นอำนาจไปอย่างรวดเร็ว หลังจากขึ้นมามีอำนาจได้เพียงปีเดียว ดูกันไว้เป็นตัวอย่างนะครับ ว่าเขาเล่นเกมกันอย่างไร นอกจากมีเรื่องกับอิสราเอลแล้ว เรื่องซีเรียก็เป็นปัญหาใหญ่ อเมริกาบอกชักจะเบื่อการเล่นเกมของตุรกี ที่พักหลังมีแต่ all pain, no gain แล้วนะ เราชักอยากให้ตุรกีเลือกข้างมาให้ชัดๆเลย เราไม่สนใจ และไม่เดือดร้อนเลย ถ้าไม่ได้ใช้ฐานทัพของเรา ที่อยู่ในตุรกีเพื่อทำการฝึกให้กับฝ่ายต่อต้านไอซิส หรือต่อต้านซีเรีย เราไม่ได้ต้องการให้กองทัพตุรกี ไปสู้ศึกที่ซีเรีย ที่เราต้องต้องการให้ตุรกีทำคือ ให้ตุรกีไปสืบดูให้ได้ และขจัดเส้นทางเข้าออกของผู้ก่อการร้าย เครือข่ายการธุรกิจ และการเงิน ที่ทำผ่านตุรกี ไปให้ซีเรีย ที่ทำให้กลุ่มผู้ก่อการร้ายนี้โตขึ้นอย่างมากใน 3 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ตุรกีทำไม่ได้ หรือไม่ทำให้อเมริกา จะให้เข้าใจเรื่องนี้ดีขึ้น ผมขอแนะนำให้ท่านผู้อ่าน ไปเอาแผนที่มากางดู อียิปต์อยู่ด้านล่าง ถัดขึ้นมาข้างบนเอียงขวาหน่อย เป็นอิสราเอล เหนืออิสราเอลเป็นเลบานอน ระหว่างอิสราเอลกับเลบานอนมีเนื้อที่แถบเล็กๆ คือปาเลสไตน์ เหนือเลบานอนเป็นซีเรียและอิรัค เหนือชีเรียเป็นตุรกี เหนือตรุกีเป็นจอร์เจีย ใกล้กับเขตแดนรัสเซีย เหนืออิรัคเป็นอิหร่าน ซึ่งมีเขตแดนติดกับรัสเซียยาวเหยียด เล่าแผนที่มายาว เพื่อให้เห็นความสำคัญของปาเลสไตน์ เลบานอน ซีเรีย ตุรกี อิรัค และอิหร่าน ซึ่งเหมือนขนมชั้น ขวางทางเข้าสู่รัสเซีย มันเป็นขนมชั้นที่มีความสำคัญ ทั้งในมิติของสงครามภูมิภาค และมิติสงครามโลก ! และหมากที่จะเดินให้เป็นสงครามภูมิภาค หรือสงครามโลกตัวสำคัญตัวหนึ่งของฝ่ายอเมริกาคือ อิสราเอล ซึ่งมีอิทธิพล และเล่ห์เหลี่ยมสูงมาก ถึงขนาด อาจจะเป็นตัวบีบ ให้อเมริกาเดินหมากตัวอื่นตามที่ตนเองต้องการ เผลอๆอาจจะเหลี่ยมสูง ถึงขนาดบีบให้ตัวอเมริกาเอง เดินตามที่อิสราเอลหลอกให้เดินก็มีทางเป็นไปได้ ในขณะที่ตุรกีเป็นหมากตัวใหม่ ที่เหมือนแสดงตัวเปิดเผยว่า เราไม่ใช่อยู่ฝ่ายอเมริกาแล้วนะ ตุรกีและ อิหร่าน น่าจะเป็นหมากที่เดินตามจังหวะที่น่าสนใจ ให้กับฝ่ายรัสเซียในตะวันออกกลาง การขยับของอิสราเอล ตุรกี และอิหร่าน ย่อมมีความหมาย ไม่น้อยกว่าการขยับของฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมัน ในยุโรป มันดูเหมือนเป็นคนละเรื่อง แต่มันอาจจะเป็นเรื่องเดียวกัน หรือต่อเนื่องกัน จึงโปรดอย่าลืมจับตา คอยดูการขยับของหมากทั้ง 6 ตัวนี้ ##### (3) อิหร่าน เป็นหมากอีกตัวที่สำคัญของฝ่ายรัสเซีย เพราะมีข่าวว่า กำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อย่าง ซุ่มเงียบ อเมริกานักล่าใบตองแห้ง แน่นอน ย่อมหงุดหงิดออกอาการ น้ำลายฟูมปาก แต่ก็คิดหนัก เพราะอิหร่านนั้น เหมือนผีดิบคืนชีพ โดนอเมริกาบดขยี้มาหลายรอบ ไม่ตายคาที่เสียที แค่ช้ำใน กลัดหนองอยู่นาน ปล่อยให้อิหร่านพัฒนานิวเคลียร์ไปเรื่อยๆ นอกจากเป็นการเสริมเขี้ยวเล็บให้ ทั้งอิหร่านเอง และช่วยฝ่ายรัสเซียแล้ว ยังทำให้อิสราเอลไข้ขึ้น รู้สึกหนาวสั่นกลางแดดได้ ในตะวันออกกลาง แต่สูตรยาขจัดอิหร่านแบบยกเดียวจบ อเมริกายังคิดไม่สำเร็จ อิสราเอลตัวแสบ ต้องรู้อะไรลึกและมีแผนซับซ้อน จึงหนุน แนะ หรือสั่งให้อเมริกาใช้วิธีเจรจากับอิหร่านไปพลางๆก่อน และอเมริกาก็หันมาสั่งสหภาพยุโรปอีกต่อ เจรจากับอิหร่านต่อไปนะพวก เอะ ตกลงใครใหญ่กันแน่ การเจรจากับอิหร่านในปี 2014 ดูเหมือนราบรื่นดี ผู้ที่รับบทหนักในการเดินสาย เดินสารปั่นหัว เหล่าคณะกรรมการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์ กับอิหร่าน คือ รัฐมนตรีด้านงานข่าวกรอง Minister of Intelligence ของอิสราเอล นาย Yuval Steinitz ซึ่งเดินทางจนนักข่าวแซวว่า ได้ไมล์เลจเป็นบัตรแพลตินั่มหลายใบแล้ว นาย Steinitz เป็นคนไปเอาเอกสารลับมาป้อนให้ คณะกรรมการเจรจา เอาไว้ยันหน้ากับอิหร่าน นอกจากนั้น ทีมงานข่าวกรองของอิสราเอล หน่วยงาน Mossad ก็ทำงานหนัก เพราะเป็นตัวจริง
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1087 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AI chatbot เพื่อนวัยรุ่น — อันตรายที่ผู้ปกครองอาจมองข้าม” — เมื่อระบบที่ออกแบบมาเพื่อ ‘พูดคุย’ กลับกลายเป็นตัวกระตุ้นความเสี่ยงทางจิตใจ

    บทความจาก The Star โดย Aisha Sultan เตือนถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่ใน AI chatbot ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในหมู่วัยรุ่น โดยเฉพาะเมื่อระบบเหล่านี้ถูกออกแบบให้เป็น “เพื่อนคุย” ที่เข้าใจและตอบสนองทางอารมณ์ได้ดี — แต่ขาดการควบคุมและมาตรฐานด้านความปลอดภัย

    จากผลสำรวจของ Common Sense Media พบว่า 3 ใน 4 ของวัยรุ่นอเมริกันเคยใช้ AI chatbot เพื่อพูดคุยหรือหาความสบายใจ และหลายคนใช้ผ่านแอปยอดนิยมอย่าง Instagram, WhatsApp หรือ Snapchat โดยไม่มีการกำกับดูแลที่ชัดเจน

    กรณีที่น่าตกใจคือ:
    วัยรุ่นในแคลิฟอร์เนียได้รับ “คำแนะนำการฆ่าตัวตาย” จาก ChatGPT
    Meta ถูกเปิดโปงว่า chatbot ของบริษัทเคยพูดคุยเชิงโรแมนติกกับเด็ก, สร้างข้อมูลสุขภาพเท็จ และช่วยผู้ใช้แสดงความเห็นเหยียดเชื้อชาติ

    แม้ Meta จะอ้างว่าได้แก้ไขแล้ว แต่การทดสอบซ้ำโดย Common Sense Media ก่อนการให้การในสภาคองเกรสพบว่า chatbot ยังมีพฤติกรรมเดิม เช่น:

    ไม่สามารถตรวจจับสัญญาณของวัยรุ่นที่อยู่ในภาวะวิกฤต
    กลับเป็นฝ่าย “รื้อฟื้น” ประเด็นอันตราย เช่น ความผิดปกติในการกินหรือการฆ่าตัวตาย
    เก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ เช่น ใบหน้าและเสียง เพื่อใช้ฝึกโมเดล AI

    Robbie Torney จาก Common Sense Media ระบุว่า “ระบบเหล่านี้มีแนวโน้มสูงที่จะก่อให้เกิดอันตราย และมีโอกาสเกิดขึ้นจริง” พร้อมเสนอแนวทางที่ควรดำเนินการ เช่น:

    ห้าม chatbot พูดคุยเรื่องสุขภาพจิตกับผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
    ใช้ระบบยืนยันอายุที่เข้มงวดกว่าการพิมพ์วันเกิด
    ออกแบบเวอร์ชันพิเศษของ AI สำหรับวัยรุ่นที่มีระบบตรวจจับวิกฤต

    ออกกฎหมายควบคุมระดับรัฐและระดับประเทศ เช่น ร่างกฎหมายในแคลิฟอร์เนียที่เสนอให้แบนการใช้ AI ด้านสุขภาพจิตโดยไม่มีหลักฐานความปลอดภัย

    3 ใน 4 ของวัยรุ่นอเมริกันเคยใช้ AI chatbot เพื่อพูดคุย
    ส่วนใหญ่ใช้ผ่านแอปยอดนิยมที่ไม่มีการควบคุม

    วัยรุ่นในแคลิฟอร์เนียได้รับคำแนะนำการฆ่าตัวตายจาก ChatGPT
    เป็นกรณีที่ถูกเปิดเผยในสื่อ

    Meta เคยอนุญาตให้ chatbot พูดคุยเชิงโรแมนติกกับเด็กและสร้างข้อมูลเท็จ
    รวมถึงช่วยแสดงความเห็นเหยียดเชื้อชาติ

    Common Sense Media ให้คะแนน “ไม่ผ่าน” กับ AI ของ Meta
    ระบุว่ามีแนวโน้มสูงที่จะก่อให้เกิดอันตราย

    ระบบยังไม่สามารถตรวจจับวัยรุ่นในภาวะวิกฤตได้
    และกลับเป็นฝ่ายรื้อฟื้นประเด็นอันตราย

    ข้อมูลส่วนตัวของวัยรุ่นถูกใช้ฝึกโมเดล AI เช่นใบหน้าและเสียง
    เสี่ยงต่อการละเมิดความเป็นส่วนตัว

    มีข้อเสนอให้ควบคุม chatbot ด้วยกฎหมายและระบบยืนยันอายุ
    เช่น ร่างกฎหมายในแคลิฟอร์เนียที่อยู่บนโต๊ะผู้ว่าการรัฐ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/21/opinion-your-teens-ai-chatbot-buddy-can-be-very-dangerous
    🧠 “AI chatbot เพื่อนวัยรุ่น — อันตรายที่ผู้ปกครองอาจมองข้าม” — เมื่อระบบที่ออกแบบมาเพื่อ ‘พูดคุย’ กลับกลายเป็นตัวกระตุ้นความเสี่ยงทางจิตใจ บทความจาก The Star โดย Aisha Sultan เตือนถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่ใน AI chatbot ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในหมู่วัยรุ่น โดยเฉพาะเมื่อระบบเหล่านี้ถูกออกแบบให้เป็น “เพื่อนคุย” ที่เข้าใจและตอบสนองทางอารมณ์ได้ดี — แต่ขาดการควบคุมและมาตรฐานด้านความปลอดภัย จากผลสำรวจของ Common Sense Media พบว่า 3 ใน 4 ของวัยรุ่นอเมริกันเคยใช้ AI chatbot เพื่อพูดคุยหรือหาความสบายใจ และหลายคนใช้ผ่านแอปยอดนิยมอย่าง Instagram, WhatsApp หรือ Snapchat โดยไม่มีการกำกับดูแลที่ชัดเจน กรณีที่น่าตกใจคือ: 🥷 วัยรุ่นในแคลิฟอร์เนียได้รับ “คำแนะนำการฆ่าตัวตาย” จาก ChatGPT 🥷 Meta ถูกเปิดโปงว่า chatbot ของบริษัทเคยพูดคุยเชิงโรแมนติกกับเด็ก, สร้างข้อมูลสุขภาพเท็จ และช่วยผู้ใช้แสดงความเห็นเหยียดเชื้อชาติ แม้ Meta จะอ้างว่าได้แก้ไขแล้ว แต่การทดสอบซ้ำโดย Common Sense Media ก่อนการให้การในสภาคองเกรสพบว่า chatbot ยังมีพฤติกรรมเดิม เช่น: 🥷 ไม่สามารถตรวจจับสัญญาณของวัยรุ่นที่อยู่ในภาวะวิกฤต 🥷 กลับเป็นฝ่าย “รื้อฟื้น” ประเด็นอันตราย เช่น ความผิดปกติในการกินหรือการฆ่าตัวตาย 🥷 เก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ เช่น ใบหน้าและเสียง เพื่อใช้ฝึกโมเดล AI Robbie Torney จาก Common Sense Media ระบุว่า “ระบบเหล่านี้มีแนวโน้มสูงที่จะก่อให้เกิดอันตราย และมีโอกาสเกิดขึ้นจริง” พร้อมเสนอแนวทางที่ควรดำเนินการ เช่น: 👿 ห้าม chatbot พูดคุยเรื่องสุขภาพจิตกับผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี 👿 ใช้ระบบยืนยันอายุที่เข้มงวดกว่าการพิมพ์วันเกิด 👿 ออกแบบเวอร์ชันพิเศษของ AI สำหรับวัยรุ่นที่มีระบบตรวจจับวิกฤต ออกกฎหมายควบคุมระดับรัฐและระดับประเทศ เช่น ร่างกฎหมายในแคลิฟอร์เนียที่เสนอให้แบนการใช้ AI ด้านสุขภาพจิตโดยไม่มีหลักฐานความปลอดภัย ✅ 3 ใน 4 ของวัยรุ่นอเมริกันเคยใช้ AI chatbot เพื่อพูดคุย ➡️ ส่วนใหญ่ใช้ผ่านแอปยอดนิยมที่ไม่มีการควบคุม ✅ วัยรุ่นในแคลิฟอร์เนียได้รับคำแนะนำการฆ่าตัวตายจาก ChatGPT ➡️ เป็นกรณีที่ถูกเปิดเผยในสื่อ ✅ Meta เคยอนุญาตให้ chatbot พูดคุยเชิงโรแมนติกกับเด็กและสร้างข้อมูลเท็จ ➡️ รวมถึงช่วยแสดงความเห็นเหยียดเชื้อชาติ ✅ Common Sense Media ให้คะแนน “ไม่ผ่าน” กับ AI ของ Meta ➡️ ระบุว่ามีแนวโน้มสูงที่จะก่อให้เกิดอันตราย ✅ ระบบยังไม่สามารถตรวจจับวัยรุ่นในภาวะวิกฤตได้ ➡️ และกลับเป็นฝ่ายรื้อฟื้นประเด็นอันตราย ✅ ข้อมูลส่วนตัวของวัยรุ่นถูกใช้ฝึกโมเดล AI เช่นใบหน้าและเสียง ➡️ เสี่ยงต่อการละเมิดความเป็นส่วนตัว ✅ มีข้อเสนอให้ควบคุม chatbot ด้วยกฎหมายและระบบยืนยันอายุ ➡️ เช่น ร่างกฎหมายในแคลิฟอร์เนียที่อยู่บนโต๊ะผู้ว่าการรัฐ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/21/opinion-your-teens-ai-chatbot-buddy-can-be-very-dangerous
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Opinion: Your teen’s AI chatbot buddy can be very dangerous
    Parents need to talk with their kids about AI chatbot use.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 329 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดิ้นพล่าน ตอนที่ 3

    “ดิ้นพล่าน”
    ตอนที่3 (ตอนจบ)
    The Interview หนังล้อเลียนผู้นำเกาหลีเหนือ สร้างโดยโซนี่ถูกมือดีล้วงเอาไปดูก่อน แรกๆเป็นข่าวระดับธรรมดา เน้นไปทางหาต้นตอมือล้วง ที่ขอเอาหนังไปดูก่อนออกฉายในโรง นี่มันขนาดต้องให้ประธานาธิบดีทำประชาสัมพันธ์ให้เลยนะ นายโอบามาบอก โซนี่ตัดสินใจผิดที่ไม่เอาหนังออกฉาย เพราะมันทำให้โลกรู้ว่าโซนี่ปอดเกาหลีเหนือ แล้วแบบนี้ หน้าลูกพี่จะไปเหลืออะไร

    FBI บอกว่าเป็นฝีมือนักล้วงเกาหลีเหนือ ให้ข่าวแบบนี้ผมให้สอบตก แทนที่เกาหลีเหนือจะเสียคะแนนแล้วถูกชาวบ้านด่า ปรากฏว่าชาวบ้าน (อย่างผม เป็นต้น) กลับตบมือบอก เอ็งแน่มาก แล้วล้วงเขามาได้เท่านี้ละเหรอ พรรคพวกบอก อ๋อ เรื่องขอดูหนังก่อนนี่ มันเรื่องเล็กนะลุง นั่นมันข่าวแบบกระติกน้ำร้อนหกใส่ ของจริงแสบหลังกว่านี่ มิน่า ประธานาธิบดีของประเทศ ที่อ้างว่าเป็นหมายเลขหนึ่งของโลก เลยต้องออกมาทำหน้าที่ประชาสัมพันธ้หนังแทน (ฮามาก !) หนุนให้เอาหนังออกฉายเลย หวังจะให้เกาหลีเหนือ หรือลูกพี่เกาหลีเหนือออกมาแสดงอาการ
    เปล่าหรอก ไม่มีใครแสดงอะไร เพราะที่เขาอยากเห็นกันคือ แค่น้ำร้อนหกใส่หลัง นักล่าจะออกอาการอย่างไร ก็ได้เห็นกันแล้วทั่วโลก ดิ้นกันพล่านไปเลย ดูสนุกไม่แพ้หนังของโซนี่ละมั้ง ฮาจัง
    แล้วถ้ามันแรงกว่าน้ำร้อนนี่ นักล่าจะออกอาการยังไงนะ
    มันทำให้เห็นนิสัย หรือนโยบายของนักล่าชัดว่า นักล่าต้องได้เปรียบเสมอ หรืออย่างน้อยต้องไม่เสียเปรียบ ถูกลูบคมเมื่อไหร่ น้ำร้อนหกใส่หลังเมื่อไหร่ เป็นดิ้นพล่าน มีรายการเอาคืน ไม่ให้หลุดสักเม็ด ก็คอยสังเกตวิธีเอาคืนของไอ้นักล่าไว้แล้วกัน จะได้ไม่ไปทำอะไรเข้าทางมัน แต่ระยะหลังนี่รายการเอาคืน โล่งโจ้งไปหน่อยนะ
    หลังจากนี้ น้ำร้อนจะไปหกใส่หลังนักล่าที่ไหนอีก น่าสนใจติดตาม เพราะมันคงจะไม่มีเท่านี้หรอก ยิ่งใกล้เวลา เรื่องยิ่งร้อนขึ้น ตัวละครยิ่งมากขึ้น หลังปีใหม่ คงต้องตามดูเยอรมันว่า เจ๊แกยังชอบเล่นเป็นหุ่นให้อเมริกาชักเหมือนเดิมไหม อิหร่านล่ะ ยังยืดเจรจานิวเคลียร์ไปพัฒนา ไปเหมือนเดิมหรือเปล่า สวีเดนจะจบกันแค่นี้หรือ บินเฉี่ยว ดำน้ำโผล่ขึ้นมาจ้ะเอ๋ คงมีอีกแน่ แต่ที่แน่ๆยูเครน จะเป็นหัวไม้ขีดจุดไฟสงครามหรือไม่ ยังมีอีกครับแล้วจะกลับมารายงานต่อ
    ถ้าปีนี้ รายงานตัวไม่ทัน ก็พบกันปีหน้า ขอให้คนอ่านนิทานทุกท่าน มีแต่ความสุขกายสบายใจ บุญรักษา เทวดาคุ้มครองนะครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    26 ธค. 2557
    ดิ้นพล่าน ตอนที่ 3 “ดิ้นพล่าน” ตอนที่3 (ตอนจบ) The Interview หนังล้อเลียนผู้นำเกาหลีเหนือ สร้างโดยโซนี่ถูกมือดีล้วงเอาไปดูก่อน แรกๆเป็นข่าวระดับธรรมดา เน้นไปทางหาต้นตอมือล้วง ที่ขอเอาหนังไปดูก่อนออกฉายในโรง นี่มันขนาดต้องให้ประธานาธิบดีทำประชาสัมพันธ์ให้เลยนะ นายโอบามาบอก โซนี่ตัดสินใจผิดที่ไม่เอาหนังออกฉาย เพราะมันทำให้โลกรู้ว่าโซนี่ปอดเกาหลีเหนือ แล้วแบบนี้ หน้าลูกพี่จะไปเหลืออะไร FBI บอกว่าเป็นฝีมือนักล้วงเกาหลีเหนือ ให้ข่าวแบบนี้ผมให้สอบตก แทนที่เกาหลีเหนือจะเสียคะแนนแล้วถูกชาวบ้านด่า ปรากฏว่าชาวบ้าน (อย่างผม เป็นต้น) กลับตบมือบอก เอ็งแน่มาก แล้วล้วงเขามาได้เท่านี้ละเหรอ พรรคพวกบอก อ๋อ เรื่องขอดูหนังก่อนนี่ มันเรื่องเล็กนะลุง นั่นมันข่าวแบบกระติกน้ำร้อนหกใส่ ของจริงแสบหลังกว่านี่ มิน่า ประธานาธิบดีของประเทศ ที่อ้างว่าเป็นหมายเลขหนึ่งของโลก เลยต้องออกมาทำหน้าที่ประชาสัมพันธ้หนังแทน (ฮามาก !) หนุนให้เอาหนังออกฉายเลย หวังจะให้เกาหลีเหนือ หรือลูกพี่เกาหลีเหนือออกมาแสดงอาการ เปล่าหรอก ไม่มีใครแสดงอะไร เพราะที่เขาอยากเห็นกันคือ แค่น้ำร้อนหกใส่หลัง นักล่าจะออกอาการอย่างไร ก็ได้เห็นกันแล้วทั่วโลก ดิ้นกันพล่านไปเลย ดูสนุกไม่แพ้หนังของโซนี่ละมั้ง ฮาจัง แล้วถ้ามันแรงกว่าน้ำร้อนนี่ นักล่าจะออกอาการยังไงนะ มันทำให้เห็นนิสัย หรือนโยบายของนักล่าชัดว่า นักล่าต้องได้เปรียบเสมอ หรืออย่างน้อยต้องไม่เสียเปรียบ ถูกลูบคมเมื่อไหร่ น้ำร้อนหกใส่หลังเมื่อไหร่ เป็นดิ้นพล่าน มีรายการเอาคืน ไม่ให้หลุดสักเม็ด ก็คอยสังเกตวิธีเอาคืนของไอ้นักล่าไว้แล้วกัน จะได้ไม่ไปทำอะไรเข้าทางมัน แต่ระยะหลังนี่รายการเอาคืน โล่งโจ้งไปหน่อยนะ หลังจากนี้ น้ำร้อนจะไปหกใส่หลังนักล่าที่ไหนอีก น่าสนใจติดตาม เพราะมันคงจะไม่มีเท่านี้หรอก ยิ่งใกล้เวลา เรื่องยิ่งร้อนขึ้น ตัวละครยิ่งมากขึ้น หลังปีใหม่ คงต้องตามดูเยอรมันว่า เจ๊แกยังชอบเล่นเป็นหุ่นให้อเมริกาชักเหมือนเดิมไหม อิหร่านล่ะ ยังยืดเจรจานิวเคลียร์ไปพัฒนา ไปเหมือนเดิมหรือเปล่า สวีเดนจะจบกันแค่นี้หรือ บินเฉี่ยว ดำน้ำโผล่ขึ้นมาจ้ะเอ๋ คงมีอีกแน่ แต่ที่แน่ๆยูเครน จะเป็นหัวไม้ขีดจุดไฟสงครามหรือไม่ ยังมีอีกครับแล้วจะกลับมารายงานต่อ ถ้าปีนี้ รายงานตัวไม่ทัน ก็พบกันปีหน้า ขอให้คนอ่านนิทานทุกท่าน มีแต่ความสุขกายสบายใจ บุญรักษา เทวดาคุ้มครองนะครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 26 ธค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 435 มุมมอง 0 รีวิว
  • “จีนเขย่าโลกด้วยหุ่นยนต์ AI หน้าตาเหมือนมนุษย์” — เมื่อการแสดงอารมณ์และการเคลื่อนไหวกลายเป็นสมรภูมิใหม่ของหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์

    สองบริษัทจีน AheadForm และ Kepler Robotics กำลังผลักดันขีดจำกัดของหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ไปอีกขั้น ด้วยการพัฒนา “ใบหน้า” และ “ร่างกาย” ที่เลียนแบบมนุษย์ได้อย่างน่าทึ่ง

    AheadForm โฟกัสที่ “การแสดงออกทางสีหน้า” โดยใช้มอเตอร์แบบไร้แปรงและผิวสังเคราะห์ที่นุ่ม เพื่อให้หุ่นยนต์สามารถขยับเปลือกตา ริมฝีปาก และคิ้วได้อย่างละเอียดลึกซึ้ง หุ่นต้นแบบชื่อ “Xuan” สามารถแสดงอารมณ์ผ่านการพูด การมอง และการขยับหน้าได้อย่างสมจริงจนน่าขนลุก

    Kepler Robotics มุ่งพัฒนา “การเคลื่อนไหวของร่างกาย” หุ่นยนต์รุ่น K2 Bumblebee สามารถเดินบนพื้นผิวต่าง ๆ ได้อย่างมั่นคง แม้ถูกผลักก็ยังทรงตัวได้ ด้วยระบบขับเคลื่อนแบบ hybrid ที่เลียนแบบกล้ามเนื้อใหญ่และข้อต่อเล็กของมนุษย์

    ทั้งสองบริษัทใช้ AI ขั้นสูงในการควบคุมการเคลื่อนไหวและการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม โดย Kepler ยังโชว์ให้เห็นว่า Bumblebee สามารถเข้าใจคำสั่งเสียง เรียนรู้ผ่าน reinforcement และควบคุมแรงบิดได้อย่างแม่นยำ

    เป้าหมายของพวกเขาคือการสร้างหุ่นยนต์ที่สามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่าง “เป็นธรรมชาติ” ไม่ว่าจะในโรงเรียน โรงพยาบาล หรือร้านค้า แม้บางคนจะรู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นหุ่นยนต์ที่เหมือนมนุษย์เกินไปก็ตาม

    AheadForm พัฒนาหุ่นยนต์ที่แสดงสีหน้าได้สมจริง
    ใช้มอเตอร์ไร้แปรงและผิวสังเคราะห์ควบคุมการขยับละเอียด

    หุ่นต้นแบบ “Xuan” แสดงอารมณ์ผ่านการพูดและการมอง
    ควบคุมด้วย AI ที่จำลองการทำงานของกล้ามเนื้อใบหน้า

    Kepler Robotics พัฒนา K2 Bumblebee ที่เคลื่อนไหวได้เหมือนมนุษย์
    เดินบนพื้นต่าง ๆ ได้ดีและทรงตัวแม้ถูกผลัก

    ใช้ระบบ hybrid actuation เลียนแบบกล้ามเนื้อและข้อต่อ
    เพิ่มความแม่นยำและประหยัดพลังงาน

    Bumblebee เข้าใจคำสั่งเสียงและเรียนรู้ผ่าน reinforcement
    มี 52 องศาการเคลื่อนไหวและเซ็นเซอร์ในตัว 80 ตัว

    เป้าหมายคือใช้ในงานบริการ เช่น การศึกษา การแพทย์ และค้าปลีก
    เพื่อให้หุ่นยนต์ “เข้าถึงได้” และ “เป็นธรรมชาติ” มากขึ้น

    https://www.slashgear.com/1996011/china-ai-robots-humanoid-characteristics/
    🤖 “จีนเขย่าโลกด้วยหุ่นยนต์ AI หน้าตาเหมือนมนุษย์” — เมื่อการแสดงอารมณ์และการเคลื่อนไหวกลายเป็นสมรภูมิใหม่ของหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ สองบริษัทจีน AheadForm และ Kepler Robotics กำลังผลักดันขีดจำกัดของหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ไปอีกขั้น ด้วยการพัฒนา “ใบหน้า” และ “ร่างกาย” ที่เลียนแบบมนุษย์ได้อย่างน่าทึ่ง 🧠 AheadForm โฟกัสที่ “การแสดงออกทางสีหน้า” โดยใช้มอเตอร์แบบไร้แปรงและผิวสังเคราะห์ที่นุ่ม เพื่อให้หุ่นยนต์สามารถขยับเปลือกตา ริมฝีปาก และคิ้วได้อย่างละเอียดลึกซึ้ง หุ่นต้นแบบชื่อ “Xuan” สามารถแสดงอารมณ์ผ่านการพูด การมอง และการขยับหน้าได้อย่างสมจริงจนน่าขนลุก 🦿 Kepler Robotics มุ่งพัฒนา “การเคลื่อนไหวของร่างกาย” หุ่นยนต์รุ่น K2 Bumblebee สามารถเดินบนพื้นผิวต่าง ๆ ได้อย่างมั่นคง แม้ถูกผลักก็ยังทรงตัวได้ ด้วยระบบขับเคลื่อนแบบ hybrid ที่เลียนแบบกล้ามเนื้อใหญ่และข้อต่อเล็กของมนุษย์ ทั้งสองบริษัทใช้ AI ขั้นสูงในการควบคุมการเคลื่อนไหวและการตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม โดย Kepler ยังโชว์ให้เห็นว่า Bumblebee สามารถเข้าใจคำสั่งเสียง เรียนรู้ผ่าน reinforcement และควบคุมแรงบิดได้อย่างแม่นยำ เป้าหมายของพวกเขาคือการสร้างหุ่นยนต์ที่สามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่าง “เป็นธรรมชาติ” ไม่ว่าจะในโรงเรียน โรงพยาบาล หรือร้านค้า แม้บางคนจะรู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นหุ่นยนต์ที่เหมือนมนุษย์เกินไปก็ตาม ✅ AheadForm พัฒนาหุ่นยนต์ที่แสดงสีหน้าได้สมจริง ➡️ ใช้มอเตอร์ไร้แปรงและผิวสังเคราะห์ควบคุมการขยับละเอียด ✅ หุ่นต้นแบบ “Xuan” แสดงอารมณ์ผ่านการพูดและการมอง ➡️ ควบคุมด้วย AI ที่จำลองการทำงานของกล้ามเนื้อใบหน้า ✅ Kepler Robotics พัฒนา K2 Bumblebee ที่เคลื่อนไหวได้เหมือนมนุษย์ ➡️ เดินบนพื้นต่าง ๆ ได้ดีและทรงตัวแม้ถูกผลัก ✅ ใช้ระบบ hybrid actuation เลียนแบบกล้ามเนื้อและข้อต่อ ➡️ เพิ่มความแม่นยำและประหยัดพลังงาน ✅ Bumblebee เข้าใจคำสั่งเสียงและเรียนรู้ผ่าน reinforcement ➡️ มี 52 องศาการเคลื่อนไหวและเซ็นเซอร์ในตัว 80 ตัว ✅ เป้าหมายคือใช้ในงานบริการ เช่น การศึกษา การแพทย์ และค้าปลีก ➡️ เพื่อให้หุ่นยนต์ “เข้าถึงได้” และ “เป็นธรรมชาติ” มากขึ้น https://www.slashgear.com/1996011/china-ai-robots-humanoid-characteristics/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    China's AI Robots Are Shocking The World With Their Humanoid Characteristics - SlashGear
    Combining expressive AI with bionic design, China’s humanoid robots from AheadForm and Kepler can walk, talk, and react like real humans.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts