• ค่าจริงที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน,เกินคำบรรยาย.,เด็กใครเด็กมัน,พวกใครพวกมัน,คนของใครของมัน.,อันตรายมาก.
    https://youtube.com/shorts/zgiipCbrj6Q?si=0YD9WaZ--M3x-7XW
    ค่าจริงที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน,เกินคำบรรยาย.,เด็กใครเด็กมัน,พวกใครพวกมัน,คนของใครของมัน.,อันตรายมาก. https://youtube.com/shorts/zgiipCbrj6Q?si=0YD9WaZ--M3x-7XW
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ”
    ภาคสอง ตอนเสกกระดาษเป็นน้ำมัน
    ตอนที่ 20 : เจ้ามือมาแล้ว
    ย้อนกลับไประหว่างที่สงครามโลกครั้งที่ 1 กำลังขับเคี้ยวกันอยู่ ประธานาธิบดีอเมริกา Woodrow Wilson นั่งบนกำแพงดูทิศทางลม ไม่ต้องการมีส่วนร่วมในสงครามพวกนักธุรกิจเห็นว่ามัวแต่นั่งดูทางลมแบบนั้น มันจะเข้าทางพวกเราหรือ ว่าแล้วพวกเขาก็รวบรวมพรรคพวก ตั้งคณะกำหนดทิศทางลมแทน ชื่อ “The Inquiry” เพื่อทำการศึกษา (ตามโผ !) และแนะนำประธานาธิบดี Wilson ว่า หาก Kaiser และจักรวรรดิเยอรมันล้มคว่ำ โลกนี้ควรจะมีทิศทางในการเดินเกมการเมืองอย่างไร การเสนอแนะของ The Inquiry ทำผ่าน Col. Edward M. House คนสนิทของประธานาธิบดี Wilson ท่านนายพัน House นี้ เป็นตัวสำคัญในการผลักดันให้เกิด Federal Reserve System
    The Inquiry นี้เองที่เป็นต้นกำเนิดของ The Council on Foreign Relations (CFR) ผู้มีอำนาจและอิทธิพลสูงสุด พวกเขาคือคนถือเข็มทิศ กำหนดทิศทางเดินของอเมริกานั่นเอง CFR เริ่มต้นจากการรวมตัวของนักวิชาการและนักการฑูตจากอังกฤษและอเมริกา เขาตกลงกันในที่ประชุมเมื่อพฤษภาคม ค.ศ. 1919 ว่า พวกเราควรจัดให้มีสถาบันร่วมมือกันระหว่างอังกฤษกับอเมริกา เพื่อ “ดูแล” เกี่ยวกับเรื่องระหว่างประเทศ (International Affairs) หลังจากนั้น ใน ค.ศ. 1921 พวกเขาก็ได้ขยายแนวร่วมไปยังกลุ่ม นักกฎหมายและนักการเงิน และร่วมกันตั้ง The Council on Foreign Relations ขึ้นในปี ค.ศ. 1921
    CFR มีเป้าหมายที่จะกำหนดที่ยืนของอเมริกาในโลกเสียใหม่ จากที่ทำแต่อุตสาหกรรมโดยลำพัง อยู่โดดเดี่ยว เปลี่ยนสภาพเป็นตัวกลไกสำคัญ ในการกำหนดทิศทางการเงินระหว่างประเทศ และกำหนดทิศทางการเดินของอเมริกาที่จะก้าวไปสู่การเป็นจักรวรรดิอเมริกา ซึ่งครอบคลุมทั้งด้านธุรกิจ การเงิน การเมืองระหว่างประเทศ การทหาร สื่อมวลชน และนักวิชาการ ในสังคมระดับสูง และทิศทางดังกล่าวจะต้องทำเป็นนโยบายระดับนานาชาติ โดยมีกลุ่มทุนใหญ่สนับสนุนอยู่ข้างหลัง
    เงินคืออำนาจ อำนาจคือเงิน อย่าถามว่าพวกเขาจะสร้างอำนาจนี้ได้จริงหรือ และเมื่อมีอำนาจแล้วจะใช้อำนาจนี้ไหม จักรวรรดิอเมริกามีจริงหรือไม่ เขาว่าถามแบบนี้ แน่นอน คนถามต้องไม่ใช่เป็นพวก CFR และไม่มีวันได้เป็น ฮา !
    แต่ก่อนจะมีอำนาจ ต้องมีเงินก่อนตามสูตร แล้วนักเล่นกล ก็คิดว่าถึงเวลาแล้วที่อเมริกาจะต้องมีธนาคารกลาง แต่เป็นธนาคารกลางที่พวกเขา ควรเป็น (เจ้ามือ) เจ้าของและควบคุม มันเป็นการร่วมมือกันระหว่างนักการเงิน 2 ฝั่งคาบสมุทร Atlantic
    J P Morgan ร่ายมนต์ให้นักการเมืองฟังว่า เหตุการณ์วิกฤติทางการเงินของอเมริกา เมื่อปี ค.ศ. 1907 น่ะ เพราะพวกคุณไม่มีระบบการเงินที่ดี รัฐบาลก็ไม่มีกระเป๋าเงินของตัวเองที่ใหญ่พอ ตอนเกิดเรื่องนะจำได้มั้ย เราน่ะ J P Morgan เป็นคนให้รัฐบาลยืมเงินนะ จะเสียหน้าแบบนั้นอีกเหรอ คำขู่ได้ผลประธานาธิบดี Wilson มือไม้สั่นรีบออก Federal Reserve Act ในปี ค.ศ. 1913 ผลของกฎหมายฉบับนี้ ทำให้อเมริกาถูกควบคุม โดยผู้มีอำนาจทางการเงิน Federal Reserve Bank หรือ “Fed” (เจ้ามือตัวจริง !) ซึ่งรัฐบาลอเมริกาไม่ได้เป็นเจ้าของ แต่ Fed สามารถที่กำหนดหลักเกณฑ์ ในการพิมพ์เงินดอลล่าร์ได้เอง โดยไม่ต้องผ่าน Congress เยี่ยมจริง ๆ!!!

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ” ภาคสอง ตอนเสกกระดาษเป็นน้ำมัน ตอนที่ 20 : เจ้ามือมาแล้ว ย้อนกลับไประหว่างที่สงครามโลกครั้งที่ 1 กำลังขับเคี้ยวกันอยู่ ประธานาธิบดีอเมริกา Woodrow Wilson นั่งบนกำแพงดูทิศทางลม ไม่ต้องการมีส่วนร่วมในสงครามพวกนักธุรกิจเห็นว่ามัวแต่นั่งดูทางลมแบบนั้น มันจะเข้าทางพวกเราหรือ ว่าแล้วพวกเขาก็รวบรวมพรรคพวก ตั้งคณะกำหนดทิศทางลมแทน ชื่อ “The Inquiry” เพื่อทำการศึกษา (ตามโผ !) และแนะนำประธานาธิบดี Wilson ว่า หาก Kaiser และจักรวรรดิเยอรมันล้มคว่ำ โลกนี้ควรจะมีทิศทางในการเดินเกมการเมืองอย่างไร การเสนอแนะของ The Inquiry ทำผ่าน Col. Edward M. House คนสนิทของประธานาธิบดี Wilson ท่านนายพัน House นี้ เป็นตัวสำคัญในการผลักดันให้เกิด Federal Reserve System The Inquiry นี้เองที่เป็นต้นกำเนิดของ The Council on Foreign Relations (CFR) ผู้มีอำนาจและอิทธิพลสูงสุด พวกเขาคือคนถือเข็มทิศ กำหนดทิศทางเดินของอเมริกานั่นเอง CFR เริ่มต้นจากการรวมตัวของนักวิชาการและนักการฑูตจากอังกฤษและอเมริกา เขาตกลงกันในที่ประชุมเมื่อพฤษภาคม ค.ศ. 1919 ว่า พวกเราควรจัดให้มีสถาบันร่วมมือกันระหว่างอังกฤษกับอเมริกา เพื่อ “ดูแล” เกี่ยวกับเรื่องระหว่างประเทศ (International Affairs) หลังจากนั้น ใน ค.ศ. 1921 พวกเขาก็ได้ขยายแนวร่วมไปยังกลุ่ม นักกฎหมายและนักการเงิน และร่วมกันตั้ง The Council on Foreign Relations ขึ้นในปี ค.ศ. 1921 CFR มีเป้าหมายที่จะกำหนดที่ยืนของอเมริกาในโลกเสียใหม่ จากที่ทำแต่อุตสาหกรรมโดยลำพัง อยู่โดดเดี่ยว เปลี่ยนสภาพเป็นตัวกลไกสำคัญ ในการกำหนดทิศทางการเงินระหว่างประเทศ และกำหนดทิศทางการเดินของอเมริกาที่จะก้าวไปสู่การเป็นจักรวรรดิอเมริกา ซึ่งครอบคลุมทั้งด้านธุรกิจ การเงิน การเมืองระหว่างประเทศ การทหาร สื่อมวลชน และนักวิชาการ ในสังคมระดับสูง และทิศทางดังกล่าวจะต้องทำเป็นนโยบายระดับนานาชาติ โดยมีกลุ่มทุนใหญ่สนับสนุนอยู่ข้างหลัง เงินคืออำนาจ อำนาจคือเงิน อย่าถามว่าพวกเขาจะสร้างอำนาจนี้ได้จริงหรือ และเมื่อมีอำนาจแล้วจะใช้อำนาจนี้ไหม จักรวรรดิอเมริกามีจริงหรือไม่ เขาว่าถามแบบนี้ แน่นอน คนถามต้องไม่ใช่เป็นพวก CFR และไม่มีวันได้เป็น ฮา ! แต่ก่อนจะมีอำนาจ ต้องมีเงินก่อนตามสูตร แล้วนักเล่นกล ก็คิดว่าถึงเวลาแล้วที่อเมริกาจะต้องมีธนาคารกลาง แต่เป็นธนาคารกลางที่พวกเขา ควรเป็น (เจ้ามือ) เจ้าของและควบคุม มันเป็นการร่วมมือกันระหว่างนักการเงิน 2 ฝั่งคาบสมุทร Atlantic J P Morgan ร่ายมนต์ให้นักการเมืองฟังว่า เหตุการณ์วิกฤติทางการเงินของอเมริกา เมื่อปี ค.ศ. 1907 น่ะ เพราะพวกคุณไม่มีระบบการเงินที่ดี รัฐบาลก็ไม่มีกระเป๋าเงินของตัวเองที่ใหญ่พอ ตอนเกิดเรื่องนะจำได้มั้ย เราน่ะ J P Morgan เป็นคนให้รัฐบาลยืมเงินนะ จะเสียหน้าแบบนั้นอีกเหรอ คำขู่ได้ผลประธานาธิบดี Wilson มือไม้สั่นรีบออก Federal Reserve Act ในปี ค.ศ. 1913 ผลของกฎหมายฉบับนี้ ทำให้อเมริกาถูกควบคุม โดยผู้มีอำนาจทางการเงิน Federal Reserve Bank หรือ “Fed” (เจ้ามือตัวจริง !) ซึ่งรัฐบาลอเมริกาไม่ได้เป็นเจ้าของ แต่ Fed สามารถที่กำหนดหลักเกณฑ์ ในการพิมพ์เงินดอลล่าร์ได้เอง โดยไม่ต้องผ่าน Congress เยี่ยมจริง ๆ!!! คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • มายากลยุทธ ภาค 2 ตอน ผู้ดีขี้ขโมย
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ”
    ภาคสอง ตอน เสกกระดาษเป็นน้ำมัน
    ตอนที่ 19 : ผู้ดีขี้ขโมย
    คงจำกันได้ อิหร่านพบน้ำมันตั้งแต่ยังใช้ชื่อประเทศว่าเปอร์เซีย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1908 อังกฤษไม่มีน้ำมันของตนเอง จึงโดดเข้าไปคว้าข้อมือมาทำสัญญา ยังไม่หยุดแค่นั้น กลิ่นน้ำมันมันแรงเกินห้ามใจ อังกฤษบุกเข้าไปในอิหร่าน และบังคับให้อิหร่านให้สัญญาสัมปทานกับ Royal Dutch Shell ซึ่งรัฐบาลอังกฤษถือหุ้นร่วมอยู่ด้วย
    วันดีคืนดี ปี ค.ศ. 1944 คนรักชาติ ชื่อนาย Mohammad Mossadegh ทนไม่ไหว ลุกขึ้นเสนอให้อิหร่านออกกฎหมาย ห้ามเจรจาขายน้ำมันกับบริษัทต่างชาติ (สมันน้อยอ่านเรื่องอิหร่าน หลายหนหน่อยนะ เผื่อต้องใช้) อังกฤษโมโหจนหน้ามืด ยกทัพบุกเข้าไปในอิหร่านต่อสู้กันอยู่พักใหญ่ ค.ศ. 1948 อังกฤษก็ถอนทัพออกมา แต่บอกว่า ประเทศยูอยู่ในความควบคุมของไอแล้วนะ ผ่านการควบคุม โดย Anglo Iranian Oil Company แหล่งน้ำมันอิหร่าน ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดในโลกขณะนั้น เออ ! หน้าด้าน ๆ แบบนั้นแหละ
    ระหว่างการต่อสู้ ปีค.ศ. 1947 รัฐบาลอิหร่านกระซิบเบา ๆ บอกอังกฤษว่า นายท่าน Venezuela ที่เขาทำสัญญากับ Standard Oil น่ะนะ เขาให้ส่วนแบ่ง 50:50 นะ นายท่านฉุนขาด บังอาจมาก ไม่ตกลงโว้ย คุณ Mossadegh แกก็อดทน รอไว้ก่อนวันหน้ายังมี ก็รบแพ้เขานี่ แล้วแกก็ตัดสินใจเข้าสู่การเมือง
เมื่อได้เป็นผู้แทนก็พยายามอภิปรายหว่านล้อมสภา จนสภามีมติให้ไปเจรจาขอส่วนแบ่ง 50:50 กับอังกฤษต่อ
    อังกฤษปฏิเสธเหมือนเดิม แต่คราวนี้โลกมันคงหมุนกลับทาง คุณ Mossadegh ได้เป็นนายกรัฐมนตรี งานแรกที่คุณ Mossadegh ทำคือ ยึดคืนบริษัท Anglo Iranian Oil Company (คนเล่านิทานขอสดุดี) โดยยอมจ่ายค่าเสียหายให้อังกฤษ (สุภาพบุรุษมาก) แต่อังกฤษไม่เป็นสุภาพบุรุษด้วย กลับใช้วิธีขี้แพ้ชั้นเลวตอบโต้ อังกฤษไม่รอช้า เริ่มใช้วิธีคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอิหร่าน (Economic Sanction) และห้ามการซื้อขายน้ำมันตามมา (Oil Embargo) นอกจากนี้ ทรัพย์สินของอิหร่านที่ฝากอยู่ในธนาคารอังกฤษถูกอายัด ค่ายน้ำมันฝั่ง Anglo – American ต่างสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรของอังกฤษ เศรษฐกิจอิหร่านพังทลาย จากที่มีรายได้จากขายน้ำมัน ในปีค.ศ. 1950 จำนวน 400 ล้านเหรียญ เหลือเพียง 2 ล้าน (อ่านว่าสองล้าน) เหรียญในปีค.ศ. 1951 ! มันโหดจริง ๆ นะ น้ำมันก็ของเขา อยู่ในบ้านเขา พอเขาไม่ยอมให้โกงต่อไป มันก็ใช้อำนาจข่มขู่
    มันไม่ใช่แค่นั้น อเมริกาช่วยส่งนักจัดรายการยี่ห้อ CIA บวก SIS ของอังกฤษเข้าไปร่วมกระชับวงล้อม ผลคงเดากันออก คุณ Mossadegh ถูกไล่ออกจากตำแหน่ง และมีการอุ้ม Shah Reza Pahlavi เข้ามาในตำแหน่งแทน การคว่ำบาตรยกเลิก หงายบาตรรับเงินต่อไป อเมริกาและอังกฤษก็ได้เข้าไปทำการค้าควบคุมเหมือนเดิม ผ่านไป 30 ปี วงจรอุบาทย์ก็กลับมาใหม่ โดยคนกำกับการแสดงรายเก่า นักจัดรายการยี่ห้อเก่า แต่เหยื่อเปลี่ยนจากคุณ Mossadegh เป็นท่าน Shah เฮ้อ ! โลกมันเป็นอย่างนี้แหละ น้ำมันมันมีค่าถึงขนาดนี้เชียวหรือ เรามาพากันรณณรงค์ใช้น้ำมันหมู หรือน้ำมันมะพร้าวกันดีไหม สมันน้อย พวกมันจะได้ไม่ยุ่งกับเรา 555
    เรื่องของอิหร่านไม่จบง่าย ๆ อังกฤษพยายามทำเป็นลืมเรื่อง 50:50 กับอิหร่าน แต่มันก็มีคนมากระตุก ทำให้โลหิตกระอักขึ้นมาใหม่
    ประมาณปีค.ศ. 1957 มีบริษัทน้ำมันอิตาเลี่ยนเกิดขึ้นมาใหม่ ชื่อ Azienda Generale Italiana Petroli ชื่อยาวจัง แต่ที่เรารู้จักเขาในนาม AGIP น่ะ ผู้ก่อตั้งชื่อ Enrico Mattei คุณ Mattei นี้ไม่ธรรมดา แกพยายามหาแหล่งน้ำมันให้ประเทศแก แต่ไม่สำเร็จ เพราะตอนที่ Anglo American คว่ำบาตรอิหร่าน คุณ Mattei แสดงความไม่เห็นด้วย แน่นอนแกย่อมถูกขึ้นบัญชีดำไว้ คุณ Mattei ไม่ย่อท้อ พยายามเดินเรื่องให้มีการออกกฎหมายใหม่ และในที่สุดอิตาลี ก็ตั้งบริษัทน้ำมันแบบรัฐถือหุ้นร่วมด้วย ชื่อ Ente Nazionale Idrocarburi (ENI) โดยมี AGIP เป็นบริษัทลูก
    แล้วคุณ Mattei ก็เดินเข้าไปขอเจรจาขุดเจาะน้ำมันกับอิหร่านโดยเสนอส่วนแบ่งให้อิหร่าน 75 และผู้ขุดเอา 25 มันกลับทางจากที่อิหร่านได้อยู่จากอังกฤษ เป็นไปได้ยังไง ปล่อยให้เป็นอย่างนี้ พวกเราก็รวยน้อยลงซินะ พวกนายท่านต่างไม่พอใจ เรื่องนี้ต้องจบ เข้าใจไหม
    คุณ Mattei นอกจากบอกว่าไม่เข้าใจ และยังไม่สนใจ เขาเดินหน้าต่อ ท้าทายบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายหนักเข้าไปอีก ด้วยการเข้าไปติดต่อกับแหล่งน้ำมันในประเทศที่เคยเป็นอาณานิคมของนายท่าน ด้วยเงื่อนไขที่ดีกว่านายท่านแบ่งมาให้ ท้าทายแค่นี้คงยังไม่สะใจ (เฮ้อ ! อยากได้คุณ Mattei พันธ์ไทยสักคน)
    ปีค.ศ. 1960 คุณ Mattei ได้กระทำการที่นายท่านบอกว่า พอกันที มันไม่ใช่แค่หยามหน้าเราแล้วนะ แต่มันกำลังเหยียบหน้าเรา เพราะคุณ Mattei เข้าไปเจรจากับโซเวียตเจ้าของแหล่งน้ำมัน ที่นายท่านโคตรรวยทั้งหลายอยากได้แต่ไม่ได้น่ะ เขาทำสัญญาตกลงซื้อน้ำมันดิบปีละ 2.4 ล้านตัน จากโซเวียตเป็นเวลา 5 ปี โดยไม่ต้องจ่ายเป็นเงิน แต่ตกลงจะสร้างท่อส่งน้ำมัน ที่โซเวียตอยากได้หนักหนาแทนให้ มันจะเป็นท่อส่งน้ำมันที่เป็น network ระหว่างน้ำมันในรัสเซียไปยัง Czechoslovakia Poland และ Hungary จำนวน 15 ล้านตันต่อปี เมื่อเสร็จสมบูรณ์
    หลังจากทำสัญญาได้ 1 เดือน คุณ Mattei ก็ตาย ตายจริง ๆ เนื่องจากเครื่องบินส่วนตัวตก หลังจากขึ้นบินไปไม่นาน สัญญาที่คุณ Mattei สร้างประวัติศาสตร์ไว้มีกับ อิหร่าน รัสเซีย โมรอคโค ซูดาน แทนซาเนีย กานา อินเดีย และอาร์เจนตินา แน่นอนสัญญาเหล่านี้ ทำให้พวกโคตรรวย นายท่าน ทั้งหลาย กลายเป็นผู้ร้ายแทนผู้ดีโคตรรวย !

    คนเล่านิทาน
    มายากลยุทธ ภาค 2 ตอน ผู้ดีขี้ขโมย นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ” ภาคสอง ตอน เสกกระดาษเป็นน้ำมัน ตอนที่ 19 : ผู้ดีขี้ขโมย คงจำกันได้ อิหร่านพบน้ำมันตั้งแต่ยังใช้ชื่อประเทศว่าเปอร์เซีย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1908 อังกฤษไม่มีน้ำมันของตนเอง จึงโดดเข้าไปคว้าข้อมือมาทำสัญญา ยังไม่หยุดแค่นั้น กลิ่นน้ำมันมันแรงเกินห้ามใจ อังกฤษบุกเข้าไปในอิหร่าน และบังคับให้อิหร่านให้สัญญาสัมปทานกับ Royal Dutch Shell ซึ่งรัฐบาลอังกฤษถือหุ้นร่วมอยู่ด้วย วันดีคืนดี ปี ค.ศ. 1944 คนรักชาติ ชื่อนาย Mohammad Mossadegh ทนไม่ไหว ลุกขึ้นเสนอให้อิหร่านออกกฎหมาย ห้ามเจรจาขายน้ำมันกับบริษัทต่างชาติ (สมันน้อยอ่านเรื่องอิหร่าน หลายหนหน่อยนะ เผื่อต้องใช้) อังกฤษโมโหจนหน้ามืด ยกทัพบุกเข้าไปในอิหร่านต่อสู้กันอยู่พักใหญ่ ค.ศ. 1948 อังกฤษก็ถอนทัพออกมา แต่บอกว่า ประเทศยูอยู่ในความควบคุมของไอแล้วนะ ผ่านการควบคุม โดย Anglo Iranian Oil Company แหล่งน้ำมันอิหร่าน ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดในโลกขณะนั้น เออ ! หน้าด้าน ๆ แบบนั้นแหละ ระหว่างการต่อสู้ ปีค.ศ. 1947 รัฐบาลอิหร่านกระซิบเบา ๆ บอกอังกฤษว่า นายท่าน Venezuela ที่เขาทำสัญญากับ Standard Oil น่ะนะ เขาให้ส่วนแบ่ง 50:50 นะ นายท่านฉุนขาด บังอาจมาก ไม่ตกลงโว้ย คุณ Mossadegh แกก็อดทน รอไว้ก่อนวันหน้ายังมี ก็รบแพ้เขานี่ แล้วแกก็ตัดสินใจเข้าสู่การเมือง
เมื่อได้เป็นผู้แทนก็พยายามอภิปรายหว่านล้อมสภา จนสภามีมติให้ไปเจรจาขอส่วนแบ่ง 50:50 กับอังกฤษต่อ อังกฤษปฏิเสธเหมือนเดิม แต่คราวนี้โลกมันคงหมุนกลับทาง คุณ Mossadegh ได้เป็นนายกรัฐมนตรี งานแรกที่คุณ Mossadegh ทำคือ ยึดคืนบริษัท Anglo Iranian Oil Company (คนเล่านิทานขอสดุดี) โดยยอมจ่ายค่าเสียหายให้อังกฤษ (สุภาพบุรุษมาก) แต่อังกฤษไม่เป็นสุภาพบุรุษด้วย กลับใช้วิธีขี้แพ้ชั้นเลวตอบโต้ อังกฤษไม่รอช้า เริ่มใช้วิธีคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอิหร่าน (Economic Sanction) และห้ามการซื้อขายน้ำมันตามมา (Oil Embargo) นอกจากนี้ ทรัพย์สินของอิหร่านที่ฝากอยู่ในธนาคารอังกฤษถูกอายัด ค่ายน้ำมันฝั่ง Anglo – American ต่างสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรของอังกฤษ เศรษฐกิจอิหร่านพังทลาย จากที่มีรายได้จากขายน้ำมัน ในปีค.ศ. 1950 จำนวน 400 ล้านเหรียญ เหลือเพียง 2 ล้าน (อ่านว่าสองล้าน) เหรียญในปีค.ศ. 1951 ! มันโหดจริง ๆ นะ น้ำมันก็ของเขา อยู่ในบ้านเขา พอเขาไม่ยอมให้โกงต่อไป มันก็ใช้อำนาจข่มขู่ มันไม่ใช่แค่นั้น อเมริกาช่วยส่งนักจัดรายการยี่ห้อ CIA บวก SIS ของอังกฤษเข้าไปร่วมกระชับวงล้อม ผลคงเดากันออก คุณ Mossadegh ถูกไล่ออกจากตำแหน่ง และมีการอุ้ม Shah Reza Pahlavi เข้ามาในตำแหน่งแทน การคว่ำบาตรยกเลิก หงายบาตรรับเงินต่อไป อเมริกาและอังกฤษก็ได้เข้าไปทำการค้าควบคุมเหมือนเดิม ผ่านไป 30 ปี วงจรอุบาทย์ก็กลับมาใหม่ โดยคนกำกับการแสดงรายเก่า นักจัดรายการยี่ห้อเก่า แต่เหยื่อเปลี่ยนจากคุณ Mossadegh เป็นท่าน Shah เฮ้อ ! โลกมันเป็นอย่างนี้แหละ น้ำมันมันมีค่าถึงขนาดนี้เชียวหรือ เรามาพากันรณณรงค์ใช้น้ำมันหมู หรือน้ำมันมะพร้าวกันดีไหม สมันน้อย พวกมันจะได้ไม่ยุ่งกับเรา 555 เรื่องของอิหร่านไม่จบง่าย ๆ อังกฤษพยายามทำเป็นลืมเรื่อง 50:50 กับอิหร่าน แต่มันก็มีคนมากระตุก ทำให้โลหิตกระอักขึ้นมาใหม่ ประมาณปีค.ศ. 1957 มีบริษัทน้ำมันอิตาเลี่ยนเกิดขึ้นมาใหม่ ชื่อ Azienda Generale Italiana Petroli ชื่อยาวจัง แต่ที่เรารู้จักเขาในนาม AGIP น่ะ ผู้ก่อตั้งชื่อ Enrico Mattei คุณ Mattei นี้ไม่ธรรมดา แกพยายามหาแหล่งน้ำมันให้ประเทศแก แต่ไม่สำเร็จ เพราะตอนที่ Anglo American คว่ำบาตรอิหร่าน คุณ Mattei แสดงความไม่เห็นด้วย แน่นอนแกย่อมถูกขึ้นบัญชีดำไว้ คุณ Mattei ไม่ย่อท้อ พยายามเดินเรื่องให้มีการออกกฎหมายใหม่ และในที่สุดอิตาลี ก็ตั้งบริษัทน้ำมันแบบรัฐถือหุ้นร่วมด้วย ชื่อ Ente Nazionale Idrocarburi (ENI) โดยมี AGIP เป็นบริษัทลูก แล้วคุณ Mattei ก็เดินเข้าไปขอเจรจาขุดเจาะน้ำมันกับอิหร่านโดยเสนอส่วนแบ่งให้อิหร่าน 75 และผู้ขุดเอา 25 มันกลับทางจากที่อิหร่านได้อยู่จากอังกฤษ เป็นไปได้ยังไง ปล่อยให้เป็นอย่างนี้ พวกเราก็รวยน้อยลงซินะ พวกนายท่านต่างไม่พอใจ เรื่องนี้ต้องจบ เข้าใจไหม คุณ Mattei นอกจากบอกว่าไม่เข้าใจ และยังไม่สนใจ เขาเดินหน้าต่อ ท้าทายบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายหนักเข้าไปอีก ด้วยการเข้าไปติดต่อกับแหล่งน้ำมันในประเทศที่เคยเป็นอาณานิคมของนายท่าน ด้วยเงื่อนไขที่ดีกว่านายท่านแบ่งมาให้ ท้าทายแค่นี้คงยังไม่สะใจ (เฮ้อ ! อยากได้คุณ Mattei พันธ์ไทยสักคน) ปีค.ศ. 1960 คุณ Mattei ได้กระทำการที่นายท่านบอกว่า พอกันที มันไม่ใช่แค่หยามหน้าเราแล้วนะ แต่มันกำลังเหยียบหน้าเรา เพราะคุณ Mattei เข้าไปเจรจากับโซเวียตเจ้าของแหล่งน้ำมัน ที่นายท่านโคตรรวยทั้งหลายอยากได้แต่ไม่ได้น่ะ เขาทำสัญญาตกลงซื้อน้ำมันดิบปีละ 2.4 ล้านตัน จากโซเวียตเป็นเวลา 5 ปี โดยไม่ต้องจ่ายเป็นเงิน แต่ตกลงจะสร้างท่อส่งน้ำมัน ที่โซเวียตอยากได้หนักหนาแทนให้ มันจะเป็นท่อส่งน้ำมันที่เป็น network ระหว่างน้ำมันในรัสเซียไปยัง Czechoslovakia Poland และ Hungary จำนวน 15 ล้านตันต่อปี เมื่อเสร็จสมบูรณ์ หลังจากทำสัญญาได้ 1 เดือน คุณ Mattei ก็ตาย ตายจริง ๆ เนื่องจากเครื่องบินส่วนตัวตก หลังจากขึ้นบินไปไม่นาน สัญญาที่คุณ Mattei สร้างประวัติศาสตร์ไว้มีกับ อิหร่าน รัสเซีย โมรอคโค ซูดาน แทนซาเนีย กานา อินเดีย และอาร์เจนตินา แน่นอนสัญญาเหล่านี้ ทำให้พวกโคตรรวย นายท่าน ทั้งหลาย กลายเป็นผู้ร้ายแทนผู้ดีโคตรรวย ! คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง มายากลยุทธ
    ภาคสอง เสกกระดาษเป็นน้ำมัน
    ตอนที่ 18 : สร้างฉาก
    นักเล่นกลไม่ให้เสียเวลา สถานการณ์การเมืองในรัสเซียกำลังวุ่นวาย โอกาสทองมาถึงแล้ว พวกเขาจึงสร้างคอมมี่ตัวพ่อขึ้นในรัสเซีย Trotsky และพวก เข้ามานั่งประชุมวางแผนอยู่ใน New York ปี ค.ศ. 1917 โดยใช้ passport อเมริกา ซึ่งอนุมัติออกโดยประธานาธิบดี Wilson บวกได้วีซ่าเข้าประเทศ
อังกฤษ โดยมีเงื่อนไขว่า ประชุมเสร็จแล้ว รีบกลับไปรัสเซียนะเพื่อน กลับไป “ดำเนินการ” เรื่องการปฏิวัติต่อให้เรียบร้อยนะ ระหว่างเดินทางกลับ Trotsky โดนจับที่ Canada แต่ก็ได้มีการปล่อยตัวอย่างรวดเร็ว หลังจากอังกฤษส่งสาย มากระซิบสั่ง ! เอ้อ ! จับผิดจังหวะนะไอ้น้อง ! 555 ตำรวจฝรั่งก็บื้อเหมือนกัน !
    Trotsky เดินทางต่อทางเรือใน ค.ศ. 1917 มีเพื่อนร่วมทางน่าสนใจ เช่น นักลงทุนจาก Wall Street, คอมมี่สายอเมริกา และบุรุษลึกลับ ชื่อนาย Charles Crane คุณ Crane ไม่ใช่ใครอื่นไกล เป็นลูกของผู้คุมกระเป๋าเงินของพรรค Democrat อเมริกา (มิใช่ ปชป ของพี่ชวนนะคร้าบ !) ตัวคุณ Crane เอง ก็เป็นผู้ช่วยของรมว.ต่างประเทศของอเมริกา ขณะนั้นชื่อ Robert Lansing
    การปฏิวัติในรัสเซีย เริ่มต้นระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 กำลังลุยกันอยู่ ตระกูล Morgan และตระกูล Rockefeller สนับสนุนการปฏิวัติในรัสเซีย อย่างปิดไม่มิด เขาใช้สภากาชาดอเมริกาเป็นหน้าฉาก (ดูมันเล่นซี !) แต่คนจ่ายเงิน คือ กรรมการของ Federal Reserve Bank of New York ชื่อนาย William Boyce Thompson ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ใน Chase National Bank ขบวนการสนับสนุนการปฏิวัติในรัสเซีย จริง ๆ แล้ว ก็ประกอบไปด้วย ผู้คนที่เกี่ยวข้องของ Standard Oil และ National City Bank ของนักเล่นกลตระกูล Rockefeller นั่นเอง เมื่อการปฏิวัติประสบผลสำเร็จ National City Bank สาขา Petrograd เป็นธนาคารต่างประเทศ ธนาคารเดียวที่ไม่ถูกคณะปฏิวัติ ยึดเป็นของรัฐ และเมื่อโซเวียตมีแผนปฏิวัติอุตสาหกรรมในประเทศ เขาจำเป็นต้องใช้ technology และผู้ชำนาญการจากตปท.เข้ามาช่วย และแน่นอน บริษัทที่ส่งคนไปช่วยก็มาจาก Ford, General Electric, Dupont, Standard Oil, General Motors เป็นต้น และบริษัทเหล่านี้ก็ได้เข้าทำสัญญา ทำธุรกิจในโซเวียตกันถ้วนหน้า และบริษัทพวกนี้ ก็แน่นอนเป็นเครือข่ายของ Morgan และ Rockefeller ทั้งนั้น
    ค.ศ. 1945 สถานการณ์โลกเปลี่ยนไป หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษเป็นแชมป์ หมายเลข 1 จักรภพอังกฤษ แผ่ไปถึง 1 ใน 4 ของพื้นที่โลก แต่ 30 ปีให้หลัง หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จักรภพอังกฤษกลายเป็นประวัติศาสตร์ และทำให้อังกฤษต้องหันมาพึ่งลูกรัก ชื่ออเมริกาแทน
    ความสัมพันธ์พิเศษของประเทศไผ่กอเดียวกัน เริ่มตั้งแต่ปฏิบัติการขย่มเยอรมัน จากสนธิสัญญา Versailles หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 และจากความร่วมมือในการทำจารกรรมช่วงสงครามโลก ระหว่างหน่วยสืบราชการลับของ CIA (ซึ่งช่วงนั้นยังใช้ชื่อ OSS Office of trategic Services) กับหน่วยสืบราชการลับของอังกฤษ สัมพันธ์ดังกล่าวยังมีอยู่ต่อมาถึงปัจจุบันนี้
    หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 น้ำมันสัญชาติ Anglo – American มาแรง ขยายตลาดไปทั่วจากกลไกของ World Bank IMF และการค้าเสรี GATT ซึ่งเกิดขึ้นเพราะข้อตกลง Bretton Wood ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1944 ทั้ง 3 กลไก ได้กำหนดขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าอังกฤษและอเมริกา จะเป็นผู้ควบคุมระบบการเงินและการค้า ทั้ง 2 ประเทศคุมคะแนนเสียงของ 3 กลไก โดยสร้างระบบแลกเปลี่ยนทอง ภายใต้ระบบนี้ เงินสกุลต่าง ๆ ต้องผูกไว้กับดอลล่าร์ และใช้ดอลล่าร์ เป็นตัวเทียบอัตราแลกเปลี่ยนกับทอง 35 ดอลล่าร์ แลกทองได้ 1 ออนซ์ อเมริกาชอบใจเพราะตอนนั้นมีทองอยู่ล้นลิ้นชัก
    ขณะเดียวกันบริษัทยักษ์ใหญ่น้ำมันกับพี่เบิ้มวงการธนาคาร และนักค้าเงินแถว Wall Street ก็จับมือกันเล่นกล ปั่นหุ้นปั่นเงิน ในที่สุดก็ตลาดเงินก็อยู่ในมือของพวกเขา
    ที่น่าสนใจ เช่นเดียวกับการเข้าไปในลาตินอเมริกาของพวกโคตรรวย เขามองหาเป้าหมายและปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องอาหาร เขาใช้โลกที่ 3 โดยเฉพาะลาตินอเมริกาเป็นเหยือ ในโลกของน้ำมันและการเงินก็มีเหยื่อเช่นเดียวกัน

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง มายากลยุทธ ภาคสอง เสกกระดาษเป็นน้ำมัน ตอนที่ 18 : สร้างฉาก นักเล่นกลไม่ให้เสียเวลา สถานการณ์การเมืองในรัสเซียกำลังวุ่นวาย โอกาสทองมาถึงแล้ว พวกเขาจึงสร้างคอมมี่ตัวพ่อขึ้นในรัสเซีย Trotsky และพวก เข้ามานั่งประชุมวางแผนอยู่ใน New York ปี ค.ศ. 1917 โดยใช้ passport อเมริกา ซึ่งอนุมัติออกโดยประธานาธิบดี Wilson บวกได้วีซ่าเข้าประเทศ
อังกฤษ โดยมีเงื่อนไขว่า ประชุมเสร็จแล้ว รีบกลับไปรัสเซียนะเพื่อน กลับไป “ดำเนินการ” เรื่องการปฏิวัติต่อให้เรียบร้อยนะ ระหว่างเดินทางกลับ Trotsky โดนจับที่ Canada แต่ก็ได้มีการปล่อยตัวอย่างรวดเร็ว หลังจากอังกฤษส่งสาย มากระซิบสั่ง ! เอ้อ ! จับผิดจังหวะนะไอ้น้อง ! 555 ตำรวจฝรั่งก็บื้อเหมือนกัน ! Trotsky เดินทางต่อทางเรือใน ค.ศ. 1917 มีเพื่อนร่วมทางน่าสนใจ เช่น นักลงทุนจาก Wall Street, คอมมี่สายอเมริกา และบุรุษลึกลับ ชื่อนาย Charles Crane คุณ Crane ไม่ใช่ใครอื่นไกล เป็นลูกของผู้คุมกระเป๋าเงินของพรรค Democrat อเมริกา (มิใช่ ปชป ของพี่ชวนนะคร้าบ !) ตัวคุณ Crane เอง ก็เป็นผู้ช่วยของรมว.ต่างประเทศของอเมริกา ขณะนั้นชื่อ Robert Lansing การปฏิวัติในรัสเซีย เริ่มต้นระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 กำลังลุยกันอยู่ ตระกูล Morgan และตระกูล Rockefeller สนับสนุนการปฏิวัติในรัสเซีย อย่างปิดไม่มิด เขาใช้สภากาชาดอเมริกาเป็นหน้าฉาก (ดูมันเล่นซี !) แต่คนจ่ายเงิน คือ กรรมการของ Federal Reserve Bank of New York ชื่อนาย William Boyce Thompson ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ใน Chase National Bank ขบวนการสนับสนุนการปฏิวัติในรัสเซีย จริง ๆ แล้ว ก็ประกอบไปด้วย ผู้คนที่เกี่ยวข้องของ Standard Oil และ National City Bank ของนักเล่นกลตระกูล Rockefeller นั่นเอง เมื่อการปฏิวัติประสบผลสำเร็จ National City Bank สาขา Petrograd เป็นธนาคารต่างประเทศ ธนาคารเดียวที่ไม่ถูกคณะปฏิวัติ ยึดเป็นของรัฐ และเมื่อโซเวียตมีแผนปฏิวัติอุตสาหกรรมในประเทศ เขาจำเป็นต้องใช้ technology และผู้ชำนาญการจากตปท.เข้ามาช่วย และแน่นอน บริษัทที่ส่งคนไปช่วยก็มาจาก Ford, General Electric, Dupont, Standard Oil, General Motors เป็นต้น และบริษัทเหล่านี้ก็ได้เข้าทำสัญญา ทำธุรกิจในโซเวียตกันถ้วนหน้า และบริษัทพวกนี้ ก็แน่นอนเป็นเครือข่ายของ Morgan และ Rockefeller ทั้งนั้น ค.ศ. 1945 สถานการณ์โลกเปลี่ยนไป หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษเป็นแชมป์ หมายเลข 1 จักรภพอังกฤษ แผ่ไปถึง 1 ใน 4 ของพื้นที่โลก แต่ 30 ปีให้หลัง หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จักรภพอังกฤษกลายเป็นประวัติศาสตร์ และทำให้อังกฤษต้องหันมาพึ่งลูกรัก ชื่ออเมริกาแทน ความสัมพันธ์พิเศษของประเทศไผ่กอเดียวกัน เริ่มตั้งแต่ปฏิบัติการขย่มเยอรมัน จากสนธิสัญญา Versailles หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 และจากความร่วมมือในการทำจารกรรมช่วงสงครามโลก ระหว่างหน่วยสืบราชการลับของ CIA (ซึ่งช่วงนั้นยังใช้ชื่อ OSS Office of trategic Services) กับหน่วยสืบราชการลับของอังกฤษ สัมพันธ์ดังกล่าวยังมีอยู่ต่อมาถึงปัจจุบันนี้ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 น้ำมันสัญชาติ Anglo – American มาแรง ขยายตลาดไปทั่วจากกลไกของ World Bank IMF และการค้าเสรี GATT ซึ่งเกิดขึ้นเพราะข้อตกลง Bretton Wood ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1944 ทั้ง 3 กลไก ได้กำหนดขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าอังกฤษและอเมริกา จะเป็นผู้ควบคุมระบบการเงินและการค้า ทั้ง 2 ประเทศคุมคะแนนเสียงของ 3 กลไก โดยสร้างระบบแลกเปลี่ยนทอง ภายใต้ระบบนี้ เงินสกุลต่าง ๆ ต้องผูกไว้กับดอลล่าร์ และใช้ดอลล่าร์ เป็นตัวเทียบอัตราแลกเปลี่ยนกับทอง 35 ดอลล่าร์ แลกทองได้ 1 ออนซ์ อเมริกาชอบใจเพราะตอนนั้นมีทองอยู่ล้นลิ้นชัก ขณะเดียวกันบริษัทยักษ์ใหญ่น้ำมันกับพี่เบิ้มวงการธนาคาร และนักค้าเงินแถว Wall Street ก็จับมือกันเล่นกล ปั่นหุ้นปั่นเงิน ในที่สุดก็ตลาดเงินก็อยู่ในมือของพวกเขา ที่น่าสนใจ เช่นเดียวกับการเข้าไปในลาตินอเมริกาของพวกโคตรรวย เขามองหาเป้าหมายและปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องอาหาร เขาใช้โลกที่ 3 โดยเฉพาะลาตินอเมริกาเป็นเหยือ ในโลกของน้ำมันและการเงินก็มีเหยื่อเช่นเดียวกัน คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อมือถือ Android กลายเป็นเหยื่อเรียกค่าไถ่

    ลองจินตนาการว่าคุณกำลังใช้มือถือ Android อยู่ดี ๆ แล้วจู่ ๆ หน้าจอก็ขึ้นข้อความ “WARNING” เต็มจอ พร้อมบอกให้คุณจ่ายเงินค่าไถ่ผ่านกระเป๋าคริปโตเพื่อปลดล็อกเครื่อง…นี่ไม่ใช่ฉากจากหนังไซไฟ แต่มันคือภัยคุกคามจริงจากมัลแวร์ตัวใหม่ชื่อว่า “Hook Version 3”

    มัลแวร์ Hook เคยเป็นแค่ banking trojan ที่ขโมยข้อมูลบัญชีธนาคาร แต่ตอนนี้มันกลายร่างเป็น “มัลแวร์ลูกผสม” ที่รวมความสามารถของ ransomware, spyware และการควบคุมเครื่องจากระยะไกลไว้ในตัวเดียว

    Hook v3 รองรับคำสั่งจากแฮกเกอร์ถึง 107 แบบ โดยมีคำสั่งใหม่เพิ่มถึง 38 คำสั่ง เช่น การแสดงหน้าจอปลอมเพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอกรหัส PIN, การปลอมหน้าจอ Google Pay เพื่อขโมยข้อมูลบัตรเครดิต หรือแม้แต่การสตรีมหน้าจอมือถือแบบเรียลไทม์ให้แฮกเกอร์ดู

    ที่น่ากลัวคือ Hook ใช้เทคนิคหลอกให้ผู้ใช้เปิด “Accessibility Services” ซึ่งเป็นฟีเจอร์ช่วยเหลือผู้พิการใน Android เพื่อให้มันสามารถควบคุมเครื่องได้โดยอัตโนมัติ

    มัลแวร์นี้ยังถูกเผยแพร่ผ่าน GitHub และเว็บไซต์ฟิชชิ่ง ทำให้การกระจายตัวรวดเร็วและกว้างขวางมากขึ้น โดยมีมัลแวร์ตระกูลอื่นอย่าง Ermac และ Brokewell ใช้ช่องทางเดียวกัน

    Hook ยังมีฟีเจอร์ที่กำลังพัฒนา เช่น การใช้ RabbitMQ และ Telegram เพื่อสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแฮกเกอร์ยังไม่หยุดพัฒนาเลย

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Hook Version 3 เป็นมัลแวร์ Android ที่รวม ransomware, spyware และ banking trojan ในตัวเดียว
    รองรับคำสั่งจากแฮกเกอร์ถึง 107 แบบ โดยมีคำสั่งใหม่เพิ่ม 38 คำสั่ง
    ใช้หน้าจอปลอม เช่น Google Pay, NFC, PIN unlock เพื่อหลอกขโมยข้อมูล
    สามารถสตรีมหน้าจอมือถือแบบเรียลไทม์ให้แฮกเกอร์ดู
    ใช้ Accessibility Services เพื่อควบคุมเครื่องโดยอัตโนมัติ
    แสดงหน้าจอเรียกค่าไถ่แบบเต็มจอ พร้อมกระเป๋าคริปโตและจำนวนเงินที่รับจากเซิร์ฟเวอร์
    ถูกเผยแพร่ผ่าน GitHub และเว็บไซต์ฟิชชิ่ง
    มีการพัฒนาให้ใช้ RabbitMQ และ Telegram ในอนาคต
    เป็นภัยคุกคามต่อทั้งผู้ใช้ทั่วไปและองค์กรธุรกิจ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Hook เป็นสายพันธุ์ที่พัฒนาต่อจาก ERMAC ซึ่งเคยมีซอร์สโค้ดหลุดออกมา
    ฟีเจอร์สตรีมหน้าจอแบบเรียลไทม์ยังถือว่าเป็นสิ่งที่พบได้น้อยในมัลแวร์ Android
    การใช้ GitHub เป็นช่องทางเผยแพร่มัลแวร์กำลังเป็นเทรนด์ในกลุ่มแฮกเกอร์
    การใช้ overlay แบบโปร่งใสเพื่อจับ gesture ของผู้ใช้เป็นเทคนิคใหม่ที่ซับซ้อน
    การใช้ HTML ฝังใน APK เพื่อแสดง ransomware overlay เป็นการผสานเทคนิคเว็บกับแอป

    https://hackread.com/android-hook-malware-variant-locks-devices-ransomware/
    📱 เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อมือถือ Android กลายเป็นเหยื่อเรียกค่าไถ่ ลองจินตนาการว่าคุณกำลังใช้มือถือ Android อยู่ดี ๆ แล้วจู่ ๆ หน้าจอก็ขึ้นข้อความ “WARNING” เต็มจอ พร้อมบอกให้คุณจ่ายเงินค่าไถ่ผ่านกระเป๋าคริปโตเพื่อปลดล็อกเครื่อง…นี่ไม่ใช่ฉากจากหนังไซไฟ แต่มันคือภัยคุกคามจริงจากมัลแวร์ตัวใหม่ชื่อว่า “Hook Version 3” มัลแวร์ Hook เคยเป็นแค่ banking trojan ที่ขโมยข้อมูลบัญชีธนาคาร แต่ตอนนี้มันกลายร่างเป็น “มัลแวร์ลูกผสม” ที่รวมความสามารถของ ransomware, spyware และการควบคุมเครื่องจากระยะไกลไว้ในตัวเดียว Hook v3 รองรับคำสั่งจากแฮกเกอร์ถึง 107 แบบ โดยมีคำสั่งใหม่เพิ่มถึง 38 คำสั่ง เช่น การแสดงหน้าจอปลอมเพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอกรหัส PIN, การปลอมหน้าจอ Google Pay เพื่อขโมยข้อมูลบัตรเครดิต หรือแม้แต่การสตรีมหน้าจอมือถือแบบเรียลไทม์ให้แฮกเกอร์ดู ที่น่ากลัวคือ Hook ใช้เทคนิคหลอกให้ผู้ใช้เปิด “Accessibility Services” ซึ่งเป็นฟีเจอร์ช่วยเหลือผู้พิการใน Android เพื่อให้มันสามารถควบคุมเครื่องได้โดยอัตโนมัติ มัลแวร์นี้ยังถูกเผยแพร่ผ่าน GitHub และเว็บไซต์ฟิชชิ่ง ทำให้การกระจายตัวรวดเร็วและกว้างขวางมากขึ้น โดยมีมัลแวร์ตระกูลอื่นอย่าง Ermac และ Brokewell ใช้ช่องทางเดียวกัน Hook ยังมีฟีเจอร์ที่กำลังพัฒนา เช่น การใช้ RabbitMQ และ Telegram เพื่อสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแฮกเกอร์ยังไม่หยุดพัฒนาเลย 🔍 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Hook Version 3 เป็นมัลแวร์ Android ที่รวม ransomware, spyware และ banking trojan ในตัวเดียว ➡️ รองรับคำสั่งจากแฮกเกอร์ถึง 107 แบบ โดยมีคำสั่งใหม่เพิ่ม 38 คำสั่ง ➡️ ใช้หน้าจอปลอม เช่น Google Pay, NFC, PIN unlock เพื่อหลอกขโมยข้อมูล ➡️ สามารถสตรีมหน้าจอมือถือแบบเรียลไทม์ให้แฮกเกอร์ดู ➡️ ใช้ Accessibility Services เพื่อควบคุมเครื่องโดยอัตโนมัติ ➡️ แสดงหน้าจอเรียกค่าไถ่แบบเต็มจอ พร้อมกระเป๋าคริปโตและจำนวนเงินที่รับจากเซิร์ฟเวอร์ ➡️ ถูกเผยแพร่ผ่าน GitHub และเว็บไซต์ฟิชชิ่ง ➡️ มีการพัฒนาให้ใช้ RabbitMQ และ Telegram ในอนาคต ➡️ เป็นภัยคุกคามต่อทั้งผู้ใช้ทั่วไปและองค์กรธุรกิจ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Hook เป็นสายพันธุ์ที่พัฒนาต่อจาก ERMAC ซึ่งเคยมีซอร์สโค้ดหลุดออกมา ➡️ ฟีเจอร์สตรีมหน้าจอแบบเรียลไทม์ยังถือว่าเป็นสิ่งที่พบได้น้อยในมัลแวร์ Android ➡️ การใช้ GitHub เป็นช่องทางเผยแพร่มัลแวร์กำลังเป็นเทรนด์ในกลุ่มแฮกเกอร์ ➡️ การใช้ overlay แบบโปร่งใสเพื่อจับ gesture ของผู้ใช้เป็นเทคนิคใหม่ที่ซับซ้อน ➡️ การใช้ HTML ฝังใน APK เพื่อแสดง ransomware overlay เป็นการผสานเทคนิคเว็บกับแอป https://hackread.com/android-hook-malware-variant-locks-devices-ransomware/
    HACKREAD.COM
    New Android Hook Malware Variant Locks Devices With Ransomware
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อ “อีเมลเสียงปลอม” กลายเป็นประตูสู่การยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ

    ในเดือนสิงหาคม 2025 FortiGuard Labs ได้ออกคำเตือนถึงแคมเปญฟิชชิ่งระดับโลกที่กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว โดยใช้เทคนิคที่ดูเรียบง่ายแต่ได้ผลอย่างน่ากลัว — อีเมลแจ้ง “สายที่ไม่ได้รับ” หรือ “ใบสั่งซื้อ” ที่แนบไฟล์ HTML ปลอมมาให้ผู้ใช้คลิก

    เมื่อเปิดไฟล์ HTML เหล่านี้ ผู้ใช้จะถูกนำไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ดูเหมือนจริงมาก โดยแสดงโลโก้และโดเมนอีเมลของบริษัทผู้ใช้เอง เพื่อหลอกให้เชื่อว่าเป็นระบบภายใน เมื่อคลิก “ดาวน์โหลดข้อความเสียง” หรือ “ดาวน์โหลดใบสั่งซื้อ” ระบบจะส่งไฟล์ JavaScript ที่ดูเหมือนไม่มีพิษภัย แต่จริง ๆ แล้วเป็นตัว dropper สำหรับมัลแวร์ชื่อ UpCrypter

    UpCrypter ไม่ใช่แค่มัลแวร์ธรรมดา — มันสามารถตรวจสอบว่าเครื่องกำลังถูกวิเคราะห์หรือรันในสภาพแวดล้อมจำลองหรือไม่ หากพบว่ากำลังถูกตรวจสอบ มันจะหยุดทำงานหรือรีสตาร์ทเครื่องทันทีเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ

    เมื่อมัลแวร์ฝังตัวสำเร็จ มันจะดาวน์โหลด Remote Access Tools (RATs) เช่น DCRat, PureHVNC และ Babylon RAT ซึ่งช่วยให้แฮกเกอร์ควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้เต็มรูปแบบ โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้รู้ตัว

    ที่น่ากลัวคือ UpCrypter สามารถซ่อนโค้ดอันตรายไว้ในไฟล์ภาพ JPG และฝังตัวในระบบผ่าน Windows Registry เพื่อให้ทำงานต่อเนื่องแม้รีสตาร์ทเครื่อง

    แคมเปญนี้แพร่กระจายไปยังหลายประเทศและหลายอุตสาหกรรม เช่น การผลิต เทคโนโลยี การแพทย์ ก่อสร้าง ค้าปลีก และโรงแรม โดยมีจำนวนการตรวจจับเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในเวลาเพียงสองสัปดาห์

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    แคมเปญฟิชชิ่งใช้ “อีเมลเสียงปลอม” และ “ใบสั่งซื้อปลอม” เพื่อหลอกให้ผู้ใช้คลิกไฟล์ HTML
    เว็บไซต์ปลอมแสดงโลโก้และโดเมนอีเมลของบริษัทผู้ใช้เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
    เมื่อคลิก “ดาวน์โหลด” จะได้รับไฟล์ JavaScript ที่เป็น dropper สำหรับมัลแวร์ UpCrypter
    UpCrypter สามารถตรวจสอบสภาพแวดล้อมและหลบเลี่ยงการตรวจจับ
    มัลแวร์จะดาวน์โหลด RATs เช่น DCRat, PureHVNC และ Babylon RAT เพื่อควบคุมเครื่อง
    โค้ดอันตรายสามารถซ่อนในไฟล์ภาพ JPG และฝังตัวผ่าน Windows Registry
    แคมเปญนี้แพร่กระจายไปยังหลายประเทศ เช่น ออสเตรีย แคนาดา อินเดีย และอียิปต์
    อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ การผลิต เทคโนโลยี การแพทย์ ก่อสร้าง ค้าปลีก และโรงแรม
    Fortinet แนะนำให้ใช้ระบบกรองอีเมลและฝึกอบรมพนักงานให้รู้เท่าทันฟิชชิ่ง
    การตรวจสอบการใช้ PowerShell ที่เริ่มจาก Outlook.exe เป็นวิธีตรวจจับที่มีประสิทธิภาพ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    UpCrypter ยังมีเวอร์ชัน MSIL ที่สามารถโหลดมัลแวร์ผ่าน PowerShell และ DLL โดยไม่เขียนลงดิสก์
    เทคนิค steganography ที่ใช้ซ่อนโค้ดในภาพเป็นวิธีที่นิยมในมัลแวร์ยุคใหม่
    RATs อย่าง PureHVNC และ Babylon RAT มีความสามารถในการควบคุมหน้าจอและขโมยข้อมูลแบบเรียลไทม์
    การฝังตัวผ่าน Windows Registry ทำให้มัลแวร์สามารถรันได้ทุกครั้งที่เปิดเครื่อง
    การใช้ HTML attachment เป็นจุดเริ่มต้นของการโจมตีเป็นเทคนิคที่ยังได้ผลดีในหลายองค์กร

    https://hackread.com/fake-voicemail-emails-install-upcrypter-malware-windows/
    🎙️ เมื่อ “อีเมลเสียงปลอม” กลายเป็นประตูสู่การยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ ในเดือนสิงหาคม 2025 FortiGuard Labs ได้ออกคำเตือนถึงแคมเปญฟิชชิ่งระดับโลกที่กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว โดยใช้เทคนิคที่ดูเรียบง่ายแต่ได้ผลอย่างน่ากลัว — อีเมลแจ้ง “สายที่ไม่ได้รับ” หรือ “ใบสั่งซื้อ” ที่แนบไฟล์ HTML ปลอมมาให้ผู้ใช้คลิก เมื่อเปิดไฟล์ HTML เหล่านี้ ผู้ใช้จะถูกนำไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ดูเหมือนจริงมาก โดยแสดงโลโก้และโดเมนอีเมลของบริษัทผู้ใช้เอง เพื่อหลอกให้เชื่อว่าเป็นระบบภายใน เมื่อคลิก “ดาวน์โหลดข้อความเสียง” หรือ “ดาวน์โหลดใบสั่งซื้อ” ระบบจะส่งไฟล์ JavaScript ที่ดูเหมือนไม่มีพิษภัย แต่จริง ๆ แล้วเป็นตัว dropper สำหรับมัลแวร์ชื่อ UpCrypter UpCrypter ไม่ใช่แค่มัลแวร์ธรรมดา — มันสามารถตรวจสอบว่าเครื่องกำลังถูกวิเคราะห์หรือรันในสภาพแวดล้อมจำลองหรือไม่ หากพบว่ากำลังถูกตรวจสอบ มันจะหยุดทำงานหรือรีสตาร์ทเครื่องทันทีเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ เมื่อมัลแวร์ฝังตัวสำเร็จ มันจะดาวน์โหลด Remote Access Tools (RATs) เช่น DCRat, PureHVNC และ Babylon RAT ซึ่งช่วยให้แฮกเกอร์ควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้เต็มรูปแบบ โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้รู้ตัว ที่น่ากลัวคือ UpCrypter สามารถซ่อนโค้ดอันตรายไว้ในไฟล์ภาพ JPG และฝังตัวในระบบผ่าน Windows Registry เพื่อให้ทำงานต่อเนื่องแม้รีสตาร์ทเครื่อง แคมเปญนี้แพร่กระจายไปยังหลายประเทศและหลายอุตสาหกรรม เช่น การผลิต เทคโนโลยี การแพทย์ ก่อสร้าง ค้าปลีก และโรงแรม โดยมีจำนวนการตรวจจับเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในเวลาเพียงสองสัปดาห์ 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ แคมเปญฟิชชิ่งใช้ “อีเมลเสียงปลอม” และ “ใบสั่งซื้อปลอม” เพื่อหลอกให้ผู้ใช้คลิกไฟล์ HTML ➡️ เว็บไซต์ปลอมแสดงโลโก้และโดเมนอีเมลของบริษัทผู้ใช้เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ➡️ เมื่อคลิก “ดาวน์โหลด” จะได้รับไฟล์ JavaScript ที่เป็น dropper สำหรับมัลแวร์ UpCrypter ➡️ UpCrypter สามารถตรวจสอบสภาพแวดล้อมและหลบเลี่ยงการตรวจจับ ➡️ มัลแวร์จะดาวน์โหลด RATs เช่น DCRat, PureHVNC และ Babylon RAT เพื่อควบคุมเครื่อง ➡️ โค้ดอันตรายสามารถซ่อนในไฟล์ภาพ JPG และฝังตัวผ่าน Windows Registry ➡️ แคมเปญนี้แพร่กระจายไปยังหลายประเทศ เช่น ออสเตรีย แคนาดา อินเดีย และอียิปต์ ➡️ อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ การผลิต เทคโนโลยี การแพทย์ ก่อสร้าง ค้าปลีก และโรงแรม ➡️ Fortinet แนะนำให้ใช้ระบบกรองอีเมลและฝึกอบรมพนักงานให้รู้เท่าทันฟิชชิ่ง ➡️ การตรวจสอบการใช้ PowerShell ที่เริ่มจาก Outlook.exe เป็นวิธีตรวจจับที่มีประสิทธิภาพ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ UpCrypter ยังมีเวอร์ชัน MSIL ที่สามารถโหลดมัลแวร์ผ่าน PowerShell และ DLL โดยไม่เขียนลงดิสก์ ➡️ เทคนิค steganography ที่ใช้ซ่อนโค้ดในภาพเป็นวิธีที่นิยมในมัลแวร์ยุคใหม่ ➡️ RATs อย่าง PureHVNC และ Babylon RAT มีความสามารถในการควบคุมหน้าจอและขโมยข้อมูลแบบเรียลไทม์ ➡️ การฝังตัวผ่าน Windows Registry ทำให้มัลแวร์สามารถรันได้ทุกครั้งที่เปิดเครื่อง ➡️ การใช้ HTML attachment เป็นจุดเริ่มต้นของการโจมตีเป็นเทคนิคที่ยังได้ผลดีในหลายองค์กร https://hackread.com/fake-voicemail-emails-install-upcrypter-malware-windows/
    HACKREAD.COM
    Fake Voicemail Emails Install UpCrypter Malware on Windows
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรา..ประชาชนสามารถเข้าใจและพร้อมกับฟันธงได้เลยทันทีว่านอกจากที่เรา..เชื่อว่ามีไส้ศึกในส่วนอื่นๆแล้ว ตัวพ่ออีกตัวคือ กต.นี้เอง เธอมีองค์ข้อมูลสาระพัดกับดิวต่างประเทศทั้งหมด อะไรที่เกี่ยวกับอธิปไตยไทยต่อต่างชาติเธอคนนี้รับรู้ข้อมูลทั้งหมดก่อนใครเพื่อน นักการเมืองจะขายชาติจะแย่งเอาบ่อน้ำมันจากอ่าวไทยเธอในเรื่องอะไรจะไม่รู้ลึกรู้หนารู้ตื้น ช่องทางใดต่างชาติได้เปรียบหรือไม่ได้เปรียบไทยเธอก็รับรู้รายละเอียดความในเราหมดสิ้นมีช่องว่างอะไรที่จะช่วยต่างชาติชนะเราได้,เรามีอะไรปิดช่องนั้นก็ได้อีก สามารถเสนอทางตัดตอนเด็ดขาดก็ได้หรือไม่เด็ดขาดโอนอ่อนผ่อนตามก็ได้อีก,จะเสียดินแดนเสียอธิปไตยไทย กต.มีส่วนเกี่ยวข้องทุกๆเรื่องราวสืบทอดเชื่อมโยงแต่ละรัฐบาลได้นั้นเอง,ปลัดกระทรวงกต.จึงเสมือนกลไกให้คุณให้โทษเต็มที่ต่อการเสียอธิปไตยไทยแก่ต่างชาติใดๆหรือไม่ก็ได้ นอกจากมาจากฝ่ายนักการเมืองด้วย ตัวอันตรายที่สุดนอกจากฝ่ายนักการเมือง ปลัดกระทรวงอธิบดีทบวงกรมก็อันตรายไม่แพ้กัน เขียนสัญญาข้อตกลงได้เสียหมดที่กระทำการใดๆกับต่างชาตินอกอาณาจักรเราทั้งหมด,
    ..คนไทยเรากำลังเล่นงานผิดคนก็ด้วยนอกจากนักการเมือง,คนของกระทรวงต่างประเทศด้วยคือตัวอันตรายตัวจริงอีกตัว,แค่แถลงชี้เป้า แบบสไตล์ผู้ว่าฯสระแก้วก็พอเข้าใจแนวรบของพวกขายชาติไส้ศึกแล้ว จึงพยายามยืนยันทุกๆรูปแบบ ทุกๆช่องทาง ตีหลายด้าน ในที่นี้คือผ่านกระทรวงการต่างประเทศแล้ว ใช้เรือกะรุกขุนเลย เดินเรือค้าขายพาณิชย์มานานกับต่างชาติกะค้ำประกันยืนยันเข้าข้างต่างชาติเสียสะงันว่าต้องใช้1:200,000แน่นอน แม้ ในหลวงร.9เราถือใช้กางออกร่วมกับทหารแนวพรมแดนก็เป็นตกไป กระทรวงการต่างประเทศใหญ่กว่าในหลวงเรา ร.9เราที่ทรงใช้แผนที่1:50,000ตลอดการครองราชพระองค์ท่าน กระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าเสียเองแล้ว เป็นเจ้าของแผ่นดินไทยนี้เสียแล้ว เป็นผู้กำหนดแผ่นดินเขตแดนราชอาณาจักรไทยแล้วว่าต้องใช้อัตราเขตแดน1:200,000นะเพื่อเป็นประโยชน์แก่เขมร เป็นประโยชน์แก่อเมริกาฝรั่งเศสลากเส้นเขตแดนแดกบ่อน้ำมันในอ่าวไทยได้ รับตังมาแล้วต้องเร่งรีบตามแผนเดี๋ยวต่างชาติอเมริกาฝรั่งเศสdeep stateเอากูตาย ,ข้ามีอำนาจเต็มใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับต่างประเทศตลอดข้อตกลงต่างๆข้าเท่านั้นเป็นผู้อนุมัตและกำหนดกฎกติกาเงื่อนไขใดๆจะเข้าข้างต่างชาติจะทำไมทำอะไรกูได้เพราะกูมีอำนาจเต็มมือแล้วตอนนี้ คำโพสต์คำยืนยัน คำใดๆประกาศผ่านกูคือราชโองการโว้ย เขตแดนทั่วราชอาณาจักรไทยกูจะขีดจะรับกฎกติกาสมยอมเลียตีนใครก็เรื่องของกูเพราะกูใหญ่ กูจึงประกาศชัดเจนในที่นี้ว่าต้องใช้1:200,000เท่านั้น,ในประเทศไทยนี้ใครใหญ่กว่ากูตอนนี้ กูบอกยืนยันใช้ต้องใช้ตามกูบอก ,กูมีอเมริกาฝรั่งเศสหนุนหลังด้วยเรือจอดท่าเรียมแล้วเช่นนั้นกูไม่กล้าเจาะจงโพสต์วันนี้หรอกมันว่า.

    ..ในหลวงเรา ร.9 เสด็จพระราชกรณียกิจทั่วประเทศกางแผนที่กับทหารทั่วประเทศก็ใช้1:50,000 สคส.ก็ขีดวาดแผนที่1:50,000 แสดงว่ากระทรวงต่างประเทศไทยขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์สำเร็จราชการบนแผ่นดินไทยแน่นอนแล้ว สามารถสั่งการหนักแน่นว่าต้องใช้1:200,000เท่านั้น,ทั้งที่ปี2505เราประกาศไม่ยอมรับการตัดสินศาลผีบ้านี้แล้วพร้อมเสือกยื่นเสนอฝ่ายเดียวด้วย,ต้องโมฆะแผนที่นั้นอัตโนมัติตั้งแต่ปี2505แล้วซึ่งต้องเป็นไปในแบบนั้นถึงปัจจุบัน.
    ..สรุปใครก็ตามที่มีแนวคิดและโพสต์ความคิดเห็น แสดงวาจาว่าต้องใช้1:200,000 มันผู้นั้นคือศัตรูภัยร้ายทำลายแผ่นดินไทยประเทศไทยที่แท้จริง,มิอาจให้มันอยู่ร่วมแผ่นดินไทยนี้ต่อไปได้ กบฎทรยศอธิปไตยชาติไทยชัดเจน เจตนาทำให้สูญเสียดินแดนเขตอธิปไตยไทยแน่นอนแล้ว.,เพราะนั้นคือแผ่นดินไทยที่หายไปถึง1:150,000เลย,ซึ่งในหลวง ร.9เราใช้1:50,000 ,กระทรวงการต่างประเทศบกพร่องโดยทุจริตในใจชัดเจน ไม่ซื่อสัตย์ ซื่อตรงต่อประเทศชาติตน ไม่แสวงข้อเท็จจริงใดๆที่กูรูไทยมากมายรู้ต้นรู้ปลายสาเหตุและเกิดผลของปัญหา ขาดฝีมือมือไม่ถึง ขลาดเขลาหวาดกลัวต่อนักการเมืองและต่างชาติเสมือนพร้อมทรยศหักหลังทั้งสามารถเป็นหนอนบ่อนไส้เสียเองโดยง่ายให้ศัตรูรู้ความภายในตน, ไร้เกียรติไร้ศักดิ์สุดอัปยศและอัปรีย์จัญไรกว่าใดๆยุดใดสมัยใดที่มีกระทรวงการต่างประเทศในไทยเรา.,ไม่มีก็ได้ในเวลานี้กระทรวงแบบนี้,ยุบไปเลย,เรา..ประชาชนทั่วไทยมีคนเก่งมากความสามารถทั่วประเทศในเวลานี้ยุคนี้สามารถตั้งเป็นกระทรวงใหม่เพื่อเจรจาความต่างๆเชื่อมสัมพันธไมตรีต่อต่างชาติต่างประเทศทั่วโลกใหม่ได้และอาจรุ่งเรืองรุ่งโรจน์โคตรๆกว่าปัจจุบันอีก,เพราะรากเหง้าอิทธิพลทรามหยาบหนามึนคงเต็มกระทรวงเดิมแล้ว สามารถล้างบางทั้งหมดในคราวเดียวกัน,ตั้งชื่อกระทรวงว่า กระทรวงการรวมเพื่อนทั่วโลก ก็ว่าไป อนาคตใครคือศัตรูตัดสายสัมพันธ์เลย มีแต่เพื่อนๆร่วมปฏิสัมพันธ์กันเท่านั้น,ผีบ้าแบบปัจจุบันเป็นศัตรูแท้ๆก็ยังคบหาอยู่ ไม่เลือกคบนั้นเองจึงนำภัยวุ่นวายเข้าสู่ประเทศตนเองไม่ขาดสายมิใช่ความเจริญรุ่งเรืองสงบสันติสุขอะไรเลย,เจรจาผีบ้าผีบ้าก็ตกลงไปทั่วไร้สติปัญญาความามารถ แยกแยะถูกผิดชั่วเลวไม่เป็น,อะไรตนเสียเปรียบ อะไรตนเอาเปรียบเขาเกินงามก็ไม่กระทำเป็นต้น,เพื่อนมิตรประเทศแม้เขาเสียเปรียบไม่รู้ เราผู้รู้ก็ไม่สามารถเอาเปรียบเอาแต่ได้ในสิ่งที่รู้ได้,มิตรที่ดีก็ระวังภัยให้มิตรได้,แบบอเมริการู้ว่าเรามีน้ำมันมากมาย แต่ก็เอาเปรียบมากมายกับเราในสิ่งที่รู้,
    ..ยุบทิ้งกระทรวงการต่างประเทศเลย
    #กระทรวงการต่างประเทศมีไว้ทำไม.
    ..ใครที่เกี่ยวข้องในการสมยอมสนับสนุบใช้1:200,000 จัดอยู่ในโหมด ม.119ได้เลยสามารถให้ทนายแผ่นดินไทยฟ้องร้องดำเนินคดีเอาผิดไว้ก่อนได้เลย.ยิ่งเกี่ยวข้องในอำนาจหน้าที่ของตนแบบผู้ว่าฯสระแก้ว ที่กล้ามากเก่งมากต่อดินแดนอธิปไตยตนคนเหล่านี้ต้องพร้อมจ่ายราคาที่ตนกระทำออกมาอย่างแสนแพง,ยิ่งรับรู้และเก็บรวบรวมข้อมูลมามาดมายหลายทศวรรตยิ่งต้องจ่ายราคาแพงและแสนแพงในผลการกระทำของตนที่กล้าหาญท้าทายพระราชอำนาจกษัตริย์เราที่ใช้1:50,000ทั่วราชอาณาจักร,ใดๆทั้งหมดทั้งสิ้นต้องตกไปทั้งหมดแม้อำนาจศาลสูงสุดขึ้นบัลลังก์ว่าความ อื่นๆใดก็ต้องตกไป ไม่สามารถใช้บังคับได้ นอกจาก1:50,000เท่านั้น.เพราะนี้คืออัตราส่วนที่ในหลวงเรา ร.9ใช้จริงบนผืนแผ่นดินไทยเรานี้ทุกๆพระองค์ท่านแน่นอน.

    https://youtube.com/watch?v=vTKbeqvv0RA&si=QtfSpJJWdJy9bEa5
    เรา..ประชาชนสามารถเข้าใจและพร้อมกับฟันธงได้เลยทันทีว่านอกจากที่เรา..เชื่อว่ามีไส้ศึกในส่วนอื่นๆแล้ว ตัวพ่ออีกตัวคือ กต.นี้เอง เธอมีองค์ข้อมูลสาระพัดกับดิวต่างประเทศทั้งหมด อะไรที่เกี่ยวกับอธิปไตยไทยต่อต่างชาติเธอคนนี้รับรู้ข้อมูลทั้งหมดก่อนใครเพื่อน นักการเมืองจะขายชาติจะแย่งเอาบ่อน้ำมันจากอ่าวไทยเธอในเรื่องอะไรจะไม่รู้ลึกรู้หนารู้ตื้น ช่องทางใดต่างชาติได้เปรียบหรือไม่ได้เปรียบไทยเธอก็รับรู้รายละเอียดความในเราหมดสิ้นมีช่องว่างอะไรที่จะช่วยต่างชาติชนะเราได้,เรามีอะไรปิดช่องนั้นก็ได้อีก สามารถเสนอทางตัดตอนเด็ดขาดก็ได้หรือไม่เด็ดขาดโอนอ่อนผ่อนตามก็ได้อีก,จะเสียดินแดนเสียอธิปไตยไทย กต.มีส่วนเกี่ยวข้องทุกๆเรื่องราวสืบทอดเชื่อมโยงแต่ละรัฐบาลได้นั้นเอง,ปลัดกระทรวงกต.จึงเสมือนกลไกให้คุณให้โทษเต็มที่ต่อการเสียอธิปไตยไทยแก่ต่างชาติใดๆหรือไม่ก็ได้ นอกจากมาจากฝ่ายนักการเมืองด้วย ตัวอันตรายที่สุดนอกจากฝ่ายนักการเมือง ปลัดกระทรวงอธิบดีทบวงกรมก็อันตรายไม่แพ้กัน เขียนสัญญาข้อตกลงได้เสียหมดที่กระทำการใดๆกับต่างชาตินอกอาณาจักรเราทั้งหมด, ..คนไทยเรากำลังเล่นงานผิดคนก็ด้วยนอกจากนักการเมือง,คนของกระทรวงต่างประเทศด้วยคือตัวอันตรายตัวจริงอีกตัว,แค่แถลงชี้เป้า แบบสไตล์ผู้ว่าฯสระแก้วก็พอเข้าใจแนวรบของพวกขายชาติไส้ศึกแล้ว จึงพยายามยืนยันทุกๆรูปแบบ ทุกๆช่องทาง ตีหลายด้าน ในที่นี้คือผ่านกระทรวงการต่างประเทศแล้ว ใช้เรือกะรุกขุนเลย เดินเรือค้าขายพาณิชย์มานานกับต่างชาติกะค้ำประกันยืนยันเข้าข้างต่างชาติเสียสะงันว่าต้องใช้1:200,000แน่นอน แม้ ในหลวงร.9เราถือใช้กางออกร่วมกับทหารแนวพรมแดนก็เป็นตกไป กระทรวงการต่างประเทศใหญ่กว่าในหลวงเรา ร.9เราที่ทรงใช้แผนที่1:50,000ตลอดการครองราชพระองค์ท่าน กระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าเสียเองแล้ว เป็นเจ้าของแผ่นดินไทยนี้เสียแล้ว เป็นผู้กำหนดแผ่นดินเขตแดนราชอาณาจักรไทยแล้วว่าต้องใช้อัตราเขตแดน1:200,000นะเพื่อเป็นประโยชน์แก่เขมร เป็นประโยชน์แก่อเมริกาฝรั่งเศสลากเส้นเขตแดนแดกบ่อน้ำมันในอ่าวไทยได้ รับตังมาแล้วต้องเร่งรีบตามแผนเดี๋ยวต่างชาติอเมริกาฝรั่งเศสdeep stateเอากูตาย ,ข้ามีอำนาจเต็มใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับต่างประเทศตลอดข้อตกลงต่างๆข้าเท่านั้นเป็นผู้อนุมัตและกำหนดกฎกติกาเงื่อนไขใดๆจะเข้าข้างต่างชาติจะทำไมทำอะไรกูได้เพราะกูมีอำนาจเต็มมือแล้วตอนนี้ คำโพสต์คำยืนยัน คำใดๆประกาศผ่านกูคือราชโองการโว้ย เขตแดนทั่วราชอาณาจักรไทยกูจะขีดจะรับกฎกติกาสมยอมเลียตีนใครก็เรื่องของกูเพราะกูใหญ่ กูจึงประกาศชัดเจนในที่นี้ว่าต้องใช้1:200,000เท่านั้น,ในประเทศไทยนี้ใครใหญ่กว่ากูตอนนี้ กูบอกยืนยันใช้ต้องใช้ตามกูบอก ,กูมีอเมริกาฝรั่งเศสหนุนหลังด้วยเรือจอดท่าเรียมแล้วเช่นนั้นกูไม่กล้าเจาะจงโพสต์วันนี้หรอกมันว่า. ..ในหลวงเรา ร.9 เสด็จพระราชกรณียกิจทั่วประเทศกางแผนที่กับทหารทั่วประเทศก็ใช้1:50,000 สคส.ก็ขีดวาดแผนที่1:50,000 แสดงว่ากระทรวงต่างประเทศไทยขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์สำเร็จราชการบนแผ่นดินไทยแน่นอนแล้ว สามารถสั่งการหนักแน่นว่าต้องใช้1:200,000เท่านั้น,ทั้งที่ปี2505เราประกาศไม่ยอมรับการตัดสินศาลผีบ้านี้แล้วพร้อมเสือกยื่นเสนอฝ่ายเดียวด้วย,ต้องโมฆะแผนที่นั้นอัตโนมัติตั้งแต่ปี2505แล้วซึ่งต้องเป็นไปในแบบนั้นถึงปัจจุบัน. ..สรุปใครก็ตามที่มีแนวคิดและโพสต์ความคิดเห็น แสดงวาจาว่าต้องใช้1:200,000 มันผู้นั้นคือศัตรูภัยร้ายทำลายแผ่นดินไทยประเทศไทยที่แท้จริง,มิอาจให้มันอยู่ร่วมแผ่นดินไทยนี้ต่อไปได้ กบฎทรยศอธิปไตยชาติไทยชัดเจน เจตนาทำให้สูญเสียดินแดนเขตอธิปไตยไทยแน่นอนแล้ว.,เพราะนั้นคือแผ่นดินไทยที่หายไปถึง1:150,000เลย,ซึ่งในหลวง ร.9เราใช้1:50,000 ,กระทรวงการต่างประเทศบกพร่องโดยทุจริตในใจชัดเจน ไม่ซื่อสัตย์ ซื่อตรงต่อประเทศชาติตน ไม่แสวงข้อเท็จจริงใดๆที่กูรูไทยมากมายรู้ต้นรู้ปลายสาเหตุและเกิดผลของปัญหา ขาดฝีมือมือไม่ถึง ขลาดเขลาหวาดกลัวต่อนักการเมืองและต่างชาติเสมือนพร้อมทรยศหักหลังทั้งสามารถเป็นหนอนบ่อนไส้เสียเองโดยง่ายให้ศัตรูรู้ความภายในตน, ไร้เกียรติไร้ศักดิ์สุดอัปยศและอัปรีย์จัญไรกว่าใดๆยุดใดสมัยใดที่มีกระทรวงการต่างประเทศในไทยเรา.,ไม่มีก็ได้ในเวลานี้กระทรวงแบบนี้,ยุบไปเลย,เรา..ประชาชนทั่วไทยมีคนเก่งมากความสามารถทั่วประเทศในเวลานี้ยุคนี้สามารถตั้งเป็นกระทรวงใหม่เพื่อเจรจาความต่างๆเชื่อมสัมพันธไมตรีต่อต่างชาติต่างประเทศทั่วโลกใหม่ได้และอาจรุ่งเรืองรุ่งโรจน์โคตรๆกว่าปัจจุบันอีก,เพราะรากเหง้าอิทธิพลทรามหยาบหนามึนคงเต็มกระทรวงเดิมแล้ว สามารถล้างบางทั้งหมดในคราวเดียวกัน,ตั้งชื่อกระทรวงว่า กระทรวงการรวมเพื่อนทั่วโลก ก็ว่าไป อนาคตใครคือศัตรูตัดสายสัมพันธ์เลย มีแต่เพื่อนๆร่วมปฏิสัมพันธ์กันเท่านั้น,ผีบ้าแบบปัจจุบันเป็นศัตรูแท้ๆก็ยังคบหาอยู่ ไม่เลือกคบนั้นเองจึงนำภัยวุ่นวายเข้าสู่ประเทศตนเองไม่ขาดสายมิใช่ความเจริญรุ่งเรืองสงบสันติสุขอะไรเลย,เจรจาผีบ้าผีบ้าก็ตกลงไปทั่วไร้สติปัญญาความามารถ แยกแยะถูกผิดชั่วเลวไม่เป็น,อะไรตนเสียเปรียบ อะไรตนเอาเปรียบเขาเกินงามก็ไม่กระทำเป็นต้น,เพื่อนมิตรประเทศแม้เขาเสียเปรียบไม่รู้ เราผู้รู้ก็ไม่สามารถเอาเปรียบเอาแต่ได้ในสิ่งที่รู้ได้,มิตรที่ดีก็ระวังภัยให้มิตรได้,แบบอเมริการู้ว่าเรามีน้ำมันมากมาย แต่ก็เอาเปรียบมากมายกับเราในสิ่งที่รู้, ..ยุบทิ้งกระทรวงการต่างประเทศเลย #กระทรวงการต่างประเทศมีไว้ทำไม. ..ใครที่เกี่ยวข้องในการสมยอมสนับสนุบใช้1:200,000 จัดอยู่ในโหมด ม.119ได้เลยสามารถให้ทนายแผ่นดินไทยฟ้องร้องดำเนินคดีเอาผิดไว้ก่อนได้เลย.ยิ่งเกี่ยวข้องในอำนาจหน้าที่ของตนแบบผู้ว่าฯสระแก้ว ที่กล้ามากเก่งมากต่อดินแดนอธิปไตยตนคนเหล่านี้ต้องพร้อมจ่ายราคาที่ตนกระทำออกมาอย่างแสนแพง,ยิ่งรับรู้และเก็บรวบรวมข้อมูลมามาดมายหลายทศวรรตยิ่งต้องจ่ายราคาแพงและแสนแพงในผลการกระทำของตนที่กล้าหาญท้าทายพระราชอำนาจกษัตริย์เราที่ใช้1:50,000ทั่วราชอาณาจักร,ใดๆทั้งหมดทั้งสิ้นต้องตกไปทั้งหมดแม้อำนาจศาลสูงสุดขึ้นบัลลังก์ว่าความ อื่นๆใดก็ต้องตกไป ไม่สามารถใช้บังคับได้ นอกจาก1:50,000เท่านั้น.เพราะนี้คืออัตราส่วนที่ในหลวงเรา ร.9ใช้จริงบนผืนแผ่นดินไทยเรานี้ทุกๆพระองค์ท่านแน่นอน. https://youtube.com/watch?v=vTKbeqvv0RA&si=QtfSpJJWdJy9bEa5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชนชาติที่ มันต้องการทำลายกล้องวงจรปิดที่โรงพยาบาล หาว่าสอดแนม แต่มันยิงด้วยกระสุนปืนใหญ่ สองชุด ห่างกันไม่กี่นาที นักข่าวเสียชีวิต 4ราย หน่วยกู้ภัยและพลเรือนhttps://www.youtube.com/live/IWTlwjn7h10?si=LgBtSxaQXU0DkLvR
    ชนชาติที่ มันต้องการทำลายกล้องวงจรปิดที่โรงพยาบาล หาว่าสอดแนม แต่มันยิงด้วยกระสุนปืนใหญ่ สองชุด ห่างกันไม่กี่นาที นักข่าวเสียชีวิต 4ราย หน่วยกู้ภัยและพลเรือนhttps://www.youtube.com/live/IWTlwjn7h10?si=LgBtSxaQXU0DkLvR
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..นี้ต้องชัดเจนแบบนี้ มิใช่ตั้งรับ
    ..ทุกๆตารางนิ้วตลอดแนวพรมแดนไทยเราต้องชัดเจนแบบนี้ด้วย.,บ้านหนองจานมีเสาหมุดปักชัดเจนด้วย อะไรก็พร้อมชัดมิได้ไม่ชัดเจนอะไรเลย,ต่างจากอีสานใต้คนละทวีปมหาสมุทร,สามารถถึงกับสร้างกำแพงรั้วถาวรสไตล์จีนกับเวียดนามหรือสไตล์เวียดนามกับเขมรฝั่งโน้นก็ได้.
    #อธิปไตยไทยมิใช่ทำล่อเล่นได้.
    #ประโยชน์ส่วนตัวต้องพักไว้ก่อน
    #แผ่นดินไทยอธิปไตยไทยต้องมาก่อน.

    ..บ้านเมืองเราสงบสุขได้เพราะมีเขตแดนกั้นภัยร้ายจากศัตรูผ่านนอกได้,เขตแดนพังนั้นคือชาติพัง ประชาชนไร้ความสงบสุขด้วยคนต่างถิ่นย่อมเข้ามาทำลายโดยง่ายได้.อธิปไตยคือเขตแดนไทย,คือสิ่งกีดกั้นภัยใดๆได้จริงเบื้องต้น,มีเขตแดนจึงมีทหารเฝ้าระวังในเขตแดนและจึงมีรั้วแน่นหนาในที่สุดเพื่อให้มั่นคงถาวรแก่การปกป้องมิให้ภัยใดๆเข้ามาได้ง่ายกว่าเดิม.เขตใครเขตมัน,เขตยักษ์เขตมาร เขตผีเขตปีศาจเหล่านี้ยังมีขีดเขตสมมุติกั้น,มิติใครมันก็เป็นมีเขตกั้น,จากนั้นก็อยู่ใครอยู่มัน มนุษย์ก็อยู่อย่างมนุษย์ สัตว์นรกผีปีศาจก็อยู่อย่าสถานะเขตแดนใครมันนั้น.,อธิปไตยจึงสำคัญ.ในยุคสมมุติโลกนี้ใช้สื่อสารกันดำรงตนอยู่.


    https://youtube.com/watch?v=5sspNNR1yIU&si=AuMSH_mcXysQRQpS
    ..นี้ต้องชัดเจนแบบนี้ มิใช่ตั้งรับ ..ทุกๆตารางนิ้วตลอดแนวพรมแดนไทยเราต้องชัดเจนแบบนี้ด้วย.,บ้านหนองจานมีเสาหมุดปักชัดเจนด้วย อะไรก็พร้อมชัดมิได้ไม่ชัดเจนอะไรเลย,ต่างจากอีสานใต้คนละทวีปมหาสมุทร,สามารถถึงกับสร้างกำแพงรั้วถาวรสไตล์จีนกับเวียดนามหรือสไตล์เวียดนามกับเขมรฝั่งโน้นก็ได้. #อธิปไตยไทยมิใช่ทำล่อเล่นได้. #ประโยชน์ส่วนตัวต้องพักไว้ก่อน #แผ่นดินไทยอธิปไตยไทยต้องมาก่อน. ..บ้านเมืองเราสงบสุขได้เพราะมีเขตแดนกั้นภัยร้ายจากศัตรูผ่านนอกได้,เขตแดนพังนั้นคือชาติพัง ประชาชนไร้ความสงบสุขด้วยคนต่างถิ่นย่อมเข้ามาทำลายโดยง่ายได้.อธิปไตยคือเขตแดนไทย,คือสิ่งกีดกั้นภัยใดๆได้จริงเบื้องต้น,มีเขตแดนจึงมีทหารเฝ้าระวังในเขตแดนและจึงมีรั้วแน่นหนาในที่สุดเพื่อให้มั่นคงถาวรแก่การปกป้องมิให้ภัยใดๆเข้ามาได้ง่ายกว่าเดิม.เขตใครเขตมัน,เขตยักษ์เขตมาร เขตผีเขตปีศาจเหล่านี้ยังมีขีดเขตสมมุติกั้น,มิติใครมันก็เป็นมีเขตกั้น,จากนั้นก็อยู่ใครอยู่มัน มนุษย์ก็อยู่อย่างมนุษย์ สัตว์นรกผีปีศาจก็อยู่อย่าสถานะเขตแดนใครมันนั้น.,อธิปไตยจึงสำคัญ.ในยุคสมมุติโลกนี้ใช้สื่อสารกันดำรงตนอยู่. https://youtube.com/watch?v=5sspNNR1yIU&si=AuMSH_mcXysQRQpS
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ.วีระ พูดได้ชัดได้ต้องประเด็น นี้คืออธิปไตยไทยคุณจะมาทำเล่นๆเหมือนนักการเมืองไม่ได้ จริงๆนักการเมืองที่มาคุมกระทรวงกลาโหม คุมกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวง อธิบดีด้วย ก็ต้องโดน ม.157ด้วย ที่ปล่อยปะละเลยมานานบนหน้าที่ในอำนาจตำแหน่งตน อะไรสมควร อะำรเหมาะสม ตนจะเกรงใจไม่ได้แก่ต่างชาติ เรื่องอื่นๆเฮี้ยๆเรา..คนไทยรับรู้กันหมดมันบัดสบขนาดไหน แต่เราสามารถไม่ใส่ใจสนใจและไม่ร้ายแรงก็พร้อมอภัยกันได้เอาตาไปนาไปไร่ได้ คุณอาจทำสาระพัดเลวในตำแหน่งอำนาจหน้าที่ซึ่งยังไม่ถูกจับได้หรือไม่เป็นภัยร้ายแรงแก่เรา..ประชาชนคนไทย คนไทยเราก็มองผ่านได้เพราะปากท้องใครมันมีเหตุมีผลต้องเลี้ยงดู,แต่กับอธิปไตยไทยมันไม่สมควรอย่างยิ่งและกับคนต่างชาติด้วยแบบเขมรเป็นต้นหรือต่างชาติอื่นๆก็ตามที่ใช้นอมินียึดทำกินครอบครองที่ดินอธิปไตยไทย,ต่างชาติทั้งหมดต้องไม่สามารถถือครองมีสิทธิเป็นเจ้าของใดๆในที่ดินไทยได้ทุกๆกรณี,สิทธินี้มีแค่คนไทยเท่านั้น มึงก็มีประเทศของมึงมาห่าอะไรในประเทศไทย อาทิเศรษฐีอินเดียอาหรับมาทำนาปรังถือครองที่ดินคนไทยและผ่านนอมินีเป็นอันมาก,ชดเชยตังด้านนาปรังพวกนี้ก็แทรกแดกได้ด้วย กาฝากบนแผ่นดินไทยแย่งชิงสิทธิมากมายที่คนไทยได้ด้วย เป็นต้นและหลายหลากเคสสาระพัดเรื่องราว.,
    ..อ.วีระ ถือว่าเป็นผู้เสียสละมากๆกล้าชนในช่วงสุดท้าย,ยุคเราต้องร่วมกันกำจัดกวาดล้างภายในให้ดีขึ้นจริงๆ,มันเน่าเกินพอแล้วและหลากหลายเรื่องราวด้วย ,นี้คือการจุดพุส่งสัญญาณเตือนข้าราชการไทยและนักการเมืองด้วยว่า ประเทศไทยท่านทั้งหลายจงอย่าทำเล่นๆอีกต่อไป ลุแก่ตำแหน่งการงานหน้าที่ไม่ได้อีก,ละเว้นเรื่องที่พิจารณาสมควรละเว้นได้ก็ละเว้น,แต่กับเรื่องแผ่นดินไทยอธิปไตยไทยอย่าเอามาเล่นหรือมุ่งหวังซึ่งผลประโยชน์ตนเองและพวกพ้องครอบครัวตนผ่านอำนาจหน้าที่ตนที่มีในช่วงปัจจุบันได้,ใช้อำนาจตนเพื่อผลประโยชน์ตนอย่าหาทำเด็ดขาดเพราะราคาที่ท่านต้องจ่ายในการรับใช้คนชั่วนักการเมืองข้าราชการชั่วต่างชาติชั่วย่อมสะท้อนกลับไม่ธรรมดาแน่นอนเพราะความจริงมีค่าเดียวสิ่งเดียวและมันชนะเสมอ.,คนดีต้องมีที่ยืนบนแผ่นดินไทย เราไม่ต้องส่งต่อคนชั่วไปสู่รุ่นต่อไป,ให้มันจบที่รุ่นเรา.เขมรส้นตีนนี้ก็ด้วยต้องสิ้นชาติอย่างเดียว ลาว เวียดนามต้องมีส่วนแบ่งพื้นที่,เราจะไม่ให้คนรุ่นลูกหลานเราต้องมาทำสงครามกับพวกนี้อีก,เพราะนั้นคือจะไม่มีประเทศเขมรอีกต่อไป,อเมริกาชอบสมุนขี้ข้ารับใช้พวกอยู่เกาะนัก,ต้องถีบเขมรด้วยกำลังลาวกำลังเวียดนามและกำลังตีนเราถีบไปอยู่เกาะมาเลย์เลยซึ่งกอดเอวกันกลมเกลียวนัก สิงคโปร์ก็เกาะ ฟิลิปปินส์ก็เกาะ ญี่ปุ่นก็เกาะ มาเลย์ก็เกาะที่ทะเลาะแย่งบ่อน้ำมันกับอินโดฯนั่นละกว่า40-50ล้านล้านบาท อย่าให้คนเขมรมาร่วมอาศัยอยู่บนแผ่นดินเดียวกันนี้กับเรากับลาวกับเวียดนามเลย,การค้าการขายเราจะเจริญรุ่งเรืองแน่ไม่มีเดอะแก๊งหลอกลวงทั่วไทยทั่วเวียดนามลาวทั่วจีนและทั่วโลกอีกต่อไป,มาเลย์ก็ต้องจ่ายราคาแพงด้วยที่รุกรานไทยมุกภาคใต้ไม่สงบนั้นตลอดช่วยเหลือเขมรด้วยไร้ความเป็นกลางและปาหี่โคตรๆด้วย.

    https://youtube.com/watch?v=ZxzzChtVCrI&si=Ynnb05Z1lqeXtQCW
    อ.วีระ พูดได้ชัดได้ต้องประเด็น นี้คืออธิปไตยไทยคุณจะมาทำเล่นๆเหมือนนักการเมืองไม่ได้ จริงๆนักการเมืองที่มาคุมกระทรวงกลาโหม คุมกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวง อธิบดีด้วย ก็ต้องโดน ม.157ด้วย ที่ปล่อยปะละเลยมานานบนหน้าที่ในอำนาจตำแหน่งตน อะไรสมควร อะำรเหมาะสม ตนจะเกรงใจไม่ได้แก่ต่างชาติ เรื่องอื่นๆเฮี้ยๆเรา..คนไทยรับรู้กันหมดมันบัดสบขนาดไหน แต่เราสามารถไม่ใส่ใจสนใจและไม่ร้ายแรงก็พร้อมอภัยกันได้เอาตาไปนาไปไร่ได้ คุณอาจทำสาระพัดเลวในตำแหน่งอำนาจหน้าที่ซึ่งยังไม่ถูกจับได้หรือไม่เป็นภัยร้ายแรงแก่เรา..ประชาชนคนไทย คนไทยเราก็มองผ่านได้เพราะปากท้องใครมันมีเหตุมีผลต้องเลี้ยงดู,แต่กับอธิปไตยไทยมันไม่สมควรอย่างยิ่งและกับคนต่างชาติด้วยแบบเขมรเป็นต้นหรือต่างชาติอื่นๆก็ตามที่ใช้นอมินียึดทำกินครอบครองที่ดินอธิปไตยไทย,ต่างชาติทั้งหมดต้องไม่สามารถถือครองมีสิทธิเป็นเจ้าของใดๆในที่ดินไทยได้ทุกๆกรณี,สิทธินี้มีแค่คนไทยเท่านั้น มึงก็มีประเทศของมึงมาห่าอะไรในประเทศไทย อาทิเศรษฐีอินเดียอาหรับมาทำนาปรังถือครองที่ดินคนไทยและผ่านนอมินีเป็นอันมาก,ชดเชยตังด้านนาปรังพวกนี้ก็แทรกแดกได้ด้วย กาฝากบนแผ่นดินไทยแย่งชิงสิทธิมากมายที่คนไทยได้ด้วย เป็นต้นและหลายหลากเคสสาระพัดเรื่องราว., ..อ.วีระ ถือว่าเป็นผู้เสียสละมากๆกล้าชนในช่วงสุดท้าย,ยุคเราต้องร่วมกันกำจัดกวาดล้างภายในให้ดีขึ้นจริงๆ,มันเน่าเกินพอแล้วและหลากหลายเรื่องราวด้วย ,นี้คือการจุดพุส่งสัญญาณเตือนข้าราชการไทยและนักการเมืองด้วยว่า ประเทศไทยท่านทั้งหลายจงอย่าทำเล่นๆอีกต่อไป ลุแก่ตำแหน่งการงานหน้าที่ไม่ได้อีก,ละเว้นเรื่องที่พิจารณาสมควรละเว้นได้ก็ละเว้น,แต่กับเรื่องแผ่นดินไทยอธิปไตยไทยอย่าเอามาเล่นหรือมุ่งหวังซึ่งผลประโยชน์ตนเองและพวกพ้องครอบครัวตนผ่านอำนาจหน้าที่ตนที่มีในช่วงปัจจุบันได้,ใช้อำนาจตนเพื่อผลประโยชน์ตนอย่าหาทำเด็ดขาดเพราะราคาที่ท่านต้องจ่ายในการรับใช้คนชั่วนักการเมืองข้าราชการชั่วต่างชาติชั่วย่อมสะท้อนกลับไม่ธรรมดาแน่นอนเพราะความจริงมีค่าเดียวสิ่งเดียวและมันชนะเสมอ.,คนดีต้องมีที่ยืนบนแผ่นดินไทย เราไม่ต้องส่งต่อคนชั่วไปสู่รุ่นต่อไป,ให้มันจบที่รุ่นเรา.เขมรส้นตีนนี้ก็ด้วยต้องสิ้นชาติอย่างเดียว ลาว เวียดนามต้องมีส่วนแบ่งพื้นที่,เราจะไม่ให้คนรุ่นลูกหลานเราต้องมาทำสงครามกับพวกนี้อีก,เพราะนั้นคือจะไม่มีประเทศเขมรอีกต่อไป,อเมริกาชอบสมุนขี้ข้ารับใช้พวกอยู่เกาะนัก,ต้องถีบเขมรด้วยกำลังลาวกำลังเวียดนามและกำลังตีนเราถีบไปอยู่เกาะมาเลย์เลยซึ่งกอดเอวกันกลมเกลียวนัก สิงคโปร์ก็เกาะ ฟิลิปปินส์ก็เกาะ ญี่ปุ่นก็เกาะ มาเลย์ก็เกาะที่ทะเลาะแย่งบ่อน้ำมันกับอินโดฯนั่นละกว่า40-50ล้านล้านบาท อย่าให้คนเขมรมาร่วมอาศัยอยู่บนแผ่นดินเดียวกันนี้กับเรากับลาวกับเวียดนามเลย,การค้าการขายเราจะเจริญรุ่งเรืองแน่ไม่มีเดอะแก๊งหลอกลวงทั่วไทยทั่วเวียดนามลาวทั่วจีนและทั่วโลกอีกต่อไป,มาเลย์ก็ต้องจ่ายราคาแพงด้วยที่รุกรานไทยมุกภาคใต้ไม่สงบนั้นตลอดช่วยเหลือเขมรด้วยไร้ความเป็นกลางและปาหี่โคตรๆด้วย. https://youtube.com/watch?v=ZxzzChtVCrI&si=Ynnb05Z1lqeXtQCW
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • น่าแค้นใจแทนอ.วีระและคณะจริงๆในสมัยนั้นและเชื่อแน่นอนว่า อ.วีระพูดความจริง ยืนอยู่แผ่นดินไทยในเวลานั้นแต่เขมรสันตีนหน้ามึนหนาด้านมากล้าจับ อ.และคณะไปฝั่งมันง่ายๆหน้าตาเฉยได้อย่างไร,รัฐบาลชุดพ.ศ.นั้นต่างยืนยันค้ำประกันอีกว่า อ.วีระและคณะทำผิดจริง ไปยืนบนแผ่นดินเขมรมันโน้น ไร้การช่วยเหลือเต็มกำลังความสามารถด้วยจากรัฐบาลไทยตนเองในเวลานั้น,นี้คือกระบวนการสมคบคิดเพื่อจัดการอ.วีระอย่างแม้จริงรวมนัยยะแอบแฝงอื่นๆด้วย คือขีดเส้นลากแดน1:200,000ลงทะเลอ่าวไทยนั้นเอง,เจตนาใช้เหยื่อแลกอ.วีระเป็นเหยื่อในการโกงกินประเทศไทยทรัพยากรไทยนั้นเอง,เมื่อคดีระบุว่าอ.วีระยืนอยู่บนดินแดนเขมร การลากเขตเส้นแดนลงทะเลอ่าวไทยก็จะสำเร็จกินพื้นที่เข้ามาตรงบ่อน้ำมันกว่า20ล้านล้านบาทในอ่าวไทยเราได้ทันที,คดีอ.วีระแค่หมากทางเส้นแดน,ในการเชื่อมสิทธิอัตรา1:200,000นั้นเอง รัฐบาลยุคนั้นจึงเข้าข่ายหมายผลมองไกลแล้วว่าจะได้มาจริงซึ่งผลประโยชน์ตนในอนาคตเป็นแน่กับประโยชน์ร่วมที่กระทำการกับเขมร,เข้าข่ายเจตนาทำให้เสียทำให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยไทยชัดเจน ตลอดเจตนาวางรั้วลวดหนามผิดวิสัยปกติที่ต้องวางชิดติดขนานคู่เสาปักหมุดของเขตแดนอธิปไตยตนซึ่งสามารถกระทำการได้ทันทีโดยชอบธรรมได้บนเขตแดนอธิปไตยไทยตน,แต่ไม่ทำ,แถมยังวางรั้วลวดหนามไกลถึง500เมตร จนเป็นเหตุให้ชาวเขมรสามารถอ้างมารื้อรั้วหนามว่าคือดินแดนเขมรตนเองในที่สุด มันอ้างคำพูดนั้นจากคนไทยได้ทันที,เสมือนเตรียมการไว้แล้วด้วย.
    ..อ.วีระและคณะทีมงานที่เคยเสียหายสมควรร่วมยื่นฟ้องดำเนินคดีทางการเมืองการปกครองต่อรัฐบาลยุคอดีตได้เลย,ข้อหายินยอมเสียดินแดนอธิปไตยตนอย่างเปิดเผยด้วยคดีทีมงานอ.วีระถูกจับจากทหารเขมรที่อ้างสิทธิว่าเป็นดินแดนเขมรตนและรัฐบาลไทยในยุคนั้นยืนยันสิ่งที่เขมรอ้างสิทธินั้นด้วยว่าดินแดนแผ่นดินที่ทีมงานอ.วีระและอ.วีระยืนอยู่นั้นเป็นของประเทศเขมรนั้นเอง ผิด ม.119ชัดเจนด้วย,ทั้งบกพร่อง ประมาทเลินเล่อในหน้าที่พิสูจน์ชัดเจนจนยินยอมว่าดินแดนนั่นเป็นของเขมรถึงปัจจุบันในขณะที่มีเสาหมุดปักปันเขตแดนตำตาเห็นชัดเจน.เรื่องคดีดินแดนอธิปไตยชาติไม่มีอายุความดำเนินคดีแน่ๆ.,ต้องกำจัดภัยคนไม่ซื่อสัตย์คิดไม่ดีต่อแผ่นดินไทยเรา,ยิ่งมุ่งหมายเอาผลประโยชน์เพื่อตนเองพวกพ้องครอบครัวบวกขายชาติขายบ้านขายเมืองให้ต่างชาติด้วยแบบเขมรอเมริกาฝรั่งเศสคือตัวอย่างยิ่งไม่สมควรให้อภัยใดๆทั้งลุแก่อำนาจว่าตนมีอำนาจเต็มสมัยตนปกครองสามารถดำเนินการสาระพัดเรื่องในสิ่งชั่วเลวก็ได้ยิ่งสมควรมีบทลงโทษอย่างหนักอย่างแสนสาหัสด้วยเพราะอำนาจนั้นสามารถทำลายประชาชนคนธรรมดาผู้บริสุทธิ์ให้สิ้นซากได้ร่วมถึงประเทศชาติตนทั้งประเทศก็ได้ด้วย.
    ..อ.วีระ ทำถูกต้องแล้ว สิ่งที่อ.วีระโดนกระทำอย่างอยุติธรรมต้องเหยียบพวกมันจมดินด้วย,ประชาชนคนธรรมดาไม่สามารถพึ่งพาข้าราชการได้จึงเรียกร้องผ่านอ.วีระในยุคสมัยนั้นๆเพื่อต่อกรช่วยเหลือประชาชน,มายุคสมัยนี้อีก หากข้าราชการไทย รวมถึงทหารทำหน้าที่จริงบริสุทธิ์ซื่อตรงในหน้าที่เช่นทหารภาค2 เหตุการณ์ในปัจจุบันนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้น คนเขมรทั้งหมดจะไปยืนอยู่ดินแดนของมันฝั่งมันเท่านั้นทันที มิใช่มาแหกปากทำกิริยาหยาบๆหน้ามึนหน้าด้านหน้าหนาแบบนี้.ใครที่มีหน้าที่รับผิดชอบในพื้นที่นี้ตลอดเขตแดนพรมแดนเขมรภาคนี้ในพื้นที่ต้องถูกย้ายทั้งหมดกรณีโทษสถานเบาสุด,เพราะทุกๆรายละเอียดเหตุการณ์เท็จจริงตนประจำในพื้นที่ไม่รับรู้ปัญหาจริงเป็นไปไม่ได้ ทั้งไม่พยายามเต็มที่แก้ไขปัญหาทั้งดำรงตำแหน่งตนเสียนานวันเสียเปล่า.จึงต้องถูกย้ายไปทั้งหมดทันที ดำเนินคดีทางวินัยจรรยาบรรณจริยธรรมด้วย.,มีอาญาก็ต้องโดนเช่นกัน,ถือโอกาสกวาดล้างทั้งวงการอิทธิพลเน่าเละนี้ด้วย.,กลาโหม มหาดไทย หรือสายตรงคือผบ.ทบ.สูงสุดทางทหารบกเราต้องเริ่มปฐมบทเก็บกวาดภายในกองทัพของตนเองด้วยแทนประชาชนคนไทยเรา.

    https://youtube.com/watch?v=sNaGkGzUJ4A&si=oEcZoV8FO3aewWZr
    น่าแค้นใจแทนอ.วีระและคณะจริงๆในสมัยนั้นและเชื่อแน่นอนว่า อ.วีระพูดความจริง ยืนอยู่แผ่นดินไทยในเวลานั้นแต่เขมรสันตีนหน้ามึนหนาด้านมากล้าจับ อ.และคณะไปฝั่งมันง่ายๆหน้าตาเฉยได้อย่างไร,รัฐบาลชุดพ.ศ.นั้นต่างยืนยันค้ำประกันอีกว่า อ.วีระและคณะทำผิดจริง ไปยืนบนแผ่นดินเขมรมันโน้น ไร้การช่วยเหลือเต็มกำลังความสามารถด้วยจากรัฐบาลไทยตนเองในเวลานั้น,นี้คือกระบวนการสมคบคิดเพื่อจัดการอ.วีระอย่างแม้จริงรวมนัยยะแอบแฝงอื่นๆด้วย คือขีดเส้นลากแดน1:200,000ลงทะเลอ่าวไทยนั้นเอง,เจตนาใช้เหยื่อแลกอ.วีระเป็นเหยื่อในการโกงกินประเทศไทยทรัพยากรไทยนั้นเอง,เมื่อคดีระบุว่าอ.วีระยืนอยู่บนดินแดนเขมร การลากเขตเส้นแดนลงทะเลอ่าวไทยก็จะสำเร็จกินพื้นที่เข้ามาตรงบ่อน้ำมันกว่า20ล้านล้านบาทในอ่าวไทยเราได้ทันที,คดีอ.วีระแค่หมากทางเส้นแดน,ในการเชื่อมสิทธิอัตรา1:200,000นั้นเอง รัฐบาลยุคนั้นจึงเข้าข่ายหมายผลมองไกลแล้วว่าจะได้มาจริงซึ่งผลประโยชน์ตนในอนาคตเป็นแน่กับประโยชน์ร่วมที่กระทำการกับเขมร,เข้าข่ายเจตนาทำให้เสียทำให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยไทยชัดเจน ตลอดเจตนาวางรั้วลวดหนามผิดวิสัยปกติที่ต้องวางชิดติดขนานคู่เสาปักหมุดของเขตแดนอธิปไตยตนซึ่งสามารถกระทำการได้ทันทีโดยชอบธรรมได้บนเขตแดนอธิปไตยไทยตน,แต่ไม่ทำ,แถมยังวางรั้วลวดหนามไกลถึง500เมตร จนเป็นเหตุให้ชาวเขมรสามารถอ้างมารื้อรั้วหนามว่าคือดินแดนเขมรตนเองในที่สุด มันอ้างคำพูดนั้นจากคนไทยได้ทันที,เสมือนเตรียมการไว้แล้วด้วย. ..อ.วีระและคณะทีมงานที่เคยเสียหายสมควรร่วมยื่นฟ้องดำเนินคดีทางการเมืองการปกครองต่อรัฐบาลยุคอดีตได้เลย,ข้อหายินยอมเสียดินแดนอธิปไตยตนอย่างเปิดเผยด้วยคดีทีมงานอ.วีระถูกจับจากทหารเขมรที่อ้างสิทธิว่าเป็นดินแดนเขมรตนและรัฐบาลไทยในยุคนั้นยืนยันสิ่งที่เขมรอ้างสิทธินั้นด้วยว่าดินแดนแผ่นดินที่ทีมงานอ.วีระและอ.วีระยืนอยู่นั้นเป็นของประเทศเขมรนั้นเอง ผิด ม.119ชัดเจนด้วย,ทั้งบกพร่อง ประมาทเลินเล่อในหน้าที่พิสูจน์ชัดเจนจนยินยอมว่าดินแดนนั่นเป็นของเขมรถึงปัจจุบันในขณะที่มีเสาหมุดปักปันเขตแดนตำตาเห็นชัดเจน.เรื่องคดีดินแดนอธิปไตยชาติไม่มีอายุความดำเนินคดีแน่ๆ.,ต้องกำจัดภัยคนไม่ซื่อสัตย์คิดไม่ดีต่อแผ่นดินไทยเรา,ยิ่งมุ่งหมายเอาผลประโยชน์เพื่อตนเองพวกพ้องครอบครัวบวกขายชาติขายบ้านขายเมืองให้ต่างชาติด้วยแบบเขมรอเมริกาฝรั่งเศสคือตัวอย่างยิ่งไม่สมควรให้อภัยใดๆทั้งลุแก่อำนาจว่าตนมีอำนาจเต็มสมัยตนปกครองสามารถดำเนินการสาระพัดเรื่องในสิ่งชั่วเลวก็ได้ยิ่งสมควรมีบทลงโทษอย่างหนักอย่างแสนสาหัสด้วยเพราะอำนาจนั้นสามารถทำลายประชาชนคนธรรมดาผู้บริสุทธิ์ให้สิ้นซากได้ร่วมถึงประเทศชาติตนทั้งประเทศก็ได้ด้วย. ..อ.วีระ ทำถูกต้องแล้ว สิ่งที่อ.วีระโดนกระทำอย่างอยุติธรรมต้องเหยียบพวกมันจมดินด้วย,ประชาชนคนธรรมดาไม่สามารถพึ่งพาข้าราชการได้จึงเรียกร้องผ่านอ.วีระในยุคสมัยนั้นๆเพื่อต่อกรช่วยเหลือประชาชน,มายุคสมัยนี้อีก หากข้าราชการไทย รวมถึงทหารทำหน้าที่จริงบริสุทธิ์ซื่อตรงในหน้าที่เช่นทหารภาค2 เหตุการณ์ในปัจจุบันนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้น คนเขมรทั้งหมดจะไปยืนอยู่ดินแดนของมันฝั่งมันเท่านั้นทันที มิใช่มาแหกปากทำกิริยาหยาบๆหน้ามึนหน้าด้านหน้าหนาแบบนี้.ใครที่มีหน้าที่รับผิดชอบในพื้นที่นี้ตลอดเขตแดนพรมแดนเขมรภาคนี้ในพื้นที่ต้องถูกย้ายทั้งหมดกรณีโทษสถานเบาสุด,เพราะทุกๆรายละเอียดเหตุการณ์เท็จจริงตนประจำในพื้นที่ไม่รับรู้ปัญหาจริงเป็นไปไม่ได้ ทั้งไม่พยายามเต็มที่แก้ไขปัญหาทั้งดำรงตำแหน่งตนเสียนานวันเสียเปล่า.จึงต้องถูกย้ายไปทั้งหมดทันที ดำเนินคดีทางวินัยจรรยาบรรณจริยธรรมด้วย.,มีอาญาก็ต้องโดนเช่นกัน,ถือโอกาสกวาดล้างทั้งวงการอิทธิพลเน่าเละนี้ด้วย.,กลาโหม มหาดไทย หรือสายตรงคือผบ.ทบ.สูงสุดทางทหารบกเราต้องเริ่มปฐมบทเก็บกวาดภายในกองทัพของตนเองด้วยแทนประชาชนคนไทยเรา. https://youtube.com/watch?v=sNaGkGzUJ4A&si=oEcZoV8FO3aewWZr
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • เขมรเตรียมจัดฉาก
    ก่อเหตุทำร้ายม็อบมันเองที่หนองจาน โยนบาปทหารไทย
    หลังรัฐบาลมันสั่งห้ามไลฟ์วันนี้
    #คิงส์โพธิ์แดง
    เขมรเตรียมจัดฉาก ก่อเหตุทำร้ายม็อบมันเองที่หนองจาน โยนบาปทหารไทย หลังรัฐบาลมันสั่งห้ามไลฟ์วันนี้ #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สวิตช์แสง” ที่อาจเปลี่ยนโลกของดาต้าเซ็นเตอร์และ AI ไปตลอดกาล

    ลองจินตนาการว่าเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ที่เราพึ่งพาอยู่ทุกวันนี้สามารถเร็วขึ้นได้ถึง 1,000 เท่า และใช้พลังงานน้อยลงอย่างมหาศาล — นั่นคือสิ่งที่ Finchetto บริษัทสตาร์ทอัพด้านโฟโตนิกส์กำลังพัฒนาอยู่

    ปัญหาใหญ่ของการสวิตช์ข้อมูลในเครือข่ายคือการต้องแปลงสัญญาณแสงเป็นไฟฟ้าเพื่ออ่านหัวแพ็กเก็ต แล้วค่อยส่งต่อไปยังปลายทาง ซึ่งกระบวนการนี้ช้าและกินไฟมาก Finchetto เสนอวิธีใหม่โดยใช้ “สองความยาวคลื่น” — หนึ่งสำหรับข้อมูล และอีกหนึ่งสำหรับหัวแพ็กเก็ต — เพื่อให้สามารถสวิตช์ข้อมูลได้โดยไม่ต้องใช้วงจรไฟฟ้าเลย

    ผลลัพธ์คือการสวิตช์ข้อมูลด้วยแสงล้วน ที่เร็วระดับนาโนวินาที และใช้พลังงานเพียง 38 วัตต์ ซึ่งน้อยกว่าสวิตช์แบบเดิมถึง 26–53 เท่า! ที่สำคัญคือมันยัง “future-proof” เพราะสามารถรองรับความเร็วเครือข่ายในอนาคตได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์

    เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในช่วงต้น แต่ Finchetto คาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์พร้อมใช้งานในห้องแล็บภายใน 12–18 เดือนข้างหน้า หากสำเร็จ มันอาจกลายเป็นหัวใจใหม่ของเครือข่าย AI และ AGI ที่กำลังจะมาถึง

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Finchetto พัฒนา optical packet switch ที่ใช้แสงล้วนในการสวิตช์ข้อมูล
    ใช้เทคนิค “dual-wavelength” โดยส่งข้อมูลและหัวแพ็กเก็ตผ่านคลื่นแสงต่างกัน
    ลดเวลาในการสวิตช์เหลือระดับนาโนวินาที โดยไม่ต้องใช้สัญญาณควบคุมแบบไฟฟ้า
    ใช้พลังงานเพียง 38 วัตต์ ลดลงถึง 26–53 เท่าเมื่อเทียบกับสวิตช์แบบเดิม
    รองรับโปรโตคอล Ethernet และ Infiniband โดยไม่ต้องแปลงข้อมูล
    สถาปัตยกรรมแบบ passive optics ทำให้รองรับความเร็วเครือข่ายในอนาคตได้
    คาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์พร้อมใช้งานในห้องแล็บภายใน 12–18 เดือน
    ได้รับรางวัลจากหลายเวที เช่น TechWorks และ Data Centre World Awards

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ดาต้าเซ็นเตอร์ใช้พลังงานมากกว่า 2% ของพลังงานโลก และสวิตช์เครือข่ายกินไฟถึง 20% ของดาต้าเซ็นเตอร์
    เทคโนโลยี photonic switch ถูกมองว่าเป็นกุญแจสำคัญในการเร่งความเร็ว AI และลด carbon footprint
    การใช้ passive optics ช่วยลดความซับซ้อนของระบบระบายความร้อนและการจัดการพลังงาน
    การสวิตช์ด้วยแสงล้วนช่วยลด latency และเพิ่ม throughput ได้พร้อมกัน

    https://www.techradar.com/pro/clever-light-switch-breakthrough-could-make-hyperscale-networks-1000x-faster-just-in-time-for-agi-and-superintelligence
    🎙️ “สวิตช์แสง” ที่อาจเปลี่ยนโลกของดาต้าเซ็นเตอร์และ AI ไปตลอดกาล ลองจินตนาการว่าเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ที่เราพึ่งพาอยู่ทุกวันนี้สามารถเร็วขึ้นได้ถึง 1,000 เท่า และใช้พลังงานน้อยลงอย่างมหาศาล — นั่นคือสิ่งที่ Finchetto บริษัทสตาร์ทอัพด้านโฟโตนิกส์กำลังพัฒนาอยู่ ปัญหาใหญ่ของการสวิตช์ข้อมูลในเครือข่ายคือการต้องแปลงสัญญาณแสงเป็นไฟฟ้าเพื่ออ่านหัวแพ็กเก็ต แล้วค่อยส่งต่อไปยังปลายทาง ซึ่งกระบวนการนี้ช้าและกินไฟมาก Finchetto เสนอวิธีใหม่โดยใช้ “สองความยาวคลื่น” — หนึ่งสำหรับข้อมูล และอีกหนึ่งสำหรับหัวแพ็กเก็ต — เพื่อให้สามารถสวิตช์ข้อมูลได้โดยไม่ต้องใช้วงจรไฟฟ้าเลย ผลลัพธ์คือการสวิตช์ข้อมูลด้วยแสงล้วน ที่เร็วระดับนาโนวินาที และใช้พลังงานเพียง 38 วัตต์ ซึ่งน้อยกว่าสวิตช์แบบเดิมถึง 26–53 เท่า! ที่สำคัญคือมันยัง “future-proof” เพราะสามารถรองรับความเร็วเครือข่ายในอนาคตได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในช่วงต้น แต่ Finchetto คาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์พร้อมใช้งานในห้องแล็บภายใน 12–18 เดือนข้างหน้า หากสำเร็จ มันอาจกลายเป็นหัวใจใหม่ของเครือข่าย AI และ AGI ที่กำลังจะมาถึง 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Finchetto พัฒนา optical packet switch ที่ใช้แสงล้วนในการสวิตช์ข้อมูล ➡️ ใช้เทคนิค “dual-wavelength” โดยส่งข้อมูลและหัวแพ็กเก็ตผ่านคลื่นแสงต่างกัน ➡️ ลดเวลาในการสวิตช์เหลือระดับนาโนวินาที โดยไม่ต้องใช้สัญญาณควบคุมแบบไฟฟ้า ➡️ ใช้พลังงานเพียง 38 วัตต์ ลดลงถึง 26–53 เท่าเมื่อเทียบกับสวิตช์แบบเดิม ➡️ รองรับโปรโตคอล Ethernet และ Infiniband โดยไม่ต้องแปลงข้อมูล ➡️ สถาปัตยกรรมแบบ passive optics ทำให้รองรับความเร็วเครือข่ายในอนาคตได้ ➡️ คาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์พร้อมใช้งานในห้องแล็บภายใน 12–18 เดือน ➡️ ได้รับรางวัลจากหลายเวที เช่น TechWorks และ Data Centre World Awards ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ดาต้าเซ็นเตอร์ใช้พลังงานมากกว่า 2% ของพลังงานโลก และสวิตช์เครือข่ายกินไฟถึง 20% ของดาต้าเซ็นเตอร์ ➡️ เทคโนโลยี photonic switch ถูกมองว่าเป็นกุญแจสำคัญในการเร่งความเร็ว AI และลด carbon footprint ➡️ การใช้ passive optics ช่วยลดความซับซ้อนของระบบระบายความร้อนและการจัดการพลังงาน ➡️ การสวิตช์ด้วยแสงล้วนช่วยลด latency และเพิ่ม throughput ได้พร้อมกัน https://www.techradar.com/pro/clever-light-switch-breakthrough-could-make-hyperscale-networks-1000x-faster-just-in-time-for-agi-and-superintelligence
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • จาก “แค่โปรเจกต์เล่นๆ” สู่ระบบปฏิบัติการที่ขับเคลื่อนโลก — 34 ปีของ Linux

    ย้อนกลับไปวันที่ 25 สิงหาคม 1991 Linus Benedict Torvalds นักศึกษาวัย 21 ปีจากฟินแลนด์ โพสต์ข้อความใน newsgroup ชื่อ comp.os.minix ว่าเขากำลังพัฒนาระบบปฏิบัติการฟรีสำหรับเครื่อง 386/486 AT clones โดยย้ำว่า “มันเป็นแค่โปรเจกต์เล่นๆ ไม่ใหญ่โตหรือมืออาชีพแบบ GNU”

    เขาเรียกมันว่า Freax — มาจากคำว่า Free + Freak + Unix — แต่เพื่อนร่วมงานที่ดูแล FTP server กลับเปลี่ยนชื่อเป็น “Linux” โดยไม่ได้บอกเขา และชื่อนี้ก็กลายเป็นตำนานตั้งแต่นั้น

    ในเดือนกันยายนปีเดียวกัน Linux เวอร์ชัน 0.01 ถูกปล่อยออกมา มีเพียง 10,000 กว่าบรรทัดของโค้ด และรองรับเฉพาะฮาร์ดดิสก์แบบ AT เท่านั้น แต่จุดเริ่มต้นเล็กๆ นี้ได้กลายเป็นการปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์

    วันนี้ Linux ขับเคลื่อนทุกอย่างตั้งแต่สมาร์ทโฟน Android, เซิร์ฟเวอร์เว็บ, ซูเปอร์คอมพิวเตอร์, ไปจนถึงสถานีอวกาศ ISS และแม้แต่ตู้เย็นอัจฉริยะในบ้านคุณ

    มันกลายเป็นหัวใจของอินเทอร์เน็ต, คลาวด์, AI, และ IoT โดยมีนักพัฒนากว่า 25,000 คนทั่วโลกที่ร่วมกันสร้างและปรับปรุงโค้ดกว่า 40 ล้านบรรทัดใน kernel ปัจจุบัน

    แม้จะเริ่มต้นจากความถ่อมตัว แต่ Linux ได้พิสูจน์แล้วว่าความร่วมมือแบบโอเพ่นซอร์สสามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้จริง

    https://www.tomshardware.com/software/linux/linux-is-34-years-old-today-linus-torvalds-meekly-announced-this-free-new-os-in-the-comp-os-minix-newsgroup-on-this-day-in-1991
    🎙️ จาก “แค่โปรเจกต์เล่นๆ” สู่ระบบปฏิบัติการที่ขับเคลื่อนโลก — 34 ปีของ Linux ย้อนกลับไปวันที่ 25 สิงหาคม 1991 Linus Benedict Torvalds นักศึกษาวัย 21 ปีจากฟินแลนด์ โพสต์ข้อความใน newsgroup ชื่อ comp.os.minix ว่าเขากำลังพัฒนาระบบปฏิบัติการฟรีสำหรับเครื่อง 386/486 AT clones โดยย้ำว่า “มันเป็นแค่โปรเจกต์เล่นๆ ไม่ใหญ่โตหรือมืออาชีพแบบ GNU” เขาเรียกมันว่า Freax — มาจากคำว่า Free + Freak + Unix — แต่เพื่อนร่วมงานที่ดูแล FTP server กลับเปลี่ยนชื่อเป็น “Linux” โดยไม่ได้บอกเขา และชื่อนี้ก็กลายเป็นตำนานตั้งแต่นั้น ในเดือนกันยายนปีเดียวกัน Linux เวอร์ชัน 0.01 ถูกปล่อยออกมา มีเพียง 10,000 กว่าบรรทัดของโค้ด และรองรับเฉพาะฮาร์ดดิสก์แบบ AT เท่านั้น แต่จุดเริ่มต้นเล็กๆ นี้ได้กลายเป็นการปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ วันนี้ Linux ขับเคลื่อนทุกอย่างตั้งแต่สมาร์ทโฟน Android, เซิร์ฟเวอร์เว็บ, ซูเปอร์คอมพิวเตอร์, ไปจนถึงสถานีอวกาศ ISS และแม้แต่ตู้เย็นอัจฉริยะในบ้านคุณ มันกลายเป็นหัวใจของอินเทอร์เน็ต, คลาวด์, AI, และ IoT โดยมีนักพัฒนากว่า 25,000 คนทั่วโลกที่ร่วมกันสร้างและปรับปรุงโค้ดกว่า 40 ล้านบรรทัดใน kernel ปัจจุบัน แม้จะเริ่มต้นจากความถ่อมตัว แต่ Linux ได้พิสูจน์แล้วว่าความร่วมมือแบบโอเพ่นซอร์สสามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้จริง https://www.tomshardware.com/software/linux/linux-is-34-years-old-today-linus-torvalds-meekly-announced-this-free-new-os-in-the-comp-os-minix-newsgroup-on-this-day-in-1991
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Linux is 34 years old today — Linus Torvalds meekly announced this free new OS in the comp.os.minix newsgroup on this day in 1991
    From its roots of being 'just a hobby, [which] won’t be big and professional like GNU' it has come a long way.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • เขมรอย่าไว้ใจมันและอย่าเชื่อใจมัน.

    https://youtube.com/shorts/GxcegGEmY3Q?si=qPhonbWBVHjTDwLX
    เขมรอย่าไว้ใจมันและอย่าเชื่อใจมัน. https://youtube.com/shorts/GxcegGEmY3Q?si=qPhonbWBVHjTDwLX
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • UltraRAM — หน่วยความจำแห่งอนาคตที่อาจเปลี่ยนโลกดิจิทัลไปตลอดกาล

    ลองจินตนาการถึงหน่วยความจำที่เร็วเท่า DRAM แต่เก็บข้อมูลได้ยาวนานกว่าพันปี และทนทานกว่านานด์แฟลชถึง 4,000 เท่า — นั่นคือ UltraRAM ที่กำลังจะกลายเป็นจริง

    เทคโนโลยีนี้เริ่มต้นจากงานวิจัยในมหาวิทยาลัย Lancaster และพัฒนาโดยบริษัท Quinas Technology ซึ่งร่วมมือกับ IQE plc ผู้เชี่ยวชาญด้านเวเฟอร์เซมิคอนดักเตอร์ เพื่อสร้างกระบวนการผลิตแบบ epitaxy ด้วยวัสดุแปลกใหม่อย่าง gallium antimonide และ aluminum antimonide ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของโลกที่สามารถนำมาใช้ในระดับอุตสาหกรรมสำหรับหน่วยความจำ

    UltraRAM ใช้หลักการ quantum resonant tunneling ในการสลับสถานะข้อมูล ซึ่งใช้พลังงานต่ำมาก (ต่ำกว่า 1 femtojoule) และสามารถสลับสถานะได้ในเวลาเพียง 100 นาโนวินาที ทำให้มันเป็นหน่วยความจำที่มีศักยภาพจะรวมข้อดีของ DRAM และ NAND ไว้ในชิ้นเดียว

    หลังจากการทดสอบต้นแบบในปี 2023 ตอนนี้ UltraRAM ได้เข้าสู่ขั้นตอนการเตรียมผลิตในปริมาณมาก โดยมีแผนจะร่วมมือกับโรงงานผลิตชิปและพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพื่อเข้าสู่ตลาดจริง

    หากประสบความสำเร็จ UltraRAM อาจกลายเป็น “หน่วยความจำสากล” ที่ใช้ได้ทั้งในอุปกรณ์ IoT สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ ไปจนถึงศูนย์ข้อมูลและระบบ AI ขนาดใหญ่ โดยไม่ต้องแยกหน่วยความจำแบบ volatile และ non-volatile อีกต่อไป

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    UltraRAM เป็นเทคโนโลยีหน่วยความจำใหม่ที่รวมข้อดีของ DRAM และ NAND
    มีความเร็วระดับ DRAM, ความทนทานสูงกว่า NAND 4,000 เท่า และเก็บข้อมูลได้นานถึง 1,000 ปี
    ใช้พลังงานต่ำมากในการสลับสถานะข้อมูล (<1 femtojoule) และทำงานเร็ว (100 ns)
    พัฒนาโดย Quinas Technology ร่วมกับ IQE plc และมหาวิทยาลัย Lancaster
    ใช้วัสดุ gallium antimonide และ aluminum antimonide ในกระบวนการ epitaxy
    กระบวนการ epitaxy ที่พัฒนาได้ถูกยกระดับเป็นระดับอุตสาหกรรมแล้ว
    UltraRAM ได้รับรางวัลจาก WIPO และ Flash Memory Summit ในปี 2025
    มีแผนเข้าสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ร่วมกับโรงงานและพันธมิตรเชิงกลยุทธ์
    เป้าหมายคือการสร้าง “หน่วยความจำสากล” สำหรับทุกอุปกรณ์ดิจิทัล
    โครงการนี้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของรัฐบาลอังกฤษในการสร้างอธิปไตยด้านเซมิคอนดักเตอร์

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    DRAM ต้องใช้พลังงานในการรีเฟรชข้อมูลตลอดเวลา ขณะที่ UltraRAM ไม่ต้องรีเฟรช
    NAND มีข้อจำกัดด้านความเร็วและความทนทานในการเขียนข้อมูลซ้ำ
    Quantum resonant tunneling เป็นหลักการที่ใช้ใน UltraRAM ซึ่งยังไม่เคยถูกใช้ในหน่วยความจำเชิงพาณิชย์มาก่อน
    หาก UltraRAM เข้าสู่ตลาดได้สำเร็จ อาจลดการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูลทั่วโลกอย่างมหาศาล
    การรวมหน่วยความจำแบบ volatile และ non-volatile จะช่วยลดต้นทุนและความซับซ้อนของระบบคอมพิวเตอร์

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/ultraram-scaled-for-volume-production-memory-that-promises-dram-like-speeds-4-000x-the-durability-of-nand-and-data-retention-for-up-to-a-thousand-years-is-now-ready-for-manufacturing
    🎙️ UltraRAM — หน่วยความจำแห่งอนาคตที่อาจเปลี่ยนโลกดิจิทัลไปตลอดกาล ลองจินตนาการถึงหน่วยความจำที่เร็วเท่า DRAM แต่เก็บข้อมูลได้ยาวนานกว่าพันปี และทนทานกว่านานด์แฟลชถึง 4,000 เท่า — นั่นคือ UltraRAM ที่กำลังจะกลายเป็นจริง เทคโนโลยีนี้เริ่มต้นจากงานวิจัยในมหาวิทยาลัย Lancaster และพัฒนาโดยบริษัท Quinas Technology ซึ่งร่วมมือกับ IQE plc ผู้เชี่ยวชาญด้านเวเฟอร์เซมิคอนดักเตอร์ เพื่อสร้างกระบวนการผลิตแบบ epitaxy ด้วยวัสดุแปลกใหม่อย่าง gallium antimonide และ aluminum antimonide ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของโลกที่สามารถนำมาใช้ในระดับอุตสาหกรรมสำหรับหน่วยความจำ UltraRAM ใช้หลักการ quantum resonant tunneling ในการสลับสถานะข้อมูล ซึ่งใช้พลังงานต่ำมาก (ต่ำกว่า 1 femtojoule) และสามารถสลับสถานะได้ในเวลาเพียง 100 นาโนวินาที ทำให้มันเป็นหน่วยความจำที่มีศักยภาพจะรวมข้อดีของ DRAM และ NAND ไว้ในชิ้นเดียว หลังจากการทดสอบต้นแบบในปี 2023 ตอนนี้ UltraRAM ได้เข้าสู่ขั้นตอนการเตรียมผลิตในปริมาณมาก โดยมีแผนจะร่วมมือกับโรงงานผลิตชิปและพันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพื่อเข้าสู่ตลาดจริง หากประสบความสำเร็จ UltraRAM อาจกลายเป็น “หน่วยความจำสากล” ที่ใช้ได้ทั้งในอุปกรณ์ IoT สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ ไปจนถึงศูนย์ข้อมูลและระบบ AI ขนาดใหญ่ โดยไม่ต้องแยกหน่วยความจำแบบ volatile และ non-volatile อีกต่อไป 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ UltraRAM เป็นเทคโนโลยีหน่วยความจำใหม่ที่รวมข้อดีของ DRAM และ NAND ➡️ มีความเร็วระดับ DRAM, ความทนทานสูงกว่า NAND 4,000 เท่า และเก็บข้อมูลได้นานถึง 1,000 ปี ➡️ ใช้พลังงานต่ำมากในการสลับสถานะข้อมูล (<1 femtojoule) และทำงานเร็ว (100 ns) ➡️ พัฒนาโดย Quinas Technology ร่วมกับ IQE plc และมหาวิทยาลัย Lancaster ➡️ ใช้วัสดุ gallium antimonide และ aluminum antimonide ในกระบวนการ epitaxy ➡️ กระบวนการ epitaxy ที่พัฒนาได้ถูกยกระดับเป็นระดับอุตสาหกรรมแล้ว ➡️ UltraRAM ได้รับรางวัลจาก WIPO และ Flash Memory Summit ในปี 2025 ➡️ มีแผนเข้าสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ร่วมกับโรงงานและพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ➡️ เป้าหมายคือการสร้าง “หน่วยความจำสากล” สำหรับทุกอุปกรณ์ดิจิทัล ➡️ โครงการนี้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของรัฐบาลอังกฤษในการสร้างอธิปไตยด้านเซมิคอนดักเตอร์ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ DRAM ต้องใช้พลังงานในการรีเฟรชข้อมูลตลอดเวลา ขณะที่ UltraRAM ไม่ต้องรีเฟรช ➡️ NAND มีข้อจำกัดด้านความเร็วและความทนทานในการเขียนข้อมูลซ้ำ ➡️ Quantum resonant tunneling เป็นหลักการที่ใช้ใน UltraRAM ซึ่งยังไม่เคยถูกใช้ในหน่วยความจำเชิงพาณิชย์มาก่อน ➡️ หาก UltraRAM เข้าสู่ตลาดได้สำเร็จ อาจลดการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูลทั่วโลกอย่างมหาศาล ➡️ การรวมหน่วยความจำแบบ volatile และ non-volatile จะช่วยลดต้นทุนและความซับซ้อนของระบบคอมพิวเตอร์ https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/ultraram-scaled-for-volume-production-memory-that-promises-dram-like-speeds-4-000x-the-durability-of-nand-and-data-retention-for-up-to-a-thousand-years-is-now-ready-for-manufacturing
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • บ้านเมืองเราวุ่นวายทั้งหมดนี้ ในเวลานี้ ภาวะสงครามนี้ จริงๆมาจากศาลเรานี้ล่ะ,ไม่เด็ดขาดประหารชีวิต นักการเมืองเลวชั่วนี้จริงๆ ปล่อยพวกมันสร้างกระแสชั่วเลวไม่หยุดหย่อน สลับเรื่องเล่นสาระพัด ปล่อยเลยตามน้ำตามเวลาจนเกิดภัยมหันต่อชาติบ้านเมืองจริงเช่นสงครามไทยกับเขมร ถูกเขมรอาชญากรสงครามยิงระเบิดใส่เด็กๆเราตาย ครอบครัวคนไทยตายเกือบหมดครอบครัว ประชาชนผู้บริสุทธิ์บาดเจ็บล้มตายเป็นอันมากอีก,และในอนาคตอาจชักนำมหาสงครามใหญ่เข้าบ้านเข้าเมืองอีก,ทำเล่นๆเหมือนนักการเมืองไม่ได้,และจริงๆศาลสามารถรับรู้ภัยปกติเหมือนประชาชนทั่วไปรับรู้ภัยนั้นเป็นพื้นฐานสันชาตญาณความจะเกิดภัยจะเป็นภัยได้โดยเฉพาะภัยในระดับชาติระดับประเทศ ภัยด้านอธิปไตยดินแดนไทย,ศาลไม่จำเป็นให้ใครคนไทยที่ไหนร้องขอร้องเรียนก็ได้ คนในศาลก็เป็นคนไทย ถอดหัวโขนก็คนไทยปกตินี้ล่ะ มีตายเผาผีเหมือนกัน มีครอบครัวญาติพี่น้องเป็นคนไทยอาศัยอยู่บนแผ่นดินไทยเหมือนกัน สามัญสำนึกศาลหยั่งเห็นชัดเจนกับพยานแวดล้อมปกติได้เหมือนประชาชนปกติทั่วไปรับรู้ผ่านสื่อข่าวต่างๆแม้ไม่ลึกชัดเจนใช้พยานหลักฐานระดับวิทยศาสตร์นั้นๆพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงและสามารถยุ่งเกี่ยวได้ทันทีอีกด้วย ทางตรงออกนอกหน้าได้ เพราะเมื่อไม่มีแผ่นดินไทยหรือทหารรบแพ้แบบสงครามโลกกับญี่ปุ่น ศาลไทยไม่จำเป็นต้องมีตลอดญี่ปุ่นยึดประเทศไทยได้,ฉันใดคือฉันนั้น ทหารไทยหากแพ้สงครามกับเขมรมีอเมริกาหนุนจริง หายนะความเสียหายอาจประมาณการณ์มิได้,ตำตาคือmou43,44ศาลผ่านอัยการศาลดำเนินการตรวจสอบพิสูจน์ความจริงได้เพราะเกี่ยวข้องกับอธิปไตยดินแดนไทยชัดเจน ร.9ในหลวงเราใช้1:50,000ชัดเจนด้านแผนที่ทั่วราชอาณาจักร รัฐบาลยังกอดmou1:200,000ไว้ แสดงชัดเจนจะเป็นอื่นไม่ได้ ดินแดนไทยอธิปไตยไทยสูญเสียแน่นอนถึง1:150,000 มันเสียพื้นที่น้อยๆมั้ย ศาลย่อมสามารถพิสูจน์ค่าจริงสิ่งนี้ได้ แต่ศาลเราปฏิบัติสถานะน่าผิดหวังมากถึงมากที่สุด,หน้าที่ของศาลมิใช่แค่ตัดสินประชาชนทุกๆคนเพียงในประเทศเท่านั้น ต้องสามารถเป็นแม่ทัพออกมาปกป้องทั้งประเทศไทยตนเองด้วย,แล้วเราจะมีศาลประจำประเทศไทยทำมั้ย?.ข้อผิดพลาดมากคือประชาชนไม่สามารถวิจารณ์ศาลในการตัดสินคดีใดๆได้เลย ปิดปากประชาชนมาก,กฎหมายหมิ่นประมาทก็ด้วย นี้คือกฎหมายของdeep stateสากลโลกเขียนเพื่อบังคับผ่านรัฐบาลประเทศต่างๆทั่วโลกให้เอาไปปิดปากชาวโลก ประชาชนในประเทศนั้นๆ ระบบก็ส่งออกจากฝรั่ง สิ่งจึงง่ายที่จะส่งซอฟแวร์นี้มาด้วย สแกนไวรัสที่ตอต้านนั้นเองในระบบมัน,ระบบประชาธิปไตยส่งออกของฝรั่ง,ระบบเผด็จการคอมมิวนิสต์ส่งออกของฝรั่ง,ซึ่งทั้งหมดคือของdeep stateสร้างทำออกแบบหมด,เราประเทศไทยต้องสร้างระบบเราขึ้นมาเอง.,ซอฟแวร์แอปและแพลตฟอร์มต่างๆต้องสร้างเองด้วยให้เหมาะสมกับเรา.,ผู้เป็นผู้นำแห่งจิตวิญญาณของโลกอนาคต.,เรามีในหลวงนะ.

    https://youtube.com/shorts/1EEwcbBMwvc?si=Eztc9jrqMM-iTRjN
    บ้านเมืองเราวุ่นวายทั้งหมดนี้ ในเวลานี้ ภาวะสงครามนี้ จริงๆมาจากศาลเรานี้ล่ะ,ไม่เด็ดขาดประหารชีวิต นักการเมืองเลวชั่วนี้จริงๆ ปล่อยพวกมันสร้างกระแสชั่วเลวไม่หยุดหย่อน สลับเรื่องเล่นสาระพัด ปล่อยเลยตามน้ำตามเวลาจนเกิดภัยมหันต่อชาติบ้านเมืองจริงเช่นสงครามไทยกับเขมร ถูกเขมรอาชญากรสงครามยิงระเบิดใส่เด็กๆเราตาย ครอบครัวคนไทยตายเกือบหมดครอบครัว ประชาชนผู้บริสุทธิ์บาดเจ็บล้มตายเป็นอันมากอีก,และในอนาคตอาจชักนำมหาสงครามใหญ่เข้าบ้านเข้าเมืองอีก,ทำเล่นๆเหมือนนักการเมืองไม่ได้,และจริงๆศาลสามารถรับรู้ภัยปกติเหมือนประชาชนทั่วไปรับรู้ภัยนั้นเป็นพื้นฐานสันชาตญาณความจะเกิดภัยจะเป็นภัยได้โดยเฉพาะภัยในระดับชาติระดับประเทศ ภัยด้านอธิปไตยดินแดนไทย,ศาลไม่จำเป็นให้ใครคนไทยที่ไหนร้องขอร้องเรียนก็ได้ คนในศาลก็เป็นคนไทย ถอดหัวโขนก็คนไทยปกตินี้ล่ะ มีตายเผาผีเหมือนกัน มีครอบครัวญาติพี่น้องเป็นคนไทยอาศัยอยู่บนแผ่นดินไทยเหมือนกัน สามัญสำนึกศาลหยั่งเห็นชัดเจนกับพยานแวดล้อมปกติได้เหมือนประชาชนปกติทั่วไปรับรู้ผ่านสื่อข่าวต่างๆแม้ไม่ลึกชัดเจนใช้พยานหลักฐานระดับวิทยศาสตร์นั้นๆพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงและสามารถยุ่งเกี่ยวได้ทันทีอีกด้วย ทางตรงออกนอกหน้าได้ เพราะเมื่อไม่มีแผ่นดินไทยหรือทหารรบแพ้แบบสงครามโลกกับญี่ปุ่น ศาลไทยไม่จำเป็นต้องมีตลอดญี่ปุ่นยึดประเทศไทยได้,ฉันใดคือฉันนั้น ทหารไทยหากแพ้สงครามกับเขมรมีอเมริกาหนุนจริง หายนะความเสียหายอาจประมาณการณ์มิได้,ตำตาคือmou43,44ศาลผ่านอัยการศาลดำเนินการตรวจสอบพิสูจน์ความจริงได้เพราะเกี่ยวข้องกับอธิปไตยดินแดนไทยชัดเจน ร.9ในหลวงเราใช้1:50,000ชัดเจนด้านแผนที่ทั่วราชอาณาจักร รัฐบาลยังกอดmou1:200,000ไว้ แสดงชัดเจนจะเป็นอื่นไม่ได้ ดินแดนไทยอธิปไตยไทยสูญเสียแน่นอนถึง1:150,000 มันเสียพื้นที่น้อยๆมั้ย ศาลย่อมสามารถพิสูจน์ค่าจริงสิ่งนี้ได้ แต่ศาลเราปฏิบัติสถานะน่าผิดหวังมากถึงมากที่สุด,หน้าที่ของศาลมิใช่แค่ตัดสินประชาชนทุกๆคนเพียงในประเทศเท่านั้น ต้องสามารถเป็นแม่ทัพออกมาปกป้องทั้งประเทศไทยตนเองด้วย,แล้วเราจะมีศาลประจำประเทศไทยทำมั้ย?.ข้อผิดพลาดมากคือประชาชนไม่สามารถวิจารณ์ศาลในการตัดสินคดีใดๆได้เลย ปิดปากประชาชนมาก,กฎหมายหมิ่นประมาทก็ด้วย นี้คือกฎหมายของdeep stateสากลโลกเขียนเพื่อบังคับผ่านรัฐบาลประเทศต่างๆทั่วโลกให้เอาไปปิดปากชาวโลก ประชาชนในประเทศนั้นๆ ระบบก็ส่งออกจากฝรั่ง สิ่งจึงง่ายที่จะส่งซอฟแวร์นี้มาด้วย สแกนไวรัสที่ตอต้านนั้นเองในระบบมัน,ระบบประชาธิปไตยส่งออกของฝรั่ง,ระบบเผด็จการคอมมิวนิสต์ส่งออกของฝรั่ง,ซึ่งทั้งหมดคือของdeep stateสร้างทำออกแบบหมด,เราประเทศไทยต้องสร้างระบบเราขึ้นมาเอง.,ซอฟแวร์แอปและแพลตฟอร์มต่างๆต้องสร้างเองด้วยให้เหมาะสมกับเรา.,ผู้เป็นผู้นำแห่งจิตวิญญาณของโลกอนาคต.,เรามีในหลวงนะ. https://youtube.com/shorts/1EEwcbBMwvc?si=Eztc9jrqMM-iTRjN
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • Humain กับภารกิจเปลี่ยนซาอุฯ ให้เป็นมหาอำนาจ AI ด้วยชิปจากสหรัฐฯ

    กลางปี 2025 ซาอุดีอาระเบียเปิดตัวบริษัทใหม่ชื่อว่า “Humain” ภายใต้การสนับสนุนจากกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (Public Investment Fund) โดยมีเป้าหมายชัดเจน: เปลี่ยนประเทศให้กลายเป็นศูนย์กลางด้านปัญญาประดิษฐ์ของภูมิภาค

    Humain เริ่มต้นด้วยการสร้างศูนย์ข้อมูล (data centers) ขนาดใหญ่ในสองเมืองหลักคือ ริยาดและดัมมาม โดยแต่ละแห่งจะมีความสามารถในการใช้พลังงานสูงถึง 100 เมกะวัตต์ และมีกำหนดเปิดใช้งานในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2026

    สิ่งที่น่าสนใจคือ Humain เลือกใช้ชิป AI จากบริษัทสหรัฐฯ เช่น NVIDIA และ AMD โดยได้รับอนุมัติให้นำเข้า “Blackwell” chips รุ่นล่าสุดจำนวน 18,000 ชิ้น ซึ่งถือเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่สะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างซาอุฯ กับสหรัฐฯ ที่ลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ

    นอกจากนี้ Humain ยังมีแผนขยายศูนย์ข้อมูลให้มีขนาดรวมถึง 1.9 กิกะวัตต์ภายในปี 2030 และร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง Qualcomm, Cisco และแม้แต่ xAI ของ Elon Musk เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ที่ครอบคลุมทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์

    เบื้องหลังทั้งหมดนี้คือวิสัยทัศน์ของมกุฎราชกุมาร Mohammed bin Salman ที่ต้องการผลักดันประเทศให้พ้นจากการพึ่งพาน้ำมัน และเข้าสู่เศรษฐกิจแห่งอนาคตผ่าน “Vision 2030”

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Humain เป็นบริษัท AI ใหม่ของซาอุดีอาระเบีย เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2025
    เริ่มสร้างศูนย์ข้อมูลในริยาดและดัมมาม กำหนดเปิดใช้งานต้นปี 2026
    แต่ละแห่งมีความสามารถเริ่มต้นที่ 100 เมกะวัตต์
    ใช้ชิป AI จากสหรัฐฯ เช่น NVIDIA และ AMD
    ได้รับอนุมัติให้นำเข้า Blackwell chips จำนวน 18,000 ชิ้น
    มีแผนขยายศูนย์ข้อมูลรวมถึง 1.9 กิกะวัตต์ภายในปี 2030
    ร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก เช่น Qualcomm, Cisco และ xAI
    Humain อยู่ภายใต้การดูแลของกองทุน PIF และมกุฎราชกุมาร Mohammed bin Salman
    เป้าหมายคือสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI และโมเดลขั้นสูงในภูมิภาค
    การเปิดตัว Humain เกิดขึ้นพร้อมกับการเยือนของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งมีการตกลงมูลค่า 600 พันล้านดอลลาร์กับบริษัทสหรัฐฯ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Blackwell chips ของ NVIDIA เป็นชิป AI รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่องานประมวลผลขนาดใหญ่ เช่น LLM และการฝึกโมเดล deep learning
    การใช้ชิปจากสหรัฐฯ สะท้อนถึงการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตกในช่วงเปลี่ยนผ่านของซาอุฯ
    Vision 2030 เป็นแผนยุทธศาสตร์ของซาอุฯ ที่มุ่งเน้นการลดการพึ่งพาน้ำมันและส่งเสริมเทคโนโลยี
    การลงทุนใน AI ยังรวมถึงการฝึกอบรมบุคลากร 20,000 คนภายในปี 2030
    การสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ช่วยให้ซาอุฯ มีอำนาจในการประมวลผลข้อมูลในระดับภูมิภาค

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/26/saudi039s-humain-to-launch-data-centers-with-us-chips-in-early-2026-bloomberg-news-reports
    🎙️ Humain กับภารกิจเปลี่ยนซาอุฯ ให้เป็นมหาอำนาจ AI ด้วยชิปจากสหรัฐฯ กลางปี 2025 ซาอุดีอาระเบียเปิดตัวบริษัทใหม่ชื่อว่า “Humain” ภายใต้การสนับสนุนจากกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (Public Investment Fund) โดยมีเป้าหมายชัดเจน: เปลี่ยนประเทศให้กลายเป็นศูนย์กลางด้านปัญญาประดิษฐ์ของภูมิภาค Humain เริ่มต้นด้วยการสร้างศูนย์ข้อมูล (data centers) ขนาดใหญ่ในสองเมืองหลักคือ ริยาดและดัมมาม โดยแต่ละแห่งจะมีความสามารถในการใช้พลังงานสูงถึง 100 เมกะวัตต์ และมีกำหนดเปิดใช้งานในช่วงไตรมาสที่สองของปี 2026 สิ่งที่น่าสนใจคือ Humain เลือกใช้ชิป AI จากบริษัทสหรัฐฯ เช่น NVIDIA และ AMD โดยได้รับอนุมัติให้นำเข้า “Blackwell” chips รุ่นล่าสุดจำนวน 18,000 ชิ้น ซึ่งถือเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่สะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างซาอุฯ กับสหรัฐฯ ที่ลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ Humain ยังมีแผนขยายศูนย์ข้อมูลให้มีขนาดรวมถึง 1.9 กิกะวัตต์ภายในปี 2030 และร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง Qualcomm, Cisco และแม้แต่ xAI ของ Elon Musk เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ที่ครอบคลุมทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เบื้องหลังทั้งหมดนี้คือวิสัยทัศน์ของมกุฎราชกุมาร Mohammed bin Salman ที่ต้องการผลักดันประเทศให้พ้นจากการพึ่งพาน้ำมัน และเข้าสู่เศรษฐกิจแห่งอนาคตผ่าน “Vision 2030” 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Humain เป็นบริษัท AI ใหม่ของซาอุดีอาระเบีย เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2025 ➡️ เริ่มสร้างศูนย์ข้อมูลในริยาดและดัมมาม กำหนดเปิดใช้งานต้นปี 2026 ➡️ แต่ละแห่งมีความสามารถเริ่มต้นที่ 100 เมกะวัตต์ ➡️ ใช้ชิป AI จากสหรัฐฯ เช่น NVIDIA และ AMD ➡️ ได้รับอนุมัติให้นำเข้า Blackwell chips จำนวน 18,000 ชิ้น ➡️ มีแผนขยายศูนย์ข้อมูลรวมถึง 1.9 กิกะวัตต์ภายในปี 2030 ➡️ ร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก เช่น Qualcomm, Cisco และ xAI ➡️ Humain อยู่ภายใต้การดูแลของกองทุน PIF และมกุฎราชกุมาร Mohammed bin Salman ➡️ เป้าหมายคือสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI และโมเดลขั้นสูงในภูมิภาค ➡️ การเปิดตัว Humain เกิดขึ้นพร้อมกับการเยือนของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งมีการตกลงมูลค่า 600 พันล้านดอลลาร์กับบริษัทสหรัฐฯ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Blackwell chips ของ NVIDIA เป็นชิป AI รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่องานประมวลผลขนาดใหญ่ เช่น LLM และการฝึกโมเดล deep learning ➡️ การใช้ชิปจากสหรัฐฯ สะท้อนถึงการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตกในช่วงเปลี่ยนผ่านของซาอุฯ ➡️ Vision 2030 เป็นแผนยุทธศาสตร์ของซาอุฯ ที่มุ่งเน้นการลดการพึ่งพาน้ำมันและส่งเสริมเทคโนโลยี ➡️ การลงทุนใน AI ยังรวมถึงการฝึกอบรมบุคลากร 20,000 คนภายในปี 2030 ➡️ การสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ช่วยให้ซาอุฯ มีอำนาจในการประมวลผลข้อมูลในระดับภูมิภาค https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/26/saudi039s-humain-to-launch-data-centers-with-us-chips-in-early-2026-bloomberg-news-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Saudi's Humain to launch data centers with US chips in early 2026, Bloomberg News reports
    (Reuters) -Humain, Saudi Arabia's new artificial intelligence company, has begun construction of its first data centers in the kingdom, and plans to bring them online in early 2026 using semiconductors imported from the U.S., Bloomberg News reported on Monday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อ AI ถูกจับใส่ลูป แล้วมันเขียนโค้ดไม่หยุดจนสร้างเครื่องมือใหม่

    ในงาน YC Agents Hackathon ทีมงานกลุ่มหนึ่งเกิดไอเดียแปลกๆ: ถ้าเอา Claude Code (agent เขียนโค้ด) มาใส่ไว้ในลูป while แบบ headless แล้วปล่อยให้มันทำงานไปเรื่อยๆ จะเกิดอะไรขึ้น?

    คำตอบคือ...เกิด commit กว่า 1,000 รายการในข้ามคืน และสร้างเครื่องมือใหม่ชื่อว่า RepoMirror ที่สามารถพอร์ตโค้ดจาก React ไป Vue, จาก Python ไป TypeScript หรือแม้แต่จาก gRPC ไป REST ได้โดยอัตโนมัติ

    พวกเขาใช้คำสั่งง่ายๆ เช่น:
    while :; do cat prompt.md | claude -p --dangerously-skip-permissions; done

    โดยให้ prompt ระบุว่าให้พอร์ตโค้ดจาก repo หนึ่งไปยังอีก repo หนึ่ง และให้ commit ทุกครั้งที่แก้ไฟล์ พร้อมเก็บ todo และแผนงานไว้ในโฟลเดอร์ .agent/

    ผลลัพธ์คือ Claude ทำงานได้ดีเกินคาด — ไม่หลุด scope, ไม่ออกนอกเรื่อง, เขียน test เอง และบางครั้งถึงขั้น pkill ตัวเองเมื่อรู้ว่าติดลูปไม่จบ

    พวกเขายังสร้างเครื่องมือชื่อ repomirror ที่ช่วยตั้งค่า source/target repo และคำสั่ง sync ได้ง่ายๆ เช่น:
    npx repomirror init --source-dir ./browser-use --target-dir ./browser-use-zig --instructions "convert browser use to Zig"

    และสามารถรันแบบลูปไม่รู้จบด้วย npx repomirror sync-forever

    แม้จะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็เป็นหลักฐานว่า agent เขียนโค้ดสามารถทำงานจริงในระดับ production ได้ — แม้จะต้องปรับแต่ง prompt และแก้โค้ดบางส่วนเองก็ตาม

    ข้อมูลในข่าว
    ทีมงานใช้ Claude Code รันในลูป while เพื่อให้ทำงานแบบ headless โดยไม่หยุดพัก
    สร้างเครื่องมือชื่อ RepoMirror สำหรับพอร์ตโค้ดข้ามภาษา/เฟรมเวิร์ก
    ใช้ prompt ที่เรียบง่าย เช่น “พอร์ตจาก React ไป Vue” หรือ “จาก Python ไป TypeScript”
    agent ทำ commit ทุกครั้งที่แก้ไฟล์ และเก็บ todo ไว้ในโฟลเดอร์ .agent/
    Claude สามารถเขียน test, ควบคุม scope และหยุดตัวเองเมื่อรู้ว่าติดลูป
    มีการพอร์ตหลายโปรเจกต์ เช่น assistant-ui, browser-use, AI SDK จาก JS ไป Python
    สร้างเครื่องมือ repomirror ที่ใช้คำสั่ง init และ sync เพื่อจัดการ repo ได้ง่าย
    ใช้ VM บน GCP รันลูป overnight และใช้เงิน inference ประมาณ $800
    agent ทำ commit รวมกว่า 1,100 รายการในโปรเจกต์ต่างๆ
    พบว่า prompt ที่สั้นและชัดเจนให้ผลลัพธ์ดีกว่าการเขียนยาวเกินไป

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Claude Code เป็น agent ที่พัฒนาโดย Anthropic สำหรับการเขียนโค้ดแบบ LLM
    การใช้ headless agent ช่วยลดการแทรกแซงจากมนุษย์ แต่ต้องควบคุมด้วย prompt ที่ดี
    การพอร์ตโค้ดข้ามภาษาโดยอัตโนมัติยังต้องการการตรวจสอบคุณภาพจากนักพัฒนา
    การใช้ commit ต่อไฟล์ช่วยให้ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายและย้อนกลับได้
    การใช้ .agent/ เป็น scratchpad ช่วยให้ agent มีพื้นที่เก็บแผนงานและสถานะ

    agent ไม่สามารถสร้างโค้ดที่สมบูรณ์แบบได้เสมอ ต้องมีการปรับแต่งและตรวจสอบภายหลัง
    prompt ที่ซับซ้อนเกินไปทำให้ agent ทำงานช้าลงและหลุดโฟกัส
    บาง demo จาก Python ยังไม่สามารถทำงานได้ใน TypeScript อย่างสมบูรณ์
    การรัน agent แบบไม่หยุดพักอาจใช้ทรัพยากรสูงและมีค่าใช้จ่ายมาก
    การใช้คำสั่ง --dangerously-skip-permissions อาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    การพึ่งพา agent โดยไม่ตรวจสอบผลลัพธ์อาจนำไปสู่บั๊กหรือช่องโหว่ในระบบ

    https://github.com/repomirrorhq/repomirror/blob/main/repomirror.md
    🎙️ เมื่อ AI ถูกจับใส่ลูป แล้วมันเขียนโค้ดไม่หยุดจนสร้างเครื่องมือใหม่ ในงาน YC Agents Hackathon ทีมงานกลุ่มหนึ่งเกิดไอเดียแปลกๆ: ถ้าเอา Claude Code (agent เขียนโค้ด) มาใส่ไว้ในลูป while แบบ headless แล้วปล่อยให้มันทำงานไปเรื่อยๆ จะเกิดอะไรขึ้น? คำตอบคือ...เกิด commit กว่า 1,000 รายการในข้ามคืน และสร้างเครื่องมือใหม่ชื่อว่า RepoMirror ที่สามารถพอร์ตโค้ดจาก React ไป Vue, จาก Python ไป TypeScript หรือแม้แต่จาก gRPC ไป REST ได้โดยอัตโนมัติ พวกเขาใช้คำสั่งง่ายๆ เช่น: 🔖 while :; do cat prompt.md | claude -p --dangerously-skip-permissions; done โดยให้ prompt ระบุว่าให้พอร์ตโค้ดจาก repo หนึ่งไปยังอีก repo หนึ่ง และให้ commit ทุกครั้งที่แก้ไฟล์ พร้อมเก็บ todo และแผนงานไว้ในโฟลเดอร์ .agent/ ผลลัพธ์คือ Claude ทำงานได้ดีเกินคาด — ไม่หลุด scope, ไม่ออกนอกเรื่อง, เขียน test เอง และบางครั้งถึงขั้น pkill ตัวเองเมื่อรู้ว่าติดลูปไม่จบ พวกเขายังสร้างเครื่องมือชื่อ repomirror ที่ช่วยตั้งค่า source/target repo และคำสั่ง sync ได้ง่ายๆ เช่น: 🔖 npx repomirror init --source-dir ./browser-use --target-dir ./browser-use-zig --instructions "convert browser use to Zig" และสามารถรันแบบลูปไม่รู้จบด้วย npx repomirror sync-forever แม้จะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็เป็นหลักฐานว่า agent เขียนโค้ดสามารถทำงานจริงในระดับ production ได้ — แม้จะต้องปรับแต่ง prompt และแก้โค้ดบางส่วนเองก็ตาม ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ ทีมงานใช้ Claude Code รันในลูป while เพื่อให้ทำงานแบบ headless โดยไม่หยุดพัก ➡️ สร้างเครื่องมือชื่อ RepoMirror สำหรับพอร์ตโค้ดข้ามภาษา/เฟรมเวิร์ก ➡️ ใช้ prompt ที่เรียบง่าย เช่น “พอร์ตจาก React ไป Vue” หรือ “จาก Python ไป TypeScript” ➡️ agent ทำ commit ทุกครั้งที่แก้ไฟล์ และเก็บ todo ไว้ในโฟลเดอร์ .agent/ ➡️ Claude สามารถเขียน test, ควบคุม scope และหยุดตัวเองเมื่อรู้ว่าติดลูป ➡️ มีการพอร์ตหลายโปรเจกต์ เช่น assistant-ui, browser-use, AI SDK จาก JS ไป Python ➡️ สร้างเครื่องมือ repomirror ที่ใช้คำสั่ง init และ sync เพื่อจัดการ repo ได้ง่าย ➡️ ใช้ VM บน GCP รันลูป overnight และใช้เงิน inference ประมาณ $800 ➡️ agent ทำ commit รวมกว่า 1,100 รายการในโปรเจกต์ต่างๆ ➡️ พบว่า prompt ที่สั้นและชัดเจนให้ผลลัพธ์ดีกว่าการเขียนยาวเกินไป ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Claude Code เป็น agent ที่พัฒนาโดย Anthropic สำหรับการเขียนโค้ดแบบ LLM ➡️ การใช้ headless agent ช่วยลดการแทรกแซงจากมนุษย์ แต่ต้องควบคุมด้วย prompt ที่ดี ➡️ การพอร์ตโค้ดข้ามภาษาโดยอัตโนมัติยังต้องการการตรวจสอบคุณภาพจากนักพัฒนา ➡️ การใช้ commit ต่อไฟล์ช่วยให้ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายและย้อนกลับได้ ➡️ การใช้ .agent/ เป็น scratchpad ช่วยให้ agent มีพื้นที่เก็บแผนงานและสถานะ ⛔ agent ไม่สามารถสร้างโค้ดที่สมบูรณ์แบบได้เสมอ ต้องมีการปรับแต่งและตรวจสอบภายหลัง ⛔ prompt ที่ซับซ้อนเกินไปทำให้ agent ทำงานช้าลงและหลุดโฟกัส ⛔ บาง demo จาก Python ยังไม่สามารถทำงานได้ใน TypeScript อย่างสมบูรณ์ ⛔ การรัน agent แบบไม่หยุดพักอาจใช้ทรัพยากรสูงและมีค่าใช้จ่ายมาก ⛔ การใช้คำสั่ง --dangerously-skip-permissions อาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ⛔ การพึ่งพา agent โดยไม่ตรวจสอบผลลัพธ์อาจนำไปสู่บั๊กหรือช่องโหว่ในระบบ https://github.com/repomirrorhq/repomirror/blob/main/repomirror.md
    GITHUB.COM
    repomirror/repomirror.md at main · repomirrorhq/repomirror
    Contribute to repomirrorhq/repomirror development by creating an account on GitHub.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • จาก Pirate Bay สู่ 4chan — เมื่อรัฐบาลใช้ “ตัวอย่างร้าย” เพื่อเปิดทางสู่การเซ็นเซอร์

    ย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 รัฐบาลสหราชอาณาจักรใช้เว็บไซต์ The Pirate Bay เป็น “ตัวอย่าง” เพื่อผลักดันการบล็อกเว็บละเมิดลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการ โดยอ้างว่า TPB เป็นเว็บที่ไม่ให้ความร่วมมือและมีชื่อเสียงในด้านการละเมิดอย่างชัดเจน

    วันนี้ Ofcom กำลังใช้แนวทางเดียวกันกับเว็บไซต์ 4chan — เว็บบอร์ดที่มีชื่อเสียงในด้านเนื้อหาสุดโต่งและไม่ผ่านการควบคุม โดยอ้างว่า 4chan ไม่ให้ความร่วมมือในการส่งข้อมูลตามที่กฎหมาย Online Safety Act กำหนด เช่น การประเมินความเสี่ยงของเนื้อหาผิดกฎหมาย และการป้องกันไม่ให้เด็กเข้าถึงเนื้อหาไม่เหมาะสม

    Ofcom ได้ส่งคำร้องขอข้อมูลไปยัง 4chan หลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ จึงออก “หนังสือแจ้งการละเมิดเบื้องต้น” พร้อมขู่ว่าจะปรับวันละ £20,000 และอาจขอคำสั่งศาลให้บล็อกเว็บไซต์ทั้งเว็บในสหราชอาณาจักร

    แต่ 4chan ไม่ใช่เว็บในอังกฤษ — มันเป็นบริษัทในสหรัฐฯ ที่มีทนายความพร้อมตอบโต้ โดยอ้างสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ และขอให้รัฐบาลสหรัฐฯ เข้ามาแทรกแซง

    นี่จึงไม่ใช่แค่เรื่องของการบล็อกเว็บ แต่เป็นการปะทะกันระหว่าง “สิทธิในการแสดงออก” กับ “การควบคุมเนื้อหา” ข้ามพรมแดน และอาจกลายเป็นชนวนให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Ofcom ใช้กฎหมาย Online Safety Act เพื่อบังคับให้เว็บไซต์ต่างประเทศส่งข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหาผิดกฎหมาย
    4chan ถูกขอให้ส่งรายงานการประเมินความเสี่ยงของเนื้อหา แต่ไม่ตอบกลับ
    Ofcom ออกหนังสือแจ้งการละเมิด และขู่ว่าจะปรับวันละ £20,000
    หากยังไม่ปฏิบัติตาม อาจขอคำสั่งศาลให้บล็อกเว็บไซต์ทั้งเว็บในสหราชอาณาจักร
    4chan เป็นบริษัทในสหรัฐฯ ไม่มีสำนักงานหรือทรัพย์สินในอังกฤษ
    ทนายของ 4chan อ้างว่าการบังคับใช้กฎหมายอังกฤษในสหรัฐฯ เป็นการละเมิดสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ
    รัฐบาลสหรัฐฯ ได้รับการร้องขอให้ใช้มาตรการทางการทูตและกฎหมายเพื่อปกป้องบริษัทอเมริกัน
    กรณีนี้คล้ายกับการบล็อก The Pirate Bay ในปี 2012 ซึ่งถูกใช้เป็น “ตัวอย่าง” เพื่อผลักดันนโยบาย
    Ofcom มีอำนาจในการบล็อกเว็บไซต์โดยไม่ต้องได้รับความเห็นชอบจากประชาชน
    การบล็อกเว็บไซต์ที่ไม่ใช่เว็บละเมิดลิขสิทธิ์อาจถูกมองว่าเป็นการเซ็นเซอร์

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Online Safety Act กำหนดให้เว็บไซต์ต้องมีระบบตรวจสอบอายุผู้ใช้ก่อนเข้าถึงเนื้อหา NSFW
    กฎหมายนี้มีผลกระทบต่อหลายเว็บไซต์ รวมถึงเว็บโป๊และเว็บบอร์ดที่มีเนื้อหาสุ่มเสี่ยง
    รัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ ก็มีการออกกฎหมายคล้ายกันเกี่ยวกับการตรวจสอบอายุ
    การบังคับใช้กฎหมายข้ามประเทศมีความซับซ้อน และมักถูกโต้แย้งในศาลสหรัฐฯ
    การบล็อกเว็บไซต์อาจทำให้ผู้ใช้หันไปใช้ VPN หรือแพลตฟอร์มที่ไม่ถูกควบคุม

    https://torrentfreak.com/uk-govt-finds-ideal-pirate-bay-poster-boy-to-sell-blocking-of-non-pirate-sites-250824/
    🎙️ จาก Pirate Bay สู่ 4chan — เมื่อรัฐบาลใช้ “ตัวอย่างร้าย” เพื่อเปิดทางสู่การเซ็นเซอร์ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 รัฐบาลสหราชอาณาจักรใช้เว็บไซต์ The Pirate Bay เป็น “ตัวอย่าง” เพื่อผลักดันการบล็อกเว็บละเมิดลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการ โดยอ้างว่า TPB เป็นเว็บที่ไม่ให้ความร่วมมือและมีชื่อเสียงในด้านการละเมิดอย่างชัดเจน วันนี้ Ofcom กำลังใช้แนวทางเดียวกันกับเว็บไซต์ 4chan — เว็บบอร์ดที่มีชื่อเสียงในด้านเนื้อหาสุดโต่งและไม่ผ่านการควบคุม โดยอ้างว่า 4chan ไม่ให้ความร่วมมือในการส่งข้อมูลตามที่กฎหมาย Online Safety Act กำหนด เช่น การประเมินความเสี่ยงของเนื้อหาผิดกฎหมาย และการป้องกันไม่ให้เด็กเข้าถึงเนื้อหาไม่เหมาะสม Ofcom ได้ส่งคำร้องขอข้อมูลไปยัง 4chan หลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ จึงออก “หนังสือแจ้งการละเมิดเบื้องต้น” พร้อมขู่ว่าจะปรับวันละ £20,000 และอาจขอคำสั่งศาลให้บล็อกเว็บไซต์ทั้งเว็บในสหราชอาณาจักร แต่ 4chan ไม่ใช่เว็บในอังกฤษ — มันเป็นบริษัทในสหรัฐฯ ที่มีทนายความพร้อมตอบโต้ โดยอ้างสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ และขอให้รัฐบาลสหรัฐฯ เข้ามาแทรกแซง นี่จึงไม่ใช่แค่เรื่องของการบล็อกเว็บ แต่เป็นการปะทะกันระหว่าง “สิทธิในการแสดงออก” กับ “การควบคุมเนื้อหา” ข้ามพรมแดน และอาจกลายเป็นชนวนให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Ofcom ใช้กฎหมาย Online Safety Act เพื่อบังคับให้เว็บไซต์ต่างประเทศส่งข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหาผิดกฎหมาย ➡️ 4chan ถูกขอให้ส่งรายงานการประเมินความเสี่ยงของเนื้อหา แต่ไม่ตอบกลับ ➡️ Ofcom ออกหนังสือแจ้งการละเมิด และขู่ว่าจะปรับวันละ £20,000 ➡️ หากยังไม่ปฏิบัติตาม อาจขอคำสั่งศาลให้บล็อกเว็บไซต์ทั้งเว็บในสหราชอาณาจักร ➡️ 4chan เป็นบริษัทในสหรัฐฯ ไม่มีสำนักงานหรือทรัพย์สินในอังกฤษ ➡️ ทนายของ 4chan อ้างว่าการบังคับใช้กฎหมายอังกฤษในสหรัฐฯ เป็นการละเมิดสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ➡️ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้รับการร้องขอให้ใช้มาตรการทางการทูตและกฎหมายเพื่อปกป้องบริษัทอเมริกัน ➡️ กรณีนี้คล้ายกับการบล็อก The Pirate Bay ในปี 2012 ซึ่งถูกใช้เป็น “ตัวอย่าง” เพื่อผลักดันนโยบาย ➡️ Ofcom มีอำนาจในการบล็อกเว็บไซต์โดยไม่ต้องได้รับความเห็นชอบจากประชาชน ➡️ การบล็อกเว็บไซต์ที่ไม่ใช่เว็บละเมิดลิขสิทธิ์อาจถูกมองว่าเป็นการเซ็นเซอร์ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Online Safety Act กำหนดให้เว็บไซต์ต้องมีระบบตรวจสอบอายุผู้ใช้ก่อนเข้าถึงเนื้อหา NSFW ➡️ กฎหมายนี้มีผลกระทบต่อหลายเว็บไซต์ รวมถึงเว็บโป๊และเว็บบอร์ดที่มีเนื้อหาสุ่มเสี่ยง ➡️ รัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ ก็มีการออกกฎหมายคล้ายกันเกี่ยวกับการตรวจสอบอายุ ➡️ การบังคับใช้กฎหมายข้ามประเทศมีความซับซ้อน และมักถูกโต้แย้งในศาลสหรัฐฯ ➡️ การบล็อกเว็บไซต์อาจทำให้ผู้ใช้หันไปใช้ VPN หรือแพลตฟอร์มที่ไม่ถูกควบคุม https://torrentfreak.com/uk-govt-finds-ideal-pirate-bay-poster-boy-to-sell-blocking-of-non-pirate-sites-250824/
    TORRENTFREAK.COM
    Is 4chan the Perfect ‘Pirate Bay’ Poster Child to Justify Wider UK Site-Blocking?
    The UK may need a Pirate Bay-style poster child to gain public support for national blocking of non-pirate sites under the Online Safety Act.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • API ที่ดีไม่ควรฉลาดเกินไป — แค่ “น่าเบื่อ” ก็พอ

    ลองจินตนาการว่า API คือเครื่องมือช่างในกล่อง — คุณไม่อยากให้ไขควงมีฟีเจอร์ลับซ่อนอยู่ คุณแค่อยากให้มันหมุนได้ดีและไม่พังเมื่อใช้งาน

    Sean Goedecke เล่าไว้อย่างน่าสนใจว่า API ที่ดีควร “น่าเบื่อ” เพราะมันควรใช้งานได้โดยไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องอ่านเอกสารยาวเหยียด และไม่ต้องกลัวว่าพรุ่งนี้จะเปลี่ยนโครงสร้างจนโค้ดพัง

    แต่การออกแบบ API ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมันต้องสมดุลระหว่าง “ความคุ้นเคย” กับ “ความยืดหยุ่น” และที่สำคัญที่สุดคือ “อย่าทำให้ผู้ใช้ต้องแก้โค้ดเพราะคุณเปลี่ยนใจ”

    เขายกตัวอย่างว่าแม้แต่การเปลี่ยนชื่อ field หรือย้ายตำแหน่งใน JSON ก็อาจทำให้ระบบ downstream พังทั้งแถบ เพราะฉะนั้นหลักการสำคัญคือ “WE DO NOT BREAK USERSPACE”

    ถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนจริงๆ ก็ต้องใช้ versioning — เช่น /v1/ กับ /v2/ — เพื่อให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะอยู่กับเวอร์ชันเดิมหรืออัปเกรด

    นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่นักพัฒนามักมองข้าม เช่น การรองรับ idempotency เพื่อให้ retry ได้อย่างปลอดภัย, การตั้ง rate limit เพื่อป้องกัน abuse, และการใช้ cursor-based pagination เพื่อรองรับข้อมูลจำนวนมาก

    สุดท้าย เขาย้ำว่า API ที่ดีไม่สามารถช่วยผลิตภัณฑ์ที่แย่ได้ และผลิตภัณฑ์ที่ดีจะทำให้ผู้ใช้ยอมทนกับ API ที่แย่ — ดังนั้นจงโฟกัสที่ “สิ่งที่ API เชื่อมต่ออยู่” มากกว่าตัว API เอง

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    API ที่ดีควร “น่าเบื่อ” เพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจได้ทันทีโดยไม่ต้องอ่านเอกสาร
    การเปลี่ยนแปลง API มีต้นทุนสูง เพราะอาจทำให้ระบบ downstream พัง
    หลักการสำคัญคือ “WE DO NOT BREAK USERSPACE” — ห้ามเปลี่ยน field หรือโครงสร้างที่มีอยู่แล้ว
    การเปลี่ยน API ควรใช้ versioning เช่น /v1/, /v2/ เพื่อให้ผู้ใช้เลือกได้
    API versioning เป็น “สิ่งจำเป็นแต่ยุ่งยาก” เพราะต้องดูแลหลายเวอร์ชันพร้อมกัน
    API ที่ดีควรมี idempotency key เพื่อให้ retry ได้โดยไม่เกิดผลซ้ำ
    ควรมี rate limit และ killswitch เพื่อป้องกันการใช้งานเกินขอบเขต
    การใช้ cursor-based pagination เหมาะกับข้อมูลจำนวนมาก เพราะเร็วและเสถียรกว่า offset
    ควรทำให้ field ที่ใช้ทรัพยากรสูงเป็น optional เช่น subscription status
    GraphQL มีข้อดีเรื่องความยืดหยุ่น แต่ซับซ้อนและยากต่อผู้ใช้ทั่วไป
    Internal API สามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่ายกว่า เพราะควบคุมผู้ใช้ได้โดยตรง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    API versioning ช่วยให้สามารถอัปเดตระบบโดยไม่กระทบผู้ใช้เดิม
    การจัดการ breaking changes ต้องมีแผนระยะยาวและการสื่อสารที่ชัดเจน
    API-as-a-Service (APIaaS) ทำให้การจัดการเวอร์ชันเป็นเรื่องสำคัญในระบบขนาดใหญ่
    การใช้ header เช่น X-Limit-Remaining และ Retry-After ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมการเรียก API ได้ดีขึ้น
    การใช้ Redis สำหรับเก็บ idempotency key เป็นวิธีง่ายและมีประสิทธิภาพ

    https://bmitch.net/blog/2025-08-22-ghrc-appears-malicious/
    🎙️ API ที่ดีไม่ควรฉลาดเกินไป — แค่ “น่าเบื่อ” ก็พอ ลองจินตนาการว่า API คือเครื่องมือช่างในกล่อง — คุณไม่อยากให้ไขควงมีฟีเจอร์ลับซ่อนอยู่ คุณแค่อยากให้มันหมุนได้ดีและไม่พังเมื่อใช้งาน Sean Goedecke เล่าไว้อย่างน่าสนใจว่า API ที่ดีควร “น่าเบื่อ” เพราะมันควรใช้งานได้โดยไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องอ่านเอกสารยาวเหยียด และไม่ต้องกลัวว่าพรุ่งนี้จะเปลี่ยนโครงสร้างจนโค้ดพัง แต่การออกแบบ API ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมันต้องสมดุลระหว่าง “ความคุ้นเคย” กับ “ความยืดหยุ่น” และที่สำคัญที่สุดคือ “อย่าทำให้ผู้ใช้ต้องแก้โค้ดเพราะคุณเปลี่ยนใจ” เขายกตัวอย่างว่าแม้แต่การเปลี่ยนชื่อ field หรือย้ายตำแหน่งใน JSON ก็อาจทำให้ระบบ downstream พังทั้งแถบ เพราะฉะนั้นหลักการสำคัญคือ “WE DO NOT BREAK USERSPACE” ถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยนจริงๆ ก็ต้องใช้ versioning — เช่น /v1/ กับ /v2/ — เพื่อให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะอยู่กับเวอร์ชันเดิมหรืออัปเกรด นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่นักพัฒนามักมองข้าม เช่น การรองรับ idempotency เพื่อให้ retry ได้อย่างปลอดภัย, การตั้ง rate limit เพื่อป้องกัน abuse, และการใช้ cursor-based pagination เพื่อรองรับข้อมูลจำนวนมาก สุดท้าย เขาย้ำว่า API ที่ดีไม่สามารถช่วยผลิตภัณฑ์ที่แย่ได้ และผลิตภัณฑ์ที่ดีจะทำให้ผู้ใช้ยอมทนกับ API ที่แย่ — ดังนั้นจงโฟกัสที่ “สิ่งที่ API เชื่อมต่ออยู่” มากกว่าตัว API เอง 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ API ที่ดีควร “น่าเบื่อ” เพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจได้ทันทีโดยไม่ต้องอ่านเอกสาร ➡️ การเปลี่ยนแปลง API มีต้นทุนสูง เพราะอาจทำให้ระบบ downstream พัง ➡️ หลักการสำคัญคือ “WE DO NOT BREAK USERSPACE” — ห้ามเปลี่ยน field หรือโครงสร้างที่มีอยู่แล้ว ➡️ การเปลี่ยน API ควรใช้ versioning เช่น /v1/, /v2/ เพื่อให้ผู้ใช้เลือกได้ ➡️ API versioning เป็น “สิ่งจำเป็นแต่ยุ่งยาก” เพราะต้องดูแลหลายเวอร์ชันพร้อมกัน ➡️ API ที่ดีควรมี idempotency key เพื่อให้ retry ได้โดยไม่เกิดผลซ้ำ ➡️ ควรมี rate limit และ killswitch เพื่อป้องกันการใช้งานเกินขอบเขต ➡️ การใช้ cursor-based pagination เหมาะกับข้อมูลจำนวนมาก เพราะเร็วและเสถียรกว่า offset ➡️ ควรทำให้ field ที่ใช้ทรัพยากรสูงเป็น optional เช่น subscription status ➡️ GraphQL มีข้อดีเรื่องความยืดหยุ่น แต่ซับซ้อนและยากต่อผู้ใช้ทั่วไป ➡️ Internal API สามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่ายกว่า เพราะควบคุมผู้ใช้ได้โดยตรง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ API versioning ช่วยให้สามารถอัปเดตระบบโดยไม่กระทบผู้ใช้เดิม ➡️ การจัดการ breaking changes ต้องมีแผนระยะยาวและการสื่อสารที่ชัดเจน ➡️ API-as-a-Service (APIaaS) ทำให้การจัดการเวอร์ชันเป็นเรื่องสำคัญในระบบขนาดใหญ่ ➡️ การใช้ header เช่น X-Limit-Remaining และ Retry-After ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมการเรียก API ได้ดีขึ้น ➡️ การใช้ Redis สำหรับเก็บ idempotency key เป็นวิธีง่ายและมีประสิทธิภาพ https://bmitch.net/blog/2025-08-22-ghrc-appears-malicious/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • OKLCH — สีที่เข้าใจสายตาคนมากกว่าที่เคย

    ลองนึกภาพว่าคุณกำลังออกแบบปุ่มบนเว็บไซต์ และอยากให้แต่ละปุ่มมีสีต่างกัน แต่ยังคง “ความรู้สึก” ที่เหมือนกัน — ไม่ใช่บางปุ่มดูสว่างเกินไป บางปุ่มดูหม่น หรือบางปุ่มดูโดดเด่นเกินหน้าเพื่อน

    นั่นคือปัญหาที่ OKLCH เข้ามาแก้ได้อย่างเฉียบขาด

    OKLCH เป็นระบบสีใหม่ใน CSS ที่ออกแบบมาให้ “perceptually uniform” หรือก็คือ สีที่เปลี่ยนไปอย่างสม่ำเสมอตามการรับรู้ของสายตามนุษย์ ไม่ใช่แค่ตัวเลขในระบบ RGB หรือ HSL ที่บางครั้งเปลี่ยนแค่ 5 หน่วย แต่กลับทำให้สีดูเปลี่ยนไปมากเกินคาด

    OKLCH ประกอบด้วย 3 ค่า:
    - Lightness (L): ความสว่าง
    - Chroma (C): ความเข้มของสี
    - Hue (H): เฉดสี

    เมื่อคุณเปลี่ยนเฉพาะ Hue โดยคงค่า L และ C ไว้ สีที่ได้จะมีความสว่างและความเข้มเท่ากัน ต่างกันแค่เฉด — ทำให้สร้างชุดสีที่ “รู้สึกเท่ากัน” ได้ง่ายมาก

    นอกจากนี้ OKLCH ยังช่วยให้การสร้าง gradients ดูนุ่มนวลและเป็นธรรมชาติกว่า RGB เพราะมันคำนวณจากความสว่าง ความเข้ม และเฉด ไม่ใช่แค่ค่าของแดง เขียว น้ำเงิน

    และที่สำคัญ OKLCH รองรับสีใน Display-P3 ซึ่งเป็นขอบเขตสีที่กว้างกว่าสำหรับหน้าจอสมัยใหม่ เช่น MacBook หรือ iPhone รุ่นใหม่ ทำให้สีดูสดและแม่นยำยิ่งขึ้น

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    OKLCH เป็นระบบสีใหม่ใน CSS ที่ออกแบบมาให้ perceptually uniform
    ประกอบด้วย 3 ค่า: Lightness, Chroma และ Hue
    การเปลี่ยนเฉพาะ Hue โดยคงค่า L และ C จะได้ชุดสีที่มีความรู้สึกเท่ากัน
    OKLCH ช่วยให้ gradients ดูนุ่มนวลและไม่เกิดสีแปลกกลางทาง
    รองรับสีใน Display-P3 ซึ่งมีขอบเขตกว้างกว่าสี sRGB
    OKLCH ถูกนำมาใช้ใน CSS Color Module Level 4 และรองรับในเบราว์เซอร์สมัยใหม่
    สามารถใช้ @supports ใน CSS เพื่อ fallback ไปยัง sRGB หากเบราว์เซอร์ไม่รองรับ
    มีเครื่องมือช่วยสร้างพาเลตสี OKLCH เช่น oklch.fyi
    OKLCH ใช้พื้นฐานจาก OKLab ซึ่งเป็นโมเดลสีที่แม่นยำต่อการรับรู้ของมนุษย์

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    OKLCH ถูกเสนอโดย Björn Ottosson ในปี 2020 เพื่อแก้ปัญหาความไม่สม่ำเสมอของสีในระบบเดิม
    Display-P3 มีขอบเขตสีมากกว่า sRGB ถึง 50% โดยเฉพาะในเฉดแดงและเขียว
    OKLCH สามารถกำหนดค่าที่อยู่นอกขอบเขตของหน้าจอจริงได้ แต่จะถูก “clip” ให้ใกล้เคียงที่สุด
    การใช้ OKLCH ช่วยให้การออกแบบเว็บเข้าถึงผู้ใช้ที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นได้ดีขึ้น

    https://jakub.kr/components/oklch-colors
    🎙️ OKLCH — สีที่เข้าใจสายตาคนมากกว่าที่เคย ลองนึกภาพว่าคุณกำลังออกแบบปุ่มบนเว็บไซต์ และอยากให้แต่ละปุ่มมีสีต่างกัน แต่ยังคง “ความรู้สึก” ที่เหมือนกัน — ไม่ใช่บางปุ่มดูสว่างเกินไป บางปุ่มดูหม่น หรือบางปุ่มดูโดดเด่นเกินหน้าเพื่อน นั่นคือปัญหาที่ OKLCH เข้ามาแก้ได้อย่างเฉียบขาด OKLCH เป็นระบบสีใหม่ใน CSS ที่ออกแบบมาให้ “perceptually uniform” หรือก็คือ สีที่เปลี่ยนไปอย่างสม่ำเสมอตามการรับรู้ของสายตามนุษย์ ไม่ใช่แค่ตัวเลขในระบบ RGB หรือ HSL ที่บางครั้งเปลี่ยนแค่ 5 หน่วย แต่กลับทำให้สีดูเปลี่ยนไปมากเกินคาด OKLCH ประกอบด้วย 3 ค่า: - Lightness (L): ความสว่าง - Chroma (C): ความเข้มของสี - Hue (H): เฉดสี เมื่อคุณเปลี่ยนเฉพาะ Hue โดยคงค่า L และ C ไว้ สีที่ได้จะมีความสว่างและความเข้มเท่ากัน ต่างกันแค่เฉด — ทำให้สร้างชุดสีที่ “รู้สึกเท่ากัน” ได้ง่ายมาก นอกจากนี้ OKLCH ยังช่วยให้การสร้าง gradients ดูนุ่มนวลและเป็นธรรมชาติกว่า RGB เพราะมันคำนวณจากความสว่าง ความเข้ม และเฉด ไม่ใช่แค่ค่าของแดง เขียว น้ำเงิน และที่สำคัญ OKLCH รองรับสีใน Display-P3 ซึ่งเป็นขอบเขตสีที่กว้างกว่าสำหรับหน้าจอสมัยใหม่ เช่น MacBook หรือ iPhone รุ่นใหม่ ทำให้สีดูสดและแม่นยำยิ่งขึ้น 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ OKLCH เป็นระบบสีใหม่ใน CSS ที่ออกแบบมาให้ perceptually uniform ➡️ ประกอบด้วย 3 ค่า: Lightness, Chroma และ Hue ➡️ การเปลี่ยนเฉพาะ Hue โดยคงค่า L และ C จะได้ชุดสีที่มีความรู้สึกเท่ากัน ➡️ OKLCH ช่วยให้ gradients ดูนุ่มนวลและไม่เกิดสีแปลกกลางทาง ➡️ รองรับสีใน Display-P3 ซึ่งมีขอบเขตกว้างกว่าสี sRGB ➡️ OKLCH ถูกนำมาใช้ใน CSS Color Module Level 4 และรองรับในเบราว์เซอร์สมัยใหม่ ➡️ สามารถใช้ @supports ใน CSS เพื่อ fallback ไปยัง sRGB หากเบราว์เซอร์ไม่รองรับ ➡️ มีเครื่องมือช่วยสร้างพาเลตสี OKLCH เช่น oklch.fyi ➡️ OKLCH ใช้พื้นฐานจาก OKLab ซึ่งเป็นโมเดลสีที่แม่นยำต่อการรับรู้ของมนุษย์ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ OKLCH ถูกเสนอโดย Björn Ottosson ในปี 2020 เพื่อแก้ปัญหาความไม่สม่ำเสมอของสีในระบบเดิม ➡️ Display-P3 มีขอบเขตสีมากกว่า sRGB ถึง 50% โดยเฉพาะในเฉดแดงและเขียว ➡️ OKLCH สามารถกำหนดค่าที่อยู่นอกขอบเขตของหน้าจอจริงได้ แต่จะถูก “clip” ให้ใกล้เคียงที่สุด ➡️ การใช้ OKLCH ช่วยให้การออกแบบเว็บเข้าถึงผู้ใช้ที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นได้ดีขึ้น https://jakub.kr/components/oklch-colors
    JAKUB.KR
    What are OKLCH colors?
    Article about the OKLCH color model.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • เขมรพวกนี้ถ้าให้สัญชาติมันเสมือนให้ไส้ศึกให้โจรมาอาศัยอยู่ในบ้านตนนั้นเอง สรุป คุณโจรก็อยู่บ้านฉันเสียนานเอาอย่างนี้นะย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่ร่วมกับคนในบ้านทั้งบ้านเลยนะ,สามารถเผาบ้านเผาเรือนได้อย่างเต็มที่ด้วยเพราะเป็นคนในบ้านนี้แล้ว,คือบกพร่องต่อหน้าที่ที่ไร้ปัญญาความสามารถในการถีบออกไปได้แต่ไม่ทำ ทั้งที่มีอาวุธเครื่องบังคับเต็มมือเสือกไม่ใช้,จุดจบเขมรพวกนี้คือออกจากแผ่นดินไทยทั้งหมดทันที,แผ่นดินมรึงก็มีตรึมในฝั่งมรึงเขมรนะ,ไปอาศัยกันอยู่ แบ่งปันกันเองในคนเขมรพวกมรึงสิ,ทหารเขมรทุกๆตัวสมควรตายหมด ยุยงสร้างความไม่สงบด้วย ใช้คนเขมรตนเองปลุกปั่นสร้างความไม่สงบ,ไม่เอาคนเขมรตนออกไปอย่างจริงจังบนแผ่นดินไทยแต่กลับนำทัพในนามประชาชนเขมรเพื่อต้องการเอาต้องการยึดแผ่นดินไทยชัดเจน.,เรา..จะแม่ทัพภาค1หรือผู้ว่า ถ้าพูดจริงก็ไม่สมควรพูดชี้นำ สร้างความคาดหวัง มอบสัญชาติไทยให้เขมรง่ายๆแบบนี้,หรืออาศัยจังหวะสถานการณ์นี้ถือโอกาสดีมีเหตุช่วยเขมรกลุ่มนี้ได้มีสัญชาติไทยเสียเลย,ถ้าแบบนี้ใช้ไม่ได้ตามคลิปนี้หากการประชุมนี้มีสิ่งนี้นัยยะมอบสัญชาติไทยให้เขมรพวกเฮี้ยนี้จริง,ไม่สมควรให้สัญชาติไทยมันทุกๆตัว.,พม่าบุกรุกอาศัยอยู่แบบนี้ มาเลย์กลุ่มก่อการร้ายอาศัยอยู่แบบนี้ทหารแม่ทัพภาคนั้นและผู้ว่าจังหวัดนั้นๆแสดงว่าสามารถใช้เหตุลักษณะมอบสัญชาติไทยแก่พม่าแก่หมู่บ้านชุมชนก่อการร้ายในสายตาภาพประชาชนที่ดีนะสิ นี้มิใช่สงครามล้างเผ่าพันธ์นะแบบลาว เวียดนามพม่าเขมรหนีตายในอดีตกลับประเทศตนไม่ได้ ไม่สามารถกลับประเทศตนได้ตลอดชีวิตแล้วเพราะยังฆ่าล้างกันอยู่ จึงต้องให้สัญชาติมันพวกมันง่ายๆแบบนั้น เขมรเหี้ยสงบสุข มีบ่อนคาสิโนเต็มประเทศ กลับบ้านมันไม่ได้จริงเหรอจนทางการไทยต้องจำใจข่มใจสงสารเมตตาคนใกล้ตายแบบเขมรนั้นต้องรีบมอบสัญชาติไทยให้นะจะได้เข้าถึงเงินตังเลือดบริจาคคนไทยเมื่อเขมรผ่าตัดเสียเลือดมากจะตายแล้วต้องช่วยเขมรนะรีบให้สัญชาติไทยแก่เขมรนะ ตรรกะมันจะได้ไม่รื้อลวดหนามเราอีก ไม่ก่อเหตุวุ่นวายแบบนีัอีก ทหารพอดีไม่มีปัญญาถีบออกที่เป็นชุมชนใหญ่เขมรนี้ทั้งหมดเลยต้องยอมใจให้สัญชาติเป็นคนไทยสะตัดปัญหาเลย ไม่ต้องปะทะด้วยเขาคนเขมรจะบาดเจ็บประชาชนเขมรเดี๋ยวเลือดออกบาดเจ็บตัวบาดเจ็บกาย ให้ๆสัญชาติไทยแก่เขมรในชุมชนนี้จึงเป็นวิธีที่ถูกต้อง ผู้ว่าฯเราสั่งการได้ทันทีอยู่แล้วสำเร็จแน่นอนโดยแม่ทัพภาคค้ำประกันสถานะความเป็นสัญชาติไทยให้คนเขมร,ถีบไม่ไปไล่ไม่ออกก็ให้สัญชาติเขาเถอะน่าสงสาร เขมรพวกนี้มีบุญคุณรู้คุณแผ่นดินไทยนะ คนไทยทั้งประเทศมารักเขมรพวกนี้ดีกว่าอย่าเกลียดชังเขาเลย อนาคตเกือบจะให้สัญชาติไทยตลอดแนวพรมแดนกันคนเขมรที่ยึดพื้นที่ไทยได้กว่า11จุด แม่ทัพภาคที่2เป็นฝ่ายตรงข้ามเราเสือกถีบเขมรพวกเราออกไปจากพื้นที่ไทยก่อนถึง11พื้นที่,พี่ใหญ่อุตส่าปล่อยมันเขมรยึดพื้นที่11ได้แล้ว,ถ้าไม่เกิดเรื่องทั้งชุมชนแบบอานม้าจะได้สัญชาติไไทยไปด้วยล่ะ,ยึดมากว่า16-17ปีแผนเสียเลย.,อย่างน้อยบ้านหนองจานชุมชนเขมรนี้ต้องได้สัญชาติไทยแน่นอน อังเคิลอยากได้อะไรเดี๋ยวจัดให้.

    https://youtube.com/watch?v=S7ADYYcsghE&si=uTn9HuvNVmbfmg7Q
    เขมรพวกนี้ถ้าให้สัญชาติมันเสมือนให้ไส้ศึกให้โจรมาอาศัยอยู่ในบ้านตนนั้นเอง สรุป คุณโจรก็อยู่บ้านฉันเสียนานเอาอย่างนี้นะย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่ร่วมกับคนในบ้านทั้งบ้านเลยนะ,สามารถเผาบ้านเผาเรือนได้อย่างเต็มที่ด้วยเพราะเป็นคนในบ้านนี้แล้ว,คือบกพร่องต่อหน้าที่ที่ไร้ปัญญาความสามารถในการถีบออกไปได้แต่ไม่ทำ ทั้งที่มีอาวุธเครื่องบังคับเต็มมือเสือกไม่ใช้,จุดจบเขมรพวกนี้คือออกจากแผ่นดินไทยทั้งหมดทันที,แผ่นดินมรึงก็มีตรึมในฝั่งมรึงเขมรนะ,ไปอาศัยกันอยู่ แบ่งปันกันเองในคนเขมรพวกมรึงสิ,ทหารเขมรทุกๆตัวสมควรตายหมด ยุยงสร้างความไม่สงบด้วย ใช้คนเขมรตนเองปลุกปั่นสร้างความไม่สงบ,ไม่เอาคนเขมรตนออกไปอย่างจริงจังบนแผ่นดินไทยแต่กลับนำทัพในนามประชาชนเขมรเพื่อต้องการเอาต้องการยึดแผ่นดินไทยชัดเจน.,เรา..จะแม่ทัพภาค1หรือผู้ว่า ถ้าพูดจริงก็ไม่สมควรพูดชี้นำ สร้างความคาดหวัง มอบสัญชาติไทยให้เขมรง่ายๆแบบนี้,หรืออาศัยจังหวะสถานการณ์นี้ถือโอกาสดีมีเหตุช่วยเขมรกลุ่มนี้ได้มีสัญชาติไทยเสียเลย,ถ้าแบบนี้ใช้ไม่ได้ตามคลิปนี้หากการประชุมนี้มีสิ่งนี้นัยยะมอบสัญชาติไทยให้เขมรพวกเฮี้ยนี้จริง,ไม่สมควรให้สัญชาติไทยมันทุกๆตัว.,พม่าบุกรุกอาศัยอยู่แบบนี้ มาเลย์กลุ่มก่อการร้ายอาศัยอยู่แบบนี้ทหารแม่ทัพภาคนั้นและผู้ว่าจังหวัดนั้นๆแสดงว่าสามารถใช้เหตุลักษณะมอบสัญชาติไทยแก่พม่าแก่หมู่บ้านชุมชนก่อการร้ายในสายตาภาพประชาชนที่ดีนะสิ นี้มิใช่สงครามล้างเผ่าพันธ์นะแบบลาว เวียดนามพม่าเขมรหนีตายในอดีตกลับประเทศตนไม่ได้ ไม่สามารถกลับประเทศตนได้ตลอดชีวิตแล้วเพราะยังฆ่าล้างกันอยู่ จึงต้องให้สัญชาติมันพวกมันง่ายๆแบบนั้น เขมรเหี้ยสงบสุข มีบ่อนคาสิโนเต็มประเทศ กลับบ้านมันไม่ได้จริงเหรอจนทางการไทยต้องจำใจข่มใจสงสารเมตตาคนใกล้ตายแบบเขมรนั้นต้องรีบมอบสัญชาติไทยให้นะจะได้เข้าถึงเงินตังเลือดบริจาคคนไทยเมื่อเขมรผ่าตัดเสียเลือดมากจะตายแล้วต้องช่วยเขมรนะรีบให้สัญชาติไทยแก่เขมรนะ ตรรกะมันจะได้ไม่รื้อลวดหนามเราอีก ไม่ก่อเหตุวุ่นวายแบบนีัอีก ทหารพอดีไม่มีปัญญาถีบออกที่เป็นชุมชนใหญ่เขมรนี้ทั้งหมดเลยต้องยอมใจให้สัญชาติเป็นคนไทยสะตัดปัญหาเลย ไม่ต้องปะทะด้วยเขาคนเขมรจะบาดเจ็บประชาชนเขมรเดี๋ยวเลือดออกบาดเจ็บตัวบาดเจ็บกาย ให้ๆสัญชาติไทยแก่เขมรในชุมชนนี้จึงเป็นวิธีที่ถูกต้อง ผู้ว่าฯเราสั่งการได้ทันทีอยู่แล้วสำเร็จแน่นอนโดยแม่ทัพภาคค้ำประกันสถานะความเป็นสัญชาติไทยให้คนเขมร,ถีบไม่ไปไล่ไม่ออกก็ให้สัญชาติเขาเถอะน่าสงสาร เขมรพวกนี้มีบุญคุณรู้คุณแผ่นดินไทยนะ คนไทยทั้งประเทศมารักเขมรพวกนี้ดีกว่าอย่าเกลียดชังเขาเลย อนาคตเกือบจะให้สัญชาติไทยตลอดแนวพรมแดนกันคนเขมรที่ยึดพื้นที่ไทยได้กว่า11จุด แม่ทัพภาคที่2เป็นฝ่ายตรงข้ามเราเสือกถีบเขมรพวกเราออกไปจากพื้นที่ไทยก่อนถึง11พื้นที่,พี่ใหญ่อุตส่าปล่อยมันเขมรยึดพื้นที่11ได้แล้ว,ถ้าไม่เกิดเรื่องทั้งชุมชนแบบอานม้าจะได้สัญชาติไไทยไปด้วยล่ะ,ยึดมากว่า16-17ปีแผนเสียเลย.,อย่างน้อยบ้านหนองจานชุมชนเขมรนี้ต้องได้สัญชาติไทยแน่นอน อังเคิลอยากได้อะไรเดี๋ยวจัดให้. https://youtube.com/watch?v=S7ADYYcsghE&si=uTn9HuvNVmbfmg7Q
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • เขมรคือเขมร คนไทยเราทั้งประเทศดูเอาเถอะ เต็มใจทำตามนักวิชาการบางคนบอก อย่าเกลียดคนเขมรเลย รักคนเขมรกันทุกๆคนเถอะ รักเขาทั้งประเทศ เขาถูกฮุนเซนหลอกพะนะ,ตอนนี้คนไทยลงใจมารักเขมรสุดๆนะ,อย่าเกลียดเขาเลยก็ว่า,
    ..ดูมันสามัคคีรื้อรั้วลวดหนามสิ จะยึดที่ดินแผ่นดินไทยให้ได้ เสาหมุดก็ปักชัดเจน ,แม่ทัพภาคที่1 สมควรถูกสั่งย้ายไปทันที ปัญหาเกิดจากแม่ทัพภาค1และผู้ว่าสระแก้วผู้รับผิดชอบพื้นที่นี้โดยตรง บกพร่องอย่างร้ายแรงต่ออธิปไตยดินแดนไทยตน.,สะสมปัญหา ทิ้งปัญหาจนถึงเวลานี้.

    https://youtube.com/shorts/JXRGQsTbk0w?si=ze2kEPK6WN8PcoLZ
    เขมรคือเขมร คนไทยเราทั้งประเทศดูเอาเถอะ เต็มใจทำตามนักวิชาการบางคนบอก อย่าเกลียดคนเขมรเลย รักคนเขมรกันทุกๆคนเถอะ รักเขาทั้งประเทศ เขาถูกฮุนเซนหลอกพะนะ,ตอนนี้คนไทยลงใจมารักเขมรสุดๆนะ,อย่าเกลียดเขาเลยก็ว่า, ..ดูมันสามัคคีรื้อรั้วลวดหนามสิ จะยึดที่ดินแผ่นดินไทยให้ได้ เสาหมุดก็ปักชัดเจน ,แม่ทัพภาคที่1 สมควรถูกสั่งย้ายไปทันที ปัญหาเกิดจากแม่ทัพภาค1และผู้ว่าสระแก้วผู้รับผิดชอบพื้นที่นี้โดยตรง บกพร่องอย่างร้ายแรงต่ออธิปไตยดินแดนไทยตน.,สะสมปัญหา ทิ้งปัญหาจนถึงเวลานี้. https://youtube.com/shorts/JXRGQsTbk0w?si=ze2kEPK6WN8PcoLZ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • นั้นไง ตามที่คาดไว้จริงๆ เข้าทางตามแผน เริ่มใ่บริบท500เมตรแล้ว มันอ้างเอาแล้วแบบตามความมึนด้านหน้าหนาสไตล์เขมรมัน,
    ..เจตนาสมยอมให้เสียดินแดนมั้ยล่ะ,ทหารเขมรในคราบพลเรือนประชาชนนั้นล่ะ มันใช้มุกเอาครอบครัวทหารทั้งหมดย้ายเข้าเขตแดนไทยด้วยแบบช่องอานม้าเรานั้นล่ะ,
    ..เขตระวางดาวเทียมมันชัดเจนแล้วเหมน!!,เหมนเข้ามาตำรวจทั้งจังหวัดสระแก้วเข้าจับกุมคนหลบหนีเข้าเมืองเราเขตเราผิดกฎหมายได้เลยนะ,ผู้ว่าสระแก้วมีความคิดแบบนี้มั้ยนะนอกจากจะฉีดน้ำผลักดันมันไป,กฎอัยการศึกมีไว้ทำไม รุกล้ำมาเขตอธิปไตยไทยแล้วชัดเจน,แบบนี้จัดการทันทีได้เลย.ต้องเด็ดขาดมาตีหน้ามึนแบบนี้ไม่ได้,ประชาชนของเขมรแบบนี้ถือว่าเสมือนทหารรบภาคประชาชนในกลศึกเขมร เราสามารถลงโทษขั้นเด็ดขาดได้ทันที เสมือนกลุ่มกองโจรก็ได้จากต่างชาติ,ประชาชนแบบนี้พร้อมทำสงครามแล้ว,ต้องเอาวัยรุ่นเราไปตีหัวมันเลย ทหารไม่ต้อง วัยรุ่นเราระดมพลเลย,สั่งสอนแบบประชาชนคนไทยสั่งสอนประชาชนเขมร,ใครทหารอาสาก็ถอดชุดอาสาออก มาใส่ชุดประชาชนคุ้มครองประชาชนด้วยเพราะมันมีทหารเขมรใส่ชุดประชาชนด้วยเช่นกัน.
    ..จริงๆทหารไทยต้องมาสไตล์แบบส.ห.แล้วนะ คือทุบตีคนเขมรนี้จริงทันทีแบบไม่ต้องใช้อาวุธเลย เด็ดขาดต้องเด็ดขาด อย่ามายั่วยุใช้มุกนี้ ตีหนักๆกลับไปเลย บวกใครเป็นเขาลักษณะชายคล้ายทหารเขมรแต่งเป็นชาวบ้านยิ่งใส่ให้หนักเลย,หัวแตกขาหักแขนหักก็ต้องใส่มันเพราะยุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบตามแนวพรมแดน ,อาจยิงทิ้งต้องยิงสั่งสอนเลย คือยิงหนังสติ๊กอัพเกรดที่ว่านั้นใส่ลำตัว แข้งขาแขนมือได้หมด หัวก็อาจพอสมองบุ๋มพอ กระโหลกแตกก็ว่า คือมันเฮี้ยจริงๆ ดูการปลุกปั่นสิ เป็นแบบแผนมากนะ เตรียมงานมาอย่างดี,เรา..ต้องจัดเต็มที่ต้อนรับสมแผนมันที่วางไว้.

    https://youtube.com/shorts/ama57ngk4EE?si=vyGnW8oEWCgbWB5L
    นั้นไง ตามที่คาดไว้จริงๆ เข้าทางตามแผน เริ่มใ่บริบท500เมตรแล้ว มันอ้างเอาแล้วแบบตามความมึนด้านหน้าหนาสไตล์เขมรมัน, ..เจตนาสมยอมให้เสียดินแดนมั้ยล่ะ,ทหารเขมรในคราบพลเรือนประชาชนนั้นล่ะ มันใช้มุกเอาครอบครัวทหารทั้งหมดย้ายเข้าเขตแดนไทยด้วยแบบช่องอานม้าเรานั้นล่ะ, ..เขตระวางดาวเทียมมันชัดเจนแล้วเหมน!!,เหมนเข้ามาตำรวจทั้งจังหวัดสระแก้วเข้าจับกุมคนหลบหนีเข้าเมืองเราเขตเราผิดกฎหมายได้เลยนะ,ผู้ว่าสระแก้วมีความคิดแบบนี้มั้ยนะนอกจากจะฉีดน้ำผลักดันมันไป,กฎอัยการศึกมีไว้ทำไม รุกล้ำมาเขตอธิปไตยไทยแล้วชัดเจน,แบบนี้จัดการทันทีได้เลย.ต้องเด็ดขาดมาตีหน้ามึนแบบนี้ไม่ได้,ประชาชนของเขมรแบบนี้ถือว่าเสมือนทหารรบภาคประชาชนในกลศึกเขมร เราสามารถลงโทษขั้นเด็ดขาดได้ทันที เสมือนกลุ่มกองโจรก็ได้จากต่างชาติ,ประชาชนแบบนี้พร้อมทำสงครามแล้ว,ต้องเอาวัยรุ่นเราไปตีหัวมันเลย ทหารไม่ต้อง วัยรุ่นเราระดมพลเลย,สั่งสอนแบบประชาชนคนไทยสั่งสอนประชาชนเขมร,ใครทหารอาสาก็ถอดชุดอาสาออก มาใส่ชุดประชาชนคุ้มครองประชาชนด้วยเพราะมันมีทหารเขมรใส่ชุดประชาชนด้วยเช่นกัน. ..จริงๆทหารไทยต้องมาสไตล์แบบส.ห.แล้วนะ คือทุบตีคนเขมรนี้จริงทันทีแบบไม่ต้องใช้อาวุธเลย เด็ดขาดต้องเด็ดขาด อย่ามายั่วยุใช้มุกนี้ ตีหนักๆกลับไปเลย บวกใครเป็นเขาลักษณะชายคล้ายทหารเขมรแต่งเป็นชาวบ้านยิ่งใส่ให้หนักเลย,หัวแตกขาหักแขนหักก็ต้องใส่มันเพราะยุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบตามแนวพรมแดน ,อาจยิงทิ้งต้องยิงสั่งสอนเลย คือยิงหนังสติ๊กอัพเกรดที่ว่านั้นใส่ลำตัว แข้งขาแขนมือได้หมด หัวก็อาจพอสมองบุ๋มพอ กระโหลกแตกก็ว่า คือมันเฮี้ยจริงๆ ดูการปลุกปั่นสิ เป็นแบบแผนมากนะ เตรียมงานมาอย่างดี,เรา..ต้องจัดเต็มที่ต้อนรับสมแผนมันที่วางไว้. https://youtube.com/shorts/ama57ngk4EE?si=vyGnW8oEWCgbWB5L
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts